Professional Documents
Culture Documents
๑.ลิลิตโองการแข่งน้้า
ผ้้แต่ง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำารงราชานุภาพ
ทรงสันนิ ษฐานว่าอาจแต่งในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีท่ี๑ (อ่่ทอง) ผ้แ ่ ต่งคงจะเป็ นผ้่ร้่พิธีพราหมณ์
และร้่วิธีประพันธ์ของไทยเป็ นอย่างดี สมเด็จพระรามาธิบดีท่ี ๑ (อ่ท ่ อง)เป็ นปฐมกษัตริย์แห่งกรุง
อยุธยาสมเด็จฯกรมพระยาดำารงราชานุภาพ ทรงสันนิ ษฐานส่าสมเด็จพระรามาธิบดีท่ี ๑เป็ นเชื้อ
สายของพระเจ้าสิริชัยเชียงแสนแห่งแคว้นสิริธรรมราช จึงเป็ นต้นวงศ์เชียงราย เป็ นราชบุตรเขย
ของพระเจ้าอ่่ทอง เมื่อ พ.ศ.๑๘๘๗ ได้เป็ นเจ้าเมืองอ่่ทอง ซึง ่ ขณะนั้นขึน้ ต่อเมืองสุโขทัย ต่อมาเกิด
โรคระบาด จึงทรงย้ายราชธานี มาตั้งตำาบลหนองโสน แขวงเมืองอโยธยา เมื่อ พ.ศ.๑๘๙๓ ขนาน
นามใหม่ว่า กรุงเทพทวาราวดีศรีอยุธยา และพระองค์ได้รับพระนามใหม่ว่า สมเด็จพระรามาธิบดี
ที่ ๑ ทรงตั้งพระองค์เป็ นใหญ่ไม่ขึ้นต่อกรุงสุโขทัยนับแต่สถาปนาราชธานี ในรัชกาลนี้ ได้รับ
วัฒนธรรมขอมและพราหมณ์เป็ นอันมาก ภาษาไทยจึงเริ่มมีคำาเขมรเข้ามาปะปนมากขึน ้ มีการ
ประกอบพิธีถือนำ้าพระพิพัฒน์สัตยา หรือพิธีศรีสัจปานกาล ตามแบบเขมร ซึ่งถ่ายทอดมาจาก
พราหมณ์อีกต่อหนึ่ ง
ประวัติ ต้นฉบับที่เหลืออย่่เขียนด้วยอักษรขอม ข้อความที่เพิ่มขึ้นในรัชกาลที่๔ ตามหลักฐานซึ่ง
รัชกาลที่ ๕ทรงยืนยันไว้ในพระราชพิธีสิบสองเดือน คือ "แทงพระแสงศรประลัยวาต" "แทง
พระแสงศรอัคนิ วาต" และ "แทงพระแสงศรพรหมมาสตร์"คำาประพันธ์ท่ีใช้คือโคลงห้าและร่าย
โบราณ หนังสือเรื่องนี้ นับว่าเป็ นวรรณคดีเรื่องแรกของคนไทย ที่แต่งเป็ นร้อยกรองอย่าง
สมบ่รณ์แบบ ชื่อเรียกแต่เดิมว่าโองการแช่งนำ้าบ้าง ประกาศแช่งนำ้าโคลงห้าบ้าง ต้นฉบับที่ถอด
เป็ นอักษรไทยจัดเป็ นวรรคตอนคำาประพันธ์ไว้ค่อนข้างสับสน พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเจ้าอย่่หัว
ทรงสอบทานและพระราชวินิจฉัยเรียบเรียงวรรคตอนใหม่
ท้านองแต่ง มีลักษณะเป็ นลิลิต คือ มีร่ายกับโคลงสลับกัน ร่ายเป็ นร่ายโบราณ ส่วนโคลงเป็ น
โคลงแบบโคลงห้าหรือมณฑกคติ ถ้อยคำา ถ้อยคำาที่ใช้ส่วนมากเป็ นคำาไทยโบราณ นอกจากนั้นมี
คำาเขมร และบาลี สันสกฤต ปนอย่่ด้วย คำาสันสกฤตมีมากกว่าคำาบาลี
ความมุ่งหมาย ใช้อ่านในพิธีถือพระพิพัฒน์สัตยาหรือพิธีศรีสัจปานกาล ซึ่งกระทำาตั้งแต่รัชกาล
สมเด็จพระเจ้าอ่่ทองสืบต่อกันมาจนเลิกไปเมื่อประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็ นระบบ
ประชาธิปไตย ใน พ.ศ.๒๔๗๕
เรื่องย่อ เริ่มต้นด้วยร่ายดั้นโบราณ ๓ บท สรรเสริญพระนารายณ์ พระอิศวร พระพรหมตาม
ลำาดับ ต่อจากนั้นบรรยายด้วยโคลงห้า และร่ายดั้นโบราณสลับกัน กล่าวถึงไฟไหม้โลกเมื่อสิ้น
กัลป์ แล้วพระพรหมสร้างโลกใหม่ เกิดมนุษย์ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ การกำาหนดวัน เดือน ปี และ
การเริ่มพระราชาธิบดีในหม่่คน แล้วอัญเชิญพระกรรมบดีป่่เจ้ามาร่วมเพื่อความศักดิส ์ ิทธิ ์ ตอนต่อ
ไปเป็ นการอ้อนวอนให้สิ่งศักดิส ์ ิทธิเ์ รืองอำานาจมี พระพุทธ พระธรรมพระสงฆ์ เทพยาดา อส่ร ภ่ต
ปี ศาจ ตลอดจนสัตว์มีข้เี ล็บเป็ นพยาน ลงโทษผ้่คิดคดกบฏต่อพระเจ้าแผ่นดิน ส่วน
โคลงที่แต่งถ่กแผนบังคับและมีความไพเราะจับใจอันเป็ นคำาของพระเพื่อนพระแพงตรัสแก่พระพี่
เลี้ยงไปไว้เป็ นแบบอย่างโคลงสี่สุภาพในหนังสือจินดามณี โคลงดังกล่าวคือ
เสียงฦาเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่เอย
เสียงย่อมยอยศใคร ทั่วหล้า
สองขือพี่หลับใหล ลืมตื่น ฦาพี่
สองพี่คิดเองอ้า อย่าได้ถามเผือ
ลิลิตพระลอเป็ นวรรณคดีแบบฉบับ คือ เป็ นแบบคร่ท่ีวรรณคดีในสมัยหลังนิ ยมเลียน
http://www.nuanphun.com/no102.html
http://writer.dek-d.com/Writer/story/view.php?id=255764#ixzz13Tm8JrkH