Professional Documents
Culture Documents
Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ 0001-0500
Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ 0001-0500
………………………………………………….
……………………………………………………
………………………………………………………
[1] หมูตายไมกลัวน้ํารอนลวก หมายถึง พรอมจะเผชิญกับความยากลําบากดวย
ความไมแยแส เพราะไมมีอะไรจะเสียแลว
[2] หงสไฟ เขากิเลน เปรียบเปรยวา ล้ําคาและหายาก
[3] นกปากสอมกับหอยกาบวิวาทกัน ชาวประมงไดประโยชน อุปมาวา สองฝาย
ทะเลาะวิวาทไมยอมกัน ปลอยใหบุคคลที่สามฉกฉวยโอกาสควาเอาประโยชนไป
บทที่ 133 น้าํ ทิพย
ทะเลทรายกวางไกล เม็ดทรายสีทองกะพริบระยิบระยับ พราตาเล็กนอย ยาม
เหยียบย่ําฝาเทาอยูดานบนยังรูสึกปวดแสบปวดรอน คลื่นความรอนโจมตีเปนระลอก
หากปุถุชนคนธรรมเดินเหินอยูที่นี่ คงยืนหยัดไดไมนานก็เปนลมลมไป ผืนทรายมี
อุณหภูมิสูงจนนาตกใจ ราวกับเตาไฟใหญโตมโหฬาร
บัดนี้ชาวสายฝนจิตใจรอนรุม เชนเดียวกับทะเลทราย เต็มเปยมดวยความเปรมปรีดิ์
เพราะพวกเขาเขาใกลจุดหมาย มองเห็นน้ําทิพยในตํานานแลว
แมจะมองเห็นบอน้ําวิเศษในระยะทางสองลี้ มีขนาดเพียงหมี่เดียวเทานั้น ไมไดใหญ
เทาใดนัก แตกลับคอนขางเตะตากลางทะเลทรายสีทองเชนนี้
แมบอน้ําวิเศษจะเล็ก กลับมีคลื่นใหญไพศาล ดุจดั่งทะเลกวางใหญกระเพื่อมขึ้นลง
นายําเกรง น้ําวิเศษเหลานั้นสวางแวววาว สองแสงวิเศษ สะทอนแสงสวางเปนสายๆ
ทั้งยังมีหมอกควันลอยขึ้น สีสันมงคลไหลทะลัก ปกคลุมที่แหงนั้น แมคนไมรูจัก ไมรู
วานี่เปนน้ําทิพย ก็อาจเขาใจวามันเปนวัตถุล้ําคา มีมูลคามหาศาล
เพราะภาพเหนือธรรมชาติตรงนั้นนาตื่นตะลึงมาก เหมาะกับลักษณะพิเศษของ
ขุมทรัพยใตดิน
“ดีเหลือเกิน เผาสายฝนเรามีหวังแลว หากพวกเราไดบอน้ําเชนนี้มาครอง ภายภาค
หนาเผาเราตองรุงโรจนอยางหาที่เปรียบมิได ปรากฏเกียรติภูมิแหงตระกูลเกาแกอีก
ครั้ง” อวี่เหวินเฉิงตื่นเตน ทั้งเผาผมและหนวดเคราสั่นระริก
คนกลุมนี้เหมอมองดวนความปรารถนาอยางหาที่เปรียบมิได น้ําเออลนเต็มบอ
หมายความวาอยางไร? คนทั้งหมดตางรูดี สําหรับเผาสายฝนถือวาเปนความสําคัญอยาง
ใหญหลวง แตละคนตื่นเตนเปนอยางมาก รางกายสั่นเทิ้ม
แคหนึ่งหยดปรากฏในโลกภายนอก ก็เพียงพอจะสรางความอึกทึกครึกโครม หนึ่ง
บอเชนนี้ไมสามารถประเมินมูลคาไดโดยสิ้นเชิง!
อวี่คุนตักเตือนวา “ระมัดระวังหนอย น้ําทิพยมีจิตวิญญาณ พวกเราหามพาลทําลาย
อักขระ ตองเขาใกลทีละนิด เชื่อมประสานมันดวยพลังและความชิดเชื้อกับน้ําแตกําเนิด
แหงเผาสายฝนเรา เพื่อใหไดมาซึ่งความเชื่อใจของมัน”
แมน้ําทิพยจะเปนบอน้ําวิเศษ แตจวนจะมีญาณวิเศษ สําแดงอักขระและกฎเกณฑ
สามารถเหาะเหินเดินอากาศ มุดทะลวงใตดิน ยากจะจับตัวไดอยางแทจริง
จําตองไดรับความไวเนื้อเชื่อใจจากมันเทานั้น หากอุกอาจนําเอามา ไมมีทางไดครอง
น้ําบอนี้มาทั้งหมดแน
ชาวสายฝนอธิษฐานอยางเงียบงัน จากนั้นกาวแลวหยุด หยุดแลวกาว สวดทอง
คาถาโบราณ พลังแหงน้ําในปฐพีนี้พลันมีชีวิตชีวาขึ้นมาชั่วขณะ สองแสงสีฟาขมุกขมัว
“โฮก…”
เสือดําตัวหนึ่งคํารนคําราม เกิดพายุหมุนสีดําขึ้นมากลางทะเลทราย มวนเนินทราย
หลายลูกขึ้นสูฟาสูง ชางเปนภาพที่นากลัว พายุหมุนนั่นขึ้นสูฟากฟาทันที
“นี่มันอะไรกัน ไยจึงปรากฏสัตวอสูรเยี่ยงนี้?” ฝูงชนตะลึงงัน
“ไมใชสัตวอสูรของจริง มันแปลงรางจากอักขระ กึ่งมายากึ่งเสมือนจริง อยาไดถูก
มันลวงหลอกเปนอันขาด” อวี่เหวินเฉิงพูดเสียงต่ํา
เขานั่งสมาธิ แมกลางทะเลทราย แตกลับมีคลื่นน้ําสีฟากระเพื่อมขึ้นลง ขยายตัวมา
จากบริเวณที่เขาอยู ขวางกั้นเสือดําตัวนั้น หมายเปดเผยตัวตนที่แทจริงของมัน
“ตูม”
เสียงระเบิดดังตูม เสือดําคําราม แตกออกเปนสี่ชิ้นหาสวนทันที กลายเปนเม็ดทราย
จํานวนมาก และพายุหมุนก็มลายหายไป
อยางไรก็ตาม เสียงลมเพิ่งหยุดลง เสียงประหลาดก็แววมา ประหนึ่งขอตอกระดูก
ผิดตําแหนง
“แกรก” “แกรก” …
เม็ดทรายสีทองสั่นสะเทือน จากนั้นผืนทรายก็แยกออก กระดูกขาวโพลนเปนกอบ
เปนกําปรากฏขึ้น รวมตัวกันอยางรวดเร็ว กลายเปนปกษารายตัวหนึ่ง เพียงแตไรปก
เทานั้น
บนหัวของมันมีอักขระเปลงแสงวูบวาบ แผคลื่นพิลึกพิลั่น กลิ่นอายนากลัวเปนอยาง
ยิ่ง
“นี่เปนผูกลาที่สิ้นชีพกลางทะเลทรายเมื่อครั้งวันวาน คิดไมถึงวาน้ําทิพยจะมีจิต
วิญญาณจริง สามารถรองเรียกกระดูกเหลานี้ใหปรากฏขึ้นอีกครั้ง”
แสงสวางกะพริบแปลบปลาบ เสียงขอตอกระดูกเคลื่อนไหวดังขึ้นอีกครั้ง เนินทราย
อีกแหงแยกออก ครั้งนี้ปรากฏโครงกระดูกหลายสิบรางขึ้นทันที ตางมีอักขระรายลอม
“สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญมากมายเพียงนี้ตายอยูที่นี่!” ฝูงชนชะงักงัน
ขณะเดียวกัน คนจํานวนไมนอยดวงตารอนเปนไฟ นั่นลวนเปนกระดูกล้ําคาทั้งสิ้น
มีหลายสิบราง ไมพูดถึงเรื่องอื่น เพียงทรัพยสินเหลานี้ก็นาตกตะลึงมากแลว
“พวกเราจะโจมตีดวยไมแข็งไมได ไมเชนนั้นจะปลุกปนน้ําทิพยใหตื่นตระหนก หาก
มันหลบหนีไป อยากจะคนหาอีกคราก็ลําบากแลว” อวี่เหวินเฉิงกลาว
“น้ําทิพยนี้เลิศล้ําเสียจริง มันมีการแปลงรางดั่งเชนเทพารักษ ทั้งยังสามารถควบคุม
โครงกระดูกเหลานี้ได” ชายชราผูเสียขาทั้งสองขางอุทาน
น้ําทิพยจะประทานชีวิตตางเผาพันธุแกโครงกระดูกเหลานี้ในชั่วพริบตา ทําให
อักขระคึกคักมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ภาพนี้นาทึ่งอยูไมนอย
“โชคดีที่พวกเราเตรียมความพรอมมาเต็มเปยม ผานการอนุมานมากหลากหลาย
คาดเดาเรื่องราวตางๆ ที่อาจเกิดขึ้นในเขารอยยอดไว” อวี่คุนพยักหนา
พวกเขานําขวดล้ําคาออกมาขวดหนึ่ง เมื่อเปดออก ไอหมอกสีเหลืองขมุกขมัวลอย
ขึ้น จากนั้นสองแสงดําทะมึนออกมาเปนกลุมๆ ทั้งสามรายเคล็ดวิชาล้ําคาพรอมกัน ปลุก
แสงดําใหเปนคลื่นเล็กๆ พุงออกไปขางหนา
แสงดําลอยลอง เคลื่อนไหวไปตามรอยคลื่น กลายเปนสิ่งมีชีวิตรางแลวรางเลา บาง
เปนปศาจ บางเปนมังกรชือ บางเปนรางมนุษย แตกตางกันออกไป
นี่เปนน้ําพุเหลืองที่เผาสายฝนสกัดออกมา มีมูลคาสูงนัก นํากระดูกอักขระจํานวน
มากหลอมดวยเตาไฟ เพิ่มน้ําใตดินกลางสุสานลงไปเคี่ยว ผสมอักขระมากมายเขา
ดวยกัน
แนนอนวา กระดูกล้ําคาทั้งหมดที่ใชยอมไมใชของสมบูรณแบบ ลวนเปนอาวุธล้ํา
คาที่เสียหายระหวางการตอสู หรือกระดูกอักขระที่เพิ่งกอเปนรูปราง มูลคาไมสูง
มิเชนนั้นเพียงน้ําพุเหลืองแคขวดเดียว ไยทําใหชนเผาใหญปวดใจอยางหาที่เปรียบ
มิได เพราะตองการกระดูกอักขระจํานวนมากหลอมรวมไวภายใน
น้ําพุเหลืองเดือดพลาน ไอหมอกลอยขึ้น แตแสงที่สองออกมากลับไมใชสีเหลือง
กลับเปนแสงสีดํา ลอยออกมาเปนกลุมๆ ปกคลุมดานหนาไว อักขระนานาชนิดสงเสียง
กังวาน ราวกับเปดขุมนรก ทําใหที่นี่มืดครึ้มนาสะพรึงกลัว
กลางทะเลทรายมีโครงกระดูกรางแลวรางเลา เคลื่อนไหวอยางเชื่องชาใตแสงดํา
ทมิฬ สุดทายก็ลมลงไป ขอตอกระดูกผิดตําแหนง สลายหายไปอยางสิ้นเชิง
“มีผลมหัศจรรยเสียจริง!” ฝูงชนดีอกดีใจ รูสึกเหิมฮึกยิ่งนัก
“สกัดน้ําพุเหลือขวดนี้ ก็เพื่อเขาสูดินแดนหวงหามแหงความตาย ไมคิดวาจะตองมา
สูญสิ้น ณ ที่แหงนี้ ดูแลวคนเราตองรูจักพอประมาณ หากไดน้ําทิพยมาแลว พวกเราก็
หลบซอนในผืนทราย อยาไดไปไหน กระทั่งทางออกแหงเขารอยยอดเปดออก”
ชาวสายฝนมองบอน้ําวิเศษเบื้องหนาดวยหัวใจฮึกเหิม แตกลับไมลืมการเตรียมตัว
ดวยบอน้ําวิเศษนี้มีญาณวิเศษ สามารถเรียกโครงกระดูกเพื่อใชงาน สวรรครูวามันจะทํา
อะไรอีก
“ไยจึงรบกวนการหลับใหลของขา” จิตออนแรงและเลือนรางปรากฏขึ้น มีความนา
พิศวง
ฝูงชนตะลึงลาน บอน้ําวิเศษนี้จะกลายรางเปนวิญญาณ ตัวมันมีความวิเศษอยางเต็ม
เปยม หากประสบผลสําเร็จ ภายภาคหนามันตองยิ่งใหญยากจะทัดเทียมเปนแน กระทั่ง
วันหนึ่งอาจจุดไฟวิเศษ ตั้งตนเปนเทพเจาไดสําเร็จ
ยังดี ตอนนี้มันเปนเพียงจิตออนแรง หางไกลจากเสนทางนั้นอีกไกล สามารถตอกร
ได
“พวกขาเปนทายาทแหงเทพเจาสายฝน เปนเผาพันธุเดียวกับเจา ไมไดคิดชั่ว…”
ชาวสายฝนลองสื่อสารกับมัน
ทันใดนั้น พสุธาแยกออก แสงสีเขียวเจิดจาลอยออกมา ตรงนั้นปรากฏเถาวัลยขึ้น
แวววาวทั้งตน ยาวหลายจั้ง ไมไดหนาใหญมากนัก แตกลับเปนดั่งมังกรเจียว รูปราง
คลายเทพเจา
“มีผูปกปกษ!” ชาวสายฝนอกสั่นขวัญแขวน
แตวัตถุวิเศษยอมมีสัตวอสูรดุรายปกปกษคุมครอง คิดไมถึงวาที่นี่จะมีเครือเถาวัลย
ดูลักษณะแลวมันคงไดรับประโยชนจากน้ําทิพย หลอเลี้ยงกานรากของมัน ทําใหมัน
เปยมดวยพลังปราณ ยิ่งใหญเหลือหลาย
“ดานสุดทายแลว เพียงโจมตีเถาวัลยวิเศษนั่นใหแพพาย น้ําทิพยก็จะตกเปนของ
เรา” ชาวสายฝนกําหมัดแนน ดวงตาแววโรจน
“ขาจะไปรบกับมันสักตั้ง” อวี่คุนกาวออกมา
“ระวังตัวดวย รบใหพายได แตทํารายมันอยางแทจริงไมได ไมเชนนั้นน้ําทิพยอาจ
พิโรธ หลบหนีหายไปทันที” อวี่เหวินเฉิงเตือน
“วางใจเถิด” อวี่คุนพยักหนาแลวมุงหนาเดิน เขาเสกหนังสัตว อักขระทวมทน
ทองฟา กลายเปนถุงหยินหยาง สองแสงสวางอันไมสิ้นสุด จะดูดเถาวัลยเขาไป
“ชางเปนอาวุธล้ําคาที่ประหลาดนัก!” ไกลออกไป เจาตัวเล็กโผลหัวออกมาจากกอง
ทราย พูดดวยสีหนาตะลึงงัน
“แข็งแกรงจริง แตนี่หางไกลจากถุงหยินหยางในตํานานอยูมากโข นี่เปนเพียงของ
ลอกเลียนแบบเทานั้น ของแทหลอมจากหนังของอสูรบรรพกาลชั้นฟาหลายแผน นากลัว
จนยากจะจินตนาการ เก็บทุกสรรพสิ่งได” เซียวเทียนชายชุดเงินกลาว
เจาตัวเล็กไดยินก็นิ่งอึ้งไป จิตใจลองลอยเขาไปหา ผูวิเศษบรรพกาลและเทพเจา
ยิ่งใหญถึงเพียงใดกันแน?
“อยาฝนเฟอง ถุงหยินหยางเปนหนึ่งในอาวุธล้ําคาที่สุดตั้งแตอดีตเปนตนมา มิ
เชนนั้น เจาคิดวาจะสามารถเขนฆาสังหารปกษาเทพเจาบรรพกาล หรืออสูรบรรพกาล
ใหเจานํามาทําอาวุธล้ําคารึ? พวกมันสามารถสังหารเทพเจาเชียวนะ” เซียวเทียนปลุก
เขาตื่นจากภวังค
กลางทะเลทรายเกิดสงครามดุเดือด แมจะเปนเพียงของเลียนแบบ แตถุงหนังสัตวก็
นากลัวมากเชนกัน อักขระไมสิ้นสุด เสมือนกับจะดูดทะเลทรายผืนนี้เขาไปอยางแทจริง
เถาวัลยก็นากลัวมากเชนกัน ลอยขึ้นมาทั้งราก กลายเปนมังกรเจียวสีเขียวตัวหนึ่ง
อักขระกะพริบแวบวับ แสงสวางลอยออกมาเปนสายๆ จากนั้นพุงเขาไปในถุงหยินหยาง
“ดี ดูดเขาไปแลว ควบคุมมันไดแลว!” ชาวสายฝนยินดีปรีดา
อยางไรก็ตาม พวกเขายังไมทันไดโหรอ งดวยความดีใจ ถุงหนังสัตวกลับขาดรุงริ่ง
เถาวัลยวิเศษลอยออกมา กวาดผานไป อวี่คุนกระอักเลือดคําใหญ กระดูกหักหลายที่
ไดรับบาดเจ็บสาหัส เขาแพพายเสียแลว
“ยิ่งใหญเหลือเกิน เถาวัลยวิเศษรายกาจยิ่งนัก ทําลายถุงหยินหยางเสียอยางนั้น
พวกเรารับมือไมไหว!” ชาวสายฝนดั่งน้ําเย็นรดหลัง[1] เย็นวาบไปทั้งตัว เกิดความวิตก
กังวลขึ้นระลอกหนึ่ง
“คิดดูแลวคงตองใชไมตายเสียแลว รับไมไดจริงๆ นั่นเปนถึงการตกทอดอันเปน
ความลับของเผาสายฝนเราอยางแทจริง” อวี่เหวินเฉิงถอนหายใจ
“สูญสิ้นก็สูญสิ้นเถิด มิเชนนั้นก็ไรซึ่งพลังการตอสูสิ่งใดเปนพิเศษ เพียงตองการให
วิญญาณเกิดความสะพรึงกลัวก็เทานั้น” อวี่คุนเช็ดรอยเลือดตรงมุมปาก
ไกลออกไป เจาตัวเล็กลูกตากลิ้งไปมา จองภาพเหตุการณประหลาดเบื้องหนาดวยสี
หนาชอบกล
“พวกเขาตั้งแทนบูชาขึ้น จะทําอะไรนะ?” นกแดงยักษเองก็เกิดความกังขา
ชาวสายฝนลวนคุกเขาลง แทนบูชาดําสนิทสูงไมเกินเซี๊ยะ วางตั้งอยางดี กระดาษ
เหลืองซีดถูกกางบนแทนบูชา อวี่เหวินเฉิงและคนอื่นๆ ทองคาถาเงียบๆ ปลุกระดมเคล็ด
วิชาล้ําคา เริ่มทําการเซนสรวง
ทันใดนั้น กระดาษสีเหลืองใบนั่นสองแสง ลุกโชติชวงขึ้นมา จากนั้นตัวอักษรก็
ปรากฏขึ้นเปนจํานวนมาก ทะลุกระดาษออกมา ประทับรอยอยูกลางนภา พรางพราว
ประหนึ่งดวงดารา
“หลักธรรมแหงเทพเจา!” เซียวเทียนตัวสั่น รูสึกตื่นตระหนกตกใจอยางหาที่เปรียบ
มิได
ชั่วขณะที่เคลิบเคลิ้ม พวกเขาไดยินเสียงสวดมนตของเทพเจาบรรพกาล คาถา
โบราณแววมาจากโลกโบราณกาล เครงขรึมและศักดิ์สิทธิ์ ทําใหเกิดความเคารพเลื่อมใส
อยากจะกมลงคํานับอยางอดทนไมได
“นี่มันอะไร…” น้ําทิพยสงเสียงงงงวย และเถาวัลยนั่นก็สั่นระริก หมอบคลานอยู
หนาบอน้ํา
“นี่เปนหลักธรรมที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษแหงเผาสายฝนเรา แมจะไมใชตัวอักษร
ที่เขียนขึ้นเอง เปนเพียงคําบอกเลา แตกลับจารึกเสียงวิเศษบางสวนไว เพียงพอจะ
พิสูจนไดวาเราเปนเผาพันธุเดียวกัน ลวนใกลชิดกับสายน้ํา” อวี่เหวินเฉิงกลาว
ไกลออกไป เจาตัวเล็กหวาดหวั่น หลักธรรมที่สืบทอดจากเทพเจาสายฝน เปนเพียง
คําบอกเลาเทานั้น แตกลับมีอานุภาพถึงเพียงนี้ หากเปนตัวอักษรที่ลงมือเขียนเองจริงๆ
เชนนั้นแลวหลักธรรมที่เหลือไวจะนากลัวปานใด?
หากมีตัวอักษรสืบทอดอยางแทจริง ตองสามารถเขนฆาสังหารผูดํารงอยูที่แข็งแกรง
จํานวนมากเปนแน ทําลายอาวุธล้ําคานานาชนิดใหสิ้นซาก!
การสื่อสารงายดายหนนี้ เผาสายฝนพิสูจนวาตนเปนทายาทแหงเทพเจาสายฝน อีก
ทั้งยังสมบัติแหงเทพเจาหลายตอหลายอยาง ลวนไมใชอาวุธล้ําคา เพียงใชแทนฝนหมึกที่
เคยผานการใชงาน หินทับกระดาษเปนตน แตกลับมีแสงสวางบริสุทธิ์ผุดผองไหลเวียน
สิ่งของเหลานี้ปราศจากอักขระ ไมสามารถสําแดงพลังการตอสูได แตกลับพิเศษยิ่ง
นัก กลิ่นอายเชนนั้นทําใหน้ําทิพยรูสึกสนิทชิดเชื้อ อนุญาตใหเผาสายฝนเขาใกลในที่สุด
“พวกเราพาเจาออกจากโลกใบเล็กนี้ ไปยังเผาสายฝน ที่นั่นสามารถทําใหเจาเติบโต
ไปอีกหนึ่งขั้น ไมแนวาอาจกลายเปนเทพเจาก็เปนได!” อวี่คุนกลาว
หลังจากน้ําทิพยสัมผัสไดถึงกลิ่นอายของเทพเจาสายฝน ทาทีที่มีตอพวกเขาก็
เปลี่ยนแปลงไปอยางสิ้นเชิง ยินยอมคลอยตาม ถึงอยางไรก็มันก็เปนเพียงจิตเลือนราง
เทานั้น ไมมีความคิดลึกซึ้งมากนัก
“สําเร็จแลว เราควรทําอยางไร?” เจาตัวเล็กเบิกตากวาง มองไปเบื้องหนา เร็ว
เหลือเกิน หักมุมเหนือความคาดหมาย
“เผาเซียวไดตระเตรียมวัตถุล้ําคาอยางหนึ่งแกขา เพียงเขาใกลน้ําทิพย ก็สามารถชิง
ของเหลววิเศษมาไดหนึ่งอุงมือ นาเสียดายที่ตอนนี้เผาสายฝนถึงจุดหมายกอนดวยความ
รวดเร็ว มีพวกเขาคอยเฝาระวัง หากจะบุกเขาไปนั้นอันตรายเกินไป” เซียวเทียนกระวน
กระวาย รูสึกเสียดายอยางสุดแสน
เจาตัวเล็กไดยินก็กลาวดวยนัยนตาเปนประกายขึ้นมาทันใดวา “ขาไมเกรงกลัว
อันตราย ใหขาลองดูสักตั้ง!”
บัดนี้ชาวสายฝนสีหนาเครงขรึม เชื้อเชิญน้ําทิพยเขาสูหมอหยกอยางจริงจังและ
เคารพนบนอบ เพื่อนํามันไป
ทุกคนลวนตื่นเตนเราใจ ไมคิดเลยวาจะไดน้ําทิพยมาครอบครองอยางแทจริง เผา
สายฝนตองรุงเรืองอยางหาที่เปรียบมิได วันขางหนาอาจสรางประเทศไดดวยเหตุนี้!
พวกเราตางเปนผูมีคุณงามความดีตอบานเมือง ภายภาคหนาตองเรืองอํานาจอยาง
ที่สุด
“แมพวกเราจะเปนสวนหนึ่งของเผาสายฝน แตทุกสิ่งที่ทําตองสงผลตอคนแซอวี่
ทั้งหมดทั้งมวล เผาแหงขาจะตองพุงทะยานขึ้นอีกครา!”
“ขารอเวลานานนี้มาเนิ่นนานแลว ใกลจะสําเร็จแลว!”
น้ําทิพยลอยกลางอากาศ กลายเปนกลุมแสง หายลับไปในหมอหยกจนสิ้น ไมเหลือ
แมแตหยดเดียว
ชาวสายฝนทอดถอนหายใจดั่งยกภูเขาออกจากอก
“ไมมีเวลาแลว สงขาออกไป!” เจาตัวเล็กใหเซียวเทียนเสกอาวุธล้ําคา เขาเตรียม
อาศัยแรงระเบิดของมัน บุกทะลวงเขาไปทันที
เสียงวิ้งดังขึ้น ปรากฏโลขึ้นในมือของเซียวเทียนใชเปนเกราะกําบัง แสงสีเขียว
ไหลเวียน กะพริบอักขระอันไมสิ้นสุด เขาออกแรงกวัดแกวง
เจาตัวเล็กตะโกนหนึ่งเสียง กระโดดขึ้นอยางดุดัน สองเทาเหยียบบนโล ระเบิดพลัง
มหาศาลแลวกระโจนออกไปทันที
ตองรูวา เพียงเขากระทืบเทาทั้งสองก็เพียงพอจะทลายปฐพี เขามีการระเบิดพลังอัน
ยากจะทัดเทียม สามารถอาศัยมันพุงทะยานขึ้นฟาสูง ไปยืนอยูบนยอดเขาสูงได
ตอนนี้เขากําลังระเบิดพลังที่ผูอื่นยากจะบรรลุถึง แตกลับเปนแนวนอน พุงตรงไปยัง
หมอหยกใบนั้น ดวยความเร็วสูงสุด กระแทกลงไปราวกับฝนดาวตก
ในตอนนี้ เจาตัวเล็กไมเพียงระเบิดพลังพุงตัวออกไปไดสําเร็จ ชายชุดเงินเซียวเทียน
เองก็ทะยานออกไปแลว แตเขานั้นถูกสะเทือนจนตัวลอย ไมคิดวาอาวุธล้ําคายิ่งใหญใน
มือจะปริแตก ผลักเขาใหลอยออกไปไกลหาหกลี้ จากนั้นโลก็ระเบิดออกเปนเสี่ยงๆ
เขาตะลึงจนอาปากคาง หากไมใชเพราะเจาตัวเล็กตักเตือนเขา ใหใชอาวุธล้ําคาอีก
ชิ้นหนึ่งคุมกันรางกาย แขนทั้งสองขางของเขาคงระเบิดจนแหลกละเอียดเปนแน
“ขาตัวลอยออกมาไกลนับหาหกลี้?” เขาไมอาจเชื่อ เทาคูนั้นของชายหนุมคนนั้น
ตองมีพลังนากลัวปานใดกัน
และที่ตื่นตะลึงเชนเดียวกันคือเผาสายฝน ความปติดีใจและความตื่นเตนแข็งตัวอยู
บนใบหนาของคนทั้งหมด นี่เปนหายนะรวงจากฟาอยางแทจริง น้ําทิพยถูกรบกวนเขา
แลว!
เด็กเหลือขอคนหนึ่งดั่งอุกบาตร รวงหลนจากฟา กระแทกลงในหมอหยก แหวกวาย
อยูขางใน กลืนน้ําทิพยอึกใหญอยางตอเนื่อง
ชาวสายฝนมึนงงสิ้นดี นี่มันเหลือเชื่อเกินไป ภาพลวงตา ตองเปนภาพลวงตา
แนนอน!
…………………………………………………………..
…………………………………………………………
……………………………………………………..
…………………………………………………….
…………………………………………………………
……………………………………………………..
[1] ปดฟาขามทะเล หมายถึง ใชวิธีหลอกลวงตางๆ ทําการเคลื่อนไหวอยางลับๆ
บทที่ 142 กระแสน้ําวิเศษ
ประตูมโหฬาร เขาหินทั้งสองมีสีน้ําตาลหมน ทนทานและเกาแก ตั้งตระหงานเชนนี้
ไมรูกี่ปมาแลว
นับตั้งแตเหลานักปราชญบรรพกาลหลั่งเลือดกระทั่งวันนี้ ทุกๆ หลายรอยปจะมี
วีรบุรุษหนุมสาวเขาสูเขารอยยอด คนมากมายมายังที่นี่ คนหาอาวุธล้ําคาอันเลื่อมใส
เมื่อเจาตัวเล็กเขามา มีอัจฉริยะแหงเผาพันธุใหญกลุมหนึ่งฝาเขาไปกอนแลว ตอมา
กระแสคนดุจน้ําหลาก หลั่งไหลสูภายในตามมา
ซากปรักหักพังนี้กวางขวางไรขอบเขต หมอกดํารายลอมเปนเสนๆ แผนดินทั่ว
บริเวณมืดสลัว ไมสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่ไกลเกินไปไดชัดเจน บนธรณี เศษหิน
เศษปูนเปนพืด แนวกําแพงพังทลายมากมาย นี่เปนโบราณสถานครั้งบรรพกาลแหงหนึ่ง
“ชริ้ง”
แสงสวางพุงเปนสายออกมาจากซากปรักหักพัง ประหนึ่งดายสีเงิน ทะลวงนภาไป
อยางรวดเร็ว ตะลึงจนฝูงสะดุงสะเทือน เสมือนลอยขึ้นจากขางกาย
“ตามไป!”
อัจฉริยะกลุมใหญรองลั่น วิ่งเปนพัลวัน มุงหนาไลตามไปยังที่หางไกล นี่เปนอาวุธล้ํา
คา ทั้งยังมีญาณวิเศษ หากจับได มีมูลคามหาศาล
“อาวุธล้ําคาฝงตัวในซากปรักหักพังทั้งสิ้นหรือ?” เจาตัวเล็กฉงนสนเทห เขามองเห็น
ดายเงินเสนเมื่อครูไดอยางชัดเจน มันเปนกิ่งไมหนึ่งกิ่ง ผานกาลเวลาอันเนิ่นนานแตไมผุ
พัง ความวิเศษเปยมลน
“อาวุธล้ําคาเหลานี้ลวนมีชีวิต ไมมีทางซอนเรนในที่เดียวกัน มักจะเปลี่ยนแปลง
ตําแหนง สามารถปรากฏขึ้นทุกที่” อีกาไฟกลาว
สิ่งมีชีวิตกลุมหนึ่งเดินมาดวยกัน นอกจากเจาตัวเล็กแลวลวนเปนทายาทอสูรบรรพ
กาล แข็งแกรงทรงพลัง ยากลึกหยั่งถึง ปุถุชนคนธรรมดาไมกลาเขาใกล
โบราณสถานแหงนี้กวางใหญอยางยิง่ ยวด ทอดยาวไปไกลถึงสุดขอบฟา นอกจาก
เศษหินเศษปูนแลว ไกลออกไปยังมีขุนเขาหักทลาย มีแสงล้ําคาพุงขึ้นอยางตอเนื่อง
ทามกลางเมฆหมอกอันเลือนราง
พวกเขาเดินเขาไปลึกมากขึ้น ย่ําเทาลงบนเศษหินเศษปูนที่คงอยูมาตั้งแตบรรพกาล
สงเสียงดังกรอบแกรบ เสมือนไดยินกระแสเสียงตอสูตางๆ เมื่อครั้งนั้น เดินอยูที่นี่ทําให
จิตใจยากจะสงบ
“ฮือ…”
ไอมวงกลุมใหญลอยขึ้น สงเสียงรองคร่ําครวญ อาวุธล้ําคาอีกหนึ่งชิ้น มันคือเขาสัตว
สีมวง ทะลวงซากกําแพง พุงไปที่หางไกล
“ตามไป!”
เจาตัวเล็กตะโกนบอก ฝูงทายาทอสูรบรรพกาลตารอนอยูนานแลว เขานี่ตองมิใช
ของธรรมดาแน เสียงของมันดั่งคําสาปแชง ทําใหวิญญาณแทบแหลกสลาย คงเปนอาวุธ
ล้ําคาที่หายากเปนแน
นกแดงยักษแผดรองบรูว ใชปกขางหนึ่งแทนฝามือ หิ้วหมอดํา ขวางออกไปอยาง
รุนแรง กระแทกลงบนเขาอันนั้น
“ตูม!”
ถูกกระแทกเขาอยางจัง แตเขาสีมวงกลับไมไดรับอันตราย หมอกขมุกขมัวลอยขึ้น
พรางพรายมากขึ้น หมอดําสะเทือนจนแตกแยก ชนกับราชวังใหญโตมโหฬารพังทลายที่
อยูหางไกล ฝุนควันพวยพุง
“ทุกคนลงมือพรอมกัน!”
สิงโตเกาเศียร เตียวมวง อีกาไฟ ผูกลาเผาสามเนตร และเจาตัวเล็กเคลื่อนไหวพรอม
กัน อักขระแผเต็มทองฟา ปกคลุมไปยังเขาสัตวนั่น
ขณะเดียวกัน พวกเขาก็วิ่งดวยความเร็วสูงสุด เขาลอมหมายจัดการอาวุธล้ําคาที่มี
ญาณวิเศษชิ้นนี้
“ชริ้ง”
เขาสีมวงเปลงแสง เจิดจามากยิ่งขึ้น ทะลวงฟาทันที กระโจนเขาไปในฟากฟาสลัว
รวดเร็วยิ่งนัก หายไปในชั่วพริบตา
“แข็งแกรงเสียจริง!”
“อาจเปนของเหลือจากเหลานักปราชญ ความวิเศษเปยมลน ไมไดรุกโจมตีก็มี
อานุภาพถึงเพียงนี”้
พวกเขาอาลัยเปนอยางมาก จองมองตาคางอยางอับจนหนทาง
เสียงวิ้งดังขึ้น ทองนภาสั่นระริก แสงขาวโพลนดุจกาแล็กซี่ปรากฏขึ้น กวาดผานบั้น
เอวของเจาตัวเล็ก คมมีดนาสะพรึงกลัวนี้ตองการฟนสันหลังของเขาใหขาด
เขาหลบหลีกอยางรวดเร็ว คมมีดดุจสายรุง พุงเฉียดกายเขาไป หั่นกอนหินหนักแสน
กวาชั่งจนแยก ดานหนาตัดราบเรียบดุจกระจก!
ดาบเลมนี้คมกริบอยางหาที่เปรียบมิได แหลมคมนากลัว หากฟนกายเขาคงไรซงึ่
หนทางรอดใหเอยถึง ยิ่งใหญเหลือเกิน!
“อาจหาญลอบสังหารพวกขารึ?” นกแดงยักษเผยแววตาชั่วราย มันเพิ่งจะเลื่อนขั้น
ความสามารถเพิ่มขึ้นอยางมากโข มันคิดอยากหาคนมาทดลองความฝมือเสียหนอย
เจาตัวเล็กขมึงถึง ใบหนาปรากฏความโกรธเกรี้ยว ทอดมองไปทิศทางนั้น เห็นเพียง
ชายชุดครามคนหนึ่งลาถอยไปดวยความไว
“สังหาร!”
นกแดงยักษตะโกนลั่น กระพือปกบินขึ้น กระโจนออกไปไกลอยางรวดเร็ว มัน
สามารถเหาะเหิน ความเร็วยอมเหนือกวามนุษย
“พวกเราไปพรอมกัน กลาลงมือตอหนาพวกเราที่มีมากมายเชนนี้ ไมเห็นพวกเราอยู
ในสายตาหรือ?” สิงโตเกาเศียรคํารนคําราม อาปากผิวเสียงใส แสงสวางสีทองทวมทน
ซากปรักหักพัง
ทายาทอสูรบรรพกาลกลุมใหญกอจลาจล ติดตามนกแดงยักษ สิงโตเกาเศียร และ
เจาตัวเล็กเพื่อไลลาสังหารพรอมกัน
“เครง”
เปลวไฟแตกกระเด็นเซ็นซานกลางนภา หมอดําของนกแดงยักษปะทะกับมีดบินเลม
หนึ่งอยางรุนแรง สองแสงสวางไสวเปนระลอก เสียงดังตึงตัง
“เร็วเขา แมงเอย เจอคนโฉดเขาแลว!” นกแดงยักษกรีดรองเพื่อขอความชวยเหลือ
เจาตัวเล็กแมจะไมสามารถเหาะเหิน แตมีความเร็วอยางยิ่งยวด ไลตามมาถึง เสก
กระจกล้ําคาซวนหนี สองแสงสายฟา เล็งหมายสังหารชายชุดครามคนนั้น
“โฮก…” สิงโตเกาเศียรก็คํารามลั่น มีพลังอันสามารถกลืนกินคีรีธารา อักขระสีทอง
กระเพื่อมดั่งมหาสมุทร โหมซัดไปดานหนา
“กา!” อีกาไฟรองลั่น เสียงของมันไมเปนมงคล เปลวไฟอันไมสิ้นสุดลุกโหม ปกคลุม
เบื้องหนา
ดวงตากลางหวางคิ้วของผูกลาเผาสามเนตรเบิกกวาง แสงวิเศษสีน้ําเงินลอยออกมา
สงเสียงดังครืนครัน
ชายชุดครามยิ่งใหญเปนอยางมาก แตภายใตการโจมตีของเจาตัวเล็ก ทามกลางการ
จูโจมของเหลาทายาทอสูรบรรพกาล ค้ํายันไมไหวขึ้นมาทันที กระอักเลือดคําใหญ ดาบ
กระดูกในมือสงเสียงแตกราว ปรากฏรอยแยก อีกทั้งมุมปากหลั่งเลือด
ดวงตาของเขาปลอยลําแสงนาหวาดกลัว ในใจโศกเศราอยางหาที่เปรียบมิได อาวุธ
ล้ําคาในมือปรากฏรอยราว กระดูกมันขลับหมนแสง ทําใหเขาโกรธาและปวดใจ
“เอะ เปนชายหนุมคนหนึ่งแนะ!” เตียวมวงประหลาดใจ
ชายชุดครามเสนผมปลอยสยาย เผยโฉมหนาแทจริง มองดูแลวทาทางอายุคงยี่สิบ
หายี่สิบหกป มิใชอัจฉริยะหนุมสาวแตอยางใด เห็นไดชัดวานี่เปนผูผนึกคนหนึ่ง
เจาตัวเล็กตะลึงพรึงเพริด ครุนคิดอยางเงียบงันจากนั้นพุงไปขางหนาอยางรวดเร็ว
แลวพูดวา “สังหาร!”
ฝูงชนติดตาม เริ่มไลลาคนๆ นี้
แมชายชุดครามจะมากพลัง เหนือกวาอัจฉริยะทั่วไปอยูมากโข แตกลับจนตรอก
อยางสุดแสน ถูกฝูงทายาทอสูรบรรพกาลไลลาเชนนี้ ผูผนึกเองก็มีความสามารถไม
เพียงพอ กระอักเลือดอยางตอเนื่อง รางกายแทบจะถูกฟนขาด
“ผลุบ”
เจาตัวเล็กเสกกระจกล้ําคาซวนหนีสําแดงเดช สายฟาเสนหนึ่งฟาดลงบนไหลซาย
ของเขา เกิดรอยเลือดเลือนรางขึ้นมาทันที กระดูกสะบักแยกออก แขนขางนั้นแทบจะ
หลุดรวง
ชายชุดครามรองโหยหวน สุดทายก็กัดฟน นํายันตแผนหนึ่งออกมาจากกลางอก
แปะไวใตฝาเทา เขาแปลงรางเปนลําแสงหายลับไปในโลกหลา
“ชางเปนยันตที่แข็งแกรงเหลือเกิน นี่เปนผลิตผลแหงอดีตกาล คงไดมาจาก
โบราณสถานแหงนี้เปนแนแท มูลคามหาศาล!”
“ยันตเชนนี้มีจํานวนการใชที่จํากัด เขาใชไดไมกี่ครั้งหรอก”
ทายาทอสูรบรรพกาลเหลานี้มีประสบการณกวางขวาง มองออกวานั่นคือ ‘ยันตยน
พื้นที่’ ตางอุทานอยางอดไมได ชายชุดครามคนนี้โชคดีเสียจริง คาดไมถึงวาจะมีการเก็บ
เกี่ยวจากกลางซากปรักหักพัง
“สมควรตาย ดาบกระดูกของขาแตกระแหงเสียแลว” ชายชุดครามสาปแชงในที่
หางไกล ใบหนาเปอนเลือด อัปลักษณเปนอยางมาก เขาจนตรอกอยางยิ่ง
“อยาคิดวาตนเปนผูผนึกแลวจะสามารถสังหารเด็กคนนั้นได เขาตอกรดวยยากนัก”
ชายชราผูหนึ่งเอยปาก
ในบริเวณใกลเคียงยังมีคนอีกหลายชีวิต แตละคนตางมีกลิ่นอายนากลัว ลวนไม
ธรรมดา
“พวกเราโจมตีพรอมกัน สังหารทายาทอสูรบรรพกาลเหลานั้นใหสิ้นซาก บนกาย
ของพวกมันตองมีอาวุธล้ําคาเปนแน สังหารพวกมันงายยิ่งกวาคนหาในซากปรักหักพัง”
ชายหนุมชุดครามกลาว
“ทายาทอสูรเหลานั้นมีความเปนมาที่ยิ่งใหญ หากเขนฆาอยางลับๆ สักตัวสองตัว
ของไมเปนไร แตหากสังหารทั้งหมด ถูกคนพบเขาแลวรั่วไหลออกไป อาจนําหายนะครั้ง
ใหญมาสูเผาเรา!” ชายชราผูหนึ่งกลาวเสียงทุม
พวกเขามาจากตระกูลใหญ เปนหนึ่งในสี่ตระกูลใหญที่ถูกเจาตัวเล็กขูกรรโชกในโลก
แหงความวางเปลานั่นเอง
อีกฟากหนึ่งก็มีกลุมคนกําลังประชุมลับ จะตอกรกับเจาตัวเล็ก อีกทั้งยังมีคนเริ่ม
เคลื่อนไหวแลว เคลื่อนไหวเขาประชิดอยางลับๆ เตรียมการโจมตีอยางรวดเร็วดุจสายฟา
ฟาด
กลางซากปรักหักพัง เจาตัวเล็กตื่นตัวเปนเวลานานแลว เขามีประสาทสัมผัสวองไว
สํารวจเหตุการณเปลี่ยนแปลงเล็กนอยบริเวณรอบๆ ตลอดเวลา
“มีคนจะจัดการพวกเรา!” ครั้งนี้ เจาตัวเล็กเตือนลวงหนา
“ยังไมจบสิ้นหรือ? ฉีกทึ้งพวกมันพรอมกันเลย!” นกแดงยักษรองตอบ
สิงโตเกาเศียร เตียวมวง ผูกลาแหงเผาสามเนตรลวนพิโรธ กระโจนไปขางหนา
พรอมกัน แสงสวางระยิบระยับ เคล็ดวิชาล้ําคาพุงขึ้นพรอมกัน กระแสเสียงนาตกตะลึง
อยางที่สุด ผูผนึกเหลานี้ตะลึงงัน จากนั้นหันหลังหนีไปทันที
“สมควรตาย ทั้งที่พวกขาเพิ่งมาเยือน กอนหนานี้ไมเคยถูกเปดเผยนี่นา!” คนแหง
ตระกูลนี้ไมรูวามีชายชุดครามลงมือไปกอนแลว
กลางซากปรักหักพังชุลมุนวุนวาย เหลาทายาทอสูรบรรพกาลสูศึก อานุภาพนา
หวาดหวั่น ผูกลาสี่ชีวิตถูกปลิดชีพจนเลือดทวมกาย ไตขึ้นฟาก็ไรหนทาง แทรกแผนดินก็
หนีไมพน สุดทายถูกสังหารจนหมดสิ้น
“ชิงชังนัก ไยเด็กอํามหิตคนนี้จึงมากับทายาทอสูรบรรพกาลเหลานี้ได ยิ่งใหญถึง
เพียงนี้!” ผูคนแหงตระกูลนี้ตางโมโหโทโส เรงตามมาจากที่หางไกล
สองวันตอมา เจาตัวเล็ก สิงโตเกาเศียร นกแดงยักษ อีกาไฟเปนตน เสมือน
กลายเปนราชัน กวาดลางภายในซากปรักหักพัง มีผูยั่วยุปลุกปนนอยยิ่งนัก
ในระหวางนี้ พวกเขาไลฆาผูผนึกแหงเผาพันธุมนุษยอยูหลายครั้งหลายครา เพียง
มองเห็นผูมีอายุมาก เขาใกลอยางเงียบเชียบ พวกเขาจําตองไลลาอยางบาระห่ํา
พลแหงสี่ตระกูลใหญที่ลวงหนามากอนตางเคียดแคน ใครสังหารใครกันแน? พวก
เขาระดมผูกลาเขาสูเขารอยยอด หมายจัดการเด็กเหลือขอ ปรากฏวาเมื่อเขามาแลว ไย
กลับถูกไลทุบตีเชนนี้?!
โบราณสถานกวางขวาง ไรขอบเขตไรที่สิ้นสุด เดินทางอยูสองวันก็ยากจะมองเห็น
จุดสิ้นสุด ระหวางนีพ้ วกเจาตัวเล็กพบอาวุธล้ําคาทั้งสิ้นสิบกวาชิ้น แตกลับบินหายไปใน
ฟากฟา ยากจะจับตัวได
ทันใดนั้น เสียงดุจน้ําปาดังขึ้น ณ เสนขอบฟาเกิดแสงสวางโชติชวง ประหนึ่งดวง
อาทิตยเกาดวงลอยขึ้นพรอมกัน ทําใหหมอกดําเปนเสนๆ กระจัดกระจาย สงเสียงดั่ง
สายฟาคําราม
“แยแลว รีบหนีเร็ว อาวุธล้ําคามากมายฟนคืนชีพ กอตัวเปนกระแสน้ําวิเศษ!” มีคน
ตะโกนลั่น
เบื้องหนามีสิ่งมีชีวิตนับหมื่นวิ่งหนีกลับมา ใบหนาซีดเผือกไรสีเลือด หนึ่งในนั้นมี
วานรคลั่งผูยิ่งใหญ ซวนหนีผูนากลัวเปนตน ไมเวนแตเหลาราชนิกูลแหงเผาพันธุมนุษย
สิ่งมีชีวิตที่เขาสูซากปรักหักพังตางหลบหนีกันจาละหวั่น หวาดหวั่นจนถึงขีดสุด!
“โอสวรรค อาวุธล้ําคาฟนคืนชีพ เขนฆาสิ่งมีชีวิตที่เขาสูซากโบราณสถาน รีบหนีเร็ว
เขา!” อีกาไฟรองลัน่ หลายวันกอนเคยเกิดเหตุจลาจลเชนนี้ขึ้นครั้งหนึ่ง ครัง้ นั้นมี
อัจฉริยะลมตายไมรูตั้งเทาไหร
มันกระพือปกทะยานขึ้นฟา แปลงรางเปนแสงดําทมิฬ ไปยังที่หางไกลในพริบตา ไม
สามารถตอตานไดอยางสิ้นเชิง
“โฮก…” สิงโตเกาเศียรคําราม รางกายกําจายแสงทอง เทาย่ําลูกประคําวงหนึ่ง หนี
ไปไกลอยางรวดเร็ว
นกแดงยักษ เตียวมวง ผูกลาแหงเผาสามเนตรเองก็ไมละเวน หันหลังแลวหนีทันที
มันมิใชสิ่งที่กําลังของมนุษจะตานทานได นากลัวเหลือเกิน
ณ เสนขอบฟา สุระเสียงดุจสายฟาคําราม แสงสวางลุกโชติชวง แผคลุมฟาดินอยาง
สิ้นเชิง ราวกับนกครุฑ ปกษาเทพเจาบรรพกาลหลายสิบตัว สูงใหญตระหงานเสียดฟา
สองสวางไปทั่วซากปรักหักพัง
อาวุธล้ําคาเหลานั้นอยูรวมกัน เปลงแสงสวางกระทําการเขนฆาสังหาร เสมือน
กระแสน้ําวิเศษอยางแทจริง เสียงดังกึกกอง หมดหนทางจะตอตาน
สิ่งมีชีวิตมืดฟามัวดิน หนีเตลิดเปดเปงไปทั่วทุกสารทิศ
เจาตัวเล็กเบิกตากวาง มองเห็นวัตถุล้ําคามากมาย ลวนเปนสิ่งที่ปลุกเสกมาจาก
กระดูกล้ําคากับหนังแหงทายาทอสูรบรรพกาลที่แข็งแกรงอยางยิง่ เชนปกวิเศษของอีกา
ทอง เขาสีเทาของมังกรเจียว กระดองล้ําคาของเตาวิเศษ… เปนวัตถุล้ําคาอยางยิ่ง
“ของขา ของขา ของขาทั้งหมด!” เจาตัวเล็กกําหมัดแนน ตาโตหรี่เปนรูปจันทร
เสี้ยว เช็ดน้ําลายไมหยุด แตวา ตามเสียงดังกึกกองที่แววมา กระแสน้ําวิเศษเขาประชิด
เขาก็ทําไดเพียงกระทืบเทาปงปง จากนั้นหนีหายไปอยางไรรองรอย
“ผลุบ”
ละอองเลือดแตกกระเด็น ขณะที่ยักษสูงสิบกวาหมี่ตนหนึ่งกําลังวิ่งหนี ถูกงาชาง
อาวุธล้ําคาขาวสะอาดกิ่งหนึ่งทะลวงผาน กะโหลกขนานใหญกลิ้งลงมา เลือดพุงขึ้นสูง
รางไรหัวลมลงบนพสุธา
“อาก…”
ไมไกลนัก อัจฉริยะกลุมหนึ่งรองโหยหวน ปกอีกาทองพัดลงมา เปลวไฟทวมทน
ทองฟา มีคนนับหลายสิบคนกลายเปนคบเพลิงในเสี้ยววินาที จากนั้นละลายเปนเถาถาน
ไมเหลือสิ่งใดเลย
นี่เปนภาพที่นาเวทนา กระแสน้ําวิเศษไหลบา อาวุธล้ําคาโจมตี เสียงสายฟาคําราม
สะเทือนหู ราวกับดวงตะวันหลายสิบดวงลอยควาง เจิดจาพราตา ที่นี่กลายเปนลาน
ประหาร
“ตูม”
เสียงกลองสะทานฟา นั่นเปนกลองหนังมังกรชือใบหนึ่ง เพียงเสียงดังขึ้น ก็สะเทือน
จนคนจํานวนนับไมถวนกระอักเลือดคําใหญ อัจฉริยะมากมายหวาดกลัว
ในแตละชนเผา พวกเขามีศัตรูนอยมากในหมูคนรุนราวคราวเดียวกัน แตเมื่อมาถึง
ที่นี่กลับพบวาชีวิตไรคาอยางแทจริง
“ตูม” “ตูม” …
เสียงกลองดังสนั่น คนหลายสิบชีวิตดานหลังสุดรางกายสั่นไหวรุนแรง จากนั้น
กระอักเลือดคําใหญ หัวใจแหลกละเอียดถูกพนออกมา อีกทั้งกระดูกหักทั่วทั้งรางกาย
กลางโบราณสถานมีกลิ่นคาวเลือดโชยแตะจมูก เกิดการเขนฆาสังหารทุกหนแหง
กระทั่งสองชั่วยามผานไป แสงสวางเจิดจา ณ เสนขอบฟาถดถอย กระแสน้ําวิเศษ
ลาถอย อาวุธล้ําคาหายไป
กลางนภามืดสลัว ที่หางไกลที่อาวุธล้ําคาพุงขึ้นเปนครั้งคราว สองแสงพราตาเปน
สายๆ ประหนึ่งฝนดาวตกทอดขามฟากฟา
ทวา ฝูงชนกลับไมตารอนปานนั้นแลว แตกลับรูสึกรางกายเย็นยะเยือก อาวุธล้ําคา
ที่นี่นากลัวเหลือเกิน เมื่อรวมตัวกัน กอเปนกระแสน้ําวิเศษ สามารถทําลายสรรพสิ่งได
อยางแทจริง ไมมีสิ่งใดสามารถขัดขวาง
เมื่อหายนะครั้งใหญนี้ผานไป มีคนถูกฆาอยางนอยสองพันกวาคน ศพเกลื่อน
โบราณสถาน เลือดยอมเศษหินเศษปูนจนแดงฉาน
“อาวุธที่ผูกลาบรรพกาลเหลือไวนากลัวแท!”
คนมากมายเกิดความคิดอยาลาถอย แมอาวุธล้ําคาจะดี แตไมสําคัญไปกวาชีวิต
ยากจะไดสิ่งของเหลานั้นมาครอบครอง
เจาตัวเล็กใบหนามอมแมม มีเพียงดวงตาคูนั้นมีสุกใส เมื่อครูเขาก็เปนหนึ่งใน
กองทัพที่หนีเอาชีวิตรอด พนจากความตายครั้งหนึ่งไดอยางอยูรอดปลอดภัย
“นากลัวเสียจริง เจียนถูกกิ่งไมวิเศษทิ่มแทงแลว” เจาตัวเล็กลูบคลําแขน ตรงนั้นมี
บาดแผลหลายแหงที่สมานกันแลว
รางกายของเขาคืนสูสภาพเดิมอยางรวดเร็ว เปนเพียงอาการบาดเจ็บเล็กนอย เลือด
หยุดไหลไดในพริบตา ทําการสมานแผลดวยตัวมันเอง
เวลานี้ เขาแยกจากสิงโตเกาเศียร อีกาไฟ นกแดงยักษและเตียวมวงแลว เพราะเขา
จองมองอาวุธล้ําคาอยางสงสัยแคลงใจ จึงถูกทิ้งไวหลังสุด คิดดูแลว พวกมันคงไมไดรบั
อันตราย
“ฮูว ตองระวังตัวเสียแลว”
เวลาผานไปครึ่งเดือนเร็วทันตา เจาตัวเล็กเสื้อผาขาดรุงริ่ง เดินเขาสูจุดลึกที่สุดของ
ซากปรักหักพัง ระหวางนี้เกิดกระแสน้ําวิเศษอยูหลายครั้ง เขาคอยๆ คนพบกฎเกณฑ
ของมัน เมื่อกระแสน้ําวิเศษผานไปจะมีชวงเวลาเงียบสงบอยูหลายวัน
เบื้องหนามียอดเขาเรียงราย บนภูเขามีแสงวิเศษสวางขึ้นอยูบอยครั้ง จิตสังหารจู
โจมผูคน
“อาวุธล้ําคายิ่งใหญมากมายตางซอนเรนอยูที่นี่ ที่นี่เปนจุดเริ่มตนแหงกระแสน้ํา
วิเศษ พวกมันรวมตัวกันพุงเขาไปยังซากโบราณสถานนอกภูเขา สามารถกอใหเกิดการ
สังหารครั้งใหญได” เจาตัวเล็กพูดเสียงเบา
ในความเปนจริงแลว แมที่นี่จะมีอาวุธล้ําคามากมายซุมซอนอยู แตสงบกวาโลก
ภายนอกอยูบาง อยางนอยที่นี่ก็ปราศจากกระแสน้ําวิเศษ สวนใหญกอตัวจากภายนอก
“คงมิใชขาผูเดียวที่เขาใจสภาพการณอยางแจมแจง ผูกลามากมายตางเขามากัน
แลว!”
เจาตัวเล็กระแวดระวังขึ้นมาทันใด เขามองเห็นผูกลาบางสวนลักลอบเคลื่อนไหว
ปรากฏตัวกลางยอดเขา เพื่อเสาะหาอาวุธล้ําคา
คนที่สามารถเขามาที่นี่ไดไมมีผูดอยแมแตคนเดียว ลวนมีพละกําลังอันนากลัว
ความสามารถเหนือธรรมชาติ
เขตภูเขาแหงนี้ไรพชื พรรณ โลงเตียน ไมวาจะเปนภูเขา ที่ราบ หรือหุบเขาก็เปน
เชนนี้ เสมือนประสบกับภัยพิบัติ เปนเหตุใหพลังชีวิตของที่แหงนี้ถกู ทําลายจนสิ้น
“ผูผนึก!” เจาตัวเล็กตะลึงงัน เขาพบผูกลาแหงเผาพันธุมนุษย ตางก็เปนบุคคล
อาวุโส เขาปวดใจตอสิ่งนี้ เตรียมการปองกันอยางเครงครัด
สําหรับเขาแลว มนุษยอาจจะอันตรายกวา เผาพันธุเดียวกันบางสวนตัดสินใจจะเขน
ฆาเขา จําตองปฏิบัติตออยางระมัดระวัง
“ผลุบ”
สองวันตอมา เจาตัวเล็กถูกซุมโจมตี หัวไหลพน ละอองเลือดเปนสาย เกือบจะถูกคน
ฟนไหลขาด ไดรับบาดเจ็บสาหัส
ขณะเดียวกัน เขาก็เสกกรรไกรกระดูกสีทอง ฟนคนนั้นจะบั้นเอวขาด อวัยวะภายใน
รวงลงบนพื้น คาวเลือดและนากลัวเปนอยางมาก
“สังหาร!”
ยังมีหาคนที่สุขกายสบายดี อายุตั้งแตยี่สิบกวาปจนถึงสามสิบสองปแตกตางกันไป
กระโจนเขาจูโจมโหดเหี้ยมดั่งพยัคฆและหมาปา ลวนเปนผูผนึกทั้งหมด
เจาตัวเล็กประสบกับวิกฤต สองเทาออกแรงกระทืบ เขาหินทั้งลูกพังทลายทันที
จากนั้นยอดเขาลื่นไถล กลิ้งหลุนๆ รวงลงไป ฝุนควันพุงทะลวงชั้นฟา
คนอื่นๆ แปรเปลี่ยนสีหนา ชายหนุมคนนี้นากลัวเหลือเกิน สะเทือนยอดเขาจน
ทลาย ไถลลงมา นาสะพรึงกลัวอยางสุดแสน พวกเขาไมสนใจการสังหารศัตรู พากัน
ปองกันตัว
เจาตัวเล็กฉวยโอกาสหลบหนี หายลับไปกับฝุนควันและกอนหิน
เขาพบเจอกับวิกฤต เทือกเขาแหงนี้เต็มไปดวยภัยอันตราย หากไมระวังตัวอาจ
สิ้นชีพวายชนมได
หลายวันผานไป เจาตัวเล็กรักษาอาการบาดเจ็บจนหาย กาวออกมาจากถ้ํา นัยนตา
กะพริบแสงวิเศษ หนนี้จําตองระวัง เห็นไดชัดวามีผูมีอิทธิพลหลายกลุมเพงเล็งเขา ตางก็
เปนผูผนึก
“เอะ?”
เขาประหลาดใจ ภายในหุบเขาที่หางไกลมีแสงสวางเปนระลอก บงบอกวามีอาวุธล้ํา
คาซุกซอนอยู เขาพุงออกไปอยางรวดเร็วดุจเสือดาว เขาประชิดอยางลับๆ
กลางหุบเขาไรพืชคลุมดิน เปนเชนเดียวกับที่อื่นๆ เปนดินแดนรกราง โลงเตียน
เจาตัวเล็กเขาไปดวยความระวัง ดวงตาเบิกกวางทันใด เปนอาวุธล้ําคาตาม
คาดการณ มีเจดียกระดูกขาวสะอาดกระเพื่อมขึ้นลง กลืนและพนแสงสวาง ไอมงคล
ลอยขึ้น นาตื่นตะลึงอยางที่สุด
นี่ตองเปนวัตถุล้ําคาเปนแน เจาตัวเล็กหวั่นวิตก ดวยเกรงวาอาจทําใหมันตื่นตกใจ
และหนีหายไป หรืออาจจะไมสามารถกําราบมันได
เขานํากระจกล้ําคาซวนหนีออกมา จากนั้นสองไปขางหนาทันที จากนั้นเสกกรรไกร
กระดูกสีทองอยางรวดเร็ว ลงมือพรอมกัน มุงหนาไปควบคุม หมายพันธนาการเจดีย
กระดูกวิเศษองคนี้
กลางหุบเขาระเบิดเสียงสวางฉับพลัน แสงวิเศษเปนพันนับหมื่นสายลอยลอง แผ
คลุมที่แหงนี้ มหัศจรรยอยางยิ่ง
ไมไกลนัก มีรถลากบนยอดเขาลูกหนึ่ง มีเสือขาวหมอบอยูบนนั้น ขางกายมีสตรีผู
กลาสองนางกําลังปอนเนื้อสดแกมัน
ปราศจากสัตวประหลาดลากรถ แตเปนผูกลาสี่นายแบกรถคันนี้เดินเหิน ยิ่งไปกวา
นั้น หนารถยังมีชายชราผูหนึ่ง ทําการเฝาระวังอยูตรงนั้น
“เอะ วัตถุล้ําคารึ? รีบไปที่นั่น ไมวาจะเปนผูใด ก็ขามันเสีย!” เสือขาวกระโดดขึ้นนั่ง
สงเสียงดวยกระแสจิต นัยนตาสองลําแสงนากลัว พลันเกิดเสียงฟาคํารามกึกกองขึ้นที่นี่
“ไป!”
รถลากสองแสง มันเปนอาวุธล้ําคาที่ยิ่งใหญ แสงสวางปกคลุมคนเหลานี้แลวบินไป
ยังหุบเขาดวยความเร็วสูงสุด
“ตูม”
เมื่อถึงที่นี่ พวกเขาก็เปดฉากจูโจม อักขระอันไมสิ้นสุดสาดทอ เจียนจะทวมทนที่นี่
หุบเขารอบดานทลาย กอนหินทะลวงนภา
เจาตัวเล็กพิโรธ ในชวงเวลาคับขันเชนนี้ แตกลับจะมีคนสอดมือเขามายุง ทําลายที่นี่
ขัดขวางการชิงเจดียกระดูกวิเศษของเขา ทําใหไฟโทสะลุกโหม
“เอะ เจานี่เอง ที่นี่ไมใชเมืองตัดนภา ไมมีผูอาวุโสแหงศาลาปดฟาคุมกะลาหัว ครั้งนี้
เจาหนีไมพน สังหารมัน!” เสือขาวตะโกนลั่น มันสงเสียงพยัคฆคําราม เพราะภาษา
มนุษยไมควรคาแกการใช
รถลากเปลงแสง อักขระดานบนลุกโชติชวง พุงลงมาทั้งหมด
“เปนอาวุธล้ําคาชิ้นหนึ่งจริงๆ มนุษย เจาอยาไดฝนเฟอง มันเปนของขา!” เสือขาว
ปลื้มปติ นี่เปนอาวุธล้ําคาที่มันชื่นชอบที่สุดเมื่อไดพบเจอหลังจากเขาสูเขารอยยอด
บทที่ 143 สมบัตลิ ้ําคาแหงโบราณสถาน
รถลากสองสวาง นี่เปนทั้งยานพาหะที่ใชเดินทาง และยังเปนรถศึกโบราณ บัดนี้
อักขระผนึกกําลัง กอเปนมานแสง บรรทุกคนมากมาย อักขระมากมายสาดทอ
เบียดเสียดยัดเยียด แทบจะเติมหุบเขาจนเต็ม หนาผาแตกออกเปนเสี่ยง กอนหินเกลือก
กลิ้ง ฝุนควันพวยพุง
เจาตัวเล็กหลบซอนอยางตอเนื่อง เสกอาวุธล้ําคามาตอตาน เขาประสบกับวิกฤต
ลําแสงวิเศษถูกยิงมาเปนเสนๆ โจมตีตําแหนงที่เขายืนจนแหลก กอนดินแตกกระจาย
ผาทั้งสี่ทิศของหุบเขาถลม เสียงดังกึกกอง กอนหินมากมายถูกฟาดจนปลิววอน พุง
ขึ้นกลางฟาสูง กลางหุบเขาเสื่อมโทรม ฝุนควันตลบอบอวล เปนภาพที่จวนจะพินาศยอย
ยับ!
“เสือขาว เจาทําขาโมโห ขาจะกินเจาแน!” เจาตัวเล็กเดือดดาล ขมวดคิ้วเปนปม
เขาสูญสิ้นพลัง พยายามริบเอาเจดียกระดูกแวววาวไป ไมคิดวาเสือขาวจะพรวดพราดมา
ทําลายอยางสิ้นเชิง
เจดียกระดูกองคนี้ไมธรรมดาเสียจริง กระเพื่อมขึ้นลงดวยตัวมันเอง เพียงสั่นแผว
เบาไอมงคลก็ลอยขึ้น ผลักกรรไกรกระดูกและกระจกล้ําคาออกไป ยากจะเขาใกลมันได
ตองรูวา มันยังมิไดกระทําการโจมตีอยางแทจริง นี่เปนเพียงคลื่นมหัศจรรยที่ลน
ออกมาดวยตัวมันเองเทานั้น!
สุดทาย เจาตัวเล็กใชวิชาโบราณแหงการหยั่งรูดั้งเดิม พยายามสื่อสารกับมัน สําแดง
อักขระเพื่อแสดงความเปนหนึ่งเดียวกับมัน เพิ่งจะเกิดผลเพียงเล็กนอย ปรากฏวาเสือ
ขาวพรวดพราดเขามา ทําใหเจดียกระดูกตื่นตกใจทันที
เสือขาวยื่นตระหงานบนรถลาก รางกายของมันไมถือวาใหญโตเทาใดนัก แตกลับมี
พลังอํานาจอันเหยียดหยามผูอื่น นัยนตาคูนั่นกําจายแสงสีทองออน นาสะพรึงกลัว
ประหนึ่งมีดดาบ
“เจากําลังพูดกับขางั้นรึ?” มันพูดภาษามนุษยในที่สุด สีหนาเย็นเยือก ในเบาตา
กะพริบแสงเย็น ราวกับจะยิงดามลูกศรออกมา
“เหลวไหล แมวยักษ เจากําลังรนหาที่ตาย!” เจาตัวเล็กพูดอยางโมโห ตอนนี้เขา
สื่อสารกับเจดียกระดูกนั่น แตกลับไรประโยชน มีหมอกแผกระจาย ผลักไสเขาออกไป
ขางนอก
“ปดผนึกหุบเขา สังหารเขาเสีย ขาเกลียดที่มนุษยพูดจาเชนนี้กับขา เรงเก็บสมบัติ
ล้ําคาชิ้นนี้ขึ้นมา!” เสือขาวกลาว ตัวมันเองก็ลงมือแลว ยกอุงมือเสือขางหนึ่งขึ้นตะปบลง
มา เสมือนภูเขาลูกหนึ่งกระแทกลงมาในบัดดล แผนดินสั่นไหว ขุนเขาโยกคลอน อักขระ
ขาวโพลนทวมทนหุบเขา
บนรถลาก เสือขาวประทานถุงหนังสัตวลงมาชิ้นหนึ่ง ชายชรากาวออกมารับเอาไป
ปลดเชือกออก ปากถุงปลอยแสงสวางทันที มีแรงดึงดูดอันไรเทียมทาน หมายกักเก็บทุก
สิ่งอยางในหุบเขาใหสิ้น
“ตูม!”
เมื่อถูกรบกวนอยางตอเนื่อง เจดียกระดูกองคนั้นฟนคืนชีพในที่สุด ระเบิดแสงสีขาว
ดุจเกลียวคลื่น สะเทือนไปทั่วทุกสารทิศ
เจาตัวเล็กตะลึงงัน รีบเก็บกรรไกรกระดูกและกระจกล้ําคาโดยไว คุมกันตนเอง
จากนั้นลาถอยใหหางจากที่นี่อยางรวดเร็ว
“สมบัติล้ําคาชั้นดี แมนตองแลกดวยสิ่งใดมากมายเพียงไหน จะตองไดมันมา
ครอบครอง พวกเจารวมพลังเสกถุงหยินหยางของขา เก็บมันขึ้นมากอน!” เสือขาวตื่น
ตะลึงระคนปลื้มปติ คํารามไมขาดสาย
หญิงสาวอัจฉริยะทั้งสองในรถลาก และชายฉกรรจรางกํายําสี่นายก็กาวออกมา
ชวยเหลือชายชรา ปลุกกระตุนถุงหยินหยางที่ปลุกเสกจากหนังล้ําคาแหงอสูรบรรพกาล
พวกเขากระจายแสงวิเศษทั่วราง หลั่งไหลเขาสูถุงหนังสัตว ทําใหมันเจิดจามากขึ้น
ปากถุงพรางพราย กลืนกินสรรพสิ่ง สามารถมองเห็นกอนหินหลายหมื่นชั่งแสนชั่งถูก
เก็บขึ้นมา กระแทกชนกันเขาไปในถุง
ทั้งที่ปากถุงไมใหญ แตเสมือนวาสามารถบรรจุคีรีธาราทั้งมวลได
เจาตัวเล็กมองดูอยางแววตาเปนประกาย ถุงใบนี้ชางดีเหลือเกิน สามารถเก็บสรรพ
สิ่ง ไมวาสิ่งของจะมากมายปานใดก็สามารถใสเขาไปในนั้นได ไมตองกังวลวาจะเอาไป
ไมได
“สมบัติล้ําคาชั้นดี หากขาไดมันมา จะจับตัวอสูรบรรพกาลทั้งหมดใสถุงกลับไปก็
ยอมได!” เขากําหมัดแนน
กอนหินนานาชนิดในหุบเขาลอยขึ้น พุงเขาไปในถุงหยินหยางไมขาดสา แตเจดีย
กระดูกองคนั้นกลับไมนิ่งไมไหวติง ไอหมอกขมุกขมัวไหลเวียน มหัศจรรยพนั ลึกมาก
ยิ่งขึ้น
“ไป!” เสือขาวคํารามลั่น มันลงมือแลว พนแสงสวางสาดทอลงบนถุงหยินหยาง ทํา
ใหพลังอํานาจของมันรุงโรจนมากขึ้น
“ตูม!”
เจดียกระดูกขาวสะอาดถูกรบกวนซ้ําแลวซ้ําเลา สุดทายก็ตอตานขึ้นมา เจดียสั่น
ไหว หุบเขาแหงนี้ระเบิด จากนั้นมันลอยสูงขึ้นแลวสั่นสะเทือน ริ้วคลื่นดุจทะเล ทําให
ขุนเขาโยกไหว เกิดแผนดินไหวครั้งใหญ
“มิไดการแลว อาวุธล้ําคาชิ้นนี้คลั่งแลว!” เสือขาวอุทานอยางตกใจ รถลากลอยขึ้น
ฟาอยางรวดเร็ว จวนจะหายเขาไปในชั้นเมฆ รักษาระยะหางที่ปลอดภัย
เจดียกระดูกสั่นไหว สาดอักขระออกมากลุมแลวกลุมเลา แทบจะทําใหพวกเขาลม
คว่ํา รถลากเจียนจะหลนลงมา โชคดีที่หางไกลพอสมควร
“ลองครั้งสุดทาย หากลมเหลว พวกเราจะรีบไปทันที!” เสือขาวไมถอดใจ
พวกเขารวมพลังปลุกกระตุนถุงหยินหยาง แสงสวางสองไปทั่วสี่ทิศ ปากถุงปลอย
อักขระจํานวนมาก แผกระจายไปทั่วทุกหนแหงเปนกลุมเปนสาย
เจดียกระดูกโยกไหว เก็บไอหมอกทั้งหมดอยางรวดเร็ว เริ่มสองแสง แวววาวจน
แทบโปรงใส มีคลื่นอันทําใหอกสั่นขวัญแขวนแผขยาย
เจาตัวเล็กเห็นดังนั้นก็ไมพูดอะไรใหมากความ และไมอยากกินเนื้อเสือขาวเสียแลว
กระโดดขึ้นบนกระจกล้ําคาซวนหนี แปลงรางเปนลําแสง หลบหนีไปดวยความเร็วสูงสุด
เขาสัมผัสไดถึงกลิ่นอายอันตราย
“ตูม”
เปนไปตามการคาดหมาย ขางหลังปะทุขึ้น เจดียกระดูกสองแสง คลายกับดาวหาง
กระแทกลงมา พื้นดินแตกแยก เสมือนนภาแตกออกเปนเสี่ยง เสมือนมีพระอาทิตยดวง
หนึ่งระเบิด
พลังอันนากลัวมวนเทือกเขาแหงนี้ไป ยอดเขามากมายสั่นสะเทือน จากนั้นถลมลง
ฝุนควันแตกกระเด็นรอบทิศ ที่นั่นกลายเปนดินแดนพังพินาศ
“ชางเปนอาวุธล้ําคาที่แข็งแกรงเสียจริง!” เจาตัวเล็กหนีอยางรวดเร็ว ในใจรูสึก
เสียดายอยางหาที่เปรียบมิได อาวุธล้ําคาเชนนี้แข็งแกรงเหลือเกิน คาดวาแมแต
จักรพรรดิพบเห็นก็คงนัยนตารอนเปนไฟ
“รีบหนี!” เสือขาวคําราม มันรูวาอาวุธล้ําคาชิ้นนี้แตะตองไมได เมื่อคืนชีพ เหนือ
เกินคําบรรยาย มิใชสิ่งที่พวกมันจะเขาไปของเกี่ยวได
“คงมิใชเครื่องใชประกอบพิธีแหงนักปราชญบรรพกาลกระมัง?” ชายชราลังเล
รถลากเหาะเหินอยางรวดเร็ว แมจะเปนเชนนี้ แตก็มีชายฉกรรจผูหนึ่งถูกแสงสวางที่
พุงขึ้นมาโจมตีเขาอยางจัง รวงลงมากจากรถลาก จากนั้นแตกออกเปนเสี่ยงๆ กลางนภา
“เร็วอีก!” เสือขาวแปรเปลี่ยนสีหนา เปยมดวยความหวาดกลัว
พวกเขาเขาสูชั้นเมฆสูงเปนเวลานานแลว ระยะหางไกลเพียงพอ แตแสงสวางเบื้อง
ลางกระเด็นรอบทิศทาง ลอยลองเต็มฟากฟา และมีลําแสงกวาดผานมาเปนครั้งคราว
ผูคนบนรถลากรวมแรงกางมานแสง หลบหนีไปอยางรวดเร็ว
“โฮก…” เสือขาวรองอยางนาเวทนา แมแตมันก็ถูกแสงวิเศษฟาดเขา โซเซโงนเงน
แทบรวงลงจากรถลาก หัวไหลถูกทะลวง เลือดไหลพรั่งพรู
เสียงผลุบดังขึ้น หนาอกดานขวาของชายชราถูกทะลวง กระอักเลือดคําใหญ เจียน
สิ้นชีพ
รถลากวิ่งหอดวยความเร็วสูงสุด ลอยขามฟากฟาอยางรวดเร็ว หนีจากที่แหงนี้
กลางนภาสาดทอเลือดเปนวงกวาง พวกเขาหนีอยางไมคิดชีวิต
เสียงชริ้งดังขึ้น เจดียกระดูกไมลอยกระเพื่อมอีกตอไป แปลงรางเปนแสงสีรุงจากไป
ไกล เขตภูเขาทรุดโทรมคืนสูสภาพเงียบสงบ
“เจดียกระดูกยิ่งใหญปานนี้ ไยจึงเลือกที่จะหนีออกไปจากหุบเขากันเลา?” เจาตัว
เล็กมองเห็นอยางชัดเจนในมุมมืด เจดียนั่นจากไปเสียแลว รีบรอนยิ่งนัก ทําใหเขางุนงง
อยางที่สุด
เขามิไดหยุดยั้ง ไลตามไปในชั่วพริบตา ตามติดตลอดทาง เสกกระจกล้ําคาบรรทุก
เขาเหาะเหินอยางรวดเร็ว
แตทวา เจดียองคนั้นเร็วเหลือเกิน รองรอยที่เหลือเปนทางมลายหายไปยังเบื้องหนา
เจาตัวเล็กมุงหนาไปตลอดทาง ทัศนียภาพแหงภูเขาและสายน้ําถอยหลังอยาง
รวดเร็ว เขาไมรามือ หลังจากขามผานเทือกเขามากมาย ในที่สุดก็สัมผัสไดถึงคลื่นของ
เจดียกระดูก
ขางหนาเกิดเปลวไฟทวมทนทองฟา นั่นเปนทะเลไฟผืนใหญ ลาวาอันไมสิ้นสุด
เกลือกกลิ้ง หลั่งไหลพรั่งพรู ยอดเขาแดงฉาน ภาพเหตุการณพิสดาร มองดูนากลัวยิ่งนัก
“คาดไมถึงวาจะมีทะเลไฟเชนนี้!” เจาตัวเล็กฉงนสนเทห
หลายวันกอน เขาเดินทางผานที่นี่ยังไมมีอันใด บัดนี้เขตภูเขานี้หลอมละลายเสีย
แลว สามารถมองเห็นวายอดเขาหลายลูกก็ละลายเชนเดียวกัน กลายเปนลาวา ไหลบา
มาลง
“นี่เปนไฟแหงหงสดิน ไยจึงปรากฏขึ้นที่นี่!” เจาตัวเล็กตะลึงงัน มองออกในที่สุด
นี่เปนเปลวไฟขั้นสูงสุดที่ใชปลุกเสกอาวุธล้ําคา ผุดออกมาจากที่แหงนี้อยางไมนา
เชื่อ แทที่จริงแลวเปนเพียงไฟธรณินเทานั้น แตกลับหลอมคีรีธาราทั้งหลายจนละลาย
กลางภูเขาและสายน้ําแหงนี้ มีเปลวไฟกลุมหนึ่งเริงระบํา เจิดจาดุจแสงวิเศษ โชติ
ชวงเปนพิเศษ มีเสียงหงสไฟแผดรองแววมาอยางเลือนราง
เจาตัวเล็กนัยนตาฉายแสงวิเศษ ทอดมองอยางพินิจพิเคราะห มันตองเปนไฟล้ําคา
อยางแนนอน กลุมเปลวไฟนั่นกระโดดโลดเตน เสมือนหงสไฟหนึ่งตัวกําลังเริงระบํา
ทัศนวิสัยนาตื่นตะลึง
“เจดียกระดูกอยูกลางกองไฟนั่น!” เจาตัวเล็กตกใจ พบรองรอยของเจดียกระดูกใน
ที่สุด มันกระเพื่อมอยูตรงนั้น นอมรับการหลอมละลายและตีใหเขารูปจากเปลวไฟ
หรือวามันบาดเจ็บ อยากฟนฟูตนเอง? หรือมันอาจจะถอดรูปแปลงราง ปลุกเสก
ตัวเองใหมหรือ? นี่ตองเปนเรื่องนาตื่นตะลึงเปนแนแท พบเห็นไดยากในหมูอาวุธล้ําคายิ่ง
นัก
เขาสูงหลอมละลาย ลาวาพุงทะลัก ทวมทนที่แหงนั้น มองเห็นเพียงเปลวไฟ เจาตัว
เล็กจําตองลาถอย
หลายวันตอมา เขาปรากฏตัวในละแวกใกลเคียง อยางมากก็ไมไกลเกินหาสิบลี้ รอ
คอยเปลวเพลิงมอดดับ แตทวาที่นี่มีลาวาหลั่งไหลตลอดเวลา ไมมีทาทีจะหยุดลง
“ชริ้ง”
คมดาบฟาดมา ชายหนุมชุดครามคนหนึ่งปรากฏตัว ถือดาบกระดูกเดินมา ยืนใน
ตําแหนงที่ไดเปรียบ ฟาดฟนเจาตัวเล็ก ปรากฏเงาคนในบริเวณใกลเคียงอยางตอเนื่อง
หนึ่งในสี่ตระกูลใหญมาเยือนอีกแลว ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ และเปนชายชุดครามที่โจมตี
เจาตัวเล็กกอนคนอื่นใด หลังจากเขาสูโบราณสถานแลว ถูกเขาและเหลาทายาทอสูร
บรรพกาลโจมตีจนหนีเตลิดไป
เจาตัวเล็กหลบหลีกคมดาบ จองคนเหลานี้เขม็ง มีทั้งสูงวัยและเยาววัย มีจํานวน
กวายี่สิบคน มีผูผนึกทั้งสิ้นหกเจ็ดคน
“พวกเจามีจิตใจต่ําชาเสียจริง พวกเจามีความแคนอันใดกับขากันแน?” เจาตัวเล็ก
เอยถาม
“หนึ่งในกองพลที่ถูกเจาสรางเปนกองภูเขามนุษยในโลกแหงความวางเปลา” ชาย
ชุดครามกลาวอยางเยือกเย็น
เจาตัวเล็กไดยินถอยคําก็ชะงักงัน จากนั้นหัวเราะเสียงดังแลวพูดวา “นั่นเปน
ชวงเวลาที่เบิกบานใจจริงๆ เสียดายที่ขาถูกเนรเทศออกมา คิดถึงเหลือเกิน รอครบ
กําหนดขาจะเขาไป ขาจะไปสรางกองภูเขามนุษยที่ใหญกวาเดิม”
นี่เปนการพูดเสียดสีอยางเปดเผย ทําใหคนกลุมนี้แปรเปลี่ยนสีหนาในบัดดล พาย
แพแกเด็กเหลือขอคนนี้ก็เพียงพอแลว ทั้งยังถูกขูกรรโชก อับอายขายหนาอยางสุดแสน
“ฮูว พวกเจาคงมิไดเปนคนที่ถูกขากองเปนกองมนุษยเหลานั้นหรือกระมัง?” เจาตัว
เล็กสงสัย
เมื่อวาจานี้ถูกเปลงออกไป คนกลุมนี้มีสีหนาไมนาดูอยางยิ่งยวด เสนเลือดบน
หนาผากของชายหนุมบางคนเตนระริก แมแตชายชราเหลานั้นก็ใบหนาถมึงทึง
“ฮาฮาฮา…” เจาตัวเล็กระเบิดเสียงหัวเราะ สุขอุราอยางหาที่เปรียบมิได ที่แทคนที่
ไลสังหารตนลวนเคยถูกตนจัดการจนนอนคว่ํา
เสียงหัวเราะเชนนี้ ทําใหคนเหลานี้สีหนาเรียบเฉยดุจสายน้ํา อยากจะเฉือนเขาทั้ง
เปนทันที
“ขาเขาใจแลว ผูอื่นที่ไลลาขาก็เปนเชนนี้ มาจากสี่ตระกูลใหญ ลวนเปนคนที่พายใน
กํามือขา ฮาฮา…” เจาตัวเล็กหัวเราะดวยความเบิกบานใจอยางที่สุด
เดิมทีเขากลัดกลุม ไยจึงถูกคนลอบสังหารอยูตลอดเวลา บัดนี้โลงใจอยางสิ้นเชิง ถึง
อยางไรคนเหลานี้ก็เคยถูกเขาทุบตีมากอน เผชิญหนาคนที่ถูกกําราบดวยเงื้อมมือของตน
เขาเบิกบานใจเหลือเกิน
“ที่นี่ไมใชดินแดนขั้นตนของโลกแหงความวางเปลา ขั้นบําเพ็ญของพวกขามิไดถูก
ควบคุมจนต่ําปานนั้น เจาเอาชีวิตเจามาเสีย!” ชายชุดครามตะโกนลั่น ตัวเขาเปน
อัจฉริยะแหงรุน มีคูตอสูนอยนักในคนรุนราวคราวเดียวกัน แตวากลับถูกคนกระหน่ําทุบ
ตีในโลกแหงความวางเปลา กองรวมกับคนในตระกูล ชางเปนความอัปยศอดสูอยาง
แทจริง
“แตถึงอยางไรก็เปนเพียงคนที่พายในกํามือขา ขาไมกลัวเจาหรอก หากยังดื้อไมเชื่อ
ฟง วันหลังขาจะไปกองภูเขามนุษยตอ”
นี่เปนสังหารครั้งหนึ่ง เจาตัวเล็กกลับหนาชื่นตาบาน ทําใหคนเหลานี้เผยแววตา
เยือกเย็น ทั้งโกรธแคนและชิงชัง
เจาตัวเล็กวาดสองมือไมหยุด สําแดงอักขระแหงการหยั่งรูดั้งเดิม กลายเปนเกลียว
คลื่นสีทอง โหมซัดไปดานหนา ปะทะกับดาบกระดูกของชายชุดคราม
“ลงมือพรอมกัน กําจัดเขาเสีย!” ชายหนุมอีกหนึ่งคนกาวออกมารวมลงมือ
ขณะเดียวกัน เหลาผูสูงวัยยางกาวไปขางหนา แตละกาวย่ําลง ผิวดินสั่นไหวแผวเบา
ราวกับยักษหลายตนเดินมา แววตาเจิดจาดุจโคมไฟสีทอง
“ตูม”
ศึกครั้งใหญปะทุขึ้นอยางดุเดือด เจาตัวเล็กตอบโตคนเหลานี้ทีละคน พลังปราณ
และเลือดเกลือกกลิ้ง อักขระอันทวมทนทองฟากดอัดจนเขาหายใจไมออก เคล็ดวิชาล้ํา
คาโจมตี ปดผนึกที่แหงนี้
เลือดลมของเขาพลุงพลาน แมรางกายจะไรเทียมทาน แตความลึกซึ้งของอักขระ
เทียบชายชราเหลานี้ไมได ถูกสะเทือนจนมุมปากเปอนเลือด
คนมากมายเพียงนี้ลงมือพรอมกัน เขาไมสามารถตอกรได เจาตัวเล็กรูสึกหวาดหวั่น
ผูผนึกสูงวัยเหลานี้มิใชคนธรรมดา ไมอาจตอบโตดวยพละกําลังได หากถูกลอมไวที่นี่
เขาตองสิ้นชีพเปนแนแท
เจาตัวเล็กมิไดกระตือรือรนอยากสูศึกตอไป เช็ดเลือดตรงมุมปาก ไมปลอยใหพวก
เขาตีวงลอม สูศึกพลางลาถอย
“เจาหนุม พรสวรรคของเจานาตื่นตะลึงอยางแทจริง แตเจายั่วโมโหคนที่ไมควรยั่ว
ตระกูลคุนแหงขาจะปลอยใหเจามีชีวิตรอดไดอยางไร ยอมรับความตายเสีย!” ชายชรา
คนหนึ่งแผดเสียง
พวกเขาเผยตัวตนออกมา เพราะคิดวาชายหนุมตรงหนาไมมีทางรอดเปนแน
เจาตัวเล็กตอสูกับพวกเขา ถูกอักขระของชายชราเหลานี้ระงับอยางตอเนื่อง เคล็ด
วิชาล้ําคาพุงมาดุจมหาสมุทร ทําใหมุมปากของเขาหลั่งเลือดอีกครา สุดทายควบกรรไกร
กระดูกสีทองพุงไปยังใจกลางเทือกเขาอยางรวดเร็ว
“จะไปไหน!” คนกลุมนี้จะปลอยใหรอดไปไดเยี่ยงไร เหลาชายชรายืนอยูบนอาวุธล้ํา
คา นําพาลูกหลานแหงตระกูล ไลลาตามไปพรอมกัน
ของเหลวแดงฉานขวางทาง เปลวไฟโหมซัดสาด เหตุการณเบื้องหนานาสะพรึงกลัว
ยอดเขาแดงก่ํา คลื่นความรอนหลั่งไหลบนแผนดิน หลอมละลายกลายเปนลาวา
เจาตัวเล็กเหยียบกรรไกรกระดูกสีทอง ขามผานดินแดนลาวาอันกวางใหญ นัยนตา
ระยับแสง มองไปขางหลังแวบหนึ่ง จากนั้นเริ่มเพิ่มความเร็วในการเหาะเหิน
ดานหลังมีกลุมคนยิ้มเย็น ความเร็วของพวกเขาไมดอยไปกวาเจาตัวเล็ก แมนติดปก
เขาก็หนีไมรอด ถึงอยางไรก็สามารถไลทันเขาสักวัน
“ชนเผาอื่นก็ใหรางวัลนําจับมิใชหรือ? พวกเราเขนฆาสังหารเขา นําเอาอาวุธล้ําคา
ของเขาไป จากนั้นนําหัวของเขาไปรับรางวัล”
“เด็กเหลือขอคนนี้นาชิงชังแท หากเพียงฟนคอก็ดูหมิ่นเขาเกินไป ควรจะสังหารโดย
การหลิงฉือเสีย!”
คนเหลานี้อํามหิตโหดเหี้ยมเปนอยางมาก จวนจับตัวเด็กเหลือขอไดในที่สุด ตางก็
คิดวาจะหยามหยันและเอาชีวิตเขาอยางไร
ทันใดนั้น เจาตัวเล็กเหลียวหลัง เผยรอยยิ้มพิกล ยกมือสองกระจกล้ําคาซวนหนี
จากนั้นระเบิดลาวาดานหลังทันใด สายฟาวาดลงมาเสนแลวเสนเลา
“เปรี้ยง”
ใจกลางลาวาเดือดพลาน เกลียวคลื่นพุงทะลวงฟา อุณหภูมิของของเหลวแดงฉาน
นากลัว ทะลักขึ้นสูฟาสูง
“ถึงอยางไรก็เปนเด็ก คิดวาลาวาจะทําอะไรขาไดรึ?” ชายชราคนหนึ่งยิ้มเย็น อาวุธ
ล้ําคาสองแสง ขัดขวางเกลียวคลื่นสีแดงที่พุงขึ้นมา
แตทวา รอยยิ้มเย็นเยือกของเขาคางทันใด คนทั้งหมดตางรูสึกหวาดกลัวขึ้นมา
กลิ่นอายนากลัวพุงขึ้นสูทองฟา ทําใหแตละคนสั่นสะทาน!
เจดียล้ําคาแวววาวลอยกระเพื่อมกลางลาวา ถูกเปลวไฟแหงหงสหอหุม เผยรูปโฉม
แทจริง จากนั้นสั่นไหวอยางรุนแรง ประหนึ่งโมโหเดือดดาลอยางที่สุด ระเบิดแสงสวาง
อันทวมทนทองฟา
“อาก…ไม!”
คนตระกูลคุนกรีดรอง พวกเขารูวาประสบกับความวิบัติครั้งใหญหลวง อาวุธล้ําคา
ชิ้นนี้นากลัวเหลือเกิน เหนือกวาสมบัติล้ําคาที่ปกปกษคุมครองตระกูลอยางมากโข
ตอนนี้โจมตีพวกเขาเพราะความโกรธ
“ผลุบ”
เสียงอาวุธล้ําคาแหลกละเอียดดังขึ้น อาวุธล้ําคาของชายชราสามรายแหลกเปน
ผุยผงทันตา พวกเขาและลูกหลานที่นํามาดวยรองโหยหวน รวงดิ่งลงสูลาวา
“รีบหนี!”
ชายชุดครามและชายชราอีกสองคนพาคนในตระกูล เหยียบอาวุธล้ําคาแลวหนีไป
อยางไมคิดชีวิต
นาเสียดาย ระยะหางของพวกเขาใกลกับลาวาเกินไป ยิ่งไปกวานั้น ครั้งนี้อาวุธล้ําคา
อยูในชวงเวลาคับขันแหงการปลุกเสกตนเอง ถูกคนรบกวนจึงบันดาลโทสะ สําแดงเดช
อยางบาระห่ํา
“ผลุบ”
อาวุธล้ําคาอีกหนึ่งชิ้นฉีกขาด ชายชราดานบนแหลกละเอียดทันที คนขางกายตกลง
ไปในลาวา
ชายชุดครามและชายชราอีกหนึ่งไดรับบาดเจ็บสาหัส เลือดเปรอะเปอนทั่วกาย อีก
ทั้งอาวุธล้ําคาราวจวนจะพินาศ พวกเขาทอดทิ้งคนในตระกูล หนีไปจากบริเวณที่มีลาวา
โชคดีที่เจดียกระดูกไมไดสนใจไยดีอีกตอไป
โชครายคือ เจาตัวเล็กยืนอยูเบื้องหนา เสกกรรไกรกระดูกสีทองออกมา เสียงผลุบ
ดังขึ้น ฟนสันหลังของทั้งสองจนขาด เลือดสดสาดกระเด็น
“ขาเกลียดนัก!” ทั้งสองสิ้นหวัง เต็มไปดวยความไมพอใจ สิ้นชีพขางลาวา
“นากลัวเหลือเกิน!” เจาตัวเล็กจดจองใจกลางทองลาวา เกิดความหวาดกลัวขึ้นมา
โดยพลัน
เชนนี้เอง เขาเฝารออยูที่นี่นานสิบกวาวัน และเขาสูโบราณสถานเปนเวลาเดือนกวา
ลาวาเยือกแข็งตัวในที่สุด อุณหภูมิที่นี่เริ่มลดลง
“เอะ เจดียกระดูกไมโผลมาแลวรึ?”
เจาตัวเล็กสงสัย เดินวนรอบบริเวณแหงนี้ สัมผัสอยางถี่ถวน สุดทายก็ทนไมไหว
เริ่มทําการทดสอบหยั่งเชิง
เขาเสกมีดบินสีชาดที่ไดมาจากเฝยหยีออกมา กลายเปนเสนดายสีแดง ตัดหั่นใจ
กลางลาวา คนหาอยางละเอียด ปรากฏวาไรคลื่นเชนเดิม เจดียกระดูกไมกอการจลาจล
อีกเลย
ครึ่งวันผานไป เจาตัวเล็กเคลื่อนไหวดวยตนเอง มายังสถานที่ซึ่งเจดียกระดูกเคย
กระเพื่อมขึ้นลง เสาะหาอยางถี่ถวน ที่นี่ถูกมีดบินขุดจนเกิดหลุมใหญเปนเวลานานแลว
กอนหินแหลกเปนชิ้นกระจัดกระจายทั่วทุกหนแหง
เสียงตูมดังขึ้น แววเสียงความวางเปลาจากใตดิน และกะพริบเปลวไฟ เจาตัวเล็ก
สะดุงโหยง จองมองลงไป เผยสีหนาตื่นตะลึงอยางชวยไมได
ตรงนั้นมีเจดียองคหนึ่ง ดูดซึมไฟธรณินจนหยดสุดทาย แปรเปลี่ยนเปนแวววาวโปรง
แสง
“นี่… ลาวาทั้งหมดถูกมันดูดจนแหงเหือดรึ?” เจาตัวเล็กขนพองสยองเกลา เขาลา
ถอยอยางรวดเร็ว แตกลับพบวา อาวุธเบื้องลางนั้นไรการตอบสนอง
“เอะ เปลี่ยนแปลงแลว”
เจดียในอุโมงคใตดิน แสงสวางมลายจนสิ้น ไมปรากฏทัศนวิสัยประหลาดอีกตอไป
ยิ่งไปกวานั้น มันเริ่มหดเล็กลงจากขนาดเทาฝามือ สุดทายยาวเพียงหนึ่งขอนิ้ว เมื่อตั้งขึ้น
ก็สูงไมเกินหนึ่งนิ้ว
เจาตัวเล็กตะลึงงัน รอมาเนิ่นนาน กลับไมเห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ ของมัน เขาสง
อักขระเปนสายออกมาทดสอบหยั่งเชิง ก็เปนเชนเดิม เจดียกระดูกขาวแวววาว นิ่งไม
ไหวติง
สุดทาย เขานําเจดียนอยมาวางไวบนฝามือ มันไรการตอบสนองใดๆ
เจดียนอยสูงไมถึงนิว้ มีขนาดเทาขอนิ้ว แวววับโปรงแสง ประหนึ่งแกะสลักจากหยก
ขาวมันแพะ งดงามนาหลงใหลเหนือธรรมชาติ มันไมเหมือนอาวุธล้ําคา แตกลับเหมือน
ของประดับวิจิตรตระการตาชิ้นหนึ่ง ปราศจากกลิ่นอายนากลัว
เจาตัวเล็กวิเคราะหซ้ําแลวซ้ําเลา สัมผัสไมถึงอักขระแมแตนอย จากนั้นเขากระตุน
พลังวิเศษ หมายเสกอาวุธล้ําคาชิ้นนี้ กลับพบวามันไมมีปฏิกิริยาใดๆ
หากมิใชเพราะเห็นประจักษแกตา เขาคงคิดวานี่เปนเพียงเครื่องประดับที่ประณีต
และงดงามเทานั้น
“ไยจึงไมมีการตอบสนองใดๆ เลยเลา?” เจาตัวเล็กเกาหัว เต็มไปดวยความ
คลางแคลงใจ ศึกษาเปนเวลานานก็ไรซึ่งดอกผล สุดทายก็ฟดฟด มัดมันรวมกับเสนผม
ใชเจดียนอยขาวแวววาวแทนเครื่องประดับอยางแทจริง
หลายวันผานไป เจาตัวเล็กมายังใจกลางขุนเขา ตลอดทางเขาพบเจออาวุธล้ําคา
ทั้งสิ้นยี่สิบชิ้น แตไมสามารถกําราบไดแมแตชิ้นเดียว รูสึกเสียดายเปนอยางมาก แตทวา
เขาสามารถแนใจไดวา อาวุธล้ําคาเหลานี้ไมมหัศจรรยและนากลัวเทาเจดียกระดูก
นาเสียดาย เจดียนี้ไมแยแสเจาตัวเล็ก ราวกับสิ่งของธรรมดา
ใจกลางดินแดนมีภูเขาลูกใหญ มโหฬารพันลึก ประหนึ่งยอดเขาสิบลูกรวมตัว กวาง
ใหญและนาเกรงขามผิดปรกติ
“ชางเปนภูเขาที่ใหญเสียจริง!”
เจาตัวเล็กอุทาน บนเขามีแสงวิเศษระยิบระยับ มีอาวุธล้ําคาลอยขึ้นไมขาดสาย ราว
กับดอกไมไฟเบงบาน ลวนเปนวัตถุวิเศษที่ยิ่งใหญ
เขามองเห็นกลุมอัจฉริยะทีแ่ ข็งแกรงยิ่งเชน ปฟาง นกวิเศษสีทอง มังกรชือ ปเซี๊ยะ
ตนแดนดิไลออกวิเศษ ผีเสือแยกฟาเปนตน ณ บริเวณตีนเขา
มีคนบนภูเขาอยูกอนแลว ลวนพุงชนโชคชะตา ที่นี่เปนแหลงกําเนิดของ
โบราณสถาน ไดรับการขนานนามวา ผาแบงสมบัติ ตามตํานานกลาววามีของล้ําคา
แขวนเต็มไปหมด
“ดาบของขา… ดาบของขา…” ทันใดนั้น มีเสียงแกดังขึ้นขางหูเจาตัวเล็ก ทําใหเขา
ขนลุกขนพอง เขาพูดอยางหวาดกลัววา “ตาเฒาผี อยาทําขาตกใจ เจามิไดอยูที่ศาลาปด
ฟาหรือ ไยจึงสงเสียงอีกแลว?”
บทที่ 144 ผาแบงสมบัติ
“ดาบของขา… ดาบของขา…” เสียงขาดๆ หายๆ
เจาตัวเล็กผูไมกลัวฟาไมกลัวดินรูสึกหวาดกลัว เพราะเขาใชกระจกล้ําคาซวนหนี
สองตัวเอง พบวามีอัขระสีดําเปนวงปรากฏอยูบนหนาผาก กระแสเสียงเกี่ยวของกับมัน
“ใหตายเถอะ!” เจาตัวเล็กประหลาดใจ กอนจะมาที่นี่ เขาทําความเขาใจอยาง
จริงจังแลว วิญญาณบรรพกาลแหงศาลาปดฟาดํารงอยูมาเนิ่นนาน หากผูที่ถูกเลือก
ลมเหลว จะตองตายภายใตคําสาปแชง
“ตาเฒาผี… แมงเอย!” เจาตัวเล็กรูสึกกลัดกลุม
ผาแบงสมบัติมโหฬารและทรงพลัง สูงเสียดฟา บนภูเขามีหมอกดํารายลอมเปนริ้วๆ
ประหนึ่ง ภูเขาปศาจอันโอฬารในอดีตกาล มีกลิ่นอายอันนาเกรงขาม!
เสนทางเกาแกเสนหนึ่งทอดเขาไปยังภูเขา หินสีน้ําเงินปูทาง เต็มไปดวยการผัน
เปลี่ยนแหงกาลเวลา นับแตโบราณกาลมา ไมรูวามีวีรบุรุษหนุมสาวตั้งเทาใดไดเดินผาน
ไป แตสุดทายกลับเลือดอาบภูเขาปศาจ มิไดเดินลงมาอีกตอไป
ปฟาง ปเซี๊ยะ นกวิเศษสีทอง ตนแดนดิไลออนยืนอยูคนละมุม เตรียมการปองกันตัว
จากกันและกัน แตละตนมีกลิ่นอายนาสะพรึงกลัว พวกมันเปนอัจฉริยะยิ่งใหญที่ไมควร
ยั่วยุอยางยิ่ง
เจาตัวเล็กตองคําสาป สภาพจิตใจยอมไมดี หนาดําคร่ําเครียด มุงหนาเดินตรงไป
ราวกับคนทั้งหมดเปนหนี้อาวุธล้ําคาเขาสิบชิ้น ไมสนใจไยดีผูกลานากลัวเหลานี้
ภูเขาไมมีพืชพรรณแมแตหยอมเดียว มีสีน้ําตาลหมนทั้งลูก กอนหินบางสวนเปนสี
แดงคล้ํา เสมือนกับคราบเลือด บันไดหินสีน้ําเงินยาวมาก เขาเหยียบบันไดขึ้นไป เมื่อคิด
วาจําตองหาดาบเลมหนึ่งใหพบ ใบหนาก็ยิ่งถมึงทึง โมโหอยางที่สุด
“ขารูวาเปนดาบอยางใดรึ? มิไดบอกขาเสียหนอยวามีลักษณะแบบไหน จะหาเยี่ยง
ไร? ปวดหัวฉิบหายเลย!” เจาตัวเล็กยนจมูก เดินไตขึ้นเขาไป
ขางทางเดิน ปฟาง ปเซี๊ยะและตนแดนดิไลออนตางประหลาดใจ มนุษยหนุมคนนี้ไม
มองพวกเขาแมแตนิด เดินดุมๆ ขึ้นไปอยางทะนงตนเชนนี้แล
ตองรูวา สิ่งมีชีวิตที่เขาสูโบราณสถานตัวใดกลาเหมอลอยเชนนี้ เพียงหนึ่งในพวกมัน
ปรากฏตัวลวนกอเกิดความหวาดกลัว จําตองเตรียมการรับมืออยางดี
“ยะโสโอหังนัก” วานรคลั่งตัวหนึ่งเอยปาก แววตาเย็นเยือก
เมื่อเจาตัวเล็กไดสะดุงตื่นจากภวังคของตน หันหัวไปมองแลวพูดวา “เจากอริลลา
ยักษมองอะไร อัปลักษณจริงๆ เอะ เจามีเลือดบริสุทธิ์ใชหรือไม?”
วานรคลั่งเปนทายาทอสูรบรรพกาล เผาพันธุแข็งแกรง บรรพบุรุษไดชื่อวา วานร
เทพเจา ผูใดอาจหาญเรียกมันวา กอริลลา? มีอยางที่ไหนกัน โมโหจนจมูกแทบเบี้ยว
แลว!
เจาตัวเล็กเกาหัวแลวกลาววา “ขารับปากทานอาแลว สักวันจะกําราบสัตวอสูร
เลือดบริสุทธิ์ตัวหนึ่ง เจาใชหรือไม?”
วานรคลั่งพิโรธ เผชิญหนากับนัยนตารอนดั่งไฟคานั้น มันอยากจะกระโจนขึ้นมา
คํารามดวยความโกรธ จากนั้นฉีกใหเละเปนชิ้นๆ
นกวิเศษสีทองที่อยูด านหลังตัวนั้นฉายแววตาเยือกเย็นยิ่งกวา เบาตาสีทองสอง
ลําแสงมหัศจรรยออกมา จองมองเจาตัวเล็กซ้ําแลวซ้ําเลา
“ชางเถิด ตอนนี้ไมมีกะจิตกะใจ ขาตองไปหาดาบชํารุดเลมนั้น มิเชนนั้นตองตาย
เพราะคําสาปแชงเปนแน” เจาตัวเล็กหมดอาลัยตายอยาก หันหลังปนปายภูเขาไป
สิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญกลุมนี้ตางมีแววจาดุจดาบคม เมื่อไดยินถอยคํานี้ก็ประหวั่นพรั่น
พรึง ถอยหลังอยางชวยไมได สิ่งของเยี่ยงคําสาปนั้นพิลึกพิลั่นอยางยิ่ง หากทําไมดีอาจ
ประสบกับหายนะ ผูใดก็ไมกลาสัมผัสมัน
“โฮก…”
วานรคลั่งออกแรงทุบตีหนาอกของตน ระบายความไมพอใจ ประหนึ่งกลองสวรรค
สงเสียงดังตึงตัง
ภูเขาปศาจใหญโตมโหฬาร เดินอยูขางบนมองไมเห็นยอดเขา มองไมเห็นจุดสิ้นสุด
เปนครั้งแรกที่เจาตัวเล็กปภูเขาสูงตระหงานเชนนี้ ไมคลายกับปนเขาแมแตนิด แตกลับ
เหมือนเดินเหินกลางที่ราบสูง ภูเขามีขนาดมหึมาอยางแทจริง
บนเขามีกอนหินใหญนอนพาด กอเปนทิวทัศนมหัศจรรย แตที่นี่มิใชดินแดนสุขาวดี
แตอยางใด หมอกดําเปนริ้วๆ ลอยวนเวียน ผืนแผนดินมืดสลัว มองเห็นโครงกระดูก
ขนาดใหญตลอดเวลา ลวนเปนสิ่งที่เหลือไวหลังสิ้นชีพของอัจฉริยะในอดีตกาล
โลกใบนอยแหงนี้จะเปดทุกๆ หลายรอยป นับแตอดีตยันปจจุบันไมรูวามีวีรบุรุษ
หนุมสาวมากเทาใดทิ้งศพฝงรางไวทนี่ ี่
“วาว นี่คือปอาน[1]นาเสียดายที่มีคนเก็บเอากระดูกอักขระโบราณไปเสียแลว” เจา
ตัวเล็กสอดสองไปทั่วบริเวณแลวมุงหนาเดินตอไป
มีโครงกระดูกนานาชนิดทั้งยาอวี่[2] นกเกาเศียร เจียวถู[3]เถาวู[4] เปนตน ตลอด
ทางนี้ เขาพบซากกระดูกหลากหลายชนิด ตางทนทานดุจเหล็กกลา
นี่เปนของสะสมแหงกาลเวลาอันยาวนาน เปนสิ่งที่ตกตะกอนตั้งแตบรรพกาล
กระทั่งตอนนี้
บนเขามืดครึ้มมาก ยิ่งเดินขึ้นไปมากเทาใด มานหมอกก็ยิ่งหนาขึ้นเทานั้น เจาตัว
เล็กระแวดระวังตัว เพราะในภูเขาแหงนี้อันตรายเปนอยางมาก สามารถมองเห็นไดจาก
ซากกระดูกเหลานั้น ที่ผานมามีสิ่งมีชีวิตสิ้นชีพมากมายเหลือเกิน
“ชริ้ง”
ทันใดนั้น ลําแสงคมกริบเย็นยะเยือกปรากฏขึ้น พุงโจมตีกลางหลังของเจาตัวเล็ก
เสถียรและแมนยํา เด็ดเดี่ยวและปราดเปรียว นี่เปนหอกเขียวเลมหนึ่ง แจมจรัสแตนา
พิศวง ยามเขาใกลรางกายของเจาตัวเล็กจึงจะระเบิด จิตสังหารทิ่มแทงกระดูก
กายของเขาเกิดตุมหนังไกไปทั่ว ขนลุกขนชัน รางกายลอยพาดออกไป ดุจมวนภาพ
แบนราบ ลอยลองไปอีกมุมหนึ่ง เสียงตูมดังขึ้น คมหอกสีเขียวปกลงไปในกอนหินหนัก
หมื่นชั่ง สั่นไหวแผวเบา กอนหินแหลกเปนสี่สวนหาชิ้น
ตอมา หอกวิเศษสีขาวกวาดมา ทําลายสรรพสิ่งในพริบตา กอเกิดพายุคลั่งลูกหนึ่ง
กอนหินบนดินลอยลองตามมา ฝุนควันบดบังนภา สงเสียงดังหวีดหวิว
เจาตัวเล็กถอยหลัง ประหนึ่งวานรวิเศษตัวหนึ่งกระโดดขามกอนหินใหญ จากนั้น
เหลียวหลังมองดู
“ตูม”
ที่นั่นมีปาหินหักโคน แหลกละเอียด คมหอกสีเขียวแข็งแกรงเหลือเกิน กวาดกอน
หินมากมายจนหัก จากนั้นไลตามมา
นี่มิใชมนุษย แตเปนพืชประหลาดตนหนึ่ง คมหอกสีเขียวเปนลําตนใตดินของมัน
แข็งแรงและแหลมคม สามารถทะลวงเหล็กกลา จูโจมอีกครา
เจาตัวเล็กมั่นใจวา ไมเคยพบเจอพืชตนนี้มากอน ไรความเคียดแคน เห็นไดชัดวา
เปนการลาสังหารโดยเฉพาะ หมายชวงชิงอาวุธล้ําคาในกายเขา
เมื่อเขาสูเขารอยยอด พบเห็นเรื่องราวเหลานี้ไดบอยยิ่งนัก โดยเฉพาะคนที่ปนขึ้นมา
บนภูเขาใหญโตมโหฬารลูกนี้ยอมมิใชคนธรรมดา บนกายตองมีวัตถุล้ําคาวิเศษอันพบ
เห็นไดยากเปนแน จึงทําใหผูคนเกิดความปรารถนาอยากไดอยางงายดาย
เจาตัวเล็กนัยนตาเปนประกาย มุงหนาไปเผชิญ ทําศึกครั้งใหญกับพืชประหลาดตน
นี้ คมหอกสีเขียวมาพรอมกับอักขระ สองแสงสีเขียวเปนระลอก อานุภาพมหาศาล
แตทวา เมื่อเจาตัวเล็กใชสายฟา มันกลับตื่นกลัว ควบคุมยับยั้งโดยอัตโนมัติ มี
อันตรายถึงชีวิตของมัน
กอนหนานี้ มันไมเคยพบเจอเจาตัวเล็กมากอน ไมรูวาเขาแข็งแกรงปานใด เห็นวา
เปนมนุษยหนุมคนหนึ่ง นึกวาสามารถโจมตีสังหารไดเร็วไว ไมคิดวาจะจัดการยากเพียงนี้
ไมพูดไมไดวา มันยิ่งใหญเปนอยางมาก มันยืนหยัดใตการโจมตีของเจาตัวเล็กกวา
สิบกระบวนทา ถือวาเปนอัจฉริยะที่ล้ําเลิศอยางแนนอน!
“แควก”
สายฟาสีทองลอยมา ปกคลุมมันอีกครั้ง เสียงเปรี้ยงดังขึ้น มันไหมเกรียมสิ้นดี ไดรับ
บาดเจ็บอันตรายถึงชีวิต
เจาตัวเล็กนัยนตาฉายแวววิเศษ กระโจนพรวดออกไป เพื่อหักลําตนใตดินของมัน
ฉกชิงหอกเขียวเลมนั้น มันเปนอาวุธล้ําคาอันพบเห็นไดนอยยิ่ง ขณะเดียวกันก็อยากได
อักขระและเคล็ดวิชาล้ําคาของมันอีกดวย
“ตูม”
พืชชนิดนี้รูชะตากรรมของตน สองแสงทั้งตัว จากนั้นระเบิดจนแหลก หมายทําลาย
รองรอยชีวิตและอักขระของตน
“เครง”
เจาตัวเล็กเสกกรรไกรกระดูกออกกมา ฟนหอกศึกเลมนั้นในชั่ววินาทีสุดทาย รวงลง
สูพื้นดังตึง มิไดพินาศไปพรอมกับมัน
“โอย นาเสียดาย หอกศึกเสียหาย อักขระซอนเรนภายใน” เจาตัวเล็กเก็บขึ้นมา
หอกศึกเลมนี้สูงเทาคน แตกก็สั้นกวารูปรางเดิมอยูมากโข
“อันนี้ใหพวกตาจวงและผีโหว” เขารวบรวมกระดูกอักขระมาโดยตลอด หมาย
นํากลับหมูบานหินผา มอบใหแกชาวบาน
ภูเขาใหญโต ยิ่งเดินขึ้นไปยิ่งมากคน ครึ่งชั่วยามตอมา เจาตัวเล็กสูศึกกับคนหลาย
ครั้งหลายครา และมองเห็นซากศพมากมายตลอดทาง ซึ่งเสียชีวิตไปไมนานนัก
“ชริ้ง”
แสงวิเศษลอยขึ้น อาวุธล้ําคาปรากฏตัว เรนกายอยูในภูเขาจํานวนไมนอยเลย นํามา
ซึ่งการโอบลอมจากกลุมสิ่งมีชีวิต ลวนอยากไดมันมา ยอมเกิดสงครามตะลุมบอนครั้ง
หนึ่งยากหลีกเลี่ยงไมได มีไอเลือดลอยออกมาอยางรวดเร็ว
“ปกนกครุฑปรากฏแลว!” มีคนรองตะโกน
“นี่เปนอาวุธล้ําคาที่ดํารงอยูมาตั้งแตครั้งบรรพกาล!” กลุมคนดานบนคํารามลั่น พุง
โจมตีอยางบาคลั่ง
ที่นั่นมีปกสีทองมากมายลอยลอง เพียงกะพริบเบาๆ เปลวไฟก็ทวมทนทองฟา
หลอมละลายเขตภูเขากวางใหญ ลาวาเกลือกกลิ้ง หลั่งไหลลงสูเบื้องลาง
เจาตัวเล็กกนดา หันหลังวิ่งหนีทันที เพราะเขาอยูขางลางพอดี ถูกลาวาดั่งกระแส
น้ําปาสกัดกั้นเบื้องหนา
เขาเสกอาวุธล้ําคาและหอเหยียดไปอยางรวดเร็ว สงครามขางบนเจียนมวนตัวเขา
เขาไป นี่เปนความวิบัติอันเกินคาดคิด
“โอสวรรค มีคนไดปกนกครุฑไปครองแลว ไยอาวุธล้ําคาชิ้นนี้จึงเลือกเจาของใหม
เลา?” มีกลุมผูกลาขางบนอุทาน
นกวิเศษสีทองตัวหนึ่งพุงผานไป ปากคาบพัดล้ําคาสีทอง ลอยพาดผานทองฟาดุจ
ฝนดาวตก หายลับไปยังอีกฟากหนึ่งของภูเขา
“มันนี่เอง!” เจาตัวเล็กตะลึงงัน เกิดความอิจฉาอยางหาที่เปรียบมิได เขาเคยพบนก
วิเศษสีทองตัวนี้บริเวณตีนเขา รูวามันยิ่งใหญมากนัก
“เฮอ ปกยาวยอมไวกวาขายาว ขึ้นเขาหลังขาแตกลับวิ่งไปกอน ขานาสงสาร
เหลือเกิน” เจาตัวเล็กพึมพํา
ขณะเดียวกันก็ตื่นตัว พญานกสีทองตัวนั้นแข็งแกรงเปนทุนเดิมอยูแลว คลายคลึง
นกครุฑนัก ตอนนี้ไดพัดล้ําคาเชนนี้ไปครอง นากลัวยิ่งกวาเดิมเปนแนแท จําตองเตรียม
ปองกันอยางเขมงวดกวดขันมากขึ้น
ผาแบงสมบัติมีขนาดใหญมาก เจาตัวเล็กปนไตขึ้นไปตลอดทาง คนหาอาวุธล้ําคา
กินระยะเวลานานหลายวัน ยังไตไมถงึ ยอด และในระหวางนี้ เกิดสงครามนองเลือด
หลายครั้งเหลือเกิน เพียงสิ่งมีชีวิตปรากฏตัว จําตองเกิดการสังหารหมูอันคาวเลือด
“ผลุบ”
แสงทองกะพริบ เขาเสกกรรไกรมังกรเจียวออกมา สังหารผูกลาคนหนึ่ง กะโหลก
ลอยขึ้นสูง พรอมกับละอองน้ําจํานวนมาก รางกายไรหัวลมลง
นี่เปนผูกลาแหงตระกูลหลี เปนเชนเดียวกับตระกูลคุน เคยคิดชวงชิงอาวุธล้ําคาของ
เขาในดินแดนขั้นตน ลงมือจัดการเขา แตกลับถูกกองเปนภูเขามนุษย
หลายวันมานี้ เขาฝาทะลวงขึ้นขางบนอยางตอเนื่อง ประสบกับการลอบสังหารจาก
บุคคลนิรนามมากมาย รับรูความเปนมาของสี่ตระกูลใหญไดอยางกระจางชัดแจง
ตระกูลคุนพินาศสิ้นดีกลางโบราณสถาน และยังมีตระกูลหลี ยวน เหมิงอีกสาม
ตระกูล พบเจอกันในผาแบงสมบัติ เกิดสงครามนองเลือดอยูหลายครั้ง
หลายวันตอมา เจาตัวเล็กเต็มไปดวยบาดแผล เขาแข็งแกรงมาก แตอีกฝายมีผูผนึก
ชั่วชาเลวทราม ปรากฏขึ้นอยางตอเนื่อง หลายครั้งที่เขาตองพบกันหายนะถึงชีวิต
นับวาโชคดีที่เขาแข็งแกรงมากพอ แมอายุยังนอย แตอัจฉริยะหนุมของสามตระกูล
กลับมิใชคูตอสูของเขา อาศัยการลงมือของผูผนึกทั้งสิ้น ระหวางนี้ เจาตัวเล็กสังหารคน
จากทั้งสามตระกูลสิริรวมยี่สิบสามสิบคน ฟาดฟนเขนฆาอัจฉริยะของพวกเขาแทบ
ทั้งหมด
ผูผนึกที่รอดชีวิตระเบิดโทสะ คลุมคลั่งอยางสิ้นเชิง สาบานวาตองหาเขาใหพบ
สังหารเขาดวยการหลิงฉือ
ภูเขาสูงตระหงาน เขาใกลยอดเขามากเทาใดก็ยิ่งอันตรายมากเทานั้น เพราะกลุม
คนที่สามารพเดินทางมาที่นี่ไดตองเปนผูที่แข็งแกรงที่สุด เจาตัวเล็กปนไตดวยเทาเปลา
มาถึงยอดเขาในที่สุด เขาสูผาแบงสมบัติที่แทจริง
และผูผนึกแหงสามตระกูลจวนถึงแลว พวกเขาตั้งใจตามอยูขางหลัง หมายตีโอบเขา
หมายทําการสังหารครั้งสุดทาย
ยอดเขากวางใหญ ประหนึ่งที่ราบสูง มิใชอาณาบริเวณเล็กๆ ที่นี่มีกอนหินนานา
ชนิดนอนเรียงราย รูปรางประหลาดพิสดาร เสมือนอาวุธล้ําคาตางๆ แข็งตัว
แทจริงแลว มีตํานานเชนนี้อยู นักปราชญบรรพกาลหลั่งน้ําตา นองเลือด หลังจาก
คนมากมายสิ้นชีพ อาวุธตั้งเรียงรายลงบนหินแบงสมบัติ
มีปายโบราณตั้งตระหงาน ดานบนสลักตัวอักษรไมกี่แถว ตักเตือนมนุษยโลก หาม
สงเสียงดัง ณ ที่แหงนี้ รบกวนการหลับใหลของเหลานักปราชญ หามทําลายที่แหงนี้ ทํา
ใหผาแบงสมบัติพินาศ
นี่เปนเขตปลอดอาวุธ ไมอนุญาตใหกอสงคราม
“จริงหรือ?” มีทายาทอสูรตัวหนึ่งเอยถามดวยความไมเชื่อ
“ทางโนนมีชือเหวิ่น[5] ตัวหนึ่งไมเชื่อเชนกัน อยากทําลายกอนหินใหญนี้ ปรากฏวา
ตนเองกลายเปนแองเลือด” สัตวประหลาดรางคนตัวหนึ่งที่รูจักกับมันกลาวเตือน
ไมไกลนัก สัตวรายขนาดมหึมาตัวหนึ่งลมอยูกับพื้น กลายเปนแองเลือด เหลือเพียง
เศษกระดูกบางสวนสองแสงขาวแวววาว ตายอยางอนาถยิ่งนัก
อัจฉริยะทั้งหมดตางสูดลมหายใจเย็น หามลวงเกินที่แหงนี้เปนอันขาด
แมเหลานักปราชญบรรพกาลสิ้นชีพวายชนมแลว แตหามทําลายสถานที่หลับใหล
และฝงอาวุธของพวกเขา
คนมากมายเขาสูปาหิน ตั้งใจสัมผัส คนหาอาวุธล้ําคา เพราะตามตํานานกลาววา มี
อาวุธไมนอยที่ฝงตัวอยูในกอนหิน
“โอ กินกอนนั้นสองแสงแลว!” คนมากมายรองอุทาน
หินกอนหนึ่งแตกระแหง กลางรอยแยกกระจายแสงล้ําคา เปลือกหินหลุดลอก เผย
อาวุธล้ําคาหนึ่งชิ้น
มันคือไมโบยแทงหนึ่ง แวววาวโปรงแสง แดงฉานดุจเลือด ยาวไมถึงเซี๊ยะ แตกลับ
เจิดจาพรางพรายอยางที่สุด อักขระมากมายหอมลอม สงเสียงสายฟาคํารามดังกึกกอง
ชางเปนภาพที่นากลัว
“สวรรค เปนอาวุธที่เหลานักปราชญเหลือทิ้งไวจริงหรือ ตํานานเรนอาวุธแหงผา
แบงสมบัติเปนเรื่องจริงหรือ?” ผูคนอุทานอยางตื่นตะลึง
เบื้องหนาหินกอนนั้นมีนกตัวหนึ่ง เนื้อตัวสีเขียว ประดับดวยลวดลายสีเลือด แสง
สวางโชติชวงไหลเวียน มันคือปฟาง ไมโบยรวงตกลงตรงหนามัน มันไดไปครอง
“เสียดาย ไมโบยชํารุด ยากจะสําแดงพลังวิเศษบรรพกาล” ผูคนอาลัย เมื่อพบวา
ไมโบยนั่นหักเสียแลว นี่เปนเพียงทอนเดียวเทานั้น
แตนี่ก็เพียงพอจะสะทานโลกาแลว หากวาบมเลี้ยงและปลุกเสกศาสตราวุธทอนนี้ให
ดี สามารถกลายเปนสมบัติล้ําคาปกปองคุมครองชนเผาได
“ไยมันจึงไดไปเลา?” มีคนไมพอใจ เพิ่มระดับเสียง พุงกระโจนออกไป
แตทวา เสียงพรึ่บดังขึ้นแผวเบา ผาแบงสมบัติปลอยลําแสงนากลัวออกมา ฟาดเขา
ใหแหลกในพริบตา กลายเปนแองเลือด
ฝูงชนตางสูดลมหายใจเย็นเยือก คนทั้งหมดเงียบในทันที ไมอาจหาญพูดพลามอีก
ตอไป
ปฟางเหลียวหลัง นัยนตาเยือกเย็นกวาดมองฝูงชน
“พวกเราเขาไปในปาหิน ไปสื่อสารกับศาสตราวุธ ใหไดมาซึ่งอาวุธล้ําคาของพวกเรา
เอง!” อัจฉริยะของแตละเผาพันธุนัยนตาแววโรจน เฮโลกันเขาไป
เมื่อเจาตัวเล็กเขามาถึง สายตาก็ไมพอใชเสียแลว เมียงมองหินเสือนอนกอนนี้แลว
จองมองหินวัวเขียวกอนนั้น จากนั้นสํารวจหินโหวกลืนจันทราที่อยูเบื้องหนา เขากะพริบ
ตา เต็มไปดวยความเปรมปรีดิ์
“ของขา ของขา ของขาทั้งหมด!” คนละโมบแววตาเปนประกาย กําหมัดแนน
หากภายในหินเหลานี้ผนึกอาวุธล้ําคาไวจริง คงนาตื่นตะลึงอยางยิ่งก สมกับนามผา
แบงสมบัติ
ผูผนึกแหงตระกูลหลี ยวน และเหมิงตางขึ้นมาแลว มองดูปายสลักแลวจองเจาตัว
เล็กเขม็ง นัยนตาประกายแสงอํามหิต แตที่สุดแลวก็มิอาจหาญกระทําการบุมบาม
“รอเรื่องที่นี่จบสิ้น เมื่อออกจาผาแบงสมบัติคอยเอาชีวิตของเขา!”
เจาตัวเล็กมองเห็นพวกเขาแลว จึงเหลือกตาใสพวกเขาทันที จากนั้นหันหลังใส
เพิกเฉยอยางสิ้นเชิง ทําใหคนกลุมนี้โมโหจนหนาเขียว
“เอะ แมวยักษ เจาก็มารึ” เมื่อเจาตัวเล็กหันหลังกลับก็มองเห็นเสือขาวเขา
เสือขาวสงเสียงคํารามทุมต่ํา นัยนตาเผยประกายเหี้ยมโหด
“เจากําลังสงเสียงรึแมวยักษ ไยจึงมีพลังไมเทาแมวนอยที่เพิ่งกําเนิดเลา เสียงดัง
หนอยสิ” เจาตัวเล็กยกมือขึ้นมาปองหู เพื่อบงบอกวาเขาไมไดยิน
เสือขาวนัยนตาเยือกเย็น พูดเสียงเบาวา “เมื่อออกจากผาแบงสมบัติ ขาจะเอาชีวิต
เจา!” มันยอมไมกลาคํารามเสียงดัง มิเชนนั้นคงกลายเปนแองเลือดแน
เจาตัวเล็กไมโกรธเคืองแมแตนอย แตกลับเช็ดน้ําลายแลวกลาววา “รอคอยการพบ
กันที่งดงามของเราในครั้งตอไป”
………………………………………………….
[1] ปอาน ลูกมังกรทั้งเกา รูปเปนพยัคฆ นาเกรงขาม มักเกี่ยวของกับคดีความ
โดยมากจึงสลักรูปสัญลักษณนี้ไวบนประตูเรือนจํา เสือเปนสัตวที่ทรงอํานาจ ดังนั้นป
อานจึงมีสวนในการขมขวัญเหลานักโทษในเรือนจําใหมีความเคารพตอสถานที่
……………………………………………………………..
…………………………………………………………