You are on page 1of 523

[นิยาย] สายลมหมรัก

ตอนที่ 1 คุณเปนใคร

“เฮย! เบียรนี่มัน...”

ผมรองเสียงหลงเมื่อเริ่มรูสึกวารางกายตัวเองผิดปรกติ เนื้อตัวผมเริ่มรอนวูบวาบไปหมด สายตาที่เริ่มพรามัวมองขวดเบียรในมืออีก


ครั้ง กอนจะขมวดคิ้วมุนดวยความสงสัย ในหัวของผมตอนนี้เริ่มขาวโพลนพรอมๆ กับเหมือนมีเปลวไฟกําลังแผดเผาผมอยู แตไอคิน
นอยของผมกลับแข็งขัน มีพละกําลังและเริ่มอยูไมสุข อยากออกมาทักทายพอมันเสียอยางนั้น ผมรีบสะบัดศีรษะเพื่อเรียกสติ
เหลาที่ดื่มเขาไปกอนหนานี้ทําใหผมเมาพอสมควร แตไอเบียรวายรายที่เพื่อนผมสงใหกอนที่จะขอปลีกตัวกลับมาหองพักนี่สิ ที่มัน
กําลังทําพิษใหกับผม ไมรอชาผมรีบกดโทรศัพทหาไอคนที่ผมคิดวาเปนตัวตนเหตุของเรื่องทั้งหมด

“ไอหมอก..” ผมเรียกไปตามสายทันที

“ฮาฮา เปนไงบางวะคิน เสียงสั่นมาเชียวนะมึง” ไอเพื่อนชั่วของผม มันตะเบ็งเสียงหัวเราะแขงกับเสียงเพลงในคลับที่ดังกระหึ่มมา


ตามสาย

“ไอเชี่ยยยย มึงเอาอะไรใสเบียรใหกูกิน”

“วะฮู สําเร็จแลวโวย”

“สําเร็จบานมึงสิ ไอเพื่อนเวร มึงจะดีใจหาเตี่ยมึงเหรอ”

ผมดามันกลับทันที ยิ่งไดยินน้ําเสียงยินดีของมันยิ่งทําใหผมหงุดหงิด ไอสารแปลกปลอมในเบียรนั้นก็เริ่มออกฤทธิ์มากขึ้น เวรตะไล


จริงๆ ไมใชผมไมรูวาอะไรกําลังจะเกิดขึ้น แตใหตายเถอะ ไมคิดวาไอพวกเพื่อนชั่วมันจะทํากับผมแบบนี้ ถึงผมอยากจะหามใจตัวเอง
แตคินนอยมันดื้อจนบังคับใหหมอบไมไดแลว สุดทายนองอุง(มือ) ก็เริ่มทํางาน รูดซิบกางเกงตัวเองเพื่อเอาเด็กดื้อออกมาสูดอากาศ
หายใจขางนอก

“ก็แคอยากรูวามึงเซ็กเสื่อมจริงไหม เดี๋ยวอีกไมถึงหานาที เปดประตูใหนองนิคกี้ดวยนะมึง เพราะกูรแู ลววาถามึงโทรมาก็แสดงวาเซ็ก


มึงเสื่อมปลอม เฮย...พวกมึง ไอคินของมันตั้งแลววะ ฮาฮา...”

ยิ่งไดยินเสียงหัวเราะยิ่งทําใหผมอยากฆามัน แตอยางไรก็คงตองฝากไวกอนสําหรับแผนชั่วรายที่เพื่อนเลวมันดัดหลังผม ไวแกแคน


วันหลังยังไมสาย ผมคาดโทษพวกมันในใจกอนจะรีบตัดสายทิ้งอยางโมโห แตตอนนี้ขอผมจัดการกับไอคินนอยจอมดื้อเสียกอน ผม
รีบถอดเสื้อผาตัวเอง ดวยไฟราคะรอนแรงที่เผาผลาญผมอยูกําลังทําใหผมคลั่ง เลือดในรางกายมันสูบฉีดพุงไปทั่วราง ตอนนี้สิ่งเดียว
ที่ผมตองการมากที่สุดคือไดปลดปลอยตัวเอง
นองนิคกี้ที่มันพูดถึงผมไมรูวาเปนใคร แตคิดวาคงเปนหนึ่งในเด็กของพวกมัน ก็ยังดีที่ทําผมแบบนี้แลวยังสงที่รองรับอารมณมาให
ผมรีบพุงตัวเองไปยังประตูหองพักทันทีเมื่อไดยินเสียงกุกกักหนาประตู มือไมผมเหมือนจะชากวาความตองการของตัวเอง พอประตู
เปดออกไดเทานั้นแหละผมก็ดึงรางบางเขามาปะทะอกแลวกดริมฝปากลงไปทันที

เหมือนนองเคาจะตระหนกไมนอยกับการจูโจมรุนแรงของผม แตผมรอตอไปไมไหวแลว ใครใชใหมาเลนกับไฟอยางผม ของมันแนอยู


แลววานองเคาตองรูเห็นเปนใจกับไอวายรายพวกนั้น ดี..ผมจะลงโทษใหสาสม คอยดูแลวกันวาผมจะทําใหนองนิคกี้ลุกขึ้นจากเตียง
ในตอนเชาไมไดเลย

ผมพยายามสอดลิ้นเขาไปเพื่อชิมความหอมหวานในอุงปาก มือบางทุบบนไหลของผมเบาๆ พรอมกับพยายามสะบัดหนาอยางขัด


ขืน แตนั่นทําใหผมยิ่งกดริมฝปากลงไปใหหนักขึ้น มือขางหนึ่งกดทายทอยนองเคาไวแลวบังคับใหแหงนหนาขึ้นเพื่อรับจูบที่ดุดัน
รุนแรงจากผม แตนองนิคกี้ก็ยังพยายามเมมเรียวปาก มือและขาก็เหวี่ยงไปมาอยางตอตาน ผมครางฮึ่มๆ อยางขัดใจ ไมเขาใจวามัน
จะมาขัดขืนผมทําไมในเมื่อเต็มใจมาหาผมถึงที่แลวไมใชเหรอ ไวเทาความคิด ผมกัดริมฝปากนองเคาจนเจาตัวเผลอรองออกมา

“โอะ..อึ้ม...อือ...” ผมไมปลอยโอกาสแมเสี้ยววินาทีรีบสอดลิ้นเขาไปเพื่อสํารวจความหวานหอม มืออีกขางของผมกํารอบขอมือเรียว


ของนองเคาไว เบียดตัวเองใหแนบชิดและดันรางนิคกี้ใหติดกับประตูหองหลังถูกปดลง หนาขาของผมทาบทับนองเคาไวแนน ไอคิน
นอยที่กําลังโกรธจัดก็เสียดสีกับหนาทองของนองเคาไปมา ริมฝปากของผมยังมอบจูบใหนองเขาอยางจาบจวง จนรูสึกวาเรียวลิ้น
เล็กๆ เริ่มตอบสนองลิ้นของผม ผมปลอยมือจากขอมือนิคกี้ กอนจะสอดเขาไปใตเสื้อเพื่อหายอดอกที่กําลังแข็งเปนไตสูมือของผม
ผมถอนริมฝปากออกแลวจูบไปตามดวงหนาของนิคกี้ กอนจะเลื่อนมาที่ลําคอ ใหตายเถอะ ผมอยากรูนักวานองเคาใชโคโลญจน
ยี่หออะไร มันถึงทําใหผมอยากกลืนกินนองเคาไปทั้งตัวอยางนี้

“อะ...อืม..”

นิคกี้รองครวญครางอยางกระสัน เมื่อผมกมลงไปเลนสนุกบนยอดอก ผมเคลายอดอกที่ตั้งชูชันขึ้นดวยริมฝปาก ฟนคมขบกัดมัน


เบาๆ อยางสมใจเมื่อเห็นอาการตอบสนองของนองเคา ยิ่งเมื่อนิคกี้เหยียดหลังตรง แอนหนาอกขึ้นรับการรุกรานจากผม ริมฝปากผม
ก็ยิ่งละเลงความเรารอนลงไป ขบกัดยอดอกเบาๆ พรอมตวัดลิ้นไปมา สลับดูดแรงๆ ผมสอดมือเขาไปใตเข็มขัดของนิคกี้เพื่อทักทาย
นิคกี้นอยที่กําลังโมโหผมอยู แตเหมือนตัวนิคกี้เองจะสะดุงแลวรีบถดตัวออกจากผมเมื่อผมแตะที่นองชายและคลึงเบาๆ แตไมทันที่
นิคนี้จะไดขัดขืนมากไปกวานี้ผมรีบประกบริมฝปากบาง พรอมๆ กับมืออีกมือเริ่มจัดการถอดกางเกงอีกฝายเพื่อเลนกับนองชายได
ถนัด จากนั้นผมก็ชอนตัวนิคกี้ขึ้น แลวอุมเพื่อเตรียมตัวรบกับนิคกี้บนเตียง

คืนนี้ความรูสึกของผมรอนแรงจนเอาอะไรมาฉุดไวก็ไมอยู ผมจัดการนิคกี้ไปหลายกระบวนทาเกือบรุงสางจนคินนอยของผมหาย
โกรธ และนองเคาสลบไปพรอมๆ กับผมที่ไดรับการปลดปลอย เมื่อรูสึกสบายตัวขึ้นผมก็เริ่มสะดุดใจ มีหลายอยางในตัวนิคกี้ที่ทําให
ผมแปลกใจ นองเคาเหมือนจะไรเดียงสา แตก็เรารอนตอบสนองผมไดอยางดี ขณะที่ไฟราคะกําลังแผดเผาผมอยูผมไมมีเวลามา
สํารวจดวงหนาของนองเคามากนัก แตก็รูวานิคกี้หนาตานารัก อยากจะมองนองเขาใหนานกวานี้อีกสักหนอย แตก็รูสึกงวงและ
เหนื่อยเต็มที
ผมกมลงหอมแกมเนียนของนิคกี้กอนจะเอนตัวลงนอนเคียงขางกับนองเขา แลวกอดรางบางไวแนบอกกอนจะปดตาลงดวย
ความรูสึกอิ่มเอมในหัวใจอยางบอกไมถูก
“ไอคินมาแลว หนาบูดมาเชียวนะมึง”

ไอหมอกเพื่อนเลวของผมมันเดินมาตบบาผมแลวลากผมใหนั่งลงบนเกาอี้ขางๆ มัน ซึ่งเพื่อนคนอื่นก็นั่งรอบโตะอาหารกันอยาง


พรอมเพรียงรอผมอยู ผมกวาดตามองพวกผมทีละคน ไอแซค ไอนัท ไอเกง ไอเบส แลวก็ไอหมอกดวยสายตาคาดโทษที่พวกมันเลน
แผลงๆ กับผมเมื่อคืน

“เมื่อคืนพวกมึงเลนหาอะไรกัน” ผมตวาด เพื่อนทั้งหาตัวของผมสะดุง พวกมันคงรูแลววาผมหมายถึงอะไร

“เฮย กูไมเกี่ยวนะเวย ไอนัทแหละมันเปนตนคิด” ไอหมอกมันรีบแกตัวกอนใครอื่น

“ไอหาหมอกมึงไมตองมาโยนใหกูเลย ไอแซคตางหากที่มันเปนคนเอายามา” ไอนัทมันโยนขี้ไปใหไอแซคอีกคน

“ไอพวกเชี่ยพวกมึงนั่นแหละ ที่บังคับกู” ไอแซคหันไปโบยใหคนอื่นๆ บาง ไอเบสกับไอเกงมันทําหนาเลิกลั่กมองคนโนนทีคนนี้ที ครั้น


พอมาถึงหนาผมพวกมันทั้งสองก็หลบตาซะงั้น จากนั้นก็พรอมใจกันยกแกวน้ําขึ้นจิบ กอนไอเบสจะออมแอมตอบ

“กูแคอยากรูวาที่มึงไมยอมยุงกับใครเนี่ยเพราะมึงเซ็กเสื่อมจริงหรือเปลา”

“เสื่อมบานพอมึงสิ” ผมดามัน

ความจริงแลวมันก็คงไมแปลกนักที่เพื่อนผมจะคิดกันแบบนี้ ดวยทุกคนก็รูวาผมไมเคยขาดคนนอนขางกาย จากหนาตาที่พอดูได


บวกฐานะทางครอบครัวของผมทําใหมีคนเขามาใหเลือกไมหวาดไมไหว ไมวาจะหญิงหรือชายผมมั่วไดหมด พวกมันก็เหมือนกัน
เซ็กจัดกันทุกคน แตตลอดชวงเวลาสามเดือนที่ผานมาผมแทบไมยุงเกี่ยวกับใครเลย ไมใชวาผมหมดรูสึกทางเพศอยางที่พวกมัน
เขาใจกันหรอกนะครับ แตมันรูสึกแปลกๆ หลังจากที่มีเซ็กแลวเราก็จบกัน เหมือนในใจผมมีชองวางอยูในนัน้

มันสนุกก็จริงแตผมไมรูสึกอิ่มกับมันเลย มันเหมือนฉาบฉวย และยิ่งคนที่นอนกับผมก็หมุนเวียนไปนอนกับเพื่อนผมบาง เรียกวาผลัด


กันใชก็ไมแปลกมากนัก เขาพูดคําหวานหูกับผมเพื่อจุดประสงคบางอยาง ผมก็ไมอยากมองในแงรายแตก็พอเขาใจวาเพื่อแลกกับ
เงินในกระเปาของผม จากนั้นคุณเธอทั้งหลายก็ไปพูดคําหวานๆ นั้นกับคนอื่นดวย เจอแบบนี้ทุกวันมันทําใหผมเกิดความระอา ยิ่ง
เห็นนานวันเขาก็ยิ่งมองเห็นความจอมปลอม หรือวาพูดแบบน้ําเนาๆ แลวก็คือ ผมอยากรูสึกเปนเจาของใครสักคนและคนๆ นั้นก็
ตองเปนของผมคนเดียว (ทําไมไมบอกคนอานไปเลยละวามึงอยากรักใครสักคนและใหใครคนนั้นหยุดมึงที : เออ อยางที่มึงพูดนั่น
แหละไอเสียงของหัวใจ ผมตอบโตตัวเอง)

เมื่อเซ็กมันก็แคเกมสนุกเกมหนึ่งที่ผมกับเพื่อนๆ ชอบเลน แตตอนนี้ผมถอยหางเกมนี้ออกมา เพื่อรอเวลาจะไดเจอกับคนที่ตามหาสัก


ที ไอพวกเพื่อนตัวดีของผมก็เปนเดือดเปนรอน ไมรูมันจะมาเตนแทนผมทําไม ทั้งที่ความจริงมันก็อึ๊บสาวกันทุกคืนอยูแลว แตพวก
มันก็ไมปลอยใหผมไปตามทางของผม สุดทายมันก็คิดวาผมเซ็กเสื่อม แลวสรรหาวิธีมายั่วยวนผมและก็จบลงอยางที่เห็นเมื่อคืน
พวกมันมอมยาผม!!!

“กูจะคิดคาโรงแรมกับพวกมึง” ผมขูพวกมันทั้งคําพูดและสายตา

“เฮย!!” ทั้งหาตัวก็สะดุงทันทีหลังผมพูดจบ

“อะไรกันวะมึง แคนี้เอง...นะมึง” ไอเบสมันทําเสียงหมาหงอย สายตามันออนบาทาผมที่สุด คิดวานารักตายเลยนะมึง แตมันก็แหง


อยูแลวละที่มันตองหางตกเมื่อรูวาเงินในกระเปากําลังจะหายและหายไปไมนอยทีเดียว

“ขําๆ นะคิน กูยังไมคิดคาเรือกับมึงเลย อีกอยางมึงเปนคนชวนพวกกูมาพักที่นี่เองนะโวย แถมจองหองสวีทรูมใหพวกกูอีก” ไอเกง


มันแยงผมครับ แลวเพื่อนคนอื่นก็พยักหนาเห็นดวยกับมัน

เออ มันก็จริงที่ผมชวนมันมาพักที่นี่ ก็เพราะวามันเปนหนึ่งในธุรกิจของพอผม แลวก็จริงอีกนั่นแหละที่ไอเกงมันไมคิดเงินคาเรือ


สําราญของมันที่เอามาบริการพวกผมขณะที่มาพักรอนกันที่เกาะทางใตแหงนี้ แตถึงอยางนั้นมันก็ไมมีสิทธิ์มาเลนบาๆ กับผมแบบนี้
นะครับ แลวที่แยไปกวานั้นก็คือ นองนิคกี้ เคาไมอยูรอผมตื่น!!!

นี่แหละที่มันทําใหผมหงุดหงิดมากที่สุดและโมโหอยูอยางนี้ แคคิดวานองนิคกี้อาจจะเปนเด็กของเพื่อนผมคนใดคนหนึ่ง แลวที่นอง


เคาออกจากหองมากอนก็เพราะวารีบมาหาคนใดคนหนึ่งในนี้หรือเปลา แคคิดผมก็อยูในหองตอไปไมไดแลว ก็นะ...เด็กมันถูกใจผม
นี่ คนนี้ทําใหผมรูสึกวาอยากกอดนองเขาอีกครั้งจริงๆ นะครับ

“กูไมคิดคาโรงแรมกับพวกมึงแลวก็ได แตวาพวกมึงตองเอานองนิคกี้มาใหกู”

“เฮย!!” แลวพวกมันจะรองหาสวรรควิมานพรอมกันอีกทําไมละเนี่ย หรือวามันก็ติดใจนองเคาเหมือนกัน

“ทําไม แคนี้ทําเปนหวงหรือไงพวกมึง” ผมยิ้มมุมปาก มองพวกมันอยางเยยหยัน ทั้งๆ ที่เสียงมารในหัวผมนี่มันกําลังเยาะเยยผมอยู


มึงยังมีหนาไปถามพวกมันอีกเนอะ ทั้งๆ ที่มึงก็หวงนองเขาเหมือนกัน : เรื่องของกู ผมดาไอมารราย

“นิคกี้ไปหามึงเหรอเมื่อคืน” ไอหมอกมันถามผม นัยนตามันฉายแววสับสนและลังเลอยูในที

“ก็เออนะสิ มึงสงนองเคาขึ้นไปหากูเอง”

“เอะ มันยังไง” ไอหมอกมันทําหนายุง เกาทายทอยตัวเอง ทั้งๆ ที่ผมนี่สิตองถามมันวา มันยังไง

“ไหนนิคกี้มันวามึงไมยอมเปดประตูใหมันยังไงวะ” มันหันมาถามผมตอ
“มันก็บอกกูแบบนั้นเหมือนกัน แลวมันก็งอนพวกกูหาวาแกลงมันจนไอแซคตองปลอบใจมันแทนมึงเมื่อคืน” ไอเบสสนับสนุน

“เฮย!!” ผมรองเสียงหลงเลยครับเมื่อไอเบสมันพูดจบ แตกอนที่หัวใจผมจะตกไปอยูที่ตาตุมเสียงเล็กๆ ของใครบางคนก็ดังแทรก


ขึ้นมาเสียกอน พรอมกับรางบางเดินมานั่งบนเกาอี้ตัวที่วางขางๆ ไอแซค

“พี่แซค ตื่นแลวก็ไมปลุกกันเลยนะครับ นิคกี้เดินหาซะทั่วเลยนึกวาจะไมเจอกันซะแลว”

“นิคกี้จะกลับแลวหรือครับ” ไอแซคมันทําเสียงหวาน มือก็ลูบหลังนองเคาไปมา ในขณะสายตาผมสํารวจใบหนาของนิคกี้และหัวคิ้ว


ของผมก็เริ่มชนกันดวยเกิดคําถามขึ้นมาในหัว

“ครับ แลวอยาลืมโทรหานิคกี้บางนะ ....”

“นี่หรือวะนองนิคกี้” ผมถามขึ้นกลางปลอง ไมรอใหนองเขาล่ําลากันกับไอแซคจนเสร็จกอน แลวทุกคนก็พยักหนาพรอมๆ กันแทน


คําตอบใหกับ
ผม แตวานองนิคกี้ที่ผมกอดเมื่อคืนไมใชคนนี้นี่นา ผมจําหนาของเขาได

“มีนิคกี้เดียวหรือวะ” ผมยังถามอยางรอความหวังและสงสัย

“ก็เออ นะสิ” พวกมันทั้งหาตอบพรอมกัน และนั่นทําใหผมอาปากหวอกอนจะเรียกสติตัวเองกลับมา

“แลวเมื่อคืนกูนอนกับใครวะ”

บทที่ 2 ก็แคฝนราย

ผมลากตัวเองกลับมาถึงคอนโดดวยความรูสึกออนลา ผมรูสึกเหนื่อยทั้งกายและใจ บอกไมถูกวาสิ่งไหนที่มันมากกวากัน แตมันหนัก


หนวงเสียจนผมอยากหลับตาลงแลวไมตองตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ผมโยนเปเดินทางไปบนเตียงกอนจะทิ้งตัวลงนอนแผอยางไรเรี่ยวแรง
หากแตพอหลับตาใบหนาของใครอีกคนกลับฉายชัดขึ้นมา

“แมรงเอย!!” ผมสบถพรอมกับกํามือแนนแลวทุบลงไปบนฟูกที่นอนอยางตองการระบายความคับของใจ เรื่องราวเมื่อคืนเปนสิ่งที่


เลวรายที่สุดที่เกิดขึ้นกับผูชายแทๆ อยางผม!!! แตมันอัปยศมากยิ่งกวาที่ผมกลับมีอารมณรวมไปกับไอเชี่ยนั่นดวย!!!
วันหยุดสุดสัปดาหที่ผานมาผมไปเที่ยวภูเก็ตกับลูกแพร เธอโกหกผมวาเธอรวมเลนเกมกับรายการวิทยุแหงหนึ่งแลวไดบัตรที่พักฟรี
ผมรูวาเธอโกหกตั้งแตตน แตวาความรูสึกผิดที่ผมอาจดูแลและใสใจเธอไมดีมากพออยางคนรักคนหนึ่งควรจะทํา ทําใหผมตกปาก
รับคําเธอและเดินทางไปเที่ยวดวยกัน

วันแรกที่เราไปถึงลูกแพรดูสดชื่นและมีความสุข ผมดีใจที่เห็นเธอยิ้มและหัวเราะ แตแลวพวกเราทั้งคูก็เขาสูภาวะตึงเครียดกันอีกครั้ง


เมื่อผมไมแตะตองตัวเธอมากไปกวากอดหรือหอมแกมทั้งๆ ที่สถานที่และบรรยากาศก็เปนใจ เธอเฝาถามวาผมรังเกียจเธอใชไหม
ผมบอกวาเปลา ผมเพียงแตไมอยากทํารายเธอ ดวยผมไมแนใจวาเธอคือคนที่ใชสําหรับผม

เธอถามวาผมรักเธอไหม ผมก็ตอบไปตามความจริงวาผมชอบเธอ ใช...นั่นคือความรูสึกของผมจริงๆ ความรูส ึกที่ผมมีใหกับเธอนั้น


มันเกินเพื่อนมานิดหนอยแตผมก็รูดีวาผมไมไดคิดลึกซึ้งกับเธอจนถึงเรียกวารัก หากผมใหคําจํากัดความกับความรูสึกนี้ ผมคงบอก
ไดวาลูกแพรคือ “เพื่อนพิเศษ” ของผมคนหนึ่งเทานั้นเอง

เธอรองไหฟูมฟายและย้ําพูดวาจะใหเธอรออีกนานเทาไร เธอมีความหวังกี่เปอรเซ็นที่จะไดความรักจากผม เธอมักตอวาผมอยางนี้


เสมอเวลาที่เธอเสียใจเมื่อไมไดยินคําวารักจากปากของผม ปรกติผมจะใจเย็นแตวันนั้นผมเผลอปากบอกกับเธอไปวา ผมยอมคบกับ
เธอก็เพราะวาเปนความตองการของผูใหญ เพียงเทานั้นแหละ เธอก็ปาของในหองพักใสผมและหุนหันออกไปจากหองทันที ผมสงบ
สติอารมณอยูครูหนึ่งและคิดวาจะงอเธอ แตมันก็สายเกินไปเพราะวาเธอขึ้นเครื่องเที่ยวบินสุดทายกลับกรุงเทพฯ ฯ เสียแลว

ตาของผมโทรมาตอวาผมทันทีที่รูเรื่อง ตาบอกวาลูกแพรโทรไปรองไหกับตา ผมรูสึกเสียใจมากกวาเดิม แตไมใชที่ทํากับลูกแพรอยาง


นั้น แตเสียใจที่ทําใหตาของผมตองพลอยไมสบายใจไปดวย ผมอธิบายทุกอยางใหตาฟง ตาก็บอกใหผมใจเย็นแลวพูดกับลูกแพรอีก
ที ความจริงแลวผมไมไดบอกตาไปหรอกวาปญหาระหวางผมกับเธอคือ “ผมไมไดรักเธอและที่ยอมคบกับเธอก็เพราะวาทําตาม
ความตองการของตา”

ผมรูสึกหงุดหงิดงุนงานอยูครูหนึ่งกอนจะลงไปหาอะไรดื่มที่บารของโรงแรม พอรูสึกกรึ่มๆ ผมก็กลับมาที่พัก ผมเสียบการดหองพัก


และพยายามเปดประตูเขาไปแตก็กลับไรผล ทําใหผมตองแหงนหนามองตัวเลขหนาหองอีกครั้ง ออ...ผมมาผิดหอง ทวาขณะที่กําลัง
ดึงการดออกอยูนั้น จูๆ ประตูหองก็เปดออก แลวผมก็ถูกลากเขาไป โดยไมทันตั้งตัวผมถูกชายรางใหญระดมจูบ ผมทั้งมึนงงและ
ตกใจ เมื่อไดสติก็พยายามขัดขืนผลักใสแตเขากลับไมสะทกสะทาน มากไปกวานั้นรางกายที่ใหญกวากลับเบียดและตรึงผมไวแนน

“พอแลวนานิคกี้ หยุดเลนไดแลว” เสียงขรึมๆ ของเขาปรามเมื่อผมปดปองตัวเอง

“ฉันไมใชนิคกี้ของนาย” ผมตะโกนบอกเมื่อปากตัวเองเปนอิสระ แตไมทันไดพูดอะไรมากไปกวานั้น ริมฝปากรอนๆ ก็ประกบลงมา


อีกครั้ง แลวเขาก็ทําใหผมลืมทุกอยางไปกับจูบนั่น พรอมๆ กับรางกายของผมที่มันเริ่มทรยศและตอบสนองเขาไปตามสัญชาตญาณ

ผมรูสึกตัวอีกทีก็ตอนรุงเชาของวันใหม แลวฝนรายในค่ําคืนที่ยาวนานก็ตอกย้ํากับผมวามันเปนเรื่องจริง ใบหนาหลอคมเขมของเขา


ที่ผมมองเห็นเปนสิ่งแรกที่ลืมตาตื่น ตอกย้ําความอัปยศของผม ยิ่งขยับตัวแลวเจ็บราวไปหมดก็ยิ่งทําใหหัวใจผมแทบหยุดเตน ความ
จริงที่ไดรับรูเมื่อสติครบรอยเปอรเซ็น ทําใหหนาผมซีดเผือดจนแทบอยากหยุดหายใจไปเสียเดียวนั้น...ผมฝนความเจ็บลุกขึ้นจาก
เตียงอยางทุลักทุเลกอนจะรีบมองหาเสื้อผาของตัวเองแลวแตงกายไปจากที่แหงนั้นใหไวที่สุด...เพียงเหตุผลเดียวที่ผมย้ําบอกกับ
ตัวเองซ้ําๆ กอนจะเดินหันหลังจากมา

ผมเมาเลยปลอยตัวปลอยใจไปกับเรื่องแบบนั้น!!!

แลวผมก็จะลืมมันซะ ไมมีอะไรเกิดขึ้นกับผมทั้งนั้น!!!
“ครืดๆ ครืดๆ”

เสียงโทรศัพทที่กําลังสั่นบนหัวเตียงทําใหผมคอยๆ ลืมตาขึ้นมาอยางงงงวย ไมรูวาผมเผลอหลับไปตั้งแตตอนไหน ผมเอื้อมมือไป


หยิบโทรศัพท หรี่ตาเล็กนอยเพื่อดูวาสายที่โทรเขามาเปนใคร ชื่อที่อยูบนหนาจอทําใหผมวางมันลงขางหมอนอยางไมคิดที่จะกดรับ
ผานไปไมถึงนาที โทรศัพทก็สั่นอีกครั้ง สุดทายผมก็ทนความรําคาญไมไหว กดรับอยางเสียไมได

“ครับ” ผมพูดสั้นๆ แคนั้น แตน้ําเสียงปลายสายที่ตอบมาดูจะยินดีนักหนา

“นองกุล กลับมาถึงกรุงเทพฯ แลวหรือยังครับ” ผมอยากย้ํากับปลายสายอีกเปนรอบที่ลานวา กูไมนับญาติกับมึง

“ถึงแลว” แตผมก็ตอบคําถามแคคําสั้นๆ อีกเชนเคย

“เหนื่อยไหมครับ แตคงสนุกมากกวาเหนื่อยสินะ ไมเห็นชวนพี่บางเลยนะครับ หนีไปเที่ยวกันสองคนกับนองแพร...”

“ที่โทรมานี่เพื่อจะตอวาใชไหม งั้นก็พลามกับโทรศัพทไปคนเดียวแลวกันนะ จะไดนอนตอ”

“เดี๋ยวกอนสินองกุล” อีกฝายรีบเรียกชื่อผมอยางรอนรน ผมลอบถอนหายใจอยางเบื่อหนายพี่ชายในนามที่ผมไมตองการนี้เต็มทน

“คุณตาบอกพี่ใหรับนองกุลมากินขาวเย็นที่บานพรุงนี้นะครับ พี่กลัวกุลจะมีนัด เลยโทรมาบอกลวงหนา”

“งั้นพรุงนี้นายเรียนเสร็จกี่โมงละ”

“พี่เรียนเชาครับ”

“ผมเรียนบาย ไวเย็นๆ ผมเขาบานละกัน”

“ไดไงครับ คุณตาใหพี่รับนองกุลมาดวยกัน”

“แลวนายจะรอเหรอ รับไปก็ตองกลับมาสงอีก”
“ไมเปนไร พี่ทําไดเพื่อนองชายพี่” ผมละหนาย ไมซึ้งใจหรอกนะกับคําพูดทํานองนี้

“งั้นก็ตามใจ” ผมบอกปดอยางตัดรําคาญในที่สุด

“ถามจริงเถอะ ไมเหนื่อยบางเหรอที่ตองแสรงทําเปนพี่ชายที่แสนดีอยางนี้” ผมถามพรอมขยับตัวขึ้น เอนหลังพิงหัวเตียง พอเคลื่อน


ตัวนิดหนอยก็รูสึกเจ็บจี๊ดจนตองซี๊ดปาก หายงวงเปนปลิดทิ้ง

“นองกุลเปนอะไรครับ”

“เปลา” ผมปฏิเสธเขาพรอมๆ กับปฏิเสธตัวเองอยางแข็งขันวา ไมมีอะไรเกิดขึ้นกับผมทั้งนั้น ผมไมไดเจ็บ ไมปวด และ ไมไดสูญเสีย


อะไรเลย

“สิ่งที่พี่ทําหรือทุกคําพูดที่พี่บอกกับนองกุล พี่ไมเคยแสแสรงเลยนะครับ”

“ใหมันจริงเถอะ” พูดจี้ใจดําของอีกฝาย

ตลอดเวลาที่รูจักกับ “ตริน” ผมไมไววางใจคนคนนี้เลยแมแตนอย มันมีบางอยางในแววตาของหมอนี่เวลาที่มองผม มันไมใชแววตา


ของพี่ชายที่มองมาอยางหวังดี แตมันมีบางอยางทีซ่ อนอยูในนั้นและดูนากลัวอยูในที พูดถึงเรื่องของตรินซึ่งเปนพี่ชายที่ผมไม
อยากจะนับญาติดวยแลว ความเปนมาเปนไปของมันก็คือ แมของผมแตงงานใหมกับพอของตรินเมื่อสี่ปกอน แลวทั้งพอและเขาก็
ยายกันมาอยูที่บานของผม แลวผมก็ระเห็จตัวเองออกมาอยูคอนโดเพราะทนความอึดอัดใจไมไหว ผมไมชอบใหใครมาแทนที่พอของ
ผม มันคงทําใหผมรูสึกดีกวานี้ ถาแมจะรออีกสักหนอย ไมใชหลังพอผมตายไมถึงเดือนแลวก็แตงงานใหมอยางนี้

แตจะโทษแมก็คงไมได เพราะวากอนหนานั้น พอกับแมของผมไดหยารางกัน พอผมเปนลูกครึ่งญี่ปุน-อเมริกัน พอหยากับแมก็แบง


สมบัติกันแลวยายกลับอเมริกา แตพอไปอยูที่โนนไดไมถึงเดือนก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต แตแทนที่แมจะเสียใจกับการจากไปของ
พอ กลับจัดงานเลี้ยง แตงงานเอาผัวใหมเขาบาน ผมหามแมบอกวารอกอนไดไหม อยางนอยก็ใหผานไปสักรอยวัน แตแมไมสนคํา
คัดคานของผมเลย แมเพียงแตบอกวา แมกับพอจบกันแลว ทางใครทางมัน เขาจะเปนจะตายก็เรื่องของเขา

ผมไมเขาใจวาเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวเราไดยังไง พอกับแมผมเคยรักกันมากและครอบครัวเราก็หอมลอมไปดวยความสุข
ทวา จูๆ ฟาก็ผาเปรี้ยงมาตรงหนาผม พอกับแมเดินมาบอกผมวาจะหยากัน จากนั้นภาพลักษณของครอบครัวที่อบอุนก็หายไป แลว
ถูกแทนที่ดวยความมึนตึงเฉยชา ทําไมคนเราพอหมดรักถึงไดเกลียดกันมากขนาดนี้ ผมอดคิดไมไดวาที่แมผมเปลี่ยนไปเพราะวาพบ
รักใหมกับพอของตริน และนั่นก็ทําใหผมมองหนาแมและพอใหมของผมไมติดจนเดี๋ยวนี้

คนที่ยัดเยียดตัวเองอยากเปนพี่ชายของผมวางสายไปแลวเมื่อผมตัดบทบอกวาเหนื่อยจากการเดินทางและอยากพักผอน พรอมกับ
รับปากวา พรุงนี้ผมจะกลับบานกับเขา ผมมองไปที่นาฬิกาบอกเวลาหาโมงเย็น แสดงวาผมหลับไปหลายชั่วโมงเลยทีเดียว ผม
พยายามขยับตัวลงจากเตียง อยากจะอาบน้ําใหตัวเองสบายตัวกอนจะออกไปหาอะไรกินสักหนอย ทวาขณะที่ผมยืนขึ้นก็รูสึกวูบ
ขึ้นมาจนตองนั่งลงไปบนเตียงอีกครั้ง ผมสบัดศีรษะตัวเองดวยรูสึกปวดหัวและครั่นเนื้อครั่นตัว รูสึกไรเรี่ยวแรงอยางบอกไมถูก แตผม
ก็พยายามยืนขึ้นอีกครัง้ และมันก็สําเร็จ จากนั้นผมก็ลากตัวเองไปยังตูเปลี่ยนเสื้อผากอนจะถอดเสื้อออกแลวโยนไปยังตะกราใสผา
ทวาขณะที่กําลังจะปลดกระดุมกางเกงอยูนั่นเสียงออดหนาหองก็ดังขึ้น

ผมกมไปหยิบเสื้อที่เพิ่งทิ้งลงบนตระกราขึ้นมาอีกครั้งกอนจะเดินไปดูจอมอนิเตอรที่หนาประตู เห็นไอเมธเพื่อนของผมยืนอยูตรงนั้น
จากที่คิดวาจะใสเสื้อผมก็เอามาพาดบาแทนเพราะผมกับเพื่อนไมถือกันอยูแลว แตพอเปดประตูใหมันเขามาเทานั้นแหละ มันก็มอง
ผมตาโต กอนสีหนามันจะเปลี่ยนเปนเครงเครียด แลวจึงคอยกาวเขามาในหองผมชาๆ พรอมๆ กับสายตาของมันที่มองผมตั้งแตหัว
จรดเทา

“ลูกแพรนี้แมรง สุดยอดเลยวะ” มันพูดพรอมกับยิ้มมุมปาก น้ําเสียงฟงสะกดกลั้นอารมณอยูในที

“อะไรของมึง”

“ก็ทิ้งรอยคิสมารคไวบนตัวมึงจนดางเปนตุกแกไปเลยนะสิ” พอมันพูดจบผมก็กมมองตัวเอง กอนจะอุทานอยางตกใจ

“เฮย!!!” ผมรีบหันหลังใหกับมัน แลวสวมเสื้อทันที รูสึกใบหนาตัวเองรอนวูบวาบไปหมด

“มันไมใชอยางที่มึงคิดนะโวย” ผมบอกมันทั้งๆ ที่หันหลังใหมันอยู นึกกนดาแชงชักหักกระดูกไอคนที่ทํารองรอยบนรางของผม

“กูรู” มันทําเหมือนเชื่อคําพูดของผมงายๆ “เมื่อคืนลูกแพรโทรใหกูไปรับที่สนามบิน” ผมผงกศีรษะรับและทําทาจะเดินไปนั่งที่โซฟา


โดยที่ยังไมกลาสบตากับมัน ผมกับเมธแลวก็ลูกแพร เราทั้งสามเปนเพื่อนกันมาตั้งแตเด็ก เรื่องผมกับเธอจึงไมเคยเปนความลับกับ
เมธเชนเดียวกัน

“เมื่อคืนมึงไปนอนกับใครมาหรือกุล” ผมตัวชากับคําถามที่ตรงไปตรงมาของมัน ลําคอแหงผาก จนคําพูด ไมรูจะตอบมันยังไง ยิ่ง


คําถามตอมาของมันยิ่งทําใหผมอยากหายตัวไปจากโลกนี้แลวไมรับรูอะไรอีกเลย

“กุล...มึงนอนกับผูชายมาใชไหม”
หองเดิมๆ ที่ผมเคยอยู ที่ๆ ผมคุนเคยแตคืนนี้กลับรูสึกวาทุกสิ่งรอบตัวผมเปลี่ยนไปหมด ตลอดระยะเวลาสิบกวาปที่ผมเปนเพื่อนกับ
เมธ ไมเคยมีชวงไหนที่ผมรูสึกเกลียดนิสัยตรงไปตรงมาของมันมากเทาวันนี้มากอน

“จะนอนกับผูหญิงหรือผูชาย มันเกี่ยวอะไรกับมึง” ผมตอบกลับมันไปอยางโมโห ทั้งหงุดหงิดรําคาญที่ไมอาจหลุดพนจากสิ่งที่ผม


อยากลืม และโกรธตัวเองที่ผมปลอยตัวปลอยใจไปกับความตองการของรางกาย จนมันกลายเปนฝนรายตามหลอกหลอนไมวาจะ
หลับหรือตื่น
เมธตะคอกใสผมทันทีที่พูดจบ “กูถามเพราะเปนหวง” มันเดินเขามาเขยาไลผมจนหัวสั่นหัวคลอน สายตาที่มันมองมาฉายแววเสียใจ
และตัดพอจนผมสะทานในอก

“หวงอะไรนักหนากูก็เปนผูช ายอยางมึง”

ผมยังปากแข็งไมยอมรับความหวังดีจากมัน ทั้งๆ ที่ลึกๆ แลวผมเองก็รูสึกผิดที่พูดจาทํารายความรูสึกเพื่อนเชนนั้น แตตอนนี้ผมไมมี


อารมณที่จะแครใคร เรื่องของผมเองก็ทําใหผมสับสนและกลุมใจมากพอแลว

“มึงนี่มันไมเคยรูตัวเลย หัดไปสองกระจกดูหนาตาตัวเองซะบาง” มันพูดดวยน้ําเสียงเหนื่อยหนาย จากนั้นก็สายหนาไปมาอยางออน


อกออนใจ ผมถอยหางจากมัน แลวเดินเขาหองหมายจะควาผาเช็ดตัวกอนจะเดินเขาไปอาบน้ํา

“มึงพูดถูก มึงจะไปนอนกับใครก็เรื่องของมึง” เสียงของมันยังตะโกนมาตามหลัง

“แตถาเพื่อนกูเสียตัวเพราะถูกบังคับขืนใจ มันก็เปนเรื่องของกูดวย”

นี่แหละคือตัวตนที่แทจริงของเพื่อนผม ฉลาดเปนกรด จับผิดคนเกง โผงผาง พูดจาตรงไปตรงมา และเจาคิดเจาแคนเปนที่หนึ่ง ถา


ใครทํามันเจ็บคนนั้นตองชดใชคืนมากกวาสองเทา ทุกคําพูดคําถามที่ออกจากปากของมันเริ่มทําใหผมกลัว ผมไมรูวาอะไรเปน
สาเหตุใหมันคิดและถามผมแบบนี้ แตที่แนๆ ผมไมมีทางยอมรับเด็ดขาด ไมวามันจะดักเอาความจริงจากผมดวยวิธีไหนก็ตาม เมื่อ
เห็นวาผมไมตอบ เมธก็เงียบไป มันคงรูเหมือนที่ผมรูจักมัน...ถาผมไมคิดจะพูด ถึงเอาอะไรมางางปากก็ไมไดความจริงจากผม

ผมเขาไปในหองน้ํา มองตัวเองในกระจก ผิวขาวอยางลูกครึ่งที่ผมไดจากพอทําใหผิวผมขาวมากกวาคนไทยสวนใหญ ยิ่งสวนที่ไม


เคยเจอแดดเลยยิ่งดูละเอียดออนบาง แคไอเมธมันกดที่ไหลผมเขยาเมื่อครูที่ผานมาก็ฝากรอยนิ้วของมันไวใหเห็น ไมตองพูดถึงเลย
วาถาถูกดูดและตั้งใจฝากคิสมารคเอาไว มันจะเดนชัดแคไหน รอยแดงเปนจ้ําๆ ที่ลําคอและตามเนื้อตัวผมยังปรากฏใหเห็นอยาง
เดนชัด นี่ไงละหลักฐานที่มันฟองวาผมหนีความจริงไปไมพน

ผมเอื้อมมือไปหยิบกระจกบานเล็ก กอนจะหันหลังแลวสองดูแผนหลังของตัวเองผานกระจกอีกบาน แลวมันก็เปนอยางที่คิด พยาน


อีกหลายแหงยังกระจายตามแผนหลังของผม ไอบานั้นมันตองเปนโรคจิตถึงไดประทับตราไปทั่วรางผมอยางนี้ ยิ่งนึกถึงใบหนาหื่นๆ
กับทาทางราวกับจะกลืนกินผมไปทั้งตัวยิ่งทําใหขนลุกซู. ..นี่สินะที่ทําใหไอเมธคิดวาคนที่ผมนอนดวยนาจะเปนชายมากกวาหญิง
เพราะคงยากที่จะหาสาวๆ มาปล้ําจูบผมไปทั่วตัวอยางนี้

ผมหันหนากลับมามองกระจกบนอางลางหนาอีกครั้ง ใบหนาของผมก็รูปทรงไมตางจากผูชายทั่วไป คิ้วเขมอยางเด็กญี่ปุนแตเรียว


และโคงอยางเปนธรรมชาติที่ผมไดจากพอ ดวงตากลมโตกับขนตาที่งอนยาวนิดหนอยทีผ่ มไดจากแม ดวงตาสีดําสนิทดูแวววาวเวลา
ตองแสงไฟมันทําใหดวงหนาผมเดนขึ้น จมูกผมก็โดงเล็กนอยตามดีเอ็นเอที่ไดรับมา มันคงมาจากปูที่เปนชาวอเมริกันละมั้งถึงไดโดง
กวาคนไทยปรกติ ดีหนอยหนาผมไมมีกระอยางพวกเด็กฝรั่งมันจึงดูเนียนขาว ปากผมแดงอยางคนสุขภาพดี เวลายิ้มลักยิ้มที่แกม
ดานซายกับเขี้ยวเล็กๆ ที่มุมปากทําใหผมหนาหวานขึ้นมาบางเล็กนอย
ทุกอยางที่ผมมองเห็นก็เหมือนกับทุกวันที่ผมสองกระจกดูตัวเอง แลวใบหนาที่เห็นก็คือผูชายคนหนึ่งที่อาจดูนารักมากกวาหลอใน
สายตาของสาวๆ แตไมวาจะดูมุมไหนสวนไหน ผมก็ยังยืนยันไดวาใบหนานี้เหมาะสมแลวที่จะเปนของผูชาย ใครๆ ก็ตองดูออก แลว
หนาอยางนี้มันจะเปนอันตรายไดอยางไร หรือวาเพราะผมตัวเล็ก แตผมก็วาผมสูงไมตางจากชายไทยทั่วไป ก็รอยเจ็ดสิบตนๆ ถึงผม
จะดูหุนบางแตก็ไมไดออนแอนจนเหมือนจะแตกหักไดทุกวินาทีอยางรูปรางของผูหญิง...ไมเขาใจวาสิ่งที่ไอเมธย้ํากับผมคืออะไรและ
ทําไมถึงไดหวงผมนัก

ผมใชเวลาในหองน้ํานานกวาปรกติ หากพอออกมา ไอเมธก็ไมอยูในหองแลว ผมแตงตัวและลมนอนลงบนเตียงอีกครั้ง จูๆ ก็ไมรูสึก


หิวขึ้นมา ทั้งๆ ที่วันนี้ทั้งวันผมไมไดมีอะไรตกถึงทองเลย ผานไปสักพักผมก็ไดยินเสียงกุกกักในหองผมอีกครั้ง

“กุลมากินขาว” เสียงเมธเรียกผมกอนที่เจาตัวจะเดินมาตามผมที่หอง

“เหนื่อยละสิไปเที่ยวตากลมทะเล สมน้ําหนาไมชวนกูไปดวย” มันพูดกับผมพรอมรอยยิ้ม ผมหรี่ตาใหกับทาทางที่เปลี่ยนไปของมัน

“ไมหิวหรือไงมึง เร็วเขากูหิวแลว” มันไมไดแคเรงเฉยๆ แตกลับฉุดผมใหลุกขึ้นจากเตียง

“ตัวมึงรุมๆ นะกุล ไมสบายหรือเปลา” เมธวางมือทาบที่หนาผากและเลื่อนมาที่ลําคอ กอนจะทําหนายุง


“กินขาวแลวก็กินยาดวยนะมึงกูวามึงกําลังจะไมสบายแนๆ”

ผมยิ้มใหกับมัน อยากบอกขอบคุณมันเหลือเกินที่ยังเปนหวงเปนใยผม ถึงแมขอเสียของมันจะโผงผาง ชอบจับผิด จุนจาน อยากรูไป


หมดซะทุกเรื่อง แตมันก็ออนโยนจนผมลืมขอเสียเหลานั้นไปหมดสิ้น ผมถึงโกรธมันไมลงสักทีเพราะรูอยูแกใจวาสิ่งที่มันทําลวนเปน
หวงและหวังดีกับผม...แลวตอนนี้มันก็กําลังทําใหผมสบายใจ โดยแสรงลืมไปวากอนหนานั้นเราคุยเรื่องอะไรกัน... และนี่แหละคือสิ่ง
ที่ผมตองการในเวลานี้

หลังจากกินขาวเสร็จเมธมันก็กลับไป โดยที่ผมขอใหมันรับผมไปเรียนพรอมกันพรุงนี้ดวย มันถามผมเล็กนอยวาทําไมไมเอารถไปเอง


ผมก็บอกไปตามความจริงวาตองไปกินขาวกับตาที่บานพรอมตริน พอไดยินชื่อตรินเทานั้นแหละมันก็ทําหนามูทู บนไปตามเรื่องตาม
ราวของมันวาตรินอยากเปนพี่นองทองชนหลังกับผม...บาไดอีกนะมัน

เมื่อเมธกลับไปแลวหองก็ตกอยูในความเงียบอีกครั้ง บรรยากาศเดิมๆ ที่ผมอยูกับตัวเองมาโดยตลอดแตวันนี้มันกลับทําใหผมโหวง


เหวงในใจอยางไมเคยเปนมากอน แตยาแกไขที่กินเขาไปกําลังทําใหผมงวง...หากพอหลับตาใบหนาของคนที่ไมอยากจําก็กลับมา
รบกวนผมอีกครั้ง แมรงเอย!! มันเปนตัวมารสําหรับผมจริงๆ นั่นแหละ ดูสิ...แมกระทั่งกอนหลับมันยังถอดหนาหลอนผมไดอีก...ไอ
เลวเอย!!!
ดึกแลวแตผมกลับนอนไมหลับ พลิกตัวไปมาหลายตลบจนสุดทายก็ควารีโมทมากดเปดโทรทัศน ถึงแมสายตาของผมจะจดจองภาพ
ในจอซึ่งเคลื่อนไหวไปมาแตในหัวของผมกลับคิดเรื่องอื่นอยู
เมื่อเชาหลังจากที่ผมรูวานองที่ผมนอนดวยนั้นไมใชนิคกี้ที่ไอหมอกมันบอกกับผมตั้งแตตนก็ทําใหผมช็อกไปหลายวินาที ยิ่งมานึก
ทบทวนกลับไปมา
ดวยแลวยิ่งทําใหผมรูสึกวามีใครสักคนเอาคอนหนักๆ มาทุบหัว ทั้งที่นองเคาพยายามขัดขืนแตผมก็มองวาเปนเทคนิคที่นองเอามา
ใชเพื่อใหคูนอนตื่นเตน พอผมบอกวาเลิกเลนแลวเลาโลม เคาก็คลอยตามและตอบสนองผมเปนอยางดี หากแตในชวงเวลาที่ผมเขา
ไปอยูในตัวนองเคาเสี้ยววินาทีหนึ่งผมก็เอะใจวานี่ผมไดนองเคาเปนคนแรกหรือเปลา แตวาตอนนั้นผมกําลังหนามืดไมมีจิตใจคิด
เรื่องอื่นนอกจากเดินหนาตอไป นึกเอาแลวกันวาผูชายที่หางหายจากเซ็กไปนานกวาสามเดือน แลวยังถูกมอมยาอีก ไอคินนอยของ
ผมมันก็คึกคักมากกวาธรรมดา พอหมดยกแรกก็ตอยกตอไปทันที แลวมันก็เปนอยางนี้ไปเรื่อยๆ จนนองเคาสลบไป

ผมรูตัววารุนแรงกับนองเคาไมใชนอย ผมจึงกะวาเดี๋ยวพอตื่นมาตอนเชาจะคุยกับนองเคาดีๆ แลวถามทีม่ าที่ไปวานองเปนเด็กใหม


ของเพื่อนผมคนไหน ทําไมมันใจดีสงมาใหผมเปดซิง แตพอตื่นขึ้นมาอีกทีนองเคาก็หายไปอยางที่เห็น พอผมเลาใหเพื่อนผมฟงสิ่ง
แรกที่มันพูดกับผมก็คือ

“ไอเชี่ยคิน มึงไปขมขืนใครมา!!” พวกมึงไมตองมาซ้ําเติมกู ยิ่งเห็นหนาตื่นๆ ของพวกมันยิ่งทําใหผมโมโห...นี่ผมเปนไอโรคจิต ฟนไม


เลือกไปแลวใชไหมครับ

“ถากูรู กูจะมานั่งกุมขมับอยูอยางนี้เหรอ” ผมสวนพวกมันกลับไปตามอารมณขุนเคือง

“แมรง หื่นไมถามไมไถกันเลย” ไอหมอกมันยังวาผมอีก ไดยินแลวทําใหผมจี๊ดขึ้นมา เลยตบหัวมันไปหนึ่งที โทษฐานพูดแทงใจดํา

“ไมตองมาวากู เพราะพวกมึงนั่นแหละ เลนเชี่ยๆ” ผมพูด ชี้หนาพวกมัน

“ไมเอานาคิน ตอนนี้ทุกคนก็รูสึกแยไมตางจากมึงหรอก เรื่องมันก็เกิดขึ้นมาแลว หาทางแกไขจะดีกวา” ไอนัทตัวตนคิดมันรีบเปลี่ยน


เรื่องพรอมพูดดักคอผมกอนที่ผมจะทันไดดามันอีกคน

เมื่อสิ้นเสียงของนัทก็เกิดความเงียบขึ้นมาทันที ทุกคนคงกําลังใชความคิด และรูสึกผิดไมตางจากผมอยางที่ไอนัทวา กลุมของเราจะ


มีกันทั้งหมดหกคน ซึ่งเปนเพื่อนสนิทคบกับมาตั้งแตสมัยเรียนมหาวิทยาลัย พอจบมาพวกเราก็แยกยายกันไปชวยกิจการของ
ครอบครัว แตกระนั้นก็ยังนัดเจอกันบอยๆ ถึงแมวาพวกเราจะขึ้นชื่อเรื่องความเจาชูแตก็ไมเคยฝนใจใคร

“กูอยากขอโทษนองเคา” ผมพูดอยางที่กําลังรูสึกในเวลานั้น เพื่อนๆ ตางมองหนาผมอยางเห็นใจ

“งั้นก็คงตองตามหา” ผมพยักหนาเห็นดวยกับแซค

แตใหตายเถอะ ในเบื้องลึกผมรูสึกกลัว ถาผมเจอนองเคาแลวผมยังจะกลาสูหนานองเคาอีกไหม แลวเขาจะยอมพูดและใหอภัยผม


เหรอ ดีไมดีคงไมอยากเห็นหนาผมอีกแลวในชาตินี้ ก็เลนหนีไปเลย มันบอกชัดเจนอยูแลววานองเคาคงไมอยากใหผมไปรับผิดชอบ
ถึงกระนั้นผมคงปลอยใหเรื่องมันจบลงแบบนี้ไมไดหรอก ยังไงผมก็ตองหานองเคาใหเจอ
หลังจากที่พวกเราปรึกษากันวาจะทําอยางไรตอไปดี แผนการเที่ยวในวันนั้นก็เปลี่ยนไป โชคดีที่เราพักที่โรงแรมซึ่งเปนหนึ่งในสาขา
กิจการของครอบครัวผม ผมจึงใหทางโรงแรมเช็คชื่อแขกที่เช็คอินในชั้นเดียวกับผม แลวผมก็ไดขาวดีเพราะวามันไมไดยากอยางที่ผม
คิดไว แลวเมื่อเทียบกับกลองวงจรปดของทางโรงแรมก็ชวยยืนยันวาใชนองเคาจริงๆ

“วายุระกุล แมคเคล” ชื่อและนามสกุลพรอมเบอรโทรศัพทของนองเคาอยูในมือผมแลว ผมวางแผนที่คิดวารอบคอบที่สุดเพื่อจะไม


แหวกหญาใหงูตื่น จากนั้นผมก็ขึ้นเครื่องกลับมากรุงเทพฯ ฯ เพื่อรอเวลาที่จะไดเจอกันในวันพรุงนี้

แตคืนนี้ผมกําลังนอนไมหลับ มันตื่นเตนอยางบอกไมถูกที่จะไดเจอนองเคาอีกครั้ง ผมลูบไปที่ลําคอของตัวเองเพื่อหาสิ่งที่นองเคาทิ้ง


ไวใหดูตางหนา สรอยคอพรอมกับจี้ที่ผมเก็บได นองคงทําหลนไวระหวางที่เราชุลมุนกันในตอนแรกๆ ตะขอของสรอยมันหลวมพอ
ปดๆ ดึงๆ นิดหนอยก็หลุด วันนี้ผมก็เลยเอาไปเปลี่ยน ทีแรกวาจะเก็บใสกลองไวคืนนอง แตไมรูไปไงมาไงผมก็เอามาสวมไวที่คอซะ
งั้น คิดขําๆ กับตัวเองวาถานองอยากไดคืนก็ตองมาถอดเอาจากคอของผม

ที่จี้จะมีตัวหนังสือสลักอยู ความรูภาษาญีป่ ุนที่มีบางในหัวทําใหผมพอจะอานตัวคันจิที่เขียนบนจี้ “風” “คาเซะ” ซึ่งมันคงมาจากชื่อ


จริงของนองเคาซึ่งแปลวา “ลม” แตหนาตานารักอยางนั้นนาจะเหมาะกับ “วิน” ในภาษาอังกฤษ ไมสิ...นาจะเหมาะกับ “วินดี”้
มากกวา ฟงแลวมัน อืม...จั๊กจี้หัวใจ

ผมคิดอยางครึ้มใจพรอมกับยิ้มใหตัวเอง เอานาเดี๋ยวก็ไดเจอกันแลว คิดอะไรมาก วาแลวผมก็ปดโทรทัศนแลวลมตัวลงนอนอีกครั้ง


โดยไมลืมจูบราตรีสวัสดิ์บนจี้ราวกับเปนตัวแทนนองเคา

“ฝนดีนะครับวินดี้ แลวเจอกันพรุงนี้นะ...ที่รัก”
ผมตื่นนอนในตอนสายๆ เนื่องจากเสียงโทรศัพทที่ดังขึ้น พอเห็นเบอรไมคุนผมก็ไมคิดที่จะรับ แตวาเบอรแปลกๆ นี้เคยโทรเขาเครื่อง
ผมเมื่อวานแตผมไมไดสนใจ ทวาพอโทรมาอีกทีเมื่อเชาผมก็เลยลองรับดู ปรากฏวาโทรมาจากโรงแรมที่ผมไปพักที่ภูเก็ต ผมเพิ่งรู
วันนี้เองวาโรมแรมนี้บริการชางนาประทับใจจริงๆ ทางโนนบอกวาหลังจากที่ผมเช็คเอาทและเขาไปทําความสะอาดหองที่ผมพักแลว
พบสรอยคอพรอมกับจี้ เขาพยายามจะติดตอผมแตเมื่อวานเพื่อถามวาผมทําหลนไวหรือเปลา

เมื่อไดยินดังนั้นผมก็บอกทางโรงแรมไปทันทีวาใช เขาก็ถามรูปรางลักษณะเพื่อยืนยันวาเปนของผมจริงๆ ผมก็อธิบายไป แลวมันก็


ตรงตามที่เขาเก็บได ผมดีใจมากที่คิดวาจะไดสรอยคืน เพราะวาสรอยเสนนี้มันมีความหมายและสําคัญกับผมมาก ตอนผมอายุสิบ
เอ็ดป พอเรียกใหผมไปหา แลวก็บอกวาใหลองออกแบบจี้สรอยคอ เพราะวาพอจะขยายธุรกิจใหมเกี่ยวกับเครื่องประดับและอยาก
ใหสินคาตัวแรกที่ผลิตเปนของผม ผมกับพอเราชวยกันออกแบบ ผมเสนอความคิด พอเปนคนวาดแลวก็ทํามันขึ้นมา มันถูกใจผม
มาก

พอมอบใหกับผมในวันเกิดปนั้น แลวบอกผมวาพอวางรากฐานที่มั่นคงไวใหลูกแลว เวลานั้นผมไมเขาใจที่พอพูดมากนัก แตเมื่อผม


โตขึ้นพอที่จะรูเรื่องมากขึ้น ผมถึงไดรูวาหุนในบริษัทนั้นเปนของผมกวาครึ่ง อีกสวนก็เปนของพอ กับญาติๆ ที่จี้สรอยคอจะสลักอักษร
ตัวคันจิในภาษาญี่ปุนที่แปลวา “ลม” มันไมใชแคความหมายที่มาจากชื่อผมเทานั้น แตมันมีบางสิ่งที่ลึกซื้งซอนอยู
“วินดี”้ ชื่อของผมที่พอเรียกดวยน้ําเสียงแหงผากภายใตหนากากออกซิเจน ในบานจะมีพอเพียงคนเดียวที่เรียกผมดวยชื่อนี้ แมกับตา
หรือคนอื่นๆ จะเรียกผมวา “กุล” ผมกุมมือพอไว น้ําตาไหลอาบหนา พอผมกําลังอาการหนัก รางกายเปอนไปดวยเลือด นอนบน
เตียงในรถพยาบาลที่สงเสียงไซเรนดังสนั่นไปตลอดทาง

พอผมถูกรถชนเพราะรีบขามถนนมาหาผม นึกขึ้นมาทีไรผมก็อดที่จะโทษตัวเองไมได ถาผมไมคิดที่จะไปเซอรไพรสพอที่อเมริกา โทร


ไปบอกพอกอนวาเครื่องผมลงกี่โมง แลวใหพอมารับ ไมใชไปดักพบระหวางที่พอกลับบาน พอก็คงไมตกใจที่เห็นผมและรีบรอนลง
จากรถกอนจะวิ่งตัดถนนมาหาผมทันที และถาแมไมบอกวากําลังจะแตงงานใหม ทั้งๆ ที่เพิ่งหยากับพอไดไมนาน ผมก็คงไมทะเลาะ
กับแม แลวก็ประชดดวยการไปหาพอโดยเรงดวนแบบนั้น ทุกอยางมันเปนความผิดของผมเองที่ตองการจะเอาชนะแมดวยอารมณ
จนสุดทายผมก็สูญเสียคนที่ผมรักไป

“วินดี”้ พอเรียกผมอีกครั้ง นัยนตาของพอปรือขึ้น พยายามมองหนาผม ผมเมมเรียวปากกั้นเสียงสะอื้น เคนคําพูดออกมาอยาง


ยากลําบาก

“พอตองไมเปนอะไร เชื่อผมนะ ทําใจดีๆ ไว เดี๋ยวเราก็ถึงโรงพยาบาลแลว” สายตาของพอที่มองใบหนาผมกอนจะเหยียดริมฝปาก


ยิ้มนั้นยังดูมั่นคงและอบอุนเสมอ

“พอไมเปนไร วินดี้ปลอดภัยดีนะ”

“ผมปลอดภัยครับ ผมปลอดภัย พอไมตองหวง”

“ไปหาลุงเรียว เขาจะชวยลูกทุกอยาง” ผมงงกับคําพูดของพออยูครูหนึ่งกอนที่ผมจะสะอื้นไหออกมาอยางหนักหนวง ลุงเรียวคือ


ทนายความของพอ พอกําลังสั่งเสียผมอยู ไมเอา...ผมไมอยากฟง เรื่องนั้นมันจะตองไมเกิดขึ้น ผมปฏิเสธตัวเองพรอมกับปฏิเสธพอ
ซ้ําไปซ้ํามา

“พออยาพูดอยางนี้สิครับ พอจะตองไมเปนอะไร”

คําพูดที่ผมบอกกับพอและสิ่งที่ผมหวังใหเปน มันกลับไมเปนอยางที่ผมหวัง เมื่อถึงโรงพยาบาลรางของพอก็ถูกเข็นเขาสูหองฉุกเฉิน


แลวก็ถูกเข็นออกมาอีกครั้งแตกลับเปนรางที่ไรวิญญาณและปราศจากลมหายใจ การสูญเสียในครั้งนั้นมันทําใหผมแทบเปนบา ผม
ทําใจไมไดกับการจากไปอยางกะทันหัน ยิ่งเมื่อลุงเรียวมาหาผมและบอกวาพอทําพินัยกรรมยกทรัพยสินทุกอยางใหกับผม พรอมกับ
จดหมายหนึ่งฉบับ มันยิ่งทําใหผมเหมือนใจจะขาดและคิดถึงพอมากขึ้น แตแลวขอความในจดหมายนั้นก็ทําใหผมเขมแข็งและยืน
หยัดมาไดจนถึงทุกวันนี้

‘วินดี้ลูกรัก จําไดไหมวาความลับระหวางเราสองคนคืออะไร ใชแลวละ...คําตอบของมันอยูที่จี้สรอยคอที่เราออกแบบดวยกัน สรอยที่


เคยอยูกับพอเสนหนึ่งและลูกอีกเสน ลูกคงจําไดวาตอนที่เราออกแบบมันอยูนั้น ลูกเปนคนเสนอแนวคิด ลูกบอกวา ชื่อไทยของลูกก็
มีแลว ภาษาอังกฤษก็มี แตไมมีภาษาญี่ปุน ลูกกลัวยาเสียใจ เลยบอกวาเอาสรอยเสนนี้สลักชื่อภาษาญี่ปุนก็แลวกัน ตอนนั้นลูกยัง
เด็กแตลูกก็ชางคิดนัก แตคําพูดที่ใสซื่อบริสุทธิ์ของลูกนั้นมันบงบอกตัวตนที่แทจริงของวินดี้ ลูกชายที่ออนโยนของพอ คนที่รักและใส
ใจทุกคนรอบตัวเสมอ วินดี้รูไหมเมื่อพอเอาสรอยใหลูกในวันเกิด วินดี้ดีใจใหญ จับจี้มาดูแลวก็พูดใหพอชื่นใจอีกวา คราวนี้ลูกก็จับ
ตองสายลมไดแลวสิ ตอนนั้นลูกคงพูดไปตามที่คิด ซึ่งพอหัวเราะขําในความคิดของลูก แตวินดี้ก็ทําทาขึงขังบอกวาไปดูการตูนมา
เขาบอกวาสิ่งที่มองไมเห็นไมใชจะไมมี พอไมคิดวาเด็กอายุเทานั้นจะพูดใหพอประหลาดใจไดมากเทานี้ ยิ่งลูกมากระซิบบอกวา ถึง
ลูกจะไมเห็นพอทุกวันแตลูกก็ยังรักพอ นั่นยิ่งทําใหพอสุขใจมากที่สุด

ตั้งแตจากเมืองไทยมาทําใหพอคิดถึงลูกอยางประหลาด เหมือนมีอะไรมาดลใจใหพอเขียนจดหมายฉบับนี้ จะวาไปมันมีความจริง


อีกอยางที่พอไมไดบอกใหลูกรู พอกําลังปวยและโรครายมันกําลังลุกลามเกินจะเยียวยาใหหายได กอนที่จะสายไปพอจึงทําทุกอยาง
ใหถูกตอง รวมถึงเรื่องของลูกดวย พอยกทรัพยสินทุกอยางที่เปนของพอใหกับลูก หวังวาสิ่งนี้จะชวยดูแลลูกแทนพอหากพอไมอยูบน
โลกใบนี้แลว และถาเมื่อใดที่ลูกไดอานจดหมายฉบับนี้ก็หมายความวา พอไดสิ้นลมหายใจไปจากโลกนี้แลว แตวินดี้ลูกรัก เมือ่ วันที่
ลูกไดยืนอยูตอหนาหลุมฝงศพของพอ ลูกอยาไดเสียใจและปลอยใหความเศราโศกเขามาทํารายลูกได พออยากใหลูกรูไววาพอไมได
นอนหลับใหลอยูในที่ซึ่งปราศจากลมหายใจแหงนั้น ที่เชนนั้นพอไมไดอยู เพราะวาพอคนนี้ยังอยูเคียงขางลูกเสมอ ความรักของพอ
จะเปนดังสายลมที่โอบอุมลูกไว ถึงจะมองไมเห็นดวยตา แตลูกก็สัมผัสมันได
วินดี้ ลูกจงเขมแข็ง จําคําสอนของพอไววา จงทําตัวเหมือนลมอยางชื่อของลูก ลมที่อยูไดทุกที่ไมวาซอกเล็กๆ หรือที่กวางใหญ ลมที่
ทําใหคนรอนๆ ไดรูสึกสบายใจ และลมที่ทําลายทุกอยางไดเมื่อถึงคราวจําเปน ลูกจงมีสติและรูจักวาเวลาไหนที่ลูกควรจะเปนลม
ประเภทไหน แตอยาลืมวา ลมไมมีวันสูญสลาย ชีวิตของลูกก็จะดําเนินตอไปเชนกัน ไมวาปญหาเล็กหรือใหญที่เขามาในชีวิต ลูก
จะตองขามผานมันไปได รอบๆ ตัวลูกเต็มไปดวยผูคนที่รักและหวังดีเพราะฉะนั้นลูกไมมีวันโดดเดี่ยว ลูกของพอไมเคยเดียวดาย
อยางนอยๆ ความรักของพอคนนี้จะอยูเคียงขางลูกเสมอ
รักที่ไมมีวันสูญสลาย พอเดวิด’

ถอยคําในจดหมายฉบับนั้นชวยปลอบจิตใจของผมใหเขมแข็งเสมอเวลาผมทอแท และสรอยเสนนั้นมันคือความทรงจําที่ดีของผมกับ
พอ เมื่อทางโรงแรมบอกวาเจอมัน ผมดีใจไมใชนอย ใจจริงอยากจะบินไปที่ภูเก็ตรับเองกับมือเสียดวยซ้ํา แตผมก็ไมกลากลับไปที่
แหงนั้นอีกแลว อยางนอยก็คงอาจเปนปกวาผมจะทําใจแลวกลับไปยังที่แหงนั้นได แตทางโรงแรมเขาก็บริการดี บอกวาจะสงใหผม
ทางไปรษณีย ผมจึงบอกที่อยูข องคอนโดตัวเองไป

หลังจากนั้นผมก็อาบน้ํา แลวเก็บของในหองนิดหนอย พอดูนาฬิกาก็ใกลเวลาที่ผมตองไปเรียนแลว เก็บผาใสตะกราเพื่อจะเอาลงไป


ฝากรานซักรีดขางลาง จากนั้นก็สะพายกระเปาแลวก็ออกจากหอง ผมลงมาขางลางเอาผาไปฝากซัก ผมคิดวาจะแวะไปรานกาแฟที่
อยูใตคอนโดดีไหม แตคิดอีกทีก็ลองโทรหาไอเมธดีกวาวามันถึงไหนแลว เพราะมันจะมารับผมไปเรียนพรอมกัน

“เมธถึงไหนแลว” ผมถามไปทันทีเมื่อมันรับสาย

“อีกแปบเดียวก็ถึงแลว” ผมฟงมันพูดขณะที่มองออกไปยังถนน อาว...นั่นรถของมันไมใชเหรอที่จอดอยูหนาคอนโดผมนะ

“เออๆ เห็นแลว เดี๋ยวเดินออกไปเดี๋ยวนี้แหละ”


“เฮย!!! เดี๋ยวๆ กุล...” ผมไมรูวามันพูดอะไรตอ แตผมคิดวาใชรถมันแนๆ แลวมันยังบอกวายังไมถึงแสดงวามันกําลังทําอะไรอยูในรถ
และไมพรอมจะเจอผม...แตผมพรอมจะเจอมันแลวละ

วาแลวผมก็เดินปนวิ่งไปยังรถที่จอดอยู เปดประตูโดยเร็วแลวก็รีบเขาไปนั่งทันที พอปดประตูรถเทานั่นแหละ

“วินดี!้ !!”

“ครับ” ชื่อที่ผมไมไดยินมานานแลวทําใหผมขานรับอยางอัตโนมัติพรอมหันขวับไปยังที่มาของเสียง ผมเบิกตาโตอยางตกใจเมื่อเห็น


วาใครอยูตรงหนาผมในเวลานี้

ไมจริง!!!

ไมใช!!!

เปนไปไมได

ไอเชี่ยนั่นมันมาทําอะไรในรถของเพื่อนผม!!!!
วินดี้มองผมตาโตอยางตกตะลึง ใบหนาซีดเผือด กอนจะเลิกลั่กมองซายมองขวา พอเสี้ยววินาทีตอมานองก็หันขวับไปทางประตูแลว
ทําทาจะเปดลงไป แตผมไวกวา รีบกดล็อกทันที พอเปดประตูไมไดนองก็หันมามองผมอีกครั้ง ตานองโตกวาเดิมอีกแตแวววาวโรจน
ฉายชัดอยูในนั้น ใบหนาซีดเมื่อครูแปรเปลี่ยนเปนแดงก่ํา...ไมรูวามันเปนกิริยาตื่นเตนที่ไดเจอผมอีกครั้งหรือกําลังโกรธจัดอยูกันแน
...แตผมวานาจะเปนอยางหลังมากกวานะ เพราะเห็นนองกํามือแนน ไหลสั่นนอยๆ อยางขมอารมณ

“ขึ้นรถผิด เปดประตูดวย” วินดี้บอกผมเสียงนิ่ง นองเคาเกงนะที่ควบคุมตัวเองไดอยางรวดเร็ว

ผมวาแลวเชียว เมื่อครูผมก็ตกใจเหมือนกันที่เห็นนองวิ่งเขามานั่งในรถ...แตผมชักชอบนิสัยโกะๆ ของนองแลวสิครับ คราวที่แลวก็


เขาหองผิดทําใหผมเผลอจับนองกด พอคราวนี้ก็ขึ้นรถผิด ... แตวินดี้ก็ผิดที่ผิดทางไดถูกใจผมจริงๆ

ความจริงผมไมไดคิดวาจะมาเจอนองในสถานการณแบบนี้นะครับ วันนี้ตั้งใจวาจะลองไปแอบดูตามที่อยูในบัตรประชาชน แตเมื่อ


เชาตอนเขาไปเคลียรงานในบริษัท ทางโรงแรมที่ภูเก็ตก็โทรมาแจงขาววาติดตอนองไดแลว และก็ใหที่อยูตัวนี้มา ขาวใหมที่ไดทําให
ผมตื่นเตน พอทํางานไปไดนิดหนอยก็เริ่มไมมีสมาธิ ยิ่งเลขาบอกวาตอนนี้ไมมีงานดวนยิ่งทําใหผมลิงโลด ทนความโหยหาไมไหวจึง
ขับรถออกมาทันที

พอขับรถมาจอดหนาคอนโดนองปุบ เจาตัวดีก็วิ่งขึ้นรถโดยที่ผมไมนึกฝนมากอน ผมอุทานชื่อนองออกไป เจาตัวก็ยังขานรับอีก โอ...


ที่รัก นี่หมายความวาเราใจตรงกันใชไหม นองก็รอพี่อยู. ..นี่แหละหนาเขาเรียกบุพเพสันนิวาส
“ไมผิดครับ ไมใหลง” ก็นะ ฟาทานเปนใจใหเราไดพบกันแลว จะฝนสวรรคทําไมละวินดี้ ผมยิ้มทั้งใบหนาและดวงตา
แตวินดี้เหมือนจะไมพอใจฟาซะงั้น ดูตานองแลวจะรู เห็นแลวผมละอยากรองเพลงนี้จริงๆ ... เจ็บแคนเคืองโกรธโทษฉันไย ฉันทํา
อะไรใหเธอเคืองขุน

“เปดประตู!!!” ครับนองมันตะโกนบอกมาแลววาที่ตาวาววับๆ นี่เพราะผมกักขังนองไว...มันไมยอมเปนจําเลยรักของผม

“จะรีบไปไหนละครับ ไดเจอกันทั้งที มาทบทวนความหลังกอนดีไหม”

“ผมไมรูจักคุณ” นี่แหละครับตนเหตุใหผมพูดจากวนโมโหนองเคา ตอนที่ขึ้นมาบนรถทาทางตื่นๆ นั่นมันก็บอกชัดเจนแลววาจํากันได


แตน้ําเสียงที่ทําเหมือนคนไมรูจักนี่สิที่ทําใหผมเจ็บแปลบในใจ เรื่องอะไรผมจะตองเลนตามเกมนองเคา ยังไงเรื่องของเรามันไมจบ
งายๆ อยางที่นองตองการหรอก

“ตองใหทบทวนไหมครับ วาเรารูจักกันลึกซึ้งขนาดไหน” ผมพูดพรอมกับยื่นหนาเขาไปใกล

“เพี้ยยยยย!!!!”

ใชแลวครับ อยางที่คุณๆ เขาใจ หนาทิ่มเพราะโดนตบ ชาไปทั้งใบหนาเลย เมื่อผมหนาหัน วินดี้ก็เอี้ยวตัวขามมายังฝงผมเพื่อจะ


ปลดล็อกประตู ผมไมรอชาเมื่อตั้งสติไดผมรีบรวบตัวนองเคาไว แลวกดลงบนเบาะที่นั่ง วินดี้ทั้งดิ้นรนขัดขืนผมอยางเอาเปนเอาตาย
แตผมเอารางที่หนากวาทับนองไวไมใหกระดุกกระดิก เราออกแรงสูกันอยูอยางนั้นพักใหญ จนวินดี้หยุดดิ้น นองคงเหนื่อย หอบฮักๆ
อยูใตรางของผม

เฮอ...ทุกอยางมันผิดแผนไปหมดเลยครับ แทนที่เราสองคนจะปรับความเขาใจกัน แตผมกลับทําใหนองโกรธผมมากขึ้นกวาเดิมซะ


อีก

“พี่ขอโทษ ขอโทษนะครับ” ผมพูดในสิ่งที่อยากบอกกับนอง พรอมกับคอยๆ ขยับตัวออกหางออกมา วินดี้นิ่งเงียบ ผมไมรูวานอง


กําลังคิดอะไรอยู ผมจองลึกเขาไปในดวงตาคูนั้น ดวงตาสีดําสนิทที่ดูวางเปลาจนนาใจหาย เราไมไดพูดอะไรกันอีก มีเพียงเสียงลม
หายใจกับความเงียบที่อยูระหวางเราสองคน

ชั่ววินาทีถัดมาเสียงโทรศัพทนองเคาก็ดังขึ้น ผมขยับตัวออกมานั่งที่นั่งของตัวเอง วินดี้หยิบโทรศัพทออกมาจากกระเปากางเกงกอน


จะกดรับ

“ถึงแลวเหรอ” นองเขาพูดพรอมหันไปมองยังถนน แลวก็เห็นรถยี่หอเดียวกับผม รุนเดียวกัน และสีเดียวกันวิ่งเขามาจอดหนารถผม

“เห็นแลว เดี๋ยวออกไป”
เมื่อนองเคาพูดจบประโยคนี้เทานี้ละ ผมก็สตารทเครื่อง แลวกระชากรถออกไปจากที่ตรงนั้นทันที ไมสนใจเสียงเอะอะโวยวายของคน
ขางๆ ก็ผมบอกแลววา ผมไมมีทางปลอยนองไปงายๆ หรอก
“เฮย!!! นี่จะไปไหน จอดรถเดี๋ยวนี้นะ!!!” หลังจากที่หัวเกือบคะมําเมื่อไอหมีควายตัวขางๆ กระชากรถออกไปอยางรวดเร็วแลว ผมก็
หันไปตวาดมัน แตไอนี่กลับแกลงทําเปนหูตึงไมสนใจเสียงผมเลย

“บอกใหจอดรถเดี๋ยวนี้!!!”

“ตะโกนคุยกันอยางนี้ก็ดี คนในสายจะไดรูวาเราเปนอะไรกัน” แทนที่มันจะทําตามคําสั่งผม กลับพูดเสียงขรึมอยางทองไมรูรอน แตก็


ทําใหผมสะดุงสุดตัวทันที...ผมตกใจจนลืมไปเลยวาผมกําลังพูดสายอยูกับไอเมธ

“ฮัลโหลๆ กุลเกิดอะไรขึ้น มึงอยูไหนกุล ฮัลโหลๆ...” น้ําเสียงรอนรนของเพื่อนผมที่ดังมาตามสายเมื่อยกโทรศัพทขึ้นมาแนบหูอีกครั้ง


ทําใหลําคอผมแหงผาก รูสึกหวิวๆ ในใจ

“กูอยู. ..” กําลังจะบอกใหมันคลายใจวาอยูไหน แตไอเลวนี่ก็ยังสงเสียงนรกตามมาหลอกหลอน

“บอกใหตามมาสิครับ จะไดแสดงหนังสดใหดูเปนขวัญตา” ฟงมันพูดกับผมนะครับ มันบาไปแลว แตผมคิดวามันคงไมสักแตขู


แนนอน คงทําอยางนั้นจริงๆ ...กูจะฆามึง ผมกัดฟนกรอด จองมันอยางจะกินเลือดกินเนื้อ

“มึงอยูกับใครกุล บอกกูมา อยาใหเปนหวงจะไดไหม กุล!!! กุล!!!...”

น้ําเสียงรอนรนของเมธยิ่งทําใหผมหนักใจมากยิ่งขึ้น ผมจะทํายังไงดี บอกเพื่อนใหตามมาชวยดีไหม ผมก็ไมรูวาไอบานี่จะพาผมไป


ไหน ทํามิดีมิรายกับผมหรือเปลา แตผมก็กลัว ถาบอกเมธไปเรื่องที่ผมปดบังมันอยูก็ตองแตกแนๆ ขณะที่ลังเลอ้ําๆ อึ้งๆ ไมยอมพูด
หรือตัดสายอยูนั่นไอเชี่ยนั่นมันก็หันมาทางผม

“สัญญาครับวาจะไมทําอะไร พี่แคขอคุยดวยเทานั้นเอง” มันพูดเสียงเศราหากแตฟงหนักแนน แววเสียใจและเวาวอนฉายชัดอยูใน


ดวงตาคูนั้น

“แคนี้กอนนะเมธ เดี๋ยวกูโทรกลับ” ไมรูวามีอะไรดลใจใหผมยอมทําตามที่มันขอรอง เสียงของเมธยังแยงมาตามสาย แตผมก็กดตัด


สายทิ้ง ผมขยับตัวทิ้งรางลงบนเบาะรถแรงๆ ชางแมรงมัน ในเมื่อหนีไมพนก็มาสูกันสักตั้งเปนไร

“พี่ชื่อนาคินทร เรียกวาพี่คินก็ได” ใครอยากรู แลวกูจะเรียกมึงวาสัตวใครจะทําไม

“แลวนองละ” เรื่องอะไรจะบอก
“ไมตอบ งั้นเรียกตามใจพี่แลวกันนะครับ...วินดี”้

“อยามาเรียกอยางนี้นะ” ผมแวดกลับทันที ชื่อนี้มีแตพอผมเทานั้นที่เรียกได ไอชิงนรกมาเกิดอยางมันไมมีสิทธิ์เรียกผมดวยชื่อนี้ ผม


สบัดหนาหนี มองออกไปนอกกระจก

“งั้นจะเรียกอะไรละครับ” มันยังใจเย็น ถามตอดวยน้ําเสียงปรกติ แตผมไมตอบ ไมวาชื่อ หรืออะไรที่เกี่ยวกับผม มันไมมีความ


จําเปนตองรู

“งั้นก็วินดี้ ตามนี้แลวกัน”

“บอกวาไมใหเรียก!!!”

“หึหึ...ครับ ไมเรียกก็ไมเรียก” มันหัวเราะในลําคอแลวทําเสียงออนราวกับยอมแพ จากนั้นมันก็เลี้ยวรถเขาไปยังสวนสาธารณะที่อยู


ไมหางจากคอนโดผมมากนัก พอหาที่จอดรถไดมันก็หันมาทางผม

“วินดี้ครับ”

“ไอสัตว” ผมสวนคืนทันที

“ทําไมถึงเรียกไมได”

“ไมชอบ”

“แตพี่ชอบ” ไอเวรเอย แลวมึงจะถามกูทําไม ผมจนคําพูดที่จะตอบโตมัน ไดแตกํามือแนน หายใจฮึดฮัด โกรธจนลมออกหู

“วันนี้พี่ทําวินดี้โกรธ แลวก็วันกอนดวย พี่เสียใจที่มันเกิดเรื่องอยางนั้นขึ้น ขอโทษนะครับ ทํายังไงวินดี้ถึงจะใหอภัยพี่ครับ”

“ไปตายซะ!!!”

“งั้นก็ไดครับ ถามันจะทําใหวินดี้ยกโทษใหกับพี่” วาจบมันก็เปดที่ทาวแขนซึ่งมีชองใสของอยูในนัน้ ผมมองมันอยางงงๆ ยิ่งเห็นสิ่งที่


มันหยิบออกมายิ่งทําใหผมอึ้ง พูดไมออกไปชั่วขณะ

“ถาอยากใหพี่ตาย วินดี้ก็ตองฆาพี่เอง”
มันเอาปนมายัดใสมือผมกอนกลับไปยังเบาะนั่งของตัว เหยียดหลังตรง หันหนามาทางผม หลับตาเปนเปานิ่งใหผมยิงมันอยาง
งายดาย หึ...นึกวากูไมกลาฆามึงอยางนั้นเหรอ ผมมองปนในมือที่สั่นนอยๆ ของตัวเองอยางลังเล จับมันขึ้นมา แลวจอปากกระบอก
ปนไปที่ขมับของมัน...แต...จนแลวจนรอด...ผมก็ไมกลาลั่นไกปน ผมใจไมแข็งพอที่จะฆาใครสักคน ถึงแมคนๆ นั้นผมจะเกลียดชัง
มากแคไหนก็ตาม
สุดทายผมก็ลดปนลง มันลืมตาขึ้นมองกอนจะยิ้มมุมปาก จากนั้นก็ออกไปจากรถแลวเดินออมมายังดานที่ผมนั่งอยู เปดประตู ดึง
ผมใหออกไปเผชิญหนากับมันขางนอก

“หึหึ ไมแนจริงนี่หวา” ทําเสียงเยาะเยยใสผม นั่นทําใหผมเล็งปนไปที่มันอีกครั้ง...คราวนี้กูฆามึงไดแนๆ ผมบอกกับตัวเอง

“จะบอกใหนะวินดี้ ปนนั่นมันไมมีกระสุนหรอก”

“คลิก!! คลิก!!!” ผมลั่นไกปนไปตามปฏิกริยาของรางกายโดยอัตโนมัติเมื่อไดฟงคําพูดของมัน แตมันก็ไมมีกระสุนอยางที่บอกไว


จริงๆ

“มึงหลอกกู” ผมทั้งแคนใจ ทั้งโมโห ไมเคยโกรธเกลียดใครอยางนี้มากอน อารมณรอนแรงฟุง กระจายอยางกับลาวาทําใหผมฟาดสัน


ปนเขาที่กกหูของมันทันที มันเซถอยหลังสองสามกาว ยกมือขึ้นมาจับหัวตัวเอง เหมือนปลายนิ้วมันจะมีเลือดติดออกมา แตปากมัน
ยังยิ้มแลวพูดในสิ่งที่ทําใหผมควบคุมตัวเองไมไดอีกตอไป

“แรงเทานี้เองเหรอ ทีตอนอยูบนเตียงขยมซะเตียงแทบหัก...”

“พลั่ก!!!! พลั่ก!!!”

สิ้นสุดกันทีกับความอดทนอดกลั้น ผมตอยเขาที่ใบหนาของมันสองหมัดติดๆ กัน แลวตอดวยลําตัว ทั้งแตะทั้งถีบ มือเทาผมกระทืบ


มันไมหยุด แรงมีเทาไรปลอยออกไปจนหมด ยิ่งมันไมสู ไมปองกันตัวเอง ผมยิ่งเหิมเกริม อยากตายนักใชไหม ดี...กูจะใหมึงตายคา
ตีนกูวันนี้แหละ
แลวสุดทายผมก็ยืนหอบตัวโยนมองรางมันที่งอโคง ไมกระดุกกระดิกอยูกับพื้น แตไมนานมันก็คอยๆ เงยหนาขึ้นแลวพยุงตัวเองลุก
นั่งอยางทุลักทุเล จากนั้นก็พูดในสิ่งที่ทําใหผมรูวา...ทําไมมันไมคิดที่จะตอบโตผมกลับคืน

“รูสึกดีขึ้นบางไหม...หายโกรธพี่แลวหรือยัง”
วินดี้เดินหันหลังจากผมไปอีกครั้ง แตครั้งนี้ผมมองแผนหลังของนองเคาจนลับตา ผมยิ้มกอนจะซี้ดปากเพราะเจ็บ

“หึหึ เมียกูนี่แมรง มือหนัก ตีนหนัก จริงๆ”

ผมนอนแผหลาลงบนพื้นอีกครั้ง ทองฟาวันนี้มันครึ้มหนอยๆ แตผมกลับคิดวามันเปนวันฟาใสที่สุด ถึงจะเจ็บตัวแตผมก็สบายใจ


ความรูสึกผิดลดไปบางแมจะยังไมหมดก็ตามที ตั้งแตวันนั้นผมก็เฝาคิดตลอดวานองเคาจะเปนยังไงบาง ผมจินตนาการแทนนองวา
หากวันหนึ่งผมตื่นขึ้นมาแลวรูวาตัวเองไดกลายเปนเมียของคนแปลกหนาผมจะรูสึกยังไง เพียงแคนึกเทานั้นผมก็รับตัวเองไมได คิด
วาตัวเองคงโกรธ โมโหจนอยากฆาไอคนนั้นอยางแนนอน ซึ่งความรูสึกนี้ นองมันก็คงเจ็บปวดไมตางจากผม

วันที่ผมตามหานองเขานั้น ทางโรงแรมบอกวานองเช็คอินพรอมผูหญิงคนหนึ่ง ยิ่งไดฟงยิ่งรูสึกผิด ที่นอ งมันยังซิงอยูเพราะวาเปนชาย


แทๆ หรือเปลา แลวหญิงคนนั้นเขาเปนอะไรกับนองเขากันแน ยิ่งคิดยิ่งทําใหผมรูสึกผิดมากขึ้น แคคําขอโทษมันคงไมเพียงพอ และ
การที่นองไดระบายความเคืองโกรธกับผมในวันนี้ มันก็คงไมพอเพียงที่จะทําใหเราญาติดีกันได

แตยังไง ผมวาผมตาไมฝาดไปแนๆ กอนที่วินดี้จะเดินจากไป ผมเห็นทาทีลังเล และแววหวงใยในดวงตาคูนั้น ถึงมันจะเพียงแคแวบ


เดียวก็ตามที แตมันก็ทําใหผมมีความหวังขึ้นมา ผมมองฟานึกถึงคําพูดของนองที่วา “จากนี้ก็ทางใครทางมัน อยามายุงกันอีก” นอง
มันบอกผมอยางนี้กอนจะเดินจากไป แตใครจะฟงความกันละ

“หึหึ” ผมหัวเราะ ผมนะมันตัวรายไมใชพระเอก ถาเปนเรื่องอื่น ผมยอมนองได แตวาถาเรื่องใหถอยหางออกมา ผมทํารายหัวใจ


ตัวเองไมลง
ผมก็บอกไมไดหรอกวาตอนนี้ผมรูสึกยังไงกับนองเขากันแน คืนแรกที่เราไดพบกัน “ประทับใจ ติดใจ” นั่นคือความรูสึกที่ผมมี
หลังจากนั้น “รูสึกผิด” เมื่อผมไดรูความจริง แลว “หวง หวง” ก็ตามมาเมื่อผมคือคนแรกของนองเคา คิดกังวล หวงวาตอนนี้นองจะ
เปนยังไงบาง และยิ่งไดรูวานองอาจมีแฟนสาวอยูแลว และบางทีนองมันอาจพยายามลืมเรื่องของเรา ยิ่งคิดผมยิ่งทุรนทุราย “หึง”
ผมรูสึกอยางนั้นจริงๆ และความ “โหยหา” ก็กัดกินหัวใจของผมเมื่อเราจากกัน

สองคืนกับหนึ่งวันนับตั้งแตที่ผมไดเจอกับนอง...ความรูสึกที่ผมมีก็พัฒนาขึ้นอยางรวดเร็ว...รวดเร็วจนผมคิดวา บางทีผมคง “ตก


หลุมรัก” วินดี้และถอนตัวไมขึ้นเสียแลว

วันนี้เมื่อไดพบกันอีกครั้ง หัวใจผมมันก็เตนแรงจนกลัววาคนขางๆ จะไดยิน ผมดีใจที่ไดเจอใบหนาที่อยูในหวงคํานึงของผม


ตลอดเวลา หัวใจผมพองโตจนคับแนนหนาอก อยากกอดนองแนบแนนใหสมกับความคิดถึง แตแลวผมก็หอเหี่ยวใจเมื่อวินดี้แสรงทํา
เปนไมรูจักผม วินาทีนั้นผมเจ็บ แลวสันดานผมก็เลือกที่จะยั่วโมโห...ถึงผมไมไดอยูในหัวใจ...แตก็อยากใหนองมันจําผมไดไมมีวันลืม

“หึหึ...แนนอนวาหลังจากนี้จะไมใชทางใครทางมัน แตเปนทางของ “เรา” เตรียมตัวไวนะครับวินดี้” ผมพึมพําบอกนองไปกับสายลม


นอนเรียกกําลังตัวเองอยูอยางนั้นครูใหญกอนจะคอยๆ พยุงตัวลุกขึ้น เดินโซเซไปยังรถที่จอดอยูไมหาง

“งะ” รถผมล็อกครับ พอเอามือปองหนาแลวมองผานกระจกที่ติดฟลมกรองแสงเขาไปก็ไมเห็นกุญแจที่เสียบไว ผมมุนคิ้วหนอยๆ


กอนจะปลอยเสียงหัวเราะออกมา

“หึหึ แสบจริงๆ”

รายไหมครับวาที่แฟนผม ตอนที่วินดี้กลับมาเอากระเปาในรถ คงจะหยิบกุญแจรถผมออกไปดวย มันคงเอาไปโยนทิ้งที่ไหนสักแหง


ผมมองหาถังขยะที่ใกลที่สุด กอนจะลากสังขารตัวเองไปยังจุดนั้น เพิ่งรูสึกอายคนผานไปผานมาก็ตอนคุยถังขยะนี่ละครับ
“เจอแระ...หึห”ึ เสียงหัวเราะในตอนทายของผมไมไดสมใจที่หากุญแจเจอนะครับ แตกําลังขํากับความนารักนาหยิกของวินดี้

“ไปนอนตายที่โรงพยาบาลโนนไป!!!”

ใชแลวครับ นองมันเขียนตัวหนังสือใหญๆ ใสกระดาษแลวเอากุญแจรถทับไวในถังขยะอีกที แสดงวามันไมไดเดินจากผมไปทันที คง


กลับมาดูอยูหางๆ จนแนใจวาผมไมไดเปนอะไรมาก แลวถึงจากไป ดูสิครับ...แลวแบบนี้จะไมใหผมรัก ผมหลง นองไดยังไง ถึงคําพูด
มันจะประชดประชันแตความหมายของมันก็คือ...วินดี้ไลผมไปหาหมอที่โรงพยาบาล!!!

ความจริงนองคงรูสึกแยและกําลังหาทางทําใหตัวเองสบายใจอยู เกิดผมช้ําในตายหรือเปนอะไรไป มันก็ทําในสิ่งที่ควรทําแลว


ถึงแมวา ผมจะเห็นหรือไมเห็นความหวงใยของมันก็ตามที คุณลองคิดดูสิครับ ผมไมไดเขาขางตัวเองใชไหม วินดี้เริ่มหวั่นไหวบางแลว
ผมยิ้มกริ่มกอนจะหัวเราะออกมาดังๆ โอย...ผมอยากใหนองใจออนเร็วๆ จัง จะกอดรัดฟดเหวี่ยงใหสมกับความนารากกกกกของมัน
ผมไมไดเปนหวงอะไรไอบานั่นเลยนะครับ หลังจากที่มันทําปากเกง โดนผมทั้งเตะทั้งตอยขนาดนั้นยังมาทําตัวเปนพระเอก ยิ้ม
หนาตายอยางกับไมรูสึกอะไรอยางนั้น ยิ่งทําใหผมหมั่นไสหนักขึ้นไปอีก กอนเดินจากมาผมบอกมันไปวาจากนี้ก็ทางใครทางมัน
แลวผมก็เดินไปเอากระเปาตัวเองในรถ พอมองเห็นกุญแจรถ ดวยความรูสึกกรุนๆ ที่ยังไมหาย ผมก็เลยเอากุญแจมาดวยเลย
สมน้ําหนา ใหคลานไปหารถกลับบานก็แลวกัน อยากทําเปนเกงดีนัก

พอกําลังจะโยนกุญแจทิ้งถังขยะ ผมก็หันกลับไปมองดานหลัง ไมใชลังเลใจหรือหวงใยอะไรนะครับ แคอยากมั่นใจวามันจะไมเห็น


กุญแจที่ผมโยนทิ้ง แตสิ่งที่ผมเห็นคือรางของมันที่ทิ้งตัวนอนเหยียดยาวบนพื้น ชิส...ไหนวาเกงนักไง ทําไมถึงทําทาอยางกับนอนตาย
เสียอยางนั้น แลวมันจะมาขึ้นอืดตายอะไรในสวนสาธารณะ ยุงยากคนอื่นมาเก็บศพอีก ผมก็เลยแชงใหมันไปตายที่โรงพยาบาลโนน
คนอื่นเขาจะไดไมตองวุน วาย
จากนั้นผมก็โทรหาเมธ กลัวมันเปนหวง อีกอยางรีบๆ เคลียรกับมันดีกวา เมื่อวานผมก็ทําใหมันสงสัยไปครั้งหนึ่งแลว ไมอยากปดบัง
อะไรมันอีก ถามันสงสัยมากๆ เดี๋ยวก็ขุดคุยหาความจริง ผมนี่แหละจะแยเอา

“กุลมึงใชไหม มึงอยูไหน เกิดอะไรขึ้น บอกกูสิ กูเปนหวงมึงนะ อยาอ้ําๆ อึ้งๆ จะไดไหม....” มันคงจะรายตออีกยาวหากผมไมเบรคไว


กอน

“เพราะมึงนั่นแหละกูถึงซวย” เลนแบบนี้เลยดีกวาครับ แสรงโมโหกลบเกลื่อนความจริง โยนความผิดใหมันไปเลย

“หา!!! มึงพูดเรื่องอะไร แลวมึงโอเคแลวใชไหม”

“เออ...ตอนนี้ไมเปนไรแลว”

แตไอเชี่ยนั่นอะไมแน เฮอะ...สมน้ําหนา วาแตทําไมปานนี้มันยังไมขยับตัวอีก มันจะเลือดคั่งตายหรือเปลา ยองไปดูใกลกวานี้หนอย


ดีไหม อยา...อยาคิดวาผมหวงอะไรมันทั้งนั้นนะครับ แตผมหวงตัวเองมากกวา ยังไมอยากเปนฆาตกรฆาคนตาย
“เฮอ...คอยยังชั่ว กูตกใจแทบแย แลวมันเกิดอะไรขึ้นกับมึง” กูก็ตกใจ ครั้งแรกที่เห็นหนามันในรถนึกวาตัวเองตาฝาด มันยิ่งชอบตาม
หลอนอยู แมกระทั่งในฝนมันก็ยังตามมา

“ก็รถมึงอะมันโหล กูเลยขึ้นผิดคัน มึงไปเปลี่ยนรถใหมเลยนะ บีเอ็มคันนี้กูไมขี่แมรงแลว” ไหลไปไดอีกครับ ความสามารถมาก


สายตานี่อยูที่อีกคน แตปากกลับพูดกับอีกคน เออนั่นมันเริ่มขยับตัวแระ แตหัวมันแตกไมใชเหรอ งั้นแทนที่จะตายเพราะตีนผม กลับ
ไดตายเพราะเชื้อบาดทะยักแทน...ดีๆ ดี สะใจไปอีกแบบ

“ฮะ...ฮาฮา...สาดดดดด มึงนี่นะทํากูเปนหวงแทบแย ฮาฮา ไอโกะเอย ฮาฮา” เสียงหัวเราะของเมธทําใหผมรูสึกตัว นี่ผมเปนอะไร


ผมคุยกับเมธอยูไมใชเหรอ แลวผมยองกลับมามองดูมันอีกทําไม อะนั่นไงมันลุกขึ้นนั่งละ ก็แปลวามันยังไมตาย วา...เสียดายจัง พอ
เห็นอยางนั้นผมก็หมดความสนใจมัน หันหลังเดินจากมาอีกครั้ง

“มึงจะหัวเราะทําไม เปนหวงกูบางไหมฮะ” กลับมาคุยกับเมธแทน แสรงนอยใจมันเพื่อความสมจริงมากที่สุด ก็นะ...ผมเพิ่งผาน


ชวงเวลาหนาสิ่วหนาขวานนี่ มันตองปลอบใจผมสิถึงจะถูก

“เออๆ ไมหัวเราะแลว ตกเรื่องมันเปนยังไงถึงไดขึ้นรถผิดอะ”

เอาละถึงขั้นตอนที่สําคัญที่สุดแลว เพราะผมรูไงครับวาเมธตองถาม ก็เลยเลือกที่จะบอกความจริงมันไปในตอนแรก ก็เคาบอกวา


เริ่มตนดีมีชัยไปกวาครึ่ง ผมรูวาตัวเองไมเคยโกหกเมธมันไดสักที คราวนี้ก็แตงเติมเรื่องเขาไปตามที่ผมพอจะคิดได ไมรูวาเมธเชื่อ
หรือเปลา แตมันก็ตั้งใจฟงผมเปนอยางดี ผมบอกมันวา ตอนที่มันบอกวาจะถึงแลวผมก็เห็นรถคันหนึ่งเหมือนกับรถมัน แลวผมก็ขึ้น
ไปนั่ง แตมันดันไมใช กลับเปนรถของแฟนพี่คนหนึ่งในคอนโดผม ซึ่งผมก็รูจักและเคยทักทายกัน พอพี่เขารูวาผมขึ้นรถผิดคันก็
หัวเราะผมอยางมันนี่แหละ แตแลวพี่เขาก็บอกวาไหนๆ ก็ขึ้นมาผิดแลวจะไปไหน เผื่อทางเดียวกันจะไดแวะไปสง ผมก็เลยตามเลย

“เรื่องแคนี้ทําไมไมบอกกูตั้งแตโทรคุยกันครั้งแรก หรือไมก็บอกพี่เขาไปเลยวาเดี๋ยวเพื่อนก็มารับแลว” มังยังไมเชื่อมั้งครับ ก็เลยยิง


คําถามตามมาทันที...แลวผมคนที่ถูกยิงดวยคําถามก็เกิดอาการอ้ําๆ อึ้งๆ

“ก็กูอายนี่หวา แลวอีกอยางก็เกรงใจเขาดวย อุตสาหจะไปสง” มันพอฟงเปนเหตุเปนผลบางไหมเนี่ย แตชางมันเถอะ ผมคิดออกได


แคนี้แหละ ก็คนมันโกหกไมเกงนี่นา

“อายกูที่มึงโกะและเกรงใจเขา”

“อืม” อยางที่มึงพูดมานั่นแหละ เขาใจแบบนั้นถูกตองแลว แตดูเหมือนวามันจะไมหยุดแคนั้นนะ กะจะใหคําถามของมันทะลุทะลวง


ไปในไสติ่งผมเลยทีเดียว
“แลวมึงก็ทําใหกูหวงมึงเปนบาเปนหลังนี่นะ” นานมันประชดผมเขาใหแลว ไมรูวานอยใจที่ผมไมหวงความรูสึกมัน หรือไมเชื่อในสิ่งที่
ผมพูด แตผมก็ตองเดินหนาตอไป

“มึงอะ กูขอโทษ นี่กูก็เปนหวงความรูสึกมึงนะ กูเลยใหพี่เขาสงกูแคครึ่งทางพอไง” ไถไปไดอีกครับ สีขางเลือดคงไหลซิบๆ แลว

“ฮะ” อีกแระ มันจะทําเสียงขึ้นจมูกทําไมเนี่ย

“อะไรของมึง ตอนนี้มึงอยูไหน” พอมันถามจบผมก็บอกมันไปวาอยูหนาสวนสาธารณะ แลวก็เปนอยางที่คิด มันบนผมยาวมาตาม


สาย แตผมก็ไมไดหงุดหงิดหรือรําคาญมันเลย ตรงกันขามกลับเรียกรอยยิ้มใหกับผมเสียอีก

“มึงนี่นะ ไมรูจักระวังตัวเลย คราวหนาคราวหลังจะขึ้นรถก็หัดดูซะบาง ดีนะที่ไมใชผูราย เกิดเขาปลน จี้ ฆามึงขึ้นมาจะทํายังไง โลกนี้


ยิ่งมีคนอยางมึงอยูคนเดียวอยู ถาเกิดอะไรขึ้นกับมึงแลวกูจะไปหาใครเหมือนมึงไดที่ไหน”

พอมาถึงมหาวิทยาลัยพวกเราก็รีบเขาเรียนเลยทันที ทุกครั้งผม เมธ และลูกแพรจะนั่งขางกันเสมอ แตวันนี้ลูกแพรเธอลงไปนั่งอีกที่


ผมกับเมธเราก็เลยนั่งดานหลังกันสองคน พอเรียนเสร็จขณะที่ผมเดินออกจากตึกอยูนั้นเมธก็ดึงแขนผมไว บุยใบไปยังโตะประจําที่
พวกเรานั่ง

“คุยกับลูกแพรหนอยสิมึง” ผมพยักหนาใหมันกอนมองไปยังลูกแพรที่นั่งกมหนานิ่ง ทาทางของเธอดูเศราสรอยจนนาใจหาย ผมเดิน


เขาไปหาเธอ ยืนมองดานหลังเธออยูเงียบๆ แตลูกแพรก็เหมือนจะไมรับรูถึงการมาของผม

“ลูกแพร” เธอหันมาตามเสียงเรียกของผม แลวหัวใจผมก็กระตุกกับสิ่งที่ผมเห็น

“รองไหทําไมครับ ไมเอา ไมรองนะคนดี” ผมรีบนั่งลงขางๆ เธอ โอบไหลเธอไวอยางปลอบประโลม ผมไมชอบเห็นเธอรองไหเลย ให


ตายสิ ผมแพน้ําตาผูหญิง

“ใครทําอะไรใหลูกแพรครับ บอกกุลสิ เดี๋ยวกุลจัดการให โอๆ ไมรองนะครับ ไมรอง” ผมเฝาปลอบเธออยูอยางนั้นพักใหญ จนเธอ


รูสึกดีขึ้น เจ็บแปลบในใจ นี่ผมเปนคนรักที่ใชไมไดเลยใชไหม กี่ครั้งแลวที่ทําใหเธอรองไห

“ลูกแพรรองไหเพราะกุลใชไหม กุลขอโทษนะครับ” ผมรูวาผมทํารายจิตใจเธอ ตั้งแตวันที่เราทะเลาะกันผมก็ไมโทรไปงอเธอเลย ถา


จะบอกวาผมกลุมใจเรื่องของตัวเองจนไมทันไดคิดถึงเรื่องของเธอมันก็คงไมผิดมากนัก ทวาลูกแพรกลับสายหนา

“เปลา ไมใชความผิดของกุลหรอก” เธอบอกเสียงแผว กอนจะเงยหนาขึ้นแลวฝนยิ้มทั้งน้ําตาใหกับผม


“ไมใช...งั้นลูกแพรรองไหทําไมครับ” ผมวาพลางเช็ดน้ําตาออกไปจากใบหนาของเธอ รูสึกสะทอนในอกอยางบอกไมถูก

“ฝุนเขาตา”

“หึหึ ฝุนคงเยอะเนอะ ลูกแพรเลยเสียน้ําตาไปเปนโอง”

“บา เปนโองที่ไหน แคมันซึมๆ ออกมาเทานั้นเอง” เธอทุบที่ไหลผม ปากยื่นแกมปอง สบัดหนาใหผมอยางแสนงอน ผมหัวเราะใน


ลําคอ กอนจะบีบจมูกเล็กๆ ที่เชิดขึ้นอยางหมั่นไส ปรกติลูกแพรเปนคนอารมณดี เธอยิ้มงาย และอารมณก็ออนไหวงายดวย
เชนเดียวกัน บางครั้งเธองอนผม ไมทันที่ผมจะไดงอ เธอก็กลับเปนฝายงอผมแทน จากนั้นก็ยิ้ม หัวเราะ และทําราวกับวากอนหนา
นั้นเราไมไดขุนเคืองกันเลย

“กุลขอโทษนะครับที่วันนั้นพูดจาไมดีกับลูกแพร”

“ไมหรอก ความจริงลูกแพรเองก็ผิด ไปเซาซี้ขอความรักจากกุล ก็คนไมรักนี่เนอะ จะบอกวารักไดยังไง ความจริงลูกแพรสมเพชตัวเอง


นะ รูทั้งรูวากุลไมเคยรัก ก็ยังหวังใหกุลมางอ มาสนใจ พอกุลทําเมินใส ตัวเองก็มานอยใจ บอน้ําตาตื้นซะงั้น” เธอพูดพลางยิ้ม แตผม
รูวาเธอกําลังแสรงทํา ทั้งที่ภายในใจคงจะเจ็บปวดไมใชนอย...เหนื่อยไหมครับลูกแพร ที่มารักผูชายอยางกุล

“กุลบอกแลววากุลรูสึกดีกับลูกแพร ถึงมันจะไมใชความรัก แตลูกแพรก็เปนคนสําคัญของกุลนะครับ” ผมคงพูดไดเทานี้ จะใหหลอก


วารัก ผมก็คงทําไมได

“ไดเปนคนสําคัญแคนี้ดีใจแลวละ แคกุลยังอยูตรงนี้ อยูขางๆ กันก็เพียงพอแลว” เธอพูดพลางยิ้มใหกับผม นัยนตาสื่อความหมายที่


มองมานั้นทําใหผมยิ้มบางๆ ตอบกลับเธอไป

“เมธกลับกอนนะลูกแพร กูไปแลวนะกุล” เสียงของเมธดังขึ้นขัดจังหวะพรอมกับรางที่เดินตรงมาหยุดอยูระหวางพวกผม ในมือมันถือ


ขวดน้ําดื่ม มันคงแวะไปหาอะไรกินระหวางที่ผมคุยกับลูกแพรอยู แตใบหนามันตอนนี้มูทูยิ่งกวาหมาบูลดอกซะอีก

“อาว จะกลับแลวเหรอเมธ” ลูกแพรทัก ขยับตัวหางจากผมออกมานิดหนอย

“จะ...กูไปกอนนะกุล ไมอยากเจอหนาไอตีน” ไอตีนก็คือตรินครับ พี่ชายในนามของผมเอง ผมมองตามสายตาของเมธ เห็นตรินล


งจากรถแลวกําลังเดินมาที่พวกเรา นี่เองที่ทําใหมันหนาบูดเปนตูดหมูอยางนี้

“เขาชื่อตรินมึงก็เรียกใหมันดีๆ หนอย”

“เออ ไอสนตีนนั่นแหละ วาแตมึงเถอะ ตัวยังรุมๆ อยูเลย วันนี้ไดกินยาเปลาเนี่ย”


“หึ”

“มึงนี่นะ ถึงวามึงถึงรักใครไมเปนสักที เพราะมึงไมรูจักรักตัวเองนี่เอง” มันวาผมเสียงเบาใหไดยินกันเพียงสองคน

“แตกูรักมึง” ผมตอบพรอมทําตาหวานใสมัน แตมันกลับตบผมหัวทิ่มเลย

“สาด อยามองกูแบบนี้นะ สยอง บรึ้ย” มันทําทาขนลุกขนพอง ลูกแพรทําตาปริบๆ มองหนาพวกเราทั้งสอง

“วาแตมึงกับลูกแพรคุยกันแลวใชเปลา” เมธกระซิบถามอีกครั้ง ผมขานรับในลําคอ มันพยักหนาอยางเขาใจ

“ดีๆ จากนี้มึงก็ทําอะไรใหมันชัดเจนไปเลย อยาครึ่งๆ กลางๆ เหมือนที่ผานมา เสียเวลาและความรูสึกเปลาๆ” วาจบมันก็เดินจากผม


ไปทันที
ผมหันมาที่ลูกแพรอีกครั้ง คําเตือนของเมธ ทําใหผมตัดสินใจอะไรไดงายขึ้น ถึงแมวาผมจะไมมั่นใจนัก แตมันคงถึงเวลาแลวสินะ

“ลูกแพรไปกินขาวที่บานกับกุลไหมครับวันนี้”

“เอะ ลูกแพรไปไดดวยเหรอ”

ผมยิ้มแลวพยักหนาใหกับเธอ นับจากวินาทีนี้ คงไมใชแคไปกินขาวที่บานผมเทานั้นที่เธอทําได แตมากกวานั้นผมก็ยินยอมจะให


สิทธิ์แกเธอ...เพราะผมตัดสินใจที่จะทําบางอยางใหมันชัดเจนขึ้นมาซะที
วันนี้ผมตั้งใจวาจะนอนที่คอนโด แตทาน ผบทบ เรียกตัวใหกลับบานดวน อะๆ อยาคิดไปไกลนะครับวา ผบทบ ที่ผมวานั่นคือ “ผูบาว
ไทยบาน” คนไหน ไมมีครับ ไมม.ี ..จะมีก็แต “ผูบัญชาการที่บาน” แนะๆ ไมตองคิดไปไกลเลยนะครับวาผมมีเมียเก็บซุกซอนเอาไว
เพราะวาทานผูนี้ก็คือพอผมเอง คนโสดก็แบบนี้แหละครับ อํานาจยิ่งใหญในบานก็ตองยกใหกับบุพการี แตอีกไมชานี่ละ เดี๋ยวใหผม
หาฤกษยามเขาหอใหไดเสียกอนเถอะ ตําแหนงนี้จะตกเปนของวินดี้ทันที

“อานอะไรอยูอะพอ” ผมลากตัวเองมานั่งที่โซฟาในหองรับแขก ขอสารภาพเลยครับวารางกายตอนนี้เจ็บปวดไมใชนอย ดีที่ลุงหมอ


บอกวาแคฟกซ้ํา ไมมีกระดูกสวนไหนหัก อวัยวะทุกสวนปรกติดี โดยเฉพาะคินนอย (สวนนี้ผมหวงมากที่สุด) มันยังโอเคครับ ใชการ
ไดปรกติ ออ...มีหัวแตกตองเย็บสี่เข็มก็เทานั้นเอง

“มาแลวเหรอ เลามาสิวามันเกิดอะไรขึ้น”

ขาวสารรวดเร็วทันใจจริงๆ เลยครับ สมกับเปนอดีตนักการเมือง พอวางเอกสารที่อานลง ถอดแวนสายตาออกแลวจองเขม็งมาที่ผม


มาดนักเลงของพอก็ยังคงดูนาเกรงขามเหมือนเดิม พอผมเคยเปนนักเลงเกาครับ ทําธุรกิจหลายอยางโดยเฉพาะพวกใตดิน แลวพอ
เจอกับแมซึ่งเปนลูกสาวอดีตนักการเมือง ผนวกกับพอตายุ พอก็เลยลงเลนการเมืองกับเขาดูบาง พอมาทางนี้ก็รุงเหมือนกันนะครับ
เปน ส.ส. ติดกันหลายสมัย แตพอแมปวยพอก็วางมือจากการเมือง แลวยิ่งเมื่อแมตายจากเราไป พอก็หันหลังใหการกับธุรกิจมืดทุก
อยาง เปลี่ยนมาจับกิจการโรงแรม และตั้งมูลนิธิสังคมสงเคราะหขึ้นมาซะงั้น เห็นพวกเพื่อนพอเวลากินเหลากันลอพอใหญเลยวา
เปนซาตานกลับใจ

“แลวลุงหมอบอกพอวาไงละ”
หลังจากที่ถูกวินดี้ซอมผมก็พาตัวเองไปหาหมอตามคําสั่งของนองเคาครับ แตลืมคิดไปวาผมควรจะไปโรงพยาบาลอื่น ไมใชที่ที่ลุงซึ่ง
เปนพี่ชายของแมเปนผูอํานวยการอยู ขาวมันก็เลยรูมาถึงหูของพอผมอยางที่เห็น

“เห็นบอกวาใหหาศาลาวัดไวรอแก”

“งะ แชงกันได เกิดตายขึ้นมาจริงๆ แลวจะรูสึก”

“รูสึกอยากลุกขึ้นมาเตน รองรําทําเพลงนะสิ”

“โหยพอ นี่ผมลูกพอนะ ซีสสสสส” พูดมากก็เจ็บปากครับ วินดี้มันตอยผมปากแตกดวยละครับ เขาวาปากแตกตองแกดวยการ


ประกบปากแลวจะหายเร็วไมรูจริงไหม บางทีพรุงนี้ผมจะหาทางใหวินดี้รักษาปากแตกใหดีกวา จรุฟๆ จวบๆ สักนาทีคงหาย

“ตกลงแลวไปโดนอะไรมา” พอเปลี่ยนเปนเสียงขรึม สีหนาจริงจัง ผมก็เลยตองบอกพอไปตามตรงวา

“ก็วาที่ลูกสะใภพอแหละทําผม”

“หือ” พอเงียบไปครูหนึ่งคงคิดตามคําพูดของผมกอนจะหัวเราะเสียงดัง “นึกวาพวกศัตรูเกา”


นี่ละครับคือเหตุผลที่ผมบอกพอเปนนัยวาวินดี้คือคนสําคัญของผม หากไมบอกพอออกไปเชนนั้นเรื่องราวคงไมจบงายๆ แน ถึงแมวา
พอผมจะกลับใจ แตก็ใชวาเปนเสือสิ้นลายนะครับ เมื่อแมจากผมไป พอก็เปนทั้งพอและแมใหกับผม หากพอรูวามีใครกลามาเตะผม
พอจะกลายรางเปนปศาจไดทันที ไมวาจะเปนเมื่อสมัยผมยังเด็ก หรือวาเดี๋ยวนี้ พอก็ยังเปนพอที่รักและคอยปกปองผมเสมอมา

“ทาจะรายไมใชเลนเลย”

“รายมากเลยละพอ คนบาอะไรไมรู ไมออมแรงเลย มือหนัก ตีนหนักอยางกับอะไรดี” ฟองเลยครับ เผื่อพอจะไปจับนองเคาใสพาน


มาใหผม

“แลวไปทําอะไรเขาละ ถึงไดถูกซอมซะนวมกลับมา” พอไดยินคําถามปุบก็ถอนหายใจออกมาทันที

“ความผิดรายแรงอยางไมนาใหอภัยไดเลย” พอเลิกคิ้ว
“ขนาดนั้นเชียว” ผมพยักหนาอยางหงอยๆ

“แลวมีอะไรใหชวยไหม” ผมหางกระดิกเลยครับที่ไดยินพอพูดอยางนั้น ก็นะ...ขนาดแบทแมน ยังมีโรบิ้นเปนผูชวย แลวนายนาคินทร


คนธรรมดาเดินดินอยางผม ก็ตองมีคนหนุนหลังเปนธรรมดา

“ผมวาจะยายคอนโด....”

“จะหอบผาหอบผอนหนีตามเขาไป” เยย พอเขามานั่งในใจผมหรือไง ยังพูดไมจบเลยนะ พอตอใหซะงั้น

“เสียชื่อลูกผูชายหมด ตองใหเขาหนีตามเราสิมันถึงจะถูก” โหย พอยังไมรูจักวินดี้อะดิถึงพูดได มันคงยอมหนีตามผมมาหรอก

“เขาโกรธผมซะขนาดนี้ แคยอมมองหนาก็ดีเทาไรแลว ใหหนีตามผมมานี่นะ ไมตองพูดถึงเลย” ผมพูดพรอมชี้หนาที่กําลังจะหมด


หลอของตัวเอง พอหัวเราะหึหึ

“งั้นที่ยายไปนี่ก็เพราะจะไดอยูใกลๆ งอเขาไดงายหนอยวางั้นเถอะ”

“ครับ”

“เฮอ จะงอทําไมใหมันยุงยาก เสียเวล่ําเวลา”

“อาว ไมงอแลวทําไงอะ”

“ลูกเตาเหลาใครละ เดี๋ยวไปขอเขาให แลวก็ยายมาอยูที่นี่ซะก็สิ้นเรื่อง เรื่องแบบนี้เขาทางผูใหญ แปบๆ ก็จบ” อะจากกกกก งานนี้ได


จบจริงๆ ละครับ แตลูกพอนี่แหละจะจบที่ศาลาวัด

“พอๆ ไมเลนแลวพอคนนี้ผมจริงจัง” ผมพูดเสียงขรึมกอนที่พอจะไปไกลมากกวานี้

“แนใจแลวเหรอ” พอเปลี่ยนน้ําเสียงเปนจริงจัง สบตากับผม ผมพยักหนา

“ชาย หรือ หญิง”

“ชาย” พอถอนหายใจ

“ถางอไดแลวก็ปรึกษากันเรื่องทํากิ๊ฟซะ สมบัติเยอะแยะ ตองมีหลานสืบสกุล”


ผมหัวเราะใหกับคําพูดของพอ รูสึกโลงใจที่พอเขาใจผม พอเปนอยางนี้แหละ ไมถามใหมากความ แตจะยอมรับการตัดสินใจของผม
เสมอ พอรูรสนิยมของผมมานานแลว แรกๆ ก็ตกใจไมใชนอย ยิ่งบานทําธุรกิจโรงแรมดวย ผมหิ้วใครเขาออกโรงแรมก็ไมพนสายตา
พอ นานวันเขาพอก็ชิน และยอมรับตัวตนของผมในที่สุด

“พอไมวาอะไรผมนะ” แตผมก็ยังหวง ผมวาลึกๆ พอคงหวังใหผมเหมือนชายคนอื่นทั่วไป แตงงานกับผูหญิง มีลูก มีครอบครัวที่


อบอุน

“วาทําไมใหเมื่อยปาก ยังไงก็พาเขามาใหรูจักดวยแลวกัน จะชวยดูอีกที”


ลูกชายคนเดียว หัวแกวหัวแหวนนี่ครับ คนที่ผมจะจบชีวิตดวยพอก็ตองเห็นดีเห็นงามดวย ใหเดาไหมครับ ไมเกินสองวันนี้ รูปภาพ
ประวัติ รายละเอียดทุกอยางเกี่ยวกับวินดี้ ตองมาอยูในมือพอแนๆ

“หึหึ ผมวาพอตองชอบนองเขาแนๆ” พอสายหนา

“เปนเอามาก ไปๆ ขึ้นไปพักผอนไดแลว เดี๋ยวจะใหอนเอาขาวตมขึ้นไปให กินยา แลวหนาก็เอาน้ําแข็งประคบดวย” อนคือลูกชายปา


อิ่มซึ่งเปนแมบานที่นี่ครับ แตกอนจะลุกขึ้นผมก็นึกอะไรขึ้นได

“เออจริงสิพอ ตอนที่แมโกรธพอมากๆ นะ พองอแมยังไง”

“ปล้ํากอนแลวคอยงอ”

อากกกกกกก คราวนี้คุณๆ คงรูแลวนะครับ วาผมไดเชื้อหื่นมาจากใคร!!!


ตาดีใจมากเลยครับที่ผมพาลูกแพรมากินขาวที่บาน คงรูแลววาพวกเราสองคนคืนดีกัน ตาถามสารทุกขสุกดิบลูกแพรใหญเลย
สุขภาพเปนไง การเรียนไหวไหม คุณนาใจดีหรือเปลา ความสนใจทั้งหมดของตามุงไปที่ลูกแพรคนเดียว ผมไดแตนั่งฟงทั้งคูคุยกัน
แตก็เพลินดีครับ

“นองกุล กุงทอดราดซอสมะขามของโปรดนองกุลไงครับ”

แตมันจะไมเพลินก็ตรงนี้แหละ ตรินครับ ถาเขาปอนผมไดคงทําไปแลว ดูสิ คอยตักโนนตักนี่ใหตลอดเวลา แลวก็มองอยูอยางนั้น จน


ผมตองจําใจกินเขาไป เขาถึงหันกลับไปกินของตัวเองบาง เนี่ยตอนนี้ก็นั่งจองหนาผมอยู เหมือนบังคับกลาย ๆ “กินสิ” ผมก็เลยตอง
กินกุง

“เปนไงบางครับ” แลวเวลาเขาพูดหรือถามนะครับ ทํายังกับผมเปนเด็กสามขวบ ทั้งน้ําเสียง ทั้งทาทาง เฮอ...เขาคงเหงาอยากมีนอง


จริง ๆ นั่นแหละมั้ง

“อรอยดี” ผมตอบ กุงสดโรยแปงบาง ๆ แลวทอด ราดดวยซอสมะขาม หวานอมเปรี้ยว รดชาติกลมกลอมดีครับ ตรินยิ้มกริ่ม


“ดีใจที่นองกุลชอบ คราวหลังนองกุลกลับมากินขาวที่บานบอย ๆ สิครับ ไวพี่จะทําใหกินอีก”

“นี่นายทําเองเหรอ”

“ครับ พี่รูวานองกุลชอบ ก็เลยหัดทําเพื่อนองกุลโดยเฉพาะ” ผมยกแกวน้ําขึ้นจิบ เหมือนความเปรี้ยวของมะขามจะหายไป เหลือแต


รสหวานจนเลี่ยน พะอืดพะอมจนอยากจะอวกออกมา

“พอกับแมไมคอยอยูบานหรอกครับ พี่ทานขาวกับคุณตาแคสองคนทุกวัน” ตรินยังพูดตอ มือก็ตักคะนาหมูกรอบมาวางที่จานขาว


ของผม วันนี้แมกับพอเลี้ยงของผมก็ไมอยูครับ เห็นบอกวาไปงานเลี้ยงอะไรสักอยาง

“กินผักดวยครับนองกุล คะนากรอบอรอยนะครับ หมูกรอบก็นากิน” ผมก็ชิมเมนูที่ตรินนําเสนออยางวางาย อืม...กานคะนามันกรอบ


อรอยจริงๆ ดวย

“อรอยใชไหม” เขาถามเมื่อผมตักกินอีกคํา ผมพยักหนา ตรินยิ้มกวาง

“เห็นไหม ที่บานมีแตของอรอย ๆ นองกุลตองกลับมากินบอยๆ นะครับ คะนานี่พี่ไปเลือกซื้อที่ตลาดกับปาเข็มเองเลยนะ” ปาเข็มคือ


ปาแมบานครับ

“เพิ่งรูวานายชอบเขาครัว ทํากับขาว เกงนี่” เห็นเขาภูมิใจเสนอความสามารถของตัวเอง ผมก็เลยชมซะหนอย แตแทนที่ตรินจะดีใจ


กลับทําหนาหงิกงอใสผมซะงั้น

“ก็นองกุลไมเคยสนใจพี่นี่ครับ จะรูไดยังไง” พูดจบก็กมหนาหงุด อะไรหวา...จู ๆ ก็มางอนกัน

“อาวนั่นตรินเปนอะไร กุลไปพูดอะไรใหพี่เขา” เปนงั้นไป ผมยังไมไดทําอะไรมันเลยนะครับตา แคชมวามันเกงเฉย ๆ แลวไอบานี่ก็อีก


คน ดูมันครับ ดูมัน พอเห็นตาถามแบบนั้นยิ่งตีหนาเศราเขาไปใหญ...ไมตองมาเลนบทพจมานเลยมึง!!!

“กุลเปลานะตา แคบอกวาเกงจัง ทํากับขาวก็เปนดวย” ตาสายหนาเหมือนไมเชื่อในสิ่งที่ผมพูด

“เรานะชอบแกลงตรินตารูดี ตรินก็เหมือนกัน อยาไปยอมกุลมันมากนัก ถูกเลี้ยงเอาแตใจมาตั้งแตเด็กก็แบบนี้แหละ จะทํา จะพูด


อะไร ไมคิดถึงความรูสึกคนอื่น รูไหมวาพี่เขาดีใจขนาดไหนที่กุลจะมาทานขาวที่บาน ถามตาใหญเลยวาวากุลชอบไมชอบอะไร แลว
ก็ยังลงทุนเขาครัวทํากับขาวใหกิน ดีแคไหนที่มีพี่ชายเอาใจใสดูแล ถึงอยางไงตอนนี้กุลกับตรินก็เปนครอบครัวเดียวกันแลว จะใจ
แคบไปถึงไหน หึ..กุล”

มาเปนชุดยาวเลยครับ ไมถามหนาถามหลังอะไรเลย ตกลงคือผมผิดมากใชไหมครับ ที่ชมวามันเกงเนี่ย เฮอ...เซ็งไดอีก


“ขอโทษครับ อะนี่...กุลยังไมเห็นตรินกินหมูทอดเลย ตักให” ขี้เกียจแกตัวครับ ทําใหเห็นเลยแลวกัน วาเราสองพี่นองรักกันมากกกก
กก ตรินมันเงยหนาขึ้น ยิ้มหนาบานกวนบาทาเปนที่สุด

“ขอกุงดวย” ชิชะ ไดหมูจะเอากุง เห็นวายอมหนอยเอาใหญเชียวนะมึง

“นี่ครับ วาแตกินผักดวยดีไหม คะนากรอบนะ กุลกินแลวเมื่อกี้อรอยดี”

ก็ตามระเบียบครับ เลนบทนองชายที่แสนดี ตาก็ยิ้มนอยยิ้มใหญ ที่เห็นพวกเรารักกันแบบหลอก ๆ เอาเถอะถามันเปนความสุขของ


ตา ผมก็ฝนใจทําให สวนลูกแพรก็มองหนาเราสองพี่นองไปมา คงสงสัยละมั้งวามันเกิดอะไรขึ้น ผมก็เลยยิ้มใหเธอ พรอมตักคะนา
หมูกรอบใหกับหญิงสาวบาง ลูกแพรก็ยิ้มตาหยีใหกับผม

เฮอ...เหนื่อยจริง ๆ ครับกวาจะกินขาวอิ่ม ตองเอาใจคนโนนคนนี้ไมสนุกเลยสักนิด

พอกินขาวเสร็จตรินก็พาตาขึ้นหองไปพักผอน ผมกับลูกแพรก็ออกมาเดินเลนที่สวนใหอาหารยอย เรื่องราวระหวางผมกับลูกแพรมัน


คอนขางซับซอนอยูบางสักหนอย พอกับแมของลูกแพรเสียชีวิตทั้งคูตั้งแตหญิงสาวยังเด็ก ลูกแพรจึงอยูกับยายสองคน ยายของเธอ
เปนเพื่อนกับตาของผม แตแมเคยบอกวาเปนแฟนเกาตาตั้งแตสมัยยังหนุม ตอนที่ยายของผมเสียก็ไดยายของลูกแพรนี่แหละคอย
ปลอบใจ อยูเปนเพื่อนตา

ความสัมพันธระหวางตาของผมกับยายของลูกแพรยังคงรักษาระดับอยูแคเพื่อนที่มีความจริงใจใหแกกัน เวลาตาไปเยี่ยมยายของลูก
แพรก็จะเอาผมไปดวย หรือเวลายายของลูกแพรมาที่บานผม ลูกแพรก็จะมาดวย ผมกับเธอจึงสนิทกันมาก เมื่อตนปที่ผานมา ยาย
ของลูกแพรเสียชีวิต ตาของผมเสียใจมาก

แลวเมื่อสามเดือนกอน ตาก็ปวยหนัก อาการของตาทรุดลงจนนาใจหาย ตาเรียกผมใหไปพบ แลวบอกวาตายังมีหวง มีคําสัญญาที่


ตองรักษาไว ดวยกอนที่ยายของลูกแพรจะเสียชีวิตนั้น ไดฝากใหตาชวยดูแลลูกแพรดวย ซึ่งตาก็รับปากวาจะชวยดูแลเธอจนหญิง
สาวเปนฝงเปนฝา ทวาตอนนี้ตาอาจไมสามารถทําตามสัญญาที่ใหไวได ดังนั้นจึงอยากขอรองผมใหชวยรักษาสัญญาแทนตาที ผมก็
รับปากตาไปเพราะวายังไงผมกับลูกแพรเราก็เปนเพื่อนกันอยูแลว

ตาดูสบายใจขึ้นเยอะที่ไดยินผมรับปากไปอยางนั้น จากสุขภาพที่ทรุดหนักก็กลับฟนตัวขึ้นมาไดอยางมีปาฏิหาริย ตาไมตองนอนที่


โรงพยาบาล หมอใหกลับมาพักที่บานไดแตก็ตองไปเช็ครางกายตามที่หมอนัด ปญหาโรคหัวใจกับความดันสูงของตาทําใหผมไม
กลาขัดใจ ไมกลาเถียงตาอยางที่เห็น ผมยอมรับวาตอนที่ตาอาการหนักอยูนั้นผมกลัวมาก กลัวที่จะสูญเสียคนที่รกั ไปอีกครั้ง ความ
เจ็บปวดเมื่อความตายพรากใครสักคนไปจากเรา ผมยังจํามันไดเปนอยางดี
ผมไมอยากรูสึกผิดและอยากยอนเวลากลับไปแกไขเรื่องในอดีตเหมือนครั้งที่สูญเสียพอไป ผมจึงอยากทําทุกอยางใหตามีความสุข
ในชวงเวลาที่เหลืออยู ถามีอะไรที่ผมพอจะทําไดผมก็เต็มใจที่จะทํา ตาขอรองใหผมลองเปดใจตัวเอง ลองมองลูกแพรมากกวาเพื่อน
คนหนึ่ง ตาบอกวาตามองไมผิดแนๆ ลูกแพรมีใจใหกับผม แลวมันก็เปนความจริงอยางที่ตาวา เพราะลูกแพรบอกรักผม ผมก็ตกลง
คบกับเธอตามคําแนะนําของตา

ตลอดระยะเวลาสามเดือน ผมสัมผัสกับความรักที่เธอมอบให แลววันนี้ผมก็ตัดสินใจที่จะตอบแทนความรักของเธอ ผมจะทําใหคํา


สัญญาที่ตามีไวกับยายของลูกแพรนั้นเปนความจริงขึ้นมา ตอนนี้ผมเรียนปสามแลว อีกหนึ่งปผมก็จะจบ หลังจากนั้นผมก็เปน
ผูใหญพอที่จะดูแลใครสักคน และลูกแพรก็คือคน ๆ นั้น และนี่คือสิ่งที่ผมจะบอกกับเธอในวันนี้

“กุลไดโหลดเพลงที่เราเคยรองดวยกันเก็บไวหรือเปลา” ลูกแพรถามผมขณะที่นั่งบนชิงชา ผมนั่งอีกตัวขาง ๆ เธอ

“เพลงไหนละ”

“ฉัน.. อยากจะรูเธอคิดยังไง ไมคอยเขาใจ เรื่องราวที่มี เหมือน ในบางครั้งเธอนั้นแสนดี หรือทําอยางนี้กับทุกๆ คน” แทนคําตอบ


น้ําเสียงใส ๆ ของเธอก็เปลงออกมาเปนทํานองเพลง ผมยิ้มมุมปากกอนจะรองตอประโยคของเธอ

“ฉัน.. ก็อยากรูเธอคิดยังไง ไมเคยเขาใจ ในความสัมพันธ มอง ไดแตมองดวยความไหวหวั่น เธอคิดกับฉัน คนนี้อยางไร”

เราหันมาสบตากัน ในแววตาของลูกแพรนั้นชัดเจนวาเธอคิดยังไงกับผม...และสิ่งนี้แหละที่ทําใหผมเชื่อมั่นวาความรักที่เธอมอบให
จะทําใหผมรักเธอไดในสักวัน

“กุลโหลดไวในโทรศัพท อยากฟงไหมละ” ผมหยิบโทรศัพทออกมากําลังจะกดหาเพลงที่เก็บไว ลูกแพรก็แยงไปจากมือผม แลวหันมา


ขยิบตาใหผมทีหนึ่ง

“เปลี่ยนใจแลว เรามารองดวยกันเหมือนครั้งนั้นดีกวา”

ครั้งนั้นคือวันที่เธอบอกรักผม ระหวางทางกลับบาน เราฟงรายการวิทยุดวยกัน แลวเขาก็เปดเพลงนี้ ผมกับเธอผลัดกันรองแลวเพลง


ก็จบพอดีที่รถผมมาจอดที่หนาบานลูกแพร กอนลงจากรถในวันนั้น เธอก็เปดใจ บอกรักผม

“อยากเขาไปคนใจเธอ ใหเจอคําตอบสักที...” เธอเริ่มเปลงเสียงรองออกมา ผมก็เลยรองพรอมกันกับเธอ

“เก็บงํา รักไวใหฉันหรือเปลา อยากเขาไปคนความจริง ทุกความรูสึกทีม่ ี ขางในใจนี้ มีกันบางไหม” พอจบทอนเธอหันมายิ้มใหกับผม

“คนใจกุลมานานแระ แตไมเจอความรักสักที” ผมหัวเราะใหกับคําพูดของเธอ


“แลวเหนื่อยหรือยังครับ” ผมเอื้อมมือไปเกี่ยวปอยผมของเธอมาทัดไวที่หู แลวไลนิ้วมือไปตามแกมเนียนอยางแผวเบา ลูกแพรกม
หนา เอียงอาย

“เหนื่อย แตไมเคยทอ” วาจบเธอก็เงยหนาขึ้นแลวสบตากับผม

“จากวันนี้ ลูกแพรจะไมตองเหนื่อย และทออีกตอไปแลวละครับ” ผมเอื้อมมือไปกุมมือของเธอไว บีบเบา ๆ กอนจะเอี้ยวตัวไปจูบที่


หนาผากของเธอ...ผมจะไมทําใหความรักที่เธอใหมาสูญเปลาอีกตอไปแลว

“ลูกแพรครับ กุล...”

แตยังไมทันที่ผมจะไดเอยอะไรออกไปมากกวานั้น เสียงสัญญาณขอความเขาก็ดังขึ้น ลูกแพรยกโทรศัพทที่ยังอยูในมือของเธอขึ้นมา


ดู กอนจะยื่นมันกลับมาใหผม ผมสายหนา แลวสงสายตาเปนเชิงบอกใหเธอเปดออกดูไดเลยหากเธออยากอาน ในเมื่อผมตัดสินใจ
แลว นับแตวินาทีนี้เปนตนไป ผมกับเธอจะเปนคน ๆ เดียวกัน ไมมีความลับอะไรปดบังกันอีกตอไป เธอกดอานขอความกอนจะมุน
คิ้ว

“คิน นี่ผูชายหรือหญิง” เธอถามผมเสียงสั่น ๆ ยังกมหนา สายตาจองที่หนาจอโทรศัพท ผมนิ่วหนา คิน...คินไหน ผมคิดตามคําพูด


ของเธอ

“ผูชายครับ” ปากผมเร็วกวาสมองจะสั่งไมใหพูดออกไป เมื่อใบหนาของไอเชี่ยนั้นแวบเขามาในหัวของผม จะใชมันหรือเปลา พอนึก


ไดเทานั้นแหละผมก็ตาโต รีบดึงโทรศัพทมาจากมือของลูกแพร

“เพราะอยางนี้ใชไหมกุลถึงไมมองผูหญิงคนไหนเลย แมกระทัง่ ลูกแพร” เสียงสั่น ๆ ของลูกแพรดังแทรกขึ้นมาขณะที่ผมกวาดสายตา


ไปตามตัวอักษรที่หนาจอโทรศัพท

“ที่รักครับ พี่มีขาวดีมาบอก พี่ยังไมตายแตคงหมดหลอไปหลายวัน แลวเมียพี่เปนไงบางครับ คิดถึงกันบางไหม รักนะครับ...พี่คิน”

“หมายความวายังไงหรือกุล ที่รกั ครับ เมียพี่...กะ...กุล...มีคนรักอยูแลวใชไหม และคนนั้น...ก็เปนชะ...ชายเหรอ" เฮย!!! ผมสะดุงสุด


ตัวเลยครับ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ผมอยากเอาหัวไปโขกกําแพงหลาย ๆ ครั้ง ใครก็ไดชวยบอกผมทีวาผมไมไดฝนไป

"กะ..กุล...เปน...กะ...เกยเหรอ”

โอย...ผมจะบาตาย อะไรมันจะถูกที่ถูกเวลาขนาดนี้!!!

เขาใจผิดกันไปใหญแลว!!!
ไอเชี่ยนั้นมันจะตามมาปวนชีวิตผมไปถึงไหน!!!

กูอยากฆามรึง!!!!!
ผมมองหนาตัวเองในกระจกสองหลังรถยนตเพื่อเช็คความเรียบรอยกอนเอาหนาเซ็กซี่ ๆ ของตัวเองไปใหวินดี้ยลโฉม อืม...ถึงแมวา
เวลานี้อาจดูไมหลอเลาใจจนวินดี้อยากลากขึ้นเตียง แตคงพอทําใหหัวใจนองออนระทวยไดบาง รอยเขียวซ้ําที่มุมปากนาจะเรียก
คะแนนสงสาร อยางนอยพอเห็นหนาผม คงไมใจดํา แจกหมัดหวานซ้ําใหหนาเสียโฉมไปมากกวานี้

วาแตเมื่อคืนบอกรักนองไปแลวถึงจะบอกผานSMSก็เถอะ แตพอนึกขึ้นมาหัวใจก็เตนตุบตั๊บ ๆ อยากวิ่งเขาหองน้ํา ไปปลดปลอย


ความโหยหา ก็แหม คุณ ๆ ลองนึกภาพเวลาวินดี้ตอบรับความรักของผมเสียงแผวเบา สั่นกระเสาใตรางผมดูนะครับ

“วิน...อืม..ก็...อะ..อา...รักพี”่

สองชีวิตหนึ่งเดียว two become one ชวงเวลาทีน่ าจดจํา โอย...มันจะมีวันนั้นสําหรับผมไหมเนี่ย เฮอ...ตอนนี้ก็ไดแตฝนกลางวันไป


เทานั้นเองแหละครับ คงยากที่นองมันจะเปดใจรับผม ยิ่งจะใหฝนใจจับนองกดคงไมทําแลว แคนี้ก็ไมรูจะงอยังไง อีกอยางกลัวใจมัน
ครับ กลัววินดี้เฉือนคินนอยผมทิ้ง ยิ่งเปนของรักของหวงอยู

ผมขยับหมวกแกปลงมาปดหนานิดหนอย จับที่คอตัวเองเพื่อดูวาตัวประกันยังอยูดีหรือไม (สรอยครับ ขออางมาเจอนองวันนี้) โอเค


ทุกอยางเรียบรอย แลวก็ถึงเวลาเริ่มแผนตื้อใหเธอรักขั้นที่สอง ผมลงจากรถแลวตรงเขาไปยังคอนโดของนองดวยมาดเด็กสงของที่
เพิ่งถูกนายจางทํารายใบหนามาเมื่อวาน พอเจอลุงยามก็บอกแกไปวามาจากโรงแรมเอื้อมตะวัน เปนโรงแรมในเครือเอื้อมตะวันกรุป
ของพอผมครับ ซึ่งวินดี้ไปพักที่ภูเก็ตนั่นแหละครับ ก็บอกวามาสงของสําคัญใหคุณวายุระกุล ฝากไวไมไดตองใหรับดวยตัวเอง

ลุงยามก็มองหนาผม คงสงสัยละมั้งวาหนาหลอ ๆ อยางนี้ทําไมถึงตกอับ ไมตองเเปนหวงผมไปหรอกลุง เดี๋ยวผมก็เลื่อนขั้นตัวเอง


เปนเจาของหองที่คอนโดนี่แลว ลุงไดเห็นความเจริญรุงเรืองของผมแน ผมทําหนาเจี๋ยมเจี้ยม ยิ้มเปนมิตรใหแกไป แลวแกก็โทรเขา
หองวินดี้ละมั้ง เห็นพูดตามที่ผมบอก จากนั้นก็หันมาทางผมแลวบอกวา

“คุณกุลใหขึ้นไปได รูจักเบอรหองใชไหม”

คุณกุล อะฮา...ความรูใหมที่ตองรีบฝงลงไปในรอยหยักของสมอง ผมก็บอกไปวาคุณกุลแจงใหทางโรมแรมทราบแลว และก็เนียนๆ


เอากระดาษซึ่งจดที่อยูนองใหแกดู แกก็พยักหนาแลวก็ปลอยใหผมเขาไปในตัวอาคาร ผมลั่นลาตรงดิ่งขึ้นลิฟทไปยังหองของที่รัก
รูสึกวันนี้ฟาจะเขาขางผมนะ เหมือนทุกอยางจะเปนไปตามแผนที่วางไว อยากเจอหนานองเร็ว ๆ จัง อยากรูวาคํารักที่ผมบอกวินดี้
เมื่อคืนจะซึมซับเขาไปในหัวใจนองหรือเปลา พอเจอหนาจะกระโดดกอดคอหอมแกมผมไหม

แลวผมก็มาหยุดยืนที่หนาหองของนอง กมหนาหนอย ๆ ขยับหมวกอีกนิด แลวก็เอื้อมมือไปกดกริ่ง มีเวลาใหปนหนาหลอนิดหนอย


กอนประตูหองจะเปดออก...
ที่รากกกกก คราบ สามีมาแลว...คําพูดที่อยากบอกนองครับ แตไมมีโอกาสไดเอยออกมา ก็คนที่ยืนอยูตรงหนาผมคือตาแก ๆ คน
หนึ่งนะสิครับ วาแตใครละเนี่ย เอะหรือมาผิดหอง ผมกระพิบตาปริบ ๆ เอี้ยวตัวไปมองหมายเลขหองอีกครั้ง ผมก็มาถูกนี่หวา

“มีอะไรหรือ” น้ําเสียงทุมเอยถามผม ดวยความแปลกใจปนตกใจเล็กนอยทําใหผมตั้งตัวไมทัน เหมือนจะลืมบทที่ซอมไว ตอบแบบ


ไมทันคิดวา

“ใชหองวินดี้หรือเปลาครับ ผมเอาของมาคืนนอง” ตายนคิ้ว มองหนาผม ผมก็ยนคิ้วมองหนาตาอยางไมแนใจ

“วินดี้เหรอ” ตาทวนน้ําเสียงสงสัย ผมก็เออไปชั่ววินาที เวรกรรม ผมดันไปเรียกนองอยางนั้น ก็มันชินปากนี่หวา

“เออ ผมหมายถึง นองกุล วายุระกุล นะครับ” พอตอบไปแบบนั้นแลวก็กลับมาคิดทบทวนคําพูดตัวเอง คราวนี้ผมพูดอะไรผิดอีกละ


เนี่ย ตามองผมตั้งหัวจรดเทาเลยเวย เอะ...หรือวาลืมรูดซิป

“ฉันเปนตาของกุล” ออ...สมองผมประมวลผม กอนจะสะดุงสุดตัว อากกกกกก ตาย ๆๆๆๆๆๆๆ มาเจอญาติผูใหญนองโดยไมทันได


ตั้งตัว วันนี้นองไมไดอยูคอนโดคนเดียวหรือนี่ โทรใหพอยกขันหมากมาขอตอนนี้จะทันไหมนะ วาแลวก็ยกมือไหวโดยไว

“สวัสดีครับ”

“ไหวพระเถอะ แลวเมื่อกี้วาอะไรนะ จะเอาอะไรมาคืนกุลอยางนั้นหรือ”

“อะ เออครับ” เวรกรรมอีกตามเคย เด็กสงของประเทศไหนวะ ไมถือของในมือ ทุเรศตัวเองเปนบาเลยครับ สรอยยังแขวนอยูที่คอผม


อยูเลย ก็ไมคิดวาจะเจอสถานการณอยางนี้นี่นา ตาจะคิดวาผมไรมารยาทเอาสรอยนองมาใสหรือเปลา ซวยอีก คะแนนติดลบ ตาจา
อยาเพิ่งหมดรักหลานเขยคนนี้แคพบกันครั้งแรกนะครับ ผมเอื้อมมือไปดานหลังแลวปลดสรอยออกมา

“นี่ครับ”

ตามองผมแปลก ๆ เมื่อเห็นผมถอดสรอยใหตา ก็ไมรูจะทํายังไงดีครับ ถาไมใหก็กระไรอยู ก็อางตั้งแตตน วามีของมาคืน แย ๆๆๆ ผิด


แผนอีกแลว ตารับไปถือไว แลวมองสรอยสลับกับมองหนาผมอีกครั้ง คราวนี้จองเขม็งเลยครับ เอะหรือวาผมไมหลอพอจะเปนหลาน
เขยตา บรรยากาศมันชวนอึดอัดจริง ๆ นะครับ ดั่งนรกชัง หรือสวรรคแกลง ผมนอ กฤษยามไมดีเลยครับ

“งั้นผมกลับกอนนะครับ ฝากสรอยใหวินดี้ อะ เออ นองกุลดวยนะครับ” ผมยกมือไหวตาของวินดี้ กําลังจะหมุนตัวจากไปพรอมความ


ผิดหวัง อีกอยางไมกลาอยูนานกวานี้ดวยครับ มันคงไมใชเรื่องดีเทาไหรนัก แตตาก็เรียกผมไวกอน

“เดี๋ยวสิ เอาไปคืนเจาตัวเขาเองแลวกัน” ตาวาพรอมกับดึงมือผมไว จากนั้นก็วางสรอยในอุมมือผม ผมรับสรอยมาถือไวอยางงง ๆ ยัง


นึกคําพูดอะไรไมออกครับ
“เขามากอนสิ” ถึงจะมึน ๆ แตขาผมก็กาวเขาหองตามคําเชิญของตา ผมเห็นขาง ๆ ตายังมีชายวัยกลางคนหนึ่งคอยพยุงตาอยู...แต
วา ไมวาจะมองซาย มองขวาก็ไมเห็นวินดี้ของผมเลย นองคงไมอยูละมั้ง งั้นก็เรียบรอยโรงเรียนคินละทีนี้ จะสํารวจทุกซอกทุกมุมให
ทั่วเลย ดูซิ วาแอบซอนชูไวหรือเปลา

“ทะเลาะกับกุลหรือ”

“คะ ครับ” ขานรับโดยไมรูตัวครับ แตจะวาใชมันก็ใชนะ จะวาไมก็ใชอีกแระ...แลวตารูไดไงละเนี่ย

“มันรุนแรงถึงตองตัดขาดจากกันเลยหรือ” รายแรงมากเลยครับ และหลานตานั่นแหละที่มันจะตัดขาดจากผม อะจึ๋ย...ผมหันขวับไป


เผชิญหนากับตาอยางงง ๆ ตาพูดเรื่องอะไรอยูครับ คือผมยังจับตนชนปลายไมถูก เหมือนตาจะรูเรื่องอะไรบางอยางยังไงยังงั้น

“เปลาครับ” ปฏิเสธไวกอน ไมรูวาเรื่องอะไร แตลางสังหรไมดีเลยครับ รูสึกเสียวสันหลังอยางบอกไมถูก

“แลวทําไมตองคืนสรอยดวยละ ของสําคัญอยางนี้ถากุลใหก็แสดงวาเธอเปนคนสําคัญของหลานฉัน แลวถึงขนาดใหเรียกวาวินดี้ กุล


คงรักเธอมาก” ตาอธิบายแลวหันไปยังลุงอีกคนที่นั่งอยูไมหาง

“หารไปเรียกกุลมานี่สิ”

“ครับคุณทาน” พอลุงหารลุกขึ้นตาก็หันมาหาผม

“เธอเปนอะไรกับหลานฉันหรือ”

เหมือนถูกคอนหนัก ๆ ทุบหัว...

อึ้ง.....

เงียบ...

ตอบไมได...

บอกวาเปนสามี??????

ตาย ๆๆๆๆๆๆๆ ใครก็ไดชวยผมที ผมจะตอบยังไงที่ไมทําใหวินดี้ตามมาฆาผมครับ


ลุงหารมาเรียกในขณะที่ผมคุยโทรศัพทกับเมธอยูที่ระเบียง บอกวาตาเรียกออกไปพบ ผมวางสายกับเมธดวยคิดวาบางทีเด็กที่มาสง
ของของโรงแรมคงไมยอมใหตาเซ็นรับพัสดุแทนผม แตพอกาวเขามาในหองแลวเห็นคนที่นั่งอยูตรงขามตาเทานั้นแหละ ผมแทบช็อค
รางกายไรเรี่ยวแรง รอยพันคําถามผลุดเขามาในหัวของผม พรอมกับความกลัวเกาะกุมหัวใจ

มันมาทําอะไรอยูในหองผม แลวกอนหนานี้คุยอะไรกับตา ยิ่งเมื่อสายตาที่เต็มไปดวยความผิดหวังและตัดพอของตาจองมาที่ผม นั่น


ทําใหหัวใจผมสั่นไหวอยางรุนแรงดวยความหวาดหวั่น...ไมจริงใชไหม มันคงไมเลาเรื่องบา ๆ นั้นใหตาฟงใชไหม นี่มันคิดจะฆาผมทั้ง
เปนเลยหรือไง ผมทําอะไรใหมันแคนเคืองนักหนา มันจึงไดตามจองลางจองผลาญผมไมเลิกลาอยางนี้

“มานี่สิกุล” เสียงของตาทําใหผมกาวอยางระมัดระวังไปยังคนทั้งคู ผมเมมปาก กํามือแนน จิกเล็บที่ฝามือเพื่อเรียกสติ และคุม


อารมณของตัวเอง

“พี่เขาอยากมาขอโทษกุล กุลจะยกใหพี่เขาไดไหม” ตาวาไงนะ ขอใหผมยกโทษใหกับมันอยางนั้นหรือ ผมตวัดสายตาคําถามไปมอง


มัน นี่สรุปมันเลาเรื่องบา ๆ นั้นใหตาฟงจริง ๆ หรือนี่

ไมใช!!!

เปนไปไมได!!!

ผมปลอบใจตัวเองพรอมยกเหตุผลมาอาง ถาเปนเชนนั้นจริง ทําไมตาไมโกรธมันสักนิดที่ทําอยางนั้นกับผมละ????

“กุลไมมีอะไรตองยกโทษให เราไมไดติดคางอะไรกันเลย”

“ทําไมพูดอยางนั้นละกุล”

“แลวจะใหกุลพูดยังไงหรือครับ มันพูดอะไรกับตา มันบอกอะไรอยางนั้นหรือ”

ความกลัวทําใหผมรนราน ทั้ง ๆ ที่พยายามบังคับเสียงตัวเองใหปรกติมากที่สุดขณะพูด แตมันก็ยังสั่นจนสังเกตได มันเอื้อมมือมา


บีบตนขาผมเบา ๆ ผมกําลังจะปดมือทิ้งแตแรงบีบกลับแรงขึ้น

“พี่ขอโทษ ยกโทษใหพี่ไดไหมครับ” สายตาที่มองมาเต็มไปดวยความเสียใจ แตผมก็อานไมออกวามันคือความรูสึกผิดที่ทําอะไรผม


เมื่อครัง้ นั้น หรือเพราะผิดอะไรอยูกันแน

“กุล!!!” ตาเรียกเมื่อเห็นผมเงียบ

“ไมเปนไรครับตา ไวใหนองอารมณดีกอนแลวคอยคุยกันก็ได”
สมองผมยังตื้อ เคนคําพูดออกมาไมได ผมสับสนวามันเกิดอะไรขึ้น และความกลัวที่มากกวาปรกติทําใหผมไมกลาพูดอะไร ทั้งที่
ภายในใจผมตอนนี้อยากจะระเบิดความอัดอั้นออกมา คุณเคยโกรธจนตัวสั่นไหมครับ อยากพูดแตพูดไมได คับแคนใจแตก็ทําอะไร
ไมไดเชนกัน หัวใจปวดหนึบ ความเครียดแคนที่มีคอย ๆ กลั่นเปนน้ําตา เพื่อระบายสิ่งอัดอั้นในใจแทนคําพูด นั่นแหละครับคือ
ความรูสึกของผมในตอนนี้ ผมบดกรามแนน หัวตาปวดหนึบ น้ําตาของความออนแอกําลังคลอเบาและทําทาจะไหลออกมาอยูลอม
ลอ

“โธ วินดี้” น้ําเสียงหวงใยกึ่งตกใจกับสัมผัสอุนของฝามือที่ลูบแผนหลังผมนั้นไมไดชวยใหอะไรดีขึ้นมาเลย

“อาว...รองไหซะงั้น” เสียงเหนื่อยหนายของตาก็เหมือนผานเขามาในหูแลวก็เลยผานไป

“ปลอบกันเองแลวกัน ตากลับละ คราวนี้ก็คุยกันดี ๆ อยาใชอารมณอีก”

“ครับตา” เสียงของทั้งคูคุยกันเหมือนสายลมที่พัดผาน แผวเบาจนแทบจะไมไดยิน ผมเหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ

“ไมมีอะไรนะครับวินดี้ ไมตองกลัว เดี๋ยวพี่อธิบายใหฟงนะครับ ใจเย็น ๆ ไมมีอะไรจริง ๆ” น้ําเสียงอบอุนที่กระซิบขางหูชวยทําใหผม


รูสึกดีขึ้นมาบางเล็กนอย ผมพยายามมองตามรางหนาที่ลุกขึ้น แลวเดินตามตาไป แตภาพของพวกเขาก็ดูเลือนลางเต็มที ไดยินเสียง
แวว ๆ เหมือนลอยมาจากที่ไหนสักแหงพอจะจับใจความไดบางไมไดบาง

“กุลเหมือนจะไมสบายหรือเปลา ตาเห็นหนาซีดๆ”

“ผมก็วาอยางนั้นเหมือนกันครับ แตตาไมตองหวงนะครับ เดี๋ยวผมดูแลนองเอง ถาไมสบายมากก็จะพาไปหาหมอ”

“ไมใหหวงก็คงทําไมได เดี๋ยวตาพากุลกลับบานดวยดีไหม อยูนี่ก็อยูคนเดียว เกิดเปนอะไรหนักขึ้นมาแลวจะลําบาก”

“ใหกลับบานก็ดีเหมือนกันครับ แตกอนอื่น ใหนองนอนพักกอนดีไหมครับ ถาตื่นมายังไมดีขึ้นหรือยังไงผมจะพาไปสงที่บานนะครับ


นองแคดูเหนื่อย ๆ ผมวาตอนนี้คงอยากพักมากกวา คงไมมีอะไรมากหรอกครับ”

“อืม...นั่นสิเนอะ ตาคงคิดมากไปเอง งั้นก็ฝากดวยแลวกัน ถามีอะไรก็โทรหาตานะ”

“ครับตา”

จากนั้นก็เหมือนจะเกิดความเงียบขึ้นภายในหอง ผมคงจะเหนื่อยจริง ๆ นั่นแหละ สมองผมถึงไมสั่งงานอะไรเลย ตัวก็หนักเหลือเกิน


อยากจะลุกขึ้นแตก็ลุกไมไหว อาจเพราะพักผอนไมเพียงพอ อยางเมื่อคืนเปนอีกวันที่ผมนอนไมหลับ ผมตองโกหกคนรอบขาง ถึงแม
เขาจะไมพูดอะไรออกมา แตสายตาเคลือบแคลงสงสัยก็ทําใหผมอดคิดกังวลไมได
เรื่องมันไปกันใหญเพราะหลังจากที่ลูกแพรถามวาผมเปนเกยหรือเปลานั้น ตรินก็เดินเขามาหาพวกเรา แลวย้ํากับผมอีกครั้งวา จริง
หรือที่ผมมีคนรักเปนชาย สายตาของเขาที่มองมานั้นทําใหผมแทบอยากหายตัวไปจากที่ตรงนั้น แลวทั้งสองก็ทําเหมือนผมเปน
ฆาตกรฆาคน เคนหาความจริงกับผม จะรูใหไดวาใครกันที่สงขอความนี้มาให ผมไดแตตอบไปตามที่คิดได ปฏิเสธไปวาไมรูจักไอบา
โรคจิตนี่เปนใคร หากเปนคนที่ผมรูจักก็ตองเมมเบอรโทรไวสิ เขาคงสงมาผิดนั่นแหละ ไมรูวาทั้งคูจะเชื่อหรือเปลา แตสิ่งที่เกิดขึ้นก็
เกินพอที่จะทําใหผมคิดมาก กลัวความจะแตกเขาสักวัน

เมื่อเชาผมแทบจะลุกไมขึ้น ปวดหัว ครั่นเนื้อครั่นตัว แตผมก็ฝนตัวเองไปเรียนแบบมึน ๆ พอเรียนเสร็จเมธก็ไลผมกลับมาพัก ทั้งที่


ความจริงผมตองคุยงานกับอาจารยอีกนิดหนอย แตเมธก็อาสาจะคุยแทน หากพอกลับมาถึงบานกําลังจะลมตัวลงนอน ตาก็แวะมา
หา ตาเพิ่งกลับจากตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล เลยแวะซื้อทั้งอาหารสด ผลไม และอาหารแชแข็งมาทิ้งไวในตูเย็นใหผม เผื่อผมหิวจะ
ไดหยิบมากิน ผมนั่งคุยกับตานิดหนอย แลวโทรศัพทในหองพักก็ดังขึ้น ลุงยามบอกวาทางโรงแรมที่ผมไปพักที่ภูเก็ตมีของมาสง ผมก็
บอกใหเขาขึ้นมาเลย แลวเมธก็โทรมา ผมจึงขอตาออกไปคุยโทรศัพทที่ระเบียง เมธถามวาผมกลับถึงหองพักหรือยัง ผมก็บอกวาถึง
แลวและไมตองหวงเพราะตอนนี้ตาอยูดวย จากนั้นเราก็คุยกับเรื่องงานที่ตองทําสง จนกระทั่งลุงหารมาเรียก

นี่คือสิ่งที่ผมจําไดวาเกิดอะไรขึ้นบางกอนหนานี้...แตระหวางที่ผมโทรศัพทอยูนั่นละ มีอะไรเกิดขึ้นที่ภายในหองอยางนั้นหรือ
ผมลาตาของวินดี้ที่หนาประตูกอนจะรีบวิ่งกลับเขามาในหองเพื่อดูนอง ผมรูสึกไมดีเลยที่เห็นน้ําตาของวินดี้ ผมวาการที่นองเฉยชา
ใสทําใหผมเจ็บปวดมาแลว แตกลับเทียบไมไดเลยที่เห็นคนที่ผมรักรองไหในวันนี้

“วิ้วววววว...ตุบบบบบ” มาแลวครับ หมอนอิง ปลิวใสหนาผมเต็ม ๆ ความสงสารเมือ่ กี้ลดระดับลงมานิดหนึ่งแระ

“กลับเขามาอีกทําไม ออกไปนะ วิ้ววววว...แคลงงงงงงง” รีโมทโทรทัศนครับ อันนี้ไมโดนผมแตลงไปกองที่พื้นเปนที่เรียบรอย พอนอง


ขวางรีโมทเสร็จ รางก็ทรุดฮวบลงไปนั่งกับพื้น ผมตองกระโจนเขาหา รีบพยุงนองไว แตแทนที่มันจะเห็นความหวังดีของผม กลับคิด
วาหนาหลอ ๆ หุนล่ําเทหอยางนี้เปนตัวเชื้อโรคไปซะงั้น

“อยามาถูกตัวนะ” สะบัดเขาไป ดูมันครับ แรงก็ไมมี ยังดื้ออีก

“มากกวาถูกตัวก็เคยมาแลว”

“ไอบา”

“ครับเขาใจถูกแลว พี่บาจริงๆ นั่นแหละ” ไมวาเปลาผมยกนองแบกขึ้นบา ตอนแรกเห็นหนาซีด ก็นึกวาตกใจที่เจอผม แตพอจับตัว


แลวตัววิ้นดี้งี้รอนจี้เลย สงสัยจะไมสบายแลวละ และคงเปนหนักกวาที่คิดไวเสียดวยสิครับ

“ปลอยนะ ปลอยเดี่ยวนี้” มันทั้งดิ้นทั้งทุบหลังผม แตก็ไมแรงมากหรอกครับ หมั่นไสเลยฟาดกนไปที


“โอย ไอบา”

“ก็บอกแลววาบาแลวก็ซาดีสมดวย อีกทีเปนไง” ก็ตบกนมันไปอีกทีครับ อืม...กนสวย รูปทรงนารัก กําลังเหมาะมือ อะจึ๋ย ๆ ในความ


หวงมีความหื่น ธรรมดาของผูชายครับ

“เจ็บ...ฮึก...ตีทําไม...ฮึก...ไอบา...ฮึก...ฮือ” รองไหเลย ผมวาผมก็ตีเบา ๆ เองนะครับ แตใหตายเถอะ แคไดยินเสียงสะอื้นของนองผม


ก็เหมือนใจจะขาด ไมชอบเลยที่เปนตนเหตุใหวินดี้เสียน้ําตาแบบนี้

“แลวดื้อทําไมละครับ” ผมลดเสียงตัวเองลงใหคิดวาออนโยนมากที่สุด มือลูบหลังมันเบา ๆ พรอมกับสาวเทาตรงไปยังหองที่คิดวา


เปนหองนอนของนอง

“จะพา...ฮึก...ไปไหน...ฮึก...ปลอยนะ...ฮึก”

“ไปนอน” พอสองคํานี้หลุดปากผมออกไป วินดี้ก็ดิ้นใหญเลย อาว...ผมพูดอะไรผิดหรือไง ตัวรอนจี๋อยางนี้ไมนอนพักแลวจะทําอะไร

“วินดี้อยาดิ้น เดี๋ยวตก” ระวังเหอะ ดิ้นมาก ๆ เดี๋ยวจับกน เอย ตีกนอีกทีซะเลยดีไหม

“ไมนะ...ไมไป...ฮือ...” แลวนองจะทุบหลังพี่ทําไมครับ เจ็บเปนเหมือนกันนะนี่

“ชาไปแลวละครับ เปลี่ยนใจไมไดแลว” ผมวางนองลงบนเตียง พอเปนอิสระ วินดี้ก็เดงตัวขึ้นนั่งกอนจะคลานไปยังอีกฝง ผมตองรีบ


ควาเอวไวแลวลากนองกลับมา จากนั้นมันก็ดิ้นขลุกขลักจะลุกขึ้นมาใหได ผมเลยจับขอมือนองไวทั้งสองขางแลวกดรางตัวเองทับราง
บางนั่นอีกที ดวงหนาจิ๋มลิ้มนารักแตซีดเผือก กับน้ําตาที่ไหลออกมาไมหยุดนั่นทําใหผมใจหาย

“รองไหทําไมครับ พี่ไมทําอะไรวินดี้หรอก แคจะพามานอนพัก วินดี้ไมสบาย ตัวรอนจี๋เลย” ผมบอกใหนองคลายใจ สงผานความ


หวงใยทางสายตา วินดี้จองผมผานมานน้ําตาดวยทาทีออนลง นองเมมปากแนนอยางตองการสะกัดกั้นเสียงสะอื้นไว หยดน้ําใส ๆ ที่
แปะใบหนาอยูนั้นทําใหผมไลปลายนิ้วไปตามดวงหนาเพื่อเช็ดหยาดน้ําตาออกไป

“ยาอยูไหนครับ” ผมวาพลางปดผมที่หนาผากนองอยางออนโยน

“เมื่อกี้...ฮึก...คุยอะไรกับตา...ฮึก” แทนที่จะตอบคําถามผม วินดี้กลับถามผมกลับดวยน้ําเสียงปนสะอื้น ผมสายหนา

“เรื่องนั้นเอาไวกอน ตอนนี้วินดี้ตองกินยาแลวพักผอน” นองสายหนาพรอมเบปากเหมือนจะรองไหออกมาอีก

“โอ ๆ ไมรองนะครับ พี่บอกก็ไดถาวินดี้อยากรู” ผมลมตัวนอนตะแคงขาง กอดนองไวแนน กันมันดิ้นหนีครับ แตวินดี้ก็ยอมใหกอด


อยางวางาย นองคงกําลังกังวลใจจนไมทันไดระวังตัว
“คือเรื่องมันไมมีอะไรเลยครับ แคตาถามวาพี่เปนอะไรกับวินดี้ แลวทะเลาะกันหรือ พี่ก็บอกวาเปนเพื่อนและทะเลาะกัน ความจริงพี่
อยากมาขอโทษที่ทําไมดีกับวินดี้ ตาก็ไมไดถามอะไรอีก แตก็สอนใหรักกันมาก ๆ แลววินดี้ก็เขามา แคนี้แหละครับ ไมมีอะไรเลย
สบายใจไดหรือยัง” วินดี้หันหนามาทางผม สายศีรษะไปมา

“แลวมานี่ทําไม รูที่อยูไดยังไง เบอรโทรดวย เมื่อวานสงขอความมาใชไหม ตกลงจะไมจบหรือไง จะเอายังไงกันแน” ผมพลิกตัวคว่ํา


นองไวอีกครั้งพรอมกับวินดี้กลับมานอนหงาย มองผมดวยสายตาคําถาม

“ถามเยอะจัง แตขอตอบคําถามสุดทายแลวกัน จะเอายังไงนะหรือ งายมาก ก็เอามันบนเตียงนี่แหละ เริ่มจากทามาตรฐานกอนแลว


กัน วินดี้พรอมหรือยังครับ งั้นก็ถอดเสื้อผาเลยนะ” นองมันทําหนางงอยูคูหนึ่ง กอนจะตาโต

“ไอบา” ดูแกมนองสิครับ มีสีเลือดฝาดดวย นารากกกก

“หึหึ ลอเลน ถาไมอนุญาตพี่ก็ไมทําหรอกครับ เรื่องอื่นเอาไวกอนดีไหม ยังไงพี่ก็ไมไปไหนอยูแลว วินดี้อยากรูอะไรคอยถามทีหลังนะ


ครับ ตอนนี้กินยาแลวนอนพักกอนนะ” นองลังเลอยูครูหนึ่ง กอนจะพยักหนาอยางวางาย ผมยิ้มตอบ

“บอกมาสิครับวายาอยูไหน”

“อยูขางนอก บนชั้นหลังตูเย็น”

“งั้นเดี๋ยวพี่มานะครับ” ผมบอกกอนจะลุกออกไปหยิบยากับน้ําตามที่นองบอก พอกลับเขามาในหองก็เห็นวินดี้ทรุดนั่งอยูที่พื้น


สะอื้นไหจนตัวโยน

“วินดี้เปนอะไร ทําไมมานั่งตรงนี้ละครับ” ผมรีบเดินไปวางแกวน้ํากับยาไวบนหัวเตียงกอนจะกลับมานั่งลงขางๆ นอง วิ้นดี้สายหนา


พรอมกับพยายามปดปองไมใหผมแตะเนื้อตองตัว...เปนอะไรอีกละเนี่ย เมื่อกี้ยังดี ๆ อยูเลย ผมไมเขาใจในสิ่งที่นองทํา แตเอะ
เหมือนจะเขาใจลาง ๆ...หรือวามานั่งอยูกลางหองนี่เพราะคิดจะไปล็อกประตู แตไปไมถึงเพราะหมดแรงกอน

ดูสิ ดูมัน ฤทธิ์เยอะจริง ๆ แตนานอยใจมากกวา ไอเราก็หวงแสนหวง จะเห็นความหวงใยกันบางไหม

“ฮึก...ฮึก...ไมตองมายุง...ฮึก...ไปไกล ๆ...เลย” เจ็บจี๊ดที่หนาอกเลยครับ ยืนยันแนชัดวานองมันไมตองการผม

“ถาไมรักก็ไมยุงหรอก แตรักไปแลวนี่จะใหทําไง จะใหพี่ไปไหนครับ ในเมื่อหัวใจอยูที่นี่ ตัวก็ตองอยูที่นี่ดวย”

“ไป...ฮือ...ไปสิ” ไมรูละสิวาพี่นะมันหนาดาน ไลแคนี้ไมสะเทือนพี่หรอก ผมพยุงใหนองลุกขึ้น แตวินดี้ก็ฝนตัวไว


“ไมพูดดวยแลว ลุกขึ้น จะนั่งอะไรอยูตรงนี้ กลับไปนอนที่เตียง แลวก็กินยาซะ”

“ไม”

“ดื้อ ชอบใหบังคับ” ไมฟงอะไรทั้งนั้นแลวครับ ชอนตัวอุมไปวางบนเตียงเลยดีกวา นองก็ดิ้นไปดิ้นมาตามประสานั่นแหละ วาแต


อยากลงนักใชไหม ไดเลย...สันดานเสียครับ โยนนองลงไปบนเตียง แตก็ไมไดโยนแรงอะไรนะครับ

“โอย...ฮึก...ไอบา...ฮึก...ฮือ”

“กินซะ” ผมพยายามเมินเสียงสะอื้นกับน้ําตาที่ไหลอาบหนาของนอง เอื้อมไปหยิบแกวน้ํากับยามายื่นให

“ฮึก...ไม...ไมกิน...ฮึก...ฮึก” มันสายหนาใหญเลย

“กินมันลงไปเดี๋ยวนี!้ !!” เผลอตะคอกเสียงดังครับ วินดี้ชะงัก มองผมตาโตอยางตกใจ กอนจะเบปาก ทิ้งตัวลงนอนแลวเอาหมอนมา


ปดหนาไว ไดยินแตเสียงรองไหอูอี้เล็ดลอดออกมา ผมใจเสีย วางแกวน้ํากับยาลงไปที่เดิม

“พี่ขอโทษครับ ไมไดตั้งใจจะตะคอกวินดี้เลยนะครับ โอ ๆ ไมเอา ไมรองนะ พี่จะใจขาดแลวรูไหม ลุกมากินยากอนเร็ว อยากใหทํา


อะไร จะทําใหทุกอยางเลยนะครับ”

“ไม...ฮึก...ตองยุง...ฮึก”

“ครับ ๆ ไมยุงก็ไมยุง แตวินดี้กินยากอนนะครับ” ผมวาพลางพยายามดึงหมอนออกจากหนานอง มันก็ดึง ๆ ไวนิดหนอยแตก็ยอม


ปลอยในที่สุด แตน้ําตานี่ยังไหลไมหยุดเลยครับ นาสงสารมากเลย ผมไลนิ้วไปตามใบหนา เช็ดน้ําตาออกให

“ตาบวมหมดเลย”

“ยะ...ยา...ละ” นองถามเสียงแผวเบา ผมยิ้มมุมปาก ชอนตัวนองขึ้นแลวปอนยา วินดี้ก็อาปากรับ ผมรีบยกน้ําใหนองดื่มตอแลวคอย


เอนตัวนองลง แตวินดี้กลับไมหลับตา มองหนาผมอยูอยางนั้น ผมยิ้มบาง ๆ ใหกับนอง ลูบผมนองเบา ๆ

“พี่ไมรังแกวินดี้หรอกครับ สบายใจได นอนเถอะครับ พักผอนมาก ๆ จะไดหายเร็วๆ” ผมบอกขณะที่ไลสายตาไปตามดวงหนาที่ผม


เฝาแตคิดถึงอยางหลงใหล ยามที่วินดี้อยูนิ่ง ๆ ไมดื้อ นองชางนารักนัก ในความรูสึกเวลานี้วินดี้ของผมเปนเหมือนสายลมออน ๆ ที่
พัดเอื่อย ๆ เย็นสบายจนอยากอยูอยางนี้อีกนาน ๆ

“พี่รกั วินดี้นะครับ รักมาก รักหมดใจเลยรูไหม”


ความรูสึกภายในที่ผมไมอาจหามใจ ถูกเอยออกมาขณะที่สายตาเราประสานกัน ดวงตาที่คลอไปดวยหยาดน้ําตาซึ่งสบมานั้นราวกับ
มีมนตคลัง เรียกผมใหเขาไปหาอยางชา ๆ เมื่อรูตัวอีกทีริมฝปากตัวเองก็สัมผัสเปลือกตานองที่ปดลงราวกับตอนรับจุมพิตของผม
อยางเต็มใจ ผมเพลินกับความรูสึกอบอุนและออนหวาน จูบออยอิงที่หางตาอยางแผวเบาหมายจะซับน้ําตาใหกับนองอยางนุมนวล
จากนั้นก็ไลริมฝปากมาที่ปลายจมูกโดงงาม แกมนวลหอมกรุนทั้งสองขาง และจรดลงที่ริมฝปากเรียวแตะเบา ๆ อยางออนโยนกอน
จะถอนออกมา

“นะ...ไหน...วาจะไมรังแก” เสียงสั่น ๆ ของนองทําใหผมยิ้มขณะที่หนาผากของเราทั้งคูแนบชิดกัน

“วินดี้อยากใหพี่รังแกหรือครับ”

“บา” นองหลบตากอนผลักผมออก ซึ่งผมก็ยอมลุกขึ้นแตโดยดี กลัวใจตัวเองหากวาชากวานี้แมแตวินาที คงไดจับคนปวยฉีดยาดวย


วิธีของผม

วาแตผมลืมอะไรไปหรือเปลานะ????

ผมมองไปที่วินดี้ซึ่งนอนคลุมโปงอยูตอนนี้

คนปวยไมสบาย ตัวรอนก็ตองกินยา แลวก็ตอง????

เช็ดตัว!!!!

โอ...นี่ผมลืมขั้นตอนสําคัญไปไดยังไงเนี่ย!!!!

ไมไดการละตองเช็ดตัว...แลวก็ตองเช็ดใหสะอาดทุกซอกทุกมุมดวย
หลังจากสัมผัสนุมนวลแผวเบาจากริมฝปากคูนั้นผละออกไป ผมก็รูสึกเหมือนไขขึ้น โดยเฉพาะใบหนาซึ่งรอนวูบวาบไปหมด

“นะ...ไหน...วาจะไมรังแก” ดูสิ แมแตเสียงก็พานจะสั่นไปดวย เหมือนพิษไขจะควบคุมผมเสียแลวละ ในวินาทีนั้นผมอยากหลับตา


แตนัยนตาพราวระยับที่สบมานั้นกลับสะกดผมใหหยุดนิ่ง สื่อความหมายบางอยางที่ทําใหหัวใจผมเตนแรงและเร็วขึ้น

“วินดี้อยากใหพี่รังแกหรือครับ” ยิ้มพลางพูดยิ่งทําใหแววตาขี้เลนคูนั้นแวววาวราวพูดได

“บา” ผมหลบตาอยาจนคําพูด ผลักรางหนาใหออกหาง ดึงผาหมมาคลุมโปงทันที...เพิ่งรูนะวาการเปนไขก็ทําใหหัวใจของคนเราสั่น


ไดดวย

พอนอนไดสักพัก กําลังจะหลับ เสียงที่ไมอยากไดยินก็ดังขึ้นอีก


“วินดี้ครับ” ขอรองละอยาเรียกอยางนี้ไดไหม มันทําใหผมหวั่นไหวอยางบอกไมถูก ทุกครั้งที่ไดยินแบบนี้ เหมือนรางกายผมจะมี
ปฏิกิริยา สั่งตัวเองวาหามดื้อ ยิ่งน้ําเสียงนุมนวลแบบนั้น ก็ยิ่งยากจะหามความอบอุนไมใหแผซานเขาสูหัวใจ

“เดี๋ยวเช็ดตัวกอนนะครับ ไขจะไดลดลงนะ”

ผาหมที่ผมคลุมหัวถูกดึงออก แลวมือเย็น ๆ ก็เตะที่หนาผากของผม กอนจะเลื่อนมาที่ใบหนาและลําคอแลวผละจากไป ในความรูสึก


เวลานั้นเหมือนมีสองความรูสึกที่ขัดแยงกันอยู สิ่งแรกบอกใหตอตาน ขัดขืน อยาปลอยใหคน ๆ นี้เขาใกล แตอีกใจก็บอกวาอยูนิ่ง ๆ
เหนื่อยมาพอแลว อยาวิ่งหนีอีกตอไปเลย

“ตัวรอนมากดวย จะไหวไหมนี่ พี่ยิ่งไมเคยดูแลใครอยูดวย” เสียงบนพึมพํา ๆ กอนที่ผมจะรูสึกถึงความเย็นลากผานหนาผาก ใบหนา


ลําคอ แลวไปที่แขนทั้งสองขาง กอนจะลงไปที่ขา รางกายซึ่งเหมือนมีไอรอนออกมาเมื่อถูกความเย็นเชนนี้ทําใหผมรูสึกดีขึ้น

“อืม...”

“หงา อยาครางเสียงแบบนี้สิครับ เดี๋ยวพี่ไดกลายเปนหมอเถื่อนพอดี” ผมอยากจะลืมตาขึ้นดู แตมันก็หนักอึ้งเต็มที ไมเขาใจ


ความหมายจากสิ่งที่เขาพูด หมอเถื่อนคืออะไร แตก็ผมชอบนี่ มันสบายตัวดี

“เสร็จแลวครับ เฮอ...เลือดกําเดาจะไหล” เมื่อเขาพูดจบมือผมก็ขวาแขนเขาไว ผมยังไมอยากใหสัมผัสเย็นสบายนี้ผละไป แลวลําตัว


ผมละ มันยังรอนวูบวาบอยูเลย

“วินดี้อยากไดอะไรครับ” ผมปรือตาขึ้นมองเขา คิ้วหนาบนใบหนาคมเขมนั้นเลิกขึ้นสูงเหมือนสงสัย

“ชะ...เช็ด...ตัวใหดวยไดไหม” คือเมื่อกี้เขาเช็ดแคใบหนา คอ แขนและขาที่พนเสื้อกับกางเกงออกมาเทานั้นเอง

“อะ...เออ...ไดครับ”

พอไดคําตอบผมก็หลับตาลงอีกครั้ง ทวารออยูครูใหญก็ไมมีอะไรเกิดขึ้น ผมจึงลืมตาขึ้นใหม เห็นเขากมหนา มองผมนิ่ง มือขางหนึ่ง


จับที่ชายเสื้อของผมไว แตก็ไมยอมดึงขึ้นสักที นี่ผมกําลังถูกเขาแกลงอีกแลวใชไหมครับ ทั้ง ๆ ที่พยายามไมขัดขืน ไมตอตานเขา แต
สุดทายเราก็ยังเปนศัตรูกันอยูดี

“ฮึก...ฮึก...ไมอยาก...ทํา...ก็ไมตอง...ทํา...ฮึก” เอาอีกแลว ทําไมผมถึงไดออนแอแบบนี้ ผมควรจะดาเขาสิ ดาดวยคําพูดรุนแรง


ไมใชรองไหออกมาแบบนี้ ถึงไมอยากใหเปนแบบนั้น แตผมก็ควบคุมตัวเองไมไดเลย
“ไมใชอยางนั้นนะครับ โอ ๆ ไมรองนะครับคนเกง” ไมตองมาแกตัวเลย ถาไมใชแลวจะลังเลทําไมละ อยากทําใหเจ็บใจ อยากแกลง
ใหรองไหใชไหม ที่ผาน ๆ มายังทํากับผมไมพอหรือยังไง

“ฮึก...ไมตองมา...ฮึก...จับ” ผมสะบัดตัวหนีจากเขา ไมยอมใหมาแตะตัวผม พลิกตัวนอนคว่ํา ซบหนาลงกับหมอน

“พี่ไมไดหมายความวาอยางนั้นนะครับวินดี้ หันหนามาทางนี้กอนเร็ว เดี๋ยวพี่เช็ดใหนะครับ” เขาพยายามจะพลิกใหผมหงายตัวขึ้น


แตผมก็ฝนตัวไว จะวาไปผมควรจะขัดขืนไมใหเขาแตะตัวผมตั้งแตทีแรกนั่นแหละถูกแลว แตเมื่อผาเย็น ๆ ถูไปตามแผนหลังอยางที่
เปนอยูในขณะนี้ก็ทําใหคําตอตานดูจะเลือนลางไป

“วินดี้นอนหงายครับ” น้ําเสียงอบอุนนั่นทําใหผมลืมอารมณขุนมัวเมื่อครู ทําตามเขาบอกอยางวางาย

“ฮึก...ฮึก” แตความรูสึกเจ็บใจที่ถูกแกลงเมื่อครูก็ยังเรียกน้ําตาใหไหลออกมา เขาเช็ดน้ําตาออกให กอนจะสายหนาชา ๆ

“ปวยแลวรองไหงายอยางนี้ ไมเอาแลว คราวหลังไมใหปวยอีกแลวนะครับ” วาพลางดึงชายเสื้อผมขึ้น แลวใชผาชุบน้ําเช็ดไปตามตัว


แตดูเหมือนจะเช็ดไมถนัด ผมก็เลยชวยดึงเสื้อใหขึ้นสูงอีกหนอย แตทาทางของเขาก็ยังดูเงอะงะ เห็นแลวขัดตา ก็มันชวยไมได ผมก็
เลยพยุงตัวลุกนั่งแลวก็ถอดเสื้อออกเลย พรอมกางแขนออกทั้งสองขาง ใหเขาเช็ดใหอยางถนัด ดูเขาตกใจกับการกระทําของผมอยู
ครูหนึ่ง แตผมก็ไมไดสนใจ หนังตาจะปดลงอยูแลว มึนหัวมาก ๆ รีบ ๆ เช็ดเลย อยากนอนแลว

ผมไดยินเสียงเขาถอนหายใจกอนจะรีบ ๆ เช็ดไปทั่วตัวผมกอนพูดวา “เรียบรอยแลวครับ วินดี้ใสเสื้อกอนเร็ว แลวคอยนอน”

เขาเอาเสื้อมาสวมศีรษะให ผมก็สอดแขนเขาไปในแขนเสื้อ จากนั้นก็ดึงเสื้อลงแลวลมตัวลงนอน ไมไหวแลววันนี้ ผมไมมีเรี่ยวแรง


มารบกับเขาแลว ไวใหผมฟนตัวกอนเถอะ เรื่องที่คางคาใจอยูจะถามใหละเอียด แลวก็อยากรูดวยวาเขาจะเอายังไงกับผมกันแน

ทวาชวงเวลาที่กําลังจะเคลิ้มหลับนั้น สัมผัสเย็น ๆ ก็แตะที่หนาผาก พรอมเสียงทุมที่ผมเริ่มจะคุนเคยบนพึมพําแผวเบา

“เด็กบา เดี๋ยวดี เดี๋ยวราย รูวาพี่ไมกลาปล้ําก็ยั่วกันอยูได”


วินดี้หลับไปแลวครับ ทั้งจมูกทั้งตานี่แดงเลย รองไหงายเหลือเกิน ถึงนองจะขี้ออน แตแบบนี้ก็ไมดีเทาไหรครับ เห็นน้ําตานองแลวผม
ใจจะขาด ผมกมลงหอมแกมนองอีกครั้งอยางรักใครกอนจะลุกเอากะละมังไปเปลี่ยนน้ําใหมและเปลี่ยนผาที่วางบนหนาผากนอง
จากนั้นก็ไมรูจะทําอะไรดี เลยมองไปรอบ ๆ หอง ดูโนนดูนี่ แตก็พยายามใหเงียบที่สุดนะครับ กลัวสงเสียงรบกวนนอง

ที่มุมหนึ่งของหองจะมีโตะอานหนังสือกับโนตบุควางอยู ผมจับโนนจับนี่ที่วางอยูบนโตะมาดู เจอตารางเวลาเรียนนองดวย ดูแลว


ปรากฏวาพรุงนี้นองมีเรียนบาย แตผมวาผมไมควรที่จะดูเปลา ๆ วาแลวก็เอาโทรศัพทออกมาแลวก็เมนตารางเวลานองไวเลยดีกวา
จะไดรูวาเวลาไหนนองทําอะไรอยู
วินดี้เรียนอยูป 3 แลวครับ มหาวิทยาลัยของรัฐแหงหนึ่ง คณะบริหารฯ ผมแปลกใจเล็กนอยที่รูวานองเรียนป 3 แลว ตอนแรกที่เห็นยัง
นึกวาเปนเด็กมัธยม ไมก็เฟรซซี่ปหนึ่งอยูเลย นองหนาออนครับ ตัวก็บาง ๆ นาทะนุถนอม ผมถึงไดรูสึกผิดมากในตอนแรกเวลาที่รวู า
ผิดตัว วาแตนองปสามก็อายุนาจะประมาณยี่สิบไมก็ยี่สิบเอ็ดหรือเปลา งั้นก็หางจากผมหาหกปสินะ โอ...6 ป เลขสวยเลยครับ ยิ่ง
กลับบนกลับลาง 69 ยิ่งทาสวย

ที่ผนังจะมีกระดานแขวนอยู นองปกหลายอยางไวครับ โนตกระดาษก็มี ภาพถายก็มีครับ หลายใบเหมือนกัน ผมก็ไลสายตาไปตาม


ภาพถายตาง ๆ ภาพนองถายกับชายวัยกลางคนคนหนึ่ง คงเปนพอละมั้งครับ เห็นหนาคลาย ๆ กัน โดยเฉพาะคิ้วและจมูก แตหนา
พอจะออกคม ๆ หนอย วินดี้จะดูหนาหวาน ยิ่งในภาพนองยิ้มแลวเห็นลักยิ้มดวยยิ่งนารักเขาไปใหญ ภาพถายกับพอนี่หลายใบ
ทีเดียว แตสวนใหญจะเปนภาพไปยืนตามยอดเขาตาง ๆ ดวยกัน ผมคิดวานองคงชอบปนเขาละมั้งนี่ แลวก็มีถายกับตาดวยครับ แต
แปลกนะไมเห็นมีภาพแม หรือวาแมของนองจะเสียชีวิตไปแลวเหมือนแมของผม

แตมีภาพหนึ่งที่ผมสะดุดตามากที่สุด ขนาดภาพที่อัดออกมาใหญกวาภาพอื่น ๆ เปนภาพคนสามคนกอดคอกันอยู วินดี้ยืนอยูตรง


กลาง ซายมือเปนผูหญิง ดานขวาเปนชาย ผูชายกอดคอนองไวแลววินดี้ก็กอดคอนองผูหญิงอีกที สวนนองผูหญิงก็โอบเอวของวินดี้
ฉากหลังนาจะเปนตางประเทศ ผมไมแนใจวาที่ไหนแตเปนที่กันดารและทะเลทรายดูเวิ้งวางกวางใหญ มีถนนคอนกรีดตัดผานยาว
สุดลูกหูลูกตา แลวทั้งสามก็ยืนอยูบนถนนนั้นซึ่งมีสัญลักษณอินฟนิตี้อยูตรงหนา

มันเปนภาพที่ใหความรูสึกอบอุน เหมือนในที่กวางใหญ รางไรซึ่งผูคนและการเดินที่ไมมีวันสิ้นสุด แตทั้งสามจะยังเกาะเกี่ยวกันไว


ยืนเคียงขางกัน ใหความสัมพันธเปนอินฟนิตี้ ไมมีวันสูญสลาย ผมคิดวานองสองคนนี้คงไมใชแคเพื่อนธรรมดา แตเปนคนที่มี
ความหมายกับวินดี้ทีเดียวละ ยิ่งเมื่อถือวิสาสะเปดโนตบุคนองดู เห็นภาพตาง ๆ ที่นองเก็บไวในคอมก็พอจะไดคําตอบ (ที่มาเปลี่ยน
ใจทีหลังวาไมควรรูเลย)

ภาพวินดี้ถายกับนองผูหญิงคนนั้นคอนขางเยอะเหมือนกัน ทําใหผมเริ่มเอะใจ จะใชนองผูหญิงคนนี้หรือเปลานะที่ไปพักโรงแรมกับ


วินดี้ในวันที่ผมเจอกับนองในครานั้น คิดไปมือก็คลิ๊กภาพไปเรื่อย ๆ แลวในที่สุดก็โดนเขาอยางแรง คอลเล็กชั่นคูรัก!!! ไมไหวจะ
เคลียร ใครมันเปนคนถายวะเนี่ย ทั้งแสงทั้งสี นายแบบนางแบบก็หวานกันจริ๊ง ผาน ๆ อยาดูใหเสียลูกกะตา ผมก็คลิ๊กไปเรื่อย ๆ ถา
เจอรูปคูก็กดผานเลยในครึ่งวินาที แตถาเปนภาพวินดี้เดี่ยว ๆ ก็จะมองนานหนอย

ผมวาคนถายภาพเนี่ยคงจะชอบเลนกลองพอสมควรนะครับ ภาพแตละภาพคมชัด สวยมากทีเดียว ยิ่งภาพของวินดี้ดูเปนธรรมชาติ


มากที่สุดเลย อยางภาพนี้ เปนภาพถายดานขาง นองนั่งในรถไฟที่กําลังวิ่งอยูมีพระอาทิตยกําลังจะตกดินเปนฉากหลัง ไดอารมณดี
ครับ อีกภาพวินดี้กําลังหลับอยูบนเตียง ในมือมีหนังสือที่อานคางอยู นองใสเสื้อกลาม แลวไหลมันจะรนลงไปหนอย เห็นผิวขาว
เนียน เซ็กซี่เปนบาเลยครับ

แต...ผมวามันเริ่มแปลก ๆ แลวนะครับ ยิ่งภาพตอมา นองนอนหลับตาพริ้มในอางอาบน้ํา ฟองอาบน้ําทวมอาง เสนผมเปยกลูไปกับ


แกม นองแหงนหนาขึ้นเล็กนอยคลายกําลังผอนคลาย หนาอกขาวเนียนพนฟองสบูออกมา อากกกกกกกกกกกกกก ใครมันเปนตา
กลองวะ!!!!หงุดหงิดมากมาย ทัง้ หองนอน หองน้ํา ใครวะที่เขามาถายภาพนองได แลววินดี้ก็ยอมใหมันถาย ไมงั้นจะเก็บภาพไว
ทําไม อารมณเสีย คางจากที่นองมันยั่วแลวยังมาเจอเรื่องบาดใจอีก เซ็งไดโล ปดคอม หันหลังใหสิ่งที่ไมอยากรู เดินไปสูดอากาศของ
นอกดีกวา พอออกไปที่ระเบียงก็โทรหาเลขาเสียหนอย วันนี้คงไมไดเขาบริษัทอีกแลว งานคงทวมหัวแลวละมั้งตอนนี้

“เจานายไหนวาจะเขามาตอนบายโมงไงครับ นี่มันจะบายสามแลวนะครับ ประชุมบอรดผูบริหารวันนี้ ทานประธานแทบจะฆาผมที่


ตามตัวเจานายมาไมได” เสียงเลขาและผูชวยสวนตัวของผมเองครับ “รามิล” แลวทานประธานที่วาก็คือพอผมเอง

“หึหึ แลวพอวายังไงบางละ”

“ก็ตีหนาบึ้งใสใหญเลย ถามวาเจานายอยูไหน ทําไมไมรู” พอนาจะรูนะวาผมอยูไหน แตไปโบยใหลูกนองผมซะงั้น

“เอานาไมตองคิดมาก พอก็โวยไปงั้นแหละ ไมมีอะไรหรอก”

“ถาจะใหดีเจานายอยาปดโทรศัพทสิครับ เผื่อมีเรื่องดวนจะไดติดตอได แลวนี่เจานายจะเขาบริษัทไหม”

“วันนี้คงไม”

“แตเจานายมีเอกสารดวนตองเซ็นวันนี้นะครับ”

“งั้นเหรอ แลวนัดอยางอื่นละมีอีกไหม”

รามิลเปนเลขาคนเกงของผมครับ หนาที่ของเขาไมใชแคเลขาแตยังเปนผูชวยสวนตัว ซึ่งชวยผมทุกอยาง อยาคิดลึกนะครับ ถึงผมจะ


เจาชูบางแตกฏเหล็กของผมคือสมภารไมกินไก ชวยในที่นี้คือเรื่องงานเปนหลัก และอาจมีเรื่องสวนตัวบาง แตไมมีอะไรเกินกวา
เจานายกับลูกนอง คาจางของเขาก็สูงพอ ๆ กับงานของเขานั่นแหละครับ ขณะที่ผมคุยเรื่องงานกับรามิลอยูนั้น ผมก็มองไปรอบ ๆ
ระเบียง ไมยักรูวาวินดี้ชอบปลูกตนไมดวย เห็นมีกระถางตนไมอยูหลายใบ พวกไมเลื้อยก็มีนะครับ เดินเขาไปใกล ๆ เห็นขวดสเปร
ฉีดน้ําวางอยูเลยหยิบขึ้นมาฉีดที่ตนเดปกระเปาใหนอง เห็นมีตนหนึ่งนาสนใจ ตนอะไรไมรู ใบมันแปลกดีเปนรูปหัวใจ กําลังออกดอก
ดวย มีปายติดไวเลยกมลงไปอาน

“โฮยา ชื่อวิทยาศาสตร Hoya T&G ชื่อวงศ TLG ชื่อพื้นเมือง หวานใจตริน ราคา 2x^2 - 2xy + y^2 = 16 ”

อะไรวะ ผมงง มีบอกราคาเปนสมการดวย แลวคนซื้อมันจะรูไหมเนี่ยวาเทาไหร แลวอะไร ชื่อวงศ เปนตัวยออีก TLG มาจากอะไรอะ


“ที รัก กุล” เหรอ

หะ!!!!

เฮย!!!!
ชื่อพื้นเมือง หวานใจตริน ตริน Trin โหย...อะไรมันจะปานนั้น แลวสมการนี้มันมีความหมายเยี่ยงใด

“รามิลเดี๋ยวกอน ผมมีงานดวนใหคุณทํา อยากใหหาคําตอบสมการใหผมหนอย” ไมไหวจะเคลียรครับ ฟงเรื่องงานไมรูเรื่องแลว


ตอนนี้ ใครหนาไหนมันมาบอกรักวินดี้ของผม!!!

“สมการอะไรครับเจานาย”

“สองเอ็กยกกําลังสอง ลบดวยสองเอ็กวาย บวกวายยกกําลังสอง เทากับสิบหก”

“เอ มันมีสองตัวแปรจะหาคาไดหรือครับ”

“ไดไมไดคุณก็ตองหาคําตอบมาใหผม แลวเรื่องเอกสารที่ตองเซ็นพรอมสรุปการประชุมตกลงคุณเอามาใหผมที่นี่แทนแลวกัน”

หมดอารมณ หงุดหงิดโครต ๆ เลย เมื่อครูคุยเรื่องงานกับรามิลก็พอจะลืมภาพถายบาดตาในหอง คูรักหวานแหวว กับตากลองแอบ


ถาย แตพอออกมานอกระเบียงดันมาเจอนักรักคณิตศาสตรอีก โอย...ผมอยากจะบา ตกลงผมมีศัตรูหัวใจกี่คนแลวครับ แลวคนรอบ
ขางวินดี้นี่มีใครไวใจไดสักคนไหมเนี่ย

วางโทรศัพทแลวกลับเขามาในหองอีกครั้ง มองไปที่ตัวการซึ่งนอนหายใจสม่ําเสมออยูบนเตียงแลวความคิดชัว่ รายก็ผลุดขึ้นมา...เอา


เลยไหม...คิดบัญชีเลยดีกวา ทําผมอารมณเสียสองเดงสามเดงแลวนะวันนี้

ผมเดินมานั่งบนเตียงขาง ๆ นองเคา วินดี้ก็ตะแคงขางเขาหาผม ทําใหผาที่วางอยูที่หนาผากหลนไปอยูที่หมอน ผมกําลังจะหยิบมา


ลางแลวเปลี่ยนใหใหมเพราะมันอุนแลว วินดี้กลับปรือตาขึ้นแลวจับมือผมไปแนบกับแกมของตัวเองแทน เหมือนลูกแมวนอยเลย
คลอเคลียอยูใกล ๆ ผมลูบผมนองดวยมืออีกขางอยางออนโยน มองคนตรงหนาดวยสายตาที่เต็มไปดวยความรัก พรอมรอยยิ้มที่
ปาก นองยิ้มตอบกอนหลับตาลงอีกครั้ง...นี่ก็ทําใหผมอยากจะบาอีกคน ไมรูจะทําใหผมรักผมหลงไปถึงไหน

“วินดี้ครับ จับพี่ไวนะครับ อยาปลอยพี่ไปไหน” ไมรูวานองเขาใจความหมายที่ผมพูดหรือเปลา แตวินดี้ก็เอื้อมมือมากอดเอวผมไว


แนน ทําใหผมยิ้มกวางขึ้นกวาเดิมอีก ผมกมลงจูบที่หนาผากนองพรอมกระซิบแผวเบา

“ขอใหพี่เปนคนที่วินดี้เลือกใหอยูขาง ๆ นะครับ” ถึงใครหลายคนจะคิดกับนองยังไง หรือมีความสัมพันธแบบไหน แตเวลานี้นองอยู


ที่นี่กับผม ผมไดตัวและจะตองไดหัวใจนองมาเปนของผมใหไดในสักวัน ผมคอย ๆ เอนตัวลงนอนกับนอง กอดนองไวแนนเชนกัน ผม
มาไกลเกินกูแลว ไมมีทางแนที่มือคูนี้จะปลอยนองไปใหใคร
ผมรูสึกตัวอีกทีเมื่อตอนสายของอีกวัน ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ผาที่วางอยูหนาผากก็หลนลงตัก ผมหยิบมันขึ้นมาดูอยางสงสัย ในหัวผม
รูสึกวางเปลา ยังมึนงงและสับสน ผมกวาดสายตาไปรอบ ๆ หองพรอมกับทบทวนความจํา รูวาเมื่อวานหลังเรียนเสร็จผมก็กลับมา
หอง จากนั้นตาก็มา แลวอะไรหวา...
ผมสบัดศีรษะไลความมึนออกจากหัว ลุกขึ้นจากเตียง ขวาผาเช็ดตัวและเขาหองน้ําหมายทํากิจวัตรประจําวันที่ผมทําหลังจากตื่น
นอน รูสึกเหนื่อยเล็กนอยเมื่อไปถึงอางลางหนา ผมมองในกระจกเห็นใบหนาตัวเองซีดหนอย ๆ จริงสิเมื่อคืนผมไมสบายนี่นา ปวดหัว
มาก คุยกับตาแทบไมรูเรื่อง งวงอยากพักแลวจากนั้นเมธก็โทรมา ผมพยายามนึกพรอมถอดเสื้อผา จากนั้นก็เขาอางอาบน้ํา เปด
ฝกบัว สายน้ําอุน ๆ ที่ไหลผานรางกายทําใหผมรูสึกสมองโปรงขึ้นหนอย

จริงสิ เมื่อคืนผมฝนเห็นไอบานั่นอีกแลว แตมันก็ชัดเจนซะจนเหมือนจริง ผมรูตัววาตัวเองเครียดมากตั้งแตเหตุการณวันนั้น และทุก


อยางรอบตัวผมก็คลายจะกดดันใหผมไมสามารถลืมมันได ยิ่งตัวการคอยมาปวนเปยนอยูใกล ๆ ยิ่งทําใหผวา แต...เอ...เมื่อวานมัน
...

“แวกกกกกก!!!” เสียงมานอาบน้ําเปดออกอยางแรงทําใหผมหันขวับไปมอง

“เฮย!!!” ผมตาโต ตลึงมองใครคนหนึ่งยืนหนาบึ้งอยูตรงหนา

“ใหเวลาสามสิบวิ ออกมาจากที่นั่นเดี่ยวนี้ ไมงั้นพี่จะอุมออกไป...แวก!!!...ปง!!!” พูดจบก็ปดมาน จากนั้นก็ตามดวยเสียงประตูที่ปด


ลงอยางกระแทกกระทั้น ผมกระพริบตาปริบ ๆ ยังจับตนชนปลายไมถูก เมื่อกี้มันอะไรวะ แลวมันมาไดไง หรือวาตาฝาด หรือผม
กําลังละเมอลุกมาอาบน้ํา กูงงโวย มือตบหนาตัวเองเพื่อเรียกสติ ยังนึกอะไรไมออกก็ตองสะดุงสุดตัวอีกครั้ง

“วินดี!้ !! พี่บอกใหออกมา!!!” ไมใชแคตะโกนบอก แคคราวนี้เปดมานอาบน้ําเขามา แลวยังปดฝกบัวใหน้ําหยุดไหล จากกนั้นโยน


ผาเช็ดตัวมาคลุมหัว อีกผืนเช็ดตัวใหอยากลวก ๆ

“เปนบาหรือไง ไขเพิ่งลดแลวมาอาบน้ํา...” ความมืดใตผาคลุมหัวกับเสียงบนนั่นเปนดั่งสายฟาที่ผาเพี้ยงลงมาตรงหนา อากกกกกก


ผมกําลังถูกไอโรคจิตลวนลาม!!!

“ยากกกก ไอโรคจิต!!!”

“โคลม!!!” อยาอยูเลยมึง!!! ผลักมันออกไปสุดแรงตีน

“โอย!!!” ไมฟงเสียงรองอะไรทั้งนั้น เมื่อรางมันกระเด็นไปติดผนัง ก็ตามไปกระทืบอีกที

“ไอบา ไอโรคจิต เขามาไดไง”

“โอย!!! วินดี!้ !! หยุดเดี่ยวนี้นะ!!!” หยุดก็บานะสิ อยาเขามานะ ทั้งครีมอาบน้ํา ยาสระผม ครีมนวด อะไรที่ควาได ปาใสมัน

“วินดี้พี่เจ็บบอกใหหยุดไง” ไมหยุด อยาเขามานะ กูก็สูคนนะโวย กําลังเตรียมทาจะปลอยหมัด แตทันใดนั้น


“วิ้วววววว” เหมือนมีลมพัดมาแตะตัวเย็นวูบ คอย ๆ กมมองตัวเอง อากกกกกก กูโปอยู!!! มายยยยยยยย จูๆ ปดจูกอน แลวกนละ
มายนะ มายยยยยยยยยยย

“หามมอง!!!” ตะโกนบอกเสียงดัง แต...ไมทันแลว มันสํารวจตั้งแตหัวจรดเทา

อากกกกกก ทั้งเนื้อ ทั้งตัว มันเห็นหมดเลย มายยยยยยยยยยยยยยยย...ผมถูกมันขมขืนทางสายตา

งะ...งั้น......กอ...

อยาอยูเลยมึง!!!

“พลั่ก!!! พลั่ก!!!”

“โอย วินดี้”

“ตุบ ตับ”

“โอย!!! พี่เจ็บ!!!”

“เจ็บใชไหม ดี ตายไปเลย นี่แนะ ๆ”


.
.
.
เวลาผานไป 3 นาทีก็ยังไมหมดยก
.
.
.
“พอแลววินดี้ โอย!!!”

“ไมพอ นี่ ๆ ”

“โอย!!!”
.
.
.
5 นาที
.
.
.
“ไอโรคจิต ไอบากาม!!! ตุบ ตับ ๆ”

สงครามฝาเทาในหองน้ําดําเนินไปเรื่อย ๆ จนฝายที่ถูกตอยเงียบเสียงไป และฝายที่ถูกลวนลามทางสายตาก็ยืนหอบอยางหมดแรง

10 นาทีหลังจากนั้น

เงียบ!!!

วังเวง!!!

บรรยากาศมาคุสุด ๆ !!!

หายใจเขาออกชา ๆ อยางพยายามควบคุมอารมณของตัวเอง ตอนนี้ผมออกมาจากหองน้ําแลวครับ ใสเสื้อผาแลวดวย แตไขเหมือน


จะขึ้นอีกแลวละ หนางี้รอนวูบวาบหมดเลย สวนไอโรคจิตมันอยูในหองน้ําอยูเลยครับ ผมกําลังนั่งรอใหมันออกมาอยูตอนนี้ ทั้งโกรธ
ทั้งอาย ทั้งโมโห แตความอยากรูม ีมากกวา ตกลงมันจะเอายังไงกับชีวิตของผมกันแน อยากคุยใหมันจบ ๆ ไปซะที

“โอะ...โอย...” มันออกมาแลวครับ สะบักสะบอมมาเชียว คงไมกลาเขามาใกลผมละมั้ง เห็นทรุดนั่งชันเขา เอนหลังพิงผนังที่หนา


หองน้ํา สวนผมนั่งอยูปลายเตียงครับ

“เขินแลวโหด หึหึ” ดูมันครับ ออกมาก็ปากเสียเลย เจ็บใจ เลยควาหมอนมาขวางใสมันไปที

“หุบปากไปเลย”

“ไขขึ้นแลวละมั้ง หนางี้แดงเชียว” นานยังไมหยุดอีก ขนาดอยูหนาหองน้ํายังเห็นอีก ไอบานี่ ไมอยากใหมันเห็นหนาครับ เลยเอา


หมอนอีกใบมากอดไวแลวก็ซุกหนาลงไปเลย ควบคุมอารมณตัวอยูครูหนึ่งจึงเงยหนาขึ้นมาถามมัน

“เขามาไดไง ละ...แลว...ตองการอะไร”
“ตาของวินดี้เปดประตูใหพี่เขามาเมื่อวานครับ แลวมาทวงหัวใจคืน” ตาอยางนั้นหรือ ผมคิดตาม เหมือนภาพเหตุการณเมื่อวานจะ
คอย ๆ ฉายชัดขึ้นมาทีละนิด วาแต...เยย มันบาไปแลวหรือเปลา เพอเจอเหมือนกําลังงอขอความรัก ผมชักมึนแลวละ สับสนดวย
ลืมความโกรธที่มันเคยทําไวไปชั่วขณะ

“ใชแลวครับ พี่รักวินดี้” ไมตองย้ํา แลวอยามามองดวยสายตาที่ทําใหขนลุกขนพองอยางนี้นะ

“บาไปแลวหรือไง ผมเปนผูชายนะ”

“พี่ก็ไมไดใหวินดี้ไปแปลงเพศเปนหญิงนี่ครับ เปนชายแบบนี้แหละดีแลว” มันพูดอะไรของมัน ลองนึกตาม เห็นภาพตัวเองนมตุม อา


กกกก

“ไมใชโวย คุณเปนผูชายแลวผมก็เปนผูชาย จะมารักกันไดยังไง”

“รักไดไง ใหเวลาพิสูจนดีไหม เรามาเรียนรูนิสัยกัน แลวดูวาวินดี้จะรักพี่ไดหรือเปลา” ผมสายหนา

“ไมตองมาเสียเวลาลองหรอก ใหมันจบ ๆ ไปดีกวา” ผมไมอยากเกี่ยวพันกับมันอีก มันมีบางอยางที่ทําใหผมกลัว โดยเฉพาะแววตา


มุงมั่นคูนั้นกับความหมายลึกซึ้งที่สื่อออกมา ผมรูวาที่ผานมาเขายอมผมใหผมอาละวาดได แตวันนี้แววตาของเขามันแปลกจนผม
เริ่มหวาดหวั่น

“ขอโทษที่ทําตามคําขอไมได พี่จะยายมาอยูกับวินดี้ตั้งแตวันนี้เปนตนไป เราจะมาเริ่มตนกันใหม ตกลงตามนี้นะครับ” พูดจบก็ลุกขึ้น


ยืน ไมสนผมที่มองตาคาง

“พูดบาอะไร ไมตกลงอะไรทั้งนั้น ไมใหอยู ออกไปเดี๋ยวนี้เลย ไมงั้นจะเรียกยามมาลากตัวออกไป”

“ถาอยากใหทุกคนรูเรื่องของเราก็ตามสบายเลยครับ ดีซะอีก พี่จะไดเปดตัววาเปนผัววินดี้กับตาซะเลย”

“อะ..ไอ...โวย...” แคน เจ็บใจ อยากดาแตนึกคําพูดไมออก แมรงเอย!!!

“ไมตองมาขู! !!”

“ไมไดขูครับ ครั้งแรกพี่ตงั้ ใจจะคบกันเงียบ ๆ คอย ๆ เรียนรูกันไป แตถาวินดี้อยากประกาศตัวกับคนอื่น พี่ก็ไมเดือดรอน คิดเอาแลว


กันวาจะเลือกแบบไหน เดี๋ยวพี่จะออกไปดูขาวตมให จะไดกินยาแลวนอนพัก”

อึ้ง...กอนจะโกรธจนตัวสั่น แตไมรูจะตอบโตมันกลับไปยังไง ถารูวามันจะมาไมนี้ ไลมันออกไปตั้งแตที่แรกแลวก็ดี ไมตองถามใหมาก


ความ
เจ็บใจโวยยยยยยยย!!!

ทําอะไรไมไดดั่งใจเลยยยยยยยย!!!
ถึงวินดี้จะแรงไมเยอะเพราะเพิ่งจะฟนไข แตพอมาตอยซ้ํารอยเดิมก็ทําใหเจ็บไดเหมือนกันครับ แตผมวามันคุมนะ ไดเลนมวยปล้ํา
กับนองในหองน้ํา นองคงไมรูตัวหรอกมั้งวาผมแกลงรองไปงั้นเองแหละ พอจะตอยทีก็กอดตัวนองไว วินดี้ก็ดิ้น ๆ ตัวมันนะเนี๊ยน
เนียน นุมก็นุม จะจับกดหลายรอบ แตก็ยอมตัดใจ ยิ่งหนานองตอนเขินยิ่งนารักเขาไปใหญ นึกถึงแลวก็อดยิ้มไมได นี่ผมคงบาไป
แลวละ

เมื่อเชาตื่นมาทําขาวตมใหนองครับ ความจริงก็ไมคอยไดเขาครัวเทาไหรหรอก แตก็พอทํากับขาวไดบางสองสามอยาง ในตูเย็นพอมี


ของสดบาง ผลไมก็มี เห็นแลวคอยชื่นใจ คิดวาวินดี้คงจะเขาครัวทํากับขาว กอนจะลุกจากเตียงก็จับตัวนองดูแลวละ เห็นวาไขลดลง
ไปเยอะก็หายหวง แตพอรูวานองไปอาบน้ําก็ตกใจมากพอดู กลัวไขมันจะกลับมาอีก เมื่อคืนตอนไขขึ้นวินดี้งอแงใหญเลย นิด ๆ
หนอย ๆ ก็รองไห สะดุงตื่นกลางดึกก็หลายครั้ง นาสงสารมากเลยครับ ไมรูวาวันนี้จะไปเรียนไดหรือเปลา แตเห็นฤทธิ์เมื่อกี้แลว ผม
วานองคงดีขึ้นมากแลวมัง้

“นี่!!!” เสียงของวินดี้ครับ เพิ่งตามออกมา แตผมก็ไมไดหันไปสนใจนะครับ คนขาวตมใหหมอตอ

“นี่!!! ไมไดยินหรือไงหะ!!!” ไดยินครับ แตอยากแกลงมัน วินดี้จะนิสัยเสียอยูอยางที่ผมไมคอยชอบเทาไหร คือนองจะแสรงทําเปนลืม


เรื่องของผม อยางชื่อนี่ผมก็บอกนองไปแลวนะครับ แตไมยอมเรียกสักที ซึ่งนั่นเปนเหตุผลที่ทําใหผมตองยั่วโมโหนองตลอดเวลา พอ
กระตุนหนอยนองก็เดือดเปนฟนเปนไฟ นั่นแหละคือสิ่งที่ผมตองการ ไมใชปนหนาเฉยชา มองผมเหมือนธาตุอากาศ

“พี่ชื่อคินครับ นาคินทร” ผมหันไปบอกนองที่ยนื อยูใกล ๆ โตะกินขาวกอนหันมาปดไฟหมอขาวตม วินดี้หนาบึ้งเชียว ปากยื่นจะติด


ปลายจมูกไดแลวมั้ง แกมก็ปองซะ

“ใครสน” เสียงนองบน นั่นไงผมบอกแลวมันชอบเมินเรื่องของผม แลวแบบนี้จะไมใหผมยั่วโมโหนองไดยังไง

“งั้นก็เรียกผัวจาแลวกัน”

“อะ...ไอ...บา”

“มีผัวปรกติไมชอบ อยากใหเปนบา แลวชอบแบบบากามดวยไหมครับ” ผมหันไปมองนองเต็มตา ทําหนาหื่น ๆ ใสมันหนอย พรอม


เดินเขาไปหา นองหนาแดงแจเลย มันกาวถอยหลังสองสามกาว หึหึ อยากจะบากามขึ้นมาจริง ๆ แลวสิ

“หยุดอยูตรงนั้นเลยไมตองเขามา” ผมยักไหล
“อาว วินดี้เรียกพี่เองไมใชหรือครับเมื่อกี้นะ”

“กะ...ก็...ใช”

“แลวมีอะไรครับ มานั่งนี่กอนมา” ที่เดินเขาใกลนองนี่ความจริงตั้งใจมาเลื่อนเกาอี้ใหนองนั่งครับ สวนตัวเองก็กลับมานั่งอีกฝง ก็คิด


ไวแลวละวานองตองตามออกมา ดีเลยจะไดทําขอตกลงกัน หามพาชูเขาหอง หามยินยอมตากลองแอบถาย หามรับของอะไรจากนัก
รักคณิตศาสตร แลวใครมาปวนเปยนอยูใกล ๆ ตองรายงานใหผมรู อืม...มีอะไรอีกไหม ออ...หามไปออนคนอื่นนอกจากผมดวย

วินดี้ทําทาลังเลนิดหนอย สุดทายก็เดินมานั่งฝงตรงขามกับผม

“ไมใหอยู” นองเขาเรื่องแลวครับ แตพูดไมเขาหูผมเลย

“งั้นวินดี้ก็ไปอยูกับพี่แลวกัน” ไมอยูก็ไดวะ แตใหมันหอบผาหอบผอนหนีตามผมแทน วินดี้มองผมตาโตที่ไดยินผมชวนหนีตามกัน

“หะ ไมไปไหนทั้งนั้น แลวก็ไมใหอยูนี่ดวย ตัวใครตัวมันสิ” นองตะโกนใสหนาผมเลยครับ กําปนก็ทุบโตะ เหมือนพวกเด็กประทวงพอ


แมเวลาถูกขัดใจ ผมละขําทาทางมันจริง ๆ

“แลวจะทํายังไง เปนผัวเมียกันก็ตองอยูดวยกันสิ”

“คะ..ใคร..เปนผัว...เปนเมียพูดใหดี ๆ นะ” ผมสายหนา

“ก็รูกันอยู หรือตองใหทําใหดูอีกรอบไหม” ยิ้มมุมปาก สงสายตาหวานหยดติ๋งไปใหนองอีกที

“อะ...ไอ...โวย...” นองคงจนคําพูดละมั้งครับ หรือผมไปจี้ใจดําก็ไมรู นองชี้หนาผม หนางี้แดงไปถึงหู เห็นแลวอยากรื้อฟอความจํา

“ทําไมถึงชอบพูดเรื่องนี้ดวย จะฟนฝอยมันขึ้นมาทําไม”

“แลววินดี้จะลืมมันทําไมละครับ ทําไมถึงชอบวิ่งหนีความจริง” วิ้นดี้เงียบ เมมปาก กมหนานิ่ง กอนจะหุนหันลุกขึ้นจากเกาอี้

“อยากอยู ก็อยูไปคนเดียวเลย!!!!”

“อยาคิดจะไปอยูที่อื่นนอกจากอยูกับพี่นะครับ” ผมพูดพรอมลุกขึ้นจากเกาอี้เชนกัน

“พี่บอกแลววาวินดี้มีแคสองตัวเลือก อยากอยูกันเงียบ ๆ หรือเปดเผยใหคนอื่นรู เลือกมาจะเอาขอไหน” นองหันกลับมามอง ตาแทบ


จะถลนออกมานอกเปา ถาเพลิงโทสะในตานองเผาผมได ผมคงเกรียมไปแลวมั้ง
“ไมเลือกอะไรทั้งนั้น!!!!” นองตะคอกใสหนาผม แตผมก็ตีหนาเฉย พูดเสียงขรึมตอบนองไปวา

“งั้นพี่เลือกใหเองแลวกัน” วาพลางลวงโทรศัพทออกมา

“จะทําอะไรนะ”

“ก็จะโทรไปบอกตา วาวินดี้จะพาหลานเขยเขาไปเปดตัว”

“อยานะ!!!!” นองไปพูดเปลา กระโจนเขามาแยงโทรศัพทไปจากมือผม ผมก็ยอมใหนองแยงไปแตโดยดี แตก็รีบควาเอวนองไวใน


ออมแขน พอรูตัววินดี้ก็ดิ้นขลุกขลัก แตผมก็รัดนองแนนขึ้น

“อยูนิ่ง ๆ แลวฟงพี่พูด” อุมนองมานั่งที่เกาอี้ ใหนองนั่งตักผม แตวินดี้ก็แผลงฤทธิ์ตามประสามันแหละครับ ดุกดิก ดิ้นจะลงจากตัก


ผมใหได ผมก็เลยเปาลมเขาหูนองมันซะเลย นองยนคอ ขนแขนลุกชันเลย หึหึ จุดออนมันครับ ผมจําได

“วินดี้ครับ” เปาลมหายใจลดตนคอนองอีกหนอย วินดี้ก็เอียงหลบ ผมก็เลยเกยคางกับไหลนองพรอมกระชับออมแขนใหแนนขึ้นซะ


เลย

“วินดี้ครับ”

“อะ...อะไร” เสียงนองสั่น ๆ ครับ แตตัวก็ยุกยิก ๆ ไปมา เออ...นี่มนั จะยั่วผมไปถึงไหนครับ เอากนมาถู ๆ ไถ ๆ ทักทายคินนอยผมเนี่ย


เดี๋ยวมันโกรธขึ้นมา ไดนอนคุยกันนะเวย

“วินดี้อยูนิ่ง ๆ กอนนะครับ เรามาคุยกันดี ๆ นะ” พอพูดเพราะ ๆ หนอยนองก็ออนทาลงครับ เฮอ...เกือบไปแลว ผมกระชับออมแขน


ใหแนนขึ้นอีกนิดกอนพูดดวยน้ําเสียงจริงจังวา

“ถึงเหตุที่ทําใหเราเจอกันมันไมนาจําเทาไหร แตเรามาเริ่มตนกันไหมนะครับ ใหโอกาสพี่ และวินดี้ก็ใหโอกาสตัวเองดวย ทั้งหมดที่ทํา


เพราะพี่รักวินดี้มาก แตพี่ก็ไมไดบังคับใหวินดี้ตองรักพี่ในวันนี้ วันพรุงนี้ เราลองมาอยูดวยกัน คอย ๆ เรียนรูกันนะครับ” นองนิ่งฟงผม
คงคิดตามคําพูดของผมอยูละมั้งครับ ครูตอมานองก็แยงวา

“ยะ...อยูคนละที่ก็เรียนรูกันได”

“ไมดีหรอกครับ พี่ตองทํางาน วินดี้ตองเรียน เวลาเราไมตรงกัน คิดดี ๆ นะครับ ถึงอยูดวยกัน วันหนึ่ง ๆ ก็แทบไมไดเจอกันเลย


เพราะฉะนั้นตัดทิ้งไปเลยครับ เรื่องแยกกันอยู แลวเรียนรูนิสัยกันนะ” พูดจบก็ปรายตามอง เห็นนองทําหนายุงใหญเลยครับ คิ้วขมวด
จนจะชนกันอยูแลว
“พี่ขอแคสามเดือนเทานั้นครับ ถาเราไปกันไมไดจริง ๆ พี่ก็ยอมถอยจากวินดี้ จะไมมากวนใจอีกเลย” หยอนเหยื่อชวยใหนองตัดสินใจ
งายขึ้นมาอีกนิดครับ พอสามเดือนจริง ๆ แลวมันเกิดไลขึ้นมาก็ตีหนาดานอยูตอ เลวไหมครับ

“แนนะ” ผมพยักหนา

“ละ...แลวจะอยูยังไง มีหะ...หองนอนเดียว” ออ มันกําลังคิดหนักเรื่องนี้อยูหรือครับ แหม...เตียงออกใหญหวงไวนอนคนเดียว

“พี่บอกวินดี้แลวนี่ครับวาจะไมทําอะไรวินดี้ทั้งนั้น ถาวินดี้ไมอนุญาต” ผมคิดอยางนั้นจริง ๆ ครับ จุดเริ่มตนของเราสองคนมาจาก


ความตองการทางกาย หากจะเริ่มกันใหมผมก็อยากใหนองเชื่อวาสิ่งที่ผมพูดและทํานั้นมาจากความรักที่ผมมีตอนองจริง ๆ วินดี้ผิน
หนามาสบตากับผมอยางคนควา นองเอียงคอเล็กนอย ทําปากจูเหมือนกําลังตัดสินใจไมถูก หนาผากก็ยนนิด ๆ เห็นแลวมัน...อดใจ
ไมไหว

“แตกอดกับหอมนี่พี่ขอนะครับ ฟอดดดดดดด อันนี้ตามใจพี่นะ” วาแลวก็กดริมฝปากกับแกมนอง กระซิบแผวเบาขางหู วินดี้เอียง


หนาหนี พรอมผลักหนาผมบอก กอนจะใชสองมือปดแกมตัวเอง ตาโต ๆ อยูแลว ยิ่งโตขึ้นไปอีก

“กอด หอม ก็ไมให” แลวนองก็สายหนา จนผมกระจายไปมา

“หึหึ” อยากใหคุณ ๆ มาเห็นหนานองตอนนี้จังเลยครับ จะบึ้งก็ไมใช อายก็ไมเชิง คือมันกึ่ง ๆ ปากนาจูบนั่นเมมสนิท ไมรูกลั้นยิม้


เอียงอาย หรือสะกดกั้นอารมณโกรธ แตแกมกับหูนี่แดงเปนลูกมะเขือเทศ วาแลวก็หมั่นเขี้ยว กมไปชิมมะเขือเทศอีกคําแลวกัน

“จรุฟฟฟฟฟฟ” ไมใหหอมแกมก็ซบที่ซอกคอแทนครับ เก็บคากระสอบทราย โทษฐานที่ซอมผมมาสองวันติด ๆ กัน พอผมเก็บคามัด


จํา นองก็ฝนตัวออกจากออมกอด แลวกระโดดลงจากตักผมอยางรวดเร็ว กอนจะกระทืบเทาปงปง ยกมือชี้หนา คิดวาอยากดาผมแต
นึกคําไมออกละมั้งครับ เลยไดแตอาปากพะงาบ ๆ ผมหัวเราะในลําคอ ตลกทาทางมันครับ

“เราคุยกันรูเรื่องแลวนะครับ วินดี้ตกลงตามที่พี่พูดแลวนะ” ผมยืนยันขอตกลงอีกครั้ง จากนั้นก็หันหลังใหนองแลวเดินเขาไปในครัว

“ตกลงบาบออะไร พูดเอง เออเองทั้งนั้น” ศาลเตี้ยนาคินทรไมฟงคําอุทรครับ เมยเฉยไว หนาโบกปูนซะอยาง ไมสะทกสะทาน

“นี่!!!” เอาอีกแลวครับ ชื่อผมนี่มันจํายากนักหรือไงนะ

“เรียกชื่อพี่สิครับ” ผมบอกขณะที่วางถวยขาวตมลงบนโตะ

“ไมอยากเรียกจะทําไม”
“งั้นก็เรียกผะ...”

“อยาพูดมันออกมานะ” คราวนี้งางหมัดขึ้นมาเลยครับ แตไมกลัวอะ ผมยักคิ้ว ทานองไปที

“งั้นก็เรียกชื่อพี่ใหถูกสิครับ แลวก็มานั่งไดแลว กินขาวแลวจะไดกินยา ตอนบายมีเรียนไมใชหรือ ถาไมไหวก็ไมตองไป” วินดี้ทําหนา


หงิกใส แตก็ยอมเดินมานั่งที่เดิม

“อะนี่ชอน คอย ๆ กินละ มันรอน” นองก็รับชอนไปครับ พรอมทําปากขมุบขมิบ คลายบนวาผมใสอะไรใหมันกินหรือเปลา ก็อยาก


บอกวาใสความรักพี่ลงไปอยูหรอกครับ แตกลัวมันจะอวกออกมา เลยหันไปตักขาวตมของตัวเอง แลวมานั่งกินตรงขามกับนอง

“ไหนเรียกชื่อพี่ใหฟงหนอยสิ” วินดี้เงยหนามาจากถวยขาวตม ทําหนาเซ็งสุด ๆ มันกรอกตาไปมา แคเรียกชื่อนี่มันลําบากขนาดนั้น


เลยหรือ แลวดูมันนะครับ ทําทาคิดหนัก ผานไปเกือบนาทีโนนแหละนองถึงพูดวา

“คุณงูเขียวหางไหม” พอไดฟงแทบสําลักขาวตมครับ ไอเด็กเวร ชางคิดนักนะ มาลดบรรดาศักดิ์ผม คือชื่อ นาคินทร ของผมมัน


แปลวางูใหญครับ พวกพญานาคอะไรแบบนี้ แตดูมันสิ เรียกมาซะอนาถา ใหเหลือแคงูเขียวซะงั้น

“ทําไม ไมชอบเหรอ” ยังมาทําหนายี่ยวนใสผม เดี๋ยวเถอะ ฮึ่ม... แลวนองก็ทําทาคิดอีกครั้งกอนพูดวา

“งั้นก็...คุณทอง”

“แคก...แคก...” คราวนี้สําลักขาวตมจริง ๆ ครับ ยกแกวน้ําขึ้นจิบ ทันเห็นวินดี้ยิ้มมุมปาก นองมันแนมากครับ ผมขอถอนคําพูดนะ


ครับวานองไมสนใจเรื่องของผม ผมวามันรูลึกรูซึ้งเชียวละ เนี่ยมันก็มาแปลชื่อเลนผมครับ คิน ภาษาญี่ปุนแปลวา ทอง ครับ

“จะเรียกอะไรก็ใสพี่นําหนาดวยแลวกัน” ประชดมันครับ แลวนองมันก็รับมุกผมไดนารักมากกกกก

“ไดสิ อายทอง”

ตกลงผมตองกลายเปนอายบาวไทยบานไปแลวใชไหมครับ ทําไมชื่อแฟนผมมันไฮโซ ไฮโซ แตชื่อของผมเนี่ย ลูกทุงเกินคําบรรยาย

อายทอง กับ นองวินดี้ : บันทึกรักของอายบาวลูกทุงกับหนุมเมืองกรุงจะเริ่มตนนะบัดนาว


ไอพี่ทองยืนยันจะขับรถมาสงมหาวิทยาลัยใหไดครับ ทั้ง ๆ ที่ผมก็บอกแลววาจะไปเอง แตพี่แกก็ไมยอม บอกวายังไงแกตองออกไป
ขางนอกอยูแลว ก็มาดวยกันแลวกัน เลยตองจําใจมากับแก ที่จริงตั้งใจวาจะแอบกลับบานไปถามตาวาเมื่อวานตาคุยอะไรกับพี่แก
บาง ดีไมดีจะไดคางที่บานดวยเลย ถาอายทองเกิดบาโทรไปฟองตาขึ้นมาจริง ๆ ผมจะไดหาทางหนีทีไลไดทันทวงที แตคงไมเปนไป
ตามแผนแระเพราะถูกบังคับใหมาดวยกัน แตไมทอครับ เดี๋ยวพอแยกกันที่มหาวิทยาลัย ผมคอยหาโอกาสอีกที
“พี่เปนลูกชายคนเดียว ไมมีพี่นอง แมพี่เสียตั้งแตพี่อายุสิบเอ็ดป ตอนนี้ก็อยูกับพอแคสองคน” ใครอยากรูละเนี่ย จะมาบอกทําไม ผม
ไมสนใจแกหรอกครับ หันหนาออกไปมองวิวนอกรถ พยายามเงียบครับ ทําตัวไมดื้อ เดี๋ยวเขารูวาวางแผนอะไรอยู

“แลววินดี้ละครับ ตรินนี่เปนใคร” อะไรวะ เปลี่ยนเรื่องปุบปบ นึกวาจะถามเกี่ยวกับครอบครัว ไมไปถามถึงตรินไดละเนี่ย

“ถาวินดี้ไมบอก พี่จะเอาน้ํารอนไปรดตนอะไรอยูระเบียงนั่นนะ โฮยาใชเปลา”

“บาหรือไง เกี่ยวอะไรกับตนไมนั่น” อดใจไมได เลยโตตอบไป คนอะไร พาลไมรูเรื่องรูราว ไมพูดดวยแคนี้ก็จะไปลงที่ตนไม

“ก็มันเอามาใหวินดี้นี่” ไมตองมาทําเสียงดุเลย พอหันไปมองหนาแกแลว อึ้งครับ หนางี้อยางโหด ผมละปรับเปลี่ยนอารมณตามไม


ทัน

“มั้ง...จะ...จําไมได...ไมคอยไดสนใจเทาไหร” แลวกูจะเสียงสั่นทําไมละเนี่ย ผมเปลากลัวนะครับ แคทําตัวไมถูกเวลาพี่เขาหนาบึ้งอะ


จะวาไปก็เพิ่งเห็นนี่ละ ปรกติจะทําหนาทะเลนกวนบาทา อีกอยางถาพี่แกไมพูดขึ้นมาผมก็ลืมไปแลวละครับเรื่องตนไมนะ รูสึกจะ
เปนตอนปใหมมั้งที่ตรินเอามาให อืม...ความจริง ตองบอกวายัดเยียดใหครับ ผมก็เลยจําใจรับมา แลวก็แขวนไวที่ระเบียง รดน้ํามัน
ปรกติ ไมไดสนใจอะไรมากนัก

“ไมคอยสนใจเหรอ งั้นตกลงเขาเปนใครละครับ” พี่แกยิ้มแลวครับ น้ําเสียงกลับมานุมนวลเหมือนเดิมแระ ตกลงพี่เปนอะไรมากไหม


อารมณขึ้น ๆ ลง ๆ ทําผมปวดหัวเลย

“เปนพี่ชาย” ตอบกลับไปครับ จะไดหมดเรื่องหมดราว

“พี่ชายแบบไหนครับ” แนะ ยังไมจบอีก จะเอาใหละเอียดเลยไหม เดี๋ยวจัดให แตเอ...ตรินเปนพี่ชายแบบไหนนะเหรอ

“ก็ใจดี ชอบเอาใจ พูดเพราะ อุบอุน หลอ...”

“พอ ๆ ตอบไมตรงคําถาม มันจะหลอหรือไมหลอตรงนั้นไมอยากรู ที่อยากรูคือ พี่นองพอแมเดียวกันหรือเปลา” อะไรวะ ตัวเองตั้ง


คําถามคลุมเคลือเอง พอเราตอบไมถูกใจก็มาทําเสียงหงุดหงิดใส

“เปลา” สั้น ๆ แตไดใจความ ดูซิ คราวนี้จะถูกใจไหม

“วาแลว” ซะงั้น ผมละเซ็ง ตกลงรูแลวจะถามทําไม เหนื่อยใจจริง ๆ คุยกับไอพี่ทองเนี่ย

“ไอหมอนั้นมันสนิทกับวินดี้มากไหมครับ เคยมาคอนโดหรือเปลา” ยังไมหมดอีกครับ ตกลงพี่เคาอยากรูแบบละเอียดยิบเลยไหม จะ


ไดทําเปนรายงาน รวมเลมมาสงซะเลย
“ก็ปรกติ เจอกันอาทิตยละสองสามครั้ง คอนโดก็เคยมา” พูดจบพี่แกก็เงียบไปครับ คิดวาคงไดคําตอบที่นาพอใจแลวมั้ง แต...ผมคิด
ผิดครับ

“พี่อนุญาติใหเจอมันไดอาทิตยละครั้ง ขอดูความประพฤติกอน ถาไมมีปญหาก็คอยตอเวลา สวนคอนโด หามไมใหมา ตกลงตามนี้


นะครับ” ไมถามไมไถ แตออกคําสั่งมาเลย มันอะไรนักหนานะไอพวกนี้ นี่พี่กินอาหารสุนัขยี่หอเดียวกับเมธมันหรือไง เปนอะไรมาก
ไหมกับเรื่องของตริน

“เวอรไปแระ จะเจอกันเมื่อไหรเกี่ยวอะไรดวย”

“เกี่ยวสิ ปองกันไมใหเมียมีชู” ไดยินคําวา...มะ...เมีย...ทีไร หนารอนวูบวาบเลย แลวยิ่งเสียงหัวเราะ หึหึ ของคนขาง ๆ ยิ่งใหทําให


โมโห

“ชูบาชูบออะไร ตรินเปนลูกชายสามีใหมแม”

“ออ...ที่แทก็พี่นองอยากทองชนหลังนี่เอง ตัวอันตรายอันดับหนึ่ง”

“พูดอะไรไมเห็นเขาใจ ไมพูดดวยแลว จอดที่หลังคณะนะ จะเดินไปเอง”

ไอพวกนี้ชอบพูดอะไรทํานองนี้ทุกที ฟงแลวมันสะอิดสะเอียนไมอยากรับรู วันนี้ยิ่งจะหนีกลับไปนอนบานอยู อยามาพูดใหเสียวสัน


หลังนะเวย พอพูดจบไอพี่ทองก็เอารถไปจอดตามที่บอกครับ แตกอนที่ผมจะลงก็ถูกดึงแขนไว ไมทันไดตั้งตัวริมฝปากของพี่เขาก็
ประกบริมฝปากผมเสียแลว มันเหมือนมีกระแสไฟฟาวิ่งผานรางของผมในฉับพลัน เหตุการณที่เกิดขึ้นโดยเร็วทําใหผมไมทันตั้งตัว
ทุกอยางรอบตัวดูจะเลือนลาง ลิ้นอุน ๆ เยาหยอกเรียวปากกอนจะสอดเขาไปสัมผัสกับลิ้นของผม มอบจุมพิตที่ดูดดื่มนั่นเริ่มทําให
ผมละลาย พี่เขาจูบช่ําชองราวกับรูวาจะทํายังไงใหผมเคลิบเคลิ้ม อยางไมรูตัวมือผมเลื่อนขึ้นไปกระหวัดลําคอพี่เขาไว เผยอเรียว
ปากตอบรับและจูบตอบกลับไปตามสัญชาตญาณ ปลอยความรูสึกใหกับเวลาที่ผานไปอยางเชื่องชา

“ตีตราเปนเจาของไวกอนครับ” พี่เขากระซิบแผวเบาเมื่อถอนริมฝปากออกมาอยางออยอิง หนาผากของเขาอิงแนบกับหนาผากของ


ผม ลมหายใจของเราเปารดซึ่งกันและกัน

“เดี๋ยวพี่มารับนะครับ อยาคิดหนีไปไหนนะ”

คําพูดตามมาของเขาทําใหผมชงัก สติสัมปชัญญะกลับคืนมา ผมสบถในใจเมื่อนึกไดวาตัวเองกําลังทําอะไรอยู ผลักพี่เขาออกหาง


กอนรีบลงจากรถดวยใบหนาแดงก่ํา มือขางหนึ่งกุมหัวใจตัวเองที่เตนรั่วเร็วราวกับมันจะหลนออกมานอกอก...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับ
ผม ชักเริ่มจะสับสนกับความรูสึกของตัวเองขึ้นมาเสียแลวสิ
เมื่อไดยินวาวินดี้ไดเจอนักรักคณิตศาสตรบอย ๆ แถมมันยังมาถึงคอนโดดวยก็รูสึกเครียดขึ้นมาเลยครับ จากที่ถามดูเหมือนเจาตัว
จะไมรูเรื่องรูราวอะไรเลยวาอีกฝายกําลังจีบอยู รูอยางนี้แลวมันอดประทับตราเปนเจาของนองไมได ไวเทาความคิด มือรีบดึงนองมา
จูบกอนจะลงจากรถซะเลย

ทีแรกวาจะแคแตะริมฝปากเบา ๆ ก็พอ แตพอรางหอมกรุนมาอยูในออมกอดก็เหมือนจะยิ่งลุมหลงเขาไปใหญ หยุดตัวเองไมได ตอง


ชิมความหอมหวานจนพอใจแลวถึงปลอยนองใหเปนอิสระ ไมอยากเขาขางตัวเอง แตก็อดคิดไมไดวา นองคงใจออนลงบางแลว ไม
งั้นคงไมยอมรับสัมผัสจากผมอยางเต็มใจ เมื่อนองลงจากรถผมก็มองตามแผนหลังของวินดี้จนลับสายตา แลวถึงเคลื่อนรถจากไป...
หวังเหลือเกินวานองจะไมวิ่งหนีผมอีกแลว

หลังจากสงวินดี้ที่มหาวิทยาลัยก็กลับเขาไปเคลียรงานที่บริษัทครับ พอนั่งที่เกาอี้ทํางานไมทันไร ทานอดีต ผบทบ ก็เดินหนาเครียด


เขามา ทําน้ําเสียงขึงขังตามสไตรของแกนั่นแหละครับ

“สูทมีทําไมไมใส เปนถึงผูบริหาร ชอบนักนะ กางเกงยืน เสื้อยืดเนี่ย” เปนลูกพอตองเนี๊ยบเสมอครับ แตผมมันลูกนอกคอกเลยไดแต


ออกนอกลูนอกทาง ปรกติก็ใสสูทมาทํางานแหละครับ แตวันนี้รีบ วาจะเขามาแปบเดียวแลวก็กลับไปเก็บของที่จําเปน ยายไปอยูกับ
นองมันครับ ก็เลยไมไดเปลี่ยนเสื้อผา แตก็อยางนี้ทุกที วันไหนที่รีบ แตงตัวไมเรียบรอยเขาบริษัทก็จะเจอพอตลอด (แสดงวารีบทุก
วัน เลยไมไดสูท)

“คาแรงไมพอซื้ออะพอ เพิ่มเงินเดือนใหหนอยสิ” ก็กวน ๆ แกไป ตามแบบฉบับพอลูกคูหูนั่นแหละครับ

“เอาเกลือไปคลุกขาวกินดวยไหม ถาเงินเดือนมันนอยนัก” แกก็ไมนอยหนาครับ พอผมอะปากคอเลาะราย โดยเฉพาะกับผมนี่แหละ


แกชอบนักละ กัดจิกลูกชาย

“ไมไหว เบื่อกลิ่นเกลือ แคพอเดินมาใกล ๆ กลิ่นความเค็มก็โชยมาแระ”

“ดี งั้นงดเงินเดือนนี้แลวกัน จะไดรูไงวาอยูใกลความเค็มนะมันเปนยังไง”

“โหย เดี๋ยวจะฟองกระทรวงแรงงาน คนมาทํางานปรกติ ไมใหเงินเดือนไดไง”

“ปรกติงั้นเหรอ แลวเมื่อวานทําไมไมเขาประชุม”

“ก็มันติดธุระสําคัญ ผมก็ขอเวลาพอเคลียรปญหาสวนตัวแลวไง วันกอนยังคุยกัน ทําเปนลืม”

วันกอนที่พอเรียกตัวกลับบานนั่นแหละครับ ก็บอกพอไปเรื่องนอง พอรุงขึ้นกอนออกจากบานก็บอกแกเหมือนกันวาบางทีอาจเขา


บริษัทไมทัน แกก็พยักหนารับ ผมถึงขํา ตอนที่เลขาผมบอกวาถูกพอโวยในหองประชุมนะ พอคงแสดงบทบาทใหคนอื่น ๆ รูละมั้งวา
แมแตลูกชายแกก็ไมไดเขาขาง ทั้ง ๆ ที่จริงแลว ลับหลังคนอื่น พอก็มาลูบหัวผมเหมือนเดิม
“อีกอยางถึงไมเขาบริษัทผมก็ทํางานเต็มเวลาอยูดี” เวลาผมไมเขาบริษัทก็จะใหเลขาเอางานที่คางอยูมาใหทําที่บานไมก็คอนโดครับ
เรื่องนี้พอรูดี ก็เลยไมคอยเขมงวดกับผมเทาไหร เพราะถึงผมจะเหลวไหลไปบาง แตความรับผิดชอบก็ถือวาอยูในระดับที่พอพอใจ

“ชอบทํางานนอกสถานที่ใชไหม งั้นเอานี่ไปทําใหที” วาจบพอก็โยนเฟมสีดํามาใหครับ

“อะไรอะ” ผมถามขณะเปดออกดู กอนจะเงยหนาพูดกับพออีกครั้ง

“ทําไมพอไมจัดการเอง”

“อานนทเปนลูกชายของพจน” พอถอนหายใจ

เอกสารที่พอเอามาใหคือรายงานการยักยอกเงินของบริษัทครับ แตมันยังไมละเอียด แคคิดวาตัวเลขในบัญชีมีบางอยางที่ไมปรกติ


พอไฮไลทใหดูเปนตัวอยาง แตผูที่ตกเปนผูตองสงสัยนี่สิที่ทําใหลําบากใจ “อานนท” เปนลูกชายของลุงพจนซึ่งเปนคนสนิทของพอ
ครับ ทํางานมาดวยกันตั้งแตยังหนุม ตอนนี้ลุงแกขอเกษียรตัวเองออกไปทําไรอยูทางเหนือ แตวาลูกชายแก ก็เขามาทํางานแทนครับ

“เฮอ...เปนถึงนักบัญชีมือหนึ่ง แลวเขาจะทิ้งหลักฐานไวใหเหรอ” หลักฐานที่พอเอามาใหดูมันชวยอะไรไมไดมากนัก ก็แคขอสงสัย


ตอนนี้บัญชีที่มีอยูค งถูกแตงจนสวยงามไปเรียบรอยแลว

“รูวาแกทําได”

“แลวมีใครรูเรื่องนี้บาง” ผมใชเมื่อรองศีรษะ เอนหลังพิงเกาอี้ มองพอดวยสายตาคําถาม

“ไมมี ระวังตัวดวยแลวกัน” ผมพยักหนารับ งานนี้ไมใชเรื่องงาย ๆ เลย แตที่แยมากที่สุดก็คือถาเรื่องที่สงสัยอยูเปนจริงขึ้นมา แลวคน


ที่ลําบากใจมากที่สุดคงเปนพอ

“แยจัง เปนคนใกลตัวซะได” พอพยักหนา กอนจะฝากฝงผมใหตามเรื่องนี้ใหพอที ผมก็รับปากแมจะไมคอยมั่นใจนักก็ตาม เมื่อหมด


ธุระพอก็ขอตัวกลับไปทํางานของพอตอ ผมก็เลยลุกขึ้นแลวเดินมาสงพอที่ประตู ขณะเดินไปก็คุยกันไปดวย

“ถางานนี้สําเร็จ คาจางเปนเรือนหอนะพอ ผมจะออกเรือน”

“หึหึ ใหเขายอมแกกอนเถอะ แลวคอยมาพูด” พอหัวเราะเยอะผมพรอมเปดประตูหอง

“ไมเกินสามเดือนหรอก ผมจะพาลูกสะใภมากราบพอแน ๆ” ผมก็ตามไปยืนยันกับพอ


“งั้นก็ตองเตรียมสินสอดไดแลวสินี่”

“อะ แนนอนอยูแลว” เรื่องนองผมมั่นใจครับ ถามันไมยอมก็มอมยาอีกรอบแลวลากเขาหอซะเลย เสียดายที่นองมันตั้งทองไมได ไม


งั้นจะปล้ําลูกมาเปนพยานรักซะหนอย

“วาแตเรื่องนั้นพอรูไดไง” แตเรื่องที่คุยกันกอนหนานี้ก็ยังทําใหผมสงสัย

“ก็คนอยูสูงก็ตองมองเห็นไกล” นึกแลวไมมีผิด พอคงรูอะไรมา เปนที่รูกันวาอีกไมนาน สิ่งที่พอรูจะมาถึงผมในไมชา

“ออ ลืมไป วาคนแกมักสายตายาว” ผมเลยกระเซาแกกลับไปครับ

“ไมใชแคสายตา อยางอื่นก็ยาวและใหญดวย” พอหันมายักคิ้วใสผม ผมเลยยักไหล

“รูแลว ก็ผมลูกพอนี่ ของผมก็ใหญและยาวเหมือนกัน”

“ฮาฮา” พอหัวเราะกอนจะตบบาผมแลวเดินจากไป ผมสายหัวหนอย ๆ ใหความดิบเถื่อนของแก พอหันกลับมาเห็นเลขาคนใหมนั่ง


หนาแดงอยูที่โตะหนาหอง ก็แทบจะสําลักเสียงหัวเราะ

“อยาคิดลึกนะรามิล ที่ใหญยาวนะคือสมอง หมายถึงผมฉลาดเหมือนพอ”

รามิลไมสบตาผม พยักหนาหงึกหงัก คงคิดไปไกลเกินกูคืนแลวมั้ง แตไมสนใจครับ ก็เรื่องจริงนี่นา ของดีมันก็ตองหนาดานอวดกัน


หนอยละเวยเฮย วาแลวก็เปดประตูเขาหองทํางานไปอีกครั้ง...ปลอยใหคนอยูเบื้องหลังคิดเอาเองแลวกันวาอะไรใหญ อะไรยาว...
ยังไมทันไดออกจากหองแลคเชอรก็มีขอความจากไอพี่ทองเขามา บอกวามาถึงมหาวิทยาลัยแลว รออยูหลังคณะ เรียนเสร็จก็ออกมา
หาแกดวย พอเห็นขอความก็เกิดอาการลังแลขึ้นมา นี่ผมคงหนีไมพนพี่แกแลวใชไหม

“ปวดหัวหรือมึง หนายุงเชียว แตตัวก็ไมรอนแลวนี่” เสียงเมธครับ มันวาพรอมจับหนาผากผม คงเปนหวงละมั้ง เพราะเมื่อวานก็ถูก


มันไลกลับไปพัก

“เปลา ปวดขี้” กวนมันไปครับ พอพูดจบเมธหัวเราะกอนโยกหัวผมไปมา

“ตอบงี้แสดงวาหายไขแระ แลวตกลงเปนไร ทําไมทําหนางั้นละ” ยังไมทันไดตอบวาอยางไร ก็มีอีกเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมา

“สงสัยจะถูกวางยาถาย” ลูกแพรที่นั่งอีกขางเยาผมครับ แตผมทําหนางงเพราะยังไมเก็ตมุกของเธอ

“ยังไงอะ” ไอเมธก็อยากรูเหมือนกันครับ เลยขอคําอธิบาย ผมก็นั่งตาแปว รอฟงดวยคน


“ก็พอกุลอาน SMS แลวก็ทําหนาอยางนี้อะ” ยะ...เยย...นี่คุณเธอนั่งสังเกตผมอยูหรือครับ รูดวยวาเมื่อกี้กดอานขอความ

“SMS อะไร” ไอเมธหลังอานก็เริ่มทําหนาที่ของมันแลวครับ ทําจมูกฟุตฟต ดมกลิ่นแปลกปลอม มองหนาผมกับลูกแพรสลับไปมา

“วันกอนกุลก็ทําหนาอยางนี้ ตอนที่ไอโรคจิตสง SMS เขามา” ยังไมหยุดอีกครับ คุณเธอก็ยังอุตสาหจําได นี่แสดงวายังคลางแคลงใจ


เรื่องคืนกอนโนนอยูเลย อนาถตัวเองจริง ๆ โกหกอะไรไปไมมีใครเชื่อ

“ไหนเอามาดูสิ ขอความอะไร”

“ลูกแพรดูดวย อยากรูเหมือนกันวาใครสงอะไรมาใหกุล”

“ไมมีอะไรหรอกนา จารยมองมาทางนี้แลว” ผมรีบปฏิเสธพรอมทําทาฟงอาจารยอยางตั้งอกตั้งใจ เมินทั้งคู บอกเปนนัยวาใหทั้งสอง


เลิกสนใจเรื่องของผม แตกระนั้นก็ยังไดยินเสียงแวว ๆ มาวา

“ทาทางมีพิรุธ...”

พอเรียนเสร็จก็ติดเกียรหมาเลยครับ ไมลังเลอีกตอไปแลว ตอนนี้เมธกับลูกแพรนากลัวกวาไอพี่ทองเสียอีก ผมยังไมพรอมจะใหพวก


เขารูเรื่องชีวิตวุนวายของผม ขอแคสามเดือนตอจากนี้ ถาผมปดความลับนี้ได เรื่องมันก็จะจบแลว

“หนีอะไรมาครับ หนาตื่นมาเชียว” อายทองถามพรอมลูบแกมผมแผวเบา ผมสายหนา ตอนนี้ผอนคลายไดเล็กนอยครับ เพราะรถติด


ฟมลกรองแสงซะมืดเลย คนภายนอกคงมองเขามาไมเห็น

“วันหลังจะขับรถมาเรียนเอง ไมตองมารับ มาสงแลวนะ” ผมเขาเรื่อง อายทองเลิกคิ้ว

“มีคําอธิบายไหมครับ”

“ก็ไมใชเด็กแลว จะไปไหน มาไหน อยากมีอิสระบาง” ความจริงกลัวไอพวกนั้นจับไดครับวามีเทคซี่สวนตัวคอยรับคอยสง พี่เขาเงียบ


ไปครูหนึ่งกอนจะพยักหนาเปนเชิงเขาใจ
“งั้นเจอกันครึ่งทางครับ พี่ใหอิสระวินดี้ แตวินดี้ก็ตองไมทําใหพี่เปนหวง จะไปไหนมาไหน ตองบอก โอเคไหมครับ”

“ก็ได” ตอบอยางไมลังเลเลยครับ

“แลวขอความก็ไมตองสงเขามาดวยนะ” พอบอกไปแบบนี้ ไอพี่ทองก็นิ่วหนา

“ออ อยากใหพี่อยูเงียบ ๆ เปนผัวนอยวินดี้วางั้นเถอะ” ฟงคําพูดแกนะครับ นี่กําลังประชดกันชัด ๆ เด็ก ๆ เวลาทําหนาหงิกงอแลว


มันนารักนะครับ แตคนตัวโต ๆ ทําแลว เฮอ...ไมอยากบรรยาย

“ก็บอกเองนี่วาจะคบกันเงียบ ๆ” ยกคําพูดแกมาอางครับ อายทองเลยถอนหายใจ

“เอาเถอะครับ ถาไมสบายใจเรื่องนี้ก็จะพยายาม แตไมรับปากนะวาจะทําไดหรือเปลา แลวเตรียมคําตอบไวหรือยัง ถาบังเอิญไปเจอ


คนรูจัก วินนี้จะแนะนําพี่วายังไง”

“ไมรูอะ ไมทันไดคิด”

“งั้นก็คิดซะ” วาจบพี่แกก็สตารทเครื่อง แลวเคลื่อนรถออกไป ผมก็นั่งคิดตามคําที่แกพูด จะบอกวาไงดี คนที่ผมรูจัก เมธกับลูกแพรก็รู


แทบทุกคน ก็เรียนดวยกันมาตั้งแตประถมนี่นา ญาติฝายไหน ทั้งสองรูหมด นอกเสียจาก...

“เปนคนของพอแลวกัน เดี๋ยวบอกวาลุงเรียวสงมา”

ลุงเรียวคือทนายความของพอครับ หลังจากที่พอเสียแกก็มาชวยดูแลผมตอ หุนสวนบริษัทตาง ๆ ที่พอมีหุนอยู ผลประโยชนทั้งหลาย


ลุงก็เปนคนจัดการให ปรกติลุงจะอยูเมกา ไมก็ญี่ปุนครับ สวนไทยสองสามเดือนถึงจะมาครั้งหนึ่ง แตถามีเรื่องดวนที่ผมตองรู ลุงก็
จะมาหาดวยตัวเองหรือไมก็สงใครมาเปนตัวแทน ตอนที่พอเสียใหม ๆ ลุงก็ใหจิตแพทยกับพยาบาลพิเศษมาอยูกับผมครับ คือชวง
นั้นผมคอนขางซึมเศรา อารมณไมคอยปรกติเทาไหร ทะเลาะกับแมใหญโต พานไมคุยกับตาไประยะหนึ่งกอนแยกมาอยูคอนโดเอง
คนเดียว ก็ทําตัวมีปญหาจนลุงกลัวผมจะเผลอฆาตัวตาย เลยสงคนมาดูแล ผมใชเวลากวาครึ่งปครับ กวาลุงจะเชื่อวาผมไมเปนอะไร
และยอมใหผมอยูคนเดียวได แตแกก็ยังหวงครับ คอยหาโอกาส สงคนโนนคนนี้มาจับตาดูผมเปนระยะ ก็พอรูวาที่ลุงทําเพราะรัก ก็
เลยยอม ๆ แกไป

“ครับ วินดี้วาอะไรนะครับ” อายทองถาม พรอมมองผมดวยแววตาสงสัย

“ก็จะบอกคนอื่นไง เปนคนของพอ ที่ลุงเรียวสงมา”

“หึหึ ที่เงียบนี่เพราะคิดเรื่องนี้อยูเหรอ วาแตลุงเรียวนี่ใครครับ” พอพี่เคาถามผมก็เลยตองอธิบายใหฟง แกก็ตั้งใจฟงนะครับ พยัก


หนารับรูเปนระยะ สุดทายพี่เคาก็สรุปวา
“วินดี้ก็มีคําตอบใหคนอื่น ๆ แลวนี่วาพี่เปนใคร เพราะฉะนั้นถาพี่จะสงขอความหา มารับมาสงวินดี้ หรือจะไปไหนมาไหนดวยกันก็ไม
ตองกลัววาใครจะรู เพราะฉะนั้น ก็ไมตองเปลี่ยนอะไรครับ ทําเหมือนที่เราทําอยูนี่แหละ”

ฟงแกพูดจบแลวผมอยากฆาคนขึ้นมาทันที สรุปที่ใหผมคิดมาทั้งหมดนี่ เพื่อจะเปนเหตุผลใหพี่แกปฏิเสธเรื่องที่ผมขอใชไหมครับ


หงุดหงิดมากมาย ไมอยากพูดดวยแลว คนอะไรบาอํานาจที่สุด พูดอะไรออกไปก็วกเขาประโยชนของตัวเองทั้งนั้น

“ไมเอา ไมงอนพี่นะครับ ใหพี่มารับมาสงแหละดีแลว สงขอความหาจะไดรูไงวาแตละฝายทําอะไรอยู” ไมไดงอนโวย แตโกรธลมออก


หูเลย สะบัดหนาหนี ไมสนใจคุยดวยแลว

“อะๆ พี่ยอมใหเรื่องหนึ่งแลวกัน วินดี้ขับรถมาเรียนเองก็ไดครับ” เริ่มรูสึกดีขึ้นมาหนอย แตก็ยังหนาบึ้งอยู

“งั้นเอาใจอีกนิด เดี๋ยวพาไปกินของอรอย ๆ นะครับ เผื่อจะอารมณดีขึ้นมาบาง” ไมสนใจครับ มือกอดอก เอนหลังพิงเบาะ หลับตา


ความจริงอยากหาอะไรมาอุดหูดวย ไมอยากรับรูอะไร

“วา...ทําที่รักโกรธแลวสิ แยจัง เดี๋ยวเปดเพลงเพราะ ๆ ใหฟงนะครับ จะไดผอนคลาย” ปลอยแกพร่ําไปครับ แลวผมไปตกลงเปนที่รัก


แกตอนไหน พูดเองเออเองอีกตามเคย

“..ฉันและเธออาจไมได...ไมเอา ๆ เพลงนี้ไมเขาบรรยากาศ ... โปรดสงใครมารักฉันที อยูอยาง...เพลงนี้ก็ไมใช มีคนรักอยูแลว รัก


วินดี้คนเดียวไมเหลียวมองใคร” ฮึ...ปากอะบอกวารัก แตชอบขัดใจ ชิส

“ ... Let me tell you one time. Girl I love. Girl I love. Im’a tell you one time…เพลงนี้ก็ไมใช ไมเลิฟเกริ์ลอะ แตเลิฟบอย...เพลง
ไหนดี...เพลงไหนดี...จะทําใหที่รักอารมณด.ี ..” ปลอยแกบาไปคนเดียวครับ ปากก็วิจารณเพลงโนนเพลงนี้ไปตามเรื่อง มือก็เปลี่ยน
คลื่นวิทยุไปมา

“วา...ทํายังไงก็ไมหันมาสนใจกันบางเลย...จางมันเตอะ...ก็ไมไดเสียดวยสิ...อุย...มาเจอเพลงแทงใจดําซะดวย...” วาพลางดนตรี
เพลงลูกทุงสนุก ๆ ก็บรรเลงขึ้นมาครับ

“กอแคปอจายตี้หลายใจหนึ่งคน กอคงไมมีเหตุผล ฮื้อเฮาทนตอไป..” พี่แกก็บาดัดสําเนียงรองใหเหมือนเพลงเขา ผมเลยแอบปรือตา


ขึ้นมองหนอย อาว...ซวย ดันไปสบตากับพี่เขาซะงั้น ทันไดเห็นรอยยิ้มหวานของแก พอเห็นผมมองหนอยยิ่งไดใจแกใหญเลยครับ
รองสําเนียงไมใหตามเขาไป ดนตรีเพลงมันก็นะ คึกคักซะ ไอพี่บาก็ทําทายึกยัก หดคอเขาออกเหมือนเตานอยหากระดองไมเจอ

“หึหึ” อดขําไมได ตัวโตโต หนาก็ไมให ทําทาติ้งตอง ยิ่งดูตลกเขาไปใหญ


“เดี๋ยวเปนเดียวดา ทั้งตุกตาหนอยติ้ก นับดูซิมีกี่กิ๊ก ตี้ยังบเปดเผย แอบสงขอความไปใหใคร ยังมาปากแข็งวาไมเคย เรื่องเจาชูงอก
เงยประจํา...” ดูแกครับ พอรถจอดไฟแดง ก็หันมาชูนิ้วชี้กระดิกไปมา ไมใชๆ อยางนั้นอะ พรอมโยกตัวเขาจังหวะซายขวา ทําตาเล็ก
ตานอยใสผมอีก

“หึหึ...” ตลกอะ กลั้นยิ้มไวไมอยู

“ปอจายจะอั้น จางมันเตอะ จางมันเตอะ เหมือนขี้เปอะ ขี้โคลน โดนเมื่อใดก็ดํา ปอจายดีดี มีปะเลอะ มีปะเลอะ ตองมีวันเจอทน
แหมซักกํา...”

“หึหึ...พอ ๆ ไอพี่บา ทุเรศอะ...หึหึ...ฮาฮา” แตแกไมยอมอะครับ สนุกใหญเลย แทนที่จะโกรธแกเลยไดหัวเราะจนทองแข็งซะงั้น ไม


ยักรูวาผูชายเอาแตใจ พอทําอะไรเปน ๆ รั่ว ๆ นี่อยางฮาเลย ขนาดอยูในรถนะครับ ถาอยูบนพื้นแลวแกลุกมาเตน คิดดูแลวกันวามัน
จะอุบาทวขนาดไหน

“ปะ..ไปไดแลว...หึหึ...ไฟเขียวแลว...” พี่เขาก็หยุดยึกยักครับ ยิ้มหวานใหผมที กอนจะหันไปสนใจขับรถตอ

“ยิ้มไดแระอารมณดีขึ้นแลวสิ” พอไดยินปุบ หุบยิ้มปบเลยครับ หงะ...เผลอตัวอะ ลืมไปวาโกรธแกอยู แตมาถึงขั้นนี้แลวจะปนหนานิ่ง


เหมือนเดิมคงสายไปแลวละครับ เลยปลอยเลยตามเลย

“ไปหัดรองมาจากไหนอะ” อดสงสัยไมไดครับ เวลาเห็นหนาพี่เขาแลวจะนึกถึงเพลงสากลมากกวา พี่แกดูเปนคนสมัยใหมครับ ถึงจะ


ใสแคกางเกงยีน เสื้อยืด แตก็มียี่หอ บุคลิกโดดเดน ดูภูมิฐานหนอย ยิ่งอกผายไหลผึ่งเหมือนผูชายออกกําลังกายเปนประจํายิ่งชวย
เสริมใหแกดูดีขึ้น

“หึหึ วงเหลาครับ บางครั้งเราก็ตองลงไปคลุกคลีกับพนักงานระดับลางบาง จะไดขอมูลที่ถูกตอง แลววงเหลานี่แหละครับตัวเชื่อมที่


ดี” ผมก็ไมรูหรอกครับวาพี่เขาทํางานอะไร แตที่เดาจากรถที่ขับอยูคงตําแหนงใหญพอดู

“เลยชวนพนักงานเกงาน ตั้งวงเหลา”

“เปลา เลิกงานแลวคอยหนาดานไปขอเขากิน”

“คนเรา...เขาเงินเดือนนอยนิดก็ยังไปเบียดเบียนอีก”

“หึหึ ที่หนาดานเนี่ย คือพอไปถึงวงเหลาปุบ เขาเห็นหนาพี่ปบ พวกนั้นก็หยุดกินเลยครับ เลยจําเปนตองบังคับใหกินตอ”

“ทําไมอะ...ออ ไมมีคนอยากคบละสิ”
“ฮาฮา วินดี้เนี่ย ปากจัดเหมือนกันนะครับ” พอพูดจบพี่เขาก็ทําหนากรุมกริ่มใสผมกอนจะตอประโยคที่ทําใหผมอยากทุบคนตรงหนา
แบนติดดินไปเลย

“แตทําไมเมื่อเชาชิมแลวหวาน สงสัยตองชิมวันละสามเวลา แลวเดี๋ยวมาสรุปใหฟงวาวินดี้ของพี่รสชาติเปนยังไง”


วันนี้เปนครั้งแรกที่เห็นวินดี้ยิ้มครับ เคยเห็นนองยิ้มในภาพถายก็คิดวานารักแลว แตพอไดเห็นกับตาตัวเองแลวมันเทียบกันไมไดเลย
ลักยิ้มทีแ่ กมขางซาย กับเขี้ยวเล็ก ๆ ที่มุมปาก นัยนตาแพรวพราวอยางอารมณดีนั่น ทําใหผมเผลอมองนองอยางหลงไหล ไมอยาก
เชื่อเลยวาแววตาเศรา ๆ คูที่ผมเห็นเปนประจํานั่น ยามแพรวพราวระยับจะมีเสนหดึงดูดใจมากขนาดนี้

ผมวาวินดี้คงเคยเปนคนอารมณดี ยิ้มงาย ราเริงแจมใสมากทีเดียว จากที่สังเกตดูถึงแมบางครั้งนองทําปนปงไปบางแตพองอนิด


หนอยหรือพาคุยนอกเรื่อง วินดี้ก็ลืมสิ่งที่ขัดเคืองใจไปอยางงายดาย หากแตอะไรหนอที่เปลี่ยนนองใหกลายเปนคนปดตัวเองและเฉย
เมยเชนปจจุบัน ผมไมรูหรอกวาเวลาวินดี้อยูกับคนอื่นแลวนองวางตัวอยางไร แตสิ่งหนึ่งที่ผมสัมผัสไดและคอนขางเดนชัดมากที่สุดก็
คือ วินดี้สามารถปดการรับรูในสิ่งที่นองไมอยากจะรูไดเปนอยางดี...โดยเฉพาะความรูสึกของคนอื่นที่มีตอนอง ไมรูวาวินดี้กําหนด
ระดับความสัมพันธของแตละคนยังไง แตที่แน ๆ นองไดวางชองวางไวไมใหใครเขาใกลนองไดมากกวาที่นองกําหนดไวให ผมก็ไดแต
หวังวาผมจะขามชองวางที่มืดมิดนั่นและไปสัมผัสความรักในหัวใจของนองไดในสักวัน

ผมหันไปมองใบหนาเรียบเฉยของนองอีกครั้ง ดูสิ...ไมทันไรวินดี้ก็กลับมาเฉยชาอีกแลว เห็นแลวมันโหวงเหวงใจอยางบอกไมถูก ไม


ชอบเลยที่นองหลุดลอยไปยังโลกสวนตัว...โลกที่อาจไมมีผมอยูในนั้น

“คิดอะไรอยูครับ เงียบเชียว” ผมละมือขางหนึ่งจากพวงมาลัย ไลหลังนิ้วตามแกมของนอง วินดี้เอียงหนาหลบเล็กนอย กิริยานั้นทํา


ใหผมยิ้ม บางทีผมคงเขาใจผิดไปเอง โลกที่นองกําลังจมอยูนั้น คงมีผมอยูดวยแลวละ

“คิดเรื่องของพี่หรือครับ” นองสายหนา ผมยิ้มใหนองนิดหนึ่งกอนจะพูดพรอมหลิ่วตาใหอยางลอเลียน

“วา...หลงดีใจ นึกวาวินดี้กําลังคิดวาปากพี่รสชาติเปนยังไง” วินดี้คอนขวับ

“เพอเจอใหญแระ ใครเขาจะคิดอะไรแบบนั้นกัน”

“ก็พี่นี่ไงที่คิด เมื่อกี้ยังบอกวินดี้ไปเลย วาปากวินดี้อะหวาน”

“พูดอะไรก็ไมรู” นองพูดดวยน้ําเสียงตอวา หากแตกมหนาหงุด หลบตาผม

“อาว...ทําไมไมรู เมื่อเชาวินดี้ก็จูบพี่อะ” ตามจิ้มนองมันอีกนิดครับ

“โอย!!!” แตไมคิดวาจะถูกมันจิ้มคืน หยิกที่ตนแขน เจ็บเปนบาเลยครับ


“เงียบไปเลย แลวไมตองหันมามอง ขับรถเร็ว ๆ หิวแลว” มันดุผมดวยอะคะ แตแทนที่จะกลัวกลับถูกใจผมซะนี่ ทําไงดี ความรูสึกกับ
รางกายมันทํางานสัมพันธกันครับ พอนองพูดจบก็เลยเผลอหัวเราะออกมา แลวก็เลยถูกวินดี้ถลึงตาใส

“อะ...ครับ ๆ รูแลววาหิวจนหนาแดงเลย แปบเดียวนะ จะถึงแลวครับที่รัก” ชอบอะเวลานองเขิน อดที่จะเยาแยไมได นองมันก็กัดริม


ฝปากตัวเอง หันหนาหนี นารากกกก มื้อนี้อายทองขอกินวินดี้แทนขาวไดไหมครับ อยากถามอะ แตไมกลา หึหึ เห็นแบบนี้แลวมี
ความสุขจังครับ แสดงวาผมลุกนองถูกทางแลวละ

“ถึงแลวครับที่รัก” พอจอดรถที่หนารานอาหารอิตาเลี่ยนก็พูดกับนองครับ แตวินดี้กลับทําหนาลําบากใจ

“ทําไมครับ ไมชอบเหรอ” เออ...ลืมถามนองมันไปเลยวาอยากกินอะไร คือความจริงเวลาออกมากินขาวนอกบานผมจะเลือกพวก


รานอาหารยุโยปครับ ไมใชวาชอบอะไรมากมาย แคแพผงชูรส ก็เลยตัดปญาหาไมใหยุงยาก

“ไมชอบซีสอะ” นองบอก

“พลาสตาสั่งไมใสซีสก็ไดนะครับ มีหลายเมนูเหมือนกัน อยากลองไหม”

“ไมชอบกลิ่นเครื่องเทศเขาอะ เปลี่ยนรานไดเปลา” เมื่อที่รักขอมา มีหรือจะกลาขัดใจ

“ไดครับ งั้นวินดี้อยากกินอะไรละครับ”

“เปนคนไทยชอบกินอาหารไทย แลวก็คนติดดินไปกินรานตามสั่งขางถนนแลวกัน” เปนงั้นไป ถูกวินดี้ประชดเขาใหแลวครับ ที่วามา


ทั้งหมดนี่คือตอวาที่ผมอวดรวยใชไหม ความจริงรานที่ผมพามาก็ไมไดหรูอะไรนะครับ แลวผมก็ชอบอาหารไทยมากดวย แตมันมีเหตุ
และผลที่จําเปนตองเลี่ยง แตก็เอาเถอะตามใจนองมันแลวกัน เกิดภูมิแพกําเริบขึ้นมาก็ออนใหนองดูแลซะเลย

ตกลงเราก็กลับมากินอาหารตามสั่งในตลาดใกล ๆ กับคอนโดครับ ก็ปลอยใหนองเปนคนจัดการสั่งอาหารแหละครับ อยากกินอะไรก็


ตามใจคุณภรรยาเคา สวนผม กินไปก็สะดุงไป จะทําเปนชิมพอเปนมารยาทก็เกรงใจปาคนทํา แกอุตสาหเคาะตะหลิว แปง ๆ พรอม
มองหนา ไอเราก็เลือดผูดีเต็มตัว ไมกลาใหอาหารเหลือ นึกถึงเด็กแอฟริกันที่ไมมีจะกิน ก็ตองสวาปามอาหารเขาปาก คิดซะวากําลัง
ลิ้มลองอาหารเลิศโอชา มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริยใหคินนอยแข็งขัน กินอิ่มแลวจะไปไหนได...นอกจากรานขายยา!!!

“มาทําไมอะ” นองมันทําหนาตื่นใหญเลยครับ คงคิดอะไรอยูละสิ เห็นแลวอยากแกลง

“ซื้อถุงยางกับเจลลอลื่นครับ” พอไดยินแคนั้น วินดี้ก็ตาโตเลยครับ

“ไมใหไป!!!” แลวนองมันก็มาลวนลามผมครับ มีจับแขนผมไวอีก แหม...จับต่ํากวานี้ก็ไมได


“ทําไมครับ อยากไปดวยเหรอ ดีเลยจะไดชวยกันเลือกวาชอบกลิ่นไหน...โอย!!!” นองมันกมมากัดแขนผมอะครับ หูย...หอเลือดเลย
มันนาจะกัดใหเลือดออกไปเลยนาจะดีกวา จะไดติดเชื้อหื่นจากผมดวยเลย (อันนี้ประชดนะครับ)

“กัดทําไมครับ พี่เจ็บนะ ดูสิ...” กะจะออนนองซะหนอย แตวินดี้กลับทําทาจะกมมากัดอีกรอบ

“ไมเอาแลวครับวินดี้ พี่เลิกเลนแลว พี่จะไปซื้อยาแกแพ” สารภาพความจริงออกไป

“แพอะไร” นองหรี่ตามอง หนางี้บอกเลยวาไมเชื่อที่ผมพูด

“พี่แพผมชูรสครับ ไมแนใจวาเมื่อกี้เขาใสเยอะหรือเปลา เลยวาจะซื้อยากินไวกอน” ที่จริงก็ไมไดแพอะไรมากมายหรอกครับ แคจะ


เปนผื่นคันตามตัว แตถามากหนอยก็แยเพราะเปนหอบ มีคันคอ ไอบาง แลวก็หายใจลําบาก แตกินยาก็หายแลวครับ รําคาญแตมัน
คัน แตวางแผนไวแระ วาคืนนี้จะใหนองชวยเกา ยิ่งสวนที่ไวตอการสัมผัสตองใหมือนุมนิ่มของนองจัดการ

“แลวเมื้อกี้ทําไมไมบอกวาแพ จะไดกินอยางอื่น” ใจจริงก็อยากบอกนองอยูหรอกครับ แตกลัววานองจะคิดวาสําออย กินอาหารขาง


ถนนไมได ผมก็อยากทําตัวใหนองประทับบางสิครับ แต...มีความจริงที่ชั่วรายซอนอยู เพราะนี่คือหนึ่งในแผนการเรียกคะแนนความ
สงสารครับ ผมยิ้มใหนองกอนจะลูบหัวนองเบา ๆ

“ไมไดแพอะไรมากหรอกครับ แคกินยาเผื่อไว ปะ...ไปดวยกัน จะไดแนใจ” นองก็วางายครับ รีบพยักหนารับ พรอมกับลงจากรถ ไมรู


มันไมแนใจเรื่องอะไร เรื่องผมจะซื้อยาแกแพจริงๆ หรือกลัวผมจะแอบไปซื้อถุงยางกันแน เอาเปนวานองตามลงมาคุมนั่นแหละครับ
พยามยามมองโลกในแงดีเขาไว...ไมวาผมจะทําอะไร วินดี้สนใจเสมอ...อะฮา คิดเองเออเองก็มีความสุขใจไปอีกแบบครับ
ครั้งแรกก็ไมเชื่อหรอกวาไอพี่ทองแพผงชูรสจริงๆ ก็ตอนที่สั่งอาหารมาพี่เคาก็ไมวาอะไร แถมกินซะหมดไมมีเหลือเลย แลวพอบอกวา
จะไปซื้อยาแกแพ หนาตาแกไมนาไววางใจเลย จําเปนตองตามไปดูซะหนอยวาจะมาไมไหนกันแน สุดทายแกก็ซื้อแคยาแกแพกับโล
ชัน่ แกคัน แลวก็ถูกปาเภสัชที่ขายยาดุมานิดหนอยวาไมระวัง รูตัววาแพอะไรคราวหลังก็พยายามเลี่ยง พี่เคาก็ทําหนาเจี๋ยมเจี้ยม
รับปากไป

พอออกจากรานขายยาก็กลับคอนโด ขณะที่ขับรถกลับนั้นไอพี่ทองก็เริ่มทําทายุกยิกๆ พอถามวาเปนอะไรก็ตอบวาสงสัยผื่นจะขึ้น


ผมถามวาไหวไหมเดี๋ยวขับรถเอง พี่แกก็ยิ้มหวานให บอกวาแคนี้จิ๊บๆ ถูกที่รักกระทืบสองวันซอนยังรอดมาได ยังไมเห็นหนาลูกจะ
เปนอะไรไดยังไง พอฟงแกพูดจบแลวอยากบอกใหวนรถกลับไปตลาดอีกทีจริงๆ จะซื้อผงชูรสมากรอกปากแกสักกิโล ดูส.ิ ..คราวนี้จะ
ยังทําปากดีอีกไหม

ผมบอกใหแกจอดรถแลวซื้อน้ําจะไดกินยา แตพี่ทองก็บอกวาเดี๋ยวกลับไปกินที่หองเพราะจะถึงแลว อีกอยางแกบอกวายาทําใหแก


งวงงายเดี๋ยวจะหลับกลางทาง เฮอ...ไมรูจะวายังไง บอกอะไรก็คานไปหมด ก็ตามใจแกแลวกัน พอถึงหองพี่เคาก็รีบกินยา แลวก็ตรง
ดิ่งเขาหองอาบน้ําทันที พออยูคนเดียวก็มีโอกาสมองรอบๆ หองตัวเอง ไมอยากจะเชื่อเลยวาพี่เคาจะมาอยูดวยจริงๆ แตถึงไมอยาก
เชื่อก็ตองเชื่อเพราะวาตอนนี้หองของผมถูกยึดไปเรียบรอยแลว ขาวของที่เคยเปนของผมคนเดียวก็มีของพี่เขามาวางอยูขางๆ ทํา
อะไรไมไดนอกจากถอนหายใจ
ผมเอาโทรศัพทออกมากะจะชารทแบตอยางทุกวัน ก็เลยเห็นวามีสายโทรเขาสามสาย ของตาหนึ่ง เมธหนึ่ง ตรินอีกหนึ่ง กับหนึ่ง
ขอความจากลูกแพร ผมเลือกที่จะกดอานขอความ สิ่งที่ลูกแพรสงมานั้นยังคงเปนขอความสั้นๆ ในความหมายเดิมๆ อานแลวก็ให
ความรูสึกเดิมๆ เชนอานขอความตามหนากระดาษธรรมดาทั่วไป หัวใจของผมคงดานชาเสียแลวละมั้งกับคําวารักของเธอ แมจะ
พยายามสื่อมาใหแตมันก็มาไมถึงผมซะที ถามเธอหลายครั้งวาเหนื่อยไหมที่มารักคนอยางผม เธอก็ยันยืนคําเดิมวาเหนื่อยแตไมทอ

ตลอดสามเดือนที่ผานมาเธอยังคงขยันบอกรักผมเสมอ พยายามทําอะไรเหมือนคูรักที่เขาทํากัน ไปดูหนัง ไปกินขาว ไปเที่ยวดวยกัน


แตสิ่งที่เราทําอยูนี้มันก็เหมือนกับชวงเวลาสิบกวาปที่ผมรูจักกับเธอ ตอนนั้นเราก็ยังเปนเพื่อน ไปดูหนัง ไปกินขาว ไปเที่ยวดวยกัน
มันก็คือสิ่งเดิมๆ ที่เราทํากันตลอดมา ผมก็ยังเปนของผมอยางเดิม ปฏิเสธทุกครั้งที่ไมอยากไป วันนี้ก็เปนอีกวันที่วิ่งหนีเธอ ไมเอาใจ
ใชชีวิตไปเรื่อยๆ ตามเวลาที่เหลืออยู เพื่อนของเธอบางคนที่กลาหนอยก็เยาวาเราเปนคูรักที่ขาดน้ําตาล ผมก็ไดแตยิ้มเพราะเธอพูด
ถูก ผมมันไมหวาน ไมมีน้ําตาลในชีวิตเพราะที่เหลืออยูก็มีแตความขมขื่น

จากนั้นก็โทรกลับไปหาตาเสียหนอย ตาก็ถามวาเปนไงบาง หายดีแลวหรือ และยังถามอีกวาคืนดีกับเพื่อนหรือยัง ทําถามสุดทายนี้


อยากตอบวา “ยัง...มะ...มั้ง” แตก็ตองจําใจโกหกไปวา “ครับ” ตาจะไดเลิกหวง จากนั้นก็โทรหาเมธ เมธบอกวาเมื่อตอนกลางวันลืม
ถามเรื่องงานแตงงานของพี่ชายเมธที่จะจัดขึ้นกลางเดือนนี้ ตกลงผมจะไปกับมันไหมจะไดจองตั๋ว ถาเปนเมื่อกอนจะไมลังเลเลย แต
ตอนนี้พอไดยินชื่อแคภูเก็ตก็รูสึกหวาดๆ ยิ่งที่จัดงานแตงงานเปนโรงแรมเดิมที่ผมไปพักอีก มันก็รูสึกตะหงิดๆ ใจยังไงไมรู เลยบอก
ปดไปวาไวดูกอน ถาจะไปผมจะจองตั๋วเอง มันก็ทําน้ําเสียงเสียดายนิดหนอยเพราะอดเที่ยวดวยกัน อีกอยางลูกแพรก็ไปดวย นั่น
แหละ ยิ่งลูกแพรไปดวยผมยิ่งรูสึกไมดี ที่เดิมๆ กับคนเดิม แลวเหตุการณเดิมๆ มันจะเกิดขึ้นอีกไหม

วางสายกับเมธแลวก็เดินออกมานั่งดูทีวีครับ ปรกติไมคอยไดโทรกลับหาตรินหรอก นอกจากจะเลี่ยงไมไดจริงๆ ถึงคุยกัน กําลังดูทีวี


เพลินๆ ก็ถูกโอบกอดจากดานหลัง กลิ่นหอมออนๆ ของสบูที่คุนเคยโชยมาแตะจมูก ถึงไมมองก็พอรูวาเปนใคร แตมันก็อดที่หัน
กลับไปไมได แตพอผินหนากลับก็ดันบังเอิญไปจุบแกมพี่เขาที่เกยอยูที่ไหลซะงั้น เวรกรรม ไมไดตั้งใจนะเวย

“ฟอดดดดดดดดดด” ไอพี่บาก็รีบหอมคืนอีกตางหาก ยนคอหนีก็ไมทัน

“รักวินดี้จังเลยครับ” ไมวาเปลา กอดแนนกวาเดิมอีก ดิ้นไงก็ไมหลุด

“ปลอย จะกอดทําไมเนี่ย” ไมกลามองหนาแกอะครับ ถึงไมไดตั้งใจไปจุบแกแตพอถูกแกหอมคืนแลวมันก็เขินๆ ชอบกล

“การกอดเปนหนึ่งในภาษากายที่แสดงออกซึ่งความรักครับ”

“ไมไดรัก ไมตองมากอด”

“แตพี่รัก ก็เลยตองกอด” ผมละหนาย มีทางไหนที่จะเถียงชนะแกไดบางไหมเนี่ย


“อยากกอดหรืออยากใหโกรธ จะนับหนึ่งถึงสาม ถายังไมปลอยก็อยาหวังจะมาพูดดวย”

“โอๆ ปลอยแลวครับ แตที่รักตองรับผิดชอบพี่นะ” เจาเลหไดอีก ยอมปลอยแตยังมีขอแม

“รับผิดชอบอะไร” ตอบแกเสียงหวนไปดวยความหมั่นไส

“ก็นี่อะ เปนผื่นเต็มตัวเลย” ผมมุนคิ้วกอนขยับตัวออกมาหนอย จากนั้นก็หันกลับไปมองแก ไอพี่ทองไมไดใสเสื้อครับ มินาละเมื่อกี้


รูสึกเย็นๆ แตก็ไมไดสนใจเพราะอยากรูวาผื่นขึ้นจริงหรือเปลา แลวมันก็ขึ้นจริงๆ ดวยครับ แตไมมากหรอกแคบริเวณรอบตนคอกับ
หนาอกนิดหนอย แตพอแกหันหลังใหนี่สิ ตกใจเลย แผนหลังแดงเถือกเลยครับ

“ทําไมหลังมันแดงงี้ละ” เพิ่งเคยเห็นอะครับ ยิ่งแกเปนคนผิวขาวดวย ชัดเลย

“ก็ตอนขับรถมามันคัน เลยถูๆ กับเบาะรถหนอยเดียว” ผมสายหนา

“ไมจริงอะ ไปเกามันใชเปลา” คือผื่นมันแดงเปนแนวยาวอะครับ เปนลอนขึ้นตามลอยนิ้วที่ขูดไป ดูนากลัวยังไงไมรู

“อา...มั้งครับ สงสัยเผลอเกาตอนอาบน้ํา” แกตอบเสียงออย ผมถอนหายใจ

“วินดี้ทายาใหทีนะครับ พี่เอื้อมไมถึง ตอนนี้คันมากดวย” อยากแกลง ปลอยใหแกคันอยูอยางนั้นนะครับ แตไมรูทําไมมือดันไปควา


โลชั่นที่แกยื่นให เซ็งตัวเอง เลยตองจําใจปายยาไปตามแผนหลังของแก

“พรุงนี้เรียนเสร็จแลวไปไหนหรือเปลาครับ” พี่แกถามขณะที่ผมทายาให

“ก็ไมมีแผนไปไหน”

“งั้นเดี๋ยวพี่เลิกงานแลวเราไปซื้อของเขาบานกันนะ” พี่เขาผินหนามามองนิดหนอย

“ซื้ออะไรอะ”

“ก็พวกอาหารสด จะไดทํากับขาวกินเอง” ไดฟงแลวไมอยากเชื่อหูตัวเอง หนาตาอยางไอพี่ทองนี่นะจะทํากับขาว

“ใครจะทํา” สงสัยอะครับ ถึงแกจะเคยทําขาวตมใหครั้งหนึ่ง แตมันก็เมนูงายๆ ใครๆ ก็ทําได

“ก็ทําดวยกัน วินดี้กับพี่” นั่นไง นึกไวแลวไมมีผิด แตผมไมเอาดวยหรอกนะ ขอมาอยูดวยเอง แลวยังมาใหผมยุงยากอีก


“เรื่องอะไร ใครอยากทําก็ทํากินเองสิ จะไปกินนอกบาน”

“วินดี้ก็อยาใจรายกับพี่นักสิครับ ก็รูอยูวาพี่กินขาวนอกบานไมได ลองทําดูกอนนะ ถาไมไหววินดี้คอยออกไปกินขางนอกก็ได”


อยากจะอาปากปฏิเสธเหมือนกันนะครับ แตเห็นหลังเปนผื่นของแกแลวก็ตองกลืนคําพูดลงคอ วาแตเมื่อกอนแกกินอยูยังไง หรือวา
ทํากับขาวกินเอง จะใชเหรอ แตชางเถอะ เดี๋ยวคงรูเองแหละวาแกทํากับขาวเปนหรือไมเปน

“บอกไวกอนนะวาทํากับขาวไมเปน” ผมพูดพรอมกับยื่นขวดโลชั่นกลับไปใหแกเพราะวาทาจนทั่วแลว พี่เคาก็รับไวครับ

“ก็ไมเปนไรแคชวยหั่นผักก็พอแระ เดี๋ยวที่เหลือพี่จัดการเอง” พี่เขาพูดพรอมหันหนาระรื่นมาทางผม น้ําเสียงพี่แกนี่ดี๋ดามากเลยครับ

“แนใจนะวามันจะกินได” มุนคิ้วถามดวยความระแวงหนอยๆ ไมไดคิดไปเองนะครับ ผมเห็นแววเจาเลหในดวงตาของแกอะ

“ไมลองก็ไมรู เอางี้แลวกัน วินดี้อยากกินอะไรคิดเมนูไวเลยครับ คิดวาสี่หาวันนี้อยากกินอะไรบางแลวก็จดๆ มาวาอาหารแตละอยาง


ตองใสอะไร แลวเราก็ไปซื้อตามนั้น” ฟงแลวมันทะแมงๆ ชอบกล แตยังตามแกไมทัน เอะ...หรือวาผมจะคิดมากไปเอง

“จะจดไดไงวาใสอะไร ก็ทํากับขาวไมเปน”

“แหม...ที่รักพี่ออกฉลาด เปดเน็ตดูแปบเดียวก็รูแลวครับวากับขาวแตละอยางทํายังไง ใสอะไรบาง ถาไมอยากจดก็ปริ้นสูตรออกมาก็


ไดครับ งายดี คอยดูนะเวลาวินดี้ทองเน็ต เห็นหนาตาอาหารแลวจะเลือกไมถูกวาอยากกินอะไร”

“ยุงยาก” ผมอดที่จะบนไมได

“เอานา...วาแตทายาที่หลังแลวไมทาหนาอกใหพี่บางหรือครับ” กําลังจะหยิบขวดโลชั่นที่แกยื่นให แตก็ตองชะงักไปกอน ยิ่งสายตา


กรุมกริ่มนั่นดวยแลว ไมหลงกลหรอกเวย

“เรื่องอะไร มีมือก็ทาเองเลย” หันหลังใหเลยครับ ไมอยากมองหนาอกที่เต็มไปดวยกลามเนื้อนั่น ทวาเสียงหัวเราะ หึหึ ของแกยัง


ตามมากวนอารมณ หากแตวาเมื่อครูนี้มีบางอยางสะดุดตา ผมนิ่วหนากอนจะคอย ๆ หันกลับไปมอง

“เปลี่ยนใจแลวหรือครับ” เมินน้ําเสียงยั่วยวนของแก สายตาจับจองที่วัตถุซึ่งหอยอยูที่คอพี่เขา ผมเอื้อมมือไปจับขึ้นมาดู รูเลยวามือ


ตัวเองสั่นเล็กนอยเมื่อเห็นวาสิ่งนั้นคืออะไร

“สรอยของวินดี้ไงครับ พี่เก็บได ความจริงตั้งใจจะเอามาคืนตั้งแตวันกอนแลว” ผมเงยหนาขึ้น พี่เขายิ้มอุบอุนใหกอนจะถอดสรอย


ออกมา
“เดี๋ยวพี่ใสคืนใหนะครับ” ไมทันไดปฏิเสธพี่เขาก็เอื้อมมือมารอบคอผมพรอมกับสวมสรอยคอให สายตาผมยังจับจองที่จี้ซึ่งมัน
กลับมาแขวนบนคอของผมอีกครั้ง

“จะวาไปมันอยูบนคอวินดี้เหมาะที่สุดแลวครับ” พี่เขาวาพลางจับมือผมออกจากจี้

“วินดี้ไปลางมือกอนดีกวาครับ เปอนยา เดี๋ยวเผลอขยี้ตาแลวจะยุง” ผมพยักหนากอนจะเดินไปยังหองน้ํา รูสึกเหมือนสายตาของพี่


เขามองตามหลังผมมา แตก็ไมไดหันกลับไปมอง พอมาถึงอางลางหนาในหองน้ําก็ลางมือ เงยหนามองกระจกถึงไดเห็นตาตัวเอง
แดงๆ กระพริบหนอยเดียวน้ําตาก็ไหลก็ออกมา มันไหลออกมาเองนะครับ ผมไมไดรองไห

สุดทายผมก็ยกมือขึ้นขยี้ตาอยางที่ไอพี่ทองวาจริงๆ สูดลมหายใจลึกๆ ไมนานก็ควบคุมตัวเองได เปดน้ําแลวลางหนา แปรงฟนดวย


เลยก็ดี มือจับแปรงมา กําลังจะบีบหลอดยาสีฟนก็ตองชะงัก เพราะวาไอพี่ทองบีบยาใสแปรงไวใหแลว รูสึกแปลกๆ เหมือน
ความรูสึกหดหูเหมือนครูห ายไป แลวแทนที่ดวยความอุนวาบในหัวใจ เอาหลอดยาสีฟนกลับไปไวตามเดิม มองหนาตัวเองในกระจก
อีกครั้ง เห็นตัวเองยิ้มนิดๆ ไมเขาใจวาทําไมอุนใจ สายหนาใหตัวเองแลวแปรงฟน จากนั้นก็อาบน้ําซะเลย เผื่อจะรูสึกสมองโปรง
เขาใจอะไรขึ้นมาบาง
ตายๆๆๆๆๆๆ เผลอหลับไปตั้งแตตอนไหนก็ไมรู มันกี่โมงกี่ยามแลวเนี่ย พนฤกษสงตัวเขาหอหรือยัง คืนแรกที่ไดอยูดวยกันก็ดันผิด
เวลาซะแลว แบบนี้ไมดีเลยครับ ปลอยใหนองมันรอเกอ เกิดนองอารมณคางไดพานโกรธไมใหนอนดวยพอดี ผมงัวเงียลุกขึ้นจาก
โซฟา จําไดวานอนดูทีวีรอนองไปลางมือ แตดันหลับไป ตองโทษไอยาแกแพนั่นแหละครับ กินทีไรหลับไมรูเรื่องรูราวทุกที พอขยับตัว
ศอกทาวกับเบาะ ยกคอขึ้นมองซายขวาหานาฬิกาอยากรูเวลาและก็ถือโอกาสมองหาที่รักวาอยูแหงหนใด แลวก็เห็นวินดี้กมๆ เงยๆ
อยูหนาทีวี

“กี่โมงแลวครับ” นองสะดุงนิดหนอยกอนหันหนามาทางผม ในมือนองถือแผนซีดีหนังอยู

“สามทุมกวาแลว โทษทีที่ทําใหตื่น” อุย...ไมตองขอโทษเลยครับที่รัก ถูกใจมากมายที่สงเสียงเรียกใหเขาหอเนี่ย รอคืนนี้มานานแลว


จะปลอยใหโอกาสหลุดมือไปไดอยางไร จะวาไปก็หลับไปกวาสองชั่วโมงเลยครับ เสียดายเวลาจัง ปานนี้คงปล้ําลูกไดเปนโหลแลวมั้ง

“หลับตอเถอะ มาเอาแผนหนัง เดี๋ยวจะเขาไปดูที่คอมในหอง” หลับไมลงแลวครับ ตาคางแลว อยากดูหนังกับวินดี้ในหองเหมือนกัน


แตเปนหนังที่สงเสริมประสบกาม เอย...ประสบการณชีวิต เออ...มันก็ความหมายไมแตกตางกันเทาไหร เอาเปนวาหนังอยางวานั่น
แหละ แตถาชวนนองมันดูตอนนี้ จะแหวกหญาใหงูตื่นหรือเปลา งั้นขอไมลองเสี่ยงดีกวา เพราะคิดไวแลววา เรื่องแบบนี้ไมตองดูหนัง
ก็ได เดี๋ยวผมจะสอนนองเอง

“พี่ตื่นแลวครับ วินดี้จะดูหนังเหรอ ดูที่นี่ก็ได พี่จะไดดูดวย”

“อืม” นองขานรับกอนจะใสแผนเขาไปในเครื่องเลน ผมก็ลุกขึ้นนั่ง หมุนคอซายขวา รูสึกอยากดื่มน้ําขึ้นมา นี่ก็ตองโทษยาแกแพอีก


เหมือนกันครับ ถึงจะชวยใหหายแพแตกินแลวคอแหง เลยลุกเขาไปในครัว
“วินดี้อยากดื่มอะไรไหมครับ” รองถามนองดวย

“ไมอะ ไปใสเสื้อหนอยสิ เห็นแลวรําคาญตา” กมมองตัวเอง ก็จริงของนองมัน ไมไดใสเสื้อ แยจัง แผนยั่วไมไดผล ที่แทนองมัน


รําคาญตานี่เอง เห็นกมหนางุด ๆ ไมยอมเงยหนามามอง นึกวาเขินซะอีก

“หุนพี่ออกจะเทหขนาดนี้ ดูแลวมีแตเจริญตา” ตอบนองมันไปพรอมกับรินน้ําใสแกวแลวยกขึ้นดื่ม

“ถาอกอึ๋ม เอวบาง รางเล็กจะไมบนเลย” เปนงั้นไป วินดี้ก็นะ อยาพูดในสิ่งที่มันเปนไปไมไดสิครับ อยางพี่มันตองล่ําเพราะเกิดมา


เปนรุก จะใหเอวบางรางเล็กเพื่อมารับนี่ก็ไมไหวนะครับ ความจริงก็รูอยูหรอกวานองมันหมายถึงผูหญิง แตนาคินทรเมินครับ ไม
สนใจ ตัวบางๆ นาทะนุถนอมอยางวิ้นดี้นะ ตองซบอกอุนๆ ของผมละถูกแลว

ดื่มน้ําเสร็จก็เดินเขาหองครับ ไดเสื้อกลามมาตัว ก็สวมเลย แตแลวหางตาก็พลันเห็นภาพถายของวินดี้กับเพื่อนอีกสองคนซึ่งติดอยูที่


บอรดบนผนัง เห็นนองผูหญิงหนาสวย เอวบาง รางเล็ก อกคงอึ๋มมั้งเพราะเห็นเสื้อมันนูนขึ้นมา แถมยังยืนกอดเอวที่รักผมอยางแนบ
แนนซะดวย คราวนี้ก็เขาใจแลวละครับ คําวารําคาญตาที่วินดี้บอกนะมันรูสึกยังไง จะรอชาอยูใย ดึงภาพออกมาแลวกลับหนาหลัง
ปกมุดไวที่เดิม อืม...คราวนีเ้ หลือแตสีขาวอยางเดียวที่มองเห็น สบายตาแลวครับ เดินผิวปากออกจากหองไปดวยความสบายใจ

พอผมกลับมานั่งที่โซฟานองก็เปดหนังครับ ก็หนังสงครามแหละครับ ดูเงียบๆ กับนองไปไดสักสามนาที นาคินทรก็กลายรางเปนงู


ตามสัญชาติญาณ เลื้อยไปหานองครับ ตอนนี้ยังไมรัดตัวแตขอวางหัวลงบนตักที่รักกอน อืม...นิ่มกวาหมอนอีก แตหมอนใบนี้ก็จริงๆ
เลย จะอยูเฉยๆ ใหหนุนก็ไมได ดิ้นไปดิ้นมาอยูนั่นแหละ

“ลุกไปเลย” วาพรอมทําเสียงจิจั๊กในลําคอ ผลักหัวผมออกอีกตางหาก แตไมสนครับ ฝนคอไว ก็จะใหทําไงละ หลงเสนหหมอนเนื้อ


จนถอนทั้งหัวและตัวไมขึ้นแลวนี่

“จะลุกไมลุก” นองมันขูครับ

“หึ” ยังยืนยันคําเดิม

“แปก!!!” เวรกรรม ถูกนองมันดีดหนาผากเขาให

“หงะ...เจ็บ” มือลูบหนาผากตัวเองปอยๆ ปนหนาสําออยวาเจ็บและทรมานเหลือแสน แตนองมันเมินครับแถมขมขูน้ําเสียงนากลัวอีก

“ยังไมลุกอีก”

“วินดี้ก็ ขอพี่นอนดูไมไดเหรอ” นองทําเสียงฮึ่มๆ ในลําคอ


“งั้นก็นอนไป เดี๋ยวไปเอาหมอนมาให”

“หนุนตักวินดี้แหละดีแลวครับ”

“ดีคนเดียวนะสิ หนักจะตายแลวนี่” อยาพูดอยางนี้สิครับ นี่แคหัวเองนะ ถาทั้งตัวนองจะรับน้ําหนักพี่ไหวหรือครับ แตก็นะ จะวาไปก็


ไมนากังวลเทาไหร เพราะแตละทาก็ไมไดทับนองทั้งตัวอยูแลว

“จะเปนแฟนพี่ตองอดทนครับ” เตือนไวกอนครับ เพราะคืนนี้ดูจะหลายทาแลวก็นาน คงทํานองเหนื่อยไมนอยเลย

“งั้นก็ไมทนเพราะไมคิดจะเปนแฟน”

“พี่ก็ไมขอวินดี้แคเปนแฟน แตจะขอเปนคูชีวิต” วาจบก็ดึงมือนองมาจูบครับ จากนั้นก็ประสานนิ้วกับนองแลววางไวที่หนาอกของผม


วินดี้ก็จะดึงมือกลับตามสไตรนองมันแหละครับ แตผมไมปลอย อยากใหนองสัมผัสหัวใจของผมที่เตนอยู ไดยินไหมครับวินดี้วามัน
บอกวา “รัก” คนๆ นี้มากมายขนาดไหน วินดี้ไมพูดอะไรหลังจากนั้น นองหลบตาแลวแสรงหันไปสนใจจอโทรทัศนอีกครั้ง ปลอยให
ผมนอนหนุนตักและกุมมือนองไว ถึงหนังที่ดูจะเปนหนังสงคราม แตผมก็กลับรูสึกวาเลือดที่สาดอยูนั่น...มันมีแตสีชมพู
จังหวะการเตนของหัวใจไอพี่ทองที่อยูใตมอื ผมนั้นมันรัวเร็วไมตางจากผมเลย สายตาที่บอกความหมายซึ่งสื่อมาพรอมคําพูดนั้นทํา
ใหผมไมสามารถตอตาได แสรงสนใจภาพในจอทีวีตรงหนา ทวาในหัวกลับวางเปลา เหมือนจะสัมผัสกับอะไรบางอยาง แตก็ดู
เลือนลางไมแนใจวาสิ่งนั้นคืออะไร หากถามวาผมรูสึกยังไงกับผูชายคนนี้ ผมคงจะยังใหคําตอบที่แนชัดไมได แตความรูสึกเมื่อเจอ
กันครั้งแรกกับเวลานี้มันมีบางอยางเปลี่ยนไป “ระแวงและหวาดกลัว” ความรูสึกนี้เหมือนจะคอยๆ จางลง ผูชายที่เอาแตใจ บา
อํานาจ เจาเลห กวนโมโห หนาดาน แตกลับมีนัยนตาที่อบอุนและยิ้มไดอยูตลอดเวลา อยากรูนักวาในหัวพี่เขาเคยมีเรื่องทุกขรอนใจ
อะไรหรือเปลา เพราะทาทีที่แสดงออกมานั้นบงบอกวาชางเปนคนที่ใชชีวิตไดคุมคาเหลือเกิน ดูจะมีความสุขกับทุกวินาทีที่ผานไปจน
นาอิจฉา

เมื่อเวลาผานไปครูใหญพรอมเสียงของไอพี่ทองที่เงียบไปทําใหผมกมลงมอง พี่เขาหลับไปอีกแลวครับ นอนงายมากแตก็ไมรูวาเปน


เพราะฤทธิ์ยาหรือเปลา ไดยินตอนหัวค่ําบอกวายาแกแพทําใหแกงวง เห็นแบบนี้แลวคงจะเปนอยางนั้นจริงๆ ผมละสายตาจากดวง
หนาของแก แลวพยายามสนใจภาพในจอโทรศัทนอีกครั้ง แตก็ดูเหมือนวาหนังที่ดูอยูเริ่มไมสนุกและดูไมรูเรื่อง ผมจึงปดโทรทัศน
แลวคอยๆ เอื้อมมือไปหยิบรีโมทยเครื่องเสียง

“อืม...” พี่เคาครางแผวเบาในลําคอเมื่อผมขยับตัว รางหนานอนตะแคง มือแกรงโอบเอวผมไว ลมหายใจอุนๆ ผานเนื้อผาของชุดนอน


เปารดหนาทองของผม ทําใหขนลุกซูขึ้นมาโดยไมรูตัว ไวเทาความคิดผมคอยๆ จับดวงหนาของแกใหหันออกหาง พี่เคาก็ขยับ
ตัวอยางวางาย ลมหายใจเขาออกอยางสม่ําเสมอนั่นทําใหผมเขาใจวาพี่เขายังคงหลับอยู ทานอนที่ดูมีความสุขทําใหผมไมกลากวน
...หรือ...แทที่จริงแลวผมอยากจะอยูแบบนี้อีกสักพักก็ไมแนใจ

ผมกดรีโมทยเปดเพลงเบาๆ จากเครื่องเลนซีดี จากนั้นก็หลับตา ปลอยความคิดใหหลุดลอยไป นานเทาไหรไมรู พอรูตัวอีกที น้ําเสียง


อบอุนก็ปลุกผมใหตื่นขึ้นมา
“วินดี้ครับ” ผมปรือตาขึ้นตามเสียงเรียก เห็นใบหนาไอพี่ทองอยูไมหาง

“เขาไปนอนในหองดีกวาครับ” เหมือนจะยังตื่นไมเต็มตา ผมจึงไดแตพยักหนารับ พี่เขาถอยหางออกมานิด แตพอขยับตัวผมตองเบ


หนา รูสึกหนาขาตัวเองชา

“เปนอะไรครับ เหน็บกินเหรอ” ผมพยายามเหยียดขา แตก็ไมไหว แสดงวาคงจะหลับนานพอสมควรแลวละ มองไปยังผนังหองครัวที่


มีนาฬิกาแขวนผนังติดอยู จะตีหนึ่งแลวหรือนี่

“ไมตองขยับนะครับ เดี๋ยวพี่อุมเองนะ” พี่เขาลุกขึ้นกอนจะกมมาอุมผม เมื่อตัวลอยขึ้นผมก็โอบแขนรอบคอพี่เขาไวกลัวตก

“เจ็บมากไหม ขอโทษนะครับ กินยาแลวมันงวง หลับไปนานเลย” พี่เขาบอกขณะที่กาวเดินไปยังหองนอน เมื่อถึงเตียงก็วางผมลง


อยางเบามือ

“หลับตอเถอะครับ เดี๋ยวพี่จะออกไปปดไฟกอนนะ” น้ําเสียงนุมนวลที่กระซิบแผวเบานั่นทําใหผมปดตาลงอีกครั้ง

“ฝนดีครับที่รัก” สัมผัสแผวเบาที่ริมฝปากกอนผาหมจะคลุมกาย ในความเลือนลางกึ่งหลับกึ่งตื่น ความระแวงและความกลัวก็ปลุก


จิตสํานึกผมใหตนื่ ขึ้นมา ดวงตาที่งัวเงียของผมเบิกโพลง ถึงสมองจะชาไปบางแตก็เริ่มทํางาน ในเวลานั้นรูสึกเหมือนตัวเองกําลังเดิน
อยูกลางสะพานแขวน ขางลางเปนเหวลึก ความจริงผมมีสองทางเลือกที่จะเอาตัวรอด

หนึ่ง...คือเดินไปขางหนา

สอง...คือกาวถอยหลังออกมา

แตผมกลับเลือกทางเดินที่สาม...คืออยูนิ่งๆ ใหคนที่อยูขางกายผมขณะนี้เปนคนนําทาง ผมกําลังวัดใจกับเขา คําพูดที่พร่ําบอก คํา


สัญญาที่เคยให กับคําวารักที่กรอกหูอยูตลอดเวลา มันจะเปนเพียงลมที่มองไมเห็น จับตองไมได หรือเขาจะทําใหผมสัมผัสสิ่งเหลานี้
ดวยการกระทํา

ที่นอนขางๆ ยวบลงพรอมกับรางหนาที่เอนตัวลง ผมนับลมหายใจเขาออกของตัวเอง บังคับหัวใจใหเตนเปนปรกติ หนึ่งวินาทีที่กาว


ผานมันชางเชื่องชาเสียเหลือเกิน

“รอนหรือครับถึงเหงื่อออก” น้ําเสียงที่เคยอบอุนนั่นยังคงอบอุนอีกครั้งเมื่อไดฟง สัมผัสแผวเบาที่ลูบไปตามไรผมที่หนาผากยังให


ความรูสึกดี ชั่ววินาทีหลังจากนั้นพี่เขาก็ลุกขึ้น ผมไดยินเสียง “ติ๊ด ติ๊ด” พี่แกคงไปเปลี่ยนอุณหภูมิของแอรปรับอากาศ จากนั้นก็
กลับมานอนขางๆ ผมอีกครั้ง หมอนที่ผมหนุนอยูคอยๆ ถูกดึงออกพรอมกับคอผมที่ถูกชอนขึ้นกอนจะวางลงอีกครั้งทีไ่ หลของพี่เคา
จากนั้นผมก็ถูกโอบกอดดวยวงแขนแกรง
“กลัวพี่หรือครับ” กระซิบถามขณะที่ริมฝปากอยูแนบชิดกับหนาผากราวกับอีกฝายรูวาผมแกลงหลับ ลมหายใจอุนๆ ที่รดหนาผาก
นั้นทําใหผมรูสึกแปลกๆ มือหนาที่ลูบแผนหลังอยางออนโยนชวยใหผอนคลายมากขึ้น

“ไมมีอะไรตองกลัวเลยครับ หลับเถอะ พี่สัญญาแลวไงครับวาจะไมทําอะไร พี่จะรอจนถึงวันที่วินดี้ยอมเปนของพี่อยางเต็มใจ” คําพูด


ที่ย้ําคําสัญญานั่นเปนเหมือนกับน้ําที่ราดบนกองไฟของความระแวง เปลี่ยนความกลัวใหเปนความเชื่อใจ คําพูดที่มองไมเห็นแตผม
กลับสัมผัสมันได ออมอกที่ซบกลายเปนปราการปองภัย มั่นคงและแนนหนาจนผมอยากจะแนบหนาไวที่ตรงนั้น มือที่กําแนนของ
ตัวเองคลายออกกอนจะเอื้อมไปโอบกอดตอบเขาอยางไมรูตัว ปากเอยคําที่สะทอนกึกกองภายในใหอีกฝายไดรู

“ขอบคุณนะ”

“ขอบคุณเชนกันครับที่เชื่อใจ”

คําพูดที่โตตอบกลับมาทําใหหัวใจของผมคอยๆ ลดระดับจังหวะการเตนลงจนกระทั่งเปนปรกติและเขาสูนิทราในที่สุด...นานแคไหน
แลวนะที่ไมไดหลับสบายอยางนี.้ ..ไมตองกลัว ไมตองกังวล ไมตองสะดุงตื่นมากลางดึกดวยฝนราย และไมรูสึกวาวาเหวโดดเดี่ยว
อยางที่เคยรูสึกเสมอมา
เสียงนาฬิกาปลุกที่ดังขึ้นในตอนรุงสางทําใหผมรีบเอื้อมมือกดปด กอนจะลูบแผนหลังคนในออมกอดที่เริ่มขยับตัวเปนเชิงบอกให
นอนตอเพราะยังไมถึงเวลาที่นองตองตื่น จากนั้นก็คอยๆ ดึงแขนตัวเองออกแลวใหนอนหนุนหมอนแทน ดวงหนาจิ้มลิ้มที่หลับตาพ
ลิ้มอยูนั้นทําใหผมเผลอยิ้ม ความจริงกับความฝนมันชางตางกันนัก เคยคิดเลนๆ วาถาคนแรกที่เห็นตอนลืมตาตื่นคือวินดี้จะรูสึกดี
ขนาดไหน คําตอบที่ไดคืออิ่มเอมดวยความสุขจนหัวใจพองโตคับแนนอก เปนความรูสึกที่ยากเกินบรรยายดั่งที่ผมกําลังรูสึกในเชา
วันนี้

เรียวปากที่แยมนิดๆ เหมือนกําลังยิ้มของนองทําใหผมสงสัยวาวินดี้กําลังฝนดีอยูหรือเปลา แลวในฝนนั้นจะมีผมอยูบางไหม ดวย


ความรูสึกที่อยากเปนคนที่นองคํานึงถึงไมวาหลับหรือตื่น ทําใหผมกมลงไปกระซิบคําวารัก หวังวามันจะซึมซับเขาไปยังหวงฝนของ
นองบาง ถึงไมมากแตนอยนิดก็ยังดี จากนั้นก็ขยับตัวลุกจากเตียงใหเบาที่สุดกอนจะยืดเสนยืดสาย ไลความเมื่อยลา

นึกถึงเรื่องเมื่อคืนก็สุขใจอยางบอกไมถูก สามเดือนกอนหนานี้ชีวิตผมแสวงหาใครสักคนมาเติมเต็มชีวิต ใครสักคนที่จะหยุดความ


เสเพลและรอนเรไรจุดหมายของผม ผูกพันกันโดยไมใชความสัมพันธทางกาย ผมเคยเห็นพอหยิบขลุยมาเปา เพลงเดิมๆ ที่บรรเลง
แลวบรรเลงอีก พอเลนมันซ้ําอยูอยางนั้นอยางไมเบื่อ ตั้งแตผมเปนเด็กจนโต ทุกครั้งที่เพลงจบพอจะแหงนหนามองฟา มองพื้นที่วาง
เปลาที่กวางใหญหาที่สิ้นสุดไม แลวพอก็ยิ้มอยางสุขใจ ความรักที่พอมีใหกับแมกําลังทําใหพอยิ้ม ชวงเวลาแหงความสุข เรื่องราว
ความทรงจําที่ยังตราตรึงในหัวใจของพอตลอดมา ไมใชอดีตแตเปนปจจุบันสําหรับพอเสมอ ไมวากาลเวลาจะผานไปนานเทาไหรก็
ไมอาจลบความรูสึกนั้นไปจากใจพอได

ผมอยากมีความทรงจําอยางนั้นบาง หวนกลับมานึกถึงชีวิตที่ผานมาของตัวเอง แมจะมีความสุข มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ แตก็ยัง


รูสึกวาชีวิตตัวเองแหงแลง ผมยังรูสึกหนาวและเหงายามอยูคนเดียวเพราะไมรูจะคิดถึงใคร จนกระทั่งไดเจอกับนอง เรารูจักกันดวย
ความสัมพันธทางกาย แตนองก็สอนใหผมไดรูจักคําวา “รัก” เมื่อคืนที่ผานมาไมใชเรื่องยากเลยหากผมจะฝนใจนอง แลวตอบสนอง
ความตองการทางกาย แตผมก็ไมคิดที่จะทํา เพราะนี่ไมใชสิ่งที่ผมแสวงหาอยู ผมกําลังกลัววาเรื่องมันตองวนกลับมาที่เดิมอีกครั้ง
อยางที่เราเจอกันครั้งแรก แลวถามันเปนแบบนั้นจะมีประโยชนอะไรละกับสิ่งที่ทําลงไปทั้งหมด เพราะสิ่งที่ผมทํามาทั้งหมดไมใชผม
ทําเพราะ “หลง” แตทําเพราะ “รัก” ถาทําใหนองเชื่อใจไมได หลังจากนี้คําพูดทุกคําก็คงเปนเพียงลมปาก...หากแตอานุภาพของ
ความรักที่ผมมี ลมซึ่งออกจากปากนาคินทรคนนี.้ ..วินดี้จะตองสัมผัสได

ผมควาผาเช็ดตัว เดินเขาหองน้ําเพื่อทํากิจวัตรประจําวัน ไมลืมเตรียมแปรงสีฟนไวใหนองดวย พอรักแลวก็แปลกนะครับ เราอยาก


ทําทุกอยางใหเคา แมจะเรื่องเล็กนอยก็ตาม พอทําแลวก็มีควาสุขดี...เอาละที่พูดมาทั้งหมดนั่นคือนาคินทรในภาคพระเอกเดี๋ยวจะ
เลี่ยนกันเสียกอน มาดูอีกมุมหนึ่งของผมบาง ความจริงผมเปนสุภาพบุรุษในคราบซาตาน แตก็ไมไดเลวรายจนถึงขั้นพญามารนะ
ครับ อยางเรื่องยาสีฟนเนี่ยก็กําลังวางยาเสพติดใหนองมันอยู เสพแลวติดผมนะครับ ไมใชยาอยางอื่น ก็แหม...คนเราถามีคนทํา
อะไรใหทุกวันก็ตองมีชินกันบางละนา แลวพอวันหนึ่งผมเกิดไมอยู นองจะไดจําไดไงวาสิ่งเล็กนอยเหลานี้ผมเคยทําให...ทุกอยางมี
แผนการซอนอยูเสมอ...คติประจําใจแหละครับ

ตอนนี้ตองเรงทําคะแนนครับ เพราะบางทีตองหางนองสักระยะเพราะวางานคงปลีกตัวไมได กลางเดือนนี้เอเปกจะมีการประชุม


การคาครับ ไทยเปนเจาภาพแลวโรงแรมเราก็ไดอภิสิทธิ์รับรองแขกที่มาประชุม ก็เลยตองเตรียมตัวกันใหมากหนอย ไมใชแคช่อื เสียง
ของโรงแรมเทานั้น แตหมายถึงหนาตาของประเทศดวย หลังประชุมเสร็จบางคณะก็จะอยูเที่ยวตอ แลวสาขาตางจัดหวัดของเราที่
เขาวางแผนจะไปก็ไดรับรองเชนกัน พออยากใหทุกอยางเรียบรอย เลยใหผมลงไปคุมดวยตัวเอง โดยเฉพาะในสาขาตางจังหวัดครับ
ก็คงตองวิ่งขึ้นวิ่งลงกรุงเทพสักพัก เอาเปนวากอนจะถึงวันนั้น ตองใหวินดี้เสพติดผมใหไดกอนละครับ

พออาบน้ําเสร็จก็เขาหองมาแตงตัว หันไปมองที่เตียงก็ไมเห็นนองซะแลว แตแลวตองอมยิ้มกับการเปนแมบานแมเรือนของนอง วินดี้


เปนคนที่มีระเบียบมากทีเดียว ผาหมบนเตียงพับเก็บไวเรียบรอย แตที่ชื่นใจมากที่สุดคือมองเห็นหมอนสองใบวางเคียงคูกัน เฮอ...
นึกแลวก็อยากกอดนองรับอรุณสวัสดิ์จัง...วาแตไปไหนของเคาแลวละเนี่ย รีบใสเสื้อผา ยองออกจากหองไปอยางเงียบเชียบ วา...ที่
หองนั่งเลนก็ไมมี หองครัวก็ไมเห็น หองน้ําก็เพิ่งออกมาเมื่อกี้ แลวนองมันไปไหนเสียละ

เดินดุมๆ ไปยังระเบียง แลวก็เห็นที่รักอยูที่นั่นครับ กําลังฉีดสเปรรดน้ําตนไมที่แขวนอยู ยอง(อีกแลว) เขาหานองดานหลัง

“หมับ!!!” ควาเขาที่เอว แลวตามมาดวย

“ฟอดดดดดดด” หอมแกมรับอรุณครับ

“มอนิ่งครับวินดี้” กําลังจะยิ้มใหนองแตตองหุบยิ้มโดยฉับพลันพรอมกับหลับตาป เพราะนองตอนรับมอนิ่งผมดวยละอองน้ํา


จากสเปร ฉีดใสเต็มหนาเลยครับ

“หึหึ สมน้ําหนา” นั่นคือเสียงหัวเราะกับคําทักทายในเชาที่สดใสที่ของผมครับ หมดกันเลย คนจะหวานดันเอาน้ํามารดกันซะงั้น


“เปยกอะ” วาพรอมเอาหนาไปถูๆ กับหลังนองมันครับ

“เฮย...ไมเอาเดี๋ยวเปยก” อาว...ทําหนาผมเปยกแลวก็ตองรับผิดชอบสิ วินดี้เอี้ยวตัวหลบไปมา ผมก็กอดนองไวไมใหดิ้นไปไหนได

“ไอพี่ทอง พอแลว อะ...นี”่ นองวาแลวเอี้ยวตัวกลับมาหาผม ยื่นขวดเสปรฉีดน้ําให ผมก็รับมาแบบงงๆ ปลอยนองจากออมแขน

“ทําตอใหที วินจะเขาไปลางหนาแปรงฟน” วาจบนองก็เขาหองไปครับ ผมยังมองขวดเสปรอยูในมือ กระพริบตาปริบๆ เดี๋ยวกอนนะ


ขอรีเพลยกลับไปฟงอีกทีวาเมื่อกี้นองมันวาอะไรกับผมนะครับ

...ทําตอใหที วินจะเขาไปลางหนาแปรงฟน...

.................วินจะเขาไปลางหนาแปรงฟน...

................วิน!!!!!!!!!!!!!!

อะจากกกกกกกก ยากกกกกกกกก เยยยยยยยยยยย เฮยยยยยยยยยย เยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

นองมันแทนชื่อตัวเองกับผมแลวครับ!!!!!!!!!!!!!

“วินดี!้ !!!!”

“จะตะโกนเรียกทํา...เฮย...ไอพี่ทองบา...ปลอยเดี่ยวนี้นะ!!!!” ไมทันแลวครับ ผมวิ่งเขาไปโอบเอวนองมัน ยกแลวเหวี่ยงหมุนไปรอบๆ


หอง ดวยความดีใจ กอนวางนองลง หอมแกมนองแรงๆ ไปหลายที จากนั้นก็ดึงเขามาสูออมกอดอีกครั้ง
โอย...ผมดีใจจัง ตนรักที่ผมปลูกคงจะไมเฉาตายแลวใชไหมครับ!!!!!!
ไอพี่ทองไปทํางานแลวครับ พอถึงที่ทํางานก็สงsmsมาบอกวาถึงแลว ไมรูแกเปนอะไรมากไหม จะทําอะไรอยูที่ไหนตองรายงานใหรู
ตลอด ไอเราก็ใชวาอยากจะรู เวลานั่งเรียนก็ถูกลูกแพรกับเมธขนาบขาง ถึงจะตั้งระบบสั่นไวไมมีใครรูแตพอขอความเขามาทีพลอย
ทําใหสะดุง แตไมกลาเปดอาน ตองรอใหเลิกเรียนกอน เรื่องขอความคงตองยอมแกละครับเพราะวันนี้พี่เขาใหขับรถมาเรียนเอง ก็
เปนอันวาเจอกันครึ่งทางอยางที่พี่แกบอกไว

วันนี้เรียนเชาครับ เรียนเสร็จแลวก็ไปกินขาวกับเมธพรอมลูกแพร แลวก็ไปเดินดูโนนดูนี่กันนิดหนอย กอนไปก็ทําตามสัญญาครับ


บอกแกนิดหนึ่งวาจะไปสยามกับเพื่อน แกก็บอกวาขอใหสนุกแตไมวายกวนใหอารมณขุน “ตองนึกถึงหนาพี่ทุกครั้งเวลาหยิบเสื้อ
ขึ้นมาดู” ดูเอาแลวกัน ยังบาอํานาจออกคําสั่งเสมอตนเสมอปลาย เชอะ...ใครจะสน ถาจะซื้อจะดูก็ตองนึกถึงหนาตัวเองสิ จะไปนึก
ถึงแกทําไม

“เอ็กเอลใหญไปกุล ของมึงอะตองเอส” เมธมันมาแยงเสื้อเชิ้ตที่ผมดูอยูแลวเอาไซนเอสมายัดใสมือผมครับ


“ใสเขาไปก็เปนชุดนอนพอดี หรือวามึงจะซื้อใหใคร” เอาละสิ พอเจอคําถามแบบนี้เขาก็อึ้ง ตัวผมเองก็ไมเขาใจครับวาทําไมจับไซน
ใหญมาดู ไมไดคิดอะไรเลย เห็นเสื้อสีเรียบดี แลวนาจะเหมาะกับ...เออ...ใครบางคน เลยหยิบขึ้นมาดู ไมไดคิดวาจะซื้อหรืออะไร
ทั้งนั้นครับ

“เห็นสีมันสวยดีเลยหยิบมาดูดีไซนมันนะ ไมไดคิดจะซื้ออะไรหรอก” มันคือความจริงที่ผมรูสึกครับ แตทําไมไมกลาสบตาเมธก็ไมรู

“แปลกขึ้นทุกวันนะมึงนี่ เชิ้ตแบบนี้ตองใสกับสูทคนทํางาน”

“อาวเหรอ...หนาอยางกูใสแบบนี้ไมไดหรือไง” แสรงถามมันไปครับเพราะไมรูจะเลี่ยงยังไง ความจริงเมื่อเชาก็เห็นไอพี่ทองใสสไตรนี้


เหมือนกันครับ ดูแปลกตาไปอีกแบบ ออกเครงขรึมและนาเกรงขามอยูในที พอบอกวาใสแลวดูดี พี่แกหนาบานใหญเลย แถมยังบอก
อีกวาพอเดินเขาบริษัททุกคนคอมหัวใหแกหมด ยกเวนทานประธานฯ ผมวาที่เขาคอมใหนะ คงไมอยากดูหนายี่ยวนของแกใหเสีย
อารมณมากกวา

“ก็เออนะสิ อยางมึงกลับไปใสเสื้อหมีพูหเหมือนเดิมละดีแลว” มันพูดยิ้มๆ พรอมยักคิ้วขางหนึ่งใหผมครับ

“ดีเลยงั้นไปดูกัน เดี๋ยวกูจะซื้ออียอใหมึงอีกสักตัว” หมั่นไสมันครับ ผมจะมีเสือ้ ยืดลายหมีพูหหลายตัวครับ เอาไวใสเลนเวลาอยูบาน


คือใสมาตั้งนานแลวครับ มันก็เลยชิน พอเห็นลายที่ออกมาใหมก็อยากซื้อเก็บไว กลายเปนคอแลคชั่นไปแระ เมธมันก็เลยชอบลอวา
ทําอะไรไมสมวัย หมั่นไสมันเลยซื้ออียอใหมันตัวแลวบังคับใหใสดวยกันซะเลย อียอคือตัวลาหูลู หนังตาตก หนาบื้อ ๆ คลายหนามัน
นั่นแหละครับ เวลาเห็นมันใสที่ไรอยางขํา เหมือนกันยังกะพี่นอง
“อาวทําไมไปเลือกทิกเกอรละ” อันนี้เสียงของลูกแพรครับ เธอทักเมื่อเห็นผมหยิบเสื้อลายทิกเกอรในรานขายของดีสนียมาดู ทิกเกอร
คือเสือตัวสีเหลืองอะครับ เมื่อกี้ไปดูเสื้อพูหปรากฏวามีทุกตัวแลว ก็เลยจับๆ ดูลายอื่นบาง จะวาไปกลุมเราก็บาครับ ตอนแรกผมอะ
ใสเสื้อของหมีพูหคนเดียว สมัยเรียนมัธยมตนโนนนะครับ พอถูกเมธมันลอเลยไปซื้ออียอแลวบังคับมันใสอยางที่บอกกอนหนานั้น
คราวนี้พอลูกแพรเห็นก็ดันอยากไดบาง เลยซื้อพิกเล็ตใหลูกแพรไปตัวครับ หมูนอยตัวสีชมพูอะครับ มันนารัก เขากับลูกแพรดี คราว
นี้เวลามานอนติวหนังสือกันที่บานผมหรือวาบานเพื่อนคนอื่นก็ใสเสื้อพวกนี้พรอมกัน ความจริงเมธกับลูกแพรเห็นผมใสนั่นแหละเลย
ใสตาม ก็ทําตัวยังกับพูหและเดอรแก็ง พูดมาถึงตรงนีแ้ ลวก็รูสึกไมอยากเลาตอขึ้นมาเลย อายที่ตัวเองทําตัวนารักกุกกิ๊กเกินหนาตา

แตเรื่องไมจบแคนั้นนะครับ พอขึ้นมหาลัยมีบางครั้งที่พวกเราตองทํางานดวยกัน ตรินก็ดันเห็นพูหแอนดเดอรแก็ง นายนั่นก็ดันบาจี้


กับเขาอีกคน บอกอยากเปนหนึ่งในเดอรแก็ง เอาเขาไป แถมยังมาขอใหผมเลือกใหอีก เมธมันคงรําคาญมั้ง เลยประชดตรินไปวา
อยางตรินนะมันพวกหูตั้งแตหางจุกตูด ผมก็ไมรูหรอกวามันหมายความวายังไง เห็นบอกวาตรินเหมาะกับแรบบิตมากที่สุด มันก็นะ
ไมวาเปลา ไปซื้อมาใหเขาอีก ตรินก็ทําหนาปุเลี่ยนๆ ไมอยากใส แตความจริงแรบบิตที่เปนตัวกระตายตัวเดียวนี่หายากนะครับ ไม
คอยมีขายหรอก ไมรูเมธมันหามาจากไหน แตไมมีทางเลือกครับ ตรินก็เลยรับมา เลยกลายเปนวาตัวทิกเกอรน่ียังไมมีใครยึดครอง
ครับ
“จะซื้อทิกเกอรหรือมึง เมื่อกอนไมเห็นสนใจ หรือวามึงจะซื้อใหใคร” เสียงมันมาอีกแลวครับ ไอเมธหลังอาน มายืนขางๆ ลูกแพร ถาม
คําถามเดียวกับตอนอยูในรานขายเสื้อเมื่อครูเลย พวกคุณๆ ทั้งสองจะอะไรกับผมมากไหมครับ ความจริงผมก็ไมไดคิดจะซื้อใหใคร
นะครับ แคของตัวเองไมมีใหซื้ออะ เลยเลือกๆ ดูอยางอื่น พอเห็นตัวทิกเกอรเวลาทําหนาเจาเลหแลวเหมือนใครบางคน เลยดูไป
เรื่อยๆ วานอกจากทําหนาอยางนี้แลวมีแบบอื่นไหมก็เทานั้นเอง

“ก็ดูไปเรื่อยๆ อะ วาแตตัวนี้เหมาะกับมึงนะเมธ” ผมเปลี่ยนเรื่องครับ หยิบเสื้ออียอตัวเดียวมาทาบกับตัวเมธ มันเปนภาพอียอทํา


จมูกฟุตฟตอยูกับรวงน้ําผึ้งครับ คลายกับมันเลย เสียดายอียอไมหลังอาน ไมงั้นแฝดไอเมธชัวร

“แตลูกแพรวาตัวนี้เหมาะกวา” ลูกแพรก็ไปหยิบเสื้อที่มีอียอมาอีกตัวครับ

“ไมอะ เมธวาเอาตัวนี้ดีกวา” เมธแยงพรอมหยิบอีกตัวออกมา มันเปนลายรวมกัน ทั้งพูห อียอ แลวก็พิกเล็ต

“แบบรวมก็ดีนะ” นาน ผมก็บาไปกับพวกมันอีก

“ใช จะไดซื้อสามตัวเอาเหมือนกันเลย”

“มันไมมีแรบบิตนะลายนี้ เอาตัวนี้ดีกวามีครบทุกตัวจะไดซื้อไปฝากตรินดวย” ลูกแพรแยง

“จะซื้อไปฝากมันทําไมไอตีนนะ ไมเอา ตัวนี้แหละดีแลว” อันนี้เสียงเมธครับ ไมวาเปลามันทําหนามูทอู ีกดวย

บทสนทนานี้เปนของนักศึกษามหาวิทยลัยชั้นปที่สามครับ ไอคนที่ผมยัดเหยียดเสื้ออียอใหมันตัวโตอยางกับตึก สวนตัวผมเองก็ตัว


เล็กลงมาหนอย สวนผูหญิงอีกคนก็สาวสวยครับ ใสกระโปรงนักศึกษาสั้นๆ ผมดันเปนลอน ดูเซ็กซี่และมั่นใจในตัวเอง แตทั้งสาม
กําลังเถียงกันเรื่องเสื้อวินนี้เดอรพูห อยูในรานขายของดีสนีย รอบขางมีแตของกุกกิ๊กๆ นารักสําหรับเด็ก และแนนอนรอบๆ ตัวทั้ง
สามก็มีเด็กประถมและเด็กอนุบาลที่มากับคุณพอคุณแมเปนสวนใหญ นึกแลวก็เกิดอายขึ้นมาเลยครับ เลาตอไมไหวแลว ลูกแพรยัง
ดูนารักอยู แตไอเมธหนาปลาบูกับผมนี่สิ ไมอยากพูดถึงเลย

หลังจากแยกกับคนอื่นๆ ผมก็กับคอนโดครับ ไมมีอะไรจะทําก็ทองเน็ต แลวก็เลยหาดูรายการอาหารดวยเลย พอเห็นภาพอาหารแลว


ก็เหมือนไอพี่ทองบอกไวเลยครับ อันนั้นก็อยากกิน อันนี้ก็นาอรอย เยอะแยะเลือกไมถูกแตก็ตองจําใจเลือกมาแคสี่หาอยาง ไมรูวา
แกทําแลวจะกินไดหรือเปลา ไมมั่นใจพี่แก กลัวเสียของเลยอานวิธีทําดู ดูๆ ไปมันก็ไมยากนะครับ คิดวาตัวเองนาจะทําได แตอรอย
ไหม อันนี้ไมรู
“ที่รักครับ กลับมาแลวครับ” เสียงมากอนตัวแลวครับ ความจริงกอนออกจากที่ทํางานพี่เคาก็สงขอความมาบอกแลวละครับ ก็พอกะ
เวลาไดวาใกลมาถึงแลว พอไดยินเสียงพี่เขาก็ปดคอมครับเพราะจะออกไปซื้อของกัน

“เปนไงบางครับ ไปกับเพื่อนสนุกไหม” ไมถามเปลานะครับ เดินมากอดดานหลัง จากนั้นก็หอมแกมกอนเอาคางมาเกยไหล เนี่ย


สงสัยจะทาประจําแก จะเอี้ยวตัวหลบ หันหนียังไงก็ไมพนครับ ลองมาหลายครั้งแลว เลยอยูนิ่งๆ ไมเปลืองแรงดิ้นดีกวา

“ก็เรื่อยๆอะ”

“ของมันแนอยูแลว วินดี้ไปกับใครก็ไมสนุกหรอกนอกจากไปกับพี่” ถาแกเปนพอคานี่คงจะเค็มนาดูเลยวาไหมครับ วกประโยชนเขา


ตัวเองไดตลอดเวลา

“วาแตกลับมานานหรือยังครับ”

“ก็พักใหญๆ”

“ไมเหนื่อยนะ ออกไปช็อปปงตอไดใชไหม” ผมพยักหนาพรอมขานรับในลําคอ จากนั้นแกก็ปลอยผมเปนอิสระ

“งั้นรอพี่แปบหนึ่งนะครับ วาแตวินดี้ไดอะไรมาฝากพี่บางหรือเปลาครับ” พี่เขาถามขณะที่ถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกกอนจะใสไม


แขวนไว จากนั้นก็หันมาปลดกระดุมขอมือเสื้อเชิ้ตแขนยาว เห็นแลวก็พอรูวาจะเปลี่ยนเสื้อ ผมก็เลยหันหลังให ลุกจากเกาอี้ คิดวา
ออกไปรอนอกหองดีกวา

“ไมไดซื้ออะไรสักอยาง ของตัวเองก็ไมไดซื้อ” ตอบขณะลุกขึ้นยืน

“วา...เสียดายจัง นึกวาจะไดผล” ผมนิ่วหนา

“ไดผลอะไร” หันกลับมาถามแก ทันไดเห็นหนาอกที่เต็มไปดวยกลามเนื้อ หันหนาหนีแทบไมทัน

“ก็เขาบอกวา ถากลั้นหายใจในลิฟทจากชั้นหนึ่งถึงชั้นที่ยี่สิบเกาได แลวขออะไรจะสมหวัง” บาไปแระ ไปไดยินมาจากไหน อยาบอก


นะวาแกทําอะไรแบบนั้นกับเขาดวย

“แลวไงอะ”

“พี่ก็ลองทําดู แลวก็ทําไดนะ แถมยังขอใหวินดี้เห็นอะไรก็คิดถึงแตพี่”


ไดฟงแกพูดแลวอาปากหวอเลยครับ จากนั้นสมองก็ประมวลผลในเร็วพลัน กอนจะรองออในใจดังๆ คราวนี้ผมก็รูแลววาที่เบลอๆ
เห็นตัวทิกเกอรแลวนึกถึงแกเพราะถูกคุณไสยเลนงานนี่เอง
ตอนนี้ผมกําลังเข็นตะกรารถเข็นของซุปเปอรมารเก็ตตามหลังสุดที่รักอยูครับ สายตาจับจองนองซึ่งกําลังเลือกซื้อผักอยู พอวินดี้
ทําทาจะเงยหนาแลวมองมาทางผม ก็รีบหันหนาหนี แสรงทําเปนวาไมไดมองนอง สักพักหางตาแลกลับมาใหม เมื่อเห็นวานองไม
สนใจผมแลวก็จองนองมันใหม แลวพอนองทําทาจะหันหนามาอีกครั้ง ก็รีบหันหนีไปทางอื่น มองโนน มองนี้ไปเรื่อย ทําแบบนี้อยู
สามสี่ครั้ง จนครั้งสุดทายดันหันมาจะเอกับนองมันเต็มๆ เลย ทั้งๆ ที่นึกวานองไมรูแลวนะครับ เจอวินดี้ยืนกอดอก เลิกคิ้ว มองผมอยู
หนานี่อยางโหดเลยครับ

“มีปญหาอะไรไอพี่ทอง” น้ําเสียงก็ปนมาซะเขมเลย แตทําไมไมรูสึกกลัวก็ไมรู ผมอมยิ้มพรอมสายหนาแทนคําตอบ ขําทาทางของ


นองมันครับ แตไมกลาหัวเราะออกมา กลัวจะทําใหนองอารมณเสียมากขึ้น คือตอนนี้กําลังมีคดีติดตัวครับเลยไมกลาพูดอะไรมาก

เรื่องของเรื่องก็ไมมีอะไรหรอกครับ แคนองมันบอกใหไปหยิบซีอิ้วขาวใหหนอย ผมก็ไปตามคําสั่งคุณเขา สายตามจองมองเลยครับ ซี้


อิ้วขาวมันตองเปนอะไรสักอยางสีขาว ซี้อิ้วกับซอสปรุงรสนี่มันจะคลายๆ กันหรือเปลานะ ผมก็ไมคอยแนใจเทาไหร เลยกมๆ เงยๆ ไล
สายตาไปตามชั้น สงสัยจะหานานไปหนอยมั้ง นองมันเลยเดินมาตามพรอมกับขวดอะไรสักอยางอยูในมือ

“หาอันนี้อยูหรือเปลา” ผมก็เงยหนาขึ้น เห็นนองมันยกขวดมีของเหลวสีน้ําตาลบรรจุอยูภายใน ไอเราก็คิดวานองมันลองภูมิ เลยสาย


หนา เลนมุกกับนองมัน

“เปลาครับ ที่รักใหหาซี้อิ้วขาว ไมใชสีน้ําตาล” นองนิ่วหนา

“แลวที่จับอยูนี่เขาเรียกวาอะไร” ถามมาแตผมตอบไมได ก็เลย...

“ไมรูครับ ไหนขอพี่ดูหนอย” หยิบมาจากมือนองมันครับ เขียนเต็มๆ ตาที่ขางขวดเลยวา ซี้อิ้วขาว เงยหนาขึ้นยิ้มแหยๆ ใหหวานใจไป


ที

“หาเปนชาติก็ไมเจอหรอก ตรงหนานี่มันน้ําสมสายชู” นองเคาใจดีอธิบายใหฟงครับวาไอที่เรียงรายอยูตรงหนาผมนี่คืออะไร จากนั้น


คนดีของผมก็ยกมือขึ้นกอดอก มองมาดวยสายตาจับผิดเต็มที่

“นี่ไอพี่ทอง ตกลงทํากับขาวเปนหรือเปลา” ยิงคําถามเด็ดมาให เรื่องแบบนี้มันหยามกันไมได ตองปนหนาโกหกนองเต็มที่

“เปนครับ” ทําทามั่นใจเต็มเปยม ยืนยันเสียงแข็งเลยครับ แตวินดี้กลับมุนคิ้ว สีหนาบงบอกวาไมเชื่อในสิ่งที่ผมพูด

“เปน...แลวทําไมแคซี้อิ้วขาวธรรมดาถึงไมรู” อะนะ...คนเราพอหางหายจากครัวไปนานก็ตองลืมกันบางเปนธรรมดา
“รูครับ แตพี่กําลังเพลินกับการสํารวจตลาดน้ําสมสายชูอยู อยากรูวามันมียี่หอใหมออกมาบางไหม” ขอเลื้อยไปกอนตามสัญชาติ
ญาณงูใหญ ยังไมอยากใหความแตกตอนนี้ เดี๋ยวแผนเขาคลอสกอนแตงจะแตกเสียกอน สงสัยละสิวาคลอสอะไร ไมมีอะไรมาก
หรอกครับ แคหัดวินดี้ใหเปนแมบานเทานั้นเอง

“ไมตองมาเลื่อยเลยนะพี่งูเขียว เด็กประถมมันยังฟงรูเรื่องเลยวาแกตัวอยู! !!” เปนไงครับ รูทันไปซะหมด เกือบสะดุงกับน้ําเสียงเขียว


ปดของนองมัน แถมมาลดบรรดาศักดิ์ผมอีกแลวอะ อยางอายเลยตอนที่นองมันเรียก พวกแมบานที่เขายืนเลือกของอยูขางๆ ก็หันมา
มองดวย แถมยิ้มแปลกๆ ใหอีกตางหาก

“เปลาแกตัวนะครับ เดี๋ยวเย็นนี้ก็รูวาพี่ทํากับขาวเปนหรือไมเปน” วินดี้มองผมดวยสายลังเล กอนจะสายหนาไปมา

“ใหมันจริงเถอะ” นองบนพึมพํากอนจะนําหนาผมไปยังแผนกอื่น

จากนั้นผมก็ไมกลาไปเดินขางนองมันเทาไหร เดี๋ยวถามวาเลือกซื้อผัก ซื้อเนื้อเขาดูยังไง เกิดตอบนองไมได จะพลอยซวยไป ดีไมดถี า


นองมันสงสัยหนัก เลิกซื้อของขึ้นมาเดี๋ยจะยุง ความจริงผมก็พอทํากับขาวไดนะครับ แตสวนใหญจะเปนอาหารตางชาติมากกวา
ตอนสมัยที่ถูกพอเฉดหัวออกนอกประเทศใหไปเรียนตอโทก็เคยเขาครัวบาง อยางอาหารฝรั่งเขาจะมีสูตร วิธีทํา พอลองทําตามแลว
มันก็ออกมากินไดนะครับ แตดูทาวินดี้จะไมชอบอาหารพวกนั้น ก็เลยวาจะลองทําอาหารไทยพรอมกับนองดู ก็เรียนรูไปพรอมกัน ผม
วานาสนุกนะครับ ไดใชเวลารวมกัน เรียนรูกันไป แลวก็ยังมีเรื่องใหคุยกันมากขึ้นดวย

อีกอยางเปนการสรางความคุนเคยใหแกกันและกัน ผมวาวินดี้ยังเกรงๆ อยูเวลาอยูกับผมตามลําพังในที่รโหฐาน ไมโทษนองหรอก


ครับ มันเปนการยากเหมือนกันในการปรับตัวเพื่อจะใชชีวิตกับคนแปลกหนา ซึ่งถามองแลวสถานะของผมตอนนี้คงไมตางจากคําๆ
นี้มากนัก อยางที่รูๆ กันอยูวาเราทั้งคูเพิ่งจะโคจรมาพบกันเมื่อไมนานมานี้ ผมอยากใหนองเปนตัวของตัวเอง วางตัวไดอยางสบายๆ
เวลาอยูกับผม ก็ไดแตหวังวาสิ่งเหลานี้จะชวยใหเราทั้งคูคุนเคยกันมากขึ้น

มากกวานั้น...อันนี้กระซิบบอกเปนความลับนะครับ ไมอยากใหวินดี้รู คือผมกําลังสรางเงาของตัวเองในคอนโดของนองมันอยูครับ


หองน้ําผมก็ไปฝากรอยไวแระเวลาลางหนาแปรงฟนนองมันตองชินในสิ่งที่ผมทําให คราวนี้ก็หัวค่ําเวลาเขาครัวทีไรวินดี้ตองนึกถึง
ชวงเวลาที่เราทําอาหารดวยกัน หึหึ เปนไงครับ เด็ดไหม ถึงตัวผมไมอยูแตฝากเงาไวแทนใหนองมันคิดถึง เอาเปนวาตอนนี้ตองเก็บ
เรื่องพวกนี้ไวกอนครับ ใหผานวันนี้ไปกอน ใหนองมันซื้อของไปเก็บไวใหเต็มตู จากนั้นวินดี้จะเต็มใจเรียนทํากับขาวพรอมผมหรือ
เปลาอันนี้ไมยากครับ แคอางวาซื้อมาตั้งเยอะแยะ ไมทํากินของก็ตองเสีย รับรองนองมันใจออนอยูแลวเชื่อผมสิ

“ไมมีปญหาแลวมองทําไม” เสียงของวินดี้ปลุกผมจากฝนหวานครับ ไกลเกินกูแลวผม นึกถึงเวลาเราหัวเราะพรอมกันในครัวทั้งๆ ที่


ตอนนี้ยังอยูซุปเปอรมารเก็ตอยูแลว

“มองคนนารักครับ” หยอดมันไปครับกอนจะรีบหุบปากทันทีเมื่อวินดี้สงสายตาดุมาให พอรูครับวานองไมชอบใหทําตัวรุมรามในที่


สาธารณะ แตเหมือนจะติดนิสัยเสียแลวละครับ อดใจไมได ไมวาจะอยูที่ไหนผมก็ยังรูสึกวาโลกนี้มีแคเราสองคน (จะมีใครอวกไหม
เนี่ย)
“หุบปากไปเลย” นั่นไงครับผมวาแระ ความจริงวาจะตามใจที่รักเคานะครับ แตวามันมีเหตุใหชักไมอยากหุบปากแลวสิ

“ซื้อไปทําอะไรกินครับ” อันนี้ไมใชเสียงผมนะครับ ไมใชเสียงวินดี้ดวย แตเปนเสียงไอบาที่ไหนไมรู ไดยินแลวคันหัวใจยิกๆ

เหตุการณมันเกิดขึ้นหลังจากที่ผมหยอดนองมันเสร็จ วินดี้ก็เดินหนีผมไปไกลพอควร ผมก็เดินตามชาๆ แตนองยังอยูในสายตานะ


ครับ แลววินดี้ก็ไปหยุดยืนที่เขาวางขายดอกกะหล่ํา นองมันกําลังเอื้อมมือจะหยิบขึ้นมา แลวไอบานั่นใชมุกแปกๆ เอื้อมมือไปหยิบ
อันเดียวกันกับที่รักผม เห็นแลวชักอยากฆาคนขึ้นมา รีบเดินใหถึงนอง ทันไดยินมันขอโทษแลวถามนองมันอยางที่คุณๆ ไดยินพรอม
กันกับผมนั่นแหละ อยากจะอาปากบอกวาอยามาเสือก แตวินดี้มันตอบใหกอน ถูกใจผมมากมายเลยครับ ลองฟงดูนะวานองมันวา
ไง

“ไมรู ถามพอครัวใหญทางโนนดูสิ”

แลวนองมันก็บุยใบมาทางผม รูนะครับวานองพูดเพราะตองการประชดผม พอๆ กับกําลังหงุดหงิดผมอยูเชนกัน แตเปนการประชด


และเหวี่ยงที่นารากที่สุดเทาที่เคยไดยินมา หนาโหดๆ ของผมเมื่อกี้เปลี่ยนเปนยิ้มหวานหยดติ๋งใหนองมันเลยครับ จากนั้นก็หันไปยิ้ม
เหี้ยมเกรียมใหไอบานั่น
เปนไงละมึง ยังจะถามกูไหม เสียดายนะไมไดถือบังตอมาดวย จะไดรูไงวาพอครัวใหญ หัวปาอยางกูนะจะเอากะหล่ําไปทําอะไร
กิน!!!
ตอนนี้ผมกําลังหงุดหงิดไอพี่ทองอยูครับ ไมรูจะทํายังไงกับแกดี เอายาสลบใหกิน แลวเอาเชือกมัดไปถวงน้ําดีไหม ยิ่งคิดยิ่งโมโห หิว
ดวยละมั้งครับ หัวฟดหัวเหวี่ยงเลยตอนนี้

“เอานาวินดี้ ซื้อของมาเต็มตูแลว ไมทํากินก็เสียดายเปลา” ผมเดินไปทิ้งตัวบนโซฟาแรงๆ กอดอกดวย ไมฟงแกแลว ยังมีหนามาพูด


อีก ตอนออกจากบานผมก็เอาเมนูอาหารที่เลือกไวใหพี่แกดูแลวนะครับวาจะทําอะไรบาง พี่เขาก็บอกทําได งายมาก ไอเราก็เชื่อ
จากนั้นก็ไปซอปปงกัน แลวพอซื้อของเสร็จกลับมาคอนโด เก็บทุกอยางเขาตู พี่แกก็มาสารภาพวา นี่เปนครั้งแรกที่จะทํา แถมมาขูผม
อีกวาถาไมชวยแกทําระวังไฟจะไหมครัว ฟงเอาแลวกัน แลวแบบนี้ไมใหผมโมโหไดยังไง

“งั้นพี่ทําคนเดียวก็ได เอาใจทูนหัววันหนึ่งแลวกัน ไหนๆ ดูสิ วินดี้อยากกินกุงผัดผงกะหรี่ใชไหมครับ เขาใสอะไรบางนะ” พูดจบก็ได


ยินเสียงกุกกักๆ อยูในครัว หรี่ตาขึ้นมองนิดหนึ่ง เห็นกมๆ เงยๆ ดูของในตูเย็น

“วินดี้เอากุงไปไวตรงไหนอะครับ พี่หาไมเจอ” ถอนหายใจออกมาอยางเหนื่อยหนาย ตูมันก็เล็กแคนั้น ถาหาไมเจอก็ไมตองกงตองกิน


มันแลว

“ที่รักครับ” เรียกอีกแระ ไอคําเรียกขานของแกนี้ก็เหมือนกันนะครับ ฟงแลวมันขนลุกทุกที บอกหลายครั้งแลววาอยาเรียกแบบนี้ มัน


เลี่ยน อยากอวก แตแกก็ไมสน บอกวาใหเลือกเอาจะใหเรียกเมีย หรือวาตามใจพี่ เลยประชดไปวาตามใจ เลยไดใจแกใหญเลยครับ
เปลี่ยนตามอารมณไปเรื่อยๆ ที่รักบางละ ทูนหัวละ หวานใจบางละ ดารลิ้งยังมีเลยครับ ผมละหนาย
“ฮันนี่มาชวยพี่หาหนอยเร็ว” นี่ก็อีกคํา เซ็งจิต รําคาญหูมากมาย เลยตองจําใจลุกขึ้น เดินดุมๆ ไปยังตูเย็น ถาเปนงูตองฉกตาแกแลว
มั้ง มันก็อยูในชองใสพวกเนื้ออะ มารยาเปลาเนี่ย

“อะ” ยื่นใหแกแบบกระแทกกระทั้น แลวก็เดินจากไป

“เดี๋ยวกอนครับ ชวยอานใหพี่หนอยสิวาเขาใสอะไรบาง” พี่แกดึงแขนผมไวครับ ยัดกระดาษที่ผมปริ้นออกมาเมื่อตอนบายใสมือผม


สงสายตาออดออนมาใหอีก เฮอ...เหนื่อยใจ หลับหูหลับตาอานไปแลวกัน

“กุงตัวโตๆ 6 ตัว” พี่เขาพยักหนาเปนเชิงรับรูกอนถามวา

“วินดี้ชอบกินกุงใชไหมครับ” พยักหนาสงๆ ไป พรอมขานรับในลําคออีกนิด

“งั้นเพิ่มดีกวาเนอะ หรือวาแคหกตัวก็พอครับ”

“ก็มันมีทั้งหมดกี่ตัวละ” จําไดวาซื้อมากิโลหนึ่ง แตไมรูวากี่ตัว พี่แกก็เปดถุงดูครับ

“สิบหาตัวครับ”

“งั้นก็ทําหมดนั่นแหละ ถาเลือกมาคนละหกตัว เหลือสามตัวก็ไมรูจะทําอะไรกิน”

“งั้นพี่ใหวินดี้ สิบตัวเลยแลวกัน พี่กินหาตัวพอแระ” ตามใจ ขอใหมันกินไดกอนเถอะ

“แลวอะไรตออีกครับ” ผมก็กมหนาอานตอ

“หอมหัวใหญหั่นชิ้นสี่เหลี่ยม หนึ่งหัว”

“หอมหัวใหญหนึ่งหัว ไดแลวครับ ตอครับ”

“ตนหอมหั่นทอนขนาดหนึ่งนิ้วสองตน คึ่นชายหั่นทอนขนาดหนึ่งนิ้วสองตน”

“โอเคครับ ตนหอมสองตน แตวาคึ่นชายนี่มันอันไหนอะ”

“อยูในถุงเดียวกับตนหอมนั่นแหละ ไมใชผักชีนะ ใบมันจะใหญกวา” ผมบอกพี่เขาไป พี่แกก็หยิบพวกผักออกมาไวที่เคาเตอรครับ


ผมก็ชโงกหนาไปดูหนอยวาใชหรือเปลา จากนั้นคอยอานตอ
“กระเทียมซอย สองชอนโตะ”

“กระเทียมนะครับ สองชอนโตะนี่มันกี่หัว” หนูจําไมจริงๆ ถามจริง ถามจัง

“ไมรูอะ เอาออกมากอนสักหัวแลวกัน สับดูถาไมพอแลวคอยเอามาเพิ่ม” ผมออกความคิดเห็น พี่เขาก็พยักหนาพรอมทําตาม

“ไขไกสองฟอง แลวนอกนั้นก็เปนพวกเครื่องปรุงอะ ใหอานเลยเปลา” พี่เขาทําทาคิดกอนจะสายหนา

“อันนั้นเอาไวกอนครับ เดี๋ยวเตรียมพวกนี้กอน เขาวาไงนะครับ หอมหัวใหญหั่นสี่เหลี่ยมใชเปลา วินดี้แกะหอมกับกระเทียมใหพี่แลว


กัน เดี๋ยวพี่จะจัดการกับกุง” สั่งงานอีกแระ แตทําไงไดนอกจากวางกระดาษเมนูไวแลวหันมาหยิบหอมหัวใหญกับกระเทียมมาแกะ
หันไปมองพี่เขาเห็นทาทะมัดทะแมงแกะกุงก็แปลกใจ เหมือนจะเคยเขาครัวแตดูอีกมุมเหมือนไมเคย บอกไมถูกอะ พอแกะกุงเสร็จพี่
เขาก็เอามีดมาปาดที่สันหลังมันครับ ทําอะไรก็ไมรูเลยถาม

“ทําอะไรอะ”

“ออ เอาเสนดํามันออกครับ” นี่อะที่ผมบอกวาแกเหมือนจะเคยเขาครัว ทําคลองดวยนะครับ

“มีอะไรหรือเปลาครับ มองนานๆ พี่เขินนะ แพสายตาคนนารัก” มาอีกแระ คําพูดแบบนี้ ทําอะไรไมไดครับนอกสายหนาอยางเอื่อม


ระอา

“พี่ไมถนัดทําอาหารไทยครับ ถาเปนพวกอิตาเลี่ยน เมกันอะไรพวกนี้จะถนัดเพราะเคยทํา อยางกุงนี่ใสสปาเก็ตตี้อรอยนะครับ พี่ชอบ


ทํากิน ถาเปนอาหารสเปนละก็ทําปาเอยาก็อรอยครับ ถาวินดี้อยากลอง ไวพี่ทําใหกินนะครับ” มินาละถึงไมรูจักซีอิ้วขาว หัวนอก
จริงๆ เลย หมั่นไสขึ้นมาทันที

“เอากุงผัดผงกะหรี่ใหรอดกอนเถอะ” จะวาไปเมนูที่พี่เขาวามาก็อยากลองนะครับ แตพวกอาหารอิตาเลี่ยนผมไมชอบกลิ่นเครื่องเทศ


มันครับ ไมชอบซีส แตปาเอยาอาหารสเปนนี่นาลอง แตจะใหดีขอใหวันนี้ไดกินมื้อค่ํานี้กอนดีกวาครับ พอผมพูดจบพี่เขาก็หัวเราะ
จากนั้นก็ลางกุงแลววางใหสะเด็ดน้ํา

“เดี๋ยวพี่หันหอมเองครับ เดี๋ยวแสบตา วินดี้ไปลางตนหอมกับคึ่นชายแลวกัน” เอาหอมหัวใหญกับกระเทียมที่แกะแลวใหพี่เขาครับ


แลวตัวเองก็ไปยังอางน้ํา หยิบตนหอมกับคึ่นฉายมาลาง พอลางเสร็จก็เอาไปใหพี่เขา

“เขาวาหั่นหอมกับคึ่นชายยังไงนะครับ” ผมเอี้ยวตัวไปหยิบสูตรทําอาหารมาดูอีกครั้ง

“หั่นทอนขนาดหนึ่งนิ้ว ทั้งสองอยางเลย”
“โอเคครับ...จัดไป” วาจะไมยิ้มแลวนะครับ แตมันก็อดไมได ทั้งคําพูดและทาทางนั่นทําใหผมเปนตัวของตัวเองมากขึ้น ทําไมนะ ไม
วาจะทําอะไรดูพี่เขามีความสุขจังเลย มันก็เลยพลอยใหผมอารมณดีขึ้นมาบาง จะวาไปลองทําอาหารกินเองนี่ก็สนุกดีนะครับ ผม
ไมไดทําอะไรมากหรอก แคคอยอานวิธีทําเวลาพี่เขาถามวาตองใสอะไรบาง เทาไหร ผมก็ชวยเตรียมใหครับ แลวพี่เขาก็เปนพอครัว
เองครับ

ไมเชื่อก็ตองเชื่อเพราะสุดทายเราก็ไดกุงผัดผงกะหรี่เปนมื้อค่ํา หนาตามันก็ไมไดเลวรายอะไรนะครับ เห็นแลวก็หิวขึ้นมาเลย ผมกิน


กุงแคแปดตัวเอง แบงใหแกไปเจ็ดตัว คาทําอาหารอรอยๆ ใหกิน พอกินเสร็จก็นั่งคุยกันอีกนิด วาคราวหนาลองเปลี่ยนเปนปลาหมึก
ดีไหมมันนาจะอรอยเหมือนกัน ผมไมชอบปูอะครับ เลยเลี่ยงเปนอยางอื่นแทน พี่เขาก็ตามใจครับ บอกวาไววันหลังลองทํากินดู แต
ใหผมเปนคนทํานะ ก็รับปากไปครับเพราะเห็นพี่เขาทําวันนี้แลวมันก็ไมไดยากอะไรเลย แตมีขอแมใหแกเปนผูชวย พี่เขาก็บอกวา
“ดวยความเต็มใจครับ”

นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ ครับ พอหันไปดูนาฬิกาจะสี่ทุมแลว ตกใจเลย นี่ผมนั่งคุยกับพี่แกนานกวาสามชั่วโมงเลยเหรอ ทําไมเวลามันเดิน


ไปเร็วจัง พอหันกลับมาอีกทีพี่เขาก็มองผมอยูพรอมกับยิ้มให...เปนรอยยิ้มที่อบอุนอยางที่เห็นตลอดมา ผมก็เลยยิ้มตอบ...พรอมกับ
ยอมรับกับตัวเองวา

.....วันนี้เปนอีกวันที่บางสิ่งกําลังเคลื่อนไหวในหัวใจของผม.....

.....คิดดูแลว...มันก็ไมเลวรายเกินไปเลยนะกับการเปดใจรับสิ่งใหมๆ เขามาในชีวิต....
“รักแรกพบ ชื่อวิทยาศาสตร Love Begin K&W ชื่อวงศ KLW ชื่อพื้นเมือง ความรักของนาคินทร ราคา ∞ ”

เปนไงบางครับ ตนไมของผม พอจะสูสีกับตนโฮยาของไอนักรักคณิตศาสตรไดไหมครับ ชื่อของมันก็ความหมายดีนะครับ “รักแรก


พบ” คิดขึ้นมาแลวนึกถึงความรักของผมกับนอง ถาจะใหดีถามีตน “พบแลวจับกด” จะตรงเผงกับเรื่องราวของเรามากกวา แตไม
เปนไร รักแรกพบก็สื่อถึงความรูสึกที่นุมนวลออนหวานและละมุนละไมที่ผมมีตอหวานใจผมได ตนนี้ราคาแพงนะครับ อินฟนิตี้ ไมมี
สิ้นสุด ซื้อดวยความรักของอายทองที่ใหกับนองวินดี้ไมมีวันหมดสิ้น ฮาฮา ลิเกสุดๆ แตจะใหทํายังไงไดละ ตองขมศัตรูหัวใจไวกอน
ทางโนนสงสารมา ผมก็ตองตอบโตกลับคืนบาง ไมมีขอยกเวนแมกระทั่งตนไม

คุณจะเชื่อไหมหากผมจะบอกวาทุกๆ เชาผมตองคันหัวใจยิกๆ ก็วินดี้นะสิครับพอลุกขึ้นจากเตียงทีไรวิ่งแจนไปรดน้ําตนไมนั่นกอน


ทุกที เห็นแลวมันอดไมได อาการหมั่นไสกําเริบ เมื่อสองวันกอนเลยใชวิชามาร แอบเอาเข็มไปจิ้มๆ ใบมัน ใหใบรูปหัวใจเปนรูรั่วซะ
เลย ซะใจดี พอวินดี้มาเห็นโวยวายใหญเลย ผมก็ไมสะทกสะทานครับ ลูกผูชายอกสามศอก บอกนองมันไปตามตรงวาผมเปนคนทํา
เองพรอมขูสบทบอีกวา ถาไมอยากใหมันตายก็เอาไปไกลหูไกลตาผมเลย

วินดี้มันก็กระทืบเทาปงๆ บอกวาผมบา ก็บาจริงอะ บารักมันนั่นแหละ ทั้งรัก ทั้งหวงดวย ไมยอมหรอกหากนองมันสนใจอยางอื่น


มากกวาผม พอไดยินอยางนั้นวินดี้ก็เชิดหนาใส ทาวากลาทําตนไมตายเหรอ แหม...เรื่องอื่นนี่ยอมนองมันได แตใหผมปราณีศัตรูนี่
ไมมีทางเด็ดขาด เลยทําใหนองมันดูเลยครับวาเรื่องอยางนี้อยามาหยามผม โอกาสเหมาะตอนนั้นกําลังดื่มกาแฟอยูพอดีครับ เลย
เอาที่เหลือติดกนถวยนิดหนอยไปรดเปนปุยสารพิษใสตนโฮยาใหนองมันเห็นกับตาเลย

วินดี้งี้อาปากหวอ ผมก็เลยชวยนองมันหุบปาก จูบหนักๆ ลงไป ทําโทษที่ดื้อกับผม แบบนี้แหละถาผมหึงแลวจะควบคุมตัวเองยาก


ถาไมอยากใหผมหึงแลวของขึ้นก็รีบๆ จัดการกับตนไมนั่นซะ ผมบอกนองมันครับ วินดี้มันก็หนาแดงกอนจะเปลี่ยนเปนบึ้งตึง ไมยอม
คุยกับผมทั้งวัน แตพองอหนอย ชวนคุยเรื่องอื่น พรอมบอกวาจะซื้อตนอื่นใหแทน นองก็อารมณดีขึ้น แลวพอตอนเย็นกลับเขาคอนโด
ก็ไมเห็นตนนั้นแลวครับ ไมรูวาวินดี้เอาไปทิ้ง หรือเอาไปไวไหนไมไดสนใจถาม ขอแคอยาอยูขวางหูขวางตาผมเปนพอ

เมื่อวานวันเสารเลยชวนนองออกไปดูตนไมดวยกันครับ แลวเราก็ไดตน “รักแรกพบ” มา วินดี้ชอบที่ชื่อของมัน แลวก็สวนดีที่มันออก


ดอกตลอดปดวย ตอนเย็นผมก็เลยเอาแผนพลาสติกที่เขียนชื่อติดไวซะเลย

“รักแรกพบ ชื่อวิทยาศาสตร Love Begin K&W ชื่อวงศ KLW ชื่อพื้นเมือง ความรักของนาคินทร ราคา ∞ ”

อานทีไรก็ตองยิ้มออกมาทุกที มาถึงวันนี้ผมมาอยูกับนองไดสองอาทิตยแลวครับ เวลาเดินไปเร็วเหลือเกิน แตดีนะที่ความสัมพันธ


ของเราก็คืบหนาขึ้นตามเวลาเชนกัน จําไดไหมวาผมวางยาเสพติดนองใหติดผมนะครับ สงสัยยามันจะออกฤทธิ์สะทอนกลับเสียแลว
ละ ตอนนี้ผมติดนองมันยิ่งกวาอะไรอีกครับ ตอนเชาเปนชวงเวลาที่ดีที่สุดเพราะลืมตาตื่นมาที่ไรจะเห็นนองอยูในออมแขน บอกรัก
นองกอนจะลุกเขาไปทํากิจวัตรประจําวัน พอออกจากหองน้ํามาก็หงุดหงิดหัวใจเพราะนองไปรดน้ําตนไมอยางที่บอกนั่นแหละ แต
คิดวาตั้งแตพรุงนี้เปนตนไปคงไมมีอะไรมากวนใจผมตอนเชาๆ แลวละ

จากนั้นผมก็ไปทํางาน พอถึงที่ทํางานมือมันจะสงขอความหานองอัตโนมัติเลยครับ เวลาเบรกก็ทักทายนองมันบาง บางทีวินดี้ก็สง


ขอความกลับมา ตอนเย็นกลับถึงบานก็เห็นนองรออยูที่คอนโด เราทําอาหารกินดวยกัน นั่งคุยกันจนดึก บางวันวินดี้ตองทํางาน
หรือไมก็อานหนังสือ ผมก็เอางานของผมไปนั่งทําขางๆ นอง จนถึงเวลาเขานอนเราก็ลมตัวลงบนเตียงพรอมกัน ผมกอดนองไวใน
ออมแขน บอกราตรีสวัสดิ์ แลวเราทั้งคูกับหลับตาลงพรอมๆกัน

ทุกอยางเปนกิจวัตรที่ผมชินและมีความสุขที่ไดใชเวลาแตละนาทีอยางคุมคา ตัววินดี้เองก็ดูเปนตัวของตัวเองมากขึ้น ไมเคาะเขิน


เวลาอยูกับผมตามลําพัง เราพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวไมวาจะชวงเวลาในวัยเด็ก สิ่งที่ชอบและไมชอบ ที่ๆเคยไปและอยากไป ถึง
ผมจะรูหลายอยางเกี่ยวกับวินดี้ แตก็ยังมีอีกหลายอยางที่ผมยังไมรูเชนเดียวกัน

ชวงเวลาสั้นๆ สวรรคมอบความสุขใหกับผม แลวก็กําลังจะมอบบททดสอบใหกับผมเชนเดียวกัน

ผมจะทนไดไหมหากสิ่งที่ผมทําเปนประจําทุกวันตองมีเหตุใหสะดุด?

ผมจะทนไดไหมหากวันหนึ่งๆไมไดเจอหนานองเลย?

ผมจะทนไดไหมกับความคิดถึงแตไมอาจควานองมากอดไวแนบอก?
ผมจะทนไดไหมหากรูวานองอาจไมไดรูสึกอะไรกับผมเลย?

ไมอยากจะนึกถึงเพราะยังทําใจไมได ผมจะจัดการกับความรูสึกของตัวเองยังไง?

พรุงนี้แลวสินะ...ไมอยากรูเลยวาพอตองนอนคนเดียวแลวจะเหงาขนาดไหน?
วันหยุดวันอาทิตยตาชวนมากินขาวเที่ยงที่บานครับก็เลยตองมา พอเห็นหนาตรินแลวรูผิดอยางบอกไมถูกเลย จะอะไรซะอีกละก็ไอพี่
ทองบานะสิ เปนอะไรก็ไมรู จูๆ ก็เอาเข็มไปจิ้มใบตนโฮยาที่ตรินซื้อให เห็นแลวปรี๊ดเลยครับ ผมดูแลของผมมาตั้งแตปใหมแลว ตอนนี้
มันก็ออกดอกดวยนะครับ มีความสุขดีเวลาเห็นมันโตขึ้นทุกวัน แตไอพี่บาไรเหตุผลนั่นกลับพาลไมเขาเรื่อง บอกวามันแยงความรัก
ของผมไปจากแก ทําใหแกหึง บาเปลา พูดยังกับเด็กหวงของ ยิ่งฟงยิ่งโมโห ตัวก็ออกโตแตทําเปนเด็กเกเรเอาแตใจไปได

ผมก็เลยดื้อ ไมยอมแกงายๆ หรอก คราวนี้ไอพี่ทองทําใหดูเลยครับวาคนนิสัยเอาแตใจนะเปนยังไง คุณๆ คิดดูนะ จูๆ เอากาแฟไปรด


มันอะ ตอหนาตอตาผมดวยนะครับ แถมยังบอกวาถายังเห็นมันยังอยูดีมีสุขอีกละก็ จะเอาน้ํารอนทั้งกามารด ฟงเอาแลวกัน แบบนี้
จะไมใหผมโกรธไดยังไง คอยดูเถอะผมจะไปซื้อไมเบสบอลมาไวตามมุมตางๆ ของบาน ถาแกยั่วโมโหผมตรงมุมไหนจะความาทุบให
แบนติดพื้นไปเลย

สงสารตนไมมันครับก็เลยตองรีบเอาออกจากหอง แตก็ไมรูจะเอาไปไหนดี จะฝากลูกแพรไวกอนรายนั้นก็นากลัวกวาไอพี่ทองอีก จํา


ไดวาเคยซื้อตนตะบองเพชรใหครั้งหนึ่ง ไมรูไปทําอีทาไหน สามวันตนไมตายเลย ตนตะบองเพชรนะครับ ทนยิ่งกวาอะไรอีก ไมรดน้ํา
ไมตองใสปุยดูแล ปลอยไวเฉยๆ เปนเดือนมันก็ไมตายอะ แตลูกแพสงวิญญาณมันในสามวัน ถาเปนโฮยาคงไดมรณาในสามนาที
แลวถาจะเอากลับบานมาฝากตาดูให ตรินก็ตองเห็น ทําอะไรไมไดเลยเลือกทางสุดทายลองถามเมธมันวาอยากไดตนไมไปดูแล
เปลา ไมบอกนะครับวาเปนของตริน เดี๋ยวมันจะแผลงฤทธิ์อีกคน

ตอนแรกเมธมันก็ปฏิเสธนะครับ แตผมยัดเหยียดใหมัน กลัวเหมือนกันวามันจะถามวาทําไมไมดูแลเอง หากแตพอเมธมันหยิบปาย


ชื่อตนไมมาอานแคนั้นแหละ ยิ้มนอยยิ้มใหญ ไมถามอะไรผมดวย มากกวานั้นยังยืนยันหนักแนนวาจะชวยดูใหอยางดีเลย แลวมันก็
ดูแลจริงๆ นะครับ ถายภาพมาใหผมดูในวันตอมา ผมคิดวามันคงกลัวผมกังวลละมั้งวาตนไมจะตาย เลยเอาหลักฐานมาอวด

อยางไรก็ดีผมก็ยังรูสึกผิดกับตรินอยูดี วันนี้ก็เลยเขาครัวไปชวยตรินทํากับขาว ตรินตกใจใหญเลย บอกวาผมเปลี่ยนไป ดูเขากับคน


งายแถมยังราเริงแจมใสขึ้น ผมก็ยิ้มใหตรินไปครับเพราะรายนี้อะปากหวานชอบชมเปนประจําอยูแลว เลยไมใสใจมากเพราะคิดวา
ยังไงตัวเองก็ยังเปนคนๆ เดิมนั่นแหละ จะวาไปถาไมติดที่ผมมีอคติกับพอตรินที่มาทําใหครอบครัวผมแตกแยกแลวละก็ ตรินเปนคน
ที่นาคบคนหนึ่งทีเดียวครับ สุภาพ ใจดี แตกตางกับสาขาวิชาที่ตรินเรียนเลยครับ ตรินเรียนวิศวะครับ ปรกติพวกนี้จะดิบๆ เถื่อนๆ ใช
ไหม แตตรินเปนลุกใหมของเด็กวิศวะเลยละ ผมวาเขานาจะไปเปนหมอหรือไมก็ครูมากกวานะครับ ทําไมเลือกเรียนทางนี้ก็ไมรู จะ
วาไปคนเรามองกันแตภายนอกไมไดจริงๆ

ผมอยูคุยกับตาจนบายคลอยคอยกลับคอนโดครับ ตอนกลับก็แวะซื้อผลไมกลับไปดวย ผมชอบสมจีน ลูกเล็กๆ มันหวานดีแลวก็ไมมี


เม็ดดวย กินงาย ตอนแรกซื้อแลววาจะกลับเลยแตมันตะหงิดใจชอบกล ถาจะซื้อแตของตัวเองก็กระไรอยู เลยหลับหูหลับตาซื้อ
ลองกองของโปรดไอพี่ทองกลับไปดวย ไมใชอะไรมากหรอกครับ ขี้เกียจฟงเสียงแกบน ถาเห็นวาเราซื้อแตของตัวเองไมมีของแกดวย
นี่บนยาวเลยครับ คนแกก็งี้แหละขึ้นอยใจ ดีนะที่โตมากับตา ฟงตาบนจนชิน พอมาเจอแกเลยไมคอยเทาไหร

พอกลับถึงบานก็เห็นพี่ทองนั่งเอนหลังที่โซฟา หลับตานิ่งๆ อยู เหมือนแกจะไมรูนะครับวาผมกลับมาแลว แตวันนี้ดูทาทางแปลกๆ


แฮะ ปรกติจะดี๋ดาตลอดเวลา ผมเลยเอาผลไมไปใสตูไว มองไปทางแกนิดหนึ่ง ออ...ใสหูฟงนี่เอง มินาละถึงไมไดยินเสียงผม หลับ
ดวยหรือเปลาก็ไมรู ไมอยากกวนเลยวาจะเดินเขาหองไปอาบน้ําดีกวา กําลังจะเดินไปพี่เขาก็ลืมตาแลวก็หันมาทางผมพอดี

สบตาพี่เขาแลวหวิวๆ ในใจชอบกล ทําไมวันนี้แววตาที่มองมาถึงไดดูเศราอยางนั้นละ พี่แกยิ้มบางๆ ใหผมพรอมกับถอดหูฟงออก


จากนั้นก็พยักหนาเปนเชิงเรียกใหเดินเขาไปหา ทาทางหมนหมองนั่นเรียกขาผมใหกาวเดิน พอไปถึงพี่เขาก็ดึงเอวไปกอด ซบหนาอยู
กับหนาทองผม ทาทางอยางนี้เพิ่งเคยเห็นเปนครั้งแรก

“มีอะไรหรือเปลา” อดที่จะถามไมได

“ขอพี่อยูอยางนี้สักพักนะครับ” ก็ตามใจพี่เคาครับ แตยิ่งนานก็เหมือนออมกอดจะแนนขึ้นเรื่อยๆ จนผมตองนิ่วหนา เปนอะไรของเคา


เนี่ย มีอะไรไมสบายใจหรือเปลา

“มีงานดวนเขามา พี่ตองไปทํางานตางจังหวัดซักพักนะครับ” พี่เขาพูดเสียงอูอี้เพราะยังซบหนากับทองผมอยู แตผมกลับไดยินมัน


ชัดเจนเลยดีเดียว

“จะไปวันไหนละ”

“พรุงนี้ครับ เครื่องออกไฟรเชาหกโมง”

“อืม” ไมรูจะพูดอะไร ไดแตขานรับในลําคอ จะวาไปก็กะทันหันเหมือนกันนะ

“ไมอยากไปเลย ถาปฏิเสธจะถูกไลออกไหมเนี่ย วินดี้จะยอมกัดกอนเกลือกินกับพี่ไหมครับ” ยังมาทําเปนตลกอีก พี่เขาเงยหนาขึ้น


ถาม ผมก็เลยสายหนา

“วา...แสดงวายังไงก็ตองไปสินะ” ปลอยแขนจากเอวผมแลวกลับไปเอนหลังพิงโซฟาอีกครั้ง

“ไปเถอะก็มันงานนี่” ผมนึกคําพูดตัวเองไมออก เห็นทาหงอยเหงา หมดแรงแบบนั้นแลวมันไมเหมือนไอพี่ทองที่ผมรูจักเลย

“ถาไปแลววินดี้จะคิดถึงพี่ไหมครับ”

“ไมรูส.ิ ..คงไมมั้ง”
“นั่นสิเนอะ คงดีใจใชไหมครับที่พี่ไปไดซะที”

“แนอยูแลว ก็รอมานานแลวนี่ คราวนี้จะไดอยูคนเดียวใหสบายใจ”

“งั้นก็ขอใหมีความสุขนะครับ พี่จะรีบไสหัวไปไกลๆ วินดี้เดี๋ยวนี้แหละ” วาจบพี่เขาก็ลุกขึ้น เดินเขาหอง ปดประตูใสหนาผม

ผานไปสิบวินาทีแตผมยังยืนเอออยูตรงนั้น ยังไมเขาใจวาเกิดอะไรขึ้น เปนอะไรของเขา ปรกติก็ตอปากตอคํากันเปนเรื่องธรรมดาอยู


แลว ทุกทีไมเห็นสะดุงสะเทือน เห็นแยงเสมอวาถึงไลก็ไมไปไหน แลววันนี้มันอะไรกัน...อยาบอกนะวาโกรธผมนะ อะไร...พูดแคนี้เอง
ทําเปนงอน ไมงอหรอกนะจะบอกให...ชิส

ผมนั่งลงบนโซฟาที่ๆ เขาเพิ่งจะจากไป ไออุนจากเบาะที่พี่เขานั่งยังสัมผัสได หยิบรีโมทยโทรทัศนขึ้นมากดเปดทีวี แตใหดูยังไงก็ดูไมรู


เรื่องเพราะตาคอยแตจะหันไปยังประตูหองที่ปดลง ถอนหายใจ กดปดทีวี ลุกไปดูแกหนอยก็คงไมเสียหายอะไรหรอกมั้ง พอเปด
ประตูเขาไปหัวใจกระตุกวูบกับภาพที่เห็นอยูตรงหนา ความโหวงแหวงเขาเกาะกุมหัวใจ พี่เคากําลังเก็บเสื้อผาเขากระเปา เมื่อเห็นวา
ผมเขามาก็หันมามองผมนิดหนึ่ง นิดหนึ่งจริงๆ แคเสี้ยววินาทีเทานั้น จากนั้นก็หันไปสนใจเก็บของตอ

ผมเมนเรียวปาก ยืนนิ่งอยูอยางนั้นครูหนึ่งกอนจะคอยๆ เดินเขาไปใกลจนหยุดยืนตรงหนาพี่เขา เอื้อมมือไปจับแขนแกรงไว ไมกลา


เงยหนาขึ้นสบแววตาตัดพอนั่น อยากพูดอะไรใหพี่เขารูสึกดีขึ้นมาบาง แตกลับเคนคําพูดออกมาไมได พี่เคาก็เงียบไป ยืนนิ่งอยูอยาง
นั้น เหมือนกําลังรอผมอยูเชนกัน ชวงเวลาที่ดูเหมือนยาวนานพรอมกับบรรยากาศชวนใจหายเดินผานเราไปอยางเชื่องชา

“ขอโทษ ไมไดตั้งใจ” คงมีแคนี้ละมั้งที่ผมพอจะทําได มันพอทําใหความอึมครึมนาอึดอัดซึ่งอยูรอบตัวเราทั้งคูหายไปไดบางไหม

“ไมเปนไรครับ” น้ําเสียงที่ตอบกลับมานั้นทําใหผมเงยหนาขึ้น พี่เขายังยิ้มใหเหมือนทุกครั้งที่เราสบตากัน แตวันนี้รอยยิ้มที่ผมเห็น


เสมอกลับเปลี่ยนไป มันดูเศราและหมองหมน แววตาที่เคยอบอุนนั่นดูปวดราวเสียใจ มือที่เอื้อมมาลูบผมของผมยังเปนมือคูเดิมแต
สัมผัสนั่นกลับบีบหัวใจผมใหเจ็บแปลบขึ้นมา น้ําเสียงทุมที่เคยฟงนุมนวลกลับแหบแหงจนนาใจหาย และคําพูดที่เขาบอกออกมา
คงจะสื่อความรูสึกที่มีอยูในตอนนี้ไดเปนอยางดีสินะ

“แตวินดี้อยาไมตั้งใจบอยนักนะครับ...พี่เจ็บ”
รูสึกอุนใจขึ้นมาบางหลังจากที่ตรวจสอบสถานะของตัวเองกับนองเมื่อวานตอนหัวค่ําที่ผานมา ลุนแทบแยวาวินดี้จะเขามางอหรือ
เปลา ดีใจนะที่รูวานองยังแครผมอยูบาง อยางนอยก็คลายใจที่เห็นนองยังเปนหวงความรูสึกของผม ยอมรับเลยครับวาคําพูดเมื่อ
วานของวินดี้ทํารายจิตใจผมพอสมควร อาจเปนชวงเวลาที่ตัวเองกําลังออนแอดวยหรือเปลาก็ไมรู ถึงไดกลัวความหางไกลจะเปนตัว
แปรใหนองหลุดลอยไปจากผม
ตลอดเวลาที่ผานมาก็รูตัวดีวาตัวเองเปนคนขอนองมาอยูดวย ทั้งๆ ที่เจาตัวเขาไมเต็มใจ ยัดเยียดความรักใหอีกฝาย หลับหูหลับตา
ไมสนใจวานองจะอยากไดมันหรือไม แคทําตามเสียงของหัวใจของตัวเองก็พอ หากแตลึกๆ ยังมิวายหวังวาความรักที่มีจะสื่อไปถึง
อีกคน สั่นคลอนหัวใจของวินดี้ใหหวั่นไหวกับผมบาง

ตอนนี้ยังไมกลาเรียกรองใหนองพูดคําวารัก แตขอใหที่วางในซอกลึกของหัวใจนองมีผมอยูตรงนั้น แคเศษเสี้ยวของมุมเล็กๆ ก็ยังดี


อยากขอใหนองชวยรวมวาดฝนกลางฝนที่ผมเฝาแตเพอใหเปนจริงขึ้นมา อยากขอใหนองสนใจและหวงใยกัน และยามหางไกลเชนนี้
อยากขอใหนองมีผมในหวงคํานึงแมสักวินาทีก็ยังดี...

ผมมองไปยังรางบางที่นอนหลับตาพริ้มบนเตียง ไมอยากปลุกนองใหตื่นขึ้นมา ไมอยากกลาวคําลาใดๆ ทั้งนั้น เมื่อคืนหลังจากที่นอง


มางอทุกอยางก็ดําเนินไปอยางปรกติ เรายังทํากับขาวกินดวยกัน วินดี้เอาหนังมาดู ผมก็นอนหนุนตักนองมัน ชวงเวลาที่แสนสุขกับ
คืนสุดทายกอนที่ผมจะหักดิบตัวเอง...หลังจากหันหลังไปจากที่ตรงนี้แลว นองจะคิดถึงชวงเวลาที่สองเราเคยทํารวมกันบางไหม...จะ
คิดถึงผมคนนี้บางหรือเปลา...

ผมถอนสายตาจากคนรัก มองไปยังที่ชารทแบตตารี่อยางลังเล

แนใจแลวนะวาจะไมหยิบมันไป?

แนใจแลวใชไหมวาพรอมที่จะทนกับการเปลี่ยนแปลง?

และพรอมแลวใชไหมกับคําตอบที่จะออกมา?

ทุกคําถามเหลานี้ผมออนแอเกินกวาจะตอบวาพรอมแลว ใชแลวละผมยังไมพรอมที่จะเผชิญหนากับมัน นี่เปนครั้งแรกในชีวิตที่ผม


ลังเล ผมเปนนักบริหาร พอสอนเสมอวาเราอยูที่สูงและความรับผิดชอบก็ตองมากดวย บริษัทเปนของเรา แตก็มีอีกเปนหมื่นชีวิตที่
เราตองดูแล หากวางหมากผิดไมใชเราที่เดือนรอน พนักงานที่เขาฝากชีวิตไวกับเราก็ตองเดือนรอนดวย เพราะฉะนั้นจะตัดสินใจทํา
อะไรตองรอบคอบและมองการไกลเสมอ พรอมทั้งหาวิธีแกปญหาไวหากมันเกิดขึ้น เราตองพรอมที่จะรับมือกับมัน

แตเวลานี้ผมกําลังลังเล มองไมเห็นวาหนทางขางหนาจะเปนอยางไร หนึ่งชีวิตที่สําคัญมากสําหรับผมและผมเสนอตัวมารับผิดชอบ


เขา ใชหัวใจซื้อมา แลวผมจะบริหารหัวใจของผมประสบผลสําเร็จอยางที่บริหารงานหรือเปลา ผมไมมั่นใจเลย ผมถอนสายตาจากที่
ชารทแบต ในเมื่อตัดสินใจแลว ทางเดียวที่ทําไดก็คือรอผลของมัน

อดที่จะหันกลับไปมองยังนองอีกครั้งไมได อยากกระซิบบอกคําวารักนองเหลือเกิน อยากบอกใหนองคิดถึงกันบางแตก็ไมกลา


สุดทายก็หมุนตัวออกมาจากที่ตรงนั้นอยางเงียบเชียบดวยความรูสึกวาเหวในใจ
ผมมาถึงสนามบินกอนเวลาเล็กนอย นั่งมองทองฟาที่เริ่มเปลี่ยนสี ดูอบอุนในรุงอรุณฉาย แตผมกลับเหงาและหนาวจนตองยกมือ
ขึ้นมากอดอกเอาไว จากนั้นก็บอรดดิ้งขึ้นเครื่อง ไมถึงชั่วโมงก็มาถึงที่หมาย เมื่อออกจากเครื่องมือที่คุนเคยก็ควาหาโทรศัพท หมาย
จะสงขอความหานองวามาถึงแลว แตก็ตองชงัก ปวดหัวใจเมื่อตองหักหามตัวเอง

“อะไรครับ” รามิลถามเมื่อผมยื่นโทรศัพทให

“ชวยเก็บไวใหที” รามิลรับมันไปถือไวอยางงงงัน จากนั้นผมก็เดินนําออกไปยังรถที่จอดรออยู ไมอยากมองใหนานมากนัก กลัวใจ


ตัวเองจะไมแข็งพอ

หลังจากถึงโรงแรมก็กินอาหารเชาซึ่งทางนั้นจัดไวให อีกแลวความรูที่ไมอาจหามได นึกถึงระเบียงหลังหองกับกาแฟที่นองชงใหทุก


เชาจนเผลอยกนาฬิกาขึ้นมาดู จะแปดโมงแลว ปานนี้วินดี้คงตื่นแลวมั้ง นองคงออกไปยังระเบียงรดน้ําตนไม นองคงดูแลตนรักแรก
พบที่เราซื้อมาดวยกัน นึกแลวก็ยิ้มเหงาๆ กับตัวเอง

จากนั้นก็เขาตรวจงานวาทุกอยางพรอมหรือไม คณะประชุมจะเดินทางมาถึงตอนเที่ยง หนวยรักษาความปลอดภัยเปนสิ่งที่เราตอง


ระวังมากที่สุด วุนวายกับเรื่องโนนเรื่องนี้จนกระทั่งสิบโมงเชาพักเบรก อีกแลวมือมันหาโทรศัพทอีกแลว...ทรมานเหลือเกิน...ผมจะ
ทนกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงนี้ไดอีกนานเทาไรกัน...

“เจานายหานี่อยูหรือเปลาครับ” เสียงของรามิลถามพรอมกับยื่นโทรศัพทมาให สายหนาปฏิเสธรามิลพรอมกับปฏิเสธตัวเอง

“แบตมันเหลือไหม”

“เหลือขีดเดียวครับ” ผมพยักหนา

“งั้นก็ปลอยใหมันหมดแลวกัน”

จากนั้นก็เดินออกไปจากที่ตรงนั้น ทําตัวเองใหวุนวายมากที่สุด ไมอยากนึกถึงวาใครอีกคนจะคิดถึงกันบางไหม รอโทรศัพทจากผม


หรือเปลา หลับตานิ่งแลวขมหัวใจที่ปวดหนึบพรอมๆ กับเมินความรูสึกผิดในใจที่ทําอยางนี้กับนอง

“พี่ขอโทษนะครับวินดี้”
เคยคิดวาหากวันหนึ่งคนที่มาปวนเปยนวุนวายในชีวิตจากไป ความสงบสุขคงมาเยือน แตวันนี้พอเขาจากไปจริงๆ ความสงบที่
ตองการกลับกลายเปนความเงียบเหงาเดียวดาย เคยอยูคนเดียวได แตทําไมวันนี้ถึงอางวางเหน็บหนาว

เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเชาก็ลุกขึ้นไปดูตนไมอยางที่เคยดูทุกวัน เห็นตนรักแรกพบที่ไปซื้อกับไอพี่ทองกําลังบาน เมื่อวานดูชอบนสุดมัน


ยังตูมอยูเลย แตเชานี้เริ่มแยมบานออกมาแลว เห็นแลวก็ยิ้มได รดน้ําไปสักพักก็รูสึกแปลก ทําไมพี่เขายังไมออกมาอีกนะ ชั่ววินาที
ตอมาก็นึกขึ้นไดวาเชานี้พี่เขาตองไปทํางานแลวสินะ ถึงรูอยางนั้นแตก็อดไมไดที่จะเดินเขาไปดูในหองน้ํา ไมเห็น พอออกไปยัง
หองนั่งเลนก็ไมอยู ในครัวก็วางเปลา ถอนหายใจ พี่เขาไปแลวจริงๆ ทําไมไมปลุกกันบางจะไดลุกไปสง

เดินหนาบึ้งเขาหองน้ํา หยิบแปรงสีฟนขึ้นมายัดเขาปากอยางคุนเคย ทวาตองรีบดึงมันออกมา ไมมียาสีฟน สายหนาอยางเบื่อหนาย


กอนจะหยิบหลอดยาสีฟนมาบีบแลวปายไปที่แปรง ทําเองก็ไดวะ เมื่อกอนก็เคยทําเองนี่หวา จัดการตัวเองเรียบรอยก็หยิบหนังสือ
เรียนมาอานทบทวนนิดหนอยเพราะกวาจะไปเรียนก็บายโนน แตวาปรกติตองตื่นเชาพรอมพี่เขาทุกวัน มันก็เลยชิน จะใหกลับไป
นอนก็คงไมหลับแลว พออานไปไดสักพักก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ มองนาฬิกาจะสิบโมงแลว ทําไมมันเงียบอยางนี้ รออะไรอยูเหรอ เดินไป
หยิบโทรศัพทขึ้นมาดู วางเปลา ไมมีสายเขามาสักสาย อะไรของเคา ถึงหรือยังก็ไมบอก ปลอยใหคิดเอาเอง ชางมัน ถาไมอยากบอก
ก็ไมเห็นอยากจะรูเลย

หยิบผาใสตะกราทั้งของตัวเองและของพี่เคา จากนั้นก็เดินลงไปขางลาง ฝากที่รานซักรีด แวะที่รานกาแฟใตตึก นั่งจิบกาแฟแลวก็


มองผูคนเดินไปมา จนใกลเวลาเรียนแลวถึงกลับขึ้นไปบนหอง แตงตัว จากนั้นก็ไปมหาลัย นั่งเรียนไปก็คิดไปวาทําไมวันนี้มันเงียบ
อยางนี้วะ ถึงเมธกับลูกแพรจะชวนคุยโนนนี่ แตก็ไมสนุกเลย เรียนเสร็จกลับเขาบาน หยิบเมนูอาหารมาดูวาจะกินอะไร จากนั้นก็รื้อ
ตูออกมา หยิบของออกไปวางที่เคารเตอร มองมันดวยสายตาวางเปลาอยูอยางนั้น สุดทายก็เปลี่ยนใจเก็บมันเขาตูอยางเดิม ออกไป
ซื้อกินขางนอกดีกวาขี้เกียจทํา ย้ํากับตัวเองอยางนั้นพรอมๆ กับสะบัดศีรษะไลความวาเหวออกไปไกลๆ

กินขาวเสร็จกลับเขาหอง ฝนแมรงดันตกลงมาอีก เซ็ง เหงามากกวาเกา หยิบโทรศัพทขึ้นมาดูเปนครั้งที่รอยแปด มีสายเขามาสี่สาย


แตไมมีของคนที่รออยู ยกมือขึ้นมาตบหนาตัวเองเบาๆ มึงเปนอะไรของมึงกุล ไมเขาใจตัวเอง ทําไมโหวงเหวง เงียบเหงา โหยหา
อะไรสักอยาง แตก็หาคําตอบไมได สายหนาใหตัวเองชาๆ พรอมกับเดินเอาโทรศัพทไปชารทแบต ทวากลับเห็นสายชารตแบตของ
อีกคนวางอยูขางๆ

อาว...ทําไมไมเอาไปดวยละ หรือวาลืม งั้นที่ไมโทรมานี่เพราะวาแบตหมดแลวไมไดเอาสายชารตไปดวยใชไหม คิดไดอยางนั้นก็ยิ้ม


ออก แลวมึงจะยิ้มทําไมวะกุล ยิ้มที่รูวาเขาไมไดตั้งใจไมโทรหามึงอยางนั้นเหรอ หุบยิ้ม แตระดับนั้นแคสายชารตแบตหาซื้อใหมก็ได
แลว ถาคนเราคิดจะติดตอกันจริงๆ นะ แตชาง ไมอยากเก็บมาใสใจ จะตั้งใจหรือไมตั้งใจเอาเปนวาวันนี้ไมมีสายจากไอพี่บาสักสาย

เดินออกไปยังหองนั่งเลน หยิบแผนหนังมาดูดีกวา ขยับตัวไปนั่งที่มุมสุดของโซฟา ชะงักอยูอยางนั้นพักใหญ มึงจะขยับมานั่งมุมนี้


ทําไม โซฟาออกยาว คิดไดอยางนั้นก็เลยเหยียดตัวนอนยาวไปตามโซฟาแลวดูหนังซะเลย ดีจัง ไมตองมีใครมาแยงที่นั่ง อืม...สบาย
ดูไปไมถึงกลางเรื่อง ลุกขึ้นมานั่ง แมรง นอนดูแลวจะหลับ มานั่งดูที่มุมเดิมดีกวา ก็แคนอนดูแลวจะหลับเทานั้นเองนะเวย...แนใจ
หรือกุล กูไมรู ไมอยากเถียงกับตัวเอง ลุกไปหยิบสมจีนที่ซื้อเมื่อวานมากินดีกวา

เดินเขาไปในครัว เปดตูเย็นหยิบสมออกมา แตหางตาแลเห็นลองกอง ไมอยูแลวใครจะกินละเนี่ย ยุงยากกูอีก เอาสมไปเก็บไวที่เดิม


หยิบลองกองออกมากินแทน นั่งกินไปไดแคสองลูก กลืนตอไมลง ลําคอตืบตันยังไงไมรู แมรง ลองกองเจานี่หวย สงสัยตองไปซื้อเจา
ประจําเพราะวามันไมอรอยเหมือนคราวกอน เอาไปเก็บเขาตูเหมือนเดิม ไปอาบน้ําดีกวาเผื่อจะรูสึกสมองโปรงขึ้นมาบาง อีกอยาง
จะไดไลไอความรูสึกหดหูบาๆ นี่มันไปไกลๆ อาบน้ําเสร็จเขามาในหอง มองไปนอกหนาตาง เริ่มเกลียดฟาเกลียดฝนขึ้นมา มันจะ
อะไรนักหนา มึงจะตกถึงเชาเลยไหม กูไมชอบเสียงฝน ไดฟงแลวมันเหงา
ลมตัวลงนอน ทําไมวันนี้มันหนาวอยางนี้วะ ลุกขึ้นไปหรี่แอร กลับมาลมตัวลงนอนอีกครั้ง พลิกตัวซายขวาไปหลายตลบก็ไมหลับ
หมดทางหนี สุดทายก็ตองกลับมาทบทวนความรูสึกของตัวเอง

นี่กูเปนอะไร...ทําไมหนักอึ้งในหัวใจ?

นี่กูเปนอะไร...ทําไมตองคอยมองแตโทรศัพท?

นี่กูเปนอะไร...ทําไมอยูคนเดียวไมได?

นี่กูเปนอะไร...ทําไมจะหยิบจะจับอะไรภาพวันเกาๆ ก็หวนเขามา?

มันคืออะไร?

หรือวานี่ก.ู ..กําลังคิดถึงใครบางคนอยูใชไหม?

เงียบ...ใหเวลาทบทวนความรูสึกของตัวเองอีกครั้ง คิดกลับไปกลับมาอยูอยางนั้น

จริงหรือ?

แนใจนะ?

มันเปนคําตอบที่กําลังคนหาอยูใชไหม?

เออ...

ใช....

...กูกําลังคิดถึงมึงอยูไอพี่บา...

...คิดถึงมากดวย...

....คิดถึงโวย!!!!
คําตอบที่ดังกึกกองอยูในหัวยิ่งทําใหหัวใจปวดหนึบมากกวาเกา วาดมือไปยังที่นอนขางๆ ซึ่งวางเปลาก็เหงาในหัวใจ ไออุนที่เคย
ไดรับ วันนี้กลับหายไป อีกกี่วันกวาพี่เขาจะกลับมา จะทนกับความหนาวเหน็บนี้ไดไหม ควาหมอนที่พี่เขาเคยหนุนมากอดไว ถึงมัน
ทดแทนกันไมได แตยังดีกวาใหออมแขนวางเปลา...เข็มนาฬิกาในค่ําคืนนี้ก็ชางเดินชาเหลือเกิน ไมรูจะทรมานกันไปถึงไหน...

...แลวคนทางโนนละ จะเปนเหมือนกันหรือเปลา...

...จะเหงา จะอางวาง เหมือนกันบางไหม...

...แตคนทางนี้มีคําหนึ่งคําที่อยากใหร.ู ..

...พี่ครับ...

...พี่ไดยินหรือเปลาเสียงหัวใจของวิน มันกําลังบอกวาคิดถึงพี่เหลือเกิน...
ดึกแลวแตผมยังคงยืนอยูริมหนาตางในหองพักของโรงแรม ชั้นที่ผมยืนอยูนี้เปนชั้นบนสุด สามารถมองเห็นวิวภายนอกไดรอยแปด
สิบองศา ทวาเวลานี้ฝนกําลังตก สิ่งที่อยูตรงหนาผมขณะนี้ก็มีเพียงแตเม็ดฝนที่มากระทบหนาตางในเวลาค่ําคืน มานสายฝนบดบัง
แสงไฟจากตึกอาคารยามราตรี อากาศฝายนอกคงเย็นกวาขางในพอสมควรไอน้ําจึงเกาะที่กระจก ผมยกมือขึ้นลูบมันออกอยางแผว
เบา มองกระจกเบื้องหนาซึ่งมีเงาลางๆ ของผมปรากฏใหเห็น หากแตชั่วพริบตาภาพก็เปลี่ยนเปนดวงหนาของใครอีกคนที่อยูในหวง
คํานึงของผมตลอดเวลา

ใบหนาของวินดี้ยิ้มโชวลักยิ้มที่แกมขางซายกับเขี้ยวเล็กๆ มุมปาก ดั่งคลายกับนองกําลังยิ้มใหผม ในหวงของความหวงหาทําใหผม


ยกมือขึ้นลูบทีห่ นาตางนั่นอีกครั้ง หมายจะสัมผัสดวงหนาของคนที่ผมรัก ทวาที่จับตองไดก็มีเพียงกระจกที่กั้นกลางระหวางภายใน
และนอกตัวอาคาร ผมถอนหายใจออกมาอยางหนักหนวง ปวดใจดั่งถูกเข็มนับพันเลมทิ่มแทง คิดถึงนองเหลือเกิน อยากใหนองมา
อยูตรงหนาเพื่อจะไดดึงมากอดไวแนบอก กระซิบบอกคําวารักและหวงหา อยากถามวาสองวันที่ผานมาคิดถึงพี่บางไหม เหงาบาง
ไหมเวลาที่หางกันไกลอยางนี้

ผมหลับตา กอนจะเดินมาทรุดนั่งที่ปลายเตียงอยางออนแรง ยกมือขึ้นลูบหนา เหนื่อยใจ ผมจะทนไมไหวอยูแลว อยากกลับไปหา


อยากไดยินเสียง ผมยกนาฬิกาขึ้นมาดู จะสี่ทุมแลว ตอนนี้นองทําอะไรอยูหนอ วินดี้คงกําลังอานหนังสือหรือไมก็ดูหนังอยูละมั้ง แต
ตอนนี้ฝนมันตกเหมือนคืนวานนี่นา วินดี้เกลียดเสียงฝน งั้นนองคงออกไปนั่งฟงเพลงที่โซฟาสินะ

สองวันกับหนึ่งคืนที่จากกัน เวลาสั้นๆ แตมันยาวนานเหลือเกินสําหรับผม เมื่อคืนนอนยังไงก็นอนไมหลับ คิดไปสารพัดวาตัวเองทํา


แบบนี้ถูกแลวหรือ จะทรมานตัวเองเพื่ออะไร อยากรูความรูสึกของนองเพื่ออะไร หากนองไมรักจะถอยออกมาอยางนั้นหรือ ไมใช
แนนอน ผมไมมีทางทําอยางนั้น หากนองรูสึกพิเศษกับผมละ ผมจะทําอะไร ผมก็ยังจะอยูกับนองตอไป ใชความรักที่มีผูกมัดนองไว
กับผม แลวมันตางอะไรกับชวงเวลาที่ผานมา
ตอนแรกผมกะวาจะใหเวลาวินดี้สํารวจหัวใจตัวเองสักสามวัน แตตอนนี้ผมจะทนไมไหวแลว แคสองวันผมก็ใจจะขาดเสียใหได กลัว
ไปสารพัด แทนที่นองจะไดสํารวจใจตัวเองบางทีอาจเปนการเปดโอกาสใหนองหายไปจากผม หรืออาจมีแมวขโมยยองมาทําใหนอง
หวั่นไหว หรือบางทีอาจเกิดอะไรขึ้นกับนองในชวงเวลาที่ผมไมไดติดตอไป กลัววาหากเปนเชนนั้นผมจะใจขาดตายที่หมดโอกาสกอด
นองไวในออมแขน

สารภาพเลยวาไมเคยรูสึกวาอะไรยากเทานี้มากอน ทุกครั้งที่อยากไดอะไรผมจะไดมาอยางงายดาย อาจเปนพรสวรรคที่ผมไดความ


ฉลาดมาจากพอ ไดใบหนาที่พอดูไดมาจากบรรพบุรุษ และมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง ทําใหทุกอยางอยูไมไกลเกินเอื้อมมือควา แต
ครั้งนี้มันยากกวาที่คิด อาจเปนเพราะผมตองใชหัวใจควานองมาละมั้ง มันถึงไดเหนื่อยมากกวาที่เคย

ผมลมตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้ง พรุงนี้ผมก็จะไดคุยกับนองแลวสินะ แตทําไมผมถึงรอเวลานั้นไมได ทรมานเหลือเกิน หยุดมันดีไหม


แผนบาๆ ที่ทํารายหัวใจและความรูสึกของตัวเองแบบนี้ ชางมันดีไหม ไมสนแลววานองจะคนใจตัวเองเจอหรือยัง ไมสนแลววา
คําตอบของมันจะออกมายังไง หากไดยินเสียงนองในคืนนี้ผมคงจะหลับฝนดีใชไหม ความโหยหาที่กัดกินจนใจกรอนนี่มันคงหายไป
งั้นผมควรจะทําตามหัวใจเรียกรองสิ...อยาชาอยูเลย...

กอนที่ความออนแอนี่จะหายไป ผมรีบเอื้อมมือไปยังโทรศัพทของโรงแรม กดหมายเลขที่ผมจําไดขึ้นใจ รอสายดวยหัวใจเตนรั่ว แต


จนแลวจนรอดก็ไมมีเสียงตอบกลับมา

...วินดี้ไมรับโทรศัพท?

...ทําไม?

ผมยนคิ้ว นองไปไหน ยกนาฬิกาขึ้นมาดูอีกครั้ง สี่ทุมสิบนาที อาบน้ําอยูหรือ ไมนาใช วินดี้ชอบอาบน้ําแตหัวค่ํา หรือวาหลับ หรือ


นองเปนอะไรไป ไมจริงหรอก งั้นก็โกรธผม ไมอยากพูดดวยแลว แตมันก็ไมนาใชในเมื่อผมใชโทรศัพทของโรงแรมโทรออกนี่ นองจะรู
ไดยังไงวาเปนผม

ผมกดโทรออกอีกครั้งหากแตครั้งนี้นองกดรับเพียงแคครั้งเดียวที่เสียงเรียกสายดัง

...ทวาวินดี้กลับเงียบ ไมเอื้อนเอยคําใดๆ ออกมา

.
.

“พี่คิดถึงวินดี้”

ผมพูดออกไปทามกลางความเงียบ มันจะมีคําไหนอธิบายความรูสึกของผมมากกวาคําๆ นี้ไดไหม ทั้งๆ ที่สิ่งทีอ่ ัดแนนอยูภายในนั้น


มากกวาจะใชเพียงคําสองคําบรรยายออกมาได พอผมพูดจบปลายสายก็ยังคงเงียบ ทามกลางการกาวเดินของเวลาแตละวินาที ผม
รอนองพูดกลับมาดวยใจระทึก
.

และแลวผมก็ตองหยุดหายใจไปชั่วขณะเมื่อนองทําใหการรอคอยของผมสิ้นสุดลง เพียงเพราะคําพูดหนึ่งประโยคที่ไดยิน
.

“คิดถึงก็รีบกลับมา”

...ในที่สุดการเดินทางอันยาวนานก็ถึงเวลาหยุดพัก พรอมกับหัวใจอันแหงแลงกลับชุมฉ่ําดวยหยาดฝนแหงรักที่นองโปรยมาให...
เสียงฝนที่ตกกระทบระเบียงยังคงเปนเสียงเดิมๆ เหมือนที่เคยไดยิน หากแตความรูสึกที่ไดฟงในคืนนี้และคืนกอนนั้นตางกันยิ่งนัก
เวลาอยูคนเดียวจะเหงาทุกครั้งที่ไดยินเสียงนี้ แตยามนี้ความเหงาที่เคยมีไดถูกเยียวยา ผมคนพบแลววาตอแตนี้ผมไมไดอยูโดด
เดี่ยวอีกตอไป ผมยังมีคนให “คิดถึง” และมีคนที่ “คิดถึง” ผมมากเชนเดียวกัน
หองเดิมๆ ในคืนที่ตองอยูคนเดียวดั่งเชนเมื่อวานกลับไมหนาวอีกตอไป ไออุนจากหมอนที่พี่เคยหนุนสงผานความอุนมาให แผซาน
เขาสูหัวใจ เข็มนาฬิกาที่เดินไปอยางเชื่องชาไมไดทรมานผมแตกลับชวยรื้อฟอความทรงจําอันมีคา ภาพของสองเราหวนเขามาฉาย
เปนฉากๆ ไปพรอมกับการกาวเดินของเวลาอยางเชื่องชา รอยยิ้มของพี่ เสียงหัวเราะ และออมกอดที่ผมเคยปฏิเสธตลอดมากลับหม
ใจของผมใหอิ่มเอม ยิ้มไดเมื่อนึกถึงรอยจารึกแหงรักที่ไดฝากเอาไวในหัวใจของผม

“ปง ปอง”

ภวังคแหงการดื่มด่ําความทรงจําไดถูกปลุกขึ้นเมื่องเสียงกริ๊งที่ประตูดังขึ้น ผมหมุนคิ้วเล็กนอย มองไปยังนาฬิกา จะหกทุมแลวใคร


กันที่มาในยามวิกาลเชนนี้

ผมลุกขึ้นจากเตียงเดินไปยังประตู มองไปยังจอมอนิเตอร แลวภาพที่เห็นอยูตรงหนาก็ทําใหยืนนิ่งอยูกับที่ ไมอยากเชื่อสายตาตัวเอง


นี่ผมกําลังฝนอยูใชไหมที่เห็นพี่เขา จะเปนไปไดอยางไรในเมื่อเราเพิ่งจะวางสายจากกันเมื่อสองชั่วโมงกอน ตอนนั้นไอพี่ทองยังอยูที่
ทํางานอยูเลย นี่ผมคงคิดถึงเขามากสินะ ถึงไดตาฝาดไป ผมพยายามกระพริบตาเพื่อจะไดมองใหแนชัดวาใชพี่เขาจริงหรือเปลา แต
ขณะที่พยายามเรียกสติตัวเองอยูนั้นประตูหองก็ถูกไขและเปดเขามา

คนที่อยูตรงหนาผมขณะนี้ทําใหรางกายผมเหมือนถูกสาป ขาไมอาจกาวเดินได มีเพียงหัวใจเทานั้นที่เตนรัวเร็ว มันดังกวาเสียงกลอง


ของเพลงร็อกที่บรรเลงอยู ภาพของพี่เขาที่อยูตรงหนาคอยๆ เลือนลางเมื่อหยาดน้ําตาแหงความปลาบปลื้มไหลรินออกมา

“กลับมาแลวครับ” น้ําเสียงอบอุนกับรอยยิ้มที่ผมโหยหานั่นชวยยืนยันไดเปนอยางดีวาผมไมไดฝนไป ผูชายที่ยืนอยูตรงหนาเวลานี้


เขากลับมาหาผมแลว ผมพยายามแยมเรียวปากเพื่อฉีกยิ้มดวยความดีใจกอนจะกาวเดินเขาหาออมแขนที่อารออยู

เหมือนการกาวเดินของผมจะชาไปหรือเปลาไมอาจรูได เพราะพี่เขาไดเดินเขาหาผมกอนพรอมกับดึงรางของผมเขาสูออมแขนแกรง
ที่โหยหา ผมไดยินเสียงลมหายใจที่แรงเร็วทั้งของตัวเองและพี่เขาสอดประสานกัน หัวใจเตนรัวของอีกฝายที่เตนอยูใตฝามือของผมก็
ไมตางจากจังหวะการเตนของหัวใจผมเชนเดียวกัน

“พี่คิดถึงวินดี้” น้ําเสียงแหบแหงที่กระซิบบอกกระตุนตอมน้ําตาของผมใหไหลออกมาไมหยุด

“รอพี่นานไหมครับ” พี่เขาขยับออกหางผมเล็กนอย เพื่อใหนัยนตาคมกริบหากแตฉายประกายรักจองลึกเขามาในดวงตาของผม


สะกดใหสิ่งรอบกายหยุดนิ่ง ทุกความสนใจของผมหยุดอยูที่พี่เขา ผมพยายามกลั้นเสียงสะอื้นเพื่อเคนหาคําพูดออกมา ใหผมรอนาน
กวานี้ผมก็รอได เพียงแคไดรูวาพี่เขารักและคิดถึงผมเชนเดียวกัน อยากบอกพี่แบบนั้น ทวาปากกลับไมอาจเอื้อนเอยคําใดๆ ออกมา
ไดเพียงแตสายหนาปฏิเสธแทนคําพูด

“เกือบไมทันเครื่องเที่ยวสุดทาย จะใหรอถึงพรุงนี้ก็รอไมไหว อยากเห็นหนาวินดี้ใจจะขาด” พี่เขาพูดพรางยิ้ม นัยนตาสื่อความรูสึกใน


หัวใจจับจองดวงหนาของผม ไลสํารวจไปตามจุดตางๆ ซึ่งไมตางจากผมที่ไลสายตาสํารวจดวงหนาของพี่เขาเชนเดียวกัน...ผมก็ดีใจ
ที่เห็นพี่เขากลับมาหาผมในคืนนี้...
ลมหายใจที่หอบหนอยๆ นั่นบอกวาพี่เขาคงผานการวิ่งมา ปรอยผมที่เปยกทําใหผมคิดวาคงมาจากสายฝนจากภายนอก คิ้วหนาเขม
นัยนตาสีดําสนิทดุจน้ําบอลึกที่กําลังไหวติงทอแสงแพรวพราววาววับ ผมอยากมองพี่เขาใหนานกวานี้แตภาพกลับเลือนลางขึ้นทุกที
และแลวพี่เขาเหมือนจะรูใจผม ชวยเกลี่ยหยาดน้ําตาออกไปจากดวงตาให แลวผมก็เห็นหนาพี่เขาชัดขึ้นอีกครั้ง และมันก็ชัดขึ้นทุก
ขณะเมื่อใบหนาคมเขมนั้นกมเขามาใกล...ใกลจนแนบชิดกับหนาของผม

ผมหลับตาเมื่อริมฝปากอุนแตะที่หนาผากอยางแผวเบา กอนจะไลพรมจูบไปทั่วดวงหนา สัมผัสนุมนวลออนหวานดั่งผีเสื้อโบยบินจูบ


ออยอิงที่หางตาอยางตองการจะซับน้ําตาให จากนั้นก็เลื่อนมาที่แกม ไลริมฝปากไปยังสันจมูกและแกมอีกขาง สุดทายก็จรดลงที่ริม
ฝปากของผม ความละมุนละไมที่ไดรับทําใหหัวใจผมเตนรัวเร็ว รางกายออนระทวยตอบรับบางสิ่งที่เคลื่อนไหวอยูภายใน มันวาบ
หวามเสียวซานราวกับเผื้อเสื้อนับรอยฝูง รวมใจกันกระพืบปกบินใจชองทอง

ความรูสึกหวาบหวิววิ่งพลานเขาสูหัวใจอยางบาคลั่ง เรียกรองใหผมเผยอเรียวปากตอบรับลิ้นอุนๆ ที่สอดเขามา ความอบอุน


ซาบซานเคลื่อนไหวในรางกายของผมพรอมๆ กับจังหวะเรียวลิ้วที่พริ้วไหว เยาหยอกซึ่งกันและกัน ทั้งเชื่องชาออนหวาน สลับกับ
หนักหนวง เรารอน เรียกรองและโหยหา

“อะ...อืมมม” เสียงของผมที่เล็ดลอดออกมาเมื่อชวงจังหวะเรียวปากของเราแยกจากกันกอนจะบดเบียดแนบชิดกันอีกครั้ง

“หวาน...หวานเหลือเกิน...วินดี้ของพี่” เสียงกระเสาของพี่เขาเมื่อลิ้นอุนละหางเพื่อกระซิบบอก กอนจะสอดมันเขามาในปากผมอีก


ครั้ง ชิมความหอมหวานอยางกระหาย

บทเพลงแหงริมฝปากยังบรรเลงในจังหวะพริ้วไหวออนหวาน เพื่อถายทอดความรักและโหยหาที่มีตอกันและกัน มือหนาลูบไลไป


ตามเนื้อตัวของผมเพื่อเขาจังหวะบทเพลงที่กําลังบรรเลง เสื้อผาที่สวมอยูดูเปนอุปสรรคมันจึงถูกดึงออก จากนัน้ พี่เขาก็ซบหนาลง
จูบพรมไปตามซอกคอของผมอีกครั้ง ความรอนวิ่งไปทั่วรางทันทีมือนิ้วแข็งเคลนคลึงกับยอดอกของผม

“อะ อาาาาาา”

มันวาบหวิบจนอดที่จะเปรงเสียงออกมาไมได ความเสียวซานนั่นใหผมจับมือพี่เขาไว ทวาพี่เขากลับชะงัก เงยหนาขึ้นจากซอคอของ


ผม สบตาอยางคนควาหากแตเวาวอนอยูในที ผมรูความหมายนั้นดีวาหากปฏิเสธ เขาก็พรอมจะหักหามใจเหมือนทุกครั้งที่ผานมา
แตตอนนี้ผมกําลังโหยหาสัมผัสจากเขา ไมกลัวอยางที่เคยมา อยากใหเขาปรนเปรอความซาบซานนี้ตอไป มือที่สั่นเทาของตัวเองจึง
คอยๆ ละหางจากมือของเขา เอื้อมไปโนนลําคอของอีกฝายมาจูบ บอกเปนนัยวาพรอมแลวที่จะใหพี่เขานําทาง ไมวาจะกาวพาผม
ไปยังแหงหนใดก็ตาม

ชั่วพริบตาก็รูสึกเหมือนโลกโคลงเคลงเมื่อถูกอุมขึ้น ผมรีบสอดแขนไวรอบคออีกฝาย ครูตอมาแผนหลังของผมก็สัมผัสกับที่นอน


กอนที่เสื้อผาของเราทั้งสองจะถูกถอดออก ใหเหลือเพียงเนื้อที่แนบอยูกับเนื้อของผม
“พี่รักวินดี้นะครับ” คําพูดในเชิงบอกใหรูวาอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ทําใหผมหลับตาลงอยางเขินอาย คําวา “รัก” ในค่ําคืนนี้มัน
บรรจุสองความหมายเอาไว “รักดวยใจ” และ “รักดวยกาย”

“อะ อืมมมม” ผมแอนอกขึ้นอยางกระสันเมื่อริมฝปากรอนๆ เริ่มทําหนาที่ บิดลําตัวไปมาเมื่อความเสียวซานวิ่งพลานอยูในราง มือที่


วางเปลาของตัวเองเริ่มควาหาที่เกาะติด สอดเขากับเสนผมของพี่เขาซึ่งกําลังดูดไซไปตามคอ มือรอนหยอกลอกับยอดออกของผม
ริมฝปากคูนั้นไลลงต่ําเรื่อยๆ พรอมกับมือที่เลาโลมไปทุกอณุของรางกายเชนกัน และเมื่อมาหยุดที่ยอดอกของผม มือของพี่เขาก็แตะ
ที่สวนกลางลําตัวของผมพอดี

“อะ...อาาาาา” มันเสียวจนสุดจะทน ทั้งริมฝปากที่ปลุกอารมณผมในสวนบน มือที่ลูบขึ้นลงสัมผัสความแข็งขึงในสวนลาง สมองของ


ผมเริ่มขาวโพลนขึน้ ทุกขณะ ยิ่งเมื่อริมฝปากคูนั้นไลต่ําลงจนครอบครองสวนที่ไวตอการสัมผัส โลกมันก็ยิ่งหมุนติ้ว สติสัมปชัญญะ
เริ่มหลุดลอย พี่เขาชํานาญเหลือเกิน เอาใจ ปรนปรอ ดวยริมฝปาก ลิ้น มือ ตางละเลงไปบนแกนเนื้อ หยอกเยาปลุกเราอารมณของ
ผมใหแตกกระจาย

“อะ...ไม...ไหว..แลว” เหมือนดั่งคลื่นลูกใหญในตัวกําลังทะยานขึ้นสูง อยากพยายามพยุงตัวขึ้นเพื่อพลักใหเขาออกหาง แตอีกฝาย


กลับยิ่งเรงจังหวะดูดจูบขึ้นลงใหเร็วขึ้น แลวจังหวะตอมารางกายผมก็กระตุก

“อาาาาาาาาา” พรอมกับปดปลอยของเหลวออกมา ผมหอบหายใจอยางออนแรง ไมมีแมกระทั่งเสียงหามเมื่อพี่เขาใชปลายลิ้นทํา


ความสะอาดที่สวนนั้นให วินาทีตอมาพี่เขาก็ผละออกหาง ไดยินเสียงกุกกักที่หัวเตียง กอนตองสะดุงเล็กนอยเมื่อความเย็นวาบแตะ
ที่บั้นทายพรอมสัมผัสแปลกปลอมสอดเขามา มันเจ็บและอึดอัดอยูในที ทวายังไมทันไดเงยหนาขึ้นดูวาสิ่งที่ลวงล้ําคืออะไร พี่เขาก็
ตามขึ้นมาประกบปากจูบจนผมเคลิ้ม

“ไมตองเกรงนะครับ” ผมพยายามทําตามคําที่พี่เขาบอก หายใจเขาออกอยางชาๆ พรอมกับการสอดแทรกที่สวนลางของผมเริ่มขยับ


ลิ้นและมืออีกขางของพี่เขาดูดเมมยอดอก ผมทําใหเคลิ้มจนเผลอลืมความอึดอัด จากนั้นความรูสึกแปลกใหมก็กระตุนรางกายผม
อีกครั้ง ความเจ็บเมื่อครูลดลงจนหายไปและเปลี่ยนเปนความเสียวกระสันแทน

“อะ...อืมมมมม” เสียงครวญครางของผมที่เปรงออกมาเรียกนิ้วเรียวของเขาใหสอดเพิ่มจํานวนเขาไปอีก คราวนี้ความรูสึกไดรับมัน


แตกตางจากคราวแรกจนผมเผลอแอนสะโพกตอบรับสัมผัสนั่นอยางลุมหลง

“วินดี้เปนของพี่นะครับ” เสียงกระซิบที่สั่นกระเสาของพี่เขาทําใหผมลืมตาขึ้น สายตาเราสบกัน ผมมองเห็นเปลวเพลิงแหงรักที่สุมอยู


ในดวงตาคูนั้นอยางรอนแรง มันเรียกรองและบอกวาเขาตองการผมมากเหลือเกิน

“คะ...ครับ” ผมตอบออกไปตามความรูสึกอยางเอียงอาย หนาผมคงแดงซานไปหมด แตผมก็อยากใหเขารู ผมอยากเปนของเขา


อยากใหเขาครอบครองตัวผม เปนหนึ่งเดียวกัน แลวชวงเวลานั้นก็มาถึงเมื่อพี่เขาสอดแทรกแกนกายเขามาในตัวผมแทนนิ้วมือที่ละ
หางออกไป
“อะ..อา...วินดี.้ ..”

“อะ...อาาาาา”

เสียงของเราสองคนครางประสานกันออกมา สําหรับผมมันมีความเจ็บปนอยู รางกายมันยังไมชินกับแกนกายทีใหญของพี่เขา


เหมือนเขาจะเขาใจวาผมตองการเวลาปรับตัวสักพัก ริมฝปากนั้นถึงไดกมลงมามอบจุมพิตดูดดื่มใหกับผม กอนจะเริ่มขยับตัวในราง
ผมอยางเชื่องชา รอผมปรับรางกายรวมอยางใจเย็น สัมผัสเขาออกนั้นชางออนโยนและใสใจ ยามที่เขาขยับตัวครั้งใด ดวงดาวพราง
พรายก็ระยิบระยับในหัวของผม ความรูสึกหลากหลายเขาจูโจม มันหวาบหวิว หวามไหว เสียวซาน และสุขสมที่เรารวมเปนหนึ่ง
เดียว

จังหวะการเคลือ่ นไหวที่ออนโยนเริ่มเร็วขึ้น ชักนําใหผมตอบสนองอยางเรารอน ลิ้นรอนๆ จูบพรมไปตามหนาอกกับฝามือหนาที่ถา


โถมปรนเปรอความสุขใหกับสวนลางของผม บั้นทายตอบรับกันและกันอยางเปนจังหวะ

“อะ...อาาาา” เสียงครวญครางของผม

“อืม...วินดี.้ ..” เสียงครวญครางของพีเ่ ขา

“แฮก...แฮก...” เสียงลมหายใจของสองเรา

“พลึบ...พลับ...พลึบ...พลับ...” เสียงเนื้อกระทบเนื้อเมื่อรางกายรวมเปนหนึ่ง

“ตึก...ตัก...ตึก...ตัก..” เสียงหัวใจของเราสองคนที่เตนกระหน่ําในจังหวะเดียวกัน

สิ่งเหลานี้ตางสอดประสานไปพรอมๆ กับเพลงรักที่เรารอนหากแตออนหวาน ริมฝปากของเราทั้งคูจูบตอบกันและกัน มือลูบสัมผัส


รางกายของอีกฝายอยางรักใคร คนหนึ่งถาโถมเขามา อีกคนแอนกายรับ รวมเปนหนึ่งเดียวไดอยางเหมาะเจาะ ทุกทวงทา ไมวาจะ
ถูกจับพลิกคว่ําหรือหงาย รางกายผมก็ตอบสนองพี่เขาอยางเต็มใจ

“รักนะครับ..อะ..อืมมมม” คํารักที่พี่เขาบอกไมวายามใดก็ใหหัวใจเอิบอิ่มไดเสมอ ยิ่งเราสองคนอยูในตัวของกันและกันเชนนี้ยิ่งรูสึก


ลึกซึ้งกับความหมายของมัน

“อะ...ไมไหวแลว...”

ความรูสึกของผมกําลังพุงทะยานขึ้นสูง และพี่เขาก็คงจะเชนเดียวกัน จังหวะการสอดแทรกจึงเร็วและแรงขึ้นจนผมแทบสําลักความ


เสียวซาน แลวครูตอมาเราก็สะดุงเฮือกกอนรางกายของเราทั้งสองจะกระตุกพรอมๆ กัน
“อาาาาา”

สองเสียงที่รวมประสานเมื่อเราทั้งคูเดินทางมาถึงสุดสายปลายรุง มันชางสวางไสว สวยงาม และโอบลอมดวยความสุขสุม พี่เขาซบ


หนาลงที่อกของผม หายใจแรง เหงื่อกาฬทวมตัว ซึ่งมันก็ไมตางจากผมมากนัก เสียงหัวใจของผมยังคงรัวเร็ว หากแตความรูสึก
ซาบซานเมื่อครูนั่นทําเผลอปากพึมพําออกมา

“เหมือนฝน” พี่เขาเงยหนาขึ้นจากอกผมกอนจะหัวเราะเบาๆ ในลําคอ

“เหมือนฝนไมไดนะครับวินดี้ พี่ตั้งใจทํามันอยางเต็มทีเลยนะ” วาจบก็จุบที่ริมฝปากผมเบาๆ กอนจะคอยๆ ถอนตัวออกจากรางกาย


ของผม การเคลื่อนตัวของพี่เขาทําใหผมครางออกมาอีกครั้ง กอนที่สายตาจะมองตามรางหนาซึ่งจัดการกับถุงยางในแกนกายของ
ตัวเอง ไมนาเชื่อวาสิ่งนั้นเคยเขาไปอยูในรางของผม มัน...เออ...ใบหนาผมรอนวูบวาบเมื่อเห็นมันเต็มตา และพอพี่เขาหันหนามาก็
ตองรีบกมหนาหงุด หลบสายตาอยางเคอะเขิน

“ขอบคุณนะครับวินดี้ มันวิเศษที่สุดเลย” พี่เขาบอกกอนจะจูบหนาผากผม จากนั้นก็เอนตัวลงนอนเคียงขาง ดึงผมเขาไปกอดไว

“เพิ่งรูวันนี้เองวาสวรรคบนดินนะเปนยังไง” คําพูดนั้นทําใหผมเขินอาย กัดริมฝปากตัวเอง ไมกลาสบตากับอีกฝาย ชั่ววินาทีตอมาพี่


เขาก็พลิกตัวขึ้นมาคว่ําผมไว เชยคางผมขึ้นใหสบตา จากนั้นก็โนมใบหนาลงมาบดริมฝปากผม มอบจูบดื่มด่ําสลับกับเรารอน ฝามือ
รอนๆ ลูบไลสําผัสไปตามเนื้อตัวของผมจนขนลุกซูขึ้นมาอีกครั้ง

“อะไรครับ” พี่เขาถามหลังจากถอนริมฝปากออกมาเมื่อผมยกมือดันอกพี่เขาไว นัยนตากรุมกริ่มแพรวพราวมองมาอยางสื่อ


ความหมาย

“พะ...พอเถอะ” ผมตอบเสียงเบาพรอมหลบตาอีกฝาย ใบหนารอนวูบวาบไปหมด

“ทําไมละครับ” น้ําเสียงที่ถามนั้นยังคงออนโยน หากแตแววตาวิบวับนั่นทําใหผมรูวาคงแพคนเจาเลหแนๆ

“พะ...พี่ทําวินเหนื่อย ตอนนี้อยากพักแลว” พอผมพูดออกไปพี่เขาก็หัวเราะ กมลงมาไซซอกคอผม ไลเรื่อยไปถึงหูและกระซิบแผวเบา

“ถาเหนื่อย...วินดี้ก็นอนเฉยๆ นะครับ ที่เหลือพี่จัดการเอง”

ผมทบไหลพี่เขาไปที จะใหผมนอนเฉยๆ ไดยังไง ในเมื่อทั้งมือทั้งริมฝปากพี่เขามายุมยามกับรางกายผม ที่ผานมาบอกผมวาพี่เขา


เชี่ยวชาญอยางรายกาจ มากไปกวานั้นเขารูจักรางกายผมดียิ่งกวาตัวผมซะอีก

“อะ...อืมมม” เห็นไหมผมบอกแลว ไมทันไรเขาก็ทําใหผมครวญครางออกมา


สุดจะหามได คงปลอยใหเพลงรักบรรเลงตอไปซ้ําแลวซ้ําอีกจนพอใจอีกฝาย แตก็อยากสารภาพออกมาตามตรงวา มันก็รูสึกดีนะ ที่
การทํารักครั้งนี้ไมไดเกิดจากความใครและเห็นแกตัว หากแตพรอมใจกันทั้งสองฝาย

“อะ...อาาาา” เสียงครวญครางของผม

“อืม...วินดี.้ ..” เสียงครวญครางของพี่เขา

“แฮก...แฮก...” เสียงลมหายใจของสองเรา

“พลึบ...พลับ...พลึบ...พลับ...” เสียงเนื้อกระทบเนื้อเมื่อรางกายรวมเปนหนึ่ง

“ตึก...ตัก...ตึก...ตัก..” เสียงหัวใจของเราสองคนที่เตนกระหน่ําในจังหวะเดียวกัน

ทุกทํานอง ทุกทวงทา เต็มเปยมดวยความรูสึก ที่ถูกถายทอดใหแกกันและกัน

ในค่ําคืนที่ฝนโปรยปราย...แต...ในหองของเรากําลังโปรยรัก

ในค่ําคืนที่ลมพัดแรงเหน็บหนาว....แต...ในหองของเราสายลมกําลังหมใจ

ในค่ําคืนที่มืดมนเดี่ยวดาย...แต...ในหองของเรา...ผมกับพี่เขากําลังจับจูงกันเดินไป

...จะไมเหน็บหนาว...จะไมเหงา...จะไมเดียวดาย...

...ความอางวางที่มีจะหายพรอมกับความหวาเหว...

...เพราะ...

...ผมมีคนที่รักและรักผมมากเชนกัน...
สายแลวแตวินดี้ยังคงหลับอยางเปนสุขในออมแขนของผม นองนอนตะแคงขางมาทางผม ซุกหนากับอก มือขางหนึ่งโอบเอวผมไว
อีกขางสอดไวใตหมอน ทั้งเนื้อทั้งตัวของนองมีเพียงผาหมผืนบางคลุมอยางหมิ่นเหม ผมยิ้มกับภาพนั้นอยางเอ็นดู จะวาไปแลวหาก
ไมมีอะไรคลุมกายของนอง ผมก็จินตนาการถึงเรือนรางนั้นไดเปนอยางดี

นึกถึงค่ําคืนแสนหวานของเราแลวก็ทําใหผมยิ้ม ผมกมลงหอมแกมนวลอยางรักใคร แตะสัมผัสใหแผวเบามากที่สุด เพราะกลัวจะ


ทําลายการหลับใหลของนอง วินดี้คงเขาสูนิทรารมณดวยความออนเพลีย ค่ําคืนที่ผานมาผมรวมรักกับนองหลายครั้งอยางไมรูจัก
เหน็ดเหนื่อย ทุกครั้งผมตั้งใจปรนเปรอและมอบความสุขใหนองมากที่สุด ใสใจและสังเกตวานองชอบและถูกใจสิ่งไหน เพื่อจะได
เลาโลมปลุกอารมณรักของนองในครั้งตอไป

ผมไมเคยออนโยนและทะนุถนอมใครอยางนี้มากอน วินดี้เปนคนแรกที่ผมทุมเทใสใจ ผมตองการใหนองประทับใจและจดจํา


ชวงเวลาของสองเราไปตราบนานเทานาน อีกอยางผมอยากชดเชยกับความผิดครั้งแรกที่ผมเคยรุนแรงกับนอง หวังวาครั้งนี้จะตรา
ตรึงในหัวใจวินดี้ไมรูลืม ผมจูบที่ขมับนองอีกครั้งกอนที่รางบางในออมแขนจะเริ่มขยับ หนังตาของนองเริ่มยุกยิกๆ ไมนานวินดี้ก็ลืม
ตาขึ้น

“อรุณสวัสดิ์ครับที่รัก” ผมกมลงไปกระซิบแผวเบาที่หูของนอง วินดี้กระพริบตาปริบๆ ราวกับกําลังลําดับเหตุการณที่เกิดขึ้นกอนหนา


นั้น

“อะ...อรุณสวัสดิ์ครับ” นองตอบผมพรอมกับใบหนาแดงก่ํา ภาพนั้นทําใหผมยิ้มอยางเอ็นดู อยากแกลงนองรับเชาวันใหมที่สดใสของ


เรา ผมกมหนาลงซุกไซซอกคอของนอง วินดี้เอียงหลบพรอมกับพยายามผลักหนาผมออก

“ทําไมครับ” ผมยี่ยวนถาม ยักคิ้วขางหนึ่งใหกับนอง

“พี่ไมทําอะไรหรอก แคจะวัดไขดูซะหนอย เห็นวินดี้หนาแดง ตัวแดงแลวซักเปนหวง” นองเมมเรียวปาก หนาที่แดงอยูแลวยิ่งแดง


แปรดเลยทีนี้

“ไอพี่บา” วาพรอมดึงผาหมมาคลุมโปง ผมหัวเราะหึหึในลําคอ ที่เปนอยูนี่คืออายผมครับ เวลาวินดี้อายนี้นารักมากเลย บางทีเจาตัว


ก็ทําอะไรไมถูก หาโนนหานี่มาปดหนา แตถาอายมากๆ นี่นากลัวครับ เขินแลวโหด ทุบผมซะนวมมาหลายทีแลว แตเทาที่ดูอาการ
ตอนนี้แสดงวายังอายในปริมาณที่กําลังพอเหมาะ ผมกอดรางใตผาหมไวแนบอกขณะกลาวกับขมับของนองวา

“เมื่อคืนวินดี้ทําพี่ไปหลายรอบเลย จากนี้ไปตองรับผิดชอบพี่นะครับ” พอพูดจบก็ตองงอทอง เพราะนองมันตอยมา จุกเหมือนกันนะ


ครับ แตก็เรียกเสียงหัวเราะได…สงสัยผมคงจะชินกับความโหดของนองมันแลวละ

“วาไงครับ จะรับผิดชอบพี่ไหม” ยังย้ําถามอยูอยางนั้นเพราะผมอยากมั่นใจสถานะของตัวเอง ถึงวินดี้จะยอมใหผมสัมผัสกาย แลว


ใจนองละ ชองวางที่นองวางไวถูกเติมดวยรักที่มีตอผมแลวหรือยัง

“บา...ใครกันที่ตองรับผิดชอบ” เสียงอูอี้เล็ดรอดออกมาจากผาหมทําใหผมอมยิ้ม

“นั่นสิเนอะ...ถางั้นวินดี้จะยอมใหพี่รับผิดชอบไหมครับ” นองคอยๆ มุดผาหมออกมา ทําใหผมคลายออมกอดใหหลวมมากขึ้น เกลี่ย


ปลายนิ้วไปตามดวงหนาของนองอยางลุมหลง มองนองดวยสายตาที่เต็มไปดวยรักและหวงแหน
“พี่รักวินดี้นะครับ รักหมดหัวใจที่มี” ผมสารภาพความรูสึกกับนอง แมจะบอกคําเดิมซ้ําๆ ทุกวัน แตผมก็ไมเบื่อที่จะเอยออกมา พรอม
กับสบตาอยางตองการจะสื่อถึงคําพูดของผมอีกทอด

พอผมบอกรักนองออกไป ทาทีของวินดี้ก็เปลี่ยนไป ไมเฉยชา หรือทําหนาเอื่อมระอาอยางที่เคยทําใสผมเสมอมา สิ่งนั้นทําใหหัวใจ


ผมชุมฉ่ํา แมวาเมื่อคืนจะบอกเปนอยางดีวาวินดี้เปดใจใหกับผมแลว นองยอมเปนของผมอยางเต็มใจ แตมันก็อดคิดไมไดวาผมฝน
ไปหรือเปลา หากเวลานี้วินดี้ก็ย้ําทุกอยางใหชัดเจนขึ้นมาอีกครั้ง นองคอยๆ ยกมือขึ้นมาแตะหนาของผม นัยนตาที่มองมานัน้ ไหว
ระริกดวยหยาดน้ําตาที่กําลังคลอเบา ผมจับมือที่สั่นนอยๆ นั้นมาจูบกอนจะแนบแกมกับมือนิ่มของนอง พรอมๆ กับรอลุนวาวินดี้จะ
พูดอะไรกับผมหลังจากนี้

“ขอบคุณครับ...ขอบคุณที่รักกัน”

นองตอบผมกลับมา ในแววตาคูนั้นมีบางอยางที่ทําใหหัวใจผมเอิบอิ่ม ผมยิ้มใหนอง เปนรอยยิ้มที่คิดวาแจมใสที่สุด ทวาผมยังอยาก


ไดหยดน้ํามารดตนรักของผมอีกนิด อยากย้ําอีกครั้งวาตอนนี้ผมเขาไปยืนอยูในหัวใจของนองบางแลวหรือยัง ขามชองวางนั้นเขาไป
ในหัวใจวินดี้แลวใชไหม

“แลววินดี้ละครับ รักพี่บางหรือยัง บอกใหพี่ชื่นใจไดไหมครับ” วินดี้ยิ้มใหกับคําถามของผม แววตาที่มองมานั้นสื่อความรูสึกของนอง


ไดเปนอยางดี หากแตวินดี้กลับไปไมพูดมันออกมา นองขยับตัวขึ้นนั่ง หันไปยังหัวเตียง เปดลิ้นชักที่นองยึดเปนเจาของ จากนั้นก็
หยิบกลองกํามะหยี่ออกมา ในนั้นมีสรอยคออยู รูปรางลักษณะไมตางจากที่แขวนอยูบนลําคอของนอง วินดี้หยิบมันออกมา ปลด
ตะขอ ผมมองทุกการเคลื่อนไหวของนองดวยสายตาใครรู

“หันหลังมาสิครับ” นองบอกผม ผมขยับเขาไปใกลนองกอนจะหันหลังใหอยางวางาย จากนั้นสัมผัสเย็นๆ ก็แตะที่ลําคอของผม ผม


มองจี้สรอยคอที่วางอยูบนแผนอกของตัวเองดวยหัวใจเตนแรง ผมเพิ่งรูวาสรอยเสนนี้เปนสรอยคู...และไมคาดคิดมากอนวาวินดี้จะ
สวมมันใหกับผม

“ตอนเด็กวินทําสรอยคูนี้กับพอ ของพอเสนหนึ่ง ของวินเสนหนึ่ง แตตอนนี้พอไมอยูแลว พี่รักษามันแทนพอดวยนะครับ”

คําพูดนั้นทําใหหัวใจของผมพองแนนคับอก เคยสงสัยเหมือนกันวาสรอยเสนนี้มีความหมายกับนองยังไง เพราะจําคําพูดของตาเคย


บอกผมวามันสําคัญกับนองมาก แลววันนี้ผมก็ไดรูที่มาที่ไปของมัน ดีใจจนสุดบรรยาย ผมอยากหันตัวกลับไปกอดนอง อยากบอก
ขอบคุณที่เลือกผมใหรักษาของสําคัญ และสัญญาวาผมจะดูแลมันอยางดีดุจดั่งดูแลหัวใจของผมเอง แตแผนหลังของผมก็สัมผัสกับ
ความอุนเสียกอน วินดี้กอดผมจากดานหลัง รางกายของเราทั้งคูปราศจากเสื้อผา จังหวะหัวใจของนองที่แนบอยูนั้นมันประสานเปน
จังหวะเดียวกับหัวใจของผมที่เตนรัวเร็ว

ผมกําลังคิดวาตัวเองชางเปนผูชายที่โชคดีนัก ที่คนรักของผมเปนวินดี้ นองชางนารักเหลือเกิน ดูสิ...วินดี้กําลังขมความอาย “เปลือย


กาย” กับผมและใชความกลาทั้งหมดเพื่อจะ “เปลือยใจ” กับผมเชนกัน ริมฝปากอุนๆ ของนองจูบแผวเบาที่ตนคอของผมแตสงสัมผัส
หนักแนนเขาสูหัวใจ จากนั้นนิ้วเรียวก็วาดตัวอักษรลงบนไหล ผมตั้งใจอานสารที่นองสื่อมาใหดวยหัวใจลุนระทึก
“รอ...เรือ” เมื่อปลายนิ้วหยุดขีดเขียนผมก็อานมันออกมา ผมกัดริมฝปากตัวเอง หัวใจเรงจังหวะการเตนขึ้นอยางรวดเร็ว พอเดาได
ลางๆ วาอักษรตัวไปคืออะไร แลวมันก็เปนอยางที่ผมคิดไว

“ไมหันอากาศ” โอ...ผมกําลังจะหายใจไมออก ลําคอมันตืบตันไปหมด เคยคิดวาถาไดรูความรูสึกของนอง ผมจะสุขใจมากแคไหน


แตตอนนี้สิ่งที่ผมรับรูมันชางตางจากฝนมากมายนัก ไมรูจะหาคําไหนมาอธิบายความรูสึกนี้ดี ดีใจมากที่สุด ของที่สุด ของที่สุดสุด
สุดๆ มันจะพอบรรยายความรูสึกของผมไดไหม

“กะ...กอ...ไก...” ตัวอักษรสุดทายที่นองเขียน ย้ําวาผมเขาใจถูกตองแลว “รัก” ที่สลักบนไหลของผม

ผมอานตัวอักษรสุดทายออกมาพรอมกับน้ําตาที่รินไหล น้ําตาที่ไมไดมาจากความเจ็บปวดเสียใจ แตเปนหยดน้ําแหงความปลื้มปติ


ยินดี สมหวังในรักที่ผมทุมเท เมื่อเขียนเสร็จวินดี้ก็แนบหนาลงกับแผนหลังผมอีกครั้ง ลําแขนโอบรอบเอวผมไวแนน ผมวางมือทับมือ
ของนองที่วางอยูหนาทองของผม ครูตอมาผมก็หงายฝามือนองขึ้นมา แลวเขียนตัว “รัก” ลงไปเชนกัน

ผมยิ้มกับตัวเองและคิดวาวินดี้ก็คงจะยิ้มอยูกับแผนหลังผมเชนเดียวกัน เราไมไดเปรงคําพูดอะไรเลยหลังจากนั้น ปลอยใหหัวใจเรา


คุยกัน ผมมองผานมานหนาตางออกไป แดดกําลังทอลําแสงเขามาในหองของเรา มันก็เหมือนกับชีวิตของคนเรา ในค่ําคืนที่หนาว
เหน็บ ฝนลงแรง หากแตผานคืนนั้นมาได ฟาก็สดใส ดวงอาทิตยสาดแสง ไลความมืดมนนั้นออกไป...เสนทางความรักของผมก็ไม
ตางกัน

...ยี่สิบแปดป เกาเดือน สามวัน กับการอยูคนเดียว ไมมีใครใหรักและคิดถึง...

...สามเดือนกับสิบหาวันที่เดินทามกลางทะเลทรายอันแหงแลงเพื่อแสวงหาใครสักคน...

...สิบแปดวันกับการทําตามเสียงของหัวใจ...

...สองวันกับหนึ่งคืนที่ทรมานแทบขาดใจ...

...แลวเชานี้ทุกอยางก็สิ้นสุดลง...

ผมไมรูหรอกนะวาจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับเราสองคนบาง เสนทางความรักของเราจะมีอุปสรรคมากมายขนาดไหน แตถึงใหถนนที่


ผมกับนองจะเดินผานเต็มไปดวยขวากหนามและหนาวเหน็บแคไหน แตผมก็จะจูงมือนองแลวเราจะฝาขามไปดวยกัน

“ขอบคุณครับ...ขอบคุณที่รักกัน” คําพูดของผม

“เชนกันครับ...ขอบคุณที่รักกัน” คําพูดของนอง
...และเสียงหัวใจของเราทั้งสอง...

“พี่รักวินดี.้ ..วินก็รักพี่เชนกันครับ”ตอนนี้ผมกําลังนั่งหนาบึ้งมองของที่วางอยูบนเตียงดวยความรูสึกที่พูดไมถูกครับ ทั้งโมโห ทั้งอาย


ทั้งอยากรูวาสิ่งนี้มาอยูที่นี่ไดยังไง ไมคิดวาไอพี่ทองจะเปนบาขนาดนี้ ผมชักอายแลวสิ ไมอยากเลาใหคุณๆ ฟงเลย แตเมื่อเริ่มตน
แลวก็คงตองเลาจนจบแหละครับ คือแบบวา...ตอนที่เออ...ผม...เออ...ทํารักกับพี่แกอะครับ ก็สังเกตเห็นสิ่งนั้นอยู แตก็ไมทันไดเก็บ
มาใสใจมากนักเพราะตอนนั้นหัวมันขาวโพลนไปหมด คิดอะไรไมออกเลย แตพอเปนตัวของตัวเองมากขึ้นมันก็เห็นสิ่งผิดปรกติครับ

แลวที่มาที่ไปของมันนี่ก็เปนอะไรที่ไมนาเชื่อเลยละครับ คือวันหนึ่งไอพี่ทองถามผมวามีที่ใหแกเก็บของสําคัญหรือเปลา ผมก็เลยนึก


ไดวาที่หัวเตียงมีลิ้นชักแลวก็มีกุญแจล็อกไดดวย ผมเลยยกใหพี่เขาดานขวามือ สวนของผมใชดานซายมือครับ จากนั้นก็ไมไดสนใจ
วาพี่เขาจะเก็บอะไรไว ไมอยากละลาบละลวงครับ แตเมื่อเชาผมเปดลิ้นชักตัวเองเอาสรอยมาสวมใหพี่เขา แลวก็เปดใจคุยกัน ครู
ใหญตอวาจะไปอาบน้ําแตวาลุกไมไหว รางกายมันไรเรี่ยวแรง ยืนขึ้นแลววูบเลยครับ พี่เขาเลยบอกวาใหพักกอน ทางที่ดีกินอะไรลอง
ทองดวยดีกวา ผมก็เออออตาแกไปครับ จากนั้นไอพี่ทองก็ออกไปจากหอง คิดวาคงไปหองครัว และทําอาหารใหผมละมั้งครับ

เมื่อพี่เขาออกจากหองไปแลวผมก็เลยวาจะลมตัวลงนอนแตหางตาก็แลไปเห็นลิ้นชักหัวเตียงพี่แกเปดอยู ดวยความบริสุทธิ์ใจผมวา
จะปดให แตพอเห็นของสําคัญในนั้นสิครับ พูดไมออกเลย หนารอนวูบวาบไปหมด ใครจะไปคิดละครับวาของสําคัญนักหนาของแก
จะเปน “ถุงยาง” ไอพี่งูเขียวจอมหื่นนั่นเก็บสะสมมันไวครับ แลวมัน...เออ....เยอะมาก แทบจะลนออกมาเลย แลวพอหยิบออกมาดูก็
ยิ่งพูดอะไรไมออก นี่แกชาง...ไมรูจะเรียกอะไรดี มันมีทุกแบบ ทุกกลิ่น และของหลายประเทศดวย ยิ่งของญี่ปุนยิ่งแปลกเขาไปใหญ
ไมอยากนึกถึงตอนแกทําหนาหื่นไปซื้อมันเลย

“มาแลวครับที่รัก ขาวตมกับไขลวกรอนๆ ครับ” น้ําเสียงนุมทุมของเขากําลังกระตุนเอ็นฝามือผมใหกระตุกขึ้นมาแลวสิครับ ผมนั่ง


หนาบึ้งอยูหลังภูเขากลองถุงยาง ดูพี่เขาถือชามขาวตมเขามา พอแกเห็นผมกับสิ่งที่วางอยูตรงหนาก็ชะงัก หยุดยืนอยูกลางหอง สง
ยิ้มแหยๆ มาให

“เออ...วินดี.้ ..คือมัน…” พอไดยินเสียงกระตุกกระตักของแกแลวยิ่งหงุดหงิดครับ อยากขวางอะไรใสเผื่อจะกระตุนสมองแกใหทํางาน


เร็วขึ้น

“มันอะไร” ถามเสียงหวนทั้งหนาแดงๆ นั่นแหละครับ ก็ผมอายแทนแกนี่

“เออ...คือ...” ยังหาคําอธิบายไมไดอีก อ้ําๆ อึ้งๆ อยูนั่นแหละ ผมจะทนมองหนาแกไมไหวแลวนะครับ มันไมชินอะตองมาคุยกันเรื่อง


นี้ แตก็ยังพอขมความอายเคลียรเรื่องคางคาใจไดอีกนิด

“แหม...วินดี้ก็ คิดถึงพี่ก็ไมบอก คราวหลังไมตองรอก็ไดครับ ตะโกนเรียกปุบพี่ก็รีบมาหาวินดี้ปบเลย งั้นแสดงวาตอนนี้วินดี้พรอมจะ


เริ่มครั้งตอไปแลวใชไหมครับ แลวเลือกไดหรือยังวาจะใชอันไหนดี...โอย” พูดอะไรของเขานะ นี่หรือคําอธิบาย ไอพี่หื่น ผมละอาย
แทนแกจริงๆ เลยครับ ทนไมไหวเลยโยนกลองถุงยางใสแกไปที เสียดายไมถูกหนาดานๆ นั่น แกเอี้ยวตัวหลบครับ ยิ้มแหงๆ ใหผม
จากนั้นก็เดินเอาถวยขาวตมไปวางบนโตะคอมซึ่งอยูอีกมุมหนึ่งของหองกอนเดินกลับมายังที่เดิมอีกครั้ง หยิบกลองถุงยางขึ้นมาแลว
สงสายตากรุมกริ่มมาให

“วินดี้ชอบแบบนี้หรือครับ ของญี่ปุนรุนนี้ดีครับมีสารเคลือบความเย็นดวย แลวปุมๆ เนี่ยจะทําใหวินดี้รูสึกดีขึ้น....”

“อะ...ไอพี่บา หนาไมอาย ยังมาพูดแบบนี้อีก” ไวเทาความคิด มือผมควาสิ่งที่อยูตรงหนาปาใสแกไปอยางไมยั้งเลยครับ

“โอย...ไมเอาวินดี้ เดี๋ยวเสียของ” ยังไมหยุดอีก ไอคนบา ไมกลัวเจ็บแตกลัวเสียของ โอย...ผมไมรูจะทํายังไงกับแกดีแลว ไมไหวจะ


เคลียร

“กลัวเสียของนักใชไหม งั้นเอาไปใชคนเดียวเลยไป” บอกแกไปพรอมกับภูเขายอมๆ ตรงหนาลอยละลิ่วไปอุดปากแกพรอมกับหมอน


อีกสองใบ เหนื่อยหอบเลยครับ แตไอพี่บานั่นกลับไมสะดุงสะเทือนอะไรเลยครับ ยังทําทาจะตอปากตอคําผมอีก

“อาว ไดไงครับที่รัก ของอยางนี้พี่ตองใชทํากับวินดี้ครับ” ไอคนหนาดาน...ใครก็ไดชวยบอกผมทีวาผมไมไดหูแววไปเอง นี่แกยังมีหนา


มาพูดอยางนี้กับผมหรือครับ กําลังจะโตคืนแตกลับพูดไมออกเพราะจุก ก็พี่งูเขียวดันกระโจนเขาใสผมนะสิครับ ตัวแกเล็กซะที่ไหน
ละมาลมทับกันแบบนี้

“โอย...เจ็บนะ เลนอะไรของพี่เนี่ย ลงไปเลย”

“ก็จะสาธิตใหที่รักดูไงครับ วาของอยางนี้มันใชคนเดียวไมได” วาจบก็กมลงไซรซอกคอผม เอาจมูกกับปากมาถูๆ ไถๆ ยิ่งหนวกเครา


ของแกที่ยังไมไดโกนดวยแลวยิ่งรายเขาไปใหญ อยากดิ้นหนี่แตทําไมไดเพราะถูกทับอยู จะผลักออกก็จนปญญาเพราะขอมือทั้งสอง
ขางถูกกดอยูกับที่นอน ที่ทําไดคือสายหนาไปมา

“ไมเอา จั๊กจี้ ไอพี่ทองหยุดเดี่ยวนี้นะ!!!” แลวก็วิงวอนอีกคนดวยคําพูด แตแทนที่แกจะสงสารผมกลับเห็นการทรมานของเราเปนเรื่อง


สนุกไปซะงั้น

“หึหึ กําลังมันเลย เห็นวาวินดี้ขอนะพี่ก็เลยฝนใจทําให” ขอบคุณมากในความมีน้ําใจ (อันนี้ประชดนะครับ) พี่เขาเงยหนาขึ้น ใบหนา


หางกันไมถึงคืบ นัยนตาที่มองมาวาววับ ไมมีแววหวั่นเกรงแมแตนอย เห็นแลวอยากงับหัวคน!!!

“โปก!!!”

“โอย!!!” งับไมไดก็เอาหัวโขกแทนก็ไดวะ เปนไงละ ลูบหนาผากตัวเองปอยๆ เลย ไดโอกาสเหมาะเพราะพี่เขาปลอยมือเลยผลักแก


ออกพรอมบอกวา
“สมน้ําหนา...แลวก็ลงไปไดแลว...หนัก” พอผมพูดจบพี่เขาก็ยิ้มมุมปากแถมยังยักคิ้วใหผมอีกตางหาก

“ถาวินดี้หนักก็ขึ้นขางบนแลวกัน”

“เฮย!!!” ไมทันแลวครับ พี่เขาจับผมใหขึ้นมานอนบนรางหนาเรียบรอยแลว ผมคอยๆ พยุงตัวเองขึ้นนั่งบนหนาทองพี่เขา เห็นหนา


ระรื่นของอีกฝายยิ่งหงุดหงิดเขาไปใหญ หมั่นไสคน ทําอะไรคืนก็ไมไดสักอยาง รูวาเราตองการอะไรก็ไหลเลื้อยไปเรื่อย ไมอยากพูด
กับแกแลวละครับ

“ไมเอานาที่รักไมโกรธพี่ เดี๋ยวเสียฤกษงามยามดี วันนี้เราเพิ่งเขาใจกัน อยามาอารมณขุนมัวแตเชาเลยนะครับ” วาพลางกุมมือของ


ผมไว สายตาอบอุนนั้นแปรเปลี่ยนเปนเวาวอนอยูในที

“ก็ใครละ เปนตนเหตุ” ผมก็ไมอยากมาเสียอารมณ หนาหงิกงอใสแกนะครับ แตพี่เขาเริ่มกอน แทนที่จะบอกผมดีๆ ก็มายี่ยวนกันให


โมโหหนักกวาเกา

“ขอโทษครับ พี่ผิดเอง”

“รูตัวก็ดี งั้นก็บอกมาวาไอพวกนี้มันมาอยูที่นี่ไดยังไง” ไอพวกนี้ก็คือเหลาสมบัติมีคา (ทางกามบาบอ) ของแกนั่นแหละครับ ผมยัง


คางคาใจไมหาย

“พี่เปนคนเอามาเองครับ…โอย!!!” คําตอบกําปนทุบดินไดใจมากเลยครับ ผมเลยทุบเขาที่ทองพี่แกไปที พอตอยเสร็จพี่เขาก็งอตัว


ผมเลยปนลงมาจากรางพี่เขา นั่งขางๆ แกนั่นแหละ

“ถาพี่ไมเอามาแลวใครจะเอามา”

“อะนะ...งั้นวินดี้อยากรูอะไรละครับ” ยังมาทําดื้อตาใสใสผมอีก ฆาใหตายเลยดีไหม ผมถลึงตาใสพี่เขาพรอมยกหมัดขึ้นทําทาตอย


ทองแกอีกสักที

“ครับๆ บอกแลวก็ได คือยังไงดีละ ก็พี่เก็บกดอะ” ทีอยางนี้ละตอบเร็วนัก วาแต...แกวาไงนะ?

“เก็บกด?” ผมทวนถามอยางสงสัย พี่เขาก็พยักหนาหงอยๆ ตอบกลับมา แตคําพูดของแกนี่สิ มันคนละเรื่องเดียวกันเลย

“ครับ อยากจับวินดี้กดหลายครั้งแลว แตไมกลา โอย...เจ็บอะ!!!” ที่แรกก็นึกวาอะไร แตพอไดยินวาอยากจับกดนี่สิ ตาโตเลยครับผม


ไอพี่หนาดาน กลามากนะมาบอกเจาตัวเขาวาคิดไมซื่อกับอีกฝายอยูตั้งนาน ใหตายเถอะ นี่ผมหยิกเอวแกแรงๆ แบบนี้จะพอเรียก
จิตสํานึกแกไดบางไหมเนี่ย ใจจริงอยากใหเนื้อหลุดออกมาเลยครับ เผื่อเชื้อบาจะไดลดลง ไอพี่ทองเอี้ยวตัวหลบ พอผมปลอยมือพี่
เขาก็ซีดปาก ลูบสีขางตัวเองกอนจะเงยหนามาสบสายตาเคนหาความจริงของผม แกเลยยิ้มแหงๆ เปนเชิงขอโทษกอนจะอธิบายตอ
วา

“คือจะใหพี่อธิบายยังไงละ มันเปนการหาทางระบายอยางหนึ่งอะครับ พอเห็นแลวมันอดซื้อไมได ก็เตรียมไวเผื่อไดใชในสักวัน”

“วาไงนะ เตรียมไวเผื่อไดใชเหรอ นี่คิดวาตองไดใชแนๆ ใชไหม”

“แคคิดไวครับที่รัก ฝนกลางวันเฉยๆ ไมไดมนั่ ใจอะไรเลย”

“ใหมันจริงเถอะ”

“จริงครับ เชื่อพี่เถอะ”

“เชอะ” ผมสะบัดหนาใสแก เหตุผลมันฟงไมขึ้นเอาเสียเลย ถึงฟงขึ้นมันก็ฟองวาพี่เขาคอยแตคิดเรื่องแบบนั้นอยูตลอดเวลา ไมไดการ


แระ ตอนนี้ผมเริ่มไมแนใจแลวสิครับวามารักแกไดยังไง ถาเปลี่ยนใจไมรักตอนนี้แลวจะยังทันอยูหรือเปลาครับ

“วินดี้ครับ ไมงอนพี่นะครับ” มาอีกแระเสียงออนๆ เนี่ย ผมแพครับ ไดยินทีไรใจออนทุกที หายโกรธเปนปลิดทิ้งเลย

“เดี๋ยวสิบเอ็ดโมงพี่ก็ตองไปแลว สงสารพี่บางเถอะครับ ไมอยากจากไปทั้งๆ ที่ทะเลาะกันเลย”


ยิ่งไดฟงคําพูดพี่เขาแลวก็ตองถอนหายใจพรอมกับความขัดของใจเลือนรางหายไป ความจริงก็ไมนามางอนงอกันใหเสียเวลาและ
ความรูสึกเลย ความจริงที่ไดรับรูทําใหความหมองเศราเขาครอบครองแทนอารมณเคืองขุนเมื่อสักครู ผมปลายสายตาไปดูนาฬิกาที่
หัวเตียง จะเกาโมงครึ่งแลว อีกไมถึงชั่วโมงพี่เขาก็ตองออกจากบานแลวสินะ คิดขึ้นมาแลวก็ใจหายอยางบอกไมถูก...นี่เราตองหาง
กันอีกแลวหรือ...

“ตองไปทํางานแลวเหรอ” รูทั้งรูวาใช แมในใจลึกๆ อยากบอกวาอยาเพิ่งไปไดไหม แตก็พูดไมได แคพี่เขารีบมาหาเมื่อคืนก็ดีใจมาก


พอแลว แตพอนึกวาตองจากกันหัวใจมันก็โหวงเหวงยังไงไมรู ความออนแอที่กําลังกัดกินหัวใจอยูนี้ทําใหไมอยากมองหนาพี่เขา
ตอนนี้ ผมเลยหันหนาไปมองหนาตางแทน ทวายังรูสึกเบาะที่นอนยุบตัวลง คิดวาพี่เขาคงเคลื่อนไหวรางกาย ครูตอมาก็รูสึกสัมผัส
อบอุนโอบกอดทางดานหลัง พรอมกับคางพี่มาเกยที่ไหล

“ครับ งานยังไมเสร็จ” ผมพยักหนารับ จากนั้นก็พยายามทําเสียงใหสดใสมากที่สุดเพราะไมอยากใหพี่เขาเปนหวงเมื่อถามคําถาม


ตอมา

“แลวพี่ตองไปกี่วัน”

“ไมแนใจเหมือนกันครับ”
“อืมม...งั้นก็อยาลืมเอาสายชารตแบตไปดวยแลวกัน” คงไดแตขานรับในลําคอพรอมกับเตือนพี่เขาเมื่อนึกบางอยางออกมาได

“หึหึ คราวนี้ไมลืมแลวแนนอน” วาจบพี่เขาก็ลุกขึ้นจากเตียง เดินไปยังโตะคอมแลวกลับมาพรอมถวยขาวตม ทวาเสียงหัวเราะอยาง


มีเลศนัยที่ตอบกลับมานั่นทําใหผมรูสึกแปลกๆ มันไปกระตุนตอมสงสัยของผมอะครับ เรื่องนี้ก็เปนอีกเรื่องที่คางคาใจผมอยู ผมมอง
พี่เขาดวยสายตาจับสังเกตและพิจารนา ถึงผมจะเพิ่งรูจักพี่เขาไมนาน แตบุคลิกบางอยางที่โดนเดนนั่นทําใหผมคอนขางมั่นใจวา
ตัวเองรูจักพี่เขาดีพอในสวนนี้ วาแลวก็ถามแกเลยดีกวา...

“วินยังแปลกใจไมหาย ปรกติพี่เปนคนรอบคอบนี่นา ทําไมคราวที่แลวถึงไดลืมมันละ” นี่แหละครับคือสิ่งที่ผมสงสัยมาตั้งแตวันกอน


โนนแลว ไอพี่ทองจะเปนคนที่ทําอะไรเปนระเบียบและรอบคอบเสมอ งายๆ อยางตอนเชากอนไปทํางาน พี่เขาจะเช็คเอกสารทุก
อยางวาครบไหม ดูความเรียบรอยกอนออกจากบาน

“อะ...เออ...ก็มันรีบอะครับ” พี่เขาบอกขณะนั่งลงบนเตียง แกตักขาวตมมาชิมดูนิดหนอย

“ยังอุนอยู” วาพลางจะตักขาวตมใหมอีกครั้งแลวยื่นมาทางผม

“ไมเอาเดี๋ยวกินเอง มือไมไดเปนอะไรสักหนอย” ผมสายหนาปฏิเสธ

“นานะที่รักตามใจพี่สักวันเถอะนะ” ไดฟงแกพูดแลวตองลอบถอนหายใจครับ ก็พอรูวาพี่เขาคงอยากบริการเรามั้ง อยากเอาใจ อยาก


ทําใหเวลาตอจากนี้อยูในความทรงจําที่แสนหวานของเราทั้งสองกอนจะหางกันอีกครั้ง ผมก็เลยอาปากรับขาวตมที่แกยื่นมาให กิน
ไปก็คิดไปครับ...

“แลวทําไมเมื่อวานจู ๆ ถึงโทรมาไดละ แลวก็โทรมากอนเทีย่ วบินรอบสุดทายจะออกดวย” อดสงสัยไมไดอีกแลวละครับ มันยังติดใจ


ไมหาย คืนแรกที่หางกันผมคิดถึงพี่เขามากเลย ลองโทรหาก็ไมติด จะติดตอเบอรอื่นก็ไมไดเพราะไมรู แตพี่เขารูเบอรโทรผมจะใช
โทรศัพทที่อื่นโทรมาก็ไดนี่นา

“อะ...เออ...ก็มันคิดถึงจนอดใจไมไหวนี้ครับ เลยโทรหาวินดี้ไง” ตรงนี้เขาใจนะครับ คิดถึงแลวโทรหา เหมือนกับที่ผมรูสึก แลวทําไม


...

“แลวคืนกอนละ ทําไมไมโทรมา” คุณๆ คิดเหมือนผมไหมครับ...มันทะแมงๆ นะผมวา เอะ...หรือวาผมจะคิดมากไป บางทีอาจไมมี


อะไรก็ได

“คือ...งานมันยุงมากเลยครับ กวาจะเคลียรไดก็ตีหนึ่งตีสองแลว พี่ไมอยากรบกวนวินดี้” อืม...มันก็ฟงขึ้นนะ วาแต...


“แลวทําไมพูดไปตองกมหนาไปดวยละ พี่ปดบังอะไรอยูเปลาเนี่ย” จริงๆ นะครับ ผมไมไดจับผิดพี่เขานะ แกกมหนากมตาคุยกับผม
จริงๆ อะ ตอบเสียงออมแอมในลําคอมาตั้งแตคําถามแรกแลว ถึงผมไมใชคนชางสังเกตมากนัก แตอาการแบบนี้ แมแตเด็กยังดูออก
เลย
“ไมมี๊ ไมมีอะไรเลยครับ” นี่ก็ดวย พอถามหนอยตอบปฏิเสธเสียงสูงมาเชียว ผมพยายามทบทวนเรื่องตางๆ ที่มันตงิดใจผมมาทั้งแต
ตน คิดกลับไปมาอยูอยางนั้นอยางตองการหาขอสรุปของเรื่องราวทั้งหมด

“คิ้วขมวดเชียว อยามองพี่แบบนั้นสิครับ” พี่เขาพูดพลางขยับตัวไปมาอยางอยูไมสุขนั่นยิ่งทําใหผมสะดุดใจเขาไปใหญ

“ไมใชอะไรหรอกวินแคสงสัย ตั้งแตรูจักพี่มานี่รูสึกพี่ทําอะไรจะถูกที่ถูกเวลาไปซะหมดทุกเรื่อง มันเหมือนกับวางแผนไวกอนลวงหนา


แลวยังไงยังงั้นเลย” พอผมพูดจบพี่เขาก็สะดุงเลยครับ สะดุงจริงๆ นะผมไมไดตาฝาดไป กอนจะยิ้มประจบใหผมที จากนั้นก็ตอบ
คําถามที่ไมรูวาผมควรจะเชื่อแกดีไหม

“ก็พระเจาอยูขางพี่เสมอนี่ครับ...ตอบแทนผูชายที่ซื่อสัตยกับหัวใจตัวเอง”
เคยคิดวาการที่คูครองเราเปนคนฉลาดจะชวยสนับสนุนและเสริมบารมีสามีใหดีขึ้น แตตอนนี้ความฉลาดของภรรยาผมกําลังจะทํา
ใหอนาคตผมดับครับ แลวคงจะดับอยางอนาถเสียดวยสิ ไมอยากสารภาพเลยวาขณะนี้ผมกําลังกลัวความฉลาดของวินดี้อยู ทั้งที่
ความจริงแลวตัวเองก็ไมไดทําอะไรผิดมากมาย คือในความเขาใจของผมนะครับ ทุกอยางที่วางแผนทําลงไปก็เพื่อจะใหนองรักผม
เหมือนที่ผมรักเคามาก แตทําไมถึงไมอยากใหนองรูวาผมทําอะไรลงไปบางก็ไมรู
จากที่เคยไมมั่นใจตลอดมาวานองอาจไมสนใจในตัวผม แตเวลานี้คงตองเปลี่ยนความคิดใหมแลวละ เพราะวินดี้ทั้งใสใจ สังเกตและ
จดจําเรือ่ งของผมเปนอยางดีเลยทีเดียว เพียงแตที่ผานมานองไมแสดงออกใหผมเห็นเทานั้น ตอนนี้จะทําอะไรเลยตองระวังตัวนิด
หนึ่งครับ ถาจะใหดีละก็พยายามอยาทําอะไรใหยุงยากซับซอน บอกนองไปตามความจริงนาจะดีที่สุด อยางที่รูๆ กันนั่นแหละครับ
“น้ําเชี่ยวอยาเอาเรือไปขวาง”

อยางเมื่อวันกอนแผนก็แตกเพราะถูกวินดี้จับได คุณๆ คงคิดไมถึงละสิ ถึงผมจะหัวสมัยใหมแตเรื่องนี้ผมเชื่อคนโบราณครับ นั่นแน...


งงกันใชไหมละวาเรื่องอะไร ก็เรื่อง “นอนหอสามคืน” ไงครับ ผมตองทําตามอยางเครงครัดเลยนะ ใหตายยังไงผมก็ตองกลับมานอน
หองกับนองใหครบสามคืน ถึงจะลําบากเชาไปเย็นกลับแตก็ตองทนครับ เพื่อจะไดครบสูตร ไมผิดธรรมเนียมประเพณี

จะวาไปก็ไมไดยุงยากอะไรหรอกครับเพราะแคสามวันงานก็เสร็จแลว ไปกลับไมกี่วันเองครับ สวนเรื่องตั๋วก็ใหรามิลเปนคนจัดการให


เราก็แคไปเช็คอิน คาใชจายก็เบิกคืนไดอยูแลว ถึงมันจะแพงไปบางแตทานประธานฯ ก็อนุมัติมาแลวครับ (ไปขูทานมา ชางเปนลูก
กตัญูจริงๆ เลย) แตคิดๆ ดูแลวก็ไมไดเกเรเอาแตใจผลาญเงินพออยางนี้มานานแลวเหมือนกัน นานๆ ทีผูอุปการะก็เลยยอมใหครับ

คราวนี้เรื่องไปกลับนี่ไมไดบอกนองมันครับเพราะกะวาจะเอาไวออนใหนองตามใจ จะทําอะไรก็อางวาเดี๋ยวพี่ก็ไปแลว ตามใจพี่


หนอย ทั้งๆ ที่ความจริงตอนเย็นก็จะกลับมานอนกับวินดี้นั่นแหละครับ วันแรกก็ไดผลอยูหรอก จะขออะไรวินดี้ใหหมดเลย แลวพอ
ตอนเย็นกลับมาเชอรไพสนอง วินดี้ก็ยิ้มตอนรับ แตพอวันที่สองนองเริ่มสงสัย จะออนโนนนี่นองมันเริ่มมองตาขวางแระ สุดทายมาก็
ถามวาจริงๆ ไปกี่วันกันแน เย็นนี้จะกลับมาไหม วาจะไหลเลื้อยไปเรื่อยแตถูกวินดี้ดักทาง หมดที่ไปครับเลยบอกนองมันตามตรง ดี
หนอยวินดี้แคสายหนา ไมไดโกรธ ไดงอนอะไรเลย แถมยังขับรถไปรับไปสงใหอีก นารักมากเลยครับ
เรื่องคณะประชุมเรียบรอยแลวครับ สวนเรื่องบริษัทที่ไดรับมอบหมายจากพอก็ดูๆ อยู ลองใหสํานักงานบัญชีที่จางมาเพื่องานนี้
โดยเฉพาะตรวจดูความผิดปรกติให คิดวาคงไดผลคืบหนาในเร็วๆ นี้แหละครับ สวนเรื่องสวนตัวของอานนทก็กําลังใหคนตามดูอยู
ผมคิดวาคนเราถาไมรอนเงินก็คงไมคิดทําเรื่องแบบนี้หรอก ถาแคใชจายธรรมดาฐานะการเงินของอานนทนี่ถือเหลือใชครับ จะเอาไป
กินเที่ยวยังไงก็ตองพอ เพราะฉะนั้นมันตองมีเหตุวาทําไมเขาจึงตัดสินใจยักยอกเงิน แตผมก็เดาๆ ไวแลวละครับวาเขาเอาเงินไปใช
ทําอะไรตั้งมากมาย เดี๋ยวตองรอดูหลักฐานกอนวาจะตรงกับผมที่คิดไวหรือเปลา

ตอนนี้เครื่องลงจอดเรียบรอยแลวครับ ผมเพิ่งกลับจากตางจังหวัด วันนี้เปนวันสุดทายแลว และพรุงนี้จะเปนวันที่สวรรคประทาน


ใหกับผมครับ “ผมจะพานองไปฮันนีมูน!!!” ฮาฮา อิจฉากันละสิ งี้แหละคนกําลังมีความรัก อะไรๆ ก็สวยงามไปหมดดดดดด

จุๆ แตอยาเอะไปนะครับ เพราะเรื่องนี้ผมไมไดบอกวินดี้หรอกวาไปไหน นองไมรูดวยวาผมจะพาไปรําลึกความหลัง แคบอกนองวา


ติดงานตองลงใต แลวมันตรงกับเสารอาทิตยพอดีเลยชวนวินดี้ไปดวย นองมันก็ดีครับ เออออตาม

“พี่คิน...พี่คินใชไหมครับ” ใครมาเรียกผมละนี่ ไมไดยินใครเรียกแบบนี้มานานแลว คุนๆ แตไอพี่ทองอยูทุกเมื่อเชื่อวัน วาแลวก็หันไป


ดูซะหนอย

“ครับ” ขานรับเขาดวยครับ มองแลวหนาคุนๆ นะผมวา แตใครหวา

“ใชพี่จริงๆ ดวย ปรินไงครับ จํากันไมไดหรอ” หงะ...อยามาทําหนางอใสกูนะเวย เดี๋ยวขอเวลานึกกอนสิ ปรินอยางนั้นหรือ...

“นองปรินนั่นเอง พี่ไมคิดวาจะเจอปรินที่นี่ มาเที่ยวหรือครับ” จําไดแลวครับ ปรินเคยเปนเด็กที่ผมเคยควงแกเหงาตอนเรียนอยูเมกา


ครับ แมมันเปนคนไทยแตแตงงานกับชาวอเมริกัน คราวนี้บานเขาอยูขางๆ เพื่อนคนไทยซึ่งเรียนที่เดียวกับผม ก็เลยเจอกัน นานแลว
ครับตั้งหาหกปที่แลวโนน ตอนโนนปรินยังแคสิบเจ็บสิบแปดปเอง ตอนนี้เปลี่ยนไปมากเหมือนกัน จําแทบไมไดเลย

“ใชครับ ปรินกลับมาไดอาทิตยกวาๆ แลว นี่ก็ไปเที่ยวเหนือเพิ่งกลับมา วาจะมาพักที่กรุงเทพสักคืนแลวจะไปงานแตงพี่เวศวันพรุงนี้”


เวศก็คือเพื่อนนักเรียนไทยคนที่อยูขางบานปรินนั่นแหละครับ เปนเพื่อนของผมอีกที นี่ผมก็วาจะไปงานแตงมันเหมือนกัน มาจัดที่
โรงแรมผมเองครับที่ภูเก็ต เปนโอกาสเหมาะเอาตัวนี้แหละครับมาอางใหวินดี้ไปโนนกลับผมในวันพรุงนี้

“แลวกลับมาคนเดียวหรือครับ”

“ใชครับ ไมสนุกเลยเที่ยวคนเดียว” อะนะ...ถาเปนเมื่อกอนอาจยอมเปนไกดนําเที่ยวให แตตอนนี้ขอบายแลวกัน ไมวางทั้งตัวและ


หัวใจ

“อยางปรินนะหรือครับจะเที่ยวคนเดียว” ผมยิ้มใหนองเขาไปทีกอนพูดตอวา
“เดี๋ยวพี่ขอตัวกอนนะครับ” ไมอยากตอความยาวมากกวานั้นครับ ก็พอรูอยูวาอีกฝายพูดแบบนี้หมายความวายังไง

“เดี๋ยวกอนสิครับพี่คิน นานๆ เจอกันที ปรินขอเบอรโทรพี่ไดไหมครับ” ไมพูดเปลานะครับมาเกาะแขนผมอีกตางหาก แลวนี่มันใกล


ทางออกแลวดวย วินดี้รออยูตรงไหนละนี่ ถามาเห็นภาพนี้ผมไมแยหรือครับ วาแลวก็คอยๆ แกะมือมันออกจากแขนตัวเองอยาง
สุภาพมากที่สุด แตฝายโนนกลับเกาะหนึบกวาเดิมอีก จับสองมือเลยทีนี่ แลวยังสงสายตาออนวอนมาใหอีก

“ไดสิครับ” ตองบอกแบบนี้ครับ แลวมันก็ไดผล พอพูดไปแขนผมก็เปนอิสระทันทีครับ จากนั้นผมก็หยิบนามบัตรมาให อยากติดตอ


อะไรก็ผานทางรามิลเองละกัน คงไดคุยกับผมอยูหรอกหากเกี่ยวกับเรื่องงานอะนะ

“พี่คินครับ...ปรินขอเปนเบอรสวนตัวไมไดหรือครับ” พูดหลังจากเงยหนาขึ้นจากนามบัตรผมแลว แตผมสายหนา

“พี่ขอโทษดวยนะครับ พี่คงใหปรินไมไดหรอกเพราะพี่มีคนรักแลว ถาปรินอยากติดตอกับพี่ก็ผานทางเลขาแลวกันนะครับ ไปกอนนะ


ครับ”

“พี่คินนะหรือครับมีคนรักแลว” ผมไมตอบอะไรแคยิ้มบางๆ ใหแลวก็เดินจากมา แลวแตเขาจะคิดครับ เชื่อไมเชื่อก็ตามใจ เรื่องของ


ปรินนี่ผมไมคอยอยากยุงดวยเทาไหร ไมคอยชอบนิสัยก็ดวยสวนหนึ่งครับ

“แหม...จะรีบไปไหนละครับ ปรินก็จะออกไปเหมือนกัน” วาจบมันก็มาเดินขางผมเลยครับ อืม...ดีมากเลยมึง เดี๋ยวที่รักกูไดเขาใจผิด


พอดี แลวไมตองมาแยงเอากระเปากูไปใสรถเข็นคันเดียวกันเลย

“ไมเปนไรครับปริน เดี๋ยวพี่หิ้วเอง ใบเล็กนิดเดียว” พอผมพูดจบมันก็ยิ้มอยางมีเลศนัย

“นี่แสดงวาแฟนพี่คินมารับใชหรือเปลาครับ งั้นก็คงกลัวแฟนเขาใจผิด คิดวาเรามาดวยกันสินะ มินาละถึงไดรีบเดินหนี พี่คิน


เปลี่ยนไปมากเลยรูไหม ปรินชักอยากเห็นหนาแฟนพี่แลวสิ ใครกันนะคนโชคดีคนนั้น”

แลวก็สมใจไอปรินมันครับ เพราะพอเดินมาไมถึงยี่สิบเมตรก็ถึงทางออกแลวก็เจอที่รักผม วินดี้ยืนกอดอกรออยู นองสงยิ้มมาใหเมื่อ


เห็นผม จากนั้นก็ขมวดคิ้วเมื่อสังเกตเห็นคนที่เดินอยูขางๆ นองมองหนาผมกับไอนั้นสลับไปมา เหมือนจะพูดจะถามอะไรสักอยาง
แตก็ยั้งปากไว แลวไอปรินมันก็ดันมาทิ้งระเบิดใสผมกอนจะจากไป หันมายิ้มหวานหยดติ๋งกอนกระซิบใกลๆ ถามวาคนนี้หรือแฟน
ผม นารักสมกันดี พูดจบมันก็ไป คนดีของผมก็มองตามหลังเขาไปจนสุดตา ไมพอยังทําทาจะเดินตามเขาไปอีก จนผมตองดึงแขนไว
กอน นองจึงหันหนายุงๆ มาทางผม

“แปลกจัง” วินดี้พูด สีหนาแสดงความสงสัยอยางเห็นไดชัด แตที่แปลกอะผมวาวินดี้มากกวาครับ ดูทาทางแลวเหมือนนองจะรูจักไอ


ปรินมันอยางนั้นแหละ

“แปลกอะไรหรือครับ” เพื่อความแนใจก็เลยถามดูครับ
“ก็คนเมื่อกี้อะ” อะนะ...อยาไปสงสัยอะไรเลยครับ มันไปแลวก็ปลอยมันไป อยากบอกวินดี้แบบนี้ครับ แตไมทันไดเอยอะไรออกมา
นองก็พูดขึ้นมากอนวา

“คนที่เดินมากับพี่ วินวาใชตรินแนๆ รูจักกันดวยหรือ”


***เปลี่ยนชื่อตัวละครจาก "ชิน" เปน "ปริน" นะคะ***
เวลาไมถึงหนึ่งนาทีกลับทําใหอารมณผมปรวนแปรมากเลยครับ ตอนแรกที่เห็นไอพที่ องกลับมาแลวก็ดีใจ ยิ้มใหพี่เขาไป แตพอเห็น
วามีคนเดินมากับแกก็หงุดหงิดครับ ไมเขาใจวาทําไม หากพอเห็นหนาวาคนนั้นเปนใครก็ตกใจมากเลยครับ จากนั้นเมื่อคนๆ นั้น
สบตากับผมก็รูสึกแปลกใจแทน

แวบแรกที่เห็นผมคอนขางมั่นใจกวารอยเปอรเซ็นครับวาตองใชตรินแนๆ ถึงแมวาทรงผมจะตางไปบางแตใบหนานั้นพิมพเดียวกัน
เลยครับ แตแลวเขาก็ทําใหผมประหลาดใจและทําตัวแทบไมถูกเมื่อเห็นไอพี่ทองกับเขาซุบซิบอะไรกันสักอยาง จากนั้นฝายโนนก็ยิ้ม
ใหผมครับ แตเปนรอยยิ้มที่ไมคอยนาประทับใจเทาไหร มันดูทาทายอยูในที และก็เพราะสิ่งนี้แหละที่ทําใหผมชะงักอยูชั่วครู ทาทาง
ของชายคนนั้นไมเหมือนกับตรินที่ผมรูจักเลยแมแตนอย มิหน่ําซ้ําขณะที่เดินผานผม

“ขอบคุณนะที่ชวยดูแลพี่คินให”

คําพูดของเขาครับ คราวแรกผมไมเขาใจวามันหมายความวาอยางไร พอตั้งสติไดก็แทบตัวชา ใจอยากคุยกับอีกฝายและอยากถาม


ดวยวาคุณเปนใคร พูดแบบนี้มีจุดประสงคอะไร และทําไมหนาตาถึงไดเหมือนพี่ชายของผม หากแตยังไมทันไดทําอยางใจคิดก็ถูกพี่
ทองรั้งไวกอนครับ แทนที่จะถามเจาตัวเลยตองถามพี่เขาแทน ไดความวาเขาชื่อปรินครับ เปนเด็กขางบานของเพื่อนไอพี่ทองสมัย
เรียนอยูตางประเทศ เห็นบอกวาวันนี้เจอกันโดยบังเอิญพี่เขาวางั้นนะครับ แตคําพูดที่ปรินทิ้งทายไวกับผมนั้นทําใหผมไมสบายใจ
เลย

“วินดี!้ !” สะดุงตื่นเลยครับ จูๆ ไอพี่บาก็มาตะโกนใสหู อะไรของเขาอะ คนยิ่งกําลังขับรถอยู เดี๋ยวไดไปสอยทายคนอื่นจะทํายังไง

“อะไรของพี่ จูๆ ก็ตะโกน”

“จูๆ ที่ไหนกัน พี่เรียกวินดี้เปนครั้งที่สามแลวนะครับ คิดถึงใครอยูเนี่ย นอยใจแลวนะ ไมสนใจกันเลย” อีกแระนิสัยคนแก เปนงี้ทุกที


ครับเวลาเราไมสนใจ แตไมสนครับ ปลอยไปเดี๋ยวก็ดีของเคาเองแหละ

“กําลังคิดเรื่องตรินอยู” พอผมบอกพี่เขาก็ทําหนาบึ้งกอนทําเสียงจิ๊กจั๊กในลําคอ

“คนเรา อยูกับพี่แตใจไปคิดถึงคนอื่น เดี๋ยวเถอะจะถูกทําโทษ”

“ก็มันคาใจนี่นา”
“มันเหมือนกันมากเลยหรือครับ หรือยังไง ทําไมวินดี้ถึงเก็บมาใสใจนัก”

กอนหนานี้ผมเลาใหพี่เขาฟงแลวครับ วาคนชื่อปรินอะไรนี้หนาตาคลายกับตรินพี่ชายผม ไมรูวาพี่เขาเชื่อหรือเปลานะครับเพราะ


หลังจากนั้นผมก็เฝาแตคิดหาเหตุผลมาอธิบายวาทําไมคนสองคนถึงไดคลายกันมากขนาดนี้ จนกระทั่งไอพี่ทองตะโกนเรียกผมเมื่อ
สักครูนั้นแหละครับ ถึงไดตื่นจากภวังค
จะวาไปเรื่องหนาตานี่ก็สวนหนึ่งครับทีท่ ําใหผมหนานิ่วคิ้วขมวดอยูอยางนี้ แตคําพูดของเขาที่ทิ้งทายไวนี่สิหนักกวา “ขอบคุณนะที่
ชวยดูแลพี่คินให” มันมีความหมายอะไรแอบแฝงอยูใชไหม หากมองในแงรายก็เหมือนกับอีกฝายประกาศโจงแจงเลยวาพี่เคาเคย
เปนของคนๆ นั้น และเขากําลังจะทวงคืน นี่คือความหมายของคําพูดที่ผมจับใจความไดครับ ถึงไมอยากเก็บมาคิดมากแตผมก็กลัว
อยางบอกไมถูก ถึงแมวาเรื่องของผมกับไอพี่ทองจะยังไมมีใครรู แตผมก็อยากมั่นใจวาตรินไมไดเลนตลกกับผม ทําเปนเสแสรงไม
รูจักกันอยางเชนเมื่อไมกี่นาทีกอนในสนามบินนั่น

“ถามันคาใจนักก็ลองคุยกับนายตรินอะไรนั้นดูสิครับ”

คําพูดของพี่เขาทําใหผมนึกขึ้นได จริงสินะ ผมควรจะถามตรินใหรูเรื่อง บางทีเขาอาจมีพี่นองก็ได แตหนาเหมือนกันซะขนาดนั้นควร


จะเปนฝาแฝดเสียมากกวา “ตริน” กับ “ปริน” ชื่อก็คลายกันเสียดวยสิ ถาเปนเชนนั้นจริงคงจะทําใหผมอึ้งไมใชนอย เพราะเรื่องนี้ผม
ไมเคยรูเลย แลวก็ไมแนใจดวยวาแมกับตาจะรูเรื่องนี้ดวยหรือเปลา เอาเปนวาตอนนี้ผมไมควรคิดไปไกล ไวใหรูแนชัดซะกอนแลว
คอยวากันอีกที

“เนอะ วินก็ลืมคิดไป งั้นพี่หยิบโทรศัพทใหวินที เดี๋ยวจะลองคุยกับตริน” ผมบอกพี่เขาครับ พอดีโทรศัพทอยูในกระเปา ผมโยนไวที่


เบาะหลัง

“หึ...ไมหยิบให” อาว...มาทําเปนเลนตัว เดี๋ยวเถอะ

“อะไรของพี่...เมื่อกี้ยังบอกใหโทรหาอยูเลย”

“ก็พี่ประชด วินดี้ไมเขาใจหรือครับ” พอไดยินคําพูดพี่เขาผมก็สายหนาทันที ทั้งขําทั้งระอาครับ

“จะมาประชดวินทําไม เร็ว...โทรศัพทอยูในกระเปาที่เบาะหลัง”

“ไมใชธุระ เรื่องอะไรจะบริการใหคุณภรรยาคุยกับชู”

เปนงั้นไป ลุกลามไปใหญโต ความจริงผมควรจะอาละวาดมากกวานะครับ ไมใชไมรูนะวาปรินอะไรนี่คงไมใชแคเด็กขางบานเพื่อน


แนๆ ไมงั้นหมอนั่นไมมาพูดแบบมีเลศนัยกับผมหรอก คงเปนกิ๊กเกาแกนั่นแหละ ก็ยอมรับครับวาเจ็บๆ คันๆ หัวใจอยูเหมือนกัน แตก็
พยายามขมใจไว อีกอยางเรื่องมันเปนอดีตเลยไมอยากรื้อฟนขึ้นมา ถึงจะกลัววาบางทีลมมันอาจพัดหวน ทําใหถานไฟเกาลุกโชน
แตจําเปนตองเงียบไวกอน รอดูทิศทางลมครับ

“งั้นก็ตามใจ คราวนี้วินจะไดคุยลับหลังพี่ซะเลย”

“ออ...เดี๋ยวนี้เจาเลหนักนะ”

“วาไง จะใหคุยตรงนี้แลวพี่ฟงดวย หรือใหวินไปสอบถามกันเองในที่ลับหูลับตาพี่” พอตอรองแบบนี้พี่เขาก็ฝนใจหยิบโทรศัพทมาให


ครับ แตก็ทําหนาตาไมพอใจนั่นแหละ แตผมกลับแอบยิ้ม ภูมิใจหนอยๆ ที่ชนะแกได ความสุขเล็กๆ นอยๆ ที่ทําใหคนบาอํานาจยอม
ใหกับผมครับ

จากนั้นผมก็โทรออกหาตรินครับ เรียกสายนานเหมือนกันแตก็ไมมีคนรับสาย กําลังจะวางแลวละ แตวาจูๆ ปลายสายก็กดรับ

“ฮัลโหล” เปนคําทักทายที่ไมคิดวาจะไดยินจากตรินครับ ปรกติตรินจะเรียกชื่อผมเลย แตคราวนี้มาแปลก

“ตริน นี่กุลเองนะ...ตรืน...ตรืน…” ยังไมทันไดพูดอะไรเลยครับ ตัดสายไปแลว อะไรอะ กดโทรใหมก็ปดเครื่องอีกตางหาก เอะ...หรือ


วาแบตจะหมด

มันยังไง...ไมเขาใจ...งง?????
เซ็งครับ เซ็งทั้งไอตรินและไอปรินนั้นแหละ ไมรูวาโลกจะหมุนใหผมมาเจอมันอีกทําไม แลวมาเจอกันก็ตอนที่นองอยูดวยพอดี เรื่อง
ไมเปนเรื่องเลยเกิดขึ้นมาซะงั้น ผมไมเคยเห็นหนานายตรินอะไรนั่นหรอกครับ แตรูวาไอหมอนี่มันพยายามจีบที่รักผมมากอน จําได
แมนเชียวละไอนักรักคณิตศาสตรกับตนโฮยารูปหัวใจ แคไดยินชื่อก็เหมือนอากาศรอบตัวเปนพิษขึ้นมาทันทีเลยครับ

“เลิกทําหนายุงไดแลวครับวินดี้” ผมบอกนองครับเพราะคิ้วนองยังขมวดอยูเลย เมื่อกี้โทรหาอีกฝายแตเหมือนทางโนนจะไมรับสาย


มั้ง ออ...พูดผิดครับ ที่จริงเห็นวินดี้พูดคําสองคําก็หยุดคุย ไมเขาใจวาทําไมเหมือนกัน

“แปลก” อีกแระ มันจะอะไรมากไหมเนี่ย อยูกับผมแตคิดถึงคนอื่นนี่มันนานอยใจนะครับ

“วินดี้นั่นแหละแปลก”

“วินแปลกตรงไหน”

“ก็อยูกับที่รักตัวเองแตดันพูดถึงแตคนอื่น”
“ก็พี่นั่งอยูขางๆ กันนี่จะใหพูดถึงทําไม” พอไดยินแบบนี้ก็ยิ้มไดนิดหนอยแลวครับ ชอบจังที่วินดี้ยอมรับวาผมเปนที่รักของนอง แตทา
จะใหดี อยากใหนองยอมรับตอหนาคนอื่นดวยจะเปนการดีที่สุดครับ

“ถาไมอยากพูดเรื่องพี่ งั้นพูดเรื่องของเราก็ไดครับ สวนเรื่องคนอื่นชางมันเถอะ อยาเก็บมาใสใจดีกวา” ผมพยายามหวานลอม นอง


มองมาทางผมนิดหนึ่ง เห็นลอบถอนหายใจดวย แตผมก็ไมเก็บมาใสใจครับ

ก็ผมไมชอบนี่นา เรื่องทํานองนี้มันเปนชนวนใหคนรักกันผิดใจกันอยางงายดายเลยนะครับ อีกอยางก็รูตัวดีครับ วาถาวินดี้รูเรือ่ งวา


ปรินมีลึกตื้นบางหนายังไงกับผมมากอน คงทําใหนองไมสบายใจ นี่ถานองเปนคนขี้หึงละก็ ผมคงไมไดมานั่งหนาระลื่นอยูอยางนี้
หรอกครับ

จะวาไปก็ไมรูวาควรจะดีใจหรือเสียใจกันแนที่นองใจกวางจนไมหึงผมเลยแมแตนอย ตอนที่เดินมากับไอปรินผมก็เสียวสันหลัง
เหมือนกันครับ กลัวนองจะเขาใจผิด แตวินดี้กลับไมวาอะไรเลย ถามวาผมรูจักคนนั้นเหรอ ผมก็เลาที่มาที่ไปใหนองฟงครับ รูๆ ไวจะ
ไดไมไดมาระแวงกัน แตก็ไมไดบอกนะครับวาเคยควงปรินมากอน ไมกลาบอกครับ เลยปดบังนิดหนอย นิ๊ดจริงๆ ครับ คงไมมีอะไร
มากหรอกมั้งเนอะ

วินดี้ก็ฟงเงียบๆ ครับ ไมโวยวายหรือจับผิด แตที่ติดใจอยูนี่คิดวานาจะเปนเรื่องหนาตาของไอตรินกับไอปรินมันครับ คิดๆ มาแลวก็


ชักอยากเห็นหนาไอนักรักคณิตศาสตรขึ้นมาแลวสิ วาจะเหมือนกับไอปรินจริงไหม ถาเหมือนอยางที่วินดี้พูดละก็ แยเลยครับ ดูดีขั้น
เทพแบบนั้น ใหเขาใกลวินดี้ไมไดแลวละ

“ตามใจ แลวตกลงพี่จะบอกไดหรือยังวาพรุงนี้จะพาวินไปไหน” นองมันเปลี่ยนเรื่องคุยแลวครับ แตเปนเรื่องที่ผมพูดไดไมซะงั้น

“บอกยังไมไดครับ” วาจบนองปรายตามอง ผมเลยยักคิ้วขางหนึ่งใหนองไปทีครับ

“อะไรมันจะเปนความลับขนาดนั้น” ความลับมากเลย มันเปนเรื่องของคนสองคนที่บุเพสันนิวาสพาเรามาเจอกัน ตองรําลึก


ความหลังกันหนอย เก็บเปนเรื่องเลาขานไวใหลูกหลานไดรูถึงบอเกิดความรักของเราทั้งสอง

“ถาไมบอกกันกอนแลวเกิดวินไมชอบขึ้นมาแลวจะทํายังไง” นองยังคงหาเหตุผลมาหวานลอมผมครับ ที่พูดมามันก็จริงนะครับ แตวา


ถาบอกกอนก็กลัววินดี้จะไมไปดวยนะสิครับ เลยตองลักพาตัวแบบที่เจาตัวเขาจํายอมอยางนี้แหละครับ

ความจริงแลวที่นั่นก็คงเปนประสบการณที่ไมนาประทับใจสําหรับวินดี้เทาไหร อันนี้ผมเขาใจดีครับ แตผมก็อยากจะเปลี่ยนอดีต ให


ความทรงจําเลวรายเปนเรื่องราวสวยงามที่อยูในใจของนองตลอดไป อีกอยางผมมีงานตองทํา และพรุงนี้เย็นยังตองไปงานแตงเพื่อน
เรื่องอะไรจะไปที่โนนคนเดียว ไปดูคูรักคนอื่นเขาหวานแหวว จูงมือกันเขาหอ แตตัวเองเปลาเปลี่ยวเอกา เปนเรื่องสุดทายที่นาคินทร
จะยอมใหเกิดขึ้นในโลกครับ

“พี่รับรองวาวินดี้ตองชอบแนๆ”
รับประกันไปครับ แตถึงจะชอบหรือไมชอบก็ตองไปแหละครับเพราะผมตัดสินใจแระ วาแลวก็ยิ้มประจบนองมันไปทีครับ กะใหใจ
ละลายไปเลย จะไดเลิกถามแลวคลอยตามผมงายๆ แตสงสัยยิ้มนี้คงผิดสําแดงเพราะแทนที่นองจะใจละลายกลับทําหนาเบื่อหนาย
ซะงั้น มิหน่ําซ้ําโทรศัพทเจากรรมของนองมันดันดังขึ้นซะอีก ดึงนองใหหางจากมนตสะกดผมเลยทีนี้

“ถึงแลวหรือมึง...เห็นไปตั้งแตเที่ยงเพิ่งจะโทรมาบอก” เสียงนองพูดหลังจากกดรับสาย ใครถึงไหนอันนี้ไมอาจรูไดครับ แตคิดวาคง


เปนเพื่อนสนิทนองเคาแหละ ตอวากันแบบนั้นนะ

“เออ...รูแลว ยังไงก็ฝากแสดงความยินดีกับพี่เวศดวย” ชื่อคุนๆ นะเวศนี่คลายกับชื่อไอเพื่อนที่ผมจะไปรวมงานแตงมันวันพรุงนี้เลย

“ขอโทษพี่เขาแทนดวยละกันที่ไปไมได เออจริงสิ...เมธ...มึงรูไหม วันนี้กูเจอคนหนาเหมือนตรินดวย”

อีกแลวครับ นี่แสดงวาวินดี้ยังคาใจเรื่องนี้อยูจริงๆ แลวชือ่ เมธนี่ไดยินแทบทุกวันเลยครับ อีกคนชื่อลูกแพรหรืออะไรนี่แหละ เห็นโทร


หาวินดี้มันตลอดเลย ไมรูอะไรนักหนา เจอกันที่มหาลัยไมพอหรือไง ตองโทรตามกันตลอด ถึงจะเปนเพื่อนสนิทกันแตผมก็อดหวง
นองมันไมไดครับ

เริ่มพาลแระ มีแฟนเปนคนสาธารณะนี่ลําบากใจครับ เดี๋ยวคนนั้นดึงไปทางนั้น คนนี้ดึงไปอีกทาง ตาก็ชอบชวนไปคางที่บาน ออน


นองแทบตายไมอยากใหไปคางที่อื่น วินดี้เลยเลี่ยงไปกินขาวที่บานแทน อยางนอยเสารอาทิตยก็ไปกินขาวเที่ยงกับตาครับ สวนขาว
เย็นก็นานๆ ที ถาไมไปเลยวินดี้ก็กลัวตาจะมาหาที่คอนโด แบบนั้นยิ่งแยเขาไปใหญครับ เลยตองปลอยนองมันไป

“กูจะโกหกมึงทําไม ก็เจอจริงๆ แตกูวาไมใชตรินเพราะเขาเห็นกูแตก็ทําเหมือนคนไมรูจักกัน” เวลาเด็กผูชายเขาพูดกูมึงนี่ผมก็เห็น


เปนเรื่องธรรมดานะครับ แตทําไมเวลาวินดี้พูดแลว ดูไมเขากับหนานองเลย ใชคําแทนตัวดวยชื่อดูเหมาะกับวินดี้มากกวานะผมวา
ยิ่งแทนตัววา "วิน" เวลาคุยกับผมยิ่งนารักนาฟดเขาไปใหญ

“กูก็วางั้นเหมือนกัน...เมธ...ตอนนี้ขับรถอยู ไวคุยกันทีหลังไดเปลา เออ...ไดๆ...ดีครับลูกแพร”

เห็นไหมผมบอกแลว ถามีเมธตองมีลูกแพร วางสายจากอีกคนก็คุยกับอีกคนตอ นี่แสดงวาสองคนนั้นอยูดวยกันที่ไหนสักแหง แต


วินดี้ไมไดไปดวย ดีครับ แยกหางกันบางก็ดี ถาไดเจอหนาสองคนนี้พรอมกับวินดี้คงพอมองออกวาในความเปนเพื่อนของทั้งสามมี
อะไรซอนเรนอยูในนั้นหรือเปลา แตวินดี้ไมยอมแนะนําใหผมรูจัก เลยตองเชื่อตามที่นองบอกครับ

มันก็ดีครับ...บางครั้งการที่เราไมรูอะไรเลยก็ถือวาเปนเรื่องที่นายินดีที่สุด…

....No news is a good news…

…ตอนนี้จะอะไรยังไง ขอใหนองรักผมและผมรักนองเชนนี้ตลอดไปก็พอแลวละครับ...
ถารูวาไอพี่ทองจะพาไปภูเก็ตผมจะปฏิเสธแกอยางเด็ดขาดเลยครับ มารูตัวอีกทีก็ตอนเช็คอินที่สนามบินแลว บอกวาไมไปยังไงพี่เขา
ก็ดึงลากไปบอรดดิ้งใหได ที่อื่นๆ มีตั้งเยอะตั้งแยะทําไมแกตองเลือกไปที่นั้นดวย ลึกๆ ผมคิดวาตัวเองยังไมพรอมที่จะกลับไปยังที่
แหงนั้น มันยังเจ็บแปลบๆ ในใจเมื่อนึกถึงความปาเถื่อนของพี่เขา ถึงแมวาตอนนี้ความรูสึกที่ผมมีตอไอพี่ทองจะเปลี่ยนไปมาก แต
วาค่ําคืนนั้นมันเปนอะไรที่ไมนาประทับใจผมเลย อีกอยางมันเหมือนมีลางสังหรณบางอยาง หามไมใหผมไปที่นั่น แตไมรูวาอะไร ไม
ทันไดคิดใครครวญครับ ก็อยางที่รูกัน เวลาผมอยูกับแกทีไรไมคอยมีโอกาสไดคิดเรื่องอื่นหรอกครับ

“เครื่องจะขึ้นแลวครับ วินดี้ใสเข็มขัดกอนนะ” วาจบก็เอี้ยวตัวมาสวมเข็มขัดใหผมครับ พี่เขาคงรูตัวแหละวาผมกําลังอารมณไมดี


เลยพยายามเอาใจมากหนอย

เรื่องของพี่ทองนี่มีอยูหนึ่งอยางครับที่ทําใหผมหงุดหงิดอยูตลอดเวลา พี่เขาจะบาอํานาจเอาแตใจมากเลยครับ ถาแกตัดสินใจจะทํา


อะไรแลวไมมีคําวาเปลี่ยนใจ และไมสนดวยวาเราจะเห็นดวยหรือไม เดินหนาอยางเดียวเลย ซึ่งเรื่องนี้ก็พอเขาใจครับวาอาจเปนที่
การเลี้ยงดูมาตั้งแตเด็ก ลูกชายคนเดียวเลยถูกตามใจ และตัวผมเองก็ลูกชายคนเดียวเชนกันครับ ถูกพอแมแลวก็ตาตามใจมาแต
เด็กเชนกัน แลวพอมาเจอคนประเภทเดียวกันมันก็เลยเขากันลําบากหนอย ผมก็มีจุดยืนของผม พี่เขาก็มีจุดยืนของพี่เขา ตอนนี้ขีด
ความอดทนยังไมถึงขั้นสูงสุดครับ ก็พอเออออตามใจพี่เขาไดอยู แตกอนที่มันจะระเบิดออกมา ผมวาจะคุยกับแกใหรูเรื่องซะกอน ถา
ไมมาเจอกันครึ่งทาง คงไดทะเลาะกันรุนแรงเขาสักวัน สําหรับผมมันคอนขางสําคัญนะครับที่อีกฝายยอมรับความคิดเห็น และให
สิทธิ์การตัดสินใจเทาเทียมกัน

ทวาพอเห็นหนาหงอยกอยของแกแลวใจก็ออนยวบลงทุกทีเลยครับ ผมเลยเอื้อมมือไปกุมมือพี่เขาไว เปนเชิงบอกวาผมไมไดโกรธแก


แลว พี่เขาบีบกระชับมือตอบ ถึงไมมองก็พอรูวาตอนนี้คงยิ้มกริ่มแลวละ ผมจึงหันหนาไปทางหนาตาง มองวิวขางนอกแทน อมยิ้ม
เชนกันครับ

นึกยอนกลับเมื่อไมกี่นาทีกอนผมไมพอใจพี่เขาเพราะแกบังคับผม แตหนึ่งชั่วโมงกอนเรากลับพูดคุยหัวเราะกันในรถขณะเดินทาง
มายังสนามบิน เมื่อวันกอนผมตื่นมาสงพี่เขาไปยังตางจังหวัดและรอรับแกกลับในตอนเย็น สวนสัปดาหกอนผมนอนไมหลับเพราะ
เฝาแตคิดถึงคนที่อยูไกล แลวสามสัปดาหกอนผมเขาใจวาตัวเองเกลียดผูชายคนนี้แทบขาดใจ....

ทวาในคืนที่เราเจอกันครั้งแรกนั่นละ....

ผมรูสึกยังไงกับแกกันแน...

เกลียดแก หรือวาเกลียดตัวเองที่ยินยอมเขา...

หรือผมเริ่มรูสึกอะไรแปลกๆ แตไมกลายอมรับกันตัวเอง...

มันเปนไปไดไหมวาแทที่จริงแลว ผมเปนฝายเอาใจไปผูกมัดกับคนๆ นี้ตั้งแตวินาทีนั้นแลว


“คืนที่เราเจอกันครั้งแรก...วินเมา” ผมพูดดวยความรูสึกรอนวูบวาบไปตามใบหนา คําๆ นี้ผมพยายามยกมาอาง มาบอกตัวเองวา ที่
เผลอใจไปอยางนั้นเพราะแอลกอฮอลควบคุมผม หลายครั้งเหมือนกันที่พี่เขาพยายามอธิบายเหตุการณในคืนนั้น แตผมก็หามทุก
ครั้งที่แกเอยปาก จะเปนไปไดไหมวา...นั่นเปนเพราะผมอาย...อายตัวเองที่ยังคงไมกลายอมรับความจริง

“แตวินไมไดขาดสติ” ทุกการกระทําของพี่เขา สัมผัสที่รอนแรง ริมฝปาก มือหนาที่เราโรมจนผมคลอยตาม มันยังตราตรึงในความทรง


จํา ทุกสัมผัสจากผูชายคนนี้ รางกายของผมจะตอบรับและเขากับพี่เขาไดเปนอยางดี...คงไมผิดมากนักหากผมจะบอกวา

ครั้งแรกระหวางเราคือความเรารอนรุนแรง

ครั้งที่สองคือความนุมละมุนออนหวาน

สวนครั้งตอๆ มาคือสัมผัสที่ตางเติมเต็มใหแกกันและกัน

“พี่จะไมขอโทษที่คืนนั้นพี่บังคับวินดี้ใหตกเปนของพี่เพราะหากไมเปนเชนนั้น เราทั้งสองคงไมไดลงเอยกันเชนนี้ แตพี่อยากขอโทษที่


ทํารุนแรง พี่รูวานั้นคือครั้งแรกของวินดี้ แตก็ไมอาจหามใจตัวเองได จะโทษยาที่ถูกเพื่อนมอมก็คงไมใช โทษที่ตัวเองหางหายไปจาก
เรื่องพวกนี้นานก็คงไมถูก แตเปนตัวพี่เองที่ลุมหลง อยากกลืนกินวินดี้ อยากประทับตราไว ใหวินดี้รูวา จะตองเปนของพี่และเปนของ
พี่แตผูเดียว”

“พอเถอะ เปลี่ยนเรื่องคุยดีกวา” ฟงตอไมไหวแลวครับ มันตรงเกินไป คนพูดไมอายแตคนฟงอายนะครับ

ก็เพราะแบบนี้ไงเวลาเราเริ่มพูดถึงครั้งแรกที่เจอกันทีไร ผมจะรูสึกจั๊กจี้หัวใจทุกที แลวอีกอยางผมเองก็ลืมคิดไปวาเราไมไดอยูกัน


ตามลําพัง มาคุยกันบนเครื่อง คนรอบตัวเยอะแยะ ถึงจะพูดกันเบาๆ ใหไดยินแคสองคน แตมันก็ยังไงๆ อยูดี กอนที่ผมจะทําตัวไม
ถูกไปมากกวานี้ ควรจะหยุดคุยเรื่องนี้ซะ ในเมื่อผมเปนคนเปดประเด็น ก็ควรจะเปนคนปดมันเองก็ถูกตองแลว

“อาว...เริ่มเองแทๆ แตชอบตัดบทอยูเรื่อย ไมเคยคุยกันจนจบสักที”

“ก็พี่ชอบพูดทํานองนี้อะ เปนใครก็ตองไมอยากฟง”

“ทําไมครับ ก็พี่พูดเรื่องจริง หรือวาวินดี้อาย งั้นเอานี่ไป คลุมหนาไว” ไมวาเปลานะครับ พี่เขาถอดเสื้อตัวนอกออก แลวโยนมาคลุม


หนาผมไว คลับคลายคลับคลา แบบนี้หรือเปลานะความรูสึกวาถูกปบคลุมหัว

“ที่จริงพี่อยากบอกวินดี้มานานแลวนะครับ ทนฟงพี่นิดหนึ่งนะ”

คําพูดเหมือนขอรองใชไหมครับ แตการกระทําไมใชเลย ทน ไมทน พี่เขาก็เริ่มพูดตอแลวละครับ แถมยังมากระซิบเบาๆ อีก คราวนี้


เลยตองกําคอเสื้อคลุม ยกขึ้นสูง กมหนาลงนิดหนอย เพื่อความแนใจวามันปกปดใบหนาผมอยู
“พี่ไมเคยรักใครอยางนี้มากอน วินดี้คือคนที่พี่ตามหามาตลอด พี่อยากขอบคุณไอเพื่อนเลวทั้งหกของพี่ที่มันรวมหัวกันแกลง
ขอบคุณไอยาเฮงซวยที่ทําใหพี่ไมทันไดใครครวญ ขอบคุณเหลาที่วินดี้ดื่มเขาไป และสุดทายขอบคุณวินดี้ที่ยอมพี่ ถึงแมวาตอน
แรกๆ จะขัดขืนบางก็เถอะ” อากกกก แกจะพูดออกมาทําไมครับ ไอคําขอบคุณตัวสุดทายอะ ผมไมรับเอาไวไดไหม

“พอๆ ไมอยากฟงแระ” ทนฟงตอไมไหวแลวครับ หนามันรอนเกินพิกัดแลว ถาไมติดวาถูกเสื้อคลุมหัวอยูปานนี้ไอพี่ทองคงเห็นผม


เปนกุงเผาไปแลวละครับ หนาแดงตัวแดงไปหมดแลว

“วินดี้รูไหมวาตลอดสามเดือนกอนหนานั้น พี่ไมเคยมีใครเลยนะครับ มันเหมือนกับวาพี่รอคอยที่จะเจอวินดี้ แลวในที่สุดพรมก็ลิขิต


ใหเรามาเจอกัน” ยังไมหยุดอีก ไมรูแกจะทําใหผมอายไปถึงไหน เดี๋ยวเถอะ ชอบแกลงกันดีนัก รูวาอยูในที่แบบนี้เราไมกลาทําอะไร
ยิ่งไดใจใหญเลย

“เกงจัง พี่รอไดตั้งสามเดือน งั้นวินขอแคสามคืนตอจากนี้ หวังวาพี่คงจะทนไดนะครับ” พูดจบผมก็เปดผาคลุมหนา ทันไดเห็นไอพี่


ทองกระพริบตาปริบๆ กอนทําหนาเหมือนถูกยาเบื่อ

“เมื่อกี้วินดี้วาไงนะครับ”

“ก็เหมือนที่พี่ไดยินนั่นแหละ”

“หะ...ไมไดนะ...”

“วินงวง จะนอนแระ ถึงแลวพี่ปลุกดวยแลวกัน แลวเมื่อกี้ก็ถือวาพี่ตกลงแลวนะครับ”

พูดขึ้นกอนที่แกจะทันไดอาปากแยงไปมากกวานี้ครับ จากนั้นก็หันขางใหแกไปทางหนาตาง ไมสนคนขางๆ ที่สะกิดยิกๆ รูดีครับวาพี่


เขาอยากโวยวาย แตทําไมไดเพราะกลัวคนรอบขางจะผิดสังเกต...ดีครับ คราวหลังจะไดจําไววาอยาทําใหผมอาย บอกวาพอ ก็ควร
จะพอไดแลว!!!

ขอตกลงหากไมไดรับการยินยอมทั้งสองฝายถือวาเปนโมฆะครับ ศาลเตี้ยนาคินทรตัดสินออกมาแลว และเพื่อใหผลออกมาอยาง


เปนทางการ ตองทําการประทับตราจากผูพิพากษาครับ ดังนั้นเมื่อเราไปถึงที่หมาย หองที่เคยเปนเหตุใหเราทั้งสองเจอกัน ผมก็
จัดการเขาไปกอนเลยครับ แลวพอนองตามเขามา มือหนาก็ดึงรางบางเขามาแนบอก กดจูบรอนแรงบนเรียวปากบาง

“อะ...อื้มมม...ดะ...เดี๋ยวกอน...” ไมฟงอะไรทั้งนั้นครับ อยากทําโทษคนใจรายที่ทําใหผมใจหายใจคว่ําเกือบชั่วโมง ผมพานองมานี่ก็


เพื่อรําลึกความหลัง ถาผมอดกอดนองแลวละก็ ใจขาดตายพอดีครับ คืนเดียวก็คงกระสับกระสายพอแลว แตนี้วินดี้บอกตั้งสามคืน
แหนะ นาคินทรยอมไมไดครับ
“แฮกกกก.....” เสียงหอบหายใจของนองเมื่อผมถอนริมฝปากออก

ผมโอบเอวนองไว วินดี้กมหนาซบที่ไหลของผม มือสองขางเกาะเอวผม นองยืนหายใจลึกๆ เพื่อเรียกกําลังอยูชั่วครูกอนจะเงยหนา


ขึ้นมาสบตา คอนใหผมไปที จากนั้นมือบางก็ยกมาทุบที่ไหลผมเปนการสงทาย ไมรูวาอายหรือเจ็บใจที่ผมจูโจมแบบไมทันตั้งตัว แต
ใบหนาแดงก่ํากับริมฝปากแดงซ้ํานั้นทําใหผมยิ้มได

“หึหึ” ผมหัวเราะในลําคอ

“ทําโทษคนใจราย ชอบแกลงพี่” ผมกมลงไปกระซิบที่ขางหูนอง กอนจะไลจูบไปตามซอกคอและวกมาที่ใบหูอีกครั้ง เบาลมหายแผว


เบาเขาไป วินดี้ขนลุกซู ขยุมเสื้อผมแนน เอียงหนาหนี ทวากลับเปนการเปดโอกาสใหผมจูบนองไดถนัดขึ้น มือผมลูบไลไปตามแผ
นอกของนอง อีกขางเคนคลึงสะโพกมน

“ไมไดแกลง แตคราวนี้จะทําจริงๆ” วินดี้วาขณะใชมือขางหนึ่งกดมือผมไวใหอยูนิ่ง อีกขางดันตัวผมออกพรอมกับขืนรางกายตัวเอง


ใหออกหางจากผม

“พี่ก็จะทําจริงครับ ไมเคยทํารักกับวินดี้เลนๆ สักที” ผมยี่ยวนดวยรูดีวารางกายของนองไมเคยปฏิเสธผม ถึงนองอยากจะขัดขืน แต


ทุกครั้งที่ผมสัมผัส นองจะตอบรับผมเปนอยางดี มือขางที่วางของผมดึงนองเขาสูออมกอดอีกครั้ง

“วาไงครับ จะใหพี่ปล้ําหรือวาเต็มใจยอมพี่” ผมจองลึกเขาไปในดวงตาที่ชวนหลงใหลคูนั้น

“ถากลาปล้ําก็ลองดูสิ” วินดี้เชิดหนาขึ้น ผมยิ้มใหกับคําพูดและทาทางของนอง

“จริงสิ นี่พี่ลืมไปไดอยางไร แคครั้งนั้นครั้งเดียวก็เกินพอแลว กวาจะงอวินดี้ใหใจออนไดเกือบเอาชีวิตไมรอด”

“รูตัวก็ดี งัน้ ก็ปลอยไดแลว”

“กอนปลอยขอจูบกอนนะครับ...ขอกําลังใจจากที่รักกอนนะ” ผมกมหนาลงกระซิบคําขอแนบชิดริมฝปากของนอง คลอเคลีย แตะ


สัมผัสเบาๆ อยางเยาหยอก

“นะครับ” ออนวอนนองอีกครั้งกอนจะกดริมฝปากลงไปใหแนบสนิทกัน จากนั้นก็ไลปลายลิ้นไปตามเรียวปาก กลอมวินดี้ใหเปดรับ


การลุกล้ําจากผม แลวมันก็ไดผลเมื่อนองคอยๆ แยกริมฝปากตอบรับผมอยางเต็มใจ ผมไลสํารวจอุงปากอุนอยางใจเย็น ดูดซับ
ความหอมหวาน กอนจะเริ่มบรรเลงใหเรารอนเมื่อเกี่ยวลิ้นกับนอง หยอกเยาอีกฝายใหเคลิบเคลิ้ม จนวินดี้เผลอจูบตอบผมอยางเต็ม
ใจ
“อื้มมม...” เสียงของเราทั้งคูที่เล็ดรอดออกมาเมื่อริมฝปากเราแยกออกจากกัน แตมันก็เพียงเสี้ยววินาทีเทานั้นกอนจะประกบกันอีก
ครั้งอยางโหยหา ประสานตอใหจุมพิตที่ผมเริ่มดูดดื่ม และเราทั้งคูก็ดื่มด่ํากับมันอยางไมรูจักอิ่ม

แขนเรียวของวินดี้โอบรอบลําคอผมอยางไมรูตัว เปดโอกาสใหมือของผมสํารวจรางกายของนอง ผมลูบไลเรือนรางที่ผมรูจักดีวา


ตรงไหนสวนไหนที่พอแตะแลวจะทําใหนองรอนเปนไฟ ไลต่ําลงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเอว จากนั้นก็สอดมือเขาไปใตเสื้อ สัมผัสผิว
เนียนของนองอยางลุมหลงทวาทะนุถนอมอยูในตัว เมื่อแตะเขาที่ยอดอก ปลายนิ้วแข็งสะกิดเบาๆ วินดี้สะดุงเล็กนอย แตผมก็กลอม
นองใหเคลิ้ม เคลนคลึง จนมันแข็งเปนไตตอบรับสัมผัสจากผม วินดี้เผลอแอนหนาอกเปนเชิงบอกผมวานองชอบในสิ่งที่ผมมอบให
จากอกซายผมยายมาเราโรมที่ยอดอกดานขวา มอมเมานองใหสุขกระสัน เคลิบเคลิ้มจนลืมระวังตัว
มืออีกขางลูบไปตามแผนหลังของนอง ไลลงไปเรื่อยๆ จะถึงสะโพกกลมมน บีบเบาๆ กอนจะออมมาดานหนา คอยๆ ปลดเข็มขัด
ของนองอยางเบามือ รูดซิปออกกอนจะสอดมือเขาไปทักทายกับนองชายของวินดี้

“อืมมม...พะ...พอ...กอน...อะ....” ผมไมปลอยใหนอ งปฏิเสธและมีสติมากพอที่จะขัดขืน ตอนนี้รางกายของนองยินยอมไปกลับผม


แลว เหลือเพียงแคดับสติที่มีเพียงเล็กนอยใหกลายเปนเพียงเถาถานไปเทานั้นเอง

ริมฝปากของผมตามประกบ แลกลิ้นกับนองอีกครั้ง มือที่เลนกับยอดอกนองเลื่อนไปโอบแผนหลังวินดี้ไวไมใหถอนหางจากผม


ขณะที่มืออีกขางปลุกวินดี้นอยใหตื่นขึ้นมาทักทายผม เพียงแคแตะเบาๆ นองชายของวินดี้ก็แข็งสูมือผมแลว ลมหายใจที่ออนระทวย
ทําใหรูวานองเริ่มสมองขาวโพลน และไมเปนตัวของตัวเองแลว ผมจึงถอนริมฝปากออกมา จูบไปตามดวงหนา ลําคอและวกขึ้นไป
จูบที่หูนองอีกครั้ง

“อาาาาาา...” น้ําเสียงที่เราอารมณผมใหรอนแรงเปลงออกมา มันชางชวนใหผมจมดิ่งลงไปในไฟเสนหหาที่กําลังแผดเผา โหม


กระหน่ําทั้งผมและคนรักจวนจะหลอมละลายดวยกันทั้งคู ผมดันรางของวินดี้ใหหางจะประตูออกมานิด เบียดใหนองขยับไปติดกับ
ผนังกอนจะถอดเสื้อนองออก แลวละเลงปลายลิ้นไปตามเนื้อตัวของนอง

“มะ...ไม...เอา...พอเถอะ...” วินดี้พยายามผลักผมออก ขัดขืนผมตามสติเฮือกสุดทายที่นองมี แตผมจะดับสตินั่นลงเดี๋ยวนี้ละ


ดวยรูวามีหนึ่งอยางที่สวรรคประทานพรใหกับผม นั่นก็คือ “รางกายของวินดี้รักที่จะเปนหนึ่งเดียวกับผม” หากผมตองการ นองจะไม
สามารถขัดขืนผมได และวินดี้ก็รูตัวดี ตั้งแตครั้งแรกที่เราเจอกัน รางกายของเราทั้งคูก็ตางโหยหาซึง่ กันและกัน มันเหมือนน้ํามันกับ
ไฟ พอใกลกันก็ติดพรึบ หลอมรวมเปนหนึ่ง รอนแรงแผดเผาเราทั้งคูใหจมอยูในเปลวเพลิงแหงไฟเสนหหา

หรือจะมองอีกมุมอาจคลายกับจิ๊กซอสองชิ้น พอเอามาประกอบกันก็เขากันไดเปนอยางดี ถึงแมวาปากของวินดี้จะไมยอมผม แต


รางกายของนองยอมเปนของผมตั้งแตวินาทีแรกที่ริมฝปากเราสัมผัสกันแลว จากนั้นก็เปนหนาที่ของผมที่จะทําใหไฟในตัวของนอง
รอนแรงขึ้น จนกระทัง่ ลุกโชนและมีเพียงผมเทานั้นจะชวยดับมันลงดวยการเติมเต็มสัมผัสเขาออกจากรางกายของผม

ไมรอชาผมปลดกางเกงนองออกพรอมกับสอดมือเขาไปทักทายวินดี้นอยที่ตื่นขึ้นมารอผมอยู ขยับมือขึ้นลง ริมฝปากดูดเมมที่ยอ


ดอกของนองซายขวา จากเสียงรองหามกลายเปนเสียงกระเสา ครวญครางอยางที่ผมตองการ มือที่ผลักผมออกกลับกดใบหนาของ
ผมใหแนบชิดกับหนาอกนองมากขึ้น ผมวกขึ้นไปจูบปากนองอีกครั้งกอนจะเริ่มไลริมฝสํารวจรางกายของนอง ในขณะที่มือยังคง
มอบความสุขใหนองกับสวนลาง ริมฝปากผมไลลงต่ําไปเรื่อยๆ จนครอบครองแกนกายของนองแทนมือหนาในที่สุด

“อะ...อาาาา...” เสียงของวินดี้ที่เรียกรองใหผมปรนเปรอใหนองหนักขึ้นทําใหผมมอบความเสียวซานใหนองอยางเต็มใจ เลาโลม


หยอกลอ ยิ่งนองรองเรียกผมก็ยิ่งมอบสัมผัสหนักหนวง ถึงแมวาอยากจะเหนี่ยวรั้งอารมณของวินดี้ใหนานกวานี้ ใหนองไดอิ่มเอม มี
ความสุขไปพรอมๆ กับผม แตมานึกอีกที เราก็ยังมีเวลาอีกเยอะ มันมากพอที่ทําใหวินดี้ลืมไปเลยวาวันนี้นองไปถึงสุดสายปลายรุงกี่
ครั้ง และในทุกครั้งผมก็จะตามนองไปติดๆ เชนกัน

“อะ...มะ...ไม...ไหวแลว...” เมื่อสิ้นคําพูด รางกายของนองก็กระตุกพรอมกับสายธารแหงรักที่รินไหลออกมา

“อาาา...” น้ําเสียงสั่นกระเสาหากแตอิ่มเอมในอารมณของนอง ทําใหรางกายผมปวดหนึบจนอยากปลดปลอยเชนเดียวกัน ยิ่งเห็น


ใบหนาของวินดี้เวลาที่นองเสียวซานถึงขีดสุด มันดูเซ็กซี่และมีเสนหมากมายนัก จนผมอยากเขาไปอยูในตัวนองในวินาทีนั้นใหรูแลว
รูรอดไป

หลังกลืนสิ่งที่นองมอบใหลงไปผมก็ใชปลายลิ้นทําความสะอาดใหกับวินดี้ ลุกขึ้น ถอดเสื้อผาของตัวเองออก จะวาไปนี่เปนเพียงการ


เรียกน้ํายอยเทานั้น เราเพิ่งกาวมาในหองเพียงไมกี่กาว แลวอีกหลายกาวกวาจะไปถึงเตียง ผมคงรําลึกความหลังกับนองไปหลาย
รอบแลว จําไดวาคืนนั้นนองสลบแตคราวนี้ผมจะไมรุนแรงขนาดนั้น ทวามันคงทําใหนองเหนื่อยไมแพวันนั้นแนๆ

ออ...อีกอยาง หากวินดี้ไดสติแลวโวยวายกับผม ผมก็จะยกคําพูดนองมาอาง

“งั้นวินขอแคสามคืนตอจากนี้ หวังวาพี่คงจะทนไดนะครับ”

ผมจะพยายามทนกับ “ตอนกลางคืน” อยางที่นองขอ แตกลางวันเปนเวลาของผม เพราะฉะนั้นผมก็ไมไดเอาแตใจนะครับ อยาง


ตอนนี้ก็กลางวัน เพราะฉะนั้นวินดี้จะโทษผมไมไดนะ

ผมชอนรางที่หอบหายใจ เอนหลังพิงผนัง อุมมาวางที่โซฟากลางหอง คราวนี้ก็เปนทีผมแลวที่จะไปถึงที่หมาย และผมจะกลอมนอง


ใหเปนคนสงผมไปยังที่แหงนั่น คอยดูเถอะจากจูบเดียวที่ผมรองขอจากนองเมื่อหลายนาทีกอน มันจะกลายเปนบทเพลงรักที่บรรเลง
ทั้งวันในทวงทํานองที่ไมเคยซ้ํา ทวงทาและจังหวะจะถูกปรับเปลี่ยนใหเขากับสถานที่ เนิบนาบ เชื่องชาในคราที่บทเพลงออนหวาน
หรือรอนแรง ดุดัน ในจังหวะที่เรารอนหลอมละลาย

...เพลงรักของผมกับนองจะบรรเลงอยูเชนกัน ยามผมขยับ นองจะตอบรับ หากผมชะลอ นองจะชวยสานตอ เนินนานจนกวาฝาย


หนึ่งฝายใดจะเหนื่อยลาไปพรอมกับความสุขซาบซานที่มิอาจลืม...
“อืมมม...” สัมผัสที่ซุกไซรอยูตามใบหนาและลําคอทําใหรูสึกรําคาญ เอียงหนาหลบ หากแตมันก็ตามกอกวนการหลับใหลของผม
จนสุดทายผมก็ตองลืมตาตื่นขึ้นมา
“ไอพี่ทอง...”

“ครับที่รัก” เสียงของเขาตอบรับอูอี้เพราะปากกับใบหนายังซุกอยูที่หนาอกของผม

“พอไดแลว...” ผมรองขอพรอมกับพยายามผลักแกออก จากนั้นก็ขยับกึ่งนั่งกึ่งนอนพิงหัวเตียง ดึงผามาคลุมรางไว ตองทําตัวใหหาง


จากแกนิดหนึ่งครับ ไมงั้นเปนอัตรายกับตัวเอง

“ตอนนี้กี่โมงแลวครับ” ผมถามดวยไมรูวาตัวเองหลับไปนานแคไหน แตรูวาภายในเวลาหลายชั่วโมงติดๆ กัน ไอพี่หื่นดูดพลังผมไป


หมดสิ้น เหนื่อยแทบขาดใจเลยครับ จําไมไดแลววาตัวเองเผลอหลับไปตอนไหน แตที่รูคือพี่เขาเรียกรองซ้ําแลวซ้ําอีกจนผมแทบ
กระอักความเสียวซาน ไมรูแกไปโดบอะไรมา ทํายังกับอดอยากมาเปนป ทั้งๆ ที่ทุกคืนพี่เขาก็เรียกรองจากผมอยูแลว

“จะบายสามแลวครับ” วาพลางขยับมานั่งขางผม มือแกก็คอยนัวเนียอยูไมหาง จับมือผมไปจูบบาง กมมาหอมแกมผมบาง ไมก็ไซร


จมูกกับปากไปตามลําคอ

“อือออ...ไมเอา วินเหนื่อยแลว…”

“พี่ก็ไมไดวาจะเอานี่ครับ แคจะปลุกวินดี้มากินขาวเทานั้นเอง”

“งั้นก็หยุดไดแลว วินตื่นแลว”

“ตื่นจริงหรือครับ” ไมวาเปลา ลูบไปตามตนขาของผม ตกลง “ตื่น” ของแกนี้มันอะไรกันแน ผมหรือนองชายผมที่แกอยากใหตื่น

“เพลี๊ยะ!!!” หมั่นไสคนครับ เลยฟาดหลังมือแกไปที

“เจ็บอะ”

“ก็อยากใหเจ็บ ถายังไมหยุดอีกเดี๋ยวจะโดนหนักกวานี้”

“แคลอเลนเอง วินดี้ใจราย มาตีพี่” คําพูดแกอะตอวาผม แตแววตากับรอยยิ้มขี้เลนบนเรียวปากของแกนั่นทําใหผมสายหนา ยังไมมี


เรี่ยวแรงไปรบกับแกหรอกครับ เพิ่งตื่นดวย สมองมันเลยเอื่อยๆ ยังไมทํางาน เพิ่งนึกได พี่เขาบอกวาจะบายสามโมงแลว นี่สรุปผมมา
ภูเก็ตนี่ไมตองไปไหนเลยใชไหม ทั้งที่ความจริงมาถึงตั้งแตสิบโมงเชาแลว แตกลับขลุกตัวอยูในหองพักดวยกันกวาหาชั่วโมง

“หิวหรือยังครับ พี่โทรสั่งอาหารขึ้นมา เดี๋ยวอีกสักพักคงมาถึงแลวละ” พอพี่เขาถามก็รูสึกหิวขึ้นมาเลยครับ ก็ผมไมไดมีอะไรตกถึง


ทองนอกจากโกโกรอนแกวหนึ่งกับขนมปงที่กินเมื่อเชาเทานั้นเอง
“พอพี่ถามวินก็หิวขึ้นมาเลย”

“พี่ก็หิวเหมือนกันครับ...แตหิววินดี้” ฟงคําพูดแกสิครับ จะมีใครเกินแกไหมนี่ ถึงจะไดยินคําพูดทํานองนี้บอยๆ แตทุกครั้งที่ฟงผมก็ยัง


รูสึกหนารอนวูบวาบอยูดี

“ไอพี่หื่น...ไมรูจักเหนื่อยบางหรือไง” ผมพูดพรอมกับเลื่อนตัวลงนอน ดึงผาหมคลุมไวจนถึงคาง หวังใหมันเปนปราการไมไดแก


สัมผัสรางกายผมไดโดยตรง ถึงแมจะรูดีวาหากพี่เขาจะทําจริง อะไรก็คงหามไมได แตมันก็ยังดีกวาไมมีอะไรมาใหผมยึดติดไวเลย พี่
เขาหัวเราะเบาๆ กอนจะลมตัวลงนอนขางๆ ชันศอกกับฟูกที่นอน มืออีกขางโอบกอดผมไว

“โธ...วินดี้ยังไมชินอีกหรือครับ ก็นาจะรูนี่ครับวาที่รักตัวเองนะซุปเปอรแมน”

“ซุปเปอรหื่น” ผมแยงใหถูกตอง

“ถึงจะหื่นแตก็หื่นกับวินดี้เทานั้นนะครับ” วาจบไอพี่หื่นก็แสดงใหดูเลยครับ พลิกตัวขึ้นมาคว่ําตัวผมไว แลวเริ่มใชปากกับจมูกมาจูบ


ตามใบหนาของผม

“อืมมม....ไอพี่ทอง...หยุด!!!...รูแลวๆ วาหื่นจริง!!!” ผมพยายามสายหนาหนี มือก็ผลักอกพี่เขาออก พี่เขาหัวเราะในลําคอกอนเงย


หนามาถามผมวา

“หื่นแลวรักไหมครับ” เจอคําถามแบบนี้เขาก็คอนขวับคนถามเลยครับ กลาถามเนอะ แลวมีหรือผมจะไมกลาตอบ

“เคยรัก...แตตอนนี้กําลังคิดวาจะเลิกดีไหม” พี่แกสายหนาใหกับคําพูดของผม

“ไมดีครับ รักแลวตองรักเลยครับ ไมมีงด ละ เลิกอะไรทั้งนั้น”

“มันก็ขึ้นอยูกับความประพฤติแหละ ถาไมไหวก็เลิกกันไปเลยดีกวา”

“หงา...ที่รักอยาพูดคําอัปมงคลอยางนั้นสิครับ “เลิก” ไมอยูในพจนานุกรมของเราสองคนครับ”

“ก็รอดูตอไปวาจะบัญญัติมันลงไปในนั้นวันไหน”

“จะไมมีวันนั้นแนนอนครับ” วาจบแกก็กมมาหอมแกมผมแรงๆ ครับ พอเอียงหลบดันกลับเปนใจใหแกหอมผมอีกขางซะงั้น

“หมั่นเขี้ยว...คนอะไรชอบพูดใหพี่ใจหายใจคว่ําอยูตลอดเวลา...อยางนี้มันตองทําโทษ” แลวแกก็ทําโทษผมตามวิธีของแกนั่นแหละ
ครับ ทําใหผมจั๊กจี้ดวยมือ จมูก ปาก และลิ้น
“อากกก...ฮาฮา...พอ...แลว...ไอพี่ทอง...อากก...ฮา...” ดิ้นหนีครับ แตไมรูจะดิ้นยังไง ยิ่งเห็นผมทรมานแกยิ่งสนุกใหญ จี้เอวผมบาง
ละ เลียใบหูผมบางละ ซุกไซรจมูกกับปากทีห่ นากับคอผมก็มี กะจะใหขาดใจตายเลยหรือไงไอพี่บานี่

พี่แกแกลงผมครูหนึ่งอาหารก็มาพอดีครับ ตองขอบคุณบริกรที่มาขัดจังหวะ ไมงั้นผมใจขาดตายแนๆ พี่เขาหัวเราะเยาะเมื่อเห็นผม


นอนหอบหายใจ จากนั้นก็ลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปเปดประตู หากผมทําไดนะครับ ผมอยากจะขวักลูกกะตาวิบวับๆ ขี้เลนของแก
ออกมาครับ เห็นแลวมันรูสึกหมั่นไส ดูจะอารมณดีซะจริงๆ ทั้งๆ ที่ผมหนาแดงหนาดําเพราะโมโหที่ทําอะไรแกไมไดอยูเนี่ย

แตแลวพอกลิ่นอาหารโชยมาเมื่อพี่เขามาพรอมรถเข็ญอาหารทําใหผมตองละความขุนของใจไวกอนครับ หิวแลว ไมมีแรงไปรบกับ


แกครับ ผมขอใหพี่เขาไปกินที่ระเบียง ใหหางจากเตียงมาหนอยก็ดีครับ ทาทางแกไมคอยนาไววางใจเทาไหร พอกินเสร็จก็นั่งให
อาหารยอยกันสักพัก คุยกันโนนนี่ไปหลายอยาง จนกระทั่งแดดออนแสง ก็เลยชวนแกลงไปเดินที่ชายหาดดูพระอาทิตยตกกันครับ

ทวาพอลงมาขางลางไมทันไดไปถึงไหนก็รูสึกเหนื่อยครับ มันเข็ดขัดยอกไปหมดเลย ขยับรางกายมากก็ไมคอยจะได พี่เขาก็เลยใหนั่ง


ที่ชายหาดของโรงแรมแทน ก็นั่งทอดอารมณบาง ใชเทาเขี่ยทรายเลนบาง ตาก็มองโนนนี่ไปเรื่อยครับ จนกระทั่งสายตาไปเจอะกับ
รางๆ หนึ่งซึ่งกําลังยกกลองเก็บภาพกับบรรยากาศรอบๆ ตัว คุนมากเลยครับ ใครหนอ คิดไปหัวใจก็เตนตุมตอมๆ ไปครับ กําลังจะ
นึกออกอยูแลวเชียววาตากลองคนนี้เปนใคร เขาก็หันเลนสกลองมาทางผมซะกอน จากนั้นก็เหมือนจะอึ้งไปพักใหญกอนจะลดกลอง
ลงซึ่งมันทําใหผมเห็นหนาเขาชัดเลยทีนี้

“เมธ!!!” ผมอุทานพรอมกับหัวใจหลนไปอยูที่ปลายเทา

“กุล!!!” คําเรียกขานของเพื่อนผมตอกย้ําวาผมไมไดตาฝาดไป

เวรกรรม!!! เพิ่งนึกไดวาเมธกับลูกแพรมางานแตงพี่เวศที่ภูเก็ต ตายแนๆ แคเห็นเมธเดินเขามาใกลผมก็เกิดอาการคลายคนขาด


ออกซิเจนเลยครับ หากทําไดผมอยากจะมุดทรายหายไปจากตรงนี้เลย ทําไมผมถึงลืมเรื่องนี้ไปไดนะ แลวจะทําอยางไรละทีนี้...ใครก็
ไดชวยผมที...ผมจะแกปญหาตรงหนาอยางไรดีครับ!!!!
ผมมองตามรางของที่รักที่ลุกขึ้นยืนในฉับพลันกอนจะวิ่งเขาไปหาใครอีกคนที่เดินเขามาใกล กอนหนานั้นไดยินวินดี้อุทานอยางตกใจ
วา “เมธ!!!” แลวนองก็หันหนาซีดๆ มาทางผม ลังเลอยูชั่วครูกอนจะบอกใหผมรออยูตรงนี้หรืออยากไปไหนก็ได แตขอแควาอยาเขา
ไปใกลนองจนกวาอีกฝายจะเรียก

ผมฟงนองพูดดวยความงงเล็กนอย ชั่ววินาทีถัดมาก็เขาใจความหมายที่นองตองการบอก “เมธ” ชื่อที่ผมไดยินแทบทุกวัน ผูชายที่


เปนเพื่อนสนิทของนองเขา แลววันนี้ผมก็ไดเห็นหนาไอหมอนั่นเขาจนได หากรูวามันหนาตาแบบนี้ จะหามวินดี้ไมใหเขาใกลตั้งนาน
แลว สาด...หลอไมบันยะบันยัง ทําไมเห็นในภาพถายมันดูธรรมดา แตตัวจริงนี่อยางกับคนละคนกัน

ยิ่งสังเกตก็ยิ่งทําใหผมหงุดหงิดมากขึ้น มันจะใชไอตากลองแอบถายคนนั้นหรือเปลา ดูจากกลองที่คลองคออยู กับความสนิทสนมที่


โทรหาวินดี้ทุกวัน ซักอยากดึงนองมาถามใหรูเรื่องแลวสิครับ แคคิดเองแบบนี้มันก็ทําใหผมเริ่มนั่งไมติดแลวละ อยากรูดวยวาตอนนี้
ทั้งสองกําลังคุยอะไร แลวมันมีปญ
 หามากไหมถึงมองผมตาขวางอยางนั้น เห็นทาทางแบบนี้ก็พอเขาใจครับวาไอนี่คงไมใชแคเพื่อน
สนิทธรรมดากับนองแลวละ

นั่นดูมัน...มาโอบไหลที่รักของผมกอนใชสายตาหาเรื่องมองมาทางผมอีกครั้ง แลวหันไปพูดกับวินดี้ตอ เดี๋ยวเถอะมึง เย็นนี้จะอาบน้ํา


ใหนองมันจนสะอาดไปเลย ลบรอยไดหมอนั่น ฝากไวบนบาใชไหม เดี๋ยวผมจะฝงรอยรักจนเต็มตัวนองมันเลย

นานยังอีก...คราวนี้ยื่นมือไปขยี้หัววินดี้มันครับ อะไรของมันวะ ไอสองคนนี้ จะคุยอะไรกันก็คุยไปสิ ทําไมตองแตะเนื้อตองตัวกันดวย


หงุดหงิดมากมายครับ ไมชอบใหใครเขาใกลนองเลย แลวนั่นมันจะพาที่รักผมไปไหนครับ มีการมาจูงมือวินดี้อีกดวย นองมันก็นะ
ยอมใหเขาจับ เดินตามหลังเขาตอยๆ มีหันมาทางผมนิดหนึ่ง แลวก็เดินกมหนาจากไป

ทําไงดีละทีนี้ นองมันบอกใหอยูหางๆ งั้นผมก็ตองนั่งรออยางหวงๆ เซ็งเลยครับ ไมกลาทําอะไรเกรงใจวินดี้มัน แลวแตเขาละครับ


อยากใหผมรูจัก ไมอยากใหรูจักใครก็แลวแตเขา แตถามวานอยใจไหม แนนอนครับ มันก็ตองมีความรูสึกบางเปนธรรมดา แตผมก็
เขาใจนองมันนะ คงตองใหเวลาสักพักแหละกวานองจะกลาเปดเผยตัวเองกับคนรอบขาง

นั่งรอนานมากเลยครับ ดูพระอาทิตยตกน้ําคนเดียว เหงาจับใจ ที่จริงก็เปนหวงวินดี้มันดวยครับ ไมรูปานนี้จะเปนยังไงบาง นองจะ


คุยอะไรกับเพื่อน นึกขึ้นมาแลวจะใชหรือเปลานะ...ถาผมจําไมผิด ไดยินวินดี้บอกวาเพื่อนชวนไปไหนสักแหงแตนองไมไดไปดวย จะ
หมายถึงภูเก็ตหรือเปลา ถาเปนเชนนั้นก็ลําบากใจแทนวินดี้เหมือนกันครับ ดันมาจะเอกับเพื่อนนองที่นี่ แลวนองจะบอกเพื่อนวา
อยางไรละ หวังวาทางโนนคงไมตอวาและโกรธนองมันหรอกนะ

ผมนั่งคิดโนนนี่ไปหลายอยางครับ สายตาก็คอยมองแตทางที่นองมันเดินจากไป เมื่อไหรนองจะกลับมา จนเสียงโทรศัพทดังขึ้นนั่น


แหละผมจึงตื่นจากภวังค

“ฮึก...วิน...อยูหนาหอง...ฮึก...แลว...พี่เอาคีการด...ฮึก...มาใหท.ี ..ฮึก....” แคไดยินเสียงสะอื้นหัวใจก็หลนไปอยูที่ตาตุมแลวละครับ

“วินดี้รอเดี๋ยวนะครับ พี่จะรีบไปเดี่ยวนี้แหละ” วิ่งเลยครับคราวนี้ หัวใจรอนเหมือนถูกไฟเผา กังวลเปนหวงนองไปสารพัด

ใหตายเถอะ...ผมไมนานั่งรอนองอยูหางๆ เลย...
แลวนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับสุดที่รักของผม...ทําไมนองถึงไดรองไห!!

ความในใจของเมธ

“ก็เราเปนเพื่อนกัน” คําหาคําที่ผมไดยินมาตั้งแตเด็ก คําพูดของเด็กชายคนหนึ่งที่ชอบพูดกับผมเสมอ ครั้งหนึ่ง ผมถูกเพื่อนในชั้น


แกลง พวกนั้นรุมกันลอวาผมเปนไออวน ขี้แย ดวยความเจ็บใจ ผมเลยขโมยกลองดินสอของไอหัวโจกนั่นเอาไปโยนทิ้ง แตมันกลับไป
ฟองครู แลวบอกวามีคนขโมยของมัน แลวครูประจําชั้นก็มาถามวาใครขโมยกลองดินสอเพื่อน ไอคนนั้นมันชี้มาที่ผม แลวลูกนองคน
อื่นๆ ก็บอกวาผมเปนคนทําเชนเดียวกัน ตอนนั้นผมกลัวมาก กําลังจะสารภาพวาผมเปนคนทํา แต “กุล” เพื่อนผมกลับยกมือขึ้นแลว
บอกวามันเปนคนทําเอง ผมไมรูตัวเลยวากุลมันเห็นทุกการกระทําของผม

ตอนนั้นผมกลัว กลัวถูกครูตี กลัวถูกจับได กลัวพวกนั้นจะแกลงผมอีกก็เลยไดแตกมหนา รองไหอยูอยางนั้น กุลถูกครูประจําชั้นทํา


โทษใหยืนอยูหนาหองขาเดียว แลวก็ถูกไมบรรทัดเหล็กฟาดที่ฝามือดวย ผมเห็นเพื่อนผมเบปาก น้ําตาไหล แตไมมีเสียงรองไหเลย
แมแตนอย ผมไดแตมองเพื่อนแตไมอาจชวยอะไรมันได

“รองไหทําไม เคาไมไดเปนอะไรสักหนอย” กุลมันพูดกับผมหลังจากถูกทําโทษแลว

“กุล...ฮือ...” ผมกอดมันรองไหเพราะรูวาตัวเองผิด แลวก็ขี้ขลาดเกิดกวาจะยอมรับความผิดตอหนาคนอื่น

“ทําไมตองรับแทนดวย” ผมถามมันดวยน้ําตานองหนา

“ก็เราเปนเพื่อนกัน” นั่นคือคําพูดของมัน

เรื่องมันไมจบแคนั้นเมื่อเรื่องที่กุลขโมยของรูไปถึงหูผูปกครองของไอคนนั้น เขาจะมาเอาเรื่องกับมัน ก็เลยกลายเปนเรื่องใหญโต เมื่อ


ครูตองเรียกผูปกครองของกุลมาพบแลวรายงานความประพฤติ ผมยังจําสีหนาของพอกุลมันได ตอนที่รูวาลูกชายตัวเองเปนหัวขโมย
ขนาดผมแคมองอยูไกลๆ ยังกลัวแทนมันเลย แลวก็เปนอยางที่ผมกลัว เพราะในวันรุงขึ้น กุลมันมาเรียนพรอมรอยเฆี่ยนที่ขาทั้งสอง
ขาง ผมนั่งน้ําตาไหล มองเพื่อนเดินกระโผกกระเผก แตใบหนาของมันกลับยิ้ม ไมไดทุกขรอนกับการเจ็บนั้นเลย

“พอไมไดเฆี่ยนหรอก แตตาเฆี่ยนแทน ฮาฮา” แลวมันก็หัวเราะ เมื่อผมถามวาถูกพอตีเรื่องเมื่อวานเหรอ ผมพูดอะไรไมออก ขอโทษ


มันซ้ําแลวซ้ําอีก เกลียดตัวเองที่ทําใหเพื่อนเจ็บเพราะความขี้ขลาด แตกุลก็ยังพูดคําๆ เดิมกับผมเชนกัน

“ไมเปนไร ก็เราเปนเพื่อนกัน” จากนั้นมันก็บอกผมวา ถาถูกพวกนั้นแกลงอีก อยาไปยอมพวกมัน ตัวผมก็ออกใหญ ตอยไมได ก็ลม


ทับใหพวกนั้นมันแบนไปซะเลย จากคําพูดของกุลทําใหผมหัวเราะ แลวผมก็พยายามทําอยางที่มันพูด ถึงจะกลัวอีกฝายแตผมก็สั่นสู
กับพวกนั้น จนสุดทายพวกมันก็ไมกลาแกลงผมอีก

เริ่องมันผานมาหลายปแลวแตผมยังรูสึกวามันเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวาน ตอนนั้นผมเรียนอยูชั้นประถมปที่หนึ่ง ตัวอวน แลวก็ขี้แย กุลจะ


ตัวเล็กและผอมกวาผม แตหัวใจมันกลับเกรงกวาผมซะอีก

ตอนสอบเขาชั้นม. ตน ผมกับกุลยังคงเรียนที่โรงเรียนเดียวกัน แตมันอยูคนละหอง ผมรูสึกแยมาก อยากจะเรียนชั้นเดียวกันกับมัน ก็


เลยขอใหพอทําเรื่องยายใหผม แตมันก็ยากหนอยเพราะคะแนนสอบเขาของผมมันนอย จะไปอยูหองเกงอยางกุลมันก็คงไมได เมื่อ
ไดยินแบบนั้นผมก็ยังเปนไอเมธขี้แยเหมือนเดิม ผมไปรองไหกับกุลมัน ไมอยากเรียนอยูคนละหอง
แลวพอวันเปดเทอม มันก็เดินเขามาในหองเรียนผม นั่งลงที่โตะขางๆ พรอมบอกผมวา มันจะมาเรียนหองเดียวกันกับผม ตอนนั้นผม
ลุกขึ้นรองไซโย ดีใจที่ไดเรียนหองเดียวกันกับมัน ลืมคิดไมเลยวามันมาเรียนหองนี้ไดอยางไร

หลายวันตอมา ลูกแพรซึ่งเปนเพื่อนของผมตั้งแตชั้นประถมเชนกัน เธอสอบเขาไดหองเดียวกันกับกุลก็ยายเขาเรียนหองเดียวกับผม


เชนกัน เธอเผลอบนวาหิวเพราะอดขาวประทวงเหมือนกุล กวายายจะยอมตามใจมาคุยกับอาจารยที่โรงเรียนเกือบผอมตาย ผมถึง
ไดรูความจริงวา กุลมันทําไงถึงไดมาเรียนหองเดียวกันกับผม…มันอดขาวประทวงตามันก็เพื่อผม

“ก็เราเปนเพื่อนกัน ไปไหนตองไปดวยกันสิ” คําพูดของมันเมื่อผมถามวาทําไมถึงไดยอมลดตัวมาเรียนกับคนโงอยางผม

จากคนโงๆ ที่ไมสนใจเรียน ผมพยายามทําตัวเองใหเทาเทียมกับเพื่อน เมื่อกุลบอกวา ถาไมอยากโงก็ตองขยัน ผมก็ขยันแลวมันก็


ชวยเข็นผมอานหนังสือ ทําการบาน เตรียมสอบ ทุกอยางมันจะชวยผม จนผมชินกับการมีมันอยูขางๆ ไมรูอะไรก็ถาม ไมไดทํา
การบานก็ขอลอกมัน หรือแมแตกระทั่งรายงาน บางครั้งมันก็ทําใหกับผม

ตอนม. ปลายผมเปนนักบาสของโรงเรียน เย็นวันหนึ่งหลังซอมเสร็จ กุลมันก็มารอผมกลับบานพรอมกันเหมือนทุกวัน แตกอนกลับ


เราก็เดินไปซื้อไอติมกินกันที่หนาโรงเรียน ผมพูดคุยหยอกลอกับลูกแพรขณะลวงกระเปาหาเหรียญ แลวเหรียญเจากรรมมันก็ดัน
หลนลงพื้น แลวกลิ้งเขาไปยังเลนถนน ผมไดยินเสียงกุลมันเรียกใหระวัง แตผมก็ไมไดสนใจ จนกระทั่งรางตัวเองถูกพลักออกมาอยาง
แรงพรอมเสียงเบรกรถดั่งสนั่น

ผมตกใจและทําอะไรไมถูกเมื่อเห็นรางของเพื่อนผมนอนจมกองเลือด ผมคลานเขาไปหามัน มือผมสั่นขณะเอื้อมไปจับมัน

“กุล!!!!” ผมเรียกมัน แลวมันก็ลืมตา มองผมอยูครูกอนจะฝนความเจ็บถามผมวา

“มึงไมเปนไรใชไหม”

“กูไมเปนไร” พอผมบอกแบบนั้นมันก็ยิ้ม

“ดีแลว...วันศุกรนี้มึงแขงรอบชิง...” แลวสติมันก็ดับไป ผมตัวสั่นกอนจะถูกกันออกใหหาง จากนั้นรางของเพื่อนผมก็ถูกนําสง


โรงพยาบาล ผมมองมือตัวเองที่เปอนเลือดของมัน แลวน้ําตาผมก็ไหลก็ออกมา

“เปนตายยังไงกูก็จะเอาเหรียญมาใหได มึงคอยดู” คําพูดที่ผมพูดกับมันเมื่อหลายวันกอนหนานั้น

“อยาใหถึงตายเลยมึง” มันแยงผม
“เหรียญนี้มันสําคัญกับกูมาก ถากูแขงชนะคราวนี้พอตองยอมรับวากูก็เกงไมแพพี่กูเหมือนกัน” ผมบอกเหตุผลมัน ดวยผมมีปมดอย
ในใจ ไมวาผมจะทําอะไรพอตองเอาผมไปเปรียบกับพี่ชายผมเสมอ เพราะฉะนั้นผมจึงพยายามเรียกรองความสนใจจากพอ ทําตัวให
เดน ใหดีกวาพี่

“งั้นมึงก็ตองทําใหดีที่สุด กูจะเอาใจชวย”

“ชวยคุมครองกูดวย อยาใหกูตายกอนไดเหรียญแลวกัน” มันหัวเราะกับคําพูดเยาหยอกของผม จากนั้นมันก็พูดวา

“ถามึงใจเสาะ กลาตายกอนไดเหรียญ งั้นกูก็จะกลาตายแทนมึงแลวกัน!!”

ไมคิดเลยวาคําพูดที่เราพูดกันเลนๆ ในวันนั้นกุลมันจะกลาทําเพื่อผมไดขนาดนี้ ผมตามไปเยี่ยมมันที่โรงพยาบาล นั่งแทบไมติดรอ


มันออกจากหองฉุกเฉิน แลวผมก็ขอบคุณสวรรคที่มันปลอดภัย พอมันฟนผมก็เกาะที่ขอบเตียง พยายามถามมันดวยน้ําเสียงสั่น
เครือ

“มึงไมนาทําขนาดนี้เลย”

“คิดไรมาก ก็มึงเพื่อนกู”

คําพูดเดิมๆ ความหมายเดิมๆ จากคนเดิมๆ ฟงกี่ครั้งๆ ก็ยังซึ้งใจ!!!

แตแลวกอนจะจบชั้นม. ปลาย กุลมันพูดกับผมดวยคําๆ นี้ “ก็มึงเพื่อนกู” คําพูดเดิมๆ ความหมายเดิมๆ จากคนเดิมๆ แตฟงแลวกลับ


ปวดหัวใจ ผมเพิ่งรูตัววาความรูสึกที่ผมมีตอมันไมใชแคเพื่อนอีกตอไป ผมรักมันมากกวานั้น แตก็พูดออกมาไมได ปลอยใหความรัก
ที่มีทวมทนหัวใจอัดแนนใหเหลือเพียงแคคําวาเพื่อน

กวา 5 ปแลวที่ผมเก็บงําความรูสึกนี้ไว สุดทายเมื่อไมกี่นาทีกอนหนานั้น ผมก็ระเบิดมันออกมา!!!


“ทําไมมึงมาอยูที่น.ี่ ..ไหนวาจะไมมาไง” ผมถามกุลดวยความรูสึกแปลกใจเมื่อมันเดินแกมวิ่งเขามาหาผม แตกอนหนานั้นผมเห็นมัน
อยูกับใครคนหนึ่งที่ผมไมรูจัก หากแตสายตาของไอคนนั้นที่มันมองตามกุลกลับทําใหผมไมชอบใจ ดวยความรูสึก “หวง” ที่ไมรูมา
จากไหนทําใหผมยื่นมือไปโอบไหลพรอมดึงมันเขามาใกล ไมเขาใจวาทําไมถึงไดรูสึกหวาดหวั่นอยางรุนแรง พรอมกับมีลางสังหรณ
บางอยางบอกผมวา “มีบางสิ่งกําลังผิดปรกติ”

“คราวแรกกูก็วาจะไมมา แตเปลี่ยนใจ” กุลบอกกับผม แตมันก็ฟงไมคอยขึ้นเทาไหรในความรูสึก

“งั้นเหรอ...แลวทําไมไมโทรมาบอกกันบาง” ผมตอวาพรอมกับจับสังเกตตัวมันเองรวมทั้งอีกคนที่มองผมกับมันไมวางตา
“ก็กะมาเซอรไพสมึงไง” มันพูดพรอมกับยิ้มใหผม ผมก็เลยขยี้หัวเบาๆ

“แลวมึงมากับใคร” ผมถามอยางที่ใจสงสัย กุลมันอ้ําๆ อึ้งๆ อยูครูหนึ่งกอนมันจะบอกกับผมวา

“เมธ กูมีเรื่องหนึ่งอยากบอกมึง”

ทั้งคําพูดและแววตาของมันทําใหผมใจสั่นดวยกลัววาสิ่งที่ผมคิดอยูมันจะเปนจริงขึ้นมา ไมใชวาผมไมไดสังเกตมัน ผมจับตาดูมัน


ตลอดหลายอาทิตยที่ผานมา ตั้งแตคราวนั้นที่มันกลับจากภูเก็ตพรอมรอยคริสมารคเต็มตัว ตอนแรกที่เห็นผมโกรธ ทั้งโกรธตัวเอง
และโกรธมัน

ผูหญิงที่ไหนจะทํารอยเต็มตัวผูชายอยางนั้น แคมองตาเดียวก็รูแลว วันนั้นผมถามมันตรงๆ แตกุลกลับปดปากเงียบ ผมก็เลยเลิก


ถามเพราะรูดีวาหากไมอยากบอก ใหตายยังไงมันก็ไมพูดออกมา ซ้ํารายถามันหงุดหงิดมากๆ กุลจะพูดจาทํารายผมไดอยาง
เลือดเย็น ผมก็เลยตองทําเหมือนไมมีอะไรเกิดขึ้น และรอวาเมื่อไหรมันจะเปดใจคุยกับผม...หากพอเวลานั้นมาถึงผมกลับกลัวที่จะ
ฟงมัน

“ไปคุยกันที่อื่นไดไหม” ผมบอกมันเสียงสั่น กลัวใจตัวเองจะแหลกสลายกับคําพูดที่ไมอยากไดยิน อีกอยางผมไมอยากยูในสายตา


ของใครบางคน ยิ่งเห็นกุลมองอีกฝายอยางหวงใยผมยิ่งไมพอใจและไมอยากอยูตรงนั้น ผมจับมือกุลแลวดึงมันใหตามผมมา

เราเดินกันเงียบๆ ไปตามชายหาด จนกระทั่งเจอมุมสงบก็หยุดนั่ง ตางคนตางเงียบ มองทองทะเลอันกวางใหญ ผมคิดวากุลคงกําลัง


คิดหาคําพูดอยู สวนผมก็กําลังทําใจกับสิ่งที่จะหลุดออกมาจากปากของมัน

“กูคิดวาตัวเองกําลังมีความรัก” เพียงแคเริ่มตน คําพูดของมันก็เปนดั่งลูกศรอาบยาพิษที่พุงปกเขาสูหัวใจของผม

“เมธ...มึงยังจะเปนเพื่อนกับกูอยูไหม ถากูจะบอกวาคนที่กูรัก...”

“เปนผูชาย!!!” ผมตอคําพูดของมัน กุลมองผมอยางตกตะลึงอยูชั่วครูกอนมันจะอุทานออกมาวา

“มึงรู! !!” ผมหันหนาหนี เจ็บในอกราวกับศรนับพันลูกพุงเขาปก

“กูพอจะรูตั้งแตวันที่กูถามมึงครั้งนั้นแลว” ผมพูดดวยลําคอตีบตัน

“ไอคนนั้นใชไหม ที่นั่งอยูกับมึง” ผมถามทั้งๆ ที่ไมมองหนามัน กํามือแนน ขมความเจ็บปวดที่วิ่งเปนริ้วๆ เขาเสียดแทงหัวใจให


กระอักเลือดอยูภายใน

“อืม”
“หึหึ” ไมรูเหมือนกันวาทําไมผมถึงหัวเราะออกมา แตมันเปนน้ําเสียงที่ขมขื่นเหลือเกิน

“ตอนนี้กูไมอยากเปนเพื่อนกับมึงแลวละกุล” ผมบดกรามแนน จูๆ ความรูสึกที่อัดแนนอยูก็รอนระอุขึ้นมาและพรอมจะระเบิดในทุก


วินาที

ความจริงหากกุลมันจะรักจะชอบผูหญิงผมจะไมวาอะไรมันเลยสักคํา ถึงจะเจ็บบางแตผมก็พอทําใจได อยางในกรณีของลูกแพร แต


หากมันจะรักผูชาย ผมก็อยากใหตัวเองเปนคนแรกที่มันจะรับพิจารณา ทวาเวลานี้ผมกลับชากวาใครบางคน และสิ่งนี้ก็ทําใหผม
โกรธตัวเอง โมโหในความโง มันนาเจ็บใจที่ผมเฝาทะนุถนอมมัน แตแลวจูๆ กลับถูกใครก็ไมรูชุบมือเปบและแยงมันไปจากผม

“เมธ!!!”

คําเรียกชื่อผมจากปากของมันทําใหผมจับรางของกุลไวดวยอารมณรอนแรง ไมแนใจวาตอนนั้นเปนเพราะอารมณไหน กลัวการ


สูญเสีย หวง หึง โกรธ หรือจะอารมณไหนก็แลวแตซึ่งมันรวมตัวกันอยูในรางของผม แลวผลักดันใหผมทําบางอยางลงไปโดยไมรูตัว

“ทําไมกุล ใหคนๆ นั้นเปนกูไมไดไดเหรอ กุล!!! บอกกูสิวาไดไหม ไดไหมกุล!!!” ผมตะคอกอีกฝายพรอมกับเขยามันจนหัวสั่นหัว


คลอน

“มะ..เมธ...มึงพูดเรื่องอะไร”

“ก็กูรักมึงไง มึงไดยินไหมวากูรักมึง!!!”

“เมธ!!!”

“กูรักมึงกุล!!! กูรักมึง!!!” ผมย้ํากับมันซ้ําๆ ราวกับกลัววาอีกฝายจะฟงผมไมรูเรื่อง

“ตะ..แตมึง...เปนเพื่อนกูนะ”

“เพื่อนหาเหวอะไรนั่นกูไมอยากเปนทั้งนั้น”

“ทําไมมึงพูดแบบนี้ละ เราเปนเพื่อนกันมานานแลวนะ”

“กูไมสนอะไรแลวทั้งนั้น ตั้งแตวันนี้ วินาทีนี้ กูไมใชเพื่อนมึงอีกตอไป บอกกูมาสิวามันทํายังไงกับมึง แบบนี้ใชไหม มึงถึงไดรักมัน!!!”


ไมรูผีหาซาตานตัวไหนที่มันเขาสิงผมเพราะหลังจากพูดจบผมก็ดึงกุลมาจูบ ประกบริมฝปากลงไป บดขยี้เรียวปากของมันอยาง
รุนแรง กุลมันตกใจ เมนปากแนนพรอมกับพยายามหันหนาหนี แตผมก็กดทายทอยมันใหอยูนิ่ง ปล้ําจูบมันอยูครูใหญจนสัมผัสถึง
หยาดน้ําที่ไหลออกมาจากตาของมัน...นั่นแหละสติผมถึงกลับมากอีกครั้ง

“ฮึก...มึงเปนเพื่อนกูนะเมธ...มึงเปนเพื่อนกู...ฮึก...ทําไม...ฮึก...ทํากับกูแบบนี้...ฮึก....” กุลสะอื้นไหพูดกับผมหลังจากที่ผลักผมออก
โดยแรง สายตาตัดพอที่มองมานั้นยิ่งทําใหผมตัวชาเหมือนถูกตบหนาแรงๆ จากนั้นกุลก็กาวถอยหลังหางจากผมออกไปที่ละนิดๆ
ผมพยายามขวาแขนมันไว แตอีกฝายกลับสะบัดหนี ทาทางรังเกียจแบบนั้นทําใหผมออนแรง ยิ่งเมื่อกุลหันหลังแลววิ่งจากไปในที่สุด
ก็ทําใหผมเหมือนสิ้นลมหายใจ

นี่ผมทําอะไรลงไป...เพราะสองมือของผมเองที่ทําลายทุกอยางลง ผมทรุดรางลงนั่งบนผืนทรายอยางไรเรี่ยวแรง เหนื่อยเหลือเกิน


ทรมาน เจ็บปวดหัวใจจนสุดบรรยาย...คราวนี้ผมสูญเสียมันไปแลวจริงๆ ใชไหม!!!!

“วินดี!้ !!” น้ําเสียงหวงใยที่เรียกผมมาแตไกลทําใหผมเงยหนาขึ้นจากเขา เมื่อเห็นพี่เขาเดินแกมวิ่งเขามาใกลผมก็รีบลุกขึ้น โผเขาหา


แกทันที

“ฮึก...จูบ...พี่จูบวินที...ฮึก...ฮึก...” ผมขอรองพี่เขาขณะอยูในออมกอดกอนจะโนมลําคออีกฝายใหลงมาจูบผม ดูทาแกจะตกใจไมใช


นอย แตพี่เขาก็ตอบรับจูบของผม ในเวลานี้ผมไมหวงอะไรอีกแลว ไมกลัววาคนที่เดินผานไปมาจะเห็น ขอแคอยางเดียวชวยลบ
ความรูสึกนี้ออกไปจากใจผมที

“แฮกกก...” เสียงลมหายใจของผมเมื่อพี่เขาถอนจุมพิตหนักหนวงออกไป นัยนตาที่มองสบมานั้นดูสับสนระคนหวงใยและเจ็บปวด


อยูในที นิ้วเรียวของเขาเอื้อมมาเกลี่ยน้ําตาออกไปจากใบหนาใหอยางออนโยน ชั่ววินาทีถัดมาพี่เขาก็จูงมือผมใหเดินตามเพื่อเขาไป
ในหองพัก

“ฮึก...ฮึก...” ทําไมน้ําตาของผมมันยังไมหยุดไหลอีกนะ ผมก็ไมเขาใจตัวเอง ไมรูวาเหตุผลนั่นคืออะไรแตผมรูสึกปวดใจเหลือเกิน

“รองไหทําไมครับ บอกพี่ไดไหม ใครทําอะไรวินดี้” พี่เขาถามขณะนั่งที่โซฟาแลวดึงผมใหนั่งคลอมบนตัก หันหนาเขาหาพี่เขาไว มือ


หนาโอบเอวผม สวนมือผมสองขางก็โอบรอบคอพี่เขา ซบหนาลงกับไหลที่รอซับน้ําตาใหกับผม ปลอยโฮเสียงดังเมื่อไดยินน้ําเสียง
หวงใยของคนที่ผมรัก

“ทะเลาะกับเพื่อนมาหรือครับ” มือที่อบอุนลูบแผนหลังผมเบาๆ อยางปลอบประโลม

“เมธ...มัน...ฮึก...ฮึก...” คําพูดมันติดอยูที่ลําคอ กล้ํากลืนเกินกวาจะเอยออกมาได

“วินไมอยากอยูที่นี้แลว...ฮึก...วินอยากกลับ...ฮึก...”
“ไดสิครับ กลับก็กลับ เดี๋ยวพี่โทรเช็คสายการบินให แลวเราก็กลับเที่ยวที่เร็วที่สุดดีไหมครับ” ผมพยักหนาอยูกับไหลพี่เขา ตอนนี้ผม
ออนแอเกินกวาจะเจอหนาเมธอีกครั้ง ผมสับสน ผมผิดหวัง ผมไมเขาใจวาทําไมถึงไดเปนแบบนี้ แลวผมก็ปวดใจ...แตไมรูวาทําไม

“ไหน...เงยหนามาใหพี่ดูหนอยสิครับ รองไหจนตาบวมหมดแลวหรือเปลา” ผมเงยหนาขึ้นตามที่พี่เขาบอก พยายามมองหนาอีกฝาย


ผานมานน้ําตา

“ฮึก...ฮึก...” เสียงสะอื้นที่ผมพยายามกลั้นแตมันก็ยังเล็ดรอดออกมา

“เห็นแบบนี้แลวก็ไมกลาพาออกไปไหน กลัวจะมีคนแจงจับ หาวาพี่พรากผูเยาว”

“ฮึก...พูดอะไร...ฮึก...วินเกินวัยผูเยาวมาหลายปแลว”

“แตใครจะรูละครับ วินดี้หนาเหมือนเด็กสิบเจ็บสิบแปด แลวยังรองไหตาบวมซะขนาดนี้ เขาคงคิดวาพี่ทํามิดีมิรายกับวินดี้แนๆ” วา


พลางเช็ดน้ําตาออกใหผม กอนจะโนมตัวผมเขาสูออมกอดอีกครั้ง ผมเอียงหนาซบลงกับไหลกวาง มือหนาของพี่เขาลูบแผนหลังผม
ขึ้นลง สัมผัสนุมนวลออนโยนนั่นทําใหผมรูสึกผอนคลายและสบายใจมากขึ้น

“ถากลัวมากนักก็ไมตองไปดวยกันก็สิ้นเรื่อง” ผมแยงดวยน้ําเสียงอูอี้ขึ้นจมูก ไดยินพี่เขาหัวเราะในลําคอเมื่อผมพูดจบ

“ไมสิ้นเรือ่ งหรอกครับ ทางที่ดีเราอยูในนี้กันสักพัก แลวใหพี่สอนประสบการณใหวินดี้โตเปนผูใหญซะกอน” ผมนิ่วหนาเพราะยังไม


เขาใจความนัยแหงคําพูดของพี่เขามากนัก

“ประสบการณแบบไหน แลวมันเกี่ยวอะไรกับหนาเด็กหนาแก” ถามดวยน้ําเสียงระมัดระวัง มันฟงทะแมงๆ ชอบกลนะผมวา พี่เขา


หันหนามาทางผม ยิ้มมุมปากอยางเจาเลห นัยนวาววับขณะแนบหนาผากตัวเองใหแนบชิดกับผม

“ก็ประสบการณชีวิตคูไงครับ ไมเคยไดยินหรือ เด็กเวลามีสามีแลวจะเปนผูใหญทันตาเห็น” ไมพูดเปลาพี่เขาใชปลายจมูกตัวเองแตะ


คลอเคลียกับปลายจมูกผม จากนั้นริมฝปากหนาก็แตะที่ริมฝปากผมเบาๆ อยางหยอกลอ แตมอบสัมผัสวาบหวิวใหกับหัวใจของผม

“บา...” ผมตอวาแกดวยน้ําเสียงแผวเบา ซุกหนาลงกับไหลพี่เขาอีกครั้ง รูสึกอายทุกครั้งที่ไดยินคําพูดทํานองนี้

“แหนะ...ไมเชื่อกันอีก”

“ไมเชื่ออะ ทฤษฏีนี้ไมเปนจริง ก็ดูสิ วินอยูกับพี่มาจะครบเดือนแระ ไมเห็นโตขึ้นทันตาเห็นเลย”

“แนใจหรือครับ พี่ก็วาวินดี้โตขึ้นทุกวันเลยนะ” ไมใชคําพูดเทานั้นที่ไหลเลื้อย พี่เขายังคอยๆ จับบั้นทายของผมโยกเขาโยกออก


พรอมเอวแกที่ขยับขึ้นลง คลายๆ กับผมกําลังขี่มาซึ่งกําลังโยกตัวอยางชาๆ แบบนี้มัน...คุนๆ นะผมวา ทานี้มัน...เออ...
“ไอพี่หื่น!!!” ผมทุบไหลแกไปหลายๆ ทีกวาพี่เขาจะหยุด คราวนี้ผมเขาใจแลวละครับ ความหมายของคําวา “โต” เปนผูใหญของแก
ไมใชผมนะที่โตอะ แตเปนนองชายผมตางหาก

“หึหึ” ดูไอพี่ทองสิครับ ถูกดายังมีหนามาหัวเราะอีก หนาแกนี่ทําดวยอะไร ผมละอยากรูจริงๆ ทําไมถึงไดดาน ไดทนอยางนี้

เมื่อพี่เขาหยุดโยกผมก็ซบหนาลงกับไหลกวางอีกครั้ง จะวาไปแลวเพราะความรั่วๆ บวม ๆ ของแกที่ทําใหผมสบายใจขึ้น ลืมเรื่อง


กลุมใจไปชั่วขณะ และมีสติกลับมาคิดทบทวนเรื่องราวตาง ๆ

“ถาวันหนึ่งเพื่อนที่พี่รักมากคนหนึ่ง ทําใหพี่เสียความรูสึกมากๆ พี่จะทําอยางไรครับ” ผมถามเชิงปรึกษาพี่เขา

“วินดี้ใหคําจํากัดความของเสียความรูสึกอยูที่ตรงไหนละครับ งอน โกรธ โมโห หรือเกลียดจนแทบไมอยากมองหนาอีกฝาย”

“วินก็ไมรู รูแควาตอนนี้วินไมอยากเจอหนามัน”

“แลวที่ไมอยากเจอหนานี่เพราะอะไรหรือครับ ไมกลาสูหนา หรือ เกลียดจนไมอยากเห็นหนา”

“วินไมไดเกลียดมันนะครับ”

“งั้นก็ไมกลาสูหนา วางตัวไมถูกเวลาตองเจออีกฝาย วินดี้คงกําลังโกรธเพื่อนอยูใชไหม แลวโกรธดวยเหตุผลอะไรละ มันคงรุนแรง


มากสินะวินดี้ถึงไดรองไห”

“ก็มัน...จะ..จู...” เกือบพูดออกไปแลวครับ แตยั้งปากไวทัน พอเห็นหนาพี่เขาแลวมันพูดไมออก กลัวแกโกรธหากรูวาเมธทําอะไรกับ


ผม...แตที่สําคัญที่สุดคือ...ผมรูสึกผิดตอพี่เขา...

“อะ...อืมมมม...” อาจเปนเพราะจิตใตสํานึกที่รอนแรงทําใหผมดึงพี่เขามาจูบ ผมอยากลบความรูสึกหนักหนวงนี่ออกไปจากใจ ไม


เขาใจวามันคืออะไร แตเชื่อวาพี่เขาจะชวยใหผมรูสึกดีขึ้นมาได

“อืม...เดี๋ยวกอนครับวินดี้...เปนอะไรครับที่รัก” พี่เขาถามหลังจากถอนริมฝปากออกจากผม นัยนตาที่มองมาฉายแววประหลาดใจ


อยางเห็นไดชัด วันนี้เปนวันแรกที่ผมเปนฝายเริ่มตนจูบพี่เขากอน แลวมันก็เปนครั้งที่สองในรอบวัน แลวมีหรือคนฉลาดอยางแกจะ
ไมสงสัย

“ฮึก...ฮึก...วินรักพี่นะครับ...รักมาก...” ทําไมจูๆ น้ําตามันก็ไหลออกมาอีกแลวละ แลวยังถึงกับสะอื้นไหดวย...หรือผมกําลังกลัวที่จะ


สูญเสียพี่เขาไปอีกคน
“พี่ก็รักวินดี้ครับ รักมากเหมือนกัน”

“แตเมธมัน...มันบอกวาไมอยากเปนเพื่อนกับวินแลว…ฮึก...ฮึก...” ไมเขาใจวาทําไมถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ปวดใจมากเลยยามนึกถึง


น้ําตาเจากรรมก็ไหลออกมาไมหยุดเลย

ผมรูดีวาตัวเองรักเมธมันมากขนาดไหน มันเปนเพื่อนที่ผมผูกพันมากกวาสิบป เปนคนสําคัญของผม ถึงความรักที่ผมมีตอมันจะ


ไมใชอยางที่ผมรูสึกเชนเดียวกันกับพี่เขา แตมันก็คือความรูสึกบริสุทธที่ผมจริงใจมอบใหแกมัน แลวทําไมเมธตองทําอยางนี้กับผม
ดวย

“ฮึก...ฮึก...” ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจ...แลวตอจากนี.้ ..ผมจะมองหนามันอยางไร ในเมื่อ “ความรัก” ที่ผมมอบให ไมใชในแบบที่มันตองการ

ตอจากนี้เมธจะยังเห็นกุลอยูในสายตาอีกไหม แลวเราจะยังมีกันและกันเหมือนอยางวันเกาอีกหรือเปลา…ขอรองละเมธ ไดโปรด


อยาผิดคําสัญญา “เราจะไมทิ้งกัน” ไดโปรดอยาทิ้งกุลไปเลยนะ เพราะกุลคงรับไมได หากตองสูญเสียคนที่รักและสําคัญมากที่สุด...
ไปอีกคน...

วินดี้หลับไปแลวครับ หลับไปพรอมน้ําตานั่นแหละ ผมสงสารนองมากเลยครับ สะอื้นไหไมหยุด ปลอบยังไงก็ไมฟง พยายามดึงความ


สนใจออกไปคุยเรื่องอื่น ทั้งใตสะดือและเหนือสะดือก็เรียกความสนใจนองไดนิดเดียว ไมชานองก็วกเขาเรื่องเดิมอีกตามเคย

วินดี้คงสะเทือนใจมาก ผมสัมผัสไดถึงความกลัวของนอง ไมรูวากลัวอะไร แลวสิ่งนี้มันก็สื่อมาถึงผม ดูอยางตอนนี้สิครับ ถึงนองจะ


หลับแตมือก็จับเสื้อผมไวแนนเลย พอผมขยับหนอยนองก็สะดุงตื่น เรียกหาผม ตองกอดปลอบ บอกวาผมอยูขางๆ ไมไดหายไปไหน
วินดี้ถึงไดหลับลงอีกครั้ง

ผมลูบไรผมที่ปกใบหนาของนองกอนจะจูบเบาๆ ที่หนาผากอยางรักใคร วินดี้ชางบอบบางเหลือเกิน ผมจะทําอยางไรถึงจะปกปอง


นองได คงตองใสใจและสนใจนองมากกวานี้ถึงจะชวยแบกความทุกขที่นองมี อยางเชนเรื่องของ “เมธ” ผูชายที่มีอิทธิพลตอนอง

ความสัมพันธของทั้งสองทําใหผมเริ่มหวั่น วันนี้ผมไดรูวา เมธไมใชแคเพื่อนสนิทของวินดี้เทานั้น แตเปนคนที่มีอิทธิพลตอความรูสึก


และสําคัญมากของนอง บางทีอาจถึงกับวาวินดี้ “ขาดเมธไมได” เลยทีเดียว ถาพิจารณาใหถี่ถวนแลวมันก็ชางนากลัวนัก หากผูชาย
คนนี้คิดไมซื่อกับสุดที่รักของผมแลวละก็ เขาจะกลายเปนศัตรูหัวใจที่อันตรายที่สุดเลยทีเดียว

จากที่วินดี้ระบายสิ่งอัดอั้นในใจใหผมฟงซึ่งมันก็แคบางสวนเทานั้น และมันไมคอยประติดประตอกันมากนัก ผมจึงยังสรุปปญหา


ไมไดแนชัดวาตนตอของเรื่องมันอยูที่ตรงไหน เทาที่ผมรูตอนนี้ก็คือ วินดี้ทะเลาะกับเพื่อน และอีกฝายประกาศตัดขาดจากนอง

ผมถามวาวินดี้ทําอะไรใหเพื่อนโกรธหรือเปลา อีกฝายถึงไดพูดแบบนั้นออกมา นองทําทาเหมือนจะพูดอะไรบางอยาง แตแลวก็สั่น


หนา อาการแบบนั้นมันสะดุดใจผม อีกอยางวันนี้วินดี้มีทีทาแปลกๆ หากเปนเวลาปรกติที่นองเรียกรองสัมผัสจากผม ผมจะดีใจมาก
แตในวันนี้มันตางไป อะไรอยูในใจของนองแลวกดดันใหวินดี้ทําในสิ่งที่ไมเคยทํามากอน…นี่แหละคือสิ่งที่ผมกําลังสงสัยอยู
“ไอพี่ทอง...” เสียงเรียกที่แหบแหงนั่นทําใหผมมองคนในออมกอดอยางหวงใย วินดี้ขมวดคิ้วแตตายังหลับอยู แตผมคิดวานองคง
ไมไดละเมอเรียกชื่อผม นาจะตื่นแลวละ

“ครับ...ที่รัก” ผมขานรับกอนจะเกลี่ยแกมเนียนนองเลนอยางแผวเบา พอผมทําแบบนั้นวินดี้ก็ออนผมใหญเลยครับ หันมาโอบเอวผม


ไวกอนแนบหนาซบกับอกผม

“วินปวดหัว” ก็นาอยูหรอกครับ รองไหซะขนาดนั้น แลวกอนหนานั้นก็ไมไดพักผอนเทาที่ควรดวย ผมเลยนวดขมับใหกับนอง

“อืมมม...” น้ําเสียงพึงพอใจในลําคอกับคิ้วที่ผูกเปนปมนั้นเริ่มคลายออกทีละนิด

“พี่เปลี่ยนเที่ยวบินหรือยังครับ” นองถามขณะที่ขยับตัวนอนหงาย เพื่อใหผมนวดขมับนองไดสะดวกมากขึ้น แตตานองยังหลับอยู

“ยังเลยครับ” รูสึกแยนิดหนอยครับ ที่ไมไดทําตามที่รับปากกับนอง พูดแบบไมแกตัวเลยก็คือผมไมมีโอกาสครับ หากจะโทรออกก็


กลัวนองตื่น ยิ่งนอนยากๆ อยู แตถาจะลุกไปโทรที่อื่นนองก็ดึงเสื้อไวเลยยังไมไดทําอะไรเลยครับ

“งั้นก็ไมตองเปลี่ยนหรอกครับ พี่ยังไมเสร็จธุระเลยใชไหม วินกลับพรุงนี้ตามกําหนดเดิมก็ได”

“ธุระพี่ไมไดสําคัญมากมายอะไรหรอกครับ พี่ตามใจวินดี้”

“วันนี้วินเหนื่อย อยากพัก ตอนนี้ไมอยากเดินทางเลย”

“งั้นก็อยูตออีกสักคืนแลวกันนะครับ วินดี้เหนื่อยก็พักนะครับ นอนตอเถอะ พี่จะอยูตรงนี้แหละ อยูขางๆ วินดี้”

“แตพี่บอกวาเย็นนี้จะไปไหนนะครับ”

“ไปงานแตงเพื่อนครับ”

“งั้นก็ไปเถอะครับ วินอยูคนเดียวได” ผมไมคอยแนใจเลยครับ วินดี้ดูออนแอเหลือเกิน มันจะดีหรือหากผมปลอยนองไวแบบนี้

“ไปเถอะครับ ไมตองหวงวินหรอก วินจะนอนตอแลว” ถึงนองจะบอกวาไมตองหวงแตผมก็ไมคลายใจอยูดี ผมยังคงนอนเคียงขางกับ


นอง มองคนที่ผมรักเขาสูนิทราอีกครั้ง จากนั้นก็คอยๆ ลุกจากเตียง เขาหองน้ําทําธุระสวนตัวและอยูในชุดที่เตรียมพรอมจะไป
รวมงานแตง
ผมเดินกลับไปที่เตียงอีกครั้ง จูบนองที่หนาผากเบาๆ รูสึกวุนวายใจ ไมอยากหางนองเลย แตก็พยายามปลอบใจตัวเองวามันคงไมมี
อะไรมากหรอก ตามองหาครีการด ดวยไมอยากกวนวินดี้ใหลุกขึ้นมาเปดประตูใหยามผมกลับมา กะวาผมจะไปแคแสดงความยินดี
กับคูบาวสาวแลวก็คงขอตัวกลับ มันรูสึกไมสบายใจจริงๆ ครับที่ปลอยนองไวแบบนี้ แตจะวาไปผมก็มาถึงนี่แลวถาไมไปรวมงานก็
กระไรอยู อีกอยางก็รับปากเพื่อนแลวดวยก็เลยตองไปครับ

เมื่อออกมาจากหองแลวผมก็ยังคิดใครครวญถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับวินดี้ อะไรกันที่เปนเหตุใหคนสองคนที่คบเปนเพื่อนรักกันมานานผิด
ใจกันถึงขั้นรุนแรงขนาดนี้ จะวาไปผมก็ยังไมเชื่อหรอกวาเมธจะกลาตัดขาดจากวินดี้ คนที่เปนเพื่อนสนิทกันมาสิบกวาป โทรหากัน
ทุกวัน มีหรือจะใจแข็งพอทําลายความสัมพันธที่รวมกันสานทอ ขนาดผมรูจักกับนองไดไมทันไร หากจะใหผมตัดขาดจากวินดี้ ผมคง
ขาดใจตายพอดี

วาแลวก็นึกถึงนองมันครับ เปนหวงนองจังเลย ขนาดเพิ่งหางกันนะเนี่ย ดวยความเคยชินมือก็ควาหามือถือหมายจะดูภาพนองที่


หนาจอ แตดันหาไมเจอ สงสัยจะลืมไวในหองเสียแลวละ มัวแตเปนหวงนองจนลืมคิดเรื่องอื่นเลยเห็นไหม

ผมมองนาฬิกาที่ขอมือ ยังคงพอมีเวลาอยู หองที่จัดงานก็อยูในโรงแรม ไมตองเสียเวลาเดินทางใหลําบาก ผมวาผมควรจะกลับไป


เอามือถือดีกวา ถาวินดี้ตื่นแลวโทรหาผมไมไดเดี๋ยวจะแย กดลิฟทใหกลับขึ้นไปใหม ก็รอนานครับในความรูสึกของผม กวามันจะลง
ไปถึงชั้นลางแลวขึน้ มาใหมใจผมมันก็กลับไปหานองในหองแลวละครับ

แลวพอตัวผมตามหัวใจของตัวเองมาถึงหองพัก เปดประตูเขาไป ผมก็ตองตกใจกึ่งประหลาดใจเพราะวินดี้ไมไดอยูในหอง!!!

“วินดี!้ !!” ผมเรียกหานอง พรอมเดินหานองจนทั่วแตก็ไมเจอ

แยแลว...สุดที่รักผมหายตัวไปไหนครับ!!!
“ถาเราหลงกันตรงไหน เมธจะยืนรออยูตรงนั้น กุลก็เดินกลับมาที่เดิมนะ”

คําพูดในวันวานแตยังดังชัดเจนในใจทําใหผมนอนคิดใครครวญซ้ําไปซ้ํามาอยูอยางนั้น สุดทายผมก็ลุกขึ้นนั่ง มองไปรอบๆ หอง


ตอนนี้รอบตัวผมวางเปลาเพราะพี่เขาออกไปแลว บรรยากาศเชนนี้มันชางเงียบเหงาและหวาเหวเหลือเกิน...

ชีวิตผมอยูมาไดอยางไรนะกอนที่จะเจอพี่เขา ผมตอสูกับความเหงามาพรอมกับใคร ชื่อแรกที่ผมนึกถึงก็คือ “เมธ” คนที่อยูเคียงขาง


ผมตลอดมา ไมวาจะสุข ทุกข หัวเราะ หรือรองไห เราก็กอดคอยืนเคียงขางเปนเพื่อนกันตลอดมา เสนทางมิตรภาพระหวางเรามัน
เหนี่ยวแนนและยาวไกล แลวเมธจะตัดเปนตัดตายกับผมจริงๆ หรือ ยิ่งคิดยิ่งซอกซ้ําใจ กล้ํากลืนเกินจะทนไหว เกลียดที่สุดเลยการ
สูญเสียคนที่เรารัก หัวใจผมออนแอเกินกวาจะยอมรับกับมันได

ผมลุกขึ้นจากเตียงดวยความหวังสุดทายที่ผมมี ขมความปวดราวและทําตามหัวใจเรียกรอง ถึงมันจะริบหรี่แตก็ยังดีกวาไมทําอะไร


เลย ผมออกไปนอกหองแลวตรงไปยังลิฟท จากนั้นผมก็กดลงไปชั้นลาง ผมมีที่แหงหนึ่งซึ่งตองไป ตอนนี้ถึงผมจะสับสนและยังรูสึก
ตาขิดตาขวางใจกับเมธอยูบาง แตมันก็นอยนิดหากเปรียบเทียบถึงมิตรภาพที่ผมจะสูญเสียไป ผมปดทิฐิของความโกรธทิ้งไป ใหใจ
ผมจดจออยูกับคําวา “เพื่อน” ที่มันยิ่งใหญมากพอจะทําใหใจผมออน และยอมจะใหอภัยเมธไดอยางงายดาย

เมื่อถึงชั้นลางผมก็เดินแกมวิ่งออกจากลิฟท มุงตรงไปยังจุดหมาย สถานที่ซึ่งจะบงบอกวาผมกับเมธตางเผชิญกับมรสุมในใจแบบ


เดียวกัน และ “เมธ” ยังเปนคนเดิมของผมอยู ระหวางเรายังมีกันและกันอยางวันเกา ขณะกาวเทาเร็วๆ ในใจผมก็เฝาภาวนาขอให
เมธใจตรงกันกับผม ไมใชผูชายกาวราวอีกคนที่ผมไมรูจักอยางเชนเมื่อหลายชั่วโมงกอน

“กุลจับมือเมธไวนะ...เดี๋ยวหาย” คําพูดของเมธที่บอกผมตอนเรายังเด็กแตยังตราตรึงในใจของผมตราบจนวินาทีนี้ ผมจําไดวาตอน


นั้นเราไปเที่ยวดวยกัน

“แลวถามือเราหลุดกันแลวหลงละ” ผมยังถามมันเพราะคนมันเยอะกลัวเขาเบียดใหเราพลัดจากกัน

“ไมหลงหรอก เมธจะจับมือกุลไวแนนๆ อีกอยางตัวเมธออกใหญ ถาหลงกุลก็มองหาเมธไดงายๆ”

“งั้นถาเราหลงกันเมธอยาเดินไปไหนนะ เดี๋ยวไปคนละทาง กุลจะเดินหาเมธเอง”

“ไดสิ ถาเราหลงกันตรงไหน เมธจะยืนรออยูตรงนั้น กุลก็เดินกลับมาที่เดิมนะ”

ไมวาเมื่อไหรที่เราหลงกันผมจะทําตามขอตกลงนี้เสมอ แลวผมก็เจอมันรอผมอยูที่ตรงนั้น เพราะเมธมั่นคงที่จะรักษาสัญญาระหวาง


เรา แลวตอนนี้ละ...ในเวลาที่เราทั้งคูตาง “หลงหาย” ไปจากชีวิตของกันและกัน แลวตองตอสูกับ “ความกลัว” ที่จะสูญเสียอีกฝาย
เมธจะยังรอผมกลับไปหามันตามสัญญากันไวไหม
.
.
.
.

สุดทายผมก็ไดคําตอบวาเมธยังคงเปนเพื่อนคนเกาที่ผมรักมากอยูหรือเปลา?
.
.
.

“ฮึก...ฮึก...” เสียงสะอื้นไหของเพื่อนรักผมที่เคลาคลอมากับเสียงคลื่นกระทบฝง มันชางฟงบาดใจผมยิ่งนัก


สายลมออนๆ ที่พลิ้วผานแตะตองรางกายของผม แตกลับกรีดลึกเขาไปถึงหัวใจ ผมยืนมองเมธที่นั่งซบหนากับเขา มันยังนั่งอยูที่เดิม
กอนที่ผมจะหันหลังแลววิ่งจากไป น้ําตาผมไหล เขาใจความรูสึกของมันเปนอยางดี ไมวากรณีใด ถึงจะโกรธ จะทะเลาะกันยังไง เมธ
ก็ยังรอผมอยูที่เดิมใหผมกลับมาหา ผมรูสึกวาริมฝปากตัวเองสั่น ตาพรามัวขณะกาวเขามาใกลเมธจนกระทั่งมาหยุดยืนอยูขางหลัง
เพื่อนรักของผม

“ฮึก...ฮึก...” เสียงสะอื้นไหของผมที่ไมอาจสกัดกลั้นเอาไวได ขณะนี้หัวใจผมปวดราวเหมือนจะแตกออกมาเปนเสี่ยงๆ พรอมกับ


น้ําตาที่ไหลออกมาราวกับทําเขื่อนทํานบพัง ขอบคุณสวรรค ขอบคุณความรักของเราที่ยังคงเปนนิรันดรอยูกับผมและมันจนถึงวินาที
นี้ และสุดทาย...ขอบคุณเวลาที่ยาวนานซึ่งเสี้ยมสอนใหเราอานใจกันออก

ผมเอื้อมมืออันสั่นเทาของตัวเองไปแตะไหลของเมธ รางกายของมันที่ผมสัมผัสไดมอบกระแสความอุบอุนเขาสูหัวใจของผม มันอยู


ใกลๆ ผมแลว ผมจับมันได มันไมไดหายไปจากผมอีกแลว

“กะ...กุล...” น้ําเสียงแผวเบาของเมธเมื่อเงยหนาขึ้นจากเขาแลวเห็นผม

“มะ...เมธ...” เสียงกระซิบของผมหลังจากเห็นใบหนาของมันผานมานน้ําตา

“ฮึก...ในที่สุด...มึงก็มา...”

“ฮึก...ฮึก...มึงก็ยัง...อยูที่เดิม...ฮึก...เหมือนที่เคยสัญญา…”

ถึงผมจะพูดดวยน้ําเสียงปนสะอื้นแตหัวใจของผมกลับตื้นตัน น้ําตาที่ไหลออกมาไมไดมาจากความปวดใจอยางเมื่อวินาทีกอน ผม
กอดเมธไว รัดมันแนนอยางไมตองการใหมันหายไปจากชีวิตผมไดอีก มือของเมธก็กอดผมไวแนนเชนเดียวกัน รัดผมแนนอยางกับ
มันจะไมปลอยใหผมไปจากชีวิตมันเชนกัน

ทามกลางแสงจันทร ทะเล หาดทราย เสียงคลื่น กับลมราตรี ยังมีเสียงสะอื้นของผมกับเมธที่ดังประสานกัน ถึงมันจะฟงไมเปนภาษา


แตในใจของเราทั้งสองกลับตีความหมายของมันได

“เราจะยังมีกันและกัน ไมวาอะไรจะเกิดขึ้น กุลกับเมธจะยังเปนเพื่อนและอยูเคียงขางกันอยางนี้ตลอดไป”

นั่นคือเสียงจากหัวใจที่เราสัมผัสไดจากออมกอดของกันและกัน เสียงสะอื้นกับน้ําตาที่ไหลรินไมเคยหยุด แสงจันทร ทะเล หาดทราย


เสียงคลื่นกับลมราตรีจะชวยเปนพยาน วาเพื่อนรักสองคนที่หลงหายไดกลับมาสูออมกอดของกันและกันอีกครั้ง และมิตรภาพของทั้ง
สองจะยังคงอยูเชนนั้นตราบจนสิ้นลมหายใจของผมและเพื่อนรักของผม....

“หนึ่งพันเการอยเกาสิบเอ็ด...หนึ่งพันเการอยเกาสิบสอง...หนึ่งพันเการอยเกาสิบสาม....”
ผมกําลังขมอารมณดวยการนับเลขอยูครับ ใกลแลวครับ ถึงสองพันเมื่อไหร ไอสองตัวที่นั่งกอดคอกันอยูนั่นไดแยกออกจากกันแนๆ
หนอยแหนะ...ไลผมใหไปงานแตงแตตัวเองดันหนีมาปลอบใจไอเพื่อนรักเพื่อนเวรนั่น ระวังตัวไวใหดีๆ เถอะ นี่ถาไมติดวาวินดี้ทุกขใจ
กับเรื่องนี้มากแลวละก็...ผมไมมานั่งทบทวนคณิตศาสตรนับเลขจวนจะถึงสองพันอยูอยางนี้หรอกครับ

“หนึ่งพันเการอยเกาสิบสี่...” เอาละสิ...เหมือนที่รักผมจะรูช ะตากรรมตัวเอง นองลุกขึ้นแลวครับ ปดทรายออกจากตัวแระ รีบๆ เดิน


ออกมาจากที่ตรงนั้นเลย หากชากวานั้นอีกแคหกวินาที วินดี้ถูกโทษหนักแนนอน

“หนึ่งพันเการอยเกาสิบหา...” ดูมันครับดูมัน...ไอเวรเพื่อนรักเมียผม นาน...คําเรียกชื่อวินดี้เริ่มเปลี่ยนไปแลวครับ รอนแรงเหมือนกับ


เปลวไฟที่กําลังสุมอกผมอยู ไมรูมันจะมีน้ําใจหรือวาฉวยโอกาสมาแตะเนื้อตองตัวเมียผมกันแน มีการมาชวยวินดี้ปดทรายออกจาก
กางเกงอีก ผมเริ่มจะควบคุมอารมณตัวเองไมไดแลวละครับ ที่ยอมมองอยูหางๆ กวาสามสิบนาทีนี่ก็มากพอแลวนะผมวา

“หนึ่งพันเการอยเกาสิบหก...” ขาซายเริ่มขยับแลวครับ แตชักกลับมาที่เดิม ทําแบบนี้มาหลายรอบแลว แตก็ยอมปลอยใหวินดี้มัน


เคลียรกับเพื่อนใหเรียบรอยกอน หากจะเปรียบเทียบกันแลวระหวางน้ําตาของนองกับความหึงหวงที่มี ก็ตองแนนอนอยูแลววาอยาง
แรกทําใหผมเจ็บปวดมากกวาเลยจําเปนและจําใจยอมๆ นองมันครับ

“หนึ่งพันเการอยเกาสิบเจ็ด...สิบแปด...” โอย...จะทนไมไหวแลวครับ จะอําลาอาลัยกันอีกนานไหม อารมณหึงมันพุงพวดขึ้นหนาจน


ลมออกหูแลวนะเวย

ตอนที่กลับเขาหองแลวไมเห็นนองมันก็ตกใจมากเลยครับ เปนหวงไปสารพัดเพราะไมรูวาวินดี้หายไปไหน หันซายหันขวาเพื่อหา


จุดเริ่มตนที่จะตามหานองอยูชั่วครูกอนจะก็รีบแจนไปยังหองควบคุมกลองวงจรปดของโรงแรม คิดวาวิธีนี้นาจะประหยัดเวลามาก
ที่สุด แตก็ยังเสียเวลาสิบกวานาทีถึงไดรูวานองมันออกจากโรงแรมไปทางไหน แลวก็กวายี่สิบนาทีที่เดินตามหานองมันจนเจอ บวก
ลบคูณหารแลวเกือบชั่วโมงครึ่งครับที่มันสองคนอยูกันตามลําพัง

ตอนแรกที่เห็นวินดี้กอดกับเพื่อนอยูอามรณมันพุงปดเลยครับ โกรธนองมาก รีบเดินเขาไปหาทั้งสอง แตพอไดยินเสียงรองไหของทั้งคู


เมื่อเดินเขาไปใกลก็แทบหยุดตัวเองไมทัน ปากที่เตรียมพรอมจะเอยเรียกชื่อนองก็ตองหุบฉับ ขาที่กาวเดินหยุดนิ่ง

“ถึงกูจะรักพี่เขา แตมึงก็ยังเปนเพื่อนกูเหมือนเดิมนะเมธ มึงยังเปนคนสําคัญของกูเสมอ” เพราะคําพูดนี้ของนองมันครับ ที่ทําให


อารมณผมเย็นลง คําพูดที่ไดยินเขาโดยบังเอิญแตใหอะไรหลายๆ อยางกับผม สํานึกดีบอกใหผมคอยๆ ถอยจากทั้งคูออกมากอนจะ
ยืนขมอารมณแลวปลอยนองปรับความเขาใจกับเพื่อน

ที่จริงไมตองคอยเดินก็ไดครับเพราะวามันสองคนทําตัวยังกับในโลกนี้มีเพียงแคคนทั้งคู ไมสนใจอะไรเลย หันหนาไปมองทะเล มือก็


โอบไหลกันไว เห็นแลวไอคนสวนเกินอยางผมเลยไมกลาเขาใกล ไดแตมองอยูหางๆ พรอมกับคิดทบทวนคําพูดนองไปมา จะเปนไป
ไดไหมวาเมื่อตอนหัวค่ําวินดี้ทะเลาะกับเพื่อนเพราะเรื่องของผม คิดไปตาก็มองทั้งคูไปครับ ใจรอนรนอยากจับทั้งสองแยกจากกัน
แตถาวินดี้เลือกที่จะเปดตัวผมกับเพื่อนมันก็นาคุมอยู ยึกยักๆ อยูอยางนั้น ความคิดแงดีกับแงรายมันหักลบกันไปมา พอกาวขาไป
ไดสักกาวก็ตองถอยออกมา
“หนึ่งพันเการอยเกาสิบเกา...สองพัน” สิ้นสุดแลวครับ หมดเวลาที่วินดี้จะเปนของสาธารณะแลว คราวนี้ก็ถึงเวลาวินดี้เมียรักของผม
ซะที กวาชั่วโมงครึ่งทีน่ องเปดตัวผมกับเพื่อน คราวนี้ก็ถึงเวลาโชวหนาหลอๆ ใหไอเพื่อนเวรนั่นเห็นแลวครับวาผัวของวินดี้นะเปนใคร

เฮอ...สังเกตคําพูดตัวเองก็พอรูครับวาตอนนี้กําลังเดือดดาลสุดๆ แลว

“วินดี!้ !!” น้ําเสียงที่เรียกนองมันก็โหดซะ ไมแปลกหรอกครับที่นองจะสะดุงกอนยืนตัวตรงแลวหันขวับมาทางผม เพื่อนนองก็มอง


เขม็งมาที่ผมเชนกันครับ

“ไอพี่ทอง...” อยาแคอุทานเรียกเชื่อพี่เทานั้นนะครับวินดี้ ทาจะใหดีขยับออกมาหางไอเพื่อนเวรนั่นแลวมายืนขางพี่จะดีกวา วาแลวก็


ทําตามใจปรารถนาเลยครับ ดึงวินดี้มายืนขางผมซะเลย

“โอย!!!” ผมก็วาตัวเองดึงนองมันเบาๆ เองนะครับ แตทําไมวินดี้ทําหนาเจ็บปวด เอะ...หรือวาผมเผลอกระชากนองตามแรงอารมณ


หวาวินดี้ถึงเซถลามาทางผม

“เจ็บหรือเปลาครับ...” กําลังถามนองมันอยูครับ ไมไดตั้งใจทํานองเลย แตวา...

“เฮย!!!...มึง!!” เสียงของไอเพื่อนเวรนองมัน ไอหานี่เปนรุนนองมาขึ้นมึงกูกับกู แลวมีสิทธิ์อะไรมาผลักอกกู กูจะจับจะดึงเมียกูเกี่ยว


อะไรกับผม นึกวาแนนักหรือไง ผลักมาก็ผลักตอบไดเวย อารมณยิ่งกําลังกรุนๆ อยู อยากระบายอยูเหมือนกัน

“เมธอยา!!!” สาดมางางหมัดใสกูอีก

วินดี้รีบวิ่งมาอยูตรงกลางระหวางผมกับไอเพื่อนเวรของนอง มือเล็กๆ ของนองผลักอกเพื่อนนองไว สวนผมยืนนิ่ง ไมแสดงทีทากลัว


เกรงไอนั่น ก็ลองสวนหมัดมาสิ กูจะสงมึงไปนอนหยอดขาวตมที่โรงบาลเปนการตอบแทน ลูกนักเลงอยางกูมีหรือจะยอมคน พอสอน
วิธีปองกันตัวมาตั้งแตเด็ก ทั้งยูโด คาราเต มวยเปนหมดนั่นแหละ เคยตอยเด็กเกเรในชั้นปากแตกตั้งแตอนุบาล ฝกยิงปนตั้งแตหา
ขวบ แตที่ยอมวินดี้ไมสูนองมันก็เพราะรัก แตกูไมไดรักไดชอบมึงนี่ ถาอยากเจอดีก็เขามา!!!!
เมื่อชั่วโมงกอนหลังจากพี่ทองออกไปจากหองแลวผมก็ออกไปหาเมธครับ เราปรับความเขาใจกัน กอดคอรองไหแลวก็กลับมาเปน
เพื่อนกันเหมือนเดิม ผมพอรูวาเมธคงจะฝนใจไมใชนอย แตมันก็ทําใหผมสบายใจ ยังทําตัวเปนเมธคนเดิมของผม เราคุยยอยอดีตไป
หลายๆ เรื่อง สิ่งนั้นทําใหผมหัวเราะและรองไหกับเรื่องในวันเกา จวบจนไดเวลาเพราะวาเมธตองไปรวมงานแตงพี่ ที่จริงมันก็เลย
เวลางานมามากแลว แตถามันจะไมไปเลยก็นาเกลียด เราก็เลยลากัน

ทวายังไมทันไดเดินแยกกันไปคนละทางไอพี่ทองก็ปรากฏตัวขึ้น ผมตกใจมากที่เห็นพี่เขามาอยูตรงหนา แลวหนาตาของแกก็บึ้งตึง


รังสีอํามหิตแผรอบตัว ตอนที่พี่เขาดึงผมอยางแรงเขาหาตัวนั้นรูสึกไดถึงความกริ้วโกรธ แตก็อุนใจเล็กนอยที่แกถามอยางหวงใยวา
เจ็บมากไหม ผมสายหนาเปนเชิงบอกวาไม
แตแลวเรื่องมันก็ดูจะวุนวายขึ้นเมื่อเมธดันไปผลักอกพี่เขา มันคงไมชอบใจที่แกทํารุนแรงกับผม แลวไอพี่ทองก็เปนคนไมยอมคนอยู
แลว เมื่อผลักแกก็ผลักตอบ คราวนี้เมธมันเลยจะตอยพี่แก แตไอพี่ทองกลับยืนเฉย สวนผมก็รีบหามเมธไว ทันไดเห็นทั้งสองจองตา
กัน

ในวินาทีนั้นผมไดรูจักอีกมุมหนึ่งของพี่เขา มุมที่ผมไมเคยเห็นมากอน แกนิ่งเงียบ หากแววตากลับแข็งกราวดุจดั่งราชสี อกผายของ


แกยืดขึ้นตรง ทาทีพรอมจะคุกคามอีกฝายหากเมธขยับตัว แตสิ่งที่ผมกลัวกลับไมเกิดขึ้นเมื่อเมธเปนฝายลดมือลง มันบดกรามแนน
อยางสะกดกลั้นอารมณ จากนั้นก็หันยิ้มใหกับผมเปนเชิงขอโทษกอนจะลูบหัวผมเบาๆ อยางปลอบใจอีกที

ผมถอนหายใจอยางโลงอกที่เรื่องรายๆ ไมไดเกิดขึ้น เมธบอกลาผมแลวเดินจากไป ทวาพอหันมาทางพี่เขาก็ตองกลืนน้ําลาย ใบหนา


ที่บึ้งอยูแลวยิ่งดูโหดขึ้นไปอีก

“อะ...เออ...พี่มีอะไรหรือเปลาครับ” นึกคําพูดไมออกครับ เลยถามไปแบบนั้น แตเหมือนคําถามของผมจะไปสะกิดตอมความอดทน


ของพี่แกใหแตกมั้ง เลยตอบคําถามดวยคําพูดที่ทําใหผมสะอึกและจุกแนนที่หนาอก

“นี่หรือคําถามที่ตอบแทนความหวงใยของพี่ จริงสินะ...พี่มันคนไมสําคัญสําหรับวินดี้นี่ ไมนามายืนโง ทนมองเมียตัวเองสวมเขาให...


เกงนี่วินดี้ หลอกวาเหนื่อย อยากพัก แตพอลับหลังก็มากอดกับผูชายอื่น” เจ็บแปลบเลยครับกับวาจาของแก

“ทําไมพี่พูดอยางนี้ พี่กําลังดูถูกวินอยูนะ” ผมไมชอบนะที่มาดูถูกผมแบบนี้ ผมกับเมธเราบริสุทธิ์ใจ ทําไมตองมาปรักปรําวาผมสวม


เขาใหแกดวย นี่หมายความวาพี่เขาไมเชื่อใจผมเลยใชไหม...

“ใครกันแนที่ดูถูกกัน วินดี้ไมใชหรือที่ดูถูกความหวงใยของพี่ รูไหมวาพี่ตองอดทนมากแคไหน ทนมองเมียตัวเองถูกเขากอดเขาจับ


ถาไมเปนเพราะวินดี้ทุกขใจพี่ก็คงไมยอมให แลวที่มาหามันคิดวางแผนอยูแลวใชไหม มินาละถึงไมลืมตามามองตอนขออยูที่นี่ตอ
กลัววาพี่จะจับโกหกไดละสิ ทําไมครับ...ปดบังพี่ทําไม หลอกใหพี่เปนหวง วิ่งตามหาเปนบาเปนหลัง แลววินดี้ตอบแทนพี่ยังไงรูไหม
ภาพบาดใจนั่นยังไง พี่พูดผิดหรือที่วาวินดี้กอดกับชายอื่นในเมื่อเห็นกับตา คงไมรูตัวสินะวาพี่ยืนดูอยูเกือบจะเปนชั่วโมง”

แววตาตัดพอที่มองมาทําใหปวดใจ พี่เขาคงโกรธผมมากถึงไดพูดออกมาแบบนี้ ความจริงผมเพียงแคอยากมาดูใหเห็นกับตาวาเมธ


จะยังรอผมอยูเหมือนคําสัญญาไหม ผมคิดแคนั้นจริงๆ นะครับ ไมไดวางแผน ไมคิดจะปดบังอะไรพี่เขาเลย

“วินกับเมธเราเปนเพื่อนกันครับ...” ผมกําลังจะอธิบายใหแกเขาใจครับ แตพี่เขาก็สวนขึ้นมากอนวา

“เพื่อนก็รูวาเปนเพื่อน คุยกันพี่ไมเคยวา ทําไมตองกอดตองจับกันดวย ลองใหพี่ทํากับคนอื่นอยางนั้นดูไหม แลววินดี้จะไดรูวาพี่รูสึก


ยังไง แลวถาพี่บอกวาเขาก็แคเพื่อนพี่เหมือนกัน แลววินดี้ยังจะสบายใจไหม”
“ทําไมพี่ตองแกคืนวินอยางนั้นดวย...” เริ่มจะพูดไมรูเรื่องแลวครับ สมองมันก็ทําทาจะไมสั่งงานซะงั้น ภาพใบหนาพี่เขาเริ่มพรามัว
หัวใจปวดหนึบ ทําไมตองทะเลาะกันดวย แลวมาพูดแบบนี้กับผมทําไม ผมคงทนมองไมไดหรอกหากพี่เขาจะไปกอดใครอื่นนอกจาก
ผม

“ไมไดแกคืน แตกําลังจะบอกวาสิ่งที่ทํามันทํารายพี่ จะทําอะไรก็คิดถึงใจพี่บาง พี่ไมใชคนใจกวางอยางวินดี้นะที่จะไมรูสึกหึงหวง


อะไร” วาจบพี่เขาก็หันหนาหนีเหมือนไมอยากมองหนาผมซะงั้น ยิ่งนอยใจเขาไปใหญเลยครับ พี่เขาจะเกลียดผมหรือยัง ผมไมได
ตั้งใจจะทํารายแกเลยนะ

“ฮึก...ฮึก...วิน...ฮึก...” พูดตอไมออกแลวครับ มันจุกอยูที่ลําคอ ผมกลัวจังเวลาพี่เขาโกรธผมแบบนี้ จะทํายังไง จะอธิบายแบบไหน


ใหแกเขาใจ ไมเอาแลว...อยาทําเหมือนจะจากผมไปอีกคนเลยนะ

ผมเดินเขาไปใกลแกแลวกอดพี่เขาไว จะโกรธจะโมโหผมยังไงผมก็ไมปลอยพี่เขาไปไหนหรอก ตอนนี้รางกายผมออนแอ จิตใจผมก็


เจ็บซ้ํามาตลอดทั้งวัน...ไมเอาอีกแลวหากตองมาผิดใจกับคนที่ผมรักมากอีกคน

“เฮอ...” เสียงถอนหายใจของพี่เขา มันสื่อถึงอะไรครับ พี่เขารําคาญผมแลวเหรอ เริ่มฟุงซานแลวครับ จิตใจมันไมปรกติแลว

“พี่กําลังโกรธ กําลังหึง กําลังหวงวินดี้ รูไหมครับ” ผมพยักหนาอยูกับอกพี่เขา ผมกอดแกแนนขึ้นกวาเดิมอยากมั่นใจวา ผมยังแตะ


ตองแกได พี่เขาไมไดหายไป ยังอยูตรงนี้กับผม

“นี่จะเปนครั้งแรกและครั้งสุดทายที่จะพี่ยอมใหวินดี้ ถาอยากคุยก็คุยกันไปแตอยามาจับมากอดกันอีกเขาใจไหมครับ เห็นแลวมันทํา


ใหพี่หึง แลวพอพี่หึงวินดี้ก็นาจะรูดีวามันจะเปนยังไง” ถึงพี่เขาจะพูดดวยน้ําเสียงนิ่งๆ แตสําหรับผมมันดังสนั่นกึกกองยิ่งกวาพี่เขา
ตวาดผมซะอีก

“ฮึก...ครับ...” ผมรีบรับปาก ตอนนี้จะใหทําอะไร ใหรับปากอยางไหนผมก็ยอมทั้งนั้น ขออยางเดียวอยาโกรธ อยาเกลียดผมอีกเลย


หัวใจมันราวราน อยากใหพี่เขายกโทษใหเร็วๆ กอนที่ใจผมจะทนไมไหว แลวแตกออกมาเปนเสี่ยงๆ

“พี่...ฮึก...ยังรัก...วินอยู...ไหม...ฮึก...”

“ทําไมถึงถามแบบนั้นละครับ พี่ไมเคยหยุดรักวินดี้เลยนะ วาแตวินดี้เถอะ พี่พูดจาไมนาฟงและไรเหตุผลแบบนี้จะยังรักพี่อยูไหม” พี่


เขาขยับรางผมออกจากออมแขนออกมานิด มือทั้งสองขางโอบแกมผมไว ประคองใหผมเงยหนาขึ้น นิ้วโปงพี่เขาก็คอยเกลี่ยน้ําตา
ออกให

“รักครับ...รักมาก...” ผมตอบขณะที่พยักหนาขึ้นลง พี่เขายิ้มใหกับคําพูดของผม นัยนตาแข็งกราวเมื่อสักครูแปรเปลี่ยนเปนออนโยน


เชนเคย
“พี่ก็รักวินดี.้ ..รักมากเชนกันครับ” พี่เขาบอกพรอมกับดึงผมเขาสูออมกอดอีกครั้ง ออมแขนกับแผนอกที่เปดอารับและคอยซับน้ําตา
ใหกับผมเสมอ...ผมซบหนากับอกพี่เขาดวยความรูสึกอบอุนและปลอดภัยเวลาอยูในวงแขนนี้...
“พี่มีอะไรหรือเปลาครับ” ฟงคําถามที่นองมันถามผมนะครับ แลวแบบนี้จะไมใหผมโกรธไดอยางไร นี่ผมตามหานองเปนบาเปนหลัง
วินดี้ไมรูถึงความหวงใยของผมเลยใชไหม ผมตองมีธุระหรือถึงจะมาหานองได

หลังจากที่อดทนมานานพรอมกับความปวดใจสุดทายผมก็ระเบิดออกมาครับ พูดจาไมนาฟงใสนอง แตผมก็อยากใหนองรูไววาผมก็


เจ็บเปนเหมือนกัน ไมใชพระอิฐพระปูนที่ตองกล้ํากลืนฝนทนในสิ่งที่ไมนาจะทน แตวินดี้ก็เขาใจครับ ไมไดตอปากตอคําอะไร
มากมาย นองก็คงพอรูตัวแหละวาทําใหผมโกรธ...แตมันก็ยังนาเศราใจอยูดี เฮอ...ผมทําสุดที่รักผมรองไหอีกแลวครับ!!!

แต...แต...แต...แลวก็แต...ไมใชสิ ตองมากกวาแต...แทนที่ผมจะงอที่ทํานองเสียใจกับปากหมาๆ ของผม วินดี้กลับเปนฝายงอผม


ครับ!!! คุณเอย!!! ถารูวาวินดี้จะตามใจผมแบบนี้นะ ผมวากใสนองไปหลายครั้งแลว แฟนใครนอ ทําไมนารากกกกก นาฟดอยางนี้

หลังจากปรับความเขาใจกันผมก็ชวนนองเดินเลนที่ริมหาดสักพักครับ เดินจูงมือกันเพราะวามันมืดแลวไมตองเกรงใจใคร ดีครับได


แสดงความรักตอนองไดเต็มที่ ก็ถามนองมันแหละวาตอนนี้โอเคกับเพื่อนแลวใชไหม วินดี้ก็เลาใหฟงครับวาคืนดีกับเพื่อนแลว ก็ดีไป
ครับ เห็นนองมันมีความสุขผมก็สุขใจไปไดดวย

เราทั้งสองสวีทกันริมหาด กอดนองบาง หอมนองบางแลวแตโอกาสครับ หวานกันจนดินทรายโขดหินแถวนั้นหลอมละลายเพราะถูก


ไฟอิจฉาผมแผดเผานั่นแหละ คิดไปคิดมาก็สงสารประเทศไทย เดี๋ยวไมมีเกลือกินเพราะทะเลมันหวานเกินเลยชวนนองกลับหอง ฮา
ฮา เวอรแลวครับผม งี้แหละมีแฟนนารักชางเอาใจ อะไรๆ มันก็ดีไปหมด

“แลวพี่ไมไปงานแตงเพื่อนหรือครับ” นาน...กําลังชมอยูหมับๆ พอกลับเขาหองก็มาทําใหเสียอารมณอีกแระ

ชิชะ...หาทางไลผมไปไกลๆ สันดานเสียนะผมนะ ยังมีอารมณกรุนๆ อยูเล็กนอย อะไรนิดอะไรหนอยก็นอยใจ มองนองในแงลบไป


แตก็ไมเพราะไองานแตงนี่หรือที่ทําใหผมกับนองทะเลาะกัน ไมไปเหยียบมันละ เดี๋ยวมีใครแอบมาตีทายครัวอีก ไมไหวจะเคลียร

“ไมไปแระ เดี๋ยวคนแถวนี้จะวางแผนหนีอีก”

“พี่ก็...วินถามเพราะเปนหวง”

“เพื่อนหลายคนก็ไมไดมาครับ เพื่อนพี่เลยจัดใหมีงานเลี้ยงรอบสองสําหรับคนสนิทที่กรุงเทพ เดี๋ยวพี่ไปตอนนั้นก็ได” เจาสาวเพื่อน


ผมเปนคนภูเก็ตครับ ก็เลยมาจัดงานเลี้ยงฉลองสมรสที่นี่ แขกที่มางานก็นาจะเปนฝายภรรยาเสียสวนใหญครับ มันก็เลยจะกลับไป
กินเลี้ยงที่กรุงเทพอีกรอบ แลวก็คงมีรอบสามแหละผมวาเพราะไดยินพวกเพื่อนเวรของผมทั้งหกคน มันตั้งใจจะเลี้ยงเวศอีกรอบดวย

เวศเปนเพื่อนสมัยเรียนมหาลัยครับ แตมันเรียนเกงโคตรแตหลงมาอยูกลุมเดียวกับพวกผม ผมกับไอพวกเพื่อนทั้งหกเปนเด็ก


กิจกรรมครับ มีเวศคนเดียวที่เปนเด็กเรียน มันก็เลยเปนที่พึ่งของพวกเรา พอเรียนตรีจบมันก็ไปตอโทนอกแลวก็ตอเอกเลย สาด...กิน
หนังสือแทนขาวแลวมันนะ ไดยินวามันไดปริญญามาหาใบแระ ไมรูจบอะไรมาบาง โทกี่ใบ ตรีกี่ใบ ไมไดสนใจจํา แตก็ดีครับมีเพื่อน
เกง

“นาเสียดายพี่มาถึงนี่แลว วินวาไปแสดงความยินดีกลับเพื่อนหนอยก็ดีนะครับ” ยังไมหยุดอีก อะไรของนองมันครับ เริ่มไมปรกติแลว


นะผมวา

“วินดีม้ ีอะไรหรือเปลาครับ ทําไมถึงอยากใหพี่ไปนัก”

“ก็ไมมีอะไรมากหรอก ตอนนี้วินก็กําลังรูสึกผิดอยู”

“ผิดเรื่องอะไรครับ” ผมนิ่วหนา ถามนองอยางสงสัย

“วันนี้ที่โรงแรมก็มีงานแตงพี่ชายเมธครับ พี่แกชวนวินไปรวมงานดวย แตวินก็ปฏิเสธไปตั้งแตตนแลว ตอนนั้นไมรนู ี่วาพี่จะพาวินมา


ที่นี่ แลววันนี้เจอเมธมัน ถาพี่เวศรูวาวินมานี่แตไมไปรวมงานคงเสียใจแย พอนึกแลวก็คิดถึงเพื่อนพี่ขึ้นมา อีกอยางเขาก็รูแลวนี่นาวา
พี่จะมาที่นี่ แลวถาไมไปรวมงานจะไมทํารายจิตใจเขาไปหนอยหรือครับ” วินดี้พูดมาซะยาวจนผมรูสึกผิดไปดวยเลย แตอะไรๆ มันก็
ไมสะดุดใจผมเทาชื่อไอเพื่อนรักเพื่อนเวรของนองมันหรอกครับ

“ถาพี่ไปงาน วินดี้ก็จะขอไปงานพี่ชายเพื่อนวินดี้ดวยใชไหมครับ” ถาวินดี้ไปงานนั้นก็ตองเจอกับเพื่อนนองอีกนะสิ อะไรเพิ่งแยกจาก


กันก็อยากเจอกันอีกแลว ผมไมมีทางปลอยนองไปหรอก เริ่มพาลอีกแระครับผม วันนี้เปนอะไรวะกู นองมันพูดอะไรขึ้นมาหนอย
ขวางหูไปซะหมดทุกเรื่อง

...แต

...จริงๆ ไมใชหรอกครับ

...สมองอัจฉริยะมันเริ่มแผลงฤทธิ์ตั้งหาก

...สาด...อยูดีไมวาดี เกิดอยากลองใจนองมัน ถาออกกอยแลวจะทํายังไง

...คงไมเปนไรหรอกมั้ง มันก็ไมเสียหายอะไรนี่นา นิดๆ หนอยๆ เอง

...อีกอยางเปนการเสริมสรางสัมพันธของเราสองคน

...ถึงจะเริ่มตนดวยราย แตตองลงทายดวยรักนะผมวา
...งานนี้หมอทองฟงธงครับ!!!

“วินไมไดหมายความวาอยางนั้นซะหนอย” นองทําปากจูแลวครับ แตตองแกลงเมิน ดําเนินการตอ

“มันก็คลายๆ กันนั่นแหละ เอาละ ถือวาเสมอกัน วินดี้รูสึกผิด ก็ใหพี่รูสึกผิดกับเพื่อนพี่เหมือนวินดี้แลวกัน ตกลงตามนี้นะครับ พี่จะ


อาบน้ํา ถาออกมาไมเจอละก็ ระวังตัวไวใหดี” วาจบก็เดินเขาหองน้ําเลยครับ ไมสนใจนองที่อาวปากหวอ พอประตูปดลงก็นับถอย
หลังครับ ลุนๆ วางานนี้จะออกหัวหรือกอย!!!

ไอพี่บา มาทําเปนงอนเดินสะบัดหนาเขาหองน้ําไปอีกแระ ตองงออีกแลวใชไหมนี่ ผมก็แคแสดงความคิดเห็นนิดเดียวเองนะครับ


ไมไดคิดอะไรมากมายเลย แตดูทาพี่เขาคงจะยังคิดมากเรื่องผมหนีแกไปหาเมธไมหาย พอเอยขึ้นมาหนอยก็ทําเปนโมโห

แลวตองทํายังไงผมถึงจะเรียกความเชื่อใจมาจากพี่เขาได ถึงเมธจะกอดผมแตก็รูสึกตางจากเวลาที่แกกอดผมนะครับ ตองใหบอก


อีกหรือวารางกายของผมยินยอมเปนของพี่เขาคนเดียวมาตั้งนานแลว มากกวากอดผมก็ยอมให ผมเมมเรียวปาก ชางใจอยูครูใหญ
อายนะไมใชไมอายหากตองเริ่มกอน แตชางมันเถอะ ความรักไมมีศักดิ์ศรีนี่เนอะ หากผมจะใชรางกายแสดงความรักกับพี่เขาบางก็
คงไมนาเกลียดอะไรมั้ง

ใครครวญไปมือคอยๆ ดึงเสื้อออกจากตัวไป ขณะสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อเรียกความกลามือก็ถอดกางเกงออก ควาผาขนหนูมาปด


สวนลางเมื่อดึงปราการชิ้นสุดทายที่ปกปดรางกายใหหลนไปกองที่พื้น จากนั้นก็เดินกลาๆ กลัวๆ เขาหองน้ําตามพี่เขาไป

เสียงน้ําจากฝกบัวที่ตกกระทบพื้นทําใหผมเริ่มหนาแดง รางกายเต็มไปดวยกลามเนื้อของพี่เขาที่ผมเห็นลางๆ ผานมานอาบน้ําทําให


เริ่มลังเล ไมใชวานี่เปนครั้งแรกที่อาบน้ําดวยกัน แตทุกครั้งผมจะมีสติไมคอยเต็มตัวเทาไหร มักถูกไอพี่ทองอุมบังคับมากอนหรือหลัง
...เออ...คือจะพูดยังไงดีละ เอาเปนวาอารมณผมมันคลอยตามแกแลวอะครับ ตอนนั้นอะนะ แตตอนนี้ผมเปนตัวของตัวเองนี่นา...อา
กกกก อายวุย ตองลงทุนขนาดนี้เลยหรือ มันจําเปนไหมอะ ไมตองทําก็ไดมั้ง...คิดวานะครับ งั้นก็เดินออกไปรอขางนอกแลวคอยงอ
แกแบบอื่นดีกวา ตกลงกับตัวเองอยูครับ กลาๆ กลัวๆ อยูอยางนั้นแหละ

อะจึ๋ยๆ เวรกรรมๆ ตายๆ ทําไมมือกับขามันไมรักดีอยางนี้ สมองยังไมทันไดสั่งเลยนะครับแตมือเจือกเปดมานแลวขาดันเดินเขาไป


หาพี่เขาซะงั้น โอย..ไมไหวๆ ตองรีบหลบหนาแกกอน กอดหมับพี่เขาที่ดานหลัง ซุกหนาลงบากวางๆ นั่นซะเลย

“วินดี.้ ..” ไอพี่ทองก็พยายามจะหันมามองครับ แตผมก็กอดแกแนนบังคับใหอยูนิ่งๆ ตัวพี่เขาก็ลื่นๆ อะครับ กําลังจะลางสบูออก อา


กกกกก....เวลาเนื้อตัวมันเบียดเสียดกันแลวมันรูสึกแปลกๆ อะ อายวุย...อายๆๆๆๆๆ

“กะ...ก็...วิน...เออ...กลัวพี่คิดมาก...กะ...ก็...อยูดวยกันซะเลย พี่จะไดไมตองหวง...วาวินจะหนี...” พอผมพูดจบพี่เขาก็เงียบครับ


แลวแบบนี้ผมตองทํายังไงตอละทีนี้ มาขัดขวางการอาบน้ําของเขาอะ จะวาไปผมก็แสดงความจริงใจแลวนี่ ออกไปลางหนาแปรงฟน
รอแกอาบน้ําเสร็จดีกวา ยังไงก็อยูในสายตาแกอยูดี
“ดะ...เดียว...วินถูหลังให...นะครับ” อาวเวร ทําไมปากไปพูดอยางนั้นละ โอย...รางกายกับสมองมันทํางานไมประสานกันเลยอะ
ครับ

“ขอบคุณครับ” พี่เขาขานรับครับ สวนผมนะหรือ จะทําอะไรไดละครับ ในเมื่อไปเสนอพี่เขาเองก็ตองทําตามคําพูดตัวเองแลวละ ก็


หลับหูหลับตาถูหลังใหแกไปละครับ กมหนาต่ําๆ ไวเผื่อแกหันมามองจะไดไมตองสบตาอีกฝาย ก็คนมันอายอะ ไมกลาสูหนานี่นา

“วินดี้อยากแชอางไหมครับ พี่ไมไดเตรียมน้ําไวให วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแลว แชน้ําอุนก็ดีนะครับ” พี่เขายังยืนหันหลังถามผม

“กะ...ก็...ดีครับ”

“ถางั้นรอเดี๋ยวนะครับ” วาจบพี่เขาก็หันมาทางผมครับ อากกกก ไมทันไดตั้งตัว รีบหลับตาทันที กมหนาต่ําๆ เขาไว อะไรวะไมเขาใจ


ทําไมในหองน้ํามันรอนอยางนี้ หนาผมนี่รอนวูบวาบไปหมดแลว

จากนั้นก็ไมรูหรอกครับวาแกทําอะไร รูวาน้ําไหลผานตัวผมกับพี่เขาแรงๆ คงลางสบูออกแบบลวกๆ มั้ง แลวแกมารดน้ําใสผมทําไม


ละนี่ เมื่อกี้ผมไมไดอาบน้ํากับแกดวยนี่นา ไมทันไดคิดไตรตรองรางตัวเองก็ถูกอุมออกมาจากอาง แลวก็มีผาเช็ดตัวซับๆ น้ําออกให
จากนั้นก็ไดยินเสียงน้ําไหลแรงๆ ครับ คิดวาแกคงเปดน้ําลงอางอะครับ

และ...แลว...ขณะที่รอใหน้ํามันเต็มอางนี่จะทําอะไรดีละทีนี้ ไปแปรงฟนรอดีไหม ก็หันรีหันขวาง มองพื้นอยางเดียวเลย ไมใชส.ิ ..ถา


จะใหถูกตองบอกวา หันไปทางไหนก็เห็นแตปลายเทาไอพี่ทอง เออ...คือกอนจะเห็นปลายเทามันก็เห็นอะไรแวบๆ อะครับ แตก็
พยายามไมมอง...แตวาแบบนี้มันหมายความวาไงครับ หันไปทางไหนก็เจอพี่เขาเนี่ย เอียงหนาหนอยๆ คิดใครครวญกอนจะเงยหนา
ขึ้นมองแกอยางสงสัย

“พี่มาขวางวินทําไม จะไปแปรงฟน” ก็ถามไปตามตรงแหละครับเผื่อเขาจะหลีกทางให แตแทนที่จะตอบคําถามผมดันมายิ้มใสตาเรา


อีก รอยยิ้มแกก็นะ แววตาแพรวพราวนั่นอีก ไมนาเงยหนามาถามเลยยยยยยยย

“คราวนี้ก็มองพี่ไดสักที” พูดมาแบบนี้ก็ไมอยากมองแลวละครับ แตก็ทําดั่งใจไมไดเพราะพี่เขาเชยคางผมขึ้นใหสบตากับแก

“วินขอโทษ พี่อยาโกรธวินเลยนะ” ไดโอกาสเหมาะเลยเผยความในใจซะเลย ก็พูดมันทั้งอายๆ นั่นแหละครับเพราะอยากเคลียรกับพี่


เขาใหรูเรื่อง พี่เขาไลปลายนิ้วที่แกมผมเบาๆ นัยนตาแพรวพราวที่ฉายประกายรักอยางเดนชัดนั่นทําใหผมอุนใจ

“พี่ไมเคยโกรธวินดี้สักที ก็นารักขนาดนี้ใครจะกลาโกรธลง” วาจบพี่เขาก็แนบหนาผากติดกับหนาผากผม ไมโกรธยังไง ทําเสียงดุ


หนาโหดใสผมตลอดเลย

“แตวันนี้พี่ทําหนาบึ้งใสวินมาหลายทีแลว เมื่อกี้ก็เหมือนกัน”
“ก็วินดี้ชอบไลพี่” ใบหนามีเสนหของพี่เขาผละออกหางเล็กนอยกอนปลายจมูกโดงงามจะคลอเคลียอยูกับแกมของผม

“วินเปลาซะหนอย” ผมบอกพรอมกับหันหนาหนีเล็กนอย สัมผัสวาบหวิบแผวเบานั่นใหทําผมเขิน รูวาถาพี่เขามาแบบนี้ อีกไมกี่นาที


ขางหนาตองเลยเถิดไปไกลแนๆ

“ไมรูละ ก็พี่ตีความหมายไดแบบนัน้ แลววินดี้ยังทําเหมือนกับไมอยากอยูกับพี่ดวย” ไมวาเปลาพี่เขายกผมขึ้นใหนั่งที่ขอบอางลาง


หนาโดยเร็ว ผมรีบโอบรอบคอแกยึดเปนหลักกลัวตกกอนพี่เขาจะวางมือทั้งสองขางที่เอวของผม

“วินไปทําอยางนั้นตอนไหน พี่นะคิดมากไมเขาเรื่อง ถาไมอยากอยูดวยจะตามงอถึงในนี้หรือ”

“พี่ก็อยากอยูกับวินดี้เหมือนกันครับ วินดี้พูดเองนะวามางอพี่ งั้นก็ตองงอพี่ใหถึงที่สุดนะครับ”

“หมายความวายังไง”

“ก็ตามใจพี่หนอยนะ” พี่เขาก็ชอบพูดแบบนี้ตลอด แลวผมก็ตองตามใจแกทุกทีเลย มีครั้งไหนบางที่ผมขัดใจ อยางตอนนี้พี่เขาจูบมา


ผมก็เผยอปากรับจุมพิตจากพี่เขา เรียวลิ้นที่สอดเขามาในโพรงปากของผม ผมก็เกี่ยวลิ้น ตอบรับอยางเต็มใจ

“อะ...อืม...” มือหนาที่ละจากเอวของผมแลวลูบไปตามรางกายทําใหขนของผมลุกซู ยิ่งมันเยาหยอก เลาโลมยอดอกของผมก็ยิ่งทํา


ใหผมเสี่ยวซาน พี่เขาปลุกอารมณของผมดวยริมฝปาก มือ ลิ้น เราโรมจนรางกายของผมเริ่มรอนเปนไฟ และมันก็พรอมที่จะหลอม
ละลายในทุกขณะ

“วินดี.้ ..สัมผัสพี่สิครับ...” พี่เขาจับมือผมใหลูบไปตามรางกายของแก กอนจะหยุดอยูที่แกนเนื้อกลางลําตัวซึ่งกําลังแข็งขึงรอผมอยู


ผมยื่นมือไปจับมันอยางกลาๆ กลัวๆ แตพี่เขาก็สอนผมวาตองทํายังไงเมื่อแกเลื่อนมือมาจับแกนเนื้อของผมเชนเดียวกัน จากนั้นก็
เริ่มเคลื่อนไหวนําทางใหผมทําตาม

“อะ..อาาา...” น้ําเสียงของเราทั้งสองที่เกิดจากความเสี่ยวซานซึ่งตางก็มอบใหแกกันและกัน

“เกงมากเลยครับที่รัก...อืมมมม....” คําชมกับเสียงครางทุมต่ําของพี่เขากระตุนเลือดในกายของผมใหวิ่งพลานไปทั่วราง ผมซบหนา


ลงกับไหลกวาง รางกายเริ่มจะไรเรี่ยวแรง แตมือของเราทั้งสองยังปรนเปรอใหแกกันและกัน

“อาาาาาา...วินดี.้ ..” น้ําเสียงของพี่เขาเมื่อผมซบอยูที่ไหลแลวริมฝปากผมก็อยูในตําแหนงยอดอกพี่เขาพอดี ก็เลยลองดูดเมมอยางที่


แกชอบทําใหกับผม แลวผลที่ออกมาก็ทําใหรูสึกดี เสียงครางอยางกระเสานั่นบงบอกวาแกก็ชอบเหมือนที่ผมชอบมันเชนกัน

“พอกอนครับที่รัก...น้ําเต็มอางแลว...” วาพลางพี่เขาก็โอบรางผมใหแนบชิด ผมถอนริมฝปากออกจากยอดอกของแก รีบเกี่ยวขากับ


เอวพี่เขาไว มือก็รีบโอบรอบลําคอ จากนั้นพี่เขาก็ยกรางผมขึ้นแลวพาเดินกลับไปยังอางอาบน้ํา ขณะที่พี่เขาเคลื่อนไหวแกนกายของ
ผมก็เสียดสีกับหนาทองแกรงสวนของพี่เขาก็เบียดชิดกับบั้นทายของผม มอบความรูสึกซาบซานใหเราไปอีกแบบ

“อืมมมม...” เสียงครางต่ําในลําคอของเราทั้งสองบงบอกอยางชัดเจน เมื่อถึงอางพี่เขาก็วางผมลงใหนั่งที่ขอบอางกอนแกจะเขาไป


กอนแลวนั่งลง จากนั้นก็ยื่นมือมาชวนเชิญใหผมตามแกเขาไป ผมวางมือในอุงมือพี่เขาแลวลงไปในอางเชนกัน พี่เขาจับผมใหนั่ง
ระหวางขาหันหลังผิงอกแก ริมฝปากหนาไลจูบทีค่ อกับหลังใบหู คลอเคลียรางกายผมไมหาง ขณะที่มือขางหนึ่งเยาหยอกกับยอดอก
ของผม สวนอีกขางไมวางเวนจากแกนกายของผม ขยับขึ้นลงปรนเปรอผมอยูเชนนั้น

“อะ..อาาา...” มันเสียวเหลือเกินครับ ยิ่งนองชายของแกที่เสียดสีกับบั้นทายของผมอยูนั่นยิ่งกระตุนผมใหออนระทวย เปนเพราะ


น้ําอุนๆ ที่กระเพื่อมขึ้นลงโอบลอมเราหรือเปลานะที่ทําใหผมรูสึกแบบนี้ มันยั่วยวนใหผมอยากใหพี่เขาเขามาในรางกายของผม

“วิน...อะ...ตองการ...พี่...” ไมรูความอายมันหายไปไหนหมดหรือเพราะผมอยากใหพี่เขารูวารางกายนี้เปนของพี่เขาคนเดียว ผมถึง


ไดกลามากขนาดนี้ มือขางหนึ่งของพี่เขาละหางจากอกของผมกอนจะลูบไปตามบั้นทาย ผมยกตัวขึ้นชวยใหพี่เขาสอดนิ้วเขามา
อยางถนัดขึ้น

“อาาา...” ถึงจะอึดอัดบางในตอนแรกแตมันก็เสียวจนสุดบรรยายในวินาทีตอมา พอพี่เขาขยับเขาออกสมองผมก็ขาวโพลน และแลว


ผมก็ตองครางอยางสุดเสียวเมื่อถูกเติมเต็มจากเรือนรางของพี่เขาหลังจากที่แกดึงนิ้วออกแลวจับแกนเนื้อแข็งใหญสอดเขามาแทน

“อาาา...พี่ครับ....”

“อืมมม...วินดี.้ ...”

เสียงของเราทั้งสองที่ดังพรอมกันกอนพี่เขาจะสอนใหผมจะเปนฝายขยับแลวพี่เขาสวนรับผม เสียงน้ําที่ลน ออกมาจากอางดังกวา


เสียงเนื้อเรากระทบกัน แตมันก็ยังนอยกวาเสียงของสองเราที่ครวญครางออกมา ถึงอยางนั้นผมวาเสียงหัวใจของผมมันดังกวานั้น
มากนัก แลวผมก็แนใจวาพี่เขาไดยินมันชัดเจน

พี่รูแลวใชไหมครับวารางกายนี้มันยอมใหกับพี่เพียงเทานั้น ถึงคนอื่นจะกอดจะจับแตมันก็แคขางนอก แตสําหรับพี่มันลึกซึ้งกวานั้น


ไมวาจะในรางกายหรือวาในหัวใจของวินก็มีเพียงพี่เทานั้นที่ไดสิทธิ์เขามาได...คราวนี้พี่เชื่อและวางใจในวินแลวหรือยังครับ...

สีทองของแผนฟาที่คาบทับนานน้ําในรุงอรุณชางอบอุนยิ่งนัก ถึงกระนัน้ ก็ยังมินามองเทาใบหนาของคนที่ผมรักซึ่งกําลังหลับตาพริ้ม


อยูในออมแขนของผม เชาวันนี้รอบตัวเราชางอบอุน กรุนไอรักก็อบอวนอยูรอบตัว

นึกถึงค่ําคืนที่ผานมาก็ทําใหผมยิ้ม วินดี้นารักเหลือเกิน นองทําใหผมหลงรักจนหัวปรักหัวปรํา ถลําลงลึกไปเรื่อยๆ อีกไมนานหรอก


ผมคงกลายเปนทาสรักของนอง จะสั่งใหหันซายก็คงหัน บอกใหหันขวาก็คงไมกลาปฏิเสธ ถึงอยางไรก็แลวแตหากวินดี้จะเปนนาย
ของผม นองคงปวดหัวบางเล็กนอยเพราะทาสรักนาคินทรชอบกบฏและแกลงนายครับ

อยางเชนเมื่อคืนที่ผานมา หลอกใชวิชามารกับนองนิดหนอยแตคงจะทําบอยๆ ไมไดเพราะวินดี้ฉลาดเปนกรด จับทางผมไดเร็วมาก


ฉะนั้นตองปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครับ ถานองเผลอเมื่อไหรก็วาจะดึงกลยุคที่จัดเตรียมไวออกมาใช คราวนี้วินด็ก็เรียบรอยโรงเรียน
นาคินทรในทุกกรณี

นึกถึงความนารักของวินดี้ที่นองจะเต็มใจมอบกับผมในวันขางหนาแลวก็อยากจะหอมแกมสุดที่รักรับอรุณขึ้นมาทันที วาแลวก็กม
หนาลงไป อยากจะสูดดมความหอมสักฟอดสองฟอดแตมารก็มาผจญเขาจนได ยังไมทันที่ริมฝปากจะแตะแกมเนียนก็ตองตองรีบ
ผละหาง ควาโทรศัพทที่กําลังสั่นบนโตะโคมไฟขางเตียงขึ้นมา กลัวเสียงครืนๆ มันจะไปกวนการหลับใหลของนองครับ

แหม...ถาเปนผมเองที่กวนนองก็พออะลุมอลวยไดอยู แตถาอยางอื่นนี่ถาเลี่ยงไดก็เลี่ยงครับ รูวาที่รักผมคงเหนื่อย ใหนองพักมากๆ


นาดีกวา

คอยๆ ลุกจากเตียง มองซายขวาหากางเกงนอน แลวก็สวมมันเลยครับ จากนั้นก็ยองออกไปยังระเบียงอยางเงียบๆ สายที่โทรเขามา


วางไปเรียบรอยแลวครับ แตถึงอยางไรก็ตองโทรกลับแหละเพราะถาไมโทรนี้เรื่องใหญเลยทีเดียว เบอรที่โทรเขามาเปนคนผูทรง
อิทธิพลครับ ชี้เปนชี้ตายตอชีวิตผมได ดังนั้นตองรีบเอาใจทานหนอยครับ

“มอนิ่งครับคุณพอสุดที่รัก” รีบทักไปทันทีเพราะกดโทรออกแคกริ๊งเดียว ทางโนนก็กดรับเลยครับ ปรับเสียงแทบไมทัน ไมรูมันจะฟง


ออดออนพอไหม แบบวามีความผิดติดตัวนะครับ หลายอยางดวย เลยตองใชวาจาหวานๆ นําทางไปกอน

“มอนิ่งครับคุณลูก” นั่นแนมีรับมุขผมดวย เริ่มหายใจโลงอกมาไดนิดหนอยแลวครับ พูดแบบนี้แสดงวาไมมีอะไรมากมายที่ตองเปน


หวง

“วันนี้ที่ภูเก็ตอากาศดีมากเลยครับพอ อยากใหพอมาดวยจังจะไดพักผอนบาง คินเปนหวงนะครับ” ออนเขาไวครับ ยังไมแนใจวา


ลักษณะแบบนี้จะเหมือนทะเลที่เงียบสงบกอนพายุจะเขาหรือเปลา เพราะฉะนั้นทําอะไรไดตองทําครับ ไมใหพายุถลมฝง

“ไอลูกเวร ไมตองมาทําเปนพุดดี” นั่นไงวาแลว ไมทันไรพอก็ตะหวาดเสียงแข็ง คงทนฟงคําพูดหวานๆ ของผมไมไดละมั้งครับ วา


อุตสาหออน วิธีนี้คงใชไดกับวินดี้คนเดียวเทานั้นละมั้ง

“อะไรพอ คนเคาอุตสาหเปนหวงแตกลับมาวากันอยางนี้” แข็งมาก็แข็งกลับครับ กลับมาเปนพอลูกที่รักกันแบบดิบๆ เถื่อนๆ อยาง


เดิมดีกวา

“ฉันสิตองถามแกวาอะไรนักหนา อุตสาหเปนหวงแลวดันมาทําเปนเกง”

“ผมก็บอกพอแลวไงวาผมไมชอบใหมีคนตาม คนของพอนะ ถาจับผมใสกรงไดคงจับไปแลวมั้ง” เขาประเด็นไปเลยครับ ไมอยาก


ออมคอมเพราะพอรูอยูวาพอโทรมาดวยเรื่องอะไร

“แกก็รูดีนี่คินวาตอนนี้สถานการณไมนาไวใจ คิดซะวามีคนขับรถใหนั่งสบายๆ แคนี้เองมันจะลําบากอะไรนักหนา”

“เฮอ...พอก็นาจะรูตั้งนานแลววาผมไมชอบ จะมาบังคับผมทําไม”

“แกก็นาจะรูตั้งนานเหมือนกันนะคินวาฉันก็ไมชอบที่ลูกชายตัวเองตกอยูในอัตราย แลวแกจะมาบังคับใหฉันทําเฉยไดยังไง”

อยางนี้ทุกทีเลย พูดคําสวนกลับคํา โตกันไปโตกันมาไมจบสักที เหนื่อยใจจังเวลาคุยเรื่องนี้กับพอ พออยากใหคนของพอตามดูแล


ความปลอดภัยของผม ไปไหนมาไหนก็มีคนตามเปนขบวนนั่นแหละ ทําตัวเหมือนคนมีอิทธิพล ผมไมชอบมาตั้งนานแลว

ถึงพอจะเลิกอาชีพดานมืดแตคนที่พอเคยไปขัดผลประโยชนเขาก็ยังเยอะ แกก็เลยเปนหวงผมมากหนอยเพราะจุดออนของพอก็คือ
ผม ถาผมเปนอะไรไปคงฆาพอทั้งเปนเลยทีเดียว ตั้งแตไหนแตไรมา เวลาผมจะไปไหนมาไหนมักจะมีคนติดตามเสมอ แตหลังจากที่
ผมเจอวินดี้ผมก็เลิกใหตามผมครับ ถาเลี่ยงไมไดจริงก็ใหตามหางๆ อยาใหนองนองผิดสังเกตเพราะไมรูจะอธิบายกับนองยังไง มันคง
ไมดีเทาไหรนักที่นองจะมองวาผมเปนพวกขาใหญหรือมาเฟย นี่ขนาดเปนคนธรรมดายังยากกวาจะเขาหนาวินดี้ได ถาภาพติดลบ
มากกวานี้วินดี้คงไมเหลียวแลผมแนๆ

กอนหนาที่ผมจะเจอกับนอง พอก็มีปญหากับศัตรูเกาแกนิดหนอยครับ ไปขัดผลประโยชนกับเขาเพราะโครงการสาขาใหมที่เพิ่ง


เปดตัวเมื่อครึ่งปกอนซึ่งทําทางโนนไดรับผลกระทบกระเทือนมากเลยทีเดียว เรื่องในอดีตก็ทําใหเขาเหม็นขี้หนาเราพอแลว ยังมามี
เรื่องใหมสดรอนๆ อีก
แตจะวาไปมันโยงกันหลายทางครับ พอเปนคนกวางขวางดวยนั่นแหละ อยางลูกนองเกาพอหลายคนที่พอโอนงานเกาๆ ใหรับชวง
ตอก็ยังนับถือพอ ถามีลูกคาไมวาจะกระเปาหนักหรือเบาทางโนนก็คอยปอนใหกับทางโรงแรม แลวยังมีเพื่อนพอและเพื่อนผมอีก
หลายคนที่ทําธุรกิจการทองเที่ยวก็คอยชวยเรื่องนี้

พอเราเปดตัวโรงแรมสาขาใหมซึ่งทําเลอยูไมหางจากโรงแรมเขา แลวลูกคาเราเต็มตลอด อีกฝายกลับเงียบเชียบ มันก็เกิดการขัด


ผลประโยชนกัน แลวยังมาเรื่องการรับรองแขกของประเทศที่จะมาพักในไทยเมื่อสัปดาหกอนที่ทางโรงแรมเราไดรับเลือกก็ทําใหทาง
นั้นเดือดเปนไฟ

มิหน่ําซ้ําเรื่องของอานนทที่ผมตามอยูก็เกี่ยวกับทางโนนอีกเชนกัน ผมบอกพอใหรูเกี่ยวเรื่องที่ผมสงสัยอยู แกก็เลยเปนเอามาก


หนอย สั่งใหคนกลับมาตามผมเปนขบวนอีกครั้ง แลวเรื่องอะไรผมจะยอมละครับ ผมมาภูเก็ตเพราะตองการความเปนสวนตัวกับ
นอง ไมไหวมั้งถาผมจะแสดงความรักกับสุดที่รักผมตอหนาคนที่จับตามองอยู ที่สําคัญวินดี้ก็คงจะยังไมรูวาผมเปนใคร นี่ผมก็ยัง
สงสัยอยูวานองจะรูไหมวาโรงแรมที่พักอยูนี่เปนของผม ยังไมไดคุยกันเปนงานเปนการสักทีครับ

“เอาอยางนี้แลวกันนะครับ เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝาย พออยากใหใครตามผมก็ตามไดเลย แตอยามาเกะกะผมแลวกัน ให


แฝงตัวอยูรอบๆ แบบนี้พอโอเคไหม” ผมพยายามหาขอสรุป คิดวาหลังจากนี้ถาพอจะใหคนตามอีกครั้งก็คงไมใชปญหามากนัก
เพราะชีวิตประจําวันของผมก็คือไปทํางานแลวก็กลับเขาคอนโด

“เฮอ...ทีเมื่อกอนแกยังใหมีคนขับรถใหเลย ทําใหพอสบายใจหนอยเถอะคิน” มาแลวครับ เมื่อใชไมแข็งไมไดก็หันมาใชไมออนกับผม


แทน แลวเมื่อกอนผมอยูคนเดียวนี่ แตเดียวนี้ไมใชแลว จะสงมาเปนกางผมทําไมก็ไมรู

“โธพอครับ ผมบอกพอแลวไงวาตอนนี้ผมขอเคลียรปญหาสวนตัวสามเดือน นี่มันแคเดือนเดียวเองนะพอ” แกใชไมออนมาก็ใชไม


ออนกลับไปครับ ยกขอตกลงเกาๆ มาอาง แลวพอพูดจบก็รูสึกเหมือนมีคนมองอยูก็เลยหันกลับไปทันไดเห็นนองยืนพิงขอบประตู ตา
ปรือมองมาที่ผม ผมยิ้มใหที่รักที่เพิ่งตื่นกอนบอกกับพอวาใหรอเดี๋ยว จากนั้นก็เลื่อนโทรศัพทลงจากหู เดินเขาไปใกลๆ วินดี้แลวจุบ
ปากนองเบาๆ

“ตื่นแลวหรือครับ” ถามพรอมมองนองอยางแสนรัก วินดี้ไมตอบแตกาวเดินเขาหาผม จากนั้นนองก็หนาแนบกับอกและโอบเอวผมไว


ดูสิครับ ตื่นขึ้นมาก็ออนเชียว ก็นารักออกขนาดนี้จะไมใหผมรักผมหลงไดอยางไร

“พี่คุยกับใครอยูหรือครับ” นองถามขณะหลับตาพริ้มอีกครั้ง ผมคิดวาวินดี้คงจะยังไมตื่นเต็มตัวครับ ยังงัวเงียอยูแตพอไมเห็นผมก็


เลยลุกจากเตียงออกมาตามหาละมั้ง

“คุยกับพอพี่ครับ” ผมบอกขณะแนบหนากับผมนอง มือลูบแผนหลังวินดี้ขึ้นลง

“งั้นพี่ก็คุยตอเถอะ วินไมกวนดีกวา”

“ไมไดกวนอะไรเลยครับ พี่ตางหากละที่เสียงดังกวนวินดี้จนตื่น”

“วินไมไดยินเสียงอะไรเลย พอรูสึกตัวแลวไมเห็นพี่ นึกวาไปไหนเลยเดินหาเทานั้นเอง” เหมือนที่ผมคิดไวจริงๆ เลยครับ นารักไหม


แฟนผม ปลื้มใจมากมายที่นองตื่นมาก็อยากเห็นหนาผมเปนคนแรก

“ถาอยางนั้นวินดี้นอนตออีกหนอยดีไหมครับ ยังเชาอยูเลย เดี๋ยวพี่คุยเสร็จแลวจะตามเขาไปนะครับ”

“ครับ...” พอผมพูดจบนองก็รับคําอยางแผวเบากอนจะเดินกลับเขาหองไป ผมอมยิ้มมองตามนองทีเ่ ดินงัวเงียกลับไปลมตัวนอนบน


เตียงอีกครั้งอยางเอ็นดู จากนั้นก็ปดประตูระเบียงแลวหันมาสนใจโทรศัพทที่คุยคางอยู

“พอยังอยูไหม” ผมถาม

“ฉันตัดสินใจแลวนะคิน” แลวพอก็ตอบกลับมาดวยคําพูดที่ทําใหผมนิ่วหนา

“ตัดสินใจอะไรพอ ผมทําใหพอไดเทาที่บอกไปเทานั่นนะ” ยังยืนยันคําเดิม ผมยังไมไดบอกวินดี้เลยวาผมเปนใคร มีเหตุจําเปนอะไรที่


ตองมีคนติดตาม อยากบอกนองดวยตัวเองใหเขาใจกอนครับ เลยยังรับปากอะไรพอไมได แตคําตอบที่พอสวนกลับมานี่สิ ทําใหผม
กระพริบตาปริบๆ เขาใจวาตัวเองฟงผิดไปตั้งหลายวินาที

“ฉันจะเพิ่มคนใหคอยดูแลแกมากกวาเดิม”

“หะ!!” พอพูดอะไรผิดหรือเปลาครับ ทําไมมันหนักกวาเดิมอีกละ ผมบอกไปแลวไงวารับไดถาจะดูแลผมหางๆ แตนี่มันตรงกันขาม


จากที่ผมเสนอไปเลยนะครับเพิ่มคนมาเพิ่มเนี่ย

แตแลวพอก็อธิบายเหตุผลใหผมเขาใจถึงสิ่งที่ผมมองขามไป พอไดฟงก็เลยรูวาที่พอตามจ้ําจี้จ้ําชัยผมอยูนี่พอรูสึกอยางไร

“ในเมื่อจุดออนของฉันก็คือแก แลวจุดออนของแกก็คืนคนรักของแก เพราะฉะนั้นตองระวังใหมากขึ้น แกรูจักอานนทดีพอๆ กับฉัน


หากมันไหวตัวทันแลวไปอยูฝายโนนอยางที่แกสงสัยอยูละก็ ถามันจะลอบกัดเรา มันคงไมไดเลงเปาไปที่ฉันกับแก....แต...จะเปนคน
ที่แกรักตางหาก!!!”

“วินดี.้ ..เดี๋ยวกอนสิครับ....รอพี่ดวย...” ผมไมสนใจเสียงเรียกที่ดังเขามาใกล ตรงกันขามกลับรีบเดินแกมวิ่งออกไปยังหาดทราย


อยากไปใหพนๆ ไมอยากเจอหนาคนโกหก ปดบังความจริง

“วินดี”้ แตขาผมคงจะสั้นกวาแกมั้งครับเพราะไมนานพี่เขาก็กาวมาถึงแลวดึงแขนผมไว ในเมื่อเลี่ยงไมไดก็ตองหันมาเผชิญหนากัน

“ครับทานรองฯ มีอะไรใหผมรับใชครับ” ผมขานรับขณะหันกลับมามองพี่เขา แกยิ้มแหงๆ ใหกับผม แตผมไมอยากเก็บมาใสใจ ไม


อยากรับรูดวยวาตอนนีแ้ กจะรูสึกยังไงบาง เพราะตัวผมเองก็ยังควบคุมอารมณตัวเองไมไดเหมือนกัน มันหลากหลายความรูสึก
เหลือเกิน ทั้งรูสึกผิดหวังซึ่งมันกําลังทวมทนหัวใจเมื่อรูความจริงวาพี่เขาเปนใคร ตําแหนงหนาที่การงานคืออะไร รูสึกแยมากเลยครับ
มันเหมือนกับที่ผานมาผมถูกแกหลอกใหเขาใจผิดและแกคงจะแอบหัวเราะผมอยู

“เออ...ที่รักครับ พี่ไมกลาใชวินดี้หรอก”

“งั้นจะเรียกผมทําไมครับทานรองฯ ปลอยแขนผมไดแลว”

“วินดี.้ ..ทําไมเรียกพี่อยางนั้นละครับ แลวยังแทนตัวเองซะหางเหิน”

“ทําไม...ผมเรียกผิดหรือ ก็คุณเปนถึงรองประธานฯ บริษัทนี่”

“แตระหวางเรามันไมเกี่ยวกับหนาที่การงานพี่เลยนะครับ”
“ออเหรอ...ถาไมเกี่ยวกับงานแลวมาหลอกผมทําไมวาเปนแคผูจัดการ พนักงานเงินเดือนธรรมดา ทั้งๆ ที่ตัวเองรวยลนฟาซะขนาดนี้
ถาเห็นวามันไมสําคัญก็นาจะบอกความจริงตั้งแตแรกถูกไหม หรือคุณกลัววาผมจะไปหลอกลวงเอาเงินทองจากคุณถารูวาคุณรวย”

“ที่รัก...พี่ไมเคยมีความคิดอยางนั้นเลยนะครับ” ผมเมินหนาหนี ไมอยากสบสายตาออนวอนรูสึกผิดของแก

“พี่ไมรูจะเริ่มตนบอกวินดี้ยังไง เราไมเคยคุยกันเปนเรื่องเปนราวสักที ถาจูๆ พี่พูดขึ้นมาเองวาเปนลูกเจาของโรงแรมก็กลัววินดี้จะคิด


วาพี่อวดร่ําอวดรวย...”

“คุณก็เลยไมบอกแลวปลอยใหผมรูเอง”

มันนานอยใจมากเลยครับ เมื่อตอนสายไอพี่ทองบอกผมวาแกมีธุระที่ตองจัดการนิดหนอย ผมก็โอเคไมวาอะไรเพราะคิดวาจะลงไป


เดินเลนขางลางขณะรอแก เดินไปจนสุดหาดแตพี่เขาก็ยังไมโทรมาสักทีก็เลยวาจะแวะไปหาอะไรดื่ม กลับมาที่โรงแรมไดกาแฟมา
หนึ่งแกวจากนั้นก็หามุมเงียบๆ นั่งมองสวนมองทะเล กําลังเพลินๆ ก็ไดยินเสียงโตะขางๆ คุยกันเรื่องลูกชายเจาของโรงแรมที่ผมพัก
และโรงแรมในครืออีกหลายแหง เห็นวาทั้งเกงทั้งหลอแถมดํารงตําแหนงรองประธานฯ นอกจากนั้นยังรวมหุนกับเพื่อนทําธุรกิจเปน
ของตัวเองและประสบผลสําเร็จจนไดรางวัลนักธุรกิจหนุมไฟแรงมาสองปซอน ไมพอยังบรรยายสรรพคุณไปตางๆ นาๆ เห็นเขาชื่นชม
นักหนาวาเปนเทพบุตรติดดิน ทั้งๆที่ดังและรวยลนฟาแตไมชอบทําตัวเดนออกงานสังคมหรือเปนขาว

แรกๆ ก็ไมคอยสนใจเทาไหรหรอกครับ แตพอเขาเอยชื่อออกมานี่สิ หูกางเลย แถมยังมีการชี้ชวนใหกันดูอีกวาคนนั้นไงที่เดินอยูใน


สวน ไอเราก็บามองตามแลวก็เห็นวาเปนไอพี่ทองจริงๆ พี่เขากําลังเดินคุยกับใครไมรูอยูสามสี่คน เห็นแกเดินนําหนาแลวที่เหลือก็
เดินเยื่องออกไป ทาทางของแกดูแตกตางจากที่ผมเคยเห็น พี่เขาดูเปนผูนําและนาเกรงขาม

อาจจะเปนเพราะผมจองแกนานหรือวาโตะขางๆ ก็มองแกดวยหรือเปลาไมรูพี่เขาก็เลยหันหนามาทางผม พอเห็นผมก็ยิ้มบางๆ ให


กอนหันไปคุยกับคนที่ติดตามแกสองสามคําแลวก็เดินเขามาหาผม ทวากอนที่จะถึงโตะผมก็เห็นโตะขางๆ ทักแก เห็นพวกนั้นรื้อฟน
ความทรงจําของแกวาจํากันไดไหมเพราะเคยเจอกันในงานสังคมอะไรสักอยางแตผมไมทันไดอยูฟงก็ลุกขึ้นหนีมากอน มันรูสึกยังไงก็
ไมรูที่ไดรูวาคนที่เรารูจักกลับมีอีกมุมที่เราไมเคยรูมากอน มุมที่เขาปดบังและบิดเบือนความจริงไมใหเราไดรับรู ผมก็เลยเหวี่ยงแก
อยางที่เห็น

“วินดี้ ใจเย็นๆ กอนไดไหม พี่ไมมีเจตนาจะปดบังวินดี้เลยนะครับ” เย็นยังไง มันเย็นไมลงแลว ทีแกเมื่อคืนอะ ยังโกรธผมเปนฟนเปน


ไฟเลยแคไมไดบอกวาไปไหน แลวมาเห็นในสิ่งที่มันไมใชความจริง ก็มาใสรายผม แลวถึงทีตัวเองทําบางมาบอกเราใหใจเย็น

“ตอนนี้คุณเงียบไปเลยนะ ผมไมอยากไดยินอะไรทั้งนั้น”

“โอเคครับที่รัก พี่จะไมพูดไมแกตัวอะไรทั้งนั้น แตตอนนี้ขอแคอยาทําตัวหางเหินกับพี่อยางนี้เลยนะ อยาพูดจาเหมือนเราไมรูจักกัน


แบบนี้ไดไหม พี่ใจไมดีเลย”
“ทําไมละ ก็ผมไมรูจักคุณจริงๆ นี่ ไอพี่ทองที่ผมรูจักคือผูชายเดินดินธรรมดาคนหนึ่ง ไมใชลูกชายมหาเศรษฐี ตองมีคนคอยเดินตาม”

“แลววินดี้คิดวาคนที่ยืนอยูตรงหนาวินดี้ตอนนี้คือใครครับ มองหนาพี่สิ ดูซิวานี่ใชผูชายเดินดินธรรมดาคนหนึ่งหรือลูกชายเศรษฐี


อยางที่วินดี้วา เห็นแลวเปนไงบางครับ พี่ใชไอผูชายคนเดียวกันไหมที่รักวินดี้จนหมดใจ”

“ผมบอกคุณแลวใชไหมวาใหเงียบ แลวไมตองมาพูดในทํานองวาผมไมมีเหตุผล คุณอยากพูดแบบนี้ใชไหม ถึงจะรวยหรือจนมันเรื่อง


นอกกาย คนที่ยืนอยูตรงหนาผมตอนนี้ก็คอื คนๆ เดิมที่ผมรัก ผมจะบอกคุณไวเลยนะวาอยามาเหมารวมกัน รักก็สวนรัก มันไม
เกี่ยวกับเสียความรูสึก สิ่งที่คุณทํามันทําใหผมเสียใจ คุณปดบังความจริง หลอกผม และคุณคงหัวเราะเยาะที่ผมโงเชื่อคุณพูดทุก
อยาง” ผมมองพี่เขาดวยสายตาตัดพอ คนเราเวลารักมากก็เชื่อใจกันมาก แลวพอมาเจอแบบนี้มันก็เสียใจมากเปนธรรมดา

“ปลอยแขนผมแลวไมตองเดินตามมาดวย ไวผมใจเย็นเมื่อไหรจะเดินกลับมาหาคุณเอง” วาจบผมก็สะบัดแขนออกจากมือพี่เขาแลว


ก็เดินจากไป ไมไดสนใจหันกลับไปมองวาแกเดินตามหรือเปลา

ตอนนี้มองไมเห็นหรอกครับวาเรื่องที่ทําใหผมโกรธแกแคเรื่องเล็กนอยเพราะจิตใจผมออนแอมากเหลือเกิน ผมมาที่ภูเก็ตสองวันกับ
หนึ่งคืน คุณรูไหมวาผมเจอกับอะไรบาง กอนเดินทางก็วาวุนใจเรื่องของตริน จากนั้นวันตอมาก็ทะเลาะกับเพื่อน เจ็บเจียนตายที่
เพื่อนบอกตัดขาด แลวพอคืนดีกับเพื่อนไดไอพี่บาก็มาอารมณเสียใสผม พอรุงเชาดันมาเจอเรื่องนี้อีก คิดดูแลวกันวาสภาพจิตใจของ
ผมจะเปนอยางไร อารมณมันขึ้นๆ ลงๆ ซะขนาดนั้น ถายังตองเผชิญหนากับพี่เขาอีก คงไดพูดจาทํารายแกมากกวานี้ ผมขอไปสงบ
สติอารมณคนเดียวเงียบๆ กอนแลวกัน ไวเย็นลงเมื่อไหรคอยวากันอีกที

วันนี้มันเปนวันนาคินทรพินาศหรือวาวันอะไรกันแนครับ ทําไมเรื่องวุนวายถึงไดมาเกิดขึ้นกับผม ตอนเชาหลังจากวางโทรศัพทกับพอ


ก็เขาไปตรวจดูโรงแรมนิดหนอย แตพอดันเตรียมคนไวพรอมสําหรับผมแลว แกก็นะชางเปนคนพูดจริงทําจริงซะเหลือเกิน ยังไมทัน
ไดตั้งตัวแกก็สงบอดี้การดมาซะเกือบครึ่งโหล จะเดินไปทางไหนก็มีแตคนเดินตามตอยๆ พอบอกวาไมตองตามไอพวกนั้นกลับบอก
วาคําสั่งนี้ขึ้นตรงตอทานประธานฯ ผมไมมีอํานาจไปสั่งงานเขา ฟงเอาแลวกันครับ แบบนี้หมายความวาอยางไร นี่ผมกลายเปน
นักโทษของพอไปแลวใชไหมถึงไดมีคนคอยเฝาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง

ไอตัวผมนะก็พอจะชินอยูบางหรอกครับที่มีคนตามหนาตามหลัง ถึงจะอึดอัดบางแตก็คิดวาตัวเองทนได แตวินดี้นี่สิ ไมรูวานองมันจะ


วาอยางไรที่จูๆ ก็มีใครไมรูมาคอยตามติด กะวาจะหาโอกาสเหมาะๆ อธิบายใหนองเขาใจ แตมันกลับชาเกินไปเพราะนองก็มาโกรธ
ผมซะกอน

คิดแลวก็เครียดครับ ไมรูวาวินดี้รูความจริงเกี่ยวกับตัวผมไดอยางไง แถมยังมาประชดเรียกผมวาทานรองฯ อีกดวย ไมพอนะครับ ยัง


มาแทนตัวเองวา “ผม” ซะงั้น ฟงแลวมันเจ็บจี๊ดที่หัวใจ เกลียดมากเลยครับเวลาวินดี้ทําตัวเหินหางเชนนี้ มันไมตางกับตอนที่ผมงอ
นองครั้งแรกนั่นเลย วินดี้ก็แสรงไมรูจักผมเชนกัน ทั้งแววตา น้ําเสียงตางก็ทําใหผมเจ็บซ้ําใจ ยิ่งนองมาออกคําสั่งไมใหผมตามก็ยิ่ง
ปวดใจ
...นองคงโกรธมากจนถึงขั้นไมอยากมองหนาผมแลว...เจ็บดีแทเวลาตีความไดอยางนี.้ ..

แตก็พยายามปดความคิดฟุงซานออกไปครับ ดึงเอาความหนาดานออกมาใชใหเกิดประโยชน วินดี้บอกวาไมใหตาม ไมใหเขาใกล


ถาเชนนั้นผมจะงอไดอยางไรละครับ ถึงจะคิดแลวมันเศราใจ แตผมก็ตองหาทางออกใหตัวเองอีกทาง

ไมใหผมตามก็ไดไมมีปญหาอะไรเพราะผมจะใหบอดี้การดตามนองแทนแลวกัน ถือซะวาใหตัวแทนไปเปนหูเปนตา ดูวานองอยูไหน


ทําอะไรอยู ผมสงไปสองคนครับแตก็กําชับนั่นแหละวาตามอยูหางๆ อยาใหนองรูตัว

จากนั้นก็นั่งกระวนกระวายใจ รอนองใจเย็นแลวกลับมาหาผมอยางที่พูดไว แตแลวพอผมรออยูไมถึงครึ่งชั่วโมงก็นั่งไมติดอีกตอไป


ผมไมรูละเอียดหรอกครับวาเกิดอะไรขึ้นแตฟงแควาตอนนี้ที่รักผมกําลังตกอยูในอันตรายก็วิ่งสุดแรงเกิดแลว

นี่เปนครั้งที่สองแลวนะครับที่วินดี้บอกใหผมรออยูหางๆ แลวก็เกิดเรื่องรายๆ ขึ้นกับนองโดยที่ผมไมรูอะไรเลย แคคิดก็โมโหตัวเอง


ทั้งๆ ที่สัญญาเปนหมั่นเปนเหมาะวาจะไมปลอยใหนองตกอยูในอันตรายแตผมก็ทําตามที่ตั้งใจไวไมได ผมชางเปนผูชายที่ไมไดเรื่อง
ทําตัวเปนคนรักที่แยจริงๆ

...ตอจากนี้ผมจะปลอยใหเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเปนครั้งสุดทาย หากวินดี้หามเขาใกลผมก็จะหาวิธีไมปลอยใหนองไปไหนไกลหูไกลตา
ผมอีกแลว!!!

ผมรีบวิ่งไปหานองดวยหัวใจรอนรน กลัวไปสารพัดวาที่รักผมจะเปนยังไงบาง ปลอดภัยดีไหม แลวพอไปถึงหัวใจผมก็แทบจะหยุด


เตน...

...โอพระเจา นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับสุดที่รักของผม!!!

“นองกุลเปนยังไงบางครับ เจ็บมากไหมพี่ขอโทษ” น้ําเสียงของตรินเอยถามดวยใบหนาสํานึกผิดขณะที่เจาตัวรีบนั่งลงแลวเขามาดู


อาการผม ผมสะบัดศีรษะแรงๆ เขาใจคําวานับดาวก็คราวนี้แหละ ตริน แมรงหมัดหนักโครตๆ เลย

“หึ ไมเปนไร” ยังทําปากเกงอีกนะผมนะ ทั้งๆ ที่รูสึกชาทั้งใบหนากอนจะปวดแปลบ ไลจากกรามไปถึงหู

“ไมเปนไรบานพอมึงสิ นั่นเลือดกําเดาไหลดวยหรือเปลา” เสียงของเมธครับ มันแยงพรอมกับนั่งลงขางๆ ผมอีกดาน

“จริงหรือครับ ไหนพี่ดูสิ” พอตรินไดยินเมธพูดแบบนั้นก็รีบดึงใบหนาผมใหหันไปทางเขาเลยครับ สาดดดดดด ยิ่งเจ็บๆ อยูคอยๆ จับ


หนอยไดไหม

“นองกุลเงยหนาไวนะครับ แลวเอานี่อุดจมูกไว” ตรินบอกดวยน้ําเสียงรอนรน ผมมองมือตัวเองที่จับจมูกเห็นเลือดติดที่ปลายนิ้วกอน


จะเงยหนาขึ้นตามคําแนะนําของตริน จากนั้นก็รับผาเช็ดหนาจากตรินมาซับที่จมูก

“เพราะมึงคนเดียวนั่นแหละไอสนตีน” เมธพูดขณะขยับเขามาใกลผมมากขึ้น มันมองตรินตาขวางเลยครับ

“ถามึงไมปากหมาเรื่องมันก็คงไมเกิด” ตรินก็โตตอบกลับเชนกัน

“ออ...เดี๋ยวนี้กลาขึ้นมึงขึ้นกูเหรอ” ไอเมธหลังอานไมใชแคพูดเปลาๆ ดันไปชี้หนาตรินมันอีก

“เออ ก็พูดกับหมาก็ตองคุยแบบหมาๆ นี่แหละ” ตรินก็ใชยอยนะครับ ปดมือเมธออกขณะโตคืนอยางดุเดือด

สาดดดด เจือกมาทะเลาะกันอีก ขามผมไปผมมาอยูนั่นแหละ อะไรของพวกมันนักหนาก็ไมรู แลวที่ผมนั่งเจ็บอยูแบบนี้ก็เพราะพวก


มันนั่นแหละครับ หลังจากแยกกับไอพี่ทองแลวก็เดินมาสงบสติอารมณ เดินไดไมทันไรก็ไดยินเสียงคนทะเลาะกัน พอหันไปดูก็เห็น
เมธกับตริน แปลกใจมากเลยครับ ถาเจอเมธนี่ไมเทาไหรแตเจอตรินดวยนี่สิ แปลกมาก ผมไมนึกมากอนเลยวาตรินจะมาที่นี่ดวย
ตั้งแตวันนั้นที่ติดตอตรินไมไดผมก็ไมไดคุยกับเขาอีกเลย แลวมาเจอทั้งสองกําลังทะเลาะกันเลยทําตัวแทบไมถูก

ผมก็ไมรูหรอกนะครับวาทั้งคูผิดใจกันเรื่องอะไร แตดูทาแลวคงเรื่องราวใหญโตมากเลยทีเดียว จากทะเลาะกันธรรมดากลับเปนวาจะ


ตอยกันซะงั้น ผมก็เลยเขาไปหาม ทั้งสองเห็นผมก็ชะงักไปครูหนึ่ง แตไอเมธมันปากหมาพูดจาใสตรินไมหยุด ตรินเลยเลือดขึ้นหนา
ปลอยหมัดมาเต็มๆ แลวคนที่โดนกลับไมใชเมธแตเปนผมแทน ก็ดันไปขวางตรินไวที่ครับ ซวยเลย อยากเปนพระเอก เลยไดเจ็บ
สมใจ

พอผมถูกหมัดหลงของตริน เขาก็ตกใจมากเลยครับ ขอโทษผมอยางที่เลาใหฟงตอนแรกๆ นั่นแหละ จากทาทางของเขาทําใหผม


แนใจวา คนนี่แหละคือตรินที่ผมรูจัก ไมใชไอคนนั้นที่ผมเจอที่สนามบิน...

“นี่มึงกลาเรียกผัวตัวเองวาหมาเหรอ” นั่นไงไอเมธมันยังกัดเขาไมปลอยอีก

แต...

หะ!!!

เฮย!!!!

มันวาตัวเองเปนอะไรกับตรินนะครับ!!!

ผะ...ผัว...เหรอ...
เยย!!!

นี่มันอะไรกานนนนน ผมมองหนาทั้งสองสลับไปมาอยางไมเชื่อหู เชื่อตาตัวเอง จริงหรือครับ ผมไมไดเขาใจไปเองนะ นี่มันสองคน...


อากกกก ตั้งแตตอนไหนนนนนนนนน

“ใครเปนผัวใคร มึงพูดใหมันดีๆ นะ” ตรินตาลุกโชติเลยครับ เห็นก็รูวาโกรธมาก ผลักอกเมธดวย

“ทําไม...ตองใหรื้อฟนไหม วามึงนะเปนเมียกู” ไอเมธก็ดันไปผลักอกตรินคืนอีก คราวนี้ตรินลุกขึ้นยืนเลยครับ ชี้หนาเมธมัน

“ไอหา กูไปเปนเมียมึงตั้งแตตอนไหน กูบอกมึงกี่ทีแลววาอยาพูดอยางนี้กับกู”

“ทําไมจะพูดไมได สันดานอยางมึงนะมันตองย้ําบอยๆ ถึงจะจําได นี่มันกี่ทีแลวที่มึงลืมกู” พูดพรอมลุกขึ้นเผชิญหนากับตรินครับ


คราวนี้ผมเลยไดแหงนหนามองมันทั้งสอง

“ก็กูไมเคยมีอะไรกับมึง จะใหกูจําอะไร แลวถาเลือกไดนะ กูจะไมใชแคจํามึงไมไดอยางที่มึงเขาใจ แตกูจะเลือกไมรูจักกับมึง!!!”

“ปากเกงนักนะมึง งั้นมานี่เลย กูจะทําใหมึงจํากูไปจนตาย!!!”

“ปลอยกูเดี่ยวนี้นะไอสัตว”

ไอเมธทั้งฉุด ทั้งลาก ทั้งดึง ตรินก็ดิ้นซะ ทั้งแตะ ทั้งตี ทั้งตอย แลวแบบนี้มันจะไปรอดถึงไหนละเนี่ย คงไดฆากันตายกอนเดินพนหาด


แนๆ นั่งดูเฉยๆ ไมไหวแลวครับ ลุกขึ้นยืนแลวรีบเขาไปหามมันทั้งสอง

“เมธ!!! ตริน!!!”

แตผมคงตัวเล็กไปมั้งครับ ซวยรอบสอง เวรกรรมดีแท ไมรูถูกลูกหลงของใครที่ทําใหผมลงไปนั่งจุกบนหาดทรายอีกครั้ง แมรงไมนา


เจือกเรื่องของชาวบานเขาเลย กําลังนั่งกุมทองตัวเองอยู เสียงสวรรคก็ดังขึ้นครับ

“วินดี!้ !!” พรอมกับพี่เขาที่วิ่งเขามาหา ยิ้มออกเลยครับ เวลาเห็นหนาแกแลวรูสึกปลอดภัยที่สุดเลย แลวก็เหมือนจะรูใจผมซะ


เหลือเกิน โดยไมตองบอกพี่เขาก็ทําไดดั่งใจผมมากเลยครับ แกพยุงผมลุกขึ้นพรอมกับนัยนตาวาวโรจนจองไปยังไอสองตัวนั่น คน
ที่มากับแกก็จับเมธกับตรินมือไขวหลังไวเลยครับ

ดีมากเลย สาดดดด ทํากูเจ็บมาสองทีแลว เจ็บใจมากมาย ไมฟงฟาฟงฝนอะไรแมรงมันแลว พอลุกไดก็เดินดุมๆ เขาหามันทั้งสอง

“กูไมยุงกับพวกมึงแลว จะไปตีกันตายที่ไหนก็ไปเลย แตนี่สําหรับทํากูเจ็บ กูจะเอาคืน” วาจบก็ตอยหนามันคนละทีเลยครับ พอได


ดั่งใจแลวก็หันมาความือพี่เขาแลวดึงใหเดินจากมาเลย เห็นไอพี่ทองทําหนางง มองเมธกับตรินสลับไปมา ไดยินแกพึมพําเบาๆ วา
นั่นปรินกับเพื่อนรักผมนี่

ไดยินแลวหงุดหงิดครับ เลยหันไปเหวี่ยงแกวาถาอยากอยูคุยกับไอปรินหรือตรินอะไรนั่นก็อยูไปเลย แตผมไมอยูมันแลว พอบอกแบบ


นั้นแกก็รีบตามมาเลยครับ

ผมเริ่มเวียนหัวแลวละครับ ก็นองนะสิ ทําหนายุงเดินวนไปวนไปจนคนที่มองอยูหางๆ อยางผมเริ่มจะนั่งดูเฉยๆ ไมไดแลว หลังจากที่


นองไปตอยเขาที่ชายหาด วินดี้ก็เดินนําหนาผมริ่วๆ กลับหองเลยครับ ไมยอมอธิบายอะไรใหผมฟงเลย ดูก็รูครับวาสายลมของผมได
เปลี่ยนเปนเฮอรริเคนเรียบรอยแลว ถาไปขวางไปขัดอารมณคงไดเจ็บเนื้อเจ็บตัวแนๆ ก็เลยตองเออออตามนองมันครับ รอใหพายุ
สงบกอน

ผมอยากจะชมคนที่ตั้งชื่อใหนองจริงๆ เลยครับ ไมวาจะชื่อจริง หรือชื่อเลน ชางเหมาะกับนิสัยของวินดี้จริงๆ ยามดีนองก็ดี


เหลือหลาย นารักซะอยากตายคาอก แตพอรายมานี่สิ ทั้งคําพูด ทั้งการกระทํา ไมไวหนาใครเลย ดูผมสิ ขนาดวานองบอกวารักผม
มากแตพอโกรธผมแลวละก็ ทําใหผมตายทั้งเปนไดเลยทีเดียว

“วินดี้ มานี่กอนครับ พี่จะเอาน้ําแข็งประคบหนาให เดี๋ยวหมดหลอไมรูดวยนะ”

ตองกลอมนองใหหยุดเดินกอนครับ ไมงั้นมึนหัวแทนนองแนๆ แลวตองบอกวาหลอนะครับ หากหลุดปากไปวาหมดความนารัก หรือ


หนาหมดสวยแลวละก็ ไมแนวาตอมอารมณนองจะระเบิดขึ้นมาอีกหรือเปลา ถาเปนเชนนั้นสวัสดิภาพของผมก็ไมนาไววางใจเชนกัน
ครับ

พอผมวาอยางนั้นนองก็หยุดเดินครับ เอียงศีรษะเล็กนอย หนานิ่วจนคิ้วจะผูกกันเปนปมแลวละมัง้ นะ

“พี่วาคนเมานี่เขาพูดจาเพอเจอหรือเปลา”

นองถามขณะเดินมานั่งบนโซฟาขางๆ ผม ผมก็เลยถือโอกาสเอาถุงเย็นประคบหนานองไว วินดี้ก็ยกมือมาจับไวเองครับ ผมเลย


ปลอยใหนองปฐมพยาบาลตัวเอง บอกวาไปใหหมอดูหนอยดีไหม กลัวมันจะฟกซ้ําแลวเจ็บในวันรุงขึ้นแตนอ งก็ปฏิเสธเสียงแข็ง
ความจริงก็รูและเขาใจครับวาผูชายเรื่องตอยตีหนาซ้ํานะเรื่องเล็ก แตถาเปนในกรณีที่รักผมเจ็บนะเรื่องใหญเลยนะครับ ก็ผมรักและ
ทะนุถนอมของผมนี่ พอเห็นนองเจ็บแลวมันทนไมคอยจะได (อะๆ อยาเพิ่งมาอวกแถวนี้นะครับ เดี๋ยวพอคุณๆ มีความรักแลวจะ
เขาใจความรูสึกของผมเปนอยางดี หรือเปลา...)

“ปรกติเขาก็ไมถือคนเมาหรอกครับ เราจะไปเอาสาระอะไรกับเขา เขาก็พูดเพอเจอไปเรื่อยแหละ วาแตวินดี้ถามทําไมครับ” ผมวกเขา


เรื่องเดิม

“ก็เมธนะสิ มันพูดแปลกๆ แลววินก็ไดกลิ่นเหลาจากมันดวยนะ คิดวามันนาจะเมา”


“อืม...เขาใจแระ ที่ทําหนายุงอยูนี่เพราะคิดเรื่องคําพูดของเพื่อนอีกแลวละสิ”

ถาเปนในยามปรกติคําพูดตอจากนี้จะเปนวาพอๆ ใหเลิกคิดเรื่องคนอื่นไดแลว แตเวลานี้ปลอยนองไปครับ ใหคิดเรื่องคนอื่นนะดีแลว


เดี๋ยววกเขาเรื่องผมแลวจะแย เราตองเปลี่ยนสีเหมือนจิ้งจกครับ ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณเพื่อเอาตัวรอด คดีที่ติดตัวผมอยูนี่
ถาจะไปไดสวยครับ เหมือนศาลจะไมรับฟองเพราะเจาทุกขลืมไปซะแลว

“ก็มันนาคิดนี่นา ปรกติไมเคยเห็นมันเมาสักที แลวไมรูไปไงมาไงถึงไดทะเลาะกับตริน วินไมรูเลยนะวาตรินมาที่นี่ดวย”

พูดเรื่องตรินแลวผมก็มีเครื่องหมายคําถามแปะบนหนาเหมือนวินดี้ครับ ใชแนหรือคนนี้ที่ชื่อตริน ทําไมเหมือนกับไอปรินยังกับแกะ

“เดี๋ยวพี่ถามหนอยเถอะวาไปทําอีทาไหนถึงไดลงไปนั่งเลนทรายอยางนั้น” ยังสงสัยอยูเลยครับ จะถามตั้งแตเห็นหนานองแลว แตไม


มีโอกาสเพราะวินดี้ไมฟงอะไรเลย นึกมาแลวก็เจ็บแทนไอสองคนนั้น วินดี้นะถึงจะตัวเล็กแตหมัดหนักไมใชเลนนะครับ ผมเคยเจอ
มาแลว ยิ่งยืนเปนเบานิ่งใหนองมันตอยซะเต็มแรงแบบนั้น คงไดหนาเขียวอีกหลายวัน

“หลังจากแยกจากพี่วินก็เดินไปเรื่อยๆ แลวไดยินคนทะเลาะกันเลยหันไปดู เห็นเมธกับตรินเถียงกันอยู วินก็ไมรูสาเหตุหรอกวาเขาผิด


ใจอะไรกัน แตจูๆ ก็ทําทาจะตอยกันซะงั้นวินเลยเขาไปหาม แลวก็ถูกหมัดหลงเลย เจ็บชิบหาย” เห็นหนานองตอนพูดแลวตองอมยิ้ม
ครับ ยิ่งตอนที่บอกวาเจ็บชิบหายนี่ดูแลวขํามาก หนางี้เชิดขึ้น ปากก็ยื่นๆ นาจูบซะ ทําไมเวลาแฟนผมไมไดดั่งใจนี่หนาตานองนารัก
อยางนี้ครับ (เปนเอามากอีกแลวครับ แกไมหายสักทีอาการหลงวินดี้เนี่ย)

“วินดี้เลยตอยคืนซะเลย” ผมพูดพลางยิ้ม นึกถึงเวลาที่นองโกรธจนเลือดขึ้นหนาแลวทั้งขําทั้งสยองครับ ทําไมผมจะไมรูวาถานอง


เดือดจนอารมณพลุงพลานอยางนี้ วินดี้ของผมโหดขนาดไหน ตอนที่เห็นนองลมนะแทบอยากฆาไอสองคนนั่น แตวินดี้ก็จัดการเอง
ซะเลยไมตองถึงมือผม เห็นแลวก็พอรูครับวาเปนเรื่องภายในของนองกับเพื่อน จะเขาไปวุนวายมากก็กลัวนองจะวาเอาที่จูๆ ไปทํา
รายเพื่อนเคา เลยใหบอดีการดแคจับตัวไว แลวก็ใหวินดี้เปนคนลงมือเอง เรื่องมันก็จบอยางที่เห็นนั่นแหละครับ

“อยากมาทําใหวินโมโหทําไม เราหวังดีแทๆ แตไมฟงกันเลย” ผมสายหนา วินดี้จะรูไหมเวลาคนเขาทะเลาะกันนะไมมีใครฟงใคร


หรอก คําพูดมันมักใชไมไดผล จําเปนจริงๆ ก็ตองใชกําลัง ตัวเองก็เล็กนิดเดียวจะไปหามเพื่อน แคเขาสะบัดนิดหนอยก็ลมแลว ยิ่งได
ยินวาไอเพื่อนรักเพื่อนเวรของนองเมาดวยนี่ มันคงฟงนองหรอก สวนไอตรินนั่นผมเพิ่งพบหนาวันนี้ครับ ไมรูวาแครและฟงที่นองพูด
ขนาดไหน แตที่รูคือมันตามจีบวินดี้อยู จะไมใหผมจําไดอยางไรครับ ก็ไอนักรักคณิตศาสตรคนนั้นไง กับตนอะไรนะที่เปนรูปหัวใจนะ
โฮยาใชเปลา...แตจะวาไปก็รูสึกสะใจนิดๆ นะครับที่นองตอยมันสองตัวซะหนาหงายเลย ทําผมหงุดหงิดตั้งแตไมไดเจอหนาทั้งสอง
มานานแระ สมควรแลวละที่โดนอยางนั้น

“เห็นไหมถาไมหามพี่ใหเดินดวยก็ไมตองเจ็บตัวอยางนี้ คราวหลังพี่ไมปลอยใหไปคนเดียวอีกแลวนะครับ นี่เปนครั้งที่สองแลวนะที่


เกิดเรื่องแบบนี้”
“พี่นั่นแหละเปนตนเหตุ ปดบังวินทําไม บอกความจริงกันตั้งแตครั้งแรกก็สิ้นเรื่อง” นั่นไง ไมทันไรก็เผลอวกเขาเรื่องผมอีกจนได เปน
อยางนี้แหละครับ เวลาผมอยูกับนองหรือนองอยูกับผมเรื่องของคนอื่นไมคอยไดคุยกันนานหรอก

“ไมมีความคิดจะปดบังอะไรเลยครับ แตไมมีโอกาสจะอธิบายอะไรเลยตางหาก เอาอยางนี้แลวกัน วินดี้มีเรื่องสงสัยอะไรเกี่ยวกับตัว


พี่ก็ถามมาไดเลย สัญญาวาคําพูดตอจากนี้จะไมปดบังหรือบิดเบือนความจริงแมแตนอย”

“จริงนะ”

“จริงสิครับ”

“งั้นดีเลย วินกําลังสงสัยอยูเชียว”

“สงสัยเรื่องอะไรครับ” ผมถามกอนที่นองจะคลายความสงสัยของผมดวยคําถามที่ทําใหผมกลืนน้ําลายลงคออยางยากลําบาก

“เรื่องตรินกับคนชื่อปรินอะไรนั่นนะ วันนี้พี่เห็นตรินแลวใชไหม เขาหนาเหมือนปรินมากเลยนะ วินวาสองคนนี้ตองเปนอะไรกันแนๆ


ตอนนี้วินก็พอรูเรื่องของตรินอยูบาง แตเรื่องของปรินวินไมรูเลย พี่ชวยบอกวินหนอยสิ เลาทุกเรื่องที่พี่รูเลยนะ เอาใหละเอียดเลย
หามปดบังดวย”

ภาคตรินกับเมธ บทที่ 1

หากมีใครสักคนถามวาเวลานี้ผมรูสึกผิดไหมที่ทําแบบนี้ ผมก็คงตอบวาตอนนี้มันก้ํากึ่ง บอกไมถูกเหมือนกันวาความรูสึกนี้คืออะไร


แลวหากมีคนถามผมวา ผมตั้งใจใหมันเกิดขึ้นไหม ผมก็จะตอบวา “ใช” ผมตั้งใจใหมันเกิดขึ้น

เวลาที่ผมผิดหวังจากความรัก ทําไมคนๆ นี้ถึงไดเดินเขามาในชีวิตผมเสมอ ตอนที่เรียนอยูชั้นม. 5 ผมรูตัววาตัวเองหลงรักเพื่อนสนิท


เขาใหแลว และความรูสึกที่ผมมีก็ไมอาจจะบอกอีกฝายได ผมกล้ํากลืนกับความรูสึกนี้กวาครึ่งป สับสนกับชีวิตวาควรไหมที่ผมจะ
บอกกุลใหรู แตถาบอกผมก็กลัวจะเสียมันไป

ซัมเมอรปนั้นผมไปเยี่ยมพี่ที่เมกา พี่ชายผมเรียกตอโทอยูที่โนน แลวผมก็ไดเจอกับตรินซึ่งเปนเด็กขางบานพี่ชายผม ตอนนั้นผมไมรู


หรอกวาเขาชื่อตรินเพราะผมเรียกมันวา “ปริ้น” หรือ “เจาชาย” ประชดที่มันชอบกระดิกขาใชงานคนอื่น ทําตัวก็หรูเปนคุณหนูจนนา
หมัน่ ไส

ชวงนั้นเปนครั้งแรกที่ผมหางจาก “กุล” ผมยอมรับเลยวาผมคิดถึงมันมาก ทุกปไมวาจะหยุดซัมเมอรหรือวินเตอรผมกับมันและลูก


แพรจะไปดวยกันตลอด แตปนี้ผมตองการจะหนีจากมัน อยากใหเวลากับตัวเองวาผมควรจะจัดการกับความรูสึกที่มีตอมันอยางไร
ผมไมไดติดตอกุลเลย จนสุดทายมันเองที่เปนฝายติดตอหาผม แลวมันก็พูดคําเดิมๆ ที่ทําใหผมช้ําใจ “ก็มึงเพื่อนกู กูก็ตองหวงมึงสิ”

หลังจากที่ผมไดยินคําๆ นี้ผมเจ็บราวหัวใจ “เพื่อน” คําๆ เดียวแตความหมายยิ่งใหญ สมควรแลวหรือที่ผมจะทําลายมิตรภาพที่เรา


ทั้งสองสรางมาดวยกัน สมควรแลวหรือที่ผมจะทําใหความรูสึกดีๆ ที่มันมอบใหสูญเปลาไป สุดทายวันนั้นผมก็ตัดสินใจ ผมบอกกับ
ตัวเองวาผมจะเก็บความรูสึกนี้ไว ใหมันเปนนิรันกาลเหมือนมิตรภาพของผมกับมัน

เมื่อคิดวากุลยังอยูกับผม เปนคนเดิมๆ ที่รักและหวังดีกับผมมันก็ชวยทําใหผมรูสึกดีขึ้น ในชวงเวลาที่ผมกําลังทําใจอยูนั้นตรินก็เขา


มาทําใหทุกอยางงายขึ้น แมวาจิตใจของผมจะมีเงาของกุลเต็มอยูในนั้น แตรางกายของตรินก็ทําใหผมหลงและลืมเรื่องของกุลไป
ชั่วขณะ

ถามวาตอนนั้นผมเปนเกยหรือเปลา ก็คงไมใช นาจะเปนไบเสียมากกวา เพราะผมก็เคยนอนกับผูหญิงมาบาง แตกับผูชายนี่ผมยังไม


เคย ตรินเปนคนแรก พอไดลองแลวมันก็ถอนตัวไมขึ้น ชวงเวลาสั้นๆ ไมถึงสองสัปดาหที่ผมกับตรินไดใชเวลารวมกันมันประทับใจผม
มาก ถามวาเวลานั้นผมรักตรินไหม ผมก็คงตอบวาไม ชอบหรือเปลาก็คิดวาไมนาจะใช จะเปนในลักษณะถูกใจมากกวา ตางคนตาง
ใหความสุขแกกัน ไมมีการผูกมัดใดๆ

เมื่อหมดซัมเมอรผมก็กลับมาไทย อาจเปนเพราะผมไมไดผูกพันทางใจกับตรินเราก็เลยไมไดติดตอกัน ซึ่งฝายโนนก็คงคิดไมตางจาก


ผมเชนกัน แตแลวมันก็มีเหตุ หลังจากที่ผมกลับมาไดสักสามเดือนผมก็ไดเจอกับตรินอีกครั้ง แตคราวนี้เขากลับมาในสถานะ
“พี่ชาย” ของเพื่อนรักผม

ชวงเวลานั้นเปนชวงที่วุนวายมาก กุลมีปญหาทางครอบครัว และสุขภาพจิตของมันก็ออนแอเหลือเกิน บางครั้งมันก็นั่งนิ่งๆ ไมคุยกับ


ใครแตน้ําตาไหลไมหยุด ไมมีแมแตเสียงสะอื้น เวลากิน เดิน ก็เหมือนหุนยนตเขาไปทุกวัน ผมเปนหวงมันมาก ตองไปนอนเปนเพื่อน
แทบทุกคืน

วันหนึ่งแมมันมาหาที่คอนโดพรอมกับครอบครัวใหม ซึ่งวันนั้นแหละที่ผมไดเจอกับตรินอีกครั้ง แตการเจอกันครั้งนั้นมันแปลกไป เขา


ทําเหมือนไมเคยรูจักผมมากอน ผมไมเขาใจจุดประสงคของเขาหรอกนะวาทําแบบนี้ทําไม แตมันก็คาใจผมเกินกวาจะปลอยใหผาน
ไปได พอมีโอกาสไดคุยกันเปนการสวนตัวผมก็เลยถามเขาใหเปนเรื่องเปนราว พอผมจับแขนเขาหนอย ตรินก็สะบัดมือออกจากผม
มองผมเหมือนแมลงสาบ แลวยังวาผมโรคจิตอีกดวย

ผมก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน ในเมื่อทําตัวไมรูจักกับผม ผมก็ทําไดเชนกัน นอกจากไมรูจักแลวผมยังตราหนาเปนศัตรูไวดวย ไมเขาใจวา


ทําไมตัวเองถึงไดแคนเคืองเขานัก เวลาเจอกันทีผมจะชอบกัดชอบจิกเขา เห็นหนาซีดๆ ของตรินแลวมีความสุขชอบกล

ตลอดเวลาสี่ปที่ผมรูจักเขาในลุกใหม ทําใหผมรูวาจริงๆ แลวตรินเปนคนที่นสิ ัยดีไมใชนอย แตทุกอยางที่เขาทําผมกลับปฏิเสธเสมอ


มา อยางเรื่องของกุล ผมรูนะวาเขารักเพื่อนผมมากกวานองชาย เขาเอาใจ ใสใจ ดูแลกุลเปนอยางดี แตผมก็คิดวานั่นคือเกมอยาง
หนึ่งของเขา เหมือนที่เขาทํากับผมไง พอเขาไดอยางที่ตองการก็ลบมันออกไปจากหนวยความจํา
เพื่อนผม ผมก็รักของผม แลวมีหรือผมจะยอมอยูเฉยๆ ใหตรินมาปนหัวกุลเลนเหมือนที่เคยทํากับผม ยิ่งคิดก็ยิ่งเกลียดตรินมากขึ้น
ทุกวัน จากที่ผมเคยเรียกมันวา “เจาชาย” ตอนนี้ก็เหลือแค “ไอสนตีน” ผูชายไรคาคนหนึ่งที่เคยผานเขามาในชีวิตของผม...แตไอสน
ตีนกลับเปนคนที่ไมใชแคผานแลวผานเลย มันยังกลับคืนมาในชีวิตผมอีกครั้ง แลวก็ในชวงเวลาเชนเดิม คือวันที่ผมซ้ําใจจากกุล

เมื่อคืนวานที่ผานมา ผมสารภาพรักกับกุลออกไป เหตุเกิดจากความอดกลั้นของผมที่มันขาดสะบั้นลง เกือบไปแลว ผมเกือบสูญเสีย


ผูชายที่แสนดี คนที่ผมรักมาก แตกุลก็ยังเปนกุลคนเดิม ยังกลับมาหาผมอยางเดิม แมจะผิดหวังจากรักในครั้งนี้ เจ็บปวดใจจนสุด
บรรยาย แตผมก็ยังไดมิตรภาพที่แสนหวานของเรากลับคืนมา

หลังจากแยกกับกุลผมก็ไปงานแตงพี่ ดื่มเหลาซะเมามาย อยากใหความเจ็บซ้ํามันหายไปสักที แลวผมก็เจอตรินในงานของพี่ผม เขา


เดินมาทัก แลวคุยกับผมเรื่องเมื่อสี่ปกอน นี่เขาตองการอะไรกันแนถึงทําอยางนี้ แตก็ดี อยากเดินเขามาหาผมเองก็ทําใหผมดูสิวาเรา
เคยสัมพันธลึกซึ้งกันแคไหน

ผมกับเขาออกไปจากงาน แลวเขาก็ใชรางกายของเขาทําใหผมลืมเรื่องของกุลไปชั่วขณะ มันเหมือนเมื่อสี่ปที่แลวไมผิดเพี้ยน แลวพอ


ผมตื่นขึ้นมาเขาก็หายไป ผมหัวเราะกับตัวเอง กาลเวลานี่มันชางตลกยิ่งนัก หมุนใหเหตุการณเมื่อวันกอนยอนกลับมาฉายซ้ําในชีวิต
ผมอีกครั้ง

ผมนั่งดื่มคนเดียวอยูครูหนึ่งกอนออกไปเดินทอดนองริมหาด แลวผมก็เจอกับตรินที่นั่น แลวมันก็ชางตลกเหลือเกินเมื่อเขากลับมา


เลนบทเดิมๆ คือจําผมไมได เราไมไดมีอะไรกัน เวลาพูดหนาตาของเขาก็จริงจังซะจนผมอยากควักเอาสมองเขาดูหนอยซิ วามันมี
รอยหยักอยูในนั้นหรือเปลา หรือวาเขาจะมีพรสวรรคเรื่องการแสดงเพราะตีบทแตกเหลือเกิน

อาจเปนเพราะน้ําเมาดวยหรือเปลาไมรู ทําใหผมพูดทุกอยางออกมา อยากใหมันจําไดวาเมื่อคืนใครกันที่รองคราญครางใตรางของ


ผม ยิ่งผมทวนความจําเขามากเทาไหรฝายโนนก็ยิ่งโกรธเปนไฟ จนกระทั่งจะเขามาทํารายรางกายผม สุดทายกุลที่มาจากไหนไมรูก็
โผลออกมาหามพวกเราทั้งสอง

ผมตกใจเล็กนอยที่เห็นกุล ไมรูวามันไดยินอะไรบางกอนหนานั้น แลวตรินก็เหมือนจะตกใจเชนกัน ทาทางของเขาที่แสดงออกทําให


ผมหมั่นไส นี่หรือเปลาคือเหตุที่ตรินทําเปนไมรูจักกับผม ในเมื่อไมอยากใหกุลรูเรื่องของเรานักก็เลยประกาศมันออกมาซะเลย

สงสัยจะไปจี้ใจดําตรินมัง้ เลยเลือดขึ้นหนา จะตอยผมแตดันไปถูกกุลแทน เห็นแลวผมโมโห เลยดาตรินไปแลวอีกฝายก็แรงกลับมา


เปนเรื่องเปนราวและก็ทํากุลเจ็บเปนรอบที่สองอีกครั้ง มารูตัวอีกทีก็ตอนที่กุลมาตอยหนาคนละหมัดนั่นแหละ

มันขํานะครับ แตก็หัวเราะออกมาไมได ผมมองตามรางของกุลที่จูงมือกับเจาของของเคาแลวเดินจากผมไป จากนั้นก็หันมามองคน


ขางๆ ที่สายตาของเขาจับจองไปที่กุลเชนเดียวกัน

“คนที่เดินกับกุลนะแฟนมัน ดูซะใหเต็มตา แลวก็จําไวดวยวากุลนะมีเจาของแลว” ผมบอกตรินกอนจะเห็นนัยนตาของเขาไหววูบ


กอนจะทอแสงเศราสลดซึ่งมันคงไมตางกับแววตาของผม

“ไมจริง” ตรินเถียงผมกลับมา

“ไมจริงก็เดินไปถามมันสิ” วาจบผมก็เดินจากไปจากเขา ไมสนใจดูวาเขาจะเดินไปถามกุลอยางที่บอกหรือเปลา ภาพของกุลที่จูงมือ


กับคนรักของมันยังติดตาผมจนลืมเหตุที่ทะเลาะกับตรินกอนหนานั้น มองหาเหลาเพื่อมาระบายความทุกข ไดเบียรมาขวดหนึ่ง แลว
พอมองไปยังชายหาดก็เห็นตรินนั่งอยูที่เดิม

ผมไมรูหรอกวาเขาคิดอะไรอยู แตสําหรับผมมันมีความชั่วรายผลุดขึ้นมา ผมเดินกลับไปเตรียมสิ่งที่ผมตองการแลวถึงกลับมายังตริ


นอีกครั้งพรอมกับเบียรสองขวด อันหนึ่งของผมแลวอีกอันก็เปนของเขา เดินหนาดานๆ ไปยื่นเบียรใหตริน ตรินมองหนาผมนิดหนอย
แตเขาก็รับมันไปดื่มโดยดี

เราทั้งสองนั่งดื่มกันเงียบๆ ไมไดคุยอะไรกัน จนกระทั่งคนขางๆ ผมเงียบไปจริงๆ ผมยิ้มมุมปากอยางถูกใจกอนจะแบกรางไรสติ


กลับมายังหองพักของผม จัดฉากทุกอยางใหเปนอยางที่ผมตองการ คราวนี้ก็รอแคเวลาที่เจาตัวจะตื่นขึ้นมา

ดูซิ ถาตรินรูสึกตัวแลวคราวนี้เขาจะจําผมไดไหม คนที่ปฏิเสธผมปาวๆ วาไมเคยมีอะไรกันแตกลับนอนแกผาบนเตียงเดียวกัน เขายัง


จะพูดไดเต็มปากอีกหรือเปลา บางคนอาจสงสัยวาผมทําอะไรเขาไหม ผมไมทําหรอก ผมไมชอบถาจะนอนกับเขาก็ตองเต็มใจทั้ง
สองฝาย แคอยากเตือนความจําใครบางคนเทานั้นเอง ออ...คราวนี้ผมถายภาพเขากับผมไวดวยนะ เก็บไวเปนหลักฐาน

บางคนอาจมองวาผมเห็นแกตัวที่ทํากับตรินเชนนี้ แตผมกลับคิดไปอีกแบบ ผมรูนะวาเขาเจ็บแคไหนที่ไดรูวาเพื่อนผมมีคนรักและก็


เปนผูชายเหมือนเขา ถาเรื่องของผมมาปวนชีวิตตริน บางทีมันอาจทําใหเขาเจ็บนอยลงก็ได เหมือนอยางที่เขาเขามาปวนชีวิตของ
ผมในเวลานี้อยางไรละ!!!

อีกไมกี่ชั่วโมงหรอกครับ ผมคิดวาเขาตองตื่นขึ้นมาแนๆ แลวชวงเวลาที่รอผมจะไมยอมใหเขารอดสายตาผมไปไหนไดอีก คนแรกที่


ตรินมองเห็นหลังจากลืมตาจะตองเปนผม แลวดูซิ คําพูดแรกที่เขาจะพูดกับผมคืออะไร!!!

“สัญญาวาคําพูดตอจากนี้จะไมปดบังหรือบิดเบือนความจริงแมแตนอย” นี่คือคําพูดพี่เขากอนหนานี้

"เดี๋ยวพี่เลาใหฟงวันหลังนะครับ” และนี่ก็คือคําพูดปจจุบันของแก

คุณคิดวามันหมายความวาอยางไรครับ ไมไดปดบัง ไมไดบิดเบือน แตไมสะดวกเลาใหฟงตอนนี้!!!


ไอพี่บา เจาเลหเปนที่หนึ่ง ถาแกชอบเลนคําแบบนี้ทําไมไมไปเปนทนายใหรูแลวรูรอดไปเลยซะเลย
“โอย!!!” เปนไง เจ็บไหมละ สมน้ําหนา จะหยิกใหเนื้อหลุดออกมาเลยคอยดู ปลิ้นปลอนดีนัก

“ที่รักครับ พี่ลอเลน...หูย...เจ็บ...” เฮอะ...ตองใหลงไมลงมือแลวถึงยอมอาปากบอก

“เลามาซะดีๆ” ผมขูแกทั้งคําพูดและสายตา ไอพี่ทองยิ้มแหยๆ ใหผมกอนจะขยับเขามาใกล ทําเปนออเซาะกอนจะเอนตัวลงนอนตัก


ผม...ไมตองมาออนเลย ไมยอมใจออนหรอกนะจะบอกให

“อยาทําตาดุใสพี่สิครับ แคนี้ก็กลัวจะแยอยูแลว เมื่อกี้ลอคนดีเลนนิดเดียวเอง” วาพลางก็จับมือผมไปจูบกอนจะประสานกับมือแก


แลววางไวที่หนาอกของพี่เขา จากนั้นแกก็หายใจลึกๆ แลวหลับตาลง

“โอเคครับ พี่พรอมแลว ที่รักซักถามมาไดเลย” ผมเห็นทาทางกับคําพูดของพี่เขาแลวตองสายหนา ฟงเอาเองแลวกันครับ ที่ทํา


ตอแหลเมื่อกี้คือขอเวลาทําใจใชไหม มันมีอะไรซับซอนนักหรือไง ถึงไดตองการเวลาเตรียมตัว

“ปรินนี่เปนใคร” แตก็ดีครับ เปดโอกาสใหผมเปนคนถาม ก็ถามใหตรงประเด็นไปเลย

“ไอปรินมันก็เปนผูชายคนหนึ่ง...เพลี๊ยะ!!!!...” ฟาดที่ตนแขนแกไปทีกอนที่แกจะพูดจบครับ พี่เขาสะดุงเล็กนอย ลูบแขนตัวเองปอยๆ


จากนั้นก็ลืมตาแลวยิ้มเจือนๆปนหวานเล็กนอยอยางตองการเอาใจผม แตกลับทําใหผมหมั่นไส เลยดีดหนาผากแกไปที

เชอะ...นึกวาเราจะไมรูทางตัวเองละสิ ชอบนักนะ ถามคํา ตอบอีกคํา แตคนละเรื่องเดียวกันเนี่ย

“ดุ จริงๆ เลย เมียใครก็ไมรู” เสียงบนอุบอิบของพี่เขาครับ มือก็ลูบหนาฝากตัวเอง เห็นแลวทั้งขําทั้งหมั่นไส

“พี่ก็นาจะรูวาวินตองการคําตอบแบบไหนเพราะฉะนั้นไมตองมาเฉไฉเลย”

“พี่เปลาเฉไฉซะหนอย”

“ถางั้นก็ตอบใหมนั ตรงประเด็นสิ”

“แหม...แคนี้ก็ตองดุกันดวย ความจริงวินดี้ก็ถามใหมันเคลียรหนอยสิครับ คําถามกวางๆ แบบนั้นพี่ก็ตอบแบบกวางๆ สิ” ผมละ


หนาย ไหลไปทางโนน เลื้อยมาทางนี้ โทษโนนโทษนี่ สรุปคือแกยังไมอยากเลาใหผมฟงครับ เลยบายเบี่ยงไปมา

“ปรินเปนใคร” แตผมไมยอมหรอกครับ แลวผมก็จะถามคําถามเดิมนี่แหละ ยืนยันวาผมไมเปลี่ยนใจหรอก ยังไงวันนี้ผมตองรูเรื่องให


ได ดูสิ วาคราวนี้แกจะตอบผมวาอยางไร

“เฮอ...” นั่น มีถอนหายใจใสผมอีก แตไมสนครับ จองแกดวยสายตาคาดคั้นอยูอยางนั้น


“มันเปนเด็กที่อาศัยอยูขางบานเพื่อนพี่ แลวพี่ไปหาเพื่อนพี่ก็เลยเจอและรูจักกับมัน” เฮอ...นี่คือเสียงถอนหายใจของผมครับ ในที่สุด
แกก็เขาเรื่องไดสักที แตแกกลับเลาซ้ําเหมือนคราวกอนที่บอกผม!!!

ผมละระอา ขอมูลเดิมๆ ที่ไดมาก็ไมไดชวยอะไรเลย เห็นทีตองหาวิธีเปดปากแกใหมแลวละครับ

“แลวพี่ไปรูจักปรินตอนไหน วินหมายถึงประมาณกี่ปมาแลว” ลองถามตอดูใหแนใจกอนครับ กอนจะตะลอมแกลงหลุมที่ผมวางไว

“นานแลวละครับ สี่หาปไดแลวมั้ง”

“เอาใหชัดๆ หนอยสิ สี่หรือหาป”

“อะไรจะตองการละเอียดขนาดนั้น” แกขยับเขามาใกลแลวครับ คอยดูสไิ มเกินสิบนาที แกจะบอกผมทุกอยางที่ผมอยากรูเชียวละ

“ก็วินอยากรู จําไดวาวินเจอตรินเมื่อสี่ปกอน คิดวานาจะประมาณตุลาได แลวชวงนั้นปรินเขาอยูที่ไหน ไทยหรือเมกา” ผมอยากจะ


เทียบเวลากันครับ ระหวางที่ผมรูจักกับตรินและชวงเวลาที่พี่เขารูจักกับปรินมันตรงกันหรือเปลา แตไอพี่ทองดูทาแกจะไมพอใจที่ผม
ถามแบบนั้นนะครับ แกลุกขึ้นนั่ง จองผมเขม็ง หนางี้ดุซะ

...แตดีแลวครับ นี่แหละที่ผมตองการ...

“นี่วินดี้จําไดแมกระทั่งเวลาที่เจอกับไอตรินอะไรนั่นหรือครับ ใสใจมันมากขนาดนั้นเลยหรือ” น้ําเสียงประชดประชันแบบนี้ไมบอกก็รู


ครับวาแกกําลังหึง

“ทําไมจะจําไมไดละ ชวงนั้นเปนเวลาที่วินลืมไมลงเชียวละ” ผมบอกความจริงกับแกครับ แตใหมันกํากวมหนอยๆ ทีแกยังทําผม


หงุดหงิดหัวใจเรื่องไอปรินนั่น ไดทีเลยแกลงแกเลนสักทีก็สนุกดีครับ

...นอกจากสนุกแลวยังไดในสิ่งที่ผมตองการดวย...

“แลวจําไดไหมวาวันที่เรารูจักกันนะวันที่เทาไหร”

“ไมอยากจะจํา” ผมตอบน้ําเสียงสะบัด พี่เขาดูตกใจที่ไดยินผมวาอยางนั้น

“วินดี.้ ..” ไอพี่ทองเรียกชื่อผมเสียงเบาแถมมองดวยสายตาตัดพอ

“มันไมประทับใจนี่” ผมกลั้นยิ้มสุดกําลังขณะตอบ ที่จริงผมจําได ถึงมันจะไมประทับใจแตก็ทําใหผมลืมวันนั้นไมลงเชียวละ


“แลวทีไอตรินนั่นยังจําได” ผมลุกขึ้นยืน เดินไปยังบานกระจก มองผานแกวบางๆ ออกไปยังทิวทัศนดานนอก

“จะลืมไดไงละ เขามาหลังจากที่พอวินตายไมถึงเดือน” ถึงมันจะผานมานานแลว แตก็ปวดหัวใจจี๊ดๆ เวลาพูดถึงมัน เหตุการณ


สําคัญที่ฝงรากลึกในใจของผม คงจะลืมมันไปงายๆ หรอกนะ

ผมยืนมองทองทะเลอันกวางใหญพรอมๆ กับรอวาคนที่ผมรักและแครผมมากเขาจะมีปฏิกิริยาอยางไร...

.
.
.

แลวพี่เขาก็ไมทําใหผมผิดหวังจริงๆ
.
.
.

“พี่วาเรากลับมาคุยเรื่องปรินอยางเดิมดีไหมครับ”

ผมซอนยิ้มบนใบหนาและดวงตาเมื่อน้ําเสียงพี่เขาดังอยูไมหางทางดานหลังผม เปนไปตามที่ผมคาดไวจริงๆ พี่เขาจะไมปลอยใหผม


จมอยูกับความทุกขไดหรอก แกจะชวนผมคุยนอกเรื่องและเรื่องที่แกเลือกจะตองเรียกความสนใจผมไดเปนอยางดี ผมเอนตัวพิงอก
พี่เขา จับมือแกมาโอบเอวผมไว ทําตัวเองใหดูออนแอมากที่สุด...ออนใหแกใจออนลงอีกนิดครับ

ผมรูวาไอพี่ทองเปนคนที่คอนขางมั่งคงกับความรูสึกตัวเองครับ เวลาแกตัดสินอะไรแลวจะเปลี่ยนใจยากมาก และไมชอบใหบังคับ


หรือฝนใจดวย ถาไมเต็มใจบอกแกก็จะไหลเลื้อยไปเรื่อย ถามคําก็ตอบอีกคําที่ทําใหเราโมโห ไมก็เปลี่ยนเรื่องคุย วกไปทางนั้น เวียน
มาทางนี้ สุดทายก็ไมไดความอะไรเลย...เหมือนอยางไมกี่นาทีกอนหนานั้นแหละครับ

แตวิธีแกก็คือตองเปลี่ยนความรูสึกแกใหมครับ ใหพี่เขาเต็มใจบอกเราเอง คราวนี้จะถามอะไรก็รูทุกอยางเลย สุดทายพี่เขาก็ตอบทุก


คําถามที่ผมอยากรู ไมอิดออดเหมือนกอนหนานั้น แมกระทั่งความสัมพันธของแกกับปริน พี่เขาก็พยายามเลือกใชคําที่ไมทําใหผม
สะเทือนใจมากนัก แตมันก็ชวยทําใหหลายๆ อยางกระจางขึ้น

คราวนี้ผมพอมองเห็นลางๆ แลวละครับวาปรินเปนใคร เหลือเพียงแครอเวลาพิสูจนสมติฐานที่ผมวางไว ถามันจําเปนจริงๆ ผมก็คง


ตองใหใครอีกคนชวย แมวาคนๆ นั้นจะเปนคนสุดทายในโลกที่ผมอยากคุยดวยก็ตาม...
แต....พอหมดเรื่องหนึ่ง ผมก็ยังสงสัยอีกเรื่องนั่นแหละครับ

คราวนี้ไมใชเรื่องของปรินนะครับ แตเปนเรื่องของตริน!!!

ที่ผมสงสัยก็คือ...

ตรินเปนเมียเมธจริงๆ หรือครับ???????

เมธกับตริน ตอนที่ 2

หนังตาที่เริ่มขยุกขยิกของคนที่นอนอยูขางๆ ทําใหผมปนสีหนาใหนิ่งพรอมทั้งพยายามซอนรอยยิ้มบนใบหนาและดวงตา ขยับตัวให


เบาที่สุดเพื่อจะพลิกตัวขึ้นคว่ํารางใครอีกคนไว ผมใชสายตาสํารวจใบหนาคนที่อยูใตรางผมเปนครั้งที่รอยไดแลวมั้งตั้งแตตรินมา
นอนหลับบนเตียงของผม

ผมกมหนาลง คอยๆ ไลจมูกกับริมฝปากไปตามดวงหนาของตริน เขาครางพึมพํา ในลําคอพรอมกับเอียงหนาหนีอยางรําคาญ หาก


หนังตายังคงปดอยู ขี้เซาจริงๆ เลย ผมเผลอยิ้มออกมาอยางไมรูตัว ยิ่งเมื่อนึกวาเขาจะทําหนาอยางไรถาตื่นขึ้นมาแลวเห็นหนาผม
หางจากเขาไมถึงคืบ...

กอนหนานี้ไดแตมองอยูหางๆ พอไดชิดใกล รางกายแนบติดกันแบบนี้ ผมเพิ่งสังเกตวาตรินมีกลิ่นหอมแปลกๆ มันยังไงละ รูสึกจะ


ออกหวานๆ คลายกลิ่นขนม ไมเหมือนเมื่อคืน หรือเขาจะเปลี่ยนโคโลนที่ใช อืม...มีสิทธิ์เปนไปได แตถึงอยางไรก็แลวแต ผมวาผม
ชอบกลิ่นนี้มากกวา...

หลังจากที่ออยอิ่งพรมจูบที่แกมทั้งสองขาง ริมฝปากผมก็คลอเคลียอยูไมหางริมฝปากของตริน ขณะที่กําลังลังแลวาจะเยาหยอก


กลีบกุหลาบคูนั้นเลนดีไหม ตรินก็ลืมตาขึ้น เมื่อเห็นใบหนาของผมสิ่งแรกที่เขาทําคือกระพริบตาปริบๆ กอนจะทําหนานิ่วคิ้วขมวด ดู
แลวก็ขําดีครับ ผมถือโอกาสที่เขายังไมมีสติเต็มตัวและยังจับตนชนปลายไมถูกอยูนั้นกมลงจุบริมฝปากของเขาเบาๆ ปลุกอีกฝายให
ตื่นเต็มตาซะเลย

“ตื่นแลวหรือครับ...เจาชายของเมธ...” ยิ้มใสตาเขาดวยครับ เปนการยืนยันวาเขาไมไดฝนไป ผมกําลังอยูบนรางของเขาจริงๆ...ไหน


ดูซิ วาคําพูดแรกที่เขาจะพูดกับผมคืออะไร…

“เฮย!!!” เปนคําอุทานซะงั้น แตไมเปนไร ดูปฏิกิริยาเขาแทนก็ได ดูตาตรินสิครับ โตยิ่งกวาไขหานซะอีก สีหนาของเขาก็ซีดราวกันคน


ขาดเลือด แตเรี่ยวแรงนี่สิไมรูเอามาจากไหน ทั้งคําพูดที่ใชเรียกชื่อผมก็ไมนาฟงเอาซะเลย

“สัตย...นี่มันอะไรกัน...มาอยูที่นี่ไดยังไง” ไมทันแลวละที่จะลุกหนีหรือคิดจะผลักผมออกเพราะทันทีที่เขาขยับตัวผมก็รวบสองมือของ
เขาไวบนศีรษะ ใชรา งหนาของตัวเองทับเขาไวไมใหกระดุกกระดิก

“ไอเมธ มึนเปนหาอะไรของมึง ปลอยกูเดี่ยวนี้นะ” รายนักนะ ทั้งหา ทั้งสัตย ตื่นมาก็ปากจัดใชยอย ปลอยไวไมไดหรอกครับ ตองสั่ง


สอนใหพูดเพราะๆ กับสามี

“อะ...อืม....อื้อ...” กมลงไปปดปากตรินครับ ดูสิคราวนี้จะยังทําเปนปากเกงอยูไหม

“คราวหลังตองพูดเพราะๆ นะครับ ถายังมีกูมีมึงอีก จะถูกทําโทษแบบนี”้ ผมยิ้มที่คิดวาหวานที่สุดใหกับตรินขณะที่อีกฝายหอบ


หายใจหลังจากผมถอนริมฝปากออกมา

“สันดาน มึงจะทําอะไรกู”

“อะ...อืมมมม....” ทําไม...รสจูบแบบนี.้ ..มัน...ยิ่งจูบ...ยิง่ รูสึกวา...

“เมธบอกแลวนี่ครับวาใหพูดเพราะๆ” ผมเก็บความสงสัยไวขณะปนน้ําเสียงทะเลนใสอีกฝาย อยากใหคุณเห็นหนาตรินเวลานี้จัง


ตลกมากเลย หึหึ เปนไงละ ยากปฏิเสธผมดีนัก มัดมือชกเลย

“อะ...ไอ...ปลอยกู” เอา ดิ้นเขาไป ยังไงก็ไมปลอยใหหลุดมือไปไดหรอก แลวบอกไมเชื่อวาอยามาพูดกูมึง รูจักกันมากวาสี่ปไมเคย


ไดยินตรินเรียกผมแบบนี้สักที มาพูดวันนี้แหละครับที่ชายหาด จากนั้นก็ติดปากเลย ไมไดหรอกตองกําหลาบ ตรินคงรูแหละมั้งวา
ผมจะทําอะไร เขารีบเอียงหนาหนี หลับตาปเลยครับ ผมตองกลั้นยิ้ม รูสึกสนุกพิลึกที่ไดแกลงเขา จะวาไปไมใหจูบปากแตฝงรอยรัก
ไวก็ได วาแลวก็ดูดคอตรินเลยครับ

“นอนนิ่งๆ แบบนี้ก็ดีนะครับ เนื้อแนบเนื้อ ตรินจะไดจําไดสักทีวาคุนเคยกับเมธแคไหน” ผมหัวเราะในลําคอขณะที่ตรินไมตอตานผม


เหมือนตอนแรก แตลมหายใจของเขานี่สิ มันฮึดฮัดๆ เหมือนพยายามสะกดกลั้นอารมณอยางเต็มที เลยยั่วโมโหเขาไปครับ เติมเชื้อ
ไฟเขาไปอีกหนอย แลวมันก็ไดผล หลังจากผมพูดจบ ตรินก็เบิกตาโพลง พยายามกมมองตัวเอง เขาคงตกใจที่เห็นผมตั้งแตตอนแรก
เลยไมรูตัววารางของเขากับผมกําลังเสียดสีกันโดยไมมีเสื้อผาปกปดรางของเราทั้งสอง

“นี่...มึง...แก...” ผมสงตาดุใสเขา ตรินแลวเปลี่ยนคําพูดใหม แตดูทาเขาคงจะโกรธผมมากจนพูดอะไรไมออกแลวละครับ หนางี้แดง


เชียว เอะ...หรือวาเขาจะอาย
“ทําไมครับ ตกใจทําไม ตรินนาจะชินไดแลวนะ นี่ไมใชครั้งแรกสําหรับเราซะหนอย” ไมวาเปลา ผมขยับสวนลางใหเสียดสีกับเขา
สายตาก็โลมเลียไปตามรางกายของตริน

“สันดาน ไมใชตอนแรกบานพอมึงสิ กูไปทําแบบนี้กับมึงตั้งแตตอนไหน หะ!!! ปลอยกูไอสัตย” จนขนาดนี้แลวยังปฏิเสธผมอีก เริ่ม


โมโหแลวนะ ขนาดนอนแกผาดวยกันแบบนี้ รางกายก็แนบชิดกันจนไมมีชองวาง ตองใหทํามากกวานี้ใชไหม ถึงจะยอมรับความ
จริง!!!

“ไมเคยใชไหม!!! ดี!!! วันนี้ก็มาสรางความทรงจําใหมพรอมๆ กันเลยเปนไง!!!”

ภาคเมธกับตริน ตอนที่ 3

“มึงเปนบาอะไรของมึงเมธ ปลอยกู...อือ...อื้ม...”

อะไรนักหนา จะปากแข็งไปถึงไหน เกิดมาไมเคยคิดจะขมขืนใคร แตตอนนี้ซาตานมันเขาสิงรางแลวครับ ฉุดไมอยูแลว อยากรูนักวา


ทั้งสองฝายสมยอมกับการตองปลุกปล้ําอยางไหนมันจะใหรสชาติมากกวากัน...ผมยอมรับครับวาผมมันเลว ชอบเอาชนะ แตในเมื่อ
ตรินเปนฝายเลือกทางนี้เอง ผมก็ใหความทรงจําใหมอยางที่เขาตองการ

ผมบดขยี้ริมฝปากตรินอยางรุนแรง ถึงแมอีกฝายจะเมมปากแนน แตผมก็กัดริมฝปากเขาจนเจาตัวเผลอรองออกมาดวยความเจ็บ


ผมฉวยโอกาสนั้นสอดลิ้นเขาไปเพื่อจะไดจูบตรินอยางดุดันและเอาแตใจ สัมผัสรอนแรงของผมดําเนินตอไปพรอมๆ กับตรินที่พยา
ยามขัดขืนอยางสุดกําลัง

“กอก กอก” เสียงประตูหองดังขึ้นในขณะที่ผมกําลังหนามืดตามัว

“ครืน ครืน” เสียงโทรศัพทบนโตะดังขึ้นหลังจากนั้นแตผมก็ยังไมสนใจ

“กอก กอก ครืน ครืน” ทั้งเสียงโทรศัพท ทั้งเสียงเคาะประตูดังขึ้นพรอมกัน

หาเอย!!! ใครวะที่มาขัดขวางเวลาสําคัญอยางนี้ ผมเงยหนาขึ้นอยางหัวเสีย

“โอย!!!” แลวตองรองอยางสุดเสียงเมื่อตรินมันถีบผม ย้ํา!!! ตรินถีบผมจริงๆ ครับ แคเผลอแปบเดียวเองนะ เกือบตกเตียงแหนะ

“กลาถีบเหรอ มานี่เลย” พอตั้งตัวไดก็กระโจนเขาตะครุบตรินไวกอนที่เขาจะลุกหนีไป กดตรินลงบนเตียงอีกครั้ง


“สัตย ปลอยกู!!!” ไมจําอีก รูอยูวาผมไมทีทางปลอยแน ยังมาพูดคําเดิมอีก ผมยิ้มมุมปาก

“สนุกดีเหมือนกันนะตริน เลนไลจับกันแบบนี้” วาจบผมก็กมลงประกบปากตรินอีกครั้งกอนที่เขาจะทันตั้งตัว

“วายยยยยยยย” ไมตองมาวายมาเวย เปนหาอะไร เกิดมาแตวแตกตอนนี้

หะ!!!!

เสียงเมื่อกี้เหมือนจะไมใชเสียงตริน แตเปนเสียงของใครอีกคนที่คลับคลายคลับคลา....

ลูกแพร!!!!!

.
.

“ลูกแพร...” ผมเรียกชื่อหญิงสาวหลังจากเงยหนาขึ้นมาดูใหแนชัด เธอยืนกมหนา ตัวสั่นหันหลังใหผมกับตริน

“โอย!!!” ตรินยังไมสิ้นลายอีก คราวนี้ไมใชถีบผมครับ แตมันตอยผมเลย ตกลงมือผมตองจับมือมันไวตลอดเลยใชไหม ขาผมก็ตอง


ทับขามันไว...ชอบละสิมึงใหรางกายเราแนบชิดกันนะ พอหางออกมาหนอยก็เรียกรองหา งั้นก็ไดเลย เดี๋ยวเมธจัดให!!!

“วายยยยย” แตเสียงอุทานของใครอีกคนที่อยูในหองก็ทําใหผมกับตรินชะงักและรับรูวานอกจากผมกับเขาแลวยังมีคนอื่นอีก ผมรีบ


ดึงผามาคลุมรางของผมกับตรินเพราะลูกแพรเปลี่ยนหันหนามาทางเราถึงแมจะเอามือปดหนาไวก็ตามที เสียงรองเมื่อกี้ของผมคงทํา
ใหเธอเผลอหันมามอง

“ลูกแพรขอโทษ ไมไดตั้งใจ ลูกแพรโทรหาเมธเพราะวาอีกแคชั่วโมงเครื่องก็จะออกแลว แตลูกแพรหาเมธไมเจอเลยมาหาที่หอง เห็น


หองไมไดล็อกลูกแพรเลยเปดเขามา กลัวเมธจะเมาคางจนลืมเวลาที่เราตองกลับ เมื่อวานเมธดื่มเยอะแลวก็หายไปจากงานพรอม
ตริน ตะ...ตอน...นี.้ ..ลูกแพรเห็นทั้งเมธแลวตรินแลว อะ...เออ...ลูกแพรเก็บของสวนของลูกแพรเสร็จแลว เดี๋ยวจะเช็คเอาทเอง แลว
ลูกแพรจะไปรอที่สนามบินแลวกัน ถาเมธยังจะกลับเที่ยวบินเดียวกันก็เจอกันที่โนนนะ...วะ...วา...แต...เมธเก็บตั๋วเครื่องบินของลูก
แพร...วะ...ไว...ไหนเหรอ” เธอพูดเร็วมากจนผมแทบจะฟงไมทัน มือก็ปดหนาทั้งสองขาง น้ําเสียงก็อูอี้ๆ พอจับใจความไดบางไมได
บาง

“อะ...เออ...อยูดานขางของกระเปาวางอยูหนาตูจะ” หลังจากผมบอกเธอก็กมหนาแดงๆ ใหต่ํากวาเดิมอีก กาวฉับๆ ไปยังกระเปาที่


วางอยูขางๆ ตูเสื้อผาเปดออกแลวดึงมันออกมา จากนั้นก็เดินริ่วๆ ออกจากหองไปเลยครับ ผมมองตามรางของเธออยางเบลอๆ บน
งงเล็กนอย ยังตกใจอยู ดวยเหตุการณเมื่อครูเกิดขึ้นเร็วมาก อารมณที่คางๆ หายไปเลย

“อะไรจะ” ผมถามอีกครั้งทันทีเมื่อเธอเปดประตูเขามาใหม แตลูกแพรก็ยังไมยอมมองหนาผม กมหนาแดงๆ มองพื้นอยูเชนเดิม

“คราวหลังจะทําอะไรก็ล็อกหองดวย คราวนี้ลูกแพรจะล็อกใหเผื่อเมธกับตรินจะทําตอที่คางอยู” วาจบก็ปดประตูใสหนาผมเลยครับ


มึนหนักเขาไปอีก พอหันไปมองคนขางๆ รายนั้นอาการหนักกวาผมอีกครับ ตางี้ไมกระพริบเลย อาปากเหวอ ใบหนาก็ซีดสลับกับ
แดง

เออ...ดีเวย...กอนหนานั้นแอบถายภาพไวเปนหลักฐาน เมื่อกี้ก็มีพยานมารูเห็น ถูกที่ถูกเวลาจริงๆ เลยเพื่อนผม อยางนี้ไมตองลงทุน


ขมขืนตรินแลวมั้ง คงหนีไมรอดแลว!!!

.
.

แตมันจะถูกที่ถูกเวลาเกินไปไหม มาขัดจังหวะตอนผมจะปล้ําเมียตัวเองเนี่ย!!!

ภาคเมธกับตริน

“หุบปากไดแลว ยังไมหายตลึงอีกหรือไง...ฮึ...” ผมบอกคนขางๆ พลางแกลงใชมือลองคางแลวชวยอีกฝายหุบปากที่อาเหวออยู ตริ


นคงจะยังตกใจไมหายที่จูๆ ลูกแพรก็เขามาในหองแลวยังทิ้งคําพูดชวนคิดเปนการสงทายไวใหเรา

“ไอเมธ!!!” แตตรินกลับปดมือผมออกกอนตะวาดเสียงดัง ไมพอยังเอาหมอนมาฟาดผมอีก ถารูวาตองเจ็บตัวอีกละก็ ผมปลอยให


เขาอึ้งอยูแบบเดิมดีกวา...พอไดสติหนอย ก็เริ่มรายอีกแระ

“ตริน!! พอไดแลว เมธเจ็บนะ” ทนถูกกระทําฝายเดียวไมไดครับเลยตองรีบเอามือปองกันตัวเอง กอนจะกระโจนเขาหาอีกฝาย รวบ


ขอมือตรินไว แลวใชรางตัวเองทับรางของเขาอยางเดิม...ผมบอกแลวไงวาตรินนะ หางผมไมไดหรอก มือผมตองจับมือเขาไว ขาก็
ตองทับขาของเขา รางกายก็ตองแนบชิดกัน

...แตวาก็วาเถอะ...พอไดเสียดสีกับรางของตรินอีกครั้ง อารมณที่มันคางๆ อยูก็เหมือนจะถูกกระตุนขึ้นมาเสียแลวสิ…

“สมใจแลวใชไหม หะ!!! คราวนี้จะทํายังไงละ จะบอกนองแพรยังไง” เขาพูดใสหนาผมดวยใบหนาแดงก่ํา จากที่อายปนอึ้งคง


เปลี่ยนเปนโกรธแลวละ ยิ่งจองตาเขาดวยแลวก็อดนึกไมไดวา ถาไฟในตาเขาเผาผมไดคงแหลกเปนจุนไปเรียบรอยแลว

“ไมเห็นตองบอกอะไรเลย ในเมื่อมันคือความจริง” แตผมกลับชอบนะที่เขาทําสีหนาอยางนี้ มันนาดูไปอีกแบบ

ปรกติตรินไมใชคนอารมณรายนะครับ ตลอดระยะเวลาสี่ปที่ผมรูจักกับเขา ไมมีสักครั้งเลยที่เขาจะแสดงกิริยากาวราว เวลาผมใช


คําพูดจิกกัด เขาก็มักจะทําหนาซีดหรือบางครั้งก็มองผมเฉยๆ ไมตอปากตอคําใดๆ พอเขาแสดงความรูสึกออกมาแบบนี้ มันก็ทําให
ผมเห็นอีกมุมหนึ่งซึ่งเปนตัวตนของเขา

“มึงนี้มัน...เฮอ...” เขาคงไมรูจะตอปากกับผมยังไงมั้งครับถึงไดถอนหายใจซะเสียงดัง แตดูสิ จากใบหนาที่โกรธๆอยูก็เปลี่ยนเปน


เหนื่อยหนายเมื่อไดยินคําพูดของผม

“เฮอ...” ผมถอนหายใจบาง จองลึกเขาไปในดวงตาของตรินกอนจะถามเขาออกไปตรงๆ วา


“เมธไมเขาใจ ตรินเปนอะไร ปฏิเสธเมธทําไม”

“ตองเปนกูสิที่ตองถามวามึงเปนบาอะไร สมองกลับหรือไงมาตูวาคนอื่นเปนเมียตัวเอง แลวนี้อะไร รอยวันพันปไมเคยแทนตัวดวยชื่อ


แลววันนี้อารมณไหนมาแทนตัววาเมธอยางนั้นเมธอยางนี้”

“อารมณมึนงงเพราะถูกใครบางคนปนหัว แลวไมตองมาวาแตคนอื่นเลย ทีตัวเองละ รอยวันพันปไมเคยแทนตัวเองวากู แลวเคยเรียก


เมธวามึงสักครั้ง ทุกทีก็เรียกนองเมธ แลววันนี้เปนอะไรมาพูดมึงกู”

“แลวที่ทําอยูนี่ มันนาใหเรียกอยางนั้นไหมละ” มันก็จริงของตรินครับ จะไปปลุกปล้ําเขา คงจะมีใครเรียกผมวานองเมธที่รักหรอกนะ


...แตเมื่อมานึกดีๆแลว ตรินก็เปนเมียผมนี่ครับ ทําไมจะปล้ําเมียตัวเองไมไดละ เริ่มบาอีกแลวนะผมนะ...อยากใหคนปากหนัก
ยอมรับความจริงซะที

“เหนื่อยละ เมธไมเลนเกมกับตรินแลว ที่ผานมาไมอยากจําก็ไมตองจํา แตครั้งนี้เห็นจะยอมไมได” ผมย้ําจุดประสงคเดิม

“นี่มึงยังไมเลิกอีกใชไหม ไมอยากตายดีสินะ” ตรินก็ยังยืนยันคําเดิมเชนกันครับ แถมยังดิ้นรนขัดขืนผมอีกดวย...เฮอะ เกมนี้ผมคง


ยอมใหตรินชนะผมไดหรอกนะ ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แลว เขายังยืนยันวาไมเคยมีอะไรกับผมซึ่งมันก็ไมตางกับผมเชนกัน ยังคงหนัก
แนนจะใหเขายอมรับความจริง

“ถาจะตายก็ใหมันตาคาอกตรินวันนี้เลยเปนไง” วาจบก็ซุกไซรซอกคอเขาเลยครับ อารมณโมโหมันพาไป หงุดหงิดมากเลยครับที่ตริ


นปากหนักแบบนี้

“แตกูจะใหมึงตาคาตีนกูแทนแลวกัน” แตตรินก็แรงมาครับ ดิ้นรนขัดขืน เราปลุกปล้ํากันอยูอยางนั้นโดยไมมีใครยอมใครอยูครูใหญ


กอนที่เสียงนรกจะดังขึ้นอีกครั้ง

“ครืน ครืน” มันมาอีกแลวครับ เสียงโทรศัพทที่ตั้งระบบสั่นซึ่งผมวางไวบนโตะโคมไฟขางเตียง สัญญาณมารผจญมันสงมาแลว แต


ชางมัน ปลอยใหดังอยูอยางนั้นแหละ
.
.

...แตเมื่อมีเสียง...ไมนานตัวก็ปรากฏมาใหรับรู. ..

“กอก กอก” เออ..ดีจริงๆเลย จะปล้ํากันทีไร ตองมีใครมาคอยขัดจังหวะเนี่ย..แตถากูจะไมเปดประตูนี่มันจะหนักหัวใครไหมวะ!!! ผม


ยังทําเฉย ระดมปล้ําจูบตรินอยางเรารอนรุนแรง
“ปง!!! ปง!!!” สาด....ใชมือเคาะแลวไมเปด คราวนี้เปลี่ยนมาทุบแทนเลยใชไหม!!!
ผมเงยหนาขึ้นจากริมฝปากของตรินอยางหัวเสีย ใครวะกลามาขัดจังหวะผม ตรินก็นะ พอเปนอิสระหนอยก็เริ่มแผลงฤทธิ์ แตผมก็
รูทันครับ คราวนี้ไมยอมถูกชกฟรีๆ อีกแลว ผมรีบจับมือตรินไวกอนที่หมัดของเขาจะปลอยใสใบหนาผม ตรินเมมเรียวปากอยางขัดใจ
หอบหายใจรุนแรง

“เดี๋ยวมาตอใหนะครับ” ผมยิ้มมุมปากกอนจะปลอยแขนเขา จากนั้นก็ดึงผาหมมาคลุมรางของตรินไปถึงหัว เห็นเขาดิ้น รีบดึงผาออก


จากหนา จากนั้นก็แยกเขี้ยวใสผม ผมหัวเราะในลําคอ ขําอาการของเขาครับ

“โครม!!! โครม!!!” สาด...จากเคาะไมเปด มึงทุบ แลวเปลี่ยนมาเปนถีบประตูเลยใชไหม!!! แลวถาไมเปดใหนี่ มึงจะพังประตูเขามา


เลยหรือเปลา เดี๋ยวเถอะ ถาไมมีอะไรสําคัญละนาดู

นึกแลวก็สงสัย ใครกันที่มันเลือกมาถูกทีถ่ ูกเวลาอีกแลว คิดๆดูก็ไมนาจะใชลูกแพรเพราะรายนั้นนาจะไมกลากลับมาอีก ผมรีบควา


ผาเช็ดตัวมานุง มองกลับไปที่เตียงอีกครั้งเห็นตรินลุกขึ้นนั่ง มีผาหมคลุมสวนลางเรียบรอย พอเห็นอยางนั้นก็เบาใจ รีบสาวเทาเร็วๆ
ไปยังประตูกอนที่ใครบางคนจะพังเขามา

“พี่จะทุบทําไม เคาะแลวไมเปดก็หมายถึงเขาไมอยู...อาวเมธ...เดี๋ยวกอน!!!” เจอแลวครับไอตัววุนวายที่มาทําใหผมอารมณเสีย


“กุล” แลวมันไมไดมาคนเดียวดวยครับ พาศัตรูหัวใจผมมาดวย ไมอยากเห็นหนาครับ พอรูวาใครก็รีบปดประตูทันที ผมไมได
หมายถึงกุลนะครับที่ไมอยากเจอหนาแตเปนอีกคน ทวาไอวายรายเจือกดันประตูไว กุลก็ไวเหลือหลาย รีบลอดแขนผมแลวแทรกเขา
มาใหหองทันที...พวกมึงสองคนนี่ชางทํางานเปนทีมดีจริงๆเลยยย

ทําไงไดละครับ เมื่อมันทั้งสองเขามาไดแลว ผมเลยตองกอดอกมองมันอยางหัวเสีย

“มีอะไร!!!” ผมถามเสียงหวน กุลนะไมเทาไหรหรอก แตไอคนตัวโตหนากวนบาทานี้สิ เห็นแลวเสนเอ็นกระตุกเลยพาลใสกุลมันไป

“เออ...คือ...มึงโอเคดีไหมที่ตอยนะ ขอโทษนะ” เมื่อเจอคําถามแบบนี้หัวใจก็ออนยวบเลยครับ กุลมันก็ยังเปนกุลคนเดิมของผม ถึง


มันโกรธแคไหน ทํารายใครไวอยางไร แตพออารมณเย็นลงกุลก็มักจะหวงใยและรูสึกผิดกับการกระทําของตัวเองเสมอ ผมยกมือขึ้น
ลูบมุมปากตัวเองอยางลืมตัว...จะวาไปผมก็ลืมเรื่องเจ็บไปเลยนะเนี่ย

“กูไมเปนไรหรอก”

“เฮอ...คอยโลงอกหนอย โทรหาก็ไมรับสาย เคาะตั้งนานกวาจะเปด ตกใจหมดเลยนึกวาเปนอะไรมาก...แลวตริน...เฮย...นะ...นี่...มึง


...สองคน...เออ...จริงๆหรือเนี่ย...” กุลบอกถึงจุดประสงคที่มาในประโยคแรกกอนจะถามในประโยคถัดมา แตไมทันจบประโยคมันก็
อุทานอยางตกใจเมื่อหันไปเห็นตรินบนเตียง ตากลมโตของมันก็มองหนาผมกับตรินสลับไปมา มือก็ชี้ไปที่ตรินแลวยอนมาที่ผม…
คลายคนถูกผีหลอกเลยครับ อาการของมันนะ
สวนตรินหรือครับ รายนั้นซ็อกไปตั้งแตกุลมันเขามาในหองแลวมั้ง หนางี้ซีดเสียยิ่งกวาซีดอีก นั่งตัวตรงไมขยับเลย

“นองกุล...” เสียงพึมพําแผวเบาของตรินทําใหกุลหันตาโตๆไปมองกอนจะยิ้มแหยๆ

“คือ...เออ...แบบวา...ตอนนี้...ไดคําตอบแลว..ปะ..ไป...กอนนะเมธ ตริน...หายสงสัยแลว...” อะไรของมันวะ หายสงสัยเรื่องอะไร


แลวพอวาจบก็ดึงแขนแฟนมันออกไปจากหองผมเลยครับ

“เดี๋ยวกอนนองกุล มันไมใชอยางที่นองกุลคิดนะครับ” เสียงของตรินที่รองตามทําใหกุลหยุดชะงัก ใบหนาเหมือนคนละเมอของมัน


มองผมกับตรินสลับไปมา อีกแลว ทาทางแบบนี้ มันจะอึ้งอะไรนักหนา ทํายังกับคนในหองนี้มาจากตางดาวอยางนั้นแหละ

“จะ...จริงเหรอ” แลวตามันก็โตขึ้นอีกเทาตัวเมื่อทวนถาม เห็นอยางนั้นแลวทําใหผมชักสงสัยแลวสิ ตอนนี้กุลคิดอะไรอยู ทําหนาซะ


เหมือนกับฟาจะถลมลงมาซะงั้น

“จริงสิครับ พี่กับเมธ ไมใชอยางที่นองกุลเห็นนะครับ”

“ตรินไมไดเปน...เออ...มะ...”

“ไมใชครับ!!!” ตรินเหมือนกับรูวากุลจะวาอะไร รอนรนปฏิเสธกลับทันที ผมวานะถาเขามีเสื้อผาปดตัวคงมายืนเขยาแขนกุลแลวละ


แตนี่ขยับตัวลุกไมไดเลยไดแตหันรีหันขวาง สวนผมหรือครับ เริ่มคันปากยิกๆ อยากจะโตกลับคืนเหมือนกันครับ หรือวาผมจะทําให
กุลมันเห็นเลยดีไหมวาระหวางผมกับตรินนะลึกซึ้งมากแคไหน

แตยังไมทันไดทําอะไรเลยครับ กุลก็ทําใหผมอึ้งและพูดอะไรไมออกไปซะกอน คุณๆ คิดดูนะครับ หากเปนคุณถูกถามแบบนี้จะ


อยากเอาหัวไปโขกกําแพงเหมือนผมไหม ไมรูวามันเอาสมองสวนไหนคิด ถึงไดถามแบบนี!้ !!

“งั้น…เมธเปนเมียตรินเหรอ”

ตอนพิเศษ

ตอนพิเศษ ครึ่งแรก

อัลบั้มภาพถายเลมเกาถูกเปดออกอยางชา ๆ ภาพถายเมื่อวัยเยาวของเด็กชายคนหนึ่งปรากฏใหเห็นในหนาแรกที่เปดออกดู ใบหนา


ของเด็กนอยในภาพดูจิ้มลิ้ม นารักนาชัง พอเปดไปยังหนาตอไป ๆ ก็เห็นวิวัฒนาการของเขาที่คอย ๆ เจริญเติบโตขึ้นตามวัย เห็นการ
พัฒนาทางดานรางกายที่เปลี่ยนแปลงไป จากที่นั่งอาวปากเหวอ ตากลมแปวมองกลอง ก็กลายเปนคลาน และเริ่มตนตั้งไข ยืนขึ้น
ดวยตนเอง

มีภาพหนึ่งในอัลบั้มที่สะกดสายตาผูที่กําลังเปดดู ใหทอดมองดวยนัยนตาออนโยน พรอมดวยรอยยิ้มเอ็นดูแตงแตมเรียวปาก เพราะ


อดที่จะชื่นชมกับพยายาม และความกลาของเด็กนอยไมได ในภาพนั้นเปนเด็กตัวอวนทวนสมบรูณ ยืนขึ้น กาวขา มือสองขางยื่นไป
ขางหนา ราวกับตองการไขวขวาหาหลักที่มั่นคง อยางออมกอดที่อบอุน ซึ่งคิดวานาจะอาออก รออยูไมไกลเกินที่จะเอื้อมมือถึง เดา
จากทาทางการยืน และจังหวะที่วางเทาแลวนั้น ยังดูไมมั่นคงมากนัก นี่คงจะเปนกาวแรก ที่เด็กคนนี้เริ่มตนเดินไดดวยตนเอง วาง
เทาเล็กๆ ไปขางหนา กาวตอกาวดวยความพยายามจนประสบผลสําเร็จ

ผูเปดดูอัลบั้มภาพถายมองที่ภาพนี้อยูชั่วขณะหนึ่ง พรอมยิ้มละไมบนเรียวปากอยูตลอดเวลา กอนจะเปดไปยังหนาตอๆ ไป รูสึกราว


กับรวมผจญภัยไปกับเจาหนูตัวนอย ที่เริ่มมีพัฒนาทางดานรางกายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามวันเวลา ซึ่งสิ่งเหลานี้ลวนสามารถที่จะรับรู
และสัมผัสไดจากภาพถาย ที่ถูกถายทอดไวเปนหลักฐานนั่นเอง

และแลวอัลบั้มภาพเลมเกาก็กางคางอยูกับที่นานกวาปรกติ ในหนาที่มีภาพของหนูนอยคนเดิม ที่ตอนนี้โตขึ้น จนมองดูเปนเด็กชาย


คาดคะเนวานาจะอายุประมาณหก-เจ็ดขวบ ผมตัดสั้นเกรียน ยืนกอดคอกับเด็กหญิงหนาตานารักนาเอ็นดู เธอถักเปยทั้งสองขาง มี
ความสูงของลําตัวเทาเทียมกับเขา ทั้งคูตางฉีกยิ้มกวางใหกับกลอง ดวยดวงตาสดใสแพรงพราว เห็นความราเริง แจมใส จนผูที่จด
จองภาพถายสัมผัสไดถึงกลิ่นไอของความสุข ความสนุกสนาน รื่นเริง และเสียงหัวเราะ

รอยยิ้มที่ประดับเรียวปากของผูที่ดูอัลบั้ม เปดกวางมากขึ้นอีก นัยนตาแวววาวฉายประกายขบขัน เมื่อสังเกตเห็นเด็กนอยทั้งสอง ที่


ยิ้มแฉงใหกับกลอง ตางก็ฟนหลอดวยกันทั้งคู ทวายังไมยี่หระ ยังยิ้มสูกลอง โชวเหงือกกันเต็มที่

“ดูอะไรอยูเหรอครับวินดี้” นาคินทรทิ้งตัวลงนั่งขาง ๆ แฟนหนุมรางบาง ใบหนาคมเขมชะโงกเขาไปใกล นัยนตาสีน้ําตาลมองตาม


สายตาของคนรัก เมื่อเห็นภาพถายใบเกาที่เขาจดจองอยู ริมฝปากหนาก็แยมยิ้ม นัยนตาแพรวพราว

“พอยังเก็บไวอยูหรือเนี่ย วินดี้ดูสิครับ ขนาดตอนนั้นพี่ฟนหลอ ยังดูหลออยูเลยนะ” ตามนิสัยขี้เลน เมื่อเห็นภาพในวันวานอันนาอาย


ของตัวเอง ปากก็ทําหนาที่ไหลเลื้อย เปลี่ยนใหเปนเรื่องขบขันไดอยางรวดเร็ว แตคําพูดนั้นกลับทําใหผูฟงสายหนาอยางเอือมระอา
แกมเอ็นดู จะไมใหเอ็นดูไดอยางไรละ ขนาดวาตัวโตอยางกับตึกแตนิสัยยังเหมือนเด็กอนุบาลอยูเลย หลงตัวเองเปนหนึ่ง จะทําอะไร
ตองใหชม ถึงไมมีใครชมก็ตองชมตัวเอง

“หลอมากเลยครับ ฟนหนารวงไปหมดไมเหลืออะไรเนี่ย”

“ฮาฮา พี่รวงคนเดียวที่ไหนละ โรสก็เหมือนกัน”

“คนนี้ชื่อโรสหรือครับ” วายุลกุลชี้นิ้วไปยังภาพของเด็กหญิงหนาตาจิ้มลิ้มซึ่งยืนกอดคอกับคนรักของตัวเองในภาพถาย นัยนตาหวาน


ของเขาแวววาวอยางนึกขํา เออ...เนอะ คนที่อยูหลังกลองเวลาถายภาพนี้คงจะกลั้นยิ้มไวสุดกําลังเพราะเด็กทั้งสองชางภูมิใจ
นําเสนอเหงือกที่ไรฟนเสียยิ่งกระไร
“เพื่อนพี่สมัยอนุบาลครับ”

“นารักจังเลยนะครับ แลวยังติดตอกันอยูไหม”

“ไมไดติดตอโรสตั้งแตสมัยเรียนม. ตนแลว อืม...เหมือนเคาจะไปเรียนโรงเรียนหญิงลวนมั้ง สวนพี่ก็เขาโรงเรียนชายลวนก็เลยหาง


กัน”

“งั้นก็เรียนดวยกันถึงสมัยประถมสินะ...นี่งานอะไรครับ” รางบางพยักหนาอยางเขาใจพรอมทั้งตั้งสมุติฐานในประโยคแรก กอนจะ


เปดอัลบั้มเลมเกาไปยังหนาตอไป พอเห็นฉากหลังของภาพพรอมกับการแตงตัวของนาคินทรขณะที่ถูกกลองจับภาพอยูนั้นก็ทําให
เขาอดที่อยากจะรูไมไดในประโยคถัดมา

เนื่องจากการแตงกายของคนรักคลายกับการแตงกายของคนชาวอาหรับ ใสเสื้อคลุมสีขาว มีสายคาดเอวและผาคลุมศีรษะ และ


เด็กหญิงอีกคนก็แตงกายไมจากกันมากนัก ฉากหลังเปนโรงนา มีฟางหญาปูที่พื้น วัวและลูกแกะอยูในคอก

“ออ งานฉลองคริสมาสที่โรงเรียนครับ เคามีการแสดง พี่ไดเลนเปนโยเซฟ สวนโรสเลนเปนมาเรีย” พออธิบายใหฟงแบบนี้ก็เขาใจ


ในทันที เนื่องจากตัวเขาก็พอรูวาวันคริสมาสเปนวันคลายวันประสูติขององคพระเยซูคริสซึ่งเกิดจากมาเรีย หญิงพรมจารียที่ตั้งครรภ
โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์

“เขาตาครูดวยหรือ วินนึกวาพี่จะแสดงเปนลูกแกะในรางหญาซะอีก” ชายหนุมพูดพลางยิ้มเยาอีกฝายอยางลอเลียน นาคินทรยิ้ม


บางๆ กอนจะยกมือขึ้นขยี้ศีรษะคนรักอยางเอ็นดู

“หลอขนาดนี้ก็ตองเปนตัวเอกสิครับ จะใหพี่เปนแกะไดอยางไร”

“แลวเลนตอนไหนครับ ใชตอนที่ฟนหลอดวยกันทั้งคูหรือเปลา” ดวยภาพถายที่บันทึกเหตุการณไวไมไดเก็บภาพขณะที่ตัวแสดงแยม


ยิ้มทําใหเขาอดจะถามแกมหยอกมิได

“ฮาฮา ใชที่ไหนกันครับ นี่กอนที่ฟนจะรวงหมดปาก”

“นึกวาครูจับมาเลนตอนที่นั้นซะอีก ถาแบบนั้นคงทําคนดูหัวเราะทองแข็งแนๆ เวลาโยเซฟกับมาเรียพูดนะ”

“หึหึ แตยังไงเวลานึกถึงสมัยนั้นแลวก็ขําอยูดี”

“ทําไมครับ พี่ไปทําวีรกรรมอะไรไวอยางนั้นหรือ” วายุลกุลถามขณะที่มือยังเปดอัลบั้มไปเรื่อยๆ นัยนตาสวยจับจองภาพถาย


จนกระทั่งถึงภาพสุดทายเขาก็ปดอัลบั้มลง เอียงหนามองคนรักดวยแววตาสงสัยเมื่อเห็นรางหนาไมตอบคําถามของเขา
“ทําไมเงียบไป มีอะไรที่ไมอยากใหวินรูละสิ” นาคินทรหัวเราะในลําคอเมื่อคนใกลตัวชางสังเกตยิ่งนัก วินดี้ของเขานาจะไปเปน
ตํารวจดีไหม จับผิดเกงเหลือเกิน

“ใชที่ไหนกันครับ เรื่องของพี่ก็เหมือนเรื่องของวินดี้ ไมมีอะไรตองปดบังอยูแลว” เขาวาพลางดึงรางบางใหเกยนั่งบนตัก จากนั้นก็โอบ


เอวคนรักไว หอมแกมคนขี้สงสัยอยางหมั่นเขี้ยว

“ปลอยวินเถอะครับเดี๋ยวพอเห็น” ชายหนุมดิ้นเล็กนอยพรอมมองซายขวาดวยกลัววาผูที่ถูกกลาวถึงจะเดินผานมา เนื่องจากวันนี้เขา


กับแฟนหนุมมาที่บานพอปู ถึงแมพอของนาคินทรจะดีกับเขา รักและเอ็นดูอยางลูกคนหนึ่ง กระนั้นวายุลกุลก็ยังรูสึกกระดากอาย
หากเผลอทําตัวตัวรุมรามตอหนาผูใหญ

“พอไมมาหรอกครับ แกอยูในสวนโนน เพลินกับบอนไซอีกนาน วินดี้...คืนนี้เรานอนนี่นะครับ” วาพลางกอดกระชับวงแขนใหแนนขึ้น


รางที่อยูในออมกอดก็ชางนารักนัก เอนอิงอกแกรง แนบชิดอยางเอาใจ

“ตามใจพี่สิครับ”

“นารักจังเลย แฟนใครนะ”

“แฟนพี่งูเขียว ชอบไหลเลื้อย เปลี่ยนเรื่องไปเรื่อย”

“หึหึ ถูกจับไดอีกแลวสิเนี่ย”

“รูวาไปไมรอดก็เลามาซะดีๆ พี่ไปทําอะไรไวทําไมถึงไดนึกขํา” วายุลกุลวกเขาเรื่องสมัยเด็กของนาคินทรอีกครั้ง เขาขยับนั่งหันหนา


เขาหารางหนา แขนเรียวโอบรอบลําคอคนรักไว นัยนตาฉายประกายสงสัยอยางเดนชัด นาคินทรบีบจมูกคนชางซักอยางหมั่นเขี้ยว

“เรื่องของเด็กๆ นะครับ อืม...จะเลายังไงดีละ...”

“ก็เลาเรื่องที่ทําใหพี่นึกขําเมื่อครูนั่นแหละครับ”

“แนใจนะวาอยากฟง”

“ถามอยางนี้ยิ่งทําใหวินอยากรู ไมเลานี่โกรธจริงๆ นะ”

“หึหึ พี่ควรจะดีใจใชไหมที่วินดี้อยากรูเรื่องของพี่”
“แสดงวาเรื่องที่เลาใหฟงตอจากนี้มันรายแรงมากใชไหม”

“ไมรายอะไรมากหรอกครับ แคตอนเปนเด็กพี่ชอบทําตัวกาง เปนหัวหนาแกง...อะๆ...อยาทําหนาอยางนั้นสิครับ พี่ไมไดเกเรไปรังแก


ใครนะ” นาคินทรรีบแกตัวเมื่อเห็นวายุลกุลมุนคิ้ว มองเขาดวยสายตาเคลือบแคลง

“วินยังไมไดวาอะไรเลย ทําเปนรอนตัว”

“แหม...พี่ก็อยากเปนฮีโรในสายตาวินดี้นี่ครับ เดี่ยวจะเขาใจผิดวาพี่เปนตัวรายแลวจะเสียภาพพจนที่สรางมา” วายุลกุลสายหนา


เล็กนอยใสแววตากระลอนของคนตัวโต ใบหนาทะเลน ยิ้มเจาเลหอยางนั้นคงมีใครคิดหรอกนะวาเปนเด็กเรียบรอย ดูก็รูวาตองเปน
หัวโจก ปวนใหคนโนนคนนี้เวียนหัวเลน

“พี่เปนฮีโรของวินเสมอแระ เลาตอสิครับ แลวไงตอ” คําพูดเอาใจของคนในวงแขนทําใหหัวใจของนาคินทรพองโต จะผิดไหมนะถา


เขาอุมคนรักกลับขึ้นหองแลวเลาใหฟงบนเตียงแทน วินดี้ของเขาคงไดนอนฟงอยางสบายๆ ตอบแทนที่นองชางเขาใจพูดใหหัวใจอิ่ม
เอม นาคินทรนึกคิดอยางคลึ้มๆ

“แลวไงตอหรือครับ...ก็เวลาพี่ไปไหนก็มักมีพักพวกเดินไปดวย บางคนก็เรียกพี่วาลูกพี่บาง หัวหนาบาง ตอนนั้นพอพี่เปนส.ส.ดวยก็


เลยไดที แลวคราวนี้พี่ก็เกิดไปชอบสาวขึ้นมา...”

“หะ...เดี่ยวกอนนะ ที่เลานี่ตอนพี่อายุเทาไหรครับ” คําพูดของนาคินทรทําใหวายุกุลจินตการณขณะที่แฟนหนุมอยูในวัยรุน ทวาเขา


จําไดวากอนหนานั้นเขาคุยกับนาคินทรสมัยที่ชายหนุมยังเปนเด็กไมใชหรือ

“ตอนเรียนชั้นอนุบาลครับ” คําตอบของคนที่อยูตรงหนาแทบทําใหคนฟงสําลักลมหายใจ

“ชอบสาวตั้งแตอนุบาลนี่นะ” นาคินทรพยักหนาใหกับคําถามของคนขี้สงสัย

“รักแรกไงครับ วินดี้ไมมีเหรอ” วายุลกุลสายหนาจนผมกระจาย

“อนุบาลวินยังเลนดินเลนทรายไมรูเรื่องอะไรเลย”

“อืม...ชวงระหวางอนุบาลจะขึ้นประถมนี่แหละครับถาจําไมผิดเพราะวาพี่เรียนชัน้ อนุบาลกับประถมโรงเรียนเดียวกัน”

“แกแดดแกลมจริงๆ เลย” น้ําเสียงพึมพําของคนในวงแขนทําใหนาคินทรหัวเราะในลําคอ

“แหม คนเราก็ตองมีบางละ อีกอยางลูกชายเจาพอซะอยางจะกลัวอะไร” หนุมตาสวยสายหนาใหกับคําพูดของนาคินทร


“ใครกันที่เปนผูโชครายคนนั้น”

“หึหึ วินดี้ก็เห็นหนาแลวนี่ครับ” วายุลกุลนิ่วหนา พยายามนึกตามคําพูดของแฟนหนุม

“ใครครับ...อยาบอกนะวา...”

“ใชแลวครับ โรสนั่นแหละ”

“โอ...แลวพี่ไปจีบเคายังไง”

“หึหึ วินดี้ฟงแลวหามวาพี่นะครับ”

“สัญญาเลยครับ”

“แบบลูกชายมาเฟยนั่นแหละครับ ทําตัวเดนๆ หนอย โชวความรูสึกวาชอบคนนี้เต็มที่เพื่อกันไมใหคนโนนคนนี้เขาใกล วางๆ ก็หา


โนนหานี่ไปใหบาง หรืออาสาทํานั่นทํานี่ให บางครั้งก็สงลูกนองไปบังคับเขามาเลนดวย เดินไปสงหนาโรงเรียนก็มี แตคนอื่นๆ ก็เดิน
ตามเปนขบวนจนทําใหผูหญิงเขิน นึกขึ้นมาแลวก็ขํา”

“หึหึ นั่นสิ พี่นี่เจาชูตั้งแตเด็กเลยจริงๆ”

“แตพี่เลิกเจาชูตั้งแตเจอรักแทแลวนะครับ วินดี้รูไหมวาพี่เจอใคร”

คําพูดหักศอกของคนตัวโตทําใหใบหนาเนียนของผูฟงขึ้นสีระเรื่อ เมื่อสักครูอีกฝายยังพูดถึงสมัยเด็กอยูเลย แลวทําไมจูๆ ถึงวกเขา


เรื่องปจจุบันได แลวมีหรือเขาจะไมรูวา “รักแท” ที่อีกฝายกลาวถึงคือใคร ในเมื่อแววตาคมกริบหากแตฉากประกายรักคูนั้นจับจองมา
ที่เขาไมวางตา

“ไหนพี่บอกวินมาสิวาพี่เจอใคร ถาไมใชวินละก็ โดนดีแน” ดวยนิสัยเขินแลวโหดเลยทําใหวายุลกุลขมขูอีกฝาย ทวากริยานั้นกลับทํา


ใหนาคินทรหัวเราะชอบใจ

“อยางนี้สิครับถึงจะสมเปนรักแทของพี่ พี่รักพี่หลงวินดี้ขนาดนี้ ถาไมรูตัวก็ไมรูจะทําอยางไรแลว”

ตอนพิเศษ ครึ่งหลัง
ในค่ําคืนอันเรารอน รางกายของนาคินทรรวมเปนหนึ่งเดียวกับวายุลกุลอยางเนินนาน บทเพลงรักของทั้งสองบรรเลงหลายชั่วโมง
ติดตอกันจนทําใหรางบางหลับทันทีเมื่อลมตัวลงนอนหลังจากเพลงรักสุดทายในค่ําคืนนี้สิ้นสุดลง ทวาเขาคิดผิดเพราะสําหรับคนตัว
โตแลว บทเพลงที่เพิ่งผานพนไมนั้นไมใชเพลงสุดทายที่เขาจะบรรเลง เพราะวายังมีอีกหนึ่งบทเพลงที่สุดแสนพิเศษซึ่งเขาอยากใหคน
รักเปนผูนําทาง

ระหวางที่รางบางกําลังจะนิทราอยางเปนสุขอยูนั้น มือหนาของคนเจาเลหก็ลูบไลไปตามรางกายของคนรักอยางลุมหลง นาคินทรทํา


เสียงจิ๊กจะในลําคออยางขัดใจเมื่อคนตรงหนามีเสื้อผาครบชุดบนเรือนกาย วินดี้ของเขาชางเร็วเหลือเกินเพียงแคเขาอุมไปลางตัว
จากนั้นนองก็รีบๆ ลางแลวออกมากอน ทําใหเขาตองรีบออกมาตาม แตก็ยังชากวาอีกฝายมากนักเพราะวินดี้ของเขาควาเสื้อผามา
สวมเรียบรอยแลว

ถึงนองจะบอกเปนเชิงวา “วันนี้พอไดแลว” แตจะทําอยางไรไดละในเมื่อเขายังไมอิ่ม ยังอยากกลืนกินคนใหวงแขนอีกสักครั้งกอน


หลับตานอนในคืนนี้ อยางใจนึกมือหนาไมรอชาลูบไลไปตามเรือนรางของคนรัก หยุดใชเวลาคลึงเคลายอดอกของวายุลกุลเบาๆ
กอนลากลูบไลไปที่แนวสันหลัง ละเรื่อยไปตามบั้นทาย กลมกลึง จากนั้นก็กรีดนิ้วเกลี่ยไปตามรอยแยกของกนงอนงาม

เรือนรางยั่วยวนซึ่งกําลังครึ่งหลับครึ่งตื่น เผลอขยับขาออกเล็กนอย พรอมคราง อืมม...อือออ ในลําคอดวยความรูสึกวาบวิวขณะที่


พลิกตัวชาๆ อยางไมรูตัวพรอมกับอาขาเปดโอกาสใหอีกฝายลูบไลเรือนกายไดถนัดขึ้น อาจเปนปฏิกิริยาตอบโตของรางกายซึ่ง
เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเพราะคุนเคยกับการเลาโลมของคนรัก นาคินทรยิ้มมุมปากอยางถูกใจที่เห็นชายในดวงใจตอบสนองเขาอยางไม
รูตัว ชายหนุมขยับเขาไปนอนขนาบรางบางทางดานหลังกอนฝงจมูกลงซุกไซรซอกคอ นิ้วแกรงที่คลึงเคลนจุดไวตอการสัมผัสกลาง
ลําตัวทําใหวายุลกุลสะดุงเล็กนอยกอนจะรูสึกตัว

"อืม...ยังไมเหนื่อยอีกหรือครับ" ชายหนุมงัวเงียถามเมื่อรูสึกวาทอนแข็งขรึงดุดที่บั้นทายของตัวเอง ไมตองใหบรรยายมากก็เขาใจวา


อีกฝายตองการอะไร

“จะตีสามแลวนะ” เขาวาตอเมื่อเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพทมือถือขึ้นมาดูเวลา

“ยังไมเหนือ่ ยเลยครับ...ทําไงดี” วาพลางพลิกตัวขึ้นคลอมรางคนรักไว แมจะรวมรักกับคนในวงแขนติดกันหลายชั่วโมงกอนหนานี้แต


ความตองการของเขาก็ยังไมสิ้นสุด ริมฝปากหนาซุกไซรกับซอกคอเนียนขาวอยางลุมหลง

“ขออีกครั้งนะครับ” ริมฝปากซุกซนกดฝากรอยรักไวที่ซอกคอ กอนไลคงต่ําดูดดุนยอดอกทั้งสองที่ซอนอยูใตเสื้อนอน วายุลกุลลอบ


ถอนหายใจ คําพูดคลายกับขอความเห็นจากเขา แตการกระทํานั้นไมมีทีทาจะหยุดลงเลยแมแตนอย ถึงจะหามหรือปฏิเสธเพียงใด
ชายหนุมก็รูดีวาคนตัวโตมีวิธีทําใหเขายินยอมไดในที่สุด ดังนั้นยอมแตที่แรกเห็นจะเปนทางเลือกเดียว

“ครั้งนี้ครั้งสุดทายนะครับ” เมื่อไดยินคํายินยอมจากคนรัก นาคินทรก็ยิ้มอยางถูกใจ

“ครับผม” รับคําพรอมกับคอยๆ ลวงมือสอดใตชายเสื้อ ลูบไปตามเรือนรางที่เขารูวาจุดไหนสวนใหญจะทําใหอีกฝายรอนเปนไฟไป


พรอมๆ กันกับเขา

เมื่อถึงยอดยกมือหนาก็คลึงเคลาอยางชํานาญ เขาใชนิ้วโปงและนิ้วชี้ เขี่ยบี้ เม็ดทับทิมทั้งสองจนแข็งชัน เม็ดตุมขุมขนชูชัน ขนลุก


เกรียวทั่วราง

“อืมมมม....” รางบางครวญครางอยางกระสัน รางกายออนระทวยจนเผลอยกมือขึ้นโอบรอบคออีกฝายไวอยางตองการหลักยึด การ


ตอบเสนอเชนนั้นทําใหอีกฝายรุกคนใตรางใหหนักขึ้น

"ซี๊ดดด...อะ...อา...พี.่ ..ครับ"

"วินดี้ชอบใชไหมครับ" ชายหนุมยิ้มละไมถามกอนจะคอยๆ ดึงชุดนอนออกจากรางคนรัก เมื่อรางกายที่ทําใหเขาหลุมหลง ผิวเนื้อขาว


ผองปรากฏตอหนา นาคินทรก็กมลองฟอนฟด ไลจูบ เลาโลม โดยเฉพาะยอดอกที่ตั้งใจดูดดึงปรนเปรอคนที่นอนหายใจหอบแรง
ใบหนาแดงกล่ําดวยความเสียวซาน

“อืม...อา...” เสียงครางสั่นพรานั่นทําใหนาคินทรยิ่งไดใจ

“อะ...อา...” วายุลกุลกัดริมฝปากครางกระเสา ยิ่งเมื่อถูกโลมเลาทั้งสวนบนและลางยิ่งทําใหชายหนุมบิดตัวเราอยางสุดเสียว

นาคินทรปรนเปรอคนรักดวยสัมผัสนุมละไมออนหวาน มือขวาคลึงเคลายอดอก ปากดูดเลียอีกดานอยางจาบจวง สวนอีกมือเอื้อม


มือไปลูบไลหนาทองราบแบน แลวลากเกลี่ยไปตามแนวขนประปราย จนแตะสัมผัสกับแกนเนื้อของอีกฝาย

"อา...พะ...พี.่ ..ครับ..." นาคินทรเงยหนาขึ้นสบตาหวานหยาดเยิ้มของคนรักซึ่งแววรอนแรงในดวงตานั้นคงไมตางจากเขามากนัก


เพราะกําลังถูกไฟเสนหหาแผดเผา ความตองการของรางกายทั้งสองไมเคยมีที่สิ้นสุด อยางกับมันรูหนาที่ของตัวเอง เมื่ออีกฝาย
ตองการแคแตะสัมผัสเล็กนอยก็เรียกรองใหอีกฝายตอบสนองไดอยางงายดาย

ทั้งสองประสานสายตากันกอนคนตัวโตจะกมลงประกบริมฝปากบาง วายุลกุลเผยอปากรับการจูบของเขาอยางดูดดื่ม แลกลิ้นเกาะ


เกี่ยว มือหนาของนาคินทรที่หยอกเยากับแกนกายกลางลําตัวเริ่มขยับขึ้นลง แตะสัมผัส คลึงเคลนสวนบนบางครั้ง รางบางสะดุงกับ
สัมผัสวาบหวิวแตเสียวซานแทบขาดใจ

"ซี๊ดด...หยุด...กอน..." อารมณสุดเสียวที่ทยานขึ้นสูงทําใหรางบางแทบจะสําลักความสุขออกมา แตคนตัวใหญเหมือนจะชอบแกลง


ยิ่งเห็นอีกฝายทรมานมากเทาไหรก็ยิ่งเดินหนาตอ เมื่ออีกฝายไมหยุดวายุลกุลก็ปายมือแปะปะลูบคลํารางกํายําของนาคินทรจนทั่ว
ทั้งแผนอกแกรง หัวไหลหนา หนาทองที่เต็มไปดวยกลามเนื้อ ลงต่ําไปจนแตะแกนเนื้อของอีกฝาย

“อืมมมม....” นาคินทรครางเสียงต่ําในลําคออยางถูกใจเมื่ออีกฝายกําแกนกายของเขารูดขึ้นลงชาๆ กอนจะเรงจังหวะใหเร็วขึ้น


สําผัสนั้นทําใหเขาแทบคลั่ง...นารักที่สุดเลยแฟนเขา ไมตองบอกก็รูเองวาเขาตองการสิ่งใด
ทั้งสองตางเลาโลมกันดวยมือและปากอยางเต็มไปดวยความรัก นาคินทรพลิกตัวคนรักใหขึ้นมาคลอมตัวเขาไว แลวจัดในทากลับ
หัวกลับหางอยางเลขหกเกา โดยใหรางบางอยูดานบนซึ่งทําใหแกนเนื้อของคนรักลอยเดนเหนือใบหนาของเขา ชายหนุม รีบอาปากดู
ดอมทันที

“อะ..อา...” ริมฝปากที่ชํานาญการและรูวาทําอยางไรถึงมอบความสุขใหกับคนตัวเล็กอยางเต็มที่เริ่มบรรเลงความช่ําชองจนทําให
วายุลกุลสะดุงกระตุกบั้นทายดวยความสุขสม ขยับเอวใหแกนกายเขาปากอีกฝายอยางลืมตัว ศอกสองขางยันตนขาแกรงไว สีหนา
แสดงออกถึงความกระสันตสุดขั้ว ครางระงมอยางไมอาจอดกลั้น

“อา...พี่...ครับ...” ใบหนางามที่บิดเบี้ยวดวยความเสียวซานอยูไมหางกับความแข็งขรึงใหญโตของนาคินทร โดยไมรูตัวเรียวลิ้นเล็กๆ


โลมเลียหมายจะเรียนแบบคนขางลางที่มอบความเสียวกระสันใหกับตัวเอง

“อืม...วินดี.้ ..” นักเรียนคนใหมหัวไว ทําใหผูเปนครูแทบคลั่ง คนรักของเขาชางนารักเหลือเกิน ไมตองบอกวาตองทําอะไร วินดี้ก็


ตอบสนองอยางที่เขาตองการไดเปนอยางดี เมื่อไดเริ่มก็เหมือนคนตัวเล็กจะสนุกปากกับของเลนชิ้นใหม ดูดดุนจนคนตัวใหญ
อารมณพลุนพลานจนสุดบรรยาย

“อา...เกงมากครับที่รัก...ซี๊ดดดด..." ทั้งสองตางมอบความสุขใหแกกันและกัน จนนักเรียนคนเกงตองยอมแพไปกอนเมื่อริมฝปากที่


มากดวยประการณ รุกเรา เรงใหเขาไปถึงที่หมายปลายทาง

“วิน...ไมไหว...ละ...แลว...อา....” วายุลกุลเกร็งบั้นทายกอนจะกระตุกพรืดแลวหลั่งน้ํารักออกมา และคนที่รองรับก็กลืนกินลงไปอยาง


เต็มใจ กอนจะจับรางที่นอนหอบหายใจออนระทวยใหนอนราบกับเตียง พลิกตัวขึ้นคลอมรางบางไวแทน

“พี่รักวินดี้นะครับ” เสียบกระซิบแผวเบาหากแตทําใหใบหนาเนียนแดงกล่ํา สองความหมายที่ซอนอยูในประโยคเดียวกัน “รักทั้งใจ”


และ กําลังจะทํา “รักทางกาย” ไดฟงเมื่อไหรก็ทําใหเลือดในกายวิ่งพลุงพลานทุกที นาคินทรควาอุปกรณชวยที่วางทิ้งไวขางหมอน
เมื่อไมกี่นาทีกอนมา แลวปายไปที่บั้นทายงอนงาม ประกบปากจูบปลอบขวัญกอนจะสอดนิ้วเขาไปนําทางกอนจะรวมกายเปนหนึ่ง
กับคนรักอีกครั้ง

“อา...วินดี.้ ..” ขณะที่ใบหนาคมเขมครางเสียงต่ําอยางกระสัน ใบหนางามกลับสะดุงเฮือก เบหนากัดริมฝปากเพราะความแข็งใหญที่


สอดใสเขามา

“ไหวไหมครับ...” ใบหนาที่แสดงความเจ็บปวดนั้นทําใหอดถามอยางหวงใยไมได โดยไมรูตัวรางบางถดสะโพกถอยหนีแรงกดที่ดัน


ดุนแกนกายเขามา คนตัวเล็กหายใจลึกๆ พยักหนาขึ้นลงเปนเชิงบอกวาตัวเองไมเปนไร ทําใหนาคินทรชอนขาพับทั้งสองของคนรัก
และดึงรั้งเขาหาตัว เพื่อใหรับแรงกดของเขาใหสุดทางรัก

"อือ...อะ..." รางบางครางแผวเบา สองมือขยําลําแขนบึกบึน ทําใหนาคินทรกมหนาลงประกบปากจูบ มือหนาก็ลูบไลรางกายอยาง


ตองการกลอมใหอีกฝายลืมความเจ็บ

“พี่จะเบาๆ นะครับ...มันฟตมากเลย...อืม...วินดี้ของพี่...” ขยับเอวอยางเชื่องชาพรอมกับริมฝปากที่จูบคนรักอยางทะนุถนอม มือ


หนาปรนเปรอสวนรลางมอบความซาบซานและมีอารมณรวม ไมนานเสียงของคนใตรางก็เปลี่ยนเปนครวญครางอยางกระเสา
สะโพกงอนงามแอนตามรางหนาอยางเสียดายเมื่อลําแทงแข็งขรึงขยับออกเกือบสุด ทวาวินาทีตอมาก็ตองรองอยางเสียวซานเมื่อถูก
เติมเต็มเขามาในรางอีกครั้ง

“อะ...อะ...” เสียงครางอยางสุขสม จังหวะกระแทกเริ่มหนักขึ้น รางบางโยกสายไปมา สองมือจับหัวไหลหนาไวแนน นาคินทรขยับ


เอวเขาออกถี่ยิบ บางจังหวะก็เปลี่ยนเปนกระแทกแบบเนิบๆ ทวาหนักแนน บทเพลงรักในจังหวะนี้ชางเรารอน รุนแรง เสียงเนื้อของ
ทั้งสองกระทบกันประสานกับเสียงคราญครางของทั้งคูดังอยางตอเนื่อง ถึงแมวาแอรในหองจะเย็นฉ่ําแตรางกายของพวกเขาก็ชุมไป
ดวยเหงื่อ

“อืมม...” นาคินทร เปลี่ยนทาใหคนรักคุกเขาโกงโคง ยกบันทายขึ้น กอนจะสอดใสและขยับตอ แรงกระแทกของเขาทําใหรางบางกัด


ริมฝปากดวยความอารมณที่พุงขึ้นสูง แตเสียงครางที่เล็ดรอดออกมาก็ยังดังระงมประสานกันจนไมรูวาเสียงใครเปนเสียงใคร ทํานอง
แหงรักดําเนินตอไปอยางตอเนื่อง จนทั่งถึงทอนที่ตองเปลี่ยนจังหวะนาคินทรก็ปรับเปลี่ยนทาใหเขากับบทเพลง

"วินดี้ทําพี่สิครับ" รางหนาเอยบอกเมื่อเขาพลิกตัวลงนอน จัดแจงใหคนรักเปนฝายคุมแกม แมจะอายหากแตอีกฝายเรียกรองเขาก็


อยากเอาใจ วายุลกุลคอยๆ กดรางของตัวเองลงทับแกนกายที่ตั้งรอดวยใบหนาแดงกล่ํา เขาเมมริมฝปากแนน ขมวดคิ้ว ใบหนาเต็ม
ดวยอารมณสุดเสียวเมื่อหลอมรวมเปนหนึ่งกับนาคินทรอีกครั้ง

"อืม...วินดี.้ .."

“อา...พี่...ครับ...มะ...มัน...ลึก...” เขาคราง มือยันอกแนนของคนรักเปนเชิงบอกใหรอกอนอยาเพิ่งขยับ นาคินทรลูบเรือนกายคนรัก


อยางออนโยนและปลอบประโลมดวยความเขาใจ กอนใชมือชวยคนรัก กอบกุมแกนเนื้อเพิ่มความกระสันใหอีกฝาย มืออีกขางชวย
ประคองใหวายุลกุลโยกบั้นทายขึ้นลงอยางชาๆ เมื่อคนรักพรอมเขาก็เพิ่มจังหวะใหเร็วขึ้นจนรางบางเรียนรูที่จะควบคุมเกม

“อะ..พี่...ครับ...วินจะไม...ไหวแลว...” เมื่อทวงทํานองที่บรรเลงอยูจะนําคนรักใกลถึงฝงฝนนาคินทรก็กอดเอววายุลกุลไวแนนกอนจะ
พลิกตัวลงใหคนรักอยูเบื้องลางโดยที่รางกายของทั้งสองไมแยกจากกัน จากนั้นก็เปนฝายจัดการสงรางบางใหถึงฝงดวยตัวเขาเอง
โหมกระแทกอยางหนักหนวงพรอมกับมือที่ปรนเปรอใหวายุลกุลไมหยุดหยอน

“อะ...อะ...”

“อืม...อีกนิดครับ...วินดี”้ เมื่อทอนฮุกที่รอนแรงมาถึง จังหวะการขยับจึงเร็วและแรงไปตามทํานองของบทเพลงซึ่งไมนานก็นําพาให


รางกายของทั้งคูเกร็งกอนจะกระตุกและฉีดน้ํารักออกมาพรอมๆ กัน
"ซี๊ดดดดด..."

“อา....”

เมื่อถึงสุดสายปลายรุงที่ทั้งสองกาวผานมันก็ชางสวยงานยิ่งนัก รางกายที่ชุมไปดวยเหงื่อของทั้งคูซบกอดกันอยางออนแรงกอนราง
หนาจะจูบที่หนาผากคนรักและกลาวขอบคุณสําหรับความสุขที่มอบใหพรอมกับคําชมวามันชางวิเศษยิ่งนัก วายุลกุลยิ้มอยางเขิน
อาย ใบหนาแดงซานกระซิบบอกอีกฝายวามันเปนชวงเวลาที่วิเศษมากเชนกัน...

...ในที่สุดค่ําคืนอันยาวนานและรอนแรงก็สิ้นสุดลง หลังจากอาบน้ําชําระรางกายดวยกันทั้งคู รางบางก็เอนตัวลงบนเตียง หลับซบอก


ที่เต็มไปดวยกลามเนื้อของชายอันเปนที่รักอยางเปนสุขเมื่อเพลงรักบทสุดทาย(จริงๆ) ไดบรรเลงจบแลว...

“ถึงแมไมใชรักแรกแตวินดี้ก็เปนรักสุดทายของพี่” คําพูดที่แสนอบอุนของชายอันเปนที่รักซึ่งไดยินเมื่อตอนกลางวันยังตามเขาไป
กลอมหัวใจของคนตัวเล็กในหวงฝนจนเผลอละเมอความในใจออกมา

“พี่ก็เปนรักสุดทายของวินเชนกันครับ”

ลั่นลาๆ ยาฮูๆ อารมณดีที่สุดเลยครับ ขอบคุณสวรรคที่คอยอยูเคียงขางและรวมอวยพรผูชายอยางผม ไมทันไดทําอะไรเลยครับศัตรู


หัวใจสองคนก็ถูกกําจัดไปซะแลว แถมไอสองคนนั่นยังมาไดกันเองอีก ฮาฮา นาคินทรสําราญอุรา ตอนนี้รายชื่อไอตากลองแอบถาย
กับ นักรักคณิตศาสตรถูกฆาทิ้งเรียบรอยทําเนียบยาฆาหญาของผมไปแลวครับ

คิดๆ ดูแลวยาฆาหญาสูตรนี้ก็ใชไดผลเหมือนกันนะเนี่ย อะๆ งงกันละสิ วาผมพูดเรื่องอะไร เอายาฆาหญามาทําไม หึหึ ไมตองคิดไป


ไกลวาผมจะเอามาผสมน้ําแลวฆาตกรรมใครหรอกนะครับ มันก็แคเปนคําอุปมาครับ ยาที่วานี้คือกลยุคในการกําจัดศัตรูที่มา
ขวางทางรักของผมกับวินดี้ เหมือนพวกวัชพืช พวกหญาตางๆ ที่ขึ้นรกบนถนนแหงรักของผมนั่นแหละครับ ไมอยากลงทุนไปถอนแต
กะจะใชสารเคมีที่ไดจากสมองอันชาญฉลาดของผม กําจัดมันถึงรากถึงโคนซะเลย

ตอนนี้ทางรักของผมกับนองสะดวกแลวครับเพราะวาหญาตัวรายไดกลายเปนดอกไมซะแลว ฮาฮา ยิ่งคิดก็ยิ่งสุขใจ นี่นะถาผมรูวา


จะเขาไปเจอฉากเด็ดในหองของสองคนนั้นนะครับ ผมพาวินดี้ไปตั้งนานแลว วันนี้หลังจากทีน่ องซักผมเรื่องของไอปรินซึ่งใจจริงก็ไม
อยากเลาหรอกครับ แตวินดี้นะสิ จูๆ ก็ซึมเศราเมื่อพูดเรื่องของพอ ผมเลยตองชวนนองคุยเรื่องไอปรินมันครับ

หลังจากนั้นก็คุยเรื่องของเรา เรื่องฐานะที่แทจริงของผมและที่มาที่ไปวาวินดี้รูเรื่องของผมไดอยางไร นองก็เลาใหฟงครับวาไดยินเขา


คุยกันโดยบังเอิญและนั่นทําใหนองโกรธผมมาก ถาไดยินจากปากผมนี่นองจะไมวาอะไรเลย แตพอไดยินจากคนอื่นแลวทําใหรูสึก
เหมือนวาผมปดบังนองอยู ผมก็อธิบายใหนองเขาใจแหละครับ สุดทายเราก็ปรับความเขาใจกันได จากนั้นผมก็บอกนองเรือ่ งที่พอสง
บอดี้การดมาคอยดูแล ตอนแรกวินดี้ก็ไมพอใจเหมือนกันครับ แตคุยกันดวยเหตุดวยผลแลวนองก็ยอมให

แตไมวาจะคุยเรื่องโนนเรื่องนี้จบไปหลายเรื่องแลววินดี้ก็ยังทําหนายุงเหมือนเดิมครับ

“ไมเหนื่อยบางหรือครับวินดี้” ผมถามนองในเวลานั้น ก็เห็นแลวมันอดถามไมไดนี่ครับ

“เหนื่อยอะไร” นองหันหนายุงๆ มาทางผม

“ก็นี่นะสิ” ผมกดนิ้วที่ระหวางคิ้วของนอง

“คิ้วจะชนกันอยูแลว” พอผมพูดอยางนั้นนองก็กอดอก หลับตา ทิ้งรางไปบนโซฟาแรงๆ

“เฮอ...” ถอนหายใจอีกตางหากครับ ดูทําเขา...มีปญหาอะไรที่คิดไมตกอยางนั้นหรือ

“เปนเด็กเปนเล็กทําตัวเปนคนแกไปได” ผมพูดแกมหยอก

“ก็อยูกับคนแกเลยติดนิสัยมา” ซะงั้น แตมีหรือนาคินทรจะจนมุม คนแกที่นองพูดถึงไมใชผมแนๆ

“นั่นสิเนอะ คงตองใหหางตาแลวละ” โยนไปโนนเลยครับ ไกลๆ ตัวเลย อีกอยางตาของนองอะผมขาวหมดหัวแระ ดูยังไงก็รูวานั่นนะ


แกจริง วินดี้หรี่ตาขึ้นมองผม

“ถึงจะหางตา แตก็ยังอยูกับพี่ทุกวัน ยังไงก็คงแกอยูดี” ฟงเอาแลวกันครับ นองยังยืนยันจะใหผมเปนตาแกอยูดี แตยอมรับก็ไดวาแก


แตแกอยางอื่นนะครับ ไมใชหนาตา

“ถาอยูกับพี่ก็มีแตแกแดดแกลมแหละครับ สวนหนาตากับนิสัยนี่ไมไดรับผลกระทบหรอก” อยูกับผมตองแกประสบการณครับ แลว


ประสบการณที่วานี่ผมตองสอนนองไดคนเดียวเทานั้นนะครับ พอผมบอกวินดี้แบบนั้นนองก็สายหนาคงระอาผมละมั้งที่ไหลเลื้อยไป
เรื่อย แตจะทําอยางไรไดละครับ เปนงูใหญ นาคินทรก็ตองดําเนินชีวิตตามสัญชาติญาณนั้นแหละครับ

“ยังมีอะไรอีกครับ เรื่องของเราก็เคลียรแลวนี่นา หรือวาจะเรื่องไอปริน แตพี่ก็เลาใหฟงหมดแลวนี่ครับ” ผมวกเขาเรื่องที่คิดวาทําให


นองหนานิ่วคิ้วขมวด ถาปลอยไวแบบนี้คงไมดีแน ยอมๆ นองหนอยแลวกัน

“เรื่องปรินนะวินไมสงสัยแลว แตเรื่องตรินนี่สิ” แตพอไดฟงเหตุผลแลวก็เริ่มคันหัวใจยิกๆ แลวละครับ “ตริน” ตกลงคนๆ นี้เปนใคร


“ทุกทีเลย มันนานอยใจไหม อยูกับพี่แตไปคิดถึงคนอื่นเนี่ย” อาการงอแงเริ่มกําเริบอีกแลวครับ ไมชอบใจเลยที่นองสนใจคนอื่น
มากกวาผมโดยเฉพาะไอคนนี้อะ

“นี่ไง นิสัยคนแก”

“ไมแกก็นอยใจได”

“ไมตองมาทําหนางอเลย วินไมงอพี่หรอกนะ” ใจรายใชไหมครับที่รักผมนะ

“เอาใจพี่หนอยก็ไมได” บนกระปดกระปอดไปตามเรื่องแหละครับ

“ถามจริงเถอะ มีครั้งไหนบางที่วินเคยขัดใจพี่”

“ตอนนี้ไง พี่กําลังงอนอยู แทนที่จะงอพี่ กลับมาบอกใหเราเลิกงอนซะงั้น”

“พี่มางอนวินเรื่องอะไร แควินพูดถึงคนอื่นนี่นะ”

“คนอื่นนะไมเทาไหรหรอก แตไอตรินอะไรนี่ ไมอยากไดยิน เมื่อกี้ก็ทําพี่ใจแปวไปทีแลวนะ เรื่องของพี่นะไมอยากจํา แตเรื่องไอตรินนี่


จําดีแท” นี่แหละครับคือเหตุผล ผมยังคันหัวใจอยูนะครับ ยังหึงนองไมหาย เรื่องของผมนะไมอยากสนใจแตไอตรินนี่จําไดแมกระทั่ง
วันที่เจอกันครั้งแรก ถึงเหตุผลที่จําไดจะเปนเพราะพอของนองก็ตามเถอะ แตผมก็ไมชอบใจนี่ที่คนอื่นเรียกความสนใจของนองได
มากกวาผม

“ยังนอยใจเรื่องนีอ้ ีกเหรอ” นองคงพอรูตัวละมั้งครับวาทําใหผมไมพอใจ เสียงของนองเลยออนลง ผมพยักหนาพรอมกับบอกนองวา

“แนนอนครับ สําหรับวินดี้ พี่ยอมไดทุกอยาง ยกเวนเรื่องเดียว อยาเห็นคนอื่นสําคัญกวาพี่”พอไดยินแบบนั้นนองก็สายหนาแตผมก็


เห็นวินดี้อมยิ้มกอนจะพึมพําบอกผมอยางอายๆ วา

“คนแกเอาแตใจ แตเผลอรักเขาไปแลวก็คงตองยอมตามใจละมั้ง ก็เขาสําคัญที่สุดในชีวิตเรานี่เนอะ คงตองงอใชไหม โอๆ อายทอง


คนดี๊คนดี ไมงอนวินนะครับ แตชาแต ไมโกรธๆ ยิ้มหวานๆ ดีกวาเนอะ เราไมผิดใจกันนะครับที่รัก” ดู ดู แฟนใครเนี่ย พอทําตัวแบบนี้
แลวนารักนาหยิกซะไมมี หมั่นเขี้ยวมากเลยครับ เด็กบาอะไรไมรู นารักขึ้นทุกวัน ผมจะใจขาดตายเพราะรักนองหลงนองแลวนะครับ

“มานี่เลย ถาอยากใหหายงอน” วินดี้ก็เดินมาหาผมครับ

“จูบพี่กอน” ไดคืบจะเอาศอก พอโอกาสมาถึงก็ตองรีบฉวยตามคติประจําใจครับ


“จูบแลวเดี๋ยวไปไกล เอาแคหอมไปกอนแลวกัน” วินดี้สายหนาขณะพูด รูอีกวาผมกําลังจะจับนองกด

“หึหึ” ผมหัวเราะในลําคอกอนทําแกมปองใหนองหอมครับ จะวาไปแคนี้ก็ดีถมเถแลวละครับ

“ตกลงที่สงสัยเรื่องไอตรินอะไรเนี่ย สงสัยเรื่องอะไรหรือครับ” พออารมณดีก็คุยกับนองตอไดแลวละครับ วินดี้ยิ้มถูกใจเลยที่ไดยินผม


ถามอยางนั้น

“เรื่องตรินกับเมธอะครับ วินไดยินเมธมันพูดแปลกๆ อยากคุยกับเมธดวยวาที่มันพูดนะหมายความวาอยางไร” ดีจังเลยเนอะ อาย


ทองคนนี้ใจกวางมากๆ ปลอยใหแฟนคุยเรื่องคนอื่นไดอยางใจเย็น นอกจากไอตรินแลวยังมีเรื่องไอเพื่อนเวรนองมันอีก ชางเปนผูชาย
ที่เชื่อมั่นในคนรักจริ๊งจริง ที่พูดเมื่อกี้คือประชดนะครับเพราะวาความจริงตอนนี้คืออารมณดีๆ เมื่อสักครูหายไปเลยครับ หึงอีกแลวอะ
ยิ่งรักก็ยิ่งหวงมันเปนอยางนี้นี่เอง แตวินดี้คงเห็นหนาบึ้งๆ ของผมมั้งนองเลยรีบมากระซิบที่หูของผมวา

“วินไดยินเมธมันเรียกตรินวา...เมีย...” แลววินดี้ก็หนาแดงแปรดเลยครับ แตผมสิ หูกางเลย ไอเมธกับตรินนี่นะ ถาอยางนั้นละก็...

“วินดี้ก็ถามเพื่อนเลยสิครับ โทรหาก็ไดนี่นา” เอาเลยครับที่รัก ซักใหขาวสะอาดเลย ถาใชจริงๆ ละก็ทางรักของเรามีสายรุงคาดผาน


แนๆ ไมวาเปลานะครับผมนะ รีบยื่นโทรศัพทใหนองดวยเลย วินดี้ก็มองอยางลังเลเล็กนอยกอนจะกดโทรออก

แตเมื่อโทรออกแลวไมมีคนรับ วินดี้ก็ทําสีหนากังวล นองบนพึมพําวาที่ไมรับสายเพราะวาเปนอะไรมากหรือเปลา ผมวานองคงรูสึก


ผิดละครับที่ไปชกหนาเพื่อนตัวเอง แลวก็คงเปนหวงอีกฝายอยูลึกๆ ผมก็เลยหวังดี ชวยนองซะเลยครับ ใชโทรศัพทของโรงแรมโทรลง
ไปที่ฟอรน ใหทางโนนเช็คใหเลยวาไอเพื่อนเวรของนองพักหองไหน

จากนั้นก็เริ่มปฏิบัติการฆาหญาครับ ชวนนองลงไปดูใหเห็นกับตา หึหึ ลงไปดูซิ วามันใชผัวเมียกันจริงไหม แลวก็ไดคําตอบอยางที่


ผมตองการครับ ฮาฮา คิดไวแลวเชียว เห็นลากๆ ดึงๆ กันที่ชายหาด ที่แทก็อยางนี้นี่เอง สวนใครเปนผัวเปนเมียนั้นผมไมไดสนใจ
หรอกครับ ถึงวินดี้จะไปถามเขาก็เถอะ แตคงมีใครบอกหรอกนะเรื่องอยางนี้นะ

นึกขึ้นมาแลวก็ขําตอนที่วินดี้ถามวาไอเพื่อนเมธเปนเมียไอตรินเหรอ คุณตองเห็นหนาไอเพื่อนเวรของนองมันครับ อยางฮาเลย ตัวมัน


โตขนาดนั้น ถาเกิดเปนฝายรับขึ้นมา ผมยังนึกภาพไมออกเลยวาเวลามันถูกกดจะรองเหมือนวัวถูกเชือดหรือเปลา แตไมสนใจฟง
คําตอบหรอกครับ เรื่องบนเตียงของคนสองคน ปลอยพวกมันไป แคเห็นไอตรินพยายามปฏิเสธวาไมมีอะไรกับไอเมธ ผมก็อยากลาก
นองไปจากที่ตรงนั้นแลวครับ ถึงจะจริงไมจริง นาคินทรไมสน ปลอยวินดี้เขาใจวาทั้งสองมีอะไรกันนั่นแหละคือสิ่งที่นาคินทรตองการ

ผมลากนองออกมาจากที่ตรงนั้นโดยเร็วโดยใหเหตุผลวา ปลอยเขาสองคนอยูดวยกันเถอะครับ วินดี้ก็รีบพยักหนาแลวก็เดินตามผม


มาเลยครับ ไดยินเสียงไอตรินโวยวายตามหลัง แตไมทันหรอก ผมพาที่รักออกไปจากที่ตรงนั้นเรียบรอยแลว วินดี้ก็พึมพําตลอดทาง
เลยครับวาไมอยากจะเชื่อ ถาไมเห็นกับตานี่ไมรูจริงๆ นะ ใหเดาไหมวา ถามีใครจะมาจีบที่รักผม วินดี้คงไลกลับใหไปคืนดีกับผัว
หรือไมก็กับเมียตัวเองแนๆ...คราวนี้ไอหญาตรินกับเมธที่ลงรากลึกกรีดขวางเสนทางรักของผมกับนองไดตายทั้งรากทั้งโคนไป
เรียบรอยแลวละครับ...สําเร็จโรงเรียนฆาหญาของนาคินทรไปอีกสอง
ผมเดินอารมณดีกับนองมาตามทางเดินครับ ครึ้มอกครึ้มใจอยูดีๆ โทรศัพทก็ดังขึ้น เปนโทรศัทพผมเองครับ แตนองเปนคนถือไว มัน
คงอยูกับวินดี้ตั้งแตตอนที่นองโทรออกหาเพื่อนเมธแลวละครับ ผมก็ไมไดสนใจหลังจากยื่นใหนองแลวพอรูเบอรหองไอเมธก็ดึงแขน
นองมาเลยครับ วินดี้คงเก็บลงกระเปากางเกงตัวเองขณะรีบลุกตาแรงลากของผม

ตอนที่นองหยิบโทรศัพทออกมาผมเห็นนองมุนคิ้วหนอยๆ กอนจะยื่นมาใหผม ผมก็รับมาดูแบบงงๆ ครับ เปนเบอรที่ผมไมคุนและ


ไมไดเมมชื่อไวดวย

“พี่คินใชไหมครับ” ยังไมทันไดทักทายอะไรเลยครับ ฝายโนนก็ทักมากอนซะแลว

“ใชครับ” ใครละเนี่ย ผมมองวินดี้ที่มองผมเชนกัน นัยนตาของนองฉายประกายสงสัยอยางเดนชัด

“เย ดีใจจัง สุดทายปรินก็ไดคุยกับพี่จนได” ชื่อของไอปรินทําใหผมตองกลืนน้ําลาย วินดี้จะหึงผมไหมเนี่ย รูสึกสังหรณใจแปลกๆยังไง


ไมรู คลายกับวาเรื่องวุนวายกําลังจะมาเยือนชีวิตของผม

“ไดเบอรพี่จากไหนครับ” ถามไปอยางสงสัย

“หึหึ ปรินก็มีวิธีของปรินแหละครับ”

“แลวมีอะไรหรือเปลาที่โทรมา” ไมสนใจความสามารถพิเศษของมึงหรอก ตัดบทเขาเรื่องไปเลยครับ ไมอยากออมคอม เห็นประกาย


วิบวับๆ ในตาวินดี้แลวเกิดอาการรอนเนื้อรอนตัวทั้งๆ ที่ผมไมไดทําผิดอะไรเลยนะครับ

“แคโทรมาเช็คเฉยๆ วาพี่เวศ อุบ....วาเบอรถูกตองหรือเปลา” อยางนี้นี่เอง ไอเวศเพื่อนเวร มึงเอาเบอรกูไปใหคนอื่นไดยังไง เดี๋ยว


เถอะ จะจับหักคอไมใหมึงเขาหอซะเลย

“รูว าเบอรถูกแลวใชไหมครับ งั้นพี่วางนะ” กดวางสายเลยครับ ไมอยากตอปากตอคํา ยิ่งอยูตอหนาวินดี้ดวย พูดยาวกวานี้ไมดีครับ


พอวางสายนองก็จองผมใหญเลย ไมตองถามก็รูเพราะหนาผากติดเครื่องหมายคําถามไวเลยวา “ใครโทรมา”

“ไอปรินมันโทรมาครับ แตพี่ไมไดใหเบอรมันนะ เพื่อนพี่เปนคนให” ตัดสินใจบอกนองไปตรงๆ ครับเพราะวันนี้รูแลววาวินดี้เกลียด


มากที่สุดถารูวาผมปดบังเรื่องอะไร

“ปรินหรือครับ” จากใบหนาไมพอใจหนอยๆ ก็แปรเปลี่ยนเปนครุนคิด คิ้วนองขมวดมาชนกันอีกแลว อะไรอีกละทีนี้ รูสึกวาวันนี้จะมี


แตเรื่องใหนองสงสัยไมเลิกราสักที

“เบอรลงทายดวยแปดหกสามเหมือนของตรินเลย ไหนวินของดูอีกครั้งไดไหมครับ เมื่อกี้เห็นแวบๆ” อยางนี้นี่เอง ผมรีบสงโทรศัพทให


นอง วินดี้ก็กดดูเบอร จากนั้นนองก็เงยหนาขึ้นแลวหันหลังกลับไปยังทางหองของไอเมธที่เราเพิ่งจากมา

“พี่แนใจนะครับวาปรินไมใชตริน” นองถามดวยน้ําเสียงคาดคั้น

“มันแทนชื่อตัวเองวาปรินครับ” ผมบอกนองตามที่รูมา แลวคําพูดตอมาของนองก็ทําใหผมครุนคิด นึกอยากรูที่มาที่ไปของเรื่องเสีย


แลวสิ

“นี่ตรินเขากําลังคิดเลนตลกอะไรกันแน!!!”

ถึงแมจะรูวาคนที่โทรมาหาคนที่คุณรักคือใครแตลึกๆในหัวใจแลวก็ยังระแวงและไมพอใจอยูดี แลวถาเกิดคนที่โทรมานั้นเปนคนที่
คุณรูจักแตก็เหมือนคุณไมรูจักละ คุณจะรูสึกหวาดกลัวและระแวงมากขึ้นอีกกี่เทา สิ่งที่อยูตรงหนาคุณไมอาจคาดเดาไดเลยวาคนๆ
นี้จะมาไมไหนกันแน...นี้แหละคือความรูสึกของผมในขณะนี้

ถาคนที่โทรหาพี่เขาชื่อ “ตริน” ผมคงไมกังวลมากเทานี้ แตนี่เขากลับบอกพี่วาชื่อ “ปริน” ซึ่งเปนอีกคน และชื่อนี้ผมก็รูจากปากพี่เขา


เองวาเคยมีความสัมพันธลึกซึ้งกันมากขนาดไหน สิ่งนี้ทําใหหัวใจของผมรอนรนขึ้นมาทันที ทั้งหงุดหงิดไมชอบใจที่พี่เขากดรับ
โทรศัพท แตไมทันไดซักถามวาปรินไดเบอรโทรแกมาไดอยางไร ไอพี่ทองก็บอกผมเสียกอนวาเพื่อนพี่แกเปนคนใหเบอรและบท
สนทนาที่คุยกับปรินอยางหางเหินนั่นก็พอทําใหผมเขาใจวาคนรักของผมไมไดแสดงทาทีกระตือรือรนที่จะคุยกับอีกฝาย เมื่อรูอยางนี้
ก็ทําใหรูสึกดีขึ้นมาบาง แตอยางไรก็แลวแต ลึกๆแลวผมก็ยังไมสบายใจอยูดี

ผมขยับเขาใกลพี่เขา กุมมือแกไวดวยความรูสึกกลัวอยางบอกไมถูก พรอมกับอยากแนใจวาแกอยูกับผมตรงนี้ไมไดถูกใครแยงชิงไป


จากผม เบอรที่ขึ้นบนหนาจอยังคงทําใหผมคิดไมตกวาทําไมตรินถึงไดทําแบบนี้ และตองการอะไรกันแน ใชจริงหรือวาปรินกับตริน
เปนคนละคนกัน ผมมองกลับไปยังหองของเมธอีกครั้ง...ผมคิดวาตัวเองตามเกมเขาไมทันเสียแลว

“นี่ตรินเขากําลังคิดเลนตลกอะไรกันแน!!!”

ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน ทั้งเหตุและผลที่ผมนึกไดมันไมสามารถหักลางกันไดเลย สมมุติวาคนที่โทรหาพี่เขาเมื่อกี้เปนตริน แลวเขาใชโอกาส


ไหนโทรในเมื่อกอนที่ผมจะออกจากหองมาเมื่อสักครูเมธก็อยูกับเขา ถาเปนแบบนี้แสดงวาเมธก็รูเห็นเปนใจดวย แตมันก็ไมนาจะใช
เมธจะยอมใหคนของตัวเองโทรหาพี่เขาทําไม หรือวาเมธไปเขาหองน้ําหรือทําอะไรสักอยางอยู ตรินเลยแอบโทรมา แลวเขาจะโทรมา
ทําไมตอนนี้ เขานาจะรูนี่วาผมอยูกับพี่เขา ไมกลัววาผมจะเอาเรื่องนี้ไปบอกเมธหรือไง

แลวถาเกิดวาปรินกับตรินเปนคนละคนกัน แลวทําไมปรินถึงเอาโทรศัพทตรินมาใชไดละ เบอรที่โทรเขามาผมแนใจรอยเปอรเซ็นวา


เปนเบอรของตริน ถาแบบนี้แสดงวาปรินกับตรินตองรูจักกัน หนาตาเหมือนกันแบบนี้ก็นาจะเปนฝาแฝดมากวาพี่นองกันธรรมดา ผม
จะถามตรินเขาดีไหมเกี่ยวกับเรื่องนี้ แตถากลับไปถามตอนนี้เมธคงไดฆาผมตายแนๆที่คอยไปเปนกางขวางคอ แลวถาถามจะทําให
ตรินรูตัวไหมวาผมกําลังสงสัยเขาอยู จะวาไปตอนนี้ตรินอยูที่นี่ แลวปรินละ...เขาอยูที่ไหน?
“ขอบคุณนะที่ชวยดูแลพี่คินให” คําพูดที่ปรินเคยทิ้งไวกอนที่เขาจะเดินจากไปในวันที่ผมเจอเขาที่สนามบินกลับมาสั่นคลอนหัวใจผม
อีกครั้ง ผมไมชอบใจเลยที่ดูเหมือนวาเขากลับเขามาในชีวิตพี่อีก หากเปนเชนนั้น ลมที่ผมรอดูทิศทางก็ทําทาจะพัดหวนกลับคืน
มาแลวสินะ

แตแลวไมทันไดถึงนาที ผมก็ไดรูวา สิ่งที่ผมกังวลอยูไดเปนจริงขึ้นมาแลว...เบอรโทรเบอรเดิมไดโทรเขามาหาพี่เขาอีกครั้ง และ


โทรศัพทพี่เขาก็ยังอยูในมือของผม ผมยัดใสมือคืนใหพี่เขากอนจะเดินหนีไปพรอมกับเปลวไฟซึ่งกําลังสุมอยูในใจของผม

“เดี๋ยวกอนสิครับวินดี้” ไอพี่ทองดึงมือผมไว แกยังไมกดรับโทรศัพท

“ทําไมไมกดรับละครับ” ผมบอกอยางสะกดกลั้นอารมณ ไมแนใจวาที่พูดออกไปแบบนั้นเพราะประชดหรือวาถามเฉยๆ แตพี่เขาก็ยก


โทรศัพทขึ้นมากด...ไมใชกดรับหากเปนกดตัดสายทิ้ง

“พี่ไมมีอะไรจะคุยกับเขานี่ครับ ไปเถอะครับ อยาสนใจเลย” วาพรอมกับจับมือผมไวแนน จากที่รูสึกรอนรนอุณหภูมิในใจก็ลดลงมา


อยางรวดเร็ว...อุนจังเลยครับที่มือนี้ไมยอมปลอยจากผม

แตแลวชั่ววินาทีตอมาโทรศัพทก็ดังขึ้นอีกครั้ง ผมเมนเรียวปากดวยความรูสึกไมพอใจในขณะที่พี่เขายกขึ้นมาดูแลวแกก็ทําหนา
หงุดหงิด

“ไมรับหรือครับ” ผมยังถามแบบเดิม แตไอพี่ทองสายหนากอนจะเก็บโทรศัพทลงกระเปา มือหนายังกุมกระชับมือผมไวแนนซึ่งผมก็


บีบมือพี่เขากลับไปอยางไมรูตัว ผมพยายามปดความรูสึกที่กําลังเผาผลานหัวใจผมอยูออกไป แลวเดินไปกับพี่เขา ทวาเราเดินกันมา
ไดไมถึงหากาวพี่เขาก็หยุดแลวหยิบโทรศัพทออกมาอีกครั้ง

“อะไรครับ” ผมถามดวยความรูสึกไมพอใจ พี่เขาจะทําอะไร จะโทรกลับหาอีกฝายหรืออยางไรในเมื่อวาเสียงเรียกสายไดหยุด


เรียบรอยแลว

“พี่วาจะปดโทรศัพทครับ ตอนนี้อยากอยูกับวินดี้ ไมชอบใหอะไรมารบกวน” พี่เขาพูดพลางยิ้มอยางเอาใจ แตการกระทําของแกคง


จะชาเกินไปเพราะกอนที่พี่เขาจะปดโทรศัพท เสียงสัญญานขอความก็เขามาเสียกอน ผมลอบถอนหายใจอยางหนักหนวง ขออยาให
เปนอยางที่ผมคิดเลย...

แตมันกลับไมเปนอยางที่ผมขอไว เพราะคนที่สงขอความเขามาคือคนที่พี่เขาปฏิเสธจะรับสายเมื่อสักครูนั่นเอง

“ขนาดนี้แลวคงมีเรื่องสําคัญละมั้งครับ พี่ลองเปดอานดูหนอยสิครับ” ถึงจะไมพอใจเพียงใดแตผมก็ฝนใจถาม อยากรูดวยวาอีกฝาย


จะวาอยางไรและตองการอะไรกันแน พี่แกมองผมอยางชางใจอยูชั่วครูกอนจะเปดออกอาน
“วินอยากดู” ผมบอก พี่เขามองผมนิดหนึ่งกอนสงโทรศัพทกลับมาใหผม

“ไมทันไดบอกวายังรักและคิดถึงพี่ก็ตัดสายไปกอนแลว”

ขอความสั้นๆแตไดใจความวาอีกฝายคิดอะไรกับคนรักของผม ผมกํามือแนนอยางไมรูตัว หัวใจรอนรนจนลืมจังหวะการหายใจ ไมวา


คนที่สงขอความเขามาจะเปนปรินหรือตรินแตเขาก็มาทําใหผม “หึง” ไอพี่บาที่ยืนทําหนาเจื่อนๆ อยูขางๆ ผมเสียแลวละครับ!!!

“ยังรักและคิดถึง...ชัดเจนดีนะครับ” ผมกลืนน้ําลายลงคอไปอยางยากลําบาก เสียวสันหลังวาบกับสายตาของนองที่มองมา

“คือ...” จูๆ ก็นึกคําพูดไมออกครับ ไมรูจะแกตัวกับนองยังไง ถาวินดี้โวยวายเรื่องมันคงงายมากกวานี้ แตนี่นองกลับนิ่งจนยากที่จะ


เดาไดวาตอนนี้วินดี้อยูในอารมณไหน วินดี้ยื่นโทรศัพทกลับมาใหผม ใบหนาของนองยังคงเปนปรกติ

“เขาบอกมาแบบนี้แลวพี่จะตอบกลับไปวาอยางไรครับ” น้ําเสียงนิ่งๆแตฟงแลวหัวใจเย็นเยือกเหมือนถูกแชแข็ง นัยนตาหวานของ


นองดูคมกริบยิ่งกวามีดแรเนื้อซะอีก

“พี่ไมคิดที่จะตอบอะไรเขาไปหรอกครับเพราะไมเคยรักและคิดถึงเขา ตอนนี้มีแคใครบางคนแถวนี้แหละที่พี่ทั้งรักทั้งหลงและยังคิดถึง
แมวาจะยืนอยูขางๆกันก็ตามที” หยอดลูกออนไวกอนครับเผื่อนองจะปราณี ไมโยนความผิดใหกับผม นึกขึ้นมาแลวก็อยากฆาไอ
ปริน มันเปนบาอะไรของมันก็ไมรู ตามราวีไมเลิกรา ทั้งๆที่คราวกอนผมก็บอกไปตามตรงแลวนะครับวามีคนรักแลว

“จริงหรือครับ...งั้นก็ขยับเขามาใกลๆใครบางคนที่กลาวถึงหนอยสิครับ” นองบอกพรอมกับยิ้มหวาน แตเปนรอยยิ้มที่ทําใหผมขาแข็ง


เริ่มที่จะกาวขาไมออก ทําไมยิ้มของนองในวันนี้มันคลายกับเคลือบยาพิษชนิดรุนแรง แคมองหัวใจก็ชา เลือดเริ่มจะแข็งตัว หายใจไม
ออกในเร็วพลัน

“ยังรัก...และ...คิดถึง...” วินดี้พูดขณะที่ไลปลายนิ้วไปตามใบหนาของผม จากนั้นก็ตบแกมผมเบาๆคลายหยอกเยากอนลากนิ้วไปที่


ลําคอ ผมกลืนน้ําลายเอือกใหญเมื่อนองกดที่ลูกกระเดือกผมเบาๆกอนกรีดนิ้วไปยังแผนอกแลวไลลงต่ําไปเรื่อยๆ

“และพี่ก็ไมเคย...รัก...และ...คิดถึง...เขาเลย...” นองชอนสายตาขึ้นสบกับผม ผมยิ้มแหงๆใหกับนองพรอมกับแขมวทองเมื่อมือบาง


หยุดที่ทองนอยของผม

“พี่คิดวาอะไรที่ทําใหเขายังรักและคิดถึงครับ” วินดี้เอียงคอถามขณะที่มือของนองปวนเปยนที่ทองนอยของผม ถาเปนปรกติสัมผัส


แผวเบาแบบนี้คงทําใหคินนอยคึกคักแลวละครับ แตวันนี้มันหดจูเลย

“ไววันไหนวินเจอหนาเขาแลว วินจะถามเขาดูนะครับวาประทับใจพี่ตรงไหน ในเมื่อวินไมชอบแยงชิงอะไรกับใคร ถามันยากนัก...”


นองหยุดพูดกอนจะคอยๆกมหนาลงแลวจองที่เปากางเกงของผม ผมสะดุงสุดตัว มือรีบกุมเปาไวโดยอัตโนมัติ
“คงไมตองใหบอกนะครับวาวินจะจัดการกับตัวปญหานั่นยังไง” นองพูดจบก็ยิ้มหวานใหผมอีกแลวครับ แตใหตายเถอะ ขอใหครั้งนี้
เปนครั้งสุดทายที่นองยิ้มแบบนี้ก็แลวกัน สงสารไอคินนอยมัน กลัวจนออนปวกเปยกนาเวทนาไปเรียบรอยแลว

“เวลาพี่คุยกับปรินนี่คุยภาษาอะไรครับ” คําถามของนองทําใหผมสะดุงอีกครั้ง ตื่นขึ้นจากภวังค คือเมื่อกี้กําลังคิดหาวิธีรักษาความ


ปลอดภัยใหนองชายอยูครับ

“ภาษาไทยครับ” รีบตอบนองในเร็วพลัน ตองเอาใจเขาไวกอนครับ วินดี้ในลุกหวานแบบโหดๆอยางเมื้อกี้นี้ไมไหวเลยครับ รับมือ


ไมได สมองมันตื้อไปหมดเลย

“เขาพูดชัดไหม วินจําที่พี่บอกไดวาเขาอยูที่เมกาตั้งแตเด็ก”

“ก็ชัดปรกติดีนี่ครับ”

“อืม...งั้นก็มีสิทธิ์เปนไดวาเขาจะอานเขียนภาษาไทยได” ผมลอบถอนหายใจอยางโลงอก นองหันมาสนใจเรื่องอื่นแบบนี้แสดงวา


หายเมาน้ําผึ้งอาบเลือดแระ...พูดหวานๆไมกี่คําแตรายยิ่งกวาขูฆาผมเสียอีก ไมไหวๆ ครั้งแรกและครั้งเดียวเกินพอแระ

“แปลกเนอะ นึกวาคนที่อยูเมืองนอกตั้งแตเด็กจะพูดไทยไมชัด อานเขียนนี่ยิ่งไมตองพูดถึงเลย”

“ทําไมวินดี้ถึงพูดเรื่องนี้ละครับ” ถึงจะไมพอใจทีน่ องกลับมาพูดเรื่องของไอปรินอีก แตก็ยอมตามใจนองครับ จะคุยเรื่องอะไรเวลานี้


อายทองไมขัดใจเลย ขออยางเดียวใหไปคุยไกลๆเรื่องของผมเปนพอ

“ก็ขอความเมื่อกี้...เขาสงมาเปนภาษาไทยนะสิ” จริงดวยสิ ผมก็ลืมสังเกตไปเลย เริ่มไมแนใจแลวสิ จําไมไดดวยวาปรินอานเขียน


ภาษาไทยไดหรือเปลา

“อายทอง…”

“ครับผม” ขานรับเร็วมากเลยครับ กลัวไมทันใจที่รักเขา

“วินหงุดหงิด วินอยากรูวาไอคนที่มาทําใหวินหึงพี่เนี่ยมันตรินหรือวาปริน หรือวาสองคนนี้เขาเปนคนเดียวกัน”

อา...มึงเปนใครกันแนที่มาทําใหทรี่ ักหึงกูจนเดือนรอนไปถึงไอคินนอยของกูเนี่ย...จะวาไปมันก็นาสงสัยจริงๆ นั่นแหละครับ ตอนที่


ผมเขาไปในหองไอเพื่อนเมธ คนที่นั่งบนเตียงนั่นก็หนาเหมือนไอปรินยังกับแกะ แถมมันยังไมสนใจผมเลย สายตาที่มันมองวินดี้มันชี้
ชัดวาอีกฝายสนใจความรูสึกของที่รักผมมากแคไหน กังวลและรอนรนมากเทาไหรที่วินดี้เขามาเห็นภาพตัวเองกับไอเมธอยางนั้น
หากคนนั้นเปนไอปรินละ มันจะมีปฏิกิริยายังไงเวลาที่เจอผม
แลวเมื่อกี้วินดี้ยังมาบอกวาเบอรที่โทรเขาหาผมมันเปนเบอรของไอตริน แลวไอคนที่พูดกับผมกอนหนานั้นละ มันเปนปรินหรือตริน
และเมื่อคิดตามคําพูดของวินดี้แลวมันก็นาสงสัย ไอปรินอยูเมกาตั้งแตเด็ก มันอานเขียนไทยไดหรือเปลาก็ไมรู แลวที่สําคัญทําไมมัน
ถึงเลือกสงขอความมาหาผมเปนภาษาไทย!!!

ยิ่งขบคิดยิ่งหงุดหงิดเหมือนวินดี้นั่นแหละครับ แลวยังหงุดหงิดไปถึงไอคินนอยมันดวยเลย เวรกรรมจริงๆอยูดีๆก็มีเรื่องใหวินดี้ระแวง


และไมสบายใจ ไมใชความผิดผมเลยนะครับที่ไอปรินมันสงขอความมาแบบนี้ แตวินดี้ก็ใจราย มองวาเปนเพราะความซุกซนของ
นองชายผมซะงั้น เมื่อกอนอาจใช แตเดียวนี้มันเชื่องเสียยิ่งกวาอะไรซะอีก แลวผมจะทํายังไงละทีนี้ อีกนานเทาไหรกวาไอคินนอยมัน
จะรอดพนคดีนี้ได เวรกรรมจริงๆ เลย เฮอ...นี่แหละหนาผลพวงจากการเคยเจาชู. ..

ลืมไปเลยครับวาตัวเองไมไดอยูกันตามลําพังกับอายทอง พอบอกแกวาหงุดหงิดเรื่องของปรินพี่เขาก็รับปาก บอกวาเดี๋ยวพี่จัดการให


ตอนแรกผมก็ไมรูหรอกครับวาพี่เขาจะจัดการยังไง แตเห็นโทรออกหาใครก็ไมรู จากนั้นก็หันกลับไปคุยกับคนที่ติดตามแกอยูหางๆ
สองสามคํา นั่นแหละถึงทําใหผมรองออ...ชิส ผูทรงอิทธิพล ผมลืมเรื่องนี้ไปเลยครับวาที่รักผมไมใชคนธรรมดา

แลวเมื่อกี้อะ...อากกก นี่ผมเผลอทําอะไรลงไปครับ ไปจับๆกอดๆแกตอการด นึกขึ้นมาแลวก็อายนะเนี่ย พี่หนาโหดสี่คนมองผมกับพี่


เขาแลวอมยิ้ม...อากกกกก อายวุย อายๆๆๆๆ อยางนี้แหละผมชอบลืมตัวเสมอเลย เวลาจะทําอะไรอารมณมันจะไปกอน แลวพอได
สติถึงมานึกขึ้นได...

จะวาไปแลววันหยุดนี้เปนอะไรที่วุนวายมากๆ เลยครับ แคสองวันแตผมกลับไดรูอะไรหลายๆอยาง และผานหลายเรื่องราวดวย


อยางเชนเรื่องความสัมพันธของเมธกับตริน ผมเคยสงสัยวาใชแนหรือ แตแลวผมก็ไดคําตอบจากตาของตัวเองโดยที่ไมตองพูดอะไร
ออกมา แตวาผมก็ยังอยากรูอีกนั่นแหละครับวาสองคนนี้เขาไปมีอะไรกันตอนไหน ที่เขาไปหาเมธเมื่อกี้ก็ไมกลาถามอะไรครับ แค
เห็นวาทั้งสองอยูดวยกันในสภาพไหนแลวผมก็แทบอยากหายตัวไปจากที่ตรงนั้น...

แลวยังมีปรินที่เขามาทําใหผมหงุดหงิดอยูในขณะนี้ แตพี่เขาก็รับปากแลววาแกจะทําอะไรสักอยางใหเรื่องมันกระจางขึ้น รวมถึงตัว


ผมเองดวย ผมคิดไวแลววาถากลับกรุงเทพเมื่อไหร ผมคงตองหาโอกาสกลับบานสักครั้ง ผมตองรูใหไดวาคนๆนี้เปนอะไรกับตริน ก็
หวังวาพอเลี้ยงผมจะใหคําตอบกับผมไดวาเขามีลูกฝาแฝดหรือเปลา...

สุดทายก็เรื่องของพี่เขา นี่ก็เปนอีกเรื่องที่เซอรไพซผม ระยะเวลาแคสั้นๆ แตมันมีหลายเรื่องราวและแตละเรื่องก็ดูจะวุนวายจนผมไม


ทันไดสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งเปนเวลานานๆ เพราะมีเรื่องใหมใหคิดกังวลเขามาตลอดเวลา เรื่องคนติดตามพี่เขาก็เชนกัน พอมีเรื่อง
ปรินเขามา ผมก็ลืมเรื่องนี้ไปเลย

ทวาเวลานี้พอเห็นคนที่เดินตามเราอยูหางๆแลวก็ทําใหผมหวนคิดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ยอมรับครับวาไมชอบใจเลยที่ตองมีคนคอย
เดินตาม ไมวาจะทําอะไรที่ไหนตองอยูในสายตาของคนอื่นตลอดเวลา มันไมเปนสวนตัวเอาซะเลย แตเมื่อมองอีกมุมอยางที่พี่เขา
บอกวาเพื่อความปลอดภัย ผมก็พอจะเขาใจบาง แตอยางไรก็ดี ผมก็ยังหนักใจ นี่ชีวิตคนรักของผมตกอยูในอันตรายขนาดนี้เชียว
หรือ!!!
อีกอยางผมนี่ชางใชไมไดเลย ทั้งๆที่พี่เขาอยูขางๆผมแทๆแตผมกลับไมสังเกตอะไรเลย อยางวันนั้นไงครับ วันที่พี่เขามาขอโทษผม
ครั้งแรก แลวถามผมวาจะใหทําอยางไรผมถึงจะยกโทษให ผมบอกแกไปวาใหไปตายซะ แกก็เลยเอาปนออกมาแลวใหผมฆาแก นั่น
แหละครับผมเพิ่งนึกไดวาแกพกปนดวย ถาเปนคนธรรมดาคงไมพกมันใชไหมครับ ผมนาจะเอะใจเรื่องนี้ตั้งนานแลว

“ปนพี่มีลูกกระสุนไหมครับ” ผมถามเมื่อพี่เขาเดินกลับมาที่ผมหลังจากที่แกไปคุยกับการดของแกเรียบรอยแลว คือกอนนั้นผมจําได


วาพี่เขาไมไดใสลูกไวอะครับเลยถามดูเพื่อความแนใจ แตทําไมพี่เขาตองทําหนาซีดมองผมอยางหวาดๆอยางนั้นดวยละ

“วินดี้ถามทําไมครับ”

“ลองถามดูเผื่อมันฉุกเฉินตองใช” แคคิดไวกอนอะครับ ถาพี่เขาตกอยูในอันตรายจริงผมก็ควรจะรูไวใชไหมครับวาอะไรอยูตรงไหน


แลวตองระวังตัวอยางไรบาง

“โธ...ที่รักครับ แคนี้พี่ก็กลัวจะแยอยูแลว นี่ยังมาถามเรื่องปงเรื่องปนอีก กะจะฆาพี่เลยหรือครับ” แกพูดเรื่องอะไรของแกอะครับ ผม


งง?

“ใครบอกวาวินจะเอามาฆาพี่” ผมเอียงหนาถาม

“ไมฆาพี่แตจะเอามาทํามิดีมิรายกับคินนอยของพี่ มันก็เหมือนกันนั่นแหละ” หะ!!! อะไรอะครับ...คินนอย? พี่เขาพูดเรื่องอะไร ผมงง


หนักกวาเกาซะอีก
.
.
.

เอะ...อยาบอกนะวา

...พี่เขายังผวากับคําขูของผมเมื่อหลายนาทีกอนหนานั้น

...ถาเปนอยางนั้นจริงก็ขําเลยละครับ ฮาฮา

ตอนนั้นนะใช ผมขูแกไปอยางนั้นจริงๆครับ หึงมากดวย แถมยังหมั่นไสเพราะความเจาชูของแกนั่นแหละคนในอดีตถึงไดตามมา


กอกวนอารมณผม แตเวลานี้ผมกําลังนึกหวงความปลอดภัยของพี่เขานะครับ แคอยากทําอะไรบาง แตมันคงเปนนิสัยของผมมั้ง
เวลานึกอะไรขึ้นมาไดก็พูดขึ้นมาเฉยๆ แกเลยไมรูวาผมพูดเพื่อจุดประสงคอะไร

แต...จะวาไปแลวมันก็เปนโอกาสดีนะครับ กําหลาบเสือใหเปนลูกแมวซะเลยดีไหม คราวหลังจะไดไมกลาซา แถมยังบีบบังคัญใหแก


จัดการเรื่องของปรินใหมันจบๆไปซะที

“ถาเรากลับกรุงเทพแลวพี่พาวินไปซอมยิงปนดวยนะครับ” ผมบอกพี่เขาพรอมยิ้มหวานๆใหแกไปที

“เวลายิงจะไดถูกเปา” พูดเสร็จก็แสรงมองเปาของแกครับ พี่เขาสะดุงโหยงเลยครับ เห็นแลวขํามากเลย แตไมกลาหัวเราะออกมา


เดี๋ยวแกจับไดวาผมแกลงแกอยู

“ไมเอาหรอก เปนเด็กเปนเล็กหามเลนปน”

“เด็กที่ไหน วินโตแลว”

“โตแลวงั้นก็ตองเขาใจและเชื่อใจคนรักสิครับ ที่รักครับ...เชื่อพี่นะวาพี่ไมไดคิดอะไรกับไอปรินมันเลยจริงๆ แลวที่มันโทรมาหรือสง


เอสเอ็มเอสมาพี่ก็ไมมีสวนรูเห็นอะไรเลยนะครับ พี่รักวินดี้มากขนาดนี้จะใหไปมีคนอื่นไดอยางไร เชื่อใจพี่นะครับ ไมหึง ไมโกรธพี่นะ
ครับ นะๆๆๆ”

“วินไมไดหึงพี่แลว” พอพี่เขาพูดมาแบบนี้ผมก็ตองเปลี่ยนใจบอกแกไปตามจริงครับ บอกตามตรงเห็นหนาเศราๆ พรอมทั้งพยายาม


อธิบายใหผมเขาใจดวยประโยคยาวเหยียดอยางนั้นก็ใจออนแลวครับ แกลงแกตอไมลงเสียแลว

“ไมหึงก็หยุดขูพี่ซะที แคนี้ก็กลัวจะแยอยูแลว”

“วินไมไดขูอะไรพี่เลยนะครับ แคเตือนไวเฉยๆ”

“นั่นแหละเขาเรียกวาขู” แกทําปากยื่น บนอุบอิ๊บ ผมก็เลยยิ้มใหพี่เขาบางๆเปนเชิงปลอบใจ บางทีผมก็นิสัยเสียครับ ปากไมดีเทาไหร


เวลาอารมณรายผมก็พูดแบบไมคิด

“ถาพี่ไมไดทําอะไรก็ไมเห็นตองกลัวเลยนี่ครับ วินก็พูดของวินไปเรื่อย พี่อยาเก็บมาใสใจเลยเนอะ” พอผมพูดเสียงออนสีหนาพี่เขาก็ดู


ดีขึ้นมาหนอยครับ แตไมวายบนไปตามเรื่องตามราวของแกนั่นแหละครับ

“ไมใสใจไดไง มาพูดเรื่องนองชายพี่ วินดี้ไมคิดบางหรือครับ ถาเกิดมันเปนอะไรขึ้นมาจริงๆ วินดี้จะทํายังไง ใจราย แกลงพี่ใหใจ


หายใจคว่ําไดลงคอ” ผมหัวเราะในลําคอ ขยับเขาไปใกลพี่เขา กระซิบกับแกเบาๆ ครับ กลัวคนอื่นไดยินดวย ก็บอกพี่เขาไปตามตรง
อยางที่ผมคิดอยูตอนนั้นนั่นแหละครับ แตคําตอบของผมคงไมถูกใจพี่แกมั้ง แกตะโกนเรียกชื่อผมเสียงดังเลยครับ แถมทําหนาตื่นๆ
ซะดวยสิ

“ถาไมมีก็ไมเห็นตองเศราเลย พี่ก็อยูเฉยๆเดี่ยววินออกกําลังรุกพี่เอง”
เนี่ย ผมบอกแกแบบนี้อะครับ แลวคุณๆวาผมพูดผิดหรือ ขนาดเมธ?ตัวโตยังเปนรับเลยอะ แลวทําไมเรื่องนี่จะเปนไปไดละครับ จริง
ไหม????

ใครก็ไดชวยหาอะไรมาแคะหูผมทีเถอะครับ บอกผมหนอยสิครับวาผมฟงผิดไป “วินดี้จะรุกผมมมมมมม” อะจากกกกกกกก เวร


กรรม ฟาคงไดถลมวินาทีนี้แหละถามันเปนจริงขึ้นมา ถามีใครบอกผมวาเมื่อเชาพระอาทิตยขึ้นทางทิศตะวันตกผมยังจะไมตกใจเทา
นองวางแผนใหผมเปนฝายรับ อากกกก วินดี้คราบบบบบ ที่รักเขาใจอะไรผิดหรือเปลาเนี่ย!!!!

เด็กบาอะไรก็ไมรู อยากจับมาตีกนจริงๆเลย คุณๆ ดูไวเปนอุทาหรณนะครับ ถาใครมีแฟนที่ฉลาดและหัวไวอยางวินดี้ละก็ อยาริอาจ


ไปสอนนองเคาใหขึ้นขางบนเด็ดขาด เห็นไหมครับ ไมทันไรวินดี้จะขึ้นครูผมซะแลว มิหน่ําซ้ํายังจะมากําจัดเจาคินนอยของผมทิ้ง
แลวใหผมนอนเฉยๆ เอิกส...ผมอยากจะบาตาย นองไปเอาความคิดนี้มาจากไหน!!!!

จากนี้ผมจะขอสัญญาจากหัวใจเลยครับ ขอใหครั้งนี้เปนครั้งสุดทายที่จะทําใหนองหึง เลิกแลวจบที อยางนี้ไมเอา จะขอวินดี้คนเกา


เอาคนดีของอายทองกลับคืนมา!!!! คนนารักๆ ขี้ออน ชางเอาใจอะครับ อยากไดนองวินดี้คนนั้นอะ ไมใชโหดๆแบบนี้!!! ไม
เอาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ถาไมติดวาน้ํายางอายพอจะมีอยูบางคงไดลงไปชักดิ้นชักงอ รองโหยหวนที่พื้นแลวละครับ แตคนหลอทําไมไดเลยตองยิ้มแหยๆให


หองไปครับ

“วินดี้ลอพี่เลนใชไหมครับ” ถามเพื่อความแนใจครับ

“เปลา” อะจึ๋ยๆ ไมตองทําสีหนาจริงจังขนาดนั้นก็ไดนะที่รัก แคยืนยันคําเดียวโดดๆแคนี้พี่ก็เขาใจลึกซึ้งถึงความหมายแลวละครับ

“อะไรก็เกิดขึ้นไดทั้งนั้นแหละครับ ขนาดเมธยังเปนรับเลย” งะ วินดี้อยาไปมองคูอื่นสิครับ ใครจะรับ ใครจะรุกก็ชางเขา แตคูของเรา


อายทองรุกไดอยางเดียวครับ สวนที่รักก็ตอบรับรอยรักของพี่อยางเต็มใจนั่นแหละถูกแลว อยากบอกนองแบบนี้อะครับ แตยังไมทัน
ไดอาปากพูดอะไรเลยก็ตองรีบหุบปากในเร็วพลัน...

“ปง!!!...”

“โครม!!!...”

“โอย!!!...”

“จะไปไหน!!!...”
“ปลอยกูนะ!!!...” นี่อะครับ เสียงมารที่มาขัดขวางผม

ผมกับวินดี้หันขวับไปยังที่มาของเสียงดวยความประหลาดใจ ทันไดเห็นไอคูผัวตัวเมียมันออกมากอดปล้ํากันอยูหนาหอง...สาด พวก


มันสองตัวอีกแหละ เพราะพวกมึงใชไหมมาทําใหที่รักกูอยากเอาเปนเยี่ยงอยาง แลวดันเจือกกอดรัดฟดเหวี่ยงกันตอหนาคนดีของกู
อีก

ไอเมธกับตรินครับ ไมรูวาเกิดอะไรขึ้น จูๆก็โผลพรวดพราดออกมาจากหอง และผมกับนองก็ยืนอยูไมหางพวกมันครับ ก็จะใหไปไหน


ไกลไดอยางไร กอนหนานั้นจะกาวขาทีก็มีโทรศัพทมารมาผจญแลวจากนั้นนองก็ชําระสะสางผมที่ทางเดินนั่นซะเลย แลวคราวนี้
อะไรอีกละเนี่ย...พวกมึงสองตัวเลนอะไรกานนนน

“เกิดอะไรขึ้นหรือครับ” นองขยับเขามาใกลผมแตสายตากึ่งตกใจยังจับจองที่สองคนนั้นไมวางตา

“พี่ก็ไมรูครับ” พูดพรอมโอบบานองไวครับ เหตุการณไมนาไววางใจ ใหนองอยูใกลๆ ผมแหละดีที่สุดแลว

“ไอหาเมธ ปลอยกู!!!” เสียงของไอตรินครับ ทั้งดิ้น ทั้งแตะ เออ...มึงรองมึงดิ้นเขาไป แลวยังนุงแตผาเช็ดตัวผืนเดียวออกมา เดี๋ยวได


อับอายตอหนาปะชาชี เอะ...หรือมันชอบโชว ไมไดการแระ

“เรื่องของผัวเมียเขา เราอยายุงดีกวา ไปกันเถอะครับ” ไมเอาที่รักอยามอง ชวนนองหันหลังเดินหนีไปดีกวาครับ แตไมทันไดกาวขา


เสียงนรกก็ดันดังขึ้นซะกอน...ตกลงไอทางเดินเสนนี้มันเปนอะไรมากไหม จะกาวเดินที่ไรตองมีเรื่องมาฉุด มารั้งไวเนี่ย

“นองกุล!!! ชวยพี่ดวย!!!” เสียงรองโหยหวนของไอตรินอีกแลวครับ ไมรูมันหันมาเห็นที่รักผมตอนไหน ดึงดันจะมาหาวินดี้ใหไดแตไอ


เมธก็ฉุดไว

“มึงจะไปไหน หะ!!!”

“ไอหานี่ บอกใหปลอยกูไง นองกุล!!!” อะไรของมึง เรียกที่รักกูทําไม หรือมึงจะเลนสาม ไมไดนะเวย ไปรุกรับกันเองสองตัวสิ อยามา


ยุงกับคนของกู

“พี่ครับ ตรินเรียกใหวินชวย” วินดี้ก็หันใบหนาตื่นๆมาทางผม สบตาผมอยางขอความเห็น

“ไมตองไปเรียกไอกุลมันเลย” คราวนี้เปนเสียงของไอเมธครับ มันกําลังจะลากไอตรินกลับเขาไปในหองอีกครั้ง

“นองกุล!!!” ไอนี่ก็ฝนตัวไวสุดกําลัง

“พี่ครับ...” นองก็มาเขยาแขนผม กูละหนายพวกมึงสองตัวจริงๆเลย ผมหมายถึงไอเมธกับไอตรินนะครับ จะเลนจ้ําจี้กันก็ทําแบบ


เงียบๆก็ไมได

“มีอะไรใหชวยไหมครับ” เลี่ยงไมไดก็จําเปนตองออกโรงแลวละครับ พูดกับตรินครับเพราะเขารองขอใหชวยพรอมทั้งมองผมกับนอง


อยางเวาวอน ขณะพูดก็เดินเขาไปใกลพวกมันทั้งสองครับ แตไอเมธ คนที่ผมไมไดพูดดวยนี่ส.ิ ..สาด...

“ไมใชเรื่องของมึงไมตองมาเสือก” หาเอย นึกวาอยากเสือกนักหรือไง อยากกดกันก็ทําไปสิ แตอยามากอความวุนวายแถวนี้ แถมยัง


มาทําใหที่รักกูตกใจอีก ดูส.ิ ..เกาะแขนกูไมปลอย จับตนชนปลายไมถูกอยูเนี่ย

“คงตองยุงแลวละครับเพราะผมเปนเจาหนาที่ของโรงแรม เสียงทะเลาะวิวาทของคุณทั้งสองกําลังรบกวนแขกคนอื่นๆ” จําเปนตอง


เปดเผยตัว ออกหนาไปแบบนี้ ไมงั้นเขาไปวุนวายไมได อีกอยางคงปลอยไปไมไดหรอกครับเพราะวามันเกี่ยวกับโรงแรมดวย มา
ทะเลาะกันที่ทางเดิน แตงตัวไมเรียบรอย หากแขกที่มาพักเห็นตองเครมทางโรงแรมแนๆ

อีกอยางนองก็ขอมาดวยครับ คงตองทําอะไรใหนองแลวละ กอนที่นองจะตัดสินใจวาควรทําอยางไรกับไอสองคนนี้ ผมก็มีหนาที่


ประวิงเวลารอนองครับ หากมาในนามคนรักของวินดี้ไอเมธมันคงไมยอมใหผมเขาไปจุนจาน แตพอบอกไปแบบนี้ก็เหมือนจะไดผล
ครับเพราะวามันหยุดชะงัก แตอยางไรก็ดี ผมเชื่อวาวินดี้มีวิธีจัดการกับไอสองตัวนี้แนนอนครับ...ไมนานหรอก ใหนองตั้งสติไดกอน
เถอะ

...แตวาก็วาเถอะครับ ตอนนี้วินดี้ไดเห็นไอเมธทั้งดึง ทั้งฉุด ทั้งลากไอตรินใหเขาไปในหองดวยกันขนาดนี้แลว นองยังคิดอีกไหมครับ


วาไอเมธกําลังบังคับใหไอตรินเขาไปกดมันอยู...ชัดๆขนาดนี้ นองคงรูแลวละวาใครกดใคร คราวนี้ก็หมดสิทธิ์ อางไมไดอีกแลวละ
ครับวา...ขนาดไอเมธตัวใหญยังเปนรับไดเลย!!!

ตกใจหมดเลยครับ นึกวาใครมาทะเลาะกันแถวนี้ พอหันไปมองก็เห็นเมธกับตรินอีกแลว นี่พวกเขาทั้งสองยังปรับความเขาใจกัน


ไมไดอีกหรือเนี่ย ตอนที่เจอบนหาดก็ทะเลาะกันไปทีหนึ่งแลว และพอมาเจอในหองและอยูดวยกันผมก็เขาใจวาปรับความเขาใจกัน
ไดแลวเสียอีก แตไมทันไรก็มีปากมีเสียงกันอีกแลวครับ แลวยังทําทาจะตีกันตายอยางคราวที่แลวอีกดวย

แตคราวนี้ดีหนอยครับ ถึงจะเจือกเขาไปยุงเรื่องของทั้งสองแตก็ไมถูกลูกหลงจากพวกมันเหมือนคราวกอน เพราะพี่เขาเปนคนออก


หนาให จะวาไปพอไอพี่ทองเปนงานเปนการขึ้นมาพี่เขาดูนาเกรงขามมากเลยครับ นี่ผมยังอดภูมิใจในตัวแกนิดๆไมไดเลยนะ พี่เขาดู
เปนผูใหญและควบคุมอารมณไดดีมากทีเดียว

และตอนที่เมธหันไปคุยกับไอพี่ทอง ตรินก็ถือโอกาสสะบัดตัวออกจากการเกาะกุม ตอนแรกก็จะกระโดดเขามาใกลๆผมนั่นแหละ


ครับแตการดพี่เขามาขวางไวซะกอน คงเปนหนาที่ของเขามั้งครับที่จําเปนตองกันคนอื่นเขาใกล พอเห็นแบบนั้นตรินก็รีบไปหลบหลัง
การดแทนซะเลย

พอเมธรูตัวมันก็จะไปดึงตรินกลับมาครับ แตตรินก็หลบซายขวา ใชรางกํายําของพี่การดหนาโหดเปนกําแพง ทํายังกับหนังอินเดีย


พระเอกไลตะครุบจับนางเอก ผมละสงสารแตพี่การดแกครับ ไมไดรับคําสั่งจากพี่ใหทําอะไร เลยไดแตทําหนาปูเลี่ยน ยืนเปนมนุษย
กําแพงใหตรินมันหลบ เห็นแลวก็ขําครับ

“พอเถอะเมธ” ผมบอกเมธ มันก็หันหนามามองผมนิดหนึ่งครับ กอนทําทาทางฮึดฮัดอยางขัดใจ พอเมธมันหยุดพี่การดก็ถอนหายใจ


เลยครับ ไมรูโลงอกเรื่องอะไรแตผมอะโลงอกที่มันทั้งคูหยุดยึกยัก ไมใชอะไรหรอกครับ กลัวผามันหลุด ไมรูออกมาวิ่งไลจับกันทําไม
แตงตัวก็ไมเรียบรอยทั้งสองคนเลย

“ชวยพี่ดวยครับนองกุล ไอเมธมันจะทํารายพี่” ใชเลยละ มันฝากรอยรักไวซะเต็มตัว ไมรูถูกกัดไปกี่ครั้งแลว แตตัวตรินอะแดงเถือก


เลย

“มึงอยาไปเชื่อมันนะกุล ไอนี่มันเจาเลห” หลักฐานมันฟองซะขนาดนี้ ยังจะมาเถียงอีก แลวเมธยังแยงดวยน้ําเสียงไมเบาเลยแมแต


นอย

“เกิดอะไรขึ้นทําไมถึงไดออกมาวิ่งไลกันนอกหอง” แตก็ยังอดที่ถามถึงที่มาที่ไปไมได

“ก็ไอหานี่สิ มันจะปะ...” ปะ อะไรวะ พูดใหมันชัดๆหนอยสิ ครึ่งๆกลางๆแบบนี้ ฟงไมรูเรื่องนะเวย

“ทํายังกับไมเคย โถเอย...” ไอเมธเจือกรูอีกวาตรินพูดอะไรคางไว มันยกมือขึ้นมากอดอก มองตรินดวยหางตา ผมมองพี่เขาอยางขอ


ความเห็น อยากรูอะวาพี่รูเรื่องที่ทั้งสองคุยกันหรือเปลา แตไอพี่ทองไมตอบเพียงแคยิ้มมุมปาก กอนจะถอยหางจากเมธออกมา นี่
หมายความวาพี่เขาโยนเรื่องของทั้งสองมาใหผมแลวใชไหมครับ

“กูเบื่อเลนเกมกับมึงแลวตริน มึงจะเปนใครก็ชาง ไอปริ้นที่กูเคยเรียก หรือไอสนตรินที่กูเคยดา หรือไอตรินที่กูกําลังพูดอยู แตจําไว


เลย ในเมื่อมึงเลือกที่จะเดินเขามาในชีวิตกูอีกครั้ง กูก็จะไมปลอยมึงไปเด็ดขาด”

เออ...เมธมันประกาศเรื่องอะไรออกมาครับ แลวพูดจบมันก็หันหลังเดินเขาหอง ปดประตูใสหนาพวกผมเสียเลย อะไรของมัน บทจะ


เดินหนีก็หนีไปเสียดื้อๆ แตคําพูดเมื่อกี้เหมือนจะเขาใจอะไรลางๆ คลายพวกมันกําลังจะบอกเลิกกัน...หรือเปลา แลวคราวนี้เมธไม
ยอมใชไหม แลวก็เลยจะปะตริน...แลว..ปะ..นี่มันอะไรวะ แตชางเถอะ ละไวในฐานที่เขาใจแลวกัน จากนั้นตรินก็เลยวิ่งหนีออกมา
เมธเลยวิ่งไลตามจนมาเจอพวกผม...ฟงจากที่เมธพูดแลวก็จินตนาการเหตุการณและตีความไดแบบนี้อะครับ คราวนี้ก็ออไดแระ...
เรื่องมันเปนอยางนี้นี่เอง

เมื่อเมธเดินปงปงจากไปตรินก็ถอนหายใจเสียงดังเลยครับ ผมเลยหันมามองทางเขาอีกครั้ง ตรินมองหนาผมกอนจะกมมองตัวเอง


จากนั้นเขาก็ยิ้มแบบอายๆ ลูบแขนตัวเองไปมา

“เออ...ขอบคุณมากนะครับนองกุล...เออ...” พูดแคนั้นเขาก็หันซายหันขวา ยกมือขึ้นมากอดอก กัดริมฝปากตัวเอง แกมเขาแดงดวย


นะครับ นี่ตรินกําลังอายผมอยูหรือเปลานะ ฮาฮา ผมไมรูหรอกครับวาเขาเขินผมเรื่องอะไร แตทาทางของเขาก็นารักดีนะครับ
“ตรินไมชอบความรุนแรงหรือ” ผมถามเขาแกมหยอก ตอนนี้ผมเขาใจแลวครับคําวาปะของตรินนี้มันอะไร เดาเอาจากรอยแดงๆ จ้ําๆ
ตามเนื้อตัวเขาครับ แหม...ไมอยากถูกเมธปล้ํานี่เอง แตตรินกลับพาซื่อสายหนาปฏิเสธ กอนเขาจะชะงัก จากนั้นก็สายหนาเร็วๆจน
ผมกระจายเลย

“ไมใชอยางนั้นนะครับนองกุล อยาแมแตจะคิดเชียว” แนะ มารูอีกวาผมคิดอะไรอยู

“อาวไมใชหรือ ก็เห็นตรินบอกวาเมธจะทํารายตริน กุลก็เลยถามดู หรือตรินคิดวากุลพูดถึงเรื่องอะไรอยูละ” แสรงปนหนาใสซื่อถาม


เขาครับ ตรินกัดริมฝปากตัวเอง หลบตาผมพรอมกับกมหนาหนอยๆ หนาแดงกวาเกาอีก สวนไอพี่ทองหรือครับ ไดยินแตเสียง
หัวเราะหึหึ อยูใกลๆผมนี่แหละ ผมเลยหันไปดูแกหนอยก็พอดีที่พี่เขายกมือขึ้นมาโอบไหลผม

“คุณอยากไดเสื้อคลุมกอนจะกลับหองไหมครับ” เสียงถามของไอพี่ทองทําใหตรินเงยหนาขึ้นมา

แตยังไมทันที่ตรินจะตอบวาอะไร ประตูหองของเมธก็เปดออกมาอีกครั้งอยางรวดเร็วและรุนแรง ตรินสะดุง กระโดดมาหลบหลังผม


เชนเดียวกันกับผมและพี่เขาที่หันขวับกลับไปยังที่มาของเสียง

“ตุบ...” ไมมีคําพูดอะไรจากเจาของหองครับ มีแคเสื้อผาของตรินที่ถูกโยนออกมากองไวหนาหอง

“ปง...” แลวมันก็ปดประตูใสหนาพวกผมอีกครั้ง

“งะ...คงไมตองแลวละครับ” ตรินมองที่เสื้อผาตัวเองกอนยิ้มแหงๆใหกับพวกผม จากนั้นเขาก็เดินอยางกลาๆกลัวๆไปหยิบเสื้อกับ


กางเกงของตัวเอง ผมคิดวาเขาคงไมไววางใจละมั้งครับ เกิดไอเมธมันเปดประตูออกมาแลวฉุดตรินเขาไปในหองอีกครั้งละจะทํา
ยังไง...

“แคก!!!” เสียงลูกบิดประตูพรอมประตูที่เปดออกมาอยางรวดเร็ว

“เฮย!!!” เสียงอุทานอยางตกใจของผม พี่เขา และตริน


“กูจะสั่งสอนเมียกู ไมตองมายุง !!!” เสียงประกาศกองของเมธ

“ปง!!!” ตบทายดวยเสียงประตู

“คลิ๊ก!!!” มันล็อกหองอีกตางหาก

สวนผมที่ยืนตาโตอยูหนาหองของไอเมธแทบจะรอง อากกกกก ตกตะลึงอยางจัง...ก็ไอเมธนะสิครับ มันฉุดตรินเขาไปในหองจริงๆ


ดวย!!!!

คนรายๆอยางตรินมันตองเจอกับผม แลวคิดหรือวาผมจะปลอยเขาไปงายๆ ผมบอกแลวใชไหมวาในเมื่อคราวนี้เขาเปนคนเดินเขา


มาในชีวิตผมอีกครั้ง เขาก็ตองรับผิดชอบกับสิ่งที่ทํา จะมาเสแสรงลืมผมอยางเมื่อสี่ปที่แลวนะหรือ ฝนไปเถอะวาผมจะยอม

หลังจากฉุดตรินเขามาในหองไดอีกครั้งผมก็แบกเขาขึ้นบา ตรินก็โวยวายตามเรื่องตามราวของเขานั่นแหละ แถมยังมาทุบหลังผมอีก


แตผมก็เดินดุมๆไปยังเตียงแลวก็โยนเขาลงไปบนนั้น

“โอย!!! กูเจ็บนะไอหานี่” แคนี้ทําเปนเจ็บ แลวที่ทุบผม ตอยผม กัดผมละ สารพัดแตเขาจะทําไมเห็นผมวาอะไรเลย

“ในเมื่อเจ็บแลวก็เจ็บอีกสักหนอยเปนไง” วาพรอมกระโจนเขาหาเขา

ถึงเมื่อครูผมจะบอกวาตรินรายแตผมนะรายกวา หรือเรียกไดวาผมมันคนเลวเลยดีไหม สิ่งที่ผมทํามันคือการเห็นแกตัว และผมก็


เลือกตรินใหเปนเหยื่อของผม ถึงแมจะรูดีวาสิ่งที่ทําไมถูกตอง แตผมก็ยังดื้อดึงที่จะทํา...หวังวาการเอาตัวไปผูกมัดกับตรินจะชวย
เยี่ยวยาหัวใจที่ราวราวของผมได

เมื่อสิบนาทีกอนกุลเขามาในหองพรอมกับคนรักของมัน ถึงเหตุผลที่กุลมาก็เพราะเปนหวงผม แตความหวงใยที่มันมีใหก็แคในฐานะ


เพื่อนคนหนึ่ง ไมเหมือนความรูสึกที่มันมีใหแกใครอีกคนที่ยืนอยูขางๆมัน ผมเจ็บอีกแลว มันเจ็บมากกวาเมื่อตอนสายที่ผมเจอกุลบน
ชายหาดซึ่งมันจับมือคนรักของมันแลวเดินจากผมไป ความรูสึกตอนนั้นผมคิดวาตัวเองเจ็บเทาเทียมกับเมื่อคืนที่มันบอกวารักผม
อยางเพื่อนคนหนึ่ง เพราะการกระทําในขณะนั้นบงชี้ชัดเจนวาทุกสิ่งที่ทํา ความหวงใยที่มอบให “ก็มึงเปนเพื่อนกู” มันแทนคําๆนี้ได
เปนอยางดี

ผมยังไมพรอมจะเห็นมันอีกครั้งกับใครคนนั้น ผมยังอยากหลอกตัวเองอีกสักพักวากุลยังเปนคนเดิมของผม ผมยังเปนคนสําคัญของ


มัน ผมยังอยากอยูกับวันวานในอดีต ขอผมทําใจดวยตัวเองอีกสักหนอย ไมอยากใหมันมาย้ํากับผมบอยๆวามีใครแยงหัวใจของมัน
ไปจากผมแลว

ผมไลมันออกจากหอง มันจะเขาใจวาใครรุกใครรับก็ชางมัน เมื่อกุลออกไปแลวผมก็แทบหมดแรง ไมมีอารมณมาตอเรื่องที่ทําคางไว


กับตริน แลวพอผมหันมาทางตรินเขาก็อึ้งไปเหมือนกัน เหมือนเราทั้งสองจะลืมเรื่องระหวางเรากอนหนานั้นไปทันที เขาถามผม
เหมือนคนละเมอวากุลมีคนรักแลวจริงๆหรือ ผมบอกเขาวาก็อยางที่ตาเห็นนั่นแหละ แลวผมก็เดินหันหลังใหเขาเขาหองน้ํา กวักน้ํา
มาลางหนา

ใหตายเถอะ อกหักเมื่อบอกรักในวันที่สายนี่มันเจ็บเสียยิ่งกวาเจ็บ ยังไมทันไดทําอะไรแตแลวก็ตองตัดใจมันทรมานยิ่งกวาทรมาน


มันยากเสียยิ่งกวายากที่จะขมใจไมแยงชิงเขากลับมา ความรักคือการไมเห็นแกตัวชางเปนคําพูดที่สวยหรู แตมีสักคนกันที่ทําได
ปลอยคนที่เรารักใหเขามีความสุขกับใครอีกคน ผมเขมแข็งขนาดนั้นจริงๆหรือ ผมจะหามตัวเองไดหรือเปลา ผมจะหยุดรักกุลมันได
ใชไหม...

ผมอยูกับตัวเองและความปวดใจครูใหญ เมื่อแนใจแลววาผมควบคุมตัวเองไดก็ออกมาจากหองน้ํา แตสิ่งแรกที่ผมเจอคือหมัดของ


ตรินที่ตอยเขาเต็มหนา สมองผมมึนงงอยูครูหนึ่ง กอนจะคํารามเสียงดัง มันอีกแลวไอสนตีน ทําไมตองเปนมันทุกทีที่ผมเจอในเวลาที่
ออนแอ

“มึงทําทุกอยางเสียหมดเลย เห็นไหมนองกุลเขาใจกูผิด!!!” หลังจากมันชกผมก็ตะโกนใสหนาผมปาวๆ

“ชวยเมธหนอยสิตริน ชวยทําใหเมธลืมๆมันหนอยไดไหม” แตแทนที่ผมจะตอบโตดวยถอยคํารุนแรงผมกลับเวาวอนเขา ผมไมได


สนใจวาตรินรูสึกอยางไรในตอนนั้น ผมดึงเขาเขามากอด อยากใหใครสักคนเอาความเจ็บนี้ออกไปจากผมสักที

“ปลอยนะ กูจะไปอธิบายใหนองกุลเขาใจ” เขาบอกพรอมดิ้นรนขัดขืน ทําไมเพิ่งจะไปบอกตอนนี้ ตอนที่ผมปลอยใหเขาอยูคนเดียว


กอนหนานั้นละ ทําไมไมรีบวิ่งไปบอกกุลมัน มารอเจอผมอีกครั้งทําไม เขามาในชวงเวลาที่ผมออนแออีกครั้งเพื่ออะไร

ในชวงเวลาที่ผมกําลังสับสนตรินเขาก็ดิ้นจนหลุดแลวรีบหุนหันออกไปจากหอง พอรูตัวผมก็รีบตามเขาออกไป ดึงตรินไว เราฉุดและ


รั้งกันที่หนาประตู แลวตรินก็ทําใหเลือดในหัวใจผมไหลออกมาอีกครั้งเมื่อเขาตะโกนเรียกกุล ผมบอกแลววาผมไมพรอมจะเจอมันกับ
คนรักของมันในตอนนี้ ยิ่งไอคนนั้นเขามาวุนวายกับผมยิ่งทําใหผมโมโห

อีกอยางผมรักกุลมันมาก ผมถึงไดพยายามหามตัวเองไมเขาไปวุนวายกับมันและคนรักของมัน แลวตรินละ ผูชายอยางนั้น พอไดใน


สิ่งที่ตัวเองตองการก็แกลงลืม จะเขาไปทําใหชีวิตของคนที่กุมหัวใจผมอยูใหยุงยากขึ้นมาอีกทําไม

ผมพยายามฉุดตรินใหออกมาจากกุล แตกุลเองที่หามผม แตใชวาผมจะยอมหรอกนะ สุดทายผมก็มีวิธีทําใหตรินเขามาในหองกับ


ผมอีกจนได จะวาไปแลวการที่ดึงตรินออกมาจากกุลมันก็เปนเพียงแคเหตุผลหนึ่ง แตจริงๆแลวมันเปนความเห็นแกตัวของผม
ตางหาก การที่เห็นกุลอยูกับคนรักของมันอีกครั้ง ทําใหสิ่งที่ผมยืนยันจะทําตั้งแตเมื่อคืนไดกลับมาอีก ใชแลวละ ผมกําลังหักดิบ
ตัวเอง หาใครสักคนมาแทนที่กุล แลวคนที่ผมเลือกก็คืนตรินนั่นเอง!!!

เมื่อผมแบกตรินเขามาในหอง ผมก็โยนเขาลงบนเตียง จากนั้นก็กระโจนเขาใสเขา ตรินดิ้นรนขัดขืนนิดหนอย แตวินาทีตอมาเขาก็


หยุดนิ่ง ยอมใหผมบดขยี้ริมฝปากเขาอยางรุนแรง ลิ้นของเขาที่เกี่ยวกับลิ้นของผมอยางกลาๆกลัวๆทําใหผมลดความดุดันลง เปลี่ยน
จากจูบที่เรารอนเปนออนหวาน และตรินก็ตอบสนองผมไดอยางไมนาเชื่อ ผมจูบตรินจนพอใจจึงได ถอนริมฝปากออกมา

ตอนแรกผมก็ไมแนใจหรอกนะวาสิ่งที่เปลี่ยนเขาจากดิ้นรนขัดขืนมาตอบรับจูบของผมอยางเต็มใจนั้นจะใชในสิง่ ที่ผมคิดไวหรือเปลา

“ลืมตาสิตริน” แลวพอเขาลืมตาขึ้นมา ผมก็ไดคําตอบอยางชัดเจนวาสิ่งที่ผมคิดอยูนั้นคือความจริง

เมื่อคนสองคนที่ผิดหวังจากความรักมาเจอกัน แลวทั้งสองจะชวยกันรักษาแผลใจนั้นไดอยางไร ชวยเมธไดไหมตริน ชวยทําใหเมธลืม


กุลทีเถอะนะ...ไดโปรด...

ถึงแมจะตัดสินใจแลววานี่เปนวิธีเดียวที่จะทําใหผมลืมกุลได ทวาพอเห็นดวงตาของตรินซึ่งเต็มไปดวยความสับสนที่กําลังสะทอน
ออกมานั่น ก็ทําใหความรูสึกผิดชอบชั่วดีตามรบกวนจิตใจผมอีกครั้ง มันอดรูสึกผิดไมไดที่ใชตรินเปนเครื่องมือเพื่อจะลบกุลออกไป
จากใจ

ผมเชื่อแนวาแววตาของผมที่จองมองตรินอยูก็คงฉายแววสับสนไมตางจากตริน ดวยเหตุผลที่วาพวกเราทั้งสองกําลังออนแอ และ


มองไมเห็นวาจะหนีไปจากความเจ็บปวดนี้ไดอยางไร...ความเจ็บปวดที่เราทั้งสองตางไมอยากยอมรับวามันคือความจริง

ผมกมศีรษะลงจุมพิตตรินอีกครั้ง ตรินชะงักอยูครูหนึ่งกอนคอยๆโอบแขนรอบลําคอของผม รูสึกถึงแรงโนมใหผมลงมาแนบชิดกับเขา


มากขึ้น จูบของผมคราวนี้ไมไดรอนแรงดุดนั แตมันออนโยนและดูดดื่ม การตอบรับจากตรินก็ไมใชขัดขืน รุนแรง อยางคราวกอน แต
มันกลับออนหวานและละมุนละไม

เวลาเดินผานเราไปอยางเชื่องชา พรอมกับความรูสึกหนักหนวงที่อัดแนนอยูในใจถูกถายถอดออกมาผานจูบที่เราทั้งคูตางแลกใหแก
กันและกัน จนกระทั่งผมสัมผัสไดถึงปลายนิ้วของตรินเกลี่ยที่หางตาของผมนั่นทําใหผมถอนริมฝปากออกมา

ใบหนาของตรินที่อยูไมหางพรามัวอยางไมทราบสาเหตุ ผมพยายามกระพริบตา มันชวยไดบางแตในวินาทีตอมาใบหนาของตรินก็


เริ่มไมชัดขึ้นอีกครั้ง สุดทายผมก็ซบหนาลงกับอกของตรินอยางผูแพพรอมกับปลอยใหน้ําตามันไหลรินออกมา...ผมทําไมได ผมแพ
ความออนโยนของตริน มันทําใหผมรูสึกผิด สับสน และอับอาย อยางไรผมก็ยังเปนไอเมธคนเกาที่ชอบหนีปญหา ขี้แย และออนแอ

“นองเมธ...” คําเรียกขานที่ตรินเคยเรียกผมตลอดสี่ปที่ผานมาออกมาจากปากเขาอีกครั้งเมื่อผมยังคงกอดตรินไวแนน

“ตั้งแตเมื่อเชาแลว นองเมธมีปญหาอะไรครับ อะไรที่ทําใหนองเมธเปนแบบนี้”

“กูอกหัก” ผมตอบอยางไมตองคิดดวยน้ําเสียงอูอี้ ยังไมยอมเงยหนาขึ้นมา ใหตายเถอะ ไออาการของคน broken heart นี่มันทําให


คนเราออนแอไดถึงขนาดนี้เชียวหรือ

“อกหักเลยสับสนทางจิต สมองฟนเฟอน” สาด มาวินิจฉัยโรคของกูอีก ทําเปนพูดดีไปเถอะมึง ตัวเองก็อกหักเหมือนกันนั่นแหละแต


แสรงทําเปนเขมแข็ง...

“พี่ก็เลยตกเปนเหยื่อ เกือบไปแลวไหมละ เกือบไดเปนเมียนองเมธจริงๆ”

“นึกวาจะรอดหรือไง” ผมพูดพรอมเงยหนาขึ้นมา

“หึหึ ยังมีอารมณอีกหรือครับ” ตรินหัวเราะในลําคอพรอมสายหนา

“ไมอยากขัดขืนแลวครับ ดิ้นไปก็เจ็บตัวเปลาๆ ตามใจนองเมธแลวกัน จะทําอะไรก็ทําไดเลย เสร็จแลวอยาลืมรับผิดชอบพี่ดวยละ พี่


ก็เปนลูกมีพอมีแมนะครับ ไมใชทิ้งขวางไมดูแลกัน” ฟงตรินมันพูดครับ วาจบก็หลับตา นอนนิ่งๆ สมยอมผมซะงั้น ไอหานี่ แลวแบบนี้
ใครมันจะไปมีอารมณวะ

“เฮอ...” ผมถอนหายใจ พรอมกับพลิกตัวมานอนแผหลาขางๆ ตริน ในหัวมันวางเปลาหมดเลยครับ ไมรูจะทํายังไงตอไปแลว นอนนิ่ง


อยูครูหนึ่งก็หันไปหาคนขางๆ

“เจ็บไหมตริน...” อดถามไมได บรรยากาศมันเงียบเหงา วังเวงเกินไป ถามไปก็ปรายสายตามอง ผมอยากรูวาในใจเขาเจ็บเหมือนที่


ผมเจ็บไหม ทรมานอยางผมไหมเวลาเห็นกุลกับคนรักของมัน แลวผมก็ไดคําตอบโดยไมใชคําพูดที่ออกมาจากปากของตริน แตเปน
หยดน้ําใสๆที่ไหลออกมาจากหางตาของเขาตางหาก

“ตริน...” ผมครางชื่อเขาอยางแผวเบา ชันตัวขึ้นจากหมอน ตะแคงขางไปทางเขา

“พี่ก็อกหกเหมือนกันครับนองเมธ เจ็บจนจะทนไมไหวแลว” เขาตอบผมพรอมกับกอดผมแนน ซบหนาอยูกับอกของผม เหมือนมี


บางอยางวิ่งเขามากระแทกหัวใจผมอยางจัง มันชาจนไรความรูสึกอยูขณะหนึ่ง กอนความรูสึกนั้นจะแปลเปลี่ยนเปนสงสารและ
เขาใจ ผมโอบเขาไวพรอมกับลูบหลังแผวเบาอยางปลอบประโลม

เฮอ...จะวาไปแลว ขนาดตัวผมเองยังเอาตัวไมรอดเลย แลวพอตองมาปลอบคนอื่นอยางนี้ แทนที่จะทําใหเขาดีขึ้นกลับช้ําใจมากกวา


เกาหรือเปลานี่ ถึงอยางไรก็ตาม เมื่อตรินไดหลุดคําพูดออกมาแลว ดูเหมือนเขาจะหยุดไมได ตรินระบายทุกอยางออกมาจนผมแทบ
ฟงไมทัน เขาบอกวาแอบรักกุลมันตอนไหน ตองทนกล้ํากลืนรักมันขางเดียวมากี่ป ทําอะไรใหกุลมันหันมามองเขาบาง แอบเสียใจ
นอยใจมากแคไหนที่กุลไมเคยสนใจ แลวสุดทายเขาก็ลุกขึ้นนั่ง แลวตบทายดวยประโยคที่ผมไมคิดวาจะไดยิน

“เรามาคบกันไหมครับนองเมธ เรามาเปนแฟนกันนะ”

“หะ!!!”

ผมไดแตอาปากเหวอกับคําขอของตริน นี่ตกลงมึงอยูในอารมณไหน!!!
ดิ้นรนขัดขืนไมยอมใหผมปล้ําเมื่อชั่วโมงกอน????

ตกตลึงที่มีบุคคลที่สาม สี่ หา มาเห็นวาผมกับมันจะทําอะไรกัน????

สมยอมเปนของผมเพราะช้ําใจจากกุล????

รองไหฟูมฟายเพราะอกหักทั้งๆ ที่ยังไมมีโอกาสบอกรัก????

หรือมึงขอคนที่กําลังอกหักเหมือนกันมาชวยดามใจ!!!

กูตามอารมณมึงไมทันแลวนะไอหานี.่ ..สาด...เอย...

ผมมึนครับ ทั้งมึน ทั้งเบลอ ทั้งสับสน อาการผมตอนนี้คลายกับถูกตอยน็อกดาวบนเวทีเลยครับ...แตจะวาก็วาเถอะนะ ตรินนี่ก็


วินิจฉัยโรคไดถูกเพ็งเลยนะวาไหม

“อกหักเลยสับสนทางจิต สมองฟนเฟอน”

ใชเลย นี่แหละอาการมึงตอนนี้ ไอตริน!!! มึงนะมึง ทํากูพลอยบาไปดวยอีกคน จับตนชนปลายไมถูกแลวนะเวย!!!!

“พี้ยามาหรือเปลาตริน รูหรือเปลาวาพูดอะไรออกมา” ผมถามอยางไมเชื่อหูตัวเองวาจะไดยินตรินขอผมเปนแฟน มันคงนาเชื่อตาย


ละ ในเมื่อตัวเขาปฏิเสธผมตลอดมา เจอกันแตละครั้งก็มีแตกัดกัน จะมีแคสองครั้งเทานั้นละที่เขามานัวเนียกับผม แตก็เปนตรินเอง
ไมใชหรือที่แสรงลืมเรื่องนั้น

“เปลาเมายาครับ แตเมาจูบนองเมธ” แนะ ยังมีอารมณมากวนประสาทผมอีก ดู ยังทําตาวิ้งๆ ใหผมอีกซะดวย สงสัยจะอาการหนัก


แลวนะมันนะ ผมสายหนาอยางเนือยๆ

“นี่แคจูบนะ ถาทําอยางอื่นดวยตรินไมหลงเมธหัวปรักหัวปรําไปเลยหรือ” ถามประชดแกมหยอกเขาเลนอีกนิด แตตรินกลับคิดวาผม


พูดจริงซะงั้น เขาจับไหลผมไวทั้งสองขาง ถามผมกลับมาดวยนัยนตาแพรวพราว

“ลองดูไหมครับ วานองเมธจะทําใหพี่หลงจนลืมคนที่หักอกพี่ไดหรือเปลา” มันบาไปแลวจริงๆ ทีกูมีอารมณเจือกขัดขืน ตอนนี้ดันมา


เรียกรอง ฝนไปเถอะ ไมตอใหหรอกโวย...

“หึหึ...กะจะใหเมธเปนตัวแทนกุลมันหรือไง” ผมหัวเราะในลําคอกับคําพูดของเขา กอนจะพูดแทงใจดําอีกฝาย รวมถึงแทงใจดํา


ตัวเองดวย เออ...เนอะ คนเรา เวลาอยูในชวงเวลาและความรูสึกเดียวกัน มันก็เหมือนจะอานใจกันออก พอผมพูดจบ ตรินก็ปลอย
มือจากไหลผมอยางออนแรง ทิ้งตัวลงนอนอยางออนลาพรอมถอนหายใจออกมาอยางหนักหนวง

“นองเมธรูไดไงครับ วาคนที่หักอกพี่คือนองกุล” น้ําเสียงของเขาฟงแหบแหงแผวเบาราวกับคนเดินอยูทามกลางทะเลทรายอันรอน


ระอุมาแรมป

“ไมรูหรอกมั้ง ตามจีบกุลมันออกนอกหนาซะขนาดนั้น” วาพลางลมตัวลงนอนขางๆ เขา มือยกขึ้นมากายหนาผาก

“พี่แสดงออกขนาดนั้นเลยหรือครับ ถาเปนแบบนั้นจริงทําไมนองกุลถึงไมรูอะไรเลย” ตรินพูดขณะที่ยังหลับตาอยู

“กุลมันพวกซื่อบื้อ ตองบอกตรงๆวารักมันนั่นแหละถึงจะรู” ที่ผมบอกตรินไปนั้นไมใชความจริงเสียทั้งหมดหรอกครับ กุลไมไดซอื่ บื้อ


เลยแมแตนอย แตมันปดกั้นการรับรูตางหากละ ถาไมบอกมันเปนคําพูดตรงๆ มันก็จะวางตัวกับทุกคนอยางที่มันจัดวางสถานะภาพ
ใหแตละคน คนนี้มันจะใหเปนเพื่อนก็แคเพื่อน เปนพี่ก็แคพี่ แมจะทําอะไร แสดงออกขนาดไหน มันก็แคยิ้มรับแตไมแปลสารที่อีก
ฝายสงมาให

เมื่อผมพูดจบตรินก็ถอนหายใจอีกครั้งแลวเอยคําพูดที่ทําใหผมตองชันศอกกับฟูกที่นอน หันหนาไปมองเขาใหเต็มตา

“แตใหบอกตอนนี้ก็คงจะสายไปแลว พี่จะไปสูคุณนาคินทรไดอยางไร รายนั้นนะ เขาเพียบพรอมไปเสียทุกอยาง”

“นี่ตรินรูจักไอนั่นดวยหรือ” ผมถามกลับทันทีอยางที่สงสัย ตรินลืมตาขึ้น หันมาสบตาผมแวบหนึ่งกอนจะใชมือรองศีรษะ มองไป


ขางหนาอยางเลื่อนลอย

“เคยเห็นในนิตยสารครับ” เขาบอกเสียงเรียบ

“หือ...นี่มันดังขนาดนั้นเชียวหรือ” คําตอบที่ไดยินทําใหผมประหลาดใจไมใชนอย จริงหรือที่หมอนั่นจะเปนคนดังถึงขนาดไดขึ้น


นิตยสาร ทําไมผมไมรู แลวนิตยสารอะไร ดาราหรือ จะวาไปถาไมลําเอียงแลวละก็ หนาตามันจัดวาหลอมากทีเดียว คมเขม สะดุด
ตา อกผาย ไหลผึ่ง บุคลิกนาเกรงขามอยางผูนํา มันคงยากอยางตรินวา หากผมกับเขาจะคิดไปสูกับมัน แคภายนอกมันก็ขมพวกผม
ซะขนาดนี้แลว

“เขาเปนนักธุรกิจหนุมไฟแรงที่นาจับตามองคนหนึ่ง โดดเดนทั้งหนาตาและความสามารถ ปรกติไมคอยเปนขาวเทาไหรหรอกครับ


คุณนาคินทรจะเก็บตัว ไมเหมือนเพื่อนๆในกลุมอีกหกคน”

“จริงดิ” ขนาดเก็บตัวนะเนี่ย ตรินยังรูจักเลย แลวถามันทําตัวเดนนี่จะขนาดไหน...วินาทีตอมาตรินก็ชวยขยายความใหผมเขาใจวา


ทําไมเขาถึงไดรูเรื่องไอหมอนั่นดีนัก

“เพื่อนพี่เคยเปนคูขาของเพื่อนคุณนาคินทรมากอนครับ ถูกสลัดทิ้ง เลยชวยกันตามสืบตามคนวาเปนใครมาจากไหน คุณนาคินทร


เลยถูกพวงมาดวย อีกอยางคนใกลตัวพี่อีกคนก็ดูเหมือนหลงเสนหคุณนาคินทรไมนอยทีเดียว” คนใกลตัวตรินอีกคนอยางนั้นหรือ
ใครกัน หรือจะเปนเพื่อนของเขา ถาอยางนั้นมันก็สอแววนะสิ ไอหานี่มันจริงจังกับเพื่อนผม หรือวาแคเลนๆ กันแน

“ชักเปนหวงกุลมันแลวสิ ไมรูไอนั่นมันรักกุลจริงหรือเปลา หนาตามันไมนาไววางใจเลยใหตายสิ”

“อันนี้พี่ไมรูครับ แตที่รูคือนองกุลรักคุณนาคินทร”

“นั่นสิเนอะ เฮอ...” ความจริงที่หลีกหนีไมพนครับ แคมองสายตาของกุลก็อานไปถึงหัวใจ แววตาที่มันไมเคยใชมองใคร มันสื่อคําวา


รักออกมาไดเปนอยางดี แตก็อยางวาแระครับ ไมวาอีกฝายจะดีแคไหน ชั่วเลวอยางไร เราก็คงทําอะไรไมไดหากกุลมันจะรักจะชอบ
คิดขึ้นมาแลวก็เศราไดอีก

“ไปหาเหลากินกันไหมตริน” หาทางระบายดีกวา ในเมื่อความคิดที่เอาใครมาแทนที่กุลลมเหลว อารมณหดหายไปหมดแลว สูไปเมา


หัวราน้ําใหมันลืมๆ ไปเลยดีไหม

“ไมครับ ไมอยากเมา” ซะงั้น ไอเด็กอนุบาลเอย...อกหกมันตองกินเหลาสิ ไมอยากเมาแลวจะกินอะไร

“เดี๋ยวสั่งนมให ไปดวยกันหนอยนะ” เอาเหยื่อมาลอครับ แถมงอใหไปดวยอีกตางหาก เมื่อกอนนี้แทบไมอยากเขาใกลตรินเลย แต


เดี่ยวนี้ชักไมอยากหางตรินเทาไหร คือวายังไมอยากอยูเดียวครับ อยางนอยมีคนที่ตกอยูในอาการเดียวกันอยูขางๆ มันก็ให
ความรูสึกดี เหมือนกับวาไมใชแคเราคนเดียวในโลกที่กําลังเปนทุกข

“ตรินจะไดรูไงวาเมาเหลากับเมาจูบเมธอยางไหนดีกวากัน...ไปเหอะ” ตบทายดวยคําเชิญชวนอีกรอบ ไมเคยพูดดีกับตรินขนาดนี้


เลยนะ แตวันนี้เปนไงไมรู ไมอยากทะเลาะกับเขาแระ มันเหนื่อยจนรูสึกอยากพัก แลวพอไดคุยกันแบบไมมีอคติก็เหมือนวาเราจะเขา
กันได นี่แหละหนา เวลาที่คนเราออนแอ กําแพงใดๆ ที่เคยสรางไว มันก็พังทลายลงมา มันคงไมเสียศักดิ์ศรีมากใชไหม ถาผมจะ
ญาติดีกับตริน

“หึหึ นองเมธนี่ก็เขาใจพูดนะครับ แตรูไหมครับ นองเมธทําตัวแบบนี้แลวทําใหพี่นึกถึงไอหมูอวนคนเกาของพี่ แตยังไงอดีตมันคงไม


หวนคืนมา เอาเปนวา นองเมธกลับมาเปนไอเด็กปากเสีย ชอบเอาแตใจคนเกาเร็วๆ ก็แลวกันนะครับ พี่ไมชินเวลานองเมธมาพูด
เพราะๆ แบบนี้ อีกอยางพี่อยากกลับหองครับ หายมานานแลว คิดวานองชายพี่คงรออยู”

ตรินพูดพรอมขยับตัวขึ้นนั่ง สายตาเขาก็ปรายไปรอบๆ หอง คงมองหาเสื้อผาอยูละมั้ง วาแตกอนหนานั่นตรินพูดถึงใครกัน ไอหมู


อวนไหน คุนๆ เหมือนเคยไดยินมากอน แตนึกไมออก ถึงอยางไรก็ตามอะไรก็ไมสะดุดใจผมเทาคําวานองชาย ตรินยังไมเข็ดอีกหรือนี่
เปนผมคงยังไมอยากเจอภาพบาดตาบาดใจตอนนี้หรอก

“นองไหน กุลนะหรือ อยาบอกนะวาเปลี่ยนใจจะไปสารภาพรักกับมันแลว” ตรินสายหนาใหกับคําถามของผม


“ความจริงก็อยากบอกนองกุลเหมือนกันครับ แตเจ็บแคนี้ก็เกินพอแลว ขอเวลาทําใจกอนแลวกัน ดูกอนวาระหวางบอกใหนองกุลรู
กับใหมันจมไปเปนอดีตอยางไหนจะดีกวากัน” ผมก็คิดอยางนั้นเหมือนกัน จะวาไปดูแลวตรินเขมแข็งกวาที่ผมคิดไวซะอีก เขายังรูจัก
อดทนอดกลั้น แตผมสิ หุนหันบอกกุลมันออกไปอยางไมไตรตรอง แตก็ยังถือวาโชคดีที่กุลยังเปนกุลของผมคนเดิม ระหวางเรายังไม
มีอะไรเปลี่ยนแปลง...ผมคิดวาอยางนั้นนะ...

“ตรินนี่เกงเนอะ ควบคุมตัวเองได แถมยังเลือกที่จะลืมหรือจําไดดวย อยากฝงอะไรไวใหเปนอดีตก็ทําตามนั้น”

“ถามันทําใหเราและอีกฝายสบายใจก็ควรจะทําไมใชหรือครับ”

“นั่นรวมถึงเรื่องของเมธดวยใชไหม” พอวกมาเรื่องนี้ผมก็อดเจ็บแปลบในใจไมไดครับ เรื่องของผม ไมเห็นตรินลังเลเลยที่จะลบมัน


ออกไปจากความทรงจํา หรือวางายๆ เขาฝงมันใหจมไปกับเข็มนาฬิกาที่กาวผานวันวานนั้นมาอยางงายดาย

“เรื่องของนองเมธ...เรื่องไหนครับ” ผมบอกแลวใชไหมวาตรินเกงและเขมแข็งมากกวาผม ดูสิ เขาทําสีหนาไดอยางแนบเนียนราวกับ


ไมมีรอยจําใดๆ ในสมองของเขาเลย เห็นอยางนี้แลวก็ไมรูวาผมจะรื้อฟอมันขึ้นมาอีกทําไม แตก็ไมเขาใจตัวเองอีกนั่นแหละ พอไดพูด
แลวมันก็หยุดไมได...

“ก็เรื่องเมื่อคืน แลวก็สี่ปที่แลว”

“เมื่อคืน??? สี่ปที่แลว???”

“ใช...ทําไมตรินเลือกที่จะลืมมันละ?????”

…….บอกหนอยสิตริน ทําไมถึงไดเลือกที่จะลืมเมธ...ทําไม.........

“นองเมธกําลังพูดเรื่องอะไรอยูครับ พี่ไมเขาใจ” ตรินทวนถามดวยใบหนาสงสัย น้ําเสียงของเขายังฟงเปนปรกติ ไมมีแววตื่นตระหนก


ใดๆ สายตาที่มองมาก็ใสซื่อจนผมอยากจะเชื่อวาเขาไมรูเรื่องที่เกิดขึ้นระหวางเราจริงๆ

“ชางมันเถอะ คงไมมีประโยชนอะไรที่จะรื้อฟนมันขึ้นมา” สุดทายผมก็เปนฝายยอมแพ...ยอมใหมันเปนอดีตที่ถูกฝง ไมอยูในรอยจํา


ใดๆ อยางที่ตรินตองการ

“มันก็ถูกของตรินนะ ถามันทําใหเราและอีกฝายสบายใจก็ควรจะลืมมันไปไมใชหรือ” ผมพูดอยางจํานน ในเมื่ออีกฝายอยากจะลืม


แลวนั่นทําใหเขาสบายใจ หรือจะดวยเหตุผลอะไรก็ตาม แลวทําไมผมยังจะหนาดานรื้อฟนมันขึ้นมา ก็ในเมื่อวามันไมชวยใหอะไรดี
ขึ้นเลยแมแตนอย ตรินเอียงศีรษะ เลิกคิ้วเปนเชิงถามวาผมแนใจอยางที่พูดแลวหรือ...ผมพยักหนารับ ถึงแมลึกๆ จะไมเขาใจในตัว
เขา ไมรูวาตรินตองการอะไร จะใหผมทํายังไง ในเมื่อถามเขาหลายครั้งแลว เขาก็ยังยืนวาจําไมได แลวพอเขาวาอยางนั้น ผมก็
หงุดหงิด อยากใหเขายอมรับมันออกมา ไมใชวาผมละเมอจนเก็บมาฝนวาไดนอนกับเขา มันใชครั้งเดียวเสียที่ไหน ถึงกอนหนานั้น
มันจะนานแสนนานจนผมลืมเลือนสัมผัสจากเขาไปบาง แตค่ําคืนที่ผานมาก็ยังสดใหมในความทรงจําของผม นี่ไมใชเรื่องลึกลับ
หลายมิตินะ จะหาคําอธิบายอะไรมาอางวาคนที่อยูกับผมเมื่อคืนเปนวิญญาณของเขาอยางนั้นหรือ พอตื่นขึ้นมาเขาก็จําไมได หรือ
เปนแฝดของเขาอีกคนเหมือนอยางในละคร...เห็นที่จะไมละ ขอบายแลวกัน หยุดหาคําตอบแลวปลอยใหมันผานเลยไปนาจะเปน
ทางเลือกที่ดี

“ตามใจนองเมธก็แลวกัน พี่จะกลับแลวนะครับ” ตรินวาพลางจะลุกขึ้นจากเตียง แตผมกลับดึงแขนของเขาไว ทําใหอีกฝาย


หยุดชะงักและหันกลับมามองผมอีกครั้ง

“เดี๋ยวสิ ตกลงจะไปกินเหลาดวยกันไหม” ผมถาม แตตรินกลับสายหนา

“ไมครับ” แลวเขาก็ยืนยันอีกครั้งดวยคําพูด

“งั้นไมกินเหลาก็ได ไปกินขาวแลวกัน นี่ก็ใกลเที่ยงแลว” ผมยังตามเซาซี้เขาอีกรอบ ยังไมอยากอยูคนเดียวในตอนนี้ อยางนอยมี


เพื่อนคุย เพื่อนกิน มันคงชวยลดความฟุงซานของผมลงไดบาง

“แลวนองเมธไมรีบกลับหรือครับ เมื่อกี้พี่ไดยินนองแพรบอกวาเครื่องจะออกในอีกไมกี่ชั่วโมงแลวนี่” ผมสายหนา เพราะเรื่องกลับ


กรุงเทพนี้ผมตัดสินใจไวแลววาจะเปลี่ยนเที่ยวบิน กะวาจะอยูที่นี่อีกสักวัน ขอเวลาทําใจอีกนิด กอนจะกลับไปยังบรรกาศเดิมๆ และ
ที่เดิมๆ ซึ่งมีกุลอยูขางผมในฐานนะเพื่อนอยางเดิม...และหัวใจดวงเดิมของผมมันก็คงจะเจ็บซ้ําแลวซ้ําอีก...เชนเดิม...
.
.
.
...นอกเสียจากวา ที่เดิมๆ มันจะมีสีสันใหมแตงเตมเขามา...
.
.
.
“แลวตรินละขึ้นเครื่องกี่โมง”

“พรุงนี้สายๆ ครับ”

“งั้นเปลี่ยนเปนพรุงนี้เย็นพรอมเมธแลวกัน”

“อาว...”

“ไมตองอาว เปนแฟนกันก็ตองกลับดวยกันสิ”
“แฟน?”

“ไมตองมาทําเปนลืม เมื่อกี้ตรินขอเมธเปนแฟนเองนะ”

“หือ?”

“หยุดเลย นี่ยอมใหมากแลวนะ ที่ผานๆ มาไมถือสาแตหลังจากนี้ อยามาพูดวาเราไมไดเปนอะไรกัน ไปแตงตัวเร็วๆ หิวแลว” นี่แหละ


คือสีสันที่จะเขามาแตงแตมในชีวิตของผม ในเมื่อจะอยูที่นี่แลว ก็อยูกับคนอกหักเหมือนกันนี่แหละดีแลว ตรินอยากใหผมชวยดาม
ใจเขา และผมก็ตองการใครบางคนมาดามใจผม เราก็มาชวยกันทํามาหากินก็แลวกัน...เนอะ...ตริน...เนอะ...

แตตรินยังคงคิดหนักกับคําเชิญชวนของผม เขายังทําหนางงๆ มองผมอยางไมเขาใจ ใบหนามึนๆ เบลอๆ ของเขาทําใหผมยิ้ม มันคง


คลายกับใบหนาของผมตอนที่เขาเอยปากขอผมเปนแฟนละมั้ง อารมณมันปรวนแปรกันแลวทั้งคู เมื่อมาถึงบทสรุปมันก็เลยดูเออๆ
.
.
.
...แลววิธีไหนที่จะทําใหคนที่รูสึกเหมือนกับวาตัวเองละเมออยู ตื่นขึ้นมาเสียทีละครับ...
.
.
.

“แนะ...ยังเฉยอยูอีก หรืออยากชิมของวางกอนมื้อเที่ยง” ผมพูดพรอมจับไหลเขาใหหันมาตรงหนาผม กอนโนมใบหนาเขาใกล

“สักหนอยไหมครับ...พี่ตริน...” กระซิบชิดริมฝปากเขากอนตวัดลิ้นเลียปากตรินอยางรวดเร็ว สัมผัสเย็นชื่นที่ริมฝปากทําใหตรินมี


ปฏิกิริยาราวกับถูกไฟชอต สะดุงโยงกอนผลักผมออกหาง

“ไอเด็กบา!!!” ตามดวยคําดาใสหนาผม กอนจะรีบลุกจากเตียงทันที...ผมหัวเราะใหกับทาทางของเขา...เปนไงละ คราวนี้ก็ตื่นไดแลว


สินะ

เมื่อตรินลุกไปแลวผมก็ทิ้งตัวลงบนเตียงอีกครั้ง ในหัวของผมวางเปลา แตในหัวใจของผมหนักอึ้ง ผมเคยไดยินวาพระเจาไมเคย


ลําเอียง ไมเคยมีความทุกขใดๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับเราโดยที่ไมเคยเกิดขึ้นกับมนุษยทั้งหลาย ในเมื่อพระเจามีหนทางใหพวกเขาผานพน
ทุกขนั้นมาได เราก็จะผานมันไปไดเชนเดียวกัน

ณ. เวลานี้มีกี่คนกันที่กําลังอกหกอยางผม หัวใจแหลกสลาย เจ็บจนเริ่มชา...อยางนอยก็คนที่เพิ่งเดินเขาหองน้ําไปอยางไรละ...


เมื่อวาน...เวลานี้ มีกคี่ นนะที่อกหก แลวเขารองไหกับใคร? ...อาจจะรองคนเดียวจนเผลอหลับไป หรือมีเพื่อนคอยปลอบใจก็อาจ
เปนไปได...

เดือนที่แลว...เวลานี้ ในประเทศไทย มีกี่คนที่อกหก...แลวเขาตอสูกับความทุกขนั้นยังไง…คงไมต่ํากวาสิบคนเปนแนแทที่ดื่มเหลา


ยอมใจฝาฟนกับทุกขนั้นมา...

ปที่แลว...เวลานี้ ในทวีปเอเชีย มีกี่คนที่อกหก...แลวตอนนี้เขาใชชีวิตยังไง?...ผานพนชวงนั้นมาไดเปนป คงจะดีขึ้นบางแลว อาจจะ


ตั้งใจทํางาน หรือเรียนอยางเดียวเพื่อทําใหตัวเองยุงเขาไว จะไดไมตองคิดถึงมัน...

สิบปที่แลว...เวลานี้ ในโลกใบนี้ มีกี่คนที่อกหก...แลวตอนนี้เขาพบกับรักใหมไดยังไง? …ถาเปนทั้งโลกเลยมันคงเปนแสนคนได


เลยมั้ง แลวเวลาผานมาตั้งสิบป โลกก็คงหมุนใหเรามาเจอคนใหมๆ แลวก็คงเจอคนที่ใชเขาสักวัน...

หากมองในมุมกวางๆ แบบนี้มันก็ทําใหผมรูสึกวาไมใชแคผมคนเดียวที่ทรมานจากอาการหัวใจแหลกสลาย ยังมีหลายคนที่กําลัง


ประสบอยางผม และหลายคนกาวผานมันมาได แลวผมก็หวังวาผมจะเปนหนึ่งในนั้น ขอพระเจาไดโปรดประทานความเขมแข็ง และ
หนทางใหกับผมดวยเถอะ

เสียงเปดประตูหองน้ําออกมาทําใหผมปรายตามอง ตรินอยูในชุดเดิมของเขาเมื่อเชา ผมที่ตัดซอยเปนรากไซเปยกเล็กนอยตอน


ปลาย มันดูยุงเยิงแตกลับทําใหเขาดูดี น้ําที่ลางหนาคงทําใหเขาดูสดชื่นขึ้น นัยนตาของเขาจึงดูกระจางสดใส ถึงแมมันจะยังมีรอย
หมนเศราแฝงอยูในนั้นก็ตามที เราจองตากันอยูครูหนึ่งกอนตรินจะเปนฝายถอนสายตาแลวกาวดุมๆ มายืนค้ําหัวผมขางเตียง มือ
สองขางของเขาทาวเอว

“มีอะไร” ผมขยับตัวขึ้นนั่ง เอนหลังพึงหัวเตียง สงสัยในทาทีของเขา

“พี่วาเรามาทําขอตกลงกันกอนไหม”

“เรื่อง” ผมเลิกคิ้ว

“เงื่อนไขของการเปนแฟน” ตรินตอบผมกลับมาในทันที

“หมายความวา” ผมยอนถาม ตรินเปลี่ยนจากทาวเอวมากอดอกขณะอธิบายใหผมกระจาง

“ถึงเราจะเปนแฟนกัน แตตองไมเกี่ยวกับความสัมพันธทางกาย”

“ขยายความหนอยสิ”
“งายๆ ถึงพี่จะขึ้นชื่อวาเปนแฟนนองเมธ แตวาพี่จะไมใชเมียนองเมธ ไมวาจะทางพฤตินัยหรือนิตินัย” พอไดฟงแบบนั้นมันก็ทําใหผม
อดหัวเราะออกมาไมได อะไรของเขาเนี่ย คิดอะไรอยูถึงมาทําขอตกลงกับผมแบบนี้ ดูสิ...ทําหนาจริงจังซะ เห็นแลวอยากแกลงคน
ขึ้นมา

“อาว...แลวถาเงี่ยนขึ้นมา เมธทําไงอะ” ผมถามเขาอยางขําๆ พรอมแสรงทําหนาหื่นใสหนาอีกฝาย

“ก็ชวยตัวเองไปสิ...” ตรินตอบเสียงสะบัดพรอมเมินหนาหนี เหมือนแกมเขาจะขึ้นสีแดงดวยนะถาผมดูไมผิด

“โหย...แลวจะมีแฟนไปทําไม” ผมยังแกลงเขาตอ

“มีเพื่อจะทําใหลืมคนที่หักอกเราไงละ” เขาพูดดวยน้ําเสียงจริงจังเมื่อหันมาตอบผม

“ทํายังกับมันจะลืมไปไดงายๆ”

“มาลองดูไหมครับวาเราทั้งคูจะทําไดไหม” ผมอยากจะหัวเราะใหกับคําพูดและทาทางของเขา ตรินหนอตริน ขนาดตัวเองไมมั่นใจ ก็


ยังอุตสาหมาทาคนอื่น ทําเปนอวดดีจองตาผมไมหลบทั้งๆ แววในตานั้นไหวระริกอยางไมมั่นใจเลยแมแตนอย โธๆ...มาเลนกับไฟ
แบบนี้ ไมกลัวมันจะไหมมือเอาหรือครับ...คนเกง

“แลวถาเมธทําใหตรินลืมกุลมันได...ตรินจะยอมเมธใชไหม” เขาชะงักกับคําถามของผม ใบหนาของเขาถอดสีกอนมันจะแดงระเรื่อ


ขึ้นมาอีกครั้ง แตชั่ววินาทีตอมาเจาตัวก็เชิดหนาขึ้นอยางหยิ่งผยอง

“แลวถาพี่ทําใหนองเมธลืมได นองเมธก็จะยอมพี่ใชไหมครับ”

“ยอมตริน?”

“ใชครับ นองเมธก็ตองมาเปนเมียพี่”

“ฮาๆ ฮาๆ” คําพูดนั้นทําใหผมหัวเราะจนทองแข็ง นี่หรือครับ สิ่งที่ทําใหตรินฝนแกลงทําเปนกลามาตอรองกับผม

“หัวเราะทําไม นี่ถือวาพี่ยอมมากแลวนะกับขอตกลงนี้ ที่ผานมาพี่เคยแตรุกนะครับ ไมเคยเปนรับซะที”

ตรินอาจพูดถูก เดือนวิศวะ อยางเขา ใครๆ อาจมองวาเปนรุก หนาตาของตรินไมใชหวานนารัก แตกลับเปนดูดีนามอง อยางหนุม


หลอ เขาไมใชผูชายตัวเล็กอยางกุล ดวยความสูงที่คิดวานาจะรอยเจ็บสิบหา ทําใหตรินดูสูงโปรง เนื้อตัวมีกลามเนื้อบาง ไมผมแหง
แตอยางไรเมื่อเทียบกับผมแลวเขาดูตัวเล็กลงไปถนัดเชียวละ
“หึหึ...ออ...เหรอ...ครับ...หึห”ึ ผมพยายามกลั้นเสียงหัวเราะไวอยางสุดกําลังขณะพูดกับเขา

“ใชแลวครับคุณภรรยา...” ตรินโนมตัวเขามาใกลผมตอนไหนไมรู แตเสียงกระซิบที่ขางหูนั่นทําใหผมเงยหนาขึ้น

“ถึงตอนนี้จะแคในนามก็ตามที แตไมเกินสี่สิบหาวัน นองเมธไดรองคราญครางใตรางพี่แนๆ” วาจบเขาก็ยิ้มหวานใหกับผม ไมรอชา


ผมโนมคอเขาใหเขามาใกล ตอบสารที่ตรินทามาดวยคํากระซิบแผวเบาขางหู

“ถาอยางงั้นนองเมธก็จะรอใหถึงวันนั้นนะครับ...พี่ตริน...คุณสามีสุดที่รัก” วาจบผมก็เมมติ่งหูเขาเบาๆ อยางหมั่นเขี้ยว ตรินผินหนา


ใหหางจากผมในทันใด แตเขาก็ขยับไปไหนไมได เพราะวามือของผมโอบไหลเขาไวอยางหนาแนน ใบหนาที่แดงอยูแลวของเขาเพิ่มสี
ขึ้นมาอีก แตเขาก็ยังทําเปนเกง เชิดหนาขึ้น มองผมอยางทาทาย แลวพูดน้ําเสียงขึ้นจมูก

“ระวังตัวไวก็แลวกัน” โอโห...อะไรจะนากลัวกวานี้ไมมีอีกแลว ผมยิ้มหวานใหกับเขาทั้งใบหนาและดวงตากอนบอกเขาไปวา

“ครับพี่ตริน...นองเมธจะรอวันนั้นอยางใจจดใจจอเชียวละ...”

ผมกับตรินตกลงมากินขาวเที่ยงดวยกันในรานอาหารของโรงแรมหลังจากที่เรามีความเห็นตรงกันวาจะพักที่นี่อกี สักวัน ตอนแรกตริน


ดูไมคอยสบายใจนัก ดวยไมอยากขาดเรียนในวันรุงขึ้น พรอมทั้งเขาไมไดมาที่นี่แตเพียงลําพัง สุดทายเขาก็ยอมจํานนเพราะทนผม
เซาซี้ใหขาดเรียนดวยกันไมได ถึงอยางนั้นก็ติดปญหาเรื่องคนที่มาดวยกับตริน เขาอยากคุยกับฝายนั้นกอน

แตแลวปญหาที่ตรินกังวลดูจะไมใชเรื่องใหญเพราะตรินกลับเปนฝายถูกทิ้งเมื่อเขากลับไปยังหองแลวพบวานองชายของเขาได
หายไป พรอมกับโนตสั้นๆ บอกไวแควา เจอกันที่บานในสัปดาหหนา

ผมเพิ่งรูวานอกจากกุลแลว ตรินยังมีนองชายอีกคน ผมยังไมเคยเห็นหนาคนที่ตรินกลาวถึงเลย เขาบอกแคคราวๆ วานองจากเม


กามาพักอยูดวยและที่เขามาภูเก็ตนี้ก็เพราะนองชวนมา แตดูเหมือนวานองเขาจะเจอเพื่อนและหายไปเสียแลว ดูตรินจะหัวเสียไมใช
นอยกับการที่นองชายทําตัวเชนนั้น...แตในความไมพอใจ ผมเห็นแววกังวลใหดวงตาของเขา

ตรินยืมโทรศัพทผมเพื่อจะโทรหาอีกฝาย ถามวาอยูที่ไหน กับใคร แลวจะไปไหนตอ จากสิ่งนี้ทําใหผมรูวาโทรศัพทเขาถูกนองชายตัว


ดียึดไป พรอมกับบัตรเครดิต ที่นาขํากวานั้นก็คือ ไอนองตัวแสบเก็บเอาเสื้อผาของตรินไปใช แลวดันทิ้งเสื้อที่ใสแลวของตัวเองไวให
ตรินเอากลับไปซักใหดวย…

ถึงกระนั้นตรินดูจะไมทุกขรอนใจกับสิ่งที่นองทําเทากับการหายตัวไปโดยไมบอกกลาวของอีกฝาย เขาบอกผมแคสั้นๆ วา ของๆ เขาก็


เหมือนของๆ นอง แตถาเปนผมนะหรือ หากมีนองเห็นแกตัว เอาแตใจ และขาดความรับผิดชอบแบบนี้ ผมคงไดเผลอบีบคอมันเขา
สักวัน
ตรินหัวเราะใหกับคําพูดของผม พรอมบอกวาถาผมเจอหนานองชายเขาแลวจะตกใจ คําพูดนั้นกระตุนตอมสงสัยและอยากรูของผม
ขึ้นมา แตยังไมทันไดซักไซรตรินก็สายหนา บอกวายังไมถึงเวลา ยังไงตอนนี้ขอไมอธิบายอะไรมาก เพราะเรื่องนองชายเขามาไทยยัง
เปนความลับ เห็นบอกวาพอของเขากําลังหาทางอธิบายเรื่องของลูกชายอีกคนใหครอบครัวกุลรูอยู คิดวานาจะไมเกินอาทิตยหนา
พอของตรินคงพานองชายเขาเขาบาน

ตรินขอใหผมชวยปดปากเงียบดวยแลวกันเพราะแมแตกุลก็ยังไมรูเรื่องนี้เลย ผมเลยถามเขาคืนไปวา ถามันเปนความลับก็ไมควร


บอกผมตั้งแตแรก เพราะดูทาแลวปญหานี้คงไมใชเรื่องเล็กๆ อยางที่คิด ผมพอจะมองออกเลยวา มันคงสรางความไมพอใจใหกับแม
ของกุลไมใชนอยที่จูๆ สามีก็มีลูกชายติดเพิ่มขึ้นอีกคน ยิ่งไมตองพูดถึงกุลเลย มันไมถูกกับครอบครัวของตรินอยูแลว คงยากที่รับ
เรื่องนี้ได ตรินบอกวานี่แหละคือเหตุผลที่เขาตัดสินใจบอกเรื่องนี้กับผม เพราะผมสนิทกับกุลที่สุด หากเมื่อถึงเวลาที่ผูใหญตัดสินใจ
บอกกุลเรื่องนี้ เขาก็อยากใหผมอยูขางกุล

เมื่อทุกอยางลงตัวแลวพวกเราก็ลงมาขางลางเพื่อจะหาอะไรกินกัน แตแลวผมก็คนพบวา...ผมไมเคยเกลียดทฤษฏีโลกกลมเทาวันนี้
มากอนเลย!!! ใหตายเถอะ...รานอาหารมีตั้งเยอะตั้งเยอะทําไมผมตองมารานเดียวกันกับกุลดวย นี่พระเจากําลังใหบททดสอบความ
เขมแข็งกับผมอยางนั้นหรือ ขอเวลาอีกหนอยไดไหม ใหผมไดทําใจมากกวานี้อีกสักนิดเถอะนะ

กาวเดินของผมหยุดชะงักเชนเดียวกับคนที่ยืนอยูขางๆ สายตาของผมมองไปยังโตะซึ่งกําลังฉายภาพบาดใจพรอมๆ กับรูสึกวาลํา


แขนตัวเองถูกบีบกระฉับ

“เราไปรานอื่นกันเถอะ” ผมกมหนาบอกตรินที่เกาะแขนผมอยู

“ครับ...” เขารับคําแผวเบาอยางไมลังเล ถึงแมสายตาจะยังมองไปยังโตะของกุลอยางอาลัยอาวรณก็ตามที

.
.
.
...ทวา...
.
.
.

“พี่เปลี่ยนใจแลวครับ นองเมธ” ขณะที่กําลังกาวออกไปจากราน ตรินก็ดึงแขนผมไว แววตาของเขาแปลเปลี่ยนเปนเด็ดเดี่ยว มันดู


หนักแนนกับการตัดสินใจครั้งนี้

“พี่ไมอยากหนีอีกแลว” เขาบอกผมเชนนั้น แตสําหรับผมนะหรือ ความรูสึกตรงกันขามเลยเชียวละ ตรินไมอยากหนี แตผมไมอยากดู


ยิ่งเห็นก็ยิ่งเจ็บ จะทนทํารายหัวใจตัวเองทําไม ผมไมเขาใจเลยวาตรินคิดอะไรอยู อยากทําใหหัวใจตัวเองเจ็บจนมันชาไปเองอยาง
นั้นหรือ?

“เราหนีความจริงมันไมพนหรอกครับ...ไปเถอะ” เขายังพูดดวยคํายิ่งยโสอันสวยหรู ความจริงมันเปนดั่งเงายิ่งเราวิ่งหนีมันก็ยิ่งวิ่งตาม


ในเมื่อหนีไมพนก็หันไปเผชิญหนากับมันดีกวา ความหมายของคําพูดอันงดงาม สงา และเขมแข็งในประโยคคําพูดของตริน

แลวถาในกรณีที่ยังไมพรอมละ จะหันกลับไปเพื่อตอกย้ําความออนแอของตัวเองทําไม นั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะแยงเขา แตก็ทําไมได


เพราะพอพูดจบ ตรินก็ฉุดผมใหกลับเขาไปยังรานอาหารอีกครั้ง

“ตามใจคนเกงแลวกันครับ แตยังไงก็ขอใหเกงตลอดรอดฝงแลวกันนะ” นี่คือคําที่ผมพูดกับเขาแทนสิ่งที่อยากบอก ตรินหันมาคอน


ผมเล็กนอย กอนจะยืดหลังใหตรง กาวเดินอยางมั่นใจ

แลวพอเราเดินเขาไปใกลมากพอจะมองเห็นโตะกุลในระยะสายตา ตรินก็หยุดเดินอยางกะทันหัน มองภาพตรงหนาชั่วขณะ แลว


ทําทาจะหันหลังกลับออกไปซะงั้น

“ยอมแพแลวหรือครับ...คนเกง...” ผมฝนพูดพลางยิ้ม ถามอีกฝายอยางลอเลียน ทั้งๆ ที่ความจริงแลวผมก็รูสึกเจ็บไมตางจากตริน

บนโตะอาหารวางเปลา มีเพียงเครื่องดื่มกับเมนูอาหาร ดูเหมือนวาพวกเขาทั้งสองเพิ่งจะเขามาในรานกอนหนาพวกผมไมนาน กุล


กมอานเมนู ในขณะที่อีกคนใชมือทาวคางจองหนากุลอยางหลงใหล แลวพอกุลเงยหนาขึ้น ทั้งสองก็จองตากันกอนหมอนั่นจะสงจูบ
ใหกุล กุลยิ้มหวานใหอกี ฝายกอนมันจะทําทาจับจูบในอากาศแลวทําเหมือนจะเวี่ยงทิ้งไปนอกหนาตาง ไอหมอนั่นมีอาการตกใจ
เอื้อมมือไปจับขอมือกุลไว กุลหัวเราะอยางชอบใจกอนจะพูดอะไรกับไอนั่นสักอยาง แลวมันก็ยิ้มอายๆ เอามือที่กําจูบนั้นไว ไปวาง
แนบกับหัวใจ

สิ่งที่ทั้งสองหยอกลอกันชีช้ ัดวาพวกเขาสนิทสนมและรักกันหวานซึ้งมากแคไหน ไมสนใจวาถูกจับตามองจากคนรอบขางหรือไม


เพราะวาในความรูสึกของคนทั้งคู โลกใบนี้ถูกบีบใหแคบลงดวยไอรักที่ตางก็มีใหแกกันและกัน เห็นอยางนี้แลวก็ไมอยากรบกวน...
หรืออีกใจ...อยากทําใหไออุนแหงรักที่อยูรอบตัวนั่นแปลเปลี่ยนเปนรอนรนขึ้นมาทาจะดี...

“หมั่นไสวะ” ผมพูดออกไปอยางที่รูสึก เจอกี่ครั้งๆ ก็ยังไมชอบหนาไอหานั้นเลย ใหตายเถอะ

“แตพี่อิจฉามากกวา” ตรินขานรับกลับมา

“อยาไปอิจฉาเลย ตรินเปนถึงแฟนเมธ สูทําใหพวกมันอิจฉาเราไมดีกวาหรือ” ตรินทําหนาสงสัยเมื่อผมพูดจบ นัยนตาของเขาจองลึก


เขามาในดวงตาผมอยางคนควา

“นองเมธคิดจะทําอะไรครับ” ผมยักไหลใหกับคําถามของเขากอนบอกวา

“บททดสอบบทที่หนึ่ง ถาเมธนอกใจ ตรินจะทําไงใหเมธกลับมารัก” ตรินเลิกคิ้ว นิ่วหนาเล็กนอย

“นองเมธคงไม...”

“ตรินบอกเองนี้วายังไงเราก็หนีความจริงไมพน ในเมื่อตัดสินแลว จะหันหลังใหมันอีกทําไม ไปเถอะ...ถือวาทิ้งทวนครั้งสุดทายก็แลว


กัน อีกอยางเมธก็หมั่นไสไอหานั่นมานานแระ ขอสักทีเถอะ”

ถาอยากเกงก็ตองเกงใหถึงที่สุด อยาหยุดแคครึ่งๆ กลาง กวาจะรวบรวมกําลังใจใหลุกขึ้นมาสูได ไมใชเรื่องงาย ผมเขาใจความรูสึก


ตรินดี เขาทั้งกลาและทั้งกลัวในเวลาเดียวกัน ซึ่งนั่นมันก็ไมตางจากผมมากนัก แตจังหวะเวลาของเราตางกัน ในขณะที่ตรินกลา ผม
กลับกลัว แตเขาก็จูงมือผมเขามา แลวตอนนี้ตรินกําลังกลัว แตผมกลับกลา มันก็ถึงเวลาที่ผมจะจูงมือเขาบาง

ไมรอชาผมจับมืออีกฝายแลวจูงใหเดินเขาไปหากุล...คนที่หักอกเราอยูตรงหนานี่แลว ลองทําใหเมธดูสิ วาตรินจะดึงความสนใจเมธ


ไดยังไง แลวเมธจะทําใหตริน ไมหันไปมองกุลเชนเดียวกัน อีกอยางตอนนี้ผมเขมแข็งมากพอจะเขาไปทักทายเพื่อนเขยอยางเปน
ทางการแลวละ

...ถือวาชวงเวลาตอจากนี้เปนการเริ่มมิตรภาพและใหของขวัญตอนรับเพื่อนเขยจากเพื่อนและพี่ชายสุดที่รักของกุลมันก็แลวกัน...
ของขวัญที่จะทําใหไอหานั่นดีใจจนแทบจะยิ้มไมออกเชียวละ...

ตอนนี้อยากมีขาวสารเสกเอามาไลไอผีดิบสองตัวใหมันกลับหลุม เห็นหนามันแลวอยากเอามีดชําแระศพมากรีดใบหนาอันใสกิ๊ก
ใหมันดูเวอะหวะนากลัวจนวินดี้มองเมิน แลวถาผมทําอยางนั้นจริงๆ รับรองเลยวาศาลไหนๆ ก็ไมรับฟองแนๆ ไมเชื่อ
ลองมาดูสิ่งที่พวกมันสองตัวทํานะครับ

อันดับแรกเลยไมถามไมไถหรือขออนุญาติกอน พอมาก็นั่งรวมโตะเลย ไอเมธนั่งขางผม สวนไอตรินไปนั่งขางนอง


พอกนมันแตะเกาอี้ขยับนั่งอยางมั่นคงคลายยึดเปนฐานทัพที่เหมาะๆ ไดแลว

“ตรินกับเมธนั่งดวยคนนะกุล” สาด ยังมีมารยาทมาถาม ถีงขนาดนี้แลว ถาตอบวาไม แลวเอาเกี้ยวมาอัญเชิญมึงทั้ง


คูออกไปนี่ จะไปไหม!!!
ถึงแมอยากถีบทั้งคูสงแตปากกลับบอกวา

"เชิญครับ" แตคําตอบที่สวนมานี่สิ อยากเอาตีนไปยัดปากมันจริงๆ

"กูไมไดพูดกับมึง" ผมละหนาย เจอไอหาเมธทีไร สันดานดิบถูกปลุกขื้นมาทุกที

"งั้นเมื่อกี้ถือวาไมไดพูดก็แลวกัน วิ้นดี้วาไงครับ เพื่อนขอรวมโตะดวย" ปลอยมันไป ไมอยากถือสา เดี๋ยวทะเลาะกัน


ขึ้นมาแลวทํานองไมสบายใจเปลาๆ

"ตามสบายเลยเมธ กูไมเคยปฏิเสธมึงอยูแลว"

วินดี้ก็นารักครับ รีบตอบเอาใจเพื่อนนองทันที ถึงนองจะงงๆกึ่งตกใจที่เห็นสองคนนี้อยูบางแตก็ตั้งสติไดเร็วพอควร ผมคิด


วานองคงสงสัยละมั้งครับวาทั้งคูมาไดยังไง คืนดีกันไวจัง กอนหนานั้นยังจะตีกันตาย แตอยางไรก็ดี เมื่อแขกไมไดรับ
เชิญมา นองก็ทําหนาที่ตอนรับเปนอยางดี...แถมยังทําหนาที่แฟนไดนารักมาก นองเอาเทามาเขี่ยเทาผมใตโตะ พอผมมอง
นอง นองก็ยิ้มบางๆใหเปนเชิงขอโทษแทนเพื่อน...ผมจะทําอะไรได นอกจากยิ้มตอบ พรอมทั้งบอกตัวเองใหใจเย็น ผม
ตองรักสิ่งที่วินดี้รักดวย...เฮอ แตวาก็วาเถอะนะ ใหนองมีหมา ยังทําใจชอบงายกวาไอเมธเสียอีก

เมื่อผานชวงเวลาขมใจและยับยั้งเอ็นตีนไมใหกระตุกแลว วิ้นดี้ก็พยายามสรางบรรยากาศใหดีขึ้น นองแนะนําใหพวกเรารูจัก


กันอยางเปนทางการ…แตก็ยังมีมารอีกตนมาทําใหอารมณผมขุนมัว

“ไมเปนไรครับ เดี๋ยวดูกับนองกุลก็ได” และนี่ก็คือคําพูดของไอพี่ชายนองมัน เมื่อผมยื่นเมนูไปให มันยิ้มรับอยางเปน


มิตร ปฏิเสธดวยน้ําเสียงนุมนวล แตการกระทํานี่ อยากเอามีดมาปาดคอ

มันยื่นใบหนาหลอๆ ซื่อบริสุทธิ์อยางไรพิษภัยเขาไปใกลๆนอง ปากนี่แทบจะชนกับแกมวินดี้

“ขอเมธดูดวยคนสิ” ไอหานี่ก็ไวปานวอก ลุกขึ้นแลวไปเบียดนั่งฝงนองมันซะงั้น

“ถาอยางนั้นนองกุลลุกขึ้นกอนนะครับ” พอไอตรินบอกวิ้นดี้ก็ลุกขึ้นยืนแบบงงๆ แลวตรินก็ไปนั่งแทนวินดี้ พอนั่งเสร็จก็ฉุด


นองใหนั่งตรงกลาง จากนั้นไอเมธก็ตามประกบอีกขาง…แลวพวกมึงจะไปนั่งเบียดที่รักกูทําไม!!! นองแทบขึ้นไปนั่งเกยตักพวก
มันสองตัวแลวนะนั่น

“เออ”

วินดี้หันซายหันขวาดวยทาทางลําบากใจกอนจะขยับตัวทําทาจะลุก ดีมากครับที่รัก ออกมาจากตรงนั้นใหไว กอนพี่จะไป


อุมออกมา

“นั่งดีๆ สิมึง ไหนเอาเมนูมาดูซิ มีอะไรกินบาง” ไอเมธครับ มันวาพลางมันกดนองลงนั่งตามเดิม แถมเอามือไปโอบ


ไหลล็อกวินดี้ไมใหขยับตัวไดอีก

“ตรินชวยเมธดูสิ หาเมนูเคี้ยวงายๆหนอยก็ดีนะ จะไดสั่งเผื่อคนแถวนี้”

“ยังไงหรือครับนองเมธ”

"ก็สําหรับพวกวัวแก ฟนโย เสื่อมสมรรถภาพ ที่ชอบเคี้ยวหญาออนไง" เสียงไอหาเมธยังตามเหาหอนไมเลิก มัน


อธิบายพรอมชําเลืองสายตามาทางผม ไดยินแลว อยากเอาบังตอคมๆ มาเลาะฟนมันออก...วากูแกใชไหม!!! แลวมือ
นั่นอีก เอาออกไปจากไหลที่รักกูไดแลว!!!

"นาสงสารเนอะ อายุเยอะ หนังก็ยาน” ไอพี่เลี้ยงของวินดี้ก็อีกคน หนาซื่อบริสุทธิ์ที่เห็นตอนแรกกลายเปนมายาไปเมื่อ


มันยิ้มมิ่นๆ ตรงมุมปาก ดูเยยหยัน ถากถาง จนอยากหากาวเทปมาแปะปดไวซะ...นี่ก็อีกคน วากูแกหงําเหงือก!!!

"แลวแบบนี้ถาโคหนุมมาแยงเคี้ยวหญาจะสูไหวหรือ" ไอตรินมันพูดตอ ปากมันคลายเอยถามไอเมธ แตตานี่มองผมอยาง


สมเพชอยูชั่วขณะกอนหันไปมองนองดวยนัยนตาแพรวพราวแสนรัก

“จะเอาอะไรไปสูกับเขา ยิ่งโคหนุมเกิดในทุงหญานั้นดวย มันก็ยอมรูดีวาหูาแบบนี้เคี้ยวยังไงถึงจะอรอย” มันวาพลางใช


สายตาแทะโลมนอง ราวกับรูจักวินดี้ดีทุกซอกทุกมุม

“นั่นสิเนอะ แลวถาโคแกตัวนั้นมันขามถิ่นมาละ นองเมธวาโคหนุมเจาของถิ่นจะยอมงายๆ หรือครับ”

“หึหึ ตรินไมรูคําตอบจริงๆ เหรอ”

"งั้นก็นาสงสารไอโคแกหนังยานตัวนั้นจริงๆ"
เพลง!!!! ไมใชเสียงอะไรหรอกครับ แตเปนเสียงความอดทนของผมที่ขาดสบั้น

…ทํากูหึงแลวนะพวกมึง มาแยงที่รักไปจากกู ลวนลามทั้งสายตาไมพอ ยังใชมือไปจับไปกอดนองมันอีก มิหน่ําซ้ําพูดจา


ไมนาฟง เดี๋ยวจะไดรูวาหญาออนที่พวกมึงพูดถึงนะ พระเจาสรางมาเพื่อกู

“วินดี…
้ ที่รัก มานัง่ ขางพี่ นี่มา!!!”
"วินดี…
้ ที่รัก มานั่งขางพี่ นี่มา!!!"

ถึงแมน้ําเสียงของพี่เคาจะฟงดูปรกติ แตผมก็รูดีวาภายใตคลื่นเสียงเรียบเฉยนั่นอารมณดุเดือดรอนแรงดั่งลาวาของภูเขาไฟกําลัง
เคลื่อนตัวอยางเงียบๆ และพี่กําลังสะกดกั้นมันใหกลับไปสงบดั่งเดิมอยางสุดกําลัง ผมสบดวงตาสีน้ําตาลคูนั้นกอนจะลุกขึ้นตามคํา
ชวนเชิญของพี่เขาอยางวางาย...ผมคิดวาตัวเองฉลาดมากพอที่จะไมขัดใจพี่ตอนนี้ ผูชายที่ผมรักมักจะออนโยนและออนหวานกับ
ผมเสมอ

แตไมใชกับคนที่ทําใหอารมณพี่เขาขุนมัว คําพูดและการกระทําของเมธกับตรินเมื่อสักครูคงไปกวนอารมณพี่เขาเขาเสียแลว
ผมยังจําใบหนาและน้ําเสียงของพี่ที่ประกาศกราวเมื่อคืนวาไมชอบใจที่ผมกับเพื่อนแตะเนื้อตองตัวกัน แลวผมก็รับปากพี่แลววา
จะไมทําอีก แตพอขามคืน สิ่งที่พี่ไมชอบก็หวนคืนมาอีกครั้ง

ไมตองใหอธิบายอะไรก็รูแลววาพี่กําลังหึง และก็ไมจําเปนตองอธิบายใหมากความเชนกันวาเวลาพี่หึงนั้นนากลัวเพียงใด…
เทพบุตรของผมจะกลายรางเปนซาตานและพรอมจะทําลายทุกอยางที่ขวางหนาใหแหลกเปนจุล

"นั่งนี่แหละมึง" หากแตมือของเมธกลับฉุดผมใหกลับลงไปนั่งตามเดิม แลวมันก็ทําใหไหลของพี่เขาเกร็ง เหยียดตรงขึ้นมา นัยนตา


แข็งกราว ผมกลืนน้ําลาย มองหนาพี่เขาอยางหวาดระแวง อยาทําแบบนี้เลยเมธ มึงรูไหมวากําลังทําใหลูกแมวตัวโตของกูกลาย
รางเปนสิงโตซึ่งมีเขี้ยวเล็บคมกริบ และพรอมจะกระโจนเขาขยุมเหยื่อที่บุกลุกอาณาเขต และเหยื่อที่วาก็คือมึง…หาใชกูไม

"กูวากูไปนั่งฝงโนนดีกวานะ จะไดไมเบียดกันไง" ผมมองเมธดวยสายตาออนวอน อยากสื่อความหมายใหมันรูวา อยาทําให


เรื่อง มันยุงยากขึ้นมาเลย ไมใชวาไมรูวาคําพูดและสิ่งที่เมธทํากอนหนานั้นมีจุดประสงคเพื่อจะยั่วพี่เขา

“ไหนมึงวาไมเคยปฏิเสธกูไง งั้นกูขอใหมึงนั่งฝงนี้กับกู” แตเมธกลับไมเขาใจความหมายที่ผมตองการสื่อ มากกวานั้นมันยัง


ออนวอนผมทั้งน้ําเสียงและสายตา ผมชะงัก หัวใจกระตุก ไมเคยคิดเลยวาคําถามนี้จะเกิดขึ้นกับผม ในเหตุการณเชนนี้
มันจะตางอะไรกับคําวา “บอกมาวาจะเลือกใครระหวางกูกับมัน” อึดอัดหรือเกิน ทําไมตองเปนแบบนี้ดวย คนนี้ก็เพื่อนที่
ผมรักมาก อีกคนก็คนรักของผม ทําไมเมธถึงไดทําแบบนี้นะ ขอรองละ อยาบีบคั้นผมเลย

“รัน!” น้ําเสียงเย็นเยืยกที่เรียกการดทําใหผมมองไปยังพี่เขา ใบหนาที่นิ่งเฉยหากนัยนตาคมกริบนั่นมองสบตาผมอยูชั่วครู

“ครับนายนอย” ดวงตาแข็งกระดางของพี่ปรายไปยังการดที่คอมหัวใหอยูไมหาง

“บอกใหพนักงานมาเปลี่ยนโตะ” พี่เขาสั่งกอนหันมามองผมเต็มตาอีกครั้ง

“วินดี้นั่งฝงโนนก็ไดครับ เดี๋ยวพี่เปลี่ยนโตะใหเพราะโตะนี้นั่งไดแคสอง นั่งสามมันเบียดกันเกินไป”

“…ครับ…” ขอบคุณครับที่เขาใจและไมเปนอีกคนที่กดดันผม ผมนั่งลงตามเดิม พรอมกับขยับตัวใหหางจากเมธและ


ตรินมากที่สุด แตที่แคบๆ แบบนั้นก็ทําอะไรไมไดมาก แลวดูเหมือนเมธกับตรินจะแกลงผมเพราะทั้งคูขยับเขามาเบียดผม
มากขึ้น มือของเมธโอบไหลผมเขามาแนบชิด ผมชําเลืองสายตาไปทางพีเ่ ขา ไอพี่ทองยกแกวไวทขึ้นดื่ม สายตามองเมิน
ไปอีกดาน กรามบดแนนอยางสะกดกั้นอารมณ

“นอกจากเปลี่ยนโตะแลว เปลี่ยนคนรวมโตะดวยนาจะดี” น้ําเสียงยั่วยวนกวนโมโหของเมธทําใหพี่เขาหันมาเผชิญหนากับมัน


เมธยิ้มมุมปาก หันไปพูดกับตรินราวกับไมเห็นเปลวเพลิงในดวงตาพี่

“แยหนอยนะตริน วันนี้คงกินขาวไมคอยลง เพราะมีตัวที่ทําใหไมเจริญอาหารมานั่งอยูตรงหนา”

“ก็ไมตองมองสิครับในเมื่อมีสิ่งอื่นที่นามองกวา” ตรินบอกขณะมองผม

“อืม…จริงสิ” แลวทั้งสองยิ้มใหแกกันอยางมีความหมาย

ระหวางคําพูดของทั้งสองที่โตตอบกันอยางเขาขานั้น ผมกลับรูสึกอึดอัดและกระวนกระวาย กลัวเหลือเกินวาขีดความอดทน


ของพี่เขาจะขาดสะบั้น แลวเมื่อถึงตอนนั้น คงยากที่จะหามพี่ได

“สั่งอาหารรอเขามาเปลี่ยนโตะดีกวาเนาะ เออจริงสิ เมธกับตรินยังไมสั่งเครื่องดื่มเลยนี่ เอาอะไรดี” ผมพยายามเรียกรอง


ความสนใจของทั้งสามไปยังเรื่องอื่น หวังวามันจะทําใหบรรยากาศอึมครึ้มนี่คลี่คลายลงบาง

“กูอยากกินน้ํามะพราวปน” เมธบอกกอนมันจะลูบหัวผมพรอมกลาวตอวา

“ใชสิกุล…มึงจําตอนที่มึงขี่หลังกู แลวคอยปอนน้ํามะพราวปนกูไดเปลา ตอนนั้นเรากินแกวเดียวกัน ดูดหลอดเดียวกัน”

“อืม…จําได”

นานมาแลว เมื่อตอนที่ผมเรียนมัธยม ผมขาหักเพราะถูกรถชนตองเขาเผือก เมธเลยใหผมขี่หลังเพราะใชไมคล้ําไมถนัด


และลูกแพรชวยถือสําภาระใหกับผม พวกเราเดินมาขึ้นรถกลับบาน พอผานรานขายน้ําเลยซื้อ แตอยางไรก็ไมใชแคผมกับ
เมธหรอกที่กินแกวเดียวกัน แตพวกเราทั้งสามคนตางกินดวยกันหาก ลูกแพรถือของเต็มมือ เมธตองแบกผม ผมก็เลย
เปนคนถือแกวมะพราวปนขนาดใหญ คอยยื่นใหเมธดูดบาง ผมบาง ลูกแพรบาง พวกเราตางไมรังเกียจกันและกัน
ชวงเวลาที่ผมเจ็บอยูนั่น ผมรูซึ้งถึงคําวาเพื่อนที่ทั้งสองมอบให เปนชวงเวลาที่ผมไมเคยลืมจนกระทั่งเดียวนี้

“งั้นพี่สั่งสับปะรดปนดีกวา อยากรูวาระหวางนองกุลทําใหพี่กินกับที่นี่อันใหนจะอรอยกวากัน” คําพูดที่ดังแทรกขึ้นมาของตริน


ทําใหผมหันไปมองเขาบาง

“อะไรอะ มึงเคยทําใหตรินกินหรือวะกุล” เมธเลิกคิ้วถาม…ผมพยายามบังคัญสายตาใหอยูที่เมธ ไมมีความกลาพอที่จะ


มองหนาคนที่นั่งอยูอีกฝง กลัววาเงามรณะจะแผขยายมาทางผมดวยอีกคน

“อืม” ผมตอบรับแคสั้นๆ

จะวาไปเรื่องนี้ก็นานมาแลว ตอนที่ผมเจอกับตรินใหมๆ ผมอยากแกลงเขา เลยอาสาทําใหกิน แตมันคงเปนน้ําสับปะรด


ที่เค็มที่สุดในโลกเพราะผมใสเกลือไปหกเจ็ดชอนโตะ คิดๆ ดูแลวตรินทนผมแกลงมาเยอะเหมือนกันนะกวาผมจะยอมรับเขา
เปนพี่ก็ใชเวลานานเหมือนกัน

“ตกลงมึงเอาน้ํามะพราวปน สวนตรินสับปะรดนะ” ผมเรียกกําลังใจแลวทวนเครื่องดื่มของทั้งสอง ขอสารภาพวารูสึกไม


สบายใจเลยที่พวกมันทั้งสองสั่งเครื่องดื่มเชนนี้ นั่นก็เพราะคําขยายความถึงเหตุที่พวกมันเลือกนะสิ มันเปนดั่งเชื้อเพลิงดีๆ
ที่ไปยั่วพี่เขาใหโมโหมากขึ้น

“นี่แสดงวาตรินกับเมธและก็กุลเคยผานอะไรมาดวยกันสินะ เวลาสั้นๆ ของบางคนหรือจะเทียบกับเวลายาวนานระหวางพวกเรา


ทั้งสามได คนที่มาใหมนาจะเจียมตัวบางนะวาตัวเองจะรูจักกุลดีไปกวาพวกเราไดอยางไร”

“เดียวอีกไมนานมันจะถูกทิ้ง”

“และกลายเปนอดีต แตที่พูดมาไมใชเราแนนอนตริน แตมันจะเปนอดีตสําหรับไอโคแกที่ขามถิ่นมาตางหาก”

แลวยิ่งทั้งสองคุยกันถูกคอเทาไหร ผมก็ยิ่งรูสึกอึดอัดมากขึ้น อยาทําใหเรื่องมันยุงยากไปกวานี้เลย ไมวาเหตุผลอะไรก็ตามที่


ทั้งสองไปยั่วพี่เขาและพูดจาเหน็บแนมเชนนั้น มันตางไมไดชวยใหอะไรดีขึ้นมาเลย นอกจากทําใหคนที่ผมรักมากทั้งสามคน
มองหนากันไมติดเทานั้นเอง แลวผมคงทําอะไรไมไดถาพี่เขาโมโหรายขึ้นมา

“นายนอยครับ” เสียงบอดี้การดที่ดังแทรกขึ้นมาทําใหผมลอบถอนหายใจ พนักงานงานคงพรอมที่จะเปลี่ยนโตะใหเราแลว


คราวนี้ผมคงถอยหางจากเมธกับตรินออกมาไดบาง

“ไมตองแลวละรัน ฉันเปลี่ยนใจแลว” แตมันคงชาไปเสียแลว น้ําเสียงเยือกเย็นของพี่เขานั้นแทบทําใหผมอยากรองไห ชา


เกินไปจริงๆ พี่เขายืนขึ้นเต็มความสูง สงสัญญานบอกใหทุกคนถอยไป กาวชาๆ มายังฝงที่พวกผมนั่งอยู ดวงตาที่เคย
อบอุนแปรเปลี่ยนเปนแข็งกระดาง มือหนายื่นมาตรงหนาผม

“อะไรของมึง” เมธตวาดพรอมปดมือพี่เขาออก ผมเห็นกรามพี่เขากระตุก นัยนตาวาวโรจน

“ไมมีเหตุผลที่ตองทนอีกตอไป สงมือมาที่รัก” น้ําเสียงเด็ดขาดสั่งพรอมยื่นมือมาตรงหนาผมอีกครั้ง

“มึงทนฟงความจริงไมไดก็ลุกหนีไปสิ แตนาจะรูตัวตั้งนานแลววามึงนะสวนเกิน” เมธวาพลางจะปดมือพี่เขาออกอีกครั้ง แต


มือแข็งราวกับคีมเหล็กของพี่กลับพลิกมาจับขอมือเมธแลวบีบไวแนน พูดเสียงรอดไรฟน

“ขอเตือนวากูไมสนุกกับเกมของมึง อยาทําตัวเปนเด็กไปมากกวานี้”

“ถากูเด็ก มึงก็ไอแกหูตึง ฟงไมรูเรื่องหรือไงวามึงนั่นแหละที่ตองเปนฝายไป” เมธกัดฟนบอกพี่เขา มันลุกขึ้นพรอมกับ


พยายามขัดขืนบิดขอมือเปนอิสระแตพี่กลับบีบแนนขึ้นอีก ชั่วพริบตาโดยที่ผมไมคาดคิดผมไดยินเมธรองอยางเจ็บปวดเมื่อพี่หัก
ขอมือของเมธแลวไปไขวไวดานหลังอยางรวดเร็ว กดหนาของเมธแนบกับโตะ เสียงกระแทกสนั่น เสียงกรี๊ดดังลั่นของโตะที่
นั่งอยูไมหาง เสียงขยับตัวของพี่การดที่เตรียมพรอม แตมันก็ดังไมเทาเสียงคํารามของพี่เขา

“ถามึงหูดีนักก็จงฟงไว กูไมใชเพื่อนเลนของมึง แลวหญาออนที่มึงพูดถึงไมใชเคี้ยวงายๆ เมื่อกูไดขามถิ่นมามีหรือจะ


ปลอยใหหลุดมือ หรือยอมคืนใหไอโคโงที่ไดแตมองอยางมึง อยามาใชวาจาสามหาวทาทายกู ถาคิดจะแยงหรือจะแยกวินดี้
ไปจากกู ก็เตรียมตัวกลับไปเกิดใหมไดเลย” น้ําเสียงแข็งกราวของพี่ทําใหผมตัวแข็งทื่อ หัวใจสั่น ไมรูพี่ปลอยมือจากเมธ
ตอนไหน ทวาพอมือแข็งเอื้อมมาควาขอมือผมแนน ผมก็สะดุง แตพอสบแววตารอนแรงของพี่ ผมก็กาวตามแรงดึงอยางไม
กลาขัดขืน

“พี่ครับ…”

“ตกใจไหม” พี่เขาถามโดยที่ไมมองหนาผม ไหลหนาตั้งตรง นัยนคมกริบมองตรงไปขางหนา ลาวาที่ปะทุออกมาจาก


ปลองภูเขาไฟยังรอนแรงฉันใด อารมณของพี่หลังจากไดระบายออกมาก็ยังคงรอนแรงฉันนั้น

“พี่จะไมขอโทษที่ทํากับเพื่อนวินดี้แบบนั้นเพราะมันเหยียดหยามพี่กอน” ผมเมมเรียวปาก

“ครับ” กมหนาพึมพําตอบพี่เขากอนจะมองกลับไปยังเบื้องหลังดวยนึกหวงเมธขึ้นมา ไมรูวาเมธลุกขึ้นมาตอนไหนแตเวลานี้


มันกําลังยืนจองตามหลังผมกับพี่เขาดวยสายตาบางอยาง มีตรินยืนอยูขางๆ สีหนาของเขายังไมหายตกใจ

“เดี๋ยวกอน” แตแลวเสียงรองของเมธก็ทําใหพี่หยุดเดิน สายตาของพี่ยังมองตรงไปขางหนาโดยไมคิดจะหันกลับไปมอง


เบื้องหลัง แตผมก็รูวาพี่เขารอฟงคําพูดตอไปของเมธอยางตั้งใจซึ่งมันคงไมตางจากผมในเวลานี้ ทวาเมธกลับไมเอยคําใดๆ
ออกมา ปลอยใหเวลาเดินผานเราไปอยางเชื่องชาจนพี่เริ่มขยับเทาอีกครั้งนั่นแหละ เมธถึงไดเอยปากพูด

“ฝากดูแลเพื่อนกูดวย” ถึงน้ําเสียงนั้นจะไมดังมากนักแตผมก็ไดยินอยางชัดเจน

“มึงฟงคําพูดกูแลวจําไว” น้ําเสียงแข็งกราวของพี่เอยสวนกลับทันที อุงมือหนาที่บีบกระชับมือผมใหแนนขึ้นทําใหหัวใจผมเตนแรง


ยิ่งคําพูดของพี่ที่บอกกับเพื่อนผม ยิ่งทําใหน้ําตาผมแทบไหล ถึงพี่เขาจะรายกาจ ขี้หึง ใจรอน แตผมก็โกรธแกไมลงจริงๆ

“…เพื่อนมึงคือชีวิตและลมหายใจของกู…”
“หึหึ”

“ยังไมเลิกหัวเราะอีก”

“ก็มันขํานี่ครับ”

“ขําอะไรนักหนา ไมเห็นจะตลกตรงไหน”

“ก็ตลกตรงที่นองเมธถูกสัง่ สอนนั่นแหละครับ”

“เฮอะ” เห็นผมเจ็บแลวขํานี่นะ มันนาปลื้มใจตายละ ผมทิ้งรางลงบนมานั่งริมหาด ยังรูสึกหงุดหงิดไมหาย หลังจากไอหานั่นเดินจาก


ไปก็ไมมีอารมณกินอะไรมันแลว มันไปไดผมก็ไปไดเหมือนกัน ดวยอารมณตอนนั้นทําใหผมเดินดุมๆ ออกไปยังชายหาด ถึงไมอยาก
ยอมรับความจริงแตก็หนีมันไปไมพน เชอะ นี่ถาไมคิดวาประสบผลสําเร็จตามแผนที่วางไวแลวละก็ ผมไมยอมถอนตัวมางายๆ อยาง
นี้หรอก

“ไหนเอาหนามาดูซิ เจ็บไหมละนั่น พี่บอกแลวใชไหมวาอยาไปยุงกับเขา แลวเปนไงละ ไดคําตอบสมใจเลย” ตรินเดินมาหยุด


ตรงหนาผม คอมตัวลงมาใชมือประคองใบหนาผมใหหันมาทางเขา ผมจําเปนตองเงยหนาขึ้นเล็กนอยใหคุณหมอจําเปนตรวจดู
อาการไดถนัด ความจริงผมยังรูสึกแสบหนาเล็กนอย แรงกระแทกลงบนโตะไมใชเบาๆ คิดวาคงเสียดสีกับผิวโตะ หมดหลอไปอีก
หลายวันเลยกู เมื่อเชาถูกกุลมันตอยมุมปากมาหมัดหนึ่ง ตอนสายถูกตรินตอยอีกสองหมัด แลวเที่ยงวันถูกไอสันดานนั่นจับหนาลง
กระแทกกับโตะอีก นี่ขนาดยังไมทันขามวันเลยนะ ยังเจอขนาดนี้ แลวตอจากนี้ไปก็ไมรูจะเจออะไรอีก หากตอนนี้ผมไปหาหมวกกัน
น็อกมาใสกันหัวกันหนากระแทกจะยังทันไหมนะ

“อะไร ไมตองมาซ้ําเติมเลยเมื่อกี้ยังอยูขางเมธดีๆ” ผมบอกขณะบัดมือตรินออก ตรินหัวเราะในลําคอ มือกอดอก เมื่อผมทําทาปงปง


ใส

“ก็ไมไดวาจะแปรพรรคนี่ครับ จะวาไปเมื่อกี้ก็สะใจดี ไดพูด ไดระบายบาง แลวยิ่งดีเขาไปใหญ ตอนคุณนาคินทรโกรธ นองเมธก็รับ


แทนไปคนเดียวเต็มๆ เลย หึหึ” ยังหัวเราะไมเลิกอีก สนุกเขาไป เห็นผมเจ็บแลวมีความสุขเนี่ย ผมหันไปทําตาดุใสตริน

“...” เมื่อเห็นสีหนาไมพอใจของผม เขาก็รีบเอามือปดปากแตเสียงหึหึยังแววมาใหไดยิน

ตรินเดินมานั่งที่มาอีกตัวขางๆ ผม ขณะที่ผมเอนหลังลงพิงพนัก ถอนหายใจพรอมกับแหงนหนาขึ้นมองฟา วันนี้อากาศชางสดใส


เหลือเกิน ภายใตทองฟาสีคราม เมฆสีขาวเคลื่อนตัวอยางชาๆ ลอยออยอิ่งอยางอิสระเสรี สายลมออนๆ พริ้วผานหอบกลิ่นอายของ
ทะเลมาแตะจมูก เสียงคลื่นกระทบฝงดังอยางตอเนื่อง หากเปนยามปรกติผมคงดื่มด่ํากับธรรมชาติอันสวยงามแตยามนี้มนั กลับรูสึก
เหงา และหวาเหวจนยากจะบรรยาย

จบแลวจริงๆ สินะ รักแรกที่ไมสมหวัง ตอนนี้ทุกอยางคงตองปลอยเปนอดีตไปไดแลว ถึงแมอยากจะยอนเวลากลับไป แลวหยุด


เอาไวถึงตอนที่ผมยังไมรูความจริง จะไดไมตองรับรู ไมตองยอมรับ แตมันคงเปนไปไมได ตอนนี้กุลจะรูไหมวาภายใตทองใสอันสดใส
วันที่ดอกรักบานในใจของมัน แตอีกมุมหนึ่งของหาดทรายที่โอบลอมทะเลอันดามันไว ยังมีคนอกหักที่ยังรักมัน และกําลังพยายาม
รักษาแผลใจอยู

“คราวนี้ก็หายหวงกุลมันสักที” ถึงแมการลงทุนครั้งนี้จะเจ็บตัวบาง แตมันก็คุมสุดคุม “มึงฟงคําพูดกูแลวจําไว...เพื่อนมึงคือชีวิตและ


ลมหายใจของกู” คงไมตองหาคําใดๆ มาอธิบายไดดีไปกวานี้อีกแลว ผมคงไดแตหวังวาคนที่พูดประโยคนี้ออกมาจะรักษาชีวิตและ
ลมหายใจของตัวเองเปนอยางดี

“คุณนาคินทรประกาศออกมาแบบนั้น แสดงวาเขาจริงจังกับนองกุลมากทีเดียว”

“ก็ไมคิดเหมือนกันวามันจะยั่วขึ้นขนาดนี้”

“แตพี่วาเขาอดทนมากเลยนะ เปนพี่ลุกขึ้นมาตอยหนาตั้งแตวาพี่แก ไรน้ํายาแลว อีกอยางนะครับพี่ไมเคยพูดจากเสียดสีใครแบบนี้


มากอนเลย เหมือนเปนนางรายในละครยังไงไมรู” ตรินทําปากยื่น เขาคงรูสึกแปลกๆ และขัดแยงกับตัวเองวาสิ่งที่เพิ่งทําลงไปสมควร
แลวหรือ

“หึหึ ถาเปนนางรายจริงตรินก็ลืมบทหนึ่งละ”

“หือ...อะไรครับ”

“ก็ลุกขึ้นมารองวี๊ดวาย เตนเราๆ ชี้หนาไอคนที่ทํารายเมธไง”

“โอ ลืมบทนั้นจริงๆ ดวย” เขาตอบรับคําพูดผมดวยใบหนาใสซื่อและนั่นทําใหผมอดขําไมได

“หึหึ” ผมหัวเราะผมกอนพูดตอวา “แคนึกภาพก็ตลกแระ อยาเลนสมบทบาทขนาดนั้นเลย แคนี้ก็พอแลวละ” ตรินยิ้มบางๆ ใหกับ


คําพูดของผม

“พี่วาถาเราเดินไปถามเขาตรงๆ ตั้งแตตอนแรก คุณนาคินทรก็นาจะพูดกับเราดีๆ นะครับ เห็นไหมพอทําตามแผนนองเมธเลยตอง


เจ็บตัวเลย ดีไมดีนองกุลจะเหม็นขี้หนาเอา” ตรินวาขณะเอนตัวลงนอนบนมาขางๆ ผม เขาใชมือรองศีรษะ สายตามองไปยังทอง
ทะเลอันกวางใหญ

“เรื่องกุลนะไมตองหวงหรอกวามันจะโกรธ มีแตมันจะมาขอโทษแทนแฟนมันนะสิ ไมเชื่อก็รอดู แลวอีกอยางถาไปถามตรงๆ ใครๆ ก็


ตองบอกวารักทั้งนัน้ แหละ การยั่วใหใครสักคนโกรธมันตอบคําถามไดหลายอยาง ตรินก็เห็นแลวนี่”

“อืม...นอกจากรูวาเคารักนองกุลมากแลว ยังรูอีกวาคุณนาคินทรเปนผูชายที่นากลัวมาก นี่ถานองเมธไมใชเพื่อนนองกุล พี่คิดวาเขา


คงไมหยุดแคนั้นหรอก”

“แลวไง คิดวามันมีมือคนเดียวหรือไง” คําพูดของตรินทําใหผมหายใจฮึดฮัด ยังเจ็บใจไมหายเลยที่ถูกจูโจมโดยไมทันตั้งตัว แตตริ


นสิครับ ไมดูฟาดูฝนเลย ไมรูหรือไงวาผมกําลังหงุดหงิดอยู

“ฮาฮา นองเมธอยาพูดใหพี่ขํามากกวานี้เลยครับ จะเอาอะไรไปสูกับเขา” หัวเราะผมอีกแระ

“โอ...ที่จริงพีว่ านองเมธก็หนวยกลามไมแพคุณนาคินทรเลยนะครับ เพียงแตนองเมธไมทันตั้งตัวเทานั้นเองเนอะ เลยเสียทา” ตรินรีบ


แกคําพูดเมื่อเห็นสายตาเขียวปดของผม

“รอนแลวอะ ไมไดเอาครีมกันแดดมาดวย กลัวดํา อีกอยางหิวอีกตางหาก ไปหาอะไรกินกันเถอะครับ” เขาเปลี่ยนเรื่องพรอมทั้งลุกขึ้น


นั่ง ประสาทสัมผัสเร็วเหมือนกันนะเนี่ย รูอีกวากวนอารมณผมใหขุนขึ้นมาอีกรอบ รีบแกสถานการณใหญเลย

“ลุกไมไหวอะ ดึงหนอยสิ” จะวาไปตรินก็อุตสาหพยายามทําใหทุกอยางดีขึ้น ผมก็ควรปลอยมันไปดีกวา ผมฉีกยิ้มกวางทําเปน


ประจบเขากอนจะยื่นมือไปใหตรินฉุดผมลุกขึ้น

...แตแลวระหวางที่รางกายผมกําลังเอนขึ้นตามแรงดึงอยูนั้น สายตาของผมก็เห็นบางอยางผิดปรกติบนชายหาด...ผมจองหนาตริ
นกอนจะสะบัดศีรษะแรงๆ เพื่อจะไดมองหนาเขาใหชัดยิ่งขึ้น…แตมันก็ไมไดชวยใหอะไรดีขึ้นเลย

...นั่นก็เพราะวา โรคประจําตัวของผมคงทําพิษเขาเสียแลว แยแลวละ...สงสัยน้ําตาลในเลือดคงลดลงต่ํามากถึงทําใหผมตาลาย

“นองเมธ! เปนอะไรครับ! ไดยินพี่หรือเปลา! นองเมธ!”

...ไดยินตริน...เมธไดยินเสียงตริน แตมันชางเลือนลางและแผวเบา เหมือนเสียงที่ลอยมากับสายลมจากที่ไหนสักแหง...ไกลแสนไกล


...แลวมันก็ขาดหายไปในสุด...พรอมๆ กับความมืดที่คืบคานเขามา...

“หาอะไรครับคนดี บอกพี่สิ นองเมธ! มองพี่สิครับ มองหนาพี!่ ” มองตรงไหน ไมเห็นอะไรเลย มันเลือนลาง มืดมัวไปหมด ภาพมันก็
ซอนทับกัน จนไมอยากจะลืมตาดู ยิ่งเห็นยิ่งทําใหเวียนหัวมากยิง่ ขึ้น

“ทําไมตัวเย็นแบบนี้ เหงื่อเต็มตัวเลย...” เสียงของตรินยังคงแผวเบาราวกับเสียงกระซิบ


“หรือเบาหวานจะลด ใชไหม...” ผมอยากจะพูดตอบตริน แตมันก็รูสึกเหมือนลําคอแหงผาก ไมมีเรี่ยวแรงแมแตจะอาปากพูด

“ลูกอม ลูกอมอยูไหน" เขาพึมพําพรอมกับหาอะไรสักอยางจากตัวของผม

"เจอแลว" น้ําเสียงของเขาฟงดูตื่นเตน

"นองเมธกินนี่นะครับ” ผมรีบรับกอนแข็งๆ ที่ยัดเขาปากตามสัญชาตญาณ

“มีแคไมกี่อันเอง ไมพอแน นองเมธรอเดี๋ยวนะครับเดี๋ยวพี่มา นอนนิ่งๆ อยูนี่นะครับ แปบเดียวนะ” ไมวาเขาบอกใหทําอะไรตอนนี้ผม


ก็ไมมีปญญาไปฝาฝนได หลังจากลิ้นแตะรสหวานๆ ของลูกอมไมนานตรินก็กลับมาอีกครั้ง

“นองเมธ ดื่มนี่กอนครับ” เขาบอกพรอมยื่นแกวเครื่องดื่มมาตรงหนา เมื่อลิ้นผมสัมผัสกับของเหลวก็รูวามันเปนน้ํามะพราวที่ใส


น้ําเชื่อมในปริมาณที่มากหนอย ตรินคงไดมาจากรานคาริมหาดแถวนัน้ เขาใหผมดื่มแคครึ่งแกวจากนั้นก็เอนตัวผมลงนอนบนมานั่ง
ผมพยายามหายใจลึกๆ สูดลมเขาออกชาๆ จังหวะหัวใจที่มันสั่นเตนแรงเมื่อสักครูคอยๆ ลดลงตามเวลาที่เคลื่อนขยับ จนกระทั่งผาน
ไปครูใหญ

“เปนไงบาง”

“อืม...” ผมตอบเขาไปแคนั้น ยังรูสึกเหนื่อย แลวพอลองลืมตาขึ้น ภาพที่ฝามัวเมื่อสิบกวานาทีกอนก็กลับมาเปนปรกติ

“นองเมธมีเครื่องตรวจวัดน้ําตาลไหม” น้ําเสียงของตรินทําใหผมหันหนาไปยังเขา

“อยูบนหอง” พอบอก ตรินก็ทําทาจะลุกขึ้น ผมตองรีบยกแขนไรเรี่ยวแรงของตัวเองไปดึงเขาไว พรอมกับพยายามพูดกับเขาดวย


น้ําเสียงแหบแหง

“ไมตองหรอกตริน ดีขึ้นมากแลว”

“ไมได!!!” แตตรินกลับตะวาดผม ในหนาเขาบึ้งตึง นัยนตาฉายแววไมพอใจอยางเดนชัด ผมหลับตาลง ปลอยมือจากแขนของเขา

“เฮอ...ถึงจะดีขึ้นแลวก็ตองวัดดู ถามันยังต่ําอยูจะไดเพิ่มน้ําตาล”

“อืม...ตามใจตรินแลวกัน มันอยูในกระเปาในหองนั่นแหละ”

“งั้นเดี๋ยวพี่มานะครับ”
“อืม...” เมื่อสิ้นเสียงของผมตรินก็ลุกจากไป แตไมวายกอนไปเขาใชมือมาเช็ดเหงื่อตามไรผมและบนใบหนาใหกับผม

“วางายๆ อยางนี้คอยนารักหนอย” มีทิ้งทายประโยคไมนาประทับใจไวใหอีก ไมใชเด็กๆ นะเฟย ดูพูดเขา แลวที่วางายๆ นี่เพราะยัง


ไมมีแรงไปตอตานเขาเทานั้นแหละ ยังรูสึกสะลึมสะลือ เบลอๆ ชอบกล แตมันก็ทําใหผมยิ้มมุมปากอยางไมรูตัว รูสึกแปลกๆ กับ
สัมผัสออนโยนจากเขา

นี่เปนครั้งที่สองแลวที่ตรินชวยชีวิตผมไว เขารูดีวาผมเปนเบาหวาน แทบทุกเดือนผมจะเจอกับเขาตอนไปรับยาที่โรงพยาบาล


ตรินมักจะมาพรอมกับตาของกุล ตาของกุลก็เปนโรคเดียวกันกับผม แตตานาเปนหวงมากกวา เพราะนอกจากเบาหวานแลว ยังเปน
โรคหัวใจ และความดันสูงอีกดวย

ตอนที่เขารูวาผมเปนก็ตกใจมากทีเดียว แตทํายังไงไดละมันไมใชโรคที่เปนเฉพาะกับคนแกนี่นา อีกอยางมันเปนมรดกมาจากบรรพ


บุรุษที่ถายทอดมาถึงผม ถึงไมอยากรับ แตก็หลีกเหลี่ยงไดยาก ตอนแรกที่ตรินชวยผมไวนั้นมันเกิดขึ้นที่บานของกุล พอเขารูวาเหตุ
เกิดจากผมไมไดกินขาวและไมไดกินยาเพราะมันหมด ไมทันไดไปเอาก็ถูกสวดยาวเลยทีเดียว แมตอนนั้นผมจะไมชอบหนาเขาก็ตาม
ที แตตรินก็ยังทั้งลากทั้งดึงผมไปโรงพยาบาลจนได

แลวคราวนี้ละ ถาเขารูวาผมเครียดจนไมกินขาวอีกแลว แถมยังกินเหลาแทนน้ํา ตั้งแตเมื่อวานยันเชาเขาจะบนผมจนหูชาอีกไหมเนี่ย


เฮอ...ไมอยากจะนึก เอาไวใหเขามากอนแลวกัน คอยทําเปนหลับ ทําเปนไมรูไมชี้ ปลอยใหบนไปคนเดียว เดี๋ยวเหนื่อยคงหยุดไปเอง
ละมั้ง...

“นองเมธก็รูตัวนี่ครับวาเบาหวานมันไมใชโรคที่ตองมองขาม” มาแลวครับเสียงสวรรคที่พระเจาเสกสรรคมาใหพรผม เหมือนที่คิดไว


เลยไมมีผิด บนตั้งแตวัดน้ําตาลในเลือด จากนั้นพอผมดีขึ้นก็ตลอดทางมารานอาหาร เมื่อกนถึงโตะก็จัดการบนตอ จนตอนนี้อาหาร
วางอยูตรงหนาก็ยังสวดใหพรไมหยุด

“ครับ” แลวนี่ก็คือคําตอบรับของผม สั้นๆ แตไดใจความ...กระผมปลื้มปติเปนอยางมากที่ไดดื่มด่ํากับรสพระธรรมธอันลึกซึ้งและนา


ประทับใจ...

“ถึงอาการของมันจะไมแสดงออกมามากนักแตมันก็เหมือนภูเขาน้ําแข็งนะครับ นึกภาพออกไหม”

“ออก” ตอบรับดวยคําสั้นๆ อีกครั้งเพื่อใหรูวาผมฟงเขาอยู ถึงมันจะเขาหูขวาออกหูซาย แลววกเขาซายมาออกขวาหลายสิบรอบแลว


ก็ตามที

“นั่นแหละ ยอดมันโผลพนน้ํามานิดหนอยใหมองเห็น แตฐานดานลางมันแนนหนาและกวางใหญ โรคของมันจริงๆ ไมอันตรายมาก


แตมันนําโรครายแรงมาใหภายหลังนะครับ ไมวาจะโรคหัวใจ ไตวาย ความดันสูง เสนโลหิตในสมองแตก แลวถามันขึ้นตา นองเมธก็
ตาบอดได รูใชไหมครับ”
“ครับ” ตอบรับสั้นๆ อีกครั้ง ตั้งแตชายหาดมาถึงรานอาหารนี่จําไมไดแระวา “ครับ” ไปกี่ครั้งแตรูวาบอยมาก และผมก็รูสึก “คับ”
จริงๆ...คับอกคับใจเพราะพูดโตตอบอะไรตรินกลับไปไมได...

“รูแลวทําไมถึงไดปลอยตัวแบบนี้ละ นี่มันครั้งที่สองแลวนะที่พี่เห็นนองเมธเปนแบบนี้ ถามันลดมากถึงขนาดชักแลวจะทํายังไง”

“ก็...”

“ไมตองพูดอะไรเลย” นี่ไงครับ แคคิดจะเปลี่ยนคําตอบรับใหยาวหนอย ดักคอผมเสียแระ แลวแบบนี้จะไมใหผมบอกเขาเปนนัยได


อยางไร

“คับ” ไดยินไหม คนเคาบอกวาคับอกคับใจเนี่ย สั้นๆ แตไดใจความ แตทําไมตรินอานความในใจผมไมออกสักที...แตจะวาไปทําไม


ผมตองยอมตรินดวยก็ไมรู แคบอกเขาใหหุบปาก ใชเสียงแข็งหนอยฝายโนนก็คงเลิกพูด ทวาผมกลับยอมเขา...

ออลืมไป เขาไมนาจะเรียกวายอม แตเรียกวาตัดรําคาญดูจะเหมาะสมกวา อีกอยางถาประมวลผลดีๆ แลว ยิ่งโตตอบ ดูทาฝายโนนก็


จะยิ่งบนยาวกวาเดิม ในเมื่อตรินไมเคยยอมผมงายๆ สักที เนี่ยตอนนี้ฟงจนขี้หูเตนระบํา มันดึ๋งดั๋ง รัวเร็วเสียยิ่งกวา tap dance ซะ
อีก

“ถาถึงตอนนั้นก็ชวยตัวเองไมไดแลว มีแตรอใหคนอื่นเขาชวย ในเมื่อชวยตัวเองไมไดก็อยาทําใหคนอื่นเขาเปนหวงนักสิครับ…กิน


ขาวลงไปเลย ไมตองมามองหนา” เออ...ผิดอีกกู มองหนาคนพูดก็ไมได

“คับ...” กมหนากมตา รับฟงธรรมเทศนา กรรณเทศนที่เทาไหรก็ไมร.ู ..ตอไป~

“หงุดหงิดจริงๆ เลยที่เห็นนองเมธทําตัวแบบนี้ อกหักแลวไง ทําไมตองทํารายตัวเองดวย รูวาหามกินเหลาก็ยังกิน แลวมิหน่ําซ้ํายังไม


กินขาวอีก มันเหมือนฆาตัวเองชัดๆ เลยนะ รูตัวหรือเปลา”

“รู”

“รูแลวก็อยาใหพี่เจอเปนครั้งที่สามนะครับ ถาเจออีกครั้งพี่จะปลอยนองเมธชักตายอยูตรงนั้นแหละ” คิดวางแผนฆาตกรรมผมดวย


หรือนี่ ผมเงยหนาขึ้นจากจานขาว มองคนหนาบึ้งที่วางชอนลงบนจานตัวเองอยางอารมณเสีย

“ใจราย” แสรงตอวาเสียงออยๆ แลวทําหนาเหมือนเด็กถูกรังแก เอียงหนาไปทางดายซายนิดๆ เลิกคิ้วขึ้นหนอยๆ ใหหนังตามันตก


กุลกับลูกแพรบอกวาเวลาผมทําหนาแบบนี้แลวเหมือนอียอ ตัวการตูนของดีสนี่ เห็นแลวใจออน โกรธผมไมลงทุกที

ความจริงผมเคยลองกับคนอื่นมาบางแหละ แลวมันก็ใชไดผลนะผมวา แตกับตรินนี่ยังไมเคย เดี๋ยวลองดูดีกวา เพราะตอนนี้ หูมัน


เริ่มคันยิกๆ แระ คงทนฟงเขาบนนานกวานี้ไมได วาแลวก็เริ่มปฏิบัติการสะกดจิตตรินซะเลย...

“ตรินจะปลอยใหเมธตายจริงๆ เหรอ” นอกจากใบหนาและสายตาแลว ยังสมทบดวยคําออดออนเต็มที เปามนตใสเปนคําพูดดวย


เลย

“ชวยไมได ก็อยากทําตัวเองทําไมละ ในเมื่อไมรักตัวเอง ก็อยาหวังใหคนอื่นมารัก มาสนใจ” โอเย เหมือนมันจะใชไดผลนะนั่น ตริ


นถอนหายใจกอนจะหยิบชอนกับสอมขึ้นมาอีกครั้ง น้ําเสียงไมกริ้วโกรธเหมือนตอนแรกเทาไหร แบบนี้หมายถึงวา ผมพูดกับเขาได
มากกวา “ครับ” กับ “รู” ไดแลวใชไหม

“แหม...ตรินพูดแบบนี้แลวทําเมธดีใจนะเนี่ย” ลองหยอกเขาดูครับ ตรินเลิกคิ้วมองผม

“ก็ที่ชวยเมธครั้งนี้แสดงวารักและหวงใยเมธใชเปลา” ตออีกหนึ่งประโยคยาวๆ เพื่อชวยขยายความเขาใจใหกับเขา ตรินสายหนา


ใหกับคําพูดของผม

“ก็แคในฐานะเพื่อรวมโลกคนหนึ่ง” ผมหัวเราะในลําคอกับคําตอบอันเฉยชาและหางเหินของเขา เฮอ...หายโกรธผมแระ คราวนี้ก็คุย


กันปรกติไดซะที

“กวางเกินไป ยอใหเหลือในฐานะแฟนไดเปลา” ตรินหัวเราะใหกับคําพูดของผมบาง

“เปลี่ยนใจไดไหม ไมอยากเปนแฟนนองเมธแลวละ ปวดหัวจริงๆ เลย” วากอนจะตักอาหารเขาปาก

“ไมเปนแฟนก็ได มาเปนเมียเมธดีกวา” ผมบอกเขากอนจะหันมากินขาวในจานของตัวเองบาง

“โหย ไดคุณภรรยาแบบนี้ปวดไปถึงตับ”

“คุณสามีครับ พี่ตริน พูดผิดพูดใหมได บนเปนไฟแลบอยางพี่ตรินอะ เปนคุณภรรยาที่รักสามียิ่งของนองเมธแหละดีแลว” แกไขความ


เขาใจผิดของเขาใหใหม กอนจะทําหนาที่สามีที่ดี

“อะนี่ครับ กุยชายขาวผัดน้ํามันหอย อรอยนะครับ แถมยังเปนสมุนไพรไทยดวย แกอาการทองอืด ทองเฟอ ขับลม แถมในหญิงแมลูก


ออนยังชวยบํารุงน้ํานมอีกดวย”

“รูเหมือนกันเหรอ แลวไออันหลังนะไมตองพูดมาก็ไดนะ” ตรินอมยิ้ม ดูเขาจะอารมณดีขึ้นมาบางแลว ถึงกอนหนานี้ผมจะบอกวา


รําคาญเวลาฟงตรินบน แตความจริงแลว ผมไมไดรําคาญเสียงบนของเขาที่มีตอสุขภาพของผมเลยแมแตนอย ตรงกันขามมันฟงดู
ลื่นหูยังไงก็ไมรู เสียงของเขาเวลาหงุดหงิดมันฟงหงุงหงิงๆ เหมือนเสียงหมานอยเวลาหิวนมยังไงชอบกล ไดฟงแลวอยากเลนดวย
อยากเอานมไปให
“ออ ลืมไปอีกอยาง กุยชายยังดีสําหรับคนเปนเบาหวาน” ผมหยุดพูด มองตรินที่ตักกุยชายที่ผมตักใหเขาปากดวยสายตาที่ผมเองก็
ไมรูวามันมาจากความรูสึกอะไรกันแน แตที่ผมรูอยางหนึ่งก็คือ ในความรูสึกหลากหลายที่รวมกันอยูนั้น

“ขอบคุณครับที่สั่งให” มันมีความซาบซึ้งใจอยูในนั้น และผมก็บอกถึงความรูสึกของผมใหเขาไดรู ตรินนิ่ง มองสบตากับผมอยูชั่วครู


กอนหนาเขาจะขึ้นสีระเรื่อพรอมกับเลื่อนจานผัดกุยชายมาตรงหนาผม

“กินๆ เขาไปเหอะ ใหหมดนั่นแหละ” เขาบอกพรอมหันหนาหนี ผมอมยิ้ม รูสึกดีที่เขาหวงใยผม ตอนที่มาถึงรานตรินไมใหผมแตะเมนู


เลย ทั้งเครื่องดื่มและอาหารที่อยูบนโตะเขาเปนคนจัดการสั่งให อาหารที่วางอยูตรงหนาก็เหมาะกับผูปวยอยางผม ตรินคงดูแลเรื่อง
อาหารใหกับตาของกุล เขาถึงไดรูวาสิ่งไหนเหมาะกับคนเปนโรคเบาหวาน ผมอดคิดไมไดวาตรินนาจะเรียนหมอมากกวาวิศวะเพราะ
ดูเขาเหมาะกับสิ่งนี้ แตอยางไรก็ตาม สิ่งที่ผมคิดวาเหมาะมันคงตัดสินความชอบของตรินไมได...เขาคงอยากเปนนายชางนั่นเอง

บรรยากาศบนโตะอาหารมันเริ่มแปลกๆ ยังไงก็ไมรู เมื่อผมบอกขอบคุณและมองเขาดวยความรูสึกหลากหลายที่รวมตัวกันอยูในใจ


จากนั้นผมก็รูสึกวาตัวเองกําลังถูกจับตามอง หากพอเงยหนาขึ้นไปยังตริน ก็เห็นเขากมหนากมตากินอาหารโดยไมสนใจผม แต
อยางไรก็ดี ไมรูวาเขารูตัวหรือเปลา...ผมก็แอบมองเขาอยูเงียบๆ เชนกัน ถึงเราทั้งสองจะไมไดคุยอะไรกัน แตมันก็เหมือนมีอะไร
บางอยางอบอวลอยูรอบๆ ตัวเรา ใจผมก็รูสึกแปลกๆ

“แลวก็มีอีกหนึ่งสรรพคุณ ขอบคุณครับที่ชวยบํารุง ความจริงตรินไมตองหวงเมธขนาดนั้นก็ได เมธอะ ยังใชงานไดอยู เดี๋ยวจะพิสูจน


ในตรินรูในเร็วนี่แหละ” ผมพยายามชวนเขาคุยเพื่อจะเรียกความเปนตัวของตัวเองกลับมา ตรินเลิกคิ้วมองผม ผมเลยใชสอมชี้ไปที่
จานกุยชายแลวบอกเขาเกี่ยวกับสรรพคุณที่สําคัญอีกอยางของมันซึ่งผูชายสวนใหญจะรู

“ก็นี่อะ ตรินกลัวเมธไรสมรรถภาพหลั่งเร็วแบบไมรูตัวใชไหม เลยสั่งมาใหกิน แหม...คุณภรรยาแอบหื่นนะเนี่ย เลนเตรียมความพรอม


ใหเมธแตเนินๆ เลยนะ” ตรินทําหนางงอยูชั่วขณะกอนจะหนาแดงแปรด กมหนาบนวาผมนั่นแหละหื่นที่คิดแบบนั้น ผมหัวเราะใหกับ
ทาทางของเขา

แตแลวเมื่อสิ้นสุดบทสนทนานั้น ความเงียบก็ครอบคลุมโตะอาหารของเราอีกครั้ง มันแปลกๆ อีกแลว ทําไมเราถึงนึกคําพูดตอไปไม


ออก ทั้งๆ ที่กอนหนานั้นเสียงของตรินยังบนผมซะยาวเหยียด หรือกอนๆ หนานั้น ผมก็มีคําพูดมากมายมาคุยกับเขา หากแตเวลานี้
...
...ชางมัน ถาหัวใจผมจะเตนในจังหวะแปลกๆ
...ชางมัน หากผมรูสึกไมเปนตัวของตัวเอง
...ชางมัน หากรูสึกวาถูกแอบมอง
...ชางมัน หากผมจะแอบมองตรินบาง
...ชางมัน หากความรูสึกบางอยางจะอบอวลอยูรอบๆ ตัวเรา
ในเมื่อความเงียบระหวางผมกับเขา มันไมไดทําใหผมอึดอัดเลย ตรงกันขามมันกลับออนหวานแปลกๆ ซึ่งผมก็ไมรูวา เปนอะไร หรือ
อยางไร...แตผมก็ชอบที่ไดอยูกับตรินในบรรยากาศแบบนี้...จริงๆ นะ...

ทุกนาทีที่ผานพนไป ผมก็ไมเขาใจทุกอยางที่เกิดขึ้นกับความรูสึกตัวเอง บางครั้งใจมันก็เตนแรง บางครั้งมันก็หยุดเตนไปเฉยๆ


บางครั้งมันก็เตนในจังหวะแปลกๆ บางครั้งมันก็กลับมาเตนในจังหวะปรกติ ผมก็ตอบตัวเองไมไดวาอะไรกําลังเกิดขึ้นกับผม แต
ตอนนี้สายตาของผมนั้นมองเพียงแตคนที่อยูหลังกลองเทานั้น

นายแบบจําเปนที่ผมทั้งลากทั้งดึงใหเขามากับผม เมื่อหวนคิดแลวก็แทบไมเชื่อเลยวา ผมเคยแอบถายภาพเขาไวเยอะเหมือนกัน


ตอบตัวเองไมไดวาทําไม ทั้งๆ ที่เคยบอกตัวเองวา ไมชอบคนๆ นี้ เหม็นขี้หนาเขา และตราหนาวาเปนศัตรูหมายเลขหนึ่ง แตพอเผลอ
ผมกลับมองเขา พอเห็นเขาหลุดก็แอบเก็บภาพไว นึกขึ้นมาแลวก็ยังขําเพราะแมผมเองก็ยังไมรูตัววาเคยทําแบบนั้นทําไม...

เมื่อแผนที่วางไววาจะเมาหัวลาน้ําอีกสักวันลมเหลว หลังจากกินขาวเสร็จแลวผมก็ไปลากตัวลูกสาวสุดที่รัก (กลองตัวโปรด) พรอม


กับนายแบบจําเปน แลวตะเวนหามุมเก็บภาพ ชวงเวลาของพวกเราทั้งสองผานไปอยางรวดเร็ว มันเปนเวลาแหงความรูสึกที่ตัวผม
เองก็ไมเขาใจมากนัก เหมือนเราทั้งคูจะคุยกันนอยลง แตเราตางก็ชอบที่ใหเปนแบบนั้น

...บางครั้งเวลาที่เผลอสบตากันโดยบังเอิญตางฝายตางก็รีบหลบ
...บางครั้งถูกตัวกันโดยบังเอิญตางฝายตางก็รีบขยับออกหางราวกับถูกไฟซ็อต
...บางครั้งเราเอยขึ้นมาพรอมกันตางฝายตางก็รีบหยุดแลวบอกใหอีกฝายพูดกอน
...บางครั้งเราก็เอื้อมมือไปหยิบสิ่งของพรอมกัน ตางฝายตางชะงัก กอนจะปลอยใหอีกฝายหยิบมันขึ้นมา จากนั้นเราก็ยิ้มใหกันบางๆ

เราทั้งคูเที่ยวดวยกันพรอมกับความรูสึกที่ไมสามารถควบคุมไดตลอดชวงบายที่ผานมา แลวสุดทายเราก็จบลงที่นี่ แหลมพรหมเทพ


จุดดูพระอาทิตยตกที่สวยงามที่สุดในประเทศ ผมเคยมาที่นี้หลายครั้งแลว ถึงแมจะเห็นหลายครั้ง แตทุกครั้งที่มองก็ใหความรูสึก
แตกตาง ยิ่งไดมองผานเลนนกลองยิ่งมีเสนหใหหลงใหลมากขึ้น

“สวยจังเลยนะครับ” น้ําเสียงของตรินทําใหผมหันเลนนกลองมายังเขา นัยนตาชื่นชมของเขามองไปยังแผนฟาสีทองที่กําลังคาบคับ


ขอบฟา ดวงอาทิตยดวงโตกําลังจะลาลับ ตกไปยังผืนน้ําที่กระเพื่อมขึ้นลงสะทอนแสงแพรวพราว ผมปรับเลนนกลองกอนกดชัด
เตอรเพื่อเก็บภาพดานขางของเขา

“นานแลวนะครับที่พี่ไมไดดูพระอาทิตยตกแบบนี้”

“ถาตรินชอบ ไววันหยุดคราวหนาเราก็มาอีกก็ได หรือจะเปลี่ยนพระอาทิตยตกไปดูพระอาทิตยขึ้นก็ดีนะ” ผมลดกลองถายภาพลง


ตรินหันมายิ้มใหผมบางๆ

“พระอาทิตยขึ้นที่โขงเจียมก็สวยครับ พี่เคยไปมาแลว”
“ที่ภูกระดึงก็สวย” ผมเสริม

“หรือไมก็ภูชี้ฟา ดอยอางขาง”

“ที่นั่นก็นาหลงใหล พูดแบบนี้แสดงวาตรินไปมาหมดแลวสินะ”

“นองเมธก็คงเหมือนกัน ออกคายตลอดเลยไมใชหรือครับ”

“ทุกเทอม แตไมเคยไปพรอมตรินสักที หวังวาปนี้เราจะไดไปดวยกัน...ใชไหม” ตรินหลบตาผม แสรงมองไปยังทองฟาสีสมออน ดวง


อาทิตยไดลาลับไปแลว

“จําเปนตองรอใหปดเทอมเทานั้นหรือครับ” คําพูดของตรินทําใหผมยิ้ม ยิ่งไดเห็นคนพูดแกมขึ้นสีระเรื่อ ทําทาอยากกัดลิ้นตัวเองยิ่ง


ทําใหผมยิ้มกวางมากขึ้น ผมยื่นมือไปตรงหนาเขา ตรินเอียงหนามองมันอยางสงสัย

“ไมวาตรินอยากไปตอนไหน เมธจะพาไป จับมือเมธไวสิ เรามาสัญญากัน” เขาเมมเรียวปาก หลบตาผม

“ทํามาเปนสัญญาแบบเด็กๆ” เสียงเขาบนพึมพํา

“สัญญาแบบเด็กๆ ตองเกี่ยวกอย แตสําหรับตริน เมธจะเกี่ยวไวทุกนิ้ว จะรักษาสัญญาไวสุดชีวิต และใหตรินจับเมธไว หนีไปไหน


ไมไดเลย”

“มันก็คลายเด็กๆ เลนกันอยูดี” เขาวาพลางหันหนาหนีไปทางอื่น หากแตวินาทีตอมาก็ยอมวางมือในอุมมือผม สีฝาดเลือดบนแกม


ของเขาแดงขึ้นจนเห็นเดนชัดเมื่อมือเราสัมผัสกัน ผมสอดนิ้วประสานกับเขาใหเปนหนึ่งเดียวพรอมกับบีบกระซับเบาๆ

“โอเค เรียบรอย คราวนี้ก็ปลอยไดแระ” เขาบอกพรอมดึงมือกลับกอนจะกมหนา แลวเดินหนีไปอีกมุม ผมอมยิ้มมองตามแผนหลัง


ของเขา

Some people come into our lives and quickly go.


Others stay for a while and leave footprints on our hearts and we are never ever the same.

บางคนผานเขามาในชีวิตเราและก็ผานไป ในขณะที่บางคนไดเขามาและทิ้งรอยไวในใจเรา และสิ่งนั้นทําชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไปไม


เหมือนเดิม

ผมกมมองรอยเทาของตรินที่ทิ้งเอาไวขางผม กอนกาวหางออกมาจากที่ตรงนั้น แลวยกกลองขึ้นจับภาพรอยเทาของผมกับเขา


จากนั้นก็กดดูภาพลาสุดที่เพิ่งถาย ผมยิ้มใหกับมันกอนจะกาวตามเจาของรอยเทา ถึงแมตรินจะเดินนําหนาไปกอน แตเขาก็ยืนรอ
ผม

คุณรูไหมวาทําไมผมถึงไดเก็บภาพรอยเทาของเราทั้งสองไว?

นั่นก็เพราะวา...
มันเปนรอยความทรงจําในใจของผมจากคนที่ผานเขามาในชีวิต...
แตเปนคนที่ผมกําลังรูสึกวาไมอยากใหผานไปอยางไรละ...

ขอบคุณ...รักแรกที่ไมสมหวังทําใหผมรูวาความรูสึกดีๆ สามารถเกิดขึ้นไดอีกครั้ง
ขอบคุณ...อาการอกหักที่ทําใหผมไดรับความหวงใยจากใครบางคน
ขอบคุณ...เวลาที่ผมเจ็บแลวมีอีกคนที่เจ็บเหมือนกันกับผม
ขอบคุณ...เวลาที่ผมเหงาและมีเขาอยูขางๆ
ขอบคุณ...ความอางวางที่ทําใหเราเขาใจความรูสึกของกันและกัน
และสุดทาย...ขอบคุณ...วันที่ใจออนลาทําใหเราทั้งคูกาวขามกําแพงที่กั้นระหวางเราเพื่อไดเรียนรูตัวตนที่แทจริงของเราทั้งสอง

นับเวลาแลวตอนนี้ก็ครบยี่สิบสี่ชั่วโมงพอดีที่ตรินกาวเขามาในชีวิตผมอีกครั้งหลังจากรักแรกของผมไดจบลง ผมยังจําไดวาครั้งแรกที่
ผมผิดหวังจากกุลนั้น ตรินเมือ่ สี่ปกอนรอนแรงราวกับไฟ เขาหลอมละลายผมดวยสัมผัสทางกาย ปนหัวใหลุมหลงซึ่งมันก็ชวย
บรรเทาความเจ็บปวดจากใจราวไดบาง

แตตรินในวันนี้เหมือนดั่งกับหยาดฝนที่ชุมช่ํา เขาสมานใจผมดวยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ความออนโยนและความหวงใยที่มอบให


ทําใหผมรูวาตัวเองยังมีคา ถึงแมจะผิดหวังจากรักแตก็ยังมีหลายคนที่รักและหวังดีกับผมอยู ผมยอมรับเลยวารูสึกสบายใจเวลาที่ได
อยูกับเขา และบางทีมันอาจมากถึงกลับอยากหยุดเวลาลงตรงนี้อีกสักหนอย ดวยความรูสึกบางอยางที่เคลื่อนไหวอยูในใจของผม
หรือลางสังหรณมันบอกผมวาอยาเพิ่งแยกจากเขาตอนนี้

ตั้งแตเชาแลวที่ผมลากเขาไปกับผม ตอนเชาเกิดเรื่องกับเราทั้งสองสารพัด มันสับสนวุนวายจนแทบไมอยากนึกถึง ตอนบายเริ่มเขาที่


เขาทางหนอย เราใชเวลาดวยกัน คุยกันถูกคอมากขึ้น ตอนเย็นตรินชวนผมไปกินอาหารทะเลเปนการสงทายกอนกลับกรุงเทพในวัน
พรุงนี้ ตกดึกผมชวนเขาไปผับ ดวยรูวาตรินไมชอบอะไรที่มันวุนวายผมจึงเลือกไปฟงเพลงคันทรียังผับใกลๆ โรงแรม

แตอยางไรก็ดีถึงแมจะขึ้นชื่อวาคันทรีแตแนวเพลงที่นักดนตรีเลนมีทุกแนว ไลมาตั้งแตแจซไปจนถึงแดนซ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยูกับเวลา


และอารมณของนักดนตรี สวนเครื่องดื่มตรินอนุญาตใหผมดื่มไดเพียงคอกเคลออนๆ ความจริงก็ยังไมกลาซามากเทาไหร กลัวถูก
เทศนายกใหญก็สวนหนึ่ง แตที่สําคัญผมควรใหความสําคัญกับสุขภาพของตัวเองอยางจริงจังซะที

ขณะที่อยูในผับนั้น ตรินพูดคุยอยางอารมณดี บางครั้งเขาก็โยกตัวเขากับเสียงเพลง พอถึงจังหวะแดนซพวกเราก็ออกไปวาดรวดลาย


กัน การอยูกับเขามันเปนอะไรที่เรื่อยๆ หากแตสบายใจ ไมไดหวือหวาเรารอนแตอบอุนและหอมหวาน พวกเราสนุกกับเสียงเพลง
ประมาณสองชั่วโมงกอนจะเดินเอื่อยๆ รับลมราตรีริมหาด เราหยุดพักที่มานั่งแลวคุยกันอีกพักใหญ มองดาว มองเดือน ฟงเสียงคลื่น
มันเปนเวลาที่ผมสบายใจจริงๆ

แลวพอถึงเวลาตองแยกกันมันก็อดที่จะรูสึกโหวงเหวงไมได

“ตรินไมนอนกับเมธจริงๆ หรือ” ผมพยายามขอใหเขาอยูกับผมในคืนนี้ เคยขอเขาแลวตอนเดินกลับเขาโรงแรม แตตรินบอกวาไม


ถึงแมผมจะสัญญาวาแคนอนดวยกันเฉยๆ ก็ตามที แตอยางไรก็ตาม เมื่อเดินมาสงเขาถึงหนาหองพัก ผมก็ยังอดที่จะถามเขาอีกครั้ง
ไมได...เผื่อวาเขาจะใจออน แลวเปลี่ยนใจไปคางกับผม

“หึ” แตเขาก็ยังบอกปฏิเสธผมเพียงคําสั้นๆ เชนเคย

“มันเหงานะนอนคนเดียวอะ” ผมยังตามหวานลอมเขาตอไป

“หึ ไมเหงา” เขาก็ยังยืนยันคําเดิม

“มันนากลัวนะ อยูคนเดียวในหองของโรงแรมโดยที่ไมรูวาหองนั้นเคยเกิดอะไรขึ้นมาบาง” แลวถาเอาเรื่องสิ่งที่ตามองไมเห็นมาอาง


ละ

“หึ ไมกลัว” คําตอบก็ยังคงเปนเชนเดิม

“ดึกๆ มาถาหนาวแลวใครจะหมผาใหละ เปลี่ยนใจมานอนกับเมธเถอะ” หากเอาความหวงใยมาลอละ

“หึ นอนคนเดียวมาตั้งยี่สิบป ไมเห็นเปนไรเลย” เขาก็ยังไมปรารถนาจะยอมรับความหวังดีจากผม

“เฮอ...ใจแข็งจริงๆ เลย” คงตองยอมแพแลวสินะ วันนี้คงตองแยกจากเขาแลว

“โอเค งั้นก็เจอกันพรุงนี้นะ” ตรินพยักหนาใหกับคําพูดของผมกอนบอกวา

“นองเมธก็กลับไปพักไดแลวครับ วันนี้ตะลอนมาทั้งวันเลย ความจริงไมตองตามมาสงถึงหองก็ได พี่ไมใชผูหญิงนะครับ”

“ก็เราเปนแฟนกันนี่นา เมธตองใหความสําคัญกับตรินสิ ตองแนใจวาคุณแฟนกลับถึงหองอยางปลอดภัย” วาพลางยิ้มลิ่วหนาใหอีก


ฝายอยางลอเลียน

“ออ...งั้นก็ขอบคุณมากครับ”
“อืม...ไปแลวนะ ฝนรายนะครับ ฝนเห็นผีดวยยิ่งดี” ตรินยนคิ้วเมื่อผมพูดจบ

“นี่คือคําอวยพรหรือครับ”

“อะฮะ แลวเวลาเจอมันก็ทองคาถา รักนองเมธ รักนองเมธ ไวนะ เดี๋ยวผีมันก็หนีไปเองแหละ”

“มันคงหนีหรอกครับ กลัวแตจะพาพวกมาเพิ่มนะสิ” ตรินวาพรอมสายหนาแตผมก็เห็นเขาอมยิ้ม นั่นทําใหผมหัวเราะในลําคอ


จากนั้นตรินก็เปดประตูหองแลวเขาไปในที่สุด

หมดไปแลวอีกวันที่วุนวาย ทั้งสับสนและไมเขาใจความรูสึกตัวเอง แตผมก็ชอบนะที่มันเปนแบบนี้ ผมเดินกลับมายังลิฟท ขณะรอ


ลิฟทอยูนั้นเสียงฝเทาของใครบางคนก็เขามาใกล และหยุดไมหางจากผม คราแรกผมไมไดใหความสนใจแกผูมาใหมจนกระทั่งอีก
ฝายสงเสียงทักนั่นแหละ

“ไฮ” น้ําเสียงของเขาทําใหผมหันขวับทันที

“ตริน!” อีกฝายเลิกคิ้วสูงเมื่อผมเรียกชื่อเขากอนจะคลี่ยิ้มมุมปาก

…ชัว่ วินาทีหนึ่ง ผมรูสึกวา รอยยิ้มนี้มันชางแตกตางจากที่ผมเห็นมาตลอดทั้งวันเหลือเกิน...

“เปลี่ยนใจแลวใชไหมละ” ผมถามในขณะที่อีกฝายมองผมนัยนตาแวววาว ผมวาตัวเองตาไมฝาดแนที่เห็นรอยขบขันในดวงตาของ


เขา

“อยากใหทําอะไรละ บอกอีกครั้งสิ เพื่อจะเปลี่ยนใจขึ้นมา” เขาขยับเขามาใกลแลวกระซิบถาม กริยาแบบนั้นทําใหผมหรี่ตามอง ยิ่ง


กลิ่นแอลกอฮอลออนๆ ผสมกับน้ําหอมโชยมาแตะจมูก ยิ่งทําใหรูสึกแปลกๆ

“ถาจําไมไดก็ถือวาตรินยินยอมนะ” ผมวาพลางใชนิ้วไลบนแกมอีกฝายอยางถือสิทธิ์ เขาไมตอบเพียงแคหัวเราะในลําคอ มือเรียว


ของเขาเอื้อมมาโอบรอบเอวผม ผมยิ้มใหกับอีกฝาย...รูแนวาบางอยางแปลกไป

“ดูเมธมีความสุขมากกวาที่เจอกันเมื่อคืนวานเสียอีก” นั่นไงละ นี่เขาคิดจะมาไมไหนกับผมอีก เมื่อเชาจําเรื่องที่ผานมาไมได พอตก


ดึกหนอยก็กลับมารื้อฟนมันขึ้น

ผมใชสายตาจับสังเกตมองใบหนาที่ดูมุมไหนสวนไหนก็คลายกับคนที่ตะลอนเที่ยวกับผมตลอดวันนี้ไมผิดเพี้ยน ทวาประกายวาววับ
จากสรอยคอทําใหผมขมวดคิ้ว ผมคิดวาวันนี้ไมเห็นตรินใสสรอยนะ เสื้อที่เขาสวมก็แตกตางจากเมื่อสักครู
ตอนนี้ตรินสวมเสื้อเชิ้ตสีดําแขนยาว พอดีตัว พับขึ้นไปถึงศอก ปลดกระดุมเม็ดบนลงมาอวดหนาอกสีขาวเพียงเล็กนอย บนแขนสวม
นาฬิกา ที่นิ้วโปงและนิ้วกลางประดับดวยแหวนเงิน เพียงแคมองครึ่งตัวเทานี้มันก็ตางกันแลว…ยิ่งบรรยากาศรอบตัวเขายิ่งแลวเขา
ไปใหญ มันทําใหผมนึกวาคนๆ นี้กลายเปนตรินผูเรารอนที่นอนกอดกายกับผมบนเตียงเมื่อคืนวาน

“เมื่อคืนเราเจอกันดวยหรือ เมธรูสึกวาไมนาจะใชนะ” ผมจับมือเขาออกจากเอว พยายามขมความโกรธที่พุงขึ้นมาเปนริ้วๆ นี่มันเรื่อง


ตลกสิ้นดี เขากลามากที่คิดมาปนหัวผมอีกครั้ง

“โกรธเหรอที่หายไปโดยไมบอกเมื่อเชา” เขาเยื้อแขนผมไว

“เปลา แคเรื่องบางเรื่องก็ไมอยากจะจํา”

“ทําไม”

“เคยไดยินไหม วาคนเรามักอยากจําเฉพาะเหตุการณที่นาประทับใจ” ลิฟทขึ้นมาพอดีเมื่อผมพูดจบ ไมรอชาผมรีบกาวเขาไปในนั้น


ทันที แตตรินก็ไวเหมือนกัน เขาเขามายืนเผชิญหนากับผม

“จะบอกวาเมธไมมีความสุขอยางนั้นหรือ” สีหนาของเขาดูไมพอใจเปนอยางมากเมื่อความนัยนแหงคําพูดของผมบอกวาเซ็กของเขา
ไมไดเรื่อง

“ก็ไมเชิง” ผมยักไหลอยางไมสนใจอีกฝาย เอื้อมมือไปกดลิฟทยังชั้นของตัวเอง แตตรินกลับปดมือผมออกแลวเปลี่ยนเปนกดใหลิฟท


คางไว

“รูไหมวาเมธเปนคนแรกที่พูดแบบนี้” เขาก็เปนคนแรกที่ทําแบบนี้กับผมเหมือนกัน สนุกมากไหม แตขอโทษนะ เกมมันโอเวอรไปตั้ง


นานแลว

“เมธคงตอแหลไมเปนเหมือนคนอื่นมั้ง รูสึกอยางไรก็พูดไปอยางนั้น” ผมเมินหนาไมสนใจอีกฝาย เอื้อมมือไปกดลิฟทอีกครั้ง คราวนี้


ตรินยอมใหผมทําอยางที่ตั้งใจ

“งั้นก็ขอโทษดวยที่ไมไดเรื่อง แตอยากบอกใหเมธรูไววาตลอดที่ผานมา ไมเคยลืมเมธเลยนะ”

“ฟก!!!” ผมสบถอยางหัวเสีย คําพูดประโยคนั้นของเขาทําใหสติผมขาดผึง ผมรอบตัวอีกฝายแลวเบียดใหติดกับผนังลิฟท ตะคอก


ถามเขาอยางเกรี้ยวโกรธ

“มึงเปนใครกันแนหะ!!! จะเอายังไงกับกู!!! เดี๋ยวจําไดเดี๋ยวลืม มึงทํายังไงถึงสลับรางไปมาได บอกกูหนอยสิ วามึงใชคนเดียวกันกับ


คนที่ไปกับกูวันนี้หรือเปลา บอกกูมา!!!”

“เมธ...ขอโทษ...ขอโทษจริงๆ...ไดโปรด” เขาขอรองผมเสียงสั่นกอดผมไวแนน แหงนหนามองผมดวยน้ําตาคลอเบา

ผมพยายามนับลมหายใจเขาออก ขมความกริ้วโกรธไวอยางสุดกําลัง แลวมันก็เหมือนสวรรคจะเขาขาง ประตูลิฟทเปดออกกอนจะ


ถึงชั้นของผม ชายหญิงคูหนึ่งเดินเขามา ทําใหผมถอยหางจากตริน หากแตพอถึงชั้นของตัวเอง ผมก็ขวาหมับเขาที่แขนของเขาแลว
ดึงใหไปพรอมกัน ผมเปดประตูหองพักแลวผลักเขาเขาไปกอนจะตามประกบจูบอีกฝายรุนแรง ตรินตกใจเล็กนอยแตเขาก็จูบผมกับ
เชนกัน นี่มันเรื่องบาอะไรไมรู แตผมก็ปฏิเสธไมไดวาความรูสึกเรารอนลุกพือขึ้นอยางรวดเร็วเมื่อถึงตัวกัน มือของเราทั้งคูตางลูบไล
รางกายกันและกันอยางโหยหา ไฟราคะรุกโชติชวงแผดเผาผมกับเขา ในที่สุดทุกอยางก็เปนไปตามทางของมัน...อยางคนที่เคยๆ กัน
อยู...

“อือ...” ผมหันหนาหนีสิ่งที่มารบกวนการหลับใหลของผมแตพอหันไปทางซายมันก็ยังตามมา หันขวาก็ยังหยอกลอไมเลิก

“อุบ..” สุดทายผมก็ควาหมับเขาที่ขอมือของเขาแลวดึงใหลมทับตัวผมซะเลย จากนั้นก็รัดอีกฝายไวแนน

“เด็กดื้อ” ผมตอวาเขา

“ก็ไมตื่นเสียที เดี๋ยวก็หนีไปกอนอยางคราวกอนหรอก”

“ลองทําอีกครั้งสิ” ผมบอกพรอมพลิกรางขึ้นครอมเขาไว

“ไมกลาแลวละ เมธโกรธแลวนากลัว” เขาแสรงวาหากนัยนตาวาววับอยางเจาเลห

“แตตรินก็รับมือไหวนี่” วาพลางกมหนาลงจูบเขา ตรินเผยอปากรับลิ้นของผมที่สอดแทรกเขาไป เราเกี่ยวกวัดแลกลิ้นกันอยาง


รอนแรง จูบตอบกันอยางเรารอน จนอารมณผมปะทุขึ้นจนยากจะยับยั้งได

“อะ...อืม...แลวเมธชอบไหม” เขาถามเมื่อผมผละออกแลวเปลี่ยนไปซุกซอกคอเขาแทน

“ตองใหบอกอีกหรือ” ผมพําพึมในลําคอขณะไลจูบลงต่ําไปตามหนาอกขาวเนียน

“อยากไดยินอีกครั้ง”

“ชอบที่สุดเลยครับ” เขายิ้มหวานพรอมกับเอื้อมมือมาประคองหนาผมไว ผมขยับตัวขึ้นมาสบตากับเขา ตรินเปลี่ยนเปนยกแขนขึ้น


โอบรอบคอผมกอนออกแรงดึงผมใหกมลงมาประกบปากกับเขาอีกครั้ง เราจูบกันอยางเรารอน ซาบซาน กอนบทเพลงรักในรุงเชาจะ
เริ่มขึ้นอยางรอนแรงอีกครั้ง ผมถาถมโรมรันเขา กระแทกกระทั้นเนื้อกายใสเมื่ออีกฝายรองขอใหลึกเขาไปอีก ในขณะที่ตรินขยับแอน
กายรับไมหยุด เสียงครางกระสันตอยาสุขสุมออกจากปากเขาไมขาด เขารอนแรงยิ่งกวาไฟและชอบคุมเกมเมื่อใกลถึงจุดหมาย ตริน
เปนฝายขยมรางลงครอบแกนเนื้อของผม โหมกระหน่ําขึ้นลงแรงเร็วจนผมแตกแลวเขาถึงไดตามมาทีหลัง
.
.
.
.

ผมสวมเสื้อคลุม เดินไปยังหัวเตียงแลวสั่งอาหารเชาขึ้นมากิน ขณะที่ตรินยังชําระรางกายอยูในหองน้ํา มันตางกันจริงๆ นั่นแหละ ผม


อยากรูเหลือเกินวาตัวตนที่แทจริงของตรินนั่นเปนยังไงกันแน เวลากลางวันเขาเหมือนเด็กไรเดียงสา ดูขี้อายและเคอะเขิน เขามักทํา
อะไรไมถูกเมื่อผมหยอดคําหวาน หากพอตกค่ําเขาเปนอีกคนที่ตอบสนองความตองการของผมไดอยางถึงใจ

ผมเดินไปที่กระเปาของตัวเอง หมายจะหยิบยากอนอาหารขึ้นมากิน ผมยิ้มกับตัวเองเมื่อเม็ดยามาอยูในอุงมือ นึกถึงใบหนาบึ้งตึง


ของคนขี้บนกับรอยยิ้มอายๆ เมื่อผมจับไดวาเขาสั่งอาหารเพื่อสุขภาพของผมโดยเฉพาะ ความจริงแลวผมไมนาขี้เซาเลย วันนี้เรา
นาจะไดดูพระอาทิตยขึ้นดวยกันสักครั้งแลวคอยไปโขงเจียมตามดวยภูกระดึงหรือภูชี้ฟาแลวแตความตองการของเขา แตอยางไรก็
ตาม เมื่อมานึกอีกที ถึงจะอยูในหองแตเชานี้ของเราทั้งสองก็วิเศษไมแพกัน

ขณะที่ผมกําลังคิดอยางครึ้มๆ อยูนั้นเสียงเคาะประตูหองพักก็ดังขึ้น ผมขยับเสื้อคลุมใหเขาที่ ดวยคิดวาคงไมตองถึงกับเปลี่ยน


เสื้อผาเพราะแคไปรับอาหารเชาเทานั้นเอง ทวาพอเปดประตูแลวเห็นคนที่อยูตรงหนาผมเทานั้นแหละ ผมถึงกับเบิกตาโพลง ตัวชา
รางกายเย็บเฉียบ ไมเชื่อสายตาตัวเอง เปนไปไดอยางไร ทําไมเขาถึงมายืนอยูตรงนี้

“ตริน!”

“เปนอะไรครับ ทําหนายังกับเห็นผี” นี่มันรายกวาเห็นผีอีกเลยละ ใชตรินจริงๆ หรือ เขามีเนื้อมีหนังใชไหม แลวออกไปขางนอกตั้งแต


ตอนไหนก็ในเมื่อเขาอยูในหองน้ํากับผมกอนหนาที่ผมจะออกมาไมใชหรือ ผมหันกลับไปยังหองน้ําที่ตอนนี้ประตูปดอยูแลวหันมา
ทางเขาอีกครั้ง

“ตริน!”

“เปนอะไรเนี่ย เรียกอยูนั่นแหละจะพูดอะไรก็ไมพูด ไมสบายหรือเปลา ทําไมหนาซีดอยางนี้ หรือน้ําตาลจะลดอีกแลว” มืออุนๆ วางที่


หนาผากของผม ความรูสึกนี้บอกผมวาไมไดฝนไปจริงๆ เขามีตัวตน แลวมันเปนไปไดหรือวาผมจะตาฝาดไป

“ตัวก็ไมเย็นนี่นา” ขณะริมฝปากเรียวบางพึมพํา ผมก็ยกมือมาตบหนาตัวเองเบาๆ หลับตาแลวลืมขึ้นใหม แตไมวาจะทํายังไงก็ยัง


เห็นตรินตัวเปนๆ อยูตรงหนาผมเชนเดิม
“อะ...อะไรครับ” เขาอุทานอยางตกใจเมื่อผมจับไหลของเขาทั้งสองขางแลวดึงเขามาใกล ใชเขามีเนื้อหนัง จับหันซายหันขวาก็ยังเปน
เหมือนเดิม...นี่มันอะไรกัน!!!!

“นองเมธเปนอะไรเนี่ย ทําเหมือนพี่เปนตัวประหลาดเลย นี่วาจะมาชวนไปกินขาวดวยกัน นองเมธกินหรือยังครับ”

“ยัง...แตเรื่องนั้นเอาไวกอน ชวยบอกทีวานี่มันอะไรกัน” ไมไหวแลว มึนงงไปหมด หัวมันสับสนวุนวาย ไมเขาใจอะไรสักอยาง มันตอง


มีคําอธิบายสําหรับเรื่องนี้สิ ผมลากเขาเขามาในหอง ตรินยอมเดินตามผมเขามาแตโดยดี เมื่อถึงที่หมายผมก็ชี้ไปยังหองน้ํา ตรินทํา
หนาประหลาดใจ นัยนตาสงสัยมองมาที่ผม

“อะไร ยังไงอะครับ พี่งง ก็ประตูหองน้ํา”

“ไมใช”

“งั้นอะไรละครับ” ผมเดินเขาใกลหองน้ําดวยหัวใจเตนตุมๆตอมๆ ทั้งอยากรูแลวกลัวคําตอบของมัน ความรูสึกผมตอนนี้เหมือน


ตัวเองเดินอยูในหองมืดสลัว รอบตัวเต็มไปดวยหมอกหนา อากาศเย็นเฉียบจนผมสั่นสะทาน

“กอกๆ” ผมเคาะพรอมกับหัวใจตัวเองเตนแรง มืออีกขางกุมมือตรินไว รูเลยวาเหงื่อออกจนเปยกชื้น

“แปบเดียวครับเมธ” เสียงขานรับในหองน้ําทําใหผมตัวแข็งทื่อ มีตรินอีกคนอยูในนั้นจริงๆ โธ พระเจา ไดโปรดอยาเลนตลกกับผม


อยางนี้เลย

“นองเมธไมไดอยูคนเดียวหรือครับ” น้ําเสียงเบาหวิวของตรินเอยถาม ผมรูสึกวามันแผวเบายิ่งกวาเสียงกระซิบ แตเสียงกอกแกก


เบาๆ ที่อยูดานหลังประตูเรียกความสนใจผมมากกวา ในวินาทีนั้นผมคิดวาตัวเองไมเคยลุนระทึกอะไรเทานี้มากอน มือชื้นเหงื่อของ
ผมที่กุมมือตรินไวเลื่อนมาเกาะไหลเขา โอบไวแนนราวกลับกลัวอีกฝายจะหนี แลวพอประตูเปด พรอมกับคนขางในที่กาวออกมา ผม
ก็ตองอาปากคาง รูสึกเหมือนฟาผาเพลี้ยงลงมาตรงหนา ครูตอมาถึงไดหันซายหันขวาดูหนาตรินที่ยืนเคียงขางกับผมและตรินอีกคน
ที่ยืนอยูตรงหนา คนที่อยูตรงหนาผมเขาดูจะตกใจเล็กนอยแตชั่ววินาทีตอมาก็ปรับสีหนาใหเปนปรกติ แตตรินอีกคนที่ผมโอบไหลไว
อาการของเขาดูจะไมตางจากผมมากนัก เขาเบิกตาโพลงอยางตกใจกอนสีหนาเขาจะซีดเผือกเมื่อมองมาที่ผมกับอีกคนสลับไปมา

“ไฮ บราเตอร” น้ําเสียงปรกติของคนที่อยูตรงหนาผมเอยทัก คํานั้นมันสะดุดหูผมเหลือเกิน บราเตอรอยางนั้นหรือ พวกเขาเปนพี่นอง


กันสินะ ใหตายเถอะ ทําไมผมไมเคยเอะใจเรื่องนี้เลย

“ปริน...ทําไมมาอยูที่นี่ได” แตเสียงของอีกคนฟงดูสั่นเล็กนอย ผมหรี่ตามองคนที่อยูตรงหนา ชื่อปรินอยางนั้นหรือ แลวคนที่ผมยัง


โอบไหลไวคือตรินใชไหม
“เมื่อคืนเราคางที่นี่กับเมธ” เขาบอกดวยน้ําเสียงไมยี่หระ

“งั้นคนที่นายบอกวาจะกลับไปหาคือนองเมธอยางนั้นหรือ”

“ใช...วาแตนายเถอะ มาอยูที่นี้ไดอยางไร”

“เออ...เราวาจะมาชวนนองเมธไปกินขาว”

“ออ...งั้นแสดงวานายก็รูจักเขา” เลิกคิ้วถามพรอมกับยกมือขึ้นมากอดอก คนที่ผมคิดวานาจะชื่อตรินทําสีหนาลําบากใจเล็กนอย

“อืม...” เขาขานรับเพียงแผวเบากอนจะขยับออกหางจากผม เรียวปากถูกขบเมมกอนจะเมินหนาไปอีกดาน


.
.
.
แตหยุดกอน นี่มันไมใชเวลามาฟงพวกเขาคุยกันนะ เรื่องสําคัญที่ผมตองการรูตอนนี้คือ
.
.
.

“เดี๋ยวกอน นี่เปนฝาแฝดกันเหรอ ทําไมไมมีใครบอกเมธเลย แลวนี่ใครเปนตริน ใครเปนปริน...เมธงงไปหมดแลว”

ผมไมเคยรูสึกวาตัวเองโงเทาวันนี้มากอนเลย ไมเคยคิดวาตัวเองเปนของเลนที่ใครจะปนหัวได แตผมคิดผิด ตลอดสี่ป ผมถูกสองพี่


นองนี้ปนหัวจนหมุนติ้ว แตอยางไรก็ดี ผมคิดวาสวนหนึ่งเปนความผิดของผมที่เขาใจไปเอง คิดไปเองวาคนที่ผมเจอที่เมกากับคนที่
เขามาในชีวิตผมอีกครั้งในฐานะพี่ชายของกุลนั้นเปนคนๆ เดียวกัน สี่ปที่ผานมาผมมองตรินเปนปรินตลอด เขาหนาเหมือนกันเสียจน
ผมแยกไมออก มันคงยากที่ผมจะคิดถึงความจริงวาตรินมีฝาแฝดที่หนาเหมือนกัน

แตสองวันที่ผานมา มันไมใชความผิดของผมเลยที่จะเขาใจผิด ในเมื่อพวกเขาทั้งสองตางจงใจไมอธิบายใหผมฟง ในคืนแรกที่ผมเจอ


ปริน เขาเรียกตัวเองวาตริน เขาไมพูดอะไรใหผมเขาใจ เชามาผมเจอตริน ผมถามเขา เขาก็ไมเอะใจเลยสักนิด ไมบอกเรื่องนองชาย
ของตัวเองใหกระจาง

แทบไมอยากเชื่อเลยวาละครน้ําเนาที่เห็นในทีวีนั่นมันจะเกิดขึ้นกับผม แฝดผูนองคือคนที่ผมนอนดวย ไมวาจะสี่ปที่แลวและเมื่อสอง


คืนที่ผานมา แลวพอผมเจอแฝดผูพี่ ผมก็คิดเสมอวาตรินคือปริน ตลกสิ้นดี แตผมก็ขําไมออกเลย

“ไมอรอยเหรอ” เสียงที่เอยถามทําใหผมตื่นจากภวังค ผมมองเจาของน้ําเสียง ตอนแรกคิดวาเปนตรินแตไมใช เขาเปนปรินตางหาก


เพราะตรินยังยืนพิงหนาตางมองออกไปยังทิวทัศนขางนอก แตคนที่ถามนั่งอยูขางผม ดีหนอยที่วันนี้พวกเขาแตงตัวตางกัน มันชวย
ใหผมแยกแยะงายขึ้น

“หึหึ ขําเมธอะ ยังงงไมหายใชเปลา” เขาวาตอแกมหัวเราะ ผมไมตอบแคยิ้มมุมปากกอนจะมองไปยังอีกคนทีร่ ูสึกวาจะเงียบ


ผิดปรกติ ความจริงแลวไมใชแคงงเทานั้นหรอกนะ แตผมกําลังสับสนกับความรูสึกตัวเอง ผมไมรูวาจริงๆ แลวใครเปนใคร รูสึกกับตริ
นอยางไร กับปรินแบบไหน ในหัวมันวางเปลา ไมรูวาจะเอาอยางไรตอไปดี

“นี่แสดงวาที่ผานมา เมธเห็นตรินเปนปรินตลอดเลยสิ” เขายังคงพูดตอขณะใชสอมจิ้มไสกรอกฝรั่งมืออีกขางใชมีดหั่น กอนจะสงมัน


เขาปาก สิบนาทีกอนหลังจากที่ปรินออกมาจากหองน้ําไมนานอาหารเชาก็มา นั่นทําใหพวกเราตองเปลี่ยนที่คุยมาเปนโตะริมระเบียง
ผมรูสึกแยนิดหนอยเพราะวาสั่งอาหารมาแคสองชุด แตพอจะสั่งใหตรินอีกชุด เขากลับปฏิเสธ

“ก็ไมรูนี่วาเปนฝาแฝดกัน” ผมวกมาตอบคําถามปรินกอนหันมาสนใจอาหารตรงหนา

“แบบนี้ตรินก็แยนะสิ เปนตัวแทนของปรินตั้งสี่ป” คําพูดนี้ทําใหผมลอบมองตริน เขาเมนเรียวปาก สายตายังมองไปขางนอก ทวาพอ


คําถามถัดมาก็ทําใหผมกับตรินหันขวับมายังปรินทันที

“แลวไปถึงไหนกันละ”

“หมายความวาไง” ผมถามอยางระมัดระวัง

“ตรินนอนกับเมธยัง” แลวคําตอบที่สวนกลับอยางตรงไปตรงมาของเขาทําใหผมอึ้ง และตรินดูจะอยูในอาการที่ไมตางจากผม


เชนเดียวกัน

“เรากับเมธไมใชอยางที่นายคิดหรอกนะปริน” ตรินเอยออกมาในที่สุด แตปรินยักไหล อาการนั้นทําใหตรินสายหนาเล็กนอยกอนจะ


มองผมดวยสายตาที่ผมไมเขาใจความหมายของมัน แตกลับใหความรูสึกเหงาและเศราอยางบอกไมถูก

“นองเมธมีเรื่องอะไรที่ยังไมเคลียรอีกหรือเปลาครับ” ที่ตรินถามแบบนี้เพราะผมรั้งเขาไว เพื่อเคลียรวาเรื่องราวมันเปนอะไรมายังไง


เราคุยกันจนผมเขาใจแจมแจงและตอนนี้คงหมดคําถามแลวละ เหลือเพียงแคผมตองใชความสามารถเฉพาะตัวเพื่อจะแยกแยะให
ออกวาใครเปนใคร พอสองคนปรากฏตัวพรอมกันแบบนี้มันก็คลายกับมีบางอยางที่ตางกัน ผมคงตองใชเวลาสักพักเพื่อจะไมสบั สน
ระหวางทั้งสอง

“งั้นพี่กลับหองกอนนะครับ” ตรินกลาวตอเมื่อเห็นผมเงียบ ลึกๆ ในใจผมอยากรั้งเขาไว แตก็ไมรูวาจะรั้งไวทําไม ในเมื่อปรินก็นั่งอยู


ตรงนี้ ชั่ววินาทีหนึ่งที่ตรินมองผมกับนองชายของเขา ผมเห็นสายตาผิดหวังและเจ็บปวดของเขา

“ตกลงที่เราขอ นายวาไงอะตริน” ปรินถาม ตรินนิ่งไปครูราวกับชั่งใจกับอะไรสักอยางกอนเขาจะบอกวา


“ตามใจนายแลวกัน เราก็ไมรูจะอยูที่นี่ตอทําไม” ปรินยิ้มเมื่อไดยินคําตอบของตริน

“ขอบใจนะ งั้นก็เอาตั๋วกับบัตรนายมา”

“เรื่องตั๋วคุยกับนองเมธแลวกัน” เขาวาพลางลวงกระเปาสตางคแลวหยิบบัตรใบหนึ่งออกมากอนจะแลกกับปริน ในขณะที่ผมมองทั้ง


คูดวยสายตาใครรู ชื่อของผมในบทสนทนานั่นทําใหผมคิดวาตัวเองพอจะเขาใจอะไรลางๆ

“พรุงนี้นายจะมาตามนัดใชไหม” ตรินวาพลางเก็บกระเปาเขาที่เดิม

“ไมตองหวงนา รับรองคราวนี้ไมผิดสัญญาแนๆ” คําตอบของปรินทําใหตรินพยักหนากอนเขาจะหันมาทางผมแลวกลาวลาอีกครั้ง

“พี่ไปกอนนะครับนองเมธ”

“เดี๋ยวกอนสิตริน” ถึงจะพูดอยางนั้นแตตรินก็ไมฟงผมเลย เขาเดินจากไปอยางไมคิดจะเหลียวหลังกลับ ผมลังเลอยูชั่วครูกอนจะรีบ


ลุกขึ้นแลวตามเขาออกไปอยางไมสนใจเสียงปรินที่เรียกผมไว ผมมาทันตรินที่หนาหองพอดี

“ตรินเดี๋ยวกอนสิ” เขาหยุดเดินเมื่อถูกผมดึงแขนไว ชั่ววูบหนึ่งผมรูสึกสะทอนในอกกับสายตาของเขาที่มองผม

“เรื่องตั๋วนั่น หมายความวาไง” ผมปดสิ่งที่รบกวนจิตออก พยายามกลืนกอนแข็งๆ ที่จุกแนนในลําคอลงไปอยางยากลําบากขณะเอย


ปากถามเขา

“ออ ปรินเขาอยากกลับพรอมนองเมธเย็นนี่นะครับ” ถึงแมตรินจะตอบดวยน้ําเสียงปรกติ แตผมก็เห็นแววเศราสรอยในดวงตาของ


เขา

“แลวตรินละ” เขายิ้มเหงาๆ ใหกับคําถามของผม

“พี่ก็กลับเที่ยวบินของปริน ตอนบายโมงไงครับ” คําตอบนั้นทําใหผมจุกแนนที่หนาอก ตรินยกมือมาตบไหลผมเบาๆ เขายิ้ม ผมไมรู


วารอยยิ้มนั้นตองการจะสื่ออะไรออกมา แตคําพูดตอมาของเขา มันทําใหหัวใจของผมแหงผากเหลือเกิน

“เราคงไมจําเปนตองเปนแฟนกันอีกตอไปแลวนะครับ พี่ไมอยากเปนตัวแทนของนองกุลหรือปรินอีกแลว”

ผมอยากบอกเขาวามันไมใชอยางนั้นเลย แตก็ไมมีคําพูดใดๆ หลุดออกมาจากปากของผม และตรินคงไมตองการฟงอะไรจากผม


เชนกัน เขาสาวเทาเร็วๆ เดินจากไปทันที่พูดจบ...
ผมมันแยใชไหมครับที่ไมรั้งเขาไว...
ผมมันโงใชไหมครับที่แมแตตัวเองก็ไมรูวา...
...ตรินเปนอะไรสําหรับผมกันแน...

เหนื่อยมากเลยครับ นี่จะเปนครั้งแรกและครั้งสุดทายจริงๆ ที่จะพานองมารําลึกความหลังที่นี่ แคสองวันแทนที่จะไดสวีทกัน ที่ไหนได


มีแตเรื่องแตราว รูสึกผิดกับวินดี้ดวย ไมไดพานองไปไหนเลยครับ ขลุกตัวอยูแตในโรงแรม ไปดําน้ําดูปะการังก็ไมไดไป แผนที่วางไว
วาจะพานองเที่ยวพังหมดเลย

หลังจากที่โมโหหึงจนควบคุมอารมณตัวเองไมอยูแลว ก็ลากนองไปที่อื่นครับ ถายังเห็นไอสองตัวนั่นอยูในสายตา มีหวังไดทําอะไร


รายแรงกวานั้นแนๆ แตยังไมทันไดทําโทษวินดี้เลย ปญหาก็เขามาอีกจนได โปรแกรมคอมพิวเตอรของโรงแรมถูกแฮกครับ มีคนเขา
มาปวนระบบจนวุนวายไปหมดเลย แลวยังมีตัวดีไปปลอยขาวในเน็ต พรอมทั้งกอกวนจนทําใหแขกยกเลิกไปเยอะทีเดียว งานนี้เลน
เอาทาน อดีต ผบทบ ถึงกับตองมาดูแลดวยตัวเอง

ความจริงแลวเรื่องแคนี้ผมรับมือไดไมยากหรอกครับ แตประเด็นมันอยูที่วา ทําไมถึงไดเลือกมากอกวนสาขาที่ภูเก็ต ทั้งที่หากเปน


สาขาใหญจะทําใหเราสูญเสียมากกวานี้ พอมองวาเหตุมาจากผมอยูที่นี่นั่นเอง คงมีใครหรือกลุมใดกลุมหนึ่งกําลังทาทายอํานาจ
ของผม เขากําลังวางหมากเพื่อลอดูความสามารถของผม มันถึงไดเลือกเวลาและสถานที่เชนนี้

แตงานนีพ้ อไมยอมเดินตามเกมของอีกฝาย ที่แกมาที่นี่ก็เพื่อสงสารและคําเตือนไปถึงทางโนนวา ตราบใดที่แกคุมบังเหียนอยู อยาได


ริอาจมาแหยลูกเสือของแก พูดงายๆ ก็คือ ถาอยากแตะผมตองขามศพพอไปกอนนั่นเอง เปนไงครับ พอผมนารักใชไหม รักลูก หวง
ลูก ใชหรือเปลา ถาคุณฟงเหตุผลของพอแลวคิดแบบนั้นแสดงวาคุณติดกับดักพอผมเขาใหแลวละครับ

ที่วามาทั้งหมดนั่นนะ แคขออาง เรื่องกอกวนโรงแรมแคนี้ ทําไมพอจะไมรูวาผมรับมือได แกเปนคนสอนผม ฝกผมมาเองกับมือ เขี้ยว


เล็บของแกก็ตองถายทอดมาถึงผม สวนเหตุผลแทจริงที่แกมาที่นี่คุณคิดวาอะไรครับ มันจะมีอะไรนอกเสียจาก แกใจรอน รอใหถึง
สามเดือนไมได พอผมอยากเห็นหนาลูกสะใภ! นั่นแหละครับคือเบื้องหนาเบื้องหลังทั้งหมด

ผมนะไมวาอะไรหรอก ใจอยากพาวินดี้ไปหาพอเองในวันนี้วันพรุงนี้ดวยซ้ํา อยากพานองเขาบาน แตคุณก็รูนคี่ รับวานองเพิ่งรูเรื่อง


ฐานะที่แทจริงของผม ผมอยากใหคอยเปนคอยไป กลับกรุงเทพก็วาจะพานองไปดูที่ทํางานสักวัน ใหนองรูวากิจการของเรามี
อะไรบาง จากนั้นก็คอยพานองไปบาน จะไดไมตกใจมาก

อีกอยาง ยังไมไดคุยกับนองเลยครับ แตจะมารําพึงรําพันตอนนี้คงไมทันแลว อีกไมถึงชั่วโมงพอก็จะมาถึง แถมยังมีคําสั่งมาอีกวา


หามบอกนอง เฮอ...ปวดหัวมากกวาโรมแรมถูกโจมตีเสียอีก ทําไมไมมาแบบไมตองใหผมรูเรื่องเลยก็ไมรู เกิดวินดี้ถามวาพี่รูเรื่องมา
กอนใชไหม แลวผมจะบอกนองวายังไงละ เซ็งจริงๆ พอใครวะเนี่ย กะจะแทรนลูกชายใหรับมือกับปญหาธุรกิจและคุณแมบานจอม
เฮี้ยวพรอมกันเลยใชไหม ชางเปนบทเรียนที่ยากแสนเข็ญจริงๆ
เอาละ ในเมื่อเกิดมาเปนลูกพอ เรื่องแคนี้ก็ตองฝามันไปไดอยูแลว อีกหนึ่งชั่วโมงขางหนาอะไรจะเกิดก็ตองรอดูกันไป ตอนนี้ไปหา
กําลังใจกอนดีกวาครับ หลังจากกินขาวกันแบบรีบๆ แลวก็ตองรีบแจนมาจัดการกับปญหาทันที เลยปลอยใหนองอยูกับของเลนชิ้น
ใหมไป

งงละสิ ของเลนอะไร ก็ไมมีอะไรมากหรอกครับ ก็เรื่องของปรินกับตรินอะไรนั่นไงครับ นองขอใหผมจัดการให ผมเลยใชอํานาจที่มี


เอาที่ใกลตัวมากที่สุดกอนเลย ใหเขาเช็คใหวาคนมาคางที่โรงแรม ใครเช็คอินเขามา แลวมากับใคร ไมชาก็รูครับ วาตรินกับปรินมา
พรอมกัน บวกกลองวงจรปดก็เห็นแลววาทั้งสองเหมือนกันจริงๆ ขอมูลหยาบๆ แตก็กวาเกาสิบเปอรเซ็นเชื่อแนวาทั้งสองเปนแฝดกัน

ผมไมไดบอกวินดี้ทุกอยางหรอกครับ ขณะที่ผมวุนวายอยูกับงานก็อยากใหนองสนุกกับการสวมรอยเปนโคนัน ใหนองไปสืบเอาเอง


แตก็อํานวยความสะดวกใหทุกอยาง อยากเช็ค อยากดูกลองวงจรปด หรือรายชื่อคนเช็คอินหรืออะไรก็เชิญตามสบาย ไมรูวาตอนนี้
ไปถึงไหนแลว วาแลวก็ลุกออกจากหองประชุมซึ่งหัวกะทิทั้งหลายของโรมแรมกําลังสุมหัวกันแกปญหาอยู ยืดเสนยืดสายเสียนิด
หนอย แลวก็เดินเขาไปหาการด

“รัน คุณวินอยูไหน” รันเปนหัวหนาหนวยรักษาความปลอดภัยของผมครับ อยูกับผมมานานแลว สนิทกันดี วินดี้ไมอยากรบกวนผม


เลยขอไปรอขางนอก แตผมก็ไมอนุญาตใหไปไกลหรอกนะครับ ปลอยนองสองครั้ง เกิดเรื่องสองครั้งเลย คราวนี้เลยใหการดอีกชุด
ตามนองไปดวย

“อยูในหองรับรองครับ คุณรามิลเพิ่งจะเอาโนตบุคไปให” คงจํารามิลไดนะครับ เลขาคนเกงของผม เขามาถึงตั้งแตรูเรื่องแลวครับ เร็ว


มากทีเดียว นาสงสารรามิลดวยเหมือนกัน หลังจากไปชวยผมรับรองแขกที่มาประชุมเมื่ออาทิตยกอน ผมก็อนุญาตใหเขาพักไดครับ
ความจริงจงใจตัดกางออกตั้งหากละครับ จะไดไมมีใครมาตามขวางคอผมกับนองเวลาหวีดรําลึกความหลังกัน ฮาฮา คิดมาแลวก็ขํา
หวีดหวานแหววที่วาดฝนกลายเปนหวีดสยองนองเลือดซะงั้น แตชางมันครับ ผานมาแลวแกไขอะไรไมได ทิ้งไปครับ ไมเก็บมาใสใจ
ไปหานองที่หองขอกําลังใจกอนดีกวา

“เฮอ...เหนื่อยจังเลยครับ ปวดหัวไปหมดแลว” พอเปดประตูเขาไปก็เริ่มสําออยครับ เรียกคะแนนความสงสาร ออนนองมันไปงั้น


แหละ เพราะทีมงานทางโนนเขาเกง รับมือกับแขกไดอยางดี รวมถึงแกะรอยเเฮกเกอรจะไดแลว เหลือแตตามไอพีไปวาตัวการมันอยู
ตรงไหน อีกไมเกินสิบสองชั่วโมง ไอนั่นไดจมกองเลือดแนๆ

วินดี้ละสายตาจากโนตบุคหันมาทางผม ใจจริงอยากกระโดดเขาไปกอดแลวหอมนองใหชื่นใจ แตคงถูกวินดี้ถีบกระเด็นแนๆ คุณๆ ก็


รูนี่นาวาที่รักผมไมชอบใหทําอะไรรุมรามตอหนาคนอื่น พอดีรามิลนั่งอยูขางนองครับ นั่นคุณเลขาคนเกงมีเงยหนามามองผมตาโต
กอนจะรีบหลบวูบ แลวอมยิ้มอีกตางหาก คงแปลกใจละสิที่เห็นผมในโหมดนี่อะ

“เดี๋ยวผมเอาเครื่องดื่มมาใหนะครับ” ฉลาดใชไหมละเลขาผม รามิลบอกพรอมลุกขึ้นจากที่นงั่ ดีมากคุณเลขา รีบๆ ออกไปเลย แลว


เครื่องดื่มที่วาไปหาแถวตะวันออกกลางโนนก็ไดนะ ใชเวลานานๆ หนอยหาน้ําจากโอเอซิสแลวคอยมา ขณะรอผมก็จะขอชิม
น้ําหวานจากปากคนรักกอนแลวกัน
“แลวนองกุลละครับอยากไดอะไรไหม”

“ไมเปนไรครับพี่มิ้น” เอะ มันยังไง แคสามสิบนาที ทําไมสนิทกันเร็วจัง นองกุล พี่มิ้น มันทําใหคันหัวใจยิกๆ นะเนี่ย ความจริงกอน
หนานั้นรามิลอยูชวยงานผมครับ แตเมื่อครึ่งชั่วโมงกอนผมใหออกมาอยูเปนเพื่อนวินดี้ แตดูเหมือนผมจะตัดสินใจผิดไปหรือเปลานะ

เมื่อรามิลออกไปแลวก็จัดการเลื้อยเลยครับ แปลงรางเปนพญานาคราช เจ็ดหัวกลืนกินนองมันทั้งตัว ฮาฮา วาไปงั้นแหละครับ ความ


จริงคือมานั่งแทนที่รามิลเทานั้นเอง

“งานเปนไงบางครับ” นองถามดวยน้ําเสียงหวงใย อืม แคเสียงนะเนี่ยยังชื่นใจขนาดนี้ ถานองแสดงออกดวยวิธีอื่น จะดีขนาดไหนนะ


...

“ก็จะเขาที่เขาทางแลวละครับ” วาพลางขยับเขาไปใกลนองอีกนิด เริ่มหิววินดี้แลวอะ กินตรงไหนกอนดีนา...

“วินดี้ครับ คือวันนี้เราคงยังกลับไมไดนะครับ เลื่อนไปวันพรุงนี้ไดใชไหม” กําหนดเดิมผมกับนองจะกลับหัวค่ํานี่แหละครับ แตเหลือ


เวลาอีกไมกี่ชั่วโมง อยากเคลียรที่นี่ใหเรียบรอยกอนแลวคอยไป

“ไดสิครับ กลับเย็นๆ พรุงนี้ก็ได เดี๋ยววินใหเพื่อนเช็คชื่อให ขาดเรียนวันเดียวเอง ไมเปนไรหรอกครับ” นารักจังแฟนใครนอ อะๆ เดี๋ยว


พี่ลงทุนหอมแกมให เปนการตอบแทนความมีน้ําใจของนองก็แลวกันนะวาแลวก็ยื่นปากไปจรุฟแกมใสๆ นั่นทีหนึ่งซะเลย วินดี้ก็ใจดี
ครับ สงตาดุๆ มาใหเปนรางวัลซะงั้น แปว...

“วาแตโคนันเปนไงบางครับ สืบราชการลับไปถึงไหนแลว” พอผมถามแบบนี้วินดี้หันมาทางผม ตานองใสบองแบวมากเลยครับ ดู


ตื่นเตนมากเลย

“พี่รูเปลาวาตรินมีฝาแฝด!” เสียงนองถามอยางกระตือรือรน ทาทางราวกลับพบเรื่องแปลกประหลาดสุดขั่ว

“ตอนที่เห็นตรินก็คิดวานาจะใชเหมือนกันครับ แตก็ยังไมปกใจเชื่อเทาไหร”

“แตตอนนี้เชื่อรอยเปอรเซ็นไดเลยวาตรินกับปรินเปนแฝดกัน วินไปสืบมาแระ” อะฮะ ไมเชื่อก็ตองเชื่อแหละครับ ยืดอกพูดซะขนาด


นั้น สีหนาจริงจังจนไมกลาปฏิเสธ

“ไปสืบมายังไงละครับ คนเกง” เลนกันนองนิดครับ เวลาวินดี้เจออะไรถูกใจดูนองแจมใสเปนพิเศษ คุณนึกภาพออกไหมครับ เวลาที่


เราเลนเกมแลวชนะอะ นั่นแหละใบหนาและทาทางของวินดี้ตอนนี้

“ก็อยางที่พี่บอกวาตรินเช็คอินมาพรอมกับใครบางคน วินอยากรูวามากับใคร เขาเลยบอกวาเช็คไดจากกลองวงจรปด วินเลยไปที่


หองควบคุม แลววินก็เห็นกับตาตัวเองเลยนะ วาตรินมากับใครไมรูหนาเหมือนเขายังกับแกะอะ ตอนแรกก็ตกใจนะครับ แตก็คิดไว
แลวละวาตองใช พอรูวาเขามีสองคนใชเปลา วินก็โทรหาพอเลี้ยงวินเลย บอกเขาไปตรงๆ วาวินเห็นคนหนาเหมือนตริน เขาก็เลย
บอกวาลูกชายเขาอีกคน ความจริงเรื่องนี้เขาจะบอกวินวันเสารนี้แหละครับ แตวินมารูกอนก็เลยถือโอกาสบอกซะเลย เห็นวาคงไม
ตองรอถึงวันเสารแลวละ ถาวินกลับกรุงเทพเมื่อไหร ก็วาจะแนะนําใหรูจักกันอยางเปนทางการ”

“งัน้ ก็แสดงวา วินดี้จะไดพี่ชายเพิ่มขึ้นมาอีกคน”

“ก็คงงั้นมั้ง”

“ไมเปนไร นะครับ”

“จะทําอะไรไดละครับ ก็เขาเปนสามีแมนี่นา ลูกเขาก็ตองเปนพี่ของวิน อีกอยางเราก็อยูสวนเรา เขาก็อยูสวนเขา นอกจากพี่จะเอามา


ยุงเกี่ยวกัน” นั่นๆ อยาเชียวนะ ไมยุติธรรมนะครับวินดี้ จูๆ จะเอากระดูกมาแขวนคอพี่ทําไม

“เกี่ยวอะไรกับพี่ครับ เราเคลียรกันแลวนะเรื่องปรินนะ พี่ไมมีอะไรกับเขานะครับ” เวรกรรม นึกวาจบไปแลว นองยังติดใจไมหายอีก


หรือเนี่ย

“ไมรูละ ยังไวใจไมได พี่จบ แตบางทีทางโนนอาจไมอยากจบ”

“ถาแบบนั้นก็ยกใหวินดี้แลวกันครับ จะทําอะไรก็ทําไดเลย”

“วินไมทําอะไรเขาหรอกครับ ตบมือขางเดียวมันไมดังอยูแลว ถาจะทําก็ทําพี่นี่แหละ ระวังตัวไวใหดีๆ เถอะ” ไดยินแบบนี้แลวเปลี่ยน


ใจทันทีเลยครับ ตอนแรกวาจะไมยุงเรื่องนี้แลว ถาไอปรินมันไมจบจริงๆ คงตองจัดการใหมนั หายไปจากวงโคจรทาจะดี หากถูกวินดี้
เลนงานผมนี่ สะดุงไปถึงไอคินนอยมันเลยนะครับ

“พี่ไมไดทําอะไรผิด ไมกลัวอยูแลวครับ” ทําเปนกลาเขาไว โชวความบริสุทธิ์ใจใหนองเห็นครับ

“ก็ดีแลว จงรักษาความดีตอไป” โอโห ฟงคําพูดของคุณภรรยาสุดที่รักผมครับ นี่มันคลายๆ หงษเหนือมังกรใชไหมเนี่ย

“วาแตวินดี้กําลังทําอะไรอยูครับ เบื่อหรือเปลา” เปลี่ยนเรื่องๆ พูดถึงบุคคลที่สามแลวมันทําใหความรักราวฉาน หันมาถามนองดีกวา


เห็นจองที่คอมอยางตั้งอกตั้งใจเชียว

“กําลังดูสายลับจับบานเล็ก”

“หือ หนังนะหรือครับ” ผมเคยไดยินวามีหนังเรื่องนี้เหมือนกัน นานแระ ไมมีโอกาสไดดู วาแลวก็ชะโงกหนาไปดูใกลๆ ซะเลย แตวาสิ่ง


ที่เห็นนั่น อะจากกกกก
“เปลา วินกําลังจับบานเล็กตางหาก” รามิลอยูไหน กลับมาไดแลว ไมตองไปถึงตะวันออกกลางเลย เอาน้ําในตูเย็นมาก็ได ตายๆ
ซวยของแทเลยทีนี้

“ตอนเที่ยงกินขาวกับนองนิว เย็นดินเนอรกับนองจีจี้ เลื่อนนัดนองขิมเพราะตองไปรับนองกอลฟที่สนามบิน” เสียงเย็นๆ ของวินดี้ที่


อานตารางเวลานัดของผมเมื่อหลายเดือนกอนเลนเอาเหงื่อไหลไคลยอย ยิ้มหวานๆ แตทําใหผมคลายขาดอากาศหายใจนั่นอีก โอย
...ไมแกรนขึน้ รามิลชวยดวยยยยยยยยย มาอธิบายใหวินดี้รูเลยวานั่นมันตารางเวลากอนที่ผมจะเจอนองนะครับ!!!

“วินดี้ครับ...โอย!!!”

...ไมทันแลว...จุกชิบหาย...เมียใครวะเนี่ย โครตโหดเลย

ไอพี่ทองกลับเขาหองทํางานไปแลวครับ คิดวาคงไมกลาอยูใกลผมนานมั้ง ก็มีคดีตดิ ตัวนี่นา ความจริงผมเคยคิดนะครับวาหนาตา


แบบพี่เขาคงเจาชูไมเบาแนๆ แตก็ไมไดคิดวาจะเพลบอยขนาดนี้ ใหตายเถอะ ขนาดแคเดือนเดียวที่ดูตารางเวลา ยังจําชื่อไมหมด
ทั้งหญิง ทั้งชาย ไมรูใครเปนใคร แลวคุณคิดดูนะครับ ตอนนี้มีแคปรินกิ๊กเกาตั้งแตสมัยโนน สี่หาปที่แลวมาคอยปวนเปยนอยูใกลๆ
ผมยังหงุดหงิดไดมากมายขนาดนี้ แลวถาบรรดากิ๊กกั๊กทั้งหลายของแก พรอมใจกันมาเปนกองทัพนี่ ผมไมแยหรือครับ เฮอ...ไม
อยากจะคิด

ถึงจะบอกวาไมอยากคิด แตลึกๆ แลวมันอดกังวลไมได พี่ผานอะไรมามาก เจอคนมาเยอะ แลวมันจะเปนไปไดหรือวาจะหยุดอยูที่


ผม กลัวจังเลยครับ ถาวันหนึ่งพี่เบื่อผมขึ้นมาแลวจะทํายังไง โอย...ไมๆ ผมตองไมคิดฟุงซานสิ ตองมั่นใจในตัวเองและเชื่อใจพี่เขา
ดวย

วาแตนี่ มือผมทําอะไรลงไปเนี่ย “เทคนิคมัดใจสามี” อากกกกก เผลอพิมพไปไดยังไง!!! ไปคนหาขอมูลในเน็ตเนี่ย ตื่นๆ แกบาไป


แลววะกุล ยกมือมาตบแกมตัวเองเบาๆ เผื่อสมองจะกลับมาทํางานเปนปรกติ ไมไหวครับมีแฟนอยางอายทองแลวทําผมจิตใจตก
เลย แตวาก็วาเถอะนะ ในหนาเวป google ที่กําลังมองอยูอะ มีคนบาอยางผมเหมือนกันแฮะ ดูสิ มีคนหาคํานี้ตั้งแสนกวาคนแห
นะ “เทคนิคมัดใจผูชาย” โห หกแสน ดีจังไมใชแคผมคนเดียวนะเนี่ยที่เผลอพิมพ ไหนๆ ดูหนอยสิ มีอะไรนาสนใจไหม

วิธีมัดใจคนรักชนะคูแขง อืม...ตอนนี้คูแขงจริงๆ ยังไมปรากฏ เดี๋ยวขอผานกอนแลวกัน


สอนวิธีมัดใจ เวลามีเซ็กซทํายังไงใหแฟนติดใจ เยย แรงไปไหมเนี่ย เรื่องบนเตียงนี่มัน โอย...ผานๆ
6วิธีมัดใจแฟนไมใหนอกใจ อา...อันนี้คอยนาสนหนอย ขออานดูนิดๆ คงไมเสียหายมั้ง วาแลวก็คลิ๊กเลย...

1 ดูแลตัวเองตลอดเวลาตั้งแตหัวจรดเทา อืม...ความจริงมันก็เรื่องปรกติที่คนสวนใหญจะชอบอยูกับคูรักที่ดูดี อยางไอพี่ทองอะ ดู


โปรไฟลกิ๊กแตละคนที่พี่มิ้นทําไวแลวปวดหัวเลย เสือไบตัวฉกาจ หญิงก็สวยเซ็กซี่ ชายก็หลอดูดี แลวผมละ สวยก็ไมใช หลอก็เปลา
มันอยูตรงกึ่งกลางอะ เวรกรรมจริงๆ ขนาดเมธยังชอบพูดเลยวา “กุล มึงเลือกเอาสักอยางไดไหม จะเปนชายสวย หรือหญิงหลอ”
สาด...ก็พอแมกูใหหนาตามาแบบนี้อะ คนเรามันเลือกเกิดไมไดนะเวยเฮย

2 ขี้ออน อา...อันนี้ผมขี้ออนหรือเปลาครับ ก็เคยทํากับพี่เขาบางเหมือนกัน “ความขี้ออนเปนเสนหอยางแรง แตตองรูจักออนใหพอดี


และถูกกาลเทศะดวย” สังเกตมาหลายครั้งแลวครับวาอายทองชอบใจออนเวลาผมออนแกอะ งั้นดีเลย เดี๋ยวจะลองทดสอบดู ออน
ใหแกอยูขางลางเปนรับสักครั้ง จะยอมไหมนา...

3 เอาใจเกง แตไมใชวาเอาใจจนเกินเหตุ ตองสังเกตวาตลอดเวลาที่คบกัน คนรักชอบทําอะไร กินอะไร ประทับใจอะไร แลวก็คอยเอา


ใจเขาใหตรงจุดนั้น อะฮา...พอเขาใจความหมายที่บอกนะ พี่ทองชอบทําอะไร กินอะไร และประทับใจอะไรนะหรือ คิดๆ อะไรนะ อะ
เออ...พอจําคําพูดที่แกเคยบอกได หนามันก็รอนวูบวาบไปหมดเลยอะ โอย ตายๆ ทําไมใบหนาไอพี่ทองตอนนั้นกับน้ําเสียงหื่นๆของ
แกถึงไดวกเขามาในหัวไดเนี่ย “พี่ชอบทํารักกับวินดี้” “พี่ชอบกินวินดี”้ “พี่ประทับใจสุดๆเมื่อเราเปนหนึ่งเดียวกัน” อากกกก ชิ้วๆ ไป
ไกลๆ เลยไอเสียงปศาจ ไมตองตามมาหลอนเลย ชิ้วๆ ...หากใครเห็นผมตอนนี้คงคิดวาไอนี่มันทําอะไร เอามือปดหู หัวโขกโตะโปกๆ
อยูคนเดียว

4 ซื้อของเซอรไพสใหบางบางโอกาส ที่นาสนใจก็มีนาฬิกา เสื้อผา กางเกงยีนสเปนตน คุณจะเห็นรอยยิ้มเขินๆ ของเขาแตอยาให


บอยแลวกัน...รอยยิ้มเขินๆ อยางนั้นหรือ ไมเคยเห็นเลยอะ มีแตยิ้มกวางเห็นฟนสามสิบสองซี่ ทาทางดี๋ดา นัยนตาทอแสงเจิดจรัสยิ่ง
กวาดวงตะวันซะอีก ที่รูนี่เพราะวาเคยซื้อใหแกครั้งหนึ่งครับ ขนาดแคเสื้อยืดทิกเกอรเฉยๆ นะนั่น แกกระโดดเหยงๆ เตนไปรอบหอง
ไมพอมาชวนผมใสเสื้อพูหแลวเลนเสือกินหมี วิ่งไลจับกันรอบหองซะงั้น ถาใหอยางอื่นไมรูวาผลจะออกมาเปนยังไง แตก็รับไว
พิจารณาแลวกัน ตอนนี้เริ่มมองเห็นแระวาจะซื้ออะไรใหแกดี...ไมหนาสามไงครับ เอาไวตีหัวงูเขียวถาเกิดแกนอกใจขึ้นมาจริงๆ

5 คุยกับคนอื่นบาง ไมไดหมายถึงใหคุณนอกใจแลวคบคนอื่นนะ แคคุยกันแบบเพื่อนมากกวา เหมือนเปนการใหรูแนวาฉันไมใชของ


ตายแนนอนและคนที่พรอมจะตอคิวก็ยังมี...โอ นาสนๆ หนึ่งสาเหตุที่อีกฝายนอกใจก็เพราะเขาเห็นเราเปนของตายนั่นเอง เนี่ยตั้งแต
คบไอพี่ทองมาไมรูวาเกิดอะไรขึ้น มีแตผูชายมาตามตูด สาวๆ หายหมดเลยอะ วาแลวก็ลองหาโอกาสปอแมหญิงดูหนอยดีกวา
บริหารเสนหจิ๊ดหนึ่ง หวังวาถาอายทองรูเขา พี่เขาคงไมจับหนาใครกระแทกโตะอยางเมธหรอกนะ...

สุดทาย ใชคําพูดที่ใหกําลังใจและใหเวลาที่คุมคา คําเชยชมเปนเครื่องมือสื่อความรักที่ทรงอนุภาพ คําพูดเรียบงาย ชัดเจน แตเปน


การใหกําลังใจอีกฝายไดเปนอยางดี เชน “คุณใสชุดนี้แลวดูดีจัง” “อาหารที่คุณทําอรอยมาก” “ขอบคุณที่ชวยลางจานให” แมมัน
เพียงเล็กนอย แตก็ทําใหบรรยากาศในชีวิตคูอบอุนและดูชื่นมื่นอยูตลอดเวลา...ทาจะจริงแฮะ ไอพี่ทองชอบพูดแบบนี้ตลอดเลยอะ
บางทีผมก็คิดวาแกชอบหยอดคําหวาน แตก็ยอมรับนะครับวารูสึกดีเวลาไดยินที่พี่เขาพูด อยางวันกอน ผมเอาโทรศัพทตัวเองมา
ชารตแบต แลวของพี่เขาวางอยูขางๆ เลยหยิบของแกมาชารตพรอมกันซะเลย ครั้งแรกก็ไมไดสนใจอะไรหรอกครับ เราก็ทําๆ ให
ไมไดหวังใหมาขอบคุณอะไร แตพอแกจะใชโทรศัพทแลวเห็นเขาก็ยิ้มกริ่มเลยพรอมทั้งบอกขอบคุณ พอไดยินคําพูดแกก็รูสึกดีนะ
ครับ ทั้งๆ ที่มันเปนเรื่องเล็กนอยที่เราไมคิดจะเก็บมาใสใจ แตมันก็ทําใหรูสึกเหมือนหัวใจไดรับหยดน้ํามาเติมเต็มชีวิตอีกนิดจริงๆ นะ

“ดูอะไรอยูครับนองกุล” เสียงของพี่มิ้น เลขาไอพี่ทองที่ดังอยูใกลๆ ทําใหผมสะดุง ถอนสายตาจากโนตบุคแลวหันมายังคนพูดที่นั่งลง


ขางๆ
“6วิธีมัดใจแฟนไมใหนอกใจ” อะจากกกก พี่เขาชะโชกหนามาดูตอนไหน จะปดหนาเวปที่เปดอานอยูก็ไมทันแลวอะ แถมพี่มิ้นยังอม
ยิ้มแลวลิ่วตาลอเลียนใหอีกดวยอะ

“เออ...เห็นวานาสนใจเลยลองอานดูอะครับ” อายจังที่ถูกจับได

“หึหึ แคนี้คุณคินก็ไปไหนไมรอดแลวละครับ ถามากกวานี้ ไมยอมมาทํางานพอดี”

“ไมไดจะเอาไปใชสักหนอย แคอานดูเฉยๆ”

“อา ครับ” คําพูดอะขานรับ แตสีหนานี่บงบอกเลยวาไมเชื่อคําพูดผม เลยตองทําตาวิ้งๆ ประกายไรเดียงสาเปนเชิงบอกวาเชื่อผม


เตอะ นะๆ พี่มิ้นอึ้งไปครูหนึ่งกอนจะกระแอมในลําคอ

“คุณคินใหพี่มาถามวานองกุลเบื่อหรือเปลา อยากลงไปเลนขางลางไหมครับ เดี๋ยวพี่ไปเปนเพื่อน” ไมรูวาเมื่อกี้สะกดจิตสําเร็จหรือ


เปลานะครับ แตมันคงไมสําคัญแลวละ ความจริงผมเพิ่งรูจักพี่มิ้นเมื่อชั่วโมงกอนเองนะครับ แตรูสึกสนิทดวยยังไงก็ไมรู พี่เขาดูเปน
คนใจดี สุขุม ใจเย็น เปนผูใหญ แลวตอนที่ผมถามเรื่องไอพี่ทองอะ พี่มิ้นตอบผมทุกอยางเลย ผมถึงไดรูไงครับวากอนแกเจอผมนะ
ไอพี่บาไปเดทกับใคร วันละกี่คน สลับรางยังไง แลวเรื่องพวกนี้อะพี่มิ้นเปนคนจัดการใหหมดเลย เปนผูชวยพี่เขาทั้งเรื่องงานและเรื่อง
สวนตัว เกงอะ สมแลวละที่เปนมือขวาของอายทอง

“ความจริงอยากไปวายน้ําอะ มาทะเลยังไมไดลงน้ําเลย” ผมตอบ แตพี่มิ้นสายหนากอนบอกวา

“ลงเลนน้ําไมไดครับ ถาจะไปตองรอคุณคินพาไป” เปนงั้นไป

“งั้นไปวายน้ําในสระก็ได” ไอพี่ทองคงกลัวผมไดรับอันตรายมั้งถาจะไปวายในทะเล แตถาในสระของโรงแรมก็คงไมเปนไร

“ในสระก็ไมไดครับ” อาว ทําไมงั้นอะ แลวก็เหมือนพี่มิ้นจะอานสายตาคําถามของผมออกเลยครับ พี่เขาเลยอธิบายเหตุผลใหฟงวา

“คุณคินคงไมชอบใจแนถารูวานองกุลใสแคกางเกงวายน้ําโดยที่ไมมีแกยืนอยูขางๆ” เซ็งเลยครับ วาจะแอบไปหรี่สาว โชวหุนซะ


หนอย ไอพี่บาไมมาคุมเองก็สงเลขามาซะงั้น

“ไปวายน้ําก็ไมได พี่มิ้นวากุลไปไหนดี”

“ไปกินไอติมไหมครับ” เยย ไมใชเด็กนะเวย เอาของหวานมาลอเนี่ย

“ไปๆ” แตกลับรับคําเฉยเลยอะ ไมใชวาอยากกินนะครับ แคอยากไปยืดเสนยืดสายบางเทานั้นเอง ไมอยากทําตัวมีปญหาใหพี่ทอง


หวงมากเทาไหรครับ ตอนนี้เหมือนแกมีเรื่องสําคัญตองจัดการ ถาเรื่องของผมไปทําใหแกปวดหัวอีกก็คงไมไหว อีกอยางก็อยากตี
สนิทกับพี่มิ้นไวกอน เผื่อไดพวกชวยวางตาขายดักงูเขียวไมใหออกนอกลูนอกทาง

พอลงมาขางลางก็ดูเหมือนกับทางโรงแรมกําลังตอนรับคนสําคัญยังไงก็ไมรู ทาทางเหมือนคนมีอิทธิพลซะดวยสิ ไมรูวาเปนใครครับ


แตเห็นพนักงานคอมหัวใหเวลาเดินผาน แลวยังมีคนเดินตามดวยอะ เหมือนมาเฟยเลย

“นายมาถึงแลว” คําพูดของพี่มิ้นที่ดังอยูขางๆ ทําใหผมเลิกคิ้วอยางสงสัย

“ทานประธานฯ พอคุณคินไงครับ” ประธานฯ บริษัทและโรงแรมในเครือทั้งหมดนะหรือ โห...ทําไมยังหนุมแนน หลอฟวอยูเลยอะ เปน


พอคุณคินอีก วาว ไมนาเชื่อ นึกวาจะเหมือนคนแกอายุสักหกสิบซะอีก แตที่ไหนได ดูยังไงก็เหมือนเพิ่งสี่สิบตนๆ มินาละรูสึกคุนๆ
หนาที่แทก็….....

อะจาก!!! เมื่อกี้พี่มิ้นวาไงนะ

พอคุณคิน!!!

ถางั้นคนๆ นั้นก็คือ.....

“พอไอพี่ทอง!!!”

พอมาถึงแลวครับ พอมาก็แผดเสียงตวาดลั่นหองประชุมดวยความกริ้วโกรธ เลนเอาผมสะดุงไปดวยอีกคน สวนผูจัดการสาขานั่งตัว


สั่งงกๆ น้ําตาซึม คนอื่นๆ ก็หนาซีด มือไมสั่น กมหนารับผิดไปตามๆ กัน

“หามันใหเจอ แลวสาวไปถึงตัวการ” พอสั่งดวยน้ําเสียงเฉียบขาด

“ตองใชเวลาเทาไหร...ธเรศ” ธเรศคือผูจัดการที่นี่ครับ พอคุณธเรศไดยินชื่อตัวเองก็สะดุง กลืนน้ําลายอึกใหญขณะเงยหนาขึ้นแลว


สบตาแข็งกราวของพอ

“ปะ...ประมาณ...สะ...สิบสองชัว่ โมง...ครับ”

“งั้นพรุงนี้พอฉันตื่น คงจัดการเก็บกวาดขยะเรียบรอยแลวใชไหม”

“ครับทาน”

“ดี อยาใหมันสงกลิ่นออกมาอีก”
“ครับทาน” คุณธเรศรับคําเสียงสั่นเล็กนอย แตมันก็ฟงหนักแนนอยูในตัว นั่นทําใหพอพยักหนาอยางพอใจ จากนั้นพอก็ใชสายตาดุๆ
ไลมองหนาทีมงานไปทีละคน คนไหนซวยหนอยเงยหนามาสบตาพอก็ตองสะดุง หนาซีดเผือก กอนจะรีบหลบตา กมหนางุดทันที
แลวนัยนตาแข็งกราวก็มาหยุดที่ผม

“เดี๋ยวไปพบฉันที่หอง”

“ครับทาน” ผมขานรับ กอนที่พวกเราทั้งหมดจะรีบลุกขึ้นยืนเมื่อพอลุกขึ้นจากเกาอี้ ผมคอมหัวเมือ่ พอเดินผานแลวออกไปจากหอง

เมื่อรังสีอํามหิตพรอมพญามัจจุราชจากไปแลว ทุกคนในหองก็ถอนหายใจออกมาอยางโลงอก ผมลอบยิ้มใหกับอาการเหลานั้น


ความจริงพอผมนากลัวนะครับ พอจริงจังกับเรื่องงานมาก ตีสอนไดเปนทําหากมีการทําผิดพลาดหรือละเลยหนาที่ แมแตตัวผมเองก็
ไมละเวน พนักงานที่นี่โดน ผมก็โดนดวยเหมือนกัน ถึงอยางไรก็แลวแต ผมรูดีวาเมื่อลับหลังคนอื่น พอก็ลูบหลังผมเหมือนเดิม

ผมสั่งงานคุณธเรศอีกเล็กนอยกอนจะไปหาพอยังหองพัก พอไปถึงเจาพอผูยิ่งใหญก็นั่งหนาขรึมตามแบบฉบับบนโซโฟ ตรงหนาพอมี


แฟมเอกสารสองสามแฟมวางอยู ผมเดินไปนั่งโซฟาเดี่ยวอีกตัวซึ่งอยูตรงขามกับพอ รูแลววาบทสนทนาตอจากนี้จะยังเกี่ยวกับเรื่อง
งาน

“แมคเคล จิลเวลลี่ กําลังจะกลับมาเปดตลาดที่ไทยอีกครั้ง” ชื่อบริษัทที่พอกลาวถึงทําใหผมนิ่งฟงอยางตั้งใจ นึกถึงใบหนาของ


เจาของบริษัทตัวนอยขึ้นมาทันที

“ฝายโนนดูทาจะเจ็บใจไมใชนอยที่ เอ็มเจ เลือกขยายสาขากับเรา” มันก็นาจะเปนอยางนั้นอยูแลวในเมื่อเปนไมเบื่อไมเมากันมา


ตลอด

“มันกลาวหาวาเราโกงการประมูลโดยใชความสัมพันธสวนตัว” คําพูดนี้ทําใหผมลอบถอนหายใจ ทาทางเรื่องนี้จะไมใชปญหาเล็กๆ


เสียแลวละมั้ง แลวดันดึงคนใกลตัวผมเขามาเกี่ยวของอีกตางหาก

“แลวทางเอ็มเจวาอยางไรละ” ผมเอนหลังพิงโซฟาถามพอดวยความรูสึกเปนหวงใครบางคนขึ้นมา

“อาว แกไมไดคุยกับผูถือหุนรายใหญของทางโนนหรือ”

“โธ...พอ จะคุยอะไรกัน นองมันไมรูเรือ่ งอะไรเลย” ผมเอยปากพูดอยางหัวเสียเล็กนอย นึกไปถึงคนที่กลาวถึงอยางเปนกังวล

“ใครจะไปรูละ ก็เห็นอยูดวยกัน ใครๆ ก็ตองคิดแบบนี้ทั้งนั้น”

“อยาลากวินดี้ไปยุงเกี่ยวกับเรื่องนี้นะพอ”
“ฉันไมตองการลากใครมาเกี่ยวทั้งนั้น ธุรกิจคือธุรกิจ เรื่องสวนตัวก็สวนตัว แตฝายโนนดูทาจะไมยอม” คําพูดของพอทําใหผมรูสึก
หนักอึ้งในใจ ดูเหมือนเหตุการณจะบานปลายจนยากจะหยุดไดเสียแลว

เอ็มเจ หรือ แมคเคล จิวเวลลี่ เดิมชื่อ แอลป จิลเวลลี่ เปนบริษัทเครื่องประดับและอัญมณีชั้นนําแหงหนึ่งของโลก เริ่มแรกบริษัท


ตั้งขึ้นทีอ่ ิตาลีและขยายกิจการไปทั่วยุโรปและอเมริกาตามลําดับ สิบปที่แลวบริษัทพบภาวะวิกฤษทางการเงินทําให แมคเคล ซึ่งเปน
บริษัทเงินทุนหลักทรัพยรายใหญ เขายึดครองกิจการและเปลี่ยนชื่อจากแอลปมาเปน แมคเคล จิวเวลลี่ดังปจจุบัน

เอ็มเจ ขยายกิจการเขามาในเอเชียรวมถึงประเทศไทยเมื่อสิบปที่แลว กอนจะยุบกิจการทั้งหมดในประเทศไทยดวยสาเหตุบาง


ประการเมื่อสี่ปกอน ในปเดียวกันนั้นเกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นเมื่อผูบริหารเอ็มเจประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตอยางกระทันหัน ทําใหเอ็ม
เจตกเปนของทายาทเพียงคนเดียวที่มีคุณวุฒิและวัยวุฒิยังนอย นั่นทําให แมคเคล ซึ่งเปนบริษัทแมเขามาดูแลกิจการใหเปนการ
ชั่วคราว การที่ เอ็มเจ ขยายกิจการเขามาในประเทศไทยอีกครั้ง คาดวาเปนการสรางความพรอมใหกับวาที่ประธานฯ บริษัทเพื่อจะ
ไดเรียนรูงานกอนขึ้นแทนบริหารอยางเปนทางการหลังจากสําเร็จการศึกษา

ในวงการธุรกิจเรื่องนี้ไมรอดพนสายตาพอไปไดพอถึงไดหวงผมมากหนอยเพราะประธานฯ บริษัทที่กลาวถึงก็คือ นายวายุระกุล แมค


เคล หรือวินดี้ของผมนั่นเอง การที่ฝายโนนวาเราโกงการประมูลแสดงวามันรูเรื่องความสัมพันธของผมกับนองเขาใหแลว มินาละมัน
ถึงเลือกที่จะโจมตีเราที่นี่และเวลานี้

“มันเลือกทิ้งขยะตอนที่ผมอยูที่นี่กับนอง เพื่อจะทําลายความเชื่อมั่นของเรา”

“แสดงใหแมคเคลเห็นเลยวา เราไมมีสเถียรภาพและทายาทของเอ็มเจก็อยูกับเราจริงๆ”

“มันรายกวาที่ผมคิดไวซะอีก”

“ฉันบอกแกแลวอยาประมาท มันกับฉันเขนเขี้ยวกันมาตั้งแตแกยังไมเกิด ฉันลมมันไมได มันก็ลมฉันไมได คราวนี้ก็ถึงรุนของแก”

“พอหมายความวาไง”

“กฤษมันจะใหลูกชายรับกิจการตอในอีกสามเดือนขางหนา สวนฉัน...จะใหแกขึ้นแทนประธานในอีกสามเดือนเชนกัน…เดิมพันแรก
ของเกมนี้อยูที่เอ็มเจ” พอหยุดพูดแลวมองผมดวยสายตาคมกริบกอนกลาวดวยน้ําเสียงจริงจังวา

“หวังวาแกคงจะไมแพ ”

แนนอนอยูแลว ผมจะแพเกมนี้ไมไดเด็ดขาด หากเอ็มเจรวมลงทุนกับทางโนนนั่นแสดงวา ในอีกไมชาเมื่อวินดี้เขาบริหารเอ็มเจ นอง


จะทํางานรวมกับอีกฝายที่เปนศัตรูของผม ซึ่งมันหมายความวานองจะเปนศัตรูของผมทางดานธุรกิจดวยนั่นเอง ไมมีทาง ผมจะไม
ปลอยใหเหตุการณเหลานี้เกิดขึ้นอยูแลว
แตกอนอื่นตองกําจัดขยะกอน ขอใหตัวบงการนั่นเปนหนอนบอนไสตัวนั้นทีเถอะ คราวนี้เรื่องของอานนทจะจัดการขั้นเด็ดขาดไดซะ
ที

ไมคิดมากอนเลยวาพี่มิ้นที่สุขุม ทํางานเปนถึงเลขาพี่เขาจะขี้อายขนาดนี้ คุณจะเชื่อไหมหากผมจะบอกวาตอนนี้พี่มิ้นกําลังหนาแดง


ตัวแดงเปนกุงเผาอยู

“นองกุลอยาจองพี่นานนะครับ มันไมดีสําหรับความปลอดภัยของพี่ ถาเกิดคุณคินมาเจอเขา พี่คอขาดแน” พี่เขากมหนา พูดเสียง


ออมแอมในลําคอ

“ก็พี่นารักอะ ลอเลนนิดเดียวเอง ดูสิ หนาแดงใหญเลย” ผมลอแกอีกนิด ดวยกอนหนานั้นผมถามไปวา พี่มีแฟนยัง พี่มิ้นบอกยัง แลว


คําตอบนั่นก็ทําผมตกใจเลยเผลอพูดออกไปตรงๆ วา ถาผมมีพี่สาวจะยุใหจีบพี่มิ้น ทั้งเกงทั้งหลอแบบนี้ ไมมีแฟนไดยังไง จากนั้นพี่
มิ้นก็ยิ้มอายๆ แกมแดงระเรื่อ

“พอกันทั้งนองกุลทั้งคุณคิน” พี่เขาบนพลางตักไอศครีมเขาปาก

“พูดงี้แสดงวาไอพี่ทองก็ชอบแกลงพี่ละสิ” ผมหันมาสนใจไอศครีมในถวยของตัวเองบาง ปากก็เอยถามพี่มิ้น

“บอยไปครับ ชอบพูดอะไรเสี่ยวๆ ยิ่งถาอยูดวยกันกับบอสแลว...” พี่มิ้นสายหนาอยางเอื่อมระอา นัยนตาขบขัน ทาทางแบบนั้นของ


พี่มิ้นทําใหผมนึกภาพไอพี่ทองตอนทําหนาเจาเลหขึ้นมาทันที พี่เขาชอบแกลงพูดอะไรใหเราอายตลอดเลย แตไมนึกวาพอพี่แกจะ
เปนเหมือนกัน ดูจากภายนอกแลว เปนคนนากลัวยังไงไมรู อันนี้คือมองจากภาพลักษณไกลๆ นะครับ ผมยังไมมีโอกาสไดคุยเปน
การสวนตัวหรอก ไมรูวาหากยิ้มแลวจะดูอบอุน ใจดีเหมือนพี่ทองหรือเปลา

“พอพี่ทองนากลัวไหมครับ” ดวยความอยากรูทําใหผมเผลอปากถาม

“บอสกับคุณคินก็คลายๆ กันแหละครับ อารมณดี แตถาเปนเวลางานจะจริงจังมาก” ผมฟงพลางพยักหนารับรู แตพี่มิ้นดูจะหวงใย


เกินเหตุกับทาทางการฟงของผม พี่เขาจึงกลาวปลอบใจเชิงขูวา

“ไมตองทําหนาอยางนั้นหรอกครับ กินเสร็จแลวนองกุลตองไปพบบอสอยูดี”

“หือ...” พี่มิ้นหัวเราะในลําคอเมื่อผมทําตาโต คาบชอนไอศครีมนิ่งอึ้ง

“หึหึ จะตกใจทําไมละครับ ชาเร็วก็ตองเจอกันอยูดี เนี่ยพี่ยังอยากใหเวลานั้นมาถึงเร็วๆ นองกุลรูไหมครับวาเพราะอะไร”

“อะไรครับ” นัยนตาพี่มิ้นวิบวับ อมยิ้มอยางเห็นขันกอนบอกผมวา


“พี่อยากเห็นหนาบอสตอนที่คุณคินถูกเรียกวาทอง” แลวพี่มิ้นก็หัวเราะจนหนาแดงเลย อะไรอะ แคนี้เอง ไมรูสึกหวั่นๆ เหมือนผมก็
หัวเราะไดสิ ผมทําแกมปอง กมหนากินไอศครีมตอ พี่มิ้นพูดแบบนี้คงตองเรียกพี่ทองวาพี่คินตอหนาพอแกแลวละมั้งเนี่ย...

“ครับ” กําลังทองชื่อพี่ทองวาคินใหชินปากอยูก็มีสายเขามาครับ

“ลูกแพรเองจา” เสียงหวานจากปลายที่ทักทายมาทําใหผมขอตัวจากพี่มิ้นแลวหามุมเพื่อจะคุยกับลูกแพร

“วาไงจะ”

“ลูกแพรกลับมาถึงกรุงเทพแลวนะ มารับหนอยสิ” จะใหไปรับยังไงอะ ตอนนี้กุลอยูที่ภูเก็ตนะครับ

“กุลอยูตางจังหวัดจะลูกแพร”

“อาว...ทําไมงั้นละ นึกวาอยูกรุงเทพ ไหนวาอาทิตยนี้ไมไปไหนไง” นั่นมันเหตุการณกอนไอพี่ทองจะลากผมมานี่ครับ ลูกแพรกับเมธ


ชวนผมมางานแตงพี่เวศแตผมปฏิเสธิบอกวามีธุระสําคัญที่ตองจัดการ แตวาลูกแพรไปที่นั่นกับเมธไมใชหรือ…โอ...ผมหัวใจกระตุก
วูบ ผมรูสึกตัวเย็นวาว ขอบคุณสวรรคที่ผมเจอแตเมธ ไมงั้น...เฮอ ไมอยากจะคิด

“แลวเมธละ” ผมถามเธอกลับเมื่อหาลมหายใจตัวเองเจอ อยางนี้คอยหายใจโลงอกหนอย ตอนนี้ลูกแพรอยูที่กรุงเทพแลว

“เมธทิ้งลูกแพรอะ นานอยใจมากเลยนะ” ออ...คําพูดวานอยใจ แตทําไมน้ําเสียงมันรื่นเริงอยางนั้นละ

“เมธเห็นแฟนดีกวาเพื่อน...กรี๊ดดดดดด” เฮย...ผมสะดุงโยง รีบเอาโทรศัพทออกจากหู หลับตาปกับเสียงเกินรอยแปดสิบเดซิเบล


อะไรของคุณเธอเนี่ย ตื่นเตนอะไรมา

“กุล...ลูกแพรจะเปนตากุงยิงไหมเนี่ย ชวยลูกแพรดวย…วายๆ ”

“เดี๋ยวกอน ลูกแพร เปนอะไร”

“ก็ตื่นเตนอะ ลูกแพรวาแลว เมธนะทําเปนไมชอบเคา ที่แทก็เรียกรองความสนใจ ชิส” ยิ่งพูดยิ่งงง ผูหญิงนี่เปนอะไรที่เขาใจยากจริงๆ


แลวผมจะอานใจคุณเธอออกไหมครับวาพูดเรื่องอะไร

“ชาๆ จะลูกแพร กุลตามไมทัน”

“ลูกแพรเห็นเมธกับตรินบนเตียง...อุยเขิน พูดไมออก คืองี้นะ เอาไงดี เดี๋ยวกอนนะ ขอเรียบเรียงคําพูดกอน” ตามสบายเลย หายใจ


ดวยเวลาพูดก็ดี เดี๋ยวไดหามสงโรงพยาบาลแลวจะยุง

“เมื่อตอนสายนะ ลูกแพรจะไปเอาตั๋วเครื่องบินใชเปลา คราวนี้โทรหาเมธ แตเมธไมรับสายสักที ลูกแพรก็คิดวาบางทีเมธอาจเมาคาง


เพราะเห็นเมื่อคืนดื่มมากเลย ลูกแพรเปนหวง กลัวเบาหวานจะลดนะ แลวก็กลัวเมธลืมเวลาดวย เลยไปดูที่หอง คราวนี้พอเปดประตู
หองเขาไปนะ...อะ...เออ...คือลูกแพร...เห็น...เออ...คือ...กรี๊ดดดดดดด” อาวๆ มาถึงบทสรุปทําไมพูดไมเปนคําอยางนั้นละ ผมดึง
โทรศัพทออกจากหูพรอมยกมือขึ้นเกาหัว ทบทวนคําพูดหญิงสาวไปมากอนจะรูสึกหนารอนวูบวาบ...อากกกก...อยาบอกนะวาลูก
แพรเห็นเหมือนที่ผมเห็นนะ

“ลูกแพรเห็นเมธกับตริน...เขา...เขา...กุกกิ๊ก...เขา...อยูบนเตียง...กุก กิ๊ก...กุล...เออ...กุล...เขาใจไหม” ถาฟงจากคําพูดนะไมเขาใจ แต


เพราะวาผมก็รูเหมือนกันมันเลยเห็นภาพชัดเจนเลย…มันสองคนกุกกิ๊กๆ กันจริงๆ นั่นแหละลูกแพร

“คิดวานะ”

“กุลเขาใจที่ลูกแพรพูดใชเปลา”

“อืม...”

“อาว เขาใจทําไมไมตกใจละ เนี่ยลูกแพรตื่นเตนมากเลยนะ ตอนที่เมธโทรมาบอกวาไมไดกลับกับลูกแพรนะ ลูกแพรถามวาจะกลับ


พรอมตรินใชเปลา เมธตอบวาคนเปนแฟนกันก็ตองกลับดวยกันสิ ลูกแพรงี้ อาปากคางเลย”

ตอนที่ผมเห็นสองคนนั้นอยูดวยกันก็ตกตลึงไมแพลูกแพรเหมือนกัน ไมใชวาตกใจที่เพื่อนตัวเองไดกับผูชายนะครับ เพราะเรื่องนี้ผม


กับลูกแพรพอรูวาเมธมันยังไงก็ได คบกันมานานพอเห็นวามันควงทั้งชายและหญิง แตที่ตกใจนี่คือ ทําไมมาลงเอยกับตรินตางหาก

“แตมาคิดๆ ดูแลว ลูกแพรก็วาอยู สองคนนี้เขาแปลกๆ มาตั้งนานแระ เมธก็ตามหาเรื่องตรินอยูนั่นแหละ ยิ่งตรินไมสนใจยิ่งโมโหเขา


ไปใหญ แบบนี้เขาเรียกวาเรียกรองความสนใจใชเปลา อยากใหตรินสนใจตัวเองอะ เลยหาเรื่องทะเลาะ แลวคิดดูนะ พอตรินอยากได
อะไรก็ไปหามาให ทั้งๆ ที่ปากบอกวาไมชอบ”

มันก็นาคิดเหมือนลูกแพรวานะครับ หลายอยางมากเลยที่เมธมันแสดงออกวาสนใจตรินโดยไมรูตัว บางครั้งเวลาไปกินขาวดวยกัน


มันก็สั่งอาหารมาสองจาน แลวทําเปนบังคับตรินกิน ทั้งๆ ที่พวกเราก็รูวาเปนอาหารที่ตรินชอบ มันทําเหมือนแกลงตริน แตก็เหมือน
เอาใจตรินอยูในตัว อยางเสื้อแรบบิตของดิสนียนั่นก็เหมือนกัน เมธเปนคนหามาใหตรินเองเลย พอตรินไมใสมันก็วา พอตรินใสมันก็
วิจารณเขาซะเสียหาย แตดูหนามันมีความสุขนะครับที่ตรินเขามาเปนหนึ่งในหมีพูหและผองเพื่อน แลวยังตอนไปดูหนังดวยกัน ตริน
ก็ไปกับพวกเราดวย ตอนนั้นตรินจะนั่งติดกับผม แตเมธมันไมใหนั่ง ตรินเลยนั่งริมสุด ถัดมาเปนผมแลวก็ลูกแพร ผมกับลูกแพรเรา
มีปอบคอนกับโคลาคนละแกว เมธมันเดินตัวเปลาเขาไป พอไปถึงก็ไปแยงตรินกิน แตมันก็ยังดีที่ถือใหตริน แลวมันก็ไปแกลงดูดโค
ลาแกวเดียวกับตริน บังคับปอนปอบคอนตริน ตรินก็ขัดมันไมไดเพราะวาไมอยากทะเลาะกันเสียงดังในโรงหนัง ตอนนั้นนะผมรูสึก
สงสารตริน อยากตบหัวเพื่อนตัวเองที่ไปแกลงตรินแบบนั้น แตตอนนี้พอไดยินที่ลูกแพรวามา ผมก็คิดวา เมธมันเรียกรองความสนใจ
จากตรินจริงๆ นั่นแหละ

“ถาจะจริงเหมือนลูกแพรวา”

“ใชไหม กุลก็เห็นดวย ลูกแพรวาแลวเชียว โถเอย เมธนะเมธ ทําเปนปากเกง นี่แหละ เขาถึงบอกวายิ่งเกลียดเธอยิ่งรักเธอ เดี๋ยวเถอะ


พอกลับมาแลวลูกแพรจะซักใหละเอียดเลยวาสองคนนี้ไปลงเอยกันตอนไหน เมื่อเชามัวแตตกใจเลยไมไดถาม”

“หึหึ เอาพอประมาณแลวกัน อยาชักใหขาวขนาดโอโมละ” ผมลอใหกับน้ําเสียงขึงขังของหญิงสาว

“แหม ไมขนาดนั้นหรอก วาแตกุลเถอะ แอบไปไหนคนเดียวอีกแระ อุตสาหรีบกลับมา รูแบบนี้อยูเลนน้ําที่ภูเก็ตอีกวันก็ดี” เยย รีบ


กลับกรุงเทพนั่นแหละดีแลว ถาอยูนานกวานี้ โลกคงหมุนใหผมไดเจอกับเธอที่นี่แนๆ หากเปนแบบนั้น มันคงวุนวายปวดหัวนาดูเชียว
ละ…ยังไมแนใจวาลูกแพรจะเขาใจผมเหมือนที่เมธเขาใจหรือเปลา หากวาเธอรูเรื่องผมกับไอพี่ทองเขา

“จริงสิ พรุงนี้ลูกแพรเช็คชื่อใหกุลดวยไดเปลา” ผมชวนเธอเปลี่ยนเรื่องพรอมทั้งบอกความตองการไปดวยในตัว

“อะไร จะทิ้งลูกแพรอีกคนใชไหม” น้ําเสียงแสนงอน แบบนี้ไมตองบอกก็รูวาเจาตัวกําลังแกมปองอยูแนๆ

“เดี๋ยวซื้อของกลับไปฝาก” เอาใจนิดหนึ่ง ทวาปากบอกไปแตหัวกําลังคิดวา มันจะมีของฝากจากเชียงใหมในภูเก็ตไหมเนี่ย

“อะๆ ถือวาเห็นแกของฝาก เอย...เห็นแกกุลนะเนี่ย วา...พรุงนี้เหงาแนๆ กุลก็ไมอยู เมธก็ไมอยู ยังไงกลับมาแลวโทรหาลูกแพรดวย


แลวกันนะ”

“ไดเลย”

“ตกลงลูกแพรคงไดนั่งแท็กซี่กลับเองใชเปลา” คําพูดนั้นของเธอทําใหผมรูสึกผิดอยางบอกไมถูก มันอาจมาจากเหตุผลที่ผมกําลัง


ปดบังความจริงเธออยู นึกแลวเรื่องของผมกับไอพี่ทองคงจะไมใชความลับอีกตอไป ในเมื่อเมธก็รูแลว ตรินก็รูดวยเชนกัน เห็นทีกลับ
กรุงเทพคราวนี้ผมคงตองหาวิธีบอกเรื่องนี้กับลูกแพร ยอมรับครับวาลําบากใจเหลือเกิน กลัวที่จะเสียเพื่อนก็กลัว แตก็คิดนะวาหาก
ปลอยใหเรือ่ งของผมกับเธอคาราคาซังกันอยูอยางนี้ก็คงไมดีเชนกัน

“ขอโทษนะ”

“ไมเปนไร แตถารูสึกผิดนอกจากของฝากแลวก็เลี้ยงขาวลูกแพรอีกสักมื้อแลวกัน” คําพูดหยอกเยาดวยน้ําเสียงราเริงอยางปรกติของ


เธอนั่นทําใหผมหัวเราะ เฮอ...จะมีใครโชคดีอยางผมอีกไหมที่มีเพื่อนนารักอยางนี้ แตก็นะ ผมก็หวังวาความโชคดี มันจะอยูกับผม
อยางนี้ตอไปอีกเรื่อยๆ
.
เมื่อไดรูวากุลกําลังคบกับใครบางคนอยู ลูกแพรจะเขาใจกุลใชไหมครับ
.

“นั่งแท็กซี่ก็ระวังดวยแลวกัน” ผมบอกเธอดวยน้ําเสียงหวงใย

“จา จะจําปายทะเบียนไว แลวเอสเอ็มเอสบอกกุลดีไหม”

“ถาทําไดก็ดี” ลูกแพรหัวเราะคิ๊กเมื่อผมตอบรับคําพูดของเธอ

“แตคงสงใหแตกุลนะ ไมอยากสงไปหาเมธหรอก กลัวไปขัดจังหวะเขาใหอีก กิ้วๆ”

คําพูดเยาแหยนั่นทําใหผมหัวเราะ จริงสิ ไมรูปานนี้สองคนนั้นเปนยังไงบาง หลังจากตอนเที่ยงที่ไอพี่ทองไปจับหนาเมธกดลงบนโตะ


ผมก็ไมไดคุยกับทั้งคูอีกเลย หวังวาเมธคงไมไดเปนอะไรมากหรอกนะ ใจอยากไปขอโทษมันแทนพี่เขาที่ทํารุนแรงแบบนั้น แตก็กลัว
ถาปลีกตัวไปตอนนี้จะทําใหไอพี่บาเลือดขึ้นหนาอีก แตอยางไรก็ดี เมธมีตรินอยูขางๆ คงไมมีอะไรใหหวงมากเทาไหร

จะวาไปตอนนี้ก็บายสามโมงกวาแลว คนรักกันเขาไปไหนกันนะถามาภูเก็ต บายคลอยแบบนี้คงไปเดินควงแขนบนชายหาด หวาน


แหววรอดูพระอาทิตยตกที่แหลมพรหมเทพหรือเปลา เมธมาภูเก็ตทีไร ตองไปเก็บภาพที่นั่นทุกที ไมรูวาคราวนี้ มันจะลากตรินไป
ดวยกันไหมนะ

ลึกๆ ก็ดีใจนะครับที่เมธกับตรินคูกัน และก็หวังวาจะเปนตรินจริงๆ บอกอยางไมอายเลยวา ตอนนี้ผมยังสับสนอยูนิดหนอยครับ แม


จะแนใจวาตลอดเวลาที่ผมอยูที่นี่ คนที่ผมเจอคือตรินแนๆ แตตรินก็มาที่นี่พรอมกับปริน ซึ่งมันก็อธิบายวาทําไมปรินถึงใชโทรศัพท
ตรินโทรหาพี่เขาเมื่อตอนสายของวันนี้ได ผมไมรูวาเมธรูหรือยังวาตรินมีแฝด แตหวังวามันคงไมสับสนระหวางสองคนนี้หรอกนะ
.
.
.

พอวางสายจากลูกแพรผมก็เดินกลับมาหาพี่มิ้นที่โตะครับ ไอศครีมที่กินคางไวละลายหมดแลว ทวาผมกลับอยากสั่งใหมอีกถวยเพื่อ


จะยืดเวลาออกไปอีกสักนิด ก็คําพูดของพี่มิ้นกับรอยยิ้มแปลกๆ นั่นสิครับ มันทําใหผมหายใจขัดๆ ชอบกล

“คุณคินโทรลงมาตามแลวครับ บอกวาใหพานองกุลไปหาเพราะวามีคนสําคัญอยากแนะนําใหรูจัก”

รามิลบอกวานองรูแลวครับวาพอผมมาที่นี่ แลวก็รูดวยวา คนสําคัญที่รอพบนองอยูนั่นเปนใคร การมาเซอรไพซลูกสะใภของพอจะ


ทําใหภูเขาไฟระเบิดหรือเปลาก็ไมรู เลนไมบอกวินดี้กอนลวงหนาแบบนี้ นองคงยําผมเละแนๆ
“กอกๆ” มาแลวครับ เสียงเคาะประตูหองพรอมกับวินดี้ที่เยี่ยมๆ มองๆ โผลหนาเขามา

“ทางนี้ครับที่รัก” ผมเปรยกับวินดี้พรอมทั้งปรายสายตาไปทางเจาพอที่ปนหนาขรึมอยูนั่นเล็กนอย หายใจไมคอยคลองเทาไหร ไมรู


พอจะเลนอะไรกับนองมันบาง แตหวังวาคงไมแรงจนวินดี้ถอดใจทิ้งผมไปหรอกนะ ผมลุกขึ้นเดินไปหาวินดี้ที่ยืนตัวลีบอยูใกลๆ ประตู
นองมองไปทางพอผมอยางหวาดๆ กอนจะเปลี่ยนสายตาเปนดุดันเมื่อมองมาทางผม

“ทําไมไมบอกกันกอนวาพอพี่จะมา” นั่นไงผมวาแลว พอเดินเขาไปใกลพอไดยินกันแคสองคน วินดี้เขนเขี้ยวใสผมทันที

“พี่ก็ไมรูวาพอจะมาเหมือนกันครับ” ออมแอมโกหกนองไปครับ แตไมรูทําไมคุณเลขาที่ยืนขางหลังวินดี้ถึงไดอมยิ้มกับคําพูดของผม


...ทําไมวะ ผิดหรือไงที่ทําหนาจอย เกรงใจคนรักอะ ผมสงสายตาดุๆ ไปใหรามิล คุณเลขาผมเลยกมหนา แตแกมเนี่ยยังแดงอยูเลย รู
แนวาคงกลั้นยิ้มอยู. ..เดี๋ยวเถอะ

“ยังไงพอก็มาแลว วินดี้ไปทําความรูจักทานหนอยนะครับ” ผมชักชวนนองดวยน้ําเสียงที่คิดวาออนโยนมากที่สุด วินดี้ลอบถอน


หายใจกอนจะพยักหนารับ จากนั้นเหมือนนองจะเรียกกําลังใจตัวเองอยูชั่วครูกอนจะยืดตัวตรง แลวเดินเคียงคูกับผมมาหาพอ

“พอครับ” เสียงเรียกของผมทําใหพอหันหนามาทางเราอยางชาๆ สายตาคมกริบจองเขม็งไปยังวินดี้

“วินดี้ครับ นี่พอพี่”

“สวัสดีครับ” พอผมแนะนําเสร็จ ที่รักผมก็ยกมือไหวพออยางนอบนอมพรอมกับยิ้มหวานบาดใจ ตายแนๆ พอผม เจอวินดี้โหมดนี้เขา


ยามนองมันทําตัวนารักนี่ นาเอ็นดูมากเลยนะจะบอกให นั่นไง นัยนตาที่แสรงทําเปนแข็งกราวของพอฉายแววพอใจออกมาแระ แต
แกก็รีบปรับใหเปนปรกติในวินาทีตอมา จากนัน้ ก็ปนน้ําเสียงขึงขังตามฉบับของแก

“เด็กกะโปโลนี่เปนใครหรือคิน” โห...เลนแรงนะเนี่ย

“วินดี้เปนคนรักของผมครับ” พอผมวางั้น พอก็สแกนวินดี้ตั้งแตหัวจรดเทาเลยครับ

“คนนี้นะหรือที่แกหอบผาหอบผอนไปอยูดวยนะ” ปากพอถามผมแตตานี่ยังจองวินดี้ไมวาง

“ครับ ผมเอง” นั่นทําใหวินดี้เปนฝายตอบคําถามของพอแทนผม พอเลิกคิ้วขึ้นเปนเชิงประหลาดใจที่นองกลายอมรับออกมา

“เห็นพี่คินบอกวาเปนลูกชายคนเดียว พี่แกยายออกมาอยูกับผมแบบนี้คงทําใหทานเหงาแยเลย ขอโทษดวยนะครับ” วาจบนองมันก็


ยิ้มขอโทษเปนการประจบอีกที โอย...ไมตองทําหนาดุเลยพอ อยากยิ้มใหความชางพูดของนองมันก็ยิ้มออกมาเถอะไมมีใครวาหรอก
แตเปนไงละที่รักผม สมกับเปนหลานตาไหม ถูกสั่งสอนมาดี เวลาอยูกับผูใหญก็พูดจานาฟงไมเบาเลย
“ชินแลวละ เพราะไอนี่มันไมชอบอยูติดบานแตไหนแตไรแลว นั่งกอนสิ”

“ขอบคุณครับ”

“ดูไปดูมาเราก็หนาตานาเอ็นดูเหมือนกันนี่” พอวาขณะเอนตัวพิงโซฟา ไขวหาง มือสองขางวางกับที่ทาวแขน วินดี้ยิ้มบางๆ ใหกับคํา


ชมของพอ กอนจะหยอดคําหวานอยางมีชั้นเชิงวา

“เมื่อชั่วโมงกอนผมเห็นทานที่ชั้นลางตอนมาถึง ครั้งแรกไมคิดวาจะเปนพอพี่คิน ถาพี่มิ้นไมบอกก็คงคิดวาเปนพี่”

“หึหึ” เปนไงละ ถูกใจละสิ มีคนชมวาหนุมอะ หนาบานเชียว แตไมใชแควินดี้หรอกครับ หลายคนก็คิดอยางนั้นเหมือนกัน พอผมยัง


หนุมแนนเลยครับ แกดูแลผมมาตั้งแตเด็ก เปนทั้งเพื่อน พี่ และพอในตัว แกเลยทําตัวใหกลมกลืนกับลูกชาย พอทํานานๆ เขาเลยติด
เปนนิสัย ทรงผม เสื้อผา รองเทา ตองทันสมัย บางทีผมยังรูสึกวาพออินเทรนดมากกวาผมซะอีก

“งั้นเปลี่ยนจากเรียกทานมาเรียกพี่ดีไหม” นั่นๆ เริ่มหลุดมาดเจาพอแระ ถูกใจนองมันเขาใหแลวละสิ

“หรือจะเรียกปาดี” มีสงสายตากรุมกริ่มใหนองมันอีกตางหาก อยาเชียวนะพอ ไมไดเวย คนนี้ผมหวง วาแลวก็ยกมือขึ้นโอบไหลนอง


มันไวเพื่อความปลอดภัย วินดี้คงยังไมเขาใจอะไร นองถึงไดมองหนาผมกับพอสลับไปมา พอหัวเราะในลําคออยางรูทันผม กอนทํา
หนาเรียบเฉยถามวินดี้กลับไปวา

“ชื่อวินดี้อยางนั้นหรือ” วินดี้สายหนาเล็กนอยกอนกลาววา

“ปรกติที่บานจะเรียกกุลครับ มีแตไอพี่ทองนี่แหละที่เรียกวินดี้”

“หือ...ไอพี่ทอง” พอเลิกคิ้ว ทวนคําอยางไมเชื่อหู วินดี้หนาเจื่อน ยิ้มแหยๆ ใหพอไปที

“กุล เอย ผมหมายถึงพี่คินนะครับ” นองแกคําพูด กัดริมฝปากลางตัวเองอยางอายๆ หนาแดงนิดๆ เห็นแลวขําครับ วาแลววินดี้ตอง


หลุดชื่อผมออกมาแนๆ แรกๆ ที่ไดยินนองเรียกวาคินยังแปลกใจเลยอะ รอยวันพันปไมเคยเรียกสักที คงไมอยากใหพอผมแปลกใจ
ละมั้งเลยเรียกชื่อผมอยางที่คนอื่นเรียก แตก็ไปไมรอดอยูดี สุดทายก็หลุดออกมาจนได

“นี่เธอเรียกลูกชายฉันวาทองอยางนั้นหรือ” การทวนคําถามของพอทําใหผมไดยินเสียงหัวเราะแววมาแตไกล พอหันไปมองก็เห็น


การดสองคนที่ยืนหางออกไปกมหนากลั้นหัวเราะอยู รามิลที่ยืนเยื้องไมไกลยิ่งแลวใหญ รายนั้นกํามือแนน เมนปาก พยายามหัวเราะ
ใหไรเสียงมากที่สุดจนไหลสั่นเชียว

“ปรกติก็เรียกกันแบบนั้นครับ” วินดี้ตอบเสียงออมแอม ยิ้มขอโทษใหพอไปที พอสายหนาอยางไมเชื่อวาจะไดยินที่นองพูดอยางนั้น


แตผมก็เห็นรอยขบขันในแววตาของพอนะครับ ใจจริงอยากถามพอเลยวา เมื่อยไหมเนี่ย ตองแสรงปน หนาอยางนี้อะ หัวเราะออกมา
เถอะ เขาขําผมกันทั้งหองแลว

“คิดยังไงไปเปลี่ยนชื่อลูกชายฉัน” แกยังคงพยายามรักษาฟอรม ปนน้ําเสียงและใบหนาใหนิ่งขรึมตอไป

“ทานอยาโกรธนะครับถากุล เอย ถาผมจะพูดความจริง” พอนิ่วหนาหากนัยนตากลับรื่นเริง คงนึกสนุกกับสิ่งที่นองจะเลาใหฟงละมั้ง

“พูดความจริงจะโกรธทําไม แลวก็แทนตัวเองวากุลก็ได” นองยิ้มกวางเมื่อพออนุญาต ดวงตากลมโตของนองสบตาพออยางใสซื่อ


บริสุทธิ์ขณะกลาวถึงที่มาที่ไปของชื่อผม

“ตอนแรกที่รูจักกัน กุลยอมรับนะครับวาไมคอยชอบพี่เขาเทาไหร แลวแกก็บังคับใหกุลเรียกชื่อ ตอนนั้นกุลไมพอใจก็เลยแกลงเปลี่ยน


ชื่อแกอะครับ”

“ออ...แลวไปไงมาไงถึงเปนทองไปไดละ”

“ก็คินในภาษาญี่ปุนแปลวาทอง”

“เขาใจคิดนี่”

“แลวเวลาพี่เขาทําใหโมโห กุลก็จะเปลี่ยนจากนาคินทรเปนงูเขียว”

“หือ...” พอทําหนาไมเชื่อในสิ่งที่นองพูด ถาทําไดแกคงอยากหาอะไรมาแคะหูวาที่ไดยินเมื่อครูนั่นใชแนหรือ

“นอกจากทองแลว ยังเรียกไอคินวางูเขียวดวยนี่นะ” นองยิ้มแหงๆ ใหคําถามของพอกอนขานรับวาใชแลว พอมองหนาผมอยางไม


เชื่อสายตา กอนจะซบหนาลงกับฝามือ ไหลแกไหวหนอยๆ เขาใจไมยากเลยวาพอกําลังจะหลุดมาดเจาพอหนาโหดในอีกไมชา

“ฮาฮาๆ” นั่นไงผมวาแลว ในที่สุดแกก็กลั้นไวไมอยู เปลงเสียงหัวเราะออกมาจนได

“พญานาคราชอนาถาถูกลดบรรดาศักดิ์ใหเหลือแคงูเขียว ขาละอนาถใจแทนเอ็งจริงๆ เลย บักทอง” แลวพอก็หัวเราะเสียงดังอยาง


ชอบอกชอบใจใหญเลยครับ วินดี้กระพริบตาปริบๆ มองผมอยางงงๆ คงแปลกใจกับอาการของพอละมั้ง ผมเลยกมไปกระซิบบอก
นองวา ไมตองตกใจที่เห็นพอเปลี่ยนไป เมื่อกี้แกแสรงทําหนาดุไปงั้นเองแหละ เดี๋ยวคงไดเห็นตัวตนที่แทจริงของพอเร็วๆ นี่

จากที่ไอพี่ทองบอกวาพอแกแสรงทําหนาดุนั้นทาจะเปนจริงเสียแลวละครับ เพราะหลังจากที่พอปลอยเสียงหัวเราะออกมาคราวนั้น
หนาตาเครงขรึมก็เปลี่ยนเปนยิ้มแยมตลอดเวลา ตอนนี้ผมตองเรียกพออายทองวาพอแลวครับ เพราะถูกบังคับใหเรียก ถาเผลอปาก
เรียกทานออกไปก็จะถูกทําโทษใหเรียก “ปาขา” อากกก แคคิดก็สยองแลวครับ
หลังจากที่พออารมณดีแลวแกก็เรียกผมเขาไปใกลๆ ครับ บอกวาสมแลวที่เปนคนรักลูกชายแก ไมงั้นเอาพี่เขาไมอยูแนๆ ไมรูจะดีใจ
หรือเสียใจดีที่ไดยินแบบนั้น เพราะดูแลวกิตติศัพทไอพี่ทองทาจะรายไมเบา ขอสารภาพเลยนะครับวาผมคอนขางตกใจเล็กนอยกับ
อาการของพอที่เปลี่ยนไป ตอนแรกผมคิดวาทานอาจไมพอใจผมก็ได ก็ประโยคแรกที่ทักทายคือคําวาเด็กกะโปโล นั่นทําใหผมตอง
กมมองตัวเอง อีกอยางผมก็เปนผูชายเหมือนกันกับพี่เขา พอแกใจกวางถึงขนาดยอมรับไดไหมที่ผมคบกับพี่ในฐานะคนรัก

ตอนเดินขึ้นมากับพี่มิ้นก็หวั่นใจมากเหมือนกันครับ ทวาสิ่งที่ผมกังวลกลับไมเปนอยางนั้น นัยนตาที่แข็งกราวคราวแรกเปลี่ยนเปน


ออนโยน ยิ่งแกใหผมเรียกพอดวยแลวหัวใจมันก็อิ่มเอมอยางบอกไมถูก รอยยิ้มอบอุนนั้นทําใหผมคิดถึงพอผมขึ้นมา อิจฉาพี่เขานิดๆ
ถามีพอนารักแบบนี้ผมคงไมยายออกมาอยูขางนอกหรอก

“ลูกกุลขยับมานี่สิครับ ขอพอกอดรับขวัญหนอย” พอบอกพรอมกับอาแขนออกใหผมเขาไปในวงแขน ไมรูวาความตื้นตันมากมายมา


จากไหนมันถึงไดวิ่งกระแทกเขาสูหัวใจผมอยางแรง จนมันแทบทะลักลนออกมานอกอก

นานมากแลวที่ไมมีใครเรียกผมวาลูกและแทนตัวเองวาพอ หัวใจของผมเหมือนโหยหาคําๆ นี้ ดวยหัวใจสั่งไมใชสมอง ทําใหผม


คุกเขาคลานเขาไปใกลแลวกราบลงที่ตักของพอ อาจเปนความเคยชินซึ่งผมจะทําแบบนี้กับพอผมเสมอเวลาที่ทานกลับจาก
ตางประเทศหรือไปไกลๆ แลวกลับมาหาผม หากพอยืนผมจะเดินเขาไปหาแลวกราบบนอก หากพอนั่งผมก็จะคุกเขาลงแลวกราบบน
ตัก แลวพอก็จะโอบผมไว ซึ่งพอพี่ทองก็ทําเชนเดียวกันกับพอของผม มือหนาของพอลูบแผนหลังผมแผวเบาหากแตมอบความอบอุน
ออนหวานใหแกหัวใจของผม ผมไมรูหรอกนะวาทําเชนนี้จะทําใหพอพี่ทองรูสึกดีเหมือนผมหรือเปลา แตก็อุนใจที่พอไมปฏิเสธผม
แถมพอยังยึดผมไวใหนั่งขางๆ จนเสียงไอพี่ทองดังขึ้นมานั่นแหละ

“พอแลวพอ จะกอดอะไรนักหนา นองมันจะหายใจไมออกอยูแลว” พี่เขาพูดดวยน้ําเสียงหงุดหงิด แกทําหนาบอกบุญไมรับที่พอโอบ


ไหลผมไมปลอย

“ลูกกุล อึดอัดหรือครับ” พอพี่เขาวาอยางนั้นพอก็หันหนามาถามผม ผมสายหนา

“เปลาครับ” ตอบอยางที่รูสึก พอยิ้มมุมปากอยางถูกใจกอนหันไปยักคิ้วใสพี่เขา

“เห็นไหม เจาตัวเขายังไมวาอะไร แกก็อยาหวงนักเลย” ไอพี่ทองทําเสียงฮึดฮัดในลําคอ

“โซฟาตัวนี้มันใหญเกิน นั่งคนเดียวแลวเหงา วินดี้มานั่งกับดีกวานะครับ”

“เอะ ไอนี่ ทําตัวงอแงเปนเด็กๆ ลูกกุลจะนั่งกับฉัน มันอะไรนักหนา” ยังไมทันที่ผมจะตอบพี่เขาวาไง พอก็ชิงตอบกอนแลว แถมยัง


โอบผมแนนขึ้น พรอมทั้งจับหัวผมใหซบที่ไหลของพอ ไอพี่ทองคิ้วขมวด ถลึงตาใส แตพอกลับหัวเราะในลําคอ

“เห็นลูกกุลแลวคิดถึงแมแกจังเลยคิน น้ําเคาอยากไดนองชายใหแกสักคน แตจนแลวจนรอดก็ไมมี ถาแมเคารูคงจะถูกใจมากทีเดียว”


ไมรูวาผมคิดไปเองหรือเปลานะ แตน้ําเสียงที่พอเอยถึงใครอีกคนในบทสนทนานั่น มันชางดูออนหวานและแฝงความโหยหาอยาง
ทวมทน นัยนตาของพอดูเหงาลงเล็กนอย แตมันก็กลับมาแพรวพราวอีกครั้งเมื่อพี่ทองกระเซาวา

“เห็นคนอื่นมีคูแลวอิจฉาก็วามาเถอะ แยงแฟนผมไปกอดนานแลว เอาคืนมาซะดีๆ” ไมวาเปลาพี่เขาเอื้อมมือมาดึงผมใหกลับไปนั่ง


อีกฝงขางๆ แก พอหัวเราะพรอมกับสายหนา

“เปนเอามากนะแกนี่” วาพลางยิ้ม แตดูไอพี่ทองดูจะพอใจที่เห็นทาทางพออยางนั้น

“ถาเหงาก็หาใครสักคนมาอยูดวยสิพอ นับวันจะแกขึ้นนา” พี่เขาวา

“ก็รอแกเปนฝงเปนฝาอยูเนี่ย สัญญากับแมแกไวแลว ตองสงแกใหถึงฝงกอน” พอแยง

“ผมเปนลูกชายพอนะ ไมใชลูกสาว หวงอะไรนักหนา” น้ําเสียงพี่เขาขึ้นโทนสูงเล็กนอย บงบอกชัดเจนวาไมพอใจคําตอบของพอเมื่อ


สักครู

“แตสัญญาก็ตองเปนสัญญา ลูกกุลวาไงครับ สงสารพอหรือเปลา นี่อยูตัวคนเดียว เปลาเปลี่ยวเอกามายี่สิบปแลวนะ นอนหนาวมาก็


นาน เวลาเห็นคนเขามีคูเราตัวโดดเดี่ยวแสนเหงา อยากใหพอมีความสุขสมหวังครองคูกับใครสักคนไหมครับ”

“ครับ” ผมรับคําโดยไมทันตั้งตัว ไมเขาใจวาทําไมพอถึงไดวกมาถามผมได เมื่อครูยังพูดกับพี่เขาดีๆ อยูเลย แลวคุณวาไหม ประโยค


ของพอมันก็ฟงแปลกๆ ยังไงชอบกล

“งั้นก็รีบแตงงานออกเรือนกับไอคินมันเร็วๆ เลยนะครับ พอจะไดหมดหวง ไดทําตามสัญญาที่ใหไวกับแมมัน ถึงตอนนี้จะเรียนอยูก็


หมั้นไวกอนก็ได พอจบแลวก็คอยแตง เดี๋ยวพอจะสรางเรือนหอไวรอ ลูกกุลเรียนจบก็จะใหเปนของขวัญแตงงาน” นั่นไง สมองผม
ประมวลผลไมผิดจริงๆ วาแต...

“แตงงาน!!!” ผมตาโต อุทานเสียงดัง เมื่อกี้คือผมหูฝาดไปใชไหมครับ หันขวับไปทางพี่เขาเพื่อขอคํายืนยัน

“Would you marry me?” ไอพี่บาก็ดันตอบมาแบบนี้ซะงั้น อากกกกก นี่มันอะไรกัน ไมรูวาเรื่องจริงหรือลอเลน แตผมสายหนาไว


กอน พอตบโซฟาฉาดใหญ เหมือนผิดหวังมากมาย

“ไมไดเรื่องจริงๆ เลย อยาไปบอกใครนะวาแกเปนลูกฉันนะ...ไอคิน” ไอพี่ทองสายหนาอยางออนแรง กอนขึ้นเสียงใสพอวา

“ก็พอเลนไมใหนองมันตั้งตัวแบบนี้ วินดี้ก็ตองปฏิเสธอยูแลว”

“อยามาแกตัว แกแพแลว”
“แพอะไรไมเกี่ยวเลย”

“ไมสน สัญญาเปนอันโมฆะ”

“อะไรอะพอ อยามามั่ว” ไอพี่ทองทําทาไมยอม พอก็ดูไมเลิกลาเชนกัน สวนผมหรือครับ มึน เออ...เขาเถียงอะไรกันอะ ผมงง แลวมัน


เกี่ยวอะไรกับเรื่องแตงงานไมแตงเนี่ย พอลูกคูนี้เคาเลนอะไรกานนนนนน เปลี่ยนเรื่องปุบปบจนผมตามไมทันแลวเนี่ย

“มั่วอะไร แกอยากไดยินอีกครั้งไหม ลูกกุลไมแตงงานกับไอคินมันใชไหมครับ” แลวพอมาถามอะไรผมเนี่ย

“อะ...ครับ” ตอบออกไปแบบมึนๆ

“นั่นไงเห็นไหม” พอวาพรอมกับยิ้มเยาะใหพี่เขา

“นองหมายถึงไมแตงตอนนี้ แตไมใชวาจะไมแตงใชไหมครับ” พี่เขาหันมาทางผม จับมือเขยาอยางรอความหวัง

“อะ...ไมรอู ะ” จะใหตอบวาไงละ ก็ไมเคยคิดเรื่องนี้มากอนนี่นา

“ชัดยัง โธเอย ไหนคุยนักคุยหนา ยอมรับมาเถอะวาแกไมไดเรื่อง เรือนหอที่ขอมาอด วันหยุดพาลูกกุลไปซอมฮันนี่มูนก็อด”

“โห อะไรอะพอ ผมไมยอมหรอก โกงกันเห็นๆ ปะ...วินดี้ อยาไปสนใจคนแกเลอะเลือน” อะไรอะ ผมตามสองพอลูกคูนี้ไมทันแลวนะ


ไอพี่ทองฮึดฮัดใหญเลยครับ หนางอกวาจวักอีก พี่เขาจับมือผมใหลุกขึ้น แตดูพอจะพอใจที่เห็นพี่เขาหนาบึ้งซะงั้น

“อาว ไอนี้แพแลวพาล” น้ําเสียงยี่ยวนยังตามมากวนพี่เขา ไอพี่ทองเลยหันไปคํารามใสพอตัวเองซะเลย

“เดี๋ยวจะเปนอันธพาลใหดู ถาพอยังเลนไมเลิก” แลวแกก็ลากผมออกไปจากหองเลยครับ ไมรูวาผิดหวังอะไรนักหนา แตพอไมสะทก


สะทานกับอาการของลูกชายเลยครับ ตรงกันขาม หัวเราะชอบใจใหญเลย ไมพอยังตะโกนบอกอีกวา

“ฉันใหเวลาแกแคสิบนาทีแลวกลับเขาหองประชุมนะคิน ออ...ลูกกุลอยาไปยอมไอคินมันงายๆ นะครับ” เออ...พอครับ ยอมไมยอม


เวลานี้ผมคงตอบพอไมไดหรอกครับ รูแตวาตอนนี้ไอพี่ทองกระทืบเทาปงๆ โมโหใหญเลย อะไรจะอารมณเสียขนาดนั้น...แลวผมที่อยู
ขางแกเนี่ย จะโดนลูกหลงดวยหรือเปลาครับ

เอาความขมขื่นไปทิ้งแมโขง โอ…โขงไกลไปกวาจะทิ้งได คงใจขาดตายพอดีครับ เอาใหม ขอเปลี่ยนเปน...เอาความขมขื่นไปทิ้งทะเล


ใหมันรอนเรๆ สูอันดามัน เจ็บใจจริงๆ ที่คนรักไมรับมุกกัน เลหลวงของพอนั้น เลยตามไมทันเลยเห็นไหม
“จะรีบไปไหนเนี่ย” วินดี้สงเสียงถาม แตผมไมไดบอกนองนะครับวาจะรีบเอาความชอกช้ําลอยลงทะเลไทย ใหมันไหลไป ไหลไป ไหล
ไป มิใหหวนมา…

“นี่ไอพี่ทอง” อะไรที่รักอยามาขวางทางพี่ ตอนนี้หัวใจมันปวดหนึบเลยรูบางไหม ใหพี่เอาความทุกขใจไปทิ้งซะกอนนะครับ แลวเดี๋ยว


เราคอยมาคุยกัน

“วินเจ็บ พี่เปนอะไรเนี่ย ปลอยวินกอน” คําพูดของนองพรอมกับมือที่สะบัดใหหลุดจากการแกะกุมจากผมเรียกสติกลับมาไดบางนิด


หนอย มือที่กําขอมือวินดี้แนนเริ่มคลายออก กอนจะปลอยใหเปนอิสระ เมื่อนองไมยอมเดินตามแรงดึงก็ปลอยเขาแหละ เราก็เดิน
สะบัดหนาไปตามทางของเราเองก็ได วาแลวนาคินทรก็เชิดหนาแลวปลอยตัวใหอารมณพาไปตอไป

“...เดี๋ยวกอนสิ...” ถึงเสียงของวินดี้จะบอกใหหยุดกอน แตขามันไมยอมหยุดนะจะใหทํายังไง

“ไอพี่บา จูๆ ก็มางอนกัน ไรเหตุผลแบบนี้วินไมงอพี่หรอกนะจะบอกให” เสียงตะโกนที่แววมาตามหลังทําใหขาหยุดชะงักบาง


เล็กนอย แตมันก็ยังคงกาวตอ ก็คนมันนอยใจนี่ มารองตะโกนไมงอกันแบบนี้ยิ่งไมพอใจเขาไปใหญ วินดี้ไมเขาใจความรูสึกผมเลย
หรือไงนะ

ผมเดินหนาบึ้งนํานองลิ่วๆ ไปยังหองพัก พอถึงก็นั่งสงบสติอารมณ วางฟอรมไปตามเรื่องตามราวเพื่อรอใหใครบางคนมางอ แตจน


แลวจนรอดวินดี้ก็ไมตามเขามาสักที ยิ่งเวลาผานไปนานเทาไหรก็ยิ่งรูสึกหอเหี่ยวหัวใจ เออ...นองไมตามมางอผมจริงๆ หรือครับ ไม
คิดจะสนใจผมหนอยหรือ แครผมบางหรือเปลา แฟนใครเนี่ย ใจรายสุดๆ เลย ผูชายตัวโตๆ กับหัวใจเหงาๆ เพออยูแตเพียงลําพัง นา
สงสารใชไหมครับ ผมคงหวังมากเกินไป อยากใหนองมาเอาใจ แตพอวินดี้ไมสนก็กลับทอแทใจซะงั้น เฮอ...อนาถตัวเองจริงๆ เลย
ครับ

คุณเคยรูสึกอยางผมบางไหมครับ บางครั้งการที่เราคิดวาตัวเองไมไดคาดหวัง หากแตคําตอบที่ไดรับไมถูกใจ มันก็ทําใหเรารูสึกแย


มากถึงมากที่สุดไดเหมือนกัน ตอนแรกผมก็ไมไดคิดจริงจังอะไรมากหรอกครับเรื่องที่ขอวินดี้แตงงานนั่นนะ รูวาพอตองการจะยั่วผม
เลยถามนองแบบนั้น เขาใจดีวาผมกับนองแคเริ่มตนกัน เรื่องจะจบชีวิตที่คนๆ เดียว เด็กอยางวินดี้คงไมทันไดคิด ครั้งแรกที่นอง
ปฏิเสธก็พอรับไดนะครับ แตก็ยอมรับวาปวดใจแปลบๆ แตพอครั้งที่สองถามวาไมแตงตอนนี้ แตวาอนาคตไมแนใชไหม แลวนอง
บอกวาไมรูนั่นนะ ทําเอาใจแปวเลยครับ แถมพอยังมาซ้ําเติมผมอีก...เจ็บใจมากเลย

ผมนั่งเปนหมาเหงา ถอนหายใจพรอมกับตาที่คอยชะเงอมองวาเมื่อไหรนะประตูหองจะเปด แลวคนที่ผมรอคอยอยูจะเขามาสักที


คิดไวเลยวาหากนองมาถึงจะรีบหันหลัง แลวรอฟงเสียงหวานๆ มาถามไถผมอยางหวงใย แตสุดทายความหวังที่มีก็ตองดับไปพรอม
กับเวลาที่ไมเคยคอยใคร

ไมรูนองไปไหน แตก็วางใจไดวานองคงจะปลอดภัยดี การดคงคอยดูแลอยู หากมีอะไรไมชอบมาพากลทางโนนก็คงรายงานใหรูแลว


แตนองไมตามผมมานี่ คงเปนความจงใจของอีกฝายแนๆ ดูเอาแลวกัน รูวาผมงอนยังใจรายไมตามงออีก ปลอยใหหัวใจผมราวราน
อยูแตเพียงลําพัง แฟนใครวะเนี่ย นาจับมาตีกนจริงๆ
ความจริงตอนนี้ก็เริ่มใจออนอยากไปหานองเองแลวละครับ แตดวยทิฐิอันนอยนิดที่มีเลยยังคงดื้อดานทนงตัวไวใหอีกฝายเปนคนเริ่ม
เขามาหาผมเอง แตตอนนี้มันคงเปนไปไมไดแลวละ เห็นทีตองเก็บความนอยใจใสกระปุกไวกอนเพราะเวลาหมดแลว มากกวานั้น
ตอนนี้ผมมีภารกิจสําคัญที่ตองไปสะสาง ทวาในใจก็หมายมาดนะครับ ราตรีที่จะมาถึงยังอีกยาวนาน ไมงอตอนนี้ นาคินทรก็จะคิด
ทบตนทบดอกใหหน่ําใจเลยคอยดู…ฮึ่ม

“ที่ประชุมกําลังรอนายนอยอยูครับ” ผมสะบัดสิ่งที่คางคาใจทิ้งไปเมื่อรันคอมหัวใหพรอมกับรายงานโดยมีรามิลยืนเยื้องไปทาง
ดานขวา “ที่ประชุม” ที่เขากลาวถึงไมใชหองที่ผมกับพอใชเจรจาธุรกิจกันหรือหองที่หัวกะหิของโรงแรมกําลังสุมหัวแกปญหา แตมัน
หมายถึงอีกที่ซึ่งผมตองหยิบหนากากอีกใบมาสวมใส ใบที่จะปกปดทุกอยางบนใบหนาของผม ภาพของนาคินทรที่เปนนักธุรกิจจะ
ถูกลบออกไปแตถูกแทนที่ดวยตําแหนง “นายนอย” ซึ่งบงบอกวาเปนลูกชายของ “นาย” ผูซ ึ่งนัง่ อยูบนบัลลังกสีหราชและกุมอํานาจ
ไวแตเพียงผูเดียว

ไมบอยนักที่ “นาย” จะเขามายุงเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ดวยตัวเอง แตถึงแมจะแนใจวาผมจะจัดการกับปญาหาได แตครั้งนี้นายก็ตั้งใจ


อยากมาเห็นกับตา ความจริงผมไมคิดวาเรื่องมันจบเร็วขนาดนี้ แตเมื่อถูกบีบ ผมก็ตองจัดการใหเด็ดขาดไป

ผมเดินนําหนารันไปยังลิฟทที่มีไวสําหรับผูบริหารแลวมุงตรงไปยังชั้นใตดินซึ่งจัดเปนหองประชุมลับ การดที่ใสชุดยืนเรียงประจํา
ตําแหนงอยูหนาหอง คอมหัวลงอยางพรอมเพียงทําใหรูวาพวกเขาตางถูกฝกมาอยางดี ขริบสีที่แตกตางกันของปกเสื้อทําใหรูวาแกน
นําแตละฝายไดมาถึงเรียบรอยแลว

ความจริงนายบอกกับผมวานอกจากเรื่องกําจัดเกลือเปนหนอนที่ผมรับหนาที่อยู ในที่ประชุมวันนี้ยังจะมีการประกาศเรื่องการ
เปลี่ยนแปลงภายในที่จะเกิดขึ้นในอีกสามเดือนขางหนาใหทุกคนรู ซึ่งหมายถึงตําแหนงทีจ่ ะเปลี่ยนไปของผมนั่นเอง

ผมเดินเขาไปสูภายในเมื่อประตูเปดออก มีเพียงรันและรามิลเทานั้นที่เดินตามผมมา สวนคนที่เหลือยืนประจําตําแหนงอยูขางนอก


พอทุกคนเห็นวาผมมาถึงก็ยืนขึ้นตอนรับ ยกเวนเพียงคนเดียวยังคงนั่งที่หัวโตะ ผมคอมหัวเล็กนอยเปนการทักทายกอนจะเดินไปยัง
ที่นั่งดานขวามือของนาย

ที่นั่งถัดจากผมไปคือ “อินทรี” หนาที่ของเขาคือดูแลบริษัทเงินทุนหลักทรัพย เมื่อกอนมีทั้งนอกระบบและในระบบ แตนายทําใหแคบ


ลงเพื่อตองการเปลี่ยนสีธุรกิจดานนี้ใหเปนสีขาวมากที่สุด ถึงแมวาสิ่งที่อยูในกํามือของนายคือระบบเงินกูที่ถูกตองตามกฏหมาย แต
ก็เปนที่รูกันวาธุรกิจดานนี้ยังคงอาศัยเงามืดเพื่อเปนพลังในการขับเคลื่อน
“เมฆา” นั่งอยูฝงตรงขามกับอินทรี หนาที่ของเขาคือดูแลกิจการสถานบังเทิง เราเคยยึดธุรกิจดานนี้เปนหลัก แตตอนนี้นายลด
ความสําคัญลงใหเทาเทียมกับอยางอื่น ถึงนายจะพยายามทําใหกิจการดานนี้เปนสีขาวแตมันก็ยังออกโทนสีเทาอยูดี นายคอนขางที่
จะผูกพันกับวงการนี้มากเพราะมันเปนจุดเริ่มตนที่ทําใหนายมีวันนี้ เมื่อกอนไมวาจะเปนบอนการพนันหรือแมแตสถานเริงรมยซึ่ง
รวมไปถึงการคาโสเภณีก็ตางเคยเปนหนึ่งในกิจการของเรา แตตอนนี้ไมมีอีกแลว นายลางมือจะธุรกิจสีดําทั้งหมดแลวคงเหลือไวแค
สีเทาและพยายามใหมันจางมากที่สุด ดังนั้นกิจการดานนี้จะเปนในรูปแบบไนทคลับที่มีระดับหรือผับที่อยูตามสาขาตางๆ ของ
โรงแรม ผมเคยถามนายวาทําไมไมตัดธุรกิจตัวนี้ออกไปเลย ใหเหลือเฉพาะกิจการที่ขึ้นตรงกับโรงแรมซึ่งมันจะงายตอการควบคุม
แตนายบอกผมวา เมื่อขึ้นหลังเสือแลวมันลงไมไดแตเราทําเสือใหเชื่องไดเมื่ออยูบนหลังมัน

สวนคนที่นั่งทางซายมือของนายคือ “คเชนทร” หนาที่ของเขาคือดูแลบริษัทรักษาความปลอดภัย ชื่อมันอาจจะฟงดูหรูหราเพื่อให


เปนไปตามความตองการของนาย แตที่มาที่ไปของมันก็คือที่ซองสุมนักเลงฝมือดีนั่นเอง การดที่อยูรอบตัวหรือผูที่ทํางานกับอินทรี
และเมฆาตางไดรับการฝกฝนจากคเชนท หรือแมแตรามิลเลขาของผม เขาก็ตองผานการทดสอบจากหนวยนี้เสียกอน อยาวาแตรา
มิลเลย แมแตตัวผมเอง คเชนทรก็จัดวาเปนครูของผม เขาสอนศิลปะปองกันตัวใหผมมาตั้งแตเด็ก รวมไปถึงการใชอาวุธตางๆ
คเชนทรจงรักภักดีกับนายมาก เขาเปนคนเกาแกที่ทํางานรวมกับนายมาตั้งแตสมัยบุกเบิก นายอยูที่ไหนเขาจะอยูที่นั่นดวยเสมอ

ถึงอยางไรก็ตามไมวาจะเปนบริษัทเงินทุนหลักทรัพย กิจการสถานบังเทิงหรือบริษัทรักษาความปลอดภัย มีเพียงคนในวงการเทานั้น


ที่รูวานายคุมบังเหียนอยูเบื้องหลัง “ผูประกอบการโรงแรม” คือหนากากที่นายสวมเมื่ออยูในสังคม

“กอนการประชุมฉันมีเรื่องจะแจงใหทุกคนรู” นายกลาวขึ้นดวยเสียงเครงขรึมนาเกรงขาม นัยนตาคมกริบของนายปรายไปรอบๆ

“อีกสามเดือนขางหนาจะมีการเปลี่ยนผูบริหาร...นาคินทร...จะเปน “นาย” คนตอไป”

“ยินดีดวยครับนายนอย” น้ําเสียงกองกังวานกลาวขึ้นหลังคําประกาศสั้นๆ ของนาย ผมพยักหนาใหการรวมยินดีของพวกเขา สิ่งที่


นายบอกไมใชขาวใหม ทุกคนตางรูดีวาวันนี้ยังไงตองมาถึง แตก็คงมีประหลาดใจบางที่มันเร็วกวาที่ควร

“แตยังไงพักนี้ฉันก็รูสึกรําคาญพวกเสี้ยนหนาม ที่มันคอยตําแขงตําขา” นายวาดวยน้ําเสียงเรียบเฉยแตฟงเย็นยะเยือก

“หวังวาอีกสามเดือนขางหนา ทางเดินคงไดโรยดวยกลีบกุหลาบใชไหม”

“ครับนาย” พวกเราขานรับพรอมเพียงกัน รูแนวาในอีกสามเดือนขางหนา คงมีการ “ถางทาง” กันยกใหญเลยทีเดียว

“เอาละ สิ่งที่ฉันอยากพูดก็มีเพียงเทานี้ เขาเรื่องที่มาประชุมไดเลย”

“ตอนนี้เรามีหลักฐานแนนหนามากพอที่จะเอาผิดกับอานนทฐานยักยอกทรัพย พรุงนี้ฝายกฏหมายของบริษัทจะแจงความและ
ฟองรองตามความผิดที่กระทํา” ผมกลาวเปดบทสนทนา
“เรื่องที่กฏหมายทําไดเราจะปลอยใหเปนหนาที่ของทางโนน แตเรื่องเกลือเปนหนอน คงจัดการใหเด็ดขาด” ผมพูดตอทุกคนพยัก
หนาอยางเห็นดวย

“ตอนนี้อานนทเหมือนจะไหวตัวทัน ทําใหฝายโนนเขามาวุนวายกับเรื่องภายในของเรา ที่ซอนตัวแลกกับขอมูลบริษัท มันจึงไมใชเรื่อง


แปลกที่ฝายโนนจะรูเรื่องเรา รูลึกแมกระทั่งเรื่องสวนตัว...ของนายนอย” คเชนทรอธิบาย หากแตเมื่อเขากลาวประโยคสุดทาย
นัยนตาของเขาก็จับจองมาที่ผม เรื่องสวนตัวที่วาคงหมายถึงเรื่องความสัมพันธของผมกับนองที่ทางโนนกําลังใชโจมตีในเรื่องการ
ลงทุนกับเอ็มเจอยู

“เราสืบเรื่องเงินที่หายสาปสูญแลวพบวามันถูกโอนไปยังบัญชีในตางประเทศกอนจะโอนเขาบัญชีเลมแดงอีกทอด” คําพูดของเมฆา
ทําใหนายถามกลับมาทันที

“หมายความวาไง” ใบหนาของเมฆาดูกังวลเล็กนอยกอนกลาวตอวา

“อานนทติดการพนันและเจาหนี้ของมันก็คือ...ชินกฤษต”

“ชินกฤษตอยางนั้นหรือ”

ชินกฤษตคือบริษัทแมของฝายตรงขามเรา ธุรกิจของฝายโนนก็คลายกับเรา แตพวกมันจะเลนสกปรกกวา การที่ชินกฤษตเปนเจาหนี้


ของอานนทนั้นมีความเปนไปไดวา อานนทไมมีเจตนาหักหลังเรา การใหขอมูลฝายโนนอาจมาจากการถูกบังคับ ผมมองไปที่ใบหนา
ของนาย กรามที่บดเปนสันนูนนั่นรูวานายกําลังพยายามสะกดกลั้นอารมณอยู

ระบบของเราจะอยูกันแบบพี่นอง การที่นายเปนใหญในทุกวันนี้ก็เพราะน้ําใจของนาย ความจงรักภักดีจะไดมาตองดวยการซื้อใจกัน


นายเคยพูดเปรยวาอานนทเปนลูกชายของพจน ซึ่งเปนอีกคนที่รวมหัวจมทายมากับนาย ดังนั้นการที่อานนทจะทรยศนั้น มันจึงเปน
เรื่องที่คาดไมถึง ตอนแรกนายอยากใหจัดการดวยวิธีอะลุมอลวยมากที่สุดเพราะนายรูสึกเกรงใจพจน ผมจึงเลือกใหกฏหมายเปน
ฝายจัดการกับอานนท สวนเรื่องที่เขาหักหลังแลวไปอยูกับอีกฝาย คงตองหาทางออกใหม

“แตถาเราเขาถึงอานนท หนอนจะกลายเปนนกตอใหเราทันที” ผมชิงพูดถึงแผนการที่คิดไว กอนที่จะทําใหอารมณนายขุนมัว


มากกวานี้

“นายนอยคิดอะไรอยูครับ” คเชนทรหันมาถามผมพรอมกับทุกคนที่มองมาอยางตองการคําตอบ

มีมืดยอมมีสวาง มีโชคดีก็ยอมมีโชคราย วันนี้พวกนั้นโชคดีที่โจมตีเราไดเพราะไดขอมูลที่ถูกตองจากอานนท ครั้งแรกคงเปนการลอง


เชิง ลองดูเพียงเล็กนอยวาคําพูดของอานนทเชื่อถือไดมากนอยแคไหน ถาครั้งสองคงทําการใหญขนึ้ แตถาเรารูวามันจะโจมตี
ตรงไหนก็ตั้งปอมรับ แตก็มิวายสรางฉากใหฝายโนนเขาใจวาเราพลาดทาจริงอีกครั้ง แลวถาเปนครั้งที่สามละ มันคงทุมสุดตัวที่จะ
ลมเรา...แตถาเกิดขอมูลที่มันไดรับผิดไป...ลองคิดดูสิวาใครกันแนจะลมเจ็บกวากัน
“ซอนแผนพวกมัน” ผมบอกกอนจะยิ้มมุมปาก

ชินกฤษต คิดวาตัวเองฉลาด แตพวกมันคงไมรูวาหรอกวาเลือดเราเขมคนขนาดไหน มันเกงที่ทําใหเกลือกลายเปนหนอน แตเราเกง


กวา เพราะจะทําใหหนอนที่มันเอาไปเลี้ยงตอ...กลายเปนไสศึก!!!

พี่เปนอะไรก็ไมรู จูๆ ก็งอนผม คราวแรกนึกวาโมโหพอที่ไปยั่วแก แตที่ไหนได เปนผมเองที่ทําใหพี่ไมพอใจ ทําไมถึงคิดอยางนั้นนะ


หรือครับ ก็ตอนที่ไอพี่ทองลากผมออกมาจากหองนะสิ ไมอยากบอกเลยวานั่นนะแรงคน แรงฉุดใหเดินตามแทบทําใหผมถลา มือ
แข็งๆ ของแกบีบขอมือผมจนเจ็บ ไอเราก็เรียกใหหยุดคุยกันกอน เปนอะไรบอกกันดีๆ ก็ได แตพี่เขาไมยอมฟงเลย เดินหนีผมไปซะ
งั้น…แลวจนเดี่ยวนี้ผมก็ยังไมเขาใจวาทําอะไรใหแกโกรธ

ผมคิดวาอารมณของพี่รุนแรงแบบนั้นการปลอยใหอยูคนเดียวสักพักนาจะเปนทางเลือกที่ดี ถึงปากผมจะบอกวาไมงอแกหรอก แต


ความจริงผมก็เปนหวงพี่เขานะครับ รูวาวันนี้แกเครียดเรื่องงานทั้งวันเลย ยิ่งชวงบายที่ผานมาตองอยูในหองประชุมตลอด พี่มิ้นบอก
วาตอนนี้โรงแรมมีปญหาซึ่งผมก็ไมรูหรอกวามันยิ่งใหญขนาดไหน แตทําใหใบหนาไอพี่ทองเหน็ดเหนื่อยได ก็พอเขาใจวาไมใชเรื่อง
เล็กๆ แนนอน

ขณะที่ยืนมองแผนหลังของแกที่เดินหางออกไปทุกทีอยูนั้น พอซึ่งออกมาจากหองก็มาหยุดอยูขางผม สายตาที่ผานโลกมามากมอง


ผมอยางประหลาดใจอยูครูหนึ่งกอนถามวาไมตามลูกชายแกไปหรือ ผมสายหนา พอเลิกคิ้วหากนัยนตานั่นดูเหมือนจะเขาใจวา
ทําไมผมถึงยังยืนนิ่งอยูกับที่ พอหัวเราะในลําคอ ตบไหลผมแลวบอกเปนนัยนวา ทนๆ ลูกชายแกหนอยแลวกันเพราะไอพี่ทองชอบ
ทําตัวเปนเด็ก เรียกรองความสนใจ

แลวพอก็บอกอีกวาหากผมไมอยากตามลูกชายแกก็ไปเดินยืดเสนยืดสายเปนเพื่อนพอหนอยแลวกัน ผมก็เลยไปกับพอครับ ขณะ


เดินพอก็ชวนผมคุยโนนนี่หรือบางครั้งก็ถามเรื่องของผมบาง เลาเรื่องของพอหรือไมก็เรื่องไอพี่ทองบาง จากที่เคยกลัวแกครั้งแรกตอง
เปลี่ยนความคิดใหมเลยครับ พอเปนคนสบายๆ งายๆ คุยไดทุกเรื่องและติดจะเปนคนอารมณดี คลายๆ กับพี่เขานั่นแหละ

ตอนที่เจอกันครั้งแรกผมคอนขางจะเกรง สายตามองแตหนาของพอ ไมทันไดสังเกตอยางอื่น ชวงหนึ่งขณะที่คุยกันอยูนั้นผมก็รูสึก


สะดุดตากับที่หนีบเนคไทของพอ ผมจองมันอยูนานจนพอถามวามีอะไรผิดปรกติหรือเปลา ผมก็บอกไปตามตรงวาที่หนีบเทคไทสวย
ดี พอยิ้มแลวบอกวามันเปนของขวัญที่ไอพี่ทองมอบใหเมื่อหลายปกอน

คําตอบของพอนั้นทําใหผมนิ่งอึ้งไปชั่วครู ที่หนีบเนคไทนั่นทํามาจากทองคําขาว ประดับดวยรูปสลักสรีระของผูชายสองคนซึ่งมีความ


สูงของลําตัวแตกตางกัน พอเดาไดวาเปนเด็กและผูใหญ ปลายเทาของทั้งสองติดกัน ลําตัวโคงงอ หัวคอมลงมาจรดกันทําใหเกิดเปน
รูปหัวใจ และมีเพชรประดับอยูตรงกลาง มันดูเรียบๆ แตก็หรูอยูในตัว หากเดาไมผิดถาดูดานหลังที่หนีบเนคไทคงมีสัญลักษณ
ของเอ็มเจ จิลเวอรลี่ ซึ่งเปนผูผลิตและจําหนายอยูแนนอน
อะไรที่ทําใหแนใจเชนนี้อยางนั้นหรือ นั่นก็เพราะวาผมเปนคนออกแบบมันขึ้นมาอยางไรละ มันเปนเครื่องประดับที่ถูกผลิตขึ้นเนื่อง
ในวันพอ ซึ่งทาง เอ็มเจ จิลเวอรลี่ ซึ่งเปนบริษัทของพอผมเปดโอกาสใหนักออกแบบมือสมัครเลนสงผลงานเขาประกวด จําไดวาตอน
นั้นผมเพิ่งจะสิบหา ดวยความสนุกเลยลองคิดเลนๆ วาถาเปนเครื่องประดับของผูชายแลวลูกมอบใหพอ ของขวัญชิ้นไหนจะดีที่สุด
ผมคิดวาถาเปนพอผมที่หนีบเนคไทก็ดูไมเลว จากความคิดนั้นทําใหผม ขีดๆ เขียนๆ แลวลองสงเขาไป

ตอนแรกผลงานของผมไมไดชนะหรอกนะครับแตพอผมชอบเปนการสวนตัว ยิ่งพอมารูทีหลังวาเปนผลงานของผมก็ยิ่งถูกใจใหญ
ผมไมรูวาพอตั้งใจเอาใจผมหรือเปลานะ แตมันก็กลายเปนสินคาแนะนําพรอมกับตัวอื่นในแคทตาล็อกปนั้น ซึ่งมันจะถูกทําขึ้นเมื่อ
ลูกคาสั่งจอง ไมคิดวาจะแตะตาไอพี่ทองจนกลายเปนของขวัญเพื่อมอบใหพอของแก ไดรูแบบนี้ก็รูสึกดีจังเลยครับ...ปลื้มใจจัง...

แตก็ดีใจไดไมนานหรอกครับ พอคิดวาบริษัทยุบสาขาที่ไทยเมื่อพอจากไปก็เกิดอาการเศราใจขึ้นมา ตอนที่พอเสียผมยังไมรูเรื่อง


ธุรกิจพอมากเทาไหรหรอกครับ รูเพียงวาพอมอบทุกอยางใหผม แตตอนนั้นผมยังไมบรรลุนิติภาวะ อีกอยางกลัวทําบริษัทพอลมดวย
เลยใหพวกญาติๆ ชวยดูแลให แตพักนี้เหมือนทางโนนจะพยายามใหผมเรียนรูงาน ลุงเรียวคอยสงโนนนี่มาใหตลอดเลย

พอเห็นผมหนาเศราพอก็ถามครับวาผมคิดอะไรอยู เปนหวงไอพี่ทองหรือเปลา ผมก็ยิ้มแหงๆ ใหพอไป รูสึกผิดนิดหนอยที่จมอยูกับ


ความคิดตัวเอง จริงๆ แลวเรื่องไอพี่ทองก็กังวลบางนิดหนอยครับ ผมเลยบอกพอไปตามตรง พอยิ้มแลวบอกวาไมตองเปนหวงไป
หรอก เดี๋ยวพี่เขาก็ดีขึ้นเอง ตอนที่พอพูดผมเห็นนัยนตาของพอวิบวับๆ ดูเจาเลหยังไงชอบกล แตก็ไมไดเก็บมาใสใจ จากนั้นผมก็คุย
กับพออีกนิดหนอยกอนพอจะขอตัวไปทํางานตอ

พอพอไปแลวผมก็แวะไปลางหนาในหองน้ํา เรียกความสดชื่นขึ้นมาอีกนิด ยกมือขึ้นมาตบหนาตัวเองเบาๆ ฉีกยิ้มกวางๆ ใหกับ


กระจก เอาละผมพรอมไปเจอหนาพี่งูเขียวขี้งอนของผมแลว ไมรูวาปานนี้จะเปนยังไงบาง อารมณเย็นลงหรือยังก็ไมรู แตก็หวังวาจะ
ดีขึ้นอยางที่พอพูด ไมงั้นคงทําใจดีสูเสื้อเขาหาพี่เขาเปนแน ทวาพอกลับหอง อาว...ไอพี่ทองไมอยูเสียแลวครับ กลับไปทํางานแลวอะ
ลืมคิดไปเลยวาถาพอไปพี่เขาก็ตองไปดวย แยเลย ยังไมไดปรับความเขาใจกัน

พอไอพี่ทองไมอยูก็ไมรูจะทําอะไรครับ พี่มิ้นก็หายไปดวยอีกคน โทรหาเมธก็ไมรับสาย สงสัยไปหวีดหวานกับตริน อยากเลนน้ําก็ไป


ไมได เวลาก็เดินชาชา ออกมาจากหองหาเพื่อนคุย แตพี่การดก็ใจราย ไมยอมเลนหัวดวย ไมรูเปนอะไรกัน ปนหนาดุไดทั้งวัน
สุดทายก็ลงมาแตะทรายคนเดียว พระอาทิตยจะตกแลว นึกถึงไอพี่ทองขึ้นมา เมื่อวานผมดูพระอาทิตยตกกับเมธ แตพี่เขาอยูคน
เดียว กรรมตามทันเลย วันนี้ไอพี่ทองหนีไปทํางานปลอยผมมาดูพระอาทิตยคนเดียว มันไมสวยเลยนะครับ ยิ่งคนอื่นอยูกันเปนคูๆ
เนี่ย มันทําใหคิดถึงใครบางคนอยูตลอดเวลา

“ครับผม” กําลังชมธรรมชาติที่สรางมาเปนเพื่อนผมแทนพี่เขาก็มีสายเขามาครับ พอรูวาเปนใครก็ตองขมวดคิ้วทันที เหมือนจะมีลาง


พิเศษแฮะเพราะผมเพิ่งคิดถึงตอนเห็นที่หนีบเนคไทพอ ลุงเรียวก็โทรเขามาเฉยเลย

“สวัสดีครับคุณกุล” แกเปนคนของพอครับ ถึงผมจะเรียกวาลุง แตอีกฝายก็ใหเกียรติผมตลอดเลย

“ผมสงเมลไปใหคุณกุลไดเช็คบางหรือเปลาครับ” ลุงกลาวตอ ทาทางจะเปนเรื่องสําคัญนะเนี่ย ไมถามไถสารทุกขกันเลย


“ไมไดเช็คเลยครับ” ผมตอบแกไป ไมไดเช็คเมลตั้งแตวันพฤหัสแลว เสียดายเมื่อกี้ยืมคอมพี่มิ้นเลนเน็ตแตก็ไมไดเขาไปดู

“มินาละ เห็นเงียบไปเลย”

“เรื่องดวนหรือครับ”

“ไมดวนหรอกครับ แตเปนเรื่องสําคัญ”

“อืม...ถาอยางนั้นเดี๋ยวผมจะรีบดูแลวกัน”

“ไมทันแลวละครับ มติที่ประชุมออกมาแลว”

“เอะ...” ผมอุทานอยางแปลกใจแกมไมเขาใจ เรื่องสําคัญแบบนี้ ดูทาจะเกี่ยวกับธุรกิจของพอแนๆ อยางที่บอกนั่นแหละครับวาพัก


หลังๆ มานี่ลุงมักจะสงโนนสงนี่มาใหผมศึกษาตลอด ก็เขาใจบาง ไมเขาใจบางแหละครับ

“คุณกุลไมตองกังวลไปหรอกครับ ยังเหลือเวลาอีกเปนป ตอนนี้เราเพิ่งเตรียมการ”คําพูดของลุงเรียวทําใหผมคลายใจลงบาง ถึงจะ


ไมรูวาเรื่องสําคัญที่วานั่นคืออะไร ทําไมถึงใชเวลาเปนป แลวเตรียมการนั่นหมายความวาอยางไร

“วันนี้สงเมลใหมไปใหแลวนะครับ ยังไงก็ลองอานรายละเอียดดู ถาไมเขาใจยังไงถามได” ก็คงตองถามหลังจากไดอานเมลแลวนั่น


แหละ สวนตอนนี้คงพูดไดแคเพียงวา

“ขอบคุณครับ”

“ไมเปนไรครับ...วาแตเรื่องซัมเมอรวาไงครับ” โอ...นี่เปนอีกเรื่องที่ผมลืมไปซะสนิทเลย ลุงถามผมนานแลวครับ กอนจะเจอไอพี่ทอง


ดวยซ้ํา ถาเปนเมื่อกอนผมคงไมลังเลแบบนี้ แตคราวนี้มัน...

“ไมเปนไรครับ...ยังไมใหคําตอบตอนนี้ก็ได ถึงอยางไรทางนี้ก็ตองไปไทยอยูแลว แลวคอยวากันอีกที” เปนเพราะผมเงียบไปนาน


ละมั้ง ลุงถึงไดเขาใจวาผมยังตัดสินใจเรื่องที่ขอมาไมได ก็เลยกลาวแบบเปนกลางออกมา

“แลวจะมากันเมื่อไหรครับ” ผมถาม

“กลางเดือนนี้แหละครับ”

“ถาถึงตอนนั้น...ผมคงใหคําตอบไดแลวละ”
“ถาเปนอยางนั้นไดก็ดีมากเลยครับ...ออ คุณกุลครับ ผมอยากบอกวาถาไดอานเมลที่สงใหแลวอยากังวลอะไรนะครับ ทางนี้จะ
จัดการทุกอยางใหเรียบรอย”

“ออ...ครับ”

ดวยไมรูวาสิ่งที่พิมพมาในเมลนั่นคืออะไร เลยไดแตรับปากไปแบบนั้น แลวก็ไดแตหวังวาขอความที่อยูในเมลนั่นจะไมทําใหผมกังวล


ใจอยางที่ลุงวาไวจริงๆ

กวาผมจะออกมาจากหองประชุมไดก็ปาเขาไปเกือบทุมครึ่ง วางแผนกันวาจะจัดการกับเรื่องของอานนทยังไง เพราะวาขณะนี้ไมใช


แคเรื่องโกงบริษัทเทานั้น มันยังพวงไปหลายเรื่องซะเหลือเกิน แมกระทั่งความสัมพันธของผมกับนองก็ยังถูกโยงมาเอี่ยวกับเรื่องนี้
เราจึงตองรอบคอบหนอย แตถึงจะไมมั่นใจเต็มรอยเทาไหร แตก็กวาเจ็บสิบเปอรเซ็นผมคิดวาเราสามารถจัดการได...ถึงจะแคเจ็บ
สิบแตมันก็ใกลรอยมากกวาครึ่งใชไหมครับ

พอถอดหนากากนายนอยออก ผมก็กลายเปนนาคินทรคนเดิม ยังคงเปนผูชายที่มีหัวใจและเจ็บเปนอยางคนอื่นๆ ความรูสึกนอยใจที่


ถูกกดเอาไวเพื่อไมใหแสดงความออนแอใดๆ ออกมายามตองจริงจังกับงานกลับมาทํารายผมอีกครั้ง พอนึกถึงวินดี้ก็อดคิดไมไดวา
ปานนี้นองจะเปนยังไงบาง จะทุมกวาแลวไมรูจะรอผมกินขาวหรือเปลานะ งอนผมไหมที่เอาแตทํางานทั้งวัน ไมมีเวลาใหนองเลย
ทั้งๆ ที่ตั้งใจพานองมาพักผอนแทๆ คิดถึงนองจังครับ แตไมรูวาวินดี้จะรูสึกเหมือนกันบางไหมในเมื่อตอนหัวค่ํานองทําเปนไมสนใจ
ผมเลย นึกขึ้นมาแลวก็ปวดใจ

ผมเดินกลับไปยังหองพักดวยหวังวานองจะรอผมอยูที่นั่น หากแตพอเปดประตูเขาไปแลวกลับพบแตความวางเปลา บงบอกชัดเจน


วานองไมอยูในนี้ หันหลังกลับแลวเดินเหงาๆ ไปถามรันวาวินดี้อยูไหน รันชวยเช็คให ไมนานก็รูวานองอยูหองอาหารดานลาง แทบ
หมดแรงเลยครับ แตก็พอเขาใจนะครับ มันจะสองทุมแลวนี่เนอะ ผมคงยึดติดกับวินดี้มากไปละมั้ง ชินกับการกินขาวดวยกัน เฮอ...นี่
ผมเปนอะไรครับ ทําไมถึงไดออนแอแบบนี้ แคเรื่องเล็กๆ ที่นองไมเอาใจ ไมรอผม ก็ปลอยใหมาทํารายใจตัวเองราวกับเรื่องใหญโต

หรือวาผมกําลังกลัว มันเลยทําใหผมออนไหวงาย กลัววาจะมีอะไรมาแยกเราออกจากกัน ยิ่งเหตุการณในวันนี้ทําใหผมอด


หวาดหวั่นไมได ตอนนี้ทางโนนรูแลววาจุดออนของผมอยูที่ไหนและมันก็จี้ผมดวยวิธีสกปรก อยางที่พอบอกวามันฉลาดที่โจมตีเรา
ตอนนี้ เพราะนอกจากทําใหเราขาดความเชื่อถือแลว พวกมันยังแจงใหทางเมคเคลรูเปนนัยๆ วาทายาทคนเดียวของเอ็มเจเปนพวก
ชายรักชาย ถึงแมความรักของเราจะไมจัดอยูในประเภทรักตองหาม แตมันก็พูดไมไดเต็มปากวาทุกคนในสังคมยอมรับ

ผมไมรูหรอกนะวาวินดี้นับถือและมีความสนิทสนมกับทางเมคเคลขนาดไหน แตนองก็ใชนามสกุลนี้ และทางโนนก็ดูแลธุรกิจให


คงไวเนื้อเชื่อใจกันพอสมควร แลวถาเกิดทางนั้นรับความสัมพันธของเราขึ้นมาไมได ผมแทบไมอยากคิดถึงผลของมันเลยครับ
มากกวานั้นถาญาติทางพอรู ก็ตองรูไปถึงญาติทางแม คุณๆ ก็รูวาตามีอิทธิพลกับวินดี้ขนาดไหน ผมกลัวจังเลยครับวาวันหนึ่งจะมี
ใครสักคนบีบบังคับใหนองเลือกระหวางผมกับครอบครัว...แลวก็กลัววาคนที่นองเลือกจะไมใช...ผม...
ผมทิ้งตัวลงบนที่นอน นี่เพียงเริ่มตนเทานั้นนะ ผมยังรูสึกเหนื่อยขนาดนี้ เวลาความรักกับธุรกิจมาอยูดวยกันแลวจะจัดการอะไรก็
ลําบากเหลือเกิน ศัตรูผมมันก็ไมแยกระหวางเรื่องสวนตัวกับธุรกิจออกจากกัน สิ่งที่มันจะทํารายผมได ไมวาเรื่องอะไรมันก็ยอมทํา
รายจริงๆ ผมปลอยตัวเองไปกับความรูสึกที่อัดแนนในใจ ไมรูวาเวลาผานไปนานเทาไหร มารูสึกตัวอีกทีก็เมื่อน้ําเสียงของคนที่ผม
คิดถึงหนักหนาดังอยูใกลๆ

“เหนื่อยมากหรือครับ ถึงไมลงไปกินขาว” คุณวาผมใจงายไหมครับ พอเห็นหนาและไดยินน้ําเสียงของนองแคนี้ ความนอยใจ


ทั้งหลายแหลมันก็แทบจะหายไป กลายเปนความชุมชื่นซึ่งโปรยเขาสูหัวใจอันเศราซึมของผมใหกลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง

“เหนื่อยครับ เหนื่อยมาก” ผมชันตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียง

“นวดใหเอาไหม” นองถามพรอมนั่งลงขางๆ นัยนตากลมใสของนองที่มองมาอยางหวงใยนั่นทําใหผมอิ่มใจอยางบอกไมถูก

“เอาสิ...นวดแบบพิเศษเลยนะ” ผมบอก แตวินดี้กลับเอียงหนาเล็กนอย มุนคิ้วหนอยๆ ใหกับคําพูดของผม นองคงงงละมั้งวานวด


พิเศษนะแบบไหน ผมเลยไขขอของใจดวยการจับมือนองมาวางบนตัวไอคินนอยที่กําลังสลบอยูใตกางเกง แลวพอนองรูเทานั้นแหละ
ตวาดผมเสียงดังเลย

“ทะลึ่ง!” ดึงมือกลับ ถลึงตาใหอีกตางหาก แกมแดงดวย

“หึหึ” ผมหัวเราะเบาๆ กอนดึงนองเขามากอดดวยความคิดถึง ถึงปากจะวาผม แตวินดี้ก็ยอมเอนตัวเขาสูวงแขนอยางเต็มใจ เฮอ...


แคนี้ใจผมก็ออนยวบแลวละครับ พอแลวละ ไมถึงกับออเซาะ พูดจาหวานหู เอาอกเอาใจ แคนองเปนหวงและยอมอยูในออมแขนผม
เทานี้ก็สุขใจมากพอแลว
.
.
.

แต...คุณๆ ก็รูนี่ครับวาคนเราดํารงชีวิตดวยอาหารอยางเดียวไมได มันตองมีกําลังใจเปนอาหารเสริมดวย เพราะฉะนั้นนาคินทรก็ตอง


เสริมสรางกําลังใจใหกับตัวเองอีกนิ๊ดหนึ่งถูกตองไหมครับ

“แตพี่เหนื่อยจริงๆ นะครับ” ออนครับ ใชวาจาออนนองขอกําลังใจกอนจะเริ่มปฏิบัติการกลืนกินยาเสริมกําลังไปทีละสวนๆ

“วินดี้จูบพี่ทีสิครับ” เริ่มขอยาแระ ไลจากริมฝปากไปกอนเลย

“เกี่ยวอะไรกัน เหนื่อยก็พักสิ” แหม...ปรกติเขาก็กินยากอนพักนะครับที่รัก


“เกี่ยวสิครับ...เคยไดยินไหม...จูบ...คุณคิดวาไมสําคัญ จูบ...เบาเบาเทานั้น ยังทําผมสั่นไปถึงหัวใจ...” บรรยายสรรพคุณยาใหนอง
เขาใจดวยบทเพลงครับ จะไดมีอารมณสุนทรียเวลาปอนผม แตดูทานองจะไมเชื่อตํารับยาแขนงนี้แฮะ ดูส.ิ ..มายนจมูกใสผมดวย

“ถามันรุนแรงขนาดนั้นก็อยาจูบเลย” อาวทําไมอยางนั้นละครับ เอะหรือนองจะเปนหวงวาอวัยวะอยางอื่นผมจะสั่นดวยนอกจาก


หัวใจ...โธ...วินดี้คิดมากไปได ถาพี่สั่นเอว วินดี้ก็สายสะโพกรับสิครับ

“ทําไมละครับ พี่เหนื่อยจริงๆ นะ...อะๆ ไมตองบอกใหพักเลย เพราะพี่กําลังจะบอกวาเหนื่อยใจครับ ไมใชเหนื่อยกาย เพราะฉะนั้น


ขอจูบหวานๆ มาสั่นหัวใจหนอยนะ...กอนมันจะตายดาน” ตื้อเทานั้นที่ครองโลกครับ ถาตื้อไมสําเร็จก็จะหนาดานปล้ําจูบในอีกไมกี่
วินาทีขางหนานี้เลย

“พูดจาเพอเจอ” แหนะ...มาวาพี่ แตก็รูนะวาวินดี้เริ่มคลอยตามแลวใชไหม ดูส.ิ ..บนพึมพําไมเต็มเสีย มีหลบตา หันแกมแดงๆ ไปอีก


ทางดวย

“ใครวาละ วันนี้หัวใจพี่ทํางานหนักมากเลยนะ ถูกใครบางคนแกลง ตอนเชาก็ทําใหหึงเปนบาเปนหลัง พอตกบายก็ทําเปนไมรักไม


สนใจกัน” ทําเสียงออดๆ เหมือนมอดกัดไมครับ เรียกรองความสงสาร แลวมันก็สําเร็จเพราะวินดี้หันตาโตๆ มาทางผม แตทําไมมันดู
วิบวับๆ ชอบกล

“ใครอะ ทําไมใจราย แกลงอายทองไดลงคอ” นั่น...พูดพลางยิ้ม นัยตาเจาเลหอีกตางหาก

“นั่นสิ คนใจรายแบบนี้วินดี้วาพี่ควรทําโทษยังไดดีครับ” หมั่นเขี้ยวจังเลยครับ นองเงยหนาขึ้นทําเปนคิดหนักแลวหันมาทําตาวาววับ


ใสผม

“วินวาพี่อยาไปทําโทษอะไรเขาเลยนะ บางทีเขาอาจไมรูก็ไดวาทําอะไรใหพี่โกรธ”

“จริงหรือครับ” นองพยักหนาทันทีหลังผมถาม

“อะฮะ...วินวาเขาไมรูหรอก วาแตเขาทําอะไรอะที่วาแกลงพี่ ถามันหนักจริงๆ เดี๋ยววินจะไปจัดการให”

“ไมเปนไรครับ เพราะพี่จะจัดการเอง” ไมไหวแลวครับ หมั่นเขี้ยว เด็กอะไรไมรูนารักนาชังเกินเหตุ กมหนาไปประกบปากวินดี้เลยครับ


จูบนองอยางโหยหาไปยกหนึ่ง...อา...ชื่นใจจัง

“อืม...พอเถอะ...เดี๋ยวไปไกล ตอนนี้พอรอกินขาวอยู...” วินดี้บอกเมื่อผมถอนริมฝปากแลวไซรไปตามซอกคอ

“พี่ทอง...” นองพยายามเอียงหนาหลบ ใชมือผลักหนาผมออก


“ครับ...” ขานรับพรอมกับเปลี่ยนมาซบที่อกนองแทน มือก็ลูบไปตามลําตัววินดี้

“พอเถอะ...วินหิวแลว...” คําพูดนั้นทําใหผมหยุดชั่วครูกอนเงยหนาขึ้นมาถามนองวา

“อาว...วินดี้ยังไมไดกินขาวหรือครับ” วินดีส้ ายหนาแทนคําตอบ

“เห็นรันบอกวาวินดี้ไปหองอาหารไมใชหรือ พี่ก็นึกวาวินดี้กินแลว” ผมขมอารมณโหยหารางกายวินดี้ที่กําลังพุงขึ้นใหกลับไปสงบ


เหมือนเดิม

“ก็ไปรอพี่อะ ไมเห็นลงไปเลยขึ้นมาตามเนี่ย” นองบอกพรอมกับพยายามลุกขึ้นนั่ง ผมเลยชวยดึงวินดี้ขึ้นและชวยนองจัดเสื้อที่มันรน


ขึ้นมาดวยน้ํามือของผม ยื่นมือไปเกลี่ยผมนองใหเขาที่เขาทางใหดวย

“พี่ไมรูวาวินดี้รอพี”่

“อาว...ไหนพอบอกวาพี่รูแลวไงครับ” พออยางนั้นหรือ เกี่ยวอะไรกันอะ ผมมองวินดี้อยางสงสัยนองเลยชวยขยายความวา

“ตอนกอนพี่เขาประชุมไง พอนัดวินกับพี่กินขาวเย็นดวยกัน แลวตอนทุมกวาๆ พอก็ใหคนมาตามอะ บอกวาเลิกประชุมแลว ไปเจอ


กันที่หองอาหารเลย” เดี๋ยวกอนนะที่รัก ทําไมพี่ไมรูเรื่องละครับ ทบทวนตามคําพูดนองครับ มีอะไรคุนๆ หรือเปลา หลังออกจากหอง
ประชุมแลวพอไดชวนผมไหมหวา...คิดวาไมนะ...

“วินดี้ไปตกลงกับพอตอนไหนครับ”

“ก็หลังจากพี่งอนวินแลวเดินหนีไปนั่นแหละ พอดีเจอพอแลวพอชวนไปเดินเลนดวย ก็เลยไดคุยกัน”

“ที่วินดี้ไมตามพี่เขามาในหองตอนนั้นเพราะไปกับพอหรือครับ”

“อืม...” อึ้งไปชั่วครูครับกอนจะรูสึกวาอยากกินสิงโตเฒาตุนเปนอาหารเย็นมื้อนี้ เปนพอผมเองหรือนี่ที่มาปนหัวลูกชายจนปวนไปถึง


หัวใจนะ

“เกงนี่คิน แยกอารมณสวนตัวกับงานออกจากกันได อยางนี้คอยนาวางใจหนอย” ชัดเลยครับ รูแลวละครับวาแกพูดประโยคแปลกๆ


นี่กับผมหลังเลิกประชุมทําไม ที่แทก็ทดสอบผมนี่เอง...ไมสนุกเลยนะพอ!

“ไปครับที่รัก พี่ก็หิวแลวเหมือนกัน จะสั่งตุนสิงโตเฒามากิน” วินดี้มองผมแบบงงๆ คงสงสัยละมั้งวามันมีเมนูนี้ดวยหรือ แตนองก็


ยอมลุกขึ้นแลวเดินไปหองอาหารพรอมกับผม สงสัยเหมือนวินดี้หรือครับวาสิงโตเฒานะคืออะไร ก็พอผมไงครับ แกชื่อสีหราชครับ
แปลวาสิงห สวนแมผมชื่อธารทิพยแปลวาลําน้ํา ผมเลยชื่อนาคินทรไงครับ เจาปามาเจอลําธาร ผมเลยกลายเปนเจานครบาดาลไป
เลย

ผมกับนองลงมาขางลางก็เจอพอรออยูครับ แกสําราญในอารมณมากเลย ยิ่งผมตอวาแทนที่จะสะทกสะทานกลับหัวเราะชอบใจ


ใหญ บอกวากอนยกตําแหนงใหผมมันก็ตองมีการทดสอบกันหนอย แกกลัววาผมจะควบคุมอารมณตัวเองไมได เอาเรื่องสวนตัวกับ
งานมาปนกัน พูดยังกับไมรูจักผมดีอยางนั้นแหละ เฮอ...เซ็งพอตัวเองครับ ไอเราก็งอนนองมันที่ไมมาเอาใจ ที่ไหนได ทั้งผมและวินดี้
ตกเปนหมากในกระดานของพอซะงั้น

หลังจากไดระบายอารมณแลว บรรยากาศบนโตะอาหารยังคงรื่นเริงครับ อบอุนดี พอคุยกับนองไดเขาขากันทีเดียว ดีใจมากเลยครับ


ที่พอเอ็นดูนอง เชนเดียวกับวินดี้ที่คุยกับพออยางไมตะขิดตะขวงใจ สองพอลูกเคาคุยกันจนผมกลายเปนผูฟงที่ดีไปเลยครับ พอก็เลา
วีรกรรมตอนเด็กของผมบาง วินดี้ก็เลาเรื่องของนองบาง หรือถามาเรื่องที่ผมกับนองเจอกันอยางไร พอก็เลาใหฟงวาเจอแมยังไง จีบ
ยังไง ตองผานอะไรมาบางกวาจะลงเอยกัน ผมสังเกตวาบอยครั้งมากที่พอพูดถึงแมในวันนี้ ตอนที่เจอนองครั้งแรกก็เชนเดียวกัน
นัยนตาของพอที่พูดถึงแมยังคงสองประกายรัก แมบางครั้งมันจะเศราบาง แตพอพอมองหนาผมพอก็ยิ้มได การที่มีผมอยูขางๆ พอ
คงทําใหพอคลายเหงาลงไดละมั้ง ผมก็พอรูครับวาตัวเองเปนโซที่คลองพอกับแมใหใกลชิดกัน แมวาทานทั้งสองตองหางกันนิรันดร
แตผมเชื่อแนวาความรักของทั้งสองยังคงแนบสนิท

ยี่สิบปเต็มๆ เลยครับที่แมจากเราไป แตพอก็ไมเคยใหใครมาแทนที่แม ในหองนอนของพอยังคงมีกลิ่นอายของความรัก พวกเพื่อนๆ


พอบางคนก็วาพอยึดติดกับอดีต บางคนก็หาสาวๆ มาให แตพอไมเคยจริงจังกับใครสักที ความรักที่พอมอบใหแมมนั คงมากจริงๆ
มากจนไมมีใครที่พอจะรักไดเทาแมอีกแลว...และพอก็มั่นคงในรักนั้นมากจนยากที่สิ่งไหนจะมาทําลายได

เรากินขาวกันเสร็จแลวพอก็ชวนไปดื่มตอที่ผับของโรงแรมครับ เห็นพออารมณดีอยางนี้ พวกเราก็เลยตามใจพอ แตพอดื่มกันไปได


หนอยหนึ่ง พอก็เกิดอาการขึ้นมาครับ แกอยากปลอยแกเลยขึ้นไปมอสาว ปนหนาหลอบนเวที...แตพอคงทําใหสาวๆ ทั้งหลายอิจฉา
แมผมเขาใหแลวละครับ...นั่นก็เพราะคําพูดของพอนะสิ

“ผมรักผูหญิงคนหนึ่งมาก รักตั้งแตแรกเจอ จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ก็สามสิบปแลว ถึงตอนนี้เธอจะอยูไกลแสนไกล แตสําหรับผม ไมวาจะ


วันนั้นหรือวันนี้ ความรักที่มีให...ก็ไมเคยเปลี่ยน...”

แมเวลาผานนานแสนนาน ใจยังไมเปลี่ยน ถึงฤดูเปลี่ยนหมุนเวียนไมเคยหยุดเฉย


แตความรักที่ใหกัน ไมมีวันลดนอยลงเลย ยังคงพูดเชยๆ รักเธอ
ขอเพียงรูสึกเชื่อใจ ในยามตองหาง แมมีความตาง แตรวมทางกันดวยเหตุผล
มีความหวังใหกัน ตอเติมฝนของคนสองคน มีทั้งสุขทุกขปน นานมา
เพราะฉะนั้น จึงรักกันเชนฉะนี้ เพราะเรามีวันเกาๆ มิใชมีแตเพียงดอกไม
มีรอยยิ้มและมีน้ําตา วันที่โลกเหวหวา อยางนอยมีเธอ
ขอเพียงรูสึกเชื่อใจ ในยามตองหาง คิดถึงกันบาง คําสัญญาที่เคยใหไว
จะมีรักใหกัน และแบงปนเพื่อคนมากมาย ใจจึงอุนแมกาย ไกลกัน
เพราะฉะนั้นจึงคิดถึงกันเสมอ เหมือนมีเธอคอยชิดใกล
แมจะอยูหางกันเพียงไหน หางไกลทะเลขวางกั้นยามเมื่อนอนหลับฝน จะฝนถึงกัน

ผมรูสึกอายพอผมจังเลยครับ อายที่ผมออนแอ อายที่ผมกลัวในเรื่องเล็กๆ กลัววาจะมีอะไรมาพรากนองไปจากผม อายที่ตัวเองใจ


แคบมองทุกอยางแคมุมเดียว เรื่องของผมกับนองหากเทียบกับพอแลว มันชางหางกันยิ่งนัก อุปสรรคความรักของพอคือ “ความ
ตาย” ที่พรากแมไป แตสําหรับผมหากเทียบกันแลวมันก็แคเรื่องขี้ปะติว นองยังอยูตรงนี้ มือที่ผมกุมไวแนน ผมยังสัมผัสนองได ทุก
คืนนองยังอยูในออมกอดของผม ผมยังมีโอกาสจะเยื้อเวลานั้นใหนานและทําทุกนาทีใหมีคาสําหรับเราสองคน

ผมรูแลวครับพอ ผมเขาใจแลววาทําไมวันนี้พอถึงไดพูดถึงเรื่องของแมตลอดเวลา ผมเขาใจแลววาพอแกลงผมทําไม ไมใชแคอยาก


ทดลองวาผมจะแยกเรื่องสวนตัวกับธุรกิจออกจากกันไดไหม แตพอกําลังสอนผมอยูใชไหมครับ พอกําลังบอกวาหนทางแหงรักมัน
ไมไดโรยดวยกลีบกุหลาบเสมอไป แตอยางไรก็ดี ผมโชคดีกวาพอมากที่หนทางรักของผมกับนองไมใชทางตัน ถึงมันจะเดินไมสะดวก
บาง มีสุขและทุกขปนกันอยูยามเรากาวเดิน แตถาเราไมทอก็ตองมีวันไปถึงจุดหมายปลายทาง...ขอบคุณครับพอ...ขอบคุณที่ทําให
ผมเห็นรักยิ่งใหญของพอกับแม...ขอบคุณที่เตือนใจผม...

ผมกระชับมือนอง มองพอที่ครวญเพลงบนเวที...พรอมกับเสียงในหัวใจของผมที่ดังกึกกอง...

...ไมวาจะเกิดอะไรขึ้น มือนี้จะกุมนองไว จะไมยอมใหอะไรมาพรากเราจากกัน...

ยามเห็นคนอื่นมีคู ผมเคยคิดวาเมื่อไหรจะมีอยางคนอื่นบางนะ อีกนานแคไหนความรักจึงจะเขามาทักทายผม แลวชีวิตผมจะ


เปลี่ยนไปอยางไรหากหัวใจดวงนี้ไดรักใครสักคน แตแลวเมื่อความรักมาเยือนมันก็ชางตางจากที่ผมคิดไวเหลือเกิน นั่นก็เพราะผมไม
เคยคาดหวังมากอนวาคนที่นําความรักเขามาในลมหายใจของผมจะเปนผูชาย

ผูชายตัวโตๆ ที่กําลังโอบผมไวดวยวงแขนแกรง ผูชายที่แข็งกระดางและกระทํารุนแรงกับผมเมื่อแรกเจอ ผูชายที่ใชเลหเหลี่ยมสารพัด


เพื่อจะเขามาอยูคอนโดเดียวกับผม ผูชายที่หนาดานปอนคําหวานใสผมเสมอแมผมจะทําหนาเบื่อหนาย และสุดทาย...เขาก็เปน
ผูชายคนเดียวที่ทําใหผมตกหลุมรักอยางหัวปกหัวปา

“วินดี้อยามองพี่ดวยสายตาแบบนั้นนะครับ” คนที่เขามาขโมยหัวใจผมพูดขณะไลนิ้วไปตามใบหนาของผม ไฟจากหัวเตียงสองให


เห็นใบหนาของเขา นัยนตาที่สบมานั่นยังคงออนหวานลึกซึ้ง

“สายตาแบบไหน” ผมถามเขาดวยไมรูวาแววตาของผมเวลานี้เปนเชนไร เขาถึงไดหามผม

“ก็สายตาที่เหมือนจะกินพี่เขาไปทั้งตัวนะสิ มองนานๆ เดี๋ยวพี่อดใจไมไหว เปลี่ยนมากินวินดี้แทนไมรูดวยนะ” เขาบอก แตนั่นทําให


ผมหันมาถามตัวเอง...ผมกําลังมองพี่เขาดวยสายตาอยางนั้นจริงหรือครับ…
“บาแระ ใครจะมองแบบนั้นกัน”

“ก็วินดี้นั่นแหละ มองมาซะหวานหยาดเยิ้มเชียว” ใชแนหรือ...ผมเผลอมองพี่เขาดวยสายตาแบบนั้นจริงๆ ใชไหม ถาคําตอบคือใช ก็


ตองโทษอารมณซึ้งๆ จากเรื่องราวความรักของพอกับแมพี่เขานั่นแหละที่มันทําใหผมหันมามองคนขางๆ ดวยความรูสึกทั้งหมดที่มี
จนมันฉายชัดออกมาอยางประเจิดประเจอใหอีกฝายเห็น

“หวานอะไร...วินก็มองพี่อยางนี้ทุกวัน” วาพลางซุกหนาเขากับอกอุนนั่น

“อาว...พอทักหนอย หลบหนาซะงั้น” ก็คนมันอายนี่ที่เผลอแสดงความรูสึกออกไปอยางนั้น

“แลวมาถูๆ แถวอกพี่นี่ คิดจะยั่วกันใชไหมครับ” บา...ใครเขาคิดอยางนั้นกัน ผมเลยตัดปญหาดวยการจะหันหลังใหอีกฝาย แตมือ


หนาก็โอบกระชับผมแนนจนขยับตัวไมได

“ไมใหขยับ...อยูแบบนี้แหละดีแลว...พี่ชอบ” พอแกวาอยางนั้นผมก็เลยอยูเฉยๆ พูดอยางไมอายเลย ความจริงผมเริ่มจะติดออมกอด


ของแกแลวละครับ ถูกกอดถูกหอมบอยจนมันกลายเปนหนึ่งในชีวิตประจําวันไปแลว อีกอยางคืนนี้ผมรูสึกวาพี่เขาออนโยนกับผม
เหลือเกิน ไมรูวามีอะไรในใจแกหรือเปลานะครับ ทาทางของไอพี่ทองดูแปลกๆ แถมนัยนตาสีน้ําตาลคูนั้นมันหวานผิดปรกติ หากแต
พอพี่เขาพูดคําวารักแววตาคูนั้นก็ชางหนักแนนและมั่นคง

“นอนเถอะครับ ดึกแลวนะ” น้ําเสียงอบอุนนั่นกลาวบอกพรอมกับมือที่ลูบแผนหลังของผมอยางแผวเบา สงสัมผัสที่นุมนวลอยางจะ


กลอมใหผมหลับใหล

“พี่จะไปกี่โมง” แตแทนที่จะหลับตานอนตามคําบอก ผมกลับถามคืน

“ความจริงตองไปแลวละ แตพี่อยากใหวินดี้หลับกอน”

“อาว...”

“พี่อยากสบายใจนี่ครับ อยางนอยก็รูวาวินดี้หลับฝนดีแลว”

“ทําเหมือนผูชายเจาชูเลย พอที่บานหลับก็แอบยองออกจากหอง”

“หึหึ...ถาจะแอบพี่คงไมบอกหรอกครับวาจะยองออกไปนะ” ใชแลวครับ ไอพี่ทองบอกผมวาคืนนี้แกตองไปจัดการธุระอะไรสักอยาง


ซึ่งผมก็ไมรูวาเปนอะไร แลวทําไมตองไปดึกขนาดนี้ ไดยินแววๆ ตอนที่พี่เขาคุยกับพอในผับวาอยากไปเก็บขยะเอง หรืออะไรนี่แหละ
ผมก็ไมแนใจ เพราะบางครัง้ สองคนพอลูกเคาก็คุยกันแบบแปลกๆ ถึงจะพูดภาษาไทยแตก็คลายเปนอีกภาษาที่ผมไมเขาใจ แตก็พอ
เดาไดเลาๆ วาคงจะเกี่ยวกับงานที่ทําแกหัวหมุนมาตลอดทั้งวันนั่นแหละ ดังนั้นพอแยกกับพอแลวพี่เขาก็มาสงผมที่หองครับ แลวก็
อยูรอผมหลับอยางที่เห็น

“งั้นวินตองรีบหลับใชไหม” ผมถามขณะที่มือหนาเปลี่ยนมาลูบหัวผมเบาๆ

“ถาอยากใหพี่รีบไปรีบกลับก็หลับไดแลวครับ”

“โอเค...งั้นวินหลับแลวนะ...คอก...ฟว....คอก...ฟว...” วาจบก็แสรงกรนเลยครับเพื่อใหมันแนบเนียน แกจะไดไมตองเสียเวลา


มากกวานี้

“หึหึ” แตแกคงรูแหละวาผมแสรงทําเลยหัวเราะ

“ชักไมอยากไปแลวสิ เปลี่ยนมาลักหลับวินดี้ดีไหมนะ” ผมไดยินแววขบขันในน้ําเสียงของแกพรอมกับริมฝปากหนาที่กดลงมาที่แกม


ผมหนักๆ ฟอดใหญ นั่นทําใหผมอมยิ้ม คิดวาแกคงเห็นขันกับการเสแสรงของผม แตผมก็ทําเปนหลับตอ ไมไดตอบโตอะไรกลับไป
ในความเงียบมือที่ลูบหัวผมอยูนั้นยังคงสงสัมผัสอยางตอเนื่อง ผมไมรูหรอกนะวาตอนนี้พี่เขามองผมดวยสายตาแบบไหน แตก็พอ
เดาไดวาประกายที่สื่อออกมานั้นคงไมตางจากทุกครั้งที่มองผม

หากมีใครสักคนถามผมวา “ความรัก” คืออะไร ผมคงตอบเขาไปวา “ความรักไมใชแคสวนที่ดขี องชีวิต แตมันคือสวนสําคัญของชีวิต


ตางหากละ” มันไมใชแคความรูสึกวาผมโชคดีจังเลยนะที่ไดรูจักกับเขา ดีจังเลยนะที่ถูกเขามอบความรักให ดีจังเลยที่ไดใชทุกวินาที
อยางคุมคากับคนที่กุมหัวใจของผมไว ไดแบงปนลมหายใจและอยูเคียงขางกันตลอดเวลา แตเมื่อผมไดรูจักผูชายคนนี้ มันก็ไมใชแค
คําวา “ดีจังเลย” เพียงเทานั้น มันลึกซึ้งมากกวา เพราะผมไดพบ “สิ่งมีคาและสําคัญ” สําหรับผมแลว

จากวาจะแสรงหลับผมก็เริ่มรูสึกงวงขึ้นมาจริงๆ ยิ่งไอพี่ทองเปลี่ยนมาฮัมเพลงเบาๆ กลอมผมราวกับเปนเด็กนอยยิ่งทําใหผมเคลิ้ม


ไมรูวาผมคิดมากไปหรือเปลานะที่วันนี้ผมรูสึกวาพี่เขาหวงและหวงผมมากเปนพิเศษ แตมันก็ทําใหผมรูสึกดีเพราะมันสะทอน
ความคิดของอีกคนออกมาอยางชัดเจน...ผมมีคาและสําคัญสําหรับพี่เขาเชนกัน ในขณะที่ผมครึ่งหลับครึ่งตื่นอยูนั้น น้ําเสียงแผวเบา
ของพี่เขาก็กระซิบบอกพรอมกับสัมผัสนุมนวลบนหนาผาก...นั่นคือสิ่งที่ผมจําไดกอนที่จะเขาสูนิทราจริงๆ

“พี่สัญญาวาจะจัดการทุกอยางใหเรียบรอย...เดี๋ยวพี่กลับมานะครับ”

ภาคเมธ

ผมเคยอานประวัติวันวาเลนไทนที่เลากันวา “วาเลนไทน” เดิมเปนชื่อของนักบุญทานหนึ่งที่อยูในกรุงโรมระหวางศตวรรษที่ 3 ใน


เวลานั้นกรุงโรมถูกปกครองโดยจักรพรรดิที่ชื่อวา "คลอดิอุส" ซึ่งมีนิสัยชอบขมเหงผูอื่น ทําใหไมเปนที่รักของประชาชนเทาใดนัก
จักรพรรดิคลอดิอุสตองการสรางกองทัพอันยิ่งใหญแตพระองคก็ประสบกับปญหาในการที่จะหาทหารจํานวนมากมายมหาศาลมา
เขารวมในศึกสงคราม และนั่นทําใหพระองคเชื่อวาเหตุผลสําคัญก็คือ “ผูชายโรมันหลายคนไมตองการจากครอบครัวและคนอันเปน
ที่รักไป” ดวยเหตุผลนี้เองจักรพรรดิคลอดิอุสจึงออกกฏหมายหามใหมีการแตงงานหรืองานหมั้นใดๆ เกิดขึ้น ทําใหประชาชนไมพอใจ
รวมทั้งนักบุญวาเลนไทนเองดวย

ในเวลาตอมานักบุญวาเลนไทนไดจัดการแตงงานใหกับคูหญิงสาวหลายคูขึ้นอยางลับ ๆ ถึงแมวาจะมีการประกาศการใชกฏหมาย
หามแตงงานแลวก็ตาม นักบุญวาเลนไทนยังคงรักที่จะทําพิธีเหลานี้ โดยภายในงานนั้นจะมีเพียงเจาบาว เจาสาว และทานนักบุญ
เทานั้น พวกเขาจะกระซิบคําสาบานและคําอธิษฐานตอกัน ในขณะเดียวกันก็ตองคอยเงี่ยหูฟงเสียงการเดินตรวจตราของเหลาทหาร
ดวย แตแลวคืนหนึ่ง ในขณะที่กําลังทําพิธีแตงงานอยางลับๆ อยูนั้นเอง ทานนักบุญวาเลนไทนเกิดไดยินเสียงผีเทาของทหาร แตโชค
ดีที่คูบาวสาวนั้นหนีออกไปจากโบสถไดทัน

ในที่สุดนักบุญวาเลนไทนก็ถูกจับขังคุกและถูกทรมานอยางแสนสาหัส แตทานก็พยายามใหกําลังใจตัวเองทุก ๆ วัน และไดรับ


กําลังใจจากเด็กหนุมสาวหลายคนซึ่งมาที่คุกเพื่อจะมาเยี่ยมทานนักบุญ พวกเขาโยนดอกไมและกระดาษซึ่งเขียนขอความตางๆ เขา
ไปทางชองหนาตางของคุก ดวยตองการใหนักบุญวาเลนไทนรูวาพวกเขาเองก็มีความเชื่อและศรัทธาในความรักดวยเชนกัน

สิ่งที่นักบุญวาเลนไทนทํานั่นลวนเกิดจากความรัก ตองการใหคนที่รักกันไดสมหวัง ไดสาบานวาจะมั่นคงและเปนหนึ่งเดียวตอหนา


พระพักตรของพระเจา มันชางเปนสิ่งที่วเิ ศษยิ่งนัก ในคืนกอนที่ทานนักบุญจะสิ้นชีวิตดวยการถูกตัดหัว ทานไดเขียนจดหมายถึง
เพื่อนของทานและลงทายวา "From Your Valentine" ตั้งแตนั้นมา ในวันที่ 14 กุมภาพันธซึ่งเปนวันที่ทานเสียชีวิตก็มีประเพณี
แลกเปลี่ยนจดหมายรักซึ่งกันและกัน...สิ่งที่สําคัญที่สดุ ของวันวาเลนไทนก็คือ การมอบความรักและมิตรภาพใหแกกันและกัน

พอรูแบบนี้ก็รูสึกวาตัวเองโชคดีจังเลยนะครับที่ไมไดเกิดในสมัยนั้น ขณะนี้เรามีอิสระมากพอที่จะแสดงความรักกับคนที่เรารัก ดีจัง


เลยเนอะ...แตมันจะดีมากถึงมากที่สุด หากในวันวาเลนไทนปนี้ คนรักของผมจะอยูขางๆ เพื่อใหผมไดแสดงความรักตอเขา!

ใชแลวครับ ผมกําลังจะบอกคุณวา วันที่ชายคนหนึ่งลงจากรถแลวตรงเขาไปยังรานขายดอกไม เขาเลือกกุหลาบสีแดงมาชอหนึ่ง


แลวมองมันดวยนัยนตาแพรวพราวเพราะกําลังคิดถึงใบหนาของคนที่จะมอบใหอยูนั้น...ผมกําลังยืนมองเขาดวยสายตาอิจฉา
ถึงแมวาอยากซื้อกุหลาบสักชอไปฝากใครบางคนบาง แตในเมื่อคนรับไมอยูผมก็ตองกาวออกจากที่ตรงนั้นมาพรอมกับมือที่วาง
เปลา

คูหนุมสาวที่เดินขวงแขนกันเดินผานไปนั่น ทําใหผมตองเหลียวหลังมองพรอมกับความอางวางที่เขามาทักทายเมื่อขางกายผมไมมี
ใคร...หากเปนไปไดก็อยากพาใครคนนั้นมาเดินดูโนนนี่ดวยกัน คุยกระหนุงกระหนิ่งอยางคูรักคนอื่นๆ...แตมันก็คงไดแตคาดหวัง
เพราะขณะนี้ใครคนนั้นอยูไกลเกินเอื้อมมือถึง

ผมหยุดยืนที่หนารานกาแฟดวยความลังเล บรรยากาศในรานซึ่งตกแตงดวยสีชมพูหวานทําใหผมไมกลาเดินเขาไป ถึงแมอยากได


อะไรมาดับรอนแตแคมองเขาปอนขนมหวานกัน ผมก็ตองหันหลังกลับ...หากตองอยูคนเดียวทามกลางอุนไอรักของคูอื่นๆ กรุนไอ
อิจฉาของผมคงจะแผดเผาพวกเขา...ทําไมคนรักของเราไมอยูปอนเคกเหมือนคนอื่นบางนะ

บางคนบอกผมวาไมตองไปยึดติดกับวันวาเลนไทนมากนัก วันไหนๆ ก็เหมือนกันทั้งนั้นแหละ เราก็แสดงความรักกับคนรักของเราได


แลววันไหนๆ ที่มันวา เขาแตงรานใหบรรยากาศหวาวแหวว เปดเพลงรัก เดินกันเปนคูๆ มอบของขวัญ ซื้อดอกไม เขียนการดหวานๆ
ใหกันเชนนี้หรือเปลา ในวันปรกติไมวาจะเดินไปทางไหนก็เห็นภาพแบบนี้จริงหรือ เปลาเลย วันนี้มันแตกตางจากทุกวัน แลวสิ่งที่อยู
รอบตัวก็ทําใหผมอยากทําเหมือนคนอื่นๆ บาง…ผมผิดหรือ

“อยูไหนครับ” อืม...ถือวาฟายังไมทรมานผมเกินไปนัก ในเมื่อคนรักไมอยูใกลอยางนอยก็ยังไดยินเสียงของเขา…หากผมจะพูด


หวานๆ กับเขาบางในวันนี้ก็ไดใชไหม

“ออกมาเดินเลนขางนอก” ผมบอกเขาไปตามสายพรอมกับถอนสายตาจากคูรักวัยรุนที่กุมมือกันยืนเลือกซื้อน้ําหอม

“จะกลับมาตอนไหน” ถามทําไม จะมาหากันหรือไง

“กําลังจะกลับแลวละ เห็นคนอื่นเดินเปนคูๆ แลวอิจฉา” รูสึกแบบนั้นจริงๆ ครับ สูกลับไปนอนอาบแอรเย็นๆ ที่หองก็ไมได มองคนอื่น


แลวตารอนเปนไฟ

“เด็กขี้อิจฉา” เขาวาพรอมกับรอยขบขันในน้ําเสียง

“ใครจะเหมือนผูใหญใจกวาง...เห็นงานสําคัญกวาคนรักละ”

“ยังนอยใจไมหายอีกหรือ จริงๆ ไมไดตั้งใจจะผิดนัดเลยนะ งานมันไมเรียบรอย เด็กมันคํานวนสเปดผิด คาบรรทุกจรก็ผิด คาแรง


แบกทานคาแรงฝดมั่วกันไปหมดเลย ตองนั่งแกงานทั้งคืน” เขาบอกเหตุผลที่ไมสามารถอยูกับผมไดในวันนี้ดวยศัพทเกี่ยวกับงาน
ของเขา ความจริงจะครบเดือนแลวครับที่ผมไมไดเจอเขา ตั้งแตทํางานเปนวิศวกรเต็มตัว เขาก็ยุงตลอด ยิ่งตอนนี้ตองไปคุมที่ไซน
งานตางจังหวัดดวยยิ่งทําใหเราหางกัน

“เมื่อคืนฝนก็ตกอีกแลว” เขาพูดตอ จะวาไปปนี้ไมรูวาเกิดอะไรขึ้น ฝนมันหลงฤดูมาตกในหนาหนาวยิ่งในจังหวัดที่เขาทํางานอยูยิ่ง


ตกแทบทุกวัน

“นาจะตกแรงๆ พวกกอสรางจะไดหยุด”

“ถาหยุดบอยๆ งานก็ไมเดิน แลวก็ตองอยูที่นี่นานขึ้น”

“อยานานกวานี้เลย แคนี้ก็คิดถึงใจจะขาดแลว” ผมเมมปากเมื่อเผลอหลุดพูดความในใจออกไป แตถามวาเสียใจไหม ไมเลย...ดีแลว


ละที่บอกเขา ใหเขารูไววาผมคิดถึงเขามากจริงๆ ยิ่งหางกันยิ่งรูสึกวารักมาก มันทรมานที่ไดยินเพียงเสียงแตไมสามารถดึงอีกฝายมา
กอดได

“ตอนนี้ถึงไหนแลว” หลังจากเงียบอยูพักหนึ่ง เขาก็ถามไปอีกเรื่อง นั่นทําใหผมยนจมูกใสโทรศัพท...เฮอะ...คนเคาบอกวาคิดถึง


แทนที่จะตอบกลับมาวาเหมือนกันก็ไม...ยังคงปากหนักเหมือนเดิม
“กําลังขับรถอยู”

“แลวไปแถวไหน”

“หางใกลๆ คอนโดนั่นแหละ”

“อืม...วันนี้ทองฟาแจมใสจัง” อารมณไหนของเขาอีกละเนี่ย เปลี่ยนเรื่องปุบปบกลับมาเรื่องฟาเรื่องฝนอีกแลว

“ทําไมวันนี้ฟาไมเปนใจเลย...อยากใหฝนตกหนักๆ ใหใครทางโนนนั่งเหงา มองสายฝนคนเดียว อยากผิดสัญญาดีนัก”

“ใครวาละ วันนี้ฟาเปนใจตางหาก”

“เปนใจตรงไหน...” ผมกําลังจะเถียงหากแตสายตาที่มองผานกระจกหนารถออกไปแลวเห็นผืนฟาตรงหนานั่นทําใหผมนิ่งไปชั่วครู
สมองประมวลผม คิดตามคําพูดของเขากอนจังหวะการเตนของหัวใจจะแรงและเร็วขึ้น…ฟากําลังเปนใจอยูตรงหนาผม...

“ตอนนี้อยูไหน” ผมถามเขากลับดวยน้ําเสียงรอนรน ถึงแมเกาสิบเปอรเซ็นจะมั่นใจวาผมรูคําตอบของเขาอยูแลวก็ตามที

“อยูชั้นหาของตึก...กําลังมองฟา” แคนั้นแหละครับ ผมรีบเหยียบคันเรงทันที หากเขาบอกวาอยูใตฟาผืนเดียวกันผมคงจนปญญาจะ


เดาไดวาตอนนี้เขาอยูสวนไหนของโลก แตพอบอกวาอยูใตฟาที่เปนใจ มันก็พอใหผมเดาไดวาเขาอยูไมไกลจากผมเลย...อยูใตกอน
เมฆรูปหัวใจที่กําลังลอยอยูใกลๆ คอนโดของเรา

เสียดาย...ไมนาเดินจากรานขายดอกไมมามือเปลา ไมงั้นผมคงไดกุหลาบสักชอมาเปนของขวัญวันวาเลนไทนใหกับเขา

เสียดาย...ที่มองเมินคูรักที่เขาเดินเลือกซื้อของขวัญ ไมงั้นผมคงไดอะไรสักชิ้นใสกลองแลวยื่นใหเขา ผมจะบอกเขาวาสําหรับผมไมมี


อะไรวิเศษมากไปกวาการไดมีเขาเปนคนรัก

เสียดาย...ที่ไมไดเดินเขาไปในรานกาแฟ ไมงั้นคงไดเคกสักชิ้นมาออนใหเขาปอน

เสียดาย...ที่เดินผานรานขายน้ําหอม ไมงนั้ เขาคงไดรูวาผมไมเคยลืมกลิ่นหอมที่เขาใช

แตถึงจะเสียดายอะไรหลายอยางแตก็ไมอาจยอนกลับไปไดดวยไมอยากเสียเวลาไปมากกวานี้ อยากกลับไปเจอแลวกอดเขาแนนๆ
ใหสมกับที่คิดถึง สิ้นสุดกันที...วันนี้ผมคงไมตองอิจฉาใครอีกแลว แตคนอื่นตองอิจฉาผมนะสิ เพราะในวันแหงความรักผมก็ไดอยูกับ
คนรักของผมเชนกัน แลวพอเจอหนาเขาผมก็ทําอยางที่ตั้งใจไว กอดเขาไวแนนพรอมกับจูบหวานๆ อยางดูดดื่มและโหยหา
“ไมเปนไรครับ แคนองเมธผูกโบวก็เปนของขวัญชิ้นวิเศษที่สุดแลว”

ฟงเขาพูดหลังจากที่ผมขอโทษเพราะไมมีอะไรมอบใหเขาในวันนี้สิครับ บทจะหวานก็พูดหวานจับใจ แลวแบบนี้ผมจะหยุดอยูที่จูบ


เพียงอยางเดียวหรือครับ ก็ในเมื่อฟาเปนใจใหเขากลับมาหาผมในวันนี้แลวนี่นา...ของขวัญชิ้นนี้ก็จะมอบความสุขและปรนเปรอ
อยางเต็มความสามารถจนเขาครางไมไดศัพทเชียวละ...

“หลับตาเถอะนะ ขอใหเธอหลับฝนดี คืนนี้ไมตองหวง ตรงนี้ฉันจะดูแลดวยชีวิตของฉัน” ฮัมเพลงกลอมนองครับพรอมกับลูบผมนุม


นิ่มของวินดี้อยางเบามือ กมหนามองคนในออมแขน เห็นหลับตาพริ้มอยางเปนสุขแลวก็สบายใจ

“ฝากดาวบนฟา รองเพลงนี้ใหเธอฟง หากฉันตองกลับเชา อยางนอยใหเธอหายหนาวก็พอแลว” เปลี่ยนเนื้อเพลงนิดหนอย เดี๋ยวมัน


เปนลาง เพราะยังไงอายทองก็ตองกลับหานองวินดี้อยูแลว กมจูบนองที่หนาผาก ฝากคําสัญญาเขาไปในหวงฝนวาไมนานพี่ก็จะ
กลับมา ลุกขึ้นจากเตียงหยิบผาแพรมาคลุมใหนองดวยความรูสึกคลายกับขุนไกรที่กําลังจะจากดาวเรืองไปรบในคืนสงตัวเขาหอ...

“ขาคือชายชาญ ชาติทหารวิญญาณแหงนักรบไทย ศึกนี้หรือศึกไหน หัวใจไมเคยหวั่นเกรงและความรักขาก็คือดวงใจเจาดวงนี้เอง


ใครหาญมาขมเหง ขาเองจะหยุดมัน!” ประกาศเสียงกราว (ในใจ) ดูเวอรมากไปหรือเปลาครับ ถึงจะเห็นดวยและเกิดอาการหมั่นไส
แตก็อยาเขวี้ยงอะไรมานะ…ออกศึกขานึกแตรบและรบ จบศึกขานึกแตรักเจานั้น…นั่นยังไมหยุดเพอรําพันอีก

โอเค พอแลวก็ไดครับ เขาใจวาคุณๆ เริ่มเบื่อไอนี่แลว เห็นพร่ํามานาน อยากถามแลววาเมื่อไหรมึงจะไปแนวหนาสักที อะนะ เห็นใจ


กันหนอย ตองจากคนรักในคืนรําลึกความหลังมันก็ตองอาลัยอาวรณกันบางเปนธรรมดา ขอลานองอีกครั้งไดไหมอะครับ เอาแคสั้นๆ
ก็พอ วาแลวก็สงใจถึงใจหาคนที่นอนหลับใหลอยางเปนสุขอยูบนเตียง

“รอพี่นะครับวินดี้ เดี๋ยวกลับมาหมเนื้อใหหายหนาว…หนาวราวอกราว หมอกหาย หนาวรักหมรัก อุนรักสบาย หนาวคลายเพราะหม


ที่สมกัน…แลวพี่จะกลับมาสมสูในเร็ววันนะครับ” เพอไดอีก ทาจะเปนเอามากนะผมนะ กอนจะเปลี่ยนใจกระโดนเขาใสคนนารักบน
เตียงเห็นทีตองไปจริงๆ แลวละครับ

คืนนี้ตั้งใจวาจะไปจัดการเรื่องของโรงแรมที่คางคาอยูใหเรียบรอยดวยตัวเองเพราะรูสึกวาเบื้องหลังมันซับซอนเกินกวาที่คิดไว วันนี้
ตอนเดินมาสงนองที่หองวินดี้เลาใหฟงวาไดรับเมลจากบริษัทของพอบอกวามีโครงการจะขยายกิจการเขามาในไทย ในขณะที่นอง
เลาใหฟงอยางตื่นเตนอยูนั้น หัวใจผมกระตุกวูบ ถามนองดวยความอยากรูวานอกจากแจงขาวธรรมดาแลวมีอะไรอีกไหม แลวพอวิ
นดี้บอกวาไมมันก็ทําใหผมถอนหายใจอยางโลงอก

สิ่งนี้ทําใหผมมองเห็นวาเอ็มเจก็ตองการกีดกันเรื่องนี้ออกจากวินดี้เชนเดียวกัน อาจเปนเพราะเพื่อความปลอดภัยและปองกันความ
ผิดพลาด คงจะใหทางเมคเคลจัดการทุกอยางใหเรียบรอยเสียกอน จากนั้นคอยสงวินดี้ขึ้นแทนบริหารเมื่อทุกอยางลงตัว ถือวาเปน
ขาวดีมากเลยครับ หายหวงไดเปราะหนึ่ง ในขณะที่ผมฟาดฟนกับชินกฤษ วินดี้ก็เปนไขในหินที่ทางเอ็มเจคอยปกปองอยู
จะวาไปเรื่องธุรกิจของครอบครัวนอง วินดี้เคยเลาใหผมฟงตั้งแตวันที่นองใสสรอยคูใหผมแลวครับ แตนองก็ไมไดบอกวาเปนทายาท
ของเอ็มเจหรอกนะ เรื่องนี้ผมไปสืบเอาเอง ถึงอยางไรก็ดีถือวานองเปดเผยกับผมมากพอสมควร เมื่อผมไมไดบอกฐานะที่แทจริงของ
ตัวเองใหนองรู วินดี้เลยโกรธผมเปนฟนเปนไฟไงละครับ ยังจําไดถึงคําตอวาที่นองกลาวหาผมกลัวนองจะมาหลอกเอาเงิน คิดใหดี
แลวใครกันแนที่ตองกลัว นองอยูสูงขนาดนั้น ผมสิจะถูกกลาวหาวาไมเหมาะสมกัน แตถางานนี้ผมทําใหแมคเคลเชื่อใจและยอม
ลงทุนกับเราไดก็จะเปนบทพิสูจนวาผมมีความสามารถจริงๆ เขากําลังรอดูวาผมเหมาะสมกับทายาทคนเดียวของเอ็มเจอยูหรือเปลา

...นี่ใชอีกหนึ่งเหตุผลหรือเปลานะที่ทางโนนกันวินดี้ออกหาง และการที่ผมปดบังนองอีกครั้งเพื่อใหวินดี้ไมตองเขามายุงเกี่ยวกับเรื่อง
นี้นาเปนทางเลือกที่ดีเชนกันใชไหม...

เมื่อออกมาจากหองก็เจอรันรออยู เขามากระซิบบอกวาทางคเชนทรจัดการทุกอยางตามแผนเรียบรอยแลว ผมพยักหนารับกอนเดิน


ไปยังลิฟทแลวมุงตรงสูชั้นลางเพื่อไปยังรถที่จอดรออยู ภายในค่ําคืนพระจันทรครึ่งเสี้ยวอันเงีบบสงัด ถนนเริ่มรางไรซึ่งยานพาหนะ
สัญจรไปมาเพราะคอนรัตติกาลแลว แสงสีของไฟราตรีลาลับเมื่อรถเคลื่อนออกไปทางนอกเมือง เหลือเพียงแสงจันทรมัวมนที่ถูกเมฆ
ทะมึนกอนหนาบดบัง ทาบแสงจางๆ ไปบนเงาไมที่เคลื่อนไหวไปมายามตองกระแสลม จังหวะเนิบนาบเชื่องชาเมื่อวายุพัดผานเปน
เกลียวคลื่นบนยอดหญาดุจกลิ่นอายมรณะลอยนําอยูเบื้องหนา ทามกลางความเงียบเสียงขึ้นไกปนดังคลิ๊กแคลกเมื่อผมตรวจเช็ค
มัจจุราชสีดําประจําตัว ไฟหนารถชวยสงใหเห็นทางเบื้องหนาเมื่อออกจากถนนใหญแลวไลเลาะไปตามชายฝง รถชะลอลงชาๆ เมื่อ
เคลื่อนเขาสูพื้นที่สวนบุคคลซึ่งมีปายหามคนนอกเขาติดใหเห็นอยางชัดเจน

คนขับหมุนกระจกลงเล็กนอยเมื่อเคลื่อนรถมาจอดยังหนาประตูเหล็กโกโรโกโสหากแตถูกโอบลอมดวยลวดหนามอยางแนนหนา
สื่อสารดวยรหัสลับกับยามรางสูงใหญหนวยกานบึกบึนใสชุดดํากลมกลืนกับราตรี นัยนตาสังเกตอยางนักลามองเขามาในรถกอน
คอมศีรษะใหเมื่อสบตากับผม

กระจกรถถูกเลื่อนขึ้นอีกครั้งพรอมกับรถที่เคลื่อนตัวชาๆ เขาไปภายในตามถนนสายเปลี่ยว ซายขวาขนาบดวยตูคอนแทนเนอรขนาด


ใหญสลับกับโกดังเก็บสินคาเกากลางใหม จนกระทั่งรถมาหยุดหนาโกดังหลังหนึ่ง ผมขยับตัวเมื่อประตูรถถูกเปดออกดวยมือของรัน
พอกาวลงจากรถหนวยรักษาความปลอดภัยที่ตามมาพรอมกับรถอีกคันไดมายืนรอเยื้องไปทางดานหลัง ชายชุดดํากลุมหนึ่งยืนเฝา
อยูหนาโกดัง พวกเขาคอมหัวลงต่ําเมื่อผมเดินเขาไปหาขณะที่ใครบางคนเปดประตูใหอยางรูหนาที่ เสียงเหล็กครืดคราดดังสะทาน
เมื่อประตูเลื่อนขึ้นสูขางบนและคางอยูในระดับเลยความสูงของผมไปนิดหนอย พอผมกาวเขาไปขางใน ประตูก็ถกู ดึงใหปดลงอีก
ครั้ง

ผมปรายสายตาไปโดยรอบกอนจะหยุดอยูที่แสงสวางเพียงจุดเดียวซึ่งอยูเยื้องไปทางซายมือเขาไปดานใน ผมเดินผานลังสินคาที่ตั้ง
กองกันขึ้นสูง จนมาหยุดอยูไมหางจากจุดศูนยกลางของแสงสวาง ชายหนุมใบหนาโชกเลือด ถูกมัดมือเทานั่งติดกับเกาอีป้ รากฏอยู
ตรงหนา

“อากกกกก” เสียงโอดรองอยางโหยหวนดังขึ้นเมื่อชายฉกรรจคนหนึ่งทําการทรมานเขาดวยเหล็กหนีบเขาที่ขอมือ ผมมองการทารุณ


นั่นดวยใบหนานิ่งเฉย
“นายนอย” เสียงของคเชนทรเรียกผมเมื่อเขามายืนอยูขางๆ คอมหัวเล็กนอย ผมปรายสายตาไปทางเขา

“มันยอมเปดมากไหม” ถามดวยน้ําเสียงเยือกเย็น

“มันยังปากแข็งครับ” ผมมองไปยังนักโทษที่ใบหนากําลังบูดเบี้ยวดวยความเจ็บปวด หายใจทางปากเพื่อตอสูกับมัจจุราชที่รออยู


ระหวางความเปนกับความตาย

“งั้นปลอยมันสักพัก เดี๋ยวฉันจะงางปากมันเอง” คเชนทรพยักหนารับกอนทําสัญญาณมือใหคนที่เหลือถอยหางออกไป…หากทรมาน


มันตอนนี้คงไดตายกอนรูเรื่อง

“เรื่องสวมรอยวายังไง” ผมถามขณะที่นัยนตายังจับจองไปยังคนปางตายซึ่งเอนตัวหมดแรงบนเกาอี้ ถึงใบหนามันอาบดวยสีแดง


ฉาด หากนัยนตายังแข็งกราว มันถูกฝกมาอยางดี การทรมานดวยความเจ็บคงใชไมไดผล

“เปนไปตามแผนครับ คนของเราแทรกตัวเขาไป พวกมันกําลังจะไปเซฟเฮาส คิดวาไมเกินพรุงนี้เที่ยงคงรูวาอานนทอยูที่ไหน”

“ดี”

“เราเจอบางอยางในหองของมัน” ผมยื่นมือไปหยิบกระดาษแผนบางๆ ที่คเชนทรยื่นให มันเขียนขอความสั้นๆ ใตภาพของผมกับคน


รักดวยปากกาสีแดงอยางชัดเจน มือแข็งขยํากระดาษนั่นดวยแรงอารมณที่พุงทยานขึ้นสูง

“แสดงวามันจะลงมืออีกครั้ง”

“ใชครับ แลวคราวนี้ดูทามันเลงเปามาที่นายนอยกับ...”

“เอาน้ําไปสาด ปลุกมันขึ้นมา!” เสียงสั่งกองสะทาน นัยนตาแข็งกราววาวโรจนจองเขม็งไปยังไอเศษขยะซึ่งตัวเปยกปอดดวยน้ําจาก


ถังที่สาดใสตัว มันงัวเงีย สะบัดศีรษะ แตกูใหเวลามึงตั้งหลักมากพอแลว กลามากทํากูไมพอ คิดจะมาแตะดวงใจของกูดวยอยางนั้น
หรือ...แลวมึงจะรูวาคิดผิดที่มาตอกรกับกู

ผมกาวเขาหาไอเศษสวะอยางชาๆ ผมไมทรมานมันดวยความเจ็บปวดหรอก แตจะใหมันไดรับบทเรียนอันสาหัสที่บาดลึกเขาไปใน


จิตวิญญาณของมันจนยากที่จะลืม คุณเคยไดยินไหมวา นักโทษประหารซึ่งถูกเชือดพรอมกับรูวาตัวเองจะตายในอีกไมกี่นาที
ขางหนา ถูกปดตาแลวยัดเขาไปหองอับแสง ชื้นแฉะ มันนอนรอความตายกอนจะถูกมือสังหารสงใหมัจจุราช ฟงเสียงน้ําที่หยด
กระทบพื้นทีละหยดๆ จนสุดทายมันก็สิ้นใจพรอมกับน้ําหยดสุดทายดวยคิดวานั่นคือเลือดหยาดสุดทายของมัน และนี่แหละคือสิ่งที่
ผมจะทํากับมัน เลนกับวินาทีที่เหลือกอนที่มันจะตาย
...ผมไมใชผูรายที่ฆาใครไดแคมันกอกวนธุรกิจผมใหกระทบกระเทือนนิดหนอย หรือคิดจะขมขูคนรักของผม แตผมก็รายพอที่พรอม
จะเลนกับวินาทีแหงความเปนและความตายของมัน...

“ปนรุนนี้ แม็กหนึ่งมันมีกระสุนอยูสิบนัด นั่นหมายความวาแกมีเวลาหนึ่งในสิบวินาทีที่จะเปดปากพูด หากเกินกวานั้น ขอมูลจาก


ปากของแกก็ไมมีประโยชนอีกตอไป” น้ําเสียงเย็นเยือกของผมบอกกับมันขณะที่ขยับแหนบกระสุน เอาลูกปนออกใหเหลือเพียงนัด
เดียว จากนั้นก็จอปากปนเขาที่ขมับพรอมกับมองมันดวยสายตาของนักลาที่กําลังมองเหยื่อ มันสะดุงเฮือกเมื่อความเย็นของโลหะ
แตะหัว

“สิบ” คําพูดสั้นๆ พรอมกับมือที่ลั่นไกปนอยางไมปลอยใหเหยื่อไดทันตั้งตัว

“คลิ๊ก” เสียงที่ปราศจากกระสุนทําใหมันสะดุง แตไมทันไดหายใจน้ําเสียงปราศจากความรูสึกก็กลาวตอ

“เกา…...” ลมหายใจที่ยังคงอยูไดอีกเสี้ยวเวลาทําใหมันเริ่มหันรีหันขวาง

“แปด......” ขนลุกเกรียวทั้งตัวเมื่อรอดชีวิตมาไดอีกหนึ่งวินาที

“เจ็ด......” มันคือเสียงนรกหรือเสียงสวรรคกันแนที่มัจจุราชสีดํายังไมคราชีวิตของมัน

“หก......” มาถึงทางสามแพรงแยกไปสูความเปนและความตาย

ตัวเลขของวินาทีที่ยนเขาไปทุกขณะพรอมกับเปอรเซ็นที่ปนจะลั่นใสหัวทําใหมันเริ่มรนราน หวาดผวา เหงื่อไหลทวมตัว ที่ผานมามึง


คิดวาพวกกูไมกลาทําอะไรเพราะมึงคิดวาตัวเองมีคาที่ยังกําความลับไว ถึงจะทรมานแคไหนก็ไมทําใหมึงถึงตายใชไหมละ ถุย...นึก
วาแคนี้กูอานมึงไมออกหรือไง ตายกับเปนในอีกหาวินาที มึงเลือกเอาวาจะเดินทางไหน!

“หา......”

“สี.่ .....”

“สาม....”

“ดะ...เดี๋ยว...”

“สอง.......”

“กู...พะ....พูด...ละ....”
“หนึ่ง......”

“เปรี้ยง!”

เกมโอเวอร ผมสงสายตาใหคเชนทรจัดการกับไอเศษสังคมที่ตัวสั่นงกๆ ...เคนคอถามมันซะ จากนั้นก็มองไปที่พื้นซึ่งลูกกระสุนเฉียด


จากสมองของมันไปกระทบจนเกิดเปนรู ชวงเวลาแหงความเปนความตายใชไดผลกับพวกทนไมทนมืออยางมันเสมอ...

ผมงัวเงียรูสึกตัวอีกครั้งเมื่อที่นอนยุบยวบพรอมกับรางหนาที่สอดกายเขามาใตผาหมผืนเดียวกัน หัวของผมถูกชอนขึ้นอยางนุมนวล
หมอนที่นอนหนุนถูกดึงออกกอนลําแขนแกรงจะสอดเขารองรับแทนที่

“กลับมาแลวหรือครับ” ผมถามแผวเบาขณะที่ตายังปดอยู ขยับตัวซุกเขากับอกอุนอยางคุนเคยพรอมกับมือหนาที่ดึงผมเขาสูออม


กอดอยางหวงแหน

“ครับ...วินดี้หลับตอเถอะนะ เหลืออีกหลายชั่วโมงกวาจะเชา” เสียงกระซิบขางหูนั่นทําใหผมคลายใจ ดีแลวที่พี่กลับมาสักที ค่ําคืนที่


ผานมาผมหลับๆ ตื่นๆ ตลอดเลย มันคงเปนจิตใตสํานึกของตัวเองวากําลังรอใครบางคนอยู

“อืม...” ผมขานรับในลําคอกอนปลอยใหความงวงเขาครอบคลุมอีกครั้ง...ดีจัง...คราวนี้ก็หลับไดอยางสนิทใจสักที

ทองฟาแจมใส เมฆสีขาวกอนบางลอยออยอิงอยูบนผืนนภาทาแสงตะวันที่ฉายแสงเจิดจา ผมเดินผานทุงหญาสีเขียวขจีซึ่งมีดอกไม


หลากสีขึ้นแซมทั่วทองทุง สายตามองผีเสื้อสีเหลืองออนที่กระพือปกบินหยอกลอเปนคูๆ สายลมออนๆ พริ้วผานหอบกลิ่นหอมหวาน
ของมวลหมูไมโชยมากระทบจมูก ผมหลับตาลงซึมซับความสดชื่นที่ธรรมชาติมอบให เอนกายบนผืนหญาอันออนนุมราวกับพรม
กํามะหยี่เนื้อดี ปลอยอารมณไปกับบรรยากาศชวนเคลิ้มฝน กรุนไอดินกลิ่นหญาพาอารมณใหลุมหลง

“วินดี.้ ..” คํากระซิบขางหูจากน้ําเสียงอันคุนเคยทําใหผมเผลอยิ้ม แนบหนาลงกับไออุนที่โอบลอมอยูรอบตัว ความออนหวาน


ละมุนละไมไลไปตามผิวกาย นุมนวลชวนใหหลงใหล

“พี่รักวินดี้นะครับ” เสียงทุมลึกชวนฝนดังแทรกซึมมากับความออนหวาน รางกายรูสึกเบาหวิวราวกับกําลังโบยบินเคียงคูไปกับเมฆ


กอนบาง

“...ที่รัก...พี่รักวินดี้จริงๆ นะ....” น้ําเสียงที่เริ่มแหบพรา สั่นกระเสานั่นคลายกับสายลมที่รวมเปนเกลียวชอนรางผมลงไปในรองคลื่น


กวัดแกวงกลอมระเหชาๆ ราวกับกําลังนิทราในเปลผาเนื้อดี สําผัสนุมนิ่มที่ริมฝปากดุจดั่งกําลังถูกปอนหยาดทิพททําใหเผลอลิ้มลอง
และเลียมเขาใกล ตวัดลิ้นหยอกลอกับบางสิ่งที่สอดเขามาอยางกลมกลืน

“...พี่...จะ...ลักหลับ...วินดี.้ ..” ความสุขซาบซานออนหวานคอยๆ กลายเปนรอนรุมเมื่อประโยคสั่นกระเสานั่นสิ้นสุดลง รางกาย


กระตุกกอนจะบิดไปมา ความนุมนวลเปลี่ยนเปนเสียวซาน รุมเราหนักหนวงขึ้นทุกขณะ

“อะ...อา...” วาบหวาบเกินกวาจะหามตัวเองไมใหเปลงเสียงออกมา ลมหายใจเริ่มติดขัด หอบหนักพรอมกับอารมณเสียวกระสันที่


พุงทะยานขึ้นสูง

“อะ...” อีกนิด...อีกนิดเดียวเทานั้น สิ่งที่อัดแนนอยูภายในกําลังถูกกระตุนใหแตกกระเจิดกระเจิงในไมชา เรารอนดั่งลาวาในปลอง


ภูเขาไฟที่พรอมจะพุงพรวดทะลักไอรอนออกมา

“อา...” รางกายผมกระดุกพรอมกับอารมณวาบหวิวเสียวซานเขาจูโจมจนขนลุกซู ความรูสึกซาบซานดื่มด่ํานั่นปลุกใหตื่นจากฝนที่


มอบความรูสึกอันพิลึกพิลั่นอยางไมเคยเปนมากอน

“อะ...ไอพี่ทอง!” ผมคิดวาตัวเองตะโกนสุดเสียงหากแตกลับแผวเบาจนแทบไมไดยินเมื่อลืมตาแลวพบวาใบหนาคมเขมซบอยูกลาง
ลําตัวและกําลังเลนสนุกกับแกนกายของผม

“หวานจังเลยครับ”

“อะ...อื้ม...” ไมทันไดตั้งตัวเพื่อตอวาอีกฝายอยางใจหวัง คําตัดพอที่อีกฝายมาลักหลับถูกกลืนลงสูลําคอเมื่อริมฝปากหนาประกบ


เขามา ลิ้นอุนหยอกลอกับเรียวปากกอนจะสอดเขาสูภายใน ตวัดนัวเนียกับลิ้นของผมอยางรอนแรง ความช่ําชองนั่นทาทายใหผม
เกี่ยวลิ้นตอบรับอยางไมรูสึกตัว อารมณวาบหวามที่เพิ่งดับถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง

“วินดี้เสร็จแลว คราวนี้ก็ตาพี่นะครับ” น้ําเสียงที่เต็มไปดวยความปรารถนากระซิบแหบพรากอนจะประกบปากผมอีกครั้ง จูบดูดดื่ม


รอนแรงจนรางกายผมเริม่ ออนระทวย มือที่มากไปดวยประสบการณเริ่มเลาโลมไปตามรางกาย ไมวาจะไลผานจุดไหนสวนไหนก็ให
ความรูสึกเสียวซาน ยิ่งเมื่อมันหยุดเคลนคลึงจุดไวตอการสัมผัส รางกายผมก็บิดเราไปมาราวกับถูกเปลวไฟรอนระอุแผดเผา

แตเหมือนคนที่ปลุกอารมณผมใหรอนแรงขึ้นจะถูกใจกับปฏิกิริยาของรางกายผมที่ตอบโตกลับ ทําใหอีกฝายรุกหนักขึ้น มือ ลิ้น ริม


ฝปากตางละเลงไปตามเรือนกาย ถึงแมจะเพิ่งลืมตาตื่นแตตอนนี้ผมก็ถูกมอมเมาอีกครั้งดวยอารมณพิศวาสอันรอนแรงที่อีกฝาย
มอบให มือหนาบีบเฟนที่บั้นทายของผมอยางหนักหนวงกอนมันจะสอดแทรกเขามาภายในเพื่อเบิกทาง บอกไมถูกวาอะไรที่ทําให
สมองผมขาวโพลน นิ้วเรียวที่ขยับเขาออกอยางเชื่องชา หรือปลายลิ้นที่ตวัดเลียบนแกนเนื้อซึ่งพองตัวขึ้นมาอีกครั้ง หรือปลายนิ้วที่
บีบปยอดอกของผมอยู ไมวาจะดานหนา ดานหลัง สวนบนหรือสวนลาง ตางถูกกระตุนจนไฟสิเนหาพุงเขาใสผมจวนจะแหลกเปนจุล
อยูลอมลอ

“อา...”
“โอว...วินดี.้ ..” ที่คิดวาเสียวสยิวมากพอแลวกลับไมใชเมื่อแกนเนื้อใหญสอดแทรกเขามาแทนที่นิ้วเรียว นั่นทําใหผมสะดุง รางกายปริ
ราวราวกับจะแตกออกมาเปนเสี่ยงๆ

“เจ็บไหมครับ...”

“อะ...อืม...” เสียงตอบโตกลายเปนเสียงอูอี้ในลําคอเมื่อริมฝปากหนาประกบเขามาปดโอกาสไมใหคําพูดของผมเล็ดลอดออกมา ลิ้น


อุนสอดสายตวัดรัดนัวเนียกับลิ้นผมอยางเรารอนรุนแรงอีกครั้ง มืออุนโรมรันปลุกทุกสวนประสาทของรางกายใหตื่นตัว สะโพกขยับ
เขาออกเปนจังหวะอยางตอเนื่อง

“ซีสสส...วินดี.้ ..อาร...พี่เสียว...” เสียงครางต่ําอยางกระสันชวยเพิ่มอารมณผมใหทยานไปพรอมกับสะโพกหนาที่กระแทกเขามาไม


หยุดหยอน

“อา....โอว....” เมื่อความเจ็บราวแปรเปลี่ยนเปนซาบซานหวามไหว รางกายก็เริ่มแสดงปฏิกริยารวมไปกลับอีกฝาย จมดิ่งลงในไฟรัก


ที่กําลังแผดเผาเราทั้งคูไปพรอมๆ กัน

“อา...วินดี.้ ..”

“อืม...พี่ครับ...” ความเสียวซานจากรางที่ถาโถมเขามาทําใหผมเดงสวนรับทุกสัมผัสอยางไมรูตัว นิ้วมือจิกที่ไหลหนาดวยอารมณที่


กําลังกระเจิดกระเจิง การตอบสนองของผมทําใหอีกฝายรุกหนักขึ้น กระแทกเขาออกรุนแรง เสียงเนื้อกระทบเนื้อผสมกลมกลืนไปกับ
เสียงครวญครางของเราทั้งสอง

ทวาทามกลางอารมณที่กําลังพุงขึ้นสูจุดสูงสุดอยูนั้นเสียงเรียกสายก็ดังขึ้น นัยนตารอนแรงดวยไฟปรารถนาสบตากับผมกอนจะกม
ลงจูบพรอมกับสะโพกที่ยังคงขยับเขาออกอยางตอเนื่อง

“วาไง” หากแตพอถอนริมฝปากออกจากผม ไอพี่บากลับกดรับโทรศัพทซะงั้น ผมตองรีบเอามือปดปากไมใหเสียงซึ่งเกิดจากกิจกรรม


รวมรักของเราเล็ดลอดออกไปใหผูที่อยูปลายสายไดยิน แตเหมือนการถูกทรมานของผมจะเปนที่ชื่นชอบของอีกฝายเพราะพี่เขาเพิ่ม
แรงกระแทกใส แถมยังยิ้มมุมปากอยางถูกใจ

“ดี” คําพูดสั้นๆ พรอมกับแกนเนื้อที่ขยับออกเกือบสุดกอนจะกดสงเขามาใหมอีกครั้งอยางแรงเร็ว

“อะ...” ไมไหวเกินจะทนจนเผลอปลอยเสียงใหเล็ดลอดออกมาพรอมกับความรูสึกแนนลึก...ไอพี่บา นี่กําลังแกลงผมอยูใชไหม

“เรื่องนั้นไมตองหวง ฉันจะขึน้ เหนือดวยตัวเอง” น้ําเสียงนิ่งเฉย หากปากกลับยิ้มใสแววตาดุๆ ของผมอยางไมกลัวเกรง มากไปกวา


นั้นขณะที่หูฟงคําพูดจากปลายสาย มือหนาก็เริ่มปวนเปยนกับเจาหนูของผม นั่นยิ่งทําใหผมอยากฆาคนตรงหนาขึ้นมาทันที
“หึหึ” ไมแนใจวาน้ําเสียงหัวเราะนั่นมาจากบทสนทนาหรือเห็นทาทางทุรนทุรายของผมกันแน แตมันมากเกินไปแลวนะ ไมรูวาดวย
อารมณกรุนจากการถูกแกลงหรืออะไรกันแนที่ทําใหผมขมความอาย ชันศอกขึ้นกับที่นอน เมมปากแนน ขมความสุดเสียวที่ทะลัก
เขามาเมื่อขยับตัว นัยนตาขี้เลนนั่นมองผมอยางสงสัยหากแตก็ยอมหยุดขยับสะโพกอยูชั่วขณะเมื่อผมประคองตัวเองขึ้นนั่งบนตัก
ของอีกฝาย โอบแขนรอบลําคอกอนจะเปนฝายขยับขึ้นลงบาง

“อา...พี่...ครับ...” ครวญครางใสหูของพี่เขาแผวเบาอยางยั่วเยา

“อืม...” เสียงของผมคงไปกระตุนอารมณของแกเขาใหแลวเพราะไอพี่ทองเผลอครางเสียงต่ําในลําคอ ตอบติดๆ ขัดๆ กลับไปยัง


ปลายสาย

“อะ...เริ่มแผน...ขั้น...ตอไป...ไดเลย...” นั่นยิ่งทําใหผมไดใจ จูบใบหูพี่เขาพรอมกับครวญครางเสียงกระเสาอยางยั่วยวน

“อะ...อา...พี่ครับ...” ขนที่ลุกกรูพรอมกับกลามเนื้อเกรงแนนทําใหผมลอบยิ้ม แตก็ไดไมนานเพราะถูกฝามือหนาฟาดเขาที่กนของผม


เต็มๆ ถึงไมแรงมากนักแตก็ทําใหสะดุงไดเหมือนกัน

“แคนี้นะ” ไมรูวาคุยธุระเสร็จแลวหรือยัง แตที่แนๆ ไอพี่ทองปดโทรศัพทแลวโยนมันทิ้งไปมุมไหนของหองก็ไมรูกอนหันหนาโหดๆ


แบบหื่นๆ มาทางผม

“วินดี้แกลงพี่หรือครับ” ถามดวยน้ําเสียงสุภาพแตนัยนตาคาดโทษ

“ก็ใครเริ่มกอนละ” ผมเชิดหนาขึ้นอยางไมยอมแพ

“นั่นไมใชประเด็น...แตในเมื่อวินดี้เริ่มแลว...ก็มาตอใหจบเลย” แลวมันก็เปนไปตามความตองการของไอพี่หื่นเพราะหลังจากที่แกพูด
จบผมก็ไมมีโอกาสไดเอยคําใดๆ ออกมาไดอีก ริมฝปากหนาบดขยี้เรียวปากของผมอยางรอนแรงดุดัน สมองผมเริ่มขาวโพลนอีกครั้ง
มีเพียงเสียงครวญครางอยางกระสันมาแทนที่เมื่อถูกรุกหนักจากแรงที่ถาโถมเขาใสอยางหนักหนวง

ผมไมรูหรอกนะวาทําไมอารมณของไอพี่ทองในเชานี้ถึงไดรอนแรงนัก แลวผมก็ไมรูวารางกายของผมเปนบาอะไรที่ไปตอบสนองพี่
เขาอยางเต็มใจ ไมวาจะถูกจับพลิกคว่ําพลิกหงายรางกายผมก็เหมือนจะตอบรับอีกฝายอยางรูหนาที่

“อะ...วิน...ไมไหวแลว...” ไมแนใจวาเสียงของผมที่เปรงออกมาจะไปกระตุนอารมณรอนแรงของอีกฝายใหกระเจิงยิ่งขึ้นหรือเปลา แต


ก็ทําใหแรงถาโถมของพี่เขาดุดันมากขึ้น ดวยความเสียวที่พุงทยานทําใหผมเดงสวน ขยับสวนรับใหเขาแนบชิด

“โอว...วินดี.้ ..เกงมากเลยที่รัก...อืมมมม” เสียงรองตอบ พลางกระแทกรางใสอยางหนักหนวงรุนแรง


“อะ...อา....”

“วินดี.้ ..พี่ก็จะไมไหวแลว...ซีดส...” เราครางระงมเมื่อใกลถงึ สุดสายปลายรุง กอนวินาทีที่รางกายของเราทั้งสองจะกระตุก พี่เขาก็


โนมใบหนาลงมาประกบปาก ลิ้นอุนตวัดรัดลิ้นผมอยางดื่มด่ําเรารอน ความช่ําชองนั่นทําใหผมจูบตอบอยางเต็มอารมณ แลวเมื่อ
แรงกระแทกสุดทายมาถึงผมก็ตองกรีดรองสุดเสียงเมื่อความเสียวซานพุงชนจนรูสึกวารางจะฉีกออกมาเปนเสี่ยงๆ พรอมกับอุนวาบ
ในกายเมื่อน้ํารักของพี่เขากระเซ็นเขามาเชนเดียวกับหยาดหยดของผมที่ไหลทะลัก

“ซี้ดส…วินดี.้ ..วิเศษที่สุดเลย” กลาวบอกพรอมเสียงหอบเล็กนอยกอนจะซบกายลงบนรางเปลือยเปลาของผม ผมนอนนิ่งอยางหมด


แรง หัวใจเตนรัวเร็ว

“อา...อีกสักรอบไหมครับ...” คําถามของคนที่กําลังถอนแกนเนื้อออกจากตัวผมอยูนั้นทําใหผมฟาดมือเขากับตนแขนของเขา

“หึหึ” ไอพี่หื่นยังมาหัวเราะอีก แถมมาทําหนาทําตาใสผมอีกตางหาก ไมอยากสบตากับแกครับเลยเอาหมอนมาปดหนาไว ปลอยให


แกจัดการทําความสะอาดกับคราบรักจากรางกายของเราทั้งสอง

“อายอะไรหึ...คนดี...เราออกจะเขากันไดดีขนาดนี้” ไมอายไดไงเลา เมื่อพายุอารมณพัดผานก็แทบไมอยากนึกถึงเลยวาผมทําอะไร


ลงไปบาง

“วินดี”้ ไมตองมาทําเสียงออนเลย

“เงียบ...แลวนอนนิ่งๆ ยั่วพี่แบบนี้ ลักหลับอีกสักรอบดีไหม”

“ไอพี่บา...นี่...นี่...นี…
่ ” จับหมอนมาฟาดแกดวยความโมโห พอสติมา ปญญาก็เกิด สมองทบทวนถึงสิ่งที่เพิ่งผานมาดวยใบหนาแดง
ซาน...นี่แกมาทํากับผมแบบนี้ไดยังไงแถม...มัน...มัน...ยัง...

“โอย...ที่รัก...พี่เจ็บ...”

“ตีใหตายเลย ใครใชใหมาแกลงวินหะ...แลว...แลว...ทําไม...ถึงได...รอนแรงแบบนี้...” พูดออกไปแลวครับ สิ่งนาอาย แตมันนาขาย


หนามากกวาเมื่อตัวผมเองก็ตอบรับดวยสัมผัสอันรอนแรงไมแพกัน...อาก...ไมอยากคิดวาตัวเองทําลงไปไดอยางไร

“ก็พี่เก็บกดอะ อารมณคางตั้งแตเมื่อคืนแลว จะวาไปวินดี้ก็มีสวนนะ อยากยั่วพี่ดีนัก เลยจัดการซะเลย”

“ยั่วบายั่วบออะไร ก็นอนแบบนี้ทุกวัน”

“ก็วินดี้ตอนหลับนาฟด เอย...นารักอะ” มันเปนเหตุผลที่ฟงขึ้น พอจะรับพิจารณาลดหยอนโทษไดไหมครับ ผมมองแกตาขวางพี่เขา


เลยยิ้มแหงๆ มาใหกอนสงสายตาเวาวอนพรอมน้ําเสียงออดออนจนนาหมั่นไส

“ไมเอานาที่รักไมโกรธกันนะ พี่มีขาวดีมากบอกดวยนะ งานพี่เรียบรอยแลวนะครับ วันนี้พี่มีเวลาใหวินดี้ทั้งวันเลย อยากเลนน้ําไมใช


หรือ เดี๋ยวเราไปดําน้ํากันเนอะ หรือวินดี้อยากไปไหนเดี๋ยวพี่พาไป ปะ..ปะ..ไปอาบน้ําเตรียมตัวกันดีกวา อยูบนเตียงนานๆ เดี๋ยวพี่
เปลี่ยนใจมาปล้ําวินดี้อีกรอบไมรูดวยนะ”

“เฮย...ไอพี่ทอง...ปลอยวินนะ...” ถูกบังคับอีกแลว ยังไมทันไดตอบรับหรือปฏิเสธก็ถูกคนเอาแตใจอุมเขาหองน้ําไปแลวเรียบรอย


แลวเหตุผลที่บอกวากลัวจะเปลี่ยนใจมาปล้ําผมนะไมจริงเลยเพราะผมก็เสร็จแกอีกรอบในหองน้ําเหมือนเดิม แถมพอมองตัวเองใน
กระจกแลวอยากรองออกมาดังๆ...ไอพี่หื่น...พี่บา...พี่ลามก...มาทิ้งรอยไวเต็มตัวแบบนี้ผมจะลงเลนน้ําไดยังไง!!!

วันหนึ่งวินดี้บอกวาอยากเปลี่ยนตัวเอง เปลี่ยนยังไงผมก็ไมเขาใจหรอกครับ แตสงสัยไดไมนานก็ไดคําตอบเมื่อนองตรงไปยังรานตัด


ผม เจาของรานก็เปนคนที่ผมรูจักเพราะเปนลูกคาประจํา พอเจแกเห็นวินดี้แลวทําทาดี๋ดามากเลยครับ จับนองหมุนซายหมุนขวา จีบ
ปากจีบคอเสนอทรงผมที่เขากับหนาของนอง วินดี้ก็ยิ้มหวาน เออออไปกับเขา พอตัดเสร็จเรียบรอย สิ่งแรกที่ผมอยากทําคือตะโกน
ดังๆ ออกไปวา

“ใครมีคาถาเสกคนใหตัวเล็กบาง กูขอหนอยยยยยย” จะเอามาเสกวินดี้ใหเปนจินนี้แลวจับยัดลงกระเปาเก็บไวดูคนเดียวอะครับ

เด็กบาอะไรไมรู ไมวาจะทําอะไรแบบไหนก็นารักโครตๆ เลย ผมตัดซอยโชวตนคอขาวทางดานหลัง สวนดานหนาสไลทเหนือคิ้วแลว


ไลลําดับลงมา ไฮไลทสีผมอีกตางหาก ไมรูเจเจาของรานไปถอนขนคิ้วที่ไมเปนระเบียบใหดวยหรือเปลา มันเลยชวยสงใหนองที่หนา
หวานอยูแลว หวานเพิ่มขึ้นไปอีก ตาโตกลมใสกับลักยิ้มบนแกมนั่น...โอย นารากกกกก

“มันเปนยังไงอะครับ” พอนองเห็นผมอึ้ง วินดี้ก็ถามดวยน้ําเสียงไมคอยมั่นใจครับ ผมเลยแกลงตบหนาผากตัวเอง ปนสีหนาผิดหวัง


สุดๆ

“จะเอาความจริงหรือโกหก”

“เอาความจริงดิ” ความจริงอยางนั้นหรือ หากบอกวานารักคงถูกนองทําหนาบึ้งใส จะบอกวาหลอมันก็ไมใช งั้นเอาแบบนี้แลวกัน

“วินดี้ไมใชคนหลอ...แต...ไมวาจะทําอะไรก็ทั้งหลอและนารักในสายตาพี่”

เมื่อเชาแอบใชวิชามารลักหลับวินดี้ครับ แตไมใชความผิดผมนะในเมื่อนองรายมากอน แกลงยั่วผมจนเลือดหื่นไหลทะลัก ถาไมเชื่อ


เดี๋ยวผมจะเลาใหฟงนะครับ

อยางที่รูๆ กันวาผูชายสุขภาพดีปรกติตอนเชาสิ่งที่โชวสมรรถภาพความเปนชายมันจะตั้งโด เพราะฉะนั้นไอคินนอยของผมมันก็เลย


ตื่นกอนพอมันเปนธรรมดา คราวนี้นองก็ใชมารยา ขยับตัวยุกยิกๆ เสียดสีกับเจาหนูของผม แถมเอาริมฝปากมาถูๆ หนาอกอีก พอ
ผมกมหอมแกมนองหนอย วินดี้ก็เหยียดปากคลายยิ้มบางๆ ใหผมเปนเชิงบอกวาถูกใจ ไมพอยังพลิกตัวนอนหงายใหปากจิ้มลิ้มนา
จูบนั่นตามมายั่วยวนผม แลวพอผมประกบปากนองก็จูบตอบกลับมา

เปนไงครับ แบบนี้เรียกวายั่วกันเห็นๆ ใชไหม ผมนะชายไทยอกสามศอกนะครับ ฆาไดแตหยามไมได ในเมื่อนองมาทาทายกันขนาด


นี้ มีหรือผมจะยอม เลยจัดการสั่งสอนซะ วินดีเ้ ลยเรียบรอยกองทัพนาคินทร ถูกยิงดวยกระสุนปนใหญเขาไปสองนัดติดๆ กัน ใจ
หมายจะยิงนัดที่สามใสนอง แตดันถูกแมนางทั้งหาของวินดี้ฟาดเขาเต็มไหลจนแสบไปหมด ดีที่นองยังปรานีไมตบหนาหันใหกับ
ความหื่นที่ไมบันยะบันยังของผม

หากแตผมยังทําปากดี แหยนองไปวาชอบแบบซาดิสตก็ไมบอกพรอมยักคิ้วยั่วเยาใหอีกฝาย วินดี้เลยตอบสนองอยางสมใจ ปลอย


หมัดเขาใสทองจนตองงอตัว ลืมไปวาถาวินดี้เขินมากๆ แลวจะโหด จําเปนตองเลิกเลน หันมาจริงจัง บอกนองวาที่พูดเมื่อกี้เพราะพี่
รักหรอกจึงหยอกเลนแตถาไดจริงๆ ก็ดีนะ นั่น...ยังไมวายทิ้งทายตามประสาคนหื่น วินดี้เลยเปลี่ยนจากตอยมาหยิกจนเนื้อเขียว เชา
นี้ของผมเลยเผ็ดเดือดรอนแรงอยางไมนึกฝน

เหมือนเรื่องมันจะจบใชไหม แตเปลาเลย เมื่อวินาทีที่นองเห็นรอยรักที่ผมฝากไวบนตัว ที่รักผมก็สวมวิญญาณ วินดี้ ป. ประมุข เตะ


นาคินทรดวยลําแขง ไลตอนเขามุมดวยหมัดทะลวงไส พอไดจังหวะก็โนมคอลงกระทุงเขากอนปลอยทาไมตายสับดวยศอกมหาชน
รางบึกบึนเต็มไปดวยกลามเนื้อของผมเริ่มโงนเงน วินดี้ ป. ประมุขไมรอชากระโดดจระเขฟาดหางเพื่อใหนาคินทรลงไปนอนนับดาว
อยางสิ้นฤทธิ.์ ..วินดี้โหดราย ทําไมถึงทํากับผมได!

เชื่อในสิ่งที่ผมพูดหรือเปลาครับ อยาเชื่อดีกวาเพราะความจริงเมื่อครูแคพูดใหเวอรเพื่อเรียกรองความสงสารไปงั้นแหละครับ แหม...


ที่รักผมก็ไมไดโหดถึงขนาดนั้น นองแคกระทืบเทาปงๆ อยางไมพอใจ งอนผมที่ทําใหนองตัวแดงไปทั่วรางเทานัน้ เอง แลวก็มีพยศนิด
หนอยแตพองอมากๆ หนอย นองก็ใจออนแลวครับ

ในที่สุดวินดี้ก็ไดเลนน้ําสมใจเพราะผมเอาเรือยอชตออกพานองทองทะเล วินดี้ก็ดําผลุดดําวายดูปะการังอยางสนุกเชียว พอเหนื่อยก็


ขึ้นมาพักนอนดูฟา ฟงเสียงนก คุยกันกระหนุงกระหนิงตามประสาคนรัก กอนเริ่มซาตอ ดีหนอยที่ผมเอาเรือสกูตเตอรมาดวยเลย
ถูกใจวินดี้เขาใหอีก นองก็วาดลวดลายขับโฉบเฉี่ยวไปบนผืนน้ําอยางสนุกสนานแถมมีหันกลับมาหัวเราะเยาะที่ผมตามนองไมทันอีก
ตางหาก เห็นแลวตองอมยิ้มพรอมกับสายหนา แตก็ยอมรับวาดีใจครับที่ทําใหนองหัวเราะได แถมยิ้มแยมอยางแจมใสอีกดวย เพียง
เทานี้ผมก็มีความสุขคับอกแลวละ เราใชเวลาดวยกันทั้งวันจนสิ้นแสงตะวันเมื่อพระอาทิตยตกน้ํา...วันนี้ชางเปนชวงเวลาที่วิเศษ
จริงๆ เลยครับ

สุดทายคนเกงของผมก็หมดพลัง หลับซบไหลผมอยางเปนสุข ผมเอื้อมมือไปปดปอยผมที่ลงมาปกหนาออกใหนองอยางนุมนวล


มองดูคนที่หนุนแขนซึ่งตอนนี้ผิวคล้ําลงหนอยๆ เพราะตากแดดมาทั้งวัน แตก็ไมไดลดความนารักลงเลยแมแตนอย แกมนวลเปนสี
มะเขือเทศนั่นยังคงยั่วยวนใหกมริมฝปากลงไปหอมอยูเชนเคย
“ฟอดดดด” อยางที่รูๆ กันวาผมไมเคยอดใจไดสกั ครั้ง เผลอทีไรเปนตองกมหนาลงสูดความหอมกรุนอยางใจปรารถนา...อา รักนอง
จัง

“วินดี.้ ..ตื่นเถอะครับ…เครื่องจะลงจอดแลวนะ” ไมอยากปลุกเลย แตคงตองจําใจเพราะตอนนี้เราทั้งสองอยูบนเครื่องบินซึ่งลอยลํา


อยูบนฟาเพื่อนําเราทั้งคูมุงตรงสูกรุงเทพฯ ชวงเวลาแหงการรําลึกความหลังซึ่งมีทั้งสุข ทุกข วุนวายสับสน หลากปญหาใหตามแก
ตลอดสามคืนสี่วันบนเกาะภูเก็ตไดสิ้นสุดลงแลว

วินดี้เพียงแคขยับตัวเล็กนอยเมื่อผมเขยาตัวนองเบาๆ พรอมกับสงเสียงรบกวนการหลับใหล ตาของนองยังหลับพริ้ม ซุกหัวลงกับ


ซอกคอผมมากขึ้น แขนเรียวเอื้อมมือมาโอบเอวผมไวแนบแนน คลอเคลียไมยอมตื่น ผมอมยิ้มดวยความเอ็นดูใหแมวนอยจอมขี้เซา
ที่รักผมจะเปนแบบนี้เสมอแหละครับ นองจะขี้ออน นารักมากเลยตอนตื่นนอนใหมๆ แลวถาขออะไรชวงนี้ก็ใหหมดเลยครับ ไมเชื่อ
คอยดูนะ

“วินดี้ จุบจุบ หนอยเร็ว” ผมกระซิบคําขอแลวนองก็ทําปากจูใหผมจูบดวยความเต็มใจ นาฟดมากเลยใชไหมละ ผมกมไปจุบปากนอง


เบาๆ อยางแสนรัก เสียดายที่เราไมไดอยูในที่รโหฐานไมงั้นจะจูบดูดดื่มแลวใหรางวัลคนนารักสักยกสองยก

“สัญญานไฟขึ้นแลว เดี๋ยวถูกแอรดุเอาไมรูดวยนะ ลุกขึ้นนั่งกอนเร็ว เดี๋ยวพี่ปรับเบาะคาดเข็มขัดใหนะครับ” วินดี้จําใจงัวเงียขึ้นจาก


ไหลผม นั่งนิ่งบนเบาะของตัวเอง ไมพูดไมจา ทําหนาจิ้มลิ้มเหมือนตุกตาเลยครับ ผมอมยิ้มพรอมกับเอื้อมมือไปคาดเข็มขัดและปรับ
ที่นั่งของนองใหตรง

คงอีกสักพักแหละครับกวาวินดี้จะตื่นเต็มตัว วันนี้ยิ่งตากแดดตากลมเหนื่อยมาทั้งวันคงใชเวลาชารตแบตเติมพลังงานนานกวาปรกติ
ตั้งแตคบกันมา ไมเคยมีครั้งไหนที่วินดี้ลุกจากเตียงกอนผม ถึงปลุกใหตื่นนองก็งัวเงียอยูครูใหญ ผมก็ไดกําไรไปครับ จะกอดจะหอม
หรือทําอะไรนองไปเคยขัดสักที แตปรกติก็มักใหเวลานองฟนตัวแหละครับ แลวตัวเองก็เขาไปอาบน้ํา ทําธุระสวนตัว พอออกมาวินดี้
ก็ตื่นเต็มตาแลว ถาอยูคอนโดนี่หานองไมยากครับเพราะพอตื่นทีไรเปนตองวิ่งแจนไประเบียงหลังหอง รดน้ําตนไมทุกที

เวลานี้สมองนองคงจะตื่นตัวในระดับหนึ่งแลวละเพราะวาเริ่มหันมองรอบตัว กอนจะกลับมาจองมองผมนิ่งๆ แลวนัยนตาโตๆ ของ


นองก็เบิกโพลงพรอมกับแกมใสๆ จะแดงแปรดขึ้นมาทันที ฮาฮา คงรูตัวแลวสิวาเผลอทําอะไรประเจิดประเจอในที่สาธารณะนะ ไอ
ตัวผมไมเคยแครอยูแลวละครับ ดีซะอีกพวกที่นั่งรอบขาง จะไดรูวานองเปนของผม เห็นแอบมองนองมันตั้งแตขึ้นเครื่องแลว

ผมทําปากจูกอนสงจูบใหวินดี้ บอกเปนนัยวาเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นบาง ตาโตๆ ของนองยิ่งโตขึ้นไปอีก กอนจะรีบกมหนาหงุดซบลงกับ


ฝามือ สายหัวไปมาอยางเอาเปนเอาตาย นี่คืออาการอายของวินดี้ครับ หนาแดงแกมแดงลามไปถึงหู แลวก็ไมกลาสูหนาใคร

“หึหึ” อดขําไมได แมวลูกเสี้ยวของผม อายมวนตัวเปนเกลียวไปแลวเรียบรอย

“เครื่องจอดแลวนะ...ลุกเร็ว” วินดี้สายหนา ยังไมยอมเงยขึ้นจากตักตัวเอง


“ไมมีใครรูจักเราหรอกครับ เดี๋ยวออกไปขางนอกก็ตัวใครตัวมันแลว” พูดพลางกลั้นยิ้มไวอยางสุดกําลังเลยครับ

ถึงจะตลกทาทางของนองแตก็ตองปลอบใหวินดี้คลายใจ แตยังไงนองก็รอใหคนซาแลวนั่นแหละครับถึงไดยอมเงยหนาขึ้น พอลุกได


ก็กมหนาหงุดๆ เดินนําลิ่วๆ ไปกอนเลย เห็นแลวขําครับ เลยปลอยเสียงหัวเราะตามนองไปหางๆ สนุกดีครับเวลาไดแกลงวินดีใ้ หอาย

พอกลับถึงหองวินดี้ก็ตรงลิ่วไปโนนเลยครับ ระเบียงหลังหอง หายไปหลายวันคงจะเปนหวงตนไม ดีนะที่ตนโฮยานั่นไมอยูแลว คราว


นี้ก็ชื่นใจไดบางที่นองรีบไปดูตนรักแรกพบของเรา ใจจริงอยากบอกนองวา มารดน้ําตนรักในใจพี่สักจวบสองจวบใหสดชื่นกอน แต
คดีสดๆ รอนๆ ที่กอบนเครื่องเมื่อสักครูยังติดตัวอยู เลยไมกลาซามากเทาไหร เดี๋ยวนองกลายรางเปนวินดี้ ป. ประมุข ขึ้นมาจริงๆ
แลวละก็...แคคิดนาคินทรก็สยองแลวครับ

ผมเดินเขาไปในครัวแลวรินน้ําสมใสแกว กะวาจะเอามาใหนองที่ระเบียง แตตอนนี้วินดี้เขามาในหองนอนแลวครับ กําลังกมๆ เงยๆ


เอาของออกจากกระเปาเดินทาง

“ไมตองเอาของพี่ออกจากกระเปาก็ไดนะครับ” ผมบอกพรอมกับยื่นเครื่องดื่มให วินดี้เงยหนาขึ้นมารับแกวน้ําสมไปจิบ

“ทําไมละ” วาพลางสงคืนใหผม

“พรุงนี้พี่ตองขึ้นเหนือ เอาแคเสื้อผาตัวใหมใสเขาไปก็พอ” ผมยกแกวน้ําสมที่เหลือจากนองดื่มแลวขึ้นจอปากกอนจะกระดกดื่มจน


หมดแกว

“อืม...” นองขานรับในลําคอแลวจัดการใหอยางที่ผมบอก

“ไปกี่วัน”

“สองวัน”

“ตัวนี้ไดไหม” นองถามขณะหยิบเสื้อเชิ้ตออกมาจากตู

“อืม...เปลี่ยนเปนเสื้อยืดธรรมดาดีกวาครับ เอาที่เกาๆ หนอยแลวกัน” นองเลิกคิ้วเมื่อไดยินผมวาอยางนั้น

“จะไปทําไรหรือไปทําอะไรเนี่ย” นองถามเมื่อผมเดินไปหยิบเสื้อลายขวางสีดํามอซอกับกางเกงยีนสขาดๆ มายัดลงกระเปาเพิ่มจากที่


นองจัดให

“หึหึ ไปเปนโจรปาครับ”
“หือ...มินาละ ไมเห็นโกนหนวดโกนเครา เขียวครึ้มเชียว” พอนองวาอยางนั้นผมเลยใชมือลูบคางตัวเอง ไมไดโกนมาสองวันแลวครับ
มันขึ้นครึ้มอยางที่นองวาจริงๆ นั่นแหละ

“วินดี้ชอบแบบไหนครับ หนาใสกิ๊ก กับไวเคราหนอยๆ ดูคมเขม”

“แบบไหนก็ชอบทั้งนั้นแหละ แตไมตอ งมาเปลี่ยนเรื่องเลย บอกมา...ตกลงจะไปไหนกันแน” วา...ยังไมทันไดเลื้อยเลย ถูกดักทางซะ


งั้น ตองโทษตัวเองที่เผลอปากเรื่องเสื้อผากับนอง วินดี้เลยสงสัยเลย

“ไปเชียงรายครับ ตองเขาไร เลยอยากแตงตัวใหเขากับสถานที่หนอย ใสสูทผูกไทมันก็ยังไงอยู” ไปไรจริงๆ ครับ แตมีเหตุใหตองไป


แบบคนงานในไร เลยตองใหแนบเนียนหนอย

“ใหมันจริงเถอะ”

“จริงสิ ถามรามิลก็ได รายนั้นก็ไปดวยกัน รันก็ไปนะ”

ธุระสําคัญและมันจําเปนจริงๆ ครับ เพราะนักกฎหมายของบริษัทจะแจงความจับอานนทในอีกไมกี่วันนี่แลว ทวาลุงพจนซึ่งเปนพอ


ยังไมรูเรื่องเลย แกเปนคนเกาแกที่อยูกับพอมานานครับ พอลําบากใจกับเรื่องนี้มาก ผมจึงตองอาสาไปบอกเรื่องลูกชายของแกดวย
ตัวเอง อีกอยางดูแลวมันไมคอยนาไวใจเทาไหรสําหรับความปลอดภัยของลุงพจน ผมไมรูวาทางโนนนอกจากใชเรื่องหนี้สินมาบีบ
แลว ยังใชอะไรมาตอรองกับอานนทอีก แตเทาที่สายของคเชนทรรายงานมา มันทําใหผมอยูนิ่งเฉยไมได เลยตองปลอมตัวเขาไปใน
ไรเพื่อใหไมตกเปนที่สงสัยของคนที่จับตามองอยู

“พี่จะรีบไปรีบกลับนะครับ แลววินดี้ละ พรุงนี้ไปไหนหรือเปลา”

“ที่จริงวันนี้ตาก็โทรมา บอกวาพรุงนี้ใหเขาไปหาหนอย วินวาคงจะเรื่องพี่ชายคนใหมของวินนั่นแหละ” นองบอกขณะเดินไปทิ้งตัวลง


บนที่นอน ใชมือรองศีรษะ มองเพดานอยางเลื่อนลอย

“ไหวไหม” ถามขณะเดินไปนั่งลงขางๆ นอง กอนเอนกายลงนอนในทาเดียวกัน

“ไมไดแบกอะไรไวนี่ ทําไมจะไมไหว”แหนะ ยังมีอารมณเลนอีก

ผมยื่นมือไปขยี้หัวเด็กปากเกงที่แสรงทําเปนเขมแข็ง มันคงยากสําหรับวินดี้สักหนอยละครับ ยิ่งตองกลับไปเจอครอบครัวใหมของแม


ที่อยูพรอมหนาพรอมตากัน นองก็คงจะอดรูสึกวาตัวเองเปนสวนเกินไมได และที่สําคัญ มันไปสะกิดแผลในใจของนองที่พยายาม
เยียวยารักษามานาน
“ถารับไมไดก็อยาฝนตัวเองนะครับ...จริงสิ กอนกลับ พอพูดอะไรกับวินดี้หรือ” บอกนองอยางเขาใจกอนจะหันมาคุยเรื่องของพอ
เปลี่ยนเรื่องดีกวาครับ เผื่อวินดี้จะรูสึกดีขึ้นมาบาง อยากใหนองรูวาถึงพอของวินดี้จะจากไปแลว แตก็ยังมีพอผมที่รักและเอ็นดูนอง
ไมแพกัน

“อยากรูจริงหรือ” น้ําเสียงของนองเริ่มสดใสขึ้นมาบางขณะที่ถามผมกลับ

“งะ...ไปวางแผนอะไรพิเรนทรๆ กับพอพี่ละสิ ถึงไดถามแบบนี้” ผมถามดวยความระมัดระวังเพราะนัยนตาของนองไมนาไววางใจ


เลยครับ มันวิบวับๆ แวววาวชอบกล

“ก็ไมมีอะไรมากหรอก พอแคบอกวาเดี๋ยววางๆ จะพาวินไปซอมหมัดมวย ” อืม...พอเขาใจวาพอคงไมอยากใหนองเปราะบางอยาง


ไขในหิน หากมีอะไรเกิดขึ้น อยางนอยวินดี้ก็รูจักปองกันตัวเอง อันนี่คือคิดในดานดีนะครับแตมันตองมีบางอยางแอบแฝงอยูแนๆ

“พอบอกวาอยากซอมยิงปนก็ไดดวยนะ แถมสอนปามีดใหอีกดวย” ยิงปน ปามีด ทําไมมันฟงนากลัวจัง คุณๆ คิดอยางผมไหมครับ

“วินก็วาดีนะ วางๆ วินจะใหพี่มาเปนคูซอมให”

คําพูดนี่ไมเทาไหรหรอกครับ แตรอยยิ้มหวานๆ ที่สงมาใหกับนัยนตาวิบวับๆ นี่สิทําเอาสะดุงเลย คูซอมแบบไหนคราบที่ราก เสียวสัน


หลังวาบ ดูทานองจะสวมวิญญาณวินดี้ ป. ประมุข อีกแลวละ ตายแนเลยผม ขนาดไมเกงหมัดมวยยังเลนซะนวมขนาดนี้ แลวนี่ยัง
จะจับปน ถือมีดอีก

ไมไดการแลวละครับ รีบเหลือบตาไปหาเพื่อนคูชีวิตที่ติดตัวมาตั้งแตเกิดพรอมสงกระแสจิตถึงมัน โอ...คินนอยลูกพอ เอ็งจงฟงไว


อยาดื้อ อยาซน ทําตัวดีๆ ไมงั้นจะกลายเปนของเลนในปากเปดเปนแนแท...กาบ กาบ

ผมตื่นขึ้นมาในตอนเชาก็ไมเจอไอพี่ทองแลวครับ พี่เขาไปโดยไมบอกผมอีกแลว ทําเอาอารมณเสียหงุดหงิดตั้งแตเชาเลย ทวาหาก


พอเดินเขาไปในหองน้ําแลวเห็นแปรงสีฟนมียาสีฟนปายอยูก็ทําใหหนาหายบึ้งไดบาง หากแตไมใชวาจะหายงอนนะ แลว
พอประมาณเจ็ดโมงครึ่งพี่แกก็สงขอความเขามาครับ บอกวาถึงที่หมายเรียบรอยแลว นั่นถึงทําใหผมยิ้มได รูสึกโลงใจที่แกไปคราวนี้
ดีกวาแอบหนีผมไปอยางคราวกอน

ผมยังจําไดไมลืม คนอะไรใจรายมาก ไปตอนไหนก็ไมปลุกกัน แถมยังไมยอมติดตอมาหาผมตั้งสองวันแหนะ ปลอยใหผมเปนหวง


คิดถึงอยูตั้งนาน แตเมื่อนึกขึ้นมาแลวก็ตองขอบคุณสถานการณแยๆ ในครั้งนั้น เพราะมันทําใหผมคนพบใจตัวเอง

“คนเรายอมจะรูจักคุณคาของสิ่งที่ไดมางายๆ ก็ในวันที่สูญเสียมันไป” มันเปนความจริงที่มักจะเกิดขึ้นเสมอ การที่ใครสักคนเสนอตัว


เขามาในชีวิตของผม ในขณะที่ผมไมทันไดรูจักอีกฝายอยางดีพอนั้น ผมก็ปฏิเสธและก็ตั้งหนาตั้งตาวิ่งหนีเสียแลว ทวาในขณะที่วิ่ง
หนีอยูนั้นผมกลับคอยเฝาสังเกตและระวัง “เงา” ที่อยูขางหลังผมตลอดเวลาอยางไมรูตัว แลวพอวันหนึ่งผมหันหลังไปมองแลวไมพบ
สิ่งที่คอยวิ่งไลผมอยู ผมก็ใจหายและรูสึกเหมือนกับขาดอะไรไปสักอยาง
ในวินาทีที่พี่จากผมและตัดขาดการติดตอกับผมนั้น ผมถึงไดรูวา “หัวใจ” ของผมกําลังวิ่งหนี “ความรัก” ที่พี่มอบให ผมตั้งปอม
ปราการไมใหพี่เขาเขาใกลมากกวาที่ผมจะกําหนดสถานภาพใหอีกฝาย ผมคิดวาตัวเองเปนคนที่คอนขางแข็งกระดางและเย็นชาใน
เรื่องนี้ แตผมเขาใจผิดมาโดยตลอดเพราะความจริงก็คือผมเปนคนออนแอมากจนไมกลาหันไปเผชิญหนากับมันตางหาก แตพี่เขาก็
เปนคนจับหนาผมหันมาเผชิญกับความรักบริสุทธิ์ที่แกมอบให จนผมตองยอมรับวาไดพายแพแลว...ผม “แพใจ” ของตัวเอง

เมื่อมีความรักชีวิตในแตละวันของผมก็เปลี่ยนไป “รัก” ใหความสุขกับผม มันเปนความหอมหวานจนผมเผลอคิดไปวานี่ผมกําลังฝน


อยูเปลา แลวถาผมตองตื่นขึ้นมาเผชิญกับความจริงในสักวัน ความจริงที่วาขางกายผมไมเคยมีใคร ยังคงอางวางอยางที่เคยเปนมา
ผมกลัวจังเลยครับ กลัววาชวงเวลาอันแสนหวานนี้จะจากผมไปในสักวัน

ในชีวิตผมไมเคยอกหักมากอนจึงไมรูวามันยากแคไหนกวาจะขามผานวิกฤตของความเจ็บปวดและหวาดกลัว “การผิดหวังจากรัก”
จนกลาที่จะเริ่มตนใหมและเริ่มที่จะรักใครอีกคน แตชีวิตผมที่เคยสูญเสียผูอันเปนที่รักไป และเหตุการณนั้นมันกะทันหันแถมยัง
เกิดขึ้นตอหนาตอตาผม แลวก็ดวยน้ํามือของผมเอง เทานี้มันก็เพียงพอแลวกับการหวาดกลัวการสูญเสียอีกครั้ง ที่ผานมาผมจึงไม
กลาเอาชีวิตไปยึดติดกับใคร หากวันหนึ่งเขาตองจากผมไปแลวใจที่เคยราวของผมมันจะแตกออกมาเปนเสี่ยงๆ แตจะใหทําอยางไร
ไดละครับ ถึงจะกลัวมากแคไหนแตในเมื่อเผลอตัวรักไปแลว ผมคงตองปลอยใหทุกอยางหมุนเวียนไปตามวัฏจักรของมัน...ผมจะย้ํา
กับตัวเองใหเฝาคิดและยอมรับมันใหไดครับ

หลังจากที่ไอพี่ทองสงขอความบอกวาแกถึงที่หมายแลวผมก็ตอบกลับเปนเชิงตอวานิดหนอย พี่เขาเลยตอบกลับมาแบบไมรูจะยิ้ม
หรือหนาบึ้งดี

“พี่เห็นวินดี้หลับสบายเลยไมกลากวน แลวก็กลัววาถาปลุก กวาวินดี้จะรูสึกตัวพี่คงตกเครื่องพอดี”


ฟงเหตุผลแกสิครับ ผมไมไดขี้เซาขนาดนั้นนะ...ใจรายจัง มากลาวหาผม!

เมื่อไปถึงมหาวิทยาลัยผมก็ตรงไปโรงอาหารเลยครับ เมธกับลูกแพรรออยูที่นั่น พอไปถึงก็เห็นลูกแพรทําหนาอยางคนกลืนไมเขา


คายไมออก สวนเมธกมหนา สองมือประสานกันบนหนาผาก ทาทางเหมือนคนคิดหนัก ปลงไมตกกับชีวิต

“หนาเครียดเชียว คุยอะไรกันอยูหรือ” ผมถามขณะนั่งลงขางๆ ลูกแพร สวนลูกแพรหันไปมองเมธดวยสีหนาลําบากใจกอนจะหันมา


ทางผม อาปากเหมือนจะพูดอะไรสักอยาง แตก็ไมเอยอะไรออกมา

“เฮอ...” เสียงหายใจของเมธครับ มันเงยหนาขึ้น จับชอนมาเขี่ยจานขาวอยางคนสิ้นหวัง แตก็ยังไมอธิบายอะไรใหผมฟง

“เกิดอะไรขึ้น” เห็นทาทางแบบนั้นผมเลยหันไปกระซิบถามลูกแพร
“เมธเลิกกับตรินแลว”

“หะ!” คําพูดตรงไปตรงมาและเขาประเด็นนั่นทําใหผมมองเมธอยางตกตะลึง จริงหรือ...ทําไมถึงเปนแบบนี้ละ สองคนนี้เพิ่งคบกัน


เมื่อวันกอนเองไมใชหรือ แลวมันเกิดเรื่องแบบนี้ไดอยางไร

“ทําไมอะ”

“มันซับซอนนิดหนอยนะ ลูกแพรก็ไมรูจะเริ่มตนเลาใหกุลฟงยังไง”

“คอยๆ เลามาสิ”

“ก็...”

“จะนินทาอีกนานไหม เจาตัวนั่งหัวโดอยูนี่ไมเกรงใจกันหรือไง” ลูกแพรหุบปากในฉับพลัน ยนคอหนอยๆ กอนจะใชมือปดปาก หลบ


ตาลงต่ํา สวนผมเมมเรียวปาก หันไปมองเจาของน้ําเสียงหงุดหงิดที่ทําหนาบอกบุญไมรับ

“ไมอยากใหนินทาก็เลามาดิ”

“ขี้เกียจเลาซ้ํา” อาวไอนี่ มึงจะเอายังไง ไมอยากเลาแตพอเราไปถามคนอื่นทําเปนมีน้ําโห เดี๋ยวกระโดดงับหูเลยนี่

“ลูกแพรยังไมไดซื้อน้ําใชเปลา ปะ ไปดวยกัน พอดีกุลจะไปซื้อขาวดวย”

“ไปสิ...ไป...ไป...” ไมใหนินทาตอหนาแตไปถามเอาลับหลังก็ไดวะ แลวลูกแพรก็เหมือนจะเขาใจความนัยที่ผมสงให เธอจึงรีบลุก


จากที่นั่ง

“ลูกแพร!”

“จา..” เสียงแข็งๆ ของเมธทําใหพวกเราหยุดชะงักกอนลูกแพรจะปนน้ําเสียงหวาดหยดติ๋งยามขานรับ พรอมกับยิ้มประจบอีกฝาย


อยางสุดฤทธิ์

“อยาใสสีตีไขนะ”

“จา...” แลวคนสวยก็ตอบรับเสียงหวานกลับไป กอนจะดึงแขนผมถูลูถูกังฝาฝูงชนอันแนนขนัดในโรงอาหาร...ผมละหนายเพื่อน


ปญญาออนของตัวเอง รูทั้งรูวาพวกผมจะไปคุยเรื่องของมัน ดันไมยอมใหนั่งคุยที่นั่น เลยลําบากผมกับลูกแพรเลย
แลวผมก็ไดรูครับวาอะไรที่ทําใหเมธทําหนาเหมือนคนซังกะตายแบบนั้น เปนผมเองก็คงมึนไมแพเพื่อนผมหรอกครับ ลูกแพรบอกวา
พอถึงมหาวิทยาลัยเธอก็ตรงดิ่งไปเคนเอาความจริงกับเมธ เรื่องที่ทั้งสองไปตกลงคบกันตอนไหน แลวลงเอยกันบนเตียงใหเธอเห็นได
อยางไร ทวาสิ่งที่เมธตอบกลับมาแทบทําใหเธอไมอยากเชื่อในสิ่งที่ไดยิน

เมธเลาวาตรินมีฝาแฝด แลวมันก็เคยมีอะไรกับแฝดผูนอง แลวพอเห็นตรินเมธก็คิดวาเปนคนที่ตัวเองมีอะไรดวย มันก็เลยลากตริน


เขาหอง แลวลูกแพรก็ไปเจอเขา ตอนนี้เมธเลยไมรูวาจะทํายังไงตอไปดี พอไดยินแลวก็อึ้งไปพักใหญเลยครับ ไมคิดวาสิ่งที่ผมกลัวจะ
เปนจริงขึ้นมา รูสึกหนักใจเหมือนกันครับเพราะไมรูจะชวยเพื่อนยังไง ตองใหมันถามใจตัวเองนั่นแหละวาคิดอะไรกับใครยังไง ดูแลว
เมธมันกลุมใจเรื่องนี้มากเลยทีเดียว

หลังจากไดฟงจากปากของลูกแพรแลวผมก็กลับมาที่โตะพรอมกับจานขาว และปลอยใหเปนหนาที่ของลูกแพรจัดการซักไซเมธตอ
ในเรื่องที่ทั้งคูคุยกันคางอยูกอนที่ผมจะมาถึง แลวพอมาถึงเหตุที่ตรินเปนฝายบอกเลิกเมธกอน ใบหนาเห็นอกเห็นใจของลูกแพรก็
เปลี่ยนเปนบึ้งตึงทันที ดูทาเธอคงอยากตอวาเมธและแสดงความเห็นในบางอยาง แตตองยั้งปากไวเพราะเวลาหมดเสียกอน ตองเขา
เรียนกันแลวครับ จําเปนตองยุติการสอบสวนจําเลย

พอเรียนเสร็จพวกเราก็มานั่งที่โตะประจําใตซุมหนาคณะ ผมตองรอตรินมารับ วันนี้ตองกลับบานครับ รับปากกับตาไวแลว สวนลูก


แพรเธอเกี่ยงงอนไมยอมกลับเพราะอยากเจอตรินเหมือนกัน สวนเมธตอนแรกมันก็ลังเล บอกวาจะกลับกอน คงไมอยากสูหนาตริน
ละมั้ง แตลูกแพรดันไปแหยวา

“ฟนเขาแลวคิดจะทิ้งละสิ เลยคิดจะหนีหนา”

คําพูดแรงมากเลยครับ แถมหนาตาคนพูดนี่ไมใหเอาซะเลย สงสัยเจาหลอนจะเจ็บใจแทนตรินเพราะวาทั้งคูสนิทสนมกัน อีกอยาง


ผมคิดวาลูกแพรคงจะเชียรใหเมธไดกับตรินแนๆ พอรูเมธไปมีอะไรกับคนนองเลยฮึดฮัดเอาการ

“ยังไมไดฟนเลย” ไอนี่ก็ตอบตรงประเด็น ไมแครวาใครจะไดยินเลย

“ไมฟนแลวไปทําอะไรกันบนเตียง ลูกแพรเห็นกับตาเลย” ใชๆ ผมก็เห็นนะ ใสผาเช็ดตัวออกมาดวยอะ รอยรักเต็มตัวตรินเลย

“แคเกือบเทานั้น” เมธวาเสียงเบากอนจะยอมนั่งลงบนมานั่งฝงตรงขามกับผม ลูกแพรสายหนา

“ตอนแรกที่ไดยินลูกแพรก็สงสารเมธนะ คงสับสนไมรูวาใครเปนใคร นี่ลูกแพรก็ยังแปลกใจไมหายที่รูวาตรินมีฝาแฝด แตพอเมธวา


ตรินบอกเลิกเพราะไมอยากเปนตัวแทนของใคร ไดฟงแลวปรี๊ดเลย ทําไมเมธไมพูดไปละวาเมธไมไดคิดวาตรินเปนตัวแทนของใคร
ทั้งนั้น อ้ําอึ้งแบบนั้นมันทํารายตรินชัดๆ เลยนะ” อันนี้เห็นดวยกับลูกแพรครับ เมธนาจะแกความเขาใจผิดของตริน ไมนาปลอยใหอีก
ฝายตองเจ็บใจกับคํานี้เลย

“ก็ตอนนั้นมันสับสนไปหมดเลยอะ ไมรูวาตัวเองคิดอะไรกับใครยังไง”
“นี่เมธกําลังจะบอกวา เมธก็ไมแนใจวาจริงๆ เมธใชตรินเปนตัวแทนของใครอยางนั้นหรือ” เมธปรายตามาทางผมเมื่อสิ้นสุดคําพูด
ของลูกแพร สีหนาของมันดูเจ็บปวด

“ก็ประมาณนั้น” มองเมินไปทางอื่นขณะกลาวคําพูดออกมา

มีบางสิ่งวิ่งเขากระแทกหัวใจผมอยางแรง มันรูสึกอึดอัดและคับแนนในอก ในความเลือนรางเหมือนจะเขาใจอะไรบางอยาง แววตา


ปวดราวและตัดพอของเมธที่มองผมเมื่อนาทีกอนนั่นมันคลายกับกระจกที่สองใหเห็นอะไรบางอยาง และผมก็ปวดใจเมื่อไดรับรูมัน

“แลวตอนนี้รูหรือยัง” น้ําเสียงของลูกแพรทําใหผมสูดลมหายใจลึกๆ...ดีแลวละที่ระหวางผมกับเมธเปนแบบนี้ ไมอยากถามและไม


อยากรู แคมันยังเปนเพื่อนและไมทิ้งผมไปไหนก็มากพอแลว ผมเห็นแกตัวหรือเปลาครับ การที่ผมอยูตรงนี้และขอใหเมธอยูกับผม
มันเปนการทํารายหัวใจเพื่อนตัวเองใชไหม

“ยัง” เมธตอบเพียงสั้นๆ แตกระแสเสียงนั้นเต็มไปดวยความรวดราว กรามบดแนน เงยหนาขึ้นสูง ผมคิดวาเพื่อนผมกําลังสับสนกับ


ความรูสึกของตัวเอง จนตอนนี้มันเริ่มจะทนไมไหวแลว

“งั้นก็เปนโชคดีของตรินที่บอกเลิกกับเมธ”

“ใช...โชคดีของเมธดวย เพราะเมธเองก็คงจะทรมานเหมือนกันเพราะตรินเองก็คบกับเมธเพราะคิดวาเปนตัวแทนของใครบางคน”

“หมายความวาอยางไร ลูกแพรไมเขาใจ” เมธหันไปยิ้มเศราๆ ใหลูกแพร ในขณะที่ผมกมหนามองพื้น

“เมธถามคืนบางดีกวา ตอนนี้ลูกแพรหายสงสัยหรือยังวาเมธกับตรินคบกันตอนไหน แลวลูกแพรไปเจอภาพนั้นไดยังไง”

“เรื่องนั้นเคลียรแระ”

“งั้นก็ดี เพราะเรื่องอื่น เมธไมพรอมจะเลาใหฟงตอนนี้”

ลูกแพรทําเสียงรับรูและยอมรับการตัดสินใจของเมธ ผมยังกมหนานิ่ง มองมือตัวเองที่วางอยูบนตัก ไมเขาใจวาทําไมถึงไดปวดหัวตา


นัก คลายกับสิ่งที่อัดแนนอยูภายในกําลังหาทางระบายออกมา ยิ่งมือของเมธที่เอื้อมมาลูบหัวผมนั่นยิ่งทําใหใจของผมหนักอึ้ง

“มึงยังเปนเพื่อนกูนะ”

คําที่เอยปากบอกเหมือนรูวาผมกําลังกลัวอะไรไมไดทําใหผมรูสึกดีขึ้นมาเลย ถึงแมสิ่งที่คางในความรูสึกถูกเมธพูดออกมาวาตอนนี้
เพื่อนผมคนนี้คิดยังไง ย้ําอีกครั้งวามันยังคงเปนคนเดิมที่คอยปกปองผมตลอดมา ไมบอกลูกแพรเรื่องของเรา หรือไมกาวขาม
มิตรภาพที่ผมมอบให...แตมันก็ดีแลวมิใชหรือที่ทุกอยางถูกเก็บเอาไวในหองปดตายภายในซอกใดซอกหนึ่งของหัวใจ...แมลึกๆ จะ
ยังคงมีรอยราวใหเห็นอยูก็ตามที

รถกระบะดีแมกซแลนไปตามถนนอันคดเคี้ยวซึ่งสองฟากทางเปนทิวเขาและปาไมรกบางโปรงบาง ไตระดับสูงต่ําไปบนเสนทางที่ถูก
ลอมรอบดวยสีเขียวครึ้มของแมกไม สิ่งรอบตัวดูสงบเงียบ หากใจผมกลับไมนิ่งดวยสังหรณกับอะไรบางอยาง เสนทางที่เราสัญจรอยู
มันเงียบมากเกินไป ไมมีแมแตรถสักคันจะสวนมา บรรยากาศวังเวงและวางเปลาดุจดั่งทองฟาโปรงใสกอนพายุใหญจะเขาถลมฝง
อยางไรอยางนั้น

“เกิดอะไรขึ้น” ผมถามเมื่อรถเริ่มสายไปมา...เห็นทีสิ่งที่คิดไวจะเกิดขึ้นจริงเสียแลว

“สงสัยจะถูกเรือใบครับนายนอย” คําพูดของคีตาซึ่งเปนคนขับกลาวบอกขณะมองกระจกสองหลังนั่นทําใหผมขยับตัวอยาง
ระมัดระวัง ลุงพจนที่นั่งดานซายมือของผมหันไปมองดานหลังพรอมกับรามิลที่นั่งอยูอีกขางกดสัญญาณสื่อสารแจงไปทางสายของ
คเชนทร รันซึ่งนั่งเคียงคูกับคนขับขยับอาวุธประจํากาย ผินหนาไปมองกระจกสองขาง

“พยายามประคองไปเรื่อยๆ กอน” ผมออกคําสั่ง สายตาสังเกตมองไปรอบตัว ไมมีอะไรผิดปรกติ แตนี่แหละคือสัญญาณอันตราย


เราไมรูวามันรอเราอยูเบื้องหนาหรือจะตามประกบเขามาทางดานหลัง

ยอนเหตุการณกลับไปเมื่อตอนเชา หลังจากที่ผมสงขอความหานองเพื่อบอกวามาถึงที่หมายแลวผมก็รีบตรงดิ่งไปยังไรของลุงพจน
ทันที หลังจากประเมินสถานการณแลวเห็นทีจะรอชาไมได ถึงแมสายของคเชนทรจะแจงขาวดีมาวาตอนนี้ทางเราเขาถึงอานนทได
แลว ทวาเงื่อนไขที่ทางโนนใชบีบบังคับอานนทก็เปนอยางที่ผมคิดไวไมมีผิด ...มันเลวไดไมมีที่ติเลย !

เมื่อไดรับขาวพวกเราตองแยกกันไปสองทาง ทางหนึ่งตามประกบครอบครัวของอานนทโดยเฉพาะลูกสาววัยหาขวบซึ่งกําลังเดินทาง
ไปโรงเรียนอนุบาล สวนทางดานผมตองรีบพาลุงพจนไปยังเซฟเฮาสใหเร็วที่สุดเชนเดียวกัน

ใชแลวครับ อยางที่คุณๆ เขาใจ ชินกฤษมันใชชีวิตผูบริสุทธิ์เพื่อบีบอานนท นอกจากมันจะขมขูอานนทใหบอกขอมูลของบริษัทเพื่อ


แลกกับหนี้สนิ้ แลว มันยังหันมาใชตัวประกัน เมื่อคืนที่ผานมาขณะที่คุณๆ หลับสบายบนที่นอนอันออนนุมอยูนั้น ชินกฤษไดบีบ
บังคับอานนทอีกครั้ง ทวาอานนทกลับปดปากเงียบ เขายอมตายหากตองทรยศพวกเราเปนครั้งสาม

พอผมอานคนไมผิดจริงๆ เลือดของเราเขมขนเสมอ แตถึงใหขนขนาดไหนมันก็ไมเขมเทาเลือดของคนในครอบครัว หากพวกมันจับ


ตัวลูกสาวของอานนทหรือลุงพจนได มันคงไมใชเรื่องยากที่จะงางปากอานนทใหพูดทุกเรื่องที่อยากรู ดังนั้นกอนที่อานนทจําใจเปด
ปาก ผมจึงตองทําทุกอยางใหเรียบรอย ใหอานนทหายหวงและเมื่อถึงตอนนั้นพวกมันจะถูกเราซอนแผนและหนอนจะกลายเปนไส
ศึกทันที!
เมื่อผมปลอมตัวเขามาในไรของลุงพจนไดสําเร็จก็ตรงเขาไปบอกเรื่องของอานนทใหแกไดรับรู ลุงดูตกใจและเสียใจตอการกระทํา
ของลูกชายตัวเองเปนอยางมาก ในตอนแรกแกถึงกลับประกาศกราว หากอานนทชั่วขนาดนั้นก็ปลอยมันตายซะเถอะ แตผมก็เขาใจ
หัวอกคนเปนพอตอใหลูกเลวขนาดไหน ลูกก็ยังคงเปนลูก ผมบอกลุงพจนถึงแผนการที่วางไว เมื่อไดฟงแกก็ยอมทําตามแตโดยดี

พวกเราออกจากไรในตอนเที่ยงกวาๆ ทําตัวปรกติโดยใหลุงพจนออกมาพรอมกับผมคลายกับแกจะเดินทางเขาไปในเมืองพรอมกับ
คนงานในไร ผมคิดวาตัวเองลงมือเร็วแลว แตพวกมันกลับเร็วกวาพวกผม นี่แสดงวาพวกมันวางแผนไวนานแลวและพรอมจะจับลุง
พจนเพื่อบีบบังคับอานนทไดทุกขณะ และเวลานี้ก็เปนเวลาที่มันเริ่มลงมือแตมันคงไมรูวาลุงพจนไมไดมากับคนงานในไรธรรมดา!

“มีรถตามมาทางหลังครับนายนอย!” คําพูดของรันทําใหผมหันกลับไปมอง ฝุนที่ฟุงกระจายพรอมกับรถที่วิ่งตามมาดวยความเร็วสูง


บงบอกวาสถานการณคับขันไดมาถึงแลว

“พรอมนะ!”

“ครับ!” น้ําเสียงของทุกคนในรถกลาวรับหลังสิ้นสุดคําถามของผม ถึงแมจะไมไดคาดหวังวาจะเผชิญหนากับพวกมันเร็วขนาดนี้ แต


ทุกคนก็เตรียมตัวรับมืออยางไมกลัวเกรง รามิลขยับชิดประตูเตรียมพรอมจะเปดออกไปสูภายนอก รันกระชับปนในมือ ขณะที่คีตา
พยายามขับเลียบไหลทางมากที่สุด และในชั่ววินาทีที่รถเบรกกึกและหยุดในฉับพลันนั้น รามิลก็เปดประตูออก กระโดดเขาไปในพง
หญา ผมตามเขาออกไปติดๆ พรอมกับลุงพจนที่ตามผมมาทางดานหลัง

ชั่วพริบตาที่เรากระโจนออกมาจากรถ ปคอัพที่บรรทุกคนมาเกือบเต็มคันรถก็เบรกดังเอี๊ยดเคียงคูกับรถของพวกเรา พวกมันกระโดด


ลงตั้งแตยังไมทันไดจอดสนิทพรอมกับอาวุธครบมือ เมื่อเทาเหยียบพื้นก็พุงเขาหอมลอมรอบตัวรถพรอมกับใชทอนเหล็กฟาดทําลาย
อยางบาคลั่ง เสียงโลหะกระทบกันกึกกอง เสียงกระจกแกวแตกดังสะทาน ขูคํารามอยางคลุมคลั่ง

“พวกมันหนีไปแลว ไมมีใครอยูในรถ!” เสียงไอเศษแดนสังคมรายหนึ่งตะโกนบอกพวกพรองของมัน ผมรีบหันมองไปรอบตัวเพื่อหา


เพื่อนรวมชะตากรรม รามิลหมอบตัวในพุมไมเยื้องไปทางซาย รันอยูทางดานขวา สวนลุงพจนอยูเยื้องจากรัน แลวคีตาละ...เขาอยู
ไหน?

“ลูกพี่ทางนั้น!” พงหญาที่ไหวอยูไมหางจากผมไปทางขวามือทําใหเห็นหลังคีตาอยูไหวๆ เขาคงพุงตัวออกมาจากรถในเสี้ยวเวลาที่


พวกนั้นเขาประชิดตัว เมื่อพวกมันจับสังเกตไดก็พุงความสนใจไปที่นั่นกอนจะกรูกันวิ่งเขาใส ผมกระชับปนในมือกอนจะยกขึ้นมาใน
ระดับสายตาแลวปลอยกระสุนออกไป

“ปง!” เสียงปนของผมทําใหพวกเศษสังคมหยุดชะงักกอนแตกกระจายกันจาละหวั่น

“ระวัง พวกมันมีปน!” เสียงตะโกนโหวกเหวกบอกกัน พรอมกับพวกผมที่ขยับเขามารวมกันอยางระมัดระวัง มองหาทางหนีทีไล


“หางจากนี่ไปประมาณหารอยเมตรจะถึงลําธาร ถาขามลําธารแลวจะมีทางลัดไปถึงถนนใหญครับนายนอย ” เสียงของลุงพจนที่เปน
เจาของพื้นที่บอกขณะเบี่ยงตัวหลบหลังตนไม สายตายังจับจองไปยังพวกมันทีเ่ ริ่มขยับตัวอีกครั้ง ในมือของลุงพจนมีปน
เชนเดียวกัน

“ปง!” เสียงปนกับลูกกระสุนที่พุงเฉียดตนไมที่ผมใชกําบังทําใหตองหมอบตัวลงต่ํากอนจะยิงสวนกลับไปทันที...พวกมันก็มีปนและ
กําลังคนเยอะกวาทางเราถึงสองเทา!

“เราตองแยกกัน รามิลไปกับคีตา สวนลุงและรันมากับฉัน แลวไปเจอกันที่ลําธาร” ผมสั่งการกอนรามิลกับคีตาจะพยักหนารับ ทั้ง


สองรีบขยับตัวแลวหลบไปอีกทาง ผมขยับตัวอยางรวดเร็วแตระมัดระวัง สายตาจังจองไปยังสิ่งที่ไหวติงอยูไมไกล รันกับลุงพจน
ตามมากับผม

“ปง!”

“อากกกก” ผมรีบเบี่ยงตัวหลบหลังตนไมเมื่อปลอยลูกกระสุนเจาะเขาที่หัวไหลของฝายตรงขามกอนมันจะรองโหยหวน...จอดไปอีก
หนึ่ง

“นายนอยไปกอนเลยครับ ผมจะระวังหลังให” เสียงของรันที่ขยับเขามาใกลบอกผมกอนเขาจะยิงกระสุนเขาใสฝายตรงขามซึ่งยิง


สวนมา

ผมฝาดงหญาในปาโปรงไปพรอมกับลุงพจนที่ประกบอยูไมหาง เสียงยิงโตตอบระหวางสองฝายดังระงมไปทั่วปา พวกมันเดินหนา


กระดานเขามา ทําใหยากตอการหลบหนี เราอยูในวิกฤตกาลเพราะเสียบเปรียบทั้งกําลังคนและอาวุธ แถมกระสุนเราก็มีจํากัด!

เสียงกระสุนที่ดังรัวเร็วเปนชุดทําใหผมขยับตัวไมได เอนหลังพิงกับตนไมใหญเพื่อใชเปนที่กําบัง เสี้ยวเวลาที่เหลียวมองไปทางลุง


พจนผมก็เจอกับเงาตะคุมเคลื่อนเขามาใกล ผมรีบเบี่ยงตัวออกจากที่หลบซอน ยกปนเล็งไปยังเปาหมาย หากแตยังไมทันไดปลอย
กระสุนเสียงตื่นตระหนกของรันก็ดังขึ้น

“นายนอยระวัง!”

“ปง!”

จูๆ หัวใจของผมก็กระตุกวูบ มันเสียวแปลบที่ใจกอนกระจายไปทั่วกาย คลายกับวินาทีที่รางของผมถูกผลักใหตกลงไปในเหวลึกกอน


จะถูกฉุดกระชากขึ้นมาในอากาศอยางรวดเร็ว ผมเอื้อมมากุมหนาอกของตัวเองอยางไมรูตัว กําจี้สรอยคอไวแนน...ไอพี่ทอง... เสียง
ครวญครางของหัวใจที่แมแตตัวผมเองก็ไมเขาใจวาทําไมถึงไดนึกเปนหวงพี่เคาขึ้นมาอยางกะทันหัน

“อุย...พี่นาคินทร” เสียงแววที่ไดยินทําใหผมหันขวับไปมองรอบตัว รูสึกวาตัวเองหายใจหอบแรงอยางไมรูสาเหตุ ขนลุกซูเมื่อลมวูบ


หนึ่งพัดมากระทบใบหนา...เกิดอะไรขึ้น ทําไมผมถึงไดรูสึกใจคอไมดีอยางนี้

“โอโห...ขาวดังเลยนะเนี่ย สองบริษัทยักษใหญเตรียมเปดแถลงขาวการเปลี่ยนตําแหนงผูบริหาร...” คําพูดของลูกแพรทําใหผมหัน


กลับมามองขางตัว

“เปนอะไรกุล หนาซีดเชียว” ผมสายหนาใหกับเมธดวยตัวผมเองก็ไมเขาใจถึงสาเหตุที่ใจวาบเมื่อสักครู ลูกแพรเงยหนาจากนิตยสาร


ซุบซิบดาราและวงการไฮโซขึ้นมามองผมอยางสงสัย นั่นทําใหผมยิ้มฝดๆ ใหกับเธอ

“ไมมีอะไร...วาแตเมื่อกี้ลูกแพรวาอะไรนะ” ผมพยายามปลอบตัวเองเชนคําพูดกอนจะทวนถามสิ่งที่คางคาใจ หากไมไดหูแววไปเอง


ผมคิดวาตัวเองไดยินเธอเรียกชื่อไอพี่ทองนะ

“ออ...ไมมีอะไรหรอก แคเจอขาวนาสนใจนะ” ผมพยักหนารับกอนจะยื่นหนาเขาไปใกลเธอหมายจะดูนิตยสารซึ่งหญิงสาวอานอยู

“ขาวอะไร เหมือนจะไดยินชื่อใครคุนๆ” คําพูดของเมธทําใหผมมั่นใจวาตัวเองไมไดหูแววไปเองเปนแนแท หากแตยังไมทันไดคําตอบ


เมธก็เอื้อมมือมาดึงเอานิตยสารอันโปรดปรานของลูกแพรไปตอหนาตอตาผม ผมมองตามหลังสือที่ติดมือเมธไปอยางเสียดาย ผม
อยากรูใหแนชัดเนื่องจากเมื่อสักครู ผมคิดวาตัวเองเห็นภาพไอพี่ทองดวยละ

“ชิส. ..ไมเห็นจะนาสนใจตรงไหน” หลังจากกมอานไมกี่วินาทีเมธก็เงยหนาขึ้น ไมพูดเปลามันแบะปากอีกดวย จากนั้นก็ปดหนังสือ


พรอมปดมันออกหางตัวอยางไมใสใจ

“ไมสนใจก็เอาคืนมาสิ” ลูกแพรพูดดวยน้ําเสียงขึ้นจมูก เอื้อมมือจะไปแยงคืน แตเมธดึงกลับแลวเอาไปซอนไวเบื้องหลัง

“ไมให” ปากมันพูดกลับลูกแพรแตตามองมาที่ผมอยางทาทาย นั่นยิง่ ทําใหผมอยากรูมากขึ้น มันตองมีอะไรในนั้นแนๆ

“เอาของลูกแพรมานะเมธ”

“อยากไดก็มาแยงเอาแลวกัน” วาจบเมธก็ยักคิ้วใหลูกแพร ยิ้มมุมปากกอนจะลุกขึ้นจากที่นั่ง ลูกแพรหนาบึ้ง ชี้หนาเมธอยางไมชอบ


ใจ

“อยาคิดหนีนะ แผนนี้ใชไมไดผลหรอก” เธอวาพลางลุกขึ้นบาง

“กลับมานะเมธ คิดจะหลบหนาตรินใชไหมละ” เธอตะโกนเรียกกอนจะเดินแกมวิ่งตามเมธไป

ผมมองไปรอบตัวเมื่อลูกแพรพูดจบ จากนั้นก็เขาใจพฤติกรรมของเพื่อนตัวเองขึ้นมาทันที ความจริงเมธก็แคเอาเรื่องนิตยสารมาอาง


เพื่อปดบังความออนแอที่ไมสามารถเจอหนาตรินในเวลานี้ เมธนะ...เมธ นั่งรอดวยกันอยูตั้งนาน พอเวลาจริงๆ มาถึงกลับหันหลังให
ซะงั้น ทําไมถึงเปนแบบนี้นะ...

ผมมองตามทั้งคูไปดวยนัยนตาหวงใย กอนจะปรายสายตาไปอีกดานซึ่งตรินยืนอยูที่นั่น เขามองตามแผนหลังของเมธ เมมเรียวปาก


ผมมองไมเห็นวานัยนตาของเขาเปนอยางไร แตทาทางเชนนั้นมันทําใหผมรูสึกเศราใจอยางบอกไมถูก ยิ่งเมื่อเขาผินหนาไปอีกทาง
ราวกับทนมองตอไปไมไหว แหงนหนาขึ้นเพื่อสะกดกลั้นไมใหบางสิ่งไหลออกมานั่นยิ่งทําใหหดหูใจ

“ตรินทางนี้” ผมตะโกนเรียกเขา ตรินหันมาตามเสียงเรียกของผมกอนจะเดินเขามาหาพรอมกับรอยยิ้มบางๆ ทวามันกลับไมเขากับ


แววตาเจ็บปวดของเขาที่สบมานั่นเลย

“เมื่อกี้พี่เห็นนองแพรกับเออ...นอง...เมธ...เขาไปไหนกันหรือ...” ตรินถามเมื่อเดินมาหยุดอยูไมหางจากผม การที่ชื่อของเพื่อนผมถูก


เอยออกมาอยางยากลําบากนั่น มันจะทําใหผมตีความหมายไดไหมนะวา ตรินถามเพื่อจะหาเหตุผลมาสนับสนุนวาเมธเดินจากไป
ในขณะที่เขากาวมาถึงนั่นไมไดมีจุดประสงคเพื่อจะหลบหนาเขา

“ออ...ฮาฮา ไอเมธมันแกลงลูกแพรนะ ลูกแพรเลยไลตีมันไปทางโนนเมื้อกี้เอง เดี๋ยวมันก็เนื้อเขียวกลับมา คอยดูสิ” ผมปนน้ําเสียงให


ราเริง เคนคําพูดที่คิดวาจะทําใหเขาสบายใจมากที่สุด แลวมันก็ไดผลเมื่อตรินยิ้มมุมปาก ใบหนาของเขาดูสบายใจขึ้นที่ไดยินผมวา
เชนนั้น

“นองกุลรอพี่นานไหมครับ ขอโทษดวยนะ พี่เพิ่งพรีเซนทงานเสร็จ” เขาเปลี่ยนเรื่องกอนจะนั่งลงแทนที่ของลูกแพร

“ไมหรอก อีกอยางลูกแพรกับเมธก็อยูดวย ก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ แหละ” ผมบอกเขาไปตามความจริงเพราะหลังจากไมมีอะไรจะซักไซ


เมธแลว ลูกแพรก็หยิบนิตยสารออกมาอาน ในขณะที่ผมกับเมธคุยกันเรื่องตารางซอมบาส อืม...ผมบอกคุณๆ หรือยังครับวาเมธเปน
นักกีฬาบาสเก็ตบอลของคณะดวยนะครับ จากนั้นพวกเราคุยกันอยูดีๆ หัวใจผมก็กระตุกและลูกแพรอุทานบางอยางออกมา แลว
ตรินก็มาถึงอยางที่รูกันนั่นแหละครับ

“อืม...ถางั้นเราไปกันเถอะครับ”

“ไมรอเจอเมธกับลูกแพรกอนหรือ เดี๋ยวพวกนั้นก็กลับมา” พอผมวางั้นตรินก็ทําหนาลําบากใจ

“กระเปาพวกนั้นก็อยูนี่ไง กุลก็ยังไมไดลาเพื่อนเลย ตรินรอแปบไดเปลา” ผมอางถึงตัวเองเพื่อไมใหเขาปฏิเสธได

“ก็ไดครับ” ถึงเขาจะรับคําอยางจํายอมแตผมคิดวาตัวเองเขาใจไมผิดนะ

จากที่คบกันมาหลายป ผมเขาใจวาตรินไมใชคนที่จะตัดขาดจากอะไรไดงายๆ โดยเฉพาะเรื่องของเมธ ตลอดเวลาที่ทั้งสองรูจักกัน


ถึงตรินจะถูกเมธจิกกัดดวยคําพูดบาง กลั่นแกลงบาง แตสิ่งที่ผมเห็นคือเขายังวางตัวปรกติ เสมอตนเสมอปลาย ไมติดใจโกรธเคือง
เมธแตอยางใด ผมจึงคิดวามิตรภาพแบบลุมๆ ดอนๆ ของทั้งคูนั่นคงมีบางอยางที่ตราตรึงในหัวใจของตริน
“โอย...ลูกแพร เมธเจ็บนะ”

“หึหึ...เห็นเปลา...เปนอยางที่กุลวาไหม” ผมรีบพูดขึ้นทันทีเพื่อเรียกความสนใจของเขา เสียงเมธโวยวายลั่นเพราะถูกลูกแพรบิดตน


แขนพรอมกับดึงมาทางพวกผม ตรินอมยิ้มกับภาพที่อยูตรงหนา

“เลนอะไรกันครับ” เขาถามเมื่อทั้งคูมาถึง ลูกแพรยิ้มบางๆ ใหตริน กอนหันไปแยกเขี้ยวใสเมธที่ทําหนาบึ้ง กมหนานิ่งไมยอมมอง


หนาตริน

การแสดงออกของเมธทําใหผมเขาใจไดไมยากวาเพื่อนผมกําลังตอสูกับความสับสนพรอมกับความรูสึกผิดที่มนั รุมเราเขามาพรอมๆ
กัน เมธคงทําตัวไมถูก ไมรูจะทําหนายังไง ไมรูจะพูดคุยอะไร หัวใจมันคงยังไมพรอมจะเผชิญหนากับสิ่งคลุมครือซึ่งเวลานี้มันไม
เขาใจและตัดสินใจอะไรใหเด็ดขาดลงไปได

“ก็เมธนะสิ ลูกแพรฟองตรินเลยนะ จัดการใหลูกแพรเลย เมธแกลงลูกแพรอะ เอานิตยสารลูกแพรไป”

น้ําเสียงแสนงอนของลูกแพรกลาวขึ้นทามกลางความเงียบ เธอนั่งลงขางๆ ตริน เขยาแขนอีกฝายอยางเด็กไมไดดั่งใจ ผมลอบอมยิ้ม


พรอมกับถอนหายใจ ลูกแพรก็คงพยายามทําใหทุกอยางเปนปรกติเหมือนกอนหนาที่ความสัมพันธของเมธกับตรินจะยังไมเปลี่ยนไป
เธอคงอยากใหทุกอยางกลับมาเปนเหมือนเดิม ดั่งเชนคืนวันที่พวกเราทั้งสี่จูงมือกาวขามเวลามาดวยกัน

“พี่คงชวยอะไรไมไดหรอกครับ ลูกแพรจัดการเองเลยแลวกัน”

“เชอะ...ตรินปกปองเมธ...ดีเลย...งั้นลูกแพรจะตอยเมธใหหนาคว่ําเลย”

“หึหึ เปลี่ยนเปนหยิกแทนดีไหม เกิดตอยไปถูกปากแลวไดแผลจะแยเอา ยิ่งหายยากๆ อยู”

“ตริน...”

คําพูดที่แสดงถึงความหวงใยและใสใจของอีกฝายอยางไมรตู ัวนั่นทําใหเมธครางชื่อตรินออกมาอยางแผวเบา หลากหลายความรูสึก


ซึ่งถูกถายทอดออกมาในน้ําเสียงสั่นเครือหนอยๆ ตรินเมนเรียวมาก เมินหนาไปทางอื่นหลังจากสบตากับเมธแคเสี้ยววินาที

ผมกับลูกแพรหันมามองหนากัน ลูกแพรผงกศีรษะขึ้นลงอยางชาๆ ราวกับเขาใจอะไรบางอยาง ผมคิดวาเธอคงอานออกเชนเดียวกับ


ผมวาความสัมพันธของทั้งคูไดกาวกระโดดไปสูอีกสถานะหนึ่ง ที่เห็นชัดเจนนาจะเปนฝงของตรินเพราะขณะนี้ผมคิดวาเมธมีอิทธิพล
ตอหัวใจของเขาเขาใหแลว

“พี่เห็นทีตองไปแลวละ เดี๋ยวตาจะรอ ไปเถอะนองกุล” ตรินลุกขึ้นในทันที ใบหนาเชนนั้นมันไมยากเลยที่จะเขาใจวา เขาไมอยาก


แสดงความออนแอหรือความรูสึกที่เก็บซอนไวใหเมธไดเห็นไปมากกวานี้

“กูไปกอนนะเมธ กุลไปแลวนะลูกแพร” ผมบอกพรอมเก็บสัมภาระของตัวเองแลวลุกขึ้นยืน

“จา ไวเจอกันพรุงนี้” เสียงของลูกแพรขานรับ

“เดี๋ยวกอนสิ...ตริน” ประโยคแรกของเมธทําใหผมชะงัก หากแตชื่อที่เอยออกมาตามหลังนั้นทําใหตรินที่กาวเดินไปกอนหยุดนิ่งอยูกับ


ที่ เมธหยิบบางสิ่งออกจากกระเปากอนจะลุกขึ้นแลวกาวตรงเขาไปยัดสิ่งนั้นใสมือของตริน ตรินกมมองมันอยูชั่วครูกอนจะเงยหนา
ขึ้นถาม

“อะไรครับ”

“ภาพที่เราไปเที่ยวดวยกัน เมธไรทใสแผนมาให” ตรินจับแผนซีดีมาดูนิดหนึ่งกอนจะจับมันแนน ปากเมมสนิทอยูครูใหญกอนเขาจะ


ตัดสินใจยื่นมืออีกขางที่วางไปจับมือของเมธ แลววางแผนซีดีลงไป

“พี่ไมขอรับนะครับ”

“ทําไม” เมธถามกลับทันทีดวยน้ําเสียงผิดหวังและไมเขาใจ

ทวาความรูสึกที่เมธถายทอดออกมามันไมไดครึ่งหนึ่งของความรูสึกยามที่ผมไดยินสิ่งที่ตรินพูด แววตาราวรานของเขาทําใหผม
พลอยปวดใจไปดวย รอยยิ้มเหงาๆ อยางคนพายแพนั่นทําใหผมอดสงสารเขาไมได น้ําเสียงอาลัยอาวรณปนเศราราวกับนี้เปนครั้ง
สุดทาย มันทํารายหัวใจคนฟงอยางผมเหลือเกิน

“เพราะถาพี่เห็นภาพของเราอีกครั้ง พี่คงเจ็บซ้ําๆ ไมหายสักที”

เสียงรองของรันทําใหผมกระโจนลอยตัวในอากาศไปดานขางพรอมกับปลอยกระสุนออกไป “ปง!” เสียงปนของผมดังขึ้นกอนเสียง


รองโหยหวนจากเงาตะคุมซึ่งเขาใกลลุงพจนจะแทรกเขามา ในวินาทีเดียวกันลูกกระสุนซึ่งพุงมาจากทิศทางที่ผมไมทันไดระวังตัวก็
เฉียดผานผมไปแคเสนยาแดงผาแปด...เกือบไปแลวจริงๆ

“นายนอย!” รันตะโกนเรียกเพื่อความแนใจขณะที่สายตาของเขายังจับจองไปยังไอเศษเดนสังคมที่ยิงตอบโตเราไมหยุดหยอน

“ฉันไมเปนไร” ผมเคลื่อนตัวหาที่กําบัง กัดฟนบอก ถึงแมไมถูกลูกระสุนแตหัวไหลซึ่งกระแทกกับพื้นก็ทําใหเจ็บไดไมนอย แตถึงยังไง


มันก็คุมเพราะผมปลิดชีวิตของฝายโนนไปอีกหนึ่ง ผมชะโงกหนาออกจากที่หลบซอนเพื่อมองหาเปาหมายใหม

“ปง!” แตเสียงปนที่สวนมาทําใหผมตองรีบหลบ ตั้งหลักอยูชั่ววินาทีกอนสมองจะสั่งงานเมื่อนัยนตาคมกริบจับจองไปยังกิ่งไมผุกรอน


ซึ่งอยูตรงหนา ผมจับมันขึ้นมาอยางเบามือ หมอบตัวลงต่ําเล็กนอยกอนจะโยนไปทางขวามือ

“ปง!” เสียงปนพรอมกับวิถีกระสุนที่เปลี่ยนไปยังกับดักซึ่งผมวางไว ทําใหผมมองเห็นการเคลื่อนตัวออกจากที่ซอนของอีกฝาย ชั่ว


พริบตาผมยิ่งสวนกลับไปทันที

“ปง!”

“อากกกก” เสร็จไปอีกหนึ่ง

ผมเอนหลังพิงตนไม กระชับปนในระดับอก ควบคุมลมหายใจเขาออก มันไมใชเรื่องสนุก หากแตสัญชาตญาณของนักลาซึ่งมีอยูเต็ม


ตัวก็ทําใหเลือดสูบฉีดอยางคึกคะนอง ความรูสึกคงไมตางจากคนบางจําพวกที่ชอบเลนกีฬาเสี่ยงภัย ผมใชสายตาสอดสายไป
โดยรอบพรอมกับเงี่ยหูฟงเสียงผิดปรกติ เบี่ยงตัวจากที่หลบซอนจากที่หนึ่งไปยังอีกทีอยางรวดเร็วและระมัดระวัง พงหญาที่ไหวตัว
อยูไมไกลทําใหผมจองเขม็งไปที่นั่น เมื่อไดจังหวะก็ลั่นไกปนทวาสิ่งที่ตอบรับกลับมาก็คือ

"คลิ๊ก...คลิ๊ก..." ลูกกระสุนของผมหมดซะแลว ผมสบถในใจกอนจะรีบถลกขากางเกงยีนสขึ้นดึงแหนบกระสุนสํารองในซองออกมา


ทวายังไมทันไดเปลี่ยน

"ยากกก" เสียงรองพรอมกับรางบึกบึนที่โผลมาอยางไมทันไดตั้งตัวก็โถมเขาใสทันที นั่นทําใหปนในมือผมหลุดไปอีกที่ สวนตัวมันกับ


ผมลมกลิ้งไปบนพื้น กอนไอชั่วจะขึ้นครอมตัวผมไวแลวทําทาจะปลอยหมัดเขาใส แตผมไวกวาสวนกลับจนมันหนาหงาย เพียงเสี้ยว
วินาทีผมพลิกตัว ชิงจังหวะขึ้นครอมมันอยางรวดเร็ว แลวปลอยหมัดเขาไปเต็มหนาของอีกฝายจนเลือดมุมปากไหลทะลัก ผมกําลัง
จะซ้ําลงหมัดที่สองแตเสียงปนก็ดังขึ้นพรอมกับกระสุนที่พุงเฉียดพื้นหางจากผมไมกี่เซ็น

ผมเบี่ยงตัวกอนจะรีบลุกขึ้นพรอมดึงไอเศษขยะซึ่งผมคิดวากระสุนปนของมันคงจะหมดเชนเดียวกัน ไมงั้นคงไมตัดสินใจเขาประชิด
ตัวอยางนี้ มันถลาขึ้นตามแรงฉุด มือถูกรวบไปไขวดานหลัง ในขณะที่คอหอยถูกจอดวยมีดพับซึ่งผมดึงออกมาใชในยามขับขัน
นัยนตาไมกลัวเกรงของผมมองไปยังไอหนาสัตวที่ตามมาชวยเพื่อนของมัน พรอมกับเล็งปนมาที่ผม

"ปลอยมันเดี๋ยวนี้ ไมงั้นกูยิงมึงไสแตกแน" น้ําเสียงนาขยะแขยงขมขูผม ผมแสยะปากยิ้ม

"แนจริงก็ยิงมาเลยสิ" ผมกดปลายมีดลงที่คอหอยตัวประกัน เลือดไหลซิบออกมา นัยนตาแข็งกราวมองอีกฝายอยางทาทาย พวกของ


มึงถูกกูลากมาเปนกําบังแบบนี้ ดูซิ วามึงจะใจเด็ดอยางที่พูดไหม ยิงมาก็ถูกพวกมึงเขาไปเต็มๆ

ไมตองเดาก็รูวาไอตัวโชครายที่อยูภายใตคมมีดของผมเหงื่อกาฬไหลยอยอยางกลัวตาย มันคงสงสายตาออนวอนไปถึงอีกคน ไอนั่น


ถึงเริ่มลังเล นัยนตาลอกแลก ชั่ววินาทีที่มันโลเลอยูนั้นผมรีบผลักเพื่อนของมันเขาใส สัญชาตญาณของการปองกันตัวทําใหมันเผลอ
ลั่นไกปนโดยปราศการการยั้งคิด ลูกกระสูนวิ่งทะลุเขาไปฝงในรางของเพื่อนมัน มันเบิกตาโพลงพรอมกับหงายหลังตึงเมื่อรางเพื่อนที่
ถูกมันสังหารลมทับ ผมรีบชิงจังหวะปามีดเขาที่ขอมือทันที เสียงมันกรีดรองอยางโหยหวนพรอมกับปลอยปน
ผมยางสามขุมอยางนักลาเขาหาพวกมันทั้งสอง กมหยิบปนทีว่ างอยูไมหางจากมือที่โชกเลือด ขึ้นไกแลวเล็งไปที่หนาผากของมัน
นัยนตาที่เปดกวางขึ้นดวยความกลัวนั้นทําใหผมใจออน ชวยอํานวยความสะดวกใหมันนิดหนอยดวยการใชเทาเขี่ยรางที่ปราศจาก
วิญญาณของเพื่อนมันออกให เพื่อความคลองในการสูดลมหายใจเฮือกสุดทาย เมื่อไดเวลาก็จัดการสงวิญญาณใหมันตามเพื่อนของ
มันไป

แตแลวเสียงสวบๆ ที่ใกลเขามาของฝเทาซึ่งเหยียบบนใบไมทําใหผมเงี่ยหูฟงอีกครั้ง ถอนสายตาจากรางที่นอนแนนิ่งพรอมกับกระชับ


ปนในมือ เบี่ยงตัวอยางเงียบเชียบไปยังทิศทางที่อีกฝายกําลังมาถึง ผมเหยียดลําตัวแนบกับที่กําบัง และเมื่อจังหวะที่เสียงนั้นเขามา
ประชิดตัวผมก็รีบเบี่ยงตัวออกโดยเร็วพรอมจอปนเขาใสอีกฝาย

“นายนอย!” เสียงตื่นตระหนกของลุงพจนทําใหผมชะงัก

“ลุงพจน...รัน...” ผมเรียกชื่อคนที่ถูกผมจอขมับกอนมองไปยังรันที่ยืนเยื้องจากลุงพจน เล็งปนมาที่ผมเชนเดียวกัน

"นายนอยปลอดภัยดีใชไหม" เสียงของรันถามอยางหวงใยขณะลดปนลง

"ยังอยูครบ" ผมบอก

"เมื่อสักครูเหมือนไดยินการตอสูอยูทางนี"้ ผมบุยหนาไปทางศพที่กองกันอยูกอนจะเดินไปหยิบอาวุธคูกายของตัวเอง ใสแหนบ


กระสุนใหมเขาไปใหเรียบรอย

“เหมือนคลื่นกําลังจะสงบ” คําพูดของรันทําใหผมหยุดฟงเสียงรอบขาง เห็นจะใช ถึงแมในใจจะคิดวามันสงบเร็วกวาที่คิดไวมาก คง


มีบางอยางเคลื่อนไหวอยูภายนอกเปนแนแท

“รามิลกับคีตาคงรออยูทางโนนแลว ไปกันเถอะ” ผมบอกกอนจะเริ่มขยับตัว ทวาไมทันไดกาวเดินเสียงปนก็ดังกึกกองผืนปาอีกครั้ง


พรอมเสียงตะโกนโหวกเหวกไปทั่วไพร

“นายนอย...นายนอย...”

เปนอยางที่ผมคาดการณไวไมมีผิด รันหันมาทางผม ผมจึงพยักหนาใหเปนการสงสาร เขาจึงยิงปนหนึ่งนัดขึ้นสูทองฟา จากนั้นเสียง


โวยวายก็เงียบลงกอนเปลี่ยนเปนเสียงสวบสาบของคนเดินบุกปาเขามาใกล...เห็นทีคงไมตองไปถึงลําธารแลวละ พวกของคเชนทร
ซึ่งรามิลติดตอไปคงมาถึงแลว

ไมชาหลังจากเดินลัดเลาะผานปาโปรงออกมาพวกเราก็เจอกับคนของคเชนทรจํานวนหนึ่งซึ่งอยูในชุดชาวไร พวกเขามีสีหนาโลงอกที่
เห็นผมปลอดภัย คนที่เปนหัวหนาของกลุมเดินนําเราไปยังรถซึ่งจอดอยู ในขณะสวนที่เหลือเขาเคลียรพื้นที่จัดการกับศพและสราง
ทุกอยางใหกลับมาเปนปรกติดั่งเดิม

ผมไดรับรายงานเกี่ยวกับสถานการณของเราวาสายที่แยกไปอีกดานไดพบกับรามิลและคีตาแลว ซึ่งอีกไมนานทั้งสองจะเดินทางมา
สมทบกับพวกเราที่นี่ สิ่งที่ไดรับรูนั้นทําใหผมคลายใจไดเปราะหนึ่งกอนจะถามเรื่องลูกสาวของอานนท แลวคําตอบที่วาทุกอยาง
เรียบรอยก็ทําใหผมลอบถอนหายใจอยางโลงอกจริงๆ ซะที

ขณะนี้ผมควบคุมทุกอยางไดแลว จากนี้ก็รอเพียงเวลาเทานั้น คราวนี้ชินกฤตมันจะไดรูซะทีวาอยาคิดจะมาลูบคมคนอยางผม!

“เรื่องราวระหวางสองเรา ฉันเขาใจ เราคงไปไมไกลเกินกวานี้


เธอมีเหตุผลของเธอก็รูดี เหตุผลที่ทําใหเธอเปลี่ยนไป
อยากรักเธอจนวันสุดทาย แตฉันก็พอเขาใจ
วาพบกันเพื่อเพียงผาน เมื่อรักที่เธอตองการ
ไมใชฉัน วันนั้นเธอแคเหงาใจ
ไดพบกันแคชวงหนึ่ง หมดวันเวลาที่มันลึกซึ้งก็ไป
แมรักเธอแคไหน ก็ไมมีวัน
จะเหน็บหนาวจะเนิ่นนาน สักเทาไหร เมื่อวันที่เธอตองการ
ไปจากฉัน ไมมีความหมาย ไมแคร ไมสําคัญ
กับฉันเธอคงแคผานเลยไป”

เสียงเพลงที่บรรเลงอยูนั้น กําลังทําใหใครบางคนเจ็บปวดหรือเปลานะ เรียวปากที่เมมสนิทกับใบหนาซึ่งเอียงซบกระจกอยางหมด


แรงนั่น มันเปนกิริยาที่สะทอนออกจากภายในใชไหม เมื่อหัวใจมันรวดราวความเจ็บก็เลยแผกระจายไปทั่วรางและสงผลใหใบหนาที่
เคยเต็มไปดวยรอยยิ้มบางๆ กลับหมนเศราอยางนาใจหาย

“ตริน...ไฟเขียวแลว…” ถึงแมอยากปลอยใหใครบางคนจมอยูกับความคิดของตัวเองนานกวานี้ทวากอนที่เสียงแตรจากรถขางหลัง
จะดังขึ้น ผมจําเปนตองบอกเขา

“ตริน...”

“ครับ นองกุล” ผมตองเรียกเขาเปนครั้งที่สอง ตรินถึงไดตื่นจากภวังค ใบหนาเศราๆ ของเขาหันมาทางผม กลาวทวนชื่อดวยน้ําเสียง


เหงาๆ ราวกับไมรับรูความเปลี่ยนไปของโลกรอบตัว

“ไฟเขียวแลว...” ผมบอกพรอมกับชี้ไปยังสัญญาณไฟจราจร เขาถอนหายใจกอนจะกลาวขอโทษแลวออกรถ

จากนั้นตลอดเสนทางกลับบานผมก็ลอบสังเกตตรินอยูตลอดเวลา ในบางครั้งก็อยากเอยปากถามเขาเรื่องของเมธและบางสิ่งที่คาง
คาอยูในใจของเขา แตก็ยั้งปากไวทุกทีเมื่อเห็นตรินพยายามปกปดความเจ็บปวด เขาปนสีหนาใหสดชื่น ขมใจตัวเองไมใหจมอยูกับ
โลกแหงความหมนหมอง ชวนผมคุยเรื่องอื่นไมขาดปาก ผมก็พยายามชวยเขา ถึงแมไมมีอะไรจะคุย ผมก็ดึงเรื่องของตัวเองมาพูด

หลายคนอาจสงสัยวาทําไมผมไมเรียกเขาวา “พี่” ทั้งที่ตรินเปนพี่ชายของผม คําตอบก็คือ ตอนที่เจอเขาครั้งแรก “อคติ” คือคําแรกที่


ผมถึงนึก ตลอดชีวิตผมเปนลูกชายคนเดียว มันจึงไมใชเรื่องงายที่จะเรียกลูกของพอเลี้ยงที่เขามาทําใหครอบครัวผมแตกแยกวา “พี่”
และสิ่งที่มากไปกวานั้นผมขอสารภาพวาในตอนนั้นผมอยากเรียกเขาวา “มัน” ทั้งพอและลูกดวยซ้ํา

เพื่อนรักผมสองคนเมื่อเห็นผมเจ็บก็อยูในอาการเดียวกัน เมธกับลูกแพรไมถูกชะตากับตรินตั้งแตแรกเจอ จะใหพวกเขาเรียกตรินวา


พี่ ทั้งสองก็ไมยอม แตพอเวลาผานไปพวกเราทั้งสามตางก็พายแพใหกับความเสมอตนเสมอปลายของเขา ตรินทําทุกวิธีทางเพื่อจะ
เขากับผมใหได แลวความพยายามบวกกับความใจดีและมีน้ําใจของเขาก็เผื่อแผไปถึงเพื่อนของผมดวย

ถึงแมจะถูกผมแกลงสารพัด แตเขาก็ไมเคยปริปากฟองใครเลย บางครั้งถูกแพรแกลงบาง เมธบาง ผมขอยอมรับวาพวกเราทั้งสาม


มีชวงเวลาหนึ่งที่เราสนุกกับการไดแกลงตริน แตมันก็เพียงแคชวงเวลาหนึ่งจริงๆ เพราะหลังจากนั้นก็เริ่มมีใครบางคนสงสารเขา หาก
ผมแกลง เมธกับลูกแพรจะออกโรงปกปอง หากเมธแกลง ผมกับลูกแพรจะรูสึกไมชอบใจ

ดังนั้นการที่ลูกแพร เมธ รวมถึงผมไมเรียกตรินวาพี่นั้น ไมใชเพราะไมนับถือเขาหรอกนะ หากแตมันเปนการสงความรูสึกดีๆ ที่เขาได


กลายเปนเพื่อนสําคัญคนหนึ่งของพวกเรา ไมมีการแบงแยก ไมมีอายุ ไมมีพี่เลี้ยง นองเลี้ยง แตเปนตริน ที่พวกผมรูจักและคุนเคย

และตอนนี้เพื่อนผมกําลังเจ็บ มันก็ทําใหผมเจ็บไมตางไปจากเขาเลย ผมอยากบอกตรินจังเลยครับ อยากปลอบเขาวาอยาเพิ่งทอ


และทิ้งเมธไปเลยนะ อยากใหเขาทําตัวเสมอตนเสมอปลายอยางที่เคยเปนมา ถึงแมจะเสียใจเทาไหร และทําอะไรไมไดเลย แตผมก็
อยากใหเขาเขาใจเมธบาง เพื่อนผมกําลังสับสนไมเขาใจความรูสึกของตัวเอง

ขอรองเถอะนะตริน ใหเวลาเมธอีกนิด เชื่อกุลเถอะวาทุกวินาทีที่ตรินเขามาในชีวิตของเมธ ไมใชแคเพียงผานไปหากแตไดประทับ


รอยของความทรงจําไวในหัวใจของเมธแลว ทนเจ็บอีกนิดเพื่อรอใหเมธคนหาสิ่งที่มีคาใหเจอเถอะนะ

ตลอดเสนทางการเดินทาง ผมจึงพยายามทําตัวใหราเริง ไมปลอยใหตรินจมอยูกับความคิดของตัวเอง ดวยการพูดคุยกับเขา ตริ


นถามอะไรมาก็ตอบไป รวมไปถึงเรื่องความสัมพันธของผมกับไอพี่ทองดวย เขาสารภาพวาแปลกใจมากที่รูวาผมมีแฟนแลว แถม
คนรักของผมยังเปนผูชายอีกตางหาก แถมเขายังตอวาที่ผมปดบัง

ผมยิ้มแหงๆ ใหกับตรินไปเพราะตัวผมเองก็ยังแปลกใจที่มาลงเอยกับไอพี่ทองได สวนเรื่องปกปดนั้นผมก็ขอโทษเขาพรอมกับบอก


ไปตามตรงวา ความจริงแลวผมยังไมพรอมจะใหใครรูเรื่องนี้ดวยซ้ํา หากเมธกับตรินไมเห็นกับตา ผมก็คงไมคิดที่จะบอกดวยตัวเอง
แนๆ สวนลูกแพรนั้นเธอก็ยังไมรูเรื่องความสัมพันธของผมกับพี่เขา ดังนั้นผมจึงขอรองใหตรินชวยปดความลับใหผมดวย หากผม
พรอมเมื่อไหร ผมจะเปนฝายบอกเธอเอง ตรินก็รับปากอยางเขาใจ
ผมมาถึงบาน ปาแมบานก็บอกใหไปที่ศาลาในสวนเพราะตารออยูที่นั่น แมกับพอเลี้ยงของผมยังไมกลับจากที่ทํางาน สวนปรินนั้น
ผมยังแสรงทําเปนไมรูเรื่องของเขา รวมถึงตรินก็ไมเห็นเขาจะเอยบอกผมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมจึงคิดวาบางทีการเรียกตัวกลับบานของ
ผมครั้งนี้ อาจไมเกี่ยวกับเรื่องพี่ชายคนใหมของผมเลย

“มากันแลวหรือ นี่ถาไมโทรตามก็ไมคิดจะกลับบานกลับชองใชไหม” พอผมมาถึงตาก็ตอวาทันที แตผมก็ไมเก็บมาใสใจ กมกราบที่


อกของตาพรอมกับยื่นของฝากจากใต

“กุลไปเที่ยวมา ไดรังนกสดๆ มาฝากตาดวย” เปนความคิดของไอพี่ทองครับ แกใหเซฟมือหนึ่งของโรงแรมปรุงรังนกแทรอยเปอรเซ็นต


ใหแลวเอากลับมาฝากตา ผมเก็บใสตูเย็นไวแลวใหตรินพากลับไปเอาที่คอนโดกอนมาที่นี่

“ดีจัง คนหนุมสะดวกเที่ยว ไอเราคนแกเดินเหินไมสะดวกตองอยูติดบาน” ตาวาพรางยื่นของฝากใหลุงหาญเอาไปเก็บไว คําพูดนั้น


ทําใหผมสังเกตตามากขึ้น ตาผอมลงไปมากเลยครับ แคสองอาทิตยที่ผมไมไดกลับบานตาซูบลงขนาดนี้เชียวหรือ

“คล้ําลงไปหรือเปลา” ทวาแทนที่ผมจะเปนฝายถามตาวาผอมลงไปใชไหม ตากลับเปนฝายทักผมกลับมาเสียกอน

“ก็กุลไปทะเลนี่ ไมดําไดไง” ผมพยายามปนน้ําเสียงใหปรกติกลบรอยกังวลบนใบหนาและดวงตา

ทําไมรอบตัวผมถึงมีแตคนที่ทําใหผมเปนหวงเปนใยพรอมกันดวยนะ ไอพี่ทองก็อีกคน ติดตอผมแคตอนเชา หลังจากนั้นก็เงียบไป


เลย เมธกับตรินไมตองพูดถึงเลย สดๆ รอนๆ มาเมื่อครูนี้เอง แลวนี่ยังมาเจอตาอีก

“ตรินก็ไปทะเลไมเห็นดําเหมือนเราเลย” พอตาวาอยางนั้นผมเลยหันไปมองตริน ใชจริงๆ ดวย สีผิวเขาแทบไมเปลี่ยนเลย คงไมได


แลนน้ําอยางผมแนๆ

“ตรินสําอาง คงอาบครีมกันแดดหมดไปเปนถัง” ผมเยา ตรินหัวเราะในลําคอแตไมตอบโตอะไร

“ไปวาพี่เคา เรามันสําอางนอยเสียเมื่อไหรกัน” นั่นไง เขาไมตองพูดแกตัวอะไร ตาก็ชวยปกปองเขาอยูแลว ความจริงผมก็ไมได


สําอางอะไรมากมายเลยนะครับ ทาครีมบํารุงผิวบางเปนธรรมดา เมื่อกอนเคยถูกลูกแพรลากไปสปา เมธกับตรินก็โดนดวยนะ พอตา
รูก็สายหนาแลวก็กลาวหาผมสําอางอยางที่คุณๆ ไดยินนั่นแหละครับ

“แลวไปกับใครหรือทะเลนะ ไดยินวาไมไดไปพรอมตรินนี่” พอตาถามแบบนี้ ผมก็เปลี่ยนอารมณแทบไมทัน อึกอักขึ้นมาทันที

“ไปกับ...เออ...เพื่อนอะครับ...” ตอบโดยไมกลาสบตา
“เพื่อนคนไหน ลูกแพรกับเมธหรือ” ตายังคงซักไซ สายตาคาดคั้นจองมาที่ผม

“เปลา...” ผมออมแอมตอบ

“...งั้นใคร...”

“…เออ...” ผมกระอักกระอวนมากขึ้น ไมรูจะเคนเอาคําตอบอะไรมาบอกตาดี จูๆ ความกลัวมันก็เขามาเกาะกุมหัวใจ

“ตริน...เมื่อวานไดยินวาทําบัวลอย ไปเอามาใหกุลชิมหนอยสิ” ตรินหันมาสบตาผมอยางใหกําลังใจ ความหวงใยฉายชัดบนใบหนา


ของเขา

“ครับ” แตเขาก็ชวยไดแคสงใจเพราะจําเปนตองเดินจากไปหลังจากรับคําของตา

เมื่อคลอยหลังตรินแลว ตาเหมือนตองการจะทรมานผมดวยการทอดเวลาใหผานเลยไปอยางเชื่องชา ไมไดเคนเอาคําตอบอะไร


หากแตผมกลับถูกตาจับจองดวยสายตาที่เต็มไปดวยคําถามและรอคอยคําตอบ สิ่งนี้มันเลวรายกวาการเอยปากพูดสิ่งใดออกมา
เพราะมันหมายถึงการที่ตาใหเวลาผมเปนฝายเริ่มตนเลาเอง แตผมก็ไมรูจะเอาอะไรมาบอกตา ครั้นจะโกหกก็โกหกไมเปนและก็ไม
สามารถบอกความจริงได

ตาถอนหายใจเมื่อเห็นผมเงียบ กอนจะเอยในสิ่งที่ทําใหหัวใจผมกระตุกวูบ “ตอนเชาวันจันทรตาไปตรวจรางกายมา พอเสร็จแลวก็


วาจะแวะไปกินขาวดวยสักหนอย เห็นหายไปนานก็นึกเปนหวง อยากรูว าอยูกินยังไง พอไปถึงก็ไมเห็นเราอยูหอง แตกลับพบขาวของ
ใครไมรูอยูปนกับของเรา”

ผมเมมเรียวปาก หัวใจสั่นรัวดวยความหวาดหวั่น กอนหนานี้ผมนึกกลัวไปสารพัดวาจะเกิดอะไรขึ้นหากเมธรู จะเปนอยางไรหากลูก


แพรรู แตผมกลับมองขามไปวาตาตางหากที่มีโอกาสจะรูมากกวาคนอื่นๆ เพราะตามีกุญแจเขาหองของผม ผมลืมไปไดอยางไรวา
เมื่อครบเดือนตาจะไปหาหมอและแวะไปหาผมทุกครั้ง หรือเปนเพราะปรกติตาโทรหาผมกอน แลวคราวนี้อะไรมาดลใจใหตาไปโดย
ไมบอกผมลวงหนาเชนนี้ โอ...พระเจา ทําไมถึงไดใจรายกับผมนัก สงสารผมเถอะนะ อยากลั่นแกลงผมไปมากกวานี้เลย

“เงยหนาขึ้นมากุล อยาหลบตาเวลาคุยกัน!” ผมสะดุง เหงื่อไหลตามผามือเมื่อน้ําเสียงไมพอใจของตาเอ็ดตะโรดังลั่น สายคาคาดคั้น


ทิ่มแทงจนผมอยากหนีหนาใหรูแลวรูรอด

“ ครั้งแรกก็นึกวาเราพาผูหญิงมาอยูดวย แตพอถามยามกลับไดคําตอบวารูมเมทเราเปนชาย แลวที่ไปตางจังหวัดนี่ก็ไปดวยกัน ชื่อ


อะไรนะ...คินใชไหม”

“...ครับ...” หลังจากถูกความพรั่นพรึงเสียดแทงหัวใจจนปวดราว ผมก็หาเสียงตัวเองเจอ คําตอบรับสั้นๆ แตผมก็เปลงมันออกมา


อยางยากลําบาก
ผมอยากโทษความมีอัชฌาสัยดีเกินไปของไอพี่ทองที่เปนมิตรกับลุงยาม บอกลุงแกไปตามตรงวามาอยูกับผม อยากโทษความชะลา
ใจของตัวเองที่กอนจะเดินออกจากคอนโดในวันนั้นเอยปากบอกลุงแกวาจะไปเที่ยวดวยกัน แตถึงผมอยากจะโทษโนนโทษนี่เพื่อหา
ขออางใหหลีกพนจากสิ่งที่กําลังเผชิญหนาอยู แตมันก็ไมมีประโยชนและทําใหอะไรดีขึ้นมาไดเลย

“แลวนายคินนี่เคาเปนใคร มาอยูกับเราไดอยางไร...กุล...ตาบอกใหเงยหนาขึ้นมา!”

หลังจากที่ลุงพจนมาถึงเซฟเฮาสแกก็วิ่งเขาไปอุมหลานสาวของแกทันที มันเปนภาพที่ใหความรูสึกโหวงเหวงในใจอยางบอกไมถูก
ถึงแมจะเห็นวาคนทั้งคูปลอดภัย แตคนที่มองอยูหางๆ อยางผมนั้นรูอยูแกใจวาถึงอานนทจะรอดจากเงื้อมมือของชินกฤตออกมาได
แตเขาก็คงไมพนโทษจากกฎหมายที่ทางบริษัทเรายื่นฟอง

มันคงเปนเวลาหลายปกวาจะพนโทษและมีโอกาสไดอยูพรอมหนากับลูกสาวอีกครั้ง คิดขึ้นมาแลวก็ใจหายพรอมกับสงสารเด็กที่อยู
ในวัยกําลังจะโตซึ่งตองจําพรากจากบิดา แตจะใหทําอยางไรไดละครับ แบบนี้แหละเขาถึงไดวาชีวิตนี้เกิดมาไมใชตัวคนเดียว จะทํา
อะไรก็ตองคิดถึงคนที่อยูขางหลังดวย หากไมคิดกอนทําจะกลับไปแกไขอะไรก็ลําบาก หรือบางครั้งก็แกไขอะไรไมไดเลยอยางใน
กรณีของอานนทเปนตน

กวาทุกอยางจะเรียบรอยก็ปาเขาไปเกือบสามทุมผมถึงมีโอกาสไดติดตอกับวินดี้อีกครั้ง ความจริงตอนหัวค่ําผมก็โทรหานองครั้งหนึ่ง
แตนองไมรับสาย สงขอความไปก็ไมสงกลับมา รูสึกใจคอไมดีอยูบางเล็กนอย ถึงจะเปนหวงแตตลอดทั้งวันผมก็ยงุ จนหัวหมุนเลย
ทีเดียว เลยไดแตถามการดที่ตามนองอยูแลวก็ไดความวาวินดี้อยูบานครับ นั่นทําใหผมอุนใจขึ้นบางนิดหนอย นองคงมีเหตุผลของ
เคาแหละถึงไมติดตอผมกลับมา

เรื่องการดนี่คุณๆ อยาเอะไปนะครับ เดี๋ยววินดี้จะโกรธผมเพราะนองขอรองไวในวันที่เรากลับจากภูเก็ตดวยกัน วินดี้ไมอยากทําตัว


เปนคุณหนู อึดอัดที่มีคนเดินตาม แลวอีกอยางนองใหเหตุผลวาตองไปมหาวิทยาลัยเลยไมอยากทําตัวแปลกแยกจากคนอื่น พรอม
กันนั้นวินดี้อยากมีโลกเปนของตัวเองบาง
เหตุผลรอยแปดประการถูกนองยกขึ้นมาอางขนาดนี้ผมก็ตองตามใจเขาแหละครับ แตแสรงทําเปนตามใจนะเพราะสถานการณมัน
ยังไมนาไววางใจ ผมคงปลอยนองไมไดหรอก ดังนั้นผมจึงใหการดคอยตามโดยที่ไมใหนองรูตัว ยังไงก็ปองกันไวดีกวาแกครับ

เมื่อกลับเขาสูหองพักและถอดคราบนายนอยออกแลว ผมก็กลับมาเปนผูชายธรรมดาที่กําลังมีรักอยางคนอื่นๆ โดยไมรอชาผมทํา


อยางที่ใจตองการดวยการเดินออกไปยังระเบียง กดโทรศัพทหาหวานใจ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน อยากออนใครบางคนเหลือเกิน

ขณะฟงเสียงรอสายอยูนั้นก็เงยหนาขึ้นมองฟา ดวยคืนนี้เปนคืนเดือนมืดจึงทําใหมองเห็นดวงดาวพราวแสง หากอยูกรุงเทพฯ คงไม


สามารถมองเห็นภาพอันสวยงามอยางนี้ได ลมราตรีแผวๆ พัดผานทําใหรูสึกเย็นสบาย บรรยากาศดีๆ แบบนี้อยากใหวินดี้มายืนดู
ดาวดวยกันจังเลยครับ
ผมรอจนเสียงรอสายตัดไปนองก็ยังไมกดรับ เริ่มรูสึกกระวนกระวายใจขึ้นมานิดหนอย คิ้วเริ่มขมวดเปนปม ดวยปรกติหากวินดี้ไม
วางก็มักจะโทรกลับมาทีหลัง แตนี่ผมโทรหานองครั้งลาสุดเมื่อตอนหกโมงเย็นจนเดี๋ยวนี้จะสามทุมแลววินดี้ก็ยังไมติดตอผมกลับมา
เกิดอะไรขึ้นกับนองหรือเปลานะ วันนี้วินดี้ยิ่งตองกลับบานไปเจอพี่ชายคนใหมดวย ไมรูวานี่เปนสาเหตุใหนองเงียบหายไปหรือเปลา
ทวาในขณะที่ผมกําลังคิดหาคําตอบอยูนั้นก็มีขอความเขามาครับ

“หวัดดี” นองสงคําทักทายมาเพียงสั้นๆ สองคําเทานั้นนี้จริงๆ ครับ แตมันก็ทําใหผมรูสึกดีขึ้นมากโขเลยทีเดียว...ผมติดตอที่รักผมได


แลวครับ

“คิดถึงจัง ทําไมไมรับสาย” ตอบกลับพรอมกับบอกความรูสึกใหนองรู

“คิดถึงเหมือนกัน” อา...ไดอานแลวชื่นใจจัง ผมยิ้มโดยไมรูตัว

“พี่อยากไดยินเสียงวินดี้ เดี๋ยวโทรหานะ” แตถาจะใหดี อยากไดยินเสียงหวานๆ มากกวาครับ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแลว อยากคุย


อยากออน อยากบอกรัก อยากใหนองมาเติมกําลังใจให

“วินไมสะดวกคุย” แตวินดี้กลับตัดบทมาแบบนี้นั่นทําใหใบหนาระรื่นของผมเฉาไปทันที

“นิดเดียวก็ไมไดหรือ” แตก็ไมละความพยายาม ออนนองอีกหนอย แลวพอกดสงขอความไป ผมก็ตองรอนานมากเลยกวานองจะ


ตอบกลับมาวา

“นิดเดียวจริงๆ นะ”

แคนั้นแหละ มือรีบกดโทรออกทันที แตแทนที่นองจะรีบกดรับกลับใหผมรออยูครูใหญ แลวพอไดยินเสียงที่ตอบกลับมานั่นทําใหผม


แทบอยากใหคนปลายสายมาอยูตรงหนา อยากดึงมากอดแลวถามวาเกิดอะไรขึ้นทําไมเสียงนองถึงไดอูอี้แบบนั้น

“...ครับ...ฮึก...” นั่น เสียงเหมือนคนกําลังสะอื้นอยูใชไหม ไดฟงแลวหัวใจปวดแปลบกอนที่มันจะหลนลงไปอยูที่ปลายเทา

“เกิดอะไรขึ้นที่รัก รองไหทําไม” ผมถามกลับดวยน้ําเสียงรอนรน

“ฮึก...ไมได...รอง...ฮึก...” ไมไดรองยังไง ดูส.ิ ..สูดน้ํามูกฟดๆ สะอื้นฮึกฮักซะขนาดนั้น

“ไมเอา ไมรองนะคนดี บอกพี่สิวาเกิดอะไรขึ้น” ใหตายเถอะทําไมเวลานี้ผมตองอยูหางจากนองดวยนะ ซักอยากกลับไปหานอง


เดี๋ยวนี้แลวละครับ อยากกอดปลอบ อยากถามใหไดความเร็วๆ
“วินบอก...พี่แลว....ฮึก...วาไมสะดวก...คุย…” ก็พี่ไมคิดวาวินดี้จะรองไหอยูนี่ครับ แลวนี่อยาบอกนะวาที่เพิ่งมารับสายเอาปานนี้
เพราะแอบรองไหมาตั้งแตหกโมงเย็นโนนนะ

“ที่รักบอกพี่ไดไหมวาเกิดอะไรขึ้น ใครกลามารังแกวินดี้ของพี่ บอกพี่สิครับ เดี๋ยวพี่จะไปเฉือนจูมันให”

“บา...จะไปเฉือนจูเขาทําไม”

“ก็มันทําใหยอดดวงใจพี่เจ็บนี่ พี่ก็จะทําใหกลองดวงใจมันหายสาปสูญไปเลย”

“หึหึ...บาแระ...ฮึก...” อา เริ่มนองหัวเราะแลวแตก็ยังปนมากับเสียงสะอื้นอยูดี

“งั้นเอาระเบิดไปปาบานดีไหม ใหมันไมมีที่ซุกหัวนอนซักพัก”

“อันธพาล”

"แรงไป งั้นไปแอบปลอยลมรถก็พอ ใหมันไปไหนมาไหนไมได"

"เกเร"

"อา งั้นแอบยองไปดานหลังแลวดึงกางเกงมันใหหลุดดีไหม มันจะไดขายหนา"

"ทะลึ่ง"

"วา...ทั้งอันธพาล ทั้งเกเร แลวยังทะลึ่งอีก"

"ก็มันจริงไหมละ ดูเสนอมาแตละอยาง"

"อะนะ...แตถึงวินดี้จะไมเห็นดวยก็รักพี่ใชไหมครับ"

“…ครับ...รักมาก...”

“ถารักวินดี้ก็บอกพี่สิครับวาเกิดอะไรขึ้น” พอผมวาอยางนั้นวินดี้ก็เงียบไปครูใหญ กวานองจะตอบกลับมาไดผมก็ตองกลั้นหายใจอยู


หลายวินาที

“ไมมีอะไรหรอก วินแคดูหนัง มันเศราก็เลยรองไหตาม”


“จริงหรือ” ผมทวนถามดวยไมเชื่อในสิ่งที่นองพูดแมแตนอย

“จริงสิ...วินจะโกหกพี่ทําไม”

“โกหกใหพี่สบายใจไง”

“ไมหรอก ไมมีอะไรจริงๆ” ใหมันจริงเถอะ ถึงจะยืนยันมาเชนนั้น แตใจผมมันก็ไมคลายความรอนรน หายเปนหวงคนที่อยูไกลไดเลย

“เอาเปนวาวันนี้พี่ยกประโยชนใหเพราะไมไดอยูตรงหนา เลยตองเชื่อตามที่บอก ใจจริงอยากกลับไปหาเดี๋ยวนี้ซะใหรูแลวรูรอด แต


ยังปลีกตัวไมได รอพี่นะครับ พรุงนี้พี่ก็กลับแลว”

ความรูสึกของผมในตอนนี้ก็อยางที่บอกนองไปนั่นแหละครับ หากไมติดวาตองตามเรื่องที่ชินกฤตจะเคนถามอานนทอีกครั้งในคืนนี้
ผมคงจับเที่ยวบินรอบสุดทายกลับไปหานองแลว ตอนนี้ผมก็ยังไมรูวาเลยวาคืนนี้จะไดนอนไหมเพราะตองเฝาระวังและจะกาวพลาด
ไมไดเลย

“วินรอได...วาแต...พี่รอวิน...ไดไหม...” น้ําเสียงติดๆ ขัดๆ พรอมกับประโยคคําถามอันกํากวมของนองทําใหผมไมสบายใจกับความ


นัยที่อาจแฝงมานั่นเลย

“หมายความวาไงครับ” ถามกลับดวยความอยากรู

“ฮึก...ฮึก...พี่ครับ...”

“ครับที่รัก” ผมครางตอบนองกลับทันทีดวยน้ําเสียงเจ็บปวด มันทรมานเหลือเกิน ใหผมถูกยิงยังเจ็บนอยกวาไดยินเสียงราวรานของ


นองเชนนี้

“คนรักกัน...ฮึก...ตองอยู...ฮึก...ดวยกันใชไหม...”

“ตองอยูดวยกันสิครับ พี่กับวินดี้ตองอยูดวยกัน” มันตองเปนอยางนั้นอยูแลว พี่สัญญากับตัวเองไวและตองทําใหได

“ตอง...ตอง...ฮึก...ไมมีอะไร...พรากเราจากกันใชไหม...”

“ไมม.ี ..ไมอะไรทั้งนั้น พี่จะไมใหอะไรมาพรากเราจากกัน” ผมตอบกลับอยางรวดเร็วดวยน้ําเสียงหนักแนน

“แต...แต...วิน...ฮึก...กลัว...ตรืด...ตรืด...”
“วินดี!้ วินดี!้ ” ผมตะโกนเรียกนองเสียงดังเมื่อจูๆ สายก็ตัดไป ยิ่งเมื่อโทรกลับไมติดยิ่งทําใหผมทุรนทุราย เดินกระสับกระสายไปมา
รอบหอง ทั้งหัวใจและสมองของผมทํางานอยางหนัก ในหัวก็พยายามคิดหาคําตอบวามันเกิดอะไรขึ้นกับที่รักของผม วันนี้นองตอง
ไปเจออะไรรายแรงมาแนๆ ไมงั้นคงไมรองไหสะอึกสะอื้น และพูดอะไรแปลกๆ เชนนี้ สวนหัวใจก็กระวนกระวาย รอนรนเต็มไมดวย
ความกังวล ผมเปนหวงนองเหลือเกิน

“นายนอย” แตแลวเสียงเรียกอยูหนาหองก็ทําใหผมชะงัก คําเรียกขานนั่นบงบอกวาผมมีภาระรอใหไปสะสาง ใหตายเถอะ...มันไมใช


เรื่องงายเลยเมื่อหนาที่กับหัวใจมันรุมเราผมในเวลาเดียวกัน

“แต...แต...วิน...ฮึก...กลัว...” คําพูดของผมตองหยุดอยูแคนั้นเมื่อจูๆ โทรศัพทในมือถูกแยงไป ผมหันขวับไปยังบุคคลซึ่งไรมารยาท


และทําการไมสมควรเชนนี้กับผม

“เอาคืนมานะ” ผมแผดเสียงรองอยางไมพอใจ ใชหลังมือปายน้ําตาพรอมกับพยายามเยื้อแยงเอาโทรศัพทของตัวเองคืนมา นัยนตา


หยามเยาะมองมาที่ผม ยิ้มนาเกลียดมุมปากนั้นทําใหผมอยากตอยหนาไอคนๆ นี้ใหรูแลวรูรอด

“บอกใหเอาคืนมาไง” ผมบอกเสียงรอดไรฟน กํามือแนนจองมองอีกฝายอยางจะกินเลือดกินเนื้อ หากแตมันกลับไมทีทาสะทก


สะทานแตประการใด นัยนตาคูนั้นไหวระริกราวกับพึงพอใจที่เห็นอาการกริ้วโกรธของผม

“ฉันชอบมือถืนรุนนี้ ขอแลวกัน” มันพูดหนาตายดวยน้ําเสียงรื่นเริงขณะมองมือถือของผมในมือกอนจะหยอนใสกระเปากางเกง


ตัวเองอยางหนาตาเฉย

“ปริน!” ผมเรียกชื่ออีกฝายอยางเดือดดาล มันเอียงหนา เลิกคิ้วขึ้นสูง

“จําไดวาตาใหเรียกฉันวาพี่ปรินไมใชหรือ” พูดจบมันก็ยิ้มมุมปาก นัยนตาถากถางมองมาที่ผม

“หรือวาตองใหตาบอกซ้ําอีกที...ดีเลยฉันจะไดบอกตาพรอมกันวาไอเด็กขี้แยหลานรักของคุณตา...เปนเกย!” วาจบมันก็ผลักอกผม
อยางแรงจนผมเซถลาไปดานหลังกอนจะเสียหลักลมกนกระแทกพื้น การกระทําเชนนั้นทําใหความอดกลั้นของผมขาดสะบั้น พอกัน
ที วันนี้ผมถูกกดดันมามากเกินพอแลว หากมันจะเปนอีกคนที่บีบคั้นผม มันก็ไมทําใหผมเจ็บมากไปกวานี้ไดหรอก ดีซะอีก เรื่องมัน
จะไดจบๆ ไปซะที!

“ปริน...ทําอะไรนองกุล!” เสียงของตรินที่ดังขึ้นอยางตื่นตระหนกกอนเจาตัวจะโผลเขามาชวยพยุงผมนั่นไมไดเรียกความสนใจของ
ผมไดมากกวารอยยิ้มสะใจบนใบหนาของมัน ผมสะบัดตัวจากตริน จองมองอีกฝายดวยสายตาวาวโรจน

“มึงคิดวากูจะกลัวมึงหรือไงหะ!” ความโมโหจนเลือดขึ้นหนานํารางผมพุงเขาใสอีกฝายพรอมกับหมัดที่ปลอยใสมันอยางรวดเร็ว ทํา


ใหมันหนาหัน เซไปดานหลังกอนจะใชมือแตะมุมปาก มองผมดวยสายตารอนแรงไมแพกนั
“มึงกลาทํากูเหรอ!”

“เออ!”

หลังจากผมขานรับดวยน้ําเสียงรอนแรงแดกดัน อารมณเดือดดาลก็นํารางของเราทั้งคูกระโจนเขาใสกัน หมัดตอหมัดกระแทกอีก


ฝาย ถึงแมจะกลิ้งลงไปกับพื้นแตก็ไมใชอุปสรรคที่จะทําใหความบาดีเดือดของเราทั้งคูลดนอยลง ถึงมันจะไดเปรียบผมดวยลําตัวที่
ใหญกวา แตผมก็ไมยอมมันหรอก ความโมโหโกรธาทําใหสติผมขาดสะบั้น สิ่งที่อยูตรงหนาตอนนี้คือไอเหี้ยปริน ไอสันดานที่ขมขู
และบีบบังคับผม เสียงเอะอะโวยวายของตรินที่พยายามหามเราทั้งสองไมไดเขาหูผมเลยแมแตนอ ย

“วายุระกุล!” แตแลวเสียงตวาดดังลั่นของตาก็ทําใหผมชะงักกอนจะหนาหงายเมื่อถูกหมัดของปรินสวนเขาใสเต็มๆ

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ใครสั่งใครสอนใหเอานิสัยอันธพาลมาใช!” ตาแผดเสียงอยางกริ้วโกรธ มองผมดวยนัยนตาวาวโรจนปนผิดหวัง ผม


เมมเรียวปาก กํามือแนนอยางสะกดกลั้นอารมณ กมหนาขณะที่ตรินเขามาชวยพยุงลุกขึ้น

“มีเรื่องอะไรกันทําไมถึงตองใชกําลัง” คําถามของตาทําใหผมปรายตาไปทางตัวตนเหตุทันไดเห็นพอเลี้ยงกับแมของผมชวยพยุงใหไอ
เหี้ยนั่นขึ้นมา

“ตาถามวาเกิดอะไรขึ้น”

“คุณตาอยาไปวานองกุลเลยครับ ปรินผิดเอง เอานี่ พี่คืนให พี่แคเห็นมันสวยเลยขอดู ไมคิดวานองกุลจะโกรธขนาดนี้” คําพูดสวยหรู


ที่ถูกแตงเติมขึ้นเพื่อบิดเบือนความจริงทําใหผมรูสึกขยะแขยง

“เรื่องแคนี้ก็ถึงกับลงไมลงมือกันเลยหรือ…ขอโทษพี่เขาเดี๋ยวนี้นะกุล” และยิ่งคําพูดที่เขาขางมันโดยที่ไมถามผมกอนวาเรื่องราวมัน
เปนยังไงยิ่งทําใหผมเจ็บ มองตาดวยสายตาตัดพอ

“อยามองตาแบบนั้นนะ! ขอโทษพี่เขาเดี๋ยวนี้!”

“กุลไมขอโทษมัน แลวกุลจะบอกไวเลยนะวากุลไมนับมันเปนพี่!” ความรูสึกกดดันที่ถูกยัดเหยียดใหทําใหผมลืมตัวตะโกนใสหนาตา


ตามอารมณที่ทะยานขึ้นสูง หันหลังไปจากที่ตรงนั้นดวยความรูสึกผิดหวัง ทําไมทุกคนถึงทํากับผมแบบนี้ ดีแตบังคับ ไมถามเลยวา
ผมเต็มใจไหม เห็นผมเปนอะไร เคยนึกถึงหัวใจผมบางไหม!

“จะเดินหนีไปไหน กลับมาเดี๋ยวนี่นะกุล!” เสียงของตาที่ไลหลังมาไมทําใหผมคิดที่จะหยุดเดิน

“คุณพอคะ คุณพอ!” แตแลวเสียงของแมพรอมกับเสียงของใครหลายๆ คนซึ่งอยูในเหตุการณที่รองอยางตกใจนั่นทําใหผมหยุดชะงัก


หันขวับไปมองทันไดเห็นตาใชมือกุมหนาอก ตัวงอโคงกอนที่รางจะคอยๆ ทรุดลงกับพื้น

“ตา!”

เขาวันใหมแลวครับ ผมกลับมาถึงกรุงเทพฯ แลวทวาจนปานนี้ก็ยังติดตอนองไมไดเลย ไมรูวาเกิดอะไรขึ้น สอบถามกับการดไดความ


วานองยังไมออกจากบานตั้งแตเมื่อวาน แถมวันนี้ยังขาดเรียนอีกดวย ยิ่งคิดก็ยิ่งเปนหวง กังวลไปสารพัด ปานนี้จะเปนยังไงบางก็ไม
รู ผมจะทํายังไงดีครับ บุกเขาถ้ําเสือ ไปหานองที่บานเลยดีไหม

“ทําไมหนาเหมือนคนไมไดถายมาเปนเดือนอยางนี้วะคิน” เสียงพอผมเองครับ ไมรูวาเขามาในหองทํางานผมตั้งแตตอนไหน แตพอรู


วาเปนพอ ผมก็ถอนหายใจออกมาอยางนักหนวง ไมปดบังทาทีปวดราวราวกับคนจะขาดใจตายในอีกไมชา

“ผมดูแยขนาดนั้นเลยหรือพอ” เอนหลังพิงพนักอยางออนแรง ใชมือคลึงขมับ หลับตาพรอมกับสูดลมหายใจลึกๆ

พอเห็นหนาพอแลวก็นึกถึงบททดสอบความสามารถในการแยกงานออกจากเรื่องสวนตัวซึ่งพอเคยลองใชกับผมเมื่อครั้งอยูภูเก็ต
หากเทียบกับตอนนี้แลวผมคิดวาสมรรถภาพของตัวเองตางกันราวฟากับเหว ตลอดเวลาที่ผานมา ผมเคยมั่นใจวาตัวเองสามารถ
แยกแยะความรูสึกได เวลาไหนผมควรจะจดจออยูกับเรื่องใด ทวาพอเอาเขาจริง...มันชางยากเย็นเหลือเกิน

“แยวะ...ดูไมจืดเลย” พอบอกพรอมกับเลื่อนเกาอี้ออกแลวนั่งตรงขามกับผม

“เฮอ...” ชวยไมไดครับ ปลงไมตกจริงๆ วาจะทํายังไงดี

“อะไรของแก ไดยินวาทุกอยางเปนไปตามแผนไมใชหรือ”

“เรื่องนั้นนะไมมีปญหา แตเรื่องหัวใจนี่สิ เจ็บอะพอ ชวยผมหนอยสิ หัวใจของลูกพอกําลังถูกทํารายอยูนะ”

“ทําไม...ลูกกุลทิ้งแกหรือไง”

“อาว...ทําไมพูดไมเปนมงคลอยางนี้ละพอ ผมยิ่งกลุมๆ อยู”

“แลวมันเรื่องอะไรที่ทําใหแกมารําพึงรําพันเปนหมาหงอยอยูแบบนี้” พอพอถามอยางนั้นผมก็ถอนหายใจออกมาอยางหนักหนวงอีก
ครั้ง

“ผมติดตอนองไมไดมาเปนวันแลว” จากหมาหงอยกลายเปนหมาถูกยาเบื่อแลวครับ ใกลตายเขาไปทุกที ยิ่งคิดก็ยิ่งกระวนกระวาย


ใจ อยากโทษตัวเองที่ปกปองนองไมได ทั้งที่คนรักรองไหหนักซะขนาดนั้นแตผมกลับไมมปี ญญาปลอบนองใหหายเศรา
“หือ...กี่วันแลวนะ” คําถามของพอทําใหผมคิดตาม เงยหนาขึ้น นับเลขอยูในใจ ผมคุยกับนองตอนสุดทายก็สามทุมเมื่อคืนวานจน
ขณะนี้มันจะบายสี่โมงแลว

“นับจริงๆ ก็ สิบเกาชั่วโมง”

“สิบเกาชั่วโมง!” พอทวนคําเสียงสูง ผมพยักหนารับ

“ไกออนวะ” วาพลางสายหนาแถมยังมองผมเหมือนเปนเศษฝุนยังไงยังงั้น

“ไมถามหนอยหรือวาทําไมผมถึงกลุมนักหนากับเวลาแคสิบเกาชั่วโมงเนี่ย” เริ่มมีน้ําโหขึ้นมานิดหนอยครับที่พอมองผมดวยสายตา
แบบนั้น ทํายังกับไมรูจักผม ถึงจะเห็นวาผมรักนองมากแตผมก็ไมใชคนออนแอถึงกลับจะเปนจะตายเพราะไมไดเจอหนาไมถึงวันนะ
ครับ แตเหตุที่ทําใหผมติดตอนองไมไดนี่สิ มันทําใหผมกินไมไดนอนไมหลับ

“เออๆ ถาอยากใหรูก็เลามาสิวาเกิดอะไรขึ้น”

“ผมก็ไมรู”

“อาว...แกไมรู แลวผิดหรือที่ฉันเรียกแกวาไกออนนะ”

“ผิด!”

“ไอลูกคนนี้นี่ ตัวเองก็ยังไมรูวาเรื่องอะไร ทําไมถึงไดตีโพยตีพายแบบนี้วะคิน ตํารวจเขายังไมรับแจงถาหายไมครบยี่สิบสี่ชั่วโมง แลว


นี่ติดตอไมไดแคสิบเกาชั่วโมงเอง ลูกกุลหายตัวไปก็วาไปอยาง แกรูไมใชหรือวาตอนนี้นองอยูไหน”

“นองอยูบาน”

“นั่นไง แกก็รูนี่หวา”

“เฮอ...พอ...”

“อะไร...ไอลูกหมา” พอปรายตามองผมดวยใบหนาเอือมระอา แตแววตาที่มองมานั่นยังคงเปยมดวยรักและหวงใย

“ผมไมเคยรักใครมากขนาดนี้มากอน มันกลัวไปหมดเลยพอ กลัวจะมีใครแยกนองไปจากผม กลัวเราจะพรากจากกัน” พอผมวา


อยางนั้นพอก็ลุกขึ้นมาจากเกาอี้เดินออมมาหาผมแลวก็
“ปาบ!” ตบเขาที่กระบาลผมอยางแรงจนหัวคลอน กอนพูดดวยน้ําเสียงจริงจังวา

“ถากลัวก็เลิกรัก...ถาเลิกไมไดก็อยากลัว”

“พูดนะงาย แตมันทํายากนะพอ” วาพลางลูบหัวตัวเองปอยๆ ทําไมพอไมตบแรงกวานี้นะ จะไดสะเทือนไปถึงหัวใจเผื่อจะไลไอ


ความรูสึกหนวงๆ นั้นไปไกลๆ ซะที

“แลวไดลงมือทําหรือยังละ ทําใหมันสุดความสามารถซะกอนแลวคอยมาวากัน อันนี่อะไร เพิ่งจะรักกันไดไมทันไร มากงมากลัวโนน


นี่แลว ถาแกกลัวลูกกุลก็พลอยกลัวดวย” ผมเมมเรียวปาก กมหนาลงเล็กนอย ฟงคําพอพูดอยางตั้งใจ

“ไมวาจะเรื่องอะไรก็ตามนะคิน จําคําของฉันไว เมื่อแกเลือกจะเปนแมทัพก็ตองไมออนแอใหทหารเห็น ไมงั้นก็เสียกําลังใจกันทั้งกอง


แลวสุดทายความพายแพจะตกอยูกับแก เพราะฉะนั้นถาไมอยากแพก็อยากลัวในสิ่งที่ยังมาไมถึง”

เฮอ...พอพูดมามันก็จริงนั่นแหละครับ ผมไมนากลัวอนาคตเลย มือที่ประสานกันบนตักนี่ก็ยังเปนมือของผม มือที่เคยสัญญาไววาไม


วาอะไรจะเกิดขึ้นมือคูนี้จะไมยอมปลอยจากนองเด็ดขาด ในเมื่อผมยังมีชีวิตและลมหายอยู ผมก็ตองรักษาหัวใจของตัวเองไวใหดี
ที่สุด

“ผมจะพยายามนะครับพอ” นัยนตาเด็ดเดี่ยวเงยขึ้นสบตากับพอเปนเชิงบอกวาคําพูดของพอนั้นผมเขาใจมันเปนอยางดี พอมองผม


ดวยแววตาเขาใจกอนจะตบที่ไหลผมเบาๆ เปนเชิงปลอบประโลม

“ใหมันไดอยางนี้ส.ิ ..แตจะวาไปนะคิน ฉันเห็นทาทางหงอยๆ ของแกแลวมันตลกพิลึกวะ” วาจบพอก็หัวเราะในลําคอเลยครับ


อารมณซาบซึ้งเมื่อสักครูหายไปหมดเลย

“คนเรา เห็นคนอื่นเศราแลวมีความสุข” ผมหายใจฮึดฮัดแตมันกลับทําใหพอหัวเราะเสียงดังกวาเกา

“เปลา...ปรกติเห็นดี๊ดาไดทั้งวัน หมั่นไสวะ พอมาลุคนี้แลวมันแปลกๆ แตจะวาไป คืนนี้แกเปนโสดใชเปลา งั้นก็ไปออกงานกันฉัน


หนอยสิ”

“งานอะไร...ไมเอา” สายหนาพรืดเลยครับ อารมณนี้ไมอยากไปไหนทั้งนั้น อยากจะกลับไปเฝาหนาบานนองเต็มแกแลว อีกอยางผม


เกลียดที่สุดก็ไอพวกงานสังคมนี่แหละ ถาเลี่ยงไดเปนเลี่ยง จนเดี๋ยวนี้ผมถูกสื่อตราหนาวาเปนคนปดตัวไปแลวละครับ

“เอานา คืนนี้ฉันจะพาแกไปโชวตัว หมั่นไสไอกฤษมัน” กฤษคือประธานฯ บริษัทชินกฤษนั่นแหละครับ อายุก็รุนราวคราวเดียวกับพอ


ผม ทางโนนเขาพาตัวลูกชายไปออกงานนานแลว คลายกับเปนการเปดตัวผูบริหารคนใหมอยูกลายๆ พอคงอยากประกาศตัวผมดวย
ละมั้ง
“วันอื่นไมไดหรือพอ วันนี้ผมจะไปตามหาหัวใจผม” อยากเลี่ยงครับ ไปก็คงหนีไมพนตกเปนขาว ยิ่งสองเจาพอมาเจอกัน เฮอ...ไม
อยากนึกถึง

“วันนี้แหละฤกษดี เผื่อแกไปเจอหนาศัตรูจะไดมีแรงฮึดสูขึ้นมาไง” เห็นทีผมคงไมตองเสียแรงนึกแลวละครับ ในเมื่อพอพูดแบบนี้


เห็นชัดเลยวาไมยอมออนขอให ถึงแมรูปประโยคจะออกมาในเชิงปลอบประโลมแตสายตาที่มองมานั่นมันชี้ชัดวาหามปฏิเสธ

เอาวะ...มาถึงขนาดนี้แลว เมื่อวานก็เพิ่งดวนกระสุนกับลูกสมุนของมันมา คืนนี้ก็ไปเจอตัวพอมันซึ่งๆ หนาก็ทาจะดีเหมือนกัน...

ตั้งแตเมื่อคืนจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ผมก็ไมยอมหางจากเตียงของตา ถึงหมอจะบอกวาอาการของตาไมนาเปนหวงแลว แตผมก็ยังไม


ไววางใจ ผมยังนั่งเฝาอยูใกลๆ คอยมองตาที่หลับสนิทบนเตียงดวยความรูสึกปวดราว ถึงแมลมหายใจเขาออกอยางสม่ําเสมอนั่นจะ
บงชี้จัดเจนวาตายังอยูกับผม แตเหตุการณในค่ําคืนที่ผานก็ยังตามมาตอกย้ํา เปนผมอีกแลวที่เผลอทําตามอารมณจนเกือบจะ
ปลอยใหความตายมาพรากผูอันที่รักไปจากผมอีกครั้ง

มันเหมือนกับฝนรายที่ตามมาหลอกหลอนผม ไมวาจะยามหลับหรือยามตื่น เลือดของพอที่สาดกระเซ็นในอุบัติเหตุครั้งนั้นกับภาพ


ของตาที่ทรุดรางลงกับพื้นทําใหผมไมอาจจะขมตาใหหลับลงได สายตาของทุกคนที่มองมายังผมมันทิ่มแทงหัวใจจนกระอักเลือด ถึง
ปากพวกเขาจะพร่ําบอกวาไมเปนไรในยามที่ผมกลาวขอโทษ ผมไมไดตั้งใจใหทุกอยางเปนเชนนี้ แตสายตาที่มองมาก็ยังแฝงแววตอ
วาและประณามการกระทําของผมอยูเชนเคย

“กุล...กินอะไรบางเถอะลูก ตาไมเปนอะไรแลว” เสียงของแมที่ดังอยูดานหลังพรอมกับมือที่ลูบเบา ๆ บนไหลทําใหผมเงยหนาขึ้น


พรอมกับใชหลังมือเช็ดน้ําตาออกไป

“กุล...ฮึก...ไม...หิว...”

“ไมหิวก็ตองกิน เกิดลมปวยขึ้นมาอีกคนจะเปนยังไง” คําพูดของแมที่ฟงดูเหมือนหวงใยแตสําหรับผมกลับรูสึกวามันจอมปลอม


อารมณที่ไมปรกติทําใหผมตอตานดวยวาจาอยางเคยตัว

“ทําไม...ฮึก...แมหวงกุล...ดวยหรือ...”

“ทําไมลูกพูดอยางนี้”

“แม...ไมนาถามกุล...วาทําไม...ทําไมแม...ไมถามตัวเองละ...วาตลอดเวลาที่ผานมา...แมทําอะไรที่คิดวาเปนหวงกุลบาง...” ผมกลั้น
สะอื้นเอยตอวาแมดวยคําพูดติดๆ ขัดๆ ผมไมรูหรอกนะวาขณะนี้แมมองผมดวยสายตาแบบไหนเพราะหยาดน้ําตามันบดบังการ
มองเห็นของผม ถึงแมจะเช็ดออกแตมันก็ไหลลนออกมาไมยอมหยุด ผมหยุดตัวเองไมไดอีกแลว เวลาที่จิตใจออนแอ

“แมก็ดีแตเปนหวงครอบครัวใหมของแม”
“ไมมีครอบครัวใหมอะไรทั้งนั้น กุลก็ยังเปนลูกแม”

“อยางนั้นหรือ...แลวเมื่อวานละ...แมถามกุลสักคําไหมวาเต็มใจหรือเปลา...พอปรินมันขอ...แมก็ยกหองนอนกุลใหมัน...ถาแมไม
อยากใหกุลอยูดวย...ก็พูดออกมาตรงๆ ก็ได...ทําไมถึงไดทํารายใจกุลแบบนี.้ ..ทําไมตองไลกันทางออมดวย...”

“แมไดไลลูกเลยนะ...”

“อะไรแมลูกคูน.ี้ ..เจอหนากันทีไร...เปนเถียงกันทุกที...” เสียงของตาที่แทรกขึ้นมาระหวางคําพูดของแมทําใหผมรีบเช็ดน้ําตาออกไป


จากใบหนาและเลิกสนใจผูหญิงคนนั้นทันที ผมรีบลุกขึ้นเขาไปชวยพยุงตาที่กําลังลุกนั่ง หยิบหมอนขึ้นมารองไวดานหลังเพื่อใหตา
ไดพิง

“ไมมีอะไรหรอกคะคุณพอ” แมบอกขณะหลุบตาลงต่ํา

“วาแตทําไมคุณพอถึงไดรีบลุกนักละคะ นอนพักอีกสักหนอยไมดีกวาหรือ” ตาสายหนาใหกับคําพูดของแม มองเราทั้งคูดวยสายตา


หวงใยปนระอา

“จะนอนไดยังไง ทะเลาะกันเสียงดังซะขนาดนี.้ ..เฮอ...” วาจบก็ถอนหายใจออกมาอยางหนักหนวง น้ําตาทีเ่ หือดหายไปแลวของผม


ไหลยอนกลับมาอีกครั้ง มันเออลนและหยดลงสูพื้นเมื่อผมกมหนา เมมเรียวปากไมใหเสียงใดๆ รอดออกมา...ผมทําใหตาไมสบายใจ
อีกแลว...

“ขอโทษคะคุณพอ”

“อืม...ชางมันเถอะ...ตอนนี้พออยากอยูกับหลานตามลําพัง...เธอออกไปกอนไดไหม...รดา...” ในความรูสึกขณะนี้เหมือนกับมีสายตา
จับจองมาที่ผม อาจเปนสายตาของตา ไมก็ของแมหรือบางทีอาจจะเปนสายตาของทั้งคู แตผมก็ไมอาจเงยหนาขึ้นมาคนหาความ
จริง ไดแตยืนรอเวลาเมื่อแมรับคํา แลวผมก็ไดยินเสียงฝเทาที่เดินหางออกไป

“ทําไมขี้แยอยางนี้นะ มานี่มา มานั่งกับตา” เสียงเรียกของตาทําใหผมยกมือขึ้นเช็ดหยาดน้ําใสๆ ออกไปจากใบหนาและดวงตา สูด


จมูก เมมเรียวปาก เดินกมหนาไปนั่งลงบนเตียง ตาเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ อยางรักใคร ความออนโยนนั่นยิ่งทําใหน้ําตาผมไหล
ออกมาไมหยุด ถึงแมตาจะดุ เจาระเบียบกับผม อาจไรเหตุผลบางในบางครั้งแตความรักที่มีใหผมนั้นมันก็มากมายเหลือเกิน

“เห็นหลานเปนแบบนี้...ใหตายตอนนี้ตาก็คงจะตายตาไมหลับ...”

“ฮึก...ฮึก...ตา...อยา...พูดอยาง...ฮึก...นี้ส.ิ ..” เสียงที่พยายามกลั้นสะอื้นไว น้ําตาที่ไหลไมเคยขาดถูกปลอยออกมาอีกครั้งอยาสุดจะ


ตานทาน ไมอยากนึกถึงและผมก็ไมอยากจะไดยิน ไมตองมาย้ําบอยๆ ก็ได ผมยังไมพรอมที่จะยอมรับความจริง
เมื่อวานที่ผานมา เปนวันที่มรสุมลูกใหญถลาโถมเขามาในชีวิตของผม การเรียกตัวผมกลับบานเมื่อวานไมใชแคเรื่องที่ตาเรียกมา
ถามถึงคนที่อยูรวมหองกับผม ไมใชเพียงแคเรียกมาทําความรูจักกับพี่ชายคนใหม แตตาเรียกผมกลับมาเพื่อจะเช็นเอกสารรับมรดก
ที่ตามอบให

มันฟงดูนาตื่นเตนยินดีใชไหมครับที่ตาทําทุกอยางใหถูกตองตามกฎหมาย โอนกรรมสิทธิ์ใหผมเปนที่เรียบรอยโดยมีแมเปนพยาน
แตสําหรับผมมันเปนขาวรายที่สุดซึ่งไมอยากไดยิน น้ําเสียงของมัจจุราชที่เหี้ยมโหดสงสัญญาณบงบอกใหรูวาตารูดีวาอีกไมชาคง
ตองจากโลกนี้ไป ไมเชนนั้นคงไมรีบทําทุกอยางใหเรียบรอย ไมตองกังวลวาแมจะหลงครอบครัวใหมจนลืมสิทธิ์ที่ควรเปนของผม

ยิ่งไดรับการยืนยันจากหมอประจําตัวของตาวาการตรวจสุขภาพครั้งสุดทายพบบางสิ่งในตับของตาและมันก็ใหเวลาแหงการมีชีวิต
อยูของตาเหลืออยูไมถึงสามเดือน แมจะมีโอกาสรอดหากแตโรคเบาหวานที่ตาเปนอยูบวกกับวัยชราที่ถูกโรคหัวใจรุมเราทําใหตา
หมดสิทธิ์รักษาตัวโดยการผาตัด มันจึงเหลือเพียงทางเลือกสุดทายคือใชเวลาที่เหลืออยูกับครอบครัวใหมากที่สุด

แลวอยางนี้คุณๆ คิดวาผมควรจะโกรธตาไหมที่เอาแตดุผมดวยหวังวาผมจะรูจักใชเหตุผลมากกวาอารมณ ผมควรจะดีใจไหมครับที่


ไดรับทรัพยสมบัติที่ตามอบให ผมความจะโทษตัวเองไหมที่คอยทําใหตาเปนหวงอยูตลอดเวลา

“ความเปนความตายไมมีใครหามกันไดหรอกนะกุล หลานตองทําใจ”

“ไม...ฮึก...ไม...” ผมยกมือขึ้นปดหู สายหนาปฏิเสธ...จะไมมีใครจากผมไปไหนทั้งนั้น ตาเอื้อมมือมาดึงมือผมออกจากหู แลวกุม


กระชับไว

“ยอมรับความจริงเถอะ ขนาดตายังไมกลัว แลวกุลจะกลัวอะไร” ผมไมตอบไดแตสายหนาไปมา มือที่บีบกระชับมือผมอยูขางหนึ่ง


ของตาจึงปลอยหางแลวเอื้อมมาลูบหัวผมอยางแผวเบาอีกครั้ง

“ตอนนี้มีอยูสองอยางที่ตาหวง เรื่องแรกก็คือเรื่องของหลาน สวนอีกเรื่องก็แมของกุล ตาคิดวาจะไมพูด แตเห็นแบบนี้แลว คงปลอย


ไวไมได” คําพูดนั้นทําใหผมมองตาผานมานน้ําตาอยางสงสัย เมมเรียวปาก สูดลมหายใจลึกๆ พรอมกับตั้งใจฟงวาตาจะวาอยางไร
ดวยใจจดจอ

“รดาก็คงไมมีวันจะพูด เธอคงไมกลาทํารายฮีโรในใจของหลาน”

“...ฮีโรในใจกุล...ตาหมายความวาอยางไร...” ตาเมินหนาออกไปยังหนาตาง มองไปยังภายนอกอยางไรจดุ หมายอยูครูใหญกอนจะ


หันมาตอบคําถามของผม

“เดวิดเปนพอที่ดี แตก็ใชวาเขาจะเปนสามีที่ดีดวย” น้ําเสียงปวดราวของตาพรอมกับดวงตาที่หลับลงราวกับกําลังนึกถึงเรื่องราวที่


โหดรายนั่นทําใหผมเริ่มใจไมดี
“ความจริงมันเปนความผิดของตาเอง ที่ไปทํารายรดาแบบนั้น ตาเองที่บังคับใหแมหลานแตงงานกับเดวิดโดยไมสนใจวารดาจะมีคน
รักอยูแลว และพวกเขาก็วางแผนจะแตงงานกัน ตาไมยอมรับคนรักของลูกที่เปนแคจิตรกรตอกตอย ตาทําทุกวิถีทางเพื่อจะใหทั้งสอง
แยกจากกัน จนกระทั่งเดวิดเขามา เขาถูกใจแมของหลานตั้งแตแรกเจอ ตาก็จับใสพานมอบให แตมันก็เพียงแคถูกใจเมื่อเขาเบื่อเขา
ก็หาใหมไปเรื่อยๆ พอมีปากเสียงกัน ไมพอใจอะไรก็ลงไมลงมือ คนที่เจ็บซ้ําๆ ก็คือแมของหลาน รดาก็ทนเพราะเห็นแกลูก แลวเมื่อ
สี่ปกอน เดวิดก็เอาใบหยามาใหแมหลานเซ็น ไมบอกกลาวเหตุผลอะไร แถมยังไปลากตัวคนรักเกาของแมหลานกลับมาใหทั้งสองได
เจอกัน จะจัดงานแตงให จนเกิดเรื่องทะเลาะกันใหญโต พวกเราไมรูเหตุผลวาเขาทําอยางนั้นทําไม จนวันที่เขาเสียชีวิตแลวนั่นแหละ
ถึงไดรูเมื่อทนายความของเขาเอาจดหมายมาให”

ผมกลืนน้ําลายลงคอไปอยางยากลําบาก ในหัวลําดับภาพเหตุการณที่เกิดขึ้น ทนายความที่ตากลาวถึงคงหมายถึงลุงเรียวและนั่น


ทําใหผมนึกถึงขอความในจดหมายที่พอเคยเขียนเอาไว

“ตั้งแตจากเมืองไทยมาทําใหพอคิดถึงลูกอยางประหลาด เหมือนมีอะไรมาดลใจใหพอเขียนจดหมายฉบับนี้ จะวาไปมันมีความจริง


อีกอยางที่พอไมไดบอกใหลูกรู พอกําลังปวยและโรครายมันกําลังลุกลามเกินจะเยียวยาใหหายได กอนที่จะสายไปพอจึงทําทุกอยาง
ใหถูกตอง รวมถึงเรื่องของลูกดวย”

พอกําลังปวยและโรครายมันเกินจะรักษาใหหายได จึงทําทุกอยางใหถูกตองรวมถึงเรื่องของผม “ทุกอยางใหถูกตอง” นั่นหมายถึง


เรื่องของแมดวยใชไหม แลวคําตอบที่รับก็เปนคํายืนยันของตา ยิ่งเมื่อตาพูดถึงบางสิ่งที่ผมไมเคยคิดมากอนก็ยิ่งทําใหผมแทบไม
อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองไดยิน

“หลานรูไหมวาเดวิดขออะไรจากแมหลานเปนครั้งสุดทาย...เขาขอใหรดาอยารองไหแตจงยิ้มแยมแจมใสในวันวิวาหที่รอคอยมานาน
แมมันอาจจะตรงกับงานศพของเขาก็ตาม...นั่นแหละคือคําปรารถนาขอสุดทายของพอหลาน…และรดาก็ทําให เธอยิ้มถึงแมน้ําตา
จะตกในก็ตามที...”

มันไมใชเรื่องจริงใชไหม แลวตลอดเวลาที่ผานมา ผมเขาใจแมผิดอยางนั้นหรือ แมไมไดเปนฝายบอกเลิกกับพอแตพอตางหากที่


บังคับมอบอิสระใหแกแมจริงหรือ ความจริงแลวพอของตรินไมไดเขามาทําใหครอบครัวผมแตกแยก แตมาเติมสิ่งที่กําลังจะขาด
หายไปใหกับผมใชหรือไม นี่มันเรื่องอะไรกัน แลวมันจะเปนไปไดอยางไรที่พอมาแยกแมออกจากพอของตริน แตตรินเขามีอายุ
มากกวาผมนี่ แสดงวาพอของตรินตองไปมีหญิงอื่นแลวทิ้งแมผมสิ...จริงไหม พอไมมีวันไปพรากคนที่รักกันออกจากกันไดหรอก

ผมคิดวามันนาจะเปนเชนนั้น แตเปลาเลยเมื่อตาเลาใหฟงวาพอผมใชอํานาจเงินจางหญิงคนหนึ่ง มอมเหลาพอตรินแลวใหมี


ความสัมพันธกัน โดยไมลืมที่จะใหแมมาเห็นกับตาเพื่อที่จะไดตัดสินใจทิ้งพอของตรินไดงายขึ้น ฟงแลวมันตลกสิ้นดี เหมือนนิยาย
น้ําเนาที่พอผมเปนตัวรายเลย มิหนําซ้ํายังทําใหเกิดเรื่องนาเศราตามมาเมื่อการกระทําทําของพอทําใหเกิดเด็กแฝดคูหนึ่งขึ้นมา เด็ก
ที่ไมไดเกิดขึ้นมาจากความรัก แลวทั้งสองก็ถูกพรากออกจากกัน คนหนึ่งตองอยูอยางไรแม สวนอีกคนกลับขาดพอ ในขณะที่ผม
เติบโตมาพรอมทุกอยางไมวาจะทรัพยสินเงินทองหรือครอบครัวที่พรอมหนากัน
มันเปนเรื่องเลาขําขันใชไหมครับ พอเลี้ยงที่ผมเกลียดนักหนากลายเปนผูชายที่มั่นคงในรัก และรอแมผมตลอดเวลา แมที่เย็นชาไม
รูสึกรูสาถึงการตายของพอกลับเปนผูหญิงที่ยอมถูกตราหนาและไดรับความเกลียดชังจากลูกเพื่อจะรักษาสิง่ งดงามของฮีโรในใจของ
ผม
โอ...ความจริงอันปวดราว...นี่ใชไหมหัวใจคนยากแทหยั่งถึง และคนๆ นั้นก็คือพอของผม...

กวาสองชั่วโมงที่ผมใชเวลาในหองกับตา รองไหจนไมมีน้ําตาจะไหลออกมาแตมันก็ไมไดชวยใหหัวใจผมไดรับการเยียวยารักษา
ความผิดหวังวิ่งเขาเสียดแทงจนใจบอบซ้ํา ตาบอกวาอยามองพอจากมุมมองคนอื่น ผมเคยมองพออยางไรก็จงมองแบบนั้น แตสิ่งที่
ตาเลาใหฟงก็เพื่ออยากใหผมมองแมใหมอีกครั้ง สี่ปที่เราทั้งคูทะเลาะกัน แมตองแอบรองไหคนเดียวเมื่อเห็นสายตาเย็นชาของผม
คําพูดสาดเสียเทเสียที่ผมประณามแมทําใหใจแมบอบซ้ํา มันกลัดหนองจนระบมไปหมด

ผมหยุดนิ่งที่เชิงบันได มองไปยังผูหญิงที่เฝาทะนุถนอมกลอมเลี้ยงดูผมมาตั้งแตออนแตออก นึกถึงใบหนาออนหวาน รอยยิ้ม


ละมุนละไม มืออุนที่โอบอุมผมมาตั้งแตเด็ก ความรักที่แมมอบใหตั้งแตวันที่รูวามีผมอยูในทองจนกระทั่งถึงวันนี้ก็คงจะยังไม
เปลี่ยนไปใชไหมครับแม แมยังปกปองผม ยอมเจ็บแทนผม แมครับ...แมจะอภัยลูกคนนี้ใชไหม กี่ครั้งที่ลูกทรพีคนนี้ทําใหแมตอง
รองไห กี่ครั้งแลวที่ลูกเลวคนนี้ทําแมตองปวดใจ มันยังไมสายใชไหมครับ กุลยังเปนลูกที่แมรักไดใชไหม...ภาพของแมที่นั่งบนโซฟา
หางออกไปเริ่มเลือนราง ผมซบหนาลงกับฝามือ ไหลของผมสั่นสะทาน

“กุล...” น้ําเสียงของผูหญิงที่มอบแตความรักและจริงใจแกผมตลอดมาดังอยูใกลๆ นั่นทําใหผมปลอยโฮออกมาจนสุดเสียง

“...แมครับ...กุล...ขอโทษ...ฮึก....ฮึก...กุล...ขอ...ฮึก...โทษ...” ออมกอดของผูมีพระคุณโอบผมไวแนนพรอมกับปลอบประโลมถามผม
เสียงสั่นวาเปนอะไร ตาวาอะไร คําพูดรัวเร็วเต็มไปดวยรักเหมือนอยางในอดีต ไมไดหวงตัวเองแมแตนอย ในใจของแม ผมยังเปนคน
แรกที่แมฟูมฟกและมอบความรักอยางบริสุทธิ์ให

“กุล...ขอโทษ....แม....กุลขอโทษ...” มันเทียบกันไมไดเลยใชไหมครับ คําสองคําที่กุลบอกแม มันไมพอทดแทนเลือดในอกที่กุลทําให


แมชอกช้ําใชไหมครับ

ผมเฝารําพันขอโทษแมซ้ําๆ อยูเชนนั้นเปนหลายสิบนาที หรือนานกวานั้นผมก็ไมแนใจ มารูสึกตัวอีกทีก็เมื่อแมพาผมไปนั่งยังโซฟา


มือของแมยังลูบแผนหลังของผม เชนเดียวกับมือผมไมละหางจากเอวของแม กอดแมไวแน เราอยูอยางนั้นกันครูใหญกวาผมจะเรียบ
เรียงคําพูดได ถึงแมเปนเวลากวาสี่ปที่ผมสรางกําแพงไวในใจ แตสําหรับแมแลว ไมเคยมีกําแพงใดๆ ขวางกั้นผมเลย มันจึงไมใชเรื่อง
ยากที่ผมจะปรับความเขาใจกับแมอีกครั้ง…อุนใจเหลือเกินครับที่ไอรักที่แมมอบใหกลับมาอบอวนรอบๆ ตัวผมเชนเคย

เราคุยกันหลายเรื่องกอนแมจะพาผมไปยังหองๆ หนึ่ง ซึ่งเมื่อกอนมันเคยเปนหองทํางานของพอ ทวาวันนี้กลับถูกตกแตงและตอเติม


ใหกวางขึ้น เพื่อมอบใหเปนหองของผม ใชแลวครับ ผมเคยขอแมไววาอยากยายมาอยูหองนี้ เพราะผมอยากเก็บความรูสึกดีๆ ที่เคย
ใชกับพอในหองนี้ไว เมื่อวานผมขึ้นไปหองตัวเองหลังจากที่ไมเคยเขาไปเหยียบเลยตั้งแตผมยายออกไป แลวพบวามันถูกปรินยึด ผม
ก็เฝาโกรธแมที่ทําอะไรไมคิดถึงใจผมเลย ทั้งๆ ที่ความจริงก็คือแมไดจัดเตรียมทุกอยางไวใหกอนหนาที่ปรินจะเขามาในชีวิตของพวก
เราเสียอีก...ผมรูสึกดีจังเลยครับ รับรูความอบอุนที่คําวาครอบครัวมอบใหอีกครั้ง หลังจากที่มันขาดหายไปจากชีวิตเมื่อหลายปกอน
...

“คุณกุลคะ มีคนฝากนี่มาใหคะ” ปาแมบานเรียกผมไวหลังจากที่แยกกับแมและกําลังจะเดินขึ้นไปหาตาบนหองอีกครั้ง ผมเลิกคิ้ว ยื่น


มือออกไปรับกลองพัสดุดวยความสงสัย

“จากใคร?”

“เขาไมไดบอกชื่อคะ แคบอกวาเปนของฝากจากเพื่อนที่เพิ่งกลับจากตางจังหวัด ถาคุณกุลเปดดูแลวจะรูเอง” คําพูดนั่นยิ่งทําใหผม


งงเขาไปใหญ แตมันก็เปนจริงอยางปาแมบานพูดเพราะพอผมเห็นสิ่งที่อยูขางใน ผมก็รูทันทีวาเปนของฝากจากใคร...ไอพี่ทอง...

จากที่คิดวาจะไปหาตาผมกลับตองรีบเดินกลับเขาหองตัวเองอีกครั้ง พอปดประตูลงผมก็ทรุดรางลงกับพื้นอยางออนแรง พระเจาเลน


ตลกกับผมอีกแลว ทานใหผมไดยิ้มไมทันไรก็กลับมาทําใหน้ําตาผมไหลออกมาอีกครั้ง ผมกอดกลองของขวัญไวดวยหัวใจปวดราว
เจ็บเหลือเกิน ผมจะทํายังไงดี พี่ครับ...วินไมรูวาจะเดินทางไหนแลว วินขอโทษนะครับที่ทําใหพี่เปนหวง พี่คงกังวลมากใชไหมที่
ติดตอวินไมได อยาลงทุนทําถึงขนาดนี้เลยนะครับ วินไมเปนไร...ไมเปนไรจริงๆ

“ฮึก...ฮึก...วินรักพี่นะครับ...รักพี่จริงๆ...รักมาก...วินขอโทษ...”

ถึงสิ่งที่สงมาจะย้ําใหผมรูวาอีกคนรักผมมากแคไหนและย้ําคําเดิมซ้ําๆ วาพี่เคาจะไมยอมใหอะไรแยกเราจากกัน ถึงแมผมจะเชื่อใน


คําสัญญาของอีกฝายแตขณะนี้ผมก็ไมสามารถทําอะไรได อยากกระซิบคําวารักใหเขาฟงแตก็จนปญญา ถึงเขาจะขอรองใหผม
ติดตอกลับไปแตผมก็ทําตามที่พี่ขอไมได

ยอนกลับไปถึงตอนที่ตาถามวาใครที่ยายมาอยูกับผม ในเวลานั้นผมกลัวมาก หากตาจะรูถึงความสัมพันธของผมกับพี่เขาจะเกิด


อะไรขึ้น แตเมื่อถูกตาคาดคั้นมากขึ้นผมก็ตองบอกไปตามความจริงวา นายคินที่ตาถามก็คือคนซึ่งตาเคยเห็นเมื่อเดือนกอน ตาทําทา
คิดกอนจะรองออออกมา จากนั้นตาก็ถอนหายใจพรอมกับบอกผมวา ที่ตาโกรธนักหนาก็เพราะนึกวาผมไปติดเพื่อนเกเรคนอื่น จนไม
สนใจเลาเรียน เอาแตหนีเที่ยวดวยวาวันนั้นผมมีเรียนแตกลับไมอยูมันจึงทําใหตาคิดวาเปนเชนนั้น

ตาไมไดถามอะไรผมเกี่ยวกับไอพี่ทองอีก ไมรูวาพี่แกไปทําอะไรไวตาถึงไดไววางใจเมื่อรูวาเปนพี่เขา แตมันก็เปนโชคดีของผมไปที่ตา


ไมซักไซตอ ทวาในความโชคดีก็ยอมมีโชครายเขามาเสมอ เมื่อตาวกเขาประเด็นสําคัญที่เรียกผมมาใหเย็นวันนั้น นั่นก็คือเรื่องการ
เซ็นเอกสารยินยอมรับมรดกที่ตามอบให ในวินาทีนั้นผมแทบทําอะไรไมถูก หลังจากคลอยหลังทนาย ผมก็โทรหาหมอประจําตัวของ
ตา สอบถามเรื่องสุขภาพแลวก็ไดรับขาวราย ยิ่งพอมายืมโน็ตบุคของตรินเพื่อคนหาโรคที่ตาเปนอยูและวิธีรักษาแลวกลับพบวาผม
ไดรับเมลฉบับหนึ่งจากบุคคลลึกลับ
มันขมขูผมดวยเรื่องบางอยางเกี่ยวกับบริษัทของพอซึ่งผมก็ไมเขาใจ แลวสิ่งที่มันนํามาใชก็คอื ภาพถายของผมกับพี่เคาตอนที่อยูบน
ชายหาดที่ภูเก็ตดวยกัน มันเปนภาพที่ลอแหลมเพราะผมกับพี่เคากําลังจูบกันอยู เนื้อความในเมลนั่นทําใหผมตอโทรศัพทหาลุง
เรียวทันที บอกลุงไปตามตรงวาผมถูกขมขู ในเวลานี้ผมไมกังวลมากนักกับเรื่องสวนตัวเนื่องจากตลอดเวลาที่ผา นมาญาติทางพอไม
เคยเขามาวุนวายกับผมเลย ทวาครั้งนี้มันกลับผิดไป พอผมบอกไปเชนนั้นลุงดูจะตกใจและพูดหนึ่งประโยคที่ทําใหผมแทบจะทํา
อะไรไมถูก

“คุณกุลตองหางจากคุณนาคินทร อยางนอยก็ในระหวางที่รอใหทางเราเดินทางไปไทย หากอยากใหเอ็มเจขยายกิจการไปที่โนนก็


ควรทําตามคําแนะนําของผม”

นั่นคือคําพูดที่ทําใหหัวใจของผมไปหลนอยูที่ตาตุม มันเรื่องอะไรผมก็ไมรู แตที่แนชัดก็คือในประโยคสุภาพนั่นกลับบังคับผมกลายๆ


โดยเอาบริษัทของพอมาเปนเงื่อนไข ผมรูสึกมึนหัวไปหมดและกังวลไปสารพัด แลวยิ่งมาบวกกับเรื่องของตา ใจผมก็ยงิ่ กระวน
กระวายมากขึ้น มากกวาไปกวานั้นยังมีเรื่องของปรินเขามาซ้ําเติมผมอีก

ในขณะที่ในหัวผมไมสามารถรับรูอะไรไดอีกแลว พอเลี้ยงกับแมผมก็กลับเขาบานพรอมกับปริน จากนั้นผมก็ถูกแนะนําใหรูจัก คุณ


จะเชื่อไหมหากผมจะบอกวาผมคิดวาตัวเองไมไดคิดไปเองแนนอนวาปรินรอเจอผมมานานแลว เพราะหลังจากที่มีโอกาสไดอยูกัน
ตามลําพัง มันก็เปดฉากขึ้นมาทันทีวาถึงเวลาทวงไอพี่ทองคืนแลว แถมมันยังใชวิธีสกปรกกับผมโดยการขมขูผมอีกคน

“คุณตาที่กําลังปวยหนักจะเปนยังไงนา...ถารูวาหลานรักเปนพวกชายรักชาย...”

นั่นคือคําพูดของมันกอนจะเดินจากผมไป หลังจากนั้นพอพี่เคาโทรเขามาผมก็มองโทรศัพทดวยอาการลังเล ทางคนของพอก็บอกให


ผมหางจากพี่เขาเพื่อบริษัท สวนทางตาผมก็กลัวตาจะรูขึ้นมาจริงๆ วาไอพี่ทองไมใชแครูมเมทธรรมดา ผมจมอยูกับความกลัว มัน
รุมเราผมจนทนไมไหว แลวพอพี่เขาติดตอผมอีกครั้ง น้ําตามันก็ไหลออกมา ทวายังไมทันที่ผมจะไดพูดอะไรมากนัก ปรินมันก็มาแยง
โทรศัพทของผมไปพรอมกับขูอีกครั้ง ยิ่งอาการของตาทรุดหนักลงจากเหตุการณเมื่อคืนก็ทําใหผมถึงทางตัน ไมรูจะเลือกเดินทาง
ไหนดี “หนาที่” หรือ “หัวใจ”

ผมใชเวลาอยูกับตัวเองครูใหญกอนจะลุกขึ้นยืนเมื่อคิดวาตัวเองเขมแข็งพอแลว เอากลองพัสดุที่พี่สงมาใหไปวางไวบนเตียงกอนจะ
หันหลังใหกับมัน รีบเดินออกไปจากที่ตรงนั้นกอนความออนแอจะโจมตีผมอีกครั้ง ถึงผมจะเขาใจแมมากขึ้น และเขาใจพอของ
ตรินมากขึ้น แตผมก็ยังไมชอบใจปรินอยูด ี สิ่งที่เขาทํากับผมเมื่อวานยังคงทําผมใหผมฉุนเฉียวทุกครั้งยามคิดถึงมัน เย็นนี้ผมจึงเลี่ยง
ที่จะกินขาวพรอมกับพวกเขาโดยอางวาจะกินอาหารบนหองเปนเพื่อนตา และเวลานี้มันก็เลยเวลาอาหารค่ํามามากโข ตาคงรอผม
นานแลว...นั่นแหละคือเหตุผลที่ผมอางกับตัวเองขณะรีบหันหลังใหกับของขวัญที่พี่มอบใหและเมินสิ่งที่อีกฝายรองขอ...

“เหมอเชียว กําลังคิดอะไรอยูหรือ” ขณะที่กินขาวกันอยูนั้นเสียงของตาก็ดังขึ้น นั่นทําใหผมเงยจากจานขาว สายศีรษะชาๆ เปนเชิง


บอกวาไมมีอะไรกอนรวบชอนแลวยกแกวน้ําขึ้นจิบ

“เลยอิ่มซะงั้น” ตาวาพลางสายหนา
“กุลอิ่มจริงๆ ครับ” กินอะไรไมลงเลยครับ มันตื้อไปหมด มองไปทางไหนก็เจอแตความืด ตรงหนาผมก็คือตา แตหัวใจกลับคิดถึงและ
เปนหวงใครอีกคน หากแตบริษัทของพอมันก็สําคัญไมแพกัน

“เพราะอยางนี้ไงถึงไมตัวโตเหมือนใครเขาสักที แลวแบบนี้จะไปปกปองใครได”

“คงไมมีผูหญิงคนไหนอยากมาฝากชีวิตกับกุลหรอกครับ”

“ไมมีเพราะเราไปฝากชีวิตไวกับคนอื่นแลวใชไหม”

“ครับ?”

ผมทวนถามเสียงสูงอยางไมเขาใจ นัยนตาของตาที่สบมานั่นเหมือนจะรูทันผมในบางอยาง ทวาตากลับไมยอมพูดมันออกมาทันที


ตารวบชอนแลวยกแกวน้ําขึ้นจิบอยางใจเย็น จากนั้นก็เรียกลุงหาญใหมาเก็บสํารับ ทอดเวลาใหยาวนานกวาครึ่งชั่วโมงกวาตาจะ
เริ่มตนพูด แตเนื้อความในประโยคนั่นกลับทําใหใจผมไดเจอกับเปลวเทียนที่มันสองแสงเขามาในชีวิตที่มืดมนของผม จากที่เคยหลง
ทางผมก็ไดพบความหวังและรูวาในกรณีของตา “หนาที่” กับ “หัวใจ” มันเดินไปดวยกันได

“ตาไมใชตาแกที่แกแตอายุหรอกนะ อดีตที่ผานมามันทําใหตาเรียนรูวาการพรากคนรักออกจากนั้นมันทรมานขนาดไหน แลวพอ


มาถึงรุนหลาน กุลวาตาจะใจดํา ทนเห็นหลานในไสของตัวเองเจ็บอยางแมเชนนั้นหรือ”

เมื่อไดรับรายงานจากการดวาวินดี้ออกจากบานแลว ใจของผมแทบอยากออกจากงานเลี้ยงทันทีเลยครับ แตกวาจะปลีกตัวออกมา


ไดก็ใชเวลากวาชั่วโมง อยางที่รูกันวางานนี้พอตองการจะเปดตัวผม เลยตองเปนงานเปนการหนอย ตองไปทําความรูจักผูหลักผูใหญ
ปนหนาใหเปนผูดี เจอพวกคุณหญิงคุณนายก็ตองสุภาพเรียบรอย ไมอยากยิ้มก็ตองยิ้ม ไมอยากทําตัวเดนก็ตองเดน ยิ่งมาเจอคูแขง
ยิ่งตองเบงบารมีขมอีกฝาย ประกาศศักยภาพวาเราไมมีทางแพแนนอน

มันเหมือนพอวาไวจริงๆ ครับ พอเจอสองพอลูกชินกฤษ ผมก็ยิ่งใจฮึกเหิม ยิ่งเห็นรอยยิ้มเหยียดหยามของมัน ผมก็ยิ่งอยากเห็นวัน


พายแพครั้งใหญของมัน อยากสั่งสอนพวกมันวาหัวเราะทีหลังมันดังกวาจริงๆ แตอยางไรก็แลวแต ยามเห็นหนามัน วินดี้ก็ยังเปนคน
แรกที่ผมคิดถึงเสมอ ไมมีทางหรอกที่ผมจะยอมใหนองรวมงานกับพวกนั้น...ฝนไปเถอะ

เมื่อออกจากงานมาได ผมก็เรงรันใหบึ่งรถกลับคอนโดใหเร็วที่สุดแตในความรูสึกของผมมันก็ยังชาอยูดี ผมอยากเจอหนาที่รักใจจะ


ขาดแลวครับ คิดวาพรุงนี้ถายังติดตอนองไมไดผมก็วาจะบุกบานวินดี้เลย แตก็ไมใชจะมั่วซั่วเขาไปนะครับ ผมก็มีวิธีของผมอยู ความ
จริงไมอยากทําอยางนั้นหรอก เกรงใจวินดี้เพราะไมรูสถานการณภายใน วาอะไรคือเหตุผลที่ทําใหนองขาดการติดตอจากผม แตถา
มันจนหนทางจริงๆ ก็คงตองทําแหละครับ…ถึงอยางไรนั่นก็คือสิ่งที่คิดวาจะทําในวันพรุงนี้ ทวาตอนนี้ที่รักผมมารออยูคอนโดแลวละ
ครับ ผมกําลังจะไดเจอหวานใจผมแลว

เมื่อมาถึงที่คอนโดผมก็รีบกาวลงจากรถทันที บอกใหรันไปพักไดเพราะวาคืนนี้ผมคงไมออกไปไหนแลว จากนั้นก็เดินหนาตั้งตาม


หัวใจที่บินกลับหองไปหานองตั้งนานแลว

“คุณคินครับ...คุณคิน...”

“ครับลุง...ขอโทษทีพอดีผมรีบก็เลยไมทันไดทัก” เสียงของลุงยามครับ แกรองเรียกผมไวเลยจําตองหยุดชะงัก หันไปคุยกับแกหนอย

“ออ ไมเปนไรครับ พอดีผมจะบอกวามีคนมารอพบคุณอยูทางโนน”

“นารักจัง...วินดี้กลับมานานแลวหรือ”

“ออ...ไมใชคุณกุลหรอกครับ จะวาไปผมก็ยังไมเห็นตั้งแตเมื่อวานแลวละ”

“อาว...” มัวแตดีใจครับ เลยนึกวาเปนนองที่ลงมารอรับผมขางลาง ทวาพอไดยินแบบนี้แลวอึ้งไปพักใหญ ไหนการดรายงานวานอง


กลับมาคอนโดไมใชหรือ แลวนี่นองไปแวะที่ไหน ทําไมถึงยังกลับมาไมถึงเอาปานนี้ ผมมองตามมือของลุงยามที่ชี้ไปยังมุมหนึ่งของ
ตึกซึ่งมีที่นั่งจัดเตรียมไว กลาวขอบคุณแกแลวเดินเขาไปใกลแลวพอเห็นวาใครอยูที่นั่นผมก็หันหลังใหทันที

“พี่คิน...” มึงจะตาดีไปหนอยไป ใหกูไปไกลๆ กอนแลวคอยเห็นไมไดหรือไง ผมลอบถอนหายใจพรอมยกมือขึ้นแกะไอหนวด


ปลาหมึกที่ถลาเขามาเกาะหนึบที่แขนของผม

“ทําไม...ทําหนา...อยางนั้นละ...นอยใจนะเนี่ย...อุตสาหมารอตั้งนาน...ไมคิดถึงกันบางหรือ...” วาพลางเอียงหนาซายขวา ยิ้มหวาน


นัยนตาหยาดเยิ้ม น้ําเสียงออแอนิดหนอย...นี่มึงเมามาหรือนี.่ ..
“มานี่ไดไง”

“คิค.ิ ..ก็นั่งรถมา”

“งั้นก็นั่งรถกลับที่เกาเลย”

“ใจรายจัง ไมทันไดทักทายกัน ก็ไลกลับแลว”

“เอาใหจริง รูไดไงวาพี่พักอยูที่นี่”

“คิค.ิ ..ก็ปรินเกง” เออ มึงเกง โดยเฉพาะทําเรื่องราวฉานเนี่ย คราวที่แลวโทรมาทําเอาที่รักกูโกรธ หึงซะนากลัว แลวนี่บุกมาถึงนี่ เกิด


วินดี้มาเห็นเขาไดตายศพไมสวยแน

“ปรินเพิ่งรูวาคนที่พี่คั่วอยูเปนนองเลี้ยงของปริน”

“อยาเอาคําวาคั่วมาใชกับคนรักของพี่ เขามีคาสูงกวานั้น”

“ชิส. ..” มันเบะปากเมื่อถูกผมดุเสียงแข็งกอนจะทําปากยื่นปากยาว เบียดตัวเขามาแนบชิด นัวเนียกับรางกายของผม

“แลวปรินละ เมื่อกอนเราก็เคยลึกซึ้งกันนี่นา ปรินรูนะวาพี่ยังไมเคยลืมปริน และปรินเองก็ยังรักและรอพี่เสมอเลย”

“เพอเจอ เมาแลวกลับบานไป ถากลับไมถูกเดี๋ยวใหคนไปสง” วาพลางหยิบโทรศัพทขึ้นมาครับ ไอหานี่ก็รีบมาแยงไป แตกูไมใหมึงอะ


จะทําไม
“รันหรือ...กลับมาที่คอนโดกอนมีเรื่องใหชวย” ตัดรําคาญครับ อยากใหมันไปพนๆ นี่ก็มาเยื้อเวลาใหผมไมไดเจอวินดี้กวาหานาที
แลว เวลากูมีคานะเวย ไมใชมาคุยกับอดีตที่ไมมีวันหวนกลับมา

“ทําไมพี่ถึงไดเย็นชากับปรินจัง”

“พี่จะใจรายมากกวานี้ถาปรินยังทําเปนไมรูเรื่อง รูอยูแกใจนี่วาพี่อยูที่นี่กับคนรัก แลวมาทําไม คงไมใชหวังดีหรอกใชไหม”

“ทําไมมองปรินในแงรายถึงขนาดนั้น ถึงแมเราไมไดเปนแบบเกา แตก็ทักทายอยางคนเคยรูจักกันไมไดเชียวหรือ”

“สําหรับพี่จบก็คือจบนะปริน โตแลว พูดใหมันรูเรื่อง พี่ไมชอบใหใครมาปวนเปยนอยูใกลๆ เดี๋ยวจะพลอยทําใหคนรักพี่ไมสบายใจ”


ผมพูดน้ําเสียงจริงจัง ใบหนาเฉยชา ปรินเมมปาก นัยนตาไหวระริก

“ทําไมพี่ถึงใจรายกับปรินแบบนี้ ที่ผานมาไมมีเยื่อใยอะไรเลยหรือ เหมือนกันหมดเลย พอเจอคนใหมก็ไลปริน ไมมีใครคิดถึงจิตใจ


ปรินเลย ใจราย พี่ใจรายที่สุดเลย...ฮือ...ฮือ...” เอาเขาไป กูละหนาย ทีพูดดีๆ แลวฟงกันบางไหม ตองใหบังคับ ตองพูดแรงๆ แลว
เปนไงละ บอน้ําตาแตก

“พี่วาปรินกลับไปเถอะ อยาคร่ําครวญเรียกรองในสิ่งที่มันเปนไปไมไดดีกวา...อุบ..อื้อ...” ไอเวรเอย...ผมสบถในใจเมื่อชั่ววูบหนึ่งใน


ความสงสารทําใหเผลอตัวกมลงไปพูดกับมัน แลวเสือกถูกมันฉวยโอกาสโนมลําคอมาจูบ

“...ไอพี่ทอง...”

“โอย...” หาเหว...มันเวรกรรมอะไรของกูวะถึงไดมีสองเสียงดังขึ้นพรอมกัน

ในขณะที่ผมผลักไอปรินออกไปสุดแรงจนมันลมกับพื้น วินดี้ก็กลับเรียกผมเสียงสั่น ผมหันขวับไปยังน้ําเสียงทีโ่ หยหา อยากไดยินมา


ตลอดทั้งวัน ทันไดเห็นนองยืนกํามือแนน มองผมกับปรินดวยนัยนตาปวดราว...ไมนะที่รักมันไมใชอยางนั้น อยาเขาใจพี่ผิดนะ
“...วินดี.้ ..” ผมครางชื่อนองออกมา กาวเขาหาคนรักพรอมกับสายตาเวาวอน

“มันไมใชอยางที่วินดี้เห็นนะครับ” เชื่อพี่นะคนดี พี่ไมไดจะจูบมันนะ ไมคิดจะมีเยื่อใยอะไรกับมันทั้งนั้น เชื่อพี่นะครับ...วินดี้เมมปาก


แนนเหมือนนองกําลังพยายามขมอารมณ ไมมองหนาผมเลยแตจองเขม็งไปยังปริน

“มาทําอะไรที่นี่” แลวนองก็ถามมันออกไปดวยน้ําเสียงปรกติ หากแตเย็บเฉียบในความรูสึกของผม ปรินพยุงตัวเองลุกขึ้น ทําทาปด


ฝุนออกจากตัวกอนจะยักไหล

“ปรินกลับก็ไดครับพี่คิน ขอบคุณนะครับสําหรับความหวงใยที่จะใหคนไปสงปริน” มันไมสนใจนองเลยครับ หันมาทําตาหยาดเยิ้มใส


ผมพรอมกับเอางานมาใหกูอีก แลวนี่มึงแกลงเมาใชไหม น้ําเสียงออแอเมื่อสักครูมันถึงไดหายไป

“ถาหมายถึงพี่รันละก็...รออยูหนาคอนโด” นองดูจะไมสนใจวามันจะคุยกับผมหรือไม ตอบปรินกลับไปแทนผมดวยใบหนาเฉยชา


เชิดหนาขึ้น มองอีกฝายดวยสายตาหมิ่น ๆ แลวกลาวตอวา

“แลวที่ใหไปสงนี่ไมใชหวงใยอะไรหรอกนะ แคตัดรําคาญเพราะไลยังไงก็ไมไปสักที” โอ...ที่รักมานั่งอยูในใจพี่ใชไหมครับ มาถึงตั้งแต


เมื่อไหร นี่แสดงวาไดยินที่พี่คุยกับมันกอนหนานั้นใชไหม เฮอ...อยางนี้ผมก็มีทางรอดแลวใชไหมครับ ไมถูกนองเขาใจผิดแลวใชไหม

นัยนตาของปรินไหววูบอยูชั่วครูกอนจะปรับใหเปนปรกติในเวลาตอมา มันยิ้มบางๆ ราวกับพอใจอะไรบางอยาง กอนจะยักไหลราว


กับไมแครคําพูดของนอง แถมเวลาเดินผาน มันก็กะพริบตาขางหนึ่งใหกับผมอยางยั่วๆ แลวก็ใชหลังมือไลไปบนใบหนาของวินดี้

“อยาเผลอก็แลวกัน” มันกระซิบบอกนองแตผมก็ไดยินเต็มสองรูหู นองปดมือมันออกดวยทาทางรังเกียจ ไมตอบอะไรเพียงแคมอง


ตามมัน จากนั้นวินดี้ก็หมุนตัวเดินไปจากผมดวยอีกคน

“ที่รัก!” ผมตะโกนเรียกนองที่เดินดุมๆ โดยไมคิดจะหันมามองหนาผม นั่นทําใหผมตองเดินแกมวิ่งตามนองที่มุงหนาตรงไปยังลาน


จอดรถแทนที่จะเขาไปภายในคอนโด
“วินดี.้ ..” ผมควาแขนนองไว วินดี้สะบัด แตผมก็เยื้อยุดไวไมยอมปลอย จนสุดทายนองก็หยุด ยืนนิ่งอยูครูใหญ กอนจะหันใบหนาที่
เปอนไปดวยคราบหยาดน้ําใสๆ มาทางผม ใจผมหลนวูบไปอยูที่ตาตุมทันทีที่เห็นน้ําตาของนอง

“เมื่อกี้...มันจูบปากพี่ใชไหม...เดี๋ยววินจะถอนให…” นองกลั้นสะอื้นพรอมกับใชมือปายน้ําตาออกไปจากใบหนาอยางลวกๆ สูดลม


หายใจลึกๆ เห็นแลวปวดใจที่สุดเลยครับ ผมกําลังจะเอื้อมมือไปเช็ดน้ําตาหยดใหมที่ไหลออกมาไมหยุดของนอง แตแลวก็ตอง...

“โอย!” รองเสียงหลงพรอมกับหนาหงายเมื่อวีธีถอนจูบของวินดี้ก็คือตอยผมเต็มๆ หนา ผมสั่นศีรษะใสความมึน กอนใชมือแตะมุม


ปากตัวเอง ทวาพอหันหนากลับมาก็เห็นแคหลังวินดี้ไวๆ

“วินดี!้ ” ผมตะโกนเรียกพรอมกับวิ่งตามนองไป แตมันคงชาเพราะอีกฝายถลาเขาไปในรถแลวปดประตูใสหนาผม

“วินดี.้ ..วินดี.้ ..” ผมตบกระจกเรียกนองดวยน้ําเสียงรอนรน ดวยหวังใหวินดี้ลงจากรถแลวมาพูดกับผม ปรับความเขาใจกันกอน แต


มันก็เปนไดแตเพียงหวังเมื่อวินดี้สตารทเครื่อง ใสเกียรถอยออกจากซอง จากนั้นก็เหยียบคันเรง กระชากรถออกไปโดยแรง...ปลอย
ใหผมมองตามไฟทายรถดวยอารมณที่ใกลจะระเบิดออกมาอยูรอมรอ

ผีหาซาตานตนไหนมันแกลงกู หาเหวอะไรนักหนาหะ พอไดเจอหนากันแทนที่จะพูดคุยดวยความคิดถึง แตกลับมีเรื่องใหเขาใจผิดกัน


นี่มันอะไรกัน จะแกลงใหกูซวยซ้ําซวยซอนไปถึงไหน!

“มึงไปลางหนาลางตาหนอยไป กูเห็นแลวอยากฆาคน” เสียงของเพื่อนรักผมกลาวบอกพรอมกับดึงแขนผมลุกขึ้นจากเตียงแลวผลัก


ผมเขาไปในหองน้ํา ผมสูดน้ํามูก ใชมือปายน้ําตาออกไปจากใบหนา ถึงจะคิดวาตัวเองรองไหจนไมมีน้ําตาจะไหลมาวันกวาๆ แลว
แตมันก็ไหลออกมาไมยอมหยุดอยูดี

“มึงแนใจนะวาจะนอนนี่” ผมเงยหนาขึ้นมองเมธผานกระจกในหองน้ํา เห็นมันกําลังยืนกอดอก พิงกรอบประตู มองมาที่ผมดวย


สายตาหวงใย

“อืม...” ขานรับเพียงสั้นๆ กอนจะเปดกอกแลวกวักน้ําขึ้นมาลางหนา


ผมยังไมอยากกลับบานตอนนี้ ยังไมอยากเจอหนาไอปริน แลวคอนโดผมก็ยังไมอยากกลับ ถึงแมจะเห็นกับตาวาไอพี่ทองถูกปรินดึง
มาจูบ แตทําไมผมถึงไดปวดตรงหัวใจนัก มันเหมือนมีความโกรธ ผิดหวัง ไมพอใจและเสียใจอยูในนั้น แตผมก็ไมรูวาความรูสึกนี้
เรียกวาอะไร แตที่แนๆ ก็คือในเวลานี้ผมไมอยากเจอหนาทั้งสองคน

“ทําไมถึงไดปลอยใหตัวเองโทรมขนาดนี้วะกุล เมื่อวานมึงยังดีๆ อยูเลย แลวนี่อะไร แควันเดียว น้ําหนักมึงลดไปกี่กิโลเนี่ย หนาตาก็ดู


ไมได ทั้งตา ทั้งจมูก แดงซะยิ่งกวาอะไร เห็นทีแรกกูนึกวาใครเอามะนาวไปแปะตามึง ปูดซะนากลัว” เมธบนมาซะยาวแตผมก็พอรูวา
มันพูดเพราะเปนหวงผม นั่นทําใหผมนึกถึงตอนที่มันทําหนาตกใจเมื่อจูๆ ก็เห็นผมมาหามันที่บาน

หลังจากหนีหนาไอพี่ทองที่แรกที่ผมนึกถึงนอกจากบานและคอนโดแลวก็คือบานของเมธ แลวพอเมธมาเปดประตูใหผม สิ่งแรกที่ผม


เห็นก็คือคิ้วของมันที่ขมวดเปนปมกอนมือแข็งๆ ของมันจะจับหนาผมหันซายและหันขวา จากนั้นก็จัดการลากผมเขาหอง แลว
คาดคั้นถามราวกับรูวาผมเพิ่งไปฆาใครตายอยางนั้นแหละ ในอารมณตอนนั้นทําใหผมอยากระบายทุกอยางใหเพื่อนฟง

ตลอดสองวันที่ผานมา มันมีหลายเรื่องราวเหลือเกินที่เขามาในชีวิตของผม คําพูดพรั่งพรูออกจากปาก และจบลงที่เรื่องของไอพี่ทอง


แตผมก็ไมไดบอกเมธหรอกนะวาใครที่ดึงคนรักผมไปจูบ และดูทามันก็ไมสนใจถามมากกวาประเด็นหลักของเรื่องราว และพอได
ระบายจนพอใจแลว มันก็ไลผมไปลางหนาอยางที่เห็น

“โทรมขนาดนั้นเลยหรือ...” ผมถามทั้งๆ ที่รูคําตอบดีอยูแลวเพราะพอเงยหนาขึ้นมองกระจกก็เห็นไอบาที่ไหนไมรู หู ตา จมูก แดงก่ํา


ผมเผากระเซอะกระเซิง...แลว...แลว...พี่เห็นผมโทรม ดูไมไดแบบนี้...พี่เลยคิดจะทิ้งผมไปใชไหมครับ...

“ฮึก...ฮึก...” ผมเริ่มฟุงซานอีกแลว ผมคงบาไปแลวจริงๆ เลยปลอยใหความคิดเหลานี้ตามมาหลอกหลอน ไลยังไงมันก็ไมไปสักที ผม


กลัว...กังวลไปหมด...มันเหมือนคนเดินอยูในเขาวงกต วกไปเวียนมาบรรจบอยูที่เดิม หันซาย หันขวาแตก็ไมกลาตัดสินใจวาจะไป
ทางไหนดี

“อาวๆ อะไรของมึงอีกละทีนี้ เลิกรองซะทีเถอะ ไมงั้นกูไลมึงกลับบานจริงๆ นะโวย” เมธวาเสียงดุพรอมกับโยนผาเช็ดตัวลงบนหัวของ


ผม จากนั้นมันก็โยกหัวผมไปมากอนจะดึงใหซบลงกับไหลของมัน

“บางครั้งน้ําตามันก็ชวยไดแคการระบายความเจ็บปวดออกมา แตมันไมไดชวยแกปญหาหรอกนะกุล กูจะอยูตรงนี้ เปนเพื่อนรองไห


กับมึง แตถาเมื่อไหรที่มึงหยุดรอง กูก็ไมอยากใหมึงหนีปญหาอีก”

“เมธ...แตกูยังไมพรอมจะเผชิญหนากับเคา...กูเจ็บ...กูแทบไมอยากหลับตา...เพราะภาพนั้นมันตามมาหลอน...” ผมกําผาเช็ดตัวไว
แนนกอนจะซบหนาลงบนนั้น

“แลวมึงพรอมจะใหไอนั่นมาแยงคนรักมึงหรือไง” ปลอยมือจากพี่เขาแลวยกใหปรินอยางนั้นหรือ ผมสายหนา แคเห็นมันจูบผมยัง


เจ็บขนาดนี้ ถาเห็นทั้งสองรักกัน ใจผมไมแหลกออกมาเปนเสี่ยงๆ เลยหรือไง

“ถาไมอยากเสียเขาไปมึงก็ตองกลับไปรักษาของรักของมึงไวใหดีๆ”

“แตถาพี่เขาเปนฝายอยากจากกูไปละ...” เมธลูบแผนหลังผม

“มึงคงเหนื่อยนะกุล เลยทําใหฟุงซาน อยาเพิ่งคิดอะไรตอนนี้เลย อาบน้ําซะ เผื่อสมองจะปลอดโปรงขึ้นมาบาง” เพื่อนผมบอกดวย


น้ําเสียงปลอบประโลมกอนจะปลอยใหผมใชเวลาอยูคนเดียวในหองน้ํา ผมอยากจะทําเหมือนที่เมธบอกคืออยาคิดอะไร แตมันก็
ยากมากเลยนะ ถึงแมในหัวมึนงง สับสน แตหัวใจก็ยังปวดราว ทรมานเกินจะทนไหว …สายน้ําเย็นๆ ไมไดชวยอะไรผมไดมากนัก ใน
อกยังหนักอึ้งอยูเชนเคย

“อะนี่ คิดวามึงนาจะใสได” เมธละหางจากมานหนาตาง กอนจะเดินไปหยิบเสื้อผาที่มันจัดเตรียมไวให ผมยื่นมือออกไปรับสิ่งที่เมธ


มอบให เสื้อยืดธรรมดาตัวโตๆ พอใสแลวมันก็กลายเปนชุดนอนคลุมมาถึงตนขาเพราะเมธตัวใหญพอๆ กับพี่เคา เห็นแบบนี้แลวนึก
ถึงเสื้อของใครบางคนที่ผมเคยสวม...ปวดใจอีกแลว ผมไมไดจะคิดถึงเคาเลย แตภาพวันเกาๆ กลับไหลยอนเขามาของมันเอง

“เฮอ...มึงคิดถึงมันอีกแลวใชไหม กูวานะมึงกลับไปเถอะกุล อยูกับกู มึงก็คงรองไหทั้งคืน” ผมกมหนาสายศีรษะไปมา เมธเดินไปลาก


เกาอี้หนาคอม นั่งครอมลง เผชิญหนากับผมซึ่งนั่งอยูปลายเตียง สองแขนของมันเทากับพนักแลววางคางลงบนลําแขนแกรงพรอม
กับมองผมดวยสายตาสงสารและเห็นใจ

“กูเขาใจนะที่มึงเจออะไรมาหลายอยางในวันเดียวกัน เปนกูก็คงมืดแปดดานไมรูจะไปทางไหน แตวาตอนนี้สิ่งที่ทําใหมึงรองไหไม


หยุดอยูเนี่ยคือเรื่องของมันใชไหม เอาอยางนี้นะ บางทีมึงอาจจะเขาใจอะไรมากขึ้น” ผมเงยหนาขึ้นมามองเมธ มันหลบตาผมกอน
จะหันหนากลับมาใหม
“จําตอนที่กูดึงมึงมาจูบที่ภูเก็ตไดเปลา”

“อืม....” ผมขานรับพรอมกับกมหนาลงอีกครั้ง

“แลวตอนนั้นแฟนมึงมันทํายังไงเมื่อรูเรื่องเขา”

“พี่ไมรู กูไมไดบอก”

“แลวถาเกิดสมมุติวามันรูขึ้นมาละ มึงวามันจะทํายังไง” หากพี่รูเชนนั้นหรือคําตอบแรกที่ผมนึกถึงก็คือ

“คงตามมาฆามึงมั้ง” ไอพี่ทองขี้หึงที่สุด แตแกไมเคยทําอะไรผมเลย มักจะไปลงอารมณที่อีกฝาย หากรูวาคืนนั้นนอกจากผมกับเมธ


จะกอดกันแลว ผมยังถูกเมธดึงไปจูบดวยความไมเต็มใจ ผมเชื่อเลยวาพี่เคาตองลมออกหูและเกิดอาการบาดีเดือดขึ้นมาแนๆ

“นั่นสิ...แลวทําไมมึงไมตามไปฆาไอนั่นละ จะมาโกรธแฟนตัวเองทําไม มึงก็บอกเองไมใชหรือวามันไมเต็มใจนะ ความรูสึกของมันก็


คงไมตางจากมึงในวันนั้นนั่นแหละกูวา เฮอ...ทําไมกูตองมาเขาขางมันดวยก็ไมรู ความจริงอยากบอกใหมึงเลิกๆ กับมันซะ กูไมชอบ
หนามัน แตดูแลวถาพูดแบบนั้น มึงคงไดอาการหนักกวาเกา”

ผมหวนนึกถึงวันนั้นขึ้นมา ความรูสึกของผมตอนนั้นคืออยากขอโทษพี่ อยากใหพี่ชวยลบความรูสึกหนักหนวงนั้นออกไปที ถึงแมวา


ผมไมไดตั้งใจจะใหเมธจูบ แตผมก็รูสึกผิดอยางบอกไมถูก แลวตอนนี้พี่เคาจะรูสึกแบบนั้นอยูหรือเปลานะ ความออนโยนที่แสน
หวานยามพี่ลบรอยของเมธออกใหนั้นผมยังจําไดเปนอยางดี ทวาสิ่งที่ผมทํากับพี่เขาคืออารมณฉุนเฉียว ตอยไปเต็มแรงแบบนั้น พี่
คงเจ็บมากเลยใชไหม

“อยางที่มึงบอกกูวาตารูเรื่องมึงสองคนแลว มันก็ดีแลวนี่ จะมาทะเลาะกันเองทําไม แลวเรื่องบริษัทของพอ มึงก็กลับไปคุยกับมัน


เหมือนอยางที่ตั้งใจแตแรกดีกวา พูดกันใหเขาใจกันซะ กูคนนอกขนาดฟงเฉยๆ ยังปวดใจแทนเลย ปญหามันก็มากเกินพอแลว มึงก็
อยาปลอยใหสิ่งที่แกไดมันเรื้อรังเลยดีกวา ตอนนี้มันอยูหนาบาน มึงไปหามันเถอะ เดี๋ยวกูจะไปอาบน้ํา หวังวาออกมาแลวคงไมเจอ
มึงอยูในนี้นะ”

เมธเอื้อมมือมาขยี้หัวผมกอนจะลุกจากเกาอี้แลวเดินเขาหองน้ําไป ผมเมมเรียวปาก ลุกไปยังหนาตางดวยความรูสึกที่บอกไมถูก


แสงไฟจากหัวเสาหนาบานทําใหเห็นเงาตะคุมๆ ของใครบางคนเดินวนไปวนมา ถึงจะมองจากมุมไกลๆ แตดวยความคุนเคย ผมก็รู
ไดทันทีวาคนนั้นคือใคร…นับจากวันแรกที่เราเจอกัน ไมวาผมจะอยูที่ไหนพี่เขาก็ตามหาผมเจอเสมอ และวันนี้พี่เขาก็ตามหาผมจน
พบอีกเชนเคย...

ยี่สิบสี่ชั่วโมงที่เฝารอเพื่อเจอกับนองมันชางยาวนานนัก ทวากลับเทียบไมไดเลยกับแคหนึ่งชั่วโมงที่เพิ่งจะผานพนไป ยี่สิบสี่ชั่วโมงที่


แลวผมรอคอยนองดวยใจกระวนกระวาย กระสับกระสาย เปนหวงคนไกลจนใจปวดราวทรมาน หากแตหนึ่งชั่วโมงที่ผานมามันคือ
การรอยคอยดวยความรอนรนในหัวใจ กลัดกลุมดั่งถูกไฟเผา ยิ่งคนรักจากไปดวยความเขาใจผิดผมก็ยิ่งทุรนทุราย

หลังจากที่นองไมยอมฟงผมและขับรถออกไปจากคอนโดแลว ผมก็ไมอาจทนนิ่งเฉยปลอยนองไปแบบนั้นได ผมรีบโทรหาการดให


ชวยตามวานองไปที่ไหน แลวพอไดรถผมก็ตามนองมายังที่หมาย ใจจริงผมอยากบุกเขาไปในบานของเพื่อนนอง แตเหตุและผลก็
ยับยั้งไว เวลาที่ไดใชรวมกันสอนผมวาสายลมของผมจะกลายเปนพายุรายยามเมื่อนองโมโห ไมควรแน หากผมจะเขาไปหาวินดี้
เดี๋ยวนี้ อยางมากนองก็ไลผมออกมา และเปนผมเองที่ตองเจ็บปวด

ดังนั้นวิธีที่ผมคิดวาดีที่สุดก็คือใหเวลาวินดี้อยางนอยก็สักชั่วโมง ใหนองใจเย็นลงกอนแลวคอยงอ ถึงแมอยากจะนําตัวตามหัวใจของ


ตัวเองไปใจแทบขาด แตสิ่งที่ผมทําไดในเวลานี้คือเดินวนไปวนมาหนาบานของเพื่อนนองเทานั้นเอง การรอคอยใหเวลาเดินผานไป
อยางเชื่องชามันทรมานจิตใจผมเหลือเกิน

...แตแลวผมก็มาถึงวินาทีสุดทายของปลายทางอันยาวนาน...

ขาที่กาวเดินไปมาหยุดชะงัก นัยนตาวาวขึ้น พราวระยับดวยความยินดี ใบหนาที่ปราศจากรอยยิ้มมาตลอดทั้งวันกลับยิ้มไดอีกครั้ง


เมื่อไดพบหนาคนที่เฝาคนึงหาและเขาคนนั้นกําลังเดินตรงมาที่ผม

“วินดี.้ ..” ผมเรียกชื่อนองพรอมกับวิ่งเขาหาคนรักดวยความดีใจ หัวใจเตนโครมครามที่ไดพบหนานองอีกครั้ง

“พี่ครับ...” วินดี้ก็ถลาเขามากอดผม นั่นทําใหผมแทบน้ําตาไหล รูสึกโลงใจราวกับถูกใครยกเอาของหนักๆ ออกไปจากอกผมสักที


หัวใจที่ทํางานหนักมาตลอดทั้งวันของผมก็เหมือนไดหยุดพัก ความเหน็ดเหนื่อยออนลาไดผอนคลาย

จะมีใครเชื่อไหมหากผมจะบอกวาตอนนี้ผมลืมไปแลวละวาวิธีหายใจเปนอยางไรและลมหายใจของผมอยูที่ไหน เพราะวินาทีนี้ทุกๆ
สิ่งรอบกายกําลังหยุดลงอยูตรงนี้แลว อยูตอหนาผูชายตัวเล็กๆ แตกลับมีอิทธิพลมากมายตอหัวใจของผม…คนที่กลับเขาสูออมกอด
ผมอีกครั้ง ผมกระชับวงแขน กอดนองไวแนน อา...ในที่สุดมือคูนี้ก็ไดมีโอกาสโอบอุมนองไวเชนเคย

“...วินขอโทษ...” ใบหนาที่น้ําตาคลอเบาเงยขึ้นมาสบกับผม น้ําเสียงสั่นนอยๆ ของนองทําใหผมสายหนา

“พี่สิตองขอโทษ...” คลายออมกอดลงเล็กนอย ไลปลายนิ้วไปบนใบหนานองอยางแผวเบา มองคนรักดวยสายตาของความเสียใจ


อยางทวมทน

“ไมหรอก พี่ไมผิด...เจ็บไหมครับ” นองปฏิเสธกอนจะเอื้อมมือมาลูบใบหนาของผมอยางหวงใย ผมกุมมือนั้นไวกอนจะแนบแกมลง


กับมือของนอง หลับตานิ่ง แคนี้พี่ก็หายเจ็บแลวละครับ แควินดี้ยังเปนหวงพี่ แคนี้ก็เพียงพอแลว

“ไมเจ็บเลย” บอกพรอมกับเลื่อนมือของนองที่แนบอยูกับใบหนามาจูบ หลับตานิ่งอยูเชนนั้นเพื่อซึมซับชวงเวลานี้อีกสักพัก

“วินไมนาใชอารมณเลย รูทั้งรูวาพี่ไมไดตั้งใจ แตวินก็ยังโกรธ”

“โกรธพี่เถอะครับ เพราะพี่ไมระวังตัว” ผมลืมตาขึ้น ใชมือประคองดวงหนาของนอง นัยนตาไหวระริกกับน้ําตาที่เออคลอเบานั่นทําให


ผมไลปลายนิ้วเกลี่ยออกใหอยางแผวเบาแกมปลอบประโลม

“แตขอรองวาอยาเกลียดพี่เลยนะ...พี่รักวินดี้มากเลยรูไหม” เอยคําที่คับแนนอยูในอกพรอมกับนัยนตาโหยหาไลสํารวจดวงหนา
หวานของคนที่เฝาคํานึงถึง

“วินรู. ..และวินก็รักพี่เหมือนกัน...” คํากระซิบแผวเบากับดวงตาที่สื่อความรูสึกออกมาอยางเปดเผยนั้นทําใหผมอดใจไมไหว คอยๆ


กมหนาลง ถายทอดทุกความรูสึกผานริมฝปากที่ไลไปตามใบหนาของนอง ผมไลจูบไปทั่วตั้งแตหนาผาก เปลือกตาที่ปดลงตอนรับ
จุมพิตของผม ยิ่งกอนหนานั้นผมเห็นดวงตาที่เคยหวานหยาดเยิ้มของนองแดงก่ํา บวมช้ํา ผมจึงจูบออยอิ่งที่ตาของนองอยาง
ออนโยนหมายจะปลอบขวัญที่นองผานการรองไหมาอยางหนัก กอนจะไลริมฝปากมาที่ปลายจมูกโดงงาม แกมหอมกรุนทั้งสองขาง
และจรดลงที่เรียวปาก

“...พี่คิดถึงวินดี.้ ..”

“...ใหวินถอนจูบนั่นใหพี่นะครับ...” วินดี้บอกพรอมกับโอบแขนทั้งสองขางรอบลําคอของผม จูบผมตอบอยางเต็มใจ ความออนหวาน


หวาบหวามไหลเขาสูหัวใจของผม มันซาบซานดื่มด่ําเหลือคณา ดวยกรุนไอรักที่เราทั้งสองรวมทักทอตางโยงใยเขาหากันอีกครั้ง
“กลับบานเราเถอะนะ” ผมบอกเมื่อถอนจุมพิตออกมาอยางออยอิ่ง วินดี้พยักหนา

“ความจริงวินมีเรื่องจะคุยกับพี่เยอะแยะเลย”

“พี่ก็อยากจะรูเหมือนกันวามีอะไรเกิดขึ้นกับวินดี้บางตอนที่พี่ไมอยู”

เพียงวูบหนึ่งของความสงสารทําใหผมไมทันไดระวังตัว และเพียงวูบหนึ่งของหัวใจที่เห็นคนรักจูบกับคนอื่นทําใหนองโกรธผม แตมัน


ก็แควูบหนึ่งจริงๆ สําหรับเราทั้งคู ในเมื่อหัวใจที่บรรจุรักไวใหกันจนเต็มเปยม แควูบเดียวมันจึงไมทําใหรักหนักแนนของเราสั่นคลอน
ไปได...แตอยางไรก็ตองขอบคุณวูบหนึ่งของเสี้ยวเวลา ที่สอนเราวา

...ชีวิตคูแครักคําเดียวนั้นยังไมพอ เรายังตองการการใหอภัยและไวใจกันซึ่งกันและกัน...

ผมมองผูชายตัวโตๆ ที่นอนเหยียดยาวบนโซฟาดวยนัยนตาหมนเศรา ไอพี่ทองนอนตะแคงขาง หนุนตักผม ลําแขนแกรงโอบผมไว


แนนดั่งเชนคําพูดกอนหนานั้นที่พร่ําบอกวาจะไมยอมปลอยมือจากผม

“เฮอ...อยากหยุดเวลาไวตรงนี้...ใหอยูกับเราสองคนตลอดไป” เสียงอูอี้เพราะซบหนาอยูกับหนาทองผมกลาวบอกพรอมกับแขนที่
โอบกระชับแนนขึ้น ถึงแมคําพูดจะฟงดูน้ําเนา แตความรูสึกของผมก็ไมแตกตางจากพี่เขาเลย

“พรุงนี้เราตองหางกันจริงๆ หรือครับ” น้ําเสียงเหงาๆ ปนเศราเอยถามพรอมกับนัยนตาออนแสงบนใบหนาเหงาหงอยหันมาพูดกับผม

ผมเมินหนาหนีดวยไมอาจทนสบตาคูน ั้น “พี่ก็ทําเหมือนวินจะจากไปไหน แควินกลับไปอยูบานสักพักเทานั้นเอง” ดวยบรรยากาศที่


ชวนหมนหมองนั่นทําใหผมปนน้ําเสียงสดใส พูดจาราวกับเรื่องการแยกกันอยูของเราเปนเรื่องธรรมดา ทั้งๆ ที่ตัวผมเองก็รูสึกโหวง
เหวงและเศราใจไมแพกัน

“สักพักของวินดี้ แตมนั นานมากสําหรับพี่” แตดูเหมือนคําพูดของผมจะไปทําใหผูชายตัวโตกลายรางเปนเด็กสามขวบไปเสียแลว ไอ


พี่ทองหนาหงิกงอ แยงดวยน้ําเสียงไมพอใจกอนจะซุกหนาลงกับหนาทองผมอีกครั้ง

“ใจรายกับพี่นักนะ” แลวไอพี่บาก็ใชวิธีเด็กๆ มาแกลงผม แกดึงเสื้อผมขึ้นแลวก็เปาลมลงไปจนมันเกิดเสียง

“ฟู...ฟู. ..”

“อาก...จั๊กจี…
้ ” ลมอุนๆ ที่กระทบผิวทําใหขนลุกซู บิดราง ดิ้นไปดิ้นมา มือก็พยายามผลักรางหนาออกหาง แตคนตัวโตกลับฝน
ตัวเองไว แลวก็ทรมานผมตอไปอยางสนุกสนาน

“ฮาฮา...ไมเอา...พอไดแลว...อาก...” ทั้งขอรอง ทั้งวิงวอนแตแกก็ไมยอมเลิกเลนสักที ขนาดทุบหลังไปหลายทีก็ยังทําเปนเฉย กวาจะ


เลิกเลนผมก็เกือบใจขาดตาย หอบหายใจฮักๆ ดวยความเหนื่อย อาปากพะงาบๆ อยากดาแตไมมีแรง จึงไดแตมองอีกฝายดวย
สายตาคาดโทษ

“หึหึ” ยังมีหนามาหัวเราะเยาะผมอีก เห็นแลวฉุนกึกเลย

“วิน...จะกลับบาน...คืนนี้เลย...ไมอยูกับพี่แลว...” พูดพรางหอบพรอมกับลุกขึ้นยืน หยิบหมอนอิงปาใสหนาอีกฝาย หากแตไมทันได


กาวเดินก็ตองรองเสียงหลงเมื่อตัวลอยลิ่วขึ้นไปบนอากาศ ไอพี่ทองบาพลังทํายังกับผมเบาเหมือนนุน แกรวบตัวผมขึ้นแลวแบกไวบน
บา

“ยังไมเข็ดใชไหม มาขูวาจะไปจากพี่คืนนี้เลยหรือ อยางนี้ตองทําโทษใหหนัก” ทําโทษอะไรเลา ใครกันแนที่ควรถูกทําโทษนะ

“ไอพี่ทอง! ปลอยวินเดี๋ยวนี้!” ขัดใจมากเลยครับ ขนาดผมบอกเสียงแข็ง แตไอพี่บาจูๆ ก็กลายรางเปนคนหูตึง ทําเปนไมสนใจผม


มิหนําซ้ําเมื่อโวยวายมากขึน้ ผมก็ถูกมือหนาฟาดเขาที่กนไปตั้งสองที

“มาตีวินทําไมเนี่ย วินเจ็บนะ” วาพลางทุบแผนหลังพี่เขาไปดวยความโมโห แตรางหนาก็ไมทีทาจะสะดุงสะเทือนแมแตนอย กาวฉับๆ


แบกผมเขาไปในหองนอน จากนั้นก็โยนผมลงบนเตียง

“จะทําอะไรวิน...ไอพี่ทอง...ไมเอา...” พี่แกเลนตามประกบกอนที่ผมจะทันไดตั้งตัว มือสองขางถูกรวบไปไวบนศีรษะกอนจะถูกรัด


ดวยเข็มขัดไวอยางแนนหนา

“จะเลนอะไร...ไมเอา...ไมเลนแบบนี้”

“แตพี่จะเอา” น้ําเสียงหนักแนนกับใบหนาหื่นๆ ของพี่แกยามตอบมานั้นทําใหผมตองกลืนน้ําลาย

“วินจะโกรธพี่จริงๆ นะถาไมปลอยวินเดี๋ยวนี้” แตผมก็ทําเปนใจดีสูเสือ วางทาขมอีกฝายดวยใบหนาบึ้งตึง ทวาไอพี่ทองกลับไมมีทาที


กลัวเกรงแตอยางใด นัยนตาคมกริบนั่นวิบวับอยางเจาเลห ยิ้มมุมปากกอนพูดกับผมวา

“พรุงนี้ก็ตองหางกันแลว ถาวินดี้จะใจรายโกรธพี่ลงคอก็ใหมันรูไปสิ”

“ถาพี่ยังเลนไมเลิก วินก็จะโกรธใหดู” มากเกินไปแลวนะ เห็นวาผมรักหนอยทําเปนมาขมขูผมหรือไง ไมยอมออนขอใหงายๆ หรอก

“ใครวาพี่ทําเลน พี่จริงจัง แลวก็จะทําโทษวินดี้ดวยที่ทําอะไรไมปรึกษาพี่กอน นึกจะไปจากพี่ก็ไป”

“ไมปรึกษาอะไรกัน ถาวินจะไปจริงๆ วันนี้วินไมกลับมาหาพี่หรอก”


“ไมเชื่อ ถาตาไมอนุญาตใหเราคบกัน วินดี้ก็จะทิ้งพี่ใชไหม”

“......”

เงียบ...ตอบไมไดครับเพราะมันคือความจริง แตไมใชประเด็นที่วาผมจะทิ้งพี่เขานะครับ แตมันคือหากตาไมอนุญาตใหเราคบกัน ผม


คงยังไมกลาติดตอกับพี่เขาอยางแนนอน

ใชแลวครับคุณไดยินไมผิดหรอก ตารูเรื่องของพวกเราสองคนแลว เนื่องจากคําพูดของตาที่บอกเปนเชิงวาหากผมรักใครจะไม


ขัดขวางนั้นทําใหผมคอยๆ เลาความจริงเรื่องของเราใหตารู ตอนแรกผมบอกวาเรื่องของลูกแพรที่ตาเคยขอมานั้น ผมคงทําใหไมได
เพราะผมมีคนรักอยูแลว ตารับฟงอยางเขาใจพรอมกับบอกผมวาเรื่องนั้นตาไมไดตองการใหผมไปรับผิดชอบเธอขนาดถึงกับตอง
แตงงานกัน เพียงแคตามองออกวาลูกแพรรูสึกยังไงกับผม หากผมลองเปดใจคบกับเธอดูบางก็ไมเสียหายอะไร นั่นคือจุดประสงค
ของตาที่ขอใหผมคบกับเธอในตอนแรก

ทวาเวลานี้ผมมีคนรักแลวตาก็ไมอยากดึงเรื่องของลูกแพรมาทําใหผมลําบากใจ เพียงแคขอใหผมอยาทิ้งเธอ ดูแลกันและกัน เปน


เพื่อนอยางนี้ตลอดไป แคนี้ก็ดีมากพอแลว หากตาเปนอะไรไป ก็จะไดไมผิดสัญญาที่เคยใหไวกับยายของลูกแพร เมื่อไดยินอยางนั้น
ผมก็รับปากตาใหสบายใจวาผมจะเสมอตนเสมอปลายกับลูกแพร

จากนั้นตาก็ถามวาคนรักผมเปนใคร ผมก็อ้ําอึ้งอยูพักใหญจนในที่สุดตาก็เปนคนพูดขึ้นมาเองวา คนๆ นั้นใชไอพี่ทองหรือเปลา ตอน


แรกผมก็ตกใจนะครับที่ตารู แตแลวตาก็ไขขอของใจวาตาระแคะระคายเรื่องของเราตั้งแตครั้งแรกที่ไดเจอพี่เขาแลว เพราะโดยปรกติ
ผมจะเปนคนปดตัว ไมยอมใหใครเขาใกลงายๆ แตในกรณีของพี่เขานั้นตางไปเพราะพี่แกมาหาผมถึงคอนโด แลวยังมีสรอยของผม
แถมผมยังใหเรียกชื่อผมวาวินดี้ ตาก็เลยผิดสังเกตครับ

เมื่อตารูเรื่องของเราและรับได ผมก็รูสึกโลงอกอยางบอกไมถูกเลยทีเดียว จะวาไปก็ไมใชผมคนเดียวที่โลงอกนะครับ ผมรูสึกวาตา


คอนขางสบายใจที่คนรักของผมเปนพี่เขา ไมรูวาคิดไปเองหรือเปลาเพราะตาพูดคลายๆ วา ตาอุนใจและหายหวงเพราะผมมีคนดูแล
ตาบอกวาผมเปราะบางเกินกวาจะเปนฝายไปดูแลคนอื่นได ตาพูดประมาณนี้แหละครับ

แตก็ชางมันเถอะครับ ไมวาตาจะวาอยางไร แคยอมใหเรารักกันไดมันก็เกินพอแลวละ พอไมตองกังวลเรื่องของตา สมองโลงขึ้นมา


บาง มันก็ทําใหมองเห็นทางแกปญหาเรื่องอื่นไดดวย ในกรณีของบริษัทของพอนั้น ผมคิดวาควรจะคุยกับพี่เขาเสียกอน ดังนั้นคืนนี้
ผมจึงกลามาหาพี่ในสุด แลวก็เจอฉากเด็ดเขาให แถมยังมาลงทายดวยการที่ผมถูกไอพี่บาจับมัดมือ แลวจะลงโทษผมซะงั้น

“เงียบเลยนะ พี่พูดถูกละสิ” ไอพี่ทองพูดดวยสายตารูทัน ผมแสรงออกอาการฮึดฮัด ดิ้นขลุกขลักไปมา แตถูกพันธนาการไวแนนหนา


อยางมากก็แคพลิกตัวไปทางซายและทางขวาเทานั้นเอง

“วินจะทิ้งก็ตอนที่พี่คิดจะเลนพิเรนทรกับวินนี่แหละ”
“เลนพิเรนทรอะไรกันที่รัก” จะไมพิเรนทรไดอยางไร พี่แกไมวาเปลาปลดเนคไทออก แลวมาผูกตาผมไวดวยนะครับ ไมนะ...ผมไม
ชอบแบบนี้

“พี่จะสอนใหวินดี้รู ไมวาจะมองเห็นหรือไมเห็น รักของพี่ วินดี้ก็ยังสัมผัสได” ฟงแกพูดสิครับ ผมควรจะดีใจไหมที่ไดสัมผัสความรัก


ของพี่เขานะ

“ไมนะ...ไอพี่ทองปลอยวินเดี๋ยว...อืม...อื้อ...”

ถึงเหตุและผลที่ทําใหเราตองหางกันนั้น ผมจะเขาใจมันเปนอยางดี...แต...ก็ยังอดเศราใจไมได
ถึงนองจะบอกวาตารูเรื่องของเราแลว...แต...ผมก็ใจหายไปครูใหญเมื่อสิ่งที่ผมกลัวไดเกิดขึ้นจริง
ถึงแมวาตาไมไดบังคับใหวินดี้เลือกผมหรือครอบครัว...แต...มันก็สื่อความหมายคลายๆ กัน และคําตอบของมันก็คือ “ผม” ไมใชคนที่
นองเลือก

ถึงฟาจะยังเห็นใจผมใหตาเขาใจความรักของเรา...แต...ฟาก็แยกเราออกจากกันดวยเหตุผลที่ผมจําเปนตองยอมรับ และเวลานี้...
ถึงแมริมฝปากที่ผมคลอเคลีย ชิมรสหวานอยางสเนหา ถายทอดความรักทั้งหมดลงไปพรอมกับจุมพิตดื่มด่ํา...แต...พอรุงสาง ขาง
กายผมก็ตองวางเปลา สายลมของผมตองพัดผานไปยังที่ของเขา

“...พี่...ครับ...”

ถึงแมไมอยากหางกัน...แต...ก็คงตองปลอยนองเพื่อตัวของนองเอง และตอนนี้ถึงแมจะพยายามทําตัวเขมแข็งแตนองคงรับรูถึงสิ่ง
ผิดปรกติของผมเขาใหแลว แมจะปดตาไมใหนองเห็นความออนแอ แมจะมัดมือไมใหนองไดสัมผัสกับมัน แตมันก็คงไมสามารถ
ปกปดวินดี้ได

“ครับ...ที่รัก...” หนาผากของเราทั้งสองแนบชิดกันหลังจากที่ผมถอนริมฝปากออกมาอยางออยอิ่ง ผมหลับตานิ่ง รวมใชลมหายใจ


เดียวกันกับนอง ลมอุนๆ ที่ออกจากวินดี้คงชวยไลน้ําตาที่ซึมออกมาทางหางตาของผมได...ทําไมความรักของผม หากมีคําวา “ถา”
ตองมีคําวา “แต” มาขัดแยงกันเสมอ เราเพิ่งกลับมาพบกันแทๆ ก็ตองหางกันอีกแลว มันจะมีสักวันไหมที่รักนี้จะสมบรูณและคนรัก
กันสองคนจะไดอยูดวยกันจริงๆ เสียที

“ขอพี่อยูอยางนี้อีกสักพักนะครับ” ขอโอกาสใหพี่ไดออนแอจนถึงที่สุดเถอะนะที่รัก แลววินดี้จะไมเห็นและรูจักพี่ในแบบนี้อีกตอไป

ผมใชปลายนิ้วลูบที่หางตาตัวเองกอนจะกมลงจูบวินดี้อีกครั้งดวยความรูสึกรักและหวงแหน ออยอิ่งชิมรสหวานปนเศราที่นองมอบ
ใหอยางเต็มใจ ซึมซับความรักของเราทั้งสองที่ถายทอดถึงกันและกันใหมากและยาวนานที่สดุ เทาที่จะทําได

ผมไมรูหรอกนะวาพอหางกันแลวจะเปนอยางไร แตสิ่งที่ผมรูก็คือสายลมของผมตองหวนกลับมา และเวลานั้นมันคงไมนานเกินกวา


ที่ผมจะรอไดหรอก ผมตองยอมรับความจริงวาผมไมใชพระเจาที่จะควบคุมทุกอยางได ถึงแมวาครั้งนี้มันจะไมเปนดั่งใจผมปรารถนา
แตผมก็จําใจตองหางนองเพื่อความปลอดภัยของวินดี้เอง

หลังจากที่นองเลาขาวดีเรื่องของตาใหฟงแลว วินดี้ก็บอกขาวรายใหผมฟง สิ่งที่ไดยินทําใหผมอยากหวนเวลากลับไปยังเมื่อครั้งอยูที่


ภูเก็ต แลวผมจะไมเบนลูกกระสุนออกจากสมองไอสันดานนั่น ผมจะฆามันที่สงภาพและขอความนั้นมาขมขูวินดี้ของผมในวันที่
มรสุมรุมเรา หัวใจของนองตองปวดราวเพราะจนกับหนทาง จนสุดทายนองก็ถูกบีบบังคับใหเลือก และวินดี้ก็เลือกที่จะทําเพื่อบริษัท
โดยไมปรึกษาผมสักคํา...สิ่งที่สะทอนออกมาก็คือ “ผม” ยังลอยเควงอยางเดียวดายเมื่อนองหันหลังให

ผมซอนใบหนาเจ็บปวดที่ไดรับรูกับหนาทองของนอง แกลงอีกฝายเพื่อจะไดไมตองสนใจผม ทวาความออนแอมันก็ตามมารุมเราผม


จนสุดทายก็หาทางปดตาวินดี้ซะ ผมตองการเวลาอีกสักหนอย อยางนอยก็ขอใหใจผมยอมรับความจริงวา เราตองหางกันสักระยะ…
แคสักระยะเทานั้นจริงๆ

ผมถอนจูบจากริมฝปากเรียวอยางอาลัยอาวรณ จากนั้นก็แนบหนาลงกับหนาอกของนอง ฟงเสียงหัวใจของวินดี้ที่เตน...ตึก...ตัก...


รัก...อายทอง...มันบอกพี่แบบนี้ใชไหมครับ ตราบใดที่หัวใจของวินดี้ยังเตนอยู รักนี้ที่มอบใหแคพี่เทานั้นใชไหม ระยะทางหรือความ
หางไกลจะไมทําใหวินดี้ของพี่เปลี่ยนไปใชไหมครับ ไมวาเงื่อนไขใดๆ จะบีบบังคับ วินดี้จะไมทิ้งพี่ใชไหม

“ไอพี่ทอง...”

“ครับ”

“พี่เปนอะไร เปดตาใหวินเถอะนะ วินอยากเห็นหนาพี่” นี่ขนาดผมลงทุนปดตานอง วินดี้ยังสัมผัสไดถึงความออนแอของผม แลว


อยางนี้ผมจะเปนผูนําไดอยางไร

“วินดี้อยากรูหรือครับวาพี่เปนอะไร”

“อืม” นองขานรับพรอมพยักหนา

“พี่ก็เปนโจรไงครับและกําลังจะเลนเอสเอ็ม ขมขืนวินดี้” พยายามปนน้ําเสียงแข็งขัน แสรงกมไปดูดคอนองอยางแรง วินดี้ก็รอ ง


โวยวายไมอยากเปนเชลยรักของผม พอนองขัดขืนมากๆ ก็แกลงตีกนเบาๆ ใหสมบทบาท

“ไมเอา วินไมเลนแบบนี้” นองตอตานอยางรุนแรง ดิ้นรนขัดขืน เห็นแลวก็ขําครับ รูสึกดีขึ้นมาบางนิดหนอยที่เบนความสนใจของนอง


ไปยังเรื่องอื่นได

“ไมชอบหรือ พี่วามันตื่นเตนดีนะ” ผมพึมพําขณะไซริมฝปากไปตามซอกคอของนองพรอมกับสอดมือเขาใตศีรษะของวินดี้ แกปม


เนคไทออกให พอนัยนตาของนองเปนอิสระวินดี้ก็คอนขวับทันที
“แกมัดที่แขนดวย” พรอมสั่งผมเสียงเขม ผมหัวเราะในลําคอใหกับแมวนอยที่กําลังกลายรางเปนเสือดุ แยกเขี้ยว กางเล็บขมขูผม

“ไมเอา พี่กลัววินดี้จะทํารายรางกายพี่” วาพลางยิ้มมุมปากพรอมกับซอนความหมนเศราไวอยางมิดชิด จากนั้นก็ใชสายตาเลาโลม


นอง ขณะที่นิ้วมือก็เลนปูไตไปตามรางกายของวินดี้

“อยามาขี้โกงกันสิ วินก็อยากสัมผัสพี่เหมือนกันนะ” ผมแทบสําลักลมหายใจที่ไดยินนองวาอยางนั้น อยากจะหัวเราะใหกับความกา


กั่นของวินดี้ เดี๋ยวนี้นองเจาเลหขึ้นเยอะเลยครับ เจาแผนการมากขึ้น ไมรูไปศึกษามาจากไหน นี่ก็มาหลอกยั่วใหผมอยาก แลวคงไม
จากไปจนกวาผมจะนวมสมใจแนๆ

“แหม...ที่รัก ไอพี่ก็อยากใหจับ ใหรดู อยูหรอกนะ แตถาปลอยใหวินดี้สัมผัสพี่ตอนนี้ คงไดสยองแทนสยิวแนๆ” ผมพูดประโยคกํากวม


ขณะจองเขม็งที่กลางลําตัวของวินดี้ นองมองตามสายตาของผมกอนจะหนาแดงแปรด จากนั้นวินดี้ก็แยกเขี้ยวใสผม

“ระวังตัวไวใหดี อยาใหวินหลุดไปไดก็แลวกัน” นั่นปะไร วินดี้ของผม สายลมที่เปลี่ยนกระแสไปตามแรงอารมณ

ลมออนๆ หอบความเย็นสดชื่นยามนองทําตัวนารัก

ลมอุนๆ ที่คอยหมกายยามนองอยูในออมแขน

ลมออนโยนยามนองปลอบประโลมผม

ลมออนไหวยามนองออนแอ

ลมรอนแรงยามนองเขินอาย

ลมพายุยามนองโมโหราย

ลมมรสุมยามนองหึง

แตไมวาจะลมไหน วินดี้ก็ยังเปนสายลมของผม สายลมที่เขามาหมรักในใจ แลวถาเวลามาถึง วันพรุงนี้นองกับผมตองหางกันไป ถึง


จะมองไมเห็นกัน...แต...ผมก็ยังสัมผัสสายลมแหงรักของผมไดอยูใชไหมครับ?

ริมฝปากที่ประกบลงมาอีกครั้งและมอบจุมพิตดูดดื่มใหกับผมนั้น มันชางหวานยิ่งนัก ทวาผมจะรูสึกซาบซานดื่มด่ํากับมันมากกวานี้


หากไมเห็นแววเศราหมองในดวงตาของอีกฝาย ถึงแมพี่จะพยายามจะซอนมันไวอยางสุดกําลัง ทวาบางครั้งกลิ่นอายของความเหงา
ก็เล็ดรอดออกมาจนผมสัมผัสมันได
ความรูสึกปวดราวของพี่คงไมตางกับผมมากนัก ในคําพูดของผมที่แกลงตีโพยตีพายอีกฝายกับน้ําเสียงที่ปนใหขึงขังแตหัวใจกลับซุก
ซอนความหมองหมนเอาไว หากเราจะหางกันสุดขอบฟามันคงจะดีกวาหางกันแคไมกี่สิบกิโลเมตร ยิ่งใกลกันมากเทาไหรก็ยิ่งเจ็บ
มากเทานั้น มันคงทรมานนาดูที่อยูแคเอื้อมมือแตควาไมถงึ และเราทั้งสองที่อยูใกลกันแคนี้ แตกลับสุดปญญาที่จะมาหากัน มันคง
จะทําใหเราทั้งคูเจ็บปวดเกินบรรยายเลยทีเดียว

จูบหวานปนเศราถอนออกมาอยางออยอิ่งกอนนัยนตาสีน้ําตาลหวานซึ้งของพี่จะสบมา หัวใจผมรูสึกแปลกๆ มันหวานอมขมกลืนจน


ยากที่จะบรรยายออกมาเปนพูดได เราสบตากันอยูชั่วครู กอนที่พี่จะเปนฝายเมินหลบ จากนั้นมือหนาก็สอดเขาใตแผนหลังของผม
พรอมกับแกมที่แนบซบกับหนาอกที่กําลังกระเพื่อมขึ้นลงจากจังหวะการหายใจ วงแขนแกรงกระชับแนนเพื่อดึงผมเขาสูออมกอด
เวลานี้ผมอยากใหมือตัวเองเปนอิสระจะไดกอดตอบกลับไปบาง

“วินดี้ไดรับโทรศัพทที่พี่สงใหไหมครับ” พี่ถามไปยังอีกเรื่องขณะเปลี่ยนมาซบหนาอยูกับซอกคอของผม

“ได...พี่ปลอยวินกอน...นะครับ...นะ...” ผมตอบพรอมกับวิงวอนอีกฝาย มันทรมานเหลือเกินที่ทําอยางใจตองการไมได ไอพี่ทองถอน


หายใจกอนจะคลายออมกอด จากนั้นก็ปลดเข็มขัดออกจากมือของผม พอมือตัวเองเปนอิสระ ผมก็โผเขากอดพี่เขาไวแนน

“เฮอ...เพราะแบบนี้ไงพี่ถึงไมอยากปลอย” พี่เขาถอนหายใจแตก็ยอมกอดผมตอบ

“วินดี้อยานารักมากกวานี้นะครับ ไมงั้นพี่คงไมยอมใหวินดี้ไปแนๆ” ผมสายหนาอยูกับอกพี่เขา ไมอยากฝนตัวเองอีกแลว ไมอยากทํา


เปนราเริง ไมอยากแสรงทําปงปงใส

“วินจะทําตัวใหนารักมากกวานี้ พี่จะไดคิดถึงแตวิน และไมสนใจคนอื่น รวมถึงคนที่แอบมาหาพี่ที่คอนโดตอนวินไมอยูนั่นดวย” พูด


อยางไมอายพรอมกับระบายความกังวลที่ยังติดคางอยูในใจใหพี่เขาไดรู

“ทําไมขี้ออนแบบนี้ บอกวาอยานารักไง...ฮึ่ม...” พี่ครางเสียงต่ําในลําคอพรอมกับรัดรางผมแนนขึ้นกอนจะคลายออมกอดในชั่ว


วินาทีตอมา

“สัญญามากอน”

“วินดี้ไมเชื่อใจพี่หรือ”

“วินเชื่อพี่แตไมเชื่อปริน”

“ถาอยางนั้นพี่จะจัดการใหเด็ดขาดไปเลยดีไหม ตอจากนี้ปรินจะเขาใกลพี่ไมได แลวพี่ก็จะกลับไปอยูบาน เมื่อทุกอยางลงตัว เรา


คอยกลับมาที่นี่พรอมกัน โอเคไหมครับ” ไดยินแบบนี้แลวก็สบายใจขึ้นมาเยอะเลย ผมจึงพยักหนารับ
เรื่องบริษัทของพอเราคุยกันแลว เรื่องราวมันยุงยากเกินกวาที่ผมจะเขาใจถึงทีม่ าที่ไปของมัน พอขอคําอธิบาย ทางลุงเรียวก็ไมชี้แจง
เหตุผลที่แนชัดวาทําไมเราตองหางกัน บอกเพียงแควาใหรอจนกวาทางนั้นจะมาไทย แลวพอมาถามพี่วาพี่รูเรื่องพวกนี้หรือเปลา ไอ
พี่ทองก็บอกแความันเปนเรื่องของธุรกิจ ไวใหทางเอ็มเจมาถึงแลวเปนฝายอธิบายใหผมเขาใจทุกอยางนาจะดีที่สุด สวนเวลานี้พี่เขา
ก็ยอมตามใจผมที่จะหางกันสักพักตามคําแนะนําของลุงเรียว

“แลวเรื่องโทรศัพทนั่น” ผมวกเขาเรื่องที่พี่พูดคางไวกอนหนานี้อีกครั้ง

“ถาเราจะติดตอกันบางคงไมเปนไรใชไหม”

“ก็คงไดมั้งครับ”

“งั้นวินดี้กเ็ ก็บมันไวนะ ใชเครื่องนั้นเวลาคุยกับพี่”

ดวยเมื่อวานไอพี่ทองใหคนสงของไปใหผม แลวพอเปดออกในนั้นก็มีดอกรักแรกพบอยู สิ่งนี้ทําใหผมรูเลยวาใครเปนคนสงของมา


แลวใตดอกไมก็มีโทรศัพทเครื่องหนึ่งซอนอยู ผมเปดเครื่องและปลดล็อกโทรศัพทดวยรหัสที่รูกันเพียงเราสองคน ในนั้นมีขอความ
หลายอยาง ทั้งขอรองใหผมติดตอพี่กลับบาง ปลอบใจผมบาง และคําสัญญาวาจะไมยอมใหอะไรแยกเราออกจากกัน

พอไดเห็นแลวน้ําตาผมก็ไหล มันไมใชแคสิ่งที่พี่สงให แตมันสื่อถึงความพยายามของอีกฝาย ถึงแมพี่จะยังไมรูเหตุผลที่ผมขาดการ


ติดตอ แตพี่ก็รูวาผมอยูที่ไหนและเฝามองทุกการเคลื่อนไหวของผมอยูหางๆ ดวยความหวงใย แตไมเขามาบีบบังคับผมเหมือนคนอื่น
หากแตหยิบยื่นทางเลือกมาให แลวถาหากผมจะมีใจติดตอกลับมาบาง ก็ใชโทรศัพทของพี่ที่จะไมมีใครหรืออะไรรูไดวาเราติดตอกัน
สิง่ นี้มันสื่อวาอีกฝายใสใจความรูสึกของผมมาก แถมยังเคารพการตัดสินใจของผมมากดวยเชนกัน

“แตจะวาไปความรักที่ตองซอนเรนนี้มันก็รูสึกดีไปอีกแบบนะวาไหม” พี่เขาวาพลางพลิกรางขึ้นมาครอมตัวผมไว จากนั้นก็ทําหนา


เจาเลห ยิ้มมุมปาก

“ตอนดึกๆ วินดี้ก็อยาลืมเปดหนาตางไวนะครับ พี่จะยองปนเขาไปหา” นั่นปะไร พอเห็นรอยยิ้มแบบนี้ทีไร มักมีคําพูดแผลงๆ ตามมา


ทุกที

“กอนบอกใหวินเปดหนาตาง ถามตัวเองกอนเถอะวาสังขารไหวหรือเปลา” ผมอดที่จะเยาอีกฝายอยางลอเลียนไมได

“โห...นี่คําพูดออกจากปากวินดี้หรือเนี่ย กลามากเลยที่รักที่มาทาทายกันอยางนี้” มือหนาเอื้อมมาดึงแกมผมทั้งสองขางอยางหมั่น


เขี้ยว

“ไมไดทาแคเปนหวง”
“งั้นพี่ตองทําใหวินดี้มั่นใจเสียแลวละวาที่รักของวินดี้นะเปนจอมพลัง” ผมยนจมูกใสคําพูดนั้นกอนจะยิ้มเจาเลหเมื่อความคิดหนึ่ง
ผลุดเขามาในหัว

“นอกจากจอมพลังแลว ยังจําวินไดไมวาจะหลับหรือลืมตา” ไอพี่ทองยิ้มหวานใหกับคําพูดของผม

“แฟนใครนะ ทําไมรูจักพี่ดีจัง...แลวนี่วินดี้จะไปไหนครับ” พี่เขาเอื้อมมือมาดึงแขนผมไวเมื่อผมขยับตัว ผมไมบอกพี่เขา แคยักคิ้วให


จากนั้นก็เดินไปยังตูเสื้อผา เปดลิ้นชักแลวหยิบบางสิ่งออกมา

“ไมใชแคพี่หรอกนะที่จําวินได ไมวาจะหลับหรือลืมตา วินก็จําพี่ไดเหมือนกัน” ไอพี่ทองมองผมตาโตกอนจะฉีกยิ้มกวางเมื่อเห็นบาง


สิ่งในมือของผม พี่แกคงรูแลวละครับวาผมตองการจะสื่ออะไร ถึงไดทําหนาอยางกับเสือหิวพรอมกับคํารามเสียงต่ําใสผม

“พี่บอกแลวใชไหมวาอยาทําตัวนารัก...มานี่ซะดีๆ...” คําพูดบอกใหผมกาวไปหา แตรางหนากลับเปนฝายกระโจนเขาหาผมแลว


เรียบรอย

แลวมันเรื่องอะไรที่พี่มาหามไมไหผมทําตัวนารักกันเลา ในเมื่อจะจากกันอยูแลว ผมก็อยากยั่วใหพี่จําผมไดคนเดียว...แบบนี้ผมทํา


ผิดหรือครับ?

วินดี้สิครับ เด็กบาอะไรก็ไมรู นารักนาชังเกินไปแลว หากนองยั่วผมแบบนี้บอยๆ สักวันคงไดตายคาอกนองแนๆ สงสัยหรือครับวา


นองทํายังไง ก็แบบนี้ไงครับ

หลังจากที่นองกระโดดลงจากเตียง แลวผมก็ถามวาวินดี้จะไปไหน แทนคําตอบวินดี้กลับหันมายักคิ้วใหผมอยางทาทาย นัยนตาวิบ


วับๆ มองมากอนจะขยิบตาขางหนึ่งบอกเปนนัยวาเดี๋ยวก็รู จากนั้นนองก็เดินไปเปดลิ้นชักตูแลวหยิบเอาเนคไทที่ผมมวนเก็บไว
ออกมา

“ไมใชแคพี่หรอกนะที่จําวินได ไมวาจะหลับหรือลืมตา วินก็จําพี่ไดเหมือนกัน” น้ําเสียงหวานๆ ของนองกลาวบอกพรอมกับสงสายตา


หยาดเยิ้มมายั่วยวนผม มือขวาของนองเหวี่ยงเนคไทไปมา นิ้วชี้ดานซายยกมาแตะริมฝปากตัวเองกอนแทรกผานเรียวปากสีสดเขา
ไป จากนั้นก็ดูดและเลนกับมันดวยทาทางสุดเซ็กซี่

ภาพนั้นทําใหเลือดในกายของผมวิ่งพลานไปทั่วรางอยางบาคลั่ง “พี่บอกแลวใชไหมวาอยาทําตัวนารัก...มานี่ซะดีๆ...” ผมคําราม


เสียงต่ําใสเด็กดื้อที่กําลังพยศอยางกากั่น ลูกแมวขี้ออนของผมกลายเปนแมวหนุมยั่วสวาทไปเสียแลว เห็นแบบนี้ก็อยากจับมากอด
รัดฟดเหวี่ยงใหหนําใจ

ผมกระโจนเขาหานอง รวบรางบางแลวอุมพามาที่เตียง วินดี้อุทานอยางตกใจเล็กนอยที่จูๆ รางก็ลอยขึ้นตามแรงของผม แตนองก็


ไมไดขัดขืนแตอยางใด แขนเรียวโอบรอบลําคอผมไว แถมยังเอาหนามาถูๆ ไถๆ บนยอดอกของผมอีก...อือหือ นี่นองกะจะใหผมจับ
กดตรงพื้นหองนี้เลยใชไหมครับ ไมปงไมไปมันแลวเตียงอะ เอาสดๆ กันตรงนี้แหละ
ใจหนึ่งก็อยากทําอยางนั้นนะครับ แตอีกใจก็กลัวนองจะเจ็บกับความใจรอนของผม เลยตองเรียกความอดทนมาใช รีบสาวเทายาวๆ
กลับไปยังเตียง จะวาไปความจริงมันก็แคสามสี่กาวก็ถึงแลวละครับ แตทําไมรูสึกวามันสามสี่กิโล หรือความหื่นมันแกลงผมดวยการ
ตอระยะทางใหยาวนานขึ้นก็ไมรู

“รายนักนะ กลามายั่วพี่” ผมพูดพรางจุบปากเล็กๆ ของนองหลังจากที่เราทั้งคูลมไปบนเตียงดวยกัน

“จุบ...แลวยั่วแบบนี้ชอบไหม” โอย...วินดี้จะเลนอะไรกับผมครับ นองยกคอขึ้นมาจุบปากผมเหมือนที่ผมทํากับนองเมื่อสักครู จากนั้น


เอียงหนานิดๆ ถามพลางยิ้ม มือของนองยังโอบรอบลําคอของผมอยู

ผมหัวเราะใหความเกเรแกมขี้เลนของนอง “มีเทาไหรจัดมาเลยที่รัก พี่ชอบหมดแระ” รอยยิ้มเกลี่ยเรียวปากขณะเยาอีกฝายอยางนึก


สนุกในความแกนแกวแสนซน

“งั้นวินไมเกรงใจละนะ” วินดี้วาพลางพลิกตัวขึ้นมาเหนือรางของผมแลวจับมือผมไปรวบไวเหนือศีรษะ จากนั้นนองก็คอยๆ ลด


ใบหนาลงมาหาผม ภาพนั้นทําใหผมตาโต หัวใจเตนโครมคราม

“มันไมงายอยางนั้นหรอก...อายทองยอดรัก” ทวายังไมทันที่ริมฝปากเราจะจรดกัน วินดี้ก็หยุดเพื่อจะแกลงทรมานผมดวยการพูด


ประโยคที่ผมไมคิดวาจะออกมาจากปากของนอง พรอมนัยนตาวิบวับที่มองผมอยางเจาเลห ตายๆ เด็กขี้อายของผม ทําไมถึงได
ซุกซนแบบนี้ครับ ผมกลั้นหัวเราะ รูสึกสนุกไปกับนองดวย พรอมกันนั้นผมก็อยากรูเหมือนกันวาวินดี้จะเกงไปไดสักกี่น้ํา

“วินจะทําใหพี่สัมผัสกับรักของวินโดยไมจําเปนตองมองเห็น” ผมคิดวานองคงอายไมนอยเลยที่พูดประโยคนี้ออกมา เพราะใบหนา


จิ้มลิ้มนารักนั่นขึ้นสีแดงระเรื่อ แลวกอนที่ผมจะเห็นมันเปลี่ยนเปนแดงแปรด นองก็จับเนคไทที่คลองคอตัวเองอยูมาปดตาผมไว
เสียกอน

จากนั้นนองก็ทิ้งชวงเวลาไปครูใหญปลอยใหหัวใจผมเตนโครมคราม พรอมกับรอดวยใจลุนระทึกวานองจะเลนอะไรกับผม ไมนาน


หลังจากนั้นผมก็สัมผัสกับลมหายใจอุนๆ ที่เปารดใบหนา มันใกลเขามาทุกขณะทวาผมกลับรูสึกวามันเงอะงะงุนงานแปลกๆ
จนกระทั่งริมฝปากนุมแตะที่ปลายคางของผมอยางเก ๆ กังๆ กอนจะคอยๆ ไลมาที่ริมฝปากอยางแผวเบาดวยความไมแนใจนั่น
แหละ ผมถึงเขาใจวานองกําลังคิดจะทําอะไร

“ที่รัก...” ผมหอบหายใจ เอื้อมมือไปจับหนาวินดี้ไวดวยความรูสึกวาบหวิบที่กําลังกระจายไปทั่วราง

โอ...วินดี้ของพี่ ไมตองทําถึงขนาดนี้ก็ไดครับ ไมตองถึงขนาดปดตาตัวเองดวยเนคไทอีกเสนเพื่อขมความอาย พี่เชื่อแลววารักของ


วินดี้พี่สัมผัสกับมันได ผมอยากบอกนองแบบนั้น หากแตริมฝปากนิ่มที่คอยๆ ผละจากผมแลวไลไปตามลําคอนั่นก็ทําใหผมเริ่มคิด
อะไรไมออก ลมหายใจติดขัด หัวใจเตนรัวเร็ว
“จุ. ..จุ. .” วินดี้จุปากสงเสียงเบาเปนเชิงบอกใหผมเงียบ เมื่อผมกําลังจะถามวานองแนใจแลวหรือ สิ่งนั้นทําใหผมปดปากเงียบพรอม
กับรับสารที่นองสงมาให...อยาขัดขืนแตจงยินยอมตอบรับสัมผัสจากนองที่จงใจมอบให

ตัวผมเริ่มเกร็งเมื่อมือของนองปายไปตามลําตัวอยางไรเดียงสา มันทําใหผมตื่นเตนมากขึ้น ยิ่งเมื่อนองปลดกระดุมเสื้อผมดวยมือที่


สั่นนอยๆ ยิ่งก็ทําใหผมตื่นเตนมากขึ้น ริมฝปากบางที่ประทับบนแผงอกของผมนั่นทําใหขนลุกซู กระตุนทุกอณูของรางกายใหรอน
ระอุขึ้นมา รูสึกวาบหวิวที่หนาทองกอนมันจะปวดเขม็งพรอมกับบางสิ่งที่ตื่นตัว

เนื้อตัวของผมรอนระอุในทุกอณูที่นองสัมผัส ถึงแมริมฝปากที่ประพรมไปตามเนื้อตัวของผมจะงุมงามไมประสีประสาแตกลับทําให
ผมรอนเปนไฟ สมองเริ่มขาวโพลน ครางชื่อนองอยางผะแผว จากนั้นก็คอยๆ สั่นสะทานเมื่อนองคลอเคลียที่ยอดอกของผมดวย
ความนุมนวลออนโยน สงสัมผัสวาบหวิว หากแตหวานล้ําอยางตองการเอาอกเอาใจ เพื่อถายทอดความรักไวบนเนื้อตัวของผม

ลมหายใจผมหอบกระเสา หัวใจเตนถี่กอนที่มันจะหยุดเตนไปชั่วขณะพรอมกับลมหายใจที่ถูกกลั้นเอาไวเมื่อริมฝปากของนองคอยๆ
ไลลงต่ําไปเรื่อยๆ จนมันไปหยุดที่ทองนอยของผม ลังเลอยูชั่วครูวาจะไปตออยางไรดี กิริยาใสซื่อบริสุทธิ์นั่นทําใหผมแทบจะดิ้นตาย
อยูตรงนั้น

ผมรูวานองไมไดตองการจะทรมานผมดวยการหยุดการเคลื่อนไหวอยูแคนั้น แตวินดี้เริ่มจะไปไมถูกตางหากละ หากผมไมถูกปดตา


คงไดเห็นตัวนองแดงก่ําไปทั่วราง ผมรูดีวาวินดี้อายมากแคไหนที่ตองทําแบบนี้ แตนองก็ขมไวอยางสุดกําลัง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อมอบ
สัมผัสที่มองไมเห็นดวยตา แตใหผมรูสึกกับมันไดมาให ผมเขาใจความตองการของนองเปนอยางดี วินดี้อยากใหผมเก็บความรูสึกใน
วันนี้เอาไว ยามที่ตองหางกันจะไดนึกถึงมัน รอยรักทีน่ องฝากไวจะชวยปลอบประโลมใจผม

ผมเอื้อมมือไปกุมมือวินดี้ที่วางบนหนาอกของผม สอดนิ้วประสานกันแนบแนนใหเปนหนึ่งเดียวกอนจะออกแรงดึงเบาๆ เมื่อผมทํา


เชนนั้นก็รูสึกไดถึงริมฝปากของนองที่ผละออกหางจากหนาทองของผม จากนั้นวินดี้ก็คอยๆ ขยับขึ้นมาอยูในระดับอกอีกครั้ง ผม
ปลอยมือจากวินดี้เพื่อเปลี่ยนมาโอบแผนหลังนองไว กอนจะพลิกตัวเปนฝายขึ้นไปอยูขางบน กระซิบความรูสึกแผวเบาใหนองไดรูถึง
สิ่งที่อัดแนนอยูภายใน

“แคนี้ก็เพียงพอแลวละที่รัก เทานี้พี่ก็ซึ้งใจมากพอแลว จากนี้ก็ขอใหพี่เปนฝายฝากรักไวกับวินดี้บางเถอะนะ”

ภายใตความมืดที่ตามองไมเห็นแตในหัวของผมกลับจําใบหนาของพี่เขาไดชัดเจน ทุกสัดสวนถูกตราตรึงไวในความจําของผม ไมวา


จะคิ้วดกหนา นัยนตาคมกริบหากแตฉายประกายรักยามมองมาที่ผม จมูกโดงขึ้นสัน ริมฝปากเซ็กซี่ที่มอบจุมพิตดูดดื่ม ใบหนาคม
เขมซึ่งมากไปดวยเสนหชวนมอง หรือแมแตจะเปนรางหนาที่เต็มไปดวยกลามเนื้อ อกแกรงที่เปนปราการใหผมซบหลับในทุกคืน มือ
อุนที่ลูบหัวผมอยางออนโยน และวงแขนแกรงที่โอบกอดผมไวดวยรัก ทุกอยาง ทุกสัมผัสจากพี่ผมจํามันไดเปนอยางดี

ในความเงียบที่มีแตเสียงลมหายใจของเราทั้งสองผมกลับไดยินเสียงหัวใจของเราทั้งคูที่ดังประสานกัน สัมผัสแผวเบาซาบซานทําให
ผมจินตนาการถึงนัยนตาสื่อรักและปรารถนาที่ฉายออกมาวาพี่ตองการผม มือของพี่ที่ลูบไปตามลําแขนของผมทั้งสองขางกอนจะ
สอดประสานเขากับนิ้วของผมอยางแนบแนนใหเปนหนึ่งเดียว หนาผากของพี่ที่แนบชิดกับหนาผากของผม จมูกสัมผัสจมูก ริมปาก
แตะริมปาก มอบกระแสอุนวาบเขาสูหัวใจของผม

ผมเผยอริมฝปากรับเมื่อลิ้นเปยกชื้นไลเลียริมฝปากของผม กอนจะคอยๆ สอดเขามาขางใน เกี่ยวกระหวัดหยอกลอกับลิ้นของผม


กลายเปนจุมพิตดูดดื่มซาบซานทีเ่ ราทั้งคูตางมอบใหแกกัน สัมผัสออนหวานละมุนละไมที่พี่มอบใหทําใหรางกายผมออนระทวย ใน
สมองขาวโพลน เมื่อพี่ถอนริมฝปากออกและเริ่มปลุกเราอารมณของผม สติสัมปชัญญะก็เริ่มหลุดลอย ผมครางชื่อพี่เขาอยางมิอาจ
กลั้นไวได

รอยรักที่พี่ตองการฝากไวมันชางนุมนวลนัก พี่อาทรใสใจเพื่อจะปรนเปรอผม ไลสํารวจและประทับตราไวทุกอณูของรางกายดวยริม


ฝปากรอน พรอมกับโลมเลาปลุกอารมณผมอยางตองการมอบความสุขให ทุกสัมผัสจากพี่ราวกับมีเวทยมนตขลัง กระตุนใหผม
เคลิบเคลิ้มหลงใหลไปพรอมๆ กับอารมณที่ถูกปลุกใหกระเจิดกระเจิง เลือดในกายวิ่งพลาน หัวใจเตนรัวเร็ว

รางกายผมรอนระอุขึ้นทุกขณะกอนที่มันจะสั่นสะทานเมื่อจุดที่ไวตอการสัมผัสกลางลําตัวไดรับการตอบสนอง ลิ้นรอนๆ ที่ละเลงไป


บนนั้นทําใหผมหอบหายใจกระชั้น หัวใจเตนถี่ ครวญครางเรียกชื่ออีกฝายอยางไมเปนเสียง แลวไมชาสมองที่ขาวโพลนของผมก็
มองเห็นดวงดาวนับลานพราวแสงระยิบระยับพรอมๆ กับรางกายที่เกร็งกอนจะกระตุกและปลอยน้ํารักออกมา

ผมนอนหอบหายใจพักเหนื่อยไดไมถึงนาที ความรอนในรางกายก็เริ่มเพิ่มดีกรีขึ้นอีกครั้งเมื่อพี่ตามรุกผมอยางตอเนื่อง สัมผัส


แปลกปลอมที่เขามาในตัวทําใหผมเผลอเกร็งราง แตมันก็ไดเพียงครูเดียวเมื่อลิ้นรอนๆ และฝามือที่วางอีกขางเริ่มถาโถมปรนเปรอ
ความสุขใหไมหยุดหยอน ความรูสึกอึดอัดแปรเปลี่ยนเปนวาบไหวซาบซาน

จากนั้นขาผมก็ถูกยกขึ้นไปพาดไวบนบาของพี่ กอนที่แกนเนื้อแข็งเขม็งจะคอยๆ ชําแรกเขามาในรางกายผมทีละนอย ผมผวากับ


ความตึงแนนแตพี่ก็ปลอบประโลมผมดวยจุมพิตดื่มด่ํา มอมเมาผมใหเสียวซานจากปลายนิ้วที่บี้ไปบนยอดอกของผม มันทําใหผม
ลืมตัว ไมไดสนใจวาพี่เขามาในรางของผมจนสุดตั้งแตเมื่อไหร

พอเห็นวาผมเริ่มผอนคลายพี่ก็เริ่มขยับตัวดวยความนุม นวล รอใหผมมีอารมณรวมอยางใจเย็น ไมชารางกายผมก็เริ่มตอบสนองพี่


เขา อารมณปรารถนาในรางกายถูกปลุกขึ้นมา มือของผมสัมผัสรางกายของพี่อยางรักใคร พอพี่จูบผมก็จูบตอบอยางเรารอน เบียด
ชิดแผงอกใหแนบชิดจนไดยินเสียงหัวใจของเราทั้งสองที่แขงกันเตนกระหน่ํารัวเร็วไมรูวาเสียงใครเปนเสียงใคร ไมวาพี่จะเคลื่อน
ตัวอยางเชื่องชา หนักหนวง หรือแรงเร็ว ทุกจังหวะก็เรียกเสียงครวญครางใหกับผม พรอมกับรางกายของผมที่ตอบรับพี่อยางเต็มใจ

ชวงจังหวะหนึ่งที่พี่จับผมโกงโคง มันทําใหผมจุกเล็กนอยเพราะแกนเนื้อสอดแทรกเขามาลึกมากขึ้น พรอมกับจังหวะการกระแทกที่


แรงเร็วทําใหเราทั้งคูครางระงมประสานไปกับเสียงเนื้อที่กระทบเนื้อ อารมณเสียวซานของผมนําพาใหรางกายขยับ ตอบรับอยาง
รอนแรงไมแพกัน ยิ่งมือหนาเอื้อมมาปรนเปรอสวนหนาใหกับผม รางกายผมก็แทบจะแตกออกมาเปนเสี่ยงๆ

พี่เริ่มเคลื่อนตัวชาๆ ทวายังคงหนักหนวงกอนจะถอนกายออก แลวจับผมพลิกใหนอนตะแคงขาง จากนั้นก็สอดใสเขามาอีกครั้ง


ทวงทานี้ทําใหแผนอกของพี่แนบชิดเปนหนึ่งเดียวกับแผนหลังของผม ลมหายใจติดขัดที่เปารดตนคอทําใหผมขนลุกซู เมื่อผมหัน
หนามาดานหลังพี่ก็ประกบปากแลกลิ้นกับผมอยางดื่มด่ําเรารอน จังหวะการเคลื่อนไหวของพี่ยังคงตอเนื่องรอนแรงพรอมกับมือของ
พี่ที่ปรนเปรอสวนหนาใหผมไมหยุดหยอน

รางของเราทั้งสองหลอรวมเปนหนึ่งอยางลงตัว ผมถูกพี่จับพลิกคว่ําพลิกหงายอีกหลายทา กอนเราทั้งคูจะมาถึงเพลงรักจังหวะ


สุดทาย ทวงทํานองที่เนิบนาบเริ่มรอนแรงขึ้นทุกขณะๆ พรอมกับลมหายใจของเราที่หอบกระชั้น เสียงหัวใจที่เตนรัวเร็วแขงกันราวกับ
เสียงกลอง ชั่ววินาทีตอมาเราทั้งคูก็สะดุงเฮือกกอนรางกายจะเกร็งและกระตุกพรอมกับปลอยน้ํารักออกมาพรอมกัน

เราหอบหายใจ นอนกอดกันดวยเหงื่อกาฬทวมตัว ทวาไมชาพี่ก็ทําใหผมนึกถึงกลอนบทหนึ่งที่กลาวไววา “ชนใดไมมีดนตรีกาล ใน


สันดานเปนคนชอบกลนัก” ผมคิดวาไอพี่ทองของผมคงไมใชคนชอบกลเปนแน เพราะแกพิสูจนใหผมรูแลววาแกชอบใจใน
เสียงดนตรีหนักหนา หากแตมันเปนดนตรีแหงรัก เพราะวาเมื่อเพลงรักของเราบทที่หนึ่งบรรเลงจบไป พี่เขาก็ตอดวยบทเพลงใหม
ทันที ดังนั้นค่ําคืนสุดทายกอนที่เราจะหางกันจึงถูกหอมลอมดวยจังหวะรักที่จะตราตรึงอยูในใจของเรามิลืมเลือน

ผมยิ้มอยางเอ็นดูใหกับแมวนอยที่หลับอุตุซบอกผมอยางเปนสุข ลมหายใจเขาออกอยางสม่ําเสมอบงบอกวานองกําลังนิทรารมย
อยางแสนหวาน วินดี้คงจะหลับไปพรอมกับความออนเพลียอันเกิดจากเพลงรักที่เราทั้งสองรวมกันบรรเลง ขนาดผมคิดวาตัวเอง
แข็งแรงยังรูสึกเพลียเลย แลวนองละ…คงสายๆ โนนแหละวินดี้ถึงจะรูสึกตัว

ทวาเหตุที่ผมตื่นไดนี่นาจะเปนเพราะวาผมยังตาคางตั้งแตเมื่อคืนมากกวา เวลาที่เหลืออยูเพียงนอยนิดทําใหผมนอนไมหลับ แม


หัวใจจะรูสึกอิ่มเอมจากสัมผัสแหงรักที่นองมอบให ทวาผมก็ยังอยากมองและจดจําชวงเวลาของสองเราใหนานที่สุดเทาที่จะทําได

เมื่อนึกถึงเรื่องราวระหวางสองเราตั้งแตวันแรกที่เจอกันจนกระทั่งเดี่ยวนี้ก็ทําใหรอยยิ้มเกลี่ยไปทั่วเรียวปาก ถึงแมวาผมกับนองจะ
เพิ่งลงเอยกันไดไมนาน แตมันก็มีหลายอยางผานเขามาในเสนทางรักของเรา ซึ่งสิ่งเหลานั้นสอนผมวา สําหรับเราทั้งคูแลว “ความรัก
ไมตองการเวลามากไปกวาการดูแลและใสใจ”

ระยะเวลาสั้นๆ ของสองเราเปนพยานในเรื่องนี้ไดเปนอยางดี ถึงแมวาเราทั้งคูจะไมไดรักกันมาเปนปๆ แลวคอยๆ สรางความผูกพัน


พรอมๆ กับเรียนรูนิสัยของกันตามเวลาที่เพิ่มมากขึ้น ทวาตนรักในใจของเราทั้งสองก็เติบโตและงอกงามอยางรวดเร็ว นั่นก็เพราะเรา
ทั้งคูใ สใจและขยันเติมรักใหแกกันและกันนั่นเอง

Some say love it is a river that drowns the tender reed


บางคนนั้นกลาววา รักนั้นเสมือนสายน้ําที่เออลนทวมยอดหญา
Some say love it is a razor that leaves your soul to bleed
บางก็วารักนั้นเสมือนคมมีดที่บาดหัวใจเราจนโลหิตไหลหลั่ง
Some say love it is a hunger an endless aching need
บางก็วารักนั้นเสมือนความหิวกระหาย ครวญคร่ําโหยหาไมรูจักจบสิ้น
I say love it is a flower and you it's only seed
แตผมวารักนั้นเปรียบเสมือนดอกไม และนองคือเมล็ดพันธุเดียวของดอกไมแหงรักของผม
It's the heart afraid of breaking that never learns to dance
หัวใจดวงใด หากหวาดกลัวที่จะตองแตกสลาย หัวใจดวงนั้น
ยอมไมกลาแมเพียงจะลองเริงระบําในทวงทํานองแหงรัก
It's the dream afraid of waking that never takes the chance
คนผูใด หากหวาดกลัวที่จะตื่นจากความฝน คนผูนั้น ยอมไมเคยแมแตจะเปดโอกาสใหตัวเอง
It's the one who won't be taken who cannot seem to give
คนผูใด หากหัวใจไมเคยถูกรัก คนผูนั้น ยอมยากที่จะมอบความรักใหแกใครอื่น
And the soul afraid of dying that never learns to live
ดวงวิญญาณใด ที่หวาดกลัวความตาย ดวงวิญญาณนั้น ยอมไมอาจจะเรียนรูถึงการดํารงชีวิตอยู
When the night has been too lonely and the road has been too long
เพราะฉะนั้น ยามใดที่ราตรีดูเงียบสงัด เปลี่ยวเหงา และบนทางเดินนั่นดูชางยาวไกล
And you think that love is only for the lucky and the strong
และนองคิดวา รักแทนั้น ยอมเปนของผูที่โชคดี และเขมแข็งเทานั้น
Just remember in the winter far beneath the bitter snows
ขอใหจําไวเถิด วาทามกลางฤดูอันหนาวเหน็บ ภายใตผืนหิมะอันยะเยือกนั้น
Lies the seed that with the sun's love in the spring becomes the rose
ยังมีเมล็ดพันธุนอยๆ ซึ่งเมื่อยามไดรับแสงอันอาทรจากดวงตะวันในฤดูใบไมผลิแลว จักงอกเปนกุหลาบงาม

ดุจดั่งความรักของเรา ในวันที่ความเหน็บหนาวมาเยือน ตนรักที่ผมกับนองรวมกันปลูกจะแปรสภาพเปนเมล็ดพันธุที่พรอมจะงอก


งามขึ้นอีกครั้งเมื่อแสงตะวันสองมาถึง ไมวาจะในสถานการณไหนๆ รักของเราจะไมมีวันสูญสลาย

ผมกมลงหอมแกมวินดี้ดวยสัมผัสที่เต็มไปดวยรักและหวงแหน กระซิบบอกรักอยางแผวเบาพรอมกับพยายามระวังไมใหนองตื่น
หากแตเมื่อเห็นรอยรักที่อยูบนเรือนกายของนองแลวผมก็ยิ้มอยางเอ็นดู นึกถึงค่ําคืนอันแสนสุขของเราทั้งสองแลวก็อิ่มใจ วินดี้นารัก
เหลือเกิน นองตามใจผมทุกอยางและพยายามมอบความสุขใหกับผมมากที่สุด...ชางเปนชวงเวลาที่วิเศษยิ่งนัก เปนอีกหนึ่งค่ําคืน
ที่สุดแสนจะประทับใจ

ผมเลื่อนมือไปดึงชายผาแพรที่คลุมหมิ่นเหมมาหมใหนองจนถึงซอกคอ ขยับตัวอยางแผวเบา จากนั้นก็เขาไปทําธุระสวนตัวใน


หองน้ํา พอออกมาเห็นวินดี้ยังนอนหลับตาพริ้มอยางเปนสุขบนเตียงก็อมยิ้ม ผมละสายตาจากนองตรงเขาไปในครัว เชานี้ผมอยาก
เอาใจนองบาง เลยกมๆ เงยๆ อยูหนาตูเย็น พลางคิดวาผมควรจะทําอะไรเปนอาหารเชาใหกับวินดี้ดี

ในตูไมมีอาหารสดเลย อาจเปนเพราะวาเราเพิ่งกลับจากภูเก็ตและผมก็ไมไดอยูคอนโด สวนตัวนองเองก็กลับบาน วินดี้ก็เลยยังไมได


ไปจายตลาด ผมเปลี่ยนใจมาดูของแหงแทน พอเห็นวาแปงแพนเคกสําเร็จรูปยังเหลืออยูก็จัดการหยิบมันออกมา

แพนเคกสําหรับอาหารเชาก็ไมเลวเหมือนกัน โรยหนาดวยบลูเบอรรี่แชแข็ง วินดี้ชอบกินมันกับโกโกรอน ทําไดงายๆ ไมยากแคเอา


แปงผสมกับนมแลวเทลงกระทะเพียงเทานี้ผมก็ไดของโปรดสําหรับนองพรอมเสิรฟแลวละครับ
ผมผิวปากอยางอารมณดีขณะเตรียมอาหารเชาสําหรับคนรักของผม เมื่อทุกอยางเรียบรอยก็ถอดผากันเปอนออก เดินเขาไปยัง
หองนอน แลวภาพที่เห็นอยูตรงหนาก็ทําใหผมกลั้นยิ้มไวอยางสุดกําลัง นัยนตาประกายรักมองตรงไปรางที่ขดตัวใตผาหม วินดี้ยัง
หลับสบายอยูเลยครับ เห็นแลวไมอยากกวนเลย มองไปที่นาฬิกา ความจริงก็ยังพอมีเวลา ใหนองนอนตออีกนิดนาจะดี

ผมเดินออกไปนอกระเบียง ถึงแดดจะแรงมากแลว แตรดน้ําตนไมใหวินดี้สักหนอยคงไมเปนไร พอเห็นตนไมของเราก็เริ่มคิดวาจะเอา


ยังไงกับมันดี จะปลอยไวนี่ดีไหม หรือวาผมควรเอากลับบานไปดูแลดวย หรือจะใหนองเปนฝายเอากลับไป ทวาที่ระเบียงก็ยังมีตนไม
อีกหลายอยาง มันคงวุนวายนาดูหากจะขนไปทั้งหมด

คิดทบทวนไปมาแลวก็คิดวาเอาไวนี่ดีกวาครับ มันจะไดเปนเหตุผลใหนองกลับมาดูแลตนไมที่คอนโดบาง แลวผลพลอยไดก็มาตกที่


ผม แหม...ก็ไมไดอะไรมากหรอกครับ ก็แคภูมิคุมกันไมใหนองลืมผมเทานั้นเอง หากวินดี้กลับมายังที่ๆ เราเคยอยูดวยกัน รอยทั้งรอย
นองก็ตองคิดถึงผมอยูแลวใชไหมละครับ

ตอนนี้หนาที่ตรงระเบียงก็เรียบรอยแลว เวลาก็คงพอเหมาะ ผมเดินกลับเขามาในหองนอนอีกครั้ง นั่งลงบนเตียง เอื้อมมือไปลูบผม


ของนองกอนจะกมลงไปกระซิบแผวเบา

“ที่รัก...ตื่นไดแลวครับ...” บอกไปแลวก็ไมมีปฏิกิริยาตอบกลับครับ สงสัยจะหลับลึก แบบนี้ถาผมจะบอกวานองยั่วผมก็ไมผิดใชไหม


ครับ ยั่วแบบไมรูตัวไง วาแต...เอ...ลักหลับวินดี้ดีไหมนะ

“วินดี”้

“...อือ...” นองสงเสียงในลําคอกอนจะหันหนาหนีเมื่อผมเริ่มปลุกนองดวยริมฝปากชื้น ไลจูบไปตามใบหนาและลําคอ

“เดี๋ยวสายไมรูดวยนะ...ตื่นเถอะครับ...” นองพลิกตัวกลับมานอนหงาย หนังตาขยุกขยิกกอนจะลืมขึ้นอยางสลึมสลือ จากนั้นก็หลับ


ลงอีกครั้งพรอมกับยกแขนขึ้นมาโอบรอบลําตัวผม เบียดตัวใหแนบชิดกัน

“ยังงวงอยูเลย” งึมงําในลําคอ ตายังหลับสนิท ผมยิ้มอยางเอ็นดู มองนองดวยนัยนตารักใคร

“จะสิบเอ็ดโมงแลวนะ”

“อืม...” ขี้เซาจริงๆ เลยครับ แถมยังขี้ออนมากดวย นองขานรับในลําคอพรอมกับกอดผมแนนมากขึ้น นี่ถาไมคิดวาเมื่อคืนนองรับศึก


หนักมาแลวละก็ ผมคงปลุกนองดวยวิธีอื่นไปแลว

ผมนั่งนิ่งๆ เปนหมอนขางใหนองพักหนึ่งวินดี้ก็เริ่มขยับตัวอยางงัวเงีย ลุกขึ้นมานั่งพิงตัวเตียงอยางไมระวังตัว ใชมือขยี้หูขยี้ตา ผมยุง


นิดหนอย นองไมไดใสเสื้อนอนครับ ตัวขาวๆ มีรอยรักสีแดงฝากไวเปนจุดไปทั่วตัว ผาแพรผืนบางรนมาหมสวนลางไว ถึงนองจะใสบ็
อกเซอร แตภาพนี้มันก็...อาก...เลือดกําเดาจะไหล...ที่รักจะยั่วพี่ไปถึงไหนครับ ผมลุกขึ้นจากเตียง กลัวใจตัวเองครับ หากชากวานี้คง
ไดขย้ําวินดี้ใหแหลกเปนจุณแนๆ สงสารนอง

ผมเอื้อมมือไปขยี้หัวนองเบาๆ กอนเดินไปยังตูเสื้อผาเพื่อเตรียมของใหวินดี้ หลังจากลุกจากเตียงแลวนองคงไปอาบน้ําครับ ผมหยิบ


ผาขนหนูพรอมกับชุดนักศึกษาออกมาให วันนี้วินดี้มีเรียนบายครับ เมื่อวานนองขาดเรียนไปแลววันหนึ่ง วินดี้เลยไมอยากขาดอีก
สวนผมก็จะไปสงนองกอนเขาไปเคลียรงานที่คางอยูในบริษัท

“เลิกเรียนแลววินดี้คอยไปเอารถใชไหม” ผมถามขณะที่เปดลิ้นชัก หยิบกางเกงในของนองออกมา

เมื่อวานวินดี้ทิ้งรถไวบานเพื่อนแลวกลับมาคอนโดพรอมผมครับ เห็นนองบอกวาเลิกเรียนแลวจะไปเอา ผมเลยถามเพื่อความแนใจ


ทวาพอสิ้นคําถามของผมกลับไมมีเสียงตอบรับ ผมจึงหันกลับไปยังเตียงดวยคิดวานองคงลมตัวลงไปนอนอีกแลวแนๆ ถึงไดเงียบไป
แตสิ่งที่ผมเห็นนี่ส.ิ ..

“วินดี!้ ” ผมเรียกนองดวยน้ําเสียงรอนรน โยนทุกอยางในมือเขาไปในตูอีกครั้ง กอนจะพุงตัวเขาไปหานองที่ทรุดรางอยูกับพื้น หอบ


หายใจอยางนาสงสาร

“เปนอะไรที่รัก ไหวไหม” วินดี้สายหนาดวยทาทางเหนื่อยออน

“เดี๋ยวไปนั่งพักบนเตียงนะครับ”

“มะ...ไม...ตอง...” ผมเลิกคิ้วขึ้นดวยความสงสัยเมื่อนองปฏิเสธผม แตไมทันไดคิดหาคําตอบอะไรมากกวานั้น กําปนของวินดี้ก็ทุบ


มาบนไหลของผม

“อะไรครับวินดี้ มาตอยพี่ทําไม” ผมปองกันตัวเอง ความจริงนองก็ตอยไมแรงหรอกครับ แตสงสัยมากกวาเกิดอะไรขึ้น ผมกมหนาไป


สังเกตใบหนาของนองที่กมงุดอยู พอไมเห็นวามันซีดเซียวก็หายหวง วาแตทําไมหนานองถึงแดงก่ําอยางนั้นละ

“วินดี้เปนอะไร” แทนคําตอบนองตอยผมอีกแลวละครับ อาการแบบนี้ทําใหผมสงสัยหนักขึ้น

“ที่รัก...” ผมเรียกพรอมใชมือเชยคางนองขึ้นสบตา ทวาวินดี้กลับกมหนา

“ไมตองมาถามเลยเพราะพี่นั่นแหละ” ผมกระพริบตาปริบๆ นองบอกวาเพราะผมหรือครับ ผมไปทําอะไรใหนองอยางนั้นหรือ

“เพราะพี่?”

“ใช...วินเลย...เลย...เขาออน...” แกมแดงก่ําเมื่อสารภาพความจริงออกมา
“หือ” ผมอึ้งไปครูหนึ่งกอนที่จะ

“หึหึ” หัวเราะครับ โธที่รัก...พี่ก็นึกวานองเปนอะไร ความจริงผมก็พอรูนะครับวาตองออกมาในรูปนี้ วันนี้ผมเลยตั้งใจบริการนองเปน


พิเศษ อยากชดเชยใหนองที่ผมเอาแตใจเมื่อคืน

“หัวเราะอะไรเลา”

“เปลาครับ...โอย...พี่เจ็บ...” เขินแลวโหดอีกแลวแฟนผม ถึงจะโวยวายไปแบบนั้นแตก็อดหัวเราะไมไดอยูดีนั่นแหละครับ ขําทาทาง


เคอะเขินของนอง แตจะวาไปผมก็เริ่มกังวลขึ้นมาแลวละ สงสัยแพนเคกที่ทําทิ้งไวคงไมพอบํารุงวินดี้เสียแลวมั้ง

“ปลอยวินลงเดี๋ยวนี้นะ” นองโวยวายเมือ่ ผมชอนรางขึ้นในวงแขน

“วินดี้จะไปไหน หองน้ํา หรือวานั่งพักบนเตียงสักครูกอน” ผมไมสนเสียงตอวาของนอง กมหนาถามคนในวงแขน

“วินอยากเขาหองน้ํา” นองออมแอมตอบ หลบตา ซุกหนาอยูกับอกผมอยางเอียงอาย ผมซอนรอยยิ้มขบขันบนใบหนาและดวงตาไว


อยางมิดชิด กลัวทําใหนองเขินมากกวานี้หากวินดี้เห็นเขา กาวขาพานองเขาไปยังหองน้ํา

“อยาเพิ่งอาบน้ํานะครับ แคลางหนาแปรงฟนก็พอ” บอกดวยน้ําเสียงหวยใย กลัวนองจะทรุดอีกรอบครับ เดี๋ยวใหกินอะไรรองทอง


กอน

หลังจากวางนองลง วินดี้ก็หันหนามามองผม ลังเลจะเอาเจาหนูออกมาดีหรือเปลา ผมสายหนาอยางขําๆ เด็กกากั่นเมื่อคืนหายไป


แลวครับ เหลือแตวินดี้ขี้อายของผมคนเกา ผมปลอยมือจากแขนนอง มองดวยสายตาหวงใยชั่วครู เมื่อแนใจวานองยืนไดดวยตัวเอง
ก็เลี่ยงเดินไปยังอางลางหนา เตรียมแปรงกับยาสีฟนให

“เชานี้พี่ทําแพนเคกไวใหวินดี้ดวยละ” ทําเปนไมสนใจ ชวนนองคุยไปพราง

“จริงดิ พี่ตื่นกี่โมงอะ” อยากบอกวายังไมไดหลับตั้งแตเมื่อคืนก็กลัวนองจะวา เลยตองเลี่ยงตอบไปวา

“เกาโมงกวา”

“อืม...ความจริงไมนาลําบากเลย เดี๋ยววินไปกินขาวที่มหาลัยก็ได” ถานองมีเรียนบายวินดี้มักจะนัดกินขาวกับเพื่อนที่มหาวิทยาลัย


ครับ

“ไมลําบากเลย...เราจะไดกินดวยกันไง” นองชะงัก เมมเรียวปาก


“อืม...ก็ดีเหมือนกัน...” ผมสูดลมหายใจลึกๆ ในขณะที่เราทั้งสองตางเมินหนาไปคนละทางดวยไมอาจตอตากันได

“นี่ครับ” ผมยื่นแปรงสีฟนไปให เมื่อวินดี้ปดฝาชักโครกลงแลวนั่งไปบนนั้น นองรับมันไปจากมือผม

ผมขยับตัวเพื่อจะไปเปดน้ําใสแกวเตรียมไวใหนองทวาตองหยุดอยูกับที่เมื่อนองดึงชายเสื้อของผมไว ผมยืนนิ่งมองวินดี้ที่กมหนา
แปรงฟน ศีรษะของนองซบหนาทองของผม สวนมือก็กําชายเสื้อของผมไวแนน

ผมวางมือบนศีรษะของนองแลวลูบเบาๆ กอนจะแหงนหนาขึ้นมองเพดาน กระพริบตาปริบๆ เพื่อไลบางสิ่งที่กําลังเออขึ้นมาบดบัง


การมองเห็นใหมันไหลยอนกลับไปยังที่เดิม

“ไอพี่ทอง” ผมเรียกพีเ่ ขาพรอมใชสอมจิ้มแพนเคกที่หั่นแลวยื่นไปตรงหนา นัยนตาสีน้ําตาลหวานซึ้งที่จองผมไมวางตานั้นพราวแสง


แวววาวอยางยินดี จากนั้นก็อาปากเตรียมรับสิ่งที่ผมยื่นให แตใครวาผมจะปอนแกละครับ

“หึหึ” เปลี่ยนมากินเองดีกวา จากนั้นก็ดูอาการรอเกอของพี่เขาครับ ตลกดี

“วินดี้แกลงพี่” ผมสายหนาทั้งที่ยังยิ้ม

“เปลาสักหนอย” ตามยืนยันดวยน้ําเสียงแข็งขัน

“เห็นอยูเต็มตา...ยังปากแข็ง...กินเองก็ได...” พูดดวยน้ําเสียงแสนงอน ใบหนาหงิกงอกมไปสนใจแพนเคกในจานของตัวเอง จากนั้นก็


ใชสอมจิ้มแพนเคกในจานแรงๆ ราวกับตองการจะประชดผมกอนสงเขาปาก เคี้ยวคุยๆ ทําเปนไมแคร

“หึหึ” ขํามากกวาเกาอีกครับ ทวาพอพี่แกตวัดสายตาเคืองๆ มาใหก็ตองรีบหุบยิ้มทันที อา...อาการแบบนี้ สงสัยจะงอนผมจริงๆ ซะ


แลว

“อะ...ไมแกลงแลว” งอคนแกขี้นอยใจนิดหนึ่งครับ ผมใชสอมจิ้มอีกชิ้นแลวยื่นไปตรงหนาพี่เขา แตไอพี่ทองกลับทําเฉย แลวตองงอ


ยังไงละเนี่ย...

“อายทองครับ...อาม...” แสรงคิดวาตัวเองกําลังปอนขาวเด็กสามขวบอยู ปนน้ําเสียงใหมันออนหวานมากที่สุด พรอมสงสายตาออด


ออนไปให พี่เขาคงไมนึกวาผมจะมาไมนี้มั้งก็เลยหลุดหัวเราะออกมาครับ จากนั้นก็ยื่นหนามากินแพนเคกที่ผมยื่นให พอปอนพี่เขา
แลวผมก็รีบกมหนากมตากินของตัวเองตอ อายเหมือนกันนะ ตองมาทําอะไรบองแบวแบบนี้ ยิ่งเห็นแววตาของพี่แลวก็รูสึกแกมรอน
วูบวาบเลย
หลังจากกินอาหารเสร็จแลวผมก็ออกไปยังระเบียงครับ เดินใหอาหารยอยนิดหนึ่ง จากนั้นก็เขาไปอาบน้ํา พอออกจากหองน้ําก็เห็นพี่
เขากําลังดึงเนคไทออกมาจากลิ้นชักตู พอเห็นเนคไทแลวหนาก็รอนขึ้นมาอีกครั้ง ผมหลบตาเมื่อเผลอสบเขากับนัยนตาคมกริบของ
พี่ แสรงขยี้ผาขนหนูบนหัว เช็ดผมใหแหง

“เดี๋ยวพี่เช็ดให” พี่เขาเดินเขามาใกล อุงมืออุนนั่นวางทับบนมือผม ผมชะงัก เงยหนาขึ้นสบตาสื่อความหมาย กอนจะปลอยใหพี่เขา


ทําตามที่ขอมา

“ผมวินดี้นุมนุม แลวก็...หอมดวย...” ผมยนคอเมื่อไอพี่ทองมาพิสูจนวาผมผมหอมจริงๆ บนแกมรอนผาวของผม

“แกมก็หอม” ผมคงไมกลาเงยหนาขึ้นไปมองหรอกครับวาตอนนี้คนพูดทําหนาอยางไร แววตาที่มองมายังผมนั้นเปนเชนไร เพียงแค


น้ําเสียงนุมทุมที่กระซิบบอกขางหู เทานี้ผมก็ทําอะไรไมถูกแลว

ผมยื่นนิ่งใหพี่เช็ดผมใหอยางเงียบๆ ไมไดตอบโตอะไรกลับไป ดวยความสูงที่แตกตางกัน เวลาผมกมหนา สายตาของผมจึงอยูแค


ระดับอกของพี่เขา

“เสร็จแลวครับ” พี่บอกพรอมกับลดผาขนหนูมาคลองไวบนคอของผม โดยไมรูตัว ผมยื่นมือไปจับเนคไทที่คลองคอพี่อยู เงยหนาขึ้น


ไปบอกพี่เขาวาผมตองการจะทําอะไรตอบแทนพี่ที่คอยเอาใจผมตลอดชวงเชาที่ผานมา

“เดี๋ยววินผูกใหนะ” ไอพี่ทองยิ้มหวาน นัยนตาพราวแสง ผมรีบกมหนาหันไปสนใจกับปมเนคไทกอนที่สายตาของพี่จะแผดเผาใหผม


รอนผาวไปมากกวานี้

“วินดี้รูไหมวาพี่กําลังคิดอะไรอยู” ผมสายศีรษะแทนคําตอบ

“พี่กําลังคิดวา...มันจะดีกวานี้ถาวินดี้เปลี่ยนมาผูกเนคไท...ปดตาพี่อีกครั้ง...” คําพูดนั้นทําใหอุณหภูมิในรางกายผมพุงขึ้นจนถึงจุด
เดือดทันที ทั้งๆ ที่ไมพยายามนึกถึงแลวนะ แตไอพี่ทองกลับรื้อฟนมันขึ้นมา

“แคก...แคก...” เปนไงละ สมน้ําหนาอยากปากดีนัก ผมดึงปมเนคไทใหรัดคอพี่เขาแนน

“แลวถาเปลี่ยนมารัดคอแบบนี้ละ...ชอบไหม...” ฝนความอายเงยหนาแดงแปรดขึ้นคอนอีกฝายดวยสายตากอนแสรงปนสียงโหด
ขณะถาม ไอพี่ทองยิ้มแหงๆ กอนจะโอดครวญวาผมใจรายกับแก
พอถึงเวลาผมก็หยิบเปพรอมกับตําราเรียน สวนไอพี่ทองถือกระเปาเอกสารของตัวเอง เราเดินออกไปจากหองโดยที่ไมมีใครนําอะไร
ติดตัวไปมากไปกวาสิ่งที่ตองใชในวันนี้ ถึงจะรูดีอยูแกใจแตผมกับพี่เขายังทําตัวปรกติเหมือนอยางทุกวันที่ผมตองไปเรียน และพี่เขา
ก็ไปทํางาน จากนั้นเราก็กลับมาเจอกันที่นี่อีกครั้งในตอนค่ํา

บรรยากาศในรถเต็มไปดวยเสียงหัวเราะ พี่หาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาเลาใหฟง บางครั้งก็หันมาแหยผม พูดใหผมอายบาง กวนผมใหโมโห


บาง จนกระทั่งมาถึงมหาวิทยาลัยความเงียบก็เขาครอบคลุมเราทั้งคู รถจอดสนิทแลวแตผมยังนั่งนิ่งๆ ไมกลายื่นมือไปเปดประตูแลว
กาวเทาออกไป

“...ที่รัก...” พี่เอื้อมมือมาเชยคางผมใหสบตา

“วินดี้รูใชไหมครับวาพี่รักวินดี้คนเดียวและรักมากขนาดไหน” ทั้งคําพูดและสายตาตางสื่อทุกความรูสึกออกมาอยางชัดเจน ผมยกมือ


ขึ้นลูบใบหนาของพี่เขาอยางแผวเบา

“พี่ก็รูใชไหมวาวินก็รูสึกไมตางจากพี่เลย” พี่ยกมือมากุมทับมือผมไว แนบแกมกับฝามือของผม หลับตานิ่งอยูชั่วครูกอนจะลืมขึ้นมา

“รอพี่นะครับ ไมนานหรอก ทุกอยางจะตองเรียบรอย”

“วินเชื่อพี่...และ...วินจะรอ”

นัยนตาที่เต็มไปดวยรักของเราทั้งสองประสานกัน กอนที่ใบหนาของเราทั้งคูจะโนมเขาหากันอยางชาๆ ลมหายใจอุนๆ เปารดเมื่อริม


ฝปากของพี่จรดกับริมฝปากของผม จุตพิตดูดดื่มที่พี่ตั้งใจมอบใหมันชางหวานเหลือเกิน ผมหลับตา โอบแขนรอบลําคอของพี่ ซึมซับ
ความรูสึกนี้ไวใหนานที่สุด

You're in my arms and all the world is gone


The music playing on for only two
ยามผมไดกอดพี่ โลกทั้งใบเหมือนจะเลือนลับจางไป
บทเพลงแววหวาน บรรเลงขับกลอมเพียงเพื่อสองเรา
So close together and when I'm with you
So close to feeling alive
ยามเราสองแนบชิด เมื่อผมไดเคียงคูพี่ ชางรูสึกมีชีวิตชีวาเสียจริง
A life goes by romantic dreams must die
So I bid mine goodbye and never knew
กอนจะไดพบพี่ ชีวิตผมไดแตผันผานไปวันๆ คิดไปวา รักอันแสนหวานมีแตในฝน
และตัดใจบอกลาความฝนนั้นไป โดยหาไดรูไมวา
So close was waiting. Waiting here with you
And now, forever, I know
All that I want is to hold you
So close
พี่ยังคงรอคอยผมอยู อยูใกลเหลือเกิน และบัดนี้ ผมไดรูแทแลววา
ผมตองการเพียงจะไดกอดพี่ไวแนบชิดกาย…ชั่วนิรันดร
So close to reaching that famous happy end
Almost believing this one's not pretend
ใกลจะไดสุขสมหวัง ดั่งตอนจบในนิทาน ที่เลาขานกันมาเนินนาน ไดแตหวังวา สุขนี้ไมใชเพียงสิ่งลวง
Now you're beside me and look how far we've come
So far We are So close...
มาบัดนี้ พี่อยูเคียงขางผม ดูสิ วาเราฝาฟนมาไดไกลเพียงใด ใกลเหลือเกิน ที่เราจะไดสุขสมหวัง
Oh, how could I face the faceless days. If I should lose you now?
หากตองสูญเสียพี่ไป โอ...ผมจะเผชิญหนากับวันนั้นไดอยางไร
We're so close to reaching that famous happy end
Almost believing this one's not pretend
ใกลจะไดสุขสมหวัง ดั่งตอนจบในนิทาน ที่เลาขานกันมาเนิ่นนาน ไดแตหวังวา สุขนี้ไมใชเพียงสิ่งลวง
Let's go on dreaming
Though we know we are
So close
So close, and still
So far...
ดังนั้น ขอใหเราสานฝนกันตอไป เพราะเราทั้งสองตางรูดีวา
ถึงเราจะใกลความสุขสมหวังเหลือเกิน…แตก็ยังตองเดินทางกัน...อีกยาวไกลนัก...

มือของเราทั้งสองที่กุมกันไวคอยๆ ผละออกจากกันอยางชาๆ จนในที่สุดปลายนิ้วของผมก็หางออกจากปลายนิ้วของพี่ ถึงกายจะหาง


แตใจของเราก็ยังเกาะเกี่ยวกันไว วินจะรอครับพี.่ ..รอวันที่ความรักของเราจะไดสุขสมหวังดั่งตอนจบในนิทาน วันที่เราทั้งสองจะได
กลับมาอยูดวยกันอีกครั้ง ถึงแมมันจะยาวนานแคไหนแตวินก็จะรอ... So close, and still so far...

ใครรูบางครับวาโรงพยาบาลไหนรักษา “โรคติดแฟน” ใหหายได ผมจะไปเยียวยารักษา ตอนนี้หัวใจผมมันจะขาดรอนๆ อยูแลวครับ


เฮอ...ทําไงดีครับ ขนาดเพิ่งหางกันนะเนี่ย ผมยังคิดถึงวินดี้ขนาดนี้ แลวยิ่งคิดวาคืนนี้ตองนอนหนาวคนเดียวก็อยากลงไปชักดิ้นชัก
งอบนพื้นในมันรูแลวรูรอด

ผมไมเอานะ ใหนอนเหงาคนเดียวนะ ผมจะเอาวินดี้ คืนนี้จะนอนกอดวินดี้ ไดยินไหมครับพระเจา ไดยินเสียงรองขอของผมไหม ถา


ไมตามใจผมนะ คืนนี้ผมจะ...ผมจะสวมวิญญาณโรมิโอแลวปนขึ้นบานนองจริงๆ ดวย ฮึ่ม...เปนไงครับ พระเจาชอบแกลงผมดีนัก
ขมขูโวยวายใสเลยแลวกัน

แตจะวาไปนาคินทรนาจะปลอยพิษใสไอพวกมารที่มาขัดขวางความรักของผมบางก็ดีเหมือนกันนะวาไหมครับ ไหนขอดูมือหนอยสิ
มีใครสนับสนุนใหผมยองไปปาระเบิดใสไอพวกชินกฤษบางครับ ใหมันตายหมูจะไดไมตองมากอความวุนวาย ฆาแมรงมันทั้งบาน
เลย ซะใจโจ จะมีใครเห็นดวยไหมเนี่ย

เฮอ...คุณๆ อยาถือสาผมนะครับที่เพอบาบอไปเรื่อย ความจริงก็ไมมีอะไรหรอกครับ ผมกําลังหาทางระบายความเครียดอยู พอหาง


นองความคิดถึงที่หามไมไหวก็เริ่มจูโจมผม หัวใจดวงนอยแตบรรจุรักไวเต็มเปยมเลยเกิดอาการประทวงขึ้นมา มันอยากบินไปแนบ
ชิด ใหเนื้อแนบเนื้อ แลวก็จวบกอนจะกดๆ หวานใจสักทีใหหายวาวุนใจ ฮาฮา ขนาดเครียดอยูนะเนี่ย ยังบาไดอีก

เอาละครับเขาเรื่องดีกวา วันนี้หลังจากไปสงวินดี้แลวก็เขาบริษัทครับ ดวยหัวใจหดหูก็เลยไมไดสนใจใคร แตแลวพอรันมาเปดประตู


รถใหผมก็ตองเลิกคิ้ว มองหนาการดสวนตัวของผมดวยสายตาสงสัย

“หนาไปโดนอะไรมาหรือรัน” เนื่องจากเมื่อตอนเที่ยงอยากใชเวลาเปนสวนตัวกับวินดี้ครับ เลยใหรันตามดวยรถอีกคัน ตั้งแตเชาผมก็


เพิ่งไดเจอเขาซึ่งๆ หนาตอนนี้แหละ

“ถูกแมวขวนครับ” เขาตอบดวยน้ําเสียงราบเรียบขณะรับกระเปาเอกสารจากมือผมไปถือ

ผมมองใบหนาดุดันของบอดี้การดมือหนึ่งของผมอยางไมเชื่อสายตา แมวอะไรมันจะเขาใกลนักฆาฝมือชั้นยอด แลวดูหนาสิ เปน


รอยขูดซับเลือดตั้งแตใบหูไปจรดปลายคราง เอะ...หรือวาจะเปน...

“ใชแมวที่ใหไปปลอยเกาะเมื่อคืนหรือเปลา”

“ครับ ตัวนั่นแหละ”

“หึหึ อยางนั้นหรือ” ผมหัวเราะในลําคอ

“วินดี้แพขนแมวตัวนั้นซะดวยสิ นายชวยจัดการสั่งสอนใหเชื่องแลวอยาใหเขาใกลฉันอีกก็แลวกัน”

“ไดครับ นายนอย”
ไมตองบอกก็รูวารันถูกใจขนาดไหนที่ไดยินผมสั่งเชนนั้น มันก็นาอยูหรอก ไอแมวจอมเกเรคงถือสิทธิ์วารูจักกับผมเลยไปทํารายรัน
เขา สวนรันก็คงไมกลาแตะเพราะผมวานใหไปสง แลวพอผมเปดไฟเขียวแบบนี้ เรื่องมันคงสนุกพิลึก คิดขึ้นมาแลวผมก็ชักอยากรูละ
วา คนที่กลาขวนหนารันจะถูกแกแคนคืนดวยรอยเฆี่ยนบนหลังกี่รอย

ตอนบายแกๆ ผมแวะเขาไปหาพอที่หองครับ ไปรายงานความคืบหนาใหพอรูซะหนอยวาคืนนี้ผมจะกลับไปตายรังที่บาน

“ไปทําอะไรมาถึงไดหมดแรงซะขนาดนั้น” อยากตอบวาปล้ําทําหลานใหพอทั้งคืนแตก็กลัวจะถูกดาเพราะวาพอเขาไปในหองพอ ผม
ก็ลมตัวบนโซฟาทีจ่ ัดไวมุมหนึ่งของหอง เหยียดขาไปตามความยาว หลับตาอยางรูสึกผอนคลาย

“พอชวยหาเลขาใหผมอีกสักคนดวยนะครับ หรือไมผมก็ขอยืมเลขาพอสักพัก” ผมหรี่ตาขึ้นดูพอที่เดินมานั่งยังโซฟาอีกตัวตรงขามกับ


ผมกอนหลับตาลงอีกครั้งขณะคุย

“แลวรามิลละ” พอถาม

“ดูเหมือนงานจะลนมือ”

“แกใชใหไปทําอะไร”

“ก็งานนอกสถานที่นิดหนอย” ผมบอกเพียงคราวๆ และพอก็ไมไดสนใจถามรายละเอียดอะไรมากกวานั้น

“อืม...ถางั้นเดี๋ยวจัดการให วาแตเมื่อคืนไดยินขาววาเลนหนังอินเดียกับลูกกุลอยางนั้นหรือ” ผมสําลักลมหายใจ ขาวชางไวหรือเกิน


แลวดูพอเปรียบเทียบสิครับ ผมแควิ่งตามงอนองรอบเมืองเองนะ ไมไดวิ่งรอบเขาเปนลูกซะหนอย

“อยากรูนักวาการดคนไหนที่มันปากบอนมาเลาใหพอฟง”

“หึหึ รูแลวแกจะไปทําอะไรเขา ถาฉันถามแลวมันไมตอบนี่สิ คอยวาหนอย”

“นั่นสิ ลืมไปไดไงวาพอผมนะเปนเจาพอขาใหญ ชี้เปนชี้ตายคนได”

“ใช แลวฉันก็ชี้ใหแกลุกขึ้นมาไดแลว จะมาหลับอะไรเอาเวลานี้”

“ก็คนมันงวงนี่พอ จริงสิตั้งแตวันนี้ผมจะกลับไปนอนบานนะพอ”
“หือ...เกิดอะไรขึ้น…”

พอผมชี้เปนชี้ตายไดจริงๆ นั่นแหละครับ แลวตอนนี้พอก็ชี้ใหผมลุกขึ้นมา ถึงจะถามแคสี่คําแตน้ําเสียงคาดคั้นเอาคําตอบซะขนาด


นั้น ก็จําเปนตองมานั่งเลาใหพอฟงถึงสาเหตุของเรื่องทั้งหมดครับ แตความจริงก็อยากเลาอยูแลวละ ทําเลนตัวไปอยางนั้นเอง อยาก
ระบายครับ อึดอัด แลวพอไดพูดใหใครสักคนที่ไวใจไดฟง มันก็รูสึกสบายใจขึ้นมาบาง

หลังเลิกเรียนแลวผมตองไปเอารถที่บานเมธครับ เมื่อคืนจอดทิ้งไวที่นั่นกอนจะกลับคอนโดพรอมกับพี่เขา ความจริงตอนโทรไปบอก


เมธ มันก็อาสาจะขับมาใหที่มหาวิทยาลัยครับแตวาผมดันเอากุญแจรถติดตัวมาดวย เลยตองนั่งรถกลับบานพรอมมันแลวไปขับ
กลับเองครับ

“เมธ...ขอถามอะไรหนอยสิ” ขณะอยูบนรถผมก็เอยมาขึ้น ดวยคิดวาบางทีผมควรจะถามเกี่ยวกับเรื่องของมันบางหลังจากที่เมธ


ซักไซเรื่องของผมกับไอพี่ทองจนละเอียดแลว

ความจริงวันนี้กอนที่จะออกจากมหาวิทยาลัยตรินก็มาหาผมที่คณะครับ เขาเปนหวงผมเพราะกอนออกจากบานเมื่อวานตอนหัวค่ํา
ผมดูไมคอยดีเทาไหร พรอมกันนั้นเขาก็ติดตอผมไมไดตลอดค่ําคืนที่ผานมา นั่นเปนเพราะวาหลังจากที่ผมทะเลาะกับพี่เขา ผมก็ปด
โทรศัพทครับ จากนั้นก็ไมไดเปดอีกเลยจนกระทั่งตอนสายของวันรุงขึ้น

พอเมธเจอกับตริน บรรยายกาศแบบเมื่อสองวันกอนก็หวนกลับมาอีกครั้ง มันยังอึมครึมจนผมรูสึกอึดอัด เมธยังคงเงียบ พูดนอย ไม


สบตากับตริน ในขณะที่ตรินก็พยายามไมมองไปทางเมธ ตรินคุยกับผมจนพอใจแลวก็กลับไป ทวาพอเขาเดินหันหลังใหเมธกลับเปน
ฝายมองตามจนตรินลับตา แววตาของเมธนั้นมันดูเศราปนเสียใจอยูในที

“วามาสิ มึงจะถามอะไร” เมื่อเมธวาอยางนั้นผมก็ขยับตัวพรอมกับเรียบเรียงคําพูด กอนหันไปมองเมธที่กําลังบังคับพวงมาลัยอยูนิด


หนึ่ง

“ตกลงมึงกับปรินนี่เปนอะไรกัน” ถามตรงๆ เขาเรื่องอยางไมออมคอมครับ

ผมอยากรูวาความสัมพันธของสองคนนี้อยูในระดับไหน กอนตัดสินใจบอกมันวาใครที่เปนตนเหตุใหผมทะเลาะกับพี่ดีหรือเปลา อีก


อยางผมคิดวาปรินนาจะเปนปญหาระหวางเมธกับตรินเชนเดียวกัน

“ไมไดเปนอะไร” เมธตอบดวยน้ําเสียงเรียบเฉย

“ไมไดเปนอะไร?” ผมทวนเสียงสูง

“อืม…” ขานรับในลําคอ สายตามองไปยังถนนเบื้องหนา


“หมายความวายังไงไมไดเปนอะไรกัน” ผมนิ่วหนา

“ไมไดเปนอะไรก็คือไมไดเปนอะไรกัน” เมธปรายตามองผมนิดหนึ่งกอนหันไปสนใจถนนอีกครั้ง

“อาว...”

“อาวอะไรของมึง”

“ก็ไหนลูกแพรบอกวามึงกับปริน เออ...”

“ก็แคนอนดวยกัน วันไนทแสตนด เชามาก็จากกัน” มันพูดดวยน้ําเสียงไรเยื่อใย

“เฮย!” แตสําหรับผมคําตอบของเมธกลับนําความประหลาดใจมาให ทําไมละ? ผมไมเขาใจ ในเมื่อเรื่องเมธบอกวาไมไดเกี่ยวพันกับ


ปริน แลวปญหาระหวางเมธกับตรินมันอยูตรงไหน?

“มึงจะตกใจอะไรนักหนา ปริ๊นมันก็เปนแบบนี้แหละ” ผมหยุดใครครวญหาเหตุผลถึงชองวางระหวางเมธกับตรินอยูชั่วครู กอนจะ


ทวนถามในสิ่งที่ผมคิดวาตัวเองหูฝาดไปหรือเปลา

“ปริ๊น?” คําถามสั้นๆ ของผมแตทําใหเมธหลบตา

“อืม...ก็ปรินนั่นแหละ กูเคยเรียกมันวาปริ๊น เลยติดปาก” เมธแสรงละมือออกจากเกียรรถแลวเอื้อมมือไปเปดเครื่องเสียง

“โห...ขนาดเรียกมันวาเจาชายเชียวหรือ” ผมตัดหนาเมธ ใชมือปดเครื่องเลนซีดีไว แลวมองอีกฝายดวยสายตาคนควา เมธมองผม


ดวยหางตา กอนจะดึงมือกลับไปวางไวบนเกียรรถอีกครั้ง

“เจาชายวุนวายนะสิ เขามาในชีวิตกูทีไรทําเรื่องยุงยากใจใหกูทุกที” มันพูดโดยไมมองหนาผม

“แลวตอนนี้มันเขามาทําใหมึงสับสนเรื่องของตรินใชเปลา”

“อืม...” นัยนตาของเมธไหววูบเล็กนอยขณะขานรับในลําคอ

“แลวตกลงมึงคิดยังไงกับปรินอะ”

“ไมรู” มันตอบกลับมาอยางรวดเร็ว ผมลอบถอนหายใจกอนจะกลั้นใจกลาวถึงอีกคน


“แลวกับตรินละ”

“ไมรูเหมือนกัน” แลวมันก็ตอบกลับมาอยางรวดเร็วเชนกัน ผมยกมือขึ้นมาเกาหัว รูสึกหงุดหงิดอยางบอกไมถูก

“มึงไมรู กูก็เลยไมรู แลวใครมันจะรูวะเนี่ย”

เมื่อถึงบานเมธแลวผมก็อยูคุยกับเมธอีกนิดหนอยครับ รวมไปถึงขอดูภาพงานแตงงานพี่เวศดวย อยากเห็นเจาสาวของพี่เขาครับ


เมธก็เปดคอมใหผมดูสวนมันก็ลงไปขางลาง บอกวาจะหาของวางมาใหผมกินครับ ผมก็นั่งรอมันไปพลางดูภาพไปพลางครับ แตไมรู
วาไปทําอีทาไหนถึงเผลอไปกดกากบาทปดดิสเพลยภาพซะงั้น

ผมก็เลยตองคนหาวาภาพเมื่อครูเมธเอาไปเก็บไวในแฟมไหน คนไปคนมาก็เจอแฟมหนึ่งเขาให มันเปนแฟมภาพถาย ไมใชสิ ผมตอง


บอกวาเปนภาพแอบถายมากกวาครับ เพราะแตละทาของคนนายแบบจําเปนที่อยูในภาพมันเปนธรรมชาติเสียเหลือเกิน ผมมองแต
ภาพดวยนัยนตาครุนคิด บางภาพบรรยากาศมันก็ชางคุนเคยเหลือเกิน ราวกับวาชวงเวลานั้นๆ ผมก็อยูตรงนั้นกับคนในภาพนั้นดวย

มันไมใชเรื่องแปลกหากเมธจะแอบถายภาพผมหรือลูกแพร เพราะวาเมธชอบเลนกลองและมันก็ทําบอยๆ พอไดภาพจํานวนหนึ่งมัน


ก็อัดลงแผนซีดีมาใหพวกเราเสมอ ดังนั้นในคอมของผมจึงมีภาพที่มันแอบถายเก็บไวเยอะเลยทีเดียว แตผมคิดวาในคอมของ
นายแบบจําเปนอีกคนคงไมมีภาพที่เมธแอบถายไวแนๆ แถมในรูปถายภาพแรกจนถึงภาพสุดทายดูแลวระยะเวลาอยางนอยไมต่ําก็
สี่ปแนๆ

ผมมองภาพสุดทายของซีกหนาดานขางของคนที่ผมคุนเคย นัยนตาของเขามองออกตรงไป ริมฝปากยิ้มนอยๆ ฉากหลังของภาพเปน


สีทองของแผนฟา ซึ่งนั่นทําใหผมเขาใจวาชวงเวลาที่เมธกดซัดเตอรคือพระอาทิตยกําลังจะตกดิน จากนั้นผมก็หวนมาดูภาพแรกเพื่อ
เปรียบเทียบกัน ใบหนาของคนที่ผมคุนเคยดูออนวัย เขาอยูในชุดนักศึกษากลองซูมใหเห็นใบหนาของเขาอยางชัดเจนขณะที่กําลัง
ยิ้มสดใส ผมคิดวาเขานาจะกําลังคุยกับเพื่อนอยู แลวก็ถูกบันทึกภาพไวขณะที่หัวเราะกับเพื่อนๆ

ผมรีบปดดิสเพลยภาพเมื่อเมธเปดประตูเขามา ละสายตาจากหนาคอมแลวมองไปยังตนโฮยาที่ใสกระถางไวอยางสวยงามซึ่งตัง้ ไว


ริมหนาตาง ความคิดบางอยางผุดเขามาในหัว ผมเดินไปยังมันกอนจะทําทาเด็ดใบรูปใจ ทวายังไมทันไดทําอยางที่ใจนึก เสียงเมธก็
โวยวายพรอมกลับผลักรางผมออกหาง
มันชักสีหนาไมพอใจใสผมแลวถามวาผมเปนบาอะไร ที่จูๆ จะไปเด็ดใบไมของมัน คําพูดของมันที่ตอวาผมแทบไมเขาหูผมเลย ผม
นิ่วหนามองเมธพรอมกับคําถามที่ดังกึกกอง นี่หรือที่มันบอกวาไมรูมันคิดอยางไรกับตริน แลวที่ผมเห็นนั่นคืออะไร มันแอบถายภาพ
ตรินไวทําไม แลวมันหวงของๆ ตรินทําไม

นี่มึงจะทําโงหรือปฏิเสธตัวเองไปอีกนานเทาไหร หรือมึงสับสนอะไรเมธ...แลวมึงบอกวาไมรูใชไหมแตถากูรูละและจะทําใหมึงดวย...
คราวนี้แหละมึงจะไดรูคําตอบของหัวใจตัวเองซะที

หลังจากคุยกับพอแลวผมก็เผลอหลับครับ พอคงพอรูแหละวาผมเพลีย ไมใชแคเรื่องที่ใชเวลากับนองหรอก ดวยกอนหนานั้นผมก็


แทบไมไดพักอยูแลว ตองตามติดเรื่องของชินกฤษดวย หลายอยางมันรุมเขามาเลยรูสึกเหนื่อยมากหนอย

หลับไปประมาณชั่วโมงกวาๆ ก็ตองลุกขึ้นมาจัดการงานที่คางคาอยู พอมีเลขาสองคน เลยใหมาชวยผมคนหนึ่งกอนเพราะถาจะรับ


คนใหมมาคงจะเสียเวลาเทรนงานให อีกอยางผมตองการผูชวยอีกคนเฉพาะแคชวงนี้เทานั้นแหละครับ พอเรื่องลงทุนกับเอ็มเจหาขอ
ยุติไดแลวทุกอยางก็คงเขาสูภาวะปรกติ

“คุณคินครับ” เสียงของรามิลกดอินเตอรโฟนเขามาในหองครับ

หากเปนการดหรือคนของพอจะเรียกผมวานายนอย แตรามิลตองชวยงานผมเรื่องธุรกิจเสียเปนสวนใหญ บางครั้งก็ตองออกไปเจอ


ลูกคาดวยกันบาง ทําใหคําเรียกขานแตกตางกัน แตผมก็ไมไดซีเรียสอะไรมากมาย ใครจะเรียกอยางไรผมก็ยังเปนนายนาคินทรที่รัก
วินดี้คนเดียวเหมือนเดิม...ฮิ้ววววว

“เขามากอน” ผมบอกเขาดวยรูดีวารามิลกดอินเตอรโฟนเรียกก็เพื่อจะบอกผมวาถึงเวลาตองไปทํางานที่ผมมอบหมายใหแลว ไมชา


หลังจากนั้นรามิลก็เคาะประตูและเดินเขามา

“พยายามอยาทําอะไรใหผิดสังเกตมากนัก แลวก็ระวังตัวดวย” ผมเตือนดวยน้ําเสียงหวงใย

“ผมจะทําใหดีที่สุดครับ” ผมพยักหนาดวยเชื่อในฝมือผูชวยของผม ทุกอยางจะตองเรียบรอย

“แลวถามีอะไรไมนาไววางใจ ผมจะรีบรายงานใหคุณคินทราบทันทีครับ” ดีมาก สมแลวละที่เปนเลขาคนเกงของผม ผมยิ้มมุมปาก


อยางถูกใจ เรื่องที่กังวลอยูก็ตัดออกไปไดอีกหนึ่ง

หลังจากที่รามิลรับปากแข็งขันและทบทวนสิ่งที่เขาตองทําแลว เขาก็ออกไปปฏิบัติหนาที่ จากนั้นพอก็มาหาผมพรอมกับเลขาของ


พอซึ่งผมก็คุนเคยเปนอยางดี ความจริงแลวงานก็ไมมีอะไรมากหรอก รามิลเปนคนทํางานละเอียด เขาจัดการทุกอยางไวใหเรียบรอย
แลว เลขาของพอก็มาชวยในสวนที่เหลือเทานั้นเอง

เมื่อพอจากไปแลวผมก็กมหนากมตาอยูกับแฟมเอกสาร ใสความสนใจทั้งหมดลงไป ทําตัวใหยุงๆ เขาไวจะไดไมตองฟุงซาน คิดถึง


นองครับ พอเงยหนามาดูนาฬิกาอีกทีก็ปาเขาไปหกโมงเย็นแลว ปานนี้วินดี้จะกลับถึงบานแลวหรือยังนะ หมุนคอซายขวา คลาย
กลามเนื้อนิดหนอย จากนั้นก็หยิบโทรศัพทออกมาพรอมกับหมุนเกาอี้หันหลังใหกองเอกสารแลวมองออกไปยังทองฟาดานนอก

ผมกดโทรออกหาวินดี้แตพอไดยินเสียงเพลงรอสายของนองที่ตั้งไวผมก็ตองหัวเราะออกมา ที่เครียดๆ อยูหายเปนปลิดทิ้งเลย แฟน


ใครวะเนี่ยเขาใจเลน นองไปขุดเพลงนี้มาจากไหน

“…กําลังคิดฮอดพอดี ขอบคุณนะที่โทรมา ถือสายรอกอนเดอจา รับชาก็อยานอยใจ…”

“ฮาฮา” ขําครับ วินดี้กําลังคิดฮอดพี่อยูหรือครับ ถือสายรอไดจา พี่ไมนอยใจหรอก หึหึ นารักนาหยิกซะไมมี อยากใหนองมาอยู


ตรงหนาจริงๆ เลย จะกอดหมับแลวรัดแนนๆ ใหหายคิดถึง จากนั้นก็หอมแกมสักฟอดใหสมกับความขี้เลนของนอง

“ครับ” นองรับสายแลวครับ

“หึหึ…ที่รักกําลังคิดฮอดพี่อยูหรือครับ...” พูดพลางหัวเราะครับ นึกถึงใบหนาวินดี้กับเพลงลูกทุงแลวมันไมเขากันเลย คิดไงเนี่ยไปขุด


เพลงเกา โหลดเพลงนี้มาใช

“หึหึ วินวาแลวพี่ตองหัวเราะ เปนไง ฟงแลวคลายเครียดไดไหม” โอย...แฟนผม ทําไมนารักอยางนี้ครับ คุณๆ ดูนองสิ อยากเอาใจผม


ใหผอนคลาย ยิ้มหัวเราะหลังจากโหมงานหนักมาตลอดทั้งวัน แลวแบบนี้จะไมใหผมใจจะขาดยามตองจากนองไดยังไง ราก...วินดี.้ ..
ที่สุดในโลกเลย

“ชอบที่มันบอกวาวินดี้คิดถึงและรอสายพี่อยู”

“เขาใจผิดไปใหญแลว วินแคไมอยากโกหกเวลาพี่ถามวาคิดถึงไหม เลยใหเพลงมันพูดแทนกอนไง” จากรูสึกปลื้มอกปลื้มใจราวกับ


ขึ้นสวรรคตอนนี้ถูกตีหัวแลวกระชากใหตกลงมากระแทกพื้นเรียบแลวครับ

ซะงั้นคนเรา ปากไมตรงกับใจใชไหมละ พี่รูหรอก อายที่จะบอกวาคิดถึงพี่เหมือนกันก็วามาเถอะ คิดเขาขางตัวเองไวครับ ความจริง


จะเปนเชนไร นาคินทรไมสน

ผมหัวเราะ ไมไดถือสาคําพูดนอง “วินดี้จะคิดถึงพี่บางหรือเปลาอันนี้ไมรู แตที่แนๆ พี่คิดถึงวินดี้ที่สุดเลย” หยอดคําหวานนิดหนึ่ง แต


ความจริงมันก็มาจากใจผมนั่นแหละ

“ไมรูจริงหรือวาวินคิดถึงพี่หรือเปลา”

“แหม...พี่ก็วาไปงั้นแหละ จะไมรูไดอยางไรในเมื่อพี่เขาไปวิ่งเลนในหัวใจวินดี้อยูทั้งวัน” คุณๆ จะไปอวกก็ไปที่อื่นนะครับ ผมจะเลี่ยน


ใสที่รักผม
“แหวะ เนาวะ” อาว กลายเปนนองซะงั้นที่จะอวกใสผม

“เนาเพราะหมักรักไงครับ” ยังไมเลิกอีกกู

“พอเถอะ...คุยกับพี่แลววินมึน” นั่นไง มึนเพราะเมารักพี่เขาใหแลวละสิ

“โอเค พี่ยอมเปลี่ยนเรื่องคุยก็ไดแตไมยอมเปลี่ยนรักนะ” ยังบาไดอีกครับ แลวนี่ผมก็บอกคุณๆ แลวใชไหมวาจะไปอวกก็ไปที่อื่น แลว


ทําไมยังมาโอกอากแถวนี้อยูอีก เดี๋ยวกลิ่นหอมของดอกรักผมก็ถูกกลบพอดี หึหึ

“หึหึ วินละเชื่อพี่จริงๆ เลย”

“ครับเชื่อเถอะวาพี่รักและคิดถึงวินดี้จริงๆ” ตรงตามคอนเซ็ปตครับ จะทําอะไรตองทําใหถึงที่สุดเพราะฉะนั้น จะเนาก็ตองเนาใหถึง


ที่สุด...กาก

ไมตองเดาก็รูวาตอนนี้วินดี้กําลังสายหนาอยางเอือมระอาผมอยู แตนาคินทรไมสน นิสัยเสียครับ ชอบแกลงนอง เสียดายที่นองไมได


อยูตรงหนา ไมอยางนั้นคงเห็นใบหนากึ่งยิ้มกึ่งบึ้งของวินดี้แนๆ เวลานองทําหนาอยางนั้น แลวนารักดีครับ ตลกดวย

“วาแตวินดี้เปนไงบางครับวันนี้”

“ก็เหมือนทุกวันแหละ...พี่รอเดี๋ยวนะ ตอนนี้วินขับรถอยู ขอวินใสหูฟงกอน...โอเค...เรียบรอยแระ...แลวพี่ละเปนไงบาง” นองหายไป


แปบหนึ่งครับ แลวก็สงเสียงทักทายกลับมา

“วันนี้งานพี่ยุงนิดหนอย บางทีอาจกลับชานะครับ นี่หมายความวาวินดี้ยังไมถึงบานอีกหรือ” คุยกับนองในเรื่องปรกติเหมือนทุกวัน


ครับ ถึงแมวา “บาน” ที่เราหมายถึงจะไมใชคอนโด แตผมก็ยังอยากใหทุกอยางเหมือนเดิม คุยกันในเรื่องที่เราเคยคุย ระหวางเราไมมี
อะไรเปลี่ยนแปลงทั้งนั้น

“วินไปเอารถบานเมธแลวก็อยูทํางานนิดหนอย เพิ่งออกมาเมื่อกี้เอง”

“จะทุมหนึ่งแลวนะ ไดกินอะไรรองทองบางหรือยัง”

“วินกินขาวเย็นกับเมธแลวละ” กินกับไอเพื่อนเวรนั่นแลว อา...หัวใจเริ่มคันหยิกๆ ดวยความริษยา ทําไมไมเปนผมนะ

“แลวเปนไงบางครับ ไมใชไปเปนกางขวางคอเขานะ” อางไปงั้นแหละครับ อิจฉาไอตากลองแอบถาย เลยพูดใหวินดี้คิดนิดหนึ่งวาไป


กินกับไอเมธบอยๆ มันไมดี เดี๋ยวแฟนมันหึงเอา หวังดีแตประสงครายอยางแทจริง ในเมื่อกูไมไดใกลนองคนอื่นก็หามเขาใกลโวย
“กางขวางคอใครหรือ” อา...วินดี้ไมเขาใจความนัยที่ผมสงให

“ก็เพื่อนของวินดี้กับพี่ชายของวินดี้ไงครับ เขาเปนแฟนกันไมใชหรือ บางทีเขาสองคนอาจจะอยากอยูดวยกันเปนสวนตัวก็ได”

“ออ...เมธกับตรินนะหรือ เขาไมไดเปนแฟนกันแลวครับ แลวเมื่อกี้วินก็ไปหาเมธคนเดียว”

“หะ!” ไมไดเปนแฟนกัน แลวก็ไปกินขาวกับไอเมธสองตอสองนี่นะ

ไมนะ! แบบนี้ผมก็แยสิครับ ตอนนี้ก็เทากับวาวินดี้อยูทามกลางผีดิบใชไหม กลับบานก็ไปเจอไอนักรักคณิตศาสตรที่มันแอบมีใจใหที่


รักของผม พอไปมหาลัยก็เจอไอตากลองแอบถายซึ่งเปนเพื่อนสนิทแตคิดไมซื่อ เวรกรรมจริงๆ แลวพวกมึงทั้งสองจะมาเลิกอะไรกัน
ตอนที่กูตองหางที่รักกูละเนี่ย ไมไดการแลว เห็นทีจะปลอยไวไมได

“แยจังเลย เพิ่งจะคบกันไมใชหรือ”

“วินก็รูสึกแยเหมือนกัน เมธก็เพื่อนวิน ตรินก็เพื่อน พอเขาไมถูกกันแลวรูสึกไมดี วินอยากชวยใหเขารักจังเลย” เอาเลยที่รักอยารอชา


เดี๋ยวพี่จะชวยอีกแรง ใหมันรักๆ กันจะไดไมรกหูรกตาพี่
แตแลวขณะที่ผมกําลังจะใหคําแนะนํานอง เสียงแปลกปลอมก็ดังแทรกเขามากอนนองจะรองเสียงดังอยางตกใจ

“เอี๊ยดดดดด...โครม...เฮย!” สิ่งนั้นทําใหผมแทบจะหยุดหายใจ หัวใจหลนไปอยูที่กนเหว ลุกขึ้นจากเกาอี้ดวยอาการรอนรน

“วินดี!้ ” เรียกนองดวยน้ําเสียงกระวนกระวายและหวงใย

“เกิดอะไรขึ้นที่รัก...ไดยินพี่ไหม วินดี!้ ”

“เอี๊ยดดดดด...โครม...เฮย!” ผมเหยียบเบรกจนตัวโกงตามสัญชาติญาณกอนจะสะดุงพรอมกับอุทานออกมาอยางตกใจเมื่อรถแลนด
โรเวอรที่ขับนําหนาอยูเกิดเบรกขึ้นมากะทันหัน ทําใหผมที่ขับตามหลังมาติดๆ หยุดรถไมทัน ไมรูจะเรียกวาโชคดีหรือโชครายที่รถเพิ่ง
จะผานโคงรถติดมาทําใหอยูในความเร็วไมมากนัก ถึงกระนั้นหนารถผมก็ไปจุบทายรถรถโฟรวีลสีดําคันใหญอยูดี

“วินดี!้ ...เกิดอะไรขึ้นที่รัก...ไดยินพี่ไหม วินดี!้ ” น้ําเสียงรอนรนของไอพี่ทองชวยเรียกสติผมกลับคืนมา

“วินไปชนทายเขา แตวินไมผิดนะ จูๆ มันก็เบรกอะ” ผมพูดผานสมอลทอลกดวยอารมณฉุนเฉียว ไอรถคันใหญนั่นเปนบาอะไรก็ไมรู


ที่จูๆ ก็หยุดกึกเชนนั้น ครั้งนี้เปนความผิดของมันเต็มๆ เลย ผมเปดไฟฉุกเฉินแลวเคลื่อนรถเขาเลียบทางซึ่งรถคันหนาก็ทํา
เชนเดียวกัน
“แลววินดีเ้ ปนอะไรหรือเปลา เจ็บตรงไหนไหม”

“วินไมเปนไร เดี๋ยววินโทรกลับนะครับ ลงไปคุยกับเขากอน” ผมบอกพี่ใหสบายใจกอนจะตัดสายเมื่อเจาของรถคันใหญกาวลงจากรถ


ของตัวเอง แลวเดินออมมาดานหลังเพื่อดูความเสียหาย

“คุณชนทายรถผม!” ไอบานั่นมันตอวาผมทันทีที่ผมลงจากรถแลวเดินเขาไปใกล ผมไมทันไดเห็นหนามันเพราะความสนใจของผมอยู


ที่รถของตัวเอง ดีหนอยที่รถผมไมไดพังยับเยิน มีเพียงแคไฟหนาราวเทานั้นเอง แลวดูรถมันสิ คันใหญแบบนี้ กันชนก็แข็งเกรง ขนาด
รถคันกระจิ๊ดริดของผมยังไมเสียหายมาก รถของมันคงไมบุบสลายหรอก ทวาน้ําเสียงที่ตะคอกมานี่สิ ทําอารมณพุงปรี๊ดเลย

“พูดแบบนี้จะหาวาผมเปนฝายผิดหรือไง คุณนั่นแหละที่เบรกกะทันหัน...” ผมเงยหนาไปพูดกับอีกฝายดวยอารมณคุกรุน ตั้งใจจะตอ


วาใหเต็มความโมโหแตพอเห็นหนาคูกรณีชัดๆ เต็มตา ผมก็ตองขมวดคิ้ว หุบปากฉับ หยุดคําพูดไวแคนั้น

“พี่มิ้น!”

“นองกุล!”

เราทั้งสองอุทานออกมาพรอมกันดวยเสียงตกใจกึ่งประหลาดใจ ใหตายเถอะ ทําไมไอบาที่ขับรถไมระมัดระวังและพูดใสผมแบบ


มะนาวไมมีน้ําเมื่อกี้นี้ถึงไดเปนพี่มิ้นไปละนี่ แลวนี่อะไรครับ เกิดอะไรขึ้นกับพี่มิ้นที่อยูตรงหนาผมขณะนี้ ทําไมพี่เขาถึงไดแตกตาง
กันลิบลับจากพี่มิ้นคนเกาที่ผมเคยเจอ

ปรกติผมจะเห็นพี่มิ้นอยูในชุดสูทครบชุด เนี๊ยบตั้งแตหัวจรดเทา ดูเปนผูใหญ เครงขรึมกับการทํางาน แตวันนี้ดูพี่มิ้นสิครับ ผมที่เคย


เปนสีดําถูกยอมตรงปลายใหเปนสีทอง ตัดสั้นแลวเซ็ตใหตั้งขึ้นสูง แวนตาสีชาชวยสงใหใบหนาพี่เขาดูดีและเดนขึ้น ตุมหูขางเดียว
นั่นดูสะดุดตา ผิวสีขาวตัดกับเสื้อฮูดสีดําแขนกุดซึ่งสวมทับเสื้อยืดขางในสีเดียวกัน รอยสักที่ตนแขนชวยสงใหกลามเนื้อเปนมัดๆ นั่น
ดูดีอยางบอกไมถูก สรอยเสนโตแบบโซคลองอยูบนคอ กางเกงเอวต่ํา กับรองเทาผาใบหุมขอทรงสูง โห...นี่พี่หลุดมาจากนิตยสาร
แฟชั่นฮิปพอพหรือครับ

“เออ...นองกุลอยามองพี่แบบนั้นสิครับ” คงเปนเพราะสายตาตกตะลึงของผมที่มองพี่เขาตั้งแตหัวจรดเทาละมั้งเลยทําใหพี่มิ้นลูบ
ทายทอยตัวเองอยางเกอๆ ใบหนาเริ่มขึ้นสีระเรื่อ อา...ยังดีที่พี่เขายังคงขี้อายอยูเหมือนเดิม ไมงั้นผมคงคิดวาเปนคนละคนกันแนๆ

“พี่มิ้นขับรถยังไงอะ เห็นเปลากุลเลยเบรกไมทันเลย แลวเมื่อกี้อะไรมาตะคอกใสกุลดวย ทั้งๆ ที่ตัวเองผิดแทๆ” แสรงโวยวายไปเรื่อง


อื่นครับ ความจริงคือผมก็อายเหมือนกันที่เสียมารยาทมองพี่เขาเชนนั้น

“เออ...พี่ขอโทษ พอดีพี่กําลังรีบ แลวตองมาเจอเหตุการณแบบนี้เลยทําใหหงุดหงิด เอาเปนวาพี่รับผิดชอบทุกอยางเองนะครับ”


ใบหนาของพี่มิ้นสลดลง พูดดวยน้ําเสียงสํานึกผิด พอเห็นแบบนั้นแลวผมก็รูสึกแยขึ้นมาครับ จะวาไปก็ไมใชความผิดของพี่เขาคน
เดียว ผมก็ผิดดวยแหละเพราะมัวแตคุยโทรศัพทเพลินจนไมทันระวังตัว
“ความจริงก็ไมเปนไรหรอก...พี่มิ้น กุลวาใหประกันมาจัดการดีกวา ซอมใครซอมมันไปก็แลวกัน” พี่มิ้นหนาเจื่อนเมื่อผมออก
ความเห็นเชนนั้น

“เออ...คือยังไงดีละ รถพี่ประกันหมดอายุพอดี พี่ยังไมมีเวลาไปตอมันนะครับ” พี่มิ้นออมแอมตอบ

“อาว!” อะไรกัน รถหรูขนาดนี้แตปลอยใหประกันขาดไดอยางไร ผมขมวดคิ้วอยางไมเชื่อหูตัวเอง คนที่ทํางานละเอียดยิบ ผูชวยมือ


หนึ่งของไอพี่ทองนี่นะจะละเลยเรื่องแบบนี้

“นองกุลใจเย็นๆ กอนนะครับ พี่จะรับผิดชอบทุกอยางเอง ไมวาจะคาเสียหายหรือความสะดวกสบายของนองกุลหากจะเอารถไป


ซอม พี่มีอูที่พี่รูจักดวยนะ ยังไงจะเรงเขาให แคไมกี่วันก็เสร็จแลวละครับ ไมตองกังวลอะไรเลยนะ วาแตนองกุลไมเปนอะไรใชไหม
ครับ ถาเรื่องนี้รูถึงหูคุณคินพี่ตายแนๆ เลย แยๆ” พี่มิ้นพูดรัวเร็ว สายศีรษะไปมาอยางคนปลงไปตก ใบหนาพี่เขาซีดเซียวอยางตื่น
ตระหนกเมื่อพูดถึงไอพี่ทอง

“กุลไมเปนไร แลวแคนี้เอง ชางมัน...”

“ไมๆ ชางไมไดครับ เมื่อกี้มัวแตตกใจเลยลืมนึกถึงใบหนาคุณคิน แตตอนนี้พี่เริ่มสยองแลว เอาตามที่พี่วานี่แหละครับ ใหพี่


รับผิดชอบทุกอยาง นะๆ” อะไรจะกลัวไอพี่ทองซะขนาดนั้น ผมเปนคูกรณีของพี่นะ ผมจะวาอยางไร ตัดสินใจอยางไรพี่ตองยอมรับ
ฟงผมสิ

ผมอยากบอกพี่มิ้นแบบนั้นครับ แตพี่เขาไมฟงฟาฟงฝนอะไรเลย ยืนกระตายขาเดียววาจะรับผิดชอบทุกอยาง และตองทําเดี๋ยวนั้น


ดวย พี่มิ้นคงลืมไปแลวละวาตัวเองกําลังรีบไปทําธุระอะไรเพราะพี่เขาลากผมใหเอารถไปเขาอูตอนนั้นเลยครับ ถึงผมจะแยงวามัน
มืดแลวแตพี่มิ้นก็ยืนยันวาอูของแกเปดถึงสี่ทุม แกชักแมน้ําทั้งหามาหวานลอมและขอความเห็นใจเพื่อใหผมคลอยตาม

สุดทายผมก็ทําตามพี่เขาบอกแบบมึนๆ เอารถไปเขาอู ทั้งๆ ที่ไมจําเปนตองซอมมันวันนี้ก็ได แตอูก็บอกวาแคไฟหนารถวันเดียวก็


เสร็จแลว ผมก็เลยเออออตาม จากนั้นพี่มิ้นก็มาสงที่บานและบอกวาจะเปนสารถีใหผมจนกวารถจะซอมเสร็จ ตอนที่อยูในรถไอพี่
ทองก็โทรมาถามอยางเปนหวง พอพี่มิ้นรูวาผมคุยกับใคร พี่เขาก็ขับรถไปสะดุงไปครับ สงสัยจะกลัวไอพี่ทองจริงๆ ผมก็เลยเลี่ยงที่จะ
บอกวาใครเปนคูกรณีของผม แตก็ไมลืมที่จะทําใหพี่เขาหายหวงโดยบอกวา ผมไมไดรับบาดเจ็บตรงไหน สวนรถของผมก็ปรกติดี
บอกความจริงไปไมหมดแคนิดเดียวเองคงไมเปนไรหรอกมั้ง ในเมื่ออูวาจะซอมรถผมแควันเดียวก็เสร็จแลว

พอกลับเขาบานก็เอะใจเรื่องพี่มิ้นขึ้นมานิดหนอยครับ ลืมถามวาคิดอยางไรถึงเปลี่ยนลุกตัวเองจนแทบจะเปนคนละคนแบบนั้น แลว


พรุงนี้พี่เขาไมตองไปทํางานหรืออยางไร มาเทียวรับเทียวสงผมแบบนี้ก็กลัวจะเสียงานพี่เขาครับ อีกอยางแคไปเรียนผมไปเองก็ไดอยู
แลว คิดๆ ขึ้นมาผมก็วาจะโทรบอกพี่มิ้นไมตองมารับผมในวันพรุงนี้ แตดันไมไดขอเบอรพี่เขาไว เลยจําเปนตองปลอยเลยตามเลย
เนื่องจากวาผมกินขาวเย็นกับเมธมาแลวเรียบรอยพอกลับเขาบานก็ตรงเขาหองตัวเองครับ อาบน้ําเปลี่ยนเสื้อผา จากนั้นก็ไปคุยกับ
แม ผมบอกแมวาจะอยูที่นี่สักพักโดยยกเอาเรื่องสุขภาพรางกายของตามาเปนประเด็นหลัก แมดีใจที่ผมบอกเชนนั้น แตก็เศราใน
วินาทีตอมาเมื่อสํานึกไดวาตามีเวลาอยูกับเราไดอีกไมนาน

หลังจากผละจากแมแลวผมก็ขึ้นไปหาตาครับ แตลุงหาญบอกวาตาหลับไปแลวเรียบรอย ผมจึงเลี่ยงออกมาเดินเลนที่สวน นั่งชิงชา


มองจันทรเต็มดวง คิดนูนคิดนี่ไปเรื่อย

“นายทําแบบนั้นมันทํารายตัวเองชัดๆ เลยนะ นองกุลคงไมรูหรอกวานายหวังดี”

“นายมองโลกในแงดีเกินไปแลว ใครวาเราหวังดี” เสียงคนสองคนคุยกันแววเขามาใกล น้ําเสียงเหมือนกันเปะแบบนั้นคงไมใชใคร


นอกจากพี่นองฝาแฝดคูนั้น แตสิ่งที่เรียกความสนใจของผมมากที่สุดเห็นจะเปนชื่อของผมในบทสนทนา มันทําใหผมหูผึ่ง

“อยาปากแข็งไปหนอยเลยปริน เราเปนแฝดกันนะ นายคิดอะไรทําไมเราจะไมรู”

“เฮอ...นายนี่มันไรเดียงสาจริงๆ” ดูเหมือนวาพวกเขาทั้งสองจะหยุดอยูไมหางจากผม ซุมกระดังงาคงชวยบังผมไวจึงทําใหพวกเขาไม


รูวายังมีอีกคนที่สนใจฟงวาพวกเขาคุยอะไรกันอยู

“ระวังเถอะ เดี๋ยวจะถูกเกลียดเขาให”

“ฮาฮา คงถูกเกลียดไปแลวเรียบรอย แตดีแลวละ มีคนเกลียดดีกวามีคนรัก”

“พูดบาๆ”

“อาวก็มันจริงนี่ ถาเขาเกลียดเรา เราจะทําอะไรก็ได โดยไมตองแคร แตถาเขารักเรานี่สิ จะทําอะไรก็ตองระวัง กลัวแตเขาจะเกลียด”

“นายนี่นะ แบบนี้เขาเรียกวารักมากเลยกลัวไมเขาเรื่อง ไอพวกมาโซชอบทํารายตัวเอง ไหนวาอยากเจอนองนักหนาแลวดูสิ่งที่นาย


ทําสิ หึงหวงไมเขาเรื่อง ควบคุมตัวเองหนอยนะปริน ไปแยกคูรักเขามันไมใชเรื่องดีเลยนะ”

“เชอะ...นายจะไปรูอะไร คําวาคูรักมันไมเหมาะเอามาใชกับคนอยางพี่คินหรอก ความเจาชูนะมันอยูในสันดาน นายคอยดูสิ ตอนนี้ก็


แคหลง แลวอีกหนอยพอเบื่อแลวก็สงกุลใหเพื่อนๆ เขาไปสวิงกิ้ง เหมือนที่เคยทํากับเราและคนอื่นๆ ไง”

“โธ...ปริน...”
“เด็กไรเดียงสาแบบนั้นหรือจะตามพี่คินทัน คอยดูสิเราจะกระซากหนากากนั่นออกมาใหดู กุลจะไดตาสวางซะที”

“เราวาบางทีนายอาจคิดมากไปเอง ดูแลวคุณคินเขาก็รักนองกุลไมใชนอยเลยนะ บางทีนองกุลอาจเปนคนที่เขาคิดที่จะจริงจังขึ้นมา


จริงๆ ก็ได”

“ก็หวังวาจะเปนแบบนั้นเหมือนกัน แตขอดูใหแนใจอีกสักหนอยกอนแลวกัน เราถึงจะยอมยกนองชายเราให”

“ดีแลวที่นายคิดแคนองชาย อยาเกินกวานั้นแลวกัน เราไมอยากเห็นนายเจ็บมากไปกวานี้”

“ใจเรามันดานไปนานแลวละ นายไมตองมาหวงเราหรอก หวงตัวเองกอนเถอะ แลวตกลงเรื่องของเมธเอาไง”

“อยาพูดถึง เราไมอยากฟง”

“ไมอยากฟงหรือไมอยากรับรู”

“ชางสิ...เรื่องของเรา”

“ซะงั้น พอถามเรื่องของตัวเองละเดินหนี จะไปไหน กลับมาคุยกันกอนสิตริน ...”

เสียงของคนทั้งคู คอยๆ จางลง คลายๆ กับคนพูดเดินหางจากผมออกไปทุกขณะ กอนความเงียบจะเขาครอบคลุมในที่สุด แต


เนื้อความในบทสนทนานั่นกลับยังดังกอง วนเวียนอยูในหัวของผม...ใครก็ไดชวยบอกผมทีสิครับสิ่งที่ผมไดยินมาทัง้ หมดนั่น
หมายความวาอยางไร

ผมเปดประตู กาวเขาไปในหองนอน จากนั้นก็กดสวิตชไฟที่ผนังดวยความเคยชิน แสงสีนวลเรืองรองพรอมกับเสียงเครื่องปรับอากาศ


ดังขึ้นเบาๆ เสื้อสูทตัวนอกที่ถือติดมือมาถูกโยนไปบนเตียงอยางไมใสใจนัก ที่นอนยุบยวบเมื่อผมนั่งไปบนนั้น กระดุมขอมือเสื้อเชิ้ตที่
สวมใสก็ถูกปลดออก ผมพับแขนเสื้อขึ้นไปถึงขอศอก เอื้อมมือไปหยิบรีโมทซึ่งวางอยูบนหัวเตียง กดปุมหนึ่ง เพลงบรรเลงจากเครื่อง
เสียงก็ดังขึ้น ผมเอนตัวพิงหัวเตียง หลับตา ปลอยใหอารมณใหผอนคลายตามเสียงเพลง

“เรียบรอยดีไหม” โทรศัพทที่สนั่ อยูในกระเปากางเกงทําใหผมหยิบมันออกมากอนจะกดสายรับ รูโดยนัยวาใครกันที่โทรเขามา

“เรียบรอยดีครับ” ผมยิ้มมุมปากอยางพอใจ เมื่อปลายสายตอบกลับมาเชนนั้น

“คงไมมีอะไรผิดสังเกตใชไหม”
“สําหรับคนที่จับตามองอยูคิดวาไมครับ แตนองกุลนี่ผมไมแนใจ” ผมไมแปลกใจเลยที่ไดยินรามิลรายงานเชนนั้น

ในเมื่อวินดี้ชางสังเกตและฉลาดเปนกรด ไมนาจะเกินสองวันความตองแตกแนๆ แตนั่นไมใชเรื่องใหญเพราะผมมั่นใจวาสามารถ


หวานลอมนองได เพียงแคหลอกตาคนอื่นสําเร็จเทานั้นเปนพอ

พวกมันคงไมทันคิดวาผมจะลงทุนสงคนไปเฝานองดวยการสรางอุบัติเหตุขึ้นมา หากมันเกิดความผิดพลาดเพียงเล็กนอย วินดี้คง


ไดรับอันตราย แตมือระดับนี้แลวมีหรือจะพลาด เวลากระชั้นชิดเขามาทุกขณะผมจําเปนตองเฝาระวังคนรักของผม หากเอ็มเจมา
ไทยและตัดสินใจเซ็นสัญญารวมลงทุนกับเรา รอยทั้งรอยวินดี้ตองตกเปนเหยื่อใหชินกฤษระบายความเคียดแคนแนๆ

“เรื่องของวินดี้ไมตองเปนหวง หากนองถามก็บอกแควา ทําตามคําสั่งของฉันก็พอ” เมื่อสิ้นสุดคําพูดของผมรามิลก็รับคําและวางสาย


ไป

หลังจากนี้ผมก็ลงมือทําอะไรไดถนัดมากขึ้นแลวละครับ ไมตองหวั่นวิตกในความปลอดภัยของนอง ยอมรับเลยวาการหางจากวินดี้


ในครั้งนี้ทําใหผมไมมีสมาธิเอาเสียเลย กลัวจะมีเรื่องรายเขามาสั่นคลอนความสัมพันธของเรา ถึงแมไมอยากเก็บมาคิดแตจาก
ประสบการณที่ผานมาทําใหผมวางใจอะไรไมไดเลย

ผมจองโทรศัพทในมือ ลังเลจะโทรหานองดีไหมนะ แตเมื่อครึ่งชั่วโมงกอนตอนที่รามิลไปสงนองที่บาน ผมก็เพิ่งจะวางสายไป จะโทร


หาอีกก็กลัวนองจะรําคาญ เฮอ...ผมเปนเอามากจริงๆ นะครับ เกิดมาจนอายุจะเขาเลขสามในอีกไมกี่เดือนนี่แลวยังทําตัวเหมือน
หนุมนอยที่อาจจะริรัก

ตลอดเวลาที่ผานมาผมคงนับไมไดหรอกครับวามีกี่คนที่ผานเขามาในชีวิตของผม หากจะเปรียบเทียบวินดี้กับคนพวกนั้นแลว นอง


หนาตานารักที่สุดหรือก็เปลา แตทําไมนองถึงมีเสนหดึงดูดใจผมมากกวาคนอื่น ไมวาจะมองมุมไหนสวนไหน ก็นารักนาชังนาฟดไป
ซะหมด

วินดี้ชางเอาอกเอาใจ หรือชางพูดหวานๆ ตามใจผมหรือก็เปลาอีกนั่นแหละครับ นองก็ยังเปนตัวของตัวเอง ขัดใจผมบาง ชอบทําให


ผมหึง บางทีก็ขึ้นเสียง หนาบึ้งใสผม แตทําไมผมถึงไดชอบที่นองดื้อกับผมก็ไมรู ผมไมเคยคิดมากอนวาตัวเองตอยต่ําเลยนะ ผมมี
พรอมทุกอยางไมวาจะฐานะ หนาตา ความสามารถหรือสติปญญา แตวินดี้กลับทําใหผมรูสึกวาตัวเองยังไมคูควรกับนอง ไมใชวา
นองรวยกวาผมนะครับ หากจะวัดกันจริงๆ แลว ผมคิดวาทรัพยสินที่เรามีอยูตองมากกวาวินดี้แนๆ แตทําไมผมยังรูสึกวายังไม
เพียงพอ ตองตะเกียกตะกายใหตัวเองเพียบพรอมมากกวานี้ก็ไมรู

วินดี้มัดใจผมดวยเรื่องบนเตียงหรือก็เปลา ตรงกันขามนองไรเดียงสายิ่งกวาอะไรทั้งนั้น แลวถาถามวาผมถูกใจที่ไดนองเปนคนแรก


ใชไหม มันก็ไมใชอีกนั่นแหละครับ อยางที่บอกวาผมผานอะไรมาเยอะ เจาะไขแดงใครมามากตอมาก ไมวาจะเปนหญิงหรือชาย แต
พอวินดี้ตกเปนของผม นองก็ทําใหผมแทบบา อยากเปนทาสรับใชนองไปตลอดชีวิต

เฮอ...นี่ใชครับที่เขาเรียกกันวารัก ที่ผมไมเคยไดรูจักและรูสึกกับใครมากอน ความรักที่ไมตองการเหตุผล และคําอธิบายใดๆ วาทําไม


ผมถึงไดเอาใจไปผูกติดกับคนๆ นี้จนมอบจิตวิญญาณและลมหายใจใหอีกฝาย

“ตกลงวันนี้พี่จะกินอะไร คิดไดยัง” รางบอบบางที่กมๆ เงยๆ อยูหนาตูเย็นทําใหผมอมยิ้ม

“หึ” เสียงของผมที่ดังแทรกเขามา พรอมกับใบหนานองที่หันมาทางผม

“นี่พี่ทําอะไร แอบถายภาพวินอีกแระ” นองตอวาพรอมกับสายหนาไปมา แตไมไดเขามาแยงโทรศัพทไปจากมือผม

“จะทําอะไรก็ทําไป แตอยาใหคลิปหลุดแลวกัน ไมงั้นเปนเรื่องแน” มีขูผมอีกดวย ตัวกระเปยกแคนี้เอง

“จริงหรือ งั้นคืนนี้พี่จะถายตอนที่เรารักกัน” นองหยุดชะงัก หันมามองผมเต็มตา สายตาจิกกัด ชี้หนาเปนเชิงบอกวาระวังตัวไวใหดีๆ

“เออ...ไมอนุญาต งั้นเปลี่ยนเปนฉากอาบน้ําแทนไดไหมอะ”

“ยังไมหยุดอีก แลวตกลงวันนี้จะกินไหมขาว วางโทรศัพทลง แลวมาชวยวินทําเดี๋ยวนี้เลย” นองเทาเอว ตีหนายักษใสผม

“คราบผม ตามบัญชาเลยที่รัก” ไมไดกลัวอะไรเลยนะครับ แตทําไมจอภาพถึงไดตัดไปหลังจากที่รับคํานองก็ไมรู

ผมนั่งหัวเราะอยูคนเดียว มองแมวนอยของผมผานคลิปวิดิโอที่ผมถายเก็บไวในโทรศัพท ภาพบรรยากาศเกาๆ ของสองเราทําใหผม


ยิ้มแกมแทบปริ บางคลิปวินดี้ก็ขูผมฟอๆ บางคลิปนองก็ทําหนาทะเลนใส หรือไมก็แสรงยิ้มหวาน สงจูบมาใหผมก็มี หรือบางทีก็
กระโจนเขามาทํารายยามผมยั่วนองใหเขินมากๆ…ไมวาจะภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว น้ําเสียง ใบหนา คําพูด รอยยิ้ม ทุกอยางที่เปน
วินดี้มักทําใหผมมีความสุขที่ไดมองเสมอ

“อากาศดีๆ ในเวลาเชา ไมวาจะรอนหรือจะเหน็บหนาวสักเทาไหร ถึงฝนจะตกไมสดใส แตก็สวยงาม...” เสียงเพลงที่ไอพี่ทองตั้งเปน


เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นจากโทรศัพทมือถือ ผมขยับตัวเพียงเล็กนอย ตายังหลับสนิท ปลอยใหทวงทํานองสดใสดังไปเรื่อย ๆ จนมัน
หยุดไปเอง

แตแลวหานาทีหลังจากนั้นมันก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง แตคราวนี้เปนเสียงเรียกสายที่ผมตั้งไวเฉพาะใครบางคน ผมเริ่มซุกหนาลงกับหมอน


ครางฮึมฮัมในลําคอ รูสึกรําคาญเล็กนอยที่ถูกกอกวนการหลับไหล แตมือกลับควานเปะปะเพื่อหาที่มาของเสียง

“อรุณสวัสดิ์ครับที่รัก ตื่นไดแลวนะ” น้ําเสียงอันคุนเคยที่ไดยินทําใหอารมณขุนเมื่อสักครูหายไป ผมยิ้มบางๆ วาดมือไปยังที่นอน


ขางๆ แตเมื่อพบกับความวางเปลาผมก็ขมวดคิ้ว เสียงของพี่ซึ่งปลุกผมทุกวันดังอยูใกล แลวตัวพี่ละอยูไหน

“เดี๋ยวสายไมรูดวยนะ ลุกเร็ว” เหมือนกับทุกวันที่พี่มากระซิบขางหู แตทําไมถึงหารางหนาไมเจอ อยากแนบหนากับอกอุนๆ อยางที่


ผมมักทําเปนประจํา
“อืม...” ผมครางฮึมฮัมในลําคอ เสียงหัวเราะแผวเบาแววมาใหไดยิน

“ถาพี่นับหนึ่งถึงสามแลววินดี้ยังไมลุก พี่จะอุมไปอาบน้ํานะครับ แลววินดี้รูใชไหมวานอกจากอาบน้ําแลวพี่จะคิดคาปลุกเปนอะไร”


ผมฟงคําพูดของพี่ทั้งๆ ที่ตายังหลับพริ้มอยู สมองคอยๆ ประมวลผลอยางเชื่องชาเพื่อแปลความหมายของประโยคยาวๆ นั่น

“...หนึ่ง....สอง...” น้ําเสียงนุมทุมที่นับจํานวนเลขทําใหผมกระพริบตาปริบๆ

“...สองครึ่ง...สะ...”

“ตื่นแลว วินตื่นแลว” กอนที่จะถึงเลขสาม ผมก็ตื่นเต็มตา สะดุงขึ้นจากที่นอน ลนลานนั่งพรอมกับเปลงเสียงบอกอีกฝาย

“หึหึ...ตื่นจริงหรือ” ผมพยักหนา ก็เลนมาขูกันแบบนี้ ถาไมตื่นผมก็คงไดหมดแรงแนๆ เลยเชานี้

“วินตื่นแลวครับ อรุณสวัสดิ์” ผมบอกขณะมองไปรอบๆ หองกอนจะนิ่วหนาเมื่อไมพบรางหนา

“ตื่นแลวก็มอนิ่งคิสพี่หนอยเร็ว” เสียงที่ดังอยูขางๆ หมอนทําใหผมเอียงคอมองที่มาของเสียง กอนจะรองออในใจ โห...รูอยางนี้ไมนา


รีบลุกขึ้นมาเลย

“เรื่องอะไรถาอยากใหคิสก็ตองมาปลุกดวยตัวเอง” ผมตอบผานโทรศัพทอยางกวนๆ หลังจากสมองตื่นตัวเต็มที่ เมื่อคืนกอนนอนไอพี่


ทองบอกใหผมเปดลําโพงโทรศัพทไวครับ พอพี่เขาโทรมาปลุกตอนเชาเลยไมตองถือมันมาแนบหู

“อะๆ อยาทานะครับ เชานี้ไมไดเตรียมตัว แตพรุงนี้ไมแน” ผมยิ้มบางๆ

“ถางั้นพรุงนี้เชาวินจะรอนะครับ แลวจะคิสทบตนทบดอกใหดวย” ผมยั่วผานสายดวยรูดีวาไอพี่ทองก็แคพูดไปอยางนั้นเอง

“วีดวิ้ว” แกผิวปากรับอยางชอบใจ ผมหัวเราะ

อืม...เชาแรกหลังจากหางกันแตเราทั้งสองก็ทําใหมันสดใสไดเหมือนทุกวัน...

ผมเดินเขาไปยังหองอาหารหลังจากอยูในชุดนักศึกษาเรียบรอยแลว เชานี้ทุกคนอยูพรอมหนากันยกเวน...ปริน...นาจะใชปรินแหละ
เพราะอีกคนซึ่งอยูรวมโตะอาหารใสชุดนักศึกษาเหมือนผม ก็ตองเปนตรินใชเปลา ชิส...สงสัยหมอนั่นยังไมตื่นแนๆ เมื่อคืนคําพูดของ
มันทําใหผมคิดมากแตดูตัวมันดันยังหลับอุตุเปนสุขอยูเลย
ผมทักทุกคนขณะนั่งลงที่เกาอี้ขางๆ ตริน จากนั้นปาก็แมบานตักขาวตมกุงมาให แตยังไมทันไดตักเขาปากก็ตองเอียงตัวเซไป
ดานขางเมื่อไหลถูกผลัก จากนั้นเกาอี้ขางๆ ผมก็ถูกลากออกแลวไอตัวกวนใหอารมณผมเสียแตเชานั่นมันก็นั่งลง ผมมองมันดวยหาง
ตาอยางไมพอใจ

“มองอะไรไอเปยก” ฟงคําพูดมันสิครับ หงุดหงิดมากมาย ยิ่งเห็นหนากวนๆ แลวคันฝาเทายิกๆ ผมทําเปนเมินหันมาสนใจขาวตมใน


ชามของตัวเอง มันหัวเราะหึหึในลําคอกอนจะกลาวทักทายกับทุกคน แลวปาแมบานก็เอาขาวตมมาใหมันเชนกัน สาธุ...ขอให
ขาวตมรอนๆ ลวกปากมันทีเถอะ...แตกลับก็ไมเปนอยางที่ผมหวังเพราะไอปรินตักขาวตมกินอยางเอร็ดอรอย ชางมัน สักวันฟาคง
เขาขางผม

เสียงโตตอบบนโตะอาหารดังขึ้นเปนระยะ ผมฟงบางไมฟงบาง ถามมาถาตอบไดก็ตอบไป พยายามไมกอความวุนวาย เกรงใจแม


กับตาที่กําลังคุยกับพอของตรินอยางออกรส แมวาไอตัวขนขางๆ นี่มันจะกวนตีนตลอดเวลาก็ตามเถอะ ตองใชคําวา “กวนตีน” จริงๆ
ครับ เพราะผมพูดอะไร มันขัดตลอด แลวถาพูดไมถูกใจมันเอาเทามาเตะขาผมใตโตะ หานี่ นึกวากูจะยอมมึงหรือไง มันเตะมาผมก็
เตะคืนครับ ก็ขางลางไมมีใครเห็น สงครามฝาเทายอมๆ ระหวางผมกับมันก็เลยเกิดขึ้น

จนสุดทายมันทนไมไหวมั้ง เลยวางชอนลงในชามอยางหัวเสีย มองหนาผมอยางหาเรื่อง ผมก็มองหนามัน ครูตอมามันก็ยิ้มมุมปาก


นัยนตาวิววับกอนจะเรียกตรินแลวทําเปนสงสัญญาณมือบางอยาง ผมหันไปมองตริน พอหันกลับมา สาด...กุงในชามผมหาย!

เวลากินขาวตมกุงผมจะชอบเหลือกุงไวกินสุดทายครับ ก็กุงเปนของโปรดผมนี่ แตดูไอเวรนี่สิ ผมตวัดสายตาไปมองไอปรินอยางไม


พอใจ มันยักไหล อาปากเปนเชิงบอกวากุงผมเต็มใจกระโดดเขาไปหามันเอง หานี่...เจ็บใจมากเลยครับ

“ปรินอยาแกลงนอง” รูสึกดีขึ้นมานิดที่มีคนเห็นวามันทําอะไรกับผม

ตรินปรามเบาๆ แตมันไมสํานึกเลยครับ ยักคิ้วใสผมอยางทาทาย เฮอะ...กูก็มีตีนมีมือเหมือนกัน คิดวากูจะยอมมึงหรือไง ผมทําทา


จะชิงเอากุงในถวยของมันมาแทนตัวที่มันกินของผม แตยังไมทันไดทําอะไรก็ตองอาปากเหวอ เมื่อกุงอีกตัวในชามผม ถูกลักพาตัว!

“ตริน!” ผมเรียกชื่อตรินดวยน้ําเสียงตกใจกึ่งไมพอใจ...ตกลงมึงสองคนรวมหัวกันแกลงกูใชไหม?

“ออ...มันอรอยอยางนี้นี่เอง มินาละ ปรินถึงแยงไปกิน” ผมไมยอมนะ ดูตรินสิครับ เขากินกุงผมหนาตาเฉย แถมยังบอกรสชาติที่ผม


ไมทันไดกินอีก ผมมองไอสองพี่นองที่นั่งขนาบขางซายขวาอยางโกรธเคือง ไอแฝดเวร! กูจะตัดพี่ตัดนองกับพวกมึง

“หึหึ” แตแทนที่พวกมันจะสะดุงสะเทือนกับนัยนตาวาวโรจนของผมกลับหัวเราะประสานเสียงกันซะงั้น ผมหนาบึ้ง หายใจฮึดฮัด วาง


ชอนลงอยางหัวเสีย แตแลวชั่ววินาทีตอมากุงตัวโตๆ สี่ตัวก็ถูกวางบนชามของผม สองตัวมาจากปริน อีกสองมาจากตริน ผมหันไป
มองพวกเขาอยางไมเขาใจ
“หนูจะโต หนูจะโต กินๆ เขาไปเถอะไอเปยก” รูใชไหมครับวาเสียงใคร มันไมวาเปลามาตบหัวผมอีกตางหาก

“เมื่อกี้หยอกเลนครับนองกุล” แลวตรินก็มาลูบหลังผม ดีจริงๆ แฝดผูนองตบหัว สวนแฝดผูพี่มาลูบหลัง นี่กูจะอยูรวมชายคากับพวก


มึงไดสักกี่วันกัน

ผมมองหนาสองพี่นองกอนจะมองไปรอบๆ ตัวดวยรูสึกถึงสายตาหลายคูที่จับจองมา ตา แม แลวก็พอของเด็กแฝดทั้งสองจองมาที่


ผมจริงๆ ครับ นัยนตาขบขันเหมือนกันเลย แถมหัวเราะพวกเราอีกดวย แคนั้นไมพอยังสายหนาอยางเอือมระอาแลวก็บอกวา

“เลนอะไรเปนเด็กๆ”

คลอยหลังพอเลี้ยงกับแมผมที่ออกไปทํางาน ผมก็ควาเปและตําราเรียนของตัวเองเดินไปหนาบานพรอมกับตรินครับ เนื่องจากวันนี้


ปรินมันจะใชรถเลยจะเอารถตรินไปใช ความจริงมันจะไปสงตรินแหละครับ สองพี่นองเขาคงตกลงกันแลวมั้ง แตไมรูวาไอปรินมัน
เกิดขี้เกียจอะไรขึ้นมา เลยใหตรินไปมหาวิทยาลัยพรอมกับผมกับพี่มิ้น

สวนเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหวางผมกับพี่มิ้น ผมเลาใหแมฟงตั้งแตเมื่อคืนแลวครับ สวนคนอื่นๆ เพิ่งจะมารูเรื่องเมื่อเชารวมทั้งตา


ดวย ตาตกใจบางเล็กนอย ทวาพอรูวาผมไมไดรับบาดเจ็บและตกลงกับคูกรณีเรียบรอยแลว ตาก็สบายใจขึ้น

ผมกับตรินกําลังจะเดินออกไปหาพี่มิ้นที่หนาบานครับ แตยังไมทันไดออกไปจากประตูบานเลย เสียงกรีดรองของไอปรินก็ดังขึ้น ผม


หันหลังกลับ เลิกคิ้วมองหนาตรินเปนเชิงถาม ตรินสายหนาดวยไมรูคําตอบเชนกัน พวกเราเลยเดินเขาไปดูดวยความสงสัย แลวผมก็
ตองตกใจกับภาพที่เห็น

“ไอหา...ไอสันดาน...ไปตายซะเถอะ...ไป...” มันดาไปพรอมกับยกเทาเหยียบบางสิ่งบนพื้นอยางขยะแขยง ไมเกรงใจเลยวาใครจะได


ยินคําหยาบจากปากของมัน

“เกิดอะไรขึ้น” ผมหันไปถามกิ่งซึ่งเปนสาวใช เธอทําทาเลิ่กลั่กมองปรินอยางตกใจ

“หนูก็ไมทราบคะคุณกุล ตอนที่หนูไปเปดประตูใหคุณๆ เมื่อสักครูก็มีคนฝากของมาใหคุณปริน แลวพอคุณปรินเปดดู ก็โวยวายลั่น


บาน…”

“มาเอาไปทิ้ง!” ยังไมทันที่เธอจะพูดจบ ปรินมันก็หันมาตวาด ชี้นิ้วสั่ง

“แลวคราวหนาคราวหลังอยารับของใครแลวเอามาฉันใหสุมสี่สุมหาอยางนี้อีก...จําไว!” มันตะคอกเสียงดังอยางคนโมโหราย กิ่งตัว


สั่นลนลานไปเก็บของบนพื้น ผมกับตรินมองหนากัน ไอปรินกระทืบเทาปงๆ เดินขึ้นบันไดไปอยางโกรธเคือง
“อะไรหรือกิ่ง เอามาดูสิ” ตรินเรียกกิ่งไวเมื่อตั้งสติได เขาคงจะสงสัยเหมือนผมนั่นแหละครับ วาอะไรที่ยั่วโมโหไอปริน

“กุญแจมือ...กับ...หูแมว!” ผมกับตรินอุทานออกมาพรอมกันเมื่อเห็นสิ่งในมือของกิ่ง

“watch out!” พรอมกับอานขอความบนโนตเสียงดัง

จากนั้นเราทั้งคูก็นิ่วหนา มองตามแผนหลังของปริน กอนจะหันมามองกันดวยเครื่องหมายคําถามที่แปะบนหนาผาก

ระวังอะไร?

แลวทําไมสิ่งเหลานี้ถึงทําใหไอปรินเตนเราๆ สั่นเปนเจาเขาไดแบบนั้น?

คลิปหลุด

ปรกติวันเสารวินดี้จะกลับบานครับ ความจริงนองขอคางกับตา แตผมไมยอม เลยเจอกันครึ่งทาง ตอนกลางวันเราทั้งสองตางฟรี


อยากทําอะไรก็ทําครับแตวาตองกลับมาคางที่หอง เสารนี้วินดี้เลยไปคลุกอยูกับตาเชนเคย เย็นๆ โนนแหละครับนองถึงจะกลับมา

สวนผมก็ไปฟตเน็ตครับ แลววันนี้ก็เจอไอพวกเพื่อนเวรทั้งหาดวย เนื่องจากพวกมันรูแลวครับวาผมยายมาอยูกับวินดี้ เลยถามวา


เมื่อไหรจะพานองมาเปดตัวซะที ผมก็บอกวานองยังไมพรอม แตความจริงคือผมหวงครับ เรื่องอะไรผมจะพานองมาใหพวกมันรูจัก
ละ ทําแบบนั้นก็เหมือนเอาเนื้อมาลอเสือดีๆ นี่เอง ถึงแมพวกมันจะรูวาผมจริงจังกับนอง คนนี้แตะตองไมได แตยังไงพวกมันก็ตอง
มองวินดี้ของผม นองตองถูกแทะโลมทางสายตา เปนเรื่องที่นาคินทรยอมไมไดครับ

ผมกินขาวเที่ยงกับเพื่อน แลวพอบายแกๆ ก็แยกกัน ผมกลับหอง เวลาวินดี้ไมอยูมันดูเหงาๆ ผมเลยเอางานที่คางมาทํา ความจริง


พอตองจายคาโอเวอรไทมใหผมนะเนี่ย เพราะมันเปนวันเสารแตผมก็ขะมักเขมน เปนพนักงานที่ดีมากเลยครับ อานเอกสารไปไดสัก
ชั่วโมงก็พักสายตาครับ ไมรูวาหลับไปนานเทาไหร แตมารูสึกตัวอีกทีก็กลั้นหายใจ หัวใจกระตุกเล็กนอยกอนจะเตนรัวเร็วพรอมกับ
เลือดที่วิ่งพลานไปทั่วรางอยางตื่นเตน

ทําไมนะหรือครับ นั่นก็เพราะวา หลังจากที่ลืมตาขึ้นมา สิ่งแรกที่มองเห็นและอยูตรงหนาผมก็คือกนงอนงามสุดเซ็กซี่นะสิครับ รูปราง


แบบนี้ เซฟแบบนี้จะเปนกนใครไมไดหรอกครับนอกจากวินดี้ของผม โอ...สวยและยั่วยวน เหมาะมือผมจริงๆ แถมมันใกลจนแทบจะ
แนบหนาผมอยูแลว

อา...ใหตายเถอะ ตั้งแตคืนที่วินดี้เปนของผม ผมก็ไมมีโอกาสไดแอมนองอีกเลยครับ สิ่งนี้ละมั้งที่ทําใหผมเก็บกด เก็บเอาเรื่องนองมา


ฝนเปนตุเปนตะ แลววันนี้เปนวันอะไรนอ นองถึงมาสายกนยั่วผม แลวนี่จะยั่วกันไปถึงไหนครับที่รัก สายไปสายมาจะชนจมูกพี่อยู
แลวนะครับ
“อึบ...อึบ...” โอย เลือดกําเดาจะไหล...ที่รัก จะทําใหพี่เปนบาไปเลยหรือไง

นองสงเสียงยั่วผมดวยละครับ อึบ อึบ...พี่ก็อยากจะอึบวินดี้ใจจะขาดเหมือนกันครับ แตจะวาไปทําไมฝนวันนี้มันชางเหมือนจริงจัง


เลย อยากทําตามใจปรารถนาเหลือเกินครับ ในฝนผมก็คงทําไดใชไหม วาแลวก็อยาใหเสียเวลา ควาหมับ แลวบีบคลึงไปทั่ว อา...
เนื้อแนนๆ เหมาะมือเหลือเกิน

“เฮย...โปก...โอย...” เสียงที่ดังแทรกขึ้นมาทําใหผมสะดุง เริ่มชักไมแนใจแลวสิวากนสวยที่ผมเคนคลึงลูบไลอยูนี่เปนวินดี้ในหวงฝน


ผมรีบลุกจากโซฟา มานั่งคุกเขาอยูที่พื้น โดยที่วินดี้หัวมุดเขาไปใตโตะกาแฟซึ่งเอกสารของผมวางระเกะระกะอยู

“เออ...วินดี.้ ..เปนอะไรหรือเปลาครับ”

“เฮอ..” นองไมตอบแตถอนหายใจ กอนจะถอยตัวออกมา

“ไดแระ” นองบอกพรอมกับโชวบางสิ่งในมือใหผมดู ผมมองมันอยางไมเขาใจนัก

“วินเห็นพี่หลับ แลวเอกสารหลนเต็มพื้น วินเลยวาจะเก็บให แตพอดีคลิปหนีบกระดาษมันไปหลนอยูใตโตะ” เมื่อไดฟงอยางนั้นผม


รองออในใจ นัยนตาวาววับ อุยๆ ตองขอบใจเจาคลิปนี่ใชไหม กนงอนงามมาสายตรงหนาผม แถมผมยังไดบีบคลึงดวย วีดวิ้ว...

“วาแตเมื่อกี้พี่ทําอะไรวิน” จากนัยนตาวิ้งๆ เคลิ้มฝนของผมกลายเปนตาลีตาเหลือกลุกลี้ลุกลนทันที ตายแนผม วินดี้ถามน้ําเสียงเย็บ


เฉียบ มองผมดวยนัยนตานิ่งๆ แตเสียวสันหลังวาบ

“เออ...วินดี้ กลับมานานหรือยังเอย ขางนอกรถติดแลวก็รอนดวยเดี๋ยวพี่เอาน้ํามาใหนะครับ” ไมอยูแลวละครับ ในเมื่อผิดสัญญาไป


ลวนลามนองอยางนั้น ไปใหไวเพราะสายลมของผมทําทาจะเปลี่ยนเปนทอนนาโด

“จะไปไหน?”

“โอย...ที่รัก...” ยังไมไดขยับเลยครับ แตผมตองสะดุงสุดตัว ไมรูวาจะเรียกคลิปหนีบกระดาษมันหลุดครั้งนี้มันนําโชคดีมาให หรือนํา


ความซวยมาเสนอ แตที่แนๆ ตอนนี้ผมเนื้อเขียวไปแลวเรียบรอยครับ...หื่นไมวาจะหลับหรือตื่น แยๆ ไมนามือไวเลยกู

“กูดมอนิ่ง มาย เลิฟลี่ แดดดี้” ผมสงเสียงทักทายพอเมื่อเขาไปยังหองอาหาร พอลดหนังสือพิมพที่อานลง มุนคิ้วมองผม นัยนตา


เคลือบแคลงสงสัย

“กูดมอนิ่ง มาย ซัน” แตพอก็ยังไวลาย ตอบกลับมาดวยสําเนียงฝรั่งจา ชัดแจว


“ว็อท ดู วี แฮพ ทู เดย แดด?” ผมถามขณะมองอาหารเชาที่วางอยูตรงหนาพอ

พอละมือจากหนังสือพิมพ จองผมเขม็ง “แกละเมออยูหรือเปลาวะคิน” ถามดวยน้ําเสียงไมแนใจพรอมกับเอื้อมมือมาแตะหนาผาก


ผม

“ตัวก็ไมรอนนี่หวา”

ผมยักคิ้วใหพอกอนจะตอบแบบกวนๆ ไปวา “ตัวจะรอนไดไงพอในเมื่อผมเปนไขรัก มันตองมาจับตรงหัวใจนี่” พอชะงักไปครู ทําหนา


ผะอืดผะอม

“ออ...เหรอ” ตอบเสียงยานคางกอนจะยิ้มมุมปาก นัยนตาวาววับ

“แตฉันวาจับอยางเดียวไมพอหรอก มันตองควักออกมาดูดวย ไหนเอามาดูหนอยสิ คนเปนไขรักอยางแกมันทําใหใจมันรอนรนขนาด


ไหน” วาพลางพอก็ใชปลายมีดที่แกใชหั่นไสกรอกมาจิ้มที่หนาอกผม ผมสะดุง ยิ้มแหงๆ

“โหยพอ...ไมเห็นตองจริงจังขนาดนี้เลย แคลอเลนนิดเดียวเอง ไมเอาพอวางมีดลงเดี๋ยววินดี้เปนมายนะพอนะ” ถึงมีดจะไมคม ปลาย


ไมแหลม แตเชื่อเลยครับฝมือพอผมหากแกเอาจริงขึ้นมาตองไดแผลแนๆ ผมออนพอเสียงออนพรอมกับคอยๆ จับขอมือพอใหหัน
ปลายมีดไปทางอื่น ในใจก็โอดครวญ...เวรกรรมจริงๆ ไมนาไปกระตุกหนวดสิงหเลยกู

“ตกลงวาไขใจแกหายแลว”

“อะนะ” ผมเลี่ยงตอบหันไปรับอาหารเชาที่ปาแมบานเอามาเสิรฟ

“เมื่อวานเศราเปนหมาหงอย แตทําไมเชานี้ถึงไดดี๊ดานักละ”

“หึหึ ก็คนมันอารมณดีนี่พอ” ผมหัวเราะในลําคอพรอมกับหยิบขนมปงมาทาเนย

“แลวอะไรที่ทําใหแกอารมณดีแตเชาละ” พอยกกาแฟขึ้นจิบ มองผมดวยสายตาทําถาม ผมผิวปากอยางถูกใจเมื่อนึกถึงคําตอบ

อะไรที่ทําใหผมอารมณดีนะหรือครับ หลายอยางมากเลยครับเชานี้ แตที่ชัดๆ นี่เห็นเปนเรื่องวินดี้ คุณๆ จะเชื่อไหมหากผมจะบอกวา


เมื่อเชาตอนที่ผมขอจุบนองเพื่อเปนคาโทรไปปลุกนะ นองไมยอมสงจูบมาใหผมทางโทรศัพทแตกลับทาผมกลับมา นองบอกวาถา
อยากจูบตองมาปลุกดวยตัวเองและนองจะจูบผมทบตนทบดอกใหดวยละครับ

เหอๆ เปนไงครับที่รักผม นองชางกลาใชไหม แกนแกวมากเลยครับ แตเมื่อนองทามามีหรือนาคินทรจะยอมพลาดโอกาส แตกอนจะ


ถึงเชาพรุงนี้ ผมตองทําโทษนองที่มายั่วผม แลวพอนึกถึงบทลงโทษในเย็นนี้แลวผมก็เนื้อเตนขึ้นมาทันทีเลยละครับ...อืม...ยัมมี.่ ..
อรอยเหาะ...อยากใหถึงค่ํานี้เร็วๆ จัง

“เรื่องนี้บอกพอไมไดหรอก มันเปนความลับของผมกับวินดี้” ผมทําหนาเคลิ้มฝนตอบพอกลับไปกอนจะกัดขนมปงในมือ

“เห็นหนาแกแลวก็รูคําตอบ...ไอหื่นเอย” พอสายหนา

“อะไร ใครหื่น” ทําหนาไมรูไมชี้

“อยากรูจริงๆ วาจะไปไดสักกี่น้ํา อยาลืมก็แลวกันวาเอ็มเจเขากันลูกกุลออกหางจากแก แกก็อยาเวอรใหมันมากนัก เดี๋ยวจะเสีย


เรื่อง”

“เรื่องนั้นไมตองหวง ผมรูวาตองทําตัวอยางไร” ผมเขาใจครับวาชวงนี้ตองหางนองแตถึงจะหางกัน เราทั้งสองก็ไปถึงสวรรคได โอมาย


วินดี.้ ..คืนนี้แหละนองเสร็จพี่แนๆ

“เมื่อคืนตํารวจบุกจับกลุมวัยรุนที่มั่วยากัน ดูเหมือนวาจะมีลูกปลาใหญติดรางแหมาดวย” พอกลาวขึ้นมาขณะที่เรานั่งรถไปทํางาน


ดวยกัน

“อยางนั้นหรือ” ผมทวนถามดวยน้ําเสียงปรกติ

“ฝมือแกใชไหม” ผมยักไหล

“เปลา” มุมปากพอกระตุกนิดหนอยเมื่อผมตอบเชนนั้น

“ออ...ลืมไป แกไมไดทําเอง แลวแกใชใครไปทํา” รันซึ่งกําลังขับรถอยูสบตากับผมแวบหนึ่งผานกระจกสองหลัง ขณะที่คีตานั่งตัวตรง


คูกับรันอยูขางหนา

“ตกลงพอมีกี่ตาเนี่ย ทําไมถึงไดรูไปหมดทุกเรื่องเลย” ผมสายหนา จะมีสักเรื่องไหมที่รอดหูรอดตาพอผมได

“ถาไมรู ฉันเปนพอแกไดอยางไร” นั่นสินะ ผมลืมไปไดอยางไร เหนือฟายังมีฟา เหนือพญานาคราชยังมีครุฑนอยวินดี้ ออไมใช พญา


ราชสีหตางหากละ นาสงสารใชไหมครับ ชีวิตงูเขียวนอยๆ ของผม ชีพนี้ตองตกอยูใตอาณัติของพอทูนหัว เอย พอบังเกิดเกลาของ
ตัวเอง

“นิดหนอยนะพอ ในเมื่อเด็กมันไมรักดี ก็ตองบอกใหพอแมมันรู”

“ใหรูเรื่องที่โรงพักวางั้นเถอะ”

“พวกมันอยากดังอยูแลวนี่ คราวนี้ก็ไดขึ้นหนาหนึ่งสมใจ”

“แกนี่มันรายจริงๆ”

“รายเหมือนพอนั่นแหละ”

พอพูดถูกครับ ผมนะมันผูราย ไมใชพระเอกที่จะปลอยใหศัตรูมาขมเหงคนรักของตัวเองไดฝายเดียวหรอกครับ ในเมื่อชินกฤษมันเลน


งานจุดออนของผม ผมก็เลนงานจุดออนของมัน ลูกชายคนเล็กของตระกูล เด็กวัยรุนที่กําลังหลงระเริง นี่ยังถือวาผมปรานีนะที่ให
ตํารวจบุกเขาไปตอนที่เจาหนูนั่นยังไมทันไดเสพยา ไมอยางนั้นเรื่องมันคงไมจบงายๆ แคนี้หรอก แตบทเรียนนี้ก็สอนใหพวกมันรูไว
เชนกันวา อยาไดริอาจมาแตะตองคนรักของผม หากทําใหวนิ ดี้ของผมเจ็บอีก ลูกหัวแกวลูกแหวนของพวกมันก็จะเจ็บไมตางกัน

ผมกับตรินไมมีเวลาไดสงสัยเรื่องกุญแจมือกับหูแมวมากนักเพราะวาเราทั้งคูตางรีบไปเรียน ถึงกระนั้นตรินก็เลือกที่จะเก็บของสอง
สิ่งนั้นไวถามปรินในเย็นนี้เมื่อเรากลับมาถึงบาน

“พี่มิ้นครับ นี่ตริน พี่ชายกุล เชานี้ตรินจะไปกับเราดวยนะครับ” ผมแนะนําตรินใหพี่มิ้นรูจักเมื่อเราเดินไปหนาบานและพี่มิ้นยืนรออยู


ขางรถ

“ดีครับนองตริน” พี่มิ้นยิ้มบางๆ ขณะพูด

“ดีเชนกันครับพี่มิ้น” ตรินตอบเบาๆ พี่มิ้นยิ้มกวางมากขึ้น

ตอนแรกผมก็ไมรูวาพี่เขากําลังคิดอะไรอยู เห็นแตนัยนตาวาววับชอบกล ทวาผมก็สงสัยไดไมนานหรอกครับ เพราะพี่มิ้นเฉลยใหรูวา


ที่นัยนตาวิบวับๆ เมื่อสักครูนั้นเกิดจากเหตุผลอะไร

“อืม...ชักอยากรูแลวสิ นองกุลมีแตพี่ชายหรือครับ ไมมีพี่สาวหรือนองสาวบางหรือ”

“ไมมีอะ ทําไมพี่มิ้นจะจีบหรือ” พี่มิ้นสําลักลมหายใจเมื่อผมถามออกไปตามตรง แกมขึ้นสีระเรื่อ

“เปลาพี่แคอยากรู เห็นบานนี้ลูกชายหนาตาดีกันทั้งบาน ถามีลูกสาวบางหนาตาจะเปนยังไง” ผมกลั้นยิ้มใหกับอาการรุกรี้รุกรนราว


กับถูกจับไดของพี่มิ้น

ผมนึกอยูแลวเชียว ถึงยังไงพี่มิ้นก็ยังเปนพี่มิ้นวันยังค่ํานั่นแหละครับ ถึงแมการแตงกายจะแตกตางไปบาง กิริยาทาทางที่เปลี่ยนไป


หรือแมกระทั่งคําพูดในบางประโยค แตกลิ่นอายของพี่มิ้นที่ผมรูจักก็ยังอบอวลอยูรอบๆ ตัว นึกขึ้นมาแลวก็อยากรูวาพีเ่ ขาคิดยังไงถึง
ไดเปลี่ยนแปลงตัวเองซะขนาดนี้ แลววันนี้พี่เขาไมไปทํางานหรืออยางไร ถึงไดแตงตัวครบชุด หลอตั้งแตหัวจรดเทาเหมือนเมื่อวาน

“พี่มิ้นอยูใกลไอพี่ทองมากไปปะ เจานายกับลูกนองนี่พอๆ กันเลย เก็บงูบนหัวดวย” พอจับจุดไดก็อดเยาพี่แกไมไดครับ คนอะไร นิดๆ


หนอยก็แกมแดง อยางนี้มันนาแกลงจริงๆ

“นองกุลก็วาไป พี่ก็แคถามดูเฉยๆ เพิ่งเจอกับนองตรินครั้งแรก เดี๋ยวภาพลักษณพี่เสียหมด” พี่มิ้นตอบพรอมกับชวนเราขึ้นรถ ผม


เลือกที่จะนั่งหนาคูกับพี่มิ้นครับ สวนตรินนั่งหลัง

“เกี่ยวอะไร ตรินเปนผูชาย เขาไมสนหรอกวาพี่จะเจาชูหรือเปลา” ผมคาดเข็มขัดนิรภัยขณะตอบ พี่มิ้นชะงักมือที่กําลังจะสตารท


เครื่องยนต

“อาว ทําไมตีความไปอยางนั้นละครับ พี่ก็แคอยากเปนคนดีในสายตานองนุง” พี่เขาวากอนจะเคลื่อนรถออกไป ผมยักไหล

“ใครจะไปรูละ ถึงเปนพี่มิ้นก็ไวใจไมได” พี่มิ้นมองผมตาโตกอนจะหัวเราะเบาๆ

“นองกุลก็คิดมากไป ทํายังกับพอหวงลูกสาว พี่ไมแตะพี่ชายนองกุลหรอกครับ เชื่อใจได” พี่มิ้นพูดยิ้มๆ พรอมกับสายหนา ผมมองพี่มิ้


นอยางชั่งใจกอนจะหันหลังไปมองตริน รายนั้นก็อมยิม้ ขําผมเหมือนกัน แปว...นี่กลายเปนวาผมคิดมาก หวงตรินอยูคนเดียวซะงั้น

เลิกเรียนแลวพี่มิ้นบอกวาจะมารับผมกับตรินครับ ตอนแรกตรินปฏิเสธบอกวาจะกลับเอง แตถูกผมคะยั้นคะยอเนื่องจากตองกลับ


บานหลังเดียวกันอยูแลวก็กลับพรอมกันเลย ตรินก็เลยยอมตกลงครับ ระหวางทางตรินเลาใหฟงวาความจริงวันนี้ปรินจะตองมาสง
เขาและมารับกลับ แตดูเหมือนลูกคามันจะเปลี่ยนสถานที่คุยงาน ปรินก็เลยตองเลื่อนเวลานัดทําใหมารับมาสงตรินตามที่ตกลงกัน
ไมได

สงสัยหรือครับวาปรินมีลูกคาอะไร ไมอยากจะชมมันเลย แตเมื่อเลาแลวก็ตองเลาใหจบ ปรินมันเรียนจบแลวครับ เกงดวยเรียนสาม


ปครึ่งก็จบ และตอนนี้ก็มีงานทําแลวดวย แทบไมนาเชื่อใชไหมครับวาคนอยางมันจะทํางานทําการกับเขาดวยเหมือนกัน

ปรินเปนการเดนเนอรครับ ไมอยากบอกอีกนั่นแหละวามันไฟแรงและมีชื่อเสียงมากเลยทีเดียว ผมไดยินแลวก็นึกภาพไมออกเลย


ครับ ตุกตากระเบื้องเคลือบอยางปรินนี่นะจะขลุกอยูกับสวน ขุดดิน รดน้ําตนไม หนาอยางปรินมันเหมาะกับการเดินเฉิดฉาย ทําตัว
เปนคุณชาย ชี้นิ้วสั่งคนโนนคนนี้มากกวา แตก็อยางวานั่นแหละครับ คนเรามันดูกันแตเพียงภายนอกไมไดจริงๆ ขนาดตรินเองยัง
เรียนวิศวะแทนที่จะเรียนหมอเลย คิดมาคิดไป ผมวาพอๆ กันเลยครับพี่นองฝาแฝดคูนี้ แปลก และก็ซอนบางสิ่งที่เราไมรูไวในตัว

ตรินยังเลาตออีกวาความจริงแลวปรินมันมาไทยไดสามเดือนกวาแลว เนื่องจากเศรษฐีอเมริกันรายหนึ่งจางมันมาแตงสวนที่บานพัก
ตากอากาศทางเหนือให ปรินรับงานและก็มาไทย ตอนนี้งานทางโนนของมันเรียบรอยแลว และเปนเวลาพอเหมาะที่จะเปดเผยตัวตน
ของมันกับครอบครัวผมซะที ปรินก็เลยมาอยูกับเราครับ ตอนนี้เห็นวารับงานใหมอีกแลว สิ่งนี้คงทําใหปรินยุงพอสมควร แตก็ดีแลว
ครับ มันจะไดไมมาวุนวายกับผม

“ไอหมอนั่นมันเปนใคร”

“ตรินอยูกับใครนะ” เสียงของเมธกับลูกแพรดังขึ้นพรอมกันเมื่อเห็นพี่มิ้นกับตรินนั่งอยูใตซุมหนาคณะ ทั้งสองคงรอผมเรียนเสร็จ


อยางที่เรานัดหมายกันในตอนเชา ผมมองไปยังคนทั้งคู หากวาผมไมรจู ักพี่มิ้นมากอน ผมก็คงถามคําถามเดียวกันกับเมธและลูก
แพรแนๆ

ทําไมนะหรือครับ นั่นก็เพราะวาภาพที่เห็นอยูตรงหนา มันสื่อใหผมคิดไปไกลสุดกู พี่มิ้นกับตรินนั่งหันขางใหกับพวกผม กิริยาของ


คนทั้งคูคลายๆ กําลังหยอกลอกัน พี่มิ้นชี้นิ้วไปที่หัวของตริน ตรินเอียงหนาเปนเชิงถามอยางสงสัยกอนจะใชมือลูบศีรษะ ทวาพี่มิ้นก
ลับสายหนา ใชปลายนิ้วชี้ที่หัวตัวเองเปนเชิงบอกตําแหนง ตรินก็ปดผมตัวเองอีกครั้ง แตแลวพี่มิ้นก็หัวเราะ จากนั้นก็พูดอะไรสัก
อยางกอนจะเอื้อมมือไปหยิบบางสิ่งออกจากผมของตริน ตรินยิ้มกอนจะชะโงกหนาไปมองมือพี่มิ้น ใบหนาของคนทั้งสองแทบจะ
แนบชิดกัน

ขนาดผมรูวาพี่มิ้นเปนใครยังรูสึกสะดุดใจแลวเมธละ เมื่อความคิดนี้แลนเขามาในหัว ผมก็หันควับไปมองเมธทันที มันบดกรามแนน


จองคนทั้งคูเขม็ง

“มึงรูไหมตรินอยูกับใคร!” เมธถามเสียงรอดไรฟนโดยไมยอมถอนสายตาจากคนทั้งคู

“พี่มิ้น” ผมรีบตอบเมื่อเมธทําทาจะกาวเขาไปหาตริน เมธหยุดชะงัก หันมามองผม

“พี่เขากําลังตามจีบตรินอยู” ผมขยายความเมื่อสบสายตาคําถามของเมธ
“วาไงนะ!” ทั้งเมธและลูกแพรทวนถามผมเสียงสูง ใบหนาของลูกแพรดูตกใจกึ่งประหลาดใจ แตใบหนาของเมธกลับซีดเผือดกอนจะ
แดงก่ํา

“แลวกุลรูจักผูชายคนนั้นไดอยางไร ทําไมลูกแพรไมเห็นรูเรื่องนี้เลย” ” ลูกแพรจะรูไดอยางไรละครับในเมื่อกุลเพิ่งจะกุเรื่องขึ้นมาสด


รอนๆ เมื่อสักครูนี้เอง

ผมยิ้มจืดๆ ใหกับลูกแพร “กุลขับรถชนทายรถพี่มิ้นนะ แตวาพี่มิ้นเปนคนผิด ตอนนี้รถกุลเขาอูอยู พี่เขาเลยอาสามารับมาสง แลวพอ


เห็นตรินก็ถูกใจ เลยประกาศออกมาเลยวาจะจีบตริน” กุลขอโทษนะครับพี่มิ้นที่ดึงพี่มาวุนวายดวย แตพอเห็นสายตาเมธที่มองตริน
แลว กุลคงปลอยไวอยางนี้ไมได เห็นทีพี่ตองมาเปนผูชวยกุล ลากทอนซุงออกจากตาเมธแลวละครับ

“อาว แบบนี้เมธก็มีคูแขงนะสิ...อุบ...” พอพูดจบลูกแพรก็รีบใชมือปดปากตัวเองทันที เมื่อเมธสงสายตาดุๆ ไปให

“เออ...ลูกแพรลืมไปวาเมธกับตรินเลิกกันแลว” เธอตอบเสียงออย เดินตัวลีบมาเกาะแขนผม

“วาแตลูกแพรอยากรูจักวาที่แฟนใหมตรินไหมละ เดี๋ยวกุลแนะนําใหรูจัก” ผมเดินหนาตอ

“อยากสิ อยาก” เธอผงกศีรษะอยางรวดเร็ว

“แลวมึงละ” ผมหันไปถามเมธดวยน้ําเสียงไมยี่หระ เมธไมตอบแตกาวดุมๆ นําหนาพวกเราไป

“พี่มิ้น ตริน” ผมสงเสียงทักคนทั้งคูเมื่อเราเดินไปถึง พี่มิ้นเงยหนาขึ้นมากอนจะชงักอยูชั่วครู ผมมองตามสายตาของพี่เขา อืม...ไม


แนใจวาพี่มิ้นมองใครระหวางลูกแพรกับเมธ แตที่แนๆ สายตาของเมธมันรอนแรงจนผมเองยังขนลุก

เออ...ผมซักเริ่มไมแนใจแลวสิวาทําถูกหรือเปลา กุลขอโทษนะครับพี่มิ้นที่ดึงพี่มาเกี่ยวโดยไมไดบอกพี่กอน...ขอโทษคราบบบบ

“ผมขอโทษเรื่องเมื่อเชาดวยนะครับ”

“เรื่องไหนละ” ผมถามโดยที่ไมไดมองหนาคนพูด สายตาจับจองอยูที่ตัวหนังสือในเอกสาร กอนจะเซ็นชื่อลงไป

“เรื่องที่พอรูวาฉันทําอะไรกับชินกฤษนะหรือ” ผมเอยขึ้นเมื่ออีกฝายเงียบ

“เปลาครับ” ผมเลิกคิ้ว รันหลบตาตอบเสียงเบา อาการนั้นทําใหผมซอนยิ้มบนใบหนา

“แลวเรื่องไหนละ” ผมเอื้อมมือไปหยิบแฟมใหมมาเปด กมหนาอาน แสรงถามอยางไมสนใจ ทั้งๆ ที่พอจะรูคําตอบอยูแลว


“เรื่องของปรินนะครับ”

“ออ...ฉันกําลังคิดวาจะใหคีตาจัดการใหเด็ดขาด”

“ไมตองก็ไดครับ ผมรับรองวาจะไมใหเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก” รันตอบกลับอยางรวดเร็ว ผมเงยหนามองเขาดวยสายตานิ่งๆ รันกม


หนา ไมยอมสบตากับผม

“รูจกั กันมากอนหรือ” ถามดวยน้ําเสียงเรียบเฉย

“ครับ...เมื่อสองเดือนที่แลว” เขายอมรับเสียงแผว

“มินาถึงออกโรงปกปอง” ผมสรุปพรอมกับเอนหลังพิงพนักเกาอี้

“ผมเปลา...” รันหยุดพูดกอนจะเมมเรียวปากเมื่อผมมองดวยสายตารูทัน

“แลวที่เขามาคุยกันฉันนี่ตองการอะไร” ถึงกระนั้นผมก็ยังจี้ถามเขา รันเงยหนาขึ้น เรียบเรียงคําพูดอยูชั่วครูกอนเขาจะเอยออกมา

“ผมอยากใหเรื่องนี้เปนเรื่องสวนตัวไมเกี่ยวกับงาน” ผมยิ้มมุมปากอยางถูกใจ

“งั้นก็ดูแลคนของนายใหมันดีๆ หนอยก็แลวกัน”

“ขอบคุณครับนายนอย”

อยางนี้สิถึงจะสมเปนลูกนองผมหนอย ผมชอบคนที่ซื่อสัตยกับหัวใจตัวเองครับ เพราะฉะนั้นในเมื่อรันกลาขอผมก็กลาให ผมมอง


ตาแผนหลังกวางของรันที่เดินหางไป พอไปถึงประตูหองเขาก็หันกลับมา ยืดตัวตรงกอนจะคอมหัวเคารพ เปดประตูแลวเดินออกไป

“รัน” เปนทั้งบอดี้การดและผูชวยสวนตัวของผม เขาเปนลูกบุญธรรมของคเชนทรซึ่งเปนการดและผูชวยสวนตัวของพอ ฝมือของเขา


เกงไมแพคเชนทรเลยทีเดียว ทาทางนิ่งขรึมของเขาทําใหไมคอยมีใครกลาเขาใกล รันตัวสูงพอๆ กับผม แตเขาบึกบึนอยางคนเลน
กลาม ผิวสีแทน คิ้วหนา นัยนตาสีดําคมกริบทําใหเขาดูเหมือนคนดุ ยิ่งรอยแผลเปนตรงหางคิ้วยิ่งเสริมใบหนาเขาใหเขมขึ้น

ปรกติรันจะทําหนาตายตลอดเวลา แตหลังจากที่ผมใหเขาไปจัดการเรื่องของปริน รันก็ดูแปลกไป ผมสงสัยเรื่องของรันกับปรินตั้งแต


ครั้งที่เห็นรอยขวนบนใบหนาของเขา จําไดวาวันนั้นผมวานใหรันไปสงปริน ซึ่งปรินตองนั่งที่เบาะหลัง แลวมันจะเปนไปไดอยางไรที่
ปรินจะเขาไปทํารายรัน

หากคิดวารันไปพูดจากวนโมโหจนปรินกระโจนเขามาขวนหนานะหรือ เรื่องนี้ตัดออกไปเลยเพราะปรกติรันเปนคนเงียบ ถามคําตอบ


คําอยูแลว นอกเสียจากวาทั้งคูจะรูจักกันมากอน จากนั้นก็ทบทวนความจํากันจนปรินมันโกรธแลวรันก็ปลอยใหมันระบายอารมณ

ผมคิดวามันเปนความตองการของรันเองที่ไมปกปองตนเอง หากเขาจะทําอะไรปรินแลวละก็ แคฟาดหลังมือไปบนใบหนา รายนั้นก็


สลบไปแลวเรียบรอย แตจากที่ดูๆ มา รวมถึงเหตุการณในเมื่อเชานี้ ทําใหผมมั่นใจวาปรินตองมีอิทธิพลตอจิตใจของรันไมใชนอย

ยอนกลับไปยังเหตุกาณซึ่งเกินขึ้นเมื่อเชา หลังจากที่ผมลงจากยนตและเดินเขาบริษัทไดเพียงไมกี่กาว ผมก็ตองทําหนาเบื่อหนาย


เมื่อเจอคนที่มารอผมอยูที่นั่น พอซึ่งมาพรอมกับผมทําหนาเฉยชา ปรายสายตามองแขกไมไดรับเชิญของผมเพียงเล็กนอยกอนจะ
แยกเดินไปอีกทาง

“เอะ ไอบานี่บอกใหปลอยไงเลา” คนที่ผมไมอยากเห็นหนาขูฟอ เมื่อคีตากันไมใหเขาใกลผม

“พี่คิน ปรินขอเวลาแคหานาทีก็ไมไดหรือครับ ปรินมีเรื่องสําคัญจะคุยกับพี่จริงๆ นะ” น้ําเสียงออนวอนพรอมกับสายตาเวาวอนสงมา


ใหไมทําใหผมรูสึกสงสารแมแตนอย ตรงกันขามกลับรูสึกเบื่อหนาย ผมกรอกตา ทําไมปรินถึงไดกลายเปนคนแบบนี้ไปได

“จะคุยอะไรก็คุยกับผูชวยพี่แลวกัน เดี๋ยวเขาจะรายงานพี่เอง” ผมบอกเมื่อหางตาแลเห็นรันซึ่งเดินเขามาใกล เขาเพิ่งเอารถไปเก็บมา


ครับ เลยมาชาหนอย

“ไมนะ!” ปรินตะโกนเสียงดังเมื่อมองตามสายตาของผม

“อยามาเขาใกลกูนะ” มันถอยกรูด ยกมือขึ้นชี้หนารัน นัยนตาวาวโรจน ผมถอนหายใจ เสียงมันเบาซะที่ไหนกันละ แลวนี่ก็เปนเวลา


เขางาน พนักก็เดินกันขวักไขว ไมเคยมีใครกลามาอาละวาดผมที่บริษัทมากอน หรือแมแตจะมาหาก็ไมมี เพราะที่ผานมาผมไมเคย
ใหสิทธิ์คูควงมาวุนวายกับผมในที่ทํางาน ผมมองไปยังลิฟตผูบริหาร พอยืนอยูที่นั่น มองมาทางผม คงจะรอดูวาผมจะจัดการกับเรื่อง
นี้อยางไร

รันกลาวขอโทษผมกอนจะมองไปทางพออยางเกรงใจ จากนั้นก็หันมาทางปริน “บอกแลวใชไหมวาใหทําตัวดีๆ” เขาพูดเสียงขรึม


ขณะเดินเขาใกลอีกฝาย

“ทําไมตองเชื่อฟงมึงดวย กูจะคุยกับพี่คิน...พี่คินครับ...” เสียงโวยวายกับการเรียกชื่อผมนั้นไมไดทําใหอะไรดีขึ้นมาเลย นอกเสียจาก


เปนอันตรายกับปรินเอง ผมเห็นทาทางลําบากใจของรัน หากชากวานี้ปรินคงถูกจับโยนออกไปนอกบริษัทแนๆ แตกอนเหตุการณนั้น
จะเกิดขึ้น รันก็ใชมือปดปากปรินแลวรวบตัว แบกขึ้นบาและเปนคนพาปรินไปใหไกลหูไกลตาผม
“อยาใหมีอีกเปนครั้งที่สอง” พอพูดเสียงขรึมเมื่อผมเดินไปหยุดยืนอยูขางๆ ผมรับคําและเขาใจความหมายของพอดี

พอใหอิสระผมตลอดมา ไมวาผมจะควงใคร ชายหรือหญิงพอไมเคยหาม แตขออยางเดียวอยาปลอยมาจุนจานในที่ทํางานหรือถือ


สิทธิ์เปนเด็กของผม พอจะไมชอบใจมากๆ หากรูวาคูควงผมใชอํานาจหรือพูดจาขมขูพนักงานของพอ พอผมเริ่มตนมาจากสองมือ
ของตัวเองกับกําลังกายที่มี ไมไดร่ํารวยมาแตเกิด ดังนั้นพอจึงเห็นใจคนที่ใชแรงงานหาเชากินค่ํา พอจะไมยอมใหใครมาเปนนาย
เหนือคนของพอ นอกเสียจากคนๆ นั้นพอจะยอมมอบอํานาจให

รันรูเรื่องนี้เปนอยางดี ดังนั้นเขาจึงเขามาคุยกับผม และยืดอกรับผิดชอบเรื่องของปริน เขาคงกลัวผมจะทําอะไรรุนแรง แคนี้ก็รูแลว


ครับวาปรินคงเปนคนพิเศษของรันเขาใหแลว คิดขึ้นมาแลวก็เสียดาย เปนผมหนอยไมได ไมขอใหมากความหรอก จะจูบปดปาก ทํา
ใหเห็น ประกาศใหโลกรับรูไปเลยวา คนๆ นี้เปนของกูโวย

หึหึ วาไปอยางนั้นแหละครับ แตคนอยางรันนะ ใชจะยอมใครที่ไหน ผมวาเขาตองแบกเจาปรินไปปดปากดวยริมฝปากที่อื่นแนๆ ฮา


ฮา คิดไปโนน ทํายังกับคนอื่นเขาจะหื่นเหมือนตัวเอง...แต...มันก็มีสิทธิ์เปนไปไดนะ เห็นดวยไหม?

หลังจากคลอยหลังรันไปครูใหญอินทรีก็มาพบผมเรื่องการซอนแผนของชินกฤษที่เราเริ่มตนเมื่อผมพาครอบครัวของอานนทไปยังเซฟ
เฮาสเรียบรอยแลว อินทรีรายงานวามันกําลังเริ่มจะเลนงานเราอีกครั้ง คราวนี้มันพุงเปาไปที่ตลาดหุนซึ่งอินทรีรับผิดชอบอยู พอรู
อยางนี้ก็ทําใหพวกเราเตรียมรับมือไดไมยากครับ อินทรีบอกวาทุกอยางเปนไปตามแผนการณที่วางไว คราวนี้ก็รอใหมันเปดเกม
พวกเราคงไดเห็นชินกฤษมันยิ้มยองใหตอนเชาของวันจันทรหลังจากเปดตลาดหุน แตกอนจะปดตลาดในตอนเย็น มันจะกระอัก
เลือดอยางแนนอน

เวลามันกระชั่นชิดเขามาจริงๆ แลวครับ คราวที่แลวเอ็มเจบอกวาจะมาไทยกลางเดือนหนา แตเมื่อเชาเลขาของพอรายงานมาวา


ทางโนนเตรียมการที่จะมาไทยในสองสัปดาหขางหนานี้ ผมยังไมแนใจเลยวาวินดี้รูเรื่องนี้หรือยัง มองมุมหนึ่งมันก็ดีครับ ใกลจะ
สิ้นสุดเวลาที่ผมตองหางจากนองแลว หากแตมองอีกมุมเวลาแหงการชี้เปนชี้ตายของผมกับชินกฤษก็ใกลเขามาทุกที

หลังจากอินทรีออกไปแลวผมก็จมอยูกับกองเอกสารตรงหนา มารูสึกตัวอีกทีก็ใกลเวลาเที่ยงเนื่องจากมีโทรศัพทเขามา สายของ


เพื่อนผมเองครับ ไอหมอก ไมรูคุณๆ จะจํามันไดไหม มันเปนตัวตนคิดมอมยาผม จนทําใหผมไดเจอกับนองนั่นแหละครับ

“ไงมึง หายหัวไปเลยนะ ไมคิดจะติดตอเพื่อนฝูงเลยหรือไง” พอกดรับมันก็ตอวาผมเกินจริง ไมติดตอหาอะไร อาทิตยที่แลวก็เพิ่งเจอ


กัน ไอหมอกมันชอบทําตัวเดน ออกงานสังคมครับ ผมเจอกับมันในงานที่พอพาไปเปดตัวในวันที่ทะเลาะกับนองนั่นแหละ คืนนั้นมัน
ยังคะยั้นคะยอใหผมแนะนําวินดี้ใหเพื่อนคนอื่นรูจักอยูเลย ออ เรื่องผมกับนองนี่เพื่อนๆ ในกลุมผมรูดีครับ ธุรกิจที่ผมเอาเงินไปรวม
ลงทุนกับเพื่อนๆ ทําใหพวกเราติดตอกันตลอด และพวกมันก็จะคอยถามขาวคราวความคืบหนาเสมอ คงอยากเห็นวินดี้ของผมละสิ
เฮอะ...กูหวงโวย

“กูกําลังยุงอยู มึงมีอะไรรีบๆ พูดมา”


“อะไรของมึง เที่ยงแลวนะเวย”

“เที่ยงแลวไง งานทวมหัวกูอยูเนี่ย”

“โห...ไอคนขยัน มึงลงมารับกูเดี๋ยวนี้เลย กูหิวขาว ตอนนี้กูอยูหนาบริษัทมึงแลว” เพื่อนผมมันเปนอยางนี้แหละครับ ไมติดตอผาน


เลขา ถาบอกเลขาผม เขาก็คงปลอยใหมันขึ้นมา แตไอนี่มันชอบใหผมหอบสังขารลงไปรับมัน

“อะไรของมึง จะมาไมบอกกันกอน”

“เอานากูมาแลว ก็มารับกูหนอย”

“ไมละ กูขี้เกียจ ถามึงหิวก็ขึ้นมากินบนนี้กับกูก็แลวกัน”

“เดี๋ยวนี้มึงเปนอยางนี้ใชไหม มีเมียแลวไมงอเพื่อน” พอตอบไมถูกใจมันก็เริ่มพาลครับ

“หานี่ อยาลากที่รักกูมาเกี่ยว” เปนใครก็ไมละเวนครับ หามแตะตองวินดี้ของผม

“เฮอะ...แตะไมไดเลยนะ เดี๋ยวเถอะคืนนี้กูจะมอมเหลามึง”

“คืนนี้อะไรของมึง กูจะกลับบานไปกอดเมียกู” ผมตอบอยางมั่นใจ นึกถึงคืนนี้ โอ...วินดี้มายดเลิฟ

“นี่มึงอยาบอกนะวาลืมเรื่องที่เรานัดกันนะ” ผมเลิกคิ้ว คิดทบทวน ผมมีนัดกับมันดวยหรือ

“ขนาดไอเวศกูยังลากคอมันมาได เรื่องอะไรจะยอมใหมึงเบี้ยว” ไอเวศมันเพิ่งแตงงานเมื่ออาทิตยกอนนี่นา...ผมคิดตามคําพูดมัน


กอนจะรองโอในใจ นี่ผมลืมไปไดอยางไรวาวันนี้พวกเรานัดเลี้ยงฉลองงานแตงยอนหลังใหเวศ

“มึงรูใชไหมวาลิฟตอยูที่ไหน มึงก็เดินเขาไปแลวกดขึ้นมาหากูนี่ เดี๋ยวกูสั่งอาหารรอ แคนี้นะ” เซ็งครับ สวรรคนอยๆ ของผมลมไมเปน


ทา วาจบก็กดตัดสายทันที

เรื่องไอหมอกนี่อยาไปสนใจมันครับ มันเปนลูกชายคนเดียว พอแมใชเงินเลี้ยงมันมาแตเด็ก เลยโตมาแบบผูใหญขาดความอบอุน


หวงของและชอบเรียกรองความสนใจ ตอนที่เวศจะแตงงานมันก็รองไหฟูมฟายกลัวเพื่อนจะทิ้งมัน แลวพอมารูเรื่องผมจริงจังกับวินดี้
มันก็ชักกระแดวๆ งองแงงทําตัวเปนเด็กครับ แตวาตอนนี้ผมอยากชักดิ้นชักงอแทนมันแลวสิครับ คืนนี้ตองดื่ม พอดื่มแลวผมจะหื่น
ครับ...ไมนะ! แตคิดก็สยอง ยังไงผมก็ไมยอมใหนองอุง(มือ) ชวยเด็ดขาด
“ที่รักครับ ถึงพี่จะกลับดึกไปบางแตวินดี้ตองชวยพี่นะครับ”

“พูดเรื่องอะไรของพี่อะ”

ผมสะดุง ซวยเลยครับ ความหื่นบังตา ไวเทาความคิด กดโทรออกหานองทันที วินดี้ก็กดรับไดเร็วทันใจผมมากเลย ทําไงดีละที่นี้ หาก


พี่บอกวากําลังพูดเรื่องอะไรอยู แลวคืนนี้วินดี้จะยอมรวมมือกับพี่หรือเปลาครับ อยากถามแตไมกลา ไดแตหัวเราะเสียงแหงกอน
กลายรางเปนงู เนื่องจากสถานการณยังไมนาไววางใจ ยังไงตอนนี้ขอเลื้อยไปกอนแลวกันครับ

มองผมโทรศัพทในมือตัวเองอยางงงๆ ไอพี่ทองเปนอะไรก็ไมรูครับ เมื่อสักครูก็โทรมาบอกวาเย็นนี้จะไปเลี้ยงฉลองแตงงานยอนหลัง


ใหเพื่อน ย้ําผมหลายรอบวาจะกลับดึก ผมก็บอกวาไมเปนไร นานๆ จะเจอเพื่อนทีก็สนุกใหเต็มที่แลวกัน แกก็บอกวารอแกหนอยนะ
ไมรูจะใหผมรอทําไม บานก็อยูกันคนละหลัง ไมเขาใจครับ แตผมก็บอกไปวาถาเกินเที่ยงคืนแลว ผมจะเขานอน พี่เขาก็รับปากวาจะ
กลับกอนเที่ยงคืน แถมยังตบทายดวยการขอรองใหผมชวยพี่เขา ผมไมรูวาใหชวยเรื่องอะไรแตไอพี่ทองก็บอกวาไมเหลือบากวาแรง
ผมหรอก แลวก็ออนผมใหญเลย จําเปนตองรับปากไปครับ ไมงั้นพี่แกไมยอมวางสาย

ผมสายหนาอยางขําๆ แกมเอือมระอา ไมรูวาคนรักคนอื่นจะเหมือนผมไหม แตสําหรับไอพี่ทองแลว ผมตามไมคอยจะทันเทาไหร


ครับ ลับลมคมนัยซะเหลือเกิน บางครั้งก็เหมือนจะเขาใจ แตสุดทายผมก็แพเลหเหลี่ยมพี่เขาทุกที นี่ก็ไมรูจะเอาอะไรมาเลนกับผม
อีก

ผมเก็บโทรศัพทลงกระเปากอนจะมองไปยังโตะสุกี้ซึ่งคนอื่นนั่งรออยู ผมถอนหายใจเมื่อสายตาจับจองไปยังเมธ หวังวาการตัดสินใจ


ครั้งนี้ของผมคงจะไมผิดพลาด ตลอดสิบกวาปที่ผานมาทําใหผมมั่นใจวาผมรูจักเมธดีพอ และรูวาวิธีไหนจะยั่วใหเมธของขึ้น

ถึงแมเมธจะเปนคนโผงผาง พูดจาตรงไปตรงมา แตสําหรับเรื่องความรักแลว มันเอื่อยเฉื่อย ไมกลาทําอะไร ปลอยหัวใจไปกับเวลา


และการแอบมอง เหมือนกับนิสัยของอียอ ลาหูลูนั่นแหละครับ ดูเรื่องของผมกับเมธสิ จนเดี๋ยวนี้ผมก็ยังไมเชื่อวาเมธทําไดอยางไร
แอบรักผมมาตั้งหาปแตไมยอมพูดอะไรออกมาเลย แลวพอผมบอกวามีคนรักแลวมันก็เกิดอาการคลุมคลั่ง ลากผมไปจูบซะงั้น

สิ่งเหลานี้บงชี้วาคนอยางเมธมันตองกระตุน หากรูตัววากําลังจะสูญเสีย เมธจะเกิดอาการหวงของและอยากปกปอง ผมก็หวังวา


เหตุการณในวันนั้นจะเปนบทเรียน สอนมันใหเปดใจพูดกับตรินกอนที่จะสายเกินไป

ผมเดินกลับไปยังโตะหลังจากขอตัวมาเขาหองน้ําและไอพี่ทองก็โทรเขามาพอดี ผมนั่งลงขางพี่มิ้น ในขณะที่ลูกแพรนั่งอีกฝงโดยที่


ตรินนั่งติดกับเธอ และเมธนั่งถัดจากตริน

“หิวมากหรือเปลาครับ เดี๋ยวอาหารก็มาแลว” พี่มิ้นหันมาถามเมื่อผมนั่งลง ผมสายหนา ความจริงก็หิวบางเล็กนอยเพราะวาเที่ยง


แลว แตไมไดหิวจนไสจะขาดอยางที่อางไปกอนหนานั้น

“กุลเมื่อกี้เรากําลังคุยกันวาจะไปดูหนัง” ลูกแพรเสริมบทสนทนาหลังจากพี่มิ้นพูดจบ เธอขยิบตาสงสัญญาณบางอยางใหผม


“เอาสิ ไมไดดูนานแลว วันนี้ก็วางดวย พี่มิ้นไปดวยกันไหมครับ” ผมเริ่มสวมบทตามที่ตกลงกันไว

“แนนอนอยูแลวครับ ในเมื่อนองลูก...นองตรินไปดวยพี่ก็ตองไปอยูแลว” ผมตวัดสายตามองพี่มิ้น...บอกใหเก็บงูบนหัวหนอย ไมทัน


ไรโผลอีกแระ

ดูสิครับ ปากบอกวานองตรินไปดวยก็ตองไป แตตานี่มองลูกแพรหยาดเยิ้ม แลวแบบนี้มันจะตีบทแตกไดอยางไร ผมเตะขาพี่มิ้นใต


โตะ พี่มิ้นสะดุงเล็กนอย กระแอมในลําคอกอนปรายสายตาไปมองตริน แตก็ไดเพียงไมกี่วินาทีพี่เขาก็สะดุงอีกครั้งเมื่อเผลอไปสบ
นัยนตาวาวโรจนของเมธ

ไมรูจะขําหรือสมน้ําหนาดีครับ คุณเคยเห็นผูชายแกมแดงขี้อายแตหนาดานจีบสาวบางไหมครับ ถาไมเคยเห็นก็ดูพี่มิ้นไวเลยครับ


คําพูด น้ําเสียง สายตาแพรวพราว ไมแปลกใจเลยทําไมทํางานกับไอพี่ทองได เจาชูพอๆ กันนี่เอง

กอนหนาที่เราจะมาที่นี่พี่มิ้นรูที่ไปที่มาและยอมทําตามคําขอรองของผมแลวครับ แตกอนที่ผมจะมีโอกาสไดพูดกับพี่เขาก็เกือบจะ
เกิดการวางมวยขึ้น หลังจากที่ผมแนะนําเมธใหรูจักพี่มิ้น พี่มิ้นก็กลาวทักทายเมธปรกติ แตเมธกลับทําเฉย จองตรินเขม็ง ตรินก็หนา
ซีด ความเงียบเขาครอบคลุม บรรยากาศมันชวนอึมครึมมากเลยครับ ผมก็เลยรีบเปลี่ยนเรื่อง โอดโอยวาหิวแลว และชวนไปหาอะไร
กินกัน ลูกแพรก็รีบสนับสนุน

ยกเวนเมธที่มันยืนยันวาจะไมไป พอพูดจบมันก็ลากแขนตรินออกมาจากกลุม แตตรินก็เยื้อไว บอกวาจะไปกับพวกผม นั่นยิ่งทําให


เมธมันเดือดมากขึ้น พี่มิ้นผูไมรูอิโหนอิเหนอะไรก็เขาไปชวยตริน บอกวาคนเขาไมอยากไปก็อยาบังคับ ไอเมธมันเลยตะคอกหนาพี่
มิ้น บอกวาอยาเสือก บรรยากาศที่มันอึมครึมๆ กอนหนานั้นเลยรอนระอุขึ้นมา

ตรินเห็นทาไมดีก็เลยบอกวาจะไปกับเมธ เมธมันก็ยิ้มเยาะใหกับพี่มิ้นกอนจะลากแขนตรินออกไป พี่มิ้นยกมือมาเกาหัวตัวเองแลว


ถามผมวานี่มันเรื่องอะไรกัน ผมก็เลยไดโอกาสอธิบายใหพี่เขาฟงพรอมกับขอรองใหชวยเพื่อนผมหนอย พี่มิ้นก็ยิ้มแหย ๆ ทําหนาปู
เลี่ยน บอกผมวา

“พี่ไมเคยจีบผูชาย” ลูกแพรหัวเราะกิ๊กเลยครับเมื่อพี่เขาวาอยางนั้น

“พี่ก็คิดซะวาจีบสาวอยูไง ไมเห็นจะยาก” เธอเสริมเมื่อรูความจริงจากปากของผม พรอมกันนั้นลูกแพรยังสนันสนุนเพราะเธอก็เริ่มจะ


ทนไมไดที่เมธกับตรินเปนแบบนี้

“ยากครับเพราะวันๆ พี่เอาแตทํางาน ไมไดจีบสาวนานแลว งั้นขอลองทดสอบจีบนองลูกแพรกอนไดไหม” ผมสําลักลมหายใจ ลูก


แพรหัวเราะพรอมกับโคลงศีรษะ

“ถาอยากลองก็ไดแตระวังแฟนลูกแพรจะตอยเอานะ” แคนี้สะกิดคุณเธอไมไดหรอกครับ ลูกแพรภูมิคุมกันดี เธอเปนคนสวย ไอพวก


หนามอทั้งหลายตามจีบเปนพรวนแตทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไดแหวติดไมติดมือกลับไปทุกราย และผมนี่แหละที่เปนโลปองกันขั้นที่หนึ่งของเธอ
ลูกแพรโอบเอวผมพรอมกับซบหนาลงกับไหล

“นี่ไงคะแฟนลูกแพร นารักใชไหมละ เรารูจักกันตั้งแตเริ่มจําความได แลวลูกแพรก็รักกุลมากดวย เห็นอยางนี้แลวพี่กลาแทรกกลาง


ระหวางเราหรือ ลูกแพรวาอยาเสียเวลาดีกวา คนหลอๆ อยางพี่ถาอกหักแลวจะเสียประวัติเอานะ” เปนไงครับ ภาษาดอกไม เชือด
นิ่มๆ แตบงชี้อยางชัดเจนวาฉันไมสนคุณหรอกยะ

พี่มิ้นตาโต มองหนาผมกับลูกแพรอยางไมเชื่อสายตา “จริงหรือครับ นองกุลเปนแฟนกับลูกแพรหรือ”เอาละสิ คําถามโลกแตก หาก


เปนคนอื่นที่ไมใชพี่มิ้นแลวละก็ผมจะตอบทันทีเลยวาใช

“ไมใชแคแฟน แตเปนวาที่คูหมั้น เนอะกุลเนอะ” เธอยิ้มหวานใหกับผม พี่มิ้นอึ้งไปครูใหญ

“วา เสียดายจังที่พี่มาชา แตนองลูกแพรกับนองกุลก็เหมาะสมกันจริงๆ ครับ” พี่มิ้นบอกดวยคําพูดแตสายตาไมไดวาเชนนั้น ผมกลืน


น้ําลาย คิดวาองคไอพี่ทองคงจะลงพี่มิ้นเขาใหแลว ไมชานี่แหละผมจะถูกซักจนขาวแนๆ

“พี่จะฟองคุณคิน” นั่นไง ไมทันไรพี่มิ้นก็มากระซิบขางหูผมขณะที่ผมกําลังจะเปดประตูเพื่อขึ้นรถแลวไปหาอะไรกินกันอยางที่พูดใน


ตอนแรก สวนลูกแพรเธอเขาไปนั่งขางในรถแลวเรียบรอย

“พี่มิ้นไมกลาหรอก” ผมมองลูกแพรนิดหนึ่งเพื่อใหแนใจวาเธอปดประตูและจะไมไดยินสิ่งที่เราพูดกัน ใจผมเตนตุมๆ ตอมๆ ขณะ


บอกพี่มิ้น กลัวเหมือนกันครับ เกิดไอพี่ทองรูเรื่องขึ้นมามีหวังระเบิดลงแนๆ แกยิ่งขี้หึงอยู

“แลวนองกุลจะปลอยไวแบบนี้หรือครับ พี่สงสารนองลูกแพร”

“กุลรู กุลก็วาจะเคลียรกบั ลูกแพรเร็วๆ นี่แหละ”

“อยาชานะครับ เพราะวายิ่งปลอยเวลาก็ไมไดทําใหอะไรดีขึ้นมา อีกอยางนองกุลก็รูวาคุณคินไมใชคนโง บางทีอาจจะระแคะระคาย


บางแลว ตอนนี้ก็ขึ้นอยูกับวาคุณคินจะใจเย็นไดอีกนานเทาไหร” เฮอ...มันก็จริงอยางที่มิ้นวานั่นแหละครับ ที่คอนโดผมก็มีภาพถาย
ของผมกับลูกแพรเต็มคอมพิวเตอร คงเปนไปไมไดหรอกที่พี่เขาจะไมเห็น ที่แกทําเปนไมรูไมชี้นี่คงอยากใหผมจัดการเอง แตหากผม
ปลอยใหเรื่องของผมกับลูกแพรยืดยาวกวานี้ ไอพี่ทองคงไดปรี๊ดแตกขึ้นมาสักวัน

พี่มิ้นทิ้งคําพูดไวแคนั้นกอนจะกาวไปยังฝงของตัวเองแลวขึ้นไปบนรถ ไมแปลกหรอกที่พี่มิ้นจะไมย้ําถามวาคําพูดของลูกแพรนั่นเปน
ความจริงหรือเปลาและตลอดเวลาก็ไมเคยมีใครถาม นั่นก็เพราะวาสายตาของลูกแพรที่มองผมมันฟองวาเธอรักผม ใครเห็นก็ดูออก
กันทั้งนั้น
พวกเราตกลงวาจะไปกินสุกี้กันครับ ระหวางทางตรินก็โทรมา ถามวาตอนนี้พวกเราอยูที่ไหน ผมก็บอกไปวากําลังจะไปหางใกลๆ
กับมหาวิทยาลัย เขาก็บอกวาเดี๋ยวตามไป ผมก็ไมรูหรอกนะวากอนหนานั้นเมธกับตรินคุยอะไรกันบาง เหตุผลอะไรที่ทําใหเมธยอม
พาตรินหาพวกเรา แตพอไดเจอกับคนทั้งคู ผมกับลูกแพรก็ตองลอบถอนหายใจออกมาอยางหนักหนวง

ตรินเดินตาแดงๆ มาหาพวกเรา ในขณะที่เมธมองตรินดวยสายตาปวดราว ทั้งสองพยายามไมมองหนากัน สถานการณมันแยลงไป


กวาเดิมเสียอีก จนผมชักลังเลวาวิธีนี้จะเปนทางเลือกที่ดีหรือเปลา ทวาตอนที่เราเลือกที่นั่งอยูนั้น เมธก็กุมมือตรินแลวลากใหนั่งขาง
มัน ตรินขัดขืนในตอนแรกแตก็ยอมตามใจเมธในที่สุด

ผมกับลูกแพรหันมาสบตากัน รูสึกใจชื้นขึ้นมาบางเล็กนอย ดีจัง พวกเราคงมาถูกทางแลวละ คราวนี้ก็รอใหเมธมันกาวผาน


ความรูสึกเพื่อจะบอกรักตรินเทานั้นเอง

“ตกลงจะไปดูหนังหรือดูอะไร ถาตรินไปถึงจะไปนะ” เสียงหวนๆ ของเมธเรียกสติผมกลับมายังปจจุบันซึ่งเรากําลังรออาหารมาเสริฟ


อยู

“จะดูหนังหรือดูอะไร หากมีคนที่เราชอบอยูขางๆ มันก็สุขใจไมใชหรือครับ” พี่มิ้นตอบเสียงเรียบพรอมกับยิ้มหวาน โปรยเสนหใหตริน


ตรินทําหนางง กระพริบตาปริบๆ มองพี่มิ้นอยางสงสัย นึกขึ้นมาก็สงสารครับ เพราะเขายังไมรูตัววาพวกผมกําลังทําอะไรอยู

เมธยกมือขึ้นโอบไหลตริน ยิ้มมุมปาก “งั้นก็เสียใจดวยนะเพราะยังไงก็คงไมไดนั่งขางคนที่ชอบแนๆ” บอกดวยน้ําเสียงมั่นใจ พรอม


กับสงสายตาทาทายมาให ผมรองวาวในใจ ใหมันไดอยางสิ ถึงจะคุมคาที่ลงทุนลงแรงลงไป

หลังกินอาหารเสร็จพวกเราก็ไปดูหนังกัน เมธก็ทําอยางที่พูดไวจริงๆ ครับ มันเกาะตรินแจ ไมปลอยใหพี่มิ้นเขาใกลตรินไดเลย เวลา


พี่มิ้นเอาใจตริน ซื้อโคก ซื้อปอบคอนให มันก็ตัดหนาบอกวาตรินมีแลว จากนั้นก็ลากตรินหนี ผมกับลูกแพรไดแตอมยิ้ม มองเมธหัว
หมุน ปองกันคนที่มันรัก ในขณะที่ตรินมีสีหนาดีขึ้น เขาก็คงดีใจที่เมธแสดงออกวาเห็นเขาสําคัญเชนกัน

ดูหนังจบแลวเมธมันก็เดินมาบอกวาใหกลับกันไดเลย มันจะไปสงตรินเอง จากนั้นมันก็พาตรินหายไปเลยครับ พวกเราทั้งสามไดแต


ยักไหล ปลอยไปครับ คนรักจะปรับความเขาใจกัน คนนอกอยางพวกผมไมเกี่ยว

ผมเดินขึ้นไปยังชั้นที่สองของผับซึ่งจัดอยูในโซนของแขกวีไอพีอยางคุนเคย นั้นก็เพราะวาที่นี่มันเปนถิ่นของผม ถูกตองแลวครับ ผม


มาที่นี่บอย แตขอรองอยาคิดเปนอื่นนะครับ เนื่องจากสถานที่ซึ่งพวกเรานัดมาเลี้ยงฉลองนั้นมันเปนหนึ่งในกิจการสถานบังเทิงของ
ครอบครัวผม มันเลยเปนเรื่องปรกติที่ผมจะเขาๆ ออกๆ

และนี่ก็คือเหตุผลที่ไอหมอกมันดั้นดนไปหาผมเมื่อตอนกลางวัน มันตองการใหผมใชสิทธิ์เจาของสถานที่ “เลี้ยง” พวกมัน ย้ําครับ ผม


เลี้ยงคนเดียว ดวยเหตุผลที่มันอางวา ในฐานะที่ผมจะสละโสดเปนรายตอไป ตองเลี้ยงสงทายและเลี้ยงสงเวศเขาหอดวยในตัว ไดยิน
แลวอยากหัวเราะเปนภาษาคนรักวินดี้ แลวปลอยหมัดคิดถึงนองเขาทะลวงไสมัน กอนจะตามมาดวยลูกแตะแหงความโหยหา แลว
สงทายดวยการตบหนาไอเพื่อนปอบทั้งหาใหสํานึก ชิชะ แตละคนรวยลนฟา แตชอบมาระรานผมประจํา

ไอหมอกตัวดีมันบอกวาหากไมใชถิ่นผม ผมก็คงจะปฏิเสธพวกมันเหมือนที่ผานๆ มา ความจริงเพื่อนผมพูดถูกครับ เมื่อกอนนี่ไมคอย


คิดหนาคิดหลังเทาไหร เวลาปลดปลอยก็เอามันเต็มที่ เมา มั่วไปเรื่อย แตหลังจากอิ่มตัว ผมก็คอยๆ ลดการเที่ยวราตรีลง หากจะดื่ม
ก็มักไปผับของตัวเอง กินไปตรวจกิจการไปดวยในตัว คุมคาดีครับ

แลวพอนองเดินเขามาในชีวิต การสังสรรคเมาหัวราน้ํากับเพื่อนก็ตัดออกไป จําไดวาครั้งสุดทายก็วันนั้นแหละครับ วันที่นองตกเปน


ของผม จากนั้นชีวิตผมก็เปลี่ยนไป วันๆ ขลุกอยูกับนองเปนสวนใหญ หากอยากดื่ม อยากดิ้น ก็ไปกับวินดี้ครับ สนุกแลวก็สุขใจดี

“ถาไมเห็นหนามึงวันนี้ พวกกูวาจะไปกรวดน้ําใหมึงเปนสุขๆ ซะที” เสียงของแซครองทักเมื่อผมเดินไปยังโตะที่เพื่อนๆ รวมตัวกันอยู

“สาด มาแชงกู เดี๋ยวพวกมึงนี่แหละจะตายกอน” ผมตอบกลับพรอมกวาดสายตาไปรอบโตะ

แซคยิ้มมุมปาก มันนั่งตรงกลางระหวางหนุมหนาหวานสองคน ไอหมอกยักคิ้วกวนตีน มือมันโอบไหลหนุมนอยหนาใสซึ่งนั่งอยูขางๆ


เบสนั่งถัดมามีสาวหมวยอกอึ๋มคอยนัวเนีย เกงก็ไมนอยหนา ควงสาวสวยมาเหมือนกัน สวนนัดนั่งติดกับเวศ แตที่นั่งขางมันเหลือที่
ไว สงสัยเด็กมันจะยังไมมา หรือไมก็ลุกไปที่อื่น

ขณะที่ผมจะนั่งไอแซคก็สงสัญญานใหเด็กมันมาตอนรับผม ที่มันควงสองคงจะเตรียมมาใหผมดวย แตผมสายหนา หนุมหนาหวาน


ที่ทําทาจะลุกเลยตองนั่งลงอยางเดิม ไมตองแปลกใจไปหรอกครับ บรรยากาศในกลุมเพื่อนผมก็เปนแบบนี้แหละ มันเปนเรื่องปรกติ
ของพวกเราที่ขางกายจะตองมีใครสักคน

“ไมเจอกันนาน กูก็เลยนึกวามึงตายไปแระ” แซคกลาวตอขณะที่ผมนั่งที่วางขางเวศ เวศฉายเดี่ยวครับ ทั้งๆ ที่เลี้ยงฉลองแตงงาน


ใหกับเขา แตเวศกลับไมพาภรรยามาดวย แตผมก็ไมแปลกใจหรอกครับ เปนผมก็ไมพาวินดี้มาแนๆ

“มันหลงเมีย จนลืมเพื่อน” เสียงของเบสที่ดังขึ้นทําใหผมหันไปแยกเขี้ยวใสมัน

“นานอะไร สองอาทิตยกอนยังเจอกัน” ผมแยง พวกมันพูดยังกับไมไดเจอผมเปนชาติ ไมนานมานี้ยังเจอกันที่ฟตเนส แลวเมื่อหลาย


วันกอนผมยังไดคุยเรื่องงานกับไอเบสอยูเลย

ไอเบสทําเสียงจิ๊จะอยางขัดใจ “โอเค หนานะเห็น แตมึงไมยอมมาเฮฮากับพวกกู” มันพูดกอนจะยกเหลาขึ้นจิบ

“ขาดกูคนเดียวก็ใชวาพวกมึงจะไมสนุก อีกอยางคนเรามันก็ตองมีเปลี่ยนแปลงกันบาง ใชไหมเวศ” ผมพูดเสียงเรียบ หันไปทางเวศ


เพื่อหาคนสนับสนุน เวศยิ้มบางๆ อยางเขาใจหัวอกคนมีความรัก
ไอหมอกสายหนา “ปลอยมันสองตัวไป ไอพวกไมโสด นองนิวอยาไปมองมันครับ ไอนี่มันมีเมียแลว” พูดดวยน้ําเสียงเบื่อหนายกอน
จะบอกเด็กมัน ผมหัวเราะ

“แตเมียไมมาก็เหมือนไมมีใชไหมครับ” เสียงสดใสของเด็กไอหมอกแยง นั่นทําใหผมยิ้มมุมปาก เด็กคนนี้แรงใชยอยเลย สายตาทา


ทายแกมชวนเชิญอยางเปดเผย

“หึหึ ถึงเขาจะไมมาแตก็อยูในนี้ครับ อยูในใจ อยูในทุกลมหายใจเขาออก” ผมตอบยิ้มๆ แตนัยนตาจริงจัง เขาอึ้งไปครูหนึ่งกอนจะหุบ


ยิ้ม

“เนาวะมึง” นัทสายหนา ทําเสียงเหมือนคนอยากจะอาเจียน สวนคนอื่นทําหนาผะอืดผะอม แตผมไมสน หัวเราะเบาๆ

“พวกกูเห็นมึงเพอมานานแลว เมื่อไหรจะพาเขามาแนะนําใหรูจักสักที” เกงพูด คนอื่นๆ สงเสียงสนับสนุน

“เมื่อไหรก็เมื่อนั่นแหละ” ผมยักคิ้วขางหนึ่งตอบพลางยิ้ม มันทําหนาเซ็ง

“ประจําแหละ” บนอุบอิบกอนจะยกเหลาขึ้นจิบ ผมสายหนาอยางขําๆ

“กริ๊ง...กริ๊ง...กริ๊ง...” แซคเคาะแกวเรียกความสนใจพรอมกับบอกเปนนัยใหทุกคนอยูในอาการสงบ พวกเราหยุดเสียงโหวกเวก หันไป


มองแซคเปนตาเดียวกัน

“อะแฮม...” มันลีลา ปนหนา ทําเสียงหลอ “ตอนนี้ทุกคนก็มาพรอมกันแลว ฤกษยามก็กําลังดีที่จะเตะสงคนไมรักดีใหออกจาก


ทําเนียบคนโสด” ผมกลั้นหัวเราะกับคําพูดของมัน เวศสายหนาอยางขําๆ ขณะที่คนอื่นๆ สงเสียงบอกวาเตะมันเลยๆ

“ใครรูตัววาไมรักดีใหยกมือขึ้น” มันเลนตอ เวศใชมือกุมขมับขางหนึ่ง อีกมือยกขึ้นอยางเลี่ยงไมได คนที่เฝาดูอยูก็สงเสียงหอน เอย


เสียงโห

“ดีมากที่ยอมมอบตัวแตโดยดี ไหนคุณมีอะไรจะสารภาพไหม” มันถามเวศเสียงคาดคั้น

“อืม...ก็ไมมีอะไรมาก แคผมอยากบอกวาที่ยอมสละโสดเนี่ยเพราะผมรักเธอ แคพบเห็นครั้งแรกก็รูเลยวาคนนี้แหละใชแนๆ พระเจา


สรางเธอมาใหกับผม”

“โห...” พวกมันสงเสียงหอนอีกแลวครับ
“เปนไงคุณๆ ทั้งหลาย ไดยินแบบนี้แลวยังอยากเตะมันอยูไหม” แซคมันสวมบทผูพิพากษาตอ

“คุณนาคินทรคิดวายังไง” มันหันมาถามผม

“ผมคงไมกลาเตะหรอกเพราะคงมีใครบางคนไมยอม”

“ใครๆ” เสียงเพื่อนๆ ถามหลังผมพูดจบ ผมไมตอบแตลุกขึ้นแลวเดินไปควงแขนหญิงสาวคนหนึ่งที่กําลังเดินเขามา

“วี้ดวิ้ว” เสียงผิวปากดังระงมเมื่อพวกมันมองมายังผม

“กิ่ง...” เวศยิ้มกวางขณะเรียกภรรยา

“ไง ยังมีใครกลาเตะเวศอยูไหม” ผมถาม

“ไมมีครับ ไมกลาหรอก” พวกมันตอบพรอมกับสายหนา รอยยิ้มเกลี่ยทั่วเรียวปากกันทุกคน

เล็กๆ นอยๆ ครับ เซอรไพสเวศมันนิดหนอย ภรรยาของเวศเรียนปริญญาโทที่เดียวกับผม ผมเลยรูจักเธอ หลังจากเรียนจบเธอก็


กลับมาทํางานที่ไทย ในขณะที่เวศเรียนตอเอกและเปนอาจารยสอนอยูที่โนน ตอนนี้เวศตัดสินใจกลับมาอยูไทยอยางถาวรแลวครับ
มันไดทําตามความฝนของตัวเองแลว จากนี้ก็กลับมาชวยงานครอบครัวตามที่ไดสัญญาไว

ไอหมอกกับเพื่อนคนอื่นๆ ชวยกันวางแผนเซอรไพรสเวศในคืนนี้ แลวใหผมจัดการเรื่องสถานที่ กอนหนานั้นที่บอกวาเพื่อนมันขมขู


ใหผมเลี้ยงนะไมใชหรอกครับ ผมโกหก ความจริงผมเปนคนอาสาที่จะเลี้ยงเองครับ อยากขอโทษที่ไมไดไปงานแตงที่ภูเก็ต เพื่อนคน
อื่นๆ ก็รูสึกแยเหมือนกันที่ไมสามารถไปรวมงานได พวกเราเลยจัดงานแตงอีกรอบใหมันยอมๆ ครับ

บรรยากาศหลังจากนั้นยังคงสนุกสนาน สําหรับผมแลวก็กวาสี่ปเลยครับที่ไมไดเจอกับเวศ สวนคนอื่นที่ไมไดไปตอโทพรอมกับผมก็


เกือบจะเจ็ดป เวลาเปลี่ยน แตเมื่อมิตรภาพของพวกเรายังไมเปลี่ยนครับ ไดมารวมตัวกันอยางนี้ ทําใหนึกถึงบรรยากาศเกาๆ สมัย
เรียนปริญญาตรี และดูเหมือนวันนี้ทุกคนจะลืมวัยกันเสียแลวสิ

เสียงโหวกเหวก พูดจาหยอกลอ รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะยังคงดําเนินตอไป เพื่อนผมที่มีคนเคียงขางก็คอยใสใจเด็กของพวกมันอยู


ตลอดเวลา สมัยกอนจนถึงเดี๋ยวนี้ชื่อเสียงของพวกเราเรื่องความเจาชูก็ยังไมเปลี่ยนไปครับ เอกลักษณของกลุมยังคงเดนชัด แตถึง
จะควงใครไมซ้ําหนา แตพวกเราก็ไมเคยฝนใจใครนะครับ นอกจากผมนี่แหละที่แหกคอกไปฝนใจวินดี้ เวลาพวกเราคบกับอีกฝายก็
มักจะเปดเผยและตรงไปตรงมาเสมอ สมยอมกันทั้งสองฝาย มีความสุขแลวก็จากกันไปโดยดี

ที่ผานมาก็ไมคอยมีปญหาหรอกครับ แตตอนนี้ก็เห็นจะมีอยูคนที่เขามาทําใหหงุดหงิดบาง หากเปนเมื่อกอนที่ผมยังไมเจอกับนองก็


จะไมแครเทาไหรครับ เรื่องแบบนี้มันไมแน บางทีก็อาจกลับไปสานสัมพันธกันอีกครั้งก็ได แตตอนนี้ความคิดนี้ถูกตัดออกไปไดเลย
ถึงแมวาปรินจะไมใชคนเลวรายอะไร หนาตาจัดวาเปนคนหลอคนหนึ่งก็ตามที

เรื่องผมกับปรินนี่เกิดขึ้นเมื่อนานแลวครับ หาหกปไดแลวมั้ง แตที่พอจะจํามันไดก็เพราะวามีบางเรื่องที่ติดอยูในใจผม ผมรูจักกับ


ปรินเพราะเวศนี่แหละครับ ผมไปเรียนตอโทที่เดียวกันกับเวศ แตเวศออกมาเชาบานอยู แลวปรินก็เปนเด็กขางบานของเวศ

ตอนนั้นปรินเพิ่งจะสิบหา อืม...นาจะสิบหกมากกวาครับ เพราะจําไดวาปรินอยูเกรดสิบแลว ปรินคราที่ผมเห็นครั้งแรกกับเดี๋ยวนี้


ตางกันมากเลยครับ สมัยโนนปรินนารักและสดใสตามวัยคลายๆ วินดี้นี่แหละ ถึงจะชอบเอาแตใจแตก็ขี้ออน มันชอบมาเลนกับเวศ
ผมเจอก็ทักทายบาง ซัมเมอรปนั้นผมกลับไทย แลวพอกลับไปที่เมกาอีกครั้ง ปรินมันก็เปลี่ยนไป

จากเด็กไรเดียงสากลายเปนแกแดดแกลม เริ่มติดเพื่อนเที่ยว ทําตัวมีปญหา ผมมารูทีหลังวาแมมันเลิกกับสามีชาวอเมริกันแลว


แตงงานใหม และมันก็เขากับสามีใหมแมไมได ดวยความใจดีของเวศ ปรินมันก็มาอาศัยบานเวศอยูบอยๆ ผมก็เจอมันบอยเชนกัน
ไดคุยกัน ใหกําลังใจมันบาง แลวไมรูผมไปปลอบมันอีทาไหน ถึงไดลงเอยที่เตียง จนมันกลายมาเปนคูควงของผมอยูพักหนึ่งกอนจะ
เลิกลากันไป หลังจากนั้นผมก็ไมไดเจอปรินอีกเลย มาเจออีกทีก็ที่สนามบินพรอมกับวินดี้นั่นแหละครับ

ตอนนี้ผมก็ยังไมเขาใจวาปรินมาวุนวายกับผมอีกทําไม แตอยางไรก็ดี การที่ปรินมาปวนเปยนอยูใกลๆ ผมอยางนี้ทําใหวินดี้ไมสบาย


ใจ ตอนนี้ก็หวังวารันจะจัดการไมใหปรินมากอความวุนวายจนวินดี้เขาใจผมผิดเหมือนที่ผานมา

เมื่องานเลี้ยงเลิกลา ผมก็กลับบานครับ ถึงบานเที่ยงคืนพอดีเลย กรึ่มๆ เล็กนอย ไมถึงกับเมาหรอก ความจริงอยากกลับเร็วกวานั้น


แตพวกเพื่อนๆ มันไมยอม กอนจะกลับไอหมอกมันสงเบียรโคโลราใหกับผม ไอที่ดื่มกับมะนาวฝานนั่นแหละครับ ผมรับมา กําลังจะ
ยกแตตองชะงักเพราะรูสึกคุนๆ กับเหตุการณแบบนี้ ผมมองมันอยางคนควา ไอหมอกคงเขาใจสายตาของผม มันเลยบอกวา
ปลอดภัย ผมเชื่อมันดวยคิดวาเพื่อนผมคงไมเลนอะไรแผลงๆ อีกแลว

“วินดี”้ ผมกดโทรหานองทันทีที่ลมตัวลงบนเตียง คืนนี้เห็นเวศกับภรรยามันรักกันก็ยิ่งคิดถึงนองครับ ยิ่งเด็กของเพื่อนผมเลนหูเลนตา


ใสผม เชิญชวนอยางเปดเผย ก็ยิ่งทําใหผมโหยหาวินดี้มากขึ้น ถึงจะอยูใกลใครก็ไมทําใหผมอยากกอดไดอยางวินดี้สักคน

“กลับมาแลวหรือครับ” เสียงนองงัวเงียตอบกลับมา

“ถึงบานแลวครับ...วาแต...วินดี.้ ..ทําอะไร...อยู...”

“วินกําลังจะนอน แลวนี่พี่เปนอะไร ทําไมเสียงสั่นๆ อยางนั้นละ” ไมแนใจเหมือนกันวาสั่นเพราะตื่นเตนที่ไดคุยกับนอง หรือวาสั่น


เพราะความตองการของรางกายที่กําลังพุงขึ้นกันแน

ตกลงในเบียรนั่นมันใสอะไรลงไปหรือเปลา หรือวาผมเมาแลวหื่นก็ยังสงสัย แตที่แนๆ ตอนนี้แคไดยินเสียงวินดี้ ไฟในกายผมก็แผด


เผาจนผมรอนระอุขึ้นมาเรียบรอยแลว

“พี่กําลังจะไมไหวแลวครับ วินดี้ตองชวยพี่นะ”

“ชวยอะไรครับ วินไมเขาใจ เมื่อตอนกลางวันก็พูดทํานองนี้ครั้งหนึ่งแลว” นองตอบเสียงเบา สงสัยจะเริ่มงวงแลวละมั้งนะ แตดีเลย


ครับ เวลาวินดี้งวงนิดๆ หรือตอนตื่นนอนใหมๆ นี่กลอมงายครับ ขออะไรก็ใหหมดเลย

“ใชสินะ วินดี้สัญญาวาจะชวยพี่แลวนี่”

“อืม...ใช แลวพี่จะใหชวยอะไรละ” อา ทําไมเสียงนองมันเซ็กซี่อยางนี้นะ

“ที่รักไปหาอะไรมาผูกตากอนเร็ว”

“หือ...ผูกทําไม หลับตาก็มองไมเห็นอะไรแลว” นองแยง ผมนึกภาพ ตอนนี้วินดี้คงลุกขึ้นมานั่ง ใชมือขยี้หูขยี้ตาไลความงวงอยูแนๆ


นองใสเสื้อนอนหรือเปลานะ หรือวาใสแตบอกเซอรเหมือนทุกครั้งที่อยูกับผม

“ผูกเถอะครับ เดี๋ยวพี่ถือสายรอ” ออนนองนิดหนึ่งครับเพราะเวลาวินดี้อายทีไรตองหาโนนหานี่มาปดหนาเสมอ ดังนั้นตองปองกันไว


กอนครับ กลัวนองจะเขินแลวลมเลิกกลางคัน หากเปนเชนนั้นผมคงคลั่งตายแนๆ

สงสัยหรือครับวาผมจะทําอะไรกับนอง ก็ไมมีอะไรมากหรอกครับ แคพลิกวิกฤตใหเปนโอกาส อาศัยความหางชวยสอนเพลงรักบท


ใหมใหกับวินดี้เทานั้นเอง

“งั้นพี่รอเดี๋ยวนะ” ผมรับคํานองพรอมกับปลดกระดุมเสื้อของตัวเอง

อืม...วินดี้จะเอาอะไรผูกตานะ จะใชเน็คไทหรือเปลา หากเปนเชนนั้น ภาพของนองในคืนเรารอนที่เราตางถายทอดความรักใหแกกัน


ก็ฉายชัดเขามาในมโนภาพ

“มาแลวครับ”

“วินดี้ใชอะไรปดตา” ผมถามดวยน้ําเสียงแหบพรา

“เน็คไท”

“อา...” คําตอบของนองทําใหผมเผลอครางออกมา หัวใจผมเตนรัว แกนกายปวดเขม็ง


“เสียงพี่แปลกๆ เปนอะไรหรือเปลา...”

“ที่รัก...” ผมเรียกนองเสียงสั่น

“วาไงครับ”

“พี่อยาก...มากดวย...ตอนนี้คินนอยมันตื่น...ชี้โดเลย...วินดี้ชวยพี่ไดไหม...เลนเซ็กสโฟนกับพี่นะครับ...นะ...”

“หะ...เลนอะไรนะ...ซะ...เซ็กส...โฟน...” ใชแลวครับที่รัก นองไดยินไมผิดหรอกคนดี ชวยพี่ทีเถอะนะ อึดอัด อยากปลดปลอยจวนจะ


ทนไมไหวอยูแลว

น้ําเสียงสั่นพรากับลมหายใจหอบแรงของไอพี่ทองทําใหผมขนลุกซู “ใชแลวครับ...เซ็กสโฟน...อาร...ที่รัก...ตามใจ...พี่เถอะนะ...”
น้ําเสียงออนวอนที่เต็มไปดวยความปรารถนานั่นทําใหผมวาบหวิวในชองทอง
“ตะ...แต...วินไมเคย...” ผมซุกหนาลงกับหมอน อาการงวงงุนเริ่มหายไปทีละนิด และถูกแทนที่ดวยความรอนผาวบนใบหนา
อะ...ไอพี่ทองบา...หนาไมอาย...อยูไกลกันอยางนี้ยังมาหื่นใสผมอีก
“ตอนนี้วินดี้อยูบนเตียงหรือเปลาครับ” น้ําเสียงนุมทุมเอยถาม
“คะ...ครับ...” นี่ตกลงแกจะเลนจริงๆ หรือครับ อาก ผมปฏิเสธไดไหมอะ
“วินดี้นอนคว่ําหรือนอนหงาย” จะถามทําไมเนี่ย ผมสายหนาอยางปลงไมตก ผมควรปลอยไปตามน้ําหรือขัดใจพี่เขาดี
“วินนอนคว่ํา ซุกหนากับหมอน” เยย สมองยังไมสั่งเลยนะเวยวาจะเอายังไงดี ทําไมปากถึงไดตอบเสียงอูอี้ไปอยางนั้นละ
“แลวคืนนี้วินดี้ใสเสื้อนอนหรือเปลา”
“ใส...เสื้อหมีพูห”
“อา...นอยพูหของพี่ พี่อยากกอด อยากหอม อยากจูบวินดี้ ขอพี่จูบไดไหมครับ” ทําไงดี ผมเริม่ จะหายใจไมออกแลวสิครับ เนค
ไทที่ปดตาไวทําใหผมอยูภายใตความมืด หากแตมันกลับทําใหผมจินตนาการและมองเห็นภาพไดอยางชัดเจน น้ําเสียงสั่นกระเสาดั่ง
ถูกไฟรักครอบงํากระซิบแผวเบาขางหู เสียงลมหายใจที่หอบกระชั้นทําใหผมนึกถึงใบหนาที่เต็มไปดวยความปรารถนา นัยนตา
รอนแรงจองผมราวกับจะกลืนกินเขาไปทั้งตัว
“ฟู...” ผมสั่น ขนลุกตั้งแตหัวจรดเทาเมื่อไอพี่ทองเปาลมใสโทรศัพท
“มะ...ไมเอา วินไมเลนแลว...ไอพี่ทองบา...หื่นไมรูจักเวล่ําเวลา...ดึกแลว...วินจะนอน...ไมเลนแลว...” ผมตอบรัวเร็ว สะดุงขึ้น
นั่ง ไมไหวครับ เนื้อตัวผมรอนวูบวาบไปหมดเลย หัวใจก็เตนแรงเร็ว มันตื่นเตน แตก็กลัวและเขินอายอยางบอกไมถูก
“ไมตองอายครับที่รัก ตอนนี้มีแคเราสองคน วินดี้กับพี่”
“แต...วินไม...”
“พี่ตองการวินดี้ พี่อยากรักวินดี้ ชวยทําใหพี่มีความสุขไดไหม...นะครับคนดี...นะ...” แง...ทําไมตองทําเสียงอยางนี้ดวย แลว
ผมจะบอกปฏิเสธอยางไรดีในเมื่อพี่เขาเวาวอนและออดออนถึงปานนี้
“พี่จะประคองใหวินดี้เอนตัวนอนอยางชาๆ นะครับ อยางนั้นแหละที่รัก” พูดอยางกับเห็นวาผมลุกขึ้นนั่ง เสียงนุมทุมที่ไดยิน
ราวกับมีมนตขลัง สะกดผมใหเอนตัวลงนอนอีกครั้ง
“ไอพี่ทอง พอเถอะ วินไมอยากเลนแบบนี้อะ” ผมยังคงตอตานทามกลางความมืดและเสียงลมหายใจหอบแรงของพี่เขา
“วินดี้ไมตอ งกลัว...ไมตอง...กังวลอะไรทั้งนั้น...ผอนคลาย...แลวไปกับพี่นะครับ...” น้ําเสียงเซ็กซี่ที่ขาดเปนหวงๆ นั่นไมตอง
บอกก็พอรูวาอีกฝายกําลังทรมานขนาดไหน แทบไมอยากคิดเลยวาตอนนี้ไอพี่ทองกําลังทําอะไรอยู หากจะบอกปดและตัดสายไป
เลยก็คงได แตนั่นคือสิ่งที่ผมตองการแนหรือ การปลอยใหคนที่เรารักทรมานทั้งๆ ที่เขารองขอการปลดปลอย ผมจะเมินเฉย ทําเปน
ใจรายหันหลังใหพี่เขาไดอยางไร
“แกมวินดี้หอมจัง ผมของวินดี้ก็นุม...” ผมผอนลมหายใจเขาออก เสียงสูดลมหายใจแรงๆ ทําใหผมรูสึกวาพี่เขากําลังหอมแกม
อยูจริงๆ โดยไมรูตัวผมใชมือปดไรผมออกไปจากใบหนา มันใหความรูสึกคลายอุมมืออุนลูบไลไปบนหนาผากของผมอยาง
นุมนวล
“พี่คิดถึงวินดี้ใจจะขาดอยูแลว” อยากรูนักวาความรูสึกโหยหานี่มันถายทอดถึงกันผานโทรศัพทไดหรือเปลา พอไดยินพี่
เรียกรองมากเขาผมก็โอนออนยอมตามใจ มันคงไมเสียหายอะไรใชไหม หากผมจะทําใหไอพี่ทองมีความสุขบาง
“ปากวินดี้นาจูบนัก อืม...ผิวก็เนียนและนุมมือ...พี่ชอบ...วินดี้ตองเปนของพี่คนเดียวเทานั้น...รูไหมครับ” อาจเปนเพราะความ
อยากรูอยากลองสิ่งแปลกใหมที่คนรักหยิบยื่นให บวกกับตองการเอาใจอีกฝาย ทําใหผมปลอยอารมณไปกับพี่เขา
“อะ...อืม...” น้ําเสียงสั่นพรา ขาดเปนหวงๆ กับลมหายใจหอบแรง ทําใหผมมองเห็นวาพี่เขากําลังจูบผมอยางดูดดื่มกอนจะไซ
ริมฝปากไปตามซอกคอ ในขณะที่มือหนาสอดเขามาใตเสื้อนอนของผม แลวลูบไปตามลําตัว
“อา...” ผมสะดุงเมื่อยอดอกถูกสัมผัสอยางวาววิว
“วินดี.้ ..อืม...ชอบไหม...” ผมเมมเรียวปาก
“บอกพี่สิครับวาชอบไหม” สําผัสหนักหนวงที่หยอดอกทั้งสองขางอยางตองการจะกลั่นแกลงและบีบบังคับใหผมตอบ
“ชะ...ชอบ...” ผมบอกเสียงสั่นพรอมกับสติที่เริ่มหลุดลอย
“ซี๊ดดด...แลวแบบนี้ละ...วินดี้นอยมันแข็งสูมือพี่ดวย...อา...”
“อะ...อา...” ผมแอนกายตอบรับสัมผัสที่เคนคลึงบนแกนเนื้อของผม รางกายรอนระอุราวกับกําลังถูกแผดเผา ความรูสึกตอนนี้
ไมตางกับคนที่กําลังกระหาย พอไดรับหยดน้ําเพียงนอยนิด ผมก็เรียกรองหามันมากยิ่งขึ้น
“ครางออกมาที่รัก...พี่ชอบ...ฟงเสียง...วินดี.้ ..อา...”
“อือ...อา...พะ...พี่ครับ...วิน...เสียว...”
“เสียว...มาก...ไหม”
“มาก...ครับ...” รางกายผมบิดเราอยางทรมาน
“อืม...งั้นพี่ใชปากชวยนะ...พี่กําลังกลืนเขาไปทีละนิด...อะ...อืม...”
“โอว...ซี๊ดดด...” ผมมาไกลสุดกูเสียแลว ยากที่จะยับยั้งความตองการของรางกายที่ถูกปลุกขึ้นมา ความปรารถนาที่เพิ่ม
ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ทําใหผมปลอยทุกอยางใหพี่เขาเปนผูนําทาง ยามใดพี่เขาเรียกรอง รางกายผมจะรอนระอุและตอบสนองอยางรู
หนาที่
“อะ...อืม...” เสียงครางในลําคอทําใหผมรูวาไอพี่ทองรอนแรงและอารมณกําลังทะยานขึ้นสูง ในขณะที่รางกายผมออนระทวน
และกําลังหลอมละลายดวยไฟเสนหหาที่พี่หยิบยื่นให
“พี่อยากเขาไปในตัววินดี้” คําพูดดวยน้ําเสียงแหบพราดังมาไมขาดสาย เปนบทบรรยายที่ทําใหผมรูสึกวาเรากําลังฝาไฟรักไป
พรอมกัน เสียงหายใจกระชั้นถี่ของผมและพี่ประสานกันตลอดเวลา
“วินดี้เปนของพี่นะครับ”
“ครับ” ผมตอบรับราวกับคนละเมอ กลั้นลมหายใจ
“อา...ที่รัก...” เสียงครวญครางอยางสุขสุมทําใหหัวใจผมเตนรัวเร็ว
“อืม...พี่...ครับ...” รางกายผมสั่นระริกตอบรับรางหนาซึ่งชุมไปดวยเหงื่อที่ทาบทับลงมา นัยนตารอนแรงของพี่จองใบหนาของ
ผม กอนจะกมลงมอบจุมพิตแสนหวานอยางปลอบประโลม มือหนาลูบไปตามรางกายกอนจะจับที่สะโพกผมไวแลวยามพี่เริ่มขยับ
รางกาย
“โอว...อา...ซี๊ด...” เสียงครางของเราทั้งคูดังระงม จากนาทีเพิ่มขึ้นเปนสิบนาที ยี่สิบนาที และเกือบจะปาเขาไปเปนชั่วโมงที่เรา
ทั้งคูตางเติมเต็มใหแกกัน
“วินดี.้ ..ชวยพี่…สิครับ...” ในบางครั้งพี่ก็ขอใหผมชวยปรนเปรอพี่บาง พอผมตอบวาครับ เสียงครวญครางอยางทรมานหากแต
เปรี่ยมไปดวยความสมหวังก็ดังขึ้น
“เกงมากเลยที่รัก...โอว...อา...ซี๊ดดด...” พี่โนมนาว นําพาความปรารถนาของผมใหโบยบินขึ้นสูง จนกระทั่งไมชาก็กาวไปถึง
จุดสูงสุด
“พี่ครับ...วิน...ไมไหว...แลว...”
“อา...อีกนิดครับ...ที่รัก....อีกนิด...”
“เร็วเถอะ...อะ...อา...”
“โอว...วินดี.้ ...วินดี.้ ...
“...อา...” แลวสุดทายผมก็ถึงจุดหมายปลายทางอันสวางไสวซึ่งพี่รอผมอยูตรงนั้น มือหนาเอื้อมมาขางหนาเพื่อรอใหผมวางมือ
ในอุงมืออุนกอนจะจับจูงพาผมเดินไปยังสุดสายปลายรุง
“อา...พี่มีความสุขจังเลย ขอบคุณครับที่รัก วินดี้ของพี่เกงและนารักที่สุดเลย” คําชมที่กระซิบแผวเบามาตามสายทําใหใบหนาผม
รอนผาว หากริมฝปากกลับเหยียดยิ้ม
“วินก็...ก็...รูสึก...ดี...” ถึงแมวาตอนนี้ผมจะนอนหอบหายใจ รูสึกเหนื่อยเหมือนเพิ่งการวิ่งมาเปนสิบกิโล แตก็อิ่มใจอยางบอก
ไมถูก การทําใหคนที่เรารักมีความสุข มันมอบความสุขที่มากกวาเชนนี้เอง

ผมตื่นเกือบจะเที่ยงวัน คุณๆ อยาถามเลยวาเมื่อคืนทําอะไรอยูถึงทําใหตื่นสาย ไมนะ...อยาทําหนารูทันอยางสิ แลวก็ไม


ตองมาลอผมดวย ผมอายครับ...ขอรองละ แคคิดผมก็หนารอนผาว ไมรูทําลงไปไดอยางไร โอยๆ เขินๆ
“รอใครอยูหรือตริน” เมื่อลงมาขางลางก็เห็นตรินกระสับกระสายอยูในหองนั่งเลน ตาคอยชะเงอมองหนาบานอยู
ตลอดเวลา
“รอปรินครับ ยังไมกลับตั้งแตเมื่อวาน พี่เพิ่งติดตอไดเมื่อสิบนาทีกอนนี้เอง”
“อาวเหรอ” ผมขานรับพรอมกับทิ้งตัวบนโซฟาขางๆ ตริน
“แลวเพิ่งจะคุยกันเมื่อสิบนาที ปรินจะมาถึงบานเดี๋ยวนี้ไดอยางไรละ” ผมบอกเพราะดูทาแลวตรินจะกระวนกระวายมากเลย
ครับ เขาลุกแลวนั่ง ลุกแลวนั่งอยูอยางนั้น
“อืม...แตพี่เปนหวง อยากเจอเร็วๆ”
“ทําไมอะ เมื่อวานวันศุกรไมใชหรือ ปรินอาจจะไปคางบานเพื่อนก็ได” ตรินสายหนาใหกับสมมุติฐานของผม
“ปรินไมมีเพื่อนที่เมืองไทยหรอก แลวถาจะไปไหน ไมเคยหายไปเฉยๆ แบบนี้ อยางนอยก็บอกใหรูวาจะกลับหรือไมกลับ ไม
เคยปดโทรศัพทดวย พี่โทรหาตั้งแตเมื่อวานก็ไมรับสายสักที เมื่อกี้ตอนโทรไป ใครก็ไมรูรับสาย มีเสียงทะเลาะกันดวย”
“จริงหรือ แลวปรินเปนไงบางอะ แลวอยูกับใคร” พอไดฟงที่ตรินเลาดวยสีหนาไมสบายใจ ผมก็เริ่มรูสึกเปนหวงปรินขึ้นมาบาง
เล็กนอย
“พี่ก็ไมรูวาปรินอยูกับใคร แตกอนที่เขาจะสงโทรศัพทใหพี่คุยกับปริน เขาบอกวาเปน...เออ...เปน...เออ...” เปนอะไร รีบๆ พูด
มาสิ อยากรูนะเนี่ย ผมมองตรินที่จูๆ ก็เกิดอาการติดอางขึ้นมา ใบหนาขึ้นสีระเรื่อของเขาทําใหผมอยากรูคําตอบเร็วๆ
“แตพี่ไมเชื่อหรอกนะ ตองถามปรินใหรูเรื่อง เมื่อไหรเขาจะมาสักที” อาวๆ ทําไมขามขั้นตอนอยางนี้ละ อยาตัดประโยคสิตริน
ตกลงไอนั่นมันเปนใคร บอกมาๆ
“ทําไมไมเชื่อละ มันบอกวาเปนใครหรือ” ดวยความอยากรูครับ เลยไมอาจปลอยไปได ตรินสบตาใครรูของผมกอนจะเมมเรียว
ปาก
“พี่วาเด็กอยางนองกุลไมรูนาจะดีกวานะครับ” ผมทําแกมปองอยางขัดใจ เฮอะ...แกกวาเคาแคปกวาเอง ยังมีหนามาวาคนอื่น
เปนเด็ก
ตรินยิ้มประจบเมื่อเห็นผมหนางอ “นองกุลเพิ่งตื่นคงยังไมไดกินอะไร เมื่อเชาปาสายทําตมจืดวุนเสน ไมรูวาเหลือหรือเปลา
เดี๋ยวพี่ไปดูใหนะ หรือวาอยากกินขนมปงก็ได พี่เพิ่งเอาออกจากตูอบ นองกุลจะชิมกับโกโกรอนไหม”
“ขนมปงอะไรอะ” ไมเซาซี้ก็ไดครับ ในเมื่อตอนนี้ตรินไมอยากบอกก็ปลอยไป เดี๋ยวพอเผลอเขาก็มาเลาใหฟงเองแหละ
“ไสมะพราวครับ แมบอกวาอยากกินพี่ก็เลยทําไวรอ”
“อืม...กุลก็อยากกินเหมือนกัน แลวนี่แมไปไหนอะ”
“พอกับแมพาตาไปทํากายภาพ เห็นวาจะกินขาวเที่ยงนอกบาน บายๆ ถึงจะเขามา” ผมพยักหนารับ ตอนนี้ขาตาเริ่มจะไมมี
แรงแลวละครับ ตองนั่งรถเข็น แตหมอก็แนะนําใหทํากายภาพบอยๆ กลามเนื้อจะไดทํางาน นักกายภาพแนะนํามาวาการเดินในน้ํา
จะชวยใหตาเดินสะดวก พรอมทั้งใหความรูสึกแกคนไขวาตัวเองกลับมาเดินไดอีกครั้ง วันเสารแบบนี้พอตรินเลยพาตาไปออกกําลัง
ครับ สวนแมขณะที่รอพอตรินกับตาลงสระก็ไปเลนโยคะครับ
“ไววันเสารหนาไปกับตาดวยดีกวา อยากวายน้ําเหมือนกัน” ผมบอกขณะลุกขึ้นยืน ตั้งใจจะไปยลโฉมขนมปงไสมะพราวของ
ตรินเสียหนอยครับ
“จะไปเอาขนมหรือครับ นองกุลนั่งรออยูนี่ก็ได เดี๋ยวพี่ไปหยิบให นี่ก็อยากไดกาแฟสักถวยเหมือนกัน” ตรินแตะไหลผมขณะ
พูด ผมหันไปยิ้มหวานใหกบั เขา
“ขอบคุณคราบ”

ขณะรอตรินก็หยิบรีโมทมาเปดดูโทรทัศนครับ นอนเหยียดไปตามความยาวของโซฟา เพิ่งจะสบายๆ ไดไมทันไรเสียงรถก็ดัง


เขามาครับ ผมลุกขึ้นนั่งกอนจะหันไปดูวาใชปรินหรือเปลา ผิดคาดครับ ไมใชปรินแตเปนเมธ แตผมก็ไมแปลกใจหรอกนะครับที่เห็น
มัน
เมื่อคืนหลังจากเมธมาสงตริน มันก็ตรงดิ่งเขามาถามผมเรื่องของพี่มิ้นทันที มันคงอยากรูขอมูลของคูแขงมันมั้ง ผมก็เลยยื่น
หนูยื่นแมวกับมัน ผมจะบอกในสิ่งที่มันอยากรู และเมธตองตอบสิ่งที่ผมอยากรูเชนเดียวกัน
เมธก็ยอมตกลงครับ ผมเลยไดโอกาสถามวาตอนที่หายไป ทําไมตรินกลับมาตาแดงๆ เมธทําหนาเศรา บอกวามันพลั้งปากพูด
ไมดีกับตริน ผมถามวาพูดอะไร มันเลยบอกวาสําสอน คําพูดใสรายอยางรุนแรงเชนนั้นทําตรินรองไหพรอมกับบอกวาถาไมรักก็อยา
ดูถูกกันไปมากกวานี้ เมธพอไดสติก็ขอโทษและพยายามอธิบายอยูนาน แตตรินก็ไมยอมฟง เขายืนยันจะมาหาพวกผม เมธก็เลย
ยอมพามา
หลังดูหนังเมธเห็นวาตรินอารมณเย็นลงแลวเลยพาไปปรับความเขาใจกัน มันสารภาพความรูสึกกับตริน บอกวาหึงจนหนามืด
ก็เลยพูดแบบไมคิด มันบอกไมรูวาเหตุผลอะไรที่ทําใหคนเราหึง แตตอนนี้มันกําลังรูสึกอยางนั้นกับตริน ตรินก็คงพอเดาไดวาเมธ
ตองการจะบอกวาเพราะรักก็เลยหึง และที่มันมาวันนี้ก็คงอยากมาย้ําใหตรินรูความรูสึกของมันละมั้ง

“อาว...มาไงอะมึง” ทักทายมันไปครับ
“ขับรถมา”
“ออหรอก นึกวานั่งเกวียน” ผมมองมันตาขวาง เมธหัวเราะ เดินมานั่งขางๆ ผม
“บานเงียบจัง ไปไหนกันหมดเนี่ย” มามุกน้ําเนาเชียวนะมึง แลวตามึงนี่มองหาใครอยู
“พอกับแมพาตาออกไปขางนอก สวนไอปรินไปไหนไมรู ตรินเพิ่งเขาไปในครัวเมื่อกี้ สวนกูก็นั่งอยูขางมึง ตกลงมึงมาหา
ใคร”
“ก็มาหามึงนี่แหละ” มันตอบเสียงเรียบ แตกลับทําใหผมคันฝามือ อยากตบหัวมันจริงๆ ไอปากหนักเอย รูอยูแกใจวามาหาใคร
ยังอมพะนําอยูได
“อืม...มาก็ดีแลว กูกําลังอยากออกไปขางนอกพอดี ไมมีรถดวย พากูไปหนอยสิ” ผมพูดพรอมลุกขึ้น
“เฮย...อะไรเพิ่งเขามา ใหพักเหนื่อยกอนสิ” เมธเยื้อแขนผมไว ผมยิ้มมุมปาก
“งั้นมึงพักไปกูเปลี่ยนใจแลว โทรใหพี่มิ้นมารับดีกวา เห็นตรินบอกวาอยากไดหนังสืออยูดวย เดี๋ยวใหพี่มิ้นพาไปซื้อพรอมกัน
เลย” พอผมพูดจบเมธก็ลุกขึ้นยืนคูกับผม
“อยาเชียวนะมึง กูไมชอบหนาไอหานั่น อยากไปไหนเดี๋ยวพาไป” มันดันไหลผมใหกลับลงไปนั่งที่เดิม
“ไมอะ จะใหพี่มิ้นพาไป” ผมสะบัดไหล เมธปลอยมือ
“เอะ...ไอนี่ จะยั่วโมโหกูหรือไง” มันทาวเอว ขรึงตา ทําหนายักษใสผม
ผมตีหนาซื่อ “อะไร ไมชอบก็เรื่องของมึงสิ แลวมีธุระอะไร รีบๆ พูดมาแลวก็กลับไปไดแลว” เมธถอนหายใจเสียงดัง
“เออ...กูยอมแลว” มันกระแทกเสียง “กูมาหาตริน” กอนจะออมแอมยอมรับความจริงออกมา
ผมกลั้นหัวเราะที่ไลมันจนมุมสําเร็จ “ก็แคเนี่ย” แสรงปนหนานิ่ง พูดดวยน้ําเสียงเอือมระอา เมธปรายตามองผม
“อยาทําหนาพิลึกใสกู จะหัวเราะเยาะก็หัวเราะไปสิ” มันหยิบหมอนอิงมาปาใสผม หนามันก็พิลึกเหมือนกันละ จะบึ้งก็ไมใช
เขินอายก็ไมเชิง
“ฮาฮา ไอเมธเขิน เปนไงละถูกจับได ไมตองมาทําหนาอยางนั้นเลยนะมึง ฮาฮา” เมธมองผมตาขวาง
“พอใจมึงแลวใชไหม...หะ...” โดยไมทันตั้งตัว เมธก็จับหมอนอิงอีกใบแลวจับกดหนาผม ปดเสียงหัวเราะไปโดยปริยาย ผมดิ้น
ขลุกขลัก บอกมันใหปลอยเสียงอูอี้ หายใจไมออก แตแรงอยางผมนะหรือจะสูแรงควายอยางมันได เลยถูกมันแกลงจนพอใจ
“ตรินอยูในครัวใชเปลา กูจะไปหาเคา แลวไมตองตามมานะมึง” มันบอกหลังจากปลอยผมเปนอิสระ ผมหอบหายใจฮักๆ ชี้
หนามัน อยากดามันแตยังเหนื่อยอยู เมธทําหนากวนตีนแลวเดินจากไป
“หานี่ จะฆากูเลยใชไหม ทีอยางนี้ทําเปนกลา แลวนี่มันบานกูนะ มาสั่งโนนสั่งนี่ เดี๋ยวเถอะ พอจะทําตัวเปนกางชิ้นใหญติดคอ
มึงซะเลย” ผมตะโกนดามันหลังจากเรียกกําลังกลับมา แตมันคงไมไดยินหรอกครับเพราะวาหายเขาไปในครัวเรียบรอยแลว
เจ็บใจที่ถูกมันแกลง แตก็สุขใจนิดๆ ที่เห็นบางอยางเปลี่ยนแปลง ผมใชมือปดปากกลั้นเสียงหัวเราะเมื่อคิดวาสองคนนั้นจะ
กุกกิ๊กๆ อะไรกันในครัว อยากไปแอบดู แตไมเอาดีกวาเดี๋ยวเปนตากุงยิง ผมยิ้มขําอยูคนเดียวกอนจะลมตัวลงบนโซฟาอีกครั้ง ใชมือ
ลูบทองบอกใหกระเพาะมันรอกอน อีกนานเลยไอหนูกวาแกจะไดกินขนมปงไสมะพราวกับโกโกนะ

เวลาผานไปครูใหญก็มีเสียงรถแลนเขามาในบาน คราวนี้เปนปรินครับ
“ทําอะไรอยูไอเปยก” เดินสวนสนามอยูมั้ง ผมปรายตามองมัน ก็เห็นนอนดูทีวีอยูยังจะถามอีก
“ดูทีวี” ไมอยากตอปากตอคํากับมันครับเลยตอบไปตามตรง ปรินเดินมานั่งขางผม หนาตามันอิดโรยอยางคนไมไดนอน
“ดูอะไรอะ” เอา ก็บอกวาดูทีวีไง
“รถแขง” จําใจตอบมันไปตามตรงอีกครั้งครับ ไมรูหูตึงหรือเปลา เสียงแขง F1 ดังกระหึ่มปานนี้ ไมตองมองก็รูวาในทีวีเขา
ถายทอดอะไรอยู
“อืม...งวง...”
“เฮยๆ ถางวงก็ขึ้นไปนอนขางบนดิ” มันมาแปลกครับวันนี้ นอกจากพูดสั้นๆ กวนตีนแลว ยังจะลมตัวลงนอนหนุนตักผม
“ของีบแปบไดไหมครับ หานาทีก็ไดนะ...นะ...” เยย...สยอง มันออนครับ ย้ํา ไอปรินมันออนผม ตามันปรือๆ เหมือนลูกแมวดื้อ
สิ้นฤทธิ์เลย
“ขับรถกลับมาไดอะ งวงขนาดนี้ คราวหลังก็หลับสักงีบกอนแลวคอยกลับเขาใจปะ” ผมเอื้อมมือไปหยิบหมอนอิงมาใหปรินมัน
หนุนแทนตักผม คิดวามันนาจะสบายมากกวาครับ
“อืม...แตกลัววาถาอยูนานคงไมไดนอนมากกวานะสิ” แลวมึงทําอะไรอยูถึงไมไดนอน ผมสงสัยแตไมไดถามออกไปหรอกครับ
กดรีโมทผอนเสียงโทรทัศนลงหนอยกลัวไปรบกวนมัน เห็นปรินมันทําตัวนารักแบบนี้ก็ดูไมมีพิษมีภัยดีครับ แตไมรูพอตื่นขึ้นมาแลว
จะออกลายอะไรอีก

ผมนั่งดูทีวีไปเงียบๆ พรอมกับปรินที่นอนอยูขางๆ เสียงหายใจสม่ําเสมอบอกวามันกําลังหลับสบาย ทวาเสียงคุยกระหนุงก


ระหนิงที่ดังเขามาใกลทําใหผมไดสติ มองหนาปรินกับที่มาของเสียงกอนจะตาโต รีบลุกขึ้นจากโซฟา แลววิ่งเขาไปในครัว
“เปนอะไรมึง หนาตื่นมาเชียว” เมธมันถาม ในมือถือจานใสขนม สวนตรินถือแกวโกโกรอนของผม
“เออ...คือ...” อะไรวะ คิดๆ สิ
“ตริน เปลี่ยนจากโกโกรอนเปนโกโกปนไดไหมอะ ใสครีมเยอะๆ กุลอยากกิน ทําใหหนอยนะ” ผมกระโดดเขาไปเกาะแขนตริน
ตรินยิ้มบางๆ
“ไดสิ เดี๋ยวพี่ทําให แปบหนึ่งนะ” ผมยิ้มหวาน
“เรื่องมากจริงนะมึง” กอนหันไปแยกเขี้ยวใสเมธ วากูเขาไปเถอะ เดี๋ยวปลอยใหงานเขาแลวมึงจะรูสึก
“งั้นกลับเขาไปในครัวดีกวาเนอะ ปะๆ” พูดพลางหนุนหลังตริน เมธมันก็ยอมเดินตามเขามา ผมหันไปหยิบขนมบนจานในมือ
เมธมาชิ้นกอนยัดเขาปาก หิวครับ
ในครัวไมมีใครอยูเลย ตรินคงใหปาแมบานไปพัก ผมก็เลยปลอยใหเมธกับตรินอยูกันตามลําพังอีกครั้ง กอนจะออกไปจัดการ
กับไอวายรายที่นอนหมดสภาพในหองนั่งเลน “เดี๋ยวกุลมานะ ไปปดทีวีกอน” พูดจบก็วิ่งปรูดออกไปเลยครับ
“ปริน ปริน ตื่นเร็ว ไปนอนบนหองดีกวา ปะ ปะ ลุกๆ” เขยาตัวปรินมันครับ ปลอยไวแบบนี้ไมดีแนๆ ถาเมธมันเจอปรินกับตริ
นพรอมหนากันแลวจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็ไมอาจรู แตที่แนๆ ตรินคงเจ็บอีกตามเคย ทางที่ดีปองกันไวกอนดีกวาครับ ปลอยใหเมธมัน
ทําคะแนนในใจตรินไวใหมากๆ เพราะตอนนี้ทุกอยางกําลังไปไดสวย
ปรินมันงัวเงียขึ้นมาครับ ผมก็จัดการลากมันขึ้นไปชั้นบน ตรงไปยังหองนอนเกาของผม ตั้งแตปรินมาอยูหองนี้แทนผม ผมก็ไม
เคยเขาไปในหองมันสักที แลวพอเปดประตูเขาไปในหองก็ตองอาปากเหวอ ไมนึกวาจะเห็นภาพแบบนี้ แลวนี่ตกลงปรินไปนอน
ตรงไหนละเนี่ย ในเมื่อบนเตียงเต็มไปดวยตุกตาจนแทบจะลนออกมา แตแลวก็ไดคําตอบในไมชาเมื่อปรินเดินโซเซไปลมตัวบนเตียง
เบียดๆ กับกองตุกตาของมันนั่นแหละครับ เห็นแลวบอกไมถูก มันรูสึกแปลกๆ ยังไงไมรู เหมือนจะเขาใจความรูสึกของปริน และรู
เหตุผลวาทําไมบนเตียงถึงเต็มไปดวยตุกตาอยางนั้น

ผมยองออกจากหองดวยความรูสึกโหวงเหวงในใจ แตอยางไรเรื่องของปรินเอาไวทีหลัง ตอนนี้สิ่งสําคัญที่สุดคือทํามิชชั่นให


สําเร็จ ตองใหเมธมันบอกรักตรินซะกอน ผมตรงดิ่งเขาไปในครัว แตแลวภาพที่เห็นทําใหผมเบรคเอี๊ยดทันที

...เออ...เมธครับ...ตรินครับ...มัวแตแลกลิ้นกันอยูอยางนี.้ ..กุลจะไดกินโกโกปนไหมครับ...

ผมชะงักงันอยูชั่วครูกอนจะรีบหันหลังเมื่อไดสติ ขาซึ่งกําลังจะคอยๆ ยองออกไปจากที่ตรงนั้นหยุดอยูกับที่เมื่อแววเสียง


ของทั้งสองดังใหไดยิน ดวยความอยากรูที่มีมากทําใหเกิดอาการหูผึ่ง ไมไดแอบดู แตแอบฟงคงไมเสียหายอะไรหรอกมั้ง
“ตกลงรสชาติมันเปนยังไง” เสียงของเมธฟงดูนุมนวลเกินกวาเหตุ ผมรีบใชมือปดปากกลั้นเสียงรอง อาก สยิววุย ทําไม
ตองปนเสียงหลอขนาดนี้ดวยวะ
“ฉวยโอกาส” เสียงของตรินออมแอมตอบ ไมตองเดาก็รูวาเขาตองกมหนางุด ใบหนาแดงก่ําลามไปถึงหู
“ใครบอก ตรินถามเองนี่วาโกโกหวานไปไหม เมธก็ชิมแลวแบงใหตรินชิมบางไง” อะจาก อยาบอกนะวาที่จวบกันเมื่อ
กี้นะ ทั้งสองแบงโกโกใหกันชิม งั่กๆ ชอนก็มีแตไมใช มาใชปากแทน ไอพวกนี้ขี้เกียจลางชอนอะดิ
“แลวตรินวาไง มันหวานไหม” โห ชางกลาถามนะมึง อายกูทแี่ อบฟงอยูนี่บางเถอะ
ผมคอยๆ ชะเงอหนาผานชองประตู อยากเห็นวาทั้งคูกําลังทําอะไรอยู แบบวาฟงอยางเดียวมันจินตนาการไมคอยไดอะ
ครับ ทันเห็นเมธเชยคางตรินแตตรินกมหนา เมมเรียวปาก เขาชั่งใจอยูครูใหญกอนจะเงยหนาขึ้นแลว
“อยาทําแบบนี้อีก พี่ไมใชของเลนของนองเมธนะครับ” ตอบกลับมาดวยน้ําเสียงหมนเศราพรอมกับดึงมือเมธออกไป
“ใครวาละ นี่ตรินไมเชื่อที่เมธพูดหรือไง จะพูดสักกี่ครั้งวาเมธรูสึกยังไงกับตริน” เมธรีบแกความเขาใจของตรินดวย
น้ําเสียงรอนรน
“นองเมธแคสับสน”
“ใชเมธยอมรับวาเมธเคยสับสน แตตอนนี้เมธแนใจ ขอรองละตริน ใหโอกาสเมธบาง” เมธพูดดวยสายตาเวาวอน มือจับ
ไหลของตรินไวทั้งสองขาง
“เมธรูวาเมธผิดที่ทําใหตรินเสียใจ ตลอดเวลาที่ผานมาเมธมองตรินมาโดยตลอด แตเมธโงเองที่ไมรูใจตัวเอง แลวพอรูวา
จะเสียตรินไปเมธก็ทนไมได” น้ําเสียงของเมธฟงดูปวดราวยามกลาวประโยคสุดทาย
“มันก็แคการหวง” ตรินแยง หลบตาขณะพูด
“ใช หวง และก็หึงมากดวย แตเมธไมไดรูสึกแบบนี้กับปริน มันเกิดขึ้นกับตรินเทานั้น ตรินรูไหมวาเพราะอะไร...เพราะเมธ
รักตรินไงละ”
เมธพูดคํารักออกมาดวยน้ําเสียงจริงจัง ผมซึ่งกําลังแอบดูและแอบฟงอยูแทบจะรองเยออกมาดังๆ ในที่สุดไอคนปาก
หนักก็ยอมบอกรักซะที ทวาปฏิกิริยาของตรินที่แสดงออกมานั้นกลับทําใหความรูสึกตื่นเตนยินดีเมื่อสักครูของผมลดลง
นัยนตาตรินวาววับอยางดีใจที่ไดยินคําบอกรักทวามันก็แคชั่ววินาทีเดียวเทานั้นกอนจะแปรเปลี่ยนเปนหมนเศรา ตริน
สายหนาอยางไมเชื่อคําพูดของเมธกอนเขาหันหลังให กมหนาลงต่ํา เมธรีบเดินเขาไปโอบตรินไวทางดานหลัง ทวาตรินกลับยืนนิ่ง
เฉย คลายกําลังตอสูกับความรูสึกของตัวเอง
สิ่งนั้นทําใหผมหันหลังใหกับคนทั้งคูและเดินออกไปจากที่ตรงนั้น คงไมมีประโยชนที่จะอยูฟงอีกตอไปในเมื่อเขาใจแลววา
แคลมปากมันยังไมพอ เมธตองทําใหตรินหายคลางแคลงใจ ตองกําจัดตะกอนออกไปจากใจของตริน และผมก็ไมรูวาเมธตองใชเวลา
อีกนานเทาไหร มันคงเปนเรื่องยากไมใชนอยที่ตรินจะเชื่อใจเมธไดอีกครั้ง ในเมื่อคนที่เมธมีความสัมพันธดวยนั้นคือนองชายของ
ตัวเอง แถมยังหนาตาเหมือนกันอีก
คิดแลวก็หนักใจแทน เฮอ...ความรักกับหัวใจของคน มันวกวนจริงๆ เลย แตก็ยังดีครับ อยางนอยก็เห็นความสัมพันธของ
เมธกับตรินคืบหนาไปบาง หลังจากที่อึมครึมไมมองหนากันมากนาน จากนี้เมธมันคงตามตื้อตามจีบตรินจนแทบตัวติดกันแนๆ
แตวาระหวางที่เมธกําลังทําลายกําแพงในใจตริน ตองมีใครสักคนมาจัดการเขี่ยไอปรินออกไปหางๆ กอนใชไหมครับ ไมงั้น
ความพยายามที่เมธทําคงสูญเปลาแนๆ พูดแลวก็เซ็ง ขนาดมันนอนหลับอุตุอยูบนหอง ยังสงกระแสจิตมากอกวนคนอื่นเฉยเลย
เห็นทีตองโบกมือลาใหกับโกโกปนเพราะเดาใจปรินไมออกจริงๆ ตอนนี้ผมวาผมขึ้นไปเฝามันบนหองดีกวา กลัวมันตื่นมา
เจอเมธ แลวไปปวนใหเขาแตกคอกัน เฮอ...แคคิดก็ปวดหัวแลวครับ

ผมกระชับมัจจุราชสีดําในมือ ตาจองไปยังเปานิ่งซึ่งอยูหางออกไปกอนจะปลอยกระสุนทีละนัดอยางใจเย็น พอกระสุนหมดแม็


กก็วางปนลง เอาที่ครอบหูออก

“ฝมือนายนอยไมเคยตกเลย” น้ําเสียงของอินทรีกลาวขึ้นขณะมองไปยังผลงานของผมที่กําลังเลื่อนเขามาใกลพรอมกับสายพาน ผม
ยิ้มมุมปากตอบแทนคําชมของเขา

“ก็พอปองกันตัวได” กลาวเสียงเรียบ อินทรีโคลงศีรษะ

“ถอมตัวตลอดเลย” เขาคานคําพูดของผม จะวาไปฝมือผมก็ถือวาอยูในขั้นที่นาพอใจ

“มันเรื่องจริงนี่ ไมเชื่อก็ดูนั่นสิ” แตก็ยังมีอีกคนที่แมนปนมากกวาผม อินทรีหันไปมองตามที่ผมชี้ชวน

“รันอยูในขอยกเวนครับ” เขาบอก ผมหัวเราะ

เรื่องปนนี่ตองยกใหรันครับ รายนี้ฝมือชั้นยอด ถือวาเปนนักฆามือหนึ่งของเรา ดูสิครับลูกกระสุนเจาะกลางหนาฝากนัดซอนนัด แลว


แบบนี้คนที่ถูกรันเล็งปนใสมีหรือจะรอดชีวิต

“เที่ยงพอดีเลย ไปหาอะไรกินกันไหม” ผมถอนสายตาจากรันพรอมกับกลาวชวนอินทรี


แมจะถูกเรียกวานายนอย แตสําหรับผมกลับรูสึกวาคนของพอทุกคนเปนพี่นอง เปนคนในครอบครัวเดียวกัน แตสําหรับพวกเขาบาง
ทีผมรูวาทุกคนเกรงผม หากผมไมชวนก็ไมมีใครกลาตีเสมอเทาไหร

“รันไปหาอะไรกินกัน” ผมตะโกนเรียกรันอีกคน เขาพยักหนาเล็กนอยเปนเชิงตอบรับกอนจะเก็บปน เดินหนาขรึมมายังพวกเรา

“นายนอยอยากกินอะไรครับ” อินทรีถาม

“งายๆ แถวนี้แลวกัน” ผมหมายถึงแคนทีนของที่นี่ครับ งายและสะดวกดี คือตอนนี้พวกเราอยูที่สนามยิงปนครับ หนึ่งในกิจการของ


ครอบครัวผมซึ่งอยูภายใตการดูแลของคเชนทร สวนใหญก็มีไวสําหรับพวกเราฝกซอมกันเอง

“งั้นเดี๋ยวผมโทรสั่งให” งายสําหรับผมมันก็ยังทําใหคนอื่นลําบากอยูดี แตก็ชวยไมได ในเมื่อผมกินยากกวาชาวบานเขา ตองโทรสั่งให


พอครัวแมครัวปรุงอาหารโดยไมใสผงชูรสครับ ไมงั้นภูมิแพกําเริบ วินดี้ยิ่งไมอยูด วย ไมมีคนทายาให ตองระวังใหมากหนอย

พอพูดถึงนองแลวก็ตองอมยิ้มครับ วินดี้นารักมากเลย เมื่อคืนนองตามใจผมทุกอยาง ผมก็เลยไดโอกาสตักตวงความสุข ปรกติทุก


เชาจะโทรไปปลุกนองครับ แตวันนี้ปลอยใหวินดี้พักผอน ตอนนี้ก็เที่ยงกวาคิดวาวินดี้นา จะตื่นแลว ไวเดี๋ยวกินขาวเสร็จจะโทรไป
แกลงยั่วนองใหเขินเลนครับ รื้อความทรงจําเมื่อคืนวานองทําอะไรลงไปบาง หยอกลอวินดี้บางก็สนุกดีครับ

“เรื่องบานไปถึงไหนแลว” อินทรีถามรันในขณะที่เรากําลังกินขาวกันอยู

“ความจริงเมื่อวานนัดกับคนแตงสวน แตมีเหตุขัดของเลยไมไดคุยเรื่องงานกัน” รันเงยหนาขึ้นจากจานขาว ตอบเสียงเรียบ

“แลวเขารูหรือเปลาวาใครเปนเจาของบาน” ผมถาม

“ถารูคงอาละวาดใหญโตเลยละครับ” เขาพูดขณะที่ใบหนายังนิ่งเฉยหากนัยนตากลับวาววับอยางขบขัน ผมยิ้มมุมปากอยางนึกสนุก


ไปดวยกับเขา

“ถาจะรายไมเบา” อินทรีสันนิษฐาน

“เดี๋ยวก็เชื่อง” รันตอบกลับดวยน้ําเสียงมั่นใจ ผมหัวเราะในคอ อยากรูเหมือนกันครับวาเวลาไอปรินมันเชื่องนะจะเปนอยางไร พอ


เห็นมันแวดๆ ใสรันเมื่อวานแลวก็ทําใหนึกถึงแมวเปอรเซียขนฟูที่กําลังขูฟอๆ ใสเจาของ
“แลวรอยที่คอเนี่ยก็ถูกขวนมาอีกแลวละสิ”

“หึหึ” รันไมตอบแตกลับหัวเราะใหกับคําถามของอินทรี อยาแปลกใจไปเลยครับ อินทรีกับรันเขาสนิทกัน ก็เลยรูเรื่องของกันและกัน


เปนอยางดี

“รายแบบนี้ นาจะเอาใหคุม” อินทรียั่วยุ

“เรื่องนี้แนอยูแลว แตตอนนี้กําลังพยศนาดูเลย” รันอมยิ้มตอบ เขาคงกําลังนึกถึงใบหนาไอปรินยามมันกางเล็บ แยกเขี้ยวอยูมั้ง

“งั้นก็ตองรีบปราบ แลวมาทําอะไรอยูนี่ละ” อินทรีถามตอ เนื่องจากวันนี้เปนวันหยุดของรันครับ ถึงแมวาปรกติเขามักจะมาซอมยิง


ปนบาง ซอมตอสูบาง แตรอยที่คอของเขาคงทําใหอินทรีแปลกใจ ซึ่งตัวผมเองก็เชนกัน ถาเปนผมนะ วันหยุดแสนหวานแบบนี้ไมลุก
ขึ้นจากเตียงหรอกครับ

“ปลอยใหเขาพักผอนกอนดีกวา” ไมตองเดาเลยครับ พูดแบบนี้แสดงวากวาไอปรินจะฝากรอยไวที่คอของรันคงใชเวลากันทั้งคืน


มาแลว

“นายนอยครับ พรุงนี้ผมวาจะขอหยุด” รันหันมาพูดกับผม

“ไดสิ วันอาทิตย ฉันก็ไมไดออกไปไหนอยูแลว” รันเปนการดสวนตัวของผม ตารางการทํางานของเขาจึงไมตรงกับวันหยุดราชการ


เหมือนคนอื่น

“จะยายบานหรือ” อินทรีถามตอ

“อืม...” รันขานรับในลําคอ

เรื่องบานที่กําลังพูดถึงนี่อินทรีเคยเปนคนจัดการใหรันครับ เนื่องจากวามีเศรษฐีเกาคนหนึ่งเอามาจํานองกับบริษัทเงินกูของพอซึ่ง
อินทรีรับผิดชอบอยู แตแลวลูกหนี้ก็ไมมีปญญาจายเราก็เลยยึด บานที่วาเปนบานเกาทรงยุโรป สรางตั้งแตสมัยรัชกาลที่หา ตัวบาน
จริงๆ มันทรุดโทรมมาก ทวาที่ดินซึ่งอยูในเขตเมืองทําใหมีราคา

รันเขาชอบตั้งแตแรกเห็น เลยขอซื้อตอ จากนั้นก็ซอมแซมโดยใหตัวอาคารภายนอกยังคงแบบเดิมไว และใหมัณฑนากรมาตกแตง


ภายใน ตอนที่ผมเห็นเดือนที่แลวเหมือนตัวบานจะเรียบรอยแลว เหลือเพียงตกแตงสวนเทานั้น แตก็คงงานหนักนาดูเลยครับเพราะ
พื้นที่ถูกปลอยรางมานาน หญาขึ้นรก ตามกําแพงเถาวัลยขึ้นเต็มเลย ทวาสําหรับคนแตงสวนอยางปรินแลวมันคงเปนงานที่ทาทาย
ไมใชนอย ปรินมันถึงรับงานโดยไมสนใจวาใครเปนเจาของบาน
“วาแตรันไดขอโทษเรื่องที่เขาใจเขาผิดหรือยัง” อินทรีวกถามเรื่องของปรินดวยน้ําเสียงกังวลเล็กนอย

“ตอนแรกก็วาจะขอโทษ แตตอนนี้เปลี่ยนใจแลว ปลอยไวแบบนี้ก็ดี จะไดมีขออางเวลาอยากเจอ”

“ดูถูกเขามากๆ ระวังโดนดี” ผมเตือนดวยน้ําเสียงหวงใย

“ตอนนี้ก็โดนขวนจนตัวลายไปหมดแลวละครับนายนอย” ผมหัวเราะ รูสึกอิจฉารันนิดๆ ก็นะ...ตอนผมงอวินดี้อะ ถูกซอมซะนวม แต


พอรันงอปรินกลับถูกขวน วาแลวก็ขอยกนิ้วใหเลย นายแนมากจริงๆ

เมื่อวานหลังจากที่รันเขามาพบผมและขอใหเรื่องของปรินเปนเรื่องสวนตัว ทําใหผมไดรูเรื่องระหวางรันกับปรินมากขึ้น รันเลาใหผม


ฟงวาเขาเจอกับปรินเมื่อสองเดือนกอน แลวผมก็มารูอีกทีวาทั้งสองเจอกันดวยความเขาใจผิด รันพบปรินที่หนาผับแหงหนึ่งซึ่งยาน
นั้นเด็กขายคอนขางเยอะ เขาเลยเขาใจวาปรินมันเปนหนึ่งในนั้น

รันเขาไปพูดคุยดวยและชวนปรินมันไปดื่ม ทั้งสองคุยกันถูกคอ ประกอบกับอารมณเหงา ทั้งคูก็เลยลงเอยกันบนเตียง ในรุงสางรันทิ้ง


เงินไวใหปรินกอนจากไปพรอมกับความเขาใจผิดวาปรินเปนเด็กขาย และถาเขามาที่เดิมก็จะไดเจอมันอีกครั้ง แตแลวหลังจากวันนั้น
รันก็ไมไดพบปรินอีกเลย

จนกระทั่งสัปดาหกอนเขาตามไปดูแลผมที่ภูเก็ต รันเจอตรินซึ่งเปนฝาแฝดกับปริน ตอนนั้นตรินอยูกับเมธ รันเขาใจวาปรินมันรับงาน


นอกสถานที่ก็เลยไมอยากเขาไปรบกวน แตแลวพอผมใหทางโรงแรมสืบเรื่องของปริน ถึงทําใหรันรูวาปรินมีฝาแฝดและความก็แตก
วาปรินไมใชเด็กขาย

โดยความรูสึกลึกๆ แลวเขาถูกใจปรินพอสมควร อยากหาโอกาสจะเจอปรินอีกครั้ง อยากขอโทษพรอมกับแกความเขาใจผิดวาเขาไม


มีเจตนาจะดูถูกปริน พอรูวาปรินทําอาชีพเปนคนแตงสวนรันก็ไมรีรอติดตอขอจางทันที แตแลวความตั้งใจของรันที่จะเริ่มตนใหมกับ
ปรินก็ลมเลวเมื่อเขาไดเจอปรินอีกครั้งอยางไมคาดฝนในคืนที่ผมวานเขาไปสงปรินนั่นเอง

จากที่คิดวาจะจีบปรินรันก็ตัดใจเมื่อเขาเขาใจปรินเปนเด็กของผม สวนปรินเองก็แคนใจที่รันเห็นตัวเองเปนสินคา ในคืนนั้นปรินมัน


โยนเงินใสหนารัน บอกวาเอาเงินของแกคืนไป สวนรันดวยความผิดหวังที่ทุกอยางไมเปนอยางที่คิดไวทําใหพลั้งปากพูดกับปริน บอก
วาเงินก็คือเงิน รับเงินจากผมก็รับจากเขาไดเหมือนกัน ดวยอารมณไมพอใจกันทั้งคูสงครามยอมๆ ระหวางรันกับปรินก็เกิดขึ้น
ถึงแมวาตอนนี้รันจะรูแลววาปรินไมใชเด็กผมแตเขาก็ยังปลอยใหมันยืดเยื้อมาจนถึงทุกวันนี้โดยที่ปรินก็ยังเขาใจวารันมองตัวเองเปน
เด็กขายอยูนั่นเอง

ผมกลับไปยังหองของตัวเองเพื่อหยิบหนังสืออานเลน จากนั้นก็วิ่งขึ้นไปยังชั้นสอง ตรงเขาไปในหองของปรินทันที พยายามยองให


เงียบที่สุดในขณะที่สายตาก็มองหามุมจะสิงสถิต เกาอี้หนาโตะคอมก็ไมไดเพราะมันกลายเปนตูเสื้อผายอมๆ ไปแลวเรียบรอย
กางเกง เสื้อ เข็มขัด มันวางระเกะระกะเต็มเกาอี้ไปหมด หันซายหันขวาอยูนานสุดทายก็เลือกที่นั่งบนพื้น เหยียดขายาว เอนหลังพิง
กับเตียง
“กุล...” เวลาผานไปนานเทาไหรผมก็ไมอาจรู ทวาเสียงเรียกเบาๆ กับมือที่ลูบบนหัวผมทําใหผมถอนสายตาจากตัวหนังสือแลวหันไป
มอง ปรินมันนอนตะแคงขาง มือหนึ่งรองศีรษะ มืออีกขางเอื้อมมาลูบหัวผม ตามันใสแจวเลย สงสัยจะตื่นนานแลวแนๆ

“ตื่นแลวหรือ” ผมปดหนังสือ ลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงกับมัน มันพยักหนา

“นิสัยเสีย เขามาในหองคนอื่นโดยไมไดรับอนุญาต” กอนจะทําเสียงดุ ตีหนาไมพอใจใสผม ผมทําหนางง อะไรของมัน เมื่อกี้ยังดีๆ


อยู ไมทันไรเชื้อบากําเริบอีกแระ

“อยากเขามาจะทําไม” แตผมไมกลัวมันหรอก ยักคิ้ว กวนมันกลับไปครับ

มันถลึงตาใสผม “ไอเปยกเอย…” ไมวาเปลา ตบหัวผมอีกดวย

ผมลูบหัวตัวเองปอยๆ “เฮย...จะไปไหน...” กอนจะฉุดมันไวเมื่อมันทําทาจะลุกจากเตียง มันหันมาผมดวยนัยนตาสงสัย

“หิว...จะไปลางหนาแลวหาอะไรกิน” โห...มึงหัวอกเดียวกัน เขาใจความรูสึกเลย กูก็หิวอะ

“ดีเลย งั้นเดี๋ยวไปดวยกัน” ผมบอก มันทําหนางงหนักขึ้น

“ก็บอกวาไปหาอะไรกินดวยกันไง เร็วๆ ไปลางหนาเดี๋ยวพาออกไปหาอะไรอรอยๆ กิน” จากหนางงตอนนี้มันทําหนาประหลาดใจ


เหมือนเห็นผมตัวสูงขึ้นและหลอกวามันสักสิบเทา

“เร็วเถอะนา” เมื่อมันไมขยับผมก็เลยหนุนหลังมันใหเดิน

“โอย...” ปรินรองเมื่อผมออกแรงผลัก

“เฮย...เปนอะไร” ผมรีบเอามือออกจากแผนหลังของมัน ถามดวยความสงสัย

ปรินเหยียดหลังตรง “ไมมีอะไร ออกไปกอนไป จะเปลี่ยนเสื้อ” มันไล แตก็เปนที่พอใจสําหรับผมเพราะหมายความวาปรินมันยอม


ออกไปขางนอกพรอมผมแตโดยดี ผมพยักหนากอนจะหันหลังใหมัน ดีเหมือนกัน ออกไปดูตนทางกอนดีกวา ไมรูวาเมธกับตรินตอน
นี้อยูมุมไหนของบาน แตเดี๋ยวกอน

“ปรินอยาเพิ่ง...” ผมกําลังจะบอกมันวาอยาเพิ่งออกไปจากหองจนกวาผมจะมาเรียก

“เฮย...หลังไปโดนอะไรมา” แตแลวก็ตองเปลี่ยนคําพูดใหมเมื่อหันมาเห็นรอยแดงเถือกบนแผนหลังของปริน
“วุนวายจริงๆ เลย ก็บอกวาไมมีอะไรไง ออกไปไดแลว” ปรินทําหนาเบื่อหนาย น้ําเสียงซังกะตายที่ผมเซาซี้มัน

“แตวา...” ผมลังเล แบบวามันเปนรอยคลายถูกเฆี่ยนมาอะครับ ทาทางจะเจ็บนาดูเลย

ปรินถอนหายใจ “มานี่มา” กระดิกนิ้วเรียก ผมเดินเขาไปใกล

“อยากรูใชไหมวาไปโดนอะไรมา” มันกระซิบถาม ผมพยักหนา

“ถาอยากรูก็ตองลองเลนดู”

“เลนอะไร” ผมกะพริบตาปริบๆ ถามอยางสงสัย ปรินยิ้มมุมปาก

“ซาดิสม แอนด มาโซคิสม” หลังสิ้นคําพูดของปรินผมก็นิ่งไปครูหนึ่ง พยายามคิดตามวาไอที่เรียกซาดิสมและมาโซคิสมนี่เขาเลนกัน


อยางไร

“หะ!” ผมหันไปมองปรินตาโตเมื่อพอจะเขาใจอะไรบางอยาง ปรินสงยิ้มหื่นๆ มาให ใชเลยครับไมตองอธิบาย

“วาไงสนใจเปลา”

“บาเปลา เลนไปคนเดียวเลยไป” ผมตะโกนบอกดวยใบหนาแดงแปรดกอนจะแจนออกไปจากหองทันที แตก็ทันไดยินเสียงหัวเราะ


ของมันแววมาตามหลัง

พอลงมาขางลางผมก็รีบมองหาเมธกับตรินทันที ความจริงรูสึกหงุดหงิดเมธนิดหนอยที่ชะลาใจเกินไป เมธนาจะคิดบางวาการมาหา


ตรินที่บานวันนี้มันเสี่ยงตอการเผชิญหนากับปรินมากแคไหน แตจะทําอยางไรไดละในเมื่อมีเพื่อนไมรอบคอบ วายุระกุลก็ตองทําตัว
เปนโรบิ้น ออกโรงปกปองแบทแมนเมธตอไป

ผมเดินหาทั้งสองคนทั่วบานแตก็ไมเจอ ความคิดอกุศลแวบเขามาในหัวแตยังไมทันไดกาวไปยังหองนอนของตรินก็ไดยินเสียงกีตาร
โปรงดังแววมา ผมออกไปหลังบานเห็นตรินกับเมธอยูที่ศาลาขางเรือนกลวยไมของตา ทั้งสองกําลังรองเพลงจีบกันอยู ผมยิ้มอยาง
สุขใจ อืม...การที่ผมทนหิวนี่ก็นับวาคุมคามิใชนอยเลย

เมื่อตนทางปลอดภัยผมก็รีบไปลากตัวปรินมันลงมาจากหอง ปรินโวยวายเล็กนอย แตพอไดยินเสียงทองผมรอง ปรินก็หัวเราะ


สาวเทาเร็วๆ นําผมไปยังรถ ผมขอสารภาพเลยนะวาตอนแรกอายมากที่กระเพาะประจานผมแตตอนหลังมารูสึกขอบคุณที่มันรองได
ถูกที่ถูกเวลา
"วันนี้คิดยังไงถึงชวนออกไปกินขาวดวยกัน ปรกติหนาแทบไมอยากมองเลยนี่" เมื่อกอนอาจจะใชแตตอนนี้ความรูสึกของผมเริ่ม
เปลี่ยนไป ผมก็ไมรูวาตั้งแตเมื่อไหรที่ผมเปดใจ มองปรินอีกมุมโดยไมมีอคติมาขวางกั้น มันอาจเริ่มจากคืนที่ผมแอบฟงสองพี่นองคุย
กันนั่นละมั้ง

"ไมมีอะไรแคหิวและอยากมีเพื่อนกินขาว" ผมเลี่ยงตอบ ปรินมองผมนิดหนึ่งกอนจะเปดประตูรถ ปรินเปนคนขับครับ ดวยกอนหนา


นั้นมันบอกไมเชื่อใจผม กลัวจะไปสอยตูดใครอีก

“แลวหิวขนาดนี้ ใหปาสายทําอะไรใหกินก็สิ้นเรื่อง” ปรินบนตอหลังจากที่เราทั้งสองเขาไปนั่งในรถเรียบรอยแลว ผมควาเข็มขัดนิรภัย


มาคาด ปรินสตารทเครื่องยนต

“ไมเอา อยากกินบีบิมบับ” อางไปอยางนั้นแหละครับ ความจริงตอนนี้เอาอะไรมาใหกินก็หม่ําไมเหลือซากแนๆ แตที่เลือกเปนอาหาร


เกาหลีก็เพราะจะไดเปนขออางออกไปกินขาวขางนอก

“เรื่องมาก” มันวาผมขณะถอยรถออกจากโรงจอด

“เดี๋ยวตองจับเมธมาอบรมหนอยแระ จอดรถขวางทางจริงๆ เลย” ปรินทําเสียงหงุดหงิดในลําคอขณะที่ผมสะดุงโหยง มองปรินตาโต

“ปริน...รู. ..วะ...วา...เมธมา...”

“อาว...ไมใชรถเมธหรือ” ปรินถามน้ําเสียงปรกติราวกับพูดคุยเรื่องสภาพอากาศทั่วไป

“ก็ใช” ผมออมแอมตอบหลังจากชั่งใจอยูชั่วครูกอนจะหันไปมองปรินดวยสายตาลังเล

“ปริน...ขอถามอะไรหนอยสิ” เอยออกไปดวยน้ําเสียงไมแนใจ หากแตสิ่งที่คางคาใจอยูโนมนาวใหผมอยากรูความจริง

“ถามมาสิ ถาตอบไดก็จะตอบ” ปรินปรายสายตามองผมนิดหนึ่งกอนจะหันไปสนใจถนนเบื้องหนา

“เรื่องเมธกับปรินนะ…” ผมเพิ่งจะเริ่มเอยตนประโยคแตก็ถูกปรินสวนขึ้นมากลางปองวา

“เฮอ...มาแบบตรินอีกแระ วางๆ ก็ไปเปดหูเปดตาบางเถอะ ทําตัวเปนสาวพรหมจารีตองมอบเวอรจิ้นใหกับคนที่รักเทานั้นอยูได นี่มัน


ปสองพันสิบแลวนะ สนุก พอใจ จากนั้นก็โบกมือลากันไป ก็แคนี้ จะคิดอะไรมากมาย” เขาหันมองผมดวยสีหนาเบื่อหนาย

“แตปรินกับตรินเปนพี่นองกัน” ผมแยงดวยความจริง แตมันคงไปกระตุนพลิงโทสะของปรินใหลุกโชติขึ้นมา

“แลวจะรูไหมวาตรินมันไปชอบพอกับเมธตอนไหน! หะ! จะตรัสรูไดอยางไร! ตอนคุยกันครั้งสุดทายก็ยังเห็นบอกวานองนารักอยาง


นั้นอยางนี้ ดูก็รูวาตรินหลงเด็กคนนั้นมากแคไหน” ปรินพูดดวยน้ําเสียงหงุดหงิด กระแทกเสียงใสผม นัยนตาวาวโรจน แตก็ไมรูวาผม
คิดไปเองหรือเปลาเวลามันพูดถึงนองที่ตรินหลง จากนัยนตารอนแรงก็แปรเปลี่ยนเปนตัดพอยามมองมาที่ผม

“พอวันรุงขึ้นถึงไดรูจากเมธวาเพิ่งคบกับตริน แตยังไงถาวันนั้นไมนอนกับเมธ ตรินก็หนีความจริงไมพน บอกไวเลยนะวากับเมธนะ


ไมใชครั้งแรก”

“เรื่องนั้นก็พอรู แตปรินก็รูไมใชหรือวาเมธเขาใจผิดวาปรินเปนตรินนะ”

“เพราะรูไง ถึงเขาไปหาอีกครั้ง ปรกติถาเลิกก็คือเลิก ไมชอบงอใคร นอกจากจะมีเหตุผลจําเปนจริงๆ ถึงบากหนาไปหา เรื่องของเมธ


นี่ก็วาจะไมถือสาแลวนะ แตนิสัยยังเหมือนเดิมไมเคยเปลี่ยน มาตอกย้ํากันบอยๆ มันเจ็บใจนะ รูไหมวาอะไรที่ทําใหคนเราเจ็บมาก
ที่สุด ถามหนอยเถอะ ถาพี่คินกําลังมีเซ็กสกับกุลแลวพอถึงจุดสุดยอดก็เอยชื่อคนอื่นนะ กุลจะรูสึกยังไง” ผมหัวใจกระตุกวูบเมื่อ
คิดถึงคําตอบ

“นี่ขนาดไมไดรักไมชอบนะ ยังเจ็บใจขนาดนี.้ ..แลวอยากรูไหมวาเมธเรียกชื่อใคร” ผมสายหนา ปรินยิ้มเยาะมุมปาก มันดูเหมือนเขา


กําลังสมเพชอะไรบางอยาง

“ใครที่เมธมันเคยแอบรักและทําใหอกหัก เมธก็เรียกชือ่ คนนั้นแหละ” ปรินบอกเปนความนัย ผมกมหนา บีบมือตัวเองซึ่งวางอยูบนตัก

“ทุกทีไมอยูใหเจอหนาตอนเชาหรอก แตวันนั้นเมธเปลี่ยนไป เรียกชื่อตรินตลอด สงสัยจะเปลี่ยนมาชอบตรินเขาใหแลว เลยอยูใหเมธ


มันเจอหนาตรินพรอมกันซะเลย อยากสั่งสอนใหรูซะบางวาอยาเอาใครไปแทนที่ใคร คราวหนาคราวหลังจะนอนกับใครก็ใหมันมีสติ
หนอย” ผมมองปรินอยางไมเชื่อสายตา

“นี่ปรินจงใจทําใหเมธกับตรินผิดใจกันหรือ ทําไมปรินถึงใจรายแบบนี้ละ รูทั้งรูวาเมธมีใจใหตริน...”

“แลวจะรูไหมวาตรินก็ชอบเมธนะ บอกแลวไงวาตรินไมเคยทําอะไรใหเอะใจเลย ไมรูนี่วานอกจากจะทําใหเมธมันเจ็บแลว ตรินยัง


เจ็บดวย!” ปรินตะคอกผมเสียงดัง ใบหนาเขาแดงก่ําอยางคนโมโหจัด

ผมอึ้งไปครูใหญพรอมกับพยายามทําความเขาใจคําพูดของเขา หรือวาที่ปรินอารมณเสียแบบนี้เพราะเขาเองก็เสียใจที่ทําใหตรินเจ็บ
ความจริงเปาหมายของเขาคือเมธ อยากแกลงดวยความหมั่นไส แตไมนึกวาจะทํารายจิตใจของตรินไปดวยอีกคน แลวพอผมไป
กลาวหาวาเขาราย ปรินก็เลยระเบิดอารมณใสผม

“ไมตองทําหนาอยางนั้น ไมใชคนเจาคิดเจาแคนจนทุมสุดตัว ความจริงเอากับเมธก็มันดี แลวที่ตามมาก็คือผลพลอยได แตไมคิดวา


มันจะพลิกล็อกแบบนี้ เขาใจปะ ถาเขาใจก็ไปบอกตรินดวยแลวกัน ขี้เกียจพูดแลว เบื่อ” แลวที่เขาพูดกับผมก็เพื่อขอใหชวยพูดกับ
ตรินเพื่อทําตามความตองการของหัวใจตัวเองใชไหม
“อะไร...โทรมาทําไม...กําลังหงุดหงิด...ไมอยากคุย...” ขณะที่ผมกําลังจับตนชนปลายอยูนั้นก็มีสายเขามา ปรินเลยไดโอกาสระบาย
อารมณใสปลายสาย ผมหันไปมองใบหนาหงุดหงิดของเขาอยูชั่วครู

“จะไปไหนมันเกี่ยวอะไรกับพี่ดวย” ปรินตวาดเสียงดัง เขามุนคิ้ว เมมเรียวปาก

“ใช...แลวรูไดไงวากุลก็มา...นี่อยาบอกนะวาพี่ใหคนตามปรินนะ มันจะมากไปแลวนะ ปรินไมใชนักโทษของพี่นะ จะไปไหนมาไหน


ตองมีคนตามคุม” ชื่อผมในบทสนทนานั้นทําใหผมหูผึ่ง ใครกันที่เขากําลังคุยดวย

“ออ...อยางนี้นี่เอง งั้นที่โทรมานี่เพราะเปนหวงกุลวางั้นเถอะ” เขาพูดน้ําเสียงเยยหยัน

“แลวพี่คิดวาปรินจะพากุลไปทําอะไรละ หากบอกวาไปกินขาวจะเชื่อไหม” ปรินหันมาสบตากับผมอยูชั่วครู

“ใช...เอากับกุลที่บานเบื่อแลว จะไปเปลี่ยนบรรยากาศขางนอก พอใจยัง” ผมสะดุง เริ่มนั่งไมติดแลว ปรินมันพูดอะไรของมัน ผม


กําลังจะอาปากถามแตปรินถลึงตาใส

“ไมไดประชด แตจะทําจริงๆ” มันกระแทกเสียงใสโทรศัพทกอนจะกดตัดสาย และคงจะปดเครื่องดวยมั้งเพราะหลังจากนั้นปรินก็โยน


โทรศัพทไปยังเบาะหลังอยางไมใยดี

“ใครโทรมา” ผมเอยถามทันที

“คนบา พูดจาไมรูเรื่อง อยากตามนักใชไหม ตามไดก็ตามมาเลย” เหมือนปรินจะตอบคําถามผม แตไมใชเลย ปรินแคพูดกับตัวเอง

มันมองกระจกสองหลังและกระจกสองขางดวยใบหนาบึ้งตึง ผมมองตามปรินกอนจะรูสึกวาตัวถูกกระชากไปดานหลังอยางรุนแรง
เมื่อปรินเหยียบคันเรงรถ ออกตัวอยางรวดเร็ว หัวใจผมกระตุกวูบเมื่อปรินเริ่มบังคับพวงมาลัยรถอยางหวาดเสียว มันแซงซาย แซง
ขวา บีบแตรไลชาวบานเขา

“เฮย...ปริน...” รถที่เพิ่งออกมาจากซอยทําใหตะโกนอยางตกใจ

“นั่งนิ่งๆ หลับตาแลวหุบปากเงียบไปเลยไป” มันตวาดผม บีบแตรเสียงดังลั่นพรอมกับหักพวงมาลัยออกไปยังอีกเลน ความเร็ว


เพิ่มขึ้นทุกขณะ มือไมผมเย็บเฉียบ

“ปริน...ปริน...ระวัง...” ไฟจราจรที่เปนสีเหลืองกําลังจะเปนสีแดงในอีกไมชาทําใหผมนั่งนิ่งๆ อยางที่มันบอกไมได ผมหันรีหันขวาง


ดวยความหวาดกลัว แทนที่จะฟงผม มันกลับเรงความเร็วใหเร็วขึ้น ผมจับเบาะรถไวแนน กลั้นลมหายใจ เสียงบีบแตรรถดังลั่นเมื่อ
ปรินฝาไฟแดงไปอยางเฉียดฉิว ผมนิ่งเหมือนถูกสาป หัวใจหยุดเตนไมชั่วครู
“ชิส. ..นึกวาจะแน” ผานไปครูหนึ่ง ปรินพูดพรอมกับเบะปาก น้ําเสียงเยยหยัน ใบหนาพอใจยามมองที่กระจกหลัง

“เปนบาอะไร อยากตายก็ตายคนเดียวสิโวย” ผมไมสน หันไปดามันหลังจากหายตกใจ หานี่ กูยังไมไดกินขาวเที่ยงเลย เกิดตาย


ขึ้นมาไดเปนผีหิวโซใครจะรับผิดชอบ

“ก็ยังอยูครบนี่” มันยักไหล เลี้ยวรถออกจากถนนสายหลัก เขาไปในซอยอันลดเลี้ยว

“เปนอะไร หนีใคร แลวเมื่อกี้พูดกับใคร ทําแบบนี้ทําไม” ผมเหวี่ยง หันไปถามเปนชุดๆ ยังหายใจไมทั่วทองอยูเลยครับ

“แมง...เชี้ยเอย...” แทนคําตอบของผมมันกลับสบถออกมาอยางหัวเสีย เหยียบเบรกดังเอี๊ยด มือทุบพวงมาลัยอยางเจ็บใจ ผมหันค


วับไปมองทางดานหนา ทันเห็นรถโฟรวิวสีดําคันใหญจอดขวางถนนอยูหางจากเราออกไปไมมากนัก ชายรางใหญยืนกอดอกมอง
ตรงมา ทาทางราวกลับกําลังรอคอยเราอยู หนาตาแบบนี้ ทาทางอยางนี้ คุนมากเลยครับ ผมวาผมรูจักเขานะ ผมเขมนตามองกอน
จะรองออกมาอยางประหลาดใจ

“พี่รัน!” ปรินหายใจฮึดฮัดอยางขัดใจ ยิ่งเมื่อหันไปมองดานหลัง มันก็คํารามเสียงดังอยางโกรธจัด ผมหันไปมองบาง รถโฟรวิวสี


เดียวกันอีกคันจอดตอทายจากเรา นี่แสดงวาตอนนี้พวกเราจะเดินหนาก็ไมได ถอยหลังก็ไมไดสินะ

พี่รันเดินเขามาหาพวกเรา เคาะกระจกรถทางฝงของปริน ใบหนาของพี่เขาเรียบเฉยอยางคนไรความรูสึก แตปรินยังนั่งเฉย ไมยอม


เปดหนาตางคุยกับพี่เขา พี่รันก็ไมยอม ตอนแรกก็เคาะปรกติ ตอมาพี่เขาก็ใชมือสองขางเคาะเปนจังหวะดนตรีซะงั้น

“ปรินนั่นพี่รันนี่”

“รูแลว” มันแวดใสผม กัดฟนกรอด “โถ...โวย!” สถบอยางหัวเสียกอนจะเลื่อนกระจกรถลง

“พอใจแลวใชไหม หะ!” มันตะคอกพี่รันทันทีที่กระจกเลื่อนลง พี่รันคอมหัวลง ปรายสายตามองปรินเล็กนอยกอนจะมองมาที่ผม

“คุณกุลปลอดภัยใชไหมครับ” พี่เขาเมินปริน ถามผมกลับดวยน้ําเสียงสุภาพ

“เออ...ครับ…” ผมตอบกลับอยางงงๆ

“แลวนี่จะไปไหนกันครับ”

“ไปกินขาวครับ”

“เห็นไหม บอกแลวไมเชื่อ” ปรินสวนขึ้นอยางเหลืออด ผมมองหนาปรินกับพี่รันสลับไปมา ความเขาใจบางอยางวิ่งเขามาในหัวของ


ผม ออ...แสดงวาคนที่ปรินคุยโทรศัพทดวยกอนหนานั้นคือพี่รันหรอกหรือ

“ขอผมคุยกับปรินสักครูไดไหมครับ” พี่เขายังคงพูดสุภาพกับผม

“คะ...ครับ” ผมตอบกลับอยางมึนหนักมากขึ้น พี่รันกับปริน ปรินกับพี่รัน อะไร ยังไง แบบไหน ไมเขาใจ

“ไมคุย ไมอยากคุย แลวก็เลื่อนรถไดแลว มาจอดขวางทางทําไม” ปรินปฏิเสธเสียงดัง

“คุณกุลครับ ผมขอคุยกับปริน” พี่รันทําเฉย เรียกผม แลวผมจะทําอยางไงละพี่

“คะ...ครับ...” ผมงง พี่อยากคุยกับปรินแลวมาบอกทําไมอะ

“เปดประตูใหหนอยครับ” พี่เขาเฉลย

ออ...แลวจะเปดยังไงละ ที่ล็อกมันอยูฝงปรินอะ เมื่อเขาใจความหมายสมองก็สั่งการดวยความเร็ว ผมเอี้ยวตัวไปปลดล็อกใหพี่เขา


กอนที่ปรินมันจะทันขยับตัว และความเร็วที่มากกวาเมื่อเสียงล็อกดังคลิ๊ก ประตูฝงของปรินก็ถูกกระชากออกทันที

“นี่กุล...ไอบานี่ ปลอยนะ...อุบ...อื้อ...” ผมอึ้ง ตาโต อาปากเหวอ...อาก...นี่มันอะไรกัน ไหนพี่วาอยากคุยกับปรินไง แลวไปจูบมัน


ทําไม!

“แทนคําขอโทษที่เขาใจผิด” พี่เขาวาอยางนั้นเมื่อถอนริมฝปากออกมา ผมยังอึ้ง แตตาเริ่มกะพริบปริบๆ แลว พี่รันกับปริน ปรินกับพี่


รัน จูบกัน แลวยังไง แบบไหน ยังไมเขาใจ

“จะไปกินที่ไหนเดี๋ยวพี่ขับรถให” พี่เขาพูดตอ

“ไมตอ งมายุง จะไปกันเอง” ปรินมันยังพยศ ใบหนาบึ้งตึง นี่แสดงวาจูบอยางเดียวยังแทนคําขอโทษไมได พี่รันไมสน กมตัวมาอุมปริ


นออกไปจากที่นั่ง

“ไอพี่บา ปลอยปรินนะ!” ปรินมันโวยวายดิ้นกระแดวๆ บนไหลพี่รัน สวนผมยังคงอึ้ง มองตามทั้งสองอยางไมเขาใจ พี่รนั กับปริน ปริน


กับพี่รัน จูบกัน แลวก็พี่รันแบกปรินไปโยนไวที่เบาะหลัง จะตอแบบไหน ยังไมเขาใจ

“โอย...” ปรินมันสะดุงขึ้นนั่งเมื่อแผนหลังกระทบกับเบาะอยางแรง พี่รันมุนคิ้วเล็กนอย

“นั่งนิ่งๆ เดี๋ยวพี่มา” พี่เขาปดประตู เดินมาฝงคนขับแลวก็ดึงเอากุญแจรถติดมือไปดวย จากนั้นก็วิ่งไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู


ขางหนา ผมมองปรินที่พยุงตัวเองลุกขึ้นกอนหันไปมองพี่รัน แลวก็หันมองปรินอีกครั้ง
“ปริน...กับ...พี่รัน” ยังนึกคําพูดไมออกรูแตชื่อของสองคนนี้

“บอกวานั่งนิ่งๆ หันหลังมา” หลังจากกลับมาที่รถอีกครั้งพี่รันก็ตะครุบปรินไวกอนมันจะขามมายังฝงคนขับ ลากมันกลับไปยังเบาะ


หลังแลวก็จับปรินคว่ําหนา ปรินโวยวายพรอมกับดิ้นรนขัดขืน พี่เขาเลยฟาดมือไปบนกนของปริน

“อยาดื้อนะปริน พี่บอกใหอยูนิ่งๆ” ดุเสียงเขม ผมสะดุง ปรินหยุดดิ้น

“พี่บอกใหพัก แลวออกมาทําไม แลวนี่กินยาแกอักเสบหรือยัง” พี่เขาถามขณะทายาบนแผนหลังของปริน

“พี่ถามวากินยาแกอักเสบหรือยังปริน” วาจบก็ฟาดกนปรินมันไปอีกครั้ง แตไมแรงหรอกครับ

“ยัง!” ปรินกระซากเสียงตอบอยางเลี่ยงไมได

“ทําไมดื้อแบบนี้หึ คราวหนาพี่ไมยอมใหเลนแผลงๆ แบบนั้นอีกแลวนะ อะ...เรียบรอยแลว นอนไปแบบนี้แหละ ถึงแลวเดี๋ยวเรียก” พี่


เขาสั่งกอนจะปดประตูรถ เดินเขามานั่งยังที่คนขับขางผม บีบแตร รถรถโฟรวิวที่ขวางทางอยูก็ขยับ นี่แสดงวาพี่เขาไมไดมาคนเดียว

ผมนั่งนิ่งบนฝงตัวเอง ตอนนี้หายตกใจและหายมึนงงแลว...พี่รันกับปริน ปรินกับพี่รัน จูบกัน แลวพี่รันก็แบกปรินไปโยนไวที่เบาะ


ตอจากนั้นก็ทายาที่หลังใหปริน ตอนนี้เขาใจแลว...อาก...คนที่เลนซาดิสม แอนด มาโซดิสมกับปรินก็คือพี่รันเองหรือนี่ ถาอยางนั้นทั้ง
สองก็...อะจาก...จริงหรือ...พี่รันกับปริน ปรินกับพี่รัน...ผมมองหนาทั้งคูสลับไปมาอยางไมเชื่อสายตาตัวเอง

“ปรินเปนเมียผมครับ” พี่รันบอก

“หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!” ปรินสั่งผัวมัน

สวนผมอาปากคางเมื่อไดฟงกอนหุบฉับ รูสึกใบหนาตัวเองรอนวูบวาบอยางไรชอบกล...ชัดเลย...คราวนี้วายุระกุลก็หายสงสัยและ
เขาใจอยางถองแทแลวครับ...พี่รันกับปริน ปรินกับพี่รัน...อะจาก!

คอยยังชั่วหนอยครับที่สุดทายแลวผมก็ไดกินขาวซะที ถึงแมวามันจะเลยเวลาเที่ยงมากวาสองชั่วโมงแลวก็ตาม พี่รันพาพวกเรา


มายังรานอาหารเกาหลี พอเขาไปในรานผมก็สั่งอาหารทันที ครั้งแรกวาจะสั่งแตบิบิมบับ แตพอเห็นอะไรแลวมันก็อยากกินไปหมด
ผมเลยเลือกไมถูก

ปรินมันคงรําคาญ บนไปตามเรื่องตามราวของมันวาเดี๋ยวพอมีอะไรตกถึงทองที่คิดวาจะกินหมดนะ ตองเหลือเปนเบือแนๆ เอาแค


สองสามอยางพอ จากนั้นมันก็จิ้มนิ้วสั่งสงๆ ไป โดยไมถามผมอีกเลย ผมจะทําอะไรไดนอกจากนั่งไวอาลัยใหอาหารที่อยากกินแตถูก
ปรินเมิน
“พี่รันขยับไปหนอยสิ มานั่งเบียดปรินทําไมเนี่ย” หลังสั่งอาหารแลวปรินก็ทําหนาหงุดหงิด หันไปแวดใสพี่รันซึ่งนั่งติดกัน สวนผมนั่ง
อยูฝงตรงขามกับทั้งสองครับ

“สาวโตะนั้นมองเมียพี่” พี่แกตอบหนาตายพรอมกับยกมือขึ้นมาโอบไหลปรินไว ปรินสําลักน้ํา ไอโขลกๆ

“เขามองพี่นะสิไมวา” ปรินปรายสายตาไปยังโตะโนนกอนจะคอนขวับ พูดเสียงขึ้นจมูก ผมหันไปมองบาง ดันเผอิญสบตากับสาว


หนาหวานเขาพอดี ผมจึงสงยิ้มใหกับเธอ เธอหลบตาผมเหมือนจะอาย...วาว...นารักจัง

“อะแฮม ใหมันนอยๆ หนอย” ปรินพูด มองผมตาขวาง

“ระวังนายนอยจะหึงเอานะครับ” พี่รันบอกเสียงเรียบ

“ชิส. ..เกี่ยวอะไรกับไอพี่ทอง” ผมเชิดหนา ชิชะ...ทีอยางนี้ละเขากันเปนปเปนขลุยเชียว

ผมแสรงยกแกวน้ําขึ้นจิบ เปลี่ยนเรื่องคุยดีกวาครับเดี๋ยวเขาเนื้อตัวเองมากกวานี้ “กุลไมรูมากอนเลยวาปรินกับพี่รันเปนแฟนกัน”


เปรยขึ้นมาดวยน้ําเสียงประหลาดใจ

“ใครเปนแฟนใคร พูดใหมันดีๆ นะ” ปรินปฏิเสธเสียงสูง อาว...ผมทําหนางง ไมใชแฟนแลวเปนอะไรกันในเมื่อพี่รันประกาศออกปาวๆ


วาเปน...

“ออ ขอโทษ งั้นพูดใหม กุลไมรูมากอนเลยวาปรินกับพี่รันเปนสามีภรรยากัน”

“อาก ไอกุล ไอเด็กบา” ไมวาเปลา มันลุกขึ้นมาตบหัวผม พี่รันรีบดึงมันกลับไปนั่งทีเดิมกอนหัวผมจะแบะ

“นี่จะหัวเราะทําไม” แลวมันก็หันไปแยกเขี้ยวใสพี่รัน พรอมกับฟาดมือใสตนแขนพี่เขาเสียยกใหญ พี่รันนั่งเฉย ปลอยใหมันระบาย


อารมณจนพอใจ

“เฮอะ...” แตมันคงจะยังหงุดหงิดอยู เลยหายใจฮึดฮัดๆ มือกอดอก หนาบึ้ง พี่รันนิ่งขรึม หากแววตากลับวาววับอยางเห็นขัน สวนผม


นั่งเงียบๆ ไมอยากรูเรื่องของคนทั้งคูแลวครับ กลัวพูดอะไรไมถูกแลวจะเจ็บตัวอีก

“คุณกุลไมไดเอาโทรศัพทติดตัวมาใชไหมครับ” คําถามของพี่รันทําใหผมเงยหนาขึ้น พี่เขาถือโทรศัพทแนบหู ตามองผมอยางรอคอย


คําตอบ ผมลูบที่กระเปากางเกงตัวเองเมื่อไมเจอโทรศัพทก็พยักหนาแทนคําตอบ สงสัยจะรีบลากปรินออกมาก็เลยลืม

“ครับนายนอย” พี่รันตอบกลับแลวก็วางสาย คําขานรับนั่นทําใหผมเอียงหนามองพี่เขาอยางสงสัย ทวาพี่รันยังทําตัวปรกติ ไมสอพิรุธ


อะไรใหเห็น ปรินมองพี่เขาดวยหางตา หนาที่บึ้งอยูแลวยิ่งงอเปนจวักเลยทีนี่...มันเปนอะไรของมันอีกละนั่น

ครูตอมาอาหารก็มาเสิรฟครับ ผมรีบควาชอนแลวตักซุปเขาปากทันที อืม...ซุปสาหราย กลมกลอมถูกปากมาเลยครับ ชิมจนพอใจ


แลวก็หันมาสนใจบิบิมบับ หยิบซอสมาราดไปบนขาวยําเกาหลีกอนจะคนใหเครื่องเคียงมันคลุกเคลากัน ทวากําลังจะตักขาวเขา
ปากก็ตองชะงัก โห...พี่รันนารักจัง ผมแอบยิ้มอยูคนเดียวกอนจะหันกลับไปสนใจอาหารของตัวเองอีกครั้ง

“พี่ตั้งใจมาเจอปรินไมไดมาทํางาน” น้ําเสียงของพี่เขาแผวเบาราวกระซิบ ผมเงยหนาขึ้นมองทันเห็นพี่รนั เลื่อนบิบิมบับไปใหปริน


สวนถั่วงอกลวกซึ่งพี่เขาเขี่ยออกแลววางกองกันอยูที่ขอบจานอีกใบ

ใชแลวครับที่ผมวาพี่รันนารักก็เพราะวาพี่เขาปรุงขาวยําเกาหลีใหปรินมัน แถมยังรูอีกวาปรินไมกินถั่วงอก ดูแลและใสใจ


ปรินมากเลยนะนั่น

“ใครสน” แตไอนี่ยังรั้นไดอีก

“ไมสนก็เลิกทําหนาบึ้งไดแลว” พี่เขายังใจเย็นบอกเสียงเรียบ

“ใชเรื่อง แลวมองทําไม รูไหมวาเวลากินขาวแลวมีคนจองนะมันกินไมลง” หนามันยังบูดไมหายแถมยังสงเสียงแปดหลอดใสพี่รันไม


หยุด

“กินไปพูดไปเดี๋ยวติดคอพอดี” เหมือนพี่รันจะไมถือสา วาพลางเลื่อนแกวน้ําใหปรินมัน

“ไมตองยุง แลวก็บอกวาอยามองเขาใจไหม!” คราวนี้ปรินมันกระแทกเสียงใสพรอมกับวางชอนเสียงดัง หันไปมองพี่รันหนาตาเอา


เรื่อง

“จะกินตอดีๆ หรือจะใหพี่ปอน” แตพี่รันทําเฉย ตักอาหารไปวางที่จานของมันเพิ่ม ผมเหลือบตามองปรินที่ทําทาอยากจะกรี๊ดออกมา


ดังๆ อยางขัดใจ

“โธ...โวย...” แลวมันก็สบถออกมาอยางหัวเสียพรอมกลับไปกินขาวตออีกครั้ง

“ขาวีนแลวยังขี้งอนอีก” พี่รันพูดอยางไมยินดียินรายกับอาการโกรธหัวฟดหัวเหวี่ยงของปริน
“แลวมายุงดวยทําไมเลา” ปรินหันไปขูฟอใสพี่รันตามสไตลของมันอีกตามเคย ใบหนามันหงิกงอ พี่รันถอนหายใจ

“อยานอยใจเลยนะปริน พี่บอกแลวไงวาพี่ตั้งใจมาหาปริน แตเผอิญวางานคนอื่นมันอยูกับพี่พอดี พอนายตอสายมา พี่ก็ตองคุย มัน


เลี่ยงไมไดเพราะพวงกันอยางที่เห็น ปรินเขาใจพี่นะ” พี่รันพูดเสียงออนลงอยางตองการงองอน

“ไมรู ไมเขาใจ” ปรินยังครางตะแหงวๆ ไปตามเรื่องตามราวของมัน แตดูทาทางแลวก็ออนลงมากเลยทีเดียว

ระหวางที่ทั้งคูคุยกัน ผมไดแตฟงอยูเงียบๆ ภายในใจก็คิดวานี่มันไฟกับน้ําแข็งดีๆ นี่เอง อีกคนก็สงบเยือกเย็นซะ แตอีกคนก็รอนแรง


ไมยอมแพเชนเดียวกัน แลวแบบนี้ น้ําแข็งอยางพี่รันจะดับไฟอยางปริน หรือไฟอยางปรินจะละลายน้ําแข็งกันแนผมก็ยังสงสัย แต
เห็นๆ อยูนี่เหมือนเพลิงไฟจะคอยๆ ดับไปทีละนิดๆ แลวนะนั่น

ทวาไฟมันดับไปนิดหนึ่งจริงๆ ครับเพราะยังไมทันไดออกจากรานปรินมันก็แผลงฤทธิ์อีกครั้ง คราวนี้ทําเอาหนาขรึมๆ ของพี่รันถมึงทึง


ดูนากลัวขึ้นมาทันที

“ถาอยากเหลือหูไวฟงโทรศัพทก็ลบเบอรเมียกูออกซะ” เสียงพูดรอดไรฟนกับนัยนตาแข็งกราวของพี่รันทําใหผมสยองแทนไอหนา
ปลาปกเปาแกมปองนั่น

แคแวบเดียวที่พี่รันหันไปจัดการคาอาหาร ปรินมันก็ชายตาใหลูกคาอีกโตะที่ยืนรออยูดานหลัง ไมรูวาคุยกันอีทาไหนถึงไดแลกเบอร


กันเร็วนัก พอมันวางระเบิดเสร็จก็ฮัมเพลงอยางอารมณดี เดินไปรอที่รถ ปลอยใหพี่รันตามไปจุดระเบิดที่มนั วางไว

แลวนี่...ดูปรินมันสิครับ ทาจะมีความสุขซะเหลือเกินที่ทําใหพี่รันเดือดได แหนะ…มันยังยิ้มยั่วใสพี่รันอีกตางหาก แลวแบบนี้พี่เขา


จะปลอยมันไปหรือครับ

“ไมนะ...จะทําอะไร...ปลอยปรินเดี๋ยวนี้!” นั่นไงสุดทายมันก็ถูกพี่รันสําเร็จโทษจนได

เมื่อกอนผมเคยคิดนะครับวาคงไมมีใครหนาดานอยางไอพี่ทองแลว แตตองเปลี่ยนความคิดใหมเพราะพี่รันก็หนาดานไมแพกัน แต


ดานคนละแบบนะครับ ไอพี่ทองหนาดานหนาทน พูดอะไรแลวก็ไมสน แตพี่รันนี่ดานแบบไมอายใครครับ แกรูสึกอยางไรก็แสดง
ออกมาอยางนั้น อยางตอนนี้...อาก...พี่จะมาจูบมันตอหนาผมอีกทําไม!

ใบหนารอนผาว ไมกลาเดินเขาไปใกลรถเทาไหร หากผมเปลี่ยนมานั่งเท็กซี่กลับบานแทนจะผิดไหมครับ ในเมื่อตอนเชาทําตัวเปนโร


บิ้นชวยเมธกับตรินแลว บายนี้ก็อยาทําตัวเปนกางขวางพี่รันกับปรินทาจะดีกวา

แทบไมนาเชื่อเลยนะครับวาแคครึ่งวันชีวิตผมจะไดเจออะไรหลายอยาง เห็นแบบนี้แลวอยากพูดกับไอพี่ทองขึ้นมาตะหงิด ๆ อยาก


เลา อยากถาม อยากคุยกับพี่เขาอะครับ แตเสียดายที่ลืมโทรศัพทไวที่บาน ไมงั้นคงไดคุยกันแลวละ
น้ําเสียงทรงเสนหของเอลวิสซึ่งกําลังขับกลอมเพลง Can’t help falling in love แววมาจากหองทํางานของพอ จากที่คิดวาจะขึ้นไป
ยังหองของตัวเองผมกลับเปลี่ยนทิศทางไปยังอีกที่ ภายในหองพอเอนตัวบนโซฟาดวยทาทางผอนคลาย ผมไมกลากวนจึงไดแตยืน
กอดอก พิงขอบประตู มองพอที่กําลังหลับตาพริ้ม ฮัมเพลงอยางแผวเบา ปลอยอารมณสุนทรีไปกับบทเพลงแหงความหลัง

เมื่อเพลงจบลง ผมจึงกาวเขาไปในหอง “เตนรํากันไหมพอ” ผมเอยชวนขณะเดินไปหยุดอยูหนาเครื่องเลนแผนเสียงสมัยเกา พอลืม


ตามองผมกอนจะยิ้มอบอุนบนเรียวปาก ลุกขึ้นนั่ง บิดตัวซายขวา ผมยิ้มใหพอ กอนหันไปเริ่มเลนเพลงอีกครั้ง

เมื่อเสียงเพลงรักอมตะอันทรงเสนหดังขึ้น ผมกาวไปยืนตรงหนาพอพอดี ผมยื่นมือไปดานหนา พอวางมือในมือผม ลุกขึ้นยืนเคียงคู


กัน มือขางหนึ่งแตะเอวผมเบาๆ ผมกระชับมือพออีกขางที่อยูในอุงมือผมกอนขาจะเริ่มขยับ กาวเขาจังหวะไปตามทวงทํานองของ
บทเพลง

“แกตัวสูงกวาฉันเสียแลว” พอพูดแทรกเสียงดนตรีขึ้นมา ผมหัวเราะในลําคอ

“สูงกวาพอมาสิบกวาปแลว” ผมสูงกวาพอนิดหนอยครับ พอยิ้มมุมปาก

“แบบนี้แสดงวาฉันเลี้ยงแกดี”

“หึหึ นาจะจริง” ผมยอมรับ

“แตมันจะดีกวานี้มาก ถาพอจะใหผมพักบาง อนุมัติวันหยุดซะที ผมจะไปซอมฮันนีมูนกับนอง” ผมหยอกแกมจริง พอหัวเราะ

“ฉันเตรียมไวใหแกแลว รอก็แตแกเทานั้นแหละวาจะทํางานสําเร็จหรือเปลา” คําพูดของพอทําใหผมตาโต

“จริงดิ” อุทานอยางตื่นเตน กอนจะหรี่ตาเมื่อสะดุดใจกับบางอยาง “พอคงไมเลนกับความรูสึกผมเหมือนครั้งที่แลวหรอกนะ” ถามพอ


อยางไมไววางใจ

เนื่องจากพอเคยทําผมแสบมาแลวครั้งหนึ่ง จําตอนที่อยูภูเก็ตไดไหมครับ ตอนนั้นพอพูดอยางนี้เชนกัน หลอกใหผมดีใจแตแลวกลับ


เอาเรื่องขอนองแตงงานมาพนันกับผม โดยที่ผมยังไมทันตั้งตัว พอเปดศึกถามนอง แลวผมก็แพ จากนั้นพอก็หัวเราะเยาะผม นึกขึ้น
มาแลวยังเจ็บใจไมหาย

“ไมหรอก สงสาร ใหแกไดพักกอนเขารับตําแหนงก็ดี” พอบอกน้ําเสียงจริงจังซึ่งมันตรงกับความตองการของผม สวนหนึ่งที่ผมอยาก


หยุดก็เนื่องมาจากภาระที่หนักขึ้นหลังจากผมเขารับตําแหนงประธานบริษัท ผมคิดวาผมคงไมมีเวลาใหวินดี้มากนัก ดังนั้นกอนผม
จะยุงจึงอยากใชเวลากันนองใหเต็มที่โดยไมตองคํานึงถึงเรื่องงาน

“แลวผมจะไดพักชวงไหนหรือพอ” ถามดวยน้ําเสียงตื่นเตน
“แลวมันชวงไหนละที่แกสองคนจะไปพรอมกันได” ผมยิ้มกวางอยางยินดี

พอผมนี่ชางรูใจผมจริงๆ เลย ชวงไหนที่ผมกับนองจะไดพักผอนพรอมกันนะหรือ มันก็ตองเปนชวงที่นองปดเทอมพอดีสิครับ ผมถึง


ไดอยูกับวินดี้นานๆ เหมือนสวรรคจะเขาขางผมเลย เพราะอีกไมกี่สัปดาหขางหนานี่ก็ถึงวันที่วานั่นแลว มันชางประจวบเหมาะจริงๆ
เพราะหลังจากวินดี้สอบเสร็จ เอ็มเจก็มาไทยพอดี หากทุกอยางเปนไปตามที่คาดการณไว ผมกับนองก็จะไดกลับมาอยูดวยกันอีก
ครั้ง พรอมกันนั้นผมยังไดหยุดและพาวินดี้ไปชดเชยวันเวลาที่เราตองหางกันอีกดวย...ยะฮู นาคินทรสําราญอุรา

“วาแตอยาหลงระเริงไป ถาเอ็มเจไมเซ็นสัญญารวมหุนกับเรา เรื่องแกกับลูกกุลก็จบ” พอกลาวเตือน

“มือชั้นนี้แลว พอวางใจได เดี๋ยวพอรอดูชินกฤษมันจะกระอักเลือดในวันจันทรนี้นะ” ผมตอบดวยความมั่นใจ

ความรูส ึกรื่นเริงทําใหผมครวญเพลงอยางอารมณดี “take my hand, take my whole life too” เคลื่อนตัวเขาจังหวะไปตามทวง


ทํานองของเสียงเพลง

“for I can't help falling in love with you” พอรองตอจากผม ผมมองพอดวยสายตาลอเลียน พอยักคิ้ว

“ไดฟงเพลงนี้ทีไรแลวนึกถึงแมแกทุกที” พอพูดพลางยิ้ม นัยนตาแพรวพราว

“หึหึ...แมทําพอแสบใชไหม”

“ใช...แสบมาก” นัยนตาพอแวววาวเมื่อนึกถึงความหลัง

แมผมเปนลูกสาวคนมีเงิน มีเชื้อผูดีเกา ดูจากรูปลักษณภายนอกแมเหมือนหญิงสูงศักดิ์ นักเรียนนอก หัวสูง แตความจริงแลวแมผม


เปนนักอนุรักษณนิยม แมชอบความเปนไทย ศิลปะ ดนตรีไทย แมไปเมืองนอกก็เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม หลังจากที่แมกลับมาและ
รอบรรจุเปนครูสอนดนตรีไทยอยูนั้น พอไดพบกับแมในงานกาลาดินเนอร

พอบอกวาแมคือรักแรกพบ คืนนั้นพอขอแมเตนรํา พอถึงชวงหนึ่งของบทเพลง พอจึงรองจีบแม ‘take my hand, take my whole life


too, for I can't help falling in love with you’ พอบอกวาตอนที่พอรองนั้น แมทําหนาไรความรูสึกมาก ทําใหขาดความมั่นใจไปกวา
ครึ่ง แลวพอเพลงจบแมก็เดินหนีพอไปเลย พองงอยูนานวาเกิดอะไรขึ้น มารูทีหลังวาแมไมปลื้มคนรองเพลงฝรั่งเวลาจีบ

พอจึงเปลี่ยนกลยุทธ หันไปเปาขลุย แตงกลอนจีบแมแทน ไดฟงแลวก็ขําครับ ที่ขํามากที่สุดก็คือในคืนนั้นแมจงใจแกลงพอ หมั่นไส


คนเจาชู เห็นหนากันไมถึงนาทีก็มาบอกวาผมตกหลุมรักคุณเขาใหแลว แมเลยทําเมิน ฉีกหนาพอทั้งที่ความจริงเพลงสากลแมก็ชอบ
ฟงเหมือนกัน
สมองคนเรานี่มันอัศจรรยมากเลยนะครับ สามารถบันทึกเรื่องราวในอดีต แมเวลาจะผานไปเนิ่นนานเพียงใด ทวาหากมีบางอยางมา
สะกิด สิ่งที่ถูกเก็บไวก็ถูกรื้อฟนขึ้นมา เพลงรักอมตะสําหรับพอคงเรียกเวลาเกาๆ ใหหวนเขามาในความทรงจํา

เสียงบทเพลงอันทรงเสนห ดนตรีรักหวานซึ้ง จังหวะการขยับเทาที่พลิ้วไหวไปตามทวงทํานองของบทเพลงทําใหภาพแหงความรัก


ความผูกพันในครั้งอดีตวกเขามาในหวงคํานึงของผมเชนกัน

‘เตนรํากันไหมคิน’ พอถามผมในขณะที่ผมกมอยูกับสมุดวาดภาพ จําไดวาตอนนั้นผมเพิ่งจะสิบขวบ

‘เตนรําหรือ’ ผมเงยหนาขึ้นถาม มองพอที่เดินไปยังเครื่องเลนแผนเสียง

‘แตคินเตนไมเปนนะ’ ผมลุกขึ้น เดินไปหยุดอยูขางพอ เงยหนาพูดกับพอจนคอตั้ง ในเวลานั้นผมสูงเหนือเอวพอมานิดหนอยเองครับ


พอยิ้มใหผม

‘สงมือมาสิ เดี๋ยวสอนให’ ผมยิ้มสดใส ไมรอชาวางมือในอุงมือใหญของพอทันที พอกระชับมือผม มืออีกขางโอบแผนหลังของผม ผม


โอบมือรอบเอวของพอ

‘พรอมนะ’ ผมพยักหนา แลวพอก็พาผมขยับเขากับจังหวะของบทเพลง

ความรูสึกในขณะนั้นผมสนุกมาก ผมตามกาวตามจังหวะที่พอนําผม บางครั้งก็เหยียบเทาพอบาง พอหัวเราะ กอนจะนับ หนึ่ง สอง


สาม สี่ แลวสอนใหผมกาวเปนสเต็ป พอจับจุดไดผมก็เพลินกับบทเพลงจนลืมไปเลยวาพอหยุดนับตอนไหน

‘take my hand, take my whole life too, for I can't help falling in love with you’ เสียงของพอที่รองประสานกับเอลวิสทําใหผม
เงยหนาขึ้นมอง สายตาพอมองตรงไปยังประตูหอง นัยนตาแพรวพราวคลายสงความรูสึกไปถึงใครอีกคนที่ยืนอยูตรงนั้น ผมหันหลัง
ไปมองตามสายตาของพอ

‘แม’ ผมเรียกพรอมกับหยุดเตน สงยิ้มใหแมที่ยืนมองเราสองพอลูกอยู แมปรบมือใหเราทั้งสอง

‘คินเกงจัง’ แมชมผม ผมยิ้มหวาน

‘ก็คินลูกพี่นี่นา’ พอลูบหัวผม ตอบพลางยิ้ม มองแมไมวางตา

แมเลิกคิ้วขึ้นมองผมเปนเชิงถามวาจริงหรือ ผมรีบพยักหนาอยางรวดเร็ว แมหัวเราะกอนยิ้มละไมใหพอ จากนัน้ ก็พอก็ยื่นมือไป


ตรงหนาแม โคงคํานับ ขอแมเตนรํา แมวางมือในอุงมือของพอ กาวเขาสูวงแขนแกรง ดนตรีบรรเลงเพลงรักหวานซึ้งขานขับพรอมกับ
เทาของทั้งสองเริ่มขยับ เคลื่อนตัวพลิ้วไหวเขากับจังหวะของบทเพลง
ผมนั่งเทาคางมองพอกับแมที่ยิ้มใหกันอยางมีความสุข ทั้งคูสงความรักผานทางสายตา ภาพที่เห็นทําใหผมนึกถึงนิทานที่แมเลาให
ฟงกอนนอน ภาพเจาชายกับหญิงอันเปนที่รักกําลังเตนรําในหองโถงอันโอฬารตระการตา มันชางสวยงามและนาประทับใจ

“เร็วเหมือนกันนะ ไมทันไรก็จะครบรอบอีกแลว” เสียงของพอที่ดังขึ้นทําใหผมตื่นจากภวังค

“วันพุธนี่สินะ”

“อืม” พอขานรับในลําคอ

ผมสบตากับพอดวยความเขาใจ วันพุธนี้ก็จะครบรอบวันที่แมจากเราอีกครั้งแลว ถึงเวลาจะเปลี่ยนแตความรูสึกของพอที่มีตอแมไม


เคยเปลี่ยนไปเลยจริงๆ เสียงดนตรีที่แผวเบาลงเรื่อยๆ จนกระทั่งหยุดลงทําใหผมกับพอหยุดเตน

“อีกรอบไหม” ผมถาม

พอเลิกคิ้วกอนจะยิ้มมุมปาก “ดีเหมือนกัน” ผมยิ้มตอบ

เมื่อเสียงดนตรีดังขึ้นอีกครั้ง ผมกับพอก็เคลื่อนไหวไปกับบทเพลงแหงความทรงจํา ผมกลายเปนคูเตนรําของพอหลังจากที่แมจากเรา


ไป ผมไมเคยอายเลยหากใครมาเห็นผูชายสองคนจะเตนรําดวยกัน ตรงกันขามทุกครั้งที่ผมขยับเทาไปพรอมกับพอ ผมจะรูสึกดีและ
อบอุนในใจเสมอ ผมรูวายามที่พอฟงบทเพลงเกาๆ อยูนั้น พอกําลังคิดถึงแม และผมก็ดีใจที่ชวยทําใหพอหายเหงาไดบาง…ชวยทํา
ใหวันเวลาในอดีตของพอกลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง

ผมจิบน้ําชานั่งคุยเปนเพื่อนพออยูครูใหญกอนจะขึ้นไปยังหองของตัวเอง มองดูนาฬิกา คิดวาคงใกลเวลาแลวละ เชื่อไหมครับหาก


ผมจะบอกวาบายนี้เปนครั้งแรกที่ผมไมคิดจะโทรหาวินดี้ ทั้งๆ ที่ตอนเที่ยงผมยังอยากคุยและเปนฝายโทรหานองอยูแทๆ แตขณะนี้
ผมกลับอยากขอเวลาอีกสักนิด เพื่อจะคิดหาคําแกตัวอีกสักหนอย

“ที่รักไปไหนมาครับ พี่โทรหาตั้งหลายครั้งแตไมรับสาย” แตคงไมทันแลวครับ กําลังอยากเลี่ยงอยูพอดีนองก็โทรเขามาเสียแลว ผมรีบ


กดรับสายพรอมกลาวทักทายดวยคิดวาวินดี้อยากปรักปรําใหผมเปนจําเลย(รัก)ของนองเร็วๆ พอนองถึงบานปุบก็คงโทรหาผมปบ
เลย คิดในแงดี เขาขางตัวเองไวครับ ทําใจดีสูครุฑเพื่อชีวิตงูเขียวนอยๆ ของผมจะไดอยูรอด ทั้งที่ความจริงแลวผมกําลังจะขึ้นแทน
ประหาร!

“พี่ก็รูแลวนี่วาวินไปอยูไหนมา” แตผมจะไหวไหมเนี่ย เสียงเขียวมาเชียว

“ใชครับ พี่รูจากรันแลว” ยอมรับความจริงเสียงออย ถาอยูตรงหนาจะสงสายตาออดออนใหดวย เรียกรองความสงสารครับเผื่อทานผู


พิพากษาจะเห็นใจ…คุณๆ คงกําลังสงสัยอยูใชไหมครับวาผมเกรงใจนองเรื่องอะไร เดี๋ยวดูไปก็รูเองแหละครับ
“ทําไมพี่ตองทําแบบนี้ดวย ใหคนตามวินทําไม พี่ไมเชื่อใจวินหรือ” นี่ไงครับ นองเปดประเด็นแลว ความจริงผมก็คิดนะครับวาความ
ตองแตกเขาสักวัน แตไมคิดวาจะเร็วขนาดนี้

“เปลา...”

“ไมตองปฏิเสธเลย” ผมหุบปากฉับเมื่อนองสวนกลับมา

“พี่จะใหวินคิดยังไง มันคงเปนเรื่องบังเอิญใชไหมที่พี่รันจะรูวาวินกับปรินไปดวยกันและไปทางไหน มันคงเปนเรื่องบังเอิญใชไหมที่พี่


จะรูวาพี่รันอยูกับวิน แลวมันคงเปนเรื่องบังเอิญใชไหมที่พี่มิ้นคนรอบคอบจะลืมตอประกันรถนะ” มาเปนชุดเลยครับแคผมพูดคําวา
เปลาคําเดียวเองนะเนี่ย

“พี่จะอธิบายวาอยางไร ตอนนี้วินไมพอใจพี่มากเลยนะ เรื่องการดของพี่นี่วินก็พอทําใจได แตเรื่องพี่มิ้นนี่มันเกินไป พี่ทําแบบนี้ทําไม


ใหคนตามวินหางๆ ยังไมพอใชไหม ตองสงคนมาเฝาเลยหรือไง วินสงสัยตั้งแตเห็นพี่มิ้นวันนั้นแลว แตไมปรักใจเชื่อ จนวันนี่แหละ วิ
นแอบไปดูรถ แลวก็เปนอยางที่คิดไวจริงๆ ทุกอยางเปนแผนของพี่หมดเลย”

นองเกงครับ ปะติดปะตอจนเปนเรื่องราว ผมคิดวาเรื่องที่รันตามปรินทันทวงทีนั้นคงไปสะกิดใจวินดี้เขาให นองคงรูแลววาความจริง


การดตามนองไมใชปริน บวกกับเรื่องที่สงสัยเกี่ยวกับรามิลอยูแลววินดี้เลยหาโอกาสพิสูจน ถึงวินดี้จะดูซื่อๆ แบบนั้นแตนองรายใช
เลนนะครับ ฉลาดเปนกรดเชียวละ

รันรายงานมาวาวินดี้ปฏิเสธจะไปพรอมเขากับปรินหลังจากกินขาวเสร็จโดยอางวาจะแวะไปดูตนไมที่คอนโดเสียหนอย แตพอขึ้น
แท็กซี่วินดี้ดันแอบยองไปดูรถซะนี่ พอผมรูก็เขาใจเลยครับวาความจริงตองแตกแนๆ ในเมื่อรถของนองซอมวันเดียวก็เสร็จแตรามิลบ
อกชางไมตองรีบ พอวินดี้ไปถึงก็เลยยังไมทันไดทําอะไร

“วินดี้ใจเย็นกอนนะครับ ที่พี่ทําทั้งหมดพี่มีเหตุผล แลวพี่พูดวาเปลานั่นหมายความวา ไมใชพี่ไมไวใจวินดี้ แตที่พี่ทําก็เพื่อความสบาย


ใจของพี่ พี่ยอมรับวาพี่เห็นแกตัว แตพี่ก็อยากใหวินดี้เขาใจพี่บาง พี่ตองคอยพะวงหนาพะวงหลังและทําอะไรไมไดแนๆ ถาตองคอย
หวงวินดี้ ถาเกิดอะไรขึ้นกับวินดี้พี่จะทํายังไงละ ทําใหพี่สบายใจเถอะนะ เราตองแยกกันอยูแบบนี้พี่ก็อยากแนใจวาวินดี้ของพี่
ปลอดภัย”

“มันมีอะไรนาหวงนักหนา วินก็แคกลับมาอยูบานแลวก็ดําเนินชีวิตเหมือนคนปรกติ” นองยังไมยอมออนขอใหผม

“ที่รักครับ คนเราเวลารักอะไรมากๆ ก็ตองหวงมากเปนธรรมดา ถึงวินดี้จะมองวาไมมีอะไรแตสําหรับพี่ไมใช เพราะฉะนั้นหากปองกัน


อะไรไดพี่ก็ตองทํา”

“เลยใหคนตามคุมวินใชไหม”
“ไมใชเลย วินดี้ก็เห็นนี่นาวาคนเหลานั้นไมเคยเขาไปจุนจานกับวินดี้ ไมอยูใกลๆ ใหรกหูรกตาวินดี้ดวย จะมีก็แตรามิลเทานั้น แตที่รู
มารามิลก็แคไปรับไปสงนี่ครับ อีกอยางวินดี้ก็สนิทกับรามิลไมใชหรือ วินดี้คงไมอึดอัดที่รามิลอยูใกลๆ ใชไหม”

“มันก็ใช...” นองเริ่มเสียงออนลงแลวครับ สวนผมก็หายใจโลงคอขึ้นมานิด

“แตวินก็ไมชอบใจอยูดีที่พี่ทําอยางนี้ มันเหมือนมีคนคอยจับตาดูตลอดเวลา แลวพี่มิ้นเคาไมทํางานทําการหรือไง”

“รามิลเปนผูชวยสวนตัวของพี่ครับ การไปรับไปสงวินดี้ก็คืองานของเขา”

“จริงดิ...งั้นวินก็ทําใหพี่มิ้นลําบากใชไหม” เสียงพึมพําของนองทําใหมองเห็นทางสวาง รูชองทางจะเลื้อยแลวครับ ผมจะหาประโยชน


จากความใจออนของวินดี้

“ใครบอก พี่วาถูกใจรามิลซะมากกวา” เริ่มหยอนเบ็ด เบนความสนใจของนองนิดหนึ่งครับ

“ทําไมละ” บิงโก เหมือนนองกินเหยื่อแลวละ

“พี่ตองถามสิวาวินดี้ทําอะไรกับผูชวยพี่บาง เห็นรามิลเลาใหฟงวาเกือบจะถูกเมธตอย”

“ออ...เรื่องนี้เอง ถาพี่อยากรูก็ตองมาแลกกัน” นองพูดดวยน้ําเสียงเจาเลห คลายกับจะลืมเรื่องไมพอใจผมไปแลว

“หือ...แลกเปลี่ยนอะไรครับ” ผมเลนกับนอง ดีแลวครับที่วินดี้หันไปสนใจเรื่องอื่น ความจริงวินดี้ก็เปนคนที่เขาใจอะไรงายๆ นะครับ


นองโมโหก็โวยวายไปตามเรื่อง แตพออางเหตุผลก็ยอมรับฟงและทําใหผมสบายใจเสมอ

“วินจะเลาเรื่องพี่มิ้น สวนพี่ก็ตองเลาเรื่องพี่รันใหวินฟง”

“หึหึ รายจริงนะ แฟนใครเนี่ย”

“วินไมมีแฟน ตอนนี้กําลังโสด”

“อาว...พูดแบบนี้หมายความวายังไง อยาใหพี่รูเชียวนะวาไปแอบหลีสาวที่ไหน” ผมแสรงขูนอง วินดี้หัวเราะ

“ไมทําหรอก มีแตสาวนั่นแหละมาหลีวิน” นั่น...แบบนี้ยิ่งแลวเขาไปใหญ ไมไดการแลว ตองตักเตือนเสียหนอย เกิดมีสาวมากระแซะ


ที่รักผม ผมก็แยนะสิครับ

ผมขูจะทําโทษวินดีไ้ ปตามสายหากนองไปหวานเสนหใสคนอื่น แตนองกลับทําเสียงไมยี่หระ แถมยังยั่วผมอีกวาถาอยากใหนองอยู


ในโอวาทก็ตามมาเฝาดวยตัวเองเลย ฮึ่ม...ไดฟงแลวอยากปดปากชางจํานรรจานั่นซะจริง เห็นวาอยูไกลละทาผมไดทาผมดี

ผมยังใชโทรศัพทเปนสื่อกลางในการติดตอกับวินดี้เสียเปนสวนใหญ รับฟงขาวจากรามิลที่ตามรับสงนองบาง จากการดบาง และถา


คิดถึงมากๆ อยากเห็นหนาก็ขอนองเลนเว็บแคม มันก็พอชวยไดบางครับ ทําใหหายคิดถึงบางเล็กนอย

เชาวันจันทรตลาดหุนเปดตัวอยางครึกครื้น ผมเฝามองดูอยูหางๆ ทุกการเคลื่อนไหวอยางที่เราคาดการณไว และกอนที่จะปดตลาด


เราก็สอนใหชินกฤษรูวา เราไมใชเนื้อที่เขี้ยวไดงายๆ เย็นวันนั้นผมไปงานเลี้ยงและไดเจอกับวาที่ประธานฯ คนใหมของชินกฤษ คงไม
ตองใหอธิบายวาเราทั้งคูจองมองซึ่งกันและกันดวยสายตาอยางไร

วันอังคารภาพของเราทั้งคูปรากฏบนหนาหนังสือพิมพมุมขาวซุบซิบไฮโซ ขาวประโคมเกี่ยวกับการเผชิญหนากันระหวางสองทายาท
ของบริษัทยักษใหญ นองโทรมาลอเลียนผมวาเปนคนดังเขาใหแลว ผมถามวาวินดี้รูเรื่องไดอยางไรเพราะนองไมเคยสนใจขาวพวกนี้
วินดี้บอกวาลูกแพรซึ่งเปนเพื่อนสนิทของนองชอบอานขาวพวกนี้ วินดี้ไดยินลูกแพรพูดถึงก็เลยขอดู

เรื่องเพื่อนสนิทของนองคนนี้ ผมยังกังวลใจอยูนิดหนอยครับเพราะวินดี้ยังไมบอกใหเธอรูเรื่องผมกับนอง ผมไมอยากเขาไปยุง


เทาไหร ถึงแมจะรูวาเธอคิดกับนองมากกวาเพื่อน แตผมก็อยากถนอมน้ําใจของวินดี้ อยากใหนองจัดการเอง แตผมก็ใหเวลานองไม
มากหรอกครับ รอดูอีกสักหนอย หากนองไมทําอะไร ผมก็คงเปนฝายเปดตัว ผมกับเพื่อนของนองคนนี้เอง

วันพุธเปนวันครบรอบวันตายของแมครับ ใจจริงผมอยากพาวินดี้ไปแนะนําใหแมรูจักแตโอกาสไมอํานวยจึงตองเลื่อนไปคราวหนา
เหมือนทุกปที่ผมกับพอไปเยี่ยมแมแลวตองพบกับใครอีกคน ชายคนนั้นอายุรุนราวคราวเดียวกับพอผม ขางกายของเขามีชายใสชุด
ดําสี่คนคอยดูแลความปลอดภัย พอพวกเขาเห็นเราก็ขยับตัวอยางระมัดระวัง เชนเดียวกับการดของพอและผมที่ประจําที่และพรอม
จะรับมือกับอีกฝาย พอปรายตามองเขานิดหนึ่ง เขาจึงถอยออกมาใหพอเดินไปวางมาลัยกุหลาบไวขางๆ กับมาลัยอีกพวงที่วางไว
กอนหนานั้น

แลวพอพออยูตอหนาแมโลกทั้งใบก็หยุดหมุน มือของพอลูบไปบนภาพแมอยางแสนรัก พอยิ้มนอยๆ นัยนตาออนโยน


“หลับสบายหรือเปลาจะน้ํา” พอกลาวคําทักทาย

“เมื่อคืนพี่นอนไมหลับเลย ลุกขึ้นมาเปาขลุยตอนตีสอง ไอคินมันออกมาดา หาวาพี่บา” ผมหัวเราะ มันเปนความจริงครับ ยิ่งใกลวัน


ครบรอบวันตายของแม พอก็ยิ่งเปนเอามาก เมื่อคืนผมนึกวาฝนเพราะหลับๆ อยูก็ไดยินเสียงขลุย

“แตน้ําคงไมคิดอยางไอคินใชไหม บางครั้งเวลาพี่คิดถึงน้ํามากๆ พี่ก็ควบคุมตัวเองไมได พี่รูวาน้ํามองอยูจากบนนั้น ไมรูวาพอถึงวันที่


เราจะไดพบกันน้ําจะยังจําพี่ไดหรือเปลา บนโนนเขาหยุดอายุไวหรือเปลานะน้ํา หากพี่ไดเจอน้ํา พี่จะยังเหมือนตอนหนุมๆ อยูไหม
ตอนนี้พี่แกขึ้น พี่กลัววาน้ําจะเมินพี่จัง...”

พอพูดเลนกับแมราวกับวาขณะนี้แมอยูตรงหนาพอ ในแววตาของพอไมมีความเศราอยูแลว จะมีก็เพียงแตความถวิลหา ชายวัย


กลางคนอีกคนที่ยืนอยูถัดจากพอออกไปเงยหนาขึ้นบนฟา เขาถอนหายใจ กอนจะแยกตัวจากพอกับแมออกมาอยางเงียบๆ
เชนเดียวกันกับผมที่ปลอยใหพออยูกับแมตามลําพัง

ผมถอยหางจากพอออกมาประมาณสิบเมตร แตคเชนทรยังใหการดเฝาระวังหลังพออยูหางๆ อยางเขมงวด ถึงแมวาจะมั่นใจกวา


แปดสิบเปอรเซ็นวาจะไมมีการใชกําลังตอหนาแมแนๆ แตคเชนทรก็ยังทําหนาที่ของเขา มันคงเปนเรื่องยากที่จะวางใจสถานการณ
เชนนี้ ในเมื่อบิ๊กบอสของสองตระกูลที่ห้ําหั่นกันมาตลอดสามสิบปไดมาเผชิญหนากัน

รันกับคีตาขยับตัวเขามาชิดผมมากขึ้นเมื่อบุคคลซึ่งไมนาไววางใจเดินเขามาใกล

“ขอแสดงความยินดีกับวาที่นายคนใหมของสิงหราช” ผมพยักหนาเล็กนอย

“เชนกันครับ ฝากแสดงความยินดีไปถึงภาคินดวยกับตําแหนงนายคนใหมของชินกฤษ” ภาคินคือลูกชายคนโตของเขาครับ จะเขารับ


ตําแหนงในเวลาไลเลี่ยกับผม ริมฝปากเขากระตุก

“แลวจะบอกให” กลาวเสียงทุมนาเกรงขาม นัยนตาเรียวยาวหากแตเฉียบคมอยางพญาเหยี่ยวมองหนาผมอยางพิจารณา

“นับวันเธอจะถอดแบบจากสิงหไมผิดเพี้ยน”

“ใครๆ ก็บอกวาผมเหมือนพอ” ผมยอมรับ ไมวาจะหนาตาหรือนิสัยใจคอผมถอดแบบพอมาหมดเลยครับ

“แตมีบางอยางที่ตางกัน เธอรายกวาเพราะที่ผานมาสิงหไมเคยล้ําเสน” นัยนตาของเขาแข็งกราวขึ้นขณะพูด ผมเลิกคิ้วกอนจะยิ้ม


บางๆ

“ขอบคุณครับที่ชม” เขามองผมดวยสายตาวาวโรจน
“ฉันอยากจะเตือนวาจะทําอะไรก็ใหอยูในกติกา”

“เชนกันครับ ผมก็อยากบอกเชนกันวาอยาล้ําเสน หากขาขางไหนที่ชินกฤษกาวขามมา ผมก็จะตัดขางนั้นทิ้งเสีย” ผมบอกดวย


น้ําเสียงเฉียบขาด

“ฉันจะรอดู” เขาบอกดวยทําเสียงทาทายกอนจะมองไปทางพอที่กําลังคุยกับแมอยูชั่วครู หลังจากนั้นก็หันหลังแลวเดินจากไป

ผมปรายสายตามองแผนหลังของเขาเล็กนอย นายใหญของชินกฤษยังคงดูมีอํานาจและนาเกรงขาม เขาบอกผมวาอยาล้ําเสน นั่น


หมายความวาเขาไมรูเรื่องอยางนั้นหรือวาลูกชายของเขาทําอยางไรกับวินดี้ของผม และทําอยางไรกับอานนท พอผมตอบโตกลับ
โดยหันไปเลนงานลูกชายคนเล็กของเขา เขาถึงไดเดือดรอน แบบนี้แสดงวาเรื่องภายในของชินกฤษมีชองโหวที่นายใหญคุมไมอยู
แลวสินะ

เวลาที่ผมมาเยี่ยมแมผมมักจะเห็นมาลัยกลีบกุหลาบเสมอ ผมเคยสงสัยวาเปนของใคร จนกระทั่งในวันที่แมจากเราไป ณ เวลา


เดียวกับที่แมสิ้นลมหายใจในปถัดมาผมจึงเจอกับชายปริศนาคนนั้น เห็นครั้งแรกผมรูสึกคุนหนากับเขา รูจากบาวไพรในบานวาเขา
เปนศัตรูของพอ พยายามอยาเขาใกล แตผมกับคลางแคลงใจเนื่องจากคิดวาผมเคยเห็นหนาเขาที่ไหนมากอน สุดทายผมก็นึกออก
เพราะเขาคือคนที่ยืนกอดคอ ยิ้มหัวเราะกับพอของผมในภาพถายใบเกานั่นเอง ผมเก็บความสงสัยไวในใจ ไฉนศัตรูถึงไดดูสนิทกับ
พอผมนัก พอโตขึ้นมาหนอยผมก็ถามพออยางที่สงสัย และคําตอบที่ไดรับก็ทําใหผมเขาใจอะไรหลายอยางมากขึ้นพรอมกับเขาใจวา
เขาไปเยี่ยมแมผมทําไม

นายใหญของชินกฤษเคยเปนเพื่อนรักของพอผมมากอน กอดคอเปนเพื่อตายกันมา เขาเปนคนสูงศักดิ์ เปนลูกชายของนักการเมือง


ในขณะที่พอผมเปนลูกชายนักเลงเจาของบอนการพนัน ทวาชะตากลับพลิกผันใหคนทั้งคูไดพบกัน ครั้งหนึ่งความที่เขาเปนคนหยิ่ง
ทระนงทําใหถูกนักเลงซอมดวยความหมั่นไส พอผมอยูในเหตุการณจึงเขาไปชวย จากน้ําใจของพอผมในครั้งนั้นทําใหทั้งสองรูจักกัน

ถัดมาพอผมไปเที่ยวตางถิ่นและถูกนักเลงแถวนั้นหาเรื่อง เขาอยูในเหตุการณจึงเปนฝายมาชวยพอผมบาง น้ําใจลูกผูชาย หลั่งเลือด


ใหแกกันและกัน นานวันเขาความผูกพันก็ตามมา จากวันก็เพิ่มเปนเดือน จากเดือนก็กลายเปนป จากหนึ่งปก็เปนสิบป เกลียว
มิตรภาพจึงขมวดแนนจนคิดวาคนทั้งคูสามารถจะตายแทนกันได

แตแลวความเปนเพื่อนก็ถึงคราวแตกหัก เมื่อคนทั้งสองกลับมารักผูหญิงคนเดียวกัน แมผมคือรักแรกพบของพอ พอเจอแมก็ไมรอชา


แสดงความรักตามวิธีของพอ จนแมใจออนและยอมรับความรัก ในที่สุดตนรักในใจทั้งคูก็บานสะพรั่ง

สําหรับเขาแมผมคือความเหมาะสม ผูใหญของทั้งสองฝายแนะนําใหทั้งคูรูจักกัน เขารักแมจึงใหผูใหญจัดการให เขาจึงกลายเปนวา


ที่คูหมั้นของแมและรอวันจะแตงงานกันเมื่อเขาเรียนจบและกลับมาจากนอก ทวาพอเขากลับแลวพบวาแมกําลังคบอยูกับชายอื่นทํา
ใหไมพอใจเปนอยางมาก ยิ่งมารูวาเปนเพื่อนรักก็ยิ่งไมชอบใจ

หากมองดวยสายตาคนนอกอาจมองวาพอผมเปนมือที่สาม แตถามองดวยหัวใจแลวพอผมไมผิด ในเมื่อแมไมไดรักเขา ทุกอยางเปน


ความตองการของผูใหญ พอผมก็มีสิทธิ์จะครอบครองแมเชนกัน ในขณะที่เขาก็คิดไมตางจากพอ เขามากอน เขามีสิทธิ์ในตัวแม
เชนเดียวกัน

มิตรภาพของเขากับพอจึงคอยๆ เกิดรอยราวขึ้นทีละนิดๆ จนกระทั่งสุดทายก็แตกออกเปนเสี่ยงๆ เมื่อเขาใหผูใหญบังคับแมให


แตงงานดวย พอผมไมยอมปลอยใหคนรักหลุดมือ คืนสงตัวเขาหอ พอลักพาตัวแมออกจากเรือนหอ นับตั้งแตวินาทีนั้นการไลลาและ
ตัดเปนตัดตายจึงเกิดขึ้น

จากอดีตจนกระทั่งปจจุบันก็เปนเวลาสามสิบกวาปแลว ทวาบาดแผลที่เกิดขึ้นมันไดลุกลามเปนแผลรายที่เกินจะเยียวยารักษา เมื่อ


มาถึงรุนของผม ถึงแมวาจะไมมีความแคนใดๆ แตผลพวงจากในอดีตมันฝงรากลึกเขาไปในสายเลือด หากเราจับธุรกิจอะไร ชินกฤษ
จะตองคอยขัดแขงขัดขา เชนเดียวกับทางโนนที่เราคอยเปนกางชิ้นใหญ

สามสิปปกับความรักในใจพอไมเคยเปลี่ยน ความรูสึกของเขาที่มีตอแมก็เชนเดียวกัน หากแตเขาคงซอนมันไวในมุมใดมุมหนึ่ง หนึ่ง


ปจะมีเพียงวันนี้วันเดียวที่ไดทําตามหัวใจตัวเอง มาเจอกับแมจากนั้นเขาก็กลับไปทํา “หนาที่” ของเขา

ณ เวลาเดียวกับที่แมสิ้นลมหายใจในทุกๆ ป ลมแหงมิตรภาพจะพัดผาน นําพาใหอดีตเพื่อนรักสองคนกลับมาพบกัน มันคงจะดีกวา


นี้หากลมที่พัดหวนชวยสมานแผลในใจ ใหคําวา “เพื่อน” ไมสูญสลายไปอยางเชนที่เปนอยู

หลังเลิกเรียนวันหนึ่งขณะที่พี่ทองนั่งหนาเครียดอยูกับกองเอกสารอยูนั้น พี่มิ้นก็ไปรับวินดี้ โดยมี ลูกแพร เมธ แลวก็ตรินไปกินอาหาร


ดวยกันกอนจะกลับบาน ทั้งหมดตรงไปยังรานราดหนายอดผักซึ่งเปนของโปรดของวินดีแ้ ละอยูไมหางจากมหาวิทยลัยมากนัก ที่โตะ
ขางๆ มีสาวสวยคนหนึ่งนั่งเลนเกมในโทรศัพทอยู แลวก็มีนักศึกษาชายคนหนึ่งเดินเขามา วินดี้ก็เลยสะกิตพี่มิ้นบอกวาดูสิ คนเขา
กลาจะจีบสาวนะตองทํายังไง

"นั่งคนเดียวหรือครับ ขอนั่งดวยคนไดไหม" ชายหนุมที่ไมรูตัววากําลังถูกจับตามองอยูเริ่มรุก


"มีไฝที่ตูดหรือไง อยากนั่งก็นั่งสิ" โอ...เธอชางแรงจริงๆ ลูกแพรมองชายหนุมที่ทําหนาเออหลังจากฟงเธอตอบอยางขําๆ
"มีแฟนหรือยังครับ" หลังจากบีบไฝที่กน เอย...หลังจากที่เขานั่งลง ปนหนาใหดานที่สุด สงสายตาหวานเชื่อมไปใหหญิงสาวแลวก็ยิง
คําถามใสทันที
"ถามทําไม ยังไงไมม"ี นั่น ถึงเธอจะกวนโมโหบางแตก็ตอบคําถามอยูดี กวนๆ แบบนี้ทําใหวินดี้นึกถึงนองชายฝาแฝดของตรินขึ้นมา
ทันที
"ดีเลย งั้นเรามาเปนแฟนกันเอาไหม"
"จะดีหรือ ฉันผานผูชายมาเยอะนะ" เธอบอกหนาตาย
"ไมเปนไรครับ ผมก็ผานผูชายมาเยอะเหมือนกัน" ลูกแพร เมธ ตริน วินดี้ที่กําลังนั่งฟงเขาคุยกันอยูนั้นสําลักน้ํา ไอโขลก ดวย
ความคิดไมถึง ยกเวนก็แตพี่มิ้น
"นองกุลแนใจหรือครับวาจะใหเลียนแบบไอนั่นนะ พี่ไมเคยผานผูชายมาเลยนะ"
วินดี้สายหนา โบกมือบายๆ รูแลววาบทเรียนนี้ไมผาน ใหพี่มิ้นอยูเปนโสดตอไปดีกวา
ตอนนี้ชีวิตผมคอนขางวุนวายนาดูเลยเพราะวาอยูในฤดูการสอบ ตองอานหนังสือกันหัวหมุน บางวันก็ไปคางบานเมธเพื่อติวหนังสือ
กัน บางครั้งเมธกับลูกแพรก็มาคางที่บานผมเหมือนกันครับ ตอนแรกที่เมธจะคางที่บานผมก็เปนหวงเรื่องของปรินเหมือนกัน ผม
ไมไดหวงวาเมธกับปรินจะไปมีความสัมพันธกันหรอกนะครับ แตที่หวงนี่คือความรูสึกของตริน กลัวมีอะไรไปสะกิตแผลในใจจน
พลอยทําใหเขาคิดมาก

เหตุที่ผมกังวลเรื่องนี้เพราะมันมีที่มาที่ไปครับ สัปดาหกอนตนโฮยาของตรินที่เมธดูแลอยูใบเริ่มเฉาและลําตนเกิดแหงขึ้นมา เมธกลัว


มันจะตายก็เลยพยายามถามวาใครพอจะรูสาเหตุไหม ผมก็เลยเอามาถามปรินเพราะเขารูเรื่องตนไมเปนอยางดี ปรินบอกวามันอาจ
เกิดจากสาเหตุรากไมรับน้ํา เมธใสปุยหรือเพิ่มยาอะไรลงไปหรือเปลา เมธเลยบอกวาเขาไปซื้อปุยชนิดใหมมาเลยลองใช พอใชแลว
มันก็ไดผลอยางที่เห็น

ชวงแรกของการคุยกันนั้นผานทางผมครับ เมธฝากถามมา ผมก็มาถามปรินตอ ปรินแนะนําวาลองงดปุยกอน แตพอเมธทําตามแลว


ก็ไมไดผล ปรินเลยบอกวางั้นก็ตองเปลี่ยนเครื่องกระถางใหม ปุยมันซึมลงไปในดินและรากไมรับน้ําแลว ถาปลอยไวนานก็นาเปน
หวง ถาเมธทําไมเปนก็เอามาที่บานเดี๋ยวเขาทําให เมธก็เลยเอามาครับ

แตเรื่องตนโฮยานี่ตรินเขายังไมรูนะครับวาผมสงใหเมธดูแลตอ โดยสวนตัวแลวผมก็กลัวตรินจะเสียใจที่ผมเอาของที่เขาตั้งใจมอบให
ไปใหเมธดูแลอีกที เมธก็เลยตองมาบานตอนที่ตรินไมอยู แตมันซวยที่เมธไมทันไดกลับไปตรินก็มาซะกอน เขาแอบเห็นเมธกับปริ
นชวยกันเอาตนโฮยาลงกระถางใหม ผมไมรูหรอกนะวาขณะนั้นทาทางของเมธกับปรินเปนอยางไร แตมันก็ทําใหตรินไมสบายใจไป
เลย

ตรินเกิดอาการซึมเศราจนผิดสังเกตไปหลายวัน เขาจะเปนแบบนี้ตลอดเลย หากมีเรื่องไมสบายใจอะไรจะไมยอมเลาใหใครฟง แถม


ยังหลบหนาเมธอีกตางหาก เมธก็เกิดอาการบาขึ้นมาเพราะพี่มิ้นยังตามรับตามสงผมกับตรินอยู มันไมรูวาเกิดอะไรขึ้น ทําไมตรินคุย
กับพี่มิ้น แตไมยอมคุยกับมัน ใครๆ ก็รูวาเมธเวลาไมพอใจนะอารมณรายแคไหน ยิ่งมันร่ําๆ คอยแตจะหึงพี่มิ้นอยูตลอดเวลา พอถึง
จุดสูงสุดของอารมณเมธมันก็ระเบิดออกมา

ดวยคําพูดที่ตรงไปตรงมาของเมธกับอารมณรอนแรง แทนที่จะปรับความเขาใจกันกลับทําใหตรินโกรธเมธมากขึ้น เขาลงจากรถแลว


ขึ้นแท็กซี่หนีเมธ ทําใหเมธตองขับรถตามงอเขา จนสุดทายปรินมันตองออกโรง เคนถามตรินวามันเรื่องอะไรกัน ตอนแรกตรินก็จะ
เดินหนี แตผมไปดักทางเขาไว สุดทายเขาก็ยอมเปดปาก

เขาบอกวา “หึง” เมธ ใชแลวครับ ตรินบอกอยางนั้นจริงๆ ไดยินแลวผมไมรูจะทําหนาอยางไรกับอาการหึงของตริน ถาผมหึงขึ้นมานะ


หรือ ไอพี่ทองนวมแนๆ สวนปรินรายนี้ไมตองพูดถึง อาละวาดบานแตก แตตรินนี่สิ…

“นายหึงแลวงี่เงามากเลยตริน” ปรินใหคําจํากัดความอาการหึงของตรินครับ
“หึงแบบนี้มีแตทุกขใจเปลาๆ นายนาจะดาเมธมันไปเลย บอกใหรูไปเลยสิวานายไมชอบใจนะ จะเก็บมาคิดมากคนเดียวทําไม” มัน
ยังใหคําแนะนําโดยไมรูตัวเลยวาตัวเองก็เปนหนึ่งในสาเหตุที่ทําใหตรินหึง

“แตนายสองคนดูสนิทกันมาก บางทีคนที่เมธรักก็คือนาย...”

“งี่เงาๆ มากเลยตริน เมื่อไหรจะเลิกคิดเล็กคิดนอยสักที” ปรินสวนกลับดวยทาทางหัวเสีย สวนตรินยังอยูในอาการสงบ เห็นแลวผมก็


ไมรูวาใครที่กําลังหึงกันแน มันตองเปนตรินสิที่ดาปรินอะ แตนี่อะไร...

“ปรินก็บอกตรินไปสิ วาปรินมีแฟนแลว” เห็นแลวก็อดใหคําแนะนําไมได แตคําพูดของผมคงไปขัดหูปรินเขาใหเพราะพอผมพูดจบ


ปรินก็ตบหัวผมทันที

“บอกไมเคยจํา ไมใชแฟนโวย” มันแยกเขี้ยวใสขณะที่ผมลูบหัวตัวเองปอยๆ

“...พี่รันเปนแคคูควง...” มันออมแอมตอบ ไดยินแบบนี้แลวผมละอยากไปบอกพี่รันใหมาสําเร็จโทษมันจริงๆ มีอยางหรือ อีกฝาย


ประกาศทนโทวาปรินเปนถึงภริยาอันเปนที่รัก แตไอนี่ดันไปลดบรรดาศักดิ์ของพี่รันจากคุณสามีใหเปนแคคูหลับนอน

“เออ...นั่นแหละ ปรินก็บอกตรินไปเลย วาปรินไมสนเมธหรอกเพราะมีใครอื่นอยูแลว” ผมโอนออนตามครับ ปรินมือไว พูดไมเขาหูที


ไรผมเจ็บตัวทุกที

“เออ...เออ...ตามที่กุลพูดมานั่นแหละ เขาใจนะตริน เลิกคิดมากไดแลว เมธมันรักตรินจะตาย ไมงั้นจะเรียกแตชื่อตรินหรือ ตริน...อา


...โอว...ซี๊ด...ตริน...เร็ว...ตริน...เมธไมไหวแลว...ตริน...โอว...”

“ปริน! ทะลึ่ง!” ตรินตะคอกเสียงดัง หนาแดงแปรด ปรินหัวเราะชอบใจ สวนผมสายหนา ไอนี่มันกวนประสาทจริงๆ นั่นแหละครับ

“ระหวางเรากับเมธไมมีอะไรแลวจริงๆ นะตริน ถึงเราจะรักสนุกจนทําบางอยางพลาดไป แตใชวาเราะจะยอมใหมันเกิดขึ้นอีกครั้ง


ขอรองละ...อยาดูถูกเรากับเมธนักเลย” ปรินทิ้งทายไวแคนั้นกอนที่เขาจะเดินจากไป คําพูดนั่นเสียดแทงใจผมใหเจ็บแปลบๆ อยางไร
ชอบกล มันเหมือนกับปรินอยากขอรองใหไวใจกันบาง

พอผมรูสาเหตุวาตรินหลบหนาเมธทําไมก็โทรไปรายงานเจาตัวใหรูทันที เมธดี๊ดาใหญเลยที่รูวาเหตุเกิดจากความหึง วันถัดมามันก็


มางอตรินใหม คอยพูดคอยจากัน เรื่องมันก็คลี่คลายไปในทางดี

เนื่องจากเหตุการณดังกลาว พอเมธจะมานอนติวหนังสือที่บานผม ปรินก็เลยตัดปญหาไปคางที่ทํางาน ย้ําครับ มันบอกวาคางที่


ทํางานซึ่งก็รูๆ กันอยูวามันทํางานที่ไหน ไอพี่ทองเปนคนบอกผมเองครับวาพี่รันจางปรินไปแตงสวนให แลวมันคงทํางานหามรุงหาม
ค่ํามั้งเพราะกลับบานทีไร ทาทางหมดแรงทุกที
“ขึ้นไปนอนขางบนสิปริน” วันหนึ่งมันกลับมาบานตอนสายซึ่งผมนั่งอานหนังสืออยูในหองนั่งเลน ปรินลมตัวนอนบนโซฟา เบียดผม

“ของีบแปบ เดี๋ยวขึ้นไป” มันจะพูดแบบนี้ตลอดละครับ แลวก็ชอบกอดผมเวลานอนดวย แตไมแคผมหรอกครับ ตรินมันก็กอด หรือไม


มีใครใหกอดมันก็นอนกอดตุกตา แลวถาเราเอื้อมมือไปลูบหลังหรือไมก็ลูบหัวมันนะครับ ไมถึงสามวิ มันหลับปุยเลย

“บอกหลายครั้งแลววาถาไมไหวก็งีบกอน ไมรูจะฝนขับรถกลับมาทําไม"

“ไมมีใครอยูที่ทํางาน นอนไมหลับ” ฟงคําพูดมันนะครับ มันยังยืนยันวาที่ทํางานไมใชบานพี่รัน แลวที่มันนอนไมหลับนี่เพราะพี่เขา


ออกไปทํางาน ปลอยมันใหเหงาละสิ ปากแข็งแบบนี้ไงผมถึงไมสงสัยวาพี่รันทําไมชอบจูบมันนัก พี่แกคงอยากดัดปากมันใหออนละ
สิ เลยบดขยี้บอยๆ ซะเลย

“แลวกลับมาบานแบบนี้นายจางไมวาเอาหรือ” ตองเลนตามบทที่ปรินสงใหครับ หากถามวาพี่รันไมหวงหรือ คงถูกมันลุกมาขวนหนา


แนๆ

“กลาวาก็ลองดูสิ” ปรินงึมงําแตไมวายเสียงสูงในตอนทาย ผมโคลงศีรษะ

ตอนอยูกับผม ผมคิดวาปรินมันไรเหตุผลมากแลวนะครับ แตพออยูกับพี่รันนี่มันกลายเปนคนเอาแตใจ งองแงง ขี้โมโหแถมยังขี้


นอยใจเหมือนหญิงวัยขาดประจําเดือนไมมีผิด เออ...ไมใชสิ ตองบอกวาเหมือนเด็กหิวนมมากกวาเพราะเวลาไมไดดั่งใจมันทีไร มัน
จะแวดๆ แหกปากรอง แตพอพี่รันโอนิดหนอย ใจเย็นๆ พูดดวย ปรินมันก็หายครับ

นี่หรือความรูสึกที่มันมีตอคูนอนนะ ปรกติพอรุงเชาก็ทางใครทางมันจริงไหม แตนี่ปรินลงทุนเรียกรองความสนใจแบบแปลกๆ และคง


จะมีแตคูนอนที่ชื่อรันเทานั้นแหละครับที่มันจะทําแบบนี้

ภาคพิเศษ พี่รัน

ณ. จุดเริ่มตนของคนเลี้ยงแมว
ภาค พี่รัน...สุภาพบุรุษน้ําแข็งไส

สวัสดีครับ ผมชื่อรัน เปนบอดีการดสวนตัวของนายนอยนาคินทร พอกับแมผมเปนเพื่อนรักกับพอคเชนทร แตโชครายที่ทานทั้งสอง


เสียชีวิตตั้งแตผมยังจําความไมได ทําใหพอคเชนทรรับเปนลูกบุญธรรม ผมโตมาในครอบครัวนักเลง คายมวยคือบานของผม สนาม
ยิงปนคือที่วิ่งเลน ยิมยูโดและเทควันโดคือทีผ่ มชอบไปเลนซอนหา จากที่เลามาจะเห็นวารอบตัวผมตางเต็มไปดวยศิลปะการตอสู
ผมจึงไดรับอิทธิพลจากสิ่งเหลานี้

พอโตขึ้น ผมตองสืบทอดหนาที่ของตระกูล นั่นคือการดูแลความปลอดภัยใหกับครอบครัวนายซึ่งเปนผูมีพระคุณของเรา ดวยอาชีพ


ทําใหผมตองสังเกตสิ่งรอบตัว จิตตองนิ่ง ไมวอกแวกหากมีเหตุฉุกเฉินผมตองแกปญหาเฉพาะหนาได สมาธิตองมีตลอดเวลา ดวย
การฝกฝนมาตั้งแตเด็กทําใหสิ่งเหลานี้สงผลตอบุคคลิกของผม คนภายนอกจะเห็นวาผมเปนคนนิ่ง หนาดุ ไรความรูสึก หรือเรียก
งายๆ วาหนาตายนั่นเอง แตสําหรับตัวผมเองแลว ผมก็คนธรรมดาคนหนึ่งที่ยิ้ม หัวเราะ หยอกลอกับเพื่อนฝูง

บางคนบอกวาชีวิตผมแขวนอยูบนเสนดาย แตผมกลับชอบนะ มันทําใหชีวิตมีสีสัน กีฬาที่ผมโปรดปรานสวนใหญจะเกี่ยวกับอะไรที่


เสี่ยงอันตราย หรือไมก็ความเร็ว รสนิยมผมจึงออกไปทางที่ทําใหตื่นเตน เฉพาะฉะนั้นหากถามวาสาวหรือหนุมในสเปกผมเปน
อยางไร ผมจะตอบทันทีวาตองรสชาติเหมือนตมยํา เผ็ด เปรี้ยว รอนแรง แตก็ซูซา ตลอดสามสิบปที่ผานมาผมไดชิมตมยํามาหลาย
หมอเหมือนกัน แตก็ยังไมมีเจาไหนที่ทําใหผมติดใจจนอยากเก็บพอครัวมาไวที่บาน จนกระทั่งผมไดเจอกับใครคนหนึ่ง...

จุดเริ่มตนของผมกับเขาเกิดขึ้นในคืนวันเสาร วันนั้นเปนวันหยุดของผมซึ่งปรกติแลวผมจะไปซอมยิงปนหรือไมก็ซอมการตอสู แต


เสารนั้นผมเลือกที่จะไปเลนเคนโด การฟนดาบเปนหนึ่งในกีฬาที่ผมชอบเชนกัน ยิ่งเพื่อนเคนโดชาวญี่ปุนของผมคนหนึ่งกลับมาที่
เมืองไทย จึงทําใหผมพลาดไมไดที่จะไปซอมกับเขา
เพื่อนผมคนนี้เปนคนแปลกๆ เขามักมีรสนิยมที่คอนขางเสี่ยว ดังนั้นของฝากจากญี่ปุนที่เขานํามาฝากผมในวันนั้นก็คือไอเทมเหมียว
นอย! มันเปนเซทของฝากที่ผมทําหนาผะอืดผะอมแตก็ยอมรับมา หูแมว! ปลอกคอ! เทาแมว! กางเกงใน! กุญแจมือ! กับหางแมว
แบบพิเศษมีรีโมทควบคุมการเคลื่อนไหว! ของพวกนี้ผมจะเอาไปใชกับใคร?

ผมโยนของฝากไวที่เบาะหลัง ขับรถแลนรอบเมือง ดูแสงสียามราตรี ทวาพอผานยานหนึ่งซึ่งรูกันเปนอยางดีวาหนุมนอยซึ่งยืนริม


ถนนนั้น เขาพรอมจะขึ้นรถไปกับคุณทันทีหากคุณจอดรถรับเขา ที่ตรงนั้นผมถูดดึงดูดจากหนุมคนหนึ่งซึ่งกําลังแหงนหนามองตนไม
ริมทางที่กิ่งสวนใหญตายไปเกือบตั้งตน เขามองมันอยางพิจารณาราวกับมองงานประติมากรรมชิ้นเอกหากแตมีรอยราว มือขางหนึ่ง
ของเขาเกาะตนไม มืออีกขางทาวเอว เขาเอียงหนาซายขวากอนจะหันมาทางผม ชั่วพริบตาภาพของเขาในชุดเหมียวนอยยั่วสวาทก็
ทาบทับ

“ปบ...” เสียงบีบแตรกับรถคันหรูแลนเขามาจอดใกลกับเขาทําใหผมสะดุง หัวใจผมเตนตึกตัก แตไมใชตกใจหากแตผมกําลังตื่นเตน


กับภาพซอนที่เห็น ไฟในกายรอนขึ้นมาอยางกระทันหัน ผมภาวนาในใจขอใหเขาปฏิเสธรถคันหนานั้นที่เถอะ

สายตาของผมจองไปทางเขาอยางไมวางตา รางอรชนเดินสะโอดสะองไปยังรถที่จอดอยูไมหาง เขากมหนาลงไปพูดอะไรกับคนในรถ


อยูชั่วครูกอนเขาจะทาวเอว ใบหนาบึ้งตึง อาการของเขาคลายกําลังไมพอใจอะไรบางอยาง แลวก็เปนอยางที่ผมคิดเมื่อเขาเตะไปที่
ตัวถังรถอยางโกรธจัดพรอมกับรถคันหนาออกตัวไปอยางรวดเร็ว

“หึหึ” ผมหัวเราะออกมาอยางไมทราบสาเหตุ ภาพของเหมียวนอยกางเล็บ แยกเขี้ยวปรากฏอยูตรงหนา ผมอยากรูจังวาเลยวาคนใน


รถเมื่อสักครูพูดอะไรกับเขา เสนอราคาไมนาสน ไมหลอเราใจ หรือเปนตาเฒาจวนเขาโลงอยูรอมรอ...อะไรกันที่ทําใหเขาไมพอใจ
เชนนั้น
ผมนั่งมองเขาที่ทําทาฮึดฮัดอยางรอจังหวะจะเขาไปทักทาย จนเมื่อมั่นใจวาโอกาสนั้นมาถึงแลว ผมจึงลงจากรถ เดินเขาไปใกลเขา

“ตนไมมันมีอะไรนาสนใจหรือครับ” ผมทัก เขามองผมดวยสายตาสงสัย ผมแสรงมองกิ่งไมซึ่งตายไปหลายกิ่ง


“ไมแนใจเหมือนกัน แตโคนตนมันเปนแผลและก็ตกสะเก็ตดวย สวนกิ่งที่ตายไป คงจะถูกเชื้อรากิน”

“คุณรูไดอยางไร”

“เดาเอา” เขาบอกพรอมรอยยิ้ม ผมหัวเราะ

“แตผมวาที่กิ่งมันตายนาจะไมไดรับอาหารในสวนนั้นมากกวา”

“พูดอีกก็ถูกอีก ถามันไดรับอาหารคงไมแหงตายหรอก...แลวจะพูดออกมาทําไมเนี่ย แบบนี้เด็กที่ไหนก็คิดได!” เขาพูดคลายคลอย


ตามผมในตอนแรกกอนจะแวดใสผมในตอนทาย

“หึหึ” แตกลับทําใหผมหัวเราะ เขาคอนผมแตไมจริงจังนัก

“ไปหาอะไรดื่มกันไหม” ผมชวนดื้อๆ เริ่มถูกใจเขามากขึ้นเสียแลว

“จายเปลาละ” เขาถาม

“ประมาณเทาไหรละ” ผมตอเรื่องราคา

“ผมจะกินใหคุณหมดตัวเลย” เขาบอกพรอมทําหนาลอเลียน

“ผมยอมหมดตัว” นั่นคือบทสนทนาของเราทั้งสองกอนจะไปตอกันที่บาร

ผมมาเขาใจทีหลังวาคําพูดในประโยคเดียวกันแตเราทั้งคูตางตีความหมายกันไปคนละทาง สําหรับผมมันคืนชวนเด็กขายไปตอ สวน


เขาคือการทําความรูจักกับคนแปลกหนา เขาบอกวามันเปนเรื่องธรรมดาของประเทศที่เขาจากมา แตผมที่เติบโตมาในเมืองไทย ยาน
นั้นหากใครพูดแบบนี้ ตองตอบแทนดวยเงินทั้งนั้น...

“อุบ...อื้อ...อือ...” เสียงของเราทั้งสองที่เล็ดรอดออกมาระหวางลิ้นของผมกับเขานัวเนียกัน ถึงแมวาภายในรถจะแคบไปบางแตมันก็


ไมเปนอุปสรรคมากนัก ผมกดเบาะของเขาใหเอนตัวลง มือลูบไปตามเนื้อตัวของเขา เชนเดียวกับเขาที่จูบตอบผมอยางรอนแรง มือ
นุมไลไปบนตัวผมอยางเรารอน

“อาร...” เขาครางอยางเสียวซานเมื่อผมถอนริมฝปากออกแลวไซไปตามซอกคอของเขา สอดมือเขาไปใตเสื้อ บีบเคนไปบนยอดอก


อยางหมั่นเขี้ยว เขาขยับขาใหอาออกกวางเผื่อใหผมสอดตัวเอาไปแนบชิดกับเขาไดถนัดถนี่ มือแสนซนของเขาลูบไลไปบนเนื้อตัว
ของผม จนไปหยุดนวดเฟนทักทายกับนองชายของผมอยางชํานาญ...เขาชางเปนผูชายที่รอนแรงและตอบสนองไดถึงใจผมเหลือเกิน

ตอนแรกที่ผมเจอกับเขาที่ถนน ผมคิดวาผมถูกใจคนๆนี้ มากพอสมควร หนาตาที่โดดเดน ทาทางรั้นๆ ของเขามันสะดุดตาผม แลว


พอไดพูดคุยกันผมก็ยิ่งตองใจเขามากขึ้น เขาเปนชายที่มีเสนหอยางรายกาจ นัยนตายั่วยวน ริมฝปากอิ่มที่เรียกรองใหผมกมไปจูบ
มือเรียวที่กรีดกรายไปบนคอของตัวเองทําใหผมอยากฝากรอยรักไวบนนั้น ทาเตนสุดเซ็กซี่ทําใหผมอยากบีบเฟนกนงอนงามที่สายยั่ว
เยาเบียดชิดรางกายของผม

จังหวะเพลงที่กระหึ่มอยางเลาใจ ปลุกลาวาแหงความหื่นกระหายของผมใหปะทุขึ้นมาจนสุดจะหามไหว ผมกดริมฝปากจูบเขาอยาง


เรารอนเชนเดียวกับเขาที่จูบตอบผมอยางรอนแรง เมื่อไฟปรารถนามันลุกโชติชวงมันก็ยากเกินที่จะดับลง เราทั้งคูแทบจะกลืนกินกัน
อยูบนฟอรเตน หากแตเขาก็ไดสติกอน ถอนริมฝปากออก และเลี่ยงจะซบหนาที่ไหลของผม แตนั่นก็ไมสามารถหยุดผมได มันคลายๆ
กับการเดินทางบนทะเลทรายแลวพบกับโอเอซิส ผมอยากจะกระโจนเขาหาแลวชิมความหอมหวานของเขามากกวานี้ ผมรีบลากเขา
ออกมาจากที่แหงนั้น พอเขามาในรถก็ไมรอชา จูบอยางจาบจวงพรอมกับฉีกทึ้งเสื้อผาของเขาออก...หากทําไดผมอยากจะกลืนกิน
เขาเขาไปทั้งตัว...ที่นี่และเดี๋ยวนี้

“อืม...พอกอน...” เขาบอกพรอมกับพยายามหยุดผม

“ปรินไมชอบในรถอะ มันแคบ ขยับตัวลําบาก”

“ปรินก็ไมตองขยับ เดี๋ยวพี่ทําเอง”

“เรื่องอะไรละ...อืม...พี่รัน...หยุดกอน...”

“พี่ไมไหวอะปริน ชวยพี่กอน” ผมจับมือเขาไปวางไวบนนองชายของผมที่มันแข็งและปวดเขม็ง ใหตายเถอะ ผมไมเคยกังขฬะอยางนี้


เลยนะ เขาทําอะไรกับผมเนี่ย ผมถึงไดกลายเปนคนไมมีน้ําอดน้ําทนแบบนี้

“พี่ไมไหวอะปริน ชวยพี่กอน” ผมจับมือเขาไปวางไวบนนองชายของผมที่มันแข็งและปวดเขม็ง ใหตายเถอะ ผมไมเคยกังขฬะอยางนี้


เลยนะ เขาทําอะไรกับผมเนี่ย ผมถึงไดกลายเปนคนไมมีน้ําอดน้ําทนแบบนี้

“โอๆ อยาดื้อนักสิครับ ถาทําตัวดีๆ เดี๋ยวมีรางวัลใหนะ” ปรินยังไมยอมตามใจผม เขาบอกขณะลูบนองชายของผมอยางปลอบขวัญ


แตมันกลับทําใหอีกฝายดื้อดึงมากยิ่งขึ้น
“อืม...” ผมสูดลมหายใจลึกๆ จะวาไปในรถมันก็แคบจริงๆ นั่นแหละ อดทนอีกนิดแลวไปตอกันที่โรงแรมใกลๆ นี่นาจะดีกวา ผมดูด
คอเขาแรงๆ พรอมกับมือที่นวดเฟนหนาอกอีกฝายอยางตองการจะแกลง

“อาร...” ปรินแอนหนาอกอยางสะยิว มืออีกขางที่วางทุบไหลผมเบาๆ

“ยอมใหก็ได” ผมบอกหลังจากหักหามใจ สองมือกุมหนาเขาไวกอนจะดูดปากเขาแรงๆ จากนั้นก็แนบหนาผากกับหนาผาก ใชลม


หายใจรวมกัน ขมความรอนรุมใหลดลงแลวตัดใจกลับไปยังที่ของตัวเอง ผมสูดลมหายใจลึกๆ สตารทเครื่องยนต

“เสื้อปรินอยูไหนอะ” ผมยิ้มนอยๆ เมื่อปรินปรับเบาะของตัวเองขึ้น เขาหายใจหอบแรงไมแพผม มือเรียวเสยผมนุมสวยใหเขาที่


ใบหนาชวนมองหันซายขวาเพื่อหาเสื้อที่ผมโยนไปสวนไหนของรถก็ไมรู

เมื่อหาดานหนาไปเจอเขาจึงเอี้ยวตัวไปยังเบาะหลัง “อูย...พี่รัน...” กนงอนงามที่สายไปมาอยูตรงหนาทําใหผมอดใจไมไหว บีบเคน


อยางหนักมือ ปรินผินหนากลับมา ตีมือผมเบาๆ เหมือนจะปราม

“หื่น...” เขาวาแตกลับเอี้ยวตัวมาเลียหูผมซะงั้น นี่เขาจะทําใหผมคลั่งไปถึงไหน ตัวเองเปนฝายบอกใหผมรอแตกลับมายั่วใหผมตบะ


แตกซะนี่ ผมกดน้ําหนักเทาอยางแรงทําใหเข็มไมลชี้ความเร็วของรถเพิ่มขึ้นอยางรวดเร็ว...อยากใหถึงโรงแรมใจแทบขาด

“พี่รันสะสมของพวกนี้ดวยหรือ” ขณะที่ผมกําลังอึดอัดกับนองชายที่อยากออกมาสูดอากาศภายนอกอยูนั้น น้ําเสียงของเขาก็กลาว


ขึ้น ผมปรายสายตาไปทางเขา สบกับนัยนตาพราวแสงที่มองผมอยางลอเลียน นอกจากเสื้อที่เขาหยิบติดมือ ปรินยังถือเซทไอเทม
แมวเหมียวของฝากจากเพื่อนผมมาดวย

“อาร...ปริน...” ผมครางออกมาทรมานเมื่อไฟในกายแผดเผาผมหนักขึ้น นี่ขนาดแคจินตนาการณเห็นเขาใสชุดที่ถืออยูในมือ รางกาย


ยังปริราวจวนจะแตกออกเปนเสี่ยงๆ แลวถาหากเขามายืนครางเหมียวๆ อยูตรงหนา ผมคงไดคลุมคลั่งก็คราวนี้

“ปรินจะใสใหพี่ดูไดไหมละ” ผมควบคุมเสียงไมใหสั่น

“ขอดูกอน...” ขณะที่ยังตัดสินใจไมได ปรินเอื้อมมือไปเปดไฟในรถ

“วาว...ครบชุดเลย แต...เอ...เหมือนจะขาดอะไรบางอยาง...” หลังจากดูภาพไอเทมหลังกลองปรินก็ปดไฟ

“ขาดแสอะพี่รัน” เขากระซิบพรอมเปาลมเขาไปในหูของผม

เพลง! ...เสียงอารมณของผมแตกหักพรอมกับรถที่เลี้ยวเขาไปในโรงแรมอยางรวดเร็ว
“อื้อ...อืม...” ทันทีที่ประตูหองปดลงผมก็จูโจมเขาอยางรวดเร็ว

ผมจูบเขาอยางหิวกระหายในขณะที่เขาปรนเปรอผมอยางถึงใจเชนกัน ลิ้นของเราทั้งสองแทบจะหลอมรวมเปนหนึ่งเมื่อมันเกี่ยวพัน
กัน อะไรๆ ก็ดูจะไมทันใจผมสักอยาง เสื้อผาเปนอุปสรรค กางเกงขัดขวางไมใหผมไดแตะเนื้อแทของเขา ผมฉีกทึ้งสิ่งขวางกั้นออกไป
อยางไมใยดี เชนเดียวกับเขาที่รอนรนปลดเปลื้องเสื้อผาของผม

“ปรินกําลังทําใหพี่เปนบา” ผมคํารามเสียงต่ําในลําคอ บีบเฟนไปตามรางกายของเขา ทุกที่ที่ผมสัมผัสมันตื่นตอบสนองผมอยางเอา


ใจ

“อะ...อาร...แลวถา...ปริน...ไมยอมละ...อืม...” ผมดึงเขามาแนบชิด บดริมฝปากลงไปหลังจากสิ้นคําถาม

“พี่ก็จะขมขืน” ผมเขนเขี้ยว พูดเสียงรอดไรฟง จับมือเขาสองขางไขวหลัง เบียดในแนบชิดกับผนังหอง ริมฝปากไซไปตามซอกคอกอน


ลากลิ้นไปตามแนวยาวของแผนหลัง

“ปรินอยากลองถูกขมขืน” คําพูดของเขาทําใหผมครางเสียงต่ํา วกขึ้นมาดูดคอเขากอนจะกัดไหลเขาเบาๆ อยางหมั่นเขี้ยว

“แนใจหรือ” ผมกระซิบถามขณะที่จูบใบหูของเขา

“พี่ก็อยาแรงนักสิ” เลือดในกายผมเดือดพลานเมื่อเขายืนยันความตองการ นี่เขาเปนใครกันแน ทําไมถึงตอบสนองอารมณดิบเถื่อน


ของผมไดดีเหลือเกิน

“หยุดดิ้นซะนองชาย จะยอมเปนเมียพี่ดีๆ หรือตองใหใชกําลัง” ผมสวมบทพรอมกับบิดแขนเขามากขึ้น

“ฝนไปเถอะ...” ปรินแผดเสียงพรอมกับดิ้นรนขัดขืน

จากนั้นบทโจรปลนสวาทกับหนุมนอยไรเดียงสาก็เริ่มตนขึ้นที่หนาประตูหองนั่นเอง หากมีใครสักคนแนบหูฟงคงไดยินเสียงกึกกัก ที่


หลังประตูยามผมกระแทกเขาไปในตัวเขาอยางแรงเร็ว ยิ่งเขาพยายามตอสูผมก็ยิ่งรุนแรง โหมกระหม่ํา เสียงเนื้อกระทบเนื้อยิ่งทําให
ผมฮึกเหิม

ตัวปรินเองก็รอนแรงไมแพกัน จากบทบาทที่บังคับใหเขาตองเลนอยางคนไมเต็มใจในตอนแรก หากแตเมื่อผมตอบสนองในสิ่งที่เขา


เรียกรอง ปรินก็ตอบโตกลับอยางถึงพริกถึงขิง คําพูดหยาบคายหลุดออกมาจากปากของเราทั้งสอง แตยิ่งเพิ่มรสชาติใหเผ็ดรอนมาก
ขึ้น ยามผมสวนเขาจะเอนกายรับ ยามผมจูบเขาจะดูดดันลิ้นผมอยางหยอกเยา ยามผมจับเขาใหครอมกายผม เขาจะขยมจนถึงใจ

“ซี๊ดดดด...โอว...อาร...” อารมณของเราทั้งคูใกลจะถึงจุดสูงสุดเขาไปทุกที

“ไม...ไหว...แลว...” เขาบอกเสียงขาดหาย ใบหนาเต็มไปดวยอารมณเสียวซาน

“ปริน...ปริน...โอว...” ในขณะที่ผมก็ทยานขึ้นสูงไมแพกัน

“อะ...อา...” แลวเราทั้งคูก็มาถึงที่หมาย รางกายเราทั้งสองกระตุกกอนจะปลอยน้ํารักออกมาอยางทะลักทลาย

ผมกุมหนาเขาไวดวยมือทั้งสองขาง กมไปดูดปากเขาหนักๆ “สุดยอดเลยปริน” ชมเขาอยางที่รูสึก ปรินยิ้มทั้งที่เหนื่อยหอบ

“เจ็บไหม” ผมถามเขาอยางหวงใยเมื่อสําเนียกไดวารุนแรงกับเขามากแคไหน

“ไมหรอก แตถาจะใหดี พี่เอาออกไปกอนดีไหม” กายผมที่ยังอยูในตัวเขาคงทําใหอีกฝายอึดอัด

“อยากตออีกสักรอบ” แทนที่จะทําตามคําขอ ผมกลับแกลงเขาดวยการกระแทกเขาไปใหลึกมากขึ้น ปรินครางกอนจะทุบไหลผม

“ขอพักบางสิ อีกอยางเหนียวตัวดวย อยากอาบน้ํา” เขาบอกพรอมกับผลักรางผมออกหาง

“งั้นเดี๋ยวอาบพรอมกัน” แตผมกระชับรางเขากอนจะชอนตัวขึ้น ปรินรองออกมาอยางตกใจ แตก็ยอมเกี่ยวขารอบเอวผม มือทั้งสอง


ขางโอบลําคอ ซบหนากับไหล เขาครางเบาๆ เมื่อผมขยับตัว...กวาจะเราจะไปถึงหองน้ําผมก็แตกอีกรอบพรอมกับเขา

“ปริน...อยูไหน…” ผมเรียกหาเขาเมื่อตามออกมาจากหองน้ําแลวพบเพียงความวางเปลา

“กรุงกริ๊ง...” เสียงกระดิ่งดังขึ้นพรอมกับเจาตัวซึ่งโงหัวมาจากขางเตียง

“เหมี้ยว~” โอ...แมเจา นี่มันแมวพันธไหน ทําไมถึงไดเซ็กซี่อยางนี!้

ผมมองเจาเหมียวที่คลานขึ้นไปบนเตียงอยางตกตะลึง หูแมวเขากันเปนอยางดีกับผมซอยสั้นละตนคอ ลูกกระพรวนสีทองกับสาย


หนังสีดําสงเสียงกรุงกริ๊งยามขยับตัว รอยรักสีแดงที่ผมฝากไวเดนชัดบนเนื้อสีขาวอันเปลือยเปลา มีเพียงกางเกงในซึ่งทํามาจากหนัง
สีดําเทานั้นที่ปกปดสวนลาง รอยแหกของกางเกงในที่บั้นทายถูกปดสนิทดวยหางที่ยาวลากไปกับพื้น

“หงาว~” เสียงครางยั่วยวนกับทาคลานอยางยั่วเยาทําใหผมเดินเขาไปใกลเตียงอยางคนละเมอ นัยนตาหยาดเยิ้ม แกมเชิญชวนมอง


มาที่ผมกอนจะมองไปยังบางสิ่งบนเตียง

“ซี๊ดดดด...” เจาเหมียวของผมสูดปาก แหงนหนาขึ้น ตีนแมวที่สวมใสในมือกําผาปูที่นอนแนน กนโกงขึ้นสูงเมื่อผมหยิบรีโมทขึ้นมา


กดบังคับใหหางแมวเริ่มเคลื่อนไหว

“อะ...อาร...” เสียงครวญครางอยางกระสันสงใหผมกดรีโมทเพิ่งระดับเพิ่มความเร็วขึ้นเล็กนอย มองอาการทุรนทุรายของเหมียวนอย


ของผมดวยนัยนตาหลงใหล

“เหมี้ยว...เหมี้ยว...มานี่มา...” ผมนั่งลงที่ปลายเตียง กระดิกนิ้วเรียก เจาเหมียวคลานเขามาหาผม ผมเชยคางแมวนอยของผมขึ้น กม


จูบอีกฝายอยางออนหวาน

“ปรินทําใหพี่คลั่งอีกแลว” ผมบอกหลังถอนริมฝปากออก ปบจมูกรั้นๆ อยางหมั่นเขี้ยว

“ชอบ...ไหม…อะ...อาร...พี่รันอยาเรง...แรงนักสิ...มันเสียว...” เขาซบหนาลงกับไหลของผมดวยใบหนาเหยเกเมื่อหางแมวสายไปมา
เร็วขึ้น ตัวขั้วของหางที่ตองสอดเขาไปในกายของเขาคงกระตุนอารมณอีกฝาย

“เสียวมากไหม” ผมพึมพําถามขณะที่ริมฝปากคลอเคลียอยูกับใบหนาของเขา

“เสียว...แตชอบ...ใหพี่ทําใหมากวา…โอว...ซี๊ดดด...” เมื่อไดยินคําพูดนั้นผมก็กดปุมไปที่ระดับสูงสุด ปรินครวญคราง ศีรษะสายไป


มาอยางคนถูกทรมาน มือเขาเผลอขวนเขาที่แผงอกของผมอยางตองการระบาย

“พี่แกลงปรินเหรอ...หะ...” พอไดโอกาส เขาผลักรางผมใหเอนตัวลงบนเตียง กระโดดขึ้นคลอมตัวผมไวอยางรวดเร็ว นัยนตารอนแรง


อยางโมโห ใบหนาบึ้งอยางถูกขัดใจ

“เปลา แคใหลองดูกอนวาพอแรงสุดแลวจะเปนยังไง กอนจะเจอของจริงของพี่” ผมบอกกอนโนมคอเขาลงมาจูบอยางดูดดื่ม

“พี่ชอบทรมานปรินนักใชไหม...คลิ๊ก...ลองถูกทรมานดูบางเปนไง...” โดยที่ผมยังไมทันไดตั้งตัว เขาก็สวมกุญแจมือใหผมเสียแลว ผม


แสรงทําตาโตอยางตกใจ ทั้งๆ ที่ภายในกําลังสนุกกับการละเลนของเขา ปรินคงกําลังเลนแมวจับหนูกับผมอยู แลวหนูตัวโตอยางผม
คงสนองใหเขาอิ่มไดอยางไมยากนักหรอก

บทบาทนี้ปรินเปนฝายคุมเกม เขาทรมานผมดวยลิ้นเปยกชื้นที่ลากไปตามเนื้อตัวของผม มือนุมนิ่มที่หยอกลอกับยอดอกกอนจะ


เลื่อนลงไปทักทายนองชายของผม ผมทรมานอยากปลดปลอยในขณะที่เขาเพลินกับเหยื่ออยางสนุกสนาน จนหน่ําใจเขาและกอนที่
ผมจะใจขาดเขาก็ขึ้นขยมตอบสนองสิ่งที่ผมเฝาเรียกรองอยางเต็มใจ ปรินยังคงรอนแรงและมอบความสุขใหผมอยางเต็มที
เชนเดียวกันกับผม กลยุทธมีเทาไหรผมงัดมันออกมาใชเพื่อทําใหเขามีความสุขมากที่สุด

พอบทบาทของเขาจบลง ผมก็ตอดวยละครบทตอไป เรื่องราวของคนเลี้ยงแมวกับแมวเหมียวจอมดื้อ ปรินเขาสวมบทบาทไดอยาง


นาหมั่นเขี้ยวที่สุด ผมตองปราบเขาอยางหนัก ตีกนไปหลายครั้งเมื่อจูๆ เขาก็พยศปลอยใหผมคางเติ่ง ทั้งรั้น ทั้งเปรี้ยว แถมยังแสบ
ซา แตนี่แหละคือสิ่งที่ผมตองการ

ผมไมหวังใหคูนอนของผมยังบริสุทธิ์หรอกนะครับ สมัยนี้หาไดยากมากที่จะเปนคนแรกของใครสักคน และผมก็ไมชอบคนเสแสรง


ดวย หลายคนบอกวานี่เปนครั้งแรก หากแตพออารมณถึงที่ก็แสดงธาตุแทออกมา ผมไมเขาใจวาคนพวกนั้นทําอยางนั้นทําไม ในเมื่อ
จะสนุกก็นาจะทําใหเต็มที่ บอกตามตรงวาหากเจอใครแบบนั้น มันทําใหผมเสียอารมณอยางบอกไมถูก

ตรงกันขามกับคนที่เคยและใชทุกประสบการณที่สะสมมา ปรนเปรอคูนอนของเขาไดรับความสุขมากที่สุด มันทําใหผมรูสึกวาคนผู


นั้นชางใสใจ และไมยอมปลอยใหเวลาสูญเปลา อีกอยางมันทาทาย อยากรูวาคืนนี้ผมจะไปอยูในความทรงจําของเขาหรือไม

คืนนี้ของผมก็เชนเดียวกัน มันจะประทับใจปรินบางไหม แตสําหรับผมแลว...ผมอยากเอาเจาเหมียวตัวนี้กลับไปเลี้ยงที่บานเสียแลว


ละครับ

ผมตื่นขึ้นมาในตอนรุงสาง ปรินยังหลับซุกอกผม หนาตาเขายามหลับชางนาเอ็นดูเหลือเกิน ผมหอมแกมเขาอยางรักใคร ขยับตัวให


เงียบที่สุด ความจริงอยากปลุกเขาขึ้นมาพูดคุยกันกอนจะจากไป แตก็เกรงใจ ไมอยากรบกวนดวยรูวาเขาคงจะเหนื่อยจากละคร
หลายบทที่เราเลนกันตลอดค่ําคืนที่ผานมา

ผมลุกขึ้นมาแตงตัว หยิบธนบัตรออกจากกระเปาพรอมกับถอดนาฬิกาขอมือแลววางไวบนหัวเตียง จากนั้นก็เขียนชื่อกับเบอรโทร


ของตัวเองแนบไวดวย ลังเลใจอยูชั่วครูกอนจะหันหลังจากไป...เห็นทีหลังจากวันนี้ผมคงกลายเปนลูกคาประจําของเขาแนๆ เอาไว
เจอกันคราวหนาโอกาสเหมาะๆ ผมจะถามเขาวาทําไมถึงไดมาทํางานอยางนี้ และเขาจะยอมไปอยูกับผมไหมหากผมจะทําตัวเปน
อาเสี่ย...เลี้ยงแมว

แตแลวหลังจากที่ประตูหองปดลงพรอมกับเงินที่ผมจายใหปรินเปนคาตอบแทนในวันนั้น มันกลับกลายเปนเรื่องยุงยากเมื่อผมไดเจอ
เขาอีกครั้ง ความจริงที่ปรากฏวาผมเขาใจผิด และดูถูกวาเขาเปนเด็กขายทําใหปรินแทบจะฆาผม แตไมเปนไรหรอกครับ คนเรามัน
ผิดพลาดกันได อยางที่เคยไดยินมานั่นแหละวาคนที่ไมเคยทําผิดคือคนที่ไมทําอะไรเลย เพราะฉะนั้นเมื่อผมไดเจอกับเขาอีกครั้งผม
จึงสงบางสิ่งไปย้ําเตือนความทรงจําของเขา

หูแมว กุญแจมือและขอความ watch out!

คงบอกเขาไดเปนอยางดีวาผมกลับมาแลวและกําลังจะตามลาเอาเจาเหมียวของผมคืนมา ถึงแมวาครั้งนี้แมวนอยของผมจะพยศสุด
ฤทธิ์แถมยังโกงคาตัวใหผมจายเขาดวยใจทั้งดวง...แตเมื่อหลวมตัวไปแลวนี่ ผมก็ตองยอมจายละครับ
“...เหมี้ยว...เหมี้ยว...ปริน...แมวนอยของพี่...มานี่มะ...”

“หงาววววว!!! ~~~~”

“เมธ...มึงวาผูชายเคาชอบคนผิวเนียนเปลา” เมธเงยหนาขึ้นจากหนังสือ มันมองหนาผมเหมือนกับผมเพิ่งถามมันไปวา มึงคิดวาลิง


ออกลูกเปนชางไดไหม

“มึงไมใชผูชายหรือไงถึงมาถามกูนะ” ผมอึ้งไปชั่วครูกอนจะยิ้มแหงๆ งงตัวเองเหมือนกัน ผมถามอะไรไปเนี่ย มินาละเมธถึงมองผม


แปลกๆ แถมลูกแพรยังหัวเราะอีกดวย ตองโทษไอพี่ทองนั่นแหละครับ พูดกรอกหูผมทุกวันวาใกลจะไดเจอกันแลว เห็นไหม ผมเลย
ฟุงซานเลย

“กุลอยากผิวเนียนหรือ เดี๋ยวลูกแพรพาไปสปาดีไหม” เธอลอน้ําเสียงขบขัน ผมรีบสายหนา

“แหม...ก็นึกวาอยากผิวเนียนเอาใจผูชายที่ไหน” เธอพูดตอยิ้มๆ แตผมสะดุงโหยง

“แตเมธอยากใหตรินผิวเนียน ลูกแพรลากตรินไปเปนเพื่อนไดเปลา” ขณะที่ผมจนคําพูดอยูนั้นเมธก็กลาวขึ้น ลูกแพรหันไปยังตน


เสียง ผมลอบถอนหายใจ หลบตาลงต่ํา สังเกตสีหนาลูกแพร ไมรูวาคิดไปเองหรือเปลา เมื่อสักครูผมเห็นบางสิ่งในรอยยิ้มของเธอ
มันดูแปลกๆ ชอบกล

“ทําไมถึงอยากใหตรินผิวเนียนละ”

“ก็นะ…” เมธอมยิ้ม

“จะทําอะไรตริน” สายตารูทันของเธอจองลึกเขาไปในดวงตาของเมธ

“ตรินใจแข็ง เมธเลยวาจะรวบหัวรวบหางซะเลย”

“โห...เลววะมึง” ผมดา

“แตกูลูกผูชายอกสามศอก กลาทําก็กลารับผิดชอบโวย” มันพูดอยางกับตรินจะยอมมันงายๆ อยางนั้นแหละ

“เมธรายอะ มีวางแผนใหตรินขัดสีฉวีวรรณ รอเปนลูกแกะใหเมธเขมือบดวย” คําพูดของลูกแพรกลาวชม แตน้ําเสียงและสายตาของ


เธอไมใชอยางนั้น
“ยอดเยี่ยมใชไหมละ” แตเมธกลับไมสะทกสะทานกับอาการประทวงหนอยๆ ของพวกผม

“ไมรูส.ิ ..ถามตรินดู...ตริน!...คิดวาไงอะ...” ผมพูดขามหัวเมธ บุยใบไปดานหลัง เมธสะดุง หนาซีดเผือด รีบหันขวับ มองตามสายตา


ผมทันที

“ฮาฮา” ทาทางลุกลี้ลุกลนของมันตลกเปนบาเลยครับ ความจริงแลวตรินไมอยูแถวนี้หรอก แตหมั่นไส แกลงซะเลย…สะใจ

“หานี่ กูตกใจหมดเลย” มันหันมาดาผมกอนถอนหายใจอยางโลงอก แตยังไมถึงสามวินาที มันก็สะดุงอีกครั้ง

“ตรินใจแข็ง เมธเลยวาจะรวบหัวรวบหางซะเลย…โห...เลววะมึง…แตกูลูกผูชายอกสามศอก กลาทําก็กลารับผิดชอบโวย…”

“ลูกแพร!” เมธตาโต มองเครื่องเลน MP3 รุนอัดเสียงไดในมือของหญิงสาวอยางตกตะลึง

“เสียใจดวยนะเมธ หลักฐานแนนหนา หนีไมรอดแนๆ” ลูกแพรพูดยิ้มๆ สายเจาเครือ่ งเล็กกระจิ๊ดฤทธิ์แตคุณภาพยอดเยี่ยมในมือไป


มา

“ตายแนมึง” ผมไดที รีบซ้ําเติม

“อะไรอะ เมธแคลอเลนเอง ไมเห็นตองอัดเสียงไวเลย” มันโอดครวญ ลูกแพรยักไหล

“ไมไดตั้งใจจะอัดแตเผลอกดตอนนั้นพอดี” คนมันดวงซวยเอาอะไรมาฉุดก็ไมอยูจริงๆ ครับ

“วาแตจะเปนยังไงนา ถาเกิดตรินไดยินเขา” เธอแสรงถาม เมธหนาเสีย

“ภูกระดึง...อด!” ผมตอบสิ่งที่หญิงสาวอยากรู ทําทาเชือดคอประกอบ เมธมองผมดวยสายตาอาฆาต

เนื่องจากปดเทอมนี่เมธกับตรินจะไปภูกระดึงกันครับ เมธบอกวาเคยสัญญากับตรินจะไปดูพระทิตยขึ้นดวยกัน ซึง่ พรุงนี้ก็เปนวัน


สอบวันสุดทายของพวกเราแลวละครับ ตอนนี้เมธมันเลยฝนหวาน คงคิดไปไกลวาหากอยูกับตรินในที่โรแมนติกแบบนั้นมันจะทํา
อะไรกับตรินบาง แตเสียดายคิดดังไปนิด...เลยกลืนไมเขาคลายไมออกอยางที่เห็น

“เมธรูวาลูกแพรไมทําใหเมธเดือดรอนหรอก” เมธเอาความเปนเพื่อนมาตอรอง ลูกแพรเลิกคิ้วเปนเชิงถามวาคิดอยางนั้นจริงหรือ

“ตรินก็เพื่อนลูกแพร หากมีคนคิดไมซื่อ ลูกแพรก็ตองเตือนเพื่อน”


“โธ...ลูกแพร เมธก็แคพูดไปอยางนั้นเอง กวาตรินจะยอมพูดดวยก็ยากมากแลว ถาไปปล้ําเขาจริงๆ เมธไมตองงออีกสิบชาติเลยหรือ
ไง เชื่อเถอะ เมธไมทําหรอก” เมธสงสายตาออดออนไปใหหญิงสาวขณะพูด ลูกแพรถอนหายใจ คลายเธอจะใจออน ยอมเชื่อเมธ แต
สําหรับผมไมเชื่อใจมันหรอกครับ ในเมื่อเห็นมากับตาแลววาเมธปากวามือถึง ปุบปบจูบจวบ

“อะๆ ก็ได เห็นวาเปนเมธนะเนี่ยถึงยอมให” เมธยิม้ หวาน นัยนตาวาววับ เห็นแบบนี้แลวฟนธงเลย รับรองงานนี้ลูกแกะตรินเสร็จหมา


ปาเมธแนๆ

“แต...” มันหุบยิ้มฉับเมื่อลูกแพรขัดขึ้น

“พรุงนี้เมธตองเปนเจามือ” พอไดฟงขอตอรองเมธก็ยิ้มไดอีกครั้ง

“แคนี้สบายมาก” มันวาพลางยื่นมือไปตรงหนา ลูกแพรจําใจวางเครื่องเลนเสียงลงไปในมือเมธ ไมรอชาเมธรีบกดลบออกทันที

ลูกแพรมองเมธกอนจะถอนหายใจ “เฮอ...ปดเทอมนี้มีแตคนไมวาง ลูกแพรก็เหงาคนเดียวนะสิ” เธอกมหนา พูดเสียงเศรา

ปรกติปดเทอมพวกเรามักจะไปไหนดวยกันเสมอ แตปนี้มันตางออกไป เมธวางแผนจะไปกับตรินซึ่งลูกแพรรูดีวาเธอไมควรไปเปน


กางขวางคอทั้งสอง สวนผมตองไปพบลุงเรียวครับ ซึ่งวันนี้ตอนสามทุมลุงพรอมคณะจะเดินทางมาถึงเมืองไทย ผมวาจะไปทักทาย
แกซะหนอย แตคงรีบไปรีบกลับเพราะวาพรุงนี้ผมยังมีสอบตัวสุดทาย อีกอยางลุงบอกวาพรุงนี้ลุงมีงานสําคัญที่ตองจัดการ หลังจาก
นั้นลุงจะอธิบายเกี่ยวกับธุรกิจของพอที่ขยายกิจการเขามาในไทยใหผมรูอยางละเอียด

ความจริงลุงจะมากลางเดือนหนา แตดวยเหตุผลบางประการทําใหเลื่อนเขามา แตผมก็ชอบนะครับ หลังจากคลางแคลงใจอยู


นาน ผมจะไดรูซะทีวานอกจากธุรกิจของพอแลว อะไรคือเหตุผลที่แทจริงซึ่งทําใหผมตองแยกกับพี่เขา แลวเมื่อไหรผมกับพี่จะไดเจอ
กันซะที

“ไมเปนไรหรอก ไมมีเมธ ลูกแพรก็ไปกับกุลก็ได วันกอนพี่มิ้นบอกวาไดบัตรทอลก โชวมา เราไปดูกันไหม” ถึงแมเวลาของผมอาจใช


ไปกับการเรียนรูงาน รวมถึงการขยายกิจการของพอดวย แตผมคิดวาคงปลีกเวลามาพบกับหญิงสาวได

“ดีจัง” ลูกแพรยิ้มอยางยินดีกอนเชิดหนาขึ้น “ลูกแพรไมงอเมธกับตรินแระ จะไปไหนก็ไปเลย ลูกแพรไปกับกุล กับพี่มิ้นก็ได”

“เฮอะ...” เมธทําเสียงขึ้นจมูกเมื่อไดยินชื่อพี่มิ้น

“นี่กุล เมื่อไหรรถมึงจะซอมเสร็จซะที กูเบือ่ หนาไอหมอนั่นเต็มทีแระ” แคไดยินชื่อมันยังพาลขนาดนี้ ไมตองพูดถึงเวลาเจอหนาพี่มิ้น


เลยครับ สวนพี่มิ้นเองก็แปลก บอกวาเลิกเลนละครไดแลว แตก็ยังรวมหัวกับลูกแพรแกลงเมธไมหยุด แลวเรื่องรถ ใจจริงผมก็อยาก
บอกมันนะครับวารถผมนะซอมเสร็จแลว แตที่ยอมใหพี่มิ้นตามรับตามสงอยูนี่เพราะวาขัดใจใครบางคนไมได
“เมธไมชอบพี่มิ้นใชเปลา ดีเลย พรุงนี้ลูกแพรจะชวนพี่เขาไปถลมเมธดวยอีกคน” นั่นไง ไมทันไรเธอก็ปวนเมธอีกแลว ลูกแพรพูด
พลางยิ้ม

“เดี๋ยวกุลชวนตรินไปดวยนะ” ผมหันไปคุยกับลูกแพร อะนะ...เห็นคนอื่นสนุกที่ไดปนหัวเมธ ผมก็อยากมีสวนรวมดวย

“พอเลยลูกแพร ถาอยากกินฟรีก็ไมตองชวนไอหมอนั่นมา” เมธขัดขึ้น

“ถึงหลักฐานจะถูกทําลาย แตพยานก็ยังอยู แถมยังสองเสียงเลยใชไหมกุล” ลูกแพรสงนัยนตาเจาเลหมาใหผม

“อะฮะ” ผมขานรับลูกแพร นัยนตาวาววับอยางนึกสนุก ขําดีครับเวลาเมธมันหึง แตตอนนี้หมั่นไสใบหนาเคลิ้มฝนของมันครับ เลยจะ


ปวนมันนิดหนอยกอนปลอยไปหวีดหวาน กางเตนดูดาวกับตริน

“เพราะฉะนั้นจําเลย หามปฏิเสธ” ลูกแพรสรุป ผมพยักหนาเห็นดวย สวนเมธทําหนาเบื่อหนาย แตก็ยอมจํานนไปตามระเบียบ

...พรุงนี้ผมก็สอบเสร็จแลว...จากนั้นพวกเราจะไปฉลองสงทายกอนปดเทอม...ชวงเวลาตอจากนี้ชีวิตผมจะเปนอยางไรนะ... การมา
ของลุงเรียวและคณะเอ็มเจในคืนนี้จะตอบคําถามผมไดใชไหม...ตอนนี้ใกลวันที่ผมกับพี่จะไดเจอกันหรือยัง?

ไดเวลานับถอยหลังแลวครับ เอ็มเจมาถึงไทยเมื่อคืนที่ผานมา ตอนนี้เขาพักโรงแรมที่ไมใชกิจการของครอบครัวผมและไมใชกิจการ


ของชินกฤษ ผมเดาไมออกเลยวาพรุงนี้เวลาสิบโมงเชา ที่หองทํางานของผม หรือหองทํางานของภาคินจะไดรับสายตรงจากทางเอ็ม
เจ

แตที่แน ๆ ตอนนี้รอบตัววินดี้มีผูติดตามมากกวาคนของผมเสียแลว การดทีแ่ ฝงตัวอยูหาง ๆ รายงานมาวาเมื่อคืนมีรถปริศนาตาม


นองไปยังสนามบิน เนื่องจากวินดี้ไปรับคณะผูบริหารเอ็มเจดวยตัวเองครับ แตนองไปในฐานะคนรูจักกับหัวเรี่ยวหัวแรงของเอ็มเจ
ไมใชทายาทหรือวาที่ประธานฯ คนตอไปแตอยางใด ทําใหไมมีอะไรคืบหนาที่สอถึงการตัดสินใจในวันนี้

เมื่อคืนหลังจากที่นองกลับถึงบานแลวผมไดโทรหาวินดี้ นองบอกวาไปรับลุงเรียวแลวก็ทักทายกันธรรมดา สวนพรุงนี้นองมีสอบตัว


สุดทาย สอบเสร็จจะไปสังสรรคกับเพื่อน ผมถามวารามิลไปดวยหรือเปลา นองบอกวาไป คําตอบนั้นทําใหผมเบาใจขึ้นมาบาง อยาง
นอยคนของผมก็อยูใกลกับนองมากที่สุด

แตอยางไรก็ดี ผมก็ไมอาจวางใจไดหรอกครับ ดังนั้นนอกจากวางแผนปองกันแลว ผมยังหาทางแกไขไวดวย รถปริศนาที่ตามนองไป


นั้นไมรูวาทําเพื่อจุดประสงคอะไร แตทีมของผมที่ตามคนสําคัญของพวกมันมีแนวทางที่แนชัด หากมันแตะตองวินดีข้ องผม คน
สําคัญของมันก็จะโดนหนักไมแพกัน

อยาหวังวาผมจะสะอาดและเต็มเปยมไปดวยคุณธรรมนะครับ ผมไมใชพระเอกสาธารณะที่ตองใจดีกับทุกคน คําพูดที่เคยวาไว ผม


ทําจริงแน หากชินกฤษกาวขามเสนมาเมื่อไหร ผมจะตัดขาขางนั้นของมันออกทันที ตัดใหขาด ใหมันพิการไปเลยยิ่งดี
เวลาหกโมงเชาผมโทรไปปลุกนองเชนปรกติ วินดี้เลาใหผมฟงดวยน้ําเสียงงัวเงียวาเมื่อครูนองฝนเห็นพอ พอของนองยืนเรียกวินดี้อยู
อีกฝงของแมน้ํา สวนตากําลังกาวขามสะพานอยูและหันมาเรียกนองเชนกัน แตไมทันที่วินดี้จะวิ่งเขาไปหาคนทั้งคู เสียงโทรศัพทของ
ผมก็ปลุกนองใหตื่นขึ้นมาเสียกอน นองโวยวายผมเล็กนอยวาเสียดายที่ไมทันไดคุยกับพอ ผมไมอยากตีความหมายของความฝนนั้น
แตทําไมหัวใจถึงไดกระตุกก็ไมเขาใจ

เวลาเจ็ดโมงเชาผมออกไปทํางานพรอมกับพอเชนเดียวกับทุกวัน ในรถพอถามถึงความพรอมในเรื่องเตรียมตัวตอนรับเอ็มเจและการ
เผชิญหนากับชินกฤษ ผมบอกวาตอนนี้ผมเต็มรอยอยูแลว ผมมั่นใจวาปลายปากกาของเอ็มเจจะจรดบนเอกสารที่เรายื่นไปอยาง
แนนอน

เวลาแปดโมงเชา ผมนั่งอยูหนาโตะของผม เเฟมแรกที่ผมหยิบขึ้นมาดูคือเอกสารลาสุดที่อินทรีอัพเดทความคืบหนาเกี่ยวกับบริษัท


เงินทุนหลักทรัพย ผมยิ้มเยยหยันใหกับตัวเลขหุนของพวกมันที่พุงลงอยางนาใจหายในสัปดาหที่ผานมา กอนจะเริ่มกระเตื้องขึ้นเมื่อ
สองวันกอนและเขาสูภาวะปรกติเมื่อปดตลาดลงเมื่อวานเวลาสิบหกนาฬิกาสามสิบนาที...พวกมันเคยโจมตีผมดวยวิธีเดียวกัน แต
ผมใชเวลาหนึ่งวันในการแกปญหา สวนมันเมื่อผมโตกลับ ตองใชเวลาหนึ่งอาทิตย

เวลาแปดโมงครึ่ง รันเขามารายงานความคืบหนาเกี่ยวกับเรื่องของอานนท หากชินกฤษไมปลอยตัวเขาในวันนี้ ทางเราก็เตรียมพรอม


จะชิงตัวเขาในทันทีที่ผมสั่ง แตเรื่องนี้มันโยงไปถึงตอนที่นายใหญของชินกฤษคุยกับผมในวันที่ผมไปเยี่ยมแม ผมเลาใหพอฟง พอดูมี
ทาทีแปลกใจไมใชนอยที่นายใหญทางโนนไมรูเกี่ยวกับเรื่องนี้ พอจึงแนะวิธีแกปญหาดวยการใชหมายจับแทน ในเมื่ออานนทเปนผู
ตองสงสัยที่ถูกหมายเรียกหลังจากที่เราแจงความ เมื่อไดเบาะแส ตํารวจก็มีสิทธิ์บุกเขาไปจับกุมเขา ตอนนี้เราก็รอฟงความคืบหนา
หากตํารวจควาน้ําเหลว ผมก็จําเปนตองสั่งใหคนของผมจัดการใหเรียบรอย...ดวยวิธีของมาเฟยพึงกระทํา...

เวลากอนเกาโมงเชาเล็กนอย ผมสงขอความหาวินดี้ อวยพรนองใหโชคดีกับการสอบวันสุดทาย วินดี้ตอบกลับมาวานองจะเอาเอมา


ฝากผม ผมยิ้มกับขอความของนอง วินดี้ของผมเกงครับ ถึงแมเกรดเฉลี่ยของนองจะไมถึงขนาดเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง แตผลการ
เรียนของนองก็เอาไปอวดไดอยางไมอายใคร กอนจะสิ้นสุดบทสนทนา ผมออนนองเล็กนองขอเครื่องรางสําหรับผมในวันนี้ วินดี้เลย
สงอีโมแบบนี้มาใหผม \\(^o^)// หมายความวาไงครับ โย ๆ สู ๆ ใชหรือเปลา จะใชหรือไมใช ผมก็เลยสงกลับไปแบบนี้ (づ ̄³ ̄)
づ จุบ ๆ ขอบคุณครับ

และแลวเวลาที่ตองโย ๆ สูๆ เพื่อนองก็ใกลเขามามากขึ้น มากขึ้นทุกขณะ เข็มสั้นของนาฬิกาชี้เกือบจะชี้ที่เลขสิบ เข็มยาวจะถึงเลข


สิบสองในอีกไมชา

หา...ผมนับถอยหลังพรอมกับวางทุกอยางลง

.
สี.่ ..ผมจองไปยังประตูหอง

สาม...ยังไงนองก็ตองเปนของผม ตองไมมีอะไรมาพรากเราออกจากกัน

สอง...สายลมของผมกําลังจะหวนคืนมา นองจะเขาสูออมกอดผมอยางแนนอน

หนึ่ง..........

กริ๊ง!!!! ...และในที่สุดเสียงระฆังก็ดังขึ้นพรอมกับประตูหองทํางานของผมเปดออกอยางรวดเร็ว…

“นายนอยครับ คณะผูบริหารของเอ็มเจแจงมาวาบายโมงตรงจะขอเจรจารวมลงทุนกับเราครับ”

“แจงทุกฝายใหเตรียมพรอม เปดหองประชุม ฉันจะตรวจสอบทุกอยางดวยตัวเอง”


.
.

‘พี่ครับ...คนรักกันตองไดอยูดวยกันใชไหม’
‘ใชครับ...วินดี้กับพี่ตองอยูดวยกัน’
.
.
...สิ้นสุดกันที...วินาทีที่ผมรอคอยไดมาถึงแลว...ขอบคุณสายลมแหงความเชื่อและศรัทธาที่หอบขาวดีมาให...ความหวังใจไดนําเรา
ทั้งคูมาสูเสนชัยเรียบรอยแลว...ในที่สุดผมกับนองก็จะไดกลับเขาสูออมกอดของกันและกันอยางสมบูรณซะที...

เชานี้ผมตื่นขึ้นมาดวยความรูสึกที่แตกตางจากทุกวัน ผมก็บอกไมถูกเหมือนกันวามันคืออะไร รูแตวาในอกมันหนักหนวงอยางไรชอบ


กล มันอาจเปนเพราะวาตลอดสัปดาหที่ผานมาผมเครียดกับการสอบ พอถึงวันสุดทายความรูสึกมันเลยดิ่งลงต่ํากอนจะพุงขึ้นสูง
ดวยความโลงอกที่เทอมนี้จะผานพนไปเสียที การที่อารมณแปรปรวนอาจสงผลตอสุขภาพจิตของผมในเชานี้...อืม...ทฤษฎีนี้พอฟง
ขึ้นไหม...ผมวาผมใจคอไมคอยดี มันตองเกิดจากเหตุผลนี้แหละ

หลังจากอาบน้ําแตงตัว หายใจลึกๆ กอนกาวออกจากหอง ผมก็ตรงไปยังหองอาหาร ผมทักทายตาซึ่งลงมากินขาวเชารวมกับเรา


ดวยใบหนายิ้มแยม วันนี้ถึงวันที่หมอนัดใหตาไปตรวจสุขภาพอีกครั้งแลว จากครั้งกอนที่หมอบอกวาตาจะอยูกับเราไมเกินสามเดือน
ผมวาไมใชหรอก ในความคิดผมตายังแข็งแรงและเปนปรกติ และที่สําคัญมากที่สุดก็คือตามีกําลังใจที่ดีมากเลยครับ

“ปรินยังไมตื่นหรือ” ตาถามเมื่อเรามาพรอมหนากัน ยกเวนก็แตคนที่ตาพูดถึงนั่นแหละ

“มาแลวครับ” ทวาไมทันขาดคํามันก็โผลหัวเขามา

“กูดมอรนิ่ง” แลวก็มาแบบมันนั่นแหละครับ มาถึงก็ไลหอมแกมทุกคน มันบอกวาเปนธรรมเนียมฝรั่งซึ่งมันติดเปนนิสัย

“ปาบ...” แตฝรั่งบานมึงสิ ทักทายดวยการตบหัวเนี่ย ดูมันครับ...ดูมัน มันหอมแกมทุกคน ยกเวนผม ไมตบหัว ก็ผลักไหล...สวนผม


ทักทายมันอยางไรนะหรือครับ?

“โครม!” ผมหันไปถีบเกาอี้หลังจากมันนั่งลงแลว ไมลมหรอกครับ แคเอียงนิดหนอย มันมองผมตาเขียว ผมแยกเขี้ยวใสมัน

เหตุการณแบบนี้เกิดขึ้นตั้งแตวันแรกที่มันมาอยูบานจนกระทั่งวันนี้ ออ...ไมใชสิ ตองบอกวามันทักทายผมแบบนี้ตั้งแตวันแรก สวน


ผมจากวันที่สอง จําไดวาวันแรกมันผลักไหลแถมยังแยงกุงผม แตผมไมไดตอบโตกลับ พอวันถัดมาผมก็พัฒนาตัวเองขึ้น...มึงตบ...กู
ถีบ...

“ปรินอยาทํานอง” และนี่ก็คือเสียงสวรรคที่มาชวยผมทุกเชา ตรินโอบไหลผมดวยทาทางปกปอง ในขณะที่ปรินชะงักในทาจะตบหัว


ผมอีกครั้ง มันทําเสียงฮึดฮัดในลําคอกอนยกมือลง ผมยิ้ม เอนศีรษะซบไหลตริน มองมันอยางเปนตอ...กูมีพวกโวย

“ไอสามตัวนี่ มันรักกันแบบแปลกๆ” และนี่ก็คือคําพูดของผูใหญทั้งสามที่นั่งรวมโตะกับเรา ไมตองมองก็รูวากําลังสายหนาอยาง


เอือมระอาอยูแนๆ แตไมเขาใจวาทําไมตองเรียกเราวา “ตัว” เออ...ตาครับ ผมไมใชลูกหมานะ!
“ปริน...ตาฝากดูเจาชางใหตาทีนะ ปนี้ตาวามันตองเปนชางเผือกแนๆ” ตากลาวขึ้นในชวงหนึ่งขณะที่เรากําลังรับประทานอาหารกัน
อยู

“ตาจะไปไหนครับ” ปรินถามโดยที่ไมเงยหนาจากจานขาว แตคําถามของมันกลับทําใหพวกเราเงยหนาขึ้น มองหนาตาพรอมกับเกิด


อาการกลืนขาวไมลง

เมื่อเกิดความเงียบขึ้น ปรินก็หยุดกินขาว เงยหนาขึ้น “เดี๋ยวมันก็บานแลวตา ยังไงมันก็ตองเปนเผือกแนๆ ปรินดูกานดอก ไมออกแดง


สักอัน จริงไหมตริน” มันคงจับบรรยากาศเศราสลดไดมั้งเลยรีบแกสถานการณ

“อะ...เออ...ครับ แลวปนี้มันออกชอตั้งสี่อันแหนะ ถาบานพรอมกันคงสวยนาดูเลย ออ...วันกอนตรินเสริมคานเรือนกลวยไมใหแลว


นะครับ แถมนองกุลชวยจับซาแรนให ตรินก็เลยซอมหลังคามันดวยเลย” ตรินเสริม

ซาแรนคือตาขายไนลอนครับ ผืนสีดําชวยกรองแสงแดดไมใหรอนแรงเกินไปเวลาสองเขามาในโรงเรือน สวน “เจาชาง” ที่ตาพูดถึงคือ


กลวยไมปาตระกูลชาง ตาไดมาตอนไปเที่ยวสุพรรณซึ่งเปนบานเกิดยายเมื่อสามสิบปที่แลว แตละปสีบนกลีบดอกของเจาชางจะ
คอยๆ จางลง จนปที่แลว มันเกือบขาวบริสุทธิ์ ปนี้ตาเลยลุนวามันตองเปนชางเผือกแนๆ “ชางเผือก” คือดอกมันจะขาว ไมมีสีอื่น
แทรกครับ ชางเผือกเปนพันธุที่หาไดยากมาก ยิ่งชางเผือกที่พัฒนามาจากชางปาผานกาลเวลานี่ยิ่งมีราคาสูง

“หึหึ ตรินเหมือนลิงตอนปนขึ้นไปซอมหลังคานะ” ผมหันไปลอตริน

ตรินเรียนคนละปกับผมครับ สอบเสร็จกอนผมเปนอาทิตย เขาเลยวางมาซอมโรงเรือนใหตา นานๆ จะเห็นตรินในมาดนายชาง จับ


คอน ตอกตะปูซะที ผมก็เลยเขาไปดูใกลๆ แตกลับถูกวานใหชวยงานซะนี่ แตก็ไมเปนไรครับ ตอนนั้นสมองกําลังตื้อพอดี อานอะไร
เขาไปก็ไมรูเรื่อง เลยถือวาเปนการพักสมอง

“จะถือวาเปนคําชมวาพี่คลองแคลวนะครับ” ตรินบอก

ผมกําลังจะอาปากเถียง แตก็ตองหุบฉับเมื่อปรินกลาวขึ้นพรอมกับชี้หนา “อยาเชียวนะ หามบอกวาหนาเหมือนลิง ไมงั้นถูกสองเดง


แน” จริงของมันครับ ถาแกลงลอวาหนาตาตางหากไมใชทาทางที่เหมือนลิง คงถูกไอสองแฝดนี่ตบกะโหลกคนละขางแนๆ

“รอนตัว ยังไมไดวาอะไรซะหนอย” ผมอุบอิบตอบเสียงเบา ตาหัวเราะ

“ดีจัง เห็นหลานๆ รักกัน ชวยกันคนละไมละมือแบบนี้ตาก็อุนใจ” หลังจากที่ฟงและสังเกตพฤติกรรมการรักกันแบบแปลกๆ ของพวก


เราทั้งสามมานานตาก็กลาวขึ้น นัยนตาของตายังคงอบอุนและออนโยนเวลามองมา

“ตารักเจาชางมันมาก เห็นปรินชอบตนไมเหมือนกัน ตาเลยจะยกใหปริน ตรินกับกุลคงไมวาอะไรนะ”

“อะไรตา เลี้ยงมาตั้งสามสิบปจะมายกใหกันงายๆ ไดยังไง” แทนคําตอบของพวกผม ปรินก็ชิงพูดขึ้นมากอนดวยใบหนางอง้ํา ผม


กลับตรินเมมเรียวปาก หัวใจปวดหนึบเมื่อเขาใจถึงเหตุผลที่แทจริงซึ่งตาวานใหปรินชวยดูแลตอ

“ปรินก็เอาไปเลี้ยงตอจากตาไง ใหมันไดซักรอยป”

“โห...ตา ตอนนี้มันเพิ่งสามสิบ อีกตั้งเจ็บสิบป ปรินก็คงไปกอนมันแลว ไมรูละ ตาเลี้ยงตอเลย ใหมันไดหาสิบปกอน อีกหาสิบปที่


เหลือปรินจะเอาไปดูแลเอง”

“ปริน ผูใหญใหของก็ควรรับไว อยางอแงอยางนี้สิ” พอปรินปราม ปรินหนางอมากวาเดิมอีก ตรินเลยลุกจากเกาอี้ เดินไปโอบไหล


นองชายของเขา กระซิบบางอยางแตผมก็ไดยินอยางชัดเจน

“ไมเปนไรปริน ตายังอยูกับเราอีกนาน”

“อยูอีกนานทําไมตาพูดแบบนี้ละ เมื่อคืนก็ทีนึงแลวนะ เรียกเราทั้งสองขึ้นไปหาแลวก็ยกนูนยกนี่ให เราไมชอบเลย”

“คนแกก็อยางนี้แหละ หวงลูกหวงหลาน”

“หวงได แตอยาทําเหมือนสั่งเสียอยางนี้สิ เราใจไมดี”

ผมก็ใจไมดีเหมือนกัน ถามวาทําใจไดไหม คนเราเกิด แก เจ็บ ตายกันทั้งนั้น ตอบวาไมเคยทําใจไดเลย ถึงจะรูวาเปนสัจธรรม แตก็


ยากที่ยอมรับวาคนที่เรารักกําลังจะจากเราไปอยางไมมีวันหวนคืน

“อาวๆ สองตัวนั่นนะ เดี๋ยวกับขาวก็เย็นพอดี มากินตอใหอิ่ม จะไดแยกยายกันไป” ตาดุ

ตรินกลับมานั่งที่ตัวเองในขณะที่ปรินยังดื้อดาน บอกใหตาเลี้ยงเจาชางตอจนมันอายุหาสิบเขาจึงจะเอาไปเลี้ยงตอ สวนผมกมหนา


กินขาวดวยลําคอตีบตัน ขาววันนี้ทําไมมันแข็งผิดปรกติ รสชาติอาหารก็จืดชืด หรือผมกําลังจะไมสบาย ผมคงนอนดึก อานหนังสือ
หนัก พักผอนไมเพียงพอ เลยรูสึกขมปากขมคอ...อืม...ทฤษฎีนี้พอฟงขึ้นไหม...ผมวาผมปวดใจ หัวตาปวดหนึบคลายคนกําลังกลั้น
น้ําตาไมใหไหลอยูนี่ มันตองเกิดจากเหตุผลนี้แหละ
วันนี้พี่มิ้นมารับผมไปมหาวิทยาลัยเชนทุกวัน เมื่อวานผมชวนพี่เขากับตรินไปกินเลี้ยงสงทายกอนปดเทอมดวยกัน ทั้งสองรับปากวา
จะไปกับพวกเรา

“รัน ตอนนี้มีกาหลงเขามา” ระหวางทางพี่มิ้นโทรหาพี่รัน น้ําเสียงพี่เขาดูจริงจัง สายตามองกระจกสองหลังอยางระแวดระวัง

“ได ตกลงตามนั้น” ทั้งสองคุยกันแคสองประโยคเทานั้นก็วางสายไป ผมสะดุดใจคําวา “กาหลง” แตก็ไมไดขอคําขยายความจากพี่


มิ้น

“นองกุล วันนี้มีสอบแคชวงเชาใชไหม” หลังจากวางโทรศัพทพี่เขาก็หันมาถามผม

“ใชครับ เที่ยงก็เสร็จแลว” ผมตอบ

“งัน้ พี่จะรอที่หนาหองสอบนะครับ”

“โห...ไมตองก็ไดมั้ง สอบเสร็จแลวกุลจะไปกินขาวกับเพื่อน” เพื่อนที่คณะครับ ความจริงผมสนิทกับหลายคนเหมือนกัน พูดคุยกัน


บางตามประสาคนเรียนดวยกัน แตที่ตัวติดกันตลอดเลยก็มีเมธกับลูกแพร วันนี้เลยวาจะไปกินขาวเที่ยงดวยกัน ตอนเย็นถึงจะไป
ถลมเมธอีกรอบ

“พี่ไปสงกําลังใจให ไมไดหรือ” ผมสายหนา

“งั้นขอไปกินขาวดวย”

“มีอะไรหรือเปลาครับพี่มิ้น” ผมถามอยางสงสัย พี่มิ้นหลบตาลงต่ําคลายตองการจะซอนบางอยาง ยิ้มกลบเกลื่อน

“อยากเจอหนานองๆ นานๆ กอนปดเทอม” พี่เขาวาอยางนั้นครับ แตมันฟงไมนาเชื่อถือเทาไหรเลย

“นองไหน เอาใหชัดสิ” แตกระนั้นผมก็เลนไปตามน้ํา

“ก็รูๆ กันอยู” วาพรางขยิบตาใหผม กอนกลาวตอ “พี่ชวยเปนพอสื่อใหนองเมธกับนองตรินมานานแลวนะครับ คราวนี้นองกุลก็มา


เปนพอสื่อใหพี่บาง ไมไดหรือ”

“ไอไดนะ มันก็ไดอยู. ..งั้นเอาอยางนี้ เย็นนี้กุลจะบอกลูกแพรเรื่องกุลกับไอพี่ทอง พี่มิ้นก็เปนเจาชายขี่มาขาว ชวยพูดกับลูกแพรใหกุล


อีกแรงแลวกัน” ผมบอกถึงสิ่งที่คิดและตัดสินใจเมื่อหลายวันที่ผานมา มันคงถึงเวลาที่ผมจะพูดกับเธอซะที
การที่ผมเลือกเย็นนี้ก็เพราะวาวันรุงขึ้นก็ปดเทอมแลว หากลูกแพรรับไมได ผมกับเธอก็ไมตองเจอหนากันทุกวันหรือหลบหนาเมื่อ
จําเปนตองเจอกันที่มหาวิทยลัย ผมคิดวาระยะหางและเวลาชวงปดเทอมคงพอทําใหอะไรๆ ดีขึ้นมาบาง

“ตกลงตามนี้เลยครับ” พี่มิ้นรับคําอยางแขงขันพรอมรอยยิ้ม ขับรถตออยางอารมณดี หากแตสายตาระแวดระวังยังจับจองกระจก


หลังอยูตลอดเวลา

กอนเขาหองสอบไอพี่ทองสงขอความมาอวยพร ขอใหผมโชคดีในวันสอบวันสุดทาย ผมก็หวังใหเปนอยางนั้นเหมือนกันครับ...ขอให


สายลมแหงฤดูกาลที่พัดผานนําแตเรื่องดีๆ มาสูชีวิตผมเถอะนะ...

ผมออกมาจากหองสอบดวยสีหนาปรกติเพราะมั่นใจวาผมตองผานแนๆ เชนเดียวกับเมธและลูกแพร ทั้งสองไมมีสีหนากังวลใจ


แมแตนอย พอออกจากหองสอบก็เจอพี่มิ้นรออยู พี่เขาไมไดรอที่หนาหองสอบอยางที่บอกผมเมื่อเชาหรอกครับ พี่มิ้นรอที่มานั่งหนา
อาคารครับ พอพวกเราไปถึงพี่เขาก็ยืนขึ้น สงรอยยิ้มทักทายมาให เพื่อนรวมคณะอีกสี่หาคนยกมือไหวพี่เขาเมื่อผมแนะนําพี่มิ้นวา
เปนเหมือนพี่ชายผมคนหนึ่ง เมธเบะปากที่ไดยินเชนนั้น แตมันก็ไมไดพูดอะไรออกมา

พวกเราแยกกันเดินทาง เพื่อนบางคนไปกับเมธ สวนลูกแพรและเพื่อนอีกสองคนไปรถพี่มิ้นพรอมกับผม ในรถเราคุยกันหลายเรื่อง


ขอสอบบาง ปดเทอมแลวจะทําอะไรบาง จะกลับบานกันวันไหนเพราะวาเพื่อนบางคนก็อยูตางจังหวัด บรรยากาศในรถดูสนุกสนาน
รื่นเริง ที่ขําสุดนาจะเปนเพื่อนสาวสองคนที่มาดวยพยายามหลีพี่มิ้น

หลังจากขึ้นรถไมถึงสิบหานาทีเราก็มาถึงราน เร็วใชไหมครับ แตมันจะชากวานี้ไดอยางไรในเมื่อรานที่เรามาอยูไมไกลจาก


มหาวิทยาลัย ดวยคําพูดของเพื่อนคนหนึ่งที่บอกวาอยากหาอะไรกระแทกปาก เราเลยมาลงเอยที่นี่ ที่รานอาหารอีสานครับ เผ็ดรอน
กระแทกปากสมใจแนๆ

คอหมูยาง ลาบเปด หมูจุม ขาวเหนียวไกยา ง หมูน้ําตก และที่ขาดไมไดคือสมตํา เมนูเหลานี้ถูกสั่งทันทีที่เรานั่งลง อาหารพื้นเมือง


แบบนี้ผมกินไดนะครับ ออกแนวชอบเสียดวยซ้ํา จะวาไปผมก็ไมไดกินสมตํามานานแลวครับ เคยพาไอพี่ทองไปกินครั้งหนึ่งแตไมใช
รานนี้นะครับ เปนรานที่อยูใกลกับคอนโดของเรา แตยังไมทันไดจายเงินเลย ภูมิแพพี่เขาก็กําเริบทันที แกบนใหญเลยวาขนาดสั่งไม
ใสผงชูรสแลวนะ จากนั้นผมก็ไมกลาชวนแกไปกินที่ไหนอีกเลยเพราะคิดวารานอาหารแบบนี้สวนใหญเขาคงใสผมชูรสตอนที่ปรุง
น้ําปลาราเรียบรอยแลว

ผมนั่งรออาหารอยางคนอารมณเสีย ตลอดเวลาที่ผมหางพี่เขาไมเคยรูสึกวาตัวเองถูกจับตามองจนทําใหหงุดหงิดเทาวันนี้มากอน
เลยครับ ถึงแมจะหันไปรอบตัวและไมไดสบตากับใคร แตผมก็รูสึกวาผมตกเปนเปาสายตาของคนกลุมใหญเลยทีเดียว ผมแสรงลุก
ขึ้น ทําเปนเดินไปเขาหองน้ํา แลวก็เปนอยางที่ผมคิดไว โตะที่เพิ่งเขามาหลังจากเราซึ่งถูกจองดวยเด็กในชุดชางกลลุกขึ้นยืนหลังจาก
ผมเล็กนอย โตะดานซายมือซึ่งเปนกลุมนักศึกษาชายสามคนก็ลุกขึ้นเชนเดียวกัน

ผมเปลี่ยนใจกลับมายังโตะของตัวเองอีกครั้ง ดึงพี่มิ้นมาถามดวยน้ําเสียงไมพอใจวาโตะไหนคนของไอพี่ทองที่แฝงตัวตามผม เรื่อง


การดนี้พี่มิ้นรูแลวครับวาผมรูเรื่องทั้งหมดแลว พี่เขาเลยบุยใบไปยังโตะที่เยื้องจากเราไปทางดานขวาเล็กนอย ผมมองตาม เห็นชาย
วัยทํางานกลุมหนึ่งนั่งคุยกันดวยทาทางปรกติ พวกเขาดูเปนธรรมชาติอยางนี้นี่เอง มินาละที่ผานมาผมถึงไมรูสึกตะขิดตะขวงใจมาก
นัก วาแตไอความรูสึกอึดอัดเมื่อสักครูนี้มันอะไรกัน หรือวาผมจะคิดมากไปเอง

เมื่อตองกินขาวเหนียวผมก็อยากจะลางมือกอน เลยจําเปนตองลุกขึ้นอีกครั้งหมายจะเขาหองน้ํา ผมกาวเดินไดประมาณสามสี่กาว


คนหนึ่งซึ่งเปนการดของพี่เขาก็ลุกขึ้น พี่มิ้นเดินมาสะกิดไหลผมแลวบอกวาจะไปดวย ทําใหผมหยุดเดิน ชายคนนั้นจึงแซงหนาไป
กอน ภาพที่เห็นสะดุดตาผมเปนอยางมาก ผมครุนคิดอยูชั่วครูกอนจะเขาใจอะไรมากขึ้น เหตุการณแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง ตอนที่
อยูกับไอพี่ทองก็เชนกัน บางครั้งผมก็สงสัยวาพี่เขารออะไร หรือบอกใหผมหยุดเดินทําไม ตอนนี้ผมรูแลววาไอพี่ทองคงปลอยใหการด
ทําหนาที่ เขาไปเคลียรพื้นที่กอนที่พวกเราจะไปนั่นเอง

พอเขาใจอะไรแบบนี้ผมก็หันไปบอกพี่มิ้นวาไมเปนไร ผมไปคนเดียวได พี่มิ้นสายหนา ยืนยันจะไปดวย แตผมก็ยืนยันกลับไปวาหาก


พี่ตาม ผมจะใสรา ย ฟองไอพี่ทองวาพี่มิ้นแอบมองผมเวลาฉี่ พี่มิ้นยิ้มแหยๆ แตก็ยังไมยอมปลอย ผมจึงหันไปขูพี่เขาอีกครั้งพี่มิ้นจึง
ยอมใหผมไปคนเดียว

หองน้ําของรานตองออกไปทางดานหลัง ชั่วพริบตาที่เดินผานมุมตึกผมก็ถูกประกบดวยชายสองคนซึ่งใสชุดนักศึกษา

“เดินไปดีๆ อยางตุกติก” มันบอกผมพรอมกับจี้บางสิ่งผานเสื้อคลุมเขาที่เอวผม หัวใจผมกระตุกวูบเมื่อหางตาแลเห็นเด็กชางกล


กําลังลากรางของพี่การดซึ่งเดินมากอนหนานั้นเขาไปยังหองน้ํา…นี่ผมพลาดแลวสินะ ไมนาชะลาใจและดื้อกับพี่มิ้นเลย แลวแบบนี้
ก็แสดงวาไอเด็กชางกลกับนักศึกษาที่มันลุกขึ้นพรอมกับผมในครั้งแรกนั่นคือคนที่จับตามองผมอยูอยางนั้นใชไหม แลวนี่พวกมันเปน
ใคร ตองการอะไรกันแน!

“มีคนกําลังมา รีบจัดการเร็ว” ไอคนที่มองดูตนทางอยูสงเสียงบอก สองคนที่ประกบผมรีบลากผมเขาไปในหองน้ําอีกหอง ผมดิ้นรน


ขัดขืน อยากตะโกนเรียกคนชวยแตมือก็ถูกประกบปากไว

“จับเปนกลับไปไมได...เลยตองเจ็บตัวแบบนี้แหละไอนอง” มันพูดพรอมกับบางสิ่งวิ่งผานเนื้อผมเขาไป มันไมไดเสียงดังปงเหมือนที่


คิดไว เสียงของมันแผวเบาราวกับเสียงลมวูบหนึ่งที่พัดผาน ชั่ววินาทีนั้นตัวผมชาวาบไปทั่วราง ผมไมรูสึกเจ็บในตอนแรก แตกลับ
หมดแรง ทรุดรางลงสูพื้น กอนที่ผมจะมองเห็นเลือดที่ซึมออกมา พวกมันทั้งสองก็หายไปเสียแลว

นัยนตาผมพรามัว แตหูกลับไดยินเสียงตอสูที่ดังอยูขางนอกอยางชัดเจน มีใครบางคนเรียกชื่อผม “นองกุล! นองกุล!” ผมคิดวาอยาง


นั้นนะ และกอนสติผมจะดับลง คําพูดหนึ่งก็ดังกึกกองเขามาในหัว

‘พี่ครับ...คนรักกันตองไดอยูดวยกันใชไหม’
‘ใชครับ...วินดี้กับพี่ตองอยูดวยกัน’
...ตอนนี้ละ...ผมจะยังมีโอกาสไดอยูกับพี่ใชไหม...แลวเวลานั้น...ใกลเขามาหรือยังนะ...กอนหลับตาลงในครั้งนี.้ ..ผมอยากไดยินพี่
บอกรักและโอบกอดผมไวจังเลย...

เวลาสิบเอ็ดนาฬิกาภาคินเดินทางไปพบเอ็มเจที่โรงแรมดวยตัวเอง ผมคิดวาตลอดหนึ่งชั่วโมงที่ผานมาทางโนนคงพยายามติดตอขอ
เจรจาหากแตทางเอ็มเจปฏิเสธ มีรายงานเขามาวาการบุกไปถึงโรงแรมในวันนี้ไมมีผลแตอยางใด เนื่องจากเขาเขาไปแคสิบหานาทีก็
ออกมา ผมไมแนใจวาภาคินไดพบเอ็มเจหรือไม แตที่แนๆ ทางเอ็มเจยังยืนยันจะรวมลงทุนกับเรา

ถึงแมภาคินจะออกจากที่พักของเอ็มเจแลว แตเขากลับสั่งใหคนของเขาปวนเปยนอยูแถวนั้น จากการประเมินสถานการณแลวคาด


เดาไดวา ขณะที่เอ็มเจออกจากโรงแรมเพื่อจะเดินทางมายังบริษัทของผม อาจมีการโจมตีหรือขัดขวางเกิดขึ้น ผมจึงสั่งใหเปดหอง
ประชุมที่นูนเสียเลย พรอมกับเปลี่ยนใหคณะของผมเดินทางไปเซ็นสัญญาในโรงแรมที่เอ็มเจพักแทน หนึ่งชั่วโมงกอนการเจรจาจะ
เกิดขึ้น คนของผมเขาเคลียรพื้นที่ สิ่งนี้คงสงสัญญาณใหชินกฤษรูวาเราเดินหมากแกเกมอยางไร เมื่อแผนการณนี้ใชไมได พวกมันคง
กําลังคิดหาวิธีขัดขวางการเซ็นสัญญาดวยวิธีการอื่นอยูเปนแน

สิบเอ็ดนาฬิกาสามสิบนาทีผมออกจากบริษัท จากที่นี่ไปถึงโรงแรมซึ่งเอ็มเจพักอยูจะใชเวลาประมาณสี่สิบหานาที ตลอดการ


เดินทางไมพบสิ่งผิดปรกติใดๆ จนกระทั่งเวลาเที่ยงยี่สิบหา ขณะใกลจะถึงที่หมายเสียงมรณะก็ดังขึ้น

“นายนอยครับ คุณกุลถูกยิง ตอนนี้กําลังเดินทางไปโรงพยาบาล” รันบอก

“วาไงนะ!” ผมทวนถาม

“คุณกุลถูกยิงครับ ตอนนี้กําลังเดินทางไปโรงพยาบาล” คํายืนยันที่ไดยินทําใหผมตัวชาวาบ หัวใจกระตุกราวกับกําลังดิ่งลงไปในเหว


ลึกกอนจะถูกกระชากขึ้นมาในอากาศอยางรวดเร็ว

“บัดซบ! ปลอยใหเรื่องเกิดขึ้นไดยังไง...พาฉันไปหาวินดี้เดี๋ยวนี้!” ผมตะคอกเสียงดัง นัยนตาวาวโรจนอยางโกรธจัด กรามบดแนน


พยายามหายใจลึกๆ เรียกสติกลับมา

“อาการของวินดี้เปนยังไง” เคนเสียงถามออกไปอยางยากลําบาก

“อาการหนักครับ” คําตอบที่ไดรับทําใหเปลวเพลิงในดวงตาลุกโชติชวงขึ้นมา

“ตอบโตคืน! ทําใหมันเจ็บเปนสิบเทา!” ผมก็ไมรอชา สั่งออกไปดวยน้ําเสียงรอดไรฟน มันกลาดียังไงมาทําวินดี้ของผม ทําคนรักผม


กลุมใจครั้งหนึ่งแลวถูกสั่งสอนกลับไป มันยังไมจํา คราวนี้มาทําใหวินดี้เจ็บตัว มันจะถูกตอบแทนอยางสาสม

ผมหลับตา ปลอบใจตัวเองดวยความเชื่อ วินดี้ของผมตองปลอดภัย พระเจาตองอยูเคียงขางเรา ตองอวยพรใหคนที่รักกันไดอยู


ดวยกัน หากพอนึกถึงใบหนาของนองแลวก็ปวดใจ โธ...วินดี้ของพี่ ปานนี้นองจะเปนยังไงบางนะ เขมแข็งไวนะที่รัก ทุกอยางตอง
ผานไปดวยดี หมอเดี๋ยวนี้เกง วินดี้ก็แข็งแรง รอพี่กอนนะครับ พี่กําลังจะไปหาวินดี้แลว

...ทําไมหนอ...ทําไมไมใชผม...ขอความเจ็บปวดที่นองไดรับยกมาใหผมทั้งหมดเถอะนะ...ผมจะรับมันไวเอง..

การเดินทางไปยังโรงพยาบาลในครั้งนี้มันชางยาวนานนัก ระหวางทางรันบอกวาชินกฤษซอนแผนของรันเมื่อเชา มันใหคนกลุมหนึ่ง


ตามรามิลกับนองขณะออกจากบาน รันสั่งใหการดเฝาติดตามกลุมนั้น ตอนเที่ยงขณะที่รอนองสอบเสร็จ การดของเราก็จัดการพวก
มัน แตนั่นกลับเปนเพียงนกตอเพราะตัวจริงของมันคืออีกชุดซึ่งปลอมตัวเปนนักศึกษา รันยังบอกอีกวาขณะที่นองแยกตัวไปเขา
หองน้ํานั้นมีการดคนหนึ่งนําหนาไปกอนแลว พอคลอยหลังวินดี้การดอีกคนจะตามไป ทวายังไมทันไดกาวเดินในรานก็เกิดจราจลขึ้น
เมื่อเด็กชางกลสองกลุมทะเลาะวิวาทกัน สวนหนึ่งกรูเขามาในรานทําใหเกิดโกลาหล กวาจะฝาฝูงชนที่อลหมานมาได วินดี้ก็ถูกทํา
รายเสียแลว

คํารายงานนั้นทําใหผมกํามือแนน ถามกลับไปวาจับพวกมันไดไหม รันบอกวาจับได มันชางเปนคําตอบที่นาพอใจเหลือเกิน การที่


เด็กชางตอยกันนั้นผมคิดวาเปนหนึ่งในแผนการของพวกมัน คงวางเรื่องไวใหนองถูกทํารายเพราะถูกลูกหลง เรื่องนี้คงมีตํารวจเขามา
เกี่ยวของ แตไมใชเรื่องยาก ในเมื่อคนที่ยิงนองอยูในกํามือผม คนภายนอกอาจคิดวาเปนอุบัติเหตุ จับตัวผูกระทําความผิดไมได ซึ่ง
มันก็ดีเพราะผมจะไดฆามันถนัดมือหนอย

ทุกวินาทีที่ผานไปนั้นมันชางเชื่องชาเหลือเกิน ผมไมเคยเกลียดการจราจรเมืองไทยเทาวันนี้มากอนเลย หากเปนไปไดผมอยากให


คนขับเหยียบจนเต็มคันเรง แตผมก็ทําไมได ดังนั้นทุกวินาทีที่เคลื่อนขยับผมจึงไดแตเพียงนับลมหายใจเขาออก ภาวนาขอใหนอง
ปลอดภัยพรอมกับขมความรอนรนในใจ จนในที่สุดผมก็มาถึงโรงพยาบาล ทันทีที่รถจอดผมก็ตรงไปยังหองฉุกเฉิน ทวาฝูงชนที่อยู
ตรงหนาทําใหผมชะงัก

ผมมองหารามิล เขายืนหางออกไป ขางกายเขามีสาวนอยคนหนึ่ง ใบหนาคุนตา รามิลผละจากเธอเมื่อเห็นผม ขณะที่เขากําลังเดิน


มาผมมองปราดไปรอบตัว เกาอี้หนาหองฉุกเฉินถูกจับจองดวยหญิงวัยกลางคน รูปหนาละมายวินดี้ของผม เธอนั่งอยูเคียงขางกับ
ชายคนหนึ่ง ถัดมาเปนเมธเพื่อนรักของนอง เขากําลังโอบไหลหนึ่งในพี่นองฝาแฝด ผมคิดวานาจะเปนตริน เพราะอีกหนึ่งแฝดนั่ง
กอดเขาซบหนากับพื้น พอเขาเงยหนาขึ้นมาทางผมก็ลุกขึ้นถลาเขามาหา เขาเรียกชื่อผมพรอมกับรัน คนนี้นาจะเปนปริน ถัดออกไป
เปนกลุมหนุมสาวในชุดนักศึกษา นาจะเปนเพื่อนๆ ของนอง และยังมีคนอื่นๆ อีก แตทุกคนก็อยูในอาการเดียวกัน ใบหนาเต็มไปดวย
ความกังวล

“คุณคินครับ” รามิลเรียกเมื่อเขาเดินเขามาใกล

“เพี้ย!” ผมฟาดมือไปบนใบหนาของเขา...ถึงรันจะรายงานใหรูถึงเหตุและผลของความผิดพลาด แตยังไงเขาก็ตองถูกทําโทษในความ


สะเพรา ในขณะที่การดคนอื่นๆ ก็จะโดนหนักไมแพกัน

“เพี้ย!” รามิลยกมือขึ้นตบหนาตัวเองอีกขางเปนการยอมรับความผิด
การกระทําของผมกับเขาเรียกสายตาของคนอื่นใหมองมา แตมันก็เพียงแคเสี้ยวเวลาเมื่อมีบางสิ่งเคลื่อนไหวหนาหองฉุกเฉิน ประตู
หองที่เปดออกพรอมกับคุณหมอซึ่งเดินออกมาทําใหผมหยุดคําพูดที่จะคุยกับรามิล สายตาจับจองไปยังครอบครัวของวินดี้ที่กรูเขา
หาคุณหมอ ผมกาวเขาไปใกล จองริมฝปากเพื่อจะอานคําพูด

“หมอพยายามเต็มทีแ่ ลว แตคนเจ็บเสียเลือดมาก...” ผมจับใจความในประโยคแรกไดแบบนี้ กอนจะเกิดอาการหูอื้อ หัวใจหยุดเตน


ไปชั่วขณะ รางเย็นเฉียบเหมือนถูกแชแข็ง

“...เสียชีวิตแลว...” นั่นคือคําพูดสุดทายที่ผมไดยิน

เพียงเสี้ยวเวลาหลังจากนั้น เหมือนมีเสียงรองไหอยางเศราโศกแววมาแตไกล ผมจําไมไดวาตัวเองทําอะไรบางหลังจากนั้น ไมรูวาถูก


ลากไปทางไหน แตภาพสุดทายที่เห็นก็คือเตียงคนเจ็บที่ถูกเข็นออกมาพรอมกับผาขาวคลุมตั้งแตหัวจรดเทา

‘พี่ครับ...คนรักกันตองไดอยูดวยกันใชไหม’
‘ใชครับ...วินดี้กับพี่ตองอยูดวยกัน

ความรักของผมกับนองมากมายแคไหนพระเจาสัมผัสไดใชไหมครับ…ผมขอรอง...เห็นใจผมเถอะ...ไดโปรดอยาพรากวินดี้ไปจากผม
...เชนนั้นเลย...

แสงสีทองของดวงตะวันทาบทอยอดหญาที่ปกคลุมทั่วสนาม สีเขียวขจีสะทอนแสงแดดเรืองรอง มองเห็นเปนดั่งพรมกํามะหยี่เนื้อดี


ดูเบาบาง ออนนุม สายลมออน ๆ พัดผาน กิ่งกุหลาบเถาซึ่งเลื้อยไปบนศาลาลูไหวเมื่อตองกระแสลม กลิ่นหอมของมวลหมูไมอบอวล
ไปทั่วบริเวณ เสียงชิงชาดังเอียดๆ สอดประสานไปกับเสียงเจื้อยแจวของหนูนอยคนหนึ่งดังมาไมขาดสาย

“นั่นใครเอย จําไดไหม” เสียงของพอซึ่งยืนอยูดานซายมือผมกลาวถามพรอมกับชี้มือไปยังสนามกวาง ผมมองตามสายตาพอ ทัน


เห็นหนูนอยคนหนึ่งหนาตาเหมือนผมในวัยเยาวกําลังนั่งอยูบนชิงชาโดยที่พอคอยแกวงไกว
ให

“ใครหนอ ทําไมนารักนาเอ็นดูจัง” ผมตอบพรางยิ้ม

“เวลามันอยูเฉยๆ ก็นารักอยู แตพอบทจะดื้อจะชนขึ้นมานี่อยากจับมาตีกน” เสียงของตาซึ่งยืนอยูอีกขางกลาวขึ้น พอหัวเราะ ผม


หนามุย

“ไมเชื่อก็ดูนั่นสิ” ตาพูดตอ ชี้มือไปยังสนามอีกคน ผมมองตามนิ้วของตา รอยยิ้มบางๆ แตงแตมเรียวปากของผม

‘พอ...แรงอีก’ ผมเมื่อตอนเด็กหันมาตะโกนบอกพอใหเพิ่มแรงไกวชิงชาขึ้นอีก แลวพอพอผลักแรงขึ้น


‘แรงอีกพอ วินอยากขึ้นสูงๆ’ ผมยังไมพอใจ มือปอมๆ ของผมจับหูชิงชาสองขางไวแนน โหนตัวขึ้นตามแรงผลัก กอนจะทําทาเอื้อมไป
ดานหนา

‘พอแลว มันอันตราย’ ตาซึ่งกําลังมัดกิ่งกระดังงาติดกับซุมอยูนั้นสงเสียงหาม

‘ไมเอา พอผลักแรงๆ วินอยากบินได’ ผมยังดื้อ พรอมกับทําทาจะเปนซุปเปอรแมน

‘อยาปลอยมือนะวิน!’ เสียงพอตะโกนบอกพรอมกับกระโจนเขามาจับชิงชาใหหยุด พอถูกกระชากอยางรวดเร็วผมซึ่งกําลังจะปลอย


มือก็ตกลงไปกองบนพื้น

‘พอวินเจ็บ...ฮือ...ฮือ...เจ็บ...’ พอลุกขึ้นได ผมรองไหโวยวายทั้งๆ ที่ยังจุกอยู พอรีบเขามาอุม ลูบหัวปลอบ

‘ปลอยมันลงเดวิด!’ แตตากลับตวาดลั่น เดินเขามาหาผมกับพอดวยใบหนาบึ้งตึง

‘โอยๆ พอชวยวินดวย ตาตีวิน’ พอพอปลอยผมจากออมแขนฝามือของตาก็ฟาดเขาที่กนผมแรงๆ มือแข็งๆ ของตาจับแขนผมไวไมให


วิ่งไปหาพอ

‘ใครสั่งใครสอนใหปลอยมือเวลานั่งชิงชา ถานั่งไมเปนคราวหลังก็ไมตองเลน เกิดตกตายขึ้นมาจะเปนยังไง จําไววาตาตีเจ็บแคไหน


วันหลังทําอีกตาจะเฆี่ยนใหหลังลาย ใหเจ็บหนักกวานี้’

‘ฮือๆ ไมทําแลว ฮือ ไมอยากเปนซุปเปอรแมนแลว ฮือๆ เจ็บ ตากุลเจ็บ’

‘เจ็บแลวจําไหม’

‘จําแลว...ไมทําแลว...’ ผมรีบรับคํากอดตาไวแนน ตาเปลี่ยนจากตีมาลูบหัวผม

‘คราวหลังก็อยาทําแบบนี้อีก จับใหแนนๆ เขาใจไหม’ พอนั่งยองๆ เอื้อมมือมาเช็ดน้ําตาใหพรอมคุยกับผม ผมรีบพยักหนา

“เห็นไหมเวลาดื้อมันนาตีขนาดไหน” ผมถอนสายตาจากภาพในวัยเด็ก หันมามองตาดวยสายตาสํานึกผิด

“ก็ตอนนั้นกุลไมรู” ออมแอมพูด

“ไมรูหรือไมฟงความ” ตายังวาผมตอ ผมกมหนา พอหัวเราะเบาๆ พรอมกับออกแรงโอบไหลมากขึ้น หมุนผมใหหันหลังกับภาพอดีต


ตรงหนา
“คนไมรูก็ไมผิดนี่เนอะ” พอบอก

“ก็เพราะตามใจมันอยางนี้นะสิ ถึงไมรูอะไรควรไมควร” ตาหันไปเอ็ดพอบาง พอยิ้มเจือนๆ ใหกับตา

“หึหึ” แตสิ่งนี้กลับทําใหผมหัวเราะ

“หัวเราะอะไร” ตาถาม

“ก็ตากับพอนะสิ ตั้งแตเด็กจนกุลโตจนปานนี้แลว ยังไมยอมลงรอยกันเรื่องกุลสักที” ตลอดเวลาที่ผานมาพอจะชอบตามใจผมครับ


สวนตามักจะหามโนนหามนีเ่ สมอ บางครั้งก็ตีผมดวย แตพอตีแลวก็จะปลอบผมทีหลังนะครับ

“ไมแลวละ คราวนี้ตองรวมทางกัน เดวิดมารับตาไปอยูดวยแลว ตาคงไมกลาขัดใจเจาถิ่นเขาหรอก” ตาพูดดวยรอยยิ้ม

“รับไปอยูไหนหรือ” ผมถาม พอบุยใบไปทางหลังผม พอผมหันกลับไปมอง จากสนามหนาสีเขียวซึ่งภาพผมนั่งชิงชาอยูนั้นหายไป


และถูกแทนที่ดวยมานหมอก

“จะไปไหนกัน” ผมยังถามอยางไมเขาใจ

“เวลาของตาหมดแลวละวิน ตาตองไปอยูในที่พระเจาจัดเตรียมไวให สวนวินกับพอจะไดพบกันอีกครั้งเมื่อเวลาของลูกมาถึง แตเวลา


นี้สถานที่นั้นยังไมไดจัดเตรียมไวสําหรับลูก” พอบอกอยางใจเย็น

“วินไมเขาใจ วินไมใหพอกับตาไปหรอก” ผมปฎิเสธเสียงแข็ง

จําไดวาวันนี้ผมตื่นขึ้นมาทามกลางสายหมอก รอบตัวผมมีเพียงความวางเปลา รูสึกเหน็บหนาวจนตองกอดตัวเองไว ชั่ววูบหนึ่งผม


ไดยินเสียงใครบางคนเรียกผมจากที่ไหนสักแหงอันไกลแสนไกล พรอมกับมีบางสิ่งตกมากระทบใบหนาผมอยูตลอดเวลา มันเปน
เหมือนหยดน้ํา ผมไมรูวามันคืออะไร จะเปนน้ําตาของใครหรือเปลาผมก็ไมแนใจ แตเวลาตกลงมากระทบใบหนาผมทีไร ผมจะรูสึก
ปวดใจทุกที ผมพยายามวิ่งวนไปรอบๆ พรอมกับเรียกหาใครคนนั้น เขาอยูไหน น้ําเสียงอันคุนเคย

“วินดี.้ ..ฟนซะทีเถอะนะ...ที่รัก...ตื่นมาหาพี่เถอะ...พี่อยูตรงนี้ไง...พี่กลับมาหาวินดี้แลว...” พี่อยูที่ไหน ทําไมผมมองไมเห็น ไมวาจะ


หันซายหันขวาผมก็ไมเจอใครสักคน จนกระทั่งผานไปครูใหญแสงสวางจึงสาดสองเขามา ที่ตรงนั้นผมเห็นพอกับตายืนเรียกผมอยู
ผมวิ่งเขาไปหาคนทั้งคูดวยความดีใจ พอกอดผมไวแนน บอกวาคิดถึงผมเหลือเกิน เชนเดียวกับตา ตาบอกวาขอกอดผมเปนครั้ง
สุดทาย

คําพูดของตาทําใหผมโกรธอยางไรเหตุผล พอรูวาผมไมพอใจตาก็งอดวยการพาไปดูภาพในอดีต เรื่องราวยอนกลับไปตั้งแตเมื่อเชาที่


เรานั่งกินขาวดวยกัน ตาชี้นิ้วไปยังตริน บอกวาตรินใจดีเกินไป “เอ็นดูเขาแตเอ็นเราขาด” ตาบอกวานี่แหละคือนิสัยตริน ขัดใจคนไม
เปน แลวตัวเองก็มาลําบากแทน สวนปรินนั้นเปนพวก “หยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ” ชอบประชด ทํารายคนอื่น แตสุดทายก็เปนตัวเองที่ตอง
เจ็บ สวนผมตาบอกวาเปน “ไขในหิน” ถูกโอบอุมอยูตลอดเวลา และก็คงจะแกไมหายเพราะใครๆ ก็คอยแตปกปอง ผมเลยบอกวา
เพราะผมหนาตานาเอ็นดูไง ใครๆ ก็เลยรัก ตาสายหนากอนกลาวถึงแมกับพอเลี้ยงผม ตาบอกวาเรื่องของแมตาหายหวงแลว

ภาพในอดีตถูกฉายยอนกลับไปเรื่อยๆ จากวันนี้กเ็ ปลี่ยนเปนเมื่อวาน จากนั้นก็หนึ่งสัปดาหที่ผานมา หนึ่งเดือนที่ผานมา หนึ่งปที่ผาน


มา สิปปที่ผานมา ไลไปเรื่อยๆ จนกระทั่งภาพสุดทายที่เห็นก็คือภาพผมนั่งชิงชาโดยมีพอแกวงไกวใหนั่นเอง ตลอดเวลาที่เรายอนไป
ในอดีต ตาจะพูดโนนพูดนี่โดยมีพอคอยเสริมอยูตลอดเวลา

“ทําไมถึงไมยอมใหตากับเดวิดไป แลวที่ตาชี้ใหดูกอนหนานั้นมันไมไดสอนอะไรกุลเลยหรือ” เสียงของตาเรียกผมกลับมายังปจจุบัน

“ถึงแมตากับเดวิดจะจากไป แตรอบขางกุลก็เต็มไปดวยคนที่รักกุลไมใชหรือ” ตาถาม

“ลองฟงสิ มีใครเรียกวินอยูนะ เขารอวินอยู ไมอยากกลับไปหาเขาจริงหรือ” พอพูดกับผมอยางใจเย็น มืออบอุนของพอลูบหัวผม


อยางปลอบประโลม

“วินดี.้ ..วินดี้ที่รัก...” พอตั้งใจฟง น้ําเสียงอบอุนนั่นยังคงเรียกผมไมขาด ผมมองมือตัวเองอยางตัดสินใจไมถูก

“โอเอนานแลว...ไปสิไป...” ตาตัดบท พรอมทํามือไลผม

“ทําไมตาตองไลกุลดวย แลวทําไมตองไปกันแคสองคน” ผมยังไมยอมเดิน หันไปแยงตาในประโยคแรก กอนเยื้อแขนพอไวพรอมกับ


พูดประโยคสุดทาย

“กลัวที่จะอยูคนเดียวหรือวิน พอเคยบอกลูกแลวไมใชหรือ ถึงแมวินจะมองไมเห็นพอ แตวินก็รูวาพอยังอยูกับวินเสมอ ตาก็เหมือนกัน


ถึงแมเวลาของตาจะหมดแลว แตสิ่งที่วินเห็นกอนหนานั้นก็ยังคงอยูกับวินเสมอ ยังอยูในใจยามวินนึกถึง ถึงจะมองไมเห็น ถึงพอกับ
ตาจะจากไป แตเชื่อพอเถอะนะวาความรักของพอและตาที่มีใหวิน มันไมเคยสูญสลายเลย” พอโอบผมไวเมื่อพูดจบพรอมกับตาที่
กอดผมดวยอีกคน ผมหลับตา ซึมซับชวงเวลาของออมกอดนี้ไวใหนานที่สุด

“วินดี้ที่รัก...ลืมตาขึ้นมาเถอะนะ…” น้ําเสียงนี้อีกแลว ไดฟงทีไรก็อุนใจเหลือเกิน หากผมลืมตาตื่นผมจะเห็นพี่ใชไหมครับ

คําตอบที่ไดรับกลับไมใชสิ่งที่ผมหวังเมื่อผมลืมตาขึ้น รอบกายซึ่งเคยเต็มไปดวยความสวางเมื่อสักครูกลับถูกเมฆสีดําเขาครอบคลุม
ออมกอดของผมวางเปลา ตากับพอไดหายไปแลว ทั้งสองหายไปไหน เมื่อกี้ผมยังกอดไวอยูเลย ทําไงดี ผมจะไปทางไหน มันหนาว
มันมืด มันนากลัว ผมหวาดผวา เกิดอะไรขึ้น ผมหันซายหันขวา ชวยดวย พอ ตา อยางทิ้งผมไป พี่ครับ ชวยวินดวย พี่อยูไหน เรียก
วินสิ ขอรอง สงเสียงใหวินรูไดไหมวาพี่ยังอยูกับวิน

“วินดี้ที่รัก...” ครับวินไดยินพี่แลว เรียกอีกสิ เสียงพี่มาจากทางไหน


“นี่มันจะวันที่สามแลว ทําไมนองกุลถึงยังไมฟน” เสียงใครละนี่ ตรินหรือ ตรินกุลอยูนี่ ไดยินกุลไหมตริน

“มึงจะหลับจนถึงวันเผาเลยหรือไง เกิดไมเห็นหนาตาเปนครั้งสุดทายกูไมรูดวยนะเวย” เมธ นี่เสียงเมธใชไหม พูดอะไรนะ เผาใคร

“ปากหรือนี่ ตรินตบสั่งสอนหนอยเถอะ ถากุลรูเรื่องตา มันคงไมอยากตื่นมากกวานะสิ” เสียงแปดหลอดอยางนี้คงเปนปรินสินะ

“พี่คิน...ทําไมไมลองจูบกุลละคะ เผื่อจะฟนเหมือนในนิทานไง” และนี่คงเปนเสียงลูกแพร

“ลูกแพร...น้ําเนา!" อันนี้แยกไมออกวาเสียงใครบางเพราะมันดังเหลือเกิน

ผมพยายามจับที่มาของเสียงเพื่อจะไดเดินตาม แตแลวเพียงเสี้ยวเวลา เสียงของทุกคนก็เงียบหายไป ไมนะ อยาทิ้งผมไวอยางนี้สิ ไป


ไหนกับหมด ชวยดวย! ผมตะโกนเรียกหาคนอื่นสุดเสียง วิ่งวนไปรอบๆ แตก็พบเพียงความวางเปลา เหนื่อยเหลือเกิน ทําไมถึงได
ปลอยใหผมอยูคนเดียวแบบนี้ พออยูไหน ตาอยูไหน แมอยูไหน ไอพี่ทองอยูไหน คนอื่นๆ อยูไหน อยาทิ้งผมไวแบบนี้ ผมยืนหอบ
หายใจดวยความผิดหวัง หัวใจปวดราว ทวาขณะที่กําลังจนหนทางอยูนั้นผมก็เงยหนามองฟาเมื่อรูสึกวามีบางอยางเปลี่ยนไป กอม
เมฆสีดําคอยๆ จางหายไปทีละนิดๆ ผมกระพิบตาเพื่อปรับใหคุนเคยกับแสง ทวาเสี้ยววินาทีตอมาผมตองรีบหลับตาลงทันทีเมื่อจูๆ
แสงสวางจาก็สอ งเขามา

“ฟนแลว...วินดี้ฟนแลว...” พอลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหนาแรกที่ผมเห็นก็คือใบหนาของพี่เขา นัยนตาของพี่ฉายแววยินดี ริมฝปากเต็มไป


ดวยรอยยิ้ม

“กรี๊ด! ฟนจริงๆ ดวย” เสียงของลูกแพรดังลั่นพรอมกับเจาตัวที่ยืนเกาะขอบเตียง กระโดนเตนไปมาอยางดีใจ

“เฮย! จริงดิ” เสียงของเมธพรอมเจาตัวชะโงกหนามาดูผม

“โห...ไมนาเชื่อ ตองจูบกอนหรือเนี่ย” ปรินในวันนี้มีทาทีเปลี่ยนไป เขาลูบหัวผมแผวเบา ยิ้มใหอยางออนโยน

“นองกุลฟนซะที” ตรินยิ้มอบอุนสงใหพรอมกับจับแขนผมเขยาเบาๆ

“หมอครับทางนี้” และนี่ก็ยงั เปนเสียงอันอบอุนที่เรียกผมตลอดมา...ไอพี่ทองของผม

ผมมองรอบตัวอยางจับตนชนปลายไมถูก ทุกคนพยายามแยงกันพูดกับผม เสียงมันดังเซ็งแซเกินกวาจะจับใจความได แตอยางหนึ่ง


ที่ผมรับไดจากกระแสน้ําเสียงนั้นก็คือความยินดีซึ่งเต็มเปยมไปดวยรักและหวงใย

‘...รอบขางกุลก็เต็มไปดวยคนที่รักกุลไมใชหรือ...’ เหมือนเคยมีใครสักคนพูดกับผมอยางนี้มากอน และผมก็ไมเคยเชื่อคําพูดนั้น...


จนกระทั่งวินาทีน.ี้ ..ผมสัมผัสมันไดแลวครับ...ความรักที่มองไมเห็นดวยตาแตคอยโอบอุมผมตลอดมา...

ผมผอนลมหายใจเขาออกอยางชาๆ ตอนนี้สมองผมยังเบลอๆ เหมือนจะยังตื่นไมเต็มที แตอีกไมนานผมคงไดรูวาเกิดอะไรขึ้นกับผม


และตอนนี้ผมอยูที่ไหน...

Don't walk away from me


I have nothing
nothing
nothing
If I don't have you
you
...only you, Windy My Love...

ในชีวิตผมเคยหลั่งน้ําตาแทบจะนับครั้งได และในจํานวนนอยครั้งนี้วินดี้เปนคนหนึ่งที่เรียกน้ําตาของผมใหไหลออกมา นองทําใหผม


รองไหจากหลากหลายความรูสึก ครั้งแรกที่เสียน้ําตาเพราะนองนั้นเกิดจากความปลื้มปติยินดี เมื่อนองสลักคําวารักไวบนหัวไหล
ของผม หัวใจมันอิ่มเอม โดยไมรูตัวหยาดน้ําใสๆ ก็รินไหลออกมา ครั้งที่สองในวันที่ผมกับนองตองจากกัน คราวนั้นรอยแปด
ความรูสึกเขาจูโจมผม ความคนึงหา ความกังวลหลังจากติดตอนองไมได ความรอนรุมเมื่อนองเขาใจผิด ความผิดหวังและนอยใจที่
นองเลือกบริษัทของพอไมใชผม และอีกหลากหลายความรูสึกที่ตอกย้ําความพายแพ จนหยดน้ําใสๆ ไหลออกมาทางหางตา แตผมก็
รีบปดมันทิ้งภายในเวลาเพียงเสี้ยวนาที

ครั้งนี้คือครั้งสามหากแตยาวนานมากที่สุด ถึงผมจะพยายามหามไมใหน้ําตามันไหล แตพอเห็นใบหนาซีดเผือดของนองซึ่งนอน


หายใจรวยรินบนเตียง หัวใจผมก็แหลกสลาย ผมเฝาอธิษฐานขอความเจ็บปวดที่นองไดรับยกมาใหผมดวยเถอะ หรือหากมีสิ่งใดที่
ทําใหนองสิ้นลม ก็ขอใหลมหายใจของผมชวยตอชีวิตของนองใหรอด

ผมจําไมคอยไดวาความรูสึกเวลาที่ผมไปถึงหนาหองฉุกเฉินนั้นเปนอยางไร จําไมไดแลววาหลังจากที่หมอบอกวาคนเจ็บเสียชีวิตแลว
ผมทําอะไรบาง จําไมไดแลววาเสียงรองไหของคนในครอบครัววินดี้นั้นโหยหวนขนาดไหน แตผมจําไดแมนถึงชวงเวลาที่ประตูหอง
ฉุกเฉินเปดออกมาอีกครั้งพรอมกับหมออีกคนซึ่งกาวออกมา แลวบอกวาคนเจ็บปลอดภัย กระสุนไมถูกอวัยวะสําคัญแตอยางใด
ทวาวาคนไขเสียเลือดมาก อาการยังนาเปนหวง ตองพักฟนในหองไอซียูเพื่อดูอาการสักระยะ จากเสียงรองไหอยางเศราโศกในเวลา
นั้นเปลี่ยนเปนเสียงอุทานอยางยินดีดวยความหวัง อยางนอยบุคคลอันเปนที่รักอีกหนึ่งคนก็ยังหายใจอยู

หัวใจของผมซึ่งแหลกสลายกลับไดรับการเยียวยา เสียงของใครบางคนพูดกับสายลมที่พัดผานวา “ขอบคุณคะคุณพอ ขอบคุณคะลุง


หาร ขอบคุณที่ไมเอาลูกกุลไปจากเรา” จากนั้นเสียงของใครบางคนก็ดังแทรกขึ้นมา “คุณกุลปลอดภัยครับนายนอย แตตองรอดู
อาการในหองไอซียูสักระยะ ผมจะถามใหนะครับวาหมออนุญาตใหเยี่ยมไดหรือเปลา” หลังจากนั้นน้ําตาผมก็ไหลออกมา ผมซบ
หนากับฝามือ เซไปพิงผนังอยางออนแรง ถึงแมรางกายจะออนระโหยแตหัวใจกลับถูกเติมเต็ม ความรูสึกมันคลายกับถูกปลดปลอย
จากพันธนาการอันแนนหนาและไดรับอิสระอีกครั้ง
ผมปลอยใหตัวเองอยูกับน้ําตาจนพอใจ จากนั้นก็สูดลมหายใจลึกๆ แลวปดมันทิ้งไปจากใบหนา มองไปรอบตัวอีกครั้ง ปรินยืนอยูไม
หางจากผม เขาอยูในอาการเหมือนคนกําลังช็อกในขณะแฝดของเขาอีกคนดูจะควบคุมอารมณไดเปนอยางดี ตรินกําลังคุยกับคน
กลุมหนึ่งอยู คลายกับเขาพยายามปลอบใจทุกคน เขาหันมาทางนองชายของเขานิดหนึ่งกอนหันไปคุยอะไรสักอยางกับคนพวกนั้น
จากนั้นเขาก็ผละออกมา เดินเขาไปหาปริน แมของวินดี้ยืนอยูกับชายคนหนึ่ง นาจะเปนพอเลี้ยงของนองเพราะหนาตาละมายกับ
สองฝาแฝด พวกเขายืนกระวนกระวายอยูหนาหอง คงกําลังรอใหพยาบาลเข็นเตียงนองออกมาเชนเดียวกันกับผม

“พี่คิน...ฮึก...พี่คิน...” ปรินหันหนามาทางผม เรียกชื่อผมปนเสียงสะอื้นอยางตองการหาที่พึ่ง ทวาขาของเขายังยืนอยูกับที่พรอมกับ


น้ําตาซึ่งไหลออกมาราวทํานบพัง ผมเดินเขาไปหาเขา

“หมอวาไงนะ...ฮึก...หมอวากุลปลอดภัยใชไหม...เมื่อกี้ปรินฟงไมทัน...พี่รันพูดอะไรไมรูแลวก็เดินไปนูน...”

“วินดี้ปลอดภัย” ผมยืนยันกับเขาพรอมกับบอกตัวเอง

“ดี...ดีจัง...กุลปลอดภัย...แต...ฮือ...ตา...ตากับลุงหาร...ตายแลว...ฮือ...” เขาพูดพรอมกับสะอึกสะอื้น พลอยทําใหผมปวดใจไปดวย

“ปรินไมรองนะ ตาไปสบายแลว ลุงหารก็หลับสบาย เราที่ยังอยูก็ตองเขมแข็ง อยาใหทานทั้งสองเปนหวง อยาออนแอใหเสียชื่อที่เปน


หลานของตา เขาใจไหม” ตรินซึ่งเดินมาหยุดอยูตรงหนานองชายของเรารีบโอบกอดปรินไว ปลอบประโลมดวยคําพูดใหอีกฝายไดสติ
และเขมแข็งเหมือนเดิม

ภาพที่เห็นทําใหผมรูวาพี่นองฝาแฝดคูนี้ผูกพันกับครอบครัวของวินดี้ขนาดไหน และพวกเขาทั้งคูก็ชางแตกตางกันเหลือเกิน อีกคนดู


ภายนอกแข็งกราว หาวหาญแตกลับเปราะบางแทบไมนาเชื่อ ในขณะที่อีกคนออนนอกแตแข็งใน ตรินออนโยนแตกลับไมออนแอ

บรรยากาศแหงความโศกเศราเปลี่ยนไปบางเล็กนอยเมื่อหมอบอกวานองปลอดภัย หากแตพอเห็นใบหนาซีดเซียวกับลมหายใจที่
รวยรินของวินดี้ ความเศราสลดก็กลับมาอีกครั้ง ใจผมจะขาดรอนๆ กับเวลาที่ผานไปพรอมกับนองที่ไมฟนขึ้นมาซะที

ผมเกาะขอบเตียงของนองไมยอมหาง ปลอยใหน้ําตาไหลออกมาโดยปราศจากเสียงสะอื้น ผมคิดวาคนในครอบครัวของวินดี้คงจะ


สงสัยวาผมเปนใคร แตผมไมมีกะจิตกะใจจะสนใจคนอื่น ผมขอรองพระเจาไดโปรดอยาพรากวินดี้ไปจากผม ขอรองแมที่อยูในที่แหง
นั้นโปรดชี้ทางนองใหกลับมา ขอรองโชคชะตาที่นําพาใหผมไดพบกับวินดี้และจงทําใหเราไดครองคูกัน แตไมวาจะเฝาออนวอน
เทาไหรนองก็ไมตื่นขึ้นมาซะที สุดทายผมก็พูดกับนองหากวินดี้ไมฟนผมก็จะตามนองไป ผมพูดเพราะผมรูสึกอยางนั้นจริงๆ หากชีวิต
นี้ตองอยูโดยไมมีนองแลว ผมนึกไมออกเลยวาชีวิตผมจะเปนอยางไร

นานแสนนานกับการรอคอย ครอบครัวของนองผลัดเปลี่ยนกันมาเฝาวินดี้ พวกเขาคงแยกกันไปทําหนาที่ ยังมีงานศพของบุคคลใน


ครอบครัวถึงสองคนที่ตองจัดการ มันเปนโศกนาฏกรรมที่เศราสลดสําหรับครอบครัววินดี้ ตาซึ่งเดินทางกลับจากตรวจสุขภาพประสบ
อุบัติเหตุทางรถยนต เปนอุบัติเหตุบนทางดวนทําใหรถของตาถูกพุงชนดวยความเร็วสูงกอใหเกิดอุบัติเหตุตอเนื่องเมื่อรถที่ตามมาชน
ตออีกทอด ตาและลุงหารซึ่งเปนคนขับไดรับบาดเจ็บสาหัสขณะถูกนําตัวสงโรงพยาบาล จากนั้นครึ่งชั่วโมงตอมาวินดี้ก็ถูกปองราย
และถูกสงเขาหองฉุกเฉินที่โรงพยาบาลเดียวกัน

เคราะหรายซ้ําซอนเมื่อไดรับขาวทําใหทุกคนในครอบครัวของวินดี้หัวใจแหลกสลาย ผมมาถึงโรงพยาบาลเมื่อหมอซึ่งดูแลเคสของตา
กับลุงหารออกมาบอกวาทั้งคูไดเสียชีวิตแลว วินาทีนั้นหนาหองฉุกเฉินเต็มไปดวยเสียงรองไหระงมอยางโศกสลด สองชีวิตที่จากไป
กับอีกหนึ่งชีวิตที่แขวนอยูบนเสนดาย คงไมมีอะไร ที่ทําใหครอบครัวของนองเจ็บปวดไดมากเทานี้อีกแลว

ความกระวนกระวายยังกัดกรอนหัวใจของผมใหปวดราวมากขึ้น วินดี้ของผมยังไมฟน วันแรกผานไปพรอมกับผมซึ่งนั่งอยางคนหมด


แรงอยูหนาหองไอซียูเมื่อหมดเวลาเยี่ยม ผมยังนั่งอยูตรงนั้นโดยไมยอมขยับตัวไปไหน แมของวินดี้มานั่งขางผมในวันรุงขึ้นขณะรอ
เวลาใหหมออนุญาตเขาเยี่ยมนองไดอีกครั้ง เธอกลาวขอโทษที่ไมไดพูดคุยกับผมตั้งแตแรก ผมบอกวาไมเปนไร เพราะผมเองก็ไม
พรอมจะคุยกับใครเชนกัน เธอถามตออีกวาผมชื่อนาคินทรใชไหม ผมตอบเธอไปวาใช เธอยิ้มใหผมเพียงเล็กนอยแลวกลาวตอวาตา
เลาเรื่องของผมกับนองใหเธอฟงแลว ผมก็รับฟงคําพูดจากปากเธอเงียบๆ พรอมกับบางสิ่งที่สะทอนในอกของผม

ดวยความเปนหวงวาผมจะลมปวยไปพรอมกับวินดี้อีกคน พอจึงเปดโรงแรมหนาโรงพยาบาลใหกับผม พรอมกับกําชับเรื่องการกิน


การนอนของผม เนื่องจากไอพวกบอดี้การดตัวดี รายงานวาผมไมยอมแตะอาหารอะไรเลย จากอารมณที่แปรปรวนอยูน ั้นทําใหผม
โมโหราย ผมพาลอยางคนไรเหตุผล มันนาถูกทําโทษไหม ทีเรื่องอยางนี้ละทํางานกันดีนัก แตพอเรื่องของคนรักของผมกลับปลอยให
เกิดความผิดพลาดขึ้นมา

ผมสั่งปลดรามิลออกจากผูชวยสวนตัวของผมชั่วคราว พอสงเขาไปชวยงานอินทรี แตผมก็เขาใจวาพอแคกันเขาออกหางผมเพื่อรอให


อารมณผมเย็นลงกอน สวนการดคนอื่นๆ ถูกผมตบหนาไปหลายทีกอนจะสงใหรันจัดการสถานหนัก ทางดานชินกฤษ ผมประกาศ
สงครามกับมัน ตราบใดที่นองยังไมฟน พวกมันก็ยังไมมีโอกาสไดเห็นคนที่พวกมันรักมากเชนเดียวกัน

โลงศพถูกสงไปยังหนาบานของพวกมันพรอมกับภาพถายตัวประกันในอิริยาบถที่พรอมจะถูกเชือดคองายๆ หากมันยังทาทายผมอีก
ผมสั่งเผาโกดังสินคาของมันในยานชานเมืองเพื่อใหมันวิ่งวุนกับการหาสินคาเสริมเพื่อจะไดไมถูกปรับตามสัญญาการสงออก ผมสง
หลักฐานใหสื่อตางชาติเพื่อประโคมขาวการติดสินบนของตํารวจที่อยูใตอํานาจของพวกมัน ผลที่ไดรับทําใหเบื้องบนนั่งไมติด ออก
คําสั่งใหเขาตรวจจับผับของชินกฤษซึ่งเบื้องหลังคือบอนการพนันและซองผิดกฎหมาย ทําใหกิจการดานมืดของพวกมันตองปดตัวไป
ชั่วขณะเพื่อรอดูทิศทางลมใหแนใจเสียกอน ทั้งงานราษฎรงานหลวงผมประเคนใหมัน ทําใหมันหัวหมุนพรอมกับทรมานหัวใจไป
พรอมๆ กัน

สวนการเซ็นสัญญากับเอ็มเจนั้นถูกเลื่อนออกไปอยางไมมีกําหนด ผมไมสนแลวละวาเอ็มเจจะรวมหุนกับผมหรือไม ตราบใดที่ไมมี


วินดี้ เอ็มเจก็ไรซึ่งความหมาย ผมไดพบกับหัวเรี่ยวหัวแรงของเอ็มเจที่โรงพยาบาล ลุงเรียวตามมาเยี่ยมนองทันทีที่ทราบขาว ผมยัง
ยืนอยูเคียงขางเตียงนองอยางเปดเผย ไมสนใจกับสัญญาที่เคยใหไววาตองหางนองสักระยะ มันไมมีประโยชนอะไรแลวที่จะปดบัง
สถานภาพของตัวเองอีกตอไป...ผมนายนาคินทรเปนคนรักของวินดี้...ผมประกาศตัวเองกับเอ็มเจอยางชัดเจน

พอลวงเขาวันที่สองวินดี้ก็ยังไมฟนขึ้นมา ผมเกาะติดขอบเตียง เรียกชื่อนองในใจ กุมมือวินดี้ไวตลอดเวลา หากบางครั้งหัวใจมัน


เจ็บปวดเกินทนไหว ผมก็กมหนาลง ปลอยใหน้ําตาชวยระบายความอัดอั้นออกมา เรียวปากถูกเมมแนนเพราะผมไมอยากใหนองได
ยินเสียงสะอื้นของผม วินดี้ของผมเขมแข็ง นองแคตองการเวลาพักผอนอีกสักหนอย เดี๋ยวนองก็กลับมา ผมปลอดตัวเองเชนนั้น

จากสภาพจิตใจที่บอบช้ํากันทุกคนทําใหพวกเราตางปลอบกันและกันดวยความหวัง ผมคุยกับเมธมากขึ้น กับตรินบางแตก็ไมมาก


นักเพราะเขาวุนวายเรื่องงานศพของตา ปรินดูเขมแข็งขึ้นกวาวันที่ผมเห็นเขาหนาหองฉุกเฉิน เขาชวยพี่ชายเขาจัดการเรื่องสถานที่
ผมไดยินจากรันวาเรื่องดอกไมหนางานศพ ปรินเปนคนจัดการดูแลทั้งหมด สวนลูกแพรผมไดคุยกับเธอหลายครั้ง ครั้งแรกเปนเพียง
ทักทายกันธรรมดา พอเจอหนากันบอยขึ้นหลายๆ บทสนทนาก็ตามมา...ผมรูว าเธอเปนเพื่อนรักของนอง แตผมไมรูวาเธอรูเรื่องของ
ผมกับนองตั้งนานแลว

“ลูกแพรพยายามสืบตั้งนานวาคนที่ตาพูดถึงนั้นเปนใคร คนๆ นั้นก็คือพี่นี่เอง” เธอพูดกับผมในตอนสายของวันหนึ่ง

“ตาเคยพูดถึงพี่อยางนั้นหรือ”

“ใชคะ” เธอขานรับพรอมกับยิ้มใหผมอยางเศราๆ

“พี่รูใชไหมวาลูกแพรเปนวาที่คูหมั้นของกุล” เธอถามขณะที่สายตามองไปขางหนาอยางเลื่อนลอย

“พี่เชื่อวาลูกแพรกับวินดี้เปนเพื่อนกัน” ผมเชื่อคําพูดของนอง สายตาของนอง วินดี้รักผมเพียงคนเดียวเทานั้น ผมสัมผัสความรักของ


นองได

“พี่เชื่ออยางนั้นก็ถูกแลวละคะ ลูกแพรเปนแคเพื่อนคนหนึ่งในสายตาของกุล เปนวาที่คูหมั้นในสายตาของผูใหญ ลูกแพรเคยคิดวา


สักวันลูกแพรจะทําใหกุลรักลูกแพรใหได พี่เชื่อไหมลูกแพรเคยทําอะไรโงๆ ดวยนะ ลูกแพรเคยออยกุลดวยละ” เธอยิ้มบางๆ ยามพูด
ประโยคสุดทาย มันคลายกับการยิ้มเยาะใหกับตัวเอง

“แตกุลไมเคยหยามเกียรติลูกแพรเลยสักครั้ง สิ่งที่ทําลงไปทําใหลูกแพรตบหนาตัวเอง ตบใหเจ็บเพื่อจะไดมีสติขึ้นมาบาง ใหรู ใหจํา


วาจิตใจของคนมันบังคับกันไมได ถึงจะผูกมัดตัวกุลไว แตจะมีประโยชนอะไรเมื่อในแววตาของเขาไมมีเงาของเราอยูในนั้น” ผมฟง
เธอพูดอยางเงียบๆ บอกไมถูกวาความรูสึกในตอนนี้คืออะไร เห็นใจ สงสาร หรือเขาใจ แตที่แนๆ ผมไมไดรูสึกหึงหวงวินดี้กับเธอเลย

“ลูกแพรเลิกหวังตั้งแตวันนั้นละคะ ไมขอใหกุลมารักลูกแพรหรอก แคกุลอยูตรงนี้ อยูขางกันอยางนี้ตลอดไปก็ดีแลว กุลถามลูกแพร


บอยๆ นะวาเหนื่อยไหมที่ตองมารักกุล ลูกแพรจะตอบกลับไปเสมอวาเหนื่อยแตไมทอ แตนั้นมันคือคําตอบตอนที่ยังไมรูวากุลมี
เจาของนะคะ” เธอหันมายิ้มลอผม ทวาแววตาของเธอยังคงฉายประกายเศรา

“ฝากกุลดวยนะคะ ลูกแพรเชื่อวาพี่ทําใหเพื่อนของลูกแพรมีความสุขได” แลวเธอก็ทิ้งคําพูดไวอยางนั้น คําพูดที่เหมือนกับแมของ


วินดี้ซึ่งพูดกับผม และทั้งสองก็บอกเหมือนกันวารูเรื่องของผมกับนองมาจากตา ยิ่งคิดทบทวนผมก็ยิ่งปวดใจ กอนที่ตาจะจากไป ตา
ไดสั่งเสียทุกคนพรอมกับจัดเตรียมทางเดินไวใหวินดี้เรียบรอยแลว
ผมไมอยากนึกถึงเลยวาหากนองตื่นขึ้นมาแลวพบวาคนที่รักและหวังดีกับนองมากที่สุดคนหนึ่งไดจากไปแลวนองจะรูสึกอยางไร
ความรักของตาที่มีตอวินดี้นั้นมากมายเหลือเกิน นองเคยบอกผมวาจากโรครายที่รุมเราทําใหหมอยืนยันวาตาจะอยูไดอีกไมนาน
อยางมากสุดก็สามเดือน แตนี่เพิ่งจะผานไปแคเดือนเดียว ตาก็สิ้นลมเสียแลว หากนองตื่น ผมจะปลอบนองแบบนี้ดีไหม บอกนองวา
พระเจาไดเลือกวิธีที่ดีที่สุดเพื่อเรียกตาไปอยูดวย การจากไปอยางกะทันหันทําใหตาไมตองทรมาน นอนรอคอยความตายอยูบนเตียง
...หากผมพูดแบบนี้ วินดี้จะรูสึกดีขึ้นบางไหม

“ที่รักครับ ตื่นขึ้นมาเถอะนะ พี่มีหลายอยางอยากจะเลาใหวินดี้ฟง ลืมตาขึ้นมามองพี่ เราไมไดเจอกันนานเลยนะ วินดี้ไมคิดถึงพี่บาง


หรือ พี่รอเวลานี้มาตลอด ตอนนี้พี่ไดเจอหนาวินดี้แลว วินดี้ไมอยากเห็นพี่หรือครับ วินดี้...ไดโปรด ฟนเสียที...” และนั่นคือคําวิงวอน
กอนจะหมดเวลาเยี่ยมในวันที่สอง

พอเขาวันที่สาม สีหนาของทุกคนตางเต็มไปดวยความกังวล แตถึงกระนั้นเราก็ยังปลอบกันและกันดวยความหวัง ตราบใดที่นองยัง


หายใจอยู วินดี้ก็จะกลับคืนมา ผมพูดกับตาในใจ ขอรองตาอยาเอาวินดี้ไปจากผม ผมพูดกับนองในใจ รีบกลับมาหาพี่ทีเถอะ พี่ใจ
จะขาดอยูแลว

ทามกลางความหวังอันริบหรี่ ตรินลากผมไปกินขาวเที่ยงที่หนาโรงพยาบาลโดยมีเมธคอยพูดจาขมขูวาถาไมยอมกินขาวจะไมยอม
ยกเพื่อนใหกับผม ลูกแพรหนุนหลังผมใหเดิน ปรินเดินเอื่อยๆ ไมไดเดือดเนื้อรอนใจแตอยางใด พวกเราหาอะไรกินงายๆ เพราะทุก
คนอยากรีบกินแลวรีบกลับไปหานอง

ขณะที่กินขาวเที่ยงอยูนั้นปรินก็ขอรองใหเมธและลูกแพรเลาเรื่องของวินดี้สมัยเปนเด็กใหพวกเราฟง ผมและปรินนั่งฟงอยางตั้งใจ
สวนตรินเขาจะคอยเสริมบาง พอถึงเรื่องที่เขาเคยไดยินมากอนตรินจะบอกวา “จําไดๆ นองกุลเคยเลาใหฟง” แลวเขาก็จะยิ้ม
วีรกรรมของสามสหายทําใหพวกเราหัวเราะไดอีกครั้ง

เมื่อกินขาวอิ่มแลวพวกเราก็กลับมาไปหาวินดี้อีกครั้งกอนที่ตริน ปริน ลูกแพร และเมธตองไปวัดเพื่อชวยงานศพของตากับลุงหาร


ตรินเปรยกับนองวาถึงวันที่สามแลวทําไมวินดี้ยังไมฟน เมธขมขูนองเรื่องตา ในขณะที่ปรินคัดคานคําพูดของเขา สวนลูกแพรหันมา
ทางผมแลวบอกวา

“พี่คิน...ทําไมไมลองจูบกุลละคะ เผื่อจะฟนเหมือนในนิทานไง” ทําไมจะไมลองละครับ ผมจูบนองเปนสิบๆ ครั้งแตลูกแพรและคน


อื่นๆ ไมเคยเห็นเทานั้นเอง และผลไดรับก็คือวินดี้ก็ไมเคยลืมตาขึ้นมาซะที แตวาหากจะลองอีกครั้งตอหนาทุกคนก็คงไมเสียหาย
อะไร

ผมเรียกชื่อวินดี้ กระซิบคําวารักกอนจะจูบนองดวยความรักทั้งหมดที่ม.ี ..แลวพอผมถอนริมฝปากออกมาปาฏิหาริยก็เกิดขึ้นตอหนา


ทุกคน หัวใจผมหยุดเตนไปชั่วขณะ ลืมหายใจไปครูใหญ...นองฟน! นองลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง...โอพระเจา วินดี้ของผม สายลมของผม
ไดกลับมาหาผมแลว...
ตั้งแตฟนขึ้นมาผมตองนอนนิ่งๆ อยูบนเตียงมาสองวันแลวครับ จะกลิ้งไปกลิ้งมาก็ไมไดเพราะวายังเจ็บแผลอยู แตไอพี่ทองเหมือน
จะรูวาผมไมถูกกับโรงพยาบาล พี่เขาเลยชวยไปคุยกับหมอให ผมจึงไดรับขาวดีวาพรุงนี้ผมก็ออกจากโรงพยาบาลไดแลว

“เบื่อหรือครับ” ผมละสายตาจากภาพในทีวี หันไปยังที่มาของเสียง ไอพี่ทองเงยหนาขึ้นจากกองเอกสาร เลิกคิ้วขึ้นสูงเปนเชิงถาม

“ก็เฉยๆ ไมไดเบื่ออะไร” ผมบอก

“พี่เห็นถอนหายใจหลายรอบ ก็นึกวาเบื่อ” พี่เขาวางเอกสารในมือลง เดินมานั่งบนเตียงขางผม

ตอนนี้หองผมกลายเปนออฟฟศพี่เขาไปแลวเรียบรอยครับ ไอพี่ทองบอกวาอยากจะรีบเคลียรงานเพราะวาพออนุญาตใหพี่แกพักได
พี่เขาจึงวางแผนไววาอาทิตยหนาจะพาผมไปพักฟน แตที่ไหนนั้นไอพี่ทองไมไดบอกผมครับ

“เดี๋ยวใหแดดออนกวานี้กอน แลวพี่จะพาไปเดินเลนนะ” เมื่อเชาหมออนุญาตใหออกไปสูดอากาศขางนอกได ผมเลยไดยืดเสนยืด


สายนิดหนอย แตก็นิดหนอยจริงๆ เพราะเดินไดไมกี่กาวก็ถูกจับนั่งรถเข็นเสียแลว

“วินอยากลองเดิน”

“ไมเอาเดี๋ยวกระทบกระเทือนแผล”

“ไมเปนไรหรอก...อูย...” ตายละ รีบขยับตัวเร็วไปหนอย วาจะเอื้อมมือไปจับแขนพี่แกเขยาออนสักหนอย แตดันยกมือไมพนเอว


ตัวเอง มือมันเลยครูดแผลเล็กนอย แถมยังเผลอสูดปากแสดงความเจ็บ ทําใหคําปฏิเสธไมเปนที่หนาเชื่อถือไปเลย

“เห็นไหม...วาแตเจ็บมากหรือเปลา” พี่เขาหันทั้งตัวมาทางผม ถามดวยน้ําเสียงรอนรน ความหวงใยฉายชัดบนใบหนาและดวงตา


มือพี่เขาดึงเสื้อผมขึ้น มองไปที่แผลผาตัด

“นิดหนอยนะ เมื่อกี้วินรีบขยับตัวเร็วไปหนอย” ผมออมแอมบอกหมายจะใหอีกฝายหายกังวล

“โอมจงหาย...เพี้ยง...” แตพี่เขากลับทําเหมือนผมเปนเด็กๆ เปาลมใสแผลผมซะงั้น ผมหัวเราะเบาๆ ขํากับการกระทําของไอพี่ทอง

“ไมยักรูวาพี่เปามนตแลวทําใหวินหายเจ็บ” ผมตอบเอาใจ

“หายใชไหม” ทวาพอเห็นแววยินดีที่เตนระยิบระยับในดวงตาคมกริบนั่น กลับทําใหผมอยากแกลงพี่เขาขึ้นมา

“เมื่อกี้วินโกหก...ไมหายอะ ยังเจ็บอยูเลย”
“จริงหรือ...” ไอพี่ทองมุนคิ้วเล็กนอยกอนเปลี่ยนสีหนาเปนเขาใจยามพูดประโยคถัดมา “แตมันก็นาจะใช เพราะพี่ไมใชผูวิเศษ เปน
เพียงผูชายที่ใจมั่นรักเธอ ไมมีฤทธิ์เดช มีเพียงหัวใจที่ใฝเฝารักเธอ...” คราวนี้แววระยิบระยับในดวงตาคมกริบกับคําพูดที่ใสทํานอง
เพลงเขาไปทําใหผมเมินหนาหนี

“ไอพี่ทอง...เนาวะ...” พึมพําตอวาอีกฝายดวยความรูสึกรอนผาวบนใบหนา

“หึหึ” แตไอพี่บากลับหัวเราะชอบใจซะนี่

“พี่ชอบเวลาวินดี้แกมเปนสีชมพู หนาซีดๆ เหมือนหลายวันกอนขอโบกมือลานะครับ พี่ไมอยากเห็นอีกแลว” มือหนาเกลี่ยแกมผม


แผวเบา น้ําเสียงที่กลาวในประโยคแรกคลายจะลอเลียน หากแตประโยคถัดมามันเบาหวิวจนผมรูสึกใจหาย ผมคอยๆ พลิกตัวนอน
ตะแคงขาง โอบเอวพี่เขาไว

“ถาวินหนาซีดอีกครั้ง พี่จะโบกมือลาวินจริงๆ หรือ” ผมแสรงถามดวยความอยากรู ไอพี่ทองยิ้มเจาเลห กมหนามากระซิบกับผมวา

“ใครวาละ พี่จะรีบจูบปลุกวินดี้ใหตื่นขึ้นมา แลวก็หนาแดงแปรดเหมือนหลายวันกอนไง” พอไดฟงแคนี้หนาผมก็แดงแปรดขึ้นมาทันที


ผมหลบตา รีบซุกหนาลงกับหมอน อายอยางบอกไมถูก

ไมรูวาจริงหรือเปลาแตทุกคนลอผมเรื่องนี้ตั้งแตฟนขึ้นมา เมธ ตริน ปริน ลูกแพร บอกวาหลังจากผาตัดเอาลูกกระสุนออก ผมหลับไป


สามวัน เรียกยังไงก็ไมฟน เขยาตัวปลุกก็ยังทําเฉย แตพอไอพี่ทองจูบผมเทานั้นแหละ ผมลืมตาขึ้นมาเลย เรื่องราวแบบนี้คุนใชไหม
เหมือนในนิทานที่เจาหญิงนิทราถูกปลุกดวยจุมพิตดูดดื่มจากเจาชายไงละ อาก...แลวอยางนี้มันนาอายหรือเปลา ผมไมใชเจาหญิง
นะ แลวมาลอผมแบบนี้ ผมจะเอาหนาไปไวที่ไหน

“วินดี.้ ..” มากระซิบเรียกทําไมเลา แถมเปาลมใสหูผมอีก จั๊กจี้นะเวย

“อะไร” ผมขานรับเสียงอูอี้

“พรุงนี้ก็ออกจากโรงพยาบาล” แลวไงละ ผมยังทําเฉย สอดมือเขาไปใตหมอน อยากฝงหนาเขาไปใหลึกกวานี้ถาทําได

“เงยหนามาคุยกับพี่กอน” แตพี่เขากลับไมยอมพูดตอ สะกิดไหลผมจนนารําคาญ เพื่อตัดปญหาผมจึงเอียงหนามองพี่เขา มือของไอ


พี่ทองประคองหนาผมไว

“พรุงนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลแลว” พี่เขาทวนคําพูด

“ขอจูบสงทายหนอยนะ” วาจบก็ประกบริมฝปากลงมาทันที ผมไมมีโอกาสไดขัดขืน ไดตอวาเพราะลิ้นรอนสอดเขามามอบจูมพิตอัน


ดูดดื่มหอมหวาน พี่จูบผมอยางโหยหาและหนักหนวง จากที่คิดจะตอตานผมก็เปลี่ยนมาจูบตอบพี่เขาอยางเต็มใจ

ไมรูจะปฏิเสธทําไม ในเมื่อตัวผมเองก็โหยหาพี่ไมแพกัน จําไดวาเมื่อลืมตาขึ้นมา คนแรกที่ผมมองเห็นคือใบหนาไอพี่ทอง ใบหนา


ของพี่เปลี่ยนไปบางเล็กนอย พี่เขาดูซูบลง หนวดเคราขึ้นครึ้มอยางคนไมไดดูแลตัวเอง หากแตนัยนตา รอยยิ้มอันอบอุน และความ
รักที่สื่อมาใหนั้นยังมากมายเหมือนเดิม

ผมไมคิดมากอนวาหลังจากหางกันพักหนึ่งเราจะกลับมาพบกันในสภาพแบบนี้ ผมตองกลายเปนคนปวยอยูบนเตียง หลายคนเขาใจ


วาผมเจ็บตัวเพราะอุบัติเหตุจากลูกหลงเมื่อเด็กเทคนิคทะเลาะกัน แตผมบอกกับพี่วาบางทีผมอาจถูกปองราย เพราะตอนที่เกิดเหตุ
นั้นยังไมมีเหตุวิวาทกัน และคนรายก็พูดราวกับรูวาผมเปนใคร เมื่อผมพูดเชนนั้นไอพี่ทองพร่ําขอโทษผม บอกวาเพราะพี่เขาผมจึง
เปนแบบนี้ ศัตรูของพี่หันมาเลนงานผมแทนพี่เขา ผมเห็นความเจ็บปวดในดางตาของพี่ยามพูดกับผม หัวใจผมปวดหนึบดวยเขาใจดี
ถึงความรูสึกของคนที่เปนตนเหตุใหคนที่ตัวเองรักเจ็บ

ผมพยายามบอกพี่วาไมใชความผิดของใครทั้งนั้น หากเหตุรายจะเกิดมันก็ตองเกิด ไอพี่ทองบอกวาจัดการสั่งสอนคนที่ทํารายผม


เรียบรอยแลว แมจะนึกหวงและสงสัยอยูบางวาพี่เขาทําอยางไร แตผมก็เชื่อวาพี่ทําได จากนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นผมจึงปดปากเงียบ
ปลอยใหคนที่อยูในเหตุการณอยางลูกแพร เมธ และเพื่อนคนอื่นๆ เขาใจวามันเปนอุบัติเหตุดีกวา เมื่อตํารวจถาม ผมก็บอกไปวาผม
จําหนาคนรายไมไดเพราะมันชุลมุน ไมรูตัวดวยซ้ําวาตัวเองสลบไปตอนไหน

ผมคิดวาการเจ็บตัวของผมในครั้งนี้ทําใหหลายอยางเปลี่ยนไป เมธดูเขากับไอพี่ทองไดมากขึ้น เมื่อกอนผมไมเคยเห็นคนทั้งสองคุย


กันดวยดีสักครั้ง แตคราวนี้คนทั้งคูพูดกันราวกับรูจักกันมาเปนป ตรินก็ดูแปลกไป เขาแสดงออกกับเมธมากขึ้น บอยครั้งที่คนทั้งคู
ออกไปยังระเบียงหองผูปวย คุยอะไรกันสักอยาง แลวเมธก็กอดตรินไว

สวนปรินเวลาที่เขามาหาเยี่ยมผมตองลากพี่รันเขามาดวยเสมอ ครั้งแรกผมคิดวาเขาคงไมอยากใหตรินลําบากใจยามตองเผชิญหนา
กับเมธพรอมกัน แตผมก็เขาใจผิดเพราะไมวาเมธกับตรินจะมาดวยหรือเปลา พี่รันจะยืนอยูขางเขาตลอด ผมเคยแซวคนทั้งคูวา
เดี๋ยวนี้ตัวติดกันเลยนะ ปรินตอบผมกลับมาวากลัวปากโปง เลยตองหาตัวชวย พอพูดจบพี่รันก็ปดปากปริน แตใชมือนะครับไมใชใช
ปาก ดีหนอยเพราะถึงแมผมจะเห็นบอยๆ แตมันก็ยังไมชินสักที ผมไมรูหรอกนะวาปรินเก็บความลับอะไรไว เพราะผมเคยถามไป
แลว แตเขาก็บอกวาเรื่องของผูใหญเด็กไมเกี่ยว

อีกคนที่เปลี่ยนไปก็คือลูกแพร เธอเปลี่ยนไปอยางสิ้นเชิง ผมแทบจะอาปากเหวอเมื่อเห็นลูกแพรโฉมใหม ผมยาวซึ่งเธอมักจะดัดเปน


ลอนตามสมัยนิยมถูกตัดจนสั้น ทรงผมคลายกับกอย-รัชวิน ตอนเลนหนังเรื่องรักสามเศรานั่นแหละครับ เหตุผลที่เธอบอกยามผม
ถามก็คืออยากลองเปลี่ยนตัวเองดูบาง นอกจากทรงผมที่เปลี่ยนไปแลวลูกแพรยังทําใหผมประหลาดใจเมื่อหญิงสาวเยาวาผมมีแฟน
หลอจนนาอิจฉา

คําพูดนั้นทําใหผมอึ้งไปพักใหญ มองเขาไปในดวงตาของเธอ ไมมีแววขุนเคืองหรือรังเกียจแตอยางใด ความรูสึกโลงอกเกาะกุมหัวใจ


ผม ดีใจอยางบอกไมถูกทีล่ ูกแพรรับเรื่องของผมกับพี่เขาได ผมไมรูวาลูกแพรรูไดอยางไร แตก็คิดวาเธอคงสังเกตจากการที่ไอพี่ทอง
มาเฝาผม และคงถามพี่เขาออกไป รายนั้นเคยอายใครที่ไหน หากใครถามวาเปนอะไรกับผม พี่เขาก็คงไมรอชาที่จะบอกวาเปนคนรัก
นอกจากเพื่อนผมที่เปลี่ยนไปแลว คนอื่นๆ ในครอบครัวผมก็มีทาทีแปลก เรื่องระหวางผมกับไอพี่ทองคงไมตองอธิบาย เหมือนแมจะ
รู พอของตรินก็รู และทั้งคูก็รับได แตทําไมทุกครั้งที่มาเยี่ยมผมแมตองมีสีหนาเศราสลด ไมคอยพูดเทาไหร สวนพอของตรินก็อยูใน
อาการคลายกัน สวนตาก็แปลกอีกคน เพราะตั้งแตผมเขาโรงพยาบาลตาไมเคยมาเยี่ยมผมเลย ถามใครก็บอกวาเดี๋ยวตาก็มา แต
จนแลวจนรอดก็ไมเห็นตามาสักที โทรไปหาตอนไหนก็บอกวาหลับ เกิดอะไรขึ้นหรือเปลาก็ไมรู หรือวาบางทีตาจะโกรธผมที่ไมระวัง
ตัว...ผมอยากออกจากโรงพยาบาลเร็วๆ เหมือนกัน กลัวตาเปนหวงมากกวานี้

…แตในความแปลกกลับมีบางอยางที่เหมือนกัน นั่นก็คือแววตาของพวกเขาที่มองผม แววตาของเมธ ตริน ปริน ลูกแพร แม พอเลี้ยง


ผม และคนอื่นๆ หรือแมกระทั่งตัวไอพี่ทองเอง ในแววตานั้นมีบางอยางที่เหมือนกัน...แววตาของความสงสารและมีบางอยางซอน
เรนอยู...

“อืม...ยังหวานเหมือนเดิม...” พี่เขาบอกเมื่อถอนริมฝปากออกมาอยางออยอิ่ง หนาผากของพี่ติดกับหนาผากผม จมูกของพี่คลอ


เคลียกับจมูกของผม

“พอแลว...” ผมเอียงหนาหนีเมื่อพี่เขาทําทาจะจูบผมอีกครั้ง

“ขอสงทายรอบสุดทาย” ใครเชื่อก็บาละ ไอพี่ทองมีคําวาสุดทายดวยหรือ

“เดี๋ยวใครเขามาเห็น ลุกขึ้นเร็ว” ผมยังปฎิเสธ

“เห็นก็ชางสิ วินดี้ไมเห็นตองอายเลย ใครๆ ก็รูวาเรารักกัน” ผมไมไดหนาดานเหมือนพี่นี่ ถึงจะรูแตก็ไมจําเปนตองโชวเสียหนอย ผม


ผลักหนาพี่เขาออกกอนจะลามปามไปมากกวานี้ ก็ไมใชอะไรหรอกครับ แคตอนนี้ปากกับจมูกของพี่ไซไปตามใบหนาและลําคอ
พรอมกับมือรอนๆ ที่เริ่มซุกซนเทานั้นเอง

“จะลุกไมลุก” ผมทําเสียงจริงจัง

“แคนี้ก็ตองดุกันดวย วินดี้ใจราย ไมเห็นใจพี่บางเลย รูไหมวาพี่คิดถึงวินดี้มากแคไหนตอนที่เราหางกันนะ พอไดพบกันพี่ก็อยากตัก


ตวงสวนที่เสียไปบางสิ” โอโห...พูดยังกลับขาดดุลการคาอยางนั้นแหละ แลวไอความคิดถึงนี่มันทดแทนดวยการจูบหรืออยางไร ถา
อยางนั้นที่จูบผมตลอดสองวันที่ผานนั่นมันยังไมพอใชไหม

“เฮอ...เด็กๆ เวลาปากยื่นแกมปองแลวมันก็นารักอยูหรอกนะ แตผูใหญตัวโตๆ ทําแลวมัน...” ผมแสรงลอพี่เขากอนใบหนาหนุมใกล


วัยสามสิบจะงอนตุบปองเหมือนเด็กสามขวบ

“มันอะไร...ถาพูดไมถูกใจนี่จะโดนหนักนะจะบอกให” พี่เขายิ้มบางๆ ใหกับคําพูดของผม กอนเปลี่ยนมาขมขูแตก็ไมไดจริงจังมาก


หรอกครับ
ผมทําหนาเจาเลห โนมลําคอพี่ลงมาแลวกระซิบบอกวา “ก็นาลักพาตัวไปทําอยางอื่นมากกวาจูบไง”

ไอพี่ทองยิ้มกวางกอนครางฮึ่มๆ ในลําคอ “...หมั่นเขี้ยว เพราะปากอยางนี้ไงถึงไดนาจูบนัก” วาพลางใชมือก็ดึงแกมผมจนตึงไปหมด

จากกึ่งนั่งกึ่งนอนครอมตัวผมอยูพี่เขาก็เปลี่ยนมานอนเหยียดยาวบนเตียงขางๆ ผม “ความจริงพีม่ ีบางอยางอยากจะบอกวินดี้


ตัดสินใจอยูนานวาจะเลือกบอกดวยวิธีไหน สุดทายก็คิดวาใหวินดี้ไปเห็นดวยตาตัวเองนาจะดีกวา ความจริงพี่อยากรอใหรางกาย
วินดี้พรอมมากกวานี้...แตถาชากวานี้ก็คงจะสายเกินไป...” พี่มองเพดาน มือหนากระชับมือผมไวแนน ผมปรายสายตาไปทางพี่อยาง
สงสัย ความจริงอะไร แลวทําไมเวลาพูดไมมองหนาผม

“ทําไม พี่พาวินไปพบลูกเมียที่ซอนไวหรือ”

“เฮย...ไมม…
ี พี่ไมมีลูกเมียที่ไหนซอนไวทั้งนั้น...” ไอพี่ทองสะดุง รีบแกตัวเปนพัลวัน

“งั้นเรื่องอะไร”

“ก็อยางที่บอก พรุงนี้ออกจากโรงพยาบาลแลวพี่จะพาไป”

“ลับลมคมในจริงๆ แตก็เอาเถอะ ไวรอรูเองพรุงนี้ก็ได วาแตพอวินออกจากโรงพยาบาลแลววินขอไปอยูบานสักพักไดไหม” ตอนนี้ผม


กับพี่ไมตองแยกกันอยูแลวครับ

เมื่อวานลุงเรียวมาเยี่ยมและก็รูเรื่องของผมกับพี่แลวดวย แตลุงก็ไมไดพูดอะไรมาก แคบอกวาไอพี่ทองตั้งใจเปดเผยแบบนี้ก็ไม


จําเปนตองปกปดอะไรอีกแลว สวนเรื่องของบริษัทของพอที่เคยคุยกันคางอยูจะอธิบายใหผมเขาใจเมื่อออกจากโรงพยาบาลแลว ลุง
เรียวจะอยูไทยอีกพักใหญเพราะวาธุระสําคัญยังไมเสร็จ เห็นบอกวาคราวนี้ตองการความเห็นของผมในการตัดสินใจดวย

แตที่ขอไปอยูบานก็เพราะผมหวงเรื่องของตานิดหนอย ยิ่งเวลาใกลเขามาเทาไหรผมก็อยากใชเวลากับตาใหมากที่สุด สวนพี่ก็คง


เขาๆ ออกๆ บานผมได ผมคิดวาจะลองขอแมหากพี่อยากมาพักดวยจะอนุญาตไหม มันหวงหนาพะวงหลังครับ พี่ก็ไมอยากหาง ตา
ก็ไมอยากจากเชนกัน หากจะพักที่คอนโดตอนกลางวันพี่ไปทํางานผมก็กลับมาหาตาที่บานก็ลําบากไอพี่ทองตองใหคนคอยคุมกัน
อีก เลยตองพะวาพะวงกันหลายทอด สูตัดปญหาแบบนี้ดีกวา

“ถาวินดี้จะกลับไปอยูบาน พี่ก็จะไปดวย” นึกแลวเชียววาพี่เขาตองพูดแบบนี้

“ถาแมกับตาอนุญาต วินก็ไมมีปญหา” ผมก็เลยเปดทางใหเพราะผมก็อยากใหพี่มาอยูดวยเหมือนกัน

“พี่ครับ...” แตความรูสึกบางอยางที่คางคาใจอยูทําใหผมอยากระบายใหพี่ฟง
“วาไงครับ ที่รัก” ไอพี่ทองตะแคงขางมาทางผม มือปดปอยผมออกใหอยางออนโยน

“ตอนที่วินหลับไปนะ วินฝนเห็นพอกับตาดวยนะ” พี่เขามุนคิ้ว ขยับมาใกลผมมากขึ้น

“ฝนวายังไง”

“พอกับตามาหาวิน พอกอดวินแลวบอกวาคิดถึง ตาก็กอดวินแตบอกวาขอกอดเปนครั้งสุดทาย...” เมื่อผมพูดจบก็รูสึกถึงอาการ


ชะงักของพี่เขา ไอพี่ทองหยุดมือที่เกลี่ยไปบนใบหนาของผม นิ่งอึ้งไปครูใหญ

“แลวไงตอ” กอนพี่เขาจะเปลี่ยนมานอนหงาย เงยหนามองเพดาน แตมือหนาเลื่อนมากุมกระชับมือผมไวแนน

“วินก็โกรธที่ตาวาอยางนั้น ตาเลยงอ พาวินไปเที่ยวดูอะไรตออะไร แตสุดทาย ตากับพอก็จะไปจากวิน วินเลยขอไปดวย...โอย...” ผม


ตองหยุดเลาเพื่ออุทานออกมาเมื่อจูๆ ไอพี่ทองก็บีบมือผมแนนจนรูสึกเจ็บ

“...พี่ขอโทษ...เลาตอสิครับ...” พอพี่เขารูสึกตัวก็คลายมือออก แตยังไมยอมปลอยมือจากผม

“แตพอกับตาไมยอมใหวินไปดวย วินเลยกอดทั้งสองไวแนน จากนั้นวินก็ไดยินเสียงพี่เรียก คลายกับปลุกวินใหตื่น บอกใหลืมตา


อะไรแบบนี้แหละ แลวพอวินลืมตา พอกับตาก็หายไปเลย...พี่ครับ...” ผมเรียกพี่เขาพรอมกับคอยๆ ขยับเขาไปซบหนากับอกของพี่

“ครับ ที่รัก” พี่เขาหันมาโอบแผนหลังของผมไว ลูบชาๆ อยางปลอบขวัญ

“วินใจไมดีเลย ไมรูวาฝนแบบนี้หมายถึงอะไร วินเลยอยากกลับไปอยูบาน ไปอยูกับตา พี่เขาใจวินนะครับ”

“ครับพี่เขาใจ” พี่เขายืนยันกอนจะจูบหนาผากผมแลวบอกกับผมวา

“พรุงนี้ออกจากโรงพยาบาลแลว พี่จะพาวินดี้ไปหาตา”

วันนี้เปนอีกวันที่ผมเจ็บปวดมากที่สุดเพราะตระหนักไดวาการไดมองคนรักน้ําตาไหลพราก แตคําปลอบประโลมของผมกลับไมมีผล
ใดๆ นั้นมันทรมานขนาดไหน หลายวันที่ผานมาผมรองขอใหความเจ็บปวดของนองยกมาไวที่ผม วันนี้ผมก็ยังอยากใหคําขอนั้นเปน
จริงขึ้นมา

“ไม! ไมจริง! พี่โกหก!” รางบอบบางที่ยืนนิ่งเปนตุกตายามมองไปยังศาลาวัดซึ่งเปนที่ตั้งศพของตากับลุงหารอยูนั้นทําใหผมปวดราว

“วินดี.้ ..” ผมเดินเขาไปโอบนอง แตวินดี้กลับถอยหางจากผม คําปลอบประโลมที่ผมอยากพูดถูกกลืนลงคอเมื่อวินดี้ตะคอกหนาผม


เสียงดัง

“ไม! ไมจริง! พี่โกหก!” นองยังพูดประโยคเดิม มองหนาผมสลับกับโลงศพของตาดวยสายตารวดราว

“ไมใชหรอก จะเปนไปไดยังไง วันนั้นวินยังคุยกับตาอยูเลย ไมใชหรอก ไมใช....” นองยังพูดซ้ําๆ ปดการรับรู บอกตัวเองใหเชื่อในสิ่งที่


อยากใหเปน

“ไมใชหรอก ไมใชตา ไมใช” วินดี้ใชหลังมือปายน้ําตาออกอยางลวกๆ เสียงพึมพําบอกตัวเองอยางคนเสียขวัญทําใหผมดึงนองเขามา


กอด กดศีรษะวินดี้ใหซบกับไหลของผม สงสารจับใจ โธ...ที่รัก วินดี้ของพี่

“รองไหเถอะนะคนดี รองใหสมกับความเสียใจ รองใหพอ พี่จะอยูตรงนี้ อยูขางวินดี้ คอยเช็ดน้ําตาให”

“ฮึก...ฮึก...ทําไมถึงเปนแบบนี้ละ...ฮึก...ทําไม...วินไมเชื่อ...ไมจริง...”

“ไมเปนไรครับ ไมเชื่อก็ไมเปนไร ถาวินดี้ไมอยากเห็น ไมอยากรู เราก็กลับกันกอน วินดี้อยากกลับบานหรือคอนโด หรืออยากไปไหน


บอกพี่ เดี๋ยวพี่พาไปนะครับ หือ...วาไงครับ วินดี้อยากไปไหน” นองสายหนาอยูกับไหลของผม น้ําตากับเสียงสะอื้นของนองมันชาง
บาดใจผมเหลือเกิน

ผมชอนรางของวินดี้ขนึ้ เขาใจแลววาวินดี้ไมตองการคําปลอบโยน ไมตองการคํายืนยันวาตาตายไปแลว ไมตองใหบอกวาทําใจ เกิด


แก เจ็บ ตาย เปนเรื่องธรรมดา หรือจะพูดงายๆ วา ไมตองมาย้ําใหปวดใจเพราะนองรูแลวนั่นเอง!

ผมมองไปทางครอบครัวของนองซึ่งมองมาที่เราทั้งคูดวยสายตาหวงใย แมของวินดี้ทําทาจะเดินเขามาหานองแตก็ถูกพอเลี้ยงรั้งไว
เธอซบหนาลงกับฝามือตัวเอง คงทรมานแทบขาดใจที่เห็นลูกในอกเจ็บปวดอีกครั้ง ตรินซึ่งยืนอยูไมหางสงสายตาหวงใยมาให ผม
รับรูไดวาทุกคนกําลังฝากความหวังไวที่ผม

กอนที่ผมจะตัดสินใจพาวินดี้มาพบกับตาในวันนี้ ผมไดรับรูความจริงที่เจ็บปวดอีกอยางเกี่ยวกับนอง ความจริงที่บอกวานองหัวใจ


แหลกสลายแคไหนในวันที่สูญเสียพอไป

เมธเลาใหฟงวาคราวนั้นทุกครั้งที่ใครสักคนเขาไปใกลแลวบอกใหวินดี้ทําใจ นองจะตะคอกใสทั้งๆ ที่น้ําตายังรินไหล “รูแลว ไมตอง


มาย้ํา!” นั่นคือคําที่ทุกคนไดยินพรอมกับเสียงสะอื้นไหอยางโศกเศรากอนเสียงกรีดรอง จิกทึ้งหัวตัวเองอยางคนควบคุมตัวไมไดจะ
เกิดขึ้น

ตรินบอกวาตองคอยนั่งอยูขางๆ วินดี้ตลอดเวลาเพราะเมื่อใดที่เสียงแววเกี่ยวกับการตายของพอดังขึ้นวินดี้จะทํารายตัวเอง กัดริม


ฝปาก กัดลิ้น หรือโขกหัวกับพื้น หลายครั้งที่ทุกคนพยายามดึงวินดี้ใหหางจากโลงศพของพอ แตก็ตองลมเหลวเพราะนองอาละวาด
อยางหนัก หามไมใหใครเขาใกล
ลูกแพรเลาใหฟงวาเวลาที่มีใครสักคนขอรองใหวินดี้พักผอนบาง กินอาหารบาง วินดี้จะคว่ําจานขาวใสหนา สาดน้ําแกงทิ้ง กอนจะ
คลุมคลั่ง พูดจาหยาบคาย ดากราดไมวาจะหัวดําหรือหัวหงอก

สวนแมของวินดี้นั้นนองไมใหเขาใกลแมแตนอย สายตาที่มองไปยังผูใหกําเนิดเต็มไปดวยความเกลียดชัง นอกจากวินดี้จะโทษตัวเอง


ที่เปนตนเหตุใหพอเสียชีวิตแลว แมคืออีกคนที่ทําใหพอถึงจุดจบของชีวิต

หลังจากงานศพของพออาการของนองก็เปลี่ยนไปในทางตรงกันขาม วินดี้ซึมเศรา ไมพูดไมจา นัยนตาเลื่อนลอย ตัดขาดตัวเองกับ


ครอบครัวทางแมและปฎิเสธที่จะไปอยูกับญาติทางพอ นองยายออกมาอยูตามลําพัง ทําตัวสันโดษ ขังตัวเองอยูในหอง จนลุงเรียว
ตองสงจิตแพทยมาคอยดูแลอยางใกลชิด

เทาที่ฟงมาทําใหผมแทบไมอยากนึกเลยวาสภาพจิตใจของนองจะเปนอยางไรหากคราวนี้วินดี้รูเรื่องการตายของตา ที่ทําไดก็คือการ
หลีกเลี่ยงไมใหสิ่งใดมากระทบกระเทือนจิตใจนอง ซึ่งก็พอจะเรียนรูไดจากอดีต วินดี้ไมชอบใหใครปลอบวาตาไปสบายแลว ผมก็จะ
ไมพูด วินดี้ไมชอบไดยินเรื่องการตายของตา ผมก็สั่งใหทุกคนปดปาก วินดี้จะไมยอมหางจากโลงศพของตา นั่งเฝาไมหลับไมนอน
ผมก็พานองมาหาตาในวันสุดทาย วินดี้ไมชอบยามที่ใครบอกใหรักตัวเอง ใหกินขาว ใหพักผอน ผมก็จะไมบอกแตจะแสดงออกให
นองรูวา ผมและคนอื่นๆ นั้นรักนองแคไหน

“ถาวินดี้ไมอยากไปไหนตอนนี้ เราก็ไปหามุมเงียบๆ นั่งกอนนะครับ” ผมกมกระซิบกับคนในออมแขน มองไปทางครอบครัวของนอง


นิดหนึ่งกอนจะหมุนตัวจากไป ผมเดินเลียบออกมาทางดานขางของวัด ผานตนสาเกซึ่งเรียงรายตลอดความยาวของกําแพง
จนกระทัง่ ถึงศาลาใตตนลีลาวดี ผมวางนองลงกอนจะนั่งลงขางๆ วินดี้

ผมมองคนรักดวยสายตาสงสาร ทรมานเหลือเกิน นองเจ็บแตผมเจ็บกวาที่ชวยนองไมได “อันนี้เขาเรียกวาดอกอะไรนะ...” ผมพูด


แทรกเสียงสะอื้นของนอง กมลงไปเก็บดอกลีลาวดีที่หลนอยูบนพื้น

“ปรกติดอกไมกอนรวงโรยมันตองเฉากอน แตเจานี่แปลก ถึงจะหลนจากตนแตก็ยังสวยงาม” ผมหยิบหลายๆ ดอกมากองไวขางๆ


วินดี้

“...พี่ครับ...บอกวินสิวาพี่โกหก...มันไมใชเรื่องจริง...บอกวินสิ...” นองเงยหนาขึ้น พูดกับผมทั้งน้ําตาอาบหนา ผมเกลี่ยน้ําใสๆ ออกไป


จากดวงตาของนอง

สภาพจิตใจของวินดี้ตอนนี้การบิดเบือนคําพูดคงจะเปนทางเลือกเดียว หากผมยังคงยืนยันบอกวาตาตายแลว วินดี้คงจะแสดง


อาการตอตานอยางเมื่อครั้งที่พอของนองจากไป บางคนจิตแข็งรับความจริงได แตบางคนจิตออน ตองการเวลาสักระยะเพื่อทําใจ
วินดี้จัดอยูในประเภทที่สอง นองรูความจริง แตยังไมพรอมที่จะยอมรับมัน

“ใชแลวครับพี่โกหก ใครบอกวาตาตายแลว ตาไมไดไปไหนสักหนอย ตายังอยูกับวินดี้ แคตอจากนี้วินดี้จะมองไมเห็นตาเทานั้นเอง


วินดี้ดูดอกไมนี่สิ เวลาอยูบนตนมันสวยงาม แลวพอเวลาหลนจากตนมันก็ยังงดงามอยู ตาก็เหมือนกัน ตอนอยูกับวินดี้ตาก็รักและ
หวงใยวินดี้เสมอ แลวพอถึงวันที่วินดี้มองไมเห็นตา แตความรักของตาก็ยังคงงดงาม วินดี้ก็ยังสัมผัสได” ผมลูบหัวนองเบาๆ ขณะพูด
วินดี้มองดอกลีลาวดีผานมานน้ําตา สะอึ้นฮักๆ อยางคนเสียขวัญ

“ฮึก...ตาไมไดจากวินไปไหน...ฮึก...แตวินแคมองไมเห็น...ฮึก...” นองทวนคําพูดผม

“ใชครับ ความรักของตาไมไดจากวินดี้ไปเลย ตาพูดอะไรกับวินดี้ในฝนนะ ที่วินดี้เลาใหพี่ฟงวาความรักไมสลาย พี่อยากฟงอีกครั้ง


วินดี้ลองบอกพี่อีกทีสิครับ” นองกลั้นสะอื้น ทําทาครุนคิดตามคําพูดของผม

“ถึงวินจะมองไมเห็น...ถึงตาจะจากไป...แตตาจะอยูในใจวินเสมอยามเมื่อนึกถึง...ความรักของตาที่มีให...ไมมีวันสูญสลาย...ฮึก...
ฮึก...ฮือ...” พอพูดจบนองก็ปลอยโฮออกมาอีกครั้ง

“ใชแลวครับ ถึงจะมองไมเห็น แตความรักของตาก็อยูกับวินดี้ ไมมีวันสูญสลาย” ผมย้ําคําพูดของตาซึ่งบอกกับนองพรอมกับออน


วอนขอความรักของตาไดโปรดโอบอุมยอดดวงใจของผมดวยเถอะ ขอความรักของตาชวยมาหมใจพรอมกับมอบความเขมแข็งให
นองดวย

“ที่รักครับ มองพี่สิ ถึงตาจะไมอยูแลว แตวินดี้ยังมีพี่ มีแมที่รักวินดี้มาก...”

“และก็ยังมีกูดวย” ผมหยุดพูดเมื่อเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมาทางดานหลัง ผมกับนองมองไปยังที่มาของเสียง เห็นเมธยืนอยูหนาศาลา


ลูกแพรอยูดานซาย สวนตรินยืนอยูดานขวา ปรินยืนถัดจากตริน

“ลูกแพรก็อยูกับกุล” ลูกแพรกลาวเสียงสั่น มือเกาะแขนของเมธไวแนน

“พี่ก็ดวยนะครับ นองกุลยังมีพี่ มีปริน” ทั้งน้ําเสียงและแววตาของตรินเต็มไปดวยความรักและเขาใจ

“ไมรูวาอยากใหอยูดวยไหม แตหนาดานอยากอยู กุลคงไมวานะ” ปรินยักคิ้ว ทําหนากวนๆ

“เมธ...ลูกแพร...ตริน...ปริน...” นองเรียกชื่อของคนสําคัญของนองซึ่งกําลังเดินเขามาในศาลาและหยุดอยูตรงหนาพวกผม

“กูเคยบอกมึงแลวนี่วาถาเจ็บอยากรองไหก็รองออกมาเถอะ รองใหพอใจ แตอยาลืมวาน้ําตามันชวยแกปญหาอะไรไมได แตเมื่อมึง


ยังไมพรอมจะเผชิญหนากับความจริง กูก็อยูตรงนี้ อยูขางๆ มึง”

มือของเมธลูบหัวนองเบาๆ ขณะพูด วินดี้โอบเอวเมธไว กําลังจะซบหนากับหนาทองของเมธ นองก็เปลี่ยนใจเอื้อมมืออีกขางมาโอบ


เอวตรินซึ่งยืนอยูขางเมธ แลวพอเอียงหนาไปทางลูกแพร วินดี้ก็ละมือจากเอวเมธ ไปโอบหญิงสาวไวแทน กลายเปนวาทั้งสามถู
กวินดี้กอดไว เหลือเพียงผมกับปรินที่ยังไมมีสวนรวม และเหมือนนองจะรูตัว วินดี้ปลอยมือจากเอวของตรินไปโอบปรินแทน สวนตัว
ผมขยับเขาไปใกลนอง โอบเอววินดี้ไวอีกทอด

ถามองจากไกลๆ คงมีคนสงสัยวาหกคนนี้กอดกันทําไม แตสําหรับพวกเราคงไมตองอธิบายอะไรออกมาเพราะความรูสึกเดียวกันมัน


ถายทอดทางดวงตา

“เขมแข็งและจงจําไววาตราบใดที่สายลมไมมลายไปจากโลกนี้ วินดี้ก็จะไมเดียวดาย ขางกายจะยังมีรักที่โอบอุมนองไว จากพี่ จาก


เพื่อน จากครอบครัว จากตา จากพอ จากทุกคนซึ่งรักและหวังดีกับวินดี้เสมอ” นั่นคือสิ่งที่ทุกคนสื่อไปถึงนองและวินดี้กําลังซึมซับมัน
อยางชาๆ พรอมกับเยียวยาหัวใจของนองใหแข็งแกรงขึ้น

“ตาจะอยูในใจกุลเสมอ...หลับใหสบายนะครับ...” และนี่คือคํายืนยันวาอนุภาพของความรักทําไดทุกอยาง ถึงแมขณะพูดน้ําตาของ


นองจะยังรินไหลไมขาดสาย แตวินดี้ก็มายืนพรอมกับทุกคน มองควันไฟสีขาวที่ลอยไปบนฟา กลาวคําลากับรางของตาที่กําลังถูก
เผา

...ถึงตาจะจากไปแตก็ทงิ้ ความรักไวเบื้องหลัง รักที่อยูในสายลม ไมวานองจะอยูที่ไหน แคหลับตาวินดี้ก็จะสัมผัสกับรักได...

ถึงแมงานศพของตาจะผานพนไปพรอมกับวินดี้ที่เขมแข็งมากพอจะเดินไปวางดอกไมจัน มองหนาตาและกลาวคําลาเปนครั้งสุดทาย
แตสภาพจิตใจของวินดี้ยังคงไมปรกติ หัวใจของนองยังคงบอบซ้ําอยูมาก ยามใดที่วินดี้อยูคนเดียวนองจะเกิดอาการซึมเศรา มองไป
ขางหนาอยางเลื่อนลอย น้ําตาไหลออกมาโดยที่นองไมรูตัว ความหวาดกลัวจากการตื่นขึ้นมาแลวพบวาไดเสียคนสําคัญไปทําให
วินดี้หวาดผวาตลอดเวลา

“พี่ครับ!...พี่อยูไหน!...ฮือ...ฮือ...ไอพี่ทอง!...อยูไหน!” นี่คือหนึ่งอาการที่สะทอนสภาพจิตใจของวินดี้ยามนองตื่นแลวไมเห็นผม นอง


จะเรียกหาอยางเสียขวัญ รองไหจนตัวโยน ความกลัวจากการสูญเสียยังคงตามมาหลอกหลอน มันยังคงเปนฝนรายที่ฝงรากลึกลงไป
ในจิตใจ

“ที่รักครับ...พี่อยูนี้...อยูนี่ไงครับ...ไมรองนะ...ไมรอง...” ไมวาจะทําอะไรอยูผมตองวางทุกอยางลง รีบมาปลอบนองดวยคําพูดและ


สัมผัสรางกายใหวินดี้รูวาผมอยูกับนองจริงๆ

“วินดี.้ ..อยูไหน...” สวนนี้เปนอาการของผมเมื่อตื่นขึ้นมากลางดึกแลวขางกายวางเปลา นึกคิดไมนานก็งัวเงียลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไป


ยังจุดหมายซึ่งก็คือหองของตา ทุกคืนหากเกิดเหตุการณแบบนี้ขึ้นผมจะพบนองที่นั่น วินดี้จะนั่งหลับบนเกาอี้มาโยกของตาบาง บน
เตียงบาง หรือไมก็มุมใดมุมหนึ่งในหองนั้น

“แมไปไหน...พอทินไปไหน...ตรินไปไหน...ปรินไปไหน...” และนี่คืออีกหนึ่งความหวาดระแวงที่ตามมา หากคนใดคนหนึ่งในบาน


หายไป วินดี้จะถามถึงทันที

“กุลทําอะไรอยูแมเขาไปไดไหม...กุลเห็นบอกวาอยากวาดรูป พอเอากระดาษกับสีมาให...กุลปรินจะไปทํางานแลวฝากรดน้ําเจาชาง
ใหดวย...กุลพี่จะทําตะโกอยากลองทําดูไหม...” สวนนี้เปนอาการของทุกคนที่ตองรายงานตัวกับนอง สื่อความรักความหวงใยผาน
คําพูดและการกระทํา

“ที่รักวันนี้ปาเข็มทําอะไรกินเอย ปะ...เราไปเปนลูกมือชวยปาดีกวา จะไดบังคับปาใหทําอาหารโปรดพี่” สวนผมตองเขาบานเร็วกวา


ปรกติเพื่อมาใหทันเวลาทํากับขาวของปาแมบาน

“คุณกุลคะ ชิมหมูทอดใหปาหนอย รสชาติมันใชไดไหม” ระหวางทําอาหารลูกมือตัวนอยมักจะถูกวานใหชิมโนนชิมนี่เสมอ

“นองกุล คะนามันกรอบหรือเปลา ลองชิมใหพี่ที” หากเปนอาหารเที่ยงตรินจะชวนนองเขาครัว และวินดี้ก็ยังเปนหนูทดลองอาหาร


เชนกัน...กวาอาหารจะตั้งโตะ วินดี้ก็อิ่มไปแลวเรียบรอย

“ตอนนี้พออยูไหน” ไมใชแคคนในครอบครัวนองเทานั้นที่วินดี้ถามถึงเพราะแมกระทั่งพอผม นองก็ไมเวน ดวยความขี้ออนของนอง


และอาการเหอลูกชายคนใหมของพอ ทําใหพอสงคนมารับนองไปกินขาวเที่ยงดวยเสมอ หรือบางครั้ง

“ลูกกุลวันนี้คางที่บานพอนะ” หาทางเอานองกลับบานดวย แรกๆ วินดี้ก็ไมกลาเทาไหรนัก หากแตผมพาเขาบานบอยครั้ง นองก็ดู


เปนตัวของตัวเองมากขึ้น จนเดี๋ยวนี้วินดี้รูจักบานผมทุกซอกทุกมุม หลับตาเดินในบานไดสบายๆ เลยทีเดียว

หากมองในแงลบอาจเห็นวาจิตใจของนองยังออนแอนัก นองยังตองการหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ มองไปยังมุมของวินดี้อาจจะดูนา


สงสาร แตหากมองภาพโดยรวมแลว นองกลับเปนศูนยกลางของทุกคนๆ เปนที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ อาการออนแอของวินดี้กลับเปน
ประโยชนสําหรับ แมของนอง พอเลี้ยง ตริน ปริน และทุกคนในบานซึ่งพึ่งผานการสูญเสีย

การทีท่ ุกคนตองคอยเอาใจวินดี้และอยูพรอมหนากันยามนองถามถึงทําใหคนในบานใกลชิดกันมากขึ้น ชวยเติมเต็มความรูสึกที่ขาด


หายใหแกกันและกัน ยามวางก็มักหากิจกรรมทํารวมกัน สิ่งเหลานี้ชวยทําใหคําวา “ครอบครัว” สมบูรณและเชื่อมโยงทุกคนใหเปน
หนึ่งเดียวกัน

นอกจากคนในบานแลวอีกหลายคนก็ยังไดรับประโยชนจากนองเชนเดียวกัน ยกตัวอยางเชน

“เมธอยูไหน ทําไมวันนี้ไมมาละ” เพื่อนสนิทนองก็ถูกถามถึงทุกวัน พรอมกับ “เมธ วันนี้มากินขาวเที่ยงดวยกันนะ กูเขาครัวเองนะ


เวย” พอถูกเรียกเมธมันก็หนาบานมาทันที ไมใชดวยกับขาวที่นองทําหรอก หากแตเปนคนที่สอนวินดี้ทํากับขาวตางหาก

กอนหนานั้นเมธมาบนใหฟงวาถูกตรินปรามที่มาปวนเปยน กวนเขาทุกวัน แถมยังไมยอมไปภูกระดึง หรือชวนไปไหนตรินก็มัก


ปฏิเสธโดยอางวาตาพึ่งเสียเลยไมอยากสนุก รื่นเริงเกินไป แตตอนนี้เมธมากระซิบกับผมวา
“กุลนี่มันเปนเทวดาจริงๆ เลยนะพี่ ขออะไร มันเสกใหไดหมดเลย” มันคือเรื่องจริงโดยแทเลยครับเพราะหากจับจุดไดและใชเลห
เหลี่ยมนิดหนอย เมธก็สามารถบงการตรินได โดยใหวินดี้ออกหนาให

“ตรินรูไหม เวลามันไมคอยใครนะ หากวันหนึ่งตองตื่นขึ้นมาแลวพบวาเราไมมเี วลาไดทําสิ่งที่อยากทําแลวจะมาเสียใจทีหลังไมได


เพราะฉะนั้นตรินอยาไวใจเวลา เขาใจไหม” ผมบอกใหเมธไปเปาหูวินดี้ บนๆ ใหนองฟงวาตรินปดกั้นความรูสึก เดี๋ยววินดี้ก็จัดการ
เรื่องของตรินใหเอง ซึ่งก็เปนอยางที่ผมคิดไว เมื่อตรินขานรับคําพูดของนอง วินดีก้ ็ออกคําสั่งตามที่เมธไปรองเรียนทันที

“ตรินไปดูหนังกับเมธเลยนะวันนี้ ดูแลวมาเลาใหกุลฟงดวย เดี๋ยววันหลังกุลจะไปดูบาง” ตอนนี้ใครก็ไมกลาขัดใจวินดี้ทั้งนั้น แลวตริ


นซึ่งแครความรูสึกของนองอยูแลวมีหรือจะกลาปฏิเสธ อยางที่บอกวาพอจับจุดได เมธก็ไดรับประโยชนไปเต็มๆ มันเขานอกออกใน
บานวินดี้โดยที่ไมตองเกรงใจใคร หากมากเกินไปจนตรินไลกลับ มันก็เถเอานองมาอางวาวินดี้ถามถึงมัน ขอใหมันมาเอง

แตบางครั้งเทวดาตัวนอยของทุกคนก็แผลงฤทธิ์ไดนาหมั่นเขี้ยวเหมือนกัน “เมธดึกแลวคางที่นี่เลยนะ” หลังจากเมธเออระเหยอยูจน


ดึกนองก็ชวนมัน แตผมคิดวาคงเปนแผนของมันแหละครับ มันคงไปเปาหูนองอีกแนๆ ...แคมองตาเดียวก็รูแลววามันคิดอะไรอยู
หลังจากวินดี้พูดจบตรินก็ทําหนาผะอืดผะอมทันที สวนเมธมันยิ้มหนาบาน นัยนตาวาววับ ผมสายหนาอยางระอาหนอยๆ รูสึกวาไอ
นี่ ไดคืบจะเอาศอก

“คืนนี้ก็นอนกับไอพี่ทองแลวกันเพราะวากูจะนอนกับตริน” เมธหุบยิ้มฉับ จากหนาบานระรื่นเมื่อสักครูเปลี่ยนมาทําหนาปุเลี่ยนแทน


สวนตรินอมยิ้ม มองเมธอยางเปนตอ สวนผมอึ้งครับ

“นอนกับพี่คินนี่นะ ฟาผาตายพอดี” เมธประทวง ผมพยักหนาเห็นดวย

“นอนดวยกันเฉยๆ ฟาจะผาทําไม หรือมึงกับไอพี่ทองจะไมนอนดวยกันเฉยๆ” นองถาม มองผมกับเมธดวยสายตาสงสัย ผมสะดุง


เมธสายหนา พึมพําวานอนก็นอน

“คืนนี้พี่ลากเมียพี่ออกจากหองตรินเลยนะ” พอไดโอกาสมันก็มาเขนเขี้ยวใสผม

“เมียกูก็เพื่อนมึง แลวก็รูนี่วาขัดใจวินดี้ไดที่ไหน” ผมดามันคืน อยากโลภมากก็อยางนี้แหละ รูอยูวานองฉลาดขนาดไหน เลหเหลี่ยม


แบบเดิมๆ ใชกับวินดี้ไมไดหรอก และตอนนี้วินดี้กําลังเลนบทดื้อตาใสอยู รูบางหรือเปลา ดูนองสิ นองมองผมตาวาววับเลยทีเดียว
คงคิดวาผมอยูเบื้องหลังแนๆ

คืนนั้นเมธก็ไดคางบานนองสมใจครับ แตไมใชกับผมเพราะจะใหมันมานอนดวยก็คงไมไหว เลยใหเด็กจัดอีกหองให สวนวินดี้ก็ไป


คางกับตรินจริงๆ นั่นแหละครับ ทวาพอตกดึกผมก็ไปอุมวินดี้กลับมานอนที่หอง

“ทําไมวินกลับมานอนที่หองไดละ” นองถามเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเชา
“พี่ไปอุมวินดี้มาเองละ กลัวตื่นมาไมเห็นพี่แลวจะเรียกหาอีก” ผมก็อาศัยจุดออนของนองมาอางเหมือนกันครับ เรื่องอะไรผมจะ
ปลอยใหความซื่อบื้อของไอเมธมาทําใหขางกายผมวางเปลา ผมยังมีทางเลื้อยได ก็จะเลื้อยตอไปครับ

นอกจากเมธแลวรันยังเปนอีกคนที่ไดรับผลประโยชน “พี่รัน กลับไปไดแลว” ปรินมันแวดใสรันเมื่อเขาออยอิ่งไมยอมกลับ

“จะกลับไดไง ยังไมไดกินขาวเลย” นองแยง

“ไปกินที่บานตัวเองสิ” ปรินมันยังไมลดละ

“กุลชวนพี่รันกินขาวดวย พี่รันเปนแขกของกุลนะ ปรินจะมาไลไดยังไง” นองหนาบึ้งอยางไมพอใจ ปรินถอนหายใจแรงๆ กอนจะยอม


ตามใจนอง สวนรันอมยิ้มอยางพอใจ

เรื่องของรันกับปรินเปนอีกคูที่วินดี้เปนตัวเชื่อมให เนื่องจากรันพูดกับนองวาปรินไมยอมใหเขาบานโดยอางวารันเปนแคคูควง เดี๋ยว


พอเบื่อก็เลิกกันไป ปรินไมอยากยุงยากทีหลัง แตผมคิดวาปรินกําลังปฏิเสธใจตัวเอง ไมอยากยึดติดกับรันมากเกินไป เลยทําตัว
เหมือนพรอมจะไปจากรันทุกเมื่อและหยุดความสัมพันธใหอยูแคคูนอน

วินดี้เปรยกับผมวาไมสบายใจเลยที่ปรินพูดกับรันแบบนั้น แตนองไมกลากาวกายเพราะเคารพการตัดสินใจของปริน ในเมื่อปรินไมอ


ยากแนะนํารันกับครอบครัวก็เปนสิทธิ์ของปริน แตผมบอกวินดี้วาใหลองสังเกตปรินดูแลวกันวาคิดกับรันแคคูนอนจริงหรือ สวนรันคง
ไมตองพูดอะไรเพราะเขาแสดงออกอยูแลววาจริงจังกับปรินเกินกวานั้น ดวยความใจออนของนอง รันเลยไดเขาบานปรินสมใจ สวน
ปรินฮึดฮัดไปตามเรื่องตามราวแตกแ็ คนั้น เพราะเขาเปนอีกคนที่ไมกลาขัดใจวินดี้ในเวลานี้

สวนผมไดรับประโยชนเต็มๆ จากผลสะทอนกลับของนองเชนเดียวกัน ปรกติวินดี้จะขี้ออนอยูแลว แตตอนนี้นองขี้ออนมากขึ้นหลาย


เทา ไมเคยหวงผม นองก็หวงและหวงอยางออกนอกหนา เมื่อกอนแทบนับครั้งไดที่วินดี้จะโทรหาผมกอน แตเดี๋ยวนี้นับครั้งไมถวนที่
วินดี้เปนฝายโทรหาผม มากไปกวานั้นนองติดผมมากเลยทีเดียวอยางวันนี้ วินดี้ก็ขอมาทํางานกับผม

“พี่ครับ...พี่อยูไหน...” เห็นไหมครับ พอตื่นก็เรียกหาผมเลย

“ทางนี้ครับที่รัก” กินขาวเที่ยงแลววินดี้เผลอหลับที่โซฟา ผมเลยอุมนองไปนอนในหองซึ่งติดกับหองทํางานของผม ผมลุกขึ้นเดินเขา


ไปหานอง วินดี้ยกมือขึ้นเปนเชิงบอกใหอุมหนอย ผมยิ้มบางๆ กอนจะโอบเอวนองแลวยกขึ้น วินดี้เกี่ยวขารอบเอวผม สองแขนโอบ
คอผมไว ซบหนาลงกับไหล ผมปรายสายตาไปทางดานหลังเห็นคนอื่นๆ ที่นั่งประชุมกันอยูหลบตาลงต่ําอยางรักษามารยาท

“เพิ่งหลับไปแปบเดียวเอง ทําไมตื่นเร็วจัง” ผมหันกลับมาทางนอง กระซิบถามพรอมกับลูบหลังวินดี้เบาๆ


“อืม...” นองขานรับเบาๆ ตายังหลับพริ้ม

“หึหึ...จะหลับตอบนตัวพี่หรือครับ” ผมโยกตัวไปมาอยางตองการกลอมอีกฝาย

“เดี๋ยวไปนอนตอบนเตียงดีกวานะ”

“ไมเอา” นองปฏิเสธทันทีเมื่อผมพูดจบ

“ไมอยากนอนคนเดียว” นองพูดตอ

“ถางั้นรอเดี๋ยวนะครับ” ผมพูดพลางหอมแกมนองอยางหมั่นเขี้ยว พูดแบบนี้หมายความวาใหผมไปดวยใชไหม ยิ่งนับวันยิ่งขี้ออนเขา


ไปใหญ ผมหันไปยังคณะที่มาประชุม

“คุยกันไปกอน เดี๋ยวฉันมา” ผมบอกกอนหมุนตัวพานองกลับไปยังหองพัก วินดี้ชะงักไปครูหนึ่งกอนจะเงยหนาจากไหลผม เหมือน


นองจะมองไปทางดานหลัง แตคงไมทันไดเห็นอะไรเพราะวาประตูหองปดเสียกอน

“เออ...มีคนอื่นอยูในหองดวยหรือ” นองถามดวยน้ําเสียงไมแนใจ คงอายขึ้นมาตงิดๆ แลวละมั้งนะ

“กําลังปรึกษากันนิดหนอยครับ” ผมเรียกคนเกาแกของพอมาประชุมเพื่อถามใหแนใจกอนตัดสินใจทําบางอยาง ซึ่งจะทําใหเกิดการ


เปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญระหวางสองตระกูล

"วินกวนพี่หรือเปลา...” นองพูดดวยน้ําเสียงไมแนใจขณะผมวางนองลงบนเตียง มือของนองยังโอบลําคอผมไว นัยนตาฉายแววกังวล


อยางเดนชัด

ผมกมลงจูบหนาผากนอง “ใครวาละ วินดี้ชวยพี่ตางหาก กําลังปวดหัว อยากพักอยูพอดีเลย”

“งานมีปญหาอีกแลวหรือครับ” แววกังวลยังเดนชัดในดวงตาของนอง

เนื่องจากปญหาเรื้อรังกับชินกฤษทําใหผมสะดุดบางเล็กนอย อยางที่พอบอกพวกเราเขนเขี้ยวกันมานาน มันลมพอไมไดและพอก็ลม


มันไมไดเชนเดียวกัน พอมาถึงรุนผมเรื่องความขัดแยงไดรุนแรงขึ้น เมื่อตางฝายตางไมยอมกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องมันยังลามปามเขาสู
เรื่องสวนตัวเมื่อมันประทุษรายคนรักของผม ผมจึงจัดการคนรักของมันเชนกัน แทนที่จะมีใครยอมใครมันกลับเติมเชื้อไฟใหแรงขึ้น
ภาคินบาคลั่งพอๆ กับผม ทางโนนตอบโตแบบตาตอตา ฟนตอฟน ผมสั่งเผาโรงงาน มันก็ลักลอบมาเผาโรงงานผม สวนกลับอยางไม
กลัวเกรง ทําใหธุรกิจของทั้งสองฝายชะงัก แผนที่วางไววาจะพานองไปพักผอนเปนอันลมเหลวเพราะผมตองตามเก็บกวาดความ
เสียหายที่เกิดขึ้น
“ไมมีอะไรนาหวงหรอกครับ วาแตวินดี้งวงไมใชหรือ หลับเถอะนะ ไมตองกังวลเรื่องงานพี่หรอก”

“วินไมงวงแลว พี่ทํางานตอเถอะครับ” ผมยิ้มใหนอง ถึงวินดี้จะเอาแตใจบางแตนองไมเคยทําตัวเปนภาระเลย

“ใหพี่ไปจริงหรือ...เอาอยางนี้ดีไหม...วินดี้ไปกับพี่ดวย” บางอยางที่ผลุดขึ้นมาในหัวทําใหผมชวนนองไปนั่งฟงกับผมดวย

“เอ...จะดีหรือ วินนอนเลนในนี้ดีกวา ไมอยากกวน อีกอยางวินเปนคนนอก คุยอะไรกันก็คงไมรูเรื่อง”

“ใครวาละ ไปเถอะครับ พี่วาวินดี้ควรรู ภายภาคหนามันจะเกี่ยวกับวินดี้เต็มๆ เลย”

“หือ...” นองเอียงหนามองผมอยางสงสัย แตผมไมไขความสนใจนองแตอยางใด ลอเหยื่อครับ ยิ่งวินดี้อยากรูก็งายที่จะกลอมนองไป


ดวย

“เออ จริงสิ ไหนบอกวาอยากเจอรามิลไง เขาก็อยูขางนอกเหมือนกันนะ”

“เอะ พี่มิ้นก็อยูหรือ” วินดี้มีทาทีตื่นเตนขึ้นมา ผมพยักหนาแทนคําตอบ เนื่องจากนองถามถึงรามิลเมื่อวันกอนครับ ผมเลยเรียกตัว


เขากลับมา อีกอยางผมคิดวางานนี้รามิลนาจะเหมาะที่สุด ถือเปนการแกมือที่เขาทําพลาดครั้งที่แลวดวย

“อืม...งั้นไปก็ได แตถาวินนั่งหลับอยามาโทษกันนะ” ผมหัวเราะ

“เชื่อพี่เถอะ วินดี้ไดนั่งตาแปว ตั้งใจฟงแทนนั่งสัปหงกแนๆ วาแต จะใหพี่อุมเหมือนตอนขามาหรือวาจะ...”

“บาสิ...เดี๋ยววินเดินไปเอง” วินดี้คอนขวับ ทวาใบหนากลับขึ้นสีระเรื่อ

“หึหึ...ครับๆ เดินไปเอง” ผมหัวเราะ สงมือใหนองจับกอนจะออกแรงดึงใหวินดี้ลุกขึ้น จากนั้นก็ไปยังหองทํางานผมซึ่งคนอื่นๆ รออยู

ปรกติแลวหากไอพี่ทองชวนผมไปกินอาหารตางชาติทางฝงยุโรปผมจะสายหนาปฏิเสธทันที แคไดกลิ่นชีสกับเนยผมก็ขยาดแลว มัน


บอกไมถูกวาทําไมถึงไมถูกโฉลกกับสองสิ่งนี้ แตจะเรียกวาเกลียดเลยก็ไมนาจะใช แปลกไหมครับหากผมบอกวาไมชอบชีสแตชอบ
กินพิซซา เอะยังไง...ยิ่งพูดก็ยิ่งงงตัวเอง จําไดวาไอพี่ทองสายหนาแบบขําๆ เมื่อผมเอยปากอยากกินพิซซาในวันหนึ่ง

“พิซซามันตองใสชีสนะครับ ที่รักจะกินไดหรือ” พี่เขาถามอยางไมแนใจปนหวงใยอยูในที

“ใสชีสเยอะๆ นั่นแหละวินชอบ” พอผมตอบออกไปพี่เขาก็ทําหนาเออไปเลย


อะนะ...มันตองมีคําอธิบายใชไหมวาทําไมถึงไดเปนแบบนี้ เอาเปนวาผมกินชีสสดไมได อยางที่เปนกอนแลวเขาขูดโรยหนาสปา
เก็ตตี้ หรือสลัดอะไรพวกนั้น ผมไมแตะเลยครับ คือยังไงดีละ...ผมวากลิน่ มันคลายกลิ่นอาเจียนของเด็กออนเวลาสํารอกนมออกมา
มันจะเหม็นๆ เปรี้ยวๆ ยังไงก็ไมรู อันนี้คือความเห็นสวนตัวผมนะครับ คนอื่นอาจคิดวาหอมแตผมวามันเปนกลิ่นไมพึงประสงค

แตถาเปนชีสที่ผานการปรุงแลวก็กินไดครับเพราะกลิ่นมันไมแรงเทาไหร อยางพิซซานี่ไมมีปญหาเลย แตก็มีขอยกเวนอีกนั่นแหละ


ครับ ถาเปนชีสที่ถูกความรอนแลวละลายผมก็กินไมได อยางพวกมักกะโรนีอบชีสอะไรพวกนั้น ฟงแลวงงไหมครับ ตัวผมเองก็เริ่ม
มึนๆ แลวเหมือนกัน จะกินชีสทั้งทีก็ยุงยากเหลือหลาย ตองดูสกุลรุนชาติ อบแลวละลายไหม หรือวาแคยืดตัวเฉยๆ กินลําบากจริงๆ
ครับ

สรุปคือผมกินพิซซาไดเพราะกลิ่นเครื่องเทศกลบกลิ่นชีสและชีสที่ใชเปนประเภทอบแลวยืดตัว แตอาหารอยางอื่นที่มีชีสเปน
สวนประกอบถาเลี่ยงไดก็จะเลี่ยงครับ แตวันนี้ไอพี่ทองชวนผมไปกินอาหารรัสเซียพรอมกับยืนยันกับผมวาอาหารของชาตินี้กลิ่นชีส
ไมฉุนอยางอาหารอิตาเลี่ยน แถมขนมปงยังอรอยอยาบอกใคร ถาเปนเวลาปรกติถึงจะโนมนาวยังไง ผมก็ตองโบกมือลาทันที ทวา
วันนี้กลับอยากเอาใจพี่เขาบาง เห็นคุยเรื่องงานเครียดๆ มาพอแลว หากพี่อยากกินอาหารอรอยๆ ผมก็ยอมตามใจครับ

ดังนั้นเลิกงานแลวไอพี่ทองจึงพาผมมารานอาหารรัสเซียรานหนึ่ง เปนรานไมใหญมากแตบรรยากาศรมรื่น ทางเดินเปนอิฐแดงมีมอส


สีเขียวขึ้นแทรกตรงรอยตอระหวางกอนอิฐ ดอกคาโมไมลสีขาวบานสะพรั่งเต็มสองขางทาง มองผิวเผินทุกอยางดูดีหมดเวนเสียแตพี่
ยักษตัวใหญสี่หาคนที่ขวางทางเราไมใหเขาไปในรานนี่สิ มันอะไรกัน

พี่เขาโอบเอวผมไว กมหนามายิ้มใหผมบางๆ กอนจะหันไปพูดกับคนที่ขวางทางเราอยู “วันนี้ฉันพาคนรักมากินขาว” ใบหนาของพี่ที่


มองผมเมื่อสักครูกับเวลาพี่พูดกับชายตัวใหญนั้นชางตางกันนัก ใบหนาออนโยนแปรเปลี่ยนเปนแข็งกราว กลาวน้ําเสียงเฉียบขาด
มันคลายกับคําสั่งใหถอยไป นัยนตาคมกริบมองชายฉกรรจเหลานั้นอยางไมกลัวเกรง

“ไปกันเถอะพี่รัก” พี่หันมาพูดกับผมอีกครั้ง ผมมองรอบตัวอยางไมไววางใจ ความรูสึกบางอยางบอกผมวาอาหารมื้อนี้คงไมใชแคกิน


ขาวกันธรรมดาเสียแลว

พี่ออกแรงหนุนหลังผมเบาๆ ใหเดินไปพรอมกัน สวนการดของพี่เขายืนนิ่งอยูหนารานคลายกับแสดงความบริสุทธิ์ใจ บอกเปนความ


นัยวาพี่เขามาดี แคพาผมมากินขาวจริงๆ

พอผมกับพี่ขยับพี่ยักษซึ่งขวางทางเราอยูก็เขาประชิดตัวทันที เสี้ยววินาทีริมฝปากพี่เขากระตุกเล็กนอยหากแตใบหนายังคงนิ่งเฉย
ผมสัมผัสไดถึงอํานาจบางอยางที่ออกมาจากตัวพี่ พี่ดูนาเกรงขาม รังสีอํามหิตที่อยูรอบตัวทําใหพี่เขาไมใชงูเขียวในสายตาของผม
อีกตอไป แตเปนพญานาคผูยิ่งใหญซึ่งกําลังแผอํานาจกระจายไปทั่ว

นัยนตาแข็งกระดางซึ่งเต็มไปดวยอํานาจของพี่กวาดมองไปยังชายฉกรรจเหลานั้น พวกเขาหลบตาดูจะหวาดหวั่นไมใชนอย จากที่


เดินประชิดก็ถอยหางจากพวกเรา แตกระนั้นอาการระแวดระวังของพวกเขายังปรากฎใหเห็นอยูตลอดเวลา...ผมชักสงสัยแลวสิวา
ใครกันที่อยูในรานนั้น บุคคลซึ่งพวกเขาตองกันไมใหพี่กับผมเขาใกล
“...ซดราฟสตะวุยที.่ ..” แลวผมก็ไดคําตอบเมื่อเดินเขาไปในรานหลังจากที่บริกรของรานกลาวคําทักทายเราดวยภาษารัสเซียกอน
ถามวากี่ที่นั่ง

หากเปนบริกรธรรมดาผมคงไมไดติดใจอะไรมาก แตเมื่อเขาเดินเขามาตอนรับผมกับพี่ ชายฉกรรจซึ่งเดิมประกบเราก็เปลี่ยนไปยืน


ขนาบเขาทันที เขามองรอบตัวอยางไมเขาใจกระนั้นรอยยิ้มเปนมิตรยังสงใหลูกคาเชนเราตลอดเวลา เขาปรายสายตาไปยังกลุมชาย
เหลานั้นคลายจะปรามวาอยาวุนวายกอนจะหันมาเชิญพวกเราพรอมกับเดินนําเราไปยังโตะกอนวางเมนูใหผมกับพี่…ทาทางอยางนี้
มันทําใหอยากรูวาผูชายคนนี้เปนใคร

“อะแฮม...” ไอพี่ทองกระแอมหลังจากที่เขาผละออกไปพรอมกับสายตาของผมที่มองตามแผนหลังของเขา

“อยามองคนอื่นดวยสายตาอยางนั้นนะครับ...พี่หึง...” ไอพี่ทองพูดโดยไมยอมเงยหนาขึ้นจากเมนู

“มองยังไง วินเปลาซะหนอย” ผมออมแอมตอบกอนแสรงเปดเมนูอาหารดู ทวาบางอยางจากชายหนุมรางเล็กคนนั้นยังดึงดูดใหผม


ลอบมองไปทางดานหลัง

ไมใชแคการดที่เฝาระวังเขาเทานั้น หนาตาและทาทางของเขายังเรียกความสนใจจากผม ก็แหม...จะใหผมคิดยังไงครับ ในเมื่อคนที่


เดินนําเรามายังโตะเมื่อสักครูนั้นนาจะเปนคุณชายจากตระกูลใดตระกูลหนึ่งมากกวาจะเปนบริกรในรานอาหาร

ครั้งแรกผมคิดวาเขาเปนลูกชายคนเล็กของเจานายผูสูงศักดิ์ซึ่งหลุดออกมาจากนิยายโรมานซที่ลูกแพรชอบอานเสียอีก ผมสีบลอนด
ของเขาตัดกับนัยนตาสีฟาซึ่งทอประกายระยิบระยับ เจิดจรัสยามเขาแยมยิ้ม มันแพรวพราวราวกับblue diamondอันเปนอัญมณีล้ํา
คา ใบหนาเรียวอยางลูกครึ่งตอบรับกับจมูกขึ้นสันสวย ผิวขาวละเอียดอยางคนสุขภาพดี รูปรางเพรียว ความสูงของเขานาจะพอๆ
กับผม

ถึงแมวาเขาจะกลาวตอนรับเราดวยภาษารัสเซีย ทวาหากมองโดยรวมแลว องคประกอบบนใบหนาของเขาทําใหผมไมอาจคาดเดา


ไดวาเขาเปนชนชาติไหนกันแน แตอยางไรก็ดีทุกอยางกลับผสมผสานกันอยางลงตัว…เขาชางเปนผูชายที่งดงามจริงๆ

“วินดี.้ ..ที่...รัก...” น้ําเสียงแข็งกระดางกับนัยนตาคมกริบของไอพี่ทองทําใหสะดุง ผมยิ้มเจื่อนๆ สงไปให

ความจริงก็พอรูวาอารมณพี่เขาเริ่มขุนแลวแตผมยังทําเปนไมรูไมชี้ “พี่วาคนเมื่อกี้นารักไหม” แสรงยกเมนูขึ้นปดใบหนากอนกระซิบ


กระซาบถาม

ไอพี่ทองเหลือบตามองผม “ก็งั้นๆ” ตอบเสียงหวนกอนหลุบตามองเมนูในมืออีกครั้ง

ผมเอื้อมมือไปแยงเมนูออกจากมือพี่เขา “วินวาเขานารักแตไมเราใจเหมือน...” ผมพูดคางไวกอนมองพี่เขาดวยสายตาสื่อ


ความหมาย มุมปากไอพี่ทองกระตุก ใบหนาเครงขรึมผอนคลายลง หากแตยังไมยอมยิ้มใหผม

“เหมือนใครเอย พี่อยากรูไหม” ผมเอียงหนาซายขวาขณะถาม

“ไมตองบอกก็รูวาเหมือนใคร” ไอพี่ทองเอื้อมมือมาจับคางผมเขยาเบาๆ

“มั่นใจขนาดนั้นเชียว” ผมยนจมูก

พี่เขายิ้มเจาเลห นัยนตาวาววับ โนมใบหนามาใกล “แนนอน...จะมีใครที่เราใจและทําใหวินดี้ออนระทวยไดบางนอกจากพี่” กระซิบ


บอกดวยน้ําเสียงทรงเสนห

“จะใหพิสูจนเดี๋ยวนี้เลยไหม” พรอมกับสงสายตาจาบจวง มองผมราวกับจะกลืนกิน

“บาสิ...” ผมแสรงทําเสียงดุ ขมอาการเขิน

“วินไมรู สั่งไมเปน พี่สั่งเลย” กอนจะคืนเมนูใหพี่เขาดวยทาทางปนปง ไอพี่ทองหัวเราะในลําคอ นัยนตาแพรวพราวอยางผูชนะ...ชิส

“พี่ครับ...พี่ไมไดตองการแคพาวินมากินขาวใชไหม” เสี้ยววินาทีตอมาผมเอยปากถามอยางที่สงสัย ไอพี่ทองสบนัยนตาคําถามของ


ผม

“วินดี้อยากเห็นคนที่เราพูดถึงเมื่อตอนบายไมใชหรือ” ผมเลิกคิ้วขึ้น นึกทบทวนวาใครกันที่ผมอยากเห็นหนา

“หะ...” กอนจะอุทานตาโตเมื่อนึกออกวาคนที่พี่กลาวถึงคือใคร

ผมหันไปยังบริกรรางบางซึ่งกําลังดูแลแขกอีกโตะซึ่งหางออกไป คนนี้นะหรือที่ถูกกลาวถึงในที่ประชุม ทําไมภาพลักษณของเขาที่ผม


นึกถึงกับตัวจริงถึงไดตางกันเชนนี้ ผมหันมาทางไอพี่ทอง กําลังจะเอยถามวาใชหรือ แตพี่เขาสายหนาเปนเชิงปฏิเสธวา "ไมใช" อยาง
รูวาผมจะถามอะไร

“ถาอยางนั้นใคร...”

“เดี๋ยวก็มา” พี่บอกพรอมกับเรียกบริกรมาสั่งอาหาร หนุมหนาสวยที่ผมมองเขาเมื่อสักครูเดินมายังโตะของเรา ทวายังไมทันไดเขามา


ใกลเขาก็หยุดชะงัก

“เกรซ!” หันขวับไปยังที่มาของเสียง ชายรางใหญในชุดสูทสีดํา ใบหนาถมึงเดินแกมวิ่งมาทางเขา ทันทีที่เขามาใกล มือหนาดึงบริกร


รางบางใหหลบไปดานหลังดวยทาทางปกปอง นัยนตาวาวโรจนมองมายังพี่
“นาคินทร!” น้ําเสียงรอดไรฟนเรียกชื่อพี่อยางไมเปนมิตร

ไอพี่ทองยิ้มมุมปาก “กําลังจะสั่งอาหาร” พี่กลาวเสียงเรียบ นัยนตานิ่งเฉยมองไปยังหนุมหนาสวยกอนตวัดขึ้นมองผูชายอีกคนที่เพิ่ง


เดินเขามา

“แตไมนึกวาคนที่เขามารับออเดอรจะเปน...ภาคิน!” นัยนตาคมกริบสบกับนัยนตาแข็งกระดางของผูเขามาใหม ผมหันไปมองชาย


รางใหญที่กําลังจองตากับพี่ใหเต็มตา

...คนนี้เองหรือ “ภาคิน” คูแขงทางธุรกิจที่แสนรายกาจของพี.่ ..

ผมมองสบตากับเกรซ บริกรหนาสวยอยางไมรูจะคุยอะไรดี ไดแตยิ้มเจื่อนๆ ใหแกกันพรอมกับมองออกไปยังสวนภายนอกดวย


สายตาหวงใย ไอพี่ทองของผมกับคุณภาคินคนรักของเกรซกําลังประจันหนากันโดยมีบอดี้การดของทั้งสองฝายคุมเชิงอยู กระจก
บางๆ ซึ่งกั้นระหวางภายนอกกับภายในทําใหผมไมยินวาทั้งคูกําลังคุยเรื่องอะไรกัน แตใบหนาเครงเครียดของทั้งสองฝายทําใหผมใจ
ไมดีเทาที่ควร

“คงไมมีอะไรรายแรงใชไหม” เกรซถามเสียงสั่นเล็กนอยพรอมกับทาทางกระสับกระสาย ทวาสายตาของเขายังจับจองไปยังคนรักไม


วางตา...คําถามนั้นทําใหผมเขาใจวาเกรซรูสถานะของไอพี่ทอง พอๆ กับที่ผมรูวาคุณภาคินเปนใคร

“คงไมมีอะไรมั้ง” ถึงผมจะตอบอยางนั้นแตภายในใจก็ยังอดหวาดหวั่นไมได

“ขอใหเปนอยางนั้นทีเถอะ พี่ภาคยิ่งเปนคนอารมณราย ไรเหตุผลอยู” เขาเมมเรียวปาก ถอนหายใจเสียงดัง สายตายังจับจองไปยัง


คุณภาคิดตลอดเวลา

ผมเชื่อเกรซครับวาคุณภาคินเปนคนอารมณรายและไรเหตุผลจริงๆ หลังจากที่เขาเดินเขามาในรานแลวพบผมกับพี่ เขาก็อาละวาด


ใสบอดี้การดทันที ชี้หนาหมายหัวไววาจะจัดการใหเด็ดขาดเนื่องจากปลอยใหไอพี่ทองเขามาในราน จากนั้นเขาก็สั่งปดราน ไลลูกคา
ออกไปอยางไมไยดี

สวนไอพี่ทองถึงแมใบหนาจะยังนิ่งเฉย แตผมรูวาพี่เขากําลังสนุกไมนอยที่ทําใหอีกฝายเดือดเปนไฟ ริมฝปากพี่เขากระตุก นัยนตา


วาววับอยางถูกใจ พูดเสียงเนิบๆ แสรงสั่งอาหาร ทําเปนไมรูวาอีกฝายกําลังเคียดแคนแคไหน คุณภาคินบดกรามแนน กระชากเสียง
ถามทันทีวาตองการอะไรหลังจากคนนอกออกไปจากรานเรียบรอยแลว

ไอพี่ทองหันมาทางเกรซแลวบอกวา “ฝากดูแลคนรักผมดวยนะครับ แลวก็ขอยืมตัวภาคินสักครู สัญญาวาจะนํากลับมาสงโดยไมบุบ


สลายแมแตนอย” คําพูดนั้นทําใหคุณภาคินคํารามเสียงต่ํากอนจะเดินนําออกไปยังสวนภายนอก
ในเวลานั้นผมนึกอยากหยิกเอวไอพี่ทองขึ้นมาทันที เรื่องกวนโมโหคนนี่แกถนัดนักละ รูทั้งรูวามาอยูถิ่นเขา ยังทําเกงขูอีกฝาย ไมตอง
แปลความหมายใหมากความ ในเมื่อพี่พูดแบบนี้ก็แสดงใหเห็นอยางชัดเจนวา หากใครแตะผม เกรซจะตองรับผิดชอบ สวนคุณ
ภาคินสื่อใหรูวาอยูในกํามือพี่เขา หากการเจรจาไมเปนที่พอใจ พี่ก็ไมมีทางปลอยกลับมางายๆ

“ที่รักผมก็อารมณรายพอๆ กันเลยครับ” ผมตอบกลับเกรซดวยน้ําเสียงกังวลเชนกัน มองไอพี่ทองที่หันขางใหผม พี่เขาเปดเสื้อสูท


แลวหยิบเอาบางอยางจากกระเปาเสื้อดานในกอนจะสงใหคุณภาคิน

หลังสิ้นเสียงผมความเงียบก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ผมหันมาทางเกรซเห็นเขาก็เลิกคิ้ว มองผมอยางประหลาดใจ ผมเอียงหนาเล็กนอย คิด


ทบทวนวาตัวเองพูดอะไรผิดไปหรือเปลาเพราะทาทางเขาเหมือนคนกําลังแปลกใจกับอะไรสักอยาง หรือเขาจะหลงทาทางนิ่งๆ ของ
ไอพี่ทอง เห็นพี่เขาเฉยๆ แบบนั้นความจริงแกรายอยาบอกใครเชียว

“พวกคุณทั้งคูเปดเผยจังเลยนะครับ” แลวเขาก็ไขขอของใจของผมพรอมกับยิ้มบางๆ คําพูดนั้นทําใหใบหนาผมรอนผาวขึ้นมาทันที

เขาจะรูไหมนะวาผมจงใจเปดเผยตอหนาเขา ไมรูวาตัวเองเปนอะไร แตพักหลังๆ มานี่ผมหวงและก็หึงไอพี่ทองอยางหามตัวเองไมได


ยิ่งเห็นใบหนาของเกรซ ผมก็ยิ่งรูสึกวามีบางอยางตีตื้นขึ้นมาในอก ไมไดเขาขางตัวเองนะครับ แตผมคิดวาโครงหนาของเขาคลายผม
น้ําเสียงยังคลายกันเลย เวนเสียก็แตสีตากับสีผมเทานั้น

“เรียกกุลก็ไดครับ เรียกคุณแลวมันรูสึกแปลกๆ” ผมเลี่ยงไปเรื่องอื่น

“โอเคครับกุล สวนผมเกรซ” ผมยิ้มใหเขา ตอบไปวายินดีที่ไดรูจัก เกรซมองหนาผมอยางพิจารณากอนจะถอนหายใจออกมา

“ขอถามอะไรนิดหนึ่งนะครับ กุลรูจักกับพี่ภาคมากอนหรือเปลา” ไมรูวาผมคิดไปเองหรือเปลานะครับ แตผมเห็นแววสับสนปนไม


แนใจในดวงตาของเขา

“ไมเคย...อืม...อาจจะเคยมั้ง...” ผมตอบอยางมั่นใจในตอนแรกกอนจะลังแลเมื่อเพิ่งจะนึกออกวาบางทีผมอาจจะรูจักเขามากอน

“กุลเคยเห็นคุณภาคินในนิตยสารนะ เพื่อนเคยเอาใหดู ตอนที่คุณภาคินเปนขาวพรอมกับแฟนกุล” ประมาณเดือนที่แลวตอนที่ผม


หางกับพี่ชวงแรกๆ ลูกแพรเอานิตยสารซุบซิบไฮโซมาใหผมดู เธอกรี๊ดกราดใหญที่สองหนุมนักธุรกิจไฟแรงเปนขาวพรอมกัน รูสึกใน
ขาวจะกลาวถึงลูกชายของบริษัทยักษใหญที่กําลังจะเขารับตําแหนงผูบริหารระดับสูง จําไดวาตอนนั้นผมยังโทรไปแซวพี่เขาวา
หมั่นไสคนดังอยูเลย

“แคนั้นหรือ” เกรซถามตอ

ผมยนคิ้ว “แคนั้นแหละ…มีอะไรหรือเปลา” ยืนยันคําตอบในประโยคแรกกอนจะถามอยางสงสัยในประโยคถัดมา


“เออ...เปลา...เปลา...ไมมีอะไร...” เกรซหลบตาผม

“มันตองมีอะไรสิ ไมงั้นเกรซจะถามแบบนั้นทําไม” ทาทางเขาแปลกๆ เหมือนคาใจอะไรสักอยางแตไมพูดออกมา ทําใหผมไมเชื่อใน


สิ่งที่เขาพูด

“เออ...คือ...” เกรซมองหนาผมอยางลังแลอยูชั่วครู กอนสูดลมหายใจลึกๆ “เกรซเห็นพี่ภาควาดภาพเหมือน ครั้งแรกก็นึกวาเปน


ตัวเอง แตพอเห็นหนากุลแลวซักเริ่มไมแนใจ” ไมใชแคผมหรือนี่ที่ระแวง เกรซเองก็ระแวงคุณภาคินเหมือนกัน

ผมเกาศีรษะ กับคุณภาคินพูดดวยก็ยังไมเคยเลย แถมเมื่อสักครูก็เพิ่งจะไดเห็นหนาชัดๆ เปนครั้งแรก “คนในภาพก็ตองเปนเกรซสิ


จะเปนกุลไดยังไง” เกรซยิ้มแหยๆ

“นั่นสิ สงสัยเกรซจะคิดมากไปเอง ความจริงรายละเอียดในภาพก็บงบอกชัดเจนวาเปนเกรซ แถมพี่ภาคก็เขียนชื่อกํากับไวและยัง


มอบใหในโอกาสพิเศษดวย” เขาออมแอมบอกเสียงเบา ผมหรี่ตา คิดวาตัวเองพอจะเขาใจวาทําไมเขาจึงเกิดอาการไมแนใจ

จะวาไปผมกับเขาแคคลายๆ กันเทานั้นเองครับ แคโครงหนาคลายกันแตพอวาดภาพออกมามันอาจทําใหสะดุดใจบาง แตถามองดีๆ


แลวเราตางกัน ที่เห็นไดชัดเลยก็คือลักยิ้ม แตก็อยางวาแหละความหวงบวกกับความระแวงที่กําลังเปนอยู มันเลยทําใหเกรซอดคิด
มากไมได

“เกรซกําลังหึงกุลกับคุณภาคินอยูหรือ”

“เฮย...เปลานะ...วาแตกุลเถอะ ตั้งใจประกาศวาเปนแฟนกับคุณนาคินทรตอหนาเกรซใชไหมละ”

“เฮย...เปลาซะหนอย” ผมลนลานปฏิเสธพรอมกับหลบตา ชั่ววินาทีตอมาก็ปรายสายตากลับไปทางเกรซอีกครั้ง เราสบตากัน บางสิ่ง


ในดวงตาของเราทั้งสองทําใหเราทั้งคูยิ้มและหัวเราะออกมาอยางเขินๆ

แตแลวผมก็ตองอุทานอยางตกใจ “เกิดอะไรขึ้น!”

“พี่ภาค!” เกรซเรียกชื่อคนรักของเขาเสียงดัง

ภาพที่เห็นทําใหผมใจเตนแรง ในขณะที่เกรซกระสับกระสายมากขึ้น ผมเดินไปยังทางออก แตก็ตองชะงักเมื่อพี่เขาหันหนามามอง ไอ


พี่ทองหันไปพูดกับคุณภาคินอีกสองสามคํากอนจะหมุนตัวแลวกาวดุมๆ มาทางผม

“กลับกันเถอะครับ” ทันทีที่เดินมาถึง ไอพี่ทองก็โอบไหลผมพรอมออกแรงหนุนใหกาวเดิน ผมหันไปทางเกรซเห็นเขาวิ่งออกไปหาคน


รักเขาเรียบรอยแลว
“เกิดอะไรขึ้น” ผมถามขณะเดินตามแรงพี่เขา ตายังหันไปมองดานหลัง คุณภาคินหยุดอาละวาด ดึงรางของเกรซมากอดไวแนน

“ภาคินเลือดขึ้นหนา” มินาละผมถึงเห็นเขาเตะกระถางตนไมซะแตกกระจายเลย

“พี่ไปยั่วโมโหเขา” ผมนึกถึงคําพูดของเกรซขึ้นมา...พี่ภาคยิ่งเปนคนอารมณราย ไรเหตุผลอยู. ..ดีนะที่คุณภาคินไประบายอารมณใส


กระถางตนไมนะ ถาหันมาตอยพี่ มีหวังไดตะลุมบอลกันยกใหญ

“เปลา แคมาแจงขาวเฉยๆ” ไอพี่ทองยักไหล เปดประตูรถใหผม

“วา เสียดายจัง วันนี้วินดี้เลยอดกินอาหารรัสเซียเลย” พอเขามานั่งที่เบาะหลังกันทั้งคู พี่เขาก็ปนน้ําเสียงอาลัยอาวรณเหลือหลาย

“โอย ที่รักพี่เจ็บ” หมั่นไสครับ เลยหยิกเอวไปที เพิ่งผานเวลาหนาสิ่วหนาขวานมาแทๆ ยังมาทําเปนพูดเลนอีก

“พี่ทํา...ใหวิน...เปนหวง...” ผมบอกอยางโมโห แตทําไมเสียงมันสั่นๆ ไมรู หัวตาก็ปวดหนึบๆ

“วินดี.้ ..พี่ขอโทษ...” น้ําเสียงพี่เขาออนลง แววเสียใจในดวงตาอยางชัดเจน

“พี่อยาทําแบบนี้อีกนะ วินไมอยากเสียใครอีกแลว” ผมโอบเอวพี่เขาไว ซบหนาลงกับไหล กลัวเหลือเกิน หากไอพี่ทองเปนอะไรไปอีก


คน ผมจะทํายังไง

“ไมตองหวง ทุกอยางจะตองเรียบรอย เชื่อพี่นะครับ” ผมไมตอบ หลับตานิ่ง

“ไปบานใหญ” พี่พูดกับพี่คีตาซึ่งเปนคนขับโดยพี่รันนั่งคูอยูดานหนา

“เมื่อกี้กินบรรยากาศไปแลว ตอนนี้ก็กลับไปกินอาหารรัสเซียที่บานก็แลวกัน ไดยินวาพอเตรียมไวใหแลว” เมื่อพี่คีตาขานรับพี่ก็หันมา


พูดกับผม

ผมยังคงนิ่งถึงแมในใจจะพูดกับพี่วา...ผมกินอะไรก็ได...กินที่ไหนก็ได...ขอแคพี่เขาอยูดวยเทานั้นก็เพียงพอ...

หลังกินขาวที่บานพอแลว เราก็ตกลงจะคางที่นี่เสียเลยเพราะไอพี่ทองมีเรื่องสําคัญที่จะปรึกษาพอ ทั้งคูเขาไปในหองทํางานตั้งแต


สามทุม จนเดี๋ยวนี้จะหาทุมแลวยังไมออกมาเลย แตอยางไรก็ดีผมคิดวาเรื่องที่คุยกันนั้นคงหนีไมพนเรื่องของคุณภาคินแนๆ

วันนี้ตอนบายหัวเรื่องที่ประชุมในบริษัทก็เกี่ยวกับบริษัทคูแขง ตอนที่พี่ชวนไปฟงดวยนั้น ผมคิดวาตัวเองตองนั่งหลับแนๆ แตที่ไหนได


พอเปดประเด็นขึ้นมา มันกลับเรียกความสนใจของผมทันที ผูที่เขาประชุมสวนใหญพี่บอกวาเปนคนเกาแกที่ทํางานกับพอตั้งแตสมัย
บุกเบิก สวนเรื่องที่หยิบยกมาพูดนั้นเปนการวิเคราะหเกี่ยวกับความราวฉานของสองตระกูลในครั้งอดีตจนถึงปจจุบัน
ถึงแมทั้งสองตระกูลจะไมลงรอยกันแตวาความรุนแรงไดลดลงเรื่อยๆ ตามเวลาที่ผานไป จนกระทั่งสิบปใหหลังมานี่การขัดแยงของ
สองฝายมักเกี่ยวกับเรื่องงานเปนสวนใหญ ชิงไหวชิงพริบ หักเหลี่ยมกันทางธุรกิจ แตเมื่อสองเดือนที่ผานมา เหตุการณกลับรุนแรง
ขึ้นจนโยงไปถึงเรื่องสวนตัว ซึ่งผมเปนผูที่ไดรับผลกระทบจากเรื่องนี้เต็มๆ

พอฟงมาถึงตรงนี้ผมก็เขาใจถึงเหตุผลที่พี่ชวนผมเขารวมประชุมดวย ยิ่งประเด็นการรวมหุนกับเอ็มเจถูกยกขึ้นมา ผมก็แทบนั่งไมติด


ถึงแมลุงเรียวจะอธิบายอยางละเอียดเกี่ยวกับการขยายกิจการของพอ การตัดสินใจรวมลงทุนกับผูประกอบการในไทยและเหตุผลที่
ทําใหผมกับพี่ตองหางสักพัก สิ่งเหลานี้ผมไดรูจากปากของลุงหลังจากออกจากโรงพยาบาลเพื่อมาพักฟนที่บาน แตพอไดเห็นจาก
มุมมองของสองบริษัทคูแขงมันก็อดที่จะตกใจไมได

ยิ่งพอที่ประชุมวิเคราะหถึงความราวฉานและการชิงอํานาจกันภายในของบริษัทคูแขง สิ่งที่ผมไมคาดคิดมากอนก็ถูกเปดเผยออกมา
เบื้องหลังที่ซับซอนมากกวาการแยงผลประโยชนระหวางทั้งสองฝายโดยใชเอ็มเจเปนเดิมพัน...มีใครบางคนในชินกฤษยืมมือพี่ให
โคนลมคุณภาคิน!

“นั่งหนานิ่วคิ้วขมวดเชียว คิดอะไรอยูหรือ” นิ้วแข็งๆ ของพี่ที่จิ้มหัวคิ้วของผมทําใหผมกระพริบตาปริบๆ ตื่นจากภวังค

“คุยกับพอเสร็จแลวหรือ” ผมจับมือพี่มากุมไว แหงนหนาขึ้นมอง เนื่องจากตอนนี้ผมกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง ขณะที่พี่เขายืนอยูกับพื้น


โนมตัวลงมาหาผม

“เรียบรอยแลวครับ” พี่บอกพรอมกับทิ้งตัวลงนอนขวางเตียงเพื่อหนุนตักผม มือพี่ยังจับมือผมไว ขายาวเลยเตียงออกมา ตั้งฉากอยู


กับพื้น

“แลวคุยอะไรกัน นานสองนาน” ผมถาม

“ก็ไมมีอะไรหรอก...” อยางนี้ทุกที ทําไมพี่ตองปดบังผมตลอดเลย

“ไมมีอะไรไดยังไง มันตองมีสิ” ผมพูดดวยน้ําเสียงไมพอใจ อารมณออนไหวเมื่อสักครูแปรเปลี่ยนเปนบึ้งตึง โดยไมรูตัว ผมผลักหัวพี่


ออกจากตัก แตไอพี่ทองกลับฝนคอไว พลิกตัวนอนตะแคงขาง กอดเอวผมแนน

“ทําไมพักนี้หงุดหงิดงายจัง หรือเพราะวาวินดี้นอยอยากคลายน้ํา” ไมวา เปลา พี่แกยังเอาหนามาถูๆ กับ...เออ...

“โอย...” เขินครับ พี่เขาชอบเลนอะไรแบบนี้อยูเรื่อย เลยดึงหูแกซะเลย

“ลุกออกไปเลย” พรอมกับสั่งดวยน้ําเสียงไมพอใจทั้งที่ใบหนารอนผาว
ไอพี่ทองอืดอาดลุกขึ้นนั่ง ลูบหูตัวเองปอยๆ “หงุดหงิดงายแถมยังดุอีก เมียใครวะเนี่ย” บนอุบอิบกอนคอนผมอีกตางหาก

ไมพอแคนั้น พี่แกยังทําปากยื่นปากยาวตอวาผม “แคนี้เองก็โกรธจนหนาแดง หนีไปอาบน้ําดีกวา” แลวทาทางกระเงากระงอดนั่น


อะไรกัน

“ไมตองเลย จะเลื้อยไปไหน นั่งลงที่เดิม” ผมเรียกไวอยางรูทัน ชิชะ...แสรงหาวาผมหนาแดงเพราะโกรธ ทั้งๆ ที่พี่ก็รูวาไมใช แลวที่จะ


หนีไปอาบน้ํานี่คือเลี่ยงไมอยากเลาเรื่องที่คุยกับพอใหผมฟงใชไหม

“เหนียวตัวนะที่รัก ขออาบน้ําแปบนะ” ยังหาทางไปอีก แลวคิดวาผมจะใจออนกับสายตาออดออนที่สงมาใหอยางนั้นหรือ

“ตามใจ อยากอาบก็อาบไป สวนวินจะกลับไปนอนบาน” ทามากนักใชไหม เดี๋ยวไดเจอดีแน ผมขยับ ทําทาจะลุกออกจากเตียง

“มันดึกแลววินดี้จะกลับทําไม” ไอพี่ทองหามพรอมจับแขนผมไว

“ก็เพราะมันดึกแลวไง วินถึงไมอยากเลนกับพี่” ผมพูดดวยน้ําเสียงเอาเรื่อง ไอพี่ทองยิ้มหวานเปนเชิงเอาใจกอนจะหนาจอยลงเมื่อ


ผมยังบึ้งตึง

“โอเคครับ ไมเลนก็ไมเลน” พี่เขาบอกดวยทาทางยอมจํานน นั่งลงบนเตียงพรอมกับดึงผมใหนั่งลงดวย ผมอมยิ้มอยางถูกใจ

“จุบ...แฟนใครนะ นารักจัง แตถาวางายๆ ตั้งแตทีแรกจะนารักกวานี้เยอะ” ผมหอมแกมพี่เขาพรอมกับสงยิ้มหวานไปให

“ใหมันไดอยางนี้สิ เดี๋ยวดี เดี๋ยวราย” ไอพี่ทองสายหนา ทําเสียงฮึดฮัดในลําคอ “จะวาไปหอมแกมพี่ก็ชอบนะ แตพี่ชอบจูบมากกวา”


ทวาชั่วพริบตา นัยนตาเจาเลหก็วาววับขึ้นมา ผมรีบเอียงหนาหนี ยกมือขึ้นบังแกมไว ริมฝปากพี่เขาเลยแตะที่กลางฝามือของผม

“จะหนีไปไหน...ฮึ...” พี่คํารามในลําคอ พอจูบผมไมไดไอพี่ทองก็เปลี่ยนมาไซที่ซอกคอผม

“ไมเอา ไอพี่ทองวินจั๊กจี้” ผมพยายามดันหนาพี่เขาออกพรอมกับดิ้นหนี

“ไมมีทางรอดหรอกที่รัก” ริมฝปากชื้นๆ กับลมหายใจอุนๆ ตั้งใจเปารดตนคอผม มือหนาจี้เอวผมเบาๆ อยางกลั่นแกลง

“อาก...ไอพี่ทอง…หยุดเดี๋ยวนี้นะ...”

“บอกมากอนวาจะยอมใหพี่จูบดีๆ หรือเปลา”

“ยอม...ยอม...ยอมแลว...” ผมตอบติดๆ ขัดๆ หอบหายใจแฮกๆ ดวยความเหนื่อย


“ก็แคนี้” พี่เขาวา นัยนตาวาววับอยางถูกใจ มือหนากุมหนาผมไว

“เดี๋ยวกอน” ทวายังไมทันที่ริมฝปากเราจะสัมผัสกัน ผมยกมือขึ้นแตะริมฝปากพี่เขา

ไอพี่ทองมุนคิ้ว “มีปญหาอะไรอีกครับ คุณภรรยาผูนารัก” พี่พูดอูอี้ผานมือผม

“จะใหจูบก็ตอเมื่อพี่เลาเรื่องทั้งหมดใหวินฟงกอน” ผมบอกเงื่อนไข แตดูทาจะไมเปนที่นาพอใจเพราะพี่เขาจับมือผมออกจากปาก


แลวกดลงกับที่นอน

“นะครับ...นะ วินใหมากกวาจูบดวยเอา” ผมรีบตอรองเมื่อพี่โนมหนาลงมาใกล

ไอพี่ทองชะงักอยูชั่วครูกอนจะยิ้มกวางอยางถูกใจ “เพราะเห็นแกวินดี้หรอกนะ ถึงยอมให” พี่เขาบอกอยางนั้น แถมยังปนใบหนา


ละหอยเหมือนเสียเปรียบผมซะมากมาย

สวนผมก็องึ้ ไปชั่วครูเชนกัน นึกทบทวนไปมาแลวอยากเอาหัวโขกกับกําแพง นึกวาจะชนะแกแลวเชียว ที่ไหนได ผมกลับตก


หลุมพรางพี่เขาเขาอยางจัง เซ็งจิต...แคอยากรูขอมูลเทานั้น ถึงกับตองเอาตัวเขาแลกเลยหรือนี่...

“นะครับ...นะ วินใหมากกวาจูบดวยเอา” โธๆ ที่รัก ทําไมนารักอยางนี้ เดี๋ยวพี่อดใจไมไหว ตอบแทนมากกวาจูบตอนนี้ซะเลย

“เพราะเห็นแกวินดี้หรอกนะ ถึงยอมให” อดใจออนไมไดอีกแลว เฮอ...ผิดแผนเลยครับ ครั้งแรกวาจะขโมยจูบแลวก็ปลอยใหเกินเลย


ใชเวลากับนองสักยกสองยก ใหนองเหนื่อยและหลับไปเอง พรุงนี้วินดี้ตื่นขึ้นมาก็คงจะลืมไปแลว แตที่ไหนได พอเจอคนนารักออน
เขาหนอย นาคินทรใจละลายเลย

มานึกดูแลวก็อนาถตัวเองจังเลยครับ ลูกผูชายอกสามศอกอยางผม ไมวาจะชายหรือหญิงจากรอยเอ็ดเจ็ดยานน้ํา ผมปราบจนราบ


คาบมาหมดแลว แตทําไม ทําไม แคผูชายตัวเล็กๆ ตาโตๆ จมูกนิด ปากหนอย ลักยิ้มนอยๆ บนแกม ทําหนาออดออนกับผม ใจมันก็
ออนระทวย สองแขนชูขึ้น โชวขนจั๊กกะแร บอกวาพี่ยอมแลวครับคนดี จะบัญชาอะไรพี่ก็ยอมทําตามทั้งนั้น

“เงียบทําไม เลามาสิ!” นั่นไง เห็นไหมครับที่รักผม เห็นวาผมยอมหนอย ออกคําสั่งเชียวนะ

“วินดี้อยากรูเรื่องอะไรละครับ” ผมเอนตัวลงนอนหนุนตักนองอีกครั้ง

“ยังจะถามอีก พี่ก็รูวาวินอยากรูเรื่องอะไร” อืม...พี่ก็ลืมไปวาพี่เขาไปวิ่งเลนในใจของวินดี้ทั้งวัน แลวมีหรือจะไมรูวาที่รักคิดอะไร

“เรื่องที่พี่คุยกับพอนะหรือ” แตยังถามเพื่อความแนใจครับ เพราะตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงที่ผานมา ผมไดยินเสียงหัวใจของนองที่บอกวา


รักอายทองมันดังกองสะทานกลบเสียงอื่นไปหมดเลย

“เรื่องที่คุยกับพอแลวก็เรื่องที่พี่ไปหาเรื่องคุณภาคินดวย” นองเฉลย ใบหนาเชิดขึ้นอยางเอาแตใจ เห็นแลวอยากบีบจมูกเล็กๆ นั่น


จริงๆ

“หาเรื่องภาคิน?” ผมถามเสียงสูง นองคอนผม

“พี่ทําเขาโกรธขนาดนั้นไมเรียกวาหาเรื่องจะเรียกวาอะไร”

“เรียกวาผูกมิตร…โอย...มากัดพี่ทําไมเนี่ย” ผมดึงมือกลับแตวินดี้กลับเยื้อไว

“พี่พูดจริงๆ ที่เขาโมโหนะไมใชพี่ แตเปนคนอื่น” ผมรีบบอกเมื่อนองอาปากจะกัดมือผมอีกครั้ง

ไมไหวครับ วินดี้ยิ่งมีเขี้ยวอยูดวย แถมวันนี้ผมยังเจ็บตัวไปหลายรอบแลว ขึ้นรถกลับบานก็ถูกนองหยิกเอว เมื่อกี้ถูกดึงหู มาตอนนี้


ถูกฝากรอยรักดวยเขี้ยวคมๆ

อืม...แบบนี้มันคุนๆ นะนี่ แสดงความรักแบบรุนแรง

อะฮา...ที่รักยั่วใหพี่เลนซาดิสมดวยใชไหมครับ แหมๆ ชอบอยางนี้ก็ไมบอก แลวจะเอาแสกับเทียนไขดวยไหม เดี๋ยวพี่จะรีบจัดการให

“พี่ไมไดไปยั่วอะไรเขาจริงๆ แคไปแจงขาวเหมือนที่วินดี้รูเมื่อตอนบายเทานั้นเอง” ผมยืนยันกับนองกอนดึงมือนองมาจูบแลววางไว


บนอก หลับตา เรียบเรียงคําพูดเพื่อจะเลาทุกอยางใหนองฟง

หลังจากผานชวงเวลาหนาสิ่วหนาขวานทําใหผมเรียนรูอะไรหลายอยาง อยางแรกเลยก็คือการแกแคนไมใชทางแกปญหาแมแตนอย
ยิ่งแรงเทาไหร ฝายโนนก็ยิ่งตอบโตกลับมาไมแพกัน เมื่อกอนมีแคผมกับพอ ซึ่งเราทั้งคูเปนไมยืนตนที่ทนแดดทนฝน ไมวาพายุจะ
โหมกระหน่ําแคไหน เราไมเคยกลัวเกรง หากแตคราวนี้ทุกอยางเปลี่ยนไป

ตอนนี้ในออมแขนผมยังมีใครอีกคน ตลอดเวลาที่ผานมาผมไดแตเฝาระวัง แลวเมื่อถึงคราพลาดพลั้ง คนที่เจ็บตัวกลับเปนยอด


ดวงใจของผม หากปลอยไวแบบนี้ ชีวิตของผมกับนองที่เหลืออยูก็ตองอยูดวยความหวาดระแวง ผมผานมันมาแลวชวงเวลาแหง
ความทรมาน การรอคอยใหนองตื่นขึ้นมาทําใหใจผมแทบขาด หากมันเกิดขึ้นอีกครั้ง ผมจะทนไดอยางไร

“ตองหยุดมัน!” แรงขับเคลื่อนบางอยางออกคําสั่งใหสมองผมทํางาน ใบหนาของวินดี้ซึ่งเปอนไปดวยน้ําตา ทําใหผมรีบคิด รางบางที่


สั่นเหมือนลูกนกในออมกอดผมทําใหรีบหาทางออก คําพูดปนเสียงสะอื้นทําใหผมทบทวนสิ่งที่ผานมา
ตองหาทางจัดการใหเรื่องเลวรายผานพนไป ระหวางที่วินดี้หลับอยู ผมจับตัวคนรักของภาคิน และสั่งเผาโรงงานของเขา แทนที่อีก
ฝายจะยอมออนขอใหกับผม ภาคินกลับตอบโตกลับอยางรุนแรง “เขาไมกลัวหรือวาผมจะทํารายคนรักของเขาอยางที่เขาทํากับผม”
คําถามนี้ดังกองอยูในหัวของผม

หากคิดยอนกับไปแลว ผมกับภาคินเปนไมเบื่อไมเมากันมาตั้งแตเด็ก ผมราย เขาก็ราย แตเราทั้งคูไมเคยถูกเอยวาเลว เขาเปนฮีโร


สําหรับคนรอบขางของเขา ในขณะที่ผมเปนที่รักของคนรอบขางผม ในตัวของเราทั้งสองมีบางอยางซึ่งคลายกัน “ใจนักเลง” นั่นคือสิ่ง
ที่เราไดรับมาจากบรรพบุรุษ

ผมถามตัวเองวา หากภาคินมานั่งในที่ของผม ทําทุกอยางเพื่อจะไดรวมงานกับบริษัทของคนรัก แลวผมอยูฝายตรงขาม หากผม


พลาดงานนี้ ผมจะกลั่นแกลงเขาดวยการสั่งฆาคนรักของเขาหรือเปลา “ไม” คําตอบนี้ดังกองในหัวของผมทันที

หากผมจะทํา คงเลนงานเขาเพียงเล็กนอย อยางเชนอาจใหภาพถายลอแหลมอยางที่เขาเคยใชขมขูคนรักของผมมากอน ผมอาจเอา


มันมาเผยแผ ใหรูไปเลยวาทายาทของสองบริษัทนี้มีบางอยางซอนอยูเบื้องหลัง เพียงแคนี้ก็ทําใหทั้งสองบริษัทเสียหายพอสมควร

“แลวเหตุผลอะไรที่ภาคินถึงสั่งฆาวินดี้ของผม?” คําถามนี้มันรบกวนจิตใจผมเกินกวาจะปลอยไวได ผมกลับมานั่งทบทวนอีกครั้ง สั่ง


ใหหลายฝายสืบหาตนตอของมัน แลวผมก็ไดรูในสิ่งที่ไมคิดวาจะไดรู

วันที่วินดี้ถูกปองราย ทางเราไดชิงตัวอานนทออกมา คําพูดจากปากของเขาหลายอยางสะกิดใจผม เริ่มจากเจาหนี้ของเขาเปนผูถือ


หุนรายใหญของชินกฤษ ซึ่งมีศักดิ์เปนนองชายแทๆ ของนายใหญ หรืออาของภาคินนั่นเอง

การที่ภาคินไมเคยแวะเวียนมาใหเขาเห็นหนาเลย ไมวาจะมีการเคนถามขอมูลจากอานนทกี่ครั้ง รวมไปถึงขอมูลที่เรางางปากจากไอ


สัตวนรกซึ่งทํารายวินดี้ของผม บวกกับคําพูดนายใหญของชินกฤษที่กลาวกับผมในวันที่เขาไปเยี่ยมแมของผม สิ่งเหลานี้มันเปน
ดั่งจิ๊กซอวหลายๆ ชิ้นเอามาตอกันจนเปนรูปเปนรางขึ้นมา แตมันยังขาดชิ้นสุดทายทีส่ ําคัญ ทําใหเหมือนจะเขาใจแตก็ยังคลุมเครือ

ผมคุยกับพอเรื่องนี้ ซึ่งพอก็ตั้งขอสังเกตเชนเดียวกับผม หลังจากซอนแผนอานนท ทําใหเรามีโอกาสโจมตีชินกฤษ แตภาคินแกไข


สถานการณไดตลอดมา หากเรื่องของเอ็มเจผานไป ก็จะถึงเวลาที่เขาขึ้นแทนผูบริหารอยางเปนทางการ พอวิเคราะหมาถึงตรงนี้ พอ
ถามผมวาหากวินดี้จากผมไปจริงๆ ผมจะทําอยางไร เมื่อนึกถึงคําตอบ ผมก็ไดพบกับจิ๊กซอวชิ้นสุดทาย

ผมตกเปนหมากในกระดาน! ตลอดเวลาที่ผานมามีใครบางคนในชินกฤษ ยืมมือผมใหโคนลมภาคิน! โจมตีเขาเพื่อแสดงใหเห็นวา


ภาคินไรประสิทธิภาพ ทวาสิง่ ที่ไอนั่นหวังกลับไมเปนจริง เพราะภาคินรับมือไดดีตลอดมา จนมันเลือกวิธีสุดทายใหผมฆาภาคินแทน
มัน!

มันเปนใครกัน ไอคนชั่วที่อยูเบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด คนที่สั่งฆาคนบริสุทธิ์อยางวินดี้ของผม คนที่มีความแคนสวนตัวกับภาคินจน


ตองทําลายลางอีกฝายใหแหลกเปนจุณ! ถึงแมอยากรูคําตอบแคไหน พยายามสืบหาเทาไหร แตทุกอยางกลับไมเปนดั่งใจผมเพราะ
ชินกฤษเปนตระกูลเกา ผูถือหุนรายใหญเปนเครือญาติกัน เมื่อคิดวาคนนั้นนาสงสัย อีกคนก็นาสงสัยเชนเดียวกัน
ถึงแมใจผมอยากฆาไอเลวนั้น แตมันก็ยากยิ่งนักที่จะสืบหาขอมูลภายในของอีกฝาย แตเหมือนเรื่องที่คิดวายากก็กลับงายขึ้นเมื่อพอ
อยูนิ่งเฉยไมไดอีกตอไป ลึกๆ ผมคิดวาพอยังรักและหวังดีกับเพื่อนเกา เมื่อไดรูวามัจจุราชในเงามืดกําลังจะลงมือสังหารลูกชายของ
เพื่อน พอจึงออกโรง

พอเปนฝายเดินเขาไปหา “เพื่อน” ซึ่งตัดสายสัมพันธกวาสามสิบป ความบอบซ้ําจากการทําลายลางกันเองทําใหพอลดศักดิ์ศรีลง


หากพอไมทําวันนี้ นอกจากภาคินจะถูกฆาตกรรมแลว เพื่อนเกาของพอยังตกอยูในอันตรายอีกดวย พวกเราเปนตาอินกับตานา สวน
ไอสันดานนั่นมันรอเปนตาอยู รอวันเดินเขามาหยิบชิ้นปลามันโดยไมตองออกแรง

พอทําการขุดคนจนมั่นใจกอนจะนําขาวนี้ไปบอกกับนายใหญของชินกฤษดวยตัวเอง ในขณะที่ผมตองบอกเรื่องนี้กับภาคิน
เชนเดียวกัน การจะเดินเขาไปพูดกับภาคินอยางเปนมิตรมันก็กระไรอยู ผมเลยตองทําเปนไปกอกวนเขา พาวินดี้ไปเยยหยันอีกฝาย
เพื่อหลอกตาคนอื่น ผลออกมาคือภาคินเลือดขึ้นหนาหลังจากรูความจริง!

“แลวพี่รูไหมครับวาใครอยูเบื้องหลัง” นองถามหลังจากผมเลาทุกอยางใหฟงอยางละเอียด

“รู” ผมตอบอยางมั่นใจ เชนเดียวกับพอที่บอกวา “รู” เมื่อผมถามเพื่อความแนใจวาเปนใครที่อยูเบื้องหลัง พอผมรอบคอบเสมอ


กอนที่พอจะตัดสินใจเปนฝายเดินเขาไปหานายใหญของชินกฤษ ทุกอยางก็ตกอยูภายใตการควบคุมของพอเรียบรอยแลว

“แลวตอจากนี้มันจะเปนยังไง”

“ภาคินก็จะฆาไอนั่นแทนพี่ไงครับ”

“หะ!”

“มันสมควรไดรับสิ่งที่มันกอไว ไอสันดานนั่นมันจะฆาวินดี้ของพี่ แลวคิดหรือวาพี่จะปลอยมันไป”

“หมายความวาไง นี่อยาบอกนะวาพี่ไปซอนแผนเขา ยืมมือคุณภาคินแกแคน” ฉลาดจริงๆ เลย สมแลวที่เปนคนรักของผม

“อยาไปคิดมากเลย ถือวากฎของธรรมชาติ” ผมลุกขึ้นนั่ง ดึงนองมากอดไว เพราะผมมันเปนผูรายอยางนี้ไงถึงไมอยากเลาใหวินดี้ฟง


ตั้งแตแรก

“กฎที่ไมมีขอยุติอยางนั้นหรือ แกแคนกันไป แกแคนกันมาอยางนี้ แลวเมื่อไหรมันจะสิ้นสุดซะที”

“ทุกอยางมีจุดจบทั้งนั้น ขึ้นอยูกับวาตองใชเวลามากนอยแคไหน อยางความรักของพี่จะจบเมื่อพี่สิ้นลมหายใจ” ไมวาเปลานะครับ


หอมแกมวินดี้ฟอดใหญดวย
“อยามาเฉไฉออกนอกเรื่อง” ฉลาดอีกแลวเมียผม เวลาจะเลื้อยทีไรถูกวินดี้ดึงหางไวทุกที

“เลามาใหหมดเลย ไมใชแคขาวนี้ใชไหมที่พี่ไปบอกคุณภาคิน เขานาจะเปนคนฉลาด จูๆ จะมาเชื่อคําพูดพี่แคสองสามประโยคได


อยางไร มันตองเปนเรื่องอื่นสิ ที่ทําใหเขาโมโห” เรื่องที่ตองคิดเปนกระบวนการนี่ที่รักผมเกงนักละ หัวแหลมจริงๆ เลย

“ทําไมครับ พี่ไมนาเชื่อถือขนาดนั้นเลยหรือ” ผมเลิกคิ้วถาม วินดี้สายหนา

“ไมใชอยางนั้น เรื่องนี้มันเรื่องใหญไมใชหรือ พี่ไปบอกเขาแบบนั้น เขาตองอึ้งมากกวาโมโหสิ” จริงอยางนองพูดนั่นแหละครับ


หลังจากที่ผมพูดจบภาคินก็เงียบไปครูใหญ กอนเขาจะเดือดดาลเมื่อผมใสไฟเรื่องอื่นเขาไป

“พี่ก็แคบอกความจริงเขาอีกอยาง”

“ความจริงอะไร” ใบหนาของวินดี้บงบอกชัดเจนวาอยากรู นัยนตากลมใสของนองไหวระริกอยางรอคอยคําตอบ เห็นอยางนี้แลว...


เฮอ...ใจออนอีกแลวสิเนี่ย

“พี่บอกเขาวาหากพี่ไมจับตัวคนรักเขาไปในวันนั้น บางทีคนของเขาอาจไดผัวเพิ่มอีกเปนสิบ”

“หะ! พี่หมายถึงใคร เกรซนะหรือ” วินดี้หนาซีด ถามเสียงสั่น ผมพยักหนาแทนคําตอบ

อยางที่บอกวาผมใสไฟ จงใจยั่วโมโหภาคิน เนื่องวันที่เราจับตัวเกรซมานั้นเขากําลังเลี้ยงฉลองกับเพื่อนที่ชายหาด คิดวานาจะฉลอง


สอบเสร็จกับเพื่อนเหมือนวินดี้ ปารตี้ริมทะเล เพื่อนมีแตผูชายทั้งนั้น เมากันหัวราน้ํา มันมีเปอรเซ็นตเปนไปไดใชไหมวาเขาจะถูกรุม
โทรม ถึงความนาเชื่อถือจะแคศูนยจุดศูนยหนึ่งเปอรเซ็นตกต็ ามที แตผมก็ยังอุตสาหนําขาวนี้ไปบอกเขา เห็นไหม ผมหวังดีกับภาคิน
แคไหน ถาไมจับตัวเกรซไป คนรักของเขาคงจะถูกแทะโลมทางสายตาไปมากกวานั้น

“ละ...แลว...เกรซ...”

“ไมมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาหรอกครับ พี่จับตัวเขามาไวเฉยๆ พอวินดี้ฟนพี่ก็ปลอยตัวกลับ” วินดี้มีสีหนาดีขึ้นเมื่อผมพูดอยางนั้น

“นาสงสารจัง ใครกันที่จะทํากับเขาแบบนั้น แลวถาพี่ไปไมทันจะเปนยังไง” ไมเปนอยางไรหรอกครับ เขาก็คงนอนหลับอยูในบังกะโล


อยางมีความสุขตามประสาคนเมา อยากบอกนองครับ แตสันดานเลวๆ ดันเสือกอยากเปนคนดีตอหนาวินดี้ คงไมเปนไรหรอกมั้งถา
ผมจะปนแตงความดีใสตัวเองบาง

“ถึงวาละ คุณภาคินถึงไดโมโหมากมาย” นองพึมพํา สวนผมพยักหนาเห็นดวย


“ใชครับ เลือดขึ้นหนาเลยทีเดียว” พูดไปก็ขําไปครับ การไดยั่วภาคินนี่มันทําใหอารมณดีขึ้นมากโขจริงๆ เลยนะ

“อยางนี้ก็เทากับวาพี่กับคุณภาคินเริ่มจะผูกมิตรกันแลวใชไหม” คําถามของนองทําใหผมหยุดยิ้มอยูชั่วครูเพื่อคิดตาม กอนจะยิ้ม


บางๆ อีกครั้ง

“อืม...จะวาอยางนั้นก็ใช เพราะวานี่เปนครั้งแรกเลยที่เรายื่นมือเขาไปชวยทางโนน มันคงถึงคราวที่ความขัดแยงระหวางสองตระกูล


จะสงบเสียที”

“ดีจัง ตอนที่พี่คุยกับพอ ลุงเรียวก็โทรหาวิน” นองบอกกอนโนมตัวไปยังโตะโคมไฟขางเตียง หยิบโนตบุคมาเปด

“วินดี้คงรูแลวสินะ” นองละสายตาจากโนตบุค สบตากับผม

“ครับ วินวาพี่ตัดสินใจถูกแลวที่ทําอยางนั้น”

“แลววินดี้คิดวาไง พอจะรวมงานกับภาคินไดไหม”

“วินสิตองถามพี่วาพี่จะรวมงานกับคุณภาคินไดหรือเปลา” ผมหัวเราะ โยกหัวนองไปมาอยางเอ็นดู

“พี่ไมไดบริหารเอ็มเจอยางวินดี้นี่ครับ แคอยูเบื้องหลัง แตดูเหมือนทางโนนอยากจะมีสวนรวม”

“เขามีสิทธินี่ ในเมื่อเขาก็เปนหุนสวนเหมือนกัน” ถูกตองแลวครับ นอกจากเราจะยื่นมือเขาไปจัดการเรื่องภายในของชินกฤษ ผมกับ


พอยังลดทิฐิเพื่อรวมลงทุนกับชินกฤษใหเปนผูประกอบในไทยแลวยื่นเสนอใหกับเอ็มเจ รามิลเปนผูประสานงานเรื่องนี้ เขาทํางานได
รวดเร็วทันใจผมมากเลยทีเดียว แควันเดียวเรื่องก็ไปถึงเอ็มเจเรียบรอยแลว

“พี่มีเวลาทําความรูจักกับภาคินอีกเปนป กวาวินดี้จะเขามาบริหารงานตอ เวลามากมายขนาดนั้น คงทําใหเราปรับตัวเขาหากันได


บางละนา”

“ของมันแนอยูแลว ถาพี่ไมไปยั่วโมโหเขาอีก” ผมหัวเราะใหกับคําพูดของวินดี้

“พี่ชวนเขามารวมลงทุนดวยใหไดนะครับ เปนมิตรยังไงๆ ก็ตอ งดีกวาเปนศัตรูกัน” นองบอกพรอมกับยื่นโนตบุคมาใหผม ผมยิ้มให


นองอยางมั่นใจ เมื่อเอ็มเจยอมรับขอเสนอมันก็ไมใชเรื่องยาก ชินกฤษตองยินยอมแนๆ ในเมื่อเรายอมลงใหขนาดนี้ ผมเชื่อวาลึกๆ
นายใหญของทางโนนก็อยากกลับมาเปนเพื่อนกับพอผมอีกครั้ง

“โห...จากนี้วินดี้ก็ยุงจนหัวหมุนเลยสิ” ผมมองตารางเวลาของนองในโนตบุค ผมจะไหวไหมนี่ ดูทาเอ็มเจจะมาแยงเวลาของวินดี้ไป


จากผมเสียแลว หลังจากเปดเทอมนองก็จะขึ้นปสี่ วินดี้ตองวุนวายกับการเรียนและตองเขาไปเรียนรูงานในบริษัทอีก แลวนี่อะไร
หลังจากนองเรียนจบ ซัมเมอรหนาระหวางรอรับปริญญาวินดี้ตองไปสํานักงานใหญ

“หะ...หมายความวาไงครับ ตรงนี้นะ” ผมชี้ใหนองดู วินดี้ยิ้มหวานใหผม แตผมไมอยากเห็นรอยยิ้มแบบนี้ในเวลานี้

“ลุงเรียวถามวินตั้งนานแลวครับ ตั้งแตตอนที่เราไปเที่ยวภูเก็ตครั้งนั้น ลุงสงตารางเวลามาให แตวินเพิ่งมีโอกาสเอามาใหพี่ดู”

“วินดี้ตอบตกลงไปแลวหรือยัง”

“ยัง วินรอถามพี่กอน”

“ดีเลย ตอบปฏิเสธไป พี่ไมใหวินดี้ไป ตั้งสามเดือนเชียวนะ”

“แต...”

“ไมมีแตอะไรทั้งนั้น เราคุยกันจบแลว ปดโนตบุคซะ พี่จะไปอาบน้ํา” ผมบอกนองเสียงแข็งกอนจะลุกขึ้นถอดเสื้อผา หยิบผาเช็ดตัว


แลวเดินเขาหองน้ํา

ไมมีอีกแลวครับที่ผมจะปลอยใหนองหางผม ใหมันรูไปสิวาเวลาหนึ่งปตอจากนี้วินดี้จะไมรูอะไรเลย ผมจะติวเขมใหนองเอง รอยทั้ง


รอยวินดี้ตองพรอมสําหรับเปนผูบริหารเอ็มเจอยางแนๆ ผมอาบน้ําไปพรอมกับขมความหงุดหงิดไป แคคิดวาวินดี้ตองไปอยูอีกฝง
ของโลก เอื้อมมือไปดึงนองมากอดไมได ไดยินแคเสียง แคนี้ใจผมก็โหวงเหวงสุดจะพรรณนา

ผมนุงผาเช็ดตัวออกมาจากหองน้ํา มองนองที่หลับพริ้มอยูบนเตียง วินดี้ปดไฟกลางหองเหลือไวแตไฟหัวเตียง ชุดนอนผมถูก


จัดเตรียมไวใหอยางเรียบรอย ผมเอียงหนามองมันสลับกับมองหนาวินดี้

“หึหึ” กอนจะหัวเราะออกมาพรอมกับสายหนาอยางยอมจํานน

“รายนักนะ...หืมม...” ผมหอมแกมนองอยางหมั่นเขี้ยว หยิบเสื้อผาขึ้นมาสวม เดินกลับเขาไปในหองน้ํา เปาผมใหแหงกอนเดิน


กลับมาลมตัวนอนขางนองอีกครั้ง เอื้อมมือไปปดไฟหัวเตียง ดึงหมอนที่นองหนุนอยูออกแลวสอดแขนเขาไปเพื่อใหวินดี้นอนหนุน
ไหลผม มืออีกขางโอบกระชับกอดนองไวแนน

คนดีของผมเจาแผนการเหลือเกิน นับวันนองยิ่งเจาเลหขึ้นเรื่อยๆ นี่ก็มาแสรงยั่วใหผมโมโหเพื่อจะไดลืมเรื่องที่นองสัญญาวาจะให


หลังจากผมเลาเรื่องทั้งหมดใหฟง ผมนาจะเอะใจตั้งแตแรกแลววาวินดี้ติดผมพอๆ กับผมติดนอง ในเวลานี้ไมมีทางเสียหรอกที่เราทั้ง
คูจะยอมใหอะไรมาพรากเราจากกันอีก

แตชางเถอะ ถึงผมจะรูทันวินดี้ แตก็ถือวาเอาใจนองสักวันแลวกัน แสรงยอมใหนองชนะก็ไมเสียหลาย เพราะยังไงๆ วินดี้ก็ยังอยูใน


ออมแขนผม จะกอด จะหอม จะรักนองตอนไหนก็ไดอยูแลว

“ฝนดีนะครับ” ผมกระซิบบอก

“เชนกันครับ” นองตอบพรอมกับยกมือขึ้นมาโอบกอดผมไว

ผมหลับตา ยิ้มใหกับความมืดแตในใจผมกลับพบความสวาง คืนนี้ผมคิดวาพอก็คงหลับไปพรอมกับความรูสึกเชนเดียวกันกับผม


วินดี้ไมใชแคตัวเชื่อมความสัมพันธในครอบครัวนองเทานั้น สายลมของผมยังพัดเอาความรักและเอื้ออาทรไปยังคนอื่นๆ ดวย

คุณจะเชื่อไหมวาประเด็นการรวมลงทุนกับชินกฤษนั้นนองเปนคนเสนอขึ้นมา ในวันที่ลุงเรียวของนองมาอธิบายรายละเอียดทุกอยาง
ใหวินดี้ฟงที่บาน นองกลาวขึ้นมาลอยๆ วาหากไดรวมลงทุนกันสองบริษัทพรอมกันนาจะดีกวาตองเลือกขางใดขางหนึ่ง คําพูดนั้นทํา
ใหผมเก็บมาคิด แลววันนี้ทุกอยางก็จบลงพรอมกับการเริ่มตนใหม

ผมดีใจกับพอที่จะไดเพื่อนเกาคืนมาในไมชา ดีใจกับความแคนที่กําลังจะถูกฝง ดีใจกับฤดูกาลแหงมิตรภาพที่กําลังจะเบงบาน ดีใจ


กับภาคินที่ถึงเวลาสะสางระบบภายในชินกฤษเสียที ดีใจกับตัวเองที่โชคดีไดเปนคนรักของวินดี้...และดีใจที่สายลมของผมคนนี้ชวย
หอบรักมาหมใจพวกเราทุกๆ คน

สองเดือนที่ผานมาของชวงเวลาปดเทอม ชีวิตของผมไดพบกับอะไรมากมาย สิ่งที่ไมคิดวาจะผานไปได ผมก็ผานมันมาได สิ่งที่ไมคิด


วาจะเปนอยางนั้น มันก็เปนอยางที่ไมคาดคิดมากอน เวลาในแตละวินาทีมันชางมหัศจรรยนัก ผมไมอาจคาดเดาไดเลยวาอะไรจะ
เกิดขึ้นบางในวันหนึ่งๆ แตถึงแมจะมีอะไรหลายอยางผานเขามาในชีวิต แตผมก็ยังมีคนที่รักคอยยืนอยูเคียงขาง มีแม พอทิน ตริน
ปริน เมธ ลูกแพร และที่ขาดไมไดก็คือ คนรักของผม ไอพี่ทอง

“อืม...ใครโวยวาย...อะไร...” ผมขยับตัวเมื่อเสียงโหวกเหวกที่ดังอยูนั้นรบกวนการหลับใหลของผม ตายังหลับพริ้ม ซุกตัวเขากับอก


ของพี่ พึมพําถาม

“เดี๋ยวพี่ออกไปดูให” พี่จูบหนาผากผมกอนลุกขึ้นจากเตียง ถาเดาไมผิดเสียงแปดหลอดแบบนั้นคงเปนเสียงของปรินแนๆ แลวดูทา


มันจะวิ่งไปรอบบาน เคาะหองคนอื่นไปทั่วเลย

“ตื่นยัง พี่คิน กุล ลุกเร็ว!” ยังไมทันที่พี่จะเดินไปถึงประตู เสียงเคาะหองนอนเราก็ดังระรัวพรอมกับเสียงตะโกนอยางตองการจะฉุด


กระชากผมใหลุกจากเตียง

“อะไรของมัน” ผมขยี้ตา งัวเงียลุกขึ้น หันไปมองหลังพี่ที่เปดประตูออกไปดูเหตุการณภายนอก

“แมเร็ว! พอเร็วๆ สิ! นี่พี่คินทําไมไมเรียกกุลออกมาดวย! พี่รันเรียกตรินหรือยัง!” เสียงที่ดังแทรกเขามาในหองทําใหผมขยับตัว สะบัด


หัวเพื่อไลความงวง สายตามองไปยังนาฬิกาหัวเตียงซึ่งบอกเวลาตีหาหาสิบนาที
“จริงหรือ! สุดยอดเลย...” น้ําเสียงตื่นเตนของคนอื่นๆ ดังกึกกองอยูภายนอก แยกไมออกวาเสียงใครเปนเสียงใครแถมจับประโยค
ไมไดดวยวาทุกคนดีใจดวยเรื่องอะไร

“ที่รักลุกเร็ว!” น้ําเสียงยินดีของพี่ที่ตะโกนเรียกยิ่งทําใหผมเกิดความสงสัยมากขึ้น

ไอพี่ทองเปดประตูพรวดพราดเขามา กระโจนมาอุมผมลงจากเตียงดวยทาทางตื่นเตน “เร็วเถอะที่รักเดี๋ยวไมทัน”

“อะไรครับ” ผมถามอยางงงๆ รับเสื้อที่พี่โยนใหมาสวมหัวอยางรวดเร็ว

“เจาชางบานแลว!”

“เจาชางบาน!” ผมทวนคําเสียงสูงอยางไมเชื่อหูกอนจะรีบสอดแขนเขาไปในเสื้ออยางเรงรีบเมื่อสมองประมวลผล

“จริงหรือ ไปเร็ว!” อาการงัวเงียหายเปนปลิดทิ้งทันที ผมดึงมือพี่เขาแลวออกวิ่งไปนอกหองตรงไปยังเรือนกลวยไมของตาซึ่งคนอื่นๆ


รออยูที่นั่น

“กุลเร็ว...นองกุล...ทางนี.้ ..” เสียงเรียกอยางลิงโลดของปรินกับตรินทําใหผมเรงฝเทา

“ไหนๆ มันเปนชางเผือกหรือเปลา” พอไปถึงผมก็แทรกตัวฝาวงลอมเขาไป

“มันขาวหมดเลย” ผมบอกหลังจากดูสีดอกของเจาชางทุกชอ

“ใชขาวหมด” ตรินบอกผมดวยรอยยิ้มเต็มใบหนา

“ถาอยางนั้น เจาชางก็เปน...”

“ชางเผือก! เย!” ทุกคนตอบพรอมกันดวยความยินดี หัวเราะเสียงดัง กระโดนโลดเตนไปมาดวยความดีใจ

“ชางเผือก ชางเผือก ชางเผือก” พวกเราประสานเสียง แขนเกาะกันไว เตนไปรอบๆ กระถางกลวยไม โหรองอยางยินดี

จนกระทั่ง “ดูนั่น...พระอาทิตยขึ้นแลว” เสียงของพอเลี้ยงผมที่ดังแทรกขึ้นมาทําใหพวกเราอยูในอาการสงบ เงยหนาขึ้นมองแผนฟา

พระอาทิตยในรุงอรุณฉายคอยๆ ทาบทับผืนนภา สีทองของอรุโณทัยบงบอกถึงการเริ่มตนวันใหม พระอาทิตยดวงโตลับเหลี่ยมตึก


รามบานชองขึ้นไปผงาดบนทองฟา ทอแสงแสงอบอุนสาดเขามาในเรือนกลวยไมของตา หยดน้ําซึ่งเกาะอยูตามใบของเจาชางลอ
แสงแพรวพราว สีขาวบริสุทธิ์เบงประกายงดงามอยางภาพชวนฝน

สายลมออนๆ ที่พัดผานทําใหผมพูดกับคนสําคัญของผม...ตาครับ ตาเห็นหรือเปลาวาเจาชางของตา มันเปนชางเผือกแลวนะครับ


มันเกงมากเลยนะตา ทนแดดทนฝนมาสามสิบกวาป คอยๆ ปรับตัวทีละนิดๆ จนในที่สุดมันก็ทําได มันออกชอตั้งสี่ชอ บานสะพรั่ง
พรอมกันเลยครับ มันแข็งแกรงใชไหมตา เหมือนหลานตาคนนี้เลยใชไหม ตาดูกุลสิครับ ตอนนี้กุลเขมแข็งขึ้นแลวนะตา กุลไมขี้แย
เหมือนเมื่อกอนแลว อีกแคปเดียวกุลก็จะเปนบัณฑิตและเปนนักธุรกิจสืบทอดกิจการของพอ เปนไงครับ หลานของตาเกงใชไหม

ตาพูดถูกวากุลไมเคยโดดเดี่ยว รอบขางกุลเต็มไปดวยรักและหวังดี ขอบคุณนะครับตา ขอบคุณที่อยูเคียงขางหลานคนนี้เสมอมา ถึง


ตอนนี้ตาจะอยูไกลแสนไกล แตกุลรูวาตาเฝามองกุลจากที่ตรงนั้นพรอมกับสงความรักมาใหกุลเสมอ ความรักที่กุลมองไมเห็น แต
สัมผัสมันได รักที่ยิ่งใหญซึ่งคอยหมใจหลานใหอุนเสมอมา...

“ขามผานการสูญเสีย” เปนหนึ่งสิ่งที่ผมไมคิดวาตัวเองจะทําได ตอนที่เสียพอไปผมใชเวลาเปนปกวาจะกลับมาเปนผูเปนคนอีกครั้ง


แตการสูญเสียคราวนี้เพราะความรักและเขาใจของคนรอบขางๆ ทําใหผมใชเวลาทําใจแคเดือนกวาๆ ก็ยอมรับไดวาตาไดจากผมไป
แลว

ผมขามผานชวงเวลาแหงความเศราไปพรอมกับทุกคน ขามผานชวงเวลาแหงการเสียน้ําตาโดยมีคนรอบขางชวยเช็ดน้ําตาให ผม
กลับมายิ้ม หัวเราะไดอีกครั้งก็เพราะความรักของพวกเขา

“ทําไมวันนี้ลูกปรินถึงตื่นเชา มาเห็นเจาชางบานกอนคนอื่นๆ ไดละ” เสียงของแมที่ถามปรินทําใหผมตื่นจากภวังค หันไปมองปรินที่


เดินเขาไปแกะแขนพี่รัน

“ตองยกความดีความชอบใหพี่รัน ถาพี่รันไมกวนปรินแตเชา ก็คงไมเห็นหรอก” ปรินพูดดวยสีหนาภูมิใจ ในขณะที่ทุกคนอาปากคาง

“พี่ไมนากวนวินดี้ทั้งคืนเลย ไมงั้นเราอาจมีแรงมาตอกันตอนเชาแลวไดเห็นเจาชางกอนปรินกับรัน” เสียงกระเซาของไอพี่ทองที่


กระซิบขางหูทําใหใบหนาผมรอนผาว

“บา!” ผมเอ็ดพี่เขาเบาๆ อยางขวยเขิน หลบตา หันไปมองรอบตัว

ทันเห็นตรินซึ่งยืนขางผมหนาแดงแปรด เขาคงพอนึกภาพออกละมั้งวาพี่รันกวนปรินแบบไหน และที่ไหน ปรินมันถึงไดมองเห็นเจา


ชางในสวนกลวยไมของตา พอเลี้ยงผมยืนถัดจากตรินสายหนาไปมา คงระอากับความไมรูจักอายของลูกชายตัวเอง ในขณะที่แมผม
อมยิ้มอยางขําๆ สวนพี่รันซึ่งถูกปรินเกาะแขนหันหนาไปทางอื่น กรามพี่เขากระตุกเล็กนอย สงสัยพยายามกลั้นยิ้มอยูแนๆ สวนไอตัว
ดีที่เปนคนพูดนะหรือ มันมองหนาคนโนนคนนี้อยางจะถามวา มันพูดอะไรผิดอยางนั้นหรือ

เรื่องพี่รันกับปรินก็เปนอีกหนึ่งเรื่องที่ผมไมคิดวาจะรวดเร็วขนาดนี้ เมื่อกอนปรินพยายามปฏิเสธพี่รันตลอดมา ไมยอมพาพี่รันเขา


บาน ไมยอมรับวากําลังคบหาดูใจกันอยู แตตอนนี้ถึงปรินจะยังปากแข็ง บอกวาพี่รันเปนแคคูนอน แตสิ่งที่ทั้งคูแสดงตอกันมัน
มากกวานั้นมาก

ปรินยอมสวมแหวนที่พี่รันซื้อใหดวยทาทางปนปงแตกลับไมเคยถอดมันออกเลยสักครั้ง ปรินยังไลพี่รันกลับบานเสมอแตพอเวลาพี่รัน
จะกลับปรินตองหาเรื่องทะเลาะ หนางอ งอนตุบปองจนพี่รันตองตามงอ สุดทายพี่รันก็ตองคางที่บานผมทุกที

ปรินยังหามไมใหพอทินไปกินขาวกับพอพี่รันแตพอวันหยุดพี่เขามาถึง ปรินกลับเปนฝายโทรไปจองรานอาหาร ปรินยังปฏิเสธทุกครั้ง


เวลาพี่รันชวนไปบานแตกอนที่พี่รันจะเลิกงานปรินก็ไปรอที่โนนแลว ปรินยังแกลงชายตาใหชายอื่น ยิ้ม หัวเราะอยางอารมณดียามพี่
รันหึงแตปรินจะลมออกหูหากใครมาเกาะแกะพี่รัน ที่สําคัญยามพี่รันบอกวารักปรินจะตอบกลับวารักเชนกัน แตถาใครบังเอิญผาน
มาไดยินปรินจะถามอยางกวนๆ ทันทีวา

“มองทําไม ถึงจะเปนแคคูควงแลวบอกรักกันไมไดหรือไง”

“เมธมาทันหรือเปลา” เสียงเมธที่ดังเขามาใกลพรอมทาทางกระหืดกระหอบของเขาทําใหพวกเราหันหนาไปมอง

“ทําไมมาเร็วจัง” ตรินถามพรอมกับเดินเขาไปหาเมธ

“วางสายกับตรินแลวเมธก็รีบมาเลย” เมธตอบพลางยิ้ม

“แลวนี่ขับรถเร็วใชไหม” ตรินถามดวยน้ําเสียงไมสบายใจปนหวงใยอยูในที

“นิดหนอยนะ อีกอยางตอนเชาๆ แบบนี้รถไมติดดวย” เมธแกตัว แตสีหนาของตรินยังไมดีขึ้น

เมธกางแขนออก “ดูสิ เมธยังอยูครบ ไมไดเปนอะไรเลย” เมธพูดพลางยิ้ม ขยับเขามาใกลตริน “หายหวงไดแลว” กระซิบบอกตรินแต


ทุกคนไดยินกันเต็มสองรูหูเลย

ตรินกมหนา “ชอบทําใหหวงอยูเรื่อย” เขาบอกเสียงเบากอนจะคอยๆ เงยหนาขึ้นสบตากับเมธ

แลวพอสองสายตาสบกับ รอบกายของคนทั้งสองก็วางเปลา ในความรูสึกของคนทั้งคูมีเพียงตรินกับเมธเทานั้น พวกเขากระซิบ


กระซาบกันอยูแคสองคนกอนตรินจะดึงเมธไปดูเจาชาง จากนั้นเสียงคุยกระหนุงกระหนิงก็ดังขึ้น สิ่งนั้นทําใหพวกเราเขาใจวาเรา
กําลังเปนสวนเกินของสองคนนี้ ทุกคนอมยิ้มกอนจะปลอยใหทั้งสองใชเวลาดวยกันสักพัก แมขอตัวไปดูอาหารเชาสําหรับพวกเรา
สวนพอเลี้ยงผมแยกไปดูตนไมอยางอื่นในสวน

เรื่องของเมธกับตรินนั้นจะเปนอยางนี้ตลอดหากพวกเขามาอยูดวยกัน โลกจะหยุดหมุนทันที ทั้งสองจะแสดงความรักถึงกันและกัน


ผานทางสายตา ไมตองเอยคําพูดหวานๆ ปอยออีกฝาย แตทุกคําพูดลวนเต็มไปดวยความหวงใยซึ่งกันและกัน

การมองความรักของทั้งสองในมุมคนนอกอยางผม ทําใหผมรูวาความรักสําหรับบางคนตองการเวลาอยางจริงแท มันคลายกับการดู


คนทั้งคูปลูกตนไมตนหนึ่ง ขณะที่รอใหตนไมงอกงามพวกเขาทั้งสองก็เรียนรูกันไปพลางๆ พรอมกับรวมใชเวลารวมกัน จนกระทั่งตน
รักในใจของทั้งคูบานสะพรั่ง พวกเขาก็รูใจกันเปนอยางดี

การเปนคนใจเย็นของตรินชวยทัดทานความเปนคนใจรอนของเมธ การเปนคนพูดตรงไปตรงมาของเมธ ทําใหคนไมคอยถามไมคอย


พูดอยางตรินเขาใจเมธไดงายขึ้น สองความตางแตกลับเขากันไดอยางลงตัว

“ไมรูจะหึงทําไม ก็รูๆ วาพี่ไมมีใครนอกจากนองเมธ” ตรินเผลอพูดออกมาดวยอารมณฉุนเฉียวเมื่อทั้งคูไปดูหนังดวยกัน แลวเมธ


แสดงความไมพอใจเมื่อเจอรุนนองในคณะของตรินโดยบังเอิญ รายนั้นเดินเขามาทักตรินดวยทาทางสนิทสนม

“จริงอยูวาความรูสึกระหวางเราไมตองพูดมันออกมา แตบางครั้งเมธก็อยากไดยินเหมือนกันนะวาตรินรักเมธหรือเปลา ไมเคยบอก


ใหรูเลย แลวแบบนี้จะไมใหเมธหวง เมธหึงไดยังไง เมธก็กลัววาตรินจะมองคนอื่นมากกวาเมธเหมือนกันนะ” เมธพูดกับตรินอยาง
ตรงไปตรงมา

“เมธอยากมั่นใจ อยากเขมแข็ง อยากเชื่อใจ บอกเมธสิ บอกวา...”

“พี่รักนองเมธ โอเคนะ พอใจแลวใชไหม” ตรินรีบพูดขัดขึ้นมาดวยใบหนาแดงก่ํา พูดจบเขาก็เดินแกมวิ่งหนีเมธไปเลย เมธไดแตยืนอึ้ง


อยูพักใหญ กอนมันจะบา ตะโกนบอกรักตรินกลางหาง

“เมธก็รักตรินนะ!”

มันไมอายแตผมแคไดฟงจากปากของตรินกลับอายแทน ความสัมพันธของเมธกับตรินพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลา จนเดี๋ยวนี้พวกเขา


ทั้งสองยอมรับกับทุกคนวาเปนคูรักกัน

“เมธ มึงหันกลองมาทางนี้บางไดไหม” หลังจากผานไปครูใหญ ผมตะโกนเรียกใหมนั หันมาสนใจคนอื่นบาง มีอยางที่ไหน อยูกันเปน


กลุมใหญ มันดันยกกลองที่คลองคออยูขึ้นมาเก็บภาพตรินอยูคนเดียว

“เดี๋ยวรอใหมาครบกอน” มันตอบโดยไมละสายตาจากเลนส จนตรินใชมือปดหนาเลนสนั่นแหละเมธถึงถอนสายตา พวกเขาทั้งคูหัน


มาทางพวกเรา

“เพิ่งสังเกตวาเมธเอากลองมาดวย” ปรินพูด ไอพี่ทองซึ่งกําลังคุยกับพี่รันอยูหันไปมองเมธ


“ดีเลยจะไดเก็บภาพไว วาแตขาดใครหรือ” พี่เขาถาม

“ดีที่ไหนละ เพิ่งตื่นนอนหัวฟูแบบนี้ ปรินไมเขากลองดวยหรอกนะ” ปรินประทวง

“อาวทําไมละ ไมอยากเก็บภาพไวหรือ จะไดรูไงวาตอนทีเ่ ห็นเจาชางครั้งแรกนะอยูในสภาพไหน” พี่รันลอ ปรินแบะปากกมมอง


ตัวเอง ผมก็ทําเชนเดียวกัน

“ฮาฮา...ดูไมจืดจริงๆ ดวย” ผมหัวเราะพลางย้ําสภาพตัวเอง

ผมปรายสายตาไปยังไอพี่ทอง พี่เขายังหลอเฟยวอยูเลย แมวาจะเพิ่งตื่นนอนก็ตามที กลามเนื้อที่เปนมัดๆ ภายใตเสื้อกลามตัวบาง


นั้นชวยเสริมใหดูดีขึ้น แตผมนี่สิอยาพูดถึง หัวฟู หนาคงจะมันเยิ้ม เสื้อที่พี่เขาโยนมาใหผมไมไดดูวามันดานไหน เพิ่มมาสังเกตวา
ตัวเองใสเสื้อกลับดาน อยางอายเลยครับ

“แตแบบนี้ก็ดี ถือวาเปนภาพศิลป” เมธบอกอยางขําๆ

“มาแลวจา มาแลว” แตยังไมทันที่ผมจะไดตอบโตวาศิลปแบบแนวๆ ใชเปลา เสียงเจื้อยแจวของลูกแพรก็ดังแทรกขึ้นมา ทําใหพวก


เราเขาใจวาคนที่เมธใหรอกอนนั่นหมายถึงคือใคร

“อะไรอะ เมธมาถึงกอนลูกแพรไดยังไง” พอมาปุบคุณเธอก็แสดงอาการไมพอใจทันที

“ก็เมธไมตองรอมาพรอมใครนี่” เมธบอกพรอมกับหลิ่วตาใหอยางลอเลียนกอนสงยิ้มใหพี่มิ้นเปนการทักทาย

ลูกแพรเมมเรียวปาก “ไหนๆ เจาชางบานแลวจริงหรือ” เธอแสรงทําเปนไมสนใจสารถีสวนตัวซึ่งยิ้มตอบเมธกอนเดินเขาไปทักทายไอ


พี่ทองกับพี่รัน

เมธกับพี่มิ้นตอนนี้เคาเปนมิตรกันแลวครับ เมธมันดี๊ดาใหญที่รูวาพี่มิ้นจะจีบลูกแพร มันทําตัวเปนพอสื่ออยางดีเลยทีเดียว เมธบอก


วาคนอื่นมีคูหมดแลว เพราะฉะนั้นตองชวยใหทั้งสองรักกัน อยางเชานี้นอกจากมันจะโทรบอกลูกแพรแลว คงบอกใหพี่มิ้นไปรับหญิง
สาวมาดวยแนๆ แตผมวาทั้งหมดทั้งมวลทีท่ ําเพราะวามันดีใจที่ไมตองคอยหึงพี่มิ้นกับตรินมากกวา

“วาว ขาวทั้งตนเลย” ลูกแพรอุทานเสียงสูงหลังจากเห็นเจาชาง

“พี่มิ้น มาดูเร็ว” แถมยังไมลืมเรียกพี่มิ้นมาดูดวย ดูทาสองคนนี้จะลงเอยกันอีกไมนานนี้แหละครับ สวนผมก็เชียรพี่มิ้นสุดตัวเลย

เราปลอยใหพี่มิ้นกับลูกแพรเชยชมเจาชางจนพอใจแลวก็เรียกทุกคนมารวมตัวกัน ถึงเวลาเก็บภาพไวเปนที่ระลึกแลวครับ ถึงอยูใน


สภาพที่ไมคอยหนาดูเทาไหรแตผมวามันดูเปนธรรมชาติดีนะ พี่รันเดินไปเรียกพอเลี้ยงผม สวนไอพี่ทองไปเรียกแมในครัว ปรินยกมือ
เสยผมใหเขาที่แตผมเอื้อมมือไปขยี้ใหมันยุงอีกครั้ง ผมหัวเราะเมื่อมันทําหนายุง มองผมตาดุ แตแทนที่มันจะทําผมคืนกลับหันไปขยี้
หัวตรินอยางที่ผมเพิ่งทํากับมัน

เมธกับลูกแพรหัวเราะ แตก็ไดไมนานเพราะพวกเราไมปลอยใหทั้งสองลอยนวล ผมกับตรินหันไปจัดการกับเมธ ในขณะที่ปรินกระ


โจนเขาหาลูกแพร แตหญิงสาววิ่งไปหลบหลังพี่มิ้น ปรินบอกใหพี่มิ้นหลบ แตพี่เขาสายหนาปฏิเสธ ปรินฮึดฮัดอยางหัวเสีย ลูกแพรได
ทีแลบลิ้น ปลิ้นตาใสปรินที่ทําอะไรเจาหลอนไมได

ปรินหันซายหันขวากอนเดินไปหยิบสายยาง ลูกแพรรองกรี๊ดเมื่อรูวาปรินจะทําอะไร เธอวิ่งหนีมาทางพวกผม ผมกับตรินกําลังสนุก


กับหัวไอเมธจึงไมทันไดระวังตัว พอปรินฉีดสายยางเทานั้นแหละ สะดุงกันยกใหญ กอนวงจะแตก วิ่งหนีกันจาละหวั่น

“กรี๊ด...”

“ปรินหยุดนะเวย”

“เปยกหมดแลว”

“อาก ฉีดไปทางอื่นสิโวย”

ไมรูวาเสียงใครเปนเสียงใคร วิ่งวุน กันไปทั่ว ขณะที่ปรินมันหัวเราะอยางสนุกสนาน พอเลี้ยงผมที่เดินมากับพี่รันรีบกระโดนหนีเมื่อ


สายน้ําพุงไปทางพี่เขา ไอพี่ทองรีบหันหลังเอารางบังแมผมไว เมื่อปรินมันฉีดน้ําไปทางนั้นอยางไมทันไดระวัง สายน้ําเย็นๆ ปะทะ
เต็มหลังพี่แกไปเต็มๆ ปรินอึ้งไปชั่วครู ไอพี่ทองคอยๆ หันกลับมา

“ปริน!” พี่เขาเรียกชื่อมันเสียงต่ํา

“ปริน! แกตาย!” สวนนี่เปนเสียงของพวกผม

“อาก...พี่รันชวยดวย” สวนนี้เปนเสียงมันเมื่อพวกเรากระโจนเขาไปรุมสกรัม

กวาจะไดถายภาพก็เละเทะกันทั่วหนา แตภาพที่ออกมากลับเปนภาพศิลปที่งดงาม ใบหนาของนายแบบนางแบบทุกคนตางเต็มไป


ดวยรอยยิ้มและดูเปนธรรมชาติมากที่สุด สวนเจาชางของตาเจิดจรัสอยูทามกลางพวกเรา

“พรอมนะ” เสียงของเมธรองบอกอยูหลังเลนสซึ่งอยูบนขาตั้งกลอง เมธซูมภาพกอนจะกดซัดเตอรตั้งเวลาแลววิ่งมาหาพวกเรา

ภาพอีกแผนที่จะบันทึกภาพของทุกคนไวกําลังจะถูกถาย หนึ่งความทรงจํา รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ รอบกายผมคือคนในครอบครัวและ


คนที่ผมรัก แมผมยืนอยูขางพอเลี้ยงผม ถัดมาเปนไอพี่ทอง พี่มิ้นยืนถัดมา ตอจากนั้นก็เปนพี่รันโดยมีปรินนั่งบนพื้นอยูตรงหนา ลูก
แพรอยูถัดจากปริน ผมอยูถัดจากเธอขางหลังผมเปนไอพี่ทอง พี่วางมือบนไหลผม สวนในมือผมถือกระถางเจาชาง ตรินนั่งถัดจาก
ผม เมธวิ่งมานั่งขางตริน โอบไหลตรินไว แสงกระพริบของแฟลชทําใหพวกเรานับถอยหลังและวินาทีสุดทายกอนภาพถายแหงความ
ทรงจําจะถูกบันทึกพวกเราก็เอยคําที่ทําใหริมฝปากเราแยกออกเปนรอยยิ้ม

“หนึ่ง สอง สาม…เจาชาง…”

วันเวลาไมเคยหยุดเดินพรอมกับชีวิตผมกับพี่กาวไปขางหนาดวยกัน ตอนนี้เปดเทอมแลว เวลาของผมคอนขางจํากัด วุนวายกับการ


เรียนและการเรียนรูงานในบริษัทของพอโดยมีพี่และคุณภาคินเปนหุนสวนรายใหญ ถึงอยางนั้นก็ไมไดทําใหผมกับพี่รูสึกวาเราหาง
กัน

ผมกับพี่อยูบานพอ สลับกับบานของผม หากวันไหนเลิกงานชาเราจะกลับไปคางที่บานพอเพราะตื่นมาตอนเชาจะไดเขาบริษัทพรอม


กัน หากผมมีเรียนเชาเราจะกลับไปคางที่บานผม ตอนเชาผมจะไปเรียน ตอนบายก็แวะเขาไปบริษัทและกลับบานพรอมกับพี่ ถึงแม
ชวงนี้จะดูเหมือนวาชีวิตของพวกเราวุนวาย แตสิ่งที่เราทําดวยกันกอนหนานั้นยังคงทําเปนประจํา กอนนอนคนที่ผมเห็นกอนหลับตา
ก็คือพี่ และคนแรกที่ผมลืมตาตื่นก็ยังเปนพี่เหมือนเดิม

“เดี๋ยวเย็นนี้เราไปกินอาหารรัสเซียกันนะ” พี่เอยถามหลังจากเดินเขามาในหองทํางานของผม ผมเงยหนาขึ้นจากกองเอกสารที่ตั้งใจ


อาน

“คราวนี้คงไมถูกใครไลออกจากรานหรอกนะ” ผมพูดยิ้มๆ ไอพี่ทองเทาแขนสองขางกับโตะ โนมตัวเขามาใกล

“ไมมีแลวครับ เรากลายเปนแขกพิเศษสําหรับที่นั่นไปแลว” พี่บอกพรอมกับยื่นปากเขามาใกล

“อะไร” ผมแสรงถามถึงอาการของพี่ทั้งที่รูอยูแลววาพี่เขาตองการอะไร

“วินดี้คงไมคิดวาพี่มาถึงนี่เพื่อจะถามเรื่องอาหารเย็นหรอกนะ”

“นั่นสิ เขามาทําไม” ผมทําหนาไมรูไมชี้

“เขามาขอกําลังใจ ประชุมเครียดมาแตเชาแลว”

“อะ เอาไปเลย” ผมยื่นมือซายไปจับมือพี่ไว มือขวากําที่หนาอกกอนทําทาคลายเอาบางสิ่งไปวางในมือของพี่


ไอพี่ทองสายหนา “พี่ไมชอบกําลังใจที่สัมผัสไมได”

“อะ...อืม...” แลวพี่ก็ทวงกําลังใจที่สัมผัสไดดวยการดึงผมไปจูบอยางดูดดื่ม

“อา...ชื่นใจจัง” พี่บอกหลังถอนริมฝปากออกมา สายตาวาววับอยางพึงพอใจ

“เสียดายตองเขาประชุมอีกแลว ไมงั้นจะขอมากกวาจูบ” พี่เขาทําหนาหื่นๆ ใส ผมหลบตา

“ไปไดแลวเดี๋ยวคนอื่นรอ” ผมออมแอมบอกเมื่อพี่ยังออยอิ่งไมยอมขยับตัว

“จะไปก็ตอเมื่อวินดี้สัญญาวาเย็นนี้จะตามใจพี่” ผมกรอกตา

“อยาใจรายกับพี่หนอยเลย” พี่ออน ผมถอนหายใจ ผมเคยใจรายกับแกดวยหรือ พี่คงลืมไปแลวมั้งวาเมื่อคืนผมก็ตามใจไปตั้งหลาย


รอบแลว

“วาไงครับ”

“หื่น!” ผมตอวา

“หึหึ หื่นแตกับวินดี้คนเดียวเทานั้นแหละ” พี่เชยคางผมขึ้น

“ก็ลองไปหื่นกับคนอื่นดูสิ”

“ไมกลาหรอกครับ” พี่สายหนา พูดยิ้มๆ

“พี่ทํางานกอนนะ ไวเดี๋ยวตอนเย็นเจอกัน” ผมพยักหนาใหกับคําพูดของพี่ ไอพี่ทองโนมมาจูบหนาผากผมอีกครั้งกอนจะจากไป

ผมกับพี่ทํางานในตึกเดียวกัน พี่เขาจึงมักแวะมาทักทายผมเสมอ มากวนใหผมโมโหบาง หยอกลอผมบาง ทําใหผมอายบาง ไมก็มา


เลาเรื่องโนนเรื่องนี้ใหฟง ไมถึงสิบนาทีพี่ก็กลับไปทํางานอยางเดิม แตผมก็ชอบนะ มีพี่คอยปวนเปยนอยูใกลๆ มันรูสึกอุนใจอยาง
บอกไมถูก

มากกวานั้นไอพี่ทองยังหาวิธีมาทําใหเราใกลชิดกันมากขึ้น พี่เสนอใหเราเขียนไดอารี่ ผมจะเขียนในสวนของผม อยากเขียนระบาย


อะไรลงไปก็ได แลวกอนนอนพี่เขาจะมาอานและเขียนตอจากผม สิ่งนี้ทําใหพวกเราเขาใจอะไรมากขึ้น บางครั้งสิ่งที่ผมคิดก็ไมใช
เมื่อมาอานมุมมองของพี่แลวก็ไดเขาใจอะไรหลายๆ อยาง
ผมจะใชเวลาขณะที่พี่อาบน้ํามานั่งเขียนนูนเขียนนี่ สวนวันนี้ผมอยากจะเขียนบางอยางลงไป อยากบอกใหพี่รูวาตั้งแตวันที่ผมไดพบ
กับพี่ชีวิตของผมเปลี่ยนไปมากขนาดไหน หลังจากหนทางที่เคยเหน็บหนาวและอางวางไดถูกแสงตะวันแหงรักของพี่สาดสองเขา
มาแลวเปนอยางไร อยากใหพี่รูวาตลอดเวลามุมมองความรักของผมที่มีตอพี่นั้นเปนเชนไร

“....พี่มักถามผมวาผมรักพี่ไหม ผมจะตอบวา “รักครับ” แลวหากพี่ถามวารักมากแคไหน ผมจะตอบวา “ไมมีที่สิ้นสุด” ผมไมสามารถ


บอกพี่ไดหรอกวาความรักของผมนั้นกวางแคไหน ยาวแคไหน ลึกแคไหน หนาแคไหน แตที่บอกไดคือมันไมมีวันหมดสิ้น รักมากขึ้น
ทุกวันตามเวลาที่ไมเคยหยุดนิ่ง หลอมรวมเปนหนึ่งเดียวเขาไปในลมหายใจของผม “inexhaustible” นั่นคือคําจํากัดความของความ
รักที่ผมมี…”

“จริงหรือครับ” น้ําเสียงที่ดังแทรกขึ้นมาจากดานหลังทําใหผมรีบใชมือปดหนาไดอารี่ เอียงหนาไปมองพี่ที่โนมตัวลงมา กลิน่ หอม


ออนๆ ของสบูหลังอาบน้ําโชยมาแตะจมูก พี่เทาแขนทั้งสองขางกับโตะเขียนหนังสือ ครอมตัวผมไว ใบหนาคมเขมหันมาทางผม
นัยนตาแพรวพราวอยางลอเลียน ริมฝปากแยมยิ้ม ผมหลบตา ปดไดอารี่แลวดึงมากอดไวแนบอก

“ไมเห็นตองหวงเลย เดี๋ยวพี่ก็ไดอานวาเขียนอะไร”

“ใครใชใหอานกอน” ผมแสรงพึมพําอยางไมพอใจ ปกปดความอาย

“เห็นเขียนไปยิ้มไป พี่ก็อดอยากรูไมไดวาเขียนอะไร” พี่วางคางลงบนไหลของผม มือขวาเอื้อมไปหยิบปากกาที่ผมเพิ่งวางทิ้งไว มือ


ซายดึงไดอารี่ไปจากมือผม ผมเยื้อมันไวอยางชั่งใจอยูชั่วครูกอนจะยอมปลอยใหพี่อยางออยอิ่ง พี่วางไดอารี่ลงบนโตะอีกครั้ง เปด
มันออกอยางชาๆ

“อยาอานออกเสียงนะ” ผมรีบหามเมื่อริมฝปากพี่ขยับ แคนี้ผมก็เขินสุดจะบรรยายแลว หากไดยินสิ่งที่ตัวเองเขียนลงไปคงไมรูจะเอา


หนาไปไวไหน

พี่หันมายิ้มใหผมกอนหันไปกวาดสายตาบนหนากระดาษ อานขอความของผมที่เพิ่งจะเขียนลงไปเมื่อสักครู จากนั้นพี่จรดปลาย


ปากกาลงในสวนที่ยังวางเปลา สายตาของผมจับจองไปยังลายมือเปนระเบียบที่บรรจงเขียนในบรรทัดตอจากผม

“...ผมบอกนองทุกวันวา “พี่รักวินดี้” ความรักที่มีตอนองคือธาตุอากาศที่ผมใชหายใจ หากขาดวินดี้ ผมก็คงขาดใจ ตลอดเวลาที่ผาน


มานองไมเคยถามผมเลยวาผมรักนองมากแคไหน วินดี้คงรูวาความรักของผมนั้นมากดั่งเม็ดทรายในซาฮารา กวางใหญดั่งหวง
จักรวาลอันเปนที่อยูของมวลหมูดวงดารา หนาและหนักแนนดังพื้นพิภพที่อยูคูกับโลกามาตั้งแตปฐมกาล ยาวนานดั่งเชนคําวานิรัน
กาลซึ่งคูขนานไปกับเวลาที่ไมเคยหยุดเดิน

หากคําจํากัดความของคําวารักของนองคือ “inexhaustible” ความรักที่ไมมีที่สิ้นสุด หาความลึก ความหนา ความกวาง หรือความ


ยาวไมไดแลวละก็ คําจํากัดความคําวารักของผมก็คือ “unitary” การเปนหนึ่งเดียว ไมสามารถแบงแยกจากกันได ลมหายใจไม
สามารถแยกออกจากคนเปนไดฉันใด ชีวิตที่เต็มดวยรักของผมก็ไมอาจแยกจากวินดี้ไดฉันนั้น...”
พี่วางปากกาลง โอบเอวผม ผมวางมือทับมือของพี่ที่อยูหนาทองผม ยิ้มใหกับขอความที่พี่เขียน ยิ้มใหกับออมแขนอันอบอุน ยิ้ม
ใหกับความรักซึง่ ไมวันสิ้นสุดของสองหัวใจที่เปนหนึ่งเดียวกัน

หากนับเม็ดทรายในซาฮาราได...คงรูวา...เรารักกันมากแคไหน
หากวัดความกวางของจักรวาลได...คงไดรูวา...ขอบเขตความรักของเราสิ้นสุดลงที่ใด
หากหยั่งใจมนุษยได...คงไดรูวา...ความรักของเราลึกซึ้งเพียงใด
หากวัดความหนาของพื้นพิภพได...คงไดรูวา...เรานักแนนในรักและผูกพันกันขนาดไหน
หากสั่งใหเวลาหยุดเดิน...คงไดรูวา...รักของเรายาวนานเทาใด

แตทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่พูดมาทั้งหมดนั้น ผมสัมผัสกับมันได สิ่งล้ําคาที่เรียกวา “ความรัก” นี้อัดแนนอยูในอกของเราทั้งสอง สิ่งที่มองไม


เห็นดวยตา แตสัมผัสไดดวยใจ ตราบใดที่รอบกายของเรายังโอบลอมดวยสายลม ความรักของผมกับพี่จะคงหมใจเราทั้งคูใหอุน
กระซิบคํารักหวานหูตราบสิ้นลมหายใจสุดทายของชีวิต

“วินรักพี่”

“พี่ก็รักวินดี้เชนกันครับ”

…The End…

บทสงทาย

“Windy My Love : สายลมหมรัก”

เชื่อเถอะวาชื่อน้ําเนาๆ แบบนี้ผมไมไดเปนคนคิด แลวถาไมใชผมคิดก็คงรูใชไหมวาใครตั้งชื่อใหไดอารี่เลมแรกของผม อยางที่เขาใจ


นั้นถูกตองแลวละครับ จะเปนใครซะอีก ก็มีอยูคนเดียวนั่นแหละ คนที่ชอบมาเพอใสผม วางเปนไมไดตองหาทางหมอผมทุกที ไมรู
เมื่อไหรพี่แกจะเลิก ไดฟงอะไรเสี่ยวๆ เลี่ยนๆ แบบนั้นแลวมันผะอืดผะอมอยางบอกไมถูก

กอนหนาที่พี่แกจะเดินเขาไปอาบน้ําแลวปลอยใหผมนั่งเขียนอะไรเรื่อยเปอยอยูนี่พี่เขาก็มาทําใหผมอยากจะอวกออกมาใหรูแลวรู
รอด
“ที่รักมองเห็นไดอารี่ที่พี่วางไวใหใชไหม” พี่ถามขณะปลดกระดุมเสื้อ

“อยูบนโตะนี่ไง ไมเห็นก็เกินไปแลว” ผมตอบขณะเลื่อนเกาอี้เพื่อนั่งลง เอื้อมมือไปหยิบปากกา ในหัวครุนคิดวาจะเริ่มเขียนอะไรลง


ไปในไดอารี่ดี

“แหม พี่ก็นึกวารักพี่เขาตาวินดี้จนมองไมเห็นอะไรซะอีก” มือที่กําลังจะเปดไดอารี่ชะงัก ทองไสมันปนปวนขึ้นมาอยางบอกไมถูก

“เขาไปอาบน้ําเลยไป กอนที่วินจะหนามืดขึ้นมาจริงๆ”

“หนามืด! อยาบอกนะวาวินดี้จะกระโดดมาปล้ําพี่” ฟงแกสิครับ เลื้อยไปเลื้อยมา หาเรื่องยั่วโมโหผม ไมรูวาจะทํายังไงดี เลยสง


สายตาดุๆ ไปให แทนที่พี่เขาจะกลัวเกรงกลับผิวปากอยางอารมณดี ถอดกางเกง หยิบผาเช็ดตัวแลวก็เดินเขาหองน้ําไป

พอลับหลังพี่ผมก็ยิ้มออกมาอยางขําๆ ชีวิตผมกับพี่ก็แบบนี้แหละครับ บาๆ บอๆ ไปตามเรื่องตามราวของพวกเรา แตก็ปฏิเสธไมได


หรอกครับวาชีวิตของผมมีสีสันขึ้นมากแคไหนเมื่อพี่เดินเขามา และนี่ก็ไมรูวาผมเปนอะไรถึงไดบาจี้ตาม มานั่งเขียนไดอารี่นินทาอีก
ฝาย

เนื่องจากพี่ขอรองใหผมเขียนอะไรก็ไดที่อยากเขียน แลวมาแบงกันอาน ก็นะ ตอนนี้เขียนมาไดครึ่งหนาแลวก็ตองเขียนตอไป ในเมื่อ


อยากรูวาผมคิดยังไง วันหนึ่งๆ ไปเจออะไรมาบางผมก็จะเลาใหพี่ฟง

เริ่มจากวันที่ชะตาชีวิตผมพลิกผันมาเจอพี่ก็แลวกันนะครับ เรื่องมันเริ่มตนจาก

“กุลๆ ลูกแพรมีขาวดีมาบอก” จําไดวาวันนั้นเปนวันพฤหัส ลูกแพรเดินเขามาหาผมดวยใบหนายิ้มแยม

“มีอะไรหรือ” ผมถามเธอกลับไป

“ลูกแพรเลนเกมกับรายการวิทยุ แลวรูไหมเกิดอะไรขึ้น” เธอเรียกรองความสนใจจากผม ผมสายหนาแทนคําตอบ

“ลูกแพรชนะ แลวเขาใหบัตรที่พักฟรีมา” เธอบอกผมอยางตื่นเตน ยื่นกิ๊ฟเซ็ตมาตรงหนาผม ผมเอื่อมมือไปหยิบมาดู ในซองนั้นมีบัตร


ที่พักพรอมตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพภูเก็ตโดยระบุชื่อของผมกับหญิงสาวเรียบรอยแลว

“สามวันสองคืน พรุงนี้เราไปกันนะ นะๆ กุล นะ” เธอเขยาแขนผมอยางออดออน ผมมองเธออยางชั่งใจ

จะวาไปผมก็ทําตัวเปนคนรักที่ไมไดเรื่องซะเลย เนื่องจากเวลานั้นใครๆ ก็รูวาผมกับลูกแพรเปนแฟนกัน แตสําหรับผมแลว เธอเปน


เพื่อนคนสําคัญของผม ถามวารักเธอไหม ผมคงตอบวาความรูสึกของผมที่มีตอเธอเมื่อสิบปกอนกับเดี๋ยวนี้มันไมแตกตางกันเลย ผม
เคยมองเธออยางเพื่อนคนหนึ่งอยางไร ผมก็ยังมองเธอแบบนั้น

“ไดสิ พรุงนี้เราไปเที่ยวกันสองคนเนอะ” แตผมก็ยังอยากทําหนาที่แฟนที่ดีดูบาง ถึงแมจะขัดแยงกับความรูสึกอยูนิดๆ ก็ตามที

ดังนั้นวันรุงขึ้นพวกเราจึงไปภูเก็ตกัน วันแรกที่เราไปถึงลูกแพรดูสดชื่นและมีความสุข ผมดีใจที่เห็นเธอยิ้มและหัวเราะ แตแลวพวก


เราทั้งคูก็เขาสูภาวะตึงเครียดกันอีกครั้งเมื่อผมไมแตะตองตัวเธอมากไปกวากอดหรือหอมแกมทั้งๆ ที่สถานที่และบรรยากาศก็เปนใจ

“ทําไมละกุลลูกแพรไมดีตรงไหน” เธอถามผมดวยน้ําเสียงสั่นพรา

“หรือวากุลรังเกียจลูกแพร” แววตาของเธอไหวระริก

“เปลา ไมใชอยางนั้น” ผมบอกพรอมลุกขึ้นจากเตียง

ผมไมอยากทําลายศักดิ์ศรีของเธอ ผมรูวาลูกแพรรักผม และเธอยอมพลีกายใหแตผมปฏิเสธแบบนี้ มันคงทําใหเธออับอายไมใชนอย

“กุลไมเคยรักลูกแพรเลย รังเกียจลูกแพร ไมอยากแตะตอง ฮึก...ฮึก...” ผมทําใหเธอเสียใจอีกแลว แตผมทําไมลงจริงๆ ผมไมอยากทํา


รายเธอ ดวยผมไมแนใจวาเธอคือคนที่ใชสําหรับผม

“เมื่อไหรกุล เมื่อไหรจะหันมามองลูกแพรบาง รูไหมวาลูกแพรรักกุลมากแคไหน เราเปนแฟนกันนะ กุลจะใหลูกแพรรอไปถึงเมื่อไหร


กุลถึงจะรักลูกแพรสักที” ถึงลูกแพรจะถามผมเปนรอยครั้งพันครั้ง ผมก็ตอบไมไดหรอกวาเมื่อไหรผมจะรักเธอ จะมองเธอมากวา
เพื่อนคนหนึ่ง

“เราเลิกกันเถอะลูกแพร”

“กุลหมายความวาไง”

“กุลไมอยากใหลูกแพรมาจมอยูกับกุลแบบนี้ ลูกแพรก็รูนี่วาเราคบกันเพราะผูใหญ…” ผมยังพูดไมจบ เธอก็โยนหมอนมาใสผม


กอนที่สิ่งอื่นๆ จะตามมา

“กุลจะทํารายจิตใจลูกแพรไปถึงไหน! แคบอกวาไมรักกันก็เจ็บเกินพอแลว นี่ยังมาบอกวาฝนใจคบกับลูกแพรอีก!” เธอตะคอกผม


เสียงดัง ลุกขึ้นมาตบตีผม แตผมก็ยืนนิ่งเฉยใหเธอระบายอารมณ ยิ่งเห็นผมนิ่งเธอก็ยิ่งโมโห รองไหเสียงดัง หยิบกระเปาแลวหุนหัน
ออกไปจากหอง

ผมนั่งลงบนเตียงอยางตองการสงบสติอารมณ รูตัวดีวาผมไมควรไปวาเธอแบบนั้น ถึงอยางไรคงตองรอใหเธออารมณเย็นลงกวานี้


เสียกอนแลวผมจะตามไปงอเธอ ที่เธอพูดมามันก็ถูกแลวละ ทําไมผมตองทํารายใจเธอซ้ําแลวซ้ําอีก เธอเปนผูหญิงสวย ถาไมนับสิ่ง
ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครูแลวละก็ถือวาเธอเปนคนนิสัยดีคนหนึ่ง พวกเรารูจักกันมาตั้งแตเด็ก หากผมรักเธอได ผมคงเปนผูชายที่โชคดี
ไดผูหญิงที่เพียบพรอมอยางเธอมาเคียงขาง แลวมันจะมีวันนั้นไหม วันที่ผมรูจักรักใครสักคน

ผมเอนตัวลงบนเตียง ปลอยตัวเองไปกับความคิด จนกระทั่งผานไปครูใหญผมจึงลุกขึ้น คิดวาจะไปตามงอลูกแพรไดที่ไหน แตยังไม


ทันไดออกจากหองโทรศัพทผมก็ดังขึ้น คนที่โทรเขาเปนตา ตาตอวาผมทันทีที่ผมรับสาย ตาถามวาทะเลาะกับลูกแพรเรื่องอะไร
ทําไมหญิงสาวถึงไดขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ

ผมอึ้งไปครูใหญไมคิดวาเธอจะโมโหมากขนาดนั้น ผมอธิบายใหตาฟงวาเราเขาใจผิดกัน ตาบอกใหผมใจเย็นแลวกลับมาปรับความ


เขาใจกับเธอ ผมรับปากตากลับไป

ผมรูสึกหงุดหงิดงุนงานอยูครูหนึ่งกอนจะลงไปหาอะไรดื่มที่บารของโรงแรม พอรูสึกกรึ่มๆ ผมก็กลับมาที่พัก ผมเสียบการดหองพัก


และพยายามเปดประตูเขาไปแตก็กลับไรผล ทําใหผมตองแหงนหนามองตัวเลขหนาหองอีกครั้ง ออ...ผมมาผิดหอง ทวาขณะที่กําลัง
ดึงการดออกอยูนั้น จูๆ ประตูหองก็เปดออก แลวผมก็ถูกไอบากามลากเขาไป โดยไมทันตั้งตัวไอหื่นนั่นก็ระดมจูบผม

นึกขึ้นมาแลวก็โมโหตัวเองชิบหาย แคจูบเดียวของไอบานั่นกลับทําผมออนระทวย แลวโดยไมคาดฝนผมก็ถูกไอหื่นทําใหรูวาที่ผมรัก


ลูกแพรไมไดเพราะผมเกิดมาเพื่อเปนของเขา หัวใจของผมถูกจับจองไวแลว และคนนั้นจะเปนใครซะอีกละ ก็ไอผูชายจอมหื่น บา
กามนั่งไงละ...ไอพี่ทอง จําไดไหมวาวันแรกที่เราเจอกันนะเปนยังไง?

...วิน...

ตอนนี้วินดี้นั่งหนาบึ้งมองผมอยูบนเตียง ไมรูนองเปนอะไรถึงไดทําหนาอยางนั้น แลวพอไดอานสิ่งที่นองเขียนในไดอารี่ของเราผมก็


ตองหัวเราะออกมา แตหัวเราะดังก็ไมไดหรอกครับเพราะที่รักมองผมตาเขียวเลยตอนนี้ จําเปนตองวางปากกาแลวเดินเขาไปงอนอง
หนอย

“ที่รักแพทางพี่ตั้งแตแรกเจอเลยใชไหมครับ แหมๆ แคจูบเดียวพี่ก็ทําวินดี้ออนระทวยเชียวหรือ แบบนี้ก็ไมเสียเที่ยวที่สะสมประสบ


กาม...โอย!” อีกแลวครับ เขินแลวโหดนะเมียผมนะ ตอยมาเต็มทองเลยครับ จุกชิบหาย

“หื่นไมบันยะบันยัง” นองบอกพรอมกับคอนผม

“ถาไมหื่นเราก็ไมไดเจอกันสิครับ” ผมลากสังขารไปทิ้งตัวลงบนที่นอน

“เชอะ” นองยนจมูกใสผม เก็บแฟมเอกสารที่อานอยูไปไวบนโตะโคมไฟขางเตียง “แลวนี่เขียนเสร็จหรือยัง วินจะไดนอนซะที”


“แปบครับ เดี๋ยวพี่มา หามหลับกอนละ” ไมไดการแลวครับ ผมกะจะทบทวนความหลังกับนองในคืนนี้เสียดวยสิ อยางนี้ตองรีบเสีย
แลว

จะวาไปก็ไมรวู าคิดผิดหรือคิดถูกที่ชวนนองมาเขียนไดอารี่อยางนี้ เกิดนองหลับไปกอน ผมไมไดแหงคาตอหรือครับคืนนี้ วาแลวก็


กลับมานั่งหนาโตะ แลวเริ่มตนเขียนตอโดยไว วินดี้เลาถึงวันที่เราพบกันครั้งแรก ผมก็อยากเลาใหนองฟงเหมือนกันวากอนที่ผมจะ
เจอกับนองนั้น เรื่องราวมันเปนไงมาไง

เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อเพื่อนๆ ของผมนัดรวมพลกัน ความจริงแลวพวกมันนัดมาเจอผมมากกวาครับ ผมมาตรวจงานที่ภูเก็ตแลวพวกมัน


ก็ยกขบวนตามผมมา ไอแซค ไอนัท ไอเกง ไอเบส ไอหมอก เพื่อนสนิทผมตั้งแตสมัยเรียน

พวกมันมาหาผมในวันหยุด พอเพื่อนมาพรอมเพียงกันแบบนี้ก็ยากที่จะปฏิเสธ ผมเลยเปดหองพักใหกับพวกมัน สวนไอเกงบานมัน


ทําธุรกิจทองเที่ยว มันเลยเอาเรือสําราญมาบริการพวกเรา

เปนธรรมดาครับที่พวกมันจะไมมาตัวเปลา ตองหอบหิ้วเอาเด็กของพวกมันมาดวย เลยจําเปนตองยกหองสวีทรูมใหกับพวกมัน บาง


คนก็ควงหนึ่ง บางคนก็ควงสอง เห็นจนชินตาเสียแลวละครับ จะมียกเวนก็แตผมนี่ละที่ขางกายยังวางเปลา

และนี่คือประเด็นสําคัญที่พวกมันมาหาผม!

ดวยทุกคนรูวาที่ผานมาผมไมเคยขาดคนนอนขางกาย จากหนาตาที่พอดูไดบวกฐานะทางครอบครัวของผมทําใหมีคนเขามาใหเลือก
ไมหวาดไมไหว ไมวาจะหญิงหรือชายผมมั่วไดหมด พวกมันก็เหมือนกัน เซ็กสจัดกันทุกคน แตตลอดชวงเวลาสามเดือนที่ผานมาผม
แทบไมยุงเกี่ยวกับใครเลย ไมใชวาผมหมดรูสึกทางเพศหรอกนะครับ แตมันรูสึกแปลกๆ หลังจากที่มีเซ็กสแลวเราก็จบกัน เหมือนใน
ใจผมมีชองวางอยูในนั้น

มันสนุกก็จริงแตผมไมรูสึกอิ่มกับมันเลย มันเหมือนฉาบฉวย และยิ่งคนที่นอนกับผมก็หมุนเวียนไปนอนกับเพื่อนผมบาง เรียกวาผลัด


กันใชก็ไมแปลกมากนัก เขาพูดคําหวานหูกับผมเพื่อจุดประสงคบางอยาง ผมก็ไมอยากมองในแงรายแตก็พอเขาใจวาเพื่อแลกกับ
เงินในกระเปาของผม จากนัน้ คุณเธอทั้งหลายก็ไปพูดคําหวานๆ นั้นกับคนอื่นดวย เจอแบบนี้ทุกวันมันทําใหผมเกิดความระอา ยิ่ง
เห็นนานวันเขาก็ยิ่งมองเห็นความจอมปลอม หรือวาพูดแบบน้ําเนาๆ แลวก็คือ ผมอยากรูสึกเปนเจาของใครสักคนและคนๆ นั้นก็
ตองเปนของผมคนเดียว

เมื่อเซ็กสมันก็แคเกมสนุกเกมหนึ่งที่ผมกับเพื่อนๆ ชอบเลน แตตอนนี้ผมถอยหางเกมนี้ออกมา เพื่อรอเวลาจะไดเจอกับคนที่ตามหา


สักที ไอพวกเพื่อนตัวดีของผมก็เปนเดือดเปนรอน ไมรูมันจะมาเตนแทนผมทําไม ทั้งที่ความจริงมันก็อึ๊บสาวกันทุกคืนอยูแลว แต
พวกมันก็ไมปลอยใหผมไปตามทางของผม สุดทายมันก็คิดวาผมเซ็กสเสื่อม แลวสรรหาวิธีมายั่วยุผม แลวที่พวกมันมาพรอมหนา
พรอมตากันที่นี่ก็ไมวาคราวนี้จะหาเรื่องอะไรมาหลอกลอผมอีก
“เฮย คิน ดูนองโตะนั้นสิ มองมึงไมวางตาเลยวะ” เสียงของไอหมอกดังแทรกขึ้นมาจากเสียงเพลงในผับ ผมสายหนาใหมัน หานี่ แขน
ซายโอบคนหนึ่ง สวนแขนขวาโอบอีกคน ตามันยังไปมองโตะอื่นไดอีก

“จะไมหันไปมองเขาหนอยหรือ” ไอแซคสะกิดผม

“ทําไมเขาไมมองกูอยางนี้บางวะ” ไอเกงก็เปนไปกับคนอื่น

“มองไกลๆ ยังนารักขนาดนี้” ไอเบสแสรงชื่นชมเพื่อหลอกลอผม

“ไอคินมันไมสนใครหรอกมึง เพราะมันเซ็กส...” ไอนัทมันวิเคราะหอาการผม

“เออๆ ” เซ็งครับ ถาไมทําตาม คงไดรําคาญเสียงนกเสียงกาพวกนี้อีกนาน เลยจําใจหันไปมอง

แลวไงละ เห็นแลวก็งั้นๆ ยิ่งมาชายตาใหยิ่งไมสนเขาไปใหญ อยากบอกครับวาไมไดแอมพี่หรอกนอง พี่ชอบเปนนักลา มากกวาถูก


ลา

“โห สุดยอดวะมึง เดินมาโนนแลว นี่แคมึงมองแวบเดียวเองนะนี่” ไอหมอกทําเสียงตื่นเตน แตใหตายเถอะ ผมละอยากหนีไปจากที่นี่


ใหรูแลวรูรอด

เปนอยางที่หมอกมันวาครับ ไอเด็กนั่นเดินมาทักทายกับโตะผม ผมก็แสรงยิ้มแลวพูดดวย คุยกันไปตามประสาคนกลางคืน ไมกี่


ประโยคโตะโนนก็ยกขบวนมานั่งรวมกับโตะผม แตผมไมไดสนใจหรอกครับวาใครชื่ออะไร ฟงเขาคุยกันบางไมฟงบาง วางๆ ตาก็มอง
รอบๆ เพื่อตรวจกิจการไปดวย คือผับที่เรามานั่งดื่มกันนี่มันเปนหนึ่งในธุรกิจของผมครับ

สายตาแลไปเห็นผูจัดการของที่นี่ ทาทางกระหืดกระหอบ เขาคงเพิ่งรูวาผมมา เลยรีบมาตอนรับ แตมันก็ชาอยูดีเพราะผมนั่งดื่มจวน


จะเมาอยูแลว เห็นแบบนี้แลวอยากแกลงคนฉิบหาย ไหนขอไปคุยดวยหนอยสิ อยากรูจริงๆ วาจะแกตัวยังไง

ผมขอตัวลุกขึ้นจากโตะ พวกเพื่อนๆ ผมมันก็ถามแหละวาผมจะไปไหน ผมเลยบอกวาขอไปคุยกับผูจัดการผับแปบ บอกไปตามตรง


ครับ ขี้เกียจมานั่งคิดเรื่องโกหก พวกมันก็เออๆ ยอมปลอยผมไป ผมเดินเขาไปหาเขา ปนหนาใหดุเขาไว ถามวาทําไมเพิ่งเขาราน

เขากมหนา ออมแอมตอบ บอกวาเมียเขาโรงพยาบาล กําลังจะคลอดลูก ผมตวาดบอกใหเงยหนาขึ้น มองหนาผม ผมจองเขาไปใน


ดวงตา ไมมีแววโกหกอยูในนั้น

“ลูกเปนชายหรือหญิง” ผมถาม

“ยังไมรูเลยครับวาเปนชายหรือหญิง พอดีเด็กในรานโทรไปบอกวานายนอยมา ผมเลยรีบมาที่นี่”


“อาว” เวรกรรม กลายเปนผมไปพรากพอไมใหเห็นหนาลูกตอนแรกลืมตาซะงั้น

ผมโบกมือไลเขากลับไปเฝาเมียที่โรงพยาบาล เดี๋ยวพรุงนี้ใหผูชวยสงของขวัญไปรับขวัญเด็กเกิดใหม สวนตัวเองเดินกลับไปยังโตะ


อีกครั้ง ตั้งใจจะไปบอกลาพวกมันครับเพราะเริ่มไมสนุกและกรึ่มๆ พอสมควรแลว

“เฮยคิน เบียรหนอยไหม” ยังเดินไมถึงโตะเลย ไอหมอกก็มากระทบไหลซะกอน

“เจอมึงพอดีเลย ฝากไปบอกไอพวกนั้นดวยวากูไปกอนแลวกัน”

“เฮย อะไรวะมึง จะไปนอนแลว ในหองมึงมีอะไรซอนไวหรือเปลานี่” มันยัดเบียรใสมือผม

“ซอนอะไร กูงวง” ผมบอกพรอมกับยกเบียรขึ้นดื่ม

“งวงจริงดิ” ตามันวาววับ มองผมอยางแปลกๆ

“ถางั้น หากมึงจะกลับจริงๆ เดี๋ยวกูเดินไปสง พอดีมีเรื่องอยากคุยกับมึงดวย” มันบอกพรอมออกแรงหนุนหลังผม

“เรื่องอะไร” ผมยกเบียรขึ้นดื่มอีกสองอึก กะวาจะเอาไปคืนที่เคารเตอรกอนออกจากผับ แตไอหมอกมันดันรั้งผมไว

“อะไรวะมึง ยังไมหมดเลย” ผมสายหนาอยางเซ็งๆ ถายกดื่มหมดรวดเดียวเลยก็ไมใชนิสยั ผม ดื่มเบียรจากขวดนี่ผมชอบดื่มที่ละอึก


สองอึก แตถาอยูนานกวานี้มีหวังไอสี่ตัวที่เหลือสังเกตเห็นแนๆ วาผมกําลังจะซิ่ง เลยจําเปนตองถือขวดเบียรออกมาดวย

“ไหนละ เรื่องที่มึงวาจะคุยกับกู” ผมถามไอหมอกเมื่อออกมาจากผับแลวมันยังเงียบอยู

“คิน เด็กที่มานั่งกับเราคืนนี้ มึงวาคนไหนเด็ดสุดวะ”

“สัตว นี่หรือเรื่องสําคัญของมึง” สิ่งที่มันพูดทําใหผมตวาดกลับอยางหัวเสียง หาเอย นึกวาเรื่องสําคัญอะไรนักหนา

“ของกูซะที่ไหน ของมึงตางหาก”

“เรื่องของกู?” ผมทวนถาม

“ใช ถามึงถูกใจ กูจะจัดการให” ผมถอนหายใจ ทําหนาเบื่อหนาย


“กูไมสนโวย เมื่อไหรพวกมึงจะเลิกเซาซี้กูซะทีวะ” อยากจะบาตาย พวกมันจะอะไรนักหนากับชีวิตผมนี่

“เออๆ ไมสนก็ไมสน แตถาเด็กไมถูกใจมึงก็อยามาวากูแลวกัน”

“พูดอะไรของมึง”

“เปลา” มันปฏิเสธเสียงสูง

“กูสงมึงแคนี้แหละ เดี๋ยวนองนิกกี้รอ” วาจบมันเดินไปเลย ทาทางมีพิรุธนะไอนี่ ผมมองตามหลังของมันกอนหันกลับไปยังหองพัก


ของตัวเอง

แลวพอกลับถึงหองผมก็เขาใจความหมายของมัน “ไอเชี่ย! มึงเอาอะไรใสเบียรใหกูกิน”

นั่นแหละครับที่มาที่ไปของเรื่องกอนรางกายผมจะเกิดอาการผิดปรกติ จนความหื่นเขาบังตา ดึงเด็กโกะๆ ที่มาทํากอกๆ แกกๆ อยู


หนาหองเขามาจูบกอนจะจับกด เพราะเขาใจวาเปนเด็กที่เพื่อนผมสงมาให แตเจาเด็กนอยไรเดียงสาคนนี้กลับกลายมาเปนคน
สําคัญในชีวิตของผม คนที่ผมรอมานาน คนที่ผมอยากจะผูกมัด คนที่เปนครึ่งชีวิตของผม

วินดี้ถามวาพี่จําไดไหมวาวันแรกที่เราเจอกันนั่นเปนยังไง จําไดสิครับ พี่จําไดถึงสัมผัสแรกของเรา จําไดถึงกลิ่นเนื้อของนอง จําไดถึง


รสหวานล้ําที่เรียวปากยามพี่จูบวินดี้ จําไดถึงเสียงประทวงในลําคอกอนเปลี่ยนเปนเสียงครวญครางอยางยั่วยวน จําไดถึงมือที่ผลัก
ไสกอนจะยกขึ้นมาโอบรอบคอพี่ไวอยางเต็มใจ

อา...เขียนมาถึงตอนนี้ก็ชักอยากรําลึกความหลังกับนองอีกครั้งซะแลว ผมหันไปมองยังเตียง ตอนนี้วินดี้เริ่มสัปหงก ดูทาเอกสารใน


แฟมที่อานอยูนั้นจะอานนองในอีกไมชา ไมไดการละ เห็นทีคืนนี้ขอหยุดเขียนแคนี้กอนแลวกัน สวนเรื่องราวหลังจากนี้ไวจะมาตอให
นะครับ

ออ...เกือบลืมถามเปนการทิ้งทาย...

วินดี้จําไดไหมวาคืนนั้น วินดี้ตกเปนของพี่กี่ครั้ง?

...อายทอง...

You might also like