You are on page 1of 23

พงศาวดารล้านช้าง

ฉบับวัดแสนสุขาราม

เรื่อง ตานานนิทานเชียงดงเชียงทองเชียงหวาง

ลิ งค์ต้นฉบับ http://www.laomanuscripts.net/lo/texts/4463#3

รายละเอียด มปจ (ประมาณ จ.ศ. ๑๑๗๐-๑๒๒๐) / อักษรธรรมลาว / ๑๑๘ หน้า


วัดแสนสุขาราม บ้านวัดแสน เมืองหลวงพระบาง

เนื้ อหาสรุป
กล่าวถึงแผ่นดินครัง้ ปฐมกัลป์เมือ่ ครัง้ พญาแถนสร้างโลก จวบจนขุนบรมสร้างราชวงศ์
ล้านช้าง รายละเอียดการศึก ความสัมพันธ์ระหว่างเชียงดงเชียงทองและเมืองพวน
จนกระทังสิ
่ น้ สุดรัชกาลพระเจ้าโพธิสาราช
๑ ควายสัดสิง่ มัดสามังสังแก่เขา เขาได้กนิ ชิน้ ปาอาหารทุกประการแล้ว แต่กาละนัน้ ก็ตาย
สีสสี วัสดี มังคละจักกล่าวตานานบูรมมะ ประถมคอแต่ก่อฟ้าเปนดิน เปนหย้าก่อเปนอา เอาลูกสืบลูกตาย เอาหลานสืบแล ได้กนิ ชิน้ ปลาอาหารอันใด เขาก็หากกินแล้ว เมือ่ นัน้
ทิดในมนุสสโลกนี้ พรหมทัง้ หลายลงมาเสวยทุกในแผ่นดินวันนัน้ ก็หลายนัก พรหม พระพุทธเจ้าไปบ่ งั เกิด คนทัง้ หลายไปร่ บู้ ุญพระคุณพ่อแม่สกั อัน กินเข้าก็บห่ นาย กิน
ทัง้ หลายก็ควาดูแผ่นดินชูแ่ ห่งจึงพบสระอัน ๑ มีดอกแสวห้าดวงทีจ่ กั บังเกิดมหาโพธิ แลงกินงายก็บ่จา
อันเปนทีจ่ กั ตัดสัพพัญญูพระเจ้าทัง้ หลาย พรหมทัง้ หลายจึงหมายว่าพระเจ้าทัง้ หลายจัก ๔
เกิดมาในกับอันนี้ ๕ ตน บ่อย่าชะแล พรหมทัง้ หลายจึงเอาดอกบัว ๕ ดวงนี้เมือไว้ก้า เมือ่ นัน้ ผีแลคนยังเทียวกันกินงัวก็บ่หน่าย กินควายก็บ่จา แถนจึงใช้ กล่าวแก่คน
พรหมโลกพูน้ แล พรหมทัง้ หลายก็ดดู กินรสแผ่นดิน เหิงนานไปรัสมีพรมทัง้ หลายก็หาย ทัง้ หลายว่าดังนี้ กินงัวกินงายให้สง่ ขา กินชิน้ กินปลาให้สง่ รอยแก่แถน แต่นนั ้ คน
มืดอยูบ่ ่รงุ่ บ่ค่า พรหมทัง้ หลายก็งมงวาอยูแ่ ล จักขึน้ เมือพรหมก็บ่ได้ เพือ่ ได้กนิ โอชารส ทัง้ หลายก็บฟ่ งั คาแถหัน้ แล แถนจึงใช้มาเปน ๓ ทีคนทัง้ หลายก็บฟ่ งั คาแถนหัน้ แล แถน
แผ่นดินอันหอมนัน้ แล เมือ่ นัน้ พรหมทัง้ หลายก็เปนอุคค ? ด้วยอันบ่รงุ่ บ่ค่าอย้านนัก จึงให้น้ าถูม้ เมือบน ชายบินมนเมือฟ้า ปูล่ างเชิงทัง้ ขุนคาน ขุนเคก จึงรูว้ า่ แถนเคียด เขา
พรหมทัง้ หลายจึงจารจากันว่า มาเราทัง้ หลายปรารถนาหาอันหานแก่เราทอน เขา จึงเอาไม้ขาแรงเยดพวง เขาจึงเอาลูกเอาเมียเข้าพวงนาน้าขึน้ เมือจึงบอก ? ลง เขาจึง
พร้อมกันปราถนาหัน้ แล เมือไหว้พระยาแถน แถนจึงถามเขาว่า สูมาเยดสัง เขาจึงกล่าวว่า ข้าแก่เจ้ากู น้า
๒ ถูมถ้วมไทเมืองลุ่มตายหมดดาย แล้วตูขา้ จึงเอาไม้ขาแรงเยด
ยังมีพรหมผู้ ๑ เบ่ามีนานเท่าใดเลยพระอาทิดมีมณ ั ฑละ ๕๐ โยดชนะ ก็จกั เกิดมาเปน ๕
อันรุง่ เรืองแก่เราทัง้ หลาย บ่อย่าชะแล เมือ่ พระอาทิตกับ (ไม่ชดั ) เสมรดังนัน้ ก็ดมู ดื มัว แบบเรือนเอาเยดพวง ผูข้ า้ ก็จงึ ขวีพ่ วงขวีแ่ พมาคูงฟ้า ตูขา้ ก็ตดั ฟ้าบ่องเปนช่องเปนทาง
กลัวอยูแ่ ล เขาก็ปราถนาว่าอันใดจักเกิดเปนดังพระอาทิ ่ ดนี้ ให้เปนอันหานแก่เรา เมือ่ ตูขา้ มาไหว้เจ้าด่าย แถนจึงว่ากูวา่ แก่สเู พือ่ ยันแล้วกินเนื้อให้สง่ ขา กินปลาให้สง่ รอยสูบ่
กลางคืนนี้จา ยังมีพรมตน ๑ ว่า ..(ไม่ชดั ) มืนนานเท่าใดเลย พระจันมีมณ ั ฑละ ๔๙ โยด ฟงั บ่นบั ฟ้านับแถนเปนเยนแก่สแู่ ล้ว แถนหลวงจึงให้เขาไปอยูก่ บั แถนลอ แต่นนั ้ น้ าจึง
ชนะ ก็จกั เกิดมาด้วยใจหมายปราถนา พรหมทัง้ หลายจึงใส่ช่อื ว่าพระจัน ด้วยรัสสมีอนั แห้งเปนดินแล เขาจึงเมือเฝ้าแถนหลวง เขาว่าขอแก่แถนแด ตูขอ้ ยอยูเ่ มืองฟ้าบ่แกว่น
รุง่ เรืองนัน้ แล เหิงนานไป พรหมทัง้ หลายก็ดดู กินรสแผ่นดินจึงหูดหาโอชารดบ่ได้ เมือ่ แล่นเมืองฟ้าบ่เปนดาย ขอแก่พระยาแถนเจ้า เอาตูขอ้ ยไปส่งในเมืองลุม่ แด แถนไอดี
นัน้ พรหมทัง้ หลายก็กนิ ใบไม้ เหิงนัก อันใดจักเปนอานุภาพด้วยกาลังแห่งเรานี้ชา เขา แถนจึงให้ควายเขาหลูแก่เขา เขาจึงเอามาส่งทีต่ งั ลอ เขาจึงอยูท่ น่ี นั ้ เขาจึงเอาควายเขา
ปราถนาหาบ่นาน หลู เยดนากินเข้าได้ ๒ ปี ๓ ปี ควายเขาหลูกต็ ายเสียแล เขาจึงละเสียอยูบ่ ่นานท่อใด
๓ เคือหมากน้า ก็
เท่าใดเลย เข้าโพดชสาลีกเ็ กิดมาด้วยใจหมายแห่งพรหมทัง้ หลาย ก็ได้กนิ ยังเข้าโพดช ๖
สาลีนนั ้ ก็ลวดมีกาลังเปนผูช้ ายผูย้ งิ แล แต่นนั ้ พรหมทัง้ หลายก็ เสพเมถุนธาด้วยกัน ก็ เปนในรูดงั ควายแล้วจึงเปนหมาก ๓ ลูก หมากน้านัน้ ใหย่ประมาณท่อริน เมือ่ หมากน้า
บังเกิดมีลกู ยิงลูกชายแล เมือ่ นัน้ เขาก็แค้นอาหารก็ปราถนาหาอาหาร ก็บ่นานเท่าใดเลย สุก เสียงคนนันก้องในหมากน้านัน้ ปูลางเชิงทัง้ ขุนคาน จึงมาเผาชีแดง ชีหมากน้าคน
ท้าวเวสสุวนั ก็ให้แถนแต่งมา บอกบาวขาวแกพรหมทัง้ หลายให้หาไร่นากิน แถนก็ปงงัว จึงออกมาแล ออกบ่เบิงขุนคานจึงเอาชิวมาชวีให้เปนรูกว้างวา ๑ คนจึงออกในรูสงิ่ ๓
วัน ๓ คืนจึงหมด ปูล่ างเชิงจึงผ่าหมากน้ า จึงเห็นช้างเห็นม้า ทัง้ ผูย้ งิ ผูช้ าย ผูอ้ อกในรูชี นาน้อยอ้อยหนูหนั ้ ก่อน แล เขาก่อธาไร่นาทีน่ นั ้ กินก่อนแล ขุน บูรม จึงต้านจาขุน
เปนสองหมู่ หมู่ ๑ ชื่อไทเลใ หมู่ ๑ ชื่อว่าไทวี หมูอ่ อกในรูสวิ่ ๓ หมู่ หมู่ ๑ ชือ่ ว่าไทเลิง ทัง้ หลายว่าเราจักเรดสิง่ ใดให้มอี นั นุ่งอันกินชาม อันนึงคนทัง้ หลายออกมาในน้ าในปา่ นี้
หมู่ ๑ ชื่อไทลอ หมู่ ๑ ชื่อไทควาง แต่นนั ้ ปูล่ างเชิง จึงเอาเขาก่อทาไร่นากิน เขาจึง มากนัก เราจักริจกั ติให้พอห่มพอปกเขานิชาม ขุน บูรมจารจาขุนทัง้ หลายดังนัน้ คนหมู่
บังเกิดมีตนั หา เขาจึงมีลกู เต้าดังกัน ลูกยิงก็หลาย ลูกชายก็แพร่ แต่นนั ้ ปูล่ างเชิง จึง ออกมาในน้ าในปา่ นัน้ ผูห้ ลักเขาเมือเปนลูกมาขาคนขุนบูรมผูใ้ บ้เขาก็ออกเมือเปนไพ่เป
บอกสอนเขาให้เขารักพ่อรักแม่เขาให้เขาก่อทาไร่นาเลีย้ งพ่อแม่ นบลาขุนบูรมแล เมือ่ นัน้ ขุนบูรมก็ดหู นักอกหนักทวงนักแล จึงหาขุนทัง้ หลายมาอือมา
๗ ยินกันว่า เมือให้ขนุ คูขนุ ควงลงมาวันนัน้ แต่งบ้านก็บ่เปืองแต่ง
เขาแล // เหิงนานไปพายหน้าลางคนพ่อตาย ลางคนแม่ตาย ปูล่ างเชิงจึงบอกให้เขาไห ๑๐
พ่อแม่เขา หมูเ่ ขาออกในรูสวิ่ ให้เผาเสียแล้วแปงเถียงใส่ ก่อดูกไว้ให้สง่ เข้าน้า หมูอ่ อกรูชี เมืองก็บก่ ว้าง แถนจึงเรียกขาเมือบนหน ขาเมือฟ้าดังเก่ากีด้ าย ทีน่ ้ีแถนเล่าให้เราพีน่ ้อง
ให้ฝงั แล้วแปงเถียงไว้ให้สง่ เข้าน้ าหัน้ แล ปูล่ างเชิงจึงสอนเขาให้ทอชิน้ ปลาเลีย้ งพ่อแม่ ลงมากกมาหอมเขานี้ แล้วมาเห็นคนนี้มากกว่าซายหลายกว่าน้ าเรวนี้ เราจึงคึดหมเขานี้
ให้แต่งเผิงเข้าน้ า ทอเหล้าไปตัง้ หน้าห้องให้เรียกพ่อแม่เขาผูต้ ายมากิน จ้าเข้าใส่รชู อ่ ง เปนดังบ่รอดดาย ถามาเราใช้เสิมเมือไหว้แถนเล่าอาการทีจ่ กั ให้คนทัง้ หลายได้นุ่งได้
แล้วให้ฟายเหล้าแก่พอ่ แม่ฝงู ตายมากิน แตนัน้ คนผูอ้ อกในรูสวิ่ รูชี ก็เปนไพ่กบั แล แต่ นอน เราเห็นคนเมืองลุ่มนี้ดแู คนนัก ขุนบูรมจึงใช้เมือไหว้พระยาแถนหลวง จึงเล่าชู่
นัน้ คนก็มากหลายนัก ท่อหาท้าวพระยาบ่ได้ ปู่ลางเชิงทัง้ ขุนคานสังสอนก็ ่ บ่แพ้ แถนจึง ประการแล้ว พระยาแถนจึงให้แถนแต่ง ทัง้ พิสนูกนั เจ้าลงมาขาแตงอันจักมาเขนพ้าเขน
ให้ขนุ คูขนุ ควงมาเปน พระยาแก่เขา ขาสร้างบ้าน ขวาน เอาทังทังตี คืมชวี (ไม่ชดั ) เสือ้ ผ้าเคื่องนุ่งชูอ่ นั แล้วจึงมาริดจะนาอันให้นุ่งตนว่า
๘ ฟดั แลขากงอันจักยิงอยาย เปนลอมฝ้ายหลาอันจักปนกวั ั ่ กแกว่ง ไม้หลักหูกฟืมหวากี่
ก็บ่เปือง สร้างเมืองก็บ่กว้าง ชู่วนั ชูกนิ เหล้าชูม่ อ้ื ชูเท่านมนางอยูแ่ ล แถนจึงมาเรียกขา สวย เปนกีเ่ ชือกหูกชูอ่ นั จังให้แอบฝ้าย
เมือบนหน ขาเมือฟ้าแล้วแถนจึงแต่งขุนบูรมลงมา แถนจึงแต่งช้างงาแก้ว งากอดให้ขนุ ๑๑
บูรมขวีล่ งมา แถนจึงแต่งขุนทัง้ หลายลงมาแห่ / ขุนเสิมถือแพนดอนแห่ /ขุนคานถือหน้า ฝดั ฟายให้ก่อทาเปนแผ่นเปนแพ อันนุ่งอันไบถ้วนทุกอันแล้ว แถนแต่งแล้วจังสังขุ ่ นบูรม
แห่ / ขุนคีถอื ค้องรางงาวแห่ / ขุนเมืองถือตาว รางกอนแห่ / ขุนทองถือดาบฝกั หวายแห่ ให้เปนท้าวเปนพระยาในเมืองลุ่มแล ชาวเลมให้ออกเลม ชาวลอให้ออกลอ ชาววีให้ออก
/ ขุนเวนถืองาวบายไชแห่ / ขุนพีถอื เกิมฝกั คาแห / แต่นนั ้ แถนจึงแต่งเมียให้ขนุ บูรม ๒ วี ชาวควางให้ออกควาง ชาวเลิงให้ออกเลิง แถนแต่งจึงว่าก่อขุนบูรม กินชิน้ ให้สง่ ขา
นาง ผูพ้ ช่ี ่อื นางอกเคง ผูน้ ้องชื่อนางยมพรา เมื่อจักลงมานัน้ ขุนบูรมจึงสระพายตาวเมวี กินปลาให้สง่ รอย ให้เยดแหวนเยดวีนเมืองส่ง ก่อล่ามซ้ายล่ามขวา มือ้ รวงให้กกาก่อพ่อ
กับมีดน้อยส้อยเรียน ขึน้ ขีช่ า้ งงาแก้วงากอด จึงให้นางอกแคงขวีถ่ ดั แล้วนางยมพราขวี่ ชาย มือ้ รายให้กาก่อผูย้ งิ เดือนให้คาพืนกดกาบ เดือนยีใ่ ห้คลาพืนเต่ารวาย พักบาดพ้า
ถัดนางอกแดงแล อย่าราน พักบาดขวานอย่าปล้า แถนแต่งจังสังสอนขุ ่ นบูรมแล้วก็ขน้ึ เมือฟ้า จึงเล่าพระ
๙ ยาแถนหลวงชุอนั แล พระยาแถนหลวงจึงถามว่าเคื่องเวลาอันจักเหล้นมีชอู นั รูไ้ ปแถน
แถนจึงแต่งขุนสามขวีท่ ายช้าง ขุนอ้ายจึงถือจกถือเสียมลงมาตาม ขุนยีถ่ อื พรามดีลง แต่งว่า เผือข้อยไปไ่ ด้แต่งแถนจึงให้ เจ้าสีคนั ทัพพระ ลงมาสังสอน ่
ขุนควงถือขวางถือแชก?ลง ขุนอุนถือไก่ดอนลง ทัง้ ๔ ขุน นี้ตามหลังช้างแล เขามาอยู่ ๑๒
คนเมืองลุ่ม จังมาริจจนาเปนค้องเปนกองปี่แคนพินพาดสวรไลแตรตูด กันสับ ประดับ ประจนกันดาย ชัวมั ่ นอย่ารีปีมนั อย่ากว้าง แหงนเมือบนให้ฟ้าผ้า ค้อยเมือปา่ ให้เสือกิน
ทุกเยือ่ งเคื่องเสบหลิน้ ในเมืองลุ่มทุกประการ เสียงค้อง กลองเสียงเสบทัง้ หลายก็มน่ี ัน ปลูกไม้ก็
รอดทุกแห่งแล้ว เจ้าสีคนั ทัพภะจึงเมือไหว้พระยาแถนว่า เคื่องอันใดในเมืองลุ่ม ก็มที ุก ๑๕
ประการแล้ว พระยาแถนจึงว่าแดนแต่น้ี เมือหน้า อย่าให้เขามาปอ่ งมาเทียวเราทอน จึง ยาทันตายปลูกหวายก็ยาทันหล่อน ชัวมั ่ นยารีปีมนั ยากว้าง สูพน่ี ้องนี้ลกู พ่อเดียวกัน
ให้แถนทัง้ หลายไปตัดขัวหลวงแรงกายหลายหลวงแรงเทียวเสีย ให้ทบั ทางเสีย ผีอย่า ดาย ยาผิดยาของกัน เมืองอ้ายไว้กอ็ า้ ย เมืองยีไ่ ว้กย็ ่ี เมืองสามไว้กส็ าม เมืองผูใ้ ดไว้ปก่
เทียวคน คนอย่าเทียวผีทอน แต่นนั ้ ขุนบูรมจึงสร้างบ้านสร้างเมือง เปนท้าวเปนพระยา ผูน้ นั ้ ทอน นานไปขุนบูรมก็ตาย นางอกแคงก็ตาย นางยมพะราก็ตายแล้ว แต่นนั ้ เขาพี่
ก็รงุ่ เรืองเหิงหานนานยาว คนทัง้ หลายก็มลี กู เต้าดังกันแล แต่นนั ้ เครือเขากาด จึงเกิดมี น้องจึงสังสอนกั
่ นเราถ้าหมันถามข่
่ าวอาวรักกันทอน เขาพีน่ ้องสังสอนกั
่ นแล้ว อ้ายชวา
ในหนองแห่ง ๑ แลเดินสูงขึน้ ได้โพด แต่นนั ้ เขากาด กลาบังไวร่มเมือง ทุกโคกน้าแห้ง จึงล่องมาสร้างเมืองชวา ยีผ่ าลานจึงเมือเมืองห้อ สามจูสงจึงเมือสร้างเมืองแกว ไสพงจึง
หอด เมือสร้างเมืองยวน ท้าวอินเมือสร้างโยทิยา ท้าวกมเมมือสร้างพาววายังสา เจดเจิงเมือ
๑๓ สร้างเมืองพวนแล แต่นนั ้ อาวชวามีลกู ชายเรียกชื่อท้าวพียา ท้าวพียามีลกู ชื่อท้าวยีว่ า่
เขินซาย ยังเสียงเนืองนันทีใ่ นกวงไม้ทงั ้ หลาย ใหวานไลเราเมือง ขาจึงไคคาดทางเมือบ แล ท้าวกันรางยีวาบ่ได้ เปนพระยาตกเมือง
ลาทางควร ทุกเยือ่ งรายลายิงขวงเขด สองขาตายเพือฟนั เข้ากล้าผลควรให้สง่ ซการ ๑๖
แวนเทียว เขาจึงฝงั ฝายกลาเคือเขาคนทวร ไว้ขดั เขาขวันเนื้ออยูด่ ี แต่นนั ้ ขุนบูรมจึงมี นานดอมเผีย เขาจึงเอาท้าวกันรางเปนพระยา ท้าวกันรางมีลกู ชื่อท้าวลูลี ท้าวลูลมี ลี กู
ลูกดังนางอกแคง ๓ คน ผู้ ๑ ชือ่ ขุนชวา ผู้ ๑ ชือ่ เจดเจิง ผู้ ๑ ชื่อ ท้าวกมท้าวทาบก็วา่ ชื่อท้าวระวัง ขุนลอมารบกับท้าวกันราง จึงเอาลูกหลานหนีเมือเพิง่ ข่าแล ขุนลอผูร้ บท้าว
มีดงั นางยมมพะรา ๔ คน ผู้ ๑ ชื่อผาลาน ผู้ ๑ ชื่อจูสง ผู้ ๑ ชื่อท้าวพง ผู้ ๑ ชื่อท้าวอิน กันรางแพ้นนั ้ จึงตัง้ เมืองชวาก่อนทัง้ หลาย จึงมา ? ตาม/ขุนชวา/ขุนชวาย/ขุนคอง/ขุนคู/
แต่นนั ้ สร้างบ้านก็ยงั เปือง สร้างเมืองก็ยงั กว้าง ขุนบูรมจึงว่าแก่ลกู ทัง้ เจดชายว่าสูพน่ี ้อง ขุนคลวง/ขุนคาง/ขุนแพง/ขุนเพิน/ขุนอูร/ขุนคาน/ขุนเคก/ขุนรูง/ขุนรูงหนีเสียเมืองชวา ๓
นี้ ใหย่พอสร้างบ้านสร้างเมืองแล้ว ก็จงึ มาปนั ของให้เขาพีน่ ้องทัง้ เจดชายนัน้ ช้างงาแก้ว เทื่อแล้ว / รอมขุนได้ ๑๕ ขุน อยานัน้ มาท้าวแท่นท้าวยูงท้าวเยิกท้าวพีนท้าวพาด ท้าว
งากอดก็ตายแล้ว จึงเลื่องาก้าขวาท่อนกกให้ขนุ ชวา ทัง้ คองรางชาว หลางแล้ว เขาจึงเอาท้าวละวังมาตัง้ เปนพระยาแล้ว ท้าวละวังมีลกู ชื่อท้าวผง ท้าวผงมี
๑๔ ลูกชื่อท้าวผีฟ้า บ่ได้เปนพระยา ผีฟ้ามีลกู เปนฟ้างูม้ ฟ้างูม้ มีลกู เปนพระยา ๓ แสนไท
ท่อนกางให้เจิง ทัง้ ตาวรางกอน ท่อนปลายให้ทา้ วกม ทัง้ ดาบฝกั หวายท่อนี้ลกู นางอก ฟ้างูม้ เปนพระยาได้ ๒๑ ปีตกเมืองเสีย
แคงแล ก้าซ้ายท่ อนกกให้แก่ยผ่ี าลาน ทังมังคันคา ท่อนกลางให้แก่สามจูสงทัง้ เกิมเกิบ ๑๗
ฝกั คา แก่ไสพง ทัง้ แพนดอนท่อนรัด ปลายให้แก่ทา้ วอิน ทัง้ ง้าวฝกั คาดาดาคาแล ขุน พระยา ๓ แสนไทเปนพระยาได้ ๔๘ เข้า พระยาลานคาแดงเปนพระยาได้ ๑๑ เข้า พระ
บูรมจึงว่าแก่ลกู ทัง้ หลายว่า เราพ่อลูกอยูน่ าน้อยออยหนูทน่ี ้ีกด็ คู บั นักดาย กูจกั ชีท้ ใ่ี ห้แก่ ยาพรหมทัดลูกพระยาลานคาแดงเปนพระยาได้ ๔ เดือนข้าเสีย พระยาบาเปนพระยา
สูพน่ี ้อง ไปสร้างเมืองทีก่ ว้างทอน สูทงั ้ เจดนี้หากลูกกูดาย บุรผูใ้ ดมีกไ็ ด้ทก่ี ว้าง บุรผูใ้ ดบ่ ได้ ๕เดือนปงเสีย พระยาหมืน่ เปนพระยาได้ ๘ เดือนปลาย ๒๐ วันผูกคอตาย ฟ้าไคลูก
มีกไ็ ด้ทแ่ี คบ พ่อเขาจึงอุทธิสระถานให้แก่เขาว่า แต่น้ีเมือหน้า ผูใ้ ดยังเอาริพนไปรบไป ท้าวคีเปนพระยา ๘ เข้าข้าเสียทีส่ บคาน เจ้าเสียงสา ? เปนพระยา ๘ เข้า เปนรูงตายใน
เชียงทอง พระยาไชยะจักแผ่นแผ้วเปนพระยาได้ ๔๘ แล้วตกเมืองไปตายในเชียงคาน ก็ให้ตาดูรพิ ลทัง้ หลาย ทัง้ ห้าหัวเสิก แต่พลไทได้ ๓ แสน แต่พลข่าได้ ๔ แสน สังโรมได้
ปีกดั ไค้เดือน ๕ ออก ๑๓ ค่ามือ้ ก่าไค้ลกู อ้ายเปนอุปปเยาวราชตางตน ได้ ๒๐ เข้า ตาย ๗ แสน ให้เปนคนลาหอกเสิกคนรบ ๓ หมืน่ คนถือหาบเข้าถงแลหัวเสิกแลสองหมืน่ ทัง้
ในเมืองชวาเพือ่ รบแกว พระยาสุวณ ั ณปาลังก็ตายในปีรวายซะงา เดือน ๕ ออกสองค่า ใน ๕ หัวเสิกได้คนรบแสน ๕ หมืน่ คนถือหาบทังเข้าถงทัง ๕ หัวเสิกได้คนแสน ๑ าไว้
ยามเดิกคนขึน้ เรือนหมด พระยา เฝ้าเวียง ๕ หมื่น แลหัวเสิกแลหมืน่ ท่อนี้บ่เอาไปเสิกบ่นบั แล พระยาล้านคาแดงเกิดปี
๑๘ เมิงไส้ เดือน ๙ แรม ๔ ค่า มือ้ เปิกซะงา ยามเข้านอนได้ ๔๐ เปนพระยาปีรวายสัน จึง
หล้าเปนพระยาได้ ๑๑ ปี ตายในเชียงงามปีรวายสี พระกุมมารณีไชยะ เปน พระยาได้ มาเชียงชอบเปน ๗ กอง เชียงเงินเปน
๒๒ ปี ตายในปี กดสี พระโพธิสารราชเปนพระยาก็ปีนนั ้ เปนพระยาได้ ๒๘ เข้า ตายปี ๒๑
เมิงมด เดือนยีข่ น้ึ ๑๑ ค่า วัน ๕ เริกภรนีมอ้ื เปิ กไจ้ ยามวันเทีย่ ง เมือ่ ฟ้างูม้ เปนพระยา ๓ กอง ให้เปนนาหอ ใส่หอได ๖ หอแถมแลหอแลสิบ ๖ ราว สมเดจพระยา ๓ แสน
อ้ายเวียงผา เปนแสน อ้ายเวียงผาตาย เอานาแสนชามาแทน นาแสนชาตายเอายีใ่ บมา ไทเปนพระยาหมืน่ นาก็อนั เดียว หมืน่ ช้างก็อนั เดียว สองต่าเรินพวกแพน พวกดาง
แทน เชามาเปนหมืน่ หลวง หัวฟนั งูแสนเปนซ้าย กืบเปนขวา บาขันเปนหอหลวง บา พวกพาด พวกขัน หอนา หอกลอง พระยาล้านคาแดง จึงผ่าหมืน่ นาให้เปนสองอัน หอ
คาเปนหอกลาง จึงใส่หอแหใต้หกสามสิบราวแล เจ้าหอกินเงิน ๕ ชังกาน ่ เอาจ่าหอกิน ไตสองอัน จ่าเรินสีพ่ นั เดกชาย ช้างขาย คาเรียว ขวาหลา หมืน่ เทด นาเปนภูมใต้ เวิย
เงินขันปลาย ๕ เบีย้ กวานราว ๕ ชังขั ่ น บาวราวกินขันปลาย ๔ เบีย้ แต่ ราวทัง้ มวลกิน เปนภูมเหนือ รับนี้พระยาล้านคาแดงดังนี้แล อายุได้ ๘๐ ตายปีเปิกสันเดือน ๖ มือ้ รับ
๘ หมืน่ เปล้า พระยาไชยยะจักแผ่นแผ้ว เกิดปีรบั มดเดือน ๑๒ ออก ๔ ค่า ได้ ๑๔ เปนพระยาปี
๑๙ เมิงไส้ แสนท้าวชายมูยขวาไคเทด ยังเปนหมืน่ หลวง ลือเปนภูมใต้ ลกเปนภูมเหนือ เป
ปลาย ๓ ร้อย จ่าหอกินเงินห้าร้อยปลายห้าขัน ชังกานเอาสังโรมเงินทัง้ มวลได้ ๙ หมืน่ นพระยาได้ ๒๓ เข้าจึงตาย อายุทงั ้ มวลได้ ๖๔ เมือ่ เปนพระยามูนตีทพิ พทัง้ หลาย
ปลาย ๓ พัน หอไชหอไตหอนาหอกลอง ไร่นาบ้านข่วงให้แก่เขา เขาบ่ได้กนิ เถิงตามระ ๒๒
บินฟ้างูม้ ดังนี้อายุได้ ๕๘ ตายหัน้ แล พระยา ๓ แสนไทเกิดปี รวายสัน ได้ ๑๘ เข้าเปนพ ฝูงนี้ตานานอันนี้ออกขุนบูรมมราชาก็สระเดจท่อนี้ก่อนแล // บัดนี้จกั กล่าวตานานแต่
ระยาปีเต่าไจ้ มือ้ รับไค้ เดือน ๖ ออก ๓ ค่า พระยาฟ้างูม้ ตกเมืองก็ปีเดียวนัน้ ยีโปก็ ท้าวชวาเปนลูกขุนบูรมมาสร้างบ้านแปงเมืองในเชียงดงเชียงทอง เมืองชวานัน้ สร้าง
ยังเปนแสน พราหมก็ยงั เปนหมืน่ หลวง ยีโ่ ปตายเอาอกมาแทน แสนตายเอาฟ้าเชียงมา บ้านก่อเรืองสร้างเมืองก่อกว้าง ท้าวชวาจึงไขลูกเปนยีบา ถัดนัน้ มาพีลา ถัดนัน้ มากัน
แทน ชายกิมตายเอาท้าวบาวมาแทน พราหมตายเอาเชามาแทน แต่นนั ้ หอหลวงขึนชื่อ ราง มาท้าวลีว มาท้าวลอง มาท้าวลือ มาฟ้ายาง มาพานคา มาอูนอง มากองกน มาท้าว
ว่าพูมใต้ หอกลางขึน้ ชื่อว่าพูมเหนือ แห่หน้าขึน้ ชื่อว่าภูมหน้า เชียงใต้แลแหหลัง ขึน้ ชื่อ ผง มาผีฟ้า มาฟ้าแล มาเมืองพวน ลูกขุนบูรมผูห้ ล้าชื่อว่าเจดเจิง มากินในเชียงหวง
ว่าภูมหลังแล เชียงเหนือ เชียงหวา สร้างบ้านก็เรืองสร้างเมืองก็กว้าง ๗ เจิงไขลูกเปน ๗ เจียง ถัดนัน้ มาเจดจิว
๒๐ มาท้าวเพือ มาท้าวเพิง มาท้าวเรือ มาท้าวเรือง มาท้าวขีว มาท้าวขวาย มาท้าวสูม มา
หอกางว่าพวกขัน หอแหก็ยงั ๖ หอ หอไชหอนา หอไต ยังดังเก่ารับนี้ พระยา ๓ แสน ท้าวสอ มาท้าวเมง มา
ไทดังนี้แล // อายุได้ ๖๐ ปีตายปีรวายสันเดือน ๖ พามือ้ รวายสัน เมือ่ พระยา ๓ แสนไท
๒๓ เสียงดุรยิ ะนนตรีนนั ้ มหาเถรเจ้าจึงทานายทวายว่าท้าวผู้น้ียงั จักได้เปน ท้าวเปนพระยา
ท้าวขอม มาท้าวไก มาท้าวเคียง มายีหนี มาคาวัง ขาพีน่ ้องกัน ยีห่ นี เปนท้าว ในเชียง ตนลือชาปากคะ มากนักดีหลีแล
หวาง คาวังกินเมืองโม ยามนัน้ พระยาผงกินเมืองล้านช้างก็บฟ่ งั ความกินความเสงผูเ้ ถ้า ๒๖
ผูแ้ ก่ ลวดเอาริพลมารบมาแลวท้าวยีห่ นีในเชียงหวาง เมือ่ นัน้ ยีห่ นีมลี กู ชาย เจดคน ผู้ ๑ เหดว่าท่านก็ยงั เปนราชวงสาดาย เมือนัน้ คาอันนัน้ ก็ลอื ชาปลาคะรอด พระยาเอกราช
ชื่อว่าท้าวน้า ผู้ ๑ ชื่อว่าท้าวแถม ผู้ ๑ ชื่อว่าท้าวเถียวคายัง ผูน้ ึงชื่อว่าท้าวนาน ผู้ ๑ ชื่อ ตนเสวยสัมปตั ติในเมืองอินทะปตั ถะนครหลวง พระยาจึงให้เอากุมมารฟ้างูม้ เมืออุปถาก
ว่าท้าวพาย ผู้ ๑ ชื่อว่าท้าวสัน ผู้ ๑ ชื่อว่าท้าวบดี เล่ามีลกู ยิง ๒ คน ผู้ ๑ ชื่อว่านอยน ตนแลสังสอน ่ แต่นนั ้ พระยานครหลวงก็หนั กุมมารนัน้ ยังรูห้ ลักแก้วหานนัก ก็จงึ ให้ลกู
อด ผู้ ๑ ชื่อน้อยลาวแล พระยาผงจึงให่มาเลวได้ ยีห่ นีทงั ้ ลูกชาย ๓ คน คือว่าท้าวนา สาวแห่งตนแก่กุมมารฟ้างุม้ นัน้ หัน้ แล เมือ่ นัน้ พระยานครหลวงจึงถามกุมมารฟ้างุม้
ท้าวแถม เขาข้าเสีย เลาได้ทงั ้ เมียยีห่ นี ผู้ ๑ ชื่อว่านางสวาน ได้ทงั ้ นอยนอดลาว เขาเอา อันเปนลูกเขยแห่งตนว่า ดูราเจ้ากุมมาร กูพอ่ จักให้เขยเจ้าพ่อลูกเมือเปนท้าวเปนพระ
หนีเมือชวา พระยาผงจึงถามนางสวานว่าดังนี้ ยาในเมืองล้านช้างพูน้ ก็หากแม่นบูรานเมืองปู่เมืองย่าเถ้าแก่เขือเจ้าดีหลีดาย เขือเจ้า
๒๔ ยังอาดจักเมือได้บช่ า ฟ้างูม้ จึงกล่าวว่า ผีม้ หาราชเจ้ายังให้รพิ ลแก่เผือขาดังนั
่ น้ เผือขาก็
เขามว่ามึงยาชนชางงางพาย เมือ่ พระยาเพาเอาพลเมือรอดท่งลาดรวงนาบายามนัน้ มี อาจเมือได้ดหี ลีแล
แท้ลอื มันว่าก็มแี ท้แก่ยาแล้ว พระยาเล่าถามว่าลูกมึงมีกค่ี น ผูใ้ ดตายผูใ้ ดยัง มันว่าลูก ๒๗
ข้อยเจดคน ท้าวนา ท้าวแถม ท้าวนานลาวข้าเสียแล ยังท่อท้าวเถียวคายัง ท้าวพาย เมือ่ นัน้ พระยานครหลวง จังแต่งริพลช้างม้าให้แก่ขาพ่อลูก คือว่าผีฟ้าแลฟ้างุม้ หัน้ แล
ท้าวสัน ท้าวประคือ ๔ คนนี้ยงั แล เขาถามว่าท้าว เถียวออกปีใด นางว่าออกปีเต่าเสด เมือ่ นัน้ ขาพ่อลูกจึงขึน้ มารอดเมืองกระบอง จึงใช้ขา่ วสานเมือหาพระยา ๓ เกิง อันกิน
มือ้ รวายไจ้ ก็ยาดาย เขาจึงทวายว่าท้าว เถียวนี้ไทเมืองชวา ยังยังจึงรอรดอมมันร้ายนัก เมืองกระบอง เผือพ่อลูกนี้หากเปนเชือ้ ท้าวพระยามหากระสัดตนเสวยสมบัดในเชียงดง
ดาย ว่าดังนี้ เมื่อนัน้ พระยาลวดให้เถ้าฟ้าลงมากินเมืองพวน ใส่ช่อื หนามมากินถวนแล เชียงทองพูน้ ดีหลีแล บัดนี้พระยานครหลวง เจ้าก็ค้าวงเผือพ่อลูกเมือเปนท้าวเปนพระ
เมือ่ นัน้ ท้าวเถียวคายังออกหาพระยาเพาผูก้ นิ เมือง กัณฑเวรุ ไทว่าเวียงไม้ไผ่หนาม ยาสืบประเวนีวงสา ในเมืองล้านช้างดีหลี อาวเรายังจักพอมเผือพ่อลูกก็ให้แต่งริพล เมือ
เหดว่าเขาปลูก กับเผือเทิน ผิบ่พอมก็อย่าว่าดังนี้ เมือ่ นัน้ พระยา ๓ เกิงว่าดังนี้ บัดนี้พระยาผงตนเปนปู่
๒๕ เปนพ่อเขือเจ้าก็ยงั ตัง้ อยูเ่ ปนท้าวเปนพระยาดาย ตูบ่พอมแล เขือเจ้าพ่อลูกเปนเหดว่า
ไม้ไผ่หนามล้อมเมืองทัง้ มวล มันจึงอุปถากแก่พระยาเพาหัน้ แล เมือ่ นัน้ พระยาผงมีลกู กลัวพระยาผงแล ว่าดังนี้ เมือ่ นัน้ พระยาฟ้างูม้ จึงเคียดว่า สูบ่พอมก็อย่าหากยัง
ชายผู้ ๑ ชื่อว่าผีฟ้า ผีฟ้านัน้ เล่ามีลกู ชายผู้ ๑ ชื่อว่าฟ้างูม้ เมือ่ นัน้ ผีฟ้าจึงคบเมียพ่อมัน ๒๘
ผูช้ ่อื นางขอม พระยาผงผูพ้ อ่ จึงเคียดว่าจักข้าเสีย หมืน่ แสนทัง้ หลาย จึงห้ามให้ขบั หนี จักรูภ้ ายหน้า ชามว่าดังนี้ แต่นนั ้ ขาเล่าขึน้ มารอดพารุงเชียงสา จึงเมือส่งข่าวแก่พระยา
จากเมือง จึงให้หอไชโลทัง้ เถ้าก่อโยยทัง้ เถ้าขานเถ้าคาไปส่งผีฟ้า ทัง้ ฟ้างูม้ เสียพายลีผี ติโคตะบอง ไหว้พระยาสามพอบลินพารุงให้พอมก็บ่พอม แต่นนั ้ ขาเล่าขึน้ มารอด เถ้า
ขาจึงไปรอดเมืองอินทะประถะนครหลวงพูน้ แล เมือ่ นัน้ ขาพ่อลูกจึงไปจอดอยูใ่ นกุดมี หา ช้างแก้วกินห้วยหลวงก็วา่ บ่พอม ขาเล่าขึน้ มารอดเถ้าหานเหล็กกินเวียงจัน ก็บ่พอม ขา
เถรเจ้าตน ๑ กุมมารฟ้างูม้ นัน้ นอนหลับกนเสียงหายใจออกตองลองตองกอง เปนดัง จึงมารอดพระยาเพา ในเมืองกัณฑเวรุ เหดว่าเมืองปลูกไม้ไผ่ลอ้ มเมืองทัง้ มวล ขาจึงส่ง
ข่าวเมือหาพระยาเพาก็วา เขือเจ้าหากมีโทดจึงขับหนีดาย บัดนี้ให้ตสู ง่ ตูบ่สง่ แล ว่าดังนี้ นัน้ พระยาผงรูข้ า่ วว่าลูกหลานตนจักเมือชิงบ้านชิงเมืองดังนัน้ ก็แต่งริพลมาต้อนรับต้อน
ฟ้างูม้ ว่าอ้ายบ่สง่ แท้ พายหน้าหากยังจักรูช้ ามว่าดังนี้ เมือ่ นัน้ ท้าวเถียวคายอ ลูกยีหนียงั เลว แต่แดนเมืองพอหลายเล่าหลายที ก็บ่แพ้เขา เขาเล่าลวดไล่เมือจนเมืองชวา เมือ่ นัน้
อยูอ่ ุปปถากพระยาเพา ทีน่ นั ้ จึงรูว้ า่ ผีฟ้าแลฟ้างุม้ ขึน้ มารอด ท้าวคายอจึงไป พระยาดูรา้ ยหากผูกคอตายในส้วมอาบหัน้ แล เมือ่ นัน้ เสนาทัง้ หลายรูว้ า่ พระยาผงหาก
๒๙ ผูกคอตายดังนัน้ เขาจึงไปเล่าแก่ฟ้างุม้
ต้านจารจา จึงก่ทาเปนมิดเปนสหายกัน ท้าวคายอจึงว่า ผีว้ า่ เขือเจ้าพ่อลูกเอาข้อยเมือ ๓๒
เปนท้าวเปน พระยาในเมืองพวนก่อนดังนั ่ น้ ข้อยจักเอาริเอาพลในเมืองพวนเมือส่งเขือ แล้วราธนามาแทนอยูห่ นั ้ แล เมือ่ นัน้ ผีฟ้ามาทางเหนือไปท่ นั รอด ฟ้างูม้ เล่าให้ไปตอนข้า
เจ้าพ่อลูก ให้รอดเชียงดงเชียงทองบ่อย่าชะแล เมือ่ นัน้ ผีฟ้าแลฟ้างูม้ แมนก็ดแี ลว่าดังนี ่ ้ พ่อมันเสียทีห่ ว้ ยสบสาน น้ าเชืองหัน้ แล แต่นนั ้ เสนาทัง้ หลายจึงอภิเสกชื่อว่าฟ้างูม้ หล้า
เขาพอมความกันแล้วจึงเมือส่งพระยาเพา พระยาเพาจึงให้เรือสองเหล้ม จึงให้ทา้ วไคล ธรณีสรีสตั ตนาคหุตตในเชียงดงเชียงทอง ปีก่าไส้จุลลสักราช ๗๑๕ ตัว เมือ่ นัน้ เขาก็ใส่
ถือหัวเรือลงมาสองวัน จึงรอดปากน้อยปากซัน เขาจึงขับเอาพลแต่ปากน้อยปากซันขึน้ บ้านใส่เมืองบรมวลแล้ว หมืน่ หนามจึงส่งมา พระยาฟ้างูม้ ยังให้ชา้ งพังนึงพาย ๑ เล่าให้
เมือเลวเถ้าดานาชือผูก้ นิ เมืองซัน มันก็พา่ ยไปตกเมืองโม มันเล่าชวนคาวังทัง้ ท้าวคัง ผู้ ดามาหาพระยาคายอ ๒ พาย ๒ พัง พระยาฟ้างูม้ จึงเวนเมืองกาย เมืองชอง เมืองกา
กินเมืองโมมาเลวเขาเลวเล่าแพ้ จึงข้าคาวังทัง้ ท้าวคังเสียหัน้ เถ้าดานาชือจึงพ่ายหนีเขา เมืองมอนเมืองลีกเมืองควางเมืองพุร ให้แก่พระยาคายอทีน่ นั ้ แล เมือ่ นัน้ มีผู้ ๑ ชื่อกาว
จึงใส่ผใู้ หม่เลวเขาขึน้ มา ดาง กินเมืองชอง ผูห้ นึ่งชื่อลาวซะทานกินเชียงไคล ขาบ่ออกมาหาฟ้างุม้ เมือ่ นัน้ ฟ้างุม้
๓๐ จึงว่าแก่หมืน่ หนาม ผี้
รอดเมืองน้อย เล่าเลวเถ้าดานาเมดก็แพ้ เขาเล่าขึน้ เมืองบอดแลวเถ้าหนามเพก็แพ้ เขา ๓๓
จึงขึน้ มาเชียงดีเลวเถ้าหนามเคิงน้อยก็แพ้ เขาจึงมาตัง้ โรงอยูท่ ล่ี าดรวงนาบาหัน้ เขาจึง สูไปเอากาวดางกับลาวซะทานได้ก่อนถ้าไว้เมืองแก่สู ตูจกั แบ่งสู ผีต้ เู อาได้ก่อนไว้เมือง
ขับเถ้าฟ้าลงทังหนามหนีถวน เขาจึงใส่บา้ นใส่เมืองทัง้ มวล จึงให้หนามยารังกินเชียง แก่ตู ให้สแู บ่งตูควาย ๑๐ ถึก ๑๐ แม่ ว่าดังนี ่ ้ เมือ่ นัน้ หมืน่ หนาทาจึงมาคอบพระยาคา
ดีเปนหมืน่ จึงอภิเสกท้าวเถียวคายอให้เปนพระยาในเมืองพวนปีเต่าสี จุฬสักราชได้ ยอจึงว่า จักให้ผอู้ ่นื ไปก็บ่เปน แล้วว่าดังนี
่ ้ จึงเล่าให้หมืน่ หนามเล่า ขวีช่ า้ งไตยะพันแสน
๗๑๔ ตัวหัน้ แล ปี ก่าไส้เขาจึงเอาผีฟ้าทัง้ ฟ้างูม้ เมือส่งจึงข้าควายเขางุม้ เขาเงียวกินกิน ไปได้ ๗ วัน ๗ คืน จึงเอาเมืองชองได้แล้ว ลวดใส่ผอู้ ่นื กินเมืองแล้วจึงพัดมาลาวจึงแบ่ง
กันเสงกัน จึงยาเลือดยายาง จึงหาแลละ ๔ คนแล ๔ เบีย้ มาหล่อเบ้าเดียวกัน แล้วจึง ทีน่ นั ้ ควาย ๑๐ เถิก ๑๐ แม่หนั ้ แล ฟ้างุม้ เสวยราชสมบัตไิ ด้ ๓ ปี จึงมี ลูกชายผู้ ๑ ชื่อว่า
ตีเปนหลาบสุพนั นะแล้ว ฟ้างุม้ จึงถือเงินคาพาย ๑ คายอจึงถือเงิน ท้าวอุ่นเรือน ในปี รวายสันสักราชได้ ๗๑๘ ตัว ในปี นนั ้ พระยาฟ้างุม้ ก็ราเพิงเถิงโทดแห่ง
๓๑ ท้าวพระยาฝา่ ยใต้ อันให้มาช่อยแลบ่มานัน้ ก็จงึ ขับริพลทัง้ หลาย ล่องไปรบพระยายูงที่
คาพาย ๑ เถ้ากระโยยจึงถือเคิมทัง้ ตีจงึ ตัดทัดกลาง วางทันเคิง่ จึงกล่าวคาเสง บัดเส เมืองซาย ก็แพ้พระยายูงแล้วใส่พระยาใหม่ให้กนิ เมืองทีน่ นั ้ แล เล่าล่องไป
งชือซึง่ กัน จึงขอดคารักชักคาแพงแก่กนั แล้วจึงให้หมืน่ หนาม ยารังถือพลไปส่งขาเจ้า ๓๔
พ่อลูกหัน้ แล ฟ้างุม้ จึงขวีช่ า้ งแสนนางคอง หมืน่ หนามจึงขวีช่ า้ งไตยะพลแสน เมือทาง รบพระยาจันดะละไพยะ อันกินในเวียงจันก็แพ้ เล่ารบพระยาเพาในเวียงกัณฑะเวรุนนั ้ บ่
เมืองสวย ล่องเมือน้ าคาน ผีฟ้าจึงเมือทางน้ าอูน้ าเชิง จึงให้เถ้าพันพานไปส่งหัน้ แล เมือ่ แพ้ เหดว่าเวียงอันนัน้ ไม้ไผ่หนามล้อมรอดทัง้ มวล ฟ้างุม้ จึงติอุบาย ให้คนทัง้ หลายตีเงิน
ตีคา ยัดหยอดปืนเกียงปืนมากนัก ก็ให้ยงิ เข้าไปในเวียงหัน้ ชาวเวียงทัง้ หลายก็ได้ แก่ลกู เราแล ยามนัน้ ฟ้างุม้ จึงล่องไปรอดเมืองอินทปดั ถนครหลวงพูน้ เล่าแล ทีน่ นั ้ พระ
หยอดปืนเกียงปืนย้อมเปนเงินเปนคา เขาก็เอาเมือถวายแก่พระยาเพา เมือ่ นัน้ พระยา ยาเอกราชนครหลวง ผูเ้ ปนพ่อเมีย จึงกล่าวต่อว่า ผีล้ กู เราแลจักฟงั คาสอนเราผูพ้ อ่ แท้
เพาว่า สูทงั ้ หลายอย่าออกรบให้เขายิงมา เมือ่ ใดปืนเขาหมดเขาหากจักหนีชะแล ยาม ก็ยงั จักปลูกเมือเปนท้าวเปนพระยาดังเก่ ่ า เมืองส่วยเมืองรานทัง้ มวลก็จกั ให้แล ผีบ้ ฟ่ งั
นัน้ ยูทา่ งเราจักถางเอาเงินเอาคาแห่งเขาเทิน เมือ่ นัน้ พระยาฟ้างุม้ เล่าให้ยงิ ปื นเข้าเวียง คาสังค ่ าสอนเราแท้ เราก็บใ่ ห้เมือแล้ว ว่าดังนัน้ เมือ่ นัน้ ฟ้างุม้ จึงให้ปตั ติยานขานคาว่า ผู้
นานประมาณ ๓ วัน ๓ คืน แล้วเขาจึงถอยหนีจากเมืองห้วยน้ าของ เมือรบชาวเมืองแก ข้าจักฟงั คาสอนมหาราชเจ้าชูป่ ระการแล ว่าดังนัน้ เมือ่ นัน้ พระยานครหลวงจึงนาฟ้างุม้
ก็ได้แล้ว เล่าไปรบชาวเมืองดงเมืองยาง ก็ได้ เขาใส่บา้ นใส่เมืองแล้วจึงขับ ไปสูอ่ ารามทีพ่ ระบางเจ้าตนสักสาด ยังมิดตาเล่าราดธนามหาเถรเจ้าปา่ สหมัน ตนลุกแต่
๓๕ ลังกามานัน้ ให้มาเปนประธานแล้ว ก็จงึ ให้คาสอนให้ตงั ้ อยูใ่ นราชธาสิบประการ อันมีสนิ
เอาริพลแต่นนั ้ คืนมาหัน้ แล เมือ่ นัน้ ชาวเมืองกัณฑกะเวรุนนั ้ เขาก็เผ้วถางไม้ไผ่เวียงเขา แลทานเปนต้น แล้วก็
นัน้ เอาเงินคายอดปื นเกียงปื นอันพระยาฟ้างุม้ หาให้ยงิ เข้าไปนัน้ ยามนัน้ พระยาฟ้างุม้ ก็ ๓๘
รูข้ า่ วว่าเขาเผ้วถางวางเวียงเขาเสียแล้ว ก็พดั เข้ามารบคันเขารอดก็ให้คนทัง้ หลายถือ ส่งให้คนื มาหัน้ แล ทีแ่ ท้อุปบัตเิ หตุการนิทานแห่งพระบางเจ้าองนัน้ ผูม้ ปี ระหยาเพิงรูด้ งั ่
ทวนไฟ เข้าจูเวียงเขาก็ไหม้เปนช่องเปนช่องเปนทาง แล้วฟ้างุม้ จึงขีช่ า้ งแสนนางคร ลู นี้ ตัง้ แรกแต่พระพุทธเจ้าเราเข้าสูป่ ถโมกขมหานครนิรพานไป ได้ ๒ ร้อย ๘ สิบ ๖วัดสา
เข้าในเวียง ยามนัน้ พระยาเพาก็ขช่ี า้ งสร้อยนางฟ้า มันก็ผายออกมา พระยาทัง้ ๒ ก็ ในปีเต่ายี ยังมีพระยาตน ๑ ชื่อว่ามหาสีวราช ได้เสวยสัมปตั ติในเมืองอนุ ราทธนคร
ลวดได้ชนช้างกัน ขาแกว่งขอตีกนั รบกัน ก็บ่อาดจักถืกจักถองไผได้ แม่นช้างตัวขาขวี่ อันมีในลังกาทวีปพูน้ เล่ายังมีมหาเถรเจ้าตน ๑ ชื่อว่าจุลนาคะเปนอรหันตาขินาสวะเจ้า
นัน้ ก็บ่อาดจักพัดจักหนีได้จกั ตัว ทีน่ นั ้ พระยาทัง้ ๒ จึงร้องว่าแก่กนั ว่าสองรานี้มกี าลัง อยูใ่ นเมืองลังกานัน้ ก็รมเพิงเถิงพุทธสาสนาอันจักเปนถาวรหมัน้ คงไว้ ตราบต่อเท้า ๕
คุรบุรก็เสมอกันดีหลีแลมาราเอากันเปนพีเ่ ปนน้องกัน อย่ารบอย่า พันวัดสา เพือ่ จักให้เปนหิตตประโยชนะ แก่คนแลเทวดาทัง้ หลาย ก็จงึ แปงพระพุทธรูป
๓๖ เจ้าอง ๑ มีสนั สระฐานอาการดังเมือ่ พระพุทธเจ้ายังทัวระมานไป ห้ามญาติพน่ี ้อง
เลวกันเทิน คันว่าพระยาทัง้ ๒ เอาปตั ติยานกัน ขานหมัน้ แล้วจึงลงจากคอช้างมานังอยู ่ ่ ทัง้ หลาย คือว่าชาวเมือง
เหนืออาสนาอันเดียว หยุบมือถือนิ้วกันหัน้ แล เหตดังนั ่ น้ คนทัง้ หลายก็กล่าวคาเริงว่า ได้ ๓๙
ถางเอายอดปื นเงินปื นคาอันพระยาฟ้างุม้ หากกทาอุปบายปางนัน้ เปนปะวัตตินิมดิ กล่าว กัปปิลพัด แลชาวเมือโกริยะนคร อันเอาริพลมารบแลวกันแทบหลิง่ น้าโรหิณี เหดชิงน้า
ว่าเวียงคา แดนแต่นนั ้ มาเท้ากาละบัดนี้แล ถัดนัน้ ฟ้างุม้ เล่าล่องไปรบเมืองพารุงเชียงสา นากันนัน้ พระมหาเถรเจ้าแปงแล้ว เมือ่ จักหล่อนัน้ คนแลเทวดาทัง้ หลายต่างคนต่าง
ก็ได้แล้ว เล่าไปรอดเมืองกระบอง รบพระยา ๓ เกิง ก็แพ้แล้วใส่บา้ นใส่เมือง ก็บวั รมวล นาเอามายังเงินแลคาแลทองแห่งตน มากนัก ต่างคนต่างว่า เอาของผูข้ า้ ใสบ้างเอาของ
แล้ว เล่าไปรบเอาเมืองส่วยทัง้ มวลว่าดังนั ่ น้ เมือ่ นัน้ พระยาอินทปดั ถนครหลวงรูข้ า่ ว จึง ใส่บา้ งว่าดังนี
่ ้ มหาเถรเจ้าก็ตะหมวดเอาวัตถุแห่งคนแลเทมาใส่ในเบ้าลูกเดียว หล่อเปน
ใช้มาหาว่า ผีล้ กู เราแลมักเอาเมืองส่วยทัง้ มวล ก็ให้มาหาเราผูพ้ อ่ ก่อน อย่ารบอย่าเลว รูปพระพุทธเจ้าองนัน้ แล เหดดังนั ่ น้ คนท้งหลาย จึงเอาประวัตติ นิ ิมดิ อันคนทัง้ หลายแล
เราหากจักเอาให้ เทวดาทัง้ หลาย มาขอให้เอาของตนใส่บา้ งนัน้ ลวดหมายชื่อพุทธรูปเจ้าองนัน้ ว่า พระ
๓๗ บางเจ้าหัน้ แล ไนยะนึงกรียาเอาวัตถุแล คนแลถองนัน้ ก็ช่อื ว่าพระบาง
๔๐ ปราถนาแห่งคนแลเทวดาทัง้ หลายในชุมพูทวีปเราพี้ แดนแต่นนั ้ มาหัน้ แล บุพพนิทาน
ก็หากเปนโวหารแต่ชาวลังกาทีปพูน้ มาแล คันหล่อแล้วก็ให้ขดั สีดบี รมวล ดังพุทธรูปเจ้า นิถติ // เมือ่ ฟ้างุม้ จักมาปาง
นัน้ ก็ตงั ้ ไว้เหนืออาดสนาอันดีแล้วแต่งเครือ่ งสักการะบูชากทาพุทธาภิเสก คนทัง้ หลาย ๔๓
มีพระยามหาสีวราชเปนประธาน เทวดามีพระยาอินเปนเค้า ชาวเจ้าทัง้ หลายมีมหาจุ นัน้ ก็จงึ ขอราธนาพระบางเจ้ามา ก็แต่งให้นบครบบูชารักสาทัง้ มหาเถรเจ้า พระยานคร
ลลนาคะเปนประธาน ก็ทาสักกระบูชามากนัก ๗ วัน ๗ คืน เมื่อยามก่อทาพุทธาภิเสก หลวงก็ให้อนุญาดราธนาทัง้ ภิกขุ ๔ ตน สามเณรเจ้า ๓ ตน ผ้าขาวฝูง บันบางทิด ๘ ตน
มหาจุลลนาคเถรเจ้าก็ราธนา สาริกธาตุพระสัพพัญญูเจ้าประหมานว่า ๔ ลูก ใส่ในกระ คนคระหัดฝูงบัวระบัดก็ให้มา แม่นชาวนักบุญนักการทัง้ หลายก็แต่งให้มากับฟ้างูม้ ปาง
อูบแก้วแล้วตัง้ ไว้เหนือไตคา ก็ให้คนนามาตัง้ ไว้ชอ่ งหน้าพุทธรูปเจ้า แล้วก็อธิษฐานว่า นัน้ มากนักแล เมือ่ จักขึน้ มาก็ให้มหาเถรเจ้ามาทางเรือทัง้ ลูกมหาโพธิคอื ว่าไม้โพสลี อัน
ดังนี้ พุทธรูปเจ้าองนี้ ผีย้ งั จักตัง้ อยูใ่ ห้เปนหิตตประโยชนะ โผดคนแลเทวดาทัง้ หลายไป มหาเถรเจ้าเอาแต่ลงั กาทีปพูน้ มา คนฝูงนักบุญทัง้ หลาย ก็ขน้ึ มาทางเรือกับทัง้ มหาเถร
ตราบ เจ้าหัน้ แล ฟ้างุม้ ก็เอาพระยาขึน้ มาทางบก ดอมฟ้างุม้ มารอดเมืองเวียงคาหัน้ แลพระยา
๔๑ เพาขอราธนาพระบางไว้ไหว้นบครบบูชารักษาแล ฟ้างุม้ ก็ลวดวางพระบางเจ้าไว้กบั
ต่อเท้า ๕ พันวัสสาแท้ดงนั ั ่ น้ ขอให้สารีกธาตุทงั ้ ๕ ลูกนี้เข้าอยูใ่ นอก พุทธรูปเจ้านี้เทอญ ๔๔
อันว่ามหาเถรเจ้าอธิษฐานดังนี้แล้ว ธาตุลกู ๑ ก็เสด็จเข้า ในหน้าผาก ลูก ๑ ก็เสด็จเข้า พระยาเพาทีเ่ วียงคาหัน้ ในปีเมิงเร้า จุฬสักราชได้ ๗๘๙ ตัวนัน้ แล ฟ้างุม้ ก็หนีเมืองทาง
ในคาง ลูก ๑ เสด็จเข้าในกลางอก ลูก ๑ เสด็จเข้ามือขวา ลูก ๑ เสด็จเข้ามือก้าซ้าย แล้ เมืองพวน ยามสหายผูช้ ่อื พระยาคายอนัน้ แล้วจึงลงมาเมืองชวา เล่าแลมหาเถรเจ้า
วกทาริทธิปาฎิหารเปนทีอ่ สั สจัน แก่คนแลเทวดาทัง้ หลาย ปางนัน้ มากนักดีหลีแล ตัง้ ขึน้ มารอดเมืองชวาแล้ว ก็จงึ ตัง้ อารามอยูแ่ ห่ง ๑ เหนือสบห้วยโรบหัน้ แล้วก็ปลูกไม้สรี
แรกแต่นนั ้ มา พุทธรูปเจ้ายังตัง้ อยูเ่ ปนทีบ่ ชู าให้แล้วคามักคาปรารถนาแห่งคนและ มหาโพธิเจ้าอันเอาแต่ลงั กาทวีปมานัน้ ทีค่ นทัง้ หลายจึงหมายชื่อว่าวัดปา่ สหมัน ตามชื่อ
เทวดาทัง้ หลายปางนัน้ มากนัก ในลังกาทีปพูน้ นานประมาณ อตีตสาสนาพ้นไปได้พนั มหาเถรเจ้าตนสร้างนัน้ แล เมือ่ ฟ้างุม้ พัดมาอยูเ่ มืองชวาปางนัน้ ได้ ๓ ปีกเ็ ล่าลิดสีลธาคา
ปลาย ๔ ร้อยวัสสา อาจารย์เจ้าทัง้ หลายตัง้ จุลลสักราชได้ ๒๐๘ ตัวปี รวายไจ้ ยามนัน้ สอนมหาเถรเจ้าเสีย แล้วลวดขับเอาริพลคนเสิกไปรบขาเล่าในเมืองรุรเมืองแบง ก็แพ้
ยังมีพระยาตน ๑ ชื่อสุปนั น แล้ว เล่าเมือรบลูกอ้ายข่ากันรางแต่บรู าน ผูก้ นิ เมืองผาก็แพ้ เล่าเมือรบอ้ายบูมกาผูก้ นิ
๔๒ ๔๕
ราชา ได้เสวยสัมปตั ติในลังกาทวีปพูน้ ยังมีพระยาตน ๑ ชื่อว่าสิรจิ ุรนทาได้เสวย เมืองเหลือกก็แพ้ แต่นนั ้ เมืองล้านช้างก็วดเปนอันกว้างขวางนัก แต่ลผี มี าตราบต่อเท้า
สัมปตั ติในอินทปตั ถนครหลวง ในชมพูทวีปเรานี้แล พระยาทัง้ ๒ ก็ทาไมตรีตดิ ต่อกัน ผาได ลวงกว้างวันออกรอดแดนโกยพูน้ แล เมื่อนัน้ พระบางเจ้าอยูก่ บั พระยาเพาในเวียง
แล มีดงั นัน้ พระยาสิรจิ ุรทาก็รขู้ า่ วว่า พระบางเจ้าอันสักสาดย่อมให้แล้วคาปราถนาแห่ง คานัน้ ยังมีวนั ๑ ช้างพระยาชับมันปอ่ ยชะไปม้างวัดทีพ่ ระบางเจ้าอยูน่ นั ้ เสียแล้ว เล่า
คนแลเทวดาทัง้ หลายดังนัน้ ก็จงึ ใช้ราชทูตไปขอราธนาเอาดอมพระยาสุปนั นะอันเปนส เข้าไปชนไปแทงพระบางเจ้าดังนัน้ พระบางเจ้าลวดกลิง้ ตกแท่น แขนพระเจ้าก้าซ้าย
หายตน ยามนัน้ พระยาลังกาก็ให้สง่ พระบางเจ้าออกมาจากลังกาทวีปพูน้ มาด้วยสระ ลวดตอบคดมาขวาน้อยนึงแต่ปางนัน้ แล ส่วนดังช้างตัวนัน้ มันเล่าชะออกไปปา่ พูน้ ก็พบ
เพาตกชุมพูทวีปเราพี้ มารอดเมืองอินปถนครหลวงให้ เปนทีไ่ หว้ทป่ี ชู าให้แล้วคามักคา ช้างปา่ ตัว ๑ ก็ชบั มันขาลวดชนกัน ช้างปา่ ตัวนัน้ ก็แพ้ชา้ ง บ้านเชตกขุมเหวที่ ๑ ลวด
ตายในเหวทีน่ นั ้ เปนสันทิดถีกาแห่งช้างตัวนัน้ เหดมันไปชนพระตกแท่นหัน้ แล ยามนัน้ ผงจึงเมืออยูแ่ ชภูมชนานกาง จิมเมืองสาพูน้ พระยาฟ้างูม้ จึงเอานางพันนางกอง หนีเมือ
คนทัง้ หลายฝูงอยูเ่ มืองล้านช้างก็บงั เกิด อัสสจันซึง่ เตชสมพารพระบางเจ้า ชงเมือชวา อยูบ่ ่นานเท่าใด พระยาคายอลวดตายในปีกดเสด จุฬสักราชได้ ๗๖๒ ตัว
๔๖ นัน้ แล ด้วยแท้พระยายอเกิดมาได้ ๓๑ เข้า ได้เปนพระยาเล่าได้ ๑๙ เข้าตาแต่เกิดมาได้
ปางนัน้ หัน้ แล เมือ่ นัน้ ในเมืองพวนพระยาคายอมีลกู ชายผู้ ๑ ชื่อคาผง แม่ช่อื นางนาค ๕๐ ลวดตายปี นนั ้ แล ยามนัน้ เมืองพวนหาคนเปนพระยาบ่ได้ ฟ้างุม้ ลวดใส่หนามมากิน
พระยาคายอจึงให้มาตัง้ เรือนในเชียงหวาง จึงให้นางนางนักแลท้าวคาผงมาอยูร่ กั สาใน ทีน่ นั ้ ถ้วนแล
กาลพายแต่นนั ้ หมืน่ หนามยารก็ตายเสีย ยังสังไว้ ่ วา่ ให้ทา้ วดาเยดหมืน่ พระยาคายอบ่ ๔๙
ให้เยด ขาท้าวสันท้าวพะคือก็หวังจักเยดหมืน่ พระยาก็บ่ให้เยด จึงให้เถ้าตาเลิกเยด เมือ่ นัน้ คาผงอยูแ่ ชภูมชนะกางพูน้ จึงให้ลกู ขุน ๔ คน เมือลอบอยูด่ อมขุนหมืน่ ทัง้ หลาย
หมืน่ หัน้ แล แต่นนั ้ ท้าวสันพระคือจึงเคียด จึงไปว่าแก่นางผูเ้ ปนแม่คาผงนัน้ มาเราปอง ในเมืองชวาพูน้ ผู้ ๑ ชื่อนายชิว ผู้ ๑ ชื่อเถ้าค้อ ผู้ ๑ ชื่อขุนตุม ผู้ ๑ ผาหวา เขาจึงเมือ
ข้าพระยาคาผงเสียแล้วเอาลูกเจ้าคาผงเปนพระยาทอน เผือผูอ้ าวจักขันอาสาตางว่าดัง่ อยูก่ บั ภูมใต้ภมู เหนือซ้ายขวาได้ ๓ ปี ยังมีวนั ๑ ฟ้างุม้ จึงเอาคนทัง้ หลายไปเกีย่ วเข้านา
นี้ นางนักว่าพ่อยังแลข้าพ่อเสียเราบ่เอาลูกเปนพระยาดังนัน้ เราบ่เข้าใจแลว่าดังนี ่ ้ เมือ่ ไร่ ท่อยังมีจอนฟอนตัว ๑ แล่นเข้ารู แล้วมันลวดเรดขา ๒ อยู่ คน / ทัง้ หลายคองตูงเู ห่า
นัน้ นางรูเ้ หดอันนัน้ จึง หาคนไปใกล้บไ่ ด้ ขุนตุมจึงไปจองเอาได้จวนฟอน คนทัง้ หลายจึงงืด ฟ้างุม้ จึงยินดี จึง
๔๗ เลีย้ งว่าให้กนิ ทีใ่ ดมันก็บก่ นิ จึงขอกินเกินทัง้ มวล ฟ้างุม้ จึงให้มนั กินทัง้ นายชิวแลเถ้าคอง
ยัดหนังสือหลงใส่ขนั หมากพระยาคายอว่า นางนักแลท้าวสันท้าวพระคือ เขาจากันจัก ผาหวา เขากินดอมกิน เมือ่ นัน้ เขาเอาเกินแควนแรงนัก อันบ่ควรเอาเขาก็เอา เกินตับไก่
ปองข้าพระยาเสีย จักเอาเจ้าคาผงเปนพระยาว่าดังนี ่ ้ เมือ่ นัน้ พระยาคายอเห็นหนังสือ เขาก็เอา ลวดใส่
หลง บ่พจิ ารณาลวดเอานางนักมาใส่คอกไว้ ลวดยิงเสีย แต่นนั ้ ท้าวสันพะคือลวดย้าน ๕๐
ขาจึงลักขีช่ า้ งชวนกันหนีเมือทาง ๕ รอยฟ้ากาด พระยาคายอลวดให้เขาไปต้อนข้าเสีย กวานมือชา ถือชาไปไวทาทุกแห่ง ให้เอาตับไก่ เมืองล้านช้างจึงหวานมือชาแต่นนั ้
ทัง้ ๒ คนหัน้ แล แต่นนั ้ พระยาคาผงลวดให้ไปจัดเอาหน่วยเบีย้ ในทงชันแลเมืองน้อย เพือ่ ให้ได้ตบั ไก่มอื ชาหัน้ แล เมือ่ นัน้ เขาผูเ้ อาก็กล่าวว่า ตูกบ็ ่อยากเอานาพระยาเจ้าหาก
เมืองชัน มาไว้เชียงหวาง จึงไปอยูท่ น่ี าสองทางต้อนรบพ่อมัน จึงแปงเวียงทีร่ วั ควาย จาตูเอาดาย ว่าดังนัน้ ลวดเหลือใจชาวเมืองทัง้ หลาย แม้นว่าฝิงแดดอุ่นก็เอาเกินผัวเมีย
ปนั พระยาคายอผูพ้ อ่ มารบบ่แพ้ มันจึงไปเพิง่ ฟ้างุม้ ฟ้างุม้ จึงรีบมารอดเมืองเพียง คาผง มาใหมก็เอาเกิน เมือ่ นัน้ เสนาอามาดแลไพ่ฟ้าข้าไททัง้ หลายพร้อมกันลวดขับฟ้างุม้ หนี
จึงพ่ายหนี ข้ารางข้าตายพูนพระยาฟ้างุม้ จึงให้เถ้าน้ าบ่อซือ ทัง้ เถ้าแถมคาถือพล ๓ พัน จากเมือง เมือเพิง่ พระยาคาตันในเมืองน่านพูน้ ปี ก่าเป้า จุฬสักราชได้ ๗๖๕ ตัวนัน้ แล
ถือสิว่ เงินสิว่ คาไปนาเอา เมือ่ นัน้ เขาทัง้ หลายจึงเอาลูกฟ้างุม้ ผูช้ ่อื ท้าวอุ่นเรือนนัน้ อันใหย่มาได้ ๑๘ เข้า เขาจึง
๔๘ ปลูกให้เปนพระยาแทนพ่อปีนนั ้ จึงให้ขบั เอาหน่วยเบีย้ ทัง้ หลาย ฝูงอันเปน
จึงได้เมียคาผง ๒ คน ผู้ ๑ ชื่อนางพัน ผู้ ๑ ชื่อนางกอง เมือ่ เขาจักทันนัน้ ท้าวคาผงจึง ๕๑
ให้ขา้ ช้างคุนเมือง ให้ปาดชีน้ เรดปิ้งไหลน้าเสีย จึงประไมหะปิ้งไว้อธิบายพระยาคาผง หินแล้ว เมือนัน้ พระยา ๓ แสนไทจึงยินหมืน่ แสนทัง้ หลายว่าเมียปูเ่ ราเจ้าคาผง พ่อเรา
กทาปิ้งชิน้ ช้างนัน้ ให้วา่ คนหลายกินชาก็ยงั หมดดาย ให้เขาฝูงนาอย้านหัน้ แล แต่นนั ้ คา ฟ้างุม้ ได้เอามาปางนัน้ ทีน่ ้ีเราจักขึน้ แก่ปเู่ ราเจ้าคาผง ชอบไปจ่ า หมืน่ แสนทัง้ หลายว่า
ชอบแล้ว พระยาแสนจึงให้หาหมืน่ สานทัง้ เถ้าพันเยือเมือส่งว่าเขือจงเมือดอมคอบปูเ่ รา ๕๔
เจ้าคาผงเทิน เมียปูเ่ รานางพันนางกองเราก็ขนึ เมือหนีแล้ว ว่าดังนี้ จึงให้ชา้ งแม่พงั ริ จิมโมจิมผา ไปรอดคาผง แชภูมชะนานกางว่าดังนี้ บัดนี้เจ้าตกยางกางเมืองหลาน
นขวีม่ ารอดเจ้าคาผงทีน่ นั ้ หัน้ แล เมืองชวาทัง้ หลายจึงยินดี แต่นนั ้ คาผงจึงคึดรักพระยา เจ้าพระยา ๓ แสนไทให้มาชูงชาหาเรียก เมือสูเ่ ชียงหวงเชียงหวางหนี้แล เมือ่ นัน้ เจ้าคา
๓ แสน จึงเล่าให้หมืน่ สานทัง้ เถ้าพันเยือ เอาก้องแขนคาหนัก ๔ เบีย้ เมือหาพระยา ๓ ผงจึงว่า ขอบใจหลานเราเจ้าพระยา ๓ แสนไทให้มาเรียกมาหาเราผูป้ ู่ ส่วนจักเมือหนี
แสน ทีน่ นั ้ พระยา ๓ แสนจึงว่าขอบใจเราแล้ว เราจักคบคาบ้านคาเมืองแลชาว ว่าดังนี้ แล้ว เมือ่ นัน้ เจ้าคาผงจึงออกมารอดเชียงหวาง ในปีเต่ายี จึงเมือเปนท้าวเปนพระยา
พระยา ๓ แสนจึงเลาคาแจะได้ ๔ เบีย้ มาใส่เบ้าเดียวกันหก แทนพ่อดังเก่า แล้วจึงให้หมืน่ รุรทัง้ หมืน่ สารทัง้ พันเยือ เอาเครื่องบันนาการเมือดอม
๕๒ หมืน่ รุร จึงอาลาคาจากเมือรอดดงรอดชวา แล้วจึงเมือไหว้พระยา ๓ แสนไทว่าดังนี้
จึงตีเปนเสียนเปนหลาบสุพนั นะบัดถะเมืองลาวให้ทงสองถือเงินคาก้า ๑ เมือง พวนให้ พระยาเจ้าให้ขา้ ผูป้ ู่ ไปชุงชาหาเรียก ปูเจ้าคาผงก็มารอดบ้านรอดเมืองแล้ว ปูเ่ จ้าก็ขอบ
หมืน่ สานถือเงินคาก้า ๑ แล้วจึงตัดทันกลาง เงิน ๑ ไว้แก่พระยาแสน เงิน ๑ จึงเอามา หมากเพิงใจ ยังให้หมืน่ สานทัง้ เถ้าพันเยือ มากับข้อย
แก่พระยาคาผง จึงกล่าวว่าข้อยมาเมืองใหส่งช้างตกทงใหขึนว่าดังนี ่ ้ จึงเอาควายเขางุม้ ๕๕
เขาเงียว มาข้ากินกลินกินเสงกันจึงยาเลือดยาอยางจึงเสดบัดเสดชื่อแก่กนั ว่าควายเขา เมือปูเ่ ราจงให้ลกู เจ้าลูกขุนมาไหว้เราเมืองสาเมืองพาวภูควาย ให้ชอยเส้นด้ายเส้นไหม
งุม้ รูเ้ งียวก็อย่าให้ลาวคดแก่พวน ควายเขาเงียวรูงมุ ก็อย่าให้ ลาวคดแก่พวน ควายเขา เขือจงเอาความกูเมือเล่าแก่ปกู่ เู จ้าคาผง ดังนี้เทอะ เมือ่ นัน้ หมืน่ สารทัง้ พันเยือจึงอาลา
เงียวรูงมุ้ ก็อย่าให้พวนคดแก่ลาว คากูคาแจะกลายเปนหอยเปนชืนก็อย่าให้คดแก่กนั คาจาก จึงเอาความพระยาแสนมากล่าวแก่พระยาคาผง พระยาคาผงก็ขอบใจชูป่ ระการ
เราคบเมืองปางนี้สดู ชัวลู ่ ก ไว้แก่หลาน บานลูนไว้แก่เหลนแก่หลอด เปนเมืองเดียว แล แต่นนั ้ บ้านเมืองดีลาเลิงเหิงนานหัน้ แล พายหน้าแต่นนั ้ คากองทาวเมืองสายังขัดดาง
เกียว ๑ ไปอย่าคามาอย่าข้อง คากองกินเมืองสาติวคากินเมืองพาว นอมผากินภูควาย อางแขง บ่สเู้ ทียวดงเทียวชวา ยังกล่าวคากล้าคาแขงผิดใจพระยาแสน ทีน่ นั ้ พระยาแสน
ก็ให้ปเู่ ราเจ้าคาผงเปนใหย่ เล่าให้มากล่าวแก่เจ้าคาผง พระยาคาผงจึงให้รพิ ลไปผาบเอาจึงได้เชียงเชียนเชา จึงได้
๕๓ ข่อย ๕๐ เอาเมือให้แก่พระยาแสนขอบใจ จึงให้ชายอ้ายแกะมาตอบบ้านตอบเมืองแก่
ไทลาวแท้ ชาวต่างเมืองมาอยูบ่ ่นบั ฝูงงอนข่าภูบ่นบั นับท่อไท ได้ ๓ แสนไท เหดดังนัน้ เจ้าคาผง ทีน่ นั ้ แล พายลุนยวนชาว
คนทัง้ หลาย จึงเปิกสาหาชื่อว่า ๓ แสนไทไตยะภูมมนาทิบติสสี ตะนาคนหุตตเสวยสา ๕๖
ปตั ติแทนพ่อหัน้ แล เมือ่ นัน้ เขาขุนตุมแลผาหวา จึงเมือไหว้พระยา ๓ แสนไทว่า เจ้าตูขา้ เมืองพวงเมืองผา ยังเล่าขัดดางอางแขง พระยาแสนจึงให้หมืน่ หมอกทัง้ แสนอุ่น ไปรบบ่
ชื่อท้าวคาผง พ่อพระยาเจ้าไปเลวปางนัน้ ลวดหนีไปตกแชภูมชะนานกาง ยังอยูเ่ ท้ากา แพ้ พระยาแสนจึงให้มากล่าวแก่พระยาผงว่า ให้เลือกหาคนผูก้ ล้าผูห้ านมาช่อยแด ว่า
ละบัดนี้ดหี ลีดา่ ย ขอพระยาเจ้ากรุณณาให้ไปเอาตูขา้ มาแด ว่าดังนี้ เมือ่ นัน้ พระยา ๓ ดังนั
่ น้ ยามนัน้ คนเสิกเมืองพวนได้ ๓ หมืน่ พระยาคาผงจึงให้เลือกเอาคนกล้าคนหานผู้
แสนไทจึงว่าเราเรียกปูเ่ ราเจ้าคาผงตายเสียแล้ว มีรางว่ายังลือ เขาว่าเจ้าตูขา้ ยังอยูแ่ ช ยิง่ ผูย้ วด แลหมื่นได้แลพัน จึงให้หมืน่ สารแลเถ้าพันเยือ ถือคน ๓ พันนัน้ ไปช่อยจึงขึน้
ภูมชะนานกางพูน้ แล เมือ่ นัน้ พระยา๓ แสนไทจึงให้หมืน่ รุรเอาขันเงินขันคา ไปหาเจ้า เมือรอดเมืองพวงเมืองผา จึงเมือไหว้หมืน่ หมอกทัง้ แสนอุ่นว่าดังนี ่ ้ ตราบใดสูเจ้าพูงไป่
คาผงรอด แขงแทงไปเ่ ข้าบัดนี้เจ้าพระยาแสนจงให่ตขู อ้ ยมาช่อยรีชอ่ ยพล ว่าดังนี้ หมืน่ หมอกทัง้
แสนอุ่น จึงเคียดว่ามีรางยังมีปีกมีหางบินเข้าเอาได้ดงั แร้งดังการือ วันพูกนี้เราจัก นัน้ เทิน เราจักให้หมืน่ แพนแสนหมากไปหีนแลว่าดังนัน้ เจ้าพระยาคารุง่ จึงแต่งริแต่งพล
ไปยวกยวนออกให้ยงั รบ ว่าดังนี้อยูว่ นั ๑ เขาจึงไปยวกยวนออกมา ไปรบเชียงแลวก็แพ้ ยังได้ขอ่ ยยิงสิบ ๖ คน จึงเอาเมือมอบแก่พระยาแสน พระยาแสนก็
๕๗ ขอบหมกขอบใจจึงว่าจักให้นางฟกั แวนมาแก่พระยาคารุงก็ไปท่ นั แต่งทันดา เจ้าพระยา
หมืน่ สานทัง้ พันเยือจึงเอาคนทัง้ ๓ พันไปรบแพ้ยวน ยวนจึงพ่ายเข้าเวียงหับปดั ตูไว้ แสนเปนพระยาได้ ๔๓ เข้านับแต่ชาด
หมืน่ สารผ่าเข้าเวียงได้ ยวนจึงแตก จึงได้ครัวพันอุ่นพันแพง ได้ทงั ้ เจ้าอ่อนหอสูงเอา ๖๐
มอบแก่พระยาแสน พระยาแสนขอบหมกเพิงใจนัก จึงให้ชา้ งแสนสักทัง้ ข่อยกับม้า แก่ ติมาได้ ๖๑ เข้าลวดตายในปีรวายสันนัน้ แล เสนาอามาดทัง้ หลาย จึงเอาเจ้าลานคา
เจ้าพระยาคาผงจึงให้พนั สอง ผูก้ นิ เมืองน้อยทัง้ พันบอดผูก้ นิ เมืองสี เอาพลไปรบแพ้จงึ แดงเปนพระยาแทนพ่อปีนนั ้ จุฬสักราชได้ ๗๗๘ ตัวนัน้ แล พระยาคารวงยังให้ตคู อนคา
ได้ครอบครัวงัวควายหมืน่ สองจึงเอาเมือมอบแก่พระยาแสน พระยาแสนก็ขอบหมกเพิง หมืน่ ฟ้ามีไปเสียน้ ามูกน้ าตา ยังเอาควายเถิกควายแม่ทงั ้ ช้างตัว ๑ ข้อย ๒ คนไปสูข่ วัญ
ใจ จึงให้นางงอมนอมม้าแก่พระยาคาผง จังให้เชียงคอบเชียงลวงดอมทีน่ นั ้ แล ขาเอา เจ้าล้านคาแดง เล่ายังคาร้อย ๑ ให้พอกชูงพอกคาว แล้วเขาจึงคืนมา พระยาล้านคา
นางงอมมารอดพระยาคาผงได้เดือน ๑ พระยาคาผงลวดตายในปีเปิกยีนนั ้ แล จุฬสัก แดงยังให้เอาขันคาอัน ๑ แต่พอ่ ท่านมาแก่อาวทานเจ้าคารอง แต่งให้ดเู หมือนหนาเอา
ราชได้ ๗๖๐ ตัวนัน้ แล ทัง้ หลายจึงเอาเจ้า ทัง้ ช้างบูรมาทัง้ ข่อยม่าข่อยเมง มาเปนควานช้างแก่เจ้าคารองทีน่ นั ้ แล แต่นนั ้ มาได้ ๖
๕๘ เข้า พระยาคารองเปนพระยาได้ ๑๗ เข้าลวดตาย ในปีรว้ งเปล้านัน้ แล เมือ่ นัน้ เจ้านาง
แจะเปนพระยาแทนพ่อปีนนั ้ แล ด้วยแท้พระยาคาผงเกิดปีก่ามด ใหย่มาได้ซาว ๘ เข้า ผมดา อันเปนแม่เจ้าคา
พ่อลูกผิดกัน ลวดหนีเมือตกแชภูมชะนานกาง พ่อลวดตายลูนหลังปีนนั ้ อยูไ่ ด้ ๓ ปีจงึ ๖๑
ได้มาเปนพระยาปีกาบยีเปน พระยาได้ซาว ๕ เข้า นับแต่ชาดมาได้ ๕๖ เข้าจึงตายในปี กองยังให้เจ้าแสนทังหอพันหอหนามเมือยอเผินเขาเหลาแก่พระยาล้านคาแดงปางนัน้
เปิกยีนนั ้ แล ทัง้ หลายจึงเอาคาแจะมาเปนพระยาแทนปีนนั ้ แล ด้วยแท้คาแจะเกิดปีรบั ไส้ พระยาล้านคาแดงยังสังมาว่ ่ า สายเงินขาดให้เอาสายเงินต่อ สายคาขาดเอาสายคาต่อ
ใหย่มาได้ ๓๔ เข้าได้เปนพระยาแทนพ่อปีนนั ้ เปนพระยาแทนพ่อแล้วยังให้แม่ทา่ นผูช้ ่อื พ่อตายเอาลูกอ้ายแทนเมืองว่าดังนี ่ ้ พระยาล้านคาแดงยังให้เอาเสือ้ ผ้า มาแกขาเจ้าแม่
นางพัน เอาน้องผูช้ ่อื นางสีเมือมอบแก่พระยาแสน ก็ขอบใจจึงให้ขนั เงิน๒ ขันคา ๒ ให้ ลูก ทัง้ ก้องแขนคาคนคู่ กาเหลาคาคู่ ๑ มาแกขาเจ้าแม่ลกู หัน้ แล เขารอดแล้วจึงเอา
ทัง้ ช้างแม่แพงให้นางพันขวีม่ าแล เจ้าแจะเปนพระยาได้ ๘ เข้า นับแต่ชาดมาได้ ๔๒ ท้าวคากองเปนพระยาแทนพ่อ ในปีรว้ งเปล้า จุลลสังกราดได้ ๗๘๓ ตัวนัน้ เจ้าคากองจึง
เข้าลวดตายปีรบั เร้า ท้าวคา ได้ ๑๔ เข้าแล ถัดนัน้ พระยาล้านคาแดง เปนพระยาได้ ๑๒ เข้าลวดตายปีเมิงมดนัน้ แล
๕๙ จุฬสักราชได้ ๗๘๙ ตัวนัน้ แล ถัดนัน้ เขาเล่าเอาพรหมทัดลูกท้าวคาแดง เปนพระยาแทน
รองเกิดปีเมิงเหม้า ใหย่มาได้สบิ ๙ เข้าได้เปนพระยาแทนพ่อปีรบั เร้า จุฬสักราชได้ พ่อได้ ๖ เดือน
๗๖๗ ตัวปีนนั ้ แล เปนพระยาได้ ๖ ปี จึงมีลกู ชายผู้ ๑ ชื่อว่าคาลอง ปีเปิกไจ้เมือ่ ท้าวเป ๖๒
นพระยาได้ ๑๒ เข้า พระยาแสนจึงมาให้กล่าวว่า ข้าพระสันก็บ่มี สินส่วยสินรานแก่เรา ตายเสีย ถัดนัน้ เขาเล่าเอาพระยาบา ลูก ๓ แสนไทมาแทน ยังให้ลามขีพงู เอาขันคามา
นา ให้น้องเราเล่าขันอาสาแก่เราเปนดังปูเ่ ราเจ้าคาผง อาสาปางเมืองพวงเมืองผาปาง แกขาเจ้าแม่ลกู เล่าเอาขันมาแกเจ้าแสนทีน่ นั ้ พระยาบาเปนพระยาได้ ๕ เดือนเขาปลง
เสีย ถัดนัน้ เขาเล่าเอาพระยาหมืน่ ลูก ๓ แสนไทมาเปนพระยาแทนขาเจ้าแม่ลกู ยังให้ เหืองแลเจ้าอุ่นเมืองให้แต่งพลพายเมืองพวน ผัดมือ้ ถือวันให้แก่กวานเสือออน ว่าดังนี ่ ้
หมืน่ แพนไปไหว้ยงั ให้ขนั คาหนัก ๔ ร้อย ทัง้ ช้างบูรมา แก่ขาเจ้าแม่ลกู พระยาหมืน่ เป เมือ่ นัน้ เจ้านางผมดาจึงสังกวานเสื
่ อออนชุประการแล้ว จึงให้มนั มารอดขาเจ้านางเหือง
นพระยาได้ ๖ เดือนก็ตายเสีย ถัดนัน้ เขาเล่าเอาพระยาโค ลูกพระยาคีเปนหลาน ๓ แล คาอุ่นเมืองเล่าชุประการแล้ว ว่าขาเจ้าจึงแต่งหมืน่ หลวงไปเอาเจ้าคากองมา เขาอยู่
แสนไท มาเปนพระยาแทน ยังให้ชา้ งกวงมาทัง้ ขันคาหน่วย ๑ หนัก๔ ร้อยมาแกขาเจ้า ภายหลังจึงขับเอาริเอาพล มาไล่ทา้ วหนวดหนี เมือรอดนาหูเมืองพามแล้ว เขาจึงข้าเสีย
แม่ลกู ทัง้ เมืองสูยมาอมเมืองทีน่ นั ้ แล ขาเจ้าแม่ลกู จึงให้หมืน่ น้อยทังหอหลวงไปไหว้ท่ี หัน้ แล เขาจึงเอาเจ้าคากองมาเซาอยูเ่ ชียงหีนหัน้ แล วันประกอบจึงเอามาเปนพระยาบ่
นัน้ แล พระยาไคเปนพระยาได้ ๓ ปีเล่าตายเสีย ได้รามปีเลย คันว่าเจ้าคากองมารอดบ้านรอดเมืองแล้ว จึงเมือครอบพระยาจิกคาว่า
๖๓ น้องเจ้าบ่ได้เอาใจหลีกดงหลีกชวา ก็มารอดบ้านรอดเมืองแล้วว่าดังนี้ จึงเอาเจ้านางผม
ถัดนัน้ เขาเล่าเอาท้าวจิกคาลูก ๓ แสนไทผูก้ นิ เชียงสามาเปนพระยาแทน ยังให้ทาวแล้ว ดามา เมือ่ นัน้ เจ้านางผมดาจึงอาลาคาจาก
เอาขันคาหนัก ๓ ร้อยมาแกเจ้าแม่ลกู ในปี เต่าไจ้ พายลูนมีพระยาจิกคาหากบ่ฟงั ถีล่ วด ๖๖
ฟงั ความท้าวหนวดผูเ้ ปนอาวเจ้าคากองนัน้ จึงให้หมืน่ พวกมารบ แต่นนั ้ ข้าไหลไทสาน เจ้าพระยาจิกคาวันนัน้ เจ้าพระยาจิกคายังสังมาว่ ่ า เขือเจ้าแม่ลกู เมือสร้างบ้านให้เรือง
เสีย พระยาล้านคากองจึงได้คาดบ้านคาดเมืองตกโมตกผาตกแชภูมชนานกางปางนัน้ สร้างเมืองให้รงุ่ เทิน พีเ่ ราน้องเรายังคึดอันใดไปรุง่ ไปเรืองให้ ใช้ผใู้ ช้คนมาเถิงเราคารัก
แม่เจ้าคาชื่อนางผมดาก็ตกดงตกชวา ทัง้ เจ้าก็ตกปีก่าเปล้า จุฬสักราชได้ ๗ ร้อยเก้าสิบ คาแพงเราพีน่ ้องบ่ขาดบ่เสียกันสักเทื่อดาย เราก็ยงั ให้หมืน่ พระนา เมือส่งรอดพวนบ่
ห้าตัวนัน้ แล ทีน่ นั ้ ลาวก็ให้ทา้ วหนวดผูเ้ ปนอาวเจ้าคากองมากินเมืองพวนปางนัน้ ถ้วน อย่า ว่าดังนี้ เจ้าพระยายังให้ขนั คาหน่วย ๑ หนัก ๕ ร้อยให้จนั ๑๒ หัว แก่เจ้านางผม
แล เจ้านางผมดาหนีเมือเพิง่ พระยาจิกคาอยูไ่ ด้ ๒ เดือน ๓ เดือน บ่รขู้ า่ วลูกตนสักเทื่อ ดา ให้ทงั ้ ช้างจาลองตัว ๑ ทัง้ แหย่งกับหัน้ แล แต่นนั ้ ขาเจ้าแม่ลกู มารอดกันจึงได้ประสบ
จึงไปหาเจ้าอาจานธัมมกัดถา พบกันหัน้ แล เมื่อนัน้ เจ้านางผมดาจึงถามเจ้าคากองว่าดังนี้ เมือ่ เจ้าเมือตกเมืองสาเมือง
๖๔ พาวพูน้ ยังดูรุ่งเรืองบ่ เจ้าคากองว่า บ่รงุ่ บ่เรืองสักอันแล ว่าอัน้ เจ้าคากองเล่าถามเจ้า
ให้แปลงชาตาเอาแหวนลูก ๑ ถือคา ๔ ร้อย บูชาเจ้าอาจานขอดชาตาแล้วจึงถวายว่า นางผมดาว่าแม่ตก
ชาตาลูกนี้ยงั จักได้คนื มาเปนท้าวเปนพระยาอยูใ่ นเมืองปูเ่ มืองย่าก้าเมืองพวนบ่อย่าชะ ๖๗
แล ยังเจ็ดวันจักรูข้ า่ วพอเทีย่ งวันว่าดังนี้ เจ้านางเมืองเหืองแลเจ้าคาอุ่นเมือง ให้กวาน พายดงพายชวาพูน้ ยังดูรงุ่ ดูเรืองบ่วา่ ดังนี ่ ้ เจ้าผมดาจึงว่าพายดงพายชวาพูน้ ดูรงุ่ ไรไส
เสือออนเอาเสือ้ เจ้าคากองมารอดเจ้านางผมดา ผูเ้ ปนแม่หนั ้ แล เมือ่ นัน้ เจ้านางผมดา จึง งามแล แมไทยูคา้ ข้ายูขายทัง้ หลายยูสร้างเมืองกว้างทีท่ าบุญ ดูดงจั ั ่ กรอดฟ้ารอดบน
เอาเสือ้ เจ้าคากองเมือหาพระยาจิกคา พระยาจึงว่า เยียวว่าน้องกูตายเสียแล้วกีดาย แกแมด่ายว่าดังนี้ เมือ่ นัน้ ขาเจ้าแม่ลกู จึงกล่าวต่อซึง่ กันว่า เมืองเราก็บ่มพี ระมีธาบ่รงุ่ บ่
บัดนี้ชาว่าน้องกูยงั จักให้เมือขับท้าวหนวดหนีชะแล ว่าดังนัน้ แล้วพระยาจิกคาจึงแต่งจ่า เรือง ถ้าขาแม่ลกู หาคนผูร้ ผู้ ดู้ ี เมือไหว้พระยาเจ้าขอคลบคาบานเมืองเล่าขอเอาพระ
หมืน่ หลวง ทัง้ หมืน่ รูย หมืน่ ลอ หมืน่ ยูเชียงรังเมือเลวจึงว่าแก่นางผมดา ให้สงกวานเสื
ั่ อ เอาธาหาทัง้ ผูร้ ผู้ หู้ ลักมาสร้างบ้านสร้างเมืองดอมเราแม่ลกู เทิน ว่าดังนี้ เจ้าผมดาจึงว่า
ออนให้วา่ แก่น้องเราเจ้านาง เมือ่ เจ้าหนีไปตกสาตกพาวยามนัน้ แม่บ่รขู้ า่ วรูค้ ราวสักเทื่อ แม่จงึ เมือหาเจ้าอาจานผู้
๖๕
ชื่อธัมมกถาให้แปลงชาตาเจ้าจึงทวายว่าเจ้ายังจักคืนมาเปนท้าวเปนพระยาบ่อย่า ว่า เมิงไส้นนั ้ ถัดนัน้ เล่าเอาท้าวลือไชลูกหล้าลูกลูนพระยา ๓ แสนไท เกิดปีรบั มด สักราช
ดังนัน้ แก่แม่นา ราแม่ลกู ถาให้เมือ ได้ ๗๗๗ ใหย่มาได้ ๒๓ เข้าได้เปนพระยาแทน ในปีเมิงไส้ จุฬสักราชได้ ๗๙๙ ตัวนัน้
๖๘ แล เสนาอามาดทัง้ หลายจึงเสกสาหาชื่อว่า พระยาไชจักกแผ่นแผ้ว นัน้ แล เมือ่ เจ้าอ
ขอเอาพระเอาธัม ทัง้ เจ้าอาจารธัมมกถาเทิน ว่าดังนี้ ขาเจ้าแม่ลกู ทัง้ ๒ จึงแต่งหมืน่ สอง ๗๑
เมือไหว้พระยาจิกคาปางนัน้ หัน้ แล หมืน่ สองเมือไหว้พระยาจิกคาแล้วจึงหาคากูคาแจะ าจานธัมมกถาทัง้ หมืน่ สองเอาพระเจ้ามา พระยาคากองทัง้ นางผมดาไปต้อนรอดเพียง
มาหล่อเปนเบ้าเดียว ตีให้เปนหลาบสุพนั นะปฏั ฐเปนดังพระยา ๓ แสนไท แลพระยาคา หลวง ยามตาวันเทีย่ งนี้ เมือมารอดทีอ่ ยูท่ ก่ี นิ แล้ว ขาพระยาเจ้าจิงตางจึงเสงดอมเจ้าอา
ผงปางนัน้ แล ถัดนัน้ หมืน่ สองจึงไหว้พระยาขอเอาพระเอาธัม ทัง้ เจ้าอาจานธัมมกถา จานแลอยู่ ๖ วันจึงให้เจ้าอาจานมาดูเชียงหวางขึน้ เหนือพูเหล็กแช่หม่ จอมจองหุง?
ปางนัน้ แล พระยาจิกคาก็ให้อานุยาด จึงเรียกเจ้าอาจารมาซองหน้า จึงว่าแก่เจ้าอาจาน บ้านเมืองแหนทีเ่ ขดทีข่ วง ๓ แห่ง แห่ง ๑ ทีภ่ ูคาเปนตกลีน แห่ง ๑ ทีห่ นองอังภูแบกขอ
อันเปนน้องแก่พ่ี บัดนี้เจ้าผมดา เจ้าคากองเมือนังยู ่ นงพวนแล
ั่ จังคึดใคหาคุณแก้วทัง้ ๓ นัน้ แห่ง ๑ ทีต่ น้ แหนหลวงนัน้ ดูแล้วเมือคอบขาพระยาเจ้าแม่ลกู ว่า เมืองนี้ทข่ี ว่ งมี ๓
๖๙ แห่งเลิย ว่าดังนี้ ขาพระยาเจ้าแม่ลกู จึงว่า เอาเจ้ามาเพือ่ ให้รงุ่ ให้เรืองสันใดจักดี บ่ล้าเจ้า
กับทัง้ เจ้าอันได้มคี ุณแต่ก่อน แก่ขาเจ้าแม่ลกู ว่าสดังนัน้ หนา เจ้าอาจานจึงว่า ข้านี้ กูแล้วถ้าเยดให้ดเี ทิน เมือ่ ปูเ่ ราเจ้าคาแจะเปนพระยาได้ ๘ เข้าก็ไปสูป่ รโลก เมือ่ พ่อเรา
หากเปนคนต่างประเทสหากมาเปนข่อยแก่พระยาเจ้าแล้ว มหาราชาเจ้าว่าสมว่าควร ผู้ เจ้าคารอง เปนพระยาได้ ๑๗ เข้าก็ไปสูป่ รโลกดังนัน้ นา
ข้าบ่ไคร่เถียง ขียาอันปูกสาสนานี้ ก็ได้ปกู หมัน้ หนักหนาว่าดังนี้ อาจานสูรบั เอาความ ๗๒
พระยาแล้ว พระยาจิกคาจึงให้นิมนพระเจ้าทองสาริด ๔ อง ทัง้ พระสังฆะเจ้า ๔ ตน ธาตุ เจ้าอาจานจึงว่า พระยาเจ้าแม่ลกู ถ้าให้ตแี ผ่นเหล็กหนา ๓ จับยาวค่าสอก หลาบทองก็
พระเจ้า ๕๒๙ ลูก พระยาจึงสังเจ้ ่ าอาจานว่า เจ้าเมืองสร้างบ้านแปงเมืองดอมพีเ่ ราน้อง หนา ๓ จับยาวสอกชูอ่ นั แล้วจึงใส่อาคมทัง้ มวลแล ยันชื่อกงทอรนีปถวีไชยแล เจ้าอา
เรา ให้รงุ่ ให้เรืองให้เปนเมืองบุญเมืองทันเทิน ผีส้ ร้างสาสนาพระเจ้า ยังรุง่ ยังเรือง เปน จานจึงมาตัง้ เรือน ใกล้กกต้นแหนหลวงนัน้ จึงเอาไม้ดวนมาขัดตาแหลวให้ใบกึดซึงน้า
แพงเปนพีมแล้ว จึงสังพี ่ เ่ ราน้องเรามาหาบ้านหาเมืองเราพีน่ ้องเทิน แต่นนั ้ เจ้าอาจานก็ เพียงน้าพางคบกันนัน้ แล้ว เจ้าอาจานจึงเข้าไปหนองออพายวันหนี ๔ ตัว ตัว ๑ ล่องน้า
รับโจมคาพระยาแล้วก็จงึ สังอ ่ าลาจากเจ้าพระยา พระยายังให้ผา้ เทด ๔ ผืน จัน ๕ หัว ตัว ๑ ขึน้ น้า ๒ ตัวขึน้ ห้วย ขีมารอดทีท่ างเขาจึงเหนทง ๒ ขึน้ เมือภูท่าดงได้ ๗ วัน เขา
เปนเสือ้ คาสุกร้ย ๑ เงินพัน ๑ จึงไปดูทแ่ี หลวลวดเหนพายวันตัว ๑ คาแหลวตาย เจ้าอาจานจึงตัดแข้วแหลมอันใสงาม
๗๐ ใส่กบั ท่อขวานฟ้าเมือถวายแก่เจ้าคากอง ขาพระยาแม่ลกู จึงให้เอาเงินมาให้แก่เจ้าอา
พระยาเล่าเอามาโมทนาดอมพระยาเจ้าแม่ลกู คา ๒ ร้อยให้เปนเนื้อเปนหนังพระเจ้าใน จาน ๙ ร้อย คา ๙ บาท ดาบมาดดวง ๑ เจ้า
ทีส่ าด (ไม่ชดั ๑ คา) นัน้ เทิน ว่าดังนี้ทแ่ี ท้เจ้าอาจานธัมมกฐา มาสร้างสาสนาในเมือง ๗๓
พวนปีกาบยี จุฬสักราชได้ ๗ ร้อย ๙๖ ตัวนัน้ แล อย่านัน้ บ่นานเท่าใด พระยาจิกคาก็ อาจานจึงให้คนทัง้ หลายกนต้นแหนเสียหมด ขนดินเกินใส่หนองออนัน้ ให้ราบให้เพียง
ตายปีนนั ้ เขาจึงเอาท้าวยูงคอนลูกล้านคาแดง มาเปนพระยาแทนได้ ๘ เดือน ทัง้ หลาย งามแล้ว จึงใส่ช่อื ว่าลาง ? ซถานเพียง ? แห่งนัน้ ชื่อว่าแท่นคูนเปน พระยาเหนือสุวณ ั ปา
เรียกบ่ดเี ขาปงเสีย ถัดนัน้ เขาเล่าเอาท้าวเกิดมาเปนพระยาแทน ๓ ปี เล่าตายเสียในปี ลังกาเจ้าอาจานธัมมกถาปึ กสาหาชือแล้ว ถัดนัน้ จึงเอาหลายเสียนทองขวานฟ้า อันลง
สาดตะสินไปยอยกกินเมือง? ทีพ่ คู านัน้ จึง ...(ไม่ชดั )...เท้าปลายลินกอกเสียน เหล็กไว้ พระยาแม่ลกู ออกจากอารามมากินงายนัน้ เห็นเถ้าผู้ ๑ เข้าวัด เขาแล่นไปไขปดั ตูดกู บ็ ่
แล้ว เจ้าอาจานจึงให้คนทัง้ หลายขูดตัดปลายลินภูคาเสีย เมือ่ ขูดนัน้ คนทัง้ หลายว่านะ เห็นไผ เห็นท่ออูบคาอันนึงท่อแม่มอื นี้ หนักบาท ๑ ตัง้ ไว้หวั เข่าพระเจ้ากล้าซ้ายดูหน้า
โมพุทธายะว่าดังนัน้ จึงใช้่อด้
ื วยมัตติคนทัง้ หลายว่า?ทาย เพือ่ อัน้ แล ปีลนู สักราชได้ พระเจ้าลวดงามบริสุทธเสีย้ งเลย เจ้าพระยาคากองแล่นมาไขอูบ ลวดเห็นเกศธาตุพระ
๗๙๗ ตัว ปีรบั เหม้า เดือน ๑๒ ออก ๖ ค่า มือ้ กาบซงา วัน ๓ สามยามมัดชิมมะ ยามปา เจ้า ๒ เส้น อยูใ่ นอูบหัน้ จึงว่าดังนี้ เกศธาตุพระเจ้าอันนี้มกี ้าซ้ายไหใส่หวั พระพุทธรูป
ทสายาคเอกลักขณาทิวาเสสัง แล จักตัง้ วัดกลางสถานนัน้ เจ้าผมดาเจ้าคากอง อา เทิน ว่าดังนี้ ขาพระยาแม่ลกู ลวดยินดีเจ้าอาจานยินดี จึงรีบใส่พายหมีดเพียงหางตา
จานธัมมกถา ถือ ซ้ายนัน้ ยามเมื่อผงใส่เกศธาตุนนั ้ ฝนตกลง ๔ ยามเล่าเอิน้ เล่าลมสะหน้อย ไมวอม
๗๔ เหมือนดังลมหลายนั
่ น้ แล เมือ่ พุทธพิเสกเบิกพระเนกพระเจ้านัน้ ยามเทีย่ งคืนนัน้ หอม
ดินจีแลคนแลก้อน ทัง้ มวลเปนเก้าก้อน จึงตัง้ ก่อนทัง้ หลายเจ้าอาจานเอาแก้วลูก ๑ เท่า ประดุจจดังเผาประธูปนี้ ในพุทธาย
กิว่ แข้งชื่อวชิละ เปนแก้วปดั หลอดแพงค่าเมืองนึง เอาแต่ลงั กาทวีปมา ทัง้ หลายจึงก่อ ๗๗
พืน้ วัดก่อนแล้วปี รวายสันวันอาทิต ถะปนั นาธาตุพระพุทธเจ้าเข้าสูไ่ หลายน้อย ธาตุได้ นัน้ จึงก่อไว้ชนิ ะธาตุ ๒ ลูกใส่กระออมอูบพระบาง ๑๖ อง ธาตุอรหันตา ๕๐๐ ในเชียง
๕๒๕ อง ชินนะธาตุ ๓๓ ลูกอันประเสริฐ ๒ อง เท้าฟนผั ั ่ กกาด ผีใ้ ส่น้ าในไตยอธิษฐาน เหนือจึงก่อธาตุอรหันตา ๗๐๐ พระบางซาว ๙ อง แลน้าเทีย่ ง ท่อมีในวัดกลางสระฐาน
ใคร่ให้ฟูกฟ็ ู อธิษฐานใครให้จมก็จม ธาตุเจ้า ๒ ลูกนี้เอาแต่ลงั กามา เอาดอมพระเทพพ นัน้ ๗ ทะนาน พาวใหย่แล น้านัน้ ประเสิดดาย วัดกลางสระฐานนี้เปนเงินเปนคาแล้ว
หาเทพพโมลี ในวัดลังกาพูน้ มาแล เจ้าเจ้าผมดามีจติ ตสัทธาแปงพระบางคา ๑๐ อง เจ้า เจ้าผมดาอันเปนแม่พระยาคากองรักสามหาเถรเจ้าชื่อสารีบุตร ตนทรงวิไนยะวรเปนเจ้า
คากอแปงพระบางคา ๙ อง เจ้าอาจานแปงพระบางเงินอยอง แลเจติยะแก้ว ๑ อูบบัด ๑ วัดกลางสระฐาน ได้ ๒๙ วัดสาการ ตนน้องได้สบิ ๙ วัดสาชื่อมหาโมคคัลลา ก็เปนพระ
เจ้าคากองแปงทองขวานฟ้า เปน หูสดู ให้เมือรักสาภูทายตนนึงชื่อมหาอานนธะได้ ๒๖ วัสสา ชาวลานนาจบปิตตกะทุก
๗๕ ตนให้รกั สาเชียงเหนือ พระพุทธเจ้าทองสาริดอยูเ่ ชียงเหนือ ๒ อง อยูภ่ ูทายอง ๑ อยูว่ ดั
เจติยะนึงเล่า พระแก้วใส่ในกวดทอง ๑ เล่าทาราคเจ้าคากองเอาแต่เมืองสา มาใส่รองให กลางสระฐานอง ๑ แล้วก็เปนเมืองบุญเมืองทานอยูห่ นั ้ แล ยามนัน้ พระยาไชเปนพระยา
ลายน้อย ธาตุอรหันตาเจ้าคันนนาบ่ได้ ไหลายหลวงชินธาตุ ๔ อง พระบางคาซาว ๙ ได้ ๓ ปีแล้วเจ้าอาจาน
พระ คาตันหนัก ๒ ร้อย คาสุกแก้วแตคาแจะ ไว้แก่คารองมาคากองชื่อนินละคันที ใส่ ๗๘
ผ้ายขาวก็ดาใหย่เท่าไข่ไก่ ผูนีหอหลวงมีคา ๓๕ หอซายมีคา ๓๐ แห่ขวามีคา ๓๐ แห่ มาอยูไ่ ด้ ๖ เข้า จึงให้แหซ้ายเมือสังอ ่ าลาคลาจากขาพระยาเจ้าแม่ลกู หัน้ แล ขาพระยา
เหนือมีคา ๓๐ แห่ใต้มคี า ๓๐ มีจติ ตสันทามาให้เปนแผ่นพันนะปฐะใส่ช่อื เจ้าคากอง เจ้า เจ้าแม่ลกู จึงให้เรียกหาเจ้าอาจานเมือชองหน้าจึงว่าขอแก่เจ้าอาจานกอน(?) อยูว่ ดั เผือผู้
ผมดา เจ้าอาจานทัง้ ขุนกวานทัง้ หลายผูส้ ร้างทัง้ ชาตาพูทธรูปเจ้าแล ท่อนี้ใส่ไหลาย พีผ่ หู้ ลาน ก่อนว่าดังนี้ เจ้าอาจานจึงว่า ขอแก่พระยามแม่ลกู ขาก็มาได้ ๕ เข้า ๖ เข้านี้
หลวงแล พระคาตันนัน้ พระยาจิกคาให้เอาคามา จิงหล่อแล วันเอาโสมพระพุทธรูปเจ้า แล้วน้องเจ้านางแก้วอนุชายังใส่เสียนใส่สารมาหาข้า ให้ผขู้ า้ อาลาคลาจากพระยาเจ้าแม่
นัน้ ยามพอตาวันเทีย่ งนี้ เจ้าอาจานลงมากินงายแล้ว ขา ลูกทอน ว่าดังนี้ขานา เมือ่ นัน้ ขาพระยาเจ้าแม่ลกู ว่ายังจักให้หอหลวงแลหมืน่ สอง เมือ
๗๖ ขอแก่พเ่ี จ้าพระยาไชก่อน ว่าดังนี้ จึงให้หอหลวงทัง้ ท้าวกิงทัง้ หมืน่ สอง เมือไหว้ยงั แต่ง
ขันเงิน ๑ ขันคา ๑ ทัง้ เครือ่ งกับพอมทังความเถิกควายแม่ ไปยอเผือนเขาแกเจ้าพระยา เทดคนผืน เงินคน ๒ ร้อย เสือ้ แพรคนผืน อูบคาคนอัน เล่าให้เอามาแกขาเจ้าพระยาแม่
ไชยะจักกะแผ่นแผ้วให้หมัน้ บ้านหมัน้ เมือง แล้วจึงขอเอาเจ้าอาจานกับนาง ลูกนัน้ ขันคาคนอันแลอันหนัก ๔ ร้อยผ้าเทดคน ๔ ผืน จันคน ๔ หัว แล้วจึงให้นางแก้ว
อนุชามาหาเจ้าอาจาน พระยาไชยจักกะแผ่นแผ้วจึงสังว่ ่ า เจ้ายังคึดเถิงดงเถิงชวายาม
๗๙ ใดมาแล จึงพัดเมือ อย่าคึดใอย่น้อยคอยแก่พเ่ี นอ สังแล้ ่ วจึงให้คาสุก ๔ ร้อย เงิน ๒ พัน
แก้ว อนุชามาหัน้ แล เมือ่ นัน้ พระยาจึงว่าดังนี้ เมือ่ น้องเราพีเ่ ราให้มาขอเอาเจ้าอาจาน จัน ๖ หัว เคื่องนุ่งเทด ๘ ผืน ข่อยยิง ๑๐ ข่อยชาย ๙ ช้างทัง้ ควาน ละแอ อัน ๑ ม้าเถิก
ดอมพีเ่ ราเจ้าพระยาจิกคา ยามนัน้ ท่อว่าให้เมือปลูกสาสนากีด้ าย บัดนี้เล่ามาขอเอาไว้ ๑ ชื่อพลหก
ดังนี้ เราบ่มกั ไคร่หอ้ื ดีหลี เหดว่าพีเ่ ราเจ้าพระยาเจ้าจิกคาณุ้วา่ เปนพงเปนนามเจ้าสียดธ ๘๒
ยาก็จงึ ขอราธนาสึก จึงให้น้องเราเจ้าแก้วอนุชาดาย ผิวา่ น้องเราแลยังจักมักเอาไว้แท้ ก็ แต่นนั ้ นางก็หนีจากดงจากทอง มารอดเมืองพวน เจ้าอาจานก็จงึ ยินดี แล ต้นพระสรี
ให้มคี าแก่นคาสาน ให้กณ ู าแท้เราจึงให้น้องเราเมือแล ว่าดังนี้ เมือ่ นัน้ หอหลวงจึงคืนมา มหาโพธิเจ้านัน้ อันมหาสารีบุตตเอาแต่ชวาใส่บาตรมา เมือ่ เสกสาพระพุทธรูปเจ้าแล้ว
ครอบขาพระยาแม่ลกู จึงให้หมืน่ สอง อยูแ่ ลพระยาแม่ลกู จึงเอาจิตตสัดทา จักให้ทาน จึงปลูกเมือ่ ลูนแลธาตุทงั ้ มวลได้ ๕๒๙ ลูกอยูว่ ดั กางชะถานแล ขาพระยาเจ้าแม่ลกู ให้
บานกัวแก่เจ้าอาจานธัมมกถา เหดว่าเจ้าอาจานมาปลูกสาสนาแลชาระบ้านเมืองทีร่ า้ ย เขตแต่ปา่ ลังเมือหน้า ๖๗ วาดามพายซ้าย เอาฝงน ั ่ ้าเปนแดน พายขวาเอาพีมทางเปน
ให้เปนทีด่ แี ล เมื่อลูกเมือ่ หลาน แดน พายหลังเจ้าอาจานเอาเงินเลียนร้อย ๑ เมือขอขาพระยาเจ้าแม่ลกู ก็ให้แกเจ้าอา
จานแล ขาพระยาทัง้ สองว่าเขตวัดสัดฝูงจักเสียชีวติ มาเขตพระพุทธเจ้าอย่าเอา เผือแม่
๘๐
ลูกกับทัง้ เจ้าอาจาน ก็ให้ทานแกมหาสารีบุตตเจ้าแล ในภูทายนัน้ เมือ่ สร้างแล้วจึงให้เขต
บ้านหลอดก็จกั วุทธิจาเรินหมัน้ ยืนแล ชัวลู่ กกูชวลู
ั ่ กกูเจ้าอาจาน ชัวหลานตู
่ ชวหลานเจ้
ั่ า
เบือ้ งขวาแต่พมี ทางเมือ
อาจานเท่าทานเหลนบานหลอด ไผอย่าถกไผอย่าถอน เผือแม่ลกู นี้หากเปนใหย่กว่า
๘๓
ลูกหลานทัง้ หลายแล ผีล้ กู หลานกูแลลูกหลานเจ้าอาจาน หากยังผิดกันพอทีล่ ม้ ทีต่ ายก็ดี ั ่ เปนแดน แล้วให้ทงั ้ บ้าน
เทงเบือ้ งซ้าย แต่รอ่ งน้ าเบือ้ งท้ายแต่รอ่ งคูเบือ้ งหน้า แต่ฝงคู
ให้สง่ คืนขืน้ เมือรอดดงรอดชวาเทิน ไผบ่ฟงั ความเผือแม่ลกู อย่าให้วฑ ุ จิ าเริน ว่าดังนี้ ขา
ลาบลานกับวัด เล่าให้ทงั ้ บ้านอยางแล บ้านหนอง กับมหาเถรเจ้าตนเปนเจ้าวัดแล ในวัด
พระยาแม่ลกู ปรารถนาเห็นหน้าอริยะเมตไตยอันจักมาเลียงลัดตัดสัพพัญญู เปนพระ
เชียงเหนือ เมือ่ สร้างแล้ว ขาพระยาเจ้าแม่ลกู จึงให้เขตแลพายแล ๕๖ วาดามแล เมือ่
พายหน้านี้อย่าชูดอย่ากาย ว่าดังนี้แล้วเจ้าคากองถือพงนาเจ้าผมดาถือคังนา ( ?) เจ้าอา
หน้าลูกหลานยังมีสดั ทาจังให้ ่ ต่มื เทิน พายหน้าแต่นนั ้ มาได้ ๗ เข้า ๘ เข้ายังมีผู้ ๑ ชื่อว่า
จานหงายมือเบือ้ งขวา ขาพระยาเจ้าแม่ลกู จึงเทใส่หนั ้ แล แผ่นดินหนา ๒ แสน ๔ หมืน่
อ้ายมูย อยูเ่ วียงจัน หากใจคดแก่เจ้าพระยาไช จักชิงช้างขวีท่ ก่ี นิ เจ้าพระยาไชจึงให้นาย
โยชนะ อันนึงนางธรณีจ่อื จาคาตงหมันเทิน อับบายทัง้ ๔ อย่าให้ได้รไู้ ด้เห็น
ปลืมทัง้ ล่ามเอิก มากล่าวแก่พระยาคากอง ให้เอาริพลไปช่อย พระยาคากองจึงแต่งหมืน่
๘๑
แสน เอาคนไปสองพันไปม้างเวียงจันเสียจึงมา เมือ่ นัน้ พระยาไชก็มารอดเชียงไคเชียง
สักเทื่อเทิน ว่าดังนี้แล้วพระยาเจ้าแม่ลกู ให้ทานบานกัวเท่านี้แล แรกแต่พระยาจิกคา
คาน ยังให้นานยปลืมทัง้ ล่ามเอิก เอาหลาบสุพนั นะปฎั ฐคาหนัก ๓ เบีย้ มาหาพระยากอง
ตายได้ ๓ ปี ปลาย ๔ เดือน ขาพระยาแม่ลกู จึงให้หอหลวงนาคาเมือถวายแก่เจ้าพระยา
มา
ไช พระยาก็อะนุโมทนา ดังขาเจ้าแม่ลกู แล้วอยู่ ๒ วัน จึงสังเจ้ ่ าพระยา พระยายังให้ผา้
๘๔ แล้วมันคนิงในใจว่า มีคาว่าอนตรายอันใดมีพระเจ้าเล่าคืนมาดังกูฝนั นี้ลอื มันคนิงใจไจ้
ตาร่วมสุขร่วมทุก ร่วมร้อนร่วมเย็นกัน เปนดังเสื ่ อ้ ผืนเดียวผ้าผืนเดียวกัน ไข้กพ็ าไข้ราก็ ๆ คัน้ รุง่ เช้ามันรีบชาระเนื้อตนมันดีแล้ว จึงเข้าไหว้พระเจ้าในวัด ลวดเห็นพระบางเจ้าไส
พารา ว่าดังนี้ ยังให้เสือลานเคือมาทัง้ อูบเหมีย้ งหนัก ๓ เบีย้ มาทีน่ นั ้ ก็ใชคาบ้านคา ยาดอยูเ่ หนือแท่นหัน้ แล มันจึงรีบไหว้มหาเถรเจ้าในกุดแี ล้วจึงเมือเล่าแก่พระยาเวียงคา
เมืองหากัน บ่ขาดหัน้ แล พระยาไชเปนพระยาได้ ซาว ๖ เข้า จึงให้ทา้ วหลอย กิน แล้วคนทัง้ หลายจึงมากทาสักกละ
เมืองลอ ทัง้ ทิดเทพภรด เอาเครื่องราชาภิเสกมา มหาสามียงั ให้เชียงหงมากวานหมูเ่ ข้า ๘๗
ให้เจ้าแสนมา พระยาหมืน่ ใหลานพานเทรามาเจ้าขวาให้หมืน่ กังมา หมืน่ หลวงให้ล่าม บูชามากนัก แล้วจึงปุกจึงยอพระเจ้าตัง้ ไว้ดงั เก่า เล่าบังเกิดอัสสจันแก่คนทัง้ หลาย อัน
คา มาราธนาเถรเจ้าเทพโร จึงมาเปนประธาน จึงอุบพิเสกเจ้าคากองขึน้ ชื่อพระยาว่า อยูใ่ นเมืองล้านช้างปางนัน้ มากนักแล ปีลุนนัน้ แกวบัวกวาง ให้มาซือ้ เอาช้างตัว ๑ ดอม
ราชาสุวณ ั ณราสี ในปีก่ามด เดือนเอ็ดขึน้ สีค่ ่า มือ้ เมิงเหม้า วัน ๗ ยามอาทิต พระยาไช พระยาคากอง พระยาคากองจึงใช้ไปคอบพระยาไช เมือ่ นัน้ พระยาไชว่าอย่าให้แกวดาย
ให้เอาเครือ่ งมานัน้ ช้างตัว ๑ ชื่อว่าทุระจาประสัด ขันคา เต้าปูน ชองภู อูบเหมีย้ ง ดอก ให้น้องเราห่อขีช้ า้ งให้แก่เขา ว่าดังนี้ พระยาคากองลวดห่อขีช้ า้ งพันใส่ในกางของ
๘๕ ให้เขาเอาเมืองรอด บัวจึงไขดูเห็นขีช้ า้ ง จึงเคียดหลกหมีดออกปอย ๑ เท่านิ้วมือ ลวด
กีบนวดคาร่มคันเงินคันคา แกวงคันคา เสือ้ ทาวผ้าทาว ม้าวแขนแหวนมือ เชิดหัวคา เอาคนมาห้าแสน มล้างทัง้ เมืองล้านช้างทัง้ เมืองพวนเสียหมด ในปีกดั ไค้นนั ้ แล สักราช
เครือ่ งพอมทุกอันแล้ว ให้ทงั ้ ถึงขามเถ้าทีส่ บคาน เปนกวานเปนสานให้ทงั บ้านสานชอง ได้ ๘๔๑ ตัวนัน้ แล ทีน่ นั ้ พระยาไชจักกะแผ่นแผ้วหนีไปอยูเ่ ชียงไคเชียงคาน เท่าแกว
ทาลานเชียงรัง ให้เปนท่าเรือไทพวน ในปีก่ามด พระยาคากองตอบพระยาไชจึงให้บา้ น หนีกล็ วดตายในปีนนั ้ หัน้ แล พระยาไชเปนพระยาได้ ๔๒ เข้าลวดตาย เจ้าคากองยังให้
โคบ้านชิง ให้บา้ นโกดหลวงแก่นางพระยา ให้บา้ นโจยอยายแก่เจ้าแสนรักหมืน่ หลวงจัน เจ้าแสนคามาทังหมืน่ คาเมือส่งสะกานแล้ว สักราชไปเปนปีกดไจ้
ให้บา้ นสังบ้านสาวเท่านี้ ให้ตอบคุณพระยาไชแล จุลลสักราชได้ ๘๒๕ ตัวนัน้ แล แรกแต่ ๘๘
นัน้ มาได้สบิ ๔ สิบ ๕ ปี พระยาไชจึงให้ไปราดธนา พระบางเจ้าทีเ่ วียงคาใส่เรือมา เพือ่ ทัง้ หลายจึงเอาท้าวสุวณ ั ณปาลังเปนพระยาแทนพ่อ ในปีกดไจ้ จุฬสักราช ๘๔๒ ตัวนัน้
ให้เปนทีไ่ หว้ ทีน่ บครบบูชาแก่คนแลเทวดาทัง้ หลายแล เขาเอาพระบางเจ้าขึน้ มารอด แล จึงขึน้ เมือสร้างเชียงดงเชียงทองดังเก่า เขาจึงเปิกสาหาชื่อว่าพระยาแท่นคาแล เมือ่
แก่งจัน เรือหล้มเสีย คนทัง้ หลายก็คนื มาเล่าแก่พระยาไชว่า เรือพระบางเจ้าหล้มเสีย เจ้าแสนแลหมืน่ คาจักมานัน้ พระยาแท่นคายังสังว่ ่ า เมือ่ พ่อกูแลอากูรกั กันสิบส่วนซาว
พระบางเจ้าพระบางเจ้าก็จมเสียแล ว่าดังนี้ พระยาไชจึงว่าโอ ส่วน กูจกั รักอาวกูล่นื นัน้ ร้อยส่วนพันส่วนว่าดังนี้ จึงให้เมืองชึงเมืองชาน เชียงคอบ
๘๖ เมืองขมังเมืองปะกับปากละพวนรักดอนจาวปากเนียกปากคอก ให้ทงั ้ ช้างขวัรทาลาม้า
นอ อันนี้บุญสมพารเราหากน้อยบ่เคยได้ไหว้นบครบบูชาพระบางเจ้า ดีหลีนอ อันหนึ่ง ขวางราว แก่เจ้าพระยาคากองปางนัน้ แล ปี ลนู คอบถ้วนฟดั ตัดตานพระยาแท่นคา
รอยจักเปนอุบาทอันตรายแก่บา้ นแก่เมืองแห่งเราฦๅ ว่าดังนี ่ ้ ก็บ่ให้เปนโทดแก่ผใู้ ดหัน้ ยังคึดรักอาวท่านเจ้าคากองยังให้หอ (หอก?) บีดทัง้ กวานพี เอาดาบโกดดาบกานทัง้ ช่าง
แล ทีน่ นั ้ เทพดาก็เอาพระบางเจ้าก็ออกจากน้าทีน่ นั ้ ไปทอดไว้ในวัดเก่าเวียงคาพูน้ หัน้ แล เพกปาลังมาทัง้ บัดน้อยส้อยคอ มาแกชาวงอนชาวภู ให้รกั สาขอกริมขาเจ้าอาวหลานรัก
เล่าแล ในคืนนัน้ เทพดาสังหรแก่กวานวัด ให้ฝนั ว่าพระบางเจ้ามาอยืนอยูเ่ ทงหัวแห่งมัน กันถ้วนหมกถ้วนใจ บ้านเมืองก็รงุ่ เรือง พระยาแท่นคาเปนพระยาได้ ๗ เข้าก็
แลกล่าวว่า ดูรากวานวัดกูเล่าพัดคืนมาอยูด่ อมมึงนี่แล้ว ว่าดังนี ่ ้ ยามนัน้ กวานวัดตื่น ๘๙
ตายในปีรวายซะงา ทัง้ หลายจึงเอาท้าวหล้าแสนไก ลูกพระยาไชมาแทนพีต่ นปีนนั ้ จุฬ เทียม จักมาพระชมภูยงั สังมาว่ ่ าแก่อาวกู เรินราผูห้ ลาน ในดงในชวาพีก้ ใ็ ห้เปนดังเรือน
สักราชได้ ๘๔๘ ตัวนัน้ ปีลุนชาวสียทุ ธยาจึงนาเครือ่ งราชาพิเสกสาพระยาหล้า จึงขึน้ อาวเราในเชียงหวงเชียงหวาง ก็ดกี ใ็ ห้เปนดังเรินเราผูห้ ลานดีหลีแล ว่าดังนี ่ ้ ยังให้ชา้ ง
ชื่อว่าพระหล้าสีไขแต่นนั ้ แล พระยาคากองยังให้พวกหลวงไปไหว้หลานท่านเจ้าพระยา (ช่าง?) เหมือนนิลมาขวางเขินขวางราว เอาทัง้ ดาบฝกั คามาเถีย่ น ๑ ด้าก็คาดคา
หล้ายังให้เอาช้างจงใจรัก มาแกอาวพระยาคากอง อยูส่ องเข้าเล่าให้นายหลวงไปไหว้ ๙๒
พระหล้า ยังให้ทงั ้ กวานเยียเสาทองมาเอาดาบฝกั คา ทัง้ ช้างยุเมืองบานมาทัง้ แล้วจึงตอกลายใส่ฝกั ดาบมาตาว่าซื่อต่อกัน เมืองพวนเมืองชวาเปนแผ่นทองทิพอัน
เครือ่ งประดับกับช้างชูอ่ นั มาทีน่ นั ้ แล เมือ่ นัน้ พระหล้าสีไขก็รวู้ า่ พระบางเจ้าตนสักสาดยัง เดียวกัน ไปยูรามายูทาน ว่าดังนี้ พระชมภูยงั ให้ทงั ้ หอเพิน ทัง้ หอสีมาเจ้าหมืน่ หลวงให้
อยูใ่ นเวียงคา ก็จงึ ให้ไปราธนามามีดตาใส่สวี กี ายก็หาบมาทางบก รอดเมืองชวาแล้วก็ หอไชมาทีน่ นั ้ แล ปี ถว้ นฟดั ตัดตานแล้ว พระยาคาสัดทาเล่าให้แห่ซา้ ย ทัง้ เจ้าเมืองเชียง
เอาพระเจ้าไปไว้ในวัดเชียงกลาง ทีส่ บดูกนางสีไวอันเปนลูกสาวพระยาไชหัน้ ก่อนแล เกียว เอาสวยบูรานไปไหว้พระชมภู จึงให้แปงขัวข้ามสบโรบ ชื่อว่าขัวช้างอย้าน
เมือ่ บุนพระหล้าจึงสร้างวัดมโนรม แล้วจึงราด ขาแแปงแล้วจึงมา พระชมภูยงั ให้เอาช้างแม่โขง มา ๔ ตัวแกอาวท่านพระยาพวน พระ
๙๐ ยาจึงให้ไปโขงยังได้ชา้ งเถื่อน ๓ ตัว จึงขึน้ เมือเมืองชวาทีน่ นั ้ แลอยานัน้ ปี ลุนถ้วนฟดั ตัด
ธนาพระบางเจ้าไปไว้หนั ้ แล พระหล้าเสวยราดได้ ๑๑ เข้าก็ตายในปีรวายสีแล เขาจึง ตาน พระยาคาสัดทาจึงให้แห่เทียมทังกวานเด็กชายเชียงคานกลาง เอาแพสูรา ๑ ทัง้
เอาท้าวชมพูลกู พระยาหล้าเปนพระยาแทนพ่อปีนนั ้ เมืองพวนพระยาคากองเปนพระยา เขาไกอัน ๑ แสงเสือคู่ ๑ แว่นแก้ว ๖ ด้านอัน ๑ งามนัก ทัง้ ร่มดวง ๑ ไปแกพระยาชม
ได้ ๗๖ เข้านับแต่ชาดมาได้ ๘๙ ก็ลม้ พรากจากเมืองพรมในปีรวายสีนนั ้ ขาเจ้าอาว ๙๓
หลานตายปีเดียวเดือนเดียวกัน เดือนยีพ่ วนมือ้ กาบซะงา ใจพระยาหล้าขาดมือ้ รับมด ภู ทัง้ ควายเถิก ๑ ไปเบิกบาสีพระชมภูกข็ อบใจหนักหนา จึงให้นางแท่นมาแต่งท้างส้า
ใจพระยาคากองขาดทัง้ หลายจึงเสกสาเจ้าแสนคาสัดทา อันเกิดมาได้ ๓๖ เข้า เปนพระ งเมืองดอมพระยาคาสัดทา ให้ทงั ้ เมืองสุย กระแตกระทองพูนควางซึง่ ชานเหมีย้ งปนั ท่า
ยาแทนพ่อในปี รวายสีนนั ้ จุลสักราชได้ ๘๕๘ ตัวนัน้ แล ถัดนัน้ พระยาคาสัดทายังให้ภมู คอกท่าเรือมาอมเมืองพวนทีน่ นั ้ หัน้ แล ขาแห่เทียมแลกวานเดกชาย จึงให้มาส่งข่าว แก่
ไก?ไปสูข่ วัญพระชมภู ยังอยูค่ างอยูร่ มึ ในดงในชวา พระชมภูยงั ให้เมืองคาด ผูเ้ ปนหมืน่ พระยาคาสัดทา จึงให้ไปต้อนรอดเพียงหลวง จึงนามาเปน นางแทนแผ่นดินในปีกดั มด
หลวงมาทังภูมหลังเชียงใต้ หอไชเชียงลอ ทัง้ ล่ามพวนทัง้ เจ้าเรียมเจ้าลอ เอาเครือ่ ง สักราชได้ ๘๖๑ ตัวนัน้ แล ปีลนู อยู่ ๒ เข้า พระชมภูเปนพระยาได้ ๖ เข้าลวดตายในปี
ราชาพิเสกมายกมายอเจ้า รวงเร้า นัน้ แล สักราชได้ ๘๖๓ ตัวนัน้ แล วันเมืออูบ พิเสกเจ้าโรดชะกุมมารนัน้ ฟ้า
๙๑ เหลือ้ มประเทิองเรืองรองทัวอากาด
่ แม่นว่าอินนูกผ็ า่ นอากาด เหดดังนัน้ คนทัง้ หลายเอา
คาสัดทา ให้หมัน้ บ้านหมัน้ เมืองเอาช้างมาตัว ๑ ชื่อว่าจอมใจเหล็กก้า ทัง้ ช้างพังตัว ๑ เปนปะวัตตินิมดิ จึงใส่ช่อื ว่าพระวิชุลละราชาทิปตั ติ สีสะตะนาคณะ
มาแกนางพระยา เอาม้ามาตัว ๑ แกเจ้าแสนในปีกดั มดนัน้ แล เมือ่ นัน้ พระยาคาสัดทายัง ๙๔
แต่งหลาบคาสุวณ ั ณปฎั ฐะอันนึง หนัก ๕ เบีย้ ทัง้ น้าเงิน ๒ เต้าแลเต้าหนัก ๑๐ เบีย้ ใส่ หุตตะหัน้ แล พายหน้าแต่นนั ้ มา ได้ ๑๒ เข้า พระวิชุลลราชะเจ้าจึงราเพิงเถิงคุณพระ
น้าเทียงน้าพาง เทียนเงินเทียนคา ให้ภมู ใต้จกิ ทังแห่เทียมเอาไปถวายแก่ชมภู ให้กล่าว บางเจ้า จึงสร้างอารามลูก ๑ ชื่อว่าวิชุลละอารามในปีเต่าสัน สักราชได้ ๘๗๔ ตัวนัน้
คาเสงบัดเสงชือ แล้วจึงหลังน ่ ้าตกแผ่นดินเชียงดงเชียงทองแล้ว เมือ่ นัน้ ภูมใต้แลแห่ แล้วจึงราธนาพระบางเจ้าแต่วดั มโนรมมาไว้ในวิชุลลอาราม จึงริจจนาเครือ่ งบัวรโพกทัง้
มวล แล้วด้วยเงินคาถวายไว้บชู าพระบางเจ้าตราบต่อเท้า ห้าพันวัสสาแล ในเมืองพวน ยาแทนตน ในปี นนั ้ แล สักราชได้ ๘๘๒ ตัวนัน้ แล พระยาแสนจึงเอาเจ้าแกนนาง อันเป
นัน้ นางแท่นมาอยู่ ๖ เข้า จึงสร้างวัดหัวเชียง ในปีกาบไจ้ สักราชได้ ๘๗๖ ตัวนัน้ แล จึง นลูกพระยาคาสัดทาเมือถวายพระโพธิสาละราช จึงให้เปนนางทาวหัน้ แล พระยาคาสัด
ราธนาเถรเจ้าตน ๑ ชื่อว่าเถรนครมาเปนเจ้าวัดหัวเชียงนัน้ แล จึงให้เขดเบือ้ งพูนนั ้ แต่ ทายังเล่าแต่งเจ้าเสมทาทัง้ พันแสนไวยังเผือนเขาเหลาควายแก่พระเจ้าปางนัน้ แล แต่
เหมืองนาเปนแดน เบือ้ งใต้เอารีมทางเปนแดน เบือ้ งจาหนองเปดจึงให้ทงั นาตีนวัดนัน้ นัน้ มาได้ ๓ ปี พระยาคาสัทธาเปน พระยาได้ ๒๗ เข้านับแต่ชาดมาได้ ๖๒ เข้าก็เถิงอะ
เปนนาเรินวัด แดนนาแต่รอ่ งมาหาน้าหลวงนัน้ เล่า นิจจะกาในปี เต่าซะงานัน้ แล ทัง้ หลายจึงเอาเจ้าสุวณ ั ณะบูรลัง ไทว่าคาเคา อันเปนลูก
๙๕ พระยาคาสัทธาอันเปนหมืน่ หลวง มาเปนพระยาแทนพ่อตน ในปีเต่าซะงานัน้ แล สัก
ให้บา้ นโหลกับนางแท่นจึงให้ขอ่ ยทัง้ ลูกขุนมาอยูร่ กั สา ทีน่ นั ้ นางหมืน่ นา อันเปนเมียอา ราชได้ ๘๘๔ ตัวนัน้ ปีก่ามดพระโพธิสานราชจึงแต่งเครือ่ งราชาพิเสกมา เปนต้นว่าช้าง
จานธัมมกถา เล่าสร้างวัดกลางนา ก็ปีกาบไจ้นนั ้ แลนางแท่นมาอยูไ่ ด้ ๑๒ เข้าก็ตายใน คูรเมืองตัว ๑ ชื่อแถมสมพาร ม้าตัว ๑ ชื่อซาวคาหยาด ตัว ๑ ชื่อแก้วอินถะแหลง
ปีกดซะงานัน้ แล ถัดนัน้ พระยาคาสัดทา จึงสร้างวัดภูคา ในปีรวงมดนัน้ สักราชได้ ๘๗๓ ๙๗
ตัวนัน้ แล จึงราธนามหาเถรเจ้าเชียงม่าน มาเปนเจ้าวัดภูคานัน้ จึงให้หอม่านอยูต่ นี ภูจงึ ทัง้ เครือ่ งพร้อมทุกอัน ให้จา่ หมืน่ หลวง ทัง้ หมืน่ ล่ามหัวขาว ทัง้ หอจันมาพระสามีเจ้าให้
มาเปนกวานวัน จึงให้นาชาเขิงทัง้ บ้านจันกับกวานวัด เล่าให้นาสวนลุ่มวัดนัน้ เปนนา เถรเจ้ายานวัดสวนแถนมา จึงนาเครือ่ งราชาพิเสกมาเปนสองอัน อันนึงให้เปิกสาพระยา
เข้าพระเจ้าทัง้ บ้านซายนารูกบั พระเจ้าแล เขตทัง้ มวลเอาแต่ตนี ภูทุกเบือ้ ง เทงพายหน้า คาเคา อันนึงให้เสกสาเจ้าคาผูเ้ ปนพระยาอาวนัน้ ให้วา่ พระยาอาวดังนี้ พระยาบ่เข้าใจก็
แต่แคมกองทางหวายนัน้ แล แต่นนั ้ มาได้เจ็ดเข้า ปีเมิงเปล้าจุฬสักราชได้ ๘๗๙ ตัวนัน้ ผิดกัน อาวพระยาก็หนีเมือตกเมืองล้านช้าง ปี ก่ามดนัน้ แล ถัดนัน้ มาพระเจ้าล้านช้างจึง
เสิกเมืองกระ ราเพิงเถิงคุณแลโทด ในกามะ ๒ ประการ คือว่ากุสสละและอกุสะละกาอันกทายัญจะ
คือว่าอันผอกผีพระลีแถนทัง้ หลาย ว่าโทดดังนัน้ เจ้าจักให้เปนประโยชนะแก่คนทัง้ หลาย
๙๖ ก็จงึ ให้มา้ งให้ลดี เสียมิสสาทิดถี คือว่าผีอย้าวผีเรือนแลผีเสือ้ อันอยูใ่ นกวานขีนแถนนัน้
บองลวดมี พระวิชุรนราชจึงให้พระยาแสนไปอาสา จึงให้มากล่าวแก่พระยาคาสัดทาว่า แล้ว ก็จงึ ตัง้ มหาวิหารหลัง ๑ ในเชียงดงให้เปนทีพ่ ุทธสาสนาใน
ให้ไปอาสาช่อยพระยาแสน งาช้างให้เพียงงาเรือ ว่าดังนี ่ ้ พระยาคาสัดทาไปบ่ทนั ชูดเสิก ๑๐๐
เสียว่าดังนี้ จึงถอดบ้านเมืองคืนทีน่ นั ้ แล ลุนมาปีเปิกยีนนั ้ พระยาแสนลวดให้มาสืบเอา ปีเมิงไค้นนั ้ สักราชได้ ๘๘๙ ตัวนัน้ แล ถัดนัน้ มาเถิงปีเต่าสี จุฬสักราชได้ ๘๙๔ ตัวนัน้
นางเสือออน เมียพระยาคาสัดทาเพือ่ ขับเจิง ม่วนว่าดังนี้ พระยาก็บ่ขนี ลวดให้เมือเล่ายัง พระเจ้าจึงแต่งกวานบ้านลุมมาอยูร่ กั สาเมืองพวน เขางานนัก พระยาคาเคาขาเข้าเสีย
มีลกู สาวผู้ ๑ ชื่อว่าเจ้าแกนนาง ก็ให้เมือดอมจึงให้หมืน่ โสยทัง้ นายหลวงเถ้าไปส่งขาแม่ หมด จึงผิดใจพระเจ้าล้านช้าง จึงแต่งท้าวพระยาทัง้ หลายถือพลมารบหัน้ แล พระยาคา
ลูกทีน่ นั ้ แล พระวิชุลนราชเปน พระยาได้ ๒๐ เข้าตาแต่ชาตติมาได้ ๕๔ เข้าก็เถิงอนิจจะ เคาให้ไปเลวบ่แพ้ จึงหนีไปอยูบ่ า้ นไผ่ผางัว น้องพระยาเปนแสนบ่หนี ลาวจึงปูกให้เป
ธัมมะ ในปีกดสีนนั ้ แล ทัง้ หลายจึงเอาเจ้าโพธิสาละกุมาร อันเปนลูกพระวิชุลลราช ใหย่ นพระยาในเมืองพวน ปีเต่ายีนนั ้ แล ปีก่าไส้พระยาคาเคาคืนมาเซาครัวอยูว่ ดั ภูคาแลจึง
มาได้ ๑๕ เข้ามาเปนพระ ล่องทางพวนน้อย เมือไหว้พระเจ้าล้านช้าง ในเวียงจัน พระเจ้าล้านช้างกูณา จึงให้นาง
๙๘
ปา่ ห้วยหลวงเปนเมีย ไปท่ นั มา เสิกชาวใต้มาประจญเวียงจัน พระเจ้าล้านช้างให้ทา้ ว ๙๐๒ ตัวนัน้ แล ปีรว้ งเปล้าพระยาจึงคืนมาเชียง ปีเต่ายีหมืน่ ขาหมืน่ คาแลทูบสง เล่ามา
พระยาทัง้ หลายไป เลวพระยาเล่าหนีไปตกเกลียม ทีน่ นั ้ พระเจ้าให้มาปูกพระยาทัง้ หลายจึงมาเปนพระยาปี
๙๙ นัน้ อยูป่ ีก่าเหม้า ปีกาบสีพระยาคืนมารอดเมืองโมสักราชไปเปนปีรบั ไส้ จึงเอาครัวมา
เลวทีห่ ว้ ยโสก เเสิกถอยแล้วพระยาคาเคาจึงลุกหนีมาเพือ่ มีคนส้อ พระยามารอดเมือง ไว้เมืองเนียก จึงไปไหว้พระยาเจ้าล้านช้างในเวียงจัน พระเจ้าจึงว่าให้กนิ แต่ลมู ภูล่อง
ละงานแล้ว พระยาน้องดูรา้ ย จึงเรียกเมืออยูเ่ มืองสูย ในปีก่าไส้นนั ้ แล ปีกาบซงาพระเจ้า เมือใต้ พระยาจึงคืนมาหัน้ แล ปีนนั ้ ชาวเชียงใหม่มาขอ
ล้านช้างเล่าไปเสิกเวียงพระงาม ปีรบั มดพระยาน้องไปชักแกวมมาเลว ในท่งชันปีรวาย ๑๐๔
สันพระเจ้าล้านช้างให้มาโอมนางแก่นคา พระยาว่าบ่ให้ พระเจ้าล้านช้างลวดแต่งกวาน เอาพระอุพระโยอันใหย่มาได้ ๑๒ เข้า เมือเปนเจ้าเชียงใหม่หนั ้ แล ปีรวายซงา พระยา
มาเลว พระยาจึงให้ไปต้อนทีข่ วั พวงแพ้ลาวจึงได้ชา้ งเขาทีน่ นั ้ แล ปีเมิงเร้าพระเจ้าล้าน ปลาจีนล่องเมือไหว้พระเจ้าลวดตายปีนนั ้ พระเจ้าจึงไว้เมืองทัง้ มวล แก่พระยา พระยา
ช้างเล่าให้พระยาเชียงม่วนมาเลว พระยาเล่าหนีไปตกแชภูมชนานกาง พระยาพัดคืนมา จึงมาเชียงหวางปีนนั ้ แล ปีเมืองมด พระยาเล่าไปไหว้พระเจ้าในเมืองชวา ทีน่ นั ้ แขกยวน
รอดแควนพูน สักราชได้ ๙๐๐ ตัว ปีเปิกเสด จึงให้นางพระยาแลหมืน่ หลวง เอานาง ทัง้ ชาวใต้มาเฝ้าช้างเถื่อน ก็มารอดพระโพธิสารไปคล้องช้างต่อหน้าแขก เชือกช้างรูด
แกนคาไปถวายพระเจ้าทีน่ คร ทีน่ นั ้ พระยานองเล่าพระ ขาปว่ ยร้ายนัก พระยาจึงให้สงั มา จึงกูนาให้มาเปน พระยาปี นนั ้ แล พระเจ้าโพธิสารราช
๑๐๒ เปนพระยาได้ซาวเอ็ดเข้า ตาแต่ชาดมาได้ ๔๒ เข้า ก็อนิจจะธาไปเติม (?) ในปีเมิงมด
ยากางพอกัน หากแต่งเมืองกะซิบมา พระยาจึงวางครัวไว้ภคู าจึงหนีไปไหว้บวั ไปรอด นัน้ แล้ว จึงปูกลูกผู้ ๑ ไว้เปนเจ้าแผ่นดินแทน ปีเปิกสันพระอุปพระโยอันเมือเปนเจ้า
เมืองกะดงไหว้บวั แล้วจึงคืนมาอยูเ่ มืองพาว ทีน่ นั ้ หมืน่ ขาหมืน่ คา ทัง้ หมืน่ ขาเหนือ ทัง้ เชียงใหม่นนั ้ ล่องมาลวดข้าน้องเสีย แล้วลวดเปนเจ้า
สองออกหาลาว เจ้ากะซิบก็เอาแม่พระยาทัง้ นางพระยา หนีเมือไว้เมืองสูย พระยาอยูป่ ี ๑๐๓
กัดไค้ ปีกดไจ้ บัวให้เมืองโมแก่พระยา พระยาจึงคืนมาอยูเ่ มืองโม จึงให้มหาสามีเจ้านัด แผ่นดิน จึงขึน้ ชื่อว่าพระไชยะเชษฐาราชาทิบตั ติ ในปีเปิกสัน สักราชได้ ๙๑๐ ตัวนัน้ แล
ตาไปหาพระเจ้าล้านช้างว่าดังนี้ ข้อยบ่ได้ผดิ พระเจ้าหนา ดังรือเมืองกระซิบมารือครัว ปีกดั เร้าพระไชยเชษฐาขึน้ เมือเชียงใหม่ ชาวเชียงใหม่บ่ให้เข้าเวียง จึงเซาอยูเ่ ชียงแสน
ข้อยหนีเพือ่ ใด ขอพระเจ้ากูณาว่าดังนี้ พระเจ้าจึงกูนาให้แม่พระยาทัง้ นางพระยาคืนมา ปี รว้ งไค้ พระยาคาเคาก็ไปเ่ ติมอะนิจจะกาหัน้ แล ทัง้ หลายจึงเอาท้าวคาดอนลูกพระยา
พระเจ้าจึงติเจ้ากระซิบแล้วลวดเสียเมืองนัน้ หัน้ แล ทีน่ นั ้ พระยาไปท่ นั มาเชียงข่อยพระ คาเคา ผูก้ นิ เมืองชวนมาเปนพระยาแทนพ่อตน ในปีรว้ งไค้นนั ้ สักราชได้ ๙๑๓ ตัวนัน้
ยาลักหนี ๔ คน เอาเงินพระยาหนีหมืน่ ๑ เล่าแหวนลูก ๑ เท่าแค่ แต่ขนุ บูรม ไว้ถอื ค่า แล อยูไ่ ด้ ๘ เข้าพระไชยะเชษฐาจึงลงมาปีกดสัน พระยาคาดอนจึงไปไหว้ แลถวายช้าง
เมือง ขวัญหลวง จึงขอเอาไทพวนอันอยูเ่ มืองล้านช้างนัน้ พระเจ้าก็กูนา จึงให้นางขาวเพง
๑๐๑ มาเปนเมียพระยาคาดอน ในปีกดสันสักราชได้ ๙๒๒ ตัวนัน้ แล แต่นนั ้ มาได้ ๓ ปี พระ
ขอดคาทัง้ สอง เงินเปน ๔ ร้อย คาสุกเขาเอาหนีเมืองสา พระยาสาลวดข้าเสีย แล้วลวด ยาก็ราเพิงเห็นโทด ในกามะอันเปน มิดสาทิษฐิ ก็จงึ ให้ละเสียยังมิจฉาทิษฐิ
เอาของเขาหมด พระยาให่ไปนาเขาลวดจูมน้าเสียทีเ่ มืองสาหมดดังนัน้ พระยาว่าเหลือ ๑๐๖
ใจจึงให้ชายเขยพัดไปไหว้ปวั ปวั จังว่าให้เมืองโมเปนค่าของพระยาในปี กดไจ้ สักราชได้
ทัง้ มวล เปนต้นว่าผีอย้าวผีเรือน ผีฟ้าผีแถนทัง้ มวล ทัง้ ตัวพระยาก็บวชเปนผ้าขาวปี เต่า ไป บ่ได้เวียง ๒ แควจึงคืนมาปีนนั ้ ปีเปิกสี สักราชได้ ๙๓๐ ตัว เล่าพัดไปเลวก็บ่ได้ ปี
เสด สักราชได้ ๙๒๔ ตัวนัน้ แล มหาสามีเจ้าธัมมขันธะสร้างวัดบุรกอง ปีนนั ้ แล พระมหา กัดไส้สกั ราชได้ ๙
สามีเจ้ายังแต่งเงินร้อย ๑ เมือซือ้ เขตดอมพระยาจึงให้คาคูออมนัน้ เมือลูนเล่าแต่งร้อย ๑๐๗
๑ เมือขอนา จึงให้นาห้วยท้าวท้าวปีนนั ้ แล ปีกาบไจ้พระเจ้าล้านช้าง ไปเอานางชาวใต้ ๓๑ ตัวนัน้ พระเจ้าล้านช้างเล่าไปเมืองยุดธยา ทัง้ พระยาพวนก็ไป โงเล่านามาเลวบ่ได้
รอดหนองหานไปท่ นั มา เสิกหงสาลวดมาตกเมืองล้านช้าง เมือ่ เดือน ๘ ออก ๓ ค่าเขา โงจังหนีปีรว้ งมด สักราชได้ ๙๓๓ ตัวนัน้ พระไชเล่าไปเลวเมืองรามลัก ทัง้ พระยาพวนก็
ไล่ลกู ครัวไปตกนคร เจ้าอุปราชจึงออกหาเขา ยังผงไล่หาเจ้าล้านช้างบ่จวบ พระเจ้าจึง ไป พระไชลวดจมน้าเสียทีใ่ ดบ่รู้ พระยาพวนเขาก็ได้ พระไชเกิดปีกาบซงา ๑๔ อยูธ่ นู
พัดคืนมารอดท่งกะสอน พระยาผ้าขาวจึงใส่เจ้าแสนไปต้อน จึงราธนามาอยูเ่ ชียงหวาง จันอยูก่ นั ๓๖ อยูป่ ระจิก ๕ อยูม่ งั กร ๗๘ อยูก่ รกด ลักขนาอยูม่ นี ฦกษ์ ๑๓ ลูก ๑๕ ได้
พระยาเล่าไปรักสาด่านทางพวนน้อย ทีน่ นั ้ พระเจ้าล้านช้างให้เจ้า เปนเจ้าล้านช้างเล่าได้ซาว ๒๔ เข้า นับแต่ชาดได้ ๓๕ เข้า ลวดตายในปีรว้ งมดนัน้ แล
๑๐๕ ยังท่อพระยาแสนพระยาจัน คืนมาขาเล่าผิดกัน พระยาแสนจึงข้าพระยาจันเสีย พระยา
แสนกินเวียงคา จึงขึน้ ชื่อว่าอนุ ราดนัน้ แล สักราชไปเปนปีรบั เปล้า เสิกลวดขึน้ แต่นคร แสนจึงเปนเจ้าล้านช้างปีนนั ้ แล สักราชได้ ๙๓๔ ตัว ปีเต่าสัน พระยาพวนจึงหนีไดมา
มาทางเมืองซัน เขาลวดได้หมืน่ ชันแล้วลวดขึน้ มารอดเชียงหวาง เมือ่ เดือนเหลือแรมค่า รอดเมืองพวน สักราชได้ ๙๓๖ ปี กาบเสดโงเล่ามาเลว พระยาแสนผูเ้ ปนเจ้าล้าน
๑ พระเจ้าล้านช้างออกหนีทางเมืองกัง ข้าเสิกไปนาจึงทันหมืน่ ไชแลแสนอนุราชทีก่ งั หนี ๑๑๐
ลวดได้หมืน่ ไชแลแสนอนุราช จึงเอาไปนาเจ้าล้านช้าง บ่ได้พระเจ้าล้านช้าง โงจึงเอา ช้างลวดได้พระยาแสนแล้วจึงใส่อุปปราชเปนเจ้าล้านช้าง สักราชได้ ๙๓๘ ปี รวายไจ้นนั ้
หมืน่ ไชแลแสนอนุ ราชหนีเมือหงสา ปี รบั เป้านัน้ แล ปี รวายยีสกั ราชได้ ๙๒๘ ตัวนัน้ แล ไฟไหม้วดั ใหม่ ปีเมิงเปล้าจึงแบ่งวัด สักราชได้ ๙๔๐ ตัวปีเปิกยี พระอุปราชมาเมือง
โงจึงให้หมืน่ ไชคืนมารอดเมืองล้านช้างปีนนั ้ พระเจ้าล้านช้างให้ไปเทียวนางแกวมา พระ พวน ว่าจักเลวพระยาพวนจึงชางบุรแกวไชสังกาด เลวนอนเลว อุปราชจิงจิงหนี สักราช
เจ้าจึงมาต้อนรอดเมืองเนียก แล้วจึงมาทันเอาพระยาผ้าขาวแลหมืน่ แสนทัง้ หลาย ไป ได้ ๙๔๑ ปีกดั เหม้า เอดตะปลืมาเรียกว่าพระไชว่าดังนี้ ท้าวพระยาทัง้ หลายไปดูทงั ้ พระ
รอดพ้อมกันแล้วจึงว่าดังนี้ เมือ่ ยามโงมานัน้ สูออกหาโง ยาพวนก็ไปชูค่ นว่าเรียกแม่นพระไชเลว ว่าดังนัน้ พระอุปราชจึงใช้ไปหาเจ้าฟ้าจังให้อุป
๑๐๘ ราชามา ไปท่ นั รอดพระอุปราชพ่ายหนีเรือล่มตายเสีย ๙๔๒ อุปราชาเล่าใส่พระยาแสน
แล้วจึงเอาโงมาไล่กดู าย ว่าดังนัน้ จังเอาหมืน่ แสนทัง้ หลาย หนีเมือเมืองล้านช้าง จังข้า เปนเจ้าล้านช้าง แล้วเล่ากวาดเอาลูกครัวชาวล้านช้างหนีเมือหงสา เอาทัง้ พระยาพวน
พระยาผ้าขาวแลภูมใต้เสีย ผูบ้ ่ขา้ จังเอาค่าหัวทุกคนหัน้ แลพระยาผ้าขาวเกิดปีกดซงา ๒๐ วันจึงคืนมา สักราชได้ ๙๔๔ ปีเต่าซงา พระยาแสนเปนเจ้าล้านช้าง
อาทิด ๔๖ อยูก่ ุม ๒ อยูส่ งิ ๓ อยูม่ นี ๗ อยูด่ อน ๘ อยูป่ ระจิก ๙ คนาอยูม่ งั กร ฦกษ์ ๑๐ ๑๐๙
ลูกได้ ๔๒ เปนพระยา เปนพระยาได้ ๑๕ เข้า นับแต่ชาตติมาได้ ๕๗ ไทตายปีรวายยี นัน้ ตายเสีย เขาจึงใส่พระยานครน้อย ลูกพระยาแสนนัน้ เปนเจ้าล้านช้าง บ่แม่นใจท้าว
หัน้ แล ปีเมิงเหม้าสักราชได้ ๙๒๙ ตัวนัน้ พระไชเชษฐาจังปูกหมืน่ ไช ผูน้ ้องพระยาผ้า พระยาทัง้ หลาย เขาจึงไหว้เจ้าฟ้าให้มาทันเอาพระยานครทัง้ หลายไป พระยาพวนก็ไป
ขาวชื่อว่าคาลูน มาเปนพระยา เล่าให้ลาวมากินเมืองซัน ชื่อว่าพระยาสุกาน จึงเล่ากิน เอาทัง้ พระมูรละไมตีไป เมืองพวนเอาพระสังฆราชาทูรกองไป ทัง้ พระสามีเจ้าหัวเชียง
เมืองหมืน่ หลวง หมืน่ เนียก หมืน่ ซันปีนนั ้ พระเจ้าไปเลวเวียง ๒ แคว ทัง้ พระยาพวนก็ ไป ในปีก่ามด อยูเ่ ดือน ๑ จึงคืนมารอด ๒ แคว จังประสูตลูกพระยาผู้ ๑ จังใส่ช่อื ว่า เจ้า
๒ แคว จุฬสักราชได้ ๙๔๕ ปีเต่าสีไปเลวเมืองล้านช้างทัง้ พระยาพวนก็ไป ๙๕๖ ปี ทันเอาไป ๙๖๘ ปีรวายซะงา พระเจ้าปลงเจ้า ๒ แควเสีย จึงปูกพระยาธานี ลูกพระยา
กาบซงา พระยาไปเวียงจันปีรบั มด พระยาจึงมาปีไฟไหม้โรงเชียงกาง ๙๕๘ ปี รวายสัน คาลูนมาเปนพระยา จึงใส่ช่อื ว่าพระยาหลวงอุดไทยยะราชธานี จึงมาเข้าเชียงหวาง เมือ่
๑๑๒ เดือน ๗ พวนออก ๓ ค่า วัน ๖ อยูไ่ ด้ ๑๓ เข้านับแต่ชาดมาได้ ๕๖ ปีเปิกซงา สักราชได้
พระหน่อตายเสีย พระหน่อเปนพระยาได้ ๖ เข้าตาจังใส่พระวงสาลูกนาพระหน่อ อัน ๙๘๐ เดือน ๗ พวน ก็เถิงอนิจจะกาหัน้ แล สักราชได้ ๙๘๑ ปีกดั มด พระเจ้า
เกิดมาได้ ๑๔ เข้า ขาพ่อลูกจังเปนพระเจ้าหัน้ แล ๙๖๐ ปีเปิกเสด พระยาเล่าไปเวียงจัน ๑๑๓
ไฟจึงไฟม้วดั ใหม่วดั ภูคา ลูนหลัง ๙๖๑ ปีกดั ไค้ ลูกพระยาเจ้าราชบุดลุกหงสามารอด จึงผูกพระยาทิพมนตรี ผูน้ ้องพระยาธาณี มาเปนพระยาแทนพี่ รอดเชียงหวางเดือนยี่
พระเจ้าตนพ่อจึงใส่ช่อื ว่าพระยาหลวงราชธาลี (ณี?) ปีนนั ้ ขาพระเจ้าพ่อลูกเลวกัน ๙๖๒ แล อยูไ่ ด้ ๓ เข้าสักราชได้ ๙๘๓ ตัวนัน้ แล พระธัมมิกราชาธิราชจึงเอาลูกเมียกับริพล
ปีกดั ไจ้ พระเจ้าตนพ่อเมือกินเมืองนคร พระายจังคืนมายังไว้ลกู พระยาผู้ ๑ ชื่อว่านริน ขึน้ เมือเมืองชวา เพือ่ ว่าจักไหว้พระบางเจ้า รอดเมืองชวาแล้วลวด มีคนส่อแก่พระธรรม
อยู่ ๙๖๓ ปี รว้ งเป้า หลาพระเจ้าตนพ่อเล่าคืนมา พระยาพวนจังไปต้อนรอดปากน้ า สัก มิกราชาดังนี้ ลูกพระเปนเจ้าผูช้ ่อื อุปปยูจกั คดแก่พระเปนเจ้าดาย ว่าดังนัน้ พระ
ราชได้ ๙๖๔ ปีเต่ายี พระเจ้าตนพ่อเล่า ขึน้ เมือรอดเวียงจัน ขาพ่อลูกเล่าผิดกัน พระเจ้า ยาทัมมิกราชว่ามีคาว่าลูกกูจกั เคียดแก่กแู ท้รอื คนผูส้ อ่ จึงว่าขอแก่พระเปนเจ้า มีแท้แล
ตนลูกจึงเคียดแก่พระยาพวน เพือ่ พอมตนพ่อจึงไหมเอาเงินแสนคาหมืน่ แล้วพระยา พระธรรมมิกราชาคิดจักปองข้าลูกเสีย ปางนัน้ พายลูนอุปปลูตนลูกจึงรูว้ า่ พ่อจักข้าตัว
๑๑๑ เสียดังนัน้ อุปปะยูจงึ เอาคนซันลักหนีคนื พระยาธรรมมิกราชตนพ่อ จึงแต่งหม่อมไช
ยาจึงคืนมาปีนนั ้ พระเจ้าเล่าให้มาทันเอาพระยาธาณีบไ่ ป พระเจ้าจึงมาทางเมืองกาย ทัง้ พระยาพวนกับริพลนารอดบ้านขวาง ทันอุปปยูทน่ี นั ้ เขาเลวกันเสียคนหลาย
เมืองชอง จักเลวพระยาพวนผูพ้ อ่ จังหนีไปอยูเ่ ชียงคง ๙๖๘ปีก่าเหม้า จังคืนมาเอาคา ๑๑๖
เมืองให้ขวาพวนเอาเงินหมืน่ คาพันไปถวาย พระเจ้าจังหนีเมือเมืองชวา พัดมาพระเจ้า เติบ ก้าพระยาพวนผูม้ ชี ่อื มีเสียง เสียหมืน่ เชียงผู้ ๑ เสียหมืน่ โมนองแทนผู้ ๑ เสียหมืน่
ตนพ่อบ่ให้เข้าเวียง ลวดรบกัน พระยาพวนพอมพระเจ้าตนพ่อ จังไปอยูเ่ มืองเนียกแล้ว หนาผู้ ๑ เสียหมืน่ กวานผู้ ๑ อยานัน้ พระอุปปยูจงึ เอาเสนาหนีรอดเวียงจัน หม่อมไชทัง้
ให้พระยาพวนไปเลวเมืองสูยมาเลวเล่าให้หาพระเจ้าตนพ่อพร้อมกัน ลวดเลวพระเจ้า พระยาพวนเอาริพลนารอดวัดปากน้าโมง พระอุปปยูเอาวัดปากน้าโมงเปนเวียง หม่อม
ตนลูกบ่แพ้ จึงออกหาพระเจ้าตนลูก ๙๖๖ ปีกาบสีพระยาตนพ่อจึงขึน้ มาเชียงหวาง ไชพระยาพวนเอาริพลไปรบบ่แพ้ จึงให้คนทัง้ หลายมล้างกาแพงวัดปากน้าโมง ดานน้า
พระเจ้าเล่าให้เอาเงินแสนคาหมืน่ ๑ แล เดือน ๙ พวนออก ๑๓ ค่า วัน ๔ พระยาพ่อ เสียหมด อุปปยูดรู า้ ยจึงกวาดเอาลูกครัวทัง้ มวลลงไปตัง้ อยูเ่ มืองคูก หม่อมไชดูบ่ดี จึง
ลวดตาย ๒ ยามกางวันแล เมือ่ พระยาตนพ่อตาย พระเจ้าให้พระยาราชา รักสามาเอา เอาริพลหนีคนื เมือเมืองชวา พระยาพวนก็หนีเมือเมืองพวน อยานัน้ ผูใ้ ดบ่รกู้ จ็ ดู เวียงจัน
๑๑๔ เสียหมดเล่า แต่นนั ้ พระธรรมมิกราชจึงเคียดว่าดังนี ่ ้ ดังรือลูกอุปยูนนั ้ มันมาคดแก่กสู งั
เงินคาทัง้ นางนักสนมหนีหมด พระยาคาลูนเกิดปีรวายสัน ๑๔ อยูป่ ระจิก ๕๒ อยูม่ นี จาว่าดังนัน้ พระธรรมมิกราชดูรา้ ย จึงอว่ายช้างหนีคนื มารอดพระลานไช จึงหลังน ่ ้าตก
๓๖ อยูธ่ นู ๗ อยูส่ งิ ๘ อยูเ่ มถุน ลัคนาอยูก่ รกด ๓๒ เข้าได้เปนพระยา เปนพระยาได้ แผ่นดินว่าดังนี้ อุปปยูนนั ้ มา
๓๘ นัยแต่ชาดชาดมาได้ ๖๙ ก็เถิงอนิจจกา ในปีกาบสีนนั ้ แล ๙๖๗ ปีรบั ไส้ เดือนเอด ๑๑๕
ขึน้ ๓ ค่าวันเสา เสกสาเจ้า ๒ แคว ลูกพระยาคาลูนผูน้ ้องเปนพระยา แล้วพระเจ้าเล่ามา
่ นอย่ารีปีมนั อย่ากว้าง แหงนเมือเทงให้ฟ้าผ่า ไปปา่ ให้เสือ
ชิงบ้านชิงเมืองกู ว่าดังนี้ ชัวมั
กิน ตกน้าให้เงือกกิน ย่าดินให้แผ่นดินแตกสูบเอาไปไหม้ในนารก ว่าดังนี้ จึงเอาหม่อม
ไช ผูเ้ ปนลูกกับทัง้ พระยานูชดิ แลลูกท้าวหวายนาของเขียววันคืนหนีไปรอดชือเชียงแดง
อุปยูให้พระยาเวียงเอาริพลนาทันทีเ่ ชียงแดง เขาก็ขา้ พระธัมมิกกราชแลหม่อมไชทัง้
พระยานูชดี กับลูกท้าวเสียหมดหัน้ แล อยานัน้ พระยาเวียงจึงคืนมารอดเมืองคูกทีอ่ ุปปยู
อยูน่ นั ้ จึงใส่ช่อื พระยาเวียงให้เปนแสนทีน่ นั ้ แล พระอุปยูเสวยราชได้ ๖ เดือน เกิดปีเปิก
เสด ได้ซาว๕ ปี เปน พระเจ้าล้านช้างสักราชได้ ๙๘๔ ตัวตายปีเต่าเสดหัน้ แล ทัง้ หลาย
จึงเอาพระยามหานามผูเ้ ปนพระยานครมาแทน
๑๑๘
จึงขึน้ ชื่อว่าพระโพธิสารราช ในปีเต่าเสดนัน้ พระโพธิสารเสวยราชได้ ๕ เข้าก็ตายในปีร
วายยีนนั ้ สักราชได้ ๙๘๘ ตัวนัน้ แล ทัง้ หลายจึงเอาพระหม่อมแก้วผูเ้ ปนน้องอุปปยู มา
แทนเปนเจ้าล้านช้างในปีเมิงเหม้า สักราชได้ ๙๘๙ ตัวนัน้ แล
// กล่าวพืน ้ ตานานนิทานเชียงดง เชียงทอง เชียงหวางแล ๓ แสนไทไตยะอุปปะอุมมะ
นาทิประติสตนาคณหุด อุตตมบุรสี ลี า้ นช้างก็บรบวร //

You might also like