You are on page 1of 5

แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน หน่ วยการเรียนรู้ที่ 3

คำชี้แจง ให้นกั เรี ยนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว

1. ข้อใดกล่าว ไม่ ถูกต้ องเกี่ยวกับกวีผทู้ รงนิพนธ์วรรณคดีเรื่ อง ลิลิตตะเลงพ่าย


ก. พระนามเดิม คือ พระองค์เจ้าชายปรมานุชิต
ข. เป็ นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 7 แห่งกรุ งรัตนโกสิ นทร์
ค. เป็ นพระโอรสองค์ที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราช
ง. เป็ นเชื้อพระวงศ์พระองค์แรกแห่งกรุ งรัตนโกสิ นทร์ที่มีสมณศักดิ์ สูงสุ ดในทางพุทธศาสนา

2. ข้อใด ไม่ ถูกต้ องเกี่ยวกับวรรณคดีเรื่ อง ลิลิตตะเลงพ่าย


ก. แต่งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ข. แต่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ค. แต่งด้วยร่ ายสุ ภาพและโคลงสุ ภาพประเภทต่างๆ
ง. เนื้อหามาจากพงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)

3. ข้อใด ไม่ มีการใช้ค ำแผลง


ก.สลัดไดใดสลัดน้อง แหนงนอน ไพรฤๅ
เพราะเพื่อมาราญรอน เศิกไซร้
ข. ธก็เอื้อนสารเสาวพจน์แด่เอารสยศเยศ องค์อิศเรศอุปราช
ค. ศึกมอญมาชิงควัน กันบให้ไปออก บอกให้เต้าโดยตก ควรจักยกไปยุทธ์
ง. ลูกตายฤใครเก็บ ผีฝาก พระเอย
ผีจกั เท้งที่โพล้ ที่เพล้ใครเผา

4. เจ้าอยุธยามีบุตร ล้วนยงยุทธ์เชี่ยวชาญ หาญหักศึกบมิยอ่ ต่อสู ้ศึกบมิหย่อน ไป่ พัก


วอนว่าใช้ ให้ธหวงธห้าม แม้เจ้าคร้ามเคราะห์กาจ จงอย่ายาตยุทธนา เอาพัสตราสตรี
สวมอินทรี ยส์ ร่ างเคราะห์

เมื่อพระมหาอุปราชาได้ฟังข้อความดังกล่าวนี้ทรงรู ้สึกอย่างไร
ก. เสี ยใจและละอายใจ ข. น้อยใจและท้อใจ
ค. ไม่พอใจ ง. ละอายใจและเกิดขัตติยมานะ

5. “ตะเลงพ่าย” ตามรู ปศัพท์หมายความว่าอย่างไร และเพราะเหตุใดจึงเรี ยกชื่อเช่นนี้


ก. หมายถึง มอญพ่าย เพราะในขณะนั้นพม่าปกครองมอญอยูแ่ ละมีเมืองหลวงอยูท่ ี่มอญ
ข. หมายถึง มอญพ่าย เพราะพระมหาอุปราชามีเชื้อสายมอญ
ค. หมายถึง มอญพ่าย เพราะทัพอยุธยาตีพม่าแตกที่เมืองมอญ
ง. หมายถึง พม่าพ่าย เพราะทัพพม่าพ่ายแพ้แก่อยุธยา

6. คำว่า “ธ” ในข้อใด ไม่ ได้ หมายถึง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช


ก. ธ ให้เชิญพระอัยการศึก ปรึ กษาโทษขุนทัพ สรรพทั้งมวลหมู่มาตย์
ข. แล้ว ธ บรรหารตระบัด ว่าเราจัดจตุรงค์ จะไปยงยอยุทธ์ ยังกัมพุชพารา
ค. ธ ก็ให้เร่ งผันพลผ้าย ย้ายมาโดยทางเถื่อน ทัพหน้าเคลื่อนพลเดิน ลุล ำกระเพินบมิหึง
ง. แล้ว ธ อื้นออกพจน์ พระราชกฎประกาศ แก่เมืองราชบุรี เกณฑ์โยธี หา้ ร้อย คะค้อยไปซุ่มซ่อน
ดูศึกผ่อนพลเดิน

7. คำที่พิมพ์ตวั หนาในข้อใด หมายถึง พระมหาอุปราชา


ก. พระห่วงแต่ศึกเสี้ ยน อัสดง
เกรงกระลับก่อรงค์ รั่วหล้า
คือใครจักคุมคง ควรคู่ เข็ญแฮ
อาจประกันกรุ งถ้า ทัพข้อยคืนถึง

ข. ภูวไนยผายโอษฐ์อ้ืน โชยงการ
แก่เทพทุกถิ่นสถาน ฉชั้น
โสฬสพรหมพิมาน กมลาสน์ แลนา
เชิญช่วยชุมโสตซั้น สดับถ้อยตูแถลง

ค. โดยแขวงขวาทิศท้าว ทฤษฎี แลนา


บัด ธ เห็นขุนกรี หนึ่งไสร้
เถลิงฉัตรจัตุรพิรีย ์ เรี ยงคัง่ ขูเฮย
หนแห่งฉายาไม้ ข่อยชี้เฌอนาม

ง. พระทรงแสงดาบแก้ว กับกร
โจมประจัญฟันฟอน เฟื่ องน้ำ
ต่างฤทธิ์ ต่างรบรอน ราญชีพ กันแฮ
สระท้านทุกถิ่นท่าถ้ำ ท่งท้องชลธี

8. ข้อใด ไม่ ใช่ บทนิราศ


ก. สายหยุดหยุดกลิ่นฟุ้ ง ยามสาย
สายบ่หยุดเสน่ห์หาย ห่างเศร้า
กี่คืนกี่วนั วาย วางเทวษ ราแม่
ถวิลทุกขวบค่ำเช้า หยุดได้ฉนั ใด

ข. พระครวญพระคร่ำไห้ โหยหา
พลางพระพิศพฤกษา กิ่งเกี้ยว
กลกรกนิษฐนา- รี รัตน์ เรี ยมฤๅ
ยามตระกองเอวเอี้ยว โอบอ้อมองค์เรี ยม

ค. สลัดไดใดสลัดน้อง แหนงนอน ไพรฤๅ


เพราะเพื่อมาราญรอน เศิกไซร้
สละสละสมร เสมอชื่อ ไม้นา
นึกระกำนามไม้ แม่นแม้นทรวงเรี ยม

ง. พื้นนภางค์เผือดดาว แสงเงินขาวขอบฟ้ า แสงทองจ้าจับเมฆ รังสี เฉกฉายฉัน ไก่แก้วขัน


เจื้อยแจ้ว ดุเหว่าแว่วเสี ยงใส

9. ข้อใดใช้ภาพพจน์ต่างจากพวก
ก. งามสง่าขัตติเยศ พระแสดงเดชผังผาย กุมแสงกรายกรนาด ยุรยาตรอย่างไกรสร จากศีขรคูหา
ข. ว่านครรามินทร์ ผลัดแผ่นดินเปลี่ยนราช เยียววิวาทชิงฉัตร เพื่อกษัตริ ยส์ องสู ้ บร้างรู ้เหตุผล

ค. ไพริ นทรนาศเพี้ยง พลมาร


พระดัง่ องค์อวตาร แต่ก้ ี

ง. เสร็ จเสวยศวรรเยศอ้าง ไอศูรย์ สรวงฤๅ


เย็นพระยศปูนเดือน เด่นฟ้ า

10. ข้อใด ไม่ ปรากฏคำที่หมายถึง ผูห้ ญิง


ก. ระลวงรำลึกอ้า บังอร
ข. แสงจันทร์บ่ส่องสมร หมดเทวษ
ค. พระผาดผายสู่ หอ้ ง หาอนุชนวลน้อง
ง. พลางคะนึงนุชน้อย แน่งเนื้อนวลสงวน

11. ข้อใดพรรณนาให้เห็นภาพเคลื่อนไหวเด่นชัดที่สุด
ก. บัดมงคลพ่าห์ไท้ ทวารัติ
แว้งเหวี่ยงเบี่ยงเศียรสะบัด ตกใต้
อุกคลุกพลุกเงยงัด คอคช เศิกแฮ
เบนบ่ายหงายแหงนให้ ท่วงท้อทีถอย
ข. ไพรี เร่ งสาดซ้อง โซรมปื นไฟไป่ ต้อง
ตื่นเต้าแตกฉาน ผ้านนา

ค. งามสองสุ ริยราชล้ำ เลอพิศ นาพ่อ


พ่างพัชริ นทรไพจิตร ศึกสร้าง
ฤๅรามเริ่ มรณฤทธิ์ รบราพณ์ แลฤๅ
ทุกเทศทุกทิศอ้าง อื่นไท้ไป่ เทียม

ง. ชาวสยามคร้ามเศิกสิ้ น ทั้งผอง
นายและไพร่ ไป่ ปอง รบร้า
อพยพหลบหลีกมอง เอาเหตุ
ซุกซ่อนห่อนให้ขา้ ศึกได้ไปเป็ น

12. สลัดไดใดสลัดน้อง แหนงนอน ไพรฤๅ


เพราะเพื่อมาราญรอน เศิกไสร้
สละสละสมร เสมอชื่อ ไม้นา
นึกระกำนามไม้ แม่นแม้นทรวงเรี ยม

จากคำประพันธ์ขา้ งต้น ข้อใดกล่าว ไม่ ถูกต้ อง


ก. มีการเล่นเสี ยงวรรณยุกต์
ข. มีการเล่นคำพ้องเสี ยง
ค. มีการใช้ค ำอัพภาส
ง. มีการใช้ค ำแผลง

13. พระตรีโลกนาถแผ้ว เผด็จมาร


เฉกพระราชสมภาร พี่นอ้ ง
เสด็จไร้พิริยะราญ อริ นาศ ลงนา
เสนอพระยศยินก้อง เกียรติทา้ วทุกภาย
คำที่พิมพ์ตวั หนาในบทประพันธ์ขา้ งต้น หมายถึงใคร
ก. พระอินทร์ ข. พระอิศวร
ค. พระนารายณ์ ง. พระพุทธเจ้า

14. ข้อใด ไม่ ได้ สะท้อนให้เห็นถึงขนบธรรมเนียมในการศึกสงคราม


ก. พลันขยายพยุหบาตรา คลาเข้าโขลนทวาเรศ สงฆ์สวดชเยศพุทธมนต์ ปรายประชลเฉลิมทัพ
ตามตำรับราชรณยุทธ์ โบกกระบี่ธุชคลาพล

ข. หลวงญาณโยคโลกทีป รี บคำนวณทำนาย ถวายพยากรณ์แก่ไท้ ท้าวธได้จตั ุรงคโชค


อาจปราบโลกลาญรงค์

ค. บัดเดี๋ยวไททฤษฎี พระศรี สารี ริกบรมธาตุ ไขโอภาสโศภิต ช่วงชวลิตพ่างผล


ส้มเกลี้ยงกลกุก่อง ฟ่ องฟ้ าฝ่ ายทักษิณ ผินแวดวงตรงทัพ นับคำรบสามครา

ง. พลางธส่ งแสงอาชญา แด่หลวงมหาวิชยั ใจทระนงองอาจ ยาตรตัดไม้ข่มนาม


ตามตำรับไสยเพท

15. ภาพพจน์ในข้อใด ไม่ได้ มีที่มาจากวรรณคดีเรื่ อง รามเกียรติ์


ก.ดูสองเจ้าจอมสยาม เฉกลักษมณ์รามรอนราพณ์ ปราบอเรนทร์ทุกด้าว

ข. งามสองสุ ริยราชล้ำ เลอพิศ นาพ่อ


พ่างพัชริ นทรไพจิตร ศึกสร้าง

ค. พระฤทธิ์ ดงั่ ฤทธิ์ ราม รอนราพณ์ แลฤๅ


ราญอริ ราชแผ้ว แผกแพ้ทุกภาย

ง. ฤๅรามเริ่ มรณฤทธิ์ รบราพณ์ แลฤๅ


ทุกเทศทุกทิศอ้าง อื่นไท้ไป่ เทียม

You might also like