Professional Documents
Culture Documents
แผนผังโคลงสีส่ ุภาพ
รูปแบบในการนิพนธ์
กาพย์ ห่อโคลง
กาพย์ ยานี ๑๑ และโคลงสี่ สุภาพเรียกว่ า กาพย์ ห่อโคลง
มักขึน้ ต้ นด้ วยโคลง ๑ บท แล้วตามด้ วยกาพย์ ยานี ๑๑ เรื่อยไป จน
จบตอนหนึ่งๆ
โดยเนือ ้ ความของโคลงจะเหมือนกาพย์ บทแรก
เมื่อจะขึน ้ ตอนใหม่ กจ็ ะยกโคลงสี่ สุภาพมาอีกหนึ่งบท แล้วตาม
ด้ วยกาพย์ จนจบตอน เช่ นนีส้ ลับกันไป
ตัวอย่ าง กาพย์ ห่อโคลง
โคลง
ปางเสด็จประเวศด้าว ชลาลัย
ทรงรัตนพิมานไชย กิ่งแก้ว
พรั่งพร้อมพวกพลไกร แหนแห่
เรื อกระบวนต้นแพร้ว เพลิศพริ้ งพายทอง ฯ
กาพย์ ยานี ๑๑
พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้ นงามเฉิดฉาย
กิง่ แก้วแพร้ วพรรณราย พายอ่อนหยับจับงามงอน
นาวาแน่นเป็ นขนัด ล้วนรู ปสัตว์แสนยากร
เรื อลิ่วปลิวธงสลอน สาครสัน่ ครั้นครื้ นฟอง
จุดประสงค์ ในการนิพนธ์
จุดประสงค์ในการนิ พนธ์ คือ ใช้ เห่ เรือเล่นในคราวเสด็จฯ โดยทางชล
มาครเพื่อไปนมัสการพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี การเห่เรื อนอกจากจะ
เป็ นที่สาราญพระราชอิริยาบถแล้ว ยังเป็ นการให้จงั หวะแก่ฝีพายด้วย
การดาเนินเรื่อง
เนื้ อเรื่ องมีการพรรณนาชมเรื อ ชมปลา ชมพันธุ์ไม้ ชมนก และเป็ นบท
ครวญ รวมทั้งสอดแทรกการราพึงราพันถึงนางผูเ้ ป็ นที่รักไว้ดว้ ยตามแบบ
แผนในการแต่งนิราศ การพรรณนาการเดินทางนั้นดาเนินเรื่ องสัมพันธ์กบั
เวลา ๑ วัน คือ เช้ า-ชมกระบวนเรือ สาย-ชมปลา บ่ าย-ชมไม้ เย็น-ชมนก คา่ -
บทครวญ
เนือ้ เรื่อง
ชมกระบวนเรื อ มีเรื ออะไรบ้าง ใส่ ชื่อ และ ชื่อโขนเรื อให้ครบ
ชมปลา มีปลากี่ชนิ ด ปลาอะไรบ้าง
ชมไม้ มีพรรณไม้กี่ชนิ ด อะไรบ้าง
ชมนก มีนกกี่ชนิ ด อะไรบ้าง
ทาลงสมุด ใครไม่ ได้ เอาสมุดมา ทาลงในกระดาษส่ งท้ ายชั่วโมง
คุณค่ าของงานประพันธ์
๑.ด้ านวรรณศิลป์
๑.๑ ลักษณะการแต่ ง แต่งถูกต้องตามฉันทลักษณ์ มีสมั ผัสในทาให้ไพเราะ ใช้คาง่าย
ถึงแม้จะเป็ นภาษาอื่นก็เป็ นที่รู้จกั คุน้ เคย เช่น
“ลาดวนหวนหอมตรลบ กลิ่นอายอบสบนาสา
นึกถวิลกลิ่นบุหงา ราไปเจ้าเศร้าถึงนาง”
“บุหงาราไป”เป็ นภาษาชวา
๑.๒ การใช้ คา รู้จกั สรรคาที่มีความหมายเด่นชัด คาทุกคามีความไพเราะรื่ นหู มีการ
สัมผัสแพรวพราวทั้งสัมผัสใน สัมผัสนอก สัมผัสสระ และสัมผัสอักษร สานวนที่ใช้กะทัดรัด
เข้าใจง่าย วางไว้ในที่เหมาะสม เช่น
“เรื่ อยเรื่ อยมาเรี ยงเรี ยง นกบินเฉี ยงไปทั้งหมู่
ตัวเดียวมาพลัดคู่ เหมือนพี่อยูผ่ เู ้ ดียวดาย
คุณค่ าของงานประพันธ์
เห่ ชมปลา
พิศพรรณปลาว่ายเคล้า คลึงกัน
ถวิลสุ ดาดวงจันทร์ แจ่มหน้า
มัตสยาย่อมพัวพัน พิศวาส
ควร ฤ พรากน้องช้า ชวดเคล้าคลึงชม
ปลากรายว่ ายนา้ คู่กนั ก็ดูดี แต่ น้องไม่ ได้ อยู่ใกล้ พี่ แม้ จะมอง
ปลาตัวว่ ายเคล้ ากันก็เศร้ าใจทีจ่ ากน้ องมา
หางไก่วา่ ยแหวกว่าย หางไก่คล้ายไม่มีหงอน
คิดอนงค์องค์เอวอร ผมประบ่าอ่าเอี่ยมไร
มองดูหมู่ปลาก็อยากให้ น้องมานั่งดูด้วยกัน
กาพย์เห่เรือ
พระนิพนธ์ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศ
เห่ ช มไม้
โคลง
เรือชายชมมิ่งไม้ มีพรรณ
ริมท่าสาครคันธ์ กลิ่นเกลี้ยง
เพล็ดดอกออกแกมกัน ชูช่อ
หอมหื่นรื่นรสเพี้ยง กลิ่นเนื้อนวลนาง ฯ ฯ
เรือของพี่แล่นคล้อยไปจนพบพรรณไม้ต่างๆ อยู่ริมท่าน้า
มีกลิ่นหอมสดชื่น ผลิดอกออกช่อผสมกัน กลิ่นหอมน่าชื่นเชย
เหมือนกลิ่นเนือของน้อง
เรือชายชมมิ่งไม้ ริมท่าไสวหลากหลายพรรณ
เพล็ดดอกออกแกมกัน ส่งกลิ่นเกลี้ยงเพียงกลิ่นสมร
กระบวนเจ้าฟ้าธรรมาธิเบธเคลื่อนชมพันธ์ไม้กลากหลาย
ชนิดขึนริทน้า ผลิดอกออกช่อผสมกัน มีกลิ่นหอมสดชื่นเหมือน
กลิ่นกายน้อง
ชมดวงพวงนางแย้ม บานแสล้มแย้มเกสร
คิดความยามบังอร แย้มโอษฐ์ยิ้มพริ้มพรายงาม
ดอกจ้าปาดกแน่นต้น ต่างคลี่กลีบสีเหลืองกระจ่างสวย
คิดถึงผิวน้องที่เป็นสีเหลืองสวยกว่าสีดอกจ้าปา
ประยงค์ทรงพวงห้อย ระย้าย้อยห้อยพวงกรอง
เหมือนอุบะนวลลออง เจ้าแขวนไว้ให้เรียมชม
ดอกประยงค์เป็นพวงห้อยระย้า เปรียบเหมือนอุบะที่น้อง
ร้อยแขวนประดับให้พี่ดู
พุดจีบกลีบแสล้ม พิกุลแกมแซมสุกรม
หอมชวยรวยตามลม เหมือนกลิ่นน้องต้องติดใจ
ดอกพุดจีบมีกลีบสวยงาม ดอกพิกุลขึนแซมดอกสุกรมนัน
ต่างโชยกลิ่นหอมระรวยมาตามลม หอมเหมือนกลิ่นของน้องที่พี่
ติดใจ
สาวหยุด พุดทชาด บานเกลื่อนกลาดดาษดาไป
นึกน้องกรองมาไลย วางให้พี่ข้างที่นอน ฯ
ดอกล้าดวนก็หอมตระหลบติดจมูก คิดถึงกลิ่นบุหงาร้าไป
(ดอกไม้ที่อบเครื่องหอม ห่อด้วยผ้าโปร่ง) ที่น้องท้า แล้วเศร้าใจ
คิดถึงน้อง
รวยรินกลิ่นราเพย คิดพี่เชยเคยกลิ่นปราง
นั่งแนบแอบเอวบาง ห่อนแหห่างว่างเว้นวัน
กลิ่นดอกไม้หอมรวยรินมากับสายลม ท้าใหคิดถึงกลิ่น
แก้มน้อง ยามนั่งแนบชิด ไม่เคยเว้นว่างห่างไกลกันเลยสักวันเดียว
ชมดวงพวงมาลี ศรีเสาวภาคย์หลากหลายพรรณี
วนิดามาด้วยกัน จะอ้อนพี่ชี้ชมเชย ฯ
“เห่ ชมนก”
โคลง
รอนรอนสุ ริยโอ้ อัสดง
เรื่ อยเรื่ อยลับเมรุ ลง ค่าแล้ว
รอนรอนจิตจานง นุชพี่ เพียงแม่
เรื่ อยเรื่ อยเรี ยมคอยแก้ว คลับคล้ายเรี ยมเหลียว
นกแขกเต้ าทีอ่ ยู่กนั เป็ นคู่ๆบนต้ นไม้ ไซ้ ปีกหางให้ กนั ทาให้ พนี่ ้ัน
คิดถึงคิดถึงน้ องที่เคยแนบข้ าง ตอนนีจ้ ากนางมานานหลายวันแล้ว
ดุเหว่าเจ่าจับร้อง สนัน่ ก้องซ้องเสี ยงหวาน
ไพเราะเพราะกังวาน ปานเสี ยงน้องร้องสัง่ ชาย
ถอดคาประพันธ์
เสี ยงหัวเราะนีเ้ ป็ นของผู้ใดพีไ่ ม่ ร้ ู ว่าเป็ นเสี ยงน้ องหรือเปล่ า เสี ยงทีต่ ามพีม่ า
เสี ยงของน้ องนางอันเป็ นทีร่ ักไม่ มีผ้ ใู ดเปรียบได้
เสี ยงสรวลระรี่ น้ ี เสี ยงแก้วพี่หรื อเสี ยงใคร
เสี ยงสรวลเสี ยงทรามวัย สุ ดสายใจพี่ตามมา
ถอดคาประพันธ์
เสี ยงหัวเราะนีเ้ ป็ นของผู้ใด เหมือนเสี ยงของน้ องนางอันเป็ นทีร่ ักที่ตามมา
ลมชวยรวยกลิ่นน้อง หอมเรื่ อยต้องคลองนาสา
เคลือบเคล้นเห็นคล้ายมา เหลียวหาเจ้าเปล่าวังเวง
ถอดคาประพันธ์
ลมเบาๆช่วยพัดพากลิ่นของน้องนางมาที่จมูกของพี่ เหมือนน้อง
ตามพี่มา แต่พอมองหากลับไม่พบ
ยามสองฆ้องยามยา่ ทุกคืนค่ายา่ อกเอง
เสี ยงปี่ มี่ครวญเครง เหมือนเรี ยมคร่ าร่ าครวญนาน
ถอดคาประพันธ์
ยามตีสองเสี ยงฆ้ องดังขึน้ บอกเวลา ทุกคืนพีเ่ ฝ้ าทุกข์ ระทม
เสี ยงปี่ ทีบ่ รรเลงเหมือนดั่งเสี ยงของพีท่ ี่คร่าครครวญคิดถึงน้ อง
ล่วงสามยามปลายแล้ว จนไก่แก้วแว่วขันขาน
ม่อยหลับกลับบันดาล ฝันเห็นน้องต้องติดตา
ถอดคาประพันธ์
ยามตีสามใกล้จะรุ่ งเช้า มีเสี ยงไก่ขนั พี่เผลอหลับไปก็ฝันนึกถึง
น้องติดตาพี่
เพรางายวายเสพรส แสนกาสรดอกโอชา
อิ่มทุกข์อิ่มชลนา อิ่มโศกาหน้านองชล
ถอดคาประพันธ์
เวลาเย็นเป็ นเวลาทีต่ ้ องกาข้ าวปลา แต่ เวลานีพ้ เี่ ศร้ าใจทีไ่ ม่ ได้ กนิ
ข้ าว ได้ แต่ อดิ ่ มความทุกข์ อิม่ นา้ ตา อิม่ ความเศร้ า หน้ าเต็มไปด้ วยนา้ ตา
เวรามันแล้ว จึงจาแคล้วแก้วโกมล
ให้แค้นแสนสุ ดทน ทุกข์ถึงเจ้าเศร้าเสี ยดาย
ถอดคาประพันธ์
เวรกรรมได้ ตามพีท่ นั แล้ว ทาให้ พคี่ ลาดแคล้วจากน้ องอัน
เป็ นทีร่ ัก ทาให้ แค้ นใจมากทีส่ ุ ด และมีแต่ ความทุกข์ ทคี่ ดิ ถึงน้ อง
งามทรงวงดัง่ วาด งามมารยาทนาดกรกราย
งามพริ้ มยิม้ แย้มพราย งามคาหวานลานใจถวิล
ถอดคาประพันธ์
ความงามของน้ องนางที่งามพร้ อม งามทรวดทรงดัง่ มีช่างมาวาด
ไว้ งามทั้งมารยาท งามยามยิม้ และงามคาพูด ทีท่ าให้ พคี่ ดิ ถึงตลอดเวลา
แต่ เช้ าเท่ าถึงเย็น กลา้ กลืนเข็ญเป็ นอาจิณ
ชายใดในแผ่นดิน ไม่ เหมือนพีท่ ตี่ รอมใจ
ถอดคาประพันธ์
ตั้งแต่ เช้ าถึงเย็น พีก่ ลา้ กลืนแต่ ความทุกข์ อยุ่ตลอดเวลา ไม่ มชี ายใดใน
แผ่นดินนี้ ทีจ่ ะตรอมใจได้ เท่ าพี่
โคลง
เรี ยมทนทุกข์แต่เช้า ถึงเย็น
มาสู่ สุขคืนเข็ญ หม่นไหม้
ชายใดจากสมรเป็ น ทุกข์เท่า
เรี ยมเลยจากคู่วนั เดียวได้ ทุกข์ปิ้มปานปี
ถอดคาประพันธ์
พีท่ นทุกข์ ต้งั แต่ เช้ าจวบจนถึงเย็น ตอนกลางคืนทีเ่ คยมีความสุ ขก็กลับ
ยิง่ มีทุกข์ ใจมากขึน้ ชายใดก็ตามทีต่ ้ องจากนางอันเป็ นทีร่ ักมาย่ อมมีความ
ทุกข์ แต่ ความทุกข์ น้ันยังไม่ เท่ าความทุกข์ ของพี่ ทีจ่ ากน้ องมาวันเดียว
เหมือนกับมีความทุกข์ เป็ นปี
การแต่งกายของผูป้ ระจาเรือ
พนักงานเห่เรือ คนสัญญาณเรือพระที่นง่ั
การแต่งกายของผูป้ ระจาเรือ
เรือพระที่นง่ั นารายณ์ทรงสุบรรณ
เรือเอกไชยเหินหาว และ เรือเอกไชยหลาวทอง
เรือทีใ่ ช้ในกระบวนพยุหยาตราชลมารค
เรือครุฑเหินเห็จ เรือครุฑเตร็ดไตรจักร
เรือทีใ่ ช้ในกระบวนพยุหยาตราชลมารค
เรือกระบี่ปราบเมืองมาร เรือกระบี่ราญรอนราพณ์
เรือทีใ่ ช้ในกระบวนพยุหยาตราชลมารค
เรืออสุรวายุภกั ษ์ เรืออสุรปักษา
เรือทีใ่ ช้ในกระบวนพยุหยาตราชลมารค
เรือทองขวานฟ้ า เรือทองบ้าบิ่น
เรือทีใ่ ช้ในกระบวนพยุหยาตราชลมารค
เรือเสีอคารณสินธุ ์
เรือเสือทยานชล
เรือทีใ่ ช้ในกระบวนพยุหยาตราชลมารค
เรือแตงโม
เรืออีเหลือง
เรือทีใ่ ช้ในกระบวนพยุหยาตราชลมารค
เรือดัง้
เรือแซง