Professional Documents
Culture Documents
ตอนที่ 1 จันทโครบเรียนศิลปศาสตร์กับพระฤๅษี
๏ จะกล่าวกาลกิณีนารีรา้ ย ให้แจ้งชายกุลบุตรที่ฝึกสอน
ยังมีราชนิเวศน์เขตนคร นรินทรพรหมทัตกระษัตรา
ชื่อพระจันทโครบกุมารา พระชันษาถ้วนถึงสิบสองปี
ด้วยสมเด็จพระบิดาชรานัก พระลูกรัก[๒]จะให้ครองบูรีครี
พระตรึกความตามในประเพณี จึ่งมีเทวราชเรียกโอรสพลัน
เจ้าพ่อเอ๋ยพระบิดาชราแล้ว อันลูกแก้วจะให้ครองมไหศวรรย์
ประเพณีมีมาแต่สามัญ ทุกเขตขัณฑ์แว่นแคว้นในแดนดิน
ร า ย วิ ช า 208231 ว ร ร ณ ก ร ร ม กั บ สั ง ค ม Page |2
อันฤๅษีชีไพรวิไสยเพท ย่อมเรืองเดชวิทยามหาศาล
แล้วทรงเครื่องกัมพลสุคนธรส ละไมหมดแม้นเทพรังสรรค์
เครื่องบุปผามาลัยกระแจะจันทน์ สารพันธูปเทียนปทุมา
จึงกราบลาพระบิดาแลมารดร ก็อวยพรลูกน้อยเสน่หา
พอฆ้องค่าย่าแสงพระสุรยิ า กุมาราออกจากพระบูรี
สันโดษเดียวเปลี่ยวองค์ในพงพี จนไขศรีแสงหิรญ
ั อร่ามพราย
แมลงภู่เคียงประคองละอองอาย ขจรจายรื่นรสมารวยริน
วายุว่องต้องใบก็ไกวกวัด สารพัดผลไม้ในไพรสิน
บ้างร่วงโรยหล่นตกวิหคกิน พระนรินทร์เก็บเสวยสว่างใจ
แล้วเดินชมพนมพนาเวศ สาคเรศกรวยกรอกซอกไศล
มัจฉาว่ายรายเรียงในวารี ประกอบมีปทุมมาศดาษดา
กระแทกดังพังแผ่นศิลาลาน กระทบธารโกงก้องกะกางกัง
พระกุมารลานแลละเลิงจิต พลางพินิจพรรณไม้พระทัยหวัง
สนโศกโศกสนระคนกัน มูลมันมันมือพยัคฆา
อ้อยช้างช้างชิงกันหักชัก นางกวักกวักแกว่งริมเพิงผา
คณานกนกร้องคะนองมา มยุราเคียงนางมยุรนิ
อรหันผันพักตร์กระพือบิน กินรินเคียงข้างนางกินรี
ฝูงเลียงผาเลียบเหลี่ยมผาโผน กิเลนโจนไล่นางกิเลนหนี
จะเหลียวซ้ายแลขวาน่าอนาถ ถึงที่ลาดเหลี่ยมผาเข้าอาศัย
พระเกศาคลี่คลายสยายเกล้า พระสร้อยเศร้าเปลี่ยวจิตพิศวง
พอลุถึงอัศโมพระโคดม ที่จงกรมสร้างพรตในไพรสาณฑ์
นิยมปองกองกูณฑ์นมัสการ เข้านั่งฌานหลับเนตรภาวนา ฯ
ชักประคาสารวมพระเนตรนิ่ง ดั่งขอนพิงพาดไว้ในไพรสัณฑ์
สาอางนวลล้วนเลิศวิไลตา พระมหาโคดมก็ยินดี
จึ่งกล่าวรสพจนารถปราศรัยสาร ประสกหลานมาไยในไพรศรี
พระบิดาข้าครองพระเวียงไชย ชื่อท้าวไทพรหมทัตกระษัตรา
ร า ย วิ ช า 208231 ว ร ร ณ ก ร ร ม กั บ สั ง ค ม Page |5
ถึงสามเดือนโดยค้างมากลางดง จึ่งถึงองค์จอมเจ้าใจอารี
พระโคดมบรมมุนี เธอก็มีโสมนัสเสน่หใ์ น
สงสารเจ้าเศร้าซูบน่าสังเวช แล้วเกล้าเกศกวดกันพระเกศา
พระทรงญาณชวนหลานไปสู่สระ ลงชาระวารินเกษมสันต์
ให้หลานรักหักบุษะบัวบัน พอสายัณห์คืนมาศาลาลัย
ให้ไสยาสน์เคียงบาทพระดาวบส[๓] พระทรงพรตเข้าฌานตามวิสยั
ร า ย วิ ช า 208231 ว ร ร ณ ก ร ร ม กั บ สั ง ค ม Page |6
ชักประคาร่าภาวนาไป ประมาณได้หลายวันทิวากาล ฯ
พระโคดมบรมเรืองญาณ สอนกุมารสังวัธยายมนต์
ว่าคาถาอาคมของพรหมเมศ ซึ่งวิเศษจาได้ไม่ขดั สน
ประสิทธิทดลองละเลิงตน การประจญข้าศึกก็เจนใจ
จึ่งกล่าวรสพจนารถฉลองคา หลานจงจาไว้หนาตาจะสอน
คือหลงรักนารีมีกระบวน กับหลงชวนเชยชื่นที่รูปงาม
๏ ภูวนาถกราบบาทพระดาวบส ขอรับรสอามฤคในคาสอน
หลานจะลาพระเจ้าตาคืนนคร สนองคุณบิดรพระมารดา
พอแจ้งการหลานรักจักกลับมา สนองคุณอัยกาในไพรวัน
ด้วยเดชะภาวนารักษาฌาน ความราคาญโรคาไม่ยายี
แล้วจูบกอดแก้วตาด้วยอาลัย งามละไมดั่งเทพเทวา
นารีใดในทวีปวงศ์มนุษย์ ก็แสนสุดที่จะสมเสน่หา
ทรงโฉมประโลมลักษณ์ภคั นิ ี กุมารีอยู่ในผอบทอง
แล้วเขียนชื่อนางใส่ลงในฝา ชื่อโมราโฉมศรีไม่มีสอง
จึ่งแย้มโอษฐ์โปรดยื่นผอบทอง นี่แน่ของตาให้เอาไปเมือง
เข้ากอดบาทดาวบสระทดใจ ชลนัยน์ไหลหลั่งลงพรั่งพราย
เคยประเคนเพลเช้าจะเปล่าดาย ใครจะสอยผลไม้ก็ไม่มี[๑]
เวลาฉันเคยปันให้หลานรัก เคยชวนชักลงสรงวารีศรี
แต่ข่ืนข่มอารมณ์อาลัยปอง กรประคองนัดดาด้วยอาลัย
ประทักษิณสามรอบบรรณศาลา พระหัตถาทรงศรพระขรรค์คม
พระภูษาพันผูกผอบปิ ด ไม่เกรงฤทธิ์ไพรีเท่าเส้นผม
ลิบลิบแลลับพระดาวบส แสนกาสรดเศร้าสร้อยละห้อยไห้
แสนสงสารกระษัตราวราพงศ์ พิศวงอ้างว้างในไพรสัณฑ์
พระคุณเอ๋ยเทวาศักดาเดช พิมานเมศมิ่งไม้ไพรระหง
ห้วยละหานธารทางในกลางดง ขอฝากองค์บพิตรพระสิทธา
แจ้วแจ้วแว่วเสียงกระเหว่าร้อง ประสานซ้องเสียงสกุณปักษา
ไก่ดงขันขานกังวานดัง เมื่อไรจะถึงวังระงับร้อน
ถึงกองกรรมจาใจให้นิยม ในอารมณ์เร่าร้อนดังเพลิงกาล
ผลกรรมลืมคาพระสิทธา จึ่งเผยฝาผอบออกทันใจ
นุชน้องต้องเนตรพระภูวไนย กายาใหญ่เกินที่ผอบทอง
จักรพงศ์พิศวงพระทัยหวัง ประคองนั่งแนบนางพลางสนอง
เรียมพะวงหลงคิดว่าของอื่น สิบห้าคืนแล้วพี่ขาดสวาทศรี
พระว่าพลางทางกรายพระกรกาง ขอเชิญนางนุชนั่งบนเพลาพลัน ฯ
ร า ย วิ ช า 208231 ว ร ร ณ ก ร ร ม กั บ สั ง ค ม P a g e | 11
สนองคาโดยคมคารมครัน ไม่เห็นขันเลยมาชวนไปปกครอง
จะก้มหน้าลาไปในไพรระหง ขอเชิญองค์พระไปครองบูรีศรี
นี่เรียมจนด้นเดินมากลางเถื่อน เอาโขดเขื่อนมิ่งไม้ไพรระหง
น้องจะขอลาองค์พระทรงฤทธิ์ ไปอาศรมนักสิทธิ์ตามวิสยั
ทาขยับกายาจะคลาไคล ภูวไนยกุมกรนางกัลยา
พระฤๅษีมีญาณประทานมา จาเพาะว่าเจียวฤๅเจ้าจะยอมใจ
๏ นางผลักหัตถ์ฤๅสายตะกายข่วน เชิงกระบวนตอบถ้อยสุนทรสนอง
น่าเจ็บจิตเพียงชีวิตจะปลิดปลง นี่ฤๅจงใจรักประจักษ์ใจ ฯ
เอ็นดูพ่ีเถิดนะน้องอย่าร้องเลย เจ้าข้าเอ๋ยขนพองสยองหัว
ลิงทโมนมันจะโจนมาจับตัว พระแกล้งยั่วหยอกเย้าเยาวมาลย์
พิศวาสแล้วไม่ปรารถนาพาล กว่าจะลาญชีพล่วงชีวาลา
ยามถนอมพี่จะกล่อมไว้กลางตัก เมื่อยามเชยมิให้หนักซึ่งนาสา
แต่มารยามารยาทกระษัตรี ดุษฎีพลางกล่าวสุนทรวอน
สุวรรณหงส์ไม่ประจงรักษาศักดิ์ มาหลงปลักปลอมกาต่างภาษา
เหมือนเช่นน้องพระจะลองประโลมเล่น พอหยุดเย็นเหมือนศาลาที่อาศัย
ราษฎรฤๅจะค่อนมานินทา เจ้าแกล้งว่าให้พ่ีเว้นสวาทชม
มเหสีพ่ีก็มีแต่รายนึก อย่าคิดลึกไปเลยน้องให้หมองหมาง
จะหน่วงชมมิให้สมเสน่หน์ าง เห็นสุดอย่างที่จะร้างไว้แรมวัน
ดังเด็ดได้ดาราในอากาศ มาสวาทแนบนุชสุดกระสัน
หิมวันต์เลื่อนลั่นสะท้านสะเทือน สาครเคลื่อนลูกละลอกกระฉอกฉาน[๗]
มัจฉาโดดโลดเล่นในลาธาร เสียงสะท้านเขากระทบกระทั่งกัง
อ้าโอษฐ์อมอับพยับแสง ทุกหล้าแหล่งมืดมิดทุกทิศา
๏ พระอิงแอบแนบนั่งประคองน้อง ถนอมต้องเต้าเต็มพระหัตถา
พระหลงลืมสาวสรรค์สวรรยางค์ สวาทยั่วหยอกนางถนอมกร
เที่ยวเลียบริมลาธารสาราญใจ ภูวไนยชื่นชมอุบลบาน
บ้างแดงขาวเหมือนดาวในอากาศ สกุณชาติจิกกินเกสรหวาน
บ้างร่วงโรยกลีบหล่นในชลธาร พระชวนมิ่งเยาวมาลย์สรงวาริน
นางยื่นเล็บเก็บดอกกระจับสด พระหักสัตตบงกชอันเลขา
พระโฉมยงเสร็จทรงพระแสงศร สายสมรรับทรงพระแสงขรรค์
พระชวนโฉมโมราวิลาวัณย์ จรจัลตามแนวพนมไพร
นางโฉมงามวอนถามพระภูวไนย สักเมื่อไรจึ่งจะถึงบูรีศรี
พระปลอบโลมโฉมกัลยาณี จวนบูรีเราแล้วนะแก้วตา
อุตส่าห์แข็งขืนใจไปเถิดแม่ อย่าท้อแท้ให้พ่ีพลอยละห้อยหา
เจ้าม้วยลงพี่ก็คงมรณา ดวงยี่หวาเหมือนชีวิตชีวาลัย
นกกระทาจับต้นคนทาขัน เบญจวรรณกระวานประสานเสียง
ที่ก่ิงแก้วนั่นแน่เจ้าเขาชวา นั่นโมราราร่อนบนยอดยาง
ว่ายังมีมยุรากับการ้าย จะผลัดกันเขียนลายให้เฉิดฉัน
ร า ย วิ ช า 208231 ว ร ร ณ ก ร ร ม กั บ สั ง ค ม P a g e | 18
ถึงทีกามยุราจึ่งลงรัก แล้วจะปักลายทองให้เฉิดฉาย
เห็นกาล้อมตอมตามนกออกมา กัลยาทูลถามไปทันที
เข้าฉวยฉาบคาบปลาเขามาได้ เขาก็ไล่ยิงถูกทวารหนัก
ลูกกระสุนคาทวารราคาญนัก เจียนว่าจักขาดใจลงหลายครา
โตกิเลนเลียงผาสิงคาลวัน บ้างโผนผันตามเพื่อนลาพองกาย
นรสิงห์ลิงค่างกลางพนม ร้องระงมกราดเกริ่นเนินวนา
ดอกลาดวนหวนหอมกระหลบกลิ่น ระรวยรินรื่นในไพรระหง
พระกรายเล็บเก็บดอกลาดวนดง ให้โฉมยงเยาวยอดสุมาลัย
ลิงค่างครางครวญรัญจวนใจ ปักษาไพรเพรียกพร้องทุกรวงรัง
ขืนดารงชวนองค์มเหสี พระจูงนางจรลีบนเหลี่ยมผา
ไม่เคยยากกรากกราระกาแรง พระศอแห้งหอบหิวกระหายชล
เยาวมาลย์ทอดกายสยายเกศ ชลเนตรไหลนองดั่งฟองฝน
โอ้พระมิ่งทูลกระหม่อมจอมสกล เห็นสุดทนจะประทังกาลังไป
น้องสุดแรงที่จะแข็งอารมณ์ไป อรทัยทอดองค์ลงโศกา
สุชลนองสองเนตรพระจักรา จะเหลียวหาชลธารกันดารนัก
เห็นสมรอ่อนระทดระทวยองค์ พระโฉมยงทรงโศกเพียงอกหัก
ร า ย วิ ช า 208231 ว ร ร ณ ก ร ร ม กั บ สั ง ค ม P a g e | 21
ชักพระขรรค์ฟันลงตรงเพลาขวา พระมังสาหลั่งเลือดลงนองสาย
จึ่งรอรองโลหิตออกจากกาย แล้วให้สายสุดสวาทเสวยพลัน
นางก้มกราบภัสดาแล้วจาบัลย์ พระรับขวัญชวนนางจรลี
เจ็บระบมคมพระขรรค์ท่ีฟันฟาด ค่อยย่างบาทย่องเหยียบคิรีศรี
ค่อยสร่างโศกสุขเกษมเปรมสวาท ภูวนาถชวนอนงค์ลงสรงสนาน
ประทับนั่งยังแผ่นศิลาลาน พระยั่วหยอกเยาวมาลย์สาราญใจ
พระน้องเอ๋ยได้เชยก็ช่ืนจิต ดังสุรามฤตล้างทุกข์ให้สขุ ใส
สายสมรค้อนข่วนด้วยเล็บนาง พระเคียงข้างเคล้าเคล้นประทุมทอง
สว่างร้อนอ่อนแสงพระสุรยิ ฉ์ าย ก็เบี่ยงบ่ายร่มรอบไพรระหง
ชวนยุพินลินลามากลางดง พฤกษาทรงผลดกอุดมดี
เที่ยวปลอมปล้นชนบทชาวบ้านไพร ทะลวงไล่รบริบเอาโดยฤทธิ์
ประดับเครื่องเรืององค์อลงการ แก้วประพาฬเพชรรัตน์อร่ามพราย
ดาทมิฬเหมือนลิงทโมนหลอก มันตะคอกไถ่ถามถึงนวลหง
พระหยอกนางพลางตอบอ้ายโจรไพร จะทาไมมึงมาถามถึงโฉมศรี
มิใช่แจ้งแล้วจะแกล้งมาดูเบา มิใช่เราจะเกรงศักดาดี
มหาโจรใจพาลชาญฉกาจ ร้องตวาดตอบองค์พระทรงศรี
จึ่งว่าเหวยโจรไพรหน้าไม่อาย มีแต่หมายมิ่งมิตรเขาชิดชม
ถึงแม้นกายกูวายวางชีวิต ไม่ขอคิดสักเท่ากึ่งกะผีกผม
จึ่งร้องท้าว่าเหวยอ้ายโจรไพร มึงเร่งขับพลไพร่มาสังหาร
มหาโจรแค้นใจดั่งไฟกาล ขับทหารห้าร้อยเข้าโถมแทง
พลโจรคลุกคลีเข้าตีตอ้ น พระน้าวศรวางสายพระแสงแผลง
ศรประหารผลาญยับลงกลางแปลง บ้างแขนแข้งคอขาดลงกลาดดิน
ที่เหลือตายลุยไล่เข้าโจมจับ พระรอรับรอนรันด้วยคันศิลป์
ร า ย วิ ช า 208231 ว ร ร ณ ก ร ร ม กั บ สั ง ค ม P a g e | 24
เข้าใกล้องค์ทรงฟาดด้วยคันศร บ้างม้วยมรณ์เศียรขาดลงดาษป่ า
ยังเหลือแต่นายโจรประจันมา พอจันทราแจ่มแจ้งกระจ่างดง
มหาโจรโจมจับได้คนั ศร ข้างมือหนึ่งกุมกรนวลหง
พระทรงภุชฉุดชิงพระแสงศร พระหัตถ์หนึ่งกุมกรขนิษฐา
พระชักไปโจรไพรกระชากมา ส่วนสุดาอยู่กลางไม่วางกัน
มหาโจรจับสมรข้างกรขวา ภัสดากุมกรข้างซ้ายมั่น
ประกาศก้องร้องโอ้แม่โมรา อนิจจาฆ่าพี่ให้จาตาย
ขอฝากชื่อไว้ให้ลือขจายจร เทพนิกรช่วยประกาศในโลกา
๏ มหาโจรได้สดับคาประกาศ แหนงสวาทที่จานงประสงค์สม
ร า ย วิ ช า 208231 ว ร ร ณ ก ร ร ม กั บ สั ง ค ม P a g e | 26
จึ่งแกล้งกล่าวสนองลองประโลม ขอเขิญโฉมเยาวยอดนารีศรี
เมื่อผัวตายหมายพึ่งเหมือนผัวตน ไม่โปรดจริงแล้วก็จนจะเห็นใคร ฯ
นาสิกสูบจูบแก้มนางนงคราญ หัตถ์ประสานเกี่ยวกอดประคองนาง
จะเปรียบโจรเชยชิดสนิทนาง ดั่งเชิงช้างสระสนานทะยานแรง
กระพือพัดผัดโบกกระโชกชิด ก็คว้าหวิดงวงกระหวัดอยู่กวัดแกว่ง
งามละม่อมกันจอมจุไรเกศ โขนงเนตรลักขณาดั่งนางหงส์
ร า ย วิ ช า 208231 ว ร ร ณ ก ร ร ม กั บ สั ง ค ม P a g e | 27
เทพเจ้าเข้าดลบันดาลใจ ให้โจรไพรนึกแหนงระแวงความ
เห็นซากศพพลไพร่ก็ใจหาย โอ้เสียดายโยธามาอาสัญ
ร า ย วิ ช า 208231 ว ร ร ณ ก ร ร ม กั บ สั ง ค ม P a g e | 28
ฤๅหยอกน้องลองหลบพอลับเนตร ฤๅแกล้งร้างแรมประเวศไปหนไหน
จนสุดเรียกสุดแรงกันแสงไห้ ชาเลืองไปเห็นศพพระทรงศร
โอ้พระร่มโพธิ์ทองของน้องเอ๋ย พระคุณเคยปกเกล้ามเหสี
เข้ากอดศพซบพักตร์ลงโศกี พระกรตีทรวงพลางทางราพัน
กาบังจิตมิให้คิดพระคุณได้ ต่อพ่อเจ้าบรรลัยจึ่งเล็งเห็น
นางร้องร่าคร่าครวญราจวนโหย สันโดษโดยเดินเดียวในไพรกว้าง
สยองเกล้าเศร้าจิตนางบังอร ก็ลาจรจากศพพระสามี
เดินพลางครวญพลางมากลางดง ให้เปลี่ยวองค์เปล่าใจในไพรศรี
กระเหว่าแว่วเสียงหวานสะท้านใจ สกุณไก่ขานขันสนั่นดง
๏ จะกลับกล่าวถึงท้าวหัสเนตร อันเรืองเดชอยู่ในดาวดึงส์สวรรค์
เสด็จยังแท่นรัตน์เวไชยันต์ ระคายคันวรองค์พระอินทรา
จึ่งเผยสิงหพิมานทะยานเยี่ยม เล็งเลียบเลียมทั่วโลกทิศา
ด้วยลาบากอดอยากหลายวันมา กัลยาวิงวอนด้วยคาคม
เอ็นดูได้ก็จงให้เหมือนวาจัง ชีวิตยังก็จะแทนพระคุณไป ฯ
ร า ย วิ ช า 208231 ว ร ร ณ ก ร ร ม กั บ สั ง ค ม P a g e | 32
แม้นอนงค์ปลงรักเหมือนเรียมคิด ถึงดวงจิตก็จะเด็ดให้เจ้าได้
เจ้าตกไหนพี่จะตามเจ้างามไป ไม่อาลัยแก่ชีวิตชีวาวัน ฯ
ถ้าแม้นพี่มีคณ
ุ แก่ฉนั มา ธรรมดามิทจิตก็มิทใจฯ
จึ่งแกล้งกล่าวพจมานประจานใจ ซึ่งความในยังไม่แจ้งประจักษ์ความ
แม้นน้องแก้วอนุกลู ไม่สญ
ู รัก จงประจักษ์อย่าให้มีราคีขาม
๏ เหยี่ยวพระอินทร์ฟังจินตนาสาร อีหญิงพาลกาลีไม่มีส่า
พอขาดคาอามรินทร์ท่ีสาปนาง สารพางค์กายกลับไปฉับพลัน
๏ สมเด็จท้าวมัฆวานประธานภพ เลิศลบดินฟ้าชลาสินธุ์
เมื่อเสร็จสาปโมรายุพาพิน อามรินทร์รีบเหาะระเห็จไป
จึ่งตรัสว่าข้าแต่พระผ่านเกล้า ขอถามท้าวให้แจ้งในเหตุผล
ร า ย วิ ช า 208231 ว ร ร ณ ก ร ร ม กั บ สั ง ค ม P a g e | 35
ข้าถึงกาลวิสญ
ั ญีไม่มีชนม์ ไฉนพ้นมรณาพิราลัย ฯ
เจ้าเคยเจ็บแล้วจงจาเอาคาสอน เราจะจรไปยังดาวดึงสา
กินรีคลอดบุตรชื่อมุจลินท์ ท้าวนาคินมิได้พาไปบาดาล
สั่งเสร็จพระเสด็จทะยานเหาะ จาเพาะดาวดึงสาที่อาศัย
ตอนที่ 4 จันทโครบพบนางมุจลินทร์ธิดาพญานาค
นั่นแน่เจ้าเหล่าฝูงนางกินรา โขนงหน้าเนตรนมดั่งนางใน
อบเชยเหมือนพี่เผยผอบชม สุกกรมกรมกรอมถนอมกัน
ชุมเรียงเหมือนพี่เรียงเจ้าเดินแซง ชุมแสงเหมือนเจ้าร้อนพระสุรยิ ฉ์ นั
อินทนิลเหมือนพระอินทร์มาชุบช่วย กรมกรวยเหมือนพี่กรมอารมณ์หมาง
ขอนดอกเหมือนพี่บอกยุบลนาง พฤกษาทรางสว่างจิตอุตส่าห์จร
เห็นนกแก้วโอ้แก้วของพี่เอ๋ย เมื่อไรเลยจะได้ชมสมสมร
เห็นนางนวลโอ้นวลเจ้าลอยนอน พี่รีบจรดั่งจะมาด้วยลมลอย
กระบือเปลี่ยวเที่ยวเดินสะบัดเขา พยัคฆ์เหย่าเหยาะย่องขยับไล่
เสียงโครมครามควายขวิดด้วยเขาขวับ กระแทกฉับถูกปอดตลอดหลัง
ควายก็เจ็บด้วยเล็บพยัคฆัง มรณังซากศพประกบกัน
ประจวบเจ็ดราตรีไม่มีภยั ถึงเขาใหญ่แดนด้าวท้าวนาคา
ฝ่ ายทหารด่านนาคท้าวนาคา ทัศนาเห็นองค์พระทรงธรรม์
แสนพิโรธโลดเลิกพังพานโผน ดาทโมนตาแดงดั่งแสงฉัน
ราลึกถึงจอมจักรพระนักสิทธิ์ ช่วยล้างพวกอสรพิษให้ผยุ ผง
ระย้ายับจับเมฆในอัมพร เหมือนทองท่อนธรรมชาติสะอาดตา
แล้วมีสระมุจลินท์กระสินธุส์ าย ที่เชิงชายเขาล้วนแต่รุกขา
บ้างดอกแซมแกมผลระคนไป ภูวไนยเลียบชมตามคีรี
ร า ย วิ ช า 208231 ว ร ร ณ ก ร ร ม กั บ สั ง ค ม P a g e | 40
ถึงคูหาเห็นผ้าพยนต์ยกั ษ์ ยืนชะงักเยี่ยมยอดคิรีศรี
เห็นพระจันทโครบจบโลกี กระทืบถีบธรณียืนทะยาน
คารนร้องก้องกึกจักรวาล สองมือมารกวัดแกว่งคทาธร
ทะลวงโลดโดดโผนเข้าโจนจับ พระรอรับรอนรันด้วยคันศร
พระโฉมยงทรงพระขรรค์ประจันยักษ์ สะท้านหนักดินฟ้าทุกราศี
พระทรงฤทธิ์อิดอ่อนระอาใจ ราลึกได้ถึงคาอามรินทร์
แสงสว่างวามแวมแจ่มจารัส จารูญแสงนพรัตน์วิเชียรฉาน
วิเชียรฉายลายเลื่อมศิลาลาน ศิลาล้วนชัชวาลสว่างพลอย
สว่างพลามตามเพลิงศิลาลาด ศิลาแลเดียรดาษดั่งพูห่ อ้ ย
ที่สีเหลืองเรืองรองดั่งทองแท่ง ที่ลางแห่งดูดาก็ดาขา
พระแฝงองค์ทรงทัศนาโฉม งามประโลมเลิศนารีไม่มีสอง
สองโขนงโก่งค้อมดั่งนางเขียน พระศอเศียรแสนสะอาดดังราชหงส์
ร า ย วิ ช า 208231 ว ร ร ณ ก ร ร ม กั บ สั ง ค ม P a g e | 42
พี่ขอพวงเถิดเจ้าดวงสุดามาลย์ นั่นปลิดก้านยังไม่แล้วฤๅแก้วตา ฯ
ขอจูบทีเถิดเจ้าอย่าเศร้าใจ ภูวไนยเชยปรางแล้วกางกร
สอดประคองสองถันสุวรรณมาศ ทรามสวาทเจ้าอย่าสูญสโมสร
นางเบือนพักตร์ผลักหัตถ์สลัดกร ชาเลืองค้อนต้องเนตรกระษัตรา
อย่าเก้อเก้อเข้ามาเพ้อพิไรร่า ใครเขานาแนะนัดให้มาหา
ด้วยบุญปางสร้างสมนิยมมา ถึงคูหาห้องน้องประคองเชย
แม้นบุญพี่มิเคยเคล้าเยาวยอด จะจูบกอดได้คล่องฤๅน้องเอ๋ย
ไม่ควรข่วนพี่ให้เจ็บด้วยเล็บเลย โอ้แขนเอ๋ยเลือดย้อยรอยระยา ฯ
๏ เยาวมาลย์ฟังสารทรงสวัสดิ์ โสมนัสจับจิตเจ้างามขา
หน้าไม่เก้อช่างมาเพ้อพูดพิไร ฤๅเคยได้ก่ีแห่งด้วยแรงมือ
พระว่าพลางสอดคล้องทานองใน สายสุดใจเจ้าอย่าหมางระคางนวล
ถึงบิดาวาสุกรีท่ีอยูไ่ กล เธอแจ้งใจก็จะช่วยมาอวยพร ฯ
มาหักหาญผลาญยักษ์แล้วย่ายี แม้นปรานีฤๅจะทาให้ชา้ ใจ
มาพบเจ้าคราวจนแล้วแก้วพี่ ถึงบูรีเถิดเรียมจะทาขวัญ
แล้วสวมสอดกอดรัดสัมผัสพลัน เกษมสันต์ไสยาสน์เหนืออาสน์ทอง ฯ
เสนาะเสียงฆ้องหมั่งระฆังเหม่ง อลเวงหวั่นไหวในคูหา
ฤๅษีอ่ืนพลอยตื่นตกประหม่า เอามือคว้าลูกประคาหัวตาหิน
ที่มา : https://vajirayana.org/
รายวิชา 208231 วรรณกรรมกับสังคม อาจารย์ ดร. อรจิรา อัจฉริยไพบูลย์
ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564