You are on page 1of 52

บทเรียนสำเร็จรูป

เรื่อง อิเหนำ ตอน ศึกกะหมังกุหนิง


ระดับชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4

นำงสำว กมนทิพย์ ดีมังกร รหัสนิสิต 60101010729


คณะ มนุษยศำสตร์ สำขำวิชำ ภำษำไทยกำรศึกษำบัณฑิต
บทเรียนสำเร็จรูปนี้เป็นส่วนหนึ่งของกำรศึกษำรำยวิชำ ทกศ 452 วิธีกำรสอนภำษำไทยและ
วรรณคดีไทย มหำวิทยำลัย ศรีนครินทรวิโรฒ ภำคกำรศึกษำที่ 1 ปีกำรศึกษำ 2563

คำนำ
บทเรียนส ำเร็จรูป เรื่อง อิเหนำ ตอน ศึกกะหมั งกุห นิง นี้เป็ นส่ว นหนึ่ งของ
กำรศึกษำรำยวิชำ ทกศ 452 วิธีกำรสอนภำษำไทยและวรรณคดีไทย จัดทำขึ้นเป็น
เครื่องมือประกอบกำรจัดกำรเรียนกำรสอน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 ใช้
ศึกษำเรียนรู้ด้วยตนเอง เพื่อให้นักเรียนมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ในประวัติควำมเป็นมำ
คำศัพท์น่ำรู้ และเนื้อหำของวรรณคดี ฝึกวิเครำะห์ สังเครำะห์ คุณค่ำของวรรณคดี ใน
ด้ำนวรรณศิลป์ ควำมเชื่อ ประเพณี และตัวละคร เพื่อสะท้ อนข้อคิ ด และนำไปใช้
ประโยชน์ได้ในชีวิตประจำวัน บทเรียนสำเร็จรูปเล่มนี้ มีทั้งหมด 4 บท คือ
บทที่ 1 เรียนรู้ที่มำ
บทที่ 2 ศึกษำคำศัพท์
บทที่ 3 ลำดับเนื้อหำ
บทที่ 4 คุณค่ำวรรณคดี
ผู้จัดทำหวังว่ำบทเรียนสำเร็จรูปเล่มนี้จะเป็นประโยชน์แก่นักเรียนสำหรับใช้ใน
กำรศึ ก ษำหำควำมรู้ แ ละทบทวนบทเรี ย น เป็ น ประโยชน์ แ ก่ ค รู ผู้ ส อนส ำหรั บ หรื อ
นำไปใช้เพื่อเป็นกำรประหยัดเวลำในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน
ขอขอบคุณอำจำรย์ผกำศรี เย็นบุตรที่ช่วยให้กำรสนับสนุน ให้ คำแนะนำ และ
ส่งเสริมในกำรจัดทำบทเรียนสำเร็จรูปบทนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ขอขอบพระคุณมำ
ณ โอกำสนี้
กมนทิพย์ ดีมังกร

สำรบัญ
หน้ำ
คำนำ ก
สำรบัญ ข
คำชี้แจงกำรใช้บทเรียนสำเร็จรูป ค
บทนำ 1
แบบทดสอบก่อนเรียน 2
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน 7
บทที่ 1 เรียนรู้ที่มำ 8
บทที่ 2 ศึกษำคำศัพท์ 14
บทที่ 3 ลำดับเนื้อหำ 20
บทที่ 4 คุณค่ำวรรณคดี 32
แบบทดสอบหลังเรียน 40
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน 47
บรรณำนุกรม 48

คำชี้แจง
กำรใช้บทเรียนสำเร็จรูป

1. บทเรียนสำเร็จรูปเป็นบทเรียนสำหรับให้ผู้เรียนศึกษำด้วยตนเอง
2. ก่อนจะศึกษำบทเรียนสำเร็จรูปให้ผู้เรียนศึกษำคำชี้แจงลำดับขั้นกำรเรียน
3. ศึกษำมำตรฐำน/ตัวชี้วัด และจุดประสงค์กำรเรียนรู้ของเนื้อหำ
4. ทำแบบทดสอบก่อนเรียนและตรวจคำตอบจำกเฉลยแล้วบันทึกคะแนนที่ได้ไว้
5. ผูเ้ รียนศึกษำบทเรียนสำเร็จรูปทีละกรอบตำมลำดับ
6. อ่ำนเนื้อหำให้เข้ำใจทีละเรื่องให้ดีที่สุด แล้วจึงตอบคำถำมในแบบฝึกหัด ตอบโดย
ไม่ดูเฉลยก่อนจำกนั้นจึงตรวจดูคำเฉลยในหน้ำถัดไป แล้วจึงทำกรอบต่อไปเรื่อย ๆ
7. ถ้ำคำตอบของนักเรียนผิดให้ ย้อนกลับไปศึกษำเนื้อหำในกรอบที่ผ่ำนมำใหม่ ทำ
ควำมเข้ำใจให้ดี แล้วตอบคำถำมใหม่
8. เมื่อศึกษำจบแล้วให้ทำแบบทดสอบหลังเรียนพร้อมทั้งตรวจคำตอบจำกเฉลยแล้ว
บันทึกคะแนนที่ได้ไว้เพื่อเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียน
9. นักเรียนต้องขยันหมั่นเพียร มีวินัยต่อตนเอง ซื่อสัตย์ และไม่เปิ ดดูคำตอบก่อน
เรียน
1
1
บทนำ
อิเหนำ เป็ นวรรณคดีที่สำคัญ ของไทยอี กเรื่อ งหนึ่ง ซึ่ง ได้ รั บอิ ทธิ พลมำจำกวรรณคดีข อง
ต่ำงประเทศได้รับควำมนิยมและเป็นที่รู้จักกันอย่ำงแพร่หลำย เพรำะมีเนื้อหำที่สนุกสนำน ให้ควำม
เพลิดเพลิน ในขณะเดียวกันก็สอดแทรกควำมรู้เกี่ยวกับ ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ประเพณี ชีวิต
ควำมเป็นอยู่ของคนในอดีตไว้ด้วย นอกจำกนี้ยังมีคุณค่ำทั้งในด้ำนสังคม และด้ำนวรรณศิลป์ ที่
นักเรียนควรจะศึกษำให้เข้ำใจอย่ำงถ่องแท้กำรจะศึกษำวรรณคดีให้มีควำมเข้ำใจอย่ำงลึกซึ้ง และ
แตกฉำน
สำระ มำตรฐำนกำรเรียนรู้และตัวชี้วัด
สำระที่ 1 กำรอ่ำน
มำตรฐำน ท 1.1 ใช้กระบวนกำรอ่ำนสร้ำงควำมรู้และควำมคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหำ
ในกำรดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักกำรอ่ำน
ตัวชี้วัด
ท 1.1 ม.4 – 6/2 ตีควำม แปลควำม และขยำยควำมเรื่องที่อ่ำน
ท 1.1 ม.4 – 6/3 วิเครำะห์และวิจำรณ์เรื่องที่อ่ำนในทุกๆ ด้ำนอย่ำงมีเหตุผล
สำระที่ 5 วรรณคดีและวรรณกรรม
มำตรฐำน ท 5.1 เข้ำใจ และแสดงควำมคิดเห็น วิจำรณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่ำงเห็น
คุณค่ำและนำมำประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
ตัวชี้วัด
ท 5.1 ม.4 – 6/1 วิเครำะห์และวิจำรณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตำมหลักกำรวิจำรณ์เบื้องต้น
ท 5.1 ม.4 – 6/3 วิเครำะห์และประเมินคุณค่ำด้ำนวรรณศิลป์ของวรรณคดีและวรรณกรรมในฐำนะ
ที่เป็นมรดกทำงวัฒนธรรมของชำติ
ท 5.1 ม.4 – 6/4 สังเครำะห์ข้อคิดจำกวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
จุดประสงค์กำรเรียนรู้
1. อธิบำยควำมเป็นมำของวรรณคดีเรื่องอิเหนำได้
2. อธิบำยคำศัพท์ในวรรณคดีเรื่องอิเหนำได้
3. เล่ำเนื้อเรื่องวรรณคดีเรื่องอิเหนำ ตอนศึกกะหมังกุหนิงได้
4. วิเครำะห์คุณค่ำวรรณคดีเรื่องอิเหนำ ตอนศึกกะหมังกุหนิงได้
2
แบบทดสอบก่อนเรียน

คำสั่ง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด
“อันอิเหนำเอำมำทำเป็นคำร้อง สำหรับงำนฉลองกองกุศล
ครั้งกรุงเก่ำเจ้ำสตรีเธอนิพนธ์ แต่ต้นเรื่องต้นตกหำยพลัดพรำยไป
หำกพระองค์ทรงพิภพปรำรภเล่น ให้รำเต้นเล่นละครคิดกลอนใหม่
เติมแต้มต่อคิดประดิษฐ์ไว้ บำรุงใจไพร่ฟ้ำข้ำแผ่นดิน”
1. จำกบทประพันธ์ “เจ้ำสตรี” หมำยถึง
ก. พระรำชธิดำของพระเจ้ำอยู่หัวบรมโกศ
ข. เจ้ำนำยฝ่ำยในองค์หนึ่งไม่ปรำกฏพระนำม
ค. พระมเหสีของพระเจ้ำอยู่หัวบรมโกศ
ง. พระธิดำของเจ้ำฟ้ำกุ้ง
2. ในพระรำชนิพนธ์เรื่อง อิเหนำ มีกำรใช้ศัพท์ชวำจำนวนมำก ข้อใดเป็นคำอธิบำยที่ถูกต้อง
ก. มูลเหตุของเรื่องมำจำกชวำ
ข. กำรใช้ศัพท์ภำษำต่ำงประเทศเป็นควำมนิยมของกวีในสมัยนั้น
ค. กำรแทรกศัพท์ภำษำต่ำงประเทศเข้ำไปในเรื่องแสดงภูมิรู้ของผู้แต่ง
ง. ในสมัยที่มีกำรแต่งวรรณคดีเรื่องนี้ ไทยมีควำมสัมพันธ์อย่ำงดีกับชวำ
“หวังเป็นเกือกทองรองบำทำ พระผู้วงศ์เทวำอันปรำกฏ
จะขอพระบุตรีมียศ ให้โอรสข้ำน้อยดังจินดำ
อันกรุงไกรไอศูรย์ทั้งสอง จะเป็นทองแผ่นเดียวในวันหน้ำ
ขอพำนักพักพึ่งพระเดชำ ไปกว่ำชีวันจะบรรลัย
3. ข้อใด ไม่ใช่ น้ำเสียงที่ปรำกฏในคำประพันธ์ข้ำงต้น
ก. อ่อนน้อม ข. ถ่อมตน ค. ยำเกรง ง. ทะนงในศักดิ์ศรี
3

4. ข้อใดไม่ปรำกฏควำมเชื่อในกำรศึกสงครำม
ก. วำงกองเยื้ยงกันเป็นฟันปลำ ให้โยธำถอยยิงชิงชัย
ข. พอได้ศุภฤกษ์ก็ลั่นฆ้อง ประโคมคึกกึกก้องท้องสนำม
ค. ประโรหิตฟันไม้ข่มนำม ทำตำมตำรำพิชัยยุทธ์
ง. แล้วรีบรัดจัดพลรณยุทธ์ ตั้งที่นำมครุฑปักษำ
5. ข้อใดคือคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้อิเหนำเอำชนะท้ำวกะหมังกุหนิงได้
ก. ควำมกล้ำหำญ ข. สติปัญญำ
ค. ควำมว่องไว ง. ควำมรอบรู้ในกำรจัดตั้งกองทัพ
“พระเชษฐำให้สำรไปกี่ครั้ง เขำยังไม่มำจำกหมันหยำ
จนสลัดตัดกำรวิวำห์ ศึกติดพำรำก็เพรำะใคร
เห็นจะรักเมียจริงยิ่งกว่ำญำติ ไหนจะคลำดจำกเมืองหมันหยำได้
ถึงมำตรจะมำก็จำใจ ด้วยกลัวภัยพระรำชบิดำ
เรำอย่ำคอยเขำเลยนะหลำนรัก ก้มพักตร์รบศึกไปดีกว่ำ”
6. ผู้พูดรู้สึกอย่ำงไร
ก. โกรธแค้น ข. เจ็บใจ ค. น้อยใจ ง. ชิงชัง
“สตรีใดในพิภพจบแดน ไม่มีใครได้แค้นเหมือนอกข้ำ
ด้วยใฝ่รักให้เกินพักตรำ จะมีแต่เวทนำเป็นเนืองนิตย์”
7. ตัวละครในคำประพันธ์นี้มีอำรมณ์ควำมรู้สึกตรงกับข้อใด
ก. โกรธ – เคียดแค้น ข. ช้ำใจ - น้อยใจ
ค. น้อยใจ – สงสำรตนเอง ง. แค้นเคือง – ทุกข์ใจ
4

ข้อควำมในเรื่อง อิเหนำ ตอนศึกกะหมังกุหนิง ที่ว่ำ


“เสร็จศึกจะเข้ำไปอัญชลี จะด่ำตีก็ตำมอัชฌำสัย
เมื่อได้เกินแล้วก็จนใจ ตำมแต่ภูวไนยจะปรำนี”
8. ควำมที่ขีดเส้นใต้มีควำมหมำยตรงกับข้อใด
ก. ได้ทำกำรล่วงเกินเอำไว้มำก ข. ได้ชัยชนะในศึกสงครำมเกินควำมคำดหมำย
ค. ได้สร้ำงควำมโกรธแค้นไว้มำกเกินจะให้อภัย ง. ได้กล่ำวคำโอ้อวดไว้เกินควำมจริง
9. ข้อใดแสดงกำรแต่งตัวของนักรบ
ก. สวมสร้อยสังวำลย์ประสำนลำย ข. เหน็บพระแสงกั้นหยั่นกัลเม็ด
ค. ทรงชฎำมำลัยดอกไม้ทัด ง. สอดใส่ฉลององค์ทรงวันเสำร์
10. คำพูดของวิหยำสะกำในข้อใดที่ทำให้สังคำมำระตำรู้สึก “ดังตรีเพชรบำดในอุรำ”
ก. ที่ยืนม้ำอยู่ข้ำงหลังนั้น กั้นกลดพื้นสุวรรณโอ่อ่ำ
นำมวงศ์พงศ์ใดจงบอกมำ แจ้งกิจจำแล้วจึงจะรบกัน
ข. ดูก่อนเจ้ำผู้เรืองฤทธิรงค์ รูปทรงงำมสมคมสัน
เชื้อชำติญำติวงศ์พงศ์พันธุ์ อยู่เขตขัณฑ์ธำนีบุรีไร
ค. ตัวสิอยู่ปักมำหงัน ใช่วงศ์อสัญแดหวำ
เหตุใดว่ำเป็นอนุชำ นับในวงศำประกำรใด
ง. อันกำหลังสิงหัดส่ำหรีนั้น ดำหำกุเรปันกรุงใหญ่
ทั้งหมันหยำธำนีนั้นไซร้ ก็แจ้งใจว่ำวงศ์กันสืบมำ
11. ข้อควำมนี้กล่ำวถึงเหตุกำรณ์ตอนใด
ก. เตรียมรับแขกบ้ำนแขกเมือง ข. เตรียมรักษำเมืองยำมสงครำม
ค. เตรียมตัวออกรบกับข้ำศึก ง. เตรียมยอมแพ้แก่ข้ำศึก
5
สังคำมำระตำ : ยืนม้ำอยู่ตรงวิหยำสะกำ แสร้งทำเป็นทีเย้ยหยัน
แล้วว่ำใครไม่คิดแก่ชีวัน จะชิงตุนำหงันพระธิดำ
จงมำเล่นทวนด้วยกันก่อน ให้เห็นฤทธิรอนแกล้วกล้ำ
แม้ควรคู่กับวงศ์เทวำ จึงจะยกกัลยำให้ไป
วิหยำสะกำ : ดูก่อนเจ้ำผู้เรืองฤทธิรงค์ รูปทรงงำมสมคมสัน
เชื้อชำติญำติวงศ์พงศ์พันธุ์ อยู่เขตขัณฑ์ธำนีบุรีไร
หรือเป็นวงศ์อสัญแดหวำ ในสี่นครำเป็นไฉน
จึงปั้นหน้ำมำต่อฤทธิไกร ไม่กลัวชีวำลัยจะมรณำ
12. ลักษณะคำพูดของสังคำมำระตำตรงกับอกุศลบถกรรมข้อใดมำกที่สุด
ก. กล่ำวปดและลดเลี้ยว ข. พูดจำที่เพ้อเจ้อ
ค. พูดหยำบกระทบคน ง. ส่อเสียดเพรำะเกลียดชัง
13. ข้อใดเป็นกิจกรรมที่ต่ำงกับข้ออื่น
ก. แล้วรีบรัดจัดพลรณยุทธ์ ตั้งที่นำมครุฑปักษำ
วำงกองเยื้องกันเป็นฟันปลำ ให้โยธำคอยยิงชิงชัย
ข. ทำค่ำยหน้ำค่ำยตั้งบรรจบ ยกหอรบขึ้นปรับสับวิหลั่น
ชักปีกกำขั้นไปถึงกัน ผูกรำวสำมชั้นขันชะเนำะ
ค. ครั้นถึงเนินทรำยชำยทุ่ง แว่นแคว้นแดนกรุงดำหำ
จึงได้หยุดกองทัพตั้งพลับพลำ ที่ต้องนำมครุฑำเกรียงไกร
ง. พอได้ศุภฤกษ์ก็ลั่นฆ้อง ประโคมคึกกึกก้องท้องสนำม
ประโลหิตฟันไม้ข่มนำม ทำตำมตำรำพิชัยยุทธ์
“เร่งรัดจัดพลอำสำ ขึ้นประจำเสมำทุกหน้ำด้ำน
ประตูเมืองสี่ทิศให้ปิดบำน ลงเขื่อนมั่นลั่นดำลทันใด”
6

14. ข้อใดเป็นทรรศนะเกี่ยวกับผู้หญิงที่ไม่ได้สะท้อนจำกเรื่องอิเหนำ ตอนศึกกะหมังกุหนิง


ก. ผู้หญิงงำมเป็นชนวนของสงครำม
ข. ผู้หญิงที่แย่งสำมีผู้อื่นเป็นผู้หญิงที่น่ำรังเกียจ
ค. ผู้หญิงที่แต่งงำนแล้วเป็นสมบัติของสำมี
ง. ผู้หญิงที่เป็นม่ำยขันหมำกย่อมอับอำย
15. “บัดนั้น ทั้งสองทูตำคนขยัน” คนขยัน ในที่นี้หมำยถึง
ก. มีควำมรู้ดี ข. มีควำมเพียรสูง ค. เข้มแข็ง ง. มีควำมสำมำรถสูง

นักเรียนเก่งมากเลยค่ะ
ที่สามารถตอบคาถามโดยไม่
เปิดดูคาตอบก่อน เสร็จแล้ว
ไปตรวจคาตอบกันเลยนะคะ
7

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน

1. ก 6. ค 11. ข
2. ก 7. ข 12. ค
3. ง 8. ก 13. ง
4. ก 9. ข 14. ค
5. ข 10. ค 15. ค
บทที่ 1 เรียนรู้ที่มำ 8

กรอบที่ 1 ทำควำมรู้จักผู้แต่งวรรณคดีเรื่องอิเหนำ

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงเป็นพระมหำกษัตริย์
ไทยลำดับที่ 2 แห่งรำชวงศ์จักรีทรงประสูติเมื่อ 24 กุมภำพันธ์ พ.ศ. 2310
มีพระนำมเดิมว่ำ "ฉิม" พระองค์ทรงเป็นพระบรมรำชโอรสองค์ที่ 4 ใน
พระบำทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ำจุฬำโลกมหำรำช และ กรมสมเด็จพระ
อมรินทรำมำตย์พระบรมรำชชนนีพันปีหลวง

ทรงเป็นกวีที่มีพระปรีชาสามารถ
และทรงสนั บ สนุ น กวี ใ ห้ แ ต่ ง
วรรณคดีกันอย่างแพร่หลาย นับ
ได้ ว่ า สมั ย ของพระองค์ นี้ เ ป็ น
ยุคทองแห่งวรรณคดีอีกยุคหนึ่ง

ทรงพระรำชนิพนธ์วรรณคดีสำคัญ ๆ ไว้หลำยเรื่อง ได้แก่ บทละครทั้งละครใน มีหลำย


เรื่องที่มีอยู่เดิมและทรงนำมำแต่งใหม่ เพื่อให้ใช้ในกำรแสดงได้ เช่น รำมเกียรติ์ อุณรุทและอิเหนำ
และละครนอก 5 เรื่อง ได้แก่ ไชยเชษฐ์ มณีพิไชย คำวี สังข์ทอง และ ไกรทอง จำกผลงำนที่ได้
ประจักษ์ จึงทรงได้รับกำรเทิดพระเกียรติจำกองค์กำรยูเนสโก เมื่อวันที่ 24 กุมภำพันธ์ พ.ศ. 2511
รัฐบำลไทยจึงได้กำหนดให้วันนี้ของทุกปีเป็นวันศิลปินแห่งชำติมำจนถึงปัจจุบัน

รู้หรือไม่ วรรณคดีเรื่องใดที่ได้รับยกย่องให้เป็น ยอดบทละครรา ที่


แต่งดี ยอดเยีย่ มทั้งเนื้อความ ทานองกลอนและกระบวนการเล่นทั้ง
ร้องและรา จากวรรณคดีสโมสรในรัชกาลที่ 6
เรื่อง อิเหนา นี้เอง เรื่องเดิมมีความยาวมาก ได้ทรงพระราชนิพนธ์
ใหม่ตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นเรื่องยาวที่สุดของพระองค์
9 บทที่ 1 เรียนรู้ที่มำ
ที่มำของเรื่องอิเหนำ กรอบที่ 2

- มีเค้ำควำมจริงมำจำก นิทานปันหยี ในประวัติศำสตร์ชวำ


- นำงยะโว จำกเมืองปัตตำนีถูกจับเป็นเชลย และเข้ำมำเป็นข้ำหลวง สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
ได้เล่ำเรื่องถวำยพระรำชธิดำทั้ง 2 ของพระเจ้ำอยู่หัวบรมโกศ
- เจ้ำฟ้ำหญิงกุณฑลนำไปแต่งเป็น “ดาหลัง” เจ้ำฟ้ำหญิงมงกุฎนำไปแต่งเป็น “อิเหนา”
- สูญหำยไปสมัยเสียกรุงศรีอยุธยำครั้งที่สอง
- รัชกำลที่ 1 ทรงพระรำชนิพนธ์ “ดำหลัง” และ “อิเหนำ” เพื่อรวบรวมเรื่องให้สมบูรณ์
- รัชกำลที่ 2 ทรงพระรำชนิพนธ์ “อิเหนำ” เพื่อให้เหมาะสาหรับการแสดงละครรา จึงเน้นไปที่
ควำมไพเรำะงดงำม

อันอิเหนาเอามาทาเป็นคาร้อง สาหรับงานฉลองกองกุศล
ครั้งกรุงเก่าเจ้าสตรีเธอนิพนธ์ แต่เรื่องต้นหายพลัดพรายไป
หากพระองค์ทรงพิภพปรารภเล่น ให้ราเต้นเล่นละครคิดกลอนใหม่
เติมแต้มต่อติดประดิษฐ์ไว้ บารุงใจไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน

ต่อไปมาทบทวนความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ
วรรณคดีเรื่องอิเหนากันเถอะค่ะ
10
บทที่ 1 เรียนรู้ที่มำ
กรอบที่ 3 ควำมรู้เบื้องต้น

วงศ์เทวัญ (วงอสัญแดหวำ) มีกษัตริย์ 4 องค์ คือ ท้าวกุเรปัน ท้าวดาหา ท้าวกาหลัง


1
และ ท้าวสิงหัดส่าหรี
อิเหนาเป็น พระรำชโอรสของท้ าวกุเรปัน บุษ บา เป็ น
2
พระรำชธิดำของท้าวดาหา เป็นคู่ตุนำหงัน (คู่หมั้น) กัน

เมื่ออิเหนำอำยุได้ 15 ปี อิเหนำต้องไปช่วยปลงพระศพพระอัยกีที่ เมืองหมันหยา ได้พบ


3 นำง จินตะหรา ธิดำท้ำวหมันหยำก็หลงรัก และไม่ยอมกลับเมืองเพื่ออภิเษกกับนำงบุษบำ
ท้ำวกุเรปันจึงมีหนังสือไปเรียกตัวอิเหนำกลับ แล้วนัดท้ำวดำหำให้เตรียมกำรวิวำห์

เมื่ออิเหนำทรำบเรื่องก็ออกอุบำยขอไปเที่ยวป่ำพร้อมบริวำร แล้วปลอมตัวเป็นโจรป่ำชื่อ
4
มิสาระปันหยี ตั้งใจจะไปเมืองมันหยำระหว่ำงทำงได้สู้รบกับกษัตริย์หลำยเมืองและมี
ชัยชนะ ได้โอรสธิดำของเจ้ำเมืองเจ้ำต่ำงเมืองมำเป็นเชลย

นั่นก็คือ นางสการะวาตีและนางมาหยารัศมี มาเป็นชายา


และ สั ง คามาระตา มาเลี้ ย งอย่ า งอนุ ช า เมื่ อ ไปถึ ง เมื อ ง
หมันหยา อิเหนาได้นางจินตะหราเป็นชายา

5 ท้ำวดำหำกริ้ว ประกำศว่ำถ้ำใครมำขอนำงบุษบำก็จะยกให้
6 ระตูจรกา ซึ่งปรำรถนำมีคู่ จึงให้ช่ำงไปวำดรูปธิดำเมืองต่ำง ๆ
ช่ำงได้วำดรูปนำงบุษบำ 2 รูป ปะตาระกาหลา ซึ่งเป็นองค์เทว
อัยกำต้องกำรจะสั่งสอนอิเหนำจึงลักรูปนำงบุษบำไปจำกช่ำง
วำดรูปหนึ่งเหลือไว้รูปหนึ่ง เมื่อจรกำเห็นรูปนำงบุษบำก็หลง
รักจึงอ้อนวอนพี่ชำยให้มำสู่ขอนำงไปอภิเษก ท้ำวดำหำยอม
ยกบุษบำให้แก่จรกำ
11 บทที่ 1 เรียนรู้ที่มำ
องค์ปะตำระกำหลำได้นำรูปนำงบุษบำที่ลักจำกช่ำงวำดนั้นไปทิ้งไว้ที่โคนต้นไทร 7
- วิหยาสะกา ตำมกวำงแปลงมำพบรูปนำงก็คลั่งไคล้ใหลหลง วอนท้าวกะหมังกุหนิงซึ่งเป็น
พระรำชบิดำให้ส่งทูตไปขอนำงบุษบำ
- ท้ำวดำหำปฏิเสธเพรำะได้ยกนำงให้จรกำแล้ว
- ท้ำวกะหมังกุหนิงสงสำรลูกจึงยกทัพไปตีเมืองดำหำเพื่อชิงตัวนำงบุษบำ
- ท้ำวกุเรปันเรียกตัวอิเหนำจำกเมืองหมันหยำมำช่วยท้ำวดำหำทำศึกกับท้ำวกะหมังกุหนิง
- อิเหนำมีชัยในสงครำมครั้งนี้สังคำมำระตำสังหำรวิหยำสะกำ ส่วนอิเหนำสังหำรท้ำวกะหมังกุหนิง

เมื่อเสร็จศึกอิเหนำเข้ำเฝ้ำท้ำวดำหำและได้พบ
8 นำงบุษบำก็หลงรักนำงทันที อิเหนำเสียดำยที่
นำงจะต้องอภิเษกกับจรกำ จึงหำทำงขัดขวำง
พิธีอภิเษกโดยลักตัวบุษบำไปซ่อนไว้ในถ้ำ
ปะตำระกำหลำกริ้วที่อิเหนำทำไม่ถูก จึงบันดำลให้เกิดลมหอบลักนำงบุษบำไปจำกอิเหนำ
9
อิเหนำและนำงบุษบำต่ำงก็ต้องผจญกับเหตุกำรณ์ต่ำง ๆ อยู่เป็นเวลำหลำยปี จึงได้กลับมำ
พบกัน

แบบฝึกหัด กรอบที่ 4
แบบฝึกหัดที่ 1 ทำเครื่องหมำย ✓ หน้ำข้อที่ถูกหรือทำเครื่องหมำยผิด X หน้ำข้อที่ผิด
คำตอบ ข้อควำม
1. เจ้ำฟ้ำหญิงกุณฑลแต่งเรื่อง “อิเหนำ” เจ้ำฟ้ำหญิงมงกุฎแต่งเรื่อง “ดำหลัง”
2. พระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ำนภำลัย มีพระนำมเดิมว่ำ "ฉิม"
3. วรรณคดีเรื่องอิเหนำที่ได้รับยกย่องให้เป็นยอดบทละครรำที่แต่งดี
4. วงศ์เทวัญ มีกษัตริย์ 4 องค์ คือ ท้ำวกุเรปัน ท้ำวดำหำ ท้ำวหมันหยำ และท้ำวสิงหัดส่ำหรี
5. อิเหนำปลอมตัวเป็นโจรป่ำชื่อมิสำระปันหยี
6. ร.2 ทรงพระรำชนิพนธ์วรรณคดีเรื่อง ไชยเชษฐ์ มณีพิไชย คำวี สังข์ทอง และ ดำหลัง
7. อิเหนำเป็นพระรำชโอรสของท้ำวกุเรปัน บุษบำเป็นพระรำชธิดำของท้ำวดำหำ
8. อิเหนำได้นำงจินตะหรำและนำงสกำระวำตีเป็นชำยำ
9. ท้ำวกะหมังกุหนิงยกนำงบุษบำให้กับวิหยำสะกำ
10. อิเหนำมีเค้ำควำมจริงมำจำก นิทำนปันหยี ในประวัติศำสตร์ชวำ
12
บทที่ 1 เรียนรู้ที่มำ
แบบฝึกหัดที่ 2 ให้นักเรียนตอบคำถำมต่อไปนี้
1. นิทำนปันหยี หรือ เรื่องอิเหนำ เผยแพร่เข้ำมำสู่ประเทศไทยได้อย่ำงไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………
2. พระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ำนภำลัยได้ทรงพระรำชนิพนธ์กลอนบทละครเรื่อง อิเหนำ
ขึ้นมำใหม่ด้วยสำเหตุใด
…………………………………………………………………………………………………………………………………
3. เหตุใดถึงทำให้อิเหนำได้พบกับนำงจินตะหรำ
…………………………………………………………………………………………………………………………………

กรอบที่ 5 เฉลยแบบฝึกหัด
คำตอบ ข้อควำม
X 1. เจ้ำฟ้ำหญิงกุณฑลแต่งเรื่อง “อิเหนำ” เจ้ำฟ้ำหญิงมงกุฎแต่งเรื่อง “ดำหลัง”
✓ 2. พระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ำนภำลัย มีพระนำมเดิมว่ำ "ฉิม"
✓ 3. วรรณคดีเรื่องอิเหนำที่ได้รับยกย่องให้เป็นยอดบทละครรำที่แต่งดี
X 4. วงศ์เทวัญ มีกษัตริย์ 4 องค์ คือ ท้ำวกุเรปัน ท้ำวดำหำ ท้ำวหมันหยำ และท้ำวสิงหัดส่ำหรี
✓ 5. อิเหนำปลอมตัวเป็นโจรป่ำชื่อมิสำระปันหยี
X 6. ร.2 ทรงพระรำชนิพนธ์วรรณคดีเรื่อง ไชยเชษฐ์ มณีพิไชย คำวี สังข์ทอง และ ดำหลัง
✓ 7. อิเหนำเป็นพระรำชโอรสของท้ำวกุเรปัน บุษบำเป็นพระรำชธิดำของท้ำวดำหำ
X 8. อิเหนำได้นำงจินตะหรำและนำงสกำระวำตีเป็นชำยำ
X 9. ท้ำวกะหมังกุหนิงยกนำงบุษบำให้กับวิหยำสะกำ
✓ 10. อิเหนำมีเค้ำควำมจริงมำจำก นิทำนปันหยี ในประวัติศำสตร์ชวำ
13 บทที่ 1 เรียนรู้ที่มำ
แบบฝึกหัดที่ 2 ให้นักเรียนตอบคำถำมต่อไปนี้
1. นิทำนปันหยี หรือ เรื่องอิเหนำ เผยแพร่เข้ำมำสู่ประเทศไทยได้อย่ำงไร
นำงยะโว จำกเมืองปัตตำนีถูกจับเป็นเชลย และเข้ำมำเป็นข้ำหลวงสมัยพระเจ้ำอยู่หัว
บรมโกศ ได้เล่ำเรื่องถวำยพระรำชธิดำทั้ง 2 ของพระเจ้ำอยู่หัวบรมโกศ
2. พระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ำนภำลัยได้ทรงพระรำชนิพนธ์กลอนบทละครเรื่อง อิเหนำ
ขึ้นมำใหม่ด้วยสำเหตุใด
เพื่อใช้เล่นละครใน
3. เหตุใดถึงทำให้อิเหนำได้พบกับนำงจินตะหรำ
อิเหนำต้องไปช่วยปลงพระศพพระอัยกีที่เมืองหมันหยำ

เก่งมากเลยค่ะ ไปศึกษาในบทถัดไปกันเลย
บทที่ 2 ศึกษำคำศัพท์ 14

กรอบที่ 1 คำศัพท์หมวดชื่อเฉพำะ คน สัตว์ สถำนที่

1. วงศ์เทวัญอสัญหยำ = เชื้อสำยกษัตริย์ที่สืบมำจำกเทวดำ
2. ระเด่นมนตรี = เป็นคำเรียกอิเหนำ
3. ศรีปัตหลำ = กษัตริย์ผู้เป็นใหญ่ ในที่นี้ หมำยถึง ท้ำวดำหำ
4. ระเด่น = เจ้ำฟ้ำ (โอรส-ธิดำกษัตริย์)
5. ระตู = เป็นคำเรียกเจ้ำเมืองที่ไม่ใช่วงศ์เทวัญ
6. สำมนต์ = เจ้ำเมืองที่เป็นเมืองขึ้น
7. ทนำย = ผู้รับใช้ของเจ้ำนำยและขุนนำงในสมัยก่อน
8. ชีพ่อ = นักบวช ในที่นี้คือ พรำหมณ์ผู้ทำพิธี
9. กระยำหงัน = สวรรค์
10. ประเสบัน = ตำหนัก
11. สนำมเพลำะ = ร่องที่ขุดไว้เพื่อป้องกันข้ำศึก
12. วิหลั่น (ปิหลั่น) = ค่ำยที่ทำให้ขยับรุกเข้ำไปหำข้ำศึกทีละน้อย ๆ
13. เสำตะลุง = เสำใหญ่สำหรับผูกช้ำง
14. ทำงร่วม = ทำงแยก
15. กิริณี = ช้ำง
16. บุหรง = นกหรือนกยูง
นักเรียนคิดว่า
คาศัพท์พวกนี้มาจาก
คาภาษาต่างประเทศ
ใดบ้าง
15 บทที่ 2 ศึกษำคำศัพท์

คำศัพท์หมวดสงครำม กรอบที่ 2

1. จตุรงค์ = กองทัพสี่เหล่ำ คือ กองทับช้ำง ม้ำ รถ และพลเดินเท้ำ


2. กระทรวง = หมู่
3. สัปทน = ร่มกั้น
4. ประเจียด = ผ้ำลงอำคม
5. ชักปีกกำ = จัดทัพให้มีกองขวำและกองซ้ำยคล้ำยปีกำ
6. กันหยัน = อำวุธสำหรับเหน็บติดตัว
7. กันเม็ด = ปุ่มที่ฝักอำวุธ เพื่อยึดตัวอำวุธไว้กับฝัก
8. แขนงปืน = เขำสัตว์ที่ใส่ดินปืน
9. งำแซง = ไม้เสี้ยมปลำยแหลม วำงเอนเรียงเป็นลำดับสำหรับป้องกันข้ำศึก
10. ชิงคลอง = แย่งทำงที่ตนได้เปรียบ

คาศัพท์เหล่านี้เป็นคาภาษาไทยใน
ภาษาต่างประเทศที่มาจากคา
ภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต
ภาษาเขมร ภาษาชวา
บทที่ 2 ศึกษำคำศัพท์ 16

กรอบที่ 3 คำศัพท์หมวดอื่น ๆ

1. กล่ำว = สู่ขอ ในควำมว่ำ “พอกะหมังกุหนิงรู้ไป ก็ซาให้มากล่าวกัลยา”


2. ช่วงชิงกันดังผลไม้ = ผลไม้ในที่นี้หมำยถึง นำรีผล ต้นไม้ในป่ำหิมพำนต์มีผลเป็นรูปสตรี
เหล่ำวิทยำธรมักจะมำแย่งชิงกันเก็บ
3. ดูผี = เยี่ยมเคำรพศพ ในควำมว่ำ “ถึงตายเขาก็ไม่ดูผี”
4. แต่ปืนตึงก็ถึงทันควัน= เมื่อได้ยินเสียงปืนก็ไปถึงที่นั่นทันที ยังมิทันได้ควันปืนจะจำง
หมำยควำมว่ำ มีควำมกล้ำหำญและพร้อมจะสู้รบ
5. เลี้ยง = ในที่นี้หมำยถึง รับเป็นภรรยำ ในควำมว่ำ
“ถึงไม่เลียงบุษบาเห็นว่าชั่ว”
6. อัธยำ = มำจำกอัธยำศัย หมำยถึง ควำมประสงค์ในควำมว่ำ
“ก็ตามใจไม่ขัดอัธยา”
7. ส่งสกำร = คือสังสกำร พิธีกรรมเกี่ยวกับกำรปลงศพ
8. มุรธำวำรีภิเษก = น้ำที่ผ่ำนพิธีกรรมเพื่อทำให้ศักดิ์สิทธิ์
9. ไถ้ = ถุงสำหรับใส่เงินและสิ่งของ โดยมำกมักใช่คำดไว้ที่เอว
10. ตุนำหงัน = หมัน้ หมำย
11. ตรึกไตร = คิดใคร่ครวญ
12. ตรัสเตร็จ = สว่ำงเป็นประกำยงดงำม

ต่อไปมาทบทวนความรู้ด้วยการทา
แบบฝึกหัดในกรอบถัดไปกันเถอะค่ะ
17 บทที่ 2 ศึกษำคำศัพท์

แบบฝึกหัด กรอบที่ 4
แบบฝึกหัดที่ 1 จงหำคำศัพท์ต่อไปนี้

แนวตั้ง แนวนอน
1. สวรรค์ 1. ควำมประสงค์
2. ช้ำง 2. ผ้ำลงอำคม
3. เสำใหญ่สำหรับผูกช้ำง 3. หมู่
4. อำวุธสำหรับเหน็บติดตัว 4. หมัน้ หมำย
5. แย่งทำงที่ตนได้เปรียบ 5.สว่ำงเป็นประกำยงดงำม
บทที่ 2 ศึกษำคำศัพท์ 18

แบบฝึกหัดที่ 2 จงบอกที่มำของคำศัพท์ต่อไปนี้โดยนำตัวอักษรไปวำงไว้หน้ำข้อให้ถูกต้อง
ก.ภำษำบำลี ข.ภำษำสันสกฤต ค.ภำษำเขมร ง.ภำษำชวำ
1. ตรัสเตร็จ 2. มรรคำ
3. บำทมูล 4. มำตร
5. โหมด 6. กุหนุง
7. กิริณี 8. เผด็จ
9. ยำหยี 10. บุพเพนิวำสำ

กรอบที่ 5 เฉลยแบบฝึกหัด

แนวตั้ง แนวนอน
1. สวรรค์ (กระยำหงัน) 1. ควำมประสงค์ (อัธยำ)
2. ช้ำง (กิริณ)ี 2. ผ้ำลงอำคม (ประเจียด)
3. เสำใหญ่สำหรับผูกช้ำง (เสำตะลุง) 3. หมู่ (กระทรวง)
4. อำวุธสำหรับเหน็บติดตัว (กันหยัน) 4. หมัน้ หมำย (ตุนำหงัน)
5. แย่งทำงที่ตนได้เปรียบ (ชิงคลอง) 5.สว่ำงเป็นประกำยงดงำม (ตรัสเตร็จ)
19 บทที่ 2 ศึกษำคำศัพท์
แบบฝึกหัดที่ 2 จงบอกที่มำของคำศัพท์ต่อไปนี้โดยนำตัวอักษรไปวำงไว้หน้ำข้อให้ถูกต้อง
ก.ภำษำบำลี ข.ภำษำสันสกฤต ค.ภำษำเขมร ง.ภำษำชวำ
ง 1. ตรัสเตร็จ ข 2. มรรคำ
ก 3. บำทมูล ข 4. มำตร
ค 5. โหมด ง 6. กุหนุง
ก 7. กิริณี ค 8. เผด็จ
ง 9. ยำหยี ก 10. บุพเพนิวำสำ

ผิดข้อไหนอย่าลืมกลับไป
ทบทวนในกรอบความรู้ดา้ นบน
อีกครั้งนะคะ

ไปศึกษาในบทถัดไปกันเลย
บทที่ 3 ลำดับเนื้อหำ 20

กรอบที่ 1 เรื่องย่ออิเหนำ ตอนศึกกะหมังกุหนิง

1 ท้ำวกะหมังกุหนิงจัดทัพไปตีเมืองดำหำ เพื่อแย่งนำงบุษบำมำให้กับวิหยำสะกำ

พระอนุชำของท้ำวกระมังกุหนิง (ระตูปำหยัง และท้ำวปะหมัน ) ทัดทำน


เพรำะเห็ น ว่ ำ เป็ น กำรท ำศึ ก กั บ วงศ์ เ ทวั ญ ที่ เ รื อ งอ ำนำจ และจะท ำให้
ประชำชนเดือดร้อนด้วยเรื่องของผู้หญิงคนเดียว
ท้ำวกะหมังกุหนิงตรัสตอบว่ำ วงศ์เทวัญคงมำกันแค่ 3 เมือง (เพรำะ
ดำหำมีข้อขัดเคืองกับกุเรปันเรื่องของอิเหนำกับบุษบำอยู่ ) และก็
อำจจะมีทัพของจรกำยกมำช่วย แต่ไม่ทรงหวั่นเกรง ที่ทรงห่วงคือ ท้ำวปะหมัน
ห่วงลูกจะต้องมำช้ำใจตำยเพรำะเสียคนรักไป ระตูปำหยัง

แม้นวิหยาสะกามอดม้วย พี่ก็คงตายด้วยโอรสา
ไหนไหนก็จะตายวายชีวา ถึงเร็วถึงช้าก็เหมือนกัน
ผิดก็ทาสงกรามดูตามที เคราะห์ดีก็จะได้ดังใฝ่ฝัน
พี่ดังพฤกษาพนาวัน จะอาสัญเพราะลูกเหมือนกล่าวมา

ท้ำวกะหมังกุหนิง ท้ำวกะหมังกุหนิงส่งทูตนำรำชสำรและเครื่องบรรณำกำรไปยังกรุงดำหำ

2 เพื่อทูลขอนำงบุษบำท้ำวดำหำปฏิเสธว่ำได้ยกนำงบุษบำแก่จรกำไปแล้ว
จึงไม่ยอมรับเครื่องบรรณำกำรจำกเท้ำกะหมังกุหนิงทูตจึงทูลว่ำถ้ำเป็น
เช่นนี้ เห็นทีจะต้องเกิดสงครำมชิงนำง
21
2 บทที่ 3 ลำดับเนื้อหำ

3 ท้ำวดำหำให้ส่งข่ำวบอกเมืองทั้งสำมของวงศ์เทวัญและจรกำ และสั่งให้เมืองขึ้น
ยกทัพมำช่วย โดยตั้งค่ำยสองชั้นรอบนอกเมืองดำหำ

เมืองสิงหัสส่ำหรี ส่ง สุหรานากง มำช่วย


เมืองกำหลัง ส่งเสนำผู้ใหญ่มำพร้อมกองทัพ 50,000 คนเมือง
กุเรปัน ส่งสำรลับ 2 ฉบับให้ท้ำวหมันหยำ และ อิเหนำ
ส่ง กะหรัดตะปาตี เชษฐำของอิเหนำไปช่วยรบด้วย

4 ทูตของท้ำวกะหมังกุหนิงกลับมำทูลเรื่องแก่ท้ำวกะหมังกุหนิง และแจ้งว่ำได้ยิน
มำว่ำท้ำวดำหำได้ขอควำมช่วยเหลือไปยังเมืองทั้ง 3 ของวงศ์เทวัญและจรกำ
ท้ำวกะหมังกุหนิงตรัสว่ำ
“กูก็ไม่ครั่นคร้ามขามใคร จะหักให้เป็นภัสม์ธุลีลง”
“กูจะเป็นจอมพลโยธา หนุนลูกยาเข้าโหมหัก
ไม่เกรงวงศ์เทวาสุรารักษ์ ให้ปรากฏยศศักดิ์เสียครั้งนี้”
โหรตรวจแล้วเห็นว่ำ ดวงของท้ำวกะหมังกุหนิงและวิหยำสะกำ
ถึงฆำตจึงทูลว่ำให้รอไปอีก 7 วัน

ท้ำวกะหมังกุหนิงตรัสว่ำ เมื่อได้ทรงพูดว่ำจะยกทัพไปแล้ว ก็ต้องทำไม่เช่นนั้นจะเสีย


หน้ำและเกรงว่ำหำกยกทัพไปช้ำทัพใหญ่จะเดินทำงไปถึงเมืองดำหำเสียก่อน ทรงสั่งให้ยกโดย
ให้วิหยำสะกำเป็นแม่ทัพกลองหน้ำ ระตูปำหยังและท้ำวปะหมังเป็นแม่ทัพกองหลัง และทรง
เป็นผู้บัญชำกำรทัพหลวงเอง

เมื่อเราบัญชาการกาหนดทัพ แล้วจะกลับงดอยู่อย่างไรได้
อายแก่ไพร่ฟ้าเสนาใน จะว่ากลัวฤทธิไกรไพริน
จาจะไปต้านต่อรอฤทธิ์ ถึงม้วยมิดมิให้ใครมาดูหมิ่น
เกียรติยศจะไว้ในธรณินทร์ จนสุดสินดินแผ่นดินแดนแผ่นฟ้า
บทที่ 3 ลำดับเนื้อหำ 22

5 ทัพของวิหยำสะกำสำมำรถตีเมืองรำยทำงมำตลอดจน
มำถึงนอกกรุงดำหำ จึงหยุดกองทัพที่ชัยภูมิ นาคนาม
บริเวณเนินทรำยระหว่ำงป่ำกับชำยทุ่ง

แม้นจะเคืองขัดตัดรอน 6 วิหยำสะกำ
ทังสามพระนครหาช่วยไม่ ท้ ำ วดำหำทรำบว่ ำ ทั พ ของวิ ห ยำสะก ำเดิ น ทำง
แต่ผู้เดียวจะเคี่ยวสงครามไป มำถึงแล้ว แต่ทัพเมืองอื่นที่ทรงขอควำมช่วยเหลือ
จะยากเย็นเป็นกระไรก็ตามที ไปยังไม่ได้ยกมำ ทรงกล่ำวว่ำ

ทัพของกำหลังและสิงหัดส่ำหรีเดินทำงมำเจอกัน และร่วมกันเดินทำงมำจนถึงกรุงดำหำ
7 สุหรำนำกงและเสนำเมืองกำหลังเข้ำเฝ้ำท้ำวดำหำ สุหรำนำกงทูลว่ำทัพของกะหรัดตะ
ปำตีกำลังรอสมทบทัพของอิเหนำอยู่
ท้ำวดำหำตรัสว่ำ

อันกะรัดตะปาตีจะมาช่วย พอจะเห็นจริงด้วยไม่สงสัย
แต่อิเหนาเขาจะมาทาไม ผิดไปเจ้าอย่ากเจรจา
พระเชษฐาให้สารไปกี่ครัง เขายังไม่จากหมันหยา
จนสลัดตัดการวิวาห์ ศึกติดพารา ก็เพราะใคร
เห็นจะรักเมียจริงยิ่งกว่าญาติ ไหนจะคลาดจากเมืองหมันยาได้
จึงมาตรจะมาก็จาใจ ด้วยกลัวภัยพระราชบิดา
เราอย่าคอยเขาเลยนะหลานรัก ก้มพักตร์รบศึกไปดีกว่า

สุหรำนำกงอำสำยกทัพไปออกประจัญบำน ท้ำวดำหำทัดทำนว่ำให้บัญชำกำรรออยู่ในเมือง
ให้ข้ำศึกบุกเข้ำมำจนเหนื่อยแล้วค่อยสู้ แล้วจึงร่วมสมทบกระหน่ำข้ำศึก

8 เสนำของกุเรปันถึงเมืองหมันหยำ ได้ยื่นสำรให้แก่อิเหนำและท้ำวหมันหยำ
23
2 บทที่ 3 ลำดับเนื้อหำ
อิเหนำคลี่สำรท้ำวกุเรปันออกอ่ำน ได้ควำมว่ำยังไงก็ให้มำช่วยน้อง (บุษบำ) และอำ
9
(ท้ำวดำหำ) และที่เกิดเหตุครั้งนี้ก็เพรำะอิเหนำทำให้เสียคำพูดที่ให้แก่ท้ำวดำหำ ถ้ำ
ครั้งนี้อิเหนำไม่ยกทัพมำช่วย

แม้นมิยกพลไกรไปช่วย ถึงเราม้วยก็อย่ามาดูผี
อย่าดูทั้งเปลวอัคคี แต่วันนี้ขาดกันจนบรรลัย

อิเหนำประมำณว่ำอีก 7 วันจะยกทัพไปช่วย แต่เสนำเมืองกุเรปันทูลว่ำจะไม่ทันกำรณ์


อิเหนำจึงจำต้องยกจัดทัพเพื่อยกไปในวันรุ่งขึ้น ด้วยควำมเกรงพระรำชบิดำ

10 ท้ำวหมันหยำคลี่สำรของท้ำวกุเรปันออกอ่ำน ได้ควำมว่ำ
มีราชธิดายาใจ แกล้งให้แต่งตัวไว้ยั่วชาย
จนลูกเราร้างคู่ตุนาหงัน ไปหลงรักผูกพันมัน่ หมาย
จะให้ชิงผัวเขาเอาเด็ดดาย ช่างไม่อายไพร่ฟ้าประชาชน

จึงตรัสให้อิเหนำรีบยกทัพออกไปช่วย และให้ระเด่นดำหยน คุมพลหมันหยำไปสมทบด้วย


11 อิเหนำเข้ำไปลำนำงจินตหรำเพื่อไปรบ จินตะหรำตัดพ้ออิเหนำ
พระจะไปดาหาปราบข้าศึก หรือราลึกถึงคู่ตุนาหงัน
ด้วยสงครามในจิตยังติดพัน จึงบิดผันพจนาไม่อาลัย
ไหนพระผ่านฟ้าสัญญาน้อง จะปกป้องครองความพิศมัย
ไม่มีนิราศแรมร้างห่างไกล จนบรรลัยมอดม้วยไปด้วยกัน
จินตะหรำ
อิเหนำจึงกล่ำวว่ำ
สมเด็จพระบิดาให้หาพี่ ใช้แต่ครังนีนันหาไม่
ถึงสองครังพี่ขัดรับสั่งไว้ ยังไม่ได้บอกเจ้าให้แจ้งการ

อิเหนำ
บทที่ 3 ลำดับเนื้อหำ 24
จินตะหรำตัดพ้ออิเหนำ
อิ เ หนำจึ ง ปลอบนำงพลำงเช็ ด น้ ำตำกล่ ำ วว่ ำ ที่ ไ ป
แล้วว่าอนิจจาความรัก
เพรำะกลัวพระรำชบิดำและหำกเสียเมืองดำหำก็จะเสียชื่อ
พึ่งประจักษ์ดั่งสายน้าไหล
อิเหนำ ฝำกมำหยำรัศมีและสกำระวำตีไว้กับจินตะหรำ และ
ตั้งแต่จะเชี่ยวเป็นเกลียวไป
ถอดสร้อยสังวำลให้จินตะหรำดูต่ำงหน้ำ
ที่ไหนเลยจะไหลคืนมา

12 กองทัพของอิเหนำพบกองทัพของกะหรัดตะปำตีที่ยกกัน
มำสมทบจึงร่วมกันเดินทำงไปยังกรุงดำหำ อิเหนำสั่งให้
หยุดทัพ และตั้งกองทัพในชัยภูมิ ครุฑนาม แล้วให้เสนำ
เข้ำไปทูนท้ำวดำหำ ว่ำได้ยกกองทัพมำถึงแล้ว เมื่อท้ำว
ดำหำทรำบ รู้สึกยินดีมำก
ท้ำวดำหำ
สุหรำนำกงทูลลำออกไปช่วยอิเหนำรบ สุหรำนำกงทูลอิเหนำว่ำท้ำวดำหำยังเคือง
พระทัยอยู่ อิเหนำตรัสตอบว่ำ
ไม่ถือโทษโกรธตอบพระผ่านฟ้า จะตังหน้าหักหาญพาลภัย
เสร็จศึกจะเข้าไปอัญชลี จะด่าตีก็ตามอัชฌาสัย
เมื่อได้เกินแล้วก็จนใจ ตามแต่ภูวนัยจะปรานี

เสนำที่พบท้ำวดำหำกลับมำทูลว่ำ ดูแล้ว ท้ำวดำหำ คลำย ๆ โกรธอิเหนำแล้ว


13 ท้ำวกะหมังกุหนิงทรำบว่ำมีกองทัพใหญ่ยกทัพมำ คำดว่ำเป็นทัพของจรกำและทัพ
ของวงศ์เทวัญจึงสั่งเตรียมพลเพื่อจะรบ

14 อิเหนำกะหรัดตะปำตี สุหรำนำกง เมื่อเห็นทัพของตนกำลัง


15
สังคำมำระตำ และระเด่นดำหยน เพรี่ยงพล้ำ สังคำมำระ
สรงน้ำทิพมนต์ แล้วขึ้นทรงม้ำยก ตำจึ ง ออกบุ ก ฝ่ ำ เข้ ำ ไป
กองทั พ ห้ ำกองไปจนใกล้ ก องทั พ ตำมล ำพั ง อิ เ หนำและ
ของท้ ำ วกะหมั ง กุ ห นิ ง อิ เ หนำมี พ ว ก จึ ง รี บ ค ว บ ม้ ำ
บั ญ ช ำ ใ ห้ จั ด พ ล ใ น ชั ย ภู มิ
ออกไปช่วย
ครุฑปักษำ โดย “วางกองเยือ้ ง
กันเป็ นฟั นปลา”

สังคำมำระตำ
25
2 บทที่ 3 ลำดับเนื้อหำ
16
ท้ำวกะหมังกุหนิงตรัสว่ำผู้ใดคือจรกำ อิเหนำตอบว่ำตนมำจำกุเรปันเพื่อกำจัด
ศัตรู ท้ำวกะหมังกุหนิงแม้นจะรู้สึกหวั่นเกรงต่ออิเหนำ แต่ก็ตรัสออกไปว่ำ
ได้เห็นก็เป็นน่าเสียดาย จะพากันมาตายเสียเปล่าเปล่า
ไม่ควรคู่สู้รบกับเรา ครันจะฆ่าเสียเล่าก็อายใจ
อนึ่งตัวเจ้ากับเรานี จะราคีเคืองกันก็หาไม่
ให้จรกามาเถิดจะชิงชัย เจ้าจะได้ดูเล่นเป็นขวัญตา
17
“เมื่อหลับตามารบให้ผิดเมือง รีพลตายเปลืองไม่พอที”่
“แม้นไม่รแู้ ห่งเมืองจรกา จะช่วยชีมรรคาบอกให้
ถ้าขืนตังประชิดติดกรุงไกร คงชิงชัยไม่ฟังท่านพาที”

“เมตตาว่าน้องเป็นสตรี จะทอดทิงมารศรีเสียอย่างไร
ใช่นางเกิดในปทุมา สุริย์วงศ์พงศานั้นหาไม่
จะมาช่วงชิงกันดังผลไม้ อันจะได้นางไปอย่าสงกา”
บุษบำ

ท้ำวกะหมังกุหนิง:
อันชิงนางอย่างนี้ไม่ผิดธรรม์ ธรรมเนียมนั้นมีแต่บุราณมา

อิเหนำ:
จะได้ลองฤทธีฝีมอื ให้ลอื ชือ่ ในชวาเขตขัณฑ์
หรือรักตัวกลัวจะม้วยชีวัน บังคมคัลจะให้คืนไปพารา
บทที่ 3 ลำดับเนื้อหำ 26

18 สังคำมำระตำอำสำออกรบสู้วิหยำสะกำ อิเหนำเตือนให้สังคำมำระตำใช้เพลงทวนบน
หลังม้ำเพรำะสังคำมำระตำไม่สันทัดเพลงกระบี่บนพื้นรำบ
วิหยำสะกำ:
ตัวสิอยู่ปักมาหงัน ใช่วงศ์อสัญแดหวา
เหตุใดว่าเป็นอนุชา นับในวงศาประการใด
หรือหนึ่งพึ่งจะมาเป็นน้อง เกี่ยวข้องรักกันเป็นไฉน

สังคำมำระตำ:
มาถามไถ่ไล่เอากิจจา คือจะปรารถสิ่งใด
สุดแต่ว่าจิตพิศวาส ก็นับเป็นวงศ์ญาติกันได้
อย่าชักเจรจาให้ช้าไป จะชิงชัยให้เห็นฝีมือกัน

ว่ำแล้วสังคำมำระตำก็เข้ำรบกับวิหยำสะกำ สังคำมำระตำชนะ ฆ่ำวิหยำสะกำได้


กลับกลอกราร่ายกรายพระแสง ปะทะแทงลวงไปให้ใหลหลง
แล้วทาเสียเชิงชักม้าทรง ตลบวงเวียนหันไปทันที
นัยน์เนตรมุ่งหมายวิหยาสะกา เห็นถลาเลียวไล่ได้ที่
พระแทงสอดลอดเกราะถูกไพรี ตกจากพาชีมรณา

18 ท้ำวกะหมังกุหนิงโกรธจัด ควบม้ำแกว่งหอกรุกไล่สังคำมำระตำ อิเหนำควบม้ำออกกั้นกัน


อิเหนำปะทะฝีมือกับท้ำวกะหมังกุหนิง
อิเหนำเห็นว่ำคงเอำชนะท้ำวกะหมังกุหนิงบนม้ำได้ยำก จึงชวนท้ำวกะหมังกุหนิง
ประลองกันด้วยกระบี่แต่ก็ไม่สำมำรถชนะกันได้
อิเหนำเห็นว่ำท้ำวกะหมังกุหนิงมีทั้งวิชำคงกระพัน และชำนำญเพลงกระบี่มำก จะต้องใช้
กริชเทพ จึงชวนให้ท้ำวกะหมังกุหนิงต่อสู้กันด้วยกริช พร้อมทั้งทำท่ำกวักเรียกอย่ำงเย้ยหยัน
27
2 บทที่ 3 ลำดับเนื้อหำ

อิเหนำสำมำรถเอำชนะท้ำวกะหมังกุหนิงได้โดย
ปะทะแทงแสร้งทาสาทับ ย่างกระหยับรุกไล่มิได้ยัง
เห็นระตูถอยเท้าก้าวผิด พระกรายกฤชแทงอกตลอดหลัง

19 กะหรัดตะปำตี ระเด่นดำหยน 20 ท้ ำ ว ป ร ะ ห มั น ร ะ ตู ป ำ ห ยั ง
และสุ ห รำนำกงเห็ น ได้ ที จึ ง ปรึ กษำหำรื อกั น ยอมแพ้ อิเหนำให้
บุ ก ไล่ จ นกองทั พ ท้ ำ วกะหมั ง ทั้งสองรับศพท้ำวกะหมังกุหนิงและ
กุหนิงแตก วิหยำสะกำกลับไปทำพิธี

ทั้งสองมองดูศพของวิหยำสะกำ

หนุม่ น้อยโสภาน่าเสียดาย ควรจะนับว่าชายโฉมยง


ทนต์แดงดั่งแสงทับทิม เพริศพริ้มเพรารับกับขนง
เกศาปลายงอนงามทรง เอวองค์สารพัดไม่ขัดตา
กระนีหรือบิดามิพิศวาส จนพินาสด้วยโอรสา

ศึกษาเรือ่ งย่อแล้วนักเรียนคิดว่า
สาเหตุของสงครามครัง้ นีค้ ืออะไรคะ
บทที่ 3 ลำดับเนื้อหำ 28

กรอบที่ 2 วิเครำะห์สำเหตุของศึกกะหมังกุหนิง

1 อิเหนำไม่ทำตำมสัญญำหมั้น
แต่อิเหนาเขาจะมาทาไม ผิดไปเจ้าอย่าเจรจา
พระเชษฐาให้สารไปกี่ครัง เขายังไม่จากหมันหยา
จนสลัดตัดการวิวาห์ ศึกติดพาราก็เพราะใคร

2 จินตะหรำแย่งอิเหนำจำกบุษบำ
จะไปชิงผัวเขาเอาเด็ดดาย ช่างไม่อายไพร่ฟา้ ประชาชน

3 ท้ำวหมันหยำไม่เลี้ยงลูกสำวให้ดี
ในลักษณ์อักษรสารา ว่าระตูหมันหยาเป็นผู้ใหญ่
มีราชธิดายาใจ แกล้งให้แต่งตัวไว้ยั่วชาย
จนลูกเราร้างคู่ตุนาหงัน ไปหลงรักผูกพันมั่นหมาย
จะให้ชิงผัวเขาเอาเด็ดดาย ช่างไม่อายไพร่ฟ้าประชาชน

4 ท้ำวดำหำเคืองแค้นอิเหนำจึงประชดยกบุษบำให้จรกำ

คิดแค้นนัดดาเป็นพ้นไป ทังมานะกษัตริย์ตัดขาด จึงอวยอนุญาตประสาทให้

5 วิหยำสะกำคลั่งไคล้รูปโฉมนำงบุษบำ
เอ็นดูนัดดาโศกาลัย ว่ามิได้อรไทจะมรณา
229 บทที่ 3 ลำดับเนื้อหำ

6 ท้ำวกระหมังกุหนิงรักลูกมำก จนเบำควำม (ไม่คิดให้รอบคอบ) ไม่คำนึงถึงควำมเดือดร้อน


ของประชำชนทั้ง ๆ อนุชำของท้ำวกะหมังกุหนิงได้ทัดทำนไว้แล้ว
ใช่จะไร้ธิดาทุกธานี มีงามแต่บตุ รีทา้ วดาหา
พระองค์จงควรตรึกตรา ไพร่ฟ้าประชากรจะร้อนนัก

กรอบที่ 3 วิเครำะห์ตัวละครอิเหนำ ตอนศึกกะหมังกุหนิง

1 ท้ำวกะหมังกุหนิง เป็นคนที่ รักศักดิ์ศรีและเด็ดขำด สั่งยกทัพไปดำหำ แม้ญำติของท้ำว


กะหมังกุหนิงพยำยำมทัดทำน ถึงโหนจะทำนำยเชิงห้ำมแต่ก็ยังสั่งยกทัพไปดำหำ และ รักลูกมำก
ต้องกำรจะแย่งนำงบุษบำไปให้ลูก
เราจะยกพลไกรไปโรมรัน ช่วงชิงนางนันกับจรกา
2 ท้ำวดำหำเป็นคนรักษำคำพูด บอกว่ำจะยกให้จรกำก็ยกให้ถึงแม้ในใจไม่อยำก นอกจำกนี้
ยังเป็นคนขี้น้อยใจ เช่น
คิดว่ำพี่น้องอำจจะไม่มำช่วยลบก็จะรบเองก็ได้
แม้นจะเคืองขัดตัดรอน ทังสามพระนครหาช่วยไม่
แต่ผู้เดียวจะเคี่ยวสงครามไป จะยากเย็นเป็นกระไรก็ตามที
ท้ำวดำหำมีควำมชำญฉลำดยุทธวิธีรบที่สำคัญ คือ ออมแรงไว้จนกว่ำทัพอื่น ๆ จะมำช่วย
แล้วค่อยช่วยกันโหมปรำบข้ำศึก
3 อิเหนำเฉลียวฉลำดชนะศึกด้วยกลยุทธ์กำรใช้ถ้ำหลอกล่อข้ำศึก
อิเหนำเป็นนักรบที่ใช้สมอง เห็นได้จำกกำรคิดหำวิธีชนะท้ำวกะหมังกุหนิงจนเจอว่ำต้องใช้
กริชเทพจึงจะเอำชนะวิชำคงกระพันได้ และอิเหนำยังเป็นคนใจดี เมื่อญำติของท้ำวกะหมังกุหนิง
ยอมแพ้แล้วมำขอโทษ ก็ยกโทษให้
บทที่ 3 ลำดับเนื้อหำ 30

กรอบที่ 4 แบบฝึกหัด

แบบฝึกหัดที่ 1 จัดลำดับเหตุกำรณ์ที่ปรำกฏในเรื่องอิเหนำ ตอนศึกกะหมังกุหนิงให้ถูกต้อง


ท้ำวดำหำให้ส่งข่ำวบอกเมืองทั้งสำมของวงศ์เทวัญและจรกำ และสั่งให้เมืองขึ้นยกทัพมำช่วย
อิเหนำมีบัญชำให้จัดพลในชัยภูมิครุฑปักษำ
ท้ำวกะหมังกุหนิงทรงถำมฤกษ์ยำมจำกโหร
ท้ำวกะหมังกุหนิงจัดทัพไปตีเมืองดำหำ เพื่อแย่งบุษบำมำให้กับวิหยำสะกำนำง
อิเหนำสั่งให้หยุดทัพ และตั้งกองทัพในชัยภูมิ ครุฑนำม
ท้ำวประหมัน ระตูปำหยังปรึกษำหำรือกันยอมแพ้
ทัพของวิยำสะกำหยุดกองทัพที่ชัยภูมินำคนำม
สังคำมำระตำอำสำออกรบสู้วิหยำสะกำ
เสนำของกุเรปันถึงเมืองหมันหยำ ได้ยื่นสำรให้แก่อิเหนำและท้ำวหมันหยำ
อิเหนำสำมำรถเอำชนะท้ำวกะหมังกุหนิงได้

แบบฝึกหัดที่ 2 ให้นักเรียนศึกษำเหตุกำรณ์ในเรื่องอิเหนำแล้วยกตัวอย่ำงเหตุกำรณ์ในลักษณะ
เดียวกันที่พบในยุคปัจจุบัน และวิเครำะห์ว่ำพฤติกรรมนั้นส่งผลอย่ำงไรต่อสังคมไทย

……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………

นักเรียนลองทาแบบฝึกหัดด้วย
ตนเองก่อนแล้วค่อยเปิดเฉลยนะ
คะ
231 บทที่ 3 ลำดับเนื้อหำ

กรอบที่ 5 เฉลยแบบฝึกหัด

แบบฝึกหัดที่ 1 จัดลำดับเหตุกำรณ์ที่ปรำกฏในเรื่องอิเหนำ ตอนศึกกะหมังกุหนิงให้ถูกต้อง


2 ท้ำวดำหำให้ส่งข่ำวบอกเมืองทั้งสำมของวงศ์เทวัญและจรกำ และสั่งให้เมืองขึ้นยกทัพมำช่วย
7 อิเหนำมีบัญชำให้จัดพลในชัยภูมิครุฑปักษำ
3 ท้ำวกะหมังกุหนิงทรงถำมฤกษ์ยำมจำกโหร
1 ท้ำวกะหมังกุหนิงจัดทัพไปตีเมืองดำหำ เพื่อแย่งบุษบำมำให้กับวิหยำสะกำนำง
6 อิเหนำสั่งให้หยุดทัพ และตั้งกองทัพในชัยภูมิ ครุฑนำม
10 ท้ำวประหมัน ระตูปำหยังปรึกษำหำรือกันยอมแพ้
4 ทัพของวิยำสะกำหยุดกองทัพที่ชัยภูมินำคนำม
8 สังคำมำระตำอำสำออกรบสู้วิหยำสะกำ
5 เสนำของกุเรปันถึงเมืองหมันหยำ ได้ยื่นสำรให้แก่อิเหนำและท้ำวหมันหยำ
9 อิเหนำสำมำรถเอำชนะท้ำวกะหมังกุหนิงได้

แบบฝึกหัดที่ 2 ให้นักเรียนศึกษำเหตุกำรณ์ในเรื่องอิเหนำแล้วยกตัวอย่ำงเหตุกำรณ์ในลักษณะ
เดียวกันที่พบในยุคปัจจุบัน และวิเครำะห์ว่ำพฤติกรรมนั้นส่งผลอย่ำงไรต่อสังคมไทย
พฤติกรรมที่พบในวรรณคดีเรื่องอิเหนำ คือ กำรที่เมืองทั้ง 3 เมืองสิงหัสส่ำหรี เมือง
กำหลัง และเมืองกุเรปันได้ให้กำรช่วยเหลือ ส่งพลมำช่วยเมืองดำหำยำมตกที่นั่งลำบำก
เหตุกำรณ์ในลักษณะนี้ที่พบในปัจจุบัน คือ กำรที่คนในประเทศช่วยเหลือซึ่งกัน เช่น มีกำร
ช่วยเหลือเยียวยำผู้ได้รับผลกระทบจำกโควิด 19 กำรบริจำคและช่วยพัฒนำหมู่บ้ำนในพื้นที่
ห่ำงไกลควำมเจริญให้มีไฟฟ้ำใช้ กำรช่วยเหลือผู้ประสบภัยผู้ประสบน้ำท่วม เป็นต้น เมื่อคน
ในประเทศมีควำมสำมัคคีช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ประเทศก็จะพ้นภัย เหมือนที่เมืองดำหำ
ชนะศึก หมำยเหตุ คำตอบขึ้นอยู่กับดุลยพินิจครูผู้สอน

ไปศึกษาในบทถัดไปกันเลย
บทที่ 4 คุณค่ำวรรณคดี 32

กรอบที่ 1 สุนทรียภำพทำงภำษำ

พระราชนิพนธ์บทละครเรื่องอิเหนานั้นนอกจากจะมีคุณค่า
ด้ า นเนื้ อ หาที่ ท าให้ ผู้ อ่ า นเพลิ ด เพลิ น ไปกั บ เรื่ อ งราวและ
พฤติกรรมของตัวละครอันเป็นความบันเทิงใจ และได้แง่คิด
ต่ า ง ๆ เป็ น ความจรรโลงใจแล้ ว บทร้ อ ยกรองยั ง มี ค วาม
ไพเราะงดงาม และมีความหมายลึกซึ้งคมคายด้วยคุณลักษณะ
ต่างๆ ดังนี้

1 บทบรรยำยเล่ำเรื่องอย่ำงกระชับ เดินเรื่องรวดเร็ว และสื่อควำมได้ทันทีว่ำใครทำ


อะไร ที่ไหน อย่ำงไร เช่นตอนที่บรรยำยอำกัปกิริยำของสังคำมำระตำกับวิหยำสะกำใน
กำรสู้รบว่ำดังนี้

เมื่อนัน สังคามาระตาแข็งขัน
ขับมาไวว่องป้องประจัญ เป็นเชิงชันชิงชัยในทีทวน
ร่ายรับกลับแทงไม่แพลงพลา วิหยาสะกาผัดผันหันหวน
ต่างเรียงเคียงร่ายย้ายกระบวน ปะทะทวนรวนรุกคลุกคลี

นอกจำกมีบทบรรยำยที่ทำให้ผู้อ่ำนเกิดจินตภำพกำรต่อสู้แล้ว ยังมีบทที่แสดงอำรมณ์ต่ำง ๆ
ของผู้ที่พยำยำมเอำชนะกัน
เช่น “กริ้วโกรธโกรธำบ้ำจิต จะรอรั้งยั้งคิดก็หำไม่”
“เข้ำปะทะประกริชด้วยฤทธำ ผัดผันไปมำครั่นคร้ำม”
ซึ่งในที่สุดก็นำไปสู่ควำมสูญเสียเมื่อฝ่ำยที่พ่ำยแพ้ถูกสังหำรในศึกสงครำม
33 บทที่ 4 คุณค่ำวรรณคดี

2 บทพรรณนำกล่ ำวถึ ง เรื่อ งใดเรื่อ งหนึ่ ง โดยละเอี ย ด ทำให้ ผู้ อ่ ำ นเกิ ด จิ น ตภำพ
เด่นชัด เช่น ตอนที่พรรณำเรื่องเครื่องแต่งตัวของกะหรัดตะปำตี ว่ำดังนี้

ภูษายกพืนดาอาไพ สอดใส่ฉลององค์ทรงวันเสาร์
เจียระบาดคาดรัดหน่วงเนา ปั้นเหน่งเพชรเพริศเพราพรรณ
ตาบทิศทับทรวงห่วงห้อย สวมสร้อยสังวาลประสานสาย
ทองกรแก้วกิ่งพริงพราย ธามรงค์เรืองรายพลอยเพชร
ทรงชฎามาลัยดอกไม่ทัด กรรเจียกจอนจารัสตรัสเตร็จ
เหน็บพระแสงกันหยั่นกัลเม็ด แล้วเสด็จขึนเฝ้าพระบิดา

3
บทครวญทำนองบทนิรำศแสดงอำรมณ์ทุกข์โศกของตัวละครที่ต้องพลัดพรำกจำก
ผู้เป็นที่รัก เช่น ตอนที่อิเหนำจำกนำงจินตะหรำ นำงสกำระวำตี และนำงมำหยำรัศมี ดังนี้

ครันออกมานอกนคเรศ พระทรงเดชเศร้าสร้อยละห้อยไห้
เหลียงหลังตังตาดูเวียงชัย หฤทัยหวั่นหวั่นถึงกัลยา
โอ้ว่าเจ้าดวงยิหวาพี่ ป่านนีจะคร่าครวญหวนหา
ใครจะปลอบโฉมงามสามสุดา แต่พอพาใจเศร้าบรรเทาคลาย
สงสารนาคาที่พร่าสั่ง คิดถึงความหลังแล้วใจหาย
ครวญพลางกาสรดระทดกาย แล้วคิดอายพวกพลมนตรี
จึงชักม่านทองทังสี่ทิศ ดังจะปิดบังแสงพระสุริย์ศรี
ลมหวนอวลกลิ่นสุมาลี เหมือนผ้ายาหยีซึ่งเปลี่ยนมา
แว่วเสียงสาเนียงบุหรงร้อง ว่าเสียงสามนิ่มน้องเสน่หา
พระแย้มเยี่ยมม่านทองทัศนา เห็นแต่ป่าพุ่มไม้ใบบัง
เอนองค์ลงอิงพิงเขนย กรเกยก่ายพักตร์ถวิลหวัง
รสรักร้อนรนพ้นกาลัง ชลนัยน์ไหลหลั่งลงพรั่งพราย
บทที่ 4 คุณค่ำวรรณคดี 34

4 ควำมเปรียบสื่อควำมได้แจ่มชัดและทำให้ผู้อ่ำนเกิดจินตภำพ เช่น

“ได้ฟังกริ้วโกรธดังเพลิงกัลป์” ควำมหมำยว่ำควำมโกรธนั้นรุนแรงมำกรำวกับไฟที่ไหม้ล้ำงโลก

“มีควำมเกษมสันต์หรรษำ ดังได้ผ่ำนฟ้ำรำศี ” หมำยควำมว่ำมีควำมยินดีอย่ำงยิ่งรำวกับได้


ครองเมืองสวรรค์

“ตำยระดับทับกันดังฟอนฟำง เลือดนองท้องช้ำงเหลวไหล” เป็นภำพของไพร่พลที่ถูกสังหำร


เป็นจำนวนมำก นอนตำยก่ำยทับกันรำวกับกองฟำงที่ไหม้ และเลือดไหลนองท่วมพื้นสูงจนถึง
ท้องช้ำง (ขณะที่ยืนอยู)่

“พี่ดังพฤกษำพนำวัน จะอำสัญเพรำะลูกเหมือนกล่ำวมำ” ท้ำวกะหมังกุหนิงเปรียบตนเอง


ตำมคำโบรำณที่ส่ำต้นไม้ตำยเพรำะลูก หมำยถึงไม้จำพวกกล้วย เมื่อมีลูกแล้วต้นกล้วยก็จะ
ตำย ท้ำวกะหมังกุหนิงจะไปรบเพื่อลูก ซึ่งอำจทำให้ตำยได้ แต่ก็เต็มใจเพรำะควำมรักลูก

5 โวหำรโต้ตอบคมคำย เช่น ตอนที่อิเหนำบอกนำงจินตะหรำว่ำจะต้องไปศึกสงครำม


นำงจินตะหรำก็ย้อนว่ำคงจะเป็น “สงครำมในจิต” เพรำะอิเหนำคิดถึงนำงบุษบำและตัดพ้อ
ว่ำอิเหนำไม่รักษำสัญญำว่ำจะอยู่ด้วยกันตลอดไป

พระจะไปดาหาปราบข้าศึก
หรือราลึกถึงคู่ตุนาหงัน
ด้วยสงครามในจิตยังติดพัน
จึงบิดผันพจนาไม่อาลัย
ไหนพระผ่านฟ้าสัญญาน้อง
จะปกป้องครองความพิศมัย
ไม่มีนิราศแรมร้างห่างไกล
จนบรรลัยมอดม้วยไปด้วยกัน
35 บทที่ 4 คุณค่ำวรรณคดี
6
กำรเล่นคำด้วยนำคำที่มีเสียงพ้องกัน แต่ควำมหมำยต่ำงกันมำเรียงร้อยเข้ำด้วยกัน
เพื่อสื่อควำมว่ำสิ่งนั้นทำให้จิตประหวัดไปถึงนำงที่รัก เช่น ในบทชมนกชมไม้ เมื่อิเหนำ
เดินทำงออกจำกเมืองหมันหยำ ว่ำดังนี้
นางนวลจับนางนวลนอน เหมือนพี่แนบนวลสมรจินตะหรา
จากพรากจับจากจานรรจา เหมือนจากนางสการะวาตี
แขกเต้าจับเต่าร้างร้อง เหมือนร้างห้องมาหยารัศมี
นกแก้วจับแก้วพาที เหมือนแก้วพี่ทังสามสั่งความมา
ตระเวนไพรร่อนร้องตะเวนไพร เหมือนเวรใดให้นิราศเสน่หา
เค้าโมงจับโมงอยู่เอกา เหมือนพี่นับโมงมาเมื่อไกลนาง

ประเพณีและควำมเชื่อ กรอบที่ 2

1 กำรเชิญพระรำชสำร
มีกำรจัดเครื่องแห่แหน และไพร่พลเพื่อต้อนรับพระรำชสำรจำกกษัตริย์ต่ำงแดน
อย่ำงสมเกียรติ
2 ชัยภูมิในกำรรบ
นำคนำม: ละหำนธำรน้ำไหลหลั่ง ร่มไทรใบบังสุริย์ศรี
ครุฑนำม
3 พิธีกรรม
ตัดไม้ข่มนำม: พิธีกรรมที่นำไม้ที่มีชื่อพ้องกับชื่อศัตรูมำตัดหรือฟันก่อนยกทัพ
โขลนทวำร: ซุ้มประตูที่ทำไว้ให้ทหำรลอดไป โดยมีพรำหมณ์คอยพรมน้ำมนตร์เพื่อ
เป็นชัยมงคล
บทที่ 4 คุณค่ำวรรณคดี 36

กรอบที่ 3 ข้อคิดจำกเรื่อง

1 ควำมกล้ำหำญ ไม่หวำดหวั่นพรั่นพรึงต่อข้ำศึกศัตรู เช่น ท้ำวดำหำรู้ว่ำท้ำวกะหมังกุหนิง


จะยกทัพออกไปสู้รบโดยมิเกรงกลัวแต่อย่ำงใด

ควำมรักในศักดิ์ศรี กำรมีขัตติยมำนะหรือควำมสำนึกในเกียรติแห่งวงศ์ของตนเอง เช่น


2 อิ เ หนำเมื่ อ ทรำบว่ ำ เมื อ งดำหำเกิ ด ศึ ก แม้ จ ะไม่ อ ยำกไปช่ ว ยแต่ ค วำมรั ก ในวงศ์
อสัญแดหวำ จึงต้องยกทัพไปช่วย

รักษำคำสัตย์ กำรรู้จักรักษำคำพูด เมื่อพูดไว้อย่ำงไรก็ต้องทำตำม แม้ว่ำจะมีใครมำบีบ


บังคับหรือฝืนคำพูดหรือมีเหตุกำรณ์ใดๆ เกิดขึ้นก็ไม่ควรเสียคำพูด เช่น ท้ำวดำหำได้ยก
3 นำงบุษบำพระรำชธิดำให้กับระตูจรกำไปแล้ว เมื่อท้ำวกะหมังกุหนิงส่งทูตมำขอนำงให้
เเก่โอรสของตน ก็ทรงปฏิเสธและยืนยันว่ำได้ยกให้ระตูจรกำไปแล้วไม่อำจกลับคำ และ
พร้อมที่จะทำสงครำมถ้ำท้ำวกะหมังกุหนิงยกทัพมำโจมตี

กำรรู้ จั ก ให้ อ ภั ย กำรไม่ ถื อ โทษโกรธแค้ น กั น และกั น เมื่ อ ผิ ด พลำดไปก็ ส ำมำรถ


4 อโหสิกรรมต่อกัน เช่น เมื่อทัพกะหมังกุหนิงยอมแพ้ อิเหนำก็ให้อภัยและยอมให้นำศพ
ท้ำวกะหมังกุหนิงและพระโอรสกลับไปทำพิธีที่เมืองได้

ควำมรักและควำมหลงใหล ควรรู้จักแยกแยะให้ออกระหว่ำงควำมรักกับควำมหลงใหลใน
เรื่องนี้ วิหยำสะกำหลงใหลนำงบุษบำแม้ได้เห็นเพียงภำพวำด และหำกไม่ได้นำงมำเป็น
5 ชำยำ จะต้องตำย ทำให้ท้ำวกะหมังกุหนิงต้องทำศึกกับเมืองดำหำ ในที่สุดสองพ่อลูกก็จบ
ชีวิตลง และอิเหนำหลงใหลนำงจินตะหรำจนไม่ยอมอภิเษกกับคู่หมั้น ก่อให้เกิดควำม
ขัดเเย้งตำมมำมำกมำย

ต่อไปมาทบทวนความรูด้ ้วยการทา
แบบฝึกหัดในกรอบถัดไปกันเถอะค่ะ
37 บทที่ 4 คุณค่ำวรรณคดี

กรอบที่ 4 แบบฝึกหัด

แบบฝึกหัดที่ 1 ตอบโวหำร ภำพพจน์ให้ถูกต้องตำมบทกลอนที่กำหนดให้


ว่ำพลำงทำงชมคณำนก โผนผกจับไม้อึงมี่
เบญจวรรณจับวัลย์ชำลี เหมือนวันพี่ไกลสำมสุดำมำ

…………………………………………………………………………………………………………………………

หวังเป็นเกือกทองรองบำท พระผู้วงศ์เทวำอันปรำกฏ
จะขอพระบุตรีมียศ ให้โอรสข้ำน้อยดังจินดำ

…………………………………………………………………………………………………………………………

ตำยระดับทับกันดังฟอนฟำง เลือดนองท้องช้ำงเหลวไหล
กองหลังประดังหนุนเข้ำไป ตัวนำยไล่ไพร่เข้ำบุกบัน

…………………………………………………………………………………………………………………………

ถึงไม่เลี้ยงบุษบำเห็นว่ำชั่ว แต่เขำรู้อยู่ว่ำตัวนั้นเป็นพี่
อันองค์ท้ำวดำหำธิบดี นั้นมิใช่อำหรือว่ำไร

…………………………………………………………………………………………………………………………
บทที่ 4 คุณค่ำวรรณคดี 38

แบบฝึกหัดที่ 2 ยกตัวอย่ำงตัวละครในเรื่องตอนใด ที่สะท้อนให้เห็นผลของกำรใช้อำรมณ์


เหนือเหตุผล ให้วิจำรณ์ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นและให้ข้อคิดกับนักเรียนอย่ำงไร
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………

เฉลยแบบฝึกหัด กรอบที่ 5

แบบฝึกหัดที่ 1 ตอบโวหำร ภำพพจน์ให้ถูกต้องตำมบทกลอนที่กำหนดให้

1. ตอบ อุปมำ
2. ตอบ อุปลักษณ์
3. ตอบ อธิพจน์
4. ตอบ ปฏิปุจฉำ
39 บทที่ 4 คุณค่ำวรรณคดี

แบบฝึกหัดที่ 2 ยกตัวอย่ำงตัวละครในเรื่องตอนใด ที่สะท้อนให้เห็นผลของกำรใช้อำรมณ์เหนือ


เหตุผล ให้วิจำรณ์ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นและให้ข้อคิดกับนักเรียนอย่ำงไร
แนวคำตอบ ท้ำวกะหมังกุหนิง
แม้นวิหยำสะกำมอดม้วย พี่ก็คงตำยด้วยโอรสำ
ไหนไหนก็จะตำยวำยชีวำ ถึงเร็วถึงช้ำก็เหมือนกัน
ผิดก็ทำสงกรำมดูตำมที เครำะห์ดีก็จะได้ดังใฝ่ฝัน
พี่ดังพฤกษำพนำวัน จะอำสัญเพรำะลูกเหมือนกล่ำวมำ
ด้วยควำมที่รักลูกมำกจนไม่คิดให้ถี่ถ้วน ส่งผลให้ประชำชนเดือดร้อน ต้องล้มตยเพรำะกำร
แย่งชิงสตรีของกษัตริย์ กำรทำสงครำมต้องคำนึงถึงผลที่จะเป็นไปได้หำกเห็นว่ำโอกำสชนะเป็นไป
ได้ยำกก็ควรหลีกเลี่ยงและฟังคำพูด คำเตือนของคนอื่นด้วย
หมำยเหตุ คำตอบขึ้นอยู่กับดุลยพินิจครูผู้สอน

นักเรียนก็ได้ศึกษาความรู้ครบทุกบท
แล้ว ต่อไปถึงด่านสุดท้าย ลองทา
แบบฝึกหัดหลังเรียนดูนะคะ
40
แบบทดสอบหลังเรียน

คำสั่ง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด
“อันอิเหนำเอำมำทำเป็นคำร้อง สำหรับงำนฉลองกองกุศล
ครั้งกรุงเก่ำเจ้ำสตรีเธอนิพนธ์ แต่ต้นเรื่องต้นตกหำยพลัดพรำยไป
หำกพระองค์ทรงพิภพปรำรภเล่น ให้รำเต้นเล่นละครคิดกลอนใหม่
เติมแต้มต่อคิดประดิษฐ์ไว้ บำรุงใจไพร่ฟ้ำข้ำแผ่นดิน”
1. “พระองค์ทรงพิภพ” ในคำประพัน หมำยถึง
ก. รัชกำลที่ 1 ข. รัชกำลที่ 2 ค. รัชกำลที่ 3 ง. พระเจ้ำอยู่หัวบรมโกศ
2. ข้อใดคือจุดมุ่งหมำยในกำรพระรำชนิพนธ์เรื่องอิเหนำในรัชกำลที่ 2
ก. เพื่ออนุรักษ์วรรณคดีของชำติ
ข. เพื่อใช้เล่นละครรำ
ค. เพื่อให้มีควำมเหมำะสมสำหรับเล่นละครใน
ง. เพื่อปรับปรุงพระรำชนิพนธ์เรื่องอิเหนำในรัชกำลที่ 1 ให้รวบรัดขึ้น
3. ข้อใดเป็นสำเหตุสำคัญที่ทำให้ท้ำวกะหมังกุหนิงทำสงครำมกับกรุงดำหำ
ก. แม้นวิหยำสะกำมอดม้วย พี่ก็คงตำยด้วยโอรสำ
ไหนไหนจะตำยวำยชีวำ ถึงเร็วถึงช้ำก็เหมือนกัน
ข. อันระเด่นมนตรีกุเรปัน ก็ขัดข้องเคืองกันเป็นข้อใหญ่
ไปอยู่เมืองมันหยำกว่ำปีไป ที่ไหนจะยกพลมำ
ค. ด้วยบัดนี้บุตรีดำหำ จรกำให้มำตุนำหงัน
เรำจะยกพลไกรไปโรมรัน ช่วงชิงนำงนั้นกับจรกำ
ง. ฝ่ำยเรำเล่ำก็สำมพำรำ เป็นใหญ่ในชวำแว่นแคว้น
ถึงทัพจรกำล่ำสำนั้น พี่ไม่พรั่นให้มำสักสิบแสน
41
แบบทดสอบหลังเรียน

4. คำประพันธ์ต่อไปนี้แสดงว่ำผู้พูดไม่มีลักษณะตำมข้อใด
“ฝ่ำยเรำเล่ำก็สำมพำรำ เป็นใหญ่ในชวำแว่นแคว้น
ถึงทัพจรกำล่ำสำนั้น พี่ไม่พรั่นให้มำสักสิบแสน
จะหักโหมโจมตีให้แตกแตน พักเดียวก็จะแล่นเข้ำป่ำไป”
ก. มุ่งมั่นจะเผด็จศึกให้ได้โดยเร็ว ข. วำงแผนกำรรบอย่ำงรอบคอบ
ค. หยิ่งทะนงในควำมยิ่งใหญ่ของตน ง. เชื่อมั่นในกำลังควำมสำมำรถของตน
5. ข้อใดไม่ใช่คำพูดที่แสดงควำมรักศักดิ์ศรี
ก. จะสงครำมตำมตีติดพัน ไปกว่ำชีวันจะบรรลัย
ข. ผิดก็ทำสงครำมดูตำมที เครำะห์ดีก็จะได้ดังใฝ่ฝัน
ค. จำจะไปต้ำนต่อรอฤทธิ์ ถึงม้วยมิตรมีให้ใครดูหมิ่น
ง. แม้แต่ผู้เดียวจะเคี่ยวสงครำมไป จะยำกเย็นเป็นกระอะไรก็ตำมที
“หวังเป็นเกือกทองรองบำทำ พระผู้วงศ์เทวำอันปรำกฏ
จะขอพระบุตรีมียศ ให้โอรสข้ำน้อยดังจินดำ
อันกรุงไกรไอศูรย์ทั้งสอง จะเป็นทองแผ่นเดียวในวันหน้ำ
ขอพำนักพักพึ่งพระเดชำ ไปกว่ำชีวันจะบรรลัย”
6. คำประพันธ์ข้ำงต้นใช้ภำพพจน์กี่แห่ง
ก. 1 แห่ง ข. 2 แห่ง ค. 3 แห่ง ง. 4 แห่ง
7. ข้อใดสะท้อนทรรศนะของผู้พูดข้อควำมต่อไปนี้
“แม้นว่ำระตูจรกำ งำมเหมือนวิหยำสะกำนี้
จะมิได้ร้อนรนด้วยปนศักดิ์ น่ำรักรูปทรงส่งศรี”
ก. ไม่ถือเรื่องชั้นวรรณะ ข. ไม่ถือเรื่องยศศักดิ์
ค. รูปสมบัติสำคัญกว่ำฐำนะ ง. รูปสมบัติแสดงให้เห็นคุณงำมควำมดีของคน
42
แบบทดสอบหลังเรียน

8. ข้อควำมที่ขีดเส้นใต้หมำยถึงใครตำมลำดับ
เมียเขำ เขำรักดังแก้วตำ หรือจะอำจคลำดเคลื่อนเห็นผิดไป
แต่พระเชษฐำให้หำตัว ก็ไม่มีควำมกลัวยังขัดได้
เกิดณรงค์สงครำมก็เพรำะใคร จนเดือดร้อนทั่วไปทั้งธำนี
นับประสำอะไรแก่ตัวเรำ ถึงตำยเขำก็ไม่ดูผี
ก. นำงจินตะหรำ อิเหนำ ท้ำวกุเรปัน อิเหนำ วิหยำสะกำ ท้ำวดำหำ อิเหนำ ท้ำวดำหำ
ข. สองนำง อิเหนำ ท้ำวกุเรปัน อิเหนำ อิเหนำ ท้ำวดำหำ อิเหนำ ท้ำวดำหำ
ค. นำงจินตะหรำ อิเหนำ ท้ำวกุเรปัน อิเหนำ อิเหนำ ท้ำวดำหำ อิเหนำ ท้ำวดำหำ
ง. สำมนำง อิเหนำ ท้ำวหมันหยำ อิเหนำ อิเหนำ ท้ำวหมันหยำ อิเหนำ ท้ำวหมันหยำ
มำตรแม้นเสียเมืองดำหำ จะพลอยอำยขำยหน้ำหรือหำไม่
ให้ซึ่งเกิดศึกสำเหตุเภทภัย ก็เพรำะใครทำควำมไว้งำมพักตร์
9. คำประพันข้ำงต้นนี้ ใช้กลวิธีทำงวรรณศิลป์ใด
ก. กำรใช้คำเปรียบเชิงอุปลักษณ์ ข. กำรใช้คำอุปมำนิทัศน์
ค. กำรใช้คำถำมเชิงวำทศิลป์ ง. กำรใช้บุคคลสมมติ
“สตรีใดในพิภพจบแดน ไม่มีใครได้แค้นเหมือนอกข้ำ
ด้วยใฝ่รักให้เกินพักตรำ จะมีแต่เวทนำเป็นเนืองนิตย์”
10. คำประพันธ์ข้ำงต้นกล่ำวถึงควำมรู้สึกของตัวละครใด
ก. มำยำรัศมี ข. สกำระวำตี ค. จินตะหรำ ง.บุษบำ
43
แบบทดสอบหลังเรียน

สังคำมำระตำ : ยืนม้ำอยู่ตรงวิหยำสะกำ แสร้งทำเป็นทีเย้ยหยัน


แล้วว่ำใครไม่คิดแก่ชีวัน จะชิงตุนำหงันพระธิดำ
จงมำเล่นทวนด้วยกันก่อน ให้เห็นฤทธิรอนแกล้วกล้ำ
แม้ควรคู่กับวงศ์เทวำ จึงจะยกกัลยำให้ไป
วิหยำสะกำ : ดูก่อนเจ้ำผู้เรืองฤทธิรงค์ รูปทรงงำมสมคมสัน
เชื้อชำติญำติวงศ์พงศ์พันธุ์ อยู่เขตขัณฑ์ธำนีบุรีไร
หรือเป็นวงศ์อสัญแดหวำ ในสี่นครำเป็นไฉน
จึงปั้นหน้ำมำต่อฤทธิไกร ไม่กลัวชีวำลัยจะมรณำ
11. ลักษณะกำรโต้ตอบของสังคำมำระตำและวิหยำสะกำตรงกับสำนวนตำมข้อใด
ก. ขิงก็รำข่ำก็แรง ข. สำวไส้ให้กำกิน
ค. เกลือจิ้มเกลือ ง. ชำติเสือไม่ทิ้งลำย ชำติชำยต้องไว้ชื่อ
12. ข้อควำมที่ว่ำ “สุดแต่ว่ำจิตพิศวำส ก็นับเป็นวงศ์ญำติกันได้” มีควำมหมำยตรงกับข้อใด
ก. ควำมผูกพันทำงใจทำให้เป็นญำติกันได้
ข. เครือญำติควรมีควำมผูกพันซึ่งกันและกัน
ค. ควำมรักที่ลึกซึ้งของชำยหญิงเปรียบดังควำมรักของเครือญำติ
ง. ควำมรักอย่ำงดื่มด่ำของสำมีภรรยำเทียบเท่ำควำมรักของพี่น้อง
44
แบบทดสอบหลังเรียน

“กลับกรอกรำร่ำยกรำยพระแสง ปะทะแทงลวงไปให้ใหลหลง
แล้วทำเสียเชิงชักมำทรง ตลบวงเวียนหันไปทันที
นัยน์เนตรมุ่งหมำยวิหยำสะกำ เห็นถลำเลี้ยวไล่ได้ที่
พระแทงสอดรอดเกำะถูกไพรี ตกจำกพำชีมรณำ”
13. ควำมสำมำรถของสังคำมำระตำ ที่เอำชนะวิหยำสะกำในข้อควำมนี้คืออะไร
ก. กระบวนเพลงทวนเป็นเลิศ ข. ควำมว่องไวในกำรรบ
ค. กำรใช้กลยุทธ์ในกำรต่อสู้ ง. กำรควบม้ำได้ดีเยี่ยม
14. ควำมสำมำรถของอิเหนำในกำรชนะท้ำวกะหมังกุหนิงในข้อควำมนี้คืออะไร
ปะทะแทงแสร้งทำสำทับ ย่ำงกระหยับรุกไล่มิได้ยั้ง
เห็นระตูถอยเท้ำก้ำวผิด พระกรำยกริชแทงอกตลอดหลัง
ก. กำรใช้กระบวนเพลงกริช ข. กำรหลอกล่อศัตรู
ค. ควำมกล้ำหำญในกำรรบ ง. กำรตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว
ทนต์แดงดังแสงทับทิม เพริศพริ้มเพรำรับกับขนง
เกศำปลำยงอนงำมทรง เอวองค์สำรพัดไม่ขัดตำ
15. ข้อควำมนี้เจตนำจะพรรณนำให้เห็นอย่ำงไร
ก. ลักษณะหน้ำตำของวิหยำสะกำ ข. วิหยำสะกำมีรูปร่ำงหน้ำตำดี
ค. วิหยำสะกำมีรูปร่ำงอ้อนแอ้น ง. วิหยำสะกำเป็นคนสำอำง
45
แบบทดสอบหลังเรียน

16. ข้อใดเป็นทัศนะเกี่ยวกับผู้หญิงที่ไม่ได้สะท้อนจำกเรื่องอิเหนำ ตอนศึกกะหมังกุหนิง


ก. ผู้หญิงงำมเป็นชนวนของสงครำม
ข. ผู้หญิงที่แย่งสำมีผู้อื่นเป็นผู้ที่น่ำรังเกียจ
ค. ผู้หญิงที่แต่งงำนแล้วเป็นสมบัติของสำมี
ง. ผู้หญิงที่เป็นม่ำยขันหมำกย่อมได้รับควำมอับอำย
17. ข้อใดไม่ใช่ประเพณีสมัยโบรำณ
ก. แล้วคำนับรับรำชสำรพัน แห่แหนแน่นอนันต์เข้ำธำนี
ข. หวังเป็นเกือกทองรองบำทำ พระผู้วงศ์เทวำอันปรำกฏ
ค. ปะโรหิตฟันไม้ข่มนำม ทำตำมตำรำพิชัยยุทธ์
ง. ชีพ่อก็เบิกโขลนทวำร โอมอ่ำนอำคมคำถำ
18. ข้อใดไม่ใช่เหตุกำรณ์ตอนจัดทัพ
ก. เร่งรัดขุนหมื่นสัสดี ทำบำญชีหำงว่ำวเหล่ำเลกสม
เกณฑ์ทหำรพลเรือนเตือนระดม มำพร้อมกันทุกกรมมำกมำย
ข. ขุนนำงเจ้ำตำแหน่งแสงนอก เอำดำบหอกปืนพำออกมำจ่ำย
หมวกเสื้อสำหรับรบครบไพร่นำย แจกจำหน่ำยลูกดินศิลำ
ค. พวกพลพำชีตีกระทบ รำทวนสวนประจบโถมแทง
บ้ำงสกัดซัดพุ่งหอกคู่ เกำทัณฑ์ธนูน้ำวแผลง
ง. ผู้กำกับนับอ่ำนประมำณคน ได้สิบหมื่นพื้นพลอำสำ
ตั้งกองทัพสนำมตำมตำรำ เตรียมรถคชำพำที
46
แบบทดสอบหลังเรียน

19. ข้อใดเป็นกิจกรรมที่ต่ำงกับข้ออื่น
ก. แล้วรีบรัดจัดพลรณยุทธ์ ตั้งที่นำมครุฑปักษำ
วำงกองเยื้องกันเป็นฟันปลำให้โยธำคอยยิงชิงชัย
ข. ทำค่ำยหน้ำค่ำยตั้งบรรจบ ยกหอรบขึ้นปรับสับวิหลั่น
ชักปีกกำขั้นไปถึงกัน ผูกรำวสำมชั้นขันชะเนำะ
ค. ครั้นถึงเนินทรำยชำยทุ่ง แว่นแคว้นแดนกรุงดำหำ
จึงได้หยุดกองทัพตั้งพลับพลำ ที่ต้องนำมครุฑำเกรียงไกร
ง. พอได้ศุภฤกษ์ก็ลั่นฆ้อง ประโคมคึกกึกก้องท้องสนำม
ประโลหิตฟันไม้ข่มนำม ทำตำมตำรำพิชัยยุทธ์
“ดำบสองมือโถมทะลวงฟัน เรำกริชติดกันประจัญรบ
ทหำรหอกกลอกกลับสัประยุทธ ป้องปัดอำวุธไม่หลีกหลบ
พวกคนพำชีตีกระทบ รำสวนทวนประจบโถมแทง
บ้ำงสกัดซัดพุ่งหอกคู่ เกำทัณฑ์ธนูน้ำวแผลง”
20. กวีมีจุดมุ่งหมำยอะไรในกำรเขียนบทประพันธ์นี้
ก. แสดงภำพกำรรบอย่ำงชัดเจน
ข. บอกเล่ำควำมโหดร้ำยของสงครำม
ค. เจตนำจะชี้แจงรำยละเอียดให้ครบถ้วน
ง. เตือนให้ตระหนักถึงภยันอันตรำยในกำรรบ นักเรียนเก่งมากเลยค่ะ
ที่สามารถตอบคาถามโดย
ไม่เปิดดูคาตอบก่อนเสร็จ
แล้วไปตรวจคาตอบกัน
เลยนะคะ
47

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน

1. ข 6. ง 11. ก 16. ค
2. ข 7. ค 12. ก 17. ข
3. ค 8. ค 13. ค 18. ค
4. ข 9. ค 14. ข 19. ค
5. ข 10. ค 15. ข 20. ก

ตรวจให้ดวี ่าถูกกี่ข้อแล้วจดบันทึกเอาไว้นะคะ
แล้วกลับไปทบทวนจุดที่ผิด ทาความเข้าใจใน
กรอบความรู้ในบทก่อนหน้าใหม่นะคะ
48

บรรณำนุกรม
กระทรวงศึกษำธิกำร. (2550). หนังสือเรียนสำระกำรเรียนรู พื้นฐำนวรรณคดีวิจักษ์
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำไทย มัธยมศึกษำปีที่ 4 ตำมหลักสูตรกำรศึกษำขั้น
พื้นฐำนพุทธศักรำช 2544. กรุงเทพฯ: วัฒนำพำนิช.
กระทรวงศึกษำธิกำร. (2551). หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช
2551. กรุงเทพฯ: องค์ กำรค้ำรับส่งสินค้ำและพัสดุภัณฑ์.
ฐิตำพร วิภววำณิชย์. (2553). กำรพัฒนำชุดกำรเรียนวรรณคดีด้วยตัวเอง เรื่องอิเหนำ
ตอนศึกกะหมังกุหนิง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 โรงเรียนเตรียม
อุดมศึกษำ. สำรนิพนธ์ กศ.ม. (กำรศึกษำมัธยม). บัณฑิตมหำวิทยำลัยศรีน
ครินทรวิโรฒ.
รำชบัณฑิตยสถำน. (2542). พจนำนุกรม. กรุงเทพฯ.

You might also like