Professional Documents
Culture Documents
สายลมห่มรัก 5k7
สายลมห่มรัก 5k7
ตอนที่ 1 คุณเปนใคร
“เฮย! เบียรนี่มัน...”
“ไอหมอก..” ผมเรียกไปตามสายทันที
“ไอเชี่ยยยย มึงเอาอะไรใสเบียรใหกูกิน”
“วะฮู สําเร็จแลวโวย”
“อะ...อืม..”
คืนนี้ความรูสึกของผมรอนแรงจนเอาอะไรมาฉุดไวก็ไมอยู ผมจัดการนิคกี้ไปหลายกระบวนทาเกือบรุงสางจนคินนอยของผมหาย
โกรธ และนองเคาสลบไปพรอมๆ กับผมที่ไดรับการปลดปลอย เมื่อรูสึกสบายตัวขึ้นผมก็เริ่มสะดุดใจ มีหลายอยางในตัวนิคกี้ที่ทําให
ผมแปลกใจ นองเคาเหมือนจะไรเดียงสา แตก็เรารอนตอบสนองผมไดอยางดี ขณะที่ไฟราคะกําลังแผดเผาผมอยูผมไมมีเวลามา
สํารวจดวงหนาของนองเคามากนัก แตก็รูวานิคกี้หนาตานารัก อยากจะมองนองเขาใหนานกวานี้อีกสักหนอย แตก็รูสึกงวงและ
เหนื่อยเต็มที
ผมกมลงหอมแกมเนียนของนิคกี้กอนจะเอนตัวลงนอนเคียงขางกับนองเขา แลวกอดรางบางไวแนบอกกอนจะปดตาลงดวย
ความรูสึกอิ่มเอมในหัวใจอยางบอกไมถูก
“ไอคินมาแลว หนาบูดมาเชียวนะมึง”
“กูแคอยากรูวาที่มึงไมยอมยุงกับใครเนี่ยเพราะมึงเซ็กเสื่อมจริงหรือเปลา”
“เสื่อมบานพอมึงสิ” ผมดามัน
“กูจะคิดคาโรงแรมกับพวกมึง” ผมขูพวกมันทั้งคําพูดและสายตา
“เฮย!!” ทั้งหาตัวก็สะดุงทันทีหลังผมพูดจบ
“กูไมคิดคาโรงแรมกับพวกมึงแลวก็ได แตวาพวกมึงตองเอานองนิคกี้มาใหกู”
“ก็เออนะสิ มึงสงนองเคาขึ้นไปหากูเอง”
“ไหนนิคกี้มันวามึงไมยอมเปดประตูใหมันยังไงวะ” มันหันมาถามผมตอ
“มันก็บอกกูแบบนั้นเหมือนกัน แลวมันก็งอนพวกกูหาวาแกลงมันจนไอแซคตองปลอบใจมันแทนมึงเมื่อคืน” ไอเบสสนับสนุน
“มีนิคกี้เดียวหรือวะ” ผมยังถามอยางรอความหวังและสงสัย
“แลวเมื่อคืนกูนอนกับใครวะ”
บทที่ 2 ก็แคฝนราย
ผมเมาเลยปลอยตัวปลอยใจไปกับเรื่องแบบนั้น!!!
แลวผมก็จะลืมมันซะ ไมมีอะไรเกิดขึ้นกับผมทั้งนั้น!!!
“ครืดๆ ครืดๆ”
“งั้นพรุงนี้นายเรียนเสร็จกี่โมงละ”
“พี่เรียนเชาครับ”
“ไดไงครับ คุณตาใหพี่รับนองกุลมาดวยกัน”
“แลวนายจะรอเหรอ รับไปก็ตองกลับมาสงอีก”
“ไมเปนไร พี่ทําไดเพื่อนองชายพี่” ผมละหนาย ไมซึ้งใจหรอกนะกับคําพูดทํานองนี้
“งั้นก็ตามใจ” ผมบอกปดอยางตัดรําคาญในที่สุด
“นองกุลเปนอะไรครับ”
“สิ่งที่พี่ทําหรือทุกคําพูดที่พี่บอกกับนองกุล พี่ไมเคยแสแสรงเลยนะครับ”
“ใหมันจริงเถอะ” พูดจี้ใจดําของอีกฝาย
ผมไมเขาใจวาเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวเราไดยังไง พอกับแมผมเคยรักกันมากและครอบครัวเราก็หอมลอมไปดวยความสุข
ทวา จูๆ ฟาก็ผาเปรี้ยงมาตรงหนาผม พอกับแมเดินมาบอกผมวาจะหยากัน จากนั้นภาพลักษณของครอบครัวที่อบอุนก็หายไป แลว
ถูกแทนที่ดวยความมึนตึงเฉยชา ทําไมคนเราพอหมดรักถึงไดเกลียดกันมากขนาดนี้ ผมอดคิดไมไดวาที่แมผมเปลี่ยนไปเพราะวาพบ
รักใหมกับพอของตริน และนั่นก็ทําใหผมมองหนาแมและพอใหมของผมไมติดจนเดี๋ยวนี้
คนที่ยัดเยียดตัวเองอยากเปนพี่ชายของผมวางสายไปแลวเมื่อผมตัดบทบอกวาเหนื่อยจากการเดินทางและอยากพักผอน พรอมกับ
รับปากวา พรุงนี้ผมจะกลับบานกับเขา ผมมองไปที่นาฬิกาบอกเวลาหาโมงเย็น แสดงวาผมหลับไปหลายชั่วโมงเลยทีเดียว ผม
พยายามขยับตัวลงจากเตียง อยากจะอาบน้ําใหตัวเองสบายตัวกอนจะออกไปหาอะไรกินสักหนอย ทวาขณะที่ผมยืนขึ้นก็รูสึกวูบ
ขึ้นมาจนตองนั่งลงไปบนเตียงอีกครั้ง ผมสบัดศีรษะตัวเองดวยรูสึกปวดหัวและครั่นเนื้อครั่นตัว รูสึกไรเรี่ยวแรงอยางบอกไมถูก แตผม
ก็พยายามยืนขึ้นอีกครัง้ และมันก็สําเร็จ จากนั้นผมก็ลากตัวเองไปยังตูเปลี่ยนเสื้อผากอนจะถอดเสื้อออกแลวโยนไปยังตะกราใสผา
ทวาขณะที่กําลังจะปลดกระดุมกางเกงอยูนั่นเสียงออดหนาหองก็ดังขึ้น
ผมกมไปหยิบเสื้อที่เพิ่งทิ้งลงบนตระกราขึ้นมาอีกครั้งกอนจะเดินไปดูจอมอนิเตอรที่หนาประตู เห็นไอเมธเพื่อนของผมยืนอยูตรงนั้น
จากที่คิดวาจะใสเสื้อผมก็เอามาพาดบาแทนเพราะผมกับเพื่อนไมถือกันอยูแลว แตพอเปดประตูใหมันเขามาเทานั้นแหละ มันก็มอง
ผมตาโต กอนสีหนามันจะเปลี่ยนเปนเครงเครียด แลวจึงคอยกาวเขามาในหองผมชาๆ พรอมๆ กับสายตาของมันที่มองผมตั้งแตหัว
จรดเทา
“อะไรของมึง”
“กุล...มึงนอนกับผูชายมาใชไหม”
หองเดิมๆ ที่ผมเคยอยู ที่ๆ ผมคุนเคยแตคืนนี้กลับรูสึกวาทุกสิ่งรอบตัวผมเปลี่ยนไปหมด ตลอดระยะเวลาสิบกวาปที่ผมเปนเพื่อนกับ
เมธ ไมเคยมีชวงไหนที่ผมรูสึกเกลียดนิสัยตรงไปตรงมาของมันมากเทาวันนี้มากอน
“หวงอะไรนักหนากูก็เปนผูช ายอยางมึง”
“แตถาเพื่อนกูเสียตัวเพราะถูกบังคับขืนใจ มันก็เปนเรื่องของกูดวย”
“กุลมากินขาว” เสียงเมธเรียกผมกอนที่เจาตัวจะเดินมาตามผมที่หอง
“งั้นก็คงตองตามหา” ผมพยักหนาเห็นดวยกับแซค
“ฝนดีนะครับวินดี้ แลวเจอกันพรุงนี้นะ...ที่รัก”
ผมตื่นนอนในตอนสายๆ เนื่องจากเสียงโทรศัพทที่ดังขึ้น พอเห็นเบอรไมคุนผมก็ไมคิดที่จะรับ แตวาเบอรแปลกๆ นี้เคยโทรเขาเครื่อง
ผมเมื่อวานแตผมไมไดสนใจ ทวาพอโทรมาอีกทีเมื่อเชาผมก็เลยลองรับดู ปรากฏวาโทรมาจากโรงแรมที่ผมไปพักที่ภูเก็ต ผมเพิ่งรู
วันนี้เองวาโรมแรมนี้บริการชางนาประทับใจจริงๆ ทางโนนบอกวาหลังจากที่ผมเช็คเอาทและเขาไปทําความสะอาดหองที่ผมพักแลว
พบสรอยคอพรอมกับจี้ เขาพยายามจะติดตอผมแตเมื่อวานเพื่อถามวาผมทําหลนไวหรือเปลา
“พอไมเปนไร วินดี้ปลอดภัยดีนะ”
“พออยาพูดอยางนี้สิครับ พอจะตองไมเปนอะไร”
ถอยคําในจดหมายฉบับนั้นชวยปลอบจิตใจของผมใหเขมแข็งเสมอเวลาผมทอแท และสรอยเสนนั้นมันคือความทรงจําที่ดีของผมกับ
พอ เมื่อทางโรงแรมบอกวาเจอมัน ผมดีใจไมใชนอย ใจจริงอยากจะบินไปที่ภูเก็ตรับเองกับมือเสียดวยซ้ํา แตผมก็ไมกลากลับไปที่
แหงนั้นอีกแลว อยางนอยก็คงอาจเปนปกวาผมจะทําใจแลวกลับไปยังที่แหงนั้นได แตทางโรงแรมเขาก็บริการดี บอกวาจะสงใหผม
ทางไปรษณีย ผมจึงบอกที่อยูข องคอนโดตัวเองไป
“เมธถึงไหนแลว” ผมถามไปทันทีเมื่อมันรับสาย
“วินดี!้ !!”
ไมจริง!!!
ไมใช!!!
เปนไปไมได
ไอเชี่ยนั่นมันมาทําอะไรในรถของเพื่อนผม!!!!
วินดี้มองผมตาโตอยางตกตะลึง ใบหนาซีดเผือด กอนจะเลิกลั่กมองซายมองขวา พอเสี้ยววินาทีตอมานองก็หันขวับไปทางประตูแลว
ทําทาจะเปดลงไป แตผมไวกวา รีบกดล็อกทันที พอเปดประตูไมไดนองก็หันมามองผมอีกครั้ง ตานองโตกวาเดิมอีกแตแวววาวโรจน
ฉายชัดอยูในนั้น ใบหนาซีดเมื่อครูแปรเปลี่ยนเปนแดงก่ํา...ไมรูวามันเปนกิริยาตื่นเตนที่ไดเจอผมอีกครั้งหรือกําลังโกรธจัดอยูกันแน
...แตผมวานาจะเปนอยางหลังมากกวานะ เพราะเห็นนองกํามือแนน ไหลสั่นนอยๆ อยางขมอารมณ
“เพี้ยยยยย!!!!”
“เห็นแลว เดี๋ยวออกไป”
เมื่อนองเคาพูดจบประโยคนี้เทานี้ละ ผมก็สตารทเครื่อง แลวกระชากรถออกไปจากที่ตรงนั้นทันที ไมสนใจเสียงเอะอะโวยวายของคน
ขางๆ ก็ผมบอกแลววา ผมไมมีทางปลอยนองไปงายๆ หรอก
“เฮย!!! นี่จะไปไหน จอดรถเดี๋ยวนี้นะ!!!” หลังจากที่หัวเกือบคะมําเมื่อไอหมีควายตัวขางๆ กระชากรถออกไปอยางรวดเร็วแลว ผมก็
หันไปตวาดมัน แตไอนี่กลับแกลงทําเปนหูตึงไมสนใจเสียงผมเลย
“บอกใหจอดรถเดี๋ยวนี้!!!”
“แลวนองละ” เรื่องอะไรจะบอก
“ไมตอบ งั้นเรียกตามใจพี่แลวกันนะครับ...วินดี”้
“งั้นก็วินดี้ ตามนี้แลวกัน”
“บอกวาไมใหเรียก!!!”
“วินดี้ครับ”
“ไอสัตว” ผมสวนคืนทันที
“ทําไมถึงเรียกไมได”
“ไมชอบ”
“ไปตายซะ!!!”
“ถาอยากใหพี่ตาย วินดี้ก็ตองฆาพี่เอง”
มันเอาปนมายัดใสมือผมกอนกลับไปยังเบาะนั่งของตัว เหยียดหลังตรง หันหนามาทางผม หลับตาเปนเปานิ่งใหผมยิงมันอยาง
งายดาย หึ...นึกวากูไมกลาฆามึงอยางนั้นเหรอ ผมมองปนในมือที่สั่นนอยๆ ของตัวเองอยางลังเล จับมันขึ้นมา แลวจอปากกระบอก
ปนไปที่ขมับของมัน...แต...จนแลวจนรอด...ผมก็ไมกลาลั่นไกปน ผมใจไมแข็งพอที่จะฆาใครสักคน ถึงแมคนๆ นั้นผมจะเกลียดชัง
มากแคไหนก็ตาม
สุดทายผมก็ลดปนลง มันลืมตาขึ้นมองกอนจะยิ้มมุมปาก จากนั้นก็ออกไปจากรถแลวเดินออมมายังดานที่ผมนั่งอยู เปดประตู ดึง
ผมใหออกไปเผชิญหนากับมันขางนอก
“จะบอกใหนะวินดี้ ปนนั่นมันไมมีกระสุนหรอก”
“แรงเทานี้เองเหรอ ทีตอนอยูบนเตียงขยมซะเตียงแทบหัก...”
“พลั่ก!!!! พลั่ก!!!”
“รูสึกดีขึ้นบางไหม...หายโกรธพี่แลวหรือยัง”
วินดี้เดินหันหลังจากผมไปอีกครั้ง แตครั้งนี้ผมมองแผนหลังของนองเคาจนลับตา ผมยิ้มกอนจะซี้ดปากเพราะเจ็บ
“หึหึ แสบจริงๆ”
“ไปนอนตายที่โรงพยาบาลโนนไป!!!”
“เออ...ตอนนี้ไมเปนไรแลว”
“อายกูที่มึงโกะและเกรงใจเขา”
“ฝุนเขาตา”
“กุลขอโทษนะครับที่วันนั้นพูดจาไมดีกับลูกแพร”
“เขาชื่อตรินมึงก็เรียกใหมันดีๆ หนอย”
“ลูกแพรไปกินขาวที่บานกับกุลไหมครับวันนี้”
“เอะ ลูกแพรไปไดดวยเหรอ”
“มาแลวเหรอ เลามาสิวามันเกิดอะไรขึ้น”
“แลวลุงหมอบอกพอวาไงละ”
หลังจากที่ถูกวินดี้ซอมผมก็พาตัวเองไปหาหมอตามคําสั่งของนองเคาครับ แตลืมคิดไปวาผมควรจะไปโรงพยาบาลอื่น ไมใชที่ที่ลุงซึ่ง
เปนพี่ชายของแมเปนผูอํานวยการอยู ขาวมันก็เลยรูมาถึงหูของพอผมอยางที่เห็น
“เห็นบอกวาใหหาศาลาวัดไวรอแก”
“รูสึกอยากลุกขึ้นมาเตน รองรําทําเพลงนะสิ”
“ก็วาที่ลูกสะใภพอแหละทําผม”
“ทาจะรายไมใชเลนเลย”
“ความผิดรายแรงอยางไมนาใหอภัยไดเลย” พอเลิกคิ้ว
“ขนาดนั้นเชียว” ผมพยักหนาอยางหงอยๆ
“ผมวาจะยายคอนโด....”
“งั้นที่ยายไปนี่ก็เพราะจะไดอยูใกลๆ งอเขาไดงายหนอยวางั้นเถอะ”
“ครับ”
“อาว ไมงอแลวทําไงอะ”
“ชาย” พอถอนหายใจ
“ปล้ํากอนแลวคอยงอ”
“นองกุล กุงทอดราดซอสมะขามของโปรดนองกุลไงครับ”
“นี่นายทําเองเหรอ”
ความสัมพันธระหวางตาของผมกับยายของลูกแพรยังคงรักษาระดับอยูแคเพื่อนที่มีความจริงใจใหแกกัน เวลาตาไปเยี่ยมยายของลูก
แพรก็จะเอาผมไปดวย หรือเวลายายของลูกแพรมาที่บานผม ลูกแพรก็จะมาดวย ผมกับเธอจึงสนิทกันมาก เมื่อตนปที่ผานมา ยาย
ของลูกแพรเสียชีวิต ตาของผมเสียใจมาก
“เพลงไหนละ”
เราหันมาสบตากัน ในแววตาของลูกแพรนั้นชัดเจนวาเธอคิดยังไงกับผม...และสิ่งนี้แหละที่ทําใหผมเชื่อมั่นวาความรักที่เธอมอบให
จะทําใหผมรักเธอไดในสักวัน
“เปลี่ยนใจแลว เรามารองดวยกันเหมือนครั้งนั้นดีกวา”
“ลูกแพรครับ กุล...”
"กะ..กุล...เปน...กะ...เกยเหรอ”
โอย...ผมจะบาตาย อะไรมันจะถูกที่ถูกเวลาขนาดนี้!!!
เขาใจผิดกันไปใหญแลว!!!
ไอเชี่ยนั้นมันจะตามมาปวนชีวิตผมไปถึงไหน!!!
กูอยากฆามรึง!!!!!
ผมมองหนาตัวเองในกระจกสองหลังรถยนตเพื่อเช็คความเรียบรอยกอนเอาหนาเซ็กซี่ ๆ ของตัวเองไปใหวินดี้ยลโฉม อืม...ถึงแมวา
เวลานี้อาจดูไมหลอเลาใจจนวินดี้อยากลากขึ้นเตียง แตคงพอทําใหหัวใจนองออนระทวยไดบาง รอยเขียวซ้ําที่มุมปากนาจะเรียก
คะแนนสงสาร อยางนอยพอเห็นหนาผม คงไมใจดํา แจกหมัดหวานซ้ําใหหนาเสียโฉมไปมากกวานี้
“วิน...อืม..ก็...อะ..อา...รักพี”่
“คุณกุลใหขึ้นไปได รูจักเบอรหองใชไหม”
“สวัสดีครับ”
“นี่ครับ”
“ทะเลาะกับกุลหรือ”
“หารไปเรียกกุลมานี่สิ”
“ครับคุณทาน” พอลุงหารลุกขึ้นตาก็หันมาหาผม
“เธอเปนอะไรกับหลานฉันหรือ”
เหมือนถูกคอนหนัก ๆ ทุบหัว...
อึ้ง.....
เงียบ...
ตอบไมได...
บอกวาเปนสามี??????
ไมใช!!!
เปนไปไมได!!!
“กุลไมมีอะไรตองยกโทษให เราไมไดติดคางอะไรกันเลย”
“ทําไมพูดอยางนั้นละกุล”
“กุล!!!” ตาเรียกเมื่อเห็นผมเงียบ
“ไมเปนไรครับตา ไวใหนองอารมณดีกอนแลวคอยคุยกันก็ได”
สมองผมยังตื้อ เคนคําพูดออกมาไมได ผมสับสนวามันเกิดอะไรขึ้น และความกลัวที่มากกวาปรกติทําใหผมไมกลาพูดอะไร ทั้งที่
ภายในใจผมตอนนี้อยากจะระเบิดความอัดอั้นออกมา คุณเคยโกรธจนตัวสั่นไหมครับ อยากพูดแตพูดไมได คับแคนใจแตก็ทําอะไร
ไมไดเชนกัน หัวใจปวดหนึบ ความเครียดแคนที่มีคอย ๆ กลั่นเปนน้ําตา เพื่อระบายสิ่งอัดอั้นในใจแทนคําพูด นั่นแหละครับคือ
ความรูสึกของผมในตอนนี้ ผมบดกรามแนน หัวตาปวดหนึบ น้ําตาของความออนแอกําลังคลอเบาและทําทาจะไหลออกมาอยูลอม
ลอ
“อาว...รองไหซะงั้น” เสียงเหนื่อยหนายของตาก็เหมือนผานเขามาในหูแลวก็เลยผานไป
“กุลเหมือนจะไมสบายหรือเปลา ตาเห็นหนาซีดๆ”
“ครับตา”
นี่คือสิ่งที่ผมจําไดวาเกิดอะไรขึ้นบางกอนหนานี้...แตระหวางที่ผมโทรศัพทอยูนั่นละ มีอะไรเกิดขึ้นที่ภายในหองอยางนั้นหรือ
ผมลาตาของวินดี้ที่หนาประตูกอนจะรีบวิ่งกลับเขามาในหองเพื่อดูนอง ผมรูสึกไมดีเลยที่เห็นน้ําตาของวินดี้ ผมวาการที่นองเฉยชา
ใสทําใหผมเจ็บปวดมาแลว แตกลับเทียบไมไดเลยที่เห็นคนที่ผมรักรองไหในวันนี้
“มากกวาถูกตัวก็เคยมาแลว”
“ไอบา”
“จะพา...ฮึก...ไปไหน...ฮึก...ปลอยนะ...ฮึก”
“ยาอยูไหนครับ” ผมวาพลางปดผมที่หนาผากนองอยางออนโยน
“บอกมาสิครับวายาอยูไหน”
“อยูขางนอก บนชั้นหลังตูเย็น”
“ไม”
“โอย...ฮึก...ไอบา...ฮึก...ฮือ”
“ฮึก...ไม...ไมกิน...ฮึก...ฮึก” มันสายหนาใหญเลย
“ไม...ฮึก...ตองยุง...ฮึก”
“ตาบวมหมดเลย”
“วินดี้อยากใหพี่รังแกหรือครับ”
วาแตผมลืมอะไรไปหรือเปลานะ????
ผมมองไปที่วินดี้ซึ่งนอนคลุมโปงอยูตอนนี้
เช็ดตัว!!!!
โอ...นี่ผมลืมขั้นตอนสําคัญไปไดยังไงเนี่ย!!!!
ไมไดการละตองเช็ดตัว...แลวก็ตองเช็ดใหสะอาดทุกซอกทุกมุมดวย
หลังจากสัมผัสนุมนวลแผวเบาจากริมฝปากคูนั้นผละออกไป ผมก็รูสึกเหมือนไขขึ้น โดยเฉพาะใบหนาซึ่งรอนวูบวาบไปหมด
“วินดี้อยากใหพี่รังแกหรือครับ” ยิ้มพลางพูดยิ่งทําใหแววตาขี้เลนคูนั้นแวววาวราวพูดได
“เดี๋ยวเช็ดตัวกอนนะครับ ไขจะไดลดลงนะ”
“อืม...”
“อะ...เออ...ไดครับ”
“หึหึ แลวพอวายังไงบางละ”
“วันนี้คงไม”
“แตเจานายมีเอกสารดวนตองเซ็นวันนี้นะครับ”
“งั้นเหรอ แลวนัดอยางอื่นละมีอีกไหม”
“โฮยา ชื่อวิทยาศาสตร Hoya T&G ชื่อวงศ TLG ชื่อพื้นเมือง หวานใจตริน ราคา 2x^2 - 2xy + y^2 = 16 ”
หะ!!!!
เฮย!!!!
ชื่อพื้นเมือง หวานใจตริน ตริน Trin โหย...อะไรมันจะปานนั้น แลวสมการนี้มันมีความหมายเยี่ยงใด
“สมการอะไรครับเจานาย”
“เอ มันมีสองตัวแปรจะหาคาไดหรือครับ”
“ไดไมไดคุณก็ตองหาคําตอบมาใหผม แลวเรื่องเอกสารที่ตองเซ็นพรอมสรุปการประชุมตกลงคุณเอามาใหผมที่นี่แทนแลวกัน”
“แวกกกกกก!!!” เสียงมานอาบน้ําเปดออกอยางแรงทําใหผมหันขวับไปมอง
“ยากกกก ไอโรคจิต!!!”
“โอย!!! วินดี!้ !! หยุดเดี่ยวนี้นะ!!!” หยุดก็บานะสิ อยาเขามานะ ทั้งครีมอาบน้ํา ยาสระผม ครีมนวด อะไรที่ควาได ปาใสมัน
งะ...งั้น......กอ...
อยาอยูเลยมึง!!!
“พลั่ก!!! พลั่ก!!!”
“โอย วินดี้”
“ตุบ ตับ”
“โอย!!! พี่เจ็บ!!!”
“ไมพอ นี่ ๆ ”
“โอย!!!”
.
.
.
5 นาที
.
.
.
“ไอโรคจิต ไอบากาม!!! ตุบ ตับ ๆ”
10 นาทีหลังจากนั้น
เงียบ!!!
วังเวง!!!
บรรยากาศมาคุสุด ๆ !!!
“หุบปากไปเลย”
“เขามาไดไง ละ...แลว...ตองการอะไร”
“ตาของวินดี้เปดประตูใหพี่เขามาเมื่อวานครับ แลวมาทวงหัวใจคืน” ตาอยางนั้นหรือ ผมคิดตาม เหมือนภาพเหตุการณเมื่อวานจะ
คอย ๆ ฉายชัดขึ้นมาทีละนิด วาแต...เยย มันบาไปแลวหรือเปลา เพอเจอเหมือนกําลังงอขอความรัก ผมชักมึนแลวละ สับสนดวย
ลืมความโกรธที่มันเคยทําไวไปชั่วขณะ
“บาไปแลวหรือไง ผมเปนผูชายนะ”
“ไมตองมาขู! !!”
ทําอะไรไมไดดั่งใจเลยยยยยยยย!!!
ถึงวินดี้จะแรงไมเยอะเพราะเพิ่งจะฟนไข แตพอมาตอยซ้ํารอยเดิมก็ทําใหเจ็บไดเหมือนกันครับ แตผมวามันคุมนะ ไดเลนมวยปล้ํา
กับนองในหองน้ํา นองคงไมรูตัวหรอกมั้งวาผมแกลงรองไปงั้นเองแหละ พอจะตอยทีก็กอดตัวนองไว วินดี้ก็ดิ้น ๆ ตัวมันนะเนี๊ยน
เนียน นุมก็นุม จะจับกดหลายรอบ แตก็ยอมตัดใจ ยิ่งหนานองตอนเขินยิ่งนารักเขาไปใหญ นึกถึงแลวก็อดยิ้มไมได นี่ผมคงบาไป
แลวละ
“งั้นก็เรียกผัวจาแลวกัน”
“อะ...ไอ...บา”
“หยุดอยูตรงนั้นเลยไมตองเขามา” ผมยักไหล
“อาว วินดี้เรียกพี่เองไมใชหรือครับเมื่อกี้นะ”
“กะ...ก็...ใช”
วินดี้ทําทาลังเลนิดหนอย สุดทายก็เดินมานั่งฝงตรงขามกับผม
“แลวจะทํายังไง เปนผัวเมียกันก็ตองอยูดวยกันสิ”
“ทําไมถึงชอบพูดเรื่องนี้ดวย จะฟนฝอยมันขึ้นมาทําไม”
“อยากอยู ก็อยูไปคนเดียวเลย!!!!”
“อยาคิดจะไปอยูที่อื่นนอกจากอยูกับพี่นะครับ” ผมพูดพรอมลุกขึ้นจากเกาอี้เชนกัน
“งั้นพี่เลือกใหเองแลวกัน” วาพลางลวงโทรศัพทออกมา
“จะทําอะไรนะ”
“ก็จะโทรไปบอกตา วาวินดี้จะพาหลานเขยเขาไปเปดตัว”
“วินดี้ครับ”
“ยะ...อยูคนละที่ก็เรียนรูกันได”
“แนนะ” ผมพยักหนา
“เรียกชื่อพี่สิครับ” ผมบอกขณะที่วางถวยขาวตมลงบนโตะ
“ไมอยากเรียกจะทําไม”
“งั้นก็เรียกผะ...”
“งั้นก็...คุณทอง”
“ไดสิ อายทอง”
“เวอรไปแระ จะเจอกันเมื่อไหรเกี่ยวอะไรดวย”
“ชูบาชูบออะไร ตรินเปนลูกชายสามีใหมแม”
“ออ...ที่แทก็พี่นองอยากทองชนหลังนี่เอง ตัวอันตรายอันดับหนึ่ง”
“เดี๋ยวพี่มารับนะครับ อยาคิดหนีไปไหนนะ”
“ปรกติงั้นเหรอ แลวเมื่อวานทําไมไมเขาประชุม”
“ทําไมพอไมจัดการเอง”
“อานนทเปนลูกชายของพจน” พอถอนหายใจ
“รูวาแกทําได”
“วาแตเรื่องนั้นพอรูไดไง” แตเรื่องที่คุยกันกอนหนานี้ก็ยังทําใหผมสงสัย
“ไหนเอามาดูสิ ขอความอะไร”
“ลูกแพรดูดวย อยากรูเหมือนกันวาใครสงอะไรมาใหกุล”
“ทาทางมีพิรุธ...”
“มีคําอธิบายไหมครับ”
“ก็ได” ตอบอยางไมลังเลเลยครับ
“ไมรูอะ ไมทันไดคิด”
“เปนคนของพอแลวกัน เดี๋ยวบอกวาลุงเรียวสงมา”
“ ... Let me tell you one time. Girl I love. Girl I love. Im’a tell you one time…เพลงนี้ก็ไมใช ไมเลิฟเกริ์ลอะ แตเลิฟบอย...เพลง
ไหนดี...เพลงไหนดี...จะทําใหที่รักอารมณด.ี ..” ปลอยแกบาไปคนเดียวครับ ปากก็วิจารณเพลงโนนเพลงนี้ไปตามเรื่อง มือก็เปลี่ยน
คลื่นวิทยุไปมา
“วา...ทํายังไงก็ไมหันมาสนใจกันบางเลย...จางมันเตอะ...ก็ไมไดเสียดวยสิ...อุย...มาเจอเพลงแทงใจดําซะดวย...” วาพลางดนตรี
เพลงลูกทุงสนุก ๆ ก็บรรเลงขึ้นมาครับ
“ปอจายจะอั้น จางมันเตอะ จางมันเตอะ เหมือนขี้เปอะ ขี้โคลน โดนเมื่อใดก็ดํา ปอจายดีดี มีปะเลอะ มีปะเลอะ ตองมีวันเจอทน
แหมซักกํา...”
“เลยชวนพนักงานเกงาน ตั้งวงเหลา”
“เปลา เลิกงานแลวคอยหนาดานไปขอเขากิน”
“คนเรา...เขาเงินเดือนนอยนิดก็ยังไปเบียดเบียนอีก”
“ทําไมอะ...ออ ไมมีคนอยากคบละสิ”
“ฮาฮา วินดี้เนี่ย ปากจัดเหมือนกันนะครับ” พอพูดจบพี่เขาก็ทําหนากรุมกริ่มใสผมกอนจะตอประโยคที่ทําใหผมอยากทุบคนตรงหนา
แบนติดดินไปเลย
“เพอเจอใหญแระ ใครเขาจะคิดอะไรแบบนั้นกัน”
“ไมชอบซีสอะ” นองบอก
“ไดครับ งั้นวินดี้อยากกินอะไรละครับ”
“การกอดเปนหนึ่งในภาษากายที่แสดงออกซึ่งความรักครับ”
“ไมไดรัก ไมตองมากอด”
“รับผิดชอบอะไร” ตอบแกเสียงหวนไปดวยความหมั่นไส
“พรุงนี้เรียนเสร็จแลวไปไหนหรือเปลาครับ” พี่แกถามขณะที่ผมทายาให
“ก็ไมมีแผนไปไหน”
“งั้นเดี๋ยวพี่เลิกงานแลวเราไปซื้อของเขาบานกันนะ” พี่เขาผินหนามามองนิดหนอย
“ซื้ออะไรอะ”
“จะจดไดไงวาใสอะไร ก็ทํากับขาวไมเปน”
“ยุงยาก” ผมอดที่จะบนไมได
“จะวาไปมันอยูบนคอวินดี้เหมาะที่สุดแลวครับ” พี่เขาวาพลางจับมือผมออกจากจี้
“จะลุกไมลุก” นองมันขูครับ
“หึ” ยังยืนยันคําเดิม
“ยังไมลุกอีก”
“หนุนตักวินดี้แหละดีแลวครับ”
“งั้นก็ไมทนเพราะไมคิดจะเปนแฟน”
หนึ่ง...คือเดินไปขางหนา
สอง...คือกาวถอยหลังออกมา
“ขอบคุณนะ”
“ขอบคุณเชนกันครับที่เชื่อใจ”
คําพูดที่โตตอบกลับมาทําใหหัวใจของผมคอยๆ ลดระดับจังหวะการเตนลงจนกระทั่งเปนปรกติและเขาสูนิทราในที่สุด...นานแคไหน
แลวนะที่ไมไดหลับสบายอยางนี.้ ..ไมตองกลัว ไมตองกังวล ไมตองสะดุงตื่นมากลางดึกดวยฝนราย และไมรูสึกวาวาเหวโดดเดี่ยว
อยางที่เคยรูสึกเสมอมา
เสียงนาฬิกาปลุกที่ดังขึ้นในตอนรุงสางทําใหผมรีบเอื้อมมือกดปด กอนจะลูบแผนหลังคนในออมกอดที่เริ่มขยับตัวเปนเชิงบอกให
นอนตอเพราะยังไมถึงเวลาที่นองตองตื่น จากนั้นก็คอยๆ ดึงแขนตัวเองออกแลวใหนอนหนุนหมอนแทน ดวงหนาจิ้มลิ้มที่หลับตาพ
ลิ้มอยูนั้นทําใหผมเผลอยิ้ม ความจริงกับความฝนมันชางตางกันนัก เคยคิดเลนๆ วาถาคนแรกที่เห็นตอนลืมตาตื่นคือวินดี้จะรูสึกดี
ขนาดไหน คําตอบที่ไดคืออิ่มเอมดวยความสุขจนหัวใจพองโตคับแนนอก เปนความรูสึกที่ยากเกินบรรยายดั่งที่ผมกําลังรูสึกในเชา
วันนี้
“ฟอดดดดดดด” หอมแกมรับอรุณครับ
...ทําตอใหที วินจะเขาไปลางหนาแปรงฟน...
.................วินจะเขาไปลางหนาแปรงฟน...
................วิน!!!!!!!!!!!!!!
นองมันแทนชื่อตัวเองกับผมแลวครับ!!!!!!!!!!!!!
“วินดี!้ !!!!”
“แปลกขึ้นทุกวันนะมึงนี่ เชิ้ตแบบนี้ตองใสกับสูทคนทํางาน”
“แตลูกแพรวาตัวนี้เหมาะกวา” ลูกแพรก็ไปหยิบเสื้อที่มีอียอมาอีกตัวครับ
“ใช จะไดซื้อสามตัวเอาเหมือนกันเลย”
“ก็เรื่อยๆอะ”
“วาแตกลับมานานหรือยังครับ”
“ก็พักใหญๆ”
“แลวไงอะ”
“เปน...แลวทําไมแคซี้อิ้วขาวธรรมดาถึงไมรู” อะนะ...คนเราพอหางหายจากครัวไปนานก็ตองลืมกันบางเปนธรรมดา
“รูครับ แตพี่กําลังเพลินกับการสํารวจตลาดน้ําสมสายชูอยู อยากรูวามันมียี่หอใหมออกมาบางไหม” ขอเลื้อยไปกอนตามสัญชาติ
ญาณงูใหญ ยังไมอยากใหความแตกตอนนี้ เดี๋ยวแผนเขาคลอสกอนแตงจะแตกเสียกอน สงสัยละสิวาคลอสอะไร ไมมีอะไรมาก
หรอกครับ แคหัดวินดี้ใหเปนแมบานเทานั้นเอง
“ใหมันจริงเถอะ” นองบนพึมพํากอนจะนําหนาผมไปยังแผนกอื่น
“ไมรู ถามพอครัวใหญทางโนนดูสิ”
“งั้นเพิ่มดีกวาเนอะ หรือวาแคหกตัวก็พอครับ”
“สิบหาตัวครับ”
“แลวอะไรตออีกครับ” ผมก็กมหนาอานตอ
“หอมหัวใหญหั่นชิ้นสี่เหลี่ยม หนึ่งหัว”
“ตนหอมหั่นทอนขนาดหนึ่งนิ้วสองตน คึ่นชายหั่นทอนขนาดหนึ่งนิ้วสองตน”
“ทําอะไรอะ”
“เขาวาหั่นหอมกับคึ่นชายยังไงนะครับ” ผมเอี้ยวตัวไปหยิบสูตรทําอาหารมาดูอีกครั้ง
“หั่นทอนขนาดหนึ่งนิ้ว ทั้งสองอยางเลย”
“โอเคครับ...จัดไป” วาจะไมยิ้มแลวนะครับ แตมันก็อดไมได ทั้งคําพูดและทาทางนั่นทําใหผมเปนตัวของตัวเองมากขึ้น ทําไมนะ ไม
วาจะทําอะไรดูพี่เขามีความสุขจังเลย มันก็เลยพลอยใหผมอารมณดีขึ้นมาบาง จะวาไปลองทําอาหารกินเองนี่ก็สนุกดีนะครับ ผม
ไมไดทําอะไรมากหรอก แคคอยอานวิธีทําเวลาพี่เขาถามวาตองใสอะไรบาง เทาไหร ผมก็ชวยเตรียมใหครับ แลวพี่เขาก็เปนพอครัว
เองครับ
.....วันนี้เปนอีกวันที่บางสิ่งกําลังเคลื่อนไหวในหัวใจของผม.....
.....คิดดูแลว...มันก็ไมเลวรายเกินไปเลยนะกับการเปดใจรับสิ่งใหมๆ เขามาในชีวิต....
“รักแรกพบ ชื่อวิทยาศาสตร Love Begin K&W ชื่อวงศ KLW ชื่อพื้นเมือง ความรักของนาคินทร ราคา ∞ ”
“รักแรกพบ ชื่อวิทยาศาสตร Love Begin K&W ชื่อวงศ KLW ชื่อพื้นเมือง ความรักของนาคินทร ราคา ∞ ”
ผมจะทนไดไหมหากสิ่งที่ผมทําเปนประจําทุกวันตองมีเหตุใหสะดุด?
ผมจะทนไดไหมหากวันหนึ่งๆไมไดเจอหนานองเลย?
ผมจะทนไดไหมกับความคิดถึงแตไมอาจควานองมากอดไวแนบอก?
ผมจะทนไดไหมหากรูวานองอาจไมไดรูสึกอะไรกับผมเลย?
ไมอยากจะนึกถึงเพราะยังทําใจไมได ผมจะจัดการกับความรูสึกของตัวเองยังไง?
พรุงนี้แลวสินะ...ไมอยากรูเลยวาพอตองนอนคนเดียวแลวจะเหงาขนาดไหน?
วันหยุดวันอาทิตยตาชวนมากินขาวเที่ยงที่บานครับก็เลยตองมา พอเห็นหนาตรินแลวรูผิดอยางบอกไมถูกเลย จะอะไรซะอีกละก็ไอพี่
ทองบานะสิ เปนอะไรก็ไมรู จูๆ ก็เอาเข็มไปจิ้มใบตนโฮยาที่ตรินซื้อให เห็นแลวปรี๊ดเลยครับ ผมดูแลของผมมาตั้งแตปใหมแลว ตอนนี้
มันก็ออกดอกดวยนะครับ มีความสุขดีเวลาเห็นมันโตขึ้นทุกวัน แตไอพี่บาไรเหตุผลนั่นกลับพาลไมเขาเรื่อง บอกวามันแยงความรัก
ของผมไปจากแก ทําใหแกหึง บาเปลา พูดยังกับเด็กหวงของ ยิ่งฟงยิ่งโมโห ตัวก็ออกโตแตทําเปนเด็กเกเรเอาแตใจไปได
“มีอะไรหรือเปลา” อดที่จะถามไมได
“จะไปวันไหนละ”
“พรุงนี้ครับ เครื่องออกไฟรเชาหกโมง”
“วา...แสดงวายังไงก็ตองไปสินะ” ปลอยแขนจากเอวผมแลวกลับไปเอนหลังพิงโซฟาอีกครั้ง
“ถาไปแลววินดี้จะคิดถึงพี่ไหมครับ”
“ไมรูส.ิ ..คงไมมั้ง”
“นั่นสิเนอะ คงดีใจใชไหมครับที่พี่ไปไดซะที”
“แตวินดี้อยาไมตั้งใจบอยนักนะครับ...พี่เจ็บ”
รูสึกอุนใจขึ้นมาบางหลังจากที่ตรวจสอบสถานะของตัวเองกับนองเมื่อวานตอนหัวค่ําที่ผานมา ลุนแทบแยวาวินดี้จะเขามางอหรือ
เปลา ดีใจนะที่รูวานองยังแครผมอยูบาง อยางนอยก็คลายใจที่เห็นนองยังเปนหวงความรูสึกของผม ยอมรับเลยครับวาคําพูดเมื่อ
วานของวินดี้ทํารายจิตใจผมพอสมควร อาจเปนชวงเวลาที่ตัวเองกําลังออนแอดวยหรือเปลาก็ไมรู ถึงไดกลัวความหางไกลจะเปนตัว
แปรใหนองหลุดลอยไปจากผม
ตลอดเวลาที่ผานมาก็รูตัวดีวาตัวเองเปนคนขอนองมาอยูดวย ทั้งๆ ที่เจาตัวเขาไมเต็มใจ ยัดเยียดความรักใหอีกฝาย หลับหูหลับตา
ไมสนใจวานองจะอยากไดมันหรือไม แคทําตามเสียงของหัวใจของตัวเองก็พอ หากแตลึกๆ ยังมิวายหวังวาความรักที่มีจะสื่อไปถึง
อีกคน สั่นคลอนหัวใจของวินดี้ใหหวั่นไหวกับผมบาง
ผมถอนสายตาจากคนรัก มองไปยังที่ชารทแบตตารี่อยางลังเล
แนใจแลวนะวาจะไมหยิบมันไป?
แนใจแลวใชไหมวาพรอมที่จะทนกับการเปลี่ยนแปลง?
และพรอมแลวใชไหมกับคําตอบที่จะออกมา?
“อะไรครับ” รามิลถามเมื่อผมยื่นโทรศัพทให
“แบตมันเหลือไหม”
“เหลือขีดเดียวครับ” ผมพยักหนา
“งั้นก็ปลอยใหมันหมดแลวกัน”
“พี่ขอโทษนะครับวินดี้”
เคยคิดวาหากวันหนึ่งคนที่มาปวนเปยนวุนวายในชีวิตจากไป ความสงบสุขคงมาเยือน แตวันนี้พอเขาจากไปจริงๆ ความสงบที่
ตองการกลับกลายเปนความเงียบเหงาเดียวดาย เคยอยูคนเดียวได แตทําไมวันนี้ถึงอางวางเหน็บหนาว
นี่กูเปนอะไร...ทําไมหนักอึ้งในหัวใจ?
นี่กูเปนอะไร...ทําไมตองคอยมองแตโทรศัพท?
นี่กูเปนอะไร...ทําไมอยูคนเดียวไมได?
นี่กูเปนอะไร...ทําไมจะหยิบจะจับอะไรภาพวันเกาๆ ก็หวนเขามา?
มันคืออะไร?
หรือวานี่ก.ู ..กําลังคิดถึงใครบางคนอยูใชไหม?
เงียบ...ใหเวลาทบทวนความรูสึกของตัวเองอีกครั้ง คิดกลับไปกลับมาอยูอยางนั้น
จริงหรือ?
แนใจนะ?
มันเปนคําตอบที่กําลังคนหาอยูใชไหม?
เออ...
ใช....
...กูกําลังคิดถึงมึงอยูไอพี่บา...
...คิดถึงมากดวย...
....คิดถึงโวย!!!!
คําตอบที่ดังกึกกองอยูในหัวยิ่งทําใหหัวใจปวดหนึบมากกวาเกา วาดมือไปยังที่นอนขางๆ ซึ่งวางเปลาก็เหงาในหัวใจ ไออุนที่เคย
ไดรับ วันนี้กลับหายไป อีกกี่วันกวาพี่เขาจะกลับมา จะทนกับความหนาวเหน็บนี้ไดไหม ควาหมอนที่พี่เขาเคยหนุนมากอดไว ถึงมัน
ทดแทนกันไมได แตยังดีกวาใหออมแขนวางเปลา...เข็มนาฬิกาในค่ําคืนนี้ก็ชางเดินชาเหลือเกิน ไมรูจะทรมานกันไปถึงไหน...
...แลวคนทางโนนละ จะเปนเหมือนกันหรือเปลา...
...แตคนทางนี้มีคําหนึ่งคําที่อยากใหร.ู ..
...พี่ครับ...
...พี่ไดยินหรือเปลาเสียงหัวใจของวิน มันกําลังบอกวาคิดถึงพี่เหลือเกิน...
ดึกแลวแตผมยังคงยืนอยูริมหนาตางในหองพักของโรงแรม ชั้นที่ผมยืนอยูนี้เปนชั้นบนสุด สามารถมองเห็นวิวภายนอกไดรอยแปด
สิบองศา ทวาเวลานี้ฝนกําลังตก สิ่งที่อยูตรงหนาผมขณะนี้ก็มีเพียงแตเม็ดฝนที่มากระทบหนาตางในเวลาค่ําคืน มานสายฝนบดบัง
แสงไฟจากตึกอาคารยามราตรี อากาศฝายนอกคงเย็นกวาขางในพอสมควรไอน้ําจึงเกาะที่กระจก ผมยกมือขึ้นลูบมันออกอยางแผว
เบา มองกระจกเบื้องหนาซึ่งมีเงาลางๆ ของผมปรากฏใหเห็น หากแตชั่วพริบตาภาพก็เปลี่ยนเปนดวงหนาของใครอีกคนที่อยูในหวง
คํานึงของผมตลอดเวลา
...วินดี้ไมรับโทรศัพท?
...ทําไม?
ผมกดโทรออกอีกครั้งหากแตครั้งนี้นองกดรับเพียงแคครั้งเดียวที่เสียงเรียกสายดัง
.
.
“พี่คิดถึงวินดี้”
และแลวผมก็ตองหยุดหายใจไปชั่วขณะเมื่อนองทําใหการรอคอยของผมสิ้นสุดลง เพียงเพราะคําพูดหนึ่งประโยคที่ไดยิน
.
“คิดถึงก็รีบกลับมา”
...ในที่สุดการเดินทางอันยาวนานก็ถึงเวลาหยุดพัก พรอมกับหัวใจอันแหงแลงกลับชุมฉ่ําดวยหยาดฝนแหงรักที่นองโปรยมาให...
เสียงฝนที่ตกกระทบระเบียงยังคงเปนเสียงเดิมๆ เหมือนที่เคยไดยิน หากแตความรูสึกที่ไดฟงในคืนนี้และคืนกอนนั้นตางกันยิ่งนัก
เวลาอยูคนเดียวจะเหงาทุกครั้งที่ไดยินเสียงนี้ แตยามนี้ความเหงาที่เคยมีไดถูกเยียวยา ผมคนพบแลววาตอแตนี้ผมไมไดอยูโดด
เดี่ยวอีกตอไป ผมยังมีคนให “คิดถึง” และมีคนที่ “คิดถึง” ผมมากเชนเดียวกัน
หองเดิมๆ ในคืนที่ตองอยูคนเดียวดั่งเชนเมื่อวานกลับไมหนาวอีกตอไป ไออุนจากหมอนที่พี่เคยหนุนสงผานความอุนมาให แผซาน
เขาสูหัวใจ เข็มนาฬิกาที่เดินไปอยางเชื่องชาไมไดทรมานผมแตกลับชวยรื้อฟอความทรงจําอันมีคา ภาพของสองเราหวนเขามาฉาย
เปนฉากๆ ไปพรอมกับการกาวเดินของเวลาอยางเชื่องชา รอยยิ้มของพี่ เสียงหัวเราะ และออมกอดที่ผมเคยปฏิเสธตลอดมากลับหม
ใจของผมใหอิ่มเอม ยิ้มไดเมื่อนึกถึงรอยจารึกแหงรักที่ไดฝากเอาไวในหัวใจของผม
“ปง ปอง”
เหมือนการกาวเดินของผมจะชาไปหรือเปลาไมอาจรูได เพราะพี่เขาไดเดินเขาหาผมกอนพรอมกับดึงรางของผมเขาสูออมแขนแกรง
ที่โหยหา ผมไดยินเสียงลมหายใจที่แรงเร็วทั้งของตัวเองและพี่เขาสอดประสานกัน หัวใจเตนรัวของอีกฝายที่เตนอยูใตฝามือของผมก็
ไมตางจากจังหวะการเตนของหัวใจผมเชนเดียวกัน
“พี่คิดถึงวินดี้” น้ําเสียงแหบแหงที่กระซิบบอกกระตุนตอมน้ําตาของผมใหไหลออกมาไมหยุด
“อะ...อืมมม” เสียงของผมที่เล็ดลอดออกมาเมื่อชวงจังหวะเรียวปากของเราแยกจากกันกอนจะบดเบียดแนบชิดกันอีกครั้ง
“อะ อาาาาาา”
“อะ...อาาาาา”
“อะ...อาาาา” เสียงครวญครางของผม
“แฮก...แฮก...” เสียงลมหายใจของสองเรา
“พลึบ...พลับ...พลึบ...พลับ...” เสียงเนื้อกระทบเนื้อเมื่อรางกายรวมเปนหนึ่ง
“ตึก...ตัก...ตึก...ตัก..” เสียงหัวใจของเราสองคนที่เตนกระหน่ําในจังหวะเดียวกัน
“อะ...ไมไหวแลว...”
“อะ...อาาาา” เสียงครวญครางของผม
“แฮก...แฮก...” เสียงลมหายใจของสองเรา
“พลึบ...พลับ...พลึบ...พลับ...” เสียงเนื้อกระทบเนื้อเมื่อรางกายรวมเปนหนึ่ง
“ตึก...ตัก...ตึก...ตัก..” เสียงหัวใจของเราสองคนที่เตนกระหน่ําในจังหวะเดียวกัน
ในค่ําคืนที่ฝนโปรยปราย...แต...ในหองของเรากําลังโปรยรัก
ในค่ําคืนที่ลมพัดแรงเหน็บหนาว....แต...ในหองของเราสายลมกําลังหมใจ
ในค่ําคืนที่มืดมนเดี่ยวดาย...แต...ในหองของเรา...ผมกับพี่เขากําลังจับจูงกันเดินไป
...จะไมเหน็บหนาว...จะไมเหงา...จะไมเดียวดาย...
...ความอางวางที่มีจะหายพรอมกับความหวาเหว...
...เพราะ...
...ผมมีคนที่รักและรักผมมากเชนกัน...
สายแลวแตวินดี้ยังคงหลับอยางเปนสุขในออมแขนของผม นองนอนตะแคงขางมาทางผม ซุกหนากับอก มือขางหนึ่งโอบเอวผมไว
อีกขางสอดไวใตหมอน ทั้งเนื้อทั้งตัวของนองมีเพียงผาหมผืนบางคลุมอยางหมิ่นเหม ผมยิ้มกับภาพนั้นอยางเอ็นดู จะวาไปแลวหาก
ไมมีอะไรคลุมกายของนอง ผมก็จินตนาการถึงเรือนรางนั้นไดเปนอยางดี
“บา...ใครกันที่ตองรับผิดชอบ” เสียงอูอี้เล็ดรอดออกมาจากผาหมทําใหผมอมยิ้ม
“ขอบคุณครับ...ขอบคุณที่รักกัน”
...สามเดือนกับสิบหาวันที่เดินทามกลางทะเลทรายอันแหงแลงเพื่อแสวงหาใครสักคน...
...สิบแปดวันกับการทําตามเสียงของหัวใจ...
...สองวันกับหนึ่งคืนที่ทรมานแทบขาดใจ...
...แลวเชานี้ทุกอยางก็สิ้นสุดลง...
“ขอบคุณครับ...ขอบคุณที่รักกัน” คําพูดของผม
“เชนกันครับ...ขอบคุณที่รักกัน” คําพูดของนอง
...และเสียงหัวใจของเราทั้งสอง...
เมื่อพี่เขาออกจากหองไปแลวผมก็เลยวาจะลมตัวลงนอนแตหางตาก็แลไปเห็นลิ้นชักหัวเตียงพี่แกเปดอยู ดวยความบริสุทธิ์ใจผมวา
จะปดให แตพอเห็นของสําคัญในนั้นสิครับ พูดไมออกเลย หนารอนวูบวาบไปหมด ใครจะไปคิดละครับวาของสําคัญนักหนาของแก
จะเปน “ถุงยาง” ไอพี่งูเขียวจอมหื่นนั่นเก็บสะสมมันไวครับ แลวมัน...เออ....เยอะมาก แทบจะลนออกมาเลย แลวพอหยิบออกมาดูก็
ยิ่งพูดอะไรไมออก นี่แกชาง...ไมรูจะเรียกอะไรดี มันมีทุกแบบ ทุกกลิ่น และของหลายประเทศดวย ยิ่งของญี่ปุนยิ่งแปลกเขาไปใหญ
ไมอยากนึกถึงตอนแกทําหนาหื่นไปซื้อมันเลย
“โปก!!!”
“ถาวินดี้หนักก็ขึ้นขางบนแลวกัน”
“ขอโทษครับ พี่ผิดเอง”
“ถาพี่ไมเอามาแลวใครจะเอามา”
“ใหมันจริงเถอะ”
“จริงครับ เชื่อพี่เถอะ”
“แลวพี่ตองไปกี่วัน”
“ไมแนใจเหมือนกันครับ”
“อืมม...งั้นก็อยาลืมเอาสายชารตแบตไปดวยแลวกัน” คงไดแตขานรับในลําคอพรอมกับเตือนพี่เขาเมื่อนึกบางอยางออกมาได
“ยังอุนอยู” วาพลางจะตักขาวตมใหมอีกครั้งแลวยื่นมาทางผม
“ก็พระเจาอยูขางพี่เสมอนี่ครับ...ตอบแทนผูชายที่ซื่อสัตยกับหัวใจตัวเอง”
เคยคิดวาการที่คูครองเราเปนคนฉลาดจะชวยสนับสนุนและเสริมบารมีสามีใหดีขึ้น แตตอนนี้ความฉลาดของภรรยาผมกําลังจะทํา
ใหอนาคตผมดับครับ แลวคงจะดับอยางอนาถเสียดวยสิ ไมอยากสารภาพเลยวาขณะนี้ผมกําลังกลัวความฉลาดของวินดี้อยู ทั้งที่
ความจริงแลวตัวเองก็ไมไดทําอะไรผิดมากมาย คือในความเขาใจของผมนะครับ ทุกอยางที่วางแผนทําลงไปก็เพื่อจะใหนองรักผม
เหมือนที่ผมรักเคามาก แตทําไมถึงไมอยากใหนองรูวาผมทําอะไรลงไปบางก็ไมรู
จากที่เคยไมมั่นใจตลอดมาวานองอาจไมสนใจในตัวผม แตเวลานี้คงตองเปลี่ยนความคิดใหมแลวละ เพราะวินดี้ทั้งใสใจ สังเกตและ
จดจําเรือ่ งของผมเปนอยางดีเลยทีเดียว เพียงแตที่ผานมานองไมแสดงออกใหผมเห็นเทานั้น ตอนนี้จะทําอะไรเลยตองระวังตัวนิด
หนึ่งครับ ถาจะใหดีละก็พยายามอยาทําอะไรใหยุงยากซับซอน บอกนองไปตามความจริงนาจะดีที่สุด อยางที่รูๆ กันนั่นแหละครับ
“น้ําเชี่ยวอยาเอาเรือไปขวาง”
“แลวกลับมาคนเดียวหรือครับ”
“อยางปรินนะหรือครับจะเที่ยวคนเดียว” ผมยิ้มใหนองเขาไปทีกอนพูดตอวา
“เดี๋ยวพี่ขอตัวกอนนะครับ” ไมอยากตอความยาวมากกวานั้นครับ ก็พอรูอยูวาอีกฝายพูดแบบนี้หมายความวายังไง
“แปลกอะไรหรือครับ” เพื่อความแนใจก็เลยถามดูครับ
“ก็คนเมื่อกี้อะ” อะนะ...อยาไปสงสัยอะไรเลยครับ มันไปแลวก็ปลอยมันไป อยากบอกวินดี้แบบนี้ครับ แตไมทันไดเอยอะไรออกมา
นองก็พูดขึ้นมากอนวา
แวบแรกที่เห็นผมคอนขางมั่นใจกวารอยเปอรเซ็นครับวาตองใชตรินแนๆ ถึงแมวาทรงผมจะตางไปบางแตใบหนานั้นพิมพเดียวกัน
เลยครับ แตแลวเขาก็ทําใหผมประหลาดใจและทําตัวแทบไมถูกเมื่อเห็นไอพี่ทองกับเขาซุบซิบอะไรกันสักอยาง จากนั้นฝายโนนก็ยิ้ม
ใหผมครับ แตเปนรอยยิ้มที่ไมคอยนาประทับใจเทาไหร มันดูทาทายอยูในที และก็เพราะสิ่งนี้แหละที่ทําใหผมชะงักอยูชั่วครู ทาทาง
ของชายคนนั้นไมเหมือนกับตรินที่ผมรูจักเลยแมแตนอย มิหน่ําซ้ําขณะที่เดินผานผม
“ขอบคุณนะที่ชวยดูแลพี่คินให”
“กําลังคิดเรื่องตรินอยู” พอผมบอกพี่เขาก็ทําหนาบึ้งกอนทําเสียงจิ๊กจั๊กในลําคอ
“ก็มันคาใจนี่นา”
“มันเหมือนกันมากเลยหรือครับ หรือยังไง ทําไมวินดี้ถึงเก็บมาใสใจนัก”
“ถามันคาใจนักก็ลองคุยกับนายตรินอะไรนั้นดูสิครับ”
“อะไรของพี่...เมื่อกี้ยังบอกใหโทรหาอยูเลย”
“จะมาประชดวินทําไม เร็ว...โทรศัพทอยูในกระเปาที่เบาะหลัง”
“ไมใชธุระ เรื่องอะไรจะบริการใหคุณภรรยาคุยกับชู”
“งั้นก็ตามใจ คราวนี้วินจะไดคุยลับหลังพี่ซะเลย”
“ออ...เดี๋ยวนี้เจาเลหนักนะ”
มันยังไง...ไมเขาใจ...งง?????
เซ็งครับ เซ็งทั้งไอตรินและไอปรินนั้นแหละ ไมรูวาโลกจะหมุนใหผมมาเจอมันอีกทําไม แลวมาเจอกันก็ตอนที่นองอยูดวยพอดี เรื่อง
ไมเปนเรื่องเลยเกิดขึ้นมาซะงั้น ผมไมเคยเห็นหนานายตรินอะไรนั่นหรอกครับ แตรูวาไอหมอนี่มันพยายามจีบที่รักผมมากอน จําได
แมนเชียวละไอนักรักคณิตศาสตรกับตนโฮยารูปหัวใจ แคไดยินชื่อก็เหมือนอากาศรอบตัวเปนพิษขึ้นมาทันทีเลยครับ
“วินดี้นั่นแหละแปลก”
“วินแปลกตรงไหน”
“ก็อยูกับที่รักตัวเองแตดันพูดถึงแตคนอื่น”
“ก็พี่นั่งอยูขางๆ กันนี่จะใหพูดถึงทําไม” พอไดยินแบบนี้ก็ยิ้มไดนิดหนอยแลวครับ ชอบจังที่วินดี้ยอมรับวาผมเปนที่รักของนอง แตทา
จะใหดี อยากใหนองยอมรับตอหนาคนอื่นดวยจะเปนการดีที่สุดครับ
จะวาไปก็ไมรูวาควรจะดีใจหรือเสียใจกันแนที่นองใจกวางจนไมหึงผมเลยแมแตนอย ตอนที่เดินมากับไอปรินผมก็เสียวสันหลัง
เหมือนกันครับ กลัวนองจะเขาใจผิด แตวินดี้กลับไมวาอะไรเลย ถามวาผมรูจักคนนั้นเหรอ ผมก็เลาที่มาที่ไปใหนองฟงครับ รูๆ ไวจะ
ไดไมไดมาระแวงกัน แตก็ไมไดบอกนะครับวาเคยควงปรินมากอน ไมกลาบอกครับ เลยปดบังนิดหนอย นิ๊ดจริงๆ ครับ คงไมมีอะไร
มากหรอกมั้งเนอะ
“พี่รับรองวาวินดี้ตองชอบแนๆ”
รับประกันไปครับ แตถึงจะชอบหรือไมชอบก็ตองไปแหละครับเพราะผมตัดสินใจแระ วาแลวก็ยิ้มประจบนองมันไปทีครับ กะใหใจ
ละลายไปเลย จะไดเลิกถามแลวคลอยตามผมงายๆ แตสงสัยยิ้มนี้คงผิดสําแดงเพราะแทนที่นองจะใจละลายกลับทําหนาเบื่อหนาย
ซะงั้น มิหน่ําซ้ําโทรศัพทเจากรรมของนองมันดันดังขึ้นซะอีก ดึงนองใหหางจากมนตสะกดผมเลยทีนี้
มันก็ดีครับ...บางครั้งการที่เราไมรูอะไรเลยก็ถือวาเปนเรื่องที่นายินดีที่สุด…
…ตอนนี้จะอะไรยังไง ขอใหนองรักผมและผมรักนองเชนนี้ตลอดไปก็พอแลวละครับ...
ถารูวาไอพี่ทองจะพาไปภูเก็ตผมจะปฏิเสธแกอยางเด็ดขาดเลยครับ มารูตัวอีกทีก็ตอนเช็คอินที่สนามบินแลว บอกวาไมไปยังไงพี่เขา
ก็ดึงลากไปบอรดดิ้งใหได ที่อื่นๆ มีตั้งเยอะตั้งแยะทําไมแกตองเลือกไปที่นั้นดวย ลึกๆ ผมคิดวาตัวเองยังไมพรอมที่จะกลับไปยังที่
แหงนั้น มันยังเจ็บแปลบๆ ในใจเมื่อนึกถึงความปาเถื่อนของพี่เขา ถึงแมวาตอนนี้ความรูสึกที่ผมมีตอไอพี่ทองจะเปลี่ยนไปมาก แต
วาค่ําคืนนั้นมันเปนอะไรที่ไมนาประทับใจผมเลย อีกอยางมันเหมือนมีลางสังหรณบางอยาง หามไมใหผมไปที่นั่น แตไมรูวาอะไร ไม
ทันไดคิดใครครวญครับ ก็อยางที่รูกัน เวลาผมอยูกับแกทีไรไมคอยมีโอกาสไดคิดเรื่องอื่นหรอกครับ
นึกยอนกลับเมื่อไมกี่นาทีกอนผมไมพอใจพี่เขาเพราะแกบังคับผม แตหนึ่งชั่วโมงกอนเรากลับพูดคุยหัวเราะกันในรถขณะเดินทาง
มายังสนามบิน เมื่อวันกอนผมตื่นมาสงพี่เขาไปยังตางจังหวัดและรอรับแกกลับในตอนเย็น สวนสัปดาหกอนผมนอนไมหลับเพราะ
เฝาแตคิดถึงคนที่อยูไกล แลวสามสัปดาหกอนผมเขาใจวาตัวเองเกลียดผูชายคนนี้แทบขาดใจ....
ทวาในคืนที่เราเจอกันครั้งแรกนั่นละ....
ผมรูสึกยังไงกับแกกันแน...
เกลียดแก หรือวาเกลียดตัวเองที่ยินยอมเขา...
หรือผมเริ่มรูสึกอะไรแปลกๆ แตไมกลายอมรับกันตัวเอง...
ครั้งแรกระหวางเราคือความเรารอนรุนแรง
ครั้งที่สองคือความนุมละมุนออนหวาน
สวนครั้งตอๆ มาคือสัมผัสที่ตางเติมเต็มใหแกกันและกัน
“ก็พี่ชอบพูดทํานองนี้อะ เปนใครก็ตองไมอยากฟง”
“ที่จริงพี่อยากบอกวินดี้มานานแลวนะครับ ทนฟงพี่นิดหนึ่งนะ”
“เมื่อกี้วินดี้วาไงนะครับ”
“ก็เหมือนที่พี่ไดยินนั่นแหละ”
“หะ...ไมไดนะ...”
“หึหึ” ผมหัวเราะในลําคอ
“งั้นวินขอแคสามคืนตอจากนี้ หวังวาพี่คงจะทนไดนะครับ”
“ครับที่รัก” เสียงของเขาตอบรับอูอี้เพราะปากกับใบหนายังซุกอยูที่หนาอกของผม
“อือออ...ไมเอา วินเหนื่อยแลว…”
“พี่ก็ไมไดวาจะเอานี่ครับ แคจะปลุกวินดี้มากินขาวเทานั้นเอง”
“งั้นก็หยุดไดแลว วินตื่นแลว”
“เจ็บอะ”
“ก็อยากใหเจ็บ ถายังไมหยุดอีกเดี๋ยวจะโดนหนักกวานี้”
“โธ...วินดี้ยังไมชินอีกหรือครับ ก็นาจะรูนี่ครับวาที่รักตัวเองนะซุปเปอรแมน”
“ซุปเปอรหื่น” ผมแยงใหถูกตอง
“เคยรัก...แตตอนนี้กําลังคิดวาจะเลิกดีไหม” พี่แกสายหนาใหกับคําพูดของผม
“มันก็ขึ้นอยูกับความประพฤติแหละ ถาไมไหวก็เลิกกันไปเลยดีกวา”
“ก็รอดูตอไปวาจะบัญญัติมันลงไปในนั้นวันไหน”
“หมั่นเขี้ยว...คนอะไรชอบพูดใหพี่ใจหายใจคว่ําอยูตลอดเวลา...อยางนี้มันตองทําโทษ” แลวแกก็ทําโทษผมตามวิธีของแกนั่นแหละ
ครับ ทําใหผมจั๊กจี้ดวยมือ จมูก ปาก และลิ้น
“อากกก...ฮาฮา...พอ...แลว...ไอพี่ทอง...อากก...ฮา...” ดิ้นหนีครับ แตไมรูจะดิ้นยังไง ยิ่งเห็นผมทรมานแกยิ่งสนุกใหญ จี้เอวผมบาง
ละ เลียใบหูผมบางละ ซุกไซรจมูกกับปากทีห่ นากับคอผมก็มี กะจะใหขาดใจตายเลยหรือไงไอพี่บานี่
“เมธ!!!” ผมอุทานพรอมกับหัวใจหลนไปอยูที่ปลายเทา
“กุล!!!” คําเรียกขานของเพื่อนผมตอกย้ําวาผมไมไดตาฝาดไป
ใหตายเถอะ...ผมไมนานั่งรอนองอยูหางๆ เลย...
แลวนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับสุดที่รักของผม...ทําไมนองถึงไดรองไห!!
ความในใจของเมธ
“ทําไมตองรับแทนดวย” ผมถามมันดวยน้ําตานองหนา
“ก็เราเปนเพื่อนกัน” นั่นคือคําพูดของมัน
“มึงไมเปนไรใชไหม”
“กูไมเปนไร” พอผมบอกแบบนั้นมันก็ยิ้ม
“อยาใหถึงตายเลยมึง” มันแยงผม
“เหรียญนี้มันสําคัญกับกูมาก ถากูแขงชนะคราวนี้พอตองยอมรับวากูก็เกงไมแพพี่กูเหมือนกัน” ผมบอกเหตุผลมัน ดวยผมมีปมดอย
ในใจ ไมวาผมจะทําอะไรพอตองเอาผมไปเปรียบกับพี่ชายผมเสมอ เพราะฉะนั้นผมจึงพยายามเรียกรองความสนใจจากพอ ทําตัวให
เดน ใหดีกวาพี่
“งั้นมึงก็ตองทําใหดีที่สุด กูจะเอาใจชวย”
“มึงไมนาทําขนาดนี้เลย”
“คิดไรมาก ก็มึงเพื่อนกู”
“งั้นเหรอ...แลวทําไมไมโทรมาบอกกันบาง” ผมตอวาพรอมกับจับสังเกตตัวมันเองรวมทั้งอีกคนที่มองผมกับมันไมวางตา
“ก็กะมาเซอรไพสมึงไง” มันพูดพรอมกับยิ้มใหผม ผมก็เลยขยี้หัวเบาๆ
“เมธ กูมีเรื่องหนึ่งอยากบอกมึง”
“เมธ...มึงยังจะเปนเพื่อนกับกูอยูไหม ถากูจะบอกวาคนที่กูรัก...”
“กูพอจะรูตั้งแตวันที่กูถามมึงครั้งนั้นแลว” ผมพูดดวยลําคอตีบตัน
“อืม”
“หึหึ” ไมรูเหมือนกันวาทําไมผมถึงหัวเราะออกมา แตมันเปนน้ําเสียงที่ขมขื่นเหลือเกิน
“เมธ!!!”
“มะ..เมธ...มึงพูดเรื่องอะไร”
“ก็กูรักมึงไง มึงไดยินไหมวากูรักมึง!!!”
“เมธ!!!”
“ตะ..แตมึง...เปนเพื่อนกูนะ”
“เพื่อนหาเหวอะไรนั่นกูไมอยากเปนทั้งนั้น”
“ทําไมมึงพูดแบบนี้ละ เราเปนเพื่อนกันมานานแลวนะ”
“ฮึก...มึงเปนเพื่อนกูนะเมธ...มึงเปนเพื่อนกู...ฮึก...ทําไม...ฮึก...ทํากับกูแบบนี้...ฮึก....” กุลสะอื้นไหพูดกับผมหลังจากที่ผลักผมออก
โดยแรง สายตาตัดพอที่มองมานั้นยิ่งทําใหผมตัวชาเหมือนถูกตบหนาแรงๆ จากนั้นกุลก็กาวถอยหลังหางจากผมออกไปที่ละนิดๆ
ผมพยายามขวาแขนมันไว แตอีกฝายกลับสะบัดหนี ทาทางรังเกียจแบบนั้นทําใหผมออนแรง ยิ่งเมื่อกุลหันหลังแลววิ่งจากไปในที่สุด
ก็ทําใหผมเหมือนสิ้นลมหายใจ
“วินไมอยากอยูที่นี้แลว...ฮึก...วินอยากกลับ...ฮึก...”
“ไดสิครับ กลับก็กลับ เดี๋ยวพี่โทรเช็คสายการบินให แลวเราก็กลับเที่ยวที่เร็วที่สุดดีไหมครับ” ผมพยักหนาอยูกับไหลพี่เขา ตอนนี้ผม
ออนแอเกินกวาจะเจอหนาเมธอีกครั้ง ผมสับสน ผมผิดหวัง ผมไมเขาใจวาทําไมถึงไดเปนแบบนี้ แลวผมก็ปวดใจ...แตไมรูวาทําไม
“ฮึก...ฮึก...” เสียงสะอื้นที่ผมพยายามกลั้นแตมันก็ยังเล็ดรอดออกมา
“ฮึก...พูดอะไร...ฮึก...วินเกินวัยผูเยาวมาหลายปแลว”
“แหนะ...ไมเชื่อกันอีก”
“วินก็ไมรู รูแควาตอนนี้วินไมอยากเจอหนามัน”
“วินไมไดเกลียดมันนะครับ”
“อืมมม...” น้ําเสียงพึงพอใจในลําคอกับคิ้วที่ผูกเปนปมนั้นเริ่มคลายออกทีละนิด
“ธุระพี่ไมไดสําคัญมากมายอะไรหรอกครับ พี่ตามใจวินดี้”
“แตพี่บอกวาเย็นนี้จะไปไหนนะครับ”
“ไปงานแตงเพื่อนครับ”
เมื่อออกมาจากหองแลวผมก็ยังคิดใครครวญถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับวินดี้ อะไรกันที่เปนเหตุใหคนสองคนที่คบเปนเพื่อนรักกันมานานผิด
ใจกันถึงขั้นรุนแรงขนาดนี้ จะวาไปผมก็ยังไมเชื่อหรอกวาเมธจะกลาตัดขาดจากวินดี้ คนที่เปนเพื่อนสนิทกันมาสิบกวาป โทรหากัน
ทุกวัน มีหรือจะใจแข็งพอทําลายความสัมพันธที่รวมกันสานทอ ขนาดผมรูจักกับนองไดไมทันไร หากจะใหผมตัดขาดจากวินดี้ ผมคง
ขาดใจตายพอดี
แยแลว...สุดที่รักผมหายตัวไปไหนครับ!!!
“ถาเราหลงกันตรงไหน เมธจะยืนรออยูตรงนั้น กุลก็เดินกลับมาที่เดิมนะ”
“แลวถามือเราหลุดกันแลวหลงละ” ผมยังถามมันเพราะคนมันเยอะกลัวเขาเบียดใหเราพลัดจากกัน
สุดทายผมก็ไดคําตอบวาเมธยังคงเปนเพื่อนคนเกาที่ผมรักมากอยูหรือเปลา?
.
.
.
“กะ...กุล...” น้ําเสียงแผวเบาของเมธเมื่อเงยหนาขึ้นจากเขาแลวเห็นผม
“มะ...เมธ...” เสียงกระซิบของผมหลังจากเห็นใบหนาของมันผานมานน้ําตา
“ฮึก...ในที่สุด...มึงก็มา...”
“ฮึก...ฮึก...มึงก็ยัง...อยูที่เดิม...ฮึก...เหมือนที่เคยสัญญา…”
ถึงผมจะพูดดวยน้ําเสียงปนสะอื้นแตหัวใจของผมกลับตื้นตัน น้ําตาที่ไหลออกมาไมไดมาจากความปวดใจอยางเมื่อวินาทีกอน ผม
กอดเมธไว รัดมันแนนอยางไมตองการใหมันหายไปจากชีวิตผมไดอีก มือของเมธก็กอดผมไวแนนเชนเดียวกัน รัดผมแนนอยางกับ
มันจะไมปลอยใหผมไปจากชีวิตมันเชนกัน
“หนึ่งพันเการอยเกาสิบเอ็ด...หนึ่งพันเการอยเกาสิบสอง...หนึ่งพันเการอยเกาสิบสาม....”
ผมกําลังขมอารมณดวยการนับเลขอยูครับ ใกลแลวครับ ถึงสองพันเมื่อไหร ไอสองตัวที่นั่งกอดคอกันอยูนั่นไดแยกออกจากกันแนๆ
หนอยแหนะ...ไลผมใหไปงานแตงแตตัวเองดันหนีมาปลอบใจไอเพื่อนรักเพื่อนเวรนั่น ระวังตัวไวใหดีๆ เถอะ นี่ถาไมติดวาวินดี้ทุกขใจ
กับเรื่องนี้มากแลวละก็...ผมไมมานั่งทบทวนคณิตศาสตรนับเลขจวนจะถึงสองพันอยูอยางนี้หรอกครับ
เฮอ...สังเกตคําพูดตัวเองก็พอรูครับวาตอนนี้กําลังเดือดดาลสุดๆ แลว
“เมธอยา!!!” สาดมางางหมัดใสกูอีก
“พี่...ฮึก...ยังรัก...วินอยู...ไหม...ฮึก...”
“ไมไปแระ เดี๋ยวคนแถวนี้จะวางแผนหนีอีก”
“พี่ก็...วินถามเพราะเปนหวง”
“ก็ไมมีอะไรมากหรอก ตอนนี้วินก็กําลังรูสึกผิดอยู”
...แต
...จริงๆ ไมใชหรอกครับ
...สมองอัจฉริยะมันเริ่มแผลงฤทธิ์ตั้งหาก
...อีกอยางเปนการเสริมสรางสัมพันธของเราสองคน
...ถึงจะเริ่มตนดวยราย แตตองลงทายดวยรักนะผมวา
...งานนี้หมอทองฟงธงครับ!!!
“กะ...ก็...ดีครับ”
“แตวันนี้พี่ทําหนาบึ้งใสวินมาหลายทีแลว เมื่อกี้ก็เหมือนกัน”
“ก็วินดี้ชอบไลพี่” ใบหนามีเสนหของพี่เขาผละออกหางเล็กนอยกอนปลายจมูกโดงงามจะคลอเคลียอยูกับแกมของผม
“หมายความวายังไง”
“อะ..อาาา...” น้ําเสียงของเราทั้งสองที่เกิดจากความเสี่ยวซานซึ่งตางก็มอบใหแกกันและกัน
“อาาา...พี่ครับ....”
“อืมมม...วินดี.้ ...”
นึกถึงความนารักของวินดี้ที่นองจะเต็มใจมอบกับผมในวันขางหนาแลวก็อยากจะหอมแกมสุดที่รักรับอรุณขึ้นมาทันที วาแลวก็กม
หนาลงไป อยากจะสูดดมความหอมสักฟอดสองฟอดแตมารก็มาผจญเขาจนได ยังไมทันที่ริมฝปากจะแตะแกมเนียนก็ตองตองรีบ
ผละหาง ควาโทรศัพทที่กําลังสั่นบนโตะโคมไฟขางเตียงขึ้นมา กลัวเสียงครืนๆ มันจะไปกวนการหลับใหลของนองครับ
“ฉันสิตองถามแกวาอะไรนักหนา อุตสาหเปนหวงแลวดันมาทําเปนเกง”
“เฮอ...พอก็นาจะรูตั้งนานแลววาผมไมชอบ จะมาบังคับผมทําไม”
“แกก็นาจะรูตั้งนานเหมือนกันนะคินวาฉันก็ไมชอบที่ลูกชายตัวเองตกอยูในอัตราย แลวแกจะมาบังคับใหฉันทําเฉยไดยังไง”
ถึงพอจะเลิกอาชีพดานมืดแตคนที่พอเคยไปขัดผลประโยชนเขาก็ยังเยอะ แกก็เลยเปนหวงผมมากหนอยเพราะจุดออนของพอก็คือ
ผม ถาผมเปนอะไรไปคงฆาพอทั้งเปนเลยทีเดียว ตั้งแตไหนแตไรมา เวลาผมจะไปไหนมาไหนมักจะมีคนติดตามเสมอ แตหลังจากที่
ผมเจอวินดี้ผมก็เลิกใหตามผมครับ ถาเลี่ยงไมไดจริงก็ใหตามหางๆ อยาใหนองนองผิดสังเกตเพราะไมรูจะอธิบายกับนองยังไง มันคง
ไมดีเทาไหรนักที่นองจะมองวาผมเปนพวกขาใหญหรือมาเฟย นี่ขนาดเปนคนธรรมดายังยากกวาจะเขาหนาวินดี้ได ถาภาพติดลบ
มากกวานี้วินดี้คงไมเหลียวแลผมแนๆ
“งั้นพี่ก็คุยตอเถอะ วินไมกวนดีกวา”
“ไมไดกวนอะไรเลยครับ พี่ตางหากละที่เสียงดังกวนวินดี้จนตื่น”
“พอยังอยูไหม” ผมถาม
“ฉันตัดสินใจแลวนะคิน” แลวพอก็ตอบกลับมาดวยคําพูดที่ทําใหผมนิ่วหนา
“ฉันจะเพิ่มคนใหคอยดูแลแกมากกวาเดิม”
แตแลวพอก็อธิบายเหตุผลใหผมเขาใจถึงสิ่งที่ผมมองขามไป พอไดฟงก็เลยรูวาที่พอตามจ้ําจี้จ้ําชัยผมอยูนี่พอรูสึกอยางไร
“เออ...ที่รักครับ พี่ไมกลาใชวินดี้หรอก”
“งั้นจะเรียกผมทําไมครับทานรองฯ ปลอยแขนผมไดแลว”
“แตระหวางเรามันไมเกี่ยวกับหนาที่การงานพี่เลยนะครับ”
“ออเหรอ...ถาไมเกี่ยวกับงานแลวมาหลอกผมทําไมวาเปนแคผูจัดการ พนักงานเงินเดือนธรรมดา ทั้งๆ ที่ตัวเองรวยลนฟาซะขนาดนี้
ถาเห็นวามันไมสําคัญก็นาจะบอกความจริงตั้งแตแรกถูกไหม หรือคุณกลัววาผมจะไปหลอกลวงเอาเงินทองจากคุณถารูวาคุณรวย”
“คุณก็เลยไมบอกแลวปลอยใหผมรูเอง”
“ตอนนี้คุณเงียบไปเลยนะ ผมไมอยากไดยินอะไรทั้งนั้น”
ตอนนี้มองไมเห็นหรอกครับวาเรื่องที่ทําใหผมโกรธแกแคเรื่องเล็กนอยเพราะจิตใจผมออนแอมากเหลือเกิน ผมมาที่ภูเก็ตสองวันกับ
หนึ่งคืน คุณรูไหมวาผมเจอกับอะไรบาง กอนเดินทางก็วาวุนใจเรื่องของตริน จากนั้นวันตอมาก็ทะเลาะกับเพื่อน เจ็บเจียนตายที่
เพื่อนบอกตัดขาด แลวพอคืนดีกับเพื่อนไดไอพี่บาก็มาอารมณเสียใสผม พอรุงเชาดันมาเจอเรื่องนี้อีก คิดดูแลวกันวาสภาพจิตใจของ
ผมจะเปนอยางไร อารมณมันขึ้นๆ ลงๆ ซะขนาดนั้น ถายังตองเผชิญหนากับพี่เขาอีก คงไดพูดจาทํารายแกมากกวานี้ ผมขอไปสงบ
สติอารมณคนเดียวเงียบๆ กอนแลวกัน ไวเย็นลงเมื่อไหรคอยวากันอีกที
...ตอจากนี้ผมจะปลอยใหเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเปนครั้งสุดทาย หากวินดี้หามเขาใกลผมก็จะหาวิธีไมปลอยใหนองไปไหนไกลหูไกลตา
ผมอีกแลว!!!
...โอพระเจา นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับสุดที่รักของผม!!!
“ถามึงไมปากหมาเรื่องมันก็คงไมเกิด” ตรินก็โตตอบกลับเชนกัน
“นี่มึงกลาเรียกผัวตัวเองวาหมาเหรอ” นั่นไงไอเมธมันยังกัดเขาไมปลอยอีก
แต...
หะ!!!
เฮย!!!!
มันวาตัวเองเปนอะไรกับตรินนะครับ!!!
ผะ...ผัว...เหรอ...
เยย!!!
“ปลอยกูเดี่ยวนี้นะไอสัตว”
“เมธ!!! ตริน!!!”
“พี่วาคนเมานี่เขาพูดจาเพอเจอหรือเปลา”
“จริงนะ”
“จริงสิครับ”
“งั้นดีเลย วินกําลังสงสัยอยูเชียว”
“สงสัยเรื่องอะไรครับ” ผมถามกอนที่นองจะคลายความสงสัยของผมดวยคําถามที่ทําใหผมกลืนน้ําลายลงคออยางยากลําบาก
ภาคตรินกับเมธ บทที่ 1
“ไมจริง” ตรินเถียงผมกลับมา
“สัญญาวาคําพูดตอจากนี้จะไมปดบังหรือบิดเบือนความจริงแมแตนอย” นี่คือคําพูดพี่เขากอนหนานี้
"เดี๋ยวพี่เลาใหฟงวันหลังนะครับ” และนี่ก็คือคําพูดปจจุบันของแก
“พี่ก็นาจะรูวาวินตองการคําตอบแบบไหนเพราะฉะนั้นไมตองมาเฉไฉเลย”
“พี่เปลาเฉไฉซะหนอย”
“ถางั้นก็ตอบใหมนั ตรงประเด็นสิ”
“นานแลวละครับ สี่หาปไดแลวมั้ง”
...แตดีแลวครับ นี่แหละที่ผมตองการ...
...นอกจากสนุกแลวยังไดในสิ่งที่ผมตองการดวย...
“แลวจําไดไหมวาวันที่เรารูจักกันนะวันที่เทาไหร”
ผมยืนมองทองทะเลอันกวางใหญพรอมๆ กับรอวาคนที่ผมรักและแครผมมากเขาจะมีปฏิกิริยาอยางไร...
.
.
.
แลวพี่เขาก็ไมทําใหผมผิดหวังจริงๆ
.
.
.
“พี่วาเรากลับมาคุยเรื่องปรินอยางเดิมดีไหมครับ”
คราวนี้ไมใชเรื่องของปรินนะครับ แตเปนเรื่องของตริน!!!
ที่ผมสงสัยก็คือ...
ตรินเปนเมียเมธจริงๆ หรือครับ???????
เมธกับตริน ตอนที่ 2
“สัตย...นี่มันอะไรกัน...มาอยูที่นี่ไดยังไง” ไมทันแลวละที่จะลุกหนีหรือคิดจะผลักผมออกเพราะทันทีที่เขาขยับตัวผมก็รวบสองมือของ
เขาไวบนศีรษะ ใชรา งหนาของตัวเองทับเขาไวไมใหกระดุกกระดิก
“สันดาน มึงจะทําอะไรกู”
ภาคเมธกับตริน ตอนที่ 3
“มึงเปนบาอะไรของมึงเมธ ปลอยกู...อือ...อื้ม...”
หะ!!!!
เสียงเมื่อกี้เหมือนจะไมใชเสียงตริน แตเปนเสียงของใครอีกคนที่คลับคลายคลับคลา....
ลูกแพร!!!!!
.
.
.
.
แตมันจะถูกที่ถูกเวลาเกินไปไหม มาขัดจังหวะตอนผมจะปล้ําเมียตัวเองเนี่ย!!!
ภาคเมธกับตริน
...แตเมื่อมีเสียง...ไมนานตัวก็ปรากฏมาใหรับรู. ..
“กูไมเปนไรหรอก”
“นองกุล...” เสียงพึมพําแผวเบาของตรินทําใหกุลหันตาโตๆไปมองกอนจะยิ้มแหยๆ
“ตรินไมไดเปน...เออ...มะ...”
“งั้น…เมธเปนเมียตรินเหรอ”
ตอนพิเศษ
ตอนพิเศษ ครึ่งแรก
“หลอมากเลยครับ ฟนหนารวงไปหมดไมเหลืออะไรเนี่ย”
“นารักจังเลยนะครับ แลวยังติดตอกันอยูไหม”
“หลอขนาดนี้ก็ตองเปนตัวเอกสิครับ จะใหพี่เปนแกะไดอยางไร”
“หึหึ แตยังไงเวลานึกถึงสมัยนั้นแลวก็ขําอยูดี”
“ตามใจพี่สิครับ”
“นารักจังเลย แฟนใครนะ”
“หึหึ ถูกจับไดอีกแลวสิเนี่ย”
“ก็เลาเรื่องที่ทําใหพี่นึกขําเมื่อครูนั่นแหละครับ”
“แนใจนะวาอยากฟง”
“หึหึ พี่ควรจะดีใจใชไหมที่วินดี้อยากรูเรื่องของพี่”
“แสดงวาเรื่องที่เลาใหฟงตอจากนี้มันรายแรงมากใชไหม”
“วินยังไมไดวาอะไรเลย ทําเปนรอนตัว”
“ตอนเรียนชั้นอนุบาลครับ” คําตอบของคนที่อยูตรงหนาแทบทําใหคนฟงสําลักลมหายใจ
“ชอบสาวตั้งแตอนุบาลนี่นะ” นาคินทรพยักหนาใหกับคําถามของคนขี้สงสัย
“อนุบาลวินยังเลนดินเลนทรายไมรูเรื่องอะไรเลย”
“อืม...ชวงระหวางอนุบาลจะขึ้นประถมนี่แหละครับถาจําไมผิดเพราะวาพี่เรียนชัน้ อนุบาลกับประถมโรงเรียนเดียวกัน”
“ใครครับ...อยาบอกนะวา...”
“ใชแลวครับ โรสนั่นแหละ”
“โอ...แลวพี่ไปจีบเคายังไง”
“หึหึ วินดี้ฟงแลวหามวาพี่นะครับ”
“สัญญาเลยครับ”
“แตพี่เลิกเจาชูตั้งแตเจอรักแทแลวนะครับ วินดี้รูไหมวาพี่เจอใคร”
ตอนพิเศษ ครึ่งหลัง
ในค่ําคืนอันเรารอน รางกายของนาคินทรรวมเปนหนึ่งเดียวกับวายุลกุลอยางเนินนาน บทเพลงรักของทั้งสองบรรเลงหลายชั่วโมง
ติดตอกันจนทําใหรางบางหลับทันทีเมื่อลมตัวลงนอนหลังจากเพลงรักสุดทายในค่ําคืนนี้สิ้นสุดลง ทวาเขาคิดผิดเพราะสําหรับคนตัว
โตแลว บทเพลงที่เพิ่งผานพนไมนั้นไมใชเพลงสุดทายที่เขาจะบรรเลง เพราะวายังมีอีกหนึ่งบทเพลงที่สุดแสนพิเศษซึ่งเขาอยากใหคน
รักเปนผูนําทาง
“จะตีสามแลวนะ” เขาวาตอเมื่อเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพทมือถือขึ้นมาดูเวลา
"ซี๊ดดด...อะ...อา...พี.่ ..ครับ"
“อืม...อา...” เสียงครางสั่นพรานั่นทําใหนาคินทรยิ่งไดใจ
“อะ..อา...” ริมฝปากที่ชํานาญการและรูวาทําอยางไรถึงมอบความสุขใหกับคนตัวเล็กอยางเต็มที่เริ่มบรรเลงความช่ําชองจนทําให
วายุลกุลสะดุงกระตุกบั้นทายดวยความสุขสม ขยับเอวใหแกนกายเขาปากอีกฝายอยางลืมตัว ศอกสองขางยันตนขาแกรงไว สีหนา
แสดงออกถึงความกระสันตสุดขั้ว ครางระงมอยางไมอาจอดกลั้น
"อืม...วินดี.้ .."
“อะ..พี่...ครับ...วินจะไม...ไหวแลว...” เมื่อทวงทํานองที่บรรเลงอยูจะนําคนรักใกลถึงฝงฝนนาคินทรก็กอดเอววายุลกุลไวแนนกอนจะ
พลิกตัวลงใหคนรักอยูเบื้องลางโดยที่รางกายของทั้งสองไมแยกจากกัน จากนั้นก็เปนฝายจัดการสงรางบางใหถึงฝงดวยตัวเขาเอง
โหมกระแทกอยางหนักหนวงพรอมกับมือที่ปรนเปรอใหวายุลกุลไมหยุดหยอน
“อะ...อะ...”
“อา....”
เมื่อถึงสุดสายปลายรุงที่ทั้งสองกาวผานมันก็ชางสวยงานยิ่งนัก รางกายที่ชุมไปดวยเหงื่อของทั้งคูซบกอดกันอยางออนแรงกอนราง
หนาจะจูบที่หนาผากคนรักและกลาวขอบคุณสําหรับความสุขที่มอบใหพรอมกับคําชมวามันชางวิเศษยิ่งนัก วายุลกุลยิ้มอยางเขิน
อาย ใบหนาแดงซานกระซิบบอกอีกฝายวามันเปนชวงเวลาที่วิเศษมากเชนกัน...
“ถึงแมไมใชรักแรกแตวินดี้ก็เปนรักสุดทายของพี่” คําพูดที่แสนอบอุนของชายอันเปนที่รักซึ่งไดยินเมื่อตอนกลางวันยังตามเขาไป
กลอมหัวใจของคนตัวเล็กในหวงฝนจนเผลอละเมอความในใจออกมา
“พี่ก็เปนรักสุดทายของวินเชนกันครับ”
แตไมวาจะคุยเรื่องโนนเรื่องนี้จบไปหลายเรื่องแลววินดี้ก็ยังทําหนายุงเหมือนเดิมครับ
“ก็นี่นะสิ” ผมกดนิ้วที่ระหวางคิ้วของนอง
“เปนเด็กเปนเล็กทําตัวเปนคนแกไปได” ผมพูดแกมหยอก
“นี่ไง นิสัยคนแก”
“ไมแกก็นอยใจได”
“เอาใจพี่หนอยก็ไมได” บนกระปดกระปอดไปตามเรื่องแหละครับ
“ถามจริงเถอะ มีครั้งไหนบางที่วินเคยขัดใจพี่”
“พี่มางอนวินเรื่องอะไร แควินพูดถึงคนอื่นนี่นะ”
“ไดเบอรพี่จากไหนครับ” ถามไปอยางสงสัย
“หึหึ ปรินก็มีวิธีของปรินแหละครับ”
“พี่แนใจนะครับวาปรินไมใชตริน” นองถามดวยน้ําเสียงคาดคั้น
“นี่ตรินเขากําลังคิดเลนตลกอะไรกันแน!!!”
ถึงแมจะรูวาคนที่โทรมาหาคนที่คุณรักคือใครแตลึกๆในหัวใจแลวก็ยังระแวงและไมพอใจอยูดี แลวถาเกิดคนที่โทรมานั้นเปนคนที่
คุณรูจักแตก็เหมือนคุณไมรูจักละ คุณจะรูสึกหวาดกลัวและระแวงมากขึ้นอีกกี่เทา สิ่งที่อยูตรงหนาคุณไมอาจคาดเดาไดเลยวาคนๆ
นี้จะมาไมไหนกันแน...นี้แหละคือความรูสึกของผมในขณะนี้
“นี่ตรินเขากําลังคิดเลนตลกอะไรกันแน!!!”
แตแลวชั่ววินาทีตอมาโทรศัพทก็ดังขึ้นอีกครั้ง ผมเมนเรียวปากดวยความรูสึกไมพอใจในขณะที่พี่เขายกขึ้นมาดูแลวแกก็ทําหนา
หงุดหงิด
แตมันกลับไมเปนอยางที่ผมขอไว เพราะคนที่สงขอความเขามาคือคนที่พี่เขาปฏิเสธจะรับสายเมื่อสักครูนั่นเอง
“ไมทันไดบอกวายังรักและคิดถึงพี่ก็ตัดสายไปกอนแลว”
“พี่ไมคิดที่จะตอบอะไรเขาไปหรอกครับเพราะไมเคยรักและคิดถึงเขา ตอนนี้มีแคใครบางคนแถวนี้แหละที่พี่ทั้งรักทั้งหลงและยังคิดถึง
แมวาจะยืนอยูขางๆกันก็ตามที” หยอดลูกออนไวกอนครับเผื่อนองจะปราณี ไมโยนความผิดใหกับผม นึกขึ้นมาแลวก็อยากฆาไอ
ปริน มันเปนบาอะไรของมันก็ไมรู ตามราวีไมเลิกรา ทั้งๆที่คราวกอนผมก็บอกไปตามตรงแลวนะครับวามีคนรักแลว
“เขาพูดชัดไหม วินจําที่พี่บอกไดวาเขาอยูที่เมกาตั้งแตเด็ก”
“ก็ชัดปรกติดีนี่ครับ”
“อายทอง…”
ทวาเวลานี้พอเห็นคนที่เดินตามเราอยูหางๆแลวก็ทําใหผมหวนคิดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ยอมรับครับวาไมชอบใจเลยที่ตองมีคนคอย
เดินตาม ไมวาจะทําอะไรที่ไหนตองอยูในสายตาของคนอื่นตลอดเวลา มันไมเปนสวนตัวเอาซะเลย แตเมื่อมองอีกมุมอยางที่พี่เขา
บอกวาเพื่อความปลอดภัย ผมก็พอจะเขาใจบาง แตอยางไรก็ดี ผมก็ยังหนักใจ นี่ชีวิตคนรักของผมตกอยูในอันตรายขนาดนี้เชียว
หรือ!!!
อีกอยางผมนี่ชางใชไมไดเลย ทั้งๆที่พี่เขาอยูขางๆผมแทๆแตผมกลับไมสังเกตอะไรเลย อยางวันนั้นไงครับ วันที่พี่เขามาขอโทษผม
ครั้งแรก แลวถามผมวาจะใหทําอยางไรผมถึงจะยกโทษให ผมบอกแกไปวาใหไปตายซะ แกก็เลยเอาปนออกมาแลวใหผมฆาแก นั่น
แหละครับผมเพิ่งนึกไดวาแกพกปนดวย ถาเปนคนธรรมดาคงไมพกมันใชไหมครับ ผมนาจะเอะใจเรื่องนี้ตั้งนานแลว
“วินดี้ถามทําไมครับ”
“ใครบอกวาวินจะเอามาฆาพี่” ผมเอียงหนาถาม
เอะ...อยาบอกนะวา
...พี่เขายังผวากับคําขูของผมเมื่อหลายนาทีกอนหนานั้น
...ถาเปนอยางนั้นจริงก็ขําเลยละครับ ฮาฮา
“ถาเรากลับกรุงเทพแลวพี่พาวินไปซอมยิงปนดวยนะครับ” ผมบอกพี่เขาพรอมยิ้มหวานๆใหแกไปที
“ไมเอาหรอก เปนเด็กเปนเล็กหามเลนปน”
“เด็กที่ไหน วินโตแลว”
“ไมหึงก็หยุดขูพี่ซะที แคนี้ก็กลัวจะแยอยูแลว”
“วินไมไดขูอะไรพี่เลยนะครับ แคเตือนไวเฉยๆ”
“ถาไมมีก็ไมเห็นตองเศราเลย พี่ก็อยูเฉยๆเดี่ยววินออกกําลังรุกพี่เอง”
เนี่ย ผมบอกแกแบบนี้อะครับ แลวคุณๆวาผมพูดผิดหรือ ขนาดเมธ?ตัวโตยังเปนรับเลยอะ แลวทําไมเรื่องนี่จะเปนไปไดละครับ จริง
ไหม????
“วินดี้ลอพี่เลนใชไหมครับ” ถามเพื่อความแนใจครับ
“ปง!!!...”
“โครม!!!...”
“โอย!!!...”
“จะไปไหน!!!...”
“ปลอยกูนะ!!!...” นี่อะครับ เสียงมารที่มาขัดขวางผม
“เกิดอะไรขึ้นหรือครับ” นองขยับเขามาใกลผมแตสายตากึ่งตกใจยังจับจองที่สองคนนั้นไมวางตา
“มึงจะไปไหน หะ!!!”
“นองกุล!!!” ไอนี่ก็ฝนตัวไวสุดกําลัง
“เกิดอะไรขึ้นทําไมถึงไดออกมาวิ่งไลกันนอกหอง” แตก็ยังอดที่ถามถึงที่มาที่ไปไมได
“คุณอยากไดเสื้อคลุมกอนจะกลับหองไหมครับ” เสียงถามของไอพี่ทองทําใหตรินเงยหนาขึ้นมา
“ปง...” แลวมันก็ปดประตูใสหนาพวกผมอีกครั้ง
“แคก!!!” เสียงลูกบิดประตูพรอมประตูที่เปดออกมาอยางรวดเร็ว
“ปง!!!” ตบทายดวยเสียงประตู
“คลิ๊ก!!!” มันล็อกหองอีกตางหาก
“ในเมื่อเจ็บแลวก็เจ็บอีกสักหนอยเปนไง” วาพรอมกระโจนเขาหาเขา
ตอนแรกผมก็ไมแนใจหรอกนะวาสิ่งที่เปลี่ยนเขาจากดิ้นรนขัดขืนมาตอบรับจูบของผมอยางเต็มใจนั้นจะใชในสิง่ ที่ผมคิดไวหรือเปลา
ถึงแมจะตัดสินใจแลววานี่เปนวิธีเดียวที่จะทําใหผมลืมกุลได ทวาพอเห็นดวงตาของตรินซึ่งเต็มไปดวยความสับสนที่กําลังสะทอน
ออกมานั่น ก็ทําใหความรูสึกผิดชอบชั่วดีตามรบกวนจิตใจผมอีกครั้ง มันอดรูสึกผิดไมไดที่ใชตรินเปนเครื่องมือเพื่อจะลบกุลออกไป
จากใจ
เวลาเดินผานเราไปอยางเชื่องชา พรอมกับความรูสึกหนักหนวงที่อัดแนนอยูในใจถูกถายถอดออกมาผานจูบที่เราทั้งคูตางแลกใหแก
กันและกัน จนกระทั่งผมสัมผัสไดถึงปลายนิ้วของตรินเกลี่ยที่หางตาของผมนั่นทําใหผมถอนริมฝปากออกมา
“นองเมธ...” คําเรียกขานที่ตรินเคยเรียกผมตลอดสี่ปที่ผานมาออกมาจากปากเขาอีกครั้งเมื่อผมยังคงกอดตรินไวแนน
“นึกวาจะรอดหรือไง” ผมพูดพรอมเงยหนาขึ้นมา
“เรามาคบกันไหมครับนองเมธ เรามาเปนแฟนกันนะ”
“หะ!!!”
ผมไดแตอาปากเหวอกับคําขอของตริน นี่ตกลงมึงอยูในอารมณไหน!!!
ดิ้นรนขัดขืนไมยอมใหผมปล้ําเมื่อชั่วโมงกอน????
สมยอมเปนของผมเพราะช้ําใจจากกุล????
รองไหฟูมฟายเพราะอกหักทั้งๆ ที่ยังไมมีโอกาสบอกรัก????
หรือมึงขอคนที่กําลังอกหักเหมือนกันมาชวยดามใจ!!!
กูตามอารมณมึงไมทันแลวนะไอหานี.่ ..สาด...เอย...
“อกหักเลยสับสนทางจิต สมองฟนเฟอน”
เมื่อผมพูดจบตรินก็ถอนหายใจอีกครั้งแลวเอยคําพูดที่ทําใหผมตองชันศอกกับฟูกที่นอน หันหนาไปมองเขาใหเต็มตา
“เคยเห็นในนิตยสารครับ” เขาบอกเสียงเรียบ
“อันนี้พี่ไมรูครับ แตที่รูคือนองกุลรักคุณนาคินทร”
“ถามันทําใหเราและอีกฝายสบายใจก็ควรจะทําไมใชหรือครับ”
“ก็เรื่องเมื่อคืน แลวก็สี่ปที่แลว”
“เมื่อคืน??? สี่ปที่แลว???”
“ใช...ทําไมตรินเลือกที่จะลืมมันละ?????”
…….บอกหนอยสิตริน ทําไมถึงไดเลือกที่จะลืมเมธ...ทําไม.........
“ไมครับ” แลวเขาก็ยืนยันอีกครั้งดวยคําพูด
“พรุงนี้สายๆ ครับ”
“งั้นเปลี่ยนเปนพรุงนี้เย็นพรอมเมธแลวกัน”
“อาว...”
“ไมตองอาว เปนแฟนกันก็ตองกลับดวยกันสิ”
“แฟน?”
“ไมตองมาทําเปนลืม เมื่อกี้ตรินขอเมธเปนแฟนเองนะ”
“หือ?”
“พี่วาเรามาทําขอตกลงกันกอนไหม”
“เรื่อง” ผมเลิกคิ้ว
“เงื่อนไขของการเปนแฟน” ตรินตอบผมกลับมาในทันที
“ถึงเราจะเปนแฟนกัน แตตองไมเกี่ยวกับความสัมพันธทางกาย”
“ขยายความหนอยสิ”
“งายๆ ถึงพี่จะขึ้นชื่อวาเปนแฟนนองเมธ แตวาพี่จะไมใชเมียนองเมธ ไมวาจะทางพฤตินัยหรือนิตินัย” พอไดฟงแบบนั้นมันก็ทําใหผม
อดหัวเราะออกมาไมได อะไรของเขาเนี่ย คิดอะไรอยูถึงมาทําขอตกลงกับผมแบบนี้ ดูสิ...ทําหนาจริงจังซะ เห็นแลวอยากแกลงคน
ขึ้นมา
“โหย...แลวจะมีแฟนไปทําไม” ผมยังแกลงเขาตอ
“มีเพื่อจะทําใหลืมคนที่หักอกเราไงละ” เขาพูดดวยน้ําเสียงจริงจังเมื่อหันมาตอบผม
“ทํายังกับมันจะลืมไปไดงายๆ”
“แลวถาพี่ทําใหนองเมธลืมได นองเมธก็จะยอมพี่ใชไหมครับ”
“ยอมตริน?”
“ใชครับ นองเมธก็ตองมาเปนเมียพี่”
“ครับพี่ตริน...นองเมธจะรอวันนั้นอยางใจจดใจจอเชียวละ...”
แตแลวปญหาที่ตรินกังวลดูจะไมใชเรื่องใหญเพราะตรินกลับเปนฝายถูกทิ้งเมื่อเขากลับไปยังหองแลวพบวานองชายของเขาได
หายไป พรอมกับโนตสั้นๆ บอกไวแควา เจอกันที่บานในสัปดาหหนา
เมื่อทุกอยางลงตัวแลวพวกเราก็ลงมาขางลางเพื่อจะหาอะไรกินกัน แตแลวผมก็คนพบวา...ผมไมเคยเกลียดทฤษฏีโลกกลมเทาวันนี้
มากอนเลย!!! ใหตายเถอะ...รานอาหารมีตั้งเยอะตั้งเยอะทําไมผมตองมารานเดียวกันกับกุลดวย นี่พระเจากําลังใหบททดสอบความ
เขมแข็งกับผมอยางนั้นหรือ ขอเวลาอีกหนอยไดไหม ใหผมไดทําใจมากกวานี้อีกสักนิดเถอะนะ
“เราไปรานอื่นกันเถอะ” ผมกมหนาบอกตรินที่เกาะแขนผมอยู
.
.
.
...ทวา...
.
.
.
“แตพี่อิจฉามากกวา” ตรินขานรับกลับมา
“นองเมธคิดจะทําอะไรครับ” ผมยักไหลใหกับคําถามของเขากอนบอกวา
“นองเมธคงไม...”
...ถือวาชวงเวลาตอจากนี้เปนการเริ่มมิตรภาพและใหของขวัญตอนรับเพื่อนเขยจากเพื่อนและพี่ชายสุดที่รักของกุลมันก็แลวกัน...
ของขวัญที่จะทําใหไอหานั่นดีใจจนแทบจะยิ้มไมออกเชียวละ...
ตอนนี้อยากมีขาวสารเสกเอามาไลไอผีดิบสองตัวใหมันกลับหลุม เห็นหนามันแลวอยากเอามีดชําแระศพมากรีดใบหนาอันใสกิ๊ก
ใหมันดูเวอะหวะนากลัวจนวินดี้มองเมิน แลวถาผมทําอยางนั้นจริงๆ รับรองเลยวาศาลไหนๆ ก็ไมรับฟองแนๆ ไมเชื่อ
ลองมาดูสิ่งที่พวกมันสองตัวทํานะครับ
"ตามสบายเลยเมธ กูไมเคยปฏิเสธมึงอยูแลว"
“เออ”
“ยังไงหรือครับนองเมธ”
"งั้นก็นาสงสารไอโคแกหนังยานตัวนั้นจริงๆ"
เพลง!!!! ไมใชเสียงอะไรหรอกครับ แตเปนเสียงความอดทนของผมที่ขาดสบั้น
“วินดี…
้ ที่รัก มานัง่ ขางพี่ นี่มา!!!”
"วินดี…
้ ที่รัก มานั่งขางพี่ นี่มา!!!"
ถึงแมน้ําเสียงของพี่เคาจะฟงดูปรกติ แตผมก็รูดีวาภายใตคลื่นเสียงเรียบเฉยนั่นอารมณดุเดือดรอนแรงดั่งลาวาของภูเขาไฟกําลัง
เคลื่อนตัวอยางเงียบๆ และพี่กําลังสะกดกั้นมันใหกลับไปสงบดั่งเดิมอยางสุดกําลัง ผมสบดวงตาสีน้ําตาลคูนั้นกอนจะลุกขึ้นตามคํา
ชวนเชิญของพี่เขาอยางวางาย...ผมคิดวาตัวเองฉลาดมากพอที่จะไมขัดใจพี่ตอนนี้ ผูชายที่ผมรักมักจะออนโยนและออนหวานกับ
ผมเสมอ
แตไมใชกับคนที่ทําใหอารมณพี่เขาขุนมัว คําพูดและการกระทําของเมธกับตรินเมื่อสักครูคงไปกวนอารมณพี่เขาเขาเสียแลว
ผมยังจําใบหนาและน้ําเสียงของพี่ที่ประกาศกราวเมื่อคืนวาไมชอบใจที่ผมกับเพื่อนแตะเนื้อตองตัวกัน แลวผมก็รับปากพี่แลววา
จะไมทําอีก แตพอขามคืน สิ่งที่พี่ไมชอบก็หวนคืนมาอีกครั้ง
ไมตองใหอธิบายอะไรก็รูแลววาพี่กําลังหึง และก็ไมจําเปนตองอธิบายใหมากความเชนกันวาเวลาพี่หึงนั้นนากลัวเพียงใด…
เทพบุตรของผมจะกลายรางเปนซาตานและพรอมจะทําลายทุกอยางที่ขวางหนาใหแหลกเปนจุล
“ครับนายนอย” ดวงตาแข็งกระดางของพี่ปรายไปยังการดที่คอมหัวใหอยูไมหาง
“บอกใหพนักงานมาเปลี่ยนโตะ” พี่เขาสั่งกอนหันมามองผมเต็มตาอีกครั้ง
“ก็ไมตองมองสิครับในเมื่อมีสิ่งอื่นที่นามองกวา” ตรินบอกขณะมองผม
“อืม…จริงสิ” แลวทั้งสองยิ้มใหแกกันอยางมีความหมาย
“กูอยากกินน้ํามะพราวปน” เมธบอกกอนมันจะลูบหัวผมพรอมกลาวตอวา
“อืม…จําได”
“อืม” ผมตอบรับแคสั้นๆ
“เดียวอีกไมนานมันจะถูกทิ้ง”
“ขอเตือนวากูไมสนุกกับเกมของมึง อยาทําตัวเปนเด็กไปมากกวานี้”
“พี่ครับ…”
“พี่จะไมขอโทษที่ทํากับเพื่อนวินดี้แบบนั้นเพราะมันเหยียดหยามพี่กอน” ผมเมมเรียวปาก
“ฝากดูแลเพื่อนกูดวย” ถึงน้ําเสียงนั้นจะไมดังมากนักแตผมก็ไดยินอยางชัดเจน
“…เพื่อนมึงคือชีวิตและลมหายใจของกู…”
“หึหึ”
“ยังไมเลิกหัวเราะอีก”
“ก็มันขํานี่ครับ”
“ขําอะไรนักหนา ไมเห็นจะตลกตรงไหน”
“ก็ตลกตรงที่นองเมธถูกสัง่ สอนนั่นแหละครับ”
“คุณนาคินทรประกาศออกมาแบบนั้น แสดงวาเขาจริงจังกับนองกุลมากทีเดียว”
“ก็ไมคิดเหมือนกันวามันจะยั่วขึ้นขนาดนี้”
“หึหึ ถาเปนนางรายจริงตรินก็ลืมบทหนึ่งละ”
“หือ...อะไรครับ”
...แตแลวระหวางที่รางกายผมกําลังเอนขึ้นตามแรงดึงอยูนั้น สายตาของผมก็เห็นบางอยางผิดปรกติบนชายหาด...ผมจองหนาตริ
นกอนจะสะบัดศีรษะแรงๆ เพื่อจะไดมองหนาเขาใหชัดยิ่งขึ้น…แตมันก็ไมไดชวยใหอะไรดีขึ้นเลย
“หาอะไรครับคนดี บอกพี่สิ นองเมธ! มองพี่สิครับ มองหนาพี!่ ” มองตรงไหน ไมเห็นอะไรเลย มันเลือนลาง มืดมัวไปหมด ภาพมันก็
ซอนทับกัน จนไมอยากจะลืมตาดู ยิ่งเห็นยิ่งทําใหเวียนหัวมากยิง่ ขึ้น
"เจอแลว" น้ําเสียงของเขาฟงดูตื่นเตน
“เปนไงบาง”
“นองเมธมีเครื่องตรวจวัดน้ําตาลไหม” น้ําเสียงของตรินทําใหผมหันหนาไปยังเขา
“ไมตองหรอกตริน ดีขึ้นมากแลว”
“เฮอ...ถึงจะดีขึ้นแลวก็ตองวัดดู ถามันยังต่ําอยูจะไดเพิ่มน้ําตาล”
“อืม...ตามใจตรินแลวกัน มันอยูในกระเปาในหองนั่นแหละ”
“งั้นเดี๋ยวพี่มานะครับ”
“อืม...” เมื่อสิ้นเสียงของผมตรินก็ลุกจากไป แตไมวายกอนไปเขาใชมือมาเช็ดเหงื่อตามไรผมและบนใบหนาใหกับผม
“ถึงอาการของมันจะไมแสดงออกมามากนักแตมันก็เหมือนภูเขาน้ําแข็งนะครับ นึกภาพออกไหม”
“ก็...”
“รู”
“โหย ไดคุณภรรยาแบบนี้ปวดไปถึงตับ”
...บางครั้งเวลาที่เผลอสบตากันโดยบังเอิญตางฝายตางก็รีบหลบ
...บางครั้งถูกตัวกันโดยบังเอิญตางฝายตางก็รีบขยับออกหางราวกับถูกไฟซ็อต
...บางครั้งเราเอยขึ้นมาพรอมกันตางฝายตางก็รีบหยุดแลวบอกใหอีกฝายพูดกอน
...บางครั้งเราก็เอื้อมมือไปหยิบสิ่งของพรอมกัน ตางฝายตางชะงัก กอนจะปลอยใหอีกฝายหยิบมันขึ้นมา จากนั้นเราก็ยิ้มใหกันบางๆ
“นานแลวนะครับที่พี่ไมไดดูพระอาทิตยตกแบบนี้”
“พระอาทิตยขึ้นที่โขงเจียมก็สวยครับ พี่เคยไปมาแลว”
“ที่ภูกระดึงก็สวย” ผมเสริม
“หรือไมก็ภูชี้ฟา ดอยอางขาง”
“ที่นั่นก็นาหลงใหล พูดแบบนี้แสดงวาตรินไปมาหมดแลวสินะ”
“นองเมธก็คงเหมือนกัน ออกคายตลอดเลยไมใชหรือครับ”
“ทํามาเปนสัญญาแบบเด็กๆ” เสียงเขาบนพึมพํา
คุณรูไหมวาทําไมผมถึงไดเก็บภาพรอยเทาของเราทั้งสองไว?
นั่นก็เพราะวา...
มันเปนรอยความทรงจําในใจของผมจากคนที่ผานเขามาในชีวิต...
แตเปนคนที่ผมกําลังรูสึกวาไมอยากใหผานไปอยางไรละ...
ขอบคุณ...รักแรกที่ไมสมหวังทําใหผมรูวาความรูสึกดีๆ สามารถเกิดขึ้นไดอีกครั้ง
ขอบคุณ...อาการอกหักที่ทําใหผมไดรับความหวงใยจากใครบางคน
ขอบคุณ...เวลาที่ผมเจ็บแลวมีอีกคนที่เจ็บเหมือนกันกับผม
ขอบคุณ...เวลาที่ผมเหงาและมีเขาอยูขางๆ
ขอบคุณ...ความอางวางที่ทําใหเราเขาใจความรูสึกของกันและกัน
และสุดทาย...ขอบคุณ...วันที่ใจออนลาทําใหเราทั้งคูกาวขามกําแพงที่กั้นระหวางเราเพื่อไดเรียนรูตัวตนที่แทจริงของเราทั้งสอง
นับเวลาแลวตอนนี้ก็ครบยี่สิบสี่ชั่วโมงพอดีที่ตรินกาวเขามาในชีวิตผมอีกครั้งหลังจากรักแรกของผมไดจบลง ผมยังจําไดวาครั้งแรกที่
ผมผิดหวังจากกุลนั้น ตรินเมือ่ สี่ปกอนรอนแรงราวกับไฟ เขาหลอมละลายผมดวยสัมผัสทางกาย ปนหัวใหลุมหลงซึ่งมันก็ชวย
บรรเทาความเจ็บปวดจากใจราวไดบาง
แลวพอถึงเวลาตองแยกกันมันก็อดที่จะรูสึกโหวงเหวงไมได
“มันเหงานะนอนคนเดียวอะ” ผมยังตามหวานลอมเขาตอไป
“ออ...งั้นก็ขอบคุณมากครับ”
“อืม...ไปแลวนะ ฝนรายนะครับ ฝนเห็นผีดวยยิ่งดี” ตรินยนคิ้วเมื่อผมพูดจบ
“นี่คือคําอวยพรหรือครับ”
“ไฮ” น้ําเสียงของเขาทําใหผมหันขวับทันที
“ตริน!” อีกฝายเลิกคิ้วสูงเมื่อผมเรียกชื่อเขากอนจะคลี่ยิ้มมุมปาก
ผมใชสายตาจับสังเกตมองใบหนาที่ดูมุมไหนสวนไหนก็คลายกับคนที่ตะลอนเที่ยวกับผมตลอดวันนี้ไมผิดเพี้ยน ทวาประกายวาววับ
จากสรอยคอทําใหผมขมวดคิ้ว ผมคิดวาวันนี้ไมเห็นตรินใสสรอยนะ เสื้อที่เขาสวมก็แตกตางจากเมื่อสักครู
ตอนนี้ตรินสวมเสื้อเชิ้ตสีดําแขนยาว พอดีตัว พับขึ้นไปถึงศอก ปลดกระดุมเม็ดบนลงมาอวดหนาอกสีขาวเพียงเล็กนอย บนแขนสวม
นาฬิกา ที่นิ้วโปงและนิ้วกลางประดับดวยแหวนเงิน เพียงแคมองครึ่งตัวเทานี้มันก็ตางกันแลว…ยิ่งบรรยากาศรอบตัวเขายิ่งแลวเขา
ไปใหญ มันทําใหผมนึกวาคนๆ นี้กลายเปนตรินผูเรารอนที่นอนกอดกายกับผมบนเตียงเมื่อคืนวาน
“โกรธเหรอที่หายไปโดยไมบอกเมื่อเชา” เขาเยื้อแขนผมไว
“เปลา แคเรื่องบางเรื่องก็ไมอยากจะจํา”
“ทําไม”
“จะบอกวาเมธไมมีความสุขอยางนั้นหรือ” สีหนาของเขาดูไมพอใจเปนอยางมากเมื่อความนัยนแหงคําพูดของผมบอกวาเซ็กของเขา
ไมไดเรื่อง
“เด็กดื้อ” ผมตอวาเขา
“ก็ไมตื่นเสียที เดี๋ยวก็หนีไปกอนอยางคราวกอนหรอก”
“ลองทําอีกครั้งสิ” ผมบอกพรอมพลิกรางขึ้นครอมเขาไว
“อะ...อืม...แลวเมธชอบไหม” เขาถามเมื่อผมผละออกแลวเปลี่ยนไปซุกซอกคอเขาแทน
“ตองใหบอกอีกหรือ” ผมพําพึมในลําคอขณะไลจูบลงต่ําไปตามหนาอกขาวเนียน
“อยากไดยินอีกครั้ง”
“ตริน!”
“ตริน!”
“ไมใช”
“งั้นคนที่นายบอกวาจะกลับไปหาคือนองเมธอยางนั้นหรือ”
“ใช...วาแตนายเถอะ มาอยูที่นี้ไดอยางไร”
“เออ...เราวาจะมาชวนนองเมธไปกินขาว”
“ก็ไมรูนี่วาเปนฝาแฝดกัน” ผมวกมาตอบคําถามปรินกอนหันมาสนใจอาหารตรงหนา
“แลวไปถึงไหนกันละ”
“หมายความวาไง” ผมถามอยางระมัดระวัง
“ขอบใจนะ งั้นก็เอาตั๋วกับบัตรนายมา”
“พรุงนี้นายจะมาตามนัดใชไหม” ตรินวาพลางเก็บกระเปาเขาที่เดิม
“พี่ไปกอนนะครับนองเมธ”
“เราคงไมจําเปนตองเปนแฟนกันอีกตอไปแลวนะครับ พี่ไมอยากเปนตัวแทนของนองกุลหรือปรินอีกแลว”
“ไมเปนไรครับพี่มิ้น” เอะ มันยังไง แคสามสิบนาที ทําไมสนิทกันเร็วจัง นองกุล พี่มิ้น มันทําใหคันหัวใจยิกๆ นะเนี่ย ความจริงกอน
หนานั้นรามิลอยูชวยงานผมครับ แตเมื่อครึ่งชั่วโมงกอนผมใหออกมาอยูเปนเพื่อนวินดี้ แตดูเหมือนผมจะตัดสินใจผิดไปหรือเปลานะ
“ตอนที่เห็นตรินก็คิดวานาจะใชเหมือนกันครับ แตก็ยังไมปกใจเชื่อเทาไหร”
“ก็คงงั้นมั้ง”
“ไมเปนไร นะครับ”
“ถาแบบนั้นก็ยกใหวินดี้แลวกันครับ จะทําอะไรก็ทําไดเลย”
“กําลังดูสายลับจับบานเล็ก”
“วินดี้ครับ...โอย!!!”
...ไมทันแลว...จุกชิบหาย...เมียใครวะเนี่ย โครตโหดเลย
“เออ...เห็นวานาสนใจเลยลองอานดูอะครับ” อายจังที่ถูกจับได
“ไมไดจะเอาไปใชสักหนอย แคอานดูเฉยๆ”
“ไปวายน้ําก็ไมได พี่มิ้นวากุลไปไหนดี”
อะจาก!!! เมื่อกี้พี่มิ้นวาไงนะ
พอคุณคิน!!!
ถางั้นคนๆ นั้นก็คือ.....
“พอไอพี่ทอง!!!”
“ปะ...ประมาณ...สะ...สิบสองชัว่ โมง...ครับ”
“งั้นพรุงนี้พอฉันตื่น คงจัดการเก็บกวาดขยะเรียบรอยแลวใชไหม”
“ครับทาน”
“ดี อยาใหมันสงกลิ่นออกมาอีก”
“ครับทาน” คุณธเรศรับคําเสียงสั่นเล็กนอย แตมันก็ฟงหนักแนนอยูในตัว นั่นทําใหพอพยักหนาอยางพอใจ จากนั้นพอก็ใชสายตาดุๆ
ไลมองหนาทีมงานไปทีละคน คนไหนซวยหนอยเงยหนามาสบตาพอก็ตองสะดุง หนาซีดเผือก กอนจะรีบหลบตา กมหนางุดทันที
แลวนัยนตาแข็งกราวก็มาหยุดที่ผม
“เดี๋ยวไปพบฉันที่หอง”
“แลวทางเอ็มเจวาอยางไรละ” ผมเอนหลังพิงโซฟาถามพอดวยความรูสึกเปนหวงใครบางคนขึ้นมา
“อาว แกไมไดคุยกับผูถือหุนรายใหญของทางโนนหรือ”
“อยาลากวินดี้ไปยุงเกี่ยวกับเรื่องนี้นะพอ”
“ฉันไมตองการลากใครมาเกี่ยวทั้งนั้น ธุรกิจคือธุรกิจ เรื่องสวนตัวก็สวนตัว แตฝายโนนดูทาจะไมยอม” คําพูดของพอทําใหผมรูสึก
หนักอึ้งในใจ ดูเหมือนเหตุการณจะบานปลายจนยากจะหยุดไดเสียแลว
“มันเลือกทิ้งขยะตอนที่ผมอยูที่นี่กับนอง เพื่อจะทําลายความเชื่อมั่นของเรา”
“แสดงใหแมคเคลเห็นเลยวา เราไมมีสเถียรภาพและทายาทของเอ็มเจก็อยูกับเราจริงๆ”
“มันรายกวาที่ผมคิดไวซะอีก”
“พอหมายความวาไง”
“กฤษมันจะใหลูกชายรับกิจการตอในอีกสามเดือนขางหนา สวนฉัน...จะใหแกขึ้นแทนประธานในอีกสามเดือนเชนกัน…เดิมพันแรก
ของเกมนี้อยูที่เอ็มเจ” พอหยุดพูดแลวมองผมดวยสายตาคมกริบกอนกลาวดวยน้ําเสียงจริงจังวา
“หวังวาแกคงจะไมแพ ”
“พอกันทั้งนองกุลทั้งคุณคิน” พี่เขาบนพลางตักไอศครีมเขาปาก
“พอพี่ทองนากลัวไหมครับ” ดวยความอยากรูทําใหผมเผลอปากถาม
“ไมตองทําหนาอยางนั้นหรอกครับ กินเสร็จแลวนองกุลตองไปพบบอสอยูดี”
“ครับ” กําลังทองชื่อพี่ทองวาคินใหชินปากอยูก็มีสายเขามาครับ
“ลูกแพรเองจา” เสียงหวานจากปลายที่ทักทายมาทําใหผมขอตัวจากพี่มิ้นแลวหามุมเพื่อจะคุยกับลูกแพร
“วาไงจะ”
“กุลอยูตางจังหวัดจะลูกแพร”
“กุล...ลูกแพรจะเปนตากุงยิงไหมเนี่ย ชวยลูกแพรดวย…วายๆ ”
“คิดวานะ”
“กุลเขาใจที่ลูกแพรพูดใชเปลา”
“อืม...”
“ถาจะจริงเหมือนลูกแพรวา”
“ไดเลย”
“ขอโทษนะ”
“นั่งแท็กซี่ก็ระวังดวยแลวกัน” ผมบอกเธอดวยน้ําเสียงหวงใย
“ถาทําไดก็ดี” ลูกแพรหัวเราะคิ๊กเมื่อผมตอบรับคําพูดของเธอ
“คุณคินโทรลงมาตามแลวครับ บอกวาใหพานองกุลไปหาเพราะวามีคนสําคัญอยากแนะนําใหรูจัก”
“วินดี้ครับ นี่พอพี่”
“เด็กกะโปโลนี่เปนใครหรือคิน” โห...เลนแรงนะเนี่ย
“คนนี้นะหรือที่แกหอบผาหอบผอนไปอยูดวยนะ” ปากพอถามผมแตตานี่ยังจองวินดี้ไมวาง
“ขอบคุณครับ”
“ชื่อวินดี้อยางนั้นหรือ” วินดี้สายหนาเล็กนอยกอนกลาววา
“ปรกติที่บานจะเรียกกุลครับ มีแตไอพี่ทองนี่แหละที่เรียกวินดี้”
“ออ...แลวไปไงมาไงถึงเปนทองไปไดละ”
“ก็คินในภาษาญี่ปุนแปลวาทอง”
“เขาใจคิดนี่”
“แลวเวลาพี่เขาทําใหโมโห กุลก็จะเปลี่ยนจากนาคินทรเปนงูเขียว”
จากที่ไอพี่ทองบอกวาพอแกแสรงทําหนาดุนั้นทาจะเปนจริงเสียแลวละครับ เพราะหลังจากที่พอปลอยเสียงหัวเราะออกมาคราวนั้น
หนาตาเครงขรึมก็เปลี่ยนเปนยิ้มแยมตลอดเวลา ตอนนี้ผมตองเรียกพออายทองวาพอแลวครับ เพราะถูกบังคับใหเรียก ถาเผลอปาก
เรียกทานออกไปก็จะถูกทําโทษใหเรียก “ปาขา” อากกก แคคิดก็สยองแลวครับ
หลังจากที่พออารมณดีแลวแกก็เรียกผมเขาไปใกลๆ ครับ บอกวาสมแลวที่เปนคนรักลูกชายแก ไมงั้นเอาพี่เขาไมอยูแนๆ ไมรูจะดีใจ
หรือเสียใจดีที่ไดยินแบบนั้น เพราะดูแลวกิตติศัพทไอพี่ทองทาจะรายไมเบา ขอสารภาพเลยนะครับวาผมคอนขางตกใจเล็กนอยกับ
อาการของพอที่เปลี่ยนไป ตอนแรกผมคิดวาทานอาจไมพอใจผมก็ได ก็ประโยคแรกที่ทักทายคือคําวาเด็กกะโปโล นั่นทําใหผมตอง
กมมองตัวเอง อีกอยางผมก็เปนผูชายเหมือนกันกับพี่เขา พอแกใจกวางถึงขนาดยอมรับไดไหมที่ผมคบกับพี่ในฐานะคนรัก
“ก็พอเลนไมใหนองมันตั้งตัวแบบนี้ วินดี้ก็ตองปฏิเสธอยูแลว”
“อยามาแกตัว แกแพแลว”
“แพอะไรไมเกี่ยวเลย”
“ไมสน สัญญาเปนอันโมฆะ”
“อะ...ครับ” ตอบออกไปแบบมึนๆ
“นั่นไงเห็นไหม” พอวาพรอมกับยิ้มเยาะใหพี่เขา
“ที่ประชุมกําลังรอนายนอยอยูครับ” ผมสะบัดสิ่งที่คางคาใจทิ้งไปเมื่อรันคอมหัวใหพรอมกับรายงานโดยมีรามิลยืนเยื้องไปทาง
ดานขวา “ที่ประชุม” ที่เขากลาวถึงไมใชหองที่ผมกับพอใชเจรจาธุรกิจกันหรือหองที่หัวกะหิของโรงแรมกําลังสุมหัวแกปญหา แตมัน
หมายถึงอีกที่ซึ่งผมตองหยิบหนากากอีกใบมาสวมใส ใบที่จะปกปดทุกอยางบนใบหนาของผม ภาพของนาคินทรที่เปนนักธุรกิจจะ
ถูกลบออกไปแตถูกแทนที่ดวยตําแหนง “นายนอย” ซึ่งบงบอกวาเปนลูกชายของ “นาย” ผูซ ึ่งนัง่ อยูบนบัลลังกสีหราชและกุมอํานาจ
ไวแตเพียงผูเดียว
ผมเดินนําหนารันไปยังลิฟทที่มีไวสําหรับผูบริหารแลวมุงตรงไปยังชั้นใตดินซึ่งจัดเปนหองประชุมลับ การดที่ใสชุดยืนเรียงประจํา
ตําแหนงอยูหนาหอง คอมหัวลงอยางพรอมเพียงทําใหรูวาพวกเขาตางถูกฝกมาอยางดี ขริบสีที่แตกตางกันของปกเสื้อทําใหรูวาแกน
นําแตละฝายไดมาถึงเรียบรอยแลว
ความจริงนายบอกกับผมวานอกจากเรื่องกําจัดเกลือเปนหนอนที่ผมรับหนาที่อยู ในที่ประชุมวันนี้ยังจะมีการประกาศเรื่องการ
เปลี่ยนแปลงภายในที่จะเกิดขึ้นในอีกสามเดือนขางหนาใหทุกคนรู ซึ่งหมายถึงตําแหนงทีจ่ ะเปลี่ยนไปของผมนั่นเอง
“หวังวาอีกสามเดือนขางหนา ทางเดินคงไดโรยดวยกลีบกุหลาบใชไหม”
“ตอนนี้เรามีหลักฐานแนนหนามากพอที่จะเอาผิดกับอานนทฐานยักยอกทรัพย พรุงนี้ฝายกฏหมายของบริษัทจะแจงความและ
ฟองรองตามความผิดที่กระทํา” ผมกลาวเปดบทสนทนา
“เรื่องที่กฏหมายทําไดเราจะปลอยใหเปนหนาที่ของทางโนน แตเรื่องเกลือเปนหนอน คงจัดการใหเด็ดขาด” ผมพูดตอทุกคนพยัก
หนาอยางเห็นดวย
“เราสืบเรื่องเงินที่หายสาปสูญแลวพบวามันถูกโอนไปยังบัญชีในตางประเทศกอนจะโอนเขาบัญชีเลมแดงอีกทอด” คําพูดของเมฆา
ทําใหนายถามกลับมาทันที
“หมายความวาไง” ใบหนาของเมฆาดูกังวลเล็กนอยกอนกลาวตอวา
“อานนทติดการพนันและเจาหนี้ของมันก็คือ...ชินกฤษต”
“ชินกฤษตอยางนั้นหรือ”
“นายนอยคิดอะไรอยูครับ” คเชนทรหันมาถามผมพรอมกับทุกคนที่มองมาอยางตองการคําตอบ
ตอนแรกผลงานของผมไมไดชนะหรอกนะครับแตพอผมชอบเปนการสวนตัว ยิ่งพอมารูทีหลังวาเปนผลงานของผมก็ยิ่งถูกใจใหญ
ผมไมรูวาพอตั้งใจเอาใจผมหรือเปลานะ แตมันก็กลายเปนสินคาแนะนําพรอมกับตัวอื่นในแคทตาล็อกปนั้น ซึ่งมันจะถูกทําขึ้นเมื่อ
ลูกคาสั่งจอง ไมคิดวาจะแตะตาไอพี่ทองจนกลายเปนของขวัญเพื่อมอบใหพอของแก ไดรูแบบนี้ก็รูสึกดีจังเลยครับ...ปลื้มใจจัง...
“มินาละ เห็นเงียบไปเลย”
“เรื่องดวนหรือครับ”
“ไมดวนหรอกครับ แตเปนเรื่องสําคัญ”
“อืม...ถาอยางนั้นเดี๋ยวผมจะรีบดูแลวกัน”
“ไมทันแลวละครับ มติที่ประชุมออกมาแลว”
“ขอบคุณครับ”
“แลวจะมากันเมื่อไหรครับ” ผมถาม
“กลางเดือนนี้แหละครับ”
“ถาถึงตอนนั้น...ผมคงใหคําตอบไดแลวละ”
“ถาเปนอยางนั้นไดก็ดีมากเลยครับ...ออ คุณกุลครับ ผมอยากบอกวาถาไดอานเมลที่สงใหแลวอยากังวลอะไรนะครับ ทางนี้จะ
จัดการทุกอยางใหเรียบรอย”
“ออ...ครับ”
“วินวาพี่อยาไปทําโทษอะไรเขาเลยนะ บางทีเขาอาจไมรูก็ไดวาทําอะไรใหพี่โกรธ”
“จริงหรือครับ” นองพยักหนาทันทีหลังผมถาม
“พอเถอะ...วินหิวแลว...” คําพูดนั้นทําใหผมหยุดชั่วครูกอนเงยหนาขึ้นมาถามนองวา
“พี่ไมรูวาวินดี้รอพี”่
“วินดี้ไปตกลงกับพอตอนไหนครับ”
“ที่วินดี้ไมตามพี่เขามาในหองตอนนั้นเพราะไปกับพอหรือครับ”
ผมกระชับมือนอง มองพอที่ครวญเพลงบนเวที...พรอมกับเสียงในหัวใจของผมที่ดังกึกกอง...
“หวานอะไร...วินก็มองพี่อยางนี้ทุกวัน” วาพลางซุกหนาเขากับอกอุนนั่น
“ความจริงตองไปแลวละ แตพี่อยากใหวินดี้หลับกอน”
“อาว...”
“พี่อยากสบายใจนี่ครับ อยางนอยก็รูวาวินดี้หลับฝนดีแลว”
“ทําเหมือนผูชายเจาชูเลย พอที่บานหลับก็แอบยองออกจากหอง”
“งั้นวินตองรีบหลับใชไหม” ผมถามขณะที่มือหนาเปลี่ยนมาลูบหัวผมเบาๆ
“ถาอยากใหพี่รีบไปรีบกลับก็หลับไดแลวครับ”
“หึหึ” แตแกคงรูแหละวาผมแสรงทําเลยหัวเราะ
“พี่สัญญาวาจะจัดการทุกอยางใหเรียบรอย...เดี๋ยวพี่กลับมานะครับ”
ภาคเมธ
ในเวลาตอมานักบุญวาเลนไทนไดจัดการแตงงานใหกับคูหญิงสาวหลายคูขึ้นอยางลับ ๆ ถึงแมวาจะมีการประกาศการใชกฏหมาย
หามแตงงานแลวก็ตาม นักบุญวาเลนไทนยังคงรักที่จะทําพิธีเหลานี้ โดยภายในงานนั้นจะมีเพียงเจาบาว เจาสาว และทานนักบุญ
เทานั้น พวกเขาจะกระซิบคําสาบานและคําอธิษฐานตอกัน ในขณะเดียวกันก็ตองคอยเงี่ยหูฟงเสียงการเดินตรวจตราของเหลาทหาร
ดวย แตแลวคืนหนึ่ง ในขณะที่กําลังทําพิธีแตงงานอยางลับๆ อยูนั้นเอง ทานนักบุญวาเลนไทนเกิดไดยินเสียงผีเทาของทหาร แตโชค
ดีที่คูบาวสาวนั้นหนีออกไปจากโบสถไดทัน
คูหนุมสาวที่เดินขวงแขนกันเดินผานไปนั่น ทําใหผมตองเหลียวหลังมองพรอมกับความอางวางที่เขามาทักทายเมื่อขางกายผมไมมี
ใคร...หากเปนไปไดก็อยากพาใครคนนั้นมาเดินดูโนนนี่ดวยกัน คุยกระหนุงกระหนิ่งอยางคูรักคนอื่นๆ...แตมันก็คงไดแตคาดหวัง
เพราะขณะนี้ใครคนนั้นอยูไกลเกินเอื้อมมือถึง
“ออกมาเดินเลนขางนอก” ผมบอกเขาไปตามสายพรอมกับถอนสายตาจากคูรักวัยรุนที่กุมมือกันยืนเลือกซื้อน้ําหอม
“เด็กขี้อิจฉา” เขาวาพรอมกับรอยขบขันในน้ําเสียง
“ใครจะเหมือนผูใหญใจกวาง...เห็นงานสําคัญกวาคนรักละ”
“นาจะตกแรงๆ พวกกอสรางจะไดหยุด”
“แลวไปแถวไหน”
“หางใกลๆ คอนโดนั่นแหละ”
“ใครวาละ วันนี้ฟาเปนใจตางหาก”
“เปนใจตรงไหน...” ผมกําลังจะเถียงหากแตสายตาที่มองผานกระจกหนารถออกไปแลวเห็นผืนฟาตรงหนานั่นทําใหผมนิ่งไปชั่วครู
สมองประมวลผม คิดตามคําพูดของเขากอนจังหวะการเตนของหัวใจจะแรงและเร็วขึ้น…ฟากําลังเปนใจอยูตรงหนาผม...
เสียดาย...ไมนาเดินจากรานขายดอกไมมามือเปลา ไมงั้นผมคงไดกุหลาบสักชอมาเปนของขวัญวันวาเลนไทนใหกับเขา
เสียดาย...ที่ไมไดเดินเขาไปในรานกาแฟ ไมงั้นคงไดเคกสักชิ้นมาออนใหเขาปอน
แตถึงจะเสียดายอะไรหลายอยางแตก็ไมอาจยอนกลับไปไดดวยไมอยากเสียเวลาไปมากกวานี้ อยากกลับไปเจอแลวกอดเขาแนนๆ
ใหสมกับที่คิดถึง สิ้นสุดกันที...วันนี้ผมคงไมตองอิจฉาใครอีกแลว แตคนอื่นตองอิจฉาผมนะสิ เพราะในวันแหงความรักผมก็ไดอยูกับ
คนรักของผมเชนกัน แลวพอเจอหนาเขาผมก็ทําอยางที่ตั้งใจไว กอดเขาไวแนนพรอมกับจูบหวานๆ อยางดูดดื่มและโหยหา
“ไมเปนไรครับ แคนองเมธผูกโบวก็เปนของขวัญชิ้นวิเศษที่สุดแลว”
คืนนี้ตั้งใจวาจะไปจัดการเรื่องของโรงแรมที่คางคาอยูใหเรียบรอยดวยตัวเองเพราะรูสึกวาเบื้องหลังมันซับซอนเกินกวาที่คิดไว วันนี้
ตอนเดินมาสงนองที่หองวินดี้เลาใหฟงวาไดรับเมลจากบริษัทของพอบอกวามีโครงการจะขยายกิจการเขามาในไทย ในขณะที่นอง
เลาใหฟงอยางตื่นเตนอยูนั้น หัวใจผมกระตุกวูบ ถามนองดวยความอยากรูวานอกจากแจงขาวธรรมดาแลวมีอะไรอีกไหม แลวพอวิ
นดี้บอกวาไมมันก็ทําใหผมถอนหายใจอยางโลงอก
สิ่งนี้ทําใหผมมองเห็นวาเอ็มเจก็ตองการกีดกันเรื่องนี้ออกจากวินดี้เชนเดียวกัน อาจเปนเพราะเพื่อความปลอดภัยและปองกันความ
ผิดพลาด คงจะใหทางเมคเคลจัดการทุกอยางใหเรียบรอยเสียกอน จากนั้นคอยสงวินดี้ขึ้นแทนบริหารเมื่อทุกอยางลงตัว ถือวาเปน
ขาวดีมากเลยครับ หายหวงไดเปราะหนึ่ง ในขณะที่ผมฟาดฟนกับชินกฤษ วินดี้ก็เปนไขในหินที่ทางเอ็มเจคอยปกปองอยู
จะวาไปเรื่องธุรกิจของครอบครัวนอง วินดี้เคยเลาใหผมฟงตั้งแตวันที่นองใสสรอยคูใหผมแลวครับ แตนองก็ไมไดบอกวาเปนทายาท
ของเอ็มเจหรอกนะ เรื่องนี้ผมไปสืบเอาเอง ถึงอยางไรก็ดีถือวานองเปดเผยกับผมมากพอสมควร เมื่อผมไมไดบอกฐานะที่แทจริงของ
ตัวเองใหนองรู วินดี้เลยโกรธผมเปนฟนเปนไฟไงละครับ ยังจําไดถึงคําตอวาที่นองกลาวหาผมกลัวนองจะมาหลอกเอาเงิน คิดใหดี
แลวใครกันแนที่ตองกลัว นองอยูสูงขนาดนั้น ผมสิจะถูกกลาวหาวาไมเหมาะสมกัน แตถางานนี้ผมทําใหแมคเคลเชื่อใจและยอม
ลงทุนกับเราไดก็จะเปนบทพิสูจนวาผมมีความสามารถจริงๆ เขากําลังรอดูวาผมเหมาะสมกับทายาทคนเดียวของเอ็มเจอยูหรือเปลา
...นี่ใชอีกหนึ่งเหตุผลหรือเปลานะที่ทางโนนกันวินดี้ออกหาง และการที่ผมปดบังนองอีกครั้งเพื่อใหวินดี้ไมตองเขามายุงเกี่ยวกับเรื่อง
นี้นาเปนทางเลือกที่ดีเชนกันใชไหม...
คนขับหมุนกระจกลงเล็กนอยเมื่อเคลื่อนรถมาจอดยังหนาประตูเหล็กโกโรโกโสหากแตถูกโอบลอมดวยลวดหนามอยางแนนหนา
สื่อสารดวยรหัสลับกับยามรางสูงใหญหนวยกานบึกบึนใสชุดดํากลมกลืนกับราตรี นัยนตาสังเกตอยางนักลามองเขามาในรถกอน
คอมศีรษะใหเมื่อสบตากับผม
ผมปรายสายตาไปโดยรอบกอนจะหยุดอยูที่แสงสวางเพียงจุดเดียวซึ่งอยูเยื้องไปทางซายมือเขาไปดานใน ผมเดินผานลังสินคาที่ตั้ง
กองกันขึ้นสูง จนมาหยุดอยูไมหางจากจุดศูนยกลางของแสงสวาง ชายหนุมใบหนาโชกเลือด ถูกมัดมือเทานั่งติดกับเกาอีป้ รากฏอยู
ตรงหนา
“มันยอมเปดมากไหม” ถามดวยน้ําเสียงเยือกเย็น
“ดี”
“แสดงวามันจะลงมืออีกครั้ง”
“ใชครับ แลวคราวนี้ดูทามันเลงเปามาที่นายนอยกับ...”
“เกา…...” ลมหายใจที่ยังคงอยูไดอีกเสี้ยวเวลาทําใหมันเริ่มหันรีหันขวาง
“แปด......” ขนลุกเกรียวทั้งตัวเมื่อรอดชีวิตมาไดอีกหนึ่งวินาที
“เจ็ด......” มันคือเสียงนรกหรือเสียงสวรรคกันแนที่มัจจุราชสีดํายังไมคราชีวิตของมัน
“หก......” มาถึงทางสามแพรงแยกไปสูความเปนและความตาย
“หา......”
“สี.่ .....”
“สาม....”
“ดะ...เดี๋ยว...”
“สอง.......”
“กู...พะ....พูด...ละ....”
“หนึ่ง......”
“เปรี้ยง!”
ผมงัวเงียรูสึกตัวอีกครั้งเมื่อที่นอนยุบยวบพรอมกับรางหนาที่สอดกายเขามาใตผาหมผืนเดียวกัน หัวของผมถูกชอนขึ้นอยางนุมนวล
หมอนที่นอนหนุนถูกดึงออกกอนลําแขนแกรงจะสอดเขารองรับแทนที่
“อืม...” ผมขานรับในลําคอกอนปลอยใหความงวงเขาครอบคลุมอีกครั้ง...ดีจัง...คราวนี้ก็หลับไดอยางสนิทใจสักที
“อะ...ไอพี่ทอง!” ผมคิดวาตัวเองตะโกนสุดเสียงหากแตกลับแผวเบาจนแทบไมไดยินเมื่อลืมตาแลวพบวาใบหนาคมเขมซบอยูกลาง
ลําตัวและกําลังเลนสนุกกับแกนกายของผม
“หวานจังเลยครับ”
“อา...”
“โอว...วินดี.้ ..” ที่คิดวาเสียวสยิวมากพอแลวกลับไมใชเมื่อแกนเนื้อใหญสอดแทรกเขามาแทนที่นิ้วเรียว นั่นทําใหผมสะดุง รางกายปริ
ราวราวกับจะแตกออกมาเปนเสี่ยงๆ
“เจ็บไหมครับ...”
“อา...วินดี.้ ..”
ทวาทามกลางอารมณที่กําลังพุงขึ้นสูจุดสูงสุดอยูนั้นเสียงเรียกสายก็ดังขึ้น นัยนตารอนแรงดวยไฟปรารถนาสบตากับผมกอนจะกม
ลงจูบพรอมกับสะโพกที่ยังคงขยับเขาออกอยางตอเนื่อง
“อา...พี่...ครับ...” ครวญครางใสหูของพี่เขาแผวเบาอยางยั่วเยา
“วินดี้แกลงพี่หรือครับ” ถามดวยน้ําเสียงสุภาพแตนัยนตาคาดโทษ
“ก็ใครเริ่มกอนละ” ผมเชิดหนาขึ้นอยางไมยอมแพ
“นั่นไมใชประเด็น...แตในเมื่อวินดี้เริ่มแลว...ก็มาตอใหจบเลย” แลวมันก็เปนไปตามความตองการของไอพี่หื่นเพราะหลังจากที่แกพูด
จบผมก็ไมมีโอกาสไดเอยคําใดๆ ออกมาไดอีก ริมฝปากหนาบดขยี้เรียวปากของผมอยางรอนแรงดุดัน สมองผมเริ่มขาวโพลนอีกครั้ง
มีเพียงเสียงครวญครางอยางกระสันมาแทนที่เมื่อถูกรุกหนักจากแรงที่ถาโถมเขาใสอยางหนักหนวง
ผมไมรูหรอกนะวาทําไมอารมณของไอพี่ทองในเชานี้ถึงไดรอนแรงนัก แลวผมก็ไมรูวารางกายของผมเปนบาอะไรที่ไปตอบสนองพี่
เขาอยางเต็มใจ ไมวาจะถูกจับพลิกคว่ําพลิกหงายรางกายผมก็เหมือนจะตอบรับอีกฝายอยางรูหนาที่
“อา...อีกสักรอบไหมครับ...” คําถามของคนที่กําลังถอนแกนเนื้อออกจากตัวผมอยูนั้นทําใหผมฟาดมือเขากับตนแขนของเขา
“วินดี”้ ไมตองมาทําเสียงออนเลย
“ไอพี่บา...นี่...นี่...นี…
่ ” จับหมอนมาฟาดแกดวยความโมโห พอสติมา ปญญาก็เกิด สมองทบทวนถึงสิ่งที่เพิ่งผานมาดวยใบหนาแดง
ซาน...นี่แกมาทํากับผมแบบนี้ไดยังไงแถม...มัน...มัน...ยัง...
“โอย...ที่รัก...พี่เจ็บ...”
“ยั่วบายั่วบออะไร ก็นอนแบบนี้ทุกวัน”
“จะเอาความจริงหรือโกหก”
“วินดี้ไมใชคนหลอ...แต...ไมวาจะทําอะไรก็ทั้งหลอและนารักในสายตาพี่”
คงอีกสักพักแหละครับกวาวินดี้จะตื่นเต็มตัว วันนี้ยิ่งตากแดดตากลมเหนื่อยมาทั้งวันคงใชเวลาชารตแบตเติมพลังงานนานกวาปรกติ
ตั้งแตคบกันมา ไมเคยมีครั้งไหนที่วินดี้ลุกจากเตียงกอนผม ถึงปลุกใหตื่นนองก็งัวเงียอยูครูใหญ ผมก็ไดกําไรไปครับ จะกอดจะหอม
หรือทําอะไรนองไปเคยขัดสักที แตปรกติก็มักใหเวลานองฟนตัวแหละครับ แลวตัวเองก็เขาไปอาบน้ํา ทําธุระสวนตัว พอออกมาวินดี้
ก็ตื่นเต็มตาแลว ถาอยูคอนโดนี่หานองไมยากครับเพราะพอตื่นทีไรเปนตองวิ่งแจนไประเบียงหลังหอง รดน้ําตนไมทุกที
“ทําไมละ” วาพลางสงคืนใหผม
“อืม...” นองขานรับในลําคอแลวจัดการใหอยางที่ผมบอก
“ไปกี่วัน”
“สองวัน”
“ตัวนี้ไดไหม” นองถามขณะหยิบเสื้อเชิ้ตออกมาจากตู
“หึหึ ไปเปนโจรปาครับ”
“หือ...มินาละ ไมเห็นโกนหนวดโกนเครา เขียวครึ้มเชียว” พอนองวาอยางนั้นผมเลยใชมือลูบคางตัวเอง ไมไดโกนมาสองวันแลวครับ
มันขึ้นครึ้มอยางที่นองวาจริงๆ นั่นแหละ
“ใหมันจริงเถอะ”
“อยากรูจริงหรือ” น้ําเสียงของนองเริ่มสดใสขึ้นมาบางขณะที่ถามผมกลับ
ในชีวิตผมไมเคยอกหักมากอนจึงไมรูวามันยากแคไหนกวาจะขามผานวิกฤตของความเจ็บปวดและหวาดกลัว “การผิดหวังจากรัก”
จนกลาที่จะเริ่มตนใหมและเริ่มที่จะรักใครอีกคน แตชีวิตผมที่เคยสูญเสียผูอันเปนที่รักไป และเหตุการณนั้นมันกะทันหันแถมยัง
เกิดขึ้นตอหนาตอตาผม แลวก็ดวยน้ํามือของผมเอง เทานี้มันก็เพียงพอแลวกับการหวาดกลัวการสูญเสียอีกครั้ง ที่ผานมาผมจึงไม
กลาเอาชีวิตไปยึดติดกับใคร หากวันหนึ่งเขาตองจากผมไปแลวใจที่เคยราวของผมมันจะแตกออกมาเปนเสี่ยงๆ แตจะใหทําอยางไร
ไดละครับ ถึงจะกลัวมากแคไหนแตในเมื่อเผลอตัวรักไปแลว ผมคงตองปลอยใหทุกอยางหมุนเวียนไปตามวัฏจักรของมัน...ผมจะย้ํา
กับตัวเองใหเฝาคิดและยอมรับมันใหไดครับ
หลังจากที่ไอพี่ทองสงขอความบอกวาแกถึงที่หมายแลวผมก็ตอบกลับเปนเชิงตอวานิดหนอย พี่เขาเลยตอบกลับมาแบบไมรูจะยิ้ม
หรือหนาบึ้งดี
“เกิดอะไรขึ้น” เห็นทาทางแบบนั้นผมเลยหันไปกระซิบถามลูกแพร
“เมธเลิกกับตรินแลว”
“ทําไมอะ”
“มันซับซอนนิดหนอยนะ ลูกแพรก็ไมรูจะเริ่มตนเลาใหกุลฟงยังไง”
“คอยๆ เลามาสิ”
“ก็...”
“ไมอยากใหนินทาก็เลามาดิ”
“ลูกแพร!”
“อยาใสสีตีไขนะ”
หลังจากไดฟงจากปากของลูกแพรแลวผมก็กลับมาที่โตะพรอมกับจานขาว และปลอยใหเปนหนาที่ของลูกแพรจัดการซักไซเมธตอ
ในเรื่องที่ทั้งคูคุยกันคางอยูกอนที่ผมจะมาถึง แลวพอมาถึงเหตุที่ตรินเปนฝายบอกเลิกเมธกอน ใบหนาเห็นอกเห็นใจของลูกแพรก็
เปลี่ยนเปนบึ้งตึงทันที ดูทาเธอคงอยากตอวาเมธและแสดงความเห็นในบางอยาง แตตองยั้งปากไวเพราะเวลาหมดเสียกอน ตองเขา
เรียนกันแลวครับ จําเปนตองยุติการสอบสวนจําเลย
“ฟนเขาแลวคิดจะทิ้งละสิ เลยคิดจะหนีหนา”
“ก็ตอนนั้นมันสับสนไปหมดเลยอะ ไมรูวาตัวเองคิดอะไรกับใครยังไง”
“นี่เมธกําลังจะบอกวา เมธก็ไมแนใจวาจริงๆ เมธใชตรินเปนตัวแทนของใครอยางนั้นหรือ” เมธปรายตามาทางผมเมื่อสิ้นสุดคําพูด
ของลูกแพร สีหนาของมันดูเจ็บปวด
“ก็ประมาณนั้น” มองเมินไปทางอื่นขณะกลาวคําพูดออกมา
“งั้นก็เปนโชคดีของตรินที่บอกเลิกกับเมธ”
“ใช...โชคดีของเมธดวย เพราะเมธเองก็คงจะทรมานเหมือนกันเพราะตรินเองก็คบกับเมธเพราะคิดวาเปนตัวแทนของใครบางคน”
“เรื่องนั้นเคลียรแระ”
“มึงยังเปนเพื่อนกูนะ”
คําที่เอยปากบอกเหมือนรูวาผมกําลังกลัวอะไรไมไดทําใหผมรูสึกดีขึ้นมาเลย ถึงแมสิ่งที่คางในความรูสึกถูกเมธพูดออกมาวาตอนนี้
เพื่อนผมคนนี้คิดยังไง ย้ําอีกครั้งวามันยังคงเปนคนเดิมที่คอยปกปองผมตลอดมา ไมบอกลูกแพรเรื่องของเรา หรือไมกาวขาม
มิตรภาพที่ผมมอบให...แตมันก็ดีแลวมิใชหรือที่ทุกอยางถูกเก็บเอาไวในหองปดตายภายในซอกใดซอกหนึ่งของหัวใจ...แมลึกๆ จะ
ยังคงมีรอยราวใหเห็นอยูก็ตามที
รถกระบะดีแมกซแลนไปตามถนนอันคดเคี้ยวซึ่งสองฟากทางเปนทิวเขาและปาไมรกบางโปรงบาง ไตระดับสูงต่ําไปบนเสนทางที่ถูก
ลอมรอบดวยสีเขียวครึ้มของแมกไม สิ่งรอบตัวดูสงบเงียบ หากใจผมกลับไมนิ่งดวยสังหรณกับอะไรบางอยาง เสนทางที่เราสัญจรอยู
มันเงียบมากเกินไป ไมมีแมแตรถสักคันจะสวนมา บรรยากาศวังเวงและวางเปลาดุจดั่งทองฟาโปรงใสกอนพายุใหญจะเขาถลมฝง
อยางไรอยางนั้น
“เกิดอะไรขึ้น” ผมถามเมื่อรถเริ่มสายไปมา...เห็นทีสิ่งที่คิดไวจะเกิดขึ้นจริงเสียแลว
“สงสัยจะถูกเรือใบครับนายนอย” คําพูดของคีตาซึ่งเปนคนขับกลาวบอกขณะมองกระจกสองหลังนั่นทําใหผมขยับตัวอยาง
ระมัดระวัง ลุงพจนที่นั่งดานซายมือของผมหันไปมองดานหลังพรอมกับรามิลที่นั่งอยูอีกขางกดสัญญาณสื่อสารแจงไปทางสายของ
คเชนทร รันซึ่งนั่งเคียงคูกับคนขับขยับอาวุธประจํากาย ผินหนาไปมองกระจกสองขาง
ยอนเหตุการณกลับไปเมื่อตอนเชา หลังจากที่ผมสงขอความหานองเพื่อบอกวามาถึงที่หมายแลวผมก็รีบตรงดิ่งไปยังไรของลุงพจน
ทันที หลังจากประเมินสถานการณแลวเห็นทีจะรอชาไมได ถึงแมสายของคเชนทรจะแจงขาวดีมาวาตอนนี้ทางเราเขาถึงอานนทได
แลว ทวาเงื่อนไขที่ทางโนนใชบีบบังคับอานนทก็เปนอยางที่ผมคิดไวไมมีผิด ...มันเลวไดไมมีที่ติเลย !
เมื่อไดรับขาวพวกเราตองแยกกันไปสองทาง ทางหนึ่งตามประกบครอบครัวของอานนทโดยเฉพาะลูกสาววัยหาขวบซึ่งกําลังเดินทาง
ไปโรงเรียนอนุบาล สวนทางดานผมตองรีบพาลุงพจนไปยังเซฟเฮาสใหเร็วที่สุดเชนเดียวกัน
พวกเราออกจากไรในตอนเที่ยงกวาๆ ทําตัวปรกติโดยใหลุงพจนออกมาพรอมกับผมคลายกับแกจะเดินทางเขาไปในเมืองพรอมกับ
คนงานในไร ผมคิดวาตัวเองลงมือเร็วแลว แตพวกมันกลับเร็วกวาพวกผม นี่แสดงวาพวกมันวางแผนไวนานแลวและพรอมจะจับลุง
พจนเพื่อบีบบังคับอานนทไดทุกขณะ และเวลานี้ก็เปนเวลาที่มันเริ่มลงมือแตมันคงไมรูวาลุงพจนไมไดมากับคนงานในไรธรรมดา!
“พรอมนะ!”
“ปง!” เสียงปนของผมทําใหพวกเศษสังคมหยุดชะงักกอนแตกกระจายกันจาละหวั่น
“ปง!” เสียงปนกับลูกกระสุนที่พุงเฉียดตนไมที่ผมใชกําบังทําใหตองหมอบตัวลงต่ํากอนจะยิงสวนกลับไปทันที...พวกมันก็มีปนและ
กําลังคนเยอะกวาทางเราถึงสองเทา!
“ปง!”
“อากกกก” ผมรีบเบี่ยงตัวหลบหลังตนไมเมื่อปลอยลูกกระสุนเจาะเขาที่หัวไหลของฝายตรงขามกอนมันจะรองโหยหวน...จอดไปอีก
หนึ่ง
“นายนอยระวัง!”
“ปง!”
“เอาของลูกแพรมานะเมธ”
“อืม...ถางั้นเราไปกันเถอะครับ”
“ก็ไดครับ” ถึงเขาจะรับคําอยางจํายอมแตผมคิดวาตัวเองเขาใจไมผิดนะ
การแสดงออกของเมธทําใหผมเขาใจไดไมยากวาเพื่อนผมกําลังตอสูกับความสับสนพรอมกับความรูสึกผิดที่มนั รุมเราเขามาพรอมๆ
กัน เมธคงทําตัวไมถูก ไมรูจะทําหนายังไง ไมรูจะพูดคุยอะไร หัวใจมันคงยังไมพรอมจะเผชิญหนากับสิ่งคลุมครือซึ่งเวลานี้มันไม
เขาใจและตัดสินใจอะไรใหเด็ดขาดลงไปได
“พี่คงชวยอะไรไมไดหรอกครับ ลูกแพรจัดการเองเลยแลวกัน”
“เชอะ...ตรินปกปองเมธ...ดีเลย...งั้นลูกแพรจะตอยเมธใหหนาคว่ําเลย”
“ตริน...”
“อะไรครับ”
“พี่ไมขอรับนะครับ”
“ทําไม” เมธถามกลับทันทีดวยน้ําเสียงผิดหวังและไมเขาใจ
ทวาความรูสึกที่เมธถายทอดออกมามันไมไดครึ่งหนึ่งของความรูสึกยามที่ผมไดยินสิ่งที่ตรินพูด แววตาราวรานของเขาทําใหผม
พลอยปวดใจไปดวย รอยยิ้มเหงาๆ อยางคนพายแพนั่นทําใหผมอดสงสารเขาไมได น้ําเสียงอาลัยอาวรณปนเศราราวกับนี้เปนครั้ง
สุดทาย มันทํารายหัวใจคนฟงอยางผมเหลือเกิน
“นายนอย!” รันตะโกนเรียกเพื่อความแนใจขณะที่สายตาของเขายังจับจองไปยังไอเศษเดนสังคมที่ยิงตอบโตเราไมหยุดหยอน
“ปง!”
“อากกกก” เสร็จไปอีกหนึ่ง
ผมเบี่ยงตัวกอนจะรีบลุกขึ้นพรอมดึงไอเศษขยะซึ่งผมคิดวากระสุนปนของมันคงจะหมดเชนเดียวกัน ไมงั้นคงไมตัดสินใจเขาประชิด
ตัวอยางนี้ มันถลาขึ้นตามแรงฉุด มือถูกรวบไปไขวดานหลัง ในขณะที่คอหอยถูกจอดวยมีดพับซึ่งผมดึงออกมาใชในยามขับขัน
นัยนตาไมกลัวเกรงของผมมองไปยังไอหนาสัตวที่ตามมาชวยเพื่อนของมัน พรอมกับเล็งปนมาที่ผม
“นายนอย!” เสียงตื่นตระหนกของลุงพจนทําใหผมชะงัก
"นายนอยปลอดภัยดีใชไหม" เสียงของรันถามอยางหวงใยขณะลดปนลง
"ยังอยูครบ" ผมบอก
“นายนอย...นายนอย...”
ไมชาหลังจากเดินลัดเลาะผานปาโปรงออกมาพวกเราก็เจอกับคนของคเชนทรจํานวนหนึ่งซึ่งอยูในชุดชาวไร พวกเขามีสีหนาโลงอกที่
เห็นผมปลอดภัย คนที่เปนหัวหนาของกลุมเดินนําเราไปยังรถซึ่งจอดอยู ในขณะสวนที่เหลือเขาเคลียรพื้นที่จัดการกับศพและสราง
ทุกอยางใหกลับมาเปนปรกติดั่งเดิม
ผมไดรับรายงานเกี่ยวกับสถานการณของเราวาสายที่แยกไปอีกดานไดพบกับรามิลและคีตาแลว ซึ่งอีกไมนานทั้งสองจะเดินทางมา
สมทบกับพวกเราที่นี่ สิ่งที่ไดรับรูนั้นทําใหผมคลายใจไดเปราะหนึ่งกอนจะถามเรื่องลูกสาวของอานนท แลวคําตอบที่วาทุกอยาง
เรียบรอยก็ทําใหผมลอบถอนหายใจอยางโลงอกจริงๆ ซะที
“ตริน...ไฟเขียวแลว…” ถึงแมอยากปลอยใหใครบางคนจมอยูกับความคิดของตัวเองนานกวานี้ทวากอนที่เสียงแตรจากรถขางหลัง
จะดังขึ้น ผมจําเปนตองบอกเขา
“ตริน...”
จากนั้นตลอดเสนทางกลับบานผมก็ลอบสังเกตตรินอยูตลอดเวลา ในบางครั้งก็อยากเอยปากถามเขาเรื่องของเมธและบางสิ่งที่คาง
คาอยูในใจของเขา แตก็ยั้งปากไวทุกทีเมื่อเห็นตรินพยายามปกปดความเจ็บปวด เขาปนสีหนาใหสดชื่น ขมใจตัวเองไมใหจมอยูกับ
โลกแหงความหมนหมอง ชวนผมคุยเรื่องอื่นไมขาดปาก ผมก็พยายามชวยเขา ถึงแมไมมีอะไรจะคุย ผมก็ดึงเรื่องของตัวเองมาพูด
“ไปกับ...เออ...เพื่อนอะครับ...” ตอบโดยไมกลาสบตา
“เพื่อนคนไหน ลูกแพรกับเมธหรือ” ตายังคงซักไซ สายตาคาดคั้นจองมาที่ผม
“เปลา...” ผมออมแอมตอบ
“...งั้นใคร...”
“ครับ” แตเขาก็ชวยไดแคสงใจเพราะจําเปนตองเดินจากไปหลังจากรับคําของตา
“แลวนายคินนี่เคาเปนใคร มาอยูกับเราไดอยางไร...กุล...ตาบอกใหเงยหนาขึ้นมา!”
หลังจากที่ลุงพจนมาถึงเซฟเฮาสแกก็วิ่งเขาไปอุมหลานสาวของแกทันที มันเปนภาพที่ใหความรูสึกโหวงเหวงในใจอยางบอกไมถูก
ถึงแมจะเห็นวาคนทั้งคูปลอดภัย แตคนที่มองอยูหางๆ อยางผมนั้นรูอยูแกใจวาถึงอานนทจะรอดจากเงื้อมมือของชินกฤตออกมาได
แตเขาก็คงไมพนโทษจากกฎหมายที่ทางบริษัทเรายื่นฟอง
มันคงเปนเวลาหลายปกวาจะพนโทษและมีโอกาสไดอยูพรอมหนากับลูกสาวอีกครั้ง คิดขึ้นมาแลวก็ใจหายพรอมกับสงสารเด็กที่อยู
ในวัยกําลังจะโตซึ่งตองจําพรากจากบิดา แตจะใหทําอยางไรไดละครับ แบบนี้แหละเขาถึงไดวาชีวิตนี้เกิดมาไมใชตัวคนเดียว จะทํา
อะไรก็ตองคิดถึงคนที่อยูขางหลังดวย หากไมคิดกอนทําจะกลับไปแกไขอะไรก็ลําบาก หรือบางครั้งก็แกไขอะไรไมไดเลยอยางใน
กรณีของอานนทเปนตน
กวาทุกอยางจะเรียบรอยก็ปาเขาไปเกือบสามทุมผมถึงมีโอกาสไดติดตอกับวินดี้อีกครั้ง ความจริงตอนหัวค่ําผมก็โทรหานองครั้งหนึ่ง
แตนองไมรับสาย สงขอความไปก็ไมสงกลับมา รูสึกใจคอไมดีอยูบางเล็กนอย ถึงจะเปนหวงแตตลอดทั้งวันผมก็ยงุ จนหัวหมุนเลย
ทีเดียว เลยไดแตถามการดที่ตามนองอยูแลวก็ไดความวาวินดี้อยูบานครับ นั่นทําใหผมอุนใจขึ้นบางนิดหนอย นองคงมีเหตุผลของ
เคาแหละถึงไมติดตอผมกลับมา
“วินไมสะดวกคุย” แตวินดี้กลับตัดบทมาแบบนี้นั่นทําใหใบหนาระรื่นของผมเฉาไปทันที
“นิดเดียวจริงๆ นะ”
“บา...จะไปเฉือนจูเขาทําไม”
“ก็มันทําใหยอดดวงใจพี่เจ็บนี่ พี่ก็จะทําใหกลองดวงใจมันหายสาปสูญไปเลย”
“งั้นเอาระเบิดไปปาบานดีไหม ใหมันไมมีที่ซุกหัวนอนซักพัก”
“อันธพาล”
"เกเร"
"ทะลึ่ง"
"ก็มันจริงไหมละ ดูเสนอมาแตละอยาง"
"อะนะ...แตถึงวินดี้จะไมเห็นดวยก็รักพี่ใชไหมครับ"
“…ครับ...รักมาก...”
“จริงสิ...วินจะโกหกพี่ทําไม”
“โกหกใหพี่สบายใจไง”
ความรูสึกของผมในตอนนี้ก็อยางที่บอกนองไปนั่นแหละครับ หากไมติดวาตองตามเรื่องที่ชินกฤตจะเคนถามอานนทอีกครั้งในคืนนี้
ผมคงจับเที่ยวบินรอบสุดทายกลับไปหานองแลว ตอนนี้ผมก็ยังไมรูวาเลยวาคืนนี้จะไดนอนไหมเพราะตองเฝาระวังและจะกาวพลาด
ไมไดเลย
“หมายความวาไงครับ” ถามกลับดวยความอยากรู
“ฮึก...ฮึก...พี่ครับ...”
“คนรักกัน...ฮึก...ตองอยู...ฮึก...ดวยกันใชไหม...”
“ตอง...ตอง...ฮึก...ไมมีอะไร...พรากเราจากกันใชไหม...”
“แต...แต...วิน...ฮึก...กลัว...ตรืด...ตรืด...”
“วินดี!้ วินดี!้ ” ผมตะโกนเรียกนองเสียงดังเมื่อจูๆ สายก็ตัดไป ยิ่งเมื่อโทรกลับไมติดยิ่งทําใหผมทุรนทุราย เดินกระสับกระสายไปมา
รอบหอง ทั้งหัวใจและสมองของผมทํางานอยางหนัก ในหัวก็พยายามคิดหาคําตอบวามันเกิดอะไรขึ้นกับที่รักของผม วันนี้นองตอง
ไปเจออะไรรายแรงมาแนๆ ไมงั้นคงไมรองไหสะอึกสะอื้น และพูดอะไรแปลกๆ เชนนี้ สวนหัวใจก็กระวนกระวาย รอนรนเต็มไมดวย
ความกังวล ผมเปนหวงนองเหลือเกิน
“หรือวาตองใหตาบอกซ้ําอีกที...ดีเลยฉันจะไดบอกตาพรอมกันวาไอเด็กขี้แยหลานรักของคุณตา...เปนเกย!” วาจบมันก็ผลักอกผม
อยางแรงจนผมเซถลาไปดานหลังกอนจะเสียหลักลมกนกระแทกพื้น การกระทําเชนนั้นทําใหความอดกลั้นของผมขาดสะบั้น พอกัน
ที วันนี้ผมถูกกดดันมามากเกินพอแลว หากมันจะเปนอีกคนที่บีบคั้นผม มันก็ไมทําใหผมเจ็บมากไปกวานี้ไดหรอก ดีซะอีก เรื่องมัน
จะไดจบๆ ไปซะที!
“ปริน...ทําอะไรนองกุล!” เสียงของตรินที่ดังขึ้นอยางตื่นตระหนกกอนเจาตัวจะโผลเขามาชวยพยุงผมนั่นไมไดเรียกความสนใจของ
ผมไดมากกวารอยยิ้มสะใจบนใบหนาของมัน ผมสะบัดตัวจากตริน จองมองอีกฝายดวยสายตาวาวโรจน
“เออ!”
“วายุระกุล!” แตแลวเสียงตวาดดังลั่นของตาก็ทําใหผมชะงักกอนจะหนาหงายเมื่อถูกหมัดของปรินสวนเขาใสเต็มๆ
“มีเรื่องอะไรกันทําไมถึงตองใชกําลัง” คําถามของตาทําใหผมปรายตาไปทางตัวตนเหตุทันไดเห็นพอเลี้ยงกับแมของผมชวยพยุงใหไอ
เหี้ยนั่นขึ้นมา
“ตาถามวาเกิดอะไรขึ้น”
“เรื่องแคนี้ก็ถึงกับลงไมลงมือกันเลยหรือ…ขอโทษพี่เขาเดี๋ยวนี้นะกุล” และยิ่งคําพูดที่เขาขางมันโดยที่ไมถามผมกอนวาเรื่องราวมัน
เปนยังไงยิ่งทําใหผมเจ็บ มองตาดวยสายตาตัดพอ
“อยามองตาแบบนั้นนะ! ขอโทษพี่เขาเดี๋ยวนี้!”
“ตา!”
พอเห็นหนาพอแลวก็นึกถึงบททดสอบความสามารถในการแยกงานออกจากเรื่องสวนตัวซึ่งพอเคยลองใชกับผมเมื่อครั้งอยูภูเก็ต
หากเทียบกับตอนนี้แลวผมคิดวาสมรรถภาพของตัวเองตางกันราวฟากับเหว ตลอดเวลาที่ผานมา ผมเคยมั่นใจวาตัวเองสามารถ
แยกแยะความรูสึกได เวลาไหนผมควรจะจดจออยูกับเรื่องใด ทวาพอเอาเขาจริง...มันชางยากเย็นเหลือเกิน
“แยวะ...ดูไมจืดเลย” พอบอกพรอมกับเลื่อนเกาอี้ออกแลวนั่งตรงขามกับผม
“อะไรของแก ไดยินวาทุกอยางเปนไปตามแผนไมใชหรือ”
“ทําไม...ลูกกุลทิ้งแกหรือไง”
“แลวมันเรื่องอะไรที่ทําใหแกมารําพึงรําพันเปนหมาหงอยอยูแบบนี้” พอพอถามอยางนั้นผมก็ถอนหายใจออกมาอยางหนักหนวงอีก
ครั้ง
“นับจริงๆ ก็ สิบเกาชั่วโมง”
“ไกออนวะ” วาพลางสายหนาแถมยังมองผมเหมือนเปนเศษฝุนยังไงยังงั้น
“ไมถามหนอยหรือวาทําไมผมถึงกลุมนักหนากับเวลาแคสิบเกาชั่วโมงเนี่ย” เริ่มมีน้ําโหขึ้นมานิดหนอยครับที่พอมองผมดวยสายตา
แบบนั้น ทํายังกับไมรูจักผม ถึงจะเห็นวาผมรักนองมากแตผมก็ไมใชคนออนแอถึงกลับจะเปนจะตายเพราะไมไดเจอหนาไมถึงวันนะ
ครับ แตเหตุที่ทําใหผมติดตอนองไมไดนี่สิ มันทําใหผมกินไมไดนอนไมหลับ
“เออๆ ถาอยากใหรูก็เลามาสิวาเกิดอะไรขึ้น”
“ผมก็ไมรู”
“อาว...แกไมรู แลวผิดหรือที่ฉันเรียกแกวาไกออนนะ”
“ผิด!”
“นองอยูบาน”
“นั่นไง แกก็รูนี่หวา”
“เฮอ...พอ...”
“ถากลัวก็เลิกรัก...ถาเลิกไมไดก็อยากลัว”
“กุล...ฮึก...ไม...หิว...”
“ทําไม...ฮึก...แมหวงกุล...ดวยหรือ...”
“ทําไมลูกพูดอยางนี้”
“แม...ไมนาถามกุล...วาทําไม...ทําไมแม...ไมถามตัวเองละ...วาตลอดเวลาที่ผานมา...แมทําอะไรที่คิดวาเปนหวงกุลบาง...” ผมกลั้น
สะอื้นเอยตอวาแมดวยคําพูดติดๆ ขัดๆ ผมไมรูหรอกนะวาขณะนี้แมมองผมดวยสายตาแบบไหนเพราะหยาดน้ําตามันบดบังการ
มองเห็นของผม ถึงแมจะเช็ดออกแตมันก็ไหลลนออกมาไมยอมหยุด ผมหยุดตัวเองไมไดอีกแลว เวลาที่จิตใจออนแอ
“แมก็ดีแตเปนหวงครอบครัวใหมของแม”
“ไมมีครอบครัวใหมอะไรทั้งนั้น กุลก็ยังเปนลูกแม”
“อยางนั้นหรือ...แลวเมื่อวานละ...แมถามกุลสักคําไหมวาเต็มใจหรือเปลา...พอปรินมันขอ...แมก็ยกหองนอนกุลใหมัน...ถาแมไม
อยากใหกุลอยูดวย...ก็พูดออกมาตรงๆ ก็ได...ทําไมถึงไดทํารายใจกุลแบบนี.้ ..ทําไมตองไลกันทางออมดวย...”
“แมไดไลลูกเลยนะ...”
“ไมมีอะไรหรอกคะคุณพอ” แมบอกขณะหลุบตาลงต่ํา
“ขอโทษคะคุณพอ”
“อืม...ชางมันเถอะ...ตอนนี้พออยากอยูกับหลานตามลําพัง...เธอออกไปกอนไดไหม...รดา...” ในความรูสึกขณะนี้เหมือนกับมีสายตา
จับจองมาที่ผม อาจเปนสายตาของตา ไมก็ของแมหรือบางทีอาจจะเปนสายตาของทั้งคู แตผมก็ไมอาจเงยหนาขึ้นมาคนหาความ
จริง ไดแตยืนรอเวลาเมื่อแมรับคํา แลวผมก็ไดยินเสียงฝเทาที่เดินหางออกไป
“เห็นหลานเปนแบบนี้...ใหตายตอนนี้ตาก็คงจะตายตาไมหลับ...”
มันฟงดูนาตื่นเตนยินดีใชไหมครับที่ตาทําทุกอยางใหถูกตองตามกฎหมาย โอนกรรมสิทธิ์ใหผมเปนที่เรียบรอยโดยมีแมเปนพยาน
แตสําหรับผมมันเปนขาวรายที่สุดซึ่งไมอยากไดยิน น้ําเสียงของมัจจุราชที่เหี้ยมโหดสงสัญญาณบงบอกใหรูวาตารูดีวาอีกไมชาคง
ตองจากโลกนี้ไป ไมเชนนั้นคงไมรีบทําทุกอยางใหเรียบรอย ไมตองกังวลวาแมจะหลงครอบครัวใหมจนลืมสิทธิ์ที่ควรเปนของผม
ยิ่งไดรับการยืนยันจากหมอประจําตัวของตาวาการตรวจสุขภาพครั้งสุดทายพบบางสิ่งในตับของตาและมันก็ใหเวลาแหงการมีชีวิต
อยูของตาเหลืออยูไมถึงสามเดือน แมจะมีโอกาสรอดหากแตโรคเบาหวานที่ตาเปนอยูบวกกับวัยชราที่ถูกโรคหัวใจรุมเราทําใหตา
หมดสิทธิ์รักษาตัวโดยการผาตัด มันจึงเหลือเพียงทางเลือกสุดทายคือใชเวลาที่เหลืออยูกับครอบครัวใหมากที่สุด
“ความเปนความตายไมมีใครหามกันไดหรอกนะกุล หลานตองทําใจ”
“รดาก็คงไมมีวันจะพูด เธอคงไมกลาทํารายฮีโรในใจของหลาน”
“หลานรูไหมวาเดวิดขออะไรจากแมหลานเปนครั้งสุดทาย...เขาขอใหรดาอยารองไหแตจงยิ้มแยมแจมใสในวันวิวาหที่รอคอยมานาน
แมมันอาจจะตรงกับงานศพของเขาก็ตาม...นั่นแหละคือคําปรารถนาขอสุดทายของพอหลาน…และรดาก็ทําให เธอยิ้มถึงแมน้ําตา
จะตกในก็ตามที...”
กวาสองชั่วโมงที่ผมใชเวลาในหองกับตา รองไหจนไมมีน้ําตาจะไหลออกมาแตมันก็ไมไดชวยใหหัวใจผมไดรับการเยียวยารักษา
ความผิดหวังวิ่งเขาเสียดแทงจนใจบอบซ้ํา ตาบอกวาอยามองพอจากมุมมองคนอื่น ผมเคยมองพออยางไรก็จงมองแบบนั้น แตสิ่งที่
ตาเลาใหฟงก็เพื่ออยากใหผมมองแมใหมอีกครั้ง สี่ปที่เราทั้งคูทะเลาะกัน แมตองแอบรองไหคนเดียวเมื่อเห็นสายตาเย็นชาของผม
คําพูดสาดเสียเทเสียที่ผมประณามแมทําใหใจแมบอบซ้ํา มันกลัดหนองจนระบมไปหมด
“...แมครับ...กุล...ขอโทษ...ฮึก....ฮึก...กุล...ขอ...ฮึก...โทษ...” ออมกอดของผูมีพระคุณโอบผมไวแนนพรอมกับปลอบประโลมถามผม
เสียงสั่นวาเปนอะไร ตาวาอะไร คําพูดรัวเร็วเต็มไปดวยรักเหมือนอยางในอดีต ไมไดหวงตัวเองแมแตนอย ในใจของแม ผมยังเปนคน
แรกที่แมฟูมฟกและมอบความรักอยางบริสุทธิ์ให
“จากใคร?”
“ฮึก...ฮึก...วินรักพี่นะครับ...รักพี่จริงๆ...รักมาก...วินขอโทษ...”
“คุณตาที่กําลังปวยหนักจะเปนยังไงนา...ถารูวาหลานรักเปนพวกชายรักชาย...”
ผมใชเวลาอยูกับตัวเองครูใหญกอนจะลุกขึ้นยืนเมื่อคิดวาตัวเองเขมแข็งพอแลว เอากลองพัสดุที่พี่สงมาใหไปวางไวบนเตียงกอนจะ
หันหลังใหกับมัน รีบเดินออกไปจากที่ตรงนั้นกอนความออนแอจะโจมตีผมอีกครั้ง ถึงผมจะเขาใจแมมากขึ้น และเขาใจพอของ
ตรินมากขึ้น แตผมก็ยังไมชอบใจปรินอยูด ี สิ่งที่เขาทํากับผมเมื่อวานยังคงทําผมใหผมฉุนเฉียวทุกครั้งยามคิดถึงมัน เย็นนี้ผมจึงเลี่ยง
ที่จะกินขาวพรอมกับพวกเขาโดยอางวาจะกินอาหารบนหองเปนเพื่อนตา และเวลานี้มันก็เลยเวลาอาหารค่ํามามากโข ตาคงรอผม
นานแลว...นั่นแหละคือเหตุผลที่ผมอางกับตัวเองขณะรีบหันหลังใหกับของขวัญที่พี่มอบใหและเมินสิ่งที่อีกฝายรองขอ...
“เลยอิ่มซะงั้น” ตาวาพลางสายหนา
“กุลอิ่มจริงๆ ครับ” กินอะไรไมลงเลยครับ มันตื้อไปหมด มองไปทางไหนก็เจอแตความืด ตรงหนาผมก็คือตา แตหัวใจกลับคิดถึงและ
เปนหวงใครอีกคน หากแตบริษัทของพอมันก็สําคัญไมแพกัน
“เพราะอยางนี้ไงถึงไมตัวโตเหมือนใครเขาสักที แลวแบบนี้จะไปปกปองใครได”
“คงไมมีผูหญิงคนไหนอยากมาฝากชีวิตกับกุลหรอกครับ”
“ไมมีเพราะเราไปฝากชีวิตไวกับคนอื่นแลวใชไหม”
“ครับ?”
“คุณคินครับ...คุณคิน...”
“นารักจัง...วินดี้กลับมานานแลวหรือ”
“ออ...ไมใชคุณกุลหรอกครับ จะวาไปผมก็ยังไมเห็นตั้งแตเมื่อวานแลวละ”
“คิค.ิ ..ก็นั่งรถมา”
“งั้นก็นั่งรถกลับที่เกาเลย”
“เอาใหจริง รูไดไงวาพี่พักอยูที่นี่”
“ปรินเพิ่งรูวาคนที่พี่คั่วอยูเปนนองเลี้ยงของปริน”
“อยาเอาคําวาคั่วมาใชกับคนรักของพี่ เขามีคาสูงกวานั้น”
“ทําไมพี่ถึงไดเย็นชากับปรินจัง”
“...ไอพี่ทอง...”
“โอย...” หาเหว...มันเวรกรรมอะไรของกูวะถึงไดมีสองเสียงดังขึ้นพรอมกัน
“เมธ...แตกูยังไมพรอมจะเผชิญหนากับเคา...กูเจ็บ...กูแทบไมอยากหลับตา...เพราะภาพนั้นมันตามมาหลอน...” ผมกําผาเช็ดตัวไว
แนนกอนจะซบหนาลงบนนั้น
“ถาไมอยากเสียเขาไปมึงก็ตองกลับไปรักษาของรักของมึงไวใหดีๆ”
“แตถาพี่เขาเปนฝายอยากจากกูไปละ...” เมธลูบแผนหลังผม
“อืม....” ผมขานรับพรอมกับกมหนาลงอีกครั้ง
“แลวตอนนั้นแฟนมึงมันทํายังไงเมื่อรูเรื่องเขา”
“พี่ไมรู กูไมไดบอก”
...แตแลวผมก็มาถึงวินาทีสุดทายของปลายทางอันยาวนาน...
จะมีใครเชื่อไหมหากผมจะบอกวาตอนนี้ผมลืมไปแลวละวาวิธีหายใจเปนอยางไรและลมหายใจของผมอยูที่ไหน เพราะวินาทีนี้ทุกๆ
สิ่งรอบกายกําลังหยุดลงอยูตรงนี้แลว อยูตอหนาผูชายตัวเล็กๆ แตกลับมีอิทธิพลมากมายตอหัวใจของผม…คนที่กลับเขาสูออมกอด
ผมอีกครั้ง ผมกระชับวงแขน กอดนองไวแนน อา...ในที่สุดมือคูนี้ก็ไดมีโอกาสโอบอุมนองไวเชนเคย
“แตขอรองวาอยาเกลียดพี่เลยนะ...พี่รักวินดี้มากเลยรูไหม” เอยคําที่คับแนนอยูในอกพรอมกับนัยนตาโหยหาไลสํารวจดวงหนา
หวานของคนที่เฝาคํานึงถึง
“...พี่คิดถึงวินดี.้ ..”
“ความจริงวินมีเรื่องจะคุยกับพี่เยอะแยะเลย”
“พี่ก็อยากจะรูเหมือนกันวามีอะไรเกิดขึ้นกับวินดี้บางตอนที่พี่ไมอยู”
...ชีวิตคูแครักคําเดียวนั้นยังไมพอ เรายังตองการการใหอภัยและไวใจกันซึ่งกันและกัน...
“เฮอ...อยากหยุดเวลาไวตรงนี้...ใหอยูกับเราสองคนตลอดไป” เสียงอูอี้เพราะซบหนาอยูกับหนาทองผมกลาวบอกพรอมกับแขนที่
โอบกระชับแนนขึ้น ถึงแมคําพูดจะฟงดูน้ําเนา แตความรูสึกของผมก็ไมแตกตางจากพี่เขาเลย
“ฟู...ฟู. ..”
“อาก...จั๊กจี…
้ ” ลมอุนๆ ที่กระทบผิวทําใหขนลุกซู บิดราง ดิ้นไปดิ้นมา มือก็พยายามผลักรางหนาออกหาง แตคนตัวโตกลับฝน
ตัวเองไว แลวก็ทรมานผมตอไปอยางสนุกสนาน
“จะเลนอะไร...ไมเอา...ไมเลนแบบนี้”
“พรุงนี้ก็ตองหางกันแลว ถาวินดี้จะใจรายโกรธพี่ลงคอก็ใหมันรูไปสิ”
“......”
“วินจะทิ้งก็ตอนที่พี่คิดจะเลนพิเรนทรกับวินนี่แหละ”
“เลนพิเรนทรอะไรกันที่รัก” จะไมพิเรนทรไดอยางไร พี่แกไมวาเปลาปลดเนคไทออก แลวมาผูกตาผมไวดวยนะครับ ไมนะ...ผมไม
ชอบแบบนี้
“ไมนะ...ไอพี่ทองปลอยวินเดี๋ยว...อืม...อื้อ...”
ถึงเหตุและผลที่ทําใหเราตองหางกันนั้น ผมจะเขาใจมันเปนอยางดี...แต...ก็ยังอดเศราใจไมได
ถึงนองจะบอกวาตารูเรื่องของเราแลว...แต...ผมก็ใจหายไปครูใหญเมื่อสิ่งที่ผมกลัวไดเกิดขึ้นจริง
ถึงแมวาตาไมไดบังคับใหวินดี้เลือกผมหรือครอบครัว...แต...มันก็สื่อความหมายคลายๆ กัน และคําตอบของมันก็คือ “ผม” ไมใชคนที่
นองเลือก
ถึงฟาจะยังเห็นใจผมใหตาเขาใจความรักของเรา...แต...ฟาก็แยกเราออกจากกันดวยเหตุผลที่ผมจําเปนตองยอมรับ และเวลานี้...
ถึงแมริมฝปากที่ผมคลอเคลีย ชิมรสหวานอยางสเนหา ถายทอดความรักทั้งหมดลงไปพรอมกับจุมพิตดื่มด่ํา...แต...พอรุงสาง ขาง
กายผมก็ตองวางเปลา สายลมของผมตองพัดผานไปยังที่ของเขา
“...พี่...ครับ...”
ถึงแมไมอยากหางกัน...แต...ก็คงตองปลอยนองเพื่อตัวของนองเอง และตอนนี้ถึงแมจะพยายามทําตัวเขมแข็งแตนองคงรับรูถึงสิ่ง
ผิดปรกติของผมเขาใหแลว แมจะปดตาไมใหนองเห็นความออนแอ แมจะมัดมือไมใหนองไดสัมผัสกับมัน แตมันก็คงไมสามารถ
ปกปดวินดี้ได
ผมใชปลายนิ้วลูบที่หางตาตัวเองกอนจะกมลงจูบวินดี้อีกครั้งดวยความรูสึกรักและหวงแหน ออยอิ่งชิมรสหวานปนเศราที่นองมอบ
ใหอยางเต็มใจ ซึมซับความรักของเราทั้งสองที่ถายทอดถึงกันและกันใหมากและยาวนานที่สดุ เทาที่จะทําได
“ไอพี่ทอง...”
“ครับ”
“วินดี้อยากรูหรือครับวาพี่เปนอะไร”
“อืม” นองขานรับพรอมพยักหนา
ลมออนๆ หอบความเย็นสดชื่นยามนองทําตัวนารัก
ลมอุนๆ ที่คอยหมกายยามนองอยูในออมแขน
ลมออนโยนยามนองปลอบประโลมผม
ลมออนไหวยามนองออนแอ
ลมรอนแรงยามนองเขินอาย
ลมพายุยามนองโมโหราย
ลมมรสุมยามนองหึง
“วินดี้ไดรับโทรศัพทที่พี่สงใหไหมครับ” พี่ถามไปยังอีกเรื่องขณะเปลี่ยนมาซบหนาอยูกับซอกคอของผม
“เฮอ...เพราะแบบนี้ไงพี่ถึงไมอยากปลอย” พี่เขาถอนหายใจแตก็ยอมกอดผมตอบ
“สัญญามากอน”
“วินดี้ไมเชื่อใจพี่หรือ”
“วินเชื่อพี่แตไมเชื่อปริน”
“แลวเรื่องโทรศัพทนั่น” ผมวกเขาเรื่องที่พี่พูดคางไวกอนหนานี้อีกครั้ง
“ถาเราจะติดตอกันบางคงไมเปนไรใชไหม”
“ก็คงไดมั้งครับ”
“ไมไดทาแคเปนหวง”
“งั้นพี่ตองทําใหวินดี้มั่นใจเสียแลวละวาที่รักของวินดี้นะเปนจอมพลัง” ผมยนจมูกใสคําพูดนั้นกอนจะยิ้มเจาเลหเมื่อความคิดหนึ่ง
ผลุดเขามาในหัว
เนื้อตัวของผมรอนระอุในทุกอณูที่นองสัมผัส ถึงแมริมฝปากที่ประพรมไปตามเนื้อตัวของผมจะงุมงามไมประสีประสาแตกลับทําให
ผมรอนเปนไฟ สมองเริ่มขาวโพลน ครางชื่อนองอยางผะแผว จากนั้นก็คอยๆ สั่นสะทานเมื่อนองคลอเคลียที่ยอดอกของผมดวย
ความนุมนวลออนโยน สงสัมผัสวาบหวิว หากแตหวานล้ําอยางตองการเอาอกเอาใจ เพื่อถายทอดความรักไวบนเนื้อตัวของผม
ลมหายใจผมหอบกระเสา หัวใจเตนถี่กอนที่มันจะหยุดเตนไปชั่วขณะพรอมกับลมหายใจที่ถูกกลั้นเอาไวเมื่อริมฝปากของนองคอยๆ
ไลลงต่ําไปเรื่อยๆ จนมันไปหยุดที่ทองนอยของผม ลังเลอยูชั่วครูวาจะไปตออยางไรดี กิริยาใสซื่อบริสุทธิ์นั่นทําใหผมแทบจะดิ้นตาย
อยูตรงนั้น
ในความเงียบที่มีแตเสียงลมหายใจของเราทั้งสองผมกลับไดยินเสียงหัวใจของเราทั้งคูที่ดังประสานกัน สัมผัสแผวเบาซาบซานทําให
ผมจินตนาการถึงนัยนตาสื่อรักและปรารถนาที่ฉายออกมาวาพี่ตองการผม มือของพี่ที่ลูบไปตามลําแขนของผมทั้งสองขางกอนจะ
สอดประสานเขากับนิ้วของผมอยางแนบแนนใหเปนหนึ่งเดียว หนาผากของพี่ที่แนบชิดกับหนาผากของผม จมูกสัมผัสจมูก ริมปาก
แตะริมปาก มอบกระแสอุนวาบเขาสูหัวใจของผม
ผมยิ้มอยางเอ็นดูใหกับแมวนอยที่หลับอุตุซบอกผมอยางเปนสุข ลมหายใจเขาออกอยางสม่ําเสมอบงบอกวานองกําลังนิทรารมย
อยางแสนหวาน วินดี้คงจะหลับไปพรอมกับความออนเพลียอันเกิดจากเพลงรักที่เราทั้งสองรวมกันบรรเลง ขนาดผมคิดวาตัวเอง
แข็งแรงยังรูสึกเพลียเลย แลวนองละ…คงสายๆ โนนแหละวินดี้ถึงจะรูสึกตัว
เมื่อนึกถึงเรื่องราวระหวางสองเราตั้งแตวันแรกที่เจอกันจนกระทั่งเดี่ยวนี้ก็ทําใหรอยยิ้มเกลี่ยไปทั่วเรียวปาก ถึงแมวาผมกับนองจะ
เพิ่งลงเอยกันไดไมนาน แตมันก็มีหลายอยางผานเขามาในเสนทางรักของเรา ซึ่งสิ่งเหลานั้นสอนผมวา สําหรับเราทั้งคูแลว “ความรัก
ไมตองการเวลามากไปกวาการดูแลและใสใจ”
ผมกมลงหอมแกมวินดี้ดวยสัมผัสที่เต็มไปดวยรักและหวงแหน กระซิบบอกรักอยางแผวเบาพรอมกับพยายามระวังไมใหนองตื่น
หากแตเมื่อเห็นรอยรักที่อยูบนเรือนกายของนองแลวผมก็ยิ้มอยางเอ็นดู นึกถึงค่ําคืนอันแสนสุขของเราทั้งสองแลวก็อิ่มใจ วินดี้นารัก
เหลือเกิน นองตามใจผมทุกอยางและพยายามมอบความสุขใหกับผมมากที่สุด...ชางเปนชวงเวลาที่วิเศษยิ่งนัก เปนอีกหนึ่งค่ําคืน
ที่สุดแสนจะประทับใจ
“วินดี”้
“จะสิบเอ็ดโมงแลวนะ”
“เดี๋ยวไปนั่งพักบนเตียงนะครับ”
“เพราะพี่?”
“ใช...วินเลย...เลย...เขาออน...” แกมแดงก่ําเมื่อสารภาพความจริงออกมา
“หือ” ผมอึ้งไปครูหนึ่งกอนที่จะ
“หัวเราะอะไรเลา”
“เกาโมงกวา”
ผมขยับตัวเพื่อจะไปเปดน้ําใสแกวเตรียมไวใหนองทวาตองหยุดอยูกับที่เมื่อนองดึงชายเสื้อของผมไว ผมยืนนิ่งมองวินดี้ที่กมหนา
แปรงฟน ศีรษะของนองซบหนาทองของผม สวนมือก็กําชายเสื้อของผมไวแนน
“วินดี้แกลงพี่” ผมสายหนาทั้งที่ยังยิ้ม
“เปลาสักหนอย” ตามยืนยันดวยน้ําเสียงแข็งขัน
“วินดี้รูไหมวาพี่กําลังคิดอะไรอยู” ผมสายศีรษะแทนคําตอบ
“พี่กําลังคิดวา...มันจะดีกวานี้ถาวินดี้เปลี่ยนมาผูกเนคไท...ปดตาพี่อีกครั้ง...” คําพูดนั้นทําใหอุณหภูมิในรางกายผมพุงขึ้นจนถึงจุด
เดือดทันที ทั้งๆ ที่ไมพยายามนึกถึงแลวนะ แตไอพี่ทองกลับรื้อฟนมันขึ้นมา
“แลวถาเปลี่ยนมารัดคอแบบนี้ละ...ชอบไหม...” ฝนความอายเงยหนาแดงแปรดขึ้นคอนอีกฝายดวยสายตากอนแสรงปนสียงโหด
ขณะถาม ไอพี่ทองยิ้มแหงๆ กอนจะโอดครวญวาผมใจรายกับแก
พอถึงเวลาผมก็หยิบเปพรอมกับตําราเรียน สวนไอพี่ทองถือกระเปาเอกสารของตัวเอง เราเดินออกไปจากหองโดยที่ไมมีใครนําอะไร
ติดตัวไปมากไปกวาสิ่งที่ตองใชในวันนี้ ถึงจะรูดีอยูแกใจแตผมกับพี่เขายังทําตัวปรกติเหมือนอยางทุกวันที่ผมตองไปเรียน และพี่เขา
ก็ไปทํางาน จากนั้นเราก็กลับมาเจอกันที่นี่อีกครั้งในตอนค่ํา
“...ที่รัก...” พี่เอื้อมมือมาเชยคางผมใหสบตา
“วินเชื่อพี่...และ...วินจะรอ”
แตจะวาไปนาคินทรนาจะปลอยพิษใสไอพวกมารที่มาขัดขวางความรักของผมบางก็ดีเหมือนกันนะวาไหมครับ ไหนขอดูมือหนอยสิ
มีใครสนับสนุนใหผมยองไปปาระเบิดใสไอพวกชินกฤษบางครับ ใหมันตายหมูจะไดไมตองมากอความวุนวาย ฆาแมรงมันทั้งบาน
เลย ซะใจโจ จะมีใครเห็นดวยไหมเนี่ย
“ถูกแมวขวนครับ” เขาตอบดวยน้ําเสียงราบเรียบขณะรับกระเปาเอกสารจากมือผมไปถือ
“ใชแมวที่ใหไปปลอยเกาะเมื่อคืนหรือเปลา”
“ครับ ตัวนั่นแหละ”
“วินดี้แพขนแมวตัวนั้นซะดวยสิ นายชวยจัดการสั่งสอนใหเชื่องแลวอยาใหเขาใกลฉันอีกก็แลวกัน”
“ไดครับ นายนอย”
ไมตองบอกก็รูวารันถูกใจขนาดไหนที่ไดยินผมสั่งเชนนั้น มันก็นาอยูหรอก ไอแมวจอมเกเรคงถือสิทธิ์วารูจักกับผมเลยไปทํารายรัน
เขา สวนรันก็คงไมกลาแตะเพราะผมวานใหไปสง แลวพอผมเปดไฟเขียวแบบนี้ เรื่องมันคงสนุกพิลึก คิดขึ้นมาแลวผมก็ชักอยากรูละ
วา คนที่กลาขวนหนารันจะถูกแกแคนคืนดวยรอยเฆี่ยนบนหลังกี่รอย
“ไปทําอะไรมาถึงไดหมดแรงซะขนาดนั้น” อยากตอบวาปล้ําทําหลานใหพอทั้งคืนแตก็กลัวจะถูกดาเพราะวาพอเขาไปในหองพอ ผม
ก็ลมตัวบนโซฟาทีจ่ ัดไวมุมหนึ่งของหอง เหยียดขาไปตามความยาว หลับตาอยางรูสึกผอนคลาย
“แลวรามิลละ” พอถาม
“ดูเหมือนงานจะลนมือ”
“แกใชใหไปทําอะไร”
“อยากรูนักวาการดคนไหนที่มันปากบอนมาเลาใหพอฟง”
“ก็คนมันงวงนี่พอ จริงสิตั้งแตวันนี้ผมจะกลับไปนอนบานนะพอ”
“หือ...เกิดอะไรขึ้น…”
ความจริงวันนี้กอนที่จะออกจากมหาวิทยาลัยตรินก็มาหาผมที่คณะครับ เขาเปนหวงผมเพราะกอนออกจากบานเมื่อวานตอนหัวค่ํา
ผมดูไมคอยดีเทาไหร พรอมกันนั้นเขาก็ติดตอผมไมไดตลอดค่ําคืนที่ผานมา นั่นเปนเพราะวาหลังจากที่ผมทะเลาะกับพี่เขา ผมก็ปด
โทรศัพทครับ จากนั้นก็ไมไดเปดอีกเลยจนกระทั่งตอนสายของวันรุงขึ้น
“ไมไดเปนอะไร” เมธตอบดวยน้ําเสียงเรียบเฉย
“ไมไดเปนอะไร?” ผมทวนเสียงสูง
“ไมไดเปนอะไรก็คือไมไดเปนอะไรกัน” เมธปรายตามองผมนิดหนึ่งกอนหันไปสนใจถนนอีกครั้ง
“อาว...”
“อาวอะไรของมึง”
“ก็ไหนลูกแพรบอกวามึงกับปริน เออ...”
“แลวตอนนี้มันเขามาทําใหมึงสับสนเรื่องของตรินใชเปลา”
“อืม...” นัยนตาของเมธไหววูบเล็กนอยขณะขานรับในลําคอ
“แลวตกลงมึงคิดยังไงกับปรินอะ”
นี่มึงจะทําโงหรือปฏิเสธตัวเองไปอีกนานเทาไหร หรือมึงสับสนอะไรเมธ...แลวมึงบอกวาไมรูใชไหมแตถากูรูละและจะทําใหมึงดวย...
คราวนี้แหละมึงจะไดรูคําตอบของหัวใจตัวเองซะที
“คุณคินครับ” เสียงของรามิลกดอินเตอรโฟนเขามาในหองครับ
“ครับ” นองรับสายแลวครับ
“ชอบที่มันบอกวาวินดี้คิดถึงและรอสายพี่อยู”
“ไมรูจริงหรือวาวินคิดถึงพี่หรือเปลา”
“เนาเพราะหมักรักไงครับ” ยังไมเลิกอีกกู
“วาแตวินดี้เปนไงบางครับวันนี้”
“วินไปเอารถบานเมธแลวก็อยูทํางานนิดหนอย เพิ่งออกมาเมื่อกี้เอง”
“จะทุมหนึ่งแลวนะ ไดกินอะไรรองทองบางหรือยัง”
“แยจังเลย เพิ่งจะคบกันไมใชหรือ”
“วินดี!้ ” เรียกนองดวยน้ําเสียงกระวนกระวายและหวงใย
“เกิดอะไรขึ้นที่รัก...ไดยินพี่ไหม วินดี!้ ”
“เอี๊ยดดดดด...โครม...เฮย!” ผมเหยียบเบรกจนตัวโกงตามสัญชาติญาณกอนจะสะดุงพรอมกับอุทานออกมาอยางตกใจเมื่อรถแลนด
โรเวอรที่ขับนําหนาอยูเกิดเบรกขึ้นมากะทันหัน ทําใหผมที่ขับตามหลังมาติดๆ หยุดรถไมทัน ไมรูจะเรียกวาโชคดีหรือโชครายที่รถเพิ่ง
จะผานโคงรถติดมาทําใหอยูในความเร็วไมมากนัก ถึงกระนั้นหนารถผมก็ไปจุบทายรถรถโฟรวีลสีดําคันใหญอยูดี
“พี่มิ้น!”
“นองกุล!”
“เออ...นองกุลอยามองพี่แบบนั้นสิครับ” คงเปนเพราะสายตาตกตะลึงของผมที่มองพี่เขาตั้งแตหัวจรดเทาละมั้งเลยทําใหพี่มิ้นลูบ
ทายทอยตัวเองอยางเกอๆ ใบหนาเริ่มขึ้นสีระเรื่อ อา...ยังดีที่พี่เขายังคงขี้อายอยูเหมือนเดิม ไมงั้นผมคงคิดวาเปนคนละคนกันแนๆ
“ระวังเถอะ เดี๋ยวจะถูกเกลียดเขาให”
“พูดบาๆ”
“โธ...ปริน...”
“เด็กไรเดียงสาแบบนั้นหรือจะตามพี่คินทัน คอยดูสิเราจะกระซากหนากากนั่นออกมาใหดู กุลจะไดตาสวางซะที”
“อยาพูดถึง เราไมอยากฟง”
“ไมอยากฟงหรือไมอยากรับรู”
“ชางสิ...เรื่องของเรา”
“คงไมมีอะไรผิดสังเกตใชไหม”
“สําหรับคนที่จับตามองอยูคิดวาไมครับ แตนองกุลนี่ผมไมแนใจ” ผมไมแปลกใจเลยที่ไดยินรามิลรายงานเชนนั้น
“เออ...ไมอนุญาต งั้นเปลี่ยนเปนฉากอาบน้ําแทนไดไหมอะ”
“...หนึ่ง....สอง...” น้ําเสียงนุมทุมที่นับจํานวนเลขทําใหผมกระพริบตาปริบๆ
“...สองครึ่ง...สะ...”
อืม...เชาแรกหลังจากหางกันแตเราทั้งสองก็ทําใหมันสดใสไดเหมือนทุกวัน...
ผมเดินเขาไปยังหองอาหารหลังจากอยูในชุดนักศึกษาเรียบรอยแลว เชานี้ทุกคนอยูพรอมหนากันยกเวน...ปริน...นาจะใชปรินแหละ
เพราะอีกคนซึ่งอยูรวมโตะอาหารใสชุดนักศึกษาเหมือนผม ก็ตองเปนตรินใชเปลา ชิส...สงสัยหมอนั่นยังไมตื่นแนๆ เมื่อคืนคําพูดของ
มันทําใหผมคิดมากแตดูตัวมันดันยังหลับอุตุเปนสุขอยูเลย
ผมทักทุกคนขณะนั่งลงที่เกาอี้ขางๆ ตริน จากนั้นปาก็แมบานตักขาวตมกุงมาให แตยังไมทันไดตักเขาปากก็ตองเอียงตัวเซไป
ดานขางเมื่อไหลถูกผลัก จากนั้นเกาอี้ขางๆ ผมก็ถูกลากออกแลวไอตัวกวนใหอารมณผมเสียแตเชานั่นมันก็นั่งลง ผมมองมันดวยหาง
ตาอยางไมพอใจ
“ปรินอยาแกลงนอง” รูสึกดีขึ้นมานิดที่มีคนเห็นวามันทําอะไรกับผม
“ตริน!” ผมเรียกชื่อตรินดวยน้ําเสียงตกใจกึ่งไมพอใจ...ตกลงมึงสองคนรวมหัวกันแกลงกูใชไหม?
“เลนอะไรเปนเด็กๆ”
“กุญแจมือ...กับ...หูแมว!” ผมกับตรินอุทานออกมาพรอมกันเมื่อเห็นสิ่งในมือของกิ่ง
ระวังอะไร?
แลวทําไมสิ่งเหลานี้ถึงทําใหไอปรินเตนเราๆ สั่นเปนเจาเขาไดแบบนั้น?
คลิปหลุด
“เออ...วินดี.้ ..เปนอะไรหรือเปลาครับ”
“จะไปไหน?”
“ตัวก็ไมรอนนี่หวา”
“ตกลงวาไขใจแกหายแลว”
“อะนะ” ผมเลี่ยงตอบหันไปรับอาหารเชาที่ปาแมบานเอามาเสิรฟ
“เมื่อวานเศราเปนหมาหงอย แตทําไมเชานี้ถึงไดดี๊ดานักละ”
“เห็นหนาแกแลวก็รูคําตอบ...ไอหื่นเอย” พอสายหนา
“อยางนั้นหรือ” ผมทวนถามดวยน้ําเสียงปรกติ
“ฝมือแกใชไหม” ผมยักไหล
“เปลา” มุมปากพอกระตุกนิดหนอยเมื่อผมตอบเชนนั้น
“ใหรูเรื่องที่โรงพักวางั้นเถอะ”
“พวกมันอยากดังอยูแลวนี่ คราวนี้ก็ไดขึ้นหนาหนึ่งสมใจ”
“แกนี่มันรายจริงๆ”
“รายเหมือนพอนั่นแหละ”
ผมกับตรินไมมีเวลาไดสงสัยเรื่องกุญแจมือกับหูแมวมากนักเพราะวาเราทั้งคูตางรีบไปเรียน ถึงกระนั้นตรินก็เลือกที่จะเก็บของสอง
สิ่งนั้นไวถามปรินในเย็นนี้เมื่อเรากลับมาถึงบาน
ตรินยังเลาตออีกวาความจริงแลวปรินมันมาไทยไดสามเดือนกวาแลว เนื่องจากเศรษฐีอเมริกันรายหนึ่งจางมันมาแตงสวนที่บานพัก
ตากอากาศทางเหนือให ปรินรับงานและก็มาไทย ตอนนี้งานทางโนนของมันเรียบรอยแลว และเปนเวลาพอเหมาะที่จะเปดเผยตัวตน
ของมันกับครอบครัวผมซะที ปรินก็เลยมาอยูกับเราครับ ตอนนี้เห็นวารับงานใหมอีกแลว สิ่งนี้คงทําใหปรินยุงพอสมควร แตก็ดีแลว
ครับ มันจะไดไมมาวุนวายกับผม
“ไอหมอนั่นมันเปนใคร”
“มึงรูไหมตรินอยูกับใคร!” เมธถามเสียงรอดไรฟนโดยไมยอมถอนสายตาจากคนทั้งคู
“พี่เขากําลังตามจีบตรินอยู” ผมขยายความเมื่อสบสายตาคําถามของเมธ
“วาไงนะ!” ทั้งเมธและลูกแพรทวนถามผมเสียงสูง ใบหนาของลูกแพรดูตกใจกึ่งประหลาดใจ แตใบหนาของเมธกลับซีดเผือดกอนจะ
แดงก่ํา
เออ...ผมซักเริ่มไมแนใจแลวสิวาทําถูกหรือเปลา กุลขอโทษนะครับพี่มิ้นที่ดึงพี่มาเกี่ยวโดยไมไดบอกพี่กอน...ขอโทษคราบบบบ
“ผมขอโทษเรื่องเมื่อเชาดวยนะครับ”
“เรื่องที่พอรูวาฉันทําอะไรกับชินกฤษนะหรือ” ผมเอยขึ้นเมื่ออีกฝายเงียบ
“ออ...ฉันกําลังคิดวาจะใหคีตาจัดการใหเด็ดขาด”
“ครับ...เมื่อสองเดือนที่แลว” เขายอมรับเสียงแผว
“มินาถึงออกโรงปกปอง” ผมสรุปพรอมกับเอนหลังพิงพนักเกาอี้
“ผมเปลา...” รันหยุดพูดกอนจะเมมเรียวปากเมื่อผมมองดวยสายตารูทัน
“ผมอยากใหเรื่องนี้เปนเรื่องสวนตัวไมเกี่ยวกับงาน” ผมยิ้มมุมปากอยางถูกใจ
“งั้นก็ดูแลคนของนายใหมันดีๆ หนอยก็แลวกัน”
“ขอบคุณครับนายนอย”
“ไมนะ!” ปรินตะโกนเสียงดังเมื่อมองตามสายตาของผม
หลังจากคลอยหลังรันไปครูใหญอินทรีก็มาพบผมเรื่องการซอนแผนของชินกฤษที่เราเริ่มตนเมื่อผมพาครอบครัวของอานนทไปยังเซฟ
เฮาสเรียบรอยแลว อินทรีรายงานวามันกําลังเริ่มจะเลนงานเราอีกครั้ง คราวนี้มันพุงเปาไปที่ตลาดหุนซึ่งอินทรีรับผิดชอบอยู พอรู
อยางนี้ก็ทําใหพวกเราเตรียมรับมือไดไมยากครับ อินทรีบอกวาทุกอยางเปนไปตามแผนการณที่วางไว คราวนี้ก็รอใหมันเปดเกม
พวกเราคงไดเห็นชินกฤษมันยิ้มยองใหตอนเชาของวันจันทรหลังจากเปดตลาดหุน แตกอนจะปดตลาดในตอนเย็น มันจะกระอัก
เลือดอยางแนนอน
“เที่ยงแลวไง งานทวมหัวกูอยูเนี่ย”
“อะไรของมึง จะมาไมบอกกันกอน”
“เอานากูมาแลว ก็มารับกูหนอย”
“เฮอะ...แตะไมไดเลยนะ เดี๋ยวเถอะคืนนี้กูจะมอมเหลามึง”
“พูดเรื่องอะไรของพี่อะ”
กอนหนาที่เราจะมาที่นี่พี่มิ้นรูที่ไปที่มาและยอมทําตามคําขอรองของผมแลวครับ แตกอนที่ผมจะมีโอกาสไดพูดกับพี่เขาก็เกือบจะ
เกิดการวางมวยขึ้น หลังจากที่ผมแนะนําเมธใหรูจักพี่มิ้น พี่มิ้นก็กลาวทักทายเมธปรกติ แตเมธกลับทําเฉย จองตรินเขม็ง ตรินก็หนา
ซีด ความเงียบเขาครอบคลุม บรรยากาศมันชวนอึมครึมมากเลยครับ ผมก็เลยรีบเปลี่ยนเรื่อง โอดโอยวาหิวแลว และชวนไปหาอะไร
กินกัน ลูกแพรก็รีบสนับสนุน
“พี่ไมเคยจีบผูชาย” ลูกแพรหัวเราะกิ๊กเลยครับเมื่อพี่เขาวาอยางนั้น
“แลวนองกุลจะปลอยไวแบบนี้หรือครับ พี่สงสารนองลูกแพร”
พี่มิ้นทิ้งคําพูดไวแคนั้นกอนจะกาวไปยังฝงของตัวเองแลวขึ้นไปบนรถ ไมแปลกหรอกที่พี่มิ้นจะไมย้ําถามวาคําพูดของลูกแพรนั่นเปน
ความจริงหรือเปลาและตลอดเวลาก็ไมเคยมีใครถาม นั่นก็เพราะวาสายตาของลูกแพรที่มองผมมันฟองวาเธอรักผม ใครเห็นก็ดูออก
กันทั้งนั้น
พวกเราตกลงวาจะไปกินสุกี้กันครับ ระหวางทางตรินก็โทรมา ถามวาตอนนี้พวกเราอยูที่ไหน ผมก็บอกไปวากําลังจะไปหางใกลๆ
กับมหาวิทยาลัย เขาก็บอกวาเดี๋ยวตามไป ผมก็ไมรูหรอกนะวากอนหนานั้นเมธกับตรินคุยอะไรกันบาง เหตุผลอะไรที่ทําใหเมธยอม
พาตรินหาพวกเรา แตพอไดเจอกับคนทั้งคู ผมกับลูกแพรก็ตองลอบถอนหายใจออกมาอยางหนักหนวง
“โห...” พวกมันสงเสียงหอนอีกแลวครับ
“เปนไงคุณๆ ทั้งหลาย ไดยินแบบนี้แลวยังอยากเตะมันอยูไหม” แซคมันสวมบทผูพิพากษาตอ
“คุณนาคินทรคิดวายังไง” มันหันมาถามผม
“ผมคงไมกลาเตะหรอกเพราะคงมีใครบางคนไมยอม”
“วี้ดวิ้ว” เสียงผิวปากดังระงมเมื่อพวกมันมองมายังผม
“กิ่ง...” เวศยิ้มกวางขณะเรียกภรรยา
“กลับมาแลวหรือครับ” เสียงนองงัวเงียตอบกลับมา
“ถึงบานแลวครับ...วาแต...วินดี.้ ..ทําอะไร...อยู...”
“พี่กําลังจะไมไหวแลวครับ วินดี้ตองชวยพี่นะ”
“ใชสินะ วินดี้สัญญาวาจะชวยพี่แลวนี่”
“ที่รักไปหาอะไรมาผูกตากอนเร็ว”
“งั้นพี่รอเดี๋ยวนะ” ผมรับคํานองพรอมกับปลดกระดุมเสื้อของตัวเอง
“มาแลวครับ”
“วินดี้ใชอะไรปดตา” ผมถามดวยน้ําเสียงแหบพรา
“เน็คไท”
“ที่รัก...” ผมเรียกนองเสียงสั่น
“วาไงครับ”
“พี่อยาก...มากดวย...ตอนนี้คินนอยมันตื่น...ชี้โดเลย...วินดี้ชวยพี่ไดไหม...เลนเซ็กสโฟนกับพี่นะครับ...นะ...”
น้ําเสียงสั่นพรากับลมหายใจหอบแรงของไอพี่ทองทําใหผมขนลุกซู “ใชแลวครับ...เซ็กสโฟน...อาร...ที่รัก...ตามใจ...พี่เถอะนะ...”
น้ําเสียงออนวอนที่เต็มไปดวยความปรารถนานั่นทําใหผมวาบหวิวในชองทอง
“ตะ...แต...วินไมเคย...” ผมซุกหนาลงกับหมอน อาการงวงงุนเริ่มหายไปทีละนิด และถูกแทนที่ดวยความรอนผาวบนใบหนา
อะ...ไอพี่ทองบา...หนาไมอาย...อยูไกลกันอยางนี้ยังมาหื่นใสผมอีก
“ตอนนี้วินดี้อยูบนเตียงหรือเปลาครับ” น้ําเสียงนุมทุมเอยถาม
“คะ...ครับ...” นี่ตกลงแกจะเลนจริงๆ หรือครับ อาก ผมปฏิเสธไดไหมอะ
“วินดี้นอนคว่ําหรือนอนหงาย” จะถามทําไมเนี่ย ผมสายหนาอยางปลงไมตก ผมควรปลอยไปตามน้ําหรือขัดใจพี่เขาดี
“วินนอนคว่ํา ซุกหนากับหมอน” เยย สมองยังไมสั่งเลยนะเวยวาจะเอายังไงดี ทําไมปากถึงไดตอบเสียงอูอี้ไปอยางนั้นละ
“แลวคืนนี้วินดี้ใสเสื้อนอนหรือเปลา”
“ใส...เสื้อหมีพูห”
“อา...นอยพูหของพี่ พี่อยากกอด อยากหอม อยากจูบวินดี้ ขอพี่จูบไดไหมครับ” ทําไงดี ผมเริม่ จะหายใจไมออกแลวสิครับ เนค
ไทที่ปดตาไวทําใหผมอยูภายใตความมืด หากแตมันกลับทําใหผมจินตนาการและมองเห็นภาพไดอยางชัดเจน น้ําเสียงสั่นกระเสาดั่ง
ถูกไฟรักครอบงํากระซิบแผวเบาขางหู เสียงลมหายใจที่หอบกระชั้นทําใหผมนึกถึงใบหนาที่เต็มไปดวยความปรารถนา นัยนตา
รอนแรงจองผมราวกับจะกลืนกินเขาไปทั้งตัว
“ฟู...” ผมสั่น ขนลุกตั้งแตหัวจรดเทาเมื่อไอพี่ทองเปาลมใสโทรศัพท
“มะ...ไมเอา วินไมเลนแลว...ไอพี่ทองบา...หื่นไมรูจักเวล่ําเวลา...ดึกแลว...วินจะนอน...ไมเลนแลว...” ผมตอบรัวเร็ว สะดุงขึ้น
นั่ง ไมไหวครับ เนื้อตัวผมรอนวูบวาบไปหมดเลย หัวใจก็เตนแรงเร็ว มันตื่นเตน แตก็กลัวและเขินอายอยางบอกไมถูก
“ไมตองอายครับที่รัก ตอนนี้มีแคเราสองคน วินดี้กับพี่”
“แต...วินไม...”
“พี่ตองการวินดี้ พี่อยากรักวินดี้ ชวยทําใหพี่มีความสุขไดไหม...นะครับคนดี...นะ...” แง...ทําไมตองทําเสียงอยางนี้ดวย แลว
ผมจะบอกปฏิเสธอยางไรดีในเมื่อพี่เขาเวาวอนและออดออนถึงปานนี้
“พี่จะประคองใหวินดี้เอนตัวนอนอยางชาๆ นะครับ อยางนั้นแหละที่รัก” พูดอยางกับเห็นวาผมลุกขึ้นนั่ง เสียงนุมทุมที่ไดยิน
ราวกับมีมนตขลัง สะกดผมใหเอนตัวลงนอนอีกครั้ง
“ไอพี่ทอง พอเถอะ วินไมอยากเลนแบบนี้อะ” ผมยังคงตอตานทามกลางความมืดและเสียงลมหายใจหอบแรงของพี่เขา
“วินดี้ไมตอ งกลัว...ไมตอง...กังวลอะไรทั้งนั้น...ผอนคลาย...แลวไปกับพี่นะครับ...” น้ําเสียงเซ็กซี่ที่ขาดเปนหวงๆ นั่นไมตอง
บอกก็พอรูวาอีกฝายกําลังทรมานขนาดไหน แทบไมอยากคิดเลยวาตอนนี้ไอพี่ทองกําลังทําอะไรอยู หากจะบอกปดและตัดสายไป
เลยก็คงได แตนั่นคือสิ่งที่ผมตองการแนหรือ การปลอยใหคนที่เรารักทรมานทั้งๆ ที่เขารองขอการปลดปลอย ผมจะเมินเฉย ทําเปน
ใจรายหันหลังใหพี่เขาไดอยางไร
“แกมวินดี้หอมจัง ผมของวินดี้ก็นุม...” ผมผอนลมหายใจเขาออก เสียงสูดลมหายใจแรงๆ ทําใหผมรูสึกวาพี่เขากําลังหอมแกม
อยูจริงๆ โดยไมรูตัวผมใชมือปดไรผมออกไปจากใบหนา มันใหความรูสึกคลายอุมมืออุนลูบไลไปบนหนาผากของผมอยาง
นุมนวล
“พี่คิดถึงวินดี้ใจจะขาดอยูแลว” อยากรูนักวาความรูสึกโหยหานี่มันถายทอดถึงกันผานโทรศัพทไดหรือเปลา พอไดยินพี่
เรียกรองมากเขาผมก็โอนออนยอมตามใจ มันคงไมเสียหายอะไรใชไหม หากผมจะทําใหไอพี่ทองมีความสุขบาง
“ปากวินดี้นาจูบนัก อืม...ผิวก็เนียนและนุมมือ...พี่ชอบ...วินดี้ตองเปนของพี่คนเดียวเทานั้น...รูไหมครับ” อาจเปนเพราะความ
อยากรูอยากลองสิ่งแปลกใหมที่คนรักหยิบยื่นให บวกกับตองการเอาใจอีกฝาย ทําใหผมปลอยอารมณไปกับพี่เขา
“อะ...อืม...” น้ําเสียงสั่นพรา ขาดเปนหวงๆ กับลมหายใจหอบแรง ทําใหผมมองเห็นวาพี่เขากําลังจูบผมอยางดูดดื่มกอนจะไซ
ริมฝปากไปตามซอกคอ ในขณะที่มือหนาสอดเขามาใตเสื้อนอนของผม แลวลูบไปตามลําตัว
“อา...” ผมสะดุงเมื่อยอดอกถูกสัมผัสอยางวาววิว
“วินดี.้ ..อืม...ชอบไหม...” ผมเมมเรียวปาก
“บอกพี่สิครับวาชอบไหม” สําผัสหนักหนวงที่หยอดอกทั้งสองขางอยางตองการจะกลั่นแกลงและบีบบังคับใหผมตอบ
“ชะ...ชอบ...” ผมบอกเสียงสั่นพรอมกับสติที่เริ่มหลุดลอย
“ซี๊ดดด...แลวแบบนี้ละ...วินดี้นอยมันแข็งสูมือพี่ดวย...อา...”
“อะ...อา...” ผมแอนกายตอบรับสัมผัสที่เคนคลึงบนแกนเนื้อของผม รางกายรอนระอุราวกับกําลังถูกแผดเผา ความรูสึกตอนนี้
ไมตางกับคนที่กําลังกระหาย พอไดรับหยดน้ําเพียงนอยนิด ผมก็เรียกรองหามันมากยิ่งขึ้น
“ครางออกมาที่รัก...พี่ชอบ...ฟงเสียง...วินดี.้ ..อา...”
“อือ...อา...พะ...พี่ครับ...วิน...เสียว...”
“เสียว...มาก...ไหม”
“มาก...ครับ...” รางกายผมบิดเราอยางทรมาน
“อืม...งั้นพี่ใชปากชวยนะ...พี่กําลังกลืนเขาไปทีละนิด...อะ...อืม...”
“โอว...ซี๊ดดด...” ผมมาไกลสุดกูเสียแลว ยากที่จะยับยั้งความตองการของรางกายที่ถูกปลุกขึ้นมา ความปรารถนาที่เพิ่ม
ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ทําใหผมปลอยทุกอยางใหพี่เขาเปนผูนําทาง ยามใดพี่เขาเรียกรอง รางกายผมจะรอนระอุและตอบสนองอยางรู
หนาที่
“อะ...อืม...” เสียงครางในลําคอทําใหผมรูวาไอพี่ทองรอนแรงและอารมณกําลังทะยานขึ้นสูง ในขณะที่รางกายผมออนระทวน
และกําลังหลอมละลายดวยไฟเสนหหาที่พี่หยิบยื่นให
“พี่อยากเขาไปในตัววินดี้” คําพูดดวยน้ําเสียงแหบพราดังมาไมขาดสาย เปนบทบรรยายที่ทําใหผมรูสึกวาเรากําลังฝาไฟรักไป
พรอมกัน เสียงหายใจกระชั้นถี่ของผมและพี่ประสานกันตลอดเวลา
“วินดี้เปนของพี่นะครับ”
“ครับ” ผมตอบรับราวกับคนละเมอ กลั้นลมหายใจ
“อา...ที่รัก...” เสียงครวญครางอยางสุขสุมทําใหหัวใจผมเตนรัวเร็ว
“อืม...พี่...ครับ...” รางกายผมสั่นระริกตอบรับรางหนาซึ่งชุมไปดวยเหงื่อที่ทาบทับลงมา นัยนตารอนแรงของพี่จองใบหนาของ
ผม กอนจะกมลงมอบจุมพิตแสนหวานอยางปลอบประโลม มือหนาลูบไปตามรางกายกอนจะจับที่สะโพกผมไวแลวยามพี่เริ่มขยับ
รางกาย
“โอว...อา...ซี๊ด...” เสียงครางของเราทั้งคูดังระงม จากนาทีเพิ่มขึ้นเปนสิบนาที ยี่สิบนาที และเกือบจะปาเขาไปเปนชั่วโมงที่เรา
ทั้งคูตางเติมเต็มใหแกกัน
“วินดี.้ ..ชวยพี่…สิครับ...” ในบางครั้งพี่ก็ขอใหผมชวยปรนเปรอพี่บาง พอผมตอบวาครับ เสียงครวญครางอยางทรมานหากแต
เปรี่ยมไปดวยความสมหวังก็ดังขึ้น
“เกงมากเลยที่รัก...โอว...อา...ซี๊ดดด...” พี่โนมนาว นําพาความปรารถนาของผมใหโบยบินขึ้นสูง จนกระทั่งไมชาก็กาวไปถึง
จุดสูงสุด
“พี่ครับ...วิน...ไมไหว...แลว...”
“อา...อีกนิดครับ...ที่รัก....อีกนิด...”
“เร็วเถอะ...อะ...อา...”
“โอว...วินดี.้ ...วินดี.้ ...
“...อา...” แลวสุดทายผมก็ถึงจุดหมายปลายทางอันสวางไสวซึ่งพี่รอผมอยูตรงนั้น มือหนาเอื้อมมาขางหนาเพื่อรอใหผมวางมือ
ในอุงมืออุนกอนจะจับจูงพาผมเดินไปยังสุดสายปลายรุง
“อา...พี่มีความสุขจังเลย ขอบคุณครับที่รัก วินดี้ของพี่เกงและนารักที่สุดเลย” คําชมที่กระซิบแผวเบามาตามสายทําใหใบหนาผม
รอนผาว หากริมฝปากกลับเหยียดยิ้ม
“วินก็...ก็...รูสึก...ดี...” ถึงแมวาตอนนี้ผมจะนอนหอบหายใจ รูสึกเหนื่อยเหมือนเพิ่งการวิ่งมาเปนสิบกิโล แตก็อิ่มใจอยางบอก
ไมถูก การทําใหคนที่เรารักมีความสุข มันมอบความสุขที่มากกวาเชนนี้เอง
“อาว...มาไงอะมึง” ทักทายมันไปครับ
“ขับรถมา”
“ออหรอก นึกวานั่งเกวียน” ผมมองมันตาขวาง เมธหัวเราะ เดินมานั่งขางๆ ผม
“บานเงียบจัง ไปไหนกันหมดเนี่ย” มามุกน้ําเนาเชียวนะมึง แลวตามึงนี่มองหาใครอยู
“พอกับแมพาตาออกไปขางนอก สวนไอปรินไปไหนไมรู ตรินเพิ่งเขาไปในครัวเมื่อกี้ สวนกูก็นั่งอยูขางมึง ตกลงมึงมาหา
ใคร”
“ก็มาหามึงนี่แหละ” มันตอบเสียงเรียบ แตกลับทําใหผมคันฝามือ อยากตบหัวมันจริงๆ ไอปากหนักเอย รูอยูแกใจวามาหาใคร
ยังอมพะนําอยูได
“อืม...มาก็ดีแลว กูกําลังอยากออกไปขางนอกพอดี ไมมีรถดวย พากูไปหนอยสิ” ผมพูดพรอมลุกขึ้น
“เฮย...อะไรเพิ่งเขามา ใหพักเหนื่อยกอนสิ” เมธเยื้อแขนผมไว ผมยิ้มมุมปาก
“งั้นมึงพักไปกูเปลี่ยนใจแลว โทรใหพี่มิ้นมารับดีกวา เห็นตรินบอกวาอยากไดหนังสืออยูดวย เดี๋ยวใหพี่มิ้นพาไปซื้อพรอมกัน
เลย” พอผมพูดจบเมธก็ลุกขึ้นยืนคูกับผม
“อยาเชียวนะมึง กูไมชอบหนาไอหานั่น อยากไปไหนเดี๋ยวพาไป” มันดันไหลผมใหกลับลงไปนั่งที่เดิม
“ไมอะ จะใหพี่มิ้นพาไป” ผมสะบัดไหล เมธปลอยมือ
“เอะ...ไอนี่ จะยั่วโมโหกูหรือไง” มันทาวเอว ขรึงตา ทําหนายักษใสผม
ผมตีหนาซื่อ “อะไร ไมชอบก็เรื่องของมึงสิ แลวมีธุระอะไร รีบๆ พูดมาแลวก็กลับไปไดแลว” เมธถอนหายใจเสียงดัง
“เออ...กูยอมแลว” มันกระแทกเสียง “กูมาหาตริน” กอนจะออมแอมยอมรับความจริงออกมา
ผมกลั้นหัวเราะที่ไลมันจนมุมสําเร็จ “ก็แคเนี่ย” แสรงปนหนานิ่ง พูดดวยน้ําเสียงเอือมระอา เมธปรายตามองผม
“อยาทําหนาพิลึกใสกู จะหัวเราะเยาะก็หัวเราะไปสิ” มันหยิบหมอนอิงมาปาใสผม หนามันก็พิลึกเหมือนกันละ จะบึ้งก็ไมใช
เขินอายก็ไมเชิง
“ฮาฮา ไอเมธเขิน เปนไงละถูกจับได ไมตองมาทําหนาอยางนั้นเลยนะมึง ฮาฮา” เมธมองผมตาขวาง
“พอใจมึงแลวใชไหม...หะ...” โดยไมทันตั้งตัว เมธก็จับหมอนอิงอีกใบแลวจับกดหนาผม ปดเสียงหัวเราะไปโดยปริยาย ผมดิ้น
ขลุกขลัก บอกมันใหปลอยเสียงอูอี้ หายใจไมออก แตแรงอยางผมนะหรือจะสูแรงควายอยางมันได เลยถูกมันแกลงจนพอใจ
“ตรินอยูในครัวใชเปลา กูจะไปหาเคา แลวไมตองตามมานะมึง” มันบอกหลังจากปลอยผมเปนอิสระ ผมหอบหายใจฮักๆ ชี้
หนามัน อยากดามันแตยังเหนื่อยอยู เมธทําหนากวนตีนแลวเดินจากไป
“หานี่ จะฆากูเลยใชไหม ทีอยางนี้ทําเปนกลา แลวนี่มันบานกูนะ มาสั่งโนนสั่งนี่ เดี๋ยวเถอะ พอจะทําตัวเปนกางชิ้นใหญติดคอ
มึงซะเลย” ผมตะโกนดามันหลังจากเรียกกําลังกลับมา แตมันคงไมไดยินหรอกครับเพราะวาหายเขาไปในครัวเรียบรอยแลว
เจ็บใจที่ถูกมันแกลง แตก็สุขใจนิดๆ ที่เห็นบางอยางเปลี่ยนแปลง ผมใชมือปดปากกลั้นเสียงหัวเราะเมื่อคิดวาสองคนนั้นจะ
กุกกิ๊กๆ อะไรกันในครัว อยากไปแอบดู แตไมเอาดีกวาเดี๋ยวเปนตากุงยิง ผมยิ้มขําอยูคนเดียวกอนจะลมตัวลงบนโซฟาอีกครั้ง ใชมือ
ลูบทองบอกใหกระเพาะมันรอกอน อีกนานเลยไอหนูกวาแกจะไดกินขนมปงไสมะพราวกับโกโกนะ
เวลาผานไปครูใหญก็มีเสียงรถแลนเขามาในบาน คราวนี้เปนปรินครับ
“ทําอะไรอยูไอเปยก” เดินสวนสนามอยูมั้ง ผมปรายตามองมัน ก็เห็นนอนดูทีวีอยูยังจะถามอีก
“ดูทีวี” ไมอยากตอปากตอคํากับมันครับเลยตอบไปตามตรง ปรินเดินมานั่งขางผม หนาตามันอิดโรยอยางคนไมไดนอน
“ดูอะไรอะ” เอา ก็บอกวาดูทีวีไง
“รถแขง” จําใจตอบมันไปตามตรงอีกครั้งครับ ไมรูหูตึงหรือเปลา เสียงแขง F1 ดังกระหึ่มปานนี้ ไมตองมองก็รูวาในทีวีเขา
ถายทอดอะไรอยู
“อืม...งวง...”
“เฮยๆ ถางวงก็ขึ้นไปนอนขางบนดิ” มันมาแปลกครับวันนี้ นอกจากพูดสั้นๆ กวนตีนแลว ยังจะลมตัวลงนอนหนุนตักผม
“ของีบแปบไดไหมครับ หานาทีก็ไดนะ...นะ...” เยย...สยอง มันออนครับ ย้ํา ไอปรินมันออนผม ตามันปรือๆ เหมือนลูกแมวดื้อ
สิ้นฤทธิ์เลย
“ขับรถกลับมาไดอะ งวงขนาดนี้ คราวหลังก็หลับสักงีบกอนแลวคอยกลับเขาใจปะ” ผมเอื้อมมือไปหยิบหมอนอิงมาใหปรินมัน
หนุนแทนตักผม คิดวามันนาจะสบายมากกวาครับ
“อืม...แตกลัววาถาอยูนานคงไมไดนอนมากกวานะสิ” แลวมึงทําอะไรอยูถึงไมไดนอน ผมสงสัยแตไมไดถามออกไปหรอกครับ
กดรีโมทผอนเสียงโทรทัศนลงหนอยกลัวไปรบกวนมัน เห็นปรินมันทําตัวนารักแบบนี้ก็ดูไมมีพิษมีภัยดีครับ แตไมรูพอตื่นขึ้นมาแลว
จะออกลายอะไรอีก
...เออ...เมธครับ...ตรินครับ...มัวแตแลกลิ้นกันอยูอยางนี.้ ..กุลจะไดกินโกโกปนไหมครับ...
“ฝมือนายนอยไมเคยตกเลย” น้ําเสียงของอินทรีกลาวขึ้นขณะมองไปยังผลงานของผมที่กําลังเลื่อนเขามาใกลพรอมกับสายพาน ผม
ยิ้มมุมปากตอบแทนคําชมของเขา
“นายนอยอยากกินอะไรครับ” อินทรีถาม
“เรื่องบานไปถึงไหนแลว” อินทรีถามรันในขณะที่เรากําลังกินขาวกันอยู
“แลวเขารูหรือเปลาวาใครเปนเจาของบาน” ผมถาม
“ถาจะรายไมเบา” อินทรีสันนิษฐาน
“จะยายบานหรือ” อินทรีถามตอ
“อืม...” รันขานรับในลําคอ
เรื่องบานที่กําลังพูดถึงนี่อินทรีเคยเปนคนจัดการใหรันครับ เนื่องจากวามีเศรษฐีเกาคนหนึ่งเอามาจํานองกับบริษัทเงินกูของพอซึ่ง
อินทรีรับผิดชอบอยู แตแลวลูกหนี้ก็ไมมีปญญาจายเราก็เลยยึด บานที่วาเปนบานเกาทรงยุโรป สรางตั้งแตสมัยรัชกาลที่หา ตัวบาน
จริงๆ มันทรุดโทรมมาก ทวาที่ดินซึ่งอยูในเขตเมืองทําใหมีราคา
“เร็วเถอะนา” เมื่อมันไมขยับผมก็เลยหนุนหลังมันใหเดิน
“โอย...” ปรินรองเมื่อผมออกแรงผลัก
“ปรินอยาเพิ่ง...” ผมกําลังจะบอกมันวาอยาเพิ่งออกไปจากหองจนกวาผมจะมาเรียก
“เฮย...หลังไปโดนอะไรมา” แตแลวก็ตองเปลี่ยนคําพูดใหมเมื่อหันมาเห็นรอยแดงเถือกบนแผนหลังของปริน
“วุนวายจริงๆ เลย ก็บอกวาไมมีอะไรไง ออกไปไดแลว” ปรินทําหนาเบื่อหนาย น้ําเสียงซังกะตายที่ผมเซาซี้มัน
“ถาอยากรูก็ตองลองเลนดู”
“วาไงสนใจเปลา”
ผมเดินหาทั้งสองคนทั่วบานแตก็ไมเจอ ความคิดอกุศลแวบเขามาในหัวแตยังไมทันไดกาวไปยังหองนอนของตรินก็ไดยินเสียงกีตาร
โปรงดังแววมา ผมออกไปหลังบานเห็นตรินกับเมธอยูที่ศาลาขางเรือนกลวยไมของตา ทั้งสองกําลังรองเพลงจีบกันอยู ผมยิ้มอยาง
สุขใจ อืม...การที่ผมทนหิวนี่ก็นับวาคุมคามิใชนอยเลย
“เรื่องมาก” มันวาผมขณะถอยรถออกจากโรงจอด
“ปริน...รู. ..วะ...วา...เมธมา...”
“อาว...ไมใชรถเมธหรือ” ปรินถามน้ําเสียงปรกติราวกับพูดคุยเรื่องสภาพอากาศทั่วไป
“ก็ใช” ผมออมแอมตอบหลังจากชั่งใจอยูชั่วครูกอนจะหันไปมองปรินดวยสายตาลังเล
“เรื่องเมธกับปรินนะ…” ผมเพิ่งจะเริ่มเอยตนประโยคแตก็ถูกปรินสวนขึ้นมากลางปองวา
“เรื่องนั้นก็พอรู แตปรินก็รูไมใชหรือวาเมธเขาใจผิดวาปรินเปนตรินนะ”
ผมอึ้งไปครูใหญพรอมกับพยายามทําความเขาใจคําพูดของเขา หรือวาที่ปรินอารมณเสียแบบนี้เพราะเขาเองก็เสียใจที่ทําใหตรินเจ็บ
ความจริงเปาหมายของเขาคือเมธ อยากแกลงดวยความหมั่นไส แตไมนึกวาจะทํารายจิตใจของตรินไปดวยอีกคน แลวพอผมไป
กลาวหาวาเขาราย ปรินก็เลยระเบิดอารมณใสผม
“ใครโทรมา” ผมเอยถามทันที
มันมองกระจกสองหลังและกระจกสองขางดวยใบหนาบึ้งตึง ผมมองตามปรินกอนจะรูสึกวาตัวถูกกระชากไปดานหลังอยางรุนแรง
เมื่อปรินเหยียบคันเรงรถ ออกตัวอยางรวดเร็ว หัวใจผมกระตุกวูบเมื่อปรินเริ่มบังคับพวงมาลัยรถอยางหวาดเสียว มันแซงซาย แซง
ขวา บีบแตรไลชาวบานเขา
“เฮย...ปริน...” รถที่เพิ่งออกมาจากซอยทําใหตะโกนอยางตกใจ
“ปรินนั่นพี่รันนี่”
“เออ...ครับ…” ผมตอบกลับอยางงงๆ
“แลวนี่จะไปไหนกันครับ”
“ไปกินขาวครับ”
“ขอผมคุยกับปรินสักครูไดไหมครับ” พี่เขายังคงพูดสุภาพกับผม
“เปดประตูใหหนอยครับ” พี่เขาเฉลย
“จะไปกินที่ไหนเดี๋ยวพี่ขับรถให” พี่เขาพูดตอ
“ยัง!” ปรินกระซากเสียงตอบอยางเลี่ยงไมได
“ปรินเปนเมียผมครับ” พี่รันบอก
“หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!” ปรินสั่งผัวมัน
สวนผมอาปากคางเมื่อไดฟงกอนหุบฉับ รูสึกใบหนาตัวเองรอนวูบวาบอยางไรชอบกล...ชัดเลย...คราวนี้วายุระกุลก็หายสงสัยและ
เขาใจอยางถองแทแลวครับ...พี่รันกับปริน ปรินกับพี่รัน...อะจาก!
“ระวังนายนอยจะหึงเอานะครับ” พี่รันบอกเสียงเรียบ
“ใครสน” แตไอนี่ยังรั้นไดอีก
“ไมสนก็เลิกทําหนาบึ้งไดแลว” พี่เขายังใจเย็นบอกเสียงเรียบ
“โธ...โวย...” แลวมันก็สบถออกมาอยางหัวเสียพรอมกลับไปกินขาวตออีกครั้ง
“ขาวีนแลวยังขี้งอนอีก” พี่รันพูดอยางไมยินดียินรายกับอาการโกรธหัวฟดหัวเหวี่ยงของปริน
“แลวมายุงดวยทําไมเลา” ปรินหันไปขูฟอใสพี่รันตามสไตลของมันอีกตามเคย ใบหนามันหงิกงอ พี่รันถอนหายใจ
“ถาอยากเหลือหูไวฟงโทรศัพทก็ลบเบอรเมียกูออกซะ” เสียงพูดรอดไรฟนกับนัยนตาแข็งกราวของพี่รันทําใหผมสยองแทนไอหนา
ปลาปกเปาแกมปองนั่น
“ไมนะ...จะทําอะไร...ปลอยปรินเดี๋ยวนี้!” นั่นไงสุดทายมันก็ถูกพี่รันสําเร็จโทษจนได
“แบบนี้แสดงวาฉันเลี้ยงแกดี”
“แลวผมจะไดพักชวงไหนหรือพอ” ถามดวยน้ําเสียงตื่นเตน
“แลวมันชวงไหนละที่แกสองคนจะไปพรอมกันได” ผมยิ้มกวางอยางยินดี
“for I can't help falling in love with you” พอรองตอจากผม ผมมองพอดวยสายตาลอเลียน พอยักคิ้ว
“หึหึ...แมทําพอแสบใชไหม”
“ใช...แสบมาก” นัยนตาพอแวววาวเมื่อนึกถึงความหลัง
‘take my hand, take my whole life too, for I can't help falling in love with you’ เสียงของพอที่รองประสานกับเอลวิสทําใหผม
เงยหนาขึ้นมอง สายตาพอมองตรงไปยังประตูหอง นัยนตาแพรวพราวคลายสงความรูสึกไปถึงใครอีกคนที่ยืนอยูตรงนั้น ผมหันหลัง
ไปมองตามสายตาของพอ
“วันพุธนี่สินะ”
“อืม” พอขานรับในลําคอ
“อีกรอบไหม” ผมถาม
“เปลา...”
“ไมตองปฏิเสธเลย” ผมหุบปากฉับเมื่อนองสวนกลับมา
รันรายงานมาวาวินดี้ปฏิเสธจะไปพรอมเขากับปรินหลังจากกินขาวเสร็จโดยอางวาจะแวะไปดูตนไมที่คอนโดเสียหนอย แตพอขึ้น
แท็กซี่วินดี้ดันแอบยองไปดูรถซะนี่ พอผมรูก็เขาใจเลยครับวาความจริงตองแตกแนๆ ในเมื่อรถของนองซอมวันเดียวก็เสร็จแตรามิลบ
อกชางไมตองรีบ พอวินดี้ไปถึงก็เลยยังไมทันไดทําอะไร
“เลยใหคนตามคุมวินใชไหม”
“ไมใชเลย วินดี้ก็เห็นนี่นาวาคนเหลานั้นไมเคยเขาไปจุนจานกับวินดี้ ไมอยูใกลๆ ใหรกหูรกตาวินดี้ดวย จะมีก็แตรามิลเทานั้น แตที่รู
มารามิลก็แคไปรับไปสงนี่ครับ อีกอยางวินดี้ก็สนิทกับรามิลไมใชหรือ วินดี้คงไมอึดอัดที่รามิลอยูใกลๆ ใชไหม”
“รามิลเปนผูชวยสวนตัวของพี่ครับ การไปรับไปสงวินดี้ก็คืองานของเขา”
“พี่ตองถามสิวาวินดี้ทําอะไรกับผูชวยพี่บาง เห็นรามิลเลาใหฟงวาเกือบจะถูกเมธตอย”
“วินจะเลาเรื่องพี่มิ้น สวนพี่ก็ตองเลาเรื่องพี่รันใหวินฟง”
“วินไมมีแฟน ตอนนี้กําลังโสด”
วันอังคารภาพของเราทั้งคูปรากฏบนหนาหนังสือพิมพมุมขาวซุบซิบไฮโซ ขาวประโคมเกี่ยวกับการเผชิญหนากันระหวางสองทายาท
ของบริษัทยักษใหญ นองโทรมาลอเลียนผมวาเปนคนดังเขาใหแลว ผมถามวาวินดี้รูเรื่องไดอยางไรเพราะนองไมเคยสนใจขาวพวกนี้
วินดี้บอกวาลูกแพรซึ่งเปนเพื่อนสนิทของนองชอบอานขาวพวกนี้ วินดี้ไดยินลูกแพรพูดถึงก็เลยขอดู
วันพุธเปนวันครบรอบวันตายของแมครับ ใจจริงผมอยากพาวินดี้ไปแนะนําใหแมรูจักแตโอกาสไมอํานวยจึงตองเลื่อนไปคราวหนา
เหมือนทุกปที่ผมกับพอไปเยี่ยมแมแลวตองพบกับใครอีกคน ชายคนนั้นอายุรุนราวคราวเดียวกับพอผม ขางกายของเขามีชายใสชุด
ดําสี่คนคอยดูแลความปลอดภัย พอพวกเขาเห็นเราก็ขยับตัวอยางระมัดระวัง เชนเดียวกับการดของพอและผมที่ประจําที่และพรอม
จะรับมือกับอีกฝาย พอปรายตามองเขานิดหนึ่ง เขาจึงถอยออกมาใหพอเดินไปวางมาลัยกุหลาบไวขางๆ กับมาลัยอีกพวงที่วางไว
กอนหนานั้น
รันกับคีตาขยับตัวเขามาชิดผมมากขึ้นเมื่อบุคคลซึ่งไมนาไววางใจเดินเขามาใกล
“ขอแสดงความยินดีกับวาที่นายคนใหมของสิงหราช” ผมพยักหนาเล็กนอย
“นับวันเธอจะถอดแบบจากสิงหไมผิดเพี้ยน”
“ขอบคุณครับที่ชม” เขามองผมดวยสายตาวาวโรจน
“ฉันอยากจะเตือนวาจะทําอะไรก็ใหอยูในกติกา”
แตเรื่องตนโฮยานี่ตรินเขายังไมรูนะครับวาผมสงใหเมธดูแลตอ โดยสวนตัวแลวผมก็กลัวตรินจะเสียใจที่ผมเอาของที่เขาตั้งใจมอบให
ไปใหเมธดูแลอีกที เมธก็เลยตองมาบานตอนที่ตรินไมอยู แตมันซวยที่เมธไมทันไดกลับไปตรินก็มาซะกอน เขาแอบเห็นเมธกับปริ
นชวยกันเอาตนโฮยาลงกระถางใหม ผมไมรูหรอกนะวาขณะนั้นทาทางของเมธกับปรินเปนอยางไร แตมันก็ทําใหตรินไมสบายใจไป
เลย
“นายหึงแลวงี่เงามากเลยตริน” ปรินใหคําจํากัดความอาการหึงของตรินครับ
“หึงแบบนี้มีแตทุกขใจเปลาๆ นายนาจะดาเมธมันไปเลย บอกใหรูไปเลยสิวานายไมชอบใจนะ จะเก็บมาคิดมากคนเดียวทําไม” มัน
ยังใหคําแนะนําโดยไมรูตัวเลยวาตัวเองก็เปนหนึ่งในสาเหตุที่ทําใหตรินหึง
“แตนายสองคนดูสนิทกันมาก บางทีคนที่เมธรักก็คือนาย...”
“บอกหลายครั้งแลววาถาไมไหวก็งีบกอน ไมรูจะฝนขับรถกลับมาทําไม"
ภาคพิเศษ พี่รัน
ณ. จุดเริ่มตนของคนเลี้ยงแมว
ภาค พี่รัน...สุภาพบุรุษน้ําแข็งไส
“คุณรูไดอยางไร”
“แตผมวาที่กิ่งมันตายนาจะไมไดรับอาหารในสวนนั้นมากกวา”
“จายเปลาละ” เขาถาม
“ประมาณเทาไหรละ” ผมตอเรื่องราคา
“ผมจะกินใหคุณหมดตัวเลย” เขาบอกพรอมทําหนาลอเลียน
“ผมยอมหมดตัว” นั่นคือบทสนทนาของเราทั้งสองกอนจะไปตอกันที่บาร
“อืม...พอกอน...” เขาบอกพรอมกับพยายามหยุดผม
“ปรินก็ไมตองขยับ เดี๋ยวพี่ทําเอง”
“เรื่องอะไรละ...อืม...พี่รัน...หยุดกอน...”
“ปรินจะใสใหพี่ดูไดไหมละ” ผมควบคุมเสียงไมใหสั่น
“ขาดแสอะพี่รัน” เขากระซิบพรอมเปาลมเขาไปในหูของผม
เพลง! ...เสียงอารมณของผมแตกหักพรอมกับรถที่เลี้ยวเขาไปในโรงแรมอยางรวดเร็ว
“อื้อ...อืม...” ทันทีที่ประตูหองปดลงผมก็จูโจมเขาอยางรวดเร็ว
ผมจูบเขาอยางหิวกระหายในขณะที่เขาปรนเปรอผมอยางถึงใจเชนกัน ลิ้นของเราทั้งสองแทบจะหลอมรวมเปนหนึ่งเมื่อมันเกี่ยวพัน
กัน อะไรๆ ก็ดูจะไมทันใจผมสักอยาง เสื้อผาเปนอุปสรรค กางเกงขัดขวางไมใหผมไดแตะเนื้อแทของเขา ผมฉีกทึ้งสิ่งขวางกั้นออกไป
อยางไมใยดี เชนเดียวกับเขาที่รอนรนปลดเปลื้องเสื้อผาของผม
“แนใจหรือ” ผมกระซิบถามขณะที่จูบใบหูของเขา
“ฝนไปเถอะ...” ปรินแผดเสียงพรอมกับดิ้นรนขัดขืน
“ซี๊ดดดด...โอว...อาร...” อารมณของเราทั้งคูใกลจะถึงจุดสูงสุดเขาไปทุกที
“ปริน...ปริน...โอว...” ในขณะที่ผมก็ทยานขึ้นสูงไมแพกัน
“เจ็บไหม” ผมถามเขาอยางหวงใยเมื่อสําเนียกไดวารุนแรงกับเขามากแคไหน
“ปริน...อยูไหน…” ผมเรียกหาเขาเมื่อตามออกมาจากหองน้ําแลวพบเพียงความวางเปลา
“กรุงกริ๊ง...” เสียงกระดิ่งดังขึ้นพรอมกับเจาตัวซึ่งโงหัวมาจากขางเตียง
“ชอบ...ไหม…อะ...อาร...พี่รันอยาเรง...แรงนักสิ...มันเสียว...” เขาซบหนาลงกับไหลของผมดวยใบหนาเหยเกเมื่อหางแมวสายไปมา
เร็วขึ้น ตัวขั้วของหางที่ตองสอดเขาไปในกายของเขาคงกระตุนอารมณอีกฝาย
“เสียวมากไหม” ผมพึมพําถามขณะที่ริมฝปากคลอเคลียอยูกับใบหนาของเขา
แตแลวหลังจากที่ประตูหองปดลงพรอมกับเงินที่ผมจายใหปรินเปนคาตอบแทนในวันนั้น มันกลับกลายเปนเรื่องยุงยากเมื่อผมไดเจอ
เขาอีกครั้ง ความจริงที่ปรากฏวาผมเขาใจผิด และดูถูกวาเขาเปนเด็กขายทําใหปรินแทบจะฆาผม แตไมเปนไรหรอกครับ คนเรามัน
ผิดพลาดกันได อยางที่เคยไดยินมานั่นแหละวาคนที่ไมเคยทําผิดคือคนที่ไมทําอะไรเลย เพราะฉะนั้นเมื่อผมไดเจอกับเขาอีกครั้งผม
จึงสงบางสิ่งไปย้ําเตือนความทรงจําของเขา
คงบอกเขาไดเปนอยางดีวาผมกลับมาแลวและกําลังจะตามลาเอาเจาเหมียวของผมคืนมา ถึงแมวาครั้งนี้แมวนอยของผมจะพยศสุด
ฤทธิ์แถมยังโกงคาตัวใหผมจายเขาดวยใจทั้งดวง...แตเมื่อหลวมตัวไปแลวนี่ ผมก็ตองยอมจายละครับ
“...เหมี้ยว...เหมี้ยว...ปริน...แมวนอยของพี่...มานี่มะ...”
“หงาววววว!!! ~~~~”
“ทําไมถึงอยากใหตรินผิวเนียนละ”
“ก็นะ…” เมธอมยิ้ม
“จะทําอะไรตริน” สายตารูทันของเธอจองลึกเขาไปในดวงตาของเมธ
“ตรินใจแข็ง เมธเลยวาจะรวบหัวรวบหางซะเลย”
“โห...เลววะมึง” ผมดา
“แต...” มันหุบยิ้มฉับเมื่อลูกแพรขัดขึ้น
“พรุงนี้เมธตองเปนเจามือ” พอไดฟงขอตอรองเมธก็ยิ้มไดอีกครั้ง
“เฮอะ...” เมธทําเสียงขึ้นจมูกเมื่อไดยินชื่อพี่มิ้น
...พรุงนี้ผมก็สอบเสร็จแลว...จากนั้นพวกเราจะไปฉลองสงทายกอนปดเทอม...ชวงเวลาตอจากนี้ชีวิตผมจะเปนอยางไรนะ... การมา
ของลุงเรียวและคณะเอ็มเจในคืนนี้จะตอบคําถามผมไดใชไหม...ตอนนี้ใกลวันที่ผมกับพี่จะไดเจอกันหรือยัง?
เวลาเจ็ดโมงเชาผมออกไปทํางานพรอมกับพอเชนเดียวกับทุกวัน ในรถพอถามถึงความพรอมในเรื่องเตรียมตัวตอนรับเอ็มเจและการ
เผชิญหนากับชินกฤษ ผมบอกวาตอนนี้ผมเต็มรอยอยูแลว ผมมั่นใจวาปลายปากกาของเอ็มเจจะจรดบนเอกสารที่เรายื่นไปอยาง
แนนอน
หา...ผมนับถอยหลังพรอมกับวางทุกอยางลง
.
สี.่ ..ผมจองไปยังประตูหอง
สาม...ยังไงนองก็ตองเปนของผม ตองไมมีอะไรมาพรากเราออกจากกัน
สอง...สายลมของผมกําลังจะหวนคืนมา นองจะเขาสูออมกอดผมอยางแนนอน
หนึ่ง..........
กริ๊ง!!!! ...และในที่สุดเสียงระฆังก็ดังขึ้นพรอมกับประตูหองทํางานของผมเปดออกอยางรวดเร็ว…
“นายนอยครับ คณะผูบริหารของเอ็มเจแจงมาวาบายโมงตรงจะขอเจรจารวมลงทุนกับเราครับ”
‘พี่ครับ...คนรักกันตองไดอยูดวยกันใชไหม’
‘ใชครับ...วินดี้กับพี่ตองอยูดวยกัน’
.
.
...สิ้นสุดกันที...วินาทีที่ผมรอคอยไดมาถึงแลว...ขอบคุณสายลมแหงความเชื่อและศรัทธาที่หอบขาวดีมาให...ความหวังใจไดนําเรา
ทั้งคูมาสูเสนชัยเรียบรอยแลว...ในที่สุดผมกับนองก็จะไดกลับเขาสูออมกอดของกันและกันอยางสมบูรณซะที...
“มาแลวครับ” ทวาไมทันขาดคํามันก็โผลหัวเขามา
“จะถือวาเปนคําชมวาพี่คลองแคลวนะครับ” ตรินบอก
“ปรินก็เอาไปเลี้ยงตอจากตาไง ใหมันไดซักรอยป”
“ไมเปนไรปริน ตายังอยูกับเราอีกนาน”
“คนแกก็อยางนี้แหละ หวงลูกหวงหลาน”
“งัน้ พี่จะรอที่หนาหองสอบนะครับ”
“งั้นขอไปกินขาวดวย”
ผมนั่งรออาหารอยางคนอารมณเสีย ตลอดเวลาที่ผมหางพี่เขาไมเคยรูสึกวาตัวเองถูกจับตามองจนทําใหหงุดหงิดเทาวันนี้มากอน
เลยครับ ถึงแมจะหันไปรอบตัวและไมไดสบตากับใคร แตผมก็รูสึกวาผมตกเปนเปาสายตาของคนกลุมใหญเลยทีเดียว ผมแสรงลุก
ขึ้น ทําเปนเดินไปเขาหองน้ํา แลวก็เปนอยางที่ผมคิดไว โตะที่เพิ่งเขามาหลังจากเราซึ่งถูกจองดวยเด็กในชุดชางกลลุกขึ้นยืนหลังจาก
ผมเล็กนอย โตะดานซายมือซึ่งเปนกลุมนักศึกษาชายสามคนก็ลุกขึ้นเชนเดียวกัน
หองน้ําของรานตองออกไปทางดานหลัง ชั่วพริบตาที่เดินผานมุมตึกผมก็ถูกประกบดวยชายสองคนซึ่งใสชุดนักศึกษา
‘พี่ครับ...คนรักกันตองไดอยูดวยกันใชไหม’
‘ใชครับ...วินดี้กับพี่ตองอยูดวยกัน’
...ตอนนี้ละ...ผมจะยังมีโอกาสไดอยูกับพี่ใชไหม...แลวเวลานั้น...ใกลเขามาหรือยังนะ...กอนหลับตาลงในครั้งนี.้ ..ผมอยากไดยินพี่
บอกรักและโอบกอดผมไวจังเลย...
เวลาสิบเอ็ดนาฬิกาภาคินเดินทางไปพบเอ็มเจที่โรงแรมดวยตัวเอง ผมคิดวาตลอดหนึ่งชั่วโมงที่ผานมาทางโนนคงพยายามติดตอขอ
เจรจาหากแตทางเอ็มเจปฏิเสธ มีรายงานเขามาวาการบุกไปถึงโรงแรมในวันนี้ไมมีผลแตอยางใด เนื่องจากเขาเขาไปแคสิบหานาทีก็
ออกมา ผมไมแนใจวาภาคินไดพบเอ็มเจหรือไม แตที่แนๆ ทางเอ็มเจยังยืนยันจะรวมลงทุนกับเรา
“วาไงนะ!” ผมทวนถาม
“อาการของวินดี้เปนยังไง” เคนเสียงถามออกไปอยางยากลําบาก
“อาการหนักครับ” คําตอบที่ไดรับทําใหเปลวเพลิงในดวงตาลุกโชติชวงขึ้นมา
...ทําไมหนอ...ทําไมไมใชผม...ขอความเจ็บปวดที่นองไดรับยกมาใหผมทั้งหมดเถอะนะ...ผมจะรับมันไวเอง..
“คุณคินครับ” รามิลเรียกเมื่อเขาเดินเขามาใกล
“เพี้ย!” รามิลยกมือขึ้นตบหนาตัวเองอีกขางเปนการยอมรับความผิด
การกระทําของผมกับเขาเรียกสายตาของคนอื่นใหมองมา แตมันก็เพียงแคเสี้ยวเวลาเมื่อมีบางสิ่งเคลื่อนไหวหนาหองฉุกเฉิน ประตู
หองที่เปดออกพรอมกับคุณหมอซึ่งเดินออกมาทําใหผมหยุดคําพูดที่จะคุยกับรามิล สายตาจับจองไปยังครอบครัวของวินดี้ที่กรูเขา
หาคุณหมอ ผมกาวเขาไปใกล จองริมฝปากเพื่อจะอานคําพูด
“...เสียชีวิตแลว...” นั่นคือคําพูดสุดทายที่ผมไดยิน
‘พี่ครับ...คนรักกันตองไดอยูดวยกันใชไหม’
‘ใชครับ...วินดี้กับพี่ตองอยูดวยกัน
ความรักของผมกับนองมากมายแคไหนพระเจาสัมผัสไดใชไหมครับ…ผมขอรอง...เห็นใจผมเถอะ...ไดโปรดอยาพรากวินดี้ไปจากผม
...เชนนั้นเลย...
‘เจ็บแลวจําไหม’
“ก็ตอนนั้นกุลไมรู” ออมแอมพูด
“หึหึ” แตสิ่งนี้กลับทําใหผมหัวเราะ
“หัวเราะอะไร” ตาถาม
“จะไปไหนกัน” ผมยังถามอยางไมเขาใจ
คําตอบที่ไดรับกลับไมใชสิ่งที่ผมหวังเมื่อผมลืมตาขึ้น รอบกายซึ่งเคยเต็มไปดวยความสวางเมื่อสักครูกลับถูกเมฆสีดําเขาครอบคลุม
ออมกอดของผมวางเปลา ตากับพอไดหายไปแลว ทั้งสองหายไปไหน เมื่อกี้ผมยังกอดไวอยูเลย ทําไงดี ผมจะไปทางไหน มันหนาว
มันมืด มันนากลัว ผมหวาดผวา เกิดอะไรขึ้น ผมหันซายหันขวา ชวยดวย พอ ตา อยางทิ้งผมไป พี่ครับ ชวยวินดวย พี่อยูไหน เรียก
วินสิ ขอรอง สงเสียงใหวินรูไดไหมวาพี่ยังอยูกับวิน
“ลูกแพร...น้ําเนา!" อันนี้แยกไมออกวาเสียงใครบางเพราะมันดังเหลือเกิน
“นองกุลฟนซะที” ตรินยิ้มอบอุนสงใหพรอมกับจับแขนผมเขยาเบาๆ
ผมจําไมคอยไดวาความรูสึกเวลาที่ผมไปถึงหนาหองฉุกเฉินนั้นเปนอยางไร จําไมไดแลววาหลังจากที่หมอบอกวาคนเจ็บเสียชีวิตแลว
ผมทําอะไรบาง จําไมไดแลววาเสียงรองไหของคนในครอบครัววินดี้นั้นโหยหวนขนาดไหน แตผมจําไดแมนถึงชวงเวลาที่ประตูหอง
ฉุกเฉินเปดออกมาอีกครั้งพรอมกับหมออีกคนซึ่งกาวออกมา แลวบอกวาคนเจ็บปลอดภัย กระสุนไมถูกอวัยวะสําคัญแตอยางใด
ทวาวาคนไขเสียเลือดมาก อาการยังนาเปนหวง ตองพักฟนในหองไอซียูเพื่อดูอาการสักระยะ จากเสียงรองไหอยางเศราโศกในเวลา
นั้นเปลี่ยนเปนเสียงอุทานอยางยินดีดวยความหวัง อยางนอยบุคคลอันเปนที่รักอีกหนึ่งคนก็ยังหายใจอยู
“หมอวาไงนะ...ฮึก...หมอวากุลปลอดภัยใชไหม...เมื่อกี้ปรินฟงไมทัน...พี่รันพูดอะไรไมรูแลวก็เดินไปนูน...”
“วินดี้ปลอดภัย” ผมยืนยันกับเขาพรอมกับบอกตัวเอง
บรรยากาศแหงความโศกเศราเปลี่ยนไปบางเล็กนอยเมื่อหมอบอกวานองปลอดภัย หากแตพอเห็นใบหนาซีดเซียวกับลมหายใจที่
รวยรินของวินดี้ ความเศราสลดก็กลับมาอีกครั้ง ใจผมจะขาดรอนๆ กับเวลาที่ผานไปพรอมกับนองที่ไมฟนขึ้นมาซะที
เคราะหรายซ้ําซอนเมื่อไดรับขาวทําใหทุกคนในครอบครัวของวินดี้หัวใจแหลกสลาย ผมมาถึงโรงพยาบาลเมื่อหมอซึ่งดูแลเคสของตา
กับลุงหารออกมาบอกวาทั้งคูไดเสียชีวิตแลว วินาทีนั้นหนาหองฉุกเฉินเต็มไปดวยเสียงรองไหระงมอยางโศกสลด สองชีวิตที่จากไป
กับอีกหนึ่งชีวิตที่แขวนอยูบนเสนดาย คงไมมีอะไร ที่ทําใหครอบครัวของนองเจ็บปวดไดมากเทานี้อีกแลว
โลงศพถูกสงไปยังหนาบานของพวกมันพรอมกับภาพถายตัวประกันในอิริยาบถที่พรอมจะถูกเชือดคองายๆ หากมันยังทาทายผมอีก
ผมสั่งเผาโกดังสินคาของมันในยานชานเมืองเพื่อใหมันวิ่งวุนกับการหาสินคาเสริมเพื่อจะไดไมถูกปรับตามสัญญาการสงออก ผมสง
หลักฐานใหสื่อตางชาติเพื่อประโคมขาวการติดสินบนของตํารวจที่อยูใตอํานาจของพวกมัน ผลที่ไดรับทําใหเบื้องบนนั่งไมติด ออก
คําสั่งใหเขาตรวจจับผับของชินกฤษซึ่งเบื้องหลังคือบอนการพนันและซองผิดกฎหมาย ทําใหกิจการดานมืดของพวกมันตองปดตัวไป
ชั่วขณะเพื่อรอดูทิศทางลมใหแนใจเสียกอน ทั้งงานราษฎรงานหลวงผมประเคนใหมัน ทําใหมันหัวหมุนพรอมกับทรมานหัวใจไป
พรอมๆ กัน
“ตาเคยพูดถึงพี่อยางนั้นหรือ”
“ใชคะ” เธอขานรับพรอมกับยิ้มใหผมอยางเศราๆ
“พี่รูใชไหมวาลูกแพรเปนวาที่คูหมั้นของกุล” เธอถามขณะที่สายตามองไปขางหนาอยางเลื่อนลอย
ทามกลางความหวังอันริบหรี่ ตรินลากผมไปกินขาวเที่ยงที่หนาโรงพยาบาลโดยมีเมธคอยพูดจาขมขูวาถาไมยอมกินขาวจะไมยอม
ยกเพื่อนใหกับผม ลูกแพรหนุนหลังผมใหเดิน ปรินเดินเอื่อยๆ ไมไดเดือดเนื้อรอนใจแตอยางใด พวกเราหาอะไรกินงายๆ เพราะทุก
คนอยากรีบกินแลวรีบกลับไปหานอง
ขณะที่กินขาวเที่ยงอยูนั้นปรินก็ขอรองใหเมธและลูกแพรเลาเรื่องของวินดี้สมัยเปนเด็กใหพวกเราฟง ผมและปรินนั่งฟงอยางตั้งใจ
สวนตรินเขาจะคอยเสริมบาง พอถึงเรื่องที่เขาเคยไดยินมากอนตรินจะบอกวา “จําไดๆ นองกุลเคยเลาใหฟง” แลวเขาก็จะยิ้ม
วีรกรรมของสามสหายทําใหพวกเราหัวเราะไดอีกครั้ง
ตอนนี้หองผมกลายเปนออฟฟศพี่เขาไปแลวเรียบรอยครับ ไอพี่ทองบอกวาอยากจะรีบเคลียรงานเพราะวาพออนุญาตใหพี่แกพักได
พี่เขาจึงวางแผนไววาอาทิตยหนาจะพาผมไปพักฟน แตที่ไหนนั้นไอพี่ทองไมไดบอกผมครับ
“วินอยากลองเดิน”
“ไมเอาเดี๋ยวกระทบกระเทือนแผล”
“ไมยักรูวาพี่เปามนตแลวทําใหวินหายเจ็บ” ผมตอบเอาใจ
“เมื่อกี้วินโกหก...ไมหายอะ ยังเจ็บอยูเลย”
“จริงหรือ...” ไอพี่ทองมุนคิ้วเล็กนอยกอนเปลี่ยนสีหนาเปนเขาใจยามพูดประโยคถัดมา “แตมันก็นาจะใช เพราะพี่ไมใชผูวิเศษ เปน
เพียงผูชายที่ใจมั่นรักเธอ ไมมีฤทธิ์เดช มีเพียงหัวใจที่ใฝเฝารักเธอ...” คราวนี้แววระยิบระยับในดวงตาคมกริบกับคําพูดที่ใสทํานอง
เพลงเขาไปทําใหผมเมินหนาหนี
“ไอพี่ทอง...เนาวะ...” พึมพําตอวาอีกฝายดวยความรูสึกรอนผาวบนใบหนา
“หึหึ” แตไอพี่บากลับหัวเราะชอบใจซะนี่
“อะไร” ผมขานรับเสียงอูอี้
“พรุงนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลแลว” พี่เขาทวนคําพูด
สวนปรินเวลาที่เขามาหาเยี่ยมผมตองลากพี่รันเขามาดวยเสมอ ครั้งแรกผมคิดวาเขาคงไมอยากใหตรินลําบากใจยามตองเผชิญหนา
กับเมธพรอมกัน แตผมก็เขาใจผิดเพราะไมวาเมธกับตรินจะมาดวยหรือเปลา พี่รันจะยืนอยูขางเขาตลอด ผมเคยแซวคนทั้งคูวา
เดี๋ยวนี้ตัวติดกันเลยนะ ปรินตอบผมกลับมาวากลัวปากโปง เลยตองหาตัวชวย พอพูดจบพี่รันก็ปดปากปริน แตใชมือนะครับไมใชใช
ปาก ดีหนอยเพราะถึงแมผมจะเห็นบอยๆ แตมันก็ยังไมชินสักที ผมไมรูหรอกนะวาปรินเก็บความลับอะไรไว เพราะผมเคยถามไป
แลว แตเขาก็บอกวาเรื่องของผูใหญเด็กไมเกี่ยว
“พอแลว...” ผมเอียงหนาหนีเมื่อพี่เขาทําทาจะจูบผมอีกครั้ง
“จะลุกไมลุก” ผมทําเสียงจริงจัง
“ทําไม พี่พาวินไปพบลูกเมียที่ซอนไวหรือ”
“เฮย...ไมม…
ี พี่ไมมีลูกเมียที่ไหนซอนไวทั้งนั้น...” ไอพี่ทองสะดุง รีบแกตัวเปนพัลวัน
“งั้นเรื่องอะไร”
“ก็อยางที่บอก พรุงนี้ออกจากโรงพยาบาลแลวพี่จะพาไป”
“พี่ครับ...” แตความรูสึกบางอยางที่คางคาใจอยูทําใหผมอยากระบายใหพี่ฟง
“วาไงครับ ที่รัก” ไอพี่ทองตะแคงขางมาทางผม มือปดปอยผมออกใหอยางออนโยน
“ฝนวายังไง”
“ครับพี่เขาใจ” พี่เขายืนยันกอนจะจูบหนาผากผมแลวบอกกับผมวา
“พรุงนี้ออกจากโรงพยาบาลแลว พี่จะพาวินดี้ไปหาตา”
วันนี้เปนอีกวันที่ผมเจ็บปวดมากที่สุดเพราะตระหนักไดวาการไดมองคนรักน้ําตาไหลพราก แตคําปลอบประโลมของผมกลับไมมีผล
ใดๆ นั้นมันทรมานขนาดไหน หลายวันที่ผานมาผมรองขอใหความเจ็บปวดของนองยกมาไวที่ผม วันนี้ผมก็ยังอยากใหคําขอนั้นเปน
จริงขึ้นมา
“ฮึก...ฮึก...ทําไมถึงเปนแบบนี้ละ...ฮึก...ทําไม...วินไมเชื่อ...ไมจริง...”
ผมมองไปทางครอบครัวของนองซึ่งมองมาที่เราทั้งคูดวยสายตาหวงใย แมของวินดี้ทําทาจะเดินเขามาหานองแตก็ถูกพอเลี้ยงรั้งไว
เธอซบหนาลงกับฝามือตัวเอง คงทรมานแทบขาดใจที่เห็นลูกในอกเจ็บปวดอีกครั้ง ตรินซึ่งยืนอยูไมหางสงสายตาหวงใยมาให ผม
รับรูไดวาทุกคนกําลังฝากความหวังไวที่ผม
เทาที่ฟงมาทําใหผมแทบไมอยากนึกเลยวาสภาพจิตใจของนองจะเปนอยางไรหากคราวนี้วินดี้รูเรื่องการตายของตา ที่ทําไดก็คือการ
หลีกเลี่ยงไมใหสิ่งใดมากระทบกระเทือนจิตใจนอง ซึ่งก็พอจะเรียนรูไดจากอดีต วินดี้ไมชอบใหใครปลอบวาตาไปสบายแลว ผมก็จะ
ไมพูด วินดี้ไมชอบไดยินเรื่องการตายของตา ผมก็สั่งใหทุกคนปดปาก วินดี้จะไมยอมหางจากโลงศพของตา นั่งเฝาไมหลับไมนอน
ผมก็พานองมาหาตาในวันสุดทาย วินดี้ไมชอบยามที่ใครบอกใหรักตัวเอง ใหกินขาว ใหพักผอน ผมก็จะไมบอกแตจะแสดงออกให
นองรูวา ผมและคนอื่นๆ นั้นรักนองแคไหน
“ฮึก...ตาไมไดจากวินไปไหน...ฮึก...แตวินแคมองไมเห็น...ฮึก...” นองทวนคําพูดผม
“ถึงวินจะมองไมเห็น...ถึงตาจะจากไป...แตตาจะอยูในใจวินเสมอยามเมื่อนึกถึง...ความรักของตาที่มีให...ไมมีวันสูญสลาย...ฮึก...
ฮึก...ฮือ...” พอพูดจบนองก็ปลอยโฮออกมาอีกครั้ง
“เมธ...ลูกแพร...ตริน...ปริน...” นองเรียกชื่อของคนสําคัญของนองซึ่งกําลังเดินเขามาในศาลาและหยุดอยูตรงหนาพวกผม
ถึงแมงานศพของตาจะผานพนไปพรอมกับวินดี้ที่เขมแข็งมากพอจะเดินไปวางดอกไมจัน มองหนาตาและกลาวคําลาเปนครั้งสุดทาย
แตสภาพจิตใจของวินดี้ยังคงไมปรกติ หัวใจของนองยังคงบอบซ้ําอยูมาก ยามใดที่วินดี้อยูคนเดียวนองจะเกิดอาการซึมเศรา มองไป
ขางหนาอยางเลื่อนลอย น้ําตาไหลออกมาโดยที่นองไมรูตัว ความหวาดกลัวจากการตื่นขึ้นมาแลวพบวาไดเสียคนสําคัญไปทําให
วินดี้หวาดผวาตลอดเวลา
“กุลทําอะไรอยูแมเขาไปไดไหม...กุลเห็นบอกวาอยากวาดรูป พอเอากระดาษกับสีมาให...กุลปรินจะไปทํางานแลวฝากรดน้ําเจาชาง
ใหดวย...กุลพี่จะทําตะโกอยากลองทําดูไหม...” สวนนี้เปนอาการของทุกคนที่ตองรายงานตัวกับนอง สื่อความรักความหวงใยผาน
คําพูดและการกระทํา
นอกจากคนในบานแลวอีกหลายคนก็ยังไดรับประโยชนจากนองเชนเดียวกัน ยกตัวอยางเชน
“คืนนี้พี่ลากเมียพี่ออกจากหองตรินเลยนะ” พอไดโอกาสมันก็มาเขนเขี้ยวใสผม
“ทําไมวินกลับมานอนที่หองไดละ” นองถามเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเชา
“พี่ไปอุมวินดี้มาเองละ กลัวตื่นมาไมเห็นพี่แลวจะเรียกหาอีก” ผมก็อาศัยจุดออนของนองมาอางเหมือนกันครับ เรื่องอะไรผมจะ
ปลอยใหความซื่อบื้อของไอเมธมาทําใหขางกายผมวางเปลา ผมยังมีทางเลื้อยได ก็จะเลื้อยตอไปครับ
“ไปกินที่บานตัวเองสิ” ปรินมันยังไมลดละ
“หึหึ...จะหลับตอบนตัวพี่หรือครับ” ผมโยกตัวไปมาอยางตองการกลอมอีกฝาย
“เดี๋ยวไปนอนตอบนเตียงดีกวานะ”
“ไมเอา” นองปฏิเสธทันทีเมื่อผมพูดจบ
“ไมอยากนอนคนเดียว” นองพูดตอ
“งานมีปญหาอีกแลวหรือครับ” แววกังวลยังเดนชัดในดวงตาของนอง
“ใหพี่ไปจริงหรือ...เอาอยางนี้ดีไหม...วินดี้ไปกับพี่ดวย” บางอยางที่ผลุดขึ้นมาในหัวทําใหผมชวนนองไปนั่งฟงกับผมดวย
สรุปคือผมกินพิซซาไดเพราะกลิ่นเครื่องเทศกลบกลิ่นชีสและชีสที่ใชเปนประเภทอบแลวยืดตัว แตอาหารอยางอื่นที่มีชีสเปน
สวนประกอบถาเลี่ยงไดก็จะเลี่ยงครับ แตวันนี้ไอพี่ทองชวนผมไปกินอาหารรัสเซียพรอมกับยืนยันกับผมวาอาหารของชาตินี้กลิ่นชีส
ไมฉุนอยางอาหารอิตาเลี่ยน แถมขนมปงยังอรอยอยาบอกใคร ถาเปนเวลาปรกติถึงจะโนมนาวยังไง ผมก็ตองโบกมือลาทันที ทวา
วันนี้กลับอยากเอาใจพี่เขาบาง เห็นคุยเรื่องงานเครียดๆ มาพอแลว หากพี่อยากกินอาหารอรอยๆ ผมก็ยอมตามใจครับ
พอผมกับพี่ขยับพี่ยักษซึ่งขวางทางเราอยูก็เขาประชิดตัวทันที เสี้ยววินาทีริมฝปากพี่เขากระตุกเล็กนอยหากแตใบหนายังคงนิ่งเฉย
ผมสัมผัสไดถึงอํานาจบางอยางที่ออกมาจากตัวพี่ พี่ดูนาเกรงขาม รังสีอํามหิตที่อยูรอบตัวทําใหพี่เขาไมใชงูเขียวในสายตาของผม
อีกตอไป แตเปนพญานาคผูยิ่งใหญซึ่งกําลังแผอํานาจกระจายไปทั่ว
“อะแฮม...” ไอพี่ทองกระแอมหลังจากที่เขาผละออกไปพรอมกับสายตาของผมที่มองตามแผนหลังของเขา
“อยามองคนอื่นดวยสายตาอยางนั้นนะครับ...พี่หึง...” ไอพี่ทองพูดโดยไมยอมเงยหนาขึ้นจากเมนู
ครั้งแรกผมคิดวาเขาเปนลูกชายคนเล็กของเจานายผูสูงศักดิ์ซึ่งหลุดออกมาจากนิยายโรมานซที่ลูกแพรชอบอานเสียอีก ผมสีบลอนด
ของเขาตัดกับนัยนตาสีฟาซึ่งทอประกายระยิบระยับ เจิดจรัสยามเขาแยมยิ้ม มันแพรวพราวราวกับblue diamondอันเปนอัญมณีล้ํา
คา ใบหนาเรียวอยางลูกครึ่งตอบรับกับจมูกขึ้นสันสวย ผิวขาวละเอียดอยางคนสุขภาพดี รูปรางเพรียว ความสูงของเขานาจะพอๆ
กับผม
“ไมตองบอกก็รูวาเหมือนใคร” ไอพี่ทองเอื้อมมือมาจับคางผมเขยาเบาๆ
“มั่นใจขนาดนั้นเชียว” ผมยนจมูก
“หะ...” กอนจะอุทานตาโตเมื่อนึกออกวาคนที่พี่กลาวถึงคือใคร
“ถาอยางนั้นใคร...”
“คงไมมีอะไรมั้ง” ถึงผมจะตอบอยางนั้นแตภายในใจก็ยังอดหวาดหวั่นไมได
“ไมเคย...อืม...อาจจะเคยมั้ง...” ผมตอบอยางมั่นใจในตอนแรกกอนจะลังแลเมื่อเพิ่งจะนึกออกวาบางทีผมอาจจะรูจักเขามากอน
“แคนั้นหรือ” เกรซถามตอ
“เกรซกําลังหึงกุลกับคุณภาคินอยูหรือ”
“เฮย...เปลานะ...วาแตกุลเถอะ ตั้งใจประกาศวาเปนแฟนกับคุณนาคินทรตอหนาเกรซใชไหมละ”
แตแลวผมก็ตองอุทานอยางตกใจ “เกิดอะไรขึ้น!”
“พี่ภาค!” เกรซเรียกชื่อคนรักของเขาเสียงดัง
“ภาคินเลือดขึ้นหนา” มินาละผมถึงเห็นเขาเตะกระถางตนไมซะแตกกระจายเลย
“ไปบานใหญ” พี่พูดกับพี่คีตาซึ่งเปนคนขับโดยพี่รันนั่งคูอยูดานหนา
ผมยังคงนิ่งถึงแมในใจจะพูดกับพี่วา...ผมกินอะไรก็ได...กินที่ไหนก็ได...ขอแคพี่เขาอยูดวยเทานั้นก็เพียงพอ...
ยิ่งพอที่ประชุมวิเคราะหถึงความราวฉานและการชิงอํานาจกันภายในของบริษัทคูแขง สิ่งที่ผมไมคาดคิดมากอนก็ถูกเปดเผยออกมา
เบื้องหลังที่ซับซอนมากกวาการแยงผลประโยชนระหวางทั้งสองฝายโดยใชเอ็มเจเปนเดิมพัน...มีใครบางคนในชินกฤษยืมมือพี่ให
โคนลมคุณภาคิน!
“ลุกออกไปเลย” พรอมกับสั่งดวยน้ําเสียงไมพอใจทั้งที่ใบหนารอนผาว
ไอพี่ทองอืดอาดลุกขึ้นนั่ง ลูบหูตัวเองปอยๆ “หงุดหงิดงายแถมยังดุอีก เมียใครวะเนี่ย” บนอุบอิบกอนคอนผมอีกตางหาก
“มันดึกแลววินดี้จะกลับทําไม” ไอพี่ทองหามพรอมจับแขนผมไว
“อาก...ไอพี่ทอง…หยุดเดี๋ยวนี้นะ...”
“บอกมากอนวาจะยอมใหพี่จูบดีๆ หรือเปลา”
“วินดี้อยากรูเรื่องอะไรละครับ” ผมเอนตัวลงนอนหนุนตักนองอีกครั้ง
“พี่ทําเขาโกรธขนาดนั้นไมเรียกวาหาเรื่องจะเรียกวาอะไร”
“เรียกวาผูกมิตร…โอย...มากัดพี่ทําไมเนี่ย” ผมดึงมือกลับแตวินดี้กลับเยื้อไว
หลังจากผานชวงเวลาหนาสิ่วหนาขวานทําใหผมเรียนรูอะไรหลายอยาง อยางแรกเลยก็คือการแกแคนไมใชทางแกปญหาแมแตนอย
ยิ่งแรงเทาไหร ฝายโนนก็ยิ่งตอบโตกลับมาไมแพกัน เมื่อกอนมีแคผมกับพอ ซึ่งเราทั้งคูเปนไมยืนตนที่ทนแดดทนฝน ไมวาพายุจะ
โหมกระหน่ําแคไหน เราไมเคยกลัวเกรง หากแตคราวนี้ทุกอยางเปลี่ยนไป
พอทําการขุดคนจนมั่นใจกอนจะนําขาวนี้ไปบอกกับนายใหญของชินกฤษดวยตัวเอง ในขณะที่ผมตองบอกเรื่องนี้กับภาคิน
เชนเดียวกัน การจะเดินเขาไปพูดกับภาคินอยางเปนมิตรมันก็กระไรอยู ผมเลยตองทําเปนไปกอกวนเขา พาวินดี้ไปเยยหยันอีกฝาย
เพื่อหลอกตาคนอื่น ผลออกมาคือภาคินเลือดขึ้นหนาหลังจากรูความจริง!
“แลวพี่รูไหมครับวาใครอยูเบื้องหลัง” นองถามหลังจากผมเลาทุกอยางใหฟงอยางละเอียด
“แลวตอจากนี้มันจะเปนยังไง”
“ภาคินก็จะฆาไอนั่นแทนพี่ไงครับ”
“หะ!”
“พี่ก็แคบอกความจริงเขาอีกอยาง”
“พี่บอกเขาวาหากพี่ไมจับตัวคนรักเขาไปในวันนั้น บางทีคนของเขาอาจไดผัวเพิ่มอีกเปนสิบ”
“ละ...แลว...เกรซ...”
“ครับ วินวาพี่ตัดสินใจถูกแลวที่ทําอยางนั้น”
“แลววินดี้คิดวาไง พอจะรวมงานกับภาคินไดไหม”
“วินดี้ตอบตกลงไปแลวหรือยัง”
“ยัง วินรอถามพี่กอน”
“แต...”
“หึหึ” กอนจะหัวเราะออกมาพรอมกับสายหนาอยางยอมจํานน
“ฝนดีนะครับ” ผมกระซิบบอก
“เชนกันครับ” นองตอบพรอมกับยกมือขึ้นมาโอบกอดผมไว
คุณจะเชื่อไหมวาประเด็นการรวมลงทุนกับชินกฤษนั้นนองเปนคนเสนอขึ้นมา ในวันที่ลุงเรียวของนองมาอธิบายรายละเอียดทุกอยาง
ใหวินดี้ฟงที่บาน นองกลาวขึ้นมาลอยๆ วาหากไดรวมลงทุนกันสองบริษัทพรอมกันนาจะดีกวาตองเลือกขางใดขางหนึ่ง คําพูดนั้นทํา
ใหผมเก็บมาคิด แลววันนี้ทุกอยางก็จบลงพรอมกับการเริ่มตนใหม
“ที่รักลุกเร็ว!” น้ําเสียงยินดีของพี่ที่ตะโกนเรียกยิ่งทําใหผมเกิดความสงสัยมากขึ้น
“เจาชางบานแลว!”
“เจาชางบาน!” ผมทวนคําเสียงสูงอยางไมเชื่อหูกอนจะรีบสอดแขนเขาไปในเสื้ออยางเรงรีบเมื่อสมองประมวลผล
“มันขาวหมดเลย” ผมบอกหลังจากดูสีดอกของเจาชางทุกชอ
“ใชขาวหมด” ตรินบอกผมดวยรอยยิ้มเต็มใบหนา
“ถาอยางนั้น เจาชางก็เปน...”
ผมขามผานชวงเวลาแหงความเศราไปพรอมกับทุกคน ขามผานชวงเวลาแหงการเสียน้ําตาโดยมีคนรอบขางชวยเช็ดน้ําตาให ผม
กลับมายิ้ม หัวเราะไดอีกครั้งก็เพราะความรักของพวกเขา
ปรินยอมสวมแหวนที่พี่รันซื้อใหดวยทาทางปนปงแตกลับไมเคยถอดมันออกเลยสักครั้ง ปรินยังไลพี่รันกลับบานเสมอแตพอเวลาพี่รัน
จะกลับปรินตองหาเรื่องทะเลาะ หนางอ งอนตุบปองจนพี่รันตองตามงอ สุดทายพี่รันก็ตองคางที่บานผมทุกที
“มองทําไม ถึงจะเปนแคคูควงแลวบอกรักกันไมไดหรือไง”
“เมธมาทันหรือเปลา” เสียงเมธที่ดังเขามาใกลพรอมทาทางกระหืดกระหอบของเขาทําใหพวกเราหันหนาไปมอง
“ทําไมมาเร็วจัง” ตรินถามพรอมกับเดินเขาไปหาเมธ
“วางสายกับตรินแลวเมธก็รีบมาเลย” เมธตอบพลางยิ้ม
“แลวนี่ขับรถเร็วใชไหม” ตรินถามดวยน้ําเสียงไมสบายใจปนหวงใยอยูในที
“เมธก็รักตรินนะ!”
“ก็เมธไมตองรอมาพรอมใครนี่” เมธบอกพรอมกับหลิ่วตาใหอยางลอเลียนกอนสงยิ้มใหพี่มิ้นเปนการทักทาย
“กรี๊ด...”
“ปรินหยุดนะเวย”
“เปยกหมดแลว”
“อาก ฉีดไปทางอื่นสิโวย”
“ปริน!” พี่เขาเรียกชื่อมันเสียงต่ํา
“อาก...พี่รันชวยดวย” สวนนี้เปนเสียงมันเมื่อพวกเรากระโจนเขาไปรุมสกรัม
“อะไร” ผมแสรงถามถึงอาการของพี่ทั้งที่รูอยูแลววาพี่เขาตองการอะไร
“วินดี้คงไมคิดวาพี่มาถึงนี่เพื่อจะถามเรื่องอาหารเย็นหรอกนะ”
“เขามาขอกําลังใจ ประชุมเครียดมาแตเชาแลว”
“อะ...อืม...” แลวพี่ก็ทวงกําลังใจที่สัมผัสไดดวยการดึงผมไปจูบอยางดูดดื่ม
“ไปไดแลวเดี๋ยวคนอื่นรอ” ผมออมแอมบอกเมื่อพี่ยังออยอิ่งไมยอมขยับตัว
“จะไปก็ตอเมื่อวินดี้สัญญาวาเย็นนี้จะตามใจพี่” ผมกรอกตา
“วาไงครับ”
“หื่น!” ผมตอวา
“ก็ลองไปหื่นกับคนอื่นดูสิ”
“ไมเห็นตองหวงเลย เดี๋ยวพี่ก็ไดอานวาเขียนอะไร”
หากนับเม็ดทรายในซาฮาราได...คงรูวา...เรารักกันมากแคไหน
หากวัดความกวางของจักรวาลได...คงไดรูวา...ขอบเขตความรักของเราสิ้นสุดลงที่ใด
หากหยั่งใจมนุษยได...คงไดรูวา...ความรักของเราลึกซึ้งเพียงใด
หากวัดความหนาของพื้นพิภพได...คงไดรูวา...เรานักแนนในรักและผูกพันกันขนาดไหน
หากสั่งใหเวลาหยุดเดิน...คงไดรูวา...รักของเรายาวนานเทาใด
“วินรักพี่”
“พี่ก็รักวินดี้เชนกันครับ”
…The End…
บทสงทาย
กอนหนาที่พี่แกจะเดินเขาไปอาบน้ําแลวปลอยใหผมนั่งเขียนอะไรเรื่อยเปอยอยูนี่พี่เขาก็มาทําใหผมอยากจะอวกออกมาใหรูแลวรู
รอด
“ที่รักมองเห็นไดอารี่ที่พี่วางไวใหใชไหม” พี่ถามขณะปลดกระดุมเสื้อ
“เขาไปอาบน้ําเลยไป กอนที่วินจะหนามืดขึ้นมาจริงๆ”
เริ่มจากวันที่ชะตาชีวิตผมพลิกผันมาเจอพี่ก็แลวกันนะครับ เรื่องมันเริ่มตนจาก
“มีอะไรหรือ” ผมถามเธอกลับไป
“ทําไมละกุลลูกแพรไมดีตรงไหน” เธอถามผมดวยน้ําเสียงสั่นพรา
“หรือวากุลรังเกียจลูกแพร” แววตาของเธอไหวระริก
“เราเลิกกันเถอะลูกแพร”
“กุลหมายความวาไง”
...วิน...
“หื่นไมบันยะบันยัง” นองบอกพรอมกับคอนผม
“ถาไมหื่นเราก็ไมไดเจอกันสิครับ” ผมลากสังขารไปทิ้งตัวลงบนที่นอน
และนี่คือประเด็นสําคัญที่พวกมันมาหาผม!
ดวยทุกคนรูวาที่ผานมาผมไมเคยขาดคนนอนขางกาย จากหนาตาที่พอดูไดบวกฐานะทางครอบครัวของผมทําใหมีคนเขามาใหเลือก
ไมหวาดไมไหว ไมวาจะหญิงหรือชายผมมั่วไดหมด พวกมันก็เหมือนกัน เซ็กสจัดกันทุกคน แตตลอดชวงเวลาสามเดือนที่ผานมาผม
แทบไมยุงเกี่ยวกับใครเลย ไมใชวาผมหมดรูสึกทางเพศหรอกนะครับ แตมันรูสึกแปลกๆ หลังจากที่มีเซ็กสแลวเราก็จบกัน เหมือนใน
ใจผมมีชองวางอยูในนั้น
“จะไมหันไปมองเขาหนอยหรือ” ไอแซคสะกิดผม
“ทําไมเขาไมมองกูอยางนี้บางวะ” ไอเกงก็เปนไปกับคนอื่น
“ลูกเปนชายหรือหญิง” ผมถาม
“เจอมึงพอดีเลย ฝากไปบอกไอพวกนั้นดวยวากูไปกอนแลวกัน”
“ของกูซะที่ไหน ของมึงตางหาก”
“เรื่องของกู?” ผมทวนถาม
“พูดอะไรของมึง”
“เปลา” มันปฏิเสธเสียงสูง
ออ...เกือบลืมถามเปนการทิ้งทาย...
วินดี้จําไดไหมวาคืนนั้น วินดี้ตกเปนของพี่กี่ครั้ง?
...อายทอง...