Professional Documents
Culture Documents
ห้าธาตุสะท้านภพ 1-600
ห้าธาตุสะท้านภพ 1-600
ในกาลที่จักรวาลนับหมื่นหลอมรวมเขาดวยกัน เมื่อนั้นพลังวิญญาณไดสูญสลาย
ไป เปนเหตุใหเกิดวิกฤตการณการลมสลายแหงโลกบำเพ็ญตน โลกซึ่งกอนนี้เคยเรือง
อำนาจเกรียงไกรยาวนานผานมาแลวรวมหลายลานปแหงบรรพกาล
ทวาครั้น “แดนราง” บุกรุกกินอาณาเขตเปนวงกวาง ทำให “อูสิงเทียน” แดนที่
ผูกลายอมสละชีวิตเพื่อกอตั้งขึ้น ไดกลายมาเปนที่พึ่งสุดทายของเหลาผูบำเพ็ญตน
ลวงพนมาหลายพันป “อายฮุย” ชายหนุมแสนต่ำตอยระหกระเหินเดินทางมา
จากดินแดนเกา มาสมัครเปนแรงงานในแดนรางเปนระยะเวลาสามป ครั้นแลวจับ
พลัดจับผลูไดโอกาสเขาสู “อูสิงเทียน” เพื่อศึกษาตอ
เด็กหนุมผูเปยมลนดวยแรงปรารถนาที่จะพิชิตโชคชะตาและมีพลังตอสูอันแกรง
กลาประดุจอสูรราย เขาเพียรฝกฝนเพื่อแสวงหาความแข็งแกรงและพลังอันมหาศาล
แตหารูไมวาตนจะเปนผูสรางความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ
บทที่ 1 การตัดสินใจ
เจาอวนที่อยูขางกายในปากเคี้ยวตังเมสงเสียงดังแจบๆ แสงอาทิตยอัสดงที่สาด
แสงไปทั่วพื้นแผนดิน สายลมออนๆ ที่พัดผานราวขนนก ชางไรซึ่งวี่แววของจิตสังหาร
หรือความหนาวเหน็บเหมือนดังทุกที ตัวของอายฮุยเองก็ไมรูวาในภายหลังจะจดจำ
วันนี้ไดหรือไม
“ตัดสินใจไดแลวหรือ” เจาอวนพึมพำถามขึ้น
“ตัดสินใจแลว” อายฮุยตอบดวยความหนักแนน เขาไดตัดสินใจมาตั้งแตแรกแลว
ไมมีสิ่งใดคูควรแกการลังเล
เจาอวนราวกับกำลังทอดถอนใจ และเหมือนกับกำลังอิจฉาพลางกลาววา “เจา
อยาไดพายแพแกพวกกระจอกนั่น ถาหากเปนเชนนั้นมันจะทำใหขารูสึกขายหนา ขา
ไมเขาใจจริงๆ การฆาฟนกันมีอะไรดี ไดเงินกอนนี้มาก็มากพอที่จะใหพวกเราใชชีวิตที่
เหลือกันไดอยางสบายๆ! คนที่เขาแดนรางไปกับพวกเรามีกี่คน สองพันคน! มีเพียง
พวกเราสองคนที่รอดออกมาได! นี่คือเงินคาชีวิต เขาใจไหม! ถาขาตายไปแลว เงิน
พวกนี้คนที่บานขายังไดรับ ถาหากเจาตายไปเลา...”
“ดังนั้นขาจำเปนตองมีชีวิตรอด” อายฮุยพูดตัดบทขึ้นยิ่งพูดเขายิ่งไมสงบ เจา
อวนไดลุกขึ้นยืน ใบหนาของเขาที่ดื้อรั้นในตอนนี้กลับสงบอยางที่ไมอาจอธิบายได
โอกาสที่จะสามารถเขาอูสิงเทียนนั้นไมใชจะไดมางายๆ ความสามารถของเขา
ไมไดมีความโดดเดน แตเดิมถือไดวาไมมีคุณสมบัติที่จะเขาอูสิงเทียน ทวาในสามปที่
ผานมาการแสดงออกของเขานับไดวายอดเยี่ยมเปนอยางมาก ภายใตสถานการณที่
ซับซอนกดดันเขากลับแสดงออกถึงความสงบสุขุม ในเวลาคับขันสามารถแสดงถึง
ความกลาหาญและจิตวิญญาณแหงการตอสู สิ่งเหลานี้ลวนสลักลงไปในใจของผูคนที่
ไดพบเห็น
ในตอนที่เขาแสดงเจตจำนงที่จะสงคำขอเพื่อเขารวมกับอูสิงเทียน เบื้องบนไดรับ
ไปพิจารณาแลวในทายที่สุดก็ไดอนุมัติ
แรงงานจำนวนสองพันคน มีเพียงแคสองคนที่โชคดีรอดมาได แมจะพูดวาเปน
เพราะโชคชะตาเสียสวนใหญ ก็เพียงพอตอการอธิบายปญหาตางๆ ไดมากมาย
เจาอวนหยอนตัวนั่งลงอยางผิดหวัง ความดื้อรั้นของอายฮุยเปนสิ่งที่เขารูดีอยูแก
ใจ คิดไปคิดมา เขาเริ่มที่จะกลับมากระตือรือรนขึ้นอีกครั้ง พรอมพูดดวยใบหนาที่
จริงจังวา “จำไววาตองเขียนใบเงินชดเชยนั่นเปนชื่อของขา ยกใหขาดีกวาใหผูอื่นอีก”
อายฮุยครานที่จะใสใจ ตัวเขากลับหันไปหยิบตนหญาสีเขียวใสปากคาบไว พลาง
เอามือรองศีรษะนอนลงบนพื้นอยางสบายใจ สามปมานี้ในแดนราง ทุกๆ วันลวนตอง
ตึงเครียดอยางถึงขีดสุด ทั้งคาวเลือด ความเปนความตาย การฆาฟน ที่นั่นคือโลกอัน
หนาวเหน็บที่มีแตความมืดมิดและสีแดงฉาน
การที่ขามผานสามปนี้มาไดอยางไรนั้น เขาไมรูและก็ไมอยากจะนึกยอนกลับไป
เพราะมันไมใชความทรงจำอะไรที่สวยงามนัก
แสงอาทิตยอัสดงสาดสองลงบนราง ใหความอบอุนแสนสบาย คิ้วของอายฮุยได
คลายออกอยางไมรูตัว ใบหนาที่แข็งกระดางและดื้อรั้นคอยๆ ผอนคลายลงชางดูสงบ
และเต็มไปดวยความสุข
ชางสบายเสียจริง!
ความอบอุนแสนสบายนี้ทำใหรางกายของเขาคอยๆ ผอนคลายลง ความคิดของ
อายฮุยเองก็ผอนคลายลงเชนกัน ราวกับหมอกที่ปกคลุมสลายไปและกระจายออก
อยางเงียบงัน
แสงอาทิตยอันอบอุน สายลมอันแผวเบา ใหความรูสึกที่ทั้งแปลกและคุนเคย
ปลุกความทรงจำในสวนลึกของสมองที่ทั้งแปลกและคุนเคยเหลานั้นใหตื่นขึ้น
เมื่อหกปกอนแสงอาทิตยและสายลมที่โรงฝกดาบ ก็เปนดังเชนในยามนี้
ครั้งกอนโนนในยามที่พระอาทิตยยังไมขึ้นสูขอบฟา เขามักจะสูดหายใจรับอากาศ
เย็นบริสุทธิ์เขาปอด แลวก็พรอมเริ่มทำความสะอาดคลังเก็บของเกาไรประโยชนที่ถูก
ปรับเปลี่ยนมาเปนโรงฝก เริ่มดวยการเช็ดทำความสะอาดที่พื้นกอนสามรอบ ซึ่งถือได
วาเปนการอบอุนรางกาย เมื่อเช็ดทำความสะอาดพื้นเสร็จ จึงเริ่มทำความสะอาดชั้น
วางของไมตอ ไมทั้งหมดลวนเปนไมที่เขาเก็บมาจากถนนแถวนั้น ความสั้นยาวหนา
บางลวนตางกัน รูปรางของชั้นวางของนั้นจึงไมตองไปพูดถึงเลย
เมื่อทำความสะอาดชั้นวางของไมเสร็จ เขาก็เริ่มจัดระเบียบคัมภีรกระบี่ล้ำคาที่
เถาแกเพิ่งจะไดมา
คัมภีรกระบี่เหลานี้มีราคาตลาดอยูที่หนึ่งหยวนตอน้ำหนักยี่สิบชั่ง คัมภีรที่ทำจาก
กระดาษนั้นราคาถูก แผนเหล็กสลักตัวอักษรสีทองจะแพงขึ้นมาหนอย สวนคัมภีรที่
ทำจากไมไผคือไดวาไรราคาที่สุด งานที่ทำถือไดวาไมนอย แตทวาก็ไมมีคนคอยเรงเรา
แตไหนแตไรมาอายฮุยก็ไมเคยเรงรีบ เขาถือโอกาสเปดตำราไปมา วิจารณบางสัก
หนอย
ในบางครั้ง เขาก็เพอฝนขึ้นมา หากวาอยูในยุคบำเพ็ญตน ตัวเขาเองจะมีหนามีตา
ขนาดไหน ขายคัมภีรกระบี่คงจะตองขายจนมือไมหมดเรี่ยวแรงเปนแน
เมื่อจัดระเบียบคัมภีรกระบี่เสร็จ เขาก็เริ่มจัดกระบี่บินและกระบี่วิเศษ
ในยามนี้เปนเวลาที่พระอาทิตยขึ้นแลว แสนจะอบอุน เหมือนกับในตอนนี้ มุม
ปากของอายฮุยคอยๆ ยกขึ้นเปนรอยยิ้มบางๆ อยางไมรูตัว
ถึงแมวาพลังวิญญาณของกระบี่บินและกระบี่วิเศษจะสูญสิ้นไป มืดมัวไรแสง เปน
เพียงแคซากเหล็กกองหนึ่ง แตทวาเมื่ออยูภายใตแสงอาทิตย อายฮุยก็มักจะถูกความ
งามจากความโบราณของพวกมันดึงดูด
กระบี่บินนั้นเปนตัวแทนแสดงถึงจุดสูงสุดของโลกแหงการบำเพ็ญตน เปนสิ่งที่
มักจะถูกเหลาชางทำอาวุธในยุคอดีตชื่นชอบ มันทั้งแปลกประหลาด และไมวาจะ
รูปแบบใดลวนมีทั้งสิ้น บางสวนมีรูปรางที่ทำใหผูคนถึงกับดูไมออกวามันมีความ
เกี่ยวของอะไรกับกระบี่บิน.
เขาจะไมแตะตองพวกที่ขึ้นสนิมมาก เพราะหากหักขึ้นมา เถาแกจะตองดาทอเขา
เปนแน
เขาไมไดเงินคาแรง แตมีอาหารใหกินครบสามมื้อ สำหรับเด็กเรรอนที่ตองพเนจร
อยางยากลำบากกอนอายุสิบขวบนั้น การไดใชชีวิตเชนนี้เรียกไดวาสวยงามราวกับ
แสงอาทิตยในเวลานี้ก็ไมปาน เขานั้นไมอาจหาคำอธิบายใดที่จะดีไปกวานี้ได
เถาแกนั้นเปนคนดี ก็แคฝมือในการทำการคาแยไปสักหนอย.
พอคาปกติที่ไหนจะมาเปดโรงฝกดาบ
อายฮุยอยูที่โรงฝกมาสามป คนที่มาเดินเยี่ยมชมโรงฝกมีไมเกินสิบคนดวยซ้ำ พอ
มองเห็นปายโรงฝกกระบี่ที่แขวนอยูหนาประตู คนที่เห็นกวาเกาสวนลวนแตหันหนา
เดินหนีไปทั้งสิ้น
ในตอนนี้ยังจะมีที่ใดฝกดาบอยูอีกหรือ
ภายในโรงฝกดาบนอกจากคัมภีรกระบี่ กระบี่บิน และกระบี่วิเศษแลว ก็หาไดมี
สิ่งใดอีก เพื่อของเหลานี้เถาแกถึงกับวิ่งหาตามตลาดของเกาไปทั่วทุกหนทุกแหง
แมกระทั่งครั้งที่ไปทำการคาตางเมือง ก็จะตองนำติดไมติดมือกลับมา
พูดไดวาระดับความคลั่งไคลการฝกดาบของเถาแกนั้นถือวาสุดขีดเลยทีเดียว แค
ราคาคาขนสงก็ถือไดวามากกวาตัวราคาของพวกมันมากนัก
แนนอนวาในบางครั้ง อายฮุยรูสึกวาหากดูจากกำลังทรัพยอันนาเวทนาของเถาแกแลว
ก็ดูเหมือนวาจะมีงานอดิเรกไดแคพวกการฝกดาบตนทุนต่ำเชนนี้เทานั้น
อายฮุยเคยโนมนาวเถาแก ใหเปลี่ยนมาฝกฝนรางกายพวกนั้นดีกวา อยางไรเสียก็
ดูมีอนาคตมากกวาการฝกดาบมากมายนัก เถาแกถึงกับโกรธมาก ดาทอเขาเสียยก
ใหญ อายฮุยในตอนนั้นถึงไดเขาใจวาพรสวรรคดานการทำการคาของเถาแกนั้นชางไม
มีอะไรดีเสียจริง
อายฮุยที่ตองคอยเฝาโรงฝกอันแสนวางเปลา ก็พลอยไดฝกฝนตัวเองจากคัมภีร
กระบี่ราคาหนึ่งหยวนแตหนักถึงยี่สิบชางพวกนั้นไปดวย ไมไดฝกจนเปนนักดาบ เพียง
อาศัยโชคจากการออกกำลังอยางตอเนื่อง ทะเลาะวิวาทถือไดวารายกาจอยูไมนอย
อาศัยแคกำปนก็สามารถหาเรื่องพวกกระจอกไดถึงสองสามคน
ดวยความสามารถของเถาแกที่แย จึงทำใหการคาลมเหลวไมมีปญญาใชหนี้ จน
สุดทายก็ฆาตัวตายไป อายฮุยเสียใจกับเรื่องนี้เปนอยางมาก ถึงแมเถาแกจะเปนคนดี
แตก็ไมนับวาเปนคนที่เขมแข็ง
ติดหนี้แลวตองคืนถือเปนสัจธรรม ตามหลักแลวโรงฝกควรตกเปนของผูอื่น ในวัน
สุดทายคนทวงหนี้ไดเขามายึดโรงฝก อายฮุยไดบอกกับตนเองเชนนี้
ทวาในยามที่เขาเห็นกับตาวาชั้นหนังสือที่เขาทำอยางลวกๆ นั่นถูกดันลมลงพื้น
คัมภีรกระบี่ล้ำคากระจัดกระจายอยูเต็มพื้น ครึ่งหนึ่งนั้นคือคัมภีรที่เถาแกนำกลับมา
จากเมืองไกล เมื่อเขาเห็นชั้นวางกระบี่ที่ทุกวันเขาตองเช็ดทำความสะอาดรอบแลว
รอบเลาถูกคนทวงหนี้เหยียบย่ำจนเละเปนชิ้นๆ เถาแกเคยพูดวานั่นคือสมบัตลิ ำ้ คาที่
เขาคนพบในถ้ำแหงหนึ่งของปรมาจารยกระบี่ ในปนั้นกระบี่บินที่อยูบนชั้นเคยอาบ
โลหิตมาแลวนับพันลี้ สยบสิ้นเหลาขุนศึก ในยามที่เขาเห็นกระดิ่งลมของกระบี่ เกา
เสียงที่แขวนบนชายคาถูกดึงออกเปนชิ้นๆ เถาแกเคยพูดวานั่นคือสมบัติล้ำค าของ
พรรคกระบี่เกาเสียงแหงภูเขาเจิ้นซานที่มีชื่อเสียงเกริกกองในกาลกอน มีคำกลาววา
เกากระบี่ปรากฏ ทองฟาไรเสียง
เขาไมอาจทนได ราวกับหมาปาตัวหนึ่งที่บาดเจ็บผอมโซใกลตาย พุงตัวเขาไป
อยางบาคลั่ง
เปนเพียงแคการดิ้นรนเทานั้น ใช มันเปนแคการดิ้นรนกอนตายเทานั้น
อายฮุยไมรูชื่อของเถาแก เขาเพียงแคหาไมแผนหนึ่งมาเขียนคำวาเถาแกสอง
ตัวอักษรนี้ทำเปนแผนปายวิญญาณ นำกิ่งไมเล็กๆ มาแทนธูป นำคัมภีรกระบี่ทั้งหมด
ที่สามารถเผาไดเผาสงไปใหเถาแก หลังจากคำนับเสร็ จก็ ตั้งจิตภาวนาให เทพบน
สวรรคอำนวยพรใหเถาแกที่อยูบนสวรรคสามารถบรรลุความฝนเรื่องการฝกกระบี่ได
เขาพารางตนที่เต็มไปดวยบาดแผล จองมองซากโรงฝกอยูพักใหญ แลวจึงไดหัน
หลังจากไป เขาเดินผานทองถนนทามกลางแสงอาทิตยที่ทอแสงกระทบหลังคาที่อยู
ตางระดับกัน เกิดเปนภาพเงาที่หลากหลายทอดลายเรื่อยไปตามทาง เขากาวเดิน
อยางไรชีวิตชีวา จิตสำนึกเขาบอกใหเดินหนาตอไป แตกลับไมรูเลยวาจะเดินหนา
ตอไปยังที่แหงใด
แมวาเวลาจะผานไปแลวหนึ่งป ความรูสึกหมดหนทางและความโดดเดี่ยวไรที่พึ่ง
นั้นยังคงแจมชัดในใจ เขาจำไดในตอนนั้นตนเองรูสึกหนาวอยูบางเล็กนอย จึงกระชับ
เสื้อที่ซักจนซีดขาว เอามือทั้งสองขางซุกไวในกระเปา แสงอาทิตยในตอนนั้นชาง
แตกตางกับตอนนี้ มันชางหนาวเหน็บไปจนถึงกระดูก
เขาเดินไปเรื่อยๆ ไมรูวาผานไปนานเพียงใด จนกระทั่งความหิวอยางรุนแรงปลุก
ใหเขาตื่นขึ้นจากความมึนงง เขาผูทั้งหนาวเหน็บและหิวโหย ไดเห็นใบประกาศรับ
แรงงานเขาแดนรางของอูสิงเทียน
เขาผูไรซึ่งหนทางใหเดิน ไรสถานที่ใหไปก็ไดเขาสมัคร
ยังดีที่ตัวเขาเองนั้นสามารถรอดออกมาได
ความคิดของอายฮุยถูกดึงกลับมา เขาพบวารางของเขาคอยๆ เกร็งขึ้นอยางไม
รูตัว เขาอดไมไดที่จะยิ้มอยางขมขื่นในใจ ชวงเวลาที่ดีเชนนี้กลับถูกเรื่องราวไมคอยดี
ในอดีตทำลายเสียแลว
เขาทอดถอนใจออกมายาวๆ คราหนึ่ง พยายามผอนคลายกลามเนื้อทั่วรางที่เกร็งแข็ง
ตลอดระยะเวลาสามปเต็ม ภายในแดนราง เขาโชคดีที่สามารถมีชีวิตรอดออกมา
ได กลุมของพวกเขาจำนวนทั้งสิ้นสองพันคนมีเพียงแคสองคนที่รอดมาได คนหนึ่งคือ
ตัวเขา อีกคนคือเฉียนไต โอ ชื่อของเจาอวนคือเฉียนไต
ครอบครัวของแรงงานที่ตายจะไดรับเงินชดเชยกอนหนึ่ง สวนคนที่รอดจะไดรับ
เงินกอนใหญ แตไหนแตไรอูสิงเทียนไมเคยตระหนี่กับเรื่องพวกนี้อยูแลว
เจาอวนนั้นเตรียมตัวที่จะกลับบาน ที่บานของเขาลวนมีแตเปนเด็กกำพราและแม
หมาย เจาอวนตัวคนเดียวตองดูแลทั้งครอบครัว แรงกดดันของเขานั้นมากกวาตนนัก
“เอาเถิด ขารูวาเจาเปนพวกตัดสินใจสิ่งใดแลวไมมีทางเปลี่ยน นิสัยของเจาก็
ไมไดดี ขอเสียก็เยอะ แตไหนแตไรไมเคยฟงคำเตือนใคร อายุของเจาก็ไมใชนอยๆ
แลว ทำตัวเชนนี้ ภายหลังจะมีหญิงใดยอมแตงดวย ใชจายเงินก็ใหนอยหนอย...”
เจาอวนยังคงจูจี้ไมเลิก ไมรูวาเปนเพราะใกลจะลาจากกันหรือไม
ปกติไมไดเปนคนที่ทนตอความจูจี้ แตอายฮุยเองก็ไมไดรูสึกรำคาญขนาดนั้น ทวา
เมื่อเขาไดยินเจาอวนพูดถึงเรื่องเงิน หนาผากก็เริ่มปวดหนึบๆ ขึ้นมาทันที เจานี่ขอแค
เรื่องเกี่ยวกับคำวาเงิน ก็จะตื่นเตนขึ้นมาทันที
เปนจริงดังคาด มองไปที่เสนเลื อดที่ คอของเจาอว นเริ่ มที่ จะเตนขึ้ น อายฮุย
ตัดสินใจอยางรวดเร็ว จากนั้นก็โยนถุงผาออกมาในทันที “ขาใหเจา!”
เจาอวนมองอายฮุยดวยสายตาที่ ไม เขาใจ กระนั้นกลับรับดวยความเร็วที ่ ไม
สอดคลองกับขนาดรางกาย เมื่อถุงผาเขาไปอยูในมือ ดวงตาที่เล็กตี่ของเจาอวนก็เบิก
จนกลมโตขึ้นมาทันที
นิ้วมือที่หยาบราวกับแครอทขยับ พริบตาเดียวก็เปดถุงผาออก เจาอวนมองดูแลว
ตื่นเตนเสียจนไขมันทั้งรางกระเพื่อมไหว
อายฮุยหันหนาที่เมินเฉยหนีไปอีกดาน ใบหนาของเจาอวนที่เห็นเงินนั้นไมอาจจะ
ทนมองไดจริงๆ
“ปาบ!” เจาอวนพุงเขามาจับที่มือทั้งสองขางของอายฮุย บนใบหนาเต็มไปดวย
ความรูสึกตื้นตันใจ น้ำตาเออคลออยูที่เบาตา
เมื่อมองไปที่ทาทางของเจาอวน ภายในใจของอายฮุยก็รูสึกตื้นตัน ทำใหรูสึกวา
ความคิดของตนที่มีตอเจาอวนนั้นอาจจะผิดไป ทั้งสองคนตอสูเคียงบาเคียงไหลกันมา
นานถึงเพียงนั้น มิตรภาพนี้ถือวาลึกซึ้งจริงใจ เขาไมคอยคุนชินกับสถานการณเชนนี้
จึงอยากจะตะโกนใหไสหัวไป แตพอนึกขึ้นมาไดวาอีกไมนานก็ตองแยกจากกัน เขาจึง
พยายามยับ ยั้งใจไว แลว คอ ยๆ เปล งเสี ย งออกมา ซึ ่ งค อ นข า งจะตะกุ กตะกักวา
“อยางไรเสียขาก็ตัวคนเดียว เงินที่ตองใชก็ไมมาก เจากลับดินแดนเกา คนที่บาน
หลายคน เงินที่ตองใชยอมมากกวาขานัก...”
“ไอเพื่อนรัก! ชางเปนเพื่อนรักของขาเสียจริง!” เจาอวนสะอึกสะอื้นเขาเขยามือ
ทั้งสองขางของอายฮุยอยางแรง น้ำตาอุนปริ่มอยูที่ขอบตา “อูสิงเทียนมีท้งั ที่อยูที่กิน
ที่เหลืออีกครึ่งเจาก็ไมไดใช เอาใหขาทั้งหมดไมดีกวาหรือ”
ไมคิดเลยวาตนเองจะยังมีความหวังกับเจานี่ได ชางไรเดียงสาเสียจริง มือทั้งสอง
ขางที่ถูกกุมของอายฮุยพลิกกลับ ออกแรงเพียงเบาๆ เจาอวนก็ราวกับกอนเมฆอวนๆ
นุมๆ กอนหนึ่ง บินถลาออกไปถึงสิบกวาจั้ง ลมลงไปบนพื้นจนตังเมเปอนปาก
“ไสหัวไป!”
ความรูสึกที่ไดพูดความในใจออกมาชางดีเหลือเกิน
อายฮุยปดมือเบาๆ แลวถือโอกาสลูบดูถุงเงินที่อก มือของเจาอวนนั้นไวมาก ตอง
ปองกันครั้งแลวครั้งเลา
เจาอวนลุกขึ้นจากพื้นดวยสภาพมอมแมม
เสียงสัญญาณเรียกรวมพลดังขึ้นจากคายที่อยูไกลออกไป ทั้งสองคนก็เงียบลงโดย
ไมไดนัดหมาย
เวลาแหงการลาจากมาถึงแลว นี่คือการรวมพลครั้งสุดทาย
อายฮุยตองการไปอูสิงเทียนตอ แตเจาอวนตองการกลับดินแดนเกา แสงสีแดงสมของ
อาทิตยอัสดงที่ใกลจะตกสูพื้นดิน ทอแสงผานรางของทั้งสองเปนเงาทอดยาวออกไป
“อายฮุย เจาจงมีชีวิตรอด!”
“อืม”
บทที่ 2 การประกาศ
อายฮุยแบกหอผาสัมภาระใบเกายืนอยูทามกลางกลุมคนดวยใบหนาอันหมองหมน
สภาพจิตใจของเขาตอนนี้เรียกไดวาแยสุดๆ เมื่อครูเขาหยิบกระเปาเงินเปดดู เงินดาน
ในหายไปหมด เหลือเพียงแคกอนหินกองหนึ่ง
เจาอวนนี่นาฆาทิ้งนัก มาทำกันไดลงคอ!
เขาสาบานภายในใจ วันหนาหากกลับไปยังดินแดนเกา ไดเจอเจานั่นอีก ครั้ ง
จะตองจับมาจัดการใหได
เขาเหมอลอยเพียงชั่วครู จากนั้นจึงทอดถอนใจออกมายาวๆ
ในใจภาวนาใหที่อูสิงเทียนเปนแบบที่เจาอวนพูด คือดูแลทั้งอาหารและที่พัก หาก
ไมเปนเชนนั้นละก็เขาคงทำไดแค...เพิ่มแรงตอนจัดการเจาอวนเสียหนอย
ในขณะนี้ทิ้งเรื่องเงินไปกอน ความสนใจของเขาอยูที่ตรงหนา
ยังเหลือเวลาอีกมากกวาจะถึงเวลารายงานตัว ทวาหนาประตูใหญของสนาม
เหนี่ยวนำลวนเต็มไปดวยนักเรียนหมดแลว พวกเขาตางทักทายกันอยางตื่นเตน จับ
กลุมคุยกันอยางคึกคัก
การอยูในแดนรางที่เงียบสงัด ทุรกันดาร และทุกที่เต็มไปดวยอันตรายถึงสามป
ภาพเสียงดังวุนวายเฉกเชนเบื้องหนานี้ อายฮุยไมคุนเคยเปนอยางมาก ในแดนรางขอ
เพียงมีสิ่งใดเขาใกลตัวเขาในรัศมีหาเมตร เขาก็จะระวังตัว นี่กลายเปนสัญชาตญาณ
ของเขาเสียแลว
ทวาในเวลานี้...รอบตัวเขาในรัศมีหาเมตรกลับอัดแนนไปดวยคนถึงสิบสี่คน
เขาพยายามปรับตัว ทวากลับไรประโยชน เขาทำไดเพียงควบคุมตัวเองไมใหวิ่ง
หนี หรือวูวามพุงเขาไปจัดการกับเปาหมายทั้งสิบสี่คน ในแดนราง หากมีส่งิ มีชีวิตนา
สงสัยเขาใกลเขา เขามีเพียงแคสองทางเลือกนี้เทานั้น
เอาเถอะ เปนตอนอยูแดนรางอีกแลว...
ยังไมทันไดเขาสนามเหนี่ยวนำ อายฮุยก็สัมผัสไดวาตัวของเขานั้นแปลกแยกไป
จากคนอื่นที่อยูโดยรอบ เขาสูดหายใจเขาลึกๆ พยายามสงบใจของตน เขารูวาตัวเขา
จำเปนตองเอาชนะอุปสรรคในใจนี้
ไมนาน เขาก็รูสึกเกร็งขึ้นมา รูสึกไดวาประตูของสนามเหนี่ยวนำกำลังเปดออก
ฝูงคนเปนดั่งเรือที่แลนไปตามกระแสน้ำ อายฮุยในสภาพขนลุกซูไปทั่วรางกับชุด
ที่แสนยับยูยี่ เขาหายใจหอบอยางหนัก ระยะทางสั้นๆ หาสิบเมตร แตเขากลับรูสึก
เหนื่อยกวาการเดินทางหาสิบกิโลเมตรมากนัก
อายฮุยที่มาถึงหนาประตูของสนามเหนี่ยวนำ เงยหนามองประตูขนาดใหญสูง
ตระหงาน
ประตูใหญทางเขาของสนามเหนี่ยวนำ จากการคะเนดวยสายตาแลวมีความสูง
ราวๆ หกสิบกวาเมตร ถูกสรางจากแผนเหล็กที่ตางกันประกอบขึ้น ฝมือในการตอเขา
ดวยกันถือไดวาหยาบมาก มองดูราวกับผาขาดๆ ผืนใหญที่เต็มไปดวยรอยปะชุ น
ประตูใหญมีรอยสนิมขึ้นเปนจุดๆ ทุกแหงลวนพบรองรอยขีดขวน
แผนศิลาที่อยูหนาประตูเหล็ก มีคูน้ำลึกขนาดกวางประมาณครึ่ งเมตรที่ เป น
เสนตรงราวกับถูกวาด วันเวลาผานไปศิลาถูกกัดกรอนจนขอบและมุมราบเรียบ ซึ่งใน
รองหินมีน้ำอยูประมาณครึ่งหนึ่ง
อายฮุยมองไปที่คูน้ำสายนอยอยางเงียบๆ
ในอูสิงเทียน เจาคูน้ำสายนอยนี้ไมมีผูใดไมรูจัก อายฮุยรูจักมัน เปนเพราะวามัน
เกี่ยวของกับการฝกกระบี่
มันถูกเรียกวา “แนวปองกันสุดทาย”
ในยามที่ถูกความมืดมิดที่สุดของแดนรางรุกล้ำ เจาคูน้ำตื้นๆ ที่กวางแคครึ่งเมตร
ยาวแคสองรอยเมตร มันก็คือแนวปองกันสุดทายของสงครามแหงความเปนความตาย
ครั้งนั้น
ในประวัติศาสตรผูฝกกระบี่คนสุดทายที่มีชื่อเสียง เขาเผาไหมชีวิตของตนเพื่อให
กระบี่เปลงประกายเปนครั้งสุดทาย สังหารหัวหนาของศัตรู ในยามนั้นนี่คือแนว
ปองกันสุดทาย ผูคนที่ถูกปลุกเราลวนตอสูอยางไมยอมแพ ยืนหยัดจนกระทั่งอูสิง
เทียนถูกสถาปนาขึ้น
ประตูเหล็กบานใหญที่เต็มไปดวยรองรอยขีดขวน มันถูกสรางมาจากของเหลือ
เดนที่เก็บไดจากสงครามครั้งนั้นมาประกอบขึ้น สนามเหนี่ยวนำที่กอตั้งขึ้นมาในที่แหง
นี้ ก็เปนเพราะผูกอตั้งอูสิงเทียนในครั้งนั้นหวังวาชนกลุมหลังจะไมลืมชวงเวลาในยาม
นั้น และไมลืมปณิธานแรกของการสถาปนาอูสิงเทียน
รูปลักษณและควันสงครามสลายไปตามกาลเวลา ความทรงจำที่ระลึกถึงและ
ตำนานกลับถูกเลาขานตอๆ กันมาทุกยุคทุกสมัย
สนามเหนี่ยวนำในอูสิงเทียนนับวาสำคัญมาก คิดวาจะตองเกี่ยวของกับเรื่องนี้เปนแน
ความเขาใจของอายฮุยที่มีตอแนวปองกันสุดทาย เดิมมาจากการที่เขาจัดคัมภีร
กระบี่ที่โรงฝกดาบ
เกือบทั้งหมดของคัมภีรกระบี่ที่พูดถึงแนวปองกันสุดทายลวนแตเปนคำยกยอง
กระบี่นี้ อยางเชนแบงแยกความเปนความตายของผูคนดวยกระบี่เดียว อยางเชน
แบงแยกยุคสมัยในกระบี่เดียวเปนตน ในการระลึกถึงผูฝกกระบี่ในใจของผูคนนั้น
กระบี่เลมนั้นคือการประกาศการจบลงของยุคสมัยแหงการบำเพ็ญตน เปนการเริ่มยุค
สมัยของอูสิงเทียน
เรื่องพวกนี้ไมไดเกี่ยวของอะไรกับอายฮุย เขาจัดระเบียบคัมภีรกระบี่มามากมาย
แตทวาแตไหนแตไรไมเคยมีความคิดอันโงเขลาที่จะฝกกระบี่อะไรพวกนั้น
ใช...เถาแกก็โงเขลาเชนนี้แหละ ดังนั้นการคาจึงลมเหลวไมเปนทา เปนหนี้เปนสิน
แมกระทั่งชีวิตก็ไมเหลือ ทวาการไดเห็นคัมภีรกระบี่พูดถึงเศษซากของประวัติศาสตร
หลายตอหลายครั้ง อายฮุยก็รูสึกไมเลว นอกเหนือจากจะคิดถึงเถาแกเพราะเหตุนี้ เขา
ยังรูสึกเจ็บปวดใจอยูเล็กนอย
เขาใชเวลาไมนานก็กลับมาเปนปกติ การขัดเกลาในแดนรางกวาสามป ทำใหคุน
ชินกับความเปนความตาย นับวันเขายิ่งจะไมเจ็บปวดกับเรื่องราวเกาๆ ที่แสนจะเลือน
รางพวกนี้ คนที่มีชีวิตรอดตองพยายามที่จะมีชีวิตอยู เพื่อใหคนที่จากไปไดสงบสุข
หลังจากยอนมองรองรอยแหงประวัติศาสตรเปนที่เรียบรอย เขาก็ถอยออกมา
จากฝูงชนอยางรวดเร็ว ถอยมาจนถึงรอบนอกสุดของฝูงชน เมื่อถึงจุดที่ความกั งวล
หายไป เขาถึงโลงใจไดเสียที
ทันใดนั้นที่หางตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเงาที่แสนจะคุนตา สีหนาของอายฮุย
ถึงกับขรึมขึ้นอยางรวดเร็ว
เขากาวยางไปดานหนาอยางรวดเร็ว ยกขาถีบเขาที่ทรวงออกดวยความเร็ว ดัง
สายฟาฟาด
“ปง!”
เงาของรางที่อุดมไปดวยไขมันลอยถลาไปในอากาศ และรวงลงกระแทกพื้นอยางแรง
ไมรอใหเจาอวนคลานขึ้นมา เทาของอายฮุยก็ไดเหยียบลงบนหนาของเจาอวน
เขาพูดออกมาดวยน้ำเสียงที่เขมขรึม “เอาเงินออกมา”
เจาอวนกะพริบตาปริบๆ “ไมเหลือแลว!”
“เงินของใครที่ไมเหลือแลว” เทาของอายฮุยเพิ่มแรงกดมากขึ้นอยางรวดเร็ว
น้ำเสียงของอายฮุยเองก็เพิ่มความดุดันอยางรวดเร็วเชนกัน
“ทั้งหมดไมเหลือแลว” เจาอวนรีบพูดขึ้น “ขาสงเงินกลับบานไปแลว”
“เงินของขา” น้ำเสียงของอายฮุยยังคงนิ่งสงบ แตทวาตอใหเปนคนที่ทึ่มขนาด
ไหนก็ฟงออกวาภายใตความนิ่งสงบนั้นคือความโกธรเกรี้ยว ราวกับลาวาที่ปนปวน
“ขาซื้อสิทธิ์เขาที่นี่” ใบหนาของเจาอวนฉายแววเจาเลห “ไมมีทางเลือก เลย
ชวงเวลารับสมัครไปแลว ทำไดแคใชเงินซื้อสิทธิ์ ขาใชเสนมาไมนอย เงินของเจาก็
ใชไดพอดิบพอดี เจาตองดีกับขาหนอย คนที่ติดหนี้เปนดั่งนายทานไมเคยไดยินหรือ
หากขาตายไปแลว เงินก็จะสูญสิ้นไป...”
เจาอวนที่อยูใตฝาเทายังคงพูดไมหยุด ความโกธรเกรี้ยวของอายฮุยก็หายไปเสีย
แลว เขากระทืบลงไปหนักๆ หลายทีดวยใบหนาไรซึ่งความรูสึก
ผูคนรอบขางตางถอนสายตาออกดวยความรังเกียจ บนรางของเจาอวนทั้งเต็มไป
ดวยฝุนเทาและโคลนตม เสื้อผาบนตัวของอายฮุยก็นับไดวาสะอาด ทวาเปนเสื้อที่ซัก
จนซีดขาว หอผาสัมภาระที่ถืออยูในมือก็ซีดขาวเชนกัน มองดูชางยากจนยิ่งนัก
เจาอวนแบกใบหนาที่เต็มไปดวยรอยเทาคลานขึ้นมา กระนั้นกลับไมมีความสำนึก
ผิดหรืออับอายแมแตนอย
ทั้งสองคนหาที่ที่หางจากฝูงชนนั่งลง เจาอวนไมรูไปหยิบตังเมชิ้นหนึ่งมาจากไหน
เอาเขาปากเคี้ยวดังแจบๆ เขาไมหยุดที่จะมองไปทั่วสี่ทิศ ประเมินดูรอบดานอยางสน
อกสนใจ
“เจาจะไมตื่นเตนสักหนอยหรื อ” เจาอวนมองอายฮุยดวยสายตาที่ ไมเข า ใจ
“สนามเหนี่ยวนำนะ! เขามาในสนามเหนี่ยวนำแลว พวกเราก็ไมใชแรงงานอีกตอไป!
ผานไปอีกสิบป ก็สามารถพาครอบครัวเขามาอยูในอูสิงเทียนได นั่นเปนดั่งปลาที่
เขาประตูมังกร* เชียวนะ เจารูหรือไมที่ดินแดนเกามีผูคนมากมายเทาใดตองการที่จะ
มีเอกสิทธิ์เชนนี้”
อายฮุยครานที่จะสนใจเจาอวน เขาหยิบตนหญาจากซอกอิฐขึ้นมาตนหนึ่ง เคี้ยว
เอาไวในปากพลางถาม “เจาธาตุอะไร”
“ธาตุไฟ!” เจาอวนพูดขึ้น ดวงตาขนาดเทาเมล็ดถั่วเขียวหรี่ลง “ขาไมรูมากอน
เลยวารากฐานของขาจะดีเชนนี้...”
เจาอวนเพิ่งจะรูสึกไดวาหลุดปากพูดไป จึงชะงักหยุดเอาไว
อายฮุยหันศีรษะกลับมา ใบหนามีความสงสัย “มีรากฐานดีหรือ”
สนามเหนี่ยวนำของอูสิงเทียนนั้นมีกฎตายตัว ภายในอูสิงเทียนไมแบงแยกชาย
หญิง ไมแบงแยกฐานะรวยจน ขอเพียงอายุถึงเกณฑ ก็จะตองเขามาร่ำเรียนในสนาม
เหนี่ยวนำ และสำหรับผูคนจากดินแดนเกา ขอเพียงผานการตรวจสอบรากฐาน ลวน
สามารถเขาสนามเหนี่ยวนำได
เจา อว นพูดโกหกหนา ตาย “ใช ซี อี ก นิ ดเดี ย วก็ จ ะผ า นเกณฑ แ ล ว เที ย บกั บ
พรสวรรคของเจาแลวนับวาดีกวามากนัก มิเชนนั้นตอใหอยากจะยัดเงินก็ไมมโี อกาส
จะไดยัด กฎของสนามเหนี่ยวนำออกจะเขมงวด ใชเสนสายใชวาจะใชกันไดงายๆ”
ใช ตีใหตายอยางไรเขาก็จะใหอายฮุยรูไมไดวารางกายของตนนั้นผานเกณฑจึง
ไดรับสิทธิ์มา มิเชนนั้นคงโดนเอาเงินไปเปนแน เจาอวนเตือนตัวเองในใจซ้ำๆ ไมเผย
ใหเห็นชองโหวแมแตนอย
“อืม” อายฮุยตอบรับหนึ่งคำ แลวจึงถอนสายตามา รากฐานของเขานั้นธรรมดา
มาก หางไกลกับเกณฑมาตรฐานมากนัก
“นาเสียดายที่ธาตุของเราตางกัน” เจาอวนรูสึกเสียดายอยูบาง ฐานกายของเขา
เปนธาตุไฟ ฐานกายของอายฮุยเปนธาตุทอง ซึ่งหมายความวาทั้งสองจะตองถูกแยก
เปนคนละกลุมกัน
ภายในใจของอายฮุยก็รูสึกเสียดายอยูน ิดหนอย เขากับเจาอวนเขาขากันไดดี ตาง
เชื่อมั่นซึ่งกันและกัน หากไดอยูกลุมเดียวกัน เขายังสามารถดูแลเจาอวนไดบาง
เจาอวนเหมือนรูวาอายฮุยกำลังคิดอะไรอยู จึงชิงพูดขึ้นมาวา “วางใจเถอะ จะ
อยางไรเสียก็เคยอยูในแดนรางมากอน ยังจะถูกพวกกระจอกรังแกไดอีกหรือ”
ในเวลานั้นเอง มีเมฆสีแดงสดกอนหนึ่งก็ลอยมาจากขอบฟาไกล มันคอยๆ รอน
ลงสูพื้นดิน ทำใหรอบขางเกิดความวุนวายขึ้น ชายหนุมผูแตงกายดวยเสื้อผาหรูหรา
กาวลงมา หญิงสาวมากมายตางพูดกันอยางตะลึงวา ‘หลอมาก’ อะไรทำนองนี้
“ดูรวยมากเลย!” สายตาของเจาอวนถูกดึงดูดไปในทันที น้ำเสียงเต็มไปดวย
ความอิจฉา “คุณภาพของเจาเมฆเพลิงนี่ทำเอาอึ้งไปเลย! สีแดงสดใส ไรตำหนิใดๆ
เจาดูสิ รูปรางของเมฆเหมือนดั่งเปลวเพลิงเลยจริงหรือไม โอโห ชางเปนเมฆเพลิงที่
เยี่ยมยอดเสียจริง เจานี่จะตองมีเบื้องหลังที่ใหญโตเปนแน ตองหาโอกาสไปเกาะแขง
เกาะขาเสียแลว!”
หญาที่อยูในปากถูกเคี้ยวจนกลายเปนกาก อยูๆ อายฮุยก็รูสึกคิดถึงแดนราง
อยางนอยที่นั่นทุกที่ลวนมีตนเถียจี่เถิง เจาสิ่งนั้นไมเพียงแคหวาน แตยังเหนียวมากอีก
ดวย เคี้ยวไปคอนวันก็ยังเหนียวอยู เขาชำเลืองตามองเมฆเพลิงแคแวบเดียวก็ถอน
สายตากลับ เดนสะดุดตาแลวยังลอยเนิบไปเนิบมา ในแดนรางนี่จะตองเปนเหยื่อชั้นดี
เปนแน
เมฆเพลิงกอนนี้ก็เหมือนกับสัญญาณ ตามหลังมาติดๆ ในทุกทิศทุกทางปรากฏสิ่ง
ประหลาดหลายชนิดที่บินไดโพลมาไมขาดสาย รอนลงมายังหนาประตูของสนาม
เหนี่ยวนำ
เจาอวนราวกับกินยาบำรุง ตื่นเตนสุดจะเปรียบ ในปากพนออกมาแตคำศัพทที่
อายฮุยไมรูจัก ตาของเขารายกาจอยางมาก ไมเพียงรูจักสิ่งที่บินไดเหลานี้เทานั้น ทั้ง
ยังสามารถบอกมูลคาไดอีกดวย
ฟงเสียงเจี๊ยวจาวของเจาอวน สายตาของอายฮุยมองผานกลุมคนอยางไมเจาะจง
ในแดนรางยากนักที่จะเจอใบหนาที่ออนเยาวนุมนิ่มพวกนี้ ทุกคนในแดนรางลวนราว
กับสัตวปา ดุดันโหดราย ปราดเปรียว อันตราย
แตชายหนุมในที่นี้ ใบหนากลับออนเยาวเต็มไปดวยความสดใสและพละกำลัง ใน
ดวงตาที่ตื่นเตนนั้นเต็มไปดวยความใฝฝนในอนาคต พวกเด็กหนุมลอมพวกเด็กสาว
พูดคุย กันอยา งสุภ าพ พวกเขาแสดงถึ งความมี ระดั บ และความมี อ ารมณ ข ั น ซึ่ ง
พยายามที่จะดึงดูดความสนใจจากเด็กสาว พวกเด็กสาวใบหนาเต็มไปดวยความเขิน
อายจนหนาแดง ราวกับแสงอาทิตยในยามเชาตรู มุมปากของพวกเธอยกขึ้นเป น
รอยยิ้มบางๆ ยั่วยวนราวกับบุปผา
ความเขียวของหญาปากระจายทั่วปาก อายฮุยใจลอยเล็กนอย แลวก็อิจฉานิด
หนอยดวย
ความอิจฉาในแววตาของเขาเพียงพริบตาก็หายไป ดวงตาของเขากลับมาเปน
ดังเดิม เฉื่อยชาและสงบนิ่ง เขาคิดถึงเถาแก คิดถึงสามปในแดนรางที่รกรางวางเปลา
รวมกันเปนปา กลายมาเปนปาโครงกระดูกของเหลาแรงงาน ตัวเขานั้นถือวาโชคดี
มากพอแลว
การมีชีวิตอยูสำคัญกวาทุกสิ่ง การมีชีวิตอยูคือลาภอันประเสริฐ
เสียงเจี๊ยวจาวของเจาอวนที่ดังอยูขางหู ในยามนี้ฟงสบายหูขึ้นมาก
ประตูใหญคอยๆ เปดออก อายฮุยปดเศษโคลนบนรางออก ใบหนาอันดื้อรั้น
แสดงออกถึงความหนักแนน เขารู ดานหลังของประตูใหญเปนเสนทางที่ใหมมาก เปน
เสนทางที่เขาไมเคยแมแตจะนึกถึง
ทางเสนนั้นจะนำพาไปหนแหงใด เขาไมอาจรู
เขาทำไดเพียงเหมือนเมื่อสามปกอนที่เขาแดนราง กาวเดินไปขางหนา ไมแมแต
จะหันมองเจาอวนพลางกลาว “ไปกันเถิด”
*ปลาที่เขาประตูมังกร หมายถึงฝนที่กลายเปนจริง
บทที่ 3 ความโกรธเกรี้ยว
“ขาชื่ออายฮุย ปนี้อายุสิบหกป รูสึกดีใจเปนอยางมากที่ไดอยูหองเดียวกับทุกคน
ขอฝากเนื้อฝากตัวดวย”
อายฮุยที่ยืนอยูบนแทนบรรยายพยายามอยางถึงที่สุดที่จะใหน้ำเสียงของตน
ออกมาออนโยน เขาตองแอบเตือนตัวเองอยูตลอดวาที่แหงนี้ไมใชแดนราง
รอบหองเรียนในทุกๆ จุดลวนอยูในสายตาของเขา เมื่อไมพบอันตรายใดๆ อายฮุยที่
แนะนำตัวเองเสร็จจึงไดหลบลงจากเวทีอยางรวดเร็ว
นัก เรีย นที่อ ยูดา นลา งลว นตะลึ งกั บ อายุ ท ี ่ มากแล ว ของอ า ยฮุ ย จึ งเกิ ดการ
วิพากษวิจารณกันถวนทั่ว
“อายุมากขนาดนี้เขามาในสนามเหนี่ยวนำไดอยางไร อีกทั้งชื่อยังแปลกอีก”
“คนจากดินแดนเกากระมัง...”
อาจารยสวี่ที่อยูขางเวทีเห็นจึงไดกระแอมเบาๆ พลางกลาว “นักเรียนที่เหลือ
อยาไดแนะนำตัวสั้นๆ เชนนี้ แนะนำเรื่องราวของตนเองใหมากหนอย เชนนี้เพื่อนๆ
คนอื่นจะไดเขาใจพวกเจาไดดียิ่งขึ้น”
อายฮุยที่กลับมายังที่นั่งถึงไดโลงใจ เทียบกับการตอสู สถานการณเบื้องหนานี้
กลับทำใหเขาทำอะไรไมถูกเสียยิ่งกวา
พอสัมผัสไดถึงลมหายใจอันยุงเหยิงของตน เขาก็คอยๆ สูดหายใจเขาลึกๆ แลว
ความรูสึกที่แสนอึดอัดก็คอยๆ สลายไป รางกายจึงเริ่มกลับมาอยูในสภาพเดิม
อายฮุยในยามนี้ มองดูชางสงบอยางผิดปกติ ไมมีผูใดสังเกตเห็นวา เด็กหนุมที่
เงียบสงบดั่งน้ำในสระอันแสนสงบตรงมุมหอง แทจริงแลวคือสัตวรายที่กำลังจำศีลตัว
หนึ่ง มันสามารถระเบิดพลังที่สรางความตื่นตระหนกใหแกผูคนไดทุกเวลา
การใชชีวิตในแดนรางสามป ทิ้งรองรอยบาดแผลไวมากมายเหลือเกิน
ตัวอยางเชน การเลือกตำแหนงที่นั่งของเขา
เขาเลือกนั่งตรงบริเวณขางหนาตาง จากตรงนั้นจะสามารถมองออกไปดานนอก
เห็นไดอยางชัดเจน สามารถเตรียมพรอมปองกันการโจมตีจากนอกหนาตางได หากมี
การโจมตีเกิดขึ้นจากในโรงเรีย น เขาก็สามารถหลบหนีออกทางหนา ตา งไดอ ย า ง
ทันทวงที
ตัว อยา งเชนการสังเกต เขาแอบสั งเกตบริ เวณโดยรอบทั้ งหมด ไม ว า จะเปน
อาจารยที่อยูบนแทนยืนบรรยาย เพื่อนนักเรียนที่อยูรอบๆ โครงสรางของโรงเรียน
หรือตำแหนงของเกาอี้นั่งเปนตน สิ่งเหลานี้ดูเหมือนจะเปนรายละเอียดที่ไมจำเปนแต
มันสามารถที่จะตัดสินความเปนความตายของเราได จงอยาไดรังเกียจที่จะมีขอมูล
มากมายอยูในมือของตน
เขาไมไดจงใจที่จะทำสิ่งเหลานี้ ทั้งหมดลวนเปนไปตามธรรมชาติ
นัก เรียนในหองมีสองรอยกวาคน อายุ ยั งน อยกั นทั้ งนั ้น สามารถมองไดจาก
ใบหนาที่ออนเยาวยังไมโตเต็มที่ของพวกเขา มีอยูหลายคนที่เสื้อผาหรูหรางดงาม
ทาทางหยิ่งยโส ดูทานาจะมาจากตระกูลใหญโต มีอยูคนหนึ่งที่อายฮุยจดจำได นั่นก็
คือคุณชายที่ลงมาจากเมฆเพลิงซึ่งเขาและเจาอวนเห็นตรงหนาประตูใหญ
เขามีนามวา ตวนมูหวงฮุน มองดูแลวยโสไปหนอย ทวาฝมือนับวาไมเลวเลย
ทีเดียว อายฮุยจึงจับตามองดวยความสนใจ
เจานี่ถูกเลือกใหเปนหัวหนาหอง หัวหนาหองคืออะไร ผูนำของทุกคนอยางนั้น
หรือ เอาคนที่หยิ่งยโสมาเปนผูนำหาใชเรื่องที่ดีไม อายฮุยที่มีประสบการณมามาก
มองดูดวยสายตาที่เย็นชา
ทวาเรื่องนี้มันก็ไมไดเกี่ยวของอะไรกับตัวเขา
นาเสียดายที่เจาอวนไมไดถูกแบงใหอยูหองเดียวกับเขา
นึกถึงเรื่องนี้ อายฮุยก็รูสึกเสียดายอยูเล็กนอย
ทวาในวินาทีถัดมา ความรูสึกเสียดายเหลานี้ก็ถูกคำพูดของอาจารยสวี่บดขยี้เสีย
สิ้น สิ่งที่เขามาแทนกลับเปนความโกธรเกรี้ยวสุดประมาณและจิตสังหารที่ไรขอบเขต
“ตอจากนี้ขาขอแจงเกณฑคาใชจายที่ตองจายภายในสนามเหนี่ยวนำ อาคาร
ทั้งหมดภายในเขตพื้นที่ตองเสียคาใชจาย ทุกคนคงจะสัมผัสไดวาภายในเขตพื้นที่น้มี ี
ระดับพลังธาตุเขมขนมาก การฝกฝนในสภาพแวดลอมเชนนี้ ชวยการฝกไดกวาครึ่ง
คาใชจายสำหรับหองพักเดี่ยวคือหาหมื่นหยวนตอป นอกเหนือจากนี้พวกขายังได
เตรียมหอพักที่หรูหรามีระดับยิ่งขึ้นไปอีก ที่นั่นมีระดับความเขมขนของพลังธาตุ
มากกวาโลกภายนอกถึงเกาเทา คาใชจายคือเจ็ดแสนหยวนตอป ผูที่มีปจจัยพรอมก็
ลองไปพิจารณาดูได พวกเรามาพูดถึงคาอาหารกันเสียหนอย คาอาหารภายในนี้ถูก
มาก ราคามาตรฐานตอวันอยูที่สองรอยหยวน ซึ่งรวมอาหารเสริมพลังธาตุหนึ่งชุด...”
ใบหนาของอายฮุยถึงกับกระตุก เขาไมอยากจะฟงตอ เขาใชกำลังอยางมากทีจ่ ะ
ควบคุมการแสดงอารมณของตน ทวาเพลิงโกธรที่สุมอยูภายในอกแทบจะเผาเขาให
ไหมเปนจุณ มือที่อยูใตโตะเองก็เกร็งจนเสนเลือดขึ้นปูด
สนามเหนี่ยวนำดูแลทั้งอาหารและที่พัก เหอะๆ!
ทำไมตอนที่เขารายงานตัวถึงไมจับเจาอวนมาสับใหตายนะ
ดานบนแทนบรรยาย อาจารยยังคงพูดไมหยุด น้ำลายเปลงประกายที่กระเด็นติด
อยูบนกระดานดำราวกับเปนคำวา ‘เงิน’ อยางไรอยางนั้น
ผานมากวาครึ่งชั่วโมงเต็มแลว! เจานี่ยังคงพูดแจกแจงเรื่องคาใชจายอยูอีก!
ในขณะนั้นเองเขาแทบจะวูวามขึ้นไปจัดการกับอาจารยสวี่ ดวยอาจารยสวี่ซึ่งยืน
อยูบนแทนบรรยายราวกับเปนสัตวรายที่เพิ่งจะคุกคามเขา โอไม มันเปนสัตวรายที่มี
ความอาฆาตแคนอยางมหาศาลกับเขา!
อายฮุยหรี่ตาลง แววตาเต็มไปดวยความเย็นยะเยือก เหอะๆ เจาสัตวรายเชนนี้ไม
รูวาตัวเขาจัดการไปแลวกี่ตัว
หนึ่งชั่วโมงผานไป...
เพลิงโกธรในใจของอายฮุยไดดับมอดไปแลว อีกทั้งแววตาที่เย็นยะเยือกก็เริ่ม
เปลี่ยนเปนเฉยชา เขารูสึกวาตัวของเขากำลังจะถูกจัดการ แถมยังเปนการตายอยาง
อนาถอยางถึงที่สุด
ในยามนี้ ภายในใจของเขาเต็มไปดวยความตองการที่จะหนีกลับแดนราง
แดนรางที่อันตรายรอบดาน หนาวเหน็บดวยไอสังหาร เจาพวกสัตวรายแดนราง
ที่คมเขี้ยวยอมดวยหยาดโลหิตนั้น ในยามนี้ภายในใจของอายฮุยรูสึกวาพวกมันนั้นชาง
นารักออนโยนเสียเหลือเกิน
นี ่ ค ื อ โฉมหน า ที ่ แ ท จ ริ ง ของสนามเหนี่ ย วนำเช น นั้ น หรื อ แท จ ริ ง แล ว สนาม
เหนี่ยวนำเปนสถานที่ที่นากลัวยิ่งกวาแดนรางนับรอยเทา!
ในที่สุดอาจารยสวี่ก็ยอมหยุดลงเสียที “นักเรียนผูมาจากดินแดนเกา ในตอนที่
ผานการทดสอบความถนัดคงไดรับเงินกอนหนึ่งสินะ เงินกอนนั้นก็มีไวเพื่อเติม เต็ม
คาใชจายในระหวางการเรียน”
เขาไมผานการทดสอบรากฐาน...
ดวงตาทั้งสองของอายฮุยมองไปยังอาจารยโดยไรซึ่งจิตวิญญาณ
"แนนอน เงินกอนนั้นเพียงพอตอการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐาน หากพวกเจาตองการ
ทรัพยากรและโอกาสที่มากยิ่งขึ้น ก็จะตองขยันใหมาก สนามเหนี่ยวนำมีทั้งหมดเจ็ด
สิบหกเมือง มีโอกาสและหนาที่ในการทำงานมาก พวกเจาจะไดรับคาตอบแทนที่
เหมาะสม ขาขอเตือนทุกคนในที่นี้ สิ่งสำคัญที่ทุกคนมายังสนามเหนี่ยวนำคือการร่ำ
เรียนและการฝกฝน ไมใชการมาหาเงิน ทุกคนอยาไดมาเสียเวลาไปกับเรื่องนี้ จะไดไม
กระทบตอการฝกฝนของตน มันไมคุมเอาเสียเลย
อายฮุยในยามนี้คอยโลงใจขึ้นมา ยังดีที่เหลือทางรอดสุดทายใหตัวเขา ความยินดี
หลังจากที่รอดมาได ราวกับเพิ่งจะหนีรอดมาจากปากเสือ ทำใหหนาผากของเขานั้นมี
เหงื่อผุดขึ้นมาอยางไมรูตัว
อาจารยสวี่แจกเอกสารหนาๆ มาหนึ่งปก ในนั้นมีตารางเรียน แผนที่สถานที่
ใกลเคียง ตารางการทำงาน ตารางภารกิจ เกณฑการอยูหอพัก บริเวณรานอาหารของ
เมือง และเสนทางตางๆ ในเมืองเปนตน ซึ่งบอกมาอยางละเอียดถี่ถวน
“ทุกคนมีเวลาสามวัน จัดการเรื่องอาหารและที่พักของตัวเองใหเรียบรอย อีก
สามวันใหหลัง พวกเราจะเริ่มเรียนกันแลว ระวังไวดวยวา วิชาพื้นฐานพลังธาตุไมอยู
ในขอบเขตเนื้อหาการเรียนการสอนของพวกเรา หากไมเคยเรียนพื้นฐานมากอน ทุก
คนสามารถเรียนรูไดดวยตัวเองที่หองสมุด หรือไปเรียนที่หองเรียนของอาจารยตง
หมดแคนี้ทุกคนไปได”
อายฮุยหาคาบเรียนของอาจารยตงในตารางเรียนเจอจึงวงสัญลักษณเอาไว นั่น
เปนคาบเรียนที่เขาจำเปนตองเขาฟง
ทวาในตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการแกปญหาเรื่องเงินกอน ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาไมมี
เงินสักแดงเดียว แมแตเงินคาอาหารกลางวันก็ไมมี
เขานั่งหลังตรงดั่งพูกัน สายตาที่เฉียบคมกวาดผานเอกสารในมือ กอนอื่นตองดูวา
มีอาหารสามมื้อใหหรือไม มีอยูไมนอยเลยทีเดียว อายฮุยจึงทอดถอนใจออกมา ปลาย
นิ้วไลไปตามตารางทีละแผนทีละแผน ทันใดนั้นนิ้วมือที่เรียวยาวก็หยุดลง
สายตาที่แหลมคมดุจคมดาบคอยๆ จางไปเปลี่ยนเปนแววตาที่กำลังครุนคิดอะไร
อยางลึกซึ้ง แตก็ดูเหมือนเขาเหมอลอยอยูบาง
มือขางหนึ่งของอายฮุยถือหอผาสัมภาระใบเกา อีกมือถือแผนที่ ในปากคาบ
ตนหญาที่เก็บมาจากขางทาง เขาเดินเชนนี้ออกจากโรงเรียน
เบื้องหนาของเขาคือรานรวงและถนนแปลกตา เขาเดินผิวปากผานของตางๆ ที่
ไมเคยเห็นทั้งที่อยูดานขางหรือที่แขวนอยูเหนือศีรษะ อีกทั้งยังไดยินผูคนรอบตัวกำลัง
ถกเถียงหัวขอที่เขาไมเขาใจ
อายฮุยพบวา เขาสามารถมองดูสิ่งประหลาดไมคุนตาทั้งหมดที่อยูเบื้องหนา ได
อยางสงบ
สามปในแดนราง ถึงแมกำลังของเขาจะไมถึงขั้นกลาแกรง ทวาจิตใจนั้นกลับ
แข็งแกรงกวาเมื่อกอนมากมายนัก เขามีความกลาที่จะดำรงชีวิตในโลกใบนี้โดยลำพัง
การมีความกลาที่จะเผชิญหนากับโลกที่ไมรูจักและแสนแปลกประหลาดนั้น เรียกได
วาไมใชเรื่องงายเลย
นี่คงเปนเพราะเขาเติบโตแลว เติบโตเร็วกวาคนอื่นนิดหนอยก็ไมใชเรื่องแย
เขายิ้มปนหัวเราะเบาๆ ใหกับตัวเอง เหมือนวาตั้งแตที่ออกจากแดนรางมา ตัว
ของเขาก็เปลี่ยนมาออนไหวมากขึ้น เขาที่บนบาพาดหอผาสัมภาระใบเกา ปากคาบ
หญาสีเขียว สายตาที่มองไปยังแผนที่ ถูกแสงอาทิตยสาดผานรางทำใหเห็นเปนเงาเดิน
ไปดานหนา พรอมกับทอดยาวผานไปยังเสนทางที่เขากำลังจะกาวเดินไป
ยังดีที่สถานที่ไมไดหายากอะไร อาคารมอบหมายงานอยูที่บริเวณใจกลางเมือง
เดนสะดุดตาเปนอยางมาก
“เจาจะรับงานชุดนี้จริงๆ หรือ” ผูเฒาที่ทำหนาที่แจกงานเตือนเขาดวยความหวังดี
“พื้นที่ของโรงฝกไมใชเล็กๆ ปริมาณงานที่ตองทำก็ไมใชนอยๆ เลย พูดกันตามตรง
จนถึงตอนนี้ขาไมเห็นวาจะยังมีผูใดรับงานนี้ไปทำ เจาของโรงฝกไมไดกลับมานานกวา
ยี่สิบปแลว กอนที่เขาจะจากไปไดสงเงินมายังบัญชีของพวกเรา กอนที่เงินกอนนี้จะ
หมด ทุกปพวกเราจึงประกาศงานเหมือนที่เขาสงให ทวาเจาก็รู เงินคาตอบแทนของ
งานชุดนี้ยังใชเกณฑเดิมของเมื่อยี่สิบปกอน ตั้งแตเมื่อยี่สิบปกอนก็ไมมีผูใดรับทำแลว
ขาตองเตือนเจาเอาไว คาตอบแทนนี้ต่ำมาก แทบจะไมเพียงพอกับคาอาหารของเจา
เจาแนใจหรือวาจะรับงานนี้”
อายฮุยไมตอบแตกลับถามไปวา “ขาสามารถรับเงินคาตอบแทนบางสวนกอนได
หรือไม”
ผูเฒาเขาใจสถานการณของอายฮุยในทันที จึงพยักหนาเบาๆ “ไดสิ ทวาขาตอง
ขอเตือนเจา หากเจารับงานชิ้นนี้ ในขณะที่เจายังอยูในสนามเหนี่ยวนำแหงนี้ เจาจะ
ไมสามารถยกเลิกงานนี้ได อยากเปลี่ยนใจหรือไม”
อายฮุยตอบอยางชัดเจน “ขารับงานนี้”
“ดีมาก” ผูเฒาทำเอกสารใหเขาอยางรวดเร็ว “ที่แหงนั้นกวางพอสมควร เจา
สามารถประหยัดคาที่พักไปได เงินคาตอบแทนไดใสเขาไปในบัตรของเจาแลว นี่คือ
กุญแจ สวนที่อยูก็อยูที่ดานบน สุดทาย ขอตอนรับเขาสูสนามเหนี่ยวนำ”
อายฮุยรูสึกขอบคุณจากกนบึงของหัวใจ จึงตั้งใจทำความเคารพ “ขอบคุณทาน
จริงๆ!”
“เปนเด็กนอยที่มีมารยาทจริง” ผูเฒาเผยรอยยิ้มออกมา “พยายามฝกฝนเขา
ความแข็งแกรงนั้นเปนทุกสิ่ง”
พอรับรูถึงความปรารถนาดีจากอีกฝาย อายฮุยแมจะไมคุนเคยแตก็พยายามที่จะ
ยิ้มกลับไป “ขาจะทำใหได”
พอมีเงินในมือจิตใจจึงสงบ ชางเปนคำที่สมเหตุสมผลเสียจริง ตอนนี้อายฮุยรูสึกดี
มาก โลกทั้งใบงดงามขึ้นมากนัก
อายฮุยก็รูสึกสนใจของแปลกๆ พวกนั้นที่อยูบนถนนทันที ราวกับตัวเขาเปน
นักทองเที่ยวที่ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งตางๆ โดยรอบ
รถใบไมสามแฉกที่มีขนาดใหญโต ลอยผานศีรษะของเขาไป เขาถึงกับอดไมไดที่
จะเงยหนาขึ้นมองตาม
มีใบโคลเวอรสามแฉกติดอยูกับโครงหวายขนาดใหญดานบนสุดหมุนรอบไปมา
เปนใบพัด ดานในมีเกาอี้หวายอยูหลายแถว มีผูโดยสารนั่งอยูจนเต็ม
ดานหนาของตัวรถมีปายหวายแขวนอยูอันหนึ่ง ซึ่งมีเถาวัลยสีรุงถักเปนเกลียว
รวมกันเปนคำวา ‘เมืองชิงซาน’ สามคำ ที่สามารถมองเห็นไดจากที่ไกลๆ
ครั้งอายฮุยยังอยูแดนรางก็เคยเห็นรถใบไมสามแฉก ทวาเทียบกันแลวธรรมดา
กวา มาก อีก ทั้งตัว โครงหวายลว นเต็ ม ไปด ว ยหนามพิ ษ หลากสี เหมื อ นกั บ สั ต ว
ประหลาดก็ไมปาน ปกติแดนรางจะใชรถใบไมสามแฉกสำหรับสงวัตถุดิบ แตทวามี
จำนวนไมมากนัก นี่เปนงานที่อันตรายมาก นกนักลาในแดนรางถือวาดุรายมาก กำลัง
ในการโจมตีก็นับวานากลัวมากเชนกัน
โดยปกติผูใชพลังธาตุไมจะมีความกระตือรือรนในการตอสูคอนขางต่ำ พวกเขา
ชอบที่จะอยูแนวหลังมากกวา
ทวาการที่ในทุกที่สามารถเห็นรถใบไมสามแฉกไดนั้น ยังคงทำใหอายฮุยสัมผัสได
ถึงความรุงเรืองของสนามเหนี่ยวนำ อีกทั้งในที่แหงนี้เขาสามารถเห็นผูใชพลังธาตุที่อยู
ระดับสูงเกินเอื้อมไดทุกหนทุกแหงเชนกัน
เขาที่มองยังรถใบไมสามแฉกซึ่งอยูสุดขอบฟา ถอนสายตากลับมา แลวเดินตอไป
ขางหนา
ผานไปไมนาน เขาก็หาซอยที่ตั้งโรงฝกอยูเจอจนได ดูจากสัญลักษณในแผนที่แลว
ที่ตั้งของโรงฝกอยูที่บริเวณทายซอย
เขาเดินเขาไปในซอยที่ทั้งลึกและเงียบสงบ ราวกับกำลังเดินเขาไปในโลกอีกใบ
เกิดเปนความรูสึกเรียบงายและอางวางขึ้น ตึกตางๆ โดยรอบลวนเกาแก แคมองดูก็รู
วามีอายุไมนอยแลว
ทันใดนั้นอายฮุยก็หยุดฝเทาของตน
บทที่ 4 ตุกตาทรายโหลวหลาน
บริเวณตรงใจกลางของซอยไมไกลจากตัวเขานัก ไดปรากฏเงาหนึ่งจมอยูในกอง
ทรายสีเหลืองราวกับกำลังดิ้นรนอยูในทรายดูด
อายฮุยเริ่มระวังตัวขึ้นมา ทรายดูดที่มาอยูกลางซอยแบบนี้สิ่งแรกที่เขานึกถึงก็คือ
ผูใชพลังธาตุดิน
ผูใชพลังธาตุดินมีกระบวนการสังหารที่แปลกประหลาดมากมาย ปองกันได ไม
หมด ผานไปสักพักก็ยังไมมีอะไรเกิดขึ้น อายฮุยไดวิเคราะหดูอยางละเอียด จึงจะ
สังเกตเห็นเงารางที่โผลพนมามีลักษณะคอนขางพิเศษ
ผิวหนังเปนสีเหลืองจางๆ มีกอนกรวดที่ดูหยาบๆ บนใบหนาใสหนากากสีดำ
อันหนึ่ง ดูจากวัสดุแลวนาจะเปนกอนหินที่มีความแข็งแกรงชนิดหนึ่ง
อายฮุยเปดปากพูดขึ้นมาในทันที “ตุกตาทรายหรือ”
อีกฝายหยุดการดิ้นรน มองที่เขาแวบหนึ่งจึงตอบ
“ใชแลว เจาเรียกขาวาโหลวหลานก็ได”
เปนน้ำเสียงของผูชายที่มีความทุมต่ำและดูซื่อตรง ในน้ำเสียงนั้นเจือความแหบอยูบาง
ตุกตาทรายเปนหนึ่งในความสามารถที่ผูใชพลังธาตุดินโปรดปรานที่สุด ระดับ
ความยากในการสรางไมมาก การซ อ มแซมก็ง าย อี ก ทั ้ งยังทำงานหนั กโดยไมบน
เหมาะสมอยางมากในการทำงานที่ตองใชแรง ทะเลทรายเหลืองของอูสิงเทียนสราง
ทรายหนักคุณภาพไมธรรมดาออกมา จึงทำใหทักษะการสรางตุกตาทรายนี้กลายเปน
ที่นิยม ในตอนที่อยูแดนรางอายฮุยเคยเห็นตุกตาทรายมามาก เขาจึงสามารถมองออก
ไดในเวลาไมนาน
“ดูแลวเจานาจะกำลังลำบากอยูนะ” อายฮุยเดินไปที่ดานหนาของโหลวหลาน
แลวคุกเขาลง “ดูทาแกนทรายจะมีปญหาแลว”
ทั้งรางของตุกตาทรายสวนที่เกิดปญหางายที่สุดก็คือแกนทราย แกนทรายไมใช
สิ่งที่เกิดจากธรรมชาติ แตเปนสิ่งที่ผูใชพลังธาตุดินสกัดมากจากทรายหนัก เปนสวน
แกนกลางที่สุดของตุกตาทราย ดวยความสำเร็จในทักษะของแตละคนไมเหมือนกัน
แกนทรายของตุกตาทรายแตละตัวจึงตางกัน
รางกายทั้งหมดของตุก ตาทรายเกิ ดมาจากทรายเหลือ ง แกนทรายคือกุ ญ แจ
สำคัญในการขยับเปลี่ยนแปลงรูปรางของพวกมัน เมื่อแกนทรายเกิดปญหา รางกาย
ของพวกมันก็จะกลายไปเปนกองทรายที่กระจัดกระจาย
“ใชแลว ปญหาเกาๆ” โหลวหลานคอนขางจะหมดหนทางอยู “ชวยขาหนอยได
หรือไม เจานายของขาชื่ออาจารยเซา เขาอยูตึกที่สองนับจากทายซอย เจาสามารถ
ชวยขาสงขอความถึงเขาทีไดไหม”
“ตึกที่สองจากทายซอย” อายฮุยเลิกคิ้วขึ้นพลางกลาว “ดูทาพวกเราจะตองเปน
เพื่อนบานกันสักระยะเสียแลว”
ทาทางโหลวหลานจะฉลาดอยูไมนอย ทาทางเพื่อนบานของตนจะตองเปนผูใช
พลังธาตุดินที่รายกาจเปนแน
ฝามือของอายฮุยเพิ่งจะแทรกเขาไปในกองทราย ก็รูสึกถึงพลังธาตุดินที่เขมขน
ในทันที มือของตนนั้นราวกับหลนลงไปในโมหิน ถูกพลังธาตุอันหนาแนนหนักหนวง
บดขยี้ หนาของเขาถึงกับเปลี่ยนสี เขาใชพลังธาตุทองคลุมฝามือเอาไว ฝามือของเขา
เปนดั่งมีดสั้นคมกกริบ พุงไปยังใจกลางของกองทราย
“อดทนหนอยนะ”
อายฮุยเพิ่งจะพูดจบ ฝามือที่รวบรวมพลังธาตุทองก็ไดระเบิดออกในทันใด
“ปง!”
เสียงระเบิดดังออกมาจากดานในกองทราย การสั่นไหวที่ไรรูปแบบไดกระจาย
ออกมาในทันใด พอการบิดไปมาของกองทรายหยุดลง รางกายของโหลวหลานก็ได
หยุดนิ่งลง
สองวินาทีใหหลัง นัยนตาของโหลวหลานก็เปลงแสงออกมา ทรายที่กระจายไปก็
เปนดั่งผงเหล็กที่ถูกแมเหล็กดูดเขาหา ลอยเขามารวมกับรางของเขา
เพียงพริบตาเดียวก็ไมเหลือเม็ดทรายบนพื้นแมเพียงเม็ดเดียว รางกายของโหลวหลาน
กลับมาเปนดังเดิม เขาจึงลองขยับตัวดู จากนั้นก็เอยขึ้นดวยน้ำเสียงเต็มไปดวยความ
ประหลาดใจ “ชางเปนกระบวนทาที่นาอัศจรรยนัก เจาทำไดอยางไรกัน”
“เปนกระบวนทางายๆ” อายฮุยตอบไปตามตรงอยางไม ใส ใจ พลันยกหอผา
สัมภาระขึ้นมาใหม แลวพาดเอาไวบนบาพลางกลาว “นี่เปนเพียงการแกไขเฉพาะ
หนา เจายังตองกลับไปตรวจสอบแกนทรายดูอีกรอบ”
ที่จริงมันก็ไมใชกระบวนทาที่รายกาจอะไร ในแดนรางอายฮุยเคยเห็นผูใชพ ลัง
ธาตุดินใชวิธีนี้ในการแกปญหาตุกตาทรายมาหลายครั้งแลว แมวาจะไมใชทุกครั้งที่ทำ
สำเร็จ ทวาในสิบครั้งก็มีถึงเจ็ดแปดครั้งที่ทำไดสำเร็จ
ทวานี่ก็เปนครั้งแรกที่เขาไดลงมือทำจริงๆ เพราะไมมีผูใชพลังธาตุผูยิ่งใหญคนใด
จะยอมใหคนใชแรงงานมาชวยตนซอมแซมตุกตาทราย
แนนอนวาโหลวหลานไมมีทางสัมผัสไดเลยวาอายฮุยนั้นเปนมือใหม กลับรูสกึ วา
เขานั้นดูเต็มไปดวยทาทางของผูสูงสง
“ขอบพระคุณเปนอยางมาก!” โหลวหลานใชน้ำเสียงที่จริงจังแสดงความเคารพ
ตออายฮุย “ไมทราบวาทานมีชื่อแซอันใด”
“เรื่องเพียงแคเล็กนอยเทานั้น ขาชื่ออายฮุย” อายฮุยโบกมือไปมาแสดงใหเห็นวา
โหลวหลานไมจำเปนตองเก็บมาใสใจ พลางเดินไปขางหนา “ไปกันเถิด พวกเราไปทาง
เดียวกัน”
โหลวหลานเดินตามอายฮุยอยูดานหลังพลางถาม “เจาจะไปที่ใดกัน”
“โรงฝกศาสตราวุธอยูที่นี่ใชหรือไม” อายฮุยถามขึ้น
“ที่แทก็เปนเพื่อนบานกันจริงๆ”
น้ำเสียงที่ทุมต่ำของโหลวหลานมีความยินดีเจืออยู “พวกเราเปนเพื่อนบานกัน ที่
นั่นเปนบานของเจาเหรอ เหมือนวาจะไมเคยมีใครอยูเลย”
บาน...
เทาของอายฮุยหยุดลง ทวาในทันใดก็กลับมาเปนดังเดิม “ไมใชหรอก ขารับ
ภารกิจมา มีหนาที่ทำความสะอาดโรงฝกนั่น”
โหลวหลานสงเสียงโอมาครั้งหนึ่ง “เชนนั้นเจาก็เปนนักเรียนใหมสิ”
“ถูกตองแลว” อายฮุยพยักหนา เขาเริ่มรูสึกไดแลววาโหลวหลานนั้นนาจะไมคอ ย
ไดออกไปไหน
สติปญญาของตุกตาทรายมีระยะเวลาในการเติบโต อายฮุยตอนอยูในแดนราง
เคยเห็นตุกตาทรายที่ใชสูรบ พวกมันลวนเจาเลหไรความรูสึก เปนเครื่องจักรสังหาร
อยางแทจริง
ในแดนรางมีประโยคที่วาหากอยากจะรูวาผูใชพลังธาตุดินผูหนึ่งเปนเชนไร ให
มองดูจากตุกตาทรายของเขาดูก็จะรูแลว ดูจากโหลวหลานก็รูไดวาเจานายของเขาที่
ชื่ออาจารยเซาอะไรนั่นก็คงเปนผูใชพลังธาตุดินที่ไมสนใจเรื่องราวในโลก เอาแตใจจด
ใจจออยูแตกับการฝกวิชา
“ถึงแลว ที่นี่คือโรงฝกศาสตราวุธ” โหลวหลานชี้ไปยังโรงฝกหลังเกาที่อยูตรงทายซอย
“มาสรางโรงฝกอยูในที่หางไกลถึงเพียงนี้ ชาง...เสียจริง” อายฮุยสายหัว ดูทา
ประสบการณในโรงฝกดาบเมื่อสามปกอน ทำใหเขาออนไหวกับสิ่งที่เกี่ยวกับพวกโรง
ฝกมากขึ้น เมื่อกอนก็เคยคิดวาโรงฝกนี่คอนขางจะอยูไกล แตเมื่อไดเห็นดวยตาของ
ตัวเอง ถึงไดพบวาหางไกลยิ่งกวาที่ตนเคยคิดเสียอีก
อยาบอกนะวาเปนคนที่มีจุดจบอันนาเศราเชนเดียวกับเถาแก
ก็เปนไปได ผูเฒาบอกวาเจาของที่นี่ไมไดติดตอมายี่สิบกวาปแลวมิใชหรือ ที่จริง
จะใชอีกคำแทนก็คือไมรูเปนหรือตายนั่นแหละ
เอาเถิด อายฮุยรูสึกวาเรื่องที่ตนเก็บมาใสใจดูเหมือนจะคอนขางมากอยู กลับกัน
ตัวเองก็มาเพราะเรื่องเงินรางวัล โรงฝกกับตนก็ไมมีความเกี่ยวของใดๆ ตอกัน ความ
เปนความตายของเจาของที่นี่ก็ยิ่งไมเกี่ยวของอันใดกับตน
ประตูใหญทั้งสี่ดานลวนเต็มไปดวยใยแมงมุม ปายไมที่อยูบนประตูใหญก็มีฝุนเทา
เกาะหนาอยูเปนชั้นๆ แมกระทั่งตัวอักษรบนปายไมก็เลือนรางไมชัดเจน หากไมรูมา
กอนวาเปน ’โรงฝกศาสตราวุธ’ คงไมอาจมองออกเปนแน
เขาหยิบกุญแจขึ้นมาไขกลอนประตูออกไดอยางงายดาย นั่นแสดงวามาถูกที่แลว
เมื่อเปดประตูใหญออก ชั้นฝุนหนาสีเทาก็รวงลงมาราวกับหิมะโปรยทันใด
เขาหยุดยืนอยูที่หนาประตูพักหนึ่ง รอใหฝุนหายไปกอน อายฮุยจึงจะเดินเขาไป
บริเวณสนามอยูในสภาพนาผิดหวัง วัชพืชลวนสูงกวาตัวคน สวนใหญคือหญา
กระบี่มองดูราวกับกระบี่ที่ชี้ขึ้นทองฟา หางตาของอายฮุยกระตุก การปลูกหญากระบี่
ในบานของตน เจาของที่นี่ชางมีงานอดิเรกที่แสนจะแปลกประหลาด
ประโยชนของหญากระบี่คือการนำมาทำกระบี่หญา อาวุธของอายฮุยก็คอื กระบี่
หญาที่ทำมาจากหญากระบี่
ทวาในยามนี้ที่เขาเห็นบริเวณสนามทั้งหมดเปนหญากระบี่ที่สูงยิ่งกวาตัวของเขา
นั้น เขาก็รูสึกปวดหัวขึ้นมาในทันที เนื้อของหญากระบี่นั้นเหนียวเปนอยางมาก เรียก
ไดวาเหนียวกวาเหล็กเสียอีก การตัดหญากระบี่ถือเปนเรื่องที่ยากลำบากเปนอยาง
มาก ที่สำคัญที่สุดคือ หญากระบี่ขึ้นทีเปนกอหนาทึบ หากไมระวังเขาไปในนั้น แปด
ถึงเกาในสิบสวนอาจจะโดนมันบาดจนทั่วรางเปนแผลได
อายฮุยสายหัวพรอมยิ้มอยางขื่นขม
สิ่งที่ทำใหเขารูสึกเซ็งยิ่งกวาคือ เจาหญากระบี่เหลานี้มันแกเกินไป หากวาเปน
หญากระบี่ที่มีอายุหาป ยังสามารถเอามาขายไดเงินบาง ทวาหญากระบี่อายุประมาณ
นั้นขนาดใบของมันจะใหญกำลังพอดี สามารถนำมาทำกระบี่หญาได แตหากหญา
กระบี่แกมากใบก็จะใหญเกินไปและกลายเปนไรประโยชน
“ขาชวยไดนะ” โหลวหลานพูดกับอายฮุย
อายฮุยสายหัวปฏิเสธ “ขาทำเองได เจายังตองไปตรวจสอบแกนทรายอีก เมื่อครู
เปนเพียงการแกไขปญหาเฉพาะหนาไมสามารถแกตนตอของปญหาได”
“เอาเถอะ” โหลวหลานพยักหนา “วันพรุงนี้เจารอขามาชวยแลวกัน”
“ขาทำเองได รับเงินมาแลวก็ตองทำงาน” อายฮุยพูดไปพลางเปดหอผาสัมภาระ
ใบเกาของตนไปพลาง เขาไมมีความเคยชินที่จะโยนงานไปใหผูอื่นทำ
“ได เชนนั้นขากลับกอนนะ” โหลวหลานไมไดพูดอะไรอีก จากนั้นรางกายก็
เปลี่ยนเปนทรายดูดแทรกลงสูพื้นดิน แลวหายไปอยางไรรองรอย
หญากระบี่เปนหนึ่งในพืชที่คอนขางจะยุงยาก ทำใหคนตองปวดหัว ทวานี่กลับ
ไมไดรวมถึงตัวอายฮุย
เขาอาศัยอยูในแดนรางมาสามป อายฮุยก็นับไดวาเปนผูเชี่ยวชาญดานพืชอยูไม
นอย นาเสียดายที่รากฐานของเขาไมใชธาตุไม เขารูสึกวาการฝกวิชาธาตุไมดูจะมี
อนาคตมากกวาการฝกวิชาธาตุทองเสียอีก
ในหอผาสัมภาระใบเกาของเขานั้นเต็มไปดวยของแปลกประหลาดมากมาย ทั้ง
กระดูก สัตว หนังสัตว เมล็ดพืช หิ น ที ่ มี สี เป น เอกลั ก ษณ และสิ ่ งต า งๆ มากมาย
หลากหลาย ไมวาอะไรก็มีหมด ของพวกนี้เปนรางวัลจากชัยชนะของเขาในแดนราง
ตลอดระยะเวลาสามป และก็เปนสมบัติทั้งหมดของเขา สวนมากคือสิ่งที่เขาเก็ บ
รวบรวมเอง บางสวนไดมาจากผูใชพลังธาตุที่ยิ่งใหญใหเปนของรางวัล ยังมีบางสวนที่
เปนพวกเศษเหลือที่ผูใชพลังธาตุไมสนใจ
อายฮุยลวนเก็บรักษาอยางระมัดระวัง ไมวาจะเกิดอะไรขึ้น หอผาสัมภาระของ
เขาก็ไมเคยหายเลย
ขวดสีแดงใบเล็กใบหนึ่งถูกคนออกมา สิ่งนี้คือพิษไฟชนิดหนึ่งที่เขาปรุงขึ้นในแดน
ราง ชื่อของมันคือหรานมู พิษของมันไมไดรุนแรงอะไร จึงไมสามารถเอาไปใชในการ
ตอ สูได ทวา มันกลับ เปนสิ่งจำเป น ที ่ คนในแดนร า งจะต อ งพกติ ดตั ว ไปเสมอ ซึ่ ง
ประโยชนของมันก็คือใชกำจัดหญา
แดนรางลวนเต็มไปดวยวัชพืช สามารถพบไดทุกหนทุกแหง มีหลายที่ที่ถึงกับเดิน
ไดลำบาก การจะตั้งคายพักก็จำเปนตองจัดพื้นที่ใหไดที่วางขนาดใหญ
พลังชีวิตของพืชในแดนรางนั้นแข็งแกรงเปนอยางมาก วัชพืชที่ทนทายาดยิ่งกวา
หญากระบี่นั้นมีมากมายราวกับขนบนตัววัว ยากเกินกวาจะพึ่งกำลังคนในการจัดการ
ไฟธรรมดาไมสามารถกำจัดมันลงได จึงจำเปนจะตองใชพิษไฟอยางหรานมูเทานั้น
อายฮุยเปดฝาขวดออก กลิ่นคลายกำมะถันก็กระจากออกมา หรานมูที่มีสีแดง
เพลิงดั่งลาวาถูกเทลงไปยังกอของหญากระบี่
หรานมูที่หยดลงสูใบของหญากระบี่ ทำใหใบของหญากระบี่ที่เคยเปนสีเขียว
เปลี่ยนเปนสีเทาในทันที สีเทานี้ไดลุกลามไปทั่วดวยความเร็วที่ตาเปลาสามารถเห็นได
อยางชัดเจน
กลิ่นกำมะถันในอากาศคอยๆ จางลง ประมาณหานาที กอหญากระบี่ทั้งกอที่แต
เดิมเปนสีเขียวก็เปลี่ยนเปนสีเทาทั้งหมด
ฟุบ!
หญากระบี่สีเทาพังทลายลงราวกับหิมะถลม เหลือเพียงซากหญาสีเทาบนพื้น
อายฮุยฝงซากหญาสีเทาลงไปในดินอยางชำนาญ ทำเชนนี้จะสกัดกั้นไมใหวัชพืช
งอกใหมอีก เพราะพวกวัชพืชไมชอบกลิ่นอายของพิษไฟ
เขาทำไดอยางรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวก็จัดการจนสนามวางเปลา เขาหาไม
กวาดมาทำความสะอาดใยแมงมุมที่อยูตามมุมตางๆ ออก แลวตักน้ำมาจากบอเพื่อใช
ทำความสะอาดพื้น เนื่องจากฝุนหนามาก จึงตองเช็ดถึงหาหกรอบจึงจะสะอาด
เขากำจัดใบที่ปวยของตนน้ำ เตาซึ่ งอยู ในรางหินบริ เวณกำแพงหอ ง นำเครื อ
เถาวัลยของมันมาถักแขวนไว แลวแขวนน้ำเตาลูกที่ใหญที่สุดไวตรงชายคา สวน
เถาวัลยที่เหลือก็ถักไวตามชายคา แลวทำความสะอาดน้ำเตาทุกลูกอยางละเอียด
จากนั้นเขาก็เปดประตูหนาตางทั้งหมดออก เพื่อใหอากาศไดถายเท
เขาแขวนปายไมเกาที่ถูกตากแดดตากลมกลับไปไวในโถงหลัก สวนกระถางธูปที่
ทำจากทองแดงก็ลางจนสะอาด จากนั้นก็หาธูปกำหนึ่งมาจากตู แลวจุดขึ้นมาสาม
ดอกปกใสกระถาง
ทำงานมาทั้งวัน ในที่สุดโรงฝกก็กลับมาเปนเหมือนใหม
ยามราตรีที่คืบคลานมาถึง น้ำเตาที่แขวนตรงชายคาก็เปลงแสงที่ออนโยนออกมา
ทำใหโรงฝกสวางไสว แผนหินที่สะอาดและสมบูรณ อาคารไมที่มีกลิ่นอายโบราณและ
เรียบงาย ของใชในบานที่ถูกจัดไวอยางสมบูรณ ควันธูปที่หมุนวนขึ้นสูอากาศนำมาซึ่ง
ความหอมจางๆ
ทิวทัศนที่แสนสงบเบื้องหนา ราวกับมีภาพฝนบางอยางซอนอยูในสวนลึกของ
จิตใจ มันมาถึงตรงหนาเขาโดยไรซึ่งสัญญาณใดๆ
สิ่งที่เกิดขึ้นอยางฉับพลันเชนนี้ เปนสิ่งที่ไมอาจตานทานได
เขารูสึกงงงวยอยูเล็กนอย
บทที่ 5 การปดตาตอสู
ความเปนจริงไดพิสูจนแลววาความรูสึกไมอาจเอาชนะทองหิวได
อายฮุยที่ดึงสติกลับมาเพิ่งจะพบวาตนนั้นไมไดกินอะไรเลยมาทั้งวัน เขาถึงถูก
ความหิวอันรุนแรงเขาจูโจมอยางฉับพลัน
เขาพยุงตัวไวกับกำแพง รูสึกมือเทาของตนไรเรี่ยวแรง
คนไมอาจทำงานไดตอนทองหิว ขาดขาวเพียงมื้อเดียวก็แทบตาย คำกลาวนี้ชางมี
เหตุผลเสียจริง
พอเดินออกมาจากซอยไดไมไกล เขาก็เห็นรานบะหมี่อยูรานหนึ่ง เขาเกือบที่จะ
คลานพุงเขาไปในราน
“เถาแก เอาบะหมี่มาชาม!”
“ไดเลย!”
พอกินบะหมี่ไปหนึ่งชาม ในที่สุดอายฮุยก็กลับมามีแรง ในตอนที่คิดเงิน ตาของ
เขาเกือบจะเบิกโตจนเปนทรงกลม “ราคา...เทาไรนะ”
“หนึ่งรอยหาสิบหยวน ขอบคุณที่อุดหนุน” เถาแกตอบ
“หนึ่ง...หนึ่งรอยหาสิบ” อายฮุยราวกับไดยินสิ่งที่ไมอาจจะเขาใจ สายตาที่มอง
ไปยังเถาแกก็เริ่มที่จะเปลี่ยนไป จิตสังหารถูกปลอยออกมา แตไหนแตไรมาเด็กหนุม
คนนี้ไมใชเด็กนอยนิสัยดีที่จะปลอยใหใครมาเอารัดเอาเปรียบ
“เปนนักเรียนใหมหรือ” เถาแกขมวดคิ้ว
เรื่องแบบนี้ไมไดเกิดขึ้นครั้งแรก เขารูสึกจนปญญานิดหนอยพลางชี้ไปที่ปายไมที่
แขวนอยู “ราคาอยูดานบนนั้น ไมมีการหลอกลวงใคร ราคาของในสนามเหนี่ยวนำ
หากเทียบกับดินแดนเกาแลวถือวาแพงกวามากนัก”
อายฮุยมองตามปลายนิ้วของเถาแกไปยังปายราคาบนกำแพง แลวในใจก็รูสึกถึง
รางสังหรณที่ไมคอยดีนัก
ที่เถาแกพูดเกรงวาจะเปนเรื่องจริง...
อายฮุยเดินออกมาจากรานบะหมี่ดวยใบหนาซีดเผือด ในที่สุดเขาก็เขาใจวาทำไม
งานดูแลโรงฝกถึงไมมีผูใดรับทำเลยในระยะเวลาตลอดสิบกวาปมานี้ เงินคาตอบแทน
ที่ไดทุกเดือนเพียงแคสี่พันหารอยหยวนนั้น พอที่จะกินอาหารเหรอ ใครเปนคนสอนผู
เฒาที่ศูนยมอบหมายงานคิดเลข โผลหัวออกมาเลย!
บะหมี่สามสิบชาม!
วันหนึ่งกินบะหมี่ไดหนึ่งชาม เขาลูบๆ ที่ทองอันไรความรูสึกของตนที่เพิ่งจะกิน
บะหมี่ไปหนึ่งชาม พอคิดถึงการใชชีวิตของตนในวันขางหนาแลว สองตาของอายฮุยก็
มืดมนลง เขาทุมเทสุดกำลังเพื่อที่จะเขามายังสนามเหนี่ยวนำ เขารูสึกวาภายหลัง
ตนเองจะตองไดเปนผูใชพลังธาตุที่ยงิ่ ใหญ และสามารถกำหนดชะตาชีวิตของตนเอง
ได แตไมคิดเลยวาสนามเหนี่ยวนำจะจูโจมแสกหนาเขาเชนนี้
แมแตขาวยังกินไมอิ่ม ยังจะพูดถึงการฝกวิชาอะไรอีก
สายลมในยามราตรีที่พัดผานทำใหหัวใจดวงนอยของเขาหนาวเหน็บ
ไมไดแลว ตองคิดวิธีหาเงิน!
อายฮุยที่ซึมเศราไปหาวินาทีไดดึงสติกลับมาใหม ไมเพียงแคปญหาเรื่องอาหาร
การกิน เงินกับการฝกพลังธาตุก็เกี่ยวของกันอยางใกลชิด ตอนที่เขาอยูในแดนราง
เขาอยูกับพวกผูใชพลังธาตุพวกนั้นเพื่อที่จะลาอสูรแดนราง
ชิ้นสวนรางกายของอสูรแดนรางลวนเปนสมบัติมีคา
กระดูกและกลามเนื้อสามารถนำมาสรางอาวุธ หนังของอสูรแดนรางสามารถ
นำมาสรางชุดเกราะ เลือดสวนมากสามารถนำมาผลิตเปนยาเสริมพลังธาตุ และเนื้อ
สวนใหญนำมาทำเปนอาหารเสริมพลังธาตุ
ที่เรีย กอาหารเสริมพลังธาตุก ็ คื อ อาหารที ่ สามารถเพิ ่ มพลั งธาตุ ไ ด ถื อ ว า มี
ประโยชนอยางมากตอผูฝกวิชา
ระบบพลังธาตุไดรับสืบทอดมาจากระบบการบำเพ็ญตน ระบบที่ยิ่งใหญของการ
บำเพ็ญตนสงผลกระทบตอระบบของพลังธาตุอยางลึกซึ้ง ดังนั้นระบบพลังธาตุจึงเปน
ผลของการบำเพ็ญตนสะสมเอาไว
นานแลวที่อายฮุยไมไดเปนเด็กหนุมใสซื่อ เขาเขาใจอยางแจมแจงวา ไมสามารถ
พึ่งแตการอดทนฝกวิชาอยางยากลำบากเทานั้นถึงจะไดมาซึ่งพลังอันยิ่งใหญ
โคมไฟของเมืองซงเจียนถูกจุดขึ้นใหสองสวางในยามราตรี ทุกที่สามารถเห็น
นักเรียนใหมออกมาเดินดวยกัน เปนภาพที่ดูมีชีวิตชีวาเปนอยางมาก นักเรียนใหมยัง
ไมคอยมีเรื่องไมสบายใจเทาไรนัก ความตื่นเตนยินดีที่เพิ่งไดเขาสนามเหนี่ยวนำจึงยัง
ไมลดลง ทุกคนตางเต็มไปความใฝฝนในอนาคต
ไมรูเปนเพราะไดรับอิทธิพลจากเสียงแหงความสุขของเหลานักเรียนใหมรอบตัว
หรือไม ความไมสบายใจของอายฮุยถึงไดลดลงไปไมนอย
มือทั้งสองขางของเขาซุกไวในกระเปากางเกง แลวเดินอยางไมรีบรอนเพียงลำพัง
ภายใตแสงอันงดงามจากโคมไฟ พอมองดูฝูงคนและแสงไฟภายใตหมอกควัน กลิ่น
ของอาหารที่อบอวนไปทั่วทองถนน ก็ดูรื่นเริงขึ้นมาบางเล็กนอย สำหรับเขาแลวนั้น
สิ่งนี้เปนความรูสึกที่พิเศษมาก แมวาเขาจะระมัดระวังภัยขึ้นมาอยางไมรูตัว แตทวา
ในโลกที่หรูหรางดงามนี้ก็ทำใหความตึงเครียดในหัวของเขาผอนคลายลง
เขาเดินอยางไรจุดหมายไปตามทองถนน
ในทันใดนั้น สายตาของเขาก็ถูกปายประกาศแผนหนึ่งดึงดูด
“การปดตาตอสู! หากยังยืนอยูไดในหานาทีก็รับไปเลยหาหมื่นหยวน!”
หาหมื่น!
นัยนตาทั้งสองขางของอายฮุยเปลงประกายขึ้นมาทันที ราวกับหมาปาหิวโซที่
มองเห็นเหยื่อ แลวมือทั้งสองขางที่ซุกอยูในกระเปาก็ยายมาลูบที่ทองตั้งแตเมื่อไรไมรู
พอรูตัวอีกทีก็กำลังลูบทองอยูแลว
ยังไมอิ่มเลย...
เงินหา หมื่ นนี้ เทา กับ บะหมี ่ก ี ่ ชามนะ ดู ท า จะนั บ ยากอยู แ ฮะ ทำไมถึ งรู สึ ก
เหมือนวาทองหิวอีกแลวละนี่
ยังไมทันไดคิดตรึกตรองใหดี ขาทั้งสองขางก็ขยับไปเองแลว เขาพาตัวเองเดินกาว
ไปเบื้องหนา
รางกายชางซื่อตรงอะไรขนาดนี้นะ...
ณ โรงฝกตระกูลซือ
ประตูหองพักถูกเปดออก พรอมกับหญิงสาวที่มีรูปรางสูงโปรงทาทางเย็นชาเดิน
เขามา นางสวมเสื้อกันลมสีดำและสวมหมวกที่เกือบจะปกปดใบหนาจนมิดใบหนึ่ง
หญิงสาวปลดเสื้อคลุมกันลมออก สงไปใหชายวัยกลางคนที่ยืนอยูดานหลัง พลางถาม
“การปดตาตอสู เปนความคิดที่นาสนใจ ขาชอบ!”
“คุณหนูชอบก็ดีแลว” ชายวัยกลางคนรีบโคงตัวรับเสื้อคลุมกันลม “พวกขาไดรับการ
แจงขาวจากตระกูล ถึงเรื่องที่คุณหนูจะเขามา ที่เมืองซงเจียนนั้นไมมีพวกยอดฝมือ
สวนมากเปนนักเรียนใหม จึงไดคิดวิธีนี้ขึ้นมา แตก็ไมทราบวาจะมีประโยชนหรือไม”
“ไมไดลงชื่อขาสินะ” หญิงสาวที่นั่งอยูยกขาอันเรียวงามไขวขึ้น จากนั้นก็ยกน้ำ
ผลไมที่อยูเบื้องหนาขึ้นมาคอยๆ ดื่ม ผมของนางคลุมอยูที่ไหล รูปโฉมงดงามไรตำหนิ
มีใบหนาเรียวไดรูป นัยนตาเปลาประกายราวกับดวงดารา ทาทางดูมีความมั่นใจและ
หยิ่งยโส สิ่งเหลานี้ทำใหนางมีพลังที่สามารถสยบผูคน ตอใหกำลังนั่งอยูบนโซฟาก็
ยังใหความรูสึกที่กดดันผูคนอยางรุนแรง
“ไมขอรับ!” ชายวัยกลางคนรีบตอบ “หากประกาศชื่อของคุณหนูออกไป จะยังมี
ผูใดกลามาอีก นามของทานนั้นออกจะขมขวัญผูคนเกินไป พวกขาวางแผนจัดการปด
ตาตอสูนี้ขึ้น ก็ไดจัดเตรียมหนากากที่ไมมีชองตรงดวงตาไวเพื่อปองกันไมใหมีผูใดดู
ออกวาเปนทาน”
“ดูทาพวกเจาจะพยายามวางแผนกันมาไมนอย ลำบากพวกเจาแลว”
ซือเสวี่ยมั่นแสดงออกใหเห็นถึงความพอใจ “บอกทุกคนวา ทุกคนไดรางวัลเปน
เงินเดือนสามเดือน”
บุคคลผูซึ่งไดรับความสนใจที่สุดในสนามเหนี่ยวนำ อีกทั้งยังเปนสาวงาม ไมวา
นางจะไปที่ใดลวนไดรับความสนใจ ทวานางกลับไมไดเกลียดการถูกสนใจ นางนั้นเปน
คนฉลาด นางรูวาเวลาใดควรที่จะถอมตัวและเงียบเอาไว
ความแข็งแกรงคือทุกสิ่งอยางแทจริง สิ่งนี้เปนสิ่งที่นางถูกสอนมาตั้งแตยังเล็ก
“ขอบคุณคุณหนูขอรับ” ชายวัยกลางคนรีบกลาวขอบคุณ ในแววตาแสดงออกถึง
ความยินดีอยางไมรูตัว เงินรางวัลเปนเงินเดือนสามเดือน สำหรับพวกเขาแลวนั่นไมใช
เงินกอนเล็กๆ เลย ที่สำคัญกวาคือคำชมจากคุณหนู การมีชื่ออยูในสายตาคุณหนู
นับวาผลประโยชนในอนาคตคงจะมากนัก
ซือเสวี่ยมั่นถามตอ “มีคนสมัครกี่คน”
“ตอนนี้มียี่สิบสามคน” ชายวัยกลางคนเพิ่งจะตอบ ทันใดนั้นก็มีคนมากระซิ บขาหู
เขาจึงพูดตอ “ยี่สิบสี่คน เมื่อครูมีอีกหนึ่งคนมาลงสมัคร พวกขาไมไดกำหนดคาสมัคร
เขาแขง ก็เพราะหวังวาจะมีคนมาสมัครมากขึ้น เพียงแตพวกขาใชเวลาในการวางแผน
คอนขางสั้น จึงไมมีเวลาประกาศออกไป”
“พอแลว ดูทาวันนี้ขาจะไดออกแรงเสียหนอย” ซือเสวี่ยมั่นเลิกคิ้วขึ้น ปากเผย
รอยยิ้มบางๆ ทันใดนั้นนางก็หุบยิ้มลงพลางกลาว “อีกนานเทาไรจึงจะเริ่ม”
“แปดโมงครึ่ง ยังเหลืออีกสิบหานาที” ชายวัยกลางคนตอบ เขาจำเปนตองเตือน
บางเรื่อง “คุณหนู ทานออมแรงหนอย ดูแลวสวนมากเปนนักเรียนใหม หากทำราย
บาดเจ็บจะเกิดปญหาวุนวายได”
“วางใจเถิด” ซือเสวี่ยมั่นพยักหนา “ขาใสกำไลผนึกพลังเอาไวแลว”
ชายวัยกลางคนไดยินดังนั้นจึงเบาใจลงไปได สิ่งที่เขากังวลที่สุดก็คือคุณหนูจะทำ
ใหนักเรียนใหมบาดเจ็บ หากเปนนักเรียนเกาก็ไมเทาไร พวกนั้นคงไมนาเขามายุงใน
สนามเหนี่ยวนำ ทวาหากเปนนักเรียนใหมพวกนั้นจะใหความสนใจกับสนามเหนี่ยวนำ
เปนอยางมาก กำไลผนึกพลังจะชวยผนึกเขตแดนของพลังธาตุ พอเขาลองกลับมาคิด
อีกทีก็พบวาตนเองนั้นคิดมากเกินไปแลว
ดูจ ากระดับ การฝ ก อันมากพรสวรรค ข องคุ ณหนู แ ล ว ต อ งเข มงวดกั บ ความ
ตองการของตนขนาดไหน ถึงไดถอมาเสียไกลเพียงเพื่อรังแกนักเรียนใหม
“เจาออกไปไดแลว ขาจะเตรียมตัวเสียหนอย” ซือเสวี่ยมั่นกลาวขึ้นตัดความ
สงสัยของเขา
“ขอรับ!” ชายวัยกลางคนโคงตัวถอยออกจากหองไป
ซือเสวี่ยมั่นเก็บรอยยิ้มบนใบหนา แลวทาทางของนางก็เริ่มจริงจังขึ้น แมวาจะมา
เปนเพื่อนทานปูมาเยี่ยมเพื่อนที่เมืองซงเจียน แตนางก็ไมไดมีความคิดที่จะมาพักผอน
กอนออกเดินทาง นางไดสงขอความมายังโรงฝกของตระกูลสาขาเมืองซงเจียน วานาง
จะเขาไปเพื่อทำการฝกฝน
คาดไมถึงวาโรงฝกสาขาเมืองซงเจียนจะมีความคิดใหมๆ อยางเตรียมการปดตา
ตอสูไวให
นางยังไมเคยมีประสบการณปดตาตอสูมากอน
เมื่อสวมกำไลผนึกพลังแลว ความแข็งแกรงของนางก็ไมไดตางกับนักเรียนใหม
มากนัก นี่จึงเปนการทดสอบทักษะของนาง อีกทั้งในสถานการณการปดตาตอสู นาง
สามารถแสดงความแข็งแกรงออกมาไดมากนอยเพียงใด ในใจของนางเองก็ยังไมรู
ทวานางหาไดเกรงกลัวตอการตอสูที่มิอาจรูไดไม กลับกันสิ่งนี้ทำใหนางตื่นเตน
และอยากรูอยากลอง
นางไมไดตื่นเตนเชนนี้มานานมากแลว นางเริ่มจัดชุดตอสูของตน แลวใชเชือกสี
แดงมามัดผมขึ้น เผยใหเห็นเรียวคอระหงขาวราวหิมะ การขยับเขยื้อนของนางไมได
เร็ว ทวาทาทางจริงจังชางทำใหผูคนรูสึกถึงความพิถีพิถัน
เมื่อสวมหนากาก โลกเบื้องหนาก็กลายเปนความมืดมิด
ความมืดมิดที่แปลกหนา ทำใหเกิดระลอกคลื่นขึ้นในใจของนาง
นางหลับตาลงคอยๆ ปรับลมหายใจของตน พยายามสัมผัสถึงความมืดมิ ดรอบ
ดานอยางละเอียด ไมรูวาเปนเพราะโลกมืดมิดหรือไม โลกถึงไดกลายเปนเงียบสงบ
ยิ่งขึ้น เสียงที่ตามปกตินางมองขามก็กลายเปนดั่งปลาที่วายอยูกลางกนมหาสมุทร
แลวลอยขึ้นสูผิวน้ำอยางเงียบเชียบ
ประสาทสัมผัสของนางเปลี่ยนเปนแหลมคมยิ่งขึ้น ราวกับมันถูกยืดออก แลวอากาศ
บางๆ ที่ไหลผานผิวกายของนาง ก็ทำใหรางของนางอดที่จะสั่นขึ้นอยางไมรูตัวไมได
นี่เปนโลกใบใหม โลกที่นางไมเคยไดสัมผัสมากอน
เปนโลกที่ทำใหนางตื่นเตนอยางถึงที่สุด ในทันใดนั้นนางก็มีความรูสึกวาหากนาง
สามารถควบคุมโลกใบใหมนี้ได นางคงสามารถบรรลุระดับที่ตนอยูในตอนนี้ไดเปนแน
เวลาคอยๆ ไหลผานไป นางกำลังสังเกตโลกอันแปลกใหมและเงียบสงบใบนี้อยาง
ละเอียด
“การปดตาตอสูกำลังจะเริ่มขึ้น ยังเหลือเวลาอีกสามนาทีสำหรับการเตรียมตัว
การตอสูใชเวลาหานาทีในการตัดสิน ในทายที่สุดผูที่สามารถยืนหยัดไดครบหานาที ผู
นั้นจะสามารถไดรับเงินรางวัลจำนวนหาหมื่นหยวน เพื่อใหสมจริงยิ่งขึ้น บนสนามจะ
มีการปลอยควันหมึกรัตติกาลซึ่งเปนควันที่ไมมีพิษและไมมีกลิ่น เพียงแตสิ่งนี้จะสงผล
กระทบตอ การมองเห็น มันสามารถเลี ย นแบบความมื ดมิ ดในยามราตรี ได อ ย า ง
สมบูรณแบบ เพื่อปองกันการทำรายกันอยางไมจำเปน การตอสูในครั้งนี้จึงเปนการ
ตอสูดวยมือเปลา ทุกคนกรุณาใสเครื่องปองกันและสวมหนากาก หนึ่งนาทีใหห ลัง
การตอสูจะเริ่มตนขึ้น”
ซือเสวี่ยมั่นลุกขึ้นยืนในทันที นางเดินออกจากหองพักไปยังบริเวณสนามแขง
นางกาวเดินราวกับใชไมบรรทัดก็ไมปาน ในพริบตาที่หนากากกำลังจะชนกับ
ประตู นางก็หยุดเดินพอดี
นางยืนรออยางสงบ ชางราวกับรูปสลักที่งดงามซึ่งถูกแกะโดยชางฝมือ
“การปดตาตอสูกำลังจะเริ่มขึ้น นับถอยหลัง สิบ เกา แปด...”
ซือเสวี่ยมั่นไมขยับแมแตนอย
“สาม สอง หนึ่ง! การตอสูเริ่มได!”
ประตูที่อยูดานหนาถูกเปดออกอยางรวดเร็ว
ซือเสวี่ยมั่นกาวเดินไปยังสนามอยางไมลังเล วินาทีที่เดินไปสูสนามแขง นาง
สามารถสัมผัสไดวาแสงที่แตเดิมเคยลอดผานหนากากมาไดหายไป ตัวของนางราวกับ
อยูทามกลางความมืดมิดที่ลึกล้ำและดำสนิท
สมกับเปนหมึกรัตติกาลอันเลื่องชื่อ
ซือเสวี่ยมั่นแอบชื่นชมอยูในใจ
ควันหมึกรัตติกาลถือวาเปนควันพิษที่คอนขางนอกรีต ผูใชพลังธาตุไมที่สามารถปรุง
มันไดมีนอยมาก ดังนั้นราคาของมันจึงสูงมาก ทวาผลลัพธที่ไดก็ดีเยี่ยม ซือเสวี่ยมั่น
เพิ่งจะคุนเคยกับความมืด สัญญาณเริ่มแขงก็ดังขึ้น
ในตอนนี้เอง สัญญาณเตือนในใจของนางก็เกิดขึ้นในทันที
บทที่ 6 ขึ้นนำ
เมื่อเทียบอายฮุยกับคนอื่นที่ทำอะไรไมถูก เขาก็เปนดั่งปลาที่อยูในน้ำ
ในแดนรางความมืดมิดคือผูควบคุมทุกสิ่ง การจูโจมและการสังหารมากมายลวน
เกิดขึ้นอยางเงียบงันในความมืดมิด ทั้งแยงชิงชีวิตและความอบอุน ผูใชพลังธาตุที่ไม
อาจคุนชินกับความมืด ตอใหแข็งแกรงเพียงใดก็ไมอาจรอดชีวิตอยูในแดนรางได
ในตอนแรกอายฮุยก็สามารถสัมผัสไดวาใกลตัวเขามีคนอยู อีกทั้งยังอยูใกลกับเขา
เปนอยางมากแตกตางจากที่เขาคาดการณเอาไว
แตเดิมเขาไมไดเตรียมการที่จะลงมือ ขอเพียงเขาสามารถอยูอยางไรตัวตนในมุม
หนึ่งของสนาม ยืนหยัดจนครบหานาที ก็จะสามารถรับเงินรางวัลไปได หากดูจากกฎ
แลว ขอเพียงยืนหยัดอยูไดครบหานาทีโดยที่ไมไดตอสูแพก็ถือวาชนะการแขง
อยางไรก็ตามแดนรางมีเพียงแคความเปนความตาย หาไดมีกฎเกณฑไม
อายฮุยพบวาสถานการณปจจุบันแตกตางไปจากที่เขาคาดการณไว จึงตอบสนอง
ดวยสัญชาตญาณในทันที ระยะหางระหวางเขากับอีกฝายอยูใกลกันมาก ดวยระยะที่
ใกลกันเชนนี้ หากอีกฝายทำการโจมตี เขามีโอกาสอยางมากที่จะถูกดึงเขาสูการตอสู
ดวยการประเมินความอันตรายอยางแมนยำราวกับอสูรแดนรางที่นาหวาดกลัว
อ า ยฮุ ย จึ ง เขา ใจสถานการณ ไ ด เ ป น อยา งดี เขาไม ม ี ท างมี ค วามคิ ด โง เขลา
เหมือนกับพวกรอบกายเขาที่ไมคุนชินกับความมืด
ประสบการณที่ผานความเปนความตายหลายตอหลายครั้งไดบอกกับรางกายของ
เขาวา เมื่อพบเจอกับสถานการณเชนนี้ ผูที่เริ่มโจมตีกอนจะมีโอกาสมากกวา
ฝเทาของเขาแผวเบาราวกับแมวในยามราตรี ยางกาวลวนไรซึ่งสุมเสียง
การเคลื่อนไหวของเขาชามาก ชาเสียจนไมทำใหเกิดเสียงใดๆ สิ่งนี้คือสวนที่เปน
ประสบการณอันมากมายของอายฮุย ในสภาพแวดลอมที่มืดมิดเชนนี้ เสียงและลม
หายใจก็เปนดั่งแสงสวางที่แยงตา สัตวปาที่เชี่ยวชาญในการลา กอนที่จะเริ่มการโจมตี
ลวนสงบราวกับความมืดมิดของยามราตรี
ความเงียบสงบและความมืดมิดลวนเปนเพื่อนขางกายที่ดีที่สุด
อายฮุยสัมผัสไดถึงตำแหนงของอีกฝายอยางคลุมเครือ เขาขยับอยางแผวเบาไป
ทางฝายตรงขาม
สมาธิของเขาตึงเครียดอยางที่สุด กลามเนื้อทั่วรางของเขาอยูในสภาพที่ไมปกติ
เหมือนกับเขาใกลจุดอันตรายของภูเขาไฟ ขอเพียงมีสะเก็ดไฟดวงเล็กๆ ก็สามารถที่
จะทำใหเขาระเบิดออกมาได อยางไรก็ตามหากดูจากภายนอกกลับหาไดมองเห็นถึง
รองรอยใดไม
ทันใดนั้น เขาก็หยุดลงและกลั้นลมหายใจเอาไว
เขาก็เปนเหมือนนักลาที่มากประสบการณ เขาสัมผัสไดวาเหยื่อของเขาสัมผัสได
ถึงบางอยาง
เขาไมรูวาควรจะบรรยายสัญชาตญาณนี้เปนความรูสึกอยางไร และก็ไมรูวาการ
คาดเดานี้นำหลักฐานใดมาตัดสินใจ ทวาในแดนรางไมตองการหลักฐาน มีเพียงแพ
หรือชนะ มีชีวิตรอดหรือตายเทานั้น
เขาหยุดอยูกับที่ไมขยับแมแตนอย ราวกับรูปสลักรูปหนึ่ง
ซือเสวี่ยมั่นสัมผัสไดถึงกลิ่นอันตรายที่คลุมเครือ แมวานางจะไมแนใจมากนัก
ทวาสิ่งนี้ก็ทำใหนางระวังตัวขึ้นมา จึงทำการเพงความสนใจ และใชหูพยายามฟงเสียง
ที่เกิดขึ้นรอบตัว
รอบตัวเงียบเปนอยางมาก ไมมีสิ่งใดเลย
ทวาบริเวณที่ไกลออกไปอีกหนอย นางไดยินเสียงหายใจของคนบางสวน ถึงแม
พวกเขาจะพยายามกลั้นลมหายใจ แตก็ถูกนางจับได นางยังไดยินบริเวณดานซายของ
ตนวามีคนกำลังกาวเดินอยางระมัดระวัง
นางอดไมไดที่จะแอบสายหัวเบาๆ ในตอนนี้ไมวาการเคลื่อนไหวใดลวนสามารถ
ดึงดูดการโจมตีจากผูอื่น
ในเวลานี้เอง อยูๆ ดานหนาสิบกวาเมตรก็เกิดเสียงอุทานตกใจและหดหูใจขึ้น
จากนั้นก็มีเสียงการปะทะกันอยางรุนแรงเกิดขึ้น เพียงไมนานในบริเวณนั้นก็ดึ งดูด
ความวุนวายขึ้น
ในใจของซือเสวี่ยมั่นผอนคลายลง ดูทาตนคงจะรูสึกไปเอง ในบริเวณสามเมตร
รอบตัวของตนนั้นไมมีผูใดเลย
ความรูสึกในการปดตาตอสูชางแตกตางจริงๆ
ซือเสวี่ยมั่นรูสึกตื่นเตนขึ้นมาเล็กนอย การตอสูเชนนี้เปนสิ่งที่นางไมเคยเจอมา
กอน นางสัมผัสไดถึงสมาธิของตนที่ไมเคยตึงเครียดเชนนี้ การสัมผัสถึงบริเวณรอบตัว
ก็มีความเฉียบแหลมอยางที่ไมเคยเปนมากอน หากนางสามารถคงสภาพสัมผัสอัน
เฉียบแหลมของตนไดตั้งแตเริ่มจนจบ ความสามารถทางการตอสูของนางจะตองเพิ่ม
อยางกาวกระโดดเปนแน
นางมองเห็นถึงเสนทางที่ไมเคยเห็นมากอน
นางรูสึกราวกับตัวเองเปนนักลาที่ซอนเรนอยูในเงามืด รอคอยโอกาสเหมาะสมใน
การออกลามาถึง ในใจของนางเต็มเปยมไปดวยความมั่นใจ ดวยระดับการเพงความ
สนใจที่สูงถึงเพียงนี้ การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กนอยที่เกิดขึ้นโดยรอบจึงปรากฎขึ้น
ภายในใจของนาง
ความรูสึกอันแปลกใหมนี้ ทำใหนางรูสึกลุมหลง
ทันใดนั้นนางก็รูสึกวาหัวไหลของตนชนเขากับอะไรบางสิ่ง
ในขณะที่นางพบสถานการณที่แปลกแยกขึ้นมา ขนทั่วรางก็ลุกซูขึ้น ตนเองไมได
ขยับ เหตุใดจึงชนเขากับบางสิ่ง
มีคนกำลังเขาใกลตน! ทวาตนเองกลับไมสามารถสัมผัสไดถึงสิ่งใดหรือไดยินถึง
เสียงใดเลย บรรยากาศรอบดานไมมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ มีเพียงความเยือกเย็นที่
ลามขึ้นมาจากกระดูกกนกบ ลุกลามไปตามแนวไขสันหลัง
อยางไรก็ตามการตอบสนองของนางชาไปเพียงอึดใจเดียวเทานั้น ในขณะที่นาง
นึกเขาใจขึ้นมา ก็ไดตกอยูอันตรายเสียแลว
ในตอนที่ซือเสวี่ยมั่นผอนคลายความระวังตัวลง อายฮุยที่นิ่งราวหุนสลักก็เริ่มตน
เคลื่อนไหว การเคลื่อนที่ของเขาเชื่องชาเปนอยางมาก ชายิ่งกวายายแกอายุเกาสิบ
เสียอีก นิ้วทั้งหาของเขากางออก แลวคอยๆ คลำไปทางดานหนา
รางกายของเขาไดขยับไปทางดานหนา
กลามเนื้อทั่วรางรวบรวมกำลังรอคอยการจูโจม
การเพงความสนใจของอายฮุยอยูในระดับสูงสุด เขาปลอยเสียงการตอสูที่อยูไม
ไกลใหผานไป จึงไมไดรับผลกระทบแมแตนอย ความสนใจทั้งหมดของเขาเพงรวมอยู
ที่ปลายนิ้ว เขารูวาหากสัมผัสโดนเปาหมาย การตอสูก็จะเกิดขึ้นในชวงเสี้ยววินาทีนี้
ชัยชนะหรือความพายแพ ลวนตัดสินขึ้นในชวงเสี้ยววินาทีนั้น
ในขณะที่ปลายนิ้วสัมผัสไดถึงบางอยาง อายฮุยก็เริ่มทำการโจมตีอยางไมลังเล
หัวเขาที่คอยๆ โคงงอ กลามเนื้ออันแขงแกรงระเบิดพลังออกมา รางกายของเขา
พุงไปดานหนาอยางไมจำเปนตองตระเตรียมใดๆ ก็เหมือนกับเสือชีตาหที่รวดเร็วและ
ดุราย เขาพุงเขาไปอยางรวดเร็วปานสายฟาฟาด
แลวสัมผัสที่ปลายนิ้วก็ยิ่งเพิ่มความรุนแรง ประสบการณอันมากมายของอายฮุย
สามารถตัดสินไดทันทีวาสวนที่เขาสัมผัสโดนคือหัวไหลของอีกฝาย
กวาซือเสวี่ยมั่นจะรูตัว การจูโจมอันดุดันรวดเร็วก็เปนดั่งภูเขาไทซานที่กดทับอยู
บนตัว ในขณะนั้นนางเกิดเสียสมดุลขึ้นมา รางกายกำลังจะทรุดลงพื้น สวนมือซายที่
เตรียมจะปองกันก็ใชไมไดผล นางจึงตัดสินใจจะใชฝามือยันพื้นเอาไวเพื่อรักษาสมดุล
ทวากลับถูกหยุดเอาไว แขนของนางทั้งแขนถูกแขนของอีกฝายจับยึดไว อีกฝาย
ลงมืออยางดุดันเปนอยางมาก นางรูสึกไดวาแขนขวาของตนไดไรความรูสึกไปเสียแลว
การโจมตีที่ทำใหถึงกับหายใจไมออกยังไมจบสิ้น สิ่งที่ทำใหซือเสวี่ยมั่นตองตกตะลึงก็
คือ รางกายของอีกฝายเปนดั่งงูที่บีบรัดอยูบนตัว อีกฝายแนบชิดอยูที่ดานหลังของ
นาง เปนราวกับหนวดปลาหมึกก็ไมปานเกาะอยูบนหลังของนาง รวมทั้งขาสองขางที่
เปรียบประดุจลวดเหล็กอันแข็งแกรงถูกยืดมาดานหนาเกี่ยวรัดขาทั้งสองขางของนาง
เอาไว แลวปลายเทาที่เหมือนตัวล็อกเหล็กกลา ก็ยึดชวงตนขาและทองจนขยับไมได
ตั้งแตเล็กจนโต ซือเสวี่ยมั่นไมเคยชิดใกลกับผูชายคนใดถึงเพียงนี้ ทวาในตอนนี้
นางไมไดมีความรูสึกหลงใหลหรืออบอุนหัวใจแมแตนอย จะมีก็เพียงแตความกลัว
ความหวาดกลัวจากกนบึ้งของจิตใจ
การล็อกจับอยางดุรายทำใหนางรูสึกราวกับเปนปลาที่ติดอยูในแห ไรซึ่งกำลังดิ้น
รน นางอยากที่จะปลดกำไลผนึกพลัง แตทวาแขนขาของนางถูกล็อกอยู ไมอาจขยับ
ไดแมแตนอย นางไมไดยินเสียงลมหายใจจากดานหลัง ความเงียบสงบอันเย็นยะเยือก
ทำใหนางหวาดกลัว ราวกับสิ่งที่โจมตีนางเปนเครื่องจักรไรชีวิต และสิ่งที่จับนางเอาไว
เปนเพียงโซเหล็ก สิ่งที่ยิ่งทำใหตื่นกลัวก็คือ อีกฝายกำลังคอยๆ บีบรัดแนนขึ้น
นางไดกลิ่นอายแหงความตายที่เขมขน
ความหวาดกลัวที่รุนแรง ทำใหนางดิ้นรนอยางไมคิดชีวิต แลวสัญชาตญาณแหง
การเอาชีวิตรอดก็ทำใหนางระเบิดพลังที่ไมเคยมีออกมา
เสนผมที่ปรกหนากากซึ่งสวมอยูบนใบหนา ดานหลังหนากากคือใบหนาที่กำลัง
ปดตาดวยทาทีแสนเย็นชาดังทุกที สิ่งนี้เปนสถานการณที่เกิดขึ้นตามปกติ ไมวาจะ
เปนสัตวปาใดกอนตายยอมตองดิ้นรนอยางสุดความสามารถ ยิ่งเปนคนดวยแลว
การตอสูยังไมจบ ถัดจากนี้จะเปนการตอสูดวยปญญาและความอดทน
เขาคอยๆ ผอนแรงลงเล็กนอย
แนนอน เมื่อรูสึกวาการดิ้นรนของตนมีประโยชน รางกายของซือเสวี่ยมั่นจึงยิ่ง
สะบัดไปมาอยางรุนแรง
อายฮุยเปนดั่งนักลาที่เยือกเย็น สวนสำคัญของอีกฝายที่ถูกจับไวมั่นคงราวกับหิน
กอนยักษ การดิ้นรนของอีกฝายจึงเปนเพียงการเสียกำลังกายไปเรื่อยๆ ในตอนที่กำลัง
กายหมดสิ้น ก็จะเปนเวลาตายของเหยื่อนั่นเอง
เพียงไมนานซือเสวี่ยมั่นก็เริ่มหายใจหอบเสียแลว เหงื่อหอมเปยกโชกไปทั่วกาย
นางรูสึกไดวากำลังกายของตนกำลังลดนอยถอยลงอยางรวดเร็ว ขณะที่ตนเหนื่อยขึ้น
เรื่อยๆ อีกฝายกลับยิ่งรัดแนน
มาถึงตอนนี้ ในที่สุดนางก็ดึงสติออกมาจากความหวาดกลัวไดสำเร็จ
ฟนคืนสูซือเสวี่ยมั่นที่สงบสุขุม ในที่สุดการฝกฝนอยางยากลำบากเปนเวลานานก็
แสดงผลลัพธออกมา นางถือกำเนิดขึ้นในตระกูลใหญ เพิ่งจะไดเปดหูเปดตาก็ตอนนี้
ในตอนแรกเปนเพราะตื่นตระหนก และยังตกลงสูความหวาดกลัว ทำใหตนสับสนทำ
อะไรไมถูก ในตอนนี้ฟนคืนสูความสงบสุขุม นางจึงสามารถหากลยุทธในการตอบโตได
ในทันที
นัย นตางามสอ งประกายแสงแปลกประหลาด พลั งธาตุ ในกายหมุ น วน แล ว
รางกายที่ถูกจับไวอยางแนนหนาเกิดการสั่นไหวขึ้นในทันที
การสั่นไหวครั้งนี้ไมอาจเทียบกับการดิ้นรนอยางรุนแรงในคราวกอน แตทวาพลัง
ที่ถูกปลอยออกมากลับยิ่งใหญ เรียกไดวายิ่งใหญเกินกวาคราวกอนมากมายนัก
อายฮุยสัมผัสไดถึงพลังที่ทำใหผูคนตองตกตะลึกแผออกมาจากรางสูภายนอก
แขนขาทั้งสี่ขางรูสึกชา เขารูสึกถึงความอันตรายจนตองปลอยมือ
อันตรายจริง!
ความแข็งแกรงของเหยื่อเหนือกวาที่เขาคาดการณไวนัก สัญญาณอันตรายเพิ่งจะ
ปรากฎขึ้นภายในสมองของเขา รางกายของเขาไดตอบสนองอยางซื่อตรงที่สุด ไมมี
แมแตความลังเล แขนที่แตเดิมพันแขนเรียวเปนดั่งงูที่เลื้อยออกมา นิ้วทั้งหากางออก
พุงตรงไปยังลำคอของเปาหมายดวยความเร็วดั่งสายฟาฟาด
มันแตกตางหากเทียบกับการลาสังหารที่เงียบเชียบราวกับใตทะเลลึก กรงเล็บสง
เสียงแหวกสายลม รวดเร็วดังสายฟา
ซือเสวี่ยมั่นถึงกับใจสั่น ขนลุกชันไปทั่วราง นางไมสงสัยแมแตนอยวากรงเล็บนี้
หากโดนคอของตนจะตองทิ้งรอยนิ้วทั้งหาไวเปนแน
ยังดีที่อีกฝายผอนแรงแขน ทำใหนางมีโอกาสสกัดเอาไว แขนบางราวไรกระดูก
ผิวขาวราวหิมะ เปนดั่งตนหลิวลูลม ยื่นออกโดยไรซึ่งหมอกควัน สกัดอยูเบื้องหนา
ลำคอของตน
“ฟุบ!”
กำลังอันมหาศาลทำใหขอมือของนางเจ็บปวดไปหมด นางใชกำลังทั้งหมดรีบรอน
เงยหนาไปทางดานหลัง ทวาก็ยังคงไมอาจหลบไดทั้งหมด ลำคอรูสึกแนนขึ้นมา ภาพ
เบื้องหนาดำมืด จนเกือบจะสลบไป ทวานางรูวาในสถานการณตอนนี้ตอใหลำบาก
กวานี้ก็จะตองทนใหได
นางฝนตัวเองเอาไว เหลือเพียงขอมือที่ยังพอขยับได จึงสกัดกั้นการจูโจมที่บาคลั่งราว
พายุฝนของอีกฝายอยางตอเนื่อง เวลานี้ไมอาจคำนึงถึงลำคอที่เจ็บปวดราวไฟเผา
การสกัดกั้นเชนนี้เปนหนึ่งในวิชาถนัดที่นางฝกฝนมา แมวาการจูโจมของอีกฝาย
จะรุนแรง นางก็ยังคงสกัดเอาไวได
โดยเฉพาะอยางยิ่ง นางใชเวลาไมนานในการพบวาอีกฝายอาจจะมีจุดออน ที่พูด
วาอาจจะก็เพราะนางเองก็ไมแนใจ
จนถึงบัดนี้ อีกฝายก็ยังไมไดใชพลังธาตุ เปนการเก็บซอนเอาไว หรือวาพลังธาตุ
ต่ำตอย ตัวนางไมแนใจ
ดวยซือเสวี่ยมั่นนั้นยากที่จะเอาชนะ ในใจอายฮุยจึงรูสึกถึงอันตรายรุนแรงขึ้น
ราวกับเปนสัญชาตญาณ เขายิ่งเพิ่มจิตสังหารและจูโจมอยางรุนแรงมากขึ้น
หัวใจ!
ไมวาผูใดหากถูกจูโจมที่หัวใจ ลวนตองสูญเสียกำลังที่จะตอตาน
ทวาเขาตองปลดเครื่องปองกันของอีกฝายกอน สำหรับเขาแลวนั้น สิ่งนี้ไมใช
ปญหาใหญอะไรเลย ถอดเกราะปลดเชือกเปนหนึ่งในทักษะที่เขาถนัดที่สุดตอนอยูใน
แดนราง ชุดเกราะของชนเผาแดนรางถือวาหนามาก ปมเชือกเองก็แนนหนาไมแพกัน
จึงเปนการยากที่อาวุธทั้งหลายจะสรางบาดแผลใหกับคนสวมใสได มีเพียงการใช
ทักษะแกปมเชือก และการปลดชุดเกราะออกจากศพของชนเผาแดนรางเทานั้นที่เปน
งานหลักของเขา
เขากางมือขวาออกราวกับหมอกควันที่เบาบาง และรวดเร็วราวสายไฟ ทวากลับ
เงียบงันไรสุมเสียง พุงตรงไปแกปมเชือกที่รั้งเครื่องปองกันไว หากมีผูใดเห็นเขา ก็ยาก
ที่จะจับการเคลื่อนไหวของมือเขาได
มือขวาที่ราวกับปลาไหลแทรกเขาไปยังภายในของเครื่องปองกันจนพบกับปมเชือก
เขาแกปมออกอยางไมคิดมาก ไมวาสิ่งปองกันใดสำหรับเขามันคือเครื่องกีดขวาง
ในชวงวินาที่ที่สัมผัสถูกผิวหนังของอีกฝาย นัยนตาของเขาก็สองประกายเย็นเยียบ จิต
สังหารลุกไหมดั่งแกนแท นิ้วทั้งหาราวกรงเล็บ พุงตรงไปยังตำแหนงของหัวใจในทันที
ทวาในวินาทีสุดทาย เขานึกขึ้นไดวาที่แหงนี้ไมใชแดนราง แตเปนการสูเพื่อเงิน
รางวัลหาหมื่นหยวน ตนเองตรึงจุดตายของอีกฝายไวไดกอนแลวคอยวากัน ถาหาก
ยังคงตอตานละก็ เชนนั้นอยาไดโทษวาเขาโหดเหี้ยมไรหัวใจ ภายในใจของอายฮุยเต็ม
ไปดวยจิตสังหารอันนาเกรงขาม
“ฟุบ!”
เขากลางเปาหมาย!
เขาสามารถสัมผัสไดอยางชัดเจนวาเปาหมายที่กำลังตอตานภายใตออมกอดของ
ตนนั้นอยูๆ รางกายก็แข็งคางไป
หืม ความมืดมิดทำใหสัมผัสที่ปลายนิ้วของอายฮุยแหลมคมมากกวาปกติ เขารูสึก
งงงวยเล็กนอย
ความรูสึกนี้...ดูเหมือนวา...จะไม...คอยถูกตองนะ
บทที่ 7 ความศรัทธาทีม่ ั่นคง
อายฮุยที่ในหัวเต็มไปดวยเมฆหมอก ผานไปครูหนึ่งจึงไดเขาใจวาสิ่งที่ตนควาจับ
ไปคือสิ่งใด
อายฮุยรูสึกราวกับฝามือของตนนั้นควาไปที่ถานแดงรอนๆ จะจับก็ไมใชจะปลอย
ก็ไมเชิง
สมควรตายจริง!
อายฮุยอดไมไดที่จะแอบดาในใจ แตก็ไมรูวาดาใคร เปาหมายที่อยูในออมกอด
ของตนไมแมแตจะขยับ ทาจะละทิ้งการดิ้นรนตอสูไปเสียแลว หากดูจากมุมมองการ
ตอสู สิ่งนี้ก็นับเปนเรื่องที่ดี แตทวาความอึดอัดใจที่ไรสาเหตุนี่มันอยางไรกัน
เวลาหนึ่งวินาทียาวนานราวหนึ่งป หยาดเหงื่อไหลชุมกายไปหมด
“แตงๆๆๆ!”
เสียงสัญญาณจบการตอสูดังขึ้น อายฮุยราวกับไดรับพระราชโองการ เขาดึงมือ
ออกจากหนาอกของอีกฝายดวยความเร็วดั่งสายฟา แถมยังถือโอกาสชวยอีกฝายผูก
เชือกของเครื่องปองกันใหใหม จากนั้นก็ปลอยมือปลอยขาแลวลงมาจากหลังของอีก
ฝาย จากนั้นจึงพุงไปภายในหมอกควันราวกับแมวที่กำลังระวังตัว
อึดอัดใจ...คงตองหางจากเปาหมายใหไกลอีกหนอยจะดีกวา
อายฮุยที่เขาไปรวมในกลุมคนใหม อีก ครั้ งก็ผอนคลายลงโดยที่ไมรู ตัว ความ
วุนวายนี้ทำเอาเขาถึงกับทำอะไรไมถูก ยังดีที่บนหนายังมีหนากากอยู อีกทั้งหมึก
รัตติกาลก็ดำมืดพอสมควร อายฮุยรูสึกวาใบหนาของตนราวกับมีไฟเผา ในใจเต็มไป
ดวยความคิดที่จะหันหลังหนีออกจากตรงนี้
ยังดีที่ในใจของเขายังเหลือความศรัทธาอันมั่นคงเปนฟางเสนสุดทาย เงินรางวัล
หาหมื่นหยวน!
ความอึดอัดในใจของอายฮุยคอยๆ หายไปตามหมอกควันที่คอยๆ เลือนรางนี้ สิ่ง
นี้เปนเพียงเรื่องเหนือความคาดหมายเทานั้น ในสนามตอสูก็มักจะมีเหตุไมคาดคิด
เกิดขึ้น อายฮุยพร่ำบอกกับตนเองเชนนี้
ใช เรื่องมีเหตุผลเชนนี้ตนเองก็ไรหนทางจะคาน
เมื่อพูดกลอมตัวเองสำเร็จ อายฮุยจึงสงบใจลงมาได
ในตอนที่หมอกควันจางหายไป ผูรับผิดชอบโรงฝกก็เห็นวาบนสนามยังเหลือคน
อยูถึงสิบกวาคน จึงอดไมไดที่จะตกตะลึง ในการคาดการณของเขา เหลือรอดไดสอง
ถึงสามคนก็นับวาไมเลวแลว เขานั้นรูดีวากำลังในการสูรบของคุณหนูนั้นแขงแกรง
เพียงใด โดยเฉพาะคุณหนูที่จริงจังกับการฝกฝนมาโดยตลอด ในการตอสูจริงจะไมมี
ทางยอมออมมือเปนแน
เหตุใดจึงเหลือรอดเยอะถึงเพียงนี้ หรือวาคุณหนูจะไมเหมาะกับการตอสูแบบปด
ตาที่เปนรูปแบบการตอสูชนิดพิเศษ
มีคนเห็นวาทางโรงฝกยังไมแสดงทาทีใดๆ จึงอดไมไดที่จะตะโกนขึ้น “เงินละ
สรุปจะใหไมให”
ทันใดนั้นเสียงทักทวงจากอีกหลายคนก็ดังขึ้นมา
“ใชแลว คงจะไมเบี้ยวกันหรอกนะ!”
“รีบใหเงินมา! ขาไมไดวางรอนะ!”
ชายวัยกลางคนมองไปยังคุณหนูของตน เมื่อเห็นคุณหนูยังไมมีทาทีใด ราวกับไม
เห็นสายตาของเขาที่จองมองอยู อยางไรเสียเขาก็เปนคนดูแลยอมมีความสามารถ
แกไขปญหาเฉพาะหนา โดยเฉพาะอยางยิ่งเงินรางวัลหาหมื่นหยวนสำหรับโรงฝกแลว
นั้น ไมคูควรจะใหพูดถึงดวยซ้ำ ถึงแมจะคิดไมออกวาเหตุใดจึงเหลือผูชนะมามายถึง
เพียงนี้ ทวาเงินสดหลายแสนหยวนนี้ก็คือวาจายใหไดไมยาก
เมื่อไดรับเงิน ทุกคนตางก็สงเสียงรองยินดีออกมาในทันที
เงินหาหมื่นสำหรับนักเรียนนั้นถือไดวาไมใชเงินจำนวนนอยๆ เลย ในเวลาปกติ
ของที่ตัดใจซื้อไมลงในตอนนี้ก็จะไดไปซื้อมาใหหมด!
ทุกคนตางแยกยายกันไป
อายฮุยปะปนไปกับฝูงชนดูแลวไมสะดุดตาแมแตนอย
เงินหาหมื่น! พอเงินตกถึงมือ ความรูสึกดีนี้ก็ทำใหเขาลืมเรื่องราวนาอึดอัดใจและ
เรื่องอุบัติเหตุนั้นไปเสียสิ้น
เขายังจะมีอารมณที่ไหนมาเดินเลน ตอนนี้เขาเต็มไปดวยพลังและความกลาหาญ
พุงเขาไปยังรานบะหมี่อีกครั้งราวกับเปนสายลม พอเผชิญหนากับเถาแก เขาก็สูดลม
หายใจเขาเต็มปอด พรอมกับยกมือขึ้นมาและพูดประโยคที่วางอำนาจที่สุดในวันนี้
“เถาแก เอาบะหมี่มาอีกหาชาม!”
ในที่สุดเขาก็ไดกินจนอิ่มทองเสียที
เพียงแต...
สายตาของอายฮุยหยุดอยูที่ฝามือของตน ซึ่งเปนมือขางนี้ที่เมื่อครู...
ผับ! เขาหุบนิ้วทั้งหา กำหมัดขึ้นมา
ในการตอสูยอมตองมีอุบัติเหตุที่ไมคาดคิด อายฮุยพูดกับตนเองอยางจริงจังอีกครั้ง
จากนั้นก็สงบใจกินบะหมี่ตอ
ผูดูแลโรงฝกมองไปยังคุณหนูที่ยืนอยูเพียงลำพังไปขยับไปไหน ในใจรูสึกไดถึงลาง
ไมดี คุณหนูยืนอยูตรงนั้นไมขยับแมแตนอย ซึ่งผานมาสิบกวานาทีแลว
“คุณหนู!” เขาอดไมไดที่จะเรียกขึ้น
ทวาคุณหนูกลับทำราวกับวาไมไดยิน
ในใจเขายิ่งรูสึก ไมส งบ หรือ ว า ระหว า งการฝ ก ฝนของคุ ณหนู เกิ ด เหตุ อ ะไร
ผิดพลาดขึ้น เขาไมคิดแมแตนอยวาคุณหนูจะไดรับบาดเจ็บ พูดเลนอะไรกัน ทั้งสนาม
เหนี่ยวนำนี้ผูที่จะเปนคูตอสูของคุณหนูไดเรียกวานับนิ้วไดเลย แมวาคุณหนูจะผนึก
ระดับเขตแดนพลังไว และปดตาตอสูทั้งที่ไมคุนเคย ทวาเขาก็ยังไมเชื่อวาจะมี ผู ใด
สามารถสรางปญหาใหกับคุณหนูได ปญหาใหญที่สุดของคุณหนูมีเพียงแคไมคุนชินกับ
การปดตาตอสูเทานั้น
นัยนตาของเขาเปนประกายขึ้นในทันที อยาบอกนะวาคุณหนูบรรลุการฝกแลว
ไมผิดแน สถานการณเบื้องหนานี้จะตองเปนการบรรลุการฝกในตำนาน จะตอง
เปนเชนนี้แน!
เขาเปลี่ยนมาเปนตื่นเตนในทันที ในโรงฝกที่เขาดูแล การปดตาตอสูที่เขาจัดขึ้น
ทำใหคุณหนูบรรลุการฝก สิ่งนี้เปนความชอบที่ยิ่งใหญเทียมฟาเลยทีเดียว ในหัวของ
เขาลวนเปนภาพจินตนาการที่ตนเองประสบความสำเร็จอยางยิ่งใหญในอนาคต บน
ใบหนาจึงปรากฏเปนรอยยิ้มโงๆ อยางไมรูตัว
ในใจของซือเสวี่ยมั่นมีแตความวางเปลา
เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู สงผลกระทบตอนางอยางรุนแรง ทำใหนางสับสนอยางที่สุด
ตั้งแตวินาทีที่เหตุการณนั้นเกิดขึ้นตลอดจนถึงตอนนี้ ในสมองของนางลวนมีแต
ความวางเปลา นางไมไดยินเสียงเรียกจากชายวัยกลางคนแมแตนอย และไมรูดวยซ้ำ
วาการตอสูไดจบลงแลว รวมทั้งผูเขารวมแขงทั้งหมดนั้นไดกลับไปหมดแลว
นางมึนงงสับสนไปหมด จนในที่สุดนางก็เริ่มคอยๆ ไดสติกลับมาอยางชาๆ
รางของนางสั่นเทิ้ม ทวานางพยายามสะกดมันเอาไว นั่นเปนเพียงเหตุการณไม
คาดฝนเทานั้น นางบอกกับตนเองเชนนี้ ทวามันกลับไรประโยชน รางของนางยังคง
สั่นเทิ้มไมหยุด ความรูสึกที่ถูกลบหลูอยางรุนแรงนี้ ทำใหนางไมอาจควบคุมตัวเองได
นางพยายามที่จะกลั้นใจไมใหรองไหอยางสุดความสามารถ
ตอใหเปนเพียงแคอุบัติเหตุ นางก็จะไมมีวันปลอยเจาสาระเลวนั้นไปเปนแน!
นางกัดฟนแนน บอกกับตัวเองทีละคำทีละคำ ประโยคนี้ราวกับมีพลังเวทมนตร
ในที่สุดรางกายที่สั่นเทิ้มก็หยุดลง นางไมตองการที่จะรองไหแมแตนอย ถูกแลว จะไม
มีวันปลอยเจาสาระเลวนั้นแน!
นางฟนคืนความมั่นใจของตนเองใหกลับมาใหม กลับมาเปนเทพธิดาผูสูงสงที่จุติ
ลงมายังโลกอีกครั้ง
หนากากบนหนาถูกถอดออก แลวแววตาก็ฟนกลับมาเปนดังเดิม
ในทันใดนั้นเอง สีหนาของชายวัยกลางคนก็เปลี่ยนไปเปนอยางมาก สายตาของ
เขาจับจองอยูที่รอยนิ้วมือหานิ้วที่ประทับเปนรอยช้ำเขียวช้ำมวงอยูบนคอของซื
อเสวี่ยมั่น
สวรรค...เขาแทบจะไมเชื่อสายตาตัวเอง แมแตเสียงรองอุทานยังมิอาจเปล ง
ออกมา การตอบสนองของเขาในตอนนี้คืออุดปากของตนเอาไว
คุณหนูพายแพแลว!
ถาหากขาวนี้แพรออกไปจะตองทำใหสนามเหนี่ยวนำสั่นสะเทือนเปนแน
ความแข็งแกรงของคุณหนูในสนามเหนี่ยวนำนับเปนหาอันดับแรก ผูใดกันที่
สามารถเอาชนะนางได หรือเปนเจาพวกไมกี่คนกอนหนานี้แอบปลอมตัวเขามาจงใจ
กอความวุนวาย
ทวาไมนานเขาก็สามารถปฏิเสธการคาดเดานี้ได การเคลื่อนไหวของคุณหนูถือ
เปนความลับ คนที่มายังโรงฝกนั้นสวนมากลวนเปนเหตุบังเอิญ โดยเฉพาะอยางยิ่ง
มองดูจากรอยนิ้วที่อยูบนคอ ฝายตรงขามนาจะยั้งมือเอาไว ไมเชนนั้นเกรงวาคอของ
คุณหนูจะแหลกภายในพริบตา
พอนึกถึงเรื่องที่หากเกิดเหตุไมคาดฝนกับคุณหนูในโรงฝกที่ตนเปนผูดูแล หลัง
ของชายวัยการคนก็เปยกชุมไปดวยเหงื่อในชั่วพริบตา
ยังดีที่คุณหนูไมเปนอะไรมาก ชายวัยการคนที่เพิ่งรอดมาจากเคราะหใหญรูสึกได
วาขาของตนนั้นออนไปเล็กนอย ซือเสวี่ยมั่นที่ถอดหนากากออกมองดูแลวไมมีสิ่งใด
ตางไปจากในยามปกติ นางกลาวขึ้นอยางเฉยชา “ไปสืบฐานะของผูเขาแขงขันเมื่อครู
ทุกคนมา รวมถึงพวกที่นอนอยูบนพื้นดวย”
ชายวัยกลางคนไมกลาที่จะชักชา เขารีบตอบรับคำสั่ง “ขอรับ!”
เขาสามารถฟงออกถึงความเยือกเย็นจากน้ำเสียงอันเฉยชาของคุณหนู เขารูวาตัว
คุณหนูโกรธขึ้นมาจริงๆ เสียแลว ตั้งแตเล็กจนโตดูเหมือนวาคุณหนูจะไมเคยถูกเอา
เปรียบมากถึงเพียงนี้ หางตาที่แอบมองไปยังรอยนิ้วบนคอของคุณหนู ในใจของเขา
รูสึกกลัวเหลือเกิน
ถาหากเขารูวาที่จริงเกิดอะไรขึ้นกับคุณหนู เกรงวาตอนนี้คงเปนลมสิ้นสติไปแลว
แมวาเขาจะตอบรับอยางเด็ดขาด ทวาในใจกลับรองขึ้นมาวาลำบาก เขากลาว
อยางระมัดระวัง “ขานอยทำงานสะเพรา จึงไมไดเก็บขอมูลของพวกเขา บัดนี้ทำได
เพียงอาศัยวิธีอื่นในการตรวจสอบ อาจจะตองขอกำลังจากทางตระกูล”
เขาไมไดคิดเลยวาจะเกิดเหตุการณเชนนี้ขึ้น ในความคิดของเขา ผูเขาแขงทั้งหมด
ก็เปนเพียงแคคูฝกเทานั้น อีกอยางเดี๋ยวคุณหนูก็เอาชนะได ฐานะอะไรนั่นนะ จะไปมี
ความหมายอะไร
“ไมวาจะตองแลกดวยอะไรก็ตาม” น้ำเสียงของซือเสวี่ยมั่นเต็มไปดวยความ
หนาวเหน็บ “ดว ยกำลังทั้งหมดที ่ ตระกู ลสามารถใช ได จงตรวจสอบให ข า อยาง
ละเอียด”
ในใจของชายวัยกลางคนถึงกับเย็นวาบ “ขอรับ!”
สิ่งนี้ไมใชเรื่องแปลกอะไร อยูๆ เกิดมีนักเรียนที่สามารถกดดันคุณหนูโผลออกมา
ไมวาจะเปนคุณหนู หรือจะเปนทางตระกูลลวนไมอาจนั่งนิ่งดูดาย เขามีความมั่นใจ
พอ ขอเพียงทางตระกูลเริ่มเคลื่อนไหว ตอใหอีกฝายหลบซอนอยางมิดชิดเชนใด เขาก็
สามารถที่จะสืบขอมูลมาไดแนนอน
รอบตัวซือเสวี่ยมั่นเต็มไปดวยไอเย็นเยียบ เดินออกไปทางประตูใหญ
พอเดินออกจากประตูใหญ นางก็มองเห็ นผูคนบนถนนที ่พ ลุก พลาน นางหั น
กลับมามองโรงฝกอีกครั้ง พรอมกับกำมือแนนแลวจึงหันหลังจากไป
อายฮุยจับกำแพงพยุงตัวเองเดินออกมา แลวกลับไปโรงฝกศาสตราวุธ
ตอนแรกเปนเพราะทองหิวจนไมมีแรงเดิน ทวาตอนนี้เปนเพราะกินอิ่มจนเดินไม
ไหว เขาเดินอยางลำบาก ใชเวลาไปถึงสิบนาทีเต็มจากปากซอยมายังหนาประตูโรงฝก
ที่ประตูของโรงฝก โหลวหลานกำลังนั่งอยูบนบันไดหิน ทาทางเบื่อหนายอยูบาง
ในใจของอายฮุยรูสึกแปลกๆ ตุกตาทรายที่กำลังเบื่อ สิ่งนี้ดูแลวเปนภาพที่ไมคอย
เขากันนัก
“ขารอเจามาหนึ่งชั่วโมง”
โหลวหลานมองมายังอายฮุย แลวลุกขึ้นมาปดฝุนที่อยูบนตัว
อายฮุยเพิ่งจะเคยเห็นตุก ตาทรายที ่เหมือนคนถึงขนาดนี ้ โดยเฉพาะอยางยิ่ง
ทาทางในการปดฝุน ถือวาเหมือนสุดๆ แตเจาเปนตุกตาทรายนะ แตเดิมก็ไมมีฝุน
อะไรอยูแลว ที่ปดออกก็มีแตเม็ดทรายเทานั้นแหละ
อีกทั้งพวกเราก็ไมไดสนิทอะไรขนาดนั้น
เขาเปดประตูไปดวยพูดไปดวย “มีเรื่องอะไรหรือเปลา”
“ไมมี” โหลวหลานกมนาคิดอยูสักพัก ดูเหมือนวากำลังหาคำที่เหมาะสมอยู
“พวกเราเปนเพื่อนบานกัน นี่เปนการมาเยี่ยม”
ถึงแมจะมืดแลว ทวาอายฮุยก็ยังสามารถมองเห็นหนากากสีดำที่อยูบนหนาของ
โหลวหลานไดอ ยางชัดเจน พอเห็น หน ากากของโหลวหลาน ก็ ท ำให เขานึ กไปถึง
อุบัติเหตุในวันนี้ เขาจึงรูสึกอึดอัดใจขึ้นมา
เขาถามขึ้นอยางเหมอลอย “ทำไมถึงตองใสหนากาก”
โหลวหลานตอบ “เพราะวาไมมีใบหนา”
“ไมมีใบหนาหรือ” อายฮุยรูสึกคาดไมถึง “ทำไมไมสรางขึ้นมา”
การสรางใบหนาของตุกตาทรายงายมาก มีบางตัวเปลี่ยนรูปรางของใบหนาไดดวยซ้ำ
โหลวหลานกลาววา “อาจารยเซารูสึกวามันยุงยาก”
อายฮุยนึกถึงผูใชพลังธาตุดินขางบานผูซึ่งไมสนใจเรื่องราวใดๆ บนโลก เขารูสึก
วานิยามเชนนี้จึงจะเหมาะสมกับภาพลักษณของอาจารยเซา ในบรรดาผูใชพลังธาตุ
ดิน มีไมนอยที่นิสัยแปลกประหลาด อายฮุยเคยเจอผูใชพลังธาตุดินที่มีนิสัยประหลาด
ยิ่งกวานี้มามากมายนัก พอเทียบกันดูแลว แมวาอาจารยเซาจะมีบุคลิกเฉพาะไปบาง
แตทวาอุปนิสัยที่อันตรายกลับไมไดมีมากมายอะไร
“ที่จริงก็ไมใชเรื่องยุงยากอะไร” อายฮุยพูดในสิ่งที่ตนก็รูวาไรประโยชน เขารูสึก
วาที่จริงตนเองนั้นไมจำเปนตองใสใจเรื่องอุบัติเหตุนั้น ถึงแมวาความรูสึกที่ฝามือจะไม
เลวเลยก็ตาม
“ไมจำเปนหรอก ขาเปนเพียงแคตุกตาทราย ไมจำเปนจะตองมีใบหนา” โหลว
หลานอธิบายอยางจริงจัง “ใครจะไปจำตุกตาทรายตัวหนึ่งกันละ”
มือที่กำลังเปดประตูของอายฮุยไดหยุดชะงักลง
เขาอยากจะพูดอะไรสักอยาง ทวาเมื่อคำพูดมาถึงริมฝปาก กลับไมรูวาจะพูดอะไร
“นั่นสิ”
อายฮุยราวกับกำลังทอดถอนใจ ดูโหดรายไปหนอย แตทวาเขาไมอาจพูดสิ่งที่ไม
ตรงกับใจได ตุกตาทรายเปนสิ่งที่สามารถทำลายและกวาดลา งไดงายในแดนร า ง
รองลงมาจากพวกแรงงาน
ไมมีผูใดจดจำตุกตาทรายตัวหนึ่ง แลวผูใดจะมาจดจำแรงงานเพียงแคคนเดียว
เปนคนที่เดินอยางไรจุดหมายใตขอบฟาเดียวกัน แตขามีหาหมื่นหยวน
อายฮุยที่ทาทางวางอำนาจสุดๆ เปดประตูออก “ยินดีตอนรับการมาเยี่ยมเยือน”
บทที่ 8 เมล็ดพันธุตัวออนกระบี่
อายฮุยที่นั่งพิงมุมผนังอยูบนเตียงกำลังกอดกระบี่เอาไว เขาคอยๆ ลืมตาขึ้นมา
วินาทีที่นัยนตาอันมืดมิดเสียยิ่งกวารัตติกาลลืมขึ้น ในหองอันมืดมิดก็ราวกับมี
ประกายความเย็นยะเยือกเกิดขึ้น ประกายแสงที่หนาวเหน็บและแหลมคมนี้เกิดขึ้น
และหายไป จากนั้นอายฮุยก็คืนกลับมาสูรูปลักษณไรพิษสงอีกครั้ง
เขาออกจากแดนรางมาระยะเวลาหนึ่งแลว ทวาก็ยังคงไมคุนชินกับการนอนบนเตียง
เขาตรวจสอบดูเมล็ดพันธุตัวออนของกระบี่ที่เขาเลี้ยงเอาไวในรางกายมาสามป
มันยังคงไมมีอะไรเปลี่ยนแปลง
เขาวางกระบี่หญาที่กอดไวในออมอกลง แลวการตอบสนองของตัวออนกระบี่ใน
รางก็ไดหายไป เมื่อกอนมีอยูชวงหนึ่งที่เขาพึ่งพาตัวออนกระบี่มากเกินไป ไมวาจะ
เวลาใดก็ไมยอมปลอยใหกระบี่หางมือ ภายหลังเขาพบวาหากทำเชนนี้จะทำใหตนเอง
สูญเสียประสาทสัมผัสในการระวังภัยไป เขาจึงบังคับตัวเองวานอกจากเวลาตอสูกับ
เวลาเฝายามกลางคืนแลว ในเวลาอื่นเขาจะไมแตะตองกระบี่เปนอันขาด
เอาชีวิตรอดมาจากแดนรางไดอยางปลอดภัย อายฮุยยอมมีความพิเศษเปนของ
ตัวเอง เมล็ดพันธุตัวออนของกระบี่ก็คือที่พึ่งที่ยิ่งใหญที่สุดของเขา
วันที่สามในแดนรางเขาก็เกือบจะไดไปปรโลก ตั้งแตวินาทีนั้นเปนตนมา เขาก็เริ่มที่จะ
ไลตามความแข็งแกรงอยางบาคลั่ง หากมีพลังที่มากพอจึงจะสามารถมีชีวิตรอดอยูใน
แดนรางอันหนาวเหน็บได เขาไมมีผูใดใหขอความชวยเหลือ อยางไรผูใชพลังธาตุก็ไม
สนใจไยดีพวกแรงงานอยูแลว อีกทั้งอายฮุยเองก็ไมใชพวกชอบเอาอกเอาใจใครดวย
สัตวปาที่ถูกบีบคั้นจนไรหนทางมักจะสามารถระเบิดพลังที่ยิ่งใหญเกินกวาปกติ
ออกมาได เมื่อมนุษยถูกบีบคั้นในสถานการณเชนนั้นก็สามารถระเบิดพลังออกมาได
เชนกัน
อายฮุยเปนเหมือนกับคนที่กำลังจมน้ำ เขาดิ้นรนอยางไมคิดชีวิตและควาทุกสิ่งที่
อยูตรงหนาเอาไว
ตัวอยางเชนเคล็ดกระบี่ ซึ่งเปนสิ่งที่มีมากที่สุดในหัวของเขา
พลังวิญญาณที่สูญหาย ทำใหโลกแหงการบำเพ็ญตนตองลมสลาย ยุคสมัยของผู
บำเพ็ญตนไดสิ้นไปอยางไมอาจหวนคืน แตทวาระยะเวลาที่สั่งสมมายาวนานกวาลาน
ป ชางลึกซึ้งเกินกวาประมาณ ระบบการบำเพ็ญตนที่พัฒนาอยูในระดับสูง หางไกล
เกินกวาที่คนยุคนี้จะสามารถจินตนาการถึง
การฝกรางกาย คายกล การฝกอาวุธ ธาตุทั้งหา และการควบคุมศพพิสดารพันลึก
เหลานี้ดูเปนเรื่องงายหากใชพลังวิญญาณรวมกับพลังจินตนาการอันมากมายของ
มนุษย ทำใหเกิดระบบการฝกที่ยิ่งใหญที่สุด เปลงประกายที่สุด และจรัสแสงที่สุดใน
ประวัติศาสตร
แมจะเปนระบบการบำเพ็ญตนที่เปลงประกายสมบูรณแบบเชนนี้ การฝกกระบี่ก็
เปนไขมุกที่สองประกายมากที่สุด ในโลกแหงการบำเพ็ญตนไมวาจะยุคสมัยไหน ผูฝก
กระบี่ก็นับเปนพวกที่แข็งแกรงที่สุด
ในเวลานั้นหากมีเคล็ดกระบี่สุดยอดปรากฏสูโลก ก็มักจะทำใหเกิดการนองเลือด
ขึ้น ทวาในตอนนี้พวกมันกลับถูกฝงเอาไวในกองขยะของเกาที่ไรราคา
ผูฝกกระบี่เปนกลุมคนที่ใหญที่สุดในหมูของผูบำเพ็ญตน แนนอนวามีพลังแปลกๆ
ไมนอยอยูแลว
เคล็ดกระบี่ที่ตองใชพลังวิญญาณนั้นเปนสิ่งแรกที่ถูกอายฮุยตัดทิ้งเปนอยางแรก
ในยุคที่เต็มไปดวยพลังวิญญาณเคล็ดกระบี่พวกนี้มักจะเปนของที่พวกพรรคธรรมะ
พรรคใหญคิดหาวิธีใชประโยชนจากพลังวิญญาณเสียสวนใหญ ถัดมาที่เขาตัดทิ้งก็คือ
พวกเคล็ดกระบี่ที่เขาไมเขาใจ เคล็ดกระบี่ที่ยากเกินกวาจะเขาใจนั้นมีมากมายราวกับ
ขนบนตัววัว
อายฮุยเองก็อานคัมภีรก ระบี่มาไมน อย เปนจำนวนที่ทำใหคนตอ งตกใจเลย
ทีเดียว ถือไดวาเกือบจะเปนผูเชี่ยวชาญดานเคล็ดกระบี่เลยก็วาได แตทวาก็ยังมีคัมภีร
กระบี่อีกมากที่อานไมเขาใจ บางสวนคือเจตนาเขียนใหซับซอนเพื่อใหคนอานสับสน
บางสวนก็เปนคัมภีรเกาแกที่ผานระยะเวลามายาวนาน
หลังจากเขาคัดเลือกรอบแลวรอบเลา ก็ยังพอมีคัมภีรกระบี่เหลืออยูอีกบางสวน
ถาหากอยูในยุคสมัยของการบำเพ็ญตน คัมภีรพวกนี้ลวนเปนของนอกรีต หาก
เจอเขากับผูยิ่งใหญจากพรรคธรรมะ จะตองถูกตะโกนใสวาวิถีมารเปนแน
ตอใหเมื่อกอนเคยอานผานตามา อายฮุยก็อดที่จะอกสั่นขวัญแขวนไมได เคล็ด
กระบี่พวกนี้แปลกประหลาดยากจะคาดเดา แตละกระบวนทาลวนอยูนอกเหนื อ
สามัญสำนึกของผูคนปกติ ยกตัวอยางเชนมีเคล็ดกระบี่อยูเคล็ดวิชาหนึ่ง กลาววาใหผู
ฝกใสอารมณความรูสึกของมนุษยเขาไปในตัวกระบี่ แลวตัดอารมณความรูสึกทิ้ง
ทั้งหมดในขั้นสุดทาย เพื่อใหไดรับวิถีแหงกระบี่ในระดับสูงสุด เชนเคล็ดกระบี่มารฝน
ผูฝกจะตองใชวิชาลับหลับใหลภายในโลงศพ ฝกกระบี่อยูภายในฝนราย คนที่ฝกจน
สำเร็จได กระบี่นี้จะทำใหเรื่องเท็จเปนเรื่องจริง ซึ่งความสามารถนั้นสุดประเมิน
เมื่อกอนที่เขาอานคัมภีรกระบี่เหลานี้ก็แคเห็นวามันนาสนใจดีเทานั้น ไมไดมี
ความรูสึกซาบซึ้งอะไรมากมาย วันนี้เมื่อลองคิดยอนไป หากตนตองฝกคัมภีรพวกนี้ ก็
ทำใหตัวสั่นขึ้นมาในทันที
ในที่สุดอายฮุยก็หาคัมภีรกระบี่เลมที่ไมคอยประหลาดและไมนอกรีตเจอ คัมภีร
เลมนี้นั้นไรชื่อ เนื้อหาขาดหายบางสวน สวนแรกมีกลาวเพียงแคสิ่งเดียว สิ่งนั้นก็คือ
จะทำอยางไรในการปลูกเมล็ดพันธุตัวออนของกระบี่
หลังจากพิจารณาอยางละเอียด อายฮุยจึงเขาใจความหมายอยางคราวๆ ของสิ่ง
ที่เรียกวิถีของตัวออนกระบี่ ที่จริงถือวาไมยาก กายเนื้อของมนุษยนั้นเติบโตอยางมี
ขีดจำกัด สวนจิตวิญญาณซึ่งเปนสิ่งไรรูปลักษณนั้นไรขีดจำกัด
ทวา จิตวิญ ญาณนั้นลอ งลอยวา งเปล า ราวกั บหมอกควั น ไม มี พ ลั งทำลายใด
ผูเขียนคัมภีรกระบี่เลมนี้ไดแสดงแนวคิดที่นาสนใจมาอยางหนึ่ง กายเนื้อของคนก็เปน
ดั่งฝกดาบ สวนจิตวิญญาณเปนกระบี่ที่แทจริง
และจะทำอยางไรใหจิตวิญญาณที่ไรรูปลักษณไรมวลสารควบแนนเปนกระบี่ได
คัมภีรกระบี่ไดใหแนวคิดที่สุดแสนจะเปนเอกลักษณ จิตวิญญาณนั้นยากที่จะควบแนน
เชนนั้นก็ใหพวกมันเปนดั่งพื้นดิน ที่ฟูมฟกเมล็ดพันธุตัวออนของกระบี่
หากเปรีย บเทีย บกับ คัมภีร ก ระบี ่ เ ล มอื ่ น คั มภี ร ก ระบี ่ เล มนี ้ เห็ น ได ช ั ด ว า ดู
สมเหตุสมผลกวากันมาก
อายฮุยไรซึ่งความลังเล เขาฝกฝนตามที่คัมภีรกระบี่เขียนไว ในที่สุดเขาก็สามารถ
เพาะเมล็ดพันธุตัวออนของกระบี่ไดสำเร็จ
ถาหากเขายังอยูที่โรงฝกดาบ เขาไมมีทางที่จะเสี่ยงอันตรายเชนนี้ แตทวาในแดน
ราง ยังมีสิ่งใดใหลังเลอีก ทุกๆ วันมีคนลมตาย ตนเองจะอยูรอดถึงวันพรุงนี้หรือไมก็
ยังไมรู เสี่ยงอันตรายเสียยิ่งกวาอะไรดี แตที่เขากังวลยิ่งกวาคือสิ่งที่เรียกวาตัวออน
กระบี่นั้นมีประโยชนหรือไม
มีชีวิตรอดคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
สามปผานไป เขาเอาชีวิตรอดมาจากแดนรางได จนไดเขามายังสนามเหนี่ยวนำ
เมล็ดพันธุตัวออนของกระบี่ก็ยังคงเปนเมล็ดพันธุ ไมมีความเคลื่อนไหวหรือการ
เปลี่ยนแปลงใด
สำหรับเรื่องนี้อายฮุยกลับสงบนิ่งไมสะทกสะทาน แคสามารถทำใหเขามีชีวิตรอด
มาจากแดนรางไดก็นับวาคุมคาอยางหาที่ใดเปรียบแลว เขาไมไดคาดหวังอะไรเกินจริง
จากตัวออนกระบี่ ดวยคัมภีรกระบี่ไมครบสมบูรณ ในสวนหลังจะตองฝกเชนไรจึง
ไมไดมีกลาวไวแมเพียงตัวอักษรเดียว
เคล็ดกระบี่ในยุคของการบำเพ็ญตน ทุกสรรพสิ่งที่กลาวลวนหวนสูจุดเริ่มตน ไมวา
คัมภีรกระบี่จะนอกรีตแปลกประหลาดเพียงใด เมื่อมายังปลายทางสุดทายก็ยังหวน
กลับไปสูคำวา ‘พลังวิญญาณ’ อยูดี เขาคาดวาการฝกสวนหลังที่หายไปคงจะหนีไม
พนพลังวิญญาณ
การฝกกระบี่เปนสิ่งที่อยูในอดีต ดังนั้นการฝกที่อางอิงจากคัมภีรกระบี่จึงไรราคา
เขาไมใชเถาแก เขาไมมีทางที่จะลุมหลงงมงายไปกับคัมภีรกระบี่ หรือคิดวาการฝก
กระบี่เปนเรื่องยิ่งใหญเทียมฟา
เขาเองก็ไมไดคิดจะฝกสวนหลังของการสรางตัวออนกระบี่แมแตนอย
ถึงแมคัมภีรกระบี่จะกลาววาการนั่งกอดกระบี่นั้นสามารถเลี้ยงดูเมล็ดพันธุ ตัว
ออนของกระบี่ได ทวาที่จริงแลวสิ่งที่สำคัญกวาก็คือการกอดกระบี่ทำสมาธิ ซึ่งมี
ประโยชนในการระวังภัยยามราตรี
ตัวออนกระบี่นั้นแสนมหัศจรรย ในยามที่กระบี่อยูในมือของเขา ตัวออนกระบี่ก็
จะถูกกระตุน เมื่อตัวออนกระบี่ถูกกระตุน สัมผัสทั้งหกของเขาก็เปลี่ยนเปนเฉียบคม
กวาปกติ การเคลื่อนไหวเล็กๆ รอบดาน เขาสามารถสัมผัสไดทั้งสิ้น ในภายหลังผูใช
พลังธาตุผูยิ่งใหญทั้งหลายตางรูวาเขามีความสามารถในการระวังภัย หนาที่เวรยามใน
ยามวิกาลจึงกลายมาเปนหนึ่งในหนาที่หลักของเขา
สิ่งนี้ก็เปนสาเหตุที่ทำใหเขาไดรับของรางวัลมาสวนหนึ่ง ถึงแมจะเปนเพียงเศษ
วัสดุก็ตาม
เขานั่งกอดกระบี่จนหลับไป ชวงระยะเวลาตลอดสามปที่ราวกับหนึ่งวัน เขายืน
หยัดเชนนี้มาตลอด
ในตอนนั้นเขาตัวสั่นอยูทามกลางดินโคลนและสายลมอันหนาวเหน็บ ทวาตอนนี้
เขาอยูในหองที่ปลอดภัยและอบอุนจนถึงเชา
เขาพอใจเปนอยางมาก ตอนนี้รูสึกสุดแสนจะมีความสุข
วันนี้เปนวันที่เริ่มตนเรียนวิชาแรก เขาตั้งหนาตั้งตารอคอยวันนี้มานานแลว ตั้งแต
ที่ไดเงินหาหมื่นหยวนมาอยูในมือ สองวันใหหลังเขาก็ไมไดออกไปไหนเลย
อากาศดานนอกหนาตางยังคงมืดอยู แสงสลัวมีความเย็นอยูเล็กนอย กวาฟาจะ
สวางยังเหลือเวลาอยูอีกชวงหนึ่ง
อายฮุยกระโดดลงมาจากเตียงอยางกระฉับกระเฉง เทาเปลาเหยียบลงไปบนพรม
เขาเหมือนกับแมวที่วองไวปราดเปรียว ทุกการเคลื่อนไหวลวนเงียบเชียบไรเสียง พรม
นี้ถักมาจากหญาปาลมที่ทั้งแข็งทั้งเหนียว คอนขางจะทิ่มตำเทา อายฮุยกลับไมรูสึก
แมแตนอย เขาไมไดเปดไฟ แสงสลัวจากขอบฟานอกหนาตางก็ทำใหเขาสามารถ
มองเห็นในหองไดอยางชัดเจน
เขาเริ่มลงมือลางหนาแปรงฟนในหองที่ยังคงมืดอยู โดยอาศัยแสงสลัว
เขานั้นคุนชินกับความมืดมิดอยูแลว สิ่งนี้เปนของขวัญที่ไดจากแดนราง ในแดน
รางที่มีแตอันตรายรอบดาน แสงใดๆ แมเพียงเล็กนอยลวนสามารถทำใหตนเองตกอยู
ในอันตรายได
เขาปลดกำดักที่อยูประตูหลังไดอยางชำนาญ แลวเปดประตูไมออก สูดอากาศที่
เย็นเยือกเขาเต็มปอด เวลานี้อายฮุยไดตื่นขึ้นเต็มตาแลว
ทองฟาที่มีแสงสลัว โรงฝกที่เงียบสงบ ในชั่วพริบตาเขาราวกับไดยอนกลับไปยัง
โรงฝก ดาบ ความรูสึก ที่คุนเคยกระจายไปทั ่ ว กาย อากาศที ่ เย็ น ยะเยื อ กราวกับ
เปลี่ย นเปนหอมหวาน ใบหนา ที่แ ข็งกร าวเต็ มไปด วยเหลี ่ ยมมุ มกลั บเปลี่ ยนเปน
ออนโยน ริมฝปากปรากฏรอยยิ้มอันออนโยนอยางไมรูตัว
เขาเริ่มที่จะเคลื่อนตัวตักน้ำเช็ดพื้นอยางรวดเร็ว
ความทรงจำของรางกายถูกปลุกใหตื่นอยางรวดเร็ว การเคลื่อนไหวจากที่ไมคลอง
ก็เปลี่ยนเปนชำนาญในทันที
ดวงอาทิตยยังไมขึ้น อายฮุยก็ทำความสะอาดเสร็จเรียบรอยแลว เขาอดไมไดที่จะ
ปาดเหงื่อ แลวมองดูโรงฝกที่สะอาดเอี่ยมออง อายฮุยรูสึกพอใจและมีความสุขจากกน
บึ้งของหัวใจ
พอเขามองดูโรงฝกที่สะอาดสะอาน ก็ทำใจเหยียบโรงฝกไมคอยลง
สามปในแดนราง เขาใชชีวิตทามกลางบึงโคลน สวนกองซากพืช และซากสัตว
ประหลาดที่เนาเฟะก็คืออาหารประจำวัน เสื้อผาของเขาเต็มไปดวยโลหิตสดๆ เมื่อ
เวลาผานนานแลวก็กลายเปนดางดวงสีน้ำตาลเขมออนสลับกันไป มองดูไมออกวาเปน
ของสัตวปาหรือของตัวเองกันแน
ฝาเทาที่เหยียบบนพื้นกระดานที่แสนสะอาด ชางเปนความรูสึกที่คุนเคย
โรงฝกที่เงียบสงบและสะอาดสะอาน ก็เปนดั่งภาพฝนที่อยูในใจสวนลึกของเขา
พออายฮุยผานการใชชีวิตที่ไมคุนเคยมาสองวัน เขาก็เริ่มชอบการใชชีวิตเชนนี้
เสียแลว ถาหากไดใชชีวิตเชนนี้ตลอดไปก็คงไมเลว เขาถึงกับมีความคิดนี้แวบขึ้นมา
พอสัมผัสไดถึงความเด็กนอยของตน อายฮุยก็หัวเราะขึ้นมา เขาหันหลังกลับหอง
เพื่อเก็บของ ตารางเรียนของเขานั้นแนนมาก
เมล็ดพันธุตัวออนของกระบี่ทำใหเขามีชีวิตรอดมาจากแดนรางได ทวานั่นไม
คูควรใหพูดถึง ในการฝกฝนพลังธาตุ เขานั้นรั้งทายผูอื่นมาโดยตลอด แรงกดดันที่ตอง
เผชิญถือวามากกวาผูอื่นมากมายนัก
สนามเหนี่ยวนำมีกฎที่เขมงวดมาก ถาหากภายในหนึ่งปไมสามารถเปดผนึกพลัง
ธาตุของตนเองได หรือภายในหาปไมสามารถฝกถึงขั้นเกือบสมบูรณได ก็จะถูกขับไล
ออกจากสนามเหนี่ยวนำ
ถาหากนักเรียนเปนผูที่มาจากอูสิงเทียน จะตองลงโทษบิดามารดา ในฐานะที่สั่ง
สอนบุตรไดไมดี ถาหากนักเรียนมาจากดินแดนเกา ก็จะหมดสิทธิในการเขาอูสิงเทียน
และจะตองกลับไปยังดินแดนเกา
เมื่อไปถึงในระดับเกือบสมบูรณ ก็จะตองออกจากสนามเหนี่ยวนำเชนกัน เพราะ
นั่นหมายความวามีคุณสมบัติมากพอที่จะมีชื่อบันทึกไวในทะเบียนของผูใชพลังธาตุ
แลว จึงไมจำเปนตองอยูตอ
ระยะเวลาหาป คือเสนตายที่สนามเหนี่ยวนำมอบให และในอันที่จริงแลว อายฮุย
เหลือเวลาแคเพียงสี่ปเทานั้น เพราะวาสนามเหนี่ยวนำยังมีกฎอยูอีกขอหนึ่ง ซึ่งก็คือ
นักเรียนทั้งหมดเมื่ออายุเกินกวายี่สิบปจะตองออกจากสนามเหนี่ยวนำ
เวลาที่มีใหเขานั้นไมมาก ถาหากเขาตองการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของ
ตนเอง เขายิ่งตองเพิ่มความพยายามใหมากขึ้น
ในเมื่อต่ำตอยมาก เชนนั้นก็จงพยายามที่จะเขยงปลายเทาขึ้น
ดวงอาทิตยที่เหนือเสนขอบฟาสองแสงสวางไปทั่วทองนภาสีคราม อากาศเย็นฉ่ำ
ที่ลองลอยอยู เกิดแสงหักเหกลางอากาศ เขาเก็บของเรียบรอย ในปากคาบหญาสี
เขียว สะพายหอผาสัมภาระใบเกา ทามกลางหมูเมฆและทองฟาสีคราม เขากาวเดิน
ออกจากประตูใหญของโรงฝก
ถนนในยามฟาสางไมมีเสียงดังวุนวายอยางตอนกลางวัน และไมมีโคมไฟอยาง
ตอนกลางคืน มันเงียบสงบมาก ราวกับมันยังหลับใหลอยู แสงอาทิตยแรกที่ขามผาน
หุบเขาแมน้ำมา สองผานหลังคาบาน เปนแสงสวางแรกที่สองลงมายังทองถนน
อายฮุยชอบแสงอาทิตย
ชวงกอนเวลาฟาสางในแดนราง คือชวงเวลาที่อันตรายที่สุด การลอบจูโจมมัก
เกิดขึ้นในชวงเวลานี้ นั่นเปนชวงเวลาที่ความตายและโลหิตสดๆ เขมขนที่สุด
และในตอนที่แสงอาทิตยสองผานน้ำคางที่ปลายหญา อสูรแดนรางและชนเผา
แดนรางจะถอยกลับราวกับเรือที่แลนบนผิวน้ำ แดนรางที่เต็มไปดวยการฆาฟนก็จะ
กลับมาสงบสุข
โรงเรียนกับโรงฝกศาสตราวุธไมถือวาไกลมาก แตก็ไมใชใกลๆ
ยิ่งเขาเขาใกลโรงเรียนก็ยิ่งเห็นนักเรียนเดินขวักไขวกันมากขึ้น
ชางเปนภาพที่อายฮุยชางรูสึกแปลกตา ใบหนาอันออนเยาวของพวกเขาเต็มไป
ดวยชีวิตชีวาและความใฝฝน อายฮุยรูสึกอิจฉาอยูบาง พวกเขาไมมีรองรอยหรื อ
ประสบการณที่เคยอาบโลหิตมาแมแตนอย สัญชาตญาณระแวดระวังตอโลกภายนอก
ที่ไดมาจากประสบการณฆาฟนเองก็ไมมีเลย
พวกเขานั้นบริสุทธิ์ไรมลทิน อยูในชวงเวลาที่ดีงาม
อายฮุยรูสึกวาตนเองนั้นแปลกแยก เขาออกแรงเคี้ยวหญาสีเขียว ใหความดิบและ
เหม็นเขียวกระจายในปาก
สนามเหนี่ยวนำคือโรงเรียนสำหรับพวกเขา ทวาสนามเหนี่ยวนำสำหรับอายฮุย
นั้น คือสนามรบแหงใหม
สำหรับตัวเขาเองนั้น การมีชีวิตสำคัญกวาความสวยงาม เขาขยับเทากาวเดิน มุง
ตรงเขาสูโรงเรียน
บทที่ 9 วิชาพื้นฐาน
ซือเสวี่ยมั่นมองรางกายของตนที่สะทอนผานกระจก รางกายที่แตเดิมสมบูรณ
แบบไรตำหนิที่นางภาคภูมิใจ กลับมีรอยนิ้วทั้งหาอยูบนหนาอกซาย ชางแสนจะขัดหู
ขัดตา ขนาดผานมาหลายวันแลว ทวารอยนิ้วกลับไมไดจางหายไป สามารถเห็นไดเลย
วาแรงในตอนนั้นมหาศาลเพียงใด
นัยนตานางสอแววมุงรายออกมา ไมอยากนึกยอนกลับไปสูเหตุการณในวันนั้น
ทวาเวลาที่อาบน้ำในทุกๆ วันไดเห็นรอยที่อยูบนรางกาย เพลิงโกรธในใจก็ยากที่จะ
ระงับได
วันนี้เปนวันเปดเรียน ยังดีที่รอยบนคอไดจางหายไปแลว
นางหยิบเสื้อขึ้นสวม ใบหนาฟนคืนสูสภาพมั่นใจตามปกติ
นางเดินออกจากหอง อาหารเชาที่หองโถงใหญไดเตรียมไวเรียบรอยแลว ทานปู
มองเห็นนางจึงแยมยิ้มอยางเมตตา “รีบมากินเถิด”
“ทานปู” นางตอบกลับดวยเสียงออนหวาน แลวจึงไดนั่งลงที่ดานขางของทานปู
ตั้งแตเด็กนางก็สูญเสียมารดาไป บิดาก็ยุงอยูแตกับงาน เปนทานปูที่เลี้ยงนางมาจนโต
ทุกวันในตอนเชา นางกินอาหารเปนเพื่อนทานตลอด คนรับใชไดยกชามแกงรอน
ขึ้นมาให น้ำแกงนี้ปรุงขึ้นจากวัตถุดิบมีชื่อล้ำคา ไมเพียงแตมีประโยชนชวยในการฝก
ทวายังมีรสชาติที่เลิศรสอีกดวย หากแตในวันนี้ นางกลับดูเหมอลอย จิตใจไมอยูกับ
เนื้อกับตัว
ทานผูเฒาเลี้ยงดูนางตั้งแตตีนเทาฝาหอย จึงเขาใจนางเปนอยางดี ผูเฒากลาว
ดวยน้ำเสียงอบอุนวา “เปนอะไรไป ยังคิดถึงเรื่องที่พลาดไปในวันนั้นอยูอีกหรือ”
พรสวรรคของหลานสาวตนนั้นในตระกูลถือวาไมมีผูใดเทียบได แตเล็กก็รูความ
เปนอยางมาก ไมถือตัวเปนคุณหนูจากตระกูลใหญ กลับกันยังขยันหมั่นเพียรกวาคน
ธรรมดาเสียอีก ตั้งแตเล็กนางก็แสดงออกถึงความปราดเปรื่องและความแข็งแกรง ถึง
ขนาดที่วากาวขามบิดาของตน นางถูกตระกูลมองวาเปนผูนำในรุนตอไป เปนความ
ภาคภูมิใจของทั้งตระกูล ผูอาวุโสทั้งตระกูลตางรักใครเอ็นดูนางเปนอยางมาก
ทานผูเฒาลึกๆ นั้นแสนจะภาคภูมิใจในตัวหลานสาวคนนี้ เขารูสึกวาหลานสาว
ของตนนั้นแสนจะสมบูรณแบบไรที่ติ สิ่งเดียวที่ทำใหเขากังวลใจก็คือความทะนงตน
ของนาง ชางเหมือนบิดานางไมมีผิด ตั้งแตเด็กนางก็ไมเคยไดผานความลมเหลว
ทวาทานผูเฒามีประสบการณชีวิตมามาก รูวาในโลกนี้มียอดฝมือที่หลบซอนอยู
มากมาย เหนือฟายังมีฟา ถึงหลานสาวจะยอดเยี่ยมเพียงไร แตก็ยังมีผูที่เกงกาจยิ่ง
กวานาง
ดังเชนความลมเหลวในครั้งนี้
วันนั้นที่เขาไดเห็นรอยนิ้วบนคอของหลานสาวถึงกับใจหาย และที่ตามมาก็คือ
ความกลัวในภายหลัง หากอีกฝายออกแรงมากกวานี้อีกนิด ชีวิตของหลานสาวก็คงจะ
จบลงที่ตรงนั้น จากความกลัวในตอนแรก ทวาหลังจากนั้นเขาก็สังเกตไดถึงอารมณ
ของหลานสาวนั้นไมคอยปกติ
ดูทาความลมเหลวครั้งนี้เกรงวาจะหนักกวาที่คิด
ในสายตาของทานผูเฒาแลว ความลมเหลวเพียงเล็กนอยแคนี้ไมถือวาหนักหนาอะไร
ทวาเขาก็รู สำหรับเสวี่ยมั่นที่ทำอะไรราบรื่นมาตั้งแตเล็ก เรื่องนี้จำเปนตองใชเวลาใน
การยอมรับ ทวามีอยูสวนหนึ่งที่เขายังอยากจะกลาวขอบคุณอีกฝาย ซือเสวี่ยมั่นได
พบกับความลมเหลวในอายุเทานี้ สำหรับการใชชีวิตแลวถือไดวาเปนของขวัญล้ำคา
ถาหากทานผูเฒาไดรูเรื่องราวที่แทจริง จะตองจับอายฮุยมาฉีกเปนชิ้นๆ เปนแน
“เปลา” ซือเสวี่ยมั่นกมหนาลงกินขาวตอ
ทานผูเฒาเห็นทาทางของนางเปนเชนนี้ ก็อดไมไดที่จะยิ้มขึ้นมา “เจารูหรือไมวา
เจาพายแพจากจุดใด”
ทานผูเฒามีประสบการณมากมาย เขารูวาสำหรับคนหนุมสาวนั้นการหนีปญ
หา
ไมใชตัวเลือกที่ดีนัก
ชอนในมือของซือเสวี่ยมั่นถือคางไวอยางนั้น ถูกคำถามของทานปูหยุดเอาไว
เวลาสามวันไดผานไปแลว ตั้งแตเริ่มจนจบนางยังคงจมอยูทามกลางความขุน เคือง
และอับอาย ในสมองเต็มไปดวยความคิดวาจะทำเชนไรจึงจะหาตัวเจาสาระเลวนั้น
เจอ หลังจากนั้นจะไดจับเจานั่นมาสับใหเปนหมื่นชิ้น
นางไมใชคนโงเขลา เพียงแคถูกความโกรธบังตา ในตอนนี้พอทานปูพูดขึ้น นางก็
สังเกตเห็นถึงปญหาที่ตนมองขามไดในทันที
“อีกฝายเชี่ยวชาญการปดตาตอสูเปนอยางมาก”
ซือเสวี่ยมั่นเปลี่ยนทาทางมาเปนเขมงวดจริงจัง ปลอยภาพความทรงจำออกมา
รายละเอียดของการตอสูครั้งนั้นไหลเวียนอยูในใจของนางราวกับสายน้ำไหล นี่เปน
ครั้งแรกที่นางยอนนึกถึงการตอสูครั้งนั้นโดยไมตกสูความโกรธในชวงสามวันมานี้
ทานผูเฒายิ้มขึ้นมาอยางไรเสียง คอยๆ ถามตอ “ยังมีอะไรอีก”
“เขามีป ระสบการณในการตอสู มาก การตอบสนองเฉี ยบคม ลงมื อ ได อ ย าง
โหดเหี้ยมเด็ดขาด เขาใจที่จะใชประโยชนจากจุดเดนของตน” เมื่อซือเสวี่ยมั่นกลับมา
ใจเย็นลง ก็เกิดความสามารถในการตรวจสอบอันยอดเยี่ยมไดในทันที นางราวกับ
กำลังพูดกับตนเอง
“พอมาลองนึกดูแลว เขานาจะสัมผัสไดถึงตำแหนงของขาตั้งแตแรก แตขากลับไม
โดยเฉพาะอยางยิ่งขายังไมสามารถสัมผัสไดถึงการเคลื่อนไหวของเขา เขาเชี่ยวชาญ
การปดตาตอสูเปนอยางมาก สามารถตอสูในความมืดไดอยางทะลุปรุโปรง เขาเลือกที่
จะตอสูแบบประชิดตัว ลองคิดอยางละเอียดแลว ถือเปนรูปแบบการตอสูที่ดีที่สุดใน
การตอสูกลางความมืด ดังนั้นการที่ขาถูกจูโจม ไมมีเวลาใหแมแตนอย เมื่อไมมีเวลา
กระบวนทาและทักษะทั้งหลายลวนไม อาจได ใช กลั บ กั น กำลั งของเขานั ้นเพียง
พอที่จะสำแดงออกมาอยางเต็มที่”
ทา นผูเฒา ตั้งใจฟงอยางละเอี ยด เขารู ว า ในเวลานี ้ แค ตั ้งใจฟงอย า งเต็ม ที่ก็
เพียงพอแลว
"เขาจงใจจะใหขาดิ้นรน เพื่อเรงใหขาหมดแรงเร็วขึ้น ถือวารายกาจมาก ขาสัมผัส
ไดวาพลังธาตุของอีกฝายไมแข็งแกรงนัก ตั้งแตเริ่มจนจบ เขาไมไดใชพลังธาตุเลย ขา
จึงไมอาจยืนยันระดับพลังของเขาได
ทานผูเฒาไดยินจึงกลาววา “ไมไดใชพลังธาตุก็สามารถเอาชนะเจาได แสดงวาอีก
ฝายตองเกงกาจพอตัว”
“เกงกาจมาก และคิดวานาจะเหมือนกับขา เขานาจะใสกำไลผนึกพลัง”
ซือเสวี่ยมั่นไมไดหลีกเลี่ยง นางคิดตอไป “ตอนที่เขาจับตัวขาเอาไว ขาไดใชเคล็ดวิชา
มัจฉาสะบัดกาย แตก็ไมอาจหลุดออกมาได”
เปนครั้งแรกที่ทานผูเฒาแสดงสีหนาออกมา “ไมไดใชพลังธาตุแตสามารถสะกด
เจาที่ใชเคล็ดวิชา มัจฉาสะบัดกายไดกระนั้นหรือ อายุเขามากหรือเปลา”
“มัจฉาสะบัดกาย” เปนทักษะที่ไวใชสลัดใหหลุดจากพันธนาการ มันเปนเทคนิค
ที่เลิศล้ำ เปนการเลียนแบบการเคลื่อนไหวของปลาที่สะบัดตัวในตอนที่ตกใจ ซึ่งเปน
การระเบิดพลังอยางรุนแรง อีกฝายไมไดใชพลังธาตุแตกลับสามารถสะกดเคล็ดวิชา
“มัจฉาสะบัดกาย” ได ทานผูเฒาถึงกับตองตกตะลึง
“ใช” ซือเสวี่ยมั่นพยักหนาอยางจริงจัง “จิตสังหารของเขารุนแรงมากนัก แตเดิม
ขาคิดจะใชเคล็ดวิชามัจฉาสะบัดกายสลัดใหหลุด เชนนี้จะไดถอดกำไลผนึกพลังได แต
ทวากลับสลัดไมหลุด อายุของเขาไมควรจะมาก ไมเชนนั้นก็คงไมมาแสดงฝมือเพื่อเงิน
หาหมื่นหยวนหรอก”
ตอนนี้ลองยอนคิดดู นางก็อดไมไดที่จะนับถืออีกฝาย เนื่องจากตนเองเปนสตรี
หากถูกจับพันธนาการไวไดจะตองเสียเปรียบเปนแน คนในตระกูลจึงไดสอนเคล็ดวิชา
มัจฉาสะบัดกายใหตั้งแตยังเปนเด็กเล็ก นางทุมเทไปกับวิชานี้ไมนอย ฝกจนซึมลึกเขา
ไปในกระดูก
พลังที่ระเบิดออกมาจากเคล็ดวิชามัจฉาสะบัดกาย ตัวของนางเองยังแทบจะคุมไว
ไมอยู
“ไมไดใชพลังธาตุก็สามารถสะกดเคล็ดวิชามัจฉาสะบัดกายได อายุยังไมมาก
เชนนั้นคงเปนนักเรียนแลวแหละ” ทาทางของทานผูเฒาเต็มไปดวยความชื่นชม
“ดูทาในปนี้นักเรียนใหมที่เขามาลวนแลวแตเปนผูมากพรสวรรคกันทั้งนั้น ก็ไมรู
วาเปนทายาทของตระกูลใด เหตุใดจึงไมไดยินขาวคราว”
“ทานปู ทานตองชวยขาตรวจสอบนะ!” ซือเสวี่ยมั่นเขยาแขนขอรองทานปู
“ขาไมอาจจะถูกเอาเปรียบเชนนี้ ขาจะตองประลองกับเขาอยางยุติธรรมอีกครั้งหนึ่ง”
ทานผูเฒาถึงกับหัวเราะเสียงดัง “ได ได ได เสวี่ยมั่นขอรองปูถึงขนาดนี้ ปูจะไม
รับปากก็คงยากแลวละ”
เห็นไดชัดวาเสวี่ยมั่นตองการลบเลือนความอับอายในครั้งกอน คนหนุมสาวนั้น
คอนขางจะกระตือรือรน จนบางครั้งตองพบเจอปญหาอีกอยางตัวเขาเองก็สนใจเจา
หนุมนี่อยูอยางมาก อยูๆ ก็มีเจาหนูที่รายกาจยิ่งกวาหลานสาวของตนปรากฏตัวขึน้ มา
ชางนาสนใจเสียจริง
ซือเสวี่ยมั่นรูสึกยินดีเปนอยางมาก ทานปูออกออกปากอยางนี้แลว เจาสาระเลว
สมควรตายนั่นไมมีทางหนีพน
คอยดูเถอะ! ขาจะไมมีทางปลอยเจาไปแน!
นัยนตาของซือเสวี่ยมั่นสองประกายอันตรายออกมา
การแสดงออกของหลานสาวอยูในสายตาของทานผูเฒา ทานผูเฒาที่มีประสบการณ
ชีวิตมายาวนานจะไมรูความคิดของหลานสาวไดเชนไร เขาพูดขึ้นเสียงเบา “เขาไมได
ใชพลังธาตุก็สามารถสยบเจาได ความแข็งแกรงเกรงวาจะอยูเหนือกวาเจา เจาตอง
ระวังตัวดวย”
ซือเสวี่ยมั่นเงยหนาขึ้น นัยนตาของนางทั้ งสองขางราวกับถานไฟที่ รอ นระอุ
“เสวี่ยมั่นจะพยายามคะ!”
ทานผูเฒาถึงกับตกตะลึง เขาไมเคยเห็นวาหลานสาวของตนจะมีความตองการ
ตอสูรุนแรงถึงเพียงนี้
ดูทาการพายแพในครั้งนี้จะเปนความลมเหลวที่ยิ่งใหญสำหรับเสวี่ยมั่น ทานผู
เฒาลอบยิ้มอยูในใจ
อายฮุยนั้นไมรูเลยวาเงินหาหมื่นหยวนนี้จะนำพาปญหาอะไรมาในภายหลัง เขา
นั้นกำลังจะไปเรียนวิชาพื้นฐาน
แสงอาทิตยที่สองผานหนาตางเขามาในหองเรียน สองลงมาโตะหนังสือที่อยูบน
พื้นกระดาน แมแตฝุนละอองที่ลอยอยูในอากาศลวนดูเหนื่อยหนาย
หองเรียนนั้นแสนจะวางเปลา มีเพียงคนนั่งอยูแคหกคน คนที่ตองเขาเรียนวิชา
พื้นฐานนั้นมีจำนวนนอยมาก ไมวาจะเปนที่ดินแดนเกาหรือจะเปนที่อูสิงเทียน เด็กๆ
โดยมากก็ไดเรียนวิชาพื้นฐานแลว
อาจารยตงที่อยู ณ แทนบรรยายกำลังวาดไมวาดมืออธิบายถึงนโยบายของอูสิงเทียน
นั้นตองใชระยะเวลานานเพียงใดในการวางแผนจนน้ำลายแตกฟอง และยังพูดถึงการ
ที่ตองใชกำลังคนกำลังทรัพยขนาดไหน ในยามที่การบำเพ็ญตนแตละพรรค ผูคนนับ
หมื่นมีใจเปนหนึ่งเชนไร ในวันนี้อูสิงเทียนที่มั่นคงก็เปนเชนนั้น เริ่มจากการลองเขาไป
ในแดนรางครั้งแรก อีกทั้งเขายังเลาถึงการประกาศจุดสิ้นสุดของชวงเวลาการปองกัน
ของอูสิงเทียน ยางเขาสูยุคสมัยแหงการโตกลับอันยิ่งใหญ
อายฮุยไมเหมือนกับผูอื่นที่แทบจะหลับ เขาฟงอยางตั้งอกตั้งใจ เมื่อกอนเขามี
เพียงอานคัมภีรกระบี่ สำหรับประวัติศาสตรของอูสิงเทียนนั้นสวนมากเขารูมาจาก
เวลาที่ผูใชพลังธาตุคุยกันตอนอยูในแดนราง
การเลาประวัติศาสตรคืองานอดิเรกที่สำคัญสุดของอาจารยตง เขาใชเวลาในคาบ
เรียนวิชาพื้นฐานสวนใหญในการเลาประวัติศาสตร การพูดถึงการฝกฝนขั้นพื้นฐานนั้น
กลับนอยมาก
เรื่องราวประวัติศาสตรอันยุงเหยิงพวกนี้เกี่ยวอะไรกับพวกเขา นักเรียนคนอื่นๆ
ลับหลังลวนเรียกวิชานี้วาวิชาพนน้ำลาย เพราะไมชอบมาเสียเวลาใหเรื่องพรรคนี้ ทำ
อยางไรได คาบเรียนวิชาพื้นฐานของพวกเขา ก็เปนวิชาในดูแลของอาจารยตง อีก
อยางอาจารยตงนั้นแสนจะขึ้นชื่อเรื่องอารมณฉุนเฉียว ถาหากนักเรียนที่โดดเรียนวิชา
ของเขาแลว อยากจะไปขอคำชี้แนะเรื่องปญหาในการฝกละก็ อาจารยแกไมแมแตจะ
มองมาดวยซ้ำ
ใครใชใหพวกเขาไรพื้นฐานกัน
นักเรียนผูมาจากอูสิงเทียนไมตองไปพูดถึง พวกเขาเรียนที่บานจนถึงวิชาขั้นสูง
นักเรียนธรรมดาก็เรียนถึงวิชาระดับกลาง ตอใหเปนนักเรียนจากดินแดนเกา ก็ได
ฝกฝนตั้งแตยังเล็ก ถึงแมจะเปนเพราะปจจัยจากสภาพแวดลอม ความแข็งแกรงจึง
เทียบไมไดกับนักเรียนของอูสิงเทียนที่พลังแสนลึกล้ำ แตทวาในดานทฤษฎีก็ไมไดมี
ปญหาอะไร
สิ่งที่เหลืออยูมักจะเปนการเปลี่ยนแปลงของพลั งอันแข็ งแกร ง หลังจากการ
พัฒนาที่ผานระยะเวลานับพันป พลังของธาตุทั้งหาก็ไดซึมลึกเขาสูใจคน
นาเสียดายที่จำนวนนักเรียนที่เริ่มจากขึ้นพื้นฐานอยางอายฮุยนั้น มีนอยจนนาสงสาร
อยูใตชายคาบานทาน ยอมตองกมหัว
อาจารยตงที่พ ูดพร่ำไมห ยุดมาค อนวั น ในที ่ สุ ดก็ พ ู ดถึ งการฝ ก ฝนเสีย ที สติ
นักเรียนคนอื่นๆ ก็ถูกเรียกกลับมาใหคึกคัก
ความเต็มที่ของอาจารยตงเหมือนจะอยูกับการถายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร
พูดอธิบายถึงการฝกพลังฐานราวกับไมมีกะจิตกะใจ เขาพูดเพียงแคครึ่งชั่วโมง ก็
ปลอยใหเลิกเรียน อายฮุยกำลังนึกทบทวนเนื้อหาที่เรียนเมื่อครู รอใหเขาไดสติกลับมา
อาจารยตงก็หายไปอยางไรรองรอยเสียแลว
เทียบกับนักเรียนคนอื่นที่ทำหนาเศราอมทุกข ในใจของอายฮุยในตอนนี้เต็มไป
ดวยความปติยินดี
เขาใชเวลาอยูในแดนรางถึงสามป ก็ไดสั่งสมประสบการณมากมาย และไดรับการ
ฝกฝนจนชำนาญ เมื่อพบอันตราย ก็ไมใชปญหาสำหรับเขา เขาถือวาโดดเดนที่สุดใน
บรรดาแรงงานทั้งหมด ผูใชพลังธาตุที่ยิ่งใหญทั้งหลายลวนไวใจเขา หากพบผูที่มีน้ำใจ
ก็ยังไดสอนกระบวนทาที่มีประโยชนใหแกเขาบาง
ทว า ในแดนร า งอั น ตรายรอบด า น สามารถพบเจออั น ตรายได ท ุ ก เวลา ใน
สภาพแวดลอมเชนนั้นจึงไมมีใครที่จะมีความอดทนมาถายทอดวิชาใหแรงงานคนหนึ่ง
วาจะตองฝกฝนอยางไร
สามปที่ผานมา สิ่งที่เขาไดเรียนมีไมนอย ซึ่งลวนเปนพวกเทคนิคที่ใชไดจริง แต
เปนพวกเล็กนอยมากๆ
ทฤษฎีของเขานั้นไมครบสมบูรณ ทวาประสบการณตอสูมากมาย สิ่งที่สะสมมี
มากกวานักเรียนคนอื่นจะเทียบเทียมได อีกอยางเขายังเชี่ยวชาญในการครุ นคิ ด
ไมเชนนั้นก็คงไมอาจเพาะเมล็ดพันธุตัวออนกระบี่ออกมาได ในแดนรางถึงแมสิ่ งที่
เรียนจะงายดาย เปนเพียงสวนเล็กสวนนอย แตวาเขานั้นทุมเทเวลาใหแตละอยางใน
การวิเคราะหและครุนคิดเปนอยางมาก แตอุปสรรคของเขาถือรากฐานที่ออนแอ ผลที่
ไดรับจึงมีขีดจำกัด พอกพูนเปนปญหาที่คางคาในใจ
ในระยะเวลาการสอนของอาจารยตงที่แสนจะสั้นนั้น เขาพูดถึงเนื้อหาวิธีการ
ฝกฝนเพียงไมกี่คำ ที่พูดเยอะกวาลวนเปนการอธิบายทฤษฎีที่เกี่ยวของกับพลังธาตุ
และสิ่งนี้ก็เปนสวนที่อายฮุยขาดไปมากที่สุด
บทที่ 10 กลุมผูมีพรสวรรค
พลังธาตุไมใชของหายากอะไร
แตกอนในยุคของการบำเพ็ญตนก็มีคนไดทำการศึกษาไว แตทวาในยุคสมัยของ
การบำเพ็ ญ ตนที่ เ ต็ ม ไปด ว ยพลัง วิญ ญาณ จึ ง สามารถนำพลั ง นั ้ น มาใชไ ด อ ย า ง
กวางขวาง เพราะวาพลังวิญญาณนั้นมีพลังชีวิตมากกวาพลังธาตุมากนัก อีกทั้งยังใช
งายมากกวา การผลิตพลังวิญญาณที่ที่มีมากไดไปยับยั้งการกำเนิดของพลังธาตุ ดังนั้น
ในยุคสมัยของการบำเพ็ญตนการวิจัยเกี่ยวกับพลังธาตุจึงมักเปนพวกพรรคเล็กๆ
มีเพียงแคแดนรางที่มีพลังวิญญาณเบาบาง พลังธาตุจึงไดเปนพลังหลัก
อาจกลาวไดวาโลกแหงการบำเพ็ ญตนนั ้ นราวกั บได รั บความโปรดปรานจาก
สวรรคเปนพิเศษ ทำใหเต็มเปยมไปดวยพลังวิญญาณ เปนเขตแดนที่กวางขวางใหญโต
ราวกับเปนที่ดินที่ถูกประทานมาจากฟา โลกแหงการบำเพ็ญตนก็หยิ่งในเกียรติของตัว
มาโดยตลอดดวยเหตุผลเหลานี้ เมื่อผานไปนานเขา ผูบำเพ็ญตนเกือบทั้งหมดลวนคิด
วาโลกแหงการบำเพ็ญตนคือศูนยกลางของโลกใบนี้
การดำรงอยูของสภาพแวดลอมอยางแดนราง ไมเคยอยูในสายตาของพวกเขา
ใครตอใครก็คิดไมถึงวาพลังวิญญาณในโลกจะลดลงทุกวันๆ พลังวิญญาณคือรากฐาน
ของระบบการบำเพ็ญตน หากพลังวิญญาณสูญหายไป โลกแหงการบำเพ็ญตนที่แสน
ยิ่งใหญรุงเรืองก็จะลมสลายลง
ครั้นแลวหลายลานปตอมา แดนรางที่โลกแหงการบำเพ็ญตนไมเคยมองอยูใน
สายตา กลับกลายมาเปนศัตรูที่พวกเขาไมมีหนทางจะเอาชนะได
ผูอาวุโสที่ถูกบีบคั้นจนถึงทางตัน จึงไดเสาะหาแหลงพลังใหมอยางบาคลั่ง และ
อาจารยของพวกเขาก็คือศัตรูของพวกเขา นั่นคือพวกอสูรแดนรางและชนเผาแดนราง
พลังธาตุก็ถูกคนพบและพัฒนาขึ้นภายใตสถานการณนั้น
อยางไรก็ตาม เพราะสติปญญาที่สั่งสมมากวาลานปของเหลาผูบำเพ็ญตน พวกเขาจึง
ใชเวลาไมนานในการริเริ่มระบบของพลังธาตุทั้งหาซึ่งเปนของเหลาผูบำเพ็ญตนเอง
ทฤษฎีมีการพัฒนาอยางตอเนื่อง ระบบพลังธาตุจึงเริ่มเสถียรขึ้น อูสิงเทียนก็เริ่ม
แข็งแกรงขึ้นเชนกัน
ดิน น้ำ ไฟ ไม ทอง พลังของธาตุทั้งหาประกอบขึ้นเปนพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตทั้ง
มวล พลังธาตุทั้งหาที่มั่นคงจะประกอบขึ้นเปนสสาร และเมื่อเกิดพลังชีวิต พลังธาตุ
ของธาตุทั้งหาก็ถูกสรางขึ้น จากทฤษฏีที่มีอยูในปจจุบัน พลังธาตุทั้งหาประเภทไมไดมี
รากฐานที่แตกตางกัน พวกมันเพียงแคมีลักษณะของพลังธาตุที่แตกตางกัน ยับยั้งซึ่ง
กันและกัน รวมเปนวัฏจักรอันสมบูรณแบบ นี่ก็เปนเพราะพลังของธาตุทั้งหายากที่จะ
คงอยูเพียงลำพัง พวกมันมักจะดำรงอยูรวมกัน
สิ่งนี้ถือเปนกฎของธรรมชาติ เปนเหตุผลที่แสนซับซอน
สิ่งที่อาจารยตงอธิบายลวนเปนทฤษฎีที่พื้นๆ ในสายตาของหลายๆ คนลวนมอง
วาไรประโยชนไมนาสนใจ แตสำหรับอายฮุยนั้นกลับไขขอสงสัยมากมายที่อยูภายใน
ใจของเขา เขาคุยเคยกับพวกการฝกกระบี่ ไมวาจะเปนพรรคใหญ หรือจะเปนพวก
พรรคเล็กพรรคนอกรีต คัมภีรกระบี่นั้นมีเยอะราวกับเสนขนบนตัววัว แตทวาหาก
สูญเสียพลังวิญญาณที่เปนพื้นฐานแลว ของเหลานี้ก็ลวนไมมีคาอะไร แมกระทั่งเมล็ด
พันธุแหงตัวออนกระบี่ที่เขาเพาะขึ้น หากวาภายในสามปยังไมแตกหนองอกออก เขา
คงหมดสิ้นความหวัง กระนั้นก็ปฏิเสธไมไดวาการอานคัมภีรกระบี่มากมายนับไมถวน
ถือวายังมีสวนชวยในการเปดโลกทั ศนของอายฮุย ทฤษฎีของการฝกกระบี่ในยุ ค
โบราณก็ไดพัฒนาไปถึงจุดสูงสุดแลว ทั้งกวางขวางลึกซึ้ง ทั้งกวางใหญราวมหาสมุทร
ในตอนที่อยูในแดนรางก็เปนเชนนี้ วิถีการใชกระบวนทาของเขาสวนใหญแตกตางจาก
ผูอื่น แมแตผูใชพลังธาตุผูยิ่งใหญและแข็งแกรงก็ยังประหลาดใจ
เขาสามารถมีชีวิตรอดมาจากแดนรางได ไมใชเพราะวาโชคชวย
แตกอนที่เขาไดร่ำเรียนลวนเปนชิ้นสวนเล็กๆ ตอนนี้เขาคอยๆ แกปมออกมา สิ่ง
นี้ทำใหเขารูสึกตื่นเตน แตกอนเขาก็มีความคิดที่คอนขางคลุมเครือ แตตอนนี้ดูทา
ความคิดของเขาพวกนี้ไมใชวาจะไรหนทางทำใหเปนจริงเสียทีเดียว
เขาควบคุมจิตใจที่กำลังเคลื่อนไหวอยางไมเปนสุข ตอนนี้ยังไมถึงเวลา เขายัง
ตองการเก็บสะสมใหมากยิ่งกวานี้
การมาสนามเหนี่ยวนำในครั้งนี้ถือวาถูกตองแลว คาบเรียนแรกก็ไดรับประโยชน
มากมายถึงเพียงนี้ ทำใหเขาปติยินดีที่สุด ถัดจากนี้เขาตั้งหนาตั้งตาคอยคาบเรียนอื่นๆ
วันเวลาแหงการเรียนนั้นแสนจะธรรมดาและเต็มไปดวยเนื้อหา แตสำหรับอายฮุย
แลว ชา งเปนเหมือนกับแสงอาทิตย ท ี่ งดงาม ในทุ ก วัน ทุ ก วิ ชาเรียนเขาทุ มเทให
ความสำคัญ สำหรับคนที่มีรากฐานพื้นๆ เชนเขานั้น การจะไดรับโอกาสเชนนี้เปน
เรื่องที่ยากมาก เขาเปนเหมือนกับฟองน้ำที่ละโมบดูกลืนอาหารทั้งหมด
คาบวิชาพื้นฐานของอาจารยตงนั้นสั้นมากมีเพียงแคสิบคาบ อายฮุยยังไมอยากให
จบ ถึงแมคาบเรียนของเขานั้นมีเยอะมาก แตเขากลับพบวาคาบเรียนที่จะกลาวถึง
ทฤษฎีการฝกฝนพลังธาตุ มีเพียงวิชาพื้นฐานของอาจารยตงเทานั้น อาจารยของคาบ
วิชาอื่นๆ ลวนถายทอดแตพวกกระบวนทาที่ใชประโยชนไดจริงหรือพวกเคล็ดวิชาใน
การฝกฝน มีนอยมากที่จะมีอาจารยอธิบายถึงทฤษฎีที่อยูในนั้น
บางทีในสายของของเหลาอาจารย สำหรับนักเรียนที่เพิ่งจะเขาเรียน รูแควาจะ
ฝกฝนเชนไรก็เพียงพอแลว
ตอนนี้อายฮุยก็เริ่มคุนเคยกับชีวิตการเรียนในเมืองซงเจียนขึ้นมาทีละนอย เขาไม
รูสึกประหมาเหมือนกับตอนที่อยูหนาประตูสนามเหนี่ยวนำ
นักเรียนในเมืองซงเจียนผอนคลายเปนอยางมาก ที่นี่ไมไดมีกฎที่เขมงวด ไมวาจะ
เปนคาบเรียนใด ขอเพียงแคเจามีเงื่อนไขที่เหมาะสม ตัวอยางเชนระดับเขตแดนถึง
เกณฑ ก็สามารถที่จะเลือกเรียนได
แตทวาเขาก็ยังมีเรียนอีกคาบหนึ่ง เพื่อนรวมหองเรียนของเขาก็คือพวกที่เจอใน
วันแรกที่เริ่มเรียน และอาจารยที่รับหนาที่ดูแลก็คือ อาจารยสวี่ทานนั้น
ระดับพลังของแตละคนนั้นแตกตางกันเปนอยางมาก แตละคนจึงเลือกวิชาลง
เรียนแตกตางกัน เวลาปกตินั้นยากที่จะไดเจอหนากัน มีเพียงคาบโฮมรูมที่มีสัปดาห
ละครั้งเทานั้น เขาจึงจะไดพบกับเพื่อนรวมหองของตน
ไมมีผูใดใหความสนใจอายฮุย
ในบรรดานักเรียนสวนใหญ เกรงวาจะไมมีผูใจจำชื่อของอายฮุยได เขาที่เปน
นักเรียนที่ทั้งไมแข็งแกรงและไมมีชีวิตชีวา ทำใหไมมีใครรูสึกวาเขามีตัวตนอยูตรงนั้น
อาจารยสวี่เห็นวาทุกคนมาครบแลว ก็ไดเริ่มเอยปาก "ที่เรียกทุกคนมาในครั้งนี้
เปนเรื่องเกี่ยวกับการคัดเลือกคนเขาสูกลุมผูมีพรสวรรค
ไดยินคำวา “กลุมผูมีพรสวรรค” พวกนักเรียนที่มาจากอูสิงเทียนราวกับกินยา
บำรุงกำลังในทันที สวนพวกนักเรียนที่มาจากดินแดนเกาลวนทำหนาพิศวงงงงวย
“กลุมผูมีพรสวรรคนั้นก็คือการเลือกนักเรียนที่พอจะมีความแข็งแกรงแล ว ก็
พรสวรรคพอใชได ภายในกลุมไมเพียงแตจะมีอาจารยผู เชี ่ยวชาญเฉพาะดา นมา
แนะนำการฝกฝน แตยังมีการฝกปฏิบัติมากมายอีกดวย ยกตัวอยางเชน ผูเขารวมจะ
ไดรับมอบหมายงานของโรงเรียน ไดติดตอกับนักเรียนจากเมืองอื่นเพื่อจัดตั้งการ
แขงขันขึ้นเปนตน ถึงขนาดมีโอกาสไดเขาแดนรางไปพรอมกับอาจารย เพื่อเขาศึกษา
สภาพโดยรอบของแดนรางอีกดวย”
สามารถเขาไปในแดนราง เรื่องนี้ทำใหเหลานักเรียนตื่นเตนขึ้นมาในทันที เกิด
เสียงพูดคุยกันระงมดังขึ้น
แดนรางในสายตาของทุกคนนั้นเปนสถานที่ลี้ลับ เต็มไปดวยสิ่งที่ไมรูจัก ยิ่งไป
กวานั้น การมีเหลาอาจารยเขาไปดวยก็ไมตองกังวลเรื่องปญหาความปลอดภัย ไดยิน
วาสามารถเขาไปเรียนรูจากแดนรางอยางนี้ ทำใหเหลานักเรียนทั้งหลายตางตั้งตารอ
คอยกันขึ้นมา
ทามกลางเหลานักเรียนที่กำลังตื่นเตน ใบหนาของอายฮุยกลับมีแตความเฉยชา
เพราะสำหรับเขาแลวสิ่งที่เรียกวากลุมผูมีพรสวรรคนั้นเขาไมไดสนใจมันเลย การ
แนะนำของอาจารยนั้นนับวาไมเลวเลย แตสำหรับเขาในตอนนี้ สิ่งที่สำคัญยิ่งกวาคือ
การสะสมพลังธาตุใหเพียงพอ เพื่อที่จะเปดคลังชีวิตพลังธาตุของตน
สำหรับแดนรางนั้น เขาอยูเสียจนแทบจะอวกอยูแลว
อาจารยสวี่มองไปยังนักเรียนที่กำลังตื่นเตนกันใหญ เขาคอยๆ ยิ้มแลวพูดตอ
“แนนอนวาเงื่อนไขของการจะถูกเลือกเขากลุมผูมีพรสวรรคคอนขางยากลำบากอยู
ทุกคนเพิ่งจะเขามายังสนามสนามเหนี่ยวนำ ถาหากดูจากเกณฑของปที่แลว ระดับที่
ต่ำที่สุดจะตองอยูขั้นเปดตำหนักไดสองตำหนักขึ้นไป”
ดานลางไดสงเสียงคร่ำครวญกันในทันที หากเปนไปตามเกณฑมาตรฐานนี้ ทั้ง
หองเกรงวาจะมีเพีย งสามถึงหาคนที่ผา นเงื่อ นไข เมื่อรูวาตนสามารถผานเกณฑ
คัดเลือก พวกนั้นก็แสดงความตื่นเตนออกมาอยางออกหนาออกตา
“นี่เปนเกณฑมาตรฐานขั้นต่ำสุด และไมใชเกณฑตายตัว ทุกคนไปลองดูกอน”
อาจารยสวี่พูดตอ “จะทำอยางไรจึงจะไดรับเลือก ทุกคนไปดูก็จะรูเอง ตอนนี้ที่ขาจะ
พูดคือ ถาหากเปนนักเรียนที่ไดรับเลือก เมืองซงเจียนของพวกเรามีรางวัลให ซึ่งลวน
เปนทรัพยากรที่มีประโยชนเปนอยางมากตอการฝกฝนของทุกคน ทุกคนพยายามเขา
ใชแลว ตวนมูหวงฮุน เอาเอกสารแจกใหทุกคนที”
ตวนมูหวงฮุนก็คือคุณชายคนนั้นที่ใสเสื้อผาหรูหราที่อายฮุยเจอที่หนาประตู
โรงเรียน และก็เปนนักเรียนที่แข็งแกรงที่สุดในหองเรียนของเขา
อายฮุยก็ยังคงไมไดสนใจไยดีอะไร ของรางวัลนั้นถือวาไมเลว ทวาลองคิดดูอีกทีก็
ยังมีเรื่องหยุมหยิมอีกมาก มันจึงไมไดมีแรงดึงดูดตอเขาอะไรมากมาย ที่สำคัญความ
แข็งแกรงของเขายังหางไกลอีกมากนัก
กระแสความคิดของเขาลองลอยไปอยูที่เรื่องการฝกฝน สภาพแวดลอมของเมือง
ซงเจียนถือวายอดเยี่ยมสำหรับการฝก เรียกไดวาราวกับสรวงสวรรค เขากำลังคิดวาง
แผนการฝกฝนและครุนคิดอยางละเอียด
ตวนมูหวงฮุนที่กำลังแจกเอกสารเดินขามอายฮุยไปโดยที่ไมไดหยุดเดิน เขาบน
พึมพำออกมาหนึ่งประโยคที่เต็มไปดวยการเยาะเยย “วิชาพื้นฐานยังไมไดเรียน ก็ไม
ตองดูแลว”
อายฮุยรูสึกสับสนมึนงง ความเปนอริจากฝายตรงขามสงมาอยางไมมีปมีขลุย อีกทั้งยัง
ชางเปนนิสัยเด็กนอยเสียจริง!
บานตระกูลซือ
“ยืนยันไดแคหกคน”
เสียงของซือเสวี่ยมั่นไมไดดัง ทวาอุณหภูมิในหองโถงใหญราวกับลดต่ำลงนับสิบ
กวาองศา คนรับใชและองครักษทั้งหลายลวนรูสึกหนาวเหน็บถึงขั้วหัวใจไปตามๆ กัน
ผูดูแลสวนลางของเมืองซงเจียนใบหนาซีดเซียว รางกายสั่นเทา พูดดวยเสียงที่สั่น
“ขานอยมีความผิด! ในตอนนั้นไมไดถามชื่อแซเอาไว และพอดีกับเปนชวงเปดเรียน
ของนักเรียนใหม ซึ่งทำใหพวกขาตองเจอกับความยุงยาก พวกขาทำไดเพียงแคอาศัย
ขาวลือที่มาจากกลุมนักเรียน ถามเสียงตอบรับจากรานคาในบริเวณใกลเคียง สุดทาย
สามารถยืนยันไดหกคน แตทวาพวกขาไดตัดหกคนนี้ทิ้ง”
ตอนนี้เขาเสียใจจนลำไสเขียวไปหมดแลว ไมมีเรื่องอื่นทำแลวหรืออยางไรถึง
ไดมาจัดการปดตาตอสูบาบออะไรนี่ขึ้น เชนนี้ก็คือตัวเองผลักใหตัวเองตองตกลงไปใน
กองไฟแทๆ เลย!"
ซือเสวี่ยมั่นทอดถอนใจออกมายาวๆ พยายามที่จะควบคุมอารมณของตน นางรู
วาเรื่องนี้จะโทษอีกฝายไมได ในตอนนั้นตนเองตอบสนองไดชาเกินไป ที่จริงหากตอน
นั้นนางไมสติหลุดไป ก็จะสามารถไดรับขอมูลของทุกคนไดอยางสบายๆ เจาสาระเลว
สมควรตายนั่นก็จะหนีไมรอด
“ลำบากเจาแลว เจาทำไดดีแลว เรื่องนี้ไมใชความผิดของเจา”
น้ำเสียงของซือเสวี่ยมั่นยังคงเย็นยะเยือก
ชายวัยกลางคนที่อยูดานลางถึงกับน้ำตาไหลออกมา ในชวงนี้เขาไดรับแรงกดดัน
มากมายเหลือเกิน หางไกลเกินกวาที่คนธรรมดาจะจินตนาการถึง โดยเฉพาะอยางยิ่ง
การตรวจสอบขอมูลจนแลวจนรอดก็ยังไมมีความคืบหนา เขาเองก็ใกลที่จะถึงขั้น
สิ้นใจแลว
บรรยากาศกดดันภายในหองโถงใหญลดลงไมนอย
ซือเสวี่ยมั่นคอยๆ เอยปากขึ้น “แตทวาเรื่องนี้ ขายังตองกวนเจาอีกหนอย จะมี
คนคอยชวยเหลือเจา ไมวาจะตองแลกดวยอะไรก็ตาม จะตองหาคนคนนี้ใหเจอ”
ชายวัยกลางคนคิดไมถึงวาทาทางของคุณหนูจะแนวแนถึงเพียงนี้ นี่ไมใชครั้งแรก
ที่ไดยินคำวา “ไมวาจะตองแลกดวยอะไรก็ตาม” จากปากของคุณหนู ทวาเมื่อคิดถึง
นิสัยที่วายิ่งลมเหลวยิ่งกลาหาญของคุณหนู เขาก็รูสึกวาเรื่องนี้เปนเรื่องธรรมดา
“ขานอยจะพยายามอยางสุดความสามารถ” เขาไมกลารับประกันไดอยา งเต็ม
ปาก คิดดูแลวเขาจึงพูดตอ “ขานอยมีอยูวิธีหนึ่ง แตก็ไมรูวาจะสำเร็จหรือไม”
“วิธีอะไร” ซือเสวี่ยมั่นถามตออยางชัดเจน
“พวกเราตามหากันเชนนี้ ก็เหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทร ทวาขานอยกำลัง
คิด เขาสามารถคุกคามคุณหนูได แสดงวาตองมีความแข็งแกรงอยางมาก คิดวาคน
เชนนี้จะตองโดนเดนเหนือผูคนในเมืองซงเจียนเปนแน ขานอยคิดวาหากดูจากความ
แข็งแกรงของคนผูนี้ การจะถูกเลือกเขากลุ มผู มีพ รสวรรคไมน าจะมีปญหาอะไร
เชนนั้นพวกเราควรจำกัดวงใหแคบ แลวลงมือหาจากกลุมผูมีพรสวรรค”
ที่การแขงขัน เขามองเห็นยังซือเสวี่ยมั่น แตไมเห็นชายลึกลับผูนั้นลงมือกับตา
การตอสูของคนลึกลับกับคุณหนูนั้นเขาไมรูอะไรเลย การจะประเมินความแข็งแกรง
ของชายผูนั้น มีเพียงแคคุณหนูเทาที่ที่มีสิทธิ์ออกเสียงที่สุด
ซือเสวี่ยมั่นฟงคำพูดของชายวัยกลางคนแลวนัยนตาคูงามก็เกิดเปลงประกาย
ขึ้นมา ในตอนที่ขารับใชมองมาที่นางอีกครั้ง นางก็ตอบกลับอยางไมลังเล
“จับตาดูกลุมผูมีพรสวรรคเอาไว ขาตองการเปนคนแรกที่ไดรายชื่อมา”
“ขอรับ!” ขารับใชรีบตอบรับทันที
ซือเสวี่ยมั่นหันหลังจากไป รวดเร็วดั่งสายลมรุนแรงดั่งฟาฟาด นางจะไมปลอยให
เสียเวลาเปลาแมแตนอย ในหัวของนางตอนนี้เต็มไปดวยเรื่องการฝกฝน ภายในแวว
ตาเต็มไปดวยเจตนาแหงการตอสูที่กำลังลุกไหม
ตอใหตอนนี้เจาแข็งแกรงกวาขา ขาก็จะไมมีทางลมเลิก!
ความอัปยศในครั้งนี้ ขาซือเสวี่ยมั่นจะตองเอาคืนดวยมือของตนเอง!
บทที่ 11 การคาดเดาของอายฮุย
แนนอนวาอายฮุยไมรูตัวเลยวามีคนกำลังตามหาเขาอยูทุกที่เพื่อลางแคน ถึงรู
แลวเขาก็คงไมใสใจ ใครจะไปมีเวลาวางเชนนั้น ขนาดโหลวหลานมาเยี่ยมเยือน เขายัง
ขี้เกียจจะใสใจ แมอีกฝายจะเปนตุกตาทรายที่แสนดีก็ตาม...
อายฮุยคร่ำเครงอยูกับเรื่องการเรียนและการฝกฝนของตน ในตอนนี้เขาเหมือน
ไดหลุดเขาไปในโลกใบใหม โลกใบนี้แสนจะกวางใหญ แสนจะมั่งคั่งและมีสีสัน ใน
สนามเหนี่ยวนำมีสถานที่ฝกตนหลายแหงที่โลกภายนอกไมมีทางพบเจอ อายฮุยได
คนพบสิ่งใหมๆ ในทุกวัน
เขาหมกมุนอยูทามกลางสิ่งเหลานี้ทำอยางไรก็ไมเบื่อ
ไมมีที่แหงใดตองการความแข็งแกรงยิ่งไปกวาแดนรางอีกแลว ที่นั่นไมมีความรูสึก
อันอบอุนใดๆ ถึงขนาดที่วาแมแตผาแพรที่ใชปดบังสักชั้นหนึ่งก็ยังไมมี ทวาในแดนราง
กลับไมมีสถานที่ใหเขาฝกฝน ขอเพียงแคระดับพลังธาตุคอนขางเขมขน ไมถูกอสูร
แดนรางที่ดุรายยึดไป ก็ถูกชนเผาแดนรางยึดครอง
อีกทั้งไมมีเวลาใหเขาไดฝกฝน เขาจำเปนตองตามคนกลุมใหญใหทัน และเขายังมี
งานหนักมากมายที่จะตองทำ ในทุกวันเวลาที่ไดหลับนอนถือวานอยเสียจนนาสงสาร
เปนเพราะพวกผูใชพลังธาตุผูยิ่งใหญทั้งหลายเกือบจะไมตองนอนพัก การทำงานของ
พวกเขารวดเร็วเปนอยางมาก
ดวยความที่ไมมีอาจารยคอยอธิบายเหตุผลตางๆ ใหเขา แคสามารถไดรับการชี้แนะ
หนึ่งถึงสองกระบวนทาจากผูใชพลังธาตุผูยิ่งใหญ ก็เรียกไดวาเปนความเมตตาอัน
ยิ่งใหญแลว แตถาเจอพวกที่นิสัยไมดี พวกที่ไมถูกชะตา เขายังตองลำบากอยูไมนอย
หากเทียบกับแดนรางแลว สนามแหงการตอบรับก็คือสวรรคดีๆ นี่เอง
ผูชายคนหนึ่งที่สะสมความหลงใหลมาตลอดสามป วันหนึ่งหากมันระเบิดขึ้นมา
ระดับความรอนคงรุนแรงยิ่งกวาภูเขาไฟปะทุเสียอีก
อายฮุยราวกับถูกครอบงำก็ไมปาน ลุมหลงอยูทามกลางการฝกฝน
เขารูวารากฐานของตนนั้นไมดี จึงไมอยากตั้งเปาหมายไวสูงเกินไป ขอเพียงใหได
มีโอกาสมีชื่อในทะเบียนของผูใชพลังธาตุก็ดีเทาไรแลว สำหรับเขาแลวนั้นมันตองแลก
มาดวยความพยายามที่เหนือยิ่งกวาคนทั่วไป จึงจะสามารถทำใหมันเปนจริงได
มีเวลาที่ไหนใหมาเสียไปเปลาๆ
ในสี่ปนี้ เปนเวลาสี่ปแหงการเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของเขา เขารูวาตนเองนั้นไม
มีทางไดโอกาสเปนครั้งที่สอง
ดูเหมือนวาจะเปนความสารถในการปรับตัวที่ไดฝกมาจากแดนราง อายฮุยจึงใช
เวลาไมมากนักก็สามารถปรับตัวใหเขากับการใชชีวิตในเมืองซงเจียนได แผนการเรียน
ของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กทีละนอย จากในตอนแรกที่ไมวาจะวิชาอะไรก็เขา
เรียน แตตอนนี้เขาเริ่มที่จะเลือกวิชาเรียนแลว
เขาจะตองเขาใจถึงสภาพของตนเองรวมถึงปญหาที่สำคัญที่สุดที่ตองเผชิญ สิ่งนี้
เปนประสบการณที่เขาถูกสอนจากแดนรางที่เหน็บหนาวและเต็มไปดวยการฆาสังหาร
ปญหาที่สำคัญที่สุดของเขาในตอนนี้ก็คือการเปดคลังชีวิตของตน
ถาหากภายในหนึ่งปเขายังไมอาจเปดคลังชีวิตไดก็จะถูกขับไลใหกลับบานไป
เขาไดเลือกสถานที่สำหรับฝกฝนมาแหงหนึ่ง ที่นั่นคือ เจดียเสวียนจิน
เจดียเสวียนจินตั้งอยูที่นอกเมือง อยูหางจากเมืองซงเจียนประมาณหนึ่งรอยหาสิบลี้
เนื่องจากระยะทางที่คอนขางไกล แมจะนั่งรถใบไมสามแฉกก็ยังตองใชเวลาไมนอย
จึงมีนักเรียนนอยมากที่คิดจะถอไปไกลถึงเพียงนี้ ดังนั้นที่นี่จึงเงียบเหงาเปนอยางมาก
แนนอนวาอายฮุยไมมีทางนั่งรถใบไมสามแฉก คาใชจายไปกลับของมันแพงถึง
หนึ่งพันหยวน เขาจะไดเจ็บปวดไปเปนหลายวันกันพอดี
ระยะทางหนึ่งรอยหาสิบลี้สำหรับเขา ก็แคพอดีกับการอบอุนรางกาย ในแดนราง
จังหวะการตอ สูแ ละระดับความรุ น แรงนั ้ น แสนจะน าตกใจ ถึ งแม อ า ยฮุ ยจะเปน
แรงงานไมตองเขาตอสู แตเขายังตองไปกับคนกลุมใหญคอยแบกสิ่งของสัมภาระ
แรงงานเมื่อไปถึงแดนรางบทเรียนแรกที่ตองเจอก็คือการวิ่ง ตองวิ่งได จึงจะตามกลุม
ทัน ไมมีกลุมใดตองการแรงงานที่วิ่งตามพวกเขาไมทัน
รางกายของอายฮุยมองดูแลวไมถึงกับกำยำอะไร ฝเทาก็ไมไดถือวาใหญ แตทวา
มั่นคงมาก รางกายสวนบนไมมีสวนใดขยับแมแตนอย
เขาไมไดเดินผานทางสายหลัก แตวาผานทางกลางปา ที่เขาเดินคือทางลัดที่เปน
เสนตรง ราวกับเสือชีตาหที่ปราดเปรียว พุงผานปามาไดอยางงายดาย
ในตอนที่เขามาถึงเจดียเสวียนจิน ไดใชเวลาไปยี่สิบหกนาที ซึ่งเร็วกวาครั้งที่แลว
ถึงหานาที อายฮุยแสดงออกถึงความพึงพอใจ เขาชอบความรูสึกที่มีความกาวหนา
ที่ปรากฏอยูเบื้องหนาของอายฮุยเปนซากเจดียเหล็กที่ทรุดโทรมแหงหนึ่ง บริเวณ
โดยรอบเงียบเหงาไรผูคน เจดียเหล็กมีทั้งสิ้นเจ็ดชั้น มีอยูหลายสวนที่ทรุดโทรมไมมี
ชิ้นดี ประวัติของมันสามารถยอนกลับไปถึงยุคของการบำเพ็ญตน พูดกันวาแตกอน
เปนของสำนักบำเพ็ญตนสำนักใหญ ภายหลังเมื่อพลังวิญญาณสูญสิ้น เจดียแหงนี้ผาน
วันเวลายาวนาน ชำรุดทรุดโทรม แตทวาก็ยังคงเหลืออยูมาถึงทุกวันนี้
ที่เจดียเหล็กสามารถคงอยูมาถึงทุกวันนี ้ เปนเพราะดานลา งของมั นมีถ ้ ำ ลม
ทองคำอยูแหงหนึ่ง สายลมที่พัดอยางบาคลั่งภายในถ้ำนั้นเต็มไปดวยพลังธาตุทองที่
เขมขน เปนเพราะพลังธาตุทองที่หมุนวนอยางไมหยุดยั้ง แตเดิมตัวเจดียนั้นเปนไมก็
คอยๆ เปลี่ยนเปนโลหะ กลายเปนเจดียเหล็กในที่สุด จึงสามารถเหลืออยูมาถึ งทุก
วันนี้ ภายหลังสนามเหนี่ยวนำจึงไดปรับปรุงมันใหกลายเปนสถานที่สำหรับฝกฝน ทวา
เนื่องจากตำแหนงของที่นี่คอนขางไกล และในหมูสถานที่ฝกของเมืองซงเจียน ที่แหงนี้
ไมไดมีอะไรพิเศษไปกวาที่อื่น คนที่มาจึงนอยจนแทบไมมี
ที่จริงเจดียเสวียนจินไมใชสถานที่ฝกสำหรับนักเรียนที่เพิ่งเริ่มตน แตเปนสถานที่
ฝกสำหรับนักเรียนที่สามารถเปดคลังชีวิตของตนไดแลว
อายฮุยไดวางแผนเอาไวแลว
เมื่อเดินมาถึงประตูของเจดียก็ไดยินเสียงลมพัดดังสนั่น
ในที่สุดอายฮุยก็เขาใจวาเหตุใดจึงไมเห็นใครที่นี่เลยแมแตคนเดียว
ลำพังแคฟงเสียงลม เขาก็รูแลววาสายลมดานในจะตองรุนแรงมากเพียงใด เขาได
อาหนังสือแนะนำที่ผูอาวุโสในสนามเหนี่ยวนำเขียนไวหลายเลม สวนใหญไมมี ผู ใด
แนะนำเจดียเสวียนจินเลย
พูดกันวาลมทองคำที่อยูดานในเจดียเสวียนจินนั้นราวกับระเบิดพัด รุนแรงเกินจะ
เทียบ อีกทั้งลมทองคำนั้นเต็มไปดวยพลังธาตุทองที่เขมขน หากพัดถูกกาย จะรูสึก
ราวกับถูกมีดกรีดแทงถึงกระดูก และพลังในการซึมผานของมันแข็งแกรงมาก สามารถ
ซึมผานรูขุมขนพัดเขาเลือดเนื้อไปยังสวนลึกของรางกาย เจ็บปวดนับเทาทวี เทียบกัน
แลวกับบอน้ำรอนในตัวเมือง ถือวาออนโยนและสบายกวามาก หากแตผลลัพธไม
ตางกัน แนนอนวาไมมีใครคิดจะมาที่นี่เพื่อหาความลำบากใสตัว
สิ่งที่กระตุนใหอายฮุยมาหาความลำบากใสตัวที่นี่ เพราะเขาไดอานหนังสือแนะนำเลม
หนึ่งของผูอาวุโสเมืองซงเจียนที่ไมไดรับความสนใจกลาวเอาไวประโยคหนึ่ง
ถาหากมีความอดทนสูง จงไปที่เจดียเสวียนจิน แลวจะไดผลลัพธที่ถือไดวาไมเลวเลย
หากพูดถึงความเขากันไดกับพลังธาตุ เขานั้นไมมีความมั่นใจอะไร รากฐานของ
เขาแย แมแตเกณฑมาตรฐานเขาก็ยังผานไมได แตหากพูดถึงความอดทน เขายังมี
ความมั่นใจอยูเต็มเปยม
ในตอนที่อยูแดนราง เขาสามารถฝกฝนจนไดพลังธาตุมาสวนหนึ่ง พลังธาตุสวนนี้
แสนจะออนแอ เปนเพราะมีผูใชพลังธาตุทานหนึ่งมอบเนื้ออสูรแดนรางใหเขาชิ้นหนึ่ง
บวกกับวัตถุดิบที่เขาสะสมไว ปรุงขึ้นเปน น้ำแกงเสริมพลั งธาตุ ถึงไดสามารถฝ ก
ออกมาได
เลือดเนื้อของอสูรแดนรางนั้นประกอบไปดวยพลังธาตุ ซึ่งเปนพลังที่ใกลเคียงกับ
พลังธาตุที่มนุษยฝกได มันสามารถดูดซึมไดงายที่สุด
และนี่ก็เปนสาเหตุที่เนื้อของอสูรแดนรางนั้นมีราคาที่สูงโดยไมตกลงเลย ก็เลยทำ
ใหผูใชพลังธาตุมากมายยอมเสี่ยงอันตรายเขาไปในแดนรางเพื่อลาอสูรแดนราง
พลังธาตุกอนนี้แสนจะล้ำคา ในเวลาสำคัญหลายครั้ง พลังนี้ไดชวยชีวิตอายฮุยเอาไว
ผูใชพลังธาตุผูยิ่งใหญทานนั้นเคยพูดกับอายฮุยตรงๆ วารากฐานของอายฮุยนั้นไม
ดี ความเขากันไดกับพลังธาตุก็แย การจะพึ่งพาของภายนอกชวยในเรื่องการฝกฝนนั้น
เปนความสามารถของพวกที่ร่ำรวยเทานั้นถึงจะทำได
ในภายหลังระหวางการฝก ฝนของอายฮุย ก็พบวาเปนไปดั่ งที่ ผูใชพลั งธาตุ ผู
ยิ่งใหญไดกลาวไว สามปผานมา พลังธาตุของเขาไม ไดเพิ่มขึ้ นเลย เหตุผลที่ต อ ง
ยอมรับนั้นมีมาก ทั้งเวลาการฝกฝนที่นอย ทั้งความเขมขนของพลังธาตุ ทั้งการไมได
รับการชี้แนะเปนตน ทวาการเพิ่มขึ้นที่เกือบจะเปนศูนยนั้น ก็ทำใหอายฮุยสัมผัสไดวา
รากฐานของตนนั้นแยถึงเพียงใด
ทวาเขาก็ไมไดคิดจะยอมแพ และตั้งแตตอนนั้นเปนตนมา เขาก็เริ่มคิดหาวิธี
ที่เขาสามารถนำมาอางอิงได มีเพียงแคพวกคัมภีรกระบี่ไรราคาที่ลาสมัยไปแลว
ผูฝกกระบี่ในยุคโบราณนั้นเกือบจะเปนคำเรียกแทนของผูมีพรสวรรค หากเปนผู
ไรพรสวรรคแมแตประตูก็ไมอาจสัมผัสได โดยเฉพาะอยางยิ่งพรรคใหญ ลักษณะเชนนี้
ยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก ทวาก็ยังมีขอยกเวน มักจะมีผูฝกกระบี่บางสวนที่พรสวรรคไมได
โดดเดน แตสามารถขึ้นไปสูจุดสูงสุดของโลกการบำเพ็ญตนได ใชกระบี่สยบทั่วปฐพี
ในยุคสมัยการบำเพ็ญตนที่แสนยาวนาน เปนยุคสมัยที่โลกแหงการบำเพ็ญตนยัง
รวมเปนหนึ่ง ไมไดแบงแยก มีพรรคเล็กๆ ชื่ออูคงเจี้ยน มีศิษยผูฝกกระบี่ผูหนึ ่งแซ
เหวยชื่อเซิ่ง พรสวรรคเขาแสนจะธรรมดา ทว า ในตอนท ายที่ สุ ดเขากลับประสบ
ความสำเร็จในขั้นสูงสุด ยิ่งใหญเหนือผูคน
อายฮุยอานคัมภีรกระบี่มามากมาย ผูฝกกระบี่เชนนี้ยังมีอีกหลายทาน
สำหรับการฝกกระบี่นั้นอายฮุยหาไดสนใจสักนิดไม ทวาคนเหลานี้สามารถเปด
เสนทางในยุคที่ใหความสำคัญกับเรื่องพรสวรรคในการจะเปนผูฝกกระบี่ไดนั้น แสดง
วาจะตองมีจุดอื่นที่เกงกาจ เขาหวังวาจะสามารถหาทางสวางเจอจากในนี้
บรรดาผูแ ข็งแกรงเหลา นี้มัก จะมี น ิ สั ย บางอย า งที ่ เหมื อ นกั น อย า งมาก เช น
แข็งแกรงอดทน ขยันหมั่นเพียร ใจจดจออยูกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง สิ่งเหลานี้ลว นคุม
คาที่เขาจะเรียน แตเห็นไดชัดวาไมไดงายเลย และตามที่เขาไดศึกษาคนควาอยาง
ลึกซึ้ง เขาพบวาเหลาผูแข็งแกรงมักมีอีกสิ่งหนึ่งรวมกัน
ปกติแลวหากมีขอดียอมตองมีขอเสีย รากฐานบางสวนไมดี หากเปลี่ยนวิธีคิด ก็
ไมแนวาจะเปนเรื่อ งราย ผูอาวุโสเหลานั้นที ่มีรากฐานธรรมดา สามารถที่จะเป ด
เสนทางใหมได ก็เพราะวาพวกเขาไดคนพบเสนทางที่เปนของตนเอง
อายฮุยรูสึกวาที่ตนสรุปมานั้นมีเหตุผลอยางมาก อยางไรก็ไมใชวาจะไรประโยชน
เสียทีเดียว
จนกระทั่งหลังจากเขาเรียนวิชาพื้นฐานของอาจารยตงจบ ปญหาคาใจมากมายของ
เขาไดรับการไขจนกระจาง ตัวอยางเชนเขารูวาสิ่งที่เรียกวารากฐานแยนั้นก็คือผูฝกมี
ระดับความเขากันไดกับพลังธาตุคอนขางต่ำนั่นเอง เนื่องจากรากฐานตนเปนสาเหตุ
พลังธาตุที่เขาสูรางกาย สวนใหญจึงสูญสลายไป มีเพียงจำนวนนอยนิดที่หลงเหลืออยู
นี่ก็คือเหตุผลที่ทำใหการเลื่อนระดับพลังของเขาเปนไปไดชา
รากฐานเปนสิ่งที่ติดตัวมาแตกำเนิด ไมมีทางจะเปลี่ยนแปลงได คนทั่วไปหากได
ฟงขาวนี้ ก็คงไมตางกับไดรับโทษประหารชีวิต
แตอายฮุยกลับไมมีวี่แววของความโศกเศรา กลับกันเขาเกิดมีความคิดขึ้นมา ใน
เมื่อรางกายของตนนั้นมีความเขากันไดกับพลังธาตุต่ำ เชนนั้นรางกายเขามีขอดีอะไร
เขาเชื่อวาตนเองจะตองมีขอดีอยูบาง บางทีขอดีนี้อาจจะไมไดมีประโยชนที่เห็น
ไดอยางชัดเจน แตทวาจะตองมีอยางแนนอน
สวรรคไมมีทางปดตายประตูหนทางทั้งหมด
ในกับการฝกฝนแลว นอกจากความเขากันไดยังมีอะไรอีก
มองดูคำแนะนำของผูอาวุโสประโยคนั้น สายตาของเขาก็เปนประกายขึ้นมา
นอกจากความเขากันได ยังมีความอดทนนี่นา
รากฐานเขาไมคอยมีความเขากั น ได กั บ พลั งธาตุ หากลองเปลี ่ ยนวิ ธี พูดใหม
รางกายของตนนั้นมีสัมผัสตอพลังธาตุไมคอยจะเฉียบคม ลมทองคำสำหรับคนอื่น
อาจจะรุนแรงราวกับมีดกรีด ตนเองอาจจะรูสึกแคอึดอัดเทานั้น
อายฮุยไดเขาใจขึ้นมาในทันที นี่ไมใชวาเขาไดหาขอดีของตนเจอแลวหรอกหรือ
สัมผัสตอพลังธาตุไมเฉียบคม แนนอนวาทำใหผลการฝกชา แตถาลองคิดกลับกัน
ดู รา งกายเขาไมใชวาสามารถทนรั บการโจมตี จากพลั งธาตุท ี ่อยู ในระดั บสูงและ
แข็งแกรงไดหรอกหรือ อายฮุยไมใชพวกไกออนที่ทำอะไรไมถูก ประสบการณการตอสู
ของเขามีมากมาย ขอเพียงใหขอดีกับเขาสักหนอย เขาก็สามารถที่จะใชประโยชนมัน
ไดอยางเต็มที่
อายฮุยคิดขอดีอีกอยางหนึ่งออกมาไดอยางรวดเร็ว
ความอดทนที่สูง นั่นก็ห มายความวา เขาสามารถทนต อการฝ กในระดับ ที่สูง
ยิ่งขึ้นไปอีกได
วันนี้เขาจึงมาเพื่อยืนยันการคาดเดาของตนเองวาสรุปแลวถูกตองหรือไม
บทที่ 12 ผูมีพรสวรรคกบั เศษสวะ
อาจารยสวี่มองตวนมูหวงฮุนชายหนุ มผูปกปดความยิ ่ งยโสเอาไวไมม ิดที่อยู
ตรงหนาอยางรูสึกปวดหัวอยูนิดหนอย ตวนมูหวงฮุนเปนผูที่มีพรสวรรค เสื้อคลุมสีดำ
ที่สวมอยูสะบัดไหว รูปรางสูงโปรงราวดามทวน ใบหนาหาวหาญหลอเหลาแลดูมี
เสนหอันรายกาจอยูหลายสวน เกือบจะเปนประเภทที่หญิงสาวชื่นชอบกันที่สุด
นอกจากจะยิ่งยโสเกินไป เจาเด็กนี่ก็ไมมีขอเสียอื่นใด แนนอนวาเขามีคุณสมบัติที่
จะยิ่งยโส
เขาถือกำเนิดมาจากตระกูลมีชื่อ ตระกูลตวนมูมีประวัติศาสตรในอูสิงเทียนมา
อยางยาวนาน บรรพบุรุษก็เปนหนึ่งในผูอาวุโสที่สถาปนาอูสิงเทียนขึ้น และพรสวรรค
ของตัวเขานั้นก็โดดเดนเปนอยางมาก ในบรรดาลูกศิษยที่อาจารย สวี่เคยสอนมา
ทั้งหมด ตวนมูหวงฮุนถือวาอยูในหาอันดับแรก
อาจารยสวี่คอนขางจะปวดหัวอยูไ มนอย ยิ่งยโสไมไดผิดอะไร สำหรับเด็กหนุมที่มี
พรสวรรคแลวนั้น ใครบางกันที่จะไมมีความยิ่งยโสบางบางสวน ทวาอาจารยสวี่อยูใน
สนามเหนี่ยวนำมานาน เคยเห็นผูมีพรสวรรคมามากมาย ตวนมูหวงฮุนแสดงออกตอ
เหลาเพื่อนนักเรียนที่อยูในระดับต่ำโดยมีเจตนาเปนอริดวย ทำใหเขาคอนขางที่จะ
กังวลเรื่องอนาคตของตวนมูหวงฮุนอยูบาง
อาจารยสวี่ผูมีประสบการณสอนมามากมาย เขาไมไดแสดงสีหนาและถามขึ้น
อยางเปนมิตร “เปนอยางไรบาง เปดเรียนมาระยะหนึ่งแลวรูสึกอยางไรบาง”
“พอไดอยู เพียงแควิชาเรียนงายไปหนอย” ตวนมูหวงฮุนตอบคราวๆ อยางถือตัว
อาจารยสวี่ยิ้มขึ้น “นั่นก็เพราะเจาเรียนมาแลวจากที่ตระกูล พรสวรรคเจาก็ดี
แนนอนวาจะรูสึกสบายเกินไปอยูบาง นี่ก็เปนสาเหตุที่ขาเลือกเจามาเปนหัวหนาหอง
เจาเปนหัวหนาหอง ขาคาดหวังวาเจาจะไดเปนผูนำของผูแข็งแกรง หวังวาเจาจะไม
ปลอยตน ตั้งใจพยายามใหมาก”
ตวนมูหวงฮุนไดยินความคาดหวังของอาจารยสวี่ที่มีตอตน ก็อดไมไดที่จะตื่นเตน
ยินดี เด็กในชวงอายุเชนนี้สิ่งที่ตอตานไมไดที่สดุ ก็คือพวกคำชม ผูนำเลยนะ ชางเปน
คำที่ยิ่งใหญอะไรขนาดนี้ แคคิดก็ทำใหรูสึกตื่นเตน เขายืดอกขึ้นโดยไมรูตัว ตอบอยาง
ภาคภูมิใจ
“ทานอาจารยโปรดวางใจ หวงฮุนคนนี้จะไมทำใหทานอาจารยตองผิดหวัง”
“เจามีความสามารถที่จะทำได!” น้ำเสียงของอาจารย สวี่ห นักแนนกว า ปกติ
“เชนนั้นการเปนผูนำ เจาจะปฏิบัติเชนไรกับเพื่อนๆ ที่ระดับพลังยังไมสูงนัก แนนอน
เจาจะตองคอยชวยเหลือพวกเขา นี่จึงจะเปนสิ่งที่ผูนำควรที่จะทำมากที่สุด เชนนั้นขา
จะมอบหมายหนาที่ใหเจาอยางหนึ่ง ในหองของเราอายฮุยนั้นระดับความแข็งแกรง
คอนขางจะออนดอย ขาตองการใหเจาชวยเขา เปนอยางไร คิดวาพอทำไดหรือไม”
ตวนมูหวงฮุนถึงกับอาปากคาง ทาทางมึนงง
“ขารูวาตวนมูหวงฮุนเปนผูนำผูมีพรสวรรคที่มีความรับผิดชอบ!” อาจารยสวี่ใช
น้ำเสียงที่มีความสุข ซึ่งไมเปดโอกาสใหตวนมูหวงฮุนไดเอยปาก เขาพูดตอ “เชนนั้น
เรื่องของอายฮุยก็ฝากเจาดวยนะ! ขอเรียกรองของขาไมไดสูงอะไร หวังวาในเวลานี้
ของปหนา เขาจะบรรลุถึงระดับสี่ตำหนักเต็มได”
ตวนมูหวงฮุนเต็มไปดวยความมึนงงแลว เขาไมรูวาจะพูดอะไร ภายในเวลาหนึ่งป เปด
สี่ตำหนักเลยเชียวหรือ ลอเลนอะไรกัน เจาเศษสวะนี่แมแตคลังชีวิตยังไมไดเปดเลย...
“อะไรคือผูมีพรสวรรค ผูมีพรสวรรคก็คือคนที่สามารถทำเรื่องที่คนอื่นไมสามารถ
ทำได!” อาจารยสวี่ถามดวยสีหนาที่จริงจัง “หวงฮุน หรือวาเจาไมมั่นใจในพรสวรรค
ของตนเอง”
ตวนมูหวงฮุนพูดโพลงออกมาอยางไมรูตัว “ไมใช...”
คำพูดหลุดออกจากปากไปพลัน ใบหนาของเขาก็มืดคล้ำลง ในใจก็รูสึกแยราวกับกลืน
แมลงวันลงทอง เขามองเจาอายฮุยวารกหูรกตามาตั้งแตแรก คนที่เรียนวิชาพื้นฐานมี
เพียงหกคน หนึ่งในนั้นดันมาเปนนักเรียนในหองของเขาเสียนี่ ในฐานะที่เปนหัวหนา
หอง เขามองเจาเศษสวะที่ถวงแขงถวงขาทุกคนเชนนี้ จะมองอยางไรก็รกหูรกตา
เจาเศษสวะเชนนี้มีคุณสมบัติอะไรมาอยูกลุมเดียวกับผูมีพรสวรรคเชนตน
ตอนนี้อาจารยสวี่ถึงกับใหเขารับหนาที่ดูแลชวยเหลือเจานี่ เขารูสึกวาตนเองราว
กับถูกสายฟาผาใสในวันที่อากาศแจมใสอยางไรอยางนั้น
เขารูสึกวาตัวเองนั้นกำลังจะเปนบา ปกติเวลามองเห็นเจาหมอนั่นก็ทำใหเขารูสึก
ไมสดชื่นแลว ซ้ำยังจะตองชวยเหลือเขา ไมใชวาเขาจะตองเจอหนากับเจาเศษสวะนั้น
ทุกวี่ทุกวันเลยหรอกหรือ ตวนมูหวงฮุนรูสึกวาตนเองจะตองเปนบาแน ไมสิ ตอนนี้เขา
ก็ใกลจะบาอยูแลว!
ตั้งแตที่ตวนมูหวงฮุนเดินออกมาจากหองทำงานของอาจารยสวี่หัวของเขานั้นอยู
ในอาการมึนงงเต็มที
เดินไปไดไมกี่กาว เขาก็เขาใจขึ้นมาในทันที วาตนเองเพิ่งจะตกปากรับคำอะไรไป
เขาตองรับหนาที่ชวยเหลือเจาเศษสวะนั้นใหภายในหนึ่งป ตองทำใหเขากาวสูระดับ
เขตแดนสี่ตำหนัก!
ถาหากจะกลาววาการที่รับหนาที่คอยชวยเหลือเจาเศษสวะนั่นทำใหเขารูสึก
เหมือนกับเหยียบย่ำลงไปในโคลนตม เชนนั้นการที่ภายในหนึ่งปเปดสี่ตำหนัก ก็ทำให
เขารูสึกราวกับตกลงไปในบึงที่เต็มไปดวยหมอกพิษ
ระบบการฝกพลังธาตุนั้นผานระยะกวาพันปเพื่อพัฒนาใหสมบูรณ ตอนนี้ไดสุก
งอมแลว ตระกูลและพรรคตางๆ ลวนมีจุดเดนเปนของตนเอง ทวาแกนหลักของ
แนวคิดลวนหนีไมพนระบบการเปดหาคลังแปดตำหนัก
หาคลังหมายถึง หาคลังชีวิต ซึ่งเปนตนกำเนิดของพลังธาตุ ตำแหนงที่ตางกันของ
คลังชีวิตจะใหกำเนิดพลังธาตุที่ตางกัน หัวใจใหกำเนิดไฟ ตับใหกำเนิดไม มามให
กำเนิดดิน ปอดใหกำเนิดทอง ไตใหกำเนิดน้ำ
ไมวาจะเปนการฝกประเภทไหน กาวแรกที่จะตองทำคือการเปดคลังชีวิต เพียง
แคเปดคลังชีวิต ก็จะเปนการเปดประตูแรกแหงการเชื่อมตอระหวางกายเนื้อและโลก
ภายนอก คลังชีวิตสามารถเพิ่มการรับพลังธาตุเขาสูรางกายไดมาก คุณสมบัติของพลัง
ธาตุกับพลังวิญญาณมีความแตกตางกันอยางมาก ตำแหนงกักเก็บที่อยูภายในรางกาย
ไมไดตามเสนชีพจรเลยแมแตนอย
ผานการคนควาอันยาวนาน มนุษยชาติก็มาถึงปจจุบันนี้ สามารถหาตำแหนงกัก
เก็บพลังธาตุทั้งแปดแหงได เรียกชื่อของพวกมันวาตำหนัก แปดตำหนักที่เต็มเปยม ก็
จะกลายเปนขั้นเกือบสมบูรณ
สี่ตำหนักเต็มเปยมในสำหรับสนามเหนี่ยวนำไมถือวาพิเศษอะไร ไมตองไปพูดถึง
เหลานักเรียนเกา แมแตตัวเขาในตอนนี้ก็ไดเติมเต็มครบสี่ตำหนักแลว ตอใหเปนขั้น
เกือบสมบูรณ เขาก็มั่นใจวาจะไปถึงไดภายในระยะเวลาสองป
แตทวาอีกฝายเปนเศษสวะที่เพิ่งจะเรียนวิชาพื้นฐาน ไปถึงการเติมเต็มสี่ตำหนัก
ในหนึ่งป นาขำสิ้นดี!
หากไมใชเพราะวาชื่อเสียงบารมีของอาจารยสวี่นั้นดีมาโดยตลอด เขาคงสงสัยไป
แลววาอาจารยสวี่กำลังแกลงเขาอยู เพียงผูมีพรสวรรคเทานั้นจึงจะเลื่อนขั้นจากการ
เรียนวิชาพื้นฐานไปถึงขั้นเติมเต็มสี่ตำหนักไดภายในเวลาหนึ่งป ผูมีพรสวรรคระดับนี้
ยังไยตองใหตนมาสอนอีก
ใบหนาของเขาดำมืดราวกับกนหมอ เกือบจะหันหลังกลับพุงตัวเขาไปยังหอง
ทำงานของอาจารยสวี่
แตทวาพอเขานึกถึงคำพูดของอาจารยสวี่ที่วา “ผูมีพรสวรรคก็คือคนที่สามารถ
ทำเรื่องที่คนอื่นไมสามารถทำได” เขาถึงหยุดเทาของคนลงได
ถูกตอง ตนเองคือผูมีพรสวรรค!
ตวนมูหวงฮุนกัดฟนแนน คอปกเสื้อที่ปกลายเถาวัลยสีเขียวอันแสนงดงามถูกเขา
ดึงขาดดวยความบุมบาม หึ ในพจนานุกรมของเขาแตไหนแตไรไมเคยมีคำวา ‘พาย
แพ’ ผูมีพรสวรรคจะมายอมแพงายๆ ไดอยางไร
เจาเศษสวะที่นาสงสาร จงขอบคุณสวรรคที่ประทานพรใหเถอะ
ตวนมูหวงฮุนเชิดคางขึ้นอยางหยิ่งยโส จัดระเบียบคอเสื้อใหมใหเรียบรอย ฟนคืน
ความงดงามมีสงาดั่งเชนในยามปกติ
เขาเดินอยางไมชา ไมเร็ว ไปขา งหนา คิดในหัววาควรจะทำเชนไรจึงจะทำให
เปาหมายที่ไดรับจากอาจารยสวี่เปนจริงขึ้นมา โดยไมไดสนใจสายตาหวานหยาดเยิ้ม
ของหญิงสาวระหวางทางที่เดินผาน ดวยความที่เขาเรียนรูฝกฝนจากตระกูล ความรู
แนนอนวาไมใชสิ่งที่นักเรียนธรรมดาจะมาเทียบได ไมนานเขาก็คิดแผนการที่เปนไป
ไดออกมาไดหลายแผน
นัยนตาของเขาสองประกายขึ้น ใบหนาหลอเหลาเต็มไปดวยความแนวแน ลด
ความโอหังและไอชั่วรายใหเบาบางจางไป แตกลับเพิ่มความสุขุมบางอยางขึ้น
นักเรียนหญิงที่ลุมหลงอยูตามทาง มองโดยไมละสายตาจนไมไดระวังทางที่เดิน
ลมลงพื้นกันไปเปนแถว
ตวนมูหวงฮุนถูกเสียงนั้นทำลายสมาธิ เมื่อเขาเงยหนาขึ้นมอง สายตาที่มีเสนหทำ
ใหนักเรียนหญิงที่นั่งอยูกับพื้นถึงกับลืมความเจ็บปวดในทันที พวกหลอน ๆ สมองทึ่ม
ไปเสียแลว
ตวนมูหวงฮุยกลั้นหัวเราะไวไมได รอยยิ้มอันอบอุน ทำใหผูคนจิตใจลองลอย
“ตุบ ตุบ ตุบ!” รอบดานเกิดเสียงลมลงอยางตอเนื่อง
สิบนาทีใหหลัง ตวนมูหวงฮุนก็มายืนอยูที่ดานขางของบอน้ำพุรอน ใบหนามืดคล้ำ
สายตาของเขากวาดไปกวาดมาหลายรอบ แมแตเงาของอายฮุยเขาก็ไมเห็น เขาได
สอบถามเพื่อนรวมหองอยูหลายคน แตก็ไมมีใครเห็นเขา
ควรตายนัก!
เปลวไฟไรชื่อไดลุกไหมขึ้นในใจ ตวนมูหวงฮุยไมเคยรูสึกโกรธเชนนี้มากอน
การมาสอนเศษสวะคนหนึ่งก็ทำใหเขารูสึกเปนการดูหมิ่นแลว และพับผาสิ เจา
เศษสวะนี่ยังเปนตัวขี้เกียจอีก! ความแข็งแกรงแยขนาดนั้น ยังจะไมรูจักขยันอีก แมแต
การฝกฝนขั้นพื้นฐานประจำวันยังทำไมได โคลนตมเชนนี้จะเอามากอกำแพงไดเชนไร
แตทวาไมวาเขาจะโกรธอยางไร แตก็ตามหาอายฮุยไมเจอ
เขาถอมาที่หอพักโดยเฉพาะ ถามนักเรียนรวมหองทั้งหมด จึงไดขาวรายกลับมา
ขาวหนึ่ง อายฮุยไมไดพักอยูหอพัก และก็ไมมีผูใดรูวาเขาพักอยูที่ไหน
บัดซบนัก!
บทที่ 13 ลมทองคำแสนอันตรายในเจดีย
เพียงแคประตูที่ขวางกั้น ราวกับแบงเปนโลกสองใบ
อายฮุยคายหญาสีเขียวที่ถูกเคี้ยวจนเหลือแตกากออกจากปาก กาวเทาเขาไปใน
เจดียเสวียนจิน เขาก็ถูกสายลมที่รุนแรงถาโถมใส
ในหูของเขาเต็มไปดวยเสียงลมที่พัดอยางบาคลั่ง เขาไมเคยไดยินเสียงลมพัดที่
รุนแรงถึงเพียงนี้มากอน ใตเทาของเขาเปนลูกกรงเหล็ก ลมทองคำที่รุนแรงเกินกวาจะ
ประมาณไดพัดขึ้นมาจากดานลางของลูกกรงเหล็ก พัดหมุนเวียนอยูภายในเจดีย เกิด
เปนพายุหมุนที่รุนแรง
อายฮุยยังไมทันไดยืนใหมั่นก็ถูกลมพัดจนลอยออกจากพื้น ตีลังกากลางอากาศ
เขาเปนเหมือนกับใบไมที่ลองลอยอยูทามกลางพายุฝนอันรุนแรง
“ตุบ!”
ดานหลังของเขากระแทกเขากับผนัง เจ็บจนใบหนาของอายฮุยถึงกับบูดเบี้ยว ลม
ทองคำชางรุนแรงเสียจริง มันพัดแรงเสียจนเขาไมอาจจะลืมตาขึ้นมาได ที่ยิ่งไปกวา
นั้นก็คือลมทองคำที่พัดปะทะเขากับรางของเขา ราวกับเข็มเล็กๆ มากมายนับไมถวน
กำลังทิ่มแทงเขาไปในราง เคลื่อนผานกลามเนื้อของเขา พุงตรงไปยังจุดที่ลึกที่สุดใน
กระดูก
เปนความเจ็บปวดที่ยากจะพรรณนากระจายไปทั่วราง ทำใหอายฮุยถึงกับตอง
เปลี่ยนสีหนา ตัวเขาประเมินเจดียเสวียนจินไวต่ำเกินไป
ยังดีที่ประสบการณของเขานั้นโชกโชน ทันทีที่สัมผัสไดวาตนนั้นคิดผิด รางกายก็
สามารถตอบสนองไดอยางรวดเร็ว สถานการณตรงหนาที่เขาไมอาจจะควบคุมไวได
การปกปองตัวเองจึงจะเปนเรื่องสำคัญที่สุด
แขนทั้งสองขางของเขากอดศีรษะเอาไว ทั้งตัวมวนเปนกอน
ตุบ ตุบ ตุบ!
เขาเปนเหมือนกับลูกบอล ถูกพัดจนกระแทกเขากับผนังเจดียไปทั่ว
พลังในการแทรกซึมของลมทองคำแข็งแกรงมาก ของเจ็บปวดที่ถูกทิ่มแทง ราว
กับกำลังจมอยูใตกระแสน้ำ ความรูสึกไรกำลังที่แสนคุนเคย ราวกับเขาไดยอนไปตอน
ที่เพิ่งเขาแดนราง ความเจ็บปวดก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะที่กระดูก อายฮุยรูสึก
ราวกับ กระดูก ของตนกำลังถูก ตะไบจำนวนนั บ ไม ถ ว นกำลั ง ตะไบใส เป น ความ
เจ็บปวดอยางถึงที่สุด เกือบจะไปถึงขีดจำกัดที่เขาสามารถทนได
นานเพียงใดกันที่ไมไดตกอยูในสภาพย่ำแยถึงเชนนี้ เขาจำไมคอยไดแลว ตอให
เปนในแดนราง เขาก็ไมไดตกอยูในสภาพย่ำแยถึงเพียงนี้มานานมากแลว
ถึงแมวาเขาจะรูวาเจดียเสวียนจินมีไวสำหรับนักเรียนที่เปดคลังชีวิตไดแลว แตทวา
เขามีความมั่นใจในความอดทนของตน คิดวาเพียงแคกัดฟนเอาไวก็นาจะทนผานไปได
พลังธาตุทองที่ประกอบอยูในสายลมที่มีความเขมขนเปนอยางมาก เมื่อแทรกซึม
เขาสูเลือดเนื้อของเขา มันไมไดมีทีทาจะกระจายออก ก็จะพูดไดวา พลังธาตุทองที่เขา
สูรางกายของเขา ไมอาจที่จะถูกกลามเนื้อของเขาดูดซึมไปได
การประเมินคูตอสูของตนต่ำเกินไป มักพาใหตกสูสถานการณที่ย่ำแยไดงาย
เบื้องหนาก็คือสถานการณที่ย่ำแยจนไมอาจจะย่ำแยไปมากกวานี้อีกแลว
การฝกฝนพลังธาตุในขั้นแรกก็คือการใชกลามเนื้อดูดซึมพลังธาตุ
วิธีที่เห็นผลไดคอนขางเร็วกวาก็คือการดื่มน้ำแกงเสริมพลัง กินเนื้ออสูรแดนรางที่
เต็มไปดวยพลังธาตุ โดยเฉพาะพลังธาตุกลุมนี้เหมาะสมที่สุดสำหรับใหผูฝกดูดซึม
พลังธาตุในตัวอายฮุยก็ไดมาจากวิธีนี้
วิธีนี้แมจะดี แตมีคาใชจายแสนแพง เปนสิ่งที่ ผียาจกเชนอายฮุย ไมสามารถ
นำมาใชไหว
อีกวิธีหนึ่งก็คือการอาศัยการฝกฝน เปนการดึงเอาพลังธาตุจากภายนอกเขาสู
รา งกาย ผา นการดูดซึมพลั งธาตุข องกล า มเนื ้ อ การดึ งพลั งธาตุ เข า รา งกายก็ มี
รายละเอียดอยู สวนใหญมักจะเรื่องพลังธาตุที่มีความออนโยน เชนนี้ก็จะยิ่งงายตอ
การดูดซึมของกลามเนื้อ
พลังธาตุในลมทองคำ ราวกับเสนขนสีเงินที่เล็กละเอียด ไมมีความออนโยนสักนิด
ควบแนนราวกับเข็ม นี่ก็หมายความวาการดูดซึมจะไมเกิดขึ้นไดโดยงาย อีกทั้งความ
เจ็บปวดราวกับถูกเข็มทิ่มแทงนี้ยิ่งแสดงใหเห็นวามันกำลังทำรายกลามเนื้ออยู
อายฮุยพยายามใชดูดพลังธาตุเขาสูพลังตนเอง ทวาไมนานกลับพบวา วิธีคิดของ
เขาชางไรเดียงสาเสียจริง
พลังธาตุทองที่แทรกซึมเขาสูรางกาย ถึงแมจะละเอียดราวกับขนวัว แตกลับ
ควบแนนยิ่งกวาพลังธาตุของตนเสียอีก!
ตอนนี้ในที่สุดเขาก็เขาใจวาทำไมเจดียเสวียนจินตองใหผูที่เปดคลังชีวิตไดกอนจึง
เขามาฝก
“ตุบ!”
รางกายของเขาสั่นเทา กระดูกทั่วรางราวกับจะแตกเปนเสี่ยงๆ การรับรูเขากลับ
ชัดเจนขึ้นมา เมื่อครูที่กระแทกไปถึงแมจะเจ็บ แตเขากลับพบวาความรูสึกถูกทิ่มแทง
ที่หลังกลับเบาลงไมนอย
ในใจของเขาสั่นไหว หรือวา...
“ตุบ!” เขาชนผนังอยางแรงอีกครั้ง ในใจของเขากลับยินดีขึ้นมาอยางเหลือลน
เขาสามารถรับรูไดอยางชัดเจนถึงความเจ็บปวดของกลามเนื้อ แตทวาความเจ็บ
ราวถูกเข็มทิ่มแทงในกายกลับเบาลงไปอยางมาก ตอใหเปนสถานการณที่แสนวุนวาย
เชนนี้ ตอใหในมือของเขาไรซึ่งกระบี่ เขาก็ยังคงไมสูญเสียความเยือกเย็นสุขุมไป เขา
สัมผัสไดถึงการเปลี่ยนแปลงของรางกายตนไดอยางเฉียบคม
ในวินาทีที่ชนเขากับผนัง พลังธาตุทองที่แทรกซึมเขาสูรางกาย มีบางสวนที่ถูกทำ
ใหกระจายออก เชนนี้จึงเปนสาเหตุที่ลดทอนความเจ็บปวด เพราะพลังธาตุทองที่ถูก
ชนใหกระจาย จะถูกดูดซึมไดงายดายยิ่งขึ้น
อายฮุยดีใจอยูไดเพียงแคสองวินาที สีหนาของเขาก็เปลี่ยนไป
พลังธาตุทองที่ถูกชนจนกระจายออกยังดูดซึมไดไมเทาไร พลังธาตุทองที่มากยิ่ง
กวาก็แทรกซึมเขาสูรางกายของเขา ความเจ็บปวดยิ่งเพิ่มขึ้นอยางรุนแรง เขาถึงกับ
รูสึกวารางกายของตนเปนโรคทองมานก็ไมปาน
อายฮุยไมรูวาถึงแมในทฤษฎีแลวขอเพียงแคเปดคลังชีวิตแลวก็สามารถมาฝกฝน
ที่เจดียเสวียนจินได แตทวาในความเปนจริงแลวนอยมากที่จะมีนักเรียนที่เพิ่งเปดคลัง
ชีวิตไดมาฝกฝนที่เจดียเสวียนจิน ลมทองคำของเจดียเสวียนจินนั้นรุนแรงเกินไป พลัง
ธาตุทองที่อยูในลมทองคำถึงจะเขมขนมากแตกลับยากที่จะดูดซึม
ที่สำคัญยิ่งไปกวานั้น ปริมาณของพวกมันนั้นมีมากเกินไป
ในตอนที่อายฮุยรูตัวเรื่องนี้ เขาก็สัมผัสไดวาสถานที่นี้เปนอันตรายตอตน หากยัง
ทนอยูตอไป ก็จะยิ่งเจ็บปวดรุนแรงขึ้นไปอีก อาจทำใหสติของเขาเลือนราง และจุด
จบสุดทายก็คือรางกายระเบิดจนเสียชีวิต
เขาจะตองรีบออกจากที่นี่ในทันที!
อายฮุยคลายรางกาย พยายามควบคุมพลังธาตุในกายอยางระมัดระวังโดยเคลื่อนยาย
มันมาที่ดวงตาทั้งสองขาง สายลมดานในเจดียที่พัดอยางบาคลั่งทำใหเขาไมอาจลืมตา
ได ในสภาพแวดลอมที่บาคลั่งเชนนี้ หากมองไมเห็น เชนนั้นก็จะไมอาจหนีออกไปได
ไมรูวาเปนเพราะความเจ็บปวดทั่วรางสงผลกระทบตอการตัดสินความเจ็บปวด
ของเขาหรือ ไม เขาเพีย งแครูสึก ถึ งความไม เหมาะสม ทว า เขาก็สามารถควบคุม
ความรูสึกที่ไมเหมาะสมนั้นไดในทันที
ทัศนวิสัยรอบดานเปลี่ยนเปนชัดเจนขึ้นมา เขาเปนเหมือนกับใบไมแกที่ลอยหมุน
วนไปมาภายในเจดีย ผนังสี่ดานปรากฏใหเห็นรองบากลึกสีทองเปลงประกาย ภายใต
ลมทองคำที่พัดผานเปนเวลานาน ผนังก็ไดถูกพลังธาตุทองเปลี่ยนสภาพไป ดานบน
ผนังที่รองรอยนับไมถวนที่ไรรูปแบบ ซึ่งก็คือรอยบากจากกระแสลม
สวนกลางของเจดียเสวียนจินนั้นไดวางเปลาไปแลว พวกบันไดอะไรทั้งหลายลวน
หายไปสิ้น
ที่อายฮุยตกตะลึงก็คือลมทองคำดานในเจดียพัดหมุนวนขึ้นสูดานบน แรงลมไม
ลดนอยถอยลง แตกลับกลายเปนวายิ่งพัดขึ้นสูดานบนแรงลมยิ่งเพิ่มความรุนแรง
ไมมีเวลาที่จะมาเงยหนามองสภาพดานบนแลว เวลาเหลือนอยมาก เขาจะตอง
หนีออกจากเจดียเสวียนจินใหไดกอนถึงขีดจำกัดของตนเอง
อายฮุยตั้งจิตเพงสมาธิอยางที่สุด คอยๆ จัดระเบียบทาทางของรางกายภายใต
สายลมอันบาคลั่ง เตรียมตัวใหพรอม ในสถานการณที่รางกายนั้นเจ็บปวดไปทั่วราง
แลวยังตองรักษาสมาธิไวไมใชเรื่องงาย แตทวาสำหรับอายฮุยที่มากดวยประสบการณ
นั้น สิ่งนี้ก็ไมใชปญหาอะไร
สายตาถูกดึงไปที่ป ระตูเจดียอ ยา งรวดเร็ ว อ า ยฮุ ยบิดเอวอย างแรง ร า งกาย
เหมือนกับสปริง ปลายเทาสัมผัสพื้นเพียงเล็กนอย
“พับ!”
ปลายของนิ้วเทาออกแรง รางกายโคงขึ้นอยางประหลาด ราวกับชวงเอวถูกพับ
เอาไว ผามือทั้งสองขางจับอยูกับพื้น เขาก็เหมือนแมวตัวใหญที่กำลังโกงหลัง
อายฮุยใชทั้งมือทั้งขาลมลุกคลุกคลานออกจากเจดียเสวียนจิน
ในวินาทีที่พุงออกจากประตูเจดีย แรงที่มีทั้งหมดของอายฮุยราวกับถูกดูดไปจน
สิ้น ความเจ็บปวดอยางถึงที่สุดทำใหอายฮุยรูสึกราวกับตกลงไปในกองเข็มนับพันนับ
หมื่นเลม
“อาก อาก อาก...”
เสียงรองอันโหยหวน ทำใหนกในปาแตกตื่นจนบินหนีไปทั้งฝูง
เขากรีดรองนานถึงยี่สิบนาทีเต็ม อายฮุยถึงจะดึงสติกลับมาได
ชางเจ็บปวดเหลือเกิน!
อายฮุยที่น้ำตาไหลรินกัดฟนกรอด ใบหนาบูดเบี้ยวเหยเก ทั่วรางไรซึ่งเรี่ยวแรง
ทวาเขาก็ยังดิ้นรนพยายามลุกขึ้นยืนอยางยากลำบากเกินกวาจะประมาณ
พลังธาตุทองที่เรียวเล็กดังเข็มเงินที่อยูในรางนั้นมากเกินไป ขนาดนอนอยูโดยไม
ขยับยังเจ็บปวดไปถึงไขกระดูก
เจ็บนานไมไดดีไมกวาเจ็บเพียงชั่วครู!
นึกถึงเมื่อครูตอนที่อยูภายในเจดีย การชนผนังสามารถลดทอนความเจ็บปวดได
อายฮุยจึงกัดฟน ตัดสินใจเด็ดขาด!
เขาพุงโผไปชนตนไมฃที่อยูใกลที่สุด พับ! ตนไมใหญถูกชนจนหักโคนลง
พุงไปชนกับหินกอนใหญที่อยูดานหนา ปง! หินกอนใหญแหลกเปนชิ้นๆ
อายฮุยที่นัยนตาแดงก่ำกวาดมองทั้งสี่ดาน ยังมีอะไรใหพุงชนอีกไหม
“อาก อาก อากกก...”
นกและสัตวภายในปาจำนวนนับไมถวนตางแตกตื่นหลบหนีกัน ดานหลังของ
เหลาสัตว มีเสียงรองโหยหวนกับฝุนควันที่ปลิววอน เสียงตนไมที่ถูกโคนลมลง สภาพ
ที่นั้นราวกับมีอสูรแดนรางโบราณมาอาละวาดทำลายลาง
บทที่ 14 แข็งยิ่งกวาเหล็ก แกรงยิง่ กวาเหล็กกลา
โหลวหลานนั่งอยูที่หนาประตูทางเขาโรงฝกศาสตราวุธอยางเบื่อหนายถึงที่สุด
ในตอนที่เขาเห็นใบหนาฟกช้ำดำเขียวและลมหายใจโรยรินของอายฮุย เขาจึงกม
หัวลงถาม “อายฮุย เกิดอะไรขึ้นหรือเปลา”
ครั้นอายฮุยมองเห็นโหลวหลาน นัยนตาที่มืดมิดอับแสงก็เปลงประกายขึ้นมา
ในทันที เขาไมทันพูดอะไรก็ลากโหลวหลานแลวดันประตูเขาไปดานใน “ชวยอะไรขา
อยางหนึ่งสิ!”
โหลวหลานไดยินคำวาชวยก็รีบยืนขึ้นในทันที เอยดวยน้ำเสียงดีใจ “ไดเลย”
เขาลากโหลวหลานเขาไปในโรงฝก อายฮุยเลือกที่เปดกวางแลวจึงยืนนิ่ง ทำสี
หนาจริงจังขอรองโหลวหลาน “ตีขา!”
โหลวหลานเบิกตากวาง เขาคิดวาตนเองฟงผิดเปนแน
“มาเลย ตีขา! ตีขาใหแรงๆ!” อายฮุยพูดดวยใบหนาใหกำลังใจ
ทุกอยางที่เขาสามารถพุงชนไดระหวางทางเขาก็พุงชนมาหมดแลว แตทวาพลัง
ธาตุทองที่เปนดั่งเข็มเงินในรางกายยังคงหลงเหลืออยูอีกมาก แตวากำลังทั้งรางของ
เขานั้นใชจนหมดสิ้น อยาพูดถึงจะพุงชนเลย ตอนนี้แมแตแรงที่จะขยับนิ้วก็ไมมี อีก
อยางหลังจากเขามาในตัวเมือง เขาก็ไมกลาพุงชนอะไรซี้ซั้ว หากเกิดไปชนอะไรจนพัง
แลว เกรงวาจะชดใชไมไหว
ในตอนที่เขาเห็นโหลวหลาน เขาก็เกิดความคิดที่แสนจะยอดเยี่ยมนี้ขนึ้ มาในทันที
สามารถไดรับผลลัพธเหมือนการพุงชน แถมยังไมเปลืองแรงของตัวเองอีกดวย
โหลวหลานเอียงหัวมองอายฮุยดวยสายตาจริงจัง น้ำเสียงมีความเปนหวงแทรกอยู
“อายฮุย เจาไมสบายหรือเปลา”
“ขาไมไดปวย นี่เปนการฝกฝน” อายฮุยเคนสมองเพื่ออธิบายอยางเต็มที่ “นี่เปน
วิธีการฝกแบบพิเศษที่ขาคิดคนขึ้น”
“เปนแบบนี้เอง...” โหลวหลานเขาใจขึ้นมาในทันใด
“เขามาเลย เขามาเลย!” สติของอายฮุยปลุกระตุนอยางเต็มที่ “ลงมือใหหนัก
หนอย ยิ่งหนักยิ่งดี อยาไดกลัววาจะเปนการทำรายขา สบายใจได ความอดทนของขา
นั้นมีมาก!”
“แตวาโหลวหลานตอยตีไมเปน” โหลวหลานตอบเสียงออย
อายฮุยราวกับถูกฟาผาใส เบิกตาโต มองไปยังโหลวหลานอยางไมเชื่อสายตา พูด
ขึ้นอยางตะกุกตะกัก “ตอย ตอยตีไมเปนหรือ”
ตอย...ตอยตีเนี่ยนะ
อายฮุยเกือบจะคิดวาหูของตนนั้นฟงผิดไป “ตอยตี” สองคำนี้ เขาคอยขางจะไม
คุนอยูบาง ทำหนาที่เปนหนึ่งในนักรบมืออาชีพที่ไดรับการขัดเกลาจากแดนรางถึงสาม
ป คำศัพทสมัครเลนเชนนี้ ทำใหเขาใชเวลาไปสองวินาทีถึงจะตอบสนองกลับมาได
เดี๋ยวกอน ตอยตีไมเปนหรือ ยังจะมีตุกตาทรายที่ตอยตีไมเปนอยูอีกหรือ
อายฮุยมองไปที่โหลวหลานอยางอึ้งๆ
ตุกตาทรายทั้งหลายที่เขาเคยพบเจอมา ลวนแลวแตเปนผูเชี่ยวชาญดานการตอสู
ดวยกันทั้งสิ้น พวกมันแสนจะเจาเลหเลือดเย็น เชี่ยวชาญการปลอมตัว วางหลุมพราง
ทำตามคำสั่งโดยไมโตแยง เลหเหลี่ยมแพรวพราว ทำใหคนปองกันกันไมไหว
ตุกตาทรายทุกตัวลวนเปนเครื่องจักรสังหารที่แทจริง การถือกำเนิดของตุกตาทรายก็
เพื่อการตอสู นี่เปนครั้งแรกที่เขาเจอกับตุกตาทรายที่ไมสามารถตอสูได
อายฮุยตั้งสติแลวถามตอ “เชนนั้นเจาทำอะไรเปนบาง”
โหลวหลานนับ นิ้ว มือ พลางตอบ “โหลวหลานสามารถซั ก ผ า ทำกั บ ข า ว ซื้ อ
กับขาว ทำความสะอาดหองและสวน แลวก็ชงชา...ได”
อายฮุยตกตะลึงจนตาคาง เขารูสึกวามุมมองในชีวิตถูกโจมตีอยางรุนแรง สิ่งนี้...
ยังเปนตุกตาทรายอยูหรือไม
เมื่อดึงสติกลับมาได อายฮุยก็แสดงความสามารถในการปรับตัวของตนออกมา ในเมื่อ
ไมมีทางเลือกอื่น เชนนั้นเขาจึงไดแตพูดใหกำลังใจขึ้น “ไมเปนไร ขาจะสอนเจาเอง!”
ถึงแมวาน้ำเสียงของเขาจะไมไดมีความมั่นใจก็ตาม
โหลวหลานกลับฮึกเหิมเปนอยางมาก “โหลวหลานจะพยายามนะ!”
ไมชายามราตรีก็มาถึง น้ำเตาของโรงฝกศาสตราวุธสองแสงสีขาวสวางไสวอยาง
ออนโยน สองใหโรงฝกสวางชัด เงาของทั้งสองทอดผสานอยูภายใตแสง
“ครั้งนี้เจาออกแรงไมถูก เจาเปนตุกตาทราย ไมมีขอตอ เจาไมสามารถเลียนแบบ
ตามขาได ตอนที่ควรออนจงออน ตอนที่ควรแข็งจงแข็ง พลังธาตุคือกุญแจสำคัญ ใช
พลังธาตุทำใหสวนที่เจาใชโจมตีแข็งแกรงยิ่งขึ้น”
“แข็งยิ่งกวาเหล็ก! แกรงยิ่งกวาเหล็กกลา!”
“ใหความสำคัญกับมุมองศา! ใช มุมองศาในการโจมตีนั้นสำคัญยิ่ง อยาไดออม
แรงไว!”
“หากขาไมตะโกนใหหยุดก็จงอยาหยุด หึ มีความกาวหนา! โอย ครั้งนี้ใชไดนะ!
เพิ่มแรงอีกนิด อาอาอาอา...”
เวลายังคงดำเนินไปอยางตอเนื่อง
โหลวหลานรูสึกวาตนเองมีความกาวหนาไวมาก สิ่งนี้ทำใหเขาแสนจะดีใจ ได
เรียนรูอะไรใหมๆ เปนเรื่องที่นาดีใจเปนอยางมาก ถึงแมวางานอดิเรกของอายฮุยจะ
แปลกไปบาง แตทวาสามารถชวยเหลืออายฮุยไดก็เปนเรื่องที่แสนจะนาดีใจ
เขาจดจำที่อายฮุยไดย้ำเอาไววา “อยาไดออมแรง” แตละหมัดจึงตอยลงเต็มแรง
โหลวหลานโจมตีอยางสวยงามดวยกระบวนทาตอเนื่องสิบหาทา รวบรวมกำลัง
เปนการระเบิดจูโจมอันรุนแรง ปง เสียงระเบิดที่ดังเสียยิ่งกวาตอนแรก อายฮุยราวกับ
เปนกระสอบทราย วาดเปนรอยโคงที่สวยงาม บินลอยกระเด็นไปไกลกวาสิบเมตร
ทำไดดีมาก!
โหลวหลานพอใจกับการโจมตีตอเนื่องเมื่อครูเปนอยางมาก ไมมีขอผิดพลาดเลย
อายฮุยนอนหายใจโรยรินอยูบนพื้น สายตาเลื่อนลอย ทาทางเหมอคาง
โหลวหลานโคงตัวลงมา กมหนามองมายังอายฮุยแลวถามอยางจริงจัง “อายฮุย พวก
เรายังจะฝกฝนกันตอหรือไม”
อายฮุยไมรูสึกถึงความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงแลว เพราะวากลามเนื้อทั่วรางดวยเจ็บยอก
ไปหมด พลังธาตุทองที่เปนดั่งเข็มเงินนาจะสลายไปหมดแลว วันนี้ก็พอแคนี้แลวกัน...
แตทวาในไมนานอายฮุย ก็ไดพบกั บความเป น จริ งที ่ แสนจะนากลั วเรื ่องหนึ่ง
กลามเนื้อใบหนาของเขาเมื่อครูถูกการโจมตีอันรุนแรงทำใหเปนอัมพาตไป ตอนนี้
แมแตจะอาปากเขาก็ยังทำไมได ไมเพียงเทานี้ กลามเนื้อทั่วรางของเขาก็ตกอยูใน
สภาพอัมพาตเชนกัน
เมื่อครูที่ตนสอนโหลวหลานไปหรือวาจะเปนการโจมตีแบบสั่นสะเทือน ใหตาย
เถอะ ทำไมตนตองสอนสิ่งนี้ใหเขากัน
“อายฮุย” โหลวหลานเอียงคอ “พวกเรายังตองฝกตอไหม”
พอแลว พอไดแลว ไดโปรดพอที
อายฮุยร่ำรองอยูภายในใจ
โหลวหลานอยูอยูก็นึกขึ้นได ทาทางดูกระจางแจงขึ้นมา “โหลวหลานเขาใจแลว
อายฮุยเพิ่งจะพูดไป หากไมตะโกนใหหยุดก็ไมตองหยุด! ไดเลย พวกเรามาตอกัน!
โหลวหลานจะพยายามตอนะ!”
แขนของโหลวหลานขางหนึ่งเปลี่ยนสภาพเปนเชือกทราย มวนอายฮุยที่อยูบนพืน้
ขึ้นมา ในปากก็ทองพึมพำ “แข็งยิ่งกวาเหล็ก! แกรงยิ่งกวาเหล็กกลา!”
ไม! อายฮุยที่ร่ำรองในใจเริ่มกลายเปนหวาดกลัว ไมไมไม! เฮยเฮยเฮย! พอแลว
ไมฝกแลว พวกเราไมฝกกันแลวนะ...
“ปง ปง ปง!”
อายฮุยที่ในใจแหลกสลายมองดูตนเองถูกถลมจากการโจมตีที่ราวกับฝนคลั่ง
ใบหนาของตวนมูหวงฮุนแสนจะมืดคล้ำ คุณชายทั้งหลายที่สนิทกับเขา แตละคน
ลวนปลีกตัวหางจากเขา เจานี่หากอารมณไมดี อยาไดไปยั่วอารมณเชียว ตอนนี้เขา
ไมใชเพียงแคอารมณไมดี แตเปนอารมณไมดีมากๆ!
พวกเขาตางก็รูกันดีวา ตวนมูหวงฮุนเปนพวกรักษาหนา ไมวาจะพบเขาเวลาไหน
เขามักจะอยูในสภาพสุภาพงดงาม ทาทีงดงามมีสงามาโดยตลอด ตอนไหนกันที่จะได
เห็นเขาหนาบึงตึงเชนนี้ โดยเฉพาะสีหนาที่แยขึ้นทุกวัน ทั่วรางปลอยออกมามีแตจิต
สังหาร พวกที่ตาดีเห็นในสภาพแบบนี้เปนตองหลบใหหางจากเขาทั้งสิ้น
อารมณของตวนมูหวงฮุนแยถึงขีดสุด เขากวาดตามองไปที่โรงเรียน ใบหนายิ่งบูด
บึ่งเขาไปอีก
ควรตายนัก! ไอเลวเอย!
เขากำหมดแนนจนปลายนิ้วซีดขาว
มาเรียนไดไมกี่วัน เจาสวะนั่นก็คิดจะโดดเรียนเสียแลว!
ใหเขาตองมาชี้แนะเศษสวะที่แมแตวิชาพื้นฐานก็ยังไมเคยเรียน ก็ทำใหศักดิ์ศรี
ของเขาไดรับการดูหมิ่นอยางมากแลว เขาพยายามอยางหนักที่จะปลอบใจตนเอง
ตองทำความเขาใจ เพื่อตนจะไดกลายเปนเปนผูนำของผูมีพรสวรรค!
ตอนนี้เขากลับไดรับการจูโจมที่แสนโหดราย เปนผูมีพรสวรรคที่ตองทนกล้ำกลืน
แตก็ไมอาจจะทำอะไรเจาเศษสวะนี้ได
เขาวิ่งไปทั่วสนามฝกของเหลานักเรียนระดับเริ่มตนทุกที่ ก็หาอายฮุยไมพบ เรื่อง
นี้ทำใหเขาอารมณไมดีเอามากๆ เขาทำใจยอมรับแตแรกแลววาอายฮุยเปนนักเรียน
ระดับเริ่มตนที่พรสวรรคย่ำแย จึงไดวางแผนจะชี้จมูกสั่ง เทานี้ก็คิดนาจะไดแลว แตนี่
...
เจานี่แมแตวิชาเรียนก็ไมเขา!
ตวนมูหวงฮุนตอนนี้อยากจะดาไปถึงมารดามัน เคยเห็นพวกขี้เกียจ แตไมเคยเห็น
มีใครจะขี้เกียจขนาดนี้!
แมแตเรียนยังไมเรียน แลวจะมาสนามเหนี่ยวนำทำไมกัน
ไมงายเลยที่ตนจะลดทาทีลง ยอมลดศักดิ์ศรีรับปากอาจารย สุดทายแลว เขายัง
หาตัวหมอนั่นไมเจอเลยดวยซ้ำ!
ในใจขอตวนมูหวงฮุนถึงกับรองไหจนน้ำตาอาบแกม สวรรค เหตุใดจึงไดกลั่น
แกลงกันเชนนี้ เขาตองโชครายมากเพียงใดกัน ถึงไดมาเจอกับเรื่องเส็งเคร็งเชนนี้ ยัง
ไมพอตองมาเจอกับคนเส็งเคร็งอีกดวย!
พอนึกถึงชื่อผูมีพรสวรรคของตน จะตองถูกเจาสวะนี่ทำใหแปดเปอน ไฟโกรธใน
ใจของตวนมูหวงฮุน ก็ลุกไหมโหมกระหน่ำอยูภายใน
รอขากอนเถอะ! ในใจของตวนมูหวงฮุนนั้นแสนจะเดือดดาล
บทที่ 15 น้ำแกงบำรุงพลังธาตุ
อายฮุยลืมตาขึ้นมาอยางมึนงง ทั่วรางเจ็บปวดไปหมด ทำใหเขาสูดลมหายใจเอา
อากาศเย็นเขาปอดเสียงดัง
“เจาตื่นแลวหรือ”
โหลวหลานเปดประตูเขามา ในมือถือน้ำแกงรอนๆ มาถวยหนึ่ง ถึงระยะหางจะ
อยูคอนขางไกล แตอายฮุยก็สามารถไดกลิ่นที่แสนจะดึงดูดใจ เจาทองไมรักดีถึงกับ
รองโครกๆ ขึ้นมาในทันที น้ำลายก็แทบจะไหลออกมา อายฮุยกลืนน้ำลายลงคอพลาง
ถาม “ตอนนี้กี่โมง”
“แปดโมงเชา” โหลวหลานสงน้ำแกงมาให
อายฮุยไมไดสนใจความเจ็บปวด เขารับน้ำแกงมาดื่มลงคออยางรวดเร็ว ชางเปน
อาหารเลิศรสของโลกเสียจริง!
เขาถามขึ้นดวยเสียงงึมงำ “เมื่อคืนวานเราฝกกันถึงกี่โมง”
เมื่อคืนวานไมไดยืนหยัดอยูนาน สติของเขาก็เลือนรางไปเสียแลว ภายหลังเกิด
อะไรขึ้นบางนั้นเขาไมมีความทรงจำเหลืออยูเลย
“ถึงตีหา” โหลวหลานตอบ
ตีหา...
การเคลื่อนไหวของอายฮุยหยุดนิ่งไป สีหนาก็ชะงักคาง ในที่สุดเขาก็รูวาทำไมทั่ว
รางถึงไดเจ็บปวดเชนนี้ รางกายทั้งหมดไมมีสวนใดที่ไมเจ็บ แมแตจะขยับสักนิ้วหนึ่ง ก็
ทำใหเขาเจ็บไปถึงจิตใจ ใบหนาของเขาถึงกับกระตุกดวยความรูสึกไมอยากเชื่อ
“เจาทุบตีขาจนถึงตีหาเชียวหรือ”
เมื่อคิดวาหลังจากที่ตนหมดสติไปแลว ยังเปนเหมือนกับกระสอบทรายที่ถกู ซอม
อยางบาคลั่งไปจนถึงตีหา อายฮุยก็รูสึกวามันไมใชเรื่องที่ดีขึ้นมาในทันที
“ขออภัยดวย” ความรูสึกขอโทษในน้ำเสียงของโหลวหลานเพิ่มขึ้น
“ถึงแมว า อา ยฮุย จะยังไมไดตะโกนให ห ยุ ด แต ท ว า โหลวหลานต อ งกลั บ ไป
ทำอาหารใหอาจารยเซาตอนตีหา จึงทำไดเพียงหยุดการฝกลง วันนี้โหลวหลานทำงาน
ของชวงกลางวันเสร็จหมดแลว สามารถอยูฝกเปนเพื่อนอายฮุยตอได พวกเราจะเริ่ม
กันเลยไหม”
ขออภัยที่ทุบตีจนถึงตีหานี่หมายความวา...
อายฮุยสั่นหัวยืนยันอยางมุงมั่น “ไมตองแลว!”
เมื่อคืนวานโศกนาฏกรรมอันเจ็บปวดยังคงชัดเจนอยู อายฮุยนั้นไมกลาอีกแลวจริงๆ
อายฮุยสังเกตเห็นความรูสึกของโหลวหลานดูไมดีนัก จึงไอเบาๆ พลางกลาว “น้ำ
แกงนี้รสชาติไมเลวเลย” อายฮุยดื่มแลวก็ยังไมรูวาเปนน้ำแกงอะไร เพียงแครูสึกวา
ชางเลิศรสยิ่งนัก เปนน้ำแกงที่รสเลิศที่สุดที่เขาเคยดื่ม โดยเฉพาะเมื่อหลังจากดื่มแลว
ก็มีความรอนแผออกมาจากทองกระจายไปทั่วราง รูสึกอบอุนไปทั้งตัว
โหลวหลานที่ถูกชมกลับมาราเริงขึ้นมาในทันที “อายฮุยการฝกของเจานั้นสราง
ภาระใหกับรางกายอยางมาก จำเปนตองบำรุงและดูแลรางกายใหทันทวงที ไมเชนนั้น
จะเกิดความเสียหายไดงาย และจากนั้นจะกลายเปนอาการบอบช้ำภายใน”
“โหลวหลานเกงจริงๆ!” อายฮุยอดไมไดที่จะชื่นชม “มินาขารูถึงสึกวาตอนนี้
รางกายรอนขึ้นมา เหมือนกับเมื่อกอนที่ขาไดดื่มน้ำแกงเสริมพลังธาตุ นั่นคงจะเปน
อาหารพลังธาตุสินะ”
โหลวหลานพูดดวยน้ำเสียงที่คอยๆ ดังขึ้น “สิ่งนี้คือน้ำแกงบำรุงพลังธาตุ”
“น้ำแกงนี้เปนอาหารพลังธาตุหรือ” อายฮุยตะลึงไปครูหนึ่ง อาหารเสริมพลังธาตุ
นั้นเทียบกับอาหารทั่วไปแลวมีราคาสูงกวามากมายนัก ที่โรงเรียนก็มีการกลาวถึง
อาหารเสริมพลังธาตุ แตทวาตองจายเงินกอนหนึ่งใหกับโรงอาหาร ราคาถือวาถูกกวา
ภายนอกไมนอย ทวาราคาก็ยังสูงอยูดี
อายฮุยอยูๆ ก็สัมผัสไดถึงลางสังหรณไมดีในใจ “วัตถุดิบของน้ำแกง...”
“หาเจอจากหอผาของเจานั่นแหละอายฮุย” โหลวหลานทำราวกับมันควรจะเปน
เชนนั้น “ถึงแมว า จะเปนพวกของเหลื อ เศษๆ แต ท ว า คุ ณภาพไม เลวเลย และก็
เหมาะสมอยางมากในการเอามาตุนน้ำแกง ถึงแมจะไมไดปรุงตามตำรา แตขอให
วางใจได อัตราพลังธาตุที่เอามาใชประโยชนได นาจะมีอยางนอยรอยละเจ็ดสิบเลย
ทีเดียว”
อายฮุยราวกับถูกตีจนสลบแลวโดนปลนทรัพยไป ทาทางของเขาดูสับสน “เจา...
เจาใชไปแลวเทาไหร”
“ใชทั้งหมดเลย วางใจได โหลวหลานรับรองวาไมมี สูญ เปลาแน นอน” โหลว
หลานทำการรับรอง
เขาไมอยากฟงการรับรองอะไรแบบนี้เลยสักนิด...
“ตุบ!” อายฮุยทิ้งตัวลงนอนที่เตียง ในใจเต็มไปดวยความสิ้นหวัง วัตถุดิบที่เขา
เก็บสะสมมาสามปเต็ม ก็มาหายไปเชนนี้ เจ็บเหลือเกิน เจ็บปวดถึงหัวใจ! สมบัติกนกรุ
ที่ประหยัดกินประหยัดใชมาสามปที่นาสงสาร แคหลับไป ตื่นมาก็พบวาใชไปหมดแลว
เจ็บปวดจนในใจของอายฮุยตองร่ำรอง
ถา หากอา ยฮุย เขา ใจความหมายของสิ ่ งที ่ เรี ย กว า อั ตราพลั งธาตุ ท ี ่ เอามาใช
ประโยชนไดอยางนอยรอยละเจ็ดสิบ ก็คง...
โหลวหลานเตือนขึ้น “อายฮุย ตอนนี้เปนเวลาที่ดีที่สุดที่จะฝกฝนเพื่อดูดซับพลัง
ธาตุเอาไว”
อายฮุยสะดุงขึ้น ถูกแลว อยางไรเสียที่ใชก็ใชไปหมดแลว จะมาเจ็บปวดก็ไมได
อะไร เขากัดฟนลุกขึ้นมาจากเตียง ตอใหตองหลั่งเหงื่อหลั่งเลือดก็จะไมปลอยใหพลัง
ธาตุตองสูญเปลาไปแมแตนอย
วิธีฝกตามที่อาจารยตงที่สอนวิชาพื้นฐานกลาวไว อายฮุยนั่งขัดสมาธิ ตาเพงที่
จมูก จมูกเพงที่ใจ ดึงพลังธาตุที่อยูในกายตน ใหขับเคลื่อนไปตามเสนทางของหาคลัง
แปดตำหนัก
ในแปดตำหนักนี้ มีสี่ตำหนักที่เปดไดงายที่สุดคือแขนขาทั้งสี่ ตำหนักที่แขนซาย
ตำหนักที่แขนขวา ตำหนักที่ขาซาย ตำหนักที่ขาขวา จากกลางหวางคิ้วไปจนถึงกนกบ
จะแบงเปน นภา ประตู มหาสมุทร ปฐพี รวมอีกสี่ตำหนัก ระดับการทะลวงผานยาก
กวาแขนขาสี่ตำหนักมากนัก
ทวาไมวาคลังชีวิตจะถูกเปดหรือไม แปดตำหนักจะถูกเปดทะลวงหรือไม เสนทาง
การขับเคลื่อนของพลังธาตุลวนไมออกไปจากขอบเขตของหาคลังแปดตำหนัก เพียง
แคแตละตระกูลมีลำดับเสนทางที่ตางกัน เสนทางที่ตางกัน ผลลัพธยอมตางกันอยาง
สิ้นเชิง รูปแบบเคล็ดวิชาที่มากมายของแตละสำนัก บวกกับความพิศวงของแปด
ตำหนัก มีหลายคนที่ทำการคนควา เมื่อเวลาผานไป สะสมไดมากมาย ก็กลายเปน
รูปแบบเคล็ดวิชาลับของแตละตระกูล
เสนทางที่อายฮุยเลือกเปนเสนทางที่ปลอดภัยที่สุด และก็เปนเสนทางที่งายที่สุด
เริ่มจากทำใหแขนขาสี่ตำหนักกลายเปนเสี่ยวโจวเทียน*กอน แลวคอยเริ่มจากกลาง
หวางคิ้วลงไปเชื่อมตอนภากับปฐพี
เมื่อขับเคลื่อนพลังธาตุ อายฮุยก็รูสึกไมเหมือนเดิม
พลังธาตุของเขาเพิ่งจะเคลื่อนมาถึงตำหนักที่แขนซาย พลังธาตุก็แข็งแกร งขึ้น
มากนัก ในสถานการณเชนนี้ เขานั้นไมเคยเจอมากอน ในรางกายทุกสวนลวนเปน
พลังธาตุที่มีชีวิตชีวาและออนโยน รางกายเขาก็เบาสบายมีชีวิตชีวา เต็มไปดวยพลัง
ชีวิต การขับเคลื่อนพลังธาตุไมไดกินแรงเลย เปนไปตามดั่งใจนึก ตางจากปกติที่เคย
ถูกกีดขวางมากนัก
แตไมนาน อายฮุยก็ไมอาจจะมาตื่นเตนอยูได เขาพบวาพลังธาตุในรางกำลัง
คอยๆ กระจายออกไปสูภายนอก
ระดับความเขากันไดของรางกายตนกับพลังธาตุนั้นต่ำมาก
เขาควบคุ ม จิ ต ใจไม ใ ห เ สี ย สมาธิ อ ี ก โดยเฉพาะยิ ่ ง ต อ งแข ง กั บ เวลาในการ
ขับเคลื่อนพลังธาตุ เพงสมาธิทั้งหมด! กัดฟนไวจนแนน!
อยาปลอยใหสูญเปลา!
เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตนสะสมมาทั้งหมด แลกมาซึ่งพลังธาตุพวกนี้ อายฮุยก็เหมือนกับ
กินยาบำรุงกำลังเขาไป พลังการเพงสมาธิของเขานั้นสูงมาก พลังธาตุที่อยูในกายก็วิ่ง
อยางบาคลั่งดั่งมาปา ขับเคลื่อนในระดับความเร็วที่ไมเคยมีมากอน
โหลวหลานเห็นอายฮุยเขาสมาธิ จึงคอยๆ ออกจากหองไป
เวลาคอยๆ คืบคลานผานไป อายฮุยที่นั่งขัดสมาธิอยูนั้นกลามเนื้อทั่วรางกำลัง
เปลงแสงเรืองรองสีเงินเปนชั้นบางๆ รอบตัว หากเขาไปดูใกลๆ แลวก็จะเห็นไดวา ชั้น
แสงเรืองรองบางๆ นี้เกิดมาจากกลุมพลังธาตุที่เปนเข็มเงินเล็กละเอียดราวกับขนวัว
รวมตัวกัน เสนแสงเล็กละเอียดนี้ก็คือพลังธาตุที่กระจายตัวออกมา
ตอใหอายฮุยพยายามอยางมาก ก็ยังมีพลังธาตุจำนวนมากที่กระจายออกมาภายนอก
ขณะขับเคลื่อนไปตามเคล็ดวิชา อายฮุยก็คอยๆ สัมผัสรับรูได พลังธาตุที่มีจำนวน
มากที่สุดที่อยูในรางกาย ก็คือพลังธาตุสีเงิน นั่นเปนพลังธาตุทองที่เปนเข็มเงินถูกทำ
ใหกระจายตัวออก ซึ่งตางกับพลังธาตุทองเข็มเงินที่ควบแนนจนแสนจะแหลมคม
หลังจากถูกทำใหกระจายตัว พวกมันก็เปลี่ยนเปนเล็กละเอียด พื้นฐานก็ออนโยนลง
มาก ราวกับหิ่งหอยกำลังโบยบินอยูภายในรางกายของเขา
ปรากฏวาพวกมันลองลอยอยางอิสระ ซึ่งก็คือพลังธาตุที่กระจายตัวออกเร็วที่สุด
และพลังธาตุอีกชนิดหนึ่งกลับมั่นคงกวามาก พวกมันมีความสัมพันธใกลชิดกับ
เลือดเนื้อเปนอยางมาก ทุกครั้งที่พลังธาตุของอายฮุยเคลื่อนไหว จะมีการดึงพลังธาตุ
ชนิดนี้มาใชเปนสวนใหญ ที่สำคัญกวาคือ มันดึงเอาพลังธาตุทองที่อิสระใหรวมเขากับ
พลังธาตุของอายฮุย
พลังธาตุชนิดนี้ ก็คือพลังธาตุที่มีเอกลักษณที่เปนองคประกอบอยูในน้ำแกงบำรุง
พลังธาตุนั่นเอง
ในที่สุดอายฮุยก็เขาใจ วาเหตุใดคนมากมายจึงเขาไปในสวนลึกของแดนรางเพื่อ
ลาอสูรแดนรางกลับมา
พลังธาตุทองที่อิสระไดกระจัดกระจายไปหมดสิ้นแลว แตทวาอายฮุยก็ไมไดหยุด
การเคลื่อนพลังตามเคล็ดวิชา ยังคงไมเบื่อหนายกับการขับเคลื่อนพลังธาตุ
อวลไอจางๆ ไดกระจายรัศมีออกมาจากรางของอายฮุย
*เสี่ยวโจวเทียน คือการทำสมาธิครองลมปราณใหทะลวงผาน
บทที่ 16 ไดเจอกันเพราะโลกกลม
ขนสีเงินบางๆ หมุนวนราวกับควัน ลอมอยูรอบตัวของอายฮุย แปลงสภาพเปน
รูปรางกระบี่ที่เลือนราง จากนั้นทุกสิ่งก็สองประกายฉายวาบแลวสลายหายไป
อายฮุยจมดิ่งอยูกับการฝกจึงไมรูตัวแมแตนอย
หนึ่งชั่วโมงใหหลัง เขาลืมตาขึ้น ภายในแววตาเต็มไปดวยความปติยินดีอยางที่สุด
ฝกฝนมาสามป นี่เปนครั้งแรกที่เขารูสึกไดถึงความกาวหนาที่ชัดเจนเชนนี้ เขาอดไมได
ที่จะตื่นเตนดีใจ สามปมานี้ที่ยืนหยัดมา ในที่สุดก็ไดพบแสงแหงรุงอรุณ ยังจะมีอะไร
ใหดีใจยิ่งกวานี้อีก
ถึงแมสุดทายแลวเขาจะสามารถดูดซึมพลังธาตุไดเพียงแคหนึ่งในยี่สิบสวน แต
สำหรับเขาแลวนั้น นี่ก็เปนการกาวหนาที่เขาไมเคยคาดคิด พลังธาตุในกายของเขา ได
แข็งแกรงขึ้นเต็มๆ ถึงสามเทา
อัตราดูดซึมต่ำนั้นไมเปนอะไร ใชเวลาฝกฝนใหนานขึ้นก็ไดแลว ขอเพียงใหเห็นถึง
ความคืบหนา ตอใหเปนความคืบหนาเล็กๆ เขานั้นไมกลัวเลย ที่เขากลัวที่สุดก็คือ
ฝกฝนมาหลายปแลวพลังธาตุกลับไมมีความเคลื่อนไหวเลยตางหาก
อายฮุยนึกยอนไปถึงการฝกที่ผานมาเมื่อครูอยางละเอียด น้ำแกงบำรุงพลังธาตุ
ของโหลวหลานชามนั้น ไดใชประโยชนในจุดสำคัญที่สุด หากไมมีน้ำแกงชามนั้น พลัง
ธาตุทองที่อายฮุยซึมซับมา จำนวนที่ไดคงจะลดฮวบลง จะลดลงถึงขั้นไหนนั้น อายฮุย
เองก็ไมรู แตเขามีรางสังหรณ เกรงวาจะเหลืออยูนอยมากเปนแน
เอายฮุยสายหัว เอาความคิดที่ยุงเหยิงทั้งหลายทิ้งไวเบื้องหลัง
เจาพอทองถิ่นก็มีวิธีฝกแบบเจาพอทองถิ่น ตะพาบน้ำก็มีวิธีฝกของตะพาบน้ำ
พลังธาตุทองเข็มเงินที่ดูดซึมเขามาในรางกาย ถึงแมจะไมไดออนโยนสักนิด แตวา
ยิ่งเพิ่มความควบแนน และก็ยิ่งเพิ่มความบริสุทธิ์ ถึงแมวาอายฮุยจะดูดซึมมาไดเพียง
แคสว นเล็ก ๆ แตในดา นความบริสุท ธิ ์ หากเที ย บกั บ นั ก เรี ยนที่ เพิ ่งเริ ่ มนั ้ นถือวา
แข็งแกรงกวามากนัก อายฮุยก็รับรูถึงสวนนี้ ในตอนที่พลังธาตุอิสระสลายหายไป
หมดแลว แตเขาไมไดหยุดการฝกลงในทัน ที และไม หยุ ดการขั บเคลื ่อ นพลังธาตุ
เพื่อใหมันบริสุทธิ์ยิ่งขึ้นไปอีก
นัก เรีย นโดยทั่ว ไปสว นมากมั กจะไล ตามที ่ ระดั บเขตแดน ไล ตามพลั งธาตุ ที่
แข็งแกรง แตทวาประสบการณในการตอสูของอายฮุยที่มีมากมายนั้น เขาไดเห็นผู
แข็งแกรงมาหลากหลายประเภท เคยเห็นผูที่มีระดับเขตแดนเทากันมามากมาย แต
ทวากลับเปนผูใชพลังธาตุที่มีความสามารถการตอสูตางกันราวฟากับดิน พลังธาตุที่
บริสุทธิ์ สามารถทำใหรับมือคูตอสูไดดียิ่งกวา ทำใหมีโอกาสโจมตีมากยิ่งกวา
อายฮุยเองก็เขาใจแบบนั้นเชนกัน พลังธาตุที่อยูในรางกายของเขานั้น ถึงแมจะ
ออนแอ แตก็บริสุทธิ์มากกวาปกติ มันไดชวยชีวิตเขามาหลายตอหลายครั้ง เมื่ออยูใน
กำมือของเขามันไดแสดงผลลัพธมากมาย แคมีวิธีการสักหนอย แมแตเหลาผูใชพลัง
ธาตุผูยิ่งใหญที่ไดเห็นก็อดที่จะชื่นชมไมได
อาวุธที่ทรงพลานุภาพนั้นไมสูอาวุธที่ถนัดมือ
อายฮุยเดินออกมาจากหอง ไดเห็นโรงฝกที่สะอาดเอี่ยมออง จึงรูสึกคาดไมถึงอยูบาง
โหลวหลานสังเกตเห็นสายตาของอายฮุย จึงกลาวอธิบาย
“ขาคอนขางวาง จึงถือโอกาสทำความสะอาดให หากอายฮุยถือสาละก็ ครั้งหนา
โหลวหลานจะไมทำอีกแลว”
“ทำไดสะอาดกวาขาเสียอีก” อายฮุยแอบเอียงอายอยูบาง
โรงฝกราวกับถูกชำระลาง แมแตมุมเล็กมุมนอย ก็ไมมีแมแตเศษเสี้ยวของฝุนผง
แตกอนอายฮุยคุยโวมาโดยตลอดวาเปนผูเชี่ยวชาญดานการทำความสะอาดโรงฝก ไม
คิดเลยวาเหนือฟายังมีฟา
โหลวหลานไดยินคำชมก็แสดงออกอยางดีใจ น้ำเสียงดูมีความสุขขึ้นอยางไมรูตัว
“โหลวหลานเปนตุกตาทราย เรื่องพวกนี้คอนขางจะเชี่ยวชาญ”
ใครจะไปจำตุกตาทรายตัวหนึ่งไดกัน
อายฮุยไมรูเหตุใดจึงนึกถึงประโยคนี้ขึ้นมา มองดูโหลวหลานที่กำลังดีใจ จึงรีบกลาว
“ขอบคุณน้ำแกงบำรุงพลังธาตุของเจา มันมีประโยชนมาก”
อายฮุยไมคอยจะพูดอะไรแบบนี้ ตอหนาคนอื่น เขามักจะรักษาความระวังตัวและ
ระยะหางเอาไว แตตอหนาโหลวหลาน เขารูสึกผอนคลายกวามาก อาจจะเปนเพราะ
โหลวหลานเปนตุกตาทราย นาจะเปนเชนนี้แหละ
โหลวหลานไดยินวาน้ำแกงบำรุงพลังธาตุมีประโยชน ยิ่งเพิ่มความดีใจ เขาสำรวจ
อายฮุยอยางจริงจัง นัยนตาทั้งสองขางเปลงแสงประหลาดสีดินเหลือง
อายฮุยราวกับสัมผัสไดถึงบางอยาง ถึงกับขนลุกขนชันขึ้นในทันที
“แผลฟกช้ำกับอาการบวมตองใชเวลาในการฟนตัว อาการบาดเจ็บของกลามเนื้อ
ไมไดมีอันตรายอะไรแลว” แสงสีเหลืองในดวงตาของโหลวหลานหายไปแลว
ความรูสึกไมสบายใจของอายฮุยก็พลอยหายตามไปดวย เขารูสึกวาโหลวหลาน
เปนตุกตาทรายที่ประหลาดจริงๆ ตุกตาทรายที่เชี่ยวชาญการทำอาหาร ตุนน้ำแกง ทำ
ความสะอาด มองดูแลวยังสามารถรักษาพยาบาลได นี่ชางเปนการผสมผสานอยาง
แปลกประหลาดอะไรเชนนี้ “ขาตองไปฝกฝนแลว” อายฮุยเตรียมตัวจะออกไปขาง
นอก เขาวางแผนจะกลับไปที่เจดีย เสวียนจินอีก แตทวากอนหนานั้น เขาตองไป
เตรียมงานบางสวนกอน แลวก็ไปซื้อของบางอยางดวย
“โหลวหลานก็จะกลับไปทำงานแลว อายฮุย ไวเจอกันใหมนะ” โหลวหลานโบก
มือใหอายฮุย รางกายก็เปลี่ยนเปนทราย แทรกหายเขาสูพื้นดิน
ตวนมูหวงฮุนเดินตามลำพังที่ถนน สายตาของเขามองกวาดผานฝูงชนอยูบอยครัง้
อายฮุยไมไดมาเรียนติดตอกันหลายวัน ขณะที่ทำอะไรไมได เขาทำไดเพียงออกมาลุน
โชค เขาก็รูวาจะมาหาคนเชนนี้ ก็เหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทร แตจะใหเขาไป
หาอาจารยสวี่เพื่อขอใหยกเลิกเรื่องนี้ เกรงวานั่นจะเปนเรื่องนาขายหนาจนเกินไป
นึกถึงเจาสวะอายฮุยนั่น ในใจของเขาก็รูสึกหงุดหงิดแบบบอกไมถูก
เขานั้นมีเสนหราวปศาจแตกลับมีใบหนาที่ละเอียดหลอเหลา ซึ่งมักจะดึงดูสายตา
ของคนที่ผานไปผานมา มีหญิงงามหลายคนเดินหนาเขามา ซึ่งลวนถูกสายตาอันเย็น
ชาของเขาไลใหถอยไป รางสูงโปรงยืนพิงตนการบูรที่อยูขางทาง ในมือถือปงถังหูลู
คอยๆ กัดลงไป สีแดงสดของปงถังหูลูกับใบหนาซีดขาวเปยมเสนห หลอมรวมเปน
ภาพที่แสนจะดึงดูดคนที่ไดพบเห็น
เหลาหญิงสาวตางไมกลาเดินขึ้นหนา แตกลับไปรวมกันอยูไมไกล ใชสายตาอาลัย
อาวรณจับจองไปที่ตวนมูหวงฮุน อยากจะใหตนเองไดเปนปงถังหูลูไมนั้นเสียเหลือเกิน
แตตวนมูหวงฮุนไมไดยี่หระอะไร เขาเคยชินกับการถูกจับจองแบบนี้ตั้งนานแลว
จึงทำหนาตาสบายๆ
“ตวนมูหวงฮุน! ดูสิวาเจาจะหนีไปไหน!”
ทันใดนั้นอยูๆ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาจากถนนอีกดาน ตวนมูหวงฮุนชายตามองเพียง
ปราดเดียว ก็ถอนสายตากลับ เขาครานจะใสใจ เขาเพียงสนใจกินปงถังหูลูของตน
ไมไกลมีชายรูปรางกำยำทาทางแข็งแกรงหาวหาญคนหนึ่งปรากฏกายขึ้น เขา
มองไปที่ตวนมูหวงฮุนดวยนัยนตาที่เปลงประกายทั้งสองขาง แลวจึงพูดขึ้น
“รูวาขาจาวจือเปาจะมาทาสูเจา ทำไม กลัวเหรอ ตั้งใจที่จะหลบกันใชไหม ชาง
ทำใหขาผิดหวังเสียจริง ขาก็นึกวาตวนมูหวงฮุนนั้นเปนถึงผูมีพรสวรรค ที่แทก็เปนแค
เจาขี้ขลาด!”
แมแตหนังตาของตวนมูหวงฮุนยังไมขยับแมแตนอย ขนตาที่แสนยาวนั้นถูกขับใหโดด
เดนเมื่ออยูคูกับผิวกายที่ขาวผอง สงางามดึงดูดใจ มากถึงกับทำใหหญิงสาวตองอิจฉา
เหลาหญิงสาวที่มุงอยูถึงกับมีอารมณรวมในทันที
“จาวจือเปา! เจาจะคุยโวก็หัดรูจักดูสภาพตัวเองเสียบาง! เจามีคุณสมบัติอะไรมา
ทาสูกับหวงฮุนของเรา!”
“ใชแลว! หวงฮุนของเราใชวาหมาแมวที่ไหนก็จะมาขอทาสูได”
“ดูสารรูปเจาสิ ตัวหนาทั้งตัว ยังไวผมยาวอีก เหอะเหอะ ยังกับกลองไมที่เสียบไม
ถูกพื้น”
จาวจือเปารูสึกโกรธอยางมาก จนใบหนาแดงก่ำไปทั้งหนา
เขาคิดวาตนนั้นไมธรรมดามาโดยตลอด ถึงแมเขาจะเคยไดยินเรื่องราวของผู มี
พรสวรรคที่ชื่อตวนมูหวงฮุนมาตั้งแตแรก แตเขาก็ไมไดกลัวเลยสักนิด กลับกันเขาได
ทาตวนมูหวงฮุนตอสูอยางเปดเผย ความแข็งแกรงของรางกายเขานั้นไมธรรมดา ใน
หองเรียนของตนเขาก็สามารถขึ้นไปอยูในหาอันดับแรก
“นี่หรือคือผูมีพรสวรรคตวนมูหวงฮุนของพวกเรา ผูมีพรสวรรคที่หลบอยูหลัง
กลุมผูหญิง เหอะ!”
หนังตาของตวนมูหวงฮุนยังคงไมขยับ ปากคายเมล็ดซานจาออกมา พูดขึ้นอยาง
เฉยชา “วันนี้ขาอารมณไมดี ทางที่ดีเจาควรไสหัวไป”
“อารมณไมดีหรือ เหอะ มาสิ ตอยขาสิ!” จาวจือเปาก็ทำเหมือนกับไดยินเรื่อง
ตลก อดไมไดที่ทำยียวน
หานาทีใหหลัง
ตวนมูหวงฮุนใบหนายังคงไรความรูสึก เก็บขาของตนอยางสงางาม จาวจือเปาที่
อยูบนพื้นไมเหลือสวนใดที่ยังดีอยู หนาตาบวมเปง ตวนมูหวงฮุนกัดซานจาลูกสุดทาย
ที่อยูในไมปงถังหูลู ทิ้งไมลง แลวจึงหันกายจากไปอยางเฉยเมย
“ฟบ!” ไมนั้นปกลึกลงไปในพื้น ตำแหนงที่ปกนั้นอยูหางกับจมูกของจาวจือเปาเพียง
สองเซนติเมตร สายตาของจาวจือเปาถึงกับชะงักในทันที ไมกลาที่จะขยับแมแตนอย
หญิงสาวที่มุงดู รองเชียรตามดานหลังตวนมูหวงฮุนไปราวกับฝูงผึ้ง
ในมุมหนึ่งที่ไมไกลบนถนน มีหญิงสาวที่ใสผาแพรคลุมหนา นัยนตาของนางเปน
ประกายวูบหนึ่ง ซือเสวี่ยมั่นมาที่เมืองซงเจียนอยางเงียบๆ ซึ่งเปนการตั้งใจมาโรงฝก
ของตระกูลตน คาดไมถึงวาจะไดเห็นฉากนี้ ชื่อของตวนมูหวงฮุนนั้นนางเคยไดยินมา
ไมคิดวาก็จะอยูที่เมืองซงเจียน โดยเฉพาะความแข็งแกรงที่แสดงออกมาเมื่อครู ชางไม
ธรรมดาอยางมากเลย
หรือวาจะเปนเขา
แตวาในไมนาน ซือเสวี่ยมั่นก็สายหัว ถึงแมจะเปนการปดตาตอสู แตเจาสาระเลว
ควรตายนั่น มีลักษณะการตอสูที่แตกตางกับตวนมูหวงฮุนอยางสิ้นเชิง เจาสาระเลว
นั้นมีลักษณะการตอสูที่ปาเถือนดุราย ราวกับสัตวปา
นางหันหลังจากไปยังทางโรงฝกของตระกูลตน
จาวจือเปาผานไปกวายี่สิบนาทีเต็ม จึงฟนสติขึ้นมาได เขาพยายามลุกขึ้นจากพื้น
อยางยากลำบาก
เมื่อเงยหนาขึ้น เขาก็ชะงักไป
เขามองเห็นคนที่หนาตาบวมเปงเหมือนกับเขา กำลังเดินมาทางนี้
อายฮุยที่เพิ่งจะซื้อของเสร็จ เขามองไปที่จาวจือเปาที่อยูตรงกลางถนน ก็ชะงักไป
เชนกัน
ทั้งสองคนชางเหมือนกันเหลือเกิน หนาตาบวมเปงเหมือนกัน ทั้งตัวมีแตอาการ
บวม ทุกที่มีแตรอยช้ำ ใบหนาบิดเบี้ยว มีแผลไปทั่วตัว เสื้อผาก็ขาดรุงริ่ง
จาวจือเปาที่เมื่อครูถูกซอมจนเจ็บ มองไปที่อายฮุย ก็เหมือนกับไดเห็นตนเองวา
อยูในสภาพทุเรศทุรังเพียงใด เชนนี้มันเปนการหัวเราะเยาะดูหมิ่นตนหรือไร วันนี้เขา
ก็เหมือนกับตัวตลก มีเพียงความรูสึกไมพอใจ
เขาดันตัวลุกขึ้นจากพื้น พลางกลาวอยางดุราย “วันนี้ขาอารมณไมดี ทางที่ดเี จา
ควรไสหัวไป!”
อายฮุยหรี่ตาที่ทั้งบวมทั้งช้ำเขียวลง
บทที่ 17 ถือโอกาส
แตไหนแตไรอายฮุยก็ไมเคยคิดวาตนนั้นนิสัยดี ในแดนรางไมตองการนิสัยดี แต
ตองการความแข็งแกรง ความกาวราว ความทรหดอดทน
ตอใหเปนสภาพที่อับจนหนทางก็ตองเดิมพันทุกสิ่งที่มีเพื่อใหอยูรอด พวกที่นิสัย
ออนโยนนั้นถูกคัดออกไปนานแลว
พูดถึงความโกรธ ถูกอัดจนถึงตีหา จะไมมีความโกรธไดอยางไร
อายฮุยรูสึกวาตนเปนภูเขาไฟลูกหนึ่ง ที่พรอมจะระเบิดออกมาอยูเนืองนิตย แต
ทวายังหาโอกาสไมเจอ โหลวหลานนั้นเต็มไปดวยความจริงใจไรเดียงสาอันเปรียบ
เหมือนกับกระดองเตาที่แข็งแกรง ทำใหคนไมอาจจะลงมือได เจาอวนสิดี อยากจะอัด
เมื่อไรก็ไดโดยไมตองมีเหตุผล คิดไมถึง พองวงนอนก็มีคนสงหมอนมาให อยากจะอัด
คนก็มีคนสงกระสอบทรายมาให
อายฮุยที่หรี่ตาอันบวมช้ำ ปลดปลอยจิตสังหารอันหนาวเหน็บออกมาจากรางที่
เต็มไปดวยรอยฟกช้ำ เขาวางขาวของที่อยูในมือลงพื้น ของนี้ใชเงินซื้อมา ถาหากทำ
พังก็ไมคุมกัน
จาวจือเปาเห็นอีกฝายเดินมาทางเขา ความโกรธในใจยิ่งเพิ่มเปนทวีคูณ การพาย
แพใหแกตวนมูหวงฮุน ก็ทำไดเพียงแคอดทน ตอนนี้แมกระทั่งหมาแมวที่ไหนไมรบู น
ถนนก็ยังกลามาทาทายเขา จะใหเขาไมโกรธไดอยางไร
เขาแสยะยิ้มขึ้น ยื่นมือไปทางอายฮุย ฝามือปลอยเปลวไฟสีแดงออกมาอยางหนาแนน
เปลวไฟสีแดงเปนเหมือนลิ้นที่แลบเลียไปมาไมหยุดนิ่ง อุณหภูมิรอบดานก็สูง
ขึ้นมาในทันที ผามือขวามีประกายแสงวูบไหว ในใจของจาวจือเปาพอใจอยางถึงที่สุด
เมื่อครูเขายังไมทันไดใชพลังธาตุก็ถูกตวนมูหวงฮุนซัดลงกับพื้นไปกอน
ถูกดูหมิ่นเหยียบย่ำอยูหานาทีเต็ม ในตอนนี้เปลวไฟไดถูกจุดขึ้นมา ความมั่นใจ
ของเขาที่ถูกทำลายไปไดกลับมาแลว เขารูสึกวาตนเองชางแข็งแกรงอะไรเชนนี้
เมื่อครูที่แพใหแกตวนมูหวงฮุน เปนเพราะตนประมาทเกินไป ถูกแลว จะตองเปน
เชนนี้แน หากวาตนใชพลังธาตุแตแรก แพชนะก็ยังไมอาจตัดสิน
มองผ า นเปลวไฟ ร า งของฝ า ยตรงข า มดู บ ิ ด ไปมาและแสนจะผอมบาง ก็
เหมือนกับคูตอสูมากมายที่เคยพายแพใหแกเขา
หากจะโทษก็จงโทษที่เจาดวงไมดีแลวกัน!
จาวจือเปาคำรามขึ้น เขาพุงไปดวยกาวยาวๆ อยางเชี่ยวชาญ เปลวไฟสีแดงที่มือ
ขวาราวกับถูกจับยักยายดวยมือที่มองไมเห็น เปลวไฟแลบเลียเปลี่ยนไปมา มีเปลวไฟ
สองสายราวกับปกที่กำลังสยายออก มีเสียงรองของอีกาดังขึ้นทามกลางเปลวไฟ ซึ่ง
โดดเดนราวกับอีกาเพลิงสยายปก
ในใจของจาวจือเปาดีใจเปนลนพน
“วิชาปกอีกาอัคคีเยือกแข็ง” เปนกระบวนทาที่ผูใชธาตุน้ำและไฟนิยมใชกันทั่วไป
จาวจือเปานั้นเปนธาตุไฟ แนนอนวาที่ฝกคืออีกาเพลิง กระบวนทาแรกที่เขาได
เรียนหลังจากเปดตำหนักที่แขนขวาไดก็คืออีกาเพลิง การเปลี่ยนแปลงรูปลักษณไมใช
เรื่องยากสำหรับเขา ทวาการเปลี่ยนรูปลักษณเปนเพียงขั้นแรกของวิชานี้ และอีกา
คำรามก็คือขั้นที่สอง พลังธาตุเกิดเปนเสียงคำรามรอง พลังของกระบวนทานี้ก็เพิ่มขึ้น
อยางมาก
จาวจือเปาไมคิดวาตนจะสามารถทะลวงระดับพลังไดในเวลานี้ เพียงแตในใจรูสึก
เสียดาย กระบวนทาที่แสนจะงดงามนี้กลับตองมาใชกับพวกไรชื่อ นึกดูวาเมื่อครู
ตนเองนั้นไมไดใชทานี้ตอหนาตวนมูหวงฮุน ในใจเขาเต็มไปดวยความเสียดาย
อายฮุยนั้นไมไดสะทกสะทานเลย
“วิชาปกอีกาอัคคีเยือกแข็ง” เปนกระบวนทาที่เห็นไดทั่วไปมาก ไมใชอะไรคูควร
ใหตื่นตระหนก แมแตอีกาคำรามในอายุขนาดที่ที่สามารถใชได ถือวาไมใชเรื่องงายก็
จริง แตทวาก็เพียงแคนี้แหละ
ในวินาทีที่จาวจือเปากาวเทาพุงเขามา นัยนตาของอายฮุยก็ทอประกายแสงแสน
จะเย็นยะเยือก
เกือบจะในเวลาเดียวกัน เขาก็พุงไปยังอีกฝายอยางเหี้ยมหาญ
การเคลื่อนไหวของอายฮุยทำใหจาวจือเปาถึงกับคาดไมถึงอยูบาง เขาไมคิดวาอีก
ฝายนอกจากจะไมหลบแลว ยังพุงมาทางตนอีก เจานั่นสมองไมปกติหรือ แตวาในเมื่อ
อีกฝายรนหาที่ตาย แนนอนวาเขาก็จะไมออมแรงแน
ในตอนที่ระยะหางของทั้งสองยนลงมาใกลกัน จาวจือเปายิ่งรูสึกตื่นเตน ตาของ
เขาเบิกกวาง ใบหนาแสยะยิ้ม ฝามือขวาเตรียมซัดออก จะใหเขาไดรูวาอะไรคือสิ่งที่
เรียกวาซัดสลบในทีเดียว!
ขณะมองดูอีกฝายกำลังจะปะทะกับฝามือขวา อยูๆ รางของอายฮุยก็แวบหายไป
จาวจือเปาถึงกับลมหายใจปนปวน
อีกฝายแวบหายเชนนี้ ทำใหตนรูสึกไมสบายใจอยางบอกไมถูก หากชากวานี้หนึ่ง
นาที เขาก็จะไมสนใจ แลวเพิ่มความเร็วในการฟาดฝามือไป หากเร็วกวานี้นาทีหนึ่ง
เขาก็จะมีเวลาที่จะตอบสนองการเปลี่ยนแปลง แตวาที่อีกฝายแวบหายกลับไมชาไม
เร็ว ปดทางเสียจนเขาอยากจะกระอักเลือด
ระยะของทั้งสองหางกันใกลมาก ในเวลานี้จาวจือเปาจะเปลี่ยนทาก็ไมทัน เสีย
แลว ทำไดเพียงพลิกขอมือ เปลี่ยนทิศทางฝามือกวาดไปทางอายฮุย
เดี๋ยวกอน หายไปไหนแลว
ตาของเขาเบิกจนกลมโต ราวกับเห็นผีก็ไมปาน อีกฝายถึงกับหายไปจากระยะ
สายตาของเขาอยางไรรอ งรอย
นี่มันเรื่องอะไรกัน
“ปก!”
ซี่โครงดานขวาของจาวจือเปาเจ็บขึ้นมาอยางรุนแรง ความเจ็บปวดอันกระจายไป
ทั่วรางในชั่วพริบตาเดียว รางกายของเขาหยุดนิ่งไป เปนไปไดอยางไร...
สมองของเขาวางเปลา ไมรูเปนเพราะความเจ็บปวดอยางรุนแรง หรือเปนเพราะ
การสะเทือนอยางแรง จึงทำใหสมองของเขาสูญเสียการรับรูไป
หลังจากอายฮุยแวบหายไป เขาก็ยอกายพุงไปทางซี่โครงดานขวาของจาวจือเปา
การโจมตีครั้งนี้เขาไมไดใชพลังธาตุ ตำแหนงนี้เปนศูนยรวมประสาท หากถูกโจมตี
อยางแรง ก็เพียงพอที่จะทำใหอีกฝายสูญเสียการรับรูไปในชวงสั้นๆ
อายฮุยโจมตีสำเร็จ ก็ถือโอกาสเอียงตัวหลบออกมา พลังธาตุถูกรวมอยูที่เทา เปน
ประกายสีเงินขึ้นมา แผนหลังแนบกับหนาอกของจาวจือเปาอยางไรเสียง
เมื่อแนบกับหนาอกของอีกฝาย อายฮุยโคงหลังขึ้น เปนเหมือนกับสปริงที่ถูกอัด
จนแนนแลวปลอยออก กำลังอันมหาศาลระเบิดออกในทันที จาวจือเปารากับถูกแรด
คลั่งพุงชนใสกลางอก
จาวจือเปาลอยกระเด็นเปนเสนโคงขึ้นสูงเกิดเสียงดังสนั่น บินลอยออกไป
“ปง!”
จาวจือเปาหลนฟาดลงกับพื้นอยางหนัก ในเวลาเดียวกัน อายฮุยก็เคลื่อนไหวราว
กับดวงวิญญาณมาปรากฏตัวที่ขางกายของจาวจือเปา ไมมีการหยุดลังเลใดๆ เขาขาง
ขวาของอายฮุยก็กดอยูบนเอวดานหลังของอีกฝาย มือซายจับศีรษะเอาไว มือขวาควา
ไดไมปลายแหลมที่อยูบนพื้นดานขางขึ้นมา แลวจึงแทงลงไปอยางแรงที่บริเวณหลัง
คอของจาวจือเปา
อยา วา แตไมป ลายแหลมเลย ต อ ให เป น ตะเกี ย บที ่ ท ู ก ว า หลายเท า เขาก็ ยั ง
สามารถแทงทะลุคอของสัตวรายไดอยางไมกินแรง ทุกอยางผานไปราวกับน้ำไหล
วองไวดังสายฟา
ในวินาทีที่ไมปลายแหลมกำลังจะแทงทะลุหนังที่หลังคอของจาวจือเปา อายฮุย
เพิ่งรูตัวขึ้นมา ที่นี่ไมใชแดนราง! ไมปลายแหลมจึงถูกหยุดเอาไวไดทัน หลังคอของ
จาวจือเปาจึงเหลือ เพียงรอยแดงเล็ก ๆ คลายรอยเข็ม เลือดหยดหนึ่ งคอยๆ ไหล
ออกมา
จาวจือเปาที่รางกระแทกพื้นจนมึนงงไมรูตัวเลยวาตนเพิ่งรอดผานประตูผี
ที่นี่ไมใชแดนราง!
นัยนตาของอายฮุยดูสงบลึกล้ำ เขาแอบเตือนตนเองอีกครั้ง จากนั้นก็เอาไมปลาย
แหลมเสียบไปที่กนของจาวจือเปา คนไมตายก็พอแลว
“อากก!”
จาวจือเปารองโหยหวนออกมา แตในอีกวินาทีถัดไป เสียงรองโหยหวนก็หยุดลง
ในทันที
ฝามือของอายฮุยที่สับลงที่หลังคอของจาวจือเปาดึงกลับมา เขาไมแมแตจะมอง
อีกฝายที่ตอนนี้หมดสติไปแลว เอาชนะคูตอสูแบบนี้ได เขาก็ไมไดมีความรูสึกตื่นเตน
อะไร การโจมตีก็มีรูปแบบของมัน ไมมีโอกาสที่จะใชความคิดเลย
คูตอสูคนนี้เสียสมาธิกลางคัน การแสดงออกอยางมือสมัครเลนเชนนี้ ทำใหอายฮุย
รูสึกขาดความตื่นเตน
ดวยความเคยชินของมืออาชีพที่ยอดเยี่ยม อายฮุยจึงไมลืมที่จะคนเอารางวัลแหง
ชัยชนะมา
จาวจือเปาที่นาสงสารถูกรูดทรัพยไปแบบไมเหลือ ไมปลอยใหอะไรเหลือรอด แต
เดิมก็เปนสัญชาตญาณของอายฮุยอยูแลว
เงินสองหมื่นหยวนถูกเก็บไป ทำใหอายฮุยอารมณดีเปนอยางมาก เสื้อผาของอีกฝาย
เนื้อผาไมเลวเลยนะ ไมพูดพร่ำทำเพลง อายฮุยก็ถอดเอามาใสใหตนแลว
ตวนมูหวงฮุนที่ยังไมถอดใจ ไดเลือกสถานที่ที่คอนขางสูงบริเวณใกลๆ ประตูเมือง
เริ่มตนแผนการนั่งรอคอยโชคของตนอีกครั้ง ไมรูวาเขาไปเสกปงถังหูลูอีกไมมาจาก
ไหนอีก แลวเขาก็คอยๆ กินมันอยางชาๆ
ไมอยูในเมือง เชนนั้นเปนไปไดหรือไมวาอยูนอกเมือง
ไดอัดจาวจือเปาไป ตวนมูหวงฮุนรูสึกวาใจของตนสงบลงไปไมนอย ตรงจุดนี้เปน
จุดที่ตองผานเมื่อเขาเมือง
ไมไกลนัก เหลาหญิงสาวยังคงจองมองตวนมูหวงฮุนดวยสายตาหลงใหล ทันใด
นั้น พวกนางก็สงเสียงขึ้น
“มาดูเร็ว! จาวจือเปา!”
“สภาพนาสังเวชจัง! ทั้งหนาทั้งตัวเปลี่ยนไปเลย!”
“สมควรแลว! กลามาทาทายหวงฮุนของพวกเรา แคนี้ยังนอยไป...”
ตวนมูหวงฮุนที่อยูดานบนหรี่ตามองแลวจึงถอนสายตากลับ เขาไมสนใจอะไรกับ
คูตอสูที่แพไปแลว ตั้งแตเริ่มจนจบ เขาก็ไมไดมองอีกฝายตรงๆ สักครั้งเลยดวยซ้ำ
จาวจือเปาจะหนาตาเปนอยางไร เขาไมสนใจ ตอนนี้บวมเปงเชนนี้ เขายิ่งไมสนใจ
อายฮุยที่สังเกตเห็นตวนมูหวงฮุน หรี่ตามองแลวก็ถอดสายตากลับ ไมเขาเรียนไม
ฝกฝน ถอมากินปงถังหูลูถึงที่นี่ งานอดิเรกของลูกผูลากมากดีนี่ประหลาดเสียจริง
ที่พวกผูหญิงพูดกันเจื้อยแจวเขาก็ไดยิน แตก็ไมรูวาผูใดคือ จาวจือเปา
มันไมไดเกี่ยวอะไรกับตน อายฮุยจึงไมสนใจ เขาสนใจแคทางไปเจดียเสวียนจิน
บทที่ 18 การคนควา
การเอาชนะมือสมัครเลน ไมไดทำใหอายฮุยมีอารมณตื่นเตนใดๆ แตทวาเขาก็
สัมผัสไดจากการตอสูในเวลาสั้นๆ นี้ถึงความกาวหนาของตน พลังธาตุที่เพิ่มขึ้นนั้น
สงผลตอความแข็งแกรงของเขาโดยตรง จากการไดดูดซับพลังธาตุทองของเจดี ย
เสวียนจิน เทียบกับพลังธาตุทั่วไปแลวถือวาบริสุทธิ์กวามาก พลังธาตุในรางของเขา
ยั ง คงนั บ ได ว า อ อ นแออยู แต ว า การเพิ ่ มขึ ้ น ถึ ง สามเทา สำหรั บ อ า ยฮุ ย แล ว ก็
หมายความวาเขาจะมีชองวางใหพัฒนาความสามารถเพิ่มขึ้น
อายฮุยเดินไปถึงหนาประตูของเจดียเสวียนจิน ครั้งนี้เขาไมไดบุมบามเขาไปอยาง
หุนหันพลันแลน บทเรียนจากครั้งที่แลวนั้นยังคงสลักอยูในใจ
เสียงสายลมอันบาคลั่งจากในเจดีย ยังคงทำใหจิตใจสั่นไหว
อา ยฮุย หยิบเชือกที่เพิ่งซื้อออกมาเมื ่อ ครู ด า นหนึ ่ งผู กเขา กั บกอ นหิ นขนาด
ประมาณตะกราไมไผ อีกดานผูกไวกับเอวของตน เขายกกอนหินขึ้นมาและโยนเขาไป
ดานในของเจดีย
เชือกถูกรั้งจนตึงในทันที มีแรงมหาศาลถายเทมา อายฮุยไดเตรียมตัวมาตั้ งแต
แรก แตก็ยังคงถูกดึงจนตัวเซ
ลมทองคำในเจดียชางบาคลั่งเสียจริง กอนหินนั้นถูกพัดจนชนนูนชนนี่ไปทั่ว
เสียงกระแทกแตละครั้งดังสนั่น แรงดึงที่ถายทอดผานเชือกมาเหนือกวาที่อายฮุย
คาดไวนัก เขาพยายามที่จะประคองตัวเองใหมั่น แตก็ยังถูกดึงใหเขาใกลประตูเจดียที
ละนิดทีละนิด
ในใจของอายฮุยเกิดความกลัวขึ้นมา คราวที่แลวที่ตนรอดมาได ถือวาโชคยังดีอยู
ไมนอย
ทันใดนั้นเชือกก็หยอนลง พรอมกับแรงดึงที่หายไป อายฮุยที่ออกแรงลาถอยอยู
ไมไดเตรียมพรอมกับการเปลี่ยนแปลงอันกะทันหันนี้ เขาจึงหงายหลังลมลงเอามือดัน
พื้นไว แลวลุกขึ้นยืนใหมอยางมั่นคง
อายฮุยดึงสวนที่ขาดมาดู พบวาสวนนั้นพบรูเล็กๆ มากมาย ราวกับรูเข็มก็ไมปาน
อายฮุยสายหัวไปมา เชือกฟางคงไมไหว สวนปลายที่เปนรูเล็กๆ มากมายนั้นเกิดจาก
พลังธาตุทองเข็มเงินจากลมทองคำสรางขึ้น คาดวากอนหินเองก็คงทนอยูไดไมนาน
อยางที่คิด เพียงไมนาน เสียงกระแทกไปมาในเจดียก็เงียบลง เสียงแตกนั้น คงจะเปน
เสียงกอนหินถูกบดจนละเอียด
ลมทองคำชางรายกาจจริงเชียว!
มินาเลาถึงตองเปดคลังชีวิตใหไดกอนจึงจะมาฝกฝนที่นี่ได
ยังดีที่อายฮุยไดทำการเตรียมพรอมอยางอื่นมาดวย เขาหยิบโซเหล็กออกมาเสน
หนึ่ง โซเหล็กมีความหนาประมาณขอมือ กวาจะแบกมาถึงเจดียเสวียนจินไดทำเอา
อายฮุยเหนื่อยแทบตายอยูเหมือนกัน เขาโยนโซเหล็กเขาไปดานในเจดีย สักพักผาน
ไปจึงดึงออกมา โซเหล็กนั้นไรซึ่งริ้วรอย คราวกอนที่อายฮุยเห็นตาขายเหล็กในเจดีย
เขาก็เลยคิดวาโซเหล็กนาจะทนลมทองคำได
อายฮุยใชแรงอยางมหาศาล แถมยังใชเวลาถึงหนึ่งชั่วโมงเต็ม เพื่อลากกอนหิน
ขนาดสูงกวาตัวเขามาจากที่ที่หางไกล ชวยไมได กอนหินที่ใหญหนอยในบริเวณนี้
ลวนถูกเขาชนจนแหลกไปหมดแลวในครั้งกอน
เขาเอาปลายโซเหล็กดานหนึ่งผูกกับกอนหิน สวนปลายอีกดานผูกไวกับเอวของตน
เมื่อแนใจวาผูกแนนแลว อายฮุยหายใจเขาลึกๆ จากนั้นก็ทะยานรางเขาไปใน
เจดียเสวียนจิน
เมื่อเขาไปในเจดียเสวียนจินแลว อายฮุยก็ถูกลมทองคำอันบาคลั่งพัดใส ลอยเควง
ควางไปมา มีแรงมหาศาลที่สะเอว เกือบจะทำใหเอวเขาถูกดึงจนขาด โซเหล็กที่ยึด
เอวไวถูกรั้งจนเปนเสนตรง เห็นวาวิธีการของตนไดผล อายฮุยอดจึงถอนหายใจโลงอก
ออกมา แตทวาเขาก็ดีใจอยูไดเพียงไมนาน แผนหลังของเขาก็ชนเขากับผนังอยางแรง
เขารีบเอาแขนสองขางปองศีรษะเอาไว มวนตัวเปนกอน ทำใหตนเปนเหมือนลูกบอล
ที่กลิ้งชนไปมา
เวลาที่อายฮุยอยูในเจดียครั้งนี้เทียบแลวถือวาสั้นกวาครั้งกอน เขาไมรอใหเกือบ
ถึงขีดจำกัดของตนจึงจะออกมา แตเปนพอเริ่มรูสึกบวม เขาก็ใชโซเหล็กดึงตนเอง
ออกมา
อายฮุยที่ดึงโซเหล็กออกมา พนลมหายใจออกยาวๆ ดานนอกกับดานในของเจดีย
ราวกับเปนโลกที่แตกตางกันสองใบ อายฮุยควบคุมเวลาไวไดอยางดีเยี่ยม ครั้งนี้สติ
ของเขายังแจมชัด และก็ยังมีแรงเหลือดวย
เขาเริ่มที่จะตุบตีรางงกายของตน
หลังจากการฝกในคราวกอน เขาก็ไดขบคิดพิจารณาวาจะทำเชนไรในการดูดซับ
พลังธาตุทอง ความปรารถนาที่จะไลตามพลังของอายฮุยนั้นไมตองสงสัย แตทวาตอ
ใหเปนเชนนี้ เขาก็ไมตองการใหตนถูกอัดทุกวันจนถึงตีหาเชา นั่นไมใชประสบการณที่
สวยงามอะไร เขาไมอยากที่จะเจออีกเปนครั้งที่สอง
ดังนั้นเขาจึงคิดวิธีเมื่อครูนี้ออกมา
หากอยากจะดูดซึมพลังธาตุทอง กาวแรกที่เขาตองทำก็คือทำใหหลังธาตุทองเข็ม
เงินที่ซึมเขามาในรางกระจายตัว ถาหากพลังธาตุทองเข็มเงินที่ซึมเขารางมาในครั้ง
หนึ่งๆ ไมไดมากนัก ตนก็ยังพอจะจัดการไดอยู
เปนการตุบตีเชนกัน ตัวเองอัดตัวเอง กับตนถูกคนอื่นอัด ความรูสึกมันแตกตาง
กันอยางสิ้นเชิง
อายฮุยทุบตีรางกายของตนอยางไมมีการออมแรง ในเวลาเดียวกันก็ตรวจสอบ
การเปลี่ยนแปลงภายในรางกายอยางละเอียด แรงที่ใชมากเพียงใด กระบวนทาอะไร
ที่ใช จึงจะไดผลลัพธที่ดีที่สุด ทุกอยางตองใหเขาคอยๆ คนควา
รากฐานของตนแสนแย เชนเดียวกับสถานะทางการเงินของเขา ดังนั้นแลวจึงตอง
ใชความพยายามใหมาก
เขาคอยๆ สัมผัสไดถึงเคล็ดลับความสำเร็จ แตในไมนานเขาก็พบปญหาขอหนึ่ง
ขึ้นมา พลังธาตุทองที่อยูในกลามเนื้อบริเวณแผนหลัง เขาตีไมถึง พอลองครุนคิ ดดู
สายตาของเขาก็ไปหยุดอยูที่เจดียเสวียนจิน
ถูกลมทองคำพัดมานานแรมปถึงเพียงนี้ ตัวเจดียนาจะมั่นคงอยู อายฮุยจึงถือ
โอกาสเอาหลังจนเขากับผนังเจดีย ไมมีอุปกรณใดจะเหมาะสมไปมากกวานี้อีกแลว
เพียงไมนานเขาก็พบวาคงคิดมากเกินไป ผนังเจดียแข็งแกรงราวเหล็ก เขาชนไปสอง
สามที กระดูกทั่วรางแทบที่จะหลุดหมดแลว
พลังธาตุทองเข็มเงินที่อยูในกลามเนื้อบริเวณแผนหลังยังเหลืออีกมากที่ยังไม
กระจายตัว อายฮุยอยูๆ ก็นึกไปถึงการตอสูที่สูกับผูชายมือสมัครเลนที่ตัวบวมช้ำเมื่อ
คราวกอน ตนนั้นใชแผนหลังกระแทกบริเวณปอดของอีกฝายดวยกระบวนทา
“มัจฉาสะบัดกาย”
กระบวนทา “มัจฉาสะบัดกาย” นี้ ที่ทำใหอายฮุยจดจำไดมากที่สุดยังคงเปนการ
ปดตาตอสูในคราวนั้น ตนเองพันธนาการคูตอสูไว กระบวนทาที่คูตอสูใชดิ้นหนีก็คือ
“มัจฉาสะบัดกาย” ในตอนนั้นกำลังของคูตอสูมหาศาล จนเขาเกือบจะหลุดมือ ทำให
เขาตกตะลึงเปนอยางมาก เพราะวาหลายปที่ทำงานซึ่งตอ งใชแรงอยางมาก เขา
เชื่อมั่นในกำลังอันปาเถื่อนของตนพอสมควรเลยทีเดียว
เขาสามารถสัมผัสไดวาอีกฝายไมไดมีพลังธาตุที่แข็งแกรงอะไรมาก กำลังของ
รางกายก็ไมไดมาก แตกลับสามารถใช “มัจฉาสะบัดกาย” ระเบิดพลังออกมาไดอยาง
มหาศาลเชนนี้ ดูทาจะมีความรูที่ลึกซึ้ง
อายฮุยสนใจใน “มัจฉาสะบัดกาย” อยูไมนอย กระบวนทานี้เขาเองก็ใชได ใน
แดนรา งสามป เขาเรียนพวกวิชาที่ ไมเปน ระบบที่ เหมื อนกับ “มั จ ฉาสะบัดกาย”
สำเร็จมาไมนอย มันปลีกยอยเปนอยางมาก แตกลับเปนกระบวนทาที่ใชไดจริง
แตทวาเขาหยิบทานี้มาใชนอยมาก จากความแข็งแกรงของเขา หากถูกศัตรูจับ
พันธนาการไวได เชนนั้นก็คงเหลือเพียงทางตายอยางเดียว ไมมีโอกาสแมแตจะไดใช
กระบวนทานี้
วันนี้พลันนึกขึ้นได ใช “มัจฉาสะบัดกาย” จัดการเจาหนุมตัวบวมมือสมัครเลน
จนบินลอยไป ทำใหเขาเห็นวากระบวนทานี้ยังสามารถใชในทางอื่นไดอีก
เขาเริ่มที่จะใช “มัจฉาสะบัดกาย” กับผนังของเจดีย
เพียงไมนาน เขาก็พบจุดที่ยอดเยี่ยม ในตอนที่อยูในเจดียเขามวนตัวเปนกอน จุด
ที่พลังธาตุทองเข็มเงินซึมเขามามากที่สุดก็คือแผนหลัง “มัจฉาสะบัดกาย” ไมเพียงจะ
ระเบิดพลังอันนาตกใจ ยังมีผลจากการสะเทือนอีกดวย
มินาตอนที่ปดตาตอสูแขนของตนถึงไดชาไป ที่แทก็เปนเชนนี้
วิธีคิดของตนไดผลลัพธที่เยี่ยมยอดเปนอยางมากไดปลุกเราใหอายฮุยฮึกเหิม เขา
เพิ่มความจริงจังและความพยายามใหมากขึ้น
ตอนที่พลังธาตุทองเข็มเงินในรางลวนกระจายตัว อายฮุยเริ่มนั่งขัดสมาธิเพื่อ
เขาสมาธิ ดูดซึมพลังธาตุทองอิสระ
หนึ่งชั่วโมงใหหลัง อายฮุยลืมตาขึ้น ก็สามารถสัมผัสไดถึงพลังธาตุของตนที่เพิ่มขึ้น
ถึงแมจะมีพัฒนาการนอยกวามากเมื่อเทียบกับเมื่อคืนวาน นึกไปถึงน้ำแกงบำรุงพลัง
ธาตุชามนั้น อายฮุยก็รูสึกเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง ความกาวหนาของเมื่อคืนวานแสดง
ใหเห็นอยางชัดเจน แตทวาคาใชจายก็สูงไปดวย วันนี้ถึงจะกาวหนาเพียงเล็กนอย แต
ทวาเหมือนจะไมตองเสียคาใชจายอะไร
ถึงแมวาวิธีการฝกฝนเชนนี้จะยากลำบากและยาวนาน แตสำหรับอายฮุยแลว ขอ
เพียงสามารถเห็นถึงความหวัง เขานั้นไมสนใจสักนิด
ทามกลางความมืดมิดและความยากลำบาก แตเขากลับไมยินยอมที่จะจมดิ่งลง
ไป ดวยวาความลำบากนั้นไมเปนปญหาตอตัวขา
บทที่ 19 มีวิชามัจฉาสะบัดกาย
ชายวัยกลางคนมองไปยังซือเสวี่ยมั่นผูชุมโชกไปดวยเหงื่อที่อยูในสนาม เขานึก
เสียใจจนลำไสเขียวไปหมดแลว จริงๆ เลย ตัวเองอยูดีไมวาดีอวดฉลาดจัดการปดตา
ตอสูอะไรไมรูขึ้น ตอนนี้เปนเชนไร ทำเอาซือเสวี่ยมั่นเปนเชนนี้ไปแลว
ในใจของเขาเต็มไปดวยความละอายใจ ในบรรดาคุณหนูคุณชายในตระกูลซือ
คุณหนูเสวี่ยมั่นถือเปนผูมีพรสวรรคหาผูใดเสมอเทียบ แมนิสัยภายนอกดูเย็นชาแต
ภายในนั้นอบอุน ทุกคนลวนมีใจรักและปกปองนาง เมื่อกอนเขาใจรอนอยากสราง
ผลงาน ทำใหตอนนี้คุณหนูตองฝกฝนอยางบาคลั่งเชนนี้ เขายิ่งโทษตัวเอง เขาก็ได
กลาวเตือนอยูหลายครั้ง แตก็ไมมีประโยชน หากคุณหนูเสวี่ยมั่นไดตั้งเปาหมายไว
ชัดเจนแลว ตอใหเอาวัวเกาตัวมาฉุดก็ไมเปนผล
นิสัยนี้เหมือนกับบิดานางไมมีผิด
ชายวัยกลางคนนึกเสียใจ เขาเคยไดทำงานรวมกับบิดาเสวี่ยมั่นอยูชวงหนึ่ง รูสึก
นับถือบิดาของนางเปนที่สุด ในตอนนี้ไดเห็นเงารางที่ชุมโชกไปดวยเหงื่อในสนาม
เวลาราวกับยอนไปยังเมื่อยี่สิบปกอน เขาดูเหมอลอยจิตใจไมอยูกับเนื้อกับตัว
การฝกของซือเสวี่ยมั่นที่อยูในสนามจบลง นางก็เดินมาทางชายวัยกลางคน เช็ด
เหงื่อที่อยูบนใบหนาไปพลาง พูดกับชายวัยกลางคนไปพลาง “ทานอาหยงเจิ้ง ทานไม
ตองสนใจขามากมาย ขาฝกเองคนเดียวก็ดีแลว”
น้ำเสียงของนางถึงแมจะเย็นชาแตกลับไมมีความหางเหินปะปนอยู
ซือเสวี่ยมั่นเองก็เพิ่งจะรูจากปากของทานปูในครั้งนี้วา ผูดูแลโรงฝกนี้ในอดีตเปน
เพื่อนที่เคยรวมงานกับบิดาตน ถึงแมวาจะเปนเพราะพรสวรรคมีอยางจำกัด จึงไมได
ประสบความสำเร็จอะไร แตทวาในอดีตเขามีความสัมพันธอันดีกับทานพอ ก็นับไดวา
เปนผูอาวุโสของนาง
“ขาหวงวาเจาจะลำบากเกินไป” หยงเจิ้งถอนใจกลาว “เจาอยาไดกดดันตัวเอง
มากเกินไป เฮอ ชางเหมือนกับบิดาของเจาในครั้งนั้นไมมีผิด บิดาเจาในตอนนั้นหาก
ตอสูกับใครแลวพายแพ ตอนกลางคืนจะไมยอมหลับยอมนอน ชางเปนลูกไมหลนไม
ไกลตนเสียจริง”
ซือเสวี่ยมั่นฟงอยูอยางเงียบๆ ตั้งแตเล็กจนโต หลอนไดพบกับบิดานอยมาก
ความทรงจำที่มีตอบิดาทั้งหมดลวนรับรูมาจากปากของผูอื่น
“นี่คือรายชื่อของสมาชิกใหมในเมืองซงเจียนที่เขารวมกลุมผูมีพรสวรรค นักเรียน
พวกนี้เพิ่งจะเขาเรียน คนที่เขารวมยังมีอยูไมมาก” หยงเจิ้งสงใบรายชื่อใหใบหนึ่ง
“ขาจะตามดูนักเรียนใหมที่เขารวมตอ ถึงแมจะพูดมาแลวหลายรอบ คอนขางจะดูจูจี้
อยูบาง แตวาขาก็ยังคงจะพูด เจาไมจำเปนตองเขมงวดกับตนเองถึงเพียงนี้เลยจริงๆ
นั่นก็เปนเพียงแคเรื่องเหนือความคาดหมายเทานั้น”
ซือเสวี่ยมั่นรับเอาใบรายชื่อมา สงวนทาทางสงบนิ่งแลวกลาว “ทานอาหยงเจิง้
นั่นไมใชเรื่องเหนือความคาดหมาย พายแพก็คือพายแพ ไมมีเหตุผลใดจะมาอธิบาย”
หยงเจิ้งยิ้มอยางขมขื่น รูอยูแลววาจะตองจบลงเชนนี้
ซือเสวี่ยมั่นอยูๆ ก็กลาวขึ้น “ทานอาหยงเจิ้ง ทานวาหากพวกเราจัดการปดตา
ตอสูขึ้นอีกเปนอยางไร”
“จัดการปดตาตอสูขึ้นอีกครั้งอยางนั้นหรือ” หยงเจิ้งมึนงงไป เพียงไมนานก็ตอบ
กลับ “คุณหนูคิดที่จะลอใหเขามาติดกับเองใชไหม”
“ใช” ซือเสวี่ยั่นพยักหนา “เสวี่ยมั่นคิดวา เหตุผลที่คนคนนี้เขารวมการปดตาการ
สู ไมนาจะนอกเหนือจากสองขอนี้ หนึ่งอาจเปนเพราะเขาเกิดคันไมคันมือขึ้นมา ตัว
เขาเองแตเดิมเชี่ยวชาญการตอสูในยามราตรี ไดพบการแขงขันที่เปนเอกลักษณเชนนี้
เปนเรื่องปกติมากที่จะคันไมคันมือ อีกเหตุผลอาจเปนเพราะวายากจน และที่มาก็เพื่อ
เงินรางวัล”
หยงเจิ้งพึมพำกลาว “ความเปนไปไดของขอแรกคอนขางมาก ผูที่แข็งแกรงขนาด
เอาชนะคุณหนูได ไมนาจะโดนโนมนาวจากเงินหาหมื่นหยวน”
“เสวี่ยมั่นก็คิดเชนนี้ พวกเรานาจะเอาเวลาไปลงกับการป ดตาตอสู ดีห รื อ ไม
จัดการแขงขันปดตาตอสูขึ้นมาใหม เพื่อดึงดูดใหคนคนนั้นเขามา”
ซือเสวี่ยมั่นกลาวตอ “ถึงแมวาความเปนไปไดของขอที่สองจะคอนขางต่ำ พวก
เราก็ยังไมอาจจะมองขามไป จงเพิ่มยอดเงินรางวัลใหมากขึ้น”
หยงเจิ้งนัยนตาเปนประกาย “วิธีนี้ของคุณหนูยอดเยี่ยมนัก! คนคนนี้เชี่ยวชาญดาน
การตอสูในความมืด หากวาไดเห็นการแขงขันปดตอตอสูครั้งใหม จะตองอดไมไดเปน
แน ขอเพียงแคมีความแปลกใหมเปนเอกลักษณ จะตองมีแรงดึงดูดอยางมากตอเขา
เรื่องเงินรางวัลนั้นจัดการไมยาก พวกเราสามารถเพิ่มเงินรางวัลใหเปนหาแสนหยวน”
“หนึ่งลานเถิด” ซือเสวี่ยมั่นพูดตัดขึ้น “อีกสักพักขาก็จะกลับแลว เรื่องการปดตา
ตอสูก็ขอรบกวนทานดวย สองสัปดาหใหหลังขามีวันหยุดอยูสามวัน ถึงเวลานั้นก็ตอง
ขอรบกวนทานอาหยงเจิ้งดวย”
หยงเจิ้งกลาวขึ้นในทันที “ใหเปนหนาที่ขาเถอะ”
ขอเพียงแคมีวิธี เขาก็เต็มไปดวยความฮึกเหิม พูดกันตามจริง เขาเองก็เต็มไปดวย
ความสงสัยอยากรูเกี่ยวกับผูมีพรสวรรคลึกลับที่สามารถเอาชนะคุณหนูเสวี่ยมั่น ได
เชนกัน
เจดียเสวียนจิน
อายฮุยเปนเหมือนปลาตัวใหญที่ดุราย แผนหลังพุงชนผนังอยางแรง ในชั่วพริบตา
ที่จะสัมผัสกับผนัง แผนหลังไดมีการสั่นไหวที่ไมอาจสัมผัสได ปาบ! เสียงระเบิดที่ดัง
สนั่นผิดปกติดังขึ้น ราวกับเสียงแสที่หวดลงผานอากาศ
นัยนตาของอายฮุยเปนประกายในทันที การใชมัจฉาสะบัดกายครั้งนี้มีความกาวหนา
อยางชัดเจน แรงที่ระเบิดออกมาเต็มเปยม หางไกลจากครั้งกอนๆ ที่ผานมา
ยังไมทันไดรอใหเขาไดปติยินดี แรงที่เกรี้ยวกราดทรงพลังที่ถายทอดมาจากผนัง
ก็ทำใหรางของเขาราวกับเปนลูกบอลที่ถูกหวดอยางแรง ลอยกระเด็นไกลออกไปสิบ
กวาเมตร
“ตุบ!”
เขาตกลงไปในดินโคลนอยางแรง แตวายังดีที่เขามีประสบการณมากมาย ใน
ระหวางลอยอยูกลางอากาศจึงสามารถจัดระเบียบรางกาย สภาพที่ตกลงพื้นถึงแมจะ
ดูย่ำแย ทวาแมแตผิวหนังก็ยังไมถลอกเลยสักนิด
ขณะที่ลุกขึ้นมาจากพื้น เขาก็ถือโอกาสถอนหญาเขียวติดมือ เอามาใสปากเคี้ยว
นัยนตาของเขาทอประกายแปลกๆ ราวกับกำลังใชความคิด
พลังของมัจฉาสะบัดกายที่ใชเมื่อครู มากเกินกวาที่เขาคาดการณไวมาก ถาหาก
มัจฉาสะบัดกายที่ใชในคราวกอนทรงพลังถึงเพียงนี้ เกรงวาหนาอกของอีกฝายจะ
แหลกเปนผงในพริบตา
ความทรงพลังของมัจฉาสะบัดกาย มากกวาที่ตนคิดเอาไวมากมายนัก ที่สำคัญยิ่ง
กวาคือ มันยังมีศักยภาพที่จะพัฒนาตอ
อายฮุยคายกากหญาในปากออก นัยนตาทอประกายความตื่นเตน
มัจฉาสะบัดกายไมใชกระบวนทาที่สูงสงอะไร บวกกับที่มันไมเปนระบบ ผูฝกจึงมี
ไมมาก แตการไมเปนระบบก็มีขอดีของมัน หมายความวาเขาแคฝกกระบวนทานี้ทา
เดียวก็ได หากแตจะสามารถยกระดับความทรงพลังของกระบวนทานี้ขึ้นไปอีกขั้น
เชนนั้นก็จะใชเปนกระบวนทาสังหารไดเลยทีเดียว
ในแผนการเดิมของอายฮุย มัจฉาสะบัดกายเปนเพียงสวนหนึ่งของการฝกฝนพลังธาตุ
คาดไมถึงวาจะยังสามารถไดกระบวนทาสังหารเพิ่มมาทาหนึ่ง สำหรับเขาแลวถือเปน
เรื่องนายินดีที่เหนือความคาดหมาย
การฝกฝนของเขานั้นจริงจังเปนอยางมาก การฝกในทุกๆ วันนั้นแสนจะจืดชืด
เขาเจดีย ออกเจดีย ฝกฝนมัจฉาสะบัดกายกับผนัง นั่งขัดสมาธิ ดูดซึมพลังธาตุ ทำ
เชนนี้ซ้ำไปซ้ำมา ไมรูจักเหน็ดเหนื่อย ในการทำซ้ำไปซ้ำมานี้ก็ทำใหพลังธาตุคอยๆ
เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ไมรูเปนเพราะพลังธาตุที่เพิ่มขึ้นหรือไม ความเขากันไดของรางกายเขากับพลัง
ธาตุทองเข็มเงินก็เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอยางยิ่งมันสงผลใหเขากระบวนทามัจฉา
สะบัดกายไดลึกซึ้งยิ่งขึ้น อัตราความสำเร็จในการฝกฝนก็เพิ่มขึ้นอยางไมหยุดยั้ง ไม
นานเขาก็ไดพบกับปญหาขอหนึ่ง พลังธาตุทองเข็มเงินที่บริเวณแผนหลังเขาใชมัจฉา
สะบัดกายเพื่อใหมันกระจายตัว และผลลัพธที่ไดก็ดีเยี่ยมเปนอยางมาก แตรางกายใน
สวนอื่นๆ เขาทำไดเพียงใชฝามือตุบตี ผลลัพธหากเทียบกับการใชมัจฉาสะบัดกายถือ
วาแยกวามากนัก
แตทวามัจฉาสะบัดกายเปนเทคนิคการปลอยพลัง เขาไมอาจที่จะนำมาใชกับ
รางกายสวนอื่นไดเลย เพราะสวนสำคัญในการปลอยพลังของมัจฉาสะบัดกาย คือการ
ใชกระดูกสันหลังและกลามเนื้อบริเวณแผนหลัง เปนการเรียนแบบการปลอยพลังของ
ปลาที่สะบัดตัวเพื่อการดิ้นหนี
อายฮุยพบวาอัตราความกาวหนาในการฝกของตน ถูกปญหานี้ถวงเอาไว เขารูวา
ตนเองจำเปนตองกลับไปอีกครั้ง เพื่อเตรียมของบางอยาง
ครั้งกอนที่เขากลับไป ไดนำอาหารแหงมาไมนอย ถือโอกาสไหววานใหโหลว
หลานชวยเขาทำความสะอาดโรงฝก โหลวหลานก็รับปากอยางเบิกบานใจไปแลว
การฝกฝนติดตอกันเจ็ดวัน มองดูแลวราวกับเขาเปนคนปาก็ไมปาน เสื้อผาที่สวม
ใสบนตัวขาดรุงริ่ง ทวาไมอาจซุกซอนความปราดเปรียวหาวหาญไปได ภายใตผมเผาที่
รุงรังใบหนาที่เต็มไปดวยฝุนดิน นัยนตาคูนั้นกลับสุกใสสงบนิ่งราวกับสายน้ำ
บทที่ 20 หันกลับในทันที
กิจกรรมกลุมผูม ีพรสวรรคไมไดมีกฎตายตัว แตวานอยมากที่สมาชิก จะขาด
ประชุมที่เปดโอกาสใหไดรับคำชี้แนะจากผูอาวุโส ทุกคนลวนไมอยากที่จะพลาดไป
เมื่อเทียบกับเหลาอาจารยในสนามเหนี่ยวนำแลวไมเหมือนกัน เพราะผูอาวุโสในกลุม
ผูมีพรสวรรคสวนใหญลวนแตเปนอดีตทหารแนวหนา พวกเขาอาจไมไดเชี่ยวชาญดาน
ทฤษฎี แตเรื่องการสูรบนั้นมีประสบการณมากมาย สิ่งที่ถายทอดลวนเปนพวกเทคนิค
ที่มีประสิทธิภาพในการใชงานจริง
จากทหารแนวหนาถูกสงมารับผิดชอบกลุมผูมีพรสวรรค แตไหนแตไรมาก็เปน
งานแสนจะดีเยี่ยม ทำงานเหมือนพักผอน แถมยังไดรับคาจางสองทาง อาหารการกิน
ก็ดี ไมตองตากลมหนาวคอยเตรียมการปองกันอสูรแดนรางที่จะบุกโจมตีในยามวิกาล
ไดอยูในหองอุนๆ ดื่มชารอนๆ ชางเพลิดเพลินเจริญใจนัก!
เนื่องจากงานนี้เปนที่ตองการอยางมาก ดังนั้นบุคลากรที่ถูกสงไปในทุกเมือ ง
จะตองเปลี่ยนในทุกๆ ป
หลี่เหวยกับโจวเสี่ยวซีทั้งสองคนเพิ่งจะถูกสงมายังเมืองซงเจียน รับหนาที่ดูแล
กลุมผูมีพรสวรรคในเมืองนี้ หลี่เหวยมาจากหนวยทหารราบ และโจวเสี่ยวซีมาจาก
หนวยทะเลเหนือ ทั้งสองหนวยมีความสัมพันธอันดีตอกัน ไมไดมีความแคนอะไรกัน
ทั้งสองจึงใชเวลาไมนานก็สนิทกัน ไมวาอยางไร ในเวลาหนึ่งจากนี้ ทั้งสองจะตองอยู
รวมกัน
“ชางเปนที่ที่สงบสุขเสียจริง” โจวเสี่ยวซีมองรอบดานสี่ทิศ พลางถอดทอนใจ
“เวลาชางผานไปรวดเร็วนัก พริบตาเดียวเวลาสิบหาปก็ผานไปเสียแลว อยากจะ
ยอนกลับไปเมื่อสิบหาปกอนเสียจริง วัยเยาวนั้นดีที่สุดแลว”
หลี่เหวยที่ไดยิน จึงหัวเราะกลาว “จากนั้นก็จีบสาวที่ตอนนั้นจีบไมติดใหไดถูกไหม”
โจวเสี่ยวซีถึงกับกลอกตาใส “ขาเปนพวกตื้นเขินเชนนั้นหรืออยางไร”
ไมรอใหหลี่เหวยไดพูด เขาก็ขยับปากตอบหนาตาจริงจัง “ใช”
หลี่เหวยระเบิดหัวเราะกาก
โจวเสี่ยวซีอ ยูๆ ก็ถ ามขึ้น “หากเจ าได ย อนกลั บไปในตอนที ่ใช ชี วิ ตในสนาม
เหนี่ยวนำ เจาอยากที่จะทำอะไรที่สุด”
“นอน!” หลี่เหวยตอบขึ้นอยางไมลังเล
“นอนเรอะ” โจวเสี่ยวซีรูสึกคาดไมถึงอยูบาง
“ถูกแลว!” หลี่เหวยน้ำเสียงนักแนน เขาเรียนแบบน้ำเสียงของโจวเสี่ยวซีเมื่อครู
“ขาจะพูดกับตนเองวา หลี่เหวยเอย ภายหลังอีกสิบหาปเจาจะไมไดนอนนะ รีบหา
โอกาสนอนใหมากขึ้นอีกหนอย ผานตอนนี้ไปจะไมมีโอกาสอีกแลว!”
โจวเสี่ยวซีหัวเราะขึ้นดังลั่น เขาถามดวยความแปลกใจ “พวกเจามีภารกิจในชวง
กลางคืนคอนขางมากอยางนั้นหรือ”
“ใชแลว” หลี่เหวยทำหนาชวยไมได “พอลองนึกดูแลวขานี่ชางซวยเสียจริง ตอน
ที่ข า เพิ่งจะจบการศึก ษาจากสนามเหนี ่ ย วนำแล ว ไปถึ งชายแดน อสู รแดนร า งก็
เคลื่อนไหวกันบอยขึ้นทุกวันทุกวัน สองปแรกก็ยังดี ไมกี่ปมานี้รุนแรงถึงขั้นเกือบจะ
โผลมาวุนวายทุกคืน”
สีหนาของโจวเสี่ยวซีเปลี่ยนเปนเครงขรึมขึ้นมา ไมกี่ปมานี้ ชายแดนทุกที่ลวนตึง
เครียดกวาแตกอนมากนัก การเคลื่อนไหวของอสูรแดนรางก็เปลี่ยนอยางผิดปกติ
สรางความโกลาหลอยางมาก พวกเขาอยูที่ชายแดนเปนเวลานาน ความรูสึกที่มีตอ
เรื่องนี้ลึกซึ้งนัก
แตพอไดมาอยูสวนหลังนี้ ก็ไมรูสึกถึงความตึงเครียดแมแตนอย ความตึงเครียดที่
ชายแดนไมไดสงผลกระทบมาถึงการใชชีวิตสำมะเลเทเมาในสวนหลังเลย
หลี่เหวยสัมผัสไดถึงบรรยากาศที่เครงเครียด จึงหัวเราะพลางกลาว “พวกเราจะ
มาใสใจอะไร เบื้องบนยังมีบุคคลยิ่งใหญอีกมาก พวกเรามาเสวยสุขกับชวงเวลาหนึ่งป
ที่แสนวิเศษนี้เถิด เอาเวลานอนที่ขาดไปมาชดเชยใหหมด!” “ก็ใช ไมไดเกี่ยวอะไรกับ
พวกเรานี่!” โจวเสี่ยวซีใบหนาเต็มไปดวยรอยยิ้มชั่วราย “ขาจะตั้งใจฝกพวกออนหัด
พวกนี้! นึกถึงตอนที่ขามายังสนามเหนี่ยวนำก็ถูกผูอาวุโสของกลุมผูมีพรสวรรคทรมาน
เสียจนขาในตอนนี้กระเหียนกระหือรืออยากจะทำแบบเดียวกัน”
นึกถึงตนเองในตอนนั้นแสนจะอเนจอนาถ หลี่เหวยจึงพยักหนาเห็นดวย “ในสวน
นี้ พวกเราก็จะไมยอมแพเหลาผูอาวุโสที่เราเจอในตอนนั้น! ดูสิ เจาหนูที่เดินเขามา
หนาตาดูทาวาจะปวยแลว แบบนี้จะไหวไดอยางไร อนาคตของอูสิงเทียนลวนอยูบน
ตัวพวกเขา หัวไหลที่ออนแอเชนนี้ จะแบกรับอนาคตของอูสิงเทียนไดอยางไรกัน”
“เจาไดพูดตรงกับความในใจของขา!” โจวเสี่ยวซีเห็นดวยอยางมาก รอยยิ้มบนใบหนา
ของเขายิ่งดูชั่วราย สายตาที่มองไปยังนักเรียนที่ออนแอผูนั้น ราวกับเปนสายตาของ
หมาปาสีเทาตัวใหญที่มองไปยังกระตายนอยตัวหอมเนื้อแนนที่ขนสีขาวราวหิมะ
ตวนมูหวงฮุนสีหนาย่ำแยอยางมาก รางกายของเขาไมปกติเหลือหลาย ทั้งเวียน
หัวตาลาย มือไมออนแรง ทั่วรางเหน็บหนาว หากไมใชเพราะเปนการนัดรวมตัวครั้ง
แรกของกลุมผูมีพรสวรรค เขาก็คงไมมาแลว
เขาเฝาอยูที่ดานบนของประตูเมืองถึงสามวันสามคืน ไมไดสนความหนาวเย็นใน
ยามวิกาล เจึงเจ็บไขไดปวยจากอากาศหนาวเชนนี้
เจาสวะนั่นสมควรตาย!
พอนึกถึงเจาสวะนั่น เพลิงโกรธของตวนมูหวงฮุนก็ลุกไหมขึ้นมา ทำใหเขาทนไม
ไหวจนไอขึ้นอยางรุนแรง รอกอนเถิด จะตองมีสักวันหนึ่งที่เจาจะตกอยูในกำมือของ
ขา ขาตวนมูหวงฮุนจะไมมีทางปลอยเจาไปแน!
“ตวนมู เจาไมสบายหรือ ไมเปนอะไรมากใชไหม”
คำถามที่แสดงความเปนหวงไดหยุดความคิดของตวนมูหวงฮุนลง เขาเงยหนาที่
ซีดขาวขึ้น ชายที่อยูตรงหนานั้นเขาไมรูจัก แตวาเข็มกลัดที่หนาอกไดบอกสถานะของ
อีกฝายใหแกเขา เขาจึงรีบตอบกลับ “ขอบคุณผูอาวุโสที่เปนหวง เพียงแคโดนลม
หนาวนิดหนอย ไมไดเปนอะไรมาก”
“ขาคิดดูแลวก็ใช” โจวเสี่ยวซีแยมยิ้มขึ้น เผยใหเห็นฟนเขี้ยว “ตวนมูนั้นมีชื่อเปน
หนึ่งในผูมีพรสวรรคที่โดดเดนทีสุดในปนี้ จะมาลมลงเพราะแคโดนลมหนาวไดอยางไร
มา มา มา ลองดูแผนการฝกที่ขาจัดเตรียมไวใหเจาเสียกอน! ในฐานะผูมีพรสวรรค
แผนการฝกแนนอนวาก็ตองเปนแผนการฝกของผูมีพรสวรรค ในเมื่อไมเปนอะไรมาก
เชนนั้นพวกเราก็เริ่มกันเลยเถิด หากชักชาละก็ พวกเราจะฝกไมทันการฝกชวงค่ำ”
ตวนมูหวงฮุนมองไปยังผูอาวุโสดวยสายตามึนงง เขาคิดวาหูของตนนาจะฟงผิดไป
ฝกชวงค่ำหรือ ใหนักเรียนที่เปนหวัดไปฝกชวงค่ำนี่นะ
ใบหนาที่ซีดขาวแตรูปงามเปยมเสนหนั้นมึนงง จมูกเปนสันโดงดูหลอเหลา มี
น้ำมูกไหลลงมาอยางชา ๆ
ในขณะที่ตวนมูหวงฮุนเช็ดน้ำมูกตัวสั่นอยูทามกลงอากาศหนาวเหน็บ ทวาภายใน
โรงฝกศาสตราวุธ อางอาบน้ำที่รอนกำลังดี อายฮุยอยูในสภาพที่พึงพอใจอยางที่สุด
ความเหน็ดเหนื่อยทั้งหลายถูกลางไปจนสิ้น
ชางสบายจริงเชียว!
โรงฝกลวนสรางขึ้นเพื่อรองรับการฝกฝน โดยทั่วไปจะมีการเตรียมอางอาบน้ำไว
โดยเฉพาะ เพื่อที่จะไดใชผอนคลายความเหนื่อยลา เมื่อกอนตอนที่อยูที่โรงฝกดาบ
เขาก็ไดใชแผนเหล็กสรางอางขึ้นมาใบหนึ่ง เวลาสามปในแดนราง อยาวาแตจะแชน้ำ
รอนเลย แคจะอาบน้ำเย็นสักครั้งยังเปนเรื่องที่แสนจะหรูหราเลยดวยซ้ำ
เมื่อฟาสวางแลว เขาจึงจะออกขางนอกอีกครั้ง
หยุดพักผอนไปหนึ่งวัน ทำใหความตึงเครียดของเขาผอนคลายลงไปมาก โหลว
หลานแนะนำใหเขาดื่มพวกน้ำแกงพลังธาตุบำรุงกระดูก ที่สามารถซอมแซมบาดแผล
ภายในของกระดูกและกลามเนื้อ โหลวหลานอาสาจะเปนคนตุนน้ำแกงใหเขา อายฮุย
จึงลองถามดูราคา อยางนอยที่สุดตองใชเงินถึงสี่หมื่นหยวน
ดวยความเสียดายของอายฮุย หลังจากที่ถามโหลวหลานแลว ก็ตัดสินใจวาจะดื่ม
หลังจากที่กลับมาในสัปดาหหนา
ชางแพงเสียจริง!
เมื่อวานเขาไปรานตีเหล็กในเมืองเพื่อสั่งทำของบางอยาง เงินที่จายไปก็ไมนอย
กอนหนานี้ที่ซื้อโซเหล็กไดใชเงินไปมากอยู หากไมใชเพราะคนเอาเงินมาจากชายมือ
สมัครเลนตัวบวมคนนั้นมาไดสองหมื่นหยวน แมแตเงินสี่หมื่นหยวนเขาก็จายไมไหว
ทองฟาคอยๆ สวางขึ้น อายฮุยก็ลุกขึ้นจากอางน้ำ ดวยกำลังที่เต็มเปยม เขารูสึก
วาในรางกายตนเต็มไปดวยพลังอันไรขีดจำกัด
เขาเก็บกวาดโรงฝกเสร็จ พกเอาน้ำและอาหารแหง ปดประตูจนเรียบรอย จึง
ออกเดินทางไปยังรานตีเหล็ก เพื่อไปรับของที่ตนสั่งทำ
ตวนมูหวงฮุนกระชับเสื้อในขณะที่ตัวสั่น พรอมกับไอไปดวย สองขาของเขาออนแรง
เดินโซเซเขามาในตัวเมือง เมื่อคืนที่เปนดั่งฝนราย เขาไมรูวาตนเองนั้นผานมาได
อยางไร เมื่อคืนถูกลมหนาวที่ทุงนอกเมืองพัดใสตลอดทั้งคืน อาการหวัดยิ่งทรุดหนัก
เขาไปอีก ในเวลานี้เขาทั้งหนาวทั้งหิวทั้งเหนื่อย
สายตาเขาพลาเบลอ ลมหายใจแผวๆ ราวกับเปนซากศพที่เดินได
สติสัมปชัญญะสุดทายบอกกับตัวเขาวา ที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือการไปหาหมอ
สายตาของเขากวาดมองไปยังรานตีเหล็กแหงหนึ่งบนถนนอยางไมไดตั้งใจ พอดี
ไดเห็นคนคนหนึ่งกำลังแหวกมานที่ถักจากหญาเดินเขาไปในรานตีเหล็ก
ตามหาเขาไปทุกหนทุกแหง พอเลิกหากลับไดพบจนได เจานั่นอยูที่รานตีเหล็ก!
สายตาเพงมองไปในทันที เพลิงโกรธทั้งหลายถูกจุดใหระเบิดขึ้น อาการหวัดอะไร
หาหมออะไรทั้งหลายถูกทิ้งไวดานหลัง! ในที่สุดก็จับเจาไดแลวเจาสวะ! เขาไมรูวาไป
เอาแรงมาจากที่ไหน รีบกาวขายาวๆ พุงตัวไปยังรานตีเหล็ก
เขาพุงเขาไปที่ประตูราน เมื่อแหวกมานที่ทำจากหญาจึงมองเห็นแผนหลั งของ
อายฮุย ในหัวของตวนมูหวงฮุนก็มีเพียงแคความคิดเดียว ดูซิวาเจาจะหนีไปไหนพน!
ดว ยความโกรธอันไรที่สิ้นสุด เขาได ตวั ดมื อออกไปอยากรุ นแรงเพื ่อ จับไปที่
หัวไหลของอีกฝาย!
บทที่ 21 เปาหมายคือหัวใจ
“เถาแก ของที่สั่งไวทำเสร็จหรือยัง”
“ทำเสร็จเรียบรอยแลว เวลาคอนขางกระชั้นชิด หนาตาไมคอยสวยนัก แตวา
คุณภาพขอใหวางใจไดวาไมมีทางมีปญหาแนนอน ลองตรวจสอบดูสิ”
อายฮุยยื่นมือไปรับมา หลังจากทำการตรวจสอบอยางละเอียดก็รูสึกพอใจเปน
อยางมาก ฝมือของเถาแกไมเลวเลย ถึงแมสภาพภายนอกจะดูหยาบ แตวาทำออกมา
ได แ ข็ ง แรงทนทานมากที เ ดี ย ว ขอเพี ย งแค แ ข็ ง แรงทนทานก็พ อ สำหรั บ สภาพ
ภายนอกนั้น แตไหนแตไรมาเขาไมเคยสนใจอยูแลว
เมื่อเก็บของเสร็จเรียบรอย ก็เตรียมพรอมจะกลับออกไป
เขาสัมผัสไดวามีคนกำลังเขามาใกล จึงระวังตัวขึ้นในทันที ในตอนที่เขาสัมผัสไดวา
ฝเทาของอีกฝายออนเปลี้ยไรแรง ในใจจึงผอนคลายลง ที่นี่ไมใชแดนราง เขาเตือน
ตัวเองขึ้นมาในใจ
อายฮุยเพิ่งจะเตือนตนเองเสร็จ ก็มีอะไรบางอยางมาสัมผัสกับหัวไหลของตน ฝา
มือ! ขนทั่วรางของเขาลุกชัน ที่เพิ่งจะเตือนตนเองไปเมื่อครูแมแตตัวอักษรเดียวเขาก็
จำไมได รางกายของเขาตอบสนองดวยสัญชาตญาณพื้นฐานที่สุดในชั่วพริบตา
เขาไมไดหลบหลีก แตกลับงอหลังยอหนาอกลง สองขาออกแรงยันที่พื้น ทั่วราง
ราวกับเปนลูกปนใหญที่ยิงจากปากกระบอก พุงชนไปที่ดานหลัง
เขาที่อยูในอาการตึงเครียด ในพริบตาที่แผนหลังสัมผัสโดน มัจฉาสะบัดกายที่เขา
ฝกมาทั้งสัปดาห ก็ถูกใชโดยที่ไมไดผานการคิดพิจารณาใดๆ
เขาโคงแผนหลัง ยิงออกไปอยางแรง ราวกับเปนปลาดุรายตัวใหญที่ดีดตัวขึ้นสูผิว
น้ำ เหมือนปลาที่สะบัดตัวอยางแรงในทันที!
ราวกับน้ำทวมใหญที่ซัดทลายเขื่อน พลังที่รุนแรงและโหมกระหน่ำ ระเบิดใสในทันใด
“ฟุบ!”
ราวกับเปนความพายแพ
อายฮุยสัมผัสไดเปนสิ่งแรกคือ ทามัจฉาสะบัดกายที่ใชเมื่อครูโจมตีโดนอีก ฝาย
เต็มๆ เพราะวาเขาไดกระแทกอีกฝายลอยไปแลว แตกลับไมไดรูสึกเปลืองแรงอะไร
เลย เหมือนกับ...เหมือนกับวาสิ่งที่กระแทกจนลอยไปนั้นเปนเพียงกระสอบทราย
เบาๆ ใบหนึ่ง
เขารูสึกคอนขางแปลกอยูบาง อีกฝายไมไดสงเสียงใดๆ ออกมาเลย ศัตรูที่ถูก
โจมตีสวนกลับเชนนี้หรือถูกโจมตีใสตามปกติแลว มักจะตองสงเสียงรองโหยหวน
ออกมา ตัวอยางเชนไมปลายแหลมของเมื่อวันนั้น
“ตุบ!”
ดานหลังมีเสียงของหนักๆ รวงสูพื้น
โดนโจมตีทีเดียวก็จอดแลวเชนนี้ อายฮุยรูสึกสงสัยขึ้นมาตงิดๆ แตเขาก็เพิ่งรูตัว
วาเมื่อครูตนไดทำอะไรลงไป ในใจก็รูสึกไดถึงลางรายขึ้นมา พอเขาหันไปดู ก็เห็นคน
นอนอยูบนพื้นไมขยับแมสักนิด
หัวใจของอายฮุยก็เตนอยางรวดเร็ว รูสึกหงุดหงิดอยูบาง เมื่อครูยังเตือนตัวเอง
อยูเลยวาที่นี่ไมใชแดนราง ทำไมพอหัวรอนขึ้นมาก็เผลอลงมือตลอดเลยนะ
เจานี่ก็ออนแอเกินไปหนอยแลว แคมัจฉาสะบัดกายทาเดียวก็ลงไปนอนกองเสียแลว
อายฮุยที่รูสึกไมสบายใจ ก็รีบวิ่งเขาไปหา “เฮ เฮ เฮ เจายังไหวไหม ไมเปนอะไรนะ”
ในตอนที่เขาจับอีกฝายพลิกตัวขึ้นมา มองเห็นรูปรางของอีกฝายชัดเจน อายฮุยก็
นิ่งไปเลย เฮย นี่ใชคนที่ชื่อตวน...ปงหวาน* อะไรสักอยางหรือเปลา เขาจำไดในตอน
นั้นเขายังรูสึกแปลกใจ ไมนึกวาจะมีคนที่ใชชื่อประหลาดเชนนี้อยู หรือวาตนจะจำผิด
ปงหวานอะไรตวน หรือวาจะเปนตวนหวาน**
“เพื่อนปงหวาน เพื่อนปงหวาน เจายังไหวอยูไหม”
หรือโดนเขากระแทกจนหมดสติไปแลว
ในใจอายฮุยเกิดความรูสึกผิด เขากระแทกเพื่อนนักเรียนคนนี้จนหมดสติไป เรื่อง
นี้ตนนั้นตอบสนองรุนแรงเกินไปแลว ถึงแมเจานี่จะยิ่งยโสหาเรื่อง โดยเฉพาะอยางยิ่ง
เหมือนจะไมไดเปนมิตรอะไรกับตนนัก แตวาอายฮุยรูสึกวาอีกฝายยังไมถึงขั้น ลอบ
โจมตีตน พอลองคิดดูเขาถึงกับกระแทกเพื่อนนักเรียนของตนจนหมดสติไปแบบนี้...
ทำรุนแรงเกินไปแลว...ทำรุนแรงเกินไปแลว...
อายฮุยทบทวนตัวเองไปพลาง ยกตวนหวานที่หมดสติขึ้นมาไปพลาง เขาแบกอีก
ฝายพาดบา แลวก็หยิบอาวุธที่สั่งทำเสร็จขึ้นมา เดินทางกลับไปยังโรงฝก
เมื่อเขามาในโรงฝก อายฮุยก็ไปยังขางบานแลวตะโกนเรียก
“โหลวหลาน! โหลวหลาน!”
ไมนาน ก็มีกองทรายกองหนึ่งโผลขึ้นมาจากพื้นดิน เปลี่ยนแปลงรูปรางกลายเปน
คน โหลวหลานทาทางคอนขางจะแปลกใจ “อายฮุย เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
“ขาทำรายเพื่อนโดยไมไดตั้งใจ” อายฮุยไมไดปดบังอะไร บอกไปตามตรง เพียง
แคตอนที่พูดใบหนานั้นแดงดวยความอาย หากเปนที่แดนราง การทำรายเพื่อนรวม
กลุมโดยไมตั้งใจจะถูกทุกคนขับไล อายฮุยไมนึกเลย วาความผิดพลาดชั้นต่ำแบบนี้จะ
มาเกิดขึ้นกับตน
หืม ไมถูกสิ เขาไมใชเพื่อนรวมกลุมของตนนะ
คิดเชนนี้แลวอายฮุยก็สบายใจขึ้นมาในทันที
อายฮุยรีบกลาว “โหลวหลาน เจาสามารถรักษาไดนี่ ชวยขาดูหนอยวาเขาเปน
อยางไรบาง”
“ไมมีปญหา” โหลวหลานตอบรับอยางรวดเร็ว นัยนตาของเขาเปลงประกาย
เรืองแสงสีเหลืองขึ้นมา เพงมองไปที่ตวนมูหวงฮุนที่ไมไดสติ
นี่เปนครั้งที่สองที่อายฮุยไดเห็นนัยนตาของโหลวหลานเปลงแสงสีเหลืองขึ้นมา
ครั้งนี้เขาเห็นในมุมมองของผูสังเกตการณ จึงไมไดมีความรูสึกกดดันบีบคั้นเหมือนครั้ง
กอน แตเขาก็ยังรูสึกวามันชางนาเหลือเชื่อยิ่งนัก เขาเห็นผูที่สามารถรักษาไดมามาก
พื้นฐานแลวลวนเปนผูใชพลังธาตุไม ซึ่งเปนผูที่ควบคุมพลังชีวิตและการบำรุงฟนฟู มี
ความเขาใจเกี่ยวกับการชวยชีวิตรักษาบาดแผลสูง จึงไดเปรียบตามธรรมชาติ
ตุกตาทรายที่สามารถทำการรักษาได เห็นไดนอยมาก
ตุกตาทรายใชไดเพียงพลังธาตุดิน แตกระนั้นพลังธาตุดินนี้ก็ยังมีพลังในการรักษา
อายฮุยรูสึกวาตนมีความรูเพียงหางอึ่ง
“เขาถูกการโจมตีจากภายนอกจนหมดสติไป เขาโดนลมหนาวพัดจนเปนหวัด
สภาพรางกายจึงคอนขางจะออนแอ ถือวาย่ำแยอยูมาก” โหลวหลานสรุปผลออกมา
อยางรวดเร็ว
อายฮุยหลังจากฟงจบยิ่งรูสึกผิด ถึงแมวาปงหวานจะไมใชเพื่อนรวมกลุมของตน
แตเขาก็ไมควรโจมตีเพื่อนที่ปวยอยูจนหมดสติ เรียกไดวาไมสมควรอยางยิ่งจริงๆ
เขารีบถามตอ “เชนนั้นตอนนี้ควรจะทำเชนไร” “วิธีที่งายก็คือใหเขาพักฟน”
โหลวหลานตอบ “รางกายของเขาพื้นฐานไมเลว ขอเพียงพักผอนสักสองสามวัน ไม
นานก็จะหายกลับมาเปนเหมือนเดิม”
“เชนนั้นก็ดี” อายฮุยคอยโลงอก แลวจึงตอบสนองขึ้นมาในทันที “เวลาสองสามวัน
ไมมีวิธีที่เร็วกวานี้แลวหรือ”
อายฮุยใหความสำคัญกับเวลามาก ไดยินวาใชเวลาสองสามวัน คิ้วก็ขมวดมุน
ขึ้นมาในทันที เวลาสองสามวัน เชนนั้นจะเสียเวลาฝกไปมากเหมือนกัน
“มี” โหลวหลานพยักหนา “แตวาคอนขางเปลืองแรงอยูบาง”
อายฮุยรีบตอบ “เปลืองแรงไมเปนไร โหลวหลานเจาวามา”
“เขาไดเปดตำหนักที่แขนขาทั้งสี่แลว โดยทั่วไปจะไมเจ็บปวย แตวานาจะเปน
เพราะมีเรื่องกลัดกลุม มีเพลิงลุกไหม ในใจ สะกดสี่ตำหนักไว จึงทำใหสิ่งชั่ว ร า ย
ภายนอกเขามาได จากตรงนี้ทำใหติดหวัดจากลมหนาว แตทวาภูมิตานทานในรางกาย
ของเขาคอนขางสูง ขอเพียงใหสี่ตำหนักที่ถูกสะกดกลับมาขับเคลื่อนไดเหมือนเดิม
ขจัดเพลิงในใจ ก็จะสามารถหายไดดวยตัวเอง”
อายฮุยถูกโหลวหลานพูดจอใสไมหยุดจนมึนงง ผานไปสักพัก จึงจะตอบสนอง
กลับมาได “จะตองทำอยางไร”
“ใชพลังธาตุใสผิวหนังของเขา เริ่มตนจากแขนขาสี่ตำหนัก ไปจนถึงหัวใจ เพื่อ
ขจัดเพลิงในใจ”
“ได” อายฮุยตอบอยางชัดเจน ไมยืดยาดแมแตนอย เขาถอดเสื้อผาของตวนมูหวงฮุน
ที่หมดสติออกอยางชำนาญ การชวยคนก็เหมือนดับไฟ ในสนามรบไมมีการมาพิถีพิถนั
เร็วไดเทาไรยิ่งดี
กวาดมองผานผิวกายที่ขาวผุดผอ ง อายฮุยก็ถือโอกาสแสดงความคิดเห็ นสั ก
หนอย เรียกไดวาขาวเนียนยิ่งกวาผิวของหมูที่เพิ่งถูกเชือดแลวถอนขนลวกดวยน้ำรอน
เสียอีก
“ปาบ ปาบ ปาบ!”
มือขวาซายทั้งสองของอาฮุยเริ่มตีลงไปอยางตอเนื่อง ยังดีที่ชวงนี้พลังธาตุของเขา
กาวหนาเปนอยางมาก ไมเชนนั้นคงไมอาจยืนหยัดทำตอไปได
เมื่อคิดไดวาตนสามารถประหยัดเงินคายารักษาไปได อายฮุยก็รูสึกหายเหนื่อย
ในทันที
ขาตี! ขาจะตี! ขาจะตีตีตี!
การตีครั้งสุดทายแลว!
เปาหมายคือหัวใจ!
ฝามือทั้งสองขางของอาฮุยนำพลังธาตุเฮือกสุดทาย ปาบ! ฟาดเขาไปยังตำแหนง
หัวใจของตวนมูหวงฮุนอยางแมนยำ
ฮา ทำสำเร็จแลว!
ดีที่อายฮุยมีแรงมากกวาคนอื่น ในตอนนี้เขาเหนื่อยเสียแทบแย แขนทั้งสองขาง
ยันรางกายเอาไวพลางหายใจหอบ
ร า งกายของตวนมู ห วงฮุ น สั ่ น ไหวขึ ้ น เขาค อ ยๆ เป ด เปลื อ กตาออกอย า ง
สะลึมสะลือ
นัยนตาสองคูสอดประสานกัน บรรยากาศรอบดานนิ่งคาง
*ปงหวาน (傍晚)มีความหมายเดียวกับ หวงฮุน (黄昏)ซึ่งแปลวาชวงพลบ
ค่ำ ดังนั้นอายฮุยจึงจำสลับกัน
**ตวนหวาน (端碗)ซึ่งแปลวายกชาม อายฮุยจำไมไดจึงคิดวาตวนหวานเปน
ชื่อแชของตวนมูหวงฮุน [แซตวนมู端木 ชื่อหวงฮุน黄昏]
บทที่ 22 เสียงคำรามของตวนมูหวงฮุน
ไมอาจบรรยายชวงวินาทีที่ตวนมูหวงฮุนเบิกตาขึ้นได ที่จริงแลวในตอนนั้นสมอง
ของเขาวางเปลาขาวโพลน
ทั่วรางกายสั่นเทิ้มเพราะความเย็นยะเยือก มีผูชายผูหนึ่งกำลังเอาแขนทั้งสองขาง
ยันหนาอกตนไว แถมยังหายใจเหนื่อยหอบ เขามองเห็นหนาตาของอีกฝายได ไม
ชัดเจน ภายในหัวมีแตความมึนงง ความคิดหัววางเปลาราวกับขมับถูกตอยหนักๆ ไป
หนึ่งหมัด
อายฮุยสังเกตเห็นตวนมูหวงฮุนลืมตาขึ้นแลว แตทวา...นัยนตากลับดูไรวิญญาณ
อายฮุยรูสึกรอนรนขึ้นมาในทันที เขาไดเห็นความเปนความตายมามาก ในตอนที่
เพิ่งเขาแดนราง แรงงานมีจำนวนทั้งสิ้นสองพันคน แตที่เหลือรอดออกมาไดมีเพียงแค
สองคน คนอื่นๆ ตางฝงรางอยูภายใตดินโคลนของแผนดินแดนรางไปตลอดกาล อาย
ฮุยไดเห็นพวกเขาจมลงทามกลางกองโลหิตกับตา ไดเห็นนัยนตาของพวกเขาคอยๆ ไร
วิญญาณ จนกระทั้งสูญเสียพลังชีวิตทั้งหมดไป
“โหลวหลาน เขาเปนอะไรไป”
อายฮุยถามพลางใชมือตีที่ใบหนาของตวนมูหวงฮุน “เฮย นาย ไมเปนอะไรนะ
รีบตื่นเร็วเขา! อยาหลับสิ!”
โหลวหลานเองก็เหมือนจะสับสนกับสถานการณตรงหนา แตก็ยังคงตอบอยาง
ตรงไปตรงมา “เขาไมไดมีปญหาอะไร”
“เพียะ เพียะ เพียะ!”
อายฮุยออกแรงใชฝามือตบไปที่ใบหนาของตวนมูหวงฮุน
นัยนตาที่ไรวิญญาณของตวนมูหวงฮุนคอยๆ ฟนกลับมา การมองภาพก็คอยๆ
กลับมาเปนปกติ ใบหนาที่แตเดิมพราเลือนก็เปลี่ยนเปนชัดเจน ในตอนที่เขามองเห็น
ใบหนานี้ชัดเจน ดวงตาก็เบิกกวางจนกลมโต
เจานี่ไมใชเจาสวะสมควรตายผูนั้นหรอกหรือ
เจาคนที่มีพรสวรรคแยมากๆ แถมยังไมเขาเรียน ไมฝกวิชา ตัวถวงแขงถวงขาของ
คนในหอง เจาคนที่เปนดั่งกอนโคลนที่เอามากอกำแพงไมได
นี่คือเจาคนที่ทำใหเขาเสียเวลาไปอยางเปลาประโยชน ทำชื่อเสียงพรสวรรคของ
เขาตองดางพรอย ตัวการสำคัญที่ทำใหเขาตองเปนหวัดจากการตากลมหนาว
เพลิงโกรธที่ปะทุขึ้นกลางอก ตอนนี้ไมวาเรื่องเลวรายอะไรเขาก็กลาทำ
ตวนมูหวงฮุนลุกขึ้นนั่งอยางรวดเร็ว จะตองจับเจาตัวนารังเกียจนี่มาสับใหเปน
หมื่นๆ ชิ้น ทันใดนั้นการเคลื่อนไหวของเขาก็หยุดลง
ความเย็นยะเยือกนี้...
ทั่วทั้งรางลวนเย็นยะเยือก...
ทาทางของเขาหยุดนิ่ง การเคลื่อนไหวหยุดนิ่ง ผานไปสักครู เขาก็กมหนาลงอยาง
ประหลาดใจ
รางกายทั้งหมด เหลือเพียงแคกางเกงชั้นในตัวเดียว บนขา บนแขนทั่วตัวลวน
เต็มไปดวยรอยผามือเปนปนแดง เทียบกับผิวหนังสวนอื่นที่ขาวผุดผอง กลายเปนสีสัน
ที่แสนจะสดใส
โอ...ไม!
ดวงตาของเขาเบิกวางในชั่วพริบตาที่ความหวาดกลัวปรากฏขึ้นในสวนลึก เจา
สวะสมควรตายนี่ ทำอะไรลงไปกับตัวเขาบาง
สมองของตวนมูหวงฮุนกลับมาวางเปลาอีกครั้ง ใจลอยหยิบเสื้อผาที่อยูดานขาง
กาวเทาสะดุดลมลุกคุกคลานพุงออกจากโรงฝกไป
อายฮุยและโหลวหลานตางเอียงคอมองตามไปที่ประตูใหญ
“ดูทาจะหายดีแลว โหลวหลานชางรายกาจเสียจริง” น้ำเสียงของอายฮุยมีความ
ปติยินดีอยู ในที่สุดตนก็สามารถไปฝกฝนตอไดแลว
“ถึงแมวาเขาจะมีสภาพชวงหนึ่งที่โหลวหลานไมคอยเขาใจ แตเทาที่ดูคอื หายดีแลว”
ไดยินคำชมของอายฮุยโหลวหลานเองก็มีความปติยินดีไปดวย
“ขอบคุณเจานะโหลวหลาน ขาไปฝกตอแลว”
“อายฮุย แลวเจอกันใหม”
ตวนมูหวงฮุนเดินอยูบนถนน สายลมเหน็บหนาวเปลาเปลี่ยวพัดผานขั้วหัวใจ
ตอนนี้เขาเต็มไปดวยความสิ้นหวัง เขาไมกลาที่จะนึกยอนไปยังเหตุการณตอนนั้น ไม
กลาคิดวาในตอนที่ตนหมดสติไปไดเกิดอะไรขึ้นบาง
ชวงเวลาที่มืดมิดที่สุดในชีวิต ก็คือตอนนี้
ผานไปไดสักพักหนึ่ง ตวนมูหวงฮุนก็เปลี่ยนจากความหวาดกลัวกลับมาเยือกเย็น
สุขุมลงได เขาเพิ่งพบวาอาการหวัดของตนไดหายดีแลว อยางไรเสียเขาก็ถือกำเนิด
จากตระกูลใหญ บวกกับแตเดิมพรสวรรคของเขาก็แสนจะโดดเดน ตระกูลก็เลี้ยงดูมา
อยางดี ความรูที่มีแนนอนวาคนธรรมดาไมอาจจะเทียบได
หลังจากฟนคืนความสุขุม เขาก็คิดเชื่อมโยงรอยฝามือที่อยูตามตัวขึ้นมาได จึง
เขาใจวาเหตุใดอาการปวยเปนหวัดของตนถึงไดหายดี
เขาคอนขางจะตกใจอยูบาง เจาขยะนั่นเขาใจทักษะเชนนี้ไดอยางไร แมแตเขาที่
มีความรูกวางขวาง ยังตองคิดวกไปวนมาจึงจะสามารถเชื่อมโยงสองสิ่งนี้เขาดวยกันได
อีกฝายกลับใชวิธีนอกรีตนี้รักษาอาการหวัดของเขาจนหาย
ความรูมากมายที่เคยไดยินมันเปนอีกเรื่องหนึ่ง แตการที่สามารถนำมาใชไดจริงก็
เปนอีกเรื่องหนึ่ง
หรือบางทีเจานี่อาจจะไมไดแยอยางที่เขาคิด
หรือเปนถึงผูใชพลังธาตุทองที่เชี่ยวชาญการรักษา
ถึงแมวานี่จะนาประหลาดใจอยางมาก แตในประวัติศาสตรของอูสิงเทียนก็ใชวา
จะไมเคยมีมากอน บางทีตนอาจจะประเมินเขาต่ำไป อยางนอยดูจากรากฐานที่แสน
แยของเจานั่น ไมมีทางที่จะไดเขามาในสนามเหนี่ยวนำ หากวาเขามีความสามารถอื่น
สนามเหนี่ยวนำยังพอจะใหโอกาส
เมื่อทำใจใหสงบลงและไดรูวาอีกฝายทำการรักษาใหตน ตวนมูหวงฮุนก็ไมไดใสใจ
กับเหตุการณที่ไดเกิดขึ้นเมื่อครู แตทวาพอเขานึกถึงเรื่องที่ตนถูกเจาคนแสนออนแอ
กระแทกจนหมดสติ ใบหนาของตวนมูหวงฮุนก็ดำมืดลง
ตอใหในตอนนั้นเขาจะมีขออาง อาทิวากำลังปวยอยู รางกายไมมีเรี่ยวแรง อีก
ฝายจูโจมใสอยางกะทันหันเปนตน แตลวนไมเพียงพอที่จะทำใหเขายอมรับเรื่องที่ตน
ถูกสวะคนหนึ่งกระแทกใสจนหมดสติได
เปนการหยามกันเกินไปแลว!
โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงคำขอของอาจารยที่มีตอเขา ใบหนาของเขาก็เปลี่ยนเปนสีแดงก่ำ
อาจารยใหตนไปชี้แนะเจาสวะ สุดทายกลับถูกเจาสวะนี่กระแทกใสจนหมดสติ
ใชแลว เขามีเหตุผลอยูมากมาย
เขานั้นประมาทเกินไป ประเมินคูตอสูต่ำเกินไป ตนถูกความโกรธเกรี้ยวเขาบังตา
รางกายตนนั้นแยนักที่ถูกลมเพียงเล็กนอยก็เปนหวัด ความอดทนของตนต่ำเกิ น ไป
เพียงแคการฝกภาคค่ำก็ทำใหตนหมดสิ้นเรี่ยวแรง...
แตวาไมมีเหตุผลขอใดที่จะเพียงพอใหตวนมูหวงฮุนยอมรับได
เขาเปนผูถึงมีพรสวรรค
ผูมีพรสวรรคจะตองสามารถทำในสิ่งที่คนอื่นไมสามารถทำได! ตนจะมาเขมงวด
ตอตัวเองในระดับเดียวกับคนทั่วไปพวกนั้นไดอยางไร เชนนั้นคือความหละหลวม
เชนนั้นคือความเสื่อมโทรม ตวนมูหวงฮุน เจาชางนาขายหนานัก!
ในใจของตวนมูหวงฮุนไดดาตัวเองอยางไมมีชิ้นดี
ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นผูคนบนถนนที ่ ชี ้ ไม ชี ้ มื อมาที่ ตน ในนั ้ น มี ห ญิ งสาว
มากมาย เมื่อเขายางเทาผานไป หญิงสาวพวกนั้นตางปดปากหัวเราะกัน
นี่มันไมถูกตอง!
ในชีวิตของตวนมูหวงฮุน แตไหนแตไรไมเคยไดพบกับสถานการณเชนนี้ ไมวาเขา
จะไปที่ใด ไมวาจะเปนเมื่อไร หญิงสาวพวกนั้นลวนมองเขาสายตาลุมหลง เขาไมเคย
เห็นใบหนาของหญิงสาวในลักษณะนี้มากอน
หรือวาใบหนาของตนมีอะไรสกปรกติดอยู
เมื่อเดินผานรานขายอาวุธแหงหนึ่ง เขาก็หยุดลง และหยิบดาบที่ถูกขัดจนเงางาม
ขึ้น เอาตัวดาบใชแทนกระจก สองสะทอนใบหนาของตน
จากนั้นเขาก็นิ่งอึ้งไป ใบหนาที่ปูดบวมราวกับหมูนั่นเปนใครกัน
ในสมองของเขามีกระแสไฟฟาไหลผานขึ้น ฉากที่เลือนรางไปไดผุดขึ้นภายใน
สมองของตน เงารางที่เลือนรางรางหนึ่ง ปากราวกับกำลังตะโกนอะไรบางอยาง มือ
ซายขวาทั้งสองขางงอขึ้น กำลังออกแรงตบหนาของเขาฉะฉาดอยางตอเนื่อง
เพียะ เพียะ เพียะ...
เสียงที่ตบหูฉาดดังชัดเจน ใบหนาก็เหมือนแป งหมั ่นโถวที ่หมักแลวนำไปอบ
คอยๆ บวมขึ้นมา จากนั้น...
ใบหนานั้นที่อยูในสมองกับใบหนาที่ในตอนนี้กำลังสะทอนจากตัวดาบไดซอนทับกัน
มือที่จับดาบอยูสั่นเทิ้ม ริมฝปากของตวนมูหวงฮุนพึมพำขึ้นมา หลังจากนั้นก็เฉก
เชนภูเขาไฟปะทุ เสียงกัดฟนคำรามเกือบถลมรานขายอาวุธใหพังราบ
“อายฮุย ขาจะจับเจามาสับเปนหมื่นๆ ชิ้น!”
บทที่ 23 ชุดเกราะเปลือยหลัง
เสียงคำรามของตวนมูหวงฮุนถูกสายลมพัดจนกระจายหายไป อายฮุยไมไดยิน
เลยสักนิด สำหรับเขาแลวหากจะมีความทรงจำเรื่องเมื่อครูเหลืออยู ก็คงจะเปนเพียง
การที่เขาเตือนตนเองอีกครั้งวาที่นี่ไมใชแดนราง
ดานนอกเจดียเสวียนจิน อุปกรณที่สั่งทำไววางอยูบนพื้น อายฮุยหยิบขึ้นมาสวม
กับรางกายทีละชิ้นๆ นี่เปนชุดเกราะที่เขาสั่งทำ ทั้งหมดลวนสรางขึ้นมาจากเหล็กกลา
เนื่องจากเวลามีนอย รูปลักษณภายนอกจึงดูหยาบและเรียบงาย ไมมีลวดลายอะไร
เลย ตัวหมวกก็เหมือนกับถังใสน้ำกลับดาน มีเพียงบริเวณดวงตาทั้งสองขางที่เหลือ
ชองวางเอาไวสำหรับมอง สวนอื่นบนรางก็ยิ่งแลวใหญ ตรงบริเวณหนาอกเปนแค
เพียงแผนเหล็ก สวนอื่นๆ ก็มีสภาพดูไมไดเชนกัน แตในสวนขอตอกลับทำไดอยาง
ประณีต แสดงใหเห็นวาชางตีเหล็กมีฝมือไมเลวเลย
ชุดเกราะทั้งชุดนี้มีจุดที่ประหลาดที่สุดก็คือบริเวณสวนหลัง บริเวณแผนหลัง
ทั้งหมดไมมีเกราะเลยสักชิ้น สิ่งนี้คือชุดเกราะเปลือยหลังที่อายฮุยตั้งใจไวใชสำหรับ
การฝกที่เจดียเสวียนจินโดยเฉพาะ
หลังจากสวมใส เ รีย บร อ ย อา ยฮุ ย ก็ ลองขยั บ ดู น ิ ด หน อ ย รู สึ ก ว า ไม เลวเลย
เนื่องจากอายฮุยเนนย้ำกับชางตีเหล็กเรื่องความแข็งแรงทนทาน ตัวเกราะเหล็กจึงทำ
ขึ้นแบบหนาเปนพิเศษ ชุดเกราะเปลือยหลังทั้งชุดนี้มีน้ำหนักรวมอยูที่ประมาณสอง
รอยชั่ง ยังดีที่ในแดนรางอายฮุยทำหนาที่แบกสัมภาระหนักมาโดยตลอด แตวาการ
แบกชุดเกราะนี้มาจนถึงเจดียเสวียนจิน ก็ทำเอาเขาเหนื่อยแทบแยเหมือนกัน
โชคดีที่อายฮุยทำงานหนักมาเปนเวลานาน ถือไดวารางกายแข็งแรงมีพละกำลัง
แตวาการสวมชุดเกราะทั้งชุด ก็ยังมีผลกระทบตอการเคลื่อนไหวรางกายอยูดี
เมื่อผูกโซเสร็จแลว อายฮุยที่สวมเกราะทั้งชุด ก็เขาไปในเจดียเสวียนจินอีกครั้ง
“แกรง แกรง แกรง!”
อายฮุยที่สวมเกราะเหล็กบนรางไดชนเขากับผนัง เทียบกับเมื่อกอนถือวาดูเปน
ภาพอันสงา งามกวา กันมาก ทุก ครั ้ งที ่ ชนกั น ก็ จ ะเกิ ดประกายไฟขึ้ น รอบๆ เสี ย ง
กระแทกก็ดังกวาเมื่อกอนไมรูกี่เทา ในหัวลวนสะเทือนจนเกิดเสียงอื้ออึงไปหมด
ผานไปสักครู อายฮุยจึงคอยๆ ปรับตัวกับเสียงที่ดังสะเทือนจนหูอื้อได เริ่มที่จะ
ลิ้มรสขอดีของชุดเกราะเปลือยหลัง
พลังธาตุทองที่อยูในลมทองคำ ไมอาจแทรกผานชุดเกราะที่อายฮุยสวมใสได
ความเจ็บปวดราวถูกเข็มทิ่มแทงลวนไปรวมกันอยูที่บริเวณผานหลังทั้งสิ้น อายฮุยตั้ง
สติขึ้นมา ชุดเกราะเปลือยหลังนี้เขาเปลืองสมองคิดมาไมนอย เขายังไดแรงบันดาลใจ
มาจากโซเหล็กที่ไรริ้วรอย ลมทองคำไมอาจทำลายโซเหล็กได เชนนั้นมันก็ไมอาจจะ
ทำลายเกราะเหล็กไดเชนกัน
ความจริงขอนี้ไดพิสูจนความคิดของเขาวามันถูกตองแลว ไมมีอะไรจะใหกำลังใจ
อายฮุยไดมากกวาสิ่งนี้
เมื่อรูสึกไดถึงความเจ็บปวดที่บริเวณหลังไปถึงขีดจำกัดแลว อายฮุยก็รีบดึงโซนำ
ตัวเองออกมา อายฮุยที่ปนออกมาก็ขี้เกียจที่จะถอดชุดเกราะออก เขาทำเหมือนกับ
ทุกที ฝกใชมัจฉาสะบัดกายกับผนังดานนอก
“ปง!”
ในครั้งนี้อายฮุยรูสึกไมเหมือนเดิม บริเวณแผนหลังของเขาราวกับจะหลุดเปน
ชิ้นๆ เขาตองพักถึงหานาทีเต็มอาการถึงจะดีขึ้น ใบหนาเผยรอยยิ้มอันขมขื่น การ
กระจายตัวของพลังธาตุทองเข็มเงินใหผลลัพธดีเยี่ยม เทียบกันแลวดียิ่งกวาเมื่อกอน
เสียอีก แตทวาเนื่องจากเพิ่มน้ำหนักของชุดเกราะเปลือยหลังเขาไปดวย แรงที่ไดจาก
มัจฉาสะบัดกาย ถือไดวามากกวาเมื่อกอนมากนัก สงผลใหกลามเนื้อบริเวณแผนหลัง
ไดรับบาดเจ็บเพียงเล็กนอย
พลังที่ไดจากมัจฉาสะบัดกายถึงแมจะมาก แตก็มาจากชุดเกราะเปลือยหลัง หาก
พูดจากมุมมองความสำเร็จ กลับถือวาลดถอยไมนอย เนื่องจากชุดเกราะทีน้ำหนัก
มาก ทำใหอายฮุยออกแรงไดผิดพลาด พละกำลังอาจแข็งแกรงเพียงพอ แตกลับ
กระจายตัวออกไป เกิดการรวมจุดไมเพียงพอ อายฮุยรูสึกวาอาการดีขึ้น ก็พิจารณา
อยูสักพัก ตั้งทาขึ้นใหม และเริ่มใชมัจฉาสะบัดกายอีกครั้ง
“ปง!”
ครั้งนี้อายฮุยถูกดีดกระเด็นลอยออกไป กระแทกพื้นเสียงดัง ทำเอาฝุนผงขจร
กระจายไปทั่วบริเวณ
ฝุนผงกระจายออก อายฮุยก็ดิ้นรนลุกขึ้นมา บวนดินที่อยูในปากทิ้ง ตัดสินใจ
อยางเด็ดขาดแลวจึงสาวเทายาวๆ มุงไปยังเจดียเสวียนจิน
“ปง ปง ปง!”
กระปองเหล็กใบหนึ่งพุงชนเจดียเหล็กอยางไมรูจักเหน็ดเหนื่อย
ยามราตรีมาเยือน พรอมกับดวงดาวที่ลอยขึ้นถึงยอดเจดีย สายลมยามค่ำระรวย
พัดหยาดเหงื่ออันเปลงประกายราวกับดวงดาว มิชามินานเสนขอบฟาก็เริ่มแตงแตม
ดวยสีพยับหมอก กอนเมฆคอยๆ ยอมปุยเปนสีสมเหลือง พระอาทิตยยามฟาสางเริ่ม
ทอแสงแรกของวันใหม สองผานชายคาเจดีย ลงมายังศีรษะของเจากระปองเหล็กที่
นอนหลับพิงผนังอยู หยาดน้ำคางที่กอตัวบนชุดเกราะเปลงประกายระยับตา มินาน
ดวงอาทิตยรอนแรงก็ลอยสูงเหนือทองฟา เหงื่อที่อยูใตชุดเกราะเหล็กถูกแดดแผดเผา
จนแหงระเหย
เวลาผานไปวันแลววันเลา การฝกในระดับสูงที่ตอเนื่องและจืดชืด สำหรับมนุษย
แลวคือวาเปนการทดสอบที่ยิ่งใหญ
เมื่อหนื่อยอยางที่สุดแลว อายฮุยจึงนั่งลงกับพื้น ชุดเกราะเหล็กบนตัวก็ขี้เกียจจะ
ถอดออก จึงถอดเพียงหมวกออกเทานั้น เจาของสิ่งนี้สวมมานานก็เปนตองรูสึกอึดอัด
บางเปนธรรมดา ตั้งแตที่สวมชุดเกราะเปลือยหลังนี้เปนตนมา เขาก็ไมเคยไดถอดออก
เลย ไมว า จะเปนกินขา วหรือ นอนหลั บ สี ห น า ของเขาเลื อนพรา ซึ ่ งตอนที ่ฝกฝน
ติดตอกันจนถึงขีดจำกัดก็มักจะเปนเชนนี้
หลังจากนั่งอยูรวมยี่สิบกวานาที ใบหนาของเขาจึงเริ่มกลับมาดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา
บาง จากที่เบลอๆ ก็กลับมามีสติดี อายฮุยอาการดีขึ้นแลว ก็ถูกความรูสึกหิวอยาง
รุนแรงถาโถมใส เขาหยิบขนมเบื้องออกจากหอผา ซึ่งอายฮุยไมไดใสใจเลยแมมันจะ
เปนขนมเบื้องที่ทั้งแหงทั้งแข็ง เพียงไมนานก็กินหมดไปแลวชิ้นหนึ่ง
ในตอนที่เขาลวงขาไปในหอผาอีกครั้ง กลับพบแตความวางเปลา
หมดแลวหรือ
เขาอึ้งไปพักหนึ่ง ไดสติแลวก็เอาหอผามาคนดูใหละเลียด และพบแตความวางเปลา
เขาอยูที่นี่มานานเพียงใดกัน จำไมไดแลว รูเพียงวาตอนนี้เปนเวลาที่ตองกลับไป
เขาเพิ่งจะเตรียมตัวกลับ คิดไปคิดมา ก็ถอดชุดเกราะออกจากตัวกอนจะดีกวา แลวหา
ที่ใกลๆ ซอนชุดเกราะเอาไว อยางไรเสียสิ่งนี้ก็ไมใชของมีคามีราคาอะไร คงไมมีใครมา
สนใจ เมื่อเติมอาหารแหงเสร็จแลว คอยกลับมาใหม ไมสวมชุดเกราะนี้ก็จะไดนำ
อาหารแหงกลับมาไดมากขึ้นอีกหนอย
หลังจากที่ถอดชุดเกราะออก อายฮุยก็รูสึกวารางกายของตนเบาขึ้นมา ราวกับทั้ง
รางกำลังเหยียบอยูบนกองนุน เบาหวิวดีเหลือเกิน
อายฮุยที่กำลังตื่นเตนอยางมากพุงไปดานหนา แลวก็ตองตกใจกับความเร็วของ
ตน นัยนตาของอายฮุยเปลงประกายขึ้นมาในทันที ที่แทการสวมชุดเกราะเปลือยหลัง
ฝกวิชาก็ยังมีขอดีอยางนี้อยูอีก
เขาไมพูดพร่ำทำเพลง สาวเทาวิ่งไปทางเมืองซงเจียน
ตัวของหลี่เหวยนั้นไมไดสูง เขาสวมชุดสีเขียวที่เรียบงาย เทียบแลวตางกับโจว
เสี่ยวซีที่ดูกำยำล่ำสัน แตหลี่เหวยนั้นดูแลวคอนขางจะยังมีความเรียบรอยบอบบาง
ทาทางเหมือนกับอาจารยที่โรงเรียนอยางมาก เขาแสนจะตื่นเตนในการเดินเลน มีคน
นอยมากที่รูวาสิบหาปกอนเขาก็เรียนอยูที่เมืองซงเจียน เวลาวางเขาจะชอบเดินเที่ยว
ตามสถานที่เกาๆ
มองดูทิวทัศนที่ทั้งแปลกและคุนเคย เขาก็นึกถึงชวงเวลาที่แสนงดงามของตนในอดีต
ความทรงจำที่เลือนรางมากมาย ก็คอยๆ พรั่งพรูเขามา
เขาเดินเตรไปตามทาง มองทิวทัศนรอบกายที่เปลี่ยนไป เขารูสึกคอนขางคุนเคย
เขารูวาที่นี่เมื่อกอนตนตองเคยมา แตวาเขายังไมแนใจวาเปนที่แหงใด อยางไรเสียเขา
ก็ไมไดมาตั้งสิบหาป
จนกระทั่งเขาไดเห็นยอดเจดียสูงเขามาในสายตา จึงนึกออกทันใด
ที่แทก็คือเจดียเสวียนจิน!
หลี่เหวยตื่นเตนดีใจขึ้นมาในทัน ที แม แ ต ฝ เท าก็ ก า วเร็ว ขึ ้ นอย างไม รู ตั ว ใน
สมัยกอนนั้นเจดียเสวียนจินเปนสถานที่ที่เขามาฝกฝนบอยๆ เขายังจำไดวาเมื่อกอน
เหมือนตนจะเคยเขียนแนะนำการฝกฝนที่เจดียเสวียนจิน
ที่นี่คนก็ยังนอยเหมือนเดิม!
เขาอดไมไดที่จะแสดงความรูสึกปลงอนิจจังเหมือนกับเมื่อสิบหาปกอน
เจดียเสวียนจินแตไหนแตไรก็ไมใชสถานที่ฝกฝนที่เปนที่นิยม ในตอนนั้นที่ เขา
เลือกเจดียเสวียนจินเปนสถานที่ฝก ก็เพราะวาเขาเห็นวาที่นี่คอนขางจะเงียบสงบ
สิบหาปใหหลัง เจดียเสวียนจินก็ยังคงเหมือนกับในอดีต ไมมีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง
เขารูวาตราบใดที่ทองคำยังคงไมหยุดพัด เจดียเสวียนจินแหงนี้ก็จะไมมีวันลมสลาย
เขาเดินขึ้นบันไดไป ตนไมใบหญาที่นี่แตละตน เขาลวนรูสึกคุนเคยเกินจะเปรียบ
เขาเดินหนาไปพลาง ก็เอามือลูบตามผนังเจดียไปพลาง วันเวลาเกาๆ ที่เคยผาน
มาชางมากมายราวกับเปนโคมขี่มา* ที่หมุนวนอยูในใจของเขา ริมฝปากของเขาก็แยม
ยิ้มที่รำลึกถึงอดีต
มือของเขาอยูๆ ก็หยุดลง
เขาไดสติขึ้นมาในทันที สังเกตตำแหนงที่ฝามือของตนสัมผัส อดไมไดที่จะสงเสียง
อยางประหลาดใจ
ตวนมูหวงฮุนที่ฉายแสงอันรุงโรจนไปไกล ก็ไดอาศัยผลการประลองที่เหมือนฝนนี้
กระโดดเพียงครั้งเดียวก็กลายเปนหนึ่งในผูแข็งแกรงอันดับสูงสุดในสนานเหนี่ยวนำ
ความปราดเปรื่องและพรสวรรคอันนาตกใจของเขา สะเทือนไปถึงหูผูนำแหงสนาม
เหนี่ยวนำ เพื่อใหเขาไดรับการชี้แนะที่ดียิ่งขึ้นไปอีก สนามเหนี่ยวนำจึงอนุญาตใหเขา
เขาเขตการศึกษาขั้นสูงไดเลย
ฝายบริหารของโรงเรียนมากมายในเขตการศึกษาขั้นสูงพอไดยินขาวนี้ก็มีการ
เคลื่อนไหว ถือโอกาสตอนที่ตวนมูหวงฮุนยังไมไดกลับไปที่โรงเรียนซงเจียน ตัดหนวด
กลางทาง เสนอเงื่อ นไขที่ ดี เลิ ศ ตา งๆ โดยหวั งว า จะสามารถดึ งดู ด เด็ ก หนุ ม ผู มี
พรสวรรคผูนี้เขาสูสถาบันตน
แตสิ่งที่ทุกคนลวนคาดไมถึงก็คือตวนมูหวงฮุนไดปฏิเสธไปทั้งหมด
ตวนมูหวงฮุนไดประกาศอยางชัดเจนวาจะอยูแคที่โรงเรียนซงเจียนเทานั้น และ
จะยอมรับคำชี้แนะจากอาจารยสวี่เพียงผูเดียว
ผลลัพธอันคาดไมถึงนี้ ทำใหทั่วสนามเหนี่ยวนำตองพูดไมออกอีกครั้ง แตวาใน
ครั้งนี้ การประเมินตวนมูหวงฮุนของทุกคนก็สูงขึ้นมามากเลยทีเดียว โดยมองวาเด็ก
คนนี้มีคุณธรรม ไมลืมบุณคุณของผูที่เคยชวยเหลือตน
ภาพพจนอันจรัสแสงของตวนมูหวงฮุนไดขึ้นสูงอีกครั้ง
เขาผูมีรูปโฉมหลอเหลา ทาทางทรงเสนห มีความเยือกเย็นโดยธรรมชาติ จึงได
กลายเปนผูชายในฝนของเหลาหญิงสาวในสนามเหนี่ยวนำ หญิงสาวมากมายออกจาก
โรงเรียนเพื่อติดตามตวนมูหวงฮุนที่ไปทาสูกับเหลายอดฝมือ
ไมวาเขาจะไปที่ใด ลวนมีหญิงสาวงดงามติดตามไปนับไมถวน
โรงเรียนซงเจียนที่แตเดิมไรชื่อ ก็ไดเลื่องชื่อกระจายไปทั่ว กลายเปนที่อิจฉาของ
โรงเรียนและเมืองตางๆ และวันนี้ก็คือวันที่ตวนมูหวงฮุนกลับมายังเมืองซงเจียน
บทที่ 36 ฝนราย
“คิดไมถึงเลย เพื่อนตวนมูจะรายกาจถึงขั้นนี้!”
“ใชแลว แถมยังมีคุณธรรมดีถึงเพียงนั้น เขาเลือกที่จะอยูที่โรงเรียนซงเจียนตอ
ชางเปนคนชื่อสัตยเสียจริง เมื่อกอนขามองเขาผิดไปเอง”
“ถูกแลว ดูทาเพื่อนตวนมูจะเปนประเภทที่ดูเย็นชาแคภายนอก!”
......
เมื่อคณะบริหารของโรงเรียนรับรูขาวที่วาวันนี้ตวนมูหวงฮุนจะกลับเมืองซงเจียน
ก็ไดตั้งใจรวมกลุมของเหลาอาจารยและนักเรียนทั้งหมด จัดพิธีตอนรับอยางเปน
ทางการขึ้น ไมวาจะเปนอาจารยหรือนักเรียน บนใบหนาของทุกคนลวนเต็มไปดวย
ความปลื้มปติ ในประวัติศาสตรของโรงเรีย นซงเจียนไมเคยมี ใครได รับ เกียรติ ย ศ
ชื่อเสียงเชนนี้มากอน การเปนนักเรียนปหนึ่งแตไดติดอันดับยี่สิบอันดับแรกของสนาม
เหนี่ยวนำ ไมไดนำพาเพียงชื่อเสียงมาใหโรงเรียนซงเจียน แตยังนำมาซึ่งผลประโยชน
อื่นๆ อีกมากมาย
ขอเพียงแคสามารถรั้งตัวตวนมูหวงฮุนไวได ในทุกๆ ปโรงเรียนซงเจียนก็จะไดรับ
คะแนนสะสมจำนวนมหาศาล คะแนนสะสมจากตวนมูหวงฮุนเพียงคนเดียวก็มากไป
กวาผลรวมจากนักเรียนคนอื่นทั้งหมด คะแนนสะสมนี้เกี่ยวของกับระดับการประเมิน
ในอนาคตของโรงเรียนซงเจียนและจำนวนทรัพยากรที่จะถูกจัดหาให
ชื่อเสียงของตวนมูหวงฮุนในตอนนี้ที่จริงก็คือทองคำกอนหนึ่ง
ตวนมูหวงฮุนสามารถมีผลการประลองที่ทำใหผูคนตองตกตะลึงเชนนี้ ถือวาเกิน
ความคาดมายของทางโรงเรียนอยางมาก และการที่ตวนมูหวงฮุนประกาศวาจะอยูที่
โรงเรียนซงเจียนตอ
ยิ่งทำใหทางโรงเรียนราวกับพายชิ้นใหญที่ตกลงมาจากฟาหลนเขาปาก ดวยเหตุ
นี้จึงไดจัดพิธีตอนรับอยางเปนทางการขึ้น ไมวาจะเปนอาจารยหรือนักเรียน ในเวลานี้
ลวนยินยอมพรอมใจกันทั้งสิ้น
ผลประโยชนที่ตวนมูหวงฮุนมีตอทางโรงเรียน ไดสงผลไปถึงทุกๆ ฝาย ทั้งสวัสดิการ
เงินเดือนของอาจารย ทรัพยากรการฝกของนักเรียน ลวนไดรับการยกระดับขึ้นทั้งสิ้น
แตที่ยิ่งดึงดูดสายตาคนผูคน ก็คือนักเรียนหญิงของโรงเรียนซงเจียน ความนิยม
ของตวนมูหวงฮุนจากบรรดานักเรียนหญิงของโรงเรียนซงเจียนแตเดิมก็คอนขางจะนา
ตกตะลึงอยูแลว และในตอนนี้ที่ตวนมูหวงฮุนไดกลายมาเปนพระเอกของทั่วทั้งสนาม
เหนี่ยวนำ ยิ่งทำใหพวกบรรดาหญิงสาวเหลานั้นบาคลั่งกันใหญ
“พี่นอ งทั้งหลายจงเตรีย มจิตใจให พร อ ม! อย า ได ป ล อ ยให พ วกนางมารจาก
โรงเรียนอื่นเอาชนะได!”
“ใชแลว! หวงฮุนเปนของพวกเรา พวกนางคิดวาตนเปนใครถึงจะมาแยงไป คิด
จะมาแตะตองหวงฮุ ตองขามศพเราไปกอน!”
“เรื่องดีๆ เชนนี้จะไมปลอยใหผูอื่นไป ไสหัวเจาพวกแพศยาที่หลงระเริงพวกนั้น
ไปใหไกลเทาที่จะไกลได!”
“พวกเราตองใหหวงฮุนไดรูวา ใครกันที่รักเขาอยางแทจริง!”
......
เหลานักเรียนหญิงตางสวมอาภรณแพรลวนหรูหรางดงามอันเปนที่ชื่นชอบที่สุด
แตงกายเฉิดฉันไฉไลมารวมพิธีตอนรับครั้งนี้ แตละคนลวนงดงามหยาดเยิ้ม
คณาจารยและนักเรียนโรงเรียนซงเจียนยืนเรียงแถวทั้งสองฝงถนน เตรียมตัว
สำหรับการตอนรับตวนมู ฝูงชนยืนเรียงรายยาวเหยียดไมขาดสาย ตั้งแตจากประตู
เมืองไปจนถึงประตูของโรงเรียนซงเจียน
รานคาบนถนนสองขางทางตางก็แขวนธงหลากสี โรงฝกแตละแหงก็ใหพนักงาน
แขวนแผนภาพอักษร พวกเถาแกตางแยมยิ้มอยางมีความสุข ชวงนี้การคาของทุกเจา
ลวนคึกคักกันอยางหาใดเปรียบ ถุงเงินที่อยูตรงเอวก็ไมรูวาเพิ่มขนาดขึ้นมาเทาไร
ความแพรหลายของการปดตาตอสู ทำใหธุรกิจของโรงฝกแตละแหงในเมืองซงเจียน
ตางคึกคัก เมืองซงเจียนไดกลายเปนแหลงตนกำเนิดของการปดตาตอสู การมีปายชื่อ
เชนนี้อยู การคาของพวกเขาก็จะคึกคักไปไดชวงหนึ่ง แตพวกเขาก็เขาใจแจมแจงวา
ความคึกคักเชนนี้ไมอาจจะดำรงอยูไดนาน การปดตาตอสูสำหรับทุกคนในตอนนี้เปน
สิ่งแปลกใหม แตพอผานไปชวงเวลาหนึ่ง ความรูสึกแปลกใหมจะหายไป การคาก็
จะตองลดลงอยางฮวบฮาบ
ตวนมูหวงฮุนที่จรัสแสงไปแสนไกล ขอเพียงเขาอยูที่เมืองซงเจียน เมืองแหงนี้ก็
จะไมใชเมืองเล็กๆ หางไกลผูคนอีกตอไป ยี่สิบอันดับแรกของสนามเหนี่ยวนำนั้น
หมายถึงอะไร มันคือการดำรงอยูที่ทำใหคนตองจับตามอง หากใชคำพูดใหม เมื่อกอน
ปายชื่อของเมืองซงเจียนก็คือการปดตาตอสู แตในตอนนี้ปายชื่อของเมืองซงเจียนมี
เพียงอยางเดียว นั่นก็คือ ตวนมูหวงฮุน
ในสายตาของเหลาเถาแกที่มีสายตาในการทำการคาที่แหลมคม ตวนมูหวงฮุนนั้น
เปนของหายากที่สามารถกักตุนไวเก็งกำไรไดอยางเปนกอบเปนกำ นอกจากความ
แข็งแกรงอันยิ่งใหญของเขาและการอยูในตระกูลที่มีชื่อเสียงแลว เขายังเปนนักเรียนป
หนึ่งที่เลื่อนขึ้นไปอยูในยี่สิบอันดับแรกของผูแข็งแกรง การจะเหนือกวาผูมีพรสวรรค
ในรอบรอ ยปนั้นไมมีปญหา ตวนมู ห วงฮุ น ในวัน นี้ ได ก ลายมาเป น ผู น ำของเหลา
นักเรียนใหมไปแลว เชนนั้นจะมีผูมาทาสูมากมายเพียงใด ภายหลังจะมีหัวขอที่พูดคุย
มากมายเพียงใด
ยิ่งไปกวานั้นแลว ตวนมูหวงฮุนยังมีใบหนาที่งดงามจนหญิงสาวตองอิจฉา นึกถึง
พวกผูหญิงที่สูญเสียสติสัมปชัญญะพวกนั้นดูเถอะ นั่นก็เปนเงินจำนวนมหาศาลเชียว!
เงินของใครจะหาไดงายที่สุด ก็เงินผูหญิงอยางไร!
ระดับชื่อเสียงของเมืองซงเจียนที่เพิ่มขึ้น ลวนเปนประโยชนกับทุกๆ คน
ผูคนในเมืองเกือบทุกคนออกมารวมงาน เมืองซงเจียนไมเคยปรากฏผูมีพรสวรรค
ที่เปนที่จับตามองถึงเพียงนี้ ทุกคนลวนเต็มไปดวยความยากรูอยากเห็น ไมตองพูดถึง
นักเรียนที่อยูในยี่สิบอันดับแรก แคนักเรียนที่อยูในรอยอันดับแรก เมืองซงเจียนก็ยัง
ไมเคยปรากฏขึ้น เมื่อกอนนักเรียนที่อยูอันดับสูงสุดของเมืองซงเจียนนั้นอยูในอันดับที่
สองรอยเกาสิบสอง
เมฆเพลิงกอนหนึ่งไดลอยอยูกลางอากาศมาดวยความเร็ว
ตวนมูหวงฮุนนั่งอยูดานบน ใบหนาที่หลอเหลาเปยมเสนหดูมีความเหนื่อยลา
การทาสูกับผูที่แข็งแกรงติดตอกันเชนนั้น ไมวาจะเปนสภาพจิตใจหรือรางกาย ยอม
ตองแบกภาระไวเปนอยางมาก
เขามองเห็นรอบนอกของเมืองซงเจียนอยูไกลๆ ก็ถอนหายใจออกมายาวๆ เพื่อที่จะ
สลัดพวกนักเรียนหญิงที่บาคลั่งพวกนั้น เขาตองเดินทางออกมาในตอนกลางคืน
ชวงเวลานี้สำหรับเขาแลวราวกับเปนฝนรายก็ไมปาน ตั้งแตที่ไดรับมอบหมาย
งานจากอาจารยสวี่เปนตนมา เขาก็รูสึกวาตนนั้นดวงซวยติดๆ กัน ในใจของเขาเต็มไป
ดวยเพลิงโกรธมาตลอด จนในภายหลัง เพลิงกอนนี้นับวันยิ่งใหญโต เมื่อคิดวาชวง
หลายวันมานี้ตนตองใชชีวิตเชนไร โดยเฉพาะอยางยิ่งเมื่อนึกถึงการทาสูอยางเปน
ทางการของกูเทียนหนิง แตตนกลับตองปฏิเสธเพราะใบหนาที่บวมช้ำ จนกลายเปน
วาตนถูกกลาวหาวาเปนพวกออนแอขี้ขลาด
เรื่องนี้ไดทำใหตวนมูหวงฮุนรูสึกอัปยศอดสูอยางมาก ไมคิดเลยวาภายหลังจะมี
พวกหมาแมวทั้งหลายคิดจะมาเหยียบไหลเขาขึ้นไป เพลิงโกรธที่ตวนมูหวงฮุนสะกด
ไวภายในก็ไดระเบิดออกในทันที
ดังนั้นเขาจึงไมพูดพร่ำทำเพลง จัดการซอมเจาพวกที่มาทาสูกับตนจนหัวบวมเปน
หัวหมูเสีย
ไมเพียงเทานี้ ภายใตความโกรธนี้ เขาจึงมุงตรงไปที่โรงฝกตางๆ เพื่อจัดการพวก
ยอดฝมือที่เมืองอื่นที่มาลองการแขงปดตาตอสูและจัดการแบบไมเลี้ยงเลยทีเดียว
ถึงจะเปนเชนนี้ เพลิงโกรธของตวนมูหวงฮุนก็ยังคงไมถูกระบายออกมาจนหมด
ไมมีใครรูเลยจริงๆ วาเขาตองการการระบายมากมายเพียงใด
ดังนั้นเขาจึงตกลงใจออกจากเมืองซงเจียนไป คนแรกที่จัดการก็คือคนที่เขารูสึก
วามากดขี่ตนอยางกูเทียนหนิง นึกถึงวันที่ตนสองกระจกเห็นใบหนาบวมเปง แลวได
ยินเสียงทาสูจากภายนอก จิตวิญญาณที่หยิ่งทระนงของเขาตอนนั้นสัมผัสไดถึงการ
เหยียดหยามที่ยากจะบรรยาย
มาถึงตอนหลัง ตวนมูหวงฮุนที่เลือดขึ้นหนาเปนที่เรียบรอยแลว เพลิงโกรธที่เขา
สะกดไวในอกมากจนแทบจะระเบิด ทำใหมีเสียงหนึ่งดังกองอยูในหัว ขาตองการ
ระบายอารมณ! ขาตองการระบายอารมณ!
แตหลังจากตวนมูหวงฮุนไดตอสูกับสองยอดฝมือติดตอกัน ในที่สุดก็หมดสิ้น
เรี่ยวแรง และเพลิงโกรธในอกเองจึงไดบรรเทาเบาบางลง
จิตใจของเขาสงบลงมามากแลว
สำหรับคำเชิญจากโรงเรียนอื่นนั้น เขาไมแมแตจะมองก็โยนทิ้งขยะไปสิ้น
ลมลงที่ใด ก็ตองปนขึ้นมาจากตรงนั้น!
การไปที่โรงเรียนอื่น ก็เหมือนการปลอยใหเจาอายฮุยหลุดมือไป คดีของพวกเขา
ยังไมไดคิดบัญชี เขาจะไมมีทางยอมจากเมืองซงเจียนไปแน กลับมานึกถึงใบหนาที่
บวมเปงของตน จิตสังหารที่กลางอกก็ยากที่จะสะกดกลั้นเอาไวได และเหตุการณที่
แสนจะนาหวาดกลัวในครั้งนั้น เขาไมกลาแมแตจะนึกถึง
เจาอายฮุยสมควรตายนั่น ชางเปนฝนรายของเขายิ่งนัก เขาจะตองกำจัดเจาฝน
รายนี้ทิ้งใหได!
เมื่อสังเกตเห็นกลุมคนที่มาตอนรับอยูหลังประตูเมือง เขาก็ทำการจัดระเบียบชุดที่ใส
ปรับสีหนาใหกลับมาอยูในทาทีที่เยือกเย็นทรงเสนหเหมือนเดิม เขายืดอกเชิดคางขึ้น
เมื่อกลับมาเปนดั่งเชนวีรบุรุษเชนเดิมไดแลว ใจทะเยอทะยานของเขาก็รูสึกพอใจ
เปนอยางมาก
ทามกลางการจับจองของสายตานับหมื่นคู เมฆเพลิงคอยๆ หยุดลงที่ประตูเมือง
คนที่อยูหลังประตูเมืองทั้งหลาย ตางอดไมไดที่จะสูดลมหายใจเขา ใบหนาที่หลอเหลา
เย็นชาของตวนมูหวงฮุนทำใหผูคนไมอาจละสายตา รางที่สูงโปรงมีทาทีที่แสนจะไม
ธรรมดา เสื้อผางดงามไดผานการเดินทางอยางลำบาก มีสภาพเหมือนการไดชัยชนะ
มาหลังจากออกรบครั้งใหญที่แสนมีเกียรติ
สนามเหนี่ยวนำอยูๆ ก็ปรากฏผูมีพรสวรรคที่เปนที่สุดแหงยุคขึ้น!
ตนแบบของนักเรียนใหมทั้งหมด!
เมฆเพลิงไดลอยอยูเหนือพื้นเล็กนอยคอยๆ นิ่งสนิท ทามกลางสายตาที่จับจอง
ของผูคนนับหมื่น ตวนมูหวงฮุนเปรียบดังวีรบุรุษก็ไมปาน เขาเปลงประกายเจิดจรัส ดู
สุขุมและเอาจริงเอาจัง เขาคอยๆ กรีดกรายกาวขาลงจากเมฆเพลิงอยางบรรจง
“เฮ เพื่อนปงหวาน เจาก็อยูที่นี่เหรอ!”
เสียงแหงฝนรายดังขึ้นที่ขางหลังอยางไมมีสัญญาณใดๆ
ตวนมูหวงฮุนที่ไมไดนึกถึงเลยนั้ น เบิกตากวางขึ้นในทันที สัญชาตญาณของ
รางกายหยุดนิ่ง ขาที่กาวออกอยางสงางาม เหยียบพลาดไปกลางอากาศโดยพลัน
ตุบ! ตวนมูหวงฮุนรวงลงพื้นหนาคะมำราวกับเปนหุนไม
ทั้งภายนอกและภายในของประตูเมือง ผูคนนิ่งอึ้งตาโตเปนไขหาน
บทที่ 37 รานบะหมี่
ที่จริงไดอายฮุยไมไดคิดจะทักทายตวนมูหวงฮุนเลย ทั้งสองก็ไมไดสนิทกัน แคทำ
เปนไมเห็นก็สามารถเดินผานไปได
ใครจะไปรูวาเมฆเพลิงของตวนมูหวงฮุนดันหยุดอยูตรงกลางประตูเมือง ขวางทาง
เอาไวพอดี อีกทั้งผานไปคอนวันก็ยังไมขยับไปไหน แคจะลงจากเมฆเพลิงก็อืดอาด
ยืดยาดราวกับเตา อายฮุยรอมาคอนวันจนทนไมไหว เจานี่ยังทำตัวชักชาเชนนั้น จึง
ทำไดเพียงทักทายขึ้นมา โดยความหมายที่จะสื่อก็คือเตือนเพื่อนปงหวานวาดานหลัง
เจายังมีคนอยู ทำอะไรใหมันเร็วๆ หนอย
สรุปแลว...
เมื่อมองดูตวนมูหวงฮุนที่เอาหนาปกลงพื้นโคลนแลว ในใจของอายฮุยก็นึกดูถูก สภาพ
ออนแอเชนนี้ชางเหลือทนเสียจริง เสียงของตนเบาราวเสียงกระซิบยังหัวทิ่มขนาดนี้
หากวาอยูในแดนรางแลวเจอเขากับเสียงคำรามของอสูรแดนรางที่ราวกับฟาลั่น ไมใช
วาจะหัวใจวายไปเลยหรือ
เอาเถิด บางทีเด็กสมัยนี้อาจเปนเชนนี้กันหมดแลว อยางไรเสีย อายฮุยนั้นก็เห็น
วาตวนมูหวงฮุนเปนเด็กนอยมาโดนตลอด
สำหรับเรื่องอื่นที่นอกเหนือจากการฝก แตไหนแตไรมาอายฮุยก็ไมเก็บมาคิดให
วุนวาย รวมถึงเรื่องที่วาทำไมหนาประตูเมืองจึงมีผูคนมากมายเชนนั้น เรื่องพวกนั้น
มันเกี่ยวกับตนเสียที่ไหน
โรงฝกยังคงสะอาดเอี่ยมอองเหมือนเคย ระดับการทำความสะอาดของโหลว
หลานก็ยังคงเดิมไมเปลี่ยน แตตอนนี้โหลวหลานนั้นไมอยู อายฮุยจึงไปอาบน้ำอยางมี
ความสุขสักรอบแทน
โหลวหลานยังไมมา ดูทาแลววันนี้จะไมมีน้ำแกงใหดื่ม ความฝนแสนหวานของ
อายฮุยจึงไดสลายไป
อายฮุยมองไปที่ทองฟายังสวางอยู จึงตัดสินใจออกไปกินบะหมี่!
ถูกแลว กินบะหมี่! บะหมี่ชามละหนึ่งรอยหาสิบหยวน! อยางไรเสียตนก็เปนคนมี
เงินกอนใหญถึงสามแสนหาหมื่นหยวนอยูกับตัว วันนี้จะกินบะหมี่ใหเปนสุขเลย พอ
นึกถึงบะหมี่ของรานนั้น อายฮุยที่แทะขนมเบื้องมาหนึ่งเดือนเต็มก็ถึงกับน้ำลายไหล
เขาไมพูดพร่ำทำเพลงเรงรุดออกประตูไป
ซือเสวี่ยมั่นกำลังเดินอยางไรจุดหมายอยูบนถนนในเมืองซงเจียน นางไดยินเรื่อง
ฉากเหตุการณอันยิ่งใหญของตวนมูหวงฮุนในวันนี้มาแลว นาเสียดายที่ไมไดเห็นดวย
ตาของตนเอง ไดยินทานอาหยงเจิ้งเลาวา ในตอนที่ตวนมูหวงฮุนกระโดดลงจากเมฆ
เพลิง เขาไดลมลงไปกองกับพื้น ทุกคนในที่นั้นลวนปลงอนิจจังวา ผลการประลองใน
คราวนี้ของตวนมูหวงฮุนชางไดมาอยางยากลำบาก
ซือเสวี่ยมั่นคอนขางนับถืออยูบาง ภายในหนึ่งสัปดาหไดทาสูกับสามยอดฝมือที่
อยูในหาสิบอันดับแรก วีรกรรมที่ยิ่งใหญเชนนี้ไมเคยไดยินมากอนดวยซ้ำ การที่
รางกายจะหมดสิ้นเรี่ยวแรงก็ไมใชเรื่องแปลกอะไร
ในตอนที่เขาเรียนปแรก นางเขาไปอยูในอันดับที่หนึ่งรอยเทานั้น มินาตวนมูหวงฮุนถึง
ถูกยกยองวาเปนผูมีพรสวรรคที่จะพบไดในรอบรอยป
แตทวานางไมไดมีความสนใจในตัวตวนมูหวงฮุน นางเพียงแคสนใจในตัวยอด
ฝมือลึกลับที่เอาชนะนางลงได นางเองก็เคยสงสัยวายอดฝมือลึกลับผูนั้นอาจจะเปนต
วนมูหวงฮุน แตไมนานนางก็ปฏิเสธการคาดเดานี้ไป
รางของตวนมูหวงฮุนนั้นมีทาทีของชนชั้นสูงที่เดนชัดอยางมาก และทาทีของยอด
ฝมือที่ลึกลับผูนั้นกลับแตกตางอยางชัดเจน
เพื่อไมใหถูกผูอื่นจำได บนใบหนาของซือเสวี่ยมั่นไดทำการสวมใบหนาปลอมที่ทำ
จากพลังธาตุ ในตอนนี้ดูไปแลวนางก็เปนเพียงนักเรียนหญิงที่มีรูปโฉมแสนจะธรรมดา
ตั้งแตการแขงปดตาตอสูเปนตนมา เมื่อไรมีเวลาวาง นางก็จะตองมายังเมืองซงเจียน
ทำใหนางเองก็คอยๆ คุนเคยกับเมืองซงเจียนขึ้นมา การฝกของวันนี้ไดจบลงแลว
ความรูสึกของการเดินเลนอยางไรจุดหมายก็ถือวาไมเลวจริงๆ
ในอากาศมีกลิ่นอาหารหอมหวนลองลอยมา ซือเสวี่ยมั่นก็รูสึกหิวขึ้นมานิดหนอย
นางหันหนากลับไป เดินไปตามกลิ่นหอมที่ลอยมา ก็ไดพบกับรานบะหมี่รานหนึ่งเขา
นางกินอาหารภายนอกนอยมาก ถาพูดใหถูกคือ นางกินอาหารอยางอื่นนอกจาก
อาหารเสริมพลังธาตุนอยมาก
สาเหตุเปนเพราะการฝกฝน นางจึงตองเขมงวดกับอาหารการกิน อาหารที่กิน
ตามปกติลวนเปนอาหารเสริมพลังธาตุที่ปรุงขึ้นโดยเฉพาะ ซึ่งมีผลในการยกระดับการ
ฝกของนางได
นางลังเลอยูสักพัก...แตก็ไมอาจทนตอกลิ่นหอมที่ลอยออกมาได
ในตอนนี้ไมใชเวลากินอาหาร ในรานจึงไมมีใคร เถาแกเองก็กำลังยุงอยูกับการตุน
เนื้อวัว กลิ่นหอมฟุงไปทั่ว
เมื่อเดินเขารานก็หาที่นั่งแบบไมไดใสใจ และสั่งบะหมี่มาหนึ่งชาม ในตอนนี้เอง เงา
รางหนึ่งพุงเขามาในราน แลวนั่งลงที่โตะตรงขามกับนาง “เถาแก เอาบะหมี่หาชาม!”
ซือเสวี่ยมั่นหรี่ตามองแวบเดียวก็เห็นวาเปนนักเรียนชายคนหนึ่ง มองแลวรูสึกคุนตา
ราวกับเคยเห็นที่ไหนมากอน
พอลองนึกดูสักหนอย ถึงไดนึกออกวาครั้งกอนที่ตนมายังเมืองซงเจียน มองเห็น
ทั่วเมืองมีธงยาวที่เขียนคำวา “การปดตาตอสู” เต็มไปหมด ในตอนที่กำลังหัวรอนได
ที่ ถนนฝงตรงขามก็มีเจาคนนารังเกียจกำลังยินดีกับความทุกขของคนอื่นอยู
เปนเจาคนนี้นี่เอง
ซือสวี่ยมั่นนึกถึงตนเองในครั้งกอนที่เต็มไปดวยความมั่นใจ แตกลับลายเปนตอง
มาผิดหวัง ตอนนี้ก็เลยรูสึกละอายใจนิดหนอยขึ้นมาทันที ผูชายที่อยูตรงหนา นางเอง
ก็ไมไดพาลโกรธอะไรมากมาย อีกฝายก็ไมไดรูจักตน ในตอนนั้นอารมณของตนไมดี
เหมือนวาจะถลึงตาใสอีกฝายไปทีหนึ่งดวย
นางอดแอบหัวเราะในใจไมได พอดีกับตอนนี้บะหมี่ยกมาพอดี นางจึงกมหนากม
ตากินบะหมี่
รสชาติของบะหมี่อรอยเขมขน แตกตางอยางสิ้นเชิงกับอาหารเสริมพลังธาตุที่
นางเคยกินเปนประจำ มันทำใหนางไมอาจหยุดกินได
แตวาหากเทียบกันตนแลว เจาคนที่อยูตรงขาม กินไดอลังการยิ่งกวานัก เรียกได
วาเปนพายุคลั่งที่พัดใบไมรวง โดยเฉพาะอยางยิ่งคือบะหมี่หาชามที่เรียงกันเปนตัวเลข
หนึ่ง มองดูแลวชางมีพลังทำลายลางอยู อีกอยางทาทางการกินบะหมี่ก็เรียกไดวาดู
หยาบคายราวกับสัตวคลั่ง ตะเกียบลงไปทีเดียวบะหมี่เกือบทั้งชามก็หายไปแลว ทำ
เอาซือเสวี่ยมั่นมองดูแลวตะลึงจนปากอาตาคาง
นางเคยเห็นการกินเชนนี้ที่ไหนกันนะ คนที่อยูรอบกายนาง เวลาที่กินอาหาร แต
ละคนลวนกินอยางสุภาพและเชื่องชา
อายฮุยตั้งแตแรกมาก็ยังไมไดสังเกตเห็นผูหญิงที่อยูตรงขาม แตดีที่วาอายฮุย
ในตอนนี้ไดเริ่มปรับตัวเขากับการใชชีวิตในสนามเหนี่ยวนำแลว จึงไมไดตัดสินวา
นัยนตาสองขางที่อีกฝายจับจองมายังเขาเปนการกระทำที่มีอันตราย
ความสนใจทั้งหมดของเขาลวนจดจออยูที่บะหมี่ตรงหนาจนลืมตัวไปเลย
เขายกชามบะหมี่ขึ้นดื่มน้ำแกงลงไปครึ่งคอนชาม อายฮุยจึงไดพึงพอใจกอนจะวาง
ชามบะหมี่ลง ในตอนนั้นเอง เขาก็ไดสังเกตเห็นผูหญิงฝงตรงขามที่กำลังจองมองมา
สายตาทั้งสองคูประสานกัน ซือเสวี่ยมั่นก็รับรูไดถึงการกระทำอันไรมารยาทของ
ตนในทันที จึงรีบกมหนากมตาลงเพื่อหลบซอนความอายไว นางรีบตะโกนขึ้นมา
“เถาแก คิดเงินดวย”
“ทั้งหมดหนึ่งรอยหาสิบหยวน” เถาแกสงใบเสร็จมาให
“ได” ปากของซือเสวี่ยมั่นตอบรับไป นางก็รีบลวงหาถุงเงิน แตแลวอยูๆ ก็หยุดลง
เมื่อไดพบกับเรื่องที่เลวรายมากๆ
...นางไมไดเอาเงินมา!
นางนึกขึ้นไดวาตอนที่ตนเพิ่งจะฝกเสร็จก็ไดอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผา ถุงเงินนั้นอยูใน
เสื้อผาชุดเกาที่เปลี่ยนไป
ทำอยางไรดี นางไมเคยพบกับสถานการณเชนนี้มากอน มือไมออนไปหมด นาง
ไมรูเลยวาควรจะตองทำเชนไร ในขณะนั้นจึงไดนิ่งคางไป
“คุณลูกคา” เถาแกเห็นนางนิ่งไป อดไมไดที่จะเรียกขึ้นมาหนึ่งคำ
“เถา...เถาแก ขาลืมหยิบเงินมา...”
นางพูดอยางตะกุกตะกักจนจบประโยค ใบหนาแทบจะไหมขึ้นมา ในตอนนี้นาง
อยากใหพื้นมีรอยแยกใหนางไดแทรกตัวหนีลงไป
ใบหนาของเถาแกถึงกับดำมืดลงในทันที
อายฮุยพอดีไดเห็นเหตุการณนี้เขา เห็นใบหนาของสาวนอยนั้นแทบมุดลงไปใต
แขนแลวก็อดไมไดที่จะสายหัวในใจ จึงเอยปากขึ้น “เฮ ขาใหเจายืม เจาหาขอมาค้ำ
ประกันไวกับขาสักชิ้น เมื่อคืนเงินคอยเอาของกลับไป”
ใหคิดเงินกับเขาก็ได คำพูดที่ตองเสียเงินเปลาๆ เชนนี้อายฮุยไมมีทางพูด!
หนึ่งรอยหาสิบหยวน เปนเงินที่มากอยูนะ!
ถาหากวาไมมีของมาค้ำประกัน เขาก็จะไมใหยืม ความเห็นใจของเขาแตไหนแต
ไรก็ไมไดทวมทนอยูแลว ในสายตาของเขา การที่ตนยอมใหยืมเงินก็ถือวาเปนการ
ชวยเหลืออันใหญหลวงแลว
เมื่อพูดจบเขาก็ควักเงินออกมา และชี้ไปที่ชามตรงหนาตนกับเถาแก “คิดเงินรวม
กับของขา”
เมื่อจายเงินเสร็จ อายฮุยกัดไมจิ้มฟนเอาไวในปากแลวเดินออกจากรานบะหมี่ ใน
มือมีสรอยไขมุกที่รับมาจากซือเสวี่ยมั่น
ซือเสวี่ยมั่นกลาวขอบคุณกับอายฮุยอยางจริงจัง “ขอบคุณเจา ขาจะตองคืนเงิน
เจาอยางแนนอน! กรุณาทิ้งที่อยูใหกับขาดวย!”
“ขาอยูที่โรงฝกศาสตราวุธ” อายฮุยกลาว “เจาคืนเงินมาแลว ไขมุกคอยคืนเจา
ขาไปแลว รีบกลับไปเอาเงินเถอะ”
อายฮุยมองทองฟาที่เริ่มมืด จึงถือโอกาสพูดใหม “พรุงนี้คอยเอามาคืนก็ได ไป
แลวนะ”
เขาสะบัดชายแขนเสื้อเบาๆ โดยไมไดนำพากอนเมฆไปดวย*
*ชาวจีนใชประโยคนี้บรรยายภาพเหตุการณในการแยกยายจากลากัน
บทที่ 38 มารในใจ
ซือเสวี่ยมั่นไดกลับมายังโรงฝกของตระกูล เมื่อเห็นทานอาหยงเจิ้งจึงไดเอยถามขึ้น
“ทานอาหยงเจิ้ง ทานทราบหรือไมวาโรงฝกศาสตราวุธอยูที่ใด”
“โรงฝกศาสตราวุธหรือ” หยงเจิ้งนึกดูอยางละเอียด จึงสายหัวตอบ
“ไมมี เมืองซงเจียนไมมีโรงฝกศาสตราวุธ คุณหนูไปไดยินชื่อโรงฝกแหงนี้มาจาก
ที่ไหนกัน”
เขารับหนาที่เปนผูดูแลโรงฝกที่เมืองซงเจียนมาเปนเวลานาน คอนขางจะคุนเคย
กับเรื่องตางๆ ของเมืองซงเจียนเปนอยางมาก โดยเฉพาะกับเรื่องโรงฝก เขายิ่งคุนเคย
เกินจะเปรียบ เขากลาที่จะรับประกันเลยวาเมืองซงเจียนไมมีโรงฝกชื่อนี้อยู
คุณหนูอยูๆ ก็ถามถึงโรงฝกศาสตราวุธอะไรนี่ขึ้น ทำใหเขารูสึกไดถึงลางไมดี
ความแข็งแกรงของคุณหนูนั้นไมตอ งพูดถึ ง เขาไมไดกั งวลถึงความปลอดภั ย ของ
คุณหนูแมแตนอย แตทวาตั้งแตเล็กคุณหนูก็อยูในสภาพแวดลอมที่เรียบงายเปนอยาง
มาก มีใจลุมหลงอยูเพียงแคกับการฝก ไมไดเขาใจโลกและใจคน ความคิดบริสุทธิ์
เรียบงาย ซึ่งงายที่จะถูกหลอก
ซือเสวี่ยมั่นไดเลาเรื่องที่ไดเจอในวันนี้ออกมารอบหนึ่ง
ความรูสึกไมสงบในใจของหยงเจิ้งยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก เขารีบถามทันที “สรอย
ไขมุกของคุณหนูหมายถึงสรอยครามสงบจิตที่คุณหนูมักจะใสติดมือเสนนั้นหรือ”
“ใช บนตัวขามีเพียงสรอยไขมุกนั่นที่พอจะใชค้ำประกันได นั่นเปนของดูตางหนา
ของทานยา ปกติแลวขามักเก็บ ไวติดตัว ไมห างกาย” ซือเสวี่ยมั่น สั งเกตเห็ นการ
แสดงออกบนสีหนาของหยงเจิ้ง จึงอดไมไดที่จะถามขึ้น “ทานอาหยงเจิ้งคิดวาคนผู
นั้นมีปญหาอะไรหรือเปลา”
พอหยงเจิ้งไดยินวาเปนของดูตางหนาของทานยาของซือเสวี่ยมั่น เหงื่อเย็นๆ ก็
ไหลอาบลงมา
สรอยครามสงบจิตนั้นสรางขึ้นจากปกปกษาสีครามโดยอสูรแดงราง ดวยความที่
มันผลิตออกมานอย จึงถือวาล้ำคาอยางมาก มันสามารถทำใหจิตใจของคนสงบนิ่งได
มีประโยชนอยางมากในการฝกฝน ตอใหเปนสมัยกอนที่เปนยุคบำเพ็ญตน สมบัติล้ำ
คาเชนนี้ก็ยังล้ำคาเกินประมาณเชนกัน
ยิ่งไปกวานั้น สิ่งนี้ยังเปนของดูตางหนาของทานยาของซือเสวี่ยมั่น!
เขารูดีวาทานยาของซือเสวี่ยมั่นมีสถานะที่สูงสงถึงเพียงใด ของดูตางหนาของ
นางหากวาสูญหายไป โดยเฉพาะยังสูญหายในเมืองซงเจียน ความรับผิดชอบนี้เขาไม
อาจแบกรับไดไหวอยางแนนอน
“ขาจะไปสืบหาเดี๋ยวนี้!” หยงเจิ้งไมคิดถึงเรื่องอื่น เขาหันหลังวิ่งออกไปในทันที
ถึงแมวาซือเสวี่ยมั่นจะยังขาดประสบการณอยู แตทวาก็ฉลาดหลักแหลม เมื่อ
มองเห็นทานอาหยงเจิ้งที่มีทาทีตึงเครียด ก็ไดเขาใจขึ้นมาหลายสวน แตวานางกลับ
ไมไดกังวลมากนัก ถึงแมอีกฝายจะตองการของค้ำประกัน แตการใชสรอยไขมุก ค้ำ
ประกัน เปนการที่ตนเสนอออกไปเอง นางรู สึ ก ว า ความเป น ไปได ท ี ่ จ ะเป น การ
หลอกลวงไมคอยมี
ผานไปสักพัก หยงเจิ้งที่เหงื่อทวมตัวก็วิ่งกลับมา “คุณหนู ตรวจสอบพบแลว มี
โรงฝกศาสตราวุธอยูแหงหนึ่ง ซึ่งปดกิจการไปนานแลว เร็วๆ นี้มีนักเรียนคนหนึ่งเขา
ไปอยู ทำหนาที่ทำความสะอาดและดูแลโรงฝก”
“ลำบากทานอาหยงเจิ้งแลว เอาที่อยูใหขาที ขาจะเปนคนไปเองแลวกัน”
ซือเสวี่ยมั่นในใจรูสึกดีใจอยูไมนอย นางไมคอยจะกังวลเทาไรวาจะถูกหลอก หาก
มีคนหลอกเอาของของนางไป นางก็มีวิธีที่จะทำใหอีกฝายเอามาคืนไดภายในเขต
สนามเหนี่ยวนำแหงนี้ ไมตองพูดถึงเมืองซงเจียนเลย นางเพียงแคไมปรารถนาใหการ
กระทำที่จิตใจดีงามเชนนี้ กลายมาเปนการหลอกลวงฉากหนึ่งเทานั้น ซึ่งนั่นจะทำให
นางไมสุขใจเปนอยางมาก
หยงเจิ้งเองก็โลงอกไป ไมใชการหลอกลวงนั้นดีที่สุด เขารีบนำที่อยูที่ตรวจสอบ
มาไดใหกับคุณหนูไป เรื่องความปลอดภัยของคุณหนูเขาคงไมตองเปนกังวล
เขาเคยเห็นพลังในการตอสูที่รุนแรงของคุณหนูแตนานมา
หยิบที่อยูกับเงินพรอมแลว ซือเสวี่ยมั่นก็ออกเดินทาง
......
หลังจากจบพิธีตอนรับแลว ตวนมูหวงฮุนก็ไดกลับมายังที่พัก เนื่องดวยคุณูปการ
อันโดดเดนของเขา ทางโรงเรียนจึงไดจัดที่อยูใหมใหแกเขา เปนเรือนเดี่ยวที่อยูในจุด
ที่พลังธาตุเขมขนที่สุด การจัดวางภายในหองก็เรียกไดวาหรูหรา
ตวนมูหวงฮุนทอดถอนใจออกมา ในที่สุดก็สามารถพักผอนไดเสียที
ชวงหลายวันมานี้รางกายของเขานั้นเหนื่อยลาอยางถึงที่สุด เมื่อกอนเปนเพราะ
ความโกรธอันรุนแรงพยุงเอาไว ตอนนี้กลับมายังที่พักแลว ความโกรธที่อยูในอกก็ได
ระบายแลว ความเหนื่อยลาจึงเปนดังสายน้ำที่หลั่งไหลเขามา
แตวา เขานอนอยูบนเตียงจะทำอยางไรก็นอนไมหลับ
ในสมองของเขามีภาพในวันนี้ที่ตนลมลงราวกับสุนัขกระโดดบอโคลนที่หนาประตู
เมืองผุดขึ้นไมหยุด ตั้งแตเล็กจนโต เขาไมเคยทำอะไรที่นาขายหนาเชนนี้มากอน
ภายใตสายตาที่จับจองของคนนับหมื่น ในตอนที่ตนมีหนามีตาที่สุด กลับตองมาขาย
หนาไมมีชิ้นดี
ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งโมโห เจาอายฮุยที่แสนสมควรตาย!
แมแตตัวเขาเองก็ไมเขาใจวาในตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพอตนไดยินเสียง
ของอายฮุยถึงไดลมลง
คิดอยูสักพัก ตวนมูหวงฮุนก็ลุกขึ้นั่งอยางไมรูตัว ทาทีดูเครงขรึมขึ้นมา เปน
เพราะวาเขานึกถึงคำที่นากลัวคำหนึ่งขึ้นมา...มารในใจ!
ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งรูสึกวามีเหตุผล ไมผิดแน เสียงของอายฮุย ตนนั้นรูสึกราวกับเปน
ฝนรายก็ไมปาน หากสิ่งนี้ไมใชมารในใจแลวจะเปนอะไรไปได ตวนมูหวงฮุนนั้นในดาน
ของการฝกฝนถือไดวาเปนสุดยอดของผูมีพรสวรรค เขามีลางสังหรณที่แสนจะแหลม
คม เมื่อลองกลับไปคิดดูความผิดปกติทุกครั้งที่เกิดขึ้นตอนที่ไดพบกับอายฮุย เขายิ่ง
รูสึกวาการวินิจฉัยนี้ของตนนั้นถูกตอง
การไดพบกับมารในใจระหวางการฝกนั้นมีไมนอย ตวนมูหวงฮุนไดเห็นในคัมภีร
มากมายกลา วไว ยิ่งเปนผูมีพ รสวรรค ยิ ่ งง า ยต อ การพบกั บ มารในใจ มารในใจ
โดยทั่วไปจะสื่อถึงความยึดติดบางอยางที่สงผลกระทบตอการฝก หรืออาจจะเปนปม
บางอยางภายในใจ
เมื่อฝกฝนถึงระดับหนึ่งที่แนนอน ขอเรียกรองในระดับของจิตใจก็จะยิ่งตองสูงขึ้น
ฝกวิชาที่แตกตางกัน ขอเรียกรองตอจิตใจก็จะแตกตางกัน บางวิชาตองการใหผฝู ก มี
จิตใจแนวแนในการแสวงหาความกาวหนา ใหลืมตัวตนของตนเองไปเหลือไวเพียง
ความกลาหาญ หากวาในใจมีความกลัวเพียงเล็กนอย ก็จะยากตอการคืบหนา และ
บางวิชาตองการใหผูฝกมีจิตใจที่สงบนิ่งดั่งสายน้ำ ไมยินดียินรายในตัวตน หากในใจ
นั้นมีสิ่งยึดเหนี่ยว ก็จะยากตอการประสบผลสำเร็จ
มารในใจนั้นสงผลกระทบตอผู ฝ กเป น อย างมาก ผลอย า งเบาคื อยากตอการ
คืบหนา ผลอยางหนักคือจะมีธาตุไฟเขาแทรก มีอันตรายถึงชีวิต
นึกถึงครั้งกอนที่ตนลืมตาขึ้นมา ทั่วรางหนาวเหน็บ บนตัวมีรอยฝามือเรียงรายกัน
เปนแถบ ใบหนาของเขาก็รูสึกรอนราวกับถูกไฟเผาขึน้ มาในทันทีเมื่อนึกถึงใบหนาของ
ตนที่บวมเปง เพลิงแคนในอกก็ไดถูกจุดขึ้นมา ยิ่งนึกถึงสภาพทุเรศทุรังในวันนี้ แลว
เพลิงโกรธในอกก็ราวกับน้ำมันเดือดปุดๆ
แคนเกาไมทันหาย แคนใหมก็เขามาแทรก!
ดวงตาของตวนมูหวงฮุนทั้งสองขางเต็มไปดวยเสนเลือด ถูกแลว จนถึงตอนนี้
สมองของเขามั่นใจเต็มรอยวาอายฮุยก็คือมารในใจของเขา
ในคัมภีรการฝกที่เขาเคยอานมีอยูขอหนึ่ง นั่นคือ การกำจัดมารในใจ
เมื่อกำจัดมารในใจแลว ผูฝกจึงจะทำใหการฝกของตนราบรื่นยิ่งขึ้น ไมเกิดธาตุไฟ
เขาแทรก การกำจัดมารในใจไมใชการสังหารบุคคลที่มีความเกี่ยวของกับมารในใจ แต
เปนเหมือนกับการแกปมมากกวา เพื่อใหเกิดความเขาใจในความคิด
ตวนมูหวงฮุนไดตัดสินใจที่จะกำจัดมารในใจนั้นเสีย!
เมื่อกอนถือวาตนมองขามปญหานี้ไปอยู วันนี้จะตองแกไขเสียใหหมด เพลิงโกรธ
ทั้งหมดจะไดระบายออกใหสิ้น สำหรับเรื่องที่วาจะสำเร็จหรือไม ตวนมูหวงฮุนนั้นมี
ความมั่นใจเต็มเปยม อายฮุยนั้นแมแตคลังชีวิตก็ยังไมไดเปด ความแข็งแกรงต่ำจนไม
ตองไปนึกถึง
แมแตยอดฝมือหาสิบอันดับแรกตนยังสามารถเอาชนะไดถึงสามคน เพียงแคอาย
ฮุยคนเดียว จะไมทำสำเร็จอยางงายดายไดอยางไร เมื่อกอนที่ยังไมไดลงมือ เปนเพียง
เพราะถูกหนาที่ที่อาจารยสวี่มอบหมายใหกับเขายับยั้งเอาไวก็เทานั้น
ตวนมูหวงฮุนที่มีความมั่นใจเต็มเปยม เริ่มตริตรองวาจะกำจัดมารในใจตนนี้
ออกไปไดอยางไร
หรือวา จะเอาความอัปยศที่ตนไดรับ ใหอายฮุยไดเผชิญสักรอบหนึ่ง
ความคิดนี้ไดผุดขึ้นมา ตวนมูหวงฮุนก็ตื่นเตนแลว ถูกแลว ก็เอาตามนี้แหละ! เขา
คิดทีละขั้นทีละตอน เริ่มจากใหอาฮุยตากลมหนาวจนเปนหวัดกอน แลวคอยทำการ
รักษาให วิธีที่ใชก็จะเปนวิธีที่อายฮุยเคยใช ใชวิธีหนามยอกตองเอาหนามบง! ทำให
หนาเขาบวมเปง ทำใหลมหัวทิ่ม!
ใบหนาของตวนมูหวงฮุนปรากฎรอยยิ้มเย็นชาเปยมเสนหแฝงความชั่วราย อายฮุย ขา
จะใหเจาไดลิ้มรสสิ่งเหลานี้ทีละนิด ซึมซับไปทีละนอย!
เมื่อคิดถึงสวนที่นาตื่นเตน ตวนมูหวงฮุนก็ทนไมไหว หัวเราะยาวๆ เงยหนาขึ้นฟา
แผกลิ่นอายชั่วรายอันเขมขนออกมา
“วะ ฮา ฮา ฮา ฮา ฮา...”
จิตใจที่แสนตื่นเตน ทำใหเขาไมรูสึกถึงความเหนื่อยลาของรางกายแมแตนอย เขา
หยิบหนากากพลังธาตุชิ้นหนึ่งขึ้นมาสวมบนใบหนา เขารอไมไหวแลว
บทที่ 39 รำกระบี่
ณ โรงฝกศาสตราวุธ อายฮุยลากเอาเกาอี้หวายมาไวที่บริเวณสวนเพื่อมานอนเลน
อยางสบายๆ
โรงฝกอันเงียบสงบ แสงจากน้ำเตาที่ออนโยน แสงจากดวงจันทรที่สองสวางเปน
ประกายจากทองฟา ทุกสิ่งลวนทำใหอายฮุยรูสึกสงบและสุขสบายมากกวาปกติ ไมมี
เสียงรบกวน ไมมีการตอสู ไมมีจิตใจที่ตึงเครียด ทั้งรางกายและจิตใจไดผอนคลาย ทำ
ใหเขานั้นรูสึกขี้เกียจขึ้นมานิดหนอย
เมื่อกอนตอนที่อยูที่โรงฝกดาบ เขาก็ชอบใหเวลากลางคืนผานไปเชนนี้ ปลอยใจ
ใหสบายเปนอิสระ
เกาอี้หวายที่โยกไปโยกมา พรอมทั้งแสงจันทรที่อาบเอิบมายังราง พอดีกับที่
ประตูใหญไดถูกเปดออก เสียงที่ดังจากสถานที่อันหางไกลไดเล็ดลอดเขามาในซอยอัน
เงียบสงบ ทำใหฟงดูแลวไมคอยไดยินแตกลับทำดูมีกลิ่นอายของโลกมนุษยมากขึ้น
สวนหนึ่ง
ในมือของอายฮุยกำลังเลนสรอยไขมุกที่เพิ่งไดมาวันนี้ ตัวไขมุกกระจายความเย็น
ออกมา เมื่ออยูในมือทำใหรูสึกสบายเปนอยางมาก ไมรูวาเปนเพราะสรอยไขมุก หรือ
วาเปนเพราะยามราตรีที่เงียบสงบ จิตใจของอายฮุยนั้นรูสึกสงบเปนอยางมาก
“สรอยครามสงบจิตหรือนั่น” โหลวหลานที่เดินเขามาจากทางประตูสังเกตเห็นสรอย
ไขมุกที่อายฮุยเลนอยูในมือ นัยนตาของเขาสองประกายแสงสีเหลืองขึ้นแวบหนึ่ง
จากนั้นก็ทำการประเมินคาออกมา “เปนสรอยครามสงบจิตหรือที่มีคุณภาพสูงมาก”
“แลวราคาสูงไหม” อายฮุยโยกบนเกาอี้ไปมา “เปนของค้ำประกันเงินหนึ่งรอย
หาสิบหยวนของสาวนอยคนหนึ่งแหละ!”
“มีราคาอยางมาก” โหลวหลานพยักหนา แสงสีเหลืองในดวงตาคอยๆ มืดลง เขา
นั่งลงขางๆ อายฮุยพลางกลาวขึ้น “ความกาวหนาของอายฮุยชางมากนัก อา รางกาย
ก็เปลี่ยนมาแข็งแกรงแลว ดวยความเร็วเชนนี้ อีกไมนานก็สามารถทะลวงประตูคลัง
ชีวิตไดแลว”
“ใหผานไปอีกสักชวงหนึ่งเถอะ” อายฮุยสายหัว “ขาคิดจะทำการฝกฝนรางกาย
กอน ลมทองคำมีผลที่ดีมากตอการฝกรางกาย สะสมพลังอีกสักนิด แลวคอยทำการ
ทะลวงคลังชีวิต เชนนี้จะไดมีโอกาสมากขึ้นอีกหนอย”
โหลวหลานกมหนาคิดอยูสักครูจึงกลาวขึ้น “ถาเปนเชนนั้น โหลวหลานจะชวย
ทำพวกขนมเคกเสริมกระดูกโลหิตใหอายฮุย ผลลัพธที่ไดดีมากเลยทีเดียว”
“ขอบคุณโหลวหลาน” อายฮุยลองคิดดูแลวจึงถามขึ้น “แพงหรือเปลา”
“ไมแพง เคกเสริมกระดูกโลหิตราคาหนึ่งแสนหยวนก็เพียงพอแลวสำหรับการกิน
ในหนึ่งเดือน” โหลวหลานคิดคำนวณให
หนึ่งแสนหยวน...ไมแพง...
ไมวาอยางไรอายฮุยก็ไมมีวิธีที่จะเอาคำวา “หนึ่งแสนหยวน” กับคำวา “ไมแพง”
มารวมเขาดวยกันได แตวาโหลวหลานพูดวาผลลัพธที่ไดไมเลว ก็ยังทำใหเขารูสึก
หวั่นไหวอยู เขารูวาโหลวหลานไมเคยพูดเรื่อยเปอย หากโหลวหลานพูดวาไมเลว
เชนนั้นผลลัพธก็จะตองไมเลวอยางแนนอน ไมวาจะเปนน้ำแกงบำรุงพลังธาตุ หรือน้ำ
แกงบำรุงกระดูกของเมื่อคราวกอน ผลลัพธก็ลวนไมธรรมดาทั้งสิ้น
ผลิตภัณฑที่ไดจากตัวตุนน้ำแกง แนนอนวาจะตองเปนผลิตภัณฑคุณภาพสูง
“ได!” อายฮุยกัดฟนพูด หนึ่งแสนหยวน ตองจายแลว!
อายฮุยที่สายตาแหลมคมไดสังเกตเห็นทรายที่อยูบนตัวโหลวหลานดูเหมือนจะมี
การเปลี่ยนแปลง จึงอดไมไดที่จะถามขึ้นอยางประหลาดใจ “โหลวหลานสีของตัวเจา
ดูเหมือนวาจะเปลี่ยนไปนิดหนอยนะ”
“ใชแลว โหลวหลานมีความสามารถในการการเรียนวิธีตอสู” โหลวหลานอธิบาย
“อาจารยเซาพูดวา โหลวหลานไมไดเปนตุกตาทรายที่ถูกสรางมาสำหรับการตอสู
ดังนั้นจึงไมไดมีทักษะสำหรับการตอสูโดยเฉพาะ แตวาในดานการตอสูโหลวหลานก็
ไมไดออนแอ”
ใบหนาของอายฮุยเต็มไปดวยความมึนงง “ฟงไมเขาใจ”
“หรือพูดไดวา โหลวหลานสามารถพัฒนาทักษะการตอสูจากการเรียนรู ได ”
โหลวหลานอธิบายตอ “แตวาในขั้นตอนนี้ตองใชเวลา โหลวหลานชวงนี้ไดเรียนรูพวก
ทักษะการตอสูขั้นพื้นฐานบางสวน ทักษะการตอสูไดทำใหรากฐานพลังธาตุเกิดการ
เปลี่ยนแปลง ดังนั้นสีของทรายที่อยูบนรางก็เลยเปลี่ยนแปลงไปดวย”
ในที่สุดอายฮุยก็ฟงเขาใจกระจาง “ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง”
“แตวาโหลวหลานพบกับปญหาอยูขอหนึ่ง อายฮุยสามารถชวยโหลวหลานไดหรือไม”
โหลวหลานถาม
“แนนอน!” อายฮุยตอบรับอยางหนักแนน “เจาวามา!”
“โหลวหลานไดอานคัมภีรที่เกี่ยวกับการตอสูมามากมาย ทั้งหมดลวนกลาวถึง
การใชอาวุธ โหลวหลานไมรูวาควรจะเลือกใชอาวุธอะไรดี” โหลวหลานรำพึง
“อาวุธ” อายฮุยเงียบไปครูหนึ่งจึงกลาวขึ้น “ขารูสึกวาเจาไมจำเปนตองใชอาวุธ
เพราะวารางกายของเจาก็คืออาวุธที่ดีที่สุด”
“รางกายหรือ” โหลวหลานคอนขางจะมึนงง
“ใชแลว” อายฮุยนั่งตัวตรงขึ้นมา ทาทีดูจริงจัง “รางกายของโหลวหลานสามารถ
เปลี่ยนแปลงรูปรางไดดั่งใจ ออนได แข็งได ไมคิดวานี่เปนอาวุธที่ดีที่สุดหรอกหรือ
การตอสูเปนเรื่องที่ซับซอน แตก็เปนเรื่องที่เรียบงายเรื่องหนึ่งเชนกัน ก็เหมือนกับใน
ครั้งกอน รางกายของโหลวหลานไดเปลี่ยนเปนเมฆทราย หลบซอนการตรวจจับของ
อีกฝาย เขาขัดขวางการเชื่อมตอของอีกฝายกับ [ตาขายเพลิงแมงมุมดิน] เชนนี้ก็แสน
รายกาจมากแลวนะ สิ่งนี้ถือเปนกุญแจสำคัญที่พวกเราสามารถเอาชนะมาได”
“จริงหรือ” เมื่อไดฟงคำชม น้ำเสียงของโหลวหลานก็แสดงออกถึงความดีใจ
“ใชแลว โหลวหลานรายกาจมาก ตราบใดที่โหลวหลานใชจุดเดนของรางกายได
อยางมีไหวพริบ ก็จะสามารถไปถึงจุดที่ไมมีผูไดสยบได” ทาทางของอายฮุยนั้นจริงจัง
“การตอสู ก็คือการใชจุดเดนของตัวเองในการโจมตีจุดออนของอีกฝาย”
“อายฮุยชางยอดเยี่ยมจริงๆ รูเรื่องมากมายถึงเพียงนี้” โหลวหลานมีความนับถือ
อยางมาก แตแลวก็ถามขึ้นอยางประหลาดใจ “แลวอายฮุยใชอาวุธอะไรเหรอ”
“ขาใชกระบี่” อายฮุยตอบ
โหลวหลานนึกถึงกระบี่หญาเลมนั้นที่อยูในหองขึ้นมาได จึงกระจางขึ้นมาในทันที
“นึกออกแลว อายฮุยมีกระบี่หญาอยูเลมหนึ่ง แตวาไมเคยเห็นอายฮุยใชมากอนเลย”
“รอขาสักครูหนึ่ง” อายฮุยรูสึกวาตนเองไมไดจับกระบี่มานานมากแลว อยูๆ ก็
รูสึกคันไมคันมือขึ้นมา จึงไดพุงเขาไปในหองอยางตื่นเตนเพื่อที่จะหยิบกระบี่หญาของ
ตนออกมา
เมื่อกระบี่หญามาอยูในมือ ก็รูสึกไดวาเมล็ดพันธแหงตัวออนกระบี่ที่อยูตรงหวางคิ้ว
เคลื่อนไหวขึ้นในทันที ความรูสึกที่ไมไดพบมายาวนานทำใหอายฮุยรูสึกตื่นเตนขึ้นมา
ในตอนที่โหลวหลานเห็นอายฮุยเดินถือกระบี่หญา เขามา ก็กมหนาลงพูดกั บ
ตัวเองวา “อายฮุยดูเหมือนวาจะแตกตางออกไป”
แสงจันทรที่เปนดั่งสายน้ำ “สภาวะตัวออนกระบี่” ที่ไมไดเขามาเนิ่นนานทำให
อายฮุยเกิดความรูสึกอยากจะรายรำกระบี่ขึ้น ไวเทาความคิดกระบี่หญาที่อยูในมือก็
ไดตั้งทาชี้ขึ้นสูทองฟา
นัยนตาที่มีประกายแสงอยูลึกๆ ขางใน ชางดูแลวลึกล้ำเงียบสงบจนไมอาจคาด
เดาได กลิ่นอายจางๆ แตกลับเย็นยะเยือกราวแสงจันทรไดแพรกระจายออกมาจาก
รางของอายฮุย
จิตใจที่นิ่งสงบดั่งสายน้ำ ราวกับคัมภีรกระบี่จำนวนนับไมถวนอยูๆ ก็ถูกสายลม
พัดใหเปดขึ้น พลิกเอาหนากระดาษเปดขึ้น กระบวนทาของแตละหนานั้นดูราวกับมี
ชีวิตขึ้นมา คอยๆ ลอยขึ้นมาจากหนากระดาษ กลายเปนคนตัวเล็กๆ ที่มีชีวิต
อายฮุยเริ่มรำกระบี่หญาที่อยูในมือ
กระบี่หญาถูกสรางขึ้นจากหญากระบี่ กวางสี่นิ้วมือ หนักสามชั่งสองตำลึงหกสลึง
มีความคมโดยธรรมชาติ
การเคลื่อนไหวของอายฮุยแสนเชื่องชา ราวกับเปนคุณยายแกๆ ก็ไมปาน แตวา
บรรยากาศรอบตัวของเขากลับเปลี่ยนไปราวกับจะแข็งตัวขนหนืดขึ้นมา
ในตอนที่อยูในแดนราง การฝกพลังธาตุของอายฮุยไมไดมีผลสำเร็จอะไร พลังธาตุ
กอนนั้นที่ฝกขึ้นมาไดอยางยากลำบาก จึงไมไดหยิบมาใชเลนๆ ราวกับเปนสมบัติกน
กรุเอาไวชวยชีวิตในยามคับขัน
สิ่งที่เขามีอยูมากที่สุดก็ยังคงเปนกระบวนทากระบี่
ตั้งแตที่สามารถเพราะตัวออนกระบี่ได เขาก็พบจุดที่ยอดเยี่ยมของตัวออนกระบี่
ซึ่งก็ทำใหเขาสามารถรับรูไดถึงกระบวนทาบางสวนที่ยังพอใชไดซึ่งหลงเหลืออยูใน
คัมภีรกระบี่ และในเวลานั้น เขาเองก็ไมไดมีทางเลือกอื่น
กระบวนทาในคัมภีรกระบี่ที่เขาเคยอานทั้งหมด เคยนำมาลองใชอยูหลายหน จน
ในภายหลังเขาพบวาพวกกระบวนทาพอจะมีประโยชนอยูสวนหนึ่ง
ซึ่งทั้งหมดลวนเปนพวกกระบวนทาที่เรียบงายและไมลึกซึ้ง
เขาคิดดูก็รูสึกวาเปนเรื่องปกติ ยิ่งเปนกระบวนทากระบี่ที่ลึกล้ำสูงสง ก็จะยิ่งมี
ความตองการพลังวิญญาณที่สูงตามไปดวย ดังนั้นตอนนี้กระบวนทาขั้นสูงจึงไมมี
ประโยชนอะไร กลับกันพวกกระบวนทากระบี่ที่เรียบงายและไมลึกซึ้ง ไดใชเทคนิคที่
เกี่ยวพันอยางมากกับการเคลื่อนไหวกลามเนื้อ กระบวนทาเหลานี้จะมีผลลัพธใน
ปจจุบันมากกวา
การรายรำกระบี่ของอายฮุย ยิ่งรายรำยิ่งรวดเร็วขึ้น สมาธิของเขาเพงสงบนิ่ง
อยางถึงที่สุด
คมดาบของกระบี่หญานั้นไมไดมีความมันวาว แตกระบี่ประกายแสงนวลจันทร
ลองลอยไปรอบกายของอายฮุย ราวกับปลาสีเงินที่กำลังเลนไลจับ ชางดูงดงามเปน
อยางมาก
เขาไมไดสังเกตเลยวาที่ประตูมีเงารางหนึ่งอยู
ซือเสวี่ยมั่นตกตะลึงอยางถึงที่สุด นางไมเคยคิดมากอนวาจะไดมาเห็นเพลงกระบี่
ที่งดงามเชนนี้ที่นี่ ในสนามเหนี่ยวนำก็มีสอนวิชากระบี่ แตนางไมเคยเห็นเพลงกระบี่ที่
งดงามเชนนี้มากอน
เมืองซงเจียนเปนเมืองที่เสือซอนมังกรเรน* เชนนั้นจริงๆ หรือ
ทันใดนั้น สายตาของซือเสวี่ยมั่นก็ไปหยุดอยูที่สรอยไขมุกที่อยูบนขอมือของอายฮุย
ในหัวอื้ออึงไปสักพัก ใบหนาก็ซีดขาวขึ้นมาอยางรวดเร็ว
*เสือซอนมังกรเรน หมายถึงมีคนเกงหลบซอนอยู
บทที่ 40 เพลิงโกรธของเงินแปดสิบลานหยวน
ซือเสวี่ยมั่นแทบจะไมเชื่อสายตาตนเอง
สรอยครามสงบจิตที่อยูบนขอมือของอายฮุยเปนเสมือนเทียนที่ถูกคอยๆ ไฟ
หลอมละลายไป กลายเปนเหมือนกับเมือกเหนียวซึมเขาไปในผิวของอายฮุย
หัวของนางราวกับถูกตอยไปหมัดหนึ่ง ในชวงวินาทีนั้นสมองกลับกลายเปนวางเปลา
นั่นเปนของดูตางหนาของทานยา!
แตเล็กจนโตนางแทบไมเคยถอดออกเลย เมื่อมองเห็นมันก็เหมือนกับไดเห็นทาน
ยาที่นางรักที่สุด
นางยังจำตอนที่ทานยามอบสรอยครามสงบจิตเสนนี้ใหแกนางได ทานยิ้มพลางกลาว
กับนางวา “หลานสาวที่นารักของขาเอย สรอยครามสงบจิตเสนนี้เจาจงใสติดตัวเอาไว
เมื่อเจาโตขึ้นแลวไดพบกับชายในดวงใจ ก็จงมอบสรอยครามสงบจิตเสนนี้ใหกับเขา
สิ่งนี้ถือเปนของแทนใจที่ดีที่สุด มันถูกสรางขึ้นจากปกปกษาสีครามเชียวนะ...”
แตวา...
ซือเสวี่ยมั่นดึงสติกลับมา ก็กาวขาเร็วๆ ราวลูกศรพุงเขาไป เสียงที่กลาวสั่นเทา
คลายจะรองไห “สรอยไขมุกของขา!”
อายฮุยถึงกับตกใจสะดุง รีบถอดตัวออกจากสภาวะตัวออนกระบี่เพื่อดึงสติกลับ มา
มองไปก็พบกับเด็กสาวที่รานบะหมี่ จึงไดตอบสนองขึ้นมา “เปนเจานี่เอง เฮ รองไห
ทำไม เอาเงินหนึ่งรอยหาสิบหยวนคืนใหขา สรอยไขมุกก็คืนเจาแลว”
พูดจบอายฮุยก็ยืนมือไปลูบบริเวณขอมือ และการเคลื่อนไหวของเขาก็หยุดลง
ในทันที
ไมถูกนะ...
เขานิ่งไปหลายวินาที เมื่อเขากมหนาลงมองขอมือของตน วินาทีถัดมาก็มึนงงไปแลว
ขอมือของเขาเหลือเพียงแคสรอยเปลาๆ เสนหนึ่ง แลวไขมุกเลา เขากวาดตามอง
รอบดาน บนพื้นก็มองไมเห็นแมแตเงาของไขมุก
“อายฮุย ไขมุกถูกเจาดูดซึมเขาไปแลว” โหลวหลานกลาวขึ้นซื่อๆ
เขาดูดซึมเขาไปหรือ
อายฮุยมึนงงไปเลย นี่มันเปนสถานการณแบบไหนกัน จะถูกดูดซึมเขาไปไดอยางไร
เขารีบทำการตรวจสอบรางกายตนเอง เขาก็ไดพบวารอบๆ ตัวออนกระบี่มีหมอกสี
ครามลอมรอบเพิ่มขึ้นมา เขาอดไมไดที่จะสูดหายใจเอาอากาศเย็นๆ เขาปอดทีหนึ่ง
เขาดูดซึมเขาไปแลวจริงๆ ดวย
อายฮุยรูสึกราวกับวาหัวใจของเขาถูกวัวปาในทุงรกรางทั้งฝูงเหยียบย่ำขามไป
เขามองดูสาวนอยรานบะหมี่ที่ดวงตาเออลนไปดวยน้ำตาแลว อายฮุยก็ทำอะไรไมถูก
“ขอโทษ ขาไมไดตั้งใจ เออ...หนึ่งรอยหาสิบหยวนไมตองคืนแลว...”
เมื่อพูดออกไป อายฮุยก็รูตัววาตนนั้นพูดผิดไป ทำใหสาวนอยรานบะหมี่ที่ดวงตา
เต็มไปดวยน้ำตาเปลี่ยนเปนจิตสังหารในทันที
อายฮุยรีบรอนกลาวขึ้น “ขาจะชดใชให! ขาจะชดใชให!”
“สิ่งนี้เปนของดูตางหนาของทานยาขา!” ซือเสวี่ยมั่นกลาวขึ้นทำทาจะรองไห
อา ยฮุย รูสึกวา หัวของเขาโตขึ้ น มาแล ว ตอนนี ้ เขานึ กเสี ยใจจนลำไส เขียวไป
หมดแลว หากรูแตแรกคงไมตองมาค้ำประกงค้ำประกันอะไรนี่ รูอยางนี้นาจะเลี้ยง
บะหมี่ชามนั้นไปเสีย! แตวานี่เปนความผิดของเขาจริงๆ เขาทำไดเพียงนอมรับ
“ขะ...ขาผิดเอง ขาขอโทษ ตองขอโทษจริงๆ ขาไมรูจริงๆ วามันจะเปนเชนนี้ ขา
เองก็ไมแนใจเหมือนกันวาทำไมขาถึงไดดูดซึมของนี่เขาไปได เจาใหขาชดใชดีไหม”
ซือเสวี่ยมั่นไดฟนอารมณคืนสูความสงบบางแลว “เจาคิดจะชดใชอยางไร”
เหตุการณที่เกิดขึ้นทั้งหมดนางลวนเห็นอยูกับตา และก็รูวาอีกฝายไมไดตั้งใจ
สรอยครามสงบจิตถูกดูดซึมไปเอง นางก็ไมเคยไดยินเรื่องเชนนี้เชนกัน
“ขายังมีเงินอยูอ ีกสองแสนหาหมื่ นหยวน ใหเจาทั้งหมด” ใจของอายฮุย นั้ น
เจ็บปวดไปหมด แตวาจะทำอยางไรได ก็เปนตนที่ทำลงไปจริงๆ เรื่องอยางการเบี้ยว
หนี้เชนนี้ เขาก็ไมใจรายใจดำถึงขนาดที่จะทำออกมาได
“สองแสนหาหมื่นหยวนหรือ” ซือเสวี่ยมั่นแสยะยิ้ม
“ไมพอหรือ” อายฮุยถึงกับมึนงงขึ้นในทันที ก็แคสรอยไขมุกพังๆ สีครามอะไรนั่น
เงินกอนใหญตั้งสองแสนหาหมื่นหยวนยังไมพออีกหรือ
โหลวหลานที่อยูขางๆ จึงกลาวขึ้นอยางซื่อๆ “อายฮุย ราคาของสรอยครามสงบ
จิตโดยทั่วไปอยูที่สามสิบลานหยวนขึ้นไป คุณภาพของสรอยเสนนี้สูงมาก นาจะมี
ราคาสูงกวาหาสิบลานหยวนเสียอีก”
ซือเสวี่ยมั่นมองไปที่โหลวหลานแวบหนึ่ง ตุกตาทรายที่รูเรื่องสรอยครามสงบจิต
อยางละเอียดเชนนี้หาไดยากมาก นางกลาวขึ้นดวยใบหนาที่ไรอารมณ “สรอยคราม
สงบจิตเสนนี้เปนเสนที่คุณภาพอยูในระดับสูงสุด ราคาอยูที่แปดสิบลานหยวน”
แปด...แปดสิบลาน!
อายฮุยราวกับถูกถังน้ำจากบนฟาตกใสหัวแลวถูกฟาผาใสอีกที รูสึกวาตนนั้น
พังทลายไปอยางไมมีชิ้นดี เขาอาปากกว าง ตาทั ้ งสองข างเบิกโตจนแทบจะถลน
ออกมา กลามเนื้อของรางกายทุกๆ สวนแข็งคางราวกับเหล็ก
อายฮุยรูสึกวาชีวิตของตนนั้นดำมืดลงมาอยางนาอนาถ
แปดสิบลานหยวนเชียวนะ!
ทานยานอย เจามีเรื่องอะไรถึงไดใสสรอยไขมุกราคาแปดสิบลานมาเดินลอยหนา
ลอยตาที่ในเมือง
ทานยานอย ขนาดสรอยไขมุกราคาแปดสิบลานหยวนเจายังพกติดตัวทำไมเงิน
แคหนึ่งรอยหาสิบหยวนเจาถึงไมรูจักพก
เงินหนึ่งรอยหาสิบหยวนมันเปนเงินกอนใหญเพียงใดกัน ถึงกับทำใหทานยานอย
ตองเอาสรอยไขมุกราคาแปดสิบลานหยวนมาเปนของค้ำประกัน
ตัวออนกระบี่เจามันสาระเลว ไขมุกราคาแปดสิบลานหยวนเจายังกลากลืนลงไป
จิตใจของเจามันดำมืดเพียงใดกัน เจานี่มันทำรายคนยิ่งกวาเจาอวนอีกนะ!
แปดสิบลานหยวนขา ขา ขา...
อายฮุยไมรูเลยวาควรทำเชนไร ประสบการณทั้งชีวิตของเขาที่เคยเจอกับเรื ่อง
อันตรายตางๆ ลวนไมอาจชวยอะไรเขาในสถานการณตอนนี้ไดเลย
เขายอมที่จะไปเผชิญหนากับอสูรทั้งแดนราง ดีกวาจะมาเผชิญหนากับสาวนอย
รานบะหมี่ที่อยูตรงหนานี้
เอาเถิด อายฮุยไมมีอะไรจะเสียแลวตอนนี้ “ตอนนี้ขาเองก็ไมรูจะทำอยางไร ขาย
ตัวขาไปแลวก็ไมไดราคาถึงแปดสิบลานหยวน สาวนอยรานบะหมี่ เจาวาเอาอยางไรก็
เอาตามนั้น ขาไมมีทางเบี้ยวแน”
“หึ ถาไมใชเห็นวาเจาเองก็ไมไดตั้งใจ วันนี้เจาก็คงตายไปแลว” ซือเสวี่ยมั่นกลาว
ขึ้นอยางเย็นชา
อายฮุยมองดวยความโกรธ เขาอยากจะพูดขึ้นวาลูกผูชายฆาไดหยามไมได แตวา
พอสบตาเขากับซือเสวี่ยมั่นตรงๆ ก็ตองพึมพำแลวหันหัวไปอีกทาง
เจาตัวออนกระบี่ชางสมควรตายนัก!
ทำไมเขาไมใชเจาอวนนะ หากเปนเจาอวน ตอนนี้จะตองพูดอยางยิ่งยโสขึ้นมาวา
คนที่ติดเงินเปนดั่งนายทาน ยิ่งติดเงินอยูแปดสิบลานหยวนยิ่งเปนนายทานในบรรดา
นายทาน ควรจะดูแลนายทานกอน...
เอาเถอะ ตนยังรูจักขอบเขตอยู เขาทำเรื่องไรยางอายเชนนี้ออกมาไมได
อายฮุยทำหนาคลายคนอมทุกข
ซือเสวี่ยมั่นในตอนนี้ก็ยังไมรูวาควรทำเชนไร สรอยครามสงบจิตก็ไมเหลือแลว
จะฆาเจานี่ทิ้งเลยดีไหม ตอนอยูรานบะหมี่อีกฝายก็มีใจหวังดีที่จะชวยตน ระหวางที่
สรอยครามสงบจิตถูกดูดซึมนางเองก็เห็นกับตาวาเขาไมไดตั้งใจ
หากใหชดใช สรอยครามสงบจิตราคาแปดสิบลานหยวน เอาเจานี่ไปขายแลวก็ยัง
ชดใชไมหมด
หากจะซอมสักยกหนึ่ง ก็ยังรูสึกวาเปนการปลอยเจานี่ไปงายเกินไป
ในตอนนี้ซือเสวี่ยมั่นก็รูสึกคับของใจ เงินแปดสิบลานหยวนนั้นนางไมไดใสใจ แตการที่
ทำของดูตางหนาของทานยาหายไปเชนนี้ ในใจของนางเจ็บปวดจนแทบทนไมได
จะใหปลอยอีกฝายไปเลย ซือเสวี่ยมั่นยิ่งไมมีทางทำไดเปนอันขาด
ทั้งสองตางก็นิ่งเงียบจองหนากัน
โหลวหลานมองคนทั้งสอง ไมรูวาจะพูดอะไร จึงทำเพียงแคพูดขึ้นเบาๆ วา “ถึงแมจะ
ไมไดมีประโยชนอะไร แตทางนี้โหลวหลานยังมีเงินอีกสองแสนหาหมื่นหยวน”
อายฮุยสายหัว “ใครทำคนนั้นตองรับผิดชอบ โหลวหลาน ขาไมสามารถใชเงิน
ของเจาได”
ซือเสวี่ยมั่นคำรามเสียงเย็นในคอครั้งหนึ่ง แตก็ไมไดพูดอะไร
ทันใดนั้น อายฮุยหันขวับไปที่กำแพงที่ลอมรอบอยู “นั่นใคร”
ในเวลาเดียวกัน ซือเสวี่ยมั่นเองก็หันหนาอยางแรงไปทางกำแพง “นั่นใคร” ทั้ง
สองคนไดพูดขึ้นพรอมๆ กัน
“เหอะ เหอะ!” เสียงหัวเราะชั่วรายดังขึ้น พรอมกับเงาดำปรากฏขึ้นที่ดานบนกำแพง
สายตาแหลมคมของซือเสวี่ยมั่น แคมองแวบเดียวก็รูวาอีกฝายสวมหนากากพลัง
ธาตุอยูบนใบหนา เสียงที่พูดก็ราวกับรอดออกจากไรฟน “ไยจึงทำตัวลึกลับ!”
นางนั้นลืมไปเลยวาตนเองก็สวมหนากากพลังธาตุอยู
“อายฮุย คิดไมถึงเลย เจาเองก็ยังมีชูรักกับเขาดวย!” เงารางที่อยูบนกำแพงกลาว
ขึ้นอยางวิตถาร
ชูรัก! คิ้วของอายฮุยและซือเสวี่ยมั่นขมวดขึ้นเปนปมพรอมๆ กัน
ถุย! อยางเจานี่นะหรือจะมีคุณสมบัติเปนคนรักของขา ความโกรธของซือเสวี่ยมั่น
ที่สะกดเอาไวมาตลอดคืนไดระเบิดออกในชวงวินาทีเดียว
ฮึ่ย! ขาไมไดตองการชูรักที่ลืมไดแมกระทั่งเงินหนึ่งรอยหาสิบหยวนหรอก! ทำให
ตองเปนหนี้เปนสินถึงแปดสิบลานหยวนเพราะตัวออนกระบี่เจากรรมนี่! ความโกรธใน
ตัวอายฮุยก็ระเบิดออกมาเชนกัน
ซือเสวี่ยมั่นที่มีใบหนามืดคล้ำหายวับไปจากตำแหนงที่ยืนอยูในพริบตา
อายฮุยที่อารมณไมดีเองก็ไมไดพูดพร่ำทำเพลง จอกระบี่พุงออกไป
บทที่ 41 หนึ่งกระบี่
ในสมองของตวนมูหวงฮุนไดคาดเดาเหตุการณที่อาจจะเกิดขึ้นเอาไวนับไมถวน
แตทวาไมไดรวมไปถึงเหตุการณตรงหนานี้อยางแนนอน
แตวาเพียงไมนานเขาก็ยิ้มขึ้นมาแลว
เจาคนที่แมแตวิชาพื้นฐานก็ยังไมเคยเรียน คลังชีวิตก็ยังไมไดเปด ถึงกับเขามาทา
ทายเด็กหนุมที่มีพรสวรรคเชนตน ตวนมูหวงฮุนพูดไมออกเลยจริงๆ
รวมไปถึงชูรักของเจาอายฮุย เอาเถอะ ผูหญิงที่หลงชอบแมแตเจาคนที่เปนเหมือนดิน
โคลนเละๆ ที่เอาไปกอกำแพงไมไดเชนนี้ ยังจะหวังวาจะมีระดับสักเทาไรกันเชียว
วันนี้จะจัดการเจาคูรักนี้เสีย เพื่อกำจัดมารในใจใหสูญสิ้น!
ตวนมูหวงฮุนกระตุกยิ้มอยางชั่วราย นัยนตาทั้งสองขางทอแสงประกาย
แตวาในเวลาถัดมา รอยยิ้มของเขาก็แข็งคางอยูบนใบหนา
เงารางที่เลือนรางเปนดั่งภาพมายาในวารี ไดปรากฏขึ้นตรงหนาของเขา ใบหนานั้นที่
ไมไดมีความงดงามแตกลับมีเงาอันโหดเ**ยมอยู เกือบจะยายมาอยูตรงหนาของเขา
เร็ว...มาก!
ฝามือขาวผองราวหิมะอันไรมลทินขางหนึ่ง กดลงมาที่หัวไหลเขาอยางออนโยนไร
เรี่ยวแรง
นัยนตาของตวนมูหวงฮุนไดเบิกกวางจนกลมโตขึ้นมาในทันที
ตูม!
เสียงระเบิดที่ทุมต่ำราวกับเสียงยิงลูกปนใหญดังขึ้น นำมาซึ่งเสียงที่ทำใหคนตอง
หวาดกลัว
ภายใตความมืดมิดของรัตติกาล โดยรอบฝามือที่งดงามสมบูรณแบบจนทำให
ผูคนไมอาจละสายตาขางนั้นเผยออกมา ขณะที่กระแสอากาศเวียนมารวมกันเปนวง
แหวน เหมือนกับควันที่ออกมาจากปากกระบอกปน
รางของตวนมูหวงฮุนที่อยูบนกำแพงหายไปในชั่วเสี้ยววินาทีเดียว
ทันใดนั้นเอง เขาก็ลอยไปกระแทกกับกำแพงฝงตรงขามอยางแรงประหนึ่งเปน
ลูกปนใหญที่ออกจากปากกระบอก จนกำแพงแถบใหญถลมลงมา
ตวนมูหวงฮุนดิ้นรนลุกขึ้นมาจากกองเศษหิน ที่หัวไหลของเขามีโลที่ถักทอจาก
เถาวัลยหนามเพิ่มขึ้นมา ตาของเขาถึงกับเห็นดาวลอยไปลอยมา ในหัวมึนงงไปหมด
ชางเปนพลังที่นากลัวยิ่งนัก!
ชูรักของเจาอายฮุยเปนวัวปาหรืออยางไรกัน
นี่...นี่มันไมถูกหลักแลว...
อายฮุยจะมามีผูหญิงที่ดุรายเชนนี้ไดอยางไร
ในหัวของตวนมูหวงฮุนเต็มไปดวยหมอกควัน แตวาไมนานในใจของเขาก็แอบร่ำ
รองวาแยแลว เขาสามารถรับรูไดวาการตอบสนองของรางกายตนนั้นเชื่องชา
พับผาสิ!
รางกายของเขานั้นออนลาถึงขีดสุด พลังกายก็ใชเกินกำลังไปแลว ในตอนนี้แค
ประคองการรับรูใหยังชัดเจนอยูก็ลำบากแลว แตวาการตอบสนองของรางกายนั้นตาม
ไมทันเสียแลว
การจูโจมเมื่อครูมีความรุนแรงอยางมาก เขารูสึกไดวากลามเนื้อทั่วรางกำลังสั่นไหว
รางกายที่เหนื่อยลาทำใหพลังธาตุที่อยูในรางของเขาเริ่มจะไมสามารถควบคุมได
และในเวลานี้ อายฮุยเพิ่งจะถือกระบี่กระโดดขึ้นมาบนกำแพง
อายฮุยที่โจมตีโดนอากาศ ความโกรธในใจก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เขาใชสายตากวาดมอง
รอบหนึ่ง มองเห็นเปาหมายที่กำลังลุกขึ้นยืนจากตรงกลางของกองเศษหิน เขาก็ไมพูด
พร่ำทำเพลง กระโดดลงจากกำแพงแลวพุงโจมตีอีกฝาย
ขณะอยูกลางอากาศสายตาพลันเหลือบไปเห็นหญิงสาวจากรานบะหมี่ปรากฏขึ้น
ขางๆ ตัวเปาหมาย
ฝามือขางหนึ่งของนางกระแทกไปที่โลเถาวัลยของเปาหมายอยางไรสุมเสียง
อายฮุยยิ่งโมโหเขาไปใหญ สาวนอยรานบะหมี่เจาจะกินบะหมี่นี้หมดโดยไมคิดจะ
เหลือน้ำแกงใหเขาดื่มสักคำเลยเหรอ
เขาพาความดุดันนี้พุงไปทางเปาหมาย
ตูม!
เสียงระเบิดไดดังขึ้นอีก มวลอากาศกระจายตัวเปนวงแหวน
สมองของตวนมูหวงฮุนยังไมไดกลับมาแจมชัด พลังที่แสนนาหวาดกลัวก็ไดถาย
ผานเขามา ทัศนะวิสัยเบื้องหนาเปลี่ยนเปนเลือนรางในทันที รางกายลอยขึ้นอีกครั้ง
การโจมตีครั้งนี้เปนโจมตีเพื่อจะเอาชีวิตอยางมาก แตเดิมที่ยังเหลือสติสัมปชัญญะอยู
ตอนนี้ถูกโจมตีจนสูญไปสิ้น
ตวนมูหวงฮุนที่ไมไดมีความคิดเตรียมพรอมแมแตนอย ภายในเสี้ยววินาทีก็ถูก
ซอมจนมึนงงไปหมด ตวนมูหวงฮุนสูญเสียกำลังที่จะตอบโตได กลายมาเปนแกะที่รอ
ถูกเชือด ในใจซือเสวี่ยมั่นเต็มไปดวยความโกรธจากคำพูดเมื่อครูที่วา ‘ชูรัก’ นั่น ตอน
ที่ลงมือจึงไดอำมหิตไรปรานี
ตูม ตูม ตูม!
เสียงระเบิดที่ดังตูมตามสนั่นหวั่นไหว ดังสะทอนขึ้นครั้งแลวครั้งเลาภายในซอยแคบๆ
อายฮุยมองไปที่เปาหมายที่เหมือนกับนั่งอยูบนจรวดก็ไมปาน พุงไปดานหนา
เรื่อยๆ ดวยความรวดเร็วสูง สวนตนทำไดเพียงแคจับฝุน โจมตีไมถูกตัวเปาหมายเสีย
ที ทำใหอายฮุยที่มีเพลิงโกรธอัดแนนอยูในใจอยูแลว ยิ่งเผาผลาญยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก
หลายเทาทวี
ความรูสึกอัดอั้นที่ไมไดมีมานาน เพลิงโกรธของตลอดทั้งคืน ในชั่วเสี้ยววินาทีก็
เดือดจนถึงขีดสุด เขากระชับกระบี่หญาที่อยูในมือใหแนน เสนเลือดที่อยูบริเวณหลัง
มือไดปูดขึ้น ความเร็วของสาวนอยรานบะหมี่รวดเร็วราวสายฟา ดวงตาของเขานั้น
ยากจะตามทัน
อายฮุยที่เลือดขึ้นหนาไมทันสังเกตเห็นวาตัวออนกระบี่ในรางของเขากำลั งเกิด
ความเปลี่ยนแปลง เมล็ดพันธแหงตัวออนกระบี่ที่อยูตรงหวางคิ้ว กำลังดูดกลืนหมอก
สีครามที่อยูรอบๆ อยางไมหยุดยั้ง ประดุจดังทะเลทรายแหงแลงกำลังดูดกลืนน้ำฝน
อยางบาคลั่ง
หมอกสีครามสายแลวสายเลาไดถูกเมล็ดพันธแหงตัวออนกระบี่ดูดกลืนอยางไม
ขาดสาย
อายฮุยเพียงแครูสึกวากระบี่หญาที่อยูในมือดูเหมือนจะยิ่งเบาขึ้นเรื่อยๆ แตวาใน
เวลานี้ เขาเบิกตาโต วิ่งไปทางปากซอยอยางบาคลั่ง
ก็เพราะคำวา ‘ชูรัก’ นั่น วันนี้หากเขาไมไดใชกระบี่นี้ฟนลงไป เพลิงโกรธในใจ
ของเขากองนี้ก็ไมอาจที่จะดับลงได
แปดสิบลานหยวน!
แคกินบะหมี่มื้อเดียวก็ตองมาติดหนี้ถึงแปดสิบลานหยวน!
แมแตพลังธาตุที่เขาเก็บไวเปนสมบัติกนกรุ ในตอนนี้เขาก็ไมลังเลที่จะหยิบมาใช
ความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นในทันที
ตัวออนกระบี่ที่หวางคิ้วของอาฮุยมีเคาโครงที่เลือนราง เนื่องจากดูดซึมสรอย
ครามสงบจิตอยางตอเนื่อง เคาโครงที่เลือนรางก็กำลังเปลี่ยนเปนชัดเจนขึ้น แตเดิม
นั้นอา ยฮุยจะสามารถรับรูไดถึงการมีอ ยู ของเมล็ ดพัน ธแ ห งตั วอ อนกระบี่ แตวา
คอนขางจะคลุมเครือไมชัดเจน
ถึงแมวาเขาจะเฝาฟูมฟกตัวออนกระบี่อยางไร แตวาผลลัพธกลับเหมือนเดิม
จนกระทั่งมาถึงครั้งนี้
ไมมีใครสังเกตเห็นวาดวงตาของอายฮุยไดยอมดวยประกายแสงสีครามบางๆ
ชั้นหนึ่ง แสงสีครามสองใหใบหนาของอายฮุยยิ่งดูเครงขรึม ราวกับแนวหินในทะเลลึก
ความเร็วที่เมล็ดพันธแหงตัวออนกระบี่ดูดซึมหมอกสีครามไดเพิ่มขึ้นอยางไมหยุดยั้ง
ความเร็วของอายฮุยเองก็กำลังเพิ่มขึ้นอยางไมหยุดยั้งเชนกัน
อายฮุยที่กำลังวิ่งอยางบาคลั่ง เพลิงโกรธในอกก็เพิ่มขึ้นไมหยุด ทำใหทัศนะวิสัย
เกิดสั่นไหวขึ้นอยางฉับพลัน ภาพสาวนอยรานบะหมี่กับเปาหมายเปลี่ยนเปนเลือนราง
ไมชัดเจนทั้งคู
เสียงลมที่ดังขึ้นที่ขางหู โคมไฟของบานเรือนทั้งสองฝงในซอย เปนดั่งแสงและเงา
ที่เคลื่อนไหวไปมา
เขาไมเคยวิ่งไดเร็วเชนนี้มากอน แมแตตอนที่พบกับอสูรแดนราง เขาก็วิ่งไดไมเร็ว
ขนาดนี้ เลือดลมพุงพลานอยูในกายเปรียบเสมือนกับเปลวไฟที่อยูเหนือคลื่นใตแอง
ลาวา คละเคลากับเสียงลมที่ดังกึกกองอยูในหูและเสียงหัวใจเตนที่ดังกังวานอยูในอก
แตวา...ยังเร็วไมพอ!
เงารางยังอยูเพียงเบื้องหนา ทวาดูหางไกลเกินเอื้อม
ยังมีวิธีไหนอีก...
กระบี่หญาที่อยูในมืออายฮุยขยับขึ้นลงตามการเคลื่อนไหวของเขา โยกไหวโดยที่
เขาไมรูตัว ราวกับใบไมที่ลอยไปตามกระแสลม
จังหวะอันเปนเอกลักษณนี้เหมือนจะปลุกใหความทรงจำที่หลับใหลอยูในสวนลึก
ของสมองใหตื่นขึ้น กระบี่หญาที่อยูในมือประหนึ่งกับจะเชื่อมตอกับจิตใจไดก็ไมปาน
ขอมือขางที่กุมกระบี่ไวคอยๆ ขยับ เงากระบี่ราวกับเปนปก เกิดเสียงดังขึ้น วาดไป
ดานหนาเบาๆ ครั้งหนึ่ง
สายลมที่ปะทะหนาราวกับถูกกระบี่ผาใหแยกออกจากตรงกลาง ไหลผานไปทาง
ดานขางทั้งสองดานของอายฮุย
เงารางของอายฮุยอยูๆ ก็เกิดเปนเงารอยเรียงกันกลางอากาศ
ใบหนา ที่เครงขรึมไมไดขยับ แมแ ต น อ ย นั ย น ตาที่ ท อประกายสี ครามดู ไรซึ่ง
อารมณใดๆ เพียงแคจองมองไปยังเปาหมายที่อยูตรงหนา
เปนตอนนี้เองที่สรอยครามสงบจิตสวนสุดทายไดถูกตัวออนกระบี่ดูดกลืนไปจน
สิ้น แสงสีครามในดวงตาของเขาก็หายไปในชั่วเสี้ยววินาที เสียงดังกึกกองทั้งหลายที่
ลอมอยูรอบตัวของอายฮุยก็ไดหายไปพรอมๆ กัน เสมือนหนึ่งวาไดหลนลงไปในความ
วางเปลาอันเงียบสงัด
ไมมีเสียงใดๆ ทั้งสิ้น
คัมภีรกระบี่เลมหนึ่งที่ทั้งคุนเคยทั้งไมคุนไดเปดขึ้น เหมือนวาจะเคยฝกฝนมาแลว
ครั้งนับไมถวน ผอนแรงแขน และโยนกระบี่ออกไป
แสงสวางของทางเขาซอยก็อยูที่ตรงเบื้องหนา ความโกรธในใจของซือเสวี่ยมั่นก็
ไดระบายออกไปพอสมควรแลว นางใชกระบวนทาที่ทรงพลังโจมตีตอเนื่องถึงสิบกวา
กระบวนทา นางจัดการตวนมูหวงฮุนตั้งแตทายซอยไปจนถึงปากซอย
นางมองดูตวนมูหวงฮุนที่มึนงงจนเหมือนกับกระสอบทรายใบหนึ่งที่บินไปทาง
ปากซอยก็ไมปาน นางไดเผยสีหนาที่มีความพึงพอใจอันเปยมลม เจานี่สมควรจะได
เจอกับปากกระบอกปน แถมยังปากมาก โทษตายละไดแตโทษเปนไมอาจเวน!
ครั้งนี้กลับไปคงตองนอนซมอยางนอยสิบวันหรือครึ่งเดือน อยางไรก็ไมมีทางลุก
ไหวแน
อยูๆ ในใจของนางก็กระตุกขึ้น เกิดการตอบสนองในทันใด นางหันกลับไปอยางแรง!
ทามกลางความดำมืดของยามราตรี อายฮุยราวกับปกษาตัวใหญที่กระโดดขึ้นสูง
มานรัตติกาลเปนดั่งปกที่หลังของเขา
เสนแสงกระบี่สายหนึ่งที่ยากจะพรรณนาฉายวาบทั่วทองฟา
ราวกับเวลาหยุดนิ่งไปพลัน
บทที่ 42 สงบจิตสงบใจ
สิ่งนั้นเปนเพียงกระบี่หญาราคาถูกและธรรมดาที่สุด ไมมีการสลักชื่อของผูทำ
หรือของประดับประดาใดๆ ถึงขนาดที่วารานขายอาวุธยังครานจะเอามันขึ้นมาวางไว
ที่ชั้นขาย สวนมากมักจะถูกทิ้งไวในมุมที่ไมถึงดูดสายตาคน ใชเชือกรอยเอาไวเปนพวง
ซึ่งมักจะเต็มไปดวยขี้ฝุน ราคาขายไมมีทางเกินหนึ่งพันหยวน
ตอใหเปนกระบี่สำหรับซอมที่ซือเสวี่ยมั่นใชตามปกติก็ยังมีมูลคามากกวากระบี่
หญาเลมนี้หลายสิบเทา
นางไมเคยคิดมากอนเลยวากระบี่หญาที่ไรราคาแสนธรรมดาจะปลดปลอยแสง
ประกายเจิดจาเชนนี้ออกมาได
นางไมเคยเห็นประกายกระบี่ที่เจิดจรัสถึงเพียงนี้ ชางราวกับดอกไมไฟก็ไมปาน
กระบี่หญาที่ลอยออกจากฝามือของอายฮุย ไดสองประกายแสงระยิบระยับราวกับ
หยาดฝน แหวกผานทองฟายามราตรี เหลือทิ้งไวเพียงรองรอยแหงแสงเสนหนึ่งที่สอง
แสงสวางไสวงดงาม และกำลังพุงตรงไปยังเจาผูนั้นที่อยูตรงปากทางเขาซอย
ฟบ ฟบ ฟบ!
ราวกับ ฝา มือ จำนวนนับ ไมถ ว นกำลั งฉี ก กระชากเสื ้ อ ผ า ของอี ก ฝ า ยในเวลา
เดียวกัน เสื้อผากระจายเปนชิ้นๆ ในชวงเสี้ยววินาที ราวกับผีเสือ้ จำนวนนับไปถวนที่
โบยบินกระจายออกไป
ซือเสวี่ยมั่นที่เบิกตาโพลงรีบรอนหันหนาหลบไป
ตูม!
รางกายเปลือยเปลาที่ขาวราวหิมะไดลอยจากบริเวณปากทางเขาซอยไปยังถนนใหญ
ผูคนที่เดินไปมาในตอนแรกตางตกตะลึง ผานไปสักพัก ผูหญิงที่อยูบนถนนตาง
กรีดรองตามกันเปนทอดๆ ทันที
สายตาของซือเสวี่ยมั่นจดจองอยูที่อายฮุย ในใจตื่นตะลึงอยางหาใดเปรียบ ใช
แลว เพลงกระบี่เมื่อครู รายกาจยิ่งกวาการรายรำกระบี่ที่เห็นกอนหนานี้ หรือวานี่จะ
เปนระดับที่แทจริงของเขา
นางเคยเห็นผูใชกระบี่มีชื่อมาบาง แตไมมีผูใดที่ทำใหนางตกตะลึงไดมากถึงเพียง
นี้ วิชากระบี่นั้นตกต่ำมานาน พวกผูใชกระบี่มีชื่อพวกนั้นถึงแมวาพลังในการตอสูจะ
ไมธรรมดา ทวามักจะแผกลิ่นอายความกลัดกลุมใจไรซึ่งความทะเยอทะยาน นางไม
ชอบบรรยากาศอารมณเชนนั้น ดังนั้นจึงไมชอบผูใชกระบี่ที่มีชื่อทั้งหลายมาโดยตลอด
แตวาเพลงกระบี่เมื่อครูนั้น...ชางรายกาจเสียจริงเลย!
หลังจากที่อายฮุยใชเพลงกระบี่นั้นไป กำลังทั่วรางราวกับถูกดูดออกไปจนหมดใน
เสี้ยววินาที เขาไดออกจากสภาวะเงียบสงบเมื่อครูในทันใด ราวกับเพิ่งไดตื่นจากฝน
รอบขางวางเปลา เอ อยูกลางอากาศหรือ เขากมหนาลงไปมองดูแวบหนึ่ง ก็นิ่งตะลึง
ไปในทันที
สูงถึงเพียงนี้เชียวหรือ
นี่เขา...กระโดดไดสูงถึงเพียงนี้เชียวหรือ
ไมดีแลว!
รางของอายฮุย รว งลงเบื้อ งลางอยา งรวดเร็ว แขนขาของเขาแหวกวายไปมา
ใบหนาซีดเผือดไป เขานึกถึงตอนอยูแดนรางมีอยูครั้งหนึ่งที่ตนตกลงมาจากหนาผาสูง
เชนนี้ สุดทายแลวตกลงมาเกือบตาย ใชเวลาถึงครึ่งเดือนถึงจะฟนตัวได
ที่สำคัญยิ่งกวาคือ เขาพบวาแขนขาของตนออนแรง พลังธาตุในรางกายก็วาง
เปลา กระบี่ที่อยูในมือ...ก็โยนออกไปแลว!
ฟุบ ทรายสีเหลืองกองหนึ่งพุงเขามา
เปนโหลวหลานที่เขามารับตัวอายฮุยเอาไวไดอยางทันทวงที
อา ยฮุย ที่ในใจยังหวาดผวาถูก โหลวหลานวางลง เขาตบบ า โหลวหลานเบาๆ
“ขอบคุณนะโหลวหลาน!”
“ไมตองเกรงใจ อายฮุย” น้ำเสียงของโหลวหลานแสนจะดีใจอยางมาก
อายฮุยมองดูผลของเพลงกระบี่นั้นของตนดวยความพอใจอยางมาก
สนามเหนี่ยวนำไมอาจฆาคนได แตการที่ไดเห็นอีกฝายนอนเปลือยเปลาอยูกลาง
ถนน ดูผูคนลอมรอบจองมอง เพลิงโกรธในใจของอายฮุยก็ลดหายลงไปบาง
อยูๆ เขาก็ขมวดคิ้วขึ้น “โหลวหลาน เจาวารางกายของเจานี่ ดูคุนตาอยูใชไหม”
โหลวหลานหันหนาไป แสงสีเหลืองในดวงตาสั่นไหว แลวจึงตอบขึ้นตามตรง “ใช
แลว ประเมินจากรูปรางแลว เขาเหมือนกับเพื่อนปงหวานที่อายฮุยชวยรักษาเมื่อครั้ง
กอนมากกวาเกาในสิบสวน”
“ที่แทก็คือเพื่อนปงหวานนี่เอง” อายฮุยไดกระจางขึ้นทันที ใบหนาเผยรอยยิ้มหยัน
จากการที่ครั้งกอนหลอกผูอื่นวาเปนหวัดยังไมหาย ก็ทำใหรูสึกวานิสัยไมดที ำให
คนเหยียดหยาม ตอนนี้ดูแลว ที่แทก็เปนเด็กนิสัยไมดีจริงๆ
อายฮุยสายหนาระอาใจ หันไปพูดกับโหลวหลานดวยความปลงอนิจจัง “พวกเรา
กลับกันเถอะโหลวหลาน”
ซือเสวี่ยมั่นฟงแลวจับใจความไดบางสวน จึงคิดเพียงวาคนที่ถูกซัดจนสลบ เปน
เพียงเพื่อนนักเรียนคนหนึ่งของอายฮุยที่ชื่อปงหวาน โดยไมไดคิดแมแตนอยเลยวาจะ
เปนตวนมูหวงฮุนที่เพิ่งจะสองประกายไปทั่วสนามเหนี่ยวนำ
เพลิงโกรธในใจที่ไดระบายออกมาหมดแลว ซือเสวี่ยมั่นก็สงบลงมาได สรอย
ครามสงบจิตหายไปแลว ในใจของนางแสนจะเจ็บปวด แตวาตอนนี้คิดเรื่องนี้ไปก็ไมมี
ประโยชนอะไร นางเดินไปคิดไปวาจะแกปญหานี้อยางไร
จะใหปลอยอีกฝายไปเลยเชนนี้ นางเองก็ไมไดใจกวางขนาดนั้น แตวาตนจะใหอีก
ฝายชดใชอยางไรดี
โหลวหลานที่เดินอยูในซอยไดกลาวกับอายฮุยอยางกระตือรือรนวา “อายฮุย
กำแพงของเพื่อนบานที่พังไป โหลวหลานซอมใหไดนะ”
“โหลวหลานเจาชางแสนดีเกินไปแลว!” อายฮุยซาบซึ้งจนเกือบจะหลั่งน้ำตาอุนๆ
อออกมา
“โหลวหลานเปนตุกตาทราย” โหลวหลานแสนจะดีใจที่ชวยเหลืออายฮุยได
ขอเพียงแคมีโหลวหลานอยูที่นี่ก็รูสึกไดถึงความอบอุนราวกับฤดูใบไมผลิ อายฮุย
แสนปลื้มปริ่มยิ่งนัก เขาหันหนา ไปมองสาวน อยร า นบะหมี ่ ใบหน า เย็ น ชาลงมา
ในทันที “พูดเถอะ เจาคิดจะแกปญหานี้อยางไร”
ซือเสวี่ยมั่นเพิ่งจะคิดอะไรขึ้นได แตเมื่อไดยินน้ำเสียงของอายฮุยก็ถึงกับขมวดคิ้ว
ในทันที “น้ำเสียงของเจา ราวกับวาขาติดเงินเจาอยูแปดสิบลานหยวน”
อายฮุยรูสึกอับอายเล็กนอยขึ้นมาชั่วครู จึงไดปรับน้ำเสียงใหออนลง “เจาพูดมา
ตามตรงเถอะวาจะทำอยางไร”
“เงินแปดสิบลานหยวนในเวลาอันสั้นเจาคงคืนไมไหว”
ซือเสวี่ยมั่นมองไปที่อายฮุยแวบหนึ่ง แลวจึงพูดตอ “ขาขอเสนอสองเงื่อนไขกอน
ขอแรกเจาตองรับผิดชอบเปนคูฝกวิชากระบี่กับขา ชี้แนะวิชากระบี่แกขา อีกขอหนึ่งก็
คือเจาตองชวยขาตามหาคนผูหนึ่ง”
อายฮุยโลงอกขึ้นในทันที “ได! พวกเราตกลงตามนี้ ขาสอนวิชากระบี่แกเจา ชวย
เจาหาคน เงินแปดสิบลานหยวนถือเปนอันเลิกแลวตอกัน”
“ฝนไปเถอะ!” ซือเสวี่ยมั่นแสยะยิ้ม “นี่เปนเพียงแคดอกเบี้ยเทานั้น”
อายฮุยไดมีน้ำโหขึ้นในทันที “สาวนอยรานบะหมี่ เจาอยาไดรังแกกันใหมากนัก!”
ซือเสวี่ยมั่นไมไดใสใจ พลางกลาวขึ้นอยางเรียบๆ “ลองถามตุกตาทรายเพื่อนของ
เจาดู ตอนนี้ในตลาดมีอัตราดอกเบี้ยเงินกูอยูที่เทาไร”
อายฮุยหันไปมองทางโหลวหลานในทันที
โหลวหลานก็ตอบตามตรง “โดยทั่วไปของการยืมเงิน อัตราดอกเบี้ยตอปจะอยูที่
รอยละสิบ”
รอยละสิบก็ไมมากเทาไรนี่ เดี๋ยวกอน รอยละสิบของแปดสิบลานหยวนคือเทาไรกัน
แปดลานหยวน!
ดวงตาของอายฮุยเบิกจนกลมโต ใบหนาเต็มไปดวยความหวาดกลัวและตกตะลึง
“ขาไมไดหลอกเจานะ” ซือเสวี่ยมั่นมองไปที่เขาแวบหนึ่ง “เจาคิดวาวิชากระบี่
ของเจามีคาถึงแปดลานหยวนหรอกหรือ”
อายฮุยไมมีเสียงตอบกลับแลว
วิชากระบี่ตกต่ำมานานถึงเพียงนี้ ตอใหเปนวิชากระบี่ของตระกูลที่มีชื่อ ก็ยังไม
กลาพูดเลยวามีคาถึงแปดลานหยวน อีกทั้งอายฮุยเองก็ไมไดอวดดีถึงขนาดนั้น ถึงจะ
ไดคิดวาวิชากระบี่ของตนจะสูระดับวิชากระบี่ของตระกูลมีชื่อ
โศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญที่สุดในโลกก็คือ ผูอื่นพูดความจริงดวย อธิบายเหตุผลจน
ไมอาจหาขอปฏิเสธได
“สวนเรื่องของการหาคนนั้น เปนเพราะเจาอาศัยอยูในเมืองซงเจียน ควรจะ
คุนเคยกับเมืองซงเจียนมากกวาขา” ซือเสวี่ยมั่นรูสึกวาการที่ตนฝากความหวังเรื่องนี้
ไวกับเจานี่คอนขางไรสาระ แตวามีความหวังเพิ่มอีกสวนหนึ่งก็ถือวาเปนเรื่องดี
อายฮุยถามดวยใบหนาอมทุกข “คนผูนี้หนาตาเปนอยางไร”
“ไมรู” ซือเสวี่ยมั่นสายหัวตอบ
อายฮุยมองไปที่ซือเสวี่ยมั่นดวยสีหนาสงสัยเต็มที “ไมใชวาเจาจะมาลอเลนกับขา
หรอกนะ ไมรูจักหนาคาตาแลวจะตามหาอยางไรกัน”
ซือเสวี่ยมั่นพูดเสียงคอย “ครั้งกอนขาพบเขาที่การแขงปดตาตอสูที่โรงฝก เจาลง
มือจากทางดานโรงฝก นาจะงายกวา”
“โรงฝกหรือ” คราวนี้เปลี่ยนเปนอายฮุยที่แสยะยิ้มขึ้น เขาหันหนาไปถามโหลวหลาน
“โหลวหลาน เมืองซงเจียนมีโรงฝกอยูกี่แหง”
โหลวหลานตอบขึ้นตามตรง “สี่สิบหก”
ซือเสวี่ยมั่นกลาวขึ้น “แนนอนวาขายังมีเบาะแสอื่นของเขา”
บทที่ 43 เจาโรคจิตกับตนขาวสาร
ตวนมูหวงฮุนตื่นขึ้นมาอยางสะลึมสะลือ
รอบดานเหมือนกับวามีเสียงดังเซ็งแซอยู...
ทำไมตนถึงรูสึกวารูสึกหนาวไปทั่วราง มือไมออนแรง ทั่วรางเจ็บปวดไปหมด เขา
ปวยหรือ
ตวนมูหวงฮุนพยายามลืมตาขึ้น ชวงที่สะลึมสะลือเหมือนเขาจะเห็นเงาคนจำนวน
ไมนอยอยูที่บริเวณดานบนของตน
หรือวาเขากำลังปวย ทางโรงเรียนจึงไดสงผูบริหารระดับสูงมาเยี่ยมเยียนหรือ
เสียงที่อยูรอบดานคอยๆ เปลี่ยนเปนชัดเจนขึ้นทีละนอย
“เฮย ชางเปนคนวิปริตเสียจริง!”
“ไมใสเสื้อผาสักชิ้น! สวรรค โรงเรียนของพวกเรามีคนเชนนี้ดวยหรือ!”
“หรือวาจะเปนโจรปลนสวาท หรือวาเปนชูที่ถูกจับไดคาเตียง”
......
ไมไดสวมเสื้อผา...เหน็บหนาวไปหมดทั้งตัว...
ตวนมูหวงฮุนสะดุงโหยงหนึ่งครั้ง ลืมตาโพลงขึ้นอยางแรง หลังจากนั้นเขาจึงได
พบวาใบหนาตนแนบอยูกับพื้นและเห็นขาของคนจำนวนนับไมถวน ทั่วรางเหน็บ
หนาวไปหมด ตัวของเขานิ่งคาง รูสึกเพียงภาพเบื้องหนามืดลง อยากจะใหมีรอยแยก
บนพื้นใหตนไดมุดหนีลงไป
ชาง...ชางอำมหิตเกินไปแลว!
ตวนมูหวงฮุนเกือบจะกลั้นใจใหตายไปตรงนั้น ความสนใจของคนรอบดานทำให
เขารูสึกอับอายไรที่ยืน สวรรค ตั้งแตเล็กจนโต ไมเคยมีเวลาไหนที่เขารูสึกวาชีวิต
มืดมนถึงเพียงนี้
เจาอายฮุยกับหญิงสุนัขคูนี้ จิตใจชางอำมหิตเกินไปแลว!
ตวนมูหวงฮุนอยูๆ ก็นึกขึ้นได ใบหนาของตนยังสวมหนากากพลังธาตุอยู จึงรูสึก
โลงอกขึ้นมาอยางไรสาเหตุ
จะตองรีบออกจากตรงนี้ทันที!
เขาสามารถสัมผัสไดวากลุมคนที่ลอมรอบเขามายิ่งเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ แตวา
พลังธาตุที่อยูในกายกลับไมย อมฟงเสี ยเลย ตอนนี ้ เขานึ กเสียใจจนลำไส เขียวไป
หมดแลว ทำไมถึงไดเลือกชวงที่รางกายของตนไรพลังมาหาเรื่องอายฮุยกัน
เขาฝนบังคับเคลื่อนพลังธาตุที่คลังชีวิต ถึงแมจะรูวาการทำเชนนี้จะทำใหบาดเจ็บ
ภายในจนตองรักษาตัวถึงครึ่งเดือน แตเขาก็ไมอาจจะมานั่งคำนึงอะไรมากมาย
ผูคนที่ม ุงดูรูสึกวาเบื้องหนาวู บไป เงาร า งที ่ เปลื อยเปล าก็ ได หายไปอย างไร
รองรอย
“เฮย ยอดฝมือ!”
“สังคมนับวันยิ่งตกต่ำ! ในตอนนี้แมแตยอดฝมือเชนนี้ ก็ยังหนาไมอายขนาดนี้เลย
หรือ”
“กระโดดหนีไปแลว! กระโดดหนีไปทางโรงเรียนแลว! เจาโรคจิตเชนนี้ พวกเรา
จะตองจับตัวเอาไวใหได!”
......
โรคจิต!
ไดยินเสียงที่ลอยมาจากทางดานหลัง ตวนมูหวงฮุนเกือบที่จะกระอักเลือดอุนๆ
ออกมา อาการบาดเจ็บภายในก็เหมือนจะเจ็บหนักขึ้นในทันที
อายฮุย เจารอขากอนเถอะ!
ตวนมูหวงฮุนกัดฟนกรอด
......
โรงฝกศาสตราวุธ
อายฮุยตั้งสติใหดีเตรียมพรอมที่จะตั้งใจฟงซือเสวี่ยมั่นบรรยายลักษณะของเปาหมาย
ไมวาจะพูดอยางไร เขาก็ไดดูดซึมเอาไขมุกของนางไปแลว ถึงแมวาจะเปนตัวออน
กระบี่ที่ทำ แตวาในใจของอายฮุยยังคงรูสึกผิดอยู โดยเฉพาะอยางยิ่งเขาเองก็ดูออกวา
สาวนอยรานบะหมี่ไมใชคนที่ไรเหตุผล ที่จริงแลวนางก็ถือวานิสัยไมเลวเลยทีเดียว
หากเปลี่ยนมาเปนตนแลวนั้น ขืนใครกลามากลืนเงินตนไปแปดสิบลานหยวน
เชนนี้ มันผูนั้นจะตองถูกแลเนื้อออกเปนชิ้นๆ
ดวยเหตุที่เปนความผิดพลาดของตน จึงไมมีอะไรใหพูดอีกแลว อายฮุยเองก็ไมใช
เด็กหนุมไรเดียงสาที่ไมรูความ เขารูวาเงินแปดสิบลานหยวนนั้นมีมูลคาที่ทำใหคนตอง
ตกตะลึงมากเพียงใด แมแตชีวิตของตน เขาก็ไมไดรูสึกวาจะมีคาถึงแปดสิบลานหยวน
หากอีกฝายคิดจะซื้อชีวิตของเขา ก็สามารถซื้อไดหลายชีวิตเลยทีเดียว
นางเองก็แข็งแกรงถึงเพียงนั้น แตก็ยังไมไดลงไมลงมืออะไร นิสัยถือวาดีจนไมรู
จะพูดอยางไรแลว
ดังนั้นทาทีของเขาถึงไดจริงจังอยางมาก
ซือเสวี่ยมั่นมองออกวาทาทีของอายฮุยนั้นจริงจังมาก จึงไดมีมุมมองตอเขาที่ดี
ขึ้นมาอีก เล็ก นอ ย นางกางนิ้ว ออกนั บ “เขาเชี ่ ย วชาญในการต อ สู ป ระชิ ดตั ว มี
ประสบการณในการตอสูมากมาย รูปแบบการตอสูดุเดือดรุนแรง”
อายฮุยไดฟงก็รูวาสาวนอยนี่ไมไดมีประสบการณอะไรเลย จึงกลาวขึ้นตามตรง
“ที่เจาวามันทัว่ ไปมาก ไมมีชื่อแซเหรอ อายุเทาไร สวนสูงเทาไร อวนหรือผอม หรือ
วากำยำ รางกายมีลักษณะพิเศษอยางอื่นไหม ยกตัวอยางเชนรางกายพิการ สีของเสน
ผม สีผิวคล้ำหรือวาขาว”
จิตใจของซือเสวี่ยมั่นสะทานขึ้นมา นางนั้นฉลาดหลักแหลม แคฟงคำถามของ
อายฮุยก็รูแลววาคนผูนี้ละเอียดมาก จึงรีบกลาวขึ้น “ในตอนนั้นเปนการแขงปดตา
ตอสู เขาไมไดทิ้งชื่อเอาไว อายุไมไดมาก นาจะเปนคนหนุมผูหนึ่ง สวนสูงเหรอ สูง
พอๆ กับเจา รูปรางอวนผอมก็ไมตางกับเจานัก ลักษณะพิเศษอื่นของเขา ใชแลว มี
พละกำลังมหาศาลมาก”
อายฮุยสายหัวไปมา “ขอมูลนอยเกินไปแลว”
ซือเสวี่ยมั่นคอนขางจะวิตกกังวล จึงกัดฟนเพื่อนึกดูใหมอยางละเอียด ทันใดนั้น
ดวงตาก็เปนประกายขึ้นวูบหนึ่ง “ใชแลว เขามีความแข็งแกรงอยางมาก”
“แข็งแกรงเพียงใด อยูในระดับไหน” อายฮุยถามขึ้น
“นาจะแข็งแกรงกวาขา” ซือเสวี่ยมั่นกลาวเสริมตอ “หากไมแข็งแกรงกวาขาก็ไม
นาจะออนแอกวาขามากนัก”
อายฮุยพยักหนา “เชนนั้นก็สามารถจำกัดวงลงมาไดบาง”
เขาไมไดพูดขึ้นมั่วๆ เมื่อครูความแข็งแกรงที่สาวนอยรานบะหมี่แสดงออกมา เมื่อ
ยอนกลับไปคิดก็ทำใหเขารูสึกหวาดกลัวในภายหลังขึ้นมา
ขนาดตวนมูหวงฮุนที่หยิ่งยโสถึงเพียงนั้น ยังถูกนางซัดราวกับเปนสุนัขก็ไมปาน
ไรโอกาสที่จะตอบโตอยางสิ้นเชิง
เมื่อคิดดูแลว เขาก็ถามขึ้นอยางระมัดระวัง “เจาอยูในระดับไหน สะดวกที่จะพูด
ไหม หากไมสะดวกจะพูดก็ไมเปนไร”
ซือเสวี่ยมั่นตอบอยางเปดเผยอยางมาก “ระดับของขาคือหกตำหนัก”
“ใชวิชาลับขั้นสูงไดไหม”
“แนนอน!”
เฮือก ตอใหอายฮุยรูมากอนอยูแลววาความแข็งแกรงของสาวนอยรานบะหมี่แสน
จะดุดันรุนแรง แตพอไดรูระดับของอีก ฝายจริ งๆ ก็ยังอดไมไดที ่จะสู ดหายใจเอา
อากาศเย็นๆ เขาปอดครั้งหนึ่ง
แมสาวผูนี้...ตอใหเปนเจาอวนมาเองก็คงไมกลาเบี้ยวหนี้ และไมกลาพูดวาคนที่
ติดหนี้เปนนายทานแน!
เขารูสึก ดีใจที่ตนไมไดมีความคิดที่ จะเบี ้ ยวหนี ้ ไม เช น นั ้ น ตอนนี ้ ตนจะตอง
กลายเปนเศษกากที่อยูในแมน้ำไปแลวแนๆ
เขากระแอมไอเบาๆ ครั้งหนึ่ง ปกปดความตกตะลึงไว “เชนนั้นอีกฝายจะต อง
เปนยอดฝมือที่มีชื่อเปนแน ขอบเขตของพวกเราสามารถจำกัดใหแคบลงไดแลว”
ที่ไหนไดสาวนอยรานบะหมี่กลับสายหัว “ไม! ยอดฝมือมีชื่อขาลวนคุนเคยดวย
อยางมาก ไมใชพวกเขา จะตองเปนนักเรียนใหมแนนอน เปนผูที่ขาไมเคยปะมือดวย
มากอน”
สมองของอายฮุยหมุนอยางรวดเร็ว คำพูดที่ซอนอยูของสาวนอยรานบะหมี่ชาง
นากลัวอยางมาก อะไรที่เรียกยอดฝมือมีชื่อลวนคุนเคยดวยอยางมาก ดูจากประโยค
หลังที่วา “ไมเคยปะมือมากอน” ที่วาคุนเคยอยางมากนี้จะตองไมใชแคการพยักหนา
ทักทายกันเปนแน
โดยเฉพาะอยางยิ่งสาวนอยรานบะหมี่พูดยืนยันขนาดนั้น หรือนั่นจะเปนการ
กลาวนัยๆ วาสาวนอยรานบะหมี่เคยปะมือกับยอดฝมือมีชื่อมาแลวทั้งหมด
อายฮุยรูสึกปากคอแหงผาก ติดเงินแมสาวดุรายนี่ถงึ แปดสิบลานหยวน เขาตอง
ดวงซวยมากมายขนาดไหนกัน
เขาสูดหายใจเขาลึกๆ ครั้งหนึ่ง ฝนตัวเองใหสงบลง “นักเรียนใหมจะไปมียอด
ฝมือระดับหกตำหนักที่ใชวิชาลับขั้นสูงไดอยาไรกัน”
“ทำไมจะเปนไปไมได” สาวนอยรานบะหมี่กลาวขึ้นอยางไมคิดวาจะเปนเชนนั้น
“ไมแ นเจานั่นอาจมีนิสัยประหลาด มี ลั ก ษณะถอ มตั ว ชอบที ่ จ ะแสร งทำเปนหมู
เพื่อที่จะกินเสือก็ได”
อายฮุยคิดดูแลวก็ใช จึงกลาวสรุปขึ้น “โดยสังเขปก็คือ เปนยอดฝมือนักเรียนใหม
ที่มีรูปรางคลายกับขาอยางมาก อยูในระดับหกตำหนักหรือสูงกวา มีวิชาลับขั้นสูง
กระบวนทาตอสูดุดันรุนแรง เชี่ยวชาญการปดตาตอสูกับการตอสูระยะประชิดตัว ใช
หรือไม”
“นาจะประมาณนั้น!” ซือเสวี่ยมั่นพออกพอใจ
ถึงแมอีกฝายจะมีอายุไมมาก แตก็แสดงใหเห็นถึงการฝกฝนมานาน สุขุม ละเอียด
ซึ่งทั้งหมดนี้ทำใหนางพอใจอยางมาก
อายฮุยตัดสินใจจะพูดเรื่องที่แนนอนไวกอน “ขาจะทำอยางเต็มที่ แตวาเรื่องการ
ตามหาคนเชนนี้ ตองใชโชคอยางมาก ขาไมสามารถรับรองไดวาจะสำเร็จ”
“ไมเปนไร” ซือเสวี่ยมั่นกลาวขึ้นอยางเปนธรรมชาติ “อยางไรเสียเจาก็ติดหนี้ขา
อยูแปดสิบลานหยวน ตองคืนดอกเบี้ยในทุกๆ ป สรุปคือขาสามารถหาเรื่องมาใหเจา
ทำไดตลอด สวนเรื่องที่วาจะเบี้ยวหนี้ ขอบอกไวกอนวาทั่วทั้งสนามเหนี่ยวนำยังไมมี
ผูใดกลาเบี้ยวหนี้ของขา”
สาวนอยรานบะหมี่พูดขึ้นอยางสบายๆ อายฮุยไดฟงแลวรูสึกวาหลังคอเย็นวาบขึ้นมา
อายฮุยกลืนน้ำลายลงคอ “เรื่องวิชากระบี่ที่ใหขาชี้แนะจะวาอยางไร”
“ขาจะเขาเมืองประมาณสองสัปดาหก็ครั้งหนึ่ง ถึงเวลาแลวก็จะมาหาเจาที่นี่”
ซือเสวี่ยมั่นกวาดสายตามองสภาพโดยรอบ “ที่นี่เองก็เปนโรงฝกพอดี ขาจะบอก
เจากอนลวงหนาหนึ่งวัน โชคดีที่มีตนขาวสาร เจาสังเกตตนขาวสารเอาไว”
“ตนขาวสารหรือ” อายฮุยมีใบหนาที่แสนจะมึนงง
ซือเสวี่ยมั่นมองแวบเดียวก็รูวาอายฮุยไมเคยใชมากอน จึงชี้ไปที่ตนไมตนหนึ่งที่ไม
สะดุดตาในมุมหนึ่งของสนาม “ก็นั่นอยางไร ใบของตนขาวสารไมเหมือนกับใบของ
ตนไมอื่น เสนใบของมันทุกใบลวนเหมือนกัน เมื่อมีขาวสาร มันก็จะทิ้งใบลงมาหนึ่งใบ
ดานบนจะมีตัวอักษร เปนฝมือของผูใชพลังธาตุไม ตอนเจาเขาเรียนไมมีสอนหรือ”
อายฮุยตกตะลึงอยางมาก เขาทำความสะอาดสนามมาหลายรอบ เขาไมเคยรูเลย
วาตนไมตนนั้นมีอะไรที่ผิดปกติ ที่แทก็เปนถึงตนขาวสารอะไรที่วานี่
ซือเสวี่ยมั่นเดินไปถึงใตตนขาวสาร จึงเด็ดใบมาหนึ่งใบ แลวนางก็หยิบหนังสือ
จากไหนไมรูขึ้นมา
นางเปดหนังสือออก แลวก็เอาใบไมใสลงไปในหนาหนังสือ แลวก็มีแสงเปลง
ประกายออนโยนออกมา หอหุมใบไมเอาไว
ทันใดนั้นซือเสวี่ยมั่นก็สงเสียงรองออกมาดวยความตกใจ
บทที่ 44 ตนขาวสารรุนแรก
ไดยินสาวนอยรานบะหมี่รองตกใจ อายฮุยก็อดไมไดที่จะถามขึ้น “มีอะไรหรือเปลา”
ซือเสวี่ยมั่นสายหัว ผานไปไดครูหนึ่งถึงไดเอยปากขึ้น “ไมมีอะไร ขาเพียงแคนึก
ไมถึงวาเสนใบของตนขาวสารตนนี้จะโบราณถึงเพียงนี้”
“โบราณหรือ” ในหัวอายฮุยเต็มไปดวยหมอกควัน
ซือเสวี่ยมั่นเงยหนาขึ้น “ตอนเขาเรียนไมเคยเรียนเหรอ”
“ขาเปนนักเรียนใหม!” อายฮุยพูดขึ้นดวยเหตุผลอยางเต็มปากเต็มคำ
ซือเสวี่ยมั่นมองเขาแวบหนึ่ง ในใจคิดวาพื้นฐานอีกฝายชางเลวรายเสียจริง ระดับ
ก็ต่ำขนาดนี้ แตวิชากระบี่กลับนาตกตะลึงถึงเพียงนั้น ไมรูวาเปนผูใดกันที่เลี้ยงดูตัว
ประหลาดเชนนี้ออกมา
นางกลาวอธิบายขึ้น “ตนขาวสารเปนผลงานที่คิดคนโดยผูใชพลังธาตุไมจากปา
หยก ผูใชพลังธาตุไมไดคนพบวาระหวางตนไมดวยกันจะสื่อสารกันโดยใชภาษาตนไม
ที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว พวกมันสามารถสงตอขอมูลที่สั้นมากๆ บางสวนได ผูใช
พลังธาตุไมไดเพาะตนขาวสารขึ้นมาจากพื้นฐานของภาษาตนไม ซึ่งทำใหปริมาณการ
สงขอ มูลขาวสารและระยะทางการส งนั ้ น มี ความก าวหน าขึ ้ นเปน อย างมาก ต น
ขาวสารใชเสนใบในการจำแนกตัวตน แตเมื่อมีการใชตนขาวสารแพรหลายมากขึ้น
เพียงไมนานผูใชพลังธาตุไมจากปาหยกก็ไดพบวา เสนใบมีความซับซอนไมพอ จึงไม
สามารถตอบสนองตอความตองการที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นได ดังนั้นผูใชพลังธาตุไมจึง
ไดเพาะตนขาวสารรุนที่สองออกมา เสนใบของตนขาวสารรุนที่สองนั้นมีความซับซอน
กวามาก การพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้ ไดมาถึงรุนที่สามแลว”
อายฮุยถามอยางใชความคิด “เชนนั้นตนขาวสารตนนี้เปนรุนแรกหรือวารุนที่สองกัน”
“รุนแรก” ซือเสวี่ยมั่นบอกสรุป
“ของเกาแกเลยนะ” อายฮุยเงยหนามองตนขาวสารตนนี้ ไมรูเปนเพราะคำพูด
ของสาวนอยรานบะหมี่หรือไมที่สงผลกระทบตอจิตใจ เขารูสึกวาตนขาวสารสูงตระ
งานเบื้องหนาตนนี้ไดปลอยกลิ่นอายโบราณอางวางออกมาอยางบอกไมถูก
“ดูทาแลวโรงฝกแหงนี้จะมีอายุ ไมนอยแลว” ซือเสวี่ยมั่นที่พ ิจารณาบริ เวณ
โดยรอบ อยูๆ ไดถามขึ้น “เจาของโรงฝกละ”
“ยี่สิบปกอนก็ไดเดินทางจากไปแลว” การตอบสนองของอายฮุยแสนจะธรรมดา
“ตอนที่ขามา ที่นี่ก็ถูกทิ้งรางอยูแลว หรือวาโรงฝกแหงนี้มีความเปนมาอยูมาก”
“ภูมิหลังไมธรรมดา” ซือเสวี่ยมั่นพยักหนาพลางกลาวขึ้น “ตนขาวสารรุนแรกใน
ตอนนั้นยังไมไดแพรกระจายเปนบริเวณกวาง เพียงแคใหคนกลุมเล็กๆ ไดใช เจาของ
รุนแรกของโรงฝกแหงนี้จะตองมีสถานะที่ไมธรรมดาแน”
หากพูดถึงประสบการณในการใชชีวิต อายฮุยนั้นทิ้งนำซือเสวี่ยมั่นแบบไมเห็นฝุน
แตหากพูดถึงความรูทางประวัติศาสตรที่สืบถอดกันมา ซือเสวี่ยมั่นก็ทิ้งนำอายฮุยแบบ
ไมเห็นฝุนเชนกัน
“ไมตองไปสนใจภูมิหลังแลว มันใชไดหรือไม” อายฮุยถาม
เรื่องที่วาโรงฝกนี้มีความเปนมาอยางไรกันแน เขาไมสนใจเลยแมแตนอย มีภูมิ
หลังที่ยิ่งใหญแลวเปนอยางไร จะเพิ่มเงินใหตนเหรอ แนนอนวาไมมีทาง รวมไปถึง
ประวัติอันรุงโรจนของมันในกาลกอน เขานั้นก็ไมไดมีความรูสึกอะไรเลย
เรื่องประวัติศาสตรและใจเสนหานี้ ผูใดจะมาเทียบไดกับผูฝกกระบี่
ลองดูพวกผูฝกกระบี่พรรคใหญพวกนั้นเถอะ เพียงแคหมื่นปแสนป
อูสิงเทียนก็ครอบครองที่ดินขนาดใหญ ในตอนนั้นพวกพรรคกระบี่พรรคใหญหาก
ไมแสดงความนาเกรงขามไปทั่วสาระทิศ ก็ลวนไมกลาจะพูดวาตนเปนผูนำของโลก
แหงการบำเพ็ญตน
ไมใชวาวิญญาณแตกดับไปแลวหรือ ไมใชวาถูกกวาดเขาไปอยูในกองขยะของ
ประวัติศาสตรแลวหรือ
ดังนั้นอายฮุยจึงไมอินังขังขอบเรื่องพวกนั้นที่สาวนอยรานบะหมี่พูด จะรุนแรก
หรือไมใชรุนแรก ก็ไมไดมีความเกี่ยวของอะไรกับตน มันใชไดหรือไมตางหากที่เปนขอ
สำคัญ
“ใชได” ซือเสวี่ยมั่นรูสึกแปลกใจอยูบาง หากเปลี่ยนเปนคนอื่นไดรูวาตนไดอยูใน
โรงฝกที่มีภูมิหลังอันยาวนานและยิ่งใหญ จะตองตื่นเตนอยากรูอยากเห็นเปนแน ไม
แนอาจหวังวาตนจะพบพวกคัมภีรวิชาลับขั้นสูงที่สืบทอดตอกันมาอะไรพวกนี้
เจาคนตรงหนานี้ กลับไมสนใจไยดี
“เชนนั้นพวกเราก็ตกลงกันตามนี้” อายฮุยพยักหนา
ซือเสวี่ยมั่นปดหนาหนังสือ แลวมองดูอยูสักพักจึงพยักหนา “ได จงสังเกตตน
ขาวสารของเจา ถาหากวามีขาว ใหแจงขาผานตนขาวสาร นี่คือใบตนขาวสารของขา
เอาเถอะ คิดวาเจาคงใชไมเปน”
พูดจบซือเสวี่ยมั่นก็หยิบเอาใบตนขาวสารของตน นำไปวางไวที่รอยแยกของกิ่งที่
เพิ่งจะเด็ดเอาใบไมออกมา ใบไมกับกิ่งที่ขาดออกมีแสงสีเขียวที่ออนโยนสองประกาย
ขึ้นมา ครั้นแลวใบไมก็เชื่อมติดอยูบนตนขาวสาร
“ตอนสงขาวใหขา ก็เขียนตัวอักษรไวดานบน จำนวนตัวอักษรไมตองมากนัก
ตอนที่ขาสงขาวใหเจา ก็จะปรากฏขึ้นดานบน เจาจงตรวจสอบสังเกตการณไว”
ซือเสวี่ยมั่นกลาว
อายฮุยหันหนามาพูดกับโหลวหลาน “โหลวหลาน ฝากเจาดวยนะ! มีขาวแลวให
มาหาขาที่ที่เดิม”
ซือเสวี่ยมั่นหรี่ตามองเขาแวบหนึ่ง พลางกลาวเสียงเย็น “ตั้งใจฝกใหดี ยิ่งเจา
แข็งแกรง เงินที่ติดขาไวแปดสิบลานหยวนก็จะใชคืนใหหมดไดเร็วขึ้น”
พูดจบนางก็จากไป
อายฮุยทอดถอนใจยาวครั้งหนึ่ง แลวลมตัวลงไปที่เกาอี้หวาย “โหลวหลาน ทำไม
ขาถึงไดโชครายอยางนี้”
แสงสีเหลืองที่นัยนตาของโหลวหลานคอยๆ วูบไหว แสดงใหเห็นวากำลั ง ใช
ความคิดอยา งเต็มกำลัง ไมนานจึ งได ฟ นกลั บ มาเป น ปกติ แล ว เอ ยตอบตามตรง
“คำถามของอายฮุยขอนี้ลึกซึ้งเกินไป โหลวหลานไมรู”
“แปดสิบลานหยวน อา...”
อายฮุยรูสึกวาเปลือกตาของตนยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ เสียงการหายใจตอนนอนหลับ
ไดกระจายออกไปไกลแสนไกลภายใตแสงสีของยามราตรี
ตอนที่อายฮุยตื่นขึ้นมาก็เปนเวลากลางดึก โหลวหลานกลับไปแลว ตอนที่เขาลืม
ตาขึ้น สิ่งแรกที่เขามาอยูในทัศนะวิสัยก็คือดวงดาวที่ลอยอยูเต็มทองฟา เขาประดุจดัง
จมจอมอยูในหวงลึกอันไรขอบเขตแหงมานรัตติกาล จิตใจเหมอลอยไปตามดวงดาว
ผานไปเปนเวลานานเขาถึงไดเรียกสติกลับมา แลวลุกขึ้นนั่ง
ในชวงเวลาที่ฝกฝนอยูที่เจดียเสวียนจิน การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญที่สุดของเขา
คือความสามารถในการนอนหลับ ระดับของการฝกนั้นหนักหนาอยางมาก ทุกวันลวน
เหน็ดเหนื่อยหมดสิ้นเรี่ยวแรง พิงตัวไวกับกำแพงเจดีย แลวก็หลับไปอยางไมรูเนื้อรูตัว
เขานึกถึงเมล็ดพันธแหงตัวออนกระบี่ ที่ไดดูดกลืนเอาสรอยครามสงบจิตราคา
แปดสิบลานหยวนเขาไป โดยเฉพาะอยางยิ่งมันทำใหตนสามารถใชกระบี่ที่แสนราย
กาจดาบนั้นออกมา เจาตัวออนกระบี่ที่สมควรตายนั่น...
การตอบสนองแรกของเขาคือไปหากระบี่ แตวาไมนานเขาก็เผยรอยยิ้มที่ขมขื่น
ออกมา
กระบี่หญาเพียงเลมเดียวของตน ไดพังไปเสียแลว
เขาสายหนาและอดแคนหัวเราะไมได ในเมื่อนอนไมหลับ เชนนั้นก็ตื่นขึ้นมา
ฝกฝนเถอะ
สองวันใหหลัง
อายฮุยแบกกระเปาเดินทางที่เต็มไปดวยเคกเสริมกระดูกโลหิต เขาโบกมือไปทาง
โหลวหลาน “โหลวหลาน ไวเจอกันใหม!”
โหลวหลานไดเปลี่ยนรางกลายเปนกำปนสีเหลืองขนาดใหญ “อายฮุย พยายามเขา!”
เขาเดินไปบนทองถนน แสงอาทิตยไดอาบไปทั่วออมอก ความโชครายของเมื่อ
สองวันกอ นไดถูกชำระไปจนหมดสิ ้น เขาได เอาเรื ่องเงิน แปดสิบ ลานหยวนทิ้งไว
เบื้องหลัง ทั้งหัวใจยังคงอยูที่ความใฝฝนในอนาคตของตนและการใหกำลังใจตนเอง
“รูหรือเปลา เมื่อสองคืนกอน ที่นี่ไดมีเจาโรคจิตที่แสนรายกาจคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น!”
“โอ ไดยินมาแลว ไดยินมาแลว ที่วามีชายคนหนึ่งเปลือยกายวิ่งอยูที่ถนนใหญ”
“ใชแลว ชางนาตกใจนัก! อีกทั้งขาจะบอกเจาให เจาโรคจิตนี่แข็งแกรงมาก ราย
กาจเหลือเกิน หากวาเขาเกิดตองตาขาขึ้นมาจะทำเชนไร ไมมีโอกาสที่จะตอตานเลย
นะ! นากังวลเหลือเกิน! นาเสียดายที่ไมใชหวงฮุนของพวกเรา หากวาเปนหวงฮุนของ
พวกเราแลวละก็ ขาจะไมตอตานเลย”
“พูดบาๆ! หวงฮุนของพวกเราออกจะเปนคนสูงสงปานนั้น!”
“หลายวันมานี้เหมือนวาจะไมไดเห็นหวงฮุนของพวกเราเลยนะ”
“ดูเหมือนวาจะไดรับบาดเจ็บ เห็นวาจะตองพักรักษาตัวหลายสิบวัน จำไมไดเหรอวา
ตอนที่เขาเขาเมืองนั้นรางกายออนแรงจนถึงกับลมลงไปครั้งหนึ่ง ในตอนนั้นเกรงวาจะ
ไดรับบาดเจ็บแลว ไมรูวาอาการบาดเจ็บรายแรงหรือไม ชางนาเปนหวงเสียจริง!”
“ใชแลว ใชแลว เขาออนแอเชนนี้ ยังจะไปถาประลองกับเจาพวกกูเทียนหนิงนั่น
อีก รูสึกปวดใจเหลือเกิน ชางดื้อรั้นเกินไปแลว!”
“แตก็ชอบที่เขาดื้อรั้นเชนนี้!”
......
เมื่อไดยินกลุมเด็กสาวที่พูดเจื้อยแจวอยูตรงนั้น ในใจของอายฮุยก็แสยะยิ้มขึ้น
เจาเด็กนอยตูดหมึกนิสัยเสียนั่น! ตีสองหนา! ชางนาอัปยศ! นาเหยียดหยามนัก!
อายฮุยยกหนาเชิดลำพองใจเต็มไปดวยแววดูถูก เดินออกจากประตูเมืองไป
การฝกฝนที่ยากลำบากและแสนจืดชืดในสายตาของคนอื่น กลับทำใหเขารูสึกได
ถึงความตื่นเตนและความสบายใจ
บทที่ 45 ทะลวงคลังชีวติ
เสียงลมทองคำภายในเจดียเสวียนจินดังสนั่น แตอายฮุยก็ไมไดหวั่นไหว เขาราว
กับหลับใหลอยูก็ไมปาน ปลอยใหลมทองคำพัดคำรามอยางรุนแรง พัดจนรางกายของ
เขาชนกระแทกไปทั่วทั้งสี่ทิศ
ผิวหนังของเขาสองประกายดั่งโลหะมากขึ้นทุกๆ วัน มองดูไปแลวราวกับทอง
สัมฤทธิ์ก็ไมปาน สิ่งนี้คือสัญญาณของการที่ใกลจะกลายเปน [หนังทองแดง]
การหลอหลอมรางดวยพลังธาตุทองแตไหนแตไรมา ลวนแบงออกเปน
[หนังทองแดง] [กลามเหล็ก] [กระดูกเหล็กกลา] [ไขกระดูกเงิน] [โลหิตทองคำ]
เปนตัวแทนบอกถึงระดับหาระดับของการหลอหลอมราง หากวาสามารถฝกไดสำเร็จ
ทั้งหาระดับ เชนนั้นก็จะกลายเปนรางธาตุทองบริสุทธิ์ที่หาไดยากยิ่ง
แตจะพูดก็พูดได พลังธาตุนั้นฝกงาย แตการหลอหลอมรางกายนั้นยากที่จะทำได
ความหมายก็คือตราบใดที่รากฐานไม ได ย่ ำแย มาก พลั งธาตุ ค อยๆ สะสมไป
สุดทายก็จะมีความคืบหนา แตการหลอหลอมรางกลับเปนสิ่งที่ตองใชความพยายาม
อยางแทจริง ไมเพียงแคขั้นตอนจะมีความยากลำบากนานัปการ อีกทั้งขั้นตอนยังแสน
ยาวนานอีกดวย หากไมมีความแนวแนและความอดทนที่เพียงพอ ก็ยากที่จะทำให
สำเร็จได
การหลอหลอมรางดวยพลังธาตุทองนี้ ภายในอูสิงเทียนไดมีการโตเถียงกันมาโดย
ตลอด มีผูใชพลังธาตุมากมายคิดวา แมมนุษยจะฝกฝนรางกายสักเพียงใด ก็ไมอาจ
เทียบไดกับอสูรแดนราง ดังนั้นการหลอหลอมรางดวยพลังธาตุที่จริงแลวก็เปนการ
สนใจเรื่องไรสาระและละเลยสิ่งสำคัญไป ยิ่งไปกวานั้นเมื่อระดับพลังสูงขึ้น พลังใน
การตอสูที่ไดจากพลังธาตุนั้นก็จะเหนือกวาพลังการตอสูที่รางกายมากมายนัก
ที่จริงแลวก็เปนเชนนี้ การเปดตำหนักของพลังธาตุทุกๆ หนึ่งตำหนัก ลวนมีความ
ยอดเยี่ยมตางๆ พลังในการตอสูก็กาวหนาขึ้นอยางรวดเร็ว แตการยกระดับของการ
หลอหลอมราง กลับไมมีผลโดยตรงกับพลังในการตอสู
อยางไรก็ตาม รูปแบบการฝกฝนสายหลักยังมีความเกี่ยวพันกับการหลอหลอม
รางอยูระดับหนึ่ง เชื่อกันวา พลังทำลายของพลังธาตุนั้นมากมายกวาของรางกาย
อยางแทจริง แตรางกายที่แข็งแกรง และเฉียบคมจะสามารถใชพลังธาตุไดดียิ่งกวา
นี่เปนอีกทางเลือกของผูใชพลังธาตุทองโดยมาก
แมจะเปนการหลอหลอมรางขั้นแรกอยาง [หนังทองแดง] ก็มักจะเปนนักเรียนที่
เปดไดหกตำหนักไปแลว จึงจะสามารถไปถึงระดับหรือเนื้อหาสวนนี้ได
นักเรียนระดับเริ่มตนมักจะไมเลือกการหลอหลอมราง นอกจากจะไมคุมคาแลว
ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง ก็คือพลังธาตุที่ดูดซึมในชวงแรก มักจะมีลักษณะออนโยน ซึ่งยาก
อยางมากที่จะใหผลลัพธในการหลอหลอมราง
แตสำหรับอายฮุยกลับไมไดมีปญหาขอนี้
พลังธาตุทองภายในลมทองคำนั้นแหลมคมหาใดเปรียบ นอกจากจะหลอมรวม
กับเลือดเนื้อของอายฮุยไดแลว พลังธาตุหลังจากที่ทำใหกระจายตัว ก็บริสุทธิ์ยิ่งกวา
พลังธาตุที่นักเรียนใหมทั่วไปดูดซึม ดังนั้นถึงแมวาพลังธาตุที่อายฮุยกลั่นออกมาไดจะ
มีจำนวนนอย แตมีความบริสุทธิ์เปนอยางมาก
โดยเฉพาะการฝกในครั้งนี้มีเคกบำรุงกระดูกโลหิตของโหลวหลานดวยแลว ยิ่ง
เปนเหมือนกับเสือติดปก ความกาวหนาของอายฮุยกาวกระโดดอยางรวดเร็วอยางยิ่ง
โดยเฉพาะการหลอหลอมรางดวยพลังธาตุทอง
ผลลัพธของเคกบำรุงกระดูกโลหิตของโหลวหลานดีเสียจนอายฮุยจะรองไห มัน
ไมเพียงรักษาบาดแผลภายในไดเทานั้น แตยังมีสวนชวยในการหลอหลอมรางอยาง
ชัดเจน บวกกับการที่อายฮุยยังไมไดเปดคลังชีวิต การกระตุนของพลังธาตุที่มีตอเลือด
เนื้อยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก
อายฮุยนั้นรับรูถึงการเปลี่ยนแปลงในรางกายของตน พลังของเขานั้นเพิ่มขึ้นอยาง
ชัดเจนที่สุด หากวาไดพบกับผูใช [ตาขายเพลิงแมงมุมฟาแปรผัน] ที่เจอที่การแขงปด
ตาตอสูครั้งกอนผูนั้น เขาก็จะไมใชไมแข็งตอบโตกับอีกฝายจนตัวเองสะบักสะบอม
เชนนั้น
หากวาเขาฝก [หนังทองแดง] ไดสำเร็จ เชนนั้นเขาก็จะสามารถตอบโตลูกเตะของ
ฝายนั้นไดอยางเต็มกำลัง สวนผลลัพธสุดทายนั้ น ก็ตองดูวาความอดทนของเขา
มากกวา หรือวาพลังธาตุของอีกฝายจะมีมากกวา
การประมือในครั้งกอนถึงแมจะเปนเวลาที่สั้นมาก อีกทั้งยังอยูในสภาพทุลักทุเล
เต็มที แตกลับมีผลประโยชนแกอายฮุย ผลประโยชนนี้ไมใชความกาวหนาของระดับ
พลัง แตเปนความกาวหนาในดานการเปดโลกทัศนและความมั่นใจ
วิชาลับขั้นสูงนั้นชวยใหเขามีแรงจูงใจเปนอยางมาก จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไมเขาใจ
วา [ตาขายเพลิงแมงมุมดิน] ของอีกฝายสรุปแลวมีหลักการอยางไรกันแน ชางนา
ประหลาดอยางหาใดเปรียบ เมื่อกอนตอนอยูในแดนรางเขาไดเห็นความแข็งแกรงของ
พวกผูใชพลังธาตุที่ยิ่งใหญเหลานั้น ถึงแมวาทั้งหมดลวนแข็งแกรง แตเขาก็ยังรูวา
แข็งแกรงที่จุดใด แตวาความลึกลับเปนปริศนาของวิชาลับขั้นสูงนั้นอยูเหนือกวา
ความรูอันตื้นเขินของเขา
หากคูตอสูของเขามีประสบกาณมากกวานี้ ก็คงจะจัดการเขาไดตั้งแตแรกแลว
เขากับโหลวหลานไมมีโอกาสชนะไดแมแตนอย
แตวาการตอสูในครั้งนี้ ก็ใหความมั่นใจแกเขาเชนกัน ดวยวาขายังไมไดเปดคลัง
ชีวิต จึงถือวาออนกวาคูตอสู แตก็ยังสามารถยื้อเอาไวดวยตนเองไดนานขนาดนั้น
และยังสามารถพลิกกลับมาเอาชนะไดภายใตการชวยเหลือของโหลวหลาน แคนี้ก็
เพียงพอที่จะภาคภูมิใจแลว
เขาไมไดออนแอเชนที่คิดไวตอนแรก
การหลอหลอมรางเปนเรื่องนายินดีที่คาดไมถึง แตอายฮุยก็ไมไดลืมที่จะไลตาม
พลังธาตุ นั่นตางหากถึงจะเปนเปาหมายที่ตนมายังสนามเหนี่ยวนำ
เวลาคอยๆ ไหลผานไป พลังธาตุภายในตัวของอายฮุยก็คอยๆ ใหญขึ้น ประกาย
แสงโลหะที่ผิวของอายฮุยก็เขมขึ้นเรื่อยๆ รอยบุมที่กำแพงเจดียก็คอยๆ ลึกลงไป ทุกๆ
วันลวนมีแตความกาวหนา
เขาเพียรฝกฝนก็จนลืมตัว ไมรูวาเวลาผานไปนานเพียงใด
ผมของเขายุงเหยิง ทั่วรางมอมแมม มีกลิ่นเหม็นกระจายออกมา เคกบำรุงกระดูก
โลหิตกินหมดไปแลว แตอายฮุยก็ยังไมไดกลับเมือง เขามีลางสังหรณอยางหนึ่งผุด
ขึ้นมาวาตนนั้นใกลจะทะลวงคลังชีวิตไดแลว
ตูม ตูม ตูม!
[มัจฉาสะบัดกาย] ยังคงโจมตีใสกำแพงเจดียอยางไมหยุดพักเชนเคย เสียงการ
กระแทกอยางรุนแรงระหวางกำแพงเหล็กและกลามเนื้อดังขึ้นราวกับเสียงระเบิด
เม็ดเหงื่อถูกแรงสั่นสะเทือนจนกระจายออกเปนหมอกน้ำที่เล็กละเอียด ประดุจ
อาวุธที่เปนเสนๆ อยูรอบตัวของอายฮุย กระเพื่อมไปตามแรงของการโจมตี
ในตอนที่พลังธาตุทองสวนสุดทายกระจายออก อายฮุยก็นั่งลงขัดสมาธิเหมือน
อยางเคย
เมื่อเริ่มเคลื่อนพลังธาตุที่อยูในตัว เขาก็รับรูไดวามีบางอยางแตกตางไปจากทุกที
ปกติแลวพลังธาตุในรางที่กลั่นตัวแลว จะทำการเคลื่อนพลังไดอยางราบรื่น เปนไป
ดั่งใจนึก
แตในวันนี้เมื่อทำการเคลื่อนพลังธาตุในกายแลว กลับกลายเปนเหมือนมีมานับ
หมื่นตัววิ่งพลาน มีเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น มีหลายสวนที่คลุมเครือและตานการ
ควบคุม
อายฮุยรับรูขึ้นไดในทันทีวาเวลาของการทะลวงคลังชีวิตนั้นไดมาถึงแลว
พลังธาตุที่อยูในรางไดมาถึงขีดจำกัดของกลามเนื้อที่จะสามารถรับไวแลว เสมือน
น้ำที่เออลนบอน้ำ แคขยับเพียงนิดเดียวก็ยากตอการควบคุม
การทะลวงคลังชีวิตเปนเปาหมายอันดับแรกของอายฮุย เขาเตรียมพรอมอยาง
เต็มที่มาตั้งแตแรกแลว สนามเหนี่ยวนำมีประสบการณดานนี้มากมายอยางถึ งที่สุด
สถานการณรูปแบบตางๆ ลวนเคยไดพบเจอมาทั้งหมด การบรรยายและการวิเคราะห
ในดานนี้นั้นละเอียดและเปนรูปธรรมอยางมาก
เมื่อเตรียมพรอมอยางดีก็จะไมลนลาน สิ่งนี้เปนประสบการณอันล้ำคาของอายฮุย เขา
ใหความสำคัญกับการทะลวงคลังชีวิตอยางมาก จึงขบคิดเรื่องสถานการณที่อาจจะ
เกิดขึ้นไมรูกี่รอบ
นอยคนนักจะฝกพลังธาตุถึงจุดที่เออลนเชนนี้แลวจึงทำการทะลวงคลังชีวิต โดย
เนื้อแทแลวพลังธาตุที่สามารถเก็บอยูในเลือดเนื้อนั้นนอยกวาคลังชีวิตจนนาสงสาร
ถือวากินแรงไมนอย
แตมีนอยก็ใชวาจะไมมีเลย
ในประวัติศาสตรก็ยังมีคนบางสวนที่ทำได บางเพราะเหตุบังเอิญ บางเพราะ
ความตั้งใจ ในสถานการณเชนนี้ก็มีการบรรยายเอาไวอยางชัดเจนมากเชนกัน
ในตอนนี้เขาไมลนลานแมแตนอย เขาจิตใจสงบ แนวแน ไมวอกแวก
เขาครองสมาธิตั้งมั่น คอยๆ ขับเคลื่อนพลังธาตุที่อยูภายในกาย ดวยวาพลังธาตุ
อยูในสภาวะเออลน จุดสำคัญของการขับเคลื่อนคือจะตองชา
การขับเคลื่อนพลังอยางชาๆ คอยๆ เพิ่มความเร็ว พลังธาตุจึงจะไมสูญเสียการ
ควบคุมไป
รางกายของอายฮุยโดยรอบเพิ่มแสงสีเงินจางๆ ขึ้นมาชั้นหนึ่ง นั่นเปนสภาพที่
เกิดขึ้นหลังจากการเคลื่อนพลังธาตุที่เออลนในเลือดเนื้อ นี่หมายถึงพลังธาตุกระจาย
ตัวออกมา ซึ่งไมใชเรื่องที่ดีเลย
พลังธาตุในรางของอายฮุยที่คอยๆ เพิ่มความเร็วขึ้น แสงโดยรอบก็คอยๆ จาง
หายไป อายฮุยนิ่งสงบราวกับนอนหลับก็ไมปาน
แตวาภายในรางของอายฮุย กลับเปนสภาพที่แตกตางกันอยางสิ้นเชิง
บทที่ 46 คลังชีวิตทีเ่ ปดออก
ทุกครั้งที่พลังธาตุเคลื่อนผานจุดโจวเทียน ความเร็วก็จะเพิ่มขึ้นสวนหนึ่ง
เมื่อเคลื่อนผานจุดโจวเทียนทั้งหกจุด พลังธาตุที่อยูในรางอายฮุยก็เพิ่มความเร็ว
จนถึงขั้นวิกฤต อายฮุยรูสึกเลยวาหากเพิ่มความเร็วอีกเพียงนิดเดียวก็จะสูญ เสี ย
ความสามารถในการควบคุมพลังธาตุไป
ในตอนนี้ภายในรางกายของอายฮุยราวกับเปนเจดียเสวียนจินที่มีสายลมอันบา
คลั่งพัดคำรามอยูภายใน เสียงการเคลื่อนตัวของพลังธาตุดังสนั่นกึกกองไปทั่วบริเวณ
เปนครั้งแรกที่อายฮุยรูสึกวาการเคลื่อนพลังธาตุสามารถใหผลลัพธที่นาตกตะลึงไดถึง
เพียงนี้ หากไมใชวาเขาไดอานพวกการบรรยายกรณีคลายกันนี้มาแตแรก ในตอนนี้
เกรงวาคงจะตกตะลึงลนลานจนทำอะไรไมถูกไปแลว
อายฮุยนั้นสงบนิ่งเปนอยางมาก เขาไดเตรียมพรอมสำหรับสถานการณทั้งหมด
เชนนั้นยังจะมีอะไรใหตองลนลานอีก
พลังธาตุที่เพิ่มความเร็วขึ้นจนถึงขีดสุดสงเสียงดังสนั่นจนกลามเนื้อของอายฮุย
ถึงกับสั่นฟะฟนอยางไมรูตัว ในระหวางที่กลามเนื้อกำลังสั่นอยางรุนแรงนั่นเอง พลัง
ธาตุก็เปนดังน้ำทวมใหญที่ซัดซาดทะลวงเขาสูบริเวณปอดของอายฮุย
เมื่อแรกนั้น หากพลังธาตุเคลื ่อ นตัวมาถึ งจุดนี ้มักจะพบกับ การขวางกั้นที ่ ไ ร
รูปลักษณชั้นหนึ่ง ซึ่งเปนเหมือนกับกระดาษบางๆ กั้นอยู ในชวงเสี้ยววินาทีก็ไดแตก
ออกเปนเสี่ยงๆ
รางกายของอายฮุยสั่นไหวครั้งหนึ่ง บริเวณปอดของเขาก็ปลดปลอยประกายแสง
สีเงินเจิดจาผา นรางกายออกมา อ า ยฮุ ยที่ น ั่ งอยู ท ามกลางความมื ดของรัตติกาล
มองเห็นปอดที่เปนสีเงินยวงไดอยางชัดเจน
อายฮุยอดไมไดที่จะสูดลมหายใจเขาไปหนึ่งที ทำใหไดยินเสียงสูดลมหายใจยาวๆ
คลายวามีเสียงขวานโลหะอยูแววๆ กระแสอากาศที่เชี่ยวกรากจนมองเห็นไดอยาง
ชัดเจนสายหนึ่ง เปนเหมือนปลาวาฬดูดสายน้ำเขาไป มวลอากาศนั้นไหลเขาไปใน
จมูกของอายฮุย แลวก็เขาไปยังบริเวณปอดของเขาอยางรวดเร็ว
สิ่งนี้ก็คือเสียงแรกของการเปดคลังชีวิต ที่จริงก็คือเวลาเปดคลังชีวิตบริเวณปอด
จะทำใหเกิดแรงดูดแรงหนึ่ง ซึ่งเปนตัวกำเนิดเสียงนั่นเอง
อายฮุยสัมผัสไดวาทั่วทั้งรางมีความรูสึกสบายอยางบอกไมถูก ประหนึ่งถูกฉีดพลัง
ชีวิตใหมเขามาทั้งหมด ความเหนื่อยลาลวนอันตรธานไปจนสิ้น และพลังธาตุที่แตเดิม
บาคลั่งไดสงบลงมาในทันที มันเปลี่ยนมาเปนออนโยนอยางที่มาเคยเปนมากอน
เขาไมสามารถอดกลั้นความปติยินดีที่ฉายชัดบนใบหนาได ถึงแมวาเขาจะได
คนพบเสนทางที่เปนของตนหลังจากเริ่มลองมาฝกฝนที่เจดียเสวียนจิน จนมั่นใจอยาง
มากวาจะสามารถเปดประตูคลังชีวติ ได แตวาในตอนที่มันสำเร็จเปนจริงขึ้นมา กลับ
ไมสามารถอดกลั้นความปติยินดีไวได
เปาหมายแรกที่เขาเขามายังสนามเหนี่ยวนำไดสำเร็จเปนจริงขึ้นมาแลว!
เขาถึงกับตกใจเล็กนอย ยังรูสึกไมอยากเชื่ออยูเลย
เร็วกวาเวลาที่ตนคาดไวในตอนแรกมากนัก
ความกดดันที่เขาไดรับตั้งแตเขามาในสนามเหนี่ยวนำลดลงไปอยางมากในทันที
อยางนอยที่สุดก็ไมตองกังวลเรื่องการเปดคลังชีวิตไมไดภายในเวลาหนึ่งป
อายฮุยที่มีนิสัยเปนผูใหญมานานแลว คอยๆ สงบลงจากความยินดีอันเปยมลน
การเปดคลังชีวิตเปนเพียงแคกาวแรกเทานั้น เสนทางไปสูการไดเปนผูใชพลังธาตุที่
ไดรับการบันทึกชื่อเอาไวยังอีกยาวไกล
นัยนตาของอายฮุยเปลี่ยนกลับมาลึกล้ำอีกครั้ง เขากวาดสายตาสำรวจรางกาย
ของตน ผานไปสักพัก ใบหนาก็ยังคงอดไมไดที่จะเผยถึงความปติโสมนัส
หลังจากที่คลังชีวิตไดเปดออก ผลลัพธชางแตกตางเสียจริง
ความกาวหนาที่ชัดเจนที่สุด คือความเร็วในการเคลื่อนพลังธาตุเพิ่มขึ้นอยาง
มหาศาล อายฮุยลองประมาณดูแลว ความเร็วดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเปนเทาตัว สิ่งนี้ก็
หมายความวา การเคลื่อ นผา นจุดโจวเที ย นแบบเดี ย วกั น จะใช เวลาลดลงไปถึ ง
ครึ่งหนึ่ง ประสิทธิภาพในการกลั่นพลังธาตุก็กาวหนาขึ้นเปนเทาตัว
เมื่อไดรูในตอนนี้ ในที่สุดอายฮุยก็ เขา ใจวา ทำไมนัก เรีย นระดับ เริ่ มตนจึ ง ไม
ยินยอมที่จะฝกพลังธาตุจนถึงระดับที่เออลนแลวถึงคอยทะลวงประตูคลังชีวิต
หลังจากที่ไดทำการเปดคลังชีวิตไปแลว ประสิทธิภาพในการฝกเรียกไดวาตางกัน
ราวฟากับเหว
โดยเฉพาะอยางยิ่ง ความกาวหนาของความเร็วในการเคลื่อนพลังธาตุ มันก็ทำให
ความกาวหนาของพลังในการตอสูเองก็เพิ่มขึ้นอยางมหาศาล นั่นจึงหมายความวา
เวลาในการใชพลังธาตุลดลงถึงเทาตัว ก็หมายความวาพลังธาตุจะปลดปลอยออกมา
อยางรุนแรงเพิ่มขึ้นถึงเทาตัว
ความภาคภูมิใจของอายฮุยในสมัยกอนไดสลายหายไปในทันที
ประสบการณในการตอสูของเขาและประสาทสัมผัสทั้งหกที่เฉียบคมไดชวยเหลือ
เขาในการตอสูอยางมาก แตวาตอหนาความแข็งแกรงอยางที่สุด สิ่งเหลานั้นลวนไมได
มีคาอะไร
เมื่อเปดคลังชีวิตแลวความกาวหนายังมหาศาลถึงเพียงนี้ เชนนั้นการเปดแตละ
ตำหนัก ความแข็งแกรงก็จะมีแตกาวกระโดดขึ้นไป แลวหากเปดไดแปดตำหนัก ละ
ความเร็วในการเคลื่อนพลังธาตุจะไปถึงจุดที่นาหวาดกลัวถึงเพียงใดกัน
เหมือนกับหมัดที่หยุดนิ่งจะไมมีพลังในการสังหารทำรายใดๆ พลังธาตุที่หยุดนิ่ง
เองก็ไมมีพลังในการสังหารทำรายใดๆ เชนกัน
พลังธาตุตองอยูในสภาพเคลื่อนไหวเทานั้น จึงจะสามารถแสดงประโยชนออกมาได
อายฮุยที่เต็มไปดวยประสบการณในการตอสู สามารถเขาใจในจุดนี้ไดไมยาก
การลงมือของคูตอสูที่รวดเร็วปานสายฟา ผลลัพธของการฝกของอีกฝายนั้น
แข็งแกรงกวาตนนับสิบนับรอยเทา ความตางที่มากถึงเพียงนี้ เพียงประสบการณอยาง
เดียวคงไมพอที่จะอุดชองวางนี้ได
อายฮุยที่กลับมาสงบลงแลว ไดเดินมายังหนาผนังเจดีย เขาสูดลมหายใจเขาลึกๆ
เอาแผนหลังกระแทกเขาหาเจดียเสวียนจินอยางแรง ในชวงวินาทีที่ไดสัมผัสกั บตัว
ผนัง แผนหลังของเขานั้นสั่นสะเทือน
[มัจฉาสะบัดกาย]!
ตูม!
เสียงระเบิดที่ดังกังวานยิ่งกวาทุกที ผนังเจดียที่แข็งแกรงยิ่งกวาเหล็กกลาเปนดั่ง
ดินน้ำมัน มันยุบลงไปในทันที รอยบุมเปนแองปรากฏขึ้นบนผนังเจดีย มองเห็นได
อยางชัดเจน
ดานขางก็คือรอยบุมตื้นๆ ที่เหลือทิ้งเอาไวจากการฝก [มัจฉาสะบัดกาย] ครั้ง
กอน เมื่อลองเอามาเทียบกันดู ก็จะเห็นความแตกตางอยางชัดเจนของทั้งสอง
[มัจฉาสะบัดกาย] ที่เมื่อกอนตนฝกฝนมาอยางยาวนานถึงเพียงนั้นทิ้งรอยบุม
เอาไวลึกเพียงครึ่งหนึ่งของรอยบุมเมื่อครูเทานั้น
ระดับที่สูงขึ้น ชางมีผลลัพธที่ไมธรรมดาเสียจริง
ในใจของอายฮุยเต็มไปดวยความปติยินดี การมาสนามเหนี่ยวนำในครั้งนี้ถือเปน
การตัดสินใจที่ถูกตอง
อายฮุยพออกพอใจเปนอยางมาก เขาไมไดอยูฝกตอ แตเปนเตรียมตัวที่จะกลับ
เมืองแทน
เขาตองการเวลาที่จะปรับตัวเขากับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหมนี้ และก็ตองการ
เวลาเติมเต็มความรูใหม เนื้อหาของวิชาพื้นฐานในครั้งกอน ลวนวนรอบอยูกับเรื่อง
การทะลวงคลังชีวิต ในตอนนี้เขาไดเขามาสูระดับใหมแลว ความรูในสวนหลังนั้นเขา
แทบจะไมมีเลยทีเดียว
การฝ ก ฝนอย า งใจร อ นไม ลื ม หูล ื ม ตา รั ง แต จ ะไปกั ้ น ขวางความก า วหน า สู
ความสำเร็จเสียเปลาๆ
หากไมไดผานการคิดวิเคราะหและการคนควา ไมไดมาที่เจดียเสวียนจิน การฝก
ของเขาไมมีทางที่จะราบรื่นเชนนี้ การฝกก็เปนเหมือนกับการตอสูที่ยาวนาน การจะ
สำเร็จไดนั้นยอมตองมีการเตรียมพรอมเปนอยางดี
ดังนั้นอายฮุยจำเปนตองเขาเรียนแลว
นอกเหนือจากเรื่องนี้ อายฮุยก็ไมไดลืมเรื่องการหาคนของสาวนอยรานบะหมี่ จะ
ทำไมรูไมชี้มองขามหนาที่จากเงินแปดสิบลานหยวนไมได
หากจะหาสถานที่ฝกที่สามารถฝกไดเปนเวลานาน เจดียเสวียนจินคือตัวเลือกที่ดี
ที่สุด เพราะสามารถฝกพลังธาตุได สามารถหลอหลอมรางได และยังสามารถฝก
[มัจฉาสะบัดกาย] ไดอีก สถานที่ที่ดีเชนนี้จะไปหาที่ไหนไดอีก
ตอนที่อายฮุยกลับมาถึงโรงฝกศาสตราวุธก็เปนเวลากลางคืนแลว
เมื่อ โหลวหลานเห็นอายฮุย ประโยคแรกที ่ เขาพู ดก็ คือ “อ า ยฮุ ย เจ า ต อ งไป
อาบน้ำแลวนะ”
เมื่อโหลวหลานกลาวเตือนเชนนี้ อายฮุยถึงไดสังเกตเห็นวาบนรางของตนนั้น
สกปรกมากเพียงใด จึงไดรีบวิ่งไปอาบน้ำเสียใหเรียบรอย
หลังจากอาบน้ำอยางแสนสบายเสร็จ อายฮุยก็รูสึกวาตนนั้นราวกับเปนคนใหม
ลองลอยราวเทพเซียน เขานอนพิงเกาอี้หวายอยางขี้เกียจ ระหวางการฝกฝนอยาง
ตอเนื่อง อายฮุยมีแตความใจจดใจจอจนลืมสิ่งอื่นไปเลย ในตอนนั้นไมไดมีความรูสึก
ใดๆ เลยแมแตนอย ความเหน็ดเหนื่อยในภายหลังที่ซอนอยูราวกับเปนเชื้อโรคที่แพร
ออกมา
อายฮุยกำลังนอนพิงอยูบนเกาอี้หวาย ขี้เกียจแมแตจะขยับนิ้ว แมแตเสียงที่พูด
ออกมาก็ราวกับเปนเสียงหมูรองอูดๆ “โหลวหลาน ขอบคุณเคกบำรุงกระดูกโลหิต
ของเจา ชางชวยไดมากเลยจริงๆ!”
“จริงเหรอ ชวยเหลืออายฮุยไดโหลวหลานก็ดีใจมากแลว” แสงสีเหลืองในดวงตา
ของโหลวหลานวูบไหว “ยินดีกับอายฮุยดวย เปดคลังชีวิตแลว มีความกาวหนาอยาง
มากเลยนะ”
“อยาชมเร็วเกินไปเลย แมแ ตสาวนอยร านบะหมี ่ข ายั งสู ไมได” อ า ยฮุยเปน
เหมือนกับหมูที่ตายแลวไมยอมขยับแมแตนอย หลับตาอยูอยางนั้น “เจาตนขาวสาร
อะไรนั่นมีการเคลื่อนไหวหรือไม”
“ไมมี” โหลวหลานตอบ
“หนึ่งเดือนแลวยังไมมีขาวเลย ฮา หากจะใหดีก็ใหนางลืมเรื่องเงินแปดสิบลาน
หยวนนั่นไปเสีย” อายฮุยกำลังคิดเพอเจออยู
โหลวหลานพูดขึ้นตามตรง “คาดวาจะเปนไปไดยากนะอายฮุย”
“เชนนั้นก็อยาเพิ่งไปสนใจนาง พรุงนี้ตองไปเรียนกอนแลว แลวคอยไปดูการแขงปด
ตาตอสูที่โรงฝกเพื่อชวยนางตามหาคน เฮอ ชีวิตชางเต็มไปดวยเรื่องที่มีสาระทั้งนั้น!”
ปากของอายฮุยยังพึมพำกับตัวเองอยู หนังตายิ่งหนักขึ้นทุกทีๆ และทายที่สุดจึง
ไดเขาสูหวงนิทรา
โหลวหลานมองอายฮุยที่กำลังหลับอยู จึงไมไดรบกวนเขา แลวจากไปอยางเงียบๆ
บทที่ 47 อาจารยสวี่ทแี่ สนนารัก
เมื่อเปดคลังชีวิตไดแลว ในที่สุดอายฮุยก็ไมไดเปนตัวขวางหูขวางตาในโรงเรียน
อีกตอไปแลว เรื่องนี้เห็นทีตองฉลองกันสักหนอย
กลับหอพักของโรงเรียนไดไมมานาน พอมองดูฝูงชนที่คลาคล่ำแลว อายฮุยถึงกับ
รูสึกราวกับวาอยูกันคนละโลก เขาอดไมไดที่จะหัวเราะขึ้นมา หรือวาเปนเพราะออก
จากแดนรางมานานแลว ตนถึงไดเปลี่ยนเปนคนอารมณออนไหวขึ้นมา
เมื่อลองคิดดูอยางละเอียดแลว เขาเองก็ไดจากแดนรางมาเปนเวลาหลายเดือน
ตนเองนั้นที่จริงก็เปลี่ยนไปมาก
เขาสามารถนอนหลับไดอยางสงบโดยที่ไมตองกอดกระบี่หลับอยูที่มุมปลอดภัย
ยอมใหคนอื่นเขามาใกลตนไดโดยไมไดมีความคิดที่จะกำจัดอีกฝายเพื่อสกัดอันตรายที่
อาจเกิดขึ้นได คุยเรื่องสัพเพเหระกับโหลวหลาน นอนพิงเกาอี้หวายมองดูดวงดาวโดย
ที่ไมเหมือนเมื่อกอนที่ทุกนาทีตองคอยระแวดระวังเตรียมพรอมทามกลางอันตราย
และความไมสงบ
เขาไมรูวาการเปลี่ยนแปลงนี้เปนเรื่องดีหรือเรื่องแย แตวาอยางนอยที่สุดจนถึง
ตอนนี้เขาก็ไมไดปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงนี้
ระหวางทางเขาเห็นอาจารยสวี่ที่ใบหนาเปยมไปดวยความชื่นชมยินดี “ความ
คืบหนาของนักเรียนอายฮุยไมนอยเลยนะ เปดคลังชีวิตไดในเวลาอันสั้นเทานี้ได ชวงนี้
นักเรียนอายฮุยคงใชเวลาไปไมนอยเลย ขอใหพยายามตอไปนะ”
“ขอรับ ทานอาจารย” อายฮุยคำนับดวยความเคารพ
เขาเคารพอาจารยในโรงเรียนทั้งหมดจากกนบึ้งของหัวใจ ในสายตาของเขา การ
ถายทอดความรูเปนเรื่องที่ยิ่งใหญ ในตอนที่อยูแดนราง การจะเรียนอะไรสักอยางเปน
เรื่องที่ยากลำบากเปนอยางมาก เพราะทุกคนที่นั่นลวนมีเรื่องของตน
คนที่จะยอมสละเวลาสวนตัวเพื่อชวยเหลือผูอื่นนั้นมีนอยยิ่งนัก ไมมีผูใดสนใจวา
ใครจะเรียนอะไรได
อาจารยสวี่แตเดิมยังกังวลเรื่องที่อายฮุยไมคอยเขาเรียน แตวาเมื่อดูจากระดับ
ของอายฮุยในตอนนี้ ก็รูไดวาอายฮุยไมไดปลอยเวลาไปโดยเปลาประโยชน จึงไดสั่ง
สอนดวยความจริงใจ “คลังชีวิตไดเปดออกแลว สิ่งที่เจาจะตองเรียนก็มีมากกวา
เมื่อกอนนัก พื้นฐานของเจาแตเดิมก็ออนแอกวาของผูอื่น เพราะฉะนั้นอยางไดผอน
คลายไปเปนอันขาด”
“ขาเขาใจ ทานอาจารย” อายฮุยตอบกลับดวยความขอบคุณ
อาจารยสวี่พยักหนา “เจาเปนเชนนี้ขาก็วางใจแลว ระหวางเพื่อนนักเรียนดวยกัน
ตองเปนมิตรและเปนน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แมเพื่อนนักเรียนบางคนนั้น นิสัยอาจจะดูใจ
รอนไปบาง ทาทีอาจจะแยสักหนอย แตวาจิตใจนั้นยังคงดีงาม เจาสามารถเปดคลัง
ชีวิตไดดวยเวลาอันสั้นเชนนี้ คิดวาคงจะสามารถเขาใจในจุดนี้ได”
ในหัวของอายฮุยเต็มไปดวยความมึนงง อาจารยพูดเชนนี้หมายความวาอยางไร
หมายถึงใหตนพยายามไมไปวูวามกับเพื่อนนักเรียนหรอกหรือ
เขายังคงพยักหนาดวยความเคารพ “ขาจะจดจำไว ทานอาจารย”
อาจารยสวี่นั้นพึงพอใจกับทาทีของอายฮุยอยางมาก เพราะเปนนักเรียนที่ทั้ง
เคารพอาจารยทั้งมานะพากเพียร เชนนี้ยอมเปนนักเรียนที่ดี ประสบการณในการ
สอนนักเรียนของเขานั้นลนเหลือ ไดเห็นนักเรียนมาแลวมากมาย พื้นฐานแยนิดหนอย
ไมไดเปนปญหาอะไร คอยๆ เรียนก็ไดแลว ขอเพียงนิสัยไมไดแย ก็มีโอกาสที่จะ
กาวหนาดวยกันทั้งสิ้น เนื่องจากนักเรียนเชนนี้จะไมหวังพึ่งทางลัด จึงมักมีพื้นฐานที่ดี
ถึงแมการจะกลายมาเปนวีรบุรุษนั้นจะยากแคนแสนเข็ญ แตพวกเขาจะไดเปนกระดูก
สันหลังของอูสิงเทียน
“เมื่อกอน เปนเพราะวาเจายังไมไดเปดคลังชีวิต ขาจึงไมไดพูดถึงเรื่องนี้กับเจา
โรงเรียนมีกิจกรรมอยูมากมาย เจาจะตองเขารวมใหมาก เพื่อเปดหูเปดตา ใหผานไป
อีกสักชวงหนึ่ง พวกเจาก็จะไดออกไปทำภารกิจ ถือเสียวาเปนวิชาภาคปฏิบัติ และนี่ก็
เปนการประเมินผลพวกเจาของทางโรงเรียนดวย” อาจารยสวี่กลาวดวยความอดทน
“นักเรียนก็ตองออกไปทำภารกิจหรือ” อายฮุยคอนขางจะตกตะลึง
อาจารยสวี่เผยรอยยิ้ม “แนนอน พวกเจามาที่สนามเหนี่ยวนำเพื่อเรียนทักษะ
ความสามารถ ลำพังแคเรียนอยางเดียวไมมีการฝกแลวมันจะมีประโยชนอะไร แตก็ไม
ตองกังวลมากเกินไป ภารกิจชวงแรกนั้นงายมาก รอใหกำลังของพวกเจาแข็งแกรงขึ้น
ภารกิจถึงจะเปลี่ยนเปนยากขึ้นมา ในภายหลังพวกเจาจะตองไดพบกับสถานการณที่
ยิ่งอันตรายและซับซอน เพิ่มการฝกฝนเสียหนอยยิ่งเปนเรื่องดี”
“ขาจะพยายาม ทานอาจารย” อายฮุยตอบอยางจริงจัง
เมื่ออาจารยสวี่กำชับเสร็จก็พูดกับอายฮุยวา “ไปเรียนเถอะ”
เมื ่ อ มองเงารา งของอ า ยฮุย ที ่จ ากไป อาจารยส วี่ ก ็ ร ู สึ ก ปลงอนิ จ จั ง อยู บ า ง
สถานการณของอายฮุยนั้นถือวาเปนคนที่พิเศษที่สุดในหองคนหนึ่ง แรงงานที่แมแต
คลังชีวิตก็ยังไมไดเปด แตกลับสามารถอยูในแดนรางไดถึงสามปและยังรอดออกมาได
พูดกันตามจริง เขายังไมอาจที่จะจินตนาการไดวาสามปมานี้อายฮุยตองเจอกับอะไร
มาบาง แลวผานมาไดอยางไร
เขานั้นไมชอบและตอตานการประกาศรับแรงงานจากดินแดนเกามาโดยตลอด
แตวาคำพูดของเขานั้นไรน้ำหนัก ไมสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได
แตทวาในตอนที่เขาพบอายฮุยในครั้งแรก ก็มองเห็นถึงความปรารถนาในดวงตา
ของอายฮุย ความปรารถนาในการเรียน สำหรับอาจารยผูหนึ่งแลว ไมมีสิ่งใดที่จะทำ
ใหเขารูสึกหวั่นไหวไดยิ่งไปกวาสิ่งนี้อีกแลว
ดังนั้นเขาถึงไดตั้งใจเรียกหาตวนมูหวงฮุนมาและขอใหชวยเหลืออายฮุย
ในตอนนี้มองดูแลว ตวนมูหวงฮุนทำไดไมเลวเลยทีเดียว รากฐานของอายฮุยนั้น
เขารูอยางชัดเจน ที่อายฮุยเปดคลังชีวิตไดในเวลาอันสั้นขนาดนี้ ไมตองสงสัยเลยวา
จะตองเปนเพราะผลงานของตวนมูหวงฮุนอยางแนนอน
อาจารยสวี่พ ึงพอใจกับการตั ดสิ น ใจครั ้ งนี ้ ข องตนอย า งมาก เขาไม สงสั ย ใน
พรสวรรคและความแข็งแกรงของตวนมูหวงฮุนแมแตนอย ผลการตอสูที่งดงามของ
เมื่อชวงเวลากอนหนานี้ก็เพียงพอที่จะอธิบายทั้งหมดแลว
เรื่องที่ตวนมูหวงฮุนชวยเหลืออายฮุยนี้แสดงใหเห็นถึงหัวใจที่มีความรับผิดชอบ
และจิตใจที่มีเมตตา ยิ่งทำใหเขารูสึกดีใจ
ทันใดนั้น สายตาของเขาไดสังเกตเห็นตวนมูหวงฮุนที่กำลังเดินมาอยูไมไกลนัก
ตวนมูห วงฮุนเองก็ เหลื อ บเห็น อาจารย สวี ่ จึ งได รี บ โค ง ศี รษะคำนั บ “ท า น
อาจารย!”
“บาดแผลหายดีแลวหรือ” อาจารยสวี่ถามขึ้นดวยความเปนหวง ตามดวยการ
กลาวตำหนิเล็กนอย “นักเรียนตวนมู ภายหลังอยาไดอยากเอาชนะถึงเพียงนี้ ชื่อเสียง
แนนอนวาสำคัญ แตวารางกายนั้นสำคัญเปนที่สุด เจาอายุยังนอย เสนทางในอนาคต
ยังอีกยาวไกล ชื่อเสียงเล็กนอยที่อยูเบื้องหนานี้ อยาไดไปใหความสำคัญกับมันมาก
นัก ดูสิ ครั้งนี้เจาทำเกินตัวจนตองมารักษาบาดแผลถึงหนึ่งเดือนเต็ม ภายหลังเรื่อง
เชนนี้อยาไดทำอีก”
“ทานอาจารยสั่งสอนไดถูกแลว ภายหลังหวงฮุนจะไมทำเรื่องที่บุมบามเชนนี้อีกแลว”
ตวนมูหวงฮุนรีบรอนที่จะกลาวขึ้นดวยความเคารพ ในใจรูสึกไมสงบอยู
“พรสวรรคของเจานั้นไมตองพูดถึง ประสบความสำเร็จตั้งแตอายุยังนอย เรื่อง
การฝกของเจานั้นขาไมกังวลใจเลย แตที่ขากังวลที่สุดก็คือความมีศีลธรรม”
ใบหนาของอาจารยสวี่เต็มไปดวยความเครงขรึม น้ำเสียงที่กลาวมีความเด็ดขาด
“ถึงแมคนเราจะมีพละกำลังแข็งแกรงเพียงไร แตหากไมมีความประพฤติที่ดีแลว
เชนนั้นก็มีเพียงความหายนะ เหมือนอยางชวงกอน ไดยินวามีนักเรียนวิ่งเปลือยอยูที่
ถนนใหญตอหนาสาธารณะชน เกิดเรื่องเชนนี้ขึ้น ชางเปนการลบหลูโรงเรียนซงเจียน
ของพวกเรา ทางโรงเรียนไมพอใจกับเรื่องนี้เปนอยางมาก จะมีการตรวจสอบจนถึง
ที่สุด ไมวาเจาคนคนนี้จะมีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญเพียงใด หากวาถูกตรวจสอบพบ จะไมมี
ทางปลอยไปอยางแนนอน! นักเรียนตวนมู ทำไมเจาถึงไดมีเหงื่อออกมากมายเชนนี้”
ในใจตวนมูหวงฮุนยิ่งหวาดกลัววาความจะแตก เขาพยายามฝนยิ้มกลาว “นาจะ
เปนเพราะบาดแผลยังไมหายดีทั้งหมด รางกายขาคอนขางออนแออยู”
อาจารยสวี่กระจางในทันที จึงกลาวอยางเปนหวง “ตองระมัดระวังรางกายให
มาก มีอะไรก็ปรึกษาอาจารยได ไมตองเกรงใจ”
“ขาเขาใจแลว” ตวนมูหวงฮุนอยากจะจากไปแทบใจจะขาด
อาจารยสวี่ยังคงกลาวชมตอ “นักเรียนตวนมูชางมีหัวใจที่มีความรับผิดชอบยิง่ นัก
อาจารยเองก็นึกไมถึงเลยวานักเรียนตวนมูจะสามารถทำไดยอดเยี่ยมเชนนี้ นักเรียน
อา ยฮุย สามารถเปดคลังชีวิตไดในระยะเวลาที ่ สั้ น ขนาดนี้ ความดี ความชอบของ
นักเรียนตวนมูชางยิ่งใหญนัก ในตอนแรกขายังกังวลวานิสัยของพวกเจาจะเขากัน
ไมได ดูทาแลวจะเปนอาจารยที่คิดมากไปเอง พวกเจาก็เขาคูกันมานานถึงเพียงนี้แลว
ดูทาวาจะเขากันไดดีทีเดียว วันนี้มีการแบงกลุมกิจกรรมพอดี พวกเจาทั้งสองคนอยู
กลุมเดียวกันก็แลวกัน ไมมีอะไรแลว ไปเขาเรียนเถอะ”
ในตอนแรกตวนมูหวงฮุนไดฟงแลวในหัวมีแตหมอกควัน ประโยคสุดทายผานไป
นานโขกวาเขาจะตอบสนองกลับมาได
ตนกับ...อายฮุยอยูกลุมเดียวกัน
โอ ไม!
แขนทั้งสองขางของเขากุมขมับ ทั้งใบหนาเต็มไปดวยความตื่นตระหนกหวาดกลัว
มองไปยังเงาแผนหลังของอาจารยที่กำลังเดินจากไป
บทที่ 48 เขาเรียน
หลังจากที่ไดเปดคลังชีวิต อายฮุยก็พบวาประสบการณของตนในสมัยกอนนั้นไม
คอยจะใชไดแลว การเคลื่อนของพลังธาตุนั้นมีความตางกับแตกอนอยางมาก ไมวาจะ
เปนกระบวนทาใดก็แลวแตลวนประกอบขึ้นมาจากรายละเอียดเล็กๆ มากมาย ทุก
รายละเอียดหากไมไดทำใหดีแลว ก็จะทำใหพลังของกระบวนทาถูกลดทอนลงไป การ
จะปลอยพลังออกมาอยางไร การจะเคลื่อนพลังธาตุอยางไร เมื่อไรควรจะเร็ว เวลาใด
ควรจะชา รายละเอียดจำนวนมหาศาลนี้เปนตัวตัดสินวากระบวนทานี้สุดทายแลวจะ
มีพลังมากมายเพียงใด
จากประสบการณที่ผานมาทำใหอายฮุยเปนคนสุขุม
เขาไมไดใชเวลาคิดถึงสิ่งที่มีความลึกซึ้งเกินไป และก็รูสึกวาตนเองก็ไมใชคน
ประเภทนั้น การทดลองฝกที่เจดียเสวียนจินนั้นประสบความสำเร็จอยางมาก แตเขาก็
ไมไดอวดดีเพราะเรื่องนี้ อาจารยตงสอนอยางละเอียดและตัวเขาก็ขัดเกลาตอนอยู
แดนรางมานาน จึงมีการเตรียมความพรอมที่ดี สุดทายถึงไดสามารถบรรลุในเรื่อง
เหลานั้นได
เขารูน้ำหนักของตนเอง และรูวาตนไมไดเปนผูมีพรสวรรคอะไร ความรูสวนใหญ
ของเขาไมไดมาจากการเรียนรูตามแบบแผน
พลังธาตุของสนามเหนี่ยวนำไดมีพัฒนาการมากวาหนึ่งพันป ปรับปรุงขึ้นโดยผูมี
พรสวรรคและผูอาวุโสมากมายขนาดนั้น ยอมตองมีคนที่แกรงกวาเขาเปนแน ที่เขา
สามารถทำไดก็คือยืนหยัด ฝกฝน และตั้งใจเรียนที่อาจารยสอน
อะไรคือการตั้งใจเรียน
นั่นก็คือการทำความเขาใจในทุกๆ รายละเอียดที่อาจารยสอน ทำไมตรงนี้ถึงเร็ว
ทำไมตรงนั้นถึงชา วิเคราะหแยกแยะออกมาทีละสวนๆ ทำความเขาใจใหหมด เมื่อ
สามารถทำไดแลวจึงจะเรียกวาตั้งใจเรียน
เมื่อเปดคลังชีวิตไดแลว ระเบิดเวลาของการถูกไลออกจากโรงเรียนก็ไมใชเรื่องที่
ตองกังวลอีกตอไปแลว ตอนนี้เขามีเวลาถึงสี่ปในการคอยๆ เรียนรูไปโดยที่ไมตองรีบ
รอน ตราบในที่เขาขยันหมั่นเพียรเรียนอยางสงบตลอดสี่ป ก็คงจะไดเปนหนึ่งในผูใช
พลังธาตุที่มีชื่อบันทึกไวในทะเบียนเขาสักวัน
เขาไมไดมีความมั่นใจมาก แตวาสิ่งนี้ก็คือเปาหมายที่เขาจะพยายามไปใหถึง
คงเพราะไดเห็นความเปนความตายมาหลายครั้งแลว อายฮุยจึงใชชีวิตอยาง
เขาใจมากขึ้น
เขาเคยเห็นความออนแอของชีวิตที่ปดกั้นความคิดจากความทะเยอทะยานและ
การทำตามความฝน
ระหวางอาจารยกำลังอธิบายเรื่องวิชาการฝกขั้นพื้นฐานอยูด านบน อายฮุยก็ตั้งใจ
ฟงอยางละเอียด ในหองมีคนนั่งอยูเพียงครึ่งหนึ่ง ที่นั่งอื่นๆ วางเปลาไมมีคน นักเรียน
ในหองสวนใหญคือพวกที่มาจากดินแดนเกา ดวยความที่วิชานี้เปนวิชาพื้นฐานมาก จึง
มีเนื้อหาไมมากที่นักเรียนจากอูสิงเทียนยังไมเคยเรียน
โรงเรียนซงเจียนใหนักเรียนเลือกวิชาเรียนดวยตนเอง เนื่องจากแตละคนนั้ นมี
พื้นฐานแตกตางกัน ดังนั้นจึงตองการรับการชี้แนะสั่งสอนที่ไมเหมือนกัน เหมือน
อยางตวนมูหวงฮุนที่เปนผูมีพรสวรรคเชนนั้น จะทิ้งหางนักเรียนคนอื่นๆ อยางไมเห็น
ฝุน วิชาเรียนทั่วไปจึงไมมีความหมายใดๆ กับเขา ทางโรงเรียนซงเจียนไดคำนึงถึง
สถานการณเชนนี้ จึงไดตั้งใจจัดอาจารยที่โดดเดนที่สุดเพื่อมาชี้แนะการฝกของเขา
และนอกหองเรียนก็ยังมีกลุมผูมีพรสวรรคคอยชวยเหลือเขา
แตไหนแตไรมาอายฮุยไมเคยคิดวาตนเองเปนผูมีพรสวรรค แตก็ไมเคยรูสึกวาตวนมู
หวงฮุนเปนผูมีพรสวรรคเชนกัน เจานั่นมันเปนแคเด็กนอยนิสัยเสียที่นารังเกียจ!
อายฮุยนั้นกำลังซึมซับสิ่งที่อาจารยสอนทั้งหมดอยางละโมบ
สิ่งที่อาจารยแซหวังสอนเปนเรื่องพื้นฐาน เชนหลังจากที่เปดคลังชีวิตแลวการฝก
จะตองใหความสนใจกับเรื่องอะไร มีกระบวนทาใดที่สามารถเรียนได และสามารถ
เรียนกระบวนทาเหลานี้ไดกับอาจารยทานใด
ทุกๆ ดานของอูสิงเทียนลวนแลวแตมีความเกี่ยวของกับพลังธาตุ อายฮุยไดยิน
อาจารยพูดถึงการสรางระบบที่สมบูรณยิ่งกวาระบบหาธาตุมากกวาหนึ่งครั้งแลว
ระบบจะตองมีความสมบูรณอยางมากจึงจะสามารถไปถึงระดับเดียวกับโลกในยุค
บำเพ็ญตนที่รุงเรืองเฟองฟูนับลานปได
การที่อาจารยพูดยกยองโลกแหงการบำเพ็ญตนนั้นทำใหอายฮุยรูสึกประหลาด
อยางมาก แตวาพอไดฟงไปสักพักจึงคอยๆ เขาใจขึ้นมา อูสิงเทียนนั้นสรางขึ้นจาก
ซากปรักหักพังของโลกแหงการบำเพ็ญตน อีกนัยหนึ่งก็คือ สองฝายมีตนกำเนิดมา
จากแหลงเดียวกัน ทวาหากเทียบกับโลกแหงการบำเพ็ญตนที่มีประวัติศาสตรอัน
ยาวนานและมีความรุงเรืองกับอูสิงเทียนที่อยูมาเพียงหนึ่งพันป อูสิงเทียนยังไมเปน
แมแตเด็กทารกดวยซ้ำ
เมื่ออาจารยพูดถึงการฝกพลังธาตุที่ไดแพรกระจายไปถึงดินแดนเกา อายฮุยก็มี
ความรูสึกเขาใจโดยตรงมากยิ่งขึ้น
สมัยกอนที่ยังไมไดเขาไปในแดนราง เขาใชชีวิตอยูที่ดินแดนเกามาโดยตลอด
เทียบกันแลวกับอูสิงเทียน ดินแดนเกาก็เหมือนกับเปนโลกอีกใบหนึ่ง แตเดิมที่เคย
เปนจุดศูนยกลางของโลกแหงการบำเพ็ญตน ปจจุบันกลับลาหลังราวกับชนบท
การใชชีวิตในดินแดนเกามีความเชื่องชาและสงบสุขอยางมาก ภายใตการปกปอง
ของอูสิงเทียน ที่นั่นไมมีทั้งอสูรแดนรางและชนเผาแดนรางมารบกวน
ดินแดนเกาไมใชที่ที่เหมาะแกการฝกฝน ความเขมขนของพลังธาตุที่นั่นต่ำมาก
การไมมีอสูรแดนรางก็เปนการขาดแคลนวัตถุดิบในการฝกฝน และก็ไมมีอาจารยคอย
ชี้แนะ บรรยากาศในการฝกฝนนั้นจืดชืดอยางมากมาโดยตลอด
ชวงหลายปมานี้ยังดี มีผูใชพลังธาตุมากมายที่เกิดจากดินแดนเกา เมื่ออายุมาก
แลวก็กลับมายังบานเกิดของตน ไปเปดโรงฝกเพื่อชี้แนะสั่งสอนคนในพื้นที่เกี่ยวกับ
การฝกฝนพลังธาตุ
อาจารยที่อยูดานบนยังคงพูดไมหยุด บางครั้งก็วิจารณการโจมตีนโยบายบางสวน
ของอูสิงเทียนนิดหนอย
อายฮุยพบวาเหลาอาจารยของสนามเหนี่ยวนำเหมือนจะมีความชอบของตนเอง
เหมือนกับอาจารยตงที่ชอบเลาถึงประวัติศาสตรของอูสิงเทียน อาจารยหวังที่อยูเบื้อง
หนาก็ชอบพูดถึงอนาคต คิดดูแลวนาจะอยูเหนือความเกี่ยวของกับสถานะในสนาม
เหนี่ยวนำ ไมวาจะเปนตระกูลใหญ หรือจะเปนสิบสามหนวย ลวนยากที่จะสงผล
กระทบตอสนามเหนี่ยวนำได
อ า ยฮุ ย ไม ร ู ส ึ ก เบื ่ อ หน า ยกั บ เนื ้อ หาเหล า นี ้ อี ก ทั ้ ง ยั ง ฟ ง อย า งสนอกสนใจ
ประวัติศาสตรก็ดี อนาคตก็ดี ลวนเปนสิ่งที่เขาไมเคยรูมากอนทั้งสิ้น ไดลองฟงก็เปน
การเปดมุมมองใหมแกตน
“หากวาทุกคนเพิ่งจะเปดคลังชีวิต ขาไมแนะนำใหเรงฝกกระบวนทาใหมๆ เร็ว
นัก เพราะอะไรนะเหรอ นั่นก็เพราะวากระบวนทาเหลานั้นสามารถจำกัดความเขาใจ
ของทุกคนที่มีตอพลังธาตุไดอยางงายดาย ความเขาใจเกี่ยวกับพลังธาตุของพวกเรา
นั้นตื้นเขินนัก มีบางคนที่เห็นตาง และเชื่อวาหาคลังแปดตำหนักนั้นสมบูรณและสุก
งอมมากแลว แตทุกคนตองรูไว การพัฒนาของพลังธาตุจนถึงปจจุบันเพิ่งจะแคหนึ่ง
พันป เมื่อลองมองโลกแหงการบำเพ็ญตน จะเห็นวาระบบของการบำเพ็ญตนนั้นชาง
กวางขวางและยิ่งใหญ อีกทั้งยังละเอียดประณีตมากมายเชนนั้น เมื่อเทียบกันแลวหา
คลังแปดตำหนักของพวกเราชางแสนจะเปราะบางและหยาบกระดางมากนัก ดังนั้น
ในตอนนี้ทุกคนควรจะทำความคุนเคยกับพลังธาตุของตน เขาใจมัน ก็เหมือนกับการ
เขาใจคูหูของเจา”
แตเห็นไดชัดเจนอยูแลววานักเรียนนั้นไมไดสนใจความเห็นนี้เลยแมแตนอย
การเรียนการสอนในสนามเหนี่ยวนำนั้นอิสระเปนอยางมาก โดยเฉพาะขอจำกัด
ที่เหลาอาจารยไดรับมีนอยมาก อาจารยแตละทานเพียงแคทำงานของตนใหสำเร็จ
ทางโรงเรียนจะไมเขาไปกาวกายเรื่องของแตละคน
บรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและอิสระ ทำใหสนามเหนี่ยวนำกลายเปนสถานที่ที่มี
สำนักและทฤษฏีมากที่สุดในอูสิงเทียน มีคำพูดที่วาสนามเหนี่ยวนำมีอาจารยอยูมาก
เทาใดก็มีสำนักและทฤษฎีมากมายเทานั้น
นักเรียนทั้งหลายไดมอง “ผลงานสวนตัว” ของอาจารยแตละทานเปนภูมิคุมกันที่
คุนเคยไปตั้งนานแลว ไมใชวาทฤษฏีขออาจารยทุกทานจะเปนที่สนใจของนักเรียน
อาจารยเองก็เคยชินกับการตอบสนองของนักเรียนที่อยูเบื้องหนามานานแลว
สำหรับนักเรียนระดับเริ่มตนแลว กระบวนทาที่ดูงดงามสะดุดตาพวกนั้น มีแ รง
ดึงดูดอยางหาใดเปรียบ ในสายตาของพวกเขาแลว สิ่งนั้นคือสัญลักษณของความ
แข็งแกรง ตัวของอาจารยเองก็เคยผานชวงวัยหนุมมากอนจึงคุนเคยกับความคิดเชนนี้
“เอาเถิด เอาเถิด ขารูวาพวกเจาอยากจะรูอะไร ไมวากระบวนทาจะงายสัก
เพียงใด ทุกคนก็ตองใสใจธาตุของตน อยาไดฝกมั่วๆ ถึงจะเปนกระบวนทาที่งายดาย
ทุกคนก็จะตองใชความคิดใหมากหนอย”
อาจารยมองเห็นนักเรียนที่ไมมีความอดทนจะรอมาตั้งแตแรกแลว จึงไดประกาศ
เลิกเรียนไป
เขาเองก็รูสึกจำใจอยูบาง ทฤษฏีของตนดูเหมือนวาตั้งแตเริ่มตนก็ไมมีคนสนใจแลว
ถึงแมในสนามเหนี่ยวนำจะมีทฤษฎีเชนนี้อีกมากมาย แตมันก็ยังคงทำใหเขารูสึก
รันทดใจ
เหลานักเรียนตางก็ทนรอไมไหว เตรียมตัวออกจากหอง อยากไปฝกกระบวนทา
ของตน
อาจารยเองก็เก็บของเตรียมตัวกลับ ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“ทานอาจารยชวยอธิบายใหละเอียดอีกหนอยไดหรือไม จะตองทำเชนไรจึงจะ
สามารถทำความเขาใจกับพลังธาตุของเราไดดียิ่งขึ้น”
บทที่ 49 รับศิษย
อาจารยนิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง แตวาไมนานเขาก็ดึงสติกลับมาได เขาไมอยากจะเชื่อหู
ของตน “เมื่อครูเจาวาอะไรนะ” อายฮุยถามคำถามเดิมย้ำอีกครั้งหนึ่ง “ขารูสึกวาวิธี
คิดของทานอาจารยนาสนใจมาก จึงอยากจะทำความเขาใจเสียหนอย ไดหรือไม”
เมื่ออาจารยไดยินประโยคนี้เขาก็เกือบจะกลั้นน้ำตาไวไมไหว
สวรรคเมตตา ในที่สุดก็มีคนสนใจกับทฤษฎีของเขาแลว
เขาเสนอทฤษฎีนี้มาเปนเวลาหลายป แตวาไมมีผูใดถามถึงสักคน และเนื่องจาก
ไมมีตัวแปรในการศึกษาคนควา จึงทำใหทฤษฏีของเขาขาดหลักฐาน ไมมีใครเชื่อ
ทฤษฎีที่ไมไดยังรับการพิสูจน ยิ่งตัวของเขาเองก็อายุไมนอยแลว พลังธาตุเองก็หลุดไป
จากระดับเริ่มตนตั้งนานแลว ไมอาจพิสูจนทฤษฎีจากตัวของตนเองวาถูกตองได
ในสนามเหนี่ยวนำมีเพียงวิธีเดียวที่ทฤษฎีเกิดใหมจะไดรับการยอมรับจากทุกคน
นั่นก็คือทฤษฎีใหมนั้นจะตองไดรับการพิสูจนวาเปนจริง จะพิสูจนอยางไรนะหรือ ก็
ตองมีกรณีตัวอยางที่ประสบความสำเร็จ!
สมมติวามีนักเรียนผูหนึ่ง ฝกตามอยางทฤษฏีของเขา แลวทายที่สุดก็ประสบ
ผลสำเร็จ และไดความสามารถพิเศษ หรือกลายเปนยอดฝมือผูหนึ่งได นั่นก็จะเปน
การพิสูจนวาทฤษฎีนั้นมีจุดที่สามารถใชการได
และถาหากวามีนักเรียนจำนวนมากฝ กตามทฤษฎี นี ้แล วประสบความสำเร็จ
เชนนั้นก็จะเพียงพอที่จะใหทฤษฏีใหมนี้จะไดเปนที่รูจักไปทั่วสนามเหนี่ยวนำ
อาจารยเคยเพอคิดจินตนาการอยูหลายครั้งวาทฤษฎีของตนจะเปนที่รูจักไปทั่ว
สนามเหนี่ยวนำ และตนไดกลายเปนบุคคลยิ่งใหญแหงยุค แตวาความเปนจริงนั้นแสน
โหดราย ทฤษฎีของเขายังคงไมมีผูใดถามถึง แมแตตัวแปรในการทำการศึกษาสักคน
เขาก็ยังหาไมได
จนกระทั้งถึงวันนี้!
ในที่สุดก็มีคนที่สนใจในทฤษฏีของเขา
“ไมมีปญหา ไมมีปญหา!” เขารีบรอนกลาวขึ้น ใบหนาราวกับมีดอกไมเบงบาน
“นักเรียน เจามีอะไรที่อยากจะทำความเขาใจ ขอใหถามมาไดเลย อาจารยมีเวลาให
มากมาย”
“ทานอาจารยทานสามารถแนะนำทฤษฎีของทานอยางละเอียดสักหนอยไดหรือไม”
อายฮุยเอยถามอยางสุภาพอยางมาก
ถึงแมวานักเรียนจำนวนมากจะเมินเฉยตอวิธีการเหลานี้ของอาจารย แตอายฮุย
กับรูสึกวามันมีเหตุผลอยางมาก อายฮุยนั้นมีประสบการณในการตอสูจริงมากมาย
เขาเขาใจอยางชัดเจนวาพวกกระบวนทาที่สวยเดนสะดุดตาเหลานั้น ในระหวางการ
ตอสูใชวาจะมีประโยชน กระบวนทาที่อันตรายที่สุดก็คือกระบวนทาที่ไมดึงดูดความ
สนใจคนพวกนั้นที่เปนกระบวนทาสังหารอยางแทจริง แมจะไมมีประกายสวยงาม แต
กลับนากลัวและรุนแรงถึงชีวิต
โดยเฉพาะอยางยิ่ง เขามีความสนใจอยางมากในเรื่องราวประวัติศาสตร แ ละ
อนาคตของอูสิงเทียน
เขาเองก็มีความสนใจในสำนักและทฤษฏีตางๆ เชนกัน เพราะเขารูวาตนขาดแคลน
ความรูในเรื่องดานนี้มากเพียงใด ถึงแมอาจารยจะคิดเพอเจออยางไร แตวาเมื่อพูดถึง
ความรูและการศึกษาเกี่ยวกับพลังธาตุแลวนั้น อาจารยมีมากมายกวาตนไมรูกี่เทา
“ไมมีปญหา!”
เมื่ออาจารยตั้งสติขึ้นมาได เขาก็จัดระเบียบความคิดกอนเล็กนอย กอนจะคอยๆ
เอยปากขึ้น
“กอนอื่น พวกเราตองเริ่มจากความหมายพลังธาตุเสียกอน แมวาจนถึงทุกวันนี้
พวกเราจะยังมีความเขาใจที่เกี่ยวกับพลังธาตุนอยมากก็ตาม พลังธาตุไมไดมีชีวิตชีวา
ดั่งเชนพลังวิญญาณ แตจะมีความสงบนิ่งมากยิ่งกวา พวกมันแบงออกเปนธาตุดิน น้ำ
ไฟ ไม และทอง นี่เปนความรูพื้นฐานที่ทุกคนตองรูจัก ในการฝกพลังธาตุนั้น เรา
จะตองดูดซึมพลังธาตุจากธรรมชาติแลวจึงกลั่นตัวออกมา ซึ่งโดยพื้นฐานแลวไมไดมี
ความแตกตางอะไรกับการฝกพลังวิญญาณในยุคสมัยของการบำเพ็ญตนเทาไรนัก แต
ในความเปนจริงแลวกลับมีความแตกตางกันราวฟากับดิน นี่ก็เปนอีกสาเหตุหนึ่งที่วา
ทำไมเหลาผูอาวุโสของพวกเราจึงไมสามารถเรียนรูการใชพลังธาตุไดอยางรวดเร็ว
หลังจากที่พลังวิญญาณไดสูญสิ้นไป”
อายฮุยตั้งใจฟงอยางละเอียด เขาไดอานคัมภีรกระบี่มามากมาย ความเขาใจตอพลัง
วิญญาณนั้นก็มากกวาคนทั่วไปมากมายนัก แตวาหากจะใหเขาพูดวา ระหวางพลัง
วิญญาณกับพลังธาตุมีความแตกตางกันอยางไร เขาก็ยังไมสามารถพูดออกมาไดจริงๆ
“สิ่งที่แตกตางกันอยางแรกคือ พลังวิญญาณนั้นไมมีคุณลักษณะ แตพลังธาตุนั้นมี
คุณลักษณะอยูหาประเภท ผูบำเพ็ญตนในยุคโบราณดูดซึมพลังวิญญาณจากฟาดินเขา
มาสูภายในรางกายของตน จากนั้นก็ใชกระบวนทาวิชาของพวกเขาในการแบ งพลัง
วิญญาณใหมีคุณลักษณะที่แตกตางกัน เชน ไฟ น้ำ สายฟา เปนตน แตทวาพลังธาตุ
นั้นไมเหมือนกัน พลังธาตุในธรรมชาตินั้นมีคุณลักษณะของมันเอง เมื่อมีการดูดซึม
พลังธาตุ เราจะสามารถดูดซึมไดเพียงพลังธาตุที่มีคุณลักษณะเดียวกับเราเทานั้น”
“ความแตกตางขอที่สองคือ พลังวิญญาณกับวัตถุนั้นไมอาจแลกเปลี่ยนกันได
พลังวิญญาณก็คือพลังวิญญาณ แมจะสามารถบรรจุอยูในผลึกหินได แตทวาไมอาจ
เปลี่ยนแปลงไปเปนวัตถุได แตวาพลังธาตุกับวัตถุสามารถเปลี่ยนแปลงสลับกันได ดิน
น้ำ ไฟ ไม ทอง พลังธาตุทุกๆ ประเภทลวนมีรูปแบบวัตถุของตัวมันเอง นี่จึงเปน
สาเหตุที่ทำใหพวกเราสามารถใชประโยชนจากวัตถุดิบบางสวนได”
อายฮุยสดับฟงอยางเคลิบเคลิ้ม คำพูดของอาจารยไมไดซับซอนเลย แตก็ลึกซึ้ง
อยางมาก คนอื่นอาจจะสัมผัสไมถึง แตวาอายฮุยกับสามารถเขาถึงได
เขานึกถึงคำพูดในคัมภีรกระบี่มากมายที่เขาเคยอานมา ซึ่งสามารถบรรยายและ
วิเคราะหคำพูดของอาจารยไดอยางกระจาง
“ความแตกตางทั้งสองขอนี้สามารถอธิบายถึงจุดที่วา พลังธาตุนั้นมีความซับซอน
นี่คือทฤษฏีของขา เริ่มตน ณ จุดเริ่มตน หากจะถามวาสิ่งที่มีความซับซอนอีกสิ่งหนึ่ง
คืออะไร นั่นก็คือคนอยางไรละ!”
อาจารยไดมอบคำตอบที่อายฮุยนึกไมถึง
อายฮุยเบิกตากวาง ใบหนาเต็มไปดวยความตกตะลึง เขาไมเคยนึกถึงเรื่องปญหา
รางกายของตนมากอนเลย การเรียนเรื่องพลังธาตุเปนเหมือนกับการสำรวจสิ่งใหมที่
ไมเคยรูมากอน ผลลัพธในการฝกจะเปนเชนไร ก็ลวนแตเชื่อมโยงกับพลังธาตุทั้งสิ้น
และยังรวมไปถึงวิธีการในการฝกฝน
อาจารยนนั้ พึงพอใจกับการแสดงออกบนใบหนาของอายฮุยเปนอยางมาก จึงกลาวขึ้น
ตอ “โดยปกติแลวโครงสรางของรางกายมนุษยนั้นเหมือนกัน แตวาสวนรายละเอียด
เล็กๆ นั้นกลับแตกตางกันอยางสิ้นเชิง หากจะถามวาบนโลกใบนี้มีคนสองคนที่มี
ลักษณะเหมือนกันทุกประการหรือไม ขอตอบเลยวาไมมี! ตอใหเปนพี่นองฝาแฝด
รากฐานและพรสวรรคของพวกเขาก็แตกตางกันราวฟากับเหว โดยเฉพาะอยางยิ่ง
อยาไดลืมวา รางกายของมนุษยเองก็ประกอบขึ้นมาจากธาตุทั้งหา หากถามวาคนแต
ละคนประกอบขึ้นจากธาตุทั้งหาเหมือนกันหรือไมนั้น แนนอนวาไมเหมือนกัน”
“พลังธาตุที่มีความซับซอนกับการฝกที่มีความซับซอน ระหวางสองสิ่งนี้ จะทำ
เชนไรจึงจะสามารถหาจุดที่ลงตัวสอดคลองกันไดอยางสมบูรณ สิ่งนี้แหละคือแกนของ
เนื้อหาในทฤษฎีของขา!”
อายฮุยนึกแลวเอยปากถามขึ้น “ตองทำเชนไรจึงจะหาพบ”
อาจารยแยมยิ้ม เขารูวานักเรียนที่อยูตรงหนารูสึกหวั่นไหวจากคำพูดของตนแลว
เขาไมไดตอบ แตกลับถามคำถามขึ้น “สมมติวาเจามีคูหูคนใหม เจาจะทำเชนไรให
เกิดความคุนเคยกับเขา”
อายฮุยลองคิดดูแลวจึงตอบ “กอนอื่นก็ตองดูวาคูหูคนนี้เหมาะกับตัวขาหรือไม
จากนั้นก็ตองใชเวลาในการปรับตัวเขาหากัน”
ตอนอายฮุยอยูที่แดนรางไดมีการติดตอกับเหลาผูใชพลังธาตุผูยิ่งใหญหลายตอ
หลายคน มีที่อยูรวมกันอยางสนิทสนมกลมเกลียวกันดี และก็มีที่อยูดวยกันอยางไม
สนิทอยางมาก ถือวาเขามีประสบการณเรื่องนี้อยู
อาจารยนั้นตกตะลึงเปนอยางมาก เขาไมคิดเลยวาอายฮุยจะสามารถหาคำตอบ
ออกมาได คำถามนี้สำหรับผูที่อยูในวัยเรียนตรงหนาเชนนี้ เรียกไดวาคอนขางจะเกิน
ขอบเขตของอายุไปบาง คิดไมถึงวาอีกฝายไมเพียงแตตอบคำถามได แตยังเปนคำตอบ
ที่ถูกตองและเหมาะสมอยางมากอีกดวย
อาจารยอดไมไดที่จะประเมินนักเรียนที่อยูตรงหนานี้ใหม เขาดูออกวารากฐาน
ของอายฮุยนั้นไมดี แตใบหนาของเด็กหนุมคนนี้กลับแสดงออกถึงความจริงจังอยางหา
ใดเปรียบ มีความสุขุม สงบ ตั้งใจฟงและรูจักวิเคราะห โดยเฉพาะอยางยิ่งมีความคิด
เปนของตัวเอง ทำใหอาจารยเกิดหวั่นไหวในใจ
อายฮุยสังเกตเห็นอาจารยที่กำลังพิจารณาตนอยู จึงอดถามขึ้นไมได “ขาตอบผิด
เชนนั้นหรือ”
อาจารยไมไดตอบ แตกลับเอยถาม “เจามีชื่อวาอะไร”
“ชื่อขาคือ อายฮุย” อายฮุยรีบรอนโคงหัวคำนับ
“เจายินดีจะมาเปนลูกศิษยของขาหรือไม” อยูๆ อาจารยก็ถามขึ้นอยางจริงจัง
อายฮุยคิดไมถึงวาจะไดยินคำพูดประโยคนี้ เขาไดแตสับสนงงงวย
บทที่ 50 สมองไมพอใช
อาจารยมองเห็นทาทีงงงันของอายฮุยก็อดไมไดที่จะยิ้มขึ้นมา แตก็กลับมากลาว
อยางจริงจังในทันที “เจาไมตองกังวล ไมวาเจาจะตอบตกลงหรือไม ขาก็จะนำความรู
ทั้งหมดที่มีและที่เคยร่ำเรียนมาทั้งหมดถายทอดใหแกเจา ไมมีทางเก็บไวกับตัวอยาง
แนนอน โดยเฉพาะอยางยิ่งถึงแมวาเจาจะตอบตกลง ขาก็ทำไดเพียงชวยเหลือ เจา
วิเคราะหและเสนอความคิดของขาบางสวนใหกับเจาตอนฝกฝน แตนอกเหนือจากนั้น
การสนับสนุนในดานอื่นขาก็ชวยเจาไมไดมาก ขาเปนอาจารยจนๆ คนหนึ่ง สอน
วิชาการฝกขั้นพื้นฐานมาสามสิบป แตก็ยังไมมีเสนสายอะไร”
เมื่อพูดถึงประโยคสุดทาย เสียงอาจารยก็กลายเปนเหมือนพึมพำกับตนเอง
อายฮุยคอนขางจะแปลกใจอยูบาง “เหตุใดอาจารยถึงสนใจในตัวขากัน รากฐาน
ของขาเองแสนจะย่ำแยแลวก็ยากจนเหมือนกัน”
“ฮา ฮา” อาจารยหัวเราะเอิ๊กอากใหญ “เรื่องที่รากฐานแยแลวก็ยากจนนั้นขา
มองออกตั้งแตแรกแลว แตวาไมเปนไร ทฤษฏีของขาไมไดตองการพรสวรรคที่มากนัก
ที่ตองการก็คือความอดทนและการยืนหยัดสู ซึ่งขามองเห็นสิ่งเหลานี้ในตัวเจา”
อายฮุยเองไมไดลังเลอีกแลว เขาคำนับลงอยางเคารพ “ศิษยคำนับทานอาจารย!”
อาจารยยินดีเปนอยางมาก และตื่นเตนอยางหาใดเปรียบ “ดี ดี ดี!”
อายฮุยเองก็ตื่นเตนมากเชนกัน เขากำพราพอแมมาตั้งแตเด็ก เมื่อไดมาพบกับ
อาจารยที่ยอมรับเขาเปนศิษยเชนนี้ เทานี้ก็มองออกวาเขาจะตื้นตันใจมากสักเพียงไร
คนหนึ่งนั้นขัดเกลามาสิบกวาป แตกลับเปนบัณฑิตยากจนที่ไมมีผูใดชื่นชม อีก
คนก็เปนนักเรียนหนุมผูมีรากฐานย่ำแยแตเต็มไปดวยความปรารถนา คนหนึ่งแกคน
หนึ่งหนุมแตกลับมีรสนิยมที่ตรงกัน
ผานไปไดพักหนึ่งเต็มๆ ทั้งสองจึงสงบความตื่นเตนในใจลงได
อาจารยกลาวอยางเอียงอาย “เขาอายุปูนนี้แลว แตยังครองอารมณใหสงบไมได
ละอายใจนัก ละอายใจนัก!”
อายฮุยเพียงแคยิ้มเทานั้น
อาจารยกลาวตอ “วันนี้อาจารยจะบอกนามใหแกเจา ขาแซหวัง ชื่อโสวชวน ก็
ไมไดมีความสำเร็จอะไร ลูกศิษยขา เจาเปนคนจากดินแดนเกาสินะ”
“ใชขอรับ ศิษยอายฮุยมาจากดินแดนเกา เมื่อกอนเคยอยูที่แดนรางมาสามป
ขอรับ” อายฮุยเองก็แนะนำตัวเอง
หวังโสวชวนกระจางขึ้นมาในทันที “ขาเคยไดยินมากอน พอเจาพูดถึงแดนรางขา
ก็รูแลว แรงงานที่สามารถอยูที่แดนรางสามปแลวยังสามารถรอดออกมาได ศิษยเอย
เจาไมธรรมดาเลยทีเดียว”
ผูเฒายิ่งมองดูอายฮุยยิ่งรูสึกพอใจ สามารถอยูในแดนรางถึงสามปแลวยั งรอด
ออกมาได ไมตองพูดถึงแรงงานที่ไมมีกำลังตอสู ตอใหเปนผูมีพรสวรรคของสนาม
เหนี่ยวนำพวกนั้นก็มีอยูไมกี่คนที่สามารถทำได
ผูเฒาสอนหนังสือที่โรงเรียนซงเจียนมาสามสิบป นักเรียนประเภทตางๆ ก็เจอมา
มาก แตวาประเภทที่เหมือนกับอายฮุยเชนนี้ ยังถือวาเปนครั้งแรกที่ไดพบ
รากฐานแยนิดหนอยจะไปสำคัญอะไร สนามเหนี่ยวนำมีปไหนกันที่ไมปรากฏ
พวกที่รากฐานธรรมดาแตกลับเปนนักเรียนที่พัฒนาไดไมเลว
ในตอนเริ่มแรกถึงแมวาเขาจะรูสึกวาอายฮุยเปนคนสุขุม แตยังคงไมแนใจวาอายฮุยจะ
สามารถยืนหยัดตอการฝกของตนนั้นไดจริงๆ
แตเมื่อไดรูประวัติความเปนมาของอายฮุยแลว เขาก็ไมมีความกังวลเลยสักนิด
หากเปนแรงงานคนหนึ่งที่ใจรอนจะสามารถอยูในแดนรางถึงสามปแลวยังมีชีวิต
รอดออกมาไดอยางไรกัน
ดานการทนลำบากนั่นยิ่งไมตองกังวล
ในตอนนี้ผูเฒาเพิ่งจะเขาใจวาความเปนผูใหญและความสุขุมในตัวของอายฮุยที่ดู
ไมเขากับอายุนั้นมาไดอยางไร
ลูกศิษยที่ผานการหลอหลอมมาเชนนี้ก็ไมใชคนธรรมดาแน
ผูเฒารูวาวันนี้ตนพบเพชรในตมเขาแลว
“มา มา มา อาจารยจะอธิบายทฤษฎีของอาจารยใหเจาฟงสักหนอย” ผูเฒาไดฮึกเหิม
ขึ้นมาทันที “เมื่อครูเจาพูดเอาไวมากมาย ในสวนของความสัมพันธของมนุษยนี้ หาก
วาคนสองคนมีนิสัยแตกตางกันอยางมาก จนไมอาจลงรอยกันได ดังนั้นการจะใหทั้ง
สองคนมาสนิทสนมกันจึงเปนเรื่องยื ดเยื้อ ไมมีที่ สิ้น สุด เฉกเชนที่เลากันในนิ ทาน
‘อาหรับราตรี’”
อายฮุยพยักหนาหงึกๆ ถูกแลว ในใจของเขานึกถึงกรณีที่มีความใกลเคียงอยาง
หนึ่งไดในทันที
ตวนมูปงหวาน!
เจาคนนาชัง นารังเกียจที่สุด สุภาพบุรุษจอมปลอม จอมแกนเปนเด็กนอย ดอย
คุณธรรม หากเอาคนพรรคนี้มาเปนคูหูของตน เชนนั้นคงไดกำจัดคูหูคนนี้กอนที่จะ
กำจัดศัตรูเปนแน!
“การมีคูหูที่เหมาะสมเปนสิ่งที่จำเปนอยางมาก หากวานิสัยของทั้งสองเขากั น ไดดี
เชนนั้นก็จะงายอยางมากที่จะสนิทสนมกันในระดับที่สูงขึ้น” ผูเฒากลาว
อายฮุยพยักหนาหงึกๆ อีกครั้ง ถูกแลว ในใจของเขานึกถึงกรณีที่มีความใกลเคียง
อยางหนึ่งไดในทันที
โหลวหลาน!
โหลวหลานแสนดี มีน้ำใจใบบุญ ละมุนละมอม โอบออมอารี ฝมือปรุงอาหารยอด
เยี่ยม แลวก็นาเชื่อถือ เขารูจักกับโหลวหลานไดไมนานเทาไรนัก ทั้งสองก็ไดกลายเปน
สหายที่คุยกันไดทุกเรื่องโดยที่ไมมีสิ่งใดขีดขวางเลยแมแตนอย
“แมจะเปนคูหูที่เหมาะสมแลว ก็ตองใชเวลาในการปรับตัวเขาหากันเชนกัน เจา
ตองใชเวลาในการทำความเขาใจคูหูของตน รูอุปนิสัยของเขา และก็ใหเขารูอุปนิสัย
ของเจา ทำเชนนี้ความสัมพันธของพวกเจาจึงจะไมมีชองวาง” ผูเฒากลาวสรุป
“ถูกแลว!” อายฮุยเห็นดวยอยางมาก
“พลังธาตุเองก็เหมือนกัน” ผูเฒาวาตอ “การฝกฝนในตอนนี้ ทุกคนมองพลังธาตุ
เปนเครือ่ งมือชนิดหนึ่งเสียมากกวา โดยที่ไมมองเปนคูหู ซึ่งไมใชสิ่งผิดอะไร เพราะถึง
อยางไรพลังธาตุนั้นก็ไมมีสติสัมปชัญญะ แตวาเครื่องมืออยางพลังธาตุนี้ เปนสิ่งที่
ซับซอนอยางมาก ไมใชเรื่องงายดายอยางที่ใครตอใครคิด”
ผูเฒามีใบหนาภาคภูมิในขณะพูดสรุปใจความ “นั่นก็เพราะวาคุณสมบัติของพลัง
ธาตุไมใชสิ่งที่จะไมมีวันเปลี่ยนแปลง”
แตวา...
ในตอนที่ไดเห็นใบหนาของอายฮุยที่นิ่งสงบ อาจารยรูสึกเหนือความคาดหมาย
อยา งมาก ติดจะไมคอยเขาใจ “ลู ก ศิ ษ ย เจ าไม ตะลึ งเลยหรื อ สิ ่ งนี ้ แ ตกต างกับที่
อาจารยทานอื่นสอนใชหรือไม”
“ทานอาจารยกลาวไดมีเหตุผลอยางมาก” อายฮุยพูดขึ้นราวกับมันก็สมควรเปน
เชนนั้น “อยางเชนพลังธาตุทองเหมือนกัน พลังธาตุที่เจดียเสวียนจินคอนขางรุนแรง
แตออนโยนกวาที่บอน้ำรอน ซึ่งเปนการอธิบายไดวาพลั งธาตุเองก็มีคุณสมบั ติ ที่
แตกต า งกั น อย า งไรก็ ต าม ถึ ง แม จ ะมี ค ุ ณ สมบั ต ิ ท ี ่ แ ตกต า งกั น แต ก ็ ส ามารถ
เปลี่ยนแปลงได นี่ไมใชเรื่องที่นาประหลาดใจอะไร เมื่อพลังธาตุทองลอยออกจาก
เจดียเสวียนจินแลว ก็จะคอยๆ เกิดการเปลี่ยนแปลง”
ผูเฒาถึงกับอึ้งไปเลย กวาจะไดบทสรุปนี้ เขาไดทำการอนุมานไวมากมาย คิดไม
ถึงวาอายฮุยจะบอดเหตุผลขอนี้ออกมาไดอยางงายดาย
ความจริงแลว อา ยฮุย ยังอยากจะเสริ มอี ก ว า หากพวกมั น ไม เปลี ่ ย นแปลงก็
สามารถทำใหเกิดการเปลี่ยนแปลงได ยกตัวอยางเชนการทำใหกระจายตัว
ผูเฒาหายจากอาการตกตะลึงแลวก็ยิ่งดีใจมากขึ้น พลางกลาวอยางเห็นดวย
“ลูกศิษยชางมีปญญาเสียจริง!”
เขากลาวตอ “ลักษณะของรางกายทุกคนจะมีสวนเล็กๆ ที่มีความแตกตางกัน
พลังธาตุทองที่มีลักษณะตางกันก็จะมีระดับความเขากันไดที่แตกตางกันดวย เหตุนี้เรา
จึงตองหาพลังธาตุที่ทีความสอดคลองกับตนเอง มันจะเหมาะสมกับรางกายของพวก
เรามากยิ่งกวา การฝกทั่วไปในตอนนี้มีปญหาเพียงขอเดียว ก็คือระดับความเขากันได
หรือที่เราเรียกกันวารากฐาน นั่นคือความยากงายในการดูดซึมพลังธาตุ แตทวาถาเกิด
มีพลังธาตุประเภทหนึ่งที่ดูดซึมไดยากแตวานำไปใชไดงายดายและลื่นไหลยิ่งกวา มี
คนนอยมากที่จะตระหนักถึงขอนี้”
อายฮุยสามารถทำความเขาใจไดโดยไมมีอุปสรรคเลยแมแตนอย เขาถึงกับแสดง
ความสามารถออกมาในประโยคถัดไป “ก็เหมือนกับรากฐานที่แยของศิษย แตศิษยมี
ความอดทนคอนขางสูง จึงสามารถเลือกพลังธาตุทองพวกที่ยิ่งมี ความบริ สุทธิ ์ ได
ถึงแมวาจะดูดซึมไดคอนขางชา แตวาผลลัพธที่ใชจะยิ่งมีความโดดเดน”
หลักการนี้มีความคลายคลึงกับการฝกของเขาอยางมาก อืม ถึงแมวามุมมอง
ความคิดของทั้งสองจะไมเหมือ นกั น แต ความหมายแก น กลางกลั บเชื ่ อ มโยงกัน
โดยเฉพาะอยางยิ่ง สิ่งนี้ยิ่งเปนการอธิบายวาทฤษฎีของอาจารยมีความเหมาะสมกัน
ตนอยางมาก เปนอยางนี้ใชหรือไม
อายฮุยตั้งหนาตั้งตาคอยการฝกที่จะมาถึงนี้อยางใจจดใจจอ
ผูเฒามองอายฮุยอยางนิ่งอึ้ง หรือวาสิ่งที่ตนครุนคิดมาหลายสิบป ที่จริงแลวเปน
สิ่งที่งายดายมาก
หรือวาเปนเขาที่บังเอิญพบนักเรียนที่ยินดีฟงทฤษฎีของตนอยางเต็มใจ รับเปน
ศิษยดวยความรอนใจ สุดทายก็กลายเปนวาดวงดีเก็บผูมีพรสวรรคมาไดคนหนึ่ง
ผูเฒารูสึกวาสมองของตนไมพอใชแลว
บทที่ 51 เก็บสมบัติได
อายฮุยมองไปยังอาจารยอยางคาดหวัง รอคอยใหอาจารยกลาวอธิบายเนื้อหาใน
สวนถัดไป ถึงแมวาการแสดงออกของผูเฒาจะตกตะลึงอยางมาก แตวาอายฮุยก็ไมได
รูสึกภาคภูมิใจอะไร เขารูวาความเขาใจของตนสวนใหญนั้นใชความรูสึกตัดสิน และ
การใชความรูสึกตัดสินโดยมากแลวไมมีความแนนอน
อาจารยหวังเองก็ไมใชปรมาจารยจากที่ไหนแตเพราะการที่สอนหนังสือในสนาม
เหนี่ยวนำมาหลายสิบปจึงทำใหมีพื้นฐานที่ลึกซึ้ง
ผูเฒาสะบัดหัวเบาๆ รูสึกตื้นตันใจยิ่งนัก “พวกเราชางสมกับเปนคูศิษยอาจารย
โดยแทนะ”
ผูเฒารูวาการที่จะหาลูกศิษยสักคนที่ไดดั่งใจเปนเรื่องที่แสนยากเย็นเพียงใด
สนามเหนี่ยวนำมีอาจารยมากมายเสียขนาดนั้น พวกที่มีชื่อเสียง มีความแข็งแกรง มี
ประสบการณมากยิ่งกวาเขาไมรูเทาไรตอเทาไร แตวาจะมีสักกี่คนกันที่จะหาลูกศิษยที่
ไดดั่งใจพบ
ทางสนามเหนี่ยวนำนั้นสงเสริมใหอาจารยรับศิษยมาโดยตลอด แตก็ยังมีอาจารย
จำนวนมากที่ยังไมไดรับลูกศิษย
ลูกศิษยกับนักเรียนนั้นไมเหมือนกัน นักเรียนเพียงแคเขาเรียนในวิชาที่อาจารย
สอน แตวาลูกศิษยจะตองสืบทอดวิชาและทฤษฎีของอาจารยนั้นๆ ดังนั้นหากอาจารย
ไมถูกใจนักเรียนมากๆ ก็จะไมมีทางรับนักเรียนคนนั้นเปนลูกศิษย
เหลาอาจารยสวนใหญถือหลักการดังนี้ นอยแตดี ยอมดีกวามากแตแย
ผูเฒาอยูในสนามเหนี่ยวนำอยางไมมีชื่อเสียง ทฤษฏีของเขาเองก็ไมมีผูใดถามถึง
แตก ็ไมรับลูก ศิษ ยงา ยๆ เชนกัน ถึ งแม ท ฤษฎี ของเขาจะไมมี ผู ใดสนใจ แต ก ็ เปน
สติปญญาของเขาตลอดหลายสิบป หากจะตองมอบใหอยูในมือของคนที่ไมเห็นดวย
กับทฤษฏีของเขาเลย ถึงตายก็ตายตาไมหลับ
ผูเฒานั้นพอใจในตัวอายฮุยอยางมาก ในใจแสนจะภาคภูมิอยางหาใดเปรียบ
ถึงแมวาเรื่องความสำเร็จเขาจะดอยกวาอาจารยทานอื่นๆ แตวาการที่ไดรับลูกศิษยที่
ไดดั่งใจ โชคเชนนี้หากพูดออกไปจะตองทำใหอาจารยทานอื่นตองอิจฉาเปนแน
โดยเฉพาะเมื่อไดมองเห็นสายตาที่เต็มไปดวยความปรารถนาของอายฮุย เขาก็ยิ่ง
ดีใจ แลวกลาวตอ “ตอนนี้พวกเรามาพูดถึงปญหาขอที่สองกัน พลังธาตุเหมาะสมกับ
เจาอยางมาก แตการที่ตองไปถึงจุดที่เขากันไดทั้งสองฝายยังตองใชเวลาในการปรับตัว
เขาหากัน โดยอีกนัยหนึ่งก็คือตองขุดเอาพลังแฝงของพลังธาตุที่อยูในรางกายเจา
ออกมา พลังธาตุของทุกคนนั้นไมเหมือนกัน แตจะมีสักกี่กระบวนทากัน เจาเพิ่งจะ
เปดคลังชีวิต ธาตุของเจาคือธาตุทอง ดังนั้นกระบวนทาที่เจาสามารถฝกไดจึงมี อยู
ยี่สิบสองประเภท เจาจะเหมาะสมกับประเภทใด เจาก็ไมรู มีผูคนมากมายเลื อ ก
กระบวนทาเพียงเพราะมันนาสนใจ อาศัยความรูสึก รูสึกวากระบวนทานี้ทรงพลัง
รูสึก วา กระบวนทา นี้โ ดดเดนสะดุ ดตา แต ก ารทำเช นนี้ ไมได มี ประโยชน อะไรกับ
อนาคตของเจาเลย เจาเพิ่งจะเปดคลังชีวิต และเสนทางของการฝกฝนของเจาเพิ่งจะ
เริ่มตน พละกำลังของกระบวนทาไม ใช สิ ่งที่ เจาต องมาพิจารณาตอนนี ้ สิ ่ งที ่ควร
แสวงหาคือ การจะทำเชนไรถึงจะวางพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับเสนทางการฝกฝนของ
เจาได”
คำพูดของอาจารยทำใหอายฮุยรูสึกราวกับไดเห็นทางสวาง คำพูดที่สั้นๆ งายๆ
แตกลับมีเหตุผลที่ลึกซึ้งอยางมาก
สีหนาของผูเฒาก็เปลี่ยนมาเปนเครงขรึมจริงจัง “เขาใจในพลังธาตุตน เขาใจใน
รางกายตน ความหมายที่แทจริงของการฝกฝน คือการทำใหทั้งสองสิ่งเชื่อมโยงกันได
อยางสมบูรณ”
อายฮุยกลาวขึ้นดวยความเคารพ “คำสอนของทานอาจารย ศิษยจะจดจำไวในใจ
อยางแนนอน!”
ผูเฒาออกจะปลื้มใจนัก เขาอธิบายตอ “ตอนนี้พวกเรามาพูดถึงปญหาที่คอนขาง
จะเปนรูปธรรม นั่นคือเรื่องวิธีการฝกฝนของเจา ไหนบอกอาจารยมาซิวาเจาฝกพลัง
ธาตุมาไดอยางไร”
อายฮุยจึงตอบคำถามตามตรง เขาเลาวาตอนที่ตนอยูในแดนรางไดฝกพลังธาตุ
กอนแรกมาไดอยางไรการฝกของตนที่เจดียเสวียนจินเปนมาอยางไร ตนมีความคิด
อยางไร เหตุใดจึงไดสั่งทำเกราะเปลือยหลังขึ้น เหตุใดจึงคิดใช [มัจฉาสะบัดกาย] มา
ทำใหพลังธาตุทองเข็มเงินกระจายตัว หลังจากนั้นก็ทะลวงคลังชีวติ อยางไร ขอเพียง
แคเปนความคิดที่มีความเกี่ยวของกับพลังธาตุ เขาก็พูดออกมาจากสมองทั้งหมด
ผูเฒาไดแตปากอาตาคางอีกครั้งหนึ่ง ผานไปไดสักพักจึงถามขึ้นอยางไมแนใจ
“สิ่งเหลานี้ลวนเปนสิ่งเจาที่คิดขึ้นมาเองอยางนั้นหรือ”
เมื่อคำพูดออกจากปาก เขาก็รูวา ตนไดถามคำถามที่โงเงาออกไปแลว เมื่อครูอายฮุยได
พูดความคิดทั้งหมดออกมารอบหนึ่งแลว แมแตเรื่องที่วาความคิดนี้มาไดอยางไร ได
แรงบันดาลใจมาจากที่ใด ก็ลวนพูดไปแลวรอบหนึ่ง
อายฮุยพยักหนาตอบ “ใชขอรับ ทั้งหมดลวนเปนสิ่งที่ศิษยคิดไดดวยตัวเอง”
จนกระทั่งถึงตอนนี้ ในที่สุดผูเฒาก็ไดยืนยันอยางแนนอนวา ลูกศิษยคนนี้ที่ตน
รับมาเปนผูมีพรสวรรคคนหนึ่ง! ผูมีพรสวรรคอีกประเภทหนึ่ งที่ ไม เหมือ นกับ ผู มี
พรสวรรคคนอื่น!
นัยนตาทั้งสองขางของผูเฒาเปลงประกาย สายตาที่มองอายฮุยราวกับกำลังมอง
สมบัติล้ำคาของโลกก็ไมปาน รากฐานของอายฮุยย่ำแยมาก
ในยุคสมัยที่กระแสหลักใหความสำคัญกับเรื่องรากฐานมากที่สุด อายฮุยไมมีทาง
จะไดชื่อวาเปนผูมีพรสวรรคอยางแนนอน แตวาสติปญญาในการวิเคราะหการฝกฝน
ของอายฮุย หรือความโตเปนผูใหญกอนวัย ผูเฒานั้นยังไมเคยพบเจอผูที่มีคุณสมบัติ
แบบนี้ที่ไหนมากอน
นี่เปนการพบขุมสมบัติแทๆ!
สายตาของผูเฒาทำใหอายฮุยรูสึกประหมา “ทานอาจารย”
อาจารยราวกับไดตื่นขึ้นจากฝน พูดงึมงำอยูหลายครั้งจึงไดดึงสติกลับมา แลว
กลาวชื่นชมลูกศิษย “ชางเกินความคาดหมายเสียจริง ขาถึงกับตกตะลึงเลยนะ คิดไม
ถึงวาไมมีคนคอยชี้แนะ แตเจาก็ยังมีความรูเชนนี้ ไมเลว ชางไมเลวเสียจริง! ตอใหเจา
ไมไดขาเปนอาจารย แตขาก็เชื่อวาเจาจะพาตัวเองไมสูความสำเร็จได ขานี่โชคเสียจริง
เชียว ฮา ฮา ฮา!”
แตไหนแตไรมาอายฮุยไมเคยไดรับคำชื่นชมจากผูอื่นมากอน ทุกๆ เรื่องสำหรับ
เขาลวนไมใชเรื่องที่งายดาย เขาทุมเทอยางหนักสำหรับทุกสิ่งทุกอยาง การฝกฝนเปน
เชนนี้ การไลตามกลุมในแดนรางก็เปนเชนนี้เหมือนกัน
เมื่อไดยินคำชมจากอาจารย เขาก็ทำอะไรไมถูก
ครั้นผูเฒาเห็นทาทีของอายฮุย ก็ยิ่งดีใจขึ้นไปอีก เขาหัวรอตอกระซิกครูหนึ่งกอน
จะหยุดลง แลวทาทางก็เปลี่ยนเปนเครงขรึมขึ้นมา
อายฮุยรูวาอาจารยมีบางอยางจะพูดกับตน จึงไดรีบรอนครองสติใหนิ่ง
ลูกศิษยเขาเปนผูมีพรสวรรคอยางมาก และไดกระตุนใจที่อยากเอาชนะในตัว
อาจารยขึ้น ลูกศิษยไดยืนยันถึงคุณคาของตัวเองแลว อาจารยเองก็ไมสามารถที่จะ
นอยหนาได
นัยนตาของเขาสองประกายความฉลาดหลักแหลมออกมา เขาคอยๆ เอยปากขึ้น
“แนวทางของเจานั้นมาถูกทางแลว พื้นฐานของเมื่อกอนก็ปูเอาไวไดอยางแข็งแรง ถือ
เปนเรื่อ งดีอ ยา งมาก การที่ใหพ ลั งธาตุ เอ อ ล น แล ว ค อ ยทะลวงคลั งชี ว ิ ตนั ้ น จะ
ชวยเหลือเจาอยางมากในภายหลัง ในดานนี้พวกเราคอยมาวากันในภายหลัง แต
ตอนนี้เรามาพูดถึงปญ หาในการฝกของเจากันกอ น ในดานรูปธรรมนั้น มีวิธีการ
มากมายหลายประเภท พลังธาตุของเจาเปนธาตุทอง ลักษณะเดนของธาตุทองคือ
อะไร แหลมคม มีพลังโจมตีแข็งแกรง เหมาะสมกับการตอสู นี่เปนสิ่งที่ทุกคนลวนรู
กันดี เจาเลือกแนวทางของธาตุทองก็ไมไดมีปญหาอะไร เชนนั้นตอนนี้สิ่งที่พวกเรา
ตองทำก็คือ ทำใหเจารูวาตนเองนั้นเหมาะสมกับพลังธาตุทองประเภทใด!”
อายฮุยรีบรอนตามอาจารยออกจากหองเรียนไป
ทั้งสองมาถึงเรือนแหงหนึ่งที่คอนขางจะทรุดโทรม ภายในเรือนมีกองอุปกรณที่มี
ลักษณะแปลกประหลาดอยูเต็มไปหมด
“ที่นี่เมื่อกอนเปนเรือนของอาจารยทานหนึ่ง ภายหลังพอยายออกก็ทิ้งราง ขาจึง
ขอไวแลวก็เอามาใชเสียเลย” ผูเฒาพูดขึ้น “ของพวกนี้ลวนเปนสิ่งที่ขาที่สรางขึ้น แตก็
ยังไมเคยใช ขาถือวามันเปนงานอดิเรก อยางไรเสียนอกจากงานสอนก็ไมมีอะไรใหทำ
สรางมาหลายสิบป ก็เลยสะสมของมาไดไมนอยเลย”
อายฮุยมองดูอุปกรณตางๆ ที่หนาตาแปลกประหลาดวางอยูเต็มเรือนแลว ก็อด
ไมไดที่จะรูสึกนับถืออาจารย ไมวาจะเปนผูใด ไมวาจะเปนเรื่องเล็กนอยเพียงใด
สามารถทำมาไดถึงหลายสิบปเชนนี้ ก็ลวนไมใชเรื่องงายอยางมาก ความใจจดใจจอ
และการยืนหยัดจำเปนตองมีหัวใจที่สงบสุขุม ตองมีความอดทนตอความเงียบเหงา
“ตอนนี้ ในที่สุดของเหลานี้ก็จะไดใชงานเสียที!”
ผูเฒามองดูของชิ้นเล็กชิ้นนอยที่อยูในเรือน รูสึกปลงอนิจจังอยูบาง ไมรูวาเพราะ
เหตุที่พวกมันถูกฝุนเกาะมานาน หรือเพราะวาในที่สุดพวกมันก็จะไดเห็นแสงเดือน
แสงตะวันสักที หรือวาปลงอนิจจังกับตนเองก็ไมรู
เปนเรื่องดีที่ทั้งหมดยังไมสายเกินไป!
ผูเฒาที่ยืนอยูภายในเรือน ใบหนานั้นที่เต็มไปดวยริ้วรอยบงบอกถึงการผานโลก
มามาก เต็มตื้นดวยความภาคภูมิใจ ราวกับเปนราชาที่กำลังมองอาณาจักรของตน!
บทที่ 52 ชื่อสิบเอ็ดพยางค
“ขาทำวิจัยพลังธาตุทั้งหาชนิดไวอยางกวางขวาง”
ผูเฒาใชประโยคเชนนี้พูดอารัมภบท ก็ทำใหอายฮุยตกตะลึงไปในทันที
“การวิจัยสายหลักของพลังธาตุทองในปจจุบันนี้ก็คือ การฆาสังหาร การตอสูคือ
เปาหมายสำคัญที่สุดของผูใชพลังธาตุทอง หากมองจากมุมมองที่ซับซอนแลว ผูใช
พลังธาตุทองถือวาเรียบงายที่สุดในบรรดาธาตุทั้งหา โอ ใชคำวาเรียบงายมาบรรยายก็
ไมคอยถูกนัก ควรจะพูดวาตองการจิตสมาธิในระดับสูงมาก ผูใชพลังธาตุไมตองมี
ความรูเรื่องพืชอยางมาก ผูใชพลังธาตุดินตองเรียนเรื่องตุกตาทราย ผูใชพลังธาตุน้ำมี
ปกเมฆา กระบวนทามีความซับซอนอยางมาก ผูใชพลังธาตุไฟตองเรียนการหลอม
ผูใชพลังธาตุทองไมมีเนื้อหาอื่น มีความตองการเพียงขอเดียว คือการแสวงหากำลังใน
การตอสู เมื่อมองจากจุดนี้ กลับมีความคลายคลึงกับผูฝกกระบี่ในยุคโบราณ ผูฝก
กระบี่เองแตไหนแตไรก็ไมไดเนนหนักในสิ่งอื่น พวกเขานั้นเปนนักรบที่แทจริง ไลตาม
เพียงแคหนึ่งกระบี่สยบหมื่นกระบวนทา ผูใชพลังธาตุทองเองก็มีความหมายในจุดนี้
เชนกัน”
“การตอสูนั้นเปนเรื่องที่ซับซอ นเรื่ องหนึ ่ง ในจุ ดนี ้ เจ าน าจะมี ประสบการณ
มากกวาตัวอาจารย พูดขึ้นมาแลวชางนาละอายนัก ตัวอาจารยสอนหนังสือมาหลาย
สิบป แตไหนแตไรยังไมเคยไปที่ชายแดนเลย แลวก็ไมเคยไปแดนรางดวย การตอสูก็
ไมคอยเชี่ยวชาญ ที่อาจารยสามารถสอนเจาไดนั้น ก็คือสอนใหเจาเขาใจตัวของเจา
เอง แลวก็เขาใจพลังธาตุของตัวเจาดวย”
ผูเฒารื้อคนกองอุปกรณที่สูงราวภูเขา หาเกราะทองแดงออกมา หยิบขึ้นมากปดฝุนที่
อยูดานบน ผูเฒาถึงไดโลงอกแลวกลาว “ยังดีที่ไมหายไป มา เรามาลองเจานี่กัน”
อายฮุยมองประเมินชุดเกราะทองแดงชุดนี้ดวยความประหลาดใจ เนื้องานของ
ชุดเกราะทองแดงนั้นหยาบและอัปลักษณอยางมาก มีหลายจุดที่สามารถมองเห็น
รองรอยในการสราง แผนทองแดงที่นำมาสรางมีความเกาใหมตางกัน ทุกๆ ตำแหนง
ลวนมีสีที่ไมเหมือนกัน บนเกราะทองแดงสลักลวดลายเอาไวมากมาย มีลวดลายบาง
จุดที่ทับซอนกันเปนชั้นๆ
อายฮุยมองออกวาสวนที่เปนตำแหนงของหาคลังแปดตำหนัก ลวดลายจะมีความ
หนาแนนเปนพิเศษ
“ทานอาจารย ชุดเกราะทองแดงชุดนี้ใชทำอะไรเหรอ” อายฮุยถามดวยความ
ประหลาดใจ
“ใชสำหรับตรวจสอบรางกายของเจา แนนอนวาชิ้นนี้เปนคุณสมบัติธาตุทอง”
ผูเฒากลาวอยางภาคภูมิใจ “ชื่อเต็มคอนขางยาวอยูนะ ขาเรียกมันวา ‘เกราะ
ทองแดงแจงใจพลังธาตุพันปรัชญา’ คำวา ‘ปรัชญา’ ในที่นี้คือคำศัพทสันสกฤตใน
ศาสนาพุท ธสมัย โบราณ มีความหมายในภาษาบาลี ว า ป ญ ญา ‘พั น ปรั ช ญา’ ก็
หมายถึงความสามารถในการเลียนแบบคุณลักษณะตางๆ ของพลังธาตุไดมากมาย
เกราะชุดนี้ใชสำหรับตรวจสอบพลังธาตุทองโดยเฉพาะ สวน ‘แจงใจ’ นี้คือการใชงาน
ของเกาะ คือ ใชสำหรับ มองตัว ตนให ชั ดเจน มั น สามารถเลี ย นแบบพลั งธาตุ ทอง
ประเภทตางๆ ได ใชกระตุนรางกายของเจา จากนั้นทำใหเจารูถึงพลังธาตุทองที่
เหมาะสมกับรางกายของเจามากที่สุด เปนอยางไรบาง ไมเลวเลยใชไหม ขาใชเวลาใน
การออกแบบถึงสองเดือนเลยแหละ และใชเวลาถึงสามเดือนถึงจะสรางเสร็จ การ
ตรวจสอบรากฐานของสนามเหนี่ยวนำนั้นหยาบเกินไปแลว แมแตผูมีพรสวรรคอยาง
ลูกศิษยของขาก็ยังตรวจสอบไมพบ หึ ชางเปนกลุมคนที่ตาไรแววนัก!”
ในตอนนี้ผูเฒารูสึกวาลูกศิษยของตอนเปนดั่งสมบัติ จึงไดเริ่มที่จะเขาขางลูกศิษย
ของตนอยางไรเงื่อนไขขึ้นมาแลว
“ทานอาจารยชางรายกาจเกินไปแลว!” อายฮุยรูสึกทึ่งจากใจจริง นัยนตาทั้งสอง
ขางของเขาเปลงประกาย ถึงแมวาจะรูสึกแตแรกแลววาทานอาจารยเกงกาจอยาง
มาก แตเมื่อไดเห็นชุดเกราะทองแดงกับตา ความรูสึกเคารพในตัวทานอาจารยยิ่งปะทุ
ออกมามากขึ้น
โดยเฉพาะชื่อนั่น!
เกราะทองแดงแจงใจพลังธาตุพันปรัชญา สิบเอ็ดพยางค ชางยาวเหลือเกิน...
ในใจของอายฮุยลอเลีย นอยา งเงียบๆ ดวงตาทั้งสองขา งก็มองไปที ่ช ุดเกราะ
ทองแดงที่แสนจะหยาบโลนชุดนี้
การที่สามารถรูไดวารางกายของตนนั้นเหมาะสมกับพลังธาตุทองแบบไหนที่สุด
นั้น มีสวนชวยในการฝกฝนอยางมาก แมแตมือใหมอยางอายฮุยก็ยังรูเลย เขารูสึกวา
ลำพังเพียงแคอาศัยชุดเกราะทองแดงสำหรับตรวจสอบชุดนี้ ทานอาจารยก็รียกไดวา
ยิ่งใหญแลว
“แนนอนอยูแลว! ไมเชนนั้นจะมาเปนอาจารยของเจาไดอยางไร” ใบหนาของผู
เฒาเต็มไปดวยความภาคภูมิใจ
อายฮุยคอนขางจะทนรอไมไหว “ใหขาลองดูเลยไหม”
“มา มา มา!” ผูเฒารีบชวยอายฮุยสวมชุดเกราะทองแดง ปากก็กลาววา
“ลูกศิษยเจาวางใจได อาจารยไดทำการพิจารณาการออกแบบชุดเกราะทองแดง
แตละสวนอยางละเอียด เกราะทองแดงแจงใจพลังธาตุพันปรัชญานั้นเปนผลงาน
บุกเบิกยุคใหมอยางแทจริง นาเสียดาย ชุดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร เชนนี้
กลับไมมีคนไดเห็น เอาเถอะ ผูบุกเบิกมักจะเงียบเหงา รองเพลงขับขานอยูบนเสนทาง
อันโดดเดี่ยว พวกเราศิษยอาจารยสองคน ตอสูเพื่อสัจธรรม!”
เมื่ออายฮุยไดฟงดังนั้น ในใจก็รูสึกถึงลางสังหรณที่ไมดีขึ้นมา หมวกที่เปนสวน
สุดทายก็ใสเสร็จเรียบรอยแลว อายฮุยก็นึกถึงเรื่อหนึ่งขึ้นมา “ทานอาจารย เจา...ชุด
เกราะทองแดงนี้เมื่อกอนทานอาจารยไดเคยทดลองมากอนหรือไม”
“เคยแลว!” ผูเฒาไดสงสายตาเปนเชิงวา “ขอใหเจาวางใจได” มาให ทำใหจิตใจ
ของอายฮุยสงบลง แตประโยคถัดมาของผูเฒา ทำใหอายฮุยตึงเครียดขึ้นมาในทันที
“แตวาที่ขาใชเปนรุนของพลังธาตุไฟ”
ผูเฒาตบชุดเกราะทองแดงเบาๆ มันรัดแนนสนิท สามารถเห็นไดเพียงดวงตาอายฮุย
เทานั้น เขามองไปที่สายตากระสับกระสายของเด็กหนุม จึงกลาวปลอบใจขึ้น
“ใจเย็นๆ ทุกๆ รุนของแตละธาตุลวนตางกันไมมาก ใชแลว ตองหาแผงควบคุมกอน
รออาจารยสักครูนะ”
ผูเฒาเขาไปรื้อของในกองขยะอีกครั้ง “โอย หายไปไหนแลว ทำไมถึงหาไมเจอ”
ความรูสึก ไมสงบในใจของอา ยฮุ ย รุ น แรงยิ ่ งขึ ้ น เขาเริ ่ มจะสงสั ย แล ว ว าการ
ตัดสินใจครั้งนี้ถูกตองแลวหรือไม
“หาเจอแลว!”
เสียงแหงความยินดีของผูเฒาลอดผานออกมาจากกองอุปกรณที่กองพะเนินเทิน
ทึกเปนภูเขาลูกเล็กๆ ผานไปสักพัก ผูเฒาก็ปนออกมาจากในนั้นผมเผายุงเหยิง ในมือ
มีแผนจานสีเขียวเขมอยู ดานบนสลักสัญลักษณหลากหลายประเภทที่อายฮุยไมเขาใจ
ดูแลวนาประทับใจยางยิ่ง
อายฮุยจึงกลับมามีความมั่นใจอยางบอกไมถูกอีกครั้ง
อาจารยที่เสื้อผายับยูยี่ ในมือถือแผงควบคุมเอาไว นัยนตาทั้งสองเปลงประกาย
ชางเปนวินาทีที่ยิ่งใหญเสียจริง ความฝนของตนกำลังจะเริ่มขึ้นแลว เสื้อผาของเขา
ลอยขึ้นทั้งๆ ที่ไรลม ผมเผาที่ยุงเหยิงราวกับนักกวีผูกลัดกลุม ดวงตาที่ผานโลกมามา
กราวกับสามารถมองทะลุสรรพสิ่งได น้ำเสียงที่เอยออกมาทุมต่ำแตกลับเต็มไปดวย
พลัง “ขาเริ่มแลวนะ!”
มือคูนั้นเปนดั่งกระแสน้ำที่วาดผานแผงควบคุม
ซา ซา กระแสไฟฟาสีเงินไหลอยูบนพื้นผิวของเกราะทองแดง
นัย นตาอา ยฮุยเบิกกวางดว ยความตื ่ น ตระหนกหวาดกลั วอย างหาใดเปรียบ
รางกายเปนดั่งตะแกรงที่สั่นไมหยุด เขาอยากจะรองขอใหชวย แตวาในปากกลับไม
อาจเปลงเสียงใดๆ ออกมาได
“เอ ทำไมถึงไดมีกระแสไฟฟาได” ผูเฒาดูเหมือนจะไมเขาใจ
อายฮุยไดยินประโยคนี้ก็แทบจะรองไหอยูแลว ทานถามขาแลวขาจะไปถามใคร
ผูเฒาหยุดการทำงานของแผงควบคุม แลวเดินมาที่หนาของชุดเกราะทองแดงที่
กระแสไฟฟาหายไปแลว เตะดังปงๆ ดูสองสามที จากนั้นก็เปดการทำงานของแผง
ควบคุมอีกครั้ง
ดวงตาของอายฮุยที่เพิ่งจะไดผอนลงก็ไดเบิกกวางขึ้นมาจนกลมโตในทันทีอีกครั้ง
รางกายก็สั่นราวกับตะแกรงอีกครั้งเชนกัน อาการชากระจายไปทั่วราง
ควันสีดำไดลอยออกมาจากรอยแยกของชุดเกราะทองแดง เพียงไมนาน รอบตัว
อายฮุยก็มีควันสีดำลอมอยูโดยรอบ
ผูเฒาพึมพำกับตัวเอง “เอ ทำไมถึงไดมีควันออกมาอีกแลว หรือวาโดนฝนจนเสียแลว
ออ ออ ออ ที่แทก็หยิบแผงควบคุมผิดอัน อันนี้เปนของธาตุไมนี่เอง มินาเลา มินาเลา”
ไดยินประโยคนี้แลวอายฮุยก็เกือบจะเปนลมหมดสติไป
ในที่สุดเขาก็รูวาทำไมตนถึงรูสึกไมสบายใจ ถารางเขาฟนกลับสูสภาพปกติเมื่อไร
เขาจะตองหยุดการทดสอบนี้ลงกลางคันใหได!
ถูกแลว!
จะตองหยุดลงกลางคัน!
อายฮุยไดแอบสาบานขึ้นในใจ
หลังจากนั้นเขาก็ไดเห็นแผงควบคุมสีเงินอันหนึ่งกับมือหนึ่งขาง มือขางนั้นไดเปด
การทำงานของแผงควบคุมอยางคลองแคลว แลวก็มีเสียงที่สงมาจากผูเฒา
“ครั้งนี้ตองไมผิดแน! ลูกศิษย เริ่มแลวนะ!”
รางกายของอายฮุยที่มึนชาแนนิ่งก็เกิดสั่นไหวขึ้นมา
ยังไมทันที่ผูเฒาจะพูดอะไร ดวงตาของอายฮุยก็เบิกโพลงขึ้นมาอีกครั้ง
บทที่ 53 จอมราชันยแหงตำหนัก
หากจะใหอายฮุยสรรหาคำศัพทมาอธิบายความรูสึกของตนในตอนนี้ คำคำนั้น
จะตองเปน “หมื่นศรทะลุใจ” เปนแน!
พลังธาตุทองที่แหลมคมแทรกผานเขามาภายในรางของเขาจากทั่วทุกมุม เขา
รูสึกเหมือนกับตุกตาผาที่ถูกแทงจนพรุนเปนรังผึ้ง เคราะหไมดีที่เวลาเชนนี้ความรูสึก
มึนชาทั้งหมดกลับหายไปอยางไรรองรอย ทำใหเขาเจ็บปวดอยางหาใดเปรียบ
หากไมใชเพราะตอนอยูที่เจดียเสวียนจินไดคุนชินกับความเจ็บปวดเชนนี้แลว
ในตอนนี้เขาคงจะตองรองโหยหวนไมหยุดอยางแนนอน
การฝกที่เจดียเสวีย นจินทำใหเขามีความอดทนตอ ความเจ็ บปวดรูปแบบนี ้ ที่
คอนขางจะแข็งแกรงอยูพอสมควร
“ความอดทนของศิษยคอนขางจะรายกาจอยูนะ” ผูเฒาตกตะลึง
หลังจากสรางชุดเกราะทองแดงสำหรับทดสอบพวกนี้ เขาเปนผูทดลองเพียงคน
เดียว ตัวเขาเองก็เคยไดทดลองกับรุนที่เปนธาตุไฟ แตทวาเขานั้นรองโหยหวนครวญ
ครางจนทำใหอาจารยที่เขาเรียกมาชวยตกใจจนมือ ไม สั ่น ถึงกับโยนแผงควบคุ ม
ออกไปไกลหลายเมตร
แตในตอนนี้อายฮุยกลับไมไดรองเลยสักแอะ ไมเสียทีที่เปนสัตวรายในรางคนที่
สามารถรอดออกมาจากแดนรางได!
นัยนตาทั้งสองขางของผูเฒาเปลงประกายขึ้น ในฐานะของอาจารยที่มีความคิดอยูนับ
ไมถวน จะไปมีอะไรสำคัญยิ่งกวาสิ่งที่เปนทั้งตัวทดลองและลูกศิษยที่ทั้งแขงแกรงและ
ทนทานเชนนี้ เขาจินตนาการไดเลยวาการมีลูกศิษยที่อดทนเชนนี้จะทำใหทฤษฎีและ
แนวคิดของตนกาวหนารวดเร็วเพียงใด และไมนานจะตองบรรลุถึงแกนแทเปนแน
ชางเปนเปาหมายในการทำการศึกษาที่สมบูรณแบบยิ่งนัก!
เขาเลียริมฝปากประหนึ่งวาไดเห็นอาหารเลิศรสก็ไมปาน ในปากก็พึมพำพูดกับ
ตัวเอง “เพิ่มระดับความเขมขนสักหนอย พลังธาตุก็ใหละเอียดยิ่งขึ้นอีกนิด พลังธาตุ
ทองนี่ไมคอยคุนอยูบางนะนี่ ไมเปนไร ทดลองใหมากเสียหนอย...”
หมื่นศรทะลุใจไดเปลี่ยนเปนมดนับหมื่นที่กัดกินรางในทันที
รางกายของอายฮุยไดเริ่มสั่นสะทานขึ้นมา
ผูเฒา เขา ใจอยา งลึก ซึ้งแลว ว า อารมณ พ ลุ งพล า นที ่ สะสมมาหลายสิ บ ป ไ ด
ปลดปลอยออกมาพรอมกันทีเดียวนั้นเปนอยางไร สายตาของเขาบาคลั่ง ในปาก
พึมพำคำในลำคอ จองมองไปที่แผงควบคุมที่อยูในมือ โดยไมหยุดที่จะปรับแตงพลัง
ธาตุของชุดเกราะทองแดง หรือเงยหนาจองมองแสงสวางบนชุดเกราะเปนพักๆ
ชุดเกราะทองแดงเปลงประกายแสงออกมาตามการควบคุมที่ไมหยุด
อายฮุยรูสึกราวกับวาตนนั้นตกลงไปในขุมนรก อีกทั้งยังเปนนรกในขุมที่ลึกกวา
ขุมที่สิบแปดอีกดวย
พลังธาตุที่ทิ่มแทงรางของเขามีการเปลี่ยนแปลงอยางไมหยุดนิ่ง เกิดความรูสึกชา
คัน เจ็บ รอน ปวด และอีกหลายความรูสึก เปนความรูสึกทั้งหมดที่แตกตางกันนี้
ปรากฏขึ้นบนรางกายในตำแหนงที่ตา งกั น วันกอน ไมสิ กอนที่จะสวมชุดเกราะ
ทองแดง เขาไมเคยคิดมากอนวาพลังธาตุทองบนโลกนี้จะมีหลากหลายประเภทและ
จะสามารถเปลี่ยนแปลงไดมากมายถึงเพียงนี้
ทุกๆ ประเภทของการเปลี่ยนแปลง ลวนเกิดขึ้นอยางฉับพลันโดยที่ไมไดตั้งตัว
รสชาตินั้นเรียกไดวา...เจ็บปวดอยางสุดหัวใจ
ภายใตผมที่ยุงเหยิงของผูเฒา ดวงตาของเขาคูนั้นชางบาคลั่งและจดจอ
ประกายแสงที่อยูบนชุดเกราะเปลี่ยนแปลงไปมาไมหยุด ผูเฒายืนอยูดานขางจด
อะไรบางอยางอยู ปากก็พูดพึมพำคำศัพทเฉพาะที่อายฮุยลวนไมเขาใจ
ในตอนนี้อายฮุยไมไดมีความคิดอื่นแมแตนอยแลว เขาคิดเพียงแควาอยากจะจบ
การทดสอบที่ราวกับตกนรกตรงหนานี้โดยเร็ว
ชุดเกราะทองแดงชุดนี้ไมไดมีคาอะไรใหเผยแพรออกไป อายฮุยนั้นคิดวาความ
อดทนของตนไดอยูในระดับที่สูงแลว แตก็ยังมีหลายครั้งที่เขาเกือบจะหมดสติไป
จิตใจวางเปลาขาวโพลนอยูหลายหน เขาสงสัยวาหากเปนนักเรียนที่รางกายออนแอ
กวานี้สักเล็กนอย มีโอกาสเกิดอันตรายขึ้นได ตอใหไมมีอันตราย ก็เกิดการบอบช้ำ
ทางจิตใจขึ้นและมีผลกระทบตอการฝกฝนในภายหลัง
ชางเปนชิ้นงานที่แสนจะสุดโตงเสียจริง...
ในสมองของอายฮุยปรากฏความคิดเชนนี้ แตที่มีมากยิ่งกวาก็คือความนับถือใน
ตัวอาจารย
ถึงแมในระหวางการทดสอบจะอยูไมสูตายไปเสีย เหมือนกับตกนรกก็ไมปาน แต
วาอายฮุยก็ยังรับรูไดถึงความนาทึ่งอยูภายใน
ลำพังเพียงแครายละเอียดเล็กๆ ที่แตกตางกันมากของพลังธาตุทองนั้น ก็ถือวา
รายกาจอยางมากแลว!
อา ยฮุยมีความรูสึกแรงกลาอยางหนึ่ ง ถึ งแม วา การทดสอบในครั ้งนี้ จะไมให
ผลลัพธอะไร แตการไดมีประสบการณกับพลังธาตุทองที่แตกตางกันมากมายเชนนี้ ก็
มีประโยชนตอการฝกฝนในอนาคตของตนอยางมากแลว
หากวาไมไดมาลองดวยตัวเอง เขาก็จะไมมีทางรูถึงรายละเอียดเล็กๆ ที่แตกตาง
กันเหลานี้ หากเปนพลังธาตุทองเหมือนกัน มีรายละเอียดเล็กๆ ที่ตางกัน ก็จะแสดง
ถึงคุณสมบัติที่แตกตางกันอยางสิ้นเชิง
พลังธาตุทองมีสวนที่เหมือนกัน แตก็มีสวนที่แตกตางของแตละชนิดเชนกัน
ทฤษฎีของอาจารยชางลึกซึ้งยิ่งนัก
อายฮุยรูวาสิ่งเหลานี้ หากใหตนไปจับจุดดวยตัวเองละก็ เปนไปไดวาจะไมมีวันได
เขาถึง
ทันใดนั้น คลังชีวิตของเขาก็ไดสั่นไหวอยางรุนแรง เปนตอนนี้เองที่ผูเฒาไดเงย
หนาขึ้น “ตอนนี้พวกเรามาทดสอบหาคลังแปดตำหนักของเจาเสียหนอย มาดูกันมา
ตำหนักไหนแข็งแกรง ตำหนักไหนออนแอ”
อายฮุยอึ้งไปสักพัก เปนครั้งแรกที่เขาไดยินวา หาคลังแปดตำหนักมีบางตำหนักที่
แข็งแกรง และบางตำหนักที่ออนแอ
ผูเฒาราวกับรับรูไดถึงความสงสัยในใจของอายฮุย จึงกลาวอธิบาย “อาจารย
โดยทั่วไปจะไมพูดถึงสิ่งเหลานี้ เนื่องจากมีนักเรียนอยูมากมายและปญหาที่ผัวพันกับ
สิ่งนี้ก็มีมาก มันจึงคอนขางจะซับซอน เอาเปนวาใหเจาเขาใจเชนนี้ โลกเรามีคนถนัด
มือขวาและคนถนัดมือซาย มีคนที่ตั้งแตเกิดมาก็มีขาขวาที่แข็งแรงและวองไวยิ่งกวา
ขาซาย รางกายของมนุษยนั้นมีทั้งความสมดุล และความไมสมดุล หาคลังแปดตำหนัก
เองก็เปนเชนนี้ มีตำหนัก บางตำหนั ก ที ่ แ ข็ งแกร ง และบางตำหนั ก ที ่ อ อ นแอ ใน
สมัย กอ นสิ่งเหลานี้เปนความลับ ที่ ถ า ยทอดสื บ มาในตระกู ลใหญ บ างตระกู ล แต
ในตอนนี้ไดแพรกระจายออกไปแลว พวกตระกูลใหญนั้นเกงกาจทีเดียว พวกเขาทำ
การวิจัยอยางลึกซึ้ง การรูจุดแข็งและจุดออนของแปดตำหนักอยางชัดเจนนั้น จะมี
ประโยชนในการฝกฝนของเจาในภายหลังเปนอยางมาก”
อายฮุยกระจางขึ้นมาในทันที การอธิบายของผูเฒานั้นมีพลังในการโนมนาวใจ
อยางเหลือเชื่อ
“คลังชีวิตของเจานั้นไมเลว ซึ่งเปนผลมาจากการที่เจาฝกพลังธาตุจนเออลนแลว
คอยทะลวงคลังชีวิต เมื่อกอนขาเคยพูดเอาไว การปลอยใหพลังธาตุเออลนแลวคอย
ทะลวงประตูคลังชีวิตจะมีขอดีอยางมากในภายหลัง มันจะทำใหคลังชีวิตของเจา
มั่นคงยิ่งขึ้น แตวาคนทั่วไปลวนไมมีความอดทนในสวนนี้” ผูเฒาพูดไปพลาง ปรับแผง
ควบคุมที่อยูในมือไปพลาง
ผานไปไดสักพัก ฝามือขางซายของอายฮุยก็เปลงแสงสองสวางขึ้นมากอนหนึ่ง
“ไมเลว ตำหนักแขนซายของเจาไมเลวเลย เปนตำหนักที่แข็งแกรง”
ผานไปอีกสักพัก ฝามือขางขวาของอายฮุยก็เปลงแสงสองสวางขึ้น
“ตำหนักแขนขวาก็เปนตำหนักที่แข็งแกรง ไมเลวนะ แขนทั้งซายขวามีความสมดุล มี
กระบวนทาบางทาที่ตองใชความสมดุลของแขนซายขวาถึงจะสามารถเรียนได”
“ตำหนักขาซายเปนตำหนักที่แข็งแกรง!” “โอโฮ ตำหนักขาขวาเองก็เปนตำหนัก
ที่แข็งแกรงเชนกัน ขาทั้งสองขางมีความสมดุล แขนขาทั้งสี่มีความสมดุล!” ผูเฒารอง
ขึ้นอยางประหลาดใจ ใบหนาเต็มไปดวยความตื่นเตน “ลูกศิษย เจานี่เปนตัวออนของ
นักสูเลยนะ! แขนขาทั้งสี่สมดุล ชางเปนสัตวเลื้อยคลานที่สมบูรณแบบนัก ขารูจัก
กระบวนทาที่รายกาจอยูหลายทาที่ตองมีสี่ตำหนักประสานกัน เมื่อสองรอยปกอน
หัวหนาหนวยทหารราบอูเหยียนก็มีตำหนักแขนขาทั้งสี่ที่สมดุลและเปนตำหนักที่
แข็งแกรง รูหรือเปลาวาฉายาของเขาคืออะไร [ปลาหมึกเหล็ก]! ฮา ฮา ฮา สมแลว ไม
เสียทีที่เปนลูกศิษยของขา” สัตวเลื้อยคลาน...
อายฮุยไมรูวาควรจะพูดอะไร แตวา...มันควรจะฟงดูนาเกรงขามอยางนั้นเหรอ
แลวก็คำวา “ปลาหมึก” ที่มี “เหล็ก” เขาไปอีกนี้ ก็ไมไดดูทรงพลังเลยแมแตนอย
“ตำหนักปฐพีก็แข็งแกรง!”
“ตำหนักมหาสมุทรก็แข็งแกรง!”
“ตำหนักประตูก็แข็งแกรง! อา อา อา เจาลูกศิษยหากตำหนักนภาก็แข็งแกรงอีก
ละก็ เจาก็ไรเทียมทานแลว! มีตำหนักที่แข็งแกรงทั้งราง! ตำหนักที่แข็งแกรงสมบูรณ!
ไมมีจุดตายอยางสิ้นเชิง! เปนหาคลังแปดตำหนักที่สมบูรณแบบ! เจารูหรือไมวาสิ่งนี้
เรียกวาอะไร จอมราชันยแหงตำหนัก!”
ตำหนักนภาก็อยูตรงหวางคิ้ว เมื่อเห็นอาจารยที่ทาทางตื่นเตนขนาดนั้นแลว อายฮุย
เองก็พลอยรูสึกตื่นเตนไปดวย จอมราชันยแหงตำหนัก! แคพลังก็ดูทรงพลังอยางมาก
แตวา...ทำไมตนถึงไดรูสึกถึงการฝนทำอะไรสักอยาง...
การมีตำหนักที่แข็งแกรงทั้งราง ไดยินอยางนี้คอยรูสึกสบายใจขึ้นมาบาง
“ตำหนักนภา ตำหนักนภา จะตองเปนตำหนักที่แข็งแกรงแน...เอ” อยูๆ ผูเฒาก็
หยุดชะงักลง นิ่งอึ้งมองไปที่บริเวณหมวกของอายฮุย
บทที่ 54 แสงกะพริบสวางแวววาว
อายฮุยไดยินเสียงรองเอของอาจารย หลังจากนั้นก็มองอยางนิ่งอึ้งมาที่ตน หัวใจ
จึงเตนไมเปนจังหวะขึ้นมา
ใบหนาราวกับคนเกือบถูกหวย เลขดานหนาเหมือนกับรางวัลที่หนึ่งทั้งหมด เหลือ
เพียงเลขตัวสุดทาย ขอเพียงหนึ่งตัวเลขนี้เหมือนกันก็ถูกรางวัลที่หนึ่งแลว หัวใจของ
เขาก็เตนระส่ำระสายราวกับจะทะลุออกมาจากอก กังวลอยางหาใดเปรียบ
อา ยฮุย รูสึกวา ตนเปนคนที่คอนข างอดกลั ้ น อารมณได ดี มาโดยตลอด แต วา
ในตอนนี้ เขากลับไมอาจควบคุมความกังวลของตนได
เขารูดีวาตนไมไดมีพรสวรรค ถึงแมวาอาจารยจะชมวาเขาเปนผูมีพรสวรรคมา
โดยตลอด แตวาสิ่งนี้ก็ไมอาจเปลี่ยนแปลงรากฐานที่ย่ำแยของเขาได ไมงายเลยที่จะมี
ถึงเจ็ดตำหนักที่เปนตำหนักที่แข็งแกรง ขอเพียงตำหนักนภาเปนตำหนักที่แข็งแกรง ก็
จะกลายเปนจอมราชันยแหงตำหนักที่ถูกโจษจันเปนตำนาน
เอาเถิด อยางไรเสียนี่ก็เปนครั้งแรกที่อายฮุยไดยินเรื่องจอมราชันยแหงตำหนัก
อะไรนี่ ไมรูดวยซ้ำวาจะเปนตำนานจริงหรือไม แตเห็นวาอาจารยมีทาทางตื่นเตนถึง
เพียงนั้นแลว มันก็ควรเปนพรสวรรคที่รายกาจมากพอตัว
อายฮุยที่ไมเคยคาดหวังในเรื่องพรสวรรคของตนมาตั้งแตแรก อยูๆ ก็มีคนมา
บอกวา ตนนั้นไดซอนพรสวรรคบางอยางที่ไมมีใครรูและแสนรายกาจอยางมากเอาไว
ไดยินขาวดีอยางนี้แลวก็ไมผิดที่เขาจะรูสึกตื่นเตนดีใจ
แตวา...อาจารยไดหยุดนิ่งไปแลว...
ประกายแสงในดวงตาของอายฮุยไดมืดดับลง เอาเถอะ ดูทาแลวจะกลายเปน
จอมราชันยแหงตำหนักไมไดแลว หากวาเปนตำหนักที่แข็งแกรงแลว อาจารยจะตอง
พูดออกมาเปนแน
อายฮุยใชเวลาไมนานก็ฟนตัวจากสภาพผิดหวังกลับมาได ในใจอดหัวเราะไมได
ตนเองก็ชางละโมบเสียจริง แขนขาทั้งสี่สมดุล และในตำหนักทั้งแปดมีถึงเจ็ดตำหนัก
ที่เปนตำหนักแข็งแกรง ยังจะมีอะไรที่ไมพอใจอีก
ประดุจดังคนที่คลำหาอยูทามกลางความมืดมาแสนนาน ใฝใจเพรียกหาแสงสวาง
แตกลับไมกลาหวังวาตนจะไดครองดวงอาทิตยทั้งดวง เขาเปนดั่งคนยากจนแตขยัน
ทำงาน บางครั้งก็คอยเพอฝนวาพรุงนี้จะถูกรางวัลไดเงินมาสักเล็กนอยพอยาไส แตไม
หวังวาตนจะมีราชรถมาเกย
“แสงนี้ทำไมถึ งไดกะพริบ ไปมา เชนนี้จะสรุปวาเปน ตำหนัก ที ่แข็ งแกร งหรื อ
ออนแอกันนะ” เสียงอาจารยพูดกับตัวเองดังแววมา น้ำเสียงเต็มไปดวยความสงสัย
“หรือ วา ชุดเกราะทองแดงจะมีป ญ หาขึ ้ น มาจริ งๆ แล ว ดู ท า ว า จะมี ป ญ หาแล ว
ไมเชนนั้นก็ไมมีทางกะพริบไดหรอก”
แสงสวางสีขาวเงินของตำหนักทั้งเจ็ดกอนหนานี้ที่สวางขึ้น ลวนสองสวางอยาง
มั่นคง แตตำหนักนภากลับติดๆ ดับๆ สวางบางมืดบาง
สักพักเปนตำหนักแข็งแกรงสักพักเปนตำหนักออนแอ จะเปนไปไดหรือ อายฮุย
อดหัวเราะไมได หรือวาตำหนักนภาจะยังไมแนนอน ในตอนนี้ผูเฒาไดปรับสภาพ
จิตใจของตนใหมแลว
ผูเฒาเตะหมวกอยูหลายที ตีอยูหลายหน ก็ยังเปนเหมือนเดิม
“ชางประหลาดเสียจริง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน” ผูเฒาพูดกับตัวเองดวยใบหนางงงวย
“หมวกเสียแลวหรืออยางไร ตองไปหาแบบแปลนออกมา หรือวาตอนที่ขาออกแบบมี
ตรงไหนที่เกิดปญหาขึ้นมา” อายฮุยตองใชแรงอยางมากในการถอดชุดเกราะทองแดง
แสนหนักนี้ออก ทั่วรางของเขาราวกับเพิ่งจะถูกงมขึ้นมาจากสระน้ำ เหงื่ออาบชุม
เสื้อผาไปทั้งชุด ในรางกายยังมีกลามเนื้อบางสวนที่ยังคงสั่นอยางคุมไมอยู ใบหนาของ
เขาซีดขาว กำลังกายออนลาถึงขีดจำกัด
เมื่อไดสูดเอาอากาศบริสุทธิ์ อายฮุยก็รูสึกราวกับอยูกันคนละโลก ไดมีชีวิตใหม
อีกครั้ง ความรูสึกผิดหวังเมื่อครูถูกกวาดทิ้งไปจนสิ้น มีเพียงความยินดีในชีวิตหลังพน
ทุกขพนโศก
“ลูกศิษย ไมเปนไร!” ผูเฒากลาวปลอบใจอายฮุย "ขาจะออกแบบเจาพันปรัชญา
ใหมสักหนอย ในครั้งนี้ขามีแรงบันดาลใจใหมมากมาย และเล็งเห็นจุดผิดพลาดอยูบาง
จุด วางใจได รุนใหมจะตองไมมีปญหา แถมยังเพิ่มความสามารถใหมๆ ไดอีกดวย พอ
ถึงเวลาพวกเรามาทดสอบกันใหมอีกหนแลวกัน!
อายฮุยพอไดยิน “ทอสอบอีกหน” สี่พยางคนี้ รางกายก็สั่นเทิ้มขึ้นมา
การทดสอบที่เหมือนกับการตกนรกนี้ เขาไมคิดจะใหมีครั้งที่สองอีกอยางแนนอน เขา
รีบรอนกลาวขึ้น “ขารูสึกมันวาแมนยำอยางมากแลว ทานอาจารย ครั้งนี้ขารูสึกวาได
ผลสำเร็จอยางมาก ไมตองทดสอบอีกแลว มีเจ็ดตำหนักที่แข็งแกรงก็ดีมากพอแลว รอ
ใหศิษยฝกไปถึงตำหนักนภาเสียกอน แลวคอยทดสอบใหมก็คงไมสายเกินไป”
ผูเฒาลองไตรตรองดูแลวก็เห็นดวย ในหาคลังแปดตำหนักนี้ ตำหนักนภาถือวาฝก
ไดยากที่สุด นักเรียนปกติลวนเอาตำหนักนภาไวฝกเปนสวนทายสุด ดูตามความเร็วใน
การฝกของอายฮุยแลว ตำหนักนภายังหางไกลจากเขามากมายนัก
“ที่เจาพูดก็มีเหตุผล” ผูเฒาตัดสินใจวาจะไมไปยุงกับเรื่องราชันยแหงตำหนักอีก
อีกอยางลูกศิษยก็ดูสะบักสะบอม และหวาดวิตกเอาปานนั้น ไมงายเลยกวาจะมีลูก
ศิษยสักคน หากวาไมระวังเลนจนพังแลว...ไมถูกสิ หากวาไมระวังฝกจนรางพังแลว
เชนนั้นตนจะไปหาลูกศิษยที่ดีขนาดนี้จากที่ใดไดอีก
คนสวนใหญไมสามารถทนการทดสอบของตนได ตอนที่เขาทดลองดวยตัวเองใน
ครั้งนั้น ยังยืนหยัดอยูไดเพียงสามนาที หลังจากนั้นก็รองไดฟูมฟายคลานออกมาจาก
ตรงนั้น
ลูกศิษยสามารถยืนหยัดไดจนจบการทดสอบ ก็ถือวาไมใชเรื่องงายแลว
ผูเฒายิ้ม “ลูกศิษยเอย มีเจ็ดตำหนักที่แข็งแกรงก็ถือวาเปนพรสวรรคที่ไม เลว
อยางมากแลวนะ พวกเรามาพูดถึงวิธีการฝกที่เปนรูปธรรมสักหนอย แนนอนวาเปน
เคล็ดลับของอาจารยเอง”
อายฮุยพักหายใจหายคออยูครูหนึ่ง กำลังกายก็ฟนกลับมาไดไมนอยแลว เมื่อได
ยินประโยคนี้ ก็ตั้งสติขึ้นมาในทันที ถึงแมวาอาจารยจะมีบางครั้งที่ดูไมคอยนาเชื่อถือ
อยูบาง แตความรูยิบยอยของอาจารยกลับนาประทับใจอยางที่สุด
ผูเฒา สังเกตเห็นวาสีหนา ของอ ายฮุยไดฟ น กลับ มาบางแลว แอบคิ ดในใจวา
รางกายของลูกศิษยคนนี้ชางไมเลวเลย ความเร็วในการฟนฟูกำลังกายเหมือนวาจะ
เร็วยิ่งกวาคนทั่วไป คงตองลองใหเขาทำการทดสอบในดานนี้ดูสักวัน คุณสมบัติที่
พิเศษเชนนี้ถือเปนคุณสมบัติที่หาไดยากพอสมควรเลยทีเดียวละ ไมใชประโยชนใหดีก็
นาเสียดายเปลาๆ จะทำอยางไรถึงจะใชไดนั้น เรื่องนี้ตองคิดใหดีๆ
“ทานอาจารย” อายฮุยเห็นวาอาจารยดูเหมอลอยไปครูหนึ่ง จึงเรียกเตือน
“โอ โอ โอ” ผูเฒาดึงสติกลับมา กระแอมเบาๆ ครั้งหนึ่ง “อาจารยยังตองใชเวลา
ในการวิเคราะหบันทึกการทดสอบของเจาสักสามสี่วันจึงจะใหผลสรุปแกเจาได ชวงนี้
นั้นเจาก็ฝกตามวิธีการฝกกอนหนานี้ไปกอน ตั้งใจเขาเรียน วิชาเรียนยังคงตองเขา ตัว
ขาเองก็ไมใชวาจะรูเรื่องทุกวิชา การเปดโลกทัศนเปนสิ่งที่จำเปนอยางมาก มันจะ
สงผลดีกับเจาในอนาคต การฝกหลังจากนี้จะไมเหมือนกับที่เจาเคยฝกมากอน เชน
การแกะสลัก”
“การแกะสลักหรือ” อายฮุยนิ่งไปพลัน จะคิดอยางไรก็นึกไมออกวาการฝกของ
ตนจะไปมีความเกี่ยวของกับการแกะสลักไดอยางไร
“ถูกแลว การแกะสลัก” ผูเฒามีความสุขกับทาทางตกตะลึงของอายฮุยอยางออก
หนาออกตา
“ฮา ฮา คิดไมถึงละสิ การฝกนั้นตองอาศัยวิชาความรูอยางมาก การแกะสลักกับ
การฝกมีความเกี่ยวของกันอยางไรนะหรือ เจาเปนผูฝกพลังธาตุทอง สิ่งที่เหมาะสม
ที่สุดก็คือการแกะสลัก การแกะสลักสามารถฝกฝนเจา เรื่อ งความสามารถในการ
ควบคุมพลังธาตุได เจาลองคิดดู สมมุติใหพลังธาตุเปนดั่งมีดแกะสลัก มีทั้งเล็ก ใหญ
โคง ตรง และที่มีลักษณะรูปรางแบบพิเศษไวใชในงานที่ตางกัน อีกทั้งในตอนที่ทำการ
แกะสลัก ความสนใจของเจาไมควรไปตกอยูแคกับการควบคุมพลังธาตุ มิเชนนั้นแลว
เจาก็จะแกะสลักไดไมดี การควบคุมพลังธาตุของเจาใหไดดั่งใจนั้นไมใชเรื่องงาย หาก
เจาสามารถเรียนรูการแกะสลักพลังธาตุไดและใชไดอยางชำนาญ การควบคุมพลังธาตุ
ที่เล็กละเอียดก็จะไปถึงระดับที่โดดเดนอยางมาก การฝกกระบวนทาที่มีความซับซอน
ของเจาในภายภาคหนา เจาก็จะสามารถทำไดอยางราบรื่น”
อายฮุยไดฟงแลวก็กระจางขึ้นมาในทันที นัยนตาทั้งสองขางก็เปลงประกายสวางขึ้น
ถูก แลว ถา หากเขาสามารถแกะสลัก สิ ่งที่ ซับ ซอ นถึ งเพี ยงนั ้น ได เช น นั ้นการ
ควบคุมพลังธาตุของเขาก็จะเพิ่มระดับขึ้นไมรูเทาไร!
“แตวา การฝกฝนตองเริ่มจากงายไปยาก ใหเจาเริ่มแกะสลักในทันที ก็คงจะยาก
เกินไป อาจารยไดคิดวิธีการฝกที่คอนขางงายกวาเอาไวแลว” ผูเฒากลาวดวยใบหนา
ที่มีรอยยิ้มลึกลับ
ไมรูวาเพราะอะไร เมื่ออายฮุยมองไปที่รอยยิ้มของอาจารยแลว ในใจกลับรูสึก
กังวลขึ้นมาตงิดๆ “วิธีการอะไรหรือ”
“ถึงเวลาเจาก็จะรูเอง”
ความกังวลในใจของอายฮุยยิ่งรุนแรงขึ้นทุกที
บทที่ 55 เพื่อนเกา
ตอนที่อายฮุยตื่นขึ้นมาในวันที่สองก็เปนเวลาเที่ยงวันแลว แสงอาทิตยรอนแรง
สองลงมาจนเขาแทบลืมตาไมขึ้น ถึงเวลาเที่ยงวันแลวกลับยังไมตื่น สำหรับเขาแลวถือ
ไดวาเปนเหตุการณที่คอนขางจะพบไดนอยนัก
เมื่อคืนวานเขาเกือบคลานกลับมายังโรงฝก พอถึงโรงฝกก็ปนขึ้นเกาอี้หวายแลว
ลมหัวลงนอน นอนจนกระทั่งถึงตอนนี้ เขาชอบนอนบนเกาอี้หวายในสวน เพราะ
ดวงดาวที่อยูเต็มทองฟา มักจะทำใหจิตใจของเขารูสึกสงบ แสงอาทิตยที่อบอุนในยาม
เชาเปนจุดเริ่มตนที่งดงามที่สุดของวัน
ดวงอาทิตยยามเที่ยงวันรอนรุนแรงอยางมาก
พูดขึ้นมาแลวก็แปลกอยู เมื่อวานรางกายปวดบวมทั่วรางจนเหมือนกับเปนเสน
บะหมี่ พอตื่นขึ้นอาการปวดบวมกลับหายไปจนสิ้น จิตใจของเขามีชีวิตชีวา ทั่วราง
เต็มเปยมไปดวยพลัง
อายฮุยอารมณดีขึ้นมาในทันที รางกายที่เต็มเปยมไปดวยพลังทำใหเขารูสึกวา
สามารถตอนรับการทาสูไดทุกรูปแบบ
เขาตัดสินใจวาจะออกไปกินบะหมี่ จากนั้นคอยไปโรงฝกที่จัดการแขงปดตาตอสู
แตละแหงเพื่อตามหาคน
อายฮุยละอายใจอยูบางที่รับปากสาวนอยรานบะหมี่มานานขนาดนี้แลว แตกลับ
ยังไมไดลงมือเสียที ที่จริงแลวการจะทำตัวไรยางอายเหมือนเจาอวนนั้นชางยากนัก
อายฮุยแสนจะอิจฉาเจาอวนอยางมาก ทำตัวไรยางอยางไมสะทกสะทานอะไรเลย
เชนนั้น ถือเปนพรสวรรคอยางหนึ่งก็วาได เปนพรสวรรคที่แสนรายกาจยิ่งนัก
เมื่อมาถึงรานบะหมี่ อายฮุยก็วางทาใหญโตสั่งบะหมี่มาหาชาม
อายฮุยมาอุดหนุนหลายครั้งแลว เถาแกจึงคุนหนาคุนตาเขาดี โดยเฉพาะอยางยิ่ง
เรื่องการจายเงินแทนในครั้งกอนก็ทำใหเถาแกจำไดราวกับเพิ่งเกิดขึ้น ในตอนที่ยก
บะหมี่มาให เถาแกยังถามไถดวยความใสใจอยางมาก “พอหนุมไมไดเจอกันนานเลย
เออจริงสิ เงินหนึ่งรอยหาสิบหยวนของแขกผูหญิงในครั้งกอนไดคืนหรือยัง”
อายฮุยที่เพิ่งจะหยิบตะเกียบเตรียมกินบะหมี่คำใหญ ไดหยุดตะเกียบคางไวกลาง
อากาศ
คำพูดกรีดกลางใจ แถมยังเอาเกลือราดใสปากแผลอีก...ทำการคาไมเปนหรือไร
แตจะพูดอะไรได ใหบอกวาเขาติดเงินกอนใหญถึงแปดสิบลานหยวนเพราะเงิน
หนึ่งรอยหาสิบหยวนอยางนั้นหรือ บอกวาบะหมี่ชามเดียวกอใหเกิดโศกนาฏกรรม
ของชีวิตหรือ เงินหนึ่งรอยหาสิบหยวนทำลายสิ้นความหวังในชีวิตหรือ
โลกใบนี้ชางแปลกประหลาดนัก เพราะอะไรถึงยังรูสึกวาเรื่องทั้งหมดเปนเพียง
ความฝน...
อายฮุยทอดถอนใจอยางเสียมิได คอยๆ เริ่มกินบะหมี่อยางเงียบๆ
เถาแกเห็นอายฮุยมีสีหนาไมคอยดี ก็ทอดถอนใจเชนกัน เขาใหเนื้อวัวแวนหนึ่ง
แลวตบไหลกลาวปลอบใจ
“ชีวิตคนเราไมมีหลุมที่กาวขามไมได เงินหนึ่งรอยหาสิบหยวนไมไดคืนก็คือไมไดคืน
การเปนคนดีตองยืนหยัดตอไป มา อาใหเนื้อวัวกับเจาแวนหนึ่ง!”
เห็นเนื้อวัวแวนหนึ่งที่หอมฟุงไปทั่ววางอยูตรงหนา อารมณอายฮุยก็ดีขึ้นมาไมนอย
“ขอบคุณทานอา!”
เขาเริ่มโซยบะหมี่คำใหญ เนื้อวัวชางหอมหวานอยางมาก
อายฮุยกินบะหมี่หมดแลวทั้งหาชาม ก็โบกมือลาคุณอารานบะหมี่ “ลากอนทานอา!”
อายฮุยเริ่มเดินไปตามโรงฝกแตละแหง อิงตามรองรอยที่สาวนอยรานบะหมี่ใหไว
เพื่อตามหาเปาหมายที่นาสงสัย
ผานมาชวงหนึ่งแลวที่ไมไดมาโรงฝก ไมนานอายฮุยก็ไดพบวาในตอนนีผ้ ูเ ขารวม
การแขงปดตาตอสูในโรงฝกมีความแข็งแกรงมากกวาเมื่อกอนมากมายนัก
ตอนนี้ผูที่กลาขึ้นเวทีลวนเปนพวกที่มีความมั่นใจในความแข็งแกรงของตัวเองอยู
มากทีเดียว ผูเขาแขงที่เปลี่ยนมาเปนแข็งแกรง การตอสูก็ชวนชมอยูไมนอย
มองดูอยูหลายรอบอายฮุยก็รูวาหากคิดจะหาเงินจากการแขงปดตาตอสูของโรง
ฝกเชนเมื่อกอน คงเปนไปไมไดแลว แมวาเขาเพิ่งจะเปดคลังชีวิตและความแข็งแกรง
เพิ่มขึ้นอยางมาก แตหากเทียบความความแข็งแกรงกับผูเขาแขงขันที่อยูดานบนแลว
ยังถือวาหางไกลมากนัก โดยพื้นฐานแลวดานบนลวนเปนพวกนักเรียนเกาที่เปดตั้งแต
สี่ตำหนักขึ้นไป ในบางครั้งก็มีพวกอายุนอยใหไดเห็น ซึ่งก็เปนพวกที่เรียกไดวาเปนผูมี
พรสวรรคของโรงเรียนตางๆ ที่มีชื่อ
ชัยชนะอยางตอเนื่องของตวนมูหวงฮุนในการแขงปดตาตอสูนั้นไดทำใหการแขง
ปดตาตอสูของเมือ งซงเจียนไดขึ้น ไปสู ระดั บที ่สู งยิ ่งขึ ้นอีกครั ้ ง พวกเด็กหนุม ผู มี
พรสวรรคและหัวรอนเหลานั้นลวนมาลองทดสอบดูสักหนอยวาตนกับตวนมูหวงฮุนจะ
มีระยะหางกันมากมายเพียงใด
การปดตาตอสูไดกลายเปนสัญลักษณของเมืองซงเจียนไปแลว
อายฮุยเดินเขาไปแลวหกโรงฝก ไมมีแหงใดเลยที่เปนขอยกเวน เขานั้นไมมีโอกาส
ไดรับชัยชนะเลยแมแตนอย
ไมมีท างที่จ ะหาเงินจากการแข งป ดตาต อ สู ได อี ก แล ว ในใจของอ า ยฮุ ยรูสึก
เสียดายอยางมาก แตเขารูวาสิ่งนี้เปนเรื่องที่จะตองเกิดขึ้น เรื่องดีๆ ที่เคยเจอเมื่อกอน
อยาไดคิดวาจะไดเจออีก
เขาเดินเขาไปในโรงฝกทั้งหมดของเมืองซงเจียนแลวรอบหนึ่ง แตก็ไมไดพบกับผูที่
ตองสงสัยวาจะเปนเปาหมายสักคนเดียว
กอนที่ยามราตรีจะมาเยือน อายฮุยแบกความเหนื่อยลากลับไปยังโรงฝกศาสตราวุธ
พูดกันตามจริง การตามหาคนยังเหนื่อยกวาการฝกมากมายนัก ในวันแรกไมไดมี
ผลสำเร็จอะไรเลย ซึ่งไมใชเรื่องแปลกอะไร
การตามหาคนไมใชเรื่องที่งายดาย โดยเฉพาะอยางยิ่งรองรอยก็เลื่อนรางเชนนี้
ไมใชการงมเข็มในมหาสมุทรก็เปนการงมเข็มในสระเก็บน้ำ ทายที่สุดแลวดวงนั้น
สำคัญกวาวิธีการ
สาวนอยรานบะหมี่ในชวงนี้ก็ไมไดมีขาวคราว คาดวานาจะออกเดินทางแลว นึก
ถึงสิ่งที่อาจารยสวี่เคยพูดไว ผานไปสักชวงหนึ่งจะมีภารกิจใหทำ หรือวาสาวนอยราน
บะหมี่จะออกไปทำภารกิจที่วานี้
อายฮุยไมไดคิดใหวุนวาย ชีวิตของเขาไดเปลี่ยนเปนชีวิตที่ทั้งยุงและมีสาระขึ้นมา
ทั้งเขาเรียนเอย ฝกฝนเอย ตามหาคนเอย บางครั้งยังมีการทบทวนคัมภีรกระบี่อีกดวย
เขายังจำเรื่องที่สาวนอยรานบะหมี่พูดไดวาจะใหเขาชี้แนะวิชากระบี่ใหกับนาง
แนนอน ที่วาทบทวนคัมภีรนั้นก็เปนการกลอมใหหลับอีกรูปแบบหนึ่ง
เรื่องของตัวออนกระบี่ เขาไมไดไปใสใจ ครั้งกอนที่ทำกระบี่พังไป เขาก็ยังทำใจ
ซื้อกระบี่เลมใหมไมได แตวาเรื่องการฝก นับวันเขายิ่งจะกระโจนเขาใส
ณ ที่พ ัก อาจารย เถาอีเหวย มองดู ห วั งโส วชวนที ่ก ำลั งตั ้ งอกตั ้ งใจทำงานอยู
คอนขางจะคาดไมถึงอยูบาง ตาเฒาหวังในชวงสองวันมานี้ราวกับดื่มยาบำรุงกำลังเขา
ไปก็ไมปาน สภาพจิตใจแตกตางกับในยามปกติอยางสิ้นเชิง ทั้งสองคนทำงานรวมกัน
มาสิบกวาป รูจักมักคุนกันดีจนไมอาจจะคุนเคยไปมากกวานี้ไดอีก ความกระตือรือรน
เชนนี้ ไมไดเห็นจากตัวของตาเฒาหวังมานานแลว
หรือวาทฤษฏีของตาเฒาหวังมีการบรรลุอะไรแลว ตาเฒาเถากังวลอยูในใจ ปาก
จึงอดไมไดที่จะกลาวขึ้น “ตาเฒาหวัง ใบหนาเจาแดงเปลงปลั่งเชนนี้ มีเรื่องดีอะไร
เกิดขึ้นก็พูดออกมา ขาจะไดสัมผัสไอมงคลบาง”
หวังโสวชวนที่กำลังวิเคราะหบันทึกการทดสอบอยูเมื่อไดยินแลวจึงไดเงยหนาขึ้น
ใบหนาปกปดความปติยินดีและความภาคภูมิใจเอาไวไมมิด
“อะไรก็ไมอาจะปดบังดวงตาทั้งสองของเจาตาเฒาเถาไดจริงๆ เมื่อเร็วๆ นี้มีเรื่อง
ดีเกิดขึ้นจริง ขาไดรับศิษยแลว”
“อะไรนะ” เถาอีเหวยนิ่งอึ้งไป แตไมนานก็ตอบสนองกลับมาได ทั้งใบหนาเต็มไป
ดวยความตกตะลึง “ตาเฒาหวังเจารับศิษยแลวอยางนั้นหรือ”
ตาเฒาหวังนี้เขาคุนเคยอยางมาก ทั้งนิสัยเสียทั้งหัวแข็ง ทำตัวดื้อรั้น กระดาง
กระเดื่อง มุทะลุลำพองจนเกินควร เกือบจะเอาทั้งชีวิตอุทิศใหกับทฤษฎีของตนเอง
วาทศิลปก็ไมมี นิสัยก็ใชไมได ไมรูจักประกาศทฤษฎีของตน ของพวกนั้นของตาเฒา
หวังจนถึงตอนนี้ก็ยังไมมีผูใดถามถึง
คิดไมถึงวาตาหวังจะถึงกับรับศิษยแลว
เถาอีเหวยคอนขางอิจฉา “ชางเปนเรื่องที่นายินดีนัก ดีใจดวยนะตาเฒาหวัง!”
เขาไมไดปกปดความอิจฉาของตนแมแตนอย จนถึงตอนนี้เขาก็ยังหาลูกศิษยที่จะ
มาสืบทอดวิชาความรูของตนไมได ทฤษฏีของตาเฒาหวังไมไดมีอะไรมาก แตกลับ
เคราะหดีเสียอยางนั้น
ในใจของตาเฒาหวังรูสึกภูมิใจ แตปากก็ยังคงกลาว “ยังพูดเร็วเกินไป ความ
แข็งแกรงของเจาเด็กนั่นยังย่ำแยอยูมาก”
ตาเฒาเถายิ้มขึ้นมา เขารูวาสายตาของตาเฒาหวังนั้นสูงมาก ไมมีทางที่จะเอาใคร
ก็ไดมาเปนลูกศิษยเปนแน เมื่อไดยินคำพูดประโยคนี้ก็อดหัวเราะขึ้นมาไมได เขาออก
ปากพูด “เปนเชนนี้ไมใชวาจะไดทดสอบทฤษฏีของเจาพอดีหรอกเหรอ”
“ขาก็คิดเชนนั้น” ตาเฒาหวังกลาวขึ้น “รากฐานของเจาเด็กนั่นก็ไมไดมีอะไร แตวาไม
ถึงกับไมมีจุดที่ใชการได เขาสามารถทนการทดสอบของพันปรัชญาของขาไดเชียวละ”
ตาเฒาเถาถึงกับตกตะลึง “เขาทนผานไปไดอยางนั้นหรือ”
พันปรัชญาของตาเฒาหวังนั้นเขาคุน เคยอยางมาก ไมเพียงรวมถกเถียงตอน
ออกแบบ แตในตอนที่ตาเฒาหวังสรางพันปรัชญาชุดแรกขึ้นมา ก็เปนเขาที่ชวยตา
เฒาหวังคุมแผงควบคุม ผลลัพธคือตาเฒาหวังทนไดเพียงแคสามนาทีก็รองหมรองไห
ครวญครางคลานออกมาแลว
ในตอนที่ตาเฒาหวังออกแบบในตอนนั้น เขาก็รูสึกวาพันปรัชญาไมไดมีคาอะไร
จริงๆ เขารูสึกวาความคิดของตาเฒาหวังดูเปนอุดมคติเกินไป ไมมีใครสามารถยืนหยัด
ทนการทดสอบชุดพันปรัชญาได
เมื่อไดยินตาเฒาหวังบอกวาลูกศิษยของเขาผานการทดสอบมาแลว เถาอีเหวยจะ
ไมตกตะลึงไดอยางไร
บทที่ 56 ไตกงั
มองดูตาเฒาเถาที่ปากอาตาคางแลว หวังโสวชวนก็ยิ่งภาคภูมิใจยิ่งขึ้นไปอีก
ทั้งสองคนตางรูจักความนากลัวของพันปรัชญาดี เมื่อกอนเขาก็เหมือนกับตาเฒาเถา
รูสึกวาไมมีใครสามารถทนพันปรัชญาได
ที่จริงตาเฒาหวังไมพอใจกับเรื่องนี้มาโดยตลอด ไมวาจะออกแบบอยางไร จะทำ
ใหสวยงามหรือเปนเอกลักษณ แตถาหากไมมีคาใหใชงานจริง เชนนั้นก็เปนเพียงของ
เลนชิ้นหนึ่งเทานั้น
ความเปนจริงในตอนนี้ไดพิสูจนแลววาพันปรัชญาของตนนั้นมีคาในการใชงาน
จริง เขาจะไมภาคภูมิใจไดอยางไร ยิ่งไปกวานั้น คนที่ผานการทดสอบของพันปรัชญา
ยังเปนลูกศิษยของตน เขายิ่งเพิ่มความภาคภูมิใจเขาไปอีก
ผานไปสักพักตาเฒาเถาถึงไดดึงสติ และถอนหายใจออกมา “ตาเฒาหวังเจาชาง
โชคดีเสียจริง!”
สามารถทนรับพันปรัชญาได ลำพังแคสิ่งนี้ก็เพียงพอที่จะใหคนนับถือแลว ใครจะ
ไมอยากใหลูก ศิษยของตนมีจ ิตใจแข็ งแกร งราวเหล็กกลา ครั้งนี้ท ำให ตาเฒา เถา
คอนขางจะตารอนขึ้นมาจริงๆ แลว
“ลูก ศิษยของขาก็คือลูกศิษยของเจ าไม ใชห รื อ” ตาเฒ าหวังรับ รู ไดถ ึงความ
ผิดหวังของเพื่อนเกา จึงเจตนากลาวขึ้น “ขาอุตสาหมาขอรองเจาถึงที่นี่ หรือวาเจายัง
จะซอนตัวอยูอีก”
ตาเฒาเถาชี้ไปที่ตาเฒาหวัง พลางหัวเราะเสียงดัง “ถึงเวลาใหลูกศิษยของเจาเอา
เปรียบขาแลว!”
ตาเฒาหวังเองก็หัวเราะขึ้น “นั่นมันแนนอนอยูแลว! ไมเอาเปรียบเจา ก็เสียเปลา
นะสิ!”
“ไมมีปญหา” ตาเฒาเถาตอบขึ้นอยางสบายอกสบายใจ “มีปญหาก็แคมาหาขา
ตราบใดลูกศิษยของเจาอยูที่นี่ยของเจาอยูกับขานี่ลาเ ขาจะดูแลอยางดี ไมทารุณเขา
หรอก”
“พอดีเลย ขามีเรื่องใหเจาชวยออกความคิดเสียหนอย” ตาเฒาหวังไดมีทาที
จริงจังขึ้นมา พูดจบก็หยิบเอาบันทึกการทดสอบในมือสงใหตาเฒาเถา “ชวยขาดู
บันทึกการทดสอบของเขาที”
ตาเฒาเถารับมาอยางแปลกใจอยูเล็กนอย เมื่ออานดูสักพักก็รองขึ้นมา
“ตาเฒาหวัง นี่เจาตั้งใจจะมาอวดขาเหรอ แปดตำหนักมีถึงเจ็ดตำหนักที่เปน
ตำหนักแข็งแกรง เจากอบโกยไดครั้งใหญเลยนะ!”
“รากฐานของเขาไมดี แยจนเกือบจะเขามาในสนามเหนี่ยวนำไมได” ตาเฒาหวัง
แอบรูสึกปติในใจ ปากกลับกลาวขึ้นอยางถอมตัว
“รากฐานงั้นหรือ ในสายตาของเจาพวกนั้นก็มีเพียงแครากฐาน” ตาเฒาเถายิ้ม
หยันอยางไมพอใจ ในสายตาของพวกเขา วิธีการทดสอบพวกนั้นของสนามเหนี่ยวนำ
ถือไดวาทั้งงายทั้งหยาบเกินไปจริงๆ
อยูๆ ตาเฒาหวังก็กลาวขึ้น “เจาชวยขาดูบันทึกการทดสอบที่ตำหนักนภาของ
เขาหนอย”
“ตำหนักนภาหรือ” เมื่อตาเฒาเถาไดยินคำพูดของเพื่อนเกา สายตาก็อดไมไดที่
จะกวาดมองไปที่บันทึกการทดสอบที่ตำหนักนภา เมื่ออานไปสักพักก็สงเสียงขึ้นมา
อยางสงสัย “ไมถูกตองอยูนะ พันปรัชญาของเจามีปญหาแลวกระมัง จะมีที่ไหนที่
ตำหนักนภาจะเดี๋ยวแข็งแกรงเดี๋ยวออนแอ”
ตาเฒาหวังตอบอยางกลัดกลุม “ใชแลว ขาเองก็รูสึกวาบันทึกนี้แปลกประหลาด
เกินไปแลว หากวาตำหนักนภาของเขาแข็งแกรง ก็จะกลายเปนราชันยแหงตำหนักไป
แลว”
ตาเฒาเถาเขาใจความคิดของตาเฒาหวัง จึงกลาวปลอบใจเขาขึ้น “มีเจ็ดตำหนัก
ที่แข็งแกรงก็หาไดยากมากแลว เจาอยาไดมีใจละโมบโลภมาก จะตองเปนพันปรัชญา
ของเจาที่เสียแลวแน ตำหนักนภาที่เดี๋ยวแข็งแกรงเดี๋ยวออนแอ เรื่องเชนนี้ขายังไมเคย
ไดยินมากอนเลยจริงๆ พวกเราทั้งสองสอนวิชาการฝกขั้นพื้นฐานมาเปนเวลานาน
ขนาดนั้น ในจุดนี้เจายังไมชัดเจนอีกเหรอ หากเจาไมวางใจจริงๆ จะทำการทดสอบอีก
รอบก็ได”
“ทดสอบอีกรอบหรือ” ตาเฒาหวังกลาวขึ้นอยางจำใจ “เจาไมเห็นทาทางของเจาหนู
นั่น ในตอนนั้นพอไดยินวาจะทำการทดสอบอีกรอบ ก็เตรียมยกขาวิ่งหนีแลว!”
“ฮา ฮา ฮา!” ตาเฒาเถานึกภาพฉากเหตุการณนั้นแลวก็อดหัวเราะไมได “หาก
เปนขาก็คงวิ่งหนีเหมือนกัน! ตัวเจาเองยืนหยัดทนไดแคสามนาที ก็ยังรองหมรองไห
ราวกับเปนหญิงสาวก็ไมปาน”
ตาเฒาหวังเองก็หัวเราะขึ้น “เจาอยาพูดเลย ขาเองก็กลัววาจะทดสอบเขาจนแย
ไป ยังมีเวลาอีกยาวนาน ลูกศิษยก็มีอยูคนเดียว ตองรูจักบันยะบันยังหนอย”
ตาเฒาเถากลาวเตือนเขา “เจาไปรายงานกับทางโรงเรียนแลวหรือยัง”
“รายงานแลว” ตาเฒาหวังพยักหนา “เรื่องนี้ใครจะกลาลืม”
อาจารยสวี่ไดมาถึงที่พักอาจารยเหมือนอยางเคย ระหวางทางมีอาจารยทานอื่นๆ
ทยอยกันเขามาทักทาย หลัจากการประกาศอยางเปนทางการของตวนมูหวงฮุนฉบับ
นั้น ในตอนนี้อาจารยสวี่ก็กลายเปนคนดังของโรงเรียนซงเจียนไปแลว ชื่อเสียงของ
อาจารยสวี่พุงสูงไปถึงตำแหนงที่สูงอยางไมเคยเปนมากอน
ในสายตาของหลายๆ คน สาเหตุที่ตวนมูหวงฮุนยอมอยูที่โรงเรียนซงเจียนตอก็
เปนเพราะเสนหเฉพาะตัวของอาจารยสวี่
ดวยเหตุนี้เองอาจารยสวี่จึงไดกลายมาเปนอาจารยอันดับหนึ่งของเมืองซงเจียน
อีกทั้งตัวอาจารยสวี่เองก็มีนิสัยใจกวาง จึงไดรับความเคารพรักจากทุกคน
อาจารยสวี่ไดแสดงความเคารพตอบกลับไมหยุด จากประตูที่พักอาจารยไปถึง
หองของเขาที่ชั้นสอง ใชเวลาไปทั้งสิ้นสิบนาทีเต็ม เมื่อมาถึงหองเขาถึงไดทอดถอนใจ
ออกมา ทันใดนั้นก็ไดสังเกตเห็นซองเอกสารสองซองวางเอาไวอยูบนโตะของตน
เขารินชาใสถวยแลวก็หยิบเอกสารซองแรกขึ้นมาเปดออกดู เขาหยิบเอกสาร
ออกมามองแคแ วบแรก เขาก็นั่งตั ว ตรงขึ ้ น อย า งไม รู ตั ว สภาผู อ าวุ โ สของสนาม
เหนี่ยวนำไดสงบันทึกการลงนามมาโดยตรง!
ตวนมูหวงฮุนไดเขาตาของไตกังและไดกลายเปนศิษยคนสุดทายของเขา!
ไตกัง!
อาจารยสวี่แทบจะไมกลาเชื่อสายตาตนเอง ขาวอันกะทันหันนี้ทำใหเขาตะลึงงัน
ไปแลว ไตกังคือใคร ผูอาวุโสอันดับสองของสภาผูอาวุโสของสนามเหนี่ยวนำ หนึ่งในป
รามาจารยผูใชพลังธาตุไมที่แข็งแกรงที่สุด ผูคิดคนวิชาลับขั้นสูง [คำสั่งเปนตาย] ที่
เปนหนึ่งในหาวิชาลับขั้นสูงที่แข็งแกร งที ่สุดของผู ใชพ ลังธาตุ ไม สรรคสรา งวิ ช า
[ดอกบัวเชื่อมกระดูก] และ [หญากลามเนื้อ] ทำใหเกิดสำนักดอกบัวและสำนักหญา
กลามเนื้อสองสำนักใหญ
ไต ก ั ง แต ไ หนแต ไ รมาแทบจะไมส นใจเรื่ อ งราวทางโลก หมกมุ น อยู ก ั บ การ
ศึกษาวิจัย นอกจากที่ลูกศิษยที่เคยรับเอาไวตั้งแตตอนแรก หลายปมานี้ก็ไมเคยรับ
ศิษยอีกเลย คิดไมถึงเลยวาจะรับศิษยเพิ่มอีกคน!
อาจารยสวี่รูวาหากขาวนี้ถูกประกาศออกไป จะนำพามาซึ่งเหตุการณสะทาน
สะเทือนครั้งใหญเปนแนแท
อาจารยสวี่ไมใชพวกลาหลังที่ไมรูเรื่อ งราวทางโลก ตวนมูหวงฮุนนั้นเปนผู มี
พรสวรรคอยางไมตองสงสัย แตวาผูมีพรสวรรคที่สามารถเขาไปในสายตาของไตกังได
ตรงจุดนี้ยังถือวานากังขาอยู
เบื้องลึกเบื้องหลังของเรื่องนี้จะตองไมธรรมดาเปนแน ความสัมพันธของตระกูลต
วนมูกับไตกังนั้นเพียงพอที่จะนำมาซึ่งเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอยางในอูสิงเทียน
ไมนานเขาก็อดหัวเราะขึ้นมาไมได รูปแบบของอูสิงเทียนไมใชสิ่งที่บุคคลธรรมดา
อยางเขาจะสามารถรบกวนได ไมวาจะเปนความสัมพันธในรูปแบบใด การกราบไตกัง
เปนอาจารย สำหรับตวนมูหวงฮุนแลวถือวาเปนตัวเลือกที่ดี ไตกังไมไดเปนเพียง
ปรมาจารยผูใชพลังธาตุไมผูหนึ่งเทานั้น แตในดานการสอนลูกศิษยเองก็มีความโดด
เดนอยางมากเชนกัน
ลูกศิษยคนแรกของเขาคือ ลูเฉิน ซึ่งเปนผูที่ถูกยกยองวาเปนหนึ่งในสามของแพทยที่
โดดเดนที่สุดของยุค วิชาแพทยไปถึงระดับบรรลุมรรคผล ลูกศิษยคนที่สองอวี้หมิงชิว
รองหัวหนาหนวยหญามรณะที่เปนหนึ่งในสิบสามหนวย ไดทำลายสถิติของรองหัว
หนาที่มีอายุนอยที่สุด และไดสรางวิชาลับขั้นสูง [รอยนภาสีเขียว] ใชวิชาธนูบุกเดี่ยว
ทั่วหลา
นักเรียนของตนมีอนาคตที่สวางไสวเชนนี้อาจารยสวี่เองก็ดีใจ
ผานไปเนิ่นนานในที่สุดเขาก็สามารถสลายความตกตะลึงในใจไปได สายตาของ
เขายายไปที่ซองเอกสารซองที่สอง เมื่อเขาเปดออกดู ก็รูสึกตกตะลึงอยูเชนกัน
หวังโสวชวนรับอายฮุยเปนศิษย
อาจารยที่ชื่อหวังโสวชวนนี้เขาก็รูจักอยู เปนอาจารยทานหนึ่งที่สอนวิชาการ
ฝกฝนขั้นพื้นฐานมาหลายสิบป ในโรงเรียนซงเจียนก็ถือวาเปนคนเกาคนแก เทียบ
ประสบการณกันแลว อาจารยสวี่ถือวาอยูมานานกวา ความทรงจำที่อาจารยสวี่มีตอ
อาจารยหวังนั้นนอยจนนาสงสาร เขารูเพียงแควาอาจารยหวังไมคอยเขาสังคม ถอม
ตัวอยางมาก และก็ไมมีจุดไหนที่จะดึงดูดความสนใจเลย อาจารยที่เปนเชนนี้ ในทุกๆ
โรงเรียนลวนมีใหเห็นอยูทั่วไป
อาจารยหวังที่แตไหนแตไรไมเคยมีใครถามถึง
บัดนี้ไดรับลูกศิษยก็เปนเรื่องที่นาอัศจรรยใจพออยูแลว แตการที่เขารับอายฮุย
เปนลูกศิษย ยิ่งทำใหอาจารยสวี่ตะลึงยิ่งกวา
อาจารยสวี่คอนขางจะชื่นชมอายฮุยดวยความที่เขาเปนคนที่มีไหวพริบ ขยันมั่น
เพียร และมีมารยาท ชวงกอนหนานี้ก็เพิ่งเปดคลังชีวิตได
แตอาจารยสวี่ก็รูเชนกันวาอายฮุยรากฐานรางกายย่ำแย พื้นฐานออนแอ เปน
นักเรียนที่มีพื้นฐานต่ำคนเดียวในหอง แตกลับไดเขาตาอาจารยหวัง
อาจารยหวังเองก็เปนคนประหลาด!
อาจารยสวี่เพิ่งจะสังเกตเห็นถึ งสิ่งนี้ สองคนนี ้ อ ยู กลุ มเดี ยวกั น คนหนึ ่ งเปน
นัก เรีย นที่มีพ รสวรรคดีที่สุดและมี ความแข็ งแกรงมากที ่ สุ ดในห อ ง คนหนึ ่ งเป น
นักเรียนที่มีพรสวรรคแยที่สุดและมีพื้นฐานออนแอที่สุดในหอง ทั้งสองตางมีอาจารย
เปนของตัวเองในเวลาเดียวกัน อาจารยคนหนึ่งเปนปรมาจารยแหงยุค อาจารยคน
หนึ่งเปนอาจารยที่ไมมีใครถามถึง
ชาง...นาสนใจเสียจริง!
อาจารยสวี่เปนอาจารยมาหลายปขนาดนี้ ยังเปนครั้งแรกที่ไดพบกับเรื่องที่นา
ประหลาดและนาสนใจเชนนี้
บทที่ 57 การเย็บปก
อายฮุยเคี้ยวหญาสีเขียวเอาไวในปาก ตอนนี้เขานั่งอยูที่เรือนหลังเล็กที่ใชเก็บของ
จิปาถะของผูเฒา เมื่อเหลือบไปเห็นเกราะทองแดง เขาก็ยายกนออกมาเงียบๆ เพื่อให
หางจากเจาของชิ้นนั้นอีกสักเล็กนอย
ประสบการณของครั้งที่แลวนั้นเจ็บปวดแสนสาหัส แมแตอายฮุยที่เปนผูที่มีจิตใจ
ที่แขงแกรงดั่งเหล็กกลา ก็ยังบอบช้ำถึงเพียงนั้น
ผูเฒาไมไดสังเกตเห็นการเคลื่อ นไหวเล็กๆ ของอายฮุย เพราะมัวแตอธิ บ าย
ผลสรุปการวิเคราะหของตนอยู
“...รากฐานของเจาแย ระดับความเขากันไดของรางกายกับพลังธาตุก็คอนขางต่ำ
ที่จริงแลวก็ไมใชเรื่องเลวรายอะไร นอกจากมันจะทำใหเจาสามารถรับพลังธาตุที่
คอนขางบริสุทธิ์ไดแลว ยังมีระดับความออนไหวคอนขางต่ำ ทำใหเจาสามารถดูดซึม
พลังธาตุทองไดอยางกวางขวาง เหมือนอยางเชนพวกมาล้ำคาพวกนั้น มีพรสวรรคดี
แตวาเลือกอาหารกิน ไดกินของกินดีกวาคนเสียอีก สวนเจาก็เหมือนมาแกถูกใชงาน
มาเยอะแลว ถึงแมวาจะวิ่งไดไมเร็ว แตวามีความอดทนสูง อีกทั้งยังเลี้ยงงาย จะเปน
หญาอะไรกินเขาไปก็มีชีวิตรอดแลวไมเลือกกิน เอ เจากินหญาจริงๆ นี่หวา!”
อายฮุยกำลังเคี้ยวหญาอยูก็ชะงักไป
ผูเฒาเห็นอายฮุยหยุดไป จึงรีบรอนกลาวขึ้น “เจากินไป เจากินไป”
เมื่อพูดจบก็ยังไมลืมที่จะกลาวเสริมอีกประโยค “ดูทาวาขาจะเปรียบเทียบไดเปน
รูปธรรมเสียจริง”
อายฮุยรูสึกกระอักกระอวนใจ ไมรูวาจะเคี้ยวตอหรือจะคายทิ้งดี
“ขา ไดไปทำการตรวจสอบพลั งธาตุ ท องที ่ อ ยู ในเจดี ย เสวี ย นจิ น มาแล ว มั น
เหมาะสมกับเจาอยางมาก ภายหลังเจาก็ฝกพลังธาตุที่เจดียเสวียนจินตอเสีย เทียบกับ
รากฐานที่ย่ำแยของเจาแลว รางกายของเจาจัดวายอดเยี่ยมทีเดียว โดยเฉพาะผลลัพธ
ในการหลอหลอมรางของเจาชัดเจนเปนอยางมาก ในระดับต่ำแบบนี้ ผลของการหลอ
หลอมรางจะดีที่สุด พลังธาตุทองของเจดียเสวียนจินอยูในระดับที่สูงมาก แตเดิมไมใช
สิ่งที่ระดับของเจาในตอนนี้จะสามารถมีเอี่ยวได แตวาคุณสมบัติของรางกายเจานั้น
โดดเดนที่สุดเทาที่อาจารยเคยพบเห็นมา อีกทั้งเจายังเชี่ยวชาญในการใชประโยชน
จากมัน ดังนั้นประสิทธิภาพของการหลอหลอมรางของเจาจึงสูงมาก แนนอนวาก็มี
ความเกี่ยวของกับพลังธาตุทองของเจดียเสวียนจินที่มีระดับสูงอยางมาก ผิวหนังเจามี
ระดับความเปลี่ยนแปลงเปนโลหะมากที่สุด และ [หนังทองแดง] ของเจาไดสำเร็จไป
แลวกวาแปดสวน หากดูจากระดับความเร็วนี้ เจาจะสำเร็จ [หนังทองแดง] ไดภายใน
เวลาประมาณสองเดือน”
ใบหนาของผูเฒาเผยใหเห็นถึงความตกตะลึง “เปนครั้งแรกที่ตัวอาจารยไดเห็น
คนที่มีสภาพตำหนักแรกยังไมไดเปด แตก็สามารถฝก [หนังทองแดง] ไดสำเร็จ ชางนา
อัศจรรยเสียจริง!”
เมื่อรูวาตนสามารถทำใหอาจารยตกตะลึงไดเชนนี้ ในใจของอายฮุยเองก็มีความ
ภาคภูมิใจอยูเล็กๆ
“แนนอนวาจุดสำคัญยังอยูที่เจ็ดตำหนักที่แข็งแกรงของเจา หากไมนับตำหนัก
นภา ตำหนักอื่นของเจาทั้งเจ็ดลวนเปนตำหนักที่แข็งแกรง สิ่งนี้เปนพรสวรรคที่โดด
เดนอยางมาก โดยเฉพาะอยางยิ่งในตอนหลังที่จะทำการเลือกกระบวนทา เจาจะมี
ความไดเปรียบอยางมาก ขาจำไดวาสนามเหนี่ยวนำมีวิชาอยูชุดหนึ่งเรียกวา [เปย
โตว] ที่ตองมีตำหนักที่แข็งแกรงเจ็ดตำหนัก ถึงแมวา [เปยโตว] จะไมใชวิชาลับขั้นสูง
แตวามีความแข็งแกรงและยอดเยี่ยมอยางมาก”
ไดยินดังนั้นนัยนตาทั้งสองของอายฮุยก็สองประกาย เขาไมลังเลแมแตนอย “ขา
สามารถเรียนไดไหม”
“แนนอน ขอเพียงแคเจาเขาไปในหาพันอันดับแรกของสนามเหนี่ยวนำได ก็จะ
ทำเรื่องขอไดแลว” ผูเฒาพูดตออยางภาคภูมิใจอยู “ใชแลว เจาเปนลูกศิษยของขา
ขอเพียงมีเงื่อนไขเหมาะสม ทางโรงเรียนจะตองสงคำรองใหแน ขาไดสงเอกสารที่
เกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธศิษยอาจารยของเราใหกับทางโรงเรียนแลว”
หาพันรายชื่อแรก ฟงไปแลวก็ไมไดเปนขอเรียกรองที่สูงมากนัก
ผูเฒาสังเกตเห็นทาทางของอายฮุย ก็สามารถเดาไดถึงความคิดของเขา จึงได
กลาวขึ้น “อยาไดดูถูกหาพันรายชื่อแรกนี้ ทั้งหมดนี้เปนอันดับที่ซอนเอาไว โดยทั่วไป
ในปกอนๆ นักเรียนที่ฝมือดีที่สุดของสนามเหนี่ยวนำ ก็เขาไปอยูในหารอยรายชื่อแรก
แลว ถาเปนหาพันอันดับแรกของสนามเหนี่ยวนำ นั่นหมายความวาเจาตองอยูในสิบ
อันดับแรกของโรงเรียนซงเจียน”
อายฮุยนิ่งอึ้งไป “ตองอยูสิบอันดับแรกของโรงเรียนซงเจียน ถึงจะสามารถเขาไป
ยังหาพันอันดับแรกไดอยางนั้นหรือ”
“ถูกแลว!” ผูเฒายิ้มอยางมีความสุขเกินหนาเกินหนาอยางไรพิกล
อายฮุยรูในทันทีวาความคิดของตนเมื่อครูชางไรเดียงสามากมายเพียงใด สิบ
อันดับแรกของโรงเรียนซงเจียน สำหรับเขาแลวถือวาหางไกลอยางมาก
แตวาไมนานเขาก็ถามออกไปราวกับไมมีอะไรเกิดขึ้น “วิธีการฝกที่อาจารยพูด
เอาไวในครั้งกอนคืออะไร” ผูเฒาคอนขางจะคาดไมถึงอยูวาอายฮุยจะสามารถปรับ
อารมณไดเร็วถึงเพียงนี้ เขาไมรูวาตั้งแตเด็กจนโต อายฮุยไดพอเจออุปสรรคขวาก
หนามมามากมายเพียงไร สำหรับเขาแลวอุปสรรคเชนนี้ถือวาเปนเรื่องเล็กนอย
ผูเฒาพูดโพลงออกมาสองคำ “เย็บปก!”
“เย็บปกหรือ” อายฮุยนิ่งสนิทไปเลย ทาทางก็นิ่งแข็งเปนหิน ผานไปสักพัก เขา
ถึงไดฟนสติกลับมา “การเย็บปก...การเย็บปกถักรอยนะหรือ”
“ถูกแลว!” ผูเฒาตอบกลับอยางหนักแนนมากจนอายฮุยรูวาตนไดยินไมผิดเปนแน
อายฮุยจองไปที่ผูเฒา ทาทางดูไมเปนมิตร ถึงแมจะเปนถึงอาจารย แตถาจะ
เชื่อถือไมไดแบบนี้ เชนนั้นคงตองมา “คุยกัน” สักหนอยแลว
ผูเฒายืนยัน ไมไดมีความไมสบายใจแมแตนอย “รจักการเย็บปกหรือไม”
น้ำเสียงของอายฮุยแฝงดวยความไมเปนมิตร “รู งานเย็บปกของผูหญิง”
“มองแคดานเดียว! ตื้นเขิน!” ผูเฒาสายหัว ใบหนามีความดูถูก “การเย็บปกตอง
อาศัยพลังธาตุเปนเข็ม เพื่อรอยดายปกลาย คิดวาอยางนั้นหรือ ดายมีทั้งหยาบทั้ง
ละเอียด แผนหนัง ฝาย และไหม มีทั้งแข็งทั้งออน ลวดลายที่ซับซอน คิดวางายมาก
หรือ ชางปกฝมือดี สามารถควบคุมเข็มพลังธาตุสิบเลมไดในเวลาเดียวกัน และเย็บปก
จากตำแหนงที่แตกตางกันพรอมกันได และเจารูหรือไมวาชางปกที่อยูในระดับสูงสุด
สามารถควบคุมเข็มพลังธาตุไดกี่เลมในเวลาเดียวกัน”
“กี่เลม” อายฮุยพูดออกมา ถูกดึงดูดไปโดยคำพูดของผูเฒา
“ตามบันทึกจำนวนสูงสุดในตอนนี้คือเการอยสี่สิบเกาเลม” ผูเฒาตอบ ใบหนา
เปยมดวยความนับถือ
อายฮุยอึ้งไปพลัน ควบคุมเข็มพลังธาตุไดถึงเการอยสี่สิบเกาเลมในเวลาเดียวกัน
เปนไปไดอยางไร เขานั้นไมอาจที่จะจินตนาการไดเลย!
“ปรมาจารยเย็บปกแหงยุค หันอวี้ฉิน ตอนที่นางเย็บปก เข็มพลังธาตุทั้งเการอย
สี่สิบเกาเลมก็เปนดั่งมีเมฆดำปกคลุมและฝูงมัจฉาแหวกวายไปพรอมกัน ดายหลากสี
ถักทออยูกลางอากาศราวกับเปนสายรุง ดังนั้นการเย็บปกของนางจึงถูกเรียกวา ‘การ
ปกลายสายรุง’ ตอใหเปนลายปกที่ซับซอนที่สุด แตไหนแตไรมานางก็ไมเคยใชเวลา
เกินหนึ่งชั่วโมง” ใบหนาของผูเฒาเต็มไปดวยความจริงจัง
“ยังมีดายอีก เจาคิดวาดายทั้งหมดลวนเบาหวิวใชไหม ดายทมิฬละเอียดราวเสน
ผม แตก ลับ มีน้ำหนักมาก การจะรอ ยมัน ดวยเข็ มพลั งธาตุ เบาหวิ วตอ งเป นเรื่อง
ยากเย็นถึงเพียงใด ดายเงินออนมีสภาพนุมออนราวกับเปนสายน้ำก็ไมปาน เพียงแค
ใชแรงมากเกินไปก็จะถูกดึงจนขาด ยังมีพวกแผนหนัง ตองใชฤทธิ์ยาหอหุมเข็มพลัง
ธาตุถึงจะสามารถปกใหทะลุได”
การบรรยายของผูเฒาตรึงใจอายฮุยเปนอยางมากจนพูดอะไรไมออก เขาไมคิด
เลยวาการเย็บปกนั้นจะมีวิชาความรูและความพิถีพิถันมากมายถึงเพียงนี้
“เจาเริ่มเรียนการเย็บปกกอน จากนั้นคอยเรียนการแกะสลัก” ผูเฒาคอยๆ กลาว
จูงใจอยางเปนขั้นเปนตอน “ขอเพียงแคเจาสามารถฝกสองสิ่งนี้จนชิน การควบคุม
พลังธาตุข องเจาในระดับรายละเอียดเล็ กๆ ก็ จ ะไมมี ป ญหาอย างแนน อน ยิ ่ งเจา
สามารถควบคุมพลังธาตุไดละเอียดแลว ก็จะยิ่งมีสวนชวยเจาในภายหลังเปนอยาง
มาก”
อายฮุยโนมนาวไปตามผูเฒาแลว เขาตองยอมรับวาสิ่งที่ผูเฒาพูดมานั้นมีเหตุผล
อยางมาก
“เย็บปกก็เย็บปก! ขาจะเรียน!” อายฮุยกันฟนพูดออกมา
สำหรับเขาแลว ถึงแมการใหผูชายอกสามศอกไปเรียนการเย็บปกคอนขางจะขายหนา
อยูบาง แตขอเพียงสามารถทำใหแข็งแกรงขึ้นได สิ่งนี้ก็ไมถือวาเปนปญหาสักนิด หาก
จะบอกวาการเปนแรงงานสูงสงกวาการเปนชางเย็บปก นั่นเปนเรื่องเหลวไหลสิ้นดี!
สายตาของผูเฒาเผยใหเห็นความภาคภูมิใจออกมา แลวใบหนาก็มีสภาพเครง
ขรึมจริงจัง “เปนการตัดสินใจที่ชาญฉลาด! ลูกศิษย ภายหลังเจาจะตองรูสึกภูมิใจกับ
การตัดสินใจในครั้งนี้! วางใจได ตัวอาจารยไมมีทางพูดจาเรื่อยเปอยเปนแน อีกทั้งยัง
ไตรตรองมาอยางดีแลวถึงไดเสนอคำแนะนำนี้ออกมา”
“ขาตองไปเรียนที่ไหน” หลังจากที่อายฮุยตัดสินใจแลว ก็ไมมีอะไรที่จะตองมา
เอียงอายอีก
“วางใจได ขามีโรงเย็บปกที่คุนเคยอยู” ผูเฒากลาวขึ้น “ตามขามา!”
บทที่ 58 ปกเข็มรอยดาย
อายฮุยมีทาทางเครงขรึม แววตาแผไอจิตสังหารอันหนาวเหน็บนาเกรงขามราว
กับฤดูใบไมรวง บรรยากาศรอบดานราวกับจะแข็งคางนิ่งไป บริเวณหนาผากมีเหงื่อ
เม็ดเล็กๆ เกาะอยู ซึ่งเขาไมไดรูตัวเลย
ที่ปลายนิ้วชี้และนิ้วหัวแมมือขวา มีประกายแสงสีเงินเสนหนึ่งในรูปเข็มที่ไมหยุดนิ่ง
มือซายหยิบดายเสนเล็กละเอียดอยูเสนหนึ่ง เขาพยายามรอยดายเขาไปที่รูเข็มพลัง
ธาตุอยางระมัดระวัง
รูเข็มพลังธาตุนั้นไมนิ่ง สักพักมีขนาดใหญสักพักมีขนาดเล็ก ซึ่งลำบากตอการ
ควบคุมอยางมาก อายฮุยลองมาครึ่งวันแลวจนถึงตอนนี้ก็ยังทำไมสำเร็จ
ดานหลังมีเสียงหัวเราะอยางสนุกสนานของหญิงสาวกลุมหนึ่ง การมีผูชายมาที่
โรงเย็บปก ยอมทำใหบรรดาสาวนอยทั้งหลายเกิดความสงสัยใครรูกันเปนปกติ จึงได
รวมตัวกันมามุงดู โรงเย็บปกไมไดอนุญาตใหผูชายเขามา ดังนั้นตอนที่เหลาสาวนอย
เห็นอายฮุย นัยนตาทั้งสองขางของแตละคนก็เปลงประกายดวยความประหลาดใจ
ในตอนที่อายฮุยเริ่มเรียนการเย็บปก ทุกคนก็ตื่นเตนขึ้นมาในทันที ผูชายเรียน
เย็บปกเปนสิ่งที่ไมเคยเห็นมากอน
“ชางทึ่มเสียจริง รอยมานานเพียงนี้ ยังรอยดายไมเขาเลย”
“ใชแลว ใชแลว เจาดูเขาสิเหงื่ออาบเต็มหนาเลย สายตาดูดุรายชะมัด!”
“เพราะวาเขากับปลายดายมีความแคนตอกันอยางไรเลา!”
เสียงหัวเราะของพวกสาวเจาดังขึ้นไมหยุด รูสึกวานาสนใจเหลือเกิน โดยเฉพาะ
การที่ไดเห็นอายฮุยทำตัวงุมงาม ยิ่งทำใหเหมือนกับไดเห็นสัตวหายากก็ไมปาน
ยังดีที่ความสนใจทั้งหมดของอายฮุยอยูที่เข็มพลังธาตุกบั ปลายดาย ปลอยใหเสียง
เซ็งแซจากภายนอกผานหูไป ไมเชนนั้นหากไดยินเสียงพูดจากระเซาเยาแหยพวกนี้
เกรงวาจะตองกระอักเลือดเปนแน
โตะทำงานของแตละคนในโรงเย็บปกลวนถูกกั้นไวดวยมานที่ทำจากผาโปรง มาน
ผาโปรงที่กึ่งโปรงแสงนี้สามารถมองเห็นภายนอกไดอยางชัดเจน
ที่ดานหลังมาน หวังโสวชวนกำลังดื่มชาอยูกับยายเฒา จะชำเลืองมองไปทางอายฮุย
เปนครั้งคราว
“จนปานนี้แลวดายสักเสนก็ยังรอยไมได เจาคิดวาเขาเหมาะแกการเย็บปกจริงๆ
หรือ” ยายเฒาถอนสายตาออกมาแลวถามเสียงเรียบ
ตาเฒาหวังกำลังดื่มชาอยู มีทาทางสบายๆ “ก็ไมไดหวังวาเขาจะพึ่งสิ่งนี้ทำมาหา
กิน แคใชฝกฝนพลังธาตุเทานั้น เจาไมเห็นหรือวาความสงบของเจาเด็กนี่คอนขางจะ
รายกาจ”
“ก็จริงอยูบาง” น้ำเสียงของยายเฒามีความชื่นชมอยู “อายุนอยเทานี้ รอยดาย
มาคอนวันแลวยังไมสำเร็จ แตกลับไมถอดใจแมแตนอย แถมยังใจจดใจจอไดเพียงนี้
ชางไมงายเลย นิสัยนั้นไมเลวจริงๆ มินาเลาเจาถึงไดรับเขาไวเปนศิษย”
ตาเฒาหวังดูทาพออกพอใจ รับศิษยดีๆ มาแลว หากไมอวดเสียหนอยเขาก็จะ
รูสึกกระสับกระสายไมสบายใจ “ใชแลว! เขาอาจจะมีรากฐานแย แตวามีเจ็ดตำหนัก
ที่แข็งแกรงเชียวละ อีกทั้งสิ่งที่เจาเด็กนี่เรียนก็ถือวาเอาจริงเอาจังมาก พลังธาตุเออ
ลนแลวถึงไดทะลวงคลังชีวิต ไมมีผูใดแนะนำเขา เปนการเรียนดวยตัวเอง รายกาจใช
หรือไม แมแตพันปรัชญาของขาก็ทนผานมาได ขาเองก็นับถือ”
ใบหนาของยายเฒาปรากฏความตกตะลึงออกมา อายฮุยนั้นไมวาจะมองจากมุม
ไหนก็ลวนแตดูธรรมดา ไมคิดเลยวากลับมีจุดที่โดดเดนมากมายเชนนี้
“ดูทาแลวเจาจะพอใจอยูสินะ!” ยายเฒาแปลกใจหนอยๆ นางรูวาตาเฒาหวัง
นิสัยเสียอยางไร ความหัวแข็งของเขาบางครั้งเรียกไดวาคาดไมถึงเลย
“ไมใชแคพอใจ แตพอใจเหลือลนเลยละ” ตาเฒาหวังกลาวแกขึ้น “ในชีวิตของ
ขาเจอกับเรื่องดีอยูสองเรื่อง เรื่องแรกก็คือการไดพบกับเจา อีกเรื่องก็คือมีลูกศิษยได
กอนตาย”
ยายเฒาไดยินประโยคแรกแลวก็เบิกบานใจ พอไดยินประโยคหลังคิ้วก็ขมวดมุน
ในทันที จึงกลาวดวยความโกรธ “อยูดีๆ จะพูดเรื่องตงเรื่องตายอะไร จะตายเจาก็ไป
ตายเองไป”
“ฮาฮา” ผูเฒารูสึกอายนิดหนอย แตก็เปลี่ยนหัวขอสนทนา “ขาไดพูดกับเขาไวแลววา
เจาเกงกาจเพียงไหน เจานาจะไดมาเห็นวาตอนที่ขาบอกวาเจาสามารถควบคุมเข็ม
พลังธาตุไดพรอมกันเการอยสี่สิบเกาเลม ตาของเจาหนูนั่นเบิกโตเปนไขหานไปเลย”
“ตอนนี้ไดหนึ่งพันหกสิบสี่เลมแลว!” ยายเฒากลาวขึ้นอยางภูมิใจ กอนจะพึมพำ
กับตัวเอง “ดูทาวาจะตองใหเขาไดดูของจริงเสียหนอยแลว”
“เอาเลย ทรมานไดตามสบาย ไมตองกลัววาจะเปนอะไรไป งานอะไรยากก็ใหเขา
ทำ งานอะไรเหนื่อยก็ใหเขาทำ เจาเด็กนี่กินหญาเขาไป แตที่ถายออกมาคือสมบัติ!”
ตาเฒากลาวอยางอารมณดี
ยายเฒาถูกหยอกจนดีใจ “การเปนศิษยของเจาชางนาสงสาร”
อายฮุยไมรูเลยวาตนไดถูกผูเฒาขายไปแลว ดายของเขาในที่สุดก็รอยเขาไปใน
เข็มพลังธาตุไดสำเร็จ ตอนนี้เขาเพิ่งจะพบวาหนาผากของตนเต็มไปดวยเม็ดเหงื่อ
ในตอนนี้เขาไดเชื่อคำพูดของผูเฒาไปเรียบรอยแลว การเย็บปกเปนการทดสอบการ
ควบคุมพลังธาตุจริงๆ เมื่อกอนเขายังคิดวาตนควบคุมพลังธาตุไดไมเลว วันนี้ความคิด
นั้นถูกทำลายไปเสียสิ้น
เมื่อไดมาอยูในมือจริงๆ ถึงไดรูถึงความยากของสิ่งนี้
การทำใหเข็มพลังธาตุคงที่เปนเรื่องที่ยากอยางมาก แตที่ยากยิ่งกวาคือการรวม
พลังธาตุที่สวนปลายเข็ม เพื่อเปดเปนรูเข็มขึ้น อายฮุยชะงักอยูที่ขั้นตอนนี้นานมาก
ในที่สุดภายใตการชี้แนะถึงไดสรางรูเข็มไดสำเร็จแตไมนานอายฮุยก็พบวา การสรางรู
เข็มที่วายากแลว การทำใหรูเข็มคงที่ยากยิ่งกวา และในการรอยดาย สิ่งที่สำคัญที่สุดก็
คือการทำใหรูเข็มคงที่
มือซายถือดาย มือขวาถือเข็ม เขาตองแบงสมาธิออกเปนสองสวน
รูเข็มเดี๋ยวใหญเดี๋ยวเล็ก ทำใหอายฮุยไมสามารถรอยไดเสียที ดีที่จับจุดอยูตลอดบาย
ในที่สุดเขาก็สามารถรับรูหลักเกณฑได และรอยดายเขาเข็มพลังธาตุไดสำเร็จ
เขาอดถอนหายใจไมได การเย็บปกตองอาศัยการควบคุมพลังธาตุสูงมากเสียจริง!
อายฮุยนึกถึงปรมาจารยการเย็บปกผูนั้นที่อาจารยเลาถึง การที่สามารถควบคุม
เข็มพลังธาตุจำนวนเการอยกวาเลมไดในเวลาเดียวกัน นั่นชางเปนเรื่องที่นาหวาดกลัว
มากยิ่งนัก
แตวาไมนานอายฮุยก็ตื่นเตนขึ้นมา เมื่อกอนเขายังเชื่อคำพูดของอาจารยเพียง
ครึ่งหนึ่ง แตในตอนนี้เขามั่นใจแลววาการเย็บปกเปนวิธีสุดยอดในการฝกฝน
เขาสนใจเพียงการพัฒนาความแข็งแกรงของตน จะนาอายหรือไม เรื่องนั้นเขา
ไมไดสนใจแมแตนอย
“รูสึกอยางไรบาง”
เสียงของอาจารยดังขึ้นจากดานหลัง
อายฮุยรีบรอนลุกขึ้นยืน ตอนนี้เพิ่งจะสังเกตเห็น ไมรูวาอาจารยมาอยูดานหลัง
ตนตั้งแตเมื่อไร ดานขางของอาจารย ก็คือเจาของโรงเย็บปก เปนทานยายคนหนึ่งดู
ทาทางเขมงวด
“รูสึกดีมาก” เขาคิดดูแลวจึงกลาวตอ “เปนวิธีการฝกที่มีผลอยางมาก ตองใช
สมาธิในการควบคุมพลังธาตุที่สูงมาก”
การมาโรงเย็บปกในครั้งนี้เหมือนเปนการไดเปดหูเปดตา เมื่อกอนเขาคิดวาโรง
เย็บปกเพียงแคเปนที่ปกผา พอมาถึงที่นี่แลวถึงไดรูวาไมเหมือนกับที่ติดคิดเอาไวเลย
เปนเหมือนโรงงานมากกวา
ที่นี่มีกองผา เสนดาย และเครื่องหนังชุดเกราะที่ยังทำไมเสร็จ มีแมกระทั่งกระบี่
และมีด ในอากาศอบอวนไปดวยกลิ่นยา เมื่อไดถามอาจารยถึงไดรูวาเชือกที่พันดาม
กระบี่แ ละพูระยา ลวนตองใชการเย็ บ ป กถัก ร อย ของพวกนี ้ ไม เพี ยงแต จะตองดู
สวยงาม ทวาลวนเปนสิ่งที่ตองใชในการตอสู อยางเชนเชือกที่พันดามกระบี่ วัสดุที่ใช
ทำไมใชของธรรมดา จำเปนตองใชฝเข็มแบบพิเศษ ถักทอจนกลายเปนเชือกที่มีความ
หยาบแบบเฉพาะ กระบี่พลังธาตุในระดับสูงมักจะกอรูปรางอยางเปนธรรมชาติและไม
ยอมรับวัสดุประเภทอื่น วิธีการธรรมดาไมสามารถทำเชือกที่พันรอบดามกระบี่ได
จะตองใชวิธีพิเศษเทานั้น
อายฮุยยังไดพบกับกระบี่หญาแบบออนซึ่งเขาไมเคยเห็นมากอน ลวดลายที่อยูบน
ตัวกระบี่ก็ไดมาจากการเย็บปกลงไป เขาถามอาจารยแลวถึงไดรูวามันคือกระบี่หญาที่
มีลักษณะออน ลวดลายที่อยูบนตัวกระบี่พวกนั้นสามารถทำใหพลังธาตุไหลผานเขา
มาในตัวกระบี่และเพิ่มพลังไดดียิ่งขึ้น กระบี่พวกนี้จะถูกสงไปใหพวกทหารเพื่อนำไปสู
กระบวนการตอไป ผานการแชน้ำยา และผานการหลอหลอมเฉพาะตัว แลวจึงไดมา
เปนกระบี่หญาระดับสูง
โดยพื้นฐานแลว ทุกอยางที่มีความเกี่ยวของกับดายหรือเชือกลวนสามารถเห็นได
ที่โรงเย็บปกแหงนี้
แนนอนวาโรงเย็บปกจะรับเพียงของระดับสูงเทานั้น
วิธีการเย็บปกพวกนั้นโดดเดนสะดุดตาอยางที่สุด มองแลวอายฮุยถึงกับอุทาน
ดวยความประหลาดใจ
บทที่ 59 ขอเรียกรอง
มีสาวนอยคนหนึ่งที่อายุพอๆ กับอายฮุย เข็มพลังธาตุของนางละมายคลายกับฝูง
ปลาสีเงินแหวกวายกระโดดไปมา ผาปกก็เปนเสมือนดั่งผิวน้ำในสระอันนิ่งสงบ เข็ม
พลังธาตุรายรำอยูบนผืนผาอยางวองไวเปนที่สุดราวกับมีชีวิตจิตใจ
ยังมีอีกคนหนึ่ง คนนี้เข็มพลังธาตุของนางเปนประหนึ่งลูกศรที่แหวกอากาศ เกิด
เสียงหวีดหวิว ผืนผาที่อยูตรงหนานางราวกับวาถูกถักทอมาจากดายเงิน ทั้งผืนเปลง
ประกายราวหิมะ ทุกครั้งที่เข็มพลังธาตุปกลงก็เกิดเสียงปกๆ ดังออกมา
ยังมีสตรีวัยกลางคนอีกคนหนึ่ง ชั้นวางผาอยูดานขางเตาไฟที่มีรูปรางประหลาด
เข็มพลังธาตุทุกเลมลอยออกมากจากเปลวไฟในเตา กอนจะสงประกายไฟออกมาปก
ลงไปบนผืนผา ทิ้งจุดสีทองเอาไว แลดูงดงามเปนอยางยิ่ง
ทุกสิ่งที่ไดเห็นในวันนี้ไดลบลางความเขาใจเดิมที่เขามีตอการเย็บปกอยางสิ้นเชิง
ผูเฒานั้นพอใจกับคำตอบของอายฮุยเปนอยางมาก แตยายเฒาที่อยูดานขางกลับ
ไมพอใจ ผูเฒาสามารถพูดเชนนี้ได แตอายฮุยพูดเชนนี้นางกลับไมรูสึกเบิกบานใจแลว
จึงไดกลาวขึ้นเสียงเย็น “พูดจาเหลวไหล! วิธีการฝกฝนหรือ การเย็บปกในสายตาของ
เจาเปนเพียงวิธีการฝกฝนอยางหนึ่งเชนนั้นหรือ”
ผู เ ฒ า ได ย ิ น ก็ ร ู ว า แย แ ล ว คนรั ก ของตนได โ กรธขึ ้ น มาจริ ง ๆ แล ว สำหรั บ
ปรมาจารยที่อุทิศทั้งชีวิตใหกับการเย็บปกแลวนั้น การพูดวาการเย็บปกเปนเพียงแค
วิธีหนึ่งในการฝกฝนตอหนาตอตาเชนนี้ จะไมใหขุนเคืองไดอยางไร
แยแลวแยแลว ถารูวาจะเปนแบบนี้ เขาคงเผยตัวตนของคนรักใหลูกศิษยรูตั้งแต
แรก ผูเฒาสงสายตาบอกใบอายฮุยอยางสุดชีวิต
อายฮุยมองเห็นทาทางของอาจารย แตวา...มันหมายความวาอยางไร
“หมิงซิ่ว” ยายเฒากลาวขึ้นเสียงเย็น
หญิงสาวออนหวานงดงามผูหนึ่งเดินออกมา “อาจารย!”
เหลาสาวนอยที่มุงดูอยูเงียบกริบไปดวยความประหวั่นพรั่นพรึง ยายเฒาโกรธขึ้น
มาแลว พวกที่ใจเสาะก็ลวนหลบถอยหลังกันไปหมด
ยายเฒากลาวกับอายฮุยดวยใบหนาที่เย็นชาแข็งคาง “โรงเย็บปกของขา ไมใชคิด
อยากจะเขามาก็เขามาได สิบวัน หากเจาสามารถทอผาโปรงไดผืนหนึ่ง ขาจะใหเจา
เขามาได”
หญิงสาวคนอื่นที่อยูโดยรอบตางทอดถอนใจอยางพรอมเพรียงกัน พวกนางมอง
ไปทางอายฮุยอยางเห็นใจ อายฮุยนัน้ แมแตการรอยดายยังฝนขนาดนั้น การเดินเข็ม
นั้นก็ยังไมไดเรียน การปนดายทอผาที่ยากเชนนี้ จะสามารถทำไดอยางไร
เมื่อเห็นการตอบสนองของรอบดานแลว อายฮุยก็รูทันทีวาการปนดายทอผาไมใช
งานที่จะทำใหสำเร็จไดงายๆ อยางแนนอน เขารูวาเมื่อครูตนตองพูดอะไรผิดไป ถึงได
ไปยั่วโมโหเจาของโรงเย็บปกขึ้นมา แตวาเขาก็ไมไดมีความลนลานจนเกินเหตุ ลนลาน
ไปก็ไมมีประโยชนอะไร
“อวี้ฉิน!” ผูเฒาเปลี่ยนสีหนา และกลาวอยางไมพอใจ “นี่ไมใชวาเจากำลังกลั่น
แกลงเขาเหรอ เขาเปนแคมือใหม จะทอผาผืนหนึ่งไดภายในสิบวันไดอยางไร” “ขามี
กฎของขา” ยายเฒายืนกราน ไมมีการยอมถอยแมแตนอย “ถาหากวาเจาไมพอใจ ก็
พาเขาออกไป”
อายฮุยมองใบหนาของอาจารยที่ตอนนี้แดงไปหมด จึงรีบรอนกลาวขึ้น “ขายินดี
ที่จะรับการทดสอบ”
อาจารยรูสึกโกรธ อายฮุยกลับใจเย็นเปนสายธาร การทดสอบเพียงเล็กนอยไม
นับวาเปนปญหาอะไร ตอนที่อยูในแดนราง อยากจะเรียนอะไรสักอยาง ไมรูวาตอง
ขอรองคนอื่นนานมากมายเพียงใด บางครั้งยังตองเอาของไปแลก
ไมมีใครมีหนาที่มาคอยชวยเหลือเรา ทุกสิ่งทุกอยางลวนตองขวนขวายหามาเอง
ทั้งน้ำ อาหาร เงิน และแสงอาทิตย
ยายเฒาตองมีขอเรียกรองเปนเรื่องปกติ เทียบกับผูใชพลังธาตุผูยิ่งใหญในแดน
รางแลว ขอเรียกรองนี้ถือวาเปนมิตรอยางมากแลว แถมไมตองจายเงินอีก
ยายเฒาคาดไมถึงอยูบางกับทาทางของอายฮุย แตก็ยังคงมีใบหนาเย็นชา
“หมิงซิ่ว สาธิตวิธีการทอผาคูใหเขาดูรอบหนึ่ง”
“เจาคะ”
หมิงซิ่วแยมยิ้มแลวโคงศีรษะใหอายฮุย “สวัสดีศิษยนอง!”
เมื่อครูหมิงซิ่วไดสำรวจอายฮุยมาโดยตลอด เห็นเขาตั้งแตเริ่มตนจนถึงตอนนี้ ไมเห็น
ถึงความลนลานแมแตนอย เขาสงบนิ่งมาโดยตลอด แนนอนวานางรูวาถอยคำใดของ
อายฮุยที่ไปยั่วโมโหอาจารยเขา แตวาในตอนนี้ นางเองก็ไมมีโอกาสที่จะกลาวเตือน
นางกำลังคิดวาตอนที่สาธิตใหดู จะสาธิตใหชาเสียหนอย
ที่จริงนางก็รูวาสำหรับมือใหมแลวนั้นเปนไปไมไดที่จะดูรอบเดียวแลวสามารถทอ
ผาได การทอผาโดยปกติตองรอใหฝกงานไดสองปกอนจึงจะไดเรียน
ทาทางของอายฮุยที่นิ่งสงบ ไมวาจะไดรับความโปรดปรานหรือถูกเหยียบย่ำก็ยัง
นิ่งเฉย ทำใหนางคอนขางจะชื่นชม แมกระทั่งคำพูดนั้น นางก็ไมไดรูสึกวาเปนการ
ลวงเกินเหมือนกับอาจารย ชายคนหนึ่งจะมาชอบการเย็บปกจริงๆ ไดอยางไร หาก
เปนเชนนั้นก็เรียกวาแปลกแลว!
ในใจของอาจารยที่จริงแลวก็รู แตวาไดยินคำพูดประโยคนั้นทำใหควบคุมเพลิง
โกรธเอาไวไมได
หมิงซิ่วเองก็คอนขางปวดหัว อาจารยกำลังเลือดขึ้นหนาจึงไมเกรงใจใครแมแต
นอย รอใหหายโกรธแลว เกรงแตวายายเฒาจะรูสึกเสียใจในภายหลังที่ทำใหทานลุง
หวังโกรธขึ้นมา ถึงตอนนั้นจะไดทอดถอนใจอยางกลัดกลุมไปอีกนาน
อายฮุยรีบรอนคำนับกลับ พลางกลาวอยางไมคุนนัก “สวัสดีศิษยพี่”
เขารูสึกเหมือนวาตนไดยอนกลับไปในยุคโบราณที่แมแ ตการเรียกขานกั นยั ง
ประหลาดถึงเพียงนี้ ในสนามเหนี่ยวนำก็ไมนิยมเรียกกันวาศิษยพี่ศิษยนองมาตั้งนาน
แลว ดูทาโรงเย็บปกจะเปนสถานที่ที่คอนขางเปนประเพณีนิยม อายฮุยคิดเชนนี้
โดยเฉพาะอยางยิ่ง ดูจากการเรียกขานแลวก็สามารถดูออกไดวาความสัมพันธระหวาง
อาจารยกับเจาของโรงเย็บปกนั้นไมธรรมดา
อายฮุยก็สัมผัสไดตั้งแตตอนที่ไดเขามาแลว อาจารยดูคุนเคยกับโรงเย็บปกอยางมาก
นาจะมาที่นี่บอยๆ
ความเขาใจเรื่องผูหญิงของอายฮุยนั้นขาดแคลนอยางมาก เขาไมรูวาจะบรรยาย
ลักษณะของศิษยพี่หมิงซิ่วอยางไร เพียงแครูสึกวาศิษยพี่หมิงซิ่วงดงามมาก ทำใหคน
รูสึกสบายใจอยางมาก ทาทางก็ดูเปนมิตร
“การทอผาคูเปนวิธีการทอผาพื้นฐานอยางหนึ่ง ใชสำหรับปนดายทอผา ใชผาโปรง
เปนหลัก ความพิเศษของมันคือใชเข็มคูพรอมกัน ถักทอสลับไปมา เดินดายหยินหยาง
ที่เรียกวาการเดินดายหยินหยาง ก็คือการเดินดายในแนวดิ่งและแนวขนานพรอ มๆ
กัน”
น้ำเสียงของหมิงซิ่วออนหวานและนาฟงอยางมาก นางเอยเอื้อนชาๆ พยายามใช
คำเขาใจงายมาอธิบาย
มือขางงามขยับกรีดกราย แกนดายที่อยูบนชั้นดายไมไกลนักก็ขยับอยางรวดเร็ว
ขณะแกนดายทั้งสองลอยมาหานาง ไมรูวาเข็มพลังธาตุสองเลมลอยอยูตรงหนานาง
ตั้งแตเมื่อใร เสนดายก็รอยเขาไปในเข็มพลังธาตุเปนที่เรียบรอยแลว
อายฮุยพิศดูตาเปนประกาย การวาดมือนี้ชางออนชอยเสียจริง เทียบกับตนที่ทุม
สุดกำลังถึงจะรอยดายสำเร็จ ฝมือนี้ไมรูวาสูงสงกวากี่เทากัน
พลังธาตุควบคุมไดอยางดี ฝมือช่ำชอง สายตาแมนยำ
การควบคุมที่ละเอียดถึงเพียงนี้ ถาหากนำมาใชในการตอสู ก็จะนากลัวอยูไมนอ ย
ในสมองของอายฮุยไดนึกถึงรูปแบบการโจมตีและสถานการณการตอสูที่เปนไปไดไว
มากมาย ซึ่งเปนผลมาจากทักษะเชนนี้
ถาหากใชในการลอบโจมตีในความมืดจะอันตรายยิ่งมากนัก
“การทอผาคูเปนวิธีการทอผาที่งายที่สุด ใชเพียงการควบคุมเข็มพลังธาตุสองเลม
ในเวลาเดียวกัน การทอชนิดนี้จุดสำคัญก็คือจังหวะการลงเข็ม จะตองตอเนื่อ งเปน
หนึ่งเดียว ศิษยนองเตรียมพรอมหรือยัง ขาจะเริ่มสาธิตใหดูแลว คอนขางจะยากอยู
ขอใหศิษยนองตั้งใจดวย”
“ศิษยพี่โปรดรอกอน”
อายฮุยชี้ไปที่กองกระบี่ที่รอการพันเชือกที่ดามกองอยูในหอง อยูๆ ก็เอยปากขึ้น
“ศิษยสามารถยืมกระบี่สักเลมหนึ่งไดหรือไม”
หมิงซิ่วมองไปที่ยายเฒาประเดี๋ยวหนึ่ง ยายเฒาไมรูวาอายฮุยคิดจะทำอะไร แต
วาในตอนนี้ความโกรธไดลดลงแลว จึงกลาวขึ้นเสียงเย็น “ใหเขาไป”
ชางหญิงคนหนึ่งจึงรีบหยิบกระบี่เลมหนึ่งสงใหอายฮุย อายฮุยโคงคำนับขอบคุณ
แลวรับกระบี่มา เขาไมไดดึงกระบี่เหล็กออกมา แตนำมาแขวนไวที่บริเวณเอวของตน
ทุกสายตาจับจองการกระทำที่นาประหลาดนี้ ไมรูวาเขากำลังทำอะไรกันแน แมแตใน
หัวผูเฒาเองก็มีแตหมอกควัน หรือวากระบี่เลมนั้นมีอะไรพิเศษเชนนั้นหรือ แตไม
นาจะมีนี่
มือซายของอายฮุยจับฝกไว และจับดามดวยมือขวา
ดามกระบี่ไมไดมีเชือกพันเอาไว เวลาจับจึงเย็นเยียบบาดมือ แตวาฝามือของอายฮุย
กลับถือมันอยางสมบูรณลงตัว วินาทีที่ไดจับดามกระบี่ โลกทั้งใบก็เปลี่ยนเปนเงียบ
สงบในทันที ความคิดฟุงซานทั้งหลายก็คลายหายไปประดุจสายน้ำก็ไมปาน
เขาเงยหนาขึ้น นัยนตาลึกล้ำเปลงประกายประดุจดวงดารา
“ศิษยพี่เริ่มไดเลย”
บทที่ 60 การเปลีย่ นแปลงของตัวออนกระบี่
หมิงซิ่วดูไมเขาใจวาอายฮุยคิดจะทำอะไร แตวานางดูออกวาอายฮุยเหมือนจะมี
ความมั่นใจมากทีเดียว
โดยเฉพาะ...
เมื่อครูในชวงวินาทีที่อายฮุยไดจับกระบี่ นางเหมือนจะสัมผัสไดวาทาทางของอาย
ฮุยเปลี่ยนไป แตไมสามรถอธิบายไดวาเปลี่ยนแปลงไปเชนไร และเมื่อมองดูอยาง
ละเอียดแลวนางจึงเชื่อวาตนอาจรูสึกไปเอง
อายฮุยที่อยูตรงหนาไมไดขยับแตอยางใด
“เชนนั้นขาเริ่มแลวนะ”
สิ้นเสียงของหมิงซิ่ว เข็มพลังธาตุที่แตเดิมหยุดนิ่งตรงหนานางก็เริ่มเคลื่อนไหว
ประกายแสงสองสายสะบัดพลิ้วผานอากาศ แสงเย็นเหมือนกับกำลังถักทอขณะที่แกน
ปนดายบนชั้นปกหมุนอยางรวดเร็ว
เข็มพลังธาตุของหมิงซิ่วเกิดประกายแสงราวกับสายน้ำไหลริน ผาโปรงผืนบางที่
ลอยอยูในอากาศคอยๆ ยาวขึ้นเรื่อยๆ เสียงของเสนดายที่เสียดสีกันดังขึ้นไมหยุด
“ศิษยพี่หมิงซิ่วรายกาจมาก!”
“เร็วมาก! การทอผาคูมีความเร็วเชนนี้ไดอยางไร สวรรคชวย แมแตครึ่งหนึ่งของ
ความเร็วของศิษยพี่หมิงซิ่วขาก็ยังทำไมได!”
“ดูสิ การทอคู ทั้งแนวดิ่งและแนวขวางลวนมีระลอกคลื่น รายกาจยิ่งนัก!”
“สมแลวที่เปนศิษยพี่ใหญ ในภายหนาศิษยพี่ใหญจะตองกลายเปนปรมาจารยหมิงซิ่ว
เปนแน!”
เหลาชางเย็บปกหญิงที่มุงดูกันอยูตางอุทานดวยความตื่นตะลึงกันไมหยุด พวก
นางร่ำเรียนการเย็บปกอยูทุกเมื่อเชื่อวัน ทำใหยิ่งเขาใจมากกวาคนทั่วไป ดวยเหตุน้ี
พวกนางจึงไดตะลึงพรึงเพริดไปตามๆ กัน เพราะตางก็รูวาการทำไดถึงขั้นนี้เปนเรื่องที่
ยากมากมายเพียงใด
ยาเฒามองดูการสาธิตของหมิงซิ่ว ก็อดเผยสีหนาปลื้มใจไมได ถึงแมชางเย็บปก
หญิงในโรงเย็บปกจะมีมากมาย แตวาคนที่มีความสามารถพอที่จะรับสืบทอดวิชาของ
นางก็มีเพียงแคหมิงซิ่วคนเดียว การทอผาคูเปนการทอขั้นพื้นฐานอยางหนึ่ง ไมไดถือ
วายากนัก แตหากจะฝกใหบรรลุถึงขั้นสุดยอด ก็เปนเรื่องที่ยากลำบากอยางมาก
เชนกัน
ไมเหมือนกับยายเฒาที่ปลื้มอกปลื้มใจ จิตใจของผูเฒาแสนจะวิตกกังวล
ทามกลางเสียงดายที่เสียดสีกันกับเสียงคนที่กำลังวิพากษวิจารณ อายฮุยที่มือ
ซายจับฟกดาบมือขวาจับดามกระบี่มีทาทางประหลาด เขาเหมือนกับรูปสลักที่ไมขยับ
เขยื้อน มีเพียงนัยนตาที่สองประกายเจิดจาหาใดเปรียบ จับจองไปที่ภาพอันงดงาม
เบื้องหนาหมิงซิ่ว
ในวินาทีที่อายฮุยจับดามกระบี่ เขาก็สัมผัสไดถึงเมล็ดพันธุแหงตัวออนกระบี่ที่ไม
เหมือนแตกอน
แรกเริ่มเดิมทีตัวออนกระบี่เดี๋ยวเดนชัดเดี๋ยวเลือนราง ถึงแมวาเขาจะรับรูไดถึง
การดำรงอยูของเมล็ดพันธุแหงตัวออนกระบี่ แตกลับยากที่จะบรรยายลักษณะได
อยางแมนยำ แตวาในครั้งนี้ เขาได “เห็น” เมล็ดพันธุแหงตัวออนกระบี่ นั่นเปนกระบี่
แสงสีครามเลมเล็ก
เล็กมากๆ จนไมรูวาจะเรียกวาเปนกระบี่แสงไดหรือไมก็ยังไมแนใจ
แตวา ณ วินาทีนั้น จิตใจของอายฮุยกลับติดตรึงอยูกับมัน แสงสีครามดูละมาย
คลายกับสีครามของสรอยครามสงบจิต อยูอยางเดียวดายและหยิ่งยโสตรงหวางคิ้ว
ของเขา ทามกลางกลุมอากาศที่มืดสลัว
กระบี่ยาวที่อยูในมือเปนเหมือนสวนหนึ่งของรางกายเขา เขาเคยมีความรูสึก
เชนนี้เมื่อครั้งกอน แตวาไมไดรุนแรงดั่งเชนตอนนี้ อายฮุยถึงขนาดรับรูไดถึงพละกำลัง
ที่กระบี่มีตอจิตใจเขา
จิตใจของเขายืดออกไปตามความยาวของกระบี่ ตามองไปทางหมิงซิ่ว
ประกายแสงของเข็มเปนเฉกเชนระลอกคลื่น อายฮุยมองเห็นวามันเคลื่อนชาลง
จนสามารถมองเห็นรองรอยของการเคลื่อนที่ของเข็มพลังธาตุไดอยางชัดเจน เขารับรู
ไดว า เข็ม พลังธาตุนั้นสอดประสานกั นอย างไร เส น ด ายถักทอกั นอย างไร รั บ รูได
แมกระทั่งบรรยากาศที่ถูกเข็มพลังธาตุนำพามา ทำใหเสนดายมั่นคง เข็มพลังธาตุนั้น
สั่นไหวเบาๆ อยูกลางอากาศ เกิดแรงดึงดูดตอกัน นั่นเปนกระแสอากาศหมุนวนที่เล็ก
ละเอียด ทำใหสามารถรักษาระยะหางที่เหมาะสมระหวางเข็มทั้งสองได
ชางนามหัศจรรยเสียจริง!
อายฮุยมองอยางนิ่งๆ เขารูวาไมใชเข็มพลังธาตุที่ชาลง หากแตเปนพลังในการ
สังเกตของเขาเปลี่ยนเปนเร็วขึ้น เขาชื่นชมภาพการเปลี่ยนแปลงที่งดงามเบื้องหนานี้
ชางนาอภิรมยยิ่งนัก!
แมจะดูเหมือนวาศิษยพี่หมิงซิ่วควบคุมเพียงเข็มพลังธาตุ แตในความเปนจริงแลว
กลามเนื้อทั่วรางของนางไมไดผอนคลาย หรือแข็งเกร็งเลย แตมันคือความพอดีที่อยู
กึ่งกลาง นางกางแขนทั้งสองขางออก เพื่อชวยทำใหศูนยกลางของรางกายมั่นคง
มันคือภาพของพละกำลังและความงาม
ในภาพนั้น พลังธาตุกำลังรินไหลดังสายธาร และมั่นคงราวกับแกนดายที่หมุนวน
เปนพลังธาตุที่เคลื่อนที่ดวยจังหวะสม่ำเสมอ ซึ่งกำลังรักษาความเร็วในการเคลื่อนตัว
ของเข็มพลังธาตุ
อายฮุยไดเรียนหลายสิ่งหลายอยาง เชนการควบคุมเข็มพลังธาตุนั้นจะตองมี
ความสม่ำเสมอ เชนนี้จึงจะสามารถเพิ่มความเร็วของเข็มพลังธาตุได
แตวาการเปลี่ยนแปลงเชนนี้ไมเพียงพอที่จะทำใหอายฮุยตกตะลึงได ถึงแมวาในตอนนี้
เขาจะมองเห็นอยางชัดเจนกวาเมื่อกอน แตวาเมื่อกอนเขาก็สามารถมองเห็นได
สิ่งที่ทำใหเขารูสึกถึงความตกตะลึงจริงๆ ก็คือในครั้งนี้เขาไดเห็นถึงสิ่งที่เขาไม
อาจอธิบายได
เขาเห็นหมอกจางๆ ที่ลอมอยูรอบๆ ตัวของศิษยพี่หมิงซิ่ว และไมรูวาสิ่งนั้นคือ
อะไร มันไมหยุดเปลี่ยนแปลงรูปรางไปมาสักพัก ราวกับเปนแสงที่ออนโยน บางครั้ง
กลับดูเหมือนหมอกควันที่ลึกลับ บางครั้งเปนแผนๆ ราวกับเกล็ดปลาที่บินฉวัดเฉวียน
และตอนที่เข็มพลังธาตุของศิษยพี่หมิงซิ่วสรางระลอกคลื่นขึ้นมา ก็มีแสงสวาง
ออนนวลเปนจุดๆ บางทีสวางขึ้นบางทีก็มืดดับ ก็เหมือนกับดวงดาวที่กระจัดกระจาย
อยูบนผิวน้ำ
เหลานี้ลวนปรากฏเปนครั้งแรก ไมเคยปรากฏมากอน
แมจะครุนคิดอยูนานสองนาน อายฮุยก็ยังไมรูวาสิ่งเหลานี้คืออะไร
เมล็ดพันธุแหงตัวออนกระบี่เกิดการเปลี่ยนแปลงไปเมื่อไดดูดกลืนสรอยคราม
สงบจิตเขาไปแลว เพราะเหตุใดมันถึงดูดกลืนสรอยครามสงบจิตเขาไป จนถึงตอนนี้
อายฮุยก็ยังคิดไมออก ในคัมภีรกระบี่เขาก็หาคำตอบนี้ไมพบ ในยุคอดีตมีวัตถุดิบ
หลายอยางที่แตกตางกับในปจจุบันนี้อยางสิ้นเชิง ทั้งคำเรียกและคุณสมบัติตางๆ
เปลี่ยนแปลงไปมากโข
สรอยครามสงบจิตก็เปนสิ่งที่เกิดขึ้นใหม ในยุคสมัยของการบำเพ็ญตนนั้นไมมี ใน
ตอนนั้นจะตองมีของที่คลายกันเปนแน แตวาอายฮุยไมรูวาคืออะไร
วิธีการฝกตัวออนกระบี่ในคัมภีรหลายสวนขาดหายไปไมครบถวน อายฮุยจึงเปน
ผูเติมขอมูลที่หายใปใหสมบูรณดวยตัวเองเกินกวาครึ่ง เขานั้นไมรูเลยวามันจะออกมา
เปนอยางไร
ยังดีที่ในตอนนี้เมล็ดพันธุแหงตัวออนกระบี่ไดดูดกลืนสรอยครามสงบจิตไปโดย
ไมไดตั้งใจ ทำใหมันขยายใหญและมีกำลังมากขึ้น อายฮุยคาดเดาวาสรอยครามสงบ
จิตจะตองมีวัตถุดิบบางอยางที่ชวยในการฝกตัวออนกระบี่เปนแน
นาเสียดายที่ไมมีสรอยครามสงบจิตแลว แมแตแบบที่ราคาถูกที่สุดเขาเองก็ยังไม
มีปญญาซื้อ ไมเชนนั้นเขาคงจะหาคำตอบไดวาการฝกฝนตัวออนกระบี่ตองใชวัตถุดิบ
อะไรกันแน
ความคิดเชนนั้นไดแวบขึ้นเพียงชวงครูภายในสมองของอายฮุย ก็เหมือนกันเปลว
เทียนริบหรี่ทามกลางสายลมคลั่ง
สรอยครามสงบจิต ราคาแปดสิบลานหยวน!
ถึงแมวาอายฮุยจะตกตลึงไปกับการเปลี่ยนแปลงของตัวออนกระบี่ แตวาพอนึก
ไดวานี่เปนการเปลี่ยนแปลงที่แลกมาดวยเงินแปดสิบลานหยวน ความตกตะลึงในใจ
ของเขาก็หายไปอยางไรรองรอย
ถ า หากเป น การฝ ก ฝนพลั ง ธาตุ เงิ น แปดสิ บ ล า นหยวนจะแลกมาด ว ยการ
เปลี่ยนแปลงเชนไร
อายฮุยไมรูวาการฝกทั้งชีวิตของตน วัตถุดิบที่ใชจะมีคาถึงแปดสิบลานหยวน
หรือไม อยางนอยคงทำใหตนฝกจนถึงขั้นที่เปนผูใชพลังธาตุที่แทจริงแหละ อายฮุยนั้น
คิดเชนนี้
อายฮุยขบคิดคำนวณอยางถี่ถวนแลวก็รูวาตัวออนกระบี่เปนการลงทุนที่สู งแต
ไดผลกำไรต่ำ ในขณะที่การฝกฝนพลังธาตุเปนการลงทุนสูงและไดกำไรสูง
คำตอบนั้นแจมชัดอยูแลว
อายฮุยไมมีทางที่จะไปหวั่นไหวกับตัวออนกระบี่ ตอใหเจาสิ่งนี้มีความพิเศษเปน
เอกลักษณมากมายเพียงใดก็ตาม เขาเปนคนที่ทำอะไรจริงจัง ความฝนของเขาคือการ
ไดกลายเปนผูใชพลังธาตุที่มีชื่ออยูในบันทึก
สายตาของเขาจองมองอยูที่หมิงซิ่ว ไมสั่นคลอนแมแตนอย
ความเร็วของหมิงซิ่วลดลงอยางรวดเร็ว อายฮุยรูวาอีกฝายตั้งใจทำแบบนั้นเพื่อ
ชวยเหลือตนใหเขาใจ
อายฮุยรูสึกซาบซึ้งกับเจตนาดีของอีกฝาย แตวาภาพของพละกำลังและความงดงาม
เมื่อครูนั้น ไดเปลี่ยนมาผอนลง ไมไดมีทวงทำนองทางศิลปะอยางเมื่อกอนอีกแลว
เขาทอดถอนใจอยางไรสุมเสียงกับตนเอง
บทที่ 61 ความตื่นตัว
หมิงซิ่วไมไดรับรูถึงการทอดถอนใจของอายฮุย นัยนตาอันงดงามของนางกวาด
มองไปที่เด็กหนุมที่มีกระบี่อยูในมือ ปลายแขนเสื้อรายระบำไปกับสายลมราวกับ
เกลียวคลื่น ประกายเข็มเคลื่อนไปมาราวกับกระสวยขณะที่แกนดายหมุนวนกลาง
อากาศ ผืนผาที่ลอยอยูคอยๆ ยาวขึ้นอยางไมหยุดหยอน
ชางเปนอิริยาบถที่ดูแปลกประหลาด...
หมิงซิ่วแอบนึกสังสัยอยูในใจวากระบี่อาจมีสวนชวยเขาก็เปนได ดูไปแลวเขายืน
อยางแนนิ่ง ไมสงเสียงใดออกมาราวกับวาเปนรูปสลักหิน เมื่อสายตาอันสงางามของ
นางปรายมองไป ก็เห็นนัยนตาเขาที่เปลงประกายราวกับกระบี่ล้ำคาถูกดึงออกจากฝก
ทำใหเปนประกายแสงเพียงจุดเดียวของรูปสลัก ประดุจดวงดาราที่สองประกายอยู
ทามกลางทองฟาอันธการไรที่สิ้นสุด
ชางดูสงายิ่งนัก ภาพเบื้องหนาทำใหหมิงซิ่วนึกถึงผูฝกกระบี่ในยุคโบราณ นาง
แอบชื่นชมอยูในใจ
แขนเสื้อ ของนางสะบัดไหวไปกั บ อากาศ ประกายเข็ มขยั บ ไปมาทำให เสี ย ง
เสนดายดังขึ้นไมหยุด
สายตาของตาเฒาหวังจับจองอยูที่อายฮุย ในใจเต็มไปดวยความอึดอัดกังวล เขารูสึก
วาการมาที่โรงเย็บปกในวันนี้เปนความผิดพลาด ยายเฒาจะมาสติแตกเอาอะไรตอนนี้
นอกจากการเย็บปกแลวยังมีวิธีการฝกฝนอยูอีกมากมาย เขาเพียงกังวลวาอายฮุยจะ
เจอกับอุปสรรคหากไมอาจฝกใหสำเร็จได
อายฮุยมีวิธีการฝกฝนอยางเปนระบบระเบียบ จะทำเรื่องอะไรก็ลวนเหมือนกับ
นักลาที่ช่ำชอง วางแผนกอนแลวคอยลงมือ มีความคิดเปนผูใหญ ไมเหมือนกับคน
หนุมเลยแมแตนอย ตาเฒาหวังกังวลวาอายฮุยจะเก็บตัวมากเกินไป ขาดความหุนหัน
พลันแลนตามประสาคนหนุมคนสาวพวกนั้น
พอลองนึกถึงตัวเขาเอง ในตอนวัยหนุมชางเลือดรอนและหยิ่งยโสยิ่งนัก
เขาสอนหนั ง สื อ อยู ท ี ่ ส นามเหนี ่ ย วนำมาหลายป ได เ ห็ น ผู ม ี พ รสวรรค ม า
หลากหลายแบบ แตละคนลวนจิตใจเรารอนฮึกเหิม
คนหนุ ม สาวมั ก จะเปน กั น เชน นี ้ ถึ ง แม จ ะดอ ยประสบการณ แต ก ็ ม ี ห ั ว คิ ด
สรางสรรค มีขอจำกัดนอย กลาที่จะทาทายตออำนาจ และมีความคิดที่ไรเงื่อนไข
มากมาย
ในหมูคนหนุมสาว อายฮุยชางแปลกแยกและเดนสะดุดตาเกินไปจริงๆ อายฮุยที่
เปนผูใหญเกินไปเชนนี้ดูแลวคอนขางจะเก็บความรูสึก จนผูคนลืมอายุของขาไปเสีย
แลว ความทะนงตนที่มีก็ถูกซอนเอาไวภายในสวนลึกของจิตใจ นิสัยที่ยากจะคาดเดา
เชนนี้ หากพบอุปสรรค ความกระทบกระเทือนที่ไดรับก็จะมากยิ่งกวาคนรุนราวคราว
เดียวกันมากนัก
สิ่งนี้จึงเปนจุดที่ผูเฒาคอนขางจะกังวล
โดยเฉพาะอยางยิ่งเขารูวายายเฒาใจแคบอยางมาก ไมแนวาสุดทายอาจไมชอบ
อะไรขึ้นมาอีกก็ได
ไมงายเลยที่จะมีลูกศิษยที่ล้ำคาเชนนี้ เขาไมอยากใหอายฮุยไดรับความไมเปนธรรม
มีที่ใดบางที่สามารถฝกฝนเชนนี้ได ผูเฒาคิดในใจ โดยเฉพาะเมื่อไดเห็นการสาธิตอัน
เยี่ยมยอดของหมิงซิ่วแลว เขาก็ยิ่งไมสบายใจ ผูเฒาหวังไมใชคนที่มีจิตใจกวางขวาง
อยางแนนอน คราวอารมณดีนั้นนารักใคร แตเมื่อไรอารมณไมดีละก็ หึ หึ หึ
ลูกศิษยคนนี้เคยเรียนวิชากระบี่มากอนอยางนั้นหรือ
ผูเฒาทั้งตกใจและดีใจ อายฮุยมีอะไรใหเขาอัศจรรยใจอยูเสมอ ทวงทาของอาย
ฮุยดูไปแลวก็คอนขางจะประหลาด แตวาก็ไมไดดูขัดตาแมแตนอย ที่จริงมันเปนทาที่
งดงามอยางบอกไมถูก
ผูเฒาเปนคนที่มองคนออก ไดมองทาทางนี้ของอายฮุยเพียงแวบเดียว ก็รูแลววา
จะตองเคยฝกมากอนอยางแนนอน อีกทั้งระยะเวลาที่ฝกยังไมใชสั้นๆ อีกดวย
ดูตอนที่ลูกศิษยถือกระบี่เอาไวจะรวมสมาธิไดดีกวา
การอยูในสนามเหนี่ยวนำมานานก็มีขอดีอยูอยางหนึ่ง คือไดเห็นพวกประหลาด
แบบตางๆ มามาก ก็เลยมองที่ประหลาดวาไมประหลาดไปแลว และกลายเปนความ
เคยชินในการฝกฝน บางคนตองอยูในสภาพที่นิ่งสงบ ถึงจะสามารถทำสมาธิได แต
บางคนยิ่งอยูในที่ที่คนพลุกพลานจะยิ่งรวมสมาธิไดดีกวา
ดูท า วา อา ยฮุยจะใหความสำคั ญ กั บ เรื ่ องนี ้ อ ย า งมาก นี ่ ย ิ ่ งทำให ผู เฒ า กั งวล
มากกวาแตกอนนัก เพราะความกระทบกระเทือนที่ไดรับจะยิ่งมากขึ้น
ยิ่งไปกวานั้นแลว ความพายแพเปนสิ่งที่หลีกเลี่ยงไมได
ไมมีใครที่เพิ่งไดรูจักกับการเย็บปกถักรอยเปนครั้งแรกก็สามารถทอผาหนึ่งผืนได
ในเวลาหนึ่งสัปดาห แมแตหมิงซิ่วที่ยายเฒามองวาเปนผูรับสืบทอดวิชาก็ยังทำไมได
สมองตนคงมีปญหาไปแลวจริงๆ ทำไมเขาถึงใหอายฮุยมาเรียนเย็บปกอะไรพรรค
นี้ ผูเฒาเสียใจจนลำไสเขียวไปหมดแลว
“เปนอยางไรบาง” หมิงซิ่วจบการสาธิตลง ดวงตาที่งดงามจับจองมาที่อายฮุย
พลางเอยถามดวยน้ำเสียงออนโยน “ศิษยนองมีจุดใดที่สงสัยหรือไม”
หมิงซิ่วอาศัยตอนที่อาจารยยังไมเอยปากชิงถามขึ้นดวยตัวเอง ถึงแมวานางจะ
รูสึกวาไมไดมีประโยชนอะไร แตยังหวังวาจะสามารถชวยเหลือศิษยนองอายฮุยไดสัก
เล็กนอย
ยายเฒามองดูหมิงซิ่วแวบหนึ่ง แตก็ไมไดพูดอะไร
หากวาการทอผาเรียนไดงายเชนนั้น ก็ไมจำเปนที่จะตองมีโรงเย็บปกอะไรนี่แลว
การมองเห็นลูกศิษยที่ตนเอ็นดูที่สุดก็กำลังแอบชวยเหลืออายฮุย
ยายเฒายิ่งเห็นอายฮุยขัดหูขัดตากวาเกา แคดูการเย็บปกยังจะตองจับกระบี่
ทำทาทำทาง คิดจะโออวด!
“ไมมีปญหาอะไร”
คำตอบของอายฮุยทำใหหมิงซิ่วคอนขางจะคาดไมถึง แตก็กระจางขึ้นมาในทันที
ดูเหมือนอายฮุยเองจะรูถึงปญหาขอยากที่ตนไมอาจทำใหสำเร็จได
แมอายุของหมิงซิ่วจะมากกวาอายฮุย แตหาไดดูแคลนอายฮุยไม กลับกันยิ่งเพิ่ม
ความชื่นชม การรูจักถอยไมใชเรื่องย่ำแยอะไร แตการอวดเกงตางหากที่ไมใชการ
กระทำของผูมีปญญา
ฝามือของอายฮุยไดปลอยออกจากดามกระบี่
ในเวลานี้เอง สายตาของหมิงซิ่วไดมองไปบนรางของอายฮุย ในใจก็มีความรูสึก
แปลกประหลาดขึ้นมา ชายที่อยูเบื้องหนายังคงเปนอายฮุย แตไมรูวาเปนเพราะอะไร
ความรูสึกของนางถึงตางกันอยางสิ้นเชิง ราวกับเปลี่ยนเปนคนละคนก็ไมปาน นางไมรู
วาจะบรรยายการเปลี่ยนแปลงนี้อยางไร เมื่อครูนางรูสึกเหมือนวาไดเผชิญหนากับผู
ฝกกระบี่ที่แข็งแกรง ซึ่งมีทวงทาและพลังที่ทำใหคนหวาดกลัว แตวาอายฮุยในตอนนี้
ภายนอกไมไดมีการเปลี่ยนแปลงอะไร พลังที่ไรรูปลักษณน ั้นกลับหายไปอย า งไร
รองรอย
ชางประหลาดเสียจริง
เปนครั้งแรกที่นางไดเจอกับความรูสึกประหลาดเชนนี้ อีกทั้งยังเกิดขึ้นสองครั้งใน
วันเดียว ไมนานนางก็อดหัวเราะขึ้นในใจไมได หรือวาชวงนี้ตนจะเหนื่อยเกินไปแลว
ถึงมีความรูสึกที่ประหลาดเชนนี้ได นางจะรูไดอยางไรวาผูฝกกระบี่ผูหาญกลาเปนเชน
ไรในเมื่อยังไมเคยพบสักคนดวยซ้ำ
คนอื่นๆ ไมไดสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของอายฮุย
แตที่อายฮุยพูดวา “ไมมีปญหา” ก็ทำใหทุกคนคิดวานี่คือการรูจักถอยของอายฮุย
วินาทีที่ฝามือของอายฮุยหางออกจากดามกระบี่ โลกที่อยูเบื้องหนาก็ไดฟนคืนสู
ปกติ ความรูสึกที่เหมือนกับวาทุกอยางอยูในกำมือนั้นก็ไดหายไปอยางไรรองรอย
ความนึกคิดเปลี่ยนมาชาลง สัมผัสทั้งหกก็กลับมาอยูในระดับปกติอยางรวดเร็ว
ภายในสวนลึกของจิตใจไดเกิดการหมุนวนอยางรุนแรงจนอายฮุยเอื้อมไปจับ
กระบี่อยางไมรูตัว
แตวาในวินาทีที่ฝามือกำลังจะสัมผัสกับดามกระบี่ อายฮุยก็ไดสติขึ้นมา
เขาดึงมือกลับอยางแรง ราวกับวาดามกระบี่มีพิษรายติดอยูก็ไมปาน
เขาฝนสะกดกลั้นความรูสึกอันรุนแรงเมื่อครูลงไป แลวแอบเตือนตัวเองในใจ
ในตอนที่เขาเพิ่งจะเพาะเมล็ดพันธุแหงตัวออนกระบี่นั้น กระบี่แทบจะไมหางมือ
อายฮุยเลย ตัวออนกระบี่ปลุกปนสัมผัสทั้งหกของเขา ทำใหเขานั้นลุมหลงอยางหาใด
เปรียบ ประหนึ่งถูกผีสิงก็ไมปาน ฝามือนั้นไมยอมหางจากดามกระบี่
และไมนานเขาก็ไดพบเขากับอันตราย แมจะสัมผัสไดถึงอันตรายแลว แตวา
รางกายของเขากลับไมตอบสนอง เขามองดูสัตวรายฝงคมเขี้ยวลงมาที่รางกายตน โดย
ที่ตั้งแตเริ่มจนจบเขาไมไดปลอยดามกระบี่เลย สัมผัสทั้งหกถูกตัวกระบี่ปลุกปนทำให
ความเจ็บปวดรุนแรงเปนทวีคูณ
นั่นเปนความทรงจำครั้งหนึ่งที่เจ็บปวดรวดราวที่สุด
ตั้งแตครั้งนั้นเปนตนมาอายฮุยจึงไดเขาใจวาตัวออนกระบี่ไมใชวาจะสามารถทำ
ไดทุกอยาง หากพึ่งพิงตัวออนกระบี่มากเกินไป
ภาพลวงตาของความรูสึกที่วาทุกสิ่งทุกอยางลวนอยูในกำมือนั้นจะทำให ตน
ละเลยการฝกฝนรางกายตลอดจนการฝกฝนพลังธาตุ
อีกทั้งหากปราศจากรางกายที่แข็งแกรงกำยำ ความคลองแคลว พลังธาตุที่ลึกล้ำ
และสัมผัสทั้งหกที่แข็งแกรงแลวนั้น การจะทำอะไรลวนมีขีดจำกัดอยางมาก
“เชนนั้นศิษยพี่ ผาหนึ่งผืนมีความยาวเพียงใด ตองใชดายกี่มวน ขาสามารถนำ
ดายกลับไปไดเทาไร อาจจะมีที่เสียไปบาง ศิษยพี่สามารถใหขาเอาไปมากหนอยได
หรือไม”
อายฮุยถามอยางเคอะเขิน
ทุกคนตางคิดวาหูตนฝาดไป ณ ขณะนั้นโรงเย็บปกเงียบเปนเปาสาก
บทที่ 62 คนดี!
“เจาจะทอผาจริงๆ หรือ”
ระหวางทางกลับผูเฒาอดถามขึ้นไมได
“มีปญหาอะไรหรืออาจารย ทานถามขาเชนนั้นถึงสามครั้ง” อายฮุยรูสึกแปลกใจ
ชอบกล หรือวาอาจารยจะไมเห็นดวยที่ตนจะฝกการเย็บปกถักรอย ตั้งแตออกจากโรง
เย็บปกมา อาจารยก็ถามย้ำวาตนจะทอผาหรือไม ราวกับวาไมเชื่ออยางไรอยางนั้น
ทั้งๆ ที่อาจารยเปนคนพาเขามาเอง
“เจามองไมออกหรือวานางกำลังกลั่นแกลงเจาอยู” ผูเฒาถาม
“ไมนับวาเปนการกลั่นแกลงหรอก” อายฮุยพึมพำกับตนเอง ใชสมองคิดดูอยาง
ละเอียดอีกรอบหนึ่ง แลวเอยตอบอยา งหนักแนน “ขารูสึกวา เป นขอ เรียกร อ งที่
สมเหตุสมผลอยางมากแลว ตอนที่ขาอยูที่แดนราง ถาหากวาตองการขอใหผูอื่นทำ
การชี้แนะสั่งสอนละก็ ลวนจะตองจายเงินทั้งสิ้น ทานยายไมไดเรียกเงินจากขา เพียง
แคใหบททดสอบแกขาอยางหนึ่งเทานั้น อีกทั้งยังใหวัตถุดิบมามากมายถึงเพียงนี้ ทาน
ยายชางเปนคนดีเหลือเกิน อาจารยทานอยาไดพูดเรื่อยเปอยไป”
อายฮุยแกวงกระเปาเปที่อยูดานหลัง
ทานยายกลาวกับเขาวาอยากเอาไปเทาไรก็เอาไปเทานั้น ดังนั้นอายฮุยจึงอาศัย
ชวงที่ทุกคนกำลังปากอาตาคางอยูนั้น นำเสนดายทั้งหมดที่มองเห็นใสกระเปาเปที่มี
ขนาดสูงพอๆ กับตัวเขา
ผูเฒามองกระเปาเปที่เหมือนกับภูเขาลูกนอยของอายฮุยแลวก็นึกถึงทาทีตลึงจน
พูดไมออกของอวี้ฉิน นึกแลวก็อดหัวเราะไมได
อายฮุยไมเขาใจวาเขากำลังหัวเราะอะไร
หัวเราะไปไดพักหนึ่งแลว ผูเฒาถึงไดกลาวพลางหอบหายใจแรง “ที่เจาทำที่โรง
เย็บปกชางโหดเสียจริง กระเปาไมหนักบางเหรอ”
“ที่ขาทำหรือ” อายฮุยไมคอยเขาใจความหมายของอาจารย หรือกลัววาขาจะ
แบกไมไหว เขากลาวอยางไมคิดวาจะเปนเชนนั้น “แคนี้จะนับวาเปนอะไร มันไมได
หนักแมแตนอย ตอนที่ขาอยูในแดนราง สิ่งที่แบกหนักกวานี้มากมายนัก เสนดาย
เบาๆ พวกนี้ไมไดมีน้ำหนักอะไร นาเสียดายที่โรงเย็บปกมีอยูแคนี้”
นำเสียงอายฮุยเจือความรูสึกเสียดาย
ผูเฒาอยากจะหัวเราะแตก็ฝนเอาไวอยู เขาชี้ไปที่ดายสีอื่นๆ อยูดานบน “พวกนี้
เจาไมไดใชนะ ทำไมถึงไดหยิบติดมาดวย”
อายฮุยตอบอยางเขินอาย “เพราะเคยชินแลวจึงไมไดระวัง เมื่อกอนตอนที่ขาอยู
ที่แดนรางเวลาที่ตองเก็บกวาดสนามรบ มีขอแมวากระดูกสักชิ้นก็อยาไดปลอยไว ของ
พวกนี้อยูตรงหนาขา พอไมไดสนใจก็เลยเพลอหยิบพวกมันติดมือมา ขาควรเอาพวก
มันกลับไปคืนหรือไม” ไมไดสนใจ...
ผูเฒานึกถึงสีหนาและทาทางของยายเฒา ในใจก็แอบรื่นเริงอยู เจานี่ไมไดจงใจหรอก
หรือ มองดูอายฮุยอยูหลายที ดูไปแลวก็เปนปกติดี ไมนาจะใชการจงใจนั่นแหละ
“พวกนี้เปนปญหาเล็กๆ” ผูเฒาโบกมือขึ้น แลวจึงถามตอ “การสาธิตการทอผาคู
ของหมิงซิ่วเจาดูแลวเขาใจหรือไม”
“ขาเขาใจบางสวน” อายฮุยตอบขึ้นตามตรง
“เจาคิดจะทอผาจริงๆ หรือ” ทาทางของผูเฒาเปลี่ยนเปนจริงจัง “เจามั่นใจหรือไม”
“ความมั่นใจนี้ไมกลาพูด” อายฮุยกลาวขึ้นอยางระมัดระวัง “แตวาอยากจะลองดู”
ผูเฒาฟงออกถึงความยืนหยัดในน้ำเสียงของอายฮุย สมแลวที่เปนเด็กที่มีนิสัยดื้อรั้น
“ลองดูก็ลองดูเถอะ” ผูเฒากลาวขึ้นอยางเสียมิได แตก็รีบกลาวเสริม “หากวาทำ
ไมสำเร็จก็ไมเปนไรหรอก การฝกฝนนั้นไมไดมีแคเพียงการเย็บปก อยาไดมุงเขาสูทาง
ตัน ตอใหเปนผูมีพรสวรรคก็ไมใชวาจะสามารถทำไดทุกอยาง”
“อาจารยทานอยาไดกังวล ขาเพียงแคลองดู” ถึงแมจะไมรูวาเพราะเหตุใดผูเฒา
ถึงกังวลใจถึงเพียงนี้ แตอายฮุยก็สัมผัสไดถึงความใสใจของอาจารย ในใจก็เลยรูสึก
ซาบซึ้งขึ้นมา
ผูเฒาจึงไมไดหามปรามอีก
การแบกเอามวนดายมาถุงใหญกลับมาโรงฝกศาสตราวุธ โหลวหลานที่ไดเห็นจึง
แปลกใจอยูบาง “อายฮุย เจากำลังทำงานเหรอ”
“ไมใช” อายฮุยสายหัว “ขากำลังเรียนการฝกเย็บปก”
“การเย็บปกถักรอยหรือ” โหลวหลานกลาวตอบรับอยางประหลาดใจ จากนั้นก็
เขามาใกลดวยใบหนาที่อยากรูอยากเห็น “ดูทาทางแลวจะยอดเยี่ยมอยางมาก”
“ขายังไมทันเริ่มเลยนะโหลวหลาน” อายฮุยกลาวขึ้นอยางไมสบอารมณ “เจาก็รู
แลวหรือวามันยอมเยี่ยม แตพูดถึงความยอดเยี่ยม วันนี้เขาไดเห็นศิษยพี่หมิงซิ่วดวย
แบบนั้นถึงจะเรียกวาสุดยอดอยางแทจริง”
อายฮุยดูทาเหมือนจะเหมอลอย แมวาเขาจะออกจากภาวะตัวออนกระบี่มาแลว
แตวาภาพศิษยพี่หมิงซิ่วที่กำลังเคลื่อนเคล็ดวิชาทอผาคูอยางเต็มกำลังนั้น กลับไม
หยุดที่จะผุดขึ้นมาในหัวสมองของเขา
ภาพของพละกำลังและความงดงาม ชางสะทานสะเทือนจิตใจเสียจริง
ทุกรายละเอียดของภาพนี้ลวนประสานสมดุลกัน
เขาไมเขาใจการเย็บปก แตวายังคงรับรูไดถึงพลังทั้งหมดที่สะสมอยูในเหตุการณ
นั้น เขารูวาหากไมมีระดับความเขาใจที่ลึกซึ้งก็จะไมอาจทำไดถึงขั้นนั้น อายฮุยไม
เขา ใจการเย็บ ปก แตเขาเขาใจการตอ สู เข็ มพลั งธาตุ ถึ งแม จะเล็ กละเอี ยด แตก็
สามารถใชปลิดชีวิตไดเชนกัน ฝมือการทอผาของศิษยพี่หมิงซิ่วในระดับบรรลุมรรคผล
นั้น หากใชในการตอสู พลังในการสังหารจะนาหวาดกลัวเปนอยางมาก
ศิษยพี่หมิงซิ่วอายุมากกวาตนแคไมกี่ป แตมีความแข็งแกรงอยางมาก เขานั้นทั้ง
นับถือทั้งอิจฉา
“ศิษยพี่หมิงซิ่วแหงโรงเย็บปกอวี้นะหรือ”
ไมเสียทีที่เปนโหลวหลานผูยิ่งใหญที่เดินทุกตรอกซอกซอยเพื่อซื้ออาหารตมน้ำ
แกง คุนเคยกับขาวสารของเมืองซงเจียนในแตละดานเปนอยางมาก “แนนอนวาศิษย
พี่หมิงซิ่วนั้นรายกาจ นางเปนผูมีพรสวรรคในการเย็บปกอยางแทจริง ตั้งแตเด็กก็
กราบฝากตัวเปนศิษยของปรมาจารยการเย็บปกหันอวี้ฉิน เปนลูกศิษยที่โดดเดนที่สุด
ของโรงเย็บปกอวี้ หลายคนเชื่อวากอนนางจะอายุสามสิบ จะตองขึ้นแทนตำแหนง
ปรมาจารยเปนแน ความสำเร็จของนางจะสามารถกาวขามอาจารยหันอวี้ฉิน ไปได
และกลายมาเปนยอดปรมาจารยแหงการเย็บปก”
“รายกาจขนาดนั้นเชียว!” นัยนตาทั้งสองขางของอายฮุยเปลงประกายราวดวงดารา
เขารูสึกวาศิษยพี่หมิงซิ่วรายกาจมาก แตไมคิดวาจะรายกาจถึงขั้นนี้ เดี๋ยวกอน อวี้ฉิน
หรือ เขาเพิ่งจะนึกขึ้นไดวาอาจารยเคยเรียกทานยายวา “อวี้ฉิน” หรือวาทานยายก็
คือปรมารยแหงการเย็บปกผูมีนามวา หันอวี้ฉิน
เขานึกถึงที่อาจารยเคยพูดเอาไว บันทึกของผูที่สามารถควบคุมเข็มพลังธาตุใน
เวลาเดียวกันได ก็คือปรมาจารยแหงการเย็บปกผูหนึ่งนามหันอวี้ฉิน
ทานยายก็คือปรมาจารยแหงการเย็บปกหันอวี้ฉิน!
ดวงตาของอายฮุยเบิกกวางดวยความประหลาดใจ ผานไปสักพักจึงถามขึ้นอยาง
ไมแนใจ “โหลวหลาน เปนปรมาจารยจะตองเกงกาจอยางมากใชหรือไม”
“แนนอนที่สุด!” โหลวหลานมีใบหนาที่แสดงใหเห็นวามันก็ควรจะเปนเช นนั้น
รางกายกระจายออกตรงหนาของอายฮุย เมฆทรายกอนเล็กกอนหนึ่งกอรูปเปนขึ้น
เปนคำวา “ปรมาจารย” เมฆทรายกอนขางๆ ก็เปลี่ยนเปนคำวา “ยอดปรมาจารย”
“อายฮุย การขนานนามในอูสิงเทียนนั้นเขมงวดมากนะ การขนานนามที่สูงที่สุด
ของอูสิงเทียนในตอนนี้ก็คือยอดปรมาจารย หมายถึงผูแข็งแกรงที่มีคุณสมบัติที ่จะ
สถาปนาพรรคขึ ้ น มา รองจากยอดปรมาจารย ก ็ ค ื อ ปรมาจารย ตำแหน ง ของ
ปรมาจารยก็สูงสงอยางมาก คนที่มีคุณสมบัติไดรับการขนานนามวาปรมาจารย ลวน
เปนผูแขงแกรงในระดับเทียบเทากับผูที่อยูในจุดสูงสุดของอาณาจักร ลวนมีความ
แข็งแกรงที่ไมเปนสองรองใคร มีการสรางคุณูปการอันยิ่งใหญที่ไมอาจจะทดแทนได
ใหกับอาณาจักร ตองมีคุณสมบัติเหลานี้ถึงจะสามารถขนานนามวาปรมาจารยได
ปรมาจารยหันอวี้ฉิน นางก็ไดคิดคนวิธีการถักทออยูหลายสิบประเภท”
“รายกาจขนาดนี้!” อายฮุยตกตะลึง ยิ่งเพิ่มความมั่นใจวาเขาตองจะฝกการเย็บปก
การทดสอบเล็กๆ นั้นจะไมถือวาเปนปญหาอะไร โอกาสที่จะไดรับการชี้แนะจาก
ปรมาจารยแหงการเย็บปก ชางล้ำคาอยางมากนัก!
หากไมใชวาอาจารยหวังมีความสัมพันธกับปรมาจารยหันอวี้ฉินอยางลึกซึ้ง
เขาคงไมมีแมแตโอกาสที่จะได รับการทดสอบเชน นี้ ดูจากโรงเย็บปกก็รูแ ล ว
นอกจากอายฮุยก็ไมเห็นผูชายคนอื่นอีก
ขอเรียกรองของอาจารยจะตอ งทำให ทานปรมาจารย ลำบากใจอยางมากแน
เพียงแคใหบททดสอบเล็กๆ ขอเดียว ปรมาจารยชางเปนคนที่ดีมากเสียจริง
อายฮุยซาบซึ้งใจยิ่งนัก แถมยังใหมวนดายกับตนมามากมายเพียงนี้ ดูๆ แลวพวก
มวนดายหลากสีสันพวกนั้นจะแผกระจายพลังธาตุออกมาออนๆ ออกมาดวย แตละ
มวนไมใชถูกๆ เลย!
ยังมอบใหตนมากถึงเพียงนี้!
สายตาของอายฮุยไปหยุดอยูที่กระเปาเปที่สูงพอๆ กับภูเขาลูกนอยใบนั้น ในใจ
เต็มไปดวยความเคารพตอทานยาย ชางเปนคนดีเสียจริง!
บทที่ 63 เรื่องตลกที่ไมตลก
“อายฮุยจะเรียนการเย็บปกกับปรมาจารยหันอวี้ฉินเหรอ” โหลวหลานดีใจอยางมาก
“ชางดีเหลือเกินอายฮุย การฝกการเย็บปกนั้นดีมาก สามารถใชหาเงินไดดวย”
ฟุบ ฟุบ ฟุบ เมฆทรายที่เหลือไดเปลี่ยนเปนคำวา “เงิน” ที่มีทั้งขนาดเล็กและ
ขนาดใหญ ในสวนกลางของกอนกรวดมีแรไมกาที่กำลังสองประกายสะทอนสายตาอยู
คำที่อยูเบื้องหนาอายฮุยกำลังรายรำราวกับเกลียวคลื่นในลำน้ำ
“หาเงิน!” อายฮุยที่ไดยินสองคำนี้ ดวงตาก็เปลงประกายเจิดจาขึ้นมาในทันที
ที่เห็นตามมาติดๆ ก็คือตัวอักษร “เงิน” กำลังโบยบินและรายรำอยูตรงหนา
เลือดของอายฮุยก็พุงกระฉูดขึ้นสมองในทันที
“การเย็บปกจะหาเงินไดอยางไร” อายฮุยเรงรอนเอยปากถาม
เพียงไดยินคำวา “เงิน” เขาก็ไมมีเรี่ยวมีแรงจะตอตานสิ่งใดแลว ความแนวแน
ความมีเหตุผล ลวนลอยหายออกนอกหนาตางไปเสียสิ้น! เมื่อกอนเขาก็ไมใชพวกที่
เห็นเงินแลวตาโต แตวาเงินแปดสิบลานหยวนก็เปนเหมือนภูเขาที่กดทับอยูบนตัวเขา
จนทำใหตอนนี้ขอเพียงแคพูดถึงเรื่องเงิน เขาก็จะเลือดลมพุงพลานขึ้นมา
“การใชงานของการเย็บปกนั้นกวางขวางอยางมาก” โหลวหลานผูเปนอาจารยที่
ดีกลาวขึ้นตอ “การเย็บปกในปจจุบันไดถือกำเนิดมาจากการสรางของวิเศษในโลก
แหงการบำเพ็ญตนในยุคโบราณ ในสมัยกอนผูบำเพ็ญตนจะนำผนึกและเขตอาคม
หลอหลอมเขาไปในวัตถุดิบที่มีความพิเศษ โดยตั้งชื่อเรียกวาของวิเศษ นี่ก็คือตน
กำเนิด แตวาในยุคปจจุบัน เมื่อพลังวิญญาณหายสาบสูญไปและพลังธาตุไดรุงเรือง
ขึ้นมา สงผลใหคุณสมบัติของวัตถุดิบเกิดการเปลี่ยนแปลงอยางอยางสิ้นเชิง ผนึกใน
ยุคการบำเพ็ญตนไดไรผลไปแลว แตวาในภายหลังมีการคนพบวาอสูรแดนรางและพืช
พรรณนั้นแตกตางกับในยุคบำเพ็ญตนอยางสิ้นเชิง
พวกมันมีผนึกตามธรรมชาติตั้งแตเกิด ดังนั้นจึงกลายมาเปนวัตถุดิบหลักในทันที
กระบี่หญาที่เมื่อกอนอายฮุยเคยใช ก็ถูกสรางขึ้นมาจากหญากระบี่”
“ผนึกของพวกมันที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เปนผนึกที่พลังธาตุสามารถทำการ
กระตุนได พวกเราเรียกมันวารองรอยพลังธาตุ ความหมายก็คือรองรอยที่ถูกทิ้งไวโดย
กฎของฟาดิน การจะดูวาวัตถุดิบอยางหนึ่งจะมีประโยชนหรือไม ใหดูวามันมีรองรอย
พลังธาตุอยูหรือไม อยางไรก็ตามรองรอยพลังธาตุตามธรรมชาติไมไดมีความสมบูรณ
มีที่บางสวนถูกทำลายไป บางก็พิกลพิการไมสมประกอบ รองรอยพลังธาตุที่สมบูรณ
แบบตามธรรมชาตินั้นหาไดยากมาก ดังนั้นรองรอยพลังธาตุของวัตถุดิบพวกนี้ จึงตอง
ไดรับการปรับแกเสียกอนจึงจะนำมาใชได จุดนี้ก็คือสวนที่ใชประโยชนของการเย็บ
ปก!”
อายฮุยฟงจนเคลิ้ม ในตอนที่อยูในแดนรา งเขาเองก็ เคยไดยิน ผู ใชพลังธาตุ ผู
ยิ่งใหญพูดถึงอยูในบางครั้ง แตวาเขาไมคอยเขาใจมาโดยตลอด จนกระทั่งได ฟ ง
คำอธิบายของโหลวหลานในวันนี้ ขอสงสัยมากมายที่อยูในใจถึงไดถูกไขกระจาง
เขาอดถามขึ้นไมได “การเย็บปกสามารถแกไขรองรอยพลังธาตุไดอยางนั้นหรือ”
“ใชแลว โดยเฉพาะกับพวกพืช เริ่มแรกทุกคนคิดวาการแกไขรองรอยพลั งธาตุ
สามารถทำไดผานการวาดภาพ แต ภ ายหลั งได พ บว าวิ ธี การนี้ ไม ค อยดีน ั ก ไม วา
รองรอยแหงฟานี้จะสมบูรณหรือไม ขอเพียงแคเปนรองรอยแหงฟาก็จะมีสนามพลัง
ธาตุที่เปนเอกลักษณของตัวเอง ซึ่งจะขับไลวัตถุดิบอื่นที่มีพลังธาตุออกไป ทำใหสีที่ใช
สำหรับการวาดไมติดอยูกับรองรอยแหงฟาเหลานี้ จะวาไปก็มีเรื่องตลกอยูเรื่องหนึ่ง
อายฮุยอยากฟงหรือไม”
“โหลวหลานเลาเรื่องตลกเปนดวยหรือ” อายฮุยถามดวยความตกตะลึง
“อานเจอจากในหนังสือ” น้ำเสียงภูมิใจของโหลวหลานดังออกมาจากเมฆทราย
“ไหนลองเลาซิ”
“เมื่อกอนการปรับปรุงอาวุธหญาโดยใชน้ำยาลงภาพเปนวิธีที่ไดรับความนิยม
มากที่สุด”
ตัวอักษร “เงิน” “เงิน” “เงิน” ที่ลอยอยูเต็มฟาเปลี่ยนกลับมาเปนกองทรายสี
เหลือง ทรายสีเหลืองกองหนึ่งกลายรางเปนคนตัวเล็กๆ อีกกองเปลี่ยนเปนกระบี่
ทรายเลมเล็กเลมหนึ่ง มนุษยทรายตัวนอยกมหนากมตาวาดแผนภาพลงไปที่ตัวกระบี่
ดวงตาของอายฮุยมองจนนิ่งไปแลว นี่เปนการแสดงประกอบการอธิบายหรือ
ทำไมถึงไดรูสึกวาโหลวหลานนับวันยิ่งฉลาดกันนะ นี่คงไมใชการคิดไปเองใชไหม!
“วิธีการในตอนนั้นยังลาหลังเปนอยางมาก ก็คือหลังจากการใชน้ำยาแบบพิเศษ
ซอมแซมและแกไขรองรอยพลังธาตุแลว จำเปนตองใชโคลนเหลืองที่ชื้นพอกเอาไวทั่ว
ตัวกระบี่ จากนั้นก็ใชน้ำหมอกเงินที่เต็มไปดวยพลังธาตุทองราดใหทั่วโคลนเหลืองอีก
ที ดังนั้นเมื่อไรก็ตามที่ผูใชพลังธาตุออกรบจำเปนจะตองมีดวยรถมาศึกตามหลั งมา
ดวย โดยดานบนจะมีไหใบใหญอยูสองใบ ไหใบหนึ่งจะบรรจุโคลนเหลือง สวนไหอีก
ใบบรรจุน้ำหมอกเงิน”
ทรายสีเหลืองอยูๆ ก็กระจายตัวออก คอยๆ เปลี่ยนมาเปนกลุมคนตัวเล็กกลุม
หนึ่งกำลังถือกระบี่พุงตัวไปดานหนา รถมาศึกก็ตามอยูดานหลัง ขนไหใบใหญสองใบ
“ในตอนที่เจอกับอสูรแดนราง”
ฟุบ! ทรายสีเหลืองกองหนึ่งเปลี่ยนรูปเปนฝูงอสูรแดนราง กำลังเขาปะทะกับคน
ตัวกระจิ๋วเหลานั้น
“การตอสูแสนจะดุเดือด สูไปสูมา เอ สีที่อยูบนตัวกระบี่ลอกไปแลว ทหารดินไม
พูดพร่ำทำเพลงรีบหยิบกระบี่หญาอีกเลมออกมา แลวก็ถือโอกาสเอากระบี่หญาในมือ
ที่น้ำยาหลุดไปแลวโยนกลับขึ้นไปบนรถ
นักปรุงยาที่อยูบนรถก็รับกระบี่หญามา ก็เอาโคลนเหลืองมาพอก แลวราดดวย
น้ำหมอกเงิน หลังจากนั้นก็โยนกลับออกไป ตามดวยตะโกนขึ้นวาเรียบรอยแลว คน
ตอไป!”
ทรายสีเหลืองแสดงภาพเหตุการณทั้งหมดออกมาราวกับมีชีวิต มนุษยทรายตัว
นอยที่อยูบนรถมาศึกวุนวายอลหมานเสียจนมือไมพัลวันพัลเก ขณะที่กระบี่ทรายเลม
เล็กลอยไปมาอยูกลางอากาศ
“หลังจากนั้น มีอยูครั้งหนึ่ง พวกเขาไดเจอเขากับอสูรแดนรางฝูงใหญ”
ทรายสีเหลืองเปลี่ยนไปอีกครั้ง คราวนี้ขึ้นรูปเปนอสูรแดนรางจำนวนมากมาย
ดานหลังของอสูรแดนรางมีแตฝุนตลบ มีอานุภาพรายกาจอยางยิ่ง
อายฮุยมองดูอยางมีอารมณรวม ชางมีชีวิตชีวานัก
“การตอสูดุเดือดเปนอยางมาก”
โฉงฉาง โฉงฉาง ทั้งสองฝายตอสูอยางเอาเปนเอาตาย กระบี่ทรายลอยไปลอยมาดวย
ความเร็วที่มากยิ่งขึ้น มนุษยทรายตัวนอยที่อยูในสนามรบดิ้นรนตอสูจนเทาไมติดพื้น
“สุดทายแลว นักปรุงยาเหนื่อยจนสิ้นใจตายไปเลย”
มนุษยทรายตัวนอยที่อยูบนรถมาศึกลมตัวลง นอนพาดตัวอยูบนตัวรถ
อายฮุยเอามือเทาคางดูอยางตื่นเตน อยูๆ ทุกอยางก็หยุดลง จึงอดไมไดที่จะถามขึ้น
“แลวหลังจากนั้นเลา”
“ไมมีแลว” ตัวของโหลวหลานคืนรางกลับมาเปนดังเดิม เอียงคอมองมาทางอายฮุย
ติดจะมีความแปลกใจอยูเล็กนอย “ไมตลกเหรอ ทำไมอายฮุยไมขำ”
อายฮุยตอบขึ้นตามตรง “ไมคอยตลกเทาไร”
โหลวหลานอึ้งไป “โหลวหลานคิดวามันจะตลกมากเลยนะ ในหนังสือกลาวไววานี่
เปนเรื่องตลกครั้งใหญในรอบสิบปของตอนนั้น”
อายฮุยกระแอมเบาๆ ครั้งหนึ่ง “โหลวหลานพวกเรามาพูดถึงการเย็บปกตอเถอะ”
โหลวหลานตอ งเลา เรื่อ งตลกไม เป น สิ ถ ึ งจะเป น โหลวหลานตั ว จริ ง อ า ยฮุ ย
สังเกตเห็นรายละเอียดอยางหนึ่ง ระดับการเปลี่ยนแปลงรูปรางของโหลวหลานนับวัน
ยิ่งรายกาจ การเปลี่ยนเปนคนตัวเล็กพวกนี้ แตละตัวลวนคลายกับของจริง
สิ่งที่อายฮุยนึกถึงกลับเปนเรื่องอื่น การเปลี่ยนแปลงรูปรางเปนลูกไมอยางหนึ่งที่
ใชกันตามปกติของตุกตาทราย และก็เปนลูกไมที่ใชแลวคอนขางจะไดผล ตุกตาทราย
เกือบทั้งหมดลวนสามารถเปลี่ยนแปลงรูปรางได แตวาที่โดดเดนเหมือนโหลวหลานนี้
กลับไมมีใหเห็นมากนัก ถาหากนำมาใชในการตอสู จะตองมีอานุภาพมหาศาลอยาง
แนนอน
ระดับสติปญญาของโหลวหลานชางสูงเสียจริง ระดับสูงต่ำของการเปลี่ยนแปลง
รูปรางคือตัวชี้วัดระดับสติปญญาของตุกตาทราย
บางทีเขาอาจเพิ่มการฝกฝนใหกับโหลวหลานในสวนนี้ได สติปญญาของโหลว
หลานสูงขนาดนั้น การเปลี่ยนแปลงรูปรางจะตองฝกจนรายกาจยิ่งขึ้นไดแน ในการ
ตอสูครั้งกอน การเปลี่ยนแปลงรูปรางของโหลวหลานก็สามารถใชประโยชนไดอยาง
มาก
ความคิดนี้ไดผุดขึ้นมาในหัวอายฮุยเพียงแวบเดียว แลวก็ไดสลายหายไปอยางไร
รองรอย
อา ยฮุย รูสึก วา ตนนั้นคิดมากเกิ น ไป โหลวหลานเป น ตุ ก ตาทรายในรู ป แบบ
ชีวิตประจำวัน อยาไดนำพาเขาสูสนามรบจะดีกวา สนามรบเปนสถานที่อันโหดรายถึง
ขนาดนั้น แมแตตัวเขาเองก็ไมแนใจวาจะรอดออกมาได
อายฮุยแอบเตือนตัวเอง ที่นี่ไมใชแดนรา งอีกแลว และเขาก็ไดเริ่มตนชี ว ิ ตที่
แตกตางไปจากเมื่อสามปกอนอยางสิ้นเชิงแลว
การตอสูไมใชทั้งหมดของชีวิต อยางนอยสำหรับโหลวหลานแลวก็เปนเชนนี้ เพียง
ตุนน้ำแกงและทำความสะอาดไดก็พอแลว
การตอสูปลอยใหเปนหนาที่ของคนที่เคยชินกับการฆาสังหารเชนตนเถอะ
ใบหนาของอายฮุยเผยรอยยิ้มสดใสราวกับดวงตะวัน
บทที่ 64 หนทางทำเงิน
“การเย็บ ปก เปนหนึ ่ง ในอาชีพ ที ่ ท ำเงิ น ได ค อ นข า งดี ” ร า งของโหลวหลาน
เปลี่ยนเปนหนังสือหนึ่งเลม หนากระดาษเปดพึ่บพั่บ มีเสียงโหลวหลานดังออกมาจาก
ดานใน “ในสิบอาชีพที่ทำเงินไดมากที่สุดของอูสิงเทียน การเย็บปกไดติดหนึ่งในสิบ
ติดตอกันถึงยี่สิบสองป”
นัยนตาอายทอประกายราวกับดวงดาวในทองฟายามราตรี
ตอใหเปนตอนที่ถือกระบี่อยูก็ไมทำใหนัยนตาของเขาสองประกายถึงเพียงนี้
“สิ่งนี้เกี่ยวของกับการที่การเย็บปกสามารถนำไปปรับใชไดหลากหลายแขนง
โดยเฉพาะดานการจัดการกับพวกพืชและเครื่องหนัง การเย็บปกถือวาถูกนำไปใช
เยอะที่สุด ลำพังงานปกยางเดียวก็มีราคาสูงมากแลว ปริมาณการคาจึงยังไมไดมีเยอะ
มากนัก ราคาของผาทอพลังธาตุจะมีราคาเปนหนึ่งรอยเทาของผาทอธรรมดา ราคา
ในชวงสิบปมานี้ของผาทอพลังธาตุผืนเดี่ยวหนึ่งผืนอยูที่หาแสนหยวน”
อายฮุยตองสูดหายใจเอาอากาศเย็นเขาปอด เขาคิดไมถึงเลยวา ผาทอพลังธาตุ
ผืนหนึ่งจะมีราคาแพงหูฉี่ถึงขั้นนี้
หาแสนหยวนเลยนะ!
กอนจะมีเรื่องเงินแปดสิบลานหยวน เงินหาแสนหยวนในสายตาของเขาก็เปน
จำนวนมหาศาลอยูแลว แตนี่เปนราคาผาทอพลังธาตุเพียงหนึ่งผืน!
กำไรอันมหาศาล! ชางเปนกำไรอันมหาศาลเกินไปแลว!
นัยนตาของอายฮุยเรืองแสงแวววับ ในตอนนี้เขาอยากจะวิ่งไปหาอาจารย ใช
น้ำเสียงกระตือรือรนและจริงใจรองตะโกนขึ้นวา “อาจารย ขาจะฝกการเย็บปก!”
ชางเปนกำไรที่มหาศาลเสียจริง!
อายฮุยกัดฟนแนน รูสึกไมเปนตัวของตัวเอง
อาชีพที่ทำกำไรมหาศาลเชนนี้มีอยูบนโลกนี้ดวยหรือ มันตองมีอยูเพื่อรอใหเขา
เขารวมเปนแน!
วิชาการทอผาคูนั้นเขาจำไดมากนอยเทาไรกัน แรกเริ่มเดิมทีอายฮุยรับภารกิจนี้
มาเพียงเพื่อจะทดลองดูเทานั้น แตบัดนี้เขาไดเปลี่ยนใจแลว เขาจะตองผานการ
ทดสอบนี้ไปใหจงได
หัวเด็ดตีนขาดอยางไรก็อยาไดมาถามขาวาจะเย็บปกหรือไม!
ตอใหลมรายโถมถั่ง กลองรบดังลั่น หากไมฝกการเย็บปกถักรอยก็อยามาเรียกขา
วาอายฮุย!
“ผาทอพลังธาตุทำอะไรไดบาง ทำไมถึงไดมีราคาถึงขนาดนี้ ผาโปรงนับเปนผา
ทอพลังธาตุดวยหรือไม” อายฮุยรีบซักไซ
“ผาทอพลังธาตุใชเข็มพลังธาตุถักทอขึ้นมา เสนดายใชวัตถุดิบที่เต็มไปดวยพลัง
ธาตุสรางขึ้นมา ที่ผาทอพลังธาตุมีมูลคาสูงมากก็เพราะวามันสรางรองรอยพลังธาตุได
งาย ยกตัวอยางเชนการเย็บปกนี้สามารถนำมาใชเพื่อสรางพลังธาตุได ผาทอพลังธาตุ
สามารถนำไปใชไดมากมายหลายอยาง อาทิเชน นำไปสรางอาวุธ อยาง [เถาเยา] ของ
รองหัวหนาของหนวยทะเลเหนือเฮอเหลียนเฟยเออร ก็เปนผลงานชิ้นเอกของการเย็บ
ปก ยังมีพวกโลและชุดดานในของเสื้อเกราะมากมาย มันสามารถใชปองกันพลังธาตุ
จากการโจมตีของอสูรแดนรางไดอยางแนนอน”
โหลวหลานไดเปลี่ยนกลับมาเปนรูปลักษณเดิม แลวขยับเขาไปใกลมวนดายเบื้อง
หนาที่กองเปนภูเขาเล็กๆ
“ที่อายฮุยตั้งใจจะพูดก็คือจะใชมวนดายพวกนี้ทอเปนผาโปรงใชไหม ใช มันเปน
ผาทอพลังธาตุ มวนดายพวกนี้มีคลื่นของพลังธาตุอยู แตวาจะตองใชเข็มพลังธาตุถัก
ทอใหสำเร็จถึงจะใชได อายฮุยเจาทำไดดวยเหรอ การทอผาเปนกลวิธีที่คอนขางลึกซึ้ง
ในการเย็บปกถักรอยนะ” โหลวหลานเอยขณะจองมองไปที่อายฮุย
“ไมเปนก็จะตองเปนใหได” อายฮุยกลาวขึ้นอยางเด็ดขาด ไมเหลือเรื่องใหตอง
หารือใดๆ
ถาหากวาไมรูเรื่องเงินหาแสนหยวนก็แลวไป แตในเมื่อรูแลว เชนนั้นก็ไมมีเรื่องให
ขบคิดอีกแลว ผาหนึ่งผืนขายไดถึงหาแสนหยวน เชนนั้นเงินแปดสิบลานก็เทากับผา
จำนวนหนึ่งรอยหกสิบผืน ถาคิดเชนนี้ อายฮุยก็รูสึกขึ้นมาในทันทีวามันไมไดยากที่จะ
ทำใหสำเร็จอะไรขนาดนั้น
ภายในใจของอายฮุย ความสำคัญของการเย็บปกอยูที่การเพิ่มระดับความเร็ว
วิธีการทอผาคู...
ในสมองของอายฮุยนึกยอนไปถึงทุกๆ รายละเอียดของการทอผาของศิษยพี่หมิง
ซิ่ว เมื่อไมมีเมล็ดพันธุแหงตัวออนกระบี่แลว ก็รูสึกราวกับวาความคิดของเขาชาลงมา
มากเลยทีเดียว แตวาในทุกๆ ความทรงจำยังคงแจมชัดถนัดใจ
อายฮุยไมไดคิดที่จะหยิบยืมพลังของตัวออนกระบี่เขามาชวยเหลือในการจับจุด
วิธีการทอผาคู
ความรูสึกในครั้งนี้ข องเขานั้น ชั ดเจนอย างมาก พลั งของตั วอ อนกระบี ่กำลัง
กาวหนาขึ้น และความรูสึกที่ลุมหลงก็รุนแรงยิ่งกวาครั้งไหนๆ
ขณะใชพลังของเมล็ดพันธุแหงตัวออนกระบี่แตแตตนจนจบ อายฮุยรักษาการ
ควบคุ ม อย า งระวั ง ระไว พลั ง ที ่ ย ิ ่ ง แข็ง แกร ง ก็ ไ ม ใ ชเ รื ่ อ งที ่ ด ีอ ะไร เมื ่ อ เกิ ดการ
เปลี่ยนแปลงของตัวออนกระบี่ นั่นก็หมายความวาเขาตองระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
“โหลวหลานเจารูจักวิธีการทอผาคูไหม” อายฮุยถาม
โหลวหลานไดเปลี่ยนรูปรางเปนหนังสือเลมหนึ่งอีกครั้ง เสียงเปดหนากระดาษดัง
ขึ้นพึ่บพั่บ
“วิชาการทอผาคูเปนสิ่งที่ปรมาจารยหันอวี้ฉินคิดคนขึ้นตอนที่นางอายุสิบเกาป
มันเปนสัญลักษณที่แสดงถึงรูปแบบการเย็บปกของปรมาจารยหันอวี้ฉิน”
ประโยคแรกที่โหลวหลานพูดทำใหอายฮุยเกิดความนับถือในตัวทานปรมาจารย
หันอวี้ฉินขึ้นมา อายุสิบเกาก็สามารถสรางการทอรูปแบบใหมออกมาได สมแลวที่เปน
ปรมาจารย!
“การทอผาคูเนนที่การใชเข็มคูรวมกัน ใชประโยชนจากการเหนี่ยวนำจากพลัง
ธาตุที่อยูในเข็ม ใชเข็มเลมหนึ่งนำพาอีกเลม ปรมาจารยหันอวี้ฉินสรางพื้นฐานการทอ
ผาคูและไดพัฒนากลวิธีการใชเข็มที่แตกตางกัน ในทายที่สุดก็ไดกลายเปนรูปแบบการ
ใชเข็มที่เปนเอกลักษณของนางอยาง [น้ำตกมัจฉา] ที่เปนที่รูจักจากการใชเข็มพลัง
ธาตุจำนวนมหาศาล นางเปนผูรักษาสถิติผูที่สามารถควบคุมเข็มพลังธาตุพรอมกัน
เปนจำนวนมากที่สุดในปจจุบัน”
เสียงเปดหนากระดาษพึ่บพั่บไดหยุดลง โหลวหลานก็กลับมาสูรางเดิมพลางกลาวขึ้น
“อายฮุย โหลวหลานมีเพียงเทานี้ ตำราเกี่ยวของกับการเย็บปกของอาจารยเซามีอยู
นอยมาก”
อายฮุยไมไดยินสิ่งที่โหลวหลานพูด เขากำลังพูดกับตัวเอง “ใชประโยชนจากการ
เหนี่ยวนำจากพลังธาตุที่อยูในเข็ม...”
ถาหากอายฮุยไมไดใชเมล็ดพันธุแหงตัวออนกระบี่มองดูการสาธิตของศิษยพี่หมิง
ซิ่วแลวละก็ เขาจะตองจับจุดไมไดเปนแน แตวาทุกรายละเอียดของการสาธิตของ
ศิษยพี่หมิงซิ่วไดสลักลงไปในสมองของเขาอยางลึกซึ้ง เมื่อมีประโยคของโหลวหลาน
ประโยคนี้ รายละเอียดสำคัญตางๆ ก็ปรากฏขึ้นในหัวเขาโดยไมรูตัว
ที่แทก็เปนเชนนี้...
เมื่อกอนเขาก็มีความรูสึกที่คอนขางเลือนรางไมชัดเจนอยู แตหลังจากที่ไดยิน
ประโยคนี้ก็ไดจุดประกายใหกับเขา
ทาทางของอายฮุยเปลี่ยนเปนเครงขรึมขึ้นมา
เมื่อเขาใจหลักการทอผาคูแลว อายฮุยก็รูวาทำไมอาจารยถึงไมเห็นดีก ั บ ตน
ถึงแมหลักการของการทอผาคูจะไมซับซอน แตวาตองอาศัยการควบคุมพลังธาตุที่สูง
เปนอยางมาก
ระดับการควบคุมพลังธาตุของอายฮุยยังหางจากขั้นต่ำสุดที่การทอผาคูตองการ
อยูมากโข
แตวาอายฮุยก็ไมไดเศราโศกเสียใจ เพราะเขาเวลามาโศกเศราที่ไหนกัน
เขาเริ่มลองกอรางเข็มพลังธาตุขึ้น จากประสบการณครั้งนั้นทำใหการกอรางเข็ม
พลังธาตุในครั้งนี้เร็วกวาครั้งกอนมากมายนัก ผานไปสักพัก รูเข็มก็มั่นคงอยางมาก
ความสามารถในการเรียนรูของอายฮุยไมไดแย ขอเพียงครั้งแรกทำสำเร็จ เขาก็จะ
สามารถกุมกุญแจสำคัญไดอยางรวดเร็ว
เขานึกยอนไปถึงทุกๆ การกระทำของศิษยพี่หมิงซิ่ว ทันใดนั้นก็ไดพบเขากับ
ปญหาขอใหญขอหนึ่ง เขาไมอาจควบคุมเข็มพลังธาตุในระยะไกลได
ตั้งแตตนจนจบการสาธิต ศิษยพี่หมิงซิ่วไมไดใชมือควบคุมเข็มพลังธาตุเลยแมแต
นอย หลักการในการใหเข็มพลังธาตุหางจากกายไมไดลึกซึ้งนัก พลังธาตุที่รวมตัวกัน
อยางหนาแนนจะกอรางรวมเปนเข็มพลังธาตุ และสวนปลายของมันจะมี “เสนดาย
ลองหน” หนึ่งเสนที่เชื่อมโยงระหวางเข็มกับผูควบคุม “เสนดายลองหน” นี้ก็คอื ดาย
พลังธาตุ เนื่อ งจากมันถูกสรางมาจากพลังธาตุ ที ่เบาบางอยางมากจนไมสามารถ
มองเห็นได คนอื่นจึงไมสามารถสัมผัสได
หากอยากฝกการใชเข็มพลังธาตุใหหางกายไดจำเปนจะตองมีพลังธาตุที่ลึกล้ำ
เชนนั้นการสราง “เสนดายลองหน” ก็มีระดับความยากยิ่งกวาการกอรางเข็มพลังธาตุ
เปนอยางมาก
พลังธาตุเปนจุดออนที่ใหญที่สุดของอายฮุย เขาเพิ่งจะเปดคลังชีวิตได มีพลังธาตุ
ไมพอที่จะใหเข็มพลังธาตุหางจากกาย
แตวาอายฮุยไมมีทางยอมลมเลิกเปนอันขาด
ผืนละหาแสนหยวนเชียวนะ!
นึกถึงตัวเลขก็ตื่นเตนแลว
เขากำลังเคนสมองทั้งหมด ขบคิดวาจะทำอยางไรจึงจะสามารถแกไขปญหาขอนี้
ได การทอผา คูจ ะตอ งทำการเคลื ่ อ นเข็ มทั ้ งสองเล มพร อ มกั น เข็ มเล มหนึ ่ งต อ ง
เคลื่อนที่ในแนวนอน เข็มอีกเลมหนึ่งตองเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง เมื่อเข็มทั้งคูเคลื่ อนที่
พรอมกันถึงจะเรียกวาการทอผาคู
เขาไมจำเปนตองทำความเร็วใหเทาศิษยพี่หมิงซิ่ว ชาสักหนอยก็ไมไดมีปญหาอะไร
ระหวางการสาธิต อายฮุยก็ไดพบวาศิษยพี่หมิงซิ่วทำราวกับวาเปนเรื่องง า ย
ราบรื่นอยางหาใดเปรียบ ไมไดดูซับซอนนัก แตวาเมื่อคนทอผาเปลี่ยนมาเปนตน กลับ
ไมรูจะเริ่มจากตรงไหน
เงินหาแสนหยวนไมไดไดมางายๆ เลย!
อายฮุยกำลังรูสึกปลงอนิจจัง
บทที่ 65 เสนดายลองหน
เมื่ออายฮุยตื่นขึ้นจากหวงความคิดก็เปนเวลาฟามืดแลว โหลวหลานเองก็ไมเห็น
แมแตเงา
ที่จ ริงแลว ก็ใชวา อายฮุยจะไม ไดอ ะไรเลย สำหรั บ เขาแล วการทอผ าคู ถือวา
ยากลำบากเกินไป แตมันก็ไมเพียงพอที่จะทำใหอายฮุยรูสึกทอถอยขึ้นมา เขาเผชิญ
กับความยากลำบากมามากมายหลายประเภทเสียจนชินชาแลว
เขาตัดสินใจลองทำดู เริ่มแรกตองลองกอรางเข็มพลังธาตุสองเลมพรอมๆ กัน
เสียกอน นี่คือหลักที่เปนพื้นฐานที่สุดของการทอผาคู หากไมมีเข็มพลังธาตุสองเลมก็
จะไมมีทางทอผาใหสำเร็จได
ตอนกลางวันเพิ่งจะเรียนการกอรางเข็มพลังธาตุไดสำเร็จ และกระบวนการฝก
ทั้งหมดสามารถพูดไดเลยวายากลำบากทีเดียว การจะเริ่มกอรางเข็มพลังธาตุสองเลม
ในเวลาเดียวกัน อายฮุยรูสึกวาเปนความทาทายที่ยิ่งใหญมาก
สิ่งที่เขาคาดไมถึงก็คือ ถึงแมวาจะพบปญหามากมาย แตกระบวนการก็ถือไดวา
คอนขางจะราบรื่น
เมื่อสายตามองเห็นเข็มที่สองประกายอยูบนปลายนิ้วทั้งขางซายและขวาของตน
ใบหนาอายฮุยก็เผยรอยยิ้มออกมา
แขนขางซายและขวาของเขาสมดุลเปนอยางมาก นี่คือสิ่งเขาคนพบตอนอยู ใน
แดนราง เขาสามารถจับกระบี่ดวยมือซายหรือมือขวาก็ไดโดยไมมีปญหาอะไร แตคิด
ไมถึงวาในการขับเคลื่อนพลังธาตุ ขอดีขอนี้ก็ยังคงรักษาความดีนี้เอาไวเชนกัน
หลังจากที่เข็มพลังธาตุเสถียรบนปลายนิ้วแลว อายฮุยจึงใชโอกาสนี้ลองนำเข็ม
พลังธาตุออกหางจากนิ้วมือของตน
เขาเคยเรียนวิธีการมาแลว ในคาบเรียนวิชาการฝกพื้นฐานของอาจารยหวังก็ไดมี
การพูดถึงหลักการพื้นฐานในสวนนี้ อาจารยไมไดอธิบายละเอียดมากนัก อายฮุยจึง
ตองจับจุดดวยตัวเอง
อายฮุยครองลมหลายใจของตนใหเปนจังหวะ คลังชีวิตของเขาคือคลังที่บริเวณ
ปอด จึ ง มี ค วามเกี ่ย วขอ งโดยตรงกั บ การหายใจ ร า งกายของมนุ ษ ย น ั ้ น มี ความ
มหัศจรรยอยางหาใดเปรียบ คลังชีวิตทั้งหาแตกตางกันอยางมาก
คลังที่บริเวณปอดขยับ ขยายตามการหายใจของอายฮุย จึงมีการยุบพองเป น
จังหวะ เมื่อหายใจเขา อากาศก็เขามายังคลังบริ เวณปอดผานปากและจมูก คลัง
บริเวณปอดทอประกายสีเงินจางๆ และเกิดแรงดูดขึ้นแรงหนึ่ง พลังธาตุทองที่อยูใน
อากาศถูกคลังบริเวณปอดดูเขาไป อากาศเสียก็ผานออกมาทางปากและจมูกอีกครั้ง
ขอดีอยางหนึ่งหลังจากการเปดคลังชีวิตไดคือความสามารถในการฝกพลังธาตุได
ผานการหายใจเพียงอยางเดียว ถึงแมพลังธาตุที่อยูในอากาศจะเบาบางและพลังธาตุที่
ดูดเขามาในทุกๆ ครั้งลวนเล็กนอยอยางมาก แตวาการะสะสมจากนอยจนกลายเปน
มาก สะสมจากทรายจนกลายเปนเจดีย หากมองจากระยะยาวแลวก็มีขอดีอยางไม
ตองสงสัยเลย
ถาหากวาสามารถมองทะลุตัวอายฮุยไดก็จะเห็นดายสีเงินที่เล็กละเอียดอยางมาก
สองเสน ซึ่งลอยออกมาจากคลังปอดสีเงิน เสนหนึ่งเขาไปยังมือซายของอายฮุย อีก
เสนหนึ่งเขาไปยังมือขวาของอายฮุย นั่นก็คือพลังธาตุ
ตำหนักที่ฝามือขางซายและขวาของอายฮุยยังไมไดเปด ซึ่งหมายความวาเสนทาง
ระหวางตำหนักที่ฝามือกับคลังบริเวณปอดยังไมไดถูกเปดขึ้น อางอิงจากการปฏิบัติ
ของยุคการบำเพ็ญตนแลว ปจจุบันยังคงใชคำวา “เสนชีพจร” คำนี้อยู แลวจึงเรียกวา
เสนชีพจรพลังธาตุ
พลังธาตุของอายฮุยในตอนนี้ไหลมาจากกลามเนื้อ หากเปรียบเสนชีพจรพลังธาตุ
ก็จะเปนแมน้ำเสนสายใหญอันเชี่ยวกราก กลามเนื้อก็เปรียบเสมือนลำธารคดเคี้ยว
สายน อ ยในป า ทึ บ นอกจากจะไม อ าจส ง ผ า นพลั ง ธาตุ ไ ด ใ นปริ ม าณมากแล ว
ประสิทธิภาพการไหลผานก็ยังต่ำอีกดวย
สถานการณของอายฮุยดีขึ้นมาอีกหนอย
การทะลวงคลังชีวิตในตอนที่พลังธาตุเออลนมีสวนชวยใหกลามเนื้อทั่วรางกายผาน
การหลอหลอมจากพลังธาตุ และลดการขัดขวางการไหลผานของพลังธาตุลงไปมาก
พลังธาตุไดกอรางขึ้นที่ปลายนิ้วของอายฮุยกลายมาเปนเข็มพลังธาตุ แตวามัน
ไมไดแยกหางจากดายสีเงินที่อยูในรางกาย อายฮุยสามารถควบคุมเข็มพลังธาตุไดก็
เพราะปลายดายอีกดานของดายเงินเชื่อมตอกับคลังบริเวณปอด
อายฮุยลองควบคุมเข็มพลังธาตุใหยื่นออก
ภายใตสายตาของเขา เข็มพลังธาตุที่ปลายนิ้วคอยๆ ยาวขึ้นทีละนิด
ไมถูกนะ! นี่ไมใชพลังธาตุที่หางกาย
หลักการนั้นไมไดซับซอนเลย รักษาดายพลังธาตุอยาใหขาด สวนหนาสุดของเข็ม
พลังธาตุใหรัก ษาสภาพความหนาแน น ของพลั งธาตุ เอาไว และส ว นครึ ่ งหลั ง ให
เปลี่ยนเปน “เสนดายลองหน”
หรือสามารถพูดไดวา ตองรักษาใหสวนครึ่งหลังของเข็มเบาบางอยางมาก แต
ไมใหตัดขาดจากดายพลังธาตุที่อยูในรางกาย จะทำใหมันเบาบางลงไดอยางไร
อายฮุยรูสึกอับจนหมดหนทาง อาจารยไมเคยกลาวถึงเรื่องนี้มากอนเพราะเปน
เนื้อหาวิชาเรียนของนักเรียนในชั้นปที่สูงขึ้นไป ระดับความยากมีมากเกินไปสำหรับ
มือใหมที่เพิ่งจะเปดคลังชีวิตได
นี่ก็ค่ำมืดแลว ไปหาอาจารยในเวลานี้ดูจะไมเหมาะสม อายฮุยตัดสินวาตนจะลอง
คิดหาทางดวยตัวเองกอนคืนหนึ่ง พรุงนี้หากวายังไมมีความคืบหนาอะไรคอยไปถาม
อาจารย
อายฮุยหวนนึกวาเมื่อครูตนทำอยางไรถึงทำใหพลังธาตุกอรางขึ้นมา บางจะทำให
ดายพลังธาตุเปลี่ยนมาเปนเบาบาง เชนนั้นก็ตองทำยอนทาง
พอนึกไดแลวก็ลงมือทำ จุดสำคัญของการกอรางเข็มพลังธาตุก็คือการบีบอัดพลัง
ธาตุที่ปลายนิ้ว เพื่อจะทำใหพลังธาตุกอรางขึ้นได การจะทำยอนทางก็คือเจือจางพลัง
ธาตุที่ปลายนิ้ว
เข็มพลังธาตุที่ปลายนิ้วของอายฮุยคอยๆ เบาบางจางลง
ประกายแสงคอยๆ หรี่ลง เปลี่ยนเปนโปรงแสง สุดทายก็กลายเปนวางเปลา แต
วาอายฮุยสามารถสัมผัสไดวาเข็มพลังธาตุไมไดหายไป
อายฮุยไมไดหยุดตรงนั้น เขาควบคุมพลังธาตุที่อยูในกายอยางระมัดระวัง ยังคง
ลดระดับทำใหมันเบาบางลง และพยายามอยางยิ่งยวดที่จะครองรูปรางของมันเอาไว
ในเวลานี้การดำรงอยูของเข็มพลังธาตุเบาบางมาก แมแตอายฮุยก็ตองเพงสมาธิ
เปนอยางมากถึงจะสามารถรับรูได
ในทันนั้น รางกายของอายฮุยก็สั่นสะทาน ใบหนาของเขาไดเผยความปติยินดีออกมา
ขณะที่ความเขมขนของพลังธาตุที่ลดลงอยางไมหยุดหยอน ความรูสึกที่ปลายนิ้ว
ที่เบางบางจนแทบจะหายไปไดเปลี่ยนเปนชัดเจนขึ้นมา เขาสามารถสัมผัสไดวาพลัง
ธาตุออนๆ ที่อยูตรงหนาเขานั้นเคลื่อนที่ไปตามบรรดาลจิตของตน
“เสนดายลองหน”
ในดวงตาของอายฮุยปรากฏความยิน ดีอยา งบา คลั่ งขึ้ น สิ่งนี้ก็คือ “เสนด า ย
ลองหน”! ในใจของเขาไดกระจางแจงขึ้นมา ที่แท “เสนดายลองหน” ตองเจือจาง
ระดับความเขมขนของพลังธาตุใหกาวขามจุดวิกฤตไป
นี่แหละคือกุญแจสำคัญ!
เมื่อทะลวงจุดวิกฤตนี้ไปได การควบคุมดายพลังธาตุก็จะเพิ่มรัศมีขึ้นเชนกัน
เมื่อเขาใจ “เสนดายลองหน” อายฮุยก็เปยมสุขเปนอยางมาก ถึงแมจะยังมี
ระยะหางจากความสามารถในการเคลื่อนเข็มอยูอีกมาก แตวานี่ก็เปนการเริ่มตนที่ดี
มันคือวิชาเรียนของนักเรียนระดับสูง และเขาสามารถบรรลุไดในเวลานี้ อายฮุยจะไม
ปติยินดีไดอยางไร
ทันใดนั้น “เสนดายลองหน” ที่อยูตรงปลายนิ้วของอายฮุยไดสลายไป
สีหนาของอายฮุยไดนิ่งคาง ผานไปสักพัก เขาก็ไดเผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา ใน
ที่สุดเขาก็ไดรูวาทำไมมันถึงไดถูกใสเขาไปในเนื้อหาวิชาเรียนของนักเรียนระดับสูง
“เสนดายลองหน” นั้นมีความยืดหยุน และสามารถสรางการควบคุมที่ซับซอนได
มากมาย แตวามันกินพลังธาตุ เทียบกับการบีบอัดพลังธาตุแลวยังใชมากกวาอีก เมื่อ
ครูก็เปนเพราะพลังธาตุในตัวของอายฮุยหมดไป จึงไมอาจรักษาสภาพของดายพลัง
ธาตุไวได ทำให “เสนดายลองหน” สลายไป
“เสนดายลองหน” อยูไดในเวลาที่สั้นแคนี้ จะไปมีประโยชนอะไร
นอกจากนั้นแลว การควบคุม พลั งธาตุ ห า งจากกายไม ไ ด ข ึ ้ น อยู แ ต เพี ย งกั บ
“เสนดายลองหน” การประสานเข็มพลังธาตุเขากับ “เสนดายลองหน” จะเผาผลาญ
พลังธาตุของเขาเร็วยิ่งกวาแตกอน หลักการงายเชนนี้เขายังทำไมได แลวจะผานการ
ทอผาคูไปไดอยางไร
อายฮุยทรุดกายนั่งลงบนพื้นเบื้องใตทองฟาประดับดาว ในทองรูสึกโหวงเหวงพิกล
เขาพักอยูครูหนึ่ง พลังกายก็ฟนกลับมา จึงลุกขึ้นอยางไมลังเล บนหลังแบก
กระเปาเปบรรจุมวนดายราวกับภูเขาใบนอยขึ้นมา หันหลังใหกับแสงดาวบนฟากฟา
กาวขาเดินออกจากโรงฝกไป
บทที่ 66 ความกาวหนา
เมื่อมองเห็นหมิงซิ่ว หวังโสวชวนก็ชักสีหนาดำคล้ำพนลมฮึดฮัดไมชอบใจ
“ทานลุงโปรดอยาโกรธ” หมิงซิ่วพูดพรอมรอยยิ้มอยางสุภาพนอบนอม “ทานก็
ทราบอารมณของปรมาจารยดี ในตอนนั้นนางกำลังฉุนเฉียว ภายหลังเมื่อนางสงบลง
แลวนางก็รูสึกผิดเปนอยางมาก นางทราบวาทานตองโกรธเปนแน ถึงขนาดพูดวาศิษย
ของทานก็เหมือนศิษยของนาง ตอใหอายฮุยไมผานการทดสอบนางก็จะสอนใหกับเขา
ที่นางกลาววาจาลวงเกินไปนั้นก็เปนเพราะนางกำลังโกรธ”
“นั่นหมายความวาเจาไมมีความหวังในตัวของอายฮุยใชหรือไม” หวังโสวชวนพูด
ดวยสีหนาไมยินดี
หมิงซิ่วรูวาหวังโสวชวนยังโกรธไมหายนางจึงกลาววา “แนนอนวาเรายอมมี
ความหวังในตัวเขา อายฮุยมีการแสดงออกที่หาที่เปรียบไมได ขามั่นใจวาเขาตองมี
อนาคตที่ยาวไกล”
หวังโสวชวนกลาวดวยสีหนาไรซึ่งอารมณ “นั่นหมายความวาในตอนนี้เจาไม
คาดหวังในตัวเขาสินะ”
“เรายอมเชื่อมั่นในสายตาของทานลุง” หมิงซิ่วกลาวอยางนอบนอม “โปรดอยา
โกรธทานปรมาจารยเลย ทานก็รูวานางอารมณรอน แตนางก็มีความรักตอทานเชนกัน
นางรูวาตนกระทำหุนหันพลันแลนไป ตอนนี้นางใจเย็นลงแลวและรูสึกผิดอยางมากที่
ทำใหทานโกรธ หลายวันมานี้นางถึงกับกินอะไรไมลงน้ำหนักลดลงไปไมนอย”
หมิงซิ่วเปนทูตระหวางคนทั้งสองมานับครั้งไมถวน ไมมีฝายใดที่อารมณเย็น สักคน
ดังนั้นถึงแมวาทั้งคูจะรักกัน แตก็ไมไดอยูรวมชายคาเดียวกันเปนเวลานานมากแลว
หันอวี้ฉินเปนคนกาวราว นางดูแลโรงเย็บปกดวยตัวเองและมีความมุงหวังที่จะ
พัฒนาโรงเรียนของนางใหกาวหนาสืบไป ในอีกดานหนึ่งหวังโสวชวนก็ยึดติดในหลัก
คำสอนของตนโดยไมสนใจโลกภายนอก เขาเองก็เปนพวกหัวรั้นเชนกัน ดังนั้นทุกครั้ง
ที่ทั้งคูพบกันก็จะทะเลาะเบาะแวงกันอยางรุนแรง ตอนแรกหมิงซิ่วก็กังวลเปนอยาง
มาก แตหลังจากพบเห็นมานาน นางก็ชินเสียแลว นางรับรูไดวาแมทั้งคูจะทะเลาะกัน
ตลอดแตก็รักกันมาก
หากไมเปนเชนนั้น ทานปรมาจารยคงไมเปดโรงเย็บปกในเมืองเล็กอันหางไกล
อยาง เมืองซงเจียน กวายี่สิบปเชนนี้
หมิงซิ่วรูวาปรมาจารยรูสึกผิดอยางมากในครั้งนี้ ทานลุงไมเคยขอรองปรมาจารย
เรื่องใดมากอน นี่เปนครั้งแรกที่เขาทำและตองลงเอยอยางวุนวาย นั่นคือสาเหตุที่
อาจารยรูสึกผิดและอารมณเสียเปนอยางมาก
สีหนาของหวังโสวชวนแจมใสขึ้นเล็กนอย
หมิงซิ่วรูดีวาตีเหล็กตองตีตอนรอน
นางจึงรีบกลาววา “ขาจะไปนำอายฮุยมา ยิ่งเริ่มตนเร็วเทาไรยิ่งกาวหนาไดมาก
เทานั้น ทานลุงโปรดวางใจ ปรมาจารยจะดูแลอายฮุยเหมือนกับศิษยของนางเอง ยิ่ง
ไปกวานั้นขาเองก็จะชวยอีกแรง ขาจะดูแลเขาอยางดี ทานลุงเห็นวาอยางไร”
หวังโสวชวนไมตอบคำถามในทันที แตถามกลับไปวา “นั่นหมายความวาพวกเจา
ไมคิดวาอายฮุยจะผานการทดสอบ”
หมิงซิ่วคิดอยูครูหนึ่งกอนจะตอบกลับไป “อายฮุยมีความสงบและควบคุมอารมณไดดี
สวนเรื่องพรสวรรคนั้นขาเชื่อมั่นในการประเมินของทานลุง การทดสอบนั่นเปนเรื่อง
เหลวไหลที่อาจารยพูดออกมาดวยความโกรธ โปรดอยาจริงจังกับมันเลย ไมมีใครใน
โรงเย็บปกนี้สามารถทอผาดวยการทอผาคูภายในสัปดาหแรกของการเรียนมากอน”
หวังโสวชวนยอมรูดีวาหมิวซิ่วพูดความจริง แตเขายังคงสายหนา “เขาเปนศิษย
ของขา เขาบอกวาเขาอยากทดลองและขาเชื่อในตัวเขา ไวรอดูเมื่อถึงเวลาเถอะ ไม
จำเปนตองรีบรอน”
หมิงซิ่วไมคาดคิดวาหวังโสวชวนจะปฏิเสธ นางรูวาทานลุงมีความภาคภูม ิและ
หยิ่งทะนงเชนเดียวกับปรมาจารยแตครั้งนี้เขาดูเหมือนจะโกรธจริงๆ นางจึงเริ่มกลาว
อยางสุภาพ “ทานลุง....”
หวังโสวชวนโบกมือหาม “แครอดูก็พอ ถาเขาไรความสามารถในการเย็บปกจริงๆ
พวกเราก็ไมจำเปนตองเสียเวลา”
เมื่อเห็นวาทานลุงไดตัดสินใจแลว หมิงซิ่วก็ไมพยายามโนมนาวอีกตอไปและ
เดินทางกลับ
หันอวี้ฉินรับฟงรายงานของหมิงซิ่วอยางหนาดำคร่ำเครียด ก็ไมกลาวอะไรแมแต
คำเดียว นางรูดีวาครั้งนี้นางทำเกินไป ถึงแมวาพวกเขาจะเคยทะเลาะกันมากอน แต
ตราบใดที่หมิงซิ่วไปชวยไกลเกลี่ยก็จะสามารถแกไขได นางรูสึกเสียใจที่ไมทราบมา
กอนวาหวังโสวชวนจะคาดหวังในตัวของอายฮุยถึงเพียงนั้น มันเกินกวาที่นางคาดไว
มาก
ในตอนนี้ก็ชัดเจนแลววาเขาไมตองการนำตัวอายฮุยกลับไปแมแตนอย
การทดสอบนี้เขาไมอาจผานไดอยางแนนอน
“ชางมันเถอะ” หันอวี้ฉินกลาวอยางสิ้นหวัง
หมิงซิ่วนิ่งเงียบไมเอยปาก นางเองก็ไมคาดคิดวาทานลุงจะยึดมั่นถึงขนาดนี้ หรือ
นี่จะหมายความวาทานลุงไมตองการใหอายฮุยเรียนเย็บปกอีกแลว อยางไรก็ตามเมื่อ
นึกนึงทาที่ของทานลุงแลวหมิงซิ่วรูสึกวานั่นไมใชความตองการของทานลุง
หรือเขาเชื่อวาอายฮุยสามารถผานการทดสอบได
หมิงซิ่วตระหนกกับความคิดนี้
นั่นเปนไปไมได!
หมิงซิ่วรีบปฏิเสธความคิดนั้นทันที แมวาการทอผาคูจะไมซับซอน แตสำหรับ
มือใหมอยางอายฮุยที่ใชเวลาสนดายเขาเข็มอยูนาน มันยอมเปนการทดสอบที่ไมอาจ
ผานไดอยางแนนอน
นางมั่นใจวานั่นเปนเพราะทานลุงตองการแสดงความชื่นชมในตัวอายฮุย ซึ่งก็
นับเปนเรื่องปกติ ตลอดหลายปที่ผานมา ทานลุงไมเคยรับศิษยเลย อายฮุยนับวาเปน
ศิษยคนแรก นางรูจักทานลุงเปนอยางดี ถึงแมวาเขาจะอารมณรอนแตก็เปนคนมี
เมตตา
นางคิดวาจะไปเกลี้ยกลอมเขาอีกครั้งในสองสามวันนี้ หรืออาจจะขอใหอายฮุย
ชวยเหลือนางอีกแรง
หืมมม...แตวันนี้นางยังไมเห็นอายฮุยเลย
หมิงซิ่วนึกขึ้นไดวานางแอบชวยเหลือเขาอยางลับๆ ได ทานลุงนั้นกำลังอารมณ
ไมดี หากอายฮุยสามารถผานการทดสอบไดอยางราบรื่นก็จะจบเรื่องนี้ลงโดยที่ ทุก
ฝายมีความสุข ถึงแมวาการจะใหเขาสอบผานดวยตัวเองนั้นเปนไปไมได แตหากได
นางชวยนั่นก็ไมใชปญหาอีกตอไป
เสียงกระแทกดังออกมาจากภายในเจดียเสวียนจินเปนระยะๆ หลังจากพลังธาตุ
ทองภายในกายของเขาถูกกระจายตัวออกไปจากการใช [มัจฉาสะบัดกาย] อายฮุยก็
นั่งลงดูดซับพลังที่สลายตัวออก ความสามารถในการดูดซับพลังงานของเขาเพิ่มขึ้น
อยางมากหลังจากเปดคลังชีวิตได
ในตอนนี้เขารูถึงประโยชนของการเปดตำหนักแรกแลว เขาไดเห็นถึงการพัฒนา
โดยรวม ไมวาจะเปนประสิทธิภาพในการฝกหรือการควบคมพลังงานของเขา
เวลาที่เขาสามารถแขวนตัวอยูภายในเจดียเสวียนจินไดก็เพิ่มขึ้น นี่หมายถึงพลัง
ธาตุทองที่สะสมไวภายในกายของเขานั้นมีมากกวาเมื่อกอนอยางมาก ทวาความเร็วใน
การดูดซับของเลือดเนื้อของเขานั้นไมอาจเทียบกับความเร็วของคลังชีวิตเลย
ไมจำเปนตองกลาวถึงการควบคุมพลังงาน กอนหนานี้ อายฮุยสามารถใชพลังธาตุ
ในการทำงานพื้นฐานบางอยางเพียงเทานั้น แตในตอนนี้ เขาสามารถสราง “เสนดาย
ลองหน” ขึ้นดวยพลังธาตุ นี่คือความกาวหนาครั้งใหญ
ไมตอ งสงสัยเลยวาการเปดคลังชี วิตนั้ นเป นหลั กชัยแรกของการฝกพลังธาตุ
ประโยชนของมันนั้นสามารถเห็นไดอยางชัดเจน
ดวยการฝกฝนอยางหนัก อายฮุยจึงไดรับผลประโยชนโดยตรงและความกาวหนา
ก็เปนไปอยางรวดเร็ว
แตในตอนนี้อายฮุยไมมีเวลาปลื้มปติยินดี ในเมื่อพลังธาตุของเขาฟนฟูเรียบรอย
แลวระหวางการทำสมาธิ เขาก็ลืมตาขึ้นและเริ่มฝกการควบคุมเข็มพลังธาตุในทันที
ในตอนนี้เมื่อพิจารณาจากการที่เขาสามารถสรางเข็มธาตุขึ้นได อายฮุยก็ไมใช
มือใหมอีกตอไป จากการฝกฝนนับครั้งไมถวนเขาสามารถทำมันไดอยางคลองแคลว
ผมของเขายุงเหยิงและใบหนาสกปรกจากการไมไดหลับหรือพักผอนตลอดสอง
วันที่ผานมา
ในที่สุดเขาก็สามารถบังคับเข็มพลังธาตุใหหางกายได แตก็เพียงแตภายในรัศมีสิบ
เซนติเมตรเทานั้น แมวาระยะเทานี้จะไมนับวามากนัก แตก็เพียงพอสำหรับเขา
แตนี่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะยินดีเอาตอนนี้ เขายังคงทุมเทเพื่อที่จะเรียนรูกาวตอไป
การบังคับเข็มพลังธาตุโดยไมตองสัมผัสนั้นเปนเพียงการเริ่มตนเทานั้น
แตครั้งนี้อายฮุยก็เต็มเปยมไปดวยความมั่นใจ
บทที่ 67 การลบหลูต นเองของตวนมู
ตวนมูหวงฮุนนั่งอยูในโรงเรียนรูสึกรอนใจ
เหลา นัก เรีย นรอบกายตา งก็อ ดไม ได ต อ งหั น ไปจ อ งมองเขาทุ ก ที ไป สาวๆ
มากมายซอนตัวอยูหลังหนาตาง แอบมองเขาดวยสายตารอนแรง ตวนมูหวงฮุนชื่อ
เสียงกระฉอนขึ้นมาจากการตอสูที่โดงดังครั้งนั้น และในตอนนี้ไดกลายเปนศิษยคน
สุดทายของยอดปรมาจารยไตกังเปนที่เรียบรอย แตเรื่องเหลานี้กลับไมอาจทำใหเขา
พอใจหรือมีความสุขไดเลย
เนื่องจากเปนคนมีการศึกษาสูง พรสวรรคเลิศล้ำ ใบหนาหลอเหลา ซ้ำในตอนนี้
ยังเปนศิษยคนสุดทายของปรมาจารยผูมีชื่อเสียงอีก เขานับวาเปนผูที่สวรรค โปรด
ปราน เขานั้นชางสมบูรณแบบเสียจนไมมีใครกลาคิดริษยา
แตเขากลับไมมีความสุขสักนิด
เจาสารเลวนั่นไมมาโรงเรียนอีกแลว
ในใจของตวนมูหวงฮุนเต็มไปดวยความโกรธ ใชแลว ความโกรธ!
วันนี้เปนวันแรกที่เขากลับมายังเมืองซงเจียนหลังจากเดินทางไปพบกับอาจารย
ของเขา ดวยฐานะศิษยคนสุดทายของยอดปรมาจารยทำใหเขาเปลงประกายราวดวง
อาทิตย ครูใหญออกมาตอนรับขับสูเขาดวยตนเองอีกครั้ง ทำแมกระทั่งพูดจาประจบ
สอพลอเขา อาจารยคนอื่นก็ท ัก ทายเขาอย างอบอุ น ทำราวกั บเขาไมใช นักเรียน
บรรดานักเรียนชายตางชมายมองเขาดวยความเคารพนบนอบ ในขณะที่นักเรียนหญิง
จองมองเขาดวยดวยความรักใครปรารถนา
แตเขาไมเคยตองการหรือสนใจสิ่งเหลานี้
คนเดียวที่เขาตองการพบ คนเดียวที่เขาสนใจ ไมอยูในกลุมคนพวกนี้
เขาตองการจะเห็นความอิจฉาริษยาและความออนนอมถอมตนจากดวงตาของ
อายฮุย ใชแลว นี่ตางหากคือสิ่งที่เขาตองการ เขาอยากเห็นหมอนั่นหมอบคลานอยู
แทบเทา อยูภายใตชื่อเสียงอันพรางพราวของเขา
มันตองรูสึกดีมากๆ แน!
แตบัดซบ! เจาหมอนั่นไมมาที่โรงเรียนอีกแลว!
ใบหนาของตวนมูหวงฮุนซอนไวดวยความโกรธแคน ถึงแมวาดวงตาของเขาจะ
เยือกเย็นเชนน้ำแข็ง แตความโกรธแคนกลับเผาไหมอยูภายใน
มันเหมือนกับกองทัพอันทรงพลังที่เพียบพรอมไปดวยทหารราบและทหารมา
หลังจากวางแผนมาอยางยาวนาน ในที่สุดก็เดินทัพไปยังคายของศัตรู หวังจะกวาด
ลางใหสิ้นซาก แตกลับพบวาคายนั้นกลับกลายเปนคายราง
นั่นเปนความรูสึกที่แยที่สุด
เขาไมไดฟงสิ่งที่อาจารยกำลังพูดเลยแมแตคำเดียว ตลอดทั้งเชาเขาเต็มเปยมไป
ดวยความแคนอัดแนนอยูในอก เหมือนภูเขาไฟที่พรอมจะปะทุไดทุกเวลา
ทุกนาทีในชั้นเรียนเหมือนกับการทรมาน ทำใหความโกรธของเขาเพิ่มพูนขึ้นเปน
เทาทวี เขารูสึกเหมือนตัวเองกลายเปนตัวตลกหนาโง ความรูสึกเชนนั้นชางรุนแรงจน
เขาแทบไมอาจหามตัวเองไมใหกระโจนออกจากหองเรียนได
ทวาเขาก็สามารถอดทนขมกลั้นไวจนหมดคาบเรียนได
ทันทีที่จบคาบเรียน เขาก็รีบเรงรุดออกจากโรงเรียนไปดวยความเร็วสูง
เมื่อออกมาภายนอกแลว แสงแดดเจิดจาก็ทำใหตองหรี่ตาอยางชวยไมได
“ขอโทษที ทานรูจักอายฮุยหรือไม”
เมื่อเขาเดินผานประตูโรงเรียน ตวนมูก็ไดยินเสียงนุมนวลสุภาพทำใหเขาหยุดเดิน
ในทันที นั่นไมใชเพราะเสียงออนนุมนั้นดึงดูดใจเขา แตเปนเพราะชื่อที่ไดยิน
อายฮุย...คนสารเลว!
หลังจากปรับสายตาใหชินกับแสงอาทิตยแลว เขาก็สามารถมองเห็นบุคคลตรงหนาได
อยางชัดเจน ดวงตาของเขาก็เปลงประกายขึ้น ชางเปนสาวงามตามแบบฉบับ
สาวนอยหนาตางดงามยืนอยางเอียงอายพรอมรอยยิ้มอันอบอุน ดูสุภาพและ
เหมาะสม ตวนมูหวงฮุนเคยเห็นสาวงามมานับไมถวนแตนอยคนนักที่จะเรียกไดวา
งดงามเทียบเทากับสาวนอยตรงหนา
คนรักสาวของอายฮุยอยางนั้นหรือ
เปนไปไมได ตวนมูปฏิเสธความคิดนั้นในทันที คนอยางอายฮุยจะไปมีคนรั ก
งดงามแบบนี้ไดอยางไร คนรักของเขายังหนาตาธรรมดาเลย ในตอนที่คำวาคนรักผุด
ขึ้นมาในจิตใจของเขา ใจของตวนมูก็เตนรัว เนื่องจากเขาระลึกถึงประสบการณท่นี า
สังเวชในคืนนั้น มันเปนฝนรายอยางแทจริงซึ่งเขายังคงพยายามที่จะลืม
เขาไมนึกเลยวาจะมานึกถึงมันในตอนนี้…
แมวาเขาจะรองคำรามดวยความโกรธเกรี้ยวอยางรุนแรงอยูในใจ แตตวนมูหวง
ฮุนก็ยังคงยิ้มอยางสดใสและกลาววา “ยินดีที่ไดพบ ขาเปนเพื่อนรวมชั้นของอายฮุย”
เขาตัดสินใจที่จะมัดมือมัดเทาศัตรูของเขากอนที่เขาจะลงมือ
“ชางดีเสียจริง ยินดีที่ไดพบเชนกัน ขาเปนศิษยอาวุโสของอาจารยของอายฮุย”
หมิงซิ่วกลาวดวยความตื่นเตนยินดี
ศิษยอาวุโสของอาจารยของอายฮุยหรือ
ตวนมูหวงฮุนเองก็ประหลาดใจเล็กนอย ความสัมพันธนี้ดึงดูดความสนใจของเขา
ในทันที อายฮุยมีอาจารยแลวอยางนั้นหรือ มีคนเลือกคนหวยแตกเชนนั้นเปนศิษย
ดวยหรือ เขาเริ่มรูสึกไมพอใจ
แตถึงอยางนั้นเขาก็สงบพอที่จะสามารถรักษาทาทีเอาไวได และเอยถามดวย
รอยยิ้มกวางแสดงความประหลาดใจออกมาอยางเหมาะสม “อายฮุยมีอาจารยดวย
เชนนั้นหรือ ขาไมเคยไดยินมากอน ทำไมเขาไมเคยบอกขาวดีนี้กับพวกเราเลย”
หมิงซิ่วไมคิดอะไรมากและตอบออกไปวา “ขาคาดเดาวาเขาคงไมมีเวลาที่จะ
บอกกับ ทา น เพราะมันเพิ่งเกิดขึ้น ไม ก ี่ ว ั นก อน อาจารย ข องเขาคื อหวั งโสวชวน
อาจารยของโรงเรียนซงเจียน”
“หวังโสวชวน อาจารยในโรงเรียนของเราทานนั้นหรือ” ตวนมูหวงฮุนหยุดไปครูหนึ่ง
เพื่อคนความทรงจำของเขา “เขาเปนอาจารยที่สอนวิชาการฝกขั้นพื้นฐานใชหรือไม”
“ถูกแลว” หมิงซิ่วรูวิชาที่ทานลุงสอนดี
“ขา เขา ใจแลว” ตวนมูห วงฮุนรู สึ กผ อนคลายในทั น ที ไม มี อ ะไรน าแปลกใจ
อาจารยที่ไมไดรับความเคารพยอมตองรับศิษยที่หวยแตกเชนนั้น เขาไมคิดวาอาจารย
ที่สอนวิชาการฝกขั้นพื้นฐานจะเปนผูมีฐานะยิ่งใหญอันใด
ตอนนี้ตวนมูหวงฮุนรูสึกยินดีกวาเดิมมาก แสรงแสดงความประทับใจออกมา
พรอมกลาววา “เขาเปนอาจารยที่ดี อายฮุยนับวาโชคดีที่ไดเขาเปนอาจารย”
ไดยินคำชมเชนนี้ หมิงซิ่วรูสึกประทับใจในตัวตวนมูหวงฮุนเพิ่มขึ้นอีก นางเรียน
การเย็บปกจากปรมาจารยมาตั้งแตยังเด็กดังนั้นสำหรับนางแลวทานลุงเปนเหมือนคน
ในครอบครัวเชนเดียวกับปรมาจารย
“ถาอยางนั้นทานกับอายฮุยก็คงรูจักกันดี” หมิงซิ่วถามดวยความสงสัย
“ดีมาก!” ตวนมูตอบ เขากัดฟนขมความโกรธไวและสงยิ้มสดใสออกมา “เราอยู
กลุมภารกิจเดียวกัน”
“ออ ถาอยางนั้นทานตองเปนเพื่อนสนิทของเขา” หมิงซิ่วรูสึกดีใจที่ไดยินเชนนั้น
สมาชิกกลุมภารกิจโดยทั่วไปแลวจะเปนเพื่อนสนิทกันชวยเหลือซึ่งกันและกัน
“ใชแลว ใชแลว” ตวนมูยิ้มอยางสดใสกวาเดิม แตภายในใจเขาหวังวาจะแทงอายฮุย
ใหสิ้นใจ
ออ ไมสิ แทงเหรอ เขาจะไปทำเรื่องปาเถื่อนแบบนั้นกับ “เพื่อนสนิท” ไดอยางไร
เขาตองสับมันเปนชิ้นๆ เพื่อระบายความโกรธ
“เออแนะ ขายังไมรูชื่อของทานเลย” หมิงซิ่วกลาว
ตวนมูใชความคิดอยางรวดเร็ว เขาควรจะบอกชื่อจริงกับนางหรือไม ไม เขา
ชื่อเสียงโดงดังเกินไปในชวงนี้ ดวยความเปนคนดัง นางอาจจะจำเขาไดหากรูชื่อจริง
ของเขา ถาอยางนั้นนางก็จะรูวาเขาโกหก เพราะเจาอายฮุยตองปากเสียเลาเรื่องของ
เขาใหนางฟงอยางแนนอน
ทำไมไมบอกชื่อปลอมกับนางไปเลา
ตวนมูหวงฮุนโพลงออกไปโดยไมทันคิด “เรียกขาวา ปงหวาน”
ครูตอมาเขาก็นึกไดวาตนเองพูดอะไรออกไป เขารูสึกเหมือนไดลงมือฆาตัวเอง
เขาแทบรองออกมา นี่เขาทำอะไรลงไป
“โอ สวัสดี ปงหวาน” หมิงซิ่วกลาวอยางจริงใจ
ไดยินชื่อที่คุนเคยแตนาหวาดกลัวอีกครั้ง น้ำตาของตวนมูก็เออขึ้นมา
“ใช ใช” เขาตอบกลับอยางเชื่องชา
การลบหลูตนเองครั้งนี้ชางรุนแรงเกินไปแลว
บทที่ 68 เปดเผย
“ปงหวาน ทานรูหรือไมวาอายฮุยพักอยูที่ใด” หมิงซิ่วถาม “ขาตามหาเขามา
หลายที่แลวแตไมพบ”
เมื่อตวนมูหวงฮุนที่กำลังหลั่งน้ำตาออกมาในใจอยางเงียบงัน ไดยินอยางนั้ นก็
เกือบจะระเบิดหัวเราะออกมา นี่แปลวาเขาไมใชคนเดียวที่หาอายฮุยไมพบ
เดี๋ยว นี่ไมใชสิ่งที่ควรจะดีใจนะ
ตวนมูหวงฮุนรูสึกเหมือนกำลังจะเปนบาเพราะตัวเอง เกิดอะไรขึ้นกับเขากันนี่
ทำไมเขาทำเรื่องผิดพลาดแบบนี้ตลอดเลย
หลังจากทำเรื่องผิดพลาดอยางโงๆ และไรเหตุผลมาหลายรอบ เขาก็อยากจะ
รองไหออกมาจริงๆ
“ขา ก็ไมรูเหมือ นกัน เขาไมค อ ยเข า เรี ย น” เมื ่ อ ทำใจให สงบลงแล วตวนมูก็
ตัดสินใจพูดเรื่องไมดีเกี่ยวกับอายฮุยกอน แลวจึงกลาวเสริมอีกวา “เขาเคยอาศัยอยู
ในโรงฝกศาสตราวุธ ทานลองไปหาที่นั่นดูสิ”
“เยี่ยมเลย ถาอยางนั้นขาจะไปหาที่โรงฝกเดียวนี้เลย” หมิงซิ่วรูสึกยินดี จากนั้น
นางก็ขมวดคิ้วเมื่อคิดถึงพฤติกรรมไมดีของอายฮุยที่ชอบโดดเรียน นางจะตองเตือน
เขาเมื่อเจอตัวหลังจากนี้
ตวนมูหวงฮุนจมอยูในความคิดพลางมองหมิงซิ่วเดินจากไป เขารูสึกคุนชื่อนาง
เหมือนเคยไดยินที่ไหนมากอน แตจำไมคอยได
เนื่องจากเขาเคยพบกับหญิงสาวมานับไมถวน ตวนมูจึงมีประสบการณดานนี้
มากมาย เปนไปไมไดที่หญิงสาวที่แสนสุภาพ นานับถือ กริยาทาทางสูงสงเชนนี้จะเปน
คนไรชื่อ เสียง ทันใดนั้นเขาก็นึก ถึ งรายละเอี ยดบางอย างเช นเสื ้อ ผา ของนาง ซึ่ ง
คอนขางเรียบงายไมโดดเดนแมแตนอย
แตเนื้อผากลับมีคุณภาพสูงอยางเห็นไดชัด และทำมาจากผาพลังธาตุทั้งสิ้น ยิ่งไป
กวานั้นงานเย็บปกบนผาก็เปนผลงานชั้นยอดอยางเห็นไดชัด
ในฐานะที่เปนคนของตระกูลผูดีที่ใชชีวิตอยางหรูหราฟุมเฟอยมาตั้งแตเด็ก
ตวนมูหวงฮุนเพียงแคชายตาดูก็รูไดวาเสื้อผาของหมิงซิ่วนั้นแมไมโดดเดนนักแต
ในดานราคาแลวกลับสูงกวาเสื้อผาที่เขาใสอยูเสียอีก
อายฮุยนั้นยากจนและออนแอ ทำไมศิษยพี่หมิงซิ่วของมันถึงไดรวยนัก
การเย็บปก.....
ในที่สุดตวนมูหวงฮุนก็นึกไดวาหมิงซิวเปนใคร นางเปนศิษยรักของอาจารยหันอวี้ฉิน!
เมืองซงเจียนนั้นเล็กนิดเดียวไมมีผูยิ่งใหญมากมายอะไร นี่คือสาเหตุที่ตวนมูหวงฮุน
สามารถจดจำนางไดอยางรวดเร็ว ดวยความที่เขาตัดสินใจจะศึกษาที่โรงเรียนซงเจียน
ทางตระกูลจึงไดรวบรวมขอมูลขาวสารเกี่ยวกับเมืองซงเจียนเอาไว
บุคคลแรกที่ไมควรไปลวงเกินในโรงเรียนซงเจียนก็คือปรมาจารยหันอวี้ฉิน
ไมวาจะไปที่ใด ปรมาจารยดานการเย็บปกผูนี้จะไดรับการตอนรับดุจแขกผูมี
เกียรติเสมอ แมแตอาจารยของเขา ยอดปรมาจารยไตกัง ยังตองสำรวมเมื่ออยูเบื้อง
หนานาง
ตวนมูหวงฮุนรูมากกวาคนอื่น โรงเย็บปกของหันอวี้ฉินนั้นอยูหางไกลและมีนอ ย
คนที่จะรูที่ตั้งของมัน หากไมใชเพราะตระกูลเขาทำการสืบคนเปนพิเศษ ก็คงไมรูวา
โรงเย็บปกเล็กๆ นี้จะมีเจาของที่ยิ่งใหญ
และไมมีใครโงพอที่จะไปลวงเกินเจาของโรงเย็บปกแหงนี้
โรงงานแบบนี้มีธุรกิจกับสิบสามหนวย ลูกคามากมายมาเพื่อซื้อผาทอพลั งธาตุ
ระดับสูง และลูกคาเหลานี้หากไมมีอำนาจก็จะตองร่ำรวยอยางมาก
ความสัมพันธภายในตัวที่สรางขึ้นนั้นนับเปนเครือขายขนาดใหญที่มองไมเห็นแหงหนึ่ง
เชนนั้นแลวหมิงซิ่วก็นาจะเปนศิษยของปรมาจารยหันอวี้ฉิน แลวนางกลายไปเปน
ศิษยของอาจารยหวังไดอยางไร ไม! ในทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นไดวาสามีของหันอวี้ฉิน
เปนอาจารยที่โรงเรียนซงเจียน นั่นตองเปนอาจารยหวังเปนแน
ตวนมูหวงฮุนรูสึกประหลาดใจเปนอยางมากที่ไดพบกับขอสรุปนี้
อาจารยหวังเปนคนที่นอยคนจะใหความสนใจ และตวนมูหวงฮุนไมมีความรูสึก
ประทับใจในตัวเขาแมแตนอย พิจารณาจากวิชาที่เขาสอนแลว ระดับพลังของเขาไม
นาจะสูงนัก
ตวนมูหวงฮุนสงบใจลงอยางรวดเร็ว เรื่องนี้ไมนาตื่นตระหนกสักนิด
ทันใดนั้นเอง เขาก็รูสึกสงสัย แลวหมิงซิ่วตามหาอายฮุยเพื่ออะไร
ทำไมไมตามไปดูเลา
เมื่อเขาคิดไดดังนั้นตวนมูหวงฮุนก็ไมหยุดนิ่งอีกตอไป ใชแลว เขาควรตามไปดู
เจาหมอนั่นออนแอมากอยูแลว อีกทั้งยังขาดเรียนแทบจะทุกวัน อยากรูเสียจริงวามัว
ไปทำอะไรอยูกันแน
ตวนมูหวงฮุนบอกกับตัวเองวาในเมื่อพวกเขาเปนเพื่อนรวมกลุมกัน หากอายฮุย
ออนแอจนเกินไปก็จะถวงเพื่อนรวมกลุมซึ่งแนนอนวาจะสงผลกระทบกับเขาโดยตรง
เขาออกเดินในทันที
โรงฝกศาสตราวุธนั้นอยูหางไกล ไมงายเลยที่หมิงซิ่วจะหาเจอ
ดังนั้นหากตวนมูหวงฮุนตามไปในตอนนี้ก็คงไมสายเกินไป
แตเขากลับไมไดเดินไปยังโรงฝกโดยตรง กลับกัน เขาเดินกลับไปยังที่พักและสวม
หนากากพลังธาตุ
นี่คือความไมสะดวกที่มาพรอมกับชื่อเสียง มีคนจดจำเขาไดบอยจนเกินไป เขาไม
ตองการใหนักเรียนหญิงผูคลั่งไคลเขามารบกวนระหวางทาง
เขาตัดสินใจจะสืบหาวาเจาสารเลวนั่นกำลังทำบาอะไรอยู
ใบหนาในกระจกนั้นแปลกไป ดวงตาทั้งคูดูเยือกเย็น
เปนไปตามที่เขาคาดไว เมื่อมาถึงตรอกทางเขาสูโรงฝกศาสตราวุธ หมิงซิ่วยังมา
ไมถึง ดังนั้นเขาจึงซื้อปงถังหูลูไมหนึ่งและหาที่ซอนกายเพื่อเฝารอเชนนักลาคอยเหยื่อ
“หากคราวหนาเจามาแถวนี้ตามลำพักอีกก็ระวังตัวกวานี้ดวย”
เด็กผูชายพูดกับเด็กสาวขางๆ ขณะยางเทามาดวยกัน
“ทำไมกัน แถวนี้ไมปลอดภัยหรือ” เด็กสาวถามดวยความสงสัย
เด็กชายกลาวอยางจริงจังวา “เจาไมรูหรือ ที่นี่คือสถานที่เกิดเหตุเปลือยกายเมื่อ
ไมนานมานี้”
“จริงหรือ” เด็กสาวตกใจเปนอยางมาก “คนบาเปลือยกายคนนั้นนะหรือ”
“ใชแลว ขาเองก็อยูที่นั่นในคืนนั้น และเห็นมันกับตา ไอคนบานั่นมีทักษะการ
ตอสูที่แข็งแกรงมากอีกดวย” เด็กชายกลาวตอ “รักษาตัวดวย”
ตวนมูหวงฮุนกำลังกินปงถังหูลูอยูก็ไดยินการสนทนานี้เขา เขาแข็งทื่อไปในทันที
ผิวหนาแสบรอนราวกับโดนตบอยางรุนแรง รูสึกเหมือนตองหาที่ซอนตัวเอาไว สิ่งที่
เกิดขึ้นในคืนนั้นปรากฏขึ้นในความคิดของเขาอยางไมตั้งใจ ถึงแมวาเรื่องนี้จะผานไป
แลว เขาก็ยังรูสึกอับอายขายหนาอยู
ตวนมูกำลังจมอยูในความทรงจำอันสุดจะทนอยู จึงไมทันสังเกตเห็นเด็กชายที่
เหลือบมองไปทางเขาอยางไมตั้งใจ
เด็กชายคนนั้นตัวแข็งคาง
เมื่อรับรูถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น เด็กสาวจึงถามขึ้นวา “เกิดอะไรขึ้น”
“ไมมีอะไร” เด็กชายตอบดวยเสียงเบา แตเขาดึงมือเด็กสาวเงียบๆ สงสัญญาณ
วาพวกเขาตองไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด
เด็กสาวไมเขาใจวาอีกฝายหมายความวาอยางไรแตก็เดินตามไปอยางรวดเร็ว
หลังจากเดินออกไปไดระยะหนึ่ง เด็กชายยังคงหวาดกลัวอยู เขาเหลือบมองไป
ดานหลังกอนจะถอนหายใจออกมาอยางโลงอกเมื่อมั่นใจแลววาตวนมูกำลังมองพื้น
และไมเห็นพวกเขา
“เกิดอะไรขึ้นกับเจาเมื่อครูนี้” เด็กสาวถามดวยความเปนหวง
เด็กชายกำลังจะตอบคำถาม ก็พลันมองเห็นยามสองคนเดินลาดตระเวนอยู เขา
รีบดึงมือของหญิงสาววิ่งทางพวกยาม
ตวนมูหวงฮุนที่อยูอีกดานหนึ่งของถนน กำลังจมอยูในความคิดเกี่ยวกับเหตุการณ
อันนาอับอายและไมสังเกตเห็นความกังวลบนใบหนาของยามหลังจากที่ไดยินสิ่งที่
เด็กชายกลาว
พวกยามรับฟงอยางตั้งใจเพราะสาเหตุที่พวกเขาตองมาเดินลาดตระเวนทุกวันก็
เนื่องมาจากคดีเปลือยกายที่ทางโรงเรียนซงเจียนตองการจะสืบสวนนั่นเอง
เนื่องจากความโดงดังของตวนมูหวงฮุน ชื่อเสียงของสถาบันซงเจียนจึงเพิ่ มขึ้น
เชนเดียวกัน ดังนั้นจะใหพวกเขาปลอยเรื่องฉาวโฉเชนนี้ไปไดอยางไร
ยามทุกคนรูดีวาไอสารเลวเปลือยกายนั้นมีทักษาการตอสูที่แข็งแกรง
ยามคนหนึ่งเปดกลองแกวขนาดเล็กที่บาของเขา ผึ้งสื่อสารสีเทาพุงออกมาจาก
กลองและบินออกไป
พวกเขามองหนากันกอนจะดึงอาวุธออกมาจากฝกที่ขางสะเอว จากนั้นก็แยกกัน
เดินเขาหาผูชายที่กินปงถังหูลูอยูจากคนละดาน
บทที่ 69 จิ้งจอกเจาเลห
“ขอโทษนะ เจามาจากโรงเรียนไหน”
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงรบกวนความคิ ดของตวนมู หวงฮุน เสี ย งนั ้ น ดึ งเขากลับ
ออกมาจากความทรงจำอันนาอับอายและคับแคนใจ เขามองขึ้นไปเห็นทหารยามสอง
คนจองกลับมาที่ตนราวกับกำลังมองศัตรูที่นากลัว
“โรงเรียนซงเจียน” ตวนมูหวงฮุนที่กำลังอารมณไมดีตอบไปโดยไมคิด
“เจาชื่ออะไร ตราตนสนของเจาอยูที่ไหน เจาอยูชั้นเรียนใด” ยามยิงคำถาม
กลับมาเปนชุด ตราตนสนเปนสัญลักษณประจำตัวของนักเรียนโรงเรียนซงเจียนที่มีชอื่
นักเรียนคนนั้นเขียนไว
“อยามายุงกับขา” ตวนมูหวงฮุนเอยออกมาอยางหมดความอดทน
เขามีฐานะอันโดดเดนแตกตางจากนักเรียนทั่วไป ทำใหเขาไมกลัวที่จะเผชิญหนา
กับพวกยาม ดังนั้นเมื่อพวกยามบอกใหเขาแสดงตราตนสนใหดู ปฏิกิริยาแรกของเขา
คือสวนกลับ
“ตรวจตราตนสน” ยามปรับน้ำเสียงใหออนลง “ขอบคุณที่ใหความรวมมือ”
ตวนมูหวงฮุนลวงหยิบตราตนสนตามสัญชาตญาณแตหยุดลงในทันที ตราตนสน
หรือ เขาจะมีตราตนสนของใบหนาปลอมนี้ไดอยางไร แนนอนวาไมอาจสงมอบตราที่
มีชื่อของตวนมูหวงฮุนเขียนไวออกไปได
หลังจากทำตัวโงเงามาตลอดวันในที่สุดตวนมูหวงฮุนก็เริ่มไดสติ
“ขาไมไดเอาติดตัวมาดวย” ตวนมูพนลมออกมา “ขาเขาเมืองซงเจียนมาตั้ ง
หลายครั้ง ไมเคยไดยินวามีการตรวจแบบนี้มากอน”
ตวนมู ห วงฮุ น เกิ ด และเติ บ โตมาในตระกู ล ที ่ ม ี ส ู ง ส ง และมี เ กี ย รติ ย อ มไม รู
ความหมายของการสงบเสงี่ยมเจียมตัว กับยามสองคนของเมืองซงเจียนเทาไรนัก เขา
ไมแมแตจะเสียเวลามาสนใจพวกนั้น
ยามทั้งสองกังวลมากขึ้นเมื่อมือของตวนมูหวงฮุนหยุดเคลื่อนไหว ตอนแรกพวก
เขายังไมมั่นใจวาสิ่งที่เด็กชายบอกนั้นถูกตองหรือไม แตตอนนี้ ดูจากปฏิกิริยาของ
เปาหมายแลว เขาเปนผูตองสงสัยอยางแนนอน
ระดับความอันตรายของผูตองสงสัยเพิ่มขึ้นอยางมาก!
“กฎใหม เพิ่งประกาศไมกี่วันกอน” พวกยามจองมาที่เขาแลวพูด “ถาเจาไมเอา
ตราตนสนมาดวย โปรดมากับพวกขา ไปยังโรงเรียนซงเจียนเพื่อขอรับตราชั่วคราว”
โรงเรียนซงเจียนหรือ
ตวนมูหวงฮุนเริ่มมีความหวาดกลัวมากขึ้น เนื่องจากเกรงวาตัวตนปลอมของเขา
จะถูกเปดโปง
“ไม ทำไมขาตองทำตามที่เจาพูดดวย ใครจะรับผิดชอบหากภารกิจของขาตอง
ลาชา” ตวนมูหวงฮุนกลาวอยางเยอหยิ่งแตในใจของเขาเริ่มกังวลวาพวกยามจะคาด
เดาเจตนาตนได
แตนี่มันออกจะแปลกไปบา ง เขาไม ได ท ำอะไรน า สงสั ย สั ก หน อ ย เขาแค ใส
หนากากพลังธาตุเทานั้น...เดี๋ยวนะ!
ดวงตาของตวนมูหวงฮุนแทบกระเด็นออกจากเบา เขารูถึงปญหาในที่สุด นั่นคือ
หนากากของเขา...ไอหนากากเจากรรม!
เขาหันไปมองอีกดานหนึ่งของถนน ก็เปนไปตามที่คาดคิด เด็กสองคนนั้นที่เพิ่ง
เดินผานไป
“...ขาอยูที่นั่นดวยในคืนนั้น....”
สิ่งที่เด็กชายไดพูดไวดังขึ้นในหัวของเขาอีกครั้ง เวรแลว! ทำไมขาตองไปหยิบไอ
หนากากนี่มาใชวันนี้ เขาเริ่มตื่นตระหนกและลืมไปเสียสนิทวานี่เปนเพียงหนากาก
เดียวที่เขาเอาติดตัวมาดวย
ถาตัวตนที่แทจริงของเขาถูกพบ....
ตอใหเขามีปากนับรอยมาแกตาง ก็มิอาจลางมลทินได
ตวนมูหวงฮุนเปนไอโรคจิตเปลือยกาย!
ไมจำเปนตองกลาวอะไรใหเกินเลย แคขอเท็จจริงนี้ก็เพียงพอที่จะเปนขาวใหญ
ของโรงเรียนซงเจียนและทั่วทั้งสนามเหนี่ยวนำภายในวันพรุงนี้ สิ่งที่ตามมาก็คือ
ชื่อเสียงในฐานะผูมีพรสวรรคจะหายไป และถูกไลออกจากโรงเรียน เขาจะนำความ
เสื่อมเสียมาสูตระกูลตวนมู และยังกลายเปนตัวตลกของอูสิงเทียน
หนาของเขากลายเปนซีดขาว แคเรื่องเดียวจากที่กลาวมาทั้งหมดก็ทำใหเขา
หวาดกลัวสุดชีวิตแลว มันทำใหเขาตองตัวสั่นดวยความขยาดแขยง
ไม!
เขาจะถูกจับไมได!
ตราบใดที่ไมถูกจับก็จะไมมีใครสงสัยเขา และหากเขาหลบหนีไดสำเร็จ ตราบใดที่
ไมมีการตาย ไมเปดเผยพลังธาตุของเขา ไมมีหลักฐานใดหลงเหลือ เรื่องเหลานี้ก็จะ
จบลง ดังนั้นเขาไมสนใจวาใครจะไดรับบาดเจ็บทั้งนั้น
หลังจากสงบใจลงแลวตวนมูหวงฮุนก็ใชความคิดอยางรวดเร็ว ดวงตาหรี่ลงดู
คลายพระจันทรเสี้ยว
ยามทั้งสองรูสึกวาผูตองสงสัยพลันเปลี่ยนไปเปนคนละคน ดวยดวงตาที่หรี่ลงนั้น
ทำใหใบหนาที่เคยดูเรียบเฉยนั้นพลันเปลี่ยนเปนสีหนาของจิ้งจอกเจาเลหเลือดเย็น
ความรูสึกถึงอันตรายก็เออขึ้นในใจของทั้งคูในเวลาเดียวกัน
แตปฏิกิริยาของพวกเขาชาเกินไป รางของผูรายตรงหนาพลันพราเลือน เหมือนมี
บางอยางผานวูบไปจากสายตาของพวกเขา
ปง! ปง!
ทั้งคูถูกกระแทกเขาที่ทองในเวลาเดียวกัน หลังของพวกเขาโกงงอเหมือนกุงตม
ดวยความเจ็บปวด
มันกลาโจมตีไดอยางไร....
นั่นคือความคิดสุดทายของพวกยามกอนจะหมดสติลง
รอยยิ้มชั่วรายปรากฎขึ้นบนใบหนาที่ดูแสนธรรมดา พลันเปลี่ยนใหใบหนานั้นดู
เจิดจาขึ้นมา ดวงตาที่โคงงอราวประจันทรเสี้ยวดูคลายกับดวงตาของจิ้งจอก เมื่อรวม
กับรอยยิ้มชั่วรายนั้นแลว ยิ่งแสดงถึงความโหดเหี้ยมอำมหิตออกมา
ชางเชื่องชานัก ตวนมูหวงฮุนเยยหยันออกมาหลังจากที่เอาชนะไดดวยเพีย ง
กระบวนทาเดียว ถึงแมวาเขาจะไมคาดหวังวาพวกยามจะมีความสามารถอะไรมาก
นัก แตเขาก็ประหลาดใจไมนอยที่สามารถจัดการไดอยางงายดายเชนนี้
เมืองซงเจียนเปนเมืองเล็กๆ อันดับของโรงเรียนซงเจียนก็อยูในกลุมต่ำสุ ดของ
สนามเหนี่ยวนำ ดังนั้นยามของที่นี่ยอมไมมีฝมือสูงเยี่ยมอันใด ยิ่งไปกวานั้นดวยความ
ที่เปนเมืองเล็กๆ นี่เอง จึงคอนขางมีความสงบสุข พวกยามทั้งหลายจึงผอนคลายไม
เขมงวด พวกเขาไมเคยคาดคิดวาอยูๆ ตวนมูหวงฮุนจะโจมตีในทันที
เมื่อตวนมูหวงฮุนกำลังจะจากไปในก็ไดยินเสียงสัญญาณเตือนดังเสียดหู ก รี ด
อากาศเขามา
นัยนตาของตวนมูหวงฮุนหดลงพลางกลาววา “เปนเรื่องแลว!”
ถึงแมวาพวกยามจะถูกจัดการไดโดยงาย แตพวกมันกลับเรียกกำลังเสริมไวกอน
แลว ซึ่งนั่นเปนสิ่งสุดทายที่ตวนมูอยากเห็น
เขาพุงตัวไปยังถนนใกลเคียงดวยความเร็วดั่งสายฟาโดยไมลังเล
ตองขอบคุณอายฮุยที่ทำใหเขาตองตามหาตัวอยูเปนเวลานาน ตวนมูจึงคุนเคยกับผัง
เมืองซงเจียนเปนอยางดี เขาไมเคลื่อนไหวในที่สูงเกินไปเพราะจะถูกตรวจพบไดงาย
ยามสองคนวิ่งเขามาบนถนนดวยความรวดเร็ว ถืออาวุธในมือพรอมลงมือไดทุกเมื่อ
ไมมีใครเห็นรางที่ซอนอยูในเงามืดที่ปากทางเขาถนน
มันอยูไหน ยามสองคนลดความเร็วลงเพื่อคนหาผูตองสงสัย
รางที่มีปงถังหูลูเสียบไมคาบไวในปากปรากฏตัวดานหลังของพวกเขาอยางเงียบ
เชียบ ดวงตาแคบยาวทำใหดูเหมือนจิ้งจอกที่งีบหลับใตแสงอาทิตย
รางนั้นโจมตีใสตนคอของยามทั้งสองคนในเวลาเดียวกัน ทำใหพวกเขาหมดสติลม
ลงไปกองกับพื้น
คนที่เดินผานไปมาบนถนนลวนประหลาดใจ ไดแตยืนตะลึงไมรูวาจะทำตัวอยางไร
ทามกลางสายตาของคนที่อยูโดยรอบ ตวนมูหวงฮุนกินถังหูลูลูกสุดทายและโยน
ไมทิ้งอยางใจเย็น เขาดูไมตื่นตระหนกสักนิดเดียว
ตวนมูหวงฮุนเดินไปพลางเคี้ยวผลไมเชื่อมไปพลาง เขาทำตัวไมแตกตางจากคน
เดินทางทั่วไปสักนิดเดียว
เสียงกรีดรองไมหยุดหยอนเปลี่ยนถนนที่เงียบสงบใหกลายเปนชุลมุนวุนวาย
ตวนมูยังคงทำตาหรี่แคบ ดูเหมือนจะมีความสุขกับตัวเอง
เขาสุมเลือกรานน้ำชาที่เปดประตูคางไวและเดินเขาไป
ผูคนในรานน้ำชากำลังพูดคุยดื่มกินกันอยูก็มีเสียงกรีดรองดังขึ้นภายนอก พวก
เขาไมรูวาเกิดอะไรขึ้น แตในเมื่อตวนมูหวงฮุนเดินเขามาในจังหวะเดียวกัน ทำใหเขา
กลายเปนเปาสายตาของทุกคนในทันที แตเขาไมสนใจแมแตนอยแลวเดินไปยังที่นั่ง
ใกลประตูกอนจะนั่งลงราวกับไมมีคนอื่นอยูในราน
“เอาชาที่ดีที่สุดมากาหนึ่ง”
เสียงของเขาฟงดูเกียจคราน เสี่ยวเออเหมือนถูกปลุกขึ้นจากภวังคและตอบอยาง
รวดเร็ว “ไมมีปญหา รอสักครูเดียว”
เสียงสัญญาณเตือนที่ดังอยูขางนอกกลายเปนหัวขอสนทนาของผูคนภายในรานน้ำชา
“เกิดอะไรขึ้น อุบัติเหตุหรือ”
“เกิดอะไรขึ้นกันแน”
...
ตวนมูหวงฮุนทำตัวไรกังวล เขาหยิบถวนน้ำชาขึ้นมาจิบอยางสบายใจ
รสชาตินั้นธรรมดา เขาวางถวยน้ำชาลงอยางผิดหวัง
ไมมีใครสักเกตเห็นนกหวีดไมไผที่ปรากฏขึ้นในมือของเขากอนที่เขาจะเอามันเขา
ไปในปาก
ทันใดนั้นเองเสีย งนกหวีดหวีดหวิวก็กรีดดั งไปทั ่วทั้ งรา นน้ำชาอยา งไม ม ี ใ คร
คาดคิด ทำใหเสียงอื่นๆ เลือนหายไปอยางรวดเร็ว
ทามกลางเสียงเงียบสงัดตวนมูหวงฮุนไดวางนกหวีดลง กอนเอยดวยน้ำเสียงขอ
โทษวา “ขอโทษที่รบกวน”
บทที่ 70 หมิงซิ่ว
ตวนมูหวงฮุนเดินออกจากรานน้ำชา ไมสนใจยามที่หมดสตินอนเกลื่อนกลาดอยู
บนพื้น
เขากำลังอารมณดี
ความโศกเศร า ที ่ อ า ยฮุ ย นำมาให เ ขาในหลายวั น ที ่ ผ า นมาหายไปหมดแล ว
ความสุขที่ไดจากการปลดปลอยความหดหูทั้งหมดออกไปในคราวเดียวนั้นชางยอด
เยี่ยมอยางนาเหลือเชื่อ ใชแลว แทนที่จะโทษหมิงซิ่ว ตวนมูหวงฮุนโยนความผิดให
อายฮุยวาเปนคนกอปญหาทั้งหมด คนเดียวที่ควรถูกกลาวหา ผูเปนตนเหตุแหงความ
ชั่วรายทั้งหลายทั้งปวง
ตอนนี้ตวนมูหวงฮุนสงบลงแลว เขาก็รูสึกตัวในทันทีวาเขาทำเรื่องบาคลั่งลงไป
เขาเปนคนที่วางาย เฉลียวฉลาด และเปนที่คาดหวังมาตั้งแตยังเด็ก อีกทั้งยังเปน
แบบอยางใหกับเด็กคนอื่นๆ ไมมีใครเทียบเขาได เขาเปนที่รูจักในฐานะเด็กหนุม
สมบูรณแบบในสายตาผูใหญ
แตเขาเพิ่งจะลงมือทำรายยามหลังจากที่ตั้งใจวางกับดักพวกเขา
กอนหนาวันนี้ เขาไมเคยคิดวาเขาจะทำเรื่องบาๆ แบบนี้ แตตอนนี้กลับไดทำลง
ไปแลว และนั่นเปนเพราะความเกลียดชังในใจที่ผลักดันเขาใหทำเชนนี้
เหตุการณที่ไมคาดฝนนี้อันที่จริงแลวทำใหเขารูสึกตื่นเตนอยางไรบอกไมถูก
แตเมื่อเขาเห็นรางอันงดงามยืนอยูกลางแสงแดดอยูไมไกลออกไปนัก ดวงตาของ
เขาก็หรี่ลงอีกครั้ง
“เจาคือคนที่โจมตีพวกยามใชไหม ขาไมเคยเห็นใครกลาทำเรื่องแบบนี้ในเมืองซง
เจียนมานานแลว”
หมิงซิ่วกลาวดวยน้ำเสียงราบเรียบ ใบหนาของนางเคยนารื่นรมยดุจดั่งสูดอากาศ
บริสุทธิ์ แตตอนนี้มันไมเหลือความยินดีหรือรอยยิ้มบนหนาอีกตอไป ดวงตางดงาม
ของนางสงบและเครงขรึม และรัศมีพลังที่นานับถือซึ่งแผซานออกมารอบตัวนางก็
เหมือนจะทำใหคนไมอาจขัดขืนได
หมิงซิ่วปลดผาคลุมไหลสีพื้นออกจากไหลของนาง
ตวนมูหวงฮุนไมเคยสังเกตมากอนวาผาคลุมไหลนั้นอันที่จริงแลวยาวกวาที ่มัน
ควรจะเปนไปมาก
หมิงซิ่วยกขอมือขึ้นคลี่ผาคลุมไหลออกเต็มความยาวในสายลม
นัยนตาของตวนมูหวงฮุนหดเล็กลง
เสนแสงเจิดจาปรากฏบนผาคลุมไหลภายใตแสงตะวัน ทำใหดูงดงามเจิดจรัส
“ยุงยากอีกแลว”
คำพูดถูกรีดออกมาผานไรฟนที่ขบกันแนน ดวงตาของเขาเยือกเย็นรวมถึงรอยยิ้ม
อันชั่วรายแฝงความทาทายปรากฏขึ้นบนใบหนาของเขาอีกครั้ง
เขาหนีอยางไมลังเลสักนิด
ครึ่งชั่วโมงตอมา ตวนมูหวงฮุนก็ยังคงถูกไลลาออกสูนอกของเมือง เขาอยากจะ
รองไหออกมาเต็มที สภาพของเขาตอนนี้ชางนาอดสู เสื้อผาก็ขาดรุงริ่ง
อะไรก็ตามที่เกี่ยวของกับอายฮุยจะกลับกลายเปนหายนะของตัวเขาเอง
ศิษยพี่หมิงซิ่วที่ดูเหมือนจะมีอัธยาศัยดีกลับมีฝมือสูงเยี่ยมและคอยโจมตีอยางไม
ลดละ ตวนมูไมอาจจะปองกันตัวเขาไดและสิ่งเดียวที่ทำไดก็คือวิ่งหนี
ในตอนนี้นี่เองที่เขาเขาใจวาทำไมสิ่งแรกในขอมูลที่ตระกูลรวบรวมมาถึงบอกวา
อยาไปลวงเกินโรงเย็บปกอวี้ นั่นไมใชเพราะความสัมพันธเบื้องลึกเบื้องหลัง หากแต
นาจะเปนเพราะศิษยพี่หมิงซิ่ว!
เขายังคงไมเขาใจวาเหตุใดหมิงซิ่วจึงมีทักษะการตอสูที่แข็งแกรงถึงเพียงนี้ ถึงแม
จะเปนทายาทของปรมาจารยหันอวี้ฉินและผูมีพรสวรรคที่ถูกมองวามาสามารถเปน
ยอดปรมาจารยการเย็บปก กระทั่งที่วาสามารถกาวขามอาจารยของนางไดก็ตามที
เขาถึงขนาดสงสัยวาระดับของเขาในสนามเหนี่ยวนำเปนเพียงจินตนาการที่เขา
สรางขึ้นมาเอง
ซ้ำรายศิษยพี่หมิงซิ่วยังคงตามติดเขาอยู หากหยุดแคเพียงวินาทีเดียว นางจะตาม
ทันและโจมตีเขา ผาคลุมไหลสีพื้นนั่นตองเปนผลงานของปรมาจารยหันอวี้ฉินอยาง
แนนอน!
ทุกครั้งที่ผาคลายตัวเต็มความยาว แสงที่ลอยออกมาจากพื้นผิวของมันทำใหเขา
รูสึกมึนเมา ถึงแมวาเขาจะไมใชพวกมือใหมหรือคนงี่เงาไรประสบการณ แตเขาก็ยังไม
อาจละสายตาจากมันได
มันเปนงานฝมือของปรมาจารยดานการเย็บปก!
นี่เปนครั้งแรกในชีวิตของเขาที่ตวนมูหวงฮุนพายแพใหกับคูตอสูในทุกแงทุกมุม
เขาไมเพียงแคดอ ยกวาหมิงซิ่วในด านของทักษะการตอ สู แต ย ั งเป นในเรื ่องของ
สินทรัพยอีกดวย
แมแตกับตระกูลที่ทรงอำนาจอยางตระกูลตวนมู งานเย็บปกถักรอยแบบที่หมิง
ซิ่วสวมใสอยางผาคลุมไหลที่ใชอยูนี้จัดเปนของวิเศษหายาก เปนของวิเศษที่มีคา มาก
ถึงขนาดที่วา มีเพียงแตผูอาวุโสที่ได รั บความนั บถือของตระกูลเท านั ้น ที ่สามารถ
ครอบครองได คงไมมีใครจะมอบมันใหเด็กอยางตวนมูหวงฮุนหรอก แมวาเขาจะเปน
คนที่มีพรสวรรคสูงที่สุดในบรรดาเด็กรุนราวคราวเดียวกันของตระกูลก็ตาม
เขารูสึกสิ้นหวัง
ชางโชครายอะไรเชนนี้
ตวนมูหวงฮุนวิ่งตะบึงเขาไปในปาอยางไรทิศทางพยายามจะหลบเลี่ยงหมิงซิ่ว
พลังธาตุรวมถึงพลังกายของตวนมูหวงฮุนกำลังจะหมดลงหลังจากที่ตองตอสูและ
หลบหนีศิษยพี่หมิงซิ่วมาอยางไมหยุดหยอน ถึงแมวาเขาจะมั่นใจวาสามารถหลบพน
แลว แตเขาก็ยังไมกลาที่จะหยุดวิ่ง
ทันใดนั้นเขาก็มองเห็นยอดแหลมอยูไกลๆ
นั่นมัน....เจดียเสวียนจิน!
เขาคิดอยูครูหนึ่งกอนจะคิดไดวาเขาควรจะแกลงทำเปนฝกฝนอยูขางในเจดีย ใช
แลว! สิ่งที่เขาตองทำก็คือสลัดหมิงซิ่วใหพน เขาไปในเจดียเสวียนจิน โยนหนากากทิ้ง
แลวแสรงทำเปนวากำลังฝกฝนอยู
สำหรับไอโรคจิตเปลือยกาย ไม ไม ไม ชายไรเสื้อผา ตราบใดที่เขาไมยอมรับเสีย
อยางใครจะมาสงสัยเขาได
ทั้งโรงเรียนตองพึ่งพาเขา พวกเขาไมมีวันทำลายผูมีพรสวรรคที่พวกเขาเพิ่งสราง
ขึ้นหรอก
อีกอยางยังมีนักเรียนจากตางถิ่นเขามาในโรงเรียนซงเจียนทุกวันนี้ ทางโรงเรียน
ไมมีทางมั่นใจไดเลยวานั่นเปนนักเรียนของโรงเรียนเองหรือเปนคนอื่นที่อางตัววาเปน
เรื่องราวทั้งหมดกำลังจะจบลง เพียงแคเขาโยนหนากากทิ้งและแกลงทำเปน
ฝกฝนอยูภายในเจดียเสวียนจิน มันไมสำคัญหากหมิงซิ่วจะรูความจริง ตราบใดที่เขา
ไมยอมรับออกมาตรงๆ
หมิงซิ่วคงไมลงไมลงมือเลนงานเขา ถึงแมวาโรงเย็บปกอวี้จะรับมือไดไมงายนัก
แตตระกูลตวนมูเองก็ไมงายเชนกัน
เขารอคอยอยางระแวดระวังอยูครูหนึ่ง เมื่อไมเห็นหมิงซิ่ว เขาก็รูสึกโลงอกใน
ระดับหนึ่ง ดูเหมือนวาเขาจะหนีพนจากปากเหยี่ยวปากกามาไดแลว เขาวิ่งเตลิดเปด
เปงไปทั่วปาอยางไรทิศทางราวกับไกไมมีหัว กระเสือกกระสนทำทุกอยางเพื่อที ่จะ
หลบหนีหมิงซิ่วใหได
เขาถอดหนากากออกและฝงมันลงหลุมอยางระมัดระวังเพื่อไมใหทิ้งรองรอยอะไรไว
จากนั้นเขาก็พุงตรงไปยังเจดียเสวียนจินดวยเรี่ยวแรงหยดสุดทาย
เขาไดตัดสินใจแลว เมื่อไปถึงเจดียเขาจะนอนลง แสรงทำเปนหมดแรงจากการ
ฝก สำหรับรอยฟกช้ำทั่วกายของเขานั้น ก็เกิดจากการฝกอันบาคลั่งที่เพิ่งผานมา จะ
เปนผูมีพรสวรรคแถวหนาไดอยางไรหากไมฝกฝนอยางหนัก
เขาภูมิใจในตัวเองเหลือเกิน
แตทันใดนั้นความพึงพอใจของเขาก็เลือนหายไป ขาของเขาหนักเหมือนมีตะกั่ว
ถวงไว เมื่อครูนี้เขาอยูในภาวะฉุกเฉิน ตอนที่เขากำลังถูกหมิงซิ่ว ตามลาและโจมตี เขา
เต็มเปยมไปดวยสมาธิและพลังทั้งหมดในรางถูกรีดออกมา เพราะเหตุนั้นเขาจึงไมรูสึก
เหนื่อย ตอนนี้เมื่อเขาพบทางออก ความตื่นเตนของเขาบรรเทาลง ความเหนื่อยลา
และความออนเพลียจึงถาโถมเขามาประหนึ่งน้ำปาไหลหลาก
ทุกกาวลวนหนักอึ้ง
ถึงแมวาเจดียเสวียนจินจะอยูหางไปไมไกล แตสำหรับตวนมูแลวมันเหมือนอยู
หางไปถึงขั้วโลก
พลังธาตุของเขา ซึ่งปกติแลวจะมีมากมาย ตอนนี้กลับแหงเหือด ระหวางการฝก
ประจำวันเขาแทบไมเคยแบงเวลาไปฝ กฝนร างกาย ทำให ไม คอ ยจะแข็งแรงทาง
กายภาพ ตอนนี้เมื่อไมมีพลังธาตุเปนตัวชวย กลามเนื้อของเขาก็สั่นเทิ้มไมหยุด
ตวนมูหนาขาวซีด หายใจหนักหนวง ลำคอแสบรอนราวถูกไฟเผา
เขาคอยๆ ลากตัวเองไปยังเจดียเสวียนจิน
แยเหลือทน...
รูสึกราวไปหมด เขาทำไมไดแมแตจะกระดิกนิ้ว นี่คือความรูสึกของการสู ญสิ้น
เรี่ยวแรงทั้งหมด ภาพเบื้องหนาของเขาคอยๆ พราเลือน แตยังพยายามดิ้นรนขัดขืน
เขาตองทำทุกอยางเพื่อไปใหถึงเจดียเสวียนจินใหจงได
ภาพของเจดียตรงหนาของเขาคอยๆ เลือนรางลงเรื่อยๆ
กอนที่ตวนมูหวงฮุนจะหมดสติไปเขาก็ไปถึงเจดียไดในที่สุด ทุกอยางกลายเปน
พรามัวขณะที่เขาพยายามไตขึ้นบันไดโดยใชทั้งมือและเทา
ทันใดนั้นเขาก็สัมผัสไดถึงบางสิ่งบางอยาง
บทที่ 71 การทอผาคูแบบงาย
ปรมาจารยหันอวี้ฉินคิดคนการทอผาคูเมื่ออายุสิบเกาป
กรุงโรมไมไดสรางขึ้นในวันเดียว และนางก็ไมไดกลายเปนปรมาจารยชั่วขามคืน
ไมมีใครสามารถกลายเปนปรมาจารยไดหากไมมีความรูอันลึกซึ้งและพรสวรรคแต
กำเนิด ปรมาจารยทุกทานในประวัติศาสตรตางก็มีความสามารถสูงล้ำมาแตออนแต
ออก และมีความโดดเดนเหนือผูอื่นตั้งแตยังเด็ก
อายุสิบเกาเปนชวงวัยที่คนสวนใหญยังคงเรียนอยูในสนามเหนี่ยวนำ แตในวัยนี้
ปรมาจารย ห ั น อวี้ ฉ ิ น กลั บ สามารถสรา งวิ ช าทอผา ของตัว เองขึ้ น มาได นั บ เป น
พรสวรรคที่ทำใหผูคนตองปากอาตาคาง
ในชวงเวลานี้อายฮุยตกอยูภายใตความประทับใจอยางล้ำลึกในตัวนาง เขาชื่นชม
นางอยางมาก
ทางทฤษฎีแลว การทอผาคูไมไดซับซอนอะไร มีการออกแบบอยางมาเรียบงาย
แตก็แยบยล ซึ่งทำใหมันกลายเปนผลงานที่ประณีตงดงาม
แนนอนวาคำวา “เรียบงาย” นั้นตางกันไปสำหรับแตละคน วิชานี้ล้ำลึกเหนือกวา
ความรูและพลังของอายฮุยในตอนนี้
กระบวนการในการทำความเขาใจการทอผาคูไดขยายมุมมองของอายฮุยใหกวาง
ขึ้น สำหรับเขาแลวมีอุปสรรคนับไมถวนอยูในขั้นตอนอันเรียบงายของการทดผาคูนี้
แตวาเขาไมยอมแพ
เมื่อใดก็ตามที่เขาพบกับอุปสรรค เขาจะพยายามคิดแกไขปญหา ไมมีใครให
คำแนะนำ เขาจำเปนตองขามผานทุกอุปสรรคที่เขาเจอดวยตัวเอง ยิ่งไปกวานั้นเขายัง
มีพื้นฐานออนดอยและไมมีความรูเกี่ยวกับพลังธาตุมากนัก หากเปนคนอื่นมาอยูใน
สถานการณแบบเขาก็คงไมรูวาจะทำอยางไร
โชคดีที่อายฮุยใชพลังของตัวออนกระบี่เพื่อดูการสาธิตของศิษยพี่หมิงซิ่วในวันนั้น
ทุกการเคลื่อนไหวของศิษยพี่หมิงซิ่วรวมถึงรายละเอียดการใชพลังธาตุถูกบันทึก
ไวอยางชัดเจนอยูในใจของเขา และสิ่งนี้ก็ชวยเหลือเขาอยางมากในการทำความเขาใจ
การทอผาคู
เมื่ออายฮุยเขาใจอยางแทจริงและซึมซับหลักพื้นฐานของการทอผาคู เขาก็ไดรับ
ประโยชนมากมาย ผลงานชิ้นเอกของปรมาจารยหันอวี้ฉินบรรจุไวซึ่งแนวคิดและ
เคล็ดการใชพลังงานธาตุที่เปนเรื่องใหมอยางมากสำหรับอายฮุยผูที่กอนหนานี้ ไมรู
อะไรสักอยางเดียว
ผลประโยชนที่ไดรับจากการคิดคนดวยตัวเองนั้นมีคามหาศาล
อายฮุยที่กำลังจมดิ่งอยูในความคิดไมไดชื่นชมยินดีกับผลประโยชนที่ไดรับ ทวา
เขากลับเต็มไปดวยความทุกขทรมานไมสิ้นสุด ในที่สุดเขาก็สามารถแกไขปญหาได
อยางยากลำบาก แตกอนที่เขาจะไดปติยินดี ก็เกิดปญหาใหมที่ยากกวา
เมื่อเขาทำความเขาใจถึงหลักการของการทอผาคูอยางถองแทแลว เขาก็ตระหนัก
ไดวาตนไมอาจใชมันได ระดับพลังของเขาต่ำกวาระดับพื้นฐานที่จำเปนตองใชใน
ทักษะนี้ เขาคำนวณไดวาระดับพลังธาตุขั้นต่ำที่จำเปนสำหรับการใชทักษะนี้คือระดับ
สี่ตำหนัก
แตเขายังไมเขาถึงระดับหนึ่งตำหนักดวยซ้ำ
อยางไรก็ตามเขาไมมีความคิดที่จะยอมแพอยางนี้ เขาเปนพวกไมยอมแพและไมเคย
ลืมวาเปาหมายของเขาคืออะไร เปาหมายของเขาคือการถักผาทอพลังธาตุใหสำเร็จ
อันที่จริงแลวนี่ไมใชครั้งแรกที่เขาพบกับปญหาเชนนี้
เมื่อตอนที่เขาอยูในแดนราง เขาก็ตกอยูในเหตุการณคลายๆ กันนี้หลายครั้ง ใน
ยามที่เขาไมมีกระบี่หญา เขาก็ทำกระบี่ไม เขาใชอะไรก็ไดตราบใดที่มันใชประโยชนได
ในสมัยที่อยูในโรงฝกดาบเขาไมมีชั้นหนังสือที่จะจัดวางคัมภีรกระบี่ เขาก็เลยเอาเศษ
ไมมาทำชั้นหนังสือดวยตัวเอง
เนื่องจากขาดแคลนทรัพยากร คนจนก็จะประสบกับความยุงยากมากมายในชีวิต
หลายครั้งในชีวิตที่ตองดัดแปลงเปลี่ยนสิ่งที่ไรคามาเปนสิ่งที่มีประโยชน
อาจบอกไดวานั่นเปนภูมิป ญญาของคนยากไร ถึงแมวาสิ่งที ่สรา งขึ้ นจะไม มี
ประสิทธิภาพมากนัก แตก็พอใชงานได
การทอผาคูในมือของอายฮุยเปลี่ยนไปจนแทบจำไมได
เมื่อเข็มพลังธาตุออกหางจากรางกาย พลังธาตุนั้นก็จะออนลงอยางรวดเร็ว ดังนั้น
อา ยฮุย จึงพยายามที่จ ะลดระยะห างระหวา งเข็ มพลั งธาตุ ก ับ นิ้ วของเขา ในที ่ สุด
ระยะหางระหวางเข็มพลังธาตุกับนิ้วของเขาลดเหลือ เพียงสองเซ็นติเมตรเท า นั้ น
ถึงแมจะดูไมงามสงา แตก็ยังใชงานได และสำหรับมือใหมอยางอายฮุยแลว นี่กลับชวย
ใหควบคุมไดงายขึ้น
สำหรับคนอยางอายฮุยที่ขาดความชำนาญในการควบคุมพลังธาตุ การสรางเข็ม
พลังธาตุสองอันขึ้นมาทำงานรวมกันเปนเรื่องที่เปนไมไปไมได ดวยเหตุนี้อายฮุยจึงคิด
หาวิธ ีอ ื่น ซึ่งก็คือ การใช สายตากับ มื อ ของเขาร ว มกั น ถึ งแม ว า พลั งธาตุ อ าจจะ
เปลี่ยนแปลงไดอยางรวดเร็ว แตมันก็ยังงายกวาในการที่อายฮุยจะควบคุมกลามเนื้อ
และบังคับมือของเขาแทน
แน น อนว า มั นเปน เรื่ อ งเป นไปไม ไ ด ที ่ อ า ยฮุ ย จะสามารถประสานพลั งธาตุ
เหมือนกับที่ศิษยพี่หมิงซิ่วไดแสดงใหดู
ถาการทอผาคูของศิษยพี่หมิงซิ่วมีความเร็วเหมือนนกฮัมมิ่งเบิรดกระพือปกแลว
การทอผาคูของอายฮุยก็เปรียบเหมือนกับหอยทากที่คลืบคลานอยางเชื่องชา อยางไร
ก็ตามสวนที่ยากที่สุดก็คือการเคลื่อนไหวมือทั้งคู
มือ ของอา ยฮุย ควบคุมเข็มพลั งธาตุ ไว ข า งละเล ม เขาใช สองนิ ้ ว ชี ้ น ำเข็ ม ให
เคลื่อนไหว และเห็นไดวากำลังถักผา แตความงดงามของการทอผาคูในมือของเขาไม
ปรากฏใหเห็นเลย
แตนี่ก็ยังถือวาเปนการถักทอ เพราะวาทายที่สุดแลวเขาก็สามารถถักผาทอพลัง
ธาตุขึ้นมาได ถึงแมวามันจะดูยับยูยี่และนาเกลียด แตอายฮุยก็ยังตองใชความพยายาม
ทั้งหมดของเขาเพื่อสรางมันขึ้นมา
ใชแลว มันตองใชความพยายามทั้งหมดของเขา
พลังธาตุของอายฮุยคงอยูไดเพียงแคหานาที
ดังนั้นเขาตองทุมเทสมาธิอยางมากในเวลาหานาทีนี้ ความผิดพลาดเพียงเล็กนอย
จะเปนการสิ้นเปลืองพลังธาตุเสียเปลา
เมื่อพลังธาตุของเขาเหือดแหง เขาจึงจำเปนตองเขาไปในเจดียเสวียนจินเพื่อเก็บ
สะสมพลังงานธาตุทอง หลังจากนั้นก็ตองใช [มัจฉาสะบัดกาย] เพื่อกระจายพลังธาตุ
กอนที่จะเริ่มทำการดูดซับใหม กระบวนการนี้ใชเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง
พูดอีกอยางหนึ่งก็คือ เขาตองฝกเปนเวลาหนึ่งชั่วโมงเพื่อที่จะทอผาไดหานาที
ความแตกตางของระดับพลังระหวางอายฮุยกับศิษยพี่หมิงซิ่วนั้นตางกันราวฟา
กันเหว อายฮุยตองใชเวลาไมรูกี่วันเพื่อที่จะถักผาทอพลังธาตุขนาดเดียวกับที่ศิษยพี่ห
มิงซิ่วใชเวลาถักแคสิบนาที
อายฮุยไมมีเวลาใหหยุดพัก เขาฝกฝนอยางบาคลั่งจากนั้นก็ทอผาอยางบาคลั่ง
กอนหนานี้เขามีอคติในการเย็บปกถักรอย แตเมื่อเขาเขาใจการทอผาคูอยาง
ลึกซึ้งแลว เขาก็เปลี่ยนทาทีไป ไมวาอะไรจะเกิดขึ้นเขาก็ตองเรียนรูการเย็บปกถักรอย
ใหถึงที่สุด
หากความสามารถในการควบคุมอันซับซอนและงดงามนี้ถูกนำไปใชในการตอสู
มันจะนากลัวสักเพียงใด!
ยกตัวอยางเชน หากเข็มคูถูกนำไปใชในการตอสู คูตอสูของเขาจะตองพบกับ
ความยากลำบากในการรับมือกับสิ่งที่คาดไมถึง
ยิ่งไปกวานั้น ผาหนึ่งมวนมีมูลคาถึงหาแสนหยวน!
อายฮุยไมรูวาตองใชเวลามากเพียงใดในการทอผาหนึ่งมวน แตเขารูวาตราบใดที่
เขายืนกรานที่จะทำ เขาก็จะสามารถทำมันขึ้นมาได และถาเขาทะลวงผานสูระดับสี่
ตำหนักได เขาก็สามารถใชการทอผาคูไดอยางสมบูรณ
การทอผาคูเปนเพียงพื้นฐานการทอผาเทานั้นแตก็ทรงพลังและมีคามหาศาล
อายฮุยฝกฝนทังวันทั้งคืนโดยไมหยุดไมหยอน
ในฐานะคนที่รอดชีวิตจากแดนรางแลว อายฮุยจึงเขาใจถึงความสำคัญของโอกาส
เมื่อเห็นโอกาสจะตองทำทุกอยางเพื่อความันไว กอนที่จะสำเร็จหรือลมเหลว ก็ควรจะ
หุบปาก อยาเสียเวลาบนวาตองทำงานหนักอยางโนนอยางนี้
เขาฝกอยูนานสามวันโดยไมหลับไมนอน ในเวลาสามวันนี้เขาฝกอยางหนัก ไม
ยอมใหเวลาเสียเปลาแมแตวินาทีเดียว
รางกายของเขาคอยๆ ออนลาจากการฝกอยางหนัก แมแตคนบาอยางอายฮุยก็พบวา
การฝกแบบนี้นั้นมันมากเกินไป หากฝกนานจนเกินควรจะทำใหรางกายไดรับบาดเจ็บ
ในเวลานี้ อายฮุยใชเวลาสวนมากฝกอยูในเจดียเสวียนจิน ฝนทนกับการระเบิด
ของพลังธาตุทองภายในกาย เขาพยายามอยางมากที่จะไตโซเหล็กกลาเพื่อหาทาง
ออก แมวาพลังธาตุจะถูกเติมเต็มระหวางการฝก แตนั่นก็ไมไดรวมถึงความแข็งแกรง
ทางกายภาพของเขาที่เหือดแหงไปเรื่อยๆ เขาทอแทกับขั้นตอนการไตออกมา จิตใจ
อยากจะทำตอไปแตรางกายกลับออนแอเกินไป
วันนี้คงตองหยุดไวเทานี้กอน
เขาคิดวาจะนอนพักหลังจากนี้
กอนที่อายฮุยจะถอนหายใจออกมาดวยความโลงอกหลังจากที่ใชพลังทั้งหมดไต
ขึ้นมาจนถึงทางเขา รางหนึ่งก็เดินตุปดตุเปออกมาจากความมืดและลมลงบนตัวเขา
อายฮุยยื่นมือออกไปพยายามจะควารางนั้นไวอยางไมคอยมีสติ
รางนั้นเสียการควบคุม แขนแกวงไปมาพยายามควาตัวอายฮุยเอาไวเหมือนกับ
คนกำลังจมน้ำ
ทั้งคูปะทะกัน จึงสูญเสียการทรงตัวและรวงลงไปในเจดียเสวียนจินพรอมๆ กัน
บทที่ 72 อันตราย
เหตุการณไมคาดคิดนี้ทำใหอายฮุยเสียขวัญ กอนจะรูวาใครเปนคนชนเขา เขาก็
จมอยูในกระแสลมทองคำอันรุนแรงเสียแลว
เวรเอย!
โดยปกติแลวในยามที่อายฮุยอยูคนเดียวในเจดียเสวียนจิน เขาก็จะทำทุกอยาง
ดวยความระมัดระวัง ทวาตอนนี้เขากำลังแบกคนไวและกำลังกายทั้งหมดของเขาก็ถูก
ใชไปหมดแลว จะเคลื่อนไหวไดอยางไร
สิ่งที่นารำคาญที่สุดคือการที่อีกฝายหนึ่งกอดเอวของเขาเอาไวแนน พยายามสลัด
ออกถึงสองสามครั้ง แตก็ไมหลุดเสียที
อายฮุยโกรธอยางเห็นไดชัด ความคิดที่ไรความปรานีลุกโชนขึ้นในใจ เมื่อเขาออก
จากที่นี่ได จะทุบตีเจาสารเลวนี่ใหนวมจนไมมีใครจำหนาได
ที่นี่ออกจะใหญโต และโซเหล็กกลาก็เห็นไดอยางชัดเจน หมอนี่มองไมเห็นไดอยางไร
ตาบอดหรือไงกัน
ขณะที่อายฮุยกำลังจะระเบิดดวยความโกรธ มือของเขาก็ถอยหางออกไป รูสึก
เสียวซานไปถึงกระดูกสันหลัง โซเหล็กกลาขาด!
โซเหล็กกลาไมอาจรับน้ำหนักของคนสองคนได! สีหนาของอายฮุยเปลี่ยนไปทันที
ทั้งคูเปนเสมือนวาวที่ไรการควบคุม ปง! รางกายของเขากระแทกกับผนังอยา งแรง
และแมจะมีการปองกันของเกราะเขาก็ตองรองออกมาดวยเจ็บปวดอยางชวยไมได
แมวาจะมีเกราะที่ปองกันเขาจากลมทองคำ แตมันก็หนักมาก ซ้ำยังมีคนบนหลังอีก
แมวาพละกำลังของอายฮุยจะอยูที่จุดสูงสุด แตก็ยังไมมั่นใจวาจะเดินออกจากเจดีย
เสวียนจินไดทั้งที่ยังมีชีวิตอยูได
ปง!
คราวนี้คนบนหลังของเขาเปนคนที่กระแทกกับผนัง เสียงครางออนแรงดังมาจาก
ขางหลัง
ความโกรธของอายฮุยที่เพิ่งสงบลงระเบิดขึ้นอีกครั้ง
ตวนมูปงหวาน!
เขาจำอีกฝายไดดวยเสียงแอะเดียว
กอนหนานี้ทั้งคูตางก็สรางความโกรธแคนตอกัน และในตอนนี้ศัตรูทั้งสองได
เผชิญหนากันอีกครั้งดวยสายตาที่มีประกายแหงความเกลียดชัง! ไมใชเรื่องนาแปลก
ใจที่เจาสารเลวคนนี้มาที่นี่เพื่อกอปญหา! อายฮุยไมรูวาพลังของเขามาจากไหนใน
ขณะที่เขาพยายามจะควาตวนมูหวงฮุนที่เกาะติดอยูที่หลัง แตชุดเกราะบนรางกาย
ของเขาใหญเกินไปทำใหการเคลื่อนไหวของเขามีจำกัด
เขาจึงถอดชุดเกราะออก แกรง! แกรง! แกรง! มันรวงลงกระแทกกับตะแกรง
เหล็กดานลาง
ทวากอนที่เขาจะไดทำอะไร ตวนมูหวงฮุนก็ดูเหมือนจะคนพบโอกาสที่จะโจมตี
และใชแขนขาทั้งหมดของเขายึดเกาะหลังของอายฮุยราวกับปลาหมึกยักษ
หลังจากถอดเกราะที่เกะกะออกแลว อายฮุยก็รูสึกวาการเคลื่อนไหวของตนเปน
อิสระขึ้นอีกครั้ง ทวาในเวลาเดียวกันตัวเขาก็เบามากขึ้นทำใหตอนนี้ลมทองคำมี
ผลกระทบกับเขามากขึ้นเชนกัน แตเมื่อเขารูมันก็สายเกินไปเสียแลว
ปง! ปง! ปง!
ทั้งสองรางกระเด็นและปลิวไปรอบเจดีอยางไรการควบคุมประหนึ่งลูกบอลยาง
ในเวลานี้อายฮุยไมสามารถทำอะไรนอกจากปกปองศีรษะตนเอง แตในฐานะคน
ที่มีประสบการณเขาจึงสามารถตอบสนองไดทันเวลา เขารูวาตนจะสูญเสียพลังงาน
อยางเปลาประโยชนหากดิ้นรนอยางไรความคิด สิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำตอนนี้คือตอง
ปกปองตัวเอง ประหยัดพลังงาน และรอโอกาส
อายฮุยที่สงบลงแลวรูวาตนกำลังทำอะไรอยู
เขาคุนเคยกับชั้นแรกของเจดียเสวียนจินดี หากลมพัดเขาไปใกลๆ ทางเขาเขาก็
จะสามารถหลบหนีไดสำเร็จ
เขาไมสนใจเรื่องตวนมูหวงฮุน และฟนตัวจากความโกรธของเขาราวกับวาไมมี
อะไรเกิดขึ้น ในสถานการณที่เปนอันตรายเชนนี้ การกระทำตามอารมณจะไมเปน
ประโยชนไมวาในทางใด สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำไดคือสงบจิตใจและนำพาตัวเองให
พนจากสถานการณนี้
ความเจ็บปวดจากการถูกลมทองคำทิ่มแทงเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น กอนหนา
นี้เขารูสึกวาตนอยูในขีดจำกัดแลว ทวาลมทองคำก็ทะลุเขาไปในรางกายของเขาอยาง
สม่ำเสมอ ความรูสึกเหมือนตัวเองกำลังจะระเบิดพวยพุงขึ้นมาอยางรวดเร็ว
อยางไรก็ตามมันไมไดสงผลกระทบตอความสงบของอายฮุย เขายังคงสงบเยือกเย็น
แตหลังจากการกระแทกครั้งแลวครั้งเลาในที่สุดเขาก็สูญเสียความสงบนั้นไป
คราวนี้การกระแทกเกิดขึ้นที่บริเวณหลังของเขา ชวงเวลาที่ตวนมูหวงฮุนที่กำลัง
หมดสติกระแทกเขากับกำแพงพวกเขาก็กระเดงกระดอนกับราวกับสปริง
อายฮุยทำไดเพียงแคมองอยางชวยไมได เขากระเดงขึ้นจากพื้นราวกับลูกบอลยาง
รวมกับแรงผลักจากลมทองคำ พวกเขาก็ปลิวไปที่ชั้นสอง
ตั้งสติ ตั้งสติ ตั้งสติ...
อายฮุยกลาวย้ำกับตัว เอง แตทวาเขาไมอาจทนไดอ ีกตอ ไปและเหวี ่ย งหั ว ไป
ดานหลัง
โปก!
หลังศีรษะของอายฮุยกระแทกเขาใสจมูกตวนมูหวงฮุนอยางแรงราวกับคอนเหล็ก
รางอันไรสติของตวนมูหวงฮุนกระตุกแตยังคงยึดติดกับอายฮุย ไมแสดงใหเห็น
แมแตนอยวาจะยอมปลอยมือ อยางไรก็ตามความโกรธของอายฮุยไดคลายลงแลว
เขารูวามันจะเปนไปไมไดที่ตวนมูหวงฮุนจะปลอยตัวเขา เขาเคยเห็นสิ่งนี้มากอนใน
แดนราง มันเปนสัญชาตญาณการอยูรอดของมนุษย คนที่กำลังจมน้ำจะติดอยูกับสิ่งที่
ควาไดและไมปลอยมือจากสิ่งนั้น นี่รวมถึงคนที่หมดสติไปแลวดวย
และในตอนนี้ตวนมูหวงฮุนก็อยูในสภาพนั้นนั่นเอง
อา ยฮุยไมสนเรื่องของตวนมูหวงฮุ นอีก ต อไปในเมื่ อเขากำลั งพบกั บปญหาที่
ยุงยากกวา
เขารูสึกวาความเร็วเขาเพิ่มขึ้น นี่เปนสถานการณที่แยมากเพราะที่หมายความวา
ลมกำลังพัดแรงขึ้น หลังจากฝกภายในเจดียเสวียนจินมานานแลวเขาก็คุนเคยกับ
สถานที่นี้มาก เจดียเสวียนจินมีทั้งหมดเจ็ดชั้น ชั้นบนสุดของเจดียจะแคบแตดานลาง
กวาง ชองระบายอากาศที่ชั้นแรกอยูใกลที่สุด แตลมที่พัดออกมาก็ออนแรงที่ สุด
เชนกัน ยิ่งขึ้นไปชั้นที่สูงขึ้นลมก็จะแรงขึ้นตามลำดับ
รางของพวกเขาหมุนควางในสายลม
ความกังวลของอายฮุยยิ่งเพิ่มมากขึ้น แตตอนนี้เขากำลังลอยอยูกลางอากาศและ
ไมมีสิ่งใหยึดเกาะ
กระสมลมหมุนวนกำลังพัดขึ้น!
เสียงลมที่ดังกองในหูของเขาเริ่มเปลี่ยนเปนแปลกประหลาดและนากลัว เสียงที่
แหลมคมบาดแกวหูทำใหอายฮุยไมไดยินสิ่งอื่นใด ลมแรงมากจนตอนนี้ทำใหเขา
หายใจลำบาก
ความเจ็บปวดจากลมทองคำเปรียบประหนึ่งการถูกฟนดวยดาบ อายฮุยรูสึกวา
ผิวของเขาถูกฉีกเปนชิ้นๆ ดวยพายุที่รุนแรง
แสงจางๆ สาดฉายออกมาจากขางหลังเขา
มันคือเสื้อผาที่ตวนมูหวงฮุนสวมอยู กำลังเปลงประกายจางๆ ตานกับลมทองคำ
ทั้งคูหมุนวนขึ้นไปอยางไรการควบคุมภายในกระแสลมทองคำที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เสื้อผาของอายฮุยถูกสายลมกรีดเปนชิ้นๆ ทิ้งแผลจำนวนนับไมถวนบนผิวของเขา
อายฮุยเต็มไปดวยความกังวล เมื่อสังเกตสภาพแวดลอมรอบกายก็รูวาพวกเขาก็
มาถึงชั้นที่หาแลว
โปง!
หลังจากเกิดการระเบิดที่ฟงดูเหมือนลูกโปงแตก แสงเรืองรอบตัวตวนมูหวงฮุนก็
หายไป เศษผาฉีกขาดกระจายไปทุกทิศทุกทาง แมแตเสื้อผาพิเศษของตวนมูหวงฮุนก็
ไมสามารถตานทานลมทองคำได
แฉะ! เลือดกระเด็นใสหนาอายฮุย กลิ่นเลือดจาง ๆ ดูเหมือนจะทำใหความกังวล
ใจของอายฮุยลดลง
เลือดนั้นเปนของตวนมูหวงฮุน
แมวา [หนังทองแดง] ของอายฮุยจะพัฒนาขึ้นเกือบเต็มที่แลว แตเขาก็ยังรูสึก
เจ็บแสบจากลมทองคำ นี่แสดงใหเห็นวาลมทองคำทรงพลังมากเพียงใด ครั้งกอนอาย
ฮุยไดรักษาไขของตวนมูหวงฮุน เพราะฉะนั้นเขารูทุกอยางเกี่ยวกับรางกายของหมอนี่
รางกายของตวนมูหวงฮุนนั้นเห็นไดชัดวาไมอาจตานทานลมทองคำได
สิ่งที่อายฮุยคาดคิดไวกลายเปนจริง ริ้วรอยสีแดงจำนวนมากปรากฏบนรางกาย
ของตวนมูหวงฮุน ยอมเสื้อผาที่ขาดวิ่นของเขาดวยเลือดสดๆ
คราบเลือดคอยๆ กระจายไปบนสื้อผาที่ขาดวิ่นทีละนิดๆ
ชางเปนคนที่โชคดีเสียจริง อายฮุยหัวเราะอยางขมขื่น เจาหมอนี่หมดสติอยาง
สิ้นเชิงและยังไมทราบถึงสถานการณคับขันที่เขาเผชิญอยูในขณะนี้
กลิ่นเลือดจางๆ ปลุกความกลาที่หลับใหลอยูนานของอายฮุยขึ้นมา
ความดุรายแวบขึ้นบนใบหนาของเขา เขาเริ่มดูดซับพลังธาตุทองที่กำลังทิ่มแทง
รางกายของเขาโดยตรงอยางไมลังเล
พลังงานธาตุทองนี้ไมไดถูกทำใหกระจายตัวและไมเหมาะสำหรับการดูดซับ แต
ในชวงเวลานี้อายฮุยไมสนอีกตอไปแลว
เขาหาทางเอาตัวรอดกอน ไมอยางนั้นเขาตองตายที่นี่วันนี้
ยิ่งขึ้นไปสูงเทาไร พลังงานธาตุทองก็ยิ่งบริสุทธิ์และแข็งแกรงขึ้นเทานั้น อายฮุย
เปดคลังชีว ิตอยางแข็งขืน พลังงานธาตุ ทองที ่ ให ความรู สึกเหมื อนเข็มเหล็กกลา
กระจายไปทั่วกายของเขา ความรูสึกที่ถูกเข็มทิ่มแทงทำใหใบหนาของอายฮุยซีดขาว
แตเขาก็ไมยอมหยุด ทวาหากสถานการณยังเปนไปเชนนี้ ไรซึ่งพลังกายและพลังธาตุ
เขาก็ไมตางจากเดินหนาเขาสูความตาย
ชีวิตนั้นสำคัญกวา ไมมีชีวิตก็ไมมีอยางอื่นใหตองพูดถึง หากคลังชีวิตเสียหายก็ยัง
พอจะหาวิธีรักษาได
พลังงานธาตุทองทะลักเขาสูคลังชีวิตของอายฮุยเฉกเชนฝูงฉลามเหี้ยมโหด
บทที่ 73 แสวงหาทางรอด
ทุกวันนี้ “หาคลังแปดตำหนัก” เปนระบบการฝกตนที่กาวหนาและเปนที ่นิยม
ที่สุด แมวาแตละคนจะมีแนวทางการฝกฝนที่ตางกัน แตก็ไมมีใครอยูนอกแนวทางหา
คลังแปดตำหนัก
หาคลังแปดตำหนักมีหลากหลายการใชงาน แตจุดที่สำคัญที่สุดก็คือคลังชีวิต
ไมวาใครก็สามารถรับรูถึงความสำคัญไดจากคำวา “ชีวิต” ธาตุไฟโยงกับใจ ธาตุ
ไมโยงกับตับ ธาตุดินโยงกับมาม ธาตุทองโยงกับปอดและธาตุน้ำโยงกับไต ทั้งหมด
รวมกันเปนแหลงกำเนิดของพลังงานธาตุ คลังชีวิตสามารถจัดเก็บพลังงานธาตุไดเปน
จำนวนมาก แตการใชประโยชนที่สำคัญที่สุดคือการดูดซับพลังงานจากธาตุและนำสง
ไปสูจุดอื่น
ในการตอสู คลังชีวิตรับหนาที่จัดสงพลังงานธาตุ
ในการฝกฝน พลังธาตุจำเปนตองสรางวงโคจรไหลเวียน วัตถุประสงคของวงโคจร
ไหลเวียนนี้ก็เพื่อสกัดพลังธาตุใหบริสุทธิ์ การทำพลังธาตุใหบริสุทธิ์ก็คือการขจัดสิ่ง
ปลอมปนเพื่อที่จะสามารถดูดซับพลังธาตุที่บริสุทธิ์ได ในขณะเดียวกันพลังธาตุที่สกัด
แลวก็ทำใหสามารถสะสมพลังธาตุไดมากขึ้น
ไมวาคนผูนั้นจะแข็งแรงหรือออนแอ คลังชีวิตจะทำหนาที่จัดสงและรองรับพลังธาตุ
ทั้งหมด แตถึงอยางนั้น แคพลังธาตุเพียงเล็กนอยก็สามารถทำใหคลังชีวิตบาดเจ็บได
ผูใชพลังธาตุระดับสูงลวนแลวแตมีพลังงานธาตุที่อัดแนนอยูในรางกายของพวก
เขา ทำใหพวกเขาแข็งแกรงมาก คนที่เชี่ยวชาญในการฝกรางกายนั้นจะมีรางกายที่
ทนทานเทียบเทากับอสูรแดนรางเลยทีเดียว
ในตอนที่ระดับพลังยังต่ำ รางกายของพวกเขาจะออนแอ ดังนั้นในชวงเริ่มตนของ
การฝกตน ผูคนสวนใหญจะเลือกสถานที่ฝกที่มีพลังธาตุที่ออนโยน ซึ่งพลังธาตุที่
บริสุทธิ์และอัดแนนนั้นจะไมทำรายรางกายของพวกเขา
ไมมีใครลอเลนกับคลังชีวิต เพราะหากคลังชีวิตไดรับบาดเจ็บแลวจะเปนปญหา
อยางมาก
เมื่อพลังธาตุอันแหลมคมทะลักเขาไปในคลังชีวิตของอายฮุย คลังชีวิตของเขาก็
ไดรับบาดเจ็บในทันที
นอกจากความเจ็บปวดที่ไมอาจบรรยายไดแลวนั้น รอยแผลจำนวนนับไมถวนก็
ปรากฏขึ้นในปอดของเขา
ทวาเขายังไมยอมหยุด ถึงแมวากระบวนการนี้จะเจ็บปวดและทรมาน แตเขาก็
สามารถฟนฟูเรี่ยวแรงดวยการสงพลังธาตุเขาไปในปอดได แตมันก็ยังไมเพียงพอ เขา
ยังจำเปนตองควบคุมพลังธาตุใหครบวงโคจร
แมวาจะมีพลังธาตุไรสิ้นสุดทะลักเขาสูปอด อายฮุยก็คนพบไดอยางรวดเร็ววาเขา
ไมอาจโคจรพลังธาตุจำนวนมากได
ระดับพลังของเขาต่ำเกินไปและความจุของคลังชีวิตก็ไมสูงพอ ความสามารถใน
การโคจรพลังของเขามีจำกัด นอกจากนี้ธาตุที่เออลนรางกายของเขาในตอนนี้นั้นไม
บริสุทธิ์และยังมีปริมาณมหาศาลอีกดวย
จำนวนบาดแผลในปอดของเขาเพิ่มขึ้นตามพลังธาตุที่ทะลักเขามาในคลังชีวิต
มันเปนสถานการณที่ลอแหลมมาก!
หากเขาไมสามารถหาวิธีแกไขปญหานี้ได คลังชีวิตของเขาคงถูกฉีกเปนชิ้นๆ ดวย
พลังธาตุอันแหลมคม บาดแผลในปอดของเขากำลังขยายใหญขึ้นและเลือดที่ไหล
ออกมาก็มากขึ้น
เลือดเปนฟองฟอดในปอด ไหลขึ้นมาสูปากของอายฮุยตามลมหายใจ กลิ่นเลือด
อันคุนเคยทำใหอายฮุยนึกยอนถึงชวงเวลาในแดนราง สถานที่ที่อันตรายรายลอมอยู
รอบดานและมีความตายตามติดอยูตลอดเวลา
เขาเผชิญความตายมากี่ครั้งแลว รอดหรือตาย ลวนขึ้นอยูกับวาเขาจะทำอะไร
ตอไป เขาขนลุกชูชัน ตัวสั่นไปจนถึงกระดูกสันหลัง
เขาจำอะไรไมไดแตก็รูสึกคุนเคยอยางประหลาด เหมือนกับทหารผานศึกที่กลับ
เขาสูสนามรบอีกครั้ง เปลวไฟลุกโชนในดวงตาที่เคยเยือกเย็น
สติของเขามั่นคงอยางผิดปกติ สมองเริ่มทำงานอยางรวดเร็ว สภาพแวดลอมรอบ
ขางกลายเปนเชื่องชาและเงียบสงัด
พลังธาตุที่กำลังแลนพลานในรางกายเหมือนกับฝูงฉลามทำลายพลังชีวิต
มั น แหลมคมกว า บริ ส ุ ท ธิ ์ ก ว า และเข ม ข น กว า พลั ง ธาตุ ท องที ่ ช ั ้น แรก มั น
เหมือนกับ...เข็มพลังธาตุ
เข็มพลังธาตุ...
อายฮุยเหมือนจะจับบางอยางได
มันเหมือนกับเข็มพลังธาตุอยางมาก อันที่จริงเมื่อวัดจากความแหลมคมและ
คุณลักษณะแลว คุณสมบัติของมันนั้นเปนเชนเดียวกับเข็มพลังธาตุ ความแตกตาง
เดียวก็คืออายฮุยไมไดกลั่นพวกมันขึ้นมาดวยตัวเอง
เขาคิดวา การที่เขาจะสรางเข็มพลังธาตุขึ้นมาไดนั้นยากเย็นเพียงใด และการ
ครองรูปมันไวแสนเข็ญขนาดไหน แมจะทุมเทเวลาและความพยายามมากมาย แตเขา
กลับทอผาไดปริมาณเพียงเล็กนอย ทามกลางเข็มพลังธาตุจำนวนมากมายเชนนี้ทำให
เขารูสึกอับอายในความไรความสามารถของตัวเอง
เดี๋ยวนะ ที่นี่มีเข็มพลังธาตุมากมาย...
ราวกับมีหลอดไฟสวางขึ้นในหัว อายฮุยพลันนึกถึงการทอผาคูขึ้นมา
ในการฝกการทอผาคู อายฮุยไมเคยเขาใจวิธีที่เข็มพลังธาตุทำปฏิกริยาตอกัน
รายละเอียดทั้งหมดที่ปรากฏขึ้นในหัวของอายฮุยเกี่ยวกับการสาธิตของศิษยพี่หมิงซิ่ว
ทำใหเขามั่นใจวามีเสนดายลองหนเพียงเสนเดียวตอนที่ศิษยพี่หมิงซิ่วบังคับเข็มพลัง
ธาตุสองเลม
นางตองใชปฏิกิริยาระหวางเข็มสองเลมเพื่อควบคุมเข็มอีกเลมหนึ่ง
ใชแลว มันตองเปนแบบนั้น
ในที่สุดเขาก็รูวาเกิดอะไรขึ้น
มันจะเปนไปไดหรือไมที่เขาจะควบคุมเข็มพลังธาตุจำนวนหนึ่งและใชปฏิกริยา
ระหวางพวกมันเพื่อโคจรพลังธาตุพวกนี้
การทอผาคูอยางงายของอายฮุยขามขั้นตอนนี้ไปโดยการใชกลามเนื้อควบคุมการ
ประสานงานระหวางเข็มคูแทน เขาไมมีพลังธาตุมากพอที่จะควบคุมเข็มรวมกันได มัน
มีความซับซอนอยางมาก
อยางไรก็ตามในตอนนี้รางกายของเขาเต็มไปดวยพลังธาตุจำนวนมหาศาล ดังนั้น
เขาจึงไมจำเปนตองกังวลเกี่ยวกับการหมดพลังอีกตอไป ความโชคดีอีกอยางหนึ่งก็คือ
สิ่งที่ใชในการควบคุมเข็มพลังธาตุก็คือคลังชีวิต
แมวาการบังคับพลังธาตุจากภายนอกรางกายนั้นจะยาก แตระดับความยากใน
การควบคุมพลังธาตุภายในคลังชีวิตนั้นงายกวามาก เขาเปนนายของคลังชีวิต
ในตอนนี้ภาวะจิตใจของอายฮุยในกระจางใสอยางที่สุด เขาไมรูวาแผนนี้จะไดผล
หรือไม แตเขาไมมีทางเลือกอื่นอีกแลว หากเปนคนอื่นคงตองเจอกับความยากลำบาก
ในการตอสูเพื่อเอาชีวิตรอด แตสำหรับอายฮุยแลวมันเปนประสบการณที่เขาคุนเคย
เขามองหากลุมของเข็มพลังธาตุที่หนาแนนและเริ่มทำการทดลองทันที
มันเริ่มตนอยา งราบลื่นเมื่อเข็มพลั งธาตุ ลอยขึ ้นกลางอากาศ ทวาเขาไมอ าจ
ควบคุมมันใหทำปฏิกริยากับเข็มอื่นๆ ได
สิ่งที่ทำใหเขาประหลาดใจก็คือเขารับรูไดถึงการมีอยูของปฏิกิริยาระหวางเข็มพลังธาตุ
แตปฏิกิริยานี้กลับออนมาก เบาบางจนกระทั่งไมอาจทำใหเข็มอีกเลมกระดิกได
เขาไมไดรูสึกทอแทแตยางใด สำหรับเขาแลววิธีนี้นับวาเปนกลวิธีชั้นสูงและถึงแมวา
เขาจะเขาใจหลักการของทักษะนี้ แตมันก็ยังคงเปนเรื่องยากที่จะลงมือทำจริงๆ
กลายเปนวาปฏิกริยาที่เกิดขึ้นระหวางเข็มพลังธาตุไมไดขึ้นอยูกับระดับพลังที่สง
เขาไปหากแตเปนไปเพราะกลวิธีเฉพาะบางอยาง
เปนไปไดไหมวาเขาเผลอมองขามอะไรไป
เขานึกถึงการสาธิตของศิษยพี่หมิงซิ่วอยางละเอียดอีกครั้งกอนจะนึกถึงบางอยาง
ที่เขาละเลยไปกอนหนานี้
ในตอนนั้นศิษยพี่หมิงซิ่วไดยืดตัวขึ้น นางไดสรางภาพอันแสนจะนาดึงดูด หมอก
บางเบาลองลอยอยูรอบกายของนางเปลี่ย นรูปรา งไปมาอยา งตอ เนื่อ ง ในขณะที่
ประกายแสงจำนวนมากเกิดขึ้นบนคลื่นน้ำที่นางสรางขึ้นนั้น ประกายแสงพวกนั้น
เดี๋ยวสวางเดี๋ยวดับไป ดูละมายคลายทะเลสาบประดับประดาไปดวยดวงดาวประกาย
แสง
นี่เปนสองสิ่งที่เขาเพิ่งเขาใจ
แมแตตอนนี้เขาก็ยังไมเขาใจวามันคืออะไร แตเขาก็ตัดสินใจที่จะลองอีกสักครั้ง
เขาตัดสินใจที่จ ะเริ่ม เลีย นแบบการเคลื ่ อ นไหวของศิ ษ ย พ ี ่ ห มิ ง ซิ ่ ว ภาพนั้ น
ประกอบไปดวยพละกำลังและความงามที่ผสมผสานกันอยางกลมกลืน สรางความ
ประทับใจอยางล้ำลึกใหกับอายฮุย
ศิษยพี่หมิงซิ่วไมไดมีกลามเนื้อชัดเจน แตอายฮุยกลับสามารถมองเห็นความ
แข็งแกรงและพลังในการเคลื่อนไหว
อายฮุยไมสนวารางของเขากำลังลองลอยอยูในอากาศ
เขาเหยียดแขนไปขางหนาอยางสบาย นิ้วทั้งหมดคลี่กางออกอยางเต็มที่ กลามเนื้อทั่ว
รางกายเริ่มตึง ขาเริ่มโคงงอ ยกจุดศูนยถวงของรางกายใหอยูในจุดที่พอดี
อายฮุยสามารถควบคุมกลามเนื้อเขาไดอยางดี ยิ่งไปกวานั้นเขามีความทรงจำที่
แมนยำเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของศิษยพี่หมิงซิ่ว ดังนั้นทวงทาของเขาจึงเหมือนกับ
ของนางอยางสมบูรณ
เหมือนทุกกระเบียดนิ้ว
ทันทีที่เขาอยูในทวงทานั้น เขาก็รับรูไดถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในรางกาย
บทที่ 74 เหตุไมคาดฝน
พลังธาตุในกายของเขาพลันกลายเปนแข็งแกรง
ไมสิ มันทวมทน อายฮุยไมเคยทำใหเข็มพลังธาตุมากมายลอยขึ้นพรอมกันเชนนี้
มากอน
กอนหนานี้เข็มพลังธาตุไมตางอะไรไปจากตะปูเหล็กกลุมหนึ่ง แตในตอนนี้พวก
มันเปนเหมือนแมเหล็ก บางชิ้นดึงดูดชิ้นอื่นๆ ในขณะที่บางชิ้นผลักชิ้นอื่นๆ กอใหเกิด
ความปนปวนขนาดใหญ เหตุเพราะวามีเข็มพลังธาตุมากเกินไปในรางกายของเขา
เข็มจำนวนนับไมถวนเออลนเขาสูคลังชีวิต สรางแรงทำลายราวกับพายุทำลายลาง
หลังจากถูกจูโจมดวยพายุนั้นแลว บาดแผลในคลังชีวิตก็ถูกเปดขึ้นอีกครั้ง
อายฮุยกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
แทนที่จะรูสึกตกใจ แตอายฮุยกลับรูสึกยินดี ตราบใดที่ทฤษฎีของเขาใชงานได
เขาก็รับไดทุกอยาง เขากังวลมากวาเข็มพลังธาตุจะนอนแนนิ่งอยูภายในคลังชีวิต
ดังนั้นตราบใดที่มันเกิดการเปลี่ยนแปลง อาจมีโอกาสที่เขาจะมีชีวิตรอด ตอนนี้เขาอยู
ในสถานการณที่เลวรายที่สุดแลวดังนั้นการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตามลวนเปนสิ่ งที ่ดี
อยางนอยเขาก็มีโอกาสที่จะสรางความแตกตาง
อายฮุยดูเหมือนไมสนใจอะไรทั้งนั้นในตอนนี้ บางทีแมแตศิษยพี่หมิงซิ่วก็อาจจะ
ไมสามารถอธิบายไดวาเกิดอะไรขึ้นกับเขาในตอนนี้
ไมเคยมีใครทำแบบนี้มากอน แมแตคนที่กลาหาญที่สุดก็ไมกลาทำเรื่องโงๆ กับ
คลังชีวิตอยางเขา
กระนั้นก็ดีอายฮุยไมมีทางเลือกอื่น พลังธาตุปริมาณมหาศาลไหลทะลักเขาคลัง
ชีวิต มากเกินขีดจำกัดของรางกายที่จะรับได ไปมาก นี่เปนสถานการณ ที ่สิ ้ นหวั ง
สำหรับเขาแตแรก
เขายอมไมลังเลที่จะลองวิธีใดก็ไดที่เขาสามารถคิดได
พายุในคลังชีวิตไมเพียงแคเริ่มตนขึ้นอยางรวดเร็ว มันยังจบลงอยางรวดเร็วอีกดวย
เข็มพลังธาตุที่พุงพลานเริ่มเรียงตัวกันอยางเปนระเบียบ หากกอนหนานี้เข็ม
เหลานี้เปรียบเสมือนฉลามที่เต็มไปดวยพลังทำลายลาง ในตอนนี้มันเปรียบเหมือน
จอมปลวกแมเหล็กที่เกิดจากการกองสุมกันของแมเหล็ก
ใชแลว ในตอนนี้พวกมันเงียบงันและสงบนิ่ง
หลังจากที่เข็มพลังธาตุดึงดูดซึ่งกันและกัน ความแหลมคมก็ลดลงอยางเห็นไดชัด
และตัวเข็มพลังธาตุก็สงบลงอยางมากเชนกัน แตสิ่งที่ทำใหอายฮุยประหลาดใจก็คือ
บาดแผลในคลังชีวิตของเขาเริ่มสมานตัว กอนพลังธาตุทองที่เปนเหมือนแมเหล็กมี
ระดับพลังสูงกวาระดับของอายฮุยดังนั้นเขาจึงไมอาจดูดซับมันได
อยา งไรก็ตาม คลังชีว ิตของอ ายฮุย อ อนไหวต อพลั งธาตุ ทองนี้ และยั งไดรับ
ประโยชนมากมายมหาศาลจากพลังธาตุที่บริสุทธิ์และมีระดับสูง บาดแผลของเขาจึง
สมานตัวอยางรวดเร็ว
อายฮุยถอนหายใจออกมาอยางโลงอกในที่สุด
เขาไมคาดหวังวาเหตุการณนี้จะคลี่คลายในลักษณะนี้
ตอนแรกเขาตั้งใจวาจะใชปฏิกิริยาระหวางเข็มพลังธาตุเพื่อบังคับเข็มใหครบวง
โคจร ซึ่งจะชวยใหเขามีพลังขึ้นมาในชวงสั้นๆ และใชมันหลบหนีได
ความหวังนี้ไดแตกลงเปนเสี่ยงๆ
ถึงแมวาเขาจะพบวิธีเพิ่มปฏิกิริยา แตก็ไมคาดคิดวาเข็มพลังธาตุจะดูดติดกันราว
กับแมเหล็ก
ตอนนี้เขารูแลววาปญหาคืออะไร นั่นก็เพราะวามีเข็มพลังธาตุมากเกินไป
ศิษยพี่หมิงซิ่วสามารถใชเข็มพลังธาตุเลมหนึ่งบังคับเข็มอีกเลมหนึ่งได ทวาหาก
วามีมากเกินไป ศิษยพี่หมิงซิ่วก็คงจะทำอะไรไมไดเชนกัน ยิ่งไปกวานั้นการบังคับ
ปฏิกิริยาระหวางเข็มของศิษยพี่หมิงซิ่วก็ไมเงอะงะเหมือนกับของเขา
อายฮุยเดาวานั้นเปนเพราะคลังชีวิต
ศิษยพี่หมิงซิ่วบังคับเข็มพลังธาตุทั้งสองภายนอกรางกาย ทำใหปฏิกิริยาระหวา
เข็มลดลง แนนอนวาสิ่งที่เขาทำมันผิด และสิ่งที่ศิษยพี่หมิงซิ่วทำเปนสิ่งที่ถูกตอง
ตามปกติ ใครจะทำเรื่องบาๆ เชนเขากัน
คลังชีวิตมีพลังในการควบคุมพลังธาตุสูงที่สุดในรางกายของผูฝก นั่นอาจเปน
เหตุผลที่ปฏิกิริยาระหวางเข็มพลังธาตุรุนแรงขึ้นภายในคลังชีวิต
หลังจากคาดเดาถึงสาเหตุคราวๆ ไดแลว อายฮุยก็ไมยินดีแมแตนอย
พลังธาตุจากลมทองคำทะลักเขาไปในรางกายของเขาอยางไมรูจบ ในตอนนี้
“มวลเข็มพลังธาตุ” ในคลังชีวิตนั้นเหมือนกับแมเหล็กขนาดใหญที่สรางแรงดูดอันทรง
พลัง อายฮุยไมจำเปนตองชักนำพลังในรางกายของเขา เพราะมันถูกถึงดวยมวลเข็ม
พลังธาตุ
เมื่อเข็มเลมแลวเลมเลาถูกดึงเขามา มวลเข็มพลังธาตุที่เคยกระจัดกระจายกอน
หนานี้เริ่มถลมลงสูจุดศูนยกลางและหนาแนนมากขึ้น เปลี่ยนจากกอนหิมะที่เล็กและ
เปราะบางกลายเปนกอนน้ำแข็งขนาดใหญ
มีเข็มพลังธาตุจำนวนมากเกินไปที่เพิ่มเขามาในมวลนั้น
อายฮุยตัวสั่นดวยความกลัวเมื่อเขาเห็นมวลเข็มพลังธาตุคอยๆ ขยายตัวขึ้นเรือ่ ยๆ
ไมวาเขาจะพยายามควบคุมคลังชีวิตมากเพียงใด เขาก็ไมอาจดูดซับพลังจากมวลเข็ม
ไดเลยแมแตนอย
เห็นไดชัดวาคลังชีวิตของอายฮุยไมมีความสามารถที่จะดูดซับพลังธาตุระดับสูงเชนนี้
เมื่ออายฮุยเห็นคลังชีวิตของเขาถูกเติมเต็มขึ้นทีละนอยๆ เขาเริ่มรูสึกไมแนใจ เขา
อาจจะระเบิดตายเนื่องจากคลังชีวิตถูกอัดแนนจนเกินไปก็ได
สิ่งเดีย วที่ชว ยใหเขาสบายใจก็ คื อมวลเข็ มพลั งธาตุ น ั ้น ไม เป น อั น ตรายอะไร
ในตอนนี้
เมื่ออายฮุยเห็นวาคลังชีวิตของเขาถูกเติมจนเต็ม หัวใจของเขาก็กระตุกวูบ กอนหนานี้
เขายังสามารถบังคับเข็มไดเลมหรือสองเลม แตมวลเข็มพลังธาตุนี้มีเกินกวาที่กำลัง
ของเขาจะควบคุมได ไมวาเขาจะพยายามขยับมันมากเทาไร มันก็ไมเขยื้อนเลยสักนิด
ปง! เขากระแทกกับผนังอยางแรง เดี๋ยว..เขาถูกพัดขึ้นอยูนี่ ทำไมเขากระแทกกับ
กำแพงได
ความปติยินดีพลันปรากฏขึ้นบนใบหนาของเขา
ชั้นบนสุดของเจดีย! พวกเขาถูกพัดขึ้นมาถึงชั้นบนสุดของเจดีย!
แนนอนวาลมทองคำกดพวกเขาไวกับเพดานของเจดีย ทำใหทั้งคูรูสึกเหมือนถูก
ฟาดฟนดวยดาบจำนวนมาก
แตนี่ก็นับวาเปนโอกาสของอายฮุยที่จะหลบหนีจากสถานการณที่ดูเหมือนจะ
เปนไปไมไดนี้ ลมทองคำนั้นรุนแรงจนอายฮุยไมอาจจะลืมตาขึ้นได แตเขายังคงสัมผัส
ไดถึงทิศทางของสายลม มันมีชองระบายอากาศทั้ งหมดหาชอง และเขาสามารถ
หลบหนีออกไปผานชองใดก็ได
ณ จุดนี้ เขาฟนฟูพลังกายมาบางแลว
เขาติดตามทิศทางของสายลมไป และคืบคลานไปตามเพดานของเจดีย สายลมนี้
ชา งทรงพลังยิ่งนัก มันทำใหเขารู สึ ก เหมื อ นมี มื อขนาดยัก ษ ก ดลงมาบนรางกาย
ตลอดเวลา
ในขณะเดียวกัน ตวนมูหวงฮุนยังคงหมดสติและปกคลุมไปดวยเลือดอยูดานหลัง
ของเขา หมอนี่มีพลังธาตุประจำตัวเปนธาตุไม และในเมื่อธาตุทองทำลายธาตุไม
ดังนั้นการถูกทำรายโดยลมทองคำเปนเวลานานเชนนี้ยอมไมตางจากการถูกทัณฑ
ทรมาน ตอใหเขายังมีสติอยู เขาก็ยังคงตองบาดเจ็บสาหัสอยูดี
ณ ตอนนี้ อายฮุยเลิกบนเกี่ยวกับตวนมูหวงฮุนแลว หวังเพียงวาเขาจะรอดชีวิต
ออกไปได เขาพัฒนาความคิดเชนนี้ขึ้นหลังจากผานหายนะรวมกันมา เขาไมสนใจ
อะไรอีกแลวนอกจากเอาชีวิตรอด
อายฮุยพยายามสุดชีวิตที่จะคืบคลานไปยังชองลมทั้งที่ยังแบกตวนมูหวงฮุนที่นา
อนาถเอาไว
ผานไประยะหนึ่ง เขาก็มั่นใจวาเขาเดินทางมาถูกทิศทางแลว เขาไมจำเปนตอง
คลานดวยตัวเองเพราะกระแสลมอันรุนแรงพัดเขาไปยังชองลม
นั่นเปนเพราะกระแสลมจะพัดรุนแรงขึ้นเมื่อเขาใกลชองลม
อายฮุยขดตัวเปนวงกลมเพื่อปกปองศีรษะไม ใหก ระแทกกั บขอบของช อ งลม
ถึงแมวาเขาจะมีรางกายที่ใหญโตแข็งแรง แตการกระแทกเขากับขอบชองลมดวย
กระแสลมที่รุนแรงนั้นก็ยังถือวาเปนอันตรายอยางยิ่งอยูดี
“สหายปงหวาน ขาเกรงวาเจาตองปกปองตัวเองแลว” อายฮุยพึมพำกับตัวเอง
ในที่สุดพวกเขาก็เกือบจะออกไปไดแลว!
อายฮุยรูสึกยินดีเปนอยางมากราวกับไดเกิดใหม ถึงแมวาเขาจะไมอาจลืมตาขึ้นได แต
เขาก็สัมผัสไดถึงแสงที่คอยๆ สวางขึ้นได
นั่นหมายความวาเขากำลังเขาใกลชองลมมากขึ้นเรื่อยๆ
ในตอนนี้เขาสูญเสียการควบคุมทั้งหมดไป ราวกับกำลังถูกขับไลไสสงใหออกไป
ทางชองลมดวยกระแสลมอันรุนแรง
ปง!
เขารูสึกวาแขนของเขากระแทกเขากับบางอยางและแลวความมืดมิดก็เขาปกคลุม
ความคิดสุดทายที่ผุดขึ้นกอนที่เขาจะหมดสติก็คือ...
ขาคงไมโชครายขนาดนั้นกระมัง
บทที่ 75 สหายเกา
หมิงซิ่วหลงทาง
ไมนานหลังจากออกจากเมือง นางก็หลงอยูในปาเขตชานเมือง นางใชชีวิตที่เรียบ
งายอยูภายในโรงเย็บปกมาตั้งแตเด็ก นอกจากการดูแลธุรกิจของโรงเย็บปกแลว นาง
ยังไมเคยทำเรื่องอื่นใดเลย บรรดาอาจารยก็ชื่นชมในตัวนาง แมแตตอนที่ออกไปเก็บ
หนี้นางก็ไปกับผูคุมกันมืออาชีพ
ดังนั้นนางจึงไมมีประสบการณการเดินทางตามลำพังในเขตชานเมืองเลย
ถึงอยางนั้นนางก็ไมกังวลมากนัก เขตชานเมืองของสนามเหนี่ยวนำถูกกวาดลาง
มาหลายรอบ สัตวประหลาดที่อาจเปนอันตรายตอนักเรียนลวนถูกกำจัดโดยผู ใหญ
เปนประจำ
สนามเหนี่ยวนำเปนสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในอูสิงเทียน นี่เปนขอเท็จจริง
นอกเหนือจากอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นระหวางการประลองหรือแขงขันระหวาง
โรงฝกแลว แทบไมมีเหตุถึงตายอื่นใด สนามเหนี่ยวนำถึงขนาดสงเสริมใหเกิดการ
แขงขันระหวางพวกนักเรียน และทางโรงเรียนก็ไมคอยสนใจการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
ระหวางการประลองหรือแขงขัน สาเหตุอื่นของการบาดเจ็บก็มาจากการทำภารกิจ
ของโรงเรียน ถึงแมวาจะมีภารกิจที่อนั ตรายมากมาย แตสนามเหนี่ยวนำก็ยังสนับสนุน
ใหนักเรียนทำภารกิจอยูบอยๆ
นี่เปนธรรมเนียมของสนามเหนี่ยวนำ ดวยวาถูกสรางขึ้นมาจากขี้เถาและควันไฟ
อันตรายจึงไมเคยหางหายไปจากพื้นที่นี้
การคุกคามของแดนรางยังไมถูกสะสาง อูสิงเทียนจำเปนตองมีนักรบที่กลาหาญ
ไมใชเด็กนอยที่ถูกปกปองจนเกินควร และสนามเหนี่ยวนำไมเคยลืมหลักการนี้
ประเพณีมากมายของสนามเหนี่ยวนำนั้นเปนไปตามหลักการนี้
กลุมผูมีพรสวรรคก็เปนผลผลิตของหลักการนี้เชนกัน และธรรมเนียมในการนำ
อดีตกองทัพแนวหนากลับมายังสนามเหนี่ยวนำเพื่อเปนครูฝกไดสืบทอดมาในสนาม
เหนี่ยวนำตั้งแตยุคเริ่มตน
ถึงแมวาหลี่เหวยกับโจวเสี่ยวซีจะหยุดพักจากงานครูฝกของกลุมผูมีพรสวรรคใน
วันนี้ แตเมื่อพวกเขาไดยินเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้น อุปนิสัยเดิมๆ ก็กลับมา ทำให
พวกเขาเปนคนกลุมแรกที่ตอบสนองตอสถานการณ
ครูฝกคนอื่นตอบสนองชากวามากเมื่อเทียบกับพวกเขาสองคนแลว
เมื่อมองเห็นยามสองคนสลบและรูวาผูตองสงสัยหลบหนีไปยังเขตชานเมืองพวก
เขาก็เริ่มการไลลา เมื่อมาถึงประตูเมืองพวกเขาก็แยกยายกัน หลี่เหวยกางปกเมฆาบน
หลังออก
ปกเมฆาปรากฏขึ้นเปนครั้งแรกหลักจากอูสิงเทียนกอตั้งขึ้น ปกนี้สรางขึ้นจากเมฆ
ที่กลั่นแลวซึ่งเก็บเกี่ยวมาจากหมูบานเมฆาหลากสีจากนั้นผูใชพลังธาตุน้ำก็สรางมัน
ขึ้นดวยวิธีการพิเศษ กอนการปรากฏขึ้นของปกเมฆา ทองฟาเปนเขตแดนของอสูร
แดนรางที่บินได มนุษยไมอาจปกปองตัวเองจากสัตวรายที่บินไดอยางงายดายนัก
จนกระทั่งมีการสรางปกเมฆาขึ้นมา ทำใหมนุษยสามารถตอสูตัวตอตัวกับอสูรแดนราง
บนทองฟาได
ปจจุบันนี้ปกเมฆาเปนอุปกรณการบินที่ใชกันอยางแพรหลาย หลังจากการพัฒนา
มาหลายพันป หมูบานเมฆาหลากสีสามารถสงออกเมฆหลากหลายชนิดสรางชื่อเสียง
ใหกับหมูบานเปนอยางมาก ทำใหพวกเขามีปกเมฆาหลากหลายชนิดใหเลือกสรร
เดิมทีมีเพียงผูใชธาตุน้ำเทานั้นที่สามารถใชปกเมฆาได แตหลังจากการทำงาน
หนักมาหลายชั่วอายุคน ผูใชธาตุน้ำไดพัฒนาปกเมฆาหลากหลายชนิดที่เหมาะสม
สำหรับการใชงานโดยผูใชธาตุชนิดตางๆ นอกเหนือจากธาตุน้ำ
เมื่อสยายออก ปกเมฆาของหลี่เหวยจะมีความกวางกวาเจ็ดเมตร ปกอันแข็งแกรง
มีสีเหมือนทองแดงและประดับไปดวยแสงเรืองรองของพลังธาตุทอง เปนที่รูจักในชื่อ
ปกษากระดูกทองแดง ซึ่งเหมาะสำหรับผูใชพลังธาตุทอง ปกษากระดูกทองแดงไม
สามารถบินไดเร็วนัก แตถึงอยางนั้น มันก็สามารถแบกน้ำหนักไดมากมาย หลี่เหวยมา
จากหนวยทหารราบ และรางกายของเขาก็พัฒนาหนังทองแดงกระดูกเหล็กสำเร็จ
แลวซึ่งทำใหปกเมฆาแบบปกติไมอาจแบกรับน้ำหนักของเขาได
ยิ่งไปกวานั้น ปกษากระดูกทองแดงมีพลังปองกันคอนขางสูง ทำใหมันคอนขาง
ทนทานและเสียหายไดยาก
เขากระพือปกเมฆาสรางกระแสลมกระโชกขนาดใหญกอนที่จะทะยานขึ้นไปบน
ทองฟา
เขาบินอยูดานบนกวาดสายตามองไปทั่วผืนปาดวยสายตาดุจนกอินทรี หากเขา
ยังอยูในแดนราง เขาคงไมทำเชนนี้ เขาถนัดการตอสูบนพื้นดินมากกวาการตอสูกลาง
อากาศ
แตเขาไมมีความกังวลเชนนั้นแลวในเมื่ออยูในสนามเหนี่ยวนำ
ผานไปสักพักเขาก็พบหญิงสาวนางหนึ่ง เขาจำไดวามียามคนหนึ่งบอกวามีหญิง
สาวไลตามผูตองสงสัยไป
เขารอนลงจากฟาลงสูพื้นใกลๆ กับหญิงสาวคนั้น และแนะนำตัวเอง “ขาชื่อหลี่
เหวยจากหนวยทหารราบ ขาเปนครูฝกจากกลุมผูมีพรสวรรคในเมืองซงเจียน ยินดีที่
ไดพบเจา”
“ขาคือลูหมิงซิ่วจากโรงเย็บปกอวี้” หมิงซิ่วตอบรับคำทักทายอยางสุภาพ
“ลูหมิงซิ่วจากโรงเย็บปกอวี้รึ” หลี่เหวยคิดอยางเงียบๆ พรอมกับมองใบหนาของ
นางอยางรอบคอบ นางดูคุนตาอยูบาง กอนที่จะถามขึ้นอยางรวดเร็ววา “พี่ชายของ
เจาคือทานลูเฉินใชหรือไม”
“พี่หลี่รูจักพี่ชายขาหรือ” หมิงซิ่วตกตะลึก
หลี่เหวยไมคิดวาเขาจะคาดเดาถูก เขายิ้มกวางตอบกลับวา “ทานลูเคยชวยชีวิต
ขาเอาไว ตอนนั้นขาไดรับบาดเจ็บ ขาอยูที่พักเขาประมาณเดือนหนึ่ง เขาเคยบอกวา
แมนางหมิงซิ่วฝกการเย็บปกอยู และเมื่อขาเห็นวาแมนางหมิงซิ่วกับพี่ลูดูคลายกันมาก
ขาจึงเอยถามไปเชนนั้น ขาไมคาดคิดวาจะเปนแมนางหมิงซิ่วจริงๆ แมนางหมิงซิ่ว
กำลังไลลาผูตองสงสัยอยูหรือ”
“เขาหนีไปได ปานี้กวางเกินไป หลังจากเลี้ยวไปมาขาก็หลงทาง ขาไมรูวาเขามุง
ไปทางไหน” หมิงซิ่วตอบดวยสีหนาเปนทุกข
“แมนางหมิงซิ่ว กลับไปที่เมืองกอนเถิด ขาจะจัดการเรื่องที่เหลือเอง” หลี่เหวยกลาว
“ไม เราไปดวยกันเถอะ” หมิงซิ่วสายหนาและกลาวตอไปวา “และพี่หลี่เรียกขา
วาหมิงซิ่วก็ได แมนางหมิงซิ่วฟงดูเปนทางการเกินไป”
เมื่อหลี่เหวยมองเห็นความเด็ดเดี่ยวในคำพูดของนาง เขาก็ไมโนมนาวนางอีก
ตอไป สนามเหนี่ยวนำเปนสถานที่ที่ถือวาปลอดภัยตลอดมา ยิ่งไปกวานั้นยามพวกนั้น
ก็แคหมดสติและไมมีใครไดรับบาดเจ็บ นี่อาจเปนแคการแกลงกัน สมัยที่เขายังเปน
นักเรียนก็เคยทำเรื่องผิดระเบียบแบบนี้เชนกัน
เขารูสึกวาพวกผูบริหารโรงเรียนออกจะทำเกินไปหนอย
อยางไรก็ตาม นั่นก็ไมถือวาเปน เรื่อ งผิ ด ในเมื่อชื่อเสีย งของสถาบัน ซงเจี ย น
เพิ่มพูนขึ้นมาอยางยากลำบาก ผูบ ริ ห ารโรงเรียนย อมไม ต องการให ชื่ อเสียงของ
โรงเรียนตองเสียหายไมวาดวยเหตุใดก็ตาม
อีกอยางเขาก็มาที่นี่เพื่อจัดการเรื่องนี้แลว
หลี่เหวยมั่นใจในความสามารถของตนเปนอยางมาก เมื่อมีเขาอยูดวยยอมเปนไป
ไมไดที่จะมีใครทำรายแมนางหมิงซิ่วได
ทวาเขากลับลังเลเมื่อแมนางหมิงซิ่วบอกใหเรียกนางดวยชื่อตรงๆ ดวยวาทานลู
เปนคนที่เขาใหความเคารพเปนอยางมาก
หมิงซิ่วสัมผัสไดถึงความลังเลของหลี่เหวย นางจึงกลาวกับเขาดวยน้ำเสียงสุภาพ
“เมื่อพี่หลี่เปนเพื่อนของพี่ชายขา ทานก็นับเปนเพื่อนของขาเชนกัน เวนแตวาพี่หลี่ไม
ตองการที่จะเปนเพื่อนกับหมิงซิ่ว”
หลี่เหวยไมใชคนที่พิรี้พิไร เมื่อไดยินคำพูดเหลานี้เขาก็ยิ้มแลวพูดวา “ถาอยางนั้น
ขาก็เคารพการตัดสินใจของแมนาง”
หมิงซิ่วเผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมากอ นที ่จะเปลี่ยนเปนทุกข ใจอยา งรวดเร็ ว
“แลวเราจะทำอยางไรตอไป”
เมื่อ หลี่เหวยมองเห็นรอยยิ้มอั นสุ ภาพและงดงามของหมิ งซิ ่ ว เขาก็ ตะลึ งไป
ชั่วขณะ กอนที่จะคืนสติถอนสายตาออกมา และตอบกลับดวยความมั่นใจวา “หมิงซิ่ว
ตามขามา”
สำหรับหลี่เหวยแลวการแกะลอยตามหาคนภายในเขตชานเมืองนั้นไมใชเรื่อง
ยากเย็นอันใด
เขาพบรองรอยอยางรวดเร็วและเริ่มติดตามไปทันที
หมิงซิ่วประทับใจในทักษะและความสามารถของหลี่เหวย “พี่หลี่ชางมีฝมือสูงสง
นัก ทานสามารถหารองรอยไดแมกระทั่งภายในปาที่กวางใหญ”
หลี่เหวยตอบอยางเขินอาย “ฝมือของขาก็แคระดับกลางๆ เทานั้น มีคนมากมาย
ในหนวยรบที่มีฝมือสูงกวาขา”
เมื่อหมิงซิ่วมองเห็นชายที่กำยำแข็งแรงทำทาเอียงอาย นางก็หัวเราะออกมาเบาๆ
ดวยความรูสึกวามันชางนาขันเหลือเกิน
ตอนนี้หลี่เหวยถึงกับหนาแดง เมื่อเขารูตัววาตนมีสีหนาอยางไรก็อยากจะมุดตัว
แทรกแผนดิน หนี เพื่อ เปนการปกป ด ความกระดากอาย เขามองไปรอบๆ ด ว ย
ความรูสึกที่สงบและแสดงความประหลาดใจออกมาอยางฉับพลัน
หมิงซิ่วเปดตากวางถาม “พี่หลี่พบอะไรอยางนั้นหรือ”
“คนผูนั้นตรงไปยังเจดียเสวียนจิน” หลี่เหวยตอบ
เขาสามารถบอกเสนทางที่ถูก ตองไดในทั นที เพราะเขาคุ น เคยกับพื้น ที่ รอบๆ
เจดียเสวียนจินเปนอยางดี
“ถาอยางนั้นก็ไปกันเถอะ” หมิงซิ่วพูดอยางตื่นเตน ถึงแมวานางจะมีนสิ ัยสุภาพ
ตามธรรมชาติแตก็ยังเปนสาวนอย หลังจากใชชีวิตสวนใหญอยูภายในโรงเย็บปก นาง
แทบไมเคยพบเหตุการณแบบนี้มากอน เรื่องนี้จึงทำใหนางรูสึกแปลกใหมและตื่นเตน
หลี่เหวยถูกกระตุนดวยความตื่นเตนของหมิงซิ่ว ก็หัวเราะอยางจริงใจกอนจะพูดวา
“ไปจับผูรายที่กอปญหาผูนี้กันเถอะ”
บทที่ 76 การคนพบอันนาตระหนก
เมื่อทั้งสองคนเรงรุดมาถึงเจดียเสวียนจินแลวกลับไมพบใครแมแตคนเดียว แต
กลับพบสิ่งที่นาสนใจใตเจดียในทันที
กอนหินขนาดใหญถูกผูกไวดวยโซโลหะหนา และบางสวนของโซโลหะถูกกระชาก
ออก
หลี ่ เ หวยเคยฝ ก ภายในเจดี ย เ สวี ย นจิ น มาก อ น และสามารถคาดเดาถึ ง
วัตถุประสงคของโซโลหะไดหลังจากใชความคิดเพียงนิดเดียว เขาอดไมไดที่จะรูสึกชื่น
ชมวาวิธีนี้นั้นล้ำลึกกวาวิธีที่เขาเคยใชในอดีตนัก
ในตอนที่เขาฝกภายในเจดียเสวียนจิน เขาตองอดทนกับความลำบากนานัปการ
แตเขาก็ฝกหนังทองแดงกระดูกเหล็กไดสำเร็จ มีนักเรียนในสนามเหนี่ยวนำไมก ี่คน
เทานั้นที่สามารถไปถึงระดับหนังทองแดงกระดูกเหล็กได ดวยคุณสมบัติทางรางกาย
ของเขาทำใหเขาไดรับเลือกใหเขารวมหนวยทหารราบ หนึ่งในสิบสามหนวย ซึ่งทำให
คนจำนวนมากประหลาดใจ
เขาไมอยากเชื่อวาจะมีใครเดินตามเสนทางที่เขาเคยเดิน ความสนใจของเขา
เพิ่มขึ้นอยางมาก
เจดียเสวียนจินไมเพียงเปนสนามฝกที่ถูกละเลยมากที่สุดของผูคนในเมืองซงเจียน
แตรวมถึงเมืองขางเคียงอื่นๆ ดวย มันอาจเปนสถานที่ที่วังเวงที่สุดดวยเหตุผลขอเดียว
การฝกที่นี่นั้นหนักหนาเกินจะทนรับไหว มันยากกวาการฝกอื่นๆ มาก ยิ่งไปกวานั้น
ตองใชเวลานานกวาจะสำเร็จผลอยางที่หวัง ซึ่งทำใหมันกลายเปนการทดสอบความ
มุงมั่นตั้งใจและพลังใจของผูฝก และมีผูคนเพียงจำนวนนอยนิดที่ผานการทดสอบได
พอมาคิดดูแลวหนวยทหารราบก็นับวาไมคอยเปนที่นิยมเทาไรนัก
หนวยทหารราบถูกเรียกในอีกชื่อหนึ่งวาหนวยแรงงาน แมวาหนวยขอบฟาจะ
เปนกองพลชั้นสูงเชนเดียวกับหนวยทหารราบ แตหนวยนี้ทรงเกียรติและเปนที่นิยมใน
หมูสาวๆ มากกวา หลี่เหวยถึงขนาดอิจฉาเลยทีเดียว จำนวนนักเรียนที่สมัครเขา
หนวยทหารราบแตละปนั้นนอยกวาจำนวนนักเรียนที่สมัครเขาหนวยขอบฟาเปน
จำนวนมหาศาล ความจริงแลวก็มีบางปที่พวกเขารับคนเขารวมไมไดตามเปาหมาย
ที่ตั้งไว ซึ่งนั่นกลายเปนเรื่องตลกที่แพรหลายไปทั่วสิบสามหนวย
หัวใจของหลี่เหวยเตนแรงขึ้นเมื่อมองเห็นโซเหล็ก
มันยอมเปนประโยชนตอหนวยทหารราบอยางมากหากเขาคนพบเด็กใหมฝมือดี
โซเหล็กขาด...
เกิดอุบัติเหตุอยางนั้นหรือ หัวใจของหลี่เหวยเตนอยางรุนแรง
ในตอนนั้นเองที่เขาไดยินเสียงของหมิงซิ่วพูดออกมาอยางตกใจวา “นั่นคือศิษย
นองอายฮุย”
หลี่เหวยมองขึ้นไปและพบวามีบางอยางกองอยูใกลกับบันไดใตเจดีย เขารีบเรงไป
ทางนั้นทันที
มันคือกระเปาที่เต็มไปดวยเสนดาย และมีเสนดายบางเสนกระจัดกระจายอยูบนพื้น
ใบหนาของหมิงซิ่วเต็มไปดวยความตระหนก เมื่อนางมองเห็นกระเปาที่เต็ มไป
ดวยเสนดาย นางก็มีความรูสึกวานั่นอาจเปนของอายฮุย แตเมื่อตรวจสอบเสนดาย
เหลานั้นและพบเครื่องหมายเฉพาะของโรงเย็บปก ยิ่งเปนการยืนยันวากระเปานี้เปน
ของอายฮุยจริงๆ
นางกำลังตามหาศิษยนองอายฮุยตามสถานที่นับไมถวนแตก็ไมพบ หมิงซิ่วไม
คาดคิดวาศิษยนองอายฮุยจะฝกอยูภายในเจดียเสวียนจินตามลำพังในพื้นที่อันวิเวก
วังเวงเชนนี้
นางเริ่มรูสึกกังวล
ศิษยนองอายฮุยเห็นไดชัดวาไมใชผูตองสงสัย นางไดตอสูกับผูตองสงสัยมากอน
และระดับพลังของผูตองสงสัยก็สูงกวาศิษยนองอายฮุยมาก นางเปนหวงวาผูตอง
สงสัยจะทำรายศิษยนองอายฮุยโดยเฉพาะอยางยิ่งตอนที่นางเห็นโซโลหะที่ขาด
อยางไรก็ตาม ไมมีรองรอยของเลือดและการตอสู
หลี่เหวยมีประสบการณมากกวา เขามองไปรอบๆและสังเกตเห็นเศษผาบนพื้น
เขาหยิบมันขึ้นมาอยางรวดเร็วและกลาววา “มีเศษผาโปรงอยูตรงนี้!”
หมิงซิ่วที่ตื่นเตนกอนหนานี้ สงบลงเล็กนอย แตเมื่อนางมองไปยังเศษผาที่อยูใน
มือของหลี่เหวย นางก็ไมอาจหยุดรางกายไมใหสั่นสะทานได รูสึกไมอยากเชื่อเต็มที
หลี่เหวยสังเกตเห็นสีหนาของหมิงซิ่วแลวสงเศษผาเล็กๆ นั้นใหกับนาง
มันเปนผาผืนเล็กๆ ที่เห็นไดชัดวายังไมสมบูรณเพราะมันยังคงติดอยูกับเสนดาย
สองเสน ผายับยน คุณภาพต่ำ และมีสวนที่ไมสม่ำเสมออยูมากมาย หากมีใครทอผา
แบบนี้ออกมาในโรงเย็บปก นางตองสงคืนกลับไปอยางแนนอน
อยางไรก็ตามสิ่งนี้ทำใหหมิงซิ่วตกใจเปนอยางมาก
หากมองขามเรื่องคุณภาพต่ำและรูปลักษณที่นาเกลียดแลว มันเปนผาพลังธาตุที่
ถูกทอขึ้นดวยวิธีการทอผาคูอยางแนนอน
ศิษยนองอายฮุยเปนมือใหมที่ไมเคยมีประสบการณเรื่องการเย็บปกมากอนและ
ใชเวลาครึ่งคอนวันสนดายเขาเข็ม แตเขากลับสามารถทอผาพลังธาตุขึ้นมาไดหลังจาก
ดูนางสาธิตแคครั้งเดียวเทานั้น จะไมใหนางตื่นตระหนกไดอยางไร
นางเติบโตขึ้นในโรงเย็บปกแตไมเคยไดยินเรื่องแบบนี้มากอน อยาวาแตเคยเห็น
เลย ผูเชี่ยวชาญการเย็บปกที่นางเคยพบ รวมถึงตัวนางเองก็ไมเคยทำแบบนี้ไดมากอน
นางจำไดอยางชัดเจนวากวานางจะทอผาดวยทอผาคูผืนแรกขึ้นมาไดก็เปนเวลาเจ็ด
เดือนหลังจากที่นางเขามาเรียนในโรงเย็บปก
นางยังจำความชื่นชมและยินดีในสายตาของอาจารยนางได
แตศิษยนองอายฮุยเพียงมองดูแคครั้งเดียว...
นอกเหนือจากความตื่นตระหนกแลว ความสงสัยจำนวนนับไมถวนก็กอตัวขั้นใน
ใจของของนาง ระดับพลังของศิษยนองต่ำเกินไป เขาสามารถใชวิธีการทอผาคูได
อยางไร เขาเขาใจการทอผาคูหลังจากไดเห็นเพียงแคครั้งเดียวไดอยางไร มันมีผูคนที่มี
ความจำราวภาพถายอยูบนโลกนี้จริงๆ หรือ นางมองออกวาศิษยนองอายฮุยตองทอ
ผาขึ้นมาอยางยากลำบากจากรอยยับของผืนผา
อยา งไรก็ตาม มันไมเกี่ยวกับว าเขาจะทำมั นขึ้ นมาอย างยากเย็ นแคไหน แต
เกี่ยวกับวาเขาทำมันขึ้นไดอยางไร
เขาสามารถทอผาขึ้นไดทั้งที่เขาเพิ่งเปดคลังชีวิตเดียวเทานั้น หากไมใชเพราะ
สัญลักษณเฉพาะตัวของโรงเย็บปกบนผา นางตองอนุมานวามันถูกสรางขึ้นดวยความ
ชวยเหลือของผูอื่น
หมิงซิ่วรูสึกเหมือนกับวาความรูทั้งหมดที่นางสะสมมาจากการเรียนทอผามาเปน
เวลาหลายปถูกทำลายจนหมดสิ้น
หลี่เหวยมองเห็นความผิดปกติของหมิงซิ่ว เหมือนนางจมลงไปในความคิด เขาจึง
ไมรบกวนนาง เขาหันไปสำรวจรอบๆ พื้นที่แทน เมื่อเขาเหลือบไปเห็นกำแพงของ
เจดียซึ่งอยูไมไกลออกไป นัยนตาของเขาก็หดลง
มีรอยบุบที่เห็นไดอยางชัดเจนบนผนังเจดีย
เขานึกยอนกลับไปถึงตอนที่เขามายังเจดียแหงนี้ครั้งลาสุด เขาเคยเห็นรอยบุบบน
กำแพงแตรอยบุบพวกนั้นไมชัดเจนและไมอาจเห็นไดดวยตาเปลา เขาคนพบมันโดย
บังเอิญ ณ ตอนนั้นเขาคาดเดาวาลอยบุบนี้เกิดจากการกระทำของอสูรราย แตตอนนี้
หลังจากดูรอบบุบที่ชัดเจนนั้นแลวเขาก็รูไดวามันเปนฝมือมนุษย
มีคนเขามาฝกที่นี่และกระแทกเขากับผนังเจดีย
เมื่อมองไปยังรอยบุบที่มีรูปรางและขนาดที่ตางกัน หลี่เหวยก็ตัดสินใจในทั นที
เขาเดินไปยังรอยบุบแลวเอาหลังแนบกำแพง
หลังของเขากับรอยบุบเขากันไดพอดี
เห็นไดชัดวามันเปนรอยบุบที่เกิดจากใครบางคนกระแทกหลังเขากับกำแพง
หากวาอารมณของหลี่เหวยเคยถูกกระตุนหลังจากไดเห็นโซโลหะกอนหนานี้
หลังจากไดเห็นรอยบุบพวกนี้ ดวงตาของเขาในตอนนี้เรียกไดวามีประกายแสงพวยพุง
ออกมา
เปนคนที่ปาเถื่อนเสียจริง!
ไมมีใครรูถึงความแข็งแกรงของผนังเจดียเสวียนจินดีไปกวาหลี่เหวยอีกแลว สราง
รอยบุบบนกำแพงที่แข็งเชนนี้ตองใชพลังที่แข็งแกรงจนนาหวาดหวั่น หลี่เหวยนึกถึง
ทาไมตายที่ใชหลังเพื่อโจมตีทุกทาที่เขารูจัก ทาไหนกันนะที่มีพลังขนาดนี้
พลังอันรุนแรงที่จำเปนตองมีระดับพลังอยางนอยสี่ตำหนัก
มันยังมีหลักฐานชี้ชัดวาคนผูนี้พัฒนาขึ้นดูจากรอยบุบที่ลึกขึ้นอีกดวย
ดวยความแข็งแกรงของหลี่เหวยในตอนนี้ เขาสามารถสรางรอยบุบแบบนี้ไดไม
ยากนัก แตสำหรับคนที่ฝกในเจดียแหงนี้ แนนอนวาตองเปนนักเรียน มันนับเปน
ความสำเร็จอันนาเหลือเชื่อที่นักเรียนสักคนสามารถทำไดขนาดนี้
อยางไรก็ตาม สิ่งที่ทำใหหลี่เหวยตื่นเตนจริงๆ ก็คือวิธีที่เขาฝก คนผูนี้เหมาะสม
กับหนวยทหารราบอยางมาก!
ไมวาอยางไรก็ตาม เขาตองนำคนผูนี้เขารวมกับหนวยทหารราบใหได!
หลี่เหวยตัดสินใจเปนที่เรียบรอยแลว
ทันใดนั้นเขาก็นึกยอนกลับมายังโซที่ขาด หนังตาของเขากระตุก เปนไปไดหรือไม
วาคนผูนี้กำลังฝกฝนอยูขางในและประสบอุบัติเหตุหลังจากโซโลหะขาด
เขาตัดสินใจที่จะรุดไปหาเขา ดวยความแข็งแกรงของเขาในตอนนี้ เจดียเสวียนจินจึง
ไมเปนอันตรายอีกตอไป
แตเมื่อเขาหันหนาไปทันใดนั้นเขาก็ไดยินเสียงดังมาจากยอดของเจดีย
ทั้งคูผงะอยางพรอมเพรียงกัน กอนที่จะเงยหนาขึ้นมองไปยังตนกำเนิดเสียงตาม
จิตใตสำนึก
หมิงซิ่วจดจำอายฮุยใดในทันที แตในชั่วขณะตอมา นางก็ตระหนกยิ่งขึ้น
เสื้อผากวาครึ่งของอายฮุยฉีกขาด เผยใหเห็นกลามเนื้อที่ชัดเจน เขาแบกคนคน
หนึ่งเอาไว ผูนั้นเสื้อผาขาดวิ่นเปนชิ้นเล็กชิ้นนอย และริ้วรอยสีแดงสามารถเห็น ได
อยางชัดเจนบนผิวที่ขาวราวหิมะ พวกเขาลอยไปอากาศทิ้งรอยเลือดไวตลอดทาง
ในตอนแรกหมิงซิ่วคิดวาคนที่อายฮุยแบกไวบนหลังเปนผูหญิง แตเมื่อนางเห็น
หนาของเขา ทำใหนางตองชะงักคางอยางชวยไมได
นั่นไมใชปงหวานหรอกหรือ
บทที่ 77 ฟนคืนสติ
อายฮุยตื่นขึ้นอยางมึนงง เขาฝนราย ในฝนเขาดิ้นรนอยูทามกลางพายุ ไมอาจ
ควาสิ่งใดเอาไวได เขาฝนเห็นเจาอวนอีกดวย เจาอวนแบกศพของเขาเอาไว นั่งรองไห
อยูในบอโคลน น้ำตาที่ไหลออกมาปลิวไปกับสายลมอันรุนแรง
เขาฝนถึงเถาแก ผูที่สั่งใหเขาเผาคัมภีรกระบี่ทั้งหมด เขายืนอยูกลางโรงฝกที่วาง
เปลาอยูนานชั่วนาตาป รูสึกสิ้นหวังและหมดหนทาง
อายฮุยตื่นขึ้นในที่สุด
สายตาของเขาเลื่อนลอยและขุนมัว แตพอผานไปพักหนึ่ง เขาก็เริ่มปรับสายตาให
ชัดเจนขึ้น ประกายแสงเจิดจาลุกโชนขึ้นทามกลางทะเลสีเทาอันเปลาเปลี่ยว จุดไฟให
ใบหนาที่เย็นเยือกราวแกะสลักขึ้นจากกำแพงโลหะและศิลา ประหนึ่งสายลมฤดูใบไม
ผลิที่พัดพาชีวิตกลับคืนมาสูดินแดนอางวางเย็นเยียบจากฤดูหนาว
เขาไมไดฝนรายมาเปนเวลานานมากแลว
เขานอนอยูบนเตียงจองมองไปบนเพดาน จมดิ่งอยูในหวงความคิด
เจาอวนกำลังทำอะไรอยูนะ เขายังคงลอยไปลอยมาไมยอมฝกอะไรเหมือนเดิม
หรือเปลา
อยากินน้ำตาลมากนัก เจาอวนเกินไปแลว ถามีใครรังแกเจาก็จำชื่อมันเอาไว แต
ไมตองเอามาบอกขา เพราะตอใหบอกขาก็ตองรอใหขาเกงขึ้นกวานี้กอน ไมอยางนั้น
ขาก็ไมสามารถชวยแกแคนใหเจาได รังแตจะทำใหพวกเราตกอยูในสถานการณอัน
เลวราย ไมตองหวงไป ขาจะฝกฝนอยางดี ถาขายังไมสามารถเอาชนะมันได ขาจะอัด
เจาแทนโทษฐานที่ไปหาเรื่องกับคนที่เกงเกินไป
เขาสงสัยวาเถาแกบนสวรรคจะเปนอยางไรบาง เขาเดาวาคงไมมีการฝกกระบี่บน
สวรรคอีกตอไป
เถาแก ทานตองทำตามอยางคนอื่นแถวนั้นเขาทำกัน ในฐานะคนคนหนึ่ง ไมสิ ใน
ฐานะผีตนหนึ่ง ทานตองอยูกับความจริงใหมากขึ้นและทำตัวหัวรั้นใหนอยลง อยา
พยายามทำธุรกิจเพราะทานไมเหมาะกับการทำธุรกิจ หางานที่เหมาะกับทานและ
ตั้งใจทำมันใหดี มันนา จะมีงานแบบนั ้น หลายสิบ งานบนสวรรค มั น ไม ควรจะถูก
เรียกวาสวรรคหากมันไมงานที่มั่นคงใหทำ
อายฮุย เจาตองขยัน
หลังจากพูดประโยคสุดทายกับตัวเอง เขาก็หายใจออกมายาวๆ ฝนรายและ
อารมณดานลบทั้งหลายก็ถูกเปาทิ้งไปในอากาศ
เขากลับมาเปนตัวตนของเขาอีกครั้ง ความมืดมนหมนหมอง ความหวาดกลัว
และความรูสึกขลาดเขลาก็หายไปจนหมดสิ้นราวกับมันไมเคยเกิดขึ้นมากอน
สายตาของเขาสงบและมั่นคง เขายังคงเปนอายฮุยที่นาเกรงขามผูไมเคยกลัว
อะไรทั้งสิ้น
เขาดิ้นรนพยายามลุกขึ้นจากเตียงแตตองพบกับความเจ็บปวดที่แขนซาย
เขาตรวจสอบอยางช่ำชองและรูวาตนกระดูกราว นี่ไมใชครั้งแรกที่ เขาได รับ
บาดเจ็บแบบนี้ คิดยอนกลับไปถึงฉากสุดทายกอนที่เขาจะหมดสติตอนที่เขากำลังดิ้น
รนเพื่อหนีออกจากเจดียเสวียนจิน เขาเหมือนจะกระแทกเขากับอะไรบางอยางและ
ทำใหตัวเองไดรับบาดเจ็บ เขาแคไมรูวานั่นเปนแขนซายของเขา
ตราบใดที่มันไดรับการรักษาอย างถู กตองและใชยาที่ เหมาะสม อา ยฮุยก็จะ
กลับมาเปนปกติในเวลาไมนาน เขามีประสบการณอยา งกวา งขวาง การบาดเจ็บ
ภายนอกอยางกระดูกราวอาจดูเหมือนจะรายแรงเมื่อมองอยางผิวเผิน แตในความ
เปนจริงแลว มันไมใชเรื่อ งใหญโ ตอะไร ตราบใดที ่ บ าดแผลได รั บ การรัก ษาอยาง
เหมาะสมและทันทวงที มันจะหายดีในเวลาอันสั้น การบาดเจ็บภายในตางหากที่เปน
ปญหาจริงๆ มันจะเปนปญหาอยางมากหากเกิดการบาดเจ็บที่หาคลังแปดตำหนัก
เมื่อคาดคิดไดวาตนเองมีปญหาใหญอายฮุยก็หัวเราะออกมาอยางขมขื่น
เขาตกอยูในความยุงเหยิง
เขายังคงไมรูวาสภาพภายในรางกายของเขาเปนเชนไร
ทันใดนั้นเขาก็ไดยินเสียงเอะอะก็ดังมาจากภายนอก
“โสวชวน เขาเปนผูมีพรสวรรคโดยแท! เขาเพิ่งจะเปดคลังชีวิตไดแตกลับสามารถ
ใชการทอผาคูถักผาทอพลังธาตุขึ้นมาได จนถึงตอนนี้ขาเองก็ยังไมเขาใจไดวาเขาทำได
อยางไร มันชางลึกล้ำเกินหยั่งถึง!”
เสียงของหญิงชราเปยมไปดวยความชื่นชม
อายฮุยรูสึกยินดีอยูภายใน การถูกชื่นชมจากคนอื่นนั้นเปนเรื่องนายินดี นี่ยังไม
รวมถึงความทุมเทอยางมากที่เขาทำลงไป
“เขาเปนผูมีพรสวรรค! ผูมีพรสวรรคดานการถักทอ! โสวชวน กอนหนานี้มันเปน
ความผิดของขาเอง พรสวรรคของเขาชางนาทึ่ง เจาตองใหเขามาอยูที่โรงเย็บปก ขา
จะสอนเขาดวยตัวเอง และขาตองการใหเขาเปนศิษยสายตรงที่ใกลชิดที่สุด” ยายเฒา
นั้นตื่นเตนอยางเห็นไดชัด
อายฮุยตะลึงงัน ไดโปรดอยาทำอยางนั้น ถึงแมวาการทอผาจะเปนงานที่กำไรดี
และมีอนาคตที่รุงโรจน แตเขาก็ยังเปนผูชายอยูดี มันคงนากระอักกระอวนใจอยาง
มากหากตองทำงานทอผาไปตลอดทั้งชีวิตที่เหลือของเขา
ตาเฒาเดิมทีมีความยินดีแตเมื่อไดยินวาอีกฝายตองการที่จะแยงตัวอายฮุย เขาก็
ไมปลอยปละละเลยอีกตอไป “นั้นเปนเรื่องเปนไปไมได เขาเปนศิษยของขา ขามีศิษย
เพียงคนเดียว เขาจะเปนผูสืบทอดของขาในอนาคต”
“เจาทำใหพรสวรรคของเขาสูญเปลา! เจากำลังทำตัวไรความรับผิดชอบ!”
ยายเฒาสบถเสียงเขียว “สอนทฤษฎีไรสาระพวกนั้นของเจา เขาก็ทำไดแคเรียนรู
และทำตามเทานั้น”
“ไมวาเจาจะวาอยางไร คำตอบของขาก็ยังคงเปนคำวา ไม” ตาเฒาตอบปฏิเสธ
อยางเถรตรง
ยายเฒาโกรธขึ้นมาในทันที “หวังโสวชวน ที่พูดหมายความวาอยางไร ขาขอโทษ
เจาไปแลว ตองการใหขาทำอะไรอีก ขาติดตามเจามาตั้งหลายป แลวนี่คือสิ่งที่ เจา
ตอบแทนขาอยางนั้นหรือ กอนหนานี้ขาทำผิดไป ครั้งใดกันที่ขาไดประโยชนจากการ
อยูกับเจามาเปนเวลายาวนาน เคยมีสักครั้งหรือไมที่ขารองขออะไรจากเจา เจาอยาก
มาอยูที่สนามเหนี่ยวนำ ขาก็ตามมาอยูที่สนามเหนี่ยวนำดวย ขายอมใหเจาทำทุก
อยางที่อยากทำ แลวนี่คือสิ่งที่เจาตอบแทนขาอยางนั้นหรือ หวังโสวชวน เจาอธิบาย
มาใหขาเขาใจหนอยซิ! ฮือฮือฮือ....”
มองเห็นอดีตภรรยารองไหออกมา หวังโสวชวนก็หัวใจแปว เขาลดน้ำเสียงลง
“ขาไมไดพูดอะไรสักหนอย ทำไมเจาตองรองไหดวย ศิษยของขาก็คือศิษยของเจา ถา
เขาไมตั้งใจเรียนเจาก็หักขาเขาเสีย”
หลี่เหวยกับหมิงซิ่วยืนอยูดานขาง กมหนามองพื้น แนนิ่งราวกับรูปปน หลี่เหวย
รูสึกออนแอและรูสึกผิดอยูบางในที่รีบรอนมาที่นี่ เหตุการณบานปลายออกมาใน
ลักษณะที่คนภายนอกเชนเขาไมควรไดเห็น
อาจารยเอยอาจารย โปรดอยาทำเชนนี้ตอหนาขา หลี่เหวยคิดกับตัวเอง
หมิงซิ่วเจอเรื่องแบบนี้มาไมนอยดังนั้นนางจึงไมรูสึกกระดากสักเทาไร กระนั้น
นางก็รูดีวาไมควรพูดอะไรออกมาในตอนนี้
เห็นคนรักเกาพยายามกลั้นน้ำตา หวังโสวชวนจึงกลาวตอไปวา “แตพวกเราก็
ตองพิจารณาถึงทางเลือกของอายฮุยเชนกัน”
ไดยินเชนนั้น ยายเฒาก็หยุดรองไหและขึ้นเสียง “เขากลาคัดคาน”
อายฮุยที่ฟงอยูภายในหองรูสึกวาหัวใจเตนรัว
“แนนอน เขาตอ งไมคัดคา น” หวั งโส ว ชวนกระแอมเบาๆ “ดู จ ากการที ่เขา
ตองการเขาโรงเย็บปกของเจาก็นาจะรู แตพวกเราก็ตองคิดเรื่องนี้ใหดี ถาหากเขาเปน
ผูหญิงขาจะยกเขาใหเจาโดยไมตองคิดแมแตนิดเดียว แตเขาเปนผูชาย และเจาก็
คุนเคยกับการทอผาดีกวาขา เมื่อไรกันที่ผูชายเปนปรมาจารยดานการทอผา ขารูนิสัย
ของเขาดี เขารักการตอสู เรียนรูการทอผาก็เรื่องหนึ่ง แตหากจะใหเขาทอผาไปตลอด
ชีวิตของเขานั้นคงเปนเรื่องยาก”
ยายเฒานิ่งเงียบไป
วาจาของหวังโสวชวนนั้นตรงประเด็น ความจริงแลวกอนที่นางจะมาที่นี่ นางก็
รูสึกเชนกันวานาเสียดายที่อายฮุยไมใชผูหญิง แมจะไมอาจพูดไดวาไมมีผูชายที่เรียน
การทอผาเลย แตคนที่เรียนก็มีจำนวนนอยอยางมาก ไมตองพูดถึงวาจะมีผูชายที่
ประสบความสำเร็จในการทอผา
ดวยเห็นวาตนกำลังชนะการโตแยง หวังโสวชวนจึงรีบกลาวเสริม “ประเด็นของ
ขาก็คือ ใหเขาไปที่โรงเย็บปกหลังจากที่หายดีแลว ปลอยใหเขาไดเรียนรูกอน แลวเรา
คอยมาตัดสินใจกันอีกครั้งหลังจากนั้น เราไมควรจะมากังวลเรื่องทักษะหรือความ
สนใจในการทอผาของเขา อนาคตของเขาควรใหเขาเปนคนตัดสินใจดวยตัวเอง”
สีหนาของยายเฒาไมหมนหมองเชนกอนหนานี้ นางพนลมออกมากอนที่จะพูดวา
“หลังจากสิ้นเปลืองน้ำตาของขาไปไมนอย ในที่สุดก็มีคำพูดที่มีมนุษยธรรมออกมา
จากปากของเจา หมิงซิ่ว เรากลับไปโรงเย็บปกกันเถิด”
แลวนางก็จากไปอยางเฉิดฉายไมมีรองรอยของยายเฒาเจาน้ำตาที่เห็นเมื่อครูนี้
เลยแมแตนอย
“ทานลุง พวกเราขอตัวกอน” หมิงซิ่วคำนับลาหวังโสวชวนอยางรีบรอน แลวโบก
มือลาหลีเหวยและวิ่งตามอาจารยของนางไป
หวังโสวชวนมองคนรักเกาเดินจากไปและถอนหายใจออกมาอยางโลงอก การ
ทะเลาะกันเมื่อครูทำใหเขารูสึกตกใจอยางมาก เขาควากาน้ำชาบนโตะและเริ่มดื่มชา
เขาไปอึกใหญ
เมื่อวางกาน้ำชาลงเขาก็หันไปหาหลี่เหวยที่ยืนอยูดานขาง “ไหนพูดเรื่องของเจา
มาอีกทีซิ”
บทที่ 78 ศรัทธาของอาจารย
“ขาตองการเชิญนักเรียนอายฮุยใหเขารวมกลุมผูมีพรสวรรค”
หลี่เหวยกลาวอยางรอบคอบ
ถึงแมวาอาจารยหวังจะไมใชคนที่มีชื่อเสียงนัก แตหลี่เหวยก็ไมกลาที่จะแสดง
ทาทางขาดความเคารพแมแตนอย เขาเคยเขาเรียนที่โรงเรียนในสนามเหนี่ยวนำและรู
วาพวกอาจารยมักเปนเสือซอนเล็บ เขาไมอาจสัมผัสไดตอนที่ยังเปนนักเรียน แตเมื่อ
ออกจากโรงเรียนไปแลวเขาถึงจะรูตัววาพวกอาจารยนั้นเปนคนที่โดดเดนแคไหน
ยิ่งไปกวานั้น ตอนเปนนักเรียนหลี่เหวยก็เคยเรียนกับอาจารยหวังมากอน
เขารูสึกเปนเกียรติที่ไดมายังที่พักของอาจารยหวัง
หลังจากไดยินวาอายฮุยมีอ าจารย เขาก็ ไม ก ล าเอ ยชวนอา ยฮุ ยโดยไม ไดรับ
อนุญาตกอน
“เราไวคุยเรื่องนี้กันทีหลัง” น้ำเสียงของผูเฒาไมสุภาพ เขาโบกมือหามไมใหหลี่เหวย
พูดตอ
หลี่เหวยก็ยอมถอยอยางแนบเนียน แตภายในใจของเขากลับเต็มเปยมไปดวย
ความมุงมั่นที่จะนำตัวอายฮุยเขาสูกลุมผูมีพรสวรรค อาจารยในสนามเหนี่ยวนำมักมี
มาตรฐานสูง การที่อายฮุยไดรับความสนใจจากอาจารยย อมหมายความวา เขามี
พรสวรรคสูงมาก การโตเถียงกอนหนานี้ยิ่งพิสูจนประเด็นของเขา แมแตปรมาจารย
หันอวี้ฉินยังตองการรับอายฮุยเปนศิษย มันจะเปนอยางอื่นไปไดอยางไร
ชางเปนเด็กหนุมที่เปยมพรสวรรคยิ่งนัก! เขาตองรูสึกผิดอยางแนนอนหากยอม
ปลอยอายฮุยไป!
หลี่เหวยใชความคิดอยางรวดเร็ว เขาจะลักพาตัว ไมใชสิ เชิญอายฮุยใหเขารวมกลุมผู
มีพรสวรรคใหได หลังจากนั้นก็จุดความสนใจที่จะเขารวมหนวยทหารราบใหกับเขา
หลังจากผูเฒาไลหลี่เหวยไปแลว เขาก็เดินเขาไปในหอง เห็นอายฮุยที่นอนลืมตาอยู
เขาหัวเราะออกมา “เจาไดยินหมดแลวใชไหม คิดวาอยางไร สนใจจะทอผาหรือไม”
อายฮุยสายหนา “แมศิษยจะมีรายไดจากการทอผา ศิษยก็ไมคิดจะทอผาไป
ตลอดชีวติ ”
“เขาใจแลว ขารูจักเจาเหมือนกับหลังมือของขาเอง” ผูเฒามีความสุขอยางมาก
เขาเดาะลิ้นดวยความสงสัย “เจาสามารถทอผาออกมาไดจริงๆ แมแตขายังตกใจเลย”
อยางไรก็ตาม ทาทีของผูเฒาเปลี่ยนไปในทันทีและกลาววา “ไมวาอยางไร เจาไม
ควรจะไปโรงเย็บปกสักระยะหนึ่ง อาการบาดเจ็บของเจาคอนขางสาหัสและจะเปน
ปญหาอยางมาก”
อายฮุยพลันนึกถึงกอนแมเหล็กขนาดใหญภายในกายของเขาและรูสึกสังหรณรา ย
ขึ้นมาทันที “มันสาหัสมากหรือไม”
ผูเฒาไมตอบคำถาม แตกลับพูดวา “บอกขามาใหละเอียดถี่ถวนซิวาเกิดอะไรขึ้น
กันแน”
อายฮุยเริ่มเลาประสบการณที่ผานมาวาเขาฝกฝนและทอผาอยางตอเนื่องอยู
ภายในเจดียเสวียนจินอยางไร เลาถึงตอนที่เขาถูกกระแทกกลับเขาไปขณะกำลังจะ
ออกมาจากเจดีย และตอนที่ถูกพัดขึ้นไปบนยอดเจดียเสวียนจิน ที่ดูดพลังงานธาตุเขา
สูคลังชีวิตก็เพียงเพราะวาเขาตองการจะเอาชีวิตรอดเทานั้น
ผูเฒารับฟงจนกระทั่งดวงตาของเขากลายเปนเสนตรง เขาไมเพียงตกใจกับแนว
ทางการแกไขปญหาอันดุดันของลูกศิษย แตยังรูสึกชื่นชมกับความกลาและชาญฉลาด
ของอายฮุยอยางเต็มที่
เขาถามขึ้นมาอยางชวยไมได “แลวเจาคิดถึงการดึงดูดซึ่งกันและกันของเข็มพลัง
ธาตุไดอยางไร”
“การทอผาคู! ศิษยพี่หมิงซิ่วเคยแสดงใหดูครั้งหนึ่งไมใชหรือ” อายฮุยตอบตามตรง
ผูเฒาจองมองอายฮุยอยูนานกอนจะเอยขึ้นในที่สุด “ขาเริ่มจะเชื่อที่ยายเฒานั่น
พูดแลววาเจาเปนผูมีพรสวรรคดานการทอผา”
ภรรยาของเขาเปนปรมาจารยดานการเย็บปกถักรอย เขาจึงเขาใจขั้นตอนการ
เย็บปกถักรอยดีกวาคนอื่นไปโดยปริยาย โดยเฉพาะอยางยิ่งการทอผาคูของยายเฒา
มีผูคนนอยมากที่รูวาความจริงแลวมีความเชื่อมโยงระหวางเขาและการทอผาคู
ผูคนรูเพียงวาหันอวี้ฉินเปนปรมาจารยดานการเย็บปกถักรอย ในขณะที่หวังโสวช
วนไมเปนที่รูจัก มีคนจำนวนนอยมากที่รูวาพวกเขาเปนคูรักกันตั้งแตวัยเยาว เปนที่รู
โดยทั่วกันวาปรมาจารยหันอวี้ฉินสรางวิชาการทอผาคูขึ้นตอนอายุสิบเกาป แตไมมี
ใครรูวาอันที่จริงแลวหวังโสวชวนเปนคนที่คนพบแรงเหนี่ยวนำระหวางเข็มพลังธาตุ
ดังนั้นผูเฒาถึงไดประทับใจในพรสวรรคของอายฮุยยิ่งกวาเดิม
ความสามารถที่จะเขาใจความซับซอนของการทอผาคูไดหลังจากการไดดูแคเพียง
ครั้งเดียวนั้นเปนพรสวรรคที่ไมเคยไดยินมากอน
การที่ศิษยของเขามีพรสวรรคนั้นเปนทั้งสิ่งที่ดีและรายในเวลาเดียวกัน นั่นเพราะ
ลูกศิษยที่มีพรสวรรคนั้นจะสรางปญหาไดมากกวาคนทั่วไปมากนัก
เชนครั้งนี้เปนตน
อายฮุยนึกถึงตวนมูหวงฮุน จึงถามขึ้นดวยความสงสัยอยางชวยไมได “อาจารย
แลวหมอนั่นเปนอยางไรบาง”
ผูเฒารูวาอายฮุยหมายถึงตวนมูหวงฮุน เขาก็ตอบอยางหงุดหงิดวา “อาจารยของ
เขาคือไตกัง เจายังตองเปนหวงเขาอีกหรือ”
“ขาไมไดเปนหวง” อายฮุยตอบอยางโกรธเกรี้ยว “ขารอคาชดเชยจากหมอมั่น
ตางหาก ไอเด็กเจาเลหนั่นทำใหขาตองเจอปญหาขนาดนี้ เรื่องนี้จะไมจบจนกวาขาจะ
ทำลายเขา!”
“อาจารยจะชวยเหลือเจา!” ผูเฒารูสึกชื่นชอบการตัดสินใจของอายฮุยเปนอยางมาก
“แลวอาการเจ็บของขาเลา” อายฮุยเบิกตากวางจองมองอาจารยของเขาดวย
ใบหนาไรเดียงสา
“ยุงยากอยางมาก” อาจารยตอบ “ระดับพลังของพลังธาตุทองในเจดียเสวียนจิน
นั้นสูงกวาระดับของคลังชีวิตของเจามากนัก รางกายของเจาออนแอเกินไปสำหรับ
พลังธาตุทองที่แข็งแกรงขนาดนี้ คลังชีวิตของเจาไมอาจยอยสลายและดูดซับมัน ได
นอกจากนี้เจายังไมอาจทำการฝกฝนไดในชวงนี้ ปกติแลวหากพลังงานธาตุทองไหล
เขา สูก ายเจามันจะถูก ดูดกลืนเขาไปโดยตรง ถ า เจ า เป ดได ถึ งสี ่ตำหนัก แลวละก็
พลังงานธาตุกอนนี้จะเปนประโยชนกับเจาอยางมากและเจาจะสามารถดูดซับมัน
อยางชาๆ ได”
อายฮุยถามดวยความกังวล “แลวขาควรทำอยางไร”
“มันมีทางแกเสมอนั่นแหละ” ผูเฒาตอบอยางวางทา “ถึงแมวาอาจารยของเจา
จะไมใชไตกัง เขาก็ยังมีความสามารถในการทำบางสิ่งบางอยาง”
อายฮุยหายใจออกอยางโลงอก ตราบใดที่ยังมีทางแกนั่นถือเปนเรื่องดี
“เรื่องนี้ตองใหอาจารยหญิงของเจาชวย” ผูเฒาคิดอยูครูหนึ่งกอนที่จะเอยเตือน
เขา “อาจารยหญิงของเจาอารมณ ไม คอยดี เจาควรจะตอบตกลงไมวา นางจะว า
อยางไรและตองไมไปลวงเกินนาง ถานางเคืองเมื่อไร แมแตขาก็ทำอะไรไมไดเชนกัน
ขาติดคางนางมากเกินไป”
ผูเฒาพูดประโยคสุดทายออกมาดวยน้ำเสียงที่แฝงความรูสึกผิด
...
กระดูกที่ราวของอายฮุยฟนฟูอยางรวดเร็ว รางกายของเขาคอนขางแข็งแรง และ
ความสามารถในการฟนตัวของเขาก็ดีกวานักเรียนโดยทั่วไป
เขาไมไดอยูเฉยระหวางการพักฟน ถึงแมวาเขาไมอาจจะฝกตนได แตเขาก็ยังไป
โรงเรียนได ตอนอยูในชั้นเรียน เพื่อนรวมชั้นสังเกตเห็นการบาดเจ็บที่แขนของเขา
บางคนก็เอยปากถามออกมาดวยความเปนหวง
ตวนมูปงหวานไมปรากฏตัว อายฮุยคาดวาเขาคงยังไมหายดี และเมื่อเขาถาม
เพื่อนรวมชั้น ก็ไมมีใครรูวาตวนมูปงหวานจะมาเรียนไดเมื่อไร มันดูเหมือนวาเรื่อง
อุบัติเหตุที่ทำใหเขาและปงหวานบาดเจ็บนั้นไมถูกเปดเผยออกไป
อายฮุยหัวเราะอยางเยือกเย็น รอจนเขาเห็นไอหมอนั่นอีกครั้ง เขาจะตองลาง
แคนอยางแนนอน
เขาตอ งเสียเวลาหลายวันไปโดยไม อาจฝ กฝนได และยั งต องเลื่ อนเรื ่องอื่นๆ
ออกไป เขาไมรูวามันจะมีผลกระทบอื่นๆ อีกหรือไม
เขาชางโชครายเสียจริง
ในระหวางการพักฟน เขาเดินทางกลับไปยังโรงฝกศาสตราวุธ โหลวหลานตรวจ
รางกายเขาและบอกวาอาการของเขาไมอาจรักษาหาย ยังคงไมมีขาวคราวจากสาว
นายรานบะหมี่ ราวกับวานางไดหายไปกับสายลม ทำใหอายฮุยรูสึกงุนงงอยูบาง
อายฮุยทำเหมือนวาอาการบาดเจ็บเปนเรื่องธรรมดา ปรับสมดุลความคิดจิตใจ
และใชชีวิตอยางเต็มที่
ผูเฒายุงวุนวายตั้งแตเชาจรดเย็น ดวงตาของเขาเต็มไปดวยเสนเลือดแดง อายฮุยรูวา
อาจารยทุมเทเวลาหาวิธชี วยรักษาใหกับเขา และนั่นทำใหเขาแอบรูสึกซาบซึ้งอยูในใจ
ในที่สุดวันนั้นก็มาถึง เมื่อผูเฒาเอยถามวา “อาการบาดเจ็บของเจาเปนอยางไร”
“หายดีหมดแลว” อายฮุยโบกแขนเพื่อพิสูจนวามันหายเปนปกติดีแลว
“งั้นเรามาแกปญหาเรื่องกอนพลังงานธาตุของเจากัน”
อายฮุยสามารถคาดเดาไดจากสีหนาของอาจารยกอนที่เขาจะไดยินประโยคนี้เสีย
อีก อายฮุยพยักหนาติดตอกันเกือบจะโหรองออกมาวาอาจารยของเขาชางยอดเยี่ยม
ยิ่งนัก ถึงแมวาชีวิตในชวงนี้จะสุขสบายแตอายฮุยก็รูสึกวารางกายของเขาเริ่มขึ้นสนิม
เนื่องจากขาดการฝกฝน
“พวกเราตองไปที่โรงเย็บปกหรือไม”
อายฮุยหวนคิดไปถึงคำพูดของอาจารยที่วาเขาตองอาศัยความชวยเหลือของ
อาจารยหญิง จึงอดไมไดที่จะเอยถามออกไป
“ทำไมเราตองไปที่โรงเย็บปกดวย” ผูเฒาทำสีหนาแปลกๆ กอนจะเอยตอ “ตาม
ขามา”
อายฮุยเดินตามผูเฒาไปยังสถานที่อันคุนเคย ลานบานที่เต็มไปดวยกองขยะราว
กับวามันถูกสรางขึ้นมาเพื่อทิ้งขยะ เขาไมมีความทรงจำที่ดีอะไรเกี่ยวกับสถานที่นี้
ทวาเมื่อเห็นสิ่งที่อยูตรงกลางลาน สีหนาของอายฮุยก็เปลี่ยนไป
บทที่ 79 คำแนะนำของอาจารย
ลานทิ้งขยะมีความทรงจำที่อายฮุยไมตองการจะรื้อฟน
ถึงกระนั้นเมื่อเดินเขามา เขาก็รับรูไดวามีความเปลี่ยนแปลงอยางใหญหลวงใน
ลานทิ้งขยะแหงนี้ ซึ่งทำใหเขารูสึกเหมือนมายังสถานที่อื่นที่ตางไป ตนสนอันอุดม
สมบูรณหาตนยึดครองพื้นที่เกือบทั้งหมดของลานทิ้งขยะ ทั้งที่เขาจำไดวากอนหนานี้
มันไมมีตนไมสักตนเดียว
ตนสนทุกตนมีความสูงมากกวาสิบเมตรราวกับวามันถูกปลูกไวที่นี่มานานหลาย
ทศวรรษ
อายฮุยทราบดีวามันถูกสรางขึ้นดวยผู ใชพ ลังธาตุไม ยอนกลับไปในแดนร า ง
เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาตองการจะหยุดพักและสรางที่พักชั่วคราว พวกเขาจะปลูกพืช
หลายชนิดไวใกลๆ กัน ถาหากพวกเขาตองการสรางบานไม ผูใชพลังธาตุไมกจ็ ะปลูก
ตนจูซูที่สูงกวายี่สิบเมตรขึ้นมาไดภายในเวลาครึ่งชั่วโมง พวกเขายังสามารถปลูกหญา
พิษ ที่ไรสีไรก ลิ่น ทุงพุมไมห นามแหลมควบคู ก ั บหญา เสี ยงระฆั งที ่ ทำหน าที ่เปน
สัญญาณเตือนภัยอีกดวย
หากผูใชธาตุดินจัดเปนพวกที่มีพฤติกรรมประหลาดๆ และใชทักษะแปลกๆ แลว
ละก็ พวกผูใชธาตุไมก็ลวนเปนนักพฤกษศาสตรชั้นยอด พื้นนิสัยของพวกผูใชธาตุไม
นั้นแตกตางกันอยางสุดขั้ว พวกที่ใจดีมีเมตตาก็ใจดีอยางสุดขั้วชนิดที่มดก็ไมกลา
เหยีย บ สว นพวกที่ป ระหลาดก็ป ระหลาดถึ งขี ดสุ ด พวกนี ้ จ ะใช ท ั ก ษะอั นแปลก
ประหลาดในสังหารที่ไมทิ้งรองรอยอะไรเอาไวแมแตซาก
ตนสนทั้งหาถูกจัดเรียงเปนวงแหวน ระหวางตนไมแตละตนมีเถาวัลยหลากสี
จำนวนมากมาย ทำใหมันดูเหมือนกำแพงเถาวัลยสีสันสดใส
ชุดเกราะทองแดงเย็นเยียบดุจน้ำแข็งถูกวางไวตรงกลางวงตนสนทั้งหา
เมื่อมองเห็นเสื้อเกราะทองแดงสีหนาของอายฮุยก็เปลี่ยนไป
ความทรงจำเกี่ยวกับพันปรัชญายังคงเปนฝนรายสำหรับเขา
ยิ่งไปกวานั้น ขนาดของเสื้อเกราะก็ใหญกวาพันปรัชญามาก เถาวัลยหลากสี
จำนวนมากทอดตัวลงมาจากตนสนทะลวงเขาไปในชุดเกราะ
อายฮุยกลืนน้ำลายอยางยากเย็น ภาพตรงหนาของเขาทำใหเขานึกไปถึงเถาวัลย
ดูดเลือด หนึ่งในพืชที่รายกาจที่สุดที่พวกผูใชพลังธาตุไมใชกัน ผูใชพลังธาตุไมที่มีใจ
เมตตาหลายคนก็รังเกียจเถาวัลยดูดเลือดเหมือนกัน มันนากลัวจนเกินไป ในแดนราง
เขาไดพบเจอกับมันมาดวยตัว เองวา ผูใชธาตุไม ใชเถาวั ลย ดู ดเลือ ดเปลี ่ยนช า งให
กลายเปนกองผิวหนังและกระดูกในเวลาไมถึงนาที
ภาพเหตุการณอันนากลัวกลายเปนฝนรายของอายฮุยอยูเปนเวลานาน
“เปนอยางไร ยอดเลยใชไหม” ผูเฒาแฝงความภูมิใจในน้ำเสียง “ขาตองไหววาน
ใหปรมาจารยผูใชธาตุไมสองสามคนสรางมันขึ้นมา พลังธาตุทองในกายของเจามัน
มั่นคงเกินไป การจะขจัดมันออกไปนั้ นไมงายเลย แตเจาไมตองกังวล อาจารยมี
ประสบการณเกี่ยวกับปฏิกิริยาระหวางธาตุตางๆ มานานหลายป ยิ่งไปกวานั้น มันก็
ไมมีปญหาอยางแนนอนดวยความชวยเหลือของอาจายหญิงของเจา”
อายฮุยรูสึกมั่นใจหลังจากไดยินอยางนั้น อยางนอยชื่อเสียงในฐานะปรมาจารย
ของอาจารยหญิงก็นาเกรงขามไมนอย
“สถานการณของเจาคอนขางนาเปนหวง อันที่จริงแลว มันนาเปนหวงมากกวาที่
ขาเคยคิดไว” สีหนาของผูเฒาเริ่มตึงเครียด “พูดงายๆ ก็คือมันมีปริมาณมากเกินไป
บางทีเจาอาจเขาใจมากขึ้นหากขาอธิบายอีกแบบหนึ่ง หากเจาเปดไดสี่ตำหนัก การที่
จะยอยสลายและดูดซับมวลพลังงานธาตุนี้ใหหมดไปก็ตองใชเวลาประมาณแปดป
หากเจาเปดไดหาตำหนักเวลาที่ตองใชก็ลดเหลือสี่ป”
อายฮุยกระโดดขึ้นอยางตกใจ “คง..คงไมใชเวลานานขนาดนั้นใชหรือไม ขาไมได
อยูในเจดียเปนเวลานานนี่”
“นานกวาที่เจาคิดไวมาก” ผูเฒามองไปที่อายฮุยดวยสีหนาสงสารกอนที่จะพูด
อยางลอเลียนวา “เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แลว เจามันทำอะไรโดยไมคิดแลวก็ไมกลัวอะไร
เลย ขาละประทับใจจริงๆ ที่เจากลาเขาไปในเจดียเสวียนจินทั้งที่เพิ่งเปดไดแค คลัง
ชีวิตเทานั้น เจารูจักใครที่กลาเขาไปบางหรือไม สี่ตำหนัก มีแตนักเรียนที่เปดไดสี่
ตำหนักแลวเทานั้นที่กลาเขาไป นั่นเพราะพลังงานธาตุของลมทองคำนั้นบริสุทธิ์มาก
และตองการระดับพลังที่สูงมากในการดูดซับมัน หากไมมีการสนับสนุนของสี่ตำหนัก
มันยอมยากลำบากที่จะยอยสลายและดูดซับพลังงานเหลานั้น”
อายฮุยอาปากคางไมพูดอะไรออกมาแมแตคำเดียว
“และนั่นก็แคชั้นแรกเทานั้น เคยมีคนทำการวิจัยกอนหนานี้ ทุกชั้นที่เพิ่มขึ้น
ความบริสุทธิ์ของพลังธาตุก็เพิ่มขึ้นประมาณสามเทา แลวศิษยขา เจาไปจนถึงชั้นเจ็ด”
ผูเฒาเดาะลิ้นกอนจะกลาวตอ “ไมมีใครกลาทำเรื่องแบบนี้มาหลายปแลว หากเรื่องนี้
แพรออกไป เจาอาจกลายเปนคนดัง”
อายฮุยตกตะลึง
นี่เปนหลักฐานวาตาเฒาจะไมยอมปลอยเขาพนจากเรื่องนี้ไปงายๆ แน “ถานั่น
เปนแคอยางเดียวที่เกิดขึ้น เจาก็คงไมไดดูดซับพลังธาตุเขาไปมากนัก แตศิษยขา เจา
เปนผูมีพรสวรรค เจาคิดจะใชการทอผาคูมาโคจรพลังธาตุ อันที่จริงแลวนั่นก็ถือวา
เปนความคิดที่ชาญฉลาดอยางมาก แตวาเจาสูญเสียการควบคุมพลังธาตุเกินกวาที่เจา
จะควบคุมได มวลพลังธาตุควบแนนดวยตัวเองอยางตอเนื่องทำใหแรงดูดเพิ่มขึ้น
เชนเดียวกัน พลังงานธาตุจึงถูกดูดเขารางกายของเจาอยางตอเนื่อง ขากำลังนั่งสวม
อยูแลวก็รูสึกเบื่อขึ้นมาก็เลยเอาเรื่องของเจามาคิดดู ขาวาพลังธาตุที่สะสมอยูในตัว
เจามีมากกวาแปดสวนที่ถูกดูดเขามาโดยพลังงานที่หลุดออกจากการควบคุมของเจา”
“และสิ่งที่เลวรายที่สุดก็คือเจามันประทับใจในคลังชีวิตของตัวเองมาเกินไป เรื่อง
นี้ไมใชแคยุงยาก แตมันเปนเรื่องที่ยากเย็นอยางยิ่งสำหรับเจา หากพลังพวกนี้อยูใน
ตำหนัก ไมใชคลังชีวิต ความยุงยากจะลดลงไมนอย” ชายสูงอายุกลาวดวยสีหนาเยาะ
เยย กอนที่จะนึกถึงบางอยางขึ้นมาไดในตอนนั้นและกลาวตอ “เออ ขาลืมไปวา ศิษย
ขา เจาเพิ่งจะเปดไดแคคลังชีวิตเทานั้น”
เมื่อเห็นสีหนาอันซีดเผือดของอายฮุย ผูเฒาจึงเลิกพูดเยาะเยยและเปลี่ยนสีหนา
เปนเครงเครียดและกลาววา “สาเหตุที่อาจารยพูดมากมายเชนนี้ก็เพื่อใหเจาตกใจ”
อายฮุยมองไปยังอาจารยใจรายอยางสิ้นหวัง
“เจาอาจจะสามารถเอาชนะไดอยางไมนาเชื่อ บางครั้งก็เพราะโชคและความกลา
ที่จะเสี่ยง แตนั่นมันไมยั่งยืนหรอก เจามีประสบการณชีวิตมากกวาอาจารยเสียอีก
ดังนั้นเจาก็ตองรูวาความสำเร็จนั้นตองมาจากความสามารถ และความฉลาดเปนเพียง
สวนเสริมใหมันมีประสิทธิภาพมากขึ้นเทานั้น การฝกตนนั้นเปนเรื่องระยะยาว และ
การฝกตนใหแข็งแกรงเพื่อเอาชนะคนที่ออนแอกวานั่นจึงเปนแนวทางที่ถูกตอง หาก
เจาเอาแตพึ่งพาวาสนาเจาอาจประสบปญหาได เจาจะถูกสาบแชงไปชั่วนิรันดร”
น้ำเสียงของผูเฒามีความจริงจังที่หาไดยากแฝงอยู
อายฮุยสะดุงและตอบกลับอยางสุภาพวา “ศิษยจะจดจำใสใจ”
ผูเฒา พอใจกับ ทาทีของอายฮุย และกล า วต อ ช า ๆ “เอาละ เราพู ดข อ เสี ยมา
พอแลว มาพูดถึงขอดีกันดีกวา”
เมื่ออายฮุยไดยินคำวา “ขอดี” เขาก็ชะงักไปแวบหนึ่งกอนที่จะเอยถามอยาง
ตื่นเตน “อยาบอกนะวา เรื่องนี้ก็มีขอดีดวย”
“แนนอน” ผูเฒากลาวตอ “เจาลองคิดดูสิวา เจามีพลังธาตุจำนวนมาอยูภายใน
กาย แลวมันจะไมมีประโยชนเลยสักนิดไดอยางไร ปกติแลวเจามีพลังงานธาตุมหาศาล
อยางนั้นหรือ ยิ่งไปกวานั้น มันยังเปนพลังธาตุที่มีความบริสุทธิ์สูงอีกดวย”
“แตขาไมอาจใชมันได” อายฮุยตอบกลับไปดวยสีหนาสับสน
ผูเฒาตอบกลับอยางหมดความอดทน “ความฉลาดของเจาหายไปไหนหมด ปกติ
เจาคิดบางอยางออกเสมอนี่”
“ทานอาจารยคิดหาทางแกไขไดแลวหรือ” อายฮุยกาวไปขางหนาและมองไปยัง
อาจารยของเขาดวยคิ้วที่ขมวดมุน
“ไมอยางนั้นขาจะเปนอาจารยเจาไดอยางไร” ผูเฒาตอบดวยสีหนาพึงพอใจใน
ตัวเอง “พูดงายๆ วาพลังงานธาตุในรางกายของเจามันอัดแนนจนเกินไป หากเรา
สลายมันในทันที คลังชีวิตของเจาคงจะระเบิดออก เจารูจักศิลาปราณในยุคสมัยแหง
การบำเพ็ญตนหรือไม”
“ขอรับ ขาเคยไดยินมา” อายฮุยตอบตามจริง
“ศิลาปราณอันที่จริงแลวก็คือพลังวิญญาณที่ถูกบีบอัดจนถึงจุดสูงสุดกอนที่จะทำ
ใหเปนผลึกแข็ง มวลพลังงานธาตุในรางกายของเจาก็คอนขางจะเหมือนกับศิลาปราณ
มีคนจำนวนมากพยายามที่จะสรางศิลาพลังธาตุขึ้นมาแตก็ไมสำเร็จ ในทางตรงกัน
ข า ม เจ า กลั บ สามารถทำมั น ขึ ้ น มาได ด ว ยความโชคดี อ ย า งน า เหลื อ เชื ่ อ ลอง
จินตนาการดูวา มวลพลังงานธาตุนี้เปนศิลาพลังธาตุระดับสูงดูสิ คิดเชนนี้แลวเจารูสึก
วาตัวเองชางยอดเยี่ยมใชไหมละ”
อายฮุยตอบอยางซื่อสัตย “ไมเลย”
“ไมหรือ” ดวงตาของผูเฒาเบิกกวางขึ้น “ดวยระดับพลังของเจาในตอนนี้ มวล
พลังธาตุนี้จะไมมีวันถูกใชจนหมดไปและยังฟนฟูพลังไดดวยตัวเอง นั่นมันไมยอดเยี่ยม
หรือไร”
“แตขาใชมันไมไดนี่” อายฮุยตอบตามขอเท็จจริง
“ใครบอกวาเจาไมสามารถใชมันได” ผูเฒาเกือบจะคลั่งดวยความโกรธกอนที่จะ
สวนกลับมาวา “ถาอยางนั้นแลวขามัวแตทำอะไรอยู”
อายฮุยประหลาดใจและถามดวยสีหนาตื่นตระหนกวา “อาจารยไมไดบอกวานั่น
เปนวิธีรักษาหรอกหรือ ขานึกวามันเปนการเอามันออกไปหรืออะไรทำนองนั้น”
“นั่นมันงายเกินไป” ผูเฒาตอบดวยทาทางสงางาม
อายฮุยกลืนน้ำลายลงคอ
ทำไมเขาถึงรูสึกผิดขึ้นมาได
บทที่ 80 ถุงมือและผาพันแผลโลหิต
“ก็มันเปนเรื่องที่ชวยไมไดนี่นะ” ผูเฒาไอเบาๆ
ไดยินคำพูดเหลานี้แลวอายฮุยก็รูสึกสบายใจขึ้นมาทันที
“พลังงานธาตุถูกบีบอัดจนถึงขีดสุด และหากมันแตกออก คลังชีวิตของเจาก็จะ
ถูกทำลาย นี่คือสาเหตุที่เราตองพยายามปองกันไมใหมันพังลง หรือเจาอาจลองคิดวา
มันเปนภูเขาน้ำแข็งที่เจาตองคอยๆ ละลายมันทีละเล็กทีละนอย เนื่องจากระดับพลัง
ของมันสูงมาก แคละลายออกมาเพียงสวนเสี้ยวเล็กๆ ก็สามารถใชเปนพลังงานได
ยาวนาน อยางไรก็ตาม ขั้นตอนการละลายนั้นไมสามารถทำไดโดยงาย เพียงแคตอง
ใชอุปกรณพิเศษบางอยางแบบนี้ เออ...ขาลืมชื่อของมันไป” ผูเฒามีสีหนาแปลกไป
“พลังงานธาตุในกายของเจามีพลังดึงดูดเหมือนกับวามันเปนแมเหล็ก นั่นเปน
อุปสรรคที่ใหญที่สุดของเรา เพราะมันเปนการยากมากที่จะเอาชนะแรงดึงดูดแบบนี้
ได แตถาหากเราตองการที่จะละลายแคสวนเล็กๆ เชนนั้นก็ยังพอจะเปนไปได เจา
สังเกตเห็นเถาวัลยนั่นไหม มันสามารถสรางพลังธาตุไมที่ทรงพลังได และเมื่อธาตุทอง
ทำลายธาตุไม พลังธาตุไมจะดึงดูดพลังธาตุทองไดเปนอยางดี และควบคุมมวลพลัง
บางสวนได ซึ่งสวนนั้นก็คือพลังธาตุทองที่เจาสามารถควบคุมได”
หลังจากฟงผูเฒากลาว ก็พอจะเขาใจสิ่งที่เกิดขึ้นไดคราวๆ “แสดงวาเราจะใช
พลังงานธาตุไมเปนเหยื่อ เพื่อดึงเอาพลังงานธาตุทองออกมาจากมวลพลังใชหรือไม”
“ใชแลว เจาเขาใจแลวสินะ” ผูเฒาพยักหนา “เราเริ่มกันไดหรือยัง”
อายฮุยพยักหนาอยางไมลังเล “ไดเลย”
ถึงแมวาเวลาไมกี่วันที่ผานมานั้นสะดวกสบาย แตการที่เขาไมไดทำการฝกฝนทำ
ใหเขารูสึกขาดอะไรบางอยางไป เขาไดทุมเทชีวิตใหกับการเปนผูใชพลังธาตุ และการ
ฝกฝนก็เปนสวนที่ขาดไมได
เมื่อสวมชุดเกราะทองแดงเสร็จแลว เขาก็สวมหมวกทองแดงขนาดใหญไวบน
ศีรษะทำใหระยะสายตาแคบลงและโลกรอบกายพลันเงียบสงัด
เขาไดยินเสียงหัวใจของตัวเองเตนอยางแข็งแรงและมั่นคง
เถาวัลยบนชุดเกราะทองแดงสวางขึ้นทีละเสน ทอแสงเจิดจาไปทั่วทั้งลาน
สายตาของผูเฒาคมกลาขึ้น เขามองไปที่อุปกรณควบคุมในมือเปนครั้งคราว
มวลพลังงานภายในรางกายของอ ายฮุ ยเริ ่ มเคลื ่ อนไหว ทำให เขารู สึกอึดอัด
สำหรับเขามันเหมือนกับมีสัตวประหลาดขนาดยักษอยูภายในกายที่ออนดอยกวา
อยางเห็นไดชัดของเขา ตอนที่สัตวประหลาดนั่นอยูเงียบๆสงบสุข เขาก็ไมรูสึกอะไร
แตเมื่อมันเริ่มเคลื่อนไหวอายฮุยก็รูสึกวารางกายของเขาเหมือนจะถูกฉีกกระชาก
ออกเปนชิ้นๆ ไดทุกเมื่อ
รอยฉีกขาดเริ่มปรากฏขึ้นบนคลังชีวิตของเขา
มันคือชวงเวลาที่อายฮุยรับรูวาพลังงานธาตุภายในรางกายของเขานั้นนาหวาดกลัว
เพียงใด แคการเคลื่อนไหวเพียงเล็กนอยของมวลพลังนั้นก็ทำใหเขาบาดเจ็บแลว
มันเหมือนกับอายฮุยอยูกลางทะเลที่พายุโหมกระหน่ำ กระเด็นกระดอนไปใน
คลื่นอันบาคลั่ง
โลกของเขาหมุนควาง ภาพเบื้องหนามืดลง สติสัมปชัญญะเริ่มเลือนราง
ผูเฒาที่ยืนอยูขางนอกก็เริ่มกังวลเชนเดียวกัน เถาวัลยบนเกราะทองแดงเริ่มออน
แสงลงทีละเสน และภายในเวลาชั่วพริบตา หนึ่งในสามก็ดับลง ผูเฒารีบดึงเถาวัลยที่
ดับแสงลงอยางรวดเร็ว
“พยายามเขา!” เขาพึมพำกับตัวเอง
เถาวัลยเรืองแสงดับลงทีละเสนตามเวลาที่ผานไป ผูเฒาก็ดึงเถาวัลยที่ดับแลวลง
อยางตอเนื่อง
ครึ่งชั่วโมงตอมา เถาวัลยเสนสุดทายก็ดั บลง ผูเฒาเปดเสื้อ เกราะออกอย า ง
รวดเร็ว ไอน้ำ รอ นๆ พวยพุงออกมาจากภายในชุ ดเกราะ อ า ยฮุ ย หมดสติ ไปแลว
ใบหนาของเขาขาวซีด เมื่อตอนที่ชายสูงอายุดึงตัวอายฮุยออกจากชุดเกราะ รางกาย
ของชายหนุมเปยกชุมไปดวยเหงื่อราวกับเขาเพิ่งออกมาจากบอน้ำ
ผูเฒาตรวจสอบมวลพลังธาตุภายในตัวอายฮุย เมื่อผูเฒาพบวามวลพลังธาตุกำลัง
เสถียรขึ้นเรื่อยๆ เขาก็รูสึกสบายใจขึ้นมาในทันที
เมื่อตอนผูเฒาดึงเถาวัลยที่ดับแสงเสนสุดทายออก เขาก็ดูประหลาดใจพอสมควร
เถาวัลยสีเขียวซีดดูธรรมดาไรซึ่งลวดลาย มันออนและเรียบเหมือนกับมีใครบาง
คนใชกระดาษทรายขัดเอาไว
มันคือเถาวัลยกระบี่
……
สามวันตอมา
อายฮุยกำลังเลนเถาวัลยกระบี่
หลังจากนอนสลบอยูหนึ่งวันเขาก็ตื่นขึ้น ผูเฒาทำเพียงแคโยนเถาวัลยนี้ใหกับเขา
เถาวัลยกระบี่มีพื้นผิวออนนุมแตก็มีความทนทานสูง เมื่อถูกขัดมันจะใหผิวสัมผัสที่
เรียบเนียน เถาวัลยกระบี่ไดชื่อนี้มาจากการที่มันถูกนำไปใชเปนวัตถุดิบในการผลิต
ดามจับของกระบี่คุณภาพสูง
อาจารยบอกวานี่เปนเถาวัลยที่เหมาะกับเขาที่สุด
อายฮุยรูสึกวาชะตาของเขาผูกพันธกับกระบี่ จนถึงตอนนี้เขาพบเจอกับคัมภี ร
กระบี่ การฝกกระบี่ ตัวออนกระบี่ และตอนนี้ก็มีเถาวัลยกระบี่ เปนไปไดหรือไมวาเขา
เกิดมาเพื่อเปนมือกระบี่
อายฮุยกำลังเลนเถาวัลยกระบี่อยูอยางเกียจคราน
จูๆ ก็เห็นอาจารยหญิงกับศิษยพี่หมิงซิ่วเขามาอยางฉับพลัน เขาลุกขึ้นยืนอยาง
รวดเร็วและเอยทักทาย “อาจารยหญิง! ศิษยพี่หมิงซิ่ว!”
หันอวี้ฉินไมคาดคิดวาอายฮุยจะเรียกนางวาอาจารยหญิง นั่นทำใหนางยิ้มออกมา
อยางชวยไมได “เด็กดี”
ความเปนปรปกษในอดีตสลายหายไปในอากาศในทันที
หมิงซิ่วยิ้มใหอายฮุยอยางสุภาพ
เมื่อเห็นผูเฒาเดินเขามา รอยยิ้มบนใบหนาของหันอวี้ฉินก็หายไป และกระแอมเบาๆ
ดวยความเคยชินกับพฤติกรรมนาขันของภรรยาเขาจึงไมใสใจและกลาววา “เจา
ทำเสร็จแลวหรือยัง”
“เอามันออกมา” หันอวี้ฉินสั่งหมิงซิ่ว
หมิงซิ่วหยิบถุงมือไรนิ้วสีเขียวซีดและมอบมันใหกับอายฮุย “ศิษยนอง ลองใสดู
มันคือถุงมือเถาวัลยกระบี่ที่อาจารยหญิงของเจาใชเวลาสรางถึงสามวันโดยไมหลับไม
นอน”
ไดยินดังนั้นอายฮุยก็สังเกตเห็นความออนลาและดวงตาที่แดงก่ำบนใบหนาของ
อาจารยหญิง “ขอบคุณอาจารยหญิง” เขากลาวดวยความรูสึกขอบคุณอยางจริงใจ
“เปนเด็กดีจริงๆ” หันอวี้ฉินเอยชมอายฮุยอยางเปนกันเอง หลังจากนั้นน้ำเสียงก็
เปลี่ยนไป นางพูดเสียงเย็นชา “เปนศิษยที่ดีกวาอาจารยมากนัก อยางนอยเขาก็เปน
หวงอาจารยหญิง ไมเหมือนบางคนไมเคยใสใจขาเลย”
ผูเฒากระแอมกระไอเบาๆ ดวยความเขินอาย “ขาก็แคยังไมไดเอยมันออกมา
เทานั้น ขอบคุณสำหรับการทำงานอยางหนักของเจา”
หันอวี้ฉินเชิดหนาใสอยางไมสนใจ
ในตอนที่อายฮุยกำลังจะใสถุงมือ หันอวี้ฉินก็หยุดเขาไวเสียกอน “เดี๋ยวกอน พัน
ผาพันแผลนี่กอน”
“ผาพันแผล” อายฮุยชะงัก
หันอวี้ฉินนำกลองสัมฤทธิ์โบราณออกมาและสงใหอายฮุย
เมื่อผูเฒาเห็นกลองสัมฤทธิ์ดวงตาของเขาก็เบิกกวาง “นั่นคือผากลั่นโลหิตหรือ”
หันอวี้ฉินสงเสียงออกมาเบาๆ เปนการยืนยัน แตใบหนานั้นมีรอยยิ้มลำพองใจที่
ไมอาจปกปดไวได
อายฮุยเปดกลองสัมฤทธิ์ปลดปลอยจิตสังหารที่พุงเขาปะทะใบหนาของเขา กลิ่น
ของเลือดครอบงำตัวเขา แตลมหายใจตอมากลิ่นนั้นก็หายไปราวกับวากลิ่นเมื่อครูนี้
เปนเพียงอาการหลอน ตัวผานั้นเปนของโบราณอยางเห็นไดชัด แตรอยเลือดที่แหง
กรังอยูบนผานั้นเกิดขึ้นไมนานขนาดนั้น
“ขาคนพบผากลั่นโลหิตโดยบังเอิญในอดีตที่ผานมา มันนาจะเปนสิ่งประดิษฐจาก
ยุคสมัยแหงการบำเพ็ญตน ขาไมรูวามันเปนของสำนักโลหิตอะไร แตเห็นไดชัดวามัน
ไมใชสิ่งประดิษฐดั้งเดิม อยางไรก็ตามการที่มันไมเนาเสียแมวาจะผานไปหลายพันปก็
พิสูจนไดวามันเปนของที่ดีทีเดียว
ขาเองก็ไมรูวาเลือดบนผานั้นเปนเลือดของใคร แตมันแผจิตสังหารที่รุนแรงมาก
มันออกจะปาเถื่อนเกินไปสำหรับขาและหมิงซิ่วที่จะใช ดังนั้นพวกเราจึงไมเคยแตะ
ตองมัน”
“อาจารยของเจาไมไดใหของขวัญอะไรเจาแมแตชิ้นเดียวตอนที่เขารับเจา เปน
ศิษย ขาไดตัดฝากลั่นโลหิตออกเปนสองชิ้น นำมันมาทำเปนผาพันแผลสองชิ้น แมวา
มันจะไมเหมาะที่จะใชรักษาแผล แตก็มีประโยชนมากในการปองกัน โดยเฉพาะอยาง
ยิ่งตอนที่รางกายของเจายังออนแอ ดวยผาพันแผลโลหิตสองผืนนี้ มันจะชวยปองกัน
เจา จากอาวุธ ใดๆ ที่จ ะเขา มาทำร า ยเจ า มั น จะช ว ยต า นทานการโจมตี บ างสวน
ปองกันไมใหเจาหมดสติ หลังจากนี้หมิงซิ่วจะสอนเจาถึงวิธีพันผาพันแผลนี้”
หันอวี้ฉินอธิบายดวยน้ำเสียงสุภาพ
รอยยิ้มกวางปรากฏบนใบหนาของผูเฒาและตะโกนวา “เจามัวรออะไรอยู รีบ
ขอบคุณอาจารยหญิงเสียสิ”
อายฮุยรูสึกซาบซึ้งและโคงคำนับอยางจริงใจ “ขอบคุณ อาจารยหญิง!”
ความรูสึกที่ไมคุนเคยคลายความอบอุนแหงแสงอาทิตยสาดสองตองรางของเขา
บทที่ 81 ผูกลาสามนาที
ทักษะการพันแผลของศิษยพี่หมิงซิ่วทำใหอา ยฮุยประหลาดใจ นางเคยบอกกอน
หนานี้วานางมีความรูดานการแพทยเล็กนอยซึ่งไดรับการถอยทอดมาจากพี่ชายผูเปน
แพทยของนาง
ทวาเทาที่ดูแลวความรูทางการแพทยของนางไมไดเล็กนอยอยางที่นางบอก อันที่
จริงมันคอนขางลึกซึ้งดวยซ้ำไป
นางเริ่มพันผาพาดบาของเขาไลตามหัวไหลและแขนไปจนถึงขอมือ สุดทายแลวก็
ผูกผาพันแผลเปนปมบนถุงมือเถาวัลยกระบี่ ดวยวิธีนี้ ผาพันแผลจะพันทั้งสองแขน
อยางสมมาตรกัน
ผาพันแผลโลหิตนั้นยาวอยางนาเหลือเชื่อ ยาวพอที่จะพันทุกสวนที่จำเปนเอาไว
ไดทั้งหมด
อายฮุยรูวาตนดูเซอซาเพียงใดหลังจากทดลองทำเองดูมากกวาสิบครั้งกวาจะทำ
ไดสำเร็จ
เสร็จแลวเขาก็รูสึกถึงความเปลี่ยนแปลงไดทันที
จิตสังหารอันเย็นยะเยือกจากผาพันแผลแทรกซึมเขาสูรางกาย ชวยคลายใหมวล
พลังงานธาตุสงบลง อายฮุยรูสึกวารางกายของตนผอนคลายในทันที ความรูสึกปลอด
โปรงกลับคืนสูรางของเขาอีกครั้ง ดูเหมือนวาผาพันแผลโลหิตที่รัดแนนนี้จะไมจำกัด
การเคลื่อนไหวของเขาแตกลับทำใหเขาปราดเปรียวมากขึ้น
“คราวนี้ลองคลายปมบนถุงมือ” หมิงซิ่วบอก
ดวงตาทุกคูจับจองไปที่อายฮุย โดยเฉพาะอยางยิ่งผูเฒาที่ดูคอนขางกังวล
อายฮุยหายใจเขาลึกกอนจะลงมือคลายปมบนขอมือขวา
มวลพลังงานธาตุในคลังชีวิตสั่นไหวกอนจะมีเสนใยพลังธาตุไหลออกมาและพุง
เขาสูมือขวาของเขาอยางรวดเร็ว
แมวาเสนใยพลังธาตุจะออนแอตามธรรมชาติ แตก็บริสุทธิ์อยางมาก มันไหลเวียน
ไปทั่วรางกายของเขาดวยความเร็วแสง มาถึงฝามือขวาของอายฮุยในทันใด และ
กอนที่เสนใยจะเจาะเขาไปในถุงมือเถาวัลยกระบี่ ก็หยุดลงอยางไมคาดคิดราวกับชน
เขากับกำแพงที่มองไมเห็น
ถุงมือที่สรางโดยปรมาจารยดานการเย็บปกชางรายกาจอยางแทจริง!
อายฮุยรูสึกยินดีอยางทวมทน เมื่อเขารูวาตนสามารถควบคุมเสนใยพลังธาตุนี้ได
ก็ยิ่งทำใหเขาตื่นเตนขึ้นไปอีก เขาพุงตัวไปอยางรวดเร็วราวกับผีสาง และไปปรากฏ
ขางตนสนตนสูงใหญที่ลานบาน
ครั้งลาสุดที่เขาฝก [มัจฉาสะบัดกาย] ก็ผานไปนานแลว แตในตอนนี้มันกลับถูกใช
ออกมาตามสัญชาตญาณ เขากระแทกตัวไปดานหลัง
เปรี๊ยะ!
ตนสนกวางขนาดสองคนโอบสั่นสะเทือน เศษไมกระจัดกระจายออกมาจากจุด
กระแทก สวนบนของตนไมหักออกและหลุดลอยไปในอากาศ
โครม!
ตนสนกระแทกเขากับกำแพงของลานบาน ฝุนผงคละคลุงอยูในอากาศ กำแพง
ยังคงตั้งตระหงานแตมีเศษไมปกอยูนับไมถวน
ทุกคนตื่นตะลึงดวยความหวาดกลัวหลังจากไดเห็นการโจมตีอันรุนแรงของอายฮุย
“ไอหนุมนี่เปนหมีหรือไร” ผูเฒาพึมพำ
อายฮุยที่ยืนอยูตรงตอไมก็ตื่นตะลึงไมตางกัน ไมอยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหนา
นั่นเปน [มัจฉาสะบัดกาย]จริงๆ หรือ
“ตอนนี้เจาคงรูถึงพลังของมันแลวสินะ” ผูเฒาไดสติและพูดออกมาดวยความ
ตื่นเตน “ถึงแมวามันจะเปนเสนใยเล็กๆ แตพลังธาตุคุณภาพสูงสามารถสรางพลังงาน
ไดมากกวาพลังธาตุคุณภาพต่ำ นี่ก็เปนอีกสาเหตุหนึ่งของการฝกฝน พลังธาตุที่เจาใช
ในตอนนี้นั้นเหนือกวาระดับพลังของเจามากนัก ผลประโยชนของมันคอนขางชัดเจน
ความสามารถในการตอสูของเจานั้นเพิ่มขึ้นอยางมาก รวมถึงรางกายของเจาก็จะ
แข็งแรงขึ้นดวย”
“หากถามวาทำไมพวกเราถึงตองมีถุงมือเถาวัลยกระบี่ นั่นเพราะเจาจะสามารถ
บังคับพลังธาตุไปยังฝามือได เปนประโยชนอยางมากในการเปดตำหนักที่ฝามือทั้งสอง
ของเจา รูสึกดีที่เปนยอดฝมือใชไหม เอาละ ในเมื่อเราพูดถึงประโยชนกันหมดแลว
เราก็มาพูดถึงขอเสียกันบาง”
อายฮุยหูผึ่งขึ้นมาทันที
เมื่อ เห็นสีหนา อันสงบของอายฮุ ย แทนที ่ จ ะเป น ตื ่ นเตน ยิ นดี ที ่ ไดรั บพลังอัน
แข็งแกรง ชายสูงวัยก็พยักหนานอยๆ
อายฮุยเหมาะสมที่จะเปนศิษยของเขาจริงๆ ความเปนผูใหญทั้งที่ยังอยูในวัยนี้
ชางหาไดยากยิ่ง
“ปญหาก็คือรางกายของเจาจะตองรับภาระหนักมาก ฟงนาสับสนหรือไม อันที่
จริงแลวมันก็ไมไดซับซอนอะไรหรอกนะ เมื่อเสนใยพลังธาตุโคจรชาๆ อยูในกายของ
เจา จะชวยในการฝกฝนของเจา อยางไรก็ตามในการตอสูนั้น พลังธาตุจะโคจรอยาง
รวดเร็วไปทั่วรางกาย ยิ่งพลังธาตุมีระดับสูงเทาไรมันก็ยิ่งโคจรเร็วเทานั้น ซึ่งมันจะทำ
ใหรางกายของเจาเหนื่อยลาอยางมาก หากแรงกดดันมากเกินไปรางกายของเจาก็จะ
บาดเจ็บอยางไมอาจเยียวยาได”
“ขาตอสูไดนานเทาไร” อายฮุยถามอยางสุขุม
ชายสูงวัยชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้วและตอบวา “จากสภาพรางกายของเจาในตอนนี้
หากเจาตอสูไมนานเกินสามนาทีก็นับวาปลอดภัย”
“นั่นถือวาดีทีเดียว อยางนอยขาก็สามารถเปนผูกลาสามนาที” อายฮุยกลาว
เมื่อหันอวี้ฉินกับหมิงซิ่วไดยินคำวา “ผูกลาสามนาที” พวกนางก็หัวรอตอกระซิก
ออกมา
“เจาพูดถูก อยางไรก็ตามชวงเวลาที่วานี้ หากรางกายของเจาแข็งแกรงขึ้น ระยะเวลา
นี้ก็จะเพิ่มขึ้นเชนกัน เปาหมายหลักของเจาก็คือเปดตำหนักที่มือซายและมือขวาใหได
เมื่อเจาทำไดสำเร็จไมเพียงแคเจาจะสามารถใชพลังธาตุไดมากขึ้น แตยังสามารถใช
มันไดอยางปลอดภัยยิ่งขึ้นอีกดวย เจาตองจำใสใจเอาไววาถึงแมเจาจะมีผาพันแผล
โลหิตอยู แตมวลพลังงานธาตุในกายของเจานั้นก็ เหมือ นระเบิดเวลา หากมีอะไร
ผิดพลาดเกิดขึ้น รางกายของเจาก็จะระเบิดเปนชิ้นเล็กชิ้นนอยไดเลยทีเดียว” ผูเฒา
กลาว
ผลลัพธเชนนี้เปนสิ่งที่อายฮุยคาดเดาได เขายังคงรับฟงอยางใจเย็นเพราะเขารูวา
มันเปนเรื่องที่เลี่ยงไมได เขาไมใชพวกดาวโชคดีมาเกิด ไดอยางก็ตองเสียอยาง ไมเห็น
มีอะไรนาประหลาดใจ
ทุกคนในที่นี้คิดวาอายฮุยพูดเลนตอนที่เขาพูดวา “ผูกลาสามนาที” แตมันไมใช
อยางนั้น ถึงแมวาเวลาสามนาทีจะสั้น แตมันก็เพียงพอที่จะทำอะไรมากมาย การตอสู
อันที่จริงแลวตัดสินกันในชั่วพริบตา แมจะมีเวลาเพียงสามนาทีแตใชพลังอันแกรงกลา
ได อายฮุยยอมไมยอมเสียเวลาเปลาแมวินาทีเดียว เขาถามดวยสีหนาเยือกเย็น
“ขาควรฝกอยางไร”
“เจาไมจำเปนตองไปเจดียเสวียนจินอีกนานเลยละ” ชายสูงวัยลอเลนกอนที่จะ
พูดดวยสีหนาจริงจังวา “การฝกของเจามีปญหาที่สำคัญมากอยางหนึ่ง เสนใยพลัง
ธาตุไมอ าจกลับ คืนสูคลังชีวิตได ไม อ ย า งนั ้ น มั น จะถู กดู ดซั บกลั บ ไปรวมกับมวล
พลังงานธาตุอีกครั้ง”
ไดยินอยางนั้นอายฮุยที่เคยสงบก็พลันเสียทาที เขาถามวา “เชนนั้นขาควรจะฝก
อยางไร”
พื้นฐานการฝกฝนคือการควบคุมพลังธาตุโดยใชวงโคจรไหลเวียน ซึ่งคลังชีวิตเปน
ทั้งจุดเริ่มตนและจุดสิ้นสุดของวงโคจร หากพลังธาตุไมอาจกลับไปสูคลังชีวิตแลวเขา
จะฝกอยางไร
ชายสูงวัยยิ้มแลวตอบวา “ขาหาทางแกไขปญหานี้ไดแลว ก็งายๆ เราจะไมใชวง
โคจรไหลเวียน”
“ไมใชวงโคจรไหลเวียนเชนนั้นหรือ” อายฮุยคิดวาตัวเองฟงผิดไป
หันอวี้ฉินกับหมิงซิ่วก็แสดงความประหลาดใจเชนกัน
“ใชแลว ไมใชวงโคจรไหลเวียน” ชายสูงวัยกลาวโดยไมลังเล
“วัตถุประสงคของวงโคจรไหลเวียนคืออะไร เพื่อทำใหพลังธาตุบริสุทธิ์และดูดซับ
มันใชไหม ในตอนนี้พลังธาตุในตัวเจาไมจำเปนตองทำใหบริสุทธิ์อีกแลวเพราะมัน
บริสุทธิ์มากตามธรรมชาติอยูแลว ยิ่งไปกวานั้นมันก็มีเหลือเฟอ ในตอนนี้สิ่งที่เจาตอง
ทำก็คือทำใหรางกายแข็งแกรงขึ้นโดยเฉพาะอยางยิ่งที่ฝามือทั้งสองของเจา”
“มีเงื่อนไขอยูสองอยางในการเปดตำหนักที่มือซายและมือขวา อยางแรกทำให
มือของเจาไวตอพลังธาตุ อยางที่สองก็คือมีพลังธาตุใหมากพอ พลังธาตุที่เจามีนั้น
บริสุทธิ์ตามธรรมชาติอยูแลว แตปริมาณที่เจาควบคุมไดนั้นนอยเกินไป จึงไมเพียง
พอที่จะเปดตำหนักที่มือทั้งสอง”
อายฮุยรูสึกวาสิ่งที่อาจารยกลาวนั้นสมเหตุผล แตเขาก็ถามขึ้นอยางชวยไมได
“แลวขาตองทำอยางไรกันแน”
“เรื่องนี้เจาตองพึ่งอาจารยหญิงของเจา” ตาเฒายิ้ม
“พึ่งขา” หันอวี้ฉินเอยอยางงุนงง ทันใดนั้นดวงตาของนางก็เปนประกายเมื่อคิด
บางอยางขึ้นมาได “นี่เจากำลังจะบอกวา...”
บทที่ 82 การรักษาพยาบาลของโหลวหลาน
“อายฮุยรูสึกอยางไร”
โหลวหลานที่ยืนอยูดานขางถามอยางหวงใย
ตามจริงแลวอายฮุยก็ตองการเริ่มการฝกใหเร็วที่สุด แตอาจารยหญิงกลับบอกวา
นางตองการเวลาเตรียมตัวสองสามวันและยังขาดสิ่งของบางอยางที่จำเปน ในเวลา
เดียวกันอาจารยก็ทำตัวลึกลับ ประหนึ่งวาการฝกนี้คอนขางจะพิเศษ แตกระนั้นเมื่อ
เทียบกับอาจารยผูภาคภูมิในตัวอาจารยหญิ งผู ใจรอ นของเขาแลว ตัวอายฮุยนั้น
คอนขางผอนคลายกับการฝกนี้
ทำไมเขาตองไปคิดมากดวย ทำไมเขาถึงไมมั่นใจในตัวอาจารย
เมื่ออายฮุยรูตัววาตนมีความคิดเชนนั้น ก็รูสึกละอายและสำนึกผิด เขานั่งคิดอยู
นานวาทำไมเขาถึงไดคิดอะไรพรรคนั้น
สองสามวันหลังจากนั้น อายฮุยไปเขาเรียนตามปกติเนื่องจากเขาไมอาจฝกฝนได
ทำใหเขารูสึกกระตือรือรนตลอดคาบเรียน สิ่งเดียวที่เขาเสียดายคือเขาไมพบกับเพื่อน
รวมชั้นปงหวาน เลยไมสามารถเรียกรองคาเสียหายที่หมอนั่นทำไวกับเขาได
หลังจบคาบเรียนอายฮุยก็กลับมายังโรงฝก โหลวหลานที่รออยูอยางกังวลก็เรงรุด
อยางลุกลี้ลุกลน
อายฮุยอยากจะรูขีดจำกัดปจจุบันของตัวเอง เมื่อมีโหลวหลานที่มีความเชี่ยวชาญ
ในการรักษาอยูขางกายเชนนี้ อายฮุยก็ไมตองกังวลวาจะเกิดอุบัติเหตุไมคาดคิดขึ้น
“สามนาทีครึ่ง”
อายฮุยที่นอนอยูบนพื้นรูสึกมี ความสุ ข เขาสามารถใชพ ลั งธาตุ ได มากกว า ที่
อาจารยคาดไวถึงครึ่งนาที สำหรับคนอื่นเวลาที่เพิ่มขึ้นมาสามสิบวินาทีนั้นอาจทำได
แคหายใจไมกี่ครั้ง แตกับอายฮุยแลว เวลาสามสิบวินาทีที่เพิ่มขึ้นมานี้ทำใหเขาโจมตี
เพิ่มไดอีกสองสามครั้ง
“การโจมตีของอายฮุยคอนขางรุนแรง” โหลวหลานวิเคราะหดวงตาสองประกาย
แสงสีเหลื อ ง “การโจมตีปกติของอ ายฮุ ยเที ยบได กั บระดั บของพวกที ่เป ดไดสอง
ตำหนัก กระบวนทา [มัจฉาสะบัดกาย] นับวามีพลังโจมตีรุนแรงที่สุด เมื่อประเมิน
แลวก็นาจะเทียบเทาพลังสังหารของระดับสามตำหนัก โหลวหลานไมมีขอมูลมากพอ
จึงไมสามารถเปรีย บเทีย บไดอ ยา งแม น ยำ ร า งกายอ า ยฮุ ย นั ้ น โดดเด น ช ว ยเพิ่ม
ความสามารถในการตอสูไดมาก”
การประเมินของโหลวหลานคอนขางแมนยำ เกือบจะเทียบเทากับการประเมิน
ของตัวอายฮุยเอง
ระหวางเวลาสามนาทีครึ่ง แมวาระดับพลังของอายฮุยจะเทียบเทาระดับสอง
ตำหนัก ความแข็งแกรงในการตอสูของเขากลับสูงกวาระดับนั้น นอกเหนือจากทักษะ
การตอสูที่ยอดเยี่ยมและประสบการณแลว รางกายอันยอดเยี่ยมก็มีบทบาทสำคัญใน
การเพิ่มความสามารถในการตอสูของเขา
พลังธาตุระดับสูงทำใหเขาพัฒนา [หนังทองแดง] ไดสำเร็จ
[หนังทองแดง] ชวยพัฒนารางกายเขาไดมาก
ความแข็งแกรงและปฏิกิริยาตอบสนองก็ดีขึ้นเปนเทาตัว รางกายทนทานมากขึ้น
กระบี่หญาที่ไมผานการปรับปรุงไมอาจสรางรอยบาดใดๆ บนผิวเขาได
นั่นหมายความวาตอใหเขาไมมีพลังธาตุ พลังพื้นฐานของเขาก็เทียบเทากับระดับ
สองตำหนัก
การพัฒนารางกายใหแข็งแกรงขึ้นนั้นเปนขั้นตอนที่ยากเย็น ทวาหากผูใดทำ
สำเร็จก็จะเพิ่มความสามารถในการตอสูไดเปนอยางมาก
เหมือนกับพลังของ [มัจฉาสะบัดกาย] ที่ทำใหอายฮุยรูสึกยินดี
[มัจฉาสะบัดกาย] เปนทักษะสำหรับหลบหนี โดยปกติแลวจะใชในการหลบหนี
จากการถูกจับตัว ไมเหมาะแกการสรางความเสียหาย อายฮุยใชทานี้ระหวางการตอสู
โดยบังเอิญและคนพบวามันเปนทักษะที่ยอดเยี่ยมในการตอสู เขาสามารถฝกทักษะนี้
จนช่ำชองถึงจุดที่เรียกไดวาสมบูรณแบบระหวางที่ฝกอยูภายในเจดียเสวียนจิน
นอกจากอา ยฮุย แลว คงไมมีใ ครเสี ย เวลามากมายมาฝ ก ทั ก ษะหลบหนี ท ี ่ มี
ขอจำกัดในการใชเชนนี้
กระนั้นก็ตาม มันเชื่อมโยงกับประสบการณในอดีตของอายฮุยได เขาเปนคนที่
พิถีพิถันและออนไหวอยางมากตอทุกรายละเอียดที่เกี่ยวของกับการตอสู เขาสามารถ
รับรูไดถึงพลังที่เพิ่มขึ้นไดอยางแมนยำ ในอดีตเขาตองมองหาจุดออนในการปองกัน
ของฝายตรงขามกอนที่จะใช [มัจฉาสะบัดกาย] แตในตอนนี้หากฝายตรงขามพยายาม
ปองกันทา [มัจฉาสะบัดกาย] ตรงๆ จะตองไดรับบาดเจ็บอยางแนนอน
เศษไมกลุมใหญที่จมลึกลงไปในกำแพงลานบานของอาจารยเปนตัวอยางที่เห็นได
ชัดของพลังทำลายของ [มัจฉาสะบัดกาย]
การตอสูนั้นคอนขางซับซอน แตถึงอยางนั้นความแข็งแกรงก็ยังเปนสวนที่สำคัญ
ที่สุด เมื่อคนที่มีพลังพื้นฐานอยูที่ระดับสี่ตำหนัก ตอสูกับคนที่มีพลังพื้นฐานอยูที่ระดับ
สองตำหนัก แมวาจะไมอาจพูดไดวาฝายแรกจะชนะไดเปนมั่นเปนเหมาะ แตโอกาสที่
จะชนะก็มากกวาอยางแนนอน คนที่แข็งแกรงกวายอมถือไพเหนือกวา ซึ่งนั่นทำให
เขาอยูในสถานะที่ไดเปรียบในการตอสู
ตอนนนี้ถาอายฮุยตอสูกับนักเรียนทั่วไปในสนามเหนี่ยวนำ เขายอมสามารถ
เอาชนะไดอยางงายดายเพราะเขามีประสบการณในการตอสูมากกวา
อยางไรก็ตามหากเขาออกไปจากสนามเหนี่ยวนำและเขาสูแดนรางในอนาคต ก็
ยอมมีผลที่ตางออกไปอยางแนนอน ที่นั่นเปนสถานที่ที่ทุกคนรูวิธีตอสูเพราะคนที่ไมรู
ลวนตายหมดแลว
ความแข็งแกรงคือทุกอยาง
และมีเพียงความแข็งแกรงเทานั้นที่ทำใหอายฮุยรูสึกปลอดภัยได
“โหลวหลาน ขาขยับตัวไมได” อายฮุยสงเสียงออกมาจากบนพื้น
ถึงแมวาเวลาสามนาทีครึ่งจะนาชื่นชมยินดี แตมันก็ทำใหรางกายของเขาออนแรง
ลงมาก มากกวาที่เขาคาดคิดเอาไว ตอนนนี้เขารูสึกเจ็บปวดไปทั่วสรรพางค ก าย
ความสามารถในการตอสูของเขาสูญสิ้นไปจนหมด กลามเนื้อของเขาสั่นระรัว
“โหลวหลานมาแลว”
โหลวหลานกลายรางเปนคอนทรายขนาดยักษพรอมกับสงเสียงราเริง
“ตุบ! ตุบ! ตุบ!”
คอนทรายฟาดลงบนรางของชายหนุม อายฮุยรูสึกสบายจนสงเสียงครางออกมา
อยางชวยไมได “โอว! โอว! ใชแลว ใชแลว ตรงนั้นแหละ! แรงขึ้นอีก!”
หลังจากเสพสุขอยูพักหนึ่ง อายฮุยก็รูสึกวาเพียงพอแลว และสงเสียงขึ้นดังๆ
“โหลวหลาน เปลี่ยนทา”
“ไมมีปญหา”
โหลวหลานตอบรับอยางยินดีแลวก็เปลี่ยนสถาพเปนมือขนาดยักษสองมือกอนจะ
ลงมือนวดอายฮุยประหนึ่งนวดแปง
“แรงกำลังดี กดตรงจุดพอดี ทุกอยางชางพอเหมาะพอดี....”
อายฮุยรูสึกเหมือนวารางกายของเขาออนนุมราวกับแปงนวด เฉกเชนวาไมใช
รางกายของเขาอีกตอไป
หลังจากผานไปครูหนึ่ง โหลวหลานก็เปลี่ยนเปนวงลอทรายขนาดเล็กจนนวนมาก
กลิ้งไปมาบนรางของอายฮุย
“ฮาฮาฮา โอว....โหลวหลาน เจาก็นวดเปนกับเขานี่ ฮาฮาฮา จั๊กจี้...”
โหลวหลานเปลี่ยนกลับมาเปนรางเดิม เมื่อเห็นวาอายฮุยไดหลับไปแลวก็ลากตัว
อายฮุยไปที่น้ำพุรอนดานหลังลานบานแลวโยนเขาลงไป
อายฮุยตื่นขึ้นอยางงุนงง ดวงตาเบิกกวางกวาดมองไปรอบๆ กอนจะถอนหายใจ
ออกมาอยางโลงอกเมื่อเขามองเห็นโหลวหลาน
“ขาหลับไปจริงๆ สินะ”
อายฮุยรูสึกอับอายเล็กนอย โหลวหลานทุมเทอยางมากในการนวดใหเขา แลว
เขากลับหลับไปเสียอยางนั้น เยี่ยมไปเลย!
“ไมเปนไรหรอกอายฮุย” โหลวหลานตอบกอนจะถามวา “อายฮุย เราจะทำอะไร
ตอไป”
“ตอไปก็...” อายฮุยตองการจะบอกวางีบสักพัก แตเมื่อเห็นสายตาที่จองมองมา
อยางคาดหวังของโหลวหลาน เขาก็เปลี่ยนใจ “มีขาวอะไรเกี่ยวกับแมสาวรานบะหมี่
หรือเปลา”
“ไมมี” โหลวหลานสายหนา
เมื่ออายฮุยรูสึกวาความแข็งแรงของเขาคอยๆ ฟนคืนมาแลวก็รูสึกมีชีวิตชีวาขึ้น
“เชนนั้นเราก็ไปที่โรงฝกกันเถอะ”
อายฮุยตองการทำตามสัญญาที่ใหไวกับสาวนอยรานบะหมี่แมวาเขาแทบจะไมมี
หวังที่จะพบคนผูนั้นก็ตาม
“ไดเลยอายฮุย” โหลวหลานตอบอยางกระตือรือรน
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหนาของอายฮุยเมื่อเขามองเห็นทาทีดีใจของโหลวหลาน
โหลวหลานทำใหเขานึกถึงเจาอวน แตนิสัยของโหลวหลานดีกวามากนัก
เปนตุกตาทรายที่นารักจริงเชียว!
เจาอวน เจาบานั่นไมรูแมแตวิธีนวด
บอน้ำพุรอนชวยใหเขาฟนฟูเรี่ยวแรงอยางรวดเร็ว ผานไปครูหนึ่งเขาก็สามารถ
ฟนฟูเรี่ยวแรงเกือบทั้งหมดได
โดยสรุปแลวเขาสามารถสูไดเปนเวลาสามนาทีครึ่งซึ่งเปนขีดจำกัดของเขา เมื่อ
หมดเวลาเขาก็จะหมดหนทางที่จะปองกันตัวเอง นั่นทำใหคำกลาวของอาจารยที่วา
เวลาในการตอสูของเขาคือ สามนาที ฟงดูสมเหตุสมผลขึ้นมา เมื่อเทียบกับสภาพหมด
เรี่ยวแรงทั้งกายของเขาแลว การฟนฟูจากการหมดเรี่ยวแรงอันเนื่องมากจากการโคจร
พลังนั้นงายกวามากนัก
“โหลวหลาน มีอะไรที่ชวยฟนฟูเรี่ยวแรงของขาไดบางหรือไม” อายฮุยถามขึ้น
ในทันที
โหลวหลานเอียงคอคิดอยูครูหนึ่งกอนจะพยักหนา “มี อายฮุยลองดื่มน้ำแกงเติม
พลังดูสิ”
“มีอะไรที่ขาสามารถพกติดตัวไดหรือไม” อายฮุยถามตอ
โหลวหลานพยักหนาอีกครั้ง “ขาทำขนมปงกาน*ใหได”
“แพงหรือไม” อายฮุยถาม
“ไมแพงหรอก” โหลวหลานสายหนาและกลาวตอ “วัตถุดิบที่เกี่ยวกับพลังธาตุ
นั้นคอนขางแพง สวนวัตถุดิบที่เกี่ยวกับพลังกายจะมีราคาถูก เงินหาหมื่นหยวนก็
สามารถทำขนมปงกานไดเยอะแยะ แตอายฮุยจะรูวามันไดผลดีแคไหนก็ตอเมื่อกินมัน
แลวเทานั้น”
“ขาหาเงินจำนวนนั้นได โหลวหลานชวยทำขนมปงกานใหดวย” อายฮุยกัดฟนพูด
“ไมมีปญหา อายฮุย” โหลวหลานจากไปอยางยินดีที่จะไดชวยเหลืออายฮุยอีกครั้ง
เมื่ออายฮุยรูสึกวาเรี่ยวแรงของเขากลับคืนมา เขาก็ตะโกนออกมาอยางมีพลัง
“ไปโรงฝกกันเลย!”
ในชวงตนนั้น หมิงซิ่วรูสึกกังวลเล็กนอยวาสุขภาพของอายฮุยจะไดรับผลกระทบ
นางไดรับความเชี่ยวชาญดานการแพทยในระดับหนึ่งมาจากพี่ชายของนาง นางจึงใช
ความรูนี้ตรวจสุขภาพใหอายฮุยอยางสม่ำเสมอ อยางไรก็ตาม นางกลับพบวาเขามี
สุขภาพที่ดีมาก สิ่งที่นางเคยกังวลนั้นไมไดเกิดขึ้นเลยแมแตนอย
หลังจากสังเกตการณมาไดพักหนึ่ง นางก็ตระหนักไดวาอายฮุยมีความเขาใจเปนเลิศใน
เรื่องสภาพรางกายของตนเอง เขาจะพักผอนเสมอทันทีที่รางกายกำลังจะถึงขีดสุด ไม
ปลอยใหตนเองใชกำลังเกินตัว
หมิงซิ่ว รูสึก ตกใจมาก นางไม รู ว า อ า ยฮุ ยทำได อยา งไร แต ถ ึ งกระนั้ น นางก็
พยายามที่จะไมกังวล
แตเรื่องหนึ่งที่นางไมเขาใจก็คือ ชวงไมนานมานี้ ไหมสนธยาที่อายฮุยปนนั้นมัน
สั้นลงเรื่อยๆ ไหมมวนลาสุดยาวเพียงหนึ่งเมตรเทานั้น หากไมใชเพราะความจริงที่วา
ไหมแตละมวนนั้นมีความยาวเทาขนาดมาตรฐานแลวละก็ นางคงนึกสงสัยวาการฝก
ของเขาคงมีบางอยางที่ผิดปกติ แตดูเหมือนเขาจะกำลังทดลองอะไรบางอยางเสีย
มากกวา
กอนหนานี้ สีหนากระหายเงินของเขาหลังจากทำไหมไดยาวกวาสิบเมตรนั้นได
ทำใหทานปรมาจารยขุนเคืองอยางหนักมาแลว
แตขณะกำลังฝกอยูนี้สีหนาของเขาไมมีแววใดๆ เห็นไดชัดวาเขาไมไดมองไหม
สนธยาเปนเงินทองอีกแลว
เศษเหลือนั้นไมมีคามากนักหากไหมของเขายังสั้นลงและสั้นลงตอเนื่องเชนนี้ เขา
กำลังสูญเสียเงินไปจำนวนมากในแตละวัน เมื่อนึกขึ้นมาวาเขาจะปวดใจเพียงใด นาง
ก็อยากจะหัวเราะ
แตในขณะที่ไหมสั้นลงเรื่อยๆ นั้น ปริมาณของมันกลับเพิ่มมากขึ้น เขาตกลงใจจะ
ใชรังไหมสนธยาสองรังภายในวันเดียว
กองไหมสนธยาที่เพิ่มพูนขึ้นจากฝมือเขาชางนาประทับใจ เพื่อปองกันการสูญเปลา
ทางโรงงานจะนำไหมพวกนี้มาทำเปนดายเย็บผา แมจะดูเปนเรื่องนาเสียดายในการ
นำวัสดุชั้นดีเชนนี้มาทำเปนดาย แตไหมสนธยานั้นมีความเหนียวมาก
ศิษยนองคงเดือดรอนแน หมิงซิ่วอดรูสึกสาแกใจเล็กนอยไมได
นับตั้งแตทานปรมาจารยรูสึกวาอายฮุยไมไดหลงใหลในการเย็บปกถักรอยแลว สี
หนาทาทางของนางก็เปลี่ยนไป ไมสิ นางตองไมพูดถึงปรมาจารยเชนนั้น เปนรูปแบบ
การสอนของนางตางหากที่เปลี่ยน
วัสดุทั้งหมดที่ใชจะถูกจดบันทึกและคิดเงินไว เมื่อหมิงซิ่วเห็นจำนวนของอายฮุย
ที่เพิ่มขึ้นอยางไมหยุดยั้ง ถึงจุดนี้นางคิดวาเขาคงตองขายตัวเองใหกับโรงงาน
แมกระทั่งปรมาจารยเองก็ทำอะไรไมได นางทำไดแคจดบันทึกวัสดุที่ถูกใชไป
ทั้งหมด โดยไมคิดเกินราคาเลยแมแตแดงเดียว
หมิงซิ่วชวยอายฮุยขายไหมสนธยาไปชุดหนึ่ง แมจะไมคอยมีราคานัก แตก็ยังพอ
ขายได นาเสียดายที่เสนสั้นๆ นั้นแทบไรราคา นางขายไปไดมากกวาหนึ่งรอยชิ้นใน
ราคาชิ้นละหาหยวน
“แมนางหมิงซิ่ว!”
หมิงซิ่วหลุดออกจากความคิดในหัวหลังจากไดยินเสียงเรียกชื่อของนาง เมื่อนาง
เห็นวาเปนผูจัดการหลี่ซึ่งเปนแขกเจาประจำ รอยยิ้มอบอุนบนใบหนาของนางก็
ปรากฏพลางทักทาย “ผูจัดการหลี่ ไมเจอกันเสียนาน ธุรกิจการคาเปนเชนไรบาง”
ผูจัดการหลี่เปนชายอายุราวสี่สิบปและมีเชาวนที่หลักแหลม
เขารีบตอบทันที “ขอบใจเจามาก กิจการราบรื่นดี ขามาเพื่อซื้อเศษเหลือ ของ
ไหมสนธยาอีกสักชุดหนึ่ง”
หมิงซิ่วรูสึกแปลกใจเล็กนอย “ทานใชไหมหนึ่งรอยชิ้นกอนหนานี้หมดไปแลวหรือ”
“ใช บังเอิญมีคำสั่งซื้อใหมเขามาพอดี” ผูจัดการหลี่ยังคงยิ้มอยางเปนมิตรและ
กลาวตอ “ขาคิดอยากจะมาซื้อเพิ่มแตไมแนใจวาทางรานยังมีเหลืออยูหรือไม”
หมิงซิ่วพยักหนา “ทานอยากไดอีกเทาไร”
“เอาทั้งหมดที่เจามี” ผูจัดการหลี่ตอบอยางรวดเร็ว “ความตองการใชตอนนี้มีสูง
และเพิ่มเร็วนัก เจามีสำรองไวบางหรือไม”
หมิงซิ่วยิ้ม “ขาจะไปดูให”
ผูจัดการหลี่กลาวอยางรอนรน “ขอบใจเจามากที่ยอมลำบาก”
อยางไรก็ตาม เมื่อหมิงซิ่วกลับหลังหัน รอยยิ้มของนางก็หายไป นางมีสีหนาครุนคิด
ขณะกาวขามประตูเขาไปในหองโถง นางออกปากสั่งสาวใชที่อยูขางๆ ทันที
“ไปเอาไหมสนธยาที่ศิษยนองสาวไวมาสักสองสามขด ไมสิ ขาจะไปเอาเอง กองไหม
อยูที่ใด”
บทที่ 107 ประโยชนใชสอยของไหมสนธยา
หมิงซิ่วนั่งลงยองๆ และเริ่มตนพิเคราะหกองไหมสนธยา
ไหมสนธยาที่อายฮุยสกัดไดในแตละวันวางไวขางๆ กองของผูอื่น ทีแรกมันไมไดมี
มากมายนัก แตหลายวันผานไปจำนวนก็กลับเพิ่มขึ้นอยางรวดเร็ว โดยสองเฉพาะชวง
สองวันที่ผานมา อายฮุยสามารถใชรังไหมไดถึงสองรังในวันเดียว และจำนวนของไหม
ที่สาวไดจากรังไหมสองรังนั้นสูงเปนกองพะเนิน
หมิงซิ่วไมไดสังเกตเห็นมากอน แตบัดนี้เมื่อนางมองไปที่กองไหม นางก็ประหลาด
ใจเปนยิ่ง
รังไหมสองรังตอวัน ทำไมเขาจึงวองไวเชนนั้น เขาทำมันลงไปไดอยางไร
กอนนี้นางไมไดคิดเรื่องนี้อยางถี่ถวนมากพอ ถึงตอนนี้นางจึงตระหนักไดแลววา
เรื่องนี้มันชางเหลือเชื่อ นั่นแปลวาความเร็วในการสาวไหมของอายฮุยนั้นยิ่งยวดนัก
หาไมแลวคงไมสามารถใชรังไหมถึงสองรังไดในวันเดียว
หรือเขาอาจจะเปนหนอนไหมกลับชาติมาเกิด แตกระทั่งหนอนไหมสนธยาก็คง
ไมอาจผลิตไหมไดไวเทาเขา
แลวหมิงซิ่วก็สังเกตเห็นความผิดปกติไดอีกอยาง นั่นคือไหมแตละกองนั้นมีสีที่ตางกัน
เล็กนอย ยิ่งระยะเวลาที่ไหมทำเสร็จหางกันมากเทาไร ก็ยิ่งเห็นความแตกตางของสีได
ชัดขึ้นเทานั้น และในทางกลับกัน ขดไหมที่ทำเสร็จภายในชวงสามวันติดตอกันนั้นก็
แทบจะมีสีเดียวกัน ความแตกตางเรื่องสีนี้แทบสังเกตเห็นไมไดดวยตาเปลา
นางคิดถูก! อายฮุยกำลังทดลองอะไรบางอยาง
ความแตกตางของสีของไหมแตละขดตรงหนานี้ยืนยันขอสันนิษฐานของนางได
เปนอยางดี
หมิงซิ่วหยิบไหมขึ้นมาขดหนึ่งแลวตรวจสอบดูอยางรอบคอบ การที่ผูจัดการราน
กลับมานี้ทำใหนางงุนงงเล็กนอย ผูจัดการหลี่เปนคนหัวใสซึ่งมักรอบคอบและเขมงวด
เสมอกับรายจายในแตละวัน และจะไมมีวันใชจายในสิ่งที่ไมจำเปน
นี่เปนหนแรกที่หมิงซิ่วเห็นเขาเหมาซื้อหมดโดยไมมีความลังเล
เวนแต...เวนแตเขาจะเชื่อวาเขาเปนฝายไดเปรียบในการซื้อขายครั้งนี้
หมิงซิ่วคิดอยางวองไว ไหมสนธยาไมไดถูกใชกันอยางแพรหลายนัก อีกประการ
หนึ่งก็เพราะเนื่องจากเสนใยมันมีขนาดเล็ก ความตองการเสนใยที่ยาวจึงมีสูง ดังนั้น
ขดไหมสั้นๆ พวกนี้จึงแทบไมถูกนำไปใชประโยชน
ชางเย็บปกที่ดีนั้นจำเปนตองมีความคุนเคยดีกับวัสดุที่นำมาใชเย็บปกถักรอย
เพราะวัสดุที่นำมาใชเย็บปกนั้นเปนเรื่องละเอียดออน วัสดุที่แตกตางกันยอมสงผลตอ
คุณภาพของผาแตละผืน
หมิงซิ่วไมไดใหความสนใจเปนพิเศษกับขดไหมพวกนี้มากอน บัดนี้หลังจากพินิจ
พิเคราะหไหมอยางละเอียดแลว นางก็ประหลาดใจในสิ่งที่ตนพบ
อายฮุยไมรูเลยวาหมิงซิ่วกำลังตรวจสอบไหมที่เขาสาวอยู เขามุงมั่นอยูกับการฝกฝน
การเปลี่ยนแปลงที่เขากำลังกาวผานในเรื่องของการฝกนั้นมีความเดนชัดมากขึ้น
ในชวงแรกๆ นั้น เขาควบคุมพลังธาตุใหมีความเชื่องชาที่สุดเพื่อใชในการสาวไหม
ตามคำแนะนำของหวังโสวชวนและหันอวี้ฉิน แตหลังจากการฝกอยางตอเนื่อง เขาก็
เริ่มเก็บเกี่ยวประสบการณ และจากนั้นเขาก็ไดทำการคนพบเรื่องใหมขึ้นมา
ชวงระหวางการสนทนากับอาจารยของเขานั้น อายฮุยตระหนักวาถึงแมอาจารย
จะเต็มเปยมไปดวยความรูทางทฤษฎี แตเขาแทบไมมีประสบการณในดานปฏิบัติเลย
หากถึงเวลาฝกวิชา โดยเฉพาะเรื่องที่ตองใชรายละเอียด ความขาดประสบการณของ
เขานั้นคงจะปรากฏใหเห็น
ยิ่งไปกวานั้น กรณีของอายฮุยก็ไมเหมือนใคร หวังโสวชวนไมเคยพบเจอใครเชน
เขามากอน
นี่เปนปญหาสามัญของอาจารยทุกคน ในขณะที่พวกเขาสามารถอธิบายทฤษฎี
ของตนเองไดอยางชัดเจน แตกลับแทบไมพูดถึงรายละเอียดเลย
อายฮุยเองก็ไมไดมีประสบการณการฝกวิชามากนัก แตเขาคุนเคยดีกับการเรียนรู
ผานการทดลองและความผิดพลาด หลังจากสนทนากับอาจารยหลายตอหลายรอบก็
ไดเขาใจทฤษฎีอยางแจมแจง อายฮุยไดรับแนวคิดที่ไมคอยชัดเจนนักเกี่ยวกับสภาพ
รางกายของเขา เรื่องนาสนใจอยางหนึ่งที่เขาคนพบคือความรูสึก ตอนสงผานพลังธาตุ
ผานตำหนักที่มือทั้งสอง ไมจำเปนตองเพิ่มความรุนแรงขึ้นควบคูไปกับการควบคุม
พลังธาตุใหชาลง
ในตอนฝก เขาพยายามเปลี่ยนความเร็วของพลังธาตุเพื่อเทียบความแตกตางของ
แตละระดับ
นี่เปนวิธีที่เขาคนพบความเร็วที่เหมาะสมที่สุดที่ใชกระตุนตำหนักที่มือของเขา
และความเร็วที่เหมาะสมนี้เร็วกวาความเร็วที่ชาที่สุดของเขามาก
ตอนนี้อายฮุยคุนเคยดีแลวกับการสาวไหม พลังธาตุของเขาเปนเหมือนดั่งกระบี่ ยามที่
มันถูกสงเกลียวผานเขาไปในไหมดวยความเร็วที่เหมาะสมนั้น เสนไหมก็จะไมขาด
อยางไรก็ดี เมื่อเริ่มเชื่อวาตนสามารถสาวไหมไดยาวสิบเมตรตอวันนั้น ความจริง
ขอนี้ทำใหใจเขาเตนอยางรุนแรง
ในความเร็วที่เหมาะสมอายฮุยสามารถสาวไหมไดไวกวามาก แตเมื่อพลังธาตุของ
เขาสงผานตำหนักที่มือ แรงกระตุนที่เขารูสึกไดนั้นจะรุนแรงมากเสียจนทำใหตำหนัก
ที่มือของเขาสั่นและทำใหเสนไหมขาด นี่คือสาเหตุที่ไหมที่อายฮุยสกัดนั้นยาวเพียง
หนึ่งเมตร
นั่นเปน...จำนวนเงินมหาศาล!
แมในใจจะสะอื้น แตอายฮุยก็ยังคงฝกฝนตอไป
เขาปลอบใจตนเองวาไมเปนไร เขาสามารถหาเงินไดมากกวานี้อยูแลวในอนาคต
แมความสูญเสียจะมีมาก แตเขาก็ยินดีที่ประสิทธิภาพในการฝกของเขานั้นพัฒนา
ไปอยางมากมายเชนกัน
แมความเร็วที่เหมาะสมนี้เร็วกวาแตกอนมาก แตก็ยังชากวาความเร็วในการ
ไหลเวียนของพลังธาตุในระหวางการตอสู ดังนั้นนี่จึงยังไมเปนภาระสำหรับเขามากนัก
ซึ่งหมายความวาเขาสามารถเพิ่มความเขมขนและระยะเวลาในการฝกได และ
ดวยวิธีนี้อายฮุยจึงมีพัฒนาการแบบกาวกระโดด
เขาสัมผัสไดชัดถึงการมีอยูของตำหนักฝามือของเขา
เมื่อพลังธาตุไหลผานฝามือ นอกจากแรงสั่นสะเทือนเล็กนอยแลว เขายังรูสึกได
ถึงความรอนเบาๆ ตรงตำหนักฝามือ
ไมมีสิ่งใดจะชูใจเขาไปกวานี้อีกแลว
ไมมีสิ่งใดจะนายินดีไปกวาความรูสึกที่จับตองไดถึงพัฒนาการของตัวเขาเอง
และวันนี้ อายฮุยก็สัมผัสไดวามีบางสิ่งที่เปลี่ยนไปเกี่ยวกับตำหนักฝามือของเขา
ทันทีที่เขาเริ่มตนฝกวิชา ในยามที่พลังธาตุไหลผานฝามือของเขานั้น มันรอนราวกับ
เปนหัวแรงบัดกรี และมันสั่นสะทานอยางดุเดือดมากกวาปกติ
ดังนั้นอายฮุยจึงระมัดระวังเปนพิเศษ เขารูสึกวาวันนี้จะตองเกิดการทะลวงขึ้น
เปนแน
แตสิ่งนี้ไมไดรบกวนสภาพจิตใจของเขาเลย เขายังคงสาวไหมอยางไมเรงรีบเฉก
เชนปกติ
การทะลวงนั้นจะเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติเมื่อสภาวการณทุกอยางถึงคราวอำนวย
ดวงตาเยือกเย็นดุจสายน้ำของเขาซุกซอนอยูในสายหมอก
เมื่อเห็นหมิงซิ่วกลับมา ผูจัดการหลี่ก็สงยิ้มแหยๆ เขารูวาเขาเผลอแบไตไปเสีย
แลว เขาเคยคิดวาหมิงซิ่วเปนหญิงที่เรียบรอยและสงางาม แตสิ่งที่เขาไมรูคือนางเปน
หญิงที่ชาญฉลาดดวย
หมิงซิ่วยิ้มตอบ
ผูจัดการหลี่กุมมือตนเองและยิ้มอยางเฝอนๆ “ไมมีสิ่งใดหลุดรอดจากสายตาเจา
ไดเลย”
เขารู ส ึ ก ผิ ด หวั ง เล็ ก น อ ย เขาตั ้ ง ใจจะหาผลประโยชน จ ำนวนมหาศาล แต
เปาหมายนี้ดูยากที่จะสำเร็จเสียแลว
“ขาปลื้มใจ” รอยยิ้มบนใบหนาของหมิงซิ่วจางหายไป แตน้ำเสียงของนางยังคง
ออนโยน ทาทีของนางดูแข็งขันขึ้นขณะกลาววา “โรงเย็บปกอวี้นั้นมุงเนนแต เพียง
เรื่องการเย็บปกถักรอยและไมสนใจในการคาดานอื่นๆ ทานเปนผูที่เกงกาจหาก
สามารถนำวัสดุนี้ไปใชการได เพียงแตไหมสนธยานี้ อายฮุยเปนผูทำขึ้นมา ขาเปน
ศิษยพี่ของเขา และขาคงไมอาจยืนเฉยมองดูทานเอารัดเอาเปรียบเขาได ขาคิดวาทาน
ควรรวมมือทำธุรกิจกับเรามากกวาการซื้อขายแบบครั้งตอครั้ง หากเรารวมมือกันได
ทานจะมีวัสดุที่ถูกจัดเตรียมไวใหพรอมเสมอ และเราตางก็จะทำกำไรไดมากขึ้นทั้งคู
ทานเห็นดวยหรือไม”
ผูจัดการหลี่เต็มเปยมไปดวยความชื่นชม “เจาชางใจกวางอยางที่ขาคิดไวไมมีผิด
หมิงซิ่ว ขาชื่นชมยิ่งนัก ศิษยนองของเจาเกงกาจนักที่ผลิตไหมสนธยานี้ขึ้นมาได มัน
แข็งแกรงราวลวดเหล็ก อีกทั้งยังคมมากดวย หากใชพลังธาตุในการทำ สามารถผาหิน
ไดเลยทีเดียว ขาแชชิ้นเถาไมมะเกลือหนาขนาดนิ้วหัวแมมือไวในน้ำมันจนกระทั่งนุม
แลวนำมาประกอบเปนลูกธนูรวมกันกับไหมสนธยาและหญาลวดทองคำ ลูกธนูดอกนี้
ขาสามารถเจาะทะลุแผนไมหนาสามนิ้วไดจากระยะไกลถึงหารอยกาว”
เขาเลาทุกสิ่งเกี่ยวกับกรรมวิธีและประโยชนใชสอยของไหมใหหมิงซิ่วฟงเพื่อ
แสดงความบริสุทธิ์ใจ แตทวานางไดสังเกตเห็นถึงความพิเศษของไหมสนธยามากอน
หนานี้แลว ไมนานนางก็สามารถคนพบประโยชนของมันไดดวยตัวของนางเอง
ดวงตาคูสวยของหมิงซิ่วเปนประกาย นางรูดีวานี่หมายถึงอะไร “ลูกธนูหนึ่งดอก
มีราคาเทาไร”
“ขาใชไหมสนธยาหนึ่งรอยเสนทำลูกธนูไดสิบดอก ขาขายทั้งหมดใหลูกคาผูหนึ่ง
ที่คุนเคยกันในราคาคันละสามหมื่นหยวน” ผูจัดการหลี่กลาวอยางภูมิใจ
หมิงซิ่วพยักหนา “หากเปนเชนนั้น ขาจะขอตัดสินใจแทนอายฮุยโดยการจัดหา
ไหมสนธยาใหแกทาน เพื่อเปนการตอบแทน ทานจะตองมอบสวนแบงจากกำไรสาม
สวนใหแกเขา ทานจะวาอยางไร”
ผูจัดการหลี่ประหลาดใจเล็กนอย “จริงหรือ”
จากวัสดุทั้งหมดนั้น ชิ้นที่สำคัญที่สุดก็คือไหมสนธยา เขาเตรียมจะเสนอสวนแบง
หาสวนใหกับหมิงซิ่วเสียดวยซ้ำ สามสวนนั้นเปนเรื่องที่เกินคาดสำหรับเขา
หมิงซิ่วเผยยิ้มประหนึ่งสายลมเย็นในฤดูใบไมผลิ นางกำลังจะเอยปากพูดบางสิ่ง
ขณะที่เกิดเสียงดังสนั่นราวกับฟาคำราม
พื้นดินสั่นสะเทือน
ทาทีของหมิงซิ่วเปลี่ยนไป นางไมมีเวลาพูดจนจบประโยคกอนจะรีบพุงเขาไปใน
โรงงาน
ศิษยนองอายฮุย!
บทที่ 108 ไหมสนธยาชนิดใหม
หมอกควันหลากสีสันพวยพุงสูทองฟา ดูคลายอสรพิษรายที่มีเขี้ยวยาว
โรงงานพังราบเปนหนากลอง ฝุนควันที่ลอยฟุงไปทั่วเปนตัวบงชี้ไดดีถึงความ
รุนแรงของการระเบิด
อายฮุยซึ่งมีผาพันแผลพันรอบตัวกำลังคลานออกมาจากซากปรักหักพัง แมตัวเขา
จะเปอนดำจากควันและไฟและดูย่ำแยมากก็ตามที แตเขาก็ไมไดรับบาดเจ็บแตอยาง
ใด เมื่อเห็นวาอายฮุยไมเปนอะไร หมิงซิ่วก็ถอนหายใจอยางโลงอก
ในตอนนั้นเอง หันอวี้ฉินไดยินเสียงดังจึงรีบวิ่งออกมา เมื่อนางเห็นวาอายฮุยไม
เปนอะไร แววตาอาทรของนางก็หายไป ชั่ววินาทีตอมา แววปรีดาก็วาบขึ้นในดวงตา
ของนาง นางพูดเยาะกับอายฮุย “ตอนนี้อาจารยของเจาก็ชวยเจาไมไดแลว อายฮุย
นอย เจารูหรือไมวาโรงงานนี้มีมูลคาเพียงใด ขาลงทุนกับมันไปราวแปดลาน ใบเสร็จ
ขาก็ยังเก็บไว ดูเหมือนเจาจะตองทำงานชดใชขาไปอีกหลายปเลยนะ อายฮุยนอย”
หมิงซิ่วลังเลอยูครูหนึ่ง แลวนางก็ขัดขึ้นมา “ทานปรมาจารย”
“เออหมิงซิ่ว เจาก็อยูที่นี่ดวยรึ” หันอวี้ฉินรูสึกยินดีที่ไดเห็นหมิงซิ่ว “เห็นไหม
อายฮุยเพิ่งทำโรงงานของขาพัง อยาลืมเอาใบเสร็จใหเขา อยาลืมคำนวณคาวัสดุที่เขา
ใชไปในการฝกแตละวันดวย หามเขาไปไหนจนกวาจะชำระหนี้จนครบ อายฮุย เจา
สามารถเรียนวิธีการเย็บปกใหไวขึ้นเปนสองเทาเพิ่มเติมไดจากศิษยพี่หมิงซิ่ว”
“เออ ทานปรมาจารย...” หมิงซิ่วตั้งสติแลวพูดออกไป “ขาคิดวาอายฮุยสามารถ
ใชหนี้ไดหมด”
หันอวี้ฉินประหลาดใจ “ทำไดอยางไร”
หมิงซิ่วหยิบขดไหมสนธยาที่อายฮุยเพิ่งทำเสร็จขึ้นมา “ดูนี่สิ ทานปรมาจารย”
“สั้นถึงเพียงนี้เชียว อายฮุยดูทาจะมือตกเสียแลว” หันอวี้ฉินขมวดคิ้ว แตเมื่อนาง
ไดสัมผัสไหมสนธยา ดวงตาของนางก็เบิกกวาง “ไม เดี๋ยวสิ ทำไมไหมสนธยาจึงเปน
เชนนี้”
ไหมสนธยาที่ บ างขนาดเส น ผมกลั บ แข็ ง และทนราวกั บ ลวดเหล็ ก ในฐานะ
ปรมาจารยเย็บปก หันอวี้ฉินมีความรูสึกละเอียดออนตอวัสดุมากกวาหมิงซิ่วนัก
นางลองใหเสนใยพลังธาตุซึมเขาไป แสงวาบสีเงินปรากฏขึ้นบนไหม รัศมีแสงพุง
มาจนขนคิ้วนางสัมผัสได
“เป น เช น นี ้ ไ ด อ ย า งไร” นางพึ ม พำกั บ ตั ว เอง นางเคยเห็ น ไหมสนธยามา
หลากหลาย เคยใชมาแลวจนนับไมถวน แตก็ไมเคยเห็นอะไรเชนนี้มากอน
ถึงตอนนี้อายฮุยก็สามารถพาตัวเองออกมาจากซากปรักหักพังได เขาดูโทรม
มากๆ ยกเวนผาพันแผลที่ยังเปนสีขาว สวนตัวเขานั้นเปอนดำไปดวยขี้เถาและควันไฟ
“อะไร...”
หนาตาของอายฮุยบูดเบี้ยวดวยความเจ็บปวดขณะเดินตรงไปหาพวกเขา แมเขา
จะไมไดรับบาดเจ็บ แตเขาก็ถูกหมอใบใหญหลนใสศีรษะ ตอนนี้เขารูสึกปวดราวไปทั่ว
สรรพางคกาย
หันอวี้ฉินเงยหนาขึ้นมาทันที “เจาทำไดอยางไร”
อายฮุยรูสึกสับสนเต็มที
หมิงซิ่วอธิบาย “อายฮุย ทานปรมาจารยกำลังถามวาเจาสามารถเปลี่ยนแปลง
คุณลักษณะของไหมสนธยาไดอยางไร”
“ขาเปลี่ยนคุณลักษณะของไหมสนธยาหรือ” อายฮุยรูสึกงุนงง “คุณลักษณะอัน
ใดที่ขาเปลี่ยน”
ดูจากทาทางของเขาแลว หันอวี้ฉินจึงรูว าเขานั ้นทำไปโดยมิ ไดตั ้ งใจ นางจึ ง
เปลี่ยนคำถามเปนถามอายฮุยถึงวิธีที่เขาไหลเวียนพลังธาตุ และเมื่อไดทราบแลว นาง
ก็พอนึกออก พลังธาตุทองของอายฮุยนั้นบริสุทธิ์และเฉียบคม ยามเมื่อถูกใสเกลียว
เขาไปในไหมสนธยา จึงชวยใหไหมนั้นมีความแหลมคมกวาเดิม นอกจากนี้ อายฮุยยัง
เพิ่มความเร็วในการอัดใสเขาไป จึงทำใหไหมมีความแข็งมากขึ้น นางประหลาดใจยิ่ง
นักที่ไหมสนธยามีคุณสมบัติเชนนี้ได
นางอดเหลือบมองอายฮุยไมได ศิษยของผูเฒาหวังคนนี้ชางเต็มเปยมไปดวยเรื่อง
นาประหลาดใจเสียจริง
ตลอดหลายปนับตั้งแตมีการคนพบไหมสนธยา ไหมนี้ก็ไดผานประวัติศาสตรการ
ใชงานที่หลายหลากมากมาย ไหมสนธยาชนิดตางๆ ที่มีอยูนั้นลวนถูกคนพบมานาน
เนิ่นแลว และดูเหมือนวาบัดนี้จะมีสมาชิกใหมเขาไปรวมวงดวยอีกชนิดแลว
ถึงแมวาอูสิงเทียนจะมีประวัติศาสตรที่ไมยาวนานนัก และพัฒนาการของพลัง
ธาตุนั้นยังเผชิญกับปญหาคอขวดในเรื่องของการคนพบใหมๆ ในทุกๆ วัน แตก็ยังถือ
เปนความสำเร็จที่เหนือธรรมดาสำหรับนักเรียนคนหนึ่งของสนามเหนี่ยวนำ
หันอวี้ฉินนั้นมีประสบการณโชกโชนในเรื่องของวัสดุ มองแวบแรกนางก็ประเมิน
มูลคาของไหมสนธยาชนิดใหมนี้ไดทันที
ผูคนในอูสิงเทียนนั้นนิยมชมชอบของใหมๆ พืชพรรณหรือวัสดุที่เปนของใหม
เอี่ยมนั้นมักจะสามารถทำเงินไดมหาศาล และผูใดที่สามารถเพาะปลูกพืชชนิดพิเศษ
อยางฝกถั่วเงามายาไดนั้นก็จะสามารถสรางความมั่งคั่งไดในชั่วขามคืน
นี่เปนสาเหตุที่ผูใชพลังธาตุมากมายกระตือรือรนในเรื่องการเพาะปลูกพืชพันธุใหมๆ
เมื่อรูวาความหวังของนางนั้นไดหลุดลอยไป อารมณของหันอวี้ฉินก็เปลี่ยนเปน
บูดบึ้ง นางจองอายฮุยเขม็งอยางโกรธขึ้งและกระทืบเทาเดินจากไป
“ทำไมทาน...” อายฮุยหันไปถามหมิงซิ่วอยางจับตนชนปลายไมถูก
หมิงซิ่ว รูดีว า ปรมาจารยของนางกำลั งคิ ดเช น ไร แต น างก็ บ อกอ า ยฮุ ยไมได
อยางไรก็ดี ในตอนนี้นางสังเกตเห็นผูจัดการหลี่กำลังมองมาที่ตน นางจึงเรียกเขาเขา
มา “ไดโปรดมาทางนี้เถิด ผูจัดการหลี่”
ผูจัดการหลี่ตั้งทาอยากเขามานานแลว แตเขาไมกลาเขามาใกลดวยเพราะเกรง
ปรมาจารยหันอวี้ฉิน เขากลัววาขอตกลงอาจจะถูกยกเลิก แตเมื่อหมิงซิ่วเรียกเขา เขา
จึงรีบตอบอยางไว “มาแลว!” และวิ่งไปหาพวกเขาทันที
หมิงซิ่วแนะนำอายฮุยใหผูจัดการหลี่ “นี่ศิษยนองของขา ชื่ออายฮุย อายฮุย นี่คือ
ผูจัดการหลี่”
อายฮุยรูสึกสับสน แตก็ทักทายผูจัดการหลี่ไป
หมิงซิ่วอธิบาย “ผูจัดการหลี่คนพบประโยชนอันยิ่งยวดจากไหมสนธยาของเจา
มันสามารถใชทำลูกธนูได จากนี้ไป เจาจงจัดหาไหมสนธยาใหผูจัดการหลี่ที่มีคุณภาพ
เทียบเทากับไหมที่เจาไดทำในชวงหลังมานี้ ผูจัดการหลี่จะแบงกำไรสามสวนใหแกเจา
เจาคิดเห็นเปนเชนไร อายฮุย”
แลวผูจ ัดการหลี่ก็ไดทราบวาหนุมผูนี้เปนผูผลิตไหม ถึงเขาจะยังดูออนวัยอยูมาก
แตในฐานะศิษยนองของหมิงซิ่ว เขายอมไมใชคนธรรมดาๆ เปนแนแท ผูจัดการหลี่
มองอายฮุยอยางแวววาม ถึงแมเขาตองสูญเสียกำไรไปสามสวน แตเขาก็จะมีวัสดุที่
เตรียมพรอมไวเสมอเปนการตอบแทน ซึ่งจะทำใหเขาสามารถผลิตธนูไดอยางตอเนื่อง
ธนูนั้นมีความตองการใชอยางแพรหลาย นี่จะกลายเปนเงินจำนวนมาก
“ไหมสนธยารึ” อายฮุยสายศีรษะ “ขาคงจะไมสาวไหมสนธยาอีกตอไปแลว”
หนาของผูจัดการหลี่เปลี่ยนเปนซีดเผือด
หมิงซิ่วเองก็ประหลาดใจ “ทำไมหรือ”
อายฮุยยิ้มอยางภูมิใจแลวชูมือขึ้น
หมิงซิ่วมองไปที่มือขางหนึ่งของเขา ชั่วอึดใจตอมา นางก็รูสึกอัศจรรยใจเปนยิ ่งนัก
“เจาเปดตำหนักมือไดแลวหรือ”
“ฮะฮา!ใชแลว!” อายฮุยตอบอยางตื่นเตน
“ขางไหนหรือ ซายหรือขวา” หมิงซิ่วถาม นางสงบลงนิดหนอยจากอาการตกใจ
เมื่อครู เมื่อเปรียบกับเรื่องไหมสนธยาและความเร็วที่เขาไดเรียนรูจากการทอผาคูนั้น
ก็ไมใชเรื่องนาแปลกใจนักที่เขาสามารถเปดตำหนักฝามือได ในสายตาของนาง นี่คง
เปนเรื่องงายดายสำหรับผูมีพรสวรรคเชนอายฮุย ตัวนางเองก็เคยเปดตำหนักมือได
เมื่อนานมาแลว นานมากเสียจนนางจำไมไดแลววามันเกิดขึ้นไดอยางไร
ผูจัดการหลี่รูสึกรอนใจ
เหตุใดพวกเจาจึงตองตื่นเตนกับเรื่องเปดตำหนักฝามือกัน ทำไมไมเจรจาเรื ่อง
ธุรกิจของเรากอน
อายฮุยหัวเราะนอยๆ “ทั้งสองขางเลย! เปดไดพรอมกัน!”
“เกงๆ” หมิงซิ่วกลาวเชยชม แตตอมานางก็เปลี่ยนเรื่องคุยอยางปุบปบ
“เจาจะไมลองพิจารณาเรื่องการคานี่หนอยหรือ เงินดีเชียวนะ นอยคนนักที่จะ
เมินเฉยจำนวนเงินมากขนาดนี้ได ดูเหมือนเจาจะไมใชคนธรรมดาทั่วไปเสียแลว”
เมื่อไดยินคำของหมิงซิ่ว อายฮุยก็หูผึ่ง “เงินจำนวนเทาไร”
บทที่ 109 ลูกธนูขนกระตาย
มันคงเปนเงินจำนวนมากมาย หาไมแลวหมิงซิ่วคงไมใสใจจะพูดถึง อายฮุยตอนนี้
ยากจนราวกับหนูในวัด เขาจำไมไดดวยซ้ำวามีเงินติดตัวอยูเทาไร และที่แยกวานั้นก็
คือ ของอุปโภคในแตละวัน อาทิ รังไหมสนธยา สมุนไพร วัสดุ และแรงงานคน ลวน
เพิ่มพูนรายจายใหเขาในแตละวัน
เขารูสึกอยางแรงกลาวาการฝกวิชานั้นชางเปนการผลาญเงินเสียจริงๆ
ทำไมเขาจึงไมรูตัวเสียตั้งแตแรก นั่นอาจเปนเพราะสิ่งที่เรียกวาการฝกของเขา
กอนหนานี้นั้นหางไกลจากมาตรฐานไปมาก
หากเปนเชนนั้น ชีวิตของผูใชพลังธาตุคงแสนลำบากเชนกัน อืมมม อาจจะไมก็ได
ใชวาทุกคนจะยากจนเหมือนเขา
หากผูใดที่มีหนี้สินพะรุงพะรัง พวกเขาคงเลิกวิตกกังวลเรื่องนั้นไปเลย อายฮุยไม
อยากคิดตอเรื่องหนี้สินของเขาอีกแลว ที่จริงคือเขาไมกลาจะนึกถึงมันอีก
เหตุผลที่เขาปฏิเสธขอเสนอของหมิงซิ่วไปก็เพราะเขานั้นอยากศึกษาเรื่องตำหนัก
ฝามือของตนเพิ่มเติม อายฮุยยังคงตื่นเตนกับเรื่องที่วาตำหนักฝามือของเขาทั้ งสอง
ขางนั้นสามารถทะลวงไดในเวลาเดียวกัน เขาจึงไมอยากเสียเวลาไปสาวไหมสนธยา
อีกตอไป เงินนะหรือ ไมมีใครสนใจหรอก!
ยกเวนตัวเขา!
ดวงตาของอายฮุยเบิกกวางแลดูระยิบระยับดุจดวงดาวบนทองฟา
หมิงซิ่วหัวรอตอกระซิก สีหนาของอายฮุยดูราวกับพวกหิวกระหายเงินทอง
หมิงซิ่วไมเคยรูมากอนวาอายฮุยเปนคนละโมบมากเรื่องเงิน ตอนนี้นางรูแลว เขา
ไปเรียนรูมาจากผูใดนะ
นาเสียดายที่เขาเปนศิษยของทานลุง ทานลุงนั้นยากจนยิ่งนัก แตเขาก็มักถือ
สันโดษ เขายอมรับความชวยเหลือของทานปรมาจารยไดบางในเรื่องเล็กนอย แตเขา
จะไมสบอารมณทันทีหากนางอยากใชจายเงินจำนวนมากเพื่อชวยเขา
ตลอดเวลาหลายป ทานปรมาจารยปรารถนาอยากชวยสนับสนุนดานการเงิน
ใหกับการคนควาของทานลุง แตทานลุงก็ปฏิเสธเสมอมา เขาขอทำทุกอยางดวย
ตนเองในลานเล็กๆ ของเขาที่เต็มไปดวยสิ่งของเหลือใช ดีกวายอมรับความชวยเหลือ
จากผูอื่น
ทานลุงเปนคนดื้อรั้นเสมอมา และทานปรมาจารยก็ไมสามารถทำอะไรได นอก
เสียจากยอมแพ
นี่เปนขอเสียขอเดียวของเขา เขาไมยอมโอนออนเรื่องเงินทองเลย ซึ่งถึงแมจะนา
นับถือ แตก็ชวนหงุดหงิดดวยเชนกัน
ในแงมุมนี้ อายฮุยกลับตางไปอยางสิ้นเชิง เขามักกระตือรือรนเรื่องเงินทองเสมอ
และดวงตาของเขาจะลุกโชนทุกครั้งที่ไดยินคำวา “เงิน” ทานปรมาจารยเคยบนเรื่อง
นี้ใหหมิงซิ่วฟงหลายตอหลายครั้ง บอกวาอายฮุยกำลังทำพรสวรรคของเขาใหเสีย
เปลา และเขาชะลาใจไมคิดวางแผนที่ดีสำหรับอนาคตเลย ถัดมานางก็จะเริ่มบนเรื่อง
ของทานลุง บอกวาเขานั้นสั่งสอนศิษยของเขาไดแยเสียจริง
แตหมิงซิ่วคิดวาไมเห็นเปนไร ทานลุงนั้นใจแข็งประหนึ่งจานเหล็ก แตกระทั่งจาน
เหล็กนั้นก็แตกหักได ในทางกลับกัน อายฮุยยังพอยืดหยุนได เฉกเชนเดียวกับ ไหม
สนธยาที่เขาสาว ทุกครั้งที่หมิงซิ่วเห็นผลงานจากหยาดเหงื่อและประสบการณที่เขา
ไดรับ นางจะรูสึกชื่นชมจากใจจริง ในขณะเดียวกัน นางก็อดที่จะเปนหวงเขาไมได ตัว
นางเองนั้นไมมีสิ่งใดตองกังวลตั้งแตสมัยนางยังเยาว นางไรซึ่งประสบการณเชนเขา
และไมอาจจินตนาการถึงชีวิตเชนนั้นได
“ลูกธนูแตละดอกถูกทำขึ้นจากไหมสนธยาสิบชิ้นและขายไดสามหมื่นหยวน เจา
ตองจัดหาไหมสนธยาใหผูจัดการหลี่ และเพื่อเปนการแลกเปลี่ยน เจาจะไดสวนแบง
กำไรสามสวน ผูจัดการหลี่จะเปนผูจัดหารังไหมสนธยาและสมุนไพรใหแกเจา”
หมิงซิ่วอธิบายทุกสิ่งอยางชัดเจนและรวบรัด
ลูกธนูดอกละสามหมื่นหยวน!
นี่เปนการปลนกันกลางวันแสกๆ ชัดๆ!
อายฮุยเกือบจะโพลงออกมาดังๆ แตอึดใจตอมา เขาก็ตระหนักไดวาเงินสวนหนึ่ง
นั้นจะตกเปนของเขา!
ปลนกันกลางวันแสกๆ ชัดๆ! แตก็ไมเห็นเปนไร
เขากัดลิ้นตัวเองและถามคำถามสำคัญตอไปวา
“ทานขายธนูไดมากเทาไรในหนึ่งเดือน”
ผูจัดการหลี่นึกอยูครูหนึ่งกอนจะตอบ “ลูกธนูสิบดอกที่ขาทำเมื่อหนกอนนั้นขาย
หมดไปแลว ขาไมแนใจวาจะขายธนูไดมากเพียงใดในหนึ่งเดือน แตเนื่องจากมันกำลัง
เปนที่ตองการ ขาเชื่อวาเราจะสามารถขายไดจำนวนมากแมราคาของมันจะสูงก็ตามที
หากเราดูยอดขายของสินคาที่ใกลเคียงกัน หลังจากเปดตลาดแลว ขาคิดวาเราจะ
สามารถขายลูกธนูไดราวสามถึงหารอยดอกตอเดือน”
ดวงตาของอายฮุยเบิกกวางเปนประกาย “หารอย! นั่นมันสิบหาลานหยวนเลย
เชียว และสามสวนคือสี่ลานหาแสนหยวนใชหรือไม”
ผูจัดการหลี่เริ่มเหงื่อตก “ไมขนาดนั้น กอนอื่นเราตองพิจารณาถึงคาใชจาย
รวมถึงตนทุนของรังไหมสนธยา คาแรงคนงาน วัสดุ และคาเชาราน อยางนอยสอง
สวนของราคาจะตองนำไปใชตรงจุดนั้น ขาคิดวาหมิงซิ่วคงพอนึกออกเชนกัน” เขาหัน
ไปหาหมิงซิ่ว “เจาก็รูวาขาไมไดปด”
หมิงซิ่วพยักหนาดวยรูวาผูจัดการหลี่นั้นพูดความจริง
“ตอไป ในชวงเริ่มแรก เราคงขายลูกธนูถึงหารอยดอกไดยาก เพราะกอนที่พลัง
ของธนูจะเปนที่ยอมรับ คงไมมีใครกลาซื้อครั้งละจำนวนมากๆ ขาจะลองติดตอกลุม
ลูกคาประจำกอน คาดวาคงจะขายลูกธนูไปไดจำนวนหลายโหล และเมื่อมันเปนที่
ยอมรับของผูคนสวนใหญ ยอดขายก็จะเพิ่มขึ้น แตในชวงแรกนี้ ขาคิดวาเราคงขายลูก
ธนูไดมากสุดเดือนละสามสิบถึงหาสิบดอก”
ผูจัดการหลี่เปนคนหัวเกา ซึ่งมันจำเปนตอเขา หากเขาโออวดถึงรายไดที่อาจจะ
เกินจริง แตกลับทำไมไดดังที่ตั้งเปาไว เขาคงทำตัวเองเดือดรอน เพราะชายหนุม
ตรงหนาของเขาคงไมปลอยเขาไปงายๆ เปนแน
จากสามรอยถึงหารอย เหลือเพียงสามสิบถึงหาสิบ ชองวางมันชางหางกันมาก
และจำนวนเงินที่เขาจะหาไดนั้นชางหางไกลจากที่เขาจินตนาการไวเหลือเกิน
อายฮุยจองมองเขาอยางไมคอยพึงใจนัก แตเขาก็บอกตัวเอง “เอาเถอะ ก็ยัง
ดีกวาไมไดอะไรเลย”
“ลูกธนูหาสิบดอกกับกำไรดอกละสองหมื่นสี่พันหยวน สามสวนก็จะเปนสามแสน
หกหมื่นหยวน”
หมิงซิ่วบอกอายฮุยอยางออนโยน “อยาหวงเลย กำไรในชวงแรกอาจไมมาก แตนี่
เปนการคาระยะยาว อีกอยาง มันไมจำเปนตองใชไหมจำนวนมากนัก จึงไมสงผล
กระทบตอการฝกของเจาเปนแน ขาคิดวาเจาทำได”
“สามแสนหกหมื่นหยวนก็เปนเงินจำนวนมากโขสำหรับขาแลว” อายฮุยพูดอยาง
มีความสุข
แตผูจัดการหลี่ยังไมวางใจเขานัก ในฐานะลูกศิษยของปรมาจารย เงินสามแสน
หกหมื่นหยวนอาจไมเพียงพอสำหรับเงินเก็บของเขา เขารีบตอบอยางรวดเร็ว “ทันที
ที่เราเปดตลาด ยอดขายก็จะเพิ่มขึ้น อยางไรก็ดี เราตองตั้งชื่อใหมใหวัสดุชิ้นนี้ เพื่อ
ไมใหผูใดรูวาแทจริงแลวมันคือไหมสนธยา”
“ถูกตอง” หมิงซิ่วพยักหนา “เจาตั้งชื่อใหมันได อายฮุย มันสมควรมีชื่อใหม หาก
ขาไมไดเห็นมันดวยตามากอน ขาก็คงไมนึกเชนกันวามันจะเกี่ยวของกับไหมสนธยา”
“ใชๆ ขาผลิตอาวุธมานานหลายป ยังไมเคยพบไหมสนธยาเชนนี้มากอนเลย”
ผูจัดการหลี่กลาว
อายฮุยไมปฏิเสธพวกเขา เขาคิดอยูครูหนึ่งจึงพูดวา
“เรียกไหมวา ‘ขนกระตายเงินหิมะ’ และเรียกลูกธนูวา ‘ขนกระตาย’ ดีหรือไม”
ผูจัดการหลี่สับสนเล็กนอยในทีแรก แตผานไปหนึ่งนาที เขาก็รูถึงเจตนารมณของ
อายฮุย เขาอดยกนิ้วชมเชยใหเขาไมได “หลักแหลมนัก”
ลำพังชื่อของมันไมไดมีความหลักแหลมแตอยางใด แตวิธีนี้ ลูกคาก็จะคิดวามันทำมา
จากขนของกระตายสักพันธุหนึ่ง ดวยเหตุนี้ จึงไมมีใครที่จะรูไดวาเสนดายเงินสีขาว
หิมะนี้แทจริงแลวคือไหมสนธยา เมื่อเขานึกถึงพวกอยากทำเลียนแบบที่จะเริ่มไลลา
กระตายทุกสายพันธุเพื่อนำมาใชทำเปนวัสดุนั้น ผูจัดการหลี่ก็อดหัวเราะออกมาไมได
เด็กหนุมผูนี้เหลี่ยมจัดเสียจริง!
ผูจัดการหลี่แอบจดบันทึกในใจวาใหระวังและอยาทำใหสหายผูนี้ขุนเคือง ถึงอายฮุย
จะไมรูตัวเอง แตเขาเปนผูที่เฉลียวฉลาดมากจริงๆ
กระทั่งหมิงซิ่วยังอดไมไดที่จะพูดวา “ชื่อนี้ชางโหดรายตอพวกกระตายนัก”
อา ยฮุย หัว เราะคิก คัก ทั้งคูไม มี ผู ใดล ว งรู ความตั ้ ง ใจจริ งของเขาเลย คำว า
“กระตาย” ออกเสียงคลายกับ “กระมพี” ซึ่งแปลวาผูมั่งคั่ง เมื่อธนูของเขาขายได
กำไร เขาก็จะกลายเปนกระมพี!
“แตขนกระตายจะยาวไดถึงเพียงนี้เชียวหรือ” หมิงซิ่วถามอยางสงสัย
“ทานไมรูหรอกรึ” อายฮุยประหลาดใจ “ขาเคยเห็นกระตายขนยาวกวานี้มาแลว
ในแดนราง พวกมันดุรายมาก สามารถกัดชิ้นไมออกจากตนไมไดขนาดหนาเทาชามใบ
หนึ่งเชียว พวกมันชอบกินไมพุม ใบไม และเนื้อสัตว ขนพวกมันก็ดูคลายกับไหม
สนธยานี่ละ”
ผูจัดการหลี่ประเมินอายฮุยต่ำไปมาก เขารูสึกทึ่งเมื่อไดยินวาอายฮุยเคยไปที่แดน
รางมากอน บรรดาศิษยของปรมาจารยผูนี้ดูเหมือนจะไมมีผูใดที่ธรรมดาเลย...
แดนราง…
หมิงซิ่วจำรายละเอียดนาอัศจรรยและบรรดาเหลาสัตวพิลึกพิลั่นตางๆ ในแดน
รางที่หลี่เหวยเคยเลาใหฟงได นางจึงอดไมไดที่จะหลงเสนหดินแดนลึกลับแหงนี้
บทที่ 110 ความกังวลใจของหมิงซิ่ว
ถึงแมอายฮุยจะยังไมไดจัดหา “ขนกระตาย” มาใหเพิ่ม แตผูจัดการหลี่ก็มอบเงิน
มัดจำจำนวนหนึ่งใหแกเขาโดยไมลังเล เขากำลังแสดงความใจกวางเพราะอายฮุยเริ่ม
กังขาวาเขานั้นเกงกาจพอที่จะทำเงินไดจริงหรือไม
ไมรีบถือโอกาสคากำไร ก็ไมไดเงิน!
เมื่อนางสังเกตเห็นความกังวลในน้ำเสียงของอายฮุย หมิงซิ่วก็อดระเบิดเสียง
หัวเราะออกมาไมได “อายฮุย เจานี่ชาง...จริงจังเสียจริง แตหากเจาคิดสงสัยวาเขานั้น
เปนคนเขลาหรือไม เจาเลิกกังวลเรื่องนี้ไปไดเลย เขาทำธุรกิจการคารวมกับโรงงาน
ของเรามาหลายปนัก และเขาเปนพอคาที่เกงกาจ เหตุผลที่เขาทำใจกวางเชนนั้นก็
เพราะเราขอสวนแบงกำไรจากเขานอยกวาที่เขาคาดการณไว”
“นอยกวาที่คาดการณไวหรือ” อายฮุยเบิกตากวาง เขาทำทาเหมือนจะวิ่งออกไป
ตามผูจัดการหลี่กลับมาเสียบัดนั้น
หมิงซิ่วชำเลืองมองเขา “เจาคิดวาขาจะยอมใหเจาเสียผลประโยชนหรือ”
อายฮุยหนาเจื่อน “ไมอยูแลว ขาไมใชคนเนรคุณ! ขาปลื้มใจที่ทานชวยเหลือขา
มาตลอด ขามั่นใจวามันตองดีเพียงพอตอขาแลว”
อายฮุยหมายความตามที่พูดจริงๆ ไมมีคำพูดใดของเขาที่ขัดแยงกับความรูสึกที่
แทจริงเลย หมิงซิ่วชวยเหลือเขามากเทาที่นางจะชวยไดมาตลอด บางครั้ง กระทั่ง
หันอวี้ฉินเองก็ไมทราบวานางทำอะไรไปบาง เขารับรูเรื่องนี้ดี
หากผูใดที่มีพี่สาว นางผูนั้นควรจะเปนแบบหมิงซิ่ว
กระทั่งปรมาจารยหันอวี้ฉินผูซึ่งมีใบหนาดุดันอยูตลอดเวลา ที่จริงแลวนางก็
เมตตาตอเขา นางแคไมพึงใจที่อายฮุยไมสามารถทุมเทใหกับการเย็บปกถักรอยได
อยางเต็มที่ นางมักบนอยูตลอดเรื่องเงินที่เขาเปนหนี้นางอยู
แตนางไมเคยลังเลที่จะเอาวัสดุที่จำเปนสำหรับการฝกวิชาใหแกเขา อาจารยของ
เขาก็เปนคนดีเชนกัน ถึงแมพูดกันตามตรงวาบางครั้งเขาอาจจะพึ่งพาไมคอยไดและ
โออวดวิชาไปบาง เขานั้นเกงเฉพาะในดานทฤษฎี แตกลับไมรูอะไรเลยเกี่ยวกับการฝก
ปฏิบัติจริง เขาไมใชผูที่สมบูรณแบบเลย
ถึงกระนั้น อายฮุยก็เชื่อวาทานอาจารยเปนอาจารยที่เกงที่สุด อาจารยหญิงของ
เขาก็เปนอาจารยหญิงที่เยี่ยมที่สุด และศิษยพี่หมิงซิ่วก็เปนศิษยพี่ที่ดีที่สุดที่เขาจะ
สามารถหาไดบนโลกใบนี้ คนเหลานี้เปนหวงเปนใยเขา รักเขา และชวยเหลือเขาอยาง
ดีที่สุดเทาที่จะทำได
เขาไมใชคนเนรคุณ!
ตวนมูหวงฮุนซึ่งอยูไกลออกไปมาก จามออกมาสองครั้ง ทั้งที่ไมรูวาอายฮุยกำลัง
พูดสิ่งใดอยู
หมิงซิ่วสัมผัสไดถึงความจริงใจในคำพูดของอายฮุย นางยิ้มและอธิบายอยางใจเย็น
“เจาจะมีอนาคตที่สดใส อายฮุย ธุรกิจนี้เปนแคเพียงจุ ดเริ่มตน จริงอยูที่ข า
สามารถเรีย กรอ งขอสว นแบ งของกำไรที ่ มากกว า นี ้ ได แต น ั ่ น ไม ใช เ รื ่ อ งจำเป น
เนื่อ งจากเจา เปนเพียงผูที่จ ัดหาไหมสนธยาเท านั ้น หากเจ า เอากำไรมากเกินไป
ผูจ ัดการหลี่จ ะขาดความกระตือรื อ ร น เพราะการผลิ ต การขาย และการพั ฒนา
ชองทางตางๆ นั้นลวนขึ้นอยูกับเขา เมื่อเวลาผานไป ความขัดแยงยอมจะเกิดขึ้น
ระหวางเราไดเปนแน เมื่อเปนเชนนั้น เขาอาจจะหาผูอื่นมาปลอมแปลงไหม หรือไมก็
เริ่มทำธุรกิจใหมดวยตัวของเขาเอง แตตอนนี้ เมื่อเจาขอสวนแบงเพียงสามสวนของ
กำไร ซึ่งเปนเรื่องที่ยอมรับไดในการทำการคาอิสระทั่วไป เขาจะไมรูสึกวาเขากำลัง
ทำงานใหกับเจา แตเขาจะมองวามั น เปนธุ รกิ จของเขา ดวยวิธีนี้ เขาจึงจะไม ทิ้ง
โรงงานของเราไปหาที่อื่น และธุรกิจก็จะดำเนินตอไปไดอีกนาน”
อายฮุยพยักหนา ในเรื่องของการทำธุรกิจการคา อายฮุยนั้นดอยกวาหมิงซิ่วอยาง
ไมตองสงสัย นางเปนผูที่ชวยจัดการเรื่องตางๆ ในโรงงานมานานหลายป
“ถึงแมสัดสวนของกำไรที่เราไดจะไมมากนัก แตรายไดของเจาจะคอยๆ เพิ่มพูน
มากขึ้นตามการเติบโตของธุรกิจ อีกอยาง เจาจะไดมีเวลาฝกวิชามากขึ้น ในอนาคต
เจาจะรูถึงประโยชนที่การฝกวิชาของเจาจะไดรับจากรายไดที่มั่นคง”
อายฮุยรูสึกมีแรงขับเคลื่อนจากคำอธิบายที่แสนใจเย็นของหมิงซิ่ว เขาจึงตอบ
อยางตั้งใจ “ขาจะจดจำเอาไว”
ความหัวแข็งและดื้อรั้นของอายฮุยจางหายไป ตอนนี้เขากลับเปนเหมือนสิงโตที่
ถูกถอดเขี้ยวเล็บ เขาเชื่องเฉกเชนแมว
อายฮุยเดินจากไป หมิงซิ่วไมไดรั้งเขาไว นักเรียนทุกคนคงจะตื่นเตนเปนที่สุดที่
สามารถเปดตำหนักแหงใหมได และคงใจจดใจจออยากลองเปดตำหนักแหงตอไป
นางชายตามองไปที่โรงงานที่บัดนี้เหลือแตซากและคิดจะหาคนมาเก็บกวาด แต
ทันใดนั้นนางก็นึกบางอยางขึ้นมาได
นางเพิ่งนึกไดวานางลืมถามคำถามที่สำคัญไปขอหนึ่ง เหตุใดการเปดตำหนักใหม
ของอายฮุยจึงนำไปสูการระเบิด
การเปดตำหนักใหมของแตละคนนั้น จะใหผลลัพธที ่แตกตา งกัน ไปขึ้ นอยู กั บ
ลักษณะทางกายภาพของคนผูนั้น แตหมิ่งซิ่วไมเคยไดยินวาเคยมีผูใดเปดตำหนักใหม
ไดดวยการระเบิด
การระเบิด…
“ระเบิดหรือ” หลี่เหวยประหลาดใจกับเรื่องที่หมิงซิ่วเลาใหเขาฟง เขาจึงถาม
“เจาวาตำหนักฝามือของเขาเปดใชไดพรอมกันทั้งสองขาง และมีการระเบิดเกิดขึ้นใน
กระบวนการดวยเชนนั้นหรือ”
“ใช โรงงานถึงกับพังราบเปนหนากลอง” หมิงซิ่วกังวลเล็กนอย “วิธีการฝกวิชา
ของอายฮุยมีปญหาอันใดหรือไม”
คำถามนี้หมิงซิ่วใชเวลาไตรตรองอยูพักหนึ่งกอนตัดสินใจถามหลี่เหวยเพื่อขอ
ความชวยเหลือ ทานปรมาจารยสำเร็จวิชาดานเย็บปกถักรอยแลวก็จริง แตนางไม
คอยสันทัดในเรื่องของการฝกขั้นพื้นฐาน ในทางกลับกัน แมทานลุงจะเกงในเรื่องของ
การฝกขั้นพื้นฐาน แตเขาก็รูเพียงแคทฤษฎี เขาไมรูเลยวาจะตองจัดการกับอุบัติเหตุ
ในระหวางการฝกไดอยางไรบาง
เมื่อเทียบกับพวกเขาแลว หลี่เหวยนั้นมีประสบการณมากกวานัก
เขาเปนผูมีประสบการณอยางแทจริง เขาปลอบใจหมิงซิ่ว “อยากังวลไปเลยซิ่ว
แมนี่จะไมใชปรากฏการณสามัญทั่วไป แตก็ไมไดแปลวามันจะไมเคยเกิดขึ้น”
หมิงซิ่วโลงใจเมื่อไดฟงหลี่เหวยกลาวเชนนั้น นางกังวลเปนที่สุดวาการระเบิดระหวาง
การเปดใชตำหนักฝามือทั้งสองขางของเขานั้นเปนผลจากการฝกที่ผิดวิธีหรือไม
หลี่เหวยดูเหมือนไมกังวลราวกับนี่เปนเรื่องปกติ แตภายในใจของเขานั้นกลับตก
ตะลึงเปนอยางยิ่ง
โดยทั่วไปแลว ยิ่งระดับฐานมีสูงเทาไร ผลลัพธที่เกิดจากการทะลวงไดสำเร็จนั้น
จะรุนแรงเปนเงาตามตัว สำหรับผูใชพลังธาตุบางคน การทะลวงนั้นอาจทำใหเกิดฟา
คะนองและสายฟา บางครั้งอาจมีพายุและเกิดน้ำไหลทวนกระแสได
นักเรียนในสนามเหนี่ยวนำนั้นไมคอยจะทำใหเกิดปฏิกิริยาที่รุนแรงในยามที่ตำหนัก
เปดออก ดวยวาพลังธาตุในตัวของพวกเขามีไมมากพอจะทำใหเกิดเหตุวิปลาสได
แตอายฮุยตางจากคนอื่นๆ เพราะเขามีลูกกลมพลังธาตุซึ่งบรรจุพลังธาตุที่ มาก
เกินกวาเขาจะควบคุมได นี่ดูเหมือนจะเปนสาเหตุที่ทำใหเกิดเหตุวิปลาสนี้ขึ้น
แมหลี่เหวยจะไมรูสาเหตุของการระเบิด แตเขาก็สนใจวาอายฮุยนั้นไดรับสิ่งใด
ตอบแทนกลับมา
ครั้งหนึ่งหลี่เหวยเคยไดยินวาเหตุการณประหลาดเหลานี้จะเกิดขึ้นเมื่อมีคนผูหนึ่ง
ไดเลื่อนระดับตนเองขึ้นไปอีกขั้น มีความเปนไปไดที่ผูใชพลังธาตุนั้นจะไดรับสิ ่งที่มี
ลักษณะเฉพาะ อยางไรก็ดี เรื่องเหลานี้มักเกิดขึ้นกับผูใชพลังธาตุในระดับสูงมากกวาผู
ที่ยังกำลังฝกอยูในขั้นพื้นฐาน
อายฮุยเพียงแคเปดตำหนักฝามือ แตมันกลับนำไปสูการระเบิด เกิดสิ่งใดขึ้นกับ
ตำหนักฝามือของเขา
หรือเขาคิดมากเกินไป ที่ผานมาคำกลาวนี้มักใชพูดถึงผูใชพลังธาตุในระดับ สูง
เขาไมแนใจวามันจะสามารถใชกับนักเรียนไดดวยหรือไม
หลี่เหวยขำตัว เอง ตอนนี้เขาค อ นข า งมั ่ น ใจแล ว ว า ตั ว เขานั ้ น คิ ดมากเกินไป
อยางไรก็ตาม อายฮุยเปนคนที่มีศักยภาพและมักทำสิ่งที่แตกตางอยูเสมอ นี่เปนสิ่งที่
คนวัยหนุมที่มีศักยภาพพึงกระทำ!
แมแตตอนที่เขาทานบะหมี่ เขาก็ยังแตกตางจากผูอื่น!
เมื่อเขานึกภาพอายฮุยกำลังทานบะหมี่ หลี่เหวยก็หัวเราะแลวพูดวา “ถาเจา
อยากรูวาทุกอยางนั้นเรียบรอยดีหรือไม มีวิธีที่แสนงายดาย”
หมิงซิ่วติดใจคำพูดของเขาขึ้นมาทันที “วิธีใด”
“พาเขาออกไปซื้อบะหมี่สิ” เมื่อเห็นหมิงซิ่วทำสีหนาไมเชื่อ เขาจึงพูดตอ “คราว
กอนในรานบะหมี่ ขาบอกวาจะเลี้ยงบะหมี่เขา เขานั่งตรงขามขา จองมองขาอยางใส
ซื่อและพร่ำพูดเพียงแตวา ‘ทานชางแสนดี หลี่เหวย’ ทีแรกนั้น ขาคิดวา ‘เอาละ เขา
เปนเด็กดี’ แตตอมา ขาตองตกใจมากเมื่อเห็นใบเรียกเก็บเงิน เจารูหรือไมวาเรากิน
กันไปกี่ชาม สิบชาม! นั่นหมายความวาเขากินบะหมี่ไปถึงเกาชามดวยตัวคนเดียว!
นั่นเปนตอนที่ขาเขาใจวาเหตุใดเขาจึงเปนผู ที่ซื่อตรงนัก ถูกแลว เขาซื่อตรง
เพราะบะหมี่นั้นเลิศรสยิ่งนัก ดังนั้น หากเจาอยากรูวาทุกอยางของเขาเรียบรอยดี
หรือไม จงพาเขาไปยังรานบะหมี่ หากเขากินบะหมี่ไดไมเกินหาชามแลวละก็ นั่นตอง
มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น...”
หมิงซิ่วหัวเราะออกมาเสียงดัง
บทที่ 111 ตำหนักฝามือทีแ่ ตกตาง
อายฮุยกำลังมีความสุขอยางทวมทนเมื่อคิดถึงเงินที่จะไดรับจากขอตกลงที่โรงเย็บปก
ดังนั้นเมื่อเขากลับมาถึงโรงฝกเขาก็คุยฟุงเรื่องนี้ใหโหลวหลานฟงอยูนานทีเดียว
โหลวหลานเหมอลอยในชวงสองสามวันที่ผานมาเพราะเขาตองแยกจากอาจารยเซา
แลวอายฮุยก็มัวแตยุงอยูกับการฝกฝนจนไมมีเวลาใหกับโหลวหลาน ดังนั้นอายฮุยจึง
ตั้งใจวาจะหาเรื่องโมใหโหลวหลานฟงตลอดชวงบายวันนี้
แตอายฮุยก็รับรูไดในที่สุดวาการโมตลอดบายนั้นเหนื่อยยิ่งกวาการฝกเสียอีก เขา
จึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนจาก “คุยโมกับโหลวหลาน” เปน “ฝกกับโหลวหลาน” แทน
โชคดีที่เขายังมีน้ำแกงพลังธาตุที่โหลวหลานทำใหอยู มันก็อรอยจนอายฮุยแทบ
จะกัดโดนลิ้นของตัวเอง
ความอรอยของน้ำแกงชวยลดทอนความเจ็บปวดที่เขารูสึกจากการที่ตองจายคา
วัตถุดิบเปนเงินถึงหนึ่งแสนหยวนไป
ในตอนค่ำโหลวหลานกลับไปยังบานอาจารยเซาและทำตัวใหยุงดวยการจัดขาว
ของที่อาจารยเซาทิ้งไว
โหลวหลานบอกวาเขาตองการใหอาจารยเซาเห็นบานที่สะอาดเรียบรอยในวันที่
เขากลับมา และนี่เปนสิ่งเดียวที่เขาพอจะทำใหกับอาจารยเซาไดในตอนนี้
เมื่อไดยินเชนนั้นก็ทำใหอายฮุยนิ่งงันไปพักใหญ เขาอยากจะบอกกับโหลวหลาน
วาอาจารยเซาคงจะไมกลับมาอีกแลว แตเมื่อคิดดูแลวเขาก็รูสึกวาโหลวหลานเขาใจ
เรื่องนี้ดี โหลวหลานแคอยากจะทำอะไรสักอยางเทานั้น
ถาหากเขาเปนโหลวหลานละ
อายฮุยเคี้ยวหญาที่คาบไว ดวงตาจองมองไปบนฟากฟาอยางไรจุดหมายจมอยูใน
หวงความคิด รสชาติของหญาคอยๆ กระจายไปทั่วปากของเขาเชนเดียวกับทองฟาที่
คอยๆ ถูกความมืดกลืนกิน
ความคิดของเขายอนกลับไปยังเถาแกโรงฝกดาบในดินแดนเกา
เวลาชางผานไปอยางรวดเร็วจริงๆ
เถา แกอ ยูบ นสวรรคสบายดีห รื อไม ข า สบายดี น ะ และข า ก็ ห วั งวา ท านจะมี
ความสุขเชนเดียวกับขาในตอนนี้ แตถาไม...ก็พยายามหาทางเอาเองนะ
อายฮุยหัวเราะออกมาเสียงดัง เสียงหัวเราะพัดพาความกังวลใจทั้งหมดออกไป
เขารวบรวมสติและเริ่มศึกษาตำหนักที่ฝามือทั้งสองของเขาอยางหลงใหล อะไรก็
ตามสามารถทิ้งไวกอนไดในตอนนี้
เขาเองก็ไมคาดคิดวาจะสามารถเปดจุดตำหนักบนฝามือทั้งสองขางไดพรอมกัน
การเปดตำหนักทั้งแปดนั้นไมมีลำดับที่ตายตัว แตโดยมากแลวผูคนจะเปดตำหนัก
ที่ฝามือกอนเปนอันดับแรกเพราะมันเปนจุดที่งายที่สุดนั่นเอง อยางไรก็ตามวิชาที่สืบ
ทอดตอกันมาในตระกูลเกาแกนั้นมีบางวิชาที่จำเปน ตองเปดตำหนักตามลำดั บ ที่
กำหนดไว ยกตัวอยางเชนวิชา [ดาบอุณาโลม] นั้นตองเปดตำหนักนภากอนเปนอันดับ
แรกซึ่งในความเปนจริงแลวถือเปนจุดที่เปดไดยากที่สุด
ดังนั้นจึงมีผูที่ฝก [ดาบอุณาโลม] สำเร็จเพียงไมกี่คนเทานั้นในแตละรุน และการ
สืบทอดวิชาก็มีการขาดชวงอยูหลายครั้ง
นอกจากตำหนักทั้งสี่ที่มือและเทาแลว การเปดตำหนักที่เหลืออีกสี่ตำหนัก นภา
ปฐพี ประตู มหาสมุทร ลวนแลวแตยากเย็นแสนเข็นทั้งสิ้น
อยางไรก็ตาม ไมวาจะเปดจุดที่งายหรือยากกอนเปนจุดแรก ทั้งแปดตำหนักลวน
ถูกเปดทีละจุดเสมอมา ดังนั้นการที่เขาสามารถเปดจุดตำหนักทั้งสองมือพรอมกันจึง
ทำใหเขาประหลาดใจ แตการระเบิดที่เกิดขึ้นระหวางการเปดตำหนักนั้นทำใหเขา
สับสนยิ่งกวา
ทำไมถึงมีการระเบิด
การระเบิดเกิดขึ้นอยางฉุกละหุกเกือบจะในทันทีทันใดและตัวเขาเองก็ไมรูวามัน
เกิดขึ้นดวยซ้ำ กวาจะรูวาตำหนักที่มือทั้งสองเปดแลวก็เปนตอนที่เขาไตออกมาจาก
ซากปรักหักพังแลวและตรวจสอบอาการบาดเจ็บของตัวเอง
อายฮุยจองมองไปยังมือทั้งสองขาง
ถุงมือเถาวัลยกระบี่ขาดกระจุย ถึงแมวาการระเบิดจะทรงพลัง แตเขาก็ปลอดภัย
ไรอันตราย ทวาเขาไมรูเลยวามันเกิดขึ้นไดอยางไร โชคยังดีที่โรงงานถูกตั้งแยกหาง
ออกไปเพราะกลิ่นอันไมพึงประสงคของสมุนไพรตางๆ ที่ใชในการสาวไหม นั่นทำให
ไมมีใครไดรับบาดเจ็บจากการระเบิด แมวาแรงระเบิดจะมากพอที่จะทำลายโรงงาน
ใหราบเปนหนากลองก็ตาม
อยางไรก็ตาม อายฮุยจำไดอยางชัดเจนวาตัวออนกระบี่เปนตัวจุดชนวนระเบิด!
ในขณะนั้นเขากำลังผสานพลังธาตุเขา สู ไหมสนธยา และยั งจำความรู สึกอัน
เขมขนที่เกิดขึ้นตรงจุดตำหนักมือขวาไดเปนอยางดี อายฮุยคิดวามันเปนการสั่นของ
ตำหนักมือขวาที่ทำใหไหมสนธยาขาดเหมือนกับที่เคยเกิดมาแลวนับครั้งไมถวน
แตตัวออนกระบี่ที่สงบนิ่งมาตลอดกลับเคลื่อนไหวขึ้นมาอยางฉับพลัน
อายฮุยมั่นใจวามันไมใชจินตนาการที่เขาคิดขึ้นมาเอง การเคลื่อนไหวนั้นชัดเจนมาก
เหมือนกับการเตนของหัวใจที่แรงและรัวเร็ว จากนั้นก็เกิดการระเบิดขึ้น!
ทั้งหมดเกิดขึ้นอยางฉับพลันทันดวนจนโดยที่อายฮุยไมรูตัวลวงหนาแมแตนอย
ทุกอยางเปนไปอยางรวดเร็วเกินกวาที่อายฮุยจะมีปฏิกิริยาอันใด เทาที่เขาจำไดก็
คือ การเคลื่อ นไหวของตัวออ นกระบี่ เป นต นเหตุ ของการระเบิด แต มั น เกิ ดขึ้นได
อยางไรนั้นเขาเองก็ไมอาจทราบได
อายฮุยรูสึกวาเรื่องนาปวดหัวกำลังจะตามมา
ตอนที่ฝงตัวออน เขาไมคาดคิดแมแตนอยวามันจะกลายเปนปญหา โดยเฉพาะ
อยางยิ่งเมื่อมันเกิดขึ้นตอนทะลวงผาน ในครั้งนี้เขาถือวาโชคดี ไมน อยที่ ไม ได รับ
บาดเจ็บจากการระเบิดและกลับสามารถเปดตำหนักที่มือซายไดอีกดวย
การเปดตำหนักเปนเรื่องที่ดีอยางไมตองสงสัย หากการระเบิดสามารถชวยเปด
ตำหนักที่สามได อายฮุยยินดีใหเกิดการระเบิดอีกในอึดใจเดียว
แตความไมเสถียรของตัวออนกระบี่นั่นออกจะนารำคาญ ไมอาจทราบไดเลยวาเมื่อไร
ที่มันจะปะทุขึ้นมาอีกหน ครั้งนี้ผลลัพธออกมาดีแตใครจะรูวาครั้งหนาจะเปนอยางไร
อายฮุยรูสึกผิดหวัง หากเขาสามารถถอนตัวออนกระบี่ออกไปไดเขาจะทำมันโดย
ไมรีรอเลย
เมื่อเทียบกับตัวออนกระบี่แลว ระบบหาคลังแปดตำหนักนั้นเสถียรกวา มาก
ตราบใดที่เขาขยันฝกซอม เขาก็สามารถประสบความสำเร็จไดดวยการทำตามระบบ
สวนตัวออนกระบี่นั้น มีเพียงสวรรคเทานั้นที่บอกได!
อยางไรก็ตาม ตัวออนกระบี่ไมอาจถอนออกได อันที่จริงเขาเองก็ไมแนใจวาเขา
สามารถปลูกตัวออนกระบี่ลงไปตั้งแตแรกไดอยางไร ใหถอนออกนี่ยิ่งแลวกัน
หลังจากคิดอยูนานอายฮุยก็ยังไมอาจหาความคิดดีๆ ไดเลย
เมื่อคิดดูดีๆ หากไมใชเพราะตัวออนกระบี่ เขาอาจตายไปแลวในแดนราง ไม
เหลือชีวิตใหมาฝกฝนตอนนี้หรอก
นั่นทำใหอายฮุยผอนคลายลงไดอีกครั้ง หากเขารูถึงผลกระทบทั้งหมดของตัว
ออนกระบี่ลวงหนา เขาจะยังเลือกที่จะปลูกฝงมันหรือไม คำตอบก็คงเปนใช เพราะใน
ตอนนั้น สิ่งเดียวที่เขาตองการก็คือเอาชีวิตรอด
ใชแลว อยางนอยเขาก็ยังไมตาย
การมีชีวิตรอดนั้นเปนเรื่องดี
ความรูสึกของอายฮุยสดใสขึ้นอีกครั้ง เขาเริ่มศึกษาตำหนักบนฝามือทั้งสองอยาง
ละเอียด
ลูกทรงกลมสีเงินปรากฏขึ้นที่ฝามือขวาของเขา
อายฮุยรูสึกประหลาดใจกับขนาดที่เล็กกระจอยของมัน
ลูกทรงกลมสีเงินที่มีขนาดเล็กพอๆ กับเมล็ดงานั้นอันที่จริงแลวเปนพลังธาตุของ
เขา ทันใดนั้นอายฮุยก็รูสึกไมแนใจขึ้นมาวาตำหนักที่ฝามือของเขานั้นเปดขึ้นแลวจริง
หรือไม เพราะเขาสังเกตเห็นวาตำหนักฝามือของเขานั้นมีบางอยางแตกตางจากของ
คนอื่น
การเปดออกของจุดใดๆ ก็ตามในหาคลังแปดตำหนักลวนมีประโยชนเฉพาะตัว
หนาที่พื้นฐานของแปดตำหนักนั้นก็คือเก็บสะสมพลังธาตุ และขีดจำกัดของมันก็ใหญ
กวาคลังชีวิตมากนัก
อายฮุยสันนิษฐานวาตำหนักที่เปดออกนั้นจะแบงเบาภาระของคลังชีวิตดวยการ
แบงกอนพลังธาตุมาเก็บไวหรืออยางนอยก็พลังธาตุบางสวน
อยางไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นตางไปจากที่เขาคาดคิดไว
เมื่ออายฮุยสำรวจตำหนักที่มือซาย เขาก็พบลูกทรงกลมสีเงินเชนกัน
แตไมนานเขาก็พบสิ่งอื่นเพิ่มเติมขึ้นมา
ลูกทรงกลมสีเงินที่ขนาดเล็กกวาเมล็ดงานั้น ไมไดอยูน ิ่ ง แตมันหมุนวนอยา ง
รวดเร็ว
หลังจากครุนคิดอยูพักหนึ่ง ในที่สุดอายฮุยก็เขาใจถึงเหตุผล มวลพลังธาตุที่อยูใน
คลังชีว ิตของเขานั้นมีแรงดึงดูดที่รุนแรงซึ ่งสามารถดู ดและซึ มซับพลั งธาตุ ทั่วทั้ง
รางกายของเขาได และเพื่อปองกันไมใหถูกดูดซับไป ลูกทรงกลมสีเงินนี้จึงตองหมุน
อยางรวดเร็วเพื่อตานแรงดึงดูดนั้น
ยกตัวอยางเชน น้ำแกงพลังธาตุที่เขาเพิ่งกินเขาไปนั้นแมวามันจะยังไมถูกยอยจน
หมด แตพ ลังธาตุที่มีอยูกลับ ถูกมวลพลั งธาตุ ในคลั งชีวิ ตของเขานั ้น ดู ดซับไปจน
หมดแลว
ถึงแมวาลูกทรงกลมสีเงินในตำหนักฝามือทั้งสองขางนั้นจะมีขนาดเล็กมาก แตมัน
ก็เปนเพียงที่เดียวที่สามารถสะสมพลังธาตุในกายของเขาเอาไวไดโดยไมถูกดูดซับไป
โดยกอนพลังธาตุในคลังชีวิต
ตอนนี้ก็มีปญหาอีกอยางหนึ่งที่เขาตองคิดหาทางแก นั่นก็คือเขาจะชักนำพลังธาตุจาก
มวลพลังธาตุไปยังตำหนักฝามือไดอยางไร
อยางไรเสียเขาก็ยังตองหาถุงมือเถาวัลยกระบี่คูใหมมาใช
เมื่อมองไปยังซากถุงมือเถาวัลยกระบี่ในมือ อายฮุยก็ยิ้มอยางขมขื่น เขาตองขอ
ความชวยเหลือจากอาจารยหญิง
เขาตองโดนดุอีกเปนแน
บทที่ 112 การระดมความคิดของพวกมีสติปญ
ญาปานกลาง
ณ โถงเกาเสียง วันแรก
“พี่ใหญ พวกเรากำลังคิดเรื่องหาเงินหารอยลานหยวน มันไมงายเลยที่จะหาเงิน
จำนวนมากขนาดนี้ ตอใหพวกเราทำเรื่องทุจริตอยางการเก็บคาคุมครอง ก็ยังเปนไป
ไมไดเลย อันที่จริงแลว แคหาเงินไดสักแปดลานหยวนก็นับวาเปนความสำเร็จอยาง
มากแลว”
“ทานพี่หวงฮุน มันเปนการยากที่จะหาเงินจากโรงฝกเชนกัน ตอนนี้เงินรางวัล
สูงสุดในการประลองก็คือหาแสนหยวน หากจะหาเงินหารอยลานหยวน ทานตองชนะ
การประลองถึงหนึ่งพันครั้ง ตอใหประลองวันละสามรอบทานก็ตองใชเวลาเปนปกวา
จะสำเร็จ”
“พี่หวงฮุน หากใหขาแนะนำ ขาคิดวาเปนไปไดหากเราคาอาวุธเพราะใครๆ ก็
ขาดแคลน แตทางที่ดีเราควรจะทำนอกพื้นที่สนามเหนี่ยวนำจะมีความเปนไปไดสูง
กวา หากขาวเรื่องการคาของเรากระจายออกไป พวกเราอาจถูกปราบปรามได”
“พี่หวงฮุน ทำไมทานไมลองขายตัวดูเลา ไม ขาไมไดหมายถึงขายตัวแบบนั้น แต
หมายถึงขายรูป ถา ยหรือ ของใชสว นตั ว อะไรพวกนั้ น ท า นเป น ขวั ญ ใจของสาวๆ
มากมาย พี่...พี่หวงฮุน ขาผิดไปแลว ขาผิดไปแลว โอย!”
ทุกคนตางก็เสนอความเห็นอยางออกรส อยางไรก็ตาม การที่จะหาเงินจำนวนมากถึง
หารอยลานหยวนเปนเรื่องที่เปนไปไมไดเลย แมบางคนจะใหความชวยเหลือตวนมู
หวงฮุนอยางจริงจัง แตคนสวนใหญกลับทำอยางตองการที่จะหนีไปใหพนจากภาระนี้"
โถงเกาเสียงเปนสถานที่พิเศษที่จะไมยอมรอมชอมกับใครหนาไหน ไมวาคนผูนั้น
จะมีชื่อเสียงยิ่งใหญเพียงใดก็ตาม
ดังนั้นจึงไมแปลกอะไรที่เสี่ยวเออจะกลาเดินมาพูดวา “ทานลูกคาทั้งหลาย เรา
กำลังจะปดแลว”
ตวนมูหวงฮุนรับฟงโดยไมเปลี่ยนสีหนาแมแตนอย หยิบบัตรสีทองเขมออกมา
และสงใหกับเสี่ยวเออ แลวพูดออกมาวา “ขาตองการใชลานนี้สักสองสามวัน”
เสี่ยวเออตกใจอยางมากเมื่อเห็นบัตรสีทองใบนั้น เขารีบวิ่งไปรายงานผูมีอำนาจ
ตัดสินใจในทันที
อูฉี่หรงสัมผัสไดถึงลางราย ทวาในเมื่อไมเคยมีใครเห็นบัตรสีทองนี้มากอน พวก
เขาจึงไมรูเลยวามันคืออะไร ทุกคนหันไปมองอวี๋จื่ออี แตเขาก็สายหนาบอกวาเขาเอง
ก็ไมเคยเห็นมากอนเชนกัน
แตกระนั้นพวกเขาทุกคนลวนรูสึกวาพี่หวงฮุนรองขอมากเกินไป
ทุกลานของโถงเกาเสียงลวนถูกจองลวงหนา แลวจูๆ จะมาขอใชไดอยางไร ไม
ตองพูดถึงเรื่องขอใชเปนวันๆ เลย
ผานไปพักหนึ่ง ผูจัดการใหญก็เรงรุดเขามาและกลาวดวยความออนนอมและ
เคารพอยางมาก “ขาขอโทษดวย พวกเราไมรูวาแขกผูมีเกียรติมาเยือนสถานที่ของเรา
ตามที่ทานแจงมาวาตองการจะใชลานหรรษาแหงนี้นั้นทางเราไมมีปญหา แตเราคิดวา
พื้นลานแหงนี้มีขนาดเล็กไปหนอย ทานตองการเปลี่ยนเปนลานโดที่ใหญกวานี้หรือไม
เราสามารถจัดเตรียมใหทานได”
ทั้งอวี๋จื่ออีและอูฉี่หลงอาปากคาง ตกตะลึงจนพูดอะไรไมออก
โถงเกาเสียงมีทั้งสิ้นเกาลานที่ตั้งชื่อตามระดับตัวโนตหาเสียงแรกอันไดแก โด เร
มี ฟา โซ และอารมณทั้งสี่ของมนุษยอันไดแก ปรีดา โกรธา โศกา หรรษา
ลานโดนับเปนลานที่ดีที่สุดในลานทั้งเกา มันไมเคยเปดใหบุคคลทั่วไปจอง เพราะ
เอาไวใชตอนรับแขกผูมีเกียรติของโถงเกาเสียงเทานั้น
แตโถงเกาเสียงถึงกับเชิญพี่หวงฮุนไปยังลานโด
ทุกคนตางตกตะลึงกันไปหมด!
ในชั่วขณะนั้น เหลาคุณชายทั้งหลายตางจองมองไปพี่หวงฮุนเปนตาเดียว
รีบตอบรับไปสิพี่หวงฮุน! ใหพวกเราไดสัมผัสกับลานโดในตำนานกัน พวกเราจะ
ไดเอาไปคุยโวใหคนอื่นฟงกันไดอยางภาคภูมิ
แตตวนมูหวงฮุนกลับทำในสิ่งที่พวกเขาไมคาดคิดมากอนดวยการตอบกลับไปวา
“ไมละ ขอบคุณ ขาวาที่นี่ก็เหมาะสมดีแลว”
เหลาคุณชายเจาสำราญสงเสียงออกมาดวยความผิดหวัง
“ขอรับ ตามแตทานจะเห็นควร” ผูจัดการตอบดวยความเคารพ “หากตองการ
อะไรเพิ่มเติม โปรดดึงเชือกสีแดงเสนนี้ มันเชื่อมกับกระดิ่ง เราจะรีบมาโดยเร็วที่สุด”
ตวนมูหวงฮุนพยักหนา “เจาไมจำเปนตองทิ้งคนไวคอยรับใช กลับไปพักผอน
ตามปกติเถอะ จัดอาหารใหพวกเขาดวย”
เขาสงสายตาที่สื่อความหมายไปยังเหลาคุณชายแลวกลาววา “ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล”
ผูจัดการมองไปยังทุกคนแลวโคงคำนับดวยความเคารพ “ขอรับ”
วันตอมา
ทุกคนตางทอแทและกระสับกระสาย โถงเกาเสียงไมสงใครเขามา พวกเขาไดรับ
เพียงอาหารประทังชีวิตเทานั้น และมันก็แหงกรังจนยากจะทำใจเอาเขาปากได
แตพี่หวงฮุนกลับกินมันไดอยางสบายอารมณราวกับมันเปนอาหารเลิศรสก็ไม
ปาน หลังจากกินอาหารในมือหมด เขาก็กลาวอยางเรียบเฉยวา “พระอาทิตยขึ้นแลว
มาระดมความคิดกันตอเถอะ”
“พี่หวงฮุน ขามีเรียนวันนี้...”
“ชางปะไร”
“พี่หวงฮุน ขาตองไปพบทานพอคืนนี้ ทานพอขาเขมงวดมาก...”
ตวนมูหวงฮุนดึงเชือกแดงเพื่อสั่นกระดิ่ง ไมนานหลังจากนั้นผูจัดการก็เขามารับ
คำสั่งจากตวนมูหวงฮุนและหันหลังจากไปอยางรวดเร็ว
สองชั่วโมงตอมา ก็มีชายหนาเหลี่ยมวัยกลางคนเดินตามผูจัดการเขามา
“ไอลูกเวร! ถาเจากลาทำใหคุณชายตวนมูเสียแผน ขาจะหักขาเจาเมื่อกลับถึงบาน”
“โอย อาก โอย พี่หวงฮุน ขะ...ขารูสึกไมสบาย...”
เปรี้ยง!
รอยเทาประทับชัดเจนบนใบหนาของเขา รางกายของเขาแข็งเกร็งอยูครูหนึ่ง
กอนที่จะลวงลงไปนอนกองกับพื้น
ตวนมูหวงฮุนกลาวดวยสีหนาไรอารมณวา “นี่ถึงเรียกวารูสึกไมสบาย”
วันที่สาม
มองไปยังกลุมหนุมเจาสำราญที่นั่งเศราอยูรอบๆ ตัวเขาแลว ตวนมูหวงฮุนก็รูสึก
ไดวาเขาเขาใจความหมายของคำวา “พวกไรประโยชน” ไดอยางแทจริงแลว
หลังจากขบคิดกันมาสามวันสามคืน เหลาพวกโงเงาไรความสามารถก็ยังไมอาจ
หาความคิดดีๆ ที่พอจะเปนไปไดออกมาแมแตขอเดียว
อวี๋จื่ออีที่กำลังหนามืดเพราะความหิวมองไปที่พี่หวงฮุนและเห็นสีหนาไมพึงพอใจ
ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาที่ผานไป เขารูวานี่เปน สัญญาณเตือนใหรูว า สั ตว
ประหลาดกำลังจะอาละวาดในไมชานี้
ทำใหเขาตองกลาวออกมาอยางยากเย็นเข็ญใจวา “พี่หวงฮุน พวกเราพยายาม
อยางมากที่จะคิดหาวิธีหาเงินหารอยลานหยวน แตเมื่อจำนวนเงินเกินหนึ่งรอยลาน
แลว มันก็ยากเกินกวาที่จะหาไดในสนามเหนี่ยวนำที่เล็กจอยแหงนี้ ทานจะตองมี
ความสามารถสูงสงถึงจะหาเงินมากถึงหารอยลานหยวนได”
เปรี้ยง!
ตวนมูหวงฮุนเตะอวี๋จื่ออีลงไปกองกับพื้น ใชเทาเหยียบหนาอกของอวี๋จื่ออีไวกอน
จะกลาวดวยสีหนาเยือกเย็นวา “เจากำลังหาวาขามีความสามารถไมพอเชนนั้นหรือ”
อวี๋จื่ออีตัวสั่น เขาอยากจะตบหนาตัวเองหลายๆ ฉาด เขาพูดอะไรผิดๆ เชนนี้
ออกไปอีกไดอยางไร
“ขาคิดออกแลว ขาคิดออกแลว ฮาฮาฮา ขาคิดออกแลว พี่หวงฮุน ขาคิดออกแลว”
อูฉี่หรงกระโดดโลดเตนดวยความยินดี
ทุกคนมองไปยังอูฉี่หรง น้ำตาเออขึ้นมาที่ดวงตาอันเปยมดวยความหวัง
หลังจากผานไปสามวันสามคืนเต็มๆ อูฉี่หรงเหนื่อยลาโรยแรงยิ่งนัก แตวาในขณะนี้
ดวงตาของเขาเปลงประกายเจิดจา “มันยากเกินไปที่จะหาเงินหารอยลานหยวนดวย
วิธีปกติธรรมดา ดังนั้นเราตองทำในสิ่งที่แปลกใหม พี่หวงฮุนเปนผูใชธาตุไม พวกเจา
ลืมไปแลวหรือวาผูใชธาตุไมมีจุดเดนในเรื่องใด”
“การรักษา!”
“วิ่งหนี!”
เปรี้ยง!
รางหนึ่งลอยขึ้นไปกลางอากาศ
สีหนาของตวนมูหวงฮุนยังคงไรอารมณใดๆ เมื่อเขารั้งเทากลับมา
เปนความจริงที่วาผูใชธาตุไมนั้นไมคอยชอบอยูในสนามรบ และเรื่องนี้เห็นได
เดนชัดในชวงหลายปมานี้ ในสิบสามหนวยมีหนวยธาตุไมอยูสองหนวยไดแก หนวย
หญามรณะ และหนวยไมแท การหลบหนีไมใชเรื่องใหญอะไรสำหรับหนวยไมแท
เพราะหนาที่หลักของพวกเขาคือการรักษาพยาบาล สวนในหนวยหญามรณะนั้นมี
สถานการณที่ไมนาพอใจของผูใชธาตุไมอยูมากมาย ถึงแมวามันจะถูกประกาศวา
เกิดขึ้นเนื่องจากกระบวนการคัดสรรคนอยางเขมงวด แตเหลารุนเยาวของตระกูลทรง
อิทธิพลลวนรูเหตุผลที่แทจริงอยางแจมแจง
อยางไรก็ตามผูมีอำนาจระดับสูงในอูสิงเทียนไมคอยพอใจกับเรื่องนี้
ตวนมูหวงฮุนจองไปทางอูฉี่หรงที่กำลังงุนงงและกลาววา “พูดตอซิ”
อูฉี่หรงไดสติโดยพลัน และรีบพูดตออยางกระวีกระวาด “ผูใชธาตุไมมีความ
เชี่ยวชาญในการเพาะปลูกพืชสายพันธุใหมๆ ขาสงสัยวาพวกเราจะสามารถใชแนวคิด
นี้ทำอะไรไดบางหรือไม เราไมจำเปนตองทำอะไรยิ่งใหญแบบตนถั่วเงามายา แคสาย
พันธุยอยที่มีความสามารถในการประยุกตใชไดจริง เราก็อาจสามารถหาเงินหารอย
ลานหยวนไดงายๆ ดวยการขายสายพันธุนี้ออกไป”
ตวนมูหวงฮุนดูเหมือนจะครุนคิดอยางหนัก จายเงินหารอยลานหยวนเพื่อซื้อ
วัตถุดิบชนิดใหมนั้นไมถือวาเปนราคาที่แพงเกินไป
“ยิ่งไปกวานั้น พวกเราก็สามารถชวยในสวนนี้ไดเชนกัน พวกเราชวยเหลือพี่หวงฮุน
โดยการสืบหาขอมูลวาวัตถุดิบประเภทใดที่สามารถทำกำไรไดดีเปนที่ตองการของ
ตลาด ทำใหเราสามารถสรางสรรคสิ่งที่ตรงกับความตองการขึ้นมาได
อาจารยของพี่หวงฮุนเปนยอดปรมาจารยผูใชธาตุไม และคาดวาทานคงเคยทำการ
วิจัยเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาไมนอย พี่หวงฮุนเองก็เปนผูมีพรสวรรค ดังนั้นขาจึงมี
ความรูสึกวาวิธีนี้มีความเปนไปไดสูง หากเราผลิตสิ่งใหมขึ้นมาได ใครจะกลาเลน
ตุกติกกับเงินของเรากัน”
ทุกคนจองมองไปที่ตวนมูหวงฮุนเปนตาเดียว นี่เปนความคิดที่เปนไปไดมากที่สุด
แลวที่พวกมันคิดขึ้นมา
ใบหนาของตวนมูหวงฮุนยังคงลึกลับเชนเคย
แตในยามที่ทุกคนกำลังจะสิ้นหวัง ตวนมูหวงฮุนก็กลาวขึ้นมาดวยน้ำเสียงที่ ไม
เปลี่ยนไปแมแตนอยวา “ไปลานโดกันเถอะ”
ทุกคนชะงักไปครูหนึ่งกอนจะระเบิดเสียงไชโยยินดีออกมา
บทที่ 113 ขอความประหลาด
อายฮุยคอนขางมั่นใจวาอาจารยหญิงจะตองดุเขาอยางแนนอน แตเขาไมคาดคิด
เลยวานางจะโยนถุงมือเถาวัลยกระบี่คูใหมใหเขาโดยไมพูดอะไรเลยแมแตคำเดียว
โรงเย็บปกไมไดจัดจำหนายถุงมือเถาวัลยกระบี่ และก็มีเพียงเขาคนเดียวเทานั้นที่ใช
มันเหมือนกับวาอาจารยหญิงไดใชเวลาทั้งคืนผลิตมันขึ้นมาใหกับเขา
อายฮุยรูสึกซาบซึ้งใจ อาจารยหญิงเปนตัวอยางที่เหมาะสมกับคำวา “ปากรายใจดี”
นางปฏิบัติตอเขาประหนึ่งเขาเปนศิษยของนางเอง
ซากโรงงานถูกเก็บกวาดออกไปแลว
อยางไรก็ตามมันออกจะไมเหมาะสมหากอายฮุยจะทำการฝกอยูภายในโรงเย็บปก
ดังนั้นเขาจึงนำถุงมือเถาวัลยกระบี่กลับไปยังโรงฝก
อายฮุยรับรูไดถึงผลของถุงมือเถาวัลยกระบี่ก็ในยามที่เขาฝกฝนเทานั้น
อายฮุยสูดหายใจลึกกอนที่จะเริ่ม
ถุงมือเถาวัลยกระบี่ก็ทำงานไดอยางดี ในทันทีที่เขาคลายปมผาพันแผลโลหิตที่ผกู
ไวกับถุงมือเถาวัลยกระบี่ เขาก็สัมผัสไดถึงการสั่นสะเทือนของมวลพลังธาตุในคลัง
ชีวิตของเขา และก็มีเสนใยพลังธาตุบางเฉียบลอยออกมา
แตทวาสิ่งที่ทำใหอายฮุยประหลาดใจก็คือถุงมือเถาวัลยกระบี่ไมใชสาเหตุที่ทำให
ลูกทรงกลมสีเงินในตำหนักฝามือของเขาหมุนวนดวยความเร็วสูง
เสนใยพลังธาตุอันละเอียดออนลอยออกมาและเคลื่อนเขาไปในลูกทรงกลมสีเงิน
ที่ตำหนักฝามือเหมือนกับนกนอยที่เหนื่อยลาบินกลับสูรัง
ร า งของอ า ยฮุ ย สะดุ ง และตำหนั ก ฝา มื อ ทั ้ ง สองก็ร อ นขึ ้น อย า งฉั บ พลั น ให
ความรูสึกราวกับวามือของเขากำลังถูกเผาไหมอยู กอนที่อายฮุยจะทันมีปฏิกิริยาอะไร
กระแสพลังธาตุจากมวลพลังธาตุในคลังชีวิตก็ไหลทะลักเขาใสตำหนักฝามือทั้ งสอง
ขางของเขาอยางตอเนื่อง
อุณหภูมิที่ตำหนักฝามือทั้งสองเพิ่มขึ้นอยางรวดเร็ว อายฮุยรูสึกราวกับวามือทั้ง
สองขางของเขากลายเปนขาหมูในหมอตุนไปแลว เขาแทบกระโดดโหยงแตก็ฝนทน
เอาไวได เขารูสึกไดวาลูกทรงกลมสีเงินในมือของเขาขยายตัวอยางรวดเร็ว
ไมเพียงแตขนาดของลูกทรงกลมที่ขยายตัวขึ้น แตมันเปลี่ยนรูปรางไปดวยลูกทรง
กลมสีเงินเริ่มยุบตัวจากสวนกลางและคอยๆ เปลี่ยนรูปรางตอหนาตอตาของอายฮุย
กลายเปน
วังวน!
ลูก ทรงกลมสีเงินยังคงขายตัว ตอ ไปขณะเดี ยวกั นก็ เปลี ่ ยนรู ปทรงไปดวยจน
กลายเปนวังวนสีเงิน
วังวนพลังธาตุสีเงินคอยๆ ขยายตัวอยางเชื่องชาและตอเนื่อง อายฮุยรูสึกยิ่งกวา
ยินดีที่ไดเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยทั่วไปแลวเมื่อนักเรียนเปดตำหนักฝามือไดสำเร็จ
นั้น มันแทบเปนไปไมไดเลยที่จะเติมเต็มพลังธาตุเขาไปภายในระยะเวลาแควันสองวัน
เพราะพลังธาตุนั้นเบาบางอยางมากในธรรมชาติ แมวาจะมีอาหารพลังธาตุเปนตัวชวย
ก็ตองใชเวลาในการสะสมอยูดี
แตสถานการณของอายฮุยนั้นแตกตางไปอยางสิ้นเชิง ในรางกายของเขาอัดแนน
ไปดวยพลังธาตุปริมาณมหาศาล
ไมเพียงแควังวนพลังธาตุในมือทั้งสองของเขาขยายตัวอยางนาเหลือเชื่อ แตมันยัง
เพิ่มความสามารถในการดูดซับพลังธาตุขึ้นอยางตอเนื่องอีกดวย
ทวาอายฮุยกลับเริ่มรูสึกวามีบางอยางผิดปกติ ไมเพียงแคความเร็วในการดูดซับ
พลังธาตุเพิ่มขึ้น แตความเร็วในการโคจรของพลังธาตุในกายของเขาก็เพิ่มขึ้นอยาง
มากเชนกัน ซึ่งนั่นจะสรางภาระใหกับรางกายของเขาอยางมาก
แมวาการหมุนเวียนของพลังธาตุจะไมเร็วเทากับตอนตอสู แตมันก็หมุนเวียนอยู
เปนเวลายาวนานกวามากนักซึ่งกอใหเกิดการเปลี่ยนแปลงอยางเห็นไดชัดตอรางกาย
ของอายฮุย กลามเนื้อทั่วรางของเขาเริ่มบวมขึ้นและสั่นสะทาน เหงื่อเม็ดโปงผุดขึ้น
และไหลลงมาเปนสายธาร
ในทายที่สุด กอนจะถึงจุดที่เขาไมอาจอดทนทานไดอีกตอไปเพียงนิดเดียว อายฮุยก็
สามารถผูกเงื่อนบนถุงมือเถาวัลยกระบี่ไดสำเร็จ
ความเชื่อมโยงระหวางตำหนักที่ฝามือทั้งสองกับคลังชีวิตของเขาก็ตัดขาดในทันที
ทำใหเขารูสึกโลงอกไดในที่สุด อายฮุยหอบหายใจอยางรุนแรงเหมือนคนที่จมน้ำแลว
ไดรับการชวยชีวิตขึ้นมาได เขานอนเหยียดกายอยูบนพื้นหนังตาหยอนจนเกือบปด
หลังจากผานไปเนิ่นนาน ดวงตาที่ขุนมัวของเขาก็เริ่มฟนตัว ภาพทองฟากระจาง
ประดับไปดวยดวงดาวพรางพรายคอยๆ ชัดเจนขึ้น
ถึงแมวาเขาจะยังนอนหอบหายใจ รางกายไรซึ่งเรี่ยวแรง แตสมองของเขาไมได
วางเปลาอีกตอไป ดูเหมือนวาเขาจะไมไดขยับตัวสักนิดเดียว แตในความเปนจริงแลว
เขากำลังพยายามอยางมากที่จะลุกขึ้น เมื่อตรวจสอบตำหนักที่ฝามือ เขาก็รับรูไดวา
วังวนพลังธาตุนั้นยังคงหมุนวนตอไปดวยตัวของมันเอง แตวามันหมุนดวยความเร็วที่
คงที่ไมเพิ่มขึ้นอีกตอไป แสงเรืองสีขาวเงินเล็ดลอดผานชองวางของถุงมือเถาวัลย
กระบี่ออกมาใหเห็นจางๆ หากเขาถอดถุงมือเถาวัลยกระบี่ออก ก็จะสามารถมองเห็น
วังวนที่ทอแสงสีเงินยวงออกมาจากตำหนักฝามือทั้งสองขางไดอยางชัดเจน
นับเปนโชคดีที่ถุงมือเถาวัลยกระบี่ชวยปดบังแสงเรืองนั้นเอาไว มิเชนนั้นมันคง
สะดุดตาจนเกินไป อายฮุยไมชอบอะไรที่ดูโดดเดนจนเกินไป ยิ่งสะดุดตาเทาไรก็ยิ่ง
เปนเปาในการโจมตีไดงายขึ้นเทานั้น
มวลพลังธาตุในคลังชีวิตลดขนาดลงเล็กนอย ถึงแมวามันจะไมมากมายอะไรนัก
แตก็นับเปนจุดเริ่มตนที่ดีอยางไมตองสงสัย
อายฮุยรูสึกไดเลยวาความเร็วในการฟนคืนพลังของเขานั้นรวดเร็วกวาแตกอน
มาก นั่นเปนเพราะการเปดออกของตำหนัก เมื่อใดก็ตามที่ตำหนักเปดไดสำเร็จ การ
ทำงานหลายอยางของรางกายจะพัฒนาขึ้นในระดับที่แตกตาง
ตามคำอธิบายของอาจารย พลังชีวิตของเขาเปนตัวชี้วัดที่ดี เมื่อระดับพื ้น ฐาน
สูงขึ้น พลังชีวิตก็จะเพิ่มขึ้นเชนกัน
อายฮุยรูสึกวาคำนิยามของอาจารยนั้นชางชาญฉลาด
เขาวางแผนที่จะลงไปแชในน้ำพุรอนในลานวางหลังโรงฝก เพราะมันชวยใหการ
ฟนฟูของเขาเร็วขึ้น และเมื่อเขาฟนตัวเต็มที่เขาก็จะกลับมาฝกฝนอีกครั้ง
ในตอนที่อายฮุยกำลังจะเริ่ม เขามองไปทางตนขาวสาร
ใบไมใบหนึ่งบนตนขาวสารมีแสงเรืองจางๆ
สาวนอยรานบะหมี่หรือ อายฮุยรูสึกตื่นเตน ผานมาสักพักแลวที่เขาไมไดขาวจากนาง
พักหลังนี้ดูเหมือนนางจะหายตัวไปเลย แตเมื่อคิดดูแลวอายฮุยก็รูสึกสงสัยเล็กนอย
ทำไมสาวนอยรานบะหมี่ถึงไดสงขอความมาดึกดื่นเชนนี้
แตเมื่อเขาไปใกลๆ ตนไมเขาถึงไดรูวาใบไมที่เปลงแสงออกมานั้นไมใชใบไมใบ
เดียวกับที่เด็กสาวรานบะหมี่ใชครั้งกอน
แลวมันเปนของใครกัน
อายฮุยงุนงง เขาไมรูจักใครอื่นอีกแลวในสนามเหนี่ยวนำ แตหลังจากครุนคิดดู
แลวเขาก็สายหนา เขาทำตัวชินชาเสียจนลืมไปแลววาเขาเปนแคเพียงภารโรงของที่นี่
เทานั้น
อาจเปนขอความจากเพื่อนของเถาแกโรงฝกศาสตราวุธแหงนี้ก็เปนได
เมื่อไดขอสรุปดังนี้ อายฮุยก็ตัดสินใจที่จะปลอยมันไป และหันหลังกลับ ทันใด
นั้นเองเขาก็เปลี่ยนความคิด เจาของโรงฝกแหงนี้ไมไดกลับมาเปนเวลายี่สิบปแลว อาย
ฮุยคาดเดาวานี่เปนขอความจากเพื่อนที่ไมไดติดตอกันมาเปนเวลานาน แตถาหากมัน
เปนเรื่องฉุกเฉินเลา บางทีเขาควรจะตอบกลับไปเพื่อแจงใหอีกฝายทราบวาเจาของ
โรงฝกไมไดกลับมาเปนเวลาหลายปแลว
อายฮุยวิ่งกลับเขาไปขางในเพื่อเอาปากกา โชคดีที่โหลวหลานเปนตุกตาทราย
นิสัยดีที่ชอบการเลาเรียน มีปากกาเก็บไวที่นี่สองสามดาม
เขาเดินตรงไปยังใบไมที่เรืองแสงและจองมองมันดวยความสงสัย นี่เปนครั้งแรกที่
เขาใชตนขาวสาร ความเปนเด็กบานนอกในตัวเขาเต็มไปดวยความสงสัย เขารูสึกวา
มันชางนาอัศจรรย
เอะ อายฮุยขมวดคิ้ว บนใบไมมีขอความอยูเพียงสี่ประโยค ที่ฟงดูไมมีเหตุผลเอา
เสียเลย
“ขาไมรูวาใครในหมูพวกเจายังมีชีวิตรอดอยู แตขารูวาไมมีใครสามารถหยุดพวก
มันได พวกมันเตรียมการทุกอยางเสร็จเรียบรอยแลว ทุกอยางจะเปลี่ยนไปภายในหก
วัน ใครเลาจะเปนผูปกปองอูสิงเทียน”
อายฮุยอานขอความซ้ำอีกสองสามรอบแตเขาก็ยังรูสึกวามันไมสมเหตุผลอยูดี
พวกมัน หกวันหลังจากนี้ ทุกอยางจะเปลี่ยนไป
อายฮุยที่เตรียมตัวจะเขียนตอบกลับไปวางปากกาลง ขอความนี้ทำใหเขารูสึกเย็น
เยียบขึ้นมา เสมือนหนึ่งวาเถาแกโรงฝกแหงนี้ตองเปนพวกแปลกๆ หรือไมก็มีเพื่อน
แปลกๆ อยางแนนอน
แลวใครกันที่จะสามารถปกปองอูสิงเทียนเอาไวได
อายฮุยตะลึงงัน อูสิงเทียนมีรากฐานที่มั่นคง และเขาไมเคยไดยินอะไรเกี่ยวกับ
ความไมมั่นคงของอูสิงเทียนมากอนเลยตลอดเวลาที่เขาอยูในแดนราง และความเชื่อ
นี้ก็ยิ่งหนักแนนขึ้นเมื่อเขากาวเขาสูสนามเหนี่ยวนำ
เมื ่ อ เที ย บกั บ แดนร า งแล ว อู ส ิ ง เที ย นเป น ดั ่ ง แดนสวรรค ไม ม ี ก ารสู ร บ
สภาพแวดลอมชางปลอดภัยและสุขสงบ
หลังจากครุนคิดอยูพักหนึ่ง อายฮุยก็เขียนลงไปบนใบไมวา “บางทีเจานาจะไปหา
หมอนะ”
มองดูตัวหนังสือเลือนหายไป อายฮุยรูสึกวาตนไมสื่อสารชางนาทึ่งเสียจริง
อายฮุยรูสึกพอใจ เมื่อเขาเดินไปยังลานดานหลังเพื่อแชน้ำพุรอน
ทวาไมนานหลังจากอายฮุยเดินไป ใบไมก็สวางขึ้นอีกครั้ง
บทที่ 114 การฝกฝนไกลบาน
อายฮุยไมอยากใหความสนใจกับพวกแปลกประหลาด ตอใหมีเหตุการณรายแรง
เกิดขึ้นจริงๆ มันก็ไมใชเขาอยางแนนอนที่จะไปกูโลก แลวเขาจะตองเปนหวงไปทำไม
เขาเปนคนที่ออนแอไรความสำคัญราวกับไมมีตัวตนอยูแลว
เขายังคงฝงตัวเองอยูกับการฝกฝน มีเพียงแคการฝกฝนเทานั้นที่ทำใหเขารูสึกวา
เปนการใชเวลาใหคุมคาอยางแทจริง เขาเพิ่งจะเปดไดเพียงสองตำหนัก และระดับ
พลังพื้นฐานของเขาก็ไมนับวาสูงสงอะไรในสนามเหนี่ยวนำแหงนี้ นอกเสียจากวาเขา
จะมีวิชาลับขั้นสูงแบบจูเหยี่ยน
แตทวาการฝกฝนของเขาถูกขัดขวางในวันที่สอง
“การฝกฝนไกลบานคืออะไร”
ทุกคนมีคำถามอยูในใจเมื่อมองไปยังอาจารยสวี่ ซึ่งเรียกตัวทุกคนมาในวันนี้
อาจารยสวี่อธิบาย “ใชแลว ทุกปเราจะจัดใหมีการเดินทางไกลของนักเรียนทุก
คนในชั้น วัตถุประสงคหลักก็คือใหทุกคนไดออกไปเห็นโลกกวาง อาจารยจะเปนคน
นำกลุมและทางโรงเรียนจะสงอาจารยอีกสองสามคนมากับเราดวย นอกจากนี้ยังมีครู
ฝกจากกลุมผูมีพรสวรรคอีกสองคนมารวมเดินทางกับเราในครั้งนี้ เราจะเดินทางไปยัง
บริเวณรอบนอกของสนามเหนี่ยวนำ”
ในขณะที่นักเรียนรสวนใหญกระตือรือรนที่จะออกเดินทาง ตวนมูหวงฮุ นกลับ
ขมวดคิ้ว “อาจารย ขาไมขอรวมการเดินทางไกลครั้งนี้ไดหรือไม ขามีการฝกฝนที่
สำคัญมากที่ตองทำในตอนนี้”
คนเนรคุณ! คนเนรคุณ! คนเนรคุณ!
อายฮุยสบถออกมาในใจสามครั้งติดตอกันกอนที่จะหันหนาไปมองอาจารยสวี่
ดวยสีหนาคาดหวัง หากอาจารยสวี่อนุมัติ ถาอยางนั้นเขาก็สามารถใชขออางเดียวกัน
เพื่ออยูตอไดเชนกัน
ไมมีใครคัดคานคำพูดของตวนมูหวงฮุน เมื่อดูจากระดับพลังของเขาแลว มันเปน
ความจริงที่วาการเดินทางไกลนี้ไมมีประโยชนอะไรตอการฝกฝนของเขานัก
เสียแตอาจารยสวี่สายหนา “ไม นักเรียนตวนมู นี่เปนครั้งแรกที่ชั้นเรียนของเรามี
กิจกรรมรวมกัน ทุกคนตองเขารวม เจาเปนหัวหนาหองและเจาตองทำตัวเปนตัวอยาง
ที่ดี”
ตวนมูหวงฮุนอาปากคาง แตเขาตัดสินใจอยางแนวแนวาจะไมเอยอะไรออกไป
เมื่อไดยินดังนั้นอายฮุยก็ยอมแพเชนกัน
หากอาจารยไมยอมอนุมัติคำขอของไอคนเนรคุณนั่น เขาก็คงไมมีหวังที่จะขอได
สำเร็จ ในขณะที่อายฮุยรังเกียจพฤติกรรมเนรคุณของตวนมูหวงฮุน เขาตองยอมรับ
อยางชวยไมไดวาไอคนเนรคุณนั่นไดรับการยอมรับจากพวกอาจารยมากกวาตัวเขาไม
รูตั้งกี่เทา
โชครายอะไรเชนนี้....
ในเมื่อเขาไมอาจเปลี่ยนแปลงอะไรได อายฮุยก็เริ่มวางแผนการไปทัศนศึกษาครั้งนี้
ดูเหมือนวาเขาจะตองเสียเวลาไปสองสามวัน เขาควรใหโหลวหลานเตรียมเสบียง
กรังที่จะใชในการฟนฟูพลัง เขาจะไดฝกฝนระหวางการเขาคาย
ออ แลวเขายังตองไปหาผูจัดการหลี่เพื่อเลือกกระบี่ที่เหมาะมือสักอัน ถึงแมวา
สนามเหนี่ยวนำจะเปนที่ปลอดภัย แตมันก็เปนการดีกวาหากจะเตรียมพรอมเอาไว
กอน ทักษะปองกันตัวเองมีความสำคัญที่สุด
อาหารแหงและกระบี่หนึ่งเลม อายฮุยหัวเราะออกมาอยางขมขื่น ตองใชเงินไม
นอยเลย
เขาเหลือเงินประมาณสามแสนหยวนและนั่นก็เปนเพราะวาเขาไดรับเงินลวงหนา
จากผูจัดการหลี่ เขาดูเหมือนจะไมเคยมีเงินเพียงพอใหใชเลย ซ้ำยังเปนหนี้อาจารย
หญิงอีกกอนโต ซึ่งเขาจะตองหาเงินมาใชคืนอยางแนนอน อายฮุยไมกลาที่จะคิดถึง
เงินแปดสิบลานหยวนของสาวนอยรานบะหมี่เลย
ขนกระตาย หนอ ขนกระตาย เจาตองขายดีนะ!
เมื่อกลับไปถึงโรงฝก อายฮุยก็มอบเงินหาหมื่นหยวนใหกับโหลวหลานเพื่อนำไปซื้อ
วัตถุดิบในทำเคกเสริมพลังธาตุ ตองขอบคุณน้ำแกงพลังธาตุของโหลวหลาน อายฮุย
จึงสามารถฟนฟูจากการฝกเมื่อคืนไดอยางรวดเร็ว ประสิทธิภาพของน้ำแกงพลังธาตุ
นั้นจะคงอยูเปนเวลานานสามวันแตจะลดประสิทธิภาพลงทุกวัน ถึงแมวาน้ำแกงพลัง
ธาตุนั้นมีประสิทธิภาพสูงกวาเคกเสริมพลัง แตน้ำแกงก็มีราคาแพงกวามาก
หลังจากนั้นอายฮุยก็เดินทางไปยังรานของผูจัดการหลี่ตามลำพัง
อันที่จริงแลวนี่เปนครั้งแรกที่อายฮุยกาวเทาเขามาในรานขายอาวุธของผูจัดการหลี่
มันอยูไมไกลจากโรงฝกเทาไรนัก แตอันที่จริงแลวเมืองซงเจียนก็ไมไดใหญโตอะไรอยู
แลว
แสงแวววับจากอาวุธที่จัดวางไวบนชั้นทำใหอายฮุยตาลุกวาว
เมื่อเห็นความปรารถนาของอายฮุยและไดยินวาอายฮุยวางแผนที่จะซื้ออาวุธ
ผูจัดการหลี่ก็ตอนรับเขาดวยความกระตือรือรน “แหม เชิญทดลองไดตามสบาย หาก
พบชิ้นไหนที่ถูกใจก็บอกไดเลย ขาจะลดราคาใหเปนพิเศษ”
อายฮุยมองไปยังกระบี่ตางๆ ที่จัดวางเรียงรายอยูแลวน้ำลายไหล ในฐานะคนที่
เคยผานการสูรบมามากมาย เขาก็มีความหลงใหลในอาวุธที่ฝงแนนอยูภายใน สำหรับ
เขาแลว อาวุธมีน้ำหนักที่สุดในการตัดสินระหวางชีวิตกับความตาย
ในแดนราง เขาใชกระบี่หญาเปนอาวุธซึ่งจัดอยูในระดับพื้นฐานที่สุด มันมีราคา
ประมาณสองถึงสามพันหยวนเทานั้น เทียบเทาบะหมี่สิบกวาชามเทานั้นเอง
กระบี่หญาเองก็มีหลายระดับ แตกระบี่หญาคุณภาพสูงนั้นราคาก็ไมคอยถูกนัก
ในแวบแรก อายฮุยมองไปที่กระบี่หญาฟนเลื่อยที่มีราคาหนึ่งแสนสองหมื่นหยวน
ในอดีตเขาเคยไดทดลองใชกระบี่ที่คลายคลึงกับกระบี่หญาฟนเลื่อยมากอน แตเขาไม
มีปญญาหาซื้อมันในตอนนั้น กระบี่หญาฟนเลื่อยนั้นมีน้ำหนักคอนขางมาก อายฮุยมี
ความไวตอสัมผัสของอาวุธและเขาเดาวากระบี่นี้มีน้ำหนักมากกวากระบี่หญาฟนเลื่อย
ที่เขาเคยใชถึงสองเทาครึ่ง หากเปนในอดีต เขาอาจตองใชความพยายามไมนอยใน
การยกมันขึ้น แตในตอนนี้ดวยพลังที่เพิ่มขึ้นในรางกายของเขาทำใหรางกายของเขา
แข็งแรงมากขึ้น ดังนั้นการใชกระบี่หนักกลับชวยเพิ่มขอไดเปรียบใหแกเขา
คมกระบี่เปนสีเทาเขม สวนฟนเลื่อยนั้นเปนสีแดงเขมเรียวบางและแหลมคมอยางยิ่ง
หญาฟนเลื่อยปลูกกันอยางแพรหลายโดยผูใชธาตุไมและมันตองใชดินโลหะในการ
ปลูก มันใชเวลาหนึ่งปในการเติบโตและสามารถใชในการผลิตเปนกระบี่หรือดาบใน
หองผลิตระดับหนึ่งของหนวยหญา เมื่อเทียบกับกระบี่หญาฟนเลื่อยแลว ดาบหญาฟน
เลื่อยมีประโยชนใชสอยที่หลากหลายกวา และมันก็มีพลังทำลายลางที่สูงกวาอีกดวย
สีและความเงาของหญาฟนเลื่อยนั้นเปลี่ยนไปตามอายุของมัน ยิ่งมันมีอายุมาก
เทา ไร สีก ็ย ิ่งเขมขึ้นเทา นั้น หากหญ า ฟ น เลื ่ อ ยมี อ ายุ มากกว าสิ บ ป สี ข องมั นจะ
เปลี่ยนเปนสีดำและมันมีราคาสูงมากทีเดียว
อยางไรก็ตาม สิ่งที่ทำใหอายฮุยตกตะลึงมากที่สุดก็คือราคาของกระบี่หญาฟนเลื่อย
ดวยราคาหนึ่งแสนสองหมื่นหยวน ซึ่งนับวาถูกมาก หากมีขายในรานเติมเสบียงที่
ตั้งอยูในแดนรางแลวละก็ ราคาของมันจะตองอยูที่ประมาณสามแสนหาหมื่นหยวน
อยางแนนอน
ถึงแมวาเมืองซงเจียนจะอยูแนวหลังไมใชแนวรบ แตราคาหนึ่งแสนสองหมื่นหยวนก็
ยังถูกเกินไปอยูดี อายฮุยตัดสินใจซื้ออยางไมลังเล
น้ำหนักกระบี่นี้หนักกวากระบี่หญาทั่วไปมาก หากไมมีความแข็งแกรงระดับหนึ่ง
แลวละก็ คงเปนการยากที่จะใชมัน ถึงแมวามันจะเปนเรื่องปกติที่จะมีนักเรียนบางคน
สามารถใชกระบี่เชนนี้ได แตราคาที่ต่ำแบบนี้คงไมมีใครหาได
หลังจากถามเหตุผลจากผูจัดการหลี่แลว อายฮุยก็พูดอะไรไมออก
เหตุผลนั้นเปนเพราะสีของกระบี่ไมสวย ดังนั้นมันจึงไมเปนที่นิยมของนักเรียนซึ่ง
เปนเหตุใหราคาต่ำลง
ผูจัดการหลี่ทำการแนะนำกระบี่หญาชนิดอื่นที่เรียกวา “แดงเพลิง” ที่เขาอางวา
เปนสินคาขายดี กระบี่มีสีแดงสดทั่วทั้งตัวกระบี่ สองประกายสีแดงระยิบระยับ ดู
เหมือนเหล็กที่ถูกเผาจนแดงจา ยามกวัดแกวงจะมีประกายไฟพวยพุงออกมา ดูราว
กับการแสดงดอกไมไฟอันสวยสดงดงาม
นี่เปนครั้งแรกที่อายฮุยเห็นกระบี่หญาที่เปลงประกายแพรวพราวขนาดนี้ และนั่น
ทำใหเขาประหลาดใจ เมื่อมองใกลๆ ก็ยิ่งทำใหสีหนาของเขาเปลี่ยนไป ใบกระบี่ที่
เปลงแสงสีแดงเจิดจานั้นไมทำใหรูสึกรอนเมื่อสัมผัสแตกลับใหความรูสึกเย็นเยียบ
ประกายไฟที่พวยพุงออกมานั้น อันที่จริงแลวเปนเมล็ดพันธุหญา
ผูจัดการหลี่บอกวาผูใชพลังธาตุดินที่เพาะพันธุหญาแดงนี้ไมตองการที่จะขายมัน
ในตอนแรก คุณภาพของหญาแดงนั ้น คอนขา งต่ำดังนั ้นกระบี่ท ี่สรา งออกมาจึ งมี
คุณภาพปานกลางเทานั้น
อยางไรก็ตาม ผูจัดการหลี่มีวิสัยทัศนที่กวางไกล เขาจึงตัดสินใจซื้อสิทธิ์ในการจัด
จำหนายมา เมื่อเขานำกระบี่เขามาขายในสนามเหนี่ยวนำมันก็กลายเปนที่นิยมอยาง
รวดเร็ว ผูมีประสบการณที่ทองไปในแดนรางอาจไมคิดวากระบี่ที่เจิดจาและคุณภาพ
ปานกลางจะนำไปใชประโยชนได แตพวกนักเรียนที่ไมไดใชกระบี่ในการรบจริงกลับ
ชอบกระบี่เชนนี้และรูสึกวากระบี่หญาแดงเพลิงนั้นชางหรูหราและงดงาม
อายฮุยยกนิ้วโปงให
ขาชอบความคิดไรยางอายของทานจริงๆ
ขนกระตายเอย ขาตองพึ่งเจาแลว!
หลังจากกลับมาถึงโรงฝกก็แกะหอของที่อาจารยสวี่ไดมอบใหกับเขา แตเมื่อเขา
ไดเห็นตำแหนงของสถานที่ซึ่งจะไปทัศนาจรกันจริงๆ แลวเขาก็รูสึกเสียขวัญเล็กนอย
สนามเหนี่ยวนำเคยเปนแนวรบมากอน แตเนื่องจากการขยายตัวของอูสิงเทียนทำให
สนามเหนี่ยวนำกลายเปนแนวหลังไปในที่สุด แตที่ตั้งของมันอยุใกลกับดินแดนเกา
และเปาหมายในการเดินทางครั้งนี้ก็คือบริเวณรอยตอนั้น
ดินแดนเกา…
บทที่ 115 ผูเฝามองอยางสันโดษ
อายฮุยยืนถือกระบี่หญาฟนเลื่อยไวในมือ ปรายสายตาอันเยือกเย็นไปยังเพื่อน
รวมชั้นที่กำลังอาเจียนออกมาอยางตอเนื่อง ในครั้งแรกที่เขานั่งรถใบไมสามแฉก เขา
เองก็อวกเชนกัน อันที่จริงแลวมากกวาพวกนักเรียนเหลานี้เสียอีก ดังนั้นเขาจึงไมรูสึก
เห็นอกเห็นใจคนพวกนี้เลยสักนิด เห็นไดชัดวาผูใชพลังธาตุไมที่ขับรถคันนี้ผอนแรงให
มากแลว
เมื่อเทียบกับรถใบไมสามแฉกที่ใชกันในเมืองแลว การนั่งรถบรรทุกใบไมสามแฉก
นั่นโหดกวามาก
โหดกวาในทุกแงมุม
ดวยใบและกานที่แข็งกวา หากรถใบไมสามแฉกเปรียบเหมือนสตรีที่ออนโยน
นุมนวลแลว รถบรรทุกใบไมสามแฉกก็เปรียบเหมือนยักษเหล็กล่ำบึ้ก กานที่หนาพอๆ
กับนองทนทานขนาดที่กระบี่ยังไมอาจทำลายมันไดโดยงาย สวนใบนั้นก็เหมือนกับ
ดาบ มีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของบานประตู ยามที่รถเคลื่อนตัวมันก็สงเสียงชวนขน
หัวลุกไปดวย
รถบรรทุกสามแฉกไมเพียงแตจะตองบรรทุกสินคาใหไดปริมาณพอสมควร แตมัน
ยังตองทนทานเพื่อที่จะปองกันสินคาอีกดวย อีกทั้งยังตองมีความคลองตัวในระดับ
หนึ่ง พืชสีสันสดใสกระจายอยูสวนนอกของรถ ไมวาจะเปนดอก หนอ หนาม ซึ่งมี
ความสำคัญแตกตา งกัน ยกตัวอยางเชน บางสวนสามารถพน ไอพิษออกมาอย า ง
ตอเนื่องเพื่อขับไลอสูรแดนรางที่บินได ชวยแหวกทางหนีทีไลในสถานการณอันคับขัน
อยางไรก็ตาม อสูรแดนรางที่บินไดนั้นคอนขางอึด และความรุนแรงของพิษนั้นก็
จำกัด อันที่จริงแลวเปนกลิ่นของไอพิษตางหากที่ชวยใหรถบรรทุกสามารถหลบหนี
ออกไปได เพราะอสูรแดนรางบินไดสวนใหญนั้นเกลียดกลิ่นฉุน
ถึงแมวารถบรรทุกที่ใชเดินทางเขาออกแดนรางนี้มีความยืดหยุนและวองไวกวา
รถใบไมสามแฉกที่ใชกันในเมือง ทำใหมันเหมือนชายรางยักษที่มีความวองไวและ
แข็งแกรง แตผูใชพลังธาตุไมที่ขับรถบรรทุกนั้นปกติแลวชอบที่จะมอบประสบการณ
อันเลวรายใหกับพวกเด็กใหม
กระนั้นอายฮุยกลับสนุกกับการนั่งรถ
ผูใชพลังธาตุไมที่นั่งอยูหนารถในตอนนี้เห็นไดชัดวาจงใจไมทำใหมันรุนแรงเกินไป
ระดับการกระเดงกระดอนนั้นแคทำใหรูสึกงวงนอน
พวกนักเรียนคนอื่นลวนอยูในสภาพย่ำแย ตลอดชีวิตของพวกเขาลวนแตโดยสาร
ในพาหนะอยางเมฆเพลิงและรถใบไมสามแฉก แลวจะมีประสบการณการนั่งรถที่ปา
เถื่อนแบบนี้ไดอยางไร
อายฮุยเหลือบตาไปมองเจาคนเนรคุณ
เจาเนรคุณถูกจัดใหนั่งขางๆ เขา แตเมื่อเทียบกับนักเรียนคนอื่นแลวตวนมูหวงฮุนทำ
ไดดีทีเดียว เขายังคงนั่งนิ่งอยูกับที่ แมวาสีหนาของเขาจะไมสูดีนัก แตเขาก็ยังไมถึงกับ
สำรอกออกมา
อายฮุยพลันสังเกตไดวารางกายของตวนมูหวงฮุนเขม็งเกร็ง เขาเลยขยับเขาหา
และใหคำแนะนำดวยน้ำเสียงหมานเมินวา “อวกออกมาเถอะ อยาอั้นไวเลย เจาจะ
สบายขึ้นถาไดอวกออก...”
โอก!
ตวนมูหวงฮุนที่พยายามฝนอยูนานพลันรูสึกวาลำคอแหงผากและคันมาก เขาไม
อาจฝนทนไดอีกตอไป ตวนมูหวงฮุนโกงคอและปลดปลอยออกมาราวเขื่อนแตก
“อวกรดตัวเอง ชางสะเพราอะไรเชนนี้ มันไมมีที่ใหเจาอาบน้ำลางตัวหรอกนะใน
เขตชานเมืองแบบนี้ แตมันก็ไมใชเรื่องใหญอะไรหรอก เจาก็แคทนเหม็นไปอีก สอง
สามวันเทานั้น” เสียงชั่วรายของอายฮุยดังมาจากดานบน
ตวนมูหวงฮุนมองเห็นคราบอาเจียนที่เสื้อและกางเกงแลว นัยนตาก็หดลงและ
อาการหวาดกลัวเชื้อโรคของเขาก็สำแดงอาการออกมา ทำใหเขาอวกออกมาอยาง
รุนแรงอีกครั้ง
อายฮุยไมอาจทนดูไดอีกตอไป เขาขยับกายหนีหางออกไปเล็กนอย
เขาไมรูวาอาจารยสวี่คิดอะไรอยูถึงไดจัดใหเขากับไอสารเลวนี่อยูกลุมเดียวกัน
แลวยังตองมานั่งติดกันอีก
นาอึดอัดเสียจริง
โจวเสี่ยวซีมองไปยังอาจารยสวี่แลวสายหนาอยางชวยไมได สีหนาของอาจารยสวี่
ซี ด เผื อ ด และมั น เป น ก็ เ ป น สิ ่ ง ที ่ ย ื น ยั น ว า เขากำลั ง พยายามฝ น ทนอย า งสุ ด
ความสามารถ โชคยังดีที่พวกเขากำลังเดินทางภายในสนามเหนี่ยวนำ หากพวกเขา
กำลังมุงหนาไปยังแดนรางแลวละก็ เขาไมมีทางยอมรับหนาที่พี่เลี้ยงเด็กแบบนี้แน
ทามกลางผูคนมากมาย อายฮุยเปนคนที่สะดุดตาที่สุด เขาเปนคนเดียวที่โจวเสี่ยวซีไม
ตองเปนกังวลมากนัก
โจวเสี่ยวซีสามารถบอกไดจากทาทางของอายฮุยวาอายฮุยเปนผูมีประสบการณ
รางกายของเขานั้นผอนคลาย และเคลื่อนตัวขึ้นลงตามการเคลื่อนไหวของรถบรรทุก
ใชมื อ จับ อาวุธเอาไวแ ละมีสายตาที ่ มั่ น คง สิ ่ งเหล า นี ้ ท ำให เขาสามารถรั บ มือกับ
อันตรายที่อาจเกิดขึ้นไดอยางรวดเร็ว เขามีสติตื่นตัวและดวงตาสำรวจสภาพแวดลอม
อยูตลอดเวลา
แมแตผูมีประสบการณอยางโจวเสี่ยวซียังไมอาจมองเห็นจุดผิดพลาดสักจุด เขา
คิดถึงสิ่งที่หลี่เหวยเคยพูดกอนหนานี้ เรื่องที่วาอายฮุยเคยทำงานเปนแรงงานในแดน
รางนานสามป ดูเหมือนมันจะไมใชเรื่องกุขึ้นมา
มีคนที่พึ่งพาไดอยางนอยหนึ่งคนถือเปนเรื่องดีเสมอ
“ฮาฮา เราเกือบจะถึงแลว!” ผูใชพลังธาตุไมประกาศออกมา
ทันใดนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงของเสียงเครื่องยนตและรถบรรทุกก็โยนตัวขึ้น
ทามกลางสายตาที่กำลังตื่นตะหนก อายฮุยสายหนาออกมาอยางชวยไมได คน
พวกนี้มีนิสัยเสียที่แกไมหายจริงๆ พวกมันหาอะไรใหมๆ ทำไมเปนหรือไง
รถบรรทุกที่โยนตัวขึ้นทำใหเกิดแรงเหวี่ยงอยางแรง และในทันใดนั้น มันก็รวงลง
อยารวดเร็ว
เสียงกรีดรองแหลมสูงดังกองไปทั่วทั้งคันรถ แตอายฮุยนั้นตางไปจากคนอื่นๆ เขา
หัวเราะเยาะเยยอยูภายในใจ เจาพวกผูใชพลังธาตุไมนี่ไรความคิดสรางสรรคจริงๆ
ความรูสึกรวงตกอันคุนเคยนี้ทำใหหวนนึกถึงชวงเวลาในแดนราง
เขารูสึกคิดถึงเจาอวนมากกวาปกติในตอนนี้ หากเจาอวนอยูที่นี่ พวกเขาคงคุยกัน
ไมหยุดปาก เขาเปนพวกพูดพร่ำเพรื่อยืดเยื้อเวลาหงุดหงิด
อายฮุยเปนคนแรกที่กระโดดออกมาเพราะเขาไมอยากทนดมกลิ่นในรถ แตคน
อื่นๆ นั้นขาออนไรเรี่ยวแรงจนตองคืบคลานไมก็กลิ้งตัวออกมา เด็กสาวขี้อายบางคน
ไมกลากระโดด ก็ถูกโจวเสี่ยวซีโยนออกมาจากรถ
ผูใชพลังธาตุไมรองเพลงอยูบนรถดวยความรูสึกพออกพอใจและเยาะเยยระคน
กัน ตอนที่รถบรรทุกเคลื่อนจากไป
กลุมนักเรียนที่ถูกทิ้งไวดูราวกับลูกแกะสิ้นหวังหลงทางในแดนราง
อาจารยสวี่ใครครวญถึงความออนประสบการณของพวกเด็กๆ ตอนที่วางเผนการ
เดินทางนี้ พวกเขาเปนแคเด็กปหนึ่งและยังออนแออยางมาก ดังนั้นการเดินทางไกล
ครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงคที่จะทำใหพวกเขามีประสบการณมากขึ้นสักเล็กนอย
"เราจะพักกันที่นี่คืนนี้และเดินทางตอวันพรุงนี้ กอนอื่นพวกเจาตองเรียนรูวิธีตั้ง
คายพัก มันเปนทักษะที่จำเปน และพวกเจาจะไดรูวามันมีความสำคัญขนาดไหนเมื่อ
เจาจบการศึกษาออกไป ครูฝกโจวจากกลุมผูมีพรสวรรคจะสอนวิธีการทำ เขาเปน
ทหารผานศึกที่มีความชำนาญจากหนวยทะเลเหนือ
โจวเสี่ยวซีไมปฏิเสธ มันเปนภารกิจหนึ่งของเขาอยูแลว
นี่คือธรรมเนียมของอูสิงเทียนที่ทหารผูมีประสบการณจากแนวรบจะกลับมา
ถายทอดความรูใหกลับเด็กนักเรียน เพราะมันจะเปนประโยชนตอการเติบโตของพวก
เขาอยางมาก
โจวเสี่ยวซีไมไดเริ่มในทันที แตเขาหันไปออกคำสั่งแทน
“อายฮุย เจารับหนาที่ยืนยาม”
“ตกลง” อายฮุยพยักหนาและเดินไปยังชายปาถือกระบี่ไวในมือ
โจวเสี่ยวซีพูดตอ “เรามาเริ่มการตั้งคา -”
“ทำไมเขาถึงไดไปยืนยาม” ตวนมูหวงฮุนเอยแทรก “ครูฝกโจว มันควรเป น
หนาที่ของคนที่แข็งแกรงที่สุดไมใชหรือ”
อายฮุยทำใหเขากลายเปนตัวตลกเมื่อครูนี้ เรื่องอะไรจะยอมปลอยโอกาสเอาคืน
ใหหลุดลอยไป
“โดยปกติแลวก็ใช” โจวเสี่ยวซียิ้มตอบ “เจาคิดวาตัวเองแข็งแกรงที่สุดเชนนั้นหรือ”
“ถูกตองแลว!” ตวนมูหวงฮุนไมคิดที่จะปฏิเสธ “ขาแข็งแกรงกวาและขาก็ได
เรียนวิธีการยืนยามมาแลว ขามีประสบการณมากกวา”
“แนนอน” โจวเสี่ยวซีตอบรับในทันที ผิดไปจากความคาดคิดของตวนมูหวงฮุน
“เชนนั้นเจาก็ไปยืนยาม แลวอายฮุยมาตั้งคายพัก”
เมื่อเห็นวาแผนของเขาสำเร็จ ตวนมูหวงฮุนพนลมออกจมูกแลวพุงตรงไปชายปา
มองหาอายฮุย
อายฮุยไมวาอะไร เขาถูกใชใหยืนยามบอยๆ และรูวานี่เปนงานที่หนักกวา งาน
ทั่วไป เขายิ่งกวาเต็มใจที่จะมอบมันใหกับตวนมูหวงฮุนซึ่งอาสามาทำงานนี้ดวยตัวเอง
ภายใตการควบคุมแนะนำของโจวเสี่ยวซี บรรดาเด็กนักเรียนก็เรียนรูวิธีตั้งคายพัก
และความไมสะดวกสบายที่ไดรับจากการนั่งรถบรรทุกก็ถูกลืมไปอยางรวดเร็ว การ
ทำงานคืบหนาไปดวยความเร็วสูงสุด
ครั้นทองฟามืดลง สายลมพัดแรงขึ้น กองไฟก็ถูกจุดใหลุกโชน
อายฮุยพลันเงยหนาขึ้น
บทที่ 116 กำแพงกั้น
อายฮุยไดยินเสียงแผวเบา
เขาเงยหนาขึ้นมองไปรอบๆ พลางเงี่ยหูสดับฟงอยางตั้งใจ
กองไฟลุกโชติชวง พวกนักเรียนกำลังฟนตัวจากอาการเมารถ ความแปลกใหม
ทั้งหลายนี้ทำใหพวกเขามีอารมณที่แจมใสขึ้นมาก ทั้งหมดนั่งลอมวงรอบกองไฟพูดคุย
กันอยางสบายอารมณ เด็กนักเรียนบางคนถึงขั้นรองเพลงเตนรำกัน อาจารยสวี่เองก็
ไดรบั ผลจากความกระตือรือรนของเด็กๆ เห็นไดจากรอยยิ้มกวางบนใบหนาของเขา
อายฮุยไมไดเขารวมกับคนอื่น เขาปลีกตัวออกมานั่งใตตนไมใหญหางจากกองไฟ
ประมาณสี่สิบเมตร
แสงไฟกลางดึกในเขตชายแดนนั้นสะดุดตาเปนอยางมาก มันงายมากที่จะชักนำ
สัตวรายเขามา
อายฮุยรูดีวา แทบไมมีสัตวรายในสนามเหนี่ยวนำและยังมียอดฝมืออยางครูฝกโจ
วอยูปกปองพวกเขา ก็ไมนาจะมีอันตรายอะไรเกิดขึ้นได อยางไรก็ตาม ดวยความเคย
ชินของเขา การซอนตัวอยูในเงามืดกลายไดฝงแนนลงไปในสัญชาตญาณ การทำเชนนี้
ทำใหเขารูสึกปลอดภัย
เมื่อกาวเขาสูเขตชายแดน ก็เกิดความรูสึกเหมือนกับวาไดกลับคืนสูแดนรางอีก
ครั้ง สูดินแดนแหงการฆาฟนอันเลือดเย็น ทวาเขาก็รูสึกตกใจไมนอยเมื่อพบวาตนเอง
ไมรูสึกตอตานสิ่งเหลานี้แมแตนอย อันที่จริงแลวเขารูสึกตื่นเตนเสียดวยซ้ำ ในยามที่
เขากาวเขาสูชายปานั้นเขารูสึกเหมือนปลากลับคืนน้ำ บางทีเขาอาจเปนสัตว ปาใน
ชาติปางกอน
มนุษยชางต่ำชา!
อายฮุยเยยตัวเอง ผานมาเพียงไมกี่วันเทานั้น เขากลับเริ่มระลึกถึงอดีตเสียแลว
ใบไมสั่นไหวยามสายลมพัดผาน แตพื้นดินยังคงแนนิ่งไมไหวติง ไมมีเสียงผู คน
เหยียบย่ำใบไมแหง ไมมีเสียงผิดปกติจากพุมไม ไมมีเสียงกระพือปกในอากาศ
หรือวามันเปนแคภาพหลอน
อายฮุยเห็นครูฝกโจวยืนหางออกไป เขาไมแสดงปฏิกิริยาอะไร กำลังคุยโมเกี่ยวกับ
ความสำเร็จในชวงที่เขาเปนทหารใหเหลานักเรียนที่มองดูดวยความเคารพนับถือ
อายฮุยเมมปากจนกลายเปนเสนโคง
ยอดไปเลย!
จริงสิ นี่ไมใชแดนราง ไมมีสัตวราย มีเพียงความสงบและเงียบงัน
อายฮุยสายหนา เขาทำตัวเกินกวาเหตุ คิดยอนไปถึงการที่เขาเกือบจะลงมือฆา
คนในชวงที่เขาเขาสูสนามเหนี่ยวนำใหมๆ กวาจะปรับตัวไดก็ใชเวลายาวนาน แตการ
กลับเขามาอยูในเขตชายแดนก็ดึงความทรงจำเกี่ยวกับแดนรางคืนมาไดอยางรวดเร็ว
นี่ไมใชแดนราง
อายฮุยย้ำเตือนตัวเองอีกครั้ง เขาไมไดทำอะไรเชนนี้มาเปนเวลานานแลว
แตเมื่อนึกถึงไอเนรคุณนั่น อายฮุยก็รูสึกยินดีในคราเคราะหของเขา หมอนั่นตอง
กำลังทราบซึ้งกับหนาที่ที่เขาอาสาทำแลวแนๆ
ตวนมูหวงฮุนรูสึกสยอง สายลมบนยอดไมไมเพียงแคแรงกวาบนพื้น แตเขายัง
ตองรับมันไปเต็มๆ เขาตองมีความผิดปกติทางจิตแนๆ ตอนที่เขาออกไปเสนอตัวรับ
หนาที่เฝายาม
ครูฝกโจวเคยอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่ทหารยามจำเปนตองมี
ตวนมูหวงฮุนไมมีทางยอมทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ ดังนั้นเขาจึงทำหนาที่ตามที่ครู
ฝกโจวสั่งและตักเตือนไวอยางเต็มที่ ยกตัวอยางเชน เขาตองตื่นตัวตลอดเวลาและใส
ใจในทุกรายละเอียดที่เกิดขึ้นรอบกาย
ในตอนแรกตวนมูหวงฮุนไมเห็นวามันจะยากเย็นตรงไหน แตเมื่อเวลาผานไป
ความสงบเงียบนี้กลับทำใหหนังตาของเขาหนักอึ้ง เสียงลมพัดยอดไมเหมือนกำลัง
สะกดจิตเขา
เอะ นั้นมันเสียงอะไร
เขาตัวสั่น เขารูสึกเหมือนกับวาไดยินเสียงแผวเบาที่แตกตางไปจากเสียงใบไมไหว
แตเมื่อเขากางหูฟง กลับไดยินเพียงเสียงใบไมไหวอันคุนเคย
หูแววไปเชนนั้นหรือ ตวนมูหวงฮุนไมแนใจ เขากำลังมึนงง
เขารวบรวมสติสัมปชัญญะ ถึงจะขาดประสบการณ แตเขาก็รูดีถึงความสำคัญใน
การยืนยามเมื่ออยูนอกเมือง มันเปนเรื่องของความปลอดภัยของทุกคน ดังนั้นเขาไม
อาจหยอนยานได ในเมื่อเขาเปนคนที่ออกปากอาสาทำหนาที่นี้ ก็ตองทำมันใหดีที่สุด
อยางนอยก็ตองดีกวาไอสารเลวอายฮุย
เปลวไฟที่ลุกโชนคอยๆ สงบลง ความเหน็ดเหนื่อยและความทรมานที่ทนรับมา
ตลอดวันทำใหทุกคนหมดแรง ความเงียบเขาปกคลุมคายพักอยา งรวดเร็วเพราะ
บรรดานักเรียนตางก็พากันหลับใหลไปถวนหนา
ไมมีอะไรเกิดขึ้นตลอดคืน
อายฮุยลืมตามองเห็นถานที่ยังคุอยูตรงจุดที่เคยเปนกองไฟ แสงอรุณสาดสองไปทั่วฟา
โจวเสี่ยวซีกำลังเดินตรวจตราอยูตอนที่เขาสังเกตเห็นวาอายฮุยตื่นแลว เขาพยัก
หนาดวยดวงตาฉายแววชื่นชม กอนที่จะเดินตอไป การพาพวกเด็กใหมกลุมใหญมา
ดวยทำใหเขารูสึกกดดันมาก การขี้โมนั้นก็เปนเรื่องหนึ่ง สวนการทำภารกิจนั้นไมอาจ
เลินเลอได เขารูถึงความรายแรงของสถานการณดี
ยอดฝมือจริงๆ!
อายฮุยนับถือโจวเสี่ยวซีอยางเต็มที่ เขาแข็งแกรงกวาผูใชพลังธาตุสวนใหญที่อา ยฮุย
เคยพบเจอมา ในฐานะยอดฝมือจากสิบสามหนวย เขายอมเหนือกวาผูใชพลังธาตุจาก
กลุมนักลาในแดนรางอยูขั้นหนึ่ง
พวกนักเรียนทยอยกันตื่น เมื่อดวงอาทิตยขึ้นฟาก็ตื่นกันทั้งหมด หลังจากลาง
หนาทำความสะอาดเล็กนอยแลว พวกเขาก็พรอมที่จะออกเดินทาง
ตวนมูหวงฮุนกลับมาพรอมกับขอบตาที่ดำอยางเห็นไดชัด
หมาปาเจาเลหกลายเปนนองหมาตาขาวไปเสียแลว...
อายฮุยประทับใจ ที่สุดแลวการยืนยามก็ไมใชงานที่งายเลยและเขาทำไดไมเลว
ทั้งกลุมรวมตัวกันและเริ่มออกเดินทางไปสูจุดหมายตอไป
ไดยินเพื่อนรวมหองคุยเลนกัน ไดเห็นหลายๆ คนหยิบขนมออกจากกระเปามา
กินเลน ทำใหอายฮุยรูสึกเหมือนพวกเขากำลังออกมาเที่ยวเลนกัน
อายฮุยกับเพื่อนรวมกลุมไมคอยเปนอันหนึ่งอันเดียวกันเทาไร ดังนั้นพวกเขาจึง
อยูรั้งทาย
ระหวางทางอาจารยสวี่ก็มีหนาที่ตองอธิบายไปดวย
“พวกเรากำลังเดินหนาไปยังดินแดนเกา พวกเจาหลายคนมาจากที่นั่น ดังนั้นอาจ
เรียกไดวา พวกเรากำลังจะมุงหนาไปยังบานเกิดของพวกเจา ดินแดนเกาไมเพียงเปน
บานของนักเรียนบางคน แตยังนับวาเปนตนกำเนิดของพวกเราทุกคน
การกอตั้งอูสิงเทียนนั้นมีความเชื่อมโยงกับดินแดนเกาอยางใกลชิด ลวนมาจากตน
กำเนิดเดียวกัน ดังนั้นพวกเราก็นับเปนครอบครัวเดียวกัน และนักเรียนของเราจำนวน
มากก็จะเขารวมอูสิงเทียนในอนาคต ที่เราตอสูอยูทุกวันนี้ไมใชเพื่ออูสิงเทียนหรือ
ดินแดนเกา แตเพื่ออนาคตของเราเอง”
ภายใตแสงอาทิตย นักเรียนกำลังตรึกตรองคำพูดของอาจารยสวี่ที่กลาวออกมา
อยางทรงเกียรติ
โจวเสี่ยวซีไมพูดอะไร เขาเหลือบมองไปทางอาจารยสวี่กอนจะกมหนาเดินตอไป
อายฮุยสังเกตไดวาครูฝกโจวนั้นไมคอยมีแกจิตแกใจ แตไมรูวาเปนเพราะอะไร ใน
แนวรบ มีกำแพงกั้นระหวางอูสิงเทียนกับดินแดนเกาเหมือนดั่งกำแพงลองหน แมมอง
ไมเห็นแตมีอยูทุกที่
ทวาอายฮุยไมรูสึกวาคำพูดของอาจารยสวี่นั้นผิดเพี้ยนแตอยางใด เพราะไมวามัน
จะเปนดินแดนเกาหรือแดนราง อสูรแดงรางก็คือศัตรูที่แทจริงและสำคัญยิ่ง
นอกจากนี ้ เ ขาก็ ม ี ค วามเคารพต อ อาจารย ส วี ่ม าก อาจารย ท ุ ก คนในสนาม
เหนี่ยวนำมีความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แตนอยคนนักที่จะพูดออกมา อาจารยสวี่นับวา
กลาหาญมาก
แนนอนวาอายฮุยไมรูสึกแตกตางอะไรจากเดิมเพราะเขารู สึกวาหัวขอที ่ ท รง
เกียรตินี้ไมเกี่ยวอะไรกับเขาเลย โลกของเขานั้นเล็กจอย จนไมเหลือที่วางใหความ
ทะเยอทะยานอันยิ่งใหญเชนนั้น
มีชีวิตรอดและแข็งแกรงขึ้นจนพอที่จะปกปองผูคนที่เขารักได เทานั้นก็เพียงพอ
สำหรับเขาแลว
ดวงตาของอายฮุยกวาดมองไปทั่วพื้นที่และหยุดอยูตรงตอไมใกลๆ ทำใหเขาหยุด
เดินตามเสนทาง
เขาเดินตรงไปที่ตอไมแลวนั่งยองลง
บทที่ 117 สีแดงเขม
“เจาพบอะไรหรือ”
เสียงของครูฝกโจวดังขึ้นจากดานหลังของอายฮุย กอนจะรูตัว ทั้งสองก็ยืนเคียง
ขางกันแลว
อายฮุยตัวสั่น เขาไมอาจสัมผัสไดถึงการเขามาของครูฝกโจวเลยแมแตนอย นี่คือ
ความสามารถของยอดฝมือจากสิบสามหนวยเชนนั้นหรือ ตั้งแตเขาไดปลูกฝงตัวออน
กระบี่เมื่อตอนที่เขาอยูในแดนราง ก็ไมมีใครสามารถหลุดพนการตรวจจับของเขาได
ในรัศมีสามเมตร
อายฮุยรูสึกเกรงขาม ความปรารถนาอันแรงกลาและแรงกระตุนเติบโตขึ้นภายใน
จิตใจของเขา ยอดฝมือของสิบสามหนวยมีทักษะที่เหนือกวาผูใชพลังธาตุจากกลุมนัก
ลามากนัก
อายฮุยกลับคืนสูความสงบและตอบกลับ “มันเปนรอยกัดที่เกิดจากสัตว ขนาด
ใหญ แรงกัดนี้ชางอัศจรรย พิจารณาจากตอไมนี้แลวก็รูไดวา มันหักดวยการกัดเพียง
ครั้งเดียว”
เขาไมไดบอกวามันเปนอสูรปาหรืออสูรแดนราง แมจะตางกันเพียงคำเดียว แต
พวกมันกลับตางกันมากเนื่องมาจากความสามารถใชพลังธาตุที่ตางกัน
อสูรแดนรางมีมาตั้งแตยุคสมัยแหงการบำเพ็ญตนและมันเกี่ยวของกับแดนราง
อยางใกลชิด พวกมันสามารถใชพลังธาตุได ทวาสวนอสูรปานั้นไมมีความสามารถนั้น
ความชื่นชมฉายอยูในแววตาของครูฝกโจว เขาลดเสียงลงและกลาววา “ระวังตัว
ไว ไมตองพูดออกไป”
“ขาไมพูดหรอก” อายฮุยเขาใจความหมายของครูฝกโจวดี การปลอยขาวออกไป
จะกอใหเกิดการตื่นกลัวที่ไมจำเปน พวกนักเรียนไมคอยมีความมั่นคงทางจิตใจนัก
เมื่ออายฮุยหันกลับไป เขาก็พบกับความวางเปลา จนเมื่อเขามองไปที่ดานหนาจึง
ไดเห็นครูฝกโจวยืนอยูกับเพื่อนรวมกลุมหางไปสิบเมตร เขาขยิบตาใหอายฮุย
ความเร็วขนาดนี้....
อายฮุยตกตะลึงอีกครั้ง
ไมใชวาเขาไมเคยพบกับผูใชพลังธาตุที่มีชื่อเสียงดานความเร็วมากอน แตนี่เปน
ครั้งแรกที่เขาไดพบเห็นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วดุจสายฟาแตไรซึ่งเสียงใหไดยินเชนนี้
เขาทำไดอยางไรกัน
อายฮุยครุนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยางมาก ไตรตรองถึงความเปนไปไดบางอยางแต
ไมมีอ ันไหนที่ดูเปนไปไดเลย อันที ่ จ ริ งแล ว เขารู ว า ระดั บ พลั งของครู ฝ ก โจวนั้น
เหนือกวาระดับความเขาใจของเขา แตเขาก็อดคิดไมไดวาตนจะทำเชนนี้ไดอยา งไร
หากเขามีระดับพลังระดับเดียวกับครูฝกโจว
เขาชอบดื่มด่ำไปกับการจินตนาการดวยการตั้งคำถามและคาดเดาเกี่ยวกับการ
ตอสู จนมันกลายเปนนิสัยของอายฮุยไปแลว เมื่อเขาเผชิญกับปญหา เขาจะพยายาม
คิดซ้ำแลวซ้ำเลาเพื่อวิเคราะหหาทางออกที่เปนไปได มันเปนผลตกคางมาจากใชตัว
ออนกระบี่มาทั้งคืน
อายฮุยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยางเงียบงันในขณะที่เขาเรงฝเทาเพื่อเดินตามเพื่อน
รวมกลุมใหทัน
ไมมีใครรับรูถึงการพูดคุยสั้นๆ ระหวางอายฮุยกับครูฝกโจว พวกเขาลวนอารมณดี
ทันใดนั้นใครบางคนจากดานหนาก็รองตะโกนออกมา “เร็วเขา ดูสิ นั่นมันอะไร”
ทั้งกลุมถูกปลุกใหตื่นตัว ทุกคนหยุดพูดคุยแลวกรูไปมุงดู
อย า งไรก็ ต ามอ า ยฮุ ย ไม ไ ด เ ข า ร ว มกั บ พวกเขา สถานที ่ ท ี ่ ค นหนาแน น นั้ น
เปราะบางตอการจูโจม เขาเคลื่อนตัวไปดานขาง เพิ่มระยะหางระหวางเขากับกลุมคน
พยายามทำความเขาใจกับสถานการณที่เกิดขึ้น
มด มดจำนวนนับไมถวน
พวกมันคลานออกมาไมขาดสายจากหลุมขนาดใหญบนพื้น กลายเปนกระแสคลื่น
มดขนาดกวางสามเมตรยาวสองเมตรกำลังมุงหนาไปยังอูสิงเทียน
“มดเยอะแยะเลย พวกมันกำลังทำอะไร”
“พวกมันกำลังอพยพหรือ”
“เปนภาพที่นาขนลุกเสียจริง”
“ไมตองกังวล พวกมันเปนแคมดธรรมดา ไมใชมดพลังธาตุ”
ทุกคนกำลังพูดคุยกันดวยความสงสัย นี่เปนครั้งแรกที่พวกเขาเห็นอะไรเชนนี้ แต
พวกเขาก็ไมไดกลัวแตอยางใดเพราะพวกมันก็เปนแคมดธรรมดาที่ไมมีอันตราย
“เปนฝูงมดที่ไมเล็กเลย” อาจารยสวี่อธิบาย “ไมใชเรื่องผิดปกติอะไรที่พวกมดจะ
อพยพ เมื่อพวกเจาเขาสูแดนรางในอนาคต เจาจะไดพบกับมดพลังธาตุหลากหลาย
ชนิดและพวกเจาจะตองระมัดระวังเอาไว หากพบเห็นมดอพยพเปนกลุม อยาไดไปยั่ว
ยุพวกมัน อยาไดดูถูกความแข็งแกรงของฝูงมด ถึงแมวามันจะออนแอ ทวานากลัว
มากเมื่อรวมกลุมกัน ครูฝกโจวชวยเลารายละเอียดที”
โจวเสี่ยวซีพยักหนา “ในแดนราง เมื่อมดพลังธาตุอพยพ แมแตอสูรแดนรางยัง
ตองหลบเลี่ยงเสนทางของพวกมัน จะเปนการดีที่สุดหากไมไปยั่วยุสัตวอยางมดหรือ
ผึ้งที่รวมกลุมกันเพื่อเอาชนะ พวกมันเจาคิดเจาแคน และมันจะพาพวกมาลางแคนเจา
หากพลาดไปเหยียบมันเขา ทางที่ดีที่สุดก็คือกำจัดใหหมดอยาใหรอดกลับฝูงได มียา
หลายชนิดที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับสัตวจำพวกนี้โดยเฉพาะ”
ทุกคนตางประหลาดใจ ชางนาสนใจจริงๆ!
อาจารยสวี่รูสึกพอใจมาก การเดินทางครั้งนี้ไดเปดโลกทัศนใหพวกนักเรียน และ
ภาพเชนนี้หาไดยากมากหากอยูในเมืองหรือในโรงเรียน
โจวเสี่ยวซีนำทุกคนออมฝูงมดไป เนื่องจากฝูงมดเคลื่อนไหวชามาก จึงไม ได
ขัดขวางการเดินทางของพวกเขา
ในปาทึบอุดมไปดวยพืชพรรณเขียวชอุม เปนบานของสายธารลาวาที่ไมอาจขาม
ไดซึ่งเปนเสนแบงเขตแดนระหวางสนามเหนี่ยวนำกับดินแดนเกา
สายธารลาวาไหลออกมาจากพื้นดินตลอดป
วากันวาธารลาวาแหงนี้เชื่อมโยงกับโพลงใตดินที่เรียกวา ทุงเพลิงแหงเขาน้ำเตา
แตไมเคยมีใครไดเห็นดอกไมเพลิงลอยอยูในสายธารนี้
ดอกไมเพลิงเปนผลผลิตเฉพาะที่พบไดในทุงเพลิง ซึ่งในความเปนจริงแลว เปน
สถานที่พักพิงของผูใชธาตุไฟ ทามกลางทุงกวางสีดำไรขอบเขตมีภู เขาไฟรู ป ทรง
เหมือนน้ำเตาสูงเสียดเมฆตั้งอยู นานๆ ครั้งภูเขาน้ำเตาจะระเบิดสรางฝนเพลิงชนิด
พิเศษโปรยปรายลงสูทุงเพลิง ฝนเพลิงที่ปกคลุมทุงอันโดดเดี่ยวนี้กอใหเกิดดอกไม
เพลิงที่แสนพิเศษขึ้นมา
ดอกไมเพลิงสีแดงสดกระจายอยูทั่วทุงกวางสีดำ กอใหเกิดทิวทัศนที่งดงามราว
ภาพวาด
หากสายธารลาวามีตนกำเนิดมาจากทุงเพลิงจริง ดอกไมเพลิงควรปรากฏใหเห็น
บนสายธาร ทวาเมื่อไมมีใครเคยเห็นดอกไม เพลิ งในสายธารลาวา จึงไมมีใครเชื่ อ
ตำนานนี้
สายธารลาวาไดแบงแยกสนามเหนี่ยวนำกับดินแดนเกาออกจากกัน และเมืองตางๆ
รวมถึงโรงเรียนตางๆ ในสนามเหนี่ยวนำ กระจุกตัวกันอยูในดานที่ใกลกับอูสิงเทียน
พื้นที่สวนที่ใกลกับดินแดนเกานั้นกลายเปนปาทึบที่เต็มไปดวยพืชพรรณเขียวชอุมและ
สัตวปาดุรายเพราะวาไรผูคน
สนามเหนี่ยวนำสงคนออกมากำจัดอสูรแดนรางเปนประจำแตพวกเขาจะปลอย
ใหอสูรปาธรรมดาไดดำรงอยูและสืบพันธุตอไป
พื้นที่แถวนี้จึงกลายเปนหองเรียนกลางแจงของบรรดานักเรียนในสนามเหนี่ยวนำ
ไปในที่สุด อสูรปานั้นไมนับวาเปนอันตรายเทาไรนัก ทำใหมันเหมาะแกการศึกษาของ
เหลานักเรียน ปาทึบแหงนี้ทำใหนักเรียนไดเรียนรูมากมาย
ไมมีอันตรายอะไรเกิดขึ้นระหวางทาง
แตพวกของอายฮุยก็เผชิญกับความทาทายเล็กๆ นอยๆ อยูเสมอ อายฮุยรูสึกวา
กลุมนี้เดินทางดวยความเร็วที่เชื่องชาราวกับหอยทาก
แตเขาก็ไมบนออกมาแมแตคำเดียวและใชเวลาระหวางที่คนอื่นพักผอนทำการฝกฝน
เมื่อพวกเขาเขาใกลลาวาขึ้นเรื่อยๆ ดอกไมก็เริ่มปรากฏใหเห็นมากขึ้น อายฮุยพบ
พืชพรรณจำนวนไมนอยที่สามารถพบเห็นไดในแดนราง มันคงถูกพวกผูใชธาตุไม
นำมาปลูกในสนามเหนี่ยวนำ เมื่อเวลาผานไปพืชพรรณเหลานี้ก็เกิดการเปลีย่ นแปลง
ไปอยางมาก
อายฮุยเห็นตนหญากระบี่ แตมันไมเหมือนกับตนที่เขาเคยเห็นมาในอดีต มันไมได
สูงใหญ และมีใบที่เรียวกวา ไมไดมีสีเขียวเขมหรือเขียวหมน แตกลับมีสีแดงเขมแผ
รังสีชั่วรายออกมา
เปนเพราะอยูใกลกับลาวาเชนนั้นหรือ พืชพรรณสวนใหญแถวนี้ลวนมีสีแดงเขม
อายฮุยไมรูวาทำไม แตสีแดงเขมพวกนี้ทำใหเขาหัวใจเตนรัว
หลังจากอาจารยสวี่บรรยายจบ อายฮุยจึงเขาใจวา สถานที่แหงนี้ไมใชเพียงแคให
นักเรียนไดมาฝกฝน แตยังคงเปนสถานที่ซึ่งผูใชพลังธาตุไมเพาะปลูกพืชพรรณแปลก
ประหลาดนานาชนิด และปลอยใหพืชเหลานี้เติบโตตามธรรมชาติ แตดวยวาพรรณไม
แปลกประหลาดนั้นมีมากเกินไป จึงไมมีอาจารยคนใดรูจักครบถวนทุกชนิด
อายฮุยไดยินเสียงของมนุษยใกลเขามาจากที่หางไกลดวยสัมผัสอันเฉียบคมของเขา
อายฮุยมีสีหนาที่แปลกไป พวกเขาพบกับนักเรียนหองอื่นเขาโดยไมตั้งใจ
และทันใดนั้นเองเขาก็ไดยินเสียงอันคุนเคยเสียงหนึ่ง และความรูสึกอยากฆาคนก็
ฉายวาบขึ้นในดวงตาของเขา
เจาอวนสารเลว!
บทที่ 118 รวมตัวกัน
“เจายกไมไหวหรือ นี่ ใหขาชวยเจานะ ชั่วโมงละหนึ่งพันหยวนเหรอ นั่นเปน
ราคาเมื่อวานนี้ อันตรายมันเพิ่มขึ้นทุกวันนะ เลินเลอเพียงนิดเดียวนั้นอาจทำใหลมลุก
คลุกคลานได ขานะทนการลมไดสบายเพราะขามันหนังหนาไขมันยิ่งหนากวา แต
สิ่งของของเจานั้นมีคามากแตวาเปราะบาง! หากมันหลนเจาคงเสียหายนาดู! ขาขอพูด
ใหชัดเจนนะ ขาจะไมจายเงินชดเชยใดๆ สำหรับสิ่งของที่เสียหาย หากเจาจริงใจกับ
ขา ขาก็จะจริงใจกับเจาเชนกัน ในเมื่อเราเปนเพื่อนรวมชั้นเรียนกัน ขาจะใหราคาที่
สมเหตุผลกับเจา สองพันหยวนตอชั่วโมง เมื่อตัดเวลาพักออกไป ก็จะตกแคประมาณ
สองหมื่นหยวนตอวันเทานั้น เงินแคนี้จะชวยแกปญหาใหเจาไดมากมาย!”
สีหนาของเจาอวนเต็มไปดวยความจริงใจ เปหลังของอีกฝายดูเหมือนภูเขายอมๆ
ทำใหมันหนักและแบกไดยากเย็นยิ่ง หลังจากลังเลอยูครูเดียวเขาก็ตกลงกับขอเสนอ
ของเจาอวน แมของจะคอนขางแพง แตก็ไมใชเรื่องใหญอะไรสำหรับคนที่ร่ำรวย
เจาอวนรูสึกยินดีในใจ การแบกน้ำหนักเทานี้เปนเรื่องเด็กเลนสำหรับเขา
เขารับเงินมาอยางผาสุก ทวากอนที่เขาจะเอาเงินใสกระเปามือของใครบางคนก็
ยื่นมาจากดานหลังและควาเงินไป
เจาอวนตะลึง แตชั่วขณะตอมานัยนตาของเขาก็หดตัวลง ความรูสึกนี้...มันคุนๆ
อยูนะ เขารีบหันกลับไป คุกเขาลง และกอดขาของอายฮุยเอาไว เขาเริ่มน้ำตาไหล
“อายฮุย ในที่สุดขาก็พบเจา”
“ขอเวลาเราสักครู” อายฮุยฝนยิ้มใหกับนักเรียนที่เพิ่งจายเงินใหกับเจาอวน
เขายกเจาอวนขึ้นดวยมือเดียว สีหนาไรอารมณ รางกายใหญโตหนักอึ้งของเจา
อวนนั้นไมนับวาหนักอะไรในมือของอายฮุย อายฮุยใชมืออีกขางสำรวจไปทั่วกายเจา
อวน ไมเวนแมแตชองลับใดๆ อายฮุยคุนเคยกับวิธีซอนเงินของเจาอวน ในเวลาไมถึง
ครึ่งนาที เขาก็คนที่ซอนเงินทั้งหมดของเจาอวนเสร็จ
“เงินอยูไหน” อายฮุยถามอยางเยือกเย็น
เขาพบเงินเพียงไมถึงหาหมื่นหยวน
อายฮุยไมอยูนิ่งเฉย เขาดึงกิ่งที่เต็มไปดวยหนามแหลมจากพุมไมใกลๆ เมื่อเจา
อวนมองเห็นกิ่งที่เต็มไปดวยหนาม หนาเขาก็ซีดเผือด การสอบสวนดวยวิธีทรมาน
กำลังจะเกิดขึ้น
ทวาเขาไมกลาที่จะขัดขืน เขาเขาใจอายฮุยเปนอยางดี ยิ่งเขาดิ้นรนมากเทาไรเขา
จะยิ่งทรมานมากขึ้นเทานั้น เขารูดีวาความโกรธของอายฮุยนั้นมาจากการที่เขาได
ขโมยเงินอายฮุยไปกอนหนานี้
“ขาใชไปหมดแลว” เจาอวนตอบตามจริง น้ำเสียงของเขาเหมือนกับหมูที่กำลัง
จะถูกเชือด
“เจาใชไปหมดแลว” น้ำเสียงของอายฮุยยังราบเรียบ ความกลัวฉายชัดบนหนา
ของเจาอวนเมื่อเขามองไปที่กิ่งหนามซึ่งกำลังสั่นอยูในมือของอายฮุย
เจาอวนกลืนน้ำลายลงคอ เขารูวาตองจัดการเรื่องนี้ใหจบลงในครั้งนี้
“เจายังจำเจาหนาสิวไดหรือไม ขาวาเจาคงจำไมได เจาไมเคยพูดกับเขาเลย
แมแตครั้งเดียว ขายังจำไดวาในตอนแรก เมื่อขาไมอาจแบกของไดมากนัก เขาเปนคน
ที่ชวยขา และขาเปนคนฝงศพเขา อาการปวยของเมียเขาไมเคยดีขึ้น ลูกสาวเขาถึงวัย
เขาเรียนแลว ตอนที่เจาหนาสิวตาย ขาบอกกับเขาวาถาขารอดชีวิตมาได ขาจะดูแล
ครอบครัวเขา”
กิ่งหนามในมือของอายฮุยหยุดสั่น
เจาหนาสิว...
ใบหนาพราเลือนปรากฏขึ้นในความทรงจำอันแสนไกล ความปวดราว ความกลัว
ราตรีอันมืดมิดราวหมึกดำและสายลมเย็นเยียบดุจน้ำแข็ง ความทรงจำเลือนรางปก
คลุมจิตใจของเขา
อายฮุยมีภาพอันคลุมเครือของคนงานที่ตายในชวงแรกของการเขาไปในแดนราง
เจาอวนไมไดจำผิด เขาไมเคยไดคุยกับเจาหนาสิวแมแตครั้งเดียว เจาหนาสิวไมใชแค
คนเดียวที่เขาไมเคยพูดดวย อันที่จริงแลวเขาไมเคยพูดคุยกับใครเลยนอกจากเจาอวน
“เจายังจำเหลาเวยไดหรือไม ผูชายที่ชอบคุยโม ขาพนันวาเจาจำเขาไมไดเชนกัน
ขายังจำไดวาเมื่อขาเขาไปแดนรางใหมๆ ขานั้นหิวอยูตลอด เฒาเหวยเคยใหอาหารขา
กินครั้งหนึ่ง บอกวาขาอายุพอๆ กับลูกชายของเขา ในวันที่เขาตายมีฝนตกหนัก มันไม
งายเลยที่จะขุดหลุมศพบนดินโคลนที่ถูกชะลางดวยน้ำฝน ขาใชเวลาครึ่งคอนวันกวา
จะฝงเขาไดอยางเหมาะสม เขามีลูกสองคน คนเล็กเปนโรครายที่ไมอาจรักษาหาย
ตอนอายุเจ็ดขวบ เขารูวาลูกเขาไมอาจรอดชีวิต ดังนั้น เขาจึงเขาสูแดนราง ขาสงเงิน
กอ นหนึ่งใหก ับ ครอบครัว ของเขา ถึ งจะไม มากนั ก เพี ย งแค สี ่ ห มื ่ น หยวนเทานั้น
ถึงแมวาขาจะรอดชีวิต แตขาก็ไมอาจทำไดมากกวานี้..”
“เจายังจำพี่ใหญหลี่ไดไหม....”
เจาอวนพูดตอไปไมจบไมสิ้นโดยไมเขาประเด็น บางครั้งเขาจะพูดจนแทบไม
หายใจเมื่อใดที่รอนรน
นักเรียนที่จายเงินใหเจาอวนกอนหนานี้นิ่งอึ้งดวยหวาดกลัวอยูเนิ่นนาน
“ตวนมูหวงฮุน! อา! ขาไมไดฝนไปใชไหม”
“อา เร็วเขา เด็ดดอกไมใหขาที!”
ทันใดนั้นเสียงกรี๊ดกราดของเด็กสาวก็ดังมาจากปาใกลๆ
อายฮุยหมดคำพูด
“อาจารยสวี่ ชางบังเอิญอะไรเชนนี้!”
“อาว ชุยเซียนจื่อ ทานก็พานักเรียนมาทัศนศึกษาเชนกันหรือ”
“มีแคเราสองคนเทานั้นที่รอดชีวิต มีแคเราสองคนเทานั้นที่รอดชีวิต!”
“...อยางนอยพวกเราก็ยังไมตาย...”
ความอบอุน การตอนรับอยางจริ งใจ ความทรงจำที่เศราหมอง ทั้งหมดล ว น
ปรากฏขึ้นอยางผสมปนเปในหัวของอายฮุย
เขายืนแนนิ่งประหนึ่งวาอยูในความฝน
……
“ตอนที่ข า ฝงพวกเขา ขา บอกพวกเขาว า ถ า ข า มี ช ี ว ิ ต รอดมาได ข า จะดู แ ล
ครอบครัวของพวกเขา”
“ทำไมขายังมีชีวิตรอด ทำไม...”
……
เลือดสดๆ ฉีดพุง ฝนหาใหญ อสูรแดนรางขย่ำซากศพ ความทรงจำทั้งหลายฉาย
วาบในใจของอายฮุย รางกายของเขารูสึกเย็นเยียบในฉับพลันราวกับมีน้ำเย็นเฉียบ
ราดรดใสรางเขา เขากำกานหนามแนนจนนิ้วซีดเผือด
……
“ทำไมพวกเราทั้งสองหองไมเดินทางพรอมกันเลา เราจะไดดูแลกัน เมื่อมียอด
ฝมืออยางครูฝกโจวอยูดวย ขาก็คงสบายใจมากขึ้น”
“ดีมาก เปนความคิดที่ดีมาก! ชุยเซียนจื่อชางงดงามจริงๆ ทานแตงงานหรือยัง”
“ขารูวาเจาไมมีเงิน และนั่นทำใหเกิดความไมสะดวกมากมาย ขารูวาขาไมเคยทำ
อะไรใหเจาเลยนอกจากสรางปญหา แตเจามันชั่วชาและไมมีปญหาอะไรที่จะขัดขวาง
เจาได”
……
“สหายตวนมู เจามีคนรักหรือยัง”
“สหายตวนมู เจาตองการเปนเพื่อนกับขาหรือไม”
……
“ขารูวาขาเปนคนเริ่มเรื่องนี้ ขานิสัยไมดี! ขามันโง ขาเปนคนไรประโยชน แตขา
ยังมีชีวิตอยู ทำไมขาตองเปนผูรอดชีวิตดวย ขาทนไมไหวแลว ขาทนไมไหวแลว...”
“ขอโทษ...ขอโทษดวย...”
เจา อว นพูดอะไรฟงไมไดศัพ ท ร า งของเขาสั ่ น สะท า น อารมณ ความรู สึ ก ที่
หลากหลายเออลนอยูในใจราวกับกระแสคลื่น
อายฮุยพลันหลุดพนออกจากฝนรายอันหนาวเหน็บและสูดหายใจลึกสองสามครั้ง
อากาศนั้นหนาวเย็นเสียดกระดูกแตเขาก็ยังรูสึกไดวารางกายของเขาคอยๆ อุนขึ้นอีก
ครั้ง
ใชแ ลว มันคือ ความฝน ความฝ น ที ่ เขาหลบหนี ได มานานแล ว เขาได ล ะทิ้ ง
ชวงเวลาแหงความมืดมนไปแลว ตอนนี้เขาไลลาแสงสวาง เขาไดเริ่มชีวิตใหมแลว
เขาไมใชอายฮุยในแดนรางอีกตอไป เขาแข็งแกรงขึ้นทั้งรางกายและจิตใจ
ดังนั้น...
เมื่อเขาขยับขอมือ กิ่งหนามในมือของเขาก็เริ่มฟาดใสตัวเจาอวน
“เจาไมอาจทิ้งมโนธรรมไดใชหรือไม เจาอยากเปนพระเอกนักใชไหม แลวทำไม
เจาไมฝกใหหนักขึ้น ทำไมไปยุงเรื่องของคนอื่นในเมื่อเจาทำไมได เพียงเพราะเจามี
ชีวิตแตพวกเขาตายเชนนั้นหรือ เจามีชีวิตแลวเปนเชนไร มันเปนเรื่องนาภูมิใจเพียง
นั้นหรือ พับผาสิ เจายังรอดอยูไดอยางไร เจาไมไดแข็งแกรงแลวเจายังมาพร่ำ เพอ
เรื่องมโนธรรมบาบออะไรกัน เจารูหรือไมวาเจาจะตองตายไมเร็วก็ชาหากเจาไม
แข็งแกรงพอ อะไรทำใหเจาคิดวาเจาไมจำเปนตองฝกฝน อะไรทำใหเจาคิดวาเจาไม
จำเปนตองแข็งแกรงขึ้น”
“เจาไมมีพลัง ไมมีเงิน แลวเจายังกลาไปยุงเกี่ยวกับเรื่องของชาวบานอีก แคนั้น
ยังไมพอ ยังจะมาลากขาลงไปกับเจาดวย ขาจะตีเจาใหตาย”
“ถาเขาออนแอก็ตองตาย ถาเขาออนแอก็ตองยากจน และถาเขาตายมันก็เปน
ปญหาของเขา ครอบครัวเขานาสงสารเชนนั้นหรือ ใครบางไมนาสงสาร”
“หากเจาไมตองการใหตัวเองกลายเปนวิญญาณนาสงสาร ก็หาวิธีทำใหตัวเอง
แข็งแกรงขึ้น ทำอะไรก็ตามที่ทำใหไดพลังเพิ่มขึ้น”
“เจาไมอาจหลบซอนจากมันได ขาก็ไมอาจหลบซอนได ไมมีใครหนีพนทั้งนั้น!”
……
“ครูฝกโจว จากนี้ไปโปรดดูแลขาดวย”
“ไมตองกังวล! ใหเปนหนาที่ของขา!”
บทที่ 119 สวนแหงชีวิต
นักเรียนทั้งสองหองเดินทางไปดวยกัน ทำใหพวกนักเรียนที่เริ่มเบื่อกับการทัศน
ศึกษาเปลี่ยนเปนสนอกสนใจและตื่นเตนที่ไดพบกับนักเรียนหนาใหม
ไมมีใครสังเกตเห็นวาอายฮุยลากเจาอวนที่ถูกทุบตีจนนวมกลับเขากลุมมาแลว
สาวๆ สวนใหญหอมลอมอยูรอบๆ ตวนมูหวงฮุน พูดคุยกันไมยอมหยุด
โจวเสี่ยวซีรูสึกเหมือนวาเขาไดพบกับเทพธิดาในฝนเมื่อเห็นชุยเซียนจื่อ เขา
พยายามสุดชีวิตที่จะทำใหนางประทับใจ ทำใหนางหัวเราะไมหยุด สวนอาจารยสวี่ก็
อธิบายใหความรูแกนักเรียนที่ตั้งใจฟงอยางอดทน
“พวกอาจารยเรียกบริเวณนี้วาสวนแหงชีวิต ทำไมถึงเลือกชื่อนี้นะหรือ มีบรรดา
อาจารยที่ใชธาตุไมอยูมากมายในสนามเหนี่ยวนำ และทุกคนก็ทราบดีวาพวกเขานั้น
รักการเพาะพันธุสายพันธุใหมๆ มากแคไหน ซึ่งนั่นทำใหเกิดพืชชนิดใหมมากมาย พืช
พรรณเหลานี้แมวาจะไมมีมูลคา แตพวกอาจารยตางก็ไมยินยอมที่จะทำลายมัน ดังนั้น
พวกเขาจึงนำมาปลูกที่นี่ มีพืชแปลกประหลาดอยูที่นี่มากมายซึ่งแมแตอาจารยก็ยังไม
อาจจดจำพวกมันทั้งหมดได นี่คือสาเหตุที่เราเรียกสถานที่แหงนี้วา สวนแหงชีวิต”
“แลวจะไมเปนปญหาหรือ มันมีอันตรายหรือเปลา” นักเรียนคนหนึ่งถามขึ้น
อยางชวยไมได
“อันที่จริงแลว ทุกคนลวนหวังวามันจะเปนเชนนั้น” เมื่อเห็นสีหนางุนงงของทุก
คน อาจารยสวี่ก็หัวเราะออกมา “อาจารยจะใหตวนมูหวงฮุนที่มีพลังธาตุไมเปนคน
อธิบายใหพวกเจารูวาทำไมพวกเราถึงมาที่นี่”
พวกสาวๆ ที่ทำตัวเหมือนฝูงเปดทำใหตวนมูหวงฮุนแทบบา เขากำลังอารมณไมดี
ไมอยากใหใครเขาใกล หากไมใชเพราะเห็นแกหนาอาจารยที่อยูที่นี่ เขาคงไลตะเพิด
พวกนั้นไปแลว
คำพูดของอาจารยสวี่ทำใหทุกคนสนใจ
ในสายตาของนักเรียนคนอื่น ตวนมูหวงฮุนเปนผูที่ลึกลับ ดังนั้นเมื่อไดยินอาจารย
สวี่บอกวาตวนมูหวงฮุนรูคำตอบ ทุกคนก็หันไปมองทางเขาเปนตาเดียว ดวยตองการ
จะรูวาตวนมูหวงฮุนผูเปนตำนานรูคำตอบจริงหรือไม
ขนาดชุยเซียนจื่อยังหยุดพูดกับโจวเสี่ยวซีแลวหันไปมองตวนมูหวงฮุนดวยความสนใจ
สาวๆ ที่เกะกะอยูรอบๆ ตัวตวนมูหวงฮุนก็เงียบลงไดในที่สุด และจองมองเขา
อยางจดจอดวยดวงตาเบิกกวาง
ตวนมูหวงฮุนรูสึกเหมือนคนขาดอากาศที่กลับมาหายใจไดอีกครั้งในที่สุด เขามอง
ไปทางอาจารยสวี่ดวยความขอบคุณจากนั้นสีหนาของเขาก็เปลี่ยนเปนเยือกเย็นและ
ตอบคำถาม “จากมุมมองของผูใชพลังธาตุไม การมีปญหากับพืชพรรณเปนสิ่งที่ดี
เพราะนั่นหมายถึงวายังมีชองวางใหเกิดการเปลี่ยนแปลงและความเปนไปไดใหมๆ
เมื่อมีการเพาะพันธุไมชนิดใหมขึ้นมา ยิ่งมีความเปลี่ยนแปลงไปมากเทาไร ก็จะยิ่งมี
ประโยชนมากเทานั้น ขาคิดวานั่นคือสิ่งที่อาจารยที่มีธาตุไมทุกคนลวนมุงหวัง”
ความชื่นชมในแววตาของสาวๆ เพิ่มขึ้นอยางมาก
ตวนมูหวงฮุนไมสนใจสายตาเหลานั้น รอบกายของเขาเงียบเชียบ
หากการพูดสามารถทำใหความเงียบงันนี้ยืดยาวออกไปได ตวนมูหวงฮุนก็จะยอม
พูดทั้งวัน