You are on page 1of 4850

Perfect world (โลกอันสมบูรณแบบ)

เรื่อง : 完美世界 (Wan Mei Shi Jie)

ผูเขียน : 辰东 (Chen Dong)


ผูแปล : Lihong
=================
การเดินทางของเด็กอัจฉริยะจากดินแดนรกราง เพื่อใชพรสวรรคของตนสรางความ
เปนใหญในปฐพี หนึ่งธุลีเติมเต็มมหาสมุทร หนึ่งตนหญาทําลายดวงดารา พลิกฟาพลิก
แผนดินภายในพริบตา
กลุมผูกลาปรากฏขึ้น นานาเผาพันธุโผลสลอน
บรรดานักปราชญแยงชิงความเปนใหญสรางความโกลาหลอลหมาน
เอยถามโลกหลากวางใหญวา ผูใดกันที่กําหนดชะตา?!
................
นี่คือเรื่องราวของเด็กหนุมคนหนึ่งที่กาวออกจากดินแดนรกราง และทุกสิ่งทุกอยาง
ก็เริ่มตนจากจุดนี้…
บทนํา ดินแดนรกรางขนาดใหญ
ค่ําคืนดึกสงัด ทุกอยางมืดสนิทมองไมเห็นสิ่งใด กระนั้นภูเขากลับไมเงียบงัน สัตว
รายคํารามสั่นสะเทือนคีรีธารา มวลไมสั่นไหว ใบไมรวงโรยยุงเหยิงเสียงดังกรอบแกรบ
ภายในกลุมภูเขาและหุบเขามากเหลือคณานับ สัตวประหลาดครั้งดึกดําบรรพเที่ยว
ใชอํานาจบาตรใหญ อสูรบรรพกาลปรากฏตัว เสียงนาสะพรึงกลัวทุกรูปแบบดัง
ตอเนื่องกันเปนระลอกทามกลางความมืดมิด เพียงปรารถนาทําลายโลกนี้ใหแตก
ออกเปนเสี่ยงๆ
มองจากที่อันไกลโพนมีกลุมลําแสงออนโยนเลือนรางกลางเทือกเขา ราวกับแสง
เทียนเล็กๆ ที่วูบไหวพรอมดับสิ้นทุกขณะ ภายใตความมืดมนไมมีที่สิ้นสุดของมาน
รัตติกาลและภูเขามากมาย
คอยๆ เคลื่อนเขาไปใกลจะมองเห็นตนไมเกาแกขนาดใหญที่เหลือเพียงครึง่ ทอน
เสนผาศูนยกลางของลําตนกวาง 10 กวาเมตรและดําเกรียมทั้งตน นอกจากลําตนครึ่ง
ทอนนั้น มันเหลือแคกิ่งไมเปราะบางเพียงกิ่งเดียว แตกลับกระจายพลังชีวิต กิ่งไมและ
ใบไมพราวพรายเสมือนแกะสลักจากหยกเขียว แสงนุมนวลเปนจุดๆ แผขยายปกคลุมไป
ทั่วทั้งหมูบ าน
พูดใหถูกคือนี่เปนหนึ่งตนไมที่โดนสายฟาฟาดใส เมื่อหลายปกอนนั้นเคยประสบกับ
สายฟาฟาดขนาดใหญ ยอดขนาดมหึมาของตนหลิวโบราณและความมีชีวิตชีวาถูก
ทําลายยอยยับ ณ ตอนนี้บนผืนดินเหลือเพียงตอไมความสูงขนาด 8-9 เมตรและหนาจน
นาตกใจ ทวากิ่งไมที่มีเพียงกิ่งเดียวนั่นคลายกับโซศักดิ์สิทธิ์สีเขียว ลําแสงพรามัว
กระจายปกคลุมและคุมครองทั่วทั้งหมูบ าน ทําใหบริเวณที่พํานักอาศัยนั้นเลือนรางพรา
มัวราวกับแดนสวรรค ดูนาอัศจรรยทามกลางดินแดนรกรางแหงนี้
บานทุกหลังในหมูบานลวนแตเปนบานหิน ค่ําคืนดึกสงัดเงียบงัน ที่แหงนี้เงียบสงบ
และสันติ ประหนึ่งตัดขาดจากความมืดมิดของโลกภายนอกและเสียงคํารามของอสูรกาย
“วิ้ว...”
คลื่นพายุพัดผานไป กลุมเมฆดําทมิฬกอนมหึมาปรากฏขึ้นกลางอากาศแผคลุมทั่ว
ทองฟายามราตรี บดบังแสงดาวที่มีเพียงนอยนิดนั่น ทําใหเทือกเขายิ่งมืดมิดเขาไปอีก
เสียงแผดรองเกรี้ยวกราดของปกษาดังมาจากฟากฟา ทะลวงผานทองคํา
สั่นสะเทือนหินแหลกละเอียด[1] เสียงนี้มาจากกลุมเมฆดํานั่น เมื่อพินิจมองกลับคาดไม
ถึงวามันเปนปกษาขนาดใหญถึงขั้นมิอาจจินตนาการได คลายจะปกคลุมทองฟาบดบัง
ดวงอาทิตย ไมรูวายาวขนาดไหน
ขณะบินผานหมูบานหินผา มันมองลงไปยังดานลาง ดวงตาทั้งสองขางประดุจ
พระจันทรสีเลือด ไอโหดเหี้ยมทวมทนผืนฟา มันเพงมองตนหลิวเกาแกอยูชั่วครู สุดทาย
ก็บินหายไปยังจุดที่ลึกที่สุดของเทือกเขา
เงียบสงบอยูเปนเวลานาน กระทั่งคอนราตรีหลัง ผืนแผนดินสั่นสะเทือนขึ้นมา
ปรากฏเงาเลือนรางมาจากทางไกลๆ เงานี้สูงใหญดุจภูเขา!
กลิ่นอันนาพิศวงฟุงกระจาย เทือกเขาและหุบเขาเงียบสงัดราวกับไรชีวิต สัตวประ
หลาดุรายทั้งหลายตางหลบซอนกาย มิกลาแมแตจะเปลงเสียงออกมา
ใกลเขามาแลว นี่เปนสิ่งมีชีวิตที่มีรูปรางมนุษยเดินตรงดิ่ง รางใหญจนนาตกใจ
ความสูงเทียบเทาขุนเขา ทั่วทั้งตัวปราศจากเสนขนแตกลับปกคลุมดวยเกล็ดสีทองสอง
แสงแพรวพราวระยิบระยับ ใบหนาเรียบๆ มีเพียงดวงตาคมขางเดียว ครั้นกะพริบตาก็
คลายกับสายอัสนีสีทองที่คมกริบนาเกรงกลัวพาดผาน พละกําลังมหาศาลดุจดั่งเทพมาร!
มันยางกรายผานที่แหงนี้แลวปรายตามองยังตนหลิวเกาแก หลังจากหยุดอยูชั่วครู
ทายที่สุดก็จากไปยังที่หางไกล ราวกับกระวนกระวายรีบออกเดินทาง ยอดเขาจํานวน
มากสั่นสะเทือนจนเกิดเสียงครืนครัน ผืนแผนดินสั่นไหวอยางรุนแรงจากรอยเทาของมัน
ยามฟาสาง ตะขาบขนาดลําตัวหนาเทาถังน้ํา ความยาว 10 เมตรสองแสงสีเงินเจิด
จาเลื้อยอยูกลางภูเขาประหนึ่งหลอมจากแรเงิน แตละทอนนั้นเงาวับนาขนลุก ยามมัน
เลื้อยผานหินผาเกิดเสียงดังครืนครั่นพรอมประกายไฟกระเด็นออกมา ทวาสุดทายมัน
กลับหลบเลี่ยงหมูบานหินผาและไมรุกล้ําเขาไป หมอกดําทมิฬโหมซัดสาดไลหลัง เหลา
อสูรกายจําตองลาถอย
หนึ่งกานหลิวเปราะบางที่แผแสงสีเขียวแวววาวกําลังแกวงไกวอยูก ลางสายลม...
..............................
[1] ทะลวงผานทองคํา สั่นสะเทือนหินแหลกละเอียด เปนสํานวนจีน เปรียบเปรยวา
เสียงดังกองกังวาน
บทที่ 1 พลังชีวิตอันเต็มเปยม
หมูบานหินผา ตั้งอยูกลางเทือกเขาอันกวางไกลสุดลูกหูลูกตา โอบลอมดวยยอดเขา
สูง หุบเขาลึกและแนวเขาสูงตระหงานรอบทิศทาง
แสงอรุณยามเชาทอแสงระยับราวกับผงทองคําที่โปรยปรายอาบไลบนตัวผูคนอยาง
อบอุน
กลุมเด็กราวสิบคน อายุสี่หาขวบถึงสิบกวาปคละกันไปยืนตากแดดที่ลานกวางหนา
หมูบาน พวกเขากําลังฝกฝนรางกายพรอมกับเปลงเสียงเสียงดุดัน ใบหนาออนเยาว
เหลานั้นมีสีหนาเอาจริงเอาจัง เด็กที่โตหนอยดูหาวหาญดุจพยัคฆ ที่เด็กกวาก็ออก
ทาทางไดอยางสวยงามและถูกตอง
บุรุษวัยกลางคนที่รางกายแข็งแกรงปราดเปรียวดุจเสือดาว สวมเสื้อหนังสัตว ผิวสี
ทองแดง ผมดําขลับแผสยาย ดวงตาแวววาวเต็มไปดวยชีวิตชีวากวาดมองเด็กแตละคน
และกําลังชี้แนะพวกเขาอยางขึงขัง
“ยามอาทิตยอุทัย เปนการเริ่มตนของสรรพสิ่ง ลมปราณจะทรงพลังในชวงเวลานี้
แมนวาจะมิอาจดูดกลืนแสงตะวันและดูดซับลมปราณดั่งตํานาน แตทวาการฝกฝน
รางกายใตแสงตะวันเชนนี้ก็มีผลดีอยางใหญหลวง มันสามารถเติมพลังชีวิตใหรางกายได
อยางทวมทน แผนในหนึ่งวันอยูที่ตอนเชา[1] ตื่นเชาและพากเพียรเปนนิจ เสริมสราง
ความแข็งแกรงใหกระดูกและกลามเนื้อ ชวยใหเสนเอ็นคลายตัวทําใหเลือดลมไหลเวียน
ดี จึงจะมีหนทางอยูรอดทามกลางเทือกเขากวางใหญนี้ได “บุรุษวัยกลางคนซึ่งยืนอยู
ดานหนากําลังชี้นําเด็กกลุมหนึ่งอยางดวยสีหนาเครงขรึม กลาวตักเตือนดวยความจริงจัง
และตวาดไปอีกวา” พวกเจาเขาใจรึไม?”
“เขาใจขอรับ!” เด็กๆ ตอบกลับไปดวยเสียงอันดังและทรงพลัง
เนิ่นนานกอนประวัติศาสตรในภูเขาเกิดการปรากฏกายของสิ่งมีชีวิตดึกดําบรรพ
มากมาย ปกกวางใหญพาดผานและบดบังทองฟาในบางครั้ง เงาขนาดมหึมาทอดลงบน
พื้นดิน มิหนําซ้ํายังมีอสูรรายที่ยืนตระหงานบนยอดเขา แผดเสียงคํารามประหนึ่งจะ
กลืนกินดวงจันทร ยิ่งขาดแมลงพิษสารพัดชนิดที่คืบคลานไปไมไดเลย พวกมันนา
สะพรึงกลัวเปนอยางมาก
“เขาใจขอรับ” เด็กนอยที่สติไมอยูกับรองกับรอยและตอบสนองชาขานรับดวยเสียง
ไรเดียงสา
นี่เปนเด็กเยาววัยอายุราวๆ 1-2 ขวบที่เพิ่งจะหัดเดินไดไมกี่เดือนก็รวมฝกฝน
รางกายตามผูอื่นดวย เห็นไดชัดวาเขาเดินเตาะแตะเขามาปะปนอยูในกลุมของเด็กที่มี
อายุมากกวาดวยตนเอง แนนอนวาเขาไมควรปรากฏตัวอยูในกลุมนี้
“ฮึด ฮึด ฮา ยาห!” เด็กนอยเปลงเสียงออกมาจากปากของเขา แขนเล็กนุมนิ่มกําลัง
ออกแรงเคลื่อนไหวเลียนทาทางของกลุมเด็กโต แตเขายังเยาวนัก ทวงทาบิดเบี้ยว ทั้ง
การกาวเดินที่โซเซโอนเอน ยิ่งกวานั้นคือคราบน้ํานมสีขาวที่หลงเหลือตรงมุมปากนั้นทํา
ใหดูนาขบขันเหลือเกิน
กลุมเด็กโตที่กําลังจองมองเขาตางก็ยักคิ้วหลิ่วตา ทําใหบรรยากาศการบริหาร
รางกายในตอนเชาที่เดิมทีนั้นตึงเครียดคลายลงมินอยเลย
เจาตัวเล็กมีผิวขาวผองเนียนนุมและใบหนาอันงดงาม ดวงตากลมโตสีดําสุกใสแพรว
พราว เขานารักราวกับตุกตากระเบื้องเคลือบ ทาทางที่ไมประสากอปรกับปากที่เอยเสียง
ออแอนั้นเผยความนารักไรเดียงสา สิ่งเหลานี้ทําใหผูอาวุโสบางสวนที่นั่งขัดสมาธิและ
กําลังสูบลมปราณฟาดินบนแผนหินขนาดใหญของลานกวางอีกฟากหนึ่งตางก็เผยรอยยิ้ม
ออกมา
แมกระทั่งพวกหนุมฉกรรจที่มีรูปรางสูงใหญล่ําสัน ทอนบนเปลือยเปลากับ
กลามเนื้อเงาวาวซ้ําเสนเอ็นยังปูดโปนก็มองมาดวยใบหนาที่แตมรอยยิ้ม พวกเขาคือผูที่
แข็งแกรงที่สุดในหมูบาน เปนกองกําลังสําคัญในการไลลาและปกปกรักษาของหมูบานนี้
พวกเขาตางก็กําลังฝกฝนรางกาย บางก็กํากระบองที่เกิดจากการขัดฝนกระดูกของอสูร
ไมรูนาม บางก็ถือดาบที่หลอมจากเหล็กกลาสีดําสนิทออกแรงกวัดแกวงไปมา กอเกิด
แรงลมพัดไหววูบเสียงดังราวฟาผา
สภาพแวดลอมที่พวกเขาดํารงชีวิตอยูนั้นเลวรายเปนที่สุด มันเต็มไปดวยเหลาอสูร
แมลงพิษ เด็กผูชายจํานวนมากที่จากไปกอนวัยอันสมควรทามกลางดินแดนรกรางแหงนี้
หากตองการมีชีวิตอยูรอดตอไป มีเพียงทางเดียวคือตองสรางความแข็งแกรงแกรางกาย
ตนเอง พากเพียรตั้งแตเชาตรู ไมวาจะเปนชายหนุม ผูสูงวัยหรือเด็กก็ไมละเวน นี่เปน
ความเคยชินของทุกคนที่ฝกฝนกันมาแตเยาววัย
“มีสมาธิ!” ชายวัยกลางคนที่ทําหนาที่เปนผูตรวจตราและสอนสั่งเด็กๆ เรื่องการฝก
พละกําลังตะโกนดวยเสียงดังลั่น เด็กๆ จึงกลับมาฝกฝนตออยางจริงจังภายใตความ
อบอุนของแสงอาทิตยที่สองประกายระยิบระยับ
“ฮู...ฮึ่ย เหนื่อยแลว” เจาตัวเล็กถอนหายใจออกมาแลวทรุดลงไปกองกับพืน้ พรอม
มองดูพวกเด็กโตที่ฝกฝนรางกาย ทวาเพียงชั่วครูสมาธิของเขาก็แตกกระจาย เขาลุกยืน
ขึ้นแลวเดินโซเซพุงไปยังนกกระจอกหาสีที่กําลังกระโดดโลดเตนอยูไมไกล ผลปรากฏวา
ลมลุกคุกคลาน และถึงแมวาจะเสียหลักหกลมอยูหลายครั้งแตเขาก็ไมรองไห ถอน
หายใจหนักหนวงพลางบนอุบอิบแลวลุกขึ้นวิ่งไลจับอีกครั้ง
“เอาละ พักได!”
ครั้นสิ้นเสียงตะโกน เด็กๆ ตางก็โหรองดวยความดีใจ บีบนวดแขนขาที่ปวดเมื่อย
ของตน แลวแยกยายกันไปพรอมเสียงหัวเราะครื้นเครง ทุกคนมุงตรงไปยังบานของตน
เพื่อกินอาหารเชา
เหลาผูเฒาผูแกก็หัวเราะแลวพากันลุกเดินออกจากแผนหินใหญ แตพวกชายหนุมที่
มีรางกายแข็งแกรงดุจพยัคฆกลับเอ็ดทีเลนทีจริง ตอวาลูกๆ ของตนพลางกํากระบอง
กระดูกสัตวและดาบ แลวตางสาวเทาตรงดิ่งกลับบานของตัวเองเชนกัน
หมูบานหินผาไมไดมีขนาดไมใหญมากนัก ประชากรทั้งหมดราวๆ 300 กวาคน บาน
ทุกหลังสรางจากหินขนาดใหญที่เรียบงายทั้งยังเปนธรรมชาติอีกดวย
ดานหนาของหมูบานมีทอนไมขนาดมหึมาที่โดนสายฟาฟาดใส เสนผาศูนยกลางของ
ลําตนกวาง 10 กวาเมตร ณ เวลานี้แสงพราวพรายของกานหลิวเพียงกานเดียวที่
หลงเหลืออยูบนทอนไมถูกบดบังโดยแสงแหงรุงอรุณ แปรเปลี่ยนเปนกานหลิวธรรมดา
เสียแลว
“โอ มีเนื้อมังกรดินดวยรึ แบงขาบางสิ!”
เด็กเหลานี้กระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวามาก กระทั่งเวลากินขาวก็ยังอยูไมสุขนัก คนไม
นอยอุมชามขาววิ่งออกมาจากบานของตนเองแลวมาจับกลุมชุมนุมกัน
หมูบานหินผารายลอมดวยนานาพืชพรรณ อสูรกายมากมายปกปกษคุมครองภูเขา
อันกวางใหญนี้ อาหารของคนในหมูบานกลับไมนับวาดีเลิศอุดมสมบูรณ เปนเพียงแค
ขนมปงเนื้อหยาบ ผลไมปาและเนื้อสัตวนอยนิดในชามอาหารของเด็กๆ เทานั้น
อันที่จริงแลวการขาดแคลนอาหารถือเปนปญหารายแรงสําหรับหมูบานหินผามา
โดยตลอด ในเทือกเขาเต็มไปภยันตราย สัตวประหลาดดุรายเหลานั้นทั้งแข็งแกรงและ
นาสะพรึงกลัว ทุกครั้งที่ออกลาสัตวก็จะมีผูคนเอาชีวิตตนเองไปทิ้ง
หากมีทางเลือก พวกเขาไมยินยอมที่จะเขาไปในหุบเขา เพราะการเขาไปในหุบเขา
หมายความวาจะมีการนองเลือดและการสูญเสียเกิดขึ้น
สําหรับพวกเขา อาหารเปนสิ่งที่ล้ําคายิ่ง การบริโภคอยางสุรุยสุรายนั้นถือวาเปนสิ่ง
ที่อภัยไมได เด็กทุกคนรับรูถึงจุดนี้ตั้งแตวัยเยาว ความหิวโหย อาหาร การลา ชีวิตและ
เลือด สิ่งเหลานี้ลวนแตเกี่ยวโยงกันทั้งหมด
หนาทางเขาหมูบานเปนลานบานของหัวหนาหมูบานวัยชรา สือยวิ๋นเฟง บานของ
เขาสรางจากการประกอบหินขนาดใหญเขาดวยกัน มีตนหลิวสีดําเกรียมขนาดใหญอยู
ติดกัน ดานหนาของเตาไฟภายในลานบาน มีของเหลวสีขาวที่กําลังเดือดปุดๆ ในหมอ
ดินเผา กลิ่นนมหอมโชยแตะจมูก เขากําลังตมเคี่ยวนมสัตวพรอมทั้งใสสมุนไพรตางๆ ลง
ไปเปนครั้งคราวแลวใชชอนไมคอยๆ คนไปเรื่อยๆ
เพียงชั่วครู เสียงชายชราก็ตะโกนขึ้นมาวา “เจาตัวเล็ก มากินไดแลว”
เจาตัวเล็กกําพราบุพการีตั้งแตอายุไมถึงขวบป เขาเติบโตจากการดื่มนมสัตวอสูร
แตปจจุบันเขาอายุหนึ่งขวบกับไมกี่เดือนเศษ หากเปนเด็กปกติทั่วไปก็ควรจะหยานมตั้ง
นานแลว แตเขากลับดื่มกินอยางเอร็ดอรอยเหมือนอยางเคยและไมสามารถเลิกดื่มได
เขามักจะโดนหัวเราะเยาะจากเด็กที่โตกวาอยูเสมอ
“ฮึ่ยยะ ฮู...วิ่งไมไหวแลว” เขาพยายามไลตามนกกระจอกหาสีอยางไมลดละทั้งที่
หายใจเหนื่อยหอบอยูนานแลว และตอนนี้เขาก็ทรุดลงไปกองกับพื้นแลว
“เจาตัวเล็กมาดื่มนมไดแลว!” เด็กโตกลุมหนึ่งรองตะโกนขึ้นมาพรอมกัน
“เจาพวกฝูงลิงคาง พวกเจาตางก็เคยผานชวงวัยแบบเขามาทั้งนั้น” หัวหนาหมูบาน
ตําหนิอยางไมจริงจังนัก
“แตพวกเราไมไดดื่มนมตอนขวบครึ่งแลวนะขอรับ ฮาๆ”
เจาตัวเล็กไดแตยิ้มอยางใสซื่อใหกับการหยอกลอของเด็กโต ดวงตากลมโตสีดําสุกใส
หยีจนกลายเปนรูปพระจันทรเสี้ยวประหนึ่งไมไดใสใจเลยแมแตนอย นั่งลงตรงหนาหมอ
ดินเผาแลวใชชอนไมตักนมขึ้นมาดื่มกินอยางเอร็ดอรอย
หลังมื้ออาหารเชา เหลาผูอาวุโสจํานวนหนึ่งในหมูบานที่อายุมากแลวไดมาพรอมกัน
ยังกลางลานบานของหัวหนาหมูบานสือยวิ๋นเฟง ถึงแมวาผมเผาหนวดเคราจะหงอกขาว
แลว แตกลับยังแข็งแรงและเปยมดวยพลัง
“ชวงนี้ไมคอยปกตินัก ดึกดื่นค่ําคืนจะมีเจาสัตวประหลาดเคลื่อนผานอยูตลอด
เสียงเคลื่อนไหวดังสนั่น ตองมีบางอยางเกิดขึ้นในบริเวณหุบเขาลึกของเทือกเขานี้แนๆ”
“อืม เมื่อคืนขาสะดุงตื่นอยูบอยครั้ง รูสึกเย็นยะเยือกไปถึงกระดูก ตองมีเหลาอสูร
บรรพกาลเคลื่อนผานทางนี้ไปอยางแนนอน”
ชายชราแตละคนตางก็พูดขึ้นตามลําดับ พวกเขาหนานิ่วคิ้วขมวดพลางครุนคิด
หารือถึงเรื่องสัญญาณอันตรายในระยะนี้ พวกเขารูสึกวาไดเกิดเรื่องที่ไมชอบมาพากลขึ้น
เสียแลว
“ขาคิดวาอาจมีบางสิ่งที่ไมธรรมดาเกิดขึ้นในบริเวณหุบเขาลึกของดินแดนรกราง
แหงนี้ จึงดึงดูดความสนใจของเหลาอสูรกายดึกดําบรรพที่อยูบริเวณใกลเคียง และพากัน
เรงเขามา” หัวหนาหมูบานสือยวิ๋นเฟงเอยขึ้นหลังตรองอยูชั่วครู
“มิใชวาปรากฏของล้ําคาออกมาหรอกนะ?” ชายชราคนหนึ่งนัยนตาเบิกกวาง ผม
เผาหนวดเคราชี้ชัน เขาเผยสีหนาตกใจออกมา
คนอื่นๆ ก็มีสีหนาที่แตกตางกันออกไป แววตาลุกเปนไฟ แตเพียงชั่วครูก็ดับเปลวไฟ
ที่ลุกทวมในดวงตาจนสิ้น ของพรรณนั้นไมใชสิ่งที่พวกเขาจะครอบครองได ของที่อยูใน
สวนที่ลึกที่สุดของเทือกเขาและไมมีใครสามารถยางกรายเขาไปได
หลายปมานี้ไมเคยมีใครมีชีวิตรอดออกมาหากไดเขาไปในนั้น สิ่งมีชีวิตหลากหลาย
รูปแบบปรากฏกายระรานภายในภูเขา แมวาผูคนทั้งหมูบานรวมตัวแหกันไปยังที่แหงนั้น
ก็ไมเกิดผลอันใด
“ทานหัวหนาหมูบานขอรับ พวกเราก็มิไดเดินทางเขาปามาระยะหนึ่งแลว” และ
ในขณะนั้นเองก็มีชายหนุมวัยฉกรรจรปู รางสูงใหญกํายําเดินเขามายังลานบาน เขาเปน
ผูนําของกลุมนักลา และจะไดเปนหัวหนาหมูบานคนตอไปอีกดวย
“ระยะนีม้ ีบางอยางไมชอบมาพากล” หัวหนาหมูบานสือยวิ๋นเฟงขมวดคิ้ว
“แตเสบียงอาหารเหลือไมมากแลวนะขอรับ” สือหลินหูตอบ เขามีรูปรางกํายําสูง
ใหญมาก สูงราว 2 เมตรเศษ สะพายดาบหนัก 150 กวากิโลกรัมไวดานหลัง แข็งแรง
ประหนึ่งหมี กลามเนื้อสีทองแดงเปนมัดๆ ทั่วทั้งรางราวกับงูเงี้ยวเขี้ยวขอที่กําลัง
เคลื่อนไหวอยู
“พวกเด็กนอยจําเปนตองเจริญเติบโต จะปลอยใหหิวโหยมิได เราตองคิดหาหนทาง
แก” มีชายชราพูดขึ้น
“แมในยามราตรีกาลจะไมสงบ แตยามทิวากาลก็มิไดมีสิ่งผิดปกติอันใด ขาจะนําคน
บางสวนออกไป หากระมัดระวังสักหนอยก็มินาจะไมมีปญหาอันใด” สือหลินหูกลาว
สุดทายเหลาชายฉกรรจก็รวมพลกันตรงหนาหมูบาน และไดหัวหนาหมูบานสือยวิ๋น
เฟงเดินนํามายังดานหนาของตนหลิวสายฟาฟาดที่ตั้งอยูขางหมูบาน เพื่อรวมกัน
อธิษฐานอยางจริงจังตอหนาตนหลิวเกาแกตนนี้
“ขาขอวิงวอนตอบรรพบุรุษ ไดโปรดคุมครองพวกเราทุกคน ขอใหเด็กๆ ไดเหยื่อลา
ที่อวนทวนสมบูรณและกลับมาอยางปลอดภัย พวกเราขอกราบไหวบูชาดวยใจศรัทธา
ตราบชั่วลูกชั่วหลานสืบไป”
..............................
[1] แผนในหนึ่งวันอยูที่ตอนเชา เปนคําพังเพยจีน หมายความวา การเรียนรูทั้งวัน
ขึ้นอยูกับความตั้งใจในตอนเชา
บทที่ 2 อักขระกระดูก
ภายใตการนําสวดภาวนาของหัวหนาหมูบานและเหลาผูอาวุโส ชายฉกรรจทั้งหลาย
ตางก็กราบไหวดวยสีหนาที่เครงขรึม ทั้งสตรีและเด็กๆ จํานวนมากก็รีบวิ่งกรูกันมา
อธิษฐานวิงวอนกันเงียบๆ เพื่อขอใหผูเปนที่รักของตนที่ออกลากลับมาอยางปลอดภัย
ในเทือกเขามีภยันตรายมากมาย หากออกจากหมูบานที่มีตนหลิวศักดิ์สิทธิ์ปกปกษ
คุมครองแลว ภายนอกจะเปนอีกโลกหนึ่งที่แตกตางกันโดยสิ้นเชิง ขางนอกนั้นเต็มไป
ดวยเหลาอสูรกายดุรายที่นาสะพรึงกลัว
ดวยเหตุนี้ กลุมคนที่แข็งแกรงที่สุดในหมูบานตางแบกคันธนูใหญและสะพายดาบ
แลวออกเดินทาง เมื่อเหยียบยางเขาสูกลางหุบเขาและธารา พลันก็มีกลิ่นอายของความ
เปลี่ยวรางลอยมาปะทะจมูก
ครั้นมองตามหลังกลุมนักลาซึ่งเดินจากไปแลว หัวหนาหมูบานอาวุโสสือยวิ๋นเฟงก็
เดินนําเด็กกลุมหนึ่งมายังสนามหญาตรงทางเขาหมูบาน เขานั่งขัดสมาธิแลวกลาววา
“เอาละ เจาพวกลิงคาง พวกเจาก็ควรจะตั้งใจเรียนรูไดแลว”
เด็กๆ ทําหนานิ่วคิ้วขมวดขึ้นมาทันที แตละคนเซื่องซึมไมมีชีวิตชีวา ฝนใจนั่งลอม
กันเปนวงราวกับใบไมที่เหี่ยวเฉา
“ทานผูเฒาขอรับ พวกอักขระโบราณเหลานั้นสลับซับซอนประหนึ่งสัญลักษณภูตผี
ยากตอการเรียนรูยิ่งนัก ไยจึงตองศึกษาดวยเลาขอรับ”
“นั่นสิขอรับ เทียบประโยชนของวิชาธนูที่พอขาสอนก็ไมได!”
เด็กๆ ทุกคนมีสีหนาบูดบึ้ง ตางก็เกิดความรูสึกขัดแยงภายในใจ
“เจาเด็กพวกนี้ชางไมรูอะไรเอาเสียเลย อักขระกระดูกเปนสัญลักษณที่ปรากฎโดย
ธรรมชาติบนกระดูกของอสูรบรรพกาลเหี้ยมโหด แฝงไวซึ่งอํานาจและพลังลึกลับ ผูคน
มากมายอยากจะศึกษาแตก็ไมมีโอกาส ขอเพียงพวกเจาศึกษากระทั่งประสบผลสัมฤทธิ์
ไมรูวาพวกเจาจะยิ่งใหญเกรียงไกรกวารุนพอของพวกเจาตั้งกี่เทา” หัวหนาหมูบาน
อาวุโสที่ไมสามารถหลอมเหล็กใหกลายเปนเหล็กกลาได[1]กลาวตําหนิเด็กๆ
“ทานผูเฒาขอรับ ทานแสดงแสนยานุภาพของอักขระกระดูกใหพวกเราไดเห็น
หนอยสิขอรับ” เด็กที่โตกวาเล็กนอยกลาว
“เจาตัวเล็กมานี่สิ” หัวหนาหมูบานรองตะโกนออกไปไกลๆ
หลังจากที่เจาตัวเล็กไลตามนกกระจอกหาสีไปแลว ตอนนี้กําลังพยายามออกแรงฉุด
ลากหางของสุนัขสีเหลืองตัวใหญตัวหนึ่ง เขาหันหัวกลับมาตามเสียงเรียกดวยความงุนงง
ปลอยมือจากหางสุนัขแลววิ่งเตาะแตะเขามา เขากะพริบดวงตากลมโตสุกใสแลวกลาววา
“ทานผูเฒามีเรื่องอะไรรึขอรับ?”
“ขาตองการใหเจาใชสิ่งที่ขาเคยสอนในอักขระกระดูก” สือยวิ๋นเฟงกลาว
“ขอรับ” เจาตัวเล็กรับคําแลวยื่นแขนนอยๆ ทั้งสองขางออกไป ปากเมมสนิท เขา
พยายามใชแรงที่มอี ยูทั้งหมดอยางตอเนื่องจนหนาแดงก่ํา
“วิ้ง” เกิดเสียงดังขึ้น บนฝามือของเขามีแสงสวางวาบขึ้นมาและปรากฏอักขระ
ประหลาดใหเห็น อักขระนั่นมีแสงมันแววและเสมือนจริงราวกับหลอหลอมจากโลหะ
และมันก็ปรากฏบนมืออีกขางหนึ่งอยางรวดเร็ว
เจาตัวเล็กกาวไปขางหนาเล็กนอยแลวยกหินสีน้ําเงินกอนใหญที่สูงกวาตัวเขาขึ้นมา
“ชางแข็งแกรงเสียจริง!” เด็กกลุมหนึ่งรองออกมาอยางตกใจ เขาเปนเพียงเด็กอายุ
ขวบปเศษ เหตุใดจึงสามารถยกกอนหินที่ใหญขนาดนั้นได?
“เจาตัวเล็ก กําลังที่เจาไดจากการดื่มนมคงถูกใชหมดแลวใชหรือไม?” เด็กโตกวา
หยอกเขา
“ใชแลวขอรับ ขาใชพลังไปหมดแลว” เจาตัวเล็กปลอยหินสีน้ําเงินแลวทิ้งตัวนั่งลง
กับพื้น หัวเราะอยางไมถือสา เขาชางไรเดียงสายิ่งนัก พลันอักขระบนฝามือก็เลือนราง
จางหายไป
“ทานผูเฒา นี่คือพลังลึกลับของอักขระกระดูกที่ทานศึกษามาเปนสิบๆ ปงั้นหรือ
ขอรับ?” แววตาของเด็กๆ เปนประกาย ทาทีแตกตางจากกอนหนานี้ที่ขาดความสนใจ
อยางสิ้นเชิง
“อยาตื่นเตนไป สิ่งเหลานี้เปนเพียงแคจุดเริ่มตน หากเทียบกับอักขระกระดูกฟาที่
ปรากฏในตํานานแลวยังหางไกลยิ่งนัก” ชายชราพยักหนาแลวก็สายหนาไปมา
“ทานผูเฒาขอรับ เลาเรื่องโลกภายนอกใหพวกเราฟงบางสิขอรับ” เด็กๆ เผยสีหนา
คาดหวัง
ทุกคนในหมูบานหินผาลวนรูดีวาหัวหนาหมูบานเคยเดินทางไปยังสุดขอบโลก และ
ผจญโลกกวางรวมกับเหลาคนแข็งแกรงสิบกวาคนของหมูบ านเมื่อสมัยอายุยังนอย
แตเมื่อ 10 กวาปกอน มีเพียงสองคนที่รอดชีวิตกลับมาในสภาพเลือดทวมตัว หนึ่ง
ในนั้นมีชีวิตอยูไดไมนานก็จากไป เหลือเพียงสือยวิ๋นเฟงเพียงผูเดียวที่ยังมีชีวิตอยู
หลายปมานี้เขาใชเวลาศึกษาอักขระกระดูกอันลึกลับมาโดยตลอด เขาทดสอบมัน
กับคนที่มีรางกายแข็งแกรงตลอดเวลา เด็กเหลานี้รูดีวา ทุกครั้งที่พอของพวกเขาซึ่ง
แข็งแกรงดุจมังกรพยัคฆถูกเรียกไปนั้นจะเกิดเสียงคํารามที่ออกมาจากกลางลานหิน
เสียงที่ทําใหอกสั่นขวัญแขวน ภายในใจของเด็กๆ จึงเกิดความรูสึกตอตานและเคารพนับ
ถือในเวลาเดียวกัน
กระทั่งไมกี่ปมานี้ การศึกษาวิจัยของหัวหนาหมูบานอาวุโสเพลาลงบางแลว ไมไดทํา
ใหรูสึกหวาดกลัวมากนัก มิหนําซ้ําเจาตัวเล็กที่เติบโตจากการดื่มกินนมสัตวและกิน
อาหารของบานอื่นไดรับการเลี้ยงดูจากเขา และกลายเปนผูถูกศึกษาวิจัยชั้นยอด
“โลกภายนอกหรือ... “ชายชราทําหนาหวนคิดถึงอดีต หลังจากมีสีหนาเหมือนตอง
มนตรและผิดหวังเขาก็พูดขึ้นวา” โลกนี้กวางใหญไพศาลนัก มันเวิ้งวางไกลสุดลูกหูลูกตา
การเดินทางจากดินแดนหนึ่งไปยังตางแดนอยางนอยก็นับลานลี้ ไมมีผูใดรูวาแทจริงแลว
มันกวางมากมายเพียงใด คนๆ หนึ่งใชเวลาเดินเทาทั้งชีวิตก็ไมสามารถเดินออกจากหนึ่ง
ดินแดนรกรางอันกวางใหญไรขอบเขตนี้ได การติดตอสื่อสารของหมูบานซึ่งอยูตาง
ดินแดนนั้นเปนเรื่องยาก เพราะอันตรายยิ่งนัก บนโลกนี้เต็มไปดวยสรรพสัตวดุราย ทั้ง
นาสะพรึงกลัวและลึกลับ แมวาเปนอาณาจักรที่มีคนนับแสนคนหรือเมืองทีย่ ิ่งใหญเกรียง
ไกรก็อาจพินาศไดภายในค่ําคืนเดียว แนนอนวามีเผาพันธุมนุษยที่แข็งแกรงถึงขั้น
จินตนาการไมได พลังในการรบยอดเยี่ยมทัดเทียมกับสัตวประหลาดอื่นๆ พลานุภาพนา
เกรงขามไมมีผูใดเทียบได ถูกยกยองวาเปนบุตรแหงสวรรคของมวลมนุษยชาติ”
เด็กๆ ทั้งกลุมเกิดความเคารพยําเกรงในใจ ในขณะเดียวกันก็เกิดแรงปรารถนา ใคร
รูตอโลกที่พวกเขาไมเคยรูจักมากอน มีคนเอยถามวา “ในโลกหลานี้มีอัญมณีใตผืนดิน
และยาวิเศษที่ทําใหถอดรูปแปลงรางภายในหนึ่งคืนหรือไมขอรับ บุตรแหงสวรรคที่
เกงกาจที่สุดของมวลมนุษยมีพลังมากเพียงใดขอรับ”
ชายชราหัวเราะแลวพูดวา “ถาเจาอยากรูก็จงทําตนใหแข็งแกรงเสียกอน”
“หากพวกขากุมพลังอํานาจลึกลับของอักขระกระดูกแลว จะสามารถออกไปผจญยัง
ดินแดนอื่นๆ หรือไมขอรับ?” เด็กบางสวนเผยใบหนาที่เปยมดวยความปรารถนา
สือยวิ๋นเฟงลูบไปที่หัวของเด็กคนหนึ่งพรอมกลาว “อยาวาแตตางดินแดนเลย หากมี
ผูวิเศษที่สามารถเดินทางขามผานเพียงครึ่งของดินแดนเราก็เปนเรื่องเหลือเชื่อแลว!”
เด็กทุกคนตางก็ตะลึงงัน
“สิ่งที่ขาทําไดมีเพียงนําทางพวกเจาสูหนทางที่ถูกตอง สุดทายพวกเจาจะเดินไปถึง
ขั้นไหนนั่นก็ขึ้นอยูกับพวกเจา สิ่งที่ขาสอนพวกเจาไมมีทางดอยกวาสิ่งที่พวกเด็กอายุรุน
ราวคราวเดียวกับพวกเจาไดเรียนรูในโลกภายนอกนั่น” พอชายชราพูดจบ นัยนตาฉาย
แววประหลาด พลางลูบคลํากระดูกสีขาว[2]นาพิศวงที่อยูกลางหนาอก
เด็กๆ นั่งลอมวงอยูขางกายหัวหนาหมูบานอาวุโส ในที่สุดก็สามารถรวบรวมสมาธิ
และเริ่มตนรับฟงคําสอนสั่งอยางตั้งใจ กระทั่งเที่ยงวันจึงแยกยายกันไป
“ยากเกินไป ทานผูเฒาบอกวาตองศึกษาอยูหลายปจึงจะมีคนที่สามารถซึมซับ
อักขระกระดูกเขาสูรางกายไดเพียงนอยนิด และคนสวนใหญอาจไมประสบผลสําเร็จไป
ตลอดกาล”
“แตวาเจาตัวเล็กเทาเมล็ดถั่วนั่นกลับทําได”
เจาตัวเล็กกะพริบตากลมโตดวยความไรเดียงสา และไปดึงหางของเจาสุนัขสีเหลือง
ตัวใหญอกี หน แตเจาสุนัขกลับเหาโฮงๆ ดวยความไรเดียงสายิ่งกวา
ดวงอาทิตยเปลงสีแดงกําลังเคลื่อนคลอยไปทิศตะวันตก ทามกลางแสงสายัณหของ
ตะวันลับขอบฟา ทั่วทั้งหมูบ านถูกยอมดวยชั้นแสงประกายสีทองออน เสียงวานรร่ําไห
พยัคฆคํารามจากไกลๆ แตบานหินจํานวนมากกลับดูศักดิ์สิทธิ์และเงียบสงบราวกับศาล
เจาโบราณ
คนราวๆ สิบคนปรากฏกายบนพื้นที่ราบ เงาของพวกเขายืดยาวกลางแสงอาทิตย
ยามอัสดง รางกายถูกอาบดวยแสงทองยามเย็น ดูสูงใหญและทรงพลังอยางหาที่เปรียบ
มิได พวกเขาแตละคนกําลังลากสัตวตัวโตมหึมากลับมาอยางเต็มไมเต็มมือ
“กลับมาแลว!” เหลาสตรีและเด็กที่คอยหนาทางเขาหมูบานอยูนานแลวตะโกนขึ้น
ความกังวลใจและความหวาดกลัวพลันมลายหายไป ทุกคนตางโหรองขึ้นมาดวยความดี
ใจ
“พวกเขากลับมาโดยสวัสดิภาพแลว!”
“โอสวรรค ไมคิดเลยวาจะมีเหยื่อมากมายขนาดนี้ ชางเปนการเก็บเกี่ยวครั้งใหญที่
พบเห็นไดยากเสียจริง!”
การออกลาครั้งนี้ประสบความสําเร็จเปนอยางมาก ชายหนุมสิบกวาคนตางก็ได
เหยื่อกลับมา มีทั้งชางเขามังกร ตัวใหญยักษ ทั้งสัตวประหลาดขาเดียวที่แข็งแกรงดุจวัว
และยังมีอสรพิษมีปกลําตัวหนาเทาถังน้ํา...
เหลาผูเฒาในหมูบานมีสีหนาตกตะลึง โดยปกติแลวสิ่งมีชีวิตเหลานี้ยากที่ใครจะ
ตอกรดวย บางตัวถูกขนานนามวาเปนอสูรกาย ทวาวันนี้กลับถูกลามาไดมากมายพรอม
ดวยคราบเลือดที่เปรอะเปอนเปนวงกวาง มันชางเปนสิ่งที่เหนือความคาดหมายเสียจริง
อยางเจาชางเขามังกรนั่น ลําตัวชางแกรงดุจเหล็กกลา แมแตหอกเหล็กก็ยากที่จะ
แทงทะลุผิวหนังของมัน เขามังกรคูนั้นแหลมคมดั่งมีดดาบทําใหหินกอนใหญแตกเปนจุณ
ไดอยางงายดาย สวนเสียงคํารามประหนึ่งเสียงสายฟาฟาดของเจาสัตวประหลาดขา
เดียวสามารถสังหารผูคนที่อยูใกลเคียงใหตายทั้งเปน สําหรับเจาอสรพิษที่มีปกคูขนาด
ใหญก็เปนนักฆาแหงขุนเขา มันพุงสังหารตั้งแตยอดเขาลงมาจรดตีนเขา นาสะพรึงกลัว
ยิ่งนัก
ในจํานวนเหยื่อที่ลามาไดยังมีสิ่งมีชีวิตที่นากลัวยิ่งกวา เชนแรดไฟสองหัวลําตัวแดง
ฉาน ปเซียะ[3]ที่เลือดไมบริสุทธิ์ สัตวเหลานี้เปนสัตวประหลาดที่ดุรายสมชื่อ หากไดพบ
พานควรจะเลี่ยงหนีใหไกล ทวาวันนี้พวกมันกลับถูกลามาได นี่มันขัดกับหลักความเปน
จริงอยางมาก!
“ครั้งนี้ชางโชคดีเสียจริง พวกเรากลับมาพรอมของเต็มไมเต็มมือ ไมมีผูใดไดรับ
บาดเจ็บเลยขอรับ” ผูนําของกลุมนักลาสือหลินหูชี้แจงตอหัวหนาหมูบานและคนใน
หมูบานพลางหัวเราะเสียงดังอยางสบายอารมณ ระยะนี้มีอสูรกายขนาดมหึมาเดินทาง
ขามผาน ผืนดินสะทานภูเขาสะเทือน เหยียบย่ําสัตวปาบาดเจ็บและตายเกลื่อนกลาด
พวกเขาไลตามตลอดทั้งกลางวัน จูโจมและสังหารสัตวประหลาดที่บาดเจ็บสาหัสไปไม
นอย สัตวประหลาดเหี้ยมโหดเหลานี้ปกติคนในหมูบานจําตองหลบซอนเรนกายจากพวก
มัน
“ในหุบเขามีรอยเทาใหญลักษณะคลายรอยเทามนุษย แตมันใหญมากจริงๆ
รอยเทายาวเกือบ 100 เมตรไดขอรับ!”
“ขนาดนั้นเชียวรึ?!” ทุกคนเอยอยางตะลึง นี่เปนขาวคราวที่เขยาขวัญคนฟงยิ่งนัก
แมแตเหลาผูอาวุโสในหมูบานตางก็อดไมไดที่จะสูดลมหายใจเย็นเยียบ ยิ่งแนใจวามี
เรื่องไมชอบมาพากลเกิดขึ้นในหุบเขาลึก และมันจะดึงดูดเหลาอสูรบรรพกาลที่อยูราย
รอบดินแดนรกรางแหงนี้เขามา
อยางไรก็ดี ครั้งนี้เปนการเก็บเกี่ยวที่ดีเยี่ยม ผูคนในบานลวนดีใจมาก หมูบานหินผา
เต็มไปดวยเสียงหัวเราะคิกคักของเด็กๆ และบรรยากาศแหงความสุข
หัวหนาหมูบานสือยวิ๋นเฟงเดินนําหมูคนไปยังตนหลิวศักดิ์สิทธิ์ และยกซากสัตวราว
10 ตัวไปยังบริเวณนั้น จากนั้นวางสัตวประหลาดที่เลอะคราบเลือดบนแทนหิน แนนอน
วานี่เปนแทนบูชายัญขนาดใหญ
..............................
[1] ไมสามารถหลอมเหล็กใหกลายเปนเหล็กกลาได เปนสํานวนจีน อุปมาวาไม
พอใจในบุคคลที่ตนคาดหวังไว เขมงวดเพื่อหวังใหไดดี
[2] กระดูกสีขาว หมายถึง กระดูกของคนตาย
[3] ปเซียะ หรือ ผีซิว สัตวเทพเจาในตํานานจีน เชื่อวาปเซียะเปนสัตวสี่ขา รูปราง
และเขาคลายกวาง แตมีหนา หัวและขาคลายสิงโต มีปกคลายนก หลังคลายปลา และมี
สวนหางคลายแมว ผสมกับทองและบางสวนของหัวคลายมังกร
บทที่ 3 วิญญาณแหงเทพารักษ
แทนบูชายัญทําจากแทนหินขนาดใหญที่วางซอนกัน เปนที่โลงกวางขวางติดกับตน
หลิวเกาแกที่หักโคน ณ เวลานี้มีซากสัตวประหลาดกองพะเนินราวกับภูเขาขนาดเล็ก
โลหิตสีแดงสดของสัตวอาบยอมแทนหินใหญ รินไหลไปตามลวดลายของหนาหินจน
เปนสีแดงฉาน บวกกับขนหยาบยาวของเหลาสัตวใหญ เกล็ดที่เปลงประกายแวววับและ
เขาขนาดใหญที่นากลัวเหลานั้นชางสะเทือนใจนัก เกิดกลิ่นอายความหดหูนาเวทนาลอย
มาปะทะกับใบหนา
ทุกคนในหมูบานรวมกันอธิษฐานภายใตการนําของหัวหนาหมูบานอาวุโส วิงวอน
ขอใหตนหลิวชวยคุมครอง นี่เปนพิธีกรรมบูชาที่เครงครัด และยังเปนธรรมเนียมปฏิบัติที่
ตองทําทุกครั้งหลังกลับมาจากการออกลา
ลําตนสีดําที่ไหมเกรียมดูเงียบสงัดดั่งที่เคยเปน ไรซึ่งการตอบสนองใดๆ และไมเคย
บริโภคเครื่องเซนไหวแมแตนอย ทวาผูคนในหมูบานกลับรูดีวามีวิญญาณของเทพารักษ
สิงอยู!
ในที่สุด พิธีบูชายัญก็เสร็จสิ้น ผูคนตางถอนหายใจ รอยยิ้มแหงความสุขปรากฏ
ขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นเริ่มเคลื่อนซากของเจาพวกสัตวประหลาดเพื่อเตรียมเอาเลือดออก
และตัดแยกชิ้นสวน
“ทานเทพารักษไมยุงกับเครื่องเซนไหวเปนเวลาหลายปแลว ยังตองจัดพิธบี ูชายัญ
ทุกครั้งอีกหรือขอรับ?” เด็กหนุมคนหนึ่งบนพึมพําเบาๆ
“เจาเด็กนี่ เจาพูดเหลวไหลอะไรนะ!” พอของเขาถลึงตาโตใสเขาอยางโมโห งางฝา
มือใหญขนาดเทาใบปาลมขึ้นเพื่อจะฟาดเขา
หัวหนาหมูบานอาวุโสโบกมือเพื่อหยุดการวิวาทนี้แลวพูดเสียงเบาวา “เทพารักษ
เปนวิญญาณที่เราบูชาและเซนไหวดวยความตั้งใจจริง เราปฏิบัติตอทานดวยความ
เลื่อมใสศรัทธา ทานจึงจะปกปกษคุมครองหมูบ านของเรา”
เด็กหนุมที่ขมอารมณจนใบหนาแดงก่ําพูดอยางลุกลี้ลุกลนวา “ทานผูเฒาขอรับ ขา
ไมไดไมศรัทธา แครูสึกวาทานเทพารักษดูเหมือนจะไมไดตองการเครื่องเซนไหวเหลานี้
ทานไมเคยบริโภคมันเลย”
“เจตนาดีก็เพียงพอแลว” สือยวิ๋นเฟงตบบาเขาพลางอธิบายดวยความตั้งใจ
เทพารักษ หรือเรียกอีกอยางวา ‘วิญญาณแหงการบูชายัญ’ เปนชื่อยอของคําวา
‘วิญญาณที่บูชาและเซนไหว’ ที่ใชกันภายในชนเผา มันปกปกรักษาหมูบานจากเหลา
อสูรกายที่นาสะพรึงกลัวทามกลางดินแดนรกรางนี้
เหลาคนชราในหมูบานยังจําไดวา เมื่อ 10 ปกอนเทพารักษไมไดเปนเชนนี้ แตเปน
หินแปลกประหลาด ที่ทุกครั้งที่วางเครื่องเซนไหวจะถูกดูดกลืนหายไปมากกวาครึ่ง
กระทั่งกลางดึกคืนหนึ่ง ตนหลิวมาเยือน หินประหลาดกอนนั้นเลือกจากไปยังแดน
ไกล ดวยเหตุนี้เองทุกสิ่งทุกอยางจึงแปรเปลี่ยนไป
เมื่อหวนคํานึงถึงคืนที่ฝนตกปนั้น ภายในใจของหัวหนาหมูบานอาวุโสรูสึกวาวุน
เล็กนอย ตอนนั้น เขายังเปนเพียงชายหนุมคนหนึ่งซึ่งเคยเห็นฉากที่นากลัวสะเทือนขวัญ
นั่นกับตาตนเอง
ในค่ําคืนที่ดึกสงัด ฟาคํารามสายฟาแลบแปลบปลาบ พายุฝนโหมกระหน่ําอยาง
รุนแรง ภูเขาจํานวนมากถูกสายฟาฟาดถลม น้ําปาไหลทะลักลงมาอยางหนัก อสูรกายวิ่ง
ฝากระแสน้ําอยางบาคลั่ง ชางเปนภาพที่นาสะพรึงกลัว
ในตอนนั้นเอง ตนหลิวมหึมาที่สวรรคบันดาลใหปรากฏกลางชั้นเมฆ มันถูกอาบไล
ดวยกลุมสายฟา แสงสายฟาแลบหนาลอยวน กานหลิวนับพันหมื่นแปรเปลี่ยนเปนโซ
ศักดิ์สิทธิ์เปลงประกายเรืองรองไปทั่วผืนฟาประหนึ่งกําลังตอสูกับอะไรบางอยาง
สุดทาย ตนหลิวก็แตกหัก ทั่วทั้งลําตนดําเกรียม หดเล็กลงเทาขนาดปจจุบัน มัน
ลอยลงมาฝงรากลงในหมูบานหินผา ในขณะเดียวกันลําแสงสายฟาก็สลายหายไปพรอม
กับฝนหาใหญลาถอย หินประหลาดที่หมูบานบูชาเซนไหวก็ไดจากไปในคืนนั้นเอง
หัวใจของหัวหนาหมูบานสั่นสะทานทุกครั้งที่หวนคิดถึงเรื่องราวเหลานี้ ตนหลิว
เกาแกไมไดยายรากมาจากดินแดนหรือคีรีธาราอื่นๆ แตมันลอยลงมาจากสวรรค กลับ
หักพังเพราะปะทะเขากับสายฟาฟาดและฟาคํารามไมหยุดหยอน คนในหมูบานนอยคน
ที่จะรูเรื่องนี้
ใน 10 กวาปแรก ลําตนของมันดําเกรียม ไรซึ่งพลังชีวิตราวกับสิ้นชีวิตไปตลอดกาล
กระทั่ง 10 ปกอนเพิ่งมีกานเขียวออนงอกใหมออกมา และหลังจากนั้นไมเคย
เปลี่ยนแปลงอีกเลย
“เจาหนู พวกเจาระวังหนอย กวาจะไดสัตวประหลาดพวกนี้มานั้นไมงายเลย โลหิต
หลอดเลือด เสนเอ็นอีกทั้งกลามเนื้อและกระดูกสวนอื่นๆ นั้นมีคามหาศาล ฉะนั้นอยาให
สูญเสียคุณคา” หัวหนาหมูบานอาวุโสพูดกําชับหลังจากที่ไดสติ
เหลาชายฉกรรจถือมีดสีเงินแวววับ พวกเขากําลังตัดหั่นเจาสัตวใหญใหเปนชิ้นๆ
เกิดเสียงดังกองกังวานไมขาดสาย ประกายไฟพวยพุงรอบทิศทาง โครงกระดูกและ
ชิ้นสวนของเจาสัตวประหลาดแข็งแกรงจนนาตกใจ
มีคนเตรียมโองกระเบื้องเคลือบขนาดใหญรออยูนานแลว เพื่อรองเอาโลหิตที่กักเก็บ
ไวในสวนที่พิเศษของซากสัตว นี่เปนโอสถบํารุงโลหิตชั้นยอดที่ทั้งมีคุณคาและหายาก
ปเซียะมีคามากที่สุดในบรรดาซากสัตวพวกนี้ แมวาจะเปนเพียงทายาทที่เทียบกับ
เจาแหงปเซียะที่มีโลหิตบริสุทธิ์ไมไดก็ตาม แตก็มีเลือดบริสุทธิ์บางสวนที่มีคุณคาจนนา
ตกใจ
สัตวประหลาดอยางปเซียะที่จับไดครั้งลาสุดก็ผานไป 2 ปแลว พวกมันเหี้ยมโหด
และแข็งแกรงเกินไป เพียงหนึ่งกรงเล็บของมันก็สามารถคราชีวิตของผูที่แข็งแกรงได มัน
โหดเหี้ยมอํามหิต ยากที่จะตอกรดวย
พูดไดเลยวา ดอกผลของการออกลาครั้งนี้อุดมสมบูรณจนไมอาจเอยวาจาใด
“วาว โลหิตที่กักเก็บในนอของเจาแรดไฟสองหัวนี่ดีเลิศไมดอยไปกวาปเซียะตัวนั้น
เลย” ตาเฒาลงมีดชําแหละแยกนอออกจากเนื้อที่แข็งราวกับหินทองคํานั่น พลันโลหิตสี
แดงดุจเปลวไฟก็รินไหลออกมา
ทันใดนั้น โลหิตนั่นก็จับตัวเปนกอนสีแดง และมีแรดไฟสองหัวขนาดตัวเทาฝามือ
ลําตัวสีแดงฉานซึ่งยังมีชีวิตอยูปรากฏขึ้น มันคํารามอยางโกรธา
“ของดี โลหิตมีสรรพคุณบํารุงชั้นดี ไมดอยไปกวาเจาปเซียะนั่นเลย!” ตาเฒาที่ลง
มีดหัวเราะเสียงดัง และเรงรินเลือดของแรดไฟเก็บไว พรอมกับปดผนึกปากโองอยาแนน
หนา
“ทานผูเฒาขอรับ เขาของเจาชางและมังกรตัวนี้ก็เปนของดีขอรับ ตอนที่พวกขาไป
เจอมันนอนหายใจรวยรินอยูๆ เชนนั้นพวกเราก็คงจัดการกับมันไมได” ชายฉกรรจคน
หนึ่งพูด
สือยวิ๋นเฟงพยักหนาแลวพูดวา “พบไดนอยนัก เขามังกรคูบนหัวของมันมีอายุราว
ขวบปแลว เจาะอยางระมัดระวังละ นี่เปนโอรสบํารุงกระดูกที่หายากยิ่ง”
“เอ็นของเจาขุยโซย[1]นี่เหนียวนัก ขาใชขวานยังฟนไมขาดเลย”
“นี่เปนของดีทั้งนัน้ เจาหนูระวังหนอย อยาใหโลหิตอันมีคาตรงสวนของอสรพิษนั่น
เสียหายเปนอันขาด!”
ทุกคนในหมูบานมีความสุข และตางก็มีรอยยิ้มประดับบนใบหนา
มีเพียงเด็กๆ ที่กลัวจนหัวหด วิ่งหายไปราวกับกลุมควัน เพราะพวกเขารูดีวา สิ่งที่
เรียกวาโอสถบํารุงโลหิตกับกระดูกเหลานี้จะถูกใชกับพวกเขาซะสวนมาก พวกเขาตอง
“ทรมาน” อีกแลวหรือนี่
กระทั่งหลังเที่ยงวัน พวกเขาได “โอสถอันทรงคุณคา” ที่อยูในตัวสัตวประหลาด
พวกนี้มาเพียงพอแลว หัวหนาหมูบานและชายชราไมกี่คนพยักหนาอยางพอใจ และเก็บ
โองกระเบื้องเคลือบพวกนั้นไปจัดการตอ
“เหยื่อเยอะแยะมากมายขนาดนี้ เดี๋ยวนําไปหมักสวนหนึ่ง จากนั้นเอาไปรมควัน
และทําเปนเนื้อแหงสวนหนึ่ง” คนชราที่มีประสบการณเอยบอก
ซากสัตวประหลาดมากมายกองพะเนินรวมกันราวกับภูเขาเล็กๆ คนในหมูบานกิน
ไดหลายวันก็กินไมหมด หากวาเนาเปอยไปคงเปนความฟุมเฟอยอยางหนึ่ง สําหรับคนใน
หมูบานที่ขาดแคลนอาหารนั้นถือวาเปนเรื่องที่อภัยใหไมได
สตรีของแตละครัวเรือนเริ่มแบงเนื้อกอน ใบหนาเปอนรอยยิ้มที่จริงใจ กอนหนานี้
กังวลเหลาชายฉกรรจที่อยูขางนอก บัดนี้พวกเขากลับมาอยางแคลวคลาดปลอดภัย
มิหนําซ้ํายังมีเหยื่ออันอุดมสมบูรณขนาดนี้ นี่เปนของตอบแทนที่ดีที่สุดจากเบื้องบน
กลุมควันจากปลองไฟของแตละบานลอยพวยพุง ผานไปครึ่งชั่วยามก็มีกลิ่นหอม
ของเนื้อตลบอบอวล เนื้อแผนที่ตุนเคี่ยวในหมอเหล็กก็ใกลเปอยเต็มทีแลว เด็กๆ ตางทน
รอไมไดแลว และเนื้อที่ยางกองไฟก็เริ่มเปลี่ยนเปนสีเหลืองทอง น้าํ มันจากเนื้อที่หยดลง
บนกองไฟเกิดเสียงซูซา เหลาชายฉกรรจก็ทนรอไมไหวเริ่มลงมือฉีกเนื้อ น้ําจากเนื้อไหล
ออกมาเต็มปากเต็มคํา เจริญอาหารยิ่งนัก
“ลูกจา นี่เปนเนื้อปเซียะที่หายาก กินเยอะๆ จะชวยเสริมสรางพลัง”
“เจาหนูกินเยอะๆ หนอย นี่เปนเนื้อแรดสองหัว บํารุงสักหนอย มันจะชวยทําใหเนื้อ
หนังและกระดูกของเจาแข็งแกรงราวกับแผนเหล็กกลา อยาไปกินไอเนื้อหมูตนไมที่ไร
ประโยชนนั่นเลย”
สัตวประหลาดนานาชนิดกลายเปนอาหารเย็นอันโอชะของผูคนในหมูบาน กลิ่น
หอมของเนื้อสัตวยั่วยวนใจลอยคละคลุงไปตามถนน กระตุนผูคนใหมีความอยากอาหาร
แววเสียงหัวเราะเบิกบานใจ ทั่วทั้งหมูบานเต็มไปดวยความสุข
..............................
[1] ขุยโซย – เปนสัตวประหลาดตามตํานานของจีน ที่มีรูปรางเปนวัวขาเดียว
สามารถพบเห็นไดบริเวณขางแมน้ําเปนสวนใหญ
บทที่ 4 อาบโอสถทิพย
ทามกลางดินแดนรกรางโหดรายทารุณซึ่งมีเหลาสัตวประหลาดดุรายปรากฏกาย
และชีวิตที่อยูภายใตภัยคุกคาม ความตองการของผูคนในหมูบานเรียบงายมาก ขอเพียง
มีอาหารใหไดอิ่มทองก็พึงพอใจมากแลว
ภายในหมูบานครึกครื้นดุจเปลวไฟเตนระริก ทั้งบุรุษ สตรี คนชราและลูกเด็กเล็ก
แดงตางมีรอยยิ้ม เต็มไปดวยเสียงเฮฮา
“เด็กๆ หยุดวิ่งเพนพานไดแลว ประเดี๋ยวมาอาบโอสถทิพยกัน หลับสบายพักผอน
ยามรัตติกาล ภายภาคหนาจะไดแข็งแกรงกวาพวกสัตวประหลาด” ชายชรากลาวดวย
รอยยิ้ม
“โอ...ไม!” เด็กๆ กรีดรองขึ้นมาทันทีที่ไดฟง พากันวิ่งเตลิดหลบซอนในที่ตางกัน
ออกไป
“เจาพวกเด็กโง มีวาสนาแตกลับไมเห็น นั่นเปนโอสถที่หายากนัก หากอาบโอสถ
ทิพยดวยความอุตสาหะจะทําใหกลามเนื้อและกระดูกของพวกเจาทัดเทียมกับเจาพวก
สัตวประหลาด” พวกผูใหญตําหนิแลวเริ่มวิ่งไลจับลูกของตนประหนึ่งไลตอนลูกไก
“เจ็บขอรับ ขาไมอยากแชโอสถทิพย ครั้งกอนเจ็บราวกับโดนมีดทิ่มแทงเลยขอรับ”
“ทานพอปลอยมือขา ขาไมอยากถูกตมจนสุกนะขอรับ”
เด็กๆ คัดคานอยางรุนแรง แตไมมีทางที่แขนเล็กๆ เหลานั้นจะแกรงกวากําลังของ
ผูใหญ และแลวเด็กๆ ก็ถูกจับจนได
ณ ลานโลงกวางในหมูบาน หมอตมสําริดใบใหญ 8 ใบวางเรียงกัน ขางลางมีกองไฟ
ที่ลุกโชติชวง และน้ําในหมอตมที่เดือดปุดๆ เหลาชายชราโยนยาสมุนไพรใสหมอตมเปน
กําๆ และยังเติมตะขาบที่ยาวราว 1 เซี๊ยะ[1]กับแมงมุมขนาดเทากํามือลงไปเปนครั้ง
คราว ทําใหน้ําที่เคยใสกลายเปนสีดําสนิทราวกับน้ําหมึกที่ดูสยดสยอง
ขณะนั้นสีหนาของเด็กๆ ขาวซีด ปรารถนาที่หลบหนีเดี๋ยวนั้นเลย แตกลับถูกผูใหญ
จับตัวไวแนนอยางหมดทางเลือก
หลังจากนั้นก็มีคนนําโองกระเบื้องเคลือบมาอีก 10 ใบ ชายชรารับมาแลวเปดออก
ดวยความระมัดระวัง จากนั้นเทของเหลวสีแดงเขมลงในหมอตมสําริด ผลคือน้ําสีดํา
ทมิฬเดือดพลานยิ่งขึ้น
นี่เปนเลือดบริสุทธิ์เพียงนอยนิดที่ไดมาจากรางกายของสัตวประหลาดที่ถูกลาพวก
นั้น มันมีคาอนันต หากไดใชไมวาจะเปนผูใหญหรือเด็กจะเพิ่มความแข็งแกรงแกรางกาย
ยิ่งไปกวานั้นคือตํารายาโบราณที่คนในหมูบานเก็บรักษาไว ปรุงเพิ่มดวยยาสมุนไพรสัก
หนอย ประสิทธิภาพของเลือดบริสุทธิ์จะยิ่งดี
นอกจากเลือดบริสุทธิ์แลว เหลาชายชรายังสั่งใหคนนําเอากระดูกสวนปกของ
อสรพิษบินกับกระดูกสวนขาของเจาสัตวประหลาดขาเดียวที่บดละเอียดโยนเขาไปในน้ํา
ที่เดือดพลาน
เมื่อไฟดับมอดลง น้ําในหมอไมเดือดแลว หลังจากที่อุณหภูมิน้ําลดลง เสียงกรีดรอง
แววมาพรอมเสียงปุดๆ เด็กๆ กลุมแรกถูกโยนลงไป ในหมอสําริด 1 ใบจุเด็กได 2-3 คน
“เจ็บขอรับ น้ํานี่ลวกคนใหสุกไดเลยนะขอรับ”
“ชวยดวย รางกายขาเจ็บปวดราวกับถูกมีดเฉือน เนื้อหนังปริแตกแลวขอรับ!”
ใบหนาของพวกเขาบูดเบี้ยว แขนขาปดปายไปมาดวยความเจ็บปวด ตางคนตางก็
พุงออกขางนอกอยางสุดกําลัง แตก็ถูกจับกลับไปพรอมกับเสียงหวีดรองอยางไมขาดสาย
เพราะเหตุนี้ เด็กกลุมแลวกลุมเลาถูกโยนลงไปหมอตมสําริด และสวนใหญก็กรีดรอง
เสียงดังนากลัว พยายามดิ้นรนขัดขืน มีเพียงเด็ก 7-8 คนยังดีหนอย แมวาจะเจ็บปวดจน
เหงื่อไคลผุดเต็มหนาผาก แตกลับอดกลั้นไมเปลงเสียงออกมา
สวนเจาตัวเล็กก็ไมรอดเชนกัน ทวาเขายังไดรับการดูแลอยางดี เขาถูกโยนลงในหมอ
ตมสีดําที่มีเพียงน้ําเปลา นอกนั้นเปนเลือดบริสุทธิ์และผงกระดูกของเหลาสัตวประหลาด
คนในหมูบานไมไดรูสึกวาไมเหมาะสม และไมรูสึกวาปฏิบัติไมเทาเทียมกัน เพราะวา
ลูกหลานตนทนไมไดเอง แคในหมอตมยาสมุนไพรธรรมดาก็รองไหอยางเจ็บปวดปานจะ
ขาดใจ แตเจาตัวเล็กกลับทนได
นอกจากนี้ ยามที่ของเหลวขนในหมอตมสีดําที่เจาตัวเล็กใชเริ่มเดือดปุดๆ หัวหนา
หมูบานยังเปดเหยือกที่พิเศษอีก 2 ใบแลวเทของเหลวลงไปในหมอตมทีละอยาง
บรรดาโอง 2 ใบนั้นมี 1 ใบที่มีลําแสงสีแดงพุงออกมา แปรสภาพจากของเหลว
กลายเปนปเซียะ ยาวเทาฝามือ ทรงพลังและนากลัวราวกับจะฉีกผูคนใหเปนชิ้นๆ แลว
หลบหนีไปดวยสัญชาตญาณสัตวที่เหี้ยมโหดเปนที่สุด พลันอักขระประกายแสงปรากฏ
อยูบนฝามือของสือยวิ๋นเฟง อักขระกระดูกสองแสง เขาฟาดฝามือใสเจาปเซียะจนแหลก
ละเอียดกลายเปนโลหิตไหลลงไปในหมอตม
ทวากลับมีแรดไฟสองหัวพุง ออกมาจากโองอีกใบหนึ่ง ลําตัวแดงฉานดุจไฟที่เจิดจา
นั่นชางสยดสยอง มันผงกหัวขึ้นและคํารามอยางโมโห แตมันก็ถูกฟาดจนแหลกละเอียด
แลวไหลลงสูหมอตมสีดํานั่นเชนเดียวกัน
เจาตัวเล็กถูกนําขึ้นเมื่ออุณหภูมิน้ําลดต่ําลง เขาออกแรงดิ้นรนอยางเต็มกําลัง
หลังจากที่ถูกโยนลงในหมอตม เพราะเขายังเด็กนัก ถานั่งอยูในหมอตมอาจสําลักน้ําได
ตอนที่ดิ่งลงในหมอตมก็ดื่มน้ําเสียงดังบุงๆ เขาไปหลายอึกอยูเหมือนกัน
เด็กที่อยูตรงขามแสดงสีหนาเห็นอกเห็นใจ จูๆ ก็รูสึกวาตนโชคดีมากเพียงใด หมอ
ตมที่มีน้ําเพียงนอยนิด ยาน้ําที่สวนประกอบหลักคือเลือดที่บริสุทธิ์มากเปนพิเศษ
กลามเนื้อกับกระดูกสัตวยิ่งทําใหรางกายเจ็บปวดรวดราวอยางแนนอน เจาตัวเล็กชางนา
สงสารเสียจริง
แมแตผูใหญบางคนยังทนไมได เพราะวายามที่เห็นเด็กๆ ดิ้นพลานอยางเจ็บปวดก็
สําลักของเหลวหนืดนั่นเขาไปหลายอึกเหมือนกัน นาเปนหวงจริงๆ
“ไมเปนไรหรอก นี่ไมใชครั้งแรกเสียหนอย เมื่อกอนเขาก็เปนเชนนี้ยังทนไดเลย ดื่ม
ยาน้ําเขาไปสักสองสามอึกก็ไมเลวซะทีเดียว หากซึมซับเขาไปมันมีคุณอนันตเชียวละ”
หัวหนาหมูบานกลาว บางครั้งการดูแลและการจัดการตอเจาตัวเล็กของเขาก็ไมคอย
ละเอียดรอบคอบ
“รางกายของเขาแข็งแกรงนัก นอกจากนี้ พลังอํานาจลึกลับของอักขระกระดูกก็
สามารถโคจรเพื่อชวยฟอกความแรงของยานี้ได เจาตัวเล็กคงไมเจ็บปวดมากหรอก”
ชายชราอีกคนพูดพลางลูบเคราไปมา
การอาบโอสถกินเวลาอยูนาน เด็กๆ ถูกแชจนรางกายแดงเถือกราวกับลูกลิงที่มี
ผิวหนังสีแดง แตละคนดูหอเหี่ยว ตางคนตางมองกันดวยน้ําตาที่ไหลพราก กระทั่งสิ้นสุด
การอาบโอสถทิพยจึงจะหยุดสะอึกสะอื้น ในที่สุดก็หลุดพนไดเสียที
ตอนที่นั่งอยูในหมอตมเจาตัวเล็กไมรองไห ดวงตากลมโตสีดําสุกใสเตนระริกแพรว
พราว ใบหนาแดงก่ําประหนึ่งผลแอปเปลขนาดใหญ ทวาตอนที่ถูกหิ้วออกมากลับโอน
เอนโซเซราวกับเมาสุรา
“รูสึกอยางไรบาง?” ตาเฒาคนหนึ่งเอยถาม
เจาหนูนอยเรอเสียงดัง แลวตอบกลับอยางไมมีสติวา “ดื่มจนอิ่มแลวขอรับ”
พอผูคนไดยินเขาตอบกลับอยางไมคิดอะไรและใสซื่อ ตางก็ระเบิดเสียงหัวเราะ
ออกมา
“งวงแลวขอรับ” เสี่ยวปูเตี่ยนเดินโอนเอน และลมพับลงไปในออมอกของสือยวิ๋น
เฟง บนพึมพําพูดออแออยูไมกี่คําก็เขาสูหวงนิทรา
“พาเด็กๆ พวกนี้กลับไปนอนหลับพักผอนเถอะ พรุงนี้ตองมีพละกําลังเพิ่มขึ้นเปน
แน” สือยวิ๋นเฟงเอย
สุดทาย เหลาชายชราก็เก็บโลหิตที่เหลืออยูไมทิ้งขวาง แตกลับเพิ่มกองไฟเขาไปใต
หมอสําริด จากนั้นก็เติมสมุนไพรลงไปเปนพิเศษ เพื่อที่จะเคี่ยวใหแหงแลวทําเปนยาผง
ไมเพียงแตจะเปนยาบํารุงชนิดหนึ่ง ในขณะเดียวกันยังเปนยาสมานแผลชั้นดี หากพกมัน
ขณะออกลาดวยจะชวยใหรอดชีวิตได
อาศัยอยูทามกลางสภาพแวดลอมที่เลวราย การลาสัตวประหลาดเปนเรื่องยาก
เลือดบริสุทธิ์มีคามหาศาล มิฉะนั้นคงไมเคี่ยวยาน้ําที่เด็กๆ ใชแลวใหกลายเปนผงเชนนี้
หรอก แมเพียงนิดก็จะทิ้งขวางไมได
แนนอนวาเหลาชายฉกรรจไมไดใสใจแมแตนอย เพียงปาดทาบนแผลแลวสามารถ
ชวยใหรอดชีวิตไดก็พอแลว
ในค่ําคืนนี้เด็กๆ ตางก็หลับสนิท ครั้นตื่นขึ้นมาในเชาวันที่สอง เด็กหลายคนก็รองไห
ดังระงม เพราะบนรางกายมีชั้นหนังทีต่ ายแลวหลุดลอกออกมาเปนแผนๆ
“เร็วเขา ไปตักน้ําจากบอแลวชําระกายใหสะอาด แลวยกโมหินนั่นขึ้น”
“ทานพอขอรับ พี่สามใชฝกพละกําลังเปนกิจวัตร ขาจะยกขึ้นไดอยางไรเลา?”
“หยุดพูดพลาม ขาสั่งใหยกก็ยกสิ เลือดบริสุทธิ์กับผงยากระดูกมากมายเมื่อคืนนั่น
เปลาประโยชนสินะ? หากไมมีอะไรกาวหนา ขาจะฟาดกนเจาใหแตกเปน 8 สวน !”
ยามอรุณรุง ภายในหมูบานเกิดเหตุการณไกตกใจบินหนี หมาตกใจวิ่งหนี[2]เด็กๆ
ตางก็ถูกบังคับใหไปขนหินกอนใหญและแบกหมอตมสําริด เสียงรองคร่ําครวญดังอยาง
ตอเนื่อง
ผลลัพธนั้นชัดเจนอยางมาก เด็กๆ ตางก็มีพละกําลังเพิ่มขึ้น รางกายแข็งแกรงอยาง
เห็นไดชัด แตหากจะถอดรูปแปลงรางนั้นก็เกินจริงไปเสียหนอย เปนไปไดยาก
“แควก แควก”
ณ ทางเขาหนาหมูบาน อักขระกลางฝามือของหัวหนาหมูบานสือยวิ๋นเฟงเปลงแสง
แวววาว ในมือกําดามคอนทองคํามวง[3]ทําใหเขามังกรของเจาชางเขามังกรแตกแหลก
ละเอียด จากนั้นฟาดกระดูกสวนกรงเล็บของปเซียะกับนอแรดสีแดงฉานของแรดไฟสอง
หัวจนแตกละเอียดเชนเดียวกัน สุดทายก็นํามาฝนกระทั่งเปนผุยผง เขานําเอาผงกระดูก
เหลานี้มาผสมรวมกับเลือดสัตวบริสุทธิ์บางสวนแลวรินลงไปในน้ํานมสัตวที่กําลังตมเคี่ยว
อยู พลันกลิ่นหอมก็ฟุงกระจายไปทั่วบริเวณ
จากนั้น ชายชราก็โยนยาสมุนไพรวิเศษลงไปในหมอกําแลวกําเลา ไมนาน ของเหลว
ในหมอกระเบื้องเคลือบก็คอยๆ แปรเปนของหนืดขนสงกลิ่นหอมกรุน
“เจาตัวเล็กมากินของอรอยไดแลว”
ภายในบานหิน เจาหนูรีบพลิกตัวลุกขึ้นนั่งทันทีหลังจากไดยินเสียงรองเรียก เพราะ
เพิ่งตื่น ดวงตากลมโตจึงยังพรามัวอยูมาก ทวาพอมีกลิ่นหอมลอยมา จมูกเล็กก็ขยับสูด
กลิ่นฟุดฟด รูสึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที เขาพึมพําวา “หอมจัง”
“แนนอนอยูแลว นี่เปนโอสถทิพยขนานเเทเลยละ หามทิ้งขวางแมแตหยดเดียว เจา
ตองกินเขาไปใหหมด” สือยวิ๋นเฟงพูดพลางหัวเราะ
เจาตัวเล็กกินอยางตะกละตะกลาม เพียงครูเดียว เขาก็กินของหนืดขนที่อยูในถวย
กระเบื้องเคลือบนั้นจนหมด ทวาผลขางเคียงกลับปรากฏผลขึ้นมาอยางฉับพลัน อาจ
เพราะเขายังเด็กเกินไป และฤทธิ์ยานั่นก็รุนแรงเกินไป ในเชาวันนี้ เจาตัวเล็กที่ปกติจะ
นารักกลับกลายรางเปนเด็กผิดปกติ มีตากลมโตสีแดงประหนึ่งกระตาย และวิ่งพลานไป
ทั่วพรอมกับสงเสียงอืออาไมหยุด
สุนัขสีเหลืองตัวใหญที่นาสงสารถูกเขาจับหางไวแนน และออกแรงดึงไมหยุด จน
หางของมันคลายกับจะหลุดออกมา มันเหาโฮงๆ เปนเวลานานจนหมูบานเต็มไปดวย
ความอลหมานชุลมุนวุนวาย
“เฮย เจาตัวเล็ก ทําไมเจาถึงดึงรั้วกั้นของอาหญิงแบบนั้นละ?”
“เจาหนู เจาเปนอะไรไป วิ่งขึน้ ไปอยูบนหลังคาบานขาทําไม หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ
หามแงะกระเบื้องหลังคานะ!”
คนในหมูบานตางพากันตกตะลึง เจาตัวเล็กที่ปกติเปนเด็กวานอยสอนงายแปลงราง
เปนสัตวประหลาดตัวนอย วิ่งเพนพานไปทั่วบริเวณ พังทุกอยางดวยกําลังทั้งหมดที่นี้
“ยาไหนั้นถูกดูดซึมเรียบรอยแลว ผลลัพธไมเลวเลยนี่” สือยวิ๋นเฟงและชายชรา
จํานวนหนึ่งกําลังยืนพูดคุยกันเบาๆ พลางพยักหนาดวยความพอใจ
เด็กจํานวนหนึ่งที่มองเห็นภาพฉากนี้จากที่ไกลๆยิ่งเคารพยําเกรงหัวหนาหมูบาน
มากขึ้น ทั้งหมดตางสั่นระริกดวยความกลัวแลวหลบหายไปยังที่ไกลๆพรอมกับจับกลุม
ซุบซิบกันวา “เจาตัวเล็ก ชางนาสงสารเสียจริง!”
ฝามือของเสี่ยวปูเตี่ยนเปลงแสงประกาย จากนั้นก็ลุกลามขึ้นไป แมแตแขนก็ปรากฏ
อักขระกระดูกสองประกายระยิบระยับนาพิศวง อีกทั้งรางกายของเขาที่แข็งแกรงมาก
ขึ้น ความเร็วและพละกําลังก็เพิ่มขึ้นมากโข นี่เปนอีกเหตุผลที่หัวหนาหมูบานพึงพอใจ
มากทีเดียว
กระทั่ง 2 ชั่วยามผานไปเขาถึงสงบลง เขาเกาหัวอยางมึนงงแลวพูดเสียงเบาวา “โอ
เกิดปญหาซะแลว”
..............................
[1] เซี๊ยะ หนวยวัดความยาวของจีน 1เซี๊ยะ= ประมาณ 10 นิ้ว
[2] ไกตกใจบินหนี หมาตกใจวิ่งหนี เปนสํานวนจีน แปลวา สภาวะสับสนอลหมาน
[3] ทองคํามวง เปนโลหะเจือของทองคําและอะลูมิเนียม
บทที่ 5 ยกหมอสําริด
เวลาก็ยังคงเดินตอไปอยางไมรูตัว แคพริบตาเดียวก็ลวงผานไป 2 ปแลว เจาตัวเล็ก
อายุได 3 ขวบครึ่ง เขามีชื่อของตัวเองแลววา ‘สือฮาว’
ตอนอายุไดขวบเศษ เขาทําไดเพียงวิ่งตามตูดพวกเด็กโต ตอนนี้ 3 ขวบครึ่งแลว
รางกายทรงพลังจนนาตกใจ เขากับเด็กโตมักจะรวมหัวกันวิ่งรอนไปทั่ว
ณ ตอนนี้ผูคนยืนออกันเต็มบริเวณลานกวางของหมูบานหินผา คนลอมแนนขนัด
แมแตน้ําหยดเดียวก็ผานเขาไปไมได[1] ผูคนกําลังชมการแสดงศิลปะการตอสูของเหลา
ผูเยาว
เด็กๆ ที่กลามเนื้อแข็งแกรง ทอนบนเปลือยเปลา เหงื่อไคลกระเซ็นรอบทิศทาง
กําลังจับคูประชันกันอยู คาดไมถึงวาบางคนจะสามารถยกคอนสําริดที่หนักมากกวา 100
ชั่งขึ้นโบกไปมาจนเกิดเสียงลมฟบฟบ
พวกเขามีอายุตั้งแต 6-7 ขวบถึง 12-13 ปแตกตางกันไป แตละคนมีพละกําลังเกิน
มนุษย รางกายกํายําแข็งแกรงนากลัวราวกับสัตวประหลาดตัวนอยในปาเขา
“ดูสิ นั่นลูกบานขาเอง อายุแค 6 ขวบ ก็สามารถยกหินที่หนักราวๆ 100 ชั่งทําเปน
โลกําบัง จะมีสักกี่คนที่เทียบเขาได? ในภายภาคหนาตองไดเปนวีรบุรุษที่เกงกาจของ
ดินแดนรกรางแหงนี้แนนอน!”
“ลูกบานขาสิเกงจริง พวกเจาดูสิ เคาสามารถงางคันธนูนอแรดที่มีแตผูใหญเทานั้นที่
ทําได ตอไปคงสามารถฆาอสูรกาย และปลิดชีพปเซียะที่โตเต็มวัยดวยธนูเพียงลูกเดียว”
แมวาทุกคนในหมูบานจะจริงใจและออนนอมถอมตน แตพออยูรวมกันแลวตางก็
ชอบพูดโออวดวาลูกของตนเกงกาจ หลังจากตางคนตางเปรียบเทียบแลว เหลาชาย
ฉกรรจจะกํามือที่ใหญดุจใบปาลมแลวกวัดแกวงไปมาดวยใบหนาที่บานเปนกระดง
เหลาสตรีตางก็พากันอาปากหัวเราะลั่น เด็กพวกนี้ยอดเยี่ยมนัก แตละคนมีชีวิตชีวา
ดุจมังกร ดุรายดั่งพยัคฆ มีพละกําลังเต็มเปยม ในภายภาคหนาหมูบานหินผาคงจะ
แข็งแกรงเพราะพวกเขาอยางแนนอน
“มอ...”
เสียงคํารามของวัวตัวอวนทวนสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งหมูบาน
“ดูนั่นสิ เออรเหมิงเพิ่งจะอายุได 8 ขวบครึ่ง แตเขากลับลมเจาวัวเปนๆ นั่นจนหงาย
ทอง ยอดเยี่ยมจริงๆ!”
วัวสีดําตัวใหญที่อยูก ลางลาน ลําตัวดําวาวราวกับผาแพรตวน มันเปลงเสียงคําราม
ดุจเสียงฟารอง พอมันเริ่มคลุมคลั่งก็ถูกเด็กที่ไมถือวาสูงมากจัดการจนลมคว่ําไป
เหตุการณนี้ทําใหเกิดเสียงอุทานตกใจ
“คํานวณดูแลวสิ่งที่ทุมเทไปนั้นไมสูญเปลา เหลาชายชราใชยาบํารุงกระดูกและ
โลหิตบริสุทธิ์ของสัตวประหลาดเปนประจําเพื่อบํารุงรางกายของพวกเขา ดูเหมือนมันจะ
ไดผลดีเยี่ยม”
“เด็กๆ แข็งแกรงกันมาก ไมแนวาในภายภาคหนาจะมีวีรบุรุษที่ออกผจญ และ
สังหารเหลาอสูรบรรพกาลที่อยูในหุบเขาลึกใหหนีเตลิดอยางปราชัย”
“ตึง” เกิดเสียงดังขึ้นจากที่ไกลๆ เด็กผอมโซเหวี่ยงแทนหินโมลอยออกไปราว 10
กวาเมตร
“โอโห เจาลิงนั่นอายุ 8-9 ขวบแลวกระมัง มองดูผอมแหงแรงนอย แตกลับมีแรง
มหาศาล คนเรามองกันแคภายนอกไมไดจริงๆ”
“ใชแลว และไมมองดวยวาเปนลูกเตาเหลาใคร ขาตั้งชื่อใหเขาวาสือจงโหว วัน
ขางหนาตองเดินทางออกจากภูเขาใหญเพื่อไปรับตําแหนงราชายังชนเผาที่มีชื่อเสียงและ
รุงเรืองแนนอน”
เหลาหนุมฉกรรจพากันคุยโวโออวด ตางก็รูสึกวาลูกของตนเกงกาจ
“ครืน!”
แผนดินสั่นสะเทือน ฝุนควันพวยพุง สายตาของคนทั้งหมดถูกดึงดูดใหหันไป ผูคน
ตางตะลึงงันเพราะมีคนยกหมอสําริด!
หมอสําริดใบหนึ่งตั้งอยูกลางที่โลงกวาง น้ําหนักราวพันชั่ง บนหมอตกแตงดวย
ลวดลายสัตวประหลาดจาวเวหาและสัตวประหลาดเดินดิน เปยมไปดวยความเกาแก
ทองโองทีห่ นามากใหความรูสึกหนักอยางรุนแรง ขาของหมอสําริดสองแสงเงาวับเพราะ
ถูกจับและยกอยูบอยครั้ง มันแววราวกับแผนกระจก บนขาของหมอสําริตถูกตีตราดวย
รูปหงสไฟ
“เจาหนูสือเจียว เจายกไมไหวหรอก เมื่อครูเอวเจาจะเคล็ดอยูแลวยังยกหมอสําริด
ขึ้นจากพื้นดินไดเพียงนิด เจาอายุยังนอย ภายใน 4 ปนี้เจาก็ยกไมขึ้นหรอก” มีคนพูด
หยอกลอ
หามทําอะไรมั่วซั่วกับหมอสําริดที่หนัก 1000 ตันนั้น มิเชนนั้นจะเปนการทําราย
ตัวเอง เด็กธรรมดาทั่วไปไมสามารถยกขึ้นไดจึงไมไดรับอนุญาตใหเขาใกล เพราะวามัน
หนักเกินไป
“ขาขอลองบาง!”
เด็กที่แข็งแกรงคนหนึ่งเดินนําไปขางหนา เขามีอายุประมาณ 12-13 ป มือทั้งสอง
จับหูหมอสําริดขางหนึ่ง และขาของหมอสําริดอีกขางหนึ่งแลวออกแรงสุดกําลัง หมอ
สําริดถูกโยกเคลื่อนออกจากพื้นดินเล็กนอย เพียงชั่วครูก็ตกลงไปเกิดเสียงดังครืนพรอม
กับกลุมฝุนกระจายเปนวงกวาง
พายแพอยางชัดเจน โชคดีที่เด็กไมไดรับบาดเจ็บ
“ขาลองดวย!”
เด็กอีกคนเดินมาขางหนา เขาเพิ่งจะลมวัวตัวมหึมาจนหงายทอง เขาชื่อวาสือเหมิง
ถูกจัดใหอยูอันดับ 2 ของบาน ชื่อเลนของเขาจึงเปนเออรเหมิง เขามีรางกายกํายําและ
แข็งแกรง ปนี้เพิ่งจะอายุได 8 ขวบครึ่ง
เกิดเสียง “ฟว” พรอมกับหมอสําริดที่ถูกยกลอยขึ้นเหนือพื้นดิน และคอยๆยกขึ้น
กลางอากาศ ภาพนี้ทําใหผูคนพากันตกตะลึง เขาเปนเพียงเด็กคนหนึ่ง แตกลับทําไดถึง
ขั้นนี้ นาตกใจจริงๆ
“โครม!”
นาเสียดายที่เขาไมสามารถยกมันขึ้นเหนือหัวได แขนทั้งสองขางสั่นระริก เขาเหวี่ยง
มันออกไปจนเกิดเสียงครืนแลวกระแทกพื้นจนเปนหลุม ดินทรายปลิววอน
เมื่อมีคนนํา เด็กคนอื่นๆ ก็อดไมไดที่จะลองดู ดวยเหตุนี้เด็กๆ ก็กาวออกมาขางหนา
แลวยกหมอสําริดทีละคน แตวากลับไมมีใครทําสําเร็จ
กระทั่งเด็กชายตากลมโตคิ้วหนาดก รูปรางกํายําสูงใหญกาวออกมาขางหนา เขามี
ชื่อวาสือตาจวง เขาสูดลมหายใจเขาลึกแลวออกแรงจับหูและขาของหมอสําริด จากนั้นก็
ยกขึ้นอยางหาวหาญและพนหัวของเขาดวยความเร็วไว
ถึงแมวาแขนของเขาจะสั่นเล็กนอย ขาคูนั้นจะสั่นระริกอยูบาง แตทายที่สุดก็ทํา
สําเร็จ นั่นทําใหผูคนตางรองตะโกนกันดวยความอัศจรรยใจ เพราะเขาเปนเพียงเด็กอายุ
9 ขวบ สมควรไดรับยกยองวาเปนพลังมหาศาลโดยกําเนิด!
“ตาจวงทําไดดีมาก วันขางหนาเขาจะตองไมธรรมดาอยางแนนอน!”
“นี่เขาเพิ่งจะอายุ 9 ขวบเทานั้น ขาวาในเด็กวัยเดียวกันที่อยูบริเวณระยะไมเกิน
1000 เมตรนี้ มีนอยคนที่จะทัดเทียมเขา อนาคตจะตองเปน 1 ในคนที่แกรงที่สุดของ
ดินแดนแหงนี้อยางแนนอน!”
พวกผูใหญยอมไมตระหนี่คําชม แนนอนวาพวกเขาก็ใหกําลังใจและพูดจายกยอ
เออรเหมิงอยางไมขาดปาก เพราะเขาก็เกือบจะทําไดเชนกัน พละกําลังมหาศาลจนนา
ตกใจ
เหลาชายชราตางก็มีรอยยิ้ม แรงกายและแรงใจที่ทุมเทไปในหลายปนี้ไมสูญเปลา
บํารุงพวกเขาดวยโลหิตบริสุทธิ์ของสัตวประหลาดเปนประจํา และบัดนี้ผลของมันแสดง
ออกมาใหเห็นแลว ในภายภาคหนา หมูบานหินผาจะตองมีกลุมคนที่เกงกลาสามารถ
ปรากฏออกแนนอน
“เจาตัวเล็ก เจาชะเงอมองอะไร เจาก็อยากจะลองเหมือนกันใชไหม?” ผูใหญคน
หนึ่งถามอยางหยอกเยา
ทามกลางฝูงชน มีเจาหนูนอยกําลังมองไปรอบๆ ดวยความสงสัย และเจาหนูนั่นก็
คือเด็กนอยที่มีชื่อวาสือฮาวนั่นเอง เพราะขนาดตัวที่เล็กมาก จึงตองเขยงเทาแลวเบียด
เขาไปในกลุมคนถึงจะเห็นพวกเด็กโตยกหมอสําริด
“นั่นสิ ทุกคนตางพูดเปนเสียงเดียวกันวาเสี่ยวฮาวฮาวนั้นมีพละกําลังมหาศาล
แมวาอายุจะนอยไปบาง แตก็มาลองดูเถอะ อยาเพิ่งไปยกหมอสําริด มาลองกําแมกุญแจ
หินนี่เสียกอน”
มีคนพยักหนาแลวพูดวา “ไดยินลูกของบานขาพูดวาพละกําลังของเสี่ยวฮาวฮาวไม
ดอยไปกวาพวกเขาเลย ตลอดมาขาไมเคยเชื่อ ฉะนั้นก็ใชโอกาสนี้ใหเจาตัวเล็กมาลองดู
หนอยแลวกัน”
ตอนนี้สือฮาวอายุ 3 ขวบครึ่ง ปลอยผมดําขลับประบา ดวงตากลมโตสีดําสนิททอ
ประกายแวววับและมีชีวิตชีวา ผิวขาวสะอาดสะอาน หนาตาสวยงามนารัก
เจาตัวเล็กมองไปยังหมูคนชราที่มีรอยยิ้มบนใบหนา สือยวิ๋นเฟงเอยวา “ไปเถิด ขาก็
อยากจะเห็นเชนกันวาตอนนี้เจาจะมีพละกําลังมากเพียงใด”
“เฮ!” เสี่ยวฮาวตัวเล็กนัก เสียงที่เปลงออกมาขณะที่ออกแรงจึงออนแรง แตกลับยก
โมหินขึ้นอยางสบายๆ
“ไมธรรมดาเสียจริง!” ผูคนตางพากันพยักหนา
หลังจากนั้น เขาก็กําแทนโมหินแลวเขวี้ยงออกไปอยางหาวหาญจนเกิดเสียงฟวดัง
ขึ้น เครื่องมือหินทีม่ ีน้ําหนักมากถูกเหวี่ยงออกไปราวกับกอนหินธรรมดา พลันก็ลอย
ออกไปไกลราว 6-7 เมตร
เกิดเสียง “โครม” เมื่อแทนโมหินกระแทกเขากับพื้นดินเกิดเปนหลุมขนาดใหญ เศษ
หินแตกกระเด็นรอบทิศ ฝุนผงฟุงกระจาย แผนดินสั่นสะเทือนอยางรุนแรง
ผูคนตะลึงงันจนไมอาจกลาววาจาใดได
ตอมา จูๆ เจาตัวเล็กก็วิ่งไปยังวัวอวนตัวนั้น ออกแรงจับที่เขาของมันอยางรวดเร็ว
แลวทุมลงกับพื้นดินในทันที
แมวาตอนที่ออกแรงดูมีกลวิธีอยูมาก แตก็พอที่จะบอกไดวาเขามีพละกําลังมากมาย
เพียงใด เสียงฝูงชนตกตะลึงดังไปทั่วลานกวาง คนในหมูบานรูสึกเหมือนมองเห็นภาพ
ของสัตวประหลาดตัวนอยที่กําลังสําแดงเดช
ตองทําความเขาใจวาตอนนี้เสี่ยวสือฮาวยังเยาวนัก เขาตัวเตี้ยที่สุดในหมูฝูงชน มอง
ยังไงก็เหมือนตุกตากระเบื้องเคลือบสีขาว ยากที่จะเชื่อมโยงรางกายและพละกําลัง
มหาศาลของเขาเขาดวยกันได
ทามกลางสายตาตะลึงของผูคน สือยวิ๋นเฟงมุงหนาไปยังหมอสําริดใบใหญนั่น
เพราะสวนสูงที่ไมเอื้อทําใหเขาไมสามารถจับที่หูของหมอน้ํา เขาหมอบตัวลงนอนเพื่อใช
ลําตัวยันตรงกนหมอสําริด จากนั้นออกแรงอยางสุดกําลังจนเกิดเสียงดังครืนครั่น หมอ
สําริดลอยขึ้นเหนือพื้นดินแลวถูกชูขึ้นเหนือหัว
ผูคนพากันตะลึงพรึงเพริด และไมกลาเชื่อในสิ่งที่ตนมองเห็น เด็กที่อายุเพียง 3 ขวบ
ครึ่ง แตกลับยกหมอสําริดน้ําหนักราว 1000 ชั่งได อัศจรรยยิ่งนัก
นี่มันอะไรกัน? นี่เปนเด็กนอยที่เหมือนพญาครุฑ และเปนบุตรแหงพญาปเซียะที่มี
เลือดบริสุทธิ์ เสี่ยวสือฮาวทัดเทียมกับลูกออนของอสูรบรรพกาล!
..............................
[1] แนนขนัดจนแมแตน้ําหยดเดียวก็ผานเขาไปไมได อุปมาวาเบียดเสียดเยียดยัด
บทที่ 6 เตรียมการ
ผูคนในหมูบานตางตัวแข็งเปนหิน บางก็ตกอยูในภวังค แมวาจะเคยไดยินมานาน
แลววาพละกําลังของเจาตัวเล็กนั้นหางไกลคนวัยเดียวกันนัก แตไมคิดวารางกายของเขา
จะเปลี่ยนแปลงไดถึงเพียงนี้
“เขาไมไดใชพลังลึกลับของอักขระกระดูกใชไหม?” มีคนถามดวยความสงสัย
“ไมนะ ขาเห็นชัดเจนวานี่เปนเพียงพละกําลังจากรางกายเทานั้น” ผูนํากลุมนัก
ลาสือยวิ๋นเฟงกลาว
“โครม!”
เจาหนูสือฮาวเหวี่ยงหมอสําริดกระแทกลงกับพื้นจนเกิดเศษฝุนปลิววอนเปนวงกวาง
เขารีบถอยออกมาอยางเร็วรวด ตัวเขาจึงไมโดนฝุนผงแมแตนิด เสียงดังสนั่นหวั่นไหวนี้
บีบหัวใจผูคนในหมูบานอีกครั้ง นี่คือมารชัดๆ
ผลลัพธที่ออกมามันยากที่จะเชื่อวาเด็กอายุเพียง 3 ขวบจะสามารถยกหมอสําริดขึ้น
ได ไมเพียงแตรอบบริเวณเทือกเขานี้เลย แมแตดินแดนที่ไกลสุดลูกหูลูกตายังพบเจอได
ยาก
ผูคนตางตะลึงงัน แมแตหัวหนาหมูบานสือยวิ๋นเฟงก็เชนกัน เขาคิดไปเองวาวัย
อยางสือฮาว ตอนนี้ยังไมสามารถยกหมอสําริดที่ใหญขนาดนั้นได ไมเคยคิดวาจะทําได
กอนเวลาอันควร
“นี่เปนเรื่องจริงงั้นหรือ ไฉนเจาหนูสือฮาวถึงมีพละกําลังมหาศาลเพียงนี้ ขาไมเคย
ไดยินมากอนวามีเด็กแบบนี้”
“มันคอนขางเหลือเชื่อ หากเขาไมมีรางกายของมนุษย ขาคงจะคิดวาเขาเปนลูกของ
โหว[1]ตัวเปนๆ ออกมาวิ่งเพนพานแลวนะ!”
หลังจากที่คนในหมูบานไดสติ ก็วิจารณกันไมหยุด การกระทําของเจาหนูนอย
เหมือนดั่งสายฟาที่ฟาดเปรี้ยงกลางนภา ทําใหผูคนตางพากันใจสั่นและหวาดผวา
“ทานผูเฒาขอรับ ทานเคยออกเดินทางไปยังดินแดนที่รุงเรืองมาบาง แลวทานเคย
พบเจอเด็กแบบนี้ไหมขอรับ?”
“นั่นสิ สือยวิ๋นเฟง เจาเคยออกเยือนเผาพันธุยิ่งใหญมากมาย เคยไดยินเรื่องของ
มารเชนนี้บางไหม?” แมกระทั่งชายชราบางสวนก็ถึงกับนั่งไมติด และอดไมไดที่จะถาม
ดวยความตกใจในพฤติกรรมของเจาตัวเล็ก
สือยวิ๋นเฟงเอย “ขาเคยพบเจอเด็กพิเศษอยูไมกี่คนในชนเผาใหญที่มีคนราวๆ หนึ่ง
ลานคน พรสวรรคที่เบื้องบนประทานใหนั่นทําใหผูคนตางก็ตะลึงพรึงเพริด แข็งแกรง
ตั้งแตวัยเยาว แตขาคิดวายังดอยกวาเจาตัวเล็กอยูหนอย”
เมื่อคนในหมูบานไดฟงแลวก็นิ่งอึ้งไป จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา นี่เปนสิ่งที่
สวรรคทรงโปรดประทานใหแกหมูบานหินผาของเรา! เด็กคนหนึ่งที่ทัดเทียมกับลูกออน
ของเหลาอสูรบรรพกาล หากเติบใหญไปจะเกงกาจเพียงใด?! หมูบานหินผาจะรุงโรจนได
ดวยตัวเขานี่แหละ
ชายชราคนหนึ่งวิเคราะหพลางพูดวา “ชนเผาใหญเหลานั้นชางเจริญรุงเรือง มียอด
ฝมือมากมายประหนึ่งปาดงที่สามารถปลิดชีพสัตวประหลาดที่นากลัวสุดขีดเหลานั้นได
จากนั้นนําเอาเลือดที่บริสุทธิ์ของอสูรบรรพกาลที่พบเจอไดยากมาใหพวกเด็กที่มี
พรสวรรคผิดมนุษยนี้ไดขัดเกลาและอาบชําระกาย มิเชนนั้น ชองวางของพวกเขากับเจา
ตัวเล็กคงจะหางกันมากกวานี้”
“ทุกดินแดนกวางใหญไมมีทสี่ ิ้นสุด บางทีภายในชนเผาขนาดใหญในตํานาน และ
เขตแดนของกษัตริยบางองคอาจจะมีเด็กที่เกงกาจยิ่งกวา อาจเปนเพราะโลกชางกวาง
ใหญไพศาลนัก ทุกสิ่งที่เรารับรูอาจเปนเพียงแคสวนเล็กๆ เทานั้น” สือยวิ๋นเฟงกลาว
การประลองยุทธในครานี้ทําใหผูคนในหมูบานเบิกบานใจ เด็กๆ ทุกคนแข็งแกรง
และมีศักยภาพมาก สวนสือฮาวถือวาเปนเรื่องอัศจรรยที่เหนือความคาดหมาย การ
กระทําของเขาชางระทึกขวัญเสียจริง
เมื่อกลุมคนแยกยายกันไปแลว เหลาชายชรากับสือหลินหูที่เปนบุคคลสําคัญไมได
ออกจากที่นี่ พวกเขายังคงหารือกันในหัวขอกอนหนาที่ยังไมจบ
“หากในวันขางหนาสือฮาวเติบใหญ ภายใตสถานการณหนึ่งตอหนึ่ง เขาจะสามารถ
สังหารโหวตัวเปนๆ ไดดวยมือเปลา และปลิดชีพซวนหนี[2] ตัวโตเต็มวัยไดจริงหรือ
ขอรับ? แคพวกอสูรกายในตํานานโผลออกมาเพียงตัวเดียวก็สามารถทําลายชนเผาขนาด
ใหญไดอยางงายดายเลยนะขอรับ!”
ชายชราผูหนึ่งดับไฟรอนรุมที่สุมอยูในอกของตนแลวกลาววา “มีศักยภาพเมื่อ
เยาววัย ไมไดหมายความวาจะกลายเปนผูเขยาโลกใหสะเทือนได เจาตองเขาใจวา
พรสวรรคไมนอยเลยทีเลือนรางหายไปตั้งแตวัยเด็ก”
ทุกคนตกอยูในความเงียบงัน จากนั้นตางก็พยักหนา
สือยวิ๋นเฟงขมวดคิ้วและกลาว “จะวาไป สือฮาวเกิดในหมูบานของเรา เขาไมสม
บูรณแตกําเนิด เริ่มตนจากที่ต่ําตอย พวกเราไมสามารถมอบโลหิตของอสูรกาย ยาวิเศษ
และของล้ําคาแหงหุบเขาในตํานานแกเขาไดดั่งชนเผาใหญโตเหลานั้น”
สือหลินหูพูด “ตอนนี้เขายังเด็ก หากวาเปนเชนนี้จนเติบใหญ เมื่อถึงเวลานั้นคงไม
สามารถจะเทียบเด็กในชนเผาใหญโตได”
สือยวิ๋นเฟงกลาวพลางครุนคิด “ตามที่ขาเขาใจ เด็กๆ ที่มีพรสวรรคของชนเผา
แข็งแกรงทั้งหลายที่อยูในสุดขอบโลกนั้นจะตองเขาพิธีชําระรางกายครั้งที่ 1 เมื่ออายุได
5 ขวบป บมเพาะรางกายในเตาไฟสําริดที่ปดสนิทดวยยาวิเศษนานาชนิดและโลหิต
บริสุทธิ์ของอสูรบรรพกาลเพื่อเพิ่มศักยภาพ”
คนอื่นๆ ตางก็ถอนหายใจเบาๆ ที่แหงนี้เปนเพียงหมูบา นเล็กๆ จะไปเทียบกับชน
เผาใหญโตเหลานั้นไดอยางไร? พวกเขาไมสามารถหายาวิเศษและโลหิตบริสุทธิ์ของอสูร
บรรพกาลแหงตํานานนั้นเจอ
“ทําใหดีที่สุดเทาที่เราจะสามารถทําได ออกลาสังหารสัตวประหลาดตัวมหึมาแลว
รีดเลือดอันล้ําคาออกมา คอยๆ สั่งสมไวเพื่อเตรียมพิธีชําระรางกายเมื่อเด็กๆ อายุได 5
ขวบป” ชายชราคนหนึ่งพูดเบาๆ
สือหลินหูขมวดคิ้วแลวพูดอีกหัวขอหนึ่งขึ้นมาวา “หากคิดทัดเทียมกับเด็กที่เกงกาจ
ในตํานานเหลานั้น นอกจากการสรางรากฐานที่แข็งแกรงใหแกรางกายแลว การบําเพ็ญ
ตบะและถายทอดวิชาก็เปนอีกปญหาหนึ่งที่สําคัญนะขอรับ”
หัวหนาหมูบานสือยวิ๋นเฟงพยักหนาแลวพูดวา “เรื่องนี้ใหขาเปนคนจัดการ”
ผูคนพลันตกอยูในภวังค พวกเขาตางก็รูวา เมื่อครั้งที่หวั หนาหมูบานออกเดินทางไป
ยังแดนไกลรวมกับคนในหมูบานบางสวนนั้นเคยเขาไปยังชนเผาเกรียงไกรมากมาย
สุดทายกลับมาพรอมกับตํารากระดูกที่แลกมาดวยเลือดและชีวิต มันจะทัดเทียมกับการ
ถายทอดวิชาของชนเผาใหญไดกระนั้นหรือ?
พี่นองที่รว มเปนรวมตายราว 10 คน เหลือเพียง 2 คนที่รอดกลับมาดวยรางกายที่
โชกเลือด สุดทายกลับเหลือเพียงหัวหนาหมูบานที่มียังมีชีวิตอยู แตกลับมีความลับที่
บอกกลาวแกใครไมได เขาไมเคยเอยถึงเรื่องเมือ่ หลายปกอนนั้น และคนในหมูบานก็ไม
เคยเอยถามเชนกัน
ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน? แนนอนวานี่เปนความลับที่เขาไมอยากเปดเผย
จากนั้นชีวิตในทุกๆ วันของหัวหนาหมูบานสือยวิ๋นเฟงก็จะยุงอยูกบั การเคี่ยวตมยา
สมุนไพร เตาไฟสําริดที่ตั้งอยูกลางลานบานไมเคยดับมอด กลิ่นยาคละคลุงโชยแตะจมูก
“ทานผูเฒาขอรับ ทานอยาหักโหมมากไป พักเสียบางเถอะขอรับ” เสี่ยวสือฮาวมี
ขนตายาวสวยกวาของผูหญิงเสียอีก เขาพูดโนมนาวใหชายชราหยุดพักอยางรูความ
“ไมจําเปนหรอก” สือยวิ๋นเฟงหัวเราะแลวสายหัว
เหลาชายชราและสือหลินหูที่รูความจริงก็ไมไดบอกอะไรกับสือฮาวมากนัก เขาไมรู
วาสือยวิ๋นเฟงกําลังเตรียม “พิธีชําระรางกาย” เมื่ออายุ 5 ขวบปใหแกเขา
ตะวันบายคลอย กลุมนักลากลับมาแลว ทุกคนแบกสัตวประหลาดไวบนไหลคนละ
ตัว แมวาจะมีคนไดรับบาดเจ็บ แตพวกเขาก็กลับพูดคุยและหัวเราะอยางมีความสุข
ลานหินของหัวหนาหมูบานตั้งอยูตรงหนาทางเขาหมูบาน ตอนนี้สือฮาวยืนอยูหนา
ประตูลาน มองดูกลุมคนที่กําลังกลับมา
“ทานลุง พวกทานกลับมากันแลวหรือขอรับ” ใบหนาของเขาเชิดขึ้น ออนเยาวขาว
ใส ดวงตาสุกใสดําสนิทเปลงแสงแวววาว เขาทักทายกลุมคนอยางสุภาพ
“มานี่ นี่เปนเบอรรี่ที่เจาชอบกินมากที่สุดยังไงละ ลุงเด็ดมาฝากเจาเปนพิเศษเลย
นะ” สือหลินหูยื่นหอที่ทําจากหนังสัตวมา พอเปดดูขางในเปนสีแดงสด กลิ่นหอมแตะ
จมูก ผลไมอวบอิ่มและชุมชื่นเปนลูกๆ นั่นสองประกายระยิบระยับราวกับหินคารเน
เลียนสีแดง
“ขอบคุณขอรับทานลุง” สือฮาวกะพริบตากลมโตแลวรับมาดวยความเบิกบาน
ยามพลบค่ํา ผูคนในหมูบานเซนไหวซากสัตวประหลาดตรงหนาตนหลิวศักดิ์สิทธิ์
เมื่อสิ้นพิธี ซากสัตวประหลาดแสนรูหลายตัวก็ถูกเคลื่อนยายไปยังลานบานของหัวหนา
หมูบาน
เพียงชั่วครู กลิ่นคาวเลือดลอยอบอวลไปทั่วลานหิน ซากสัตวประหลาดถูกแขวนไว
ที่นั่น เลือดโชกไปทั่วลําตัว และลําตัวสัตวเริ่มแหงเหี่ยว อักขระสองแสงแวบวับตัวแลว
ตัวเลา ชางแปลกประหลาดและนาพิศวง
มันคือ อักขระกระดูกที่กําลังผสมผสานกับโลหิตเหลว ประหนึ่งเสนสายฟาฟาดที่
เปนเสนเล็กๆ สือยวิ๋นเฟงกําลังรายคาถาเพื่อใชพลังพิศวงนั่นสกัดคั้นเอาแกนสารจาก
โลหิตสัตวและคัดสรรเปน “โอสถบํารุงเลือด” ผานกรรมวิธีอยางตอเนื่อง เลือดสัตว
เหลือนอยลงทุกที สัตวทุกตัวเหลือเลือดที่หยดลงมาเพียงหยดเดียวเทานั้น ไหลยอยลงสู
ไหหยก เกล็ดเลือดเปลงประกายสุกใสดุจเพชรสีเลือดที่แพราวพราว
“ตามที่บันทึกไวในตําราโบราณ หากมียาวิเศษ เลือดบริสุทธิ์เพียงพอและเวทมนตร
ในพิธีอาบชําระเมื่ออายุ 5 ขวบปจะชวยใหรากฐานที่วางไวนั้นมีประสิทธิภาพยาวนาน”
สือยวิ๋นเฟงกลาว
เขาไมอยากใหพรสวรรคของสือฮาวสูญเปลา และไมปรารถนาจะใหเขาดอยกวาเด็ก
ที่มีพรสวรรคของชนเผาใหญโต เขาครุนคิดวาจะชวยเก็บตุนของมีคาที่ตองใชใน “พิธี
ชําระรางกาย” ใหสือฮาวอยางไรดี
“ขายอมขาดแคลนดีกวามีของดอยคุณภาพ มีแตโลหิตที่มีคุณภาพและเปนประโย
ชนกับเจาตัวเล็กทั้งนั้น ชางนาเสียดายที่แตละอยางมีนอยเกินไป อีกทั้งแข็งแกรงเกินไป
ยากที่จะตอกรกับมัน” เขาบนพึมพํากับตัวเอง
..............................
[1] โหว สัตวในตํานานจีนโบราณ เปนลูกของมังกร มีรูปรางคลายสุนัข กินคนเปน
อาหาร
[2] ซวนหนี เปนสัตวมงคลในตํานานจีนโบราณ หนาตาเหมือนสิงโต มีแผงคอปุกปุย
บทที่ 7 รังไมหวูถ ง
ปาดงดิบมีพืชพรรณเขียวชอุมอุดมสมบูรณ รังสีมืดครึ้มแผปกคลุมทั่วผืนปา แมลงมี
พิษปรากฏกาย สัตวประหลาดรองคํารามดังระงม มีทั้งเสือรายและอสรพิษ กลิ่นคาว
คละคลุงโชยแตะจมูก ไอเย็นเยือกถึงกระดูกแผซานไปทั่วรางกาย
“โฮก...”
เสียงคํารามดังสนั่นประดุจเสียงสายฟาฟาดลอยมาจากเทือกเขาลึก ขุนเขาสะเทือน
เสียงคํารามสะทอนดังกองกังวาน แมกไมโยกไหวอยางรุนแรง ใบไมรวงโรยโปรยปราย
สัตวประหลาดขนาดมหึมาปรากฏกายอยูไกลๆ
เด็กๆ หนาซีดเผือก พวกเขาออกจากหมูบานหินผามาไดสักระยะหนึ่งแลว และแอบ
เขาไปยังปาทึบโดยที่ไมบอกผูใหญ นับวาโชคดีที่พวกเขาไมไดเขาไปยังถิ่นที่พํานักแทจริง
ของพวกสัตวประหลาด
“พี่ตาจวงขอรับ ในปาเขาอันตรายเกินไป พวกเราอายุยังนอย ไมควรไปตอแลวนะ
ขอรับ” เด็กคนหนึ่งพูดเสียงสั่น
พวกเขาเติบโตมาพรอมกับปาดงดิบนี่ ยอมรูถึงความอันตรายของมัน ที่เต็มไปดวย
สัตวดุรายนานาชนิด ยามเขาปาดงพงไพร แมแตรุนพอของพวกเขาก็ตองระมัดระวังเปน
อยางมาก มิเชนนั้นจะสิ้นชีพได
เด็กที่อายุนอยเหลานี้มีกันทั้งหมด 10 กวาคน คนที่เดินนําคือสือตาจวงผูซึ่งเคยยก
หมอสําริดที่หนักราว 1000 ชั่ง คิ้วหนาดก ดวงตากลมโต ทอนแขนทอนขาใหญเทอะทะ
รางกายแข็งแกรงสมชื่อ สวนสูงของเขาเกือบจะเทียบผูใหญไดแลว เขามองไปยังเด็กอีก
คนแลวพูดวา “ผีโหว ยังอีกไกลไหม?”
ผีโหวมีชื่อวาสือจงโหว เขารูปรางผอมแหง แตพละกําลังมหาศาลและฉลาด
ปราดเปรื่องกลาว “ขาไดยินพวกลุงหลินหูพูดวาหนาผานั่นอยูไมไกลจากหมูบานมากนัก
ทางนี้แหละ คงใกลถึงแลวกระมัง”
“สือฮาว เจาคิดเห็นวาอยางไร?” สือตาจวงเอยถาม
เมื่อกอนนั้น สือฮาวเปนเพียงหนอนตามกน[13]ในกลุมเด็กโต ตั้งแตที่เขายกหมอ
สําริดได แมแตพวกผูใหญตางมองวาเขาเปนตัวประหลาด นับประสาอะไรกับเด็กๆ พวก
นี้ เขากลายเปนหนึ่งในบุคคลสําคัญของพวกเขาไปเสียแลว
“หากไปตอจะยิ่งอันตรายนะขอรับ” เสี่ยวสือฮาวที่มีน้ําเสียงไพเราะเสนาะหู ดวงตา
กลมโตแบงสีขาวดําชัดเจนเปลงประกายแวววับพูดตามความสัตยจริง
“แตมันอยูไมไกลแลวจริงๆ นะ” สือตาจวงกลาว
เด็กมากกวาครึ่งปรารถนาที่จะไปตอ
“หากพวกทานไป ขาก็จะไปดวย” เสี่ยวสือฮาวเอยดวยน้ําเสียงออนโยนและใสซื่อ
ดวยเหตุนี้เด็กๆ จึงมุงหนาออกเดินทางอีกครั้ง และเดินออกไปไกลราว 1 ลี้กวา
ตนไมคอยเบาบางลง พืชพรรณนอยลงเรื่อยๆ แตหินขนาดใหญคอยๆ เพิ่มมากขึ้น กลิ่น
อายความนากลัวตลบอบอวลไปทั่วทุกทิศ
มันเปนปาหินกวางใหญที่เต็มไปดวยหินผาสูงตระหงาน เงียบสงบปราศจากเสียง
ใดๆ ซากกระดูกขาวโพลนนากลัวของสัตวใหญกระจัดกระจายเต็มพื้นดิน
ผีโหวกวาดสายตามองแลวตอบเสียงเบาวา “ที่นี่แหละ ขาไดยินพวกลุงหลินหูพูดวา
รังของพวกมันถูกสรางอยูบนผาสูงชันในปาหินลึก”
สือตาจวงพูดกําชับกับเด็กทุกคนดวยเสียงทุมต่ําวา “นี่อาจจะเปนซากกระดูกที่มัน
เหลือทิ้งไวหลังจากที่มันกินสัตวประหลาดพวกนั้น แมวาเวลานี้มันอาจจะไมอยูที่รังของ
มัน แตพวกเราจะประมาทมิได หามใหมันเห็นเปนอันขาด มิเชนนั้นพวกเราจะไมรอด!”
เด็กสิบกวาคนนี้ตางก็เติบใหญทามกลางดินแดนรกรางจึงคอนขางมีความตื่นตัวสูง
ประหนึ่งสัตวปาตัวนอยๆ พวกเขาหลบเขาไปในรองหินเล็กๆของปาหินเพื่อแฝงเรนกาย
ของตนอยางคลองแคลววองไว พวกเขาสอดสองสายตาไปทั่วบริเวณเล็กนอยแลวหัน
หนาเผชิญลมพรอมสูดลมหายใจ จากนั้นพยักหนาใสกัน พวกเขาพุงเขาไปยังจุดที่ลึก
ที่สุดของปาหินอยางกระฉับกระเฉงราวกับวานร
ระหวางทางพวกเขาพบเห็นโครงกระดูกขาวสนิทและใหญมหึมาเยอะแยะมากมาย
มีทั้งกระดูกปกษายาว 5-6 เมตร และกระดูกสวนหัวของสัตวประหลาดที่ใหญยิ่งกวา
แทนหินโม ซากกระดูกเหลานี้เปนของเหลาสัตวประหลาดดุรายในปาดงพงไพรที่ถูกฉีก
กินทั้งเปน กลิ่นความตายคละคลุงไปทั่วบริเวณนี้
“คาดวามันจะอาศัยอยูที่นี่นานกวานี้แน หากมันขยายพันธุใหกําเนิดทายาทอยาง
มหาศาล ยามที่คนในหมูบานหินผาของพวกเราเดินทางเขาออกเทือกเขาอาจจะไดรับภัย
คุกคามถึงชีวิตก็เปนได!”
“ทานลุงหลินหูหารือกันหลายวันแลว พวกเขาสอดสองพฤติกรรมของมันเรียบรอย
แลว”
เด็กเหลานี้พร่ําบนพลางวิ่งอยางรวดเร็ว มุงไปยังปาหินลึกดวยความเร็วดุจพายุหมุน
ผาลาดชันตั้งตระหงานอยูดานหนา ที่แหงนี้เงียบสงัด ไมมีแมแตตนหญา บน
จุดสูงสุดของผาลาดชันมีรังนกขนาดใหญที่สรางดวยทอนหวูถง[14]สีดําสนิทให
ความรูสึกอึดอัดเปนอยางมาก
เด็กๆ ยังอยูหางจากมันมาก พวกเขาแฝงกายและสอดสองอยูในซอกหินดวยความ
ระมัดระวัง รังสีดําสนิทขนาดใหญนั่นมีเสนผาศูนยกลางราว 10 กวาเมตร ทุกคน
ตระหนักไดทันทีวาเปนรังของอสูรปกษา
“มันอยูที่นี่จริงๆ ดวย!”
“เจาอินทรีเกล็ดเขียวตัวนี้โฉบเฉี่ยวที่นี่เปนเวลานานแลว ตอนนี้มันสรางรังขนาด
ใหญ หรือมันจะฟกไขอยางที่ทานลุงหลินหูกลาวไวจริงๆ”
ดวงตาของเด็กๆ แพรวพราว นี่เปนจุดประสงคหลักของการเดินทางมายังที่แหงนี้!
มันเปนอสูรปกษาที่แข็งแกรงและเหีย้ มโหดมากชนิดหนึ่ง ภายในรางกายมีโลหิตที่
สืบเชื้อมาจากปศาจปกษา ยากที่จะตอกรดวย เหลาสัตวประหลาดดุรายหากถูกมันจับ
ตามองแลวก็ยากที่จะมีชีวิตรอด
“ตามที่ทานลุงหลินหูไดสังเกตการณ ไมพบอินทรีเกล็ดเขียวเพศผูตัวนั้นมาหลายวัน
แลว มันอาจจะสิ้นชีพจากเหตุการณสุดวิสัยในหุบเขาลึกก็เปนได นกเพศเมียตัวนั้นจะ
ออกลาหาอาหารเองทุกเที่ยงวัน หากจะเขาใกล โอกาสก็อยูตรงหนานี้แลว” ผีโหวกลาว
เด็กๆ ตางกําหมัดแนน วิตกกังวลอยางเห็นไดชัด ในขณะเดียวกันมีความตื่นเตน
และคาดหวังออกมาจากดวงตาเหลานั้น เด็กๆ ที่เติบโตมาในพนาไพรตางก็มีความกลา
หาญ มิเชนนั้นพวกเขาคงไมกลามายังดินแดนที่เต็มไปดวยภยันอันตรายดวยตนเองเชนนี้
“ทุกคนเขาไปหลบซอนในซอกหิน ขาจะลองทดสอบดวยการโยนหินกอนนี้!” เด็ก
ผิวดําสนิทเอย เขามีชื่อวาสือเหมิง ผูคนในหมูบานเรียกเขาวาเออรเหมิง เมื่อครั้ง
ประลองยุทธในหมูบานหินผา เขาลมวัวใหญตัวหนึ่งไดสําเร็จ และยิ่งกวานั้นคือ เขา
เกือบจะยกหมอสําริดน้ําหนัก 1000 ชั่งได ในกลุมนี้ เขาเปนรองเพียงสือฮาวและสือตา
จวงเทานั้น
เกิดเสียง “วิ้ว” พรอมกับหินกอนใหญกอนหนึ่งที่ปลิวไปไกล แลวสุดทายก็รวงลงไป
บนกองหินที่อยูดานหนาของผาลาดชันเกิดเสียงตูมดังลั่น
ทุกคนสะดุงตกใจ โชคดีที่บนผาลาดชันไมมีการเคลื่อนไหวใดๆ
“เออรเหมิงอยาบุมบาม ระมัดระวังหนอย”
“ขาแคอยากลองดูวามันอยูบนรังหรือไม ตอนนี้ดูแลวนาจะไมมีปญหา พวกเรารีบ
ไปกันเถอะ!” เมื่อเออรเหมิงกลาวเสร็จ เขาก็เตรียมตัวจะพุงออกไป
“ชากอนพี่เออรเหมิง” เสี่ยวสือฮาวเอย จากนั้นก็กํากอนหินใหญแลวออกแรงเขวี้ยง
กอนหินลอยขึ้นไปบนผาชัน รวงลงไปใกลกับรังไมหวูถงจนเกินเสียงดังกึกกอง
เพียงชั่วครู บนผาชันเงียบสงบ อินทรีเกล็ดเขียวไมปรากฏกาย
“ไป!”
เด็กๆ ที่เหมือนกลุมสัตวปามุงหนาไปยังผาชันดวยความไวแสงพรอมกับเสียงรองดัง
สนั่น ครั้นเขาใกลรังของมัน พวกเขาแบงหนาที่ตางกันออกไป บางสวนเฝาระวังเพงมอง
ทองฟาบนหินกอนใหญ พวกเขายืนคุมกันและสังเกตการณเพื่อปองกัน หากเจาอสูร
ปกษาโผลมากะทันหัน อีกสวนหนึ่งก็เตรียมตัวปนปายขึ้นไปบนผาชัน
“พี่ตาจวง พวกทานรออยูที่นกี่ อน ขอขาสํารวจดูกอน” สือฮาวกลาว
“เจาเด็กไมสิ้นกลิ่นน้ํานม เจาสํารวจบริเวณรอบๆ นี้ก็พอแลว พวกเราไป!” สือตา
จวงพูด เด็กทั้งกลุมพากันหัวเราะ จนตอนนี้แลวเจาตัวเล็กก็ยังไมหยานม จึงถูกพวกเขา
เยาะเยยอยูบอยครั้ง
“ขากินเนื้อมาตั้งนานแลว เพียงแคดื่มมันแทนน้ําเปนครั้งคราวเทานั้น!” เสี่ยวปู
เตี่ยนยนจมูก แลวหายใจฟดฟด ตากลมโตดุจอัญมณีสีดําเบิกกวางพลางพูดอธิบาย
แนนอน เจาตัวเล็กมาก เขารูวาตอนนี้เด็กโตไมไดหัวเราะเยาะเยยเขา แตกําลัง
ปกปองและคุมครองเขา พวกเขาไมอยากใหเขาขึ้นไปคนแรกเพราะมันอันตราย
“ขาวองไวกวาเจามากนัก หากมีอันตรายขาก็หนีไดไว” เจาตัวเล็กไมรอใหพวกเขา
เอยวาจาใด เสียงฟบดังขึ้นพรอมกับเขาที่ปนปายขึ้นไปบนผาชันดวยความไวดุจแสง
ประหนึ่งวานร กระฉับกระเฉงและปราดเปรื่อง
“อยาปลอยใหเขาเผชิญอันตรายเพียงลําพัง พวกเราก็ไปกันเถอะ!” สือตาจวงกับ
เออรเหมิง และผีโหวตางก็รีบตามติด ไลตามขึ้นไปราวกับวานร
บนผาลาดชันมีซอกหินมากมาย ทําใหเด็กๆ ใชประโยชนจากมันเพื่อปนปายขึ้นไป
อยางรวดเร็ว พวกเขากําเนิดทามกลางขุนเขาที่รายลอมดวยปาดงดิบ ความสามารถใน
การปนปายของพวกเขาจึงแกรงมาก หากเทียบกับวานรปศาจของเทือกเขาแหงนี้แลว
พวกเขาก็ไมไดดอยไปกวาพวกมันนัก
“ฮูว... ถึงเสียที!”
หินผาสูงราว 300 เมตร หลังจากที่เจาตัวเล็กขึ้นมาถึงแลว รอ 3 คนที่เหลืออยูชั่วครู
ครั้นพวกเขาโผลหัวมาแลวจึงมุงหนาไปยังรังขนาดใหญนั่น
“ชางเปนรังนกที่ใหญเสียจริง!” ผีโหวตะลึงงัน
เมื่อไดมามองดูใกลๆ แลวคอนขางนาตกใจ รังนกมีความยาวเกือบ 10 เมตร ทําจาก
ไมหมูถงสีดําสนิท มันกินเนื้อที่ยอดผาไปเกือบครึ่ง และใหญกวาบานชองของหมูบานหิน
ผาอยูมากโข
นอกจากนี้ บนผาชันยังมีกระดูกใหญที่เปอนคราบเลือด กระดูกทุกชิ้นหนาและยาว
ยิ่งกวาคนที่โตเต็มวัย มันนากลัวจนขนลุกขนชัน
โดยเฉพาะบนกระดูกสัตวที่มีขนาดใหญราวกับแผนหินโมนั่น และรอยเล็บนา
สะพรึงกลัวที่ยังหลงเหลือคราบเลือด ชางนาสยดสยอง
“นี่เปนกระดูกของชางเขามังกร นากลัวจริงๆ นึกไมถึงเลยวาเจาอสูรปกษาจะกิน
ชางตัวมหึมานี่ไดอยางงายดายเพียงนี้!” เออรเหมิงพูดอยางตกใจ
“อยาเพิ่งสนใจเรื่องพวกนี้เลย” สือตาจวงกลาวแลวปนขึ้นไปบนรังนกสีดํา
ครั้นมาถึงบนรังนก พลันรูสึกถึงบรรยากาศนากลัว และมีกลิ่นคาวเลือด ขอบของรัง
นกมีสีแดงคล้ํา เห็นไดชัดวาอินทรีเกล็ดเขียวมักจะกินอาหารบริเวณขอบรังนก เลือดสัตว
นานาชนิดที่เจือปนมาเปนเวลานาน ทําใหที่แหงนี้อบอวลไปดวยกลิ่นอายแหงความชั่ว
ราย
“เจาอสูรปกษาไมอยูที่นี่!”
“ดูนี่สิ มีใขนกหลายใบเชียวละ!”
เด็กๆ ตางก็ตกตะลึง พวกเขากลาหาญเปนที่สุด หลังจากที่ไดยินบนสนทนาของ
พวกผูใหญในหมูบา น ตัดสินใจดวยตนเอง เดินทางมาที่นี่ก็เพื่อไขของปกษาอสูรเหลานี้
“ดียิ่งนัก พวกเรารีบขนกลับไปแพรพนั ธุที่หมูบานเถอะ ตอจากนี้จะไดมีอสูรปกษาที่
แข็งแกรงมาชวยเราสังหารพวกสัตวประหลาด นําเครื่องเซนกลับไป!” ผีโหวตะโกนดวย
ความตื่นเตน
ภายในรังหวูถงถูกปูดวยหญาสีทองออนนุมแลดูสบาย ไขสามใบสองแสงระยิบราว
กับหยกเขียวอยูขางในนั้นอยางสงบ บนไขมีจุดและลายตาขายสองแสงแวววับ
ไขของอสูรปกษาทุกใบมีขนาดใหญเทากับอางใสน้ํา ขนาดใหญ โปรงแสงแวววาว สี
เขียวเขมดุจหินคอรเนเลียน และลายจุดบนไขสองประกายยิบระยับใตแสงอาทิตย
..............................
[13] หนอนตามกน เปรียบเปรยวา เดินตามตอยๆ
[14] หวูถง ตนไมชนิดหนึ่งของจีน
บทที่ 8 อินทรีเกล็ดเขียว
เออรเหมิงที่มีผิวสีดําสนิทหัวเราะอยางบาคลั่งจนน้ําลายเกือบไหลยอยออกมา
จากนั้นเดินไปขางหนาอยางรวดเร็วแลวพูดวา “นี่เปนรังนกที่ใหญที่สุดที่ขาเคยขโมยเลย
นะ เกิดมาทั้งชีวิตขาก็เพิ่งจะเคยเห็นไขใบใหญขนาดนี้เปนครั้งแรก”
“เหอะๆ เจาพูดถูก ขโมยไขใบใหญขนาดนี้สิถึงจะรูสึกถึงความสําเร็จอยางแทจริง”
ยามที่ผีโหวตัวผอมแหงหัวเราะนั้นเหมือนกับลิงปาไมมีผิด
“งดงามจริงๆ!” เจาหนูสือฮาวกะพริบตากลมโต ขนตายาวขยับขึ้นลงตามจังหวะ
เขามองดูไข 3 ใบของอสูรปกษาที่เปลงแสงละมุนและระยิบระยับแลวก็ดีใจอยางอด
ไมได เขาอายุนอยที่สุดจึงมีความอยากรูอยากเห็นมาก และอยากจะอุมไขขนึ้ มาดูอยาง
ละเอียดซะเหลือเกิน
เออรเหมิงเดินเขามาใกล เมื่อเขายื่นมือไปแตะไขใบใหญนั่นก็รองโอยขึ้นมาทันที
รูสึกเหมือนฝามือชาแปลบราวกับถูกไฟดูด
“นี่มันอะไรกัน?!” เด็กๆ ตางก็ตกตะลึง
เปลือกไขเปลงประกายระยิบระยับดุจหยกเขียว จุดและลายตะขายเหลานั้นสอง
แสงแวววับ สวยงามเหลือเกิน มันมีพลังอํานาจลึกลับไหลเวียนอยูขางในนั้น
“ชางทรงพลังเหลือเกิน อินทรีเกล็ดเขียวเปนทายาทของปศาจปกษาครั้งบรรพกาล
แมวาโลหิตจะไมบริสุทธิ์ดังเมื่อกอน แตยังคงมีอักขระที่เสียหายบางสวนดํารงอยูใน
รองรอยแหงความทรงจําของมัน” เจาตัวเล็กเรียนรูอักขระกระดูกอยูทุกวัน ณ ตอนนี้
เขามองเห็นเบาะแสบางอยางจากมันแลว เขากะพริบตากลมโตแลวพูดขึ้นดวยน้ําเสียง
ไพเราะราวกับผูใหญ
เด็กๆ หลายคนทั้งตะลึงและดีใจ ไขของอสูรปกษาที่ยิ่งแข็งแกรงจะใหกําเนิดทายาท
ลูกนกชั้นเลิศและโลหิตที่สูงสง สามารถคุมครองหมูบานหินผาไดในภายภาคหนา และ
อาจจะทัดเทียมกับเทพารักษก็เปนได
“เพียงแคแสงเรืองรองของลายจุดบนเปลือกไขกําลังไหลเวียนอยูเทานั้น ระวังอยา
ไปสัมผัสบริเวณเหลานั้น ใสมันลงไปในยามหนัง พวกเราตองรีบออกจากที่นี่แลว” สือตา
จวงที่มีรางกายสูงใหญและกํายํากําลังเรงทุกคน ตอนนี้ไมใชเวลามาโอเอแลว
เห็นไดชัดวาพวกเขาเตรียมตัวมาดี ทุกคนตางก็เตรียมยามหนังมา จากนั้นก็เปดออก
อยางรวดเร็วแลวนําไขของอสูรปกษาใสลงไปในยามดวยความระมัดระวัง มีไขสีเขียวเขม
ที่ใหญราวกับอางน้ําขนาดใหญทั้งหมด 3 ใบ นอกเหนือจากเจาตัวเล็กแลว อีก 3 คนที่
เหลือตางก็สะพายคนละ 1 ใบ
“ชางดีเสียจริง คิดไมถึงวาพวกเราจะทํามันสําเร็จ” เออรเหมิงหัวเราะราอยางมี
ความสุขจนน้ํามูกเกือบไหลออกมา
ผีโหวก็หัวเราะฮี่ๆ แลวพูดวา “หลังจากนี้จะมีอสูรปกษาแข็งแกรงคุมครองหมูบาน
หินผาของพวกเรา ทานหัวหนาหมูบานและพวกทานลุงหลินหูจะตองประจักษ และตอง
เปลี่ยนมุมมองที่มตี อพวกเราอยางแนนนอน”
“โอย!” สือตาจวงลื่นไถลจนเกือบจะหกคะเมน แตก็ถูกเจาตัวเล็กจับไวไดทัน
ภายในรังของปกษาอสูรปูดวยหญาสีทองดูออนนุมมาก แตกลับซอนเกล็ดที่สองแสง
สีเงินระยิบระยับเย็นยะเยือกมากมาย สือตาจวงเหยียบไปดวยความไมระมัดระวัง พื้น
รองเทาโดนหนามแหลมทิ่มแทง มีโลหิตแดงฉานไหลออกมา โชคดีที่บาดแคชั้นหนัง
กําพรา
“ชางเปนเกล็ดที่แหลมคมเสียนี่กระไร!” เจาหนูสือฮาวใชมือเก็บเกล็ดสีเขียวขึ้นมา
เกล็ดใหญประหนึ่งฝามือของเด็กทารกแผรังสีเยือกเย็น
“นี่เปนเกล็ดของปกษาอสูรที่โตเต็มวัยแลว ไมธรรมดาจริงๆ ขาคํานวณวาดาบที่
หนักกวา 100 ชั่งก็ไมสามารถทําอะไรมันได!” ผีโหวกลาว
เด็กๆ ตางก็ไมกลาชักชาร่ําไร พวกเขาปนลงจากผาชันอยางรวดเร็วราวกับจิ้งจก
เพียงชั่วครูก็ถึงพื้นดิน พวกเขาปาดเหงื่อไคลและถอนหายใจยาวออกมา
“เปนอยางไรบาง พวกเจาไดอะไรมาบางไหม?” เด็กๆ ตางก็กรูกันเขามา
“พวกเราทําสําเร็จแลว พวกเราขโมยไขมาไดกองหนึ่ง ฮาๆ...” เออรเหมิงหัวเราะ
เสียงดัง
เด็กเหลานี้เปดยามหนังออกแลวเพงมองเขาไปในยามหนัง ขางในมีไขที่ใหญราวกับ
กะละมังกําลังเปลงแสงสีเขียวพิศวง ทุกคนตางตกตะลึง
“ดียิ่งนัก สําเร็จแลว!”
“นี่เปนไขที่กําเนิดจากปกษาอสูรผูยิ่งใหญเกรียงไกร ภายภาคหนาหมูบานหินผา
ของเราจะมีปกษาประจัญบานบินรอนในนภาแลว”
“ไปกันเถอะ!”
พวกเขาทั้งดีใจและตื่นเตน ประหนึ่งสัตวปาตัวเล็กที่กระโดดโลดเตนกลางพงไพร
พวกเขาเคลื่อนที่ดวยความไวที่ยากจะทัดเทียม ไมนานก็ออกจากปาหินกอนที่ปกษาอสูร
จะคืนกลับรัง
“ครั้งนี้ชางราบรื่นเสียจริง พวกเรารีบไปกันเถอะ!”
ปาดงดิบมีพืชพรรณเขียวชอุมอุดมสมบูรณ ใบไมรวงโรยทับถมเปนกองสูงเกือบ 1
เซี๊ยะ[1]ที่ออนนุมยามเหยียบยางบนกองใบไมนนั่ ตนไมสูงเสียดฟาบดบังแสงอาทิตยที่
รอนแรง เถาวัลยแหงเหี่ยวเคี้ยวคดประหนึ่งเขามังกรพันเกี่ยวตนไมใหญ เสียงสัตว
คํารามมาจากทางไกล สั่นสะเทือนไปทั่วพื้นดิน
นับวาโชคดีที่มันอยูไมไกลจากหมูบานหินผามากนัก และตั้งอยูในบริเวณที่คอนขาง
ปลอดภัย ไมไดอยูติดกับเขตปาดงพงไพรที่มีสตั วประหลาดุรายเคลื่อนไหว
“ใกลถึงแลว พยายามกันอีกนิด พวกเรายังตองวิ่งกลับไปที่หมูบานภายในอึดใจ
เดียวเทานั้น!”
ถึงแมวาเด็กเหลานี้จะตื่นเตน แตก็มีความกระวนกระวายใจอยูบาง เพราะนั่นเปน
ถึงอินทรีเกล็ดเขียวที่เหลาชายฉกรรจที่แข็งแกรงที่สุดในหมูบานยังหวาดกลัว แตพวกเขา
กลับมาพรอมกับไขที่มันใหกําเนิดไดสําเร็จราวกับความฝน
ทันใดนั้น เสียงแผดรองเกรี้ยวกราดดังมาฟากฟา ทะลวงผานทองคํา สั่นสะเทือนหิน
แหลกละเอียด[2]เสียงแหลมคมนาสะพรึงกลัวสั่นสะเทือนกองจนปวดแกวหู
“ไมไดการณแลว เจาอินทรีเกล็ดเขียวกลับรังแลว มันตองคลั่งแนหากไมพบไข 3 ใบ
นี้” มีเด็กตะโกนดวยความกลัว
“รีบหนีเร็ว!” ดวงตาของเสี่ยวสื่อฮาวเฉียบคมมองทะลุผานกิ่งกานเรียวเล็กของ
ตนไมขนาดใหญ เขามองเห็นกลุมเมฆดําทมิฬกําลังขดเปนวงมากําลังมุงมาทางนี้
เสียงลมคํารามกลางนภา เงามืดดํามหึมาของปกษาขนาดใหญทอดลงกลางพนา มัน
บินโฉบลงมาดวยความเร็วมหาศาล ลําตัวแผรังสีเยือกเย็นเหี้ยมโหด
ในตอนนี้เด็กคนอื่นๆ ก็มองเห็นมันแลวเชนกัน ปกษาขนาดใหญที่บินทะยานจาก
ทางไกล และโฉบลงมายังผืนปาแหงนี้ดวยความไวราวกับดวงดาวที่รวงหลนจากฟากฟา
วองไวและนาสะพรึงกลัว
“โอพระเจา ชางเปนปกษาที่ใหญยักษเสียจริง รีบวิ่งเร็ว!”
เด็กๆ รองอยางตกตะลึง เกิดความหวั่นเกรงในหัวใจ ปกษาตัวนั้นมีขนาดใหญมาก
ลําตัวยาว 7-8 เมตร แตยามสยายปกคูนั้นกลับยาวราว 15 เมตร แผงเกล็ดสีเขียวปก
คลุมลําตัวอยางแนนหนาสองแสงสีเงินเย็นยะเยือก แผกลิ่นอายเหี้ยมโหด
เด็กกลุมนี้วิ่งกระเจิงไปทั่วทุกสารทิศอยางบาคลั่ง พวกเขาพึ่งพาความคุนเคยที่มีตอ
ผืนปา พุงไปเฉพาะบริเวณที่มีตนไมหนาทึบเพื่อเรนกายจากเจาอสูรปกษาที่มีเกล็ดสี
เขียวแผแสงเย็นยะเยือก
“โฮก!”
ตนไมที่สูงเสียดฟาราว 10 กวาตนแตกละเอียดเพราะปกแกรงของมัน กิ่งกานและ
ใบไมปลิววอน ปลอยสะเก็ดเศษซากกระจาย มันแข็งแกรงประหนึ่งหลอมจากเหล็กกลา
บินโฉบลงมาดวยพละกําลังมหาศาล
มันทําใหเด็กๆ อกสั่นขวัญแขวน พวกเขาแผดเสียงดังลั่นพลางวิ่งหนีเตลิดเปดเปง
ดวยใบหนาที่ซีดขาว
เจาสิ่งที่ใหญโตมหึมานี่ชางนาสะพรึงกลัว ปกแกรงดุจเหล็กกลาแผคลุมทองฟา
ทําลายลางทุกสิ่งอยาง เกล็ดสีเขียวแพรวพราวแผไอเยือกเย็น ยามเมื่อมันบินโฉบลงมา
ผืนปาถูกทําลายไปเกือบครึ่ง เศษไมและใบไมแหงโปรยปราย
มันทรงพลังมาก รางกายแข็งแกรงไมมีสิ่งใดสามารถทัดเทียมได ปกดุจดาบคมคูนั้น
สามารถกระแทกยอดเขาใหแตกหักได แมแตผืนปาก็มิอาจหยุดยั้งมันได
มันมีรูปรางคลายนกอินทรี แตลําตัวกลับไมมีขนแมแตนิด เกล็ดแหลมคมปกคลุมทั่ว
ลําตัวราวกับหลอมมาจากเหล็กกลา เต็มเปยมไปดวยความนากลัว
จะงอยปากงุมแหลมคมสีดําสนิท ความยาวเกือบครึ่งเมตรและเปรอะเปอนคราบ
เลือดของสัตวประหลาด เห็นไดชัดวามันเพิ่งกลับมาจากการออกลา ทวากรงเล็บที่แผไอ
เย็นเยือกนาสยดสยองนั่นแหลมคม มีความยาวราว 1 เมตร มันสามารถฉีกทึ้งชางขนาด
ใหญตัวหนึ่งไดอยางงายดาย
บนหัวของมันมีสิ่งที่เหมือนกับขนนกยื่นออกมา นั่นไมใชขนนกอยางแนนอน แต
กลับเปนกระดูกงอกที่หนาและคมกริบ ดุจเขาวัวเปนทิวแถวที่สามารถฉีกอกของสัตว
ประหลาดขนาดใหญไดอยางงายดาย
และนี่ก็คืออินทรีเกล็ดเขียว เกล็ดสีเขียวหนาดกเย็นเยือก เต็มเปยมไปดวย
พละกําลังมหาศาลราวกับหลอมมาจากเหล็กกลา มันบินโฉบเฉี่ยวไปทั่วผืนปาราวกับที่
แหงนี้ปราศจากทุกสิ่ง
“โฮก!”
ทามกลางเสียงดังครืนครั่น กลุมตนไมสูงเสียดฟาหักโคนลงเปนหยอมๆ หลายตนนั้น
เปนตนไมใหญขนาด 10 คนโอบ อินทรีเกล็ดเขียวบินโฉบผานไป ปกแกรงดุจเหล็กกลา
ทําลายทุกสิ่งที่กีดขวาง กิ่งไมและใบหญาโปรยปรายเต็มพื้น
เสียงดังปงสนั่น พลันหินกอนใหญที่ตั้งขวางทางมันก็ถูกทําลายจนสิ้นซาก ประกาย
ไฟแตกกระเด็นไปทั่ว เศษหินปลิวกระจาย กอนหินที่หนักมากกวา 100 ชั่งแตกระเบิด
เปนเสี่ยงๆ ตนไมหักโคนเปนจํานวนมาก นี่เปนภาพที่นาหวาดกลัวเปนอยางมาก
เด็กๆ ก็ขนลุกขนชัน อินทรีเกล็ดเขียวตัวนี้แข็งแกรงเกินไป หากไมมีหินกอนนั้น
กําบังพวกเขา หลายคนในกลุมพวกเขาก็คงโดนมันปลิดชีพไปแลว
หลังจากที่อินทรีเกล็ดเขียวทําลายผืนปาไปสวนใหญแลว มันก็บินขึ้นทองฟาแลว
โฉบเฉี่ยวอยูกลางอากาศ ดวงตาเหยี่ยวคมกริบเพงมองลงมาดานลางอยางเยือกเย็น
เตรียมจะบินพุงลงมาอีกครั้ง เพื่อไลลาเด็กๆ ที่กําลังวิ่งหนี
“หมูบานอยูไมไกลจากที่นี่แลว รีบวิ่งกันเร็ว!” เด็กๆ ตะโกนเสียงดัง
..............................
[1] เซี๋ยะ – ฟุต
[2] ทะลวงผานทองคํา สั่นสะเทือนหินแหลกละเอียด เปนสํานวนจีน เปรียบเปรยวา
เสียงดังกองกังวาน
บทที่ 9 พลังแหงความชั่วราย
“ไมทันการแลว มันเร็วมาก ไมมีทางที่เราจะหนีกลับหมูบานได” ผีโหวตะโกนบอก
พลางทําหนาบูดเบี้ยวดวยความเจ็บปวด เมื่อครู เขาโดนเศษหินที่กระเด็นมาฟาดเขาที่
แขนเกิดแผลเหวอะหวะมีเลือดไหลทะลักออกมา
“ทางนี้มีถ้ําลึก พวกเรารีบเขาไปหลบซอนกันเถิด!” เจาหนูสือฮาวรองตะโกนไปที่
กลุมคน
พวกเขากําลังหลบหนีทามกลามขุนเขา ออมผานหินใหญมากมาย พุงตัวเขาไปยัง
กลุมเถาวัลยใหญโตมโหฬาร เจาตัวเล็กไถตัวแลวลอดเขาไปดวยความเร็วไว เมื่อเห็น
เชนนั้นแลว เด็กๆ คนอื่นก็ลอดตามกันเขาไป
มันเปนถ้ําหินที่อับชื้นมาก ซอนเรนอยูใตเถาวัลย ไดยินเสียงน้ําดังทามกลางความ
รางเลือน ขางในอับแสงและมืดสนิท มันเงียบเชียบและลึกชนิดที่ไมมีสิ่งใดเทียบ
หลังจากเด็กๆ หลบเขามาแลวก็ไมกลาแมแตจะหยุดพัก พวกเขาวิ่งเขาไปอยางบาระห่ํา
เปนระยะทางราวๆ 10 เมตรแลวจึงหยุดพัก
เสียงหายใจหอบดังระงมทามกลางความมืดมิด พวกเขาวิ่งตอเนื่องมาเกือบ 1 ลี้ ทุก
คนตางก็เหนื่อยลามากแลว เมื่อครูทั้งตื่นตระหนกและนากลัว เจาอินทรีเกล็ดเขียวดุราย
นั่นชางทรงพลัง หากมันไลตามทันแลวหวดกรงเล็บลงมา พวกเขาคงนอนจมแองเลือด
และกระดูกแหลกเปนผุยผง
“ฟูว อันตรายยิ่งนัก พวกเราเกือบจะเอาชีวิตไมรอดแลว!” หลังจากที่รอดชีวิตมาได
ราวกับเกิดใหม พวกเขาทั้งหมดก็ทรุดลงไปกองกับพื้น
“ปากถ้ํานี่ไมใหญมาก เจาอสูรปกษาตัวนั้นคงเขามาไมได” แมพวกเด็กๆ จะผอน
คลายลงแลว แตพวกเขาก็ยังคงระแวดระวัง
ประสบการณครั้งนี้อันตรายอยางแทจริง อีกเพียงนิดรางก็จะถูกฝงอยูกลางผืนปานี้
สิ้นชีพใตกรงเล็กแหลมคมของทายาทปศาจปกษาบรรพกาลตัวนั้น ตอนนี้พวกเขาสงบลง
บางแลว เหงื่อไคลเย็นเยือกเต็มแผนหลัง
ถ้ําแหงนี้มีขนาดที่ลึกมาก และเชื่อมกับแมน้ําใตบาดาล ลมเย็นเยือกพัดกรีดหวิว
เด็กๆ ตางมองหนากันเลิกลั่กดวยความกังวล พวกเขาจะกลับไปที่หมูบานหินผาได
อยางไร? ในเมื่อไมมีใครกลายางเทาออกไป
“เอะ ใชสิ เจาตัวเล็ก เจารูไดยังไงวามีถ้ําหินอยูตรงนี้?” เมื่อไดสติ เด็กๆ เพิ่งจะนึก
ไดวาเจาตัวเล็กเปนผูชี้ทางสวางแหงชีวิตภายใตสถานการณคับขัน
“ไอหยา! “เสี่ยวปูเตี่ยนเขินอายเล็กนอยพลางบิดลําตัวจิกชายเสื้อแนนแลวพูด
พึมพําวา” ครั้งที่แลวขาไลตามนกกระจอกสีแดงตัวหนึ่งจนวิ่งออกนอกหมูบาน ขา
เกือบจะหลงทางและพบที่นี่เขาโดยบังเอิญ”
พวกเด็กๆ พากันเงียบ เจาตัวเล็กเพียบพรอมทุกอยาง เพียงแตกระฉับกระเฉง
เกินไป ความอยากรูอยากเห็นมีมาก ครั้งยังเยาววัย เขาไลตามสุนัขสีเหลืองของหัวหนา
หมูบานจนออกนอกหมูบานอยูหลายครั้ง ครั้นเติบใหญมาหนอย พละกําลังแข็งแกรง
มากขึ้น เมื่อพบเห็นสิ่งแปลกประหลาดที่พบเจอไดยากก็จะวิ่งไลตามไมหยุดหยอนเพื่อไข
ขอสงสัยของตน
“เหอะๆ...เสี่ยวฮาวฮาวอายุ 3 ขวบที่ยังไมหยานมแถมวิ่งไลนกกระจอก!” เด็กโตพา
กันหัวเราะเยาะ
เจาตัวเล็กรูสึกเขินอาย เขาทําหนายูยี่แลวตอบดวยทาทีฟดฟด “พวกทานหยุด
หัวเราะเลยนะ นั่นเปนนกกระจอกที่มีลําตัวแดงฉานดุจโลหิตเชียวนะ มันเหมือนหงสไฟ
[1]ที่เปนอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกบันทึกในตํารากระดูกนั่นราวกับพิมพเดียวกัน”
“เหอะ เจาหยุดเอยถึงสิ่งที่ไมรูวามีอยูจริงตามตํานานรึเปลานั่นเสียเถิด หากมีหงส
ไฟหรือทายาทที่สืบเผาพันธุจากมันปรากฏกายขึ้นมา มันสามารถทําลายหนึ่งชนเผา
ขนาดใหญใหพังพินาศยอยยับ ถาเปนหงสไฟจริงละก็ มันจะใหเจาไลตามอยางนั้นหรือ?
แคเพียงมันอาปากกวางก็สามารถทําลายดินแดนของราชันยใหแตกเปนเสี่ยงๆ!”
“แตมันเหมือนสิ่งที่บันทึกในตํารากระดูกราวกับพิมพเดียวกันเลยนะ สีแดงฉานสวย
สดงดงาม” เจาตัวเล็กอธิบาย
กําฝามือนอยๆ ที่ขาวและออนโยนนั่นจนแนน ใบหนาแดงก่ําแสดงสีหนาตื่นเตน
ดวงตากลมโตดุจลูกแกวสีดํากําลังสองประกายทามกลางความมืดมิด
“ตูม!”
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังกึกกองปลุกเด็กๆ ใหตื่นจากภวังค พวกเขาหันกลับไปมอง
และเห็นแสงสีเงินเย็นเยือกสองประกายพรางพราวตรงปากถ้ํา ปรากฏหัวของอินทรี
เกล็ดเขียว ลูกตาดําเยือกเย็นนาสะพรึงกลัวนั่นจดจองมายังเด็กๆ ที่อยูภายในถ้ําหิน
“โอสวรรค มันจะเขามาแลว!” เด็กหลายคนใบหนาซีดไรสีเลือด ซีดเผือดอยางหาที่
เปรียบไมได
“อยากังวลไป ปากถ้ําไมใหญ มันเขามาไมไดหรอก!” เออรเหมิงชางดูนาเกรงขาม
เขาพูดพลางกําหินกอนใหญเทาใบหนาคน จากนั้นก็เขวี้ยงออกไปอยางสุดกําลัง
“ปง!”
หินกอนใหญที่ถูกเขวี้ยงดวยพละกําลังราว 1000 ชั่งของเขาลอยลิ่วออกไปดวย
ความรวดเร็ว รวงหลนกระแทกลงบนหัวของอินทรีเกล็ดเขียวอยางรุนแรง เกิดเสียงดัง
ครืนพรอมกับประกายไฟปลิววอนรอบทิศทาง เกล็ดสีเขียวดุจอัญมณีที่สองแสง
ระยิบระยับนั่นไมไดรับความเสียหายแมแตนอย แตกอนหินกลับแตกกระจายเปน 4
สวนแลวรวงลงพื้น
ผูคนตางตกตะลึง อสูรปกษาตัวนี้มีผิวหนังหนาดุจสําริด กระดูกแข็งดั่งเหล็กกลา
แข็งแกรงทรงพลังจนนาขนลุก
“ฟรึ่บ”
มันหวดกรงเล็บลงมาตะปบกอนหินที่หนักเกือบ 100 ชั่งจากปากถ้ําภายใน
พริบตาเดียว ราวกับตะขอเหล็กคมกริบที่ฉกฉวยแผนโคลนขึ้นมาอยางงายดาย
เด็กๆ ตางตกตะลึงจนพูดไมออก แมกระทั้งถ้ําหินก็ขวางมันไมไดอยางนั้นหรือ?
“โครม!”
เสียงหินแตกละเอียดดังมาอีกระลอกหนึ่ง อินทรีเกล็ดเขียวกระพือปกประหนึ่งดาบ
แหลมคม ฟาดใสผาชันจนแตกออกเปนเสี่ยงๆ กอนหินขนาดใหญกลิ้งหลุนๆ ลงมาพรอม
กับเสียงดังครืน รางกายใหญมหึมานั่นดึงดันจะเขามาขางในใหได
“ชางนากลัวเสียนี่กระไร มันจะระเบิดภูเขาเตี้ยนี้ใหแหลกอยางนั้นหรือ? หากเปน
อยางนี้ตอไป มันอาจจะพังถ้าํ หินนี้ใหทลายราบเปนหนากลอง”
ผีโหวงางคันศรจากคันธนู ที่ทําจากเขามังกร เขามังกรที่วานี้ก็คือเขาที่ตัดเอามาจาก
ชางเขามังกร โดยปกติแลว จะมีเพียงผูใหญเทานั้นที่สามารถงางสายธนูนี้ได มันจึงถูกยก
ยองวาเปนวัสดุที่ดีที่สุดในการประดิษฐธนู
“ฟว!”
คันศรรอนออกไปดวยความเร็วสูงสุดและรุนแรงดุจฝนดาวที่วองไวและดุเดือด
“ตึง!”
แตทวา สิ่งที่ทําใหพวกเขาตะลึงก็คือ คันศรที่ถูกเล็งไปที่หัวของอินทรีเกล็ดเขียวนั่น
เพียงเกิดประกายไฟเปนสาย แผงเกล็ดของมันยากที่จะทะลวง แมแตคันธนูแกรงกับคัน
ศรคมกริบพวกนี้ยังไมเกิดประสิทธิผล
ทุกคนตางก็รูสึกตื่นกลัวและผิดหวัง เปนไปไดอยางไร? แมแตธนูแกรงก็ทําอันตราย
มันไมได นอกจากนี้ยังไมสามารถเขาไปโจมตีมันใกลๆไดอีกดวย ตอนนี้พวกเขาตกอยูใน
สถานการณสิ้นหวังไรหนทาง
“ไอหยา ขาขอลองดูบาง”
เจาตัวเล็กหยิบยืมหอกโลหะดามหนึ่งที่หนักราวๆ 40-50 ชั่ง มาจากเด็กโตคนหนึ่ง
มุงหนาไปยังปากถ้ํา โดยเริ่มจากการวิ่งเหยาะๆ กอนแลวเพิ่มความเร็วทันที สุดทายก็
เขวี้ยงหอกโลหะออกไปเกิดเสนสายฟาพาดผานโดยพลัน รังสีเยือกเย็นพุงไปยังปากถ้ํา
สือฮาวผูซึ่งสามารถยกหมอสําริดที่หนักราว 1000 ชั่งออกแรงเขวี้ยงหอกโลหะอยาง
สุดกําลัง และปกเขาไปยังดวงตาของอินทรีเกล็ดเขียวดวยแรงทะลวงอันนาสะพรึงกลัว
หอกโลหะลอยพาดกลางอากาศ เกิดเสียงแผดรองจนอากาศที่บีบอัดภายในถ้ําก็สงเสียง
ดังบูมตามไปดวย!
อินทรีเกล็ดเขียวไลลาพวกเขาดวยความชิงชังมาโดยตลอด ทวาในตอนนี้ดวงตาของ
มันกลับเปลงแสงประหลาดออกมาเปนครั้งแรก มันขยับหัวหนีอยางรวดเร็วเพื่อไมให
หอกโลหะทิ่มทะลวงเขาไปในดวงตาของมัน
หอกโลหะที่ทรงพลังรอนออกไปดวยความไวดุจแสง ชนโครมเขาที่หัวของอินทรี
เกล็ดเขียวประหนึ่งแผนโลหะสําริด 2 แผนที่เสียดสีกัน ประกายไฟโปรยปรายรอบ
ทิศทางพรอมกับเสียงแหลมบาดหูอยางรุนแรง
สุดทาย หอกโลหะก็หลนลงบนพื้น แตเกล็ดตรงหางตาที่สองแสงเยือกเย็นของอสูร
ปกษาตัวนี้ก็หลุดรวงออกมาเปนกอบกํา เลือดไหลออกมาเปนทางนาจับตามอง
เสียงแผดรองของปกษาดังกึกกอง ราวกับสายฟาฟาดผาจิตวิญญาณคน มันแผด
เสียงดังกอนจะกลายเปนเสียงแหลมคมดุจเสียงมังกรคํารามที่นาขนลุก
เด็กๆ ตกใจจนรนถอยและทรุดลงไปกองกับพื้น พวกเขารีบยกมือทั้งสองขางขึ้นอุด
หูโดยทันที มิฉะนั้นแกวหูอาจถูกทําลายได
อสูรปกษาตัวนี้ประมาทจนไดรับบาดเจ็บ เปนเหตุใหมันคลุมคลั่ง ดวงตาอินทรีเยือก
เย็นดุจคมมีด จดจองมาที่เสี่ยวสือฮาวอยางไมลดละ มันขยับกรงเล็บแหวกผนังถ้ําอยาง
บาคลั่งแลวเบียดเขาไปขางในดวยความดุดัน
กอนหินที่หนักตั้งแต 10 ชั่งจนถึง 100 ชั่งเกลือกกลิ้งไปมาใตกรงเล็บคมกริบ
ประหนึ่งไมผุพังไรเรี่ยวแรงปะทะ ถ้ําหินถูกฉีกออกแลวอินทรีเกล็ดเขียวก็พุงเขาไปดวย
ความโกรธา
“ไมไดการ นกใหญตัวนี้คลุมคลั่งแลว พวกเราทั้งหมดจะไมโดนกรงเล็บมันบดขยี้จน
แหลกเปนผุยผงหรอกใชไหม?” ผีโหวและคนอื่นๆตางก็ตื่นตระหนก พวกเขารูสึกเสียใจ
ถึงวาพวกผูใหญไมกลาทําอะไรบุมบาม เพราะอสูรปกษาตัวนี้นาเกรงขามเปนอยางยิ่ง
“ที่นี่อยูไมไกลจากหมูบานหินผา ทานผูเฒาและคนอื่นๆตองไดยินการเคลื่อนไหว
และมาชวยชีวิตพวกเราอยางแนนอน” เสี่ยวสือฮาวกลาว
“เจาพูดถูก พวกเราโจมตีมันอยางสุดความสามารถ ยั่วใหมันโมโห เพื่อใหมัน
เคลื่อนไหวดังขึ้นกวานี้ ทานหัวหนาหมูบานและพวกตองรูสึกตัวในไมชา” สือตาจวงเอย
จากนั้นก็กําหินกอนใหญฟาดไปที่อสูรปกษาอยางดุเดือด
เสียงแผดรองนากลัวมากยิ่งขึ้น สะเทือนจนชั้นหินภายในถ้ํารวงหลนดังกรอบแกรบ
และเกลือกกลิ้งไปทั่ว รางกายใหญโตที่ปกคลุมดวยเกล็ดดกหนาใกลเขามาทีละกาว
เจาะเปดผนังถ้ําดวยความโมโห
เด็กๆ ยิงธนูไปยังดวงตาของมัน คนที่ใชหอกกลับมอบมันใหกับสือฮาว เออรเหมิง
และสือตาจวงซึ่งเปน 3 คนที่พละกําลังมากที่สุด เพื่อใหพวกเขาเขวี้ยงมันออกไปปกที่
ดวงตาของอินทรีเกล็ดเขียว
กอนหินปลิววอน ใบไมโปรยปรายไปทั่วผืนปา อสูรปกษาที่หลีกเลี่ยงการโจมตีที่เปน
ภัยตอดวงตารนถอยออกจากถ้ําหินแคบอยูบอยครั้ง ทําใหผืนปาที่อยูใกลเคียงราบเรียบ
เปนหนากลองโดยสิ้นเชิง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น เจาอินทรีเกล็ดเขียวตัวนั้นเกิดคลุมคลั่งอะไรขึน้ มา ไฉนจึงโผลมา
ระรานแถวหมูบานเราได”
คนในหมูบานรูสึกถึงความไมชอบมาพากล พวกเขาตางก็สงสัยคลางแคลงใจ
จากนั้นรีบสั่งใหคนไปรายงานบอกกลาวเหลาผูอาวุโส กลุมคนมายืนออกันตรงแทนหิน
ใหญหนาทางเขาหมูบาน จากนั้นมองไปยังดินแดนหางไกล
“ทานหัวหนาหมูบาน วันนี้ขาเห็นเออรเหมิง ตาจวงและเจาตัวเล็ก จับกลุมทําตัว
ลับๆ ลอๆ พวกเขาคงไมออกไปกอเรื่องนอกหมูบานหรอกใชไหมขอรับ?” เด็กหนุมอายุ
14-15 ปคนหนึ่งกลาวรายงานวาเด็กเล็ก 10 กวาคนหายตัวไป
“เจาพวกเด็กเวร!” สือหลินหูตบหนาขาฉาดหนึ่ง เขานึกขึ้นมาไดทันทีวาตอนที่พวก
เขาหารือเรื่องอินทรีเกล็ดเขียวกันอยูนั้น ผีโหวกับเด็กอีกหลายคนดอมๆ มองๆ อยูข างๆ
หลังจากที่ไดทราบขาว เขาก็เขาใจไดทันทีวาสถานการณนั้นรุนแรงเพียงใด จากนั้น
ก็พูดดวยน้ําเสียงเด็ดขาดวา “รีบไป ไปหยิบอาวุธที่ตกทอดจากบรรพบุรุษมาสองเลม
พวกเราไปดวยกัน!”
กลุมชายฉกรรจที่แข็งแกรงที่สุดในหมูบานเคลื่อนพลออกตอสูเพื่อลูกหลาน ดวงตา
ที่แดงก่ํา ไมวามันจะเปนผูสืบสายเลือดของปศาจปกษาหรือไม พวกเขาก็จะสู! บางก็พก
กระบองเขี้ยวหมาปาที่หนักราว 100 ชั่งไป บางก็แบกคันธนูใหญโตมโหฬารที่ความสูง
เทียมมนุษย และยังมีคนที่ถือดาบเหล็กกลาสีดํายาวเกือบครึ่งคนแลดูโหดเหี้ยม
“วางใจเถอะ พวกเด็กๆ จะตองไมเปนอะไร เจาอินทรีไมมีขนตัวนั้นมันกลา
แผลงฤทธิ์ นาสับใหเละเปนชิ้นๆ แลวโยนใหหมูกินเสียจริง!” ชายฉกรรจเหลานี้ปลอบ
ประโลมภรรยาของตน พวกเขาตะโกนเสียงดังลั่นแลวพุงเขาไปในผืนปา
เหลาชายฉกรรจขามเขตแดนราวกับสัตวปาที่ดุดันและทรงพลัง พวกเขาเริ่มยิงธนู
จากที่หางไกล คันศรใหญหนาประหนึ่งแหลน และยังเปนคันศรเหล็กกลาที่มีอานุภาพ
รายแรง!
“ตูม ตูม”
หาคันศรที่ถูกยิงออกมาทําใหตนไมแตกและหักโคนลงเปนจํานวนมาก พวกเขาทั้ง
บาคลั่งและโหดเหี้ยม ราวกับกลุมคนปาที่มีรูปรางสูงใหญคํารามเสียงดังสนั่น ตําหนิสัตว
ปาดวยเสียงที่ดังกึกกอง
อินทรีเกล็ดเขียวถอยออกมาจากปากถ้ํานานแลว สายตาเยือกเย็นของมันจดจองไป
ที่หมูนักรบ มันไมเกรงกลัว เพราะมันเปนนักลาอันดับหนึ่งในดินแดนแถบนี้ แคเพียงไม
ยางกรายเขาไปยังจุดที่ลึกที่สุดของเทือกเขานี้ มันก็สามารถทําทุกอยางไดดั่งใจปรารถนา
เกิดพายุคํารามอยางบาคลั่งยามมันกางปก คันศรที่ถูกยิงมากับหอกโลหะเหลานั้น
ปลิวกระจัดกระจายเสียงดังตึงตัง ประกายไฟพวยพุง จากนั้นมันก็เชิดหัวขึ้นแผดเสียง
คํารามยาว นัยนตาเปลงประกายความเหี้ยมโหด กระพือปกแลวบินพุงเขาหากลุมคน
เพื่อปลิดชีพใหสิ้น
วัตถุขนาดใหญที่มีลําตัวยาว 7-8 เมตร ยามสยายปกกลับยาวถึง 15 เมตรพุงตรง
เขามา กระแสเสียงที่นากลัว จนตนไมผุพังและใบไมแหงเหี่ยวแหลกละเอียด ไมมีใคร
กลาเขาใกล เพียงลมหายใจนาสะอิดสะเอียนของมันก็สามารถทําใหใบหนาเจ็บปวด
ทรมานได
“พวกเราทุกคนควรจะตั้งรับดวยกัน หลินหู เจาไปเซนไหวบรรพบุรุษไป!” สือยวิ๋
นเฟงกลาว
หากจะตอกรกับผูสืบสายเลือดของปศาจปกษาเชนนี้แลว จะตองมีการสูญเสีย
มหาศาล จําตองใชอาวุธโบราณล้ําคาที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษถึงจะทําใหลาถอยอยาง
กลัวเกรงได
“เขามาเลยเจาอินทรีไรขน พุงมาทางขานี่!” สือหลินหูตะโกนเสียงดังลั่น เขายืนอยู
ขางหนาสุด เงยหนาขึ้นมองอสูรปกษาบินพุงลงมา ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ลวงชิ้น
กระดูกสัตวออกจากอก มันคือกระดูกแขนของสัตว
ดวงตาของอินทรีเกล็ดเขียวหดลงราวกับตระหนักรู มันหยุดการจูโจม และจดจอง
ไปที่กระดูกที่ไรแสงมันวาวอยางไมลดละ มันเริ่มระแวดระวัง จะงอยปากที่ยาวเกือบครึ่ง
เมตรของมันก็เปลงแสงเรืองรองโดยพลัน อักขระที่ปรากฏขึ้นนั้นแผรังสีอํามหิตและนา
เกรงขาม
“เจาตัวเล็ก อินทรีเกล็ดเขียวตัวนี้ไมธรรมดาอยางที่คาดไว ภายในรางกายมีรองรอย
ของอักขระที่สืบทอดทางสายโลหิตอยูเปนสัญลักษณของความทรงพลัง” หัวหนา
หมูบานอาวุโสกลาวดวยความตกตะลึง
“โฮก!”
กลิ่นอายความยิ่งใหญพวยพุง สูทองฟาประหนึ่งพายุขนาดใหญที่พดั โหมกระหน่ํา
ราวกับวาจอมราชันยแหงสรรพสิ่งไดฟนคืนชีพแลว อสูรปกษากลางนภาตื่นตระหนก
ตกใจ บินทะยานขึ้นสูฟากฟาเพิ่มระยะไกลหางออกไป
แขนซายของสือหลินหูเปลงแสงเรืองรอง กระดูกแขนสัตวชิ้นนั้นผสานเขากับฝามือ
ของเขาอยางไมคาดฝน หลอมรวมเปนหนึ่งกับรางกายของเขา เลือดเนื้อผสมผสานเขา
กันไมแยกจากกัน ลึกลับพิศวงยิ่งนัก
แสงสวางบนแขนซายนั้นกลับเจิดจาขึ้นเรื่อยๆ สุดทายเกาะตัวกลายเปนอักขระ
เกาแก ราวกับวาจะมีสัตวประหลาดเล็ดลอดออกมาจากอักขระนั่น
..............................
[1] หงสไฟ เปนอสูรปกครองศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 ตามตํานานจีนโบราณ
บทที่ 10 อาวุธจากบรรพบุรุษ
นี่คือซากกระดูกล้ําคาที่ไดมาจากการยอสวนกลายเปนอักขระของสัตวประหลาดที่
ยิ่งใหญในอดีตกาล อักขระกระดูกที่อยูใตการครอบครองของผูคนในหมูบานก็พัฒนามา
จากกระดูกล้ําคาที่หายากเหลานี้ มันเปนตนกําเนิดของพลังอํานาจลึกลับ
ชิ้นสวนกระดูกแขนของสัตวประหลาดหลอมรวมเปนหนึ่งเดียวกับกระดูกแขนของสื
อหลินหูจนเกิดแสงเรืองรอง!
ดวยเหตุนี้ พละกําลังของเขาจึงพุงสูงขึน้ อยางรวดเร็ว รางกายยืดสูงขึ้นจาก 2 เมตร
เปน 3 เมตรอยางไมนาเชื่อ เขาแข็งแกรงขึ้นหลายเทาตัว ประกายไฟประหนึง่ สายฟา
ฟาดเปนเสนๆ ลอยวนทั่วลําตัว แผรังสีอํามหิตโหดเหี้ยม
อินทรีเกล็ดเขียวแผดเสียงคํารามยาว แมมันจะตื่นกลัวจนแผกลิ่นอายความกลัว
กระจายออกมาจากกระดูก แตมันก็ไมเต็มใจจะลาถอย แสงระยิบระยับรวมตัวอยู
บริเวณจะงอยปากคมสีดําสนิทดุจดาบโคงงอ อํานาจทรงพลังของอักขระที่มีมากขึ้น
เรื่อยๆ เตรียมพรอมโจมจู
พลังอํานาจลึกลับบางอยางกําลังกอตัวขึ้นรอบๆ จะงอยปากของมัน และเปลง
ประกายแสงแวววาวมากยิ่งขึ้น ทําใหเหลาสัตวปกและสัตวเดินดินสั่นสะทาน พากันหา
หนทางหลบหนีดวยความกลัว
“เฟยเจียว เจาก็มาดวย!” สือยวิ๋นเฟงออกปากสั่งชายหนุมที่แข็งแกรงอีกคนหนึ่งให
เอาอาวุธจากบรรพบุรุษชิ้นที่สองออกมา
สือเฟยเจียวเหวี่ยงกระบองเขี้ยวหมาปาออกไปดวยพละกําลังมหาศาล พลังลึกลับ
พิศวงโคจรบริเวณรอบๆ พลันก็ปรากฏอักขระกระดูกขึ้นกลางหนาอก ราวกับดวงดาว
พรางพราว เขาลวงหนังสัตวเกาแกที่มีคราบเลือดเปนวงๆ ออกมาจากอกทันที จากนั้น
กดมันลงไปตรงกลางหนาอกอยางแรง
“ตูม!”
ไอเหี้ยมโหดแผกระจายทั่วทุกสารทิศ สรรพสิ่งทั่วปาเขาพงพนาตางพากันหวาดกลัว
ราวกับอสูรบรรพกาลปรากฏตัวขึ้น ณ ที่แหงนี้ แมแตอินทรีเกล็ดเขียวก็สั่นสะทาน
หยุดยั้งการจูโจมของมันอีกครั้ง ภายในดวงตาเผยความเยือกเย็นและความกระวน
กระวาย
หนาอกของสือเฟยเจียวเปลงแสงเรืองรอง หนังสัตวเกาแกแผนนั้นผสานเขากับ
หนาอกของเขา และกลายเปนเนื้อหนังของเขาโดยทันที มันกระจายพลังชีวิตอัน
แข็งแกรง และสองแสงพราวพราย สุดทายก็เกิดเปนอักขระที่ลึกลับพิศวง
หัวของสัตวประหลาดผลุบๆ โผลๆ ประหนึ่งตองการเปนอิสระจากอักขระ
ราวกับวาสือเฟยเจียวมีอีกใบหนาเพิ่มขึ้นมากลางหนาอก อักขระที่กอตัวจากการ
หลอมรวมกันของหนังสัตวเกาแกและเลือดเนื้อนั่นเปลงแสงระยิบระยับ แลวคอยๆ กอ
ตัวเปนรูปเปนราง ปรากฏเงาทมิฬของสัตวประหลาดที่เลือนรางพรามัว
พลังอันนาเกรงขามทวมทนผืนปา สั่นสะทานไปถึงทรวงใน!
นี่ก็คืออาวุธจากบรรพบุรุษอีกชิ้นหนึ่ง มันคือหนังสัตวเกาแก ไมทราบแนวาสืบทอด
มาจากสมัยใด เห็นไดอยางชัดเจนวามันหลุดลอกมาจากอสูรครั้งบรรพกาล อีกทั้งยังฉาย
อักขระทรงพลังที่ล้ําคาและพบเจอไดยาก
อักขระกระดูกที่คนในหมูบานครอบครองสวนใหญถอดแบบมาจากกระดูกที่ล้ําคา
ของสัตวประหลาด แตไมไดหมายความวาสัตวประหลาดทั้งมวลจะทิ้งรองรอยของพลัง
อํานาจลึกลับไวบนกระดูกเสมอไป มีบางสวนที่กอตัวอยูบนเนื้อหนัง หรือแมแตในหัวใจ
ลําแสงเรืองรองทั่วรางของสือเฟยเจียวสวางโชติชวงมากยิ่งขึ้น ราวกับเปลวไฟที่
กําลังเตนระริก แสงสวางสองไปทั่วรางกาย สัตวประหลาดกลางหนาอกคํารามดุจสายฟา
ฟาด ผืนปาสั่นสะเทือน กอนหินเกลืองกลิ้ง
นี่ไมใชอักขระกระดูกธรรมดาที่คนในหมูบานคัดลอก พัฒนาและสรางขึ้นใหม แตนี่
เปนกระดูกและหนังอันล้ําคาครั้งดึกดําบรรพที่เปนตนกําเนิดของพลังงานมหาศาล
หมูบานและชนเผาธรรมดาทั่วไปไมมีของแบบนี้อยางแนนอน มิหนําซ้ํายังมีอาวุธ
จากบรรพบุรุษถึง 2 ชิ้น เห็นไดชัดวาหลายปกอนหนา หมูบานหินผาเคยมีชวงเวลาที่
มหัศจรรย
สือหลินหูและสือเฟยเจียวยืนเคียงบาเคียงไหล จองมองยังอสูรปกษาที่อยูกลางนภา
พวกเขาปลอยพลังของอาวุธจากบรรพบุรุษ รังสีอํามหิตประหนึ่งน้ําปาไหลเชี่ยวพุงทวน
ขึ้นเหนือฟากฟา
มองเห็นไดชัดเจนวาทั้งพุมไมเตี้ย ไมเลื้อยและตนไมใหญก็แหลกละเอียดไมมีชิ้นดี
ดวงตาเยือกเย็นของอินทรีเกล็ดเขียวเผยความงุนงง มันไมกลายางกรายเขาใกล
แมแตนอย เสมือนถูกความกลัวตรึงใหหยุดอยูกับที่ ทั้งสองฝายยืนประชันหนากัน ตกอยู
ในหวงเวลาแหงความเงียบงันไปชั่วขณะ
“โอ ทานผูเฒา ทานลุงหลินหูและพรรคพวกมาชวยพวกเราแลว!” เด็กหลายคน
ดอมๆ มองๆ อยูตรงปากถ้ํา พวกเขามองเห็นกลุมชายฉกรรจอยูในที่หางไกล จากนั้นก็
โหรองอยางดีใจ
“ไปกันเถิด ทานผูเฒากับพวกลุงๆ มารับพวกเรากลับบานแลว”
เด็กๆ ที่อยูในถ้ําหินวิ่งพุงไปหาผูใหญราวกับฝูงผึ้งแตกรัง ทางดานสือหลิวฮาวกับสือ
เฟยเจียวก็อาศัยอาวุธบรรพบุรุษทั้ง 2 ชิ้นมุงหนาไปชวยเหลือเด็กๆ ทั้งสองฝายมา
บรรจบกันอยางรวดเร็ว
“เด็กๆ พวกเจาไมเปนไรใชไหม?” กลุมชายฉกรรจพุงเขาหาเด็กๆ แลวอุมลูกของ
ตนขึ้น พลิกไปพลิกมาอยางสํารวจ เกรงวาจะมีสวนไหนไดรับบาดเจ็บ
“ไมเปนไรขอรับ พวกเราสบายดี จะมีก็เพียงแผลถลอกเทานั้นขอรับ” เด็กๆ ตอบ
“พวกเจาไมเปนไรก็ดีแลว” เหลาชายฉกรรจตางก็วางใจ จากนั้นก็ตวัดฝามือดุจใบ
ปาลมขึ้นทีละคน ฟาดเขาไปที่กนของเด็กๆ อยางแรง
“โอย เจ็บนะขอรับ ทําไมตองตีพวกเราดวยละ เมื่อครูยังหวงใยพวกเราอยูเลยไมใช
หรือขอรับ ทําไมเปลี่ยนอารมณไวเชนนี้!” เด็กๆ แผดเสียงรอง
หนุมฉกรรจคนหนึ่งตอบวา “มันคนละเรื่องกัน ในเมื่อไมเปนอะไร ก็ตองชําระความ
กันหนอย ขนยังขึ้นไมครบ[1]ก็กลาไปยั่วยุอารมณอสูรปกษา หากไมฟาดกนพวกเจาให
หลาบจํา ขาจะไมถือวาตนเปนพออีกเลย!”
อินทรีเกล็ดเขียวกลางอากาศจดจองอยางโกรธแคน ดวงตาของมันฉายแววความมุง
ราย ทวามันกลับไมพุงทะยานลงมา เพียงคุมเชิงอยางระแวดระวัง ไมจูโจมโดยทันที
สือยวิ๋นเฟงกลาววา “พวกเรารีบไปกันเถอะ หลินหูกับเฟยเจียวยังไมเขาใจวิชา
อักขระกระดูกลึกซึ้งมากนัก ยากที่จะสําแดงอิทธิฤทธิ์ที่แทจริงของอาวุธบรรพบุรุษ พวก
เราตองใชโอกาสนี้แหละรีบกลับไปยังหมูบานของเรา” ตัวเขาเองมีปวยจึงไมเหมาะที่จะ
ออกแรงมาก
พวกเขาก็หาเด็กๆ ทุกคนเจอแลว และไมมีใครไดรับบาดเจ็บ นี่ถือเปนเรื่องที่
นายินดีมากที่สุด พวกเขากํากระบอง และถือคันธนูคุมกันเฝาระวัง ลาถอยกลับไปยัง
หมูบานหินผาโดยมีเด็กๆ ที่ไดรับการปกปองอยูตรงกลาง
“วาว ทานลุงหลินหู ทานชางเกงกาจเสียจริง หลายปมานี้ ทานผูเฒาทดสอบพวก
ทานมาโดยตลอด ไมคิดเลยวาจะมันไดผลดีขนาดนี้ พวกทานเปนคนมีพรสวรรคจริงๆ”
“ใชแลว! แลวก็ ทานลุงเฟยเจียว อาวุธที่พวกทานใชเปนอาวุธชนิดใด ทําไมขาไม
เคยเห็นมากอน? จําตองเขาใจอักขระกระดูกจึงจะสามารถใชมันไดใชไหม ทานลุง พวก
ทานชางแข็งแกรงและทรงพลังจริงๆ!”
ระหวางทางกลับหมูบาน เด็กๆ ไมสนใจอินทรีเกล็ดเขียวที่บินอยูกลางอากาศ ตางก็
พากันพูดยกยอพวกผูใหญ เพื่อหลีกเลี่ยงการทําโทษที่โหดรายเมื่อถึงหมูบาน
“ไมตองทําเปนพูดดี ขาจะจัดการพวกเจาทีหลัง!” พอของผีโหวถลึงตาใสพวกเด็กๆ
อินทรีเกล็ดเขียวตามมาตลอดทาง กระทั่งมันเห็นตนหลิวศักดิ์สิทธิ์หนาทางเขา
หมูบานก็สั่นสะทาน ไมกลาบุกเขาไปในหมูบาน มันบินรอนอยูกลางนภาพรอมกับแผด
เสียงคํารามดวยความโกรธเกรี้ยว
ทุกคนตางถอนหายใจยาวเหยียด มีทายาทของอสูรปกษาบรรพกาลที่แข็งแกรงตาม
ติดเชนนี้ ราวกับหัวใจถูกบีบรัดแนนตลอดเวลา เพราะหากจัดการไมเขาทาก็จะทําให
สูญเสียเลือดเนื้อมากมาย
“ครั้งนี้พวกขาใชอาวุธบรรพบุรุษ หวังวาจะไมเกิดปญหาอะไรตามมาหรอกนะ”
หัวหนาหมูบานพูดกับตัวเอง
“ทานผูเฒาวางใจเถอะขอรับ ไมมีใครยางกรายผานกลางปากลางเขาเชนนี้หรอก ไม
มีใครเห็นหรอกขอรับ” สือหลินหูกลาว
“ขาก็หวังเชนนั้น วัตถุเปอนฝุนที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษมาหลายชั่วอายุคน
อยาไดเกิดเหตุรายใดๆ แบบเหตุการณครั้งนี้เปนดีที่สุด” สือยวิ๋นเฟงพูดเสียงเบา
ไมเกิดเหตุการณนองเลือดที่คาดการณไวแตอยางใด พวกเขากลับถึงหมูบานโดย
สวัสดิภาพ ทายาทอสูรปกษาแผดเสียงรองดังกึกกอง ทะลวงผานทองคํา สั่นสะเทือนหิน
แหลกละเอียด
หลังจากเขามาที่หมูบานแลว ความอลหมานบังเกิดขึ้น เหลาสตรีตางพากันวิ่งกรูเขา
มา ควาลูกของตนเขาไปกอดหมับ ขาวคราวที่ไดยินเมื่อครูนั้นทําใหวิตกกังวลอยางไม
ลดละ แตพวกชายหนุมกลับมองหาไมเรียวเพื่อจัดการพวกเด็กเวรที่วิ่งหนีเตลิดเปดเปง
“เจาเด็กเวร ขาใชใหเจาสรางปญหาหรืออยางไร หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
“ทานพออยาตีขาเลยนะขอรับ ขาสํานึกผิดแลว!”
เด็กๆ วิ่งหนีอยางบาคลั่ง สุดทายก็หนีไปยังลานบานของหัวหนาหมูบาน เพื่อขอให
เขาชวยวิงวอนไมใหบรรดาพอๆ ลงโทษ
หลังจากเขาไปยังลานบานแลว พวกเด็กๆ รูสึกอิจฉาริษยาที่เจาตัวเล็กไมโดนทําโทษ
หนําซ้ําในมือยังถือถวยกระเบื้องเคลือบ และกําลังชอนไมตักนมสัตว
“วาว เจาตัวเล็กกําลังดื่มนมอีกแลวหรือ ตอนนี้เจาอายุ 3 ขวบแลวนะ!” เด็กโตคน
หนึ่งตะโกนขึ้นมา
“ชิชะ! “เจาตัวเล็กเขินอายเปนอยางมาก เขายกมือเล็กๆ นั่นขึ้นมากอดบังถวยไว
เพื่อไมใหเด็กโตเห็น ใบหนาแดงก่ํา ขนตายาวกะพริบเล็กนอย จากนั้นอธิบายอยางอด
ไมไดวา” พวกเจามองผิดแลว ที่จริงแลว...ขา...กําลังดื่มน้ํา”
“ฮาๆ...” กลุมเด็กหัวเราะเสียงดัง
“พวกเราตางก็โดนดุ แตทําไมเจากลับมีนมสัตวใหดื่มละ?” ผีโหวถามดวยความ
สงสัย
“เพราะวาขาเลานิทานใหทานผูเฒาฟงนะขอรับ เขาคิดวามันสนุกจึงไมตําหนิขา”
ดวงตากลมโตสีดําสนิททอประกายแวววับกลิ้งไปมา
“นิทานอะไร?”
“นิทานของเสี่ยวหง”
“เสี่ยวหงคือใคร?”
“เสี่ยวหงก็คือนกกระจอกสีแดงฉานตัวนั้นไงละขอรับ ขาเคยเลาใหพวกทานฟงแลว
นี่” เจาหนูสือฮาวพูดอยางไมพอใจ
เด็กๆ กรอกตาไปมาแลวพูดวา “หากทานผูเฒาเชื่อก็บรรลัยแลว ครั้งโบราณกาล
หงสไฟก็มีเพียงในตํานาน ยิ่งตอนนี้จะมีไดอยางไร มิหนําซ้ํายังถูกเจาวิ่งไลตามอีก!”
“โอ เมื่อ 2 ปกอนบังเกิดของล้ําคาบางอยางภายในหุบเขาลึก มันดึงดูดอสูรบรรพ
กาลที่เกรียงไกรมากมายจนเกิดศึกสงครามครั้งใหญที่ยากจะจินตนาการ เคยมีเปลวไฟสี
แดงฉานแผดเผานภาจนวอดวาย เมื่อมองจากหมูบานของเราก็สามารถมองเห็นกองไฟที่
ลุกทวมทนทองฟาเปนเวลาถึง 10 วันนั้นอยางเรือนราง” หัวหนาหมูบานเดินเขามาแลว
บอกกลาวเชนนี้
“เห็นไดชัดวากลางหุบเขาลึกนั่นมีอสูรไฟอยูอยางแนนอน แตอาจจะไมใชปกษา
ศักดิ์สิทธิ์ในตํานาน เพราะวามันคอนขางไมสมเหตุสมผล” ณ ตอนนี้สือหลินหูและคน
อื่นๆ ก็มาถึง
“สงครามครั้งใหญเมื่อ 2 ปกอนนั่นนาสะพรึงกลัวเปนอยางมาก และไมรูวามีสัตว
ประหลาดดุรายชนิดใดปรากฏขึ้นบาง กลางดึกสงัดคืนหนึ่ง ขามองเห็นวัตถุสูงเสียดฟาที่
มีรูปรางคลายคนถือกระบองโลหะสีดําสนิท เพียงกาวเดียวของมันสามารถกาวผานภูเขา
หลายลูก เพียงแตขาเห็นใบหนาของมันไมชัดเจน” สือเฟยเจียวพูดพลางถอนหายใจ แค
นึกถึงก็ขนลุกขนชันจนถึงทุกวันนี้
ครั้นพวกผูใหญมาถึง เด็กๆ ตางก็มีสีหนาบูดเบี้ยวขึ้นมาทันที ไลตามมาถึงที่นี่เพียง
เพื่อจะมาลงโทษพวกเขาใชไหม
“ทานผูเฒาขอรับ พวกเราขนไขของอินทรีเกล็ดเขียวกลับมาดวย สามารถใหกําเนิด
ทายาทของอสูรปกษาได ในภายภาคหนามันอาจจะปกปองคุมครองหมูบ านของเราเคียง
คูกับทานเทพารักษก็เปนได!”
“ใชแลว ในวันขางหนาหมูบานหินผาของเราจะมีปกษาประจัญบานบินรอนกลาง
นภาแลว นี่เปนถึงไขของทายาทอสูรปกษาเชียวนะ!”
เด็กๆ ตางก็คุยโวโออวด หวังเพียงไดรับการอภัย
“พวกเจารูหรือไมวา การจะเลี้ยงดูอสูรปกษาที่ตัวใหญเยี่ยงนี้ ในหนึ่งวันมันจะ
บริโภคเนื้อเทาไหร? เรื่องอาหารสําหรับพวกเราก็ขาดแคลนเปนอยางมากแลว มันมีมาก
พอที่จะมาเลี้ยงดูวัตถุที่ใหญโตถึง 3 ตัวหรือ?”
“อา!” เด็กๆ หนานิ่วคิ้วขมวด
“นอกจากนี้ พวกเจาคิดวาหมดเรื่องแลวหรือ? ลองมองไปนอกหมูบานสิ” ชายชรา
อีกคนหนึ่งกลาว
เด็กๆ ปนขึ้นไปยังแทนหินสูงแลวมองออกไปยังนอกหมูบาน พลันตกใจกับสิ่งที่เห็น
อินทรีเกล็ดเขียวนากลัวตัวนั้นยืนอยูบนกอนหินกอนใหญ นัยนตาเยือกเย็น เกล็ดดกหนา
สองแสงเรืองรองทัว่ ทั้งลําตัว มันยังคงเฝาอยูขางนอกนั่นไมจากไปไหน
“อสูรปกษาชนิดนี้ผูกพยาบาทมาก พวกเจาฉกชิงไขของมันมา มันจะปลอยพวกเจา
ไปไดอยางนั้นหรือ หลังจากนี้จะออกไปลาสัตวก็เปนเรื่องยากแลว” สือเฟยเจียวเริ่ม
กังวล
เด็กๆ ใบหนาซีดขาวทันที พวกเขารูแลววาตนไดกอความพินาศครั้งใหญ
“อืม พวกเราเอาไขไปคืนใหมันเถอะ อินทรีเกล็ดเขียวที่สูญเสียลูกชางนาสงสารจับ
ใจ” เจาตัวเล็กกะพริบตากลมโตแลวเอยเสียงเบา
“อินทรียักษไรขนตัวนี้นากลัวยิ่งนัก หากเจาไมคืนไขใหแกมัน มันจะตองตามรัง
ควาญอยางไมจบไมสิ้น หมูบานจะไมสงบสุข แมวาจะมีอาวุธบรรพบุรุษอยูในมือก็ยากที่
จะตอกรกับมัน อยางไรก็ตาม ไมมีใครสามารถสําแดงอิทธิฤทธิ์แทจริงที่ซอ นอยูภายใน
อาวุธล้ําคานี้ได”
คนในหมูบานตัดสินใจแลววาจะลองสงไขออกไป หากลมเหลวก็คอยคิดหาหนทาง
กันใหม
ไขสีหยกที่ใหญราวกับถังใสน้ํา 3 ใบโปรงแสงแวววาว ลายจุดเปนริ้วๆ มีแสง
สวยงามสองประกายยิบระยับ พลังอํานาจลึกลับของอักขระแผกระจาย ไอลี้ลับลอยฟุง
ไปทั่วทั้งบริเวณ!
..............................
[1] ขนยังขึ้นไมครบ เปรียบเปรยวา ยังเด็กนัก
บทที่ 11 สายเลือดบรรพบุรุษหวนกลับ
ทุกคนตางตะลึงงัน
นอกหมูบาน อสูรปกษาประหนึ่งหลอมจากเหล็กกลาตัวนั้นสั่นระรัว มันผงกหัวขึ้น
ทันที ดวงตาของมันสาดลําแสงดุจสายฟาฟาดออกมา 2 เสน เพงมองมายังแทนบูชา
อยางแนวแน
ไขที่ถูกกานหลิวสีเขียวออนไลผาน ทอแสงประกายเปนหมื่นสาย สองแสงงดงาม
เปนพันเสน หมอกควันขมุกขมัว ราวกับวากลายเปนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปแลว จรัสแสงสวาง
เจิดจาเปนประกายระยิบรับ นาตกตะลึง
ลายจุดบนเปลือกไขเหลานั้นเปลงแสงประหนึ่งดวงอาทิตยดวงเล็กๆที่กําลังแผ
กระจายลําแสงแผดเผาอยางรุนแรง ปรากฏพลังชีวิตที่มีชีวิตชีวาขึ้นอยางมากมาย อีกทั้ง
รอบๆ ลายจุดก็เกิดริ้วรอยเพิม่ มากขึ้น มันลึกลับซับซอนและพรามัวเปนที่สุด ราวกับงู
เงี้ยวเขี้ยวพันคดเคี้ยว นกไฟศักดิ์สิทธิ์บินรอน
ไขเหลานั้นเกิดกลายพันธุอยางพิศวง ลวดลายผสมผสานเขาดวยกัน และลุกลามไป
ทั่วใบไขอยางรวดเร็ว เพียงชั่วครู ไขทั้งใบก็เกิดความเปลี่ยนแปลง มันมีลวดลายเพิ่มมาก
ขึ้น ทั้งสวยงามและเจิดจรัส ราศีศักดิ์สิทธิ์หลั่งไหลทั่วทุกทิศ
“พลังชีวิตของไขใบนี้เกรียงไกรมากกวาเมื่อครูไมรูกี่เทา รองรอยชีวิตที่ถูกถายทอด
มาจากอสูรปกษาคงฟนฟูขึ้นมากโข หากไขใบนี้ฟกทายาทของมันออกมา มันจะตอง
แข็งแกรงกวาเจาอินทรีเกล็ดเขียวมากแนๆ!” สือยวิ๋นเฟงกลาวดวยความตกตะลึง
ไขใบนี้พิเศษกวาหนอย อาจเปนเพราะสืบทอดสะเก็ดรองรอยของอสูรปกษามามาก
จึงเกิดปรากฏการณสายเลือดบรรพบุรุษหวนกลับ[1]หากเปนเชนนี้ โลหิตจะล้ําคาอยาง
หาที่สุดไมได และจะแกรงกวารุนพอแมเปนหลายเทาตัว
เพียงสัมผัสเบาๆ ของกานหลิวออนของตนหลิวโบราณศักดิ์สิทธิ์กอใหเกิดเหตุการณ
ที่ทําใหใจสั่นสะทาน มันคนพบความพิเศษของไขใบนี้ หรือมันมีพลังอํานาจลึกลับที่ทําให
ไขใบนี้กลายพันธุได?
ผูคนในหมูบานตางประหลาดใจ พากันมองดูไขที่เปลงแสงเจิดจานั่น ดวงตาลุกโชน
เปนประกายเรารอน นี่ตองเปนปกษาประจัญบานที่ล้ําคาและมีศักยภาพที่ไรขอบเขต
อยางแนนอน
อินทรีเกล็ดเขียวที่มีเกล็ดสองประกายระยิบระยับทั่วลําตัว ยืนอยูกอนหินมหึมา
ดวงตาคูนั้นเพงมองอยางตั้งใจ ปลอยลําแสงดุจแพรไหมทีท่ อดยาวออกมา ราวกับวามัน
เองก็ไมเชื่อในสิ่งที่มันเห็น
มันอยากบินพุงเขามายังหมูบานเพื่อตองการมองดูใหชัดเจน แตพอเห็นตนหลิว
ศักดิ์สิทธิ์แลว ก็เกิดความหวาดกลัวตามสัญชาตญาณ ไมกลาเขาประชิด ทําไดเพียงแผด
เสียงรองดังกระชั้นอยูดานนอก
หลังจากกานหลิวเขียวชอุมเปลงแสงสวยงามเปยมไปดวยพลังชีวิตไลผานไขเบาๆ
จากนั้นโยกกลับอยางเชื่องชา ก็ไมมีการเคลื่อนไหวใดๆ เกิดขึ้นอีกเลย
เห็นไดชัดวามันไมไดสนใจมากมาย เพียงตองการลูบไลไขก็เทานั้น
ผูคนตางพากันยําเกรงอยูเปนเวลานาน จากนั้นก็คอยๆ สงบลง
“ทานผูเฒาจะเก็บไขเหลานี้ไวไหมขอรับ?” สือหลินหูเอยถาม ณ เวลานี้ผูคนตางก็มี
แรงกระตุน ไฟเรารอนลุกโชนในหัวใจ ไขล้ําคาศักดิ์สิทธิ์ถึงเพียงนี้ หากปลอยใหหลุดรอด
ไปก็นาเสียดายยิ่งนัก
“เจาไมเห็นอินทรีเกล็ดเขียวดานนอกนั่นหรือ หากวาพวกเราเก็บไขพวกนี้ไว มัน
จะตองคลุมคลั่งเปนแน” สือยวิ๋นเฟงขมวดคิ้ว
ตนหลิวโบราณทั้งศักดิ์สิทธและเกรียงไกร มันปกปกษคุมครองหมูบานมาโดยตลอด
และขัดขวางมิใหสัตวประหลาดดุรายเขามาสรางความพินาศ หมูบานหินผาเปนอาณา
เขตปกครองของมัน แตทวามันทําไดเพียงคุมกันเทานั้น มันไมเคยยางกรายออกจาก
หมูบานแมเพียงครึ่งกาว อยาเอยถึงการรุกโจมตีอะไรเทือกนั้นเลย
อินทรีเกล็ดเขียวตัวนั้นไมกลาบุกเขามา มันเพียงตองการปดล็อคชองทางการเขา
ออกหมูบาน เทานี้ก็พอที่จะทําใหคนในหมูบานทรมาน เพราะไมวา อยางไรก็ตามพวก
เขาก็ยังตองออกไปลาสัตวกลางเทือกเขา
“ชางเถอะ พวกเราคืนไขใหกับเจาอินทรียักษไรขนนั่นเถอะ” ชายชราอีกคนหนึ่ง
กลาว
ทุกคนผิดหวังเปนอยางมาก แตก็ไรหนทาง อิททรีเกล็ดเขียวทรงพลังยิ่งนัก มันเปน
นักลาอันดับหนึ่งในดินแดนแถบนี้ หากสิ่งมีชีวิตที่อยูจุดที่ลึกที่สุดของเทือกเขานี้ไมโผล
มาก็ถือวามันเปนใหญที่สุด
กลุมคนใชอาวุธบรรพบุรุษ 2 ชิ้นนั้นปกปองคุมกันอยางรอบคอบและระมัดระวัง
เพื่อสงไข 3 ใบออกไปหนาประตูทางเขาหมูบาน พวกเขาวางมันลงบนพื้นหญา แลวลา
ถอยกลับเขาหมูบานอยางรวดเร็ว
ในเวลานี้ ประกายเจิดจาที่สองจากไขที่กลายพันธุใบนั้นคอยๆ เลือนหายไป ไมเจิด
จาดั่งเคย แตริ้วรอยพิศวงที่เกิดขึ้นใหมเหลานั้นกลับไมจางหายไป หากเทียบกับไขอีก 2
ใบนั้น ราวกับวามันเปน 2 ชนิดที่เกิดจากปกษาคนละสายพันธุ
อินทรีเกล็ดเขียวกระพือปก เกิดพายุโหมกระหน่ําอยางบาคลั่ง เพียงชั่วครูก็บินโฉบ
ลงมา แลวกางปกโอบอุมไข 3 ใบไวทันที จากนั้นก็พินิจมองไขใบพิเศษที่มีลวดลายและ
สองแสงพรางพราวนั่นอยางละเอียดลออ
ราวกับวาอสูรปกษาตัวนี้ตื่นเตนเปนอยางมาก มันแผดเสียงคํารามยาวเหยียด เสียง
ของมันทะลวงแผนฟา สะเทือนผืนดิน ตนไมใหญสั่นไหว ใบไมรวงโรยปลิววอนกระจัด
กระจาย!
มันผงกหัวขึ้น นัยนตาฉายแววแปลกประหลาดแทนที่รังสีอํามหิตที่เลือนหายไป มัน
จดจองไปยังตนหลิวเกาแก แตกลับไมกลายางกรายเขาไปในหมูบานแมเพียงครึ่งกาว
“เจารีบเอาไขกลับไปเถอะ!” มีคนตะโกนเสียงดังประหนึ่งสวดสงเทพเจา
อยางไรก็ตาม สิ่งที่เหนือความคาดหมายก็คือ อินทรีเกล็ดเขียวกระพือปกขึ้นแลว
โหมพัดอยางดุดันเกิดเสียงลมดังฟู จากนั้นผลักไขเขาไปในหมูบาน กลิ้งหลุนๆ ไปทางตน
หลิวเกาแก
“อะไรกัน มันไมเอาหรือ มันใหพวกเราอยางนั้นหรือ?” ทุกคนตะลึงงัน นี่มันเกิด
อะไรขึ้น มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นอยางตอเนื่อง
“เปนเพราะมันเห็นไขใบหนึ่งกลายพันธุ มีอักขระแผคลุมไปทั่ว ในวันขางหนา
อาจจะแข็งแกรงกวามัน จึงยกใหทานเทพารักษของพวกเรา ใหพวกเราชวยเลี้ยงดูมัน”
สือยวิ๋นเฟงกลาว
“มันมีความคิดเชนนี้ดวยหรือ?” ผูคนตางตกตะลึง
“พวกเจาอยาลืมวา มันเปนอสูรปกษาที่มีอักขระวิเศษไหลเวียนอยูในรางกาย มี
กระดูกตนกําเนิดที่ทวมทนไปดวยพลังอํานาจลึกลับ ปญญาของมันคงไมดอยไปกวา
มนุษยนักหรอก” หัวหนาหมูบานกลาว
ยิ่งเปนอสูรปกษาที่แข็งแกรง ปญญาก็จะยิ่งมาก ตามตํานานเลาวามีอสูรบรรพกาล
บางชนิดฉลาดกวามนุษยดวยซ้ําไป พวกมันจองมองลงมายังเผาพันธุมนุษยบนผืนดิน
ราวกับเทพเจา
หัวหนาหมูบานเอยถามอินทรีเกล็ดเขียวเสียงดังวา มันจะทิ้งลูกไวที่นี่จริงหรือ เจา
อินทรีเกล็ดเขียวนั่นผงกหัวขึ้นลงตามที่คาดไว แววตาสื่อความหมายนั่นมองไปที่ไข 3 ใบ
จากนั้นก็มองไปยังตนหลิวเกาแกตนนั้น
“โฮก!”
ลมพัดกรรโชก อินทรีเกล็ดเขียวกางปกออกกวางราว 15-16 เมตร พุงทะลุเวหา
และหายไปทามกลางกลุมเมฆภายในพริบตาเดียว
ผูคนตางตะลึงพรึงเพริด ไปงายๆ แบบนี้เลยหรือ? เหลือเพียงไข 3 ใบที่โปรงแสง
แวววาวบนพื้นดิน ไมมีใครคิดเลยวาเรื่องจะปดฉากลงเอยเชนนี้
“ทานลุงหลินหูจะทําอยางไรตอไป?” เออรเหมิงถาม
“ทําอยางไร? พวกเจาเปนคนกอเรื่อง เจาเด็กแสบ พวกเจารับหนาที่ฟูมฟกไขพวก
นั้น!” สือหลินหูพูดพลางเบิกตากวาง
“อา ไมเอาหรอกนะขอรับ ชวยดวย!” เด็กๆ รองลั่น
ไข 3 ใบถูกวางอยูแทนบูชาที่อยูใตตนหลิว มีคนคอยคุมกันดูแลโดยเฉพาะ รอลูกนก
กะเทาะเปลือกไขออกมาอยางเงียบๆ นี่เปนถึงลูกของอสูรปกษาผูเกรียงไกร มันล้ําคา
อยางหาที่สุดไมได
10 วันตอมา เสียงแควกดังขึ้นอยางชัดเจน รอยแยกปรากฏบนไขใบหนึ่ง เปลือกดุจ
หยกเขียวนั่นแตกออก มีลูกนกตัวนอยนอนกลิ้งออกมาจากไข เกล็ดสีเขียวทั่วลําตัว
เปลงแสงระยิบระยับ
จากนั้นไขอีกใบก็แตกออก มีลูกนกตัวนอยเล็ดลอดออกมาเชนเดียวกัน มันผงกหัว
ขึ้นมองไปรอบๆ ดวยสายตาที่แหลมคม
ไขใบที่ 3 พิเศษมาก พอเปลือกไขแตกออกก็มีแสงเจิดจรัสสาดสองออกมา ตามดวย
เสียงรองจิ๊บๆ ลอยมา เปลือกไขอันแนนหนาแตกละเอียดเปนผุยผง แผรังสีศักดิ์สิทธิ์ทั่ว
ทั้งบริเวณทันที
ลูกนกตัวหนึ่งปรากฏขึ้น บนลําตัวไมมีแผงเกล็ดสีเขียว แตเปนเกล็ดสีมวงที่มีแสง
สวางหลั่งไหลทวมทน ราวกับเปลวไฟที่กําลังลุกโชน มหัศจรรยกวาพี่นองของมัน
หลายเทาตัว
ในที่สุด กลุมแสงสีมวงเหลานั้นก็จางหายไป ทั่วลําตัวของลูกนกที่มีสัญชาตญาณดุ
รายตัวนี้ปกคลุมดวยเกล็ดสีมวงระยิบระยับ ดวงตากลมโตมีชีวิตชีวาประหนึ่งมันสามารถ
พูดได มองไปยังผูคนดวยความสงสัย ใครมองเห็นก็จะรูวามันเปนนกศักดิ์สิทธิ์ที่ไม
ธรรมดา
“ฟกออกมาแลว!” เด็กๆ รองเฮดวยความดีใจ ตางคนตางวิ่งกลับบานเพื่อไปเอาชิ้น
เนื้อมาปอนแกลูกนก 3 ตัวนี้
ทันใดนั้น เสียงแผดรองคํารามยาวแววมา มีอสูรปกษาขนาดใหญบินโฉบลงจากกลุม
เมฆนั่น และเขาประชิดหมูบานหินผาอยางรวดเร็ว เงาดําทมิฬทอดลงมาเปนวงกวาง
“วาว หลังจากหายไปเกือบครึ่งเดือน ตอนนี้อินทรีเกล็ดเขียวกลับมาอีกแลว มันจะ
ผิดคําพูดมาชิงตัวลูกของมันกลับไปอยางนั้นหรือ?” คนในหมูบานพูดอยางประหลาดใจ
“ไมใช นั่นคือ?” ผูคนตางตกตะลึง ดวงตาฉายแววประหลาดใจ
เสียงโครมดังขึ้นนอกหมูบาน เศษฝุนพวยพุงขึน้ กลางอากาศ อินทรีเกล็ดเขียวคลาย
กรงเล็บออก วัตถุใหญโตมโหฬารหลนรวงลง กระแทกบนผืนดินจนเกิดหลุมขนาดใหญ
เศษหินแตกกระเด็นไปทั่วทุกสารทิศ เศษฝุนฟุงกระจายคละคลุงไปทั่วบริเวณ
มันคือชางเขามังกรขนาดใหญ ลําตัวยาวราว 6-7 เมตร สูงประมาณ 5-6 เมตร เขา
มังกรใหญโตบนหัวของมันสองแสงแวววาว ลําตัวที่หนักอยางยิ่งยวดทับตนไมเกาแกสูง
เสียดฟาหักโคนลงมา เวลานี้ มันสิ้นลมแลว กระดูกหัวที่ใหญประหนึ่งแผนหินโมนั่นมี
รอยกรงเล็บอยูหลายจุด เลือดไหลรินเปนสาย มันถูกสังหารโดยการจูโจมอยางฉับพลัน!
“อินทรีเกล็ดเขียว นี่เจาจะทําอะไร มันจะใหพวกเราปอนลูกนก 3 ตัวดวยชางเขา
มังกรตัวนี้อยางนั้นหรือ? มันชางมีปญญาสูงเฉกเชนเดียวกับคน!” ผูคนพากันพูดยกยอง
มัน
ลมคลั่งพัดโหมกระหน่ําเกิดเสียงฟู กิ่งไมผุพังและใบไมแหงเหี่ยวพัดลอยสูงขึ้น
อินทรีเกล็ดเขียวบินทะยานขึ้นสูฟากฟาอีกครั้ง
..............................
[1] ปรากฏการณสายเลือดบรรพบุรุษหวนกลับ คือ การปรากฏลักษณะของบรรพ
บุรุษที่ขาดหายไปบางชั่วคน
บทที่ 12 ตํารากระดูกศักดิส์ ิทธิ์
ผูคนในหมูบานยิ้มกวางจนปากฉีกถึงหู นี่เปนเรื่องนายินดีที่เหนือความคาดหมาย
และไมมีใครคาดคิดวาอินทรีเกล็ดเขียวจะสงสัตวประหลาดมาใหเชนนี้ อสูรปกษาพันธุนี้
มีไหวพริบและปญญายิ่งนัก
ในระยะหลังนี้ อินทรีเกล็ดเขียวสงเหยื่อมาอยางไมหยุดหยอน มีตั้งแตอสรพิษมีปก
ยันชางขนาดใหญ พรอมดวยสัตวประหลาดในขุนเขานานาชนิด
ผานไปเพียงเดือนเดียว ลูกนก 3 ตัวก็ขยายใหญขึ้นดุจลูกโปงพองลม ตอนนี้ยาว
เกือบ 2 เมตร และปริมาณอาหารที่กินก็นาทึ่งเปนที่สุด เพิ่มขึ้นวันตอวัน
“ตัวที่ 1 ชื่อตาเผิง ตัวที่ 2 ชื่อเสี่ยวชิง ตัวที่ 3 จื่อยวิ๋น” นี่เปนชื่อที่เด็กๆ ตั้งใหลูก
นก 3 ตัวนี้
ตองบอกวา อินทรีเกล็ดเขียว 3 ตัวนี้ตางก็มีไหวพริบและวิเศษมาก พวกมันเขาใจ
ธรรมชาติของมนุษย ไมวาจะพูดอะไร พวกมันก็สามารถเขาใจได เพียงแคพวกมันไม
สามารถสื่อสารภาษาคนไดเทานั้น
โดยเฉพาะลูกนกตัวที่ 3 จื่อยวิ๋น มีไหวพริบมากที่สุด ในขณะเดียวกันก็แข็งแกรง
เปนพิเศษ ตอนที่ตัวของมันยาวเพียง 1 เมตรกวา มันก็กระพือปกและวิ่งออกนอก
หมูบาน ฉีกทึ้งหมาปาและเสือเปนชิ้นๆ คนในหมูบานมองดูดวยความตะลึงงัน
“เสี่ยวจื่อ มานี่เร็ว” สือฮาววิ่งอยูขางหนา จื่อยวิ๋นวิ่งตามหลังมาดวยความระริกระรี้
ภาพนี้ทําใหเด็กๆ อิจฉาเปนอยางมาก ลูกนกวิเศษตัวนี้เปนมิตรกับเจาตัวเล็กมากเปน
พิเศษ
“จิ๊บจิ๊บ!” จื่อยวิ๋นวิ่งเขามาลอมหนาลอมหลัง ใชปกคูนั้นทุบหลังเจาตัวเล็กอยางเอา
ใจ ยากนักที่จะทําใหคนคิดวานี่เปนอินทรีเกล็ดเขียวนาเกรงขามตัวหนึ่ง
“ชางประจบสอพลอนัก เพียงเพราะเจาตัวเล็กสอนวิชาอักขระกระดูกใหเจาอยาง
นั้นหรือ?!” เด็กๆ เบะปากแลวพูดดวยความโมโห
เจาตัวเล็กทําสิ่งที่แตกตางจากผูอื่น เขายืนกรานจะสอนอักขระกระดูกที่มนุษยได
ศึกษาคนควาใหแกอินทรีเกล็ดเขียว 3 ตัวนี้ ปรากฏวาจื่อยวิ๋นที่วิเศษตัวนี้เรียนรูอยาง
กระตือรือรนมาก มันฉลาดกวามนุษยเสียดวยซ้ํา นับวันมันก็ยิ่งสนิทสนมกับเขามากขึ้น
“ซิ่ว!”
เจาตัวเล็กยกแขนขึ้น อักขระสองแสงสวางวาบ ริ้วรอยแผกระจายทั่วทอนแขนทั้ง 2
ขางอยางหนาแนน เปลงแสงพรางพราว จากนั้นชี้นิ้วเล็งออกไปเกิดเสียงดังชริ้ง ปรากฏ
นกกระจอกตัวเล็กสีแดงฉานออกมา เกิดไฟลุกทวมแผดเผาตนไมใหญที่อยูขา งหนา
“พั่บๆ”
จื่อยวิ๋นยกปกคูขึ้นมากระทบกันเบาๆ เกิดเสียงดังพั่บพับ่ ราวกับวากําลังปรบมือชื่น
ชม ดวงตาโตสุกใสแวววาวคูนั้นกะพริบขึ้นลง ปากก็รองจิ๊บจิ๊บไมหยุด แสดงอาการ
ประจบประแจง
“วาว นกตัวนี้ชางเฉลียวฉลาดเสียจริง อายุเพียง 1 เดือนก็รูมากถึงเพียงนี้แลว ยอด
เยี่ยมกวามนุษยอายุ 1 เดือนเสียอีก” เด็กๆ ตะโกนดังลั่น
ครืนครืน อินทรีเกล็ดเขียวตาเผิงกับเสี่ยวชิงตางก็วิ่งเขามา มันใชหัวถูไถเจาตัวเล็ก
อสูรปกษาที่มีปญญาจะกระหายพลังมากกวามนุษย เมื่อฝกอักขระกระดูกแกพวกมัน จะ
สามารถชวยเพิ่มความเร็วในการเจริญเติบโตได
ณ เวลานี้เจาหูสือฮาวก็บรรลุหลายขั้นแลว เนื่องจากอินทรีเกล็ดเขียวเปนทายาทรุน
หลังของอสูรปกษาบรรพกาล โดยธรรมชาติแลวภายในรางกายจะบรรจุกระดูกล้ําคาที่มี
อักขระทรงพลัง และอํานาจลึกลับที่นากลัวมาแตกําเนิด เขาเฝาสังเกตการณมาโดย
ตลอด
ลวดลายที่มีแตกําเนิดของกระดูกล้ําคาโบราณเชนนี้ จะมีเฉพาะในเผาพันธุนี้ หาก
เปนอสูรบรรพกาลที่เกรียงไกรมากจะยิ่งไมยอมใหอักขระเหลานี้เล็ดลอดออกไปสู
เผาพันธุอื่น มิเชนนั้นจะถูกไลลาเอาชีวิตใหถึงที่สุด โชคดีที่ลูกนก 3 ตัวนี้พิเศษ เปนลูก
นกที่ถูกเลี้ยงดูในหมูบาน อักขระโบราณนั้นมีคุณคามหาศาล มันแข็งแกรงกวาอักขระ
กระดูกที่มนุษยศึกษาคนควา และพลังลี้ลับของมันถูกเก็บงําไมเผยแพรออกไป สามารถ
เรียกมันวาอักขระล้ําคา
สามารถพูดไดวาอักขระชนิดนี้เทียบไดกับตํารากระดูกอันทรงพลังของเผาพันธุ
มนุษยเลมหนึ่ง แตสิ่งมีชีวิตที่มีอักขระบรรจุอยูภ ายในรางกายแตกําเนิดนั้นไมธรรมดา
และอาวุธจากบรรพบุรุษ 2 ชิ้นของหมูบานหินผานั่น ก็คืออาวุธที่หลุดลอดมาจาก
รางกายของอสูรบรรพกาลที่นาเกรงขาม 2 ตัว ผานการขัดเกลาและพิธีหลอหลอม จน
กลายเปนอาวุธล้ําคาอันนาสะพรึงกลัวเฉกเชนทุกวันนี้
ในระยะนี้ เจาหนูนอยสือฮาวมักจะขลุกอยูกับลูกนก 3 ตัวนี้ เขาคนพบหนทางบรรลุ
มากมาย ผูเฒาสือยวิ๋นเฟงก็สุขใจที่พวกเขาอยูดวยกันเชนนี้
โดยเฉพาะจื่อยวิ๋น เกิดปรากฏการณสายเลือดบรรพบุรุษยอนคืนขึ้นกับมัน แมจะสืบ
ทอดรองรอยเพียงบางสวนของอสูรปกษาบรรพกาล นั่นก็นาเกรงกลัวเปนอยางมาก
อักขระภายในตัวมันสมควรไดรับการขนานนามวา “ตํารากระดูกศักดิ์สิทธิ์”
หากเรื่องนี้เล็ดลอดออกไป จะตองเปนการกระตุนความตองการของชนเผาอื่นๆ
เปนแน
ยามอรุณรุง ดวงอาทิตยสีแดงโผลขึ้นทามกลางมานหมอก ทอแสงออนโยนบางเบา
สาดสองไปทั่วบริเวณ คอยๆ แตงแตมหมอกขมุกขมัวกลางขุนเขาใหเปนสีสัน
อากาศบริสุทธิ์เปนอยางมาก หยดน้ําคางเกลือกกลิ้งไปมาบนยอดหญาและเถาวัลย
กลุมชายฉกรรจของหมูบานจะออกเดินทางเพื่อลาสัตวอีกครั้ง
“ทานลุง พวกทานเดินทางเขาปาตองระมัดระวังนะขอรับ” เจาตัวเล็กที่กําลังเลน
กับลูกนกอยางสนุกสนาน เวลานี้กลับวิ่งตามมาสงอยางกระตือรือรน เขาผงกใบหนาเล็ก
ขึ้นเผยดวงตาสุกใสแวววาว และถามไถสารทุกขสุกดิบทีละคน เขาเขานอนแตหัวค่ําและ
ตื่นเชา
เหลาชายฉกรรจหัวเราะเสียงดังลั่น เดินเขามาบีบใบหนาเล็กออนเยาวที่แดงก่ําราว
กับผลแอปเปลขนาดใหญ จากนั้นเดินมุงหนาเขาไปยังดงไพร
“เสี่ยวจื่อ ขาขอดูหนอยสิ มันเกิดอะไรขึ้นกับอักขระที่บรรจุภายในตัวเจากันแน ขา
ยังไมคอยเขาใจ”
หลังเลนกันอยางสนุกสนานแลว เจาตัวเล็กก็ยื่นมือนอยๆ ออกมากอดคอยวิ๋นจื่อ
แนนแสดงถึงความสนิทสนม ทําใหมันสําแดงรองรอยบนกระดูกล้ําคาออกมาอยางผอน
คลาย ทําใหเขาตรวจสอบไดอยางสะดวก
“ซิ่วซิ่ว...” ตาเผิงและเสี่ยวชิงแสดงอาการไมพอใจ ถลาเขามาแลวใชหัวถูไถแขน
เล็กของเขาอยางเอาใจ
“ตาเผิงหยุดสงเสียงนะ ประเดี๋ยวขาก็จะตรวจสอบอักขระของเจาเชนกัน เสี่ยวชิง
เดี๋ยวขาพาเจาไปจับเจียว[1]กิน ตอนนี้อยาเพิ่งกวนขา” เจาตัวเล็กก็กอดคอของมันทั้ง
สองแนนเพื่อปลอบขวัญเชนเดียวกัน
ความจริงแลว ตอนนี้ลูกนกพวกนี้สูงกวาสือฮาวเปนทอน ไมวาจะเปนอดีต ปจจุบัน
เขายังคงเปนเจาเด็กนอยของหมูบานนี้
“วาว ที่แทมันมีกลไกแบบนี้นี่เอง เปลี่ยนแปลงไดซับซอนมาก ลึกลับซับซอนราวกับ
กลุมดาวที่เชื่อมตอกันเปนรูปราง” เจาตัวเล็กมองเห็นลวดลายสองแสงทีม่ าจากกระดูก
ล้ําคาภายในรางกายของจื่นยวิ๋นปรากฎอยูบนผิวหนัง เขาเบิกตากวาง ในที่สุดความ
เขาใจของเขาก็มีเพิ่มมากขึ้น
“จิ้วจิ้ว!”
ตาเผิงกับเสียวชิงตางก็ประหลาดใจ กะพริบตาปริบๆ มองดูอักขระที่ปรากฏจาก
ภายในรางกายของพี่นองตน ราวกับวาจะจดจํา พยายามใหมันซึมซาบเขาสูสมอง
“ตาเผิง เสี่ยวชิง ขอขาตรวจดูอักขระล้ําคาของพวกเจาหนอย” เจาตัวเล็กหัน
กลับไปแลวมุงความสนใจไปยังอินทรีเกล็ดเขียวสองตัวนั้น
เขาตรวจสอบอยางตอเนื่อง สัมผัสกระดูกของพวกมัน มันสองแสงพรางพราว
จากนั้นอักขระศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏขึ้น ทําใหแผงเกล็ดสองประกายแวววาวตาม
เจาตัวเล็กพินิจพิจารณาอยางตั้งใจ เพื่อพัฒนาสิ่งที่ตนไดรับมาจากการฝกฝนอยู
นานวัน จากนั้นก็หลับตาลง ปากบนขมุบขมิบวา “นาจะเปนแบบนี้ ลวดลายที่ซับซอน
เชื่อมตอกัน สําแดงอิทธิฤทธิ์ จากนั้นก็เปลงลําแสง พลังอํานาจลี้ลับปรากฏออกมา...”
“ซิ่ว!”
แขนขางขวาของเขาเปลงแสงเปนประกาย จากนั้นก็มีกงจักรจันทราเสี้ยวสองแสง
ระยิบระยับพุงขึ้นมา และลอยไปยังที่ไกลหางอยางรวดเร็ว ทําใหตนไมที่สูงเทียมเมฆหัก
เปนสองทอนในพริบตา และหักดังโครมโคนลงบนพื้นดิน ฝุนผงลอยฟุงกระจายไปทั่ว
“วาว เจาตัวเล็ก เจาทําสําเร็จแลว เขาเรียนรูความสามารถของอินทรีเกล็ดเขียวได
สําเร็จ นั่นเปนอักขระโบราณเชี่ยวนะ แข็งแกรงจริงๆ” เมื่อเด็กๆ เห็นอยางนั้นตางก็
ตะลึง
“เงียบ!” หัวหนาหมูบานปรากฏตัว เสียงอึกทึกคึกโครมดังจนทําใหเขาตกใจ เขาให
เด็กๆ เงียบเสียงลง เพื่อไมใหรบกวนสือฮาวที่เผยสีหนางุนงงเพียงครูก็เขาสูสมาธิ
“เสี่ยวจื่อขอขาดูอีกครั้ง ขาไดความมั่นใจจากตาเผิงกับเสี่ยวชิง เหมือนวาขาจะเริ่ม
เขาใจขึ้นมาแลว” สือฮาวโอบคอจื่อยวิ๋นแนน ดวงตาเปนประกาย ราวกับวาเขาเขาใจทุก
อยางเพิ่มขึ้น
จื่อยวิ๋นแผดเสียงยาวเหยียด ปลอยลําแสงและลวดลายทั่วลําตัว อัศจรรยอยางหาที่
เปรียบไมได ถึงแมมันจะเปนเพียงลูกนก แตกลับมีกลิ่นอายนาเกรงขามที่ยากโจมตี ผูคน
ในหมูบานตางหวาดผวา
อักขระที่อัศจรรยซบั ซอน และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาปรากฏขึ้นบนผิวหนังของมัน
สงผลใหแผงเกล็ดสีมวงโปรงแสงพรางพราว ชางงดงามเสียจริง!
นัยนตาของเจาตัวเล็กเปลงประกายดุจลูกแกวที่กําลังสองแสง จดจองไปที่อักขระ
วิเศษโดยที่ไมกะพริบ เวลานานผานไป แขนนอยของเขาก็เริ่มสั่นเบาๆ มีลําแสงเปนสาย
เคลื่อนไหวอยูแขนของเขาแลวพุงเขาไปในหัวใจ จากนั้นก็ปลดปลอยออกมา
“ครืน!”
ลําแสงถูกยิงออกมาประหนึ่งชัดมีดออกจากฝกที่ปลอยเสียงโลหะสั่นระรัว กงจักร
จันทราวงหนึ่งสองแสงระยับและศักดิ์สิทธิ์ลอยออกไปดังชริ้ง กระแทกลงบนหินแกรง
ขนาดใหญที่สูงราว 5-6 เมตร จันทรสีเงินหมุนอยูกับที่ เสียงโครมดังขึ้น พลันหินกอน
ใหญนั่นก็แตกออกเปน 2 ชิ้น
รอยแตกเรียบเนียน เกิดเสียงดังโครมพรอมกับหินกอนใหญครึ่งบนที่หนักเกือบพัน
ชั่งรวงหลนลงมา เศษหินบินวอน ผงฝุนฟุงกระจาย
ผูคนอึ้งตัวแข็งเปนหินอยูไกลๆ นี่เปนพลังที่แข็งแกรงถึงเพียงไหนกัน? กงจักร
จันทราหนึ่งวงปรากฏออกมา กระทบหินแกรงดุจเหล็กกลาแตกออกเปนเสี่ยงๆ ชาง
อัศจรรยใจยิ่งนัก!
“เปนอักขระที่ทรงพลังนัก ตามที่คาดไว เจาลูกนกสีมวงตัวนี้สืบทอดรองรอย
บางสวนของอสูรปกษาบรรพกาล และสําแดงออกมาอีกครั้ง “สือยวิ๋นเฟงพูดดวยความ
ตื่นเตนวา” เจาตัวเล็ก เจาเกงกาจจริงๆ เพียงแคเดือนเดียวเทานั้น แตเจากลับเขาถึง
ความศักดิ์สิทธิ์ของอักขระโบราณนี้ได ชางเปนพรสวรรคที่อัศจรรยยิ่งนัก!”
จื่อยวิ๋น ตาเผิง เสี่ยวชิงก็แสดงอาการตะลึง พวกมันยังเยาวนัก ยังไมสามารถสําแดง
พลังอํานาจลึกลับของอักขระภายในรางกายได เมื่อเห็นผลลัพธเชนนี้ตางก็ตื่นเตน
“ทานผูเฒาขอรับ ขาคิดวาขาเขาใจแลว” ดวงตาของเจาตัวเล็กสองแสงวาววาว พูด
ขึ้นดวยความดีใจ
สือยวิ๋นเฟงกาวเขามาดวยความวองไว แลวตักเตือนเสียงเบาวา “อักขระโบราณที่
เจาใชเมื่อครูนั้น ทัดเทียมกับ"ตํารากระดูกศักดิ์สิทธิ์" อยางแนนอน มันพบเจอไดยาก
มาก แข็งแกรงจนผูคนตองเคารพยําเกรง ตอจากนี้ไป หากไมใชสถานการณหนาสิ่วหนา
ขวาน หามสําแดงมันออก”
เจาตัวเล็กกะพริบตาปริบๆ เขาผงกหัวหงึกๆ แลวถามวา “มันจะแข็งแกรงไดถึง
เพียงใดกันขอรับ? นี่คงยังไมสมบูรณแบบสินะขอรับ ขารูสึกวาตองมีตนไมกับพระราชวัง
ปรากฏบนจันทรสีเงินนั่น แตตอนนี้ขาไมสามารถทําได”
“อยางนอยตอนนี้เจาก็สามารถแยงชิงตําแหนงผูชนะกับหลินหูและเฟยเจียวไดแลว
‘ตํารากระดูกศักดิ์สิทธิ์’เปนสิ่งที่ชนเผาตางๆก็กระหายอยากไดมาครอบครอง!” หัวหนา
หมูบานพูดอยางเครงขรึม
ครั้นเสี่ยวปูเตี่ยนไดฟงก็พยักหนาอยางจริงจัง จากนั้นหัวเราะอยางโงเขลา ไร
เดียงสานัก หลายวันมานี้ เขาฝกฝนอยางไมหยุดหยอน ตอนนี้พัฒนาไปอีกขึ้นหนึ่ง
แมกระทั่งหัวหนาหมูบานยังตะลึง เขาชวยอะไรไมไดเลย
ตะวันลาลับขอบฟา แสงสายัณหแตมทองฟาใหเปนสีแดง กลุมคนที่ออกลาสัตวกลับ
มาแลว ไดเหยื่อมาไมมากนัก มิหนําซ้ํายังมีคนที่ถูกแบกหามกลับมาดวย
“อะไรกัน เกิดอะไรขึ้น?” ผูคนกรูกันออกมา ตางก็รูสึกตึงเครียด
“วางใจเถอะ ไมมีใครเสียชีวิต แตวาพอของผีโหวไดรับบาดเจ็บสาหัส ถูกธนูยิงปก
เขากลีบปอด” สือหลินหูมีสีหนาไมคอยสูดี
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” เหลาชายชราปรากฏตัวและเอยถามพวกเขา
“คนในหมูบานหมาปาที่อยูไกลออกไป 10 ลี้นั่นเปนผูกระทําขอรับ ปๆ หนึ่งยังไม
เห็นแมแตเงาของพวกมัน ไมรูเพราะเหตุใด ตอนนี้พวกมันถึงลุกล้ําอาณาเขตลาสัตวของ
เรา แยงชิงเหยื่อกับเรา และเกือบจะยิงปลิดชีพพอของผีโหวอีกดวย”
..............................
[1] เจียว เปนสัตวในตํานานจีนโบราณ ที่มีทอนบนเปนมนุษย ทอนลางเปนปลา
คลายกับนางเงือกในเทพนิยาย
บทที่ 13 พิโรธ
“ทานพอ! “ผีโหวรองไหเสียงดัง วิ่งพรวดพราดออกมาจากหมูบาน เพียงชั่วครูก็เขา
ประชิดแลวโอบกอดแขนของสือโสวซาน น้ําตาไหลพรั่งพรูเปนสาย” ทานเปนอะไรไป
ใครทําใหทานไดรับบาดเจ็บเชนนี้?”
แมของเขาก็วิ่งเขามา หยดน้ําตาไหลรินไมขาดสาย หลอนควาแขนของสือโสวซาน
มากอดไวแนน รองไหเบาๆอยูขางกาย
“รองไหทาํ ไมกัน ขาก็แคโดนศรธนูปกมิใชหรือ ปกติที่ออกลาขาก็ถูกสัตวประหลาด
ทําใหบาดเจ็บอยูบอยครั้ง เลือดออกแคนี้ขาไมเปนไรหรอก!” สือโสวซานถลึงตาใสเพื่อ
ไมใหพวกเขารองไห เขาเปนชายที่แข็งแกรงมากคนหนึ่ง
รางกายทอนบนของเขาเปรอะเปอนไปดวยคราบเลือด คันศรธนูโลหะปกเขาเกราะ
เหล็ก ทะลวงปอดขางขวาจนทะลุหลัง คันศรโลหะใหญยาว 1.3 เมตรแผรังเยือกเย็น
อาบยอมไปดวยโลหิตแลดูสยดสยอง
“พี่สะใภกับหลานชาย พวกเจาอยารองไหเลย นองชายขาโสวซานไมไดมีอันตราย
ถึงชีวิต พักฟนสักระยะหนึ่งก็จะกลับมาแข็งแกรงดุจวัวใหญ เขาจะตองดีขึ้นในเร็ววัน”
สือเฟยเจียวพูดปลอบ
แทจริงแลวอาการบาดเจ็บเชนนี้ไมเล็กนอยเลย แมวาสือโสวซานจะมีรางกาย
แข็งแกรง แตก็ประมาทมิได มิเชนนั้นอาจจะฝงรากลึกจนนําไปสูโรคราย รางกาย
ออนเพลียและหอบหืด
นับวาโชคดีที่สือหลินหูและพวกไดจัดการทําแผลเบื้องตนใหเขาแลว พวกเขานํายา
สมุนไพรเกาแกบนขุนเขามาเคี้ยวจนละเอียด จากนั้นทาไปบนบาดแผล ในขณะเดียวกัน
ก็ใหเขากินยาผงที่เหลาชายชราในหมูบานใชเลือดบริสุทธิ์ของสัตวประหลาดมากลั่นเปน
ยาชนิดนี้
“หยุดรองไหเถิด มีชีวิตรอดกลับมาก็ดแลว” สือยวิ๋นเฟงเดินเขามาใกล จากนั้นก็ดึง
คันธนูนั่นออกโดยพลัน สายเลือดพุงกระเซ็นออกมาจากปากแผลทันที เขายกฝามือที่มี
แสงเจิดจาและอักขระดุจดวงดาวประกายแสงกดไปยังบาดแผลดวยความเร็ว เลือดหยุด
ไหลอยางรวดเร็ว และปากแผลก็ปดสนิทแลว
สือยวิ๋นเฟงลวงโถหยกออกมาจากอก จากนั้นเทยาเม็ดสีมวงที่มีกลิ่นหอมแตะจมูก
ออกมา 2 เม็ด เม็ดหนึ่งนํามาบดละเอียดแลวปายไปบนบาดแผล อีกเม็ดหนึ่งก็ใหเขา
กลืนลงทองไป
สือโสวซานถูกหามกลับบาน ผูคนในหมูบานทั้งบรุษและสตรี เด็กและชราตางก็มา
เยี่ยมเยียน พวกเขานํายาโบราณที่บํารุงรางกายและเนื้อตากแหงมาฝาก บรรยากาศเต็ม
ไปดวยความครื้นเครง ผูคนในหมูบานทั้งซื่อตรงจริงใจและมีไมตรีจติ
“ทานลุงตองดีขึ้นในเร็ววันอยางแนนอนขอรับ!” เจาตัวเล็กก็สงความหวงใยมาดวย
เชนกัน เขานําเบอรรี่สีแดงที่เขาชอบกินมากที่สุดตะกราหนึ่งมาฝากเปนสินน้ําใจ
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน?” ณ กลางลานบานของหัวหนาหมูบาน บุคคลสําคัญของ
หมูบานกําลังชุมนุมกัน สือยวิ๋นเฟงที่คิ้วขมวดเอยถาม
“ทานผูเฒาขอรับ คนในหมูบานหมาปาเปนคนกอเรื่อง พวกมันลุกล้ําเขามายังเขต
ของเรา มันแยงชิงอูฐหกขาที่โสวซันใชธนูสังหารมาได และยังลงมืออยางไรหวั ใจ โชคดีที่
โสวซานหลบซอนทันกาล นั่นเปนคันศรที่เล็งเปามายังหัวใจเพื่อใหสิ้นลมเลยนะขอรับ”
สือหลินหูพูดดวยความโกรธ
ครั้นทุกคนไดฟงก็มีสีหนาที่เปลี่ยนไปจากเดิม นี่มันถึงขั้นจะเอาใหตายเลยเหรอ
“ลงมือโหดเหี้ยมขนาดนี้ ชางไรจรรยาบรรณเสียจริง แมวาทั้งสองหมูบานจะหางกัน
เกือบ 10 ลี้ ตางก็มีเขตปกครองของตน แทบจะไมเคยพบหนากันเลย แตอยางไรก็ตาม
ตางก็อาศัยอยูในบริเวณเทือกเขาแหงนี้ ถึงอยางไรก็ควรใหเกียรติกันบางสิ เมื่อกอนไม
เปนเชนนี้นี่นา” ชายชราคนหนึ่งอุทาน
สือเฟยเจียวกลาว “คนที่ลงมือเปนเด็กหนุม อายุนาจะราวๆ 14-15 ป รูปลักษณ
ภายนอกดีเชียวละ ผิวขาดสะอาดสวยงาม แตจิตใจต่ําชาเลวทรามนัก เล็งยิงคันศรมา
ทางโสวซาน ราวกับกําลังปลิดชีพสัตวประหลาด แววตาไมมีชีวิตชีวา เยือกเย็นจนนา
กลัว”
ณ เวลานั้น ผูคนในหมูบานตางก็โกรธแคน แลวพุงไปขางหนาอยางพรอมเพรียงกัน
ทวาฝายตรงขามก็ไมไดออนแอเลยแมแตนิด กลุมคนเกือบสิบคนรีบรวมตัวกัน แลดู
แข็งแกรงมาก ประชันหนากันอยางตาตอตา ฟนตอฟน[1]
หากไมใชวาในหุบเขาลึกมีซวนหนีคลุมคลั่ง เปลงเสียงคํารามสะเทือนขุนเขา กอน
หินเกลือกกลิ้ง ทั้งสองฝายตางก็วิตก จึงไดลาถอยไปอยางรวดเร็ว มิเชนนั้นอาจจะเกิด
การปะทะนองเลือดครั้งรุนแรงก็เปนได
“ไฉนจึงตองยกตนขมทาน[2]เชนนี้ พวกเขาคิดวาพวกตนแข็งแกรงมากอยางนั้น
หรือ สามารถเมินเฉยความรูสึกของพวกเราไดใชไหม มิเชนนั้นจะขมเหงรังแกผูคนอยาง
นี้หรือ?!” ชายชราบางสวนก็เริ่มโมโห อาศัยอยูทามกลางเทือกเขาเชนนี้ ชายฉกรรจที่
แข็งแกรงนั้นสําคัญตอหมูบานเปนอยางมาก แตฝายตรงขามกลับทําตามอําเภอใจเชนนี้
อยากจะฆาก็ฆา
มีคนพูดเสริมวา “เจาหนุมคนนั้นไมธรรมดา ใหความรูสึกไมคอยดีมากนัก ยามที่
มองตามัน ราวกับเผชิญหนากับปเซี๊ยะที่โตเต็มวัยแลว ทั้งเกรียงไกร โหดเหี้ยมและ
เลือดเย็น”
“เชนนี้แลว แสดงวาหมูบานหมาปามีชายหนุมที่เกงกาจคนหนึ่งเลยสินะ ดู
เหมือนวาชนเผานี้จะแข็งแกรงขึ้นมากโข ตอนนี้รุงเรืองยิ่งนัก ความปรารถนาจึงเพิ่มขึ้น
ตามไปดวย” หัวหนาหมูบานพูดเสียงเบา หรี่ตามองไปยังหมูบานหมาปา
ตอมา พวกเขาหันหนากลับไปมองสือหลินหูและพวก แลวพูดวา “พวกเราไมอยาก
สรางปญหา แตก็ไมไดเกรงกลัวปญหาใดๆ ตอจากนี้ใหเตรียมการปองกันอยาง
ระมัดระวัง หากวาพวกมันไดคืบจะเอาศอกแลวละก็ ไมวาจะตองทําอยางไร เจาก็ไมตอง
ลังเล!”
“เขาใจแลวขอรับ” สือยวิ๋นเฟงกลาว
เพียงแคพริบตาเดียว เวลาก็ผานมาเกือบครึ่งเดือนแลว คนของหมูบานหมาปาล้ํา
เขตเปนประจํา ยิ่งกวานั้นคือขุดหลุมวางกับดักสัตวทั่วบริเวณอาณาเขตนี้ คนในหมูบาน
หินผาพลาดรวงลงไปในหลุม เกือบจะถูกหอกโลหะคมกริบที่อยูใตหลุมนั่นทะลวงเอา
เนื่องดวยเหตุนี้จึงทําใหจวนเกิดสงครามนองเลือดอยูบอยครั้ง แตทายที่สุดคนของ
หมูบานหมาปาก็ลาถอยไป
“ไยพวกมันถึงลาสัตวประหลาดกันอยางบาคลั่งเชนนี้ แมวาประชากรจะเพิ่มขึ้น
อยางรวดเร็วก็ไมควรทําเชนนี้ หมูบานของพวกมันคงจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นเปนแน”
สือยวิ๋นเฟงคาดการณ
หลังจากเกิดความขัดแยงหลายครั้ง คนของหมูบานหมาปาอันตรธานหายไปไมนอย
แตทวาคนในหมูบานหินผาก็ยังไมวางใจ ออกคําสั่งใหคนออกไปสืบเสาะเรื่องราวใน
กลางดึก ไดยินเสียงตะโกนจากหมูบานไกลๆ มาเปนระลอก ชางนาตกใจ
“อยาเพิ่งไปสนใจเลย หากวาพวกมันยังไมล้ําเสน ก็อยาใหเกิดการนองเลือดดีกวา
การมีชีวิตอยูทามกลางเทือกเขานี้ไมงายเลย” ชายชรากลาว
ดวยเหตุนี้ ทุกอยางจึงกลับคืนสูสภาพสงบสุขอีกครั้ง
หลายวันตอมา หมูบานหินผาโชคดี การลาสัตวประสบความสําเร็จ พบเห็นซากสัตว
ที่เกิดจากการจลาจลตอสูของเหลาสัตวประหลาดเกลื่อนเต็มพื้น มีสงครามการตอสู
ระหวางสัตวตางสายพันธุ กอใหเกิดความพินาศแกผืนปาในระยะ 10 ลี้ สัตวเดินดิน
มากมายตางไดรับเคราะหไปดวย
เกิดการปะทะกันหลายครั้งของอสูรบรรพกาลในหุบเขาลึก เขนฆาโรมรัน อาจจะ
นําไปสูหายนะที่นาหวาดกลัว ในครั้งนี้ก็เชนกัน นับวาโชคดีที่มันไมสงผลกระทบไปถึง
หมูบาน
“ทานผูเฒา แคชางเขามังกรก็ตายถึง 8 ตัว และยังมีแรดที่ขาวดุจหิมะอยูเล็กนอย
และยังมีสัตวใหญประเภทอื่นอยูอีกมาก หากนํามาทําเปนเนื้อตากแหง คงเพียงพอทีจ่ ะ
ใหพวกเรากินไปอีกนานเลย”
สือหลินหูนําคนไปลากกลับมาแลวบางสวน และเรียกตัวคนใหไปชวยขนสัตว
ประหลาดพวกนั้น
“ดี ดี ดี!” เหลาชายชราตางก็ดีใจมาก
คนในหมูบานมากมายเริ่มเคลื่อนพล ไปเปนกองหนุนในขุนเขา
“โอ สัตวใหญเยอะแยะเลย พวกเราก็จะไปดวย จะตองรวบรวมเลือดบริสุทธิ์ได
มากมายแนนอน!” เด็กๆ รองตะโกนโออยางดีใจ
ไมกี่ปมานี้ ความสามารถของเจาตัวเล็กนับวันจะยิ่งแข็งแกรง เด็กๆ ตางพากันนั่งไม
ติดแลว พวกเขาไมตอตานการอาบโอสถทิพยแลว ทุกครั้งก็แชอาบอยูในหมอสําริดอยาง
เชื่อฟงและใหความรวมมือเปนอยางดี ตอนนี้ไดยินมาวาจะมีโลหิตล้ําคามากมายมาเยือน
ตางก็ตื่นเตนขึ้นมาโดยธรรมชาติ
“ขาไปดวย ตาเผิง เสี่ยวชิง จื่อยวิ๋นพวกเจารอขาอยูที่หมูบาน เปนเด็กดีละ” เจา
หนูสือฮาวก็ตามไปดวย
แตทวา เมื่อทุกคนเดินทางไปถึงเพียงครึ่งทาง ก็เห็นเฟยเจียวเลือดอาบทั่วทั้งตัว เขา
พากลุมคนในหมูบานวิ่งหนีกลับมา ผมเผารุงรัง ดูเศราสลดมาก
“เฟยเจียวเปนอะไรไป?” สือหลินหูตะโกนถามเสียงดัง
“พี่หู หมูบานหมาปาอีกแลว พวกมันลอมโจมตีพวกขา แยงชิงเหยื่อที่เหลือไปหมด
เลยขอรับ!” สือเฟยเจียวขบกรามแนน
“อะไรนะ ขมเหงกันเกินไปแลว พวกเราอดทนอดกลั้นมาตลอด พวกมันมองนิสัยที่ดี
ของพวกเราเปนความออนแออยางนั้นหรือ?!” สือหลินหูตะโกนดวยความโมโห
พวกเขาจะไมทนอีกตอไป ครั้งแลวครั้งเลาที่คนของหมูบานหมาปาเที่ยวใช
อํานาจบาตรใหญตลอดเวลา นี่ไมใชการลงมือครั้งแรก
“มีพี่นองของเราเสียชีวิตหรือไม?”
“ไมมีขอรับ แตวาก็มีไมกี่คนที่ไดรับบาดเจ็บสาหัส ถูกคันศรปกทะลวงมามขอรับ ไม
รูวาจะมีโรครายฝงรากลึกหรือไม”
“อะไรนะ ลงมือกอเหตุไดเลือดเย็นถึงเพียงนี้ พวกเราไป ไปตอสูกับมัน!”
ผูคนอลหมานทันใด ดูถูกหมิ่นเกียรติซ้ําแลวซ้ําเลา แมเปนรูปปนก็โมโหไดเชนกัน
“ชายหนุมอายุ 14-15 ปคนนั้นชางเลวทรามนัก เขาเปนคนยิงศรพวกนั้นทั้งหมด
หากวาชายชราคนหนึ่งในหมูบานของมันไมพยักหนา มันก็คงจะสังหารคนของเราอยาง
แนนอน” บิดาของเออรเหมิงที่มีเลือดทวมตัวกลาว
“เปนเด็กที่ขนยังขึ้นไมครบแทๆ จะเกงกาจไดมากเพียงใดกัน พวกเจาถึงถูกเจานั่น
ขมเหงเอานะ?” ชายชราขาพิการคนหนึ่งที่เปนกองหนุนจากหมูบานพูดอยางไมพอใจ
“พวกขาไมไดกลัว หากแตวาคนของพวกมันมีมากกวาพวกเราหลายเทา”
“เด็กหนุมนั่นแข็งแกรงเหลือเกิน มองดูผิวขาวสะอาดสะอาน แตใจเลวทรามต่ําชา
ยิ่งนัก หามประมาทเปนอันขาด หนาอกของพี่นองเราตางก็คลุมดวยเกราะเหล็กหนาถึง
3 ชั้น ทั้งหมดก็ถูกมันยิงศรปกจนทะลุ ในหมูบานนี้มีแคขาและพี่หูเทานั้นที่สามารถทํา
ได” สือเฟยเจียวพูดเสริม
“ไปชวงชิงเหยื่อที่เปนของเรากลับมา ขาไมสามารถทนตอไปไดแลว!” ทุกคนรูสึก
เหมือนมีไฟลุกโชนอยูขางในใจ อวัยวะภายในทั้งหา[3]เหมือนโดนน้ํามันรอนลวก โกรธ
แคนเปนที่สุด
กลุมคนนาเกรงขามมุงหนาเขาสูกลางปาลึก ครั้งนี้คนของหมูบานหมาปาทําเกินไป
จริงๆ และเกินขีดจํากัดที่พวกเขาสามารถจะทนได
“ทานลุงฝู ทานก็ไดรับบาดเจ็บเชนกัน ทานจะไมเปนไร และตองดีขึ้นในเร็ววัน”
เจาตัวเล็กมองดูสือฝูที่ปกติจะชวยเด็ดเบอรรี่ใหเขานอนเลือดทวมตัว เขากําฝามือนอยๆ
จนแนน หลังจากพูดปลอบขวัญแลวก็ไลตามกองกําลังคนขางหนาไป
..............................
[1] ตาตอตา ฟนตอฟน อุปมาวา การตอบโตการกระทําของฝายตรงขามใหรุนแรง
ทัดเทียมกัน
[2] ยกตนขมทาน เปนสํานวน หมายความวา พูดทับถมผูอื่นแสดงใหเห็นวาตัว
เหนือกวา, พูดยกตัวเอง และขมคนอื่นใหดอยลง
[3] อวัยวะภายในทั้ง 5 ไดแก ตับ หัวใจ มาม ปอด และไต
บทที่ 14 ปาเถื่อน
ผูคนในหมูบานหินผาเคลื่อนขบวนอยางรวดเร็ว พลันก็มาถึงจุดที่คอนขางลึกกลาง
ขุนเขา ณ ที่แหงนี้ ตนไมสูงเทียมเมฆหักครึ่ง เถาวัลยพันปมลาย ทั้งยังมีคราบเลือดสัตว
นานาชนิดกระจัดกระจาย
สัตวประหลาดตางสายพันธุ 2 ตัวกําลังตอสูกันอยางดุเดือด เกิดความจลาจล เปน
เหตุใหสัตวเดินดินตายจํานวนมหาศาล ยิ่งไปกวานั้นคนของหมูบานหมาปาลอมยังโจมตี
เฟยเจียวและคนอื่นๆ บริเวณนี้จึงยุงเหยิง
กองซากสัตวดุจภูเขาเตี้ยนั่นถูกคนของหมูบานปาขนไปแลว วางเปลาไมมีสิ่งใดเลย
ครั้นสือหลินหูและคนอื่นๆ ไลตามมาถึงที่นี่ตางก็ขบกรามแนน ชางขมเหงกันเกินไปแลว
เหยื่อที่คนในหมูบานลามาดวยความยากลําบากถูกชวงชิงไปทั้งอยางนี้
“ไลตามไป!”
พวกเขาไมหยุดพักแมแตนอย มุงหนาวิ่งไปยังหมูบานหมาปา คาดวาพวกคนที่แบก
ขนสัตวใหญที่หนักอึ้งพวกนั้นนาจะเดินไปไดไมไกล ในปาเขามีรองรอยชัดเจน ทั้งเสนขน
เลือดสด แผงเกล็ดเหลานี้ชี้นําเสนทางที่คนของหมูบานหมาปาใช
“ระวัง!”
สือหลินหูที่วิ่งนําอยูขางหนาโบกมือสงสัญญาณใหกลุมคนหยุดเดิน เขาแหวกโพรง
หญาแหงและใบไมแหงเหี่ยวตรงทางดานหนาออก พลันก็ปรากฏหลุมดํามืดขนาดใหญ
ภายในมีเหล็กแหลมคมชี้ขึ้นยังฟากฟาปกเต็มไปหมด หากรวงหลนลงไปคงถูกทิ่มแทงจน
พรุนอยางแนนอน
“เจาเด็กเวรนี่ อํามหิตจริง!”
คนในหมูบานหินผาโกรธแคนมากขึ้น นี่ยังเปนอาณาเขตของพวกเขา คนของ
หมูบานหมาปากระทําการตามอําเภอใจ พวกเขาวางแผนเชนนี้ ตองกอเกิด
โศกนาฏกรรมนองเลือดเปนแนแท
พวกเขาวิ่งมาไกลเปนระยะทาง 8-9 ลี้ ทันใดนั้นก็มีลมแรงพัดโหมมาทางสือหลินหู
แสงเย็นยะเยือกราวกับมาจากขุมนรก นาสะพรึงกลัวประหนึ่งจะพรากวิญญาณไป
มันเปนคันศรที่หนายาว 1.3 เมตร ความเร็วเทียมสายฟา ปลิดชีพคนใหสิ้นลมได
ภายในพริบตา พลังและความเร็วที่นากลัวเชนนี้ สามารถทะลวงแผงเกล็ดของชางเขา
มังกรไดอยางแนนอน นี่เปนเหตุผลวาทําไมมันจึงสามารถปกทะลุรางกายของคนใน
หมูบานหินผาที่สวมเกราะเหล็กกลาหนาถึง 3 ชั้น ชางนากลัวเสียจริง
กะทันหันเกินไป คันศรเยือกเย็นนากลัวที่ถูกยิงมาทามกลางปาลึกที่มีตนไม
หนาแนนแบบนี้ ยากที่จะปองกันไดทัน สือหลินหูกลาหาญและแข็งแกรงเกินมนุษย
ปฏิกิริยาตอบสนองฉับไว เขารีบเบี่ยงตัวหลบอยางรวดเร็ว
อันตรายเกินไป คันศรเยือกเย็นถากผานลําคอของเขาไป นําเอาสายเลือดแลนไปกับ
คันศรดวย ผิวหนังโดนคันศรกรีดเปนแผล อีกเพียงนิดคันศรก็จะปกทะลวงลําคอ
กระทั่งตอนนี้ เสียงหวีดหวิวแหลมดังแววมา มันเปนเสียงของดามคันศรที่พุงทะลุ
ผานทองฟาอันกวางใหญ เชื่องชากวาหัวศรโลหะของตัวมันเองอยูมาก เห็นไดชัดวา
ความเร็วของมันนากลัวเพียงใด
“ครืน!”
หัวศรโลหะพุงไปยังกอนหินใหญที่อยูไกลออกไป จากนั้นทะลวงผานกอนหิน เกิด
เสียงดังครืนครืน เสียดสีกันเกิดประกายไฟปลิววอน นากลัวยิ่งนัก พลังที่แข็งแกรงเชนนี้
คันศรที่หนักขนาดนี้ จะมีใครสามารถตานทานได? หากถูกยิง ก็คงจะเย็นเยือกไปถึง
หัวใจเชียวละ!
สถานที่เกิดเหตุเงียบสงัด สือหลินหูลูบคลําบาดแผลที่ขูดผิวหนังหายไป แววตาเย็น
เยือกสั่นระริก แคนิดเดียว อีกแคนิวเดียวเทานั้น ก็เกือบจะสิ้นชีพเพราะคันศรธนูแลว
กลางผืนปาที่หางไกล มีชายหนุมถือคันธนูยืนอยูดวยสีหนาเครงขรึม นัยนตาเย็น
เยือกแวววาวจดจองมายังทางนี้
“เด็กเวรนั่นอีกแลวหรือ!” สือเฟยเจียวและพวกโกรธถึงขีดสุด ชายหนุมที่มีสีหนา
เฉยเมยคนนี้ทําใหชายฉกรรจของหมูบ านหินผาไดรับบาดเจ็บสาหัสติดตอกันหลายคน
แลว
เขาเปนเด็กหนุมที่มีอายุ 14-15 ป รูปรางผอมสูง เสนผมดําขลับเงางามและออนนุม
ผิวขาวสะอาดสะอาน และหลอเหลา เพียงแตแววตาคูนั้นเยือกเย็นนัก ทําลายความ
สวยงามของเขา ใหความรูสึกปาเถื่อนและอํามหิต
ดานหลังของเขามีคน 7-8 คนกําลังลากสัตวใหญตัวแลวตัวเลา เดินเหยียบยางผืน
ปาไป เหลือคราบเลือดเปรอะเปอน ทั้งโพรงหญาและพุมไมเตี้ยก็ถูกทับหัก
“เจาหนุมหมูบานหมาปา นอกจากยิงหัวศรเย็นแลว เจาทําอะไรเปนบางไหม เขามา
อยางกลาหาญสิ ขาจะตัดหัวเจาใหขาดดวยฝามือเดียว!” มีคนคํารามดวยความโกรธ
ชายหนุมที่งดงามคนนั้น นัยนตาฉายแววเย็นเยือก งางคันธนูออก แลวเล็งมาที่เขา
ครั้นสือหลินหูเห็นสถานการณเชนนี้ก็ไมเอื้อนเอยวาจาใด มือจับคันธนูใหญสีดํา
สนิทสูงเกือบครึ่งคนที่ทําจากเขามังกรขึ้นมา งางคันธนูออกอยางรวดเร็ว จากนั้นวางคัน
ศรโลหะพาดบนคันธนู แลวเล็งยิงออกไป
“ตูม!”
หัวศรหนายาว 2 คันปะทะกันกลางอากาศ เกิดประกายไฟแตกกระเซ็น เสียงบาดหู
สุดขีด หยุดชะงักอยูตรงกลางของทั้งคู จากนั้นรวงลงมาบนพื้นดิน
ผูคนตางตะลึงงัน วิชาธนูและกําลังแขนของชายหนุมนั่นชางนากลัว อายุเพียง 10
กวาปก็ทัดเทียมกับสือหลินหูผูซึ่งแข็งแกรงที่สุดในหมูบานหินผา
“ชริ้ง ชริ้ง” ...
ประกายไฟกระเด็นไปทั่วบริเวณผืนปา คันศรโลหะมากกวา 10 คันปลอยออกมา
ตอเนื่อง และพุงชนกันเกิดเสียงชริ้งชริ้ง ราวกับฝนดาวตก รวงหลนบนพื้นคันแลวคันเลา
เสียงดังสนั่น สะเทือนแกวหู
คันศรวิเศษสะเทือนไปทั่วบริเวณผืนปารกรางแหงนี้!
เจาหนุมคนนี้มีฝมือสูสีกับสือหลินหู ผูที่แข็งแกรงที่สุดในหมูบานหินผา ตางไมยอม
ใหใครเหนือกวา สรางความตะลึงใหแกผูคนที่เห็น เมื่อกางแขนทั้งสองขางออก อยาง
นอยๆ คงสามารถยกหมอสําริดที่หนัก 1000 ชั่งได 5-6 ใบเลยทีเดียว
ผูคนตางชะงักงัน ชางเปนอัจฉริยะทีแ่ ข็งแกรงยิ่งนัก เขาเปนเพียงเด็กหนุมรุนหลัง
อายุเพียงแคนี้แตกลับมีพละกําลังที่มหัศจรรยเชนนี้ นี่ทําใหผูคนรูสึกหวาดกลัว
“พี่นองชาวหินผาโปรดอภัย ตอนนี้พวกขาตองการสัตวประหลาดจํานวนมาก เหยื่อ
ที่ลามาไดครั้งนี้ก็ยกใหพวกเราเถิด ในภายภาคหนาพวกเจาจะไดผลตอบแทนอยางลน
หลาม” ผูใหญคนหนึ่งของหมูบานหมาปาออกหนาตะโกนบอกกลาวดวยเสียงดังฟงชัด
“เพียงเพื่อปลนชิงเหยื่อของพวกขา พวกเจาซุมโจมตีคนของหมูบานเรา ลงมืออยาง
อํามหิต คันศรดอกแลวดอกเลาปกทะลุอวัยวะภายใน ทําใหคนมากมายบาดเจ็บสาหัส
ปางตาย แลวยังวิงวอนใหเราอภัยอยางนั้นหรือ? ทําเรื่องเลวทรามต่ําชาถึงเพียงนี้ แต
กลับสงบเยือกเย็น เพราะเหตุอันใดกัน?” สือหลินหูประณามดวยความโกรธแคน
“ครั้นเกิดความขัดแยง นําไปสูการตอสู เหตุการณนองเลือดก็ยอมเกิดขึ้นตาม
ธรรมชาติ นี่เปนธรรมเนียมที่บุรุษในดินแดนแหงนี้ตางก็รูดี” ผูนํากลุมลาสัตวของ
หมูบานหมาปากลาว
“หากไมพอใจก็เขามาเลย!” ชายฉกรรจอีกคนที่ฐานะไมต่ําตอยของหมูบานหมาปา
กลับยิ่งพูดเสียงแข็ง
คนในหมูบานหินผาโกรธแคนเปนอยางมาก คนของพวกเขาถูกลอมโจมตี ชวงชิง
เหยื่อไป แตฝายตรงขามกลับมีทาทีขมเหงกันเชนนี้ ไรเหตุผลสิ้นดี ไมอาจสรรหาคําพูด
ใดๆ มากลาวไดแลว
“เชนนั้นแลวก็มาลองกันสักตั้ง!” สือเฟยเจียวคํารามดวยความโมโห
“คิดวาขาเกรงกลัวพวกเจาอยางนั้นหรือ?” ผูนําของกลุมลาสัตวตอบกลับ เขาเกรียง
ไกรยิ่งนัก สูงเกือบ 2.4 เมตร มีรังสีความนาเกรงขามแผซาน
“ชริ้ง ชริ้ง” ...
เสียงอาวุธถูกชักออกจากฝกดังอยางตอเนื่อง ผูคนมากมายชูดาบที่สูงเกือบครึ่งคน
ขึ้น สองลําแสงเย็นเปนประกาย บรรยากาศความตายแผคลุมทั่วบริเวณ ปะทะกัน
รุนแรงจนใบไมรวงโรยเปนกอบเปนกํา
“ขาขอเตือนพวกเจามาจากทางไหนก็กลับไปทางนั้น หากยังกลากาวเขาแมแตกาว
เดียว ขาจะใชธนูสังหารพวกเจาทีละคนใหสิ้นซาก ครั้งนี้ขาจะไมปราณี!” ชายหนุม
งดงามของหมูบานหมาปากลาวขึ้นมากะทันหัน น้ําเสียงนั่นสรางความฉุนเฉียวพลุง
พลานเปนอยางมาก ปรารถนาจะยิงธนูทะลวงมันดวยธนูอยางอดไมได
สือหลินกลาวอยางโกรธเคืองวา “เจาหนุม เจายังเปนหนุมแตกลับมีความสามารถ
ถึงเพียงนี้ แข็งแกรงแตกลับใชอํานาจขมเหงผูอื่น กระทําการชั่วชาเลวทราม จุดจบของ
เจาไมสวยงามแนนอน”
ขณะเดียวกัน เขางางธนูแลววางลูกศรพาดกับคันธนู จากนั้นเล็งยิงตรงไปขางหนา
ในเมื่อพูดถึงขนาดนี้แลว ยังสามารถทําอะไรไดอีกหรือ? ตองทําสงครามเทานั้น!
“ตูม!”
หัวศรโลหะปะทะกันอีกครั้ง สะเทือนทั่วผืนปาจนเกิดเสียงดังวิ้งวิง้
“ฆามัน!”
ผูคนจํานวนมากของหมูบานหินผา บางก็งางคันธนูเตรียมยิง บางก็ถือดาบ บางก็
ควงกระบองเขี้ยวหมาปา ราวกับสัตวประหลาดที่ยับยั้งไมได พุงไปขางหนาดวยความบา
คลั่ง ใบไมปลิววอนลอยกระจัดกระจาย
คนของหมูบานหมาปาที่สูงใหญกํายํา แข็งแกรงอยางหาที่เปรียบไมไดตางก็พุงเขา
มา สงครามตะลุมบอนกําลังจะเกิดขึ้น
ในชวงเวลานี้เอง เงาเล็กๆ ประหนึ่งนกกระจอกวิเศษ พุงไปขางหนาอยางรวดเร็ว
พูดเสียงดังอยางโกรธเคืองวา “พวกทานแยงชิงอาหารที่พวกเราใชเพื่อดํารงชีวิต และยัง
จะสังหารพวกทานลุงอีกดวย ทานลุงอาฝูเปนคนดี ใจบุญยิ่งนัก แตก็เกือบจะถูกคันศรยิง
ตาย พวกทานชางเลวทรามเสียจริง!”
ใบหนาเล็กของสือฮาวที่แดงก่ําเพราะความโมโห มือเล็กทั้งคูกําแนน แววตาเต็มไป
ดวยไฟโทสะ เขากําเนิดและเติบใหญในหมูบานหินผา ไดรับความอบอุนและความสบาย
ใจ เขาไมเคยประสบพบเจอกับคนที่ปาเถื่อนเชนนี้มากอน
คนของหมูบานหมาปาตะลึงงัน จากนั้นก็หัวเราะเสียงดัง ไมคิดวานอกจากเด็กโต
บางสวนแลว จะมีเด็กเล็กเชนนี้ตามมาดวย รังแตจะสรางความวุนวายแกชนเผาของเขา
มิใชหรือ?
“ซิ่ว!”
คันศรโลหะลอยแหวกมาจากกลางอากาศ เจาหนุมอายุ 14-15 ปคนนั้นมีสีหนา
เยือกเย็น งางธนูใหญที่นากลัวนั่นแลวเล็งยิงมายังเจาตัวเล็กโดยตรง
ผูคนของหมูบานหินผานัยนตาลุกโชน โกรธแคนอยางถึงที่สุด นั่นเปนเพียงเด็กนอย
เจาตัวเล็กที่เลี้ยงงายและนารัก แตฝายตรงขามกลับลงมืออยางอํามหิตไมเวนแมแตเด็ก
ทุกคนโมโหอยางถึงที่สุด
สือหลินหูงางคันธนูพาดคันศร ปรารถนาที่จะชวยจัดการคันศรโลหะของเจาหนุมนั่น
ใหสิ้นซาก ทวาสีหนาเปลี่ยนไปชั่วขณะ
เนื่องจากครั้งนี้เจาหนุมนั่นงาวศร 4 ดอกภายในครั้งเดียว ลําแสงเย็นดุจสายฟาฟาด
4 สายลอยพุงเขามา แตสือหลินหูกลับงาวไดเพียง 3 ดอก ฝายตรงขามชางนากลัว
“แตง แตง” ...
ศร 3 ดอกปะทะเขาดวยกัน แลวรวงหลนลงบนพื้นดิน และยังมีคันศรโลหะหนายาว
ราว 1 เมตรพุงไปยังลําคอของเจาตัวเล็ก ความเยือกเย็นนั่นสรางความหวาดหวั่นใหแก
ผูคนยิ่งนัก!
เจาตัวเล็กยกมือขึ้นมากําคันศรโลหะไว ผูคนในหมูบานตางตกตะลึงและตะโกนเสียง
ดังวา “รีบหาที่กําบัง!”
พวกเขารูดีวาเจาตัวเล็กมีพรสวรรคพิเศษที่ไมมีผูใดเหมือน ทวาอายุยังไมถึง 4 ขวบ
แมวาจะสามารถยกหมอสําริดหนักราว 1000 ชั่งไดสําเร็จ แตฝายตรงขามอายุมากกวา
พละกําลังแข็งแกรงยิ่งนัก สามารถยกหมอสําริด 5-6 ใบไดและทัดเทียมไดกับสือหลินหู
“แมแตเด็กเจาก็มิละเวน?!” คนในหมูบานดวงตาเบิกกวางดวยความโกรธ
“แตง”
อยางไรก็ตาม สิ่งที่ทําใหผูคนตะลึงคือ มือซายของเจาตัวเล็กฟาดคันศรนั่นสะเทือน
และลอยเฉียงออกไป กลุมคนอาปากคางดวยความตะลึง ไมสามารถเอื้อนเอยคําใดได
มีเพียงคนบางสวนที่เห็นอักขระสองแสงกลางฝามือของเขา จากนั้นมอดดับอยาง
รวดเร็ว
“ซวบ”
เจาตัวเล็กกระโดดขึ้น จากนั้นพุงตรงไปหาเจาหนุมหมูบานหมาปาคนนั้น!
บทที่ 15 เจาตัวเล็กสําแดงเดช
ชายหนุมเผยสีหนาตกใจ เขาเปนเพียงเด็กนอยเทานั้น แตกลับปดคันศรโลหะของ
เขาดวยมือเดียว นาเหลือเชื่อยิ่งนัก!
ตองรูวา ยามเขากลางแขนทั้งสองขางออก เพียงพอที่ยกหมอสําริดไดถึง 5-6 ใบ คัน
ศรหนาใหญสามารถทะลวงผานทองคํา สะเทือนหินแหลกละเอียด คนธรรมดาทั่วไปไม
สามารถตานทานได มันเพียงพอที่ปลิดชีพชางเขามังกรใหสิ้นลม
คนของหมูบานหมาปาตะลึงพรึงเพริด ไมมีใครเขาใจความนากลัวของเปยเฟงไดดี
เทาพวกเขา มีพรสวรรคที่ไมธรรมดา พละกําลังมหาศาลที่พบเห็นไดยาก ไยจึงถูกเด็กคน
หนึ่งทะลายคันศรโลหะ?!
“เจารนหาที่ตายจริงๆ!” เจาหนุมเปยเฟงสบถเสียงเบา นัยนตาสาดลําแสง ราวกับ
สายฟาฟาด 2 เสน เขาถอนหายใจเสียงดัง จากนั้นงางคันธนูแลวยิงคันศรอยางตอเนื่อง
“ชริ้ง ชริ้ง” ...
คันศรโลหะพาดทะลวงผืนฟากวางใหญเสียงดังวิ้งวิ้ง ประหนึ่งเสียงอสูรจากขุมนรก
ชั้นที่ลึกที่สุด คันศรหนายาวเปลงแสงโลหะเย็นเยือกสะทานไปถึงทรวงใน ลอยมาดวย
ความไว สรางความตกตะลึงอยางยิ่ง
เปยเฟงงางคันธนู และยิงคันศรโลหะ 8 คันออกไปอยางตอเนื่อง เสียงหวีดหวิวแวว
มาตามลม ทุกคันศรที่นากลัวมากนั้น เล็งไปที่เจาตัวเล็กอยางมุงราย
สือฮาวเหมือนกับลิงตื่นตัว คลานต่ําดวยแขนขา 4 ขาง เคลื่อนไหวอยางเปน
ธรรมชาติ หลบหลีกคันศร 5 ดอกดวยความรวดเร็ว จากนั้นใชสองแขนฟาดไปยังคันศร
อีก 3 คันแตกกระเด็นไปปกลึกเขาไปในหินจนเกิดเสียงดังกองกังวาน
ลักษณะเชนนี้ทําใหคนที่อยูในบริเวณนั้นตางก็ตกตะลึง!
แมกระทั่งคนในหมูบานก็งงงัน สิ่งที่สือฮาวแสดงใหเห็นนั้นอยูเหนือความคาดหมาย
ของพวกเขา ยังเด็กยังเล็กแตกลับทําไดถึงเพียงนี้ ทําใหพวกเขารูสึกเหมือนมันไมใชเรื่อง
จริง
เปยเฟงสบถออกมาเบาๆ เขางางคันธนูอยางบาคลั่ง คันศรนั่นไวดุจหาฝน สาดเทลง
มายังพื้นดิน คันศรโลหะทะลุทะลวงผืนปาคันแลวคันเลา
แมวาสือฮาวยังเด็ก แตกลับมีความวองไวเปนอยางมาก เขาหลบหลีกหาคันศร
ประหนึ่งพยัคฆกระโจน ดุจดั่งมังกรทะยาน ในขณะเดียวกันก็ใชสองมือปดปองไปดวย
ปะทะเขากับคันศรเสียงดังตึงตัง สะเทือนคันศรโลหะทั้งหลายจนปลิววอน
ความปราดเปรียวของเขาชางไมเหมือนกับเด็กเล็กเลยแมแตนอย เพียงชั่วครูก ็
กระโจนไปไกลเกือบ 10 เมตร แคพริบตาเดียวก็เขาประชิดบริเวณนั้น เคลื่อนไหวขึ้นลง
ราวกับลูกครุฑ ปลอยพลังที่ไมธรรมดามากขึ้นเรื่อยๆ
“ตูม!”
คันศรอลหมานประหนึ่งพายุฝน หนาแนนมากขึ้นเรื่อยๆ เจาตัวเล็กตะเบ็งเสียงดัง
ยกกอนหินหนักเกือบ 1000 ตันขึ้นกลางทาง เกิดเสียงปงพุงพรวดสูกลางอากาศพรอม
กับหินที่กระแทกยังเปยเฟงผูมีสีหนาเรียบเฉย
“ไฉนจึงมีพละกําลังมหาศาลถึงเพียงนี้ นี่เปนเพียงเด็กที่อายุยังไมถึง 4 ขวบเสียดวย
ซ้ํา”
ผูคนตางกลัวเกรง มันเปนสิ่งที่นาตกตะลึงอยางแทจริง ยามที่สือฮาวใชพลัง มีเพียง
นอยคนนักที่จะไดเห็นอักขระที่ปรากฏเพียงพริบตาเดียว เร็วเกินไป
กอนหินหนัก 1000 ชั่งลอยขึ้นปกคลุมผืนฟา และรวงลงมากระแทกผืนดิน
นัยนตาของเปยเฟงแผไอเย็น และหยุดการยิงธนูลง ควงคันธนูใหญที่สูงเกือบครึ่งคน
ออกแรงชักกอนหินใหญกอนนั้นขึ้น เกิดเสียงดังครืน กอนหินหนักอึ้งนั่นแหลกละเอียด
โดยพลัน แตกกระจายไปทั่วทุกสารทิศ!
แตสือฮาวก็รีบฉกฉวยโอกาสนี้ พุงตัวไปประชิด พูดอยางโกรธเคืองวา “ไยทานจึงปา
เถื่อนไดถึงเพียงนี้ จะยิงธนูสังหารทานลุงอาฝูของขา และยังจะแยงชิงเหยื่อทีพ่ วกเราใช
ประทังชีวติ นั่นไปอีก”
เปยเฟงครางเสียงต่ํา และวางธนูใหญลงกับพื้น หยิบหอกยาวสีแดงคล้ําที่หลอมจาก
เหล็กสีเลือดมา เขาใชสองมือจับหอกขึ้นมาแลวออกแรงแทงไปยังหนาอกของเจาตัวเล็ก
อยางสุดกําลัง
แตในเวลานี้ สือฮาวกําลังเผชิญหนากับมันกลางอากาศ ยากตอการหลบหลีก หัวใจ
ของผูคนในหมูบานหินผาที่กําลังมองดูอยูนั้นราวกับจะหลุดออกมา ตางโกรธแคนเป
ยเฟงอยางไมมีที่สิ้นสุด เพราะเขากระทําการไดเลวทรามต่ําชายิ่งนัก
“ชริ้ง”
เสียงโลหะกระทบกันดังแววมา สายตาสือฮาวเฉียบแหลม ตวัดแขนขวาขึ้นแลววา
ดวงแหวนสวยงามวงหนึ่งกลางอากาศ มันเปลงแสงสวางวาบ เกิดเสียงดังชริ้ง พรอมกับ
ฟาดฟนไปยังหอกยาวแตกออกเปนสองทอน แตมือขาวออนเยาวนอยๆ นั่นกลับไมมี
ความเสียหายแมแตนิด
ผลลัพธนี้ทําใหคนนิ่งอึ้ง สือฮาวที่อายุนอยบุกโจมตีเปยเฟงที่แข็งแกรงดวยความกลา
หาญ คาดไมถึงวาเขาจะไมแพใหแกเปยเฟง เขาพุงเขาไปประชิดพวกมันจากที่หางไกล
พฤติกรรมของเขาชางทรงพลังนัก
“วิ้ว”
เปยเฟงเหวี่ยงทอนหอกที่หักออกมา เล็งไปยังตาขางขวาของเจาตัวเล็กดวยความ
แนวแนและดุดัน ในระยะทีป่ ระชิดเชนนี้อันตรายเปนที่สุด
สือฮาวเอียงหัวหลบหลีกขณะที่ตัวยังอยูกลางอากาศ ตวัดขาขวาพรอมกับสายลมที่
ทรงพลังเตะไปที่ใบหนาของเปยเฟงโดยตรง แมจะตัวเล็ก แตทวงทาสวยงามมาก
เคลื่อนที่อยางเปนธรรมชาติและไหลลื่น ราวกับนกนางแอนศักดิ์สิทธิ์บินขามผานทอง
นภา
“ปง”
เปยเฟงยกแขนซายขึ้นบัง กอใหเกิดเสียงดังกึกกอง สั่นสะเทือนกิ่งไมและตนไมใน
บริเวณนั้นปลิววอนรวงโรยกระจัดกระจาย ราวกับลมฤดูใบไมรวงพัดผาน
“ชางเปนพละกําลังที่แข็งแกรงเสียจริง!”
คนของหมูบานหมาปาเผยสีหนาเหลือเชื่อ พวกเขาหยั่งรูวาเปยเฟงมีพลังเหนือ
มนุษยที่นาสะพรึงกลัว แมจะเปนเพียงชายหนุม แตในบริเวณพันกวาลี้ยากที่จะหาผูที่
ทัดเทียมได ทวาตอนนี้กลับไมสามารถครอบครองตําแหนงสูงนั้นไดแลว
สือฮาวกลับลงสูพื้นดิน เขายังเยาวนัก สวนสูงหางกับเปยเฟงอยูมากโข แตกลับไม
เกรงกลัว ใบหนาเล็กฉาบความโกรธแคน ดวงตากลมโตถลึงมองเขม็ง ยืนประชันหนากับ
เขา
กองพลของทั้งสองฝายหยุดชะงัก เพราะถูกการเผชิญหนากันระหวางชายหนุม
แข็งแกรงกับเด็กนอยที่สรางความอัศจรรยใจใหแกผูคนนั้นดึงดูด ทุกคนตางรอดูผลแพ
ชนะของทั้งคู
เปยเฟงมีสีหนาหมนหมอง นัยนตาฉายความเยือกเย็น เขาอายุตั้ง 14 ปแลว แตฝาย
ตรงขามกลับเปนแคเด็กที่อายุไมถึง 4 ป สําหรับเขาแลว การปะทะที่ไมรูผลแพชนะเมื่อ
ครูถือวาเปนความอัปยศอดสู
“โครม!”
เปยเฟงที่รางกายผอมเพรียว ออกแรงกวาดขาประหนึ่งเสาเหล็กขามมาอยางดุเดือด
พละกําลังอันนากลัวกอเกิดเสียงดังโครม ราวกับสัตวประหลาดใหญโตมโหฬารเขาชน
สือฮาวถอยหลัง เขาเติบใหญทามกลางปาเขา ถึงแมจะไมเคยประสบกับการตอสูที่
แทจริงมากอน แตเขากลับรูเกี่ยวกับมันอยูมากทีเดียว เขากระโดดถอยหลังหลบหอกคม
กริบไปไกลราว 10 เมตร
อยางไรก็ตาม เปยเฟงเคยสังหารสัตวประหลาด ฆาปศาจปกษา ยิ่งไปกวานั้น เขา
เคยปลิดชีพผูคนที่แข็งแกรง ประสบการณการตอสูโชกโชน เขายอมรูจักการใชประโยชน
ของฝายรุกเพื่อครองความเปนใหญ
รางกายของเขากระโดดขึ้นสูกลางอากาศ เพียงครูก็ขึ้นสูงเกือบ 10 เมตร เขาหมุน
ขาขวาราวกับแสเหล็กฟาดลงมาดวยพละกําลังที่ยากจะตานทาน ลมแรงปะทะเขา
ใบหนาจนเจ็บปวด รุกฆาตอยางตอเนื่อง
ดานหลังเปนตนไมเกาแก ไรหนทางใหลาถอยแลว ยากตอการหลบซอน สือฮาวหลัง
ชนตนไมใหญ สองแขนไขวกันพยายามอยางสุดกําลังเพื่อจะขึ้นไปขางบน อักขระ
บางสวนปรากฏเพียงชั่วครู
“โครม!”
ราวกับสัตวประหลาดขนาดใหญสองตัวปะทะกัน เม็ดทรายปลิววอนสะเก็ดหินแตก
กระจาย ลอยฟุงขึ้นสูฟากฟา ใบไมแหงเหี่ยวรวงโรย ทั้งสองคนตางสั่นโยก ครั้นขาของ
เปยเฟงกดลง เตะไปยังตนไมที่มีลําตนสูงราว 1 เมตรอยูทางดานหลังของสือฮาวจนหัก
เปนทอน
ตนไมเกาแกสูงเสียดฟาหักดังโครม โคนลงกลางขุนเขา จนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
จนผูคนตกตะลึง
ครั้งนี้คนของหมูบานหมาปามองเห็นชัดเจนวา ดูเหมือนวามีอักขระเปลงแสงอยูบน
ฝามือของสือฮาว พละกําลังเชนนี้เองที่ตานทานพลังการโจมตีราว 1000 ชั่งของเปยเฟง
ผูที่มีพรสวรรคเหนือมนุษยได
“วัตถุล้ําคา ในฝามือของเจาหนูนั่นมีวัตถุล้ําคาที่หายากนัก!” พวกเขารองดังลั่น
อยางไรก็ตาม พวกเขาไมเชื่อวาสือฮาวจะหยั่งรูพ ลังอํานาจลึกลับของอักขระกระดูก
ที่ยิ่งใหญ พวกเขาคิดวามันเกิดจากการสําแดงเดชของลูกประคําที่ขัดเกลาจากเขี้ยวสัตว
ที่อยูบนขอมือของสือฮาว เพราะมันมีแสงแวววาวหลั่งไหลอยูทั่ว
คนของหมูบานหมาปาเกิดความอิจฉาตารอน ถึงแมวาจะไมใชวัตถุล้ําคาแหงชนเผา
แตก็เปนอาวุธล้ําคาที่ไมเลวเลยทีเดียว มันสามารถเพิ่มพูนพละกําลังใหกับเด็กนอย
แข็งแกรงไดถึงเพียงนี้ ตองไมธรรมดาอยางแนนอน
หลังจากเตะตนไมใหญหักโคนลง พละกําลังของเปยเฟงยังคงปราดเปรียวและดุดัน
เขาจูโจมอยางรุนแรงมากขึ้น ขาราวกับเสาเหล็กคูนั้นกวาดไปมา เปนเหตุใหตนไมใหญ
แหลกละเอียดอยางไมหยุดหยอน กานไมผุพังและใบไมแหงเหี่ยวปลิวกระจายรอบ
ทิศทาง
สือฮาวไมแสดงความออนแอของตนออกมา เขาเริ่มโตตอบกลับ แมวาจะตัวเล็กมาก
แตทุกครั้งที่กระโดดขึ้นก็สูงเกือบเมตร เขาพุงจูโจมเขามาราวกับลูกนกครุฑกระพือปก!
“โครม!”
หมัดพายุของเปยเฟงประหนึ่งสายฟาคําราม หนึ่งหมัดปลอยออกไป แตสือฮาวสา
มารถหลบหลีกได มันกระแทกลงบนกอนหินหนักเกือบ 1000 ชั่ง ทะลวงกอนหินแตก
ระเบิด กอนหินหนักรอยชั่งพันชั่งแตกเปนเสี่ยงๆ ปลิววอนไปทั่วบริเวณ
ภาพนี้สรางความประหลาดใจเปนอยางมาก ชายหนุมอายุเพียง 14-15 ปเทานั้น
กลับมีพลังมหาศาลที่นากลัวถึงเพียงนี้ ผูใหญที่มองดูอยูตางก็ตะลึงงัน
เจาตัวเล็กยังเยาว หากเทียบในชวงอายุนี้แลวถือวามีพละกําลังมหาศาล แต
พละกําลังที่แทจริงของเขาก็ยังไมสามารถเทียบกับเปยเฟงได หากแตวามีพลังอํานาจ
ลึกลับของอักขระกระดูกคอยชวยเหลือ เขาก็ไมมีอะไรจะตองกลัวเชนกัน
กระตายเพิ่งจะลุกขึ้น นกเหยี่ยวก็บินโฉบลงมา[1]ทั้งสองวองไวนัก ทุกการปะทะ
ตางก็นากลัว หมัดพายุดุจฟาคําราม เสียงดังครืนครืน สะเทือนตนไมโคนลม กอนหิน
แตกละเอียด
หลังจากประมือกันราวสิบครั้ง สีหนาของเปยเฟงหมนหมอง เขาเปนอัจฉริยะที่มี
พรสวรรค ไมคิดเลยวาจะไมสามารถชวงชิงความเปนใหญจากเด็กอายุไมถึง 4 ขวบ เขา
จะสามารถทนไดอยางนั้นหรือ?
“ปง”
ครั้งนี้ เขาโจมตีดวยพละกําลังทั้งหมดที่มี พลันก็ขดตัวงองุมและกมหนาลง ดานหลัง
ของเขามีหาคันศรจากหนาไมพุงออกมา สองแสงเยือกเย็นสวางวาบ หวังโจมตีดวงตาทั้ง
สองขางและทั่วใบหนาของเจาตัวเล็ก
คนในหมูบานหินผาตางรองออกมาดวยความตกใจ มันกะทันหันเกินไป ทุกคนตาง
โกรธจัด เปยเฟงอํามหิตเหลือเกิน นี่เพียงรับมือกับเด็กเล็กเทานั้น แตเขากลับลงมือทุก
วิถีทาง ชางต่ําชาเลวทรามยิ่งนัก
เจาตัวเล็กตะลึงงัน แตเขากลับไมเกรงกลัวเลยแมแตนอย สองมือปดปายไปมา
ลวดลายพิศวงปรากฏบนปลายนิ้ว รวมตัวกันเปนกงจักรจันทราเสี้ยว เขากํากงจักร
จันทราเสี้ยวใวในฝามือ แลวปลอยออกไปอยางดุดัน ลําแสงเปนจุดๆ แผกระจาย และ
โจมตีจนคันศรเหลานั้นแหลกละเอียด
ผูคนในหมูบานหินผาถอนหายใจอยางโลงอก เหตุการณเมื่อครูทําใหหวาดหวั่นจน
เหงื่อเย็นผุดเต็มรางกาย
“เจาเด็กนี่โหดเหี้ยมเกินไปแลว เมื่อเติบใหญมาตองกลายเปนบอเกิดแหงความ
หายนะแนๆ!” สือเฟยเจียวพูดอยางโกรธเคือง
เปยเฟงสาปแชงในใจ เขาไมสามารถจัดการกับเจาเด็กนี้ได เขากระโดดขึ้นสูง 6-7
เมตรอยางดุเดือด เขาใชประโยชนจากตําแหนงที่อยูสูงกวากระทืบปยังเจาตัวเล็ก
พละกําลังมหาศาลยากที่จะตานทาน
“วิ้ว!”
เจาตัวเล็กที่มีดวงตากลมโตใสแจว ตัดสินใจพุงออกไป เขากางแขนทั้งสองขางออก
ราวกับอินทรีบินทะยานสูฟากฟา เคลื่อนไหวอยางนาเกรงขามและวองไว ทวงทาดุจดั่ง
อินทรีเกล็ดเขียวที่บินทะลวงชั้นเมฆ
“โครม!”
กงจักรจันทราเสี้ยวกลางฝามือเขาสวางวาบขึ้นมาอีกครั้ง แปรเปลี่ยนเปนลําแสง
เดนชัด พวยพุงออกไป มุงเผชิญหนากับเปยเฟง เกิดการปะทะกันอยางรุนแรง ลมพายุ
เกรี้ยวกราดปะทุขึ้น
“เปาะ”
ครั้งนี้ เปยเฟงเลือดทะลักออกมาจากปาก รางกายลอยขนานกับพื้น ชนกิ่งไมหัก
เปนทิวแถว จากนั้นรวงหลนบนผืนดิน แตเจาตัวเล็กกลับไลตามมาโดยทันที!
..............................
[1] กระตายเพิ่งจะลุกขึ้น นกเหยี่ยวก็บินโฉบลงมา เปนสํานวนจีน แปลวา
เหตุการณเกิดขึ้นอยางรวดเร็ว
บทที่ 16 ยอมรับความพายแพ
เมื่อเปยเฟงกําลังจะยันตัวลุกขึ้น สือฮาวบินโฉบมาจากฟากฟาโดยความเร็วไว
ประหนึ่งลูกครุฑ จากนั้นทิ้งขาลงเหยียบบนหนาอกของเปยเฟง ดวงตาเฉียบแหลมมอง
ลงมาที่เขา
เสียง “โครม” ดังขึ้น อาณาเขตภูเขาสั่นไหวเล็กนอย ชายหนุมผูแข็งแกรงเปยเฟง
ทรุดลงไปนอนแผหลาอีกครั้ง ไมสามารถลุกขึ้นมาได ไมมีใครสงสัยในน้ําหนักเทาของเจา
ตัวเล็กเปนแนแท
คนของหมูบานหมาปาตะลึงงัน เปยเฟง ชายหนุมผูมีพรสวรรคที่ดีเยี่ยมคนนี้ เปนที่
นาเกรงขามของผูคนในหมูบาน ไมคิดวาจะแพราบคาบเชนนี้ มิหนําซ้ํา เขายังพายแพแก
เด็กที่เยาววัยนัก
คนของหมูบานหมาปาตางก็งางคันธนูขึ้นคันศร หวังจะสังหารสือฮาว เพื่อชวยเหลือ
เปยเฟง
สือเฟยเจียวและพวกตางโกรธแคน งางคันธนูใหญออกเพื่อเล็งยิงฝายตรงขาม
เชนกัน เตรียมกอสงคราม
เสียง “วิ้ว” ดังขึ้นพรอมกับสือฮาวที่กําคอเสื้อของเปยเฟงแนน แลวหิ้วเขาขึ้นมาบัง
ตัวไว หันหนาเขาหาคนของหมูบานหมาปาเพื่อปกปองตนเอง
เปยเฟงบันดาลโทสะ เขาที่ปกติหมนหมองและใจเย็นก็ไมสามารถควบคุมตัวเองได
อีกตอไป วันนี้ชางนาอัปยศอดสูยิ่งนัก โดนเด็กที่ไมรูอิโหนอิเหนจับตัวไว มันทรมานยิ่ง
กวาฆาเขาทิ้งเสียอีก พยายามดิ้นรนอยางสุดกําลัง กําหมัดแลวชกไปยังเจาตัวเล็ก
แมวาประสบการณการตอสูของสือฮาวจะมีไมเพียงพอ แตมือไวและมีสายตาเฉียบ
แหลม มืออีกขางหนึ่งมีลําแสงชัดเจนทวมทน อักขระหมุนวน สิ้นเสียงปง ฝามือก็ฟาดลง
ไปกลางหนาอกอยางผูที่เหนือกวา รางกายของเคาสั่นสะทาน เลือดสดไหลทะลักออก
จากปาก กําปนสูญสิ้นกําลัง
เจาตัวเล็กกลับไมหยุดแคนี้ เขาหิ้วรางของเปยเฟงที่สูงกวาตนอยูมากโข กระโดดขึ้น
อยางรวดเร็ว พุงไปหาสือหลินหูและคนอื่นๆ
เปยเฟงที่รางกายผอมเพรียวถูกหิ้วอยูเชนนี้ รางกายเกือบครึ่งลากไปกับพื้นดิน
กระแทกกับพุมไมเตี้ยและกอนหิน ผมเผารุงรังยุงเหยิง เมื่อเทียบกับชายหนุมรูปงามและ
เยือกเย็นคนนั้น ชางแตกตางราวกับฟาและเหว ตอนนี้เขาสะบักสะบอมและสิ้นทา
ยังมีระยะหางจากพวกเขา 8-9 เมตร เจาตัวเล็กโยนเปยเฟงออกไปอยางดุดัน ราง
ของเขารวงหลนไปใกลๆกับที่ซึ่งสือหลินหูและคนอื่นๆ ยืนอยู
“เจาหนุม เจาชั่วชามากนักมิใชหรือ แสดงกริยากําเริบเสิบสานอีกทีสิ!” สือเฟยเจียว
ไมสนอะไรใดๆ ทั้งสิ้น ครั้นพูดจบก็ยกขาออกกวาง จากนั้นเหยียบลงไปยังตัวเปยเฟง
เกิดเสียงดังครืนพรอมกระดูกสันอกของเปยเฟงที่หักสี่หาชิ้นโดยพลัน
พละกําลังของพวกเขาเทาเทียมกัน แตทวาในตอนนี้เปยเฟงกลายเปนเชลย ไมอาจ
ตอตานได กระดูกสันอกปะทะกับฝาเทา แนนอนวาตานทานไมไหว เจ็บปวดจนเหงื่อ
ไคลทวมตัว สงเสียงรองครวญคราง
“เจาตัวเล็ก เจาชางเปนคนดีเสียจริง เมื่อครูตอนที่ปะทะกัน เจามีโอกาสทําใหมัน
เจ็บอยางสาหัส แตเจากลับไมทํา มิหนําซ้ําหลังจากที่จับกุมมันไดแลว เจาลงมือเบา
เกินไป การกระทําเชนนี้อันตรายตอเจามาก” สือหลินหูกลาวสั่งสอนอยูขางๆ
“อื้อ!” เจาตัวเล็กบิดตัวไปมา ราวกับเปนคนละคนกับเจาหนูที่การกระทําเหมือน
ลูกเสือเมื่อครูนี้ นี่เปนครั้งแรกที่เขาพยายามอยางสุดกําลังความสามารถ เพราะเห็น
บรรดาทานลุงในหมูบานโดนทํารายปางตาย แตอีกฝายกลับพาลและไรเหตุผล เขาจึง
บันดาลโทสะเขาตอสูทันที
“เฮย ขอพี่นองชาวหินผาโปรดอภัย มีเรื่องอะไรก็คุยกันดวยเหตุผล ทุกเรื่องหารือ
กันได” คนของหมูบ านเริ่มหวั่นวิตก ชายหนุมที่มีศักยภาพทามกลางดินแดนรกรางแหงนี้
หากถูกพวกเขาจัดการจนเสียชีวิต สําหรับพวกเขาแลวนี่ถือวาเปนการสูญเสียที่ยิ่งใหญ
“หารือกันไดอยางนั้นหรือ? ยามที่พวกเจาแยงชิงเหยื่อทีพ่ วกขาลาหามาไดดวย
ความลําบาก และซุมโจมตีคนในหมูบานขา ทั้งยังยิงธนูใสพวกขาอยางเลือดเย็นไรหัวใจ
ไยจึงไมคดิ บาง?” สือหลินหูกลาวดวยความโกรธ
“ปง!”
อีกดานหนึ่ง สือเฟยเจียวกระทืบไปอีกครั้งหนึ่ง กระดูกแขนชิ้นหนึ่งของเปยเฟงหัก
ดังครืน ใบหนาของเขาบิดเบี้ยวดวยความเจ็บปวด แตกลับไมมีคําใดเล็ดลอดออกมาจาก
ปาก
“อยา หยุดเถอะ เปนความผิดของพวกขาทั้งหมด พวกขาขอโทษแลวยังไมเพียงพอ
อีกหรือ?” ชายวัยกลางคนของหมูบานหมาปาตะโกนถามดวยความความวิตก
แมแตผูนําของกลุมนักลาก็ตะโกนเสียงดัง ปรารถนาที่จะเจรจาตอรอง เขาสูงเกือบ
2.3-2.4 เมตร นาเกรงขาม แตตอนนี้กลับไมเด็ดเดี่ยวและยกตนขมทานเชนเมื่อครูแลว
“คุยหาแมเจาหรือ ขาไมสนอะไรทั้งสิน้ มาสูกันสักตั้งแลวคอยวากันทีหลัง!” พอของ
เออรเหมิงที่โกรธหัวฟดหัวเหวี่ยงกลาว ในระยะนี้ คนในหมูบานโกรธแคนราวกับไฟสุม
ทรวงใน จะใหสิ้นเรื่องสิ้นราวในประโยคเดียวไดอยางไร
“ปง”
มือใหญประหนึ่งใบปาลมฟาดลงมายังใบหนาของเปยเฟง สะเทือนจนจนเนื้อตัว
แตกยับ ทั้งลําตัวลอยขนานออกไปไกลเกือบเมตร
“เจาหนุม เจายังกลาถลึงตาใสขาอยางนั้นหรือ พี่นองของขาหลายคนเกือบจะโดน
ธนูของเจาปลิดชีพ คันศรอํามหิตดอกแลวดอกเลาทะลวงอวัยวะภายใน ความโอหังของ
เจาไปไหนเสียแลว แสดงออกมาอีกสิ!”
“ปง”
ยามเปยเฟงกลิ้งมายังใตฝาเทาของสือฟลินหู เขาก็ยกเทากระทืบลงไปอยางจัง และ
ถีบออกไปอีกทาง พละกําลังมหาศาลเกือบพันชั่งเชนนี้ เพียงพอทีจ่ ะเหยียบสัตว
ประหลาดใหตายได แมเปยเฟงจะแข็งแกรง แตก็มีกระดูกบางสวนหักเพิ่มขึ้นอีก มุมปาก
กระตุกเกร็ง เลือดและเหงื่อไคลหลั่งรินพรอมกัน
เมื่อครู เขายโสโอหัง เยือกเย็นและอํามหิต ตอนนี้กลับเปนเชลย ผมเผารุงรัง คราบ
เลือดเปรอะเปอนทั่วตัว ไมเอยวาจาใด ชางแตกตางกันจริงๆ
“ปง”
คนในหมูบานหินผาเกลียดชังทาทีเมื่อครูของเขาเปนอยางมาก ทาทีเยือกเย็นและ
โอหังเชนนี้ทําใหผูคนโกรธจนคันฟน[1] ตอนนี้ทุกคนตางกรูกันเขามา เธอกระทบที ฉัน
กระทืบที ตางคนตางลงมือ อาศัยอยูทามกลางดินแดนรกราง ทุกคนตางมีรางกายที่
แข็งแกรง หลังจากลงมือคนแลวคนเลา เปยเฟงเกือบจะถูกฉีกทึ้งเปนสวนๆ กระดูกหัก
ไมรูกี่ชิ้น นอนแองแมงอยูตรงนั้น
“หยุด!”
คนของหมูปาหมาปาตื่นตระหนก งางคันธนูใหญออก หวังจะสรางความกดดันเพื่อ
ชวยชีวิตเปยเฟง เพราะหากเปนเชนนี้ตอไป เปยเฟงไมพิการก็เสียชีวิตเปนแน อยาหวัง
วาปาฏิหารยจะเกิดขึ้นโดยทันทีเลย
“พวกเจาทั้งหมดจงหยุดเหยียบยาง ไปอยูอีกฝงหนึ่งไป เรื่องยังไมจบสิ้น รอพวกขา
อารมณดีกอนคอยมาคุยกัน!” สือเฟยเจียวกลาว
ผูคนทั้งถีบและตบ เพียงชั่วครูก็ทําใหเปยเฟงนอนเกลือกกลิ้งไปมาแทบจะไมเหลือ
เคาเดิม จมูกช้ําหนาบวม กระดูกแตกราวไปทั้งตัว ทาทางอนาถ และไมเหลือทาทีเยือก
เย็นแมแตนิด
ในตอนนี้เอง กลุมเด็กๆ พุงเขาไป โดยเฉพาะผีโหว เตะกระทืบเขาสุดแรงแลวพูดวา
“เจาเกือบจะยิงธนูสังหารพอของขา ใครใชใหเจาโอหัง เปนอยางไรละ เจาก็โดนเจาตัว
เล็กจับมาอยูดี!”
“เจาตัวเล็กของหมูบานขาอายุเพิ่งจะ 3 ขวบครึ่ง เจาอายุ 10 กวาปแลว เจากลับไม
สามารถเอาชนะเขาได ยังเหลืออะไรใหเจาไดอวดดีและทะนงตัวอีกละ?” เด็กๆ
ตะลุมบอนพลางพูดจาเสียดสี
ณ ตอนนี้ กลุมคนรุมลอมสือฮาว ชื่นชมเขาอยางไมขาดปาก แมแตผูคนในหมูบาน
หินผาก็ไมคาดคิดวาเขาจะเกงกาจไดถึงเพียงนี้ จับกุมชายหนุมนากลัวที่ทัดเทียมกับสือห
ลินหูไดทันที
“พี่นองชาวหินผา พวกทานหายโกรธเคืองแลวหรือยัง แคนี้นาจะเพียงพอแลวละ”
คนของหมูบานหมาปาวิตก หากเปนเชนนี้ตอไป พรสวรรคจะกลายเปนพิการ เมื่อถึง
เวลานั้นจะตางจากสุนัขตรงไหน?
“อยางนั้นมาลองหารือกันสักหนอย!” สือหลินหูหยอนกนนั่งลงบนรางกายของเปย
เฟง ทําใหเขากลายเปนมานั่งอยางสมบูรณแบบ ทาทางแบบนี้ทําใหหัวใจของคนใน
หมูบานหมาปากระตุกตามไปดวย ชายฉกรรจถึงแข็งแกรงเพียงนั้น สูงเกือบ 2.5 เมตร
นั่งลงไปอยางเต็มแรงชนิดที่วาแมแตวัวใหญก็ตองทรุดลงไปนอน
แตวาคนอยูใตชายคาบาน ไมกมหัวไมได[2] ทําไดเพียงโนมนาวดวยวาจาดี ไมกลา
แสดงอาการไมพอใจ
“พวกเราตางก็เปนมิตรสหายทามกลางดินแดกรกรางแหงนี้ แมวาจะเกิดการปะทะ
อยูบาง พอกมหนาไมเห็น ยามเงยหนาก็จะเห็น[3] ไดโปรดอภัยใหแกความบุมบาม
มุทะลุครั้งนี้ของพวกเราดวยเถิด” คนที่คอนขางจะมีวาทศิลปในกลุมนักลาของหมูบาน
หมาปาคนหนึ่งกลาว
“ถุย กมหนาไมเห็น เงยหนาเห็นอะไรกัน ชางพูดไดเสนาะหู กอนหนาพวกเจาทํา
อะไรลงไปละ ไฉนจึงตองสังหารคนของหมูบานเรา?!” สือเฟยเจียวกลาวตําหนิอยาง
รุนแรง
สือหลินหูกลับโบกมือแลวพูดวา “หยุดพูดพลามไดแลว พวกขาไมชอบฟง วามาสิ
พวกเจาจะชดเชยใหพวกขาอยางไร?”
“นี่... “คนของหมูบ านหมาปาตางก็ยนคิ้ว ผูนําของกลุมนักลากลาว” พวกขาขอโทษ
อยางเปนทางการ ณ ที่แหงนี้ และนําเหยื่อทั้งหมดใหพวกเจา วาอยางไร?”
พอของเออรเหมิงกรอกตาไปมาแลวพูดวา “เหยื่อพวกนี้เปนของพวกขาตั้งแตแรก
แลว ทําใหคนของขาบาดเจ็บมากมายเพียงนี้ เจาคิดวาใหของเหลานี้ชดเชยก็ถือวาหมด
เรื่องอยางนั้นหรือ?”
“อยางนี้เปนไง จากนี้เปนตนไป พวกขาจะลาถอยออกจากผืนปานี้ จะไมล้ําเขตอีก
แนนอน คืนเขตลาสัตวใหพวกเจาดีไหม?” คนของหมูบานหมาปากลาว
“พูดอะไรไรสาระ ของเหลานี้เปนของพวกขาตั้งแตตน พูดมาตั้งนานหาไดมีความ
จริงใจไม!” คนของหมูบานหินผาคนหนึ่งกลาวอยางอารมณเสีย
สือหลินหูโบกมือแลวกลาววา “ขาครานจะคุยกับพวกเจาแลว ขาปลอยเจาเด็กนี่ไป
ก็ได นอกจากเงื่อนไขที่กลาวไปเมื่อครูแลว ใหพวกเจาทิ้งอาวุธทั้งหมดของพวกเจาไวที่นี่
หากเปนเชนนั้นก็สามารถหามมันกลับไปได จากนี้เปนตนไป อยามาปรากฏในเขตแดน
ของพวกเราอีกเปนอันขาด”
“อะไรนะ ไมได!” คนของหมูบานหมาปารองลั่น สําหรับพวกเขาแลว อาวุธเปน
เหมือนอีกหนึ่งชีวิตของพวกเขา ดํารงชีวิตอยูทามกลางขุนเขา หากไรซึ่งอาวุธแลวจะมี
ชีวิตอยูตอไปไดอยางไร
ตองเขาใจวาแหลงแรมีนอย ขุดหาไดยาก มีอาวุธที่สะดวกเหมาะมือนั้นไมงายเลย
ตองใชเวลาหลอหลอมและขัดเกลาอยูนานโข
“อยางนั้นก็ไมมีอะไรตองพูดแลว เรียกคนมาหั่นสมองของเจาหนุมนี่ออกมาแลวคืน
ใหหมูบานหมาปาเสีย” สือหลินหูแผดเสียงตะโกน
“ไดเลย!” ชายหนุมคนหนึ่งตะโกนตอบเสียงดัง จากนั้นถือดาบขึ้นเตรียมจะลงมือ
ฟนหัวเปยเฟง
“อยานะ พวกขายอมตกลงแลว!” คนสําคัญของหมูบานหมาปาคนหนึ่งตะโกน
ขึ้นมาทันทีเพื่อขัดขวางการกระทําของเขา
สีหนาของคนในหมูบานหมาปาไมสูดี มีคนพูดวา “พวกขาตองสงมอบอาวุธที่
มากมายเพียงนี้ใหจริงๆ หรือ?”
“หากไมมีอาวุธ ยังสามารถหลอมขึ้นมาใหมได แมวาจะเสียเวลาแตสุดทายก็ยังมี
ความหวัง หากแตชีวิตคนสูญสิ้นแลว ก็ไมสามารถฟนคืนชีพไดอยางสิ้นเชิง เปยเฟงเปน
คนที่มีพรสวรรคมาก ในดินแดนรกรางนี้พบเห็นไดนอย ในภายภาคหนาเขาสามารถ
ปกปองคุมครองชนเผาของขาได”
คนของหมูบานหมาปายอมประนีประนอม จากนั้นธนูโลหะที่เก็บรวบรวมไดก็ถูกขน
มา ยังมีคันธนูมังกรใหญ และดาบที่คมกริบ ภายในใจของพวกเขาเจ็บปวดเปนอยางมาก
เดิมทีอาจจะมีสงครามนองเลือด แตเจาตัวเล็กกลับโผลพรวดมา ประจันหนากับเปย
เฟงอัจฉริยะที่นากลัวคนนี้ เขาเปลี่ยนแปลงสถานการณสงครามไดอยางไมคาดฝน
ขัดขวางการตอสูที่ตองหลั่งเลือด มิเชนนั้นก็ไมรูวาจะมีผูคนเสียตองชีวิตมากมายเทาไหร
ผูคนเดินทางกลับถึงหมูบานหินผาพรอมกับสิ่งของเปนกอบเปนกํา
ในวันเวลาตอมา หมูบานหินผาสงบสุขมาก ทวากลางหุบเขาลึกกลับไมเปนเชนนั้น
มีเสียงคํารามสะทานแผนดินสะเทือนขุนเขาสั่นไหว กอนหินเกลือกกลิ้งกระจัดกระจาย
“ทานผูเฒาขอรับ ซุนหนีที่นาสะพรึงกลัวที่อยูในหุบเขาลึกใกลจะสิ้นลมแลวขอรับ
ระยะนี้มนั เอาแตคํารามและกระเสือกกระสนดิ้นรน”
มีคนมารายงานบอกกลาวแกสือยวิ๋นเฟง
“นั่นเปนอสูรบรรพกาลโดยแทจริงเชียวละ ทามกลางเทือกเขานี้ถือวามันเปนใหญ
หากไดซากของมันมาแลวรีดเลือดบริสุทธิ์ออกมา จากนั้นคัดลอกอักขระล้ําคาบนกระดูก
ไว รอคอยอยางไรขอกังขาราวกับเปดขุมทรัพยล้ําคาที่สะเทือนผืนฟาเชียวละ!”
..............................
[1] โกรธจนฟนคัน เปรียบเปรยวา โกรธจนอยากจะฉีกทึ้งใหเปนชิ้นๆ
[2] คนอยูใตชายคาบาน ไมกมหัวไมได สํานวนจีน อยูใตบังคับบัญชาผูอื่น ตอง
เคารพและเชื่อฟง
[3] พอกมหนาไมเห็น ยามเงยหนาก็จะเห็น อุปมาวา คนสองคนที่พบปะกัน
บอยครัง้ ควรจะปรองดองกัน
บทที่ 17 เคล็ดวิชาล้ําคา
สิ่งมีชีวิตเฉกเชนซวนหนีตัวนี้ นากลัวและโหดเหี้ยมเปนที่สุด แมตอนตายแลวก็
ประมาณคามิได ทั้งรางกายของมันนับวาเปนขุมทรัพยเลยก็วาได ใครจะไมปรารถนา
ไดมาครอบครองละ?
“ชางเปนของล้ําคาที่ทําใหคนเกิดความอยากไดใครมี ตองการมุงไปคนหาโดยพลัน
จากนั้นครอบครองเลือดบริสุทธิ์และอักขระโบราณ” ชายหนุมบางสวนในหมูบานตางก็
คันไมคันมือ
“แมวาซวนหนีตัวนั้นจะแกลงเรื่อยๆ แตก็ไมใชสิ่งที่พวกเราจะสามารถตอกรดวยได
จะเคลื่อนไหวบุมบามมิได ตองรอคอยดวยความอดทนอดกลั้น” หัวหมูบานมีสีหนา
เครงเครียด กลาวอยางจริงจัง
“ฮาๆ ผลตอบแทนครั้งนี้ชางดียิ่งนัก จะวาไปเจาตัวเล็กทําคุณประโยชนครั้งใหญ
เลยละ หากไมมีเขาละก็ สงครามนองเลือดจะตองเกิดขึ้นเปนแน” คนในหมูบานพูด
เยินยอ
“อื้อ...” เจาตัวเล็กแสดงสีหนาขวยเขิน เกาหัวอยางงุนงง เขาตะโกนเรียกจื่อยวิ๋น
ตาเผิงและเสี่ยวชิง จากนั้นก็พากันวิ่งไปไกล
“โครม!”
มีปกษาตัวใหญโตบินโฉบลงมาจากกลุมเมฆา แผงเกล็ดเปลงแสงเยือกเย็นแพรว
พราว อินทรีเกล็ดเขียวปรากฏกายพรอมกับแรดไฟในอุงมือ จากนั้นโยนมันลงไปยังนอก
หมูบานเกิดเสียงดังโครม เวนระยะไมกี่วัน มันก็ก็จะสงเหยื่อขนาดใหญโตมโหฬารมาให
กระทั่งตอนนี้ ลูกนกกําเนิดมาไดเกือบสองเดือนแลว รางกายก็คอยๆ เติบโตถึงราวๆ
2.5 เมตร รางกายแข็งแกรงทรงพลังมากยิ่งขึ้น และยามที่กระพือปกก็จวนจะบินทะยาน
ขึ้นสูฟากฟาไดแลว
“เสียวจื่อ พวกเจารีบเติบใหญ จะไดพาขาเขาไปสํารวจในหุบเขาลึก” เจาตัวเล็ก
กอดคอพวกมันไวพลางกะพริบตาปริบๆ เผยสีหนาที่เปยมดวยความหวัง จากนั้น เขาก็
เริ่มตรวจสอบอักขระโบราณล้ําคาของลูกนกสามตัวอีกครั้ง ศึกษาเจาพลังอํานาจลึกลับที่
มีเฉพาะในเผาพันธุ
“วิ้ง!”
เกิดเสียงสะเทือนเล็กนอย กงจักรจันทราปรากฏขึ้นบนฝามือของเขา เปลงแสง
นุมนวลและบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ สาดแสงระยิบระยับ จากนั้น กงจักรจันทราก็ลอยขึ้น
จากนั้นเคลื่อนมาแขวนอยูกลางอากาศทางดานหลังของหัวเขา ทําใหเจาตัวเล็กดูลึกลับ
และไมธรรมดามากยิ่งขึ้น
ครั้งที่ปะทะกับเปยเฟง เขาเพียงแคผนึกกําลังของอักขระโบราณเขากับฝามือของ
เขา ไมไดใชกงจักรจันทราสมบูรณแบบวงนี้ตอกรกับศัตรู มิเชนนั้นอานุภาพของมันจะ
รายแรงยิง่ กวานี้
กงจักรจันทราหมุนควาง และโคจรรอบตัวเขา แสงสีขาวบริสุทธิ์โปรยปราย ทําให
เจาตัวเล็กดูศักดิ์สิทธิ์ชนิดที่ไมสามารถกลาววาจาใดได
“ฮิฮา ขาเขาใจเพิ่มมากขึ้นอีกหนอยแลว ในราชวังบนดวงจันทรนั่นมีปกษาใหญตัว
หนึ่งอาศัยอยู เจาอสูรปกษาบรรพกาลตัวนั้น มันเปนตนตระกูลของจื่อยวิน๋ และพวกตา
เผิงอยางนั้นหรือ?” สือฮาวบนพึมพํากับตัวเองอยางงุนงง
บนกงจักรจันทรามีตนไมตนหนึ่ง และราชวังที่มีลวดลายซับซอน ณ เวลานี้
การศึกษาตํารากระดูกศักดิ์สิทธิ์ของเจาตัวเล็กความกาวหนาขึ้นไปอีกขั้น เขามองเห็นได
ชัดเจนมากขึ้น
เขาปลอยกงจักรจันทราออกไป พระจันทรวิเศษสองแสงพรางพราวชัดเจนไปทั่วทั้ง
ดวง มีเสียงนกแผดรองลอยออกมาจากวังนั่น และตนไมตนนั้นโยกไหว โปรยลําแสงระ
ยิบระยิบเปนจุดๆ
นี่มันไมเหมือนไมพระจันทรที่กอตัวจากอักขระ เพราะมันเหมือนความจริงอยางมาก
ราวกับวาดวงจันทรบนทองฟารวงโรยลงมา มีจิตวิญญาณและสมจริง
“ชริ้ง”
เสียงโลหะสั่นสะเทือน ราวกับวาอาวุธโบราณล้ําคาที่ถูกปดตายไดรับการชําระลาง
เศษฝุนทิ้งจนหมดจดและไดเกิดใหมอีกครั้งหนึ่ง เกิดเสียงดังครืนครัน จรัสแสงศักดิ์สิทธิ์
กงจักรจันทราหมุนโคจรรอบกอนหินใหญที่ยาวราวๆ 5-6 เมตรหนึ่งรอบ พลันเสียง
แควกก็ดังขึ้นพรอมกับกอนหินที่ถูกหั่นเปนสองทอน รอยหั่นราบเรียบและเงาวาว แต
พลังของมันกลับไมลดนอยลง กลับพุงไปตัดกอนหินใหญอีกสองกอนจนแตกออกแลวจึง
คอยๆ เลือนรางจางหายไป
“อา ครั้งกอนทํากอนหินแตกเพียงแคกอนเดียว ตอนนี้หั่นกอนหินแตกทีเดียวสาม
กอนเลยอยางนั้นหรือ ชางยอดเยี่ยมจริง!” เจาตัวเล็กตกตะลึงจนอาปากคาง
กงจักรจันทราวงนี้กอตัวไดสมจริงกวาเมื่อกอนอยูมากโข ภายในมีอักขระเปลง
ประกาย เห็นวังกับตนไมเกาแกอยูเรือนลาง มีจิตวิญญาณและสมจริง อานุภาพเพิ่มขึ้น
อยางมาก
“เจาตัวเล็กชางเกงกาจเสียจริง คาดไมถึงวาจะสามารถปลอยกงจักรจันทราออกมา
ไดเชนนี้ ขาคิดวาเพียงพอทีจ่ ะไปตอกรกับเหลาอสูรบรรพกาลในขุนเขาไดอยางแนนอน”
เด็กบางสวนที่เห็นตางก็พากันอิจฉาอยางไมหยุดหยอน
“วูว เห็นหรือไมวาเมื่อกอนอสูรปกษาบรรพกาลนาสะพรึงกลัวเพียงใด หากวา
ถายทอดรองรอยเหลานั้นมาไดอยางสมบูรณ นี่จะเปนทักษะอันศักดิ์สิทธิ์เปนแน หากแต
มันเปนเหตุการณที่พบเห็นไดนอยนัก” หัวหนาหมูบานกลาว
วิธีการโจมตีที่แข็งแกรงเพียงนี้ถือวาเปนเคล็ดวิชาอันล้ําคา เปนอภินิหารที่แตละชน
เผาใหญตางเก็บเปนความลับ!
“หลังจากนี้อีกสิบปขางหนา ชนเผาของเราก็จะมีเคล็ดวิชาล้ําคาอยางแนนอน” ชาย
ชราบางสวนพากันตื่นเตน
เคล็ดวิชาอันล้ําคาเชนนี้ โดยปกติแลวจะถูกครอบครองโดยชนเผาที่เกรียงไกร หาก
วาเจาตัวเล็กไมเลี้ยงดูอินทรีเกล็ดเขียว ศึกษาและตรวจสอบอยางใกลชิด ไมมีทางที่จะได
มันมาอยางแนนอน
“ไมรูวาซวนหนีที่อยูในเทือกเขาตัวนั้นเปนอยางไรบาง หากวามันตายเพราะชรา
ภาพ เราก็จะไดกระดูกเกาแกของมันมาครอบครอง เสมือนกับวาไดเคล็ดวิชาล้ําคาที่นา
สะพรึงกลัวมาอยูในกํามือ”
“ยิ่งเปนอสูรบรรพกาลที่แข็งแกรงดวยแลว ยิ่งไมควรใหความลับที่หมูบานเราเก็บงํา
ไวนั้นแพรงพรายออกไป โดยเฉพาะรองรอยอักขระบนกระดูกของมันอาจจะถูกทําลาย
กอนมันสิ้นลมก็เปนได” สือยวิ๋นเฟงพูดพลางขมวดคิ้ว
และก็เพราะเหตุนี้เอง อักขระล้ําคาโบราณจึงมีคุณคามหาศาล เพราะวามันมีนอย
เต็มที มันเปนตัวแทนของความแข็งแกรงในการดํารงของเผาพันธุอยางหนึ่ง
เปรียบเสมือนการไดมาซึ่งเคล็ดวิชาล้ําคาอยางหนึ่ง
“ขาหวังเปนอยางยิ่งวาอักขระล้ําคาของซวนหนีตัวนั้นจะไมถูกทําลาย มันเปนอสูร
บรรพกาลขนานแทเชียวนะ เคล็ดวิชาล้ําคาที่เราจะไดมาตองอัศจรรยมากแนนอน!” สื
อหลินหูกลาว
หัวหนาหมูบานสายหัวแลวกลาววา “อยาละโมบไป เคล็ดวิชาล้ําคาที่ชนเผาเรา
ครอบครองอยางไมคาดฝนนั้นก็เกินพอแลว”
สี่วันผานไป เกิดเสียงคํารามที่สะเทือนแผนฟาสะทานผืนดิน ภูเขาและหุบเหวสั่น
ไหว สรรพสัตวสั่นคลอนดวยความกลัวเกรง ลมลงไปคลานกับพื้นดิน เหลาปกษาดุราย
บินทะยานหลบหนีขึ้นสูฟากฟา กอนหินเกลือกกลิ้ง ตนไมมากมายโยกไหว ผืนปา
สั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ
ซวนหนีตัวนั้นเดินออกมาจากหุบเขาลึก มายังบริเวณรอบนอก มันใกลจะสิ้นลม
หายใจแลวจึงตองการเสาะหาผืนดินไวฝงรางของมัน พละกําลังและความนาเกรงขาม
ของมันชางนากลัว
“มันแกตายแลวจริงๆขอรับ เกรงวานาจะภายในสองวันนี้!”
ทั่วทั้งหมูบ านอึกทึกคึกโครม หากวาไดซากของซวนหนีมาจริง จะเปนขุมทรัพย
มหาศาลขุมหนึ่ง เลือดบริสุทธิ์ของมันมีสรรพคุณที่วิเศษมาก เปนโอสถโลหิตขนานแท
“วูว อสูรบรรพกาลของแทเลย หากเลือดของมันบริสุทธิ์มากพอ บางทีเลือดสําหรับ
พิธีชําระลางตอน 5 ขวบของเจาตัวเล็กก็ขึ้นอยูกับมันแลวละ” แมแตสือยวิ๋นเฟงก็ไมอาจ
สงบตอไปได เดินไปเดินมา แสดงสีหนาตื่นเตน ปรารถนาจะไดมันมาครอบครองอยางไม
สามารถอดกลั้นได
“ใหคนไปเฝาสังเกตการณอยางระมัดระวัง พวกเราเตรียมการใหพรอมที่จะออก
เดินทางทุกเมื่อ!” เหลาชายชราตางพากันนั่งไมติด ทั้งกระวนกระวาย ตื่นเตน และวิตก
ภายในใจไมอาจสงบลงได
สําหรับสือหลินหู สือเฟยเจียวและชายฉกรรจกลุมใหญกลับกระวนกระวายยิ่งกวา
พวกเขาหายใจฟดฟดและดวงตาแดงก่ําอยางกระหาย
“ขาเห็นมันแลว ซวนหนีตัวนั้นฉีกทึ้งสัตวประหลาดมากมาย ทําใหผืนปาบริเวณนั้น
กลายเปนเขตตองหาม ไรรองรอยของเหลาสัตวประหลาด”
หนึ่งวันผานไป มีคนรีบวิ่งมารายงานยังหมูบานหินผา เขายืนอยูบนยอดเขา
มองเห็นภาพนากลัวนั้นจากที่หางไกล
สือยวิ๋นเฟงหันกลับมาแลวถามทันทีวา “ไป พวกเราเริ่มเคลื่อนพลได แตตองระวัง
อยาประมาทเปนอันขาด ครั้งนี้อาจไมใชแคพวกเรา อาจจะมีสัตวชนิดอื่นและหมูบานอื่น
ไปแยงชิงเชนกัน”
“ทานผูเฒาขอรับ ขาไปดวย!” เจาตัวเล็กเอยปากขอเขารวมดวย
คนในหมูบานไมมีความเห็นในเรื่องนี้ ตอนนี้ความแข็งแกรงดานการตอสูของเขานา
กลัวยิ่งนัก แมยังเยาวนัก แตกลับมีเคล็ดวิชาล้ําคาอยางหนึ่งในกํามือ สามารถสําแดง
อิทธิฤทธิ์ในยามคับขันได
“จิ้บจิ้บ...”
ตาเผิง เสี่ยวชิงกับอาจื่อรุกมาขางหนา ใชหัวถูไถมือของเขา แสดงความสนิทสนมวา
พวกมันก็ตองการจะไปดวย
“เด็กดี พวกเจาอยาเอ็ดไป ในขุนเขาอันตรายมาก พวกเจายังไมเติบใหญจะไปเผชิญ
อันตรายไมได รอขาอยูที่บานนะ พอขากลับมาแลวจะพาพวกเจาไปจับเจียวกิน”
สือฮาวปลอบโยนลูกนกสามตัว ในขณะเดียวกันก็กลาวเตือนพวกมัน เขาพูดโนม
นาวอินทรีเกล็ดเขียวเพื่อชวยเหลือเขาเมื่อถึงเวลานั้น เพราะการออกเดินทางไปหาซาก
ของซวนหนีนั้นอันตรายเปนอยางมาก หากวาไดแรงชวยเหลือจากอินทรีเกล็ดเขียวอีก
แรงจะตองราบรื่นขึ้นเปนแนแท
“ไปเถอะ บุกปากันเถอะ!”
กลุมคนยิ่งใหญเกรียงไกรออกเดินทางเขาสูปากวางใหญ มุงหนาไปยังสุสานที่ซวน
หนีเลือกไวใหตัวมัน
“โครม!”
ผืนดินสะเทือนขุนเขาสั่นไหว ราวกับกลางปาลึกเกิดแผนดินไหวครั้งใหญ กอนหิน
พวยพุงทะลวงทองฟา สั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณผืนปา เปนภาพที่นาสะพรึงกลัว
“ทานผูฒาขอรับ อายุขัยของซวนหนีสิ้นแลวขอรับ มันเขาไปในถ้ํากอนจะหมดลม
ทําใหหินถลมทลายลงขอรับ!” มีคนวิ่งมาจากขางหนา และกลาวรายงานสถานการณ
อยางรวดเร็วและเสียงดัง
“ไป รีบไป!” สือยวิ๋นเฟงตะโกนเสียงดังลั่น
บทที่ 18 เหตุจลาจลในขุนเขา
กลุมคนถาโถมเขาไปยังจุดที่ลึกที่สุดของเทือกเขาดวยความรีบรอน ซวนหนีสิ้น
อายุขัย ตายไปแลว เทากับวาเลือดบริสุทธิ์และกระดูกล้ําคาไดกลายเปนขุมทรัพยที่ไร
เจาของเสียแลว จะไมใหตื่นเตนไดอยางไร?
“เร็วเขา พวกเจาชักชากันเกินไปแลว!” สือหลินหูและพวกตางก็ตื่นตระหนก หวั่น
เพียงวาหากไปถึงชาไป ผูที่ฝเทาเร็วจะไปถึงกอน[1]
ยอดเขาสูงตระหงานลูกแลวลูกเลา ปาเขาไกลสุดลูกหูลูกตา และตนไมเกาแกหนา
ใหญจนนาตกใจ ยอดไมสูงแทงทะลุมานเมฆ ที่สูงมากกวาพันเมตร สูงกวาภูเขาเสียดวย
ซ้ํา ปกคลุมทองฟาบดบังดวงอาทิตย เถาวัลยที่ไมทราบแนวามีอายุกี่ป คนวัยกลางคน
หลายคนก็ไมสามารถโอบรอบได ขึ้นพันเกี่ยวภูเขาดุจมังกรที่แข็งแกรง
ผูคนในหมูบานหินผาวิ่งอยางบาคลั่ง เขาใกลยังบริเวณที่ซวนหนีลมตาย รูสึกไดถึง
กลิ่นอายความนากลัว ใหความรูสึกหดหู นั่นเปนสิ่งที่เจาแหงสัตวทั้งปวงกอขึ้น
“เงียบจริงๆ!” พวกเขารูสึกถึงความผิดปกติ ที่แหงนี้เงียบสงบจนเกินไป ไมมีแมแต
เสียง ราวกับเปนดินแดนแหงความตาย
ณ ที่แหงนี้แมแตนกสักตัวก็ไมมี ยิ่งสัตวเดินดินแลวยิ่งไมตองเอยถึง แมแตแมลงก็
หลบไปจําศีลในรู ไมกลายางกรายออกมา กลางขุนเขารกรางเงียบสงัด วังเวงเปนอยาง
มาก
“กอนที่ซวนหนีจะตาย มันบุกจูโจมสังหารเหลาสัตวประหลาดไปไมนอยเลย ปลุก
ปนดินแดนรกราง เหลาสัตวประหลาดทั้งหลายที่อยูที่นี่ตางก็พากันหลบหนีหายไปหมด”
สือหลินหูกลาว
“ไมใช! “สือยวิ๋นเฟงหวาดกลัวขึ้นมาทันที จากนั้นพูดอยางเรงดวนวา” หลินหูอยา
ใจรอน ซากของซวนหนีนั้นหายากและล้ําคา ไมเพียงแคพวกเราเทานั้นที่ปรารถนาอยาก
ได แมแตพวกสัตวประหลาดก็คอยเฝาดูอยางลับๆ พวกเราถอยโดยดวน อยาเพิ่งลงมือ”
เขารูสึกถึงกลิ่นอันตรายลอยมาเปนระลอก ราวกับวาในความมืดมิดมีอสูรบรรพกาล
กําลังมุงหนามาทางนี้จากแดนไกล แววตาอํามหิต จดจองมายังอาณาบริเวณนี้ หัวหนา
หมูบานอาวุโสเสียวสันหลังวาบ ออกคําสั่งใหผูคนลาถอย
คนที่มีความรูสึกเดียวกับเขาคือเจาตัวเล็ก ที่ขนลุกขนชันและกํามือแนน สือฮาวก็
พูดความรูสึกของตนออกมาเชนกัน
ฝูงชนรีบมุงหนาไปยังบริเวณรอบนอก ไมเหยียบยางเขาไปใกลพื้นที่ที่กอนหิน
พังทลาย
“ยอมแพทั้งอยางนี้ ชางรูสึกแยเสียจริง!” สือเฟยเจียวตีหนาอกของตน อัดอั้นตันใจ
อยางหาที่สุดไมได
“อยาเพิ่งเรงรีบไป รอคอยโอกาส ชีวิตของคนสําคัญที่สุด แมวาเลือดบริสุทธิ์ของ
ซวนหนีจะทําใหโลกตะลึง เคล็ดวิชาที่เหลือไวก็เหนือธรรมชาติ แตก็จําตองมีชีวิตถึงจะ
สามารถไดมันมา” สือยวิ๋นเฟงกลาวอยางเครงขรึม
พวกเขามาไวไปไว ปนขึ้นสูยอดเขาสูง แลวเฝามองจากที่ไกลๆ ติดตามสถานการณ
ที่นั่นอยางใกลชิด
เงาคนเปนจุดๆ มีเสียงตะโกนดังขึ้นในผืนปานั่น เปนของคนสามกลุมที่มาจากสาม
ทิศทาง มาจากหมูบานที่ตางกัน แตเปาหมายคืออันเดียวกัน พวกเขาตางมุงหนาไปยัง
ภูเขาที่พังทลายนั่น เพื่อขุดรางของซวนหนีออกมา
“อยางนี้นี่เอง ไมไดมีเพียงชนเผาของเราที่ไดขาววาซวนหนี อสูรบรรพกาลตัวนี้จะ
แกตาย แตผูคนที่อาศัยอยูทามกลางดินแดนรกรางนี้ตางก็ใหความสนใจเชนกัน”
ทั้งสามฝายยืนประจันหนากัน หลังจากนั้นก็เกิดการปะทะกันอยางไมตองคาดเดา
เกิดเสียงรบราฆาฟนทามกลางผืนปา
“โฮก...”
ทันใดนั้น มีสัตวประหลาดหาตัวปรากฏขึ้นอยางตอเนื่อง แตละตัวใหญประหนึ่ง
บานเรือน เผยเขี้ยวขาวดุจหิมะ กระโจนเขาใสคนพวกนั้นโดยพลัน เพื่อแยงชิงซากของ
ซวนหนีเชนเดียวกัน
ในขณะเดียวกัน เกิดเสียงแผดรองดังมาจากฟากฟา ลมพายุโหมกระหน่ํา อสูร
ปกษามากมายหลายตัวบินรอน ทุกตัวมีความยาว 5-6 เมตร ยามกระพือปกกวางเกือบ
11-12 เมตร พวกมันบินโฉบลงมา ฉีกผูคนเปนชิ้นๆ เลือดสีแดงสดเจิ่งนองเต็มพื้น
ภาพเหตุการณนองเลือดนี้ อยาวาแตผูคนที่ประสบเหตุกับตัวเองในสถานที่เกิดนั่น
เลย แมแตคนของหมูบานหินผาที่มองดูจากที่หางไกลยังขนลุก เหลาสัตวประหลาดหวน
กลับ นี่เปนโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ!
“โฮก!”
ทันใดนั้น เหลาสัตวประหลาดดุรายโผลมาตอเนื่องกันเปนระลอก พวกสัตว
ประหลาดที่ถูกซวนหนีทําใหหนีกระเจิงกันไปนั้นกลับมาแลว ณ ตอนนี้พวกมันจะมาแยง
ชิงซากศพของซวนหนี เพื่อทําใหตนแกรงขึ้น
ไมเพียงแตผืนหนาแหงนี้ ณ ขุนเขาที่ไกลออกไป แมแตสิ่งมีชีวิตที่โหดเหี้ยมก็เริ่ม
เคลื่อนที่แลว เสียงคํารามของสัตวประหลาดดังอยางตอเนื่อง รอนระอุไปทั้งเทือกเขา
กลุมสัตวประหลาดเริ่มกอจลาจล ตั้งแตสัตวสูงใหญถึง 10 เมตร ไปจนถึงสัตวตัว
เล็กเพียงนิ้วเดียว เพียงพริบตาเดียวก็ปรากฏขึ้นเกือบรอยตัว ตางก็เปนเผาพันธุที่
แข็งแกรง มิเชนนั้นคงไมกลาจูโจม ไหลทะลักเขามาราวกับน้ําปา คํารามอยางบาคลั่ง
บนฟากฟาก็เชนเดียวกัน ปกษานานาชนิดบินวอน จะงอยปากดุจเหล็กกลา กรงเล็บ
คมกริบ แผคลุมทองฟาบดบังผืนดิน มั่งหนาปะทะมายังผืนปาแหงนี้ราวกับคลุมคลั่ง ทั้ง
ขนนกและแผงเกล็ดปลิววอนกระจัดกระจาย
“วิ่ง!”
ผูคนของสามหมูบานทิ้งอาวุธรวม 40 กวาชิ้นไว จากนั้นพากันกระโดดลงไปกลาง
แมน้ํา เพื่อใชสายน้ํานี้เปนเสนทางการหลบหนี มิเชนนั้นจะไมรอดแมแตคนเดียว
บนยอดเขา กลุมคนของหมูบ านหินผาที่เฝามองจากที่ไกลๆ สีหนาซีดเผือก พวกเขา
เคยคิดวาตองมีสัตวประหลาดมาชวงชิงซากศพของราชันยซวนหนี แตไมคิดวาจะมี
มากมายถึงเพียงนี้
“อา...”
ผูคนที่กระโดดลงไปในน้ําคิดวาตนจะปลอดภัยแลว ตางก็ตะโกนอยางทรมาน ตรง
นั้นมีอสรพิษยาวเกือบ 10 เมตรพลิกตัวไปมา มันอาปากกวางเขมือบคนสี่หาคนหาย
ภายในพริบตา
“แควก”
อีกฟากหนึ่ง จระเขสีทองลําตัวยาวเกือบ 10 เมตรโผลหัวพนผิวหนา มันอา
ปากกวางใหญดุจปุงกี๋[2] พลันก็ฉีกกัดคนหาหกคน เลือดสีแดงสดหลั่งรินตามเขี้ยวสีขาว
คมกริบของมัน ยอมผิวน้ําเปนสีแดงฉาน
ภาพเหตุการณเชนนี้ ทําใหผูคนที่เห็นหวาดกลัวกันจนกระดูกแผไอเย็น ผูคนที่รอด
ชีวิตหนีกันกระเจิดกระเจิง ไมกลาเหยียบยางเขามายังที่แหงนี้อีกตอไป
“ชางนากลัวเหลือเกิน โชคดีที่พวกเราลาถอยออกมากอน มิฉะนั้นก็คงมีจุดจบ
เชนเดียวกับพวกเขา” สือหลินหูหวาดกลัวจนเหงื่อไหลทวมแผนหลังจนเปยกชุม
“เห็นเชนนี้แลว รางกายของซวนหนีล้ําคากวาที่พวกเราคิดเสียอีก มิเชนนั้นเหลา
สัตวประหลายดุรายทั้งหลายจะพยายามอยางสุดชีวิตเชนนี้หรือ” สือเฟยเจียวกลาว
ดานหนากอนหินที่ถลมทลาย มีสัตวประหลาดดุรายทั้งหลายกําลังตอสูกันอยางบา
คลั่ง ปรารถนาจะตะกุยเพื่อเปดกอนหินใหญเหลานั้น แลวขุดเอารางกายล้ําคาของซวน
หนีออกมา และพวกมันตางเขนฆากัน กลิ่นเลือดฟุงกระจายลอยแตะจมูก เสียงคําราม
ทั้งหลายแหลดังกึกกองบาดแกวหู!
“สัตวประหลาดดุรายมีมากเกินไป พวกเราอยูที่นี่ไมปลอดภัย ไมแนวาอาจจะพลอย
โดนลูกหลงไปดวย!” ชายชราคนหนึ่งกลาว
“โฮก...”
เขาเพิ่งจะพูดจบ ก็เกิดพายุคลั่งกลางขุนเขา สัตวประหลาดตัวใหญปรากฏตัวพรอม
กันสองตัว แตละตัวยาว 7-8 เมตร แผงขนสีน้ําตาลทั้งตัว รูปรางคลายเสือ ทาทาง
โหดเหี้ยมอํามหิต มีปกงอกออกมาจากลําตัวทั้งสองขาง
มันคือเปยว[3]ที่นากลัวเปนอยางมาก มิหนําซ้ํายังโผลมาถึงสองตัว!
เนื่องจากเปยวเปนสัตวอัปลักษณ จึงถูกแมของมันเพิกเฉย ไมเคยใหนม และละทิ้ง
ไมสนใจ บางตัวเกือบจะไมมีชีวิตรอด หากไมอดตาย ก็คงจะถูกสัตวปากลืนลงทองไป ถา
โชคดีรอดชีวิตและเติบใหญ มันก็จะโหดเหี้ยมสะทานผืนปา และกัดกินสัตวประหลาด
นานาชนิด
ตอนนี้ เปยวสองตัวปรากฏพรอมกัน นาสะพรึงกลัวยิ่งนัก นากลัวยิ่งกวาสัตว
ประหลาดทั่วไปอยูมากโข ยากที่จะตอกรดวย
ลมคลั่งพัดผานดังวิ้ว เปยวตัวใหญตัวหนึ่งเคลื่อนไหวแลว กระโจนเขามาพรอมกับ
อาปากกวาง เพียงชั่วครูก็กัดคนในหมูบานไปสองคน เสียงแควกดังขึ้นพรอมกับรางกาย
ครึ่งทอนของหนึ่งในสองคนนั้นก็รวงหลนลงมา เลือดทะลักไหลออกมาอยางรุนแรง นา
เวทนาเกินกวาที่จะทนดูได
“สือหลิน!”
“อายวิ๋น!”
ทามกลางผูคนในหมูบานมีเสียงตะโกนที่เศราโศกแววมา คันศรประหนึ่งหาฝน ถูก
เล็งยิงไปดานหนา
มันกะทันหันเกินไป เปยวดุรายตัวนั้นมันบินได อีกทั้งลําตัวยาว 7-8 เมตร เมื่อสัตว
ประหลาดดุรายเชนนี้ปรากฏกาย แนนอนวาไมสามารถตานทานได เพียงชั่วครูก็
กอใหเกิดการเขนฆาที่นองเลือด
“สารเลว!”
สือหลินหู สือเฟยเจียวแผดเสียงดังลั่น ทั้งสองคนควงดาบแลวพุงออกไปขางหนา
นําชายฉกรรจที่แข็งแกรงทีส่ ุดมุงหนาไปฆาเปยวตัวนั้น
แมวาในกระดูกของสิ่งมีชีวิตชนิดนี้จะไมมีอักขระโบราณ แตทวารางกายใหญโตนั้น
ก็นากลัวเปนอยางยิ่ง มีพลังทําลายลางที่แข็งแกรงมาก ปกติที่ออกลา ผูคนในหมูบานจะ
พยายามหลีกเลี่ยงไมใหพบเจอกับมัน
“โฮก...”
เปยวอีกตัวคําราม จากนั้นกระโจนมาอีกฟากหนึ่ง มันตวัดอุงเล็บขึ้น แสงเย็นเยือก
สวางวาบ เสียงดังชริ้งชริ้ง ประกายไฟแผกระจายรอบทิศ มันกระแทกดาบและกระบอง
ของคนในหมูบานจนปลิววอน
“ฟรึ่บ”
ในกลุมคนมีสองคนที่หลบหลีกไดเชื่องชากวาผูอื่น โดนแหวกอกทะลวงชองทอง
เลือดไหลเจิ่งนองเต็มพื้น ไดรับบาดเจ็บสาหัสชนิดที่ไมอาจจินตนาการได เขาถูกคนใน
หมูบานชวยไวแลวลากไปขางหลัง
“เจาแมวใหญ คืนชีวิตของทานลุงอายวิ๋นมาใหขานะ!” สือฮาวโกรธแคน เขา
กระโจนไปขางหนา สองแขนปรากฏอักขระประหนึ่งดวงดาวสองแสงสวางวาบ กลางฝา
มือของเขาเปลงแสงเปนจุดๆ จากนั้นก็ปรากฏกงจักรจันทราขึ้นมา
พระจันทรสีเงินวงนั้นสมจริงมาก ราวกับดวงจันทรบนสรวงสวรรคหลนรวงลงมา
ฉายแสงบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ระยิบระยับ พุงเขาหาเปยวตัวหนึ่งอยางรวดเร็ว
“ตูม”
เปยวตวัดอุงมือใหญประหนึง่ ปุงกี๋ที่เปลงแสงเยือกเย็น จากนั้นหวดไปที่กงจักร
จันทรา กอใหเกิดเสียงโลหะกระทบกันดังกึกกอง สะเทือนไปทั่วทั้งยอดเขา
ตองเขาใจวา กงจักรจันทราวงนี้หั่นกอนหินออกเปนสองทอน ทรงพลังอยางไมมี
สิ้นสุด แตตอนนี้กลับโดนกรงเล็บคมกริบของเปยวทําใหสั่นไหว
ชะงักเพียงครู เปยวตัวนี้ก็คํารามดังโฮกสะเทือนแผนฟา สะทานผืนดิน กรงเล็บของ
มันหักไปอันหนึ่ง สายเลือดไหลโกรกกราก ยอมพื้นดินจนเปนสีแดงฉาน
ในขณะเดียวกัน อานุภาพของกงจักรจันทราวงนั้นไมลดนอยลงเลย เสียงโฮกดังขึ้น
พรอมกับกงจักรจันทราที่ฟนเขาที่กะโหลกของมันจนมีรอยแยกขนาดใหญในชวงเวลาอัน
สั้น เลือดทะลักออกมาจากบาดแผลนากลัวนั่น
เสียงคํารามสะเทือนทองฟา ผืนปาสั่นไหว เปยวตัวนี้สั่นโยกอยางรุนแรงอยางไม
ยอมรับ ความดุรายในแววตาคอยๆ จางหายไป ลมลงไปตรงกองเลือดดังโครม
นี่เปนเคล็ดวิชาล้ําคาของอินทรีเกล็ดเขียว พลังจูโจมอันนาสะพรึงกลัว ยามสือฮาวจู
โจมก็สามารถปลิดชีพเปยวที่นากลัวตัวหนึ่งในชวงเวลาอันสั้น
“ทําไดดีมาก เจาตัวเล็กเอาอีก!” สือเฟยเจียวตะโกนบอก
สือฮาวหมุนตัว จากนั้นกระโจนเขาไปหาเปยวอีกตัว ฝามือสวางวาบ เคล็ดวิชา
เฉพาะที่ไมแพรงพรายแกคนนอกสําแดงอิทธิฤทธิ์อีกครั้ง กงจักรจันทราพาดผานทองฟา
ลําคอของเปยวที่ยาว 7-8 เมตรตัวนั้นมีเลือดสาดกระเด็น พอลําแสงสีเงินหมุน หัวของ
มันก็ถูกฟนรวงลงมาบนพื้นดินดังโครม
เลือดของสัตวใหญตัวนั้นพุงกระเซ็นราวกับสายน้ําเล็กๆ กระเด็นติดทั่วตัวของผูคน
ในหมูบาน
“ชางเปนเคล็ดวิชาที่นากลัวเสียนี่กระไร!”
วิธีการโจมตีแบบนี้นายําเกรงเปนอยางยิ่ง
หลังจากที่เจาตัวเล็กสังหารเปยวสองตัวนั้นแลว ราวกับตกอยูในภวังค นี่เปนครั้ง
แรกที่เขาฆาสัตวประหลาดในขุนเขา เขากมหนามองดูแขนออนเยาวเล็กๆ ของตน แลว
ก็พูดไมออกอยูนาน
“ไมเปนไรแลว ลูกอยากลัวกลิ่นคาวเลือด ชายหนุมที่เติบใหญทามกลางดินแดนรก
รางเชนนี้มีใครไมเปอนเลือดบางละ? ตางก็เปนเชนนี้!” สือหลินหูเดินมาแลวตบไหลของ
เขา
สือฮาวออกแรงพยักหนา แมวาภายในใจของเขาจะไมสงบ แตตอนนี้เมมปากสนิท
ไมเอื้อนเอยวาจาใด หากเมื่อครูเขาไมสังหารเปยวพวกนั้น คนในหมูบานจะบาดเจ็บลม
ตายมากมาย
“เคล็ดวิชายอดเยี่ยมมากจริงๆ มันสามารถฆาสัตวประหลาดได และสามารถ
ชวยชีวิตคนได หากวาไดอักขระโบราณของซวนหนีมาก็จะดียิ่งนัก” เวลาผานไปสักพัก
เจาตัวเล็กถึงจะบนพึมพํากับตัวเองเบาๆ
เสียงแผดรองยาวเหยียดดังมาจากชั้นเมฆ อินทรีเกล็ดเขียวปรากฏตัว บินโฉบลงมา
พรอมกับลมพัดโหม
เจาตัวเล็กกระโดดขึ้น ออกแรงโบกมือแลวตะโกนเสียงดังวา “ทานอาอินทรีเกล็ด
เขียว รับขาขึ้นไปที ทานเปนราชันยแหงบริเวณรอบนอก และขาก็สามารถชวยเหลือ
ทานได พวกเราไปชวงชิงซากของซวนหนีกันเถอะ”
..............................
[1] ฝเทาเร็วก็ไปถึงกอน เปรียบเปรยวา ผูที่ไปถึงกอนจะชวงชิงสิ่งที่ตนตองการไป
ได
[2] ปุงกี๋ เครื่องสานชนิดหนึ่ง ลักษณะคลายเปลือกหอยแครง มีหู 2 ขาง
[3] เปยว สัตวประหลาด รูปรางคลายเสือ มีปกงอกออกมาจากลําตัวทั้งสองขาง
บทที่ 19 แยงชิง
อินทรีเกล็ดเขียวชําเลืองสายตา แผงเกล็ดทั่วทั้งตัวสองแสงเยียบเย็นเปนประกาย
ราวกับทํามาจากทองคํา เย็นเยือกและนาเกรงขาม นัยนตาสุกใสแวววาวของมันเพงมอง
ลงมาขางลาง
“ทานอาเขียว เร็วสิขอรับ จะไมทันการณแลวขอรับ” เจาตัวเล็กโบกมือและตะโกน
เสียงดังอยูบนยอดเขา
ลมพายุพัดหวีดหวิวพรอมกับอินทรีเกล็ดเขียวที่บินโฉบลงมา มันกระพือปกทั้งสอง
ขางที่ยาวเกือบ 15-16 เมตรประหนึ่งเมฆดําทมิฬถลมลงมา ทอดเงาดําสนิทที่ทําเอาใจ
สั่นระริกดิ่งลงมายังเบื้องลาง
เสียงดัง “ซิ่ว” พรอมกับสือฮาวที่กระโดดขึ้นสูง 5-6 เมตร หลนไปบนหลังกวางของ
อินทรี พลันก็รูสึกถึงความแข็งกระดาง เกล็ดทุกแผนแข็งและเย็นประหนึ่งเหล็กกลา
“เจาตัวเล็ก อยาไปเผชิญภัยอันตรายเลย!” สือยวิ๋นเฟงตะโกนบอกเสียงดัง ทุกสิ่งที่
เกิดขึ้นเมื่อครูนั้นรวดเร็วเกินไป เขาเองไมทันไดหามปราม สือฮาวก็กระโดนขึ้นไปเสีย
แลว
“ทานผูเฒาวางใจเถอะขอรับ พวกขาจะไมยอมเสี่ยงอันตรายใดๆ เมื่อสบโอกาสจึง
จะลงมือ” สือฮาวโบกมือนอยๆ ไปมา เพื่อไมใหเขาเปนกังวล
“เจาตัวเล็ก เจาตองระวังตัวนะ!” สือหลินฮาวตะโกนบอก เขารูดีวาไมสามารถ
หยุดยั้งเจาหนูนั่นได จึงทําไดเพียงตะโกนเตือนเจาหนู
“ทานลุง ขารู ทานผูเฒาขอรับ พวกทานกลับไปกันกอนเถิด ที่นี่อันตรายเกินไป
หากวาชนเผาเราเคลื่อนพล โอกาสก็มีเพียงนิด”
ผูคนพากันเงียบ นี่เปนเรื่องจริง หากชายฉกรรจทั้งหมดของหมูบานออกไปจัดการ
ตอนนี้ พวกเขาตองจมหายไปทามกลางสัตวประหลาดบาคลั่งนับรอยตัว หลั่งเลือดเจิ่ง
นองทั่วผืนปาเปนแน
“ไปกันเถอะ!” สือยวิ๋นเฟงโบกมือ จากนั้นออกคําสั่ง มิเชนนั้นอาจจะพบกับหายนะ
ครั้งใหญ
“เจาตัวเล็ก เจาตองระมัดระวังนะ!” ผูคนในหมูบานรองตะโกนขึ้นพรอมกัน เตือน
เขาดวยเสียงที่ดังสนั่น
“ขารู พวกทานก็ตองระวังตัวดวยเชนกัน”
อินทรีเกล็ดเขียวบินรอนไปตามยอดเขามุงหนาไปยังที่หางไกล มันบินอยางรวดเร็ว
เสียงลมประหนึ่งฟาคําราม ยามถากผานใบหนาก็ทําใหเจ็บปวดรวดราว เกือบจะไม
สามารถลืมตาไดเลย
เจาหนูสือฮาวนอนคว่ําหนาอยูบนหลังของมัน มือนอยทั้งสองขางจับเกล็ดที่ฉายแสง
เยือกเย็นนั่นไวแนน หรี่ตากลมโตเพงมองลงไปยังเบื้องลาง
“ทานอาเขียวตองระวังตัวนะ ขางลางมีสัตวประหลาดเต็มไปหมด”
อินทรีเกล็ดเขียวชางวองไวเสียจริง ยามกางปกทั้งสองขางออก เพียงพริบตาก็ขาม
ผานยอดเขามากคณะนับ ครั้นมาถึงดานหนาของบริเวณขุนเขา ตนไมลมระเกะระกะ
ตนไมใหญหักโคน กานไมผุพังและใบไมแหงเหีย่ วกระจัดกระจายเต็มผืนดิน
สัตวประหลาดที่ยิ่งใหญนับรอยตัวกําลังเขนฆากัน อีกทั้งปกษาดุรายนับรอยที่กําลัง
โจมตีกันดวยปกดุจเหล็กกลา บัดนี้ไมเหลืออะไรเลย แมแตกอนหินก็แหลกละเอียด ทุก
อยางเละเทะ
เสียงสัตวคําราม เสียงปกษาแผดเสียงรองดังทะลุผืนปา เลือดยอมผืนดินจนแดงฉาน
มีสัตวประหลาดตัวใหญมากมายลมตาย ถูกเหยียบย่ําจนกลายเปนเลือดเนื้อที่เลอะเลือน
ที่นี่ตลบอบอวลไปดวยกลิ่นคาวเลือด!
ทางดานหนาของกอนหินที่พังทลายลงมา แนนขนัดไปดวยสิ่งมีชีวิตนากลัว ที่สูรบ
กันอยางบาคลั่ง เลือดสาดกระเซ็นพุงสูงเกือบ 10 ฟุต อยางไมหยุดหยอน พวกมัน
เบียดเสียดและขุดกอนหินออกเพื่อคนหาซากศพของซวนหนี
แมวปาลายที่ลําตัวยาวเกือบเมตร บนหัวของมันมีเขางอกออกมา แข็งแกรงและทรง
พลัง สามารถฉีกทึ้งรางกายของสัตวใหญไดทุกครั้ง เลือดชุมไปทั้งตัว อุงเล็บทั้งสองขาง
ของมันคมกริบอยางหาที่เปรียบไมได หากลําแสงเย็นพาดผาน จะตองมีเลือดกระเซ็น
เปนแน
“หงาว”
ขุยโซยที่ตัวคอนขางใหญสงเสียงคํารามประหนึ่งทองฟาคําราม รางกายที่ใหญโต
ยาวเกือบ 20 เมตร ประหนึ่งภูเขาเล็กๆ คลื่นเสียงของมันคืออาวุธดีๆ นี่เอง ยามปลอย
ออกกระแทกพวกสัตวประหลาดจนลมตาย เพียงเทาใหญของมันเหยียบยางผาน กอง
เลือดสาดกระเซ็นรอบทิศทาง
“ปง”
ตัวนิ่มสีเงินที่ยาว 8-9 เมตร บนหัวของมันมีเขาอันใหญดจุ เหล็กแหลมคมอันหนึ่ง
อานุภาพเกรียงไกรยากที่จะหาผูใดเปรียบ เจาะทะลวงกอนหินจนแตกออกเปนเสี่ยงๆ
พุงตัวลอดเขาไปยังภายในของภูเขา
ชนิดของสัตวประหลาดมีมากเกินไป และตางก็เปนสัตวประหลาดที่แข็งแกรง มิ
เชนนั้นคงไมกลาปรากฏตัวยังที่แหงนี้
สัตวใหญแยงชิงความเปนใหญ สิ่งมีชีวิตที่เหี้ยมโหมโจมตีอยางดุดัน ตางก็ตองการ
ซากของซวนหนี และกลืนกินเปนอาหารเพื่อใหตนกลายเปนเจาแหงขุนเขา
“วิ้ว!”
ลมพัดหวีดหวิวพรอมกับอินทรีเกล็ดเขียวที่พุงมาดวยความเร็วสูง ยืดกรงเล็บเหล็กคู
ที่ใหญดุจแทนหินโมตะปบไปยังตัวนิ่มสีเงินที่ยาว 8-9 เมตรตัวนั้น เพราะวามันจะอาจจะ
ไดซากศพของซวนหนีกอน ลําตัวหายเขาไปภายในหินเกือบครึ่งทอน
เสียง “ฟบ” ดังขึ้น แมวาตัวนิ่มจะแข็งแรงดุจเหล็กกลา แตก็โดนกรงเล็บที่เปลงแสง
เยือกเย็นคูนั้นของอินทรีเกล็ดเขียวทะลวงแผนหลังใหชุมไปดวยเลือด
มีเสียงคํารามลอยมาจากกอนหินนั่น ตัวนิ่มสีเงินคลุมคลั่ง สะบัดหางอยางบาคลั่ง
ในเวลาเดียวกันก็ลอดออกมาจากกลุมหินแลวลุกยืนขึ้น แลวใชเขาใหญที่ยาวกวา 2
เมตรของมันทิ่มแทงเขาไปยังหนาอกของอินทรีเกล็ดเขียว
อยางไรก็ตาม อินทรีเกล็ดเขียวที่โหดเหี้ยม ผูซึ่งเคยบีบใหคนในหมูบานหินผานํา
อาวุธบรรพบุรุษออกมาใช ตองเขาใจวานั่นคืออาวุธนากลัวที่ราชันยแหงอสูรบรรพกาล
เหลือทิ้งไว
ปกคูของมันปะทะกับทองฟา บินทะยานขึ้นภายในพริบตา แนนอนวามันไมคลาย
กรงเล็บออก ยังคงจับสวนหลังของตัวนิ่ม บินเขาสูกลุมเมฆอยางรวดเร็ว
ในชวงเวลานี้ พายุโหมกระหน่ําฟาคําราม แมตัวนิ่มจะพยายามดิ้นรนเพียงใดก็ไร
ประโยชน ไมมีพื้นดินใหไดใชประโยชน มันจึงลุกยืนไดยาก และไมสามารถทําอันตราย
ใดๆ แกอสูรปกษาตัวนี้ได
ทันใดนั้น หลังจากทะลวงผานชั้นเมฆแลว อินทรีเกล็ดเขียวคลายกรงเล็บออก ตัว
นิ่มกลายเปนลําแสงสีเงินเปนสาย จากนั้นรวงหลนลงไปอยางรวดเร็ว
“โฮก!”
เสียงทรมานดังระงมไปทั่วผืนปา เศษฝุนพวยพุงขึ้นสูฟากฟา ตัวนิ่มขนาดใหญลําตัว
ยาว 8-9 เมตรหลนลงกระแทกยังสถานที่เกิดเหตุ ทําใหสิ่งมีชีวิตแข็งแกรงมากมาย
กระดูกหักกลามเนื้อปริแตก และตัวมันเองก็กลายเปนกองโคลน แมวารางกายของมันจะ
แข็งแกรงดุจเหล็กกลาก็ไมรอด
“ทานอา ชางเกงกาจเสียจริง!” เจาตัวเล็กอุทานอยางตกตะลึง
อินทรีเกล็ดเขียวบินโฉบลง มุงหนามายังกลุมหินอีกครั้ง มันเปนนักลาที่อยูจุดที่สูง
ในบริเวณรอบนอกของเทือกเขา แนนอนวามันสามารถเหยียดหยามกลุมสัตวเหลานี้ได
เสียง “วิ้ง” ดังขึ้น ครั้งนี้มันไมไดใชพละกําลังจากกายเนื้อ มันอาปากแลวพน
พระจันทรสีเขียวออกมาเปนทาง แตกตางจากกงจักรจันทราของเจาตัวเล็กอยูบาง พุง
ตรงออกไปเกือบ 2 เมตรกวา เปาหมายคือสัตวประหลาดขาเดียวที่ยาวเกือบ 20 เมตร
ตัวนั้น
ยามเคล็ดวิชาล้ําคาเชนนี้ถูกปลอยออกมา สถานที่แหงนีพ้ ลันก็โกลาหลขึ้นมา เหลา
สัตวประหลาดดุรายตางก็เกรงกลัว วิ่งหนีหลบหลีกไปทั่วทุกสารทิศ แตก็มีสัตวคลุมคลั่ง
ที่กลับยิ่งกระหายเลือด มุงหนาสังหาร เพื่อถอนรากถอนโคนตัวปญหานี้ใหสิ้นซาก
“ฟบ!”
กงจักรจันทราสีเขียววงนั้นสองแสงระยิบระยับ และคมกริบอยางหาที่เปรียบไมได
พุงออกไปหั่นหัวขนาดใหญของสัตวประหลาดขาเดียวจนรวงลงมา เลือดพุงขึ้นสูงเกือบ
10 กวาเมตร รางกายใหญโตไรหัวนั้นลมลงไปดังโครม ผืนดินสั่นสะเทือน เลือดไหลเปน
ทางประหนึ่งลําธารเล็กๆ
“เมี๊ยว!”
เสียงที่ทําใหขนลุกขนชันดังลอยมา แมวปาตัวใหญที่ยาวเกือบเมตร หลบซอนตัวอยู
บนเนินสูงหลังกลุมหินนั่น กระโดดขึ้นอยางดุดัน จะลอบสังหารอินทรีเกล็ดเขียวจาก
ดานหลัง บนอุงมือของมันมีเขาสีดําใหญอันหนึ่ง แทงเขาไปที่ดานหลังกะโหลกของอินทรี
เกล็ดเขียวอยางจัง แตกรงเล็บคูใหญยาวเกือบครึ่งเมตรถูกยื่นออกมา จากนั้นฉีกทึ้งหลัง
ของมัน
นี่เปนการซุมโจมตีที่ดุเดือดมาก เมื่อถูกจูโจม แมแตแผงเกล็ดที่แข็งแรงดุจเหล็กกลา
ของอินทรีเกล็ดเขียวก็ตานทานไมได อยางไรก็ตาม มันก็เปนสัตวประหลาดแมวที่มี
สายเลือดของอสูรบรรพกาลอยูเชนเดียวกัน
ในขณะเดียวกัน เสียงกระพือปกก็ดังขึ้น ปกษาเกือบ 8 ตัวก็พุงมาจากทุกสารทิศ
และเกาะอินทรีเกล็ดเขียวไว เพราะพวกมันรูสึกวาตนไดรับภัยคุกคามมากที่สุด จึงหวัง
จะรวมมือทําลายราชันยแหงทองฟาตัวนี้ใหสูญสิ้นไป
ลําแสงพรามัวถูกปลอยออกมา กงจักรจันทราพุงพรวดขึ้นพรอมกับอักขระ
ระยิบระยับ กลางดวงจันทรมีราชวัง เคียงขางดวยตนไมเกาแก พระจันทรสองแสง
ดุจอัญมณีล้ําคา เสียง “วิ้ง” ดังขึ้นพรอมกับกงจักรจันทราที่พาดผานกลางอากาศ เขา
ของแมวปานากลัวตัวนั้นหักลง กะโหลกหั่นออกเปนสองชิ้น มันรองอยางทุกขทรมาน
แลวหลนรวงลงไป
“ทานอาเขียว วางใจเถอะ ขางหลังปลอยใหเปนหนาที่ของขาเอง” เสี่ยวสือฮาวพูด
ดวยน้ําเสียงแบบเด็กๆ
อินทรีเกล็ดเขียวแผดเสียงคํารามยาว จากนั้นกระพือปกคูของตนเพื่อสะบัดปกษา
ตัวอื่นๆใหหลุด เพียงชั่วครูแผงเกล็ดก็ปลิววอน สายเลือดไหลเปนทางยาว มันฉีกทึ้ง
ปกษาหาหกตัวที่ยาวเกือบเมตรนั่นในอึดใจเดียว มีบางตัวที่ใหญกวามันเสียดวยซ้ํา แต
ทั้งหมดก็ถูกมันสังหารดวยพละกําลังจากกายเนื้อเพียงอยางเดียวเทานั้น
นี่ก็คือผูสืบทอดของอสูรปกษาบรรพกาล ไมใชเคล็ดวิชาล้ําคา แมใชเพียงกําลังจาก
กายเนื้อก็สามารถพัดกวาดทุกอยางในผืนปาใหราบคาบได
เสียงลมพัดหวีดหวิว ครั้งนี้อินทรีเกล็ดเขียวบินโฉบลงมา สัตวประหลาดสวนใหญ
ตางพากับหลบซอน ไมกลาตอตานความแข็งแกรงของมัน เพราะมันแข็งแกรงเปนอยาง
ยิ่ง
“ทานอาเขียว พวกเราขุดกอนหินพวกนี้ออกไป ซวนหนีอยูขางใตนี่แหละ” เจาตัว
เล็กกลาว
อินทรีเกล็ดเขียวลงสูพื้นดิน ตวัดกรงเล็บลงไป พลันก็ทําใหกอนหินหนักหนึ่งพันชั่ง
แตกออก มันกางปกดุจเหล็กกลาออก เสียงฟวดังขึ้นพรอมกับทุกอยางถูกพัดปลิวหายไป
ออกแรงขุดอยางรวดเร็ว ที่แหงนี้อันตรายยิ่งนัก แมจะเกรียงไกรอยางมันก็ไมกลาอยูที่นี่
นาน
กอนหินแตกละเอียดปลิววอน พวกเขารีบขุดหลุมลึกนี้ออก ทันใดนั้นก็เกิดลําแสงสี
มวงสวางวาบ ลําแสงระยิบระยับเปนสายถูกเล็งยิงออกมา และมุงตรงมาที่อินทรีเกล็ด
เขียว
“ชริ้ง”
ลําแสงสีมวงถูกยิงเขาไปถึงปกซายของอินทรีเกล็ดเขียว กระแทกจนเกิดประกายไฟ
ทําใหอสูรปกษาแผดเสียงคํารามอยางโมโห รูสึกไดถึงความเจ็บปวดที่แผซานมาจากปก
เหล็ก
“อา มันเปนงูสีมวง!” เจาตัวเล็ฏอุทานอยางตกใจ
อสรพิษตัวนี้วองไวมาก ทําใหพวกเขาไมสามารถตอบสนอง มันโจมตีเพียงครั้งเดียว
ก็ลาถอยไป มันมีลําตัวหนาเทาเพียงทอนขาของคนวัยกลางคน ยาวเกือบหกเจ็ดเมตร
หากเทียบกับสัตวใหญแลวมันเพรียวและประณีตกวามาก
แตวามันแข็งแกรงมาก เกล็ดสีมวงทั่วตัวสองแสงระยิบระยับ มีลําแสงพรางพราว
ไหลเวียนทั่วลําตัว มันดุดันอยางหาที่เปรียบไมได ออกแรงฉีกกัดจนแผงเกล็ดของอินทรี
เกล็ดเขียวแหลกละเอียด
มิหนําซ้ํา บาดแผลของอินทรีเกล็ดเขียวกําลังหลั่งรินเลือดสีดํา เห็นไดชัดวาถูกพิษ
เขาใหแลว
“ฟบ”
สายเลือดของอสูรปกษาบรรพกาลก็เด็ดขาด พนจันทรเสี้ยวขนาดเล็กออกมาจาก
ปาก เสียงฟบดังขึ้นพรอมกับเนื้อและเกล็ดทั้งหมดถูกฟนรวง น้ําหนักเกือบชั่งกวา เลือด
สาดกระเด็กโดยพลัน
“ทานอาเขียว!” เจาตัวเล็กตะโกนอยางตกใจ
ไมมีใครคาดคิดวาจะมีปศาจอสรพิษที่นากลัวเพียงนี้ซุกซอนอยูในขุนเขาแหงนี้ เห็น
ไดชัดวามันแข็งแกรงมาก ที่กลาแยงชิงความเปนใหญกับอินทรีเกล็ดเขียว
อินทรีเกล็ดเขียวแผดเสียงคําราม บริเวณบาดแผลมีอักขระสวางวาบ หยุดเลือดและ
ปดปากแผลอยางรวดเร็ว หลังจากนั้น ในดวงตาของมันสาดลําแสงหนาทึบสองเสน จด
จองไปที่งใู หญที่มีลําแสงสีมวงไหลเวียนอยูทั่วตัว
“ซือซือ...”
อสรพิษที่มีญาณพิเศษและปญญาสูงมากตัวนี้ประจันหนากับอินทรีเกล็ดเขียว
แสงจากดวงจันทรปรากฏขึ้น ทอแสงระยิบระยับ อินทรีเกล็ดเขียวสําแดงเคล็ดวิชา
ล้ําคา ฟาดฟนไปยังอสรพิษสีมวงตัวนี้ นาเกรงขามเสียจนอากาศคํารามดังวูบวูบ
สิ่งที่นาตกใจคือ อสรพิษตัวนี้ปราดเปรียวเปนอยางมาก สะบัดหางแลวกระโจนขึ้น
สูงเกือบ 10 กวาเมตร หลบหลีกการโจมตีครั้งนี้ได
อินทรีเกล็ดเขียวกระพือปกแลวพุงออกไปเพื่อสังหาร จะงอยปากอากวาง
พระจันทรสีเขียวปรากฏขึ้นอีกครั้ง และเปลงประกายชัดขึ้น หมุนควางไลตามอสรพิษสี
มวงนั่นไปดังชริ้งชริง้
“ตูม!”
ในที่สุดก็ฟาดโดนตัวมัน แตที่นาตกใจคืองูมวงตัวนั้นกลับไมถูกหั่นเปนสองทอน
เพียงแคเกล็ดหลุดรวงเปนวงกวาง เผยคราบเลือดเปนริ้วๆ เทานั้น
มันกระเสือกกระสนพลิกลําตัวอยางเจ็บปวด กระโจนลาถอยออกไปไกล 20 กวา
เมตรดวยความวองไว
“ชริ้ง”
เจาตัวเล็กออกโรง ฝามือขางขวาปรากฏกงจักรจันทราแผนกลมที่สองแสงบริสุทธิ์
และมหัศจรรย ลําแสงสาดออกเปนหมื่นสาย ไอศักดิ์สิทธิ์ลอยขึ้นกลางอากาศ ลอยพุง
ออกไปดังชริ้ง ฟาดฟนเขาไปยังบาดแผลของอสรพิษตัวนั้น
แผงเกล็ดเหลานั้นหลุดรองออกมาไมนอยเลย พลังการปองกันของมันลดนอยลง
พลันก็เกินกลิ่นอายความตายขึ้น แตก็ยังไมสามารถฟนตัวมันขาดได เพียงบาดลึกเขาไป
เกือบหนึ่งนิ้วเทานั้น เนื้อและกระดูกของมันแข็งยิ่งนัก แข็งแกรงจนสามารถตานทานได
นัยนตาอินทรีเกล็ดเขียวเยือกเย็น เพียงไมเหยียบยางเขาไปยังจุดที่ลึกที่สุดของ
เทือกเขา มีโอกาสนอยมากที่มันจะไดรบั บาดเจ็บ แตวันนี้กลับเสียเปรียบมากถึงเพียงนี้
มันจึงไลตามและโจมตีอยางไมลดละ
ทันใดนั้น รางกายสีแดงฉานที่ยาวเกือบ 2 เมตรกวา พุงมาจากดานขาง เปลงลําแสง
สีแดงแวบวับบาดตา ทุกอยางเกิดขึ้นไวมาก และไมสามารถตานทานได รางกายรวงลง
บนแผนหลังของอินทรีเกล็ดเขียว
มันเปนหมาไมสีเลือด[1] ลําตัวยาวเกือบ 2 เมตรกวา ทั่วทั้งตัวเปลงแสงระยิบระยับ
ราวกับหินโมราสีแดง และมีปกสีแดงฉานงอกออกมาสองขาง แมวาขนาดของมันจะ
เทียบกับสัตวใหญไมได แตก็ถือวาคอนขางแข็งแกรง
มันมีพลังแข็งแกรงอยางไมมที ี่สิ้นสุด ปราดเปรียวดุจสายฟาฟาด มันพุงเขาไปหาเจา
หนู อีกนิดเดียวก็จะแหวกอกทะลวงไสของเจาตัวเล็ก มันถูกกงจักรจันทราโจมตี ถากเขา
กับชวงทองของมันจนลอยขึ้นกลางอากาศ จากนั้นมันก็หวดอุงเล็บไปยังลําคอของอินทรี
เกล็ดเขียวจนเกิดบาดแผลเปนทางยาวเกือบครึ่งเมตร
เจาตัวเล็กเปลงเสียงออกมาแผวเบา จากนั้นกงจักรจันทราก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง จน
ทําใหหมาไมสีเลือดลาถอยดวยความหวาดกลัว
อสูรปกษาสั่นสะทาน ทั่วทั้งลําตัวของมันเปลงแสงสวาง มันโกรธแคนที่เสียเปรียบ
อยางตอเนื่อง ความโหดเหี้ยมของมันทะยานขึ้นสูง จากนั้นก็เริ่มไลลาสัตวประหลาดสอง
ตัวนั้น
การรวมมือระหวางอสรพิษสีมวงและหมาไมสีเลือดสมบูรณแบบมากราวกับวาเคย
ฝกฝนกันมากอน สิ่งนี้ทําใหเจาตัวเล็กตกตะลึง สิ่งมีชีวิตเหลานี้ตางก็มีปญญาสูง
“โฮก!”
จระเขสีเงินตัวหนึ่งพุงจากแมน้ํา และมายังที่แหงนี้ กระแทกกอนหินจนแตกออก
ภายในพริบตา
ในชวงเวลาเดียวกัน ดูเหมือนวาพวกมันรูสึกถึงสัญญาณบางอยาง ตางพากันหยุด
โจมตี และรีบขุดกอนหินออก เพื่อหาซากศพล้ําคาของซวนหนีใหพบกอนแลวคอยตอสู
แยงชิง
อินทรีเกล็ดเขียวก็หยุดการไลลา ลําตัวเปรอะเปอนคราบเลือด แผงเกล็ดสีเขียวสอง
แสงเย็นเยือก ชางนาสะพรึงกลัว
“ทานอาเขียวขอรับ ทานไมเปนไรใชไหม?” เจาตัวเล็กเริมกังวล สัตวประหลาดนับ
รอยตัว และที่ไมดอยกวาอินทรีเกล็ดเขียวก็มีอยูหลายตัว หากปรารถนาที่จะแยงชิง
ซากศพของซวนหนีนั้นยากเย็นเกินไป
“โฮก!”
จระเขสีเงินตัวใหญคลุมคลั่ง มันตะกุยกอนหินออกอยางตอเนื่อง ทันใดนั้นก็ปรากฏ
กลุมแสงสีทองระยิบระยับ ราวกับดวงอาทิตยดวงเล็กลอยขึ้นกลางอากาศ สาดแสงแวว
วาวทามกลางผืนปา
นั่นเปนขาที่หนาเทาตนเสา แข็งแกรงและทรงพลัง ปกคลุมไปดวยแผงขนสีทอง
สวางเจิดจา ราวกับหลอมมาจากทองคํา สองแสงระยิบระยับ และกลิ่นอายที่นากลัว
อยางแสนสาหัส!
ซากศพของอสูรบรรพกาลซวนหนีปรากฏแกสายตา บนลําตัวของมันมีอักขระ
โบราณสองแสงสวางเจิดจา มันทําใหสิ่งมีชีวิตที่โหดเหี้ยมเหลานี้สั่นสะทาน นัยนตาลุก
โชน และตางพากันกระโจนเขาใส
..............................
[1] หมาไม เปนสัตวเลี้ยงลูกดวยนมกินเนื้อขนาดเล็กสกุลหนึ่ง
บทที่ 20 เรื่องราวกลับตาลปตร
มันเปนขาสัตวสีทองขางหนึง่ ที่เปลงประกายแจมจรัส กํายําและทรงพลังราวกับสัตว
ในตํานาน แมวาจะสิ้นลมไปแลวแตกลับมีพลังความนาเกรงขามที่นากลัว มีลําแสงสี
เหลืองทองไหลเวียนอยู มองดูแลวนาเคารพยําเกรง
ในขณะนั้นเอง อยาวาแตเหลาสัตวประหลาดและปกษานับรอยตัว แมแตจระเขสี
เงิน หมาไมสีเลือด อสรพิษสีมวงตางก็ลาถอยอยางชวยไมได มีกลิ่นอายความนา
สะพรึงกลัวที่ทําใหพวกมันหวาดผวา
สุดทาย อินทรีเกล็ดเขียวก็พุงเขาไปคนแรก สัตวประหลาดอีกตัวก็ตามมา มีตัวหนึ่ง
รูปรางคลายกับกิเลนไฟ[1] และมีอีกตัวเหมือนกับโหว[2] พวกมันตางก็เปนผูเปนใหญใน
บริเวณรอบนอก นอกจากอินทรีเกล็ดเขียวแลว สัตวประหลาดตัวอื่นๆ ก็ไมไดอาศัยอยู
ในอาณาบริเวณนี้
อินทรีเกล็ดเขียวกางปกใหญของมันดังโครม กระพือปกสะเทือนกอนหินใหแตก
ละเอียด เม็ดทรายปลิววอน กอนหินแตกกระจัดกระจาย ซากศพล้ําคาของซวนหนีโผล
ออกมาใหเห็นเกือบครึ่ง
สัตวประหลาดตัวอื่นๆ ก็กระโจนขึ้นมาเชนกัน กอนหินลอยทะลวงอากาศโดยพลัน
ทําใหเหลาสัตวประหลาดตกใจจนลาถอย
แสงศักดิ์สิทธิ์สีเหลืองทองระยิบระยับหลั่งไหลออกมา ขางในนั้นมีอสูรกายนอนพาด
อยู รูปรางคลายคลึงกับราชสีห บนหัวมีเขามังกรสีเหลืองทอง บนหนาผากปกคลุมดวย
แผงเกล็ดสีทอง มีแสงสวางทั่วทั้งตัว ขนสัตวสวางยิ่งกวาแพรไหมสีทองเสียอีก
มันก็คือซวนหนี อสูรบรรพกาลขนานแทตัวหนึ่ง แมวาสายเลือดชั้นสูงจะไมบริสุทธิ์
และไมมีอทิ ธิฤทธิ์สะทานฟาดังบรรพบุรุษครั้งบรรพกาล ทวามันก็ยังคงเปนที่เคารพยํา
เกรงในหุบเขาลึก
รางกายที่เหลือทิ้งไวของมันไมถือวาใหญโตมโหฬาร ลําตัวยาว 6 เมตร แตวาความ
แข็งแกรงของสัตวประหลาดไมไดขึ้นอยูกับขนาดลําตัว และซวนหนีที่อยูตรงหนาเปนขอ
พิสูจนที่ดีที่สุด
รางกายของมันราวกับหลอมมาจากทองคํา แมจะสิ้นชีพแลว แตความนาเกรงขาม
ยังคงอยู กลิ่นอายนากลัวตลบอบอวล แสงสีทองที่สาดสองลงมาทําใหทั่วทั้งบริเวณ
เปลงแสงระยิบระยับ แมแตใบไมก็กลายเปนสีทองจางๆ
ซวนหนีเฒา สิ่งมีชีวิตนากลัวที่แข็งแกรงที่สุด!
“โฮก...”
อินทรีเกล็ดเขียว เปาโหว[3]กิเลนไฟ และเหลาสัตวประหลาดดุรายตางก็เคลื่อนไหว
เมื่อพวกมันคิดเปนวาซากล้ําคาของซวนหนีไมผิดแน จึงตอสูชวงชิงกันอยางสุดกําลัง
“ชริ้ง”
เปาโหวตัวนั้นคํารามเสียงดัง ลําแสงสีเงินลอยออกมาจากหลังของมัน ปลอยออกมา
ประหนึ่งสายฟาฟาด ภายในรางกายของมันก็มีอักขระโบราณเชนกัน
“ฟบ”
สัตวประหลาดอีกตัวสงเสียงรองอยางเจ็บปวด ลําแสงที่คมกริบอยางหาที่เปรียบ
ไมได พุงทะลวงหนาอกของมัน สองแสงสวางไปทั่วบริเวณจนสามารถมองเห็นเลือดที่พุง
ออกมาจากหัวใจที่แตกสลายนั่น
อินทรีเกล็ดเขียวที่บินทะยานขึ้นสูฟากฟาไปกอนแลว ก็บินโฉบลงมาโจมตีอยางบา
คลั่ง กงจักรจันทราสีเขียวเปลงแสงอัศจรรยพดั ผานขุนเขาและผืนปา สัตวประหลาดตัว
หนึ่งถูกฟาดจนแหลกเปนสองทอน
มันโจมตีอยางไมปราณีอีกครั้ง เพียงแคสังหารสัตวประหลาดที่แข็งแกรงไมกี่ตัวให
สิ้นซาก เหลาสัตวประหลาดดุรายตัวอื่นๆ ก็ไมใชปญหา ถึงจํานวนจะเยอะก็ไมสามารถ
ทําอันตรายใดๆ มันได
สถานที่แหงนี้เจิ่งนองไปดวยเลือดโดยทันที มีสัตวประหลาดเริ่มกระโจนเขาไปโดยที่
ไมสนใจอะไรใดๆ ทั้งสิ้น พวกมันฉีกทึ้งซวนหนี หวังจะกัดกินกายเนื้อบรรจุโลหิตล้ําคาไว
ภายใน
สัตวประหลาดผูเปนใหญหลายตัวคํารามดุดัน รวมไปถึงอินทรีเกล็ดเขียว พวกมัน
ตางก็พากันบุกโจมตีเพื่อขัดขวาง ดินแดนแหงนี้เกิดการจลาจลวุนวายครั้งใหญ
“จิ้ด”
ทันใดนั้น เสียงรองแหลมคมที่ทําใหเจ็บปวดสะทานไปถึงทรวงในก็ดังขึ้น หนูสีมวง
ตัวหนึ่งที่มีขนาดใหญประมาณโมหินกระโจนขึ้นนอนราบกับแผนหลังของอินทรีเกล็ด
เขียว
“ทานอาอินทรีเกล็ดเขียว ระวัง!” เจาตัวเล็กตะโกนบอกอยางตกใจ
สําหรับเจาหนูมวงตัวนี้ มันคิดวาอินทรีเกล็ดเขียวเปนภัยคุกคามมากที่สุด จึงอยาก
ทําลายมันใหสิ้นซาก มันจึงกระโดดขึ้นสูง 30 กวาเมตร นาเขยาขวัญยิ่งนัก
หากเทียบขนาดตัวของมันกับอินทรีเกล็ดเขียวแลวเล็กมาก แตพลังจูโจมกลับ
แข็งแกรง มันหวดอุงมือทะลวงไปยังรางกายของอินทรีเกล็ดเขียวโดยตรง จากนั้นก็ขุด
เนื้อของมันออกมาเกือบ 10 กวาชั่ง คาดไมถึงวามันจะสามารถทะลวงเกล็ดเขียวนั่นได
เจาตัวเล็กพึมพาเบาๆ จากนั้นออกแรงโจมตีอยางสุดกําลัง กงจักรสีเงินหมุนควาง
ไลลาสังหารหนูมวง
แมวาอินทรีเกล็ดเขียวจะโกรธแคน แตกลับไมเสียสติ มันรูวาในขุนเขาที่หางไกลนี้มี
ราชันยหนูที่ทําใหสรรพสัตวตองเกรงกลัวเชนนี้อยู มันกินโลหะเปนอาหาร ฟนและอุงมือ
คมกริบอยางหาที่สุดไมได
อินทรีเกล็ดเขียวเปลงแสงทั่วทั้งลําตัว อักขระผนึกกําลัง ราวกับสายฟาเปนสายๆ
พันเกี่ยวลําตัว เพียงพริบตาก็พันธนาการหนูมวงตัวนี้ หวังพึ่งอักขระโบราณบีบมันให
แหลกละเอียด
สือฮาวก็ลงมือโจมตี ใชกงจักรจันทราสีเงินไลลา ฟาดเขาไปยังราชันยหนูที่ไมขยับ
เขยื้อนตัวนั้น เมื่อเสียง “ตูม “ดังขึ้น กลับไมสามารถทําอะไรมันได ดวงตากลมโตเจาตัว
เล็กเบิกกวางอยางตกตะลึง เขาตะโกนขึ้นมาวา” ฮึ่ม ลองอีกครั้ง!”
“ชริ้ง ชริ้ง...”
ประกายไฟกระเด็นรอบทิศทาง กงจักรจันทราสีเงินวงนี้โจมตีอยางตอเนื่องจนเกิด
เสียงดังตูมๆ ผิวหนังที่มีขนปกคลุมของหนูมวงตัวนั้นก็แตกออกในที่สุด เลือดพุงกระฉูด
แตกระดูกที่แข็งแรงดุจอาวุธของมันยากที่จะทําใหแตกหักได
เจาตัวเล็กไมหยุดโจมตี เมื่อกงจักรจันทราสีเงินวงแรกจางหายไป เขาก็ปลอยกงจักร
จันทราสีเงินวงที่สองตามมา ฟาดฟนดวยความดุเดือดอยางตอเนื่อง ในที่สุดเสียงแควกก็
ดังขึ้น กระดูกของจาวแหงหนูหักเปนทอนๆ จนไดรับบาดเจ็บสาหัส
“โฮก!”
ในขณะเดียวกัน อักขระของอินทรีเกล็ดเขียวผนึกกําลังและสําแดงอิทธิฤทธิ์
สะเทือนจาวแหงหนูจนมีรอยแผลนูนเปนริ้วๆ ทั่วลําตัว ไดรับบาดเจ็บอยางแสนสาหัส
แลวหลนรวงลงไปยังกลุมหิน
ในระหวางนี้ก็มีจาวแหงปกษาถูกสังหาร ตอนนี้ไมมีใครสามารถทําอันตรายอินทรี
เกล็ดเขียวได มันบินทะยานสูงขึ้นอยางรวดเร็ว และรอคอยใหแยงชิงกันจนพอแลว มัน
ถึงจะลงมือ
ในความเปนจริงแลว ไมเพียงอินทรีเกล็ดเขียวเทานั้น แมแตผูเปนใหญตัวอื่นๆ เมื่อ
การตอสูกันอยางดุเดือดเกิดขึ้น พวกมันตางก็ตัดสินใจลาถอย ไมตองการใหผูอื่นได
ประโยชน จนกลายเปนสถานการณที่ตางก็ไมสามารถเอาชนะกันได
ทันใดนั้น แผงเกล็ดของอินทรีเกล็ดเขียวก็เปดออก จากนั้นก็หดลงอยางรวดเร็ว
ประหนึ่งประสบกับความกลัวอยางแสนสาหัส มันบินโฉบลงไปประชิดผืนปาอยางดุดัน
และหลบหายไปอยางรวดเร็ว
และในเวลานี้เอง เจาตัวเล็กรูสึกเสียวสันหลังวาบ ราวกับตกลงไปในโรงน้ําแข็ง
ความรูสึกแบบนั้นคอยๆ จางหายไปพรอมกับอินทรีเกล็ดเขียวที่บินเหินดวยความเร็ว
สูงสุด
“มันคืออะไร?” เจาตัวเล็กไมเคยผวาอยางเชนวันนี้มากอน เมื่อครูราวกับหยุด
หายใจไปแลว ใบหนาของเขาซีดเผือก
อินทรีเกล็ดเขียวบินเหินออกไปไกล จากนั้นก็ทะยานขึ้นสูฟากฟา ทะลวงเขาสูชั้น
เมฆ เพื่อเรนกายของตน จากนั้นก็เพงมองลงไปยังบริเวณผืนปานั่น
เจาตัวเล็กใชพลังลึกลับของอักขระกระดูก พลันนัยนตาก็เปลงแสงระยิบระยับ เขา
นอนพาดอยูบนหลังของอินทรีเกล็ดเขียว และจดจองไปยังที่แหงนั้นเชนกัน
“โฮก...”
เสียงคํารามที่สะเทือนทองฟา สะทานผืนดินดังลอยมา ภูเขาและหุบเหวสั่นไหว
ใบไมแหงเหี่ยวรวงโรยเต็มพื้นดิน โลกหลาเย็นเยือกขึ้นมาโดยพลัน ไอโหดเหี้ยมประหนึ่ง
น้ําปาไหลบาทําใหเกิดความหายนะ
ภายในพริบตา ขุนเขาที่อึกทึกคึกโครมก็สงบลง เหลาสัตวประหลาดดุรายก็หยุดแผด
เสียงเพียงชั่วครู พวกมันสั่นสะทานดวยความกลัว ไมกลาแผดเสียงรองอีกตอไป แมแต
ตัวนิ่มสีเลือด อสรพิษสีมวง หรือกิเลนไฟก็ไมกลาแมแตจะขยับเขยื้อน
เงาดําทมิฬปรากฏขึ้น ประหนึ่งปศาจยิ่งใหญที่เหนือกวาสรรพสิ่ง แผรังสีอํามหิต
ทวมทนแผนฟา ทําใหทั่วทั้งบริเวณนี้เงียบสงัด!
นี่คือปศาจวานร รางกายของมันไมไดใหญโตมากนัก มันสูงประมาณ 2 เมตรกวา
บนลําตัวเต็มไปดวยขนยาวครึ่งเซี๊ยะ สวางและนากลัว สิ่งที่นาตกใจของคือ มันมีปกสีดํา
ทมิฬคูหนึ่ง สามารถเหาะเหินกลางอากาศได เมื่อครูมันก็บินโฉบลงมาจากฟากฟาลงสู
พื้นดิน นอกเหนือจากนี้ บนหัวของมันยังมีเขาสีดําสนิทคูหนึ่ง หนาใหญและนากลัว
“อา มันคือปศาจวานรชั่วรายนี่เอง ทั้งยังเปนราชันยที่มีสายเลือดชั้นสูงอีกดวย มิ
เชนนั้นคงไมมีปกที่ทําใหเหาะเหินไดนั่นหรอก!” เจาตัวเล็กตกตะลึงจนปากอากวาง
ปศาจวานรเกรียงไกรเกินไป เพียงแคมันปรากฏตัวก็สะเทือนเหลาสัตวประหลาดจน
หยุดนิ่ง เพียงแคสายตาเยียบเย็นกวาดมองไป ไมมีผูใดกลาตอตาน มิหนําซ้ํา ภายนอก
รางกายของมัน ยังมีควันดําลอยวนอยูรอบตัว กลิ่นอายเหี้ยมโหดลอยปะทะเขากับหนา
ราวกับเคยสังหารสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกรงมานับไมถวน
“นี่คือจาวแหงหุบเขาลึก หากเทียบกับซวนหนีแลวก็ไมแตกตางกันมากเทาไหร”
เสียง “ฟว” ดังขึ้น เพียงปศาจวานรกระทืบขาทั้งสองขางของมัน ก็กระโดดขึ้นสูงถึง
100 เมตร จากนั้นบินโฉบลงไป หลนรวงลงไปยังหัวอันใหญของหมีวิหค
หมีวิหคที่ยาว 10 เมตร เปนสัตวประหลาดที่พบเห็นไดยากมาก มันมีรางกายเปน
หมี นอกจากนี้ยังมีปกคูหนึ่ง สามารถบินพุงขึ้นสูฟากฟา มันเกรียงไกรมาก ทวาตอนนี้
มันกลับสั่นสะทานดวยความกลัว หมอบอยูตรงนั้น ไมกลาแมแตจะขยับ
ปศาจวานรนั่งอยูบ นหัวของมันอยางสงบ จากนั้นยื่นอุงมือออกไป เสียงปงดังขึ้น
พรอมกับกะโหลกดุจหินโมนั้นถูกหั่นจนแยกออก มันกินอาหารเสียงดังแจบๆ ราวกับวา
ไมมีใครอยูในบริเวณนั้น
หมีวิหคคํารามอยางเจ็บปวด กระทั่งมันตายก็ไมกลาแมแตจะขยับตัว ถูก
พันธนาการโดยกลิ่นอายนาสะพรึงกลัวจนขยับตัวไมได
เหลาสัตวประหลาดดุรายทั้งหลายตางก็ตัวสั่นระริกดวยความกลัว นี่เปนราชาแหง
วานรที่ไมไดดอยกวาซวนหนีเทาไหรนัก แตมันกลับยางกรายออกมาจากหุบเขาลึก จะมิ
ใหพวกมันผวาไดอยางไร?!
“ปง”
ปศาจวานรกินไปเพียงไมกี่คํา มันก็ออกแรงกระทืบเทาแลวกระโดดขึ้น จากนั้นก็รวง
ลงมาตรงหนาของซากซวนหนี ทางดานหลัง หมีวิหค สัตวประหลาดที่ยาว 10 เมตรก็ลม
ลงไปดังตึง
จาววานรสีดําสนิทตัวนี้ที่ไมไดมีขนาดใหญโตมากนัก พลันกระทืบเทา กอนหินแตก
ละเอียดลอยขึ้นสูอากาศทันใด ขุนเขาทรุดตัวลง ผืนดินมีรอยแยกทั่วทุกสารทิศ กองหิน
ใกลกับซวนหนีถูกขจัดออกไปจนหมดสิ้น
“มอ...”
ทันใดนั้น เสียงคํารามของกระทิงดังแววมา มีกองไฟนากลัวพุงออกมาจากกลางผืน
ปาที่อยูไกลออกไป นั่นเปนกระทิงสีแดงฉานขนาดใหญ สูงเกือบ 10 กวาเมตร ยาวราวๆ
30 เมตร เทาทั้งสี่ย่ําอยูบนเปลวเพลิงที่ลุกโชน
ลําตัวของมันอาบไปดวยไฟ แผงขนประหนึ่งแพรไหม เปลงแสงสีแดงฉานวูบวาบ
“นี่เปนปศาจกระทิงไฟที่ทา นผูเฒาพูดถึงอยางนั้นใชไหม?!” เจาตัวเล็กเบิกตากวาง
อยางตกใจ
หัวหนาหมูบานสือยวิ๋นเฟงในเวลานี้คอยๆ แกลง แตตอนที่เขายังเด็กมาก เขาก็เคย
ไดยินเหลาผูอาวุโสในตอนนั้นกลาวถึงมัน ในจุดที่ลึกที่สุดของเทือกเขามีกระทิงไฟตัว
หนึ่ง พลังศักดิ์สิทธิ์แข็งแกรงสะทานดินแดนรกรางแหงนี้ และตอนนี้มันยังมีชีวิตอยู
เสียงฟวดังขึ้น ปศาจวานรกางปกออก แลวบินทะยานขึ้น ประจันหนากับกระทิงไฟ
ทามกลางพวกมันมีไอเหี้ยมโหดปะทุขึ้น ราวกับพายุขนาดใหญที่ทําลายลางผืนปาใหราบ
คาบ
“อาว...”
“มอ...”
เสียงคํารามของสัตวทั้งสองดังขึ้น พรอมกับพวกมันที่กระโจนเขาใสและตอสูกัน
ภูเขาสะเทือนผืนดินสั่นไหวทันที ตนไมเกาแกแหลกละเอียด กอนหินใหญแตกกระเด็น
ปลิววอน
ทันใดนั้น แสงสีทองสองสวาง แสงเรืองรองแผกระจาย ทําใหทั่วบริเวณผืนปาสวาง
เจิดจา ตนไม และกอนหินตางก็เปนสีทองจางๆ ไมมีใครคาดคิดวา ซวนหนีตัวนั้น
กระโดดขึ้น พลังความนาเกรงขามทวมทนแผนฟา!
“โฮก...”
เสียงประหนึ่งสายฟาแหงสรวงสวรรคคํารามดังขึ้น สะเทือนภูเขาสั่นไหว มันเร็วดุจ
สายฟาสีทอง พุงจูโ จมจาวแหงสรรพสัตวทั้งสองตัวนั้น
“ฟบ”
ทุกอยางเกิดขึ้นเร็วมาก และกะทันหันเกินไป ไมมีใครสามารถตานทานได แสงสี
ทองพุงผานไป แมวาปศาจวานรจะตอบสนองตอความไว ยกแขนขึ้นมาหวังตอบโต แตก็
ถูกฉีกทึ้งจนเลือดพุงกระฉูดขึ้นสูงเกือบ 10 เซี๊ยะ
“แควก!”
ในขณะเดียวกัน ปศาจกระทิงไฟที่มีเปลวไฟลุกทวมตัว เขาขนาดใหญที่ยาวเกือบ
เมตรบนหัวของมัน รวมไปถึงเลือดเนื้อของมันตางก็ถูกซวนหนีใชอุงมือจูโ จมจนหักลง
รวงหลนลงพื้นดิน
ภาพเหตุการณนี้ทําใหเหลาสัตวประหลาดดุรายทั้งหลายตะลึงงัน พวกมันออนเปลี้ย
เพลียแรง และลมลงบนสถานที่เกิดเหตุ สั่นระริกดวยความกลัว
..............................
[1] กิเลน เปนชื่อของสัตวชนิดหนึ่งในเทพนิยายของจีน
[2] โหว สัตวในตําราโบราณ รูปรางคลายสุนัข
[3] เปาโหว เปนสัตวเลือดผสมที่เปนทายาทของโหว
บทที่ 21 ซวนหนี
กลางชั้นเมฆ อินทรีเกล็ดเขียวสั่นระริก หวาดผวาในใจ คาดไมถึงวาซวนหนียังไม
ตาย เมื่อครูพวกมันยังตอสูกันเพื่อแยงชิงซากของมันอยูเลย เกิดเรื่องนากลัวเชนนี้ได
อยางไร?!
“อืออา ไยมันจึงฟน คืนชีพ?” เจาตัวเล็กเกาหัวดวยความงุนงง
“โฮก...”
มีเสียงคํารามสะเทือนแผนฟาและแผนดินสั่นไวดังมาจากกลางปา ปศาจวานรตัวนั้น
คํารามดวยความโกรธแคน มันถูกฉีกแขนทั้งเปน เลือดสดพุงกระเซ็น ทําใหมันคลุมคลั่ง
เพราะความเจ็บปวดทรมาน
มันโจมตีดวยแขนที่เหลือขางเดียว หนึ่งหมัดกระแทกเขาไปยังเจาแหงสรรพสัตวที่มี
ลําแสงสาดสองทะลุเมฆตัวนั้น ซวนหนีเฒากลับไมเชื่องชาเฉกเชนความชราภาพของมัน
ภายในพริบตา มันก็ปรากฏขึ้นอีกในระยะที่ไกลออกไปเกือบ 100 กวาเมตร
เสียงโฮกดังขึ้น พรอมกับกําปนของปศาจวานรที่หวดกอนหินที่เหลือเพียงครึ่งทอน
จนแหละละเอียด ฤทธิ์เดชสะเทือนผืนปารกราง หลังจากที่มันโจมตีความวางเปลาแลว
มันกลับไปไมยอมหยุด จากนั้นกระโดดขึ้นสูง 200 เมตร กางปกออกเพื่อบินหลบหนี
หายไป
แมวามันจะโกรธแคน หากแตมันรูดีวา ตนไมใชคูตอสูของซวนหนีเฒาตัวนั้น
ดวงตาสีทองของมันเยือกเย็นมาก หมอกทั่วลําตัวกระเพื่อมขึ้นลง ราวกับคลื่นยักษ
และมีสายฟาสีทองพุงขึ้น ฟาดเขาใสหลังของปศาจวานรดังปง
“โฮก...”
ปศาจวานรคํารามเสียงดัง ทั้งลําตัวสั่นระริก เลือดสาดกระเซ็นและพุงขึ้นสูง 10
เซี๊ยะทันที ภายใตเคล็ดวิชาอันนากลัวของเผาพันธุซวนหนีทําใหมันเสียเปรียบเฉกเชน
เมื่อครู เกิดหลุมเลือดสวางจาปรากฏขึ้นทั้งดานหนาและดานหลังของหนาอก
เพียงชั่วครูปศาจวานรผูแข็งแกรงก็รวงหลนลงมาทันที มันอาปากกวางเผยเขี้ยวสี
ขาว มันใชแขนที่เหลือขางเดียวจูโจม อักขระเปลงแสงวูบวาบทั่วทั้งตัวจะสําแดงเคล็ด
วิชาล้ําคาที่ยิ่งใหญ
อีกฟากหนึ่ง ปศาจกระทิงไฟที่มีลําตัวแดงฉานดุจไฟ แผงขนประหนึ่งแพรไหม มัน
กําลังคลุมคลั่งเชนกัน อักขระเปลงแสงวูบวาบทั่วรางกาย มันก็ไมตองการตอสูกับซวน
หนี ปรารถนาตีฝาวงลอม และตัดสินใจหลีกเลี่ยงตั้งแตแรก
อยางไรก็ตาม ซวนหนีนากลัวเกินไป ภายในแววตาเยือกเย็นสาดลําแสงออกมาสอง
สาย ตามมาดวยเสียงฟาคําราม กระแทกไปยังรางกายของปศาจกระทิงไฟ เพื่อทําลาย
อักขระของมัน บนรางกายปรากฏรอยแผลนูนนากลัวเปนริ้วๆ
“มอ...”
ปศาจกระทิงสีแดงที่ลําตัวยาวกวา30เมตรโกรธจัด เปลวไฟทั่วรางกายลุกโชนทวม
ทนทองฟา กองไฟลุกไหม มันลุกยืนขึ้น อาปากออกกวาง พนลําแสงสวางวาบ เผาไหม
ยอดเขาจนกลายเปนลาวา ทวมทนสิบทิศ
การจูโจมครั้งนี้ เหลาสัตวประหลาดที่อยูในเหตุการณกลายเปนเถาถานไมรูตั้ง
เทาไหร ไมมีแมแตเสียงโหยหวน
ซวนหนีแผดเสียงคําราม ลําแสงสีเหลืองทองบนรางกายของมันเจิดจามากขึ้น เปน
ประกายฉูดฉาด ทั่วอาณาบริเวณของขุนเขากลายเปนทะเลสีทอง หมอกกระเพื่อมขึ้นลง
อยางดุเดือด ขัดขวางกองไฟนั่นไว
บนชั้นเมฆที่หางไกล เจาตัวเล็กบนพึมพํากับตัวเองวา “ซวนหนีแกลงตาย ตั้งใจ
หลอกลอปศาจวานรและปศาจกระทิงไฟมา ชางเปนเผาพันธุที่มีปญญาเสียจริง ฉลาด
กวาผูคนมากมายเสียอีก”
ปศาจชั่วรายคําราม เปลวไฟทวมทนแผนฟา ลําแสงและหมอกผสานเขาดวยกัน ที่
แหงนี้อึกทึกคึกโครม อสูรครั้งบรรพกาลสามตัวเผชิญหนากัน เสียงดังสนั่นหวั่นไหว
สะเทือนแผนฟาสะทานผืนดิน ดินแดนรกรางสั่นไหว
บนรางกายของซวนหนี ปศาจกระทิงไฟ และจาวแหงวานร ลวดลายลึกลับเนือง
แนนผนึกกําลัง ลําแสงเผาไหมอยางรุนแรง ราวกับอสรพิษไฟฟาที่กําลังโฉบเฉี่ยวไปมา
พลังที่แข็งแกรงกําลังผสานเขาดวยกัน เคล็ดวิชาล้ําคาใกลจะสําแดงอิทธิฤทธิ์แลว!
“โครม!”
เสียงที่ดังสนั่นบาดแกวหูลอยมาเปนระลอก ประหนึ่งสายฟาของเซียนเทพบนสรวง
สวรรคฟาดลงมา ลําแสงทะลุทองฟา หมอกแผกระจาย ไฟฟาผสานเขาดวยกัน ซวนหนี
ปศาจวานรและปศาจกระทิงไฟตางก็สั่นสะเทือน ผืนดินแยกออก ราวกับวันสิ้นโลกมา
เยือนแลว
“ฟบ”
ปศาจวานรลอยขึ้นกลางอากาศ จากนั้นกระโดดออกจากภูเขาที่เต็มไปดวยแสง
ศักดิ์สิทธิ์สีทอง เลือดอาบไปทั่วรางกาย กระดูกก็แตกหักไมรูกี่ชิ้น แตทายที่สุดก็หลุดพน
จากบริเวณหมอกที่แผคลุมซวนหนีไว
เสียงตูมดังขึ้นพรอมกับหนึ่งเทากระทึบพื้นดินจนแตกแยก เมื่อมันกางปก กอใหเกิด
พายุขนาดใหญ ที่พัดเอาหมอกดําทมิฬที่ทวมทนทองฟา พุงเขาไปยังจุดที่ลึกที่สุดของ
เทือกเขา
ปศาจวานรไมเพียงเสียแขนไปขางหนึ่ง แมแตอวัยวะภายในก็แหลกละเอียด ยิ่ง
กระดูกไมรูวาหักไปกี่ชิ้น ตองรีบเรงเสาะหาพื้นที่สงบหลบซอนเพื่อรักษาบาดแผล มิ
เชนนั้นหากถูกศัตรูเกาพบเขา ก็จะตองตายเปนแนแท
“มอ...”
ปศาจกระทิงไฟแผดเสียงรอง เสียงคํารามที่นาสลดใจดังสนั่นหวั่นไหว สะเทือน
ภูเขา รางกายของมันเต็มไปดวยเลือด ยากที่จะหลุดรอดออกมาได เปลวไฟลุกโชนแผด
เผาจนทั้งแผนฟาเปนสีแดงฉาน มันชนภูเขาแตกหัก เหยียบย่ําลาวา และหลบหนีหายไป
ในหุบเขาลึก
ในสถานที่เกิดเหตุเหลือเพียงซวนหนีตัวเดียว แผงขนสีทองเจิดจรัสทั่วลําตัว มันเชิด
หัวขึ้นแลวคํารามยาว ราวกับพายุทอรนาโดจูโจม ตนหญาและพุมไมเตี้ยลอยขึ้นจาก
พื้นดิน ตนไมใหญหักโคน กอนหินเกลือกกลิ้ง กอเกิดความอลหมานครั้งใหญ
สายตาเยือกเย็นของซวนหนีกวาดมองสิ่งมีชีวิตโหดเหี้ยมที่รอดชีวิต มันครางเสียงต่ํา
กระทั่งตอนนี้ พวกมันถึงจะไดรับการอภัย ตางแผดเสียงเศราโศก พุงออกไปทั่วทุก
สารทิศ และหายไปในพริบตาเดียว
ในความเปนจริง เหลาสัตวประหลาดดุรายสวนใหญตางก็ตายที่นี่ โดยเฉพาะเมื่อครู
ที่ซวนหนี ปศาจกระทิงไฟ และจาวแหงวานรสูรบตบมือ สงผลกระทบเปนวงกวาง สัตว
ประหลาดมากมายตางก็ประสบหายนะ
ผืนปาสงบ ลาวาเย็นตัว เหลือเพียงคราบเลือดเปรอะเปอนไปทั่วบริเวณ ซวนหนีชรา
อยูที่นี่เพียงลําพัง รางกายขนาดใหญราวกับเทพเจา แสงศักดิ์สิทธิ์แผคลุมทั่วทั้งรางกาย
มันรูสึกอางวาง ลําแสงเยือกเย็นในดวงตาคอยๆ จางหายไป สายเลือดหลั่งไหลออก
จากปาก นากลัวยิ่งนัก สุดทายก็มีลําแสงปะทุขึ้นทั่วลําตัว รางกายปริแตก จากนั้นลมลง
บนพื้นดินดังโครม
“อา มันตายอีกแลว ครั้งนี้มันตายจริงใชไหม? “เจาตัวเล็กที่อยูบนหลังของอินทรี
เกล็ดเขียวเบิกตากวางแลวพูดวา” มันชรามากแลว ชีวิตเดินมาถึงจุดจบ นาเสียดายที่มัน
วางกลลวงสังหาร หากแตไมสามารถปลิดชีพศัตรูได”
ดวงตาของอินทรีเกล็ดเขียวมีลําแสงสองสวางวาบขึ้นมา มันตองการจะบินโฉบลงไป
เปนอยางมาก แตก็เกรงวาซวนหนียังไมสิ้นลมหายใจอยางแทจริง หากเปนเชนนั้นแลว ก็
เปนการรนหาที่ตายโดยแท
ภายในผืนปาเงียบสงบ ไมมีใครกลายางกรายเขามา เหลาสัตวประหลาดดุราย
ทั้งหลายตางก็ถูกซวนหนีทําใหตกใจจนหนีกระเจิง ไมกลากลับมา และไมรูวา หลบหนีไป
ไกลกี่ลี้กันแน
“ทานอาอินทรีเกล็ดเขียว ครั้งนี้ซวนหนีคงจะสิ้นลมแลวจริงๆ พวกเรารีบไปดูกัน
เถิด” สือฮาวพูดเสียงเบา
เสียงลมพัดหวีดหวิว แผงเกล็ดสีเขียวสองแสงสวางวาบกลางชั้นเมฆ ทําไมสิ่งมีชีวิต
ที่มีปญญาตัวนี้จะไมรู แตก็ควรระแวดระวัง มันบินวอนไปทั่วแลวจึงคอยบินโฉบลงไป
บริเวณพื้นดินเต็มไปดวยสีแดงฉาน มีแองน้ําขนาดเล็กที่เปนเลือดทั้งหมด ซาก
รางกายเละเทะและกระดูกสีขาวแตกหักมีอยูเต็มไปหมด กลิ่นคาวเลือดโชยแตะจมูก
“อา มันสิ้นลมแลวจริงๆ” เจาตัวเล็กกับอินทรีเกล็ดเขียวมาถึงบริเวณใกลเคียง
สัมผัสตัวซวนหนี ณ เวลานี้รางกายของมันคอยๆ เย็นลง พลังชีวิตดับสิ้นแลว
อินทรีเกล็ดเขียวฮึกเหิมอยางหาที่เปรียบไมได ออกแรงกระพือปกเพื่อใหเม็ดทราย
ปลิววอนกอนหินกลิ้งกระจัดกระจาย มันเสาะหาแขนขางที่ขาดของปศาจวานรตัวนั้นมา
จากที่ไกลๆ มันเปนอสูรบรรพกาลเชนเดียวกัน ในรางกายมีเลือดบริสุทธิ์ที่มีคามหาศาล
เสียงดัง “ฮึบอาๆ” ดังลอยมา พรอมกับเจาตัวเล็กที่แบกเขายาวเกือบเมตรของ
ปศาจกระทิงไฟกลับมา เขาหัวเราะใสซื่อ ดวงตาหยีจนกลายเปนรูปรางพระจันทรเสี้ยว
เพราะวานี่ก็เปนสัตวประหลาดที่มีคาอยางหาที่สุดไมได
“ทานอา พวกเรารีบไปกันเถิด” เจาตัวเล็กกลาวเตือน
อินทรีเกล็ดเขียวตื่นเตนเปนอยางมาก ไมมีทาทีโหดรายเฉกเชนทุกวัน ในเวลานี้
ดวงตาทั้งสองขางหรี่ลง ราวกับมึนเมา
“เอะ ทานอา ทานเปนอะไรไป?” เจาตัวเล็กอุทานดวยความตกใจ
เมื่ออินทรีเกล็ดเขียวจับตัวซวนหนี และเตรียมกระพือปก ไมคิดวาจะโอนเอนและ
เกือบจะลมลงกับพื้น
“อา ทานอา ทานโดนพิษแลว ยังกําจัดพิษออกไปไมหมด” แววตาของสือฮาวเต็ม
ไปดวยความกังวล
ในการตอสูเมื่อครูนี้ อินทรีเกล็ดเขียวโดนงูสีมวงตัวนั้นฉก แมวามันจะตัดเนื้อออกไป
ชิ้นใหญอยางเด็ดขาดแลว แตก็ไมสามารถหยุดยั้งพิษรายที่แผซานไดอยางแทจริง
ซ้ําราย มันยังประสบกับการโจมตีของตัวนิ่มสีเลือด และจาวแหงหนูนากลัวที่กิน
โลหะเปนอาหารตัวนั้น ไดรับบาดเจ็บไมเบา ทําใหรางกายออนแอเปนอยางมาก เปน
เหตุใหพิษรายแผซานอยางรวดเร็ว ยากตอการยับยั้ง
“ทานอา พวกเรารีบไปกันเถิด กลับหมูบานหินผาไปใหทานผูเฒาชวยขับพิษให
ทาน!” เสี่ยวสือฮาวตะโกนอยางตื่นตระหนก
อินทรีเกล็ดเขียวกระพือปกเพื่อลองบินขึ้นอีกครั้ง ครั้งนีม้ ันสามารถจับซวนหนีตัว
ใหญและบินขึ้นไดสําเร็จ มุงหนาเหาะเหินไปยังหมูบานหินผา
ระหวางทาง มันโอนเอนอยูหลายครั้ง อันตรายหนอยก็เกือบจะรวงลงมา รางกาย
คอยๆ ออนแอลง จนแทบจะหมดเรี่ยวแรง หากเปนวันปกติแลว เหยื่อที่หนักกวานี้เปน
เทาตัวมันก็สามารถจับไปไดอยางงายดาย
“แควก”
ยามที่บินผานผาชัน ปกเหล็กของมันกระแทกเขากับกอนหินขนาดใหญ ฟาดเนินผา
ชันแหลกละเอียด และตัวมันเองก็เกือบจะหลนรวงลงไป
เจาตัวเล็กพูดอยางกังวลวา “ทานอา หากทานไมไหว เราวางซวนหนีไวที่นี่กอน
หรือไมก็โยนเขาของกระทิงไฟนี้ทิ้งไป วันหนาเราคอยกลับมาหากันใหม”
อินทรีเกล็ดเขียวขัดขืนอยางรุนแรง แลวใหเขานั่งบนหลัง โอบเขาสีแดงยาวเกือบ
เมตรไว และยังมีแขนของปศาจวานร ไมตองการที่จะทิ้งของเหลานี้ และตัวมันเองก็ใช
กรงเล็บทั้งสองจับซวนหนีไวแนน โอนเอนไปตลอดทาง บินโฉบไปตามขุนเขา มุงหนาไป
ยังหมูบานหินผา
ในที่สุดก็ใกลถึงหมูบานหินผาแลว เจาตัวเล็กโอบเขาสีแดงฉานไว และยังมีแขนของ
ปศาจวานร ภายในใจอัดแนนไปดวยความสุข ยิ้มอยางเบิกบานใจเปนที่สุด
ครั้งนี้อันตรายเปนอยางมาก เกือบจะเอาชีวิตไมรอด แตพวกเขาก็นํารางกายล้ําคา
ของซวนหนีกลับมาได จริงๆ แลวนอกจากนี้ ยังมีเขาของกระทิงไฟและแขนของจาว
วานรเพิ่มมาอีก ผลลัพธจึงเปนที่นาพอใจเปนอยางมาก
“ทานผูเฒาและพวกลุงๆ ทั้งหลายปดขามาโดยตลอด พวกเขากังวลกับพิธีชําระลาง
ตอน 5 ขวบของขา แทที่จริงแลวขารูอยูแลวละ ตอนนี้ดีแลว มีอสูรบรรพกาลสามตัวนี้
เลือดบริสุทธิ์มีเพียงพอแลว”
เขาดีใจอยางหาที่เปรียบไมได ใบหนาเล็กเต็มไปดวยรอยยิ้ม ยิ้มหวานและไรเดียงสา
สองประกายมากขึ้นภายใตแสงอาทิตยยามอัสดง
..............................
บทที่ 22 ศัตรู
ตะวันลับขอบฟาทางทิศตะวันตก อาทิตยอัสดงสีแดงสวยงาม แสงแหงความรุงโรจน
ยอมทั่วบริเวณขุนเขาจนกลายเปนสีแดงเขม ใตแสงสายัณหยามอาทิตยตกดิน เงียบสงบ
และ’งดงาม
ใกลจะถึงหมูบานหินผาแลว อาณาบริเวณนี้มีสัตวประหลาดไมมากนัก เพราะ
ดํารงชีวิตอยูรอบนอกของเทือกเขา จึงถือวาสงบสุขอยูพอควร
“ในที่สุดก็ใกลจะถึงบานแลว” เจาตัวเล็กถอนหายใจดวยความโลงอก
“ปง”
ทวาในเวลานี้เอง อินทรีเกล็ดเขียวก็รวงลงไป ปกทั้งสองขางกระแทกตนไมสูงเสียด
ฟาจนหักโคน เรี่ยวแรงคอยๆ หมดไป บริเวณบาดแผลหลั่งรินเลือดสีดําไมหยุดหยอน
มันฝนทนตอไปไมไหวแลว
“ทานอา อดทนอีกหนอยนะขอรับ พวกเราจะถึงบานเดี๋ยวนี้แลว” เจาหนูสือฮาวให
กําลังใจมัน
เสียงแผดคํารามยาวดังขึ้น อินทรีเกล็ดเขียวออนระโหยโรยแรง รางกายขนาดใหญ
ทิ้งตัวกระแทกลง ใบไมปลิววอนกระจัดกระจาย ตนไมเกาแกหลายตนหักโคนลง ตนไม
เสียหายเปนจํานวนมาก
โชคดีที่มันรอนลง ไมไดรวงหลนลงมาโดยตรง มิเชนนั้นหลนจากฟากฟาสูงเชนนั้น
ตองกระดูกหักกลามเนื้อปริแตกเปนแน
เสียงโครมดังขึ้นพรอมกับซวนหนีที่อินทรีเกล็ดเขียวจับไวรวงหลนลงไปยังพืน้ ดิน
กอน มันชนเขากับกอนหินใหญจนแตกละเอียด จากนั้นรางกายใหญโตของอินทรีเกล็ด
เขียวก็รวงลงมาบนผืนหญา
เจาตัวเล็กที่หามเขาสีแดงฉานไวก็กลิ้งหลุนๆ ตกลงมา ยังดีที่เขามีรางกายที่เบาและ
แข็งแรง เขาเหวี่ยงเขามีคาที่ยาวเกือบเมตรนั้นทิ้งไดทันทวงที จึงไมไดรับบาดเจ็บใดๆ
“ทานอา ทานไมเปนไรใชไหมขอรับ?” เสี่ยวสือฮาวยันตัวลุกขึ้นอยางรวดเร็ว และ
รีบวิ่งไปหาอินทรีเกล็ดเขียว
สถานการณของทายาทอสูรปกษาในตอนนี้เลวรายมาก เลือดที่ไหลออกมากจาก
บาดแผลราวกับน้ําหมึก แผกลิ่นอายเหม็นคาว รางกายไรเรี่ยวแรง ไมสามารถยันตัวลุก
ขึ้นได
อินทรีเกล็ดเขียวแผดเสียงคํารามขึ้นฟา เสียงดังกึกกอง ทะลวงผานทองคํา
สั่นสะเทือนหินแหลกละเอียด จนเสี่ยวสือหาวปวดแกวหู เขารีบยกมืออุดหูอยางรวดเร็ว
ใบไมบริเวณรอบๆ รวงโรยยุง เหยิง
“ใชแลว ทานอา หากทานเจ็บปวดก็ออกแรงแผดเสียงใหดัง คํารามยาวหลายๆ ครั้ง
ที่นี่ไมไกลจากหมูบานหินผามากนัก พวกตาเผิงและเสี่ยวชิงตองไดยิน แลวนําทานผูเฒา
มารับพวกเราเปนแน”
เจาตัวเล็กพูดพลางวิ่งไปหาเขาสีแดงไฟนั่น หั่นเอาเนื้อเลือดที่ติดอยูมาชิ้นใหญ
จากนั้นยื่นไปที่มุมปากของอินทรีเกล็ดเขียว แลวพูดวา “ทานอา ขาไดยินมาวาเขา
กระทิงศักดิ์สิทธิ์สามารถแกพิษได และนี่เปนเขาที่มีเลือดล้ําคาของอสูรบรรพกาล แมวา
จะเปนของกระทิง แตไมแนวาอาจจะมีสรรพคุณอยูบาง”
เขาปอนชิ้นเนื้อเขาไปในจะงอยปากของอินทรีเกล็ดเขียว จากนั้นชวยหุบปากของ
มัน กระทั่งตอนนี้ แววตาที่อินทรีเกล็ดเขียวใชมองเขาก็ฉายแสงออนโยนวูบวาบ ราวกับ
สายตาที่ใชมองลูกของตน ในสายเลือดของอสูรปกษานั้นมีปญญามาก
“ทานอาอดทนหนอยนะขอรับ เดี๋ยวพวกทานผูเฒาก็มาแลว”
ครั้นเวลาผานไป มีเสียงคํารามจากที่หางไกลลอยมาเปนระลอก เจาตัวเล็กวิตก
กังวล ไมรูวาผูคนในหมูบานจะไดยินเสียงคํารามของอินทรีเกล็ดเขียวหรือไม
หากวาตัวเขากลับไปกอน ดวยอาการของอินทรีเกล็ดเขียวในตอนนี้ ถามีสัตว
ประหลาดผานมาคงจะตองตายอยางไมตองสงสัย และไมสามารถจะตอตานไดเลยแมแต
นิด
“ถึงแมวาจะไมไดยนิ ก็ตาม อยางไรแลวทานผูเฒาก็ตองออกคําสั่งใหคนออกมารับ
ขากลับไป ไดโปรดอดทนรอหนอยนะขอรับ ทุกอยางจะตองดีขึ้น” เจาตัวเล็กใหกําลังใจ
มันดวยน้ําเสียงออนโยน
เสียงคํารามต่ําของสัตวประหลาดใกลเขามาทุกที เสียงกรอบแกรบดังมาจากที่ไกลๆ
ทองฟามืดสนิท ผืนปาแหงนี้เงียบสงัดและนากลัวเปนอยางมาก
“ทานอากินเลือดล้ําคาอีกหนอยนะขอรับ” เจาตัวเล็กจับเนื้อของปศาจกระทิงไฟ
แลวยื่นไปตรงหนาอีกครั้ง
ทันใดนั้น ขนทั่วทั้งตัวของเจาตัวเล็กก็ลุกเกรียวกราว จากนั้นเบี่ยงตัวหลบอยาง
วองไว ลูกธนูโลหะเย็นเยือกถากผานลําคอของเขาไป เสียงปงดังขึ้นพรอมกับลูกธนูปก
ทะลุเขาไปในกอนหินดังเกิดเสียงดังชริ้งชริ้ง
และในตอนนี้เอง เสียงนากลัวสะทานฟาก็ดังลอยมา ลูกธนูนั่นวองไวมาก ไวกวา
เสียงที่เปลงออกมาเสียอีก พลังมหาศาล หากเมื่อครูเจาตัวเล็กตอบสนองชาไปเพียงนิด
เดียว ก็คงจะถูกลูกธนูทะลวงลําคอแลว
ลําแสงเย็นสวางวาบผานไปอีกครั้ง ลูกธนูดอกที่สองถูกยิงออกมา เจาตัวเล็กรีบหลบ
ซอน เสียงฟบดังขึ้นพรอมกับเลือดกระเด็นพุงขึ้น ชิ้นเนื้อที่เขาจะปอนใหอินทรีเกล็ด
เขียวในตอนแรกถูกลูกธนูทะลวง
“ชางสิ้นเปลืองเสียจริง เหลือไวใหพวกขายังดีกวาที่จะเอาไปปอนใหอสูรปกษาที่
ใกลจะสิ้นลม” เสียงของบุรุษหยาบคายคนหนึ่งดังมา
“เปนพวกเจาอยางนั้นหรือ?” เจาตัวเล็กโมโหเมื่อเห็นคนของหมูบ านหมาปา ผูที่ยิง
ธนูเปนผูนํากลุมนักลาของพวกมัน สูงเกือบ 2.3-2.4 เมตร รางกายกํายํา กลามเนื้อเปน
มัดๆ ประหนึ่งงู
มีเงาตะคุมอยูรอบทิศ มีคนปรากฏขึ้นทั้งหมด 20 กวาคน ทุกคนตางก็งางคันธนู
หนักอึ้งนั่น และเล็งลูกศรมาทางเขา
เจาตัวเล็กบันดาลโทสะ ดวงตาเบิกกวางแลวพูดวา “ครั้งกอนชนเผาหินผาของเรา
ปลอยพวกเจาไป พวกเจาก็ใหคําสัตยสาบานแลว ทวาตอนนี้กลับจะสังหารขา พวกเจา
...”
“ชางเปนเด็กที่นารักเสียจริง คําสัตยสาบานจะมีคามากกวารางกายล้ําคาของซวน
หนีไดอยางไร ทัดเทียมกับเขาสีแดงของอสูรบรรพกาลไดหรือไม?” ชายวัยกลางคนของ
หมูบานหมาปาหัวเราะเสียงเย็น
“ชิ”
แสงสีเงินสองสวางขึ้นรอบทิศทาง เจาตัวเล็กไมเอยวาจาใดตอบ แขนทั้งสองขางกาง
ออก วาดพระจันทรสวางเจิดจาหนึ่งวง แสงสีเงินไหลเวียนรอบพระจันทร ราวกับ
พระจันทรบนสรวงสวรรครอนลงมายังพื้นดินจริงๆ
เขาพุงไปยังกลุมคนเหลานั้นพรอมกับพระจันทรในมือ หากพูดกันดวยเหตุผลไมได
ก็ทําไดเพียงตอสู แมวาเขาจะเปนเพียงเด็กเล็ก แตไดยินพวกผูใหญเลาเรื่องความทารุณ
และโหดเหี้ยมเมื่อเผชิญหนากับเหลาสัตวประหลาดดุรายทามกลางดินแดนรกรางแหงนี้
มามากโข
ตอนนี้ เจาตัวเล็กมองคนเหลานี้เหมือนกับมองสัตวประหลาด ไมมองวาพวกมันเปน
เผาพันธุมนุษย เขามุงไปขางหนาดวยความรวดเร็ว หวังจะตอสูกับพวกมันเพื่อปกปอง
ทานอาอินทรีเกล็ดเขียว
เพราะในใจของเขาตอนนี้ คิดวาคนเหลานี้เลวทรามกวาอินทรีเกล็ดเขียวที่มีนิสัยดุ
รายอยูมากโข ไมควรมีความเห็นใจกันอีกตอไป
“ซิ่ว ซิ่ว” ...
ลูกศรราวกับหาฝนเล็งยิงอยางเนืองแนน ทุกดอกหนักอยางนอย 1000 ชั่ง นากลัว
อยางหาที่เปรียบไมได แมวาจะเปนสัตวประหลาดตัวหนึ่งก็ตองถูกมันสังหาร
เชนเดียวกัน!
ผูคนมากมายขนาดนี้เล็งยิงไปที่เด็กเพียงคนเดียวอยางเลือดเย็นและไรความปราณี
ไมมีแมแตวาจาใด พวกมันทั้งหมดตางยิ้มเย็นอยางโหดเหี้ยม
“ตูม”
กงจักรจันทราหมุนควางกระแทกลูกศรจนรวงเปนทิวแถวเกิดเสียงดังปงปง แมจะ
เปนคันศรเหล็กก็ตานทานไมไหว แหลกละเอียดจนหมดสิ้น
“อยาไปออมมือ แมจะเปนเพียงเด็กคนหนึ่ง แตในรางกายของมันมีเคล็ดวิชาล้ําคา
แข็งแกรงมาก รวมพลังกันยิงมันใหตาย!” ชายฉกรรจรางกายกํายําตะโกนบอก
“วิ้ว”
กงจักรจันทราสงเสียงหวีดหวิว หมุนควางขามผืนปาไป คนที่ตะโกนเมื่อครูถูกฟาด
จนไหลเกือบครึ่งและแขนหายไปขางหนึ่ง สายเลือดพวยพุง มันรองครวญครางแลวลมลง
ไป
“ชางเปนเด็กที่รายกาจ รีบลาถอยและเขวี้ยงหอกเหล็ก!”
ผูนํากลุมนักลาของหมูบานหมาปาตะโกนดังลั่น สั่งใหผูคนแยกแลวถอยไปดานหลัง
จากนั้นใชพลังที่เกรงขามกวาเดิมขวางหอกเหล็กออกไป มันนากลัวกวาคันศรโลหะเสีย
อีก
“วิ้ว วิ้ว...”
หอกเหล็กเปนดามๆ ที่แผรังสีเยือกเย็นพาดผานทะลุฟากฟา แตละดามยาว 2 เมตร
หนักเกือบ 10 ชั่ง หอกที่สามารถทะลวงหนังของปศาจกระทิงไฟลอยมาพรอมกัน!
“ตูม ตูม” ...
เจาตัวเล็กใชกงจักรจันทราเปนที่กําบัง กระแทกหอกดามแลวดามเลาจนหัก เกิด
เสียงดังสะเทือนแกวหู ประกายไฟแตกกระเด็น สถานการณเลวรายเปนอันมาก
“ฆามัน!”
ดวงตาของเขาเบิกกวางขึ้น แมวาเขาจะเปนคนดี แตเขาไมไดออนแอ ผูอื่นตองการ
จะสังหารเขาเชนนี้ เขาเองก็ตองโจมตีกลับอยางสุดความสามารถเพื่อปองกันตัว
“วิ้ง”
กงจักรจันทราสั่นไหว จากนั้นเขาก็มุงหนาวิ่งอยางเต็มกําลัง ในมือกํากงจักรจันทรา
เปนเกราะเพื่อกําบังหอกเหล็ก เขาวิ่งไปไกลเกือบ 10 เมตร จากนั้นปลอยอิทธิฤทธิ์อยาง
เต็มกําลัง แสงสีเงินสวางวาบผานไป เสียงครวญครางดังลอยมาจากดานหนา แขนของ
คน 5-6 คนถูกฟนจนขาดหายไป เลือดพวยพุงขึ้นสูง
หอกเหล็กหลายดามลอยถากตัวเจาตัวเล็กไป เสื้อผาโดนถากทิ่มจนขาดรุงริ่ง แตเขา
กลับไมสนใจ และออกแรงปลอยกงจักรจันทราวงที่สอง บนดวงจันทรปรากฏตนไม
เกาแกแกวงแสงสวยงามไปมา จากนั้นสาดสองลงมาทําใหดวงจันทรยิ่งพรางพราวมาก
ขึ้น
“ฟบ”
ครั้งนี้ กงจักรจันทราลอยไปไกลเกือบ 10 กวาเมตร เกือบจะผารางของผูคนที่อยู
ดานหนาของผูนํากลุมนักลาเปนสองทอน ผูคนตางก็ไดรับบาดเจ็บสาหัส มิหนําซ้ํายังผา
ทองของผูน ําจนปริออก ลําไสเกือบจะทะลักออกมา
“ไป!”
ผูนําตะโกนเสียงดังออกคําสั่งเชนนี้ออกมา ใบหนาของมันซีดเผือก เหงื่อไคลผุดเต็ม
ใบหนา กลุมคนพากันตะโกน จากนั้นลากตัวคนที่บาดเจ็บสาหัสถอยออกไปอยางรวดเร็ว
พวกมันแตกกระเจิงหนีเขาผืนปาไป
“เจาเด็กนี่แปลกประหลาด รายกาจมาก แตวาสงขาวกลับไปแลว พวกของทาน
หัวหนาหมูบานอยูไมไกลจากที่นี่ คงจะตามมาเร็วๆ นี้แหละ!”
“ทานอาเกล็ดเขียว ทานไมเปนไรใชไหมขอรับ?” เจาตัวเล็กวิ่งกลับมาเห็นหอกดาม
หนึ่งปกอยูบนบาดแผลของอินทรีเกล็ดเขียว และยังมีคันศรอีกไมกี่คัน เขาปวดใจจน
น้ําตาแทบจะรวงลงมา
แววตาของอินทรีเกล็ดเขียวฉายแววอบอุน แลวพยักหนาเบาๆ โดยไมไดสงเสียง
คํารามใดๆ ออกมา มันสงบมาก
“ทานอา ขาไรประโยชนมากใชหรือไม? เมื่อครูเกิดเรื่องเชนนั้นขึ้น แตขากลับไม
สังหารคนพวกนั้น ขาเพียงทําพวกเขาไดรับบาดเจ็บที่ไหลและแขนเทานั้น...” เจาตัวเล็ก
รองไหพลางกลาวโทษตัวเอง
อยางไรเขาเปนเพียงเด็กคนหนึ่ง แมวาจะเกงกาจกวาเด็กวัยเดียวกัน แตก็ไม
สามารถลงมือเขนฆาอยางไรหัวใจเฉกเชนผูใหญได แมวาจะลงมือไปแลว แตหัวใจและ
มือกลับสั่นไมหยุด
อยางไรก็ตาม คนที่ไดรับบาดเจ็บสาหัสพวกนั้นก็สูญเสียกําลังในการตอสูจนหมดสิ้น
และไมสามารถกลับมาคุกคามไดอีกตอไป สวนใหญก็เสียหัวไหลและแขนไป พวกมัน
จะตองพิการไปตลอดชีวติ
ระยะทางไกลออกไปเกือบ 10 ลี้ ผูคนของหมูบานหมาปาชุมนุมเร็วไว และมุงหนา
มาทางดานนี้ หนึ่งในนั้นมีชายชรากึ่งนั่งกึ่งนอนอยูบนเกี้ยว เขามีใบหนาขาวซีด นัยนตา
เยือกเย็น มือกําลังนับลูกประคําที่ทําจากเขี้ยวสัตว
ชายชราคนหนึ่งพูดเสียงเบาวา “มันรายกาจไดถึงเพียงนี้ แถมยังทําใหคนของเรา
บาดเจ็บไป 10 กวาคน อยาไปเกรงกลัว ครั้งนี้ทานเทพารักษประทานอาวุธล้ําคาไวให
คอยดูวามันจะกอความจลาจลอยางไรกัน!”
“รางกายของซวนหนีอยูทางนั้น ทานเทพารักษจะมาดวยตนเอง” ชายชราอีกคน
หนึ่งกลาว
และระยะทางไกลออกไปเกือบลี้ กลุมคนของหมูบานหินผาประหนึ่งพยัคฆดุราย
ออกเดินทางมาทั้งหมูบาน มุงหนาไปยังสถานที่ที่เจาตัวเล็กอยู ลูกนกสามตัว จื่อยวิ๋น ตา
เผิง และเสี่ยวชิงที่วิ่งนําอยูขางหนากระพือปกขึ้นลงดวยความวิตกอยางหาที่สุดไมได
บทที่ 23 ประหัตประหาร
ตะวันลาลับขอบฟา ผืนปามืดสนิทและเงียบสงัด ภายใตความมืดมนมีสายตาคูหนึ่ง
กําลังเพงมอง กลิ่นคาวเลือดที่แผซาน ดึงดูดสัตวประหลาดมาจํานวนหนึ่ง นับวาโชคดีที่
เปนอาณาบริเวณรอบนอก จึงไมมีสัตวประหลาดที่นาหวาดกลัวเปนพิเศษ
“โฮก...”
แมลงเสือริ้วลาย ตัวหนึ่งวิ่งอุตลุดมา มันเปนแมลงขนาดใหญที่มีลวดลายบนลําตัว
ราวกับถูกยอมดวยสี ยาวเกือบ 5-6 เมตร และมีหัวเสือ ดุรายและเหี้ยมโหด แมลงใหญ
ตัวนี้ไดกลิ่นเลือดบริสุทธิ์บรรพกาล หวังอยากจะกัดกินรางกายของซวนหนีสักครั้งหนึ่ง
“ฟบ”
เจาตัวเล็กเหวี่ยงหอกโลหะออกไป พุงเขาไปยังหัวของมันโดยตรง มันรองครวญ
ครางอยางเจ็บปวด เลือดสาดกระเด็น แมลงเสือริ้วลายเกลือกกลิ้งไปทั่วบริเวณ เพียงไม
นานก็จบชีวิตลง
อสรพิษมีปกที่มีลําตัวหนาเกือบถังน้ําตัวหนึ่งบุกจูโจมมาจากบนหนาผาชันอยาง
เงียบเชียบ ยามมันกางปกก็มีกลิ่นคาวโชยมาแตะจมูก เมื่อเขาประชิด ปากมันอากวาง
ขึ้นหวังจะกัด
“ชริ้ง!”
เมื่อเผชิญหนากับอสรพิษตัวนี้ เจาตัวเล็กไมกลาประมาท เขาปลอยพระจันทรสีเงิน
ออกมา ทอแสงราวกับสายรุง พาดผานทองฟาไปแลวฟาดเขาไปที่หัวมันจนขาดเปนสอง
ทอน ละอองเลือดโปรยปราย
นี่เปนแคเวลาสั้นๆ แตสือฮาวกลับสังหารสัตวประหลาดไป 6-7 ตัวแลว เขาเฝาอยู
ขางอินทรีเกล็ดเขียวอยางใกลชิด หากเปนเชนนี้ตอไป จะตองดึงดูดสัตวประหลาดที่อยู
ลึกเขาไปของเทือกเขาแหงนี้ใหออกมาเปนแน
“คนของหมูบานหมาปาใกลถึงที่นี่แลว ทานผูเฒาไมไดยินเสียงรองของอินทรีจาก
ที่นี่เลยหรือ?” เจาตัวเล็กวิตก เขาหนีไปได แตเขาทิ้งอินทรีเกล็ดเขียวไมลง
นกปาตกใจบินพรวดขึ้นสูทองฟา เมื่อเจาตัวเล็กเงยหนาขึ้น ในเวลานี้เอง คันศร
มากมายพุงเฉียงลงมาราวกับพายุฝน ทั้งหมดนั่นพุงตรงลงมายังตัวเขา
ไอความตายตลบอบอวล ใบไมถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด คันศรพุงมาอยางแนน
ขนัด แมวาจะมีชางเขามังกรชวยกําบังอยูขางหนา แตก็คงถูกยิงจนพรุน
เจาตัวเล็กพนลมหายใจแลวเปลงเสียง ระหวางปากและจมูกพนลมปราณออกมา
ทั่วทั้งลําตัวเปลงแสงสวาง อักขระผนึกกําลังปลอยพระจันทรสีเงินดุจมีดดาบออกมาบัง
ไวดานหนา เกิดเสียงดังชริ้งชริ้ง
คันศรโลหะหลนรวงอยางไมลดละ หัวศรทั้งหมดหักเปนทอนๆ ภายในพริบตาก็กอง
ระเนระนาดอยูบนพื้นดิน สองแสงโลหะเยือกเย็นนากลัวยิ่งนัก
“พี่นองชาวหมาปา พวกทานอยาบีบคั้นขา!” ตาของเขาแดงก่ํา เพราะมีคันศร
บางสวนปกเขาไปในบาดแผลของอินทรีเกล็ดเขียว
คันศรราวกับพายุฝนโหมกระหน่ําหยุดลง ผูคนมากกวา 100 คนปรากฏทั่วทุก
สารทิศ ลอมเขาไวจากที่หางไกล สายตาของพวกมันจดจองมายังซวนหนีและเขาสีแดง
นั่นแลวหายใจฟดฟด
แมวาพวกมันจะไมเคยเห็นมากอน แตถาอาศัยอยูทามกลางดินแดนรกราง ไมมีใคร
ไมรูวาเลือดบริสุทธิ์ที่บรรจุอยูในรางกายของอสูรบรรพกาลนั้นมีคามหาศาลอยาง
ประมาณคามิได
“เจาหนู ซากศพของซวนหนีตัวนี้เปนสิ่งล้ําคามาก เจาคุมครองไมไหวหรอก หาก
เจาวางายก็ออกจากที่นี่อยางนอบนอมเถิด พวกขาจะไมทําใหเจาลําบากใจเลย” ชาย
ชราคนหนึ่งกลาวอยางเปนมิตร
เจาตัวเล็กบันดาลโทสะ เขาและอินทรีเกล็ดเขียวกวาจะไดรางกายล้ําคาของซวนหนี
มาอยางตายเกาหนรอดหนึ่งหน[1] อีกเพียงนิดก็จะถึงหมูบานหินผาแลว แตกลับถูกผูคน
เหลานีซ้ ุมโจมตีระหวางทาง เพื่อจะแยงชิงอสูรบรรพกาลไป จะใหยอมไดอยางไร?
เขาออกแรงกํามือที่ออนเยาวของตนไวแนนแลวพูดวา “พวกทานทําเกินไปแลว!”
“ลูกเอย ชีวิตก็เปนเชนนี้แล พวกเราตางก็ตอสูทามกลางดินแดนรกรางแหงนี้ หาก
ไมโหดรายกับผูอื่น นั่นก็เทากับเราโหดรายตอตนเอง “หัวหนาหมูบานอาวุโสของ
หมูบานหมาปาถอนหายใจยาว แลวพูดโนมนาวเขาวา” เจารีบไปจากที่นี่ดีกวา”
เจาตัวเล็กถลึงตา ไมเอยวาจาใด เขากําลังรอผูคนจากหมูบานหินผา
“วูว ชางนาตกใจเสียนี่กระไร นี่เปนอินทรีเกล็ดเขียวของแทเลย ตอนแรกขานึกวา
เปนนกปนหลิน เสียอีก คิดไมถึงวาจะเปนจาวแหงเวหาตัวหนึ่งที่สวามิภักดิ์ตอหมูบาน
หินผาเชนนี้ ชางนาตกตะลึง! “หัวหนาหมูบานอาวุโสของหมูบานหมาปาไมไดเอื้อนเอย
วาจาใด ความอัศจรรยนั้นเกิดมาจากใจ เขาพูดวา” นาเสียดาย มันถูกพิษรายแทรกซึม
เขาไปลึก มันใกลจะตายแลว”
เมื่อสือฮาวไดยินเชนนั้น ดวงตาของเขาก็เออลนไปดวยน้ําตา เขาก็มองออกวา
อาการของอินทรีเกล็ดเขียวไมสูดีนัก
เมื่อหัวหนาหมูบานหมาปาเห็นอาการของเขาก็หรี่ตาลงแลวพูดวา “ชางนาเสียดาย
มิเชนนั้นมันสามารถทัดเทียมกับเทพารักษไดเชียว ใหพวกขาสงมันไปในที่ที่มันควรจะไป
ดีกวา มันจะไดไมตองทุกขทรมาน”
“ทานกลา?!” เจาตัวเล็กโมโห เขากําหมัดแนนและยืนบังอยูขางหนาของอินทรีเกล็ด
เขียว
“ฮาๆ... “หัวหนาหมูหมาปาเปยหลี่ชิงหัวเราะแลวพูดวา” ดูแลวเจาชางเปนเด็กดียิ่ง
นัก เปนคนใจบุญทีท่ ิ้งอสูรปกษาตัวนี้ไมลง”
หลังจากพูดจบ นัยนตาของเขาเริ่มเยียบเย็นมากขึ้น จากนั้นโบกมือแลวพูดวา “ยิง
ธนู สังหารอินทรีเกล็ดเขียวตัวนั้นกอน!”
คนของหมูบานหมาปาตะลึงงัน แตก็ไมไดละลาละหลัง พวกเขานอมรับคําสั่ง คันศร
ดุจหาฝนก็ดังซิ่วซิ่วไมหยุด เล็งยิงไปยังบาดแผลของอินทรีเกล็ดเขียว
ตาของเจาตัวเล็กแดงก่ํา พยายามหยุดยั้งอยางสุดกําลัง เขาปลอยพระจันทรสีเงิน
ดวงนั้นออกมากวาดลางคันศรทั่วทุกสารทิศ เพื่อปกปองทายาทของอสูรปกษา
อยางไรก็ตาม อินทรีเกล็ดเขียวมีรางกายที่ใหญโตเกินไป มิหนําซ้ํายังมีบาดแผล
หลายแหง เขาจึงปองกันไมไดมากนัก เจาตัวเล็กเคลื่อนไหวไปมา และใชพระจันทรสีเงิน
เปนเกราะกําบัง เหนื่อยจนเหงื่อไคลหลั่งไหลออกมา
จนกระทั่งตอนนี้ คนของหมูบ านหมาปาก็มองออกวา หัวหนาหมูบานเปยหลี่ชิงใช
อสูรปกษาตัวนี้เปนเครื่องมือเพื่อยึดตัวเด็กของหมูบานหินผาคนนี้ไว ใหเขาเหนื่อยลา ไม
ชาก็เร็วเมื่อถึงเวลานั้นก็จะสามารถสังหารไดอยางงายดาย
“ทานผูเฒา เมื่อครูทานพูดวาจะปลอยเด็กคนนี้ไปมิใชหรือ?”
“ขาเพียงกลัววามันจะหลบหนีไป หากเขาใจวามันแยแสอะไร จึงจะจัดการไดงาย
เด็กที่มีศักยภาพยิ่งใหญถึงเพียงนี้ หากเติบใหญไปจะเหลือรึ จะตองจูโจมและสังหาร
อยางเต็มกําลังเทานั้น”
คันศรโลหะแนนขนัด สองแสงเยียบเย็นสวางวาบ สงเสียงดังซิ่วซิว่ แตละดามหนา
ใหญและมีพละกําลังอยางหาที่เปรียบไมได มันยิงไปกระแทกกับตนไมใหญ 8-9 ตนที่อยู
รอบบริเวณอินทรีเกล็ดเขียวจนหักโคนลง
เจาตัวเล็กพยายามโตตอบอยางสุดความสามารถ เขากัดฟนแนน ในขณะเดียวกันก็
ปลอยพระจันทรสีเงินออกมาสองดวง แตก็ยากที่จะปกปองอินทรีเกล็ดเขียวไดเชนเดิม
"โฮก!’
คันศรปกเขาไปยังบาดแผลของมันจนเลือดโปรยปรายเปนบริเวณกวาง ทําให
ทายาทอสูรปกษาเจ็บปวดอยางที่สุด รางกายของมันกระตุกเล็กนอย ในดวงตามีทั้ง
ความโกรธและความเศรา ณ เวลานี้มันยากที่จะขยับเขยื้อน มิฉะนั้น ผูคนเหลานี้จะกลา
เขาใกลมันอยางนั้นหรือ?
“ตูม ตูม...”
คันศรถูกปลอยออกมาอยางแนนขนัด เจาตัวเล็กพยายามสกัดกั้นอยางเต็มที่ แตก็ไม
ไหวดังเดิม บนบาดแผลของอินทรีเกล็ดเขียวมีคันศรปกเกือบ 20 กวาดอก ทั้งหมดนั้น
ปกลึกเขาไปยังภายในจนเลือดไหลทะลักออกมา
“ทานอาเกล็ดเขียว!” เจาตัวเล็กทั้งเศราโศกและโกรธแคน น้ําเสียงสะอึกอื้น
นัยนตาเออลนไปดวยน้ําตา แลวพยายามสกัดกั้นอยางสุดกําลัง
“โฮก!”
คันศรดามหนึ่งลอยทะลุกิ่งไมมาจูโจมอยางเงียบเชียบ เกือบจะทะลวงหัวใจของเจา
ตัวเล็ก เขาตอบสนองอยางรวดเร็ว เบี่ยงตัวหลบทันที แตก็ทะลวงผานกลามเนื้อแขน
ของเขา เลือดสดสาดกระจาย
“โอย!” เจาตัวเล็กเจ็บปวดจนสงเสียงรองดังลั่น ตั้งแตเกิดมานี่เปนครั้งแรกที่เขา
ไดรับบาดเจ็บจากคันศร
ในที่ไมไกลมากนัก เปยซาน ผูนําของกลุมนักลาแหงหมูบ านหมาปายิ้มเย็น เปนเขา
นี่เองที่ยิงธนูทะลวงแขนของเจาตัวเล็ก ใบหนาของเขาซีดเผือก กอนหนานี้ไมนานเคย
โดนพระจันทรสีเงินผาทองจนแยกออก เขาหลบซอนอยูใ นพุมไมเตี้ย จากนั้นงางธนูขึ้น
อีกครั้ง เริ่มตนการโจมตีเพื่อสังหารอีกครั้ง เขาไมสนใจอินทรีเกล็ดเขียวแตอยางใด สน
เพียงเล็งคันศรไปยังหัวใจและลําคอของเจาตัวเล็กเทานั้น
เจาตัวเล็กเจ็บปวดจนใบหนาเริ่มซีดขาว เขาฉีกเสื้อผาทอนหนึ่งออก พันรัดบาดแผล
ไว จากนั้นก็มีอักขระไหลเวียนอยูบนรางกายเพื่อหยุดเลือดจากบาดแผล
ในเวลานี้อินทรีเกล็ดเขียวโดนคันศรปกทะลุเพิ่มอีกกวา 10 ดาม บริเวณบาดแผลถูก
คันศรจนเกือบจะเละ เจาตัวเล็กน้ําตาไหล เขาปกปองอินทรีเกล็ดเขียวไมทัน แลว
ตะโกนเสียงดังวา “ขาจะตอสูกับพวกทาน!”
เขาพุงออกไปขางหนาอยางรวดเร็ว จากนั้นปลอยพระจันทรสีเงิน 2 ดวงออกมา
เขาไมสนใดๆ ทั้งสิ้น เขาจะสังหารเจาคนพวกนั้นที่เล็งยิงเขาไมหยุดไมหยอน
อาศัยอยูทามกลางดินแดนรกราง เคล็ดวิชาธนูของหมูบานหมาปานั้นนากลัวเปน
อยางมาก คนกวา100 คน ตางเล็งยิงและปลอยคันศรไปที่เดียวกัน ธนูทั้งหมดลอยมา
รวมตัวกัน จากนั้นบินพุงไปยังเปาหมาย ราวกับคอนเหล็กขนาดใหญที่ทุบไปบนรางกาย
ของเจาตัวเล็ก แมวาเขาจะใชพระจันทรสีเงินบังไวดานหนา แตก็ลอยลิ่วออกไปพรอม
กับกระอักเลือด
“ยิงสังหารมัน!”
แววตาของหัวหนาหมูบานเปยหลี่ชิงเยือกเย็น เขาเก็บสีหนายิ้มแยมไปนานแลว
แลวออกปากสั่งใหผูคนทั้งหมดยิงธนูอยางรีบเรงเพื่อสังหารเจาตัวเล็กที่ลอยอยูกลาง
อากาศ
“ยา!”
เจาตัวเล็กตะโกนดังลั่น พระจันทรสองดวงหมุนควางโคจรรอบรางกายของเขา
เสียงชริ้งชริ้งดังขึ้นพรอมกับกลุมคันศรที่หัก หัวศรแหลกละเอียดกองเต็มพื้น
ทันใดนั้น ขาของเขาก็โดนคันศรปกอีกหนึ่งดาม เลือดไหลยอมจนขากางเกงเปนสี
แดง เขาเปลงเสียงออนโยนออกมาและพยายามตอตานตอไป จากนั้นก็รวงหลนลงมาบน
พื้นดิน เขาหันหนาไปมองอินทรีเกล็ดเขียวอยูครูหนึ่ง จากนั้นก็วิ่งโซเซ มุงหนาไปยังผูคน
ของหมูบานหมาปา
พระจันทรสีเงินดุจมีดดาบสองแสงสวางเจิดจา เพียงชั่วครูก็ลอยออกไปสองดวง
เลือดสาดกระเซ็นเปนวงกวางพรอมกับเขาที่สังหารอยางบาคลั่ง ผูคนของหมูบานหมา
ปาที่อยูในเหตุการณกวา 17-18 คนลมลงไปบนกองเลือด กอเกิดการจลาจลที่นา
สะพรึงกลัวครั้งใหญ
“ยิงสังหารอินทรีเกล็ดเขียวตัวนั้นตอไป ครั้งนี้อยาไปออมมือ ยิงมันใหตาย!”
หัวหนาหมูบานหมาปาเปยหลี่ชิงออกคําสั่งอยางเลือดเย็น
“วิ้ววิ้ว...” เสียงหวีดหวิวดังสะเทือนหู จากนั้นกลุมคันศรโลหะก็ลอยพุงไปยังอินทรี
เกล็ดเขียว สถานการณอันตรายอยางถึงที่สุด
ดวงตากลมโตของเจาตัวเล็กแดงก่ํา น้ําตาไหลนองเต็มใบหนา เขารูสึกเหมือนไร
เรี่ยวแรง จึงไมไดไปชวยเหลือ เพราะอินทรีเกล็ดเขียวใกลจะสิ้นใจแลว แตหากเขาหัน
กลับไป เขาก็จะตกอยูในสถานการณลําบาก จะตองเหนื่อยตายไมชาก็เร็ว หรือไมก็โดน
ยิงจนตาย
“พวกเจา...เปนคนเลวกันทั้งหมด!” นี่เปนการคร่ําครวญที่ไรเดียงสาของเด็กคนหนึ่ง
“เปยหลี่ชิง เจาคนเลวระยําหมาไรความละอายใจ แมแตเด็กเพียงคนเดียวถึงกับ
วางแผนเชนนี้ เจายังเปนคนอยูรึเปลา?!” เสียงตะโกนดังลอยมา
ในขณะเดียวกัน คันศรประหนึ่งตั๊กแตนอพยพ หอกบินราวกับฝนดาวตก หลนลงมา
อยางเนืองแนน มีเสียงครวญครางดังลอยมาจากฝงของหมูบานหมาปา
ผูคนของหมูบานหินผามาถึงแลว ผูที่นําหนาคือหัวหนาหมูบานอาวุโสสือยวิ๋นเฟง
และยังมีสือหลินหูกัยสือเฟยเจียวและคนอื่นๆ ตางก็โกรธจนผมตั้ง[2]พวกเขายิงธนู
สังหารอยางไมหยุดหยอน
“จิ้บจิ้บ...”
ตาเผิง เสี่ยวชิงและจื่อยวิ๋นกระพือปกขึ้นลง พวกมันเหยียบยางมากับพื้น แมวายังไม
สามารถบินไดโดยแทจริง แตก็รวดเร็วมาก พวกมันพุงไปหาอินทรีเกล็ดเขียว ตางก็แผด
เสียงรองอยางเศราโศก
ลูกนกสามตัวพุงไปยังบาดแผลในแตละที่ เพื่อใชรางกายของตนหยุดยั้งคันศรโลหะ
รองคร่ําครวญอยางตอเนื่อง พวกมันใชหัวถูไถไปที่ลําตัวของแมนกและแผดเสียงอยาง
เจ็บปวดที่สุด
คนของหมูบานหมาปายิงคันศรโลหะกระแทกกับเกล็ดของพวกมันจนเกิดเสียงดังช
ริ้งชริ้ง เนือ่ งจากพวกมันยังเปนเพียงลูกนก เกล็ดของพวกมันยังไมแข็งแกรงถึงเพียงนั้น
ปรากฏรอยเลือดเปนริ้วๆ ขึ้น
“เจาพวกหมูบานหมาปาเลวระยํา พวกเจาลงขุมนรกไปเสียเถิด!” สือหลินหูตะโกน
ดวยความโกรธแคน
“โตตอบกลับ แตหามสังหารลูกนกสามตัวนั้น จับเปนกลับหมูบาน ในภายภาคหนา
มันจะเปนอสูรปกษาที่ทัดเทียมกับเทพารักษไดเลยทีเดียว!” ดวงตาของหัวหนาหมูบาน
หมาปาแผรังสีเรารอน จดจองไปยังลูกนกสามตัว ปรารถนาอยากจะจับไปเดี๋ยวนั้นเลย
สงครามเริ่มตนขึ้นแลว หอกเหล็กปลิววอน ดาบฟาดฟน ทั้งสองฝายพุงเขามากัน
เขนฆากันอยางดุเดือด
“ทานผูเฒา!” เจาตัวเล็กตะโกนลั่น
เหลาผูใหญมองเห็นแขนและขาของเจาเด็กนอยที่ถูกคันศรทะลวง มีเลือดไหล
ออกมาเปนทาง พวกเขาตางก็ปวดใจ และคํารามดวยความโกรธแคน จากนั้นพุงไป
ดานหนาเพื่อสังหาร
“ลูกเอย ไมตองกลัวนะ!”
“ขาไมเปนไรขอรับ ทานผูเฒารีบชวยชีวิตทานอาอินทรีเกล็ดเขียวเถิด” เจาตัวเล็ก
เช็ดน้ําตาทิ้ง จากนั้นก็ตะโกนเสียงดังลั่นแลวพุงเขาหาคนของหมูบ านหมาปา เมื่อ
พระจันทรสีเงินลอยขึ้น สะเก็ดเลือดก็ลอยขึ้นเปนทางยาว คน 7-8 คนรองโหยหวน แขน
หักลอยพาดกลางอากาศ กลิ่นคาวเลือดเหม็นคละคลุง
“เปยหลี่ชิง เจามันระยําหมา เจาจะทําลายธรรมเนียมของดินแดนรกรางอยางนั้น
หรือ พวกเราเองก็เอาชีวิตรอดมาอยางยากลําบาก หมูบานที่อยูใกลเคียงไมเคยกอ
สงครามกันมากอน เจาตองการทําอะไรกันแน?” สือยวิ๋นเฟงเอยถามอยางโกรธเคือง
แมวาจะตะโกนถามเชนนี้ แตแนนอนวาเขาออกคําสั่งไปแลว ครั้งนี้จะไมปราณีเปน
อันขาด และจะสังหารอยางไมใหอภัย จะตองตอสูใหถึงที่สุด
“เจาโทษขาไมไดนะ ซากศพของซวนหนีและเขาของปศาจกระทิงไฟเปนของล้ําคา
มหาศาล ใครจะไมใจเตนละ? อีกทั้งเทพารักษของหมูบานขาจะทลายขีดจํากัด จึง
ปรารถนาเลือดบริสุทธิ์เปนจํานวน”
“อะไรนะ เทพารักษจะทลายขีดจํากัดอยางนั้นรึ?” สือยวิ๋นเฟงตะลึง เขาหรี่ตาลง
เล็กนอยจากนั้นมองไปรอบผืนปา พลันก็เกิดอักขระเลือนรางขึ้นที่แขนขางหนึ่งของเขา
เขาเคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว จากนั้นเอาโถหยกออกมา แลวเทผงยาลงไปบนบาดแผลเพื่อ
ชวยขับสารพิษใหกับอินทรีเกล็ดเขียว
เจาตัวเล็กลงมือสังหารจนดวงตาแดงก่ํา ในเวลานี้ รอบตัวเขาไมมีคนของหมูบาน
หมาปาแลว บนพื้นเต็มไปดวยแขนที่ขาด มีคนเกือบ 20 กวาคนถูกพระจันทรสีเงินฟาด
ฟนจนแขนหัก
ทันใดนั้น ก็มีแสงสองระยิบระยับมาจากพุมไมนั่น ลอยมาดวยความเร็วสูงสุด และ
แผคลุมทางฟากของเจาตัวเล็ก เสียงดังฟบฟบลอยมาพรอมกับคนของหมูบานหินผา 6-7
คนที่ถูกทะลวง ลมลงไปยังกองเลือด นอนกลือกกลิ้งไปมาดวยความเจ็บปวด
“ตูม”
แมวาเจาตัวเล็กจะมีพระจันทรสีเงินเปนเกราะกําบัง แตหัวไหลของเขาก็โดนถากจน
เปนแผล ปรากฏแองเลือดนากลัว จากนั้นเลือดไหลลงมาเปนทางยาว
“อาวุธล้ําคา!”
ชายหนุมที่มีใบหนาขาวซีดราวกับหมาปา เขาหลบซอนในพุมไมมาโดยตลอด เมื่อจู
โจมเจาตัวเล็กในยามคับขัน หนึ่งในลําแสงที่ปลอยออกไปเกือบจะทะลวงลําคอของเขา
เปยเฟงนั่นเอง ชายหนุมผูมีพรสวรรคที่แพใหกับการโจมตีของสือฮาว และถูกคน
ของหมูบานหินผาทุบตีจนกระดูกหัก อาการบาดเจ็บยังดีขึ้นไมหมด แตเขากลับสงบและ
เยือกเย็น
“ไมเพียงเจาเทานั้นที่มีอาวุธล้ําคา ขาก็มี” เปยเฟงไมแมแตจะชายตามองผูคนของ
หมูบานหินผาที่นอนเกลือกกลิ้งอยูบนกองเลือด เขาฟงเสียงแผดรองของพวกเขาอยาง
เฉยเมยและอํามหิต
แสงดุจสายฝนเหลานั้นลอยกลับมา ลอยวนอยูบนฝามือของเขา จากนั้นกลายเปน
กําไลเขี้ยวสัตว แตละลูกมีสีขาวสองแสงพรางพราว สวยงามเหลือเกิน
ไมเขาใจอักขระกระดูกแตก็สามารถใชอาวุธล้ําคาได ไยจึงเปนเชนนี้? ผูคนตางพา
กันตกตะลึง
“ทานลุง!” เจาตัวเล็กวิตกกังวล เขาเขาไปพยุงชายวัยกลางคนที่ถูกลําแสงนั่น
ทะลวง พวกเขาบาดเจ็บสาหัส อวัยวะภายในฉีกขาด สามารถตายไดทุกเมื่อ
“ชริ้ง”
เปยเฟงยกมือขึ้น ลําแสงดุจฝนลอยออกไปอีกครั้ง ราวกับฝนดาวตกลอยพาดผาน
อากาศ วิเศษและสวยงาม แตวาพลังทําลายลางนากลัวเปนที่สุด
“ขาเกลียดที่ตัวเองใจดีเกินไป ครั้งกอนขาปลอยเจาไป แตครั้งนี้ขาจะไมใหอภัยเจา
อยางแนนอน!” ใบหนาของเจาตัวเล็กเต็มไปดวยความเด็ดเดี่ยวและมั่นคง
..............................
[1] ตายเกาหน รอดหนึ่งหน สํานวนจีน เปรียบเปรยวา รอดตายมาอยางหวุดหวิด
[2] โกรธจนผมตั้งขึ้น สํานวนจีน อุปมาวา เดือดดาลเปนอยางยิ่ง
บทที่ 24 อาวุธล้าํ คา
เขี้ยวสัตวสีขาวดุจหิมะสองแสงพรางพราย แสงศักดิ์สิทธิ์สาดสองเปนจุดๆ จากนั้น
พุงมาขางหนา ราวกับสายฝนดาวตกพาดผานฟากฟา เจิดจรัสและสวยงาม แตกลับแผ
รังสีอํามหิต
กงจักรจันทราวงหนึ่งลอยขึ้น ราวกับแสงสะทอนของคลื่นบนผิวทะเล ทั่วบริเวณ
สงบและเปนมงคล ทันใดนั้นก็เกิดเสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหวสะเทือนหู ทําใหความสงบ
เชนนี้หายไปโดยพลัน
เปยเฟงกับเจาเล็กประจันหนากัน หนึ่งคนใชอาวุธล้ําคา อีกหนึ่งคนใชเคล็ดวิชา
โบราณ สาดแสงเปนจุดๆ ดุจสายฝนพรางพราว เกิดเสียงดังชริ้งชริง้ ไมหยุด สั่นสะเทือน
ทั่วทั้งผืนปา
ลําแสงมีทั้งหมด 42 จุด ลอยเปนวงกลมโฉบเฉี่ยวไปมา เมื่อผสานเขาดวยกันก็
กลายเปนกลุมดาวสายฝน วิเศษอยางหาคําใดมากลาวไมได แตกลับเปนเครื่องมือสังหาร
กําหนดชะตาชีวติ
เสียง “วิ้ว” ดังขึ้นพรอมกับแสงเหลานั้นลอยผานไปดังหวีดหวิว แผดเผาตนหญาจน
กลายเปนผุยผง กอนหินใหญสูงราว 7-8 เมตรถูกทะลวงจนกลายเปนตะแกรง มัน
แข็งแกรงอยางหาที่เปรียบไมได
เจาตัวเล็กมีสีหนาที่แนวแน เขาออกแรงปลอยกงจักรจันทราออกมาสองวงอยาง
สุดกําลัง วงหนึ่งคุม ครองตน อีกวงหนึ่งใชตอตาน จากนั้นพุงออกไปขางหนาเพื่อสังหาร
ปะทะเขากับกลุมแสงเปนจุดๆ นั่นอยางดุเดือดเสียงดัง
ราวกับการตอสูของเทพเจา มันสวยงามและเจิดจรัส ไมวาจะเปนกงจักรจันทราหรือ
กลุมแสงดุจสายฝน ตางก็สาดแสงศักดิ์สิทธิ์เปนวงกวาง ทําใหอาณาบริเวณใกลเคียง
สวยงาม ลําแสงศักดิ์แผซานทั่วทุกสารทิศ ไอมงคลพุงเปนสายๆ
มันปะทะกันทั้งหมด 10 ครั้ง กงจักรจันทราแหละละเอียดไปหนึ่งวง เจาตัวเล็กผนึก
กําลังอีกครั้ง คงไวสองวงอยูตลอดเวลา มันปะทะกับแสงดุจสายฝนนั่น เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง
แสงศักดิ์สิทธิ์สาดสองไปทั่วทุกสารทิศ
“วิ้ง”
เกิดเสียงสั่นแผวเบาพรอมกับแสงเปนจุดๆ ลอยกลับไป กลายเปนกําไลเขี้ยวสัตว
ปรากฏอยูบนขอมือของเปยเฟงอีกครั้ง แตละลูกสองแสงสีขาวสุกใสแวววาว มันสวยงาม
เจิดจาทําใหตาพรามัว
อาวุธล้ําคาเชนนี้ทําใหคนหวาดผวา สังหารศัตรูอยางไรรปู ราง ทําใหไมสามารถ
ตอตานมันได แตมันกลับสวยงามประณีตถึงเพียงนี้ เมื่อมองครั้งแรกไมมีลักษณะของ
เครื่องมือสังหารเลยแมแตนิด
“เจาไมไดใชอาวุธล้ําคา ที่เจาใชคือ...พลังของอักขระกระดูก?!” เปยเฟงงุนงงอยาง
สุดขีด เปนครั้งแรกที่เขาเปลี่ยนสีหนา เด็กอายุนอยขนาดนี้แตกลับควบคุมพลังอํานาจ
ลึกลับเชนนี้ได ชางนากลัวเสียจริง
“อะไรนะ?” ที่หางไกล ผูคนของหมูบานหมาปาตางก็ตะลึงพรึงเพริด ทุกคนจดจอง
มาที่เจาตัวเล็กราวกับมองดูวัตถุประหลาด ภายในทั้งตกตะลึงและหลาดกลัว
“เปยเฟงฆามันทิ้งเสีย ใหมันมีชีวิตรอดตอไปไมได!” หัวหนาหมูบานหมาปาเปยหลี่
ชิงตะโกนบอก
“เจาตัวเล็กจงระวังตัว นั่นคืออาวุธล้ําคาที่เทพารักษประทานไวให หากวามันยังมี
ชีวิตอยู ไมตองใชอกั ขระกระดูกฟาก็ใชมันได ประทานใหผูใดก็สามารถควบคุมมันได”
สือยวิ๋นเฟงกลาวเตือน เขาเรงแกพิษใหแกอินทรีเกล็ดเขียว ระหวางแขนและนิ้วมือมี
อักขระสองแสงวูบวาบ อีกทั้งยาผงนานาชนิดเปนโถๆ ถูกโรยลงไปบนบาดแผลแตละจุด
ตามรางกาย
“ครั้งนี้ขาไมปลอยใหเจารอดแน!” ตลอดทั้งวัน เจาตัวเล็กประสบกับเรื่องราว
มากมาย แววตาฉายความนาเกรงขาม เขากําหมัดแนนและพูดดวยน้ําเสียงที่เด็ดขาด
และมั่นคง
“เด็กเล็กเพียงนี้ก็เขาใจการใชพลังอํานาจลึกลับของอักขระกระดูก อีกทั้งบรรลุผล
ลึกซึ้งถึงเพียงนี้ หากอยูในชนเผาใหญพวกนั้นก็ถือวาเปนพรสวรรคที่รายกาจมาก “เปย
เฟงสงบมาก แววตาเยือกเย็น เขาหัวเราะอยางอํามหิตแลวพูดวา” นาเสียดาย เจามีชีวิต
รอดอยูไมนานแลว!”
เสียง “วิ้ง” ดังขึ้นพรอมกับกําไลเขี้ยวสัตวที่ลอยขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็แผกระจาย
กลายเปนแสงจุดๆพุงตรงไปหาเจาตัวเล็ก
ครั้งนี้แสงจุดๆ นั่นตอเรียงกันเปนแถว กลายเปนสัตวประหลาดรูปรางคลายหมาปา
จากนั้นพุงมาขางหนา ปากที่สองแสงพรางพรายเปดอาออกอยางมุงราย เพื่อกัดกลืนเจา
ตัวเล็ก
“ชริ้ง”
กงจักรจันทราหมุนเปนวงกลม จากนั้นลอยไปฟาดฟนสัตวประหลาดตัวนั้น
ทามกลางเสียงหวีดหวิวเกิดแสงจันทรเปนวงกวาง สองแสงมงคลและวิเศษ ทั้งสองปะทะ
กันจนเกิดประกายไฟกระเด็นทั่วทุกทิศ
“ชางเปนเคล็ดวิชาที่แข็งแกรงเสียจริง ไมนาเชื่อวามันทัดเทียมกับอาวุธล้ําคาได นา
กลัวเสียจริง เจาหนูคนนี้อายุยังนอย แตกลับแข็งแกรงปานนี้ เปนพรสวรรคที่สามารถกด
พวกชนเผาใหญไดเลยทีเดียว รายกาจ!” หัวหนาหมูบานหมาปาอุทานดวยอยางตกตะลึง
เขามีใจแนวแนปรารถนาจะกําจัดสือฮาว ความชิงชังกอกําเนิดแลว จะปราณีไมได มี
เพียงสังหารเด็กคนนี้ใหสิ้นซากจึงจะวางใจ
“ชริ้ง!”
ประกายไฟพวยพุงขึ้นสูฟากฟา สัตวประหลาดตัวนั้นแปลงกาย แยกออกเปนสวน
ทั้งกรงเล็บคมกริบ ปากใหญดุจกะละมังเลือด หัวสําริด แผนหลังเหล็กกลาเปนตัน และ
พวกมันก็กอตัวมาจากลําแสงเชนกัน จากนั้นพุงไปสังหารเจาตัวเล็ก
อาวุธล้ําคาชิ้นนี้ประกอบขึ้นจากเขี้ยวสัตว 42 ชิ้น สามารถรวมตัวและแยกออกจาก
กันได การโจมตีหลากหลายรูปแบบ ยากที่จะตานทาน
ในเวลานี้เจาตัวเล็กสามารถปลอยกงจักรจันทราไดแคสองวงเทานั้น ยากตอการ
ตอบโตเล็กนอย แตฝายตรงขามดันใชอาวุธกระดูกที่แปลงกายมาจากเทพารักษ มัน
แข็งแกรงยิ่งนัก
“ขาจะคอยดูวาเจาจะตานทานอยางไร!” เปยเฟงสบถเบาๆ จากนั้นก็รายเวทมนตร
ที่เทพารักษถายทอดใหแกเขา ทําใหเขี้ยวสัตวแปลงเปนอาวุธ กรงเล็บคมกริบกับหัวสัตว
ตางก็เหมือนราวกับของจริง
“ตูม”
กงจักรจันทราเขาโจมตีฟาดฟนกรงเล็บคมกริบและปากกวางดุจกะละมังเลือดนั่น
ปะทะกันอยางดุเดือด จากนั้นกงจักรจันทราวงหนึ่งก็ระเบิดทันที แสงสีเงินพวยพุงไปทัว่
บริเวณ เพียงชั่วพริบตาก็ลอยไปโจมตีจุดแสงเหลานั้น
ในที่หางไกล เปยเฟงตะลึงงันแลวลาถอยไป เพราะวาเจาตัวเล็กใชโอกาสทองนี้พุง
เขามาหาเขาเพื่อจะสังหารเขากอน
กลุมแสงดุจสายฝนลอยกลับไปและคุมกันอยูรอบตัวของเปยเฟงดวยความรวดเร็ว
เขากลาวดวยสีหนาที่สงบนิ่งวา “ถึงเจาจะวองไวเพียงใดแตเจาจะไวกวาอาวุธล้ําคาอยาง
นั้นหรือ?”
เจาตัวเล็กไมตอบ เขาโจมตีอยางตอเนื่อง กงจักรจันทราสองวงลอยขึ้นและพุงเขาไป
ฟาดฟนรางกายของเขา
ในเวลานี้ เขี้ยวสัตว 42 ชิ้นลอยขึ้นกลางอากาศพรอมกัน ตางก็เปลงแสงเจิดจา
จากนั้นรวมตัวและแปลงเปนเสื้อเกราะแผคลุมรางกายของเปยเฟง
กงจักรจันทราฟาดฟนอยางไมหยุดไมหยอน แตก็ทะลวงเสื้อเกราะเปลงแสงเจิดจาที่
เกิดจากการรวมตัวของเขี้ยวสัตว 42 ชิ้นนั่นไมได มันแข็งแกรงอยางหาที่เปรียบไมได
ในขณะเดียวกัน ก็มีเขี้ยวสัตวบางสวนที่กลับยิ่งเปลงแสงเจิดจา และแปลงเปนอาวุธ
เชนกริชและคันศร อาวุธที่แปลงกายมาจากลําแสงเหลานี้ถูกเล็งยิงไปยังเจาตัวเล็ก
“ตูม ตูม” ...
กงจักรจันทราคอยๆ เลือนราง พรอมกับเจาตัวเล็กที่รนถอยไป
“ทามกลางดินแดนรกรางแหงนี้ ขาถือวาเปนอัจฉริยะคนหนึ่ง กลับมีเจาปรากฏตัว
ขึ้น ทวาตอนนี้หมดเรื่องแลว เจาหนูนอย ขาจะสงเจาไปสูสุขคติเอง สิ้นสุดชวงชีวิตอัน
แสนสั้นและนาเศราโศกนี่เสีย” เปยเฟงมีสีหนานากลัวพรอมกับยางเทาไปขางหนา
เขาพึ่งพาอาวุธล้ําคาเพื่อใชกําบังตนเอง ไมเกรงกลัวกงจักรจันทราสองวงนั่นแต
อยางใด เขี้ยวสัตวพวกนั้นเปลงแสงสวางแปลงเปนธนู กริชเปนตน จากนั้นลอยพุงไปยัง
เจาตัวเล็ก
เปยเฟงสังหารคนมานับครั้งไมถวน ถูกขนานนามวาเปนผูมีพรสวรรคตั้งแตเด็ก
สันดานโหดเหี้ยมและทรหด ขณะนี้กําลังจะสังหารเด็กนอยคนหนึ่ง เขาไมมีความรูสึกผิด
ชอบชั่วดีแมแตนอย มิหนําซ้ํายังยิ้มอยางเยือกเย็น
“ทําลาย!”
เจาตัวเล็กสบถออกมาเบาๆ เขาไมเคยถอดใจเลย แมวาอาวุธล้ําคาจะแข็งแกรง
เพียงใด เขาก็ไมหวาดหวั่น ยังคงใชเคล็ดวิชาโบราณตอสูตอไป
เสียงปงดังขึ้นพรอมกับกงจักรจันทราสองวงที่กระแทกชนกัน ระเบิดแสงสีเงินเจิด
จา ทามกลางความเลือนรางมีเสียงปศาจปกษาคํารามยาวลอยมาเปนระลอก ราวกับ
คลื่นยักษกระทบชายฝง ประหนึ่งกอนหินทะลวงเมฆา สะทานไปถึงทรวงใน
กงจักรจันทราแหลกละเอียด มีเงาเลือนรางสองเงาบินออกมาแลวผสานเขาดวยกัน
มันดูสมจริงขึ้นมาบาง จากนั้นก็แปลงเปนปศาจปกษาที่นากลัว มันกางปกออกแลวพุงไป
หาเปยเฟง
“ปง”
ราวกับคอนวิเศษกระแทกลงมา มีเลือดพนออกมาจากปากของเปยเฟงทันที เพียง
พริบตา อาวุธล้ําคาบนรางกายจางหายไปไมนอยเลย เขี้ยวสัตว 42 ชิ้นแตกกระจายแลว
รวงหลนลงมาจากตัวเขา
เปยเฟงตกตะลึงจนสีหนาซีดเผือก แตคนอื่นๆ กลับยิ่งหวาดหวั่น นั่นเปนถึงอาวุธล้ํา
คา เปนอาวุธที่เทพารักษประทานให แตกลับแตกละเอียดดวยน้ํามือของเด็กคนหนึ่ง
เจาตัวเล็กใชชวงเวลาคับขันนี้เขาบรรลุเคล็ดวิชาของตนไปอีกขั้น เขาใชโอกาสที่
ไดมายากเชนนี้ กระโดดขึ้นสูงจากนั้นใชขาย่ําไปที่ใบหนาของเปยเฟง
“ปง”
แมวาตัวเขาจะเล็ก แตมีพละกําลังมหาศาล เขากระโดดสูงขึ้นเกือบเมตร แลวรวงลง
มาเหยียบเขาที่ใบหนาของเปยเฟงอยางจัง นี่เปนเรื่องที่นา กลัวมากเรื่องหนึ่ง
เกิดเสียง “แกรก” ดังขึ้นพรอมกับแกมขางซายของเปยเฟงที่เปลี่ยนรูปรางไป
ชั่วขณะ กระดูกหักแลว เขาเจ็บปวดจนใบหนาบิดเบี้ยว น้ําตาหลั่งรินอยางอดไมได เขา
สงเสียงรองราวกับหมาปาโหยหวน
“ปง”
เทาของเจาตัวเล็กย่ําที่ใบหนาของเขา อีกขางหนึ่งเหยียบไปที่หนาของเขาดวยแรง
มหาศาลเชนเดียวกัน กระดูกราวที่ดัง “แกรกแกรก “จากนั้นก็หักจนเกิดเสียงดัง”
แควก”
เมื่อครั้งกอน เปยเฟงถูกคนของหมูบานหินผาทุบตีจนกระดูกหักหลายชิ้น อาการ
บาดเจ็บยังไมหายดี ณ เวลานี้รางกายของเขาก็ลอยพาดขึ้น เลือดพุงทะลักออกจากปาก
ไดรับบาดเจ็บสาหัส
แตเจาตัวเล็กก็ยังใชเทาเหยียบไปที่หนาของเขา และอีกขางหนึ่งย่ําไปที่หนาอกของ
เขาอยูอยางนั้น เจาตัวเล็กก็ลอยตามไปแลวก็รวงหลนลงบนพื้นดินพรอมๆ กัน
เปยเฟงครวญครางอยางเจ็บปวด เสียงที่เปลงออกมาราวกับไมใชเสียงของมนุษย
เพราะเจาตัวเล็กรวงหลนลงมาพรอมกับเทาที่ยังเหยียบอยูตัวเขา ใบหนาครึ่งซีกของเขา
ยุบลงไปโดยสิ้นเชิง และกระดูกอกแตกราวไปทั้งหมด มุมปากมีเลือดไหลออกมาไมหยุด
ทุกอยางเกิดขึ้นเร็วมาก ไมมีใครคาดคิดวาเจาตัวเล็กจะฉลาดหลักแหลมถึงเพียงนี้
ใชชวงเวลาคับขันปลอยเคล็ดวิชาที่แข็งแกรงมากยิ่งขึ้นออกมา และทลายอาวุธล้ําคาที่
เทพารักษประทานใหจนสิ้นซาก นี่มันเหนือมนุษยจริงๆ
“หยุดนะ!”
“รีบชวงชิงอาวุธล้ําคากลับมา!”
หัวหนาหมูบานหมาปาเปยหลี่ชิง และผูนํากลุมนักลาเปยซานรองตะโกนขึ้นพรอม
กัน
เมื่อเจาตัวเล็กโบกมือ กงจักรจันทราก็หมุนควาง ลากเอากําไลเขี้ยวสัตวนั่นกลับมา
ยังเบื้องหนาของเขา
กําไลเขี้ยวสัตววงนี้สวยงามมากจริงๆ เขี้ยวสัตว 42 ชิ้นมีสีขาวและสองแสงสวางราว
กับหยกขาวมันแพะ สองแสงวูบวาบพรางพราย งดงามพราตา มีพลังลึกลับบรรจุอยูขาง
ใน
เจาตัวเล็กใชมือลูบคลํา จากนั้นก็สวมเขาไปที่ขอมือของตนโดยตรง เมื่อผูคนของ
หมูบานหมาปาเห็นภาพเชนนี้ก็โกรธแคนอยางถึงที่สุด นี่เปนถึงสิ่งของที่มีคามหาศาล
ของชนเผา แตกลับถูกเจาหนูนอยคนนี้แยงชิงไป
เปงเฟยรองอยางเจ็บปวด เมื่อเจาตัวเล็กออกแรงย่ํา ทําใหรางกายของเขาครึ่งหนึ่ง
พิการ คนของหมูบานหมาปาเห็นสภาพนั้น ตางก็คํารามอยางโกรธแคนและพุงไป
ขางหนาพรอมกัน
เจาตัวเล็กเห็นเชนนั้นจึงออกแรงกระทืบเปยเฟง กระดูกครึ่งบนของเขาแตกหัก
หมดแลว หลังจากนั้น เจาตัวเล็กก็ยางเทาลงมาจากรางของเขาโดยที่ไมหันกลับไปมอง
ขณะที่เขาหันหลังนั่นเอง กงจักรจันทราก็ฟาดลงไปเกิดเสียงฟบฟบ จากนั้นสะเก็ดเลือด
ก็พุงกระเด็น แขนและขาทั้งสองขางของเปยเฟงขาดออกจากกัน
“อาก...” เปยเฟงรองครวญครางราวกับสัตวปา เขาเจ็บปวดจนแผดเสียงรองไห
ออกมาอยางดัง พรสวรรคของเขาสูญสิ้นแลว แมวาตอนนี้เขายังไมตาย แตกลับทรมาน
ยิ่งกวา
“ทานเทพารักษ ไยทานถึงยังไมรีบมา ขอใหมาเยือนโดยไวเถิด” สีหนาของหัวหนา
หมูบานหมาปาซีดเผือกเปนอยางมาก
กลางขุนเขา มีเสียง “วูๆ” ดังลอยมา ราวกับสิ่งมีชีวิตนากลัวกําลังเขาใกล ทั่วโลก
หลาเต็มไปดวยเจตนาสังหารที่เยือกเย็น
“หลินหู เฟยเจียว พวกเจาเตรียมพรอมหรือยัง? ใหตายสิ หากเทพารักษของ
หมูบานหมาปากลาปรากฏตัว พวกเจาฆามันใหสิ้น!” สือยวิ๋นเฟงตะโกนออกมา
บทที่ 25 เทพารักษแหงหมูบ านหมาปา
“สังหารเทพารักษเชนนั้นหรือ เจาชางกลาคิด!” สีหนาของเปยหลี่ชิงมัวหมอง เปย
เฟงผูมีพรสวรรคพิการ อาวุธล้ําคาของหมูบานถูกชวงชิงไป นี่เปนสิ่งที่สะเทือนหมูบาน
หมาปาเปนอยางยิ่ง
“หากมันกลามา พวกเราก็กลาปลิดชีพมัน!” สีหนาของสือยวิ๋นเฟงเครงขรึม เขา
โกรธแคนอยางจริงจัง
ฟากฟามืดมนนมนานแลว ภายในผืนปาหนาวยะเยือกและเงียบสงัด กลิ่นคาว
คละคลุงโชยมาแตะจมูก
“วูๆ...” ทั่วบริเวณผืนปามีเสียงสัตวประหลาดเหาหอน กลิ่นอายเยือกเย็นตลบ
อบอวล ทําใหคนขนลุกขนชัน รูสึกราวกับมีผีหากําลังรองไหคร่ําครวญ นาหวาดกลัวอยู
ไมนอย
“ปง”
เมื่อเห็นวาผูคนของหมูบานหมาปาจะพุงเขามา เจาตัวเล็กก็ใชเทาเตะเปยเฟงขึ้น ทํา
ใหเขาลอยพาดผานอากาศไปยังเบื้องหนาของผูคนจากหมูบานหินผา
“แมวาจะพิการแลว หากปลอยไว ทายที่สุดก็จะเปนบุคคลที่กอใหเกิดหายนะ ปลิด
ชีพดวยดาบเดียวจะไดหมดเรื่องหมดราว! “พอของเออรเหมิงกลาว เขาโหดเหี้ยมมาก
ไมเอยวาจาใดๆ อีกตอไป เขาตวัดดาบในมือ จากนั้นเสียง” ฟบ” ดังขึ้น หัวของเปยเฟง
ก็ถูกฟนจนขาด เลือดพุงสูงเกือบเซียะ
“อา เฟงเออร!” เปยหลี่ชิงรองลั่น มือกุมหนาอก เขาเจ็บปวดไอออกมาเปนเลือด
เปยเฟงเปนหลานแทๆ ของเขา แตกลับถูกฆาตอหนาตอตาเขาเชนนี้
“เคยปลอยเขาไปครั้งหนึ่งแลว ในวันนี้ที่เขาตองมาพบจุดจบเชนนี้ ทั้งหมดนี้เพราะ
เขารนหาที่เอง” สือหลินหูพูดอยางเยือกเย็น
สือเฟยเจียวกําหัวที่มีคราบเลือดเหนียวหนืดขึ้น จากนั้นโยนออกไปแลวพูดวา “เอา
กลับไปฝงเสีย”
“ทานเทพารักษรีบมาเถิด!” เปยหลี่ชิงโกรธจนเสนผมตั้งขึ้น ใบหนาแดงก่ํา จากนั้น
ก็แปรเปลี่ยนซีดขาว อารมณนากลัวเปนยิ่งนัก จะไมมีความปราณีดั่งกอนหนาอีกตอไป
ผูคนของหมูบานหินผาอยูรวมกัน เตรียมพรอมตอตานเทพารักษนั่นตลอดเวลา
หวั่นเพียงมันจะโผลออกโดยพลัน แลวเปดศึกเขนฆาครั้งใหญ แตคนของหมูบ านหมาปา
ถอยไปเฝาอยูอีกฝง ครั้งนี้พวกเขาสูญเสียมากมายเหลือเกิน เวลานี้ตองปองกันดวยความ
ระแวดระวังเพื่อรอการมาเยือนของเทพารักษ
ตนไมแนนขนัด ภายในผืนปามืดดํา เสียงสัตวคํารามดังอยางมาตอเนื่อง ไอมืดครึ้ม
แนนหนามากขึ้นเรื่อยๆ แตก็ยังไมมีสิ่งมีชีวิตเกรียงไกรโผลออกมา
คนของหมูบานหินผายืนหอมลอมอินทรีเกล็ดเขียว โดยใหมันเปนศูนยกลาง หัวหนา
หมูบานสือยวิ๋นเฟงใชทุกวิถีทาง นํายาผงที่เคี่ยวไดใชไปทั่วแลว ยิ่งกวานั้นคือขุดเลือด
จากเขาดุจหยกของปศาจบรรพกาลนั่นออกมาบางสวน ใหอสูรปกษากิน
“ซิ่ว”
คันศรเย็นดามหนึ่งพุงจูโจมมาอยางแมนยําและอํามหิต เปาหมายคือดวงตาของ
อินทรีเกล็ดเขียว ลําแสงเย็นชางนากลัว ตองเปนคนโฉดมีพละกําลังแขนสองขางรวมกัน
ราว 5000-6000 ชั่งจึงจะสามารถยิงธนูเชนนี้ได ชางนาสะพรึงกลัวเสียจริง คนของ
หมูบานหมาปากังวลวาอินทรีเกล็ดเขียวจะไดรบั การรักษาจนดีขึ้น เมื่อถึงเวลานั้นจะเปน
หายนะครั้งใหญสําหรับพวกเขา จึงตองกอกวนและฆาทิ้งเสียตั้งแตตอนนี้
“ตูม”
สือหลินหูตวัดดาบในมือ เพียงชั่วครูก็ฟาดเขาไปยังคันศร กระแทกจนมันลอย
ออกไป คันศรโลหะปกลึกเขาไปกลางกอนหินจนเกิดประกายไฟออกมาเปนสาย
“ฮึบอา!”
เจาตัวเล็กโกรธจัด จากนั้นพุงไปขางหนา วันนี้หมูบานหมาปาซุมโจมตีพวกเขา
สงผลใหอินทรีเกล็ดเขียวเกือบจะตาย เขาโกรธแคนคนกลุมนี้เปนอยางมาก กงจักรจัน
ทรากวาดผานไป แปลงเปนลําแสงเปนสาย จากนั้นซัดโหมผานไป
นี่เปนเหมือนกลุมดาวพรางพราวบนสรวงสวรรค และเหมือนกับเกลียวคลื่นสีขาว
บนทองทะเลอันกวางใหญ มันสงเสียงดังครืนครืน สะเทือนไปทั่วผืนปาจนเกิดเสียงดัง
กอง
“ซิ่ว ซิ่ว” ...
มีเสียงรองโหยหวนมาจากทิศตรงขาม ในที่เกิดเหตุมีคน 4-5 คนถอยเซถลา เลือด
สาดกระเด็น บาดแผลนากลัว และยังมีอีก 3-4 คนที่แขนขาดรวงลงไป สีหนาซีดเผือก
เจ็บปวดจนเหงื่อไคลเต็มใบหนา
เจาตัวเล็กเคลื่อนไหวอยางปราดเปรียว กระโดดขึ้นราวกับปเซียะตัวนอย เขาใชมือ
ลูบไลกําไลเขี้ยวสัตวที่ขาวดุจหิมะและสองแสงพรางพราย พลันอักขระก็สองแสงวูบวาบ
เขาสงเสียงแผวเบา
“ซิ่ว ซิ่ว” ...
กําไลเขี้ยวสัตวเปลงแสงงดงาม เขี้ยวสัตวทุกชิ้นมีลวดลายสวยงามลอยวน แสง
ระยิบระยับพราตาหลุดออกมาจากกําไลเขี้ยวสัตว จากนั้นก็ลอยไปขางหนา
นี่เปนลําแสงดุจหาฝนที่สวยงาม แตพลังทําลายลางชางนาสะพรึงกลัว เขี้ยวสัตวสี
ขาวสองแสงพรางพรายทะลวงรางกายของผูคนมากมายโดยที่พวกเขาตั้งตัวไมทัน
กระดูกของพวกเขาหักเปนทอนๆ อวัยวะภายในฉีกขาด สะเก็ดเลือดรวงโรย คน
ของหมูบานหมาปารองลั่นดวยความกลัว พวกเขาไมสามารถตอตานการจูโจมของอาวุธ
ล้ําคาไดแมแตนิด
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทานเทพารักษควรจะมาถึงแลว ไยทานจึงไมปรากฏตัว ทานรีบ
มาชวยเหลือชนเผาของทานเถิด!” เปยหลี่ชิงตะโกนดวยความกลัว ภายในใจหวาดหวั่น
เปนอยางมาก หากเปนเชนนี้ตอไป คนของหมูบานหมาปาทั้งหมดคงจะจบชีวิตลงที่นี่
“ถอย!”
เมื่ออาวุธล้ําคาที่สองแสงนัน่ อยูในมือของเจาตัวเล็ก มันกลับแข็งแกรงกวาตอนที่อยู
ในมือของเปยเฟงไมรูตั้งเทาไหร เขาหยั่งรูอักขระกระดูกจึงสามารถใชพลังของมันได
แมแตอิทธิฤทธิ์ของอาวุธล้ําคาก็เทียบไมได
คนของหมูบานหมาปาแตกกระเจิง แมวาจะไมมีคําสั่งใหลาถอยจากหัวหนาหมูบาน
ก็ไมมีใครยินยอมที่จะอยูที่นแี่ ลว ทุกคนตางเผนหนีเพื่อเอาชีวิตรอด จนกระทั่งตอนนี้
เทพารักษก็ไมปรากฏตัว
“เจาตัวเล็กอยาไลตามไป!” สือยวิ๋นเฟงเกรงวาเขาจะเจอกับเรื่องไมคาดฝน
“อา ฤทธิ์เดชของกําไลเขี้ยวสัตวนี้ชางนาเกรงขาม” สือฮาวเกาหัวอยางงุนงง เขา
ตะลึงมาก จากนั้นเขี้ยวสัตว 42 ชิ้นก็ลอยกลับมา กลายเปนกําไลสีขาวสวยงาม แลวพัน
รอบขอมือของเขา
“พวกเราก็รีบไปกันเถิด เทพารักษของหมูบานหมาปามีนิสัยขี้สงสัยแตกําเนิด ขา
บอกวาจะสังหารมัน มันคงจะหวาดกลัว ฉะนั้นจึงไมปรากฏตัวกระมัง” สือยวิ๋นเฟง
พึมพํา
สือยวิ๋นเฟงพูดเพื่อหลอกลวงเพียงเทานั้น แตเหมือนวาจะไดผลอยูบาง มันทําใหคน
ของหมูบานหินผาไมเอยวาจาใด
คนกวา 100 คนเคลื่อนไหวอยางชุลมุน พวกเขาแบกอินทรีเกล็ดเขียวขึ้น พยุงผูคน
ที่ไดรับบาดเจ็บ และแบกคนที่ไดรับบาดเจ็บถึงชีวิต จากนั้นก็เผนหนีดวยความเร็วไว
ตางก็เปนชายฉกรรจที่เติบใหญในดินแดนรกราง ขอเพียงยังมีลมหายใจ ก็อาจจะรอด
ชีวิตได คนกลุมนี้ถูกนําโดยสือหลินหู
และยังมีคนอีกกลุมหนึ่งที่นาํ โดยสือเฟยเจียว รับผิดชอบแบกขนและคุมกันซวนหนี
เขาล้ําคาสีแดงฉานและแขนของอสูรวานร แตละคนตางก็ตื่นเตนแตก็มีสีหนาวิตก นี่เปน
ถึงวัตถุล้ําคามหาศาลขนานแท
ทามกลางผืนปามีพุมไมเตี้ย ตนไมเกาแกสูงเสียดฟา กลุมคนที่แมจะเผนวิ่งกันอยาง
รวดเร็ว แตก็ประสบกับอุปสรรคไมนอยเลย
“วูๆ...” เสียงคํารามต่ําดึงขึ้นอยางตอเนื่อง รอบตัวของพวกเขา
ระยะทางเขาใกลหมูบานหินผามากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งมองเห็นหมูบ านแลว ทันใดนั้น
ทามกลางผืนปามืดสนิทกลับมีดวงตาสีเขียวปรากฏขึ้นคูแลวคูเลา ราวกับโขมด[1]
“โอสววรค หมาปาตัวใหญอะไรปานนั้น!”
คนของหมูบานหินผาพากันหวาดผวา พวกเขาถูกลอมแลว กลุมหมาปาที่มีขนหลัง
เปนสีดํา ขนหนาทองเปนสีขาวปรากฏตัว แตละตัวใหญประหนึ่งบานเรือน พวกมันกําลัง
อาปากที่กวางดุจกะละมังเลือด เขี้ยวยาวเกือบครึ่งเซี๊ยะสีขาวและนากลัว บวกกับลิ้นสี
แดงสดทําใหดูนาขนลุกอยาหาที่สุดไมได
นี่ไมใชแคตัวสองตัว แตมันมีถึงสี่หาสิบตัว กลุมสัตวปาโหดรายขนาดใหญลอมเขามา
เปนภัยคุกคามยิ่งกวาคนของหมูบานหมาปาเสียอีก
“ใหตายสิ เทพารักษของหมูบานหมาปามีนิสัยไมนาไววางใจและเจาเลหเพทุบาย
คิดไมถึงวามันเรียกหมาปากลายพันธุขนาดใหญเชนนี้มารวมตัวกัน!”
หมาปาที่ตัวใหญถึงเพียงนี้ แตละตัวใหญยิ่งกวาชางใหญ หากพบเห็นตัวหนึ่งในยาม
ที่ออกลานั้นก็ถือวาแปลกมากแลว แตครั้งนี้มันมาพรอมกันถึงสี่หาสิบตัวในเวลาเพียงครู
นี่เปนหายนะครั้งหนึ่งจริงๆ
ทามกลางผืนปาที่มืดสนิท ดวงตาสีเขียวเปนคูๆ นั่นใหญเทากับถวยเล็กหนึ่งใบ มุง
รายและเยือกเย็น กลิ่นอายความเหี้ยมโหดคละคลุง ไมรูวาพวกมันฆาสัตวประหลาดไป
ตั้งเทาไหร
“บรูว...” เสียงหมาปาเหาหอนดังขึ้น ราวกับสายฟาคํารามที่ฟาดลงมาโดยพลัน อีก
ทั้งยังนากลัว เงาขนาดมหึมาพุงเขามา พลันก็มีเสียงรองครวญครางมาจากปลายแถวของ
กลุม
รางกายซีกหนึ่งคนในหมูบานคนหนึ่งมีเลือดไหล มือขางหนึ่งรวมไปถึงหัวไหลถูก
หมาปาตัวใหญฉีกทึ้ง เขาไดรับบาดเจ็บสาหัสอยางนากลัว
“ฟบ”
ในชวงเวลาคับขัน สือหลินหูก็เหวี่ยงหอกเหล็กออกมาดามหนึ่ง ทะลวงแผงขนของ
หมาปาตัวใหญตัวนั้น เลือดไหลออกมาเปนทางจนมันไดรับบาดเจ็บ จึงหยุดยั้งการ
สังหารอยางทารุณได ชวยใหเขาหลีกเลี่ยงจากชะตาที่เขาจะถูกฉีกทึ้งจนเละเทะได
หมาปาที่มีขนาดใหญเทาชางใหญนนั่ นากลัวเกินไป หากวาเปนเพียงไมกี่ตัวยัง
สามารถจัดการได แตนี่มันมาพรอมกันทีเดียวสี่หาสิบตัว แมจะมีคนเปนรอยก็ตานทาน
ไมไหว
“บรูว...”
หมาปาตัวใหญสงเสียงคํารามยาว สะเทือนจนใบไมแหงเหี่ยวภายในผืนปารวงโรย
เปนกอบเปนกํา กลิ่นอายความชั่วรายเพิ่มขึ้นอยางรวดเร็ว
“อา...”
มีเสียงรองครวญครางอีกสองเสียงลอยมาจากคนละทิศ หมาปาตัวใหญหลายตัวเริ่ม
จูโจม หนึ่งกรงเล็บคมกริบหวดมาก็มีตนไมลมลง แมวาจะเตรียมการปองกันแนนหนา
เพียงใด แตก็มีคนของหมูบานสองคนถูกทะลวงหนาอกเปดหนาทอง ลําไสไหลทะลัก
ออก
“เร็วเขา รีบพันปดแผล!” สือเฟยเจียวตะโกนบอก
ผืนปามืดสนิท หมาปาพวกนี้เนื่องจากดุรายและยิ่งใหญ จึงทําใหพวกมันไดเปรียบ
อยางสมบูรณ พวกมันไมไดโจมตีอยางซึ่งหนา แตเปนการซุมโจมตี
ครั้งนี้ หมาปาสิบกวาตัวเคลื่อนไหวพรอมกัน พวกมันพุงออกมาจากความมืดมุงหนา
มายังคนของหมูบาน
“ชริ้ง”
เจาตัวเล็กเคลื่อนไหวแลว เขายกขอมือขึ้น จากนั้นอักขระก็ผนึกกําลัง และปรากฏ
เปนรูปรางตรงหนาของเขา เขี้ยวสัตวสีขาว 42 ชิ้นนั้นเปลงแสงงดงาม กลายเปนกริช
และคันศรมากมาย จากนั้นก็ลอยออกไปขางหนา
“ซิ่ว ซิ่ว” ...
พุงเขาหาหมาปาตัวใหญที่อยูขางหนาสุด พวกมันถูกทิ่มจนหนาบอด และทะลวง
กระดูกหนาผากจนเลือดไหลออกมาเปนทางยาว พวกมันรองโหยหวนและนอนเกลืองกลิ้
งอยูบนพืน้ ทันที
แมวาจะเปนสัตวประหลาดก็ไมสามารถตานทานอาวุธล้ําคาได เพียงแคโดนโจมตี
หากไมบาดเจ็บสาหัสก็เสียชีวิต
“เจาพวกหมาปาชั่วราย รีบลาถอยไปใหไว!” เจาตัวเล็กตะโกนลั่น
เขาปลอยกงจักรจันทราออกมาสองวง เคลื่อนไปขางหนาดังซิ่วซิ่ว ฟาดหมาปาสอง
ตัวที่คอนขางจะแข็งแกรงทั้งเปน ตั้งแตระหวางคิ้วจนถึงขาสองขางจนแหลกออกเปน
สองซีก เลือดไหลออกมาโกรกกราก
หมาปาที่เหลือเริ่มระแวดระวัง ไมกลาบุมบามโจมตี
“หากตานทานไมไหวใหใชอาวุธล้ําคาหนึ่งชิ้น เก็บอีกหนึ่งชิ้นไว ในยามคับขัน
สามารถฆาเทพารักษตนนั้นได อยาใหมันลวงรูจนสามารถปองกันตัวได!” สือยวิ๋นเฟงพูด
พึมพํา
ดวงตาสีเขียวจดจองมาจากทุกทิศ หมาปาตัวใหญหอมลอม แตละตัวหายใจฟดฟด
ภายในปากดุจกะละมังเลือดมีเขี้ยวที่นากลัว กลิ่นอายความชั่วรายทําใหผูคนรูสึกเย็น
เยือกไปทั้งตัว
“พวกแกตายแน วันนี้เปนชะตาสูญสิ้นเผาพันธุของพวกเจาแลว!” เปยหลี่ชิงปรากฏ
ตัวอีกครั้ง สีหนาของเขาเยือกเย็น ดวงตาดุจอสรพิษ ตอนนี้เขานั่งอยูบนลําตัวของหมา
ปาสีเงินขาวตัวใหญ
คนของหมูบานหมาปามาอีกแลว ชายฉกรรจหลายคนปนขึ้นไปบนหลังของหมาปา
ตัวใหญ ในมือแตละคนมีคันธนูมาพรอมกับความเคียดแคน ดวงตาเยือกเย็นจดจองมา
ทางนี้
คนของหมูบานหินผาตางก็ตกใจ เมื่อคนของหมูบานหมาปารวมตัวกับหมาปาตัว
ใหญพวกนั้นแลว พละกําลังของพวกมันก็นากลัวพอสมควร นี่ไมใชพละกําลังที่หมูบาน
หนึ่งสมควรจะมี
“เทพารักษของหมูบานขามาแลว พวกเจาอยาหวังวาจะมีชีวิตรอดแมแตคนเดียว!”
ผูนํากลุมนักลาของหมูบานหมาปาเปยซานตะโกนดังลั่น
“ก็แคหมาปาชราตัวหนึ่งมิใชหรือ มีชีวิตมานานถึงเพียงนี้ แมแตเขี้ยวก็รวงลงมา
หมดแลว ขาวาแมแตเดินก็คงจะเดินไมไหวแลวกระมัง จะมีประโยชนอันใดกัน” สือยวิ๋น
เฟงพูดอยางเยยหยัน ตั้งใจจะดูถูกดูแคลน
เทพารักษของหมูบานหมาปาเปนหมาปาตัวหนึ่ง ชื่อแซของชนเผาก็ไดมาดวย
ประการนี้แล
หมาปาตัวใหญนับสิบตัวคํารามอยางโกรธแคน เหาหอนดังวูๆ ความนากลัวใน
บริเวณนี้เพิ่มมากขึ้น พวกมันพรอมจะพุงจูโจมตลอดเวลา
“พวกเจาจะไมมีชีวติ รอดแมเพียงคนเดียว!” เปยหลี่ชิงกลาวอยางเยือกเย็น
“พวกเจาไมกลัววาจะทําลายธรรมเนียมของดินแดนรกรางแหงนี้ แลวถูกแตละชน
เผาลุกฮือขึ้นมาโจมตีหรือ?” สือยวิ๋นเฟงถามอยางเยือกเย็น
“ฆาพวกเจาทิ้งเสีย จากนั้นชิงเหลาสตรีของพวกเจามา แลวกลาววาเราสองหมูบาน
รวมเปนหนึ่งเดียวกันแลว หากวาเทพารักษของหมูบานขาทลายขีดจํากัดแลว จะมีใคร
กลาพูดอะไรอีก” ผูนํากลุมนักลาเปยซานกลาวพลางยิ้มเย็น
หมาปาตัวใหญสี่หา ตัวจูโจมอยางโยนหินถามทาง[2]พุงจูโจมเขามาอยางตอเนื่อง
ผูคนของหมูบานหินผาพากันปองกัน เจาตัวเล็กทําหนาที่โจมตี เขาสังหารหมาปาตัวใหญ
ติดตอกันเกาตัว ซากศพของหมาปาลมอยูตรงนั้น กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุงไปทั่วผืน
ปา
เวลาผานไปหนึ่งชั่วยามเต็ม เทพารักษของหมูบานหมาปายังคงไมปรากฏตัว มีเพียง
หมาปาเหลานี้ที่จูโจม และเปยซานที่ปลอยคันศรจากทางฟากโนน
คนของหมูบานหินผาไดรับบาดเจ็บเพิ่มอีกบางสวน พวกเขาถูกอุงเล็บที่ใหญดุจปุงกี๋
ผารางกายจนแยกออกจากกัน
“เปนไปตามคาด หมาปามีนิสัยหวาดระแวง ไมมีเวลาใหคํานึงแลว ปลอยอาวุธจาก
บรรพบุรุษ ลอมโจมตี!” สือยวิ๋นเฟงออกคําสั่ง
หากยื้อเวลาตอไปไมไดเกิดผลดีตอพวกเขาเลย ไมรูวาหมาปาเจาเลหตัวนั้นคิดอะไร
อยู อยางไรแลวกลับหมูบานใหไวจะเปนการดีที่สุด ที่นั่นมีตนหลิวเกาแกปกปกษ
คุมครองอยู
“ทานผูเฒา หากอาวุธจากบรรพบุรุษถูกเปดเผย จะมีปญหาใหญตามมาไหม
ขอรับ?” สือเฟยเจียวเอยถาม
“ตอนนี้คุมครองชีวติ เปนเรื่องสําคัญที่สุด พอจบเรื่องคอยคิดวิธีกําจัดคนของ
หมูบานหมาปาที่รูเรื่องนี้ใหสนิ้ ซาก ในเมื่อพวกมันไรมนุษยธรรม บีบคั้นเราถึงเพียงนี้ ก็
อยามาโทษวาเราไรความเปนธรรม!” สือยวิ๋นเฟงกลาวเสียงเย็น นี่เปนครั้งแรกที่เขา
แสดงสีหนานากลัวเชนนี้
พวกเขายกอินทรีเกล็ดเขียวขึ้นใหมันอยูตรงกลาง จากนั้นคุมกันมันอยางระมัดระวัง
นี่เปนกําลังสําคัญที่พวกเขาจะใชแกแคนในภายภาคหนา และอาจจะตานทานเทพารักษ
ของฝายตรงขามได
คนกลุมหนึ่งรีบเรงทําการปดลอมเพื่อโจมตี สือหลินหูนํากระดูกแขนชิ้นหนึ่งออกมา
เตรียมปลอยออกไป นี่เปนอาวุธจากบรรพบุรุษของหมูบานนี้ ซึ่งมีพลังแข็งแกรงอยางหา
ที่ทัดเทียมไมได
ทันใดนั้น เขายังไมทันไดเคลื่อนไหวใดๆ ผืนปาที่หางไกลออกไปราวกับมีน้ําปาปะทุ
ขึ้น เสียงสัตวคํารามอยางไมหยุดหยอน สะเทือนหูประหนึ่งหูจะดับ มันพุงโจมตีมา
ทางดานนี้
“ฝูงสัตว ใหตายสิ หมาปาชราตัวนั้นเขาไปตอนฝูงสัตวใหญมาจากในเทือกเขาใหมา
โจมตีที่นี่ ชางอํามหิตและเจาเลหยิ่งนัก!” สีหนาของสือยวิ๋นแปรเปลี่ยน
สือหลินหูตะโกนดังลั่น “หมาปาระยําอํามหิตยิ่งนัก หวังใชฝูงสัตวเหยียบย่ําพวกเรา
ใหตาย ทุกคนเตรียมปองกันอยางระมัดระวัง!”
ไมเพียงแตทางดานขอองพวกเขา แมแตผูคนของหมูบานหมาปาก็หนาถอดสี
เทพารักษโหดเหี้ยมไดถึงเพียงนี้ แมแตพวกเขาก็จะประสบกับการโจมตีที่นากลัว ไมใช
ทุกคนที่ปนขึ้นบนหลังของหมาปา ยังมีคนอีกครึ่งที่ยืนอยูบนพื้นดิน
“เร็วเขา ปกขึ้นหลังหมาปา!” เปยหลี่ชิงตะโกนลั่น
แตทวาไมทันการเสียแลว เสียงดังสนั่นหวั่นไหวเขาประชิด แมแตหมาปาตัวใหญ
พวกนี้ก็อยูไมสุขแลว พวกมันวิ่งหนีอุตลุดเพื่อหลบซอนอยางรวดเร็ว
“บรูว...”
เสียงคํารามดังลอยมา ราวกับผีปาสะอื้นไห หวาดผวาอยางไมสามารถจะเอยวาจา
ใดได ทางดานบนของฝูงสัตวมีสิ่งมีชีวิตกระพือปกบินโฉบมาทางนี้
มันมีความยาวเพียง 2 เมตรกวา ทั่วลําตัวมีแผงขนสีแทนเงาวับ แตมันดูชรามาก
แลว ใบหนาของหมาปามีรอยยนปรากฏเปนรอยๆ นี่เปนหมาปาที่พบเห็นไดนอยมาก
ในกลุมหมาปาจํานวนนับไมถวนก็ยากที่จะพบเห็นไดตัวหนึ่ง
ขาหนาของมันสั้นมาก มันแทบจะเดินดวยตัวเองไมได ปกติตองหมอบอยูบนหลัง
ของหมาปาตัวใหญ โชคดีที่ตัวมันเองมีสายเลือดที่แข็งแกรง มีปกคูงอกออกมา สามารถ
บินเหินได
เห็นไดชัดวา หมาปาชราตัวนี้นาหวาดผวายิ่งนัก บนรางกายของมันมีอักขระโบราณ
สองแสงอยูเรือนลาง มันเปนสัตวประหลาดที่เกรียงไกรยิง่ นัก!
..............................
[1] โขมด ชื่อผีชนิดหนึ่งเปนผีปา จะเห็นเปนแสงเรืองวาวในเวลากลางคืน
[2] โยนหินถามทาง หมายความวา เพื่อทราบวาผูคนจะคิดอยางไรเกี่ยวกับเรื่องใด
เรื่องหนึ่งกอนที่จะทําจริง
บทที่ 26 ปราชัย
ผืนปาสั่นสะเทือน ทั้งชางเขามังกร แรดไฟ เปยว[1] ขุยโซว[2]เปาโหว[3]... ฝูงสัตว
ประหลาดพุงมาเพื่อโจมตี ตนไมมากมายถูกพวกมันชนจนหักโคน ราวกับน้ําปาไหล
หลาก ขมุกขมัวเปนวงกวาง
ใบไมแหงเหี่ยวบินวอนกลางอากาศ กอนหินขนาดใหญเกลือกกลิ้ง ผืนดินสะเทือน
ขุนเขาสั่นไหว เปนภาพที่นากลัวยิ่งนัก
“อา...”
คนของหมูบานหมาปากลับโดนโจมตีกอน เนื่องดวยเหตุของตําแหนง ภายใน
พริบตา ก็มีคนสิบกวาคนถูกสัตวประหลาดกระแทกชนจนตัวปลิว จากนั้นก็ย่ําไวใตฝา
เทาจนกระดูกแตกหักกลามเนื้อปริแตก กลายเปนเนื้อบด
หมาปานับสิบตัวหันหลังแลววิ่งหนีทนั ที ผูคนหมูบานหมาปาที่นั่งอยูบนหลังหมาปา
หนาถอดสี พวกคนที่เพิ่งตายไปเมื่อครูตางก็เปนญาติสนิทที่คุนเคยกันมาก เพียงชั่ว
พริบตา ความตายก็พรากพวกเขาไปตลอดกาล
“เตรียมพรอม!” สือยวิ๋นเฟงตะโกนลั่น
เหลาสัตวประหลาดดุจกระแสน้ําปาพวกนั้นมาถึงแลว พวกมันพุงมายังพวก
ของสือยวิ๋นเฟง ทําลายทุกอยางพังพินาศอยางงายดาย ราวกับทําลายหญาแหง ทลาย
ตนไมผุพัง[4]ตนไมใหญหักโคน ไมมีสิ่งใดสามารถหยุดหยั้งฝเทาของพวกมันได
“ฆามัน!”
สือหลินหูรองดังลั่นแลวนํากระดูกสัตวที่ไมแวววาวออกมา แขนซายของเขามี
อักขระสองแสงวูบวาบ จากนั้นเขาก็ใชกระดูกชิ้นนี้กดลงไปอยางรุนแรง และรวมเขากับ
แขนของเขา พลันก็เกิดลําแสงสวยงาม กระดูกสัตวและเลือดเนื้อบริเวณหัวไหลผสาน
เขาดวยกัน จากนั้นแปรเปนหนึ่งเดียวกัน ไมแยกออกจากกัน
เสียงปงดังขึ้น ราวกับอสูรบรรพกาลฟนคืนชีพ กลิ่นอายความเหี้ยมโหดเหนือ
ธรรมชาติพวยพุงขึน้ สะเทือนไปทั่วผืนปาจนสั่นไหวอยางรุนแรง ประหนึ่งเกิด
แผนดินไหวครั้งใหญ
สัตวประหลาดทั้งหลายตางตะลึงงัน พวกมันสั่นสะทานตามสัญชาติญาณ ราวกับ
กําลังเผชิญหนากับราชาแหงสัตวประหลาด พวกมันไมกลาลวงเกิน พากันหยุดฝเทา
อยางเร็วไว จากนั้นเดินเลี่ยงไปอีกทาง
“บรูว...” หมาปาที่อยูกลางฟากฟาตัวนั้นคํารามเสียงดัง ราวกับวิญญาณชั่วรายร่ํา
ไห เสียงของมันนากลัว มันกําลังขับเคลื่อนการโจมตีของสัตวใหญ หวังจะทําลายคนของ
หมูบานหินผาอยางถอนรากถอนโคน สัตวใหญบางตัวถูกบังคับ จึงเกิดอาการลังเล แตก็
มีบางตัวลุกยืนโดยพลัน จากนั้นเดินย่ํามาขางหนาเพื่อโจมตีคนของหมูบานหินผา
“ไป!”
สือหลินหูตะโกนลั่น แขนซายมีลวดลายสองแสงวูบวาบ ทั้งแนนขนัดและเจิดจา
สุดทายแปลงเปนอักขระหนึ่งตัว จากนั้นหดเล็กลงกลายเปนรองรอยดั้งเดิมของราชาอสูร
โบราณ เหมือนกับชองประตู จากนั้นก็มีสัตวประหลาดขนาดใหญตัวหนึ่งคลานออกมา
“โฮก!”
เสียงคํารามหนักหนวงสะเทือนเทือกเขา รางกายของสือหลินหูยืดสูงขึ้น ขยายจน
เสื้อผาฉีกขาด รางกายสีแทนสูงเกือบ 3 เมตรกวายืนอยูตรงนั้น
เขากระแทกกําปนออกไปดังโครม สัตวใหญดานหนารองอยางเจ็บปวด รางกายแตก
ออกทั้งหมด เลือดเนื้อลอยพาดขึ้น กระดูกแตกกระเด็นไปรอบทิศทาง ในสถานที่เกิด
เหตุคละคลุงไปดวยกลิ่นคาวเลือด
สิ่งที่สําคัญที่สุดคือ กลิ่นอายความเหี้ยมโหดของราชาแหงสัตวประหลาดทวมทน
ทองฟาปกคลุมพื้นดิน บีบคั้นจนสัตวใหญเหลานี้สั่นสะทาน ตัวสั่นระริก พวกมันไมกลา
โจมตีเขาไปอีกตอไป
“บรูว...”
ในดวงตาหมาปาชราที่อยูบนทองฟาเกิดความเปลี่ยนแปลงอยางฉับพลัน มีทาง
ความกลัวและความละโมบ แตมีความเจาเลหมากกวา มันเขาใจแลววาความมั่นใจของ
หมูบานหินผาอยูที่ใด นั่นทําใหมันกลัวอยางไมมที ี่สิ้นสุด แตมันจะไมมีทางยอมแพเปน
อันขาด รางกายล้ําคาของซวนหนีมีความสําคัญตอมันมาก สามารถทําใหมันถอดรูป
แปลงรางได[5]
หมาปาชราเริ่มโจมตี ทวามันไมไดพุงเขาหาสือหลินหู หากแตลงมือโจมตีคนอื่นๆ
ของหมูบานหินผา มันทั้งเจาเลหและเหี้ยมโหด หวังใหสือหลินหูใชอาวุธบรรพบุรุษตอกร
อยางสุดกําลัง เพื่อทําใหเขาเหนื่อยลา
“ชางนารังเกียจนัก!”
สือหลินหูมีรางกายสูง 3 เมตร กอเกิดพลังทําลายลางที่นากลัว กลามเนื้อขยายใหญ
ขึ้น แขนซายสองแสงเจิดจา เขามุงหนาขึ้นสูฟากฟาเกิดเสียงวิ้วดังขึ้น เงาเลือนรางของ
สัตวประหลาดตัวหนึ่งพุงขึน้ กลายเปนพายุเฮอรริเคนพุงขึ้นไปยังกลุมเมฆ มวนจน
ตนหญาในบริเวณนั้นแตกละเอียด
หมาปาชราตะลึงจนรีบหลบซอนอยางรวดเร็ว ภายในปากที่มีอักขระสองแสงวูบวาบ
รวมตัวเปนแสงสวางกลุมใหญ แลวพนออกจากปากไปกระแทกชนเขากับสัตวประหลาด
เลือนรางตัวนั้นจนเกิดเสียงดังโครม
สือหลินหูสั่นสะทาน เลือดไหลทะลักออกมาจากปาก อาวุธบรรพบุรุษนากลัวมาก
หากแตเขาหยั่งรูอักขระกระดูกไมลึกซึ้งมากนัก จึงไมสามารถจัดการกับมันได ทําไดเพียง
สําแดงพลังบางสวนเทานั้น
แตเพียงเทานี้ก็แข็งแกรงจนทําใหตะลึงงัน กระเทือนหมาปาชราตัวนั้น แสงที่มันพน
ออกมาถูกหยุดยั้งไวได มันเผยสีหนาตะลึง ทวาแววตากลับยิ่งลุกโชนมากขึ้น
ตอนนี้ ไมเพียงซวนหนีและเขาสีแดงฉานเทานั้นถึงดึงดูดมัน แมแตอาวุธบรรพบุรุษ
ก็กลายเปนเปาหมายที่มันปรารถนาชวงชิงมา สายตาคูหนึ่งของหมาปาฉายแววอํามหิต
และเหี้ยมโหด มันเหาหอนอีกครั้ง พรอมกับหมาปาตัวใหญจากทั่วทุกสารทิศก็โผลมาอีก
ครั้ง แลวพุงเขามาอยางเชื่อฟงคําสั่งของมัน เพื่อรวมจูโจมไปพรอมกับมัน
สถานการณเลวราย หมาปาชราไมเขาประชิด มันจองมองดวยสายตาละโมบ และจู
โจมอยูกลางอากาศ
“เจาหมาปาพิการขา เจากลาลงมาไหม?” สือหลินหูชี้ไปที่มัน
ความที่เปนเทพารักษทําใหชนเผาตางพากันเกรงกลัว หากแตตอนนี้กลับถูกดูแคลน
หมาปาชรากลับไมโกรธเคือง แววตายังคงเยือกเย็น ไมเดือดเนื้อรอนใจดังเดิม
มันแข็งแกรงถึงเพียงนี้ หากเปนเวลาปกติ มันสามารถทําลายหมูบานหนึ่งใหยอยยับ
อยางงายดาย ทวาตอนนี้กลับระแวดระวังถึงเพียงนี้ ทําใหผูคนรูสึกไรที่พึ่ง
หมาปาเหาหอน และซุมโจมตีจากทั่วสารทิศอยางตอเนื่อง สถานการณของผูคนใน
หมูบานอันตรายยิ่งนัก พวกเขาตางก็ตอตานอยางสุดกําลัง
“โฮก!”
หมาปาชราเคลื่อนไหวแลว อักขระสองแสงวูบวาบ อุงเทาสั้นดานหนาของมันสอง
แสงสีทองสวางวาบ อักขระล้ําคาโบราณรวมตัวกันแลวจูโจมลงมา เห็นไดชัดเจนวามีอุง
เล็บสีทองอันหนึ่งกอรางจากอักขระนั้น แลวลอยพาดผานกลางอากาศลงมา
ผูคนของหมูบานหินผาตางก็หวาดกลัว นี่เปนรูปรางของรองรอยครั้งบรรพกาลที่
แปลงเปนกรงเล็บสีทอง พุงออกมากจากเลือดเนื้อของมันเพื่อสังหารผูคนทั้งหมด
“เจาหมาปาชราพิการ ตายเสียเถอะ!” สือหลินหูตะโกนลั่น เขาใชกําลังทั้งหมดของ
ตนกระตุนพลังของอักขระกระดูก ทําใหแขนซายของเขาสั่นสะเทือน อักขระโบราณสอง
แสงวูบวาบ สัตวประหลาดปรากฏขึ้นอีกครั้ง ดูสมจริงมากยิ่งขึ้น ราวกับโหวตัวหนึ่ง มัน
ลอดออกมาจากอักขระ พลังนากลัวอยางมหาศาล
“โฮก...” เสียงคํารามดังสะเทือนทองฟาผืนดินสั่นไหว มันพุงชนเขากับกรงเล็บใหญ
จนเกิดเสียงฟาคํารามสายฟาสวางวาบ สองสวางไปทั่วฟากฟาที่มืดครึ้ม เกิดเปนภาพที่
นาสะพรึงกลัว
ไมสามารถทําอะไรกรงเล็บสีทองนั้นได มันพาดผานทองฟา จากนั้นเกิดเสียงดัง
โครม จูโจมกองหินเตี้ยจนแตกหักดังครืน กอนหินใหญเกลือกกลิ้ง
ผูคนตะลึงจนอาปากคาง หมาปาชรานากลัวเสียจริง!
สือหลินหูถอนหายใจเสียงดัง เขาตานทานไมไหว เพราะอาวุธบรรพบุรุษยิ่งใหญ
เกินไป ยากที่จะกระตุนพลังใหออกมาได
“บรูว...”
หมาปาชราเหาหอน กระตุนกลุมหมาปาใหเดินหนาจูโจมอยางเต็มกําลัง
ขณะเดียวกันนั้นสัตวใหญเหลานั้นก็เคลื่อนไหว เมื่อเห็นสือหลินหูเปนรอง พวกมันก็เริ่ม
นอมรับคําสั่งของหมาปาชราอีกครั้ง
สถานการณเลวรายถึงที่สุด ชีวิตของคนในหมูบานหินผาทั้งหมดสามารถโดนทําลาย
ไดทุกเมื่อ
จนกระทั่งตอนนี้ หมาปาชราวางใจแลว มันรูแลววาความมั่นใจของหมูบานหินผาอยู
ที่ใด มันไมสงสัยอีกตอไป จากนั้นก็จูโจมอยางไมตองเกรงกลัวสิ่งใด มันโจมตีอยาง
ตอเนื่อง
“ซิ่ว”
เจาตัวเล็กลงมือ ปลอยกําไลเขี้ยวสัตววงนั้นออกมา อาวุธล้ําคาสองแสงสวาง แตละ
ชิ้นพรางพราวราวกับดวงดาว มันพุงขึ้นสูฟากฟาเพื่อจะทะลวงกายเนื้อของหมาปาชรา
เปนครั้งแรกที่หมาปาชราตัวนี้โกรธแคนยิ่งนัก นี่เปนเขี้ยวที่หลุดออกมาจากตัวมัน
ผานพิธีกรรมมานับครั้งไมถวน เปนอาวุธล้ําคาที่แข็งแกรงของมัน แตตอนนี้กลับถูกเด็ก
คนหนึ่งควบคุม
มันพุงลงมาพลางรายเวทมนตร เตรียมใชวิธีรุนแรงเพื่อเก็บเขี้ยวสัตวสีขาวสองแสง
สวยงามนั่นกลับมา
ทันใดนั้น ทั่วทั้งรางกายของเจาตัวเล็กก็สองแสงเจิดจา อักขระกระดูกประหนึ่งใย
แมงมุม พันเกี่ยวรอบตัวเขา จากนั้นก็สองแสงสวางวาบ เขารีบนําหนังสัตวที่เปอนคราบ
เลือดเปนจุดๆ กดลงไปยังหนาอกของตน
บริเวณนั้นพรางพราวดุจดวงดาว หนังสัตวผสานเขากับเลือดเนื้อบริเวณหนาอก
และประทับรองรอยกลายเปนหนึ่งเดียวกับรางกายของเขา ไอนากลัวแผซานราวกับพายุ
เฮอรริเคนพัดโหมกลืนกินโลกหลา
เสียงหอนยาวดังอยางตอเนื่อง สัตวประหลาดมากมายหวาดกลัวจนสั่นสะทานไป
ทั้งตัว ยิ่งไปกวานั้นคือหมอบคลานลง
หนังสัตวหลอมรวมกลายเปนสวนหนึ่งของเจาตัวเล็ก แสงสวางเจิดจากลายเปน
รูปราง และแปลงกายเปนอักขระโบราณ ทําใหรางกายของเขาสองแสงพรางพรายพรา
ตา ราวกับเปลวไฟที่กําลังลุกโชน มีกลิ่นอายของความโหดรายเหนือมนุษยตลบอบอวล
สะทานไปสิบทิศ
นี่เปนอาวุธบรรพบุรุษชิ้นที่สองของหมูบานหินผา เดิมทีอยูใตการควบคุมของสือเฟย
เจียว แตเจาตัวเล็กรูอักขระไดอยางลึกซึ้ง จึงมอบใหเจาตัวเล็กอยางลับๆ ที่ตอนนี้
กลายเปนอาวุธสังหารไปเสียแลว
เสียงสัตวประหลาดคํารามดังขึ้นสั่นสะเทือนไปทั้งดินแดนรกราง ตรงหนาอกของ
เจาตัวเล็กมีประตูที่แปลงมาจากอักขระ มีสัตวประหลาดตัวหนึ่งโผลพรวดออกมา ที่
คลายคลึงกับปอาน[6]กระโจนออกไปปะทะกับหมาปาที่พุงลงมาพอดี
หมาปาชราตกตะลึง นี่มันกะทันหันเกินไป จะหลบซอนก็ไมทันการณเสียแลว มัน
ทําไดเพียงตวัดกรงเล็บคมกริบขึ้น จากนั้นก็ปลอยกรงเล็บสีทองออกมาอีกครั้งเพื่อ
หยุดยั้งมัน
เสียงโครมดังขึ้นราวกับภูเขาแหลกละเอียด กรงเล็บสีทองแตกกระจาย อสูรบรรพ
กาลตัวนั้นโอบรอบกายเนื้อของมันแลวบดขยี้อยางดุเดือด กลางฟากฟามีเสียงรอง
โหยหวนดวยความเศราโศก
รางกายยาว 2 เมตรของหมาปาชราที่อํามหิตและเจาเลหเกือบจะถูกบดจนเปนสอง
ทอน มันดิ้นรนเอาตัวรอด แตสุดทายก็โดนกรงเล็บคมกริบตะปบเขาที่ขาหลัง เสียงแควก
ดังขึ้นพรอมกับขาที่บิดเปนเกลียวทันใด เปลี่ยนรูปรางไปโดยสิ้นเชิง
อาวุธบรรพบุรุษที่ถูกใชโดยเจาตัวเล็ก ไมสามารถเปรียบเทียบกับสือหลินหูและสือ
เฟยเจียวได เพราะอิทธิฤทธิ์เพิ่มขึ้นมหาศาล แนนอนวาเขาก็ไมสามารถสําแดงอิทธิฤทธิ์
ที่แทจริงของอาวุธบรรพบุรุษไดเชนกัน
เห็นไดชัดวา หมูบานหินผาเคยมีชวงเวลาที่รุงโรจนมากอน อาวุธบรรพบุรุษสองชิ้น
นี้จะถูกเปดเผยไมได มิเชนนั้นจะทําใหชนเผาใหญบางสวนเกิดความอยากไดใครมี และ
กอใหเกิดหายนะครั้งใหญ
หมาปาชรารูสึกโกรธแคน มันพุงขึ้นสูฟากฟาและบินวนอยูกลางอากาศ ไมเพียงเก็บ
อาวุธล้ําคาของตนกลับมาไมได แตยังไดรับบาดเจ็บสาหัส สําหรับมันที่เจาเลหอํามหิต
และไมเคยเสียเปรียบมากอนนั้น นี่ถือวาเปนสิ่งที่ยอมรับไมได
มันบินวนอยูกลางอากาศ และเหาหอนดวยความโกรธแคน แตสัตวใหญตัวอื่นๆ
และหมาปาเหลานั้นไมกลาโจมตี และไมทําตามคําสั่งของมันโดยทันที พวกมันหวาดกลัว
อาวุธบรรพบุรุษที่อยูในมือของเจาตัวเล็ก
หมาปาชราคลุมคลั่ง มันบินวนไปมา และพุงลงมาเพื่อโจมตีเปนครั้งคราวดวย
ความเร็วสูงสุด นาเสียดายที่เดาทางของมันไมออก ถึงจะใชอาวุธบรรพบุรุษก็ไมโดนตัว
มัน
“ไมไดการณ มันจะสูบพลังของเราใหหมดสิ้น จากนั้นก็โจมตีเรา กระตุนพลังของ
อาวุธบรรพกาลนั้นใชพลังมากมายเหลือเกิน” สือยวิ๋นเฟงขมวดคิ้ว
เจาตัวเล็กขยิบตาใสเขาดวยสีหนาที่เปนสุข
หมาปาชราจูโจมอีกครั้ง มันฉีกทึ้งคนสิบกวาคนจนแหลกเหลว กรงเล็บสีทองนั้นชาง
นากลัวและนาเกรงขามยิ่งนัก โชคดีที่สือหลินหูหยุดยั้งมันไวได
แมจะเปนเชนนี้ แตก็ยังมีลําแสงสีทองรวงโรยลงมา ทําใหคนเจ็ดแปดคนเกลือกลิ้ง
ออกไป เลือดไหลเนื้อเละ[7]มองดูแลวทารุณเปนอยางยิ่ง
“ชริ้ง!”
ทันใดนั้น อินทรีเกล็ดเขียวที่ไดรับบาดเจ็บอันตรายถึงชีวิตและนอนหมอบอยูบน
พื้นดินก็ลืมตาขึ้นมาทันที เมื่อกางปกทั้งสองขางขึ้นก็เกิดลมพายุพัดโหมกระหน่ํา มันบิน
พุงขึ้นสูฟากฟา จะงอยปากยาวครึ่งเมตรนั่นสองแสงสีเขียวพราตา กงจักรจันทราวงหนึ่ง
กอเปนรูปราง จากนั้นลอยออกไปอยางรวดเร็ว
หมาปาชราไมคาดคิดเลยวาปกษาที่จวนตายตัวนั้นจะฟน ขึ้นมา อีกทั้งยังดุดันไดถึง
เพียงนี้ มันเหาหอนยาวประหนึ่งวิญญาณโหยหวน รีบหลบซอนอยางรวดเร็ว แตก็ชาไป
หนึ่งกาวเฉกเชนดังเดิม
เสียงฟบดังขึ้นพรอมกับสะเก็ดเลือดสาดกระเด็น ขาหลังของมันถูกกงจักรจัน
ทราโจมตีจนแหลกเหลว เลือดเนื้อลอยพาดผานทองฟา
“ปง”
ในขณะเดียวกัน อินทรีเกล็ดเขียวก็ถึงตัวมัน ยื่นกรงเล็บที่สองแสงสีเขียวพราตา
เชนเดียวกันออกไป มันคมกริบอยางหาที่เปรียบไมได จับมันไว พลันเลือดก็พวยพุง
กระเด็นกระดอน
หมาปาชราโกรธแคนปนตะลึง ดิ้นรนอยางสุดชีวิต จนเกือบจะทําใหกรงเล็บของ
อินทรีเกล็ดเขียวแตกหัก มันกลับคืนสูอิสรภาพอีกครั้ง อักขระสีทองทั่วรางกายผสานเขา
ดวยกัน หวังสังหารอสูรปกษา
“ปง”
ทันใดนั้น เรื่องราวก็ตาลปตรอีกครั้ง สือหลินหูที่พึ่งพาพลังของอาวุธบรรพบุรุษ โยน
เจาตัวเล็กขึ้นกลางอากาศ สือฮาวที่มีสายตาเฉียบคม ใชพลังอํานาจลึกลับของหนังสัตว
โจมตีหมาปาชรา
ปอานตัวหนึ่งพุงออกมา ความนาเกรงขามสะทานไปทั้งผืนปา สรรพสัตวตองยอม
จํานน ปกษามากมายสั่นสะระริกดวยความกลัว โลกหลาเงียบสงบลง
“ปง!”
สัตวประหลาดพุงกระแทกเขากับหมาปาชรา อักขระผนึกกําลัง สาดทอแสง
ศักดิ์สิทธิ์ ราวกับดาวหางสองดวงชนกัน สองแสงเจิดจาพราตากลางทองฟา
เลือดหยดลงมาราวกับสายฝน หมาปาชราเหาหอนอยางเศราโศก กายเนื้อแหลก
เหลว รางกายทอนหลังหายไปบางสวน นาเวทนาจนทนดูไมได มันจากไปไกลอยางไมหัน
หลังกลับมา
อินทรีเกล็ดเขียวบินโงนเงนไปรับตัวเจาตัวเล็กที่รวงหลนลงมา จากนั้นก็บินโซเซมุด
เขาไปในผืนปา มันกระแทกลงที่นั่นจนเกิดเสียงดังปง
“เร็วเขา รีบกลับหมูบาน!” สือยวิ๋นเฟงตะโกนดังลั่น
ครานี้ชนะเพราะโชคชวย หมาปาชราตัวนั้นประมาท โดนอินทรีเกล็ดเขียวที่
พละกําลังฟนฟูกลับมาบางสวนนั้นทําใหไดรับบาดเจ็บสาหัส มิเชนนั้น ผูคนทั้งหมดคง
ตายอยูตรงนั้น
พวกเขาเกรงวาหมาปาชราที่สงบลงแลวจะคลุมคลั่งขึ้นมา แลววนกลับมาโจมตีอีก
ครั้ง หากเปนเชนนั้นผูคนก็จะตกอยูในอันตรายเฉกเชนดังเดิม สัตวประหลาดตัวนั้น
แข็งแกรงจนนากลัว
กลุมคนแนนขนัดมุงหนาไปยังหมูบานหินผา ไมกลาหยุดพักแมแตนิด
ทางดานคนของหมูบานหมาปานั้นไดรับบาดเจ็บเจียนตายจํานวนมาก เมื่อครั้งฝูง
สัตวประหลาดพุงจูโจมลงมา คนมากกวาครึ่งก็เละเปนเนื้อบด
ตอนนี้ไมใชเวลาแหงการสะสาง คนของหมูบานหินผาไมสนใจพวกเขา หลบหนีเปน
พัลวันเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุสุดวิสัย
อยางไรก็ตาม หมูบานหินผาก็อยูตรงหนาแลว แตในขณะนั้นเอง หมาปาชราที่
สูญเสียรางกายไปบางสวนก็ไลตามมา มันยอมรับไมไดหากจะตองเสียรางกายล้ําคาของ
ซวนหนีไป หากวาไดมันมา ไมเพียงแตรักษาอาการบาดเจ็บเทานั้น ยังสามารถทลาย
ขีดจํากัดไดอีกดวย
“ไมไดการณแลว สัตวประหลาดที่ไดรับบาดเจ็บนั้นนากลัวเปนที่สุด มันกะจะตอสู
สุดชีวิต!” ผูคนของหมูบานหินผาหมองหมน
ระยะทางยังหางจากหมูบานหนึ่งลี้[8] แตก็ราวกับวามีแมน้ําใหญมาขวางกั้น หมา
ปาชรายืนขวางอยูดานหนา เตรียมพรอมจะโจมตีอยางสุดกําลัง
“ทานเทพารักษ ไดโปรดคุมครองคนของหมูบ านเราดวยเถิด อยาเครงครัดในกรอบ
เลย วิงวอนทานใหออกมาคุมครองพวกเราเถิด” มีคนภาวนา
ตนหลิวสีดําเกรียมตนใหญที่มีเพียงกิ่งกานเขียวออนเพียงกานเดียว ทามกลางความ
มืดมิดแหงราตรีกาล มันกระจายแสงศักดิ์สิทธิ์ที่นุมนวลออกมาเสนแลวเสนเลา รัศมีที่
พรามัวแผคลุมไปทั่วบริเวณของหมูบาน
ทันใดนั้น กิ่งออนนั่นก็เคลื่อนไหว กลายเปนโซสีเขียวศักดิ์สิทธิ์ ยืดยาวออกไปไกลถึง
ลี้กวา แลวพุงมาราวกับสายฟาฟาด!
..............................
[1] เปยว สัตวประหลาด รูปรางคลายเสือ มีปกงอกออกมาจากลําตัวทั้งสองขาง
[2] ขุยโซว สัตวประหลาดขาเดียว มีรูปรางคลายวัว
[3] เปาโหว สัตวประหลาด เปนสัตวเลือดผสมซึ่งเปนทายาทของ โหว
[4] ทําลายหญาแหง ทลายตนไมผุพัง เปรียบเปรยวา ทําลายทุกอยางพังพินาศยอย
ยับอยางงายดาย
[5] ถอดรูปแปลงราง เกิดใหม
[6] ปอาน ลูกมังกรทั้งเกาจากตํานานเทพเจายุคโบราณของจีน รูปเปนพยัคฆ นา
เกรงขาม
[7] เลือดไหลเนื้อเละ อุปมาวา เนื้อตัวแหลกเหลว ตายอยางอนาถ
[8] ลี้ มาตราวัดความยาวของจีน 1 ลี้ =500 เมตร
บทที่ 27 ปดฉาก
ภายใตทองฟายามรัตติกาล ทั่วทั้งตัวของหมาปาชราเต็มไปดวยอักขระสีทอง แผง
ขนสองแสงวาววาว ดวงตาคูนั้นฉายแววดุราย ทั้งลําตัวเปลงแสงสวยงาม อยางไรก็ตาม
เวลานี้มันกลับหวาดผวา
กานออนสีเขียวชอุมยืดยาวมาบริเวณใกลเคียง ทําใหมันรองออกมาเสียงดังอยางอด
ไมได ดวงตาเต็มไปดวยความหวาดกลัว มันกางปกทั้งสองขางขึ้นเกิดสายฟาฟาดระงม
มันบินพุงขึ้นเขาไปในกลีบเมฆ เพื่อเตรียมตัวหนี
หมาปาแข็งแกรงเพียงนี้ไมมีความคิดอยากตอตานแมแตนิด มันหวังเพียงอยากหลีก
หนีจากที่แหงนี้ใหไว แผงขนทั่วทั้งตัวของมันลุกชัน มันตื่นกลัวราวกับสุนัขจรจัด
หมาปาดุรายตัวนั้นบินทะลุฟากฟาจวนจะหายไปในมานรัตติกาล ทันใดนั้นตนหลิวก็
กระจายแสงนุมนวล ราวกับโซศักดิ๋สิทธิ์เปนระเบียบ พุงขึ้นสูชั้นเมฆ แลวไลตามทันที
“บรูว...”
หมาปาดุรายหอนเสียงดังอยางตื่นกลัว ขนทั่วลําตัวลุกชัน มันกระพือปกอยาง
สุดกําลัง อักขระสีทองผนึกกําลัง ความเร็วของมันถึงขีดจํากัดแลว แตทุกอยางก็ไร
ประโยชน
กานหลิวออนโยนสองแสงพรางพรายเปยมดวยสีสัน มีหมอกหนาทึบลอยอยู เสียง
ฟบดังขึ้นพรอมกับกานออนสีเขียวทะลวงแผนหลังของหมาปาดุราย เลือดสาดกระเด็น
ออกมาเปนสาย
“บรูวบรูว...” หมาปาชราดิ้นพลาน ดวงตาของมันเต็มไปดวยความหวาดกลัว เสียง
รองโหยปานจะขาดใจ สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งขุนเขา
ผูคนของหมูบานหินผามองดูอยางตะลึงพรึงเพริด พวกเขารูดีวาตนหลิวแกศักดิ์สิทธิ์
มาก เหมือนกับเทพารักษทั่วไป แตไมคาดคิดวาสะเทือนขวัญไดถึงเพียงนี้
เพียงแคเวลาสั้นๆ เทพารักษของหมูบานหมาปาผูแข็งแกรงก็ถูกทะลวงรางกาย ไมมี
กําลังจะตอตานแมแตนอย ระยะหางกันมากเกินกวาที่คาดคิด
ตนหลิวมีที่มาอยางไรกันแน? ทุกคนตางเกิดความสงสัย สือยวิ๋นเฟงสะทานไปถึง
ทรวงใน ครั้งนั้น เขาเคยเห็นภาพนากลัวที่ตนหลิวเกาแกอาบทะเลสายฟา และลงมาจาก
ทองฟา
กานหลิวสีเขียวพรางพรายสั่นไหวแผวเบา แสงศักดิ์สิทธิ์ลุกชวงโชติ เทพารักษของ
หมูบานหมาปารองโหยหวน รางกายแหงเหี่ยวอยางรวดเร็ว จากนั้นก็แหลกไมเหลือชิ้นดี
แผงขนและกระดูกแตกออกราวกับไมผุพัง แลวรวงลงมาจากฟากฟา
หยดของเหลวสีทองรวมตัวกัน รวงลงมายังกานออน แลวก็ถูกมันดูดซึมเขาไป กาน
หลิวเปลงแสงสีเขียว แลดูมีชีวิชีวา จากนั้นกานหลิวก็หดตัวกลับไปยังหมูบานหินผา
ดังเดิม
ลมยามค่ําคืนพัดผาน บนตนไมดําเกรียมที่ถูกสายฟาฟาดใส มีกานหลิวกานหนึ่ง
กระจายแสงออนโยน แผคลุมไปทั่วหมูบานหินผาดวยมานหมอกจางๆ สันติและเงียบ
สงบ ราวกับภาพวาด
ผูคนของหมูบานหินผาตะลึงงัน ไมสามารถเอยวาจาใดไดอยูนานโข นี่เปนครั้งแรกที่
ตนหลิวเกาแกแสดงพลังการโจมตีทนี่ ากลัวเชนนี้ แมวาจะมีเพียงกานออนเพียงกานเดียว
แตสามารถสังหารหมาปาดุรายเชนเมื่อครูได
เมื่อกอน มันกระจายรัศมีมงคลและสงบเพื่อปกปกษรักษาหมูบาน ไมเคยแมแตจะ
ออกไปโจมตีผูใดกอน ทวาวันนี้กลับทลายกฎเหลานั้นทิ้งไป
“หมาปาดุรายตายไปทั้งอยางนี้หรือ?!”
ผูคนมากมายรูสึกราวกับวาไมใชความจริง พวกเขาตอสูกับหมาปาตัวนั้นอยาง
เหนื่อยยาก อันตรายที่ตองแลกดวยชีวิต ผลคือเทพารักษของหมูบานหมาปากลับถูกกาน
หลิวสีเขียวพรางพราวกานหนึ่งทะลวงจนตาย
หากเทียบกันแลว ชางหางไกลกันเกินไป ไมเหมือนกับสิ่งที่คิดเลยไมแตนอย
“กลับหมูบาน!”
กลุมคนทั้งหวาดกลัวและประหลาดใจ เมื่อวิกฤตคลี่คลายแลว พวกเขายกรางกาย
ล้ําคาของซวนหนีขึ้น แบกเขาสีแดงฉานขึ้น แลวมุงหนาไปยังหมูบานดวยความรวดเร็ว
“เรงชวยเหลือผูที่ไดรับบาดเจ็บ!” สือยวิ๋นเฟงตะโกนอยางวิตก
ครานี้ หมูบานหินผาก็สูญเสียไปไมนอย ผูคนมากมายไดรับบาดเจ็บสาหัส หนึ่งใน
ผูคนเหลานั้นมีบางสวนที่เสียแขนและขา ตองพิการไปตลอดชีวิต และยังมีบางสวนที่ตาย
ในสงคราม
อาศัยอยูทามกลางดินแดนรกรางก็จะทารุณเชนนี้แล ตอสูกับเหลาสัตวประหลาดอยู
ทุกวี่ทุกวัน ความสูญเสียและความตายเปนเรื่องที่เกิดขึ้นบอยครั้ง เพียงแคการรบราฆา
ฟนระหวางชนเผานั้นไมมีใหเห็นบอย
“หลินหู เฟยเจียว พวกเจานําเอาอาวุธบรรพบุรุษไปสังหารคนของหมูบานหมาปา
พวกนั้น อยาใหเหลือรอดแมแตคนเดียว สังหารพวกมันใหสิ้นซาก!”
สือยวิ๋นเฟงเด็ดขาดมาก พอสั่งการดูแลผูที่ไดรับบาดเจ็บเรียบรอยแลว ก็ออกคําสั่ง
ที่กระเหี้ยนกระหือรือเชนนี้ เพื่อฆาลางบางผูคนของหมูบานหมาปาที่ลวงรูความลับของ
อาวุธบรรพบุรุษเหลานั้น เพื่อปองกันไมใหเรื่องราวรั่วไหลออกไปแลวนําหายนะมาสู
หมูบาน
เจาตัวเล็กตอสูมาแลวทั้งวัน ตอสูกับสัตวประหลาดเพื่อชวงชิงรางกายล้ําคาของซวน
หนี อีกทั้งสูรบตบมือกับผูคนของหมูบ านหมาปา ไดรับบาดเจ็บจากคันศร จากนั้นก็ทํา
ศึกครั้งใหญกับหมาปาดุราย เขารูสึกเหนื่อยลามานานแลว
แตวาเขาก็ยังเอยปากขอรบ ตองการเขารวมการเคลื่อนไหวครั้งนีด้ วย สือยวิ๋นเฟง
ลังเลเล็กนอย แตสุดทายก็พยักหนารับปาก หากหยกยังไมแกะ ก็ไมมีประโยชน[1]
จําตองผานประสบการณอาบเลือดและไฟ เจาตัวเล็กจึงจะเติบใหญได
นี่ถูกกําหนดใหเปนค่ําคืนที่ไมหลับใหล สือหลินหูกับสือเฟยเจียวนําอาวุธบรรพบุรุษ
ติดตัวไป พรอมกับคนในหมูบาน ปรารถนาจะสังหารชายฉกรรจของหมูบานหมาปา
อยางไมปราณี
เลือดสาดกระเด็น ชีวิตถูกสังหาร ค่ําคืนราตรีกาลเศราโศก ผืนปาอาบเลือด สัตวปา
โหยหวน บรรยากาศมืดมนอางวางและเยือกเย็น
ดินแดนรกรางที่โหดเหี้ยมทารุณ บางครั้งชีวิตคนก็งายดายเหมือนตนหญา บุรุษดีๆ
มากมายสิ้นชีพในปากของสัตวประหลาด โอกาสเสียชีวิตมีสูงมาก ทวาในวันนี้กลับเปน
การเขนฆากันเองของชนเผา
ครั้งนี้หมูบ านหมาปานําพลมาทั้งหมด 123 คน มีคนเกือบครึ่งที่ตายดวยเงื้อมมือ
ของฝูงสัตว และผูคนที่มีชีวิตรอดสวนมากก็ไดรับบาดเจ็บ เมื่อรูวาเทพารักษสิ้นชีพ ขวัญ
และกําลังใจของหมูบ านนี้ก็ตกต่ํา แทบจะแตกออกเปนเสี่ยงๆ
ลําดับตอไปจะเปนการไลลาตามฆาแตเพียงฝายเดียว ผูคนของหมูบานหินผานับ
จํานวนคน จากนั้นก็ไลลาและเสาะหาอยางตอเนื่อง ฆาอยางถอนรากถอนโคน ไมให
เหลือแมแตคนเดียว
หมาปาชราสิ้นลมแลว หมาปาตัวใหญพวกนั้นเหวี่ยงคนของหมูบานหมาปาทิ้งแลว
คืนกลับไปยังขุนเขา แมแตหมาปาบางตัวก็แตกคอ กัดคนของหมูบ านหมาปาจนตายไป
หลายคน
“ไอแกระยําต่ําชา ไปไหนแลว!”
สือหลินหูคํารามลั่น แลวงางคันธนู คันศรโลหะหนึ่งดามก็ลอยออกไป แสงเยือกเย็น
สองไปทั่วผืนปา เสียงปงดังขึ้นปกทะลุเขาไปกลางหลังของเปยหลี่ชิง คันศรหนาใหญ
ทะลวงผานไปพรอมกับเลือดมากมาย
“เกลียดนัก!” หัวหนาหมูบานหมาปาตะโกนดวยความโกรธ
“ไอแก เจาทําเรื่องชั่วสารพัด จบชีวิตใหเร็วไวดีกวา” สือเฟยเจียวก็เคลื่อนไหว เขา
ตวัดดาบในมือฟาดฟนลงไป เสียงปงดังขึ้นพรอมกับหัวที่อาบเลือดขาดลอยออกไปไกล
เกือบเมตร แลวหลนลงบนพื้น
เปยลี่ชิงสิ้นใจแลว ผูคนที่รอดชีวิตของหมูบานหมาปามีสีหนาซีดเผือก ตกใจจนตัว
สั่นระริก ตางคนตางวิ่งหนีอยางไมคิดชีวิต
“ซิ่ว!”
คันศรเย็นดามหนึ่งถูกยิงออกไป ลอยไปยังดานหลังกะโหลกของเจาตัวเล็กอยาง
อํามหิตและแมนยํา หากวายิงโดนแลวละก็ ตองทะลวงผานสมองแนนอน
สือฮาวไดยินเสียงลมเย็นจึงรีบหลบอยางรวดเร็ว และหันกลับไปทันใด เขาจดจองไป
ยังผืนปา ในดวงตามีไฟโทสะลุกโชน เขาตะโกนวา “เจาอีกแลวหรือ!”
กลางพุมไมมีชายฉกรรจคนหนึ่งหลบซอนอยู ทวาตอนนี้กลับถูกเปดเผยแลว ความ
สูงเกือบ 2.3-2.4 เมตร รางกายกํายําและมีพลัง และลําแสงสีแทนพรางพราว เขาคือ
ผูนํากลุมนักลาของหมูบานหมาปา เปยซานนั่นเอง
ครั้งที่เจาตัวเล็กเปดศึกกับคนของหมูบ านหมาปา บาดแผลจากคันศรที่แรกก็คือ
ฝมือของเปยซาน ตอนนั้นเขาหลบซอนอยูในความมืด ยิงคันศรหนึ่งดามทะลวงแขนของ
เจาตัวเล็ก เลือดไหลออกมาเปนจํานวนมาก ครั้งนี้เขาก็ลงมืออีกครั้ง
“วิ้ว”
เมื่อสือฮาวยกมือขึ้น กําไลเขี้ยวสัตวก็ลอยออกมา ราวกับโซศักดิ์สิทธิ์สีขาว ปลอย
แสงศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็พุงออกไป เสียงแควกดังขึ้น บดขยี้คันธนูใหญของเปยซานจน
แหลกละเอียด
แมวาหมาปาชราจะสิ้นชีพแลว แตอาวุธล้ําคาชิ้นนี้ไมมีความเกี่ยวของอีกตอไป เจา
ตัวเล็กกลับยิ่งใชอยางคลองมือไดดั่งใจคิด ควบคุมไดดั่งปรารถนา กําไลเขี้ยวสัตวสอง
แสงสวยงามสุกใสวงนี้หาที่เปรียบไมได พลังโจมตีแข็งแกรงยิ่งนัก
เปยซานชักดาบใหญออกมา จากนั้นพุงเขาไปหาเจาตัวเล็ก ลําแสงเย็นเยือกพาด
ผานกลางปา กําลังแขน 5000-6000 ชั่งนั้นดุดันจนนากลัว มือทั้งสองขางตวัดดาบไปมา
ราวกับปลอยสายฟาฟาดออกมาเปนสาย
นิ้วมือของเจาตัวเล็กมีอักขระสวางวาบ กําไลเขี้ยวสัตวพรางพราวประหนึ่งดวงดาว
แตละชิ้นโปรงแสง มันลอยไปขดอยูบนมีดดาบที่สองแสงสีขาว เสียงแควกดังเปนระลอก
บดมีดดาบจนแหละละเอียด กลายเปนเศษเหล็ก นี่ก็คืออานภาพของอาวุธล้ําคา
“ฟบ ฟบ” ...
เขี้ยวสัตวสองแสงออนโยน 42 ชิ้นลอยแยกออกไป กลายเปนหอกและคันศรวิเศษ
ทะลวงเขาไปในรางกายของเปยซาน เลือดพวยพุง ทั้งแขนและขาของเขาถูกฟนจนขาด
รางกายกํายําที่สูง 2 เมตรกวาลมลงไปกับพื้นดังปง
ลําแสงรวมตัวกัน กลายเปนกําไลเขี้ยวสัตวสีขาวบริสุทธิ์ ลอยมาพันขอมือของสือ
ฮาว เปลงแสงสีสันสวยงาม
“เจาตัวเล็ก สังหารมัน!” สือหลินหูเดินกาวใหญเขามา กลาวดวยสีหนาเครงขรึม
สือเฟยเจียวก็ถือมีดดาบที่เปอนคราบเลือดเขามา กลาววา “บุรุษที่ดีอาศัยอยู
ทามกลางดินแดนรกราง จะไมฆาสัตวตัดชีวิตไดอยางไร แมวาเจาจะยังเด็กนัก แต
พละกําลังแข็งแกรงยิ่งกวาพวกขาเสียอีก หากวาเจาไมยอมฆาคน เจาจะตองเสียเปรียบ
ไมวันใดก็วันหนึ่ง”
“ขารู...” เสี่ยวสือฮาวกระพริบตากลมโต ขนตายาวก็กระเพื่อมแผวเบา สีหนาบน
ใบหนาเล็กนั่นซับซอน ทั้งตื่นตระหนก เจ็บปวด ดิ้นรน มุงมั่น...ทั้งหมดนั่นปรากฏ
ออกมาทีละอยาง
“เจาหนูนอย คิดไมถึงเลยวาเจาจะเปนผูชนะ นาเสียดายที่คันศรของขาเพียงปก
ทะลุแขนเจา ไมสามารถทะลวงลําคอของเจาได” เปยซานแคนยิ้ม เผยฟนสีขาวเต็มปาก
แลดูอัปลักษณ
เสี่ยวสือฮาวหลับตา นึกถึงภาพที่ทานลุงอาฝูถูกเขายิงจนทะลวงหนาอก ดวงตาเปด
ขึ้นอยางดุดัน ตวัดดาบในมือแลวเสียบลงไปดังปง หัวคนเกลือกกลิ้ง เลือดพุงกระฉูด
ออกมามากมาย
“ทานลุงหลินหู ขาเหนื่อยแลว” เจาตัวเล็กโยนมีดดาบทิ้งแลวพูดเสียงแผวเบา
เขารบมาทั้งวัน ปลุกพลังกงจักรจันทราอยางตอเนื่อง ศัตรูแตละคนนากลัวมากขึ้น
มีทั้งสัตวประหลาด คนอํามหิต และหมาปาชรา ซ้ํารายรางกายยังไดรับบาดเจ็บจากคัน
ศรบางจุด เขาเหนื่อยลาไปทั้งกายใจ ครั้นพูดจบก็หลับตาลง
“หลับเถอะ” สือหลินหูแบกเขาขึ้นหลัง
เมื่อสือฮาวตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ผานไปหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืนแลว เขาไดรับการทําแผล
เรียบรอยแลว และกลายเปนแผลเปนแลว การไลลาคนของหมูบานหมาปาก็สิ้นสุดลง
แลว พวกเขาถูกฆาจนสิ้นซากไมเหลือแมแตคนเดียว ครั้งนี้หมูบานหินผาโจมตีอยางไร
ความเมตตา ลงมืออยางไมปราณี คนพวกนั้นไมรอดแมแตคนเดียว หัวของคนรอยกวา
หัวกองรวมกันแลวชางนากลัวยิ่งนัก และยังมีอีกบางสวนที่ไมตองลงมือก็ถูกฝงอยูในทอง
ของสัตวเรียบรอยแลว
“ปง!”
ทันใดนั้น จุดที่ลึกที่สุดของดินแดนรกรางแหงนี้ เกิดกองไฟทวมทนทองฟาปะทุขึ้น
ลุกโชนอยางหาที่เปรียบไมได นกแผดรองดังกึกกองสะเทือนแผนฟา พื้นดินสั่นไหว
ทะลวงสรวงสวรรค!
เปลวไฟแดงฉานลุกโชติชวง แผดเผาจนแผนฟาจะทลายลงมา นกสีแดงตัวเล็กตัว
หนึ่งบินโฉบผานไป อานุภาพนากลัว!
เสียงโครมดังขึ้นกลางชั้นเมฆหนาแนนนั่น มีกรงเล็บสีทองยื่นออกมา แผคลุมทองฟา
ปกคลุมพื้นดิน กรงเล็บนั่นยื่นไปจับนกสีแดงตัวเล็ก เกรงขามอยางหาที่สุดไมได
“จิ้บ”
นกนอยสีแดงบินหนีตามแนวขนาน จากนั้นรีบหลบซอน กรงเล็บขนรกรุงรังตะปบ
สันเขาจนแหลกละเอียด กอนหินพวยพุงขึ้นสูอากาศ เปนภาพที่นากลัวไรขอ
เปรียบเทียบ
“อา เปนนกนอยสีแดงที่ขาเคยเห็นตัวนั้นนี่นา!” เจาตัวเล็กตกตะลึง ตากลมโตเบิก
กวาง เขาเพิ่งจะไดสติเพียงไมนานก็ตองเจอกับฉากที่นาสะพรึงกลัวเสียแลว
“เกิดอะไรขึ้นกันแน สงครามเมื่อสองปกอนยังไมสิ้นสุดอยางนั้นหรือ อสูรบรรพกาล
ที่ยิ่งใหญที่สุดยังคงปกปกษรักษาวัตถุล้ําคาแหงขุนเขาเฉกเชนดังเดิม และยังแยงชิงกันไม
จบไมสิ้นหรือ?!” สือยวิ๋นเฟงก็ตะลึงงัน
“ปง”
กรงเล็บสีทองยื่นออกมาอีกครั้ง พลังปศาจแผคลุมไปทั่วแผนดิน สั่นสะเทือนกองไฟ
แดงฉาน ไมสามารถจินตนาการไดเลยวารางกายของมันใหญเพียงใด แคเพียงกรงเล็บสี
ทองขางเดียวก็อยูบนชั้นเมฆนั่นแลว!
..............................
[1] หากหยกยังไมแกะ ก็ไมมีประโยชน เปรียบเปรยวา คนเราหากไมผานการอบรม
ฝกฝน ก็จะเปนคนที่ไรประโยชน
บทที่ 28 บุคคลมีอิทธิพลเคลื่อนไหว
ณ จุดที่ลึกที่สุดของเทือกเขา สงครามรุนแรงเปดฉาก ราวกับเรื่องปรัมปรา เมื่อกรง
เล็บสีทองขนาดใหญนั่นยื่นลงมา มันตะปบสันเขาแตกละเอียดทุกครั้ง
นกกระจอกสีแดงก็ไมดอยกวาแมแตนิด มันทําใหยอดเขามากมายกลายเปนลาวา
ของเหลวสีแดงฉานปะทุขึ้นสูฟากฟา ประหนึ่งแมน้ําสีแดงสายใหญที่หลั่งไหลไปทั่วโลก
หลา และนั่นเปนเพียงควันหลงเทานั้น สงครามของแทอยูบนสรวงสวรรคตางหาก!
นกนอยสีแดงยาวเทาฝามือ ขนนกสีแดงชอุม แตกลับดุรายและกลาหาญอยางหาที่
เปรียบไมได มันพุงเขาไปในชั้นเมฆหนา ตอกรกับสิ่งมีชีวิตนากลัวที่ไรนามอยางดุเดือด
ผูคนของหมูบานหินผามองดูอยางตกตะลึง สันหลังเย็นวาบ มีขาวลือวามีอสูรบรรพ
กาลที่เกรียงไกรจนไมอาจจินตนาการได วาเพียงแคใชมือบดบังทองฟา ก็สามารถทําลาย
หนึ่งชนเผาขนาดใหญได ราวกับเทพเจา ตอนนี้คิดดูแลว เรื่องที่กลาวมาทั้งหมดนั้นคง
ไมใชเรื่องโกหกแตอยางใด
“เสียดายที่มองไมเห็น...”
เมฆดําทมิฬหนาแนน มีพลังประหลาดอยางหนึ่งตัดขาดทุกสิ่ง ทําใหผูคนไมสามารถ
มองเห็นได ไมรูวาบนสรวงสวรรคนั่นเกิดสงครามครั้งใหญในรูปแบบใด
“แทจริงแลวเสี่ยวหงเกงกาจถึงเพียงนี”้ เจาตัวเล็กเอามือเทาคาง กะพริบตาปริบๆ
พลางเอยเสียงเบา
ครึ่งชั่วยามผานไป หุบเขาลึกสงบลงแลว ทวาเมฆสีเพลิงยังไมสลายหายไป ยังคง
ลอยวนอยูเชนเดิม ขอบฟาเปนสีแดงฉาน ราวกับถูกยอมดวยเลือดของเทพเจา
“เปนปที่มีแตปญหาเสียจริง ไมรูวามีวัตถุล้ําคาแหงขุนเขาอยางใดปรากฏขึ้นกันแน
พวกมันแยงชิงกันมาสองปแลว ยังไมรูผลอีกหรือ?” สือยวิ๋นเฟงสงสัย
“วัตถุล้ําคาแหงขุนเขานั่นจะตองเหนือธรรมชาติมากแนนอน!” สือหลินหูกลาว
ภายในจุดที่ลึกที่สุดของเทือกเขามีวัตถุแปลกประหลาดนานาชนิด ผูคนในหมูบาน
หินผาตางก็ไมเคยเขาไปลึก ไมรูมูลเหตุวามีวัตถุล้ําคาแหงขุนเขาชนิดใดบังเกิดขึ้น
ครึ่งเดือนตอมา ภายในหุบเขาลึกสงบสุขมาก ไมเคยมีสงครามรุนแรงใดๆ ปะทุขึ้น
ทําใหผูคนเกือบจะลืมเลือนสงครามที่นาสะพรึงกลัวนั่น
ทวา ในดินแดนที่หางไกลออกไปกลับไมสงบสุขเลย
ดินแดนแหงนี้เปนดินแดนอุดมสมบูรณ มีที่ราบกวางใหญ และยังมียอดเขาและ
สายน้ําที่งดงาม
หลินหมา[1]ราวกับเกลียวคลื่น วิ่งไปมาอยางรวดเร็ว นั่นคือมาศึกที่ใสชุดเกราะเปน
คูๆ พวกมันบินลงมาอิสระ ชุดเกราะเงาวัว กลิ่นอายอันตรายพวยพุงขึ้นสูทองฟา พวก
มันกําลังประลองยุทธ
บนเสนขอบฟามีสิ่งกอสรางที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ตอเนื่องกันอยางไมขาดสาย นี่เปน
ชนเผาขนาดใหญที่มีประชากรเกือบลานคน รุงโรจนอยางไมสิ้นสุดบนผืนดินนี้
ชนเผานี้มีผูคนแข็งแกรงมากมาย สืบทอดตั้งแตโบราณกาลมายังทุกวันนี้ไมสูญสิ้น
คนในชนเผาทุกรุนจะปรากฏผูที่มีพรสวรรค รับรองความยิ่งใหญและรุงโรจนของพวก
เขา
ทามกลางสิ่งปลูกสรางมีโดมสีทองหลังใหญตั้งอยู หลินหมาตัวหนึ่งพุงออกมา
ขางบนนั่นมีผูแข็งแกรงกระโดดขึ้น จากนั้นลงมายังพื้นดิน แลวกลาวรายงานเสียงดังวา
“ทานหัวหนาเผาขอรับ ทางใตอึกทึกครึกโครม ราวกับมีวัตถุล้ําคาแหงขุนเขาที่ทําใหโลก
ตะลึงบังเกิดขึ้นขอรับ!”
“เมื่อสองปกอนก็ปรากฏไปแลวมิใชหรือ ไฉนตอนนี้จึงยังมีอยู?” ชายชราคนหนึ่ง
เปลงเสียงออกมา
“ไมรูวาดวยเหตุอันใด สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกรงยังคงเขนฆากันอยู”
“หากเจาวาเชนนั้น ตองมีวัตถุประหลาดที่รายกาจบังเกิดขึ้นเปนแน และพวกอสูร
บรรพกาลตางก็ไมไดมาครอบครอง ทําใหเกิดสถานการณไมสงบไปทั่วสารทิศ!” ภายใน
โดมสีทองขนาดใหญมีชายชราคนหนึ่งเดินออกมา รางกายสูงใหญกํายํา ในดวงตากลับ
สามารถปลอยสายฟาสีแดงออกมาเปนสาย นาหวาดกลัวอยางที่สุด
“ทานหัวหนาเผา พวกเราจะไปหรือไมขอรับ แมวาประชากรของเราจะไมถึงสิบลาน
หากแตความแข็งแกรงก็ไมเปนรองใคร” มีผูแข็งแกรงไมกี่คนเดินมา แตละคนมีกลิ่นอาย
ความนาเกรงขาม ราวกับสัตวประหลาดกลับชาติมาเกิด
“อยาไปเสียงอันตรายเลย พาเด็กเล็กบางสวนออกไปสัมผัสโลกภายนอกสักครั้ง
หากไมมีบัญชาของขา หามลงมือเปนอันขาด!” ผูอาวุโสกลาวเตือน แสงสีทองในดวงตา
นากลัวอยางที่สุด
“ขอรับ!”
ดินแดนใหญอีกฟากหนึ่ง ณ ที่หางไกล
ทะเลสาบสีน้ําเงินกวางใหญดุจทะเล ทิวทัศนงดงาม เกาะเรียงรายกันเปนบริเวณ
กวาง เกลียวคลื่นพัดเปนระลอกๆ เด็กๆ นั่งอยูบนเจียว[2]กระโดดอยูบนผิวน้ํา เมฆ
หมอกลอยวน เกล็ดสองแสงระยิบระยับ พุงขึ้นสูทองฟา
บนเกาะ ทางดานหนาของราชวัง กลุมผูใหญมองดูพวกเขาดวยความรักใคร
“หยุดเอะอะไดแลว ประเดี๋ยวจะพาพวกเจาออกเดินทางไกล ไปพบเจอกับอัจฉริยะ
ยังโลกภายนอกนั่น”
“ชิ คนธรรมดาสามัญทั้งนั้น ครั้งกอนก็บอกวาเปนผูมีพรสวรรคที่เกงกาจอะไรนั่น
แตก็ถูกพวกเราโจมตีจนแพพาย หากวามันไมขี่กิเลนไฟหนีหายเขาไปในถ้ําเพลิงแลวละก็
มันนาจับกลับมายิ่งนัก” เด็กหนุมคนหนึ่งพูดสวนขึ้น
อีกดินแดนหนึ่ง ซึ่งอยูหางไกลเชนเดียวกัน
นี่เปนดินแดนของผูปกครองชนชั้นสูง ดินแดนกวางใหญไพศาล มีประชากรเกือบ
พันลานคน มหานครมากมาย การจราจรคับคั่ง ผูคนขวักไขว รุงเรืองยิ่งนัก
อาณาจักรของกษัตริยท่ใี หญโต โออาและสงางาม กําแพงเมืองกอสรางจากหินสี
ทอง มโหฬารอยางหาที่เปรียบไมได ราวกับสันเขาที่ทอดยาวอยูบนเสนขอบฟา ให
ความรูสึกยิ่งใหญนา เกรงขาม
พระราชวังกวางขวาง ประหนึ่งวังบนสรวงสวรรคลอยลงมายังโลกมนุษย สูง
ตระหงาน ภายในเปนสีทองเหลืองอรามแวววาว แกะสลักลวดลายแตมแตงสีสันสวยงาม
มั่งคั่งและร่ํารวยมีวาสนาอยางที่สุด
“อสูรบรรพกาลทําศึกมาสองปแลว ยังไมลาถอยอีกหรือ?” ภายในราชวังสีเงิน
ใหญโต มีเสียงที่สงบและเครงขรึมดังมาจากบนบัลลังกกษัตริยที่อยูสูง
มองไมเห็นใบหนาที่แทจริง ทั้งตัวของเขาประหนึ่งพระอาทิตยสีเงิน สองแสงสวาง
โชติชวง ทั้งตัวของเขาถูกบดบังอยูในแสงเหลานั้น
นี่เปนรางกายของเขา นาหวาดกลัวเปนอยางยิ่ง มีแสงทะลักออกโดยธรรมชาติ ราว
กับปลองไฟขนาดใหญ และเหมือนกับเทพเจาที่สองแสงสีมวงพราตาองคหนึ่ง ทําใหคน
ไมกลาเขาใกล ทําไดเพียงเงยหนามองเทานั้น
บนราชวัง ผูที่แข็งแกรงคนนั้นคุกเขาอยูกับพื้น ไมกลาเงยหนาขึ้นมอง กมหนาคํานับ
อยูตรงนั้นแลวกลาววา “พะยะคะ ตอเนื่องมาสองปแลว คาดวามีวัตถุล้ําคาแหงขุนเขาที่
โลกตะลึงบังเกิดขึ้น”
ภายในราชวังสีเงิน ยังมีคนบางสวนที่นั่งเรียงรายกัน หนึ่งในนั้นมีชายหนุมคนหนึ่ง
ลุกยืนขึ้นแลวพูดวา “คาดไมถึงจริงๆ ทามกลางดินแดนปาเถื่อนไรอารายธรรมเชนนี้
กลับบังเกิดวัตถุล้ําคาแหงขุนเขาที่อสูรบรรพกาลยิ่งใหญทั้งหลายตางแยงชิงกันดวยชีวิต
นาสนใจ ทานพอ ขาแนะนําใหรีบรับสั่งใหคนลวงหนาไป คอยโอกาสอยางเงียบเชียบ
บางทีเราอาจจะไดมันมาก็เปนได”
“ไปหาทานปูของเจา ใหเขานําพวกเจากับเจาเด็กพวกนั้นออกไปเรียนรูอีกซีกโลก
หนึ่ง แตหากไมมีบัญชาจากขาแลวไซร หามใครลงมือเปนอันขาด มิเชนนั้นจะตองโทษ
ประหารเทานั้น!”
เสียงที่เครงขรึมดังมาจากบนบัลลังกนั่น ยามดวงอาทิตยสีมวงดวงนั้นสั่นไหว กลิ่น
อายความนากลัวตลบอบอวลสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งพระราชวัง
ณ ดินแดนอีกฟากหนึ่ง เมืองใหญผูคนมากมายเฉกเชนเดียวกัน ประชากรเกือบ
พันลานคน นี่ก็เปนดินแดนของผูปกครองชนชัน้ สูงเชนเดียวกัน ภายในพระราชวังที่
ใหญโตโออา เกิดเสียงดังประหนึ่งสายฟาคําราม สะเทือนเหลาทหารที่สวมชุดเกราะจน
เกือบจะคุกเขาลงกับพื้น
นั่นเปนเสียงพูดของคนๆหนึง่ นากลัวอยางหาที่สุดไมได สะเทือนไปทั้งราชวัง ราว
กับสายฟาบนสรวงสวรรคระเบิดขึ้น ณ ที่แหงนี้
“จื่อซานโหวเคลื่อนไหวแลว เจานั้นสงตัวรัชทายาทออกไป ยวิ๋นคุน เจาพานองชาย
ของเจาไปดวย หากพบเจอกับอัจฉริยะของบานจื่อซานโหวก็ฆามันทิ้งเสีย!”
เสียงดุจสายฟาคํารามลอยมา ภายในตําหนักมีแสงสีดําผสานเขากันเปนสาย ลอย
อยูรอบๆ เงาคน เลือนรางแตกลับนาเกรงขาม ที่แหงนั้นกลายเปนทะเลสายฟา
“พะยะคะ!”
ณ ที่หางไกล ทามกลางดินแดนที่หอมลอมดวยภูเขาใหญโตมโหฬารและสูง
ตระหงาน บนยอดเขาที่ถูกแตงแตมดวยสีเงิน ปกคลุมหนาแนนดวยหิมะขาวโพลนและมี
อุณหภูมิที่ต่ํามาก
แตวาที่แหงนี้กลับมีมหานครอยูเมืองหนึ่ง ตั้งอยูจุดศูนยกลางบนภูเขาใหญ จองมอง
ลงมายังสรรพสิ่งทั่วทุกสารทิศ
ประชากรที่นี่มีไมมากนัก มันเปนตระกูลเกาแกที่หลีกหนีจากโลกภายนอก แตผูสืบ
ทอดกลับนากลัวเปนอยางมาก เมื่อครั้งบรรพกาลเคยปกครองดินแดนกวางใหญแหงนี้
“ดินแดนรกรางที่แหงแลงนัน่ กลับมีวัตถุประหลาดปรากฏขึ้น ชางเปนเรื่องเหนือ
ความคาดหมาย” ผูอาวุโสคนหนึ่งกลาว
“ตอเนื่องมาสองปแลว อสูรบรรพกาลยังไมจากไป คุมคาที่จะไปคนหาความจริง
ตองรูใหไดวามันเปนอะไรกันแน แตวา ขาคิดวาตองมีคนที่เดินทางไปกอนเปนแน”
“จื่อซานโหวกับเหลยโหว คูปรับเกาคูนี้ตองสั่งใหทายาทของพวกมันประชันกันเปน
แน พาอัจฉริยะตัวนอยของชนเผาเราไปดวย ใหไปเห็นโลกภายนอกเสียบาง”
“ทานปู พวกขาจะไปดวย” กลุมเด็กผูหญิงที่มใี บหนางดงามเดินย่ําหิมะมา แตละ
คนงดงามราวกับเอลฟตัวนอย ดวงตาเฉียบคม ใบหนางดงามขาวกระจางใส เสนผมสีดํา
เงาพลิ้วไหว ดานหลังมีชายหนุมสองคนเดินตามมา
“ไปเถิด เมื่อถึงเวลาก็ออกไปมองดูวาเหลาอัจฉริยะภายนอกนั้นแข็งแกรงเพียงใด”
ชายชราคนหนึ่งกลาวยิ้มๆ
ดินแดนแหงนี้ไมสงบสุข ความอลหมานภายในหุบเขาลึกนั้นกระจายออกไปยังที่
หางไกล กอใหเกิดความสนใจของเหลาชนเผาใหญอยูไมนอย
ภายในหมูบานหินผา สือยวิ๋นเฟงกําลังพูดคุยกับเจาตัวเล็ก
“พรสวรรคของเจาดีมาก เจาเด็กเพียงนี้ หยั่งรูอ ักขระกระดูกก็นาตกใจแลว นับจาก
นี้เปนตนไป ขาจะสอนเจาวาจะเปลี่ยนรูปอยางไร”
“ไมเหมือนกับที่เรียนเมื่อกอนหรือขอรับ?” เจาตัวเล็กถามอยางงุนงง
“อักขระกระดูกเปนอักขระลึกลับที่ชนเผาของเราคัดลอกและพัฒนามาจากรองรอย
ครั้งบรรพกาลของชนเผาอื่น นี่เปนวิธีการสุดทายก็จะกลายเปนพละกําลังของตนเอง”
สือยวิ๋นเฟงกลาว
“ทานผูเฒา ทานคอยๆ อธิบายใหขาฟงเถิด” ความสงสัยใครรูของเจาตัวเล็กนั้นมี
มาก ตอนนี้ดวงตาของเขาสุกใสและเปนประกาย
“อืม รีบเรียนรูในชวงเวลานี้ หลังจากนี้ขาจะนําเลือดบริสุทธิ์จากรางกายล้ําคาของ
ซวนหนี เขาสีแดงฉาน และแขนของอสูรวานรมาใหเจาทําพิธีชําระกอนลวงหนา ของ
เหลานั้นหากปลอยไวนาน ความศักดิ์สิทธิ์ของเลือดบริสุทธิ์จะลดนอยลง ไมรอใหเจาอายุ
5 ขวบแลว หวังวาเมื่อถึงเวลาเจาจะสามารถทนได!”
----------------------------------------------------------------------------
[1] หลินมา เปนทายาทรุนหลังของอสูรบรรพกาล รูปเปนมา มีเกล็ดขึ้นปกคลุมทั่ว
ตัว มีเขางอกขึ้นบนหัว
[2] เจียว เปนสัตวในตํานานจีนโบราณ ที่มีทอนบนเปนมนุษย ทอนลางเปนปลา
คลายกับนางเงือกในเทพนิยาย
บทที่ 29 ศีลธรรมจรรยาระหวางมนุษย
“เมื่อครั้งบรรพกาล เผาพันธุมนุษยเพิ่งเริ่มตน ราชาแหงสวรรคบันดาลกฎ ศีลธรรม
จรรยาระหวางคนก็แพรไปทั่ว” หัวหนาหมูบานพูดน้ําเสียงทุมต่ํา มองดูดินแดนรกราง
กวางใหญไรขอบเขตนี้ ครุนคิดถึงสมัยบรรพกาลที่ผานไปแลว
“ทานผูเฒาขอรับ หมายความวาอยางไร ขาไมเขาใจ” เจาตัวเล็กเปนเด็กรักเรียน
มาก ดวงตากลมโตดุจสีของลูกแกวกะพริบปริบๆ ฉายแววความปรารถนา
สือยวิ๋นเฟงลูบหัวของเขาแลวกลาววา “เมื่อครั้งอดีตกาลที่เปนการเริ่มตนของ
เผาพันธุมนุษย บรรทัดฐานการอยูรวมกันถูกตั้งขึ้น ศีลธรรมจรรยาระหวางมนุษยก็แพร
ไปทั่ว”
หัวหนาหมูบานอาวุโสคอยๆ อธิบายตั้งแตตนเพื่อขจัดความสงสัยของเจาตัวเล็ก
กลาวทุกอยางที่ตนรูออกมาจนหมด ทําใหเขาเกิดความปรารถนาจากภายใน ที่เทากับ
“เมล็ดพันธุแหงมรรค[1]”
สือยวิ๋นเฟงไมไดแข็งแกรงมากนัก แตดวยนิสัยใจคอทําใหเขากลายเปนเชนนี้ เขาทํา
เรื่องเหลานี้อยางเปนธรรมชาติ และเมื่อตอนสือฮาวยังเด็กมากก็เปนเชนเดียวกัน เขาอยู
ในชั้นของ “เมล็ดพันธุแหงมรรค”
“ระเบียบและสัจธรรมแพรกระจายอยางเปนธรรมชาติ สรรพสิ่งลวนมีจิตวิญญาณ
เผาพันธุที่มีปญญาที่ไดรับการคุมครองจากสวรรคก็ยิ่งเปนตัวแทนของสิ่งเหลานั้น
ความหมายที่แทจริงของมรรคสะทอนเปนรูปรางภายในรางกายของพวกมัน”
“ทานผูเฒา ทานพูดถึงอักขระโบราณพวกนั้นใชหรือไม รองรอยที่ประทับไวบนตัว
ของอสูรบรรพกาลอยางนัน้ ใชหรือไหม?” ดวงตาของเจาตัวเล็กมีชีวิตชีวามาก
“เจาฉลาดมาก” หัวหนาหมูบานหัวเราะและพูดชื่นชมเขา
“ผูคนในอดีตกาลใหความสนใจกับเรื่องนี้มานมนานแลว ระหวางการตอสูกับอสูร
บรรพกาล พวกเขาคอยๆ สืบเสาะและไดรูกฎแหงโลกนี้ ผานซากกระดูกของสิ่งมีชีวติ ที่
แข็งแกรงพวกนั้น จากนั้นก็คอยๆ หยั่งรูพลังเหนือธรรมชาติแบบงายบางสวน”
และอักขระก็คอยๆ พัฒนามาจากเหตุผลนี้เอง เผาพันธุมนุษยยืมวิธีการของเผาพันธุ
อสูร สืบเสาะหามรรคของระเบียบในโลกหลา สุดทาย จากออนแอก็คอยๆ แปรเปลี่ยน
เปนรุงเรือง
“นาเสียดาย ผูนําที่แทจริงของเผาพันธุมนุษยนั้นมีนอยจนนาสงสาร และอสูรบรรพ
กาลแข็งแกรงมากเหลือเกิน เพียงแคโผลมาตัวเดียว เพียงแคชวงเวลาที่มันยกมือก็
สามารถทําลายชนเผาใหญได”
หากเปรียบเทียบกันแลว เผาพันธุมนุษยยังออนแอเกินไป เผาพันธุอื่นๆ อยูสูงยิ่งนัก
ราวกับเทพเจา!
ในความเปนจริงแลว ผูคนครั้งบรรพกาลมีความเชื่อ พวกเขาเซนไหววิญญาณของ
เทพเจาอยูบอยครั้ง ที่จริงก็คือกราบไหวสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกรงเหลานั้นนั่นเอง
“ทานผูเฒาขอรับ ทานชวยอธิบายใหละเอียดหนอยสิขอรับ” เจาตัวเล็กปรารถนา
เปนอยางมาก อยากเขาใจเรื่องราวอดีตกาล และอสูรบรรพกาลที่แข็งแกรงดุจเทพเจา
เหลานั้นใหมากขึ้น
“สิ่งที่ขาพูดก็มีขอบเขตเชนกัน ปูออกเดินทางไดเพียง 8 ลี้เทานั้น แมฟงแลวนา
ตะลึง หากแตดินแดนของพวกเราแหงนี้กวางใหญไมรูกหี่ มื่นลี้ คาดวาตองเดินออกไป
อยางนอย 100 ลี้ ถึงจะพบจุบจด”
สือยวิ๋นเฟงเอยเสียงเบา สถานที่ที่เขาเคยไปดูแลวไมเล็กเลย แตหากเทียบกับ
ดินแดนกวางใหญแหงนี้แลวกลับกลายเปนพื้นที่เล็กๆ ยิ่งไมตองพูดถึงโลกลึกลับที่อยู
นอกสุดขอบโลกนั่น ไมมีทางเขาใจดินแดนอื่นๆ ไดเลย
“ศึกษาตําราแสนเลม ยังไมเทาออกเดินทางแสนลี้ สักวันหนึ่ง เมื่อเจาแข็งแกรงมาก
พอแลว เจาก็ลองออกไปดูโลกภายนอกดวยตาตนเองเถิด ปูชราแลว ไมมีโอกาสเชนนี้
แลว และไมมีกําลังเชนนั้นแลว” สือยวิ๋นเฟงพูดเสียงเบา
“ทานปู ขารูวาในตัวของทานมีโรคราย ในวันขางหนา ขาจะตองเอายาวิเศษแหง
โลกหลาที่อยูในตํานานมาใหได เพื่อมารักษารางกายของทานใหหายดี แลวพาทาน
ออกไปเผชิญโลกกวางดวยกัน” เจาตัวเล็กกลาว
สือยวิ๋นเฟงรูสึกทุกขระทม แตก็สุขใจ รอยยนบนใบหนาคลายออก เขายิ้มแลวพูดวา
“ขอเพียงเจาเติบใหญอยางปลอดภัย ทุกอยางราบรื่น ปูก็สบายใจแลว”
เขาไดประสบกับโรครายแปลกประหลาด ตองใชยาล้ําคาที่พิเศษ หากแตวาแมใน
ชนเผาขนาดใหญที่มีประชากรนับลานก็ไมมีใหเห็น ตองการจะรักษานั้นชางพูดได
งายดายเหลือเกิน
“ทานผูเฒาแถลงความอีกแลว รีบมาฟงกันเร็วเขา” เด็กกลุมหนึ่งรองตะโกนเยวๆ
ตอนนี้พวกเขาไมเหมือนเมื่อกอนแลว เด็กๆ ไมตอตานอีกตอไป กลับยิ่งมีความปรารถนา
อยางแรงกลา ทุกครั้งที่สือวยวิ๋นเฟงเอยถึงอักขระกระดูกฟาพวกเด็กๆ ตางก็พากันวิ่งเขา
มาแลวฟงอยางตั้งใจ
และในวันนี้ มีเด็กบางสวนที่รางกายเริ่มตนปลอยอักขระที่สองแสงวาบ ในอนาคต
พวกเขาสามารถเดินบนเสนทางนี้ไดอยางไมตองสงสัย พวกเขาจะตองแข็งแกรงเหมือน
รุนพอเปนแน
“เจาพวกลิงกัง รีบนั่งลงเถิด” หัวหนาหมูบานเอ็ดอยางขําๆ
สายลมพัดมาแผวเบา บนตนหลิวสีดําเกรียม กานออนสองแสงพรางพรายโบกพลิ้ว
ไปตามสายลม เด็กกลุมหนึ่งนั่งลอมรอบผูอาวุโส นั่งฟงเขาพูดใตตนไมใหญ
“หากครอบครองอักขระกระดูก ก็เหมือนกับถือดาบและจับคันธนู แตหากวางอาวุธ
เหลานี้ลงละ? พื้นฐานของการบําเพ็ญตบะ ก็คือตองทํารางกายของพวกเจาให
แข็งแกรง”
เด็กบางคนสับสนงงงวย บางสวนก็เหมือนจะเขาใจโดยทันที
“อักขระกระดูกเปนเพียงรูปรางเทานั้น เปนวิธีการอยางหนึ่ง จําตองทําใหมนั
กลายเปนพละกําลังของตนนั่นจึงจะถูก มิเชนนั้นทุกอยางจะก็จะสูญเปลา มีเพียง
รางกายแข็งแกรงของตนจึงจะดี”
“ตองทําอยางไรจึงจะดีเลาขอรับ?”
“ทําอักขระกระดูกใหกลายเปนสวนหนึ่งของรางกายตน ทําใหกายเนื้อและกระดูก
ใหเหมือนกับเผาพันธุที่ไดรับการดูแลจากสรวงสวรรค ผสานใหเปนหนึ่งกับฟาดิน มิ
เชนนั้นการเลียนแบบก็จะเปนการเลียนแบบอยูวันยันค่ํา ยากที่จะสําแดงอานุภาพที่
แทจริง”
หัวหนาหมูบานอธิบาย ตามความคิดของเขาแลวนั้น อักขระกระดูกก็เหมือนกับ
รางกาย เสนขนประสานเขากับรางกายของตนอยางกลมกลืน กลายเปนสวนหนึ่งของ
รางกายจึงจะถือวาเปนพละกําลังของตน
“ทานผูเฒารีบสอนพวกขาเถิด”
“อยาใจรอน คอยเปนคอยไป” สือยวิ๋นเฟงกลาว
ในความเปนจริงแลว การใชอักขระกระดูกจะทําใหรางกายสูญเสียลมปราณ ก็
เหมือนครั้งที่เจาตัวเล็กใชเคล็ดวิชาล้ําคา บริโภคพลังงานสูงมาก หากตอสูอยางตอเนื่อง
จะเปนภัยตอตนได พลังจะลดนอยลง
หากพูดอยางตรงไปตรงมา การฝกฝนอักขระกระดูก ไมสําเร็จก็ถือเปนเรื่องดี หาก
สําเร็จแลว และตกอยูในสถานการณพิเศษที่ตองใชมันจนเปนภัยแกรางกายอยางแสน
สาหัส
หลังจากที่ไดฟงหัวหนาหมูบานอธิบายอยางละเอียดแลว เด็กๆ ตางก็มีสีหนาซีด
เผือก
“ไมตองกังวล พวกเจาเพียงตองระวังก็พอแลว เพียงแคใชอยางไมคิดถึงชีวิตตน
และใชเคล็ดวิชาล้ําคาโบราณนี้ใหเกิดประโยชนอยางตอเนื่อง พวกเจายังไมเขาใจเคล็ด
วิชาลึกซึ้งเฉกเชนเจาตัวเล็ก แมวาจะสูญเสียพลังลมปราณไปบางสวน แตก็สามารถ
เสริมสรางขึ้นมาไดใหม”
ไมเพียงแตอักขระกระดูกของหมูบานหินผาเทานั้นที่เปนเชนนี้ แมแตชนเผาใหญ
แหงโลกภายนอกก็เชนเดียวกัน หากตองการจะประสบความสําเร็จ ก็ตองเริ่มตนแบบนี้
ทุกคนตางก็ตองผานชวงเวลานี้กันทั้งนั้น
“เจาตัวเล็กหยั่งรูอักขระดูกอยางลึกซึ้งแลว สามารถเรียนรูความสามารถในการ
เปลี่ยนแปลงสถานการณเชนนี้ไดแลว”
การเขาใจอยางแทจริง และเมื่อการหยั่งรูบรรลุเปาหมายแลว ก็คือการบําเพ็ญตบะ
อีกวิธีหนึ่ง หัวหนาหมูบานขนตําราโบราณมาหลายเลม ถายทอดวิชาอักขระขั้นสุดทาย
ใหแกเจาตัวเล็ก
หลายวันตอมา เจาตัวเล็กกาวหนากวาคนอื่นเปนอยางมาก แมวาจะตองเอาเขา
ปลอยไวกลางชนเผาขนาดใหญที่อยูโลกภายนอกนั้น พรสวรรคของเขาก็จะทําใหผูคน
ตะลึงงัน
หลายวันมานี้ เจาตัวเล็กราวกับวากําลังมัวเมา เขาฟงคําบรรยาย ศึกษาอักขระ
กระดูกอยูทุกวัน บนใบหนาประดับดวยรอยยิ้มที่เบิกบานใจ ตากลมโตจนจะกลายเปน
พระจันทรเสี้ยว
ชวงเริ่มตน อักขระกระดูกตองหลอเลี้ยงดวยพลังลมปราณและเลือดของตน เพื่อให
มันแข็งแกรงขึ้น แตกอเปนรูปรางอยางแทจริง อีกทั้งเมื่อเขาใจอยางลึกซึ้งแลว ก็จะ
สามารถพลิกผันได
“ใหอักขระหลอมเขาสูรางกาย กลายเปนแสงสวยงาม กลายเปนแสงศักดิ์สิทธิ์
อักขระแตละตัวเหมือนกับเตาไฟที่ไมเปลี่ยนแปลง ใหอยูในทุกตารางนิ้วของเลือดเนื้อ
หลอมรวมกับพลังธรรมชาติของฟาดิน แตนี้ตอไปก็จะเปลี่ยนแปลงกายเนื้อและ
ลมปราณไปโดยสิ้นเชิง”
นี่เปนเสนทางตอไปของเจาตัวเล็ก เขาไดสรางฐานที่มั่นคงไวแลว พื้นฐานแข็งแกรง
จนนาตกใจ อักขระกอตัวเปนรูปรางนมนานแลว จะทําการเปลี่ยนแปลงเชนนี้ไมไดเสีย
แรงโดยเปลาประโยชนแมแตนอย
ภายในระวะเวลาอันสั้น เจาตัวเล็กก็บรรลุผลที่ไมธรรมดา
ยามที่สําแดงเคล็ดวิชาล้ําคาอีกครั้งหนึ่ง เลือดเนื้อของเขาจะเปลงแสงทุกตารางนิ้ว
อักขระปรากฏอยางเลือนราง ราวกับเตาไฟวิเศษที่เติมพลังลมปราณใหอยางไมขาดสาย
ทําใหเขารูสึกเปยมไปดวยกําลังวังชาและสุขกายสบายใจ
ผลลัพธทําใหสือยวิ๋นมองดูอยางตะลึงพรึงเพริด ไมใชวาเขาไมรูวาเจาหนูนอยมี
พรสวรรคที่นากลัว แตกลับถูกทําใหสั่นสะเทือนอีกครั้ง
นี่เพียงไมกี่วัน เสี่ยวสือฮาวกลับบรรลุผลอยางผิดแผกไปจากเดิมอยางสิ้นเชิง หาก
เปนคนทั่วไปอยางนอยก็เปนป และหากเปนอัจฉริยะก็ตองใชเวลาหลายเดือน
“ขาคาดการณไววาเจาคงจะใชเวลาสองเดือนกวา แตหากดูตามความวองไว
ในตอนนี้แลว หนึ่งเดือนก็นาจะพอแลว หรือแมเพียง 20 วันพอแลว”
พฤติกรรมของเสี่ยวสือฮาวชางนาทึ่ง ทําใหกลุมคนชราหัวเราอยางสบายใจประหนึง่
เด็กนอย แมแตเหลาชายฉกรรจเฉกเชนสือหลินหูและสือเฟยเจียวก็อาปากกวางเผยฝนสี
ขาวดุจหิมะ หัวเราะไมหยุด
“สามารถทัดเทียมกับลูกของอสูรบรรพกาลไดเลย ในภายภาคหนา หมูบานของเรา
อาจจะมีผูนําที่สามารถเทียบขั้นโหวและปเซี๊ยะปรากฏตัวออกมาก็เปนได”
“นี่เปนเด็กที่ฟาประธานแกหมูบานหินผาของเรา แนนอนวาเขาตองไมธรรมดา”
ผูคนตางพากันดีใจ การเฉลิมฉลองในค่ําคืนนี้ของหมูบานหินผานั้นนาปลื้มปติมาก
เนื้อสัตวหลากหลายชนิดทถูกตม นึ่ง และยางจนเปนสีเหลือทองแวววาว กลิ่นหอมลอย
ตลบอบอวลทั่วไปหมูบาน ทําใหอยากกินจนน้ําลายไหล
“อยายะโสลําพองไดใจ จนลืมตัว ในสุดขอบฟาที่หางไกลนั้น มีชนเผาขนาดใหญ
อยางไมสามารถจินตนาการได ภายในดินแดนที่เจริญรุงเรืองและมั่งคั่งก็ตองมีผูมี
พรสวรรคเปนแนแท” หัวหนาหมูบานกลาวเตือน
แนนอนวา ไมวาจะเปนการชื่นชม หรือกลาวตักเตือน พวกผูใหญไมไดพูดตอหนา
เด็กๆ เพราะเกรงวาเจาตัวเล็กจะไดรับผลกระทบ
ชวงเวลาตอมา สือฮาวกาวหนาอยางนาอัศจรรย เลือดเนื้อภายในรางกายสองแสง
สวางทุกตารางนิ้ว ราวกับมีเทพเจานั่งขัดสมาธิองคแลวองคเลา อักขระนั่นเปลี่ยนรูปราง
และรวมตัวกันใหม เปลี่ยนแปลงสถานภาพของรางกายเขาไปอยางสิ้นเชิง
สือยวิ๋นเฟงตื่นเตนและดีใจมาก หากเปนเชนนี้ตอไป อาจจะใชไมถงึ 20 วัน เพียงแค
ครึ่งเดือนเจาตัวเล็กก็จะทําสําเร็จ เมื่อถึงเวลานั้นก็สามารถทําพิธีชําระลางไดแลง
“ทานผูเฒาขอรับ เสนทางในภายภาคหนาจะเดินตอไปอยางไรหรือขอรับ?”
“เสนทางยาวไกลมาก ตอนนี้เจาอยูในขั้น “เลือดเปลี่ยนรูป” ยังหางไกลจากเวลาที่
เจาจะตองออกไปเดินตามทางขางหนาเพียงลําพัง ผูที่แข็งแกรงของเผาพันธุมนุษยที่
แทจริง บางสวนจะกําเนิดกระดูกวิเศษไดในทายที่สุด ปรากฏรองรอยโบราณของตนเอง
มีเคล็ดวิชาล้ําคาที่เปนของตัวเองโดยเฉพาะ!”
“ชางทําใหคนเกิดความปรารถนาเสียจริง!” เจาตัวเล็กกําหมัด นัยนตาเปนประกาย
สือยวิ๋นเฟงกลาว “เสนทางที่ผูคนครั้งบรรพกาลเดินนั้นไปไกลมากแลว เสนทางไม
ยาวไกล รอเจาเติบใหญ เจาสามารถเดินออกจากดินแดนรกรางแหงนี้ไปสัมผัสโลก
ภายนอก สิ่งเหลานั้นขาไมสามารถสอนแกเจาได เพราะมันอยูนอกโลก”
ตอนที่เขาเอยคําพูดเหลานี้ สีหนาของสือยวิ๋นเฟงก็เปลี่ยน เขายกมือไปลูบกระดูกสี
ขาวตรงหนาอก พลันรางกายก็สั่นระริก
“เมื่อครั้งบรรพกาล เผาพันธุมนุษยเพิ่งเริ่มตน ราชาแหงสวรรคบันดาลกฎ ศีลธรรม
จรรยาระหวางคนก็แพรไปทั่ว...” เจาตัวเล็กพึมพําอยางเชื่องชา และจองมองไปยัง
ดินแดนรกรางที่ไรขอบเขต ราวกับสายตาทะลุเขาไปในเทือกเขาที่ไกลสุดลูกหูตา
มองเห็นพื้นดินที่กวางใหญอกี ผืนหนึ่ง
..............................
[1] มรรค หนทางแหงการดับทุกข
บทที่ 30 เมืองภูเขาสันโดษ
เมืองภูเขาสันโดษเปนเมืองที่ไมใหญมากนัก ตั้งอยูอาณาบริเวณรอบนอกของ
เทือกเขาที่กวางใหญสุดลูกหูลูกตา จํานวนประชากรเกือบ 2000 กวาคน และอยูหาง
จากหมูบานหินผาเปนระยะทางรอยกวาลี้[1]
โลกนี้มีดินแดนกวางใหญไรขอบเขต ไพรพนาไพศาลไรที่สิ้นสุด เหลาสัตวประหลาด
ครั้งบรรพกาลมากมาย ถิ่นที่อยูของเผาพันธุมนุษยกระจายอยูในเทือกเขาดึกดําบรรพ
แตละตระกูลถูกตัดขาด และเชื่อมตอกับโลกภายนอกยากเย็นนัก
แมวานี่จะเปนเมืองๆ หนึ่ง ทวาไมวาจะหมูบานหินผาหรือหมูบานหมาปา ตลอดทั้ง
ปก็ไมมีผูคนมายังที่แหงนี้ เสนทางปาเขาเปนระยะทางกวารอยลี้ถูกกีดขวางโดยปาดึกดํา
บรรพ ทั้งยังมีเหลาอสูรปกษา แมลงมีพิษ และสัตวประหลาดดุราย อันตรายยิ่งนัก
ในความเปนจริงแลว ทุกหนแหงก็เปนเชนนี้ นี่เปนสถานการณที่พบเห็นไดอยาง
แพรหลาย แมแตหมูบานหินผาและหมูบานหมาปาที่มีระยะหางเพียงสิบกวาลี้ ในเดือนๆ
หนึ่งผูคนของสองหมูบานนี้ก็ไมพบเจอกันแมแตครั้งเดียว
ทวาในวันนี้เองก็เกิดเสียงอึกทึกครึกโครมดานนอกของเมืองภูเขาสันโดษ เกราะ
เหล็กสองแสง มาศึกกลุมหนึ่งบินตรงดิ่งมา ทะลวงผานเทือกเขาที่ไมมีที่สิ้นสุด ถลาผาน
อาณาเขตของสิ่งมีชีวิตดุรายหลากหลายชนิด และมาถึงที่แหงนี้โดยสวัสดิภาพ
มาศึกพวกนี้เปนหลินหมา[2]ทั้งหมด กลุมคนที่รวมตัวกันอยูตรงกลางขี่อยูบนหลัง
ของหลินหมา ซึ่งมีเขาเดี่ยว ลําตัวขาวสะอาดและมีเกล็ดสีเงินสองแสงระยิบระยับ มัน
ศักดิ์สิทธิ์และทรงพลังเหลือเกิน
ผูนําเปนบุรุษวัยกลางคน เสนผมดําขลับปลอยสยาย ในดวงตาเปลงแสงสีทองเปน
เสนๆ แมแตลูกตาดําก็เกือบจะกลายเปนสีทองออนๆ ยามที่ทอดมายังเมือง เปลงแสงสี
ทองสองเสน นากลัวเปนที่สุด
มาเขาเดียวตัวอื่นๆ มีชายหนุมสองคนและหญิงสาวหนึ่งคนนั่งแตกตางกันไป และ
เด็กชายหนึ่งคนกับเด็กสาวสองคน มองดูฉลาดปราดเปรื่อง แตละคนมีรูปโฉมงดงามและ
นารัก
ผูคนในเมืองภูเขาสันโดษตางก็งุนงง ปกติแลวนอยคนนักที่จะมาที่นี่ แตไมกี่วันมานี้
กลับมีผูคนมากลุมแลวกลุมเลา มีผูคนจากตระกูลใหญเกือบสิบกวาตระกูลมาเยือนที่นี่
และทั้งหมดก็เปนผูกลาที่ยากจะจินตนาการได
ยิ่งไปมากกวานั้นคือ หากมองจากแนวโนมในตอนนี้ จะมีคนมากกวานี้ ลานโลง
บริเวณกลางหมูบานที่ถูกทิ้งรางแออัดไปดวยผูคน นอกจากนี้ยังมีผูคนและมาบางสวนที่
เขาไปอาศัยอยูตามบานเรือน
คนกลุมนี้เพิ่งเขาไป จากนั้นอีกกลุมหนึ่งก็มาถึง กระแสเสียงยิ่งนาตกใจ มีเจียว
[3]ตัวหนึ่งนําทางอยูดานหนา มันยาว 20 กวาเมตร แผงเกล็ดทั่วลําตัวสองแสงเจิดจา
ระยิบระยับ และยังมีปกใหญคูหนึ่งบินพาดผานฟากฟา เงาขนาดมหึมาทอดลงบนพื้นดิน
มีคนวัยกลางคนคนหนึ่งนั่งอยูขางบน และยังมีเด็กสามคน อายุหาหกขวบคนหนึ่ง อายุ
แปดเกาขวบคนหนึ่ง และยังมีอายุสิบเอ็ดสิบสองอีกคนหนึ่ง ทั้งหมดตางก็มีความ
พรสวรรคพิเศษ
ระยะยังหางจากพื้นดินราว 10 กวาเมตร แตเด็กสามคนก็กระโดดลงไป เกิดเสียงลม
หวีดหวิว เมื่อบุรุษวัยกลางคนผูนั้นเห็นอยางนั้นก็ตะโกนวา “ชาหนอย อยารีบรอน
จนเกินไป!”
“ไมมีปญหาขอรับ!” เด็กที่อายุนอยที่สุดตะโกนบอก นัยนตาเปลงแสงออกมาสอง
เสน ราวกับลูกนอยของพญาครุฑตนหนึ่ง เขาหมุนตัวลงสูพื้นดินดังตูม มีพลังที่ดุเดือด
และรวดเร็วเปนอยางมาก
ผูคนในเมืองเห็นเหตุการณนี้ตางก็ตกอกตกใจ นั่นเปนเพียงเด็กอายุหาหกขวบ
เทานั้น แตกลับมีรังสีโหดเหี้ยมเชนนี้แผกระจายออกมา พวกเขากระโดดสูงไดถึง 10
กวาเมตร สามารถสังหารเหลาสัตวประหลาดดุรายไดดวยมือเปลาเปนแนแท
“เมืองแหงนี้มีชื่อวา ภูเขาสันโดษ เทพารักษเปนภูเขาอยางนั้นหรือ?” เด็กอายุ 12
ขวบคนนั้นคุยกับตัวเอง
ณ ปากทางเขาเมืองมีแทนหินแทนหนึ่ง บนแทนหินสลักตัวอักษรใหญสามตัววา
“เสี่ยวกูซาน[4]”
“พวกเจาดูสิ นี่เปนภูเขาที่มีวิญญาณสถิตอยูจริงๆ ขาคิดวาคงไดรับการสักการบูชา
จากผูคนในเมือง และเซนเครื่องเซนทีเ่ ปนสัตวประหลาดมากมาย ภายในรางกายของ
พวกมันอาจจะบรรจุเลือดบริสุทธิ์ที่ล้ําคา ทานลุงสาม ทานสังหารเทพารักษตนนี้ทิ้งเสีย
ประเดี๋ยวขาจะใชเลือดของมันบมเพาะรางกาย จะตองมีประโยชนใหญหลวงอยาง
แนนอน!” เด็กที่เล็กที่สุดมีอายุเพียงหาหกขวบ แตทวามากดวยพลังความนาเกรงขาม
แววตานาหวาดกลัว อาปากพูดราวกับสัตวประหลาดตัวหนึ่ง
ผูคนภายในเมืองไดยินคําพูดของเขาแลวตางก็หนาถอดสี สังหารเทพารักษของพวก
เขา นี่ไมตางกับการทําลายเมืองนี้ทิ้งเลย
ยังดีที่ชายวัยกลางคนไมไดทําเชนนี้ เขากลาวตําหนิวา “เจียวเผิง หากเจายังกลา
พูดจาซี้ซั้ว ขาจะสงเจากลับทันที!”
“ใชวาจะไมเคยสังหารนี่ขอรับ เมื่อกอนขาก็เคยแชโลหิตของเทพารักษ มันมี
สรรพคุณอัศจรรยทีเดียว” เด็กที่อายุนอยที่สุดมีนามวา เจียวเผิง
“หุบปาก! “นัยนตาของชายวัยกลางคนเปลงประกายประหนึ่งสายฟาสองเสนฟาด
ผาน จองเขม็งไปที่เขาแลวพูดวา” หามแตะตองเทพารักษจําพวกหินผา มิเชนนั้นจะเปน
การยั่วโมโหเทพแหงขุนเขา”
“นาเบื่อเสียจริง เขาไปเสาะหาวัตถุล้ําคาแหงภูเขาภายในหุบเขาลึกก็ไมได จับตัว
เทพารักษก็ไมได มายังผืนดินรกรางแหงนี้เพื่ออะไรกัน” เจียวเผิงบนอุบอิบ
“เจาเด็กนอย เด็ดเดี่ยวไมเบาเลยนี่” มีเสียงหัวเราะลอยมาจากที่หางไกล
ปาดึกดําบรรพทางดานนอกของเมือง มีกระดูกสัตวที่หนาและยาวมาก ยาวราวหก
เจ็ดเมตร ไมรูแนวาเปนของสิ่งมีชีวิตดุรายประเภทใด กระจายแสงสวางสีขาว อักขระ
เนืองแนนกะพริบระยิบระยับ จากนั้นพุงมาดวยความเร็วสูงหางจากพื้นดิน 1 เซี๊ยะ[5]
ดานบนมีเงายืนอยูหลายเงา ผูนําคือชายชราคนหนึ่ง เขาสวมชุดขนนก บนหัวมี
มงกุฎสีทอง ทั่วทั้งรางกายทวมทนไปดวยรังสีสีมวง และแผคลุมตัวเขาจนพรามัว รูสึกนา
เกรงขามอยางยากที่จะบรรยาย
ขางกายของเขามีเด็กหนุมอายุยี่สิบกวาปที่องอาจเหนือผูอื่น อีกทั้งยังมีเด็กสาวอายุ
ราวสิบกวาปสองคน รูปงามประหนึ่งเดินออกมาจากภาพวาด และเด็กผูชายเยาววัยสอง
คนซึ่งมีดวงตาเฉียบคมยิ่งนัก
เมื่อมาถึงบริเวณใกลเคียง พวกเขาก็กาวขาลงจากกระดูกสัตว สิ้นแสงสวางวาบ
กระดูกขนาดใหญที่ยาวหกเจ็ดเมตรนั่นก็หดเล็กลงอยางรวดเร็ว กระทั่งมีขนาดเทากับฝา
มือ มันกระจายแสงสีขาว จากนั้นรวงลงในมือของชายชราผูนั้น
เห็นไดอยางชัดเจนวา นี่เปนอาวุธล้ําคาที่เลอคาอยางยิ่งยวด มันสามารถบินราบติด
พื้นและยนระยะทางใหถึงทีห่ มายภายในพริบตา
“ที่แทก็เปนผูอาวุโสของตระกูลขุนเขาสีมวงนี่เอง เปนเกียรติอยางยิ่งที่ไดพบ!” ชาย
วันกลางคนที่มีเจียวเปนพาหะนะกลาวทักทาย
ผูอาวุโสเปนลุงแทๆ ของจื่อซานโหว เขาเอยดวยรอยยิ้มวา “ทะเลสาบแหงสวรรค
ชางยอดเยี่ยมเสียจริง ไมคิดวาจะมีเด็กเชนนี้อยู อายุยังไมถึงหกขวบกระมัง แตกลับ
ยิ่งใหญถึงเพียงนี้ อีกสิบปใหหลังชื่อเสียงจะตองสะเทือนปฐพีนี้อยางแนนอน!”
“ทานพูดยกยอจนหางของเขาจะตั้งขึ้นแลว[6]” ชายวัยกลางคนของทะเลสาบแหง
สวรรคตอบพลางสายศีรษะ
“ทานผูเฒาแหงขุนเขาสีมวง ใหขาตอสูกับหลานของทานคนนั้นสักตั้งหนอย
เปนไง?” เจียวเผิงที่อายุหาหกขวบกลาว แสงในดวงตาลุกโชน จองไปที่เด็กฝงตรงขาม
ดวยสีหนาที่ยั่วยุ
แววตาของเด็กหนึ่งในนั้นเปลงแสงสีมวงเพียงพริบตาเดียว ราวกับซวนหนีตัวหนึ่งที่
อยูในภาวะจําศีล เพียงชั่วครูก ็แผรังสีความเกรียงไกรขึ้นมาทันที!
เห็นไดชัดวาทั้งสองตระกูลมิไดปรองดองกันดั่งที่ผูใหญแสดงออก มิเชนนั้นระหวาง
เด็กจะไมมีเจตนาอันเปนปฏิปกษกันเชนนี้ เพิ่งจะพบหนากันก็จะตอสูกันเสียแลว
“ชางเปนเด็กที่นาสนใจ อยากจะประลองจริงๆ รึ? เอาอยางนี้ ทานผูเฒา ขาเพิ่ม
ของรางวัลอีกสักอยาง ขามีโลหิตบริสุทธิ์ของสัตวประหลาดที่ล้ําคามากอยูไหหนึ่ง ผูใด
ชนะก็ใหมันแกคนผูนั้น” ผูอาวุโสกลาวดวยรอยยิ้ม จากนั้นก็มองไปยังชายวัยกลางคน
“โอ ในเมื่อเปนเชนนี้แลว ขาไมเผยก็คงจะไมดี ขามีโลหิตของนกประหลาดที่พบเจอ
ไดยากอยูไหหนึ่ง” ชายวัยกลางคนของทะเลสาบแหงสวรรคเอยปากบอกกลาว
“เฮย ประลองอยางนั้นเหรอ พวกเราชาวสายฟาชอบเปนที่สุด เรื่องเชนนี้จะขาด
พวกเราไปไดอยางไร?” เสียงฟาคํารามลอยมาไกลๆ
ทามกลางปาดงดิบรกชัฏ มีหนังสัตวโบราณปรากฏอักขระวูบวาบ ซึ่งอยูสูงเหนือ
พื้นดิน 3 เซี๊ยะ ความยาวเกือบเมตร กลิ่นอายความเกาแกที่เรียบงายและผานการใชงาน
มาอยางโชกโชนหมุนเวียน ประหนึ่งอสูรบรรพกาลตัวหนึ่งฟนคืนชีพ สิ่งนี้ทําใหผูคนตาง
สั่นระริกดวยความกลัว
บนหนังสัตวมีคนนั่งอยูไมกี่คน หนึ่งชายวัยกลางคนอายุยี่สิบกวาป หนึ่งบาวไพร
และเด็กๆ อีกหลายคน ที่มีอายุตั้งแตหาหกขวบกระทั่งสิบกวาขวบ มีทั้งชายหญิง
แตกตางกันไป
บนตัวของพวกเขามีสายฟาฟาดสีดําแปลบปลาบ และสามารถไดยินเสียงฟาคําราม
ตั้งแตไกลๆ สะเทือนทั่วบริเวณภูเขาจนสั่นไหวอยางรุนแรง
“ขามีโลหิตล้ําคาที่สามารถเปนของเดิมพันได “ชายวัยกลางคนคนนั้นหาวหาญเปน
อยางมาก เขาพุงไปยังเด็กผูชายที่แข็งแกรงและเด็กสาวงดงามและออนเยาวที่อยูขาง
กายพลางพูดเสียงเบาวา” หมิงหยวน ละก็ยายา พวกเจาทั้งสองคนขึ้นไปสังหารลูกชาย
สองคนที่จื่อซานโหวรักมากที่สุดเสีย!”
ครั้นสิ้นแสงสวางวาบ หนังสัตวก็ยอขนาดลงเทาฝามือแลวรวงลงบนมือของชายวัย
กลางคน พรอมกับพวกเขาก็ยืนอยูบนพื้นดินแลว
“ผูมีพรสวรรคทั้งนัน้ ผูใดจะแข็งแกรงกวากันละ รุนของพวกเรานั้นรบรากันมา
หลายป ใหรุนลูกไดประลองกันสักตั้ง” ณ กลางเมืองก็มีคนออกปากและรีบมายังที่แหงนี้
โดยไว
“แนนอนละ ไมมีของเดิมพันไมไดเชียวละ หากไมใชโลหิตของอสูรบรรพกาล หาม
นําออกมาเด็ดขาด!” มีคนเอยปาก นี่ทําใหผูคนทั้งหมดชะงักงันอยางชวยไมได ของเดิม
พันนาตะลึงเหลือเกิน!
เมืองภูเขาสันโดษในวันนี้ไมสงบสุขเอาเสียเลย ผูคนที่อาศัยอยูในเมืองตางก็
หวาดกลัว ระยะนี้ผูเข็งแกรงมากมายมาเยือน ทําใหพวกเขากระวนกระวายเปนอยาง
มาก
“ถูกตอง ใหเด็กสิบกวาขวบหรือไมก็เด็กที่อายุนอยกวานั้นมาสูกันสักหนอย ดูซิผูใด
กันแนที่จะเปนอัจฉริยะอันดับหนึ่ง!”
...
เปนเวลาแหงการรวมตัวของบุคคลมีอิทธิพลของเมืองภูเขาสันโดษ หมูบานหินผาที่
อยูไกลออกไปรอยลี้กลับสงบเปนอันมาก เปนมงคลไปทั่วทั้งบริเวณ ผูคนตางก็มีดีใจและ
มีความสุขมาก เพราะจะมีเรื่องใหญบังเกิดขึ้นแลว
เสี่ยวสือฮาวใชเวลาครึ่งเดือนเต็มก็เสร็จสิ้นการบําเพ็ญตน และสามารถทําใหอักขระ
กระดูกแทรกซึมเขาไปในเลือดเนื้อ ทั่วทั้งลําตัวโปรงแสงและปราศจากสิ่งสกปรก ยามที่
เขาใชเคล็ดวิชาล้ําคาก็ไมสูญเสียพลังงานของรางกายตนอีกตอไป แตกลับริเริ่มฝกฝนการ
เรียกพลังจากโลกหลา ซึมซับพลังงานเขาสูรางกาย เพื่อใหรางกายของตนมีแข็งแกรง
และมีกําลังวังชา
หัวหนาหมูบานกําหนดแลววาจะใชรางกายอันมีคาของซวนหนี เขาล้ําคาของปศาจ
กระทิงไฟ และแขนของปศาจวานรเพื่อทําพิธีอาบชําระกายแกเขา นําเอาของเหลานี้กับ
โลหิตบริสุทธิ์ของอสูรบรรพกาล และกระดูกล้ําคาตางๆ ปดผนึกภายในหมอสําริด
จากนั้นทําการตมเคี่ยว
และแนนอนวาเด็กคนอื่นๆ ก็จะไมเวน ซวนหนีตัวใหญปานนั้น โลหิตนั้นมีมาก
เหลือเฟอ เด็กทั้งหมดจะประสบกับความเปนมงคลครั้งใหญ
หัวหนาหมูบานมีสีหนาเครงขรึมและถามวา “ลูกเอยเจาเตรียมพรอมแลวหรือยัง
ตามหลักแลวควรจัดพืธีอาบชําระเมื่ออายุหาขวบ ยามนี้ทํากอนกําหนด อายุเจายังเยาว
นัก ขาเกรงวาเจาจะไมสามารถทนได”
“ทานผูเฒาขอรับ ขาไมกลัว ขาจะตองยืดหยัดจนถึงที่สุดไดอยางแนนอน”
“อยางนั้นก็ดี ขาสั่งใหคนไปแบกซวนหนีทองคํา เขาไฟล้ําคาและแขนของปศาจเจา
แหงวานร ดําเนินพิธีวันนี้เสียเลย!” สือยวิ๋นเฟงตัดสินใจอยางเด็ดเดี่ยว
“ทานผูเฒาขอรับ หากพิธีอาบชําระสําเร็จ พละกําลังของขาจะเพิ่มขึ้นไหมขอรับ?”
เจาตัวเล็กกะพริบตากลมโต และถามดวยความสงสัย
“ตองมีเรื่องอัศจรรยเกิดขึ้นเปนแนแท ไมมีทางดอยกวาอัจฉริยะของตระกูลใหญ
พวกนั้น หากจําตองตอกรกับพวกนั้นแลวละก็ แมวาอายุเจาจะนอย แตขาคิดวาจะตองมี
ผลที่ไมธรรมดา” หัวหนาหมูบานกลาวอยางจริงจัง
ถึงแมวาเขาจะมองดูเสี่ยวสือฮาวเติบโต หากแตเขากลับตองตกตะลึงครั้งแลวครั้ง
เลา การกระทําของเจาเด็กนี่นากลัวเปนอยางมาก มันทําใหผูคนเกิดสงสัยวาเขาเปน
ทายาทของอสูรครัง้ บรรพกาลในรางมนุษย
..............................
[1] ลี้ หนวยวัดความยาวของจีน 1ลี้= 500 เมตร
[2] หลินหมา เปนทายาทรุนหลังของอสูรบรรพกาล รูปเปนมา มีเกล็ดขึ้นปกคลุม
ทั่วตัว มีเขางอกขึ้นบนหัว
[3] เจียว เปนสัตวในตํานานจีนโบราณ ที่มีทอนบนเปนมนุษย ทอนลางเปนปลา
คลายกับนางเงือกในเทพนิยาย
[4] เสี่ยวกูซาน แปลวา ภูเขาสันโดษ
[5] เซี๊ยะ มาตราวัดของจีน 1 เซี๊ยะ = 33.33 เซนติเมตร
[6] หางตั้งขึ้น อุปมาวา ทะนงตน ลําพอง
บทที่ 31 พิธีอาบชําระ
ไมมังกรดําเปนไมที่แข็งแรงและมีน้ําหนักมาก เทียบไดกับเหล็กกลาชั้นดี ลําตน
ประหนึ่งชือหลง[1] คดเคี้ยวแตทรงพลัง ปรากฏใหเห็นเปนสีดําสนิท รวมไปถึงใบไมก็ดุจ
ดั่งหยกดํา
นี่เปนไมประหลาดชนิดหนึ่ง ทนทานและหนักอึ้ง สามารถนํามาทําอาวุธสงครามได
ขณะเดียวกันมันยังมีขอแปลกอยางหนึ่งคือ เมื่อติดไฟแลว เพลิงจะลุกไหมอยางชวงโชติ
แมแตดวงไฟขนาดเพียงฝามือก็สามารถตมเนื้อหมูสองหมอใหสุกได ปกติแลว ในการ
หลอมสินแร ตีอาวุธสงคราม มันถือวาเปนเชื้อเพลิงที่ดีที่สุด
“เอย จัดการเสีย!”
บริเวณดานหนาของลานโลงในหมูบานหินผา สือหลินหูและกลุมชายฉกรรจกําลัง
ตวัดขวานใหญ ออกแรงผาไม คนทั่วไปไมสามารถฟนไมมังกรดําเชนนี้ได
เสียงแควกดังมาอยางตอเนื่อง บางครายังมีเสียงดังครืนครันลอยมาเปนครั้งคราว
และปลอยประกายออกมาเปนสาย คุณสมบัติของไมชางแข็งแรงเสียจริง
เพื่อที่จะจัดพิธีอาบชําระใหแกสือฮาว ภายในหมูบานไดดําเนินการจัดเตรียมทุก
รูปแบบ ทั้งยาโบราณ แมลงมีพิษ น้ําพุ หมอสําริดเกาแก แมกระทั่งไมที่ใชในการตม
เคี่ยวโลหิตบริสุทธิ์ก็คัดเลือกไมมังกรดําที่ดีที่สุด
เจาตัวเล็กกําลังอาบน้ําบนหินหยกขนาดใหญ ผูคนในหมูบานใชน้ําพุธรรมชาติที่มีรส
หอมหวานชําระรางกายใหเขา เพื่อใหไดกายเนื้อที่บริสุทธิ์ที่สุดกอนนําลงในหมอสําริด
ทุกคนตางก็เอาจริงเอาจังกันมาก เจาตัวเล็กเองก็เครงขรึมเปนอยางมาก เขาไมพูด
ไมจา เตรียมความพรอมอยางเงียบเชียบ
ซวนหนีถูกยกมาอยูนานแลว ทั่วทั้งลําตัวเปนสีเหลืองทอง สองแสงแวววาว แผงขน
แพราวพรายประหนึ่งเสนไหมสีทอง โดยเฉพาะเวลาที่อยูใตแสงอาทิตยที่สาดสอง มันจะ
ยิ่งงดงามและเปลงประกายระยิบระยับ
เขากระทิงสีชาดที่ยาวเกือบเมตรก็วางพาดอยูขางๆ โปรงแสงราวกับหินคารเนเลียน
สีแดง เปลงแสงสีแดงวูบวาบ มันบรรจุโลหิตบริสุทธิ์ที่มีอิทธิฤทธิ์อันล้ําคาที่สุดของกระทิง
ไฟ เฉกเชนเดียวกับทายาทครั้งบรรพกาล
แขนของปศาจวานรมีขนาดใกลเคียงกับแขนของคนวัยกลางคน มันไมไดมีขนาด
ใหญมากนัก แตกลับกระจายความนากลัวอยางทวมทน ภายในบรรจุโลหิตบริสุทธิ์ดึกดํา
บรรพที่พบเจอไดยากและล้ําคาอยางที่สุด
หมอสําริดสีดําขนาดใหญแผกลิ่นอายความเกาแก ดานบนมีภาพตะวัน จันทรา
ขุนเขา ธารา วิหค สัตวปา มัจฉา แมลง และยังมีภาพการเซนไหวของบรรพชน มองดู
ลึกลับพิศวง ขณะนี้ ภายในหมอสําริดถูกบรรจุดวยน้ําจํานวนไมนอย ขางใตเปนไมมังกร
ดําที่กําลังเผาไหม ทําใหน้ําเดือดอยางรวดเร็ว นี่เปนการใชไฟที่แรงที่สุดตมเคี่ยวโอสถ
ทิพยที่มีฤทธิ์รุนแรงอยางที่สุด
หัวหนาหมูบานมีสีหนาเครงขรึม เขายืนอยูดานหนาของหมอสําริด โยนยาโบราณลง
ไปในหมอกําแลวกําเลาดวยตนเอง ยาทั้งหมดเหลานี้เปนของล้ําคาที่มีอายุเกือบป อาศัย
อยูทามกลางดินแดนรกรางนั้นจึงมีสมุนไพรไมขาดแคลน
ไมนานนัก ทามกลางน้ําที่เดือดพลานก็มีกลิ่นหอมของยานานาชนิดโชยมา สราง
ความรูสึกสดชื่น พรอมกับน้ําที่เปลี่ยนสี
จากนั้นสือยวิ๋นเฟงก็นําหมอดินเผามานับสิบใบ เขาเปดฝาหมอออกอยางระมัดระวัง
หมอใบแรกมีตะขาบใหญสีมวงตัวหนึ่งพุงออกมาพรอมกับเสียงชริ้ง ความยาวเกือบครึ่ง
เมตรกวา นาตกใจเปนอยางมาก
เสียงปงดังขึ้น นิ้วมือของหัวหนาหมูบานปรากฏอักขระวูบวาบ เขากําคอนทองคํา
มวงดามหนึ่งแลวทุบเบาๆ ทําใหกะโหลกของตะขาบแตกราว จากนั้นก็โยนลงไปในน้ํา
เดือด
ตอมา หมอดินเผาใบที่สองที่ถูกหอหุมดวยแผนโลหะหนาถูกเปดออกพรอมกับแสงสี
เงินสองแวววาว ตัวนิ่มตัวหนึ่งพุงออกมา มันมีความยาวเพียง 1 เซี๊ยะ ทั้งลําตัวเปนสีเงิน
เปลงแสงเจิดจา มันก็ถูกทุบกะโหลกแลวโยนเขาไปในน้ําเดือดเชนเดียวกัน หลังจากที่มัน
ดิ้นรนอยางหนักหนวง ทายที่สุดก็สิ้นเสียงสิ้นลมหายใจ และกลายเปนหนึ่งในยาบํารุง
รางกาย
หมอดินเผานับสิบใบตางก็ถูกเปดออกแลว มีทั้งสัตวประหลาดตัวจิ๋ว แมลงมีพิษ
ทั้งหมดนี้พิเศษมาก งูสีทองตัวนอยที่ยาวประหนึ่งตะเกียบ และแมงมุมสีเงินที่สามารถ
บินไดเปนตน
น้ําในหมอสําริดแปรเปลี่ยนเปนสีสันหลากหลาย กลิ่นแปลกประหลาดลอยคลุง
ใบหนาของเด็กๆ กลายเปนสีเขียวในทันที นี่มันนากลัวเกินไป แมลงมีพิษยั้วเยี้ย
มากมายเชนนี้ และยังมียาโบราณจํานวนมากปานนั้นผสมปนเปกัน มองอยางไรก็ให
ความรูสึกที่ไมเปนมงคล
นับวาโชคดีที่หมอนี้เตรียมไวสําหรับเจาตัวเล็ก มิใชเพื่อบมเพาะพวกเขา
ขณะที่น้ําคอยๆ เดือด น้ําภายในหมอสําริดลดนอยลงเรื่อยๆ จนเกือบจะเหือดแหง
อยูแลว ยาสมุนไพรและแมลงประหลาดแตละชนิดตางก็ถูกตมเคี่ยวจนกลายมีลักษณะ
หนืดขน นี่แหละยาบํารุงรางกาย เมื่อถึงเวลามันจะชวยบรรเทาอาการเจ็บปวดของเจา
ตัวเล็ก อีกทั้งสามารถชวยใหเขาซึมซับโลหิตบริสุทธิ์ไดดียิ่งขึ้น
“ชําแหละซวนหนี เตรียมรินโลหิตบริสุทธิ์ลงไปในหมอสําริด!” สือยวิ๋นเฟงตะโกน
เสียงดัง
ลําตัวของซวนหนีเปนสีเหลืองทองประหนึ่งหลอมมาจากทองคํา สองแสงเจิดจาพรา
ตา ประหนึ่งเปลวไฟที่กําลังลุกไหม แมวาจะตายไปแลวแตก็ยังกระจายกลิ่นอายความนา
เกรงขามอยางรุนแรงเปนที่สุด ขนของมันแข็งอยางหาที่เปรียบไมได ดาบโลหะธรรมดา
ทั่วไปไมสามารถฟนแทงได อีกทั้งยังกอใหเกิดประกายไฟเปนสายๆ และเกิดเสียงดังชริ้ง
ชริ้ง ประหนึ่งกับตีเหล็ก
สิ่งที่นาปลาบปลื้มคือ ครั้งซวนหนีชราสิ้นอายุขัย มันไดทําศึกสุดทาย และหลังจาก
นั้นก็ปรารถนาที่จะทําลายตนเอง แมวาจะไมสําเร็จ แตทั้งรางของมันก็แตกราวแลว
ทามกลางแสงศักดิ์สิทธิ์มีรอยเลือดเปนริ้วๆ
ผูคนในหมูบานตวัดดาบที่ชะลางจนสะอาดไปตามบาดแผลที่ปริแตกเหลานี้ และ
ชําแหละมันอยางยากลําบาก
ทุกคนตางก็หวาดกลัวเปนอยางมาก แขนทั้งสองขางของสือหลินหูกับสือเฟยเจียว
ตวัดหนึ่งครั้งมีพละกําลังหาหกพันชั่ง[2] ทามกลางปารกรางแหงนี้ นี่ถือวาเปนสิ่งที่
แข็งแกรงและพบเจอไดยากเปนที่สุด ทวาในเวลานี้ พวกเขากลับหายใจกระหืดกระหอบ
เหงื่อไหลซึมจนแผนหลังชุมโชก พวกเขาเพียงแคผาไปตามรอยแตกของเนื้อ ยังเหนื่อย
หอบจนเปนแบบนี้
จะเห็นไดวารางกายล้ําคาของซวนหนีเหนียวและแข็งมากเพียงไหน มันเกินกวาที่คน
จะจินตนาการได!
ยามที่ชําแหละเสร็จสิ้น เหลาผูอาวุโสลงมือฉกฉวยโลหิตล้ําคาดวยตัวเอง คาดไมถึง
วาภายในโลหิตบริสุทธิ์จะมีของเหลวสีทองบางสวน สองแสงระยิบระยับพราตา
นี่ก็คือจุดที่เลอคาของมัน นั่นคือพลังวิเศษของทายาทอสูรบรรพกาลซวนหนี โลหิต
ทองคํานอยนิดที่ซอนตัวภายในโลหิตนั้นมีมูลคามหาศาล มันทําใหตระกูลใหญตางพากัน
ตารอน!
แมวาซวนหนีจะสิ้นลมแลว ทวาโลหิตยังหนืดขนและไมแข็งตัว สามารถจัดการได
อยางงายดาย พวกเขาใชโถเงินบรรจุโลหิตบริสุทธิ์ บนพื้นดินมีโถเงินที่สองแสงสวยงาม
และมีขนาดใหญวางเกลื่อนเต็มพื้นดิน สุดทายก็ถูกบรรจุจนเต็มทุกใบ
หัวหนาหมูบานก็ลงมือทําดวยตัวเอง เขากวัดแกวงดาบหยกเลมหนึ่งที่ปกคลุมไป
ดวยอักขระ มีแสงพวยพุงออกมาเปนรอยเปนพันสาย ควักเอาหัวใจที่มีคาที่สุดดวงนั้น
ออกมา มันมีขนาดใหญเทาอางลางหนา ทั้งดวงปรากฏเปนสีทอง แฝงไวดวยความ
ศักดิ์สิทธิ์อันทรงพลังอยางหาที่เปรียบไมได ยามที่เคลื่อนยาย มันกลับสาดเทสายฝนสี
ทองเปนบริเวณกวาง
หัวหนาหมูบานอาวุโสไมกลาพิรี้พิไร เขารีบนําหัวใจที่มคี าที่สุดดวงนี้ใสลงไปในหมอ
สําริด ดวยเกรงวาจะสิ้นเปลืองความวิเศษอันศักดิ์สิทธิ์ของซวนหนี และในขณะเดียวกัน
ก็ตะโกนเสียงดดังวา “รินโลหิตล้ําคาลงไป!”
เหลาชายฉกรรจโอบอุมโถเงินใหญยักษมา จากนั้นเทมันลงในหมอไปแทนที่น้ําพุ
เพื่อใชโลหิตล้ําคาเปนของเหลวไปผสมเขากับยาที่หนืดขน
ไมมังกรดําใตหมอสําริดมีเปลวไฟลุกโชติชวง เผาไมจนหมอสําริดที่ตกทอดจาก
บรรพบุรุษจนเกิดเสียงดังสะเทือนเลือนลั่น อสูรบรรพกาลนานาชนิดบนผิวหมอประหนึ่ง
จะฟนคืนชีพ คลายกับมีเสียงคํารามถูกเปลงออกมาเปนระลอก ของเหลวสีทองในหมอ
สําริดเดือดปุดๆ หัวใจเลอคาดวงนั้นกลับยิ่งเปลงแสงเจิดจา สายฝนสีทองพนปะทุ
ออกมา ทําใหทั่วบริเวณของหมอเกิดแสงแวววาวขึ้นมา ของเหลวที่อยูขางในกลายเปน
แสงสีทอง กลิ่นหอมที่คอนขางจะหอมหวนโชยออกมา
นี่ก็คือซวนหนี ทายาทอสูรบรรพกาล รางกายของมันล้ําคาเปนที่สุด!
“ตมใหเดือดแลวเคี่ยวใหเปนโอสถทิพย เจาตัวเล็กเตรียมพรอม จวนจะไดเวลาลง
หมอสําริดแลว” หัวหนาหมูบานสือยวิ๋นเฟงกลาวอยางขึงขัง
“เขาใจแลวขอรับ!” สือฮาวตอบรับดวยเสียงดัง
ใชไฟแรงในการเคี่ยวโอสถทิพย กองไฟเรารอนและกลิ่นหอมกรุน ภายในหมอสําริด
กลายเปนของเหลวขนสีทอง มีเสียงกรีดรองของทาทอสูรบรรพกาลลอยมาเปนระลอก
อยางตอเนื่อง ทําใหผูคนหวาดกลัวจนใจสั่นสะทาน
บางครา สามารถมองเห็นซวนหนีสีทองตัวหนึ่งปรากฏกาย ความนากลัวทวมทนผืน
ฟา กลืนกินตะวันจันทรา หมูดาวตางพากันสะเทือน
ทุกคนตกตะลึงพรึงเพริด พากันหวาดผวา ผูคนมากมายสั่นสะทานอยางอดไมได
“นี่คือรองรอยแหลกละเอียดที่บรรพบุรุษครั้งดึกดําบรรพเหลือทิ้งไวภายในโลหิตสี
ทองออนล้ําคา กลายเปนแหลงน้ําศักดิ์สิทธิ์ของทายาทที่อยูตรงหนาตัวนี้” มีคนชราที่ทํา
ใจใหสงบไดแลวอุทานขึ้น
นี่ยังไมถือวาเสร็จสิ้น คนในหมูบานชักเสนเอ็นออกมาเสนหนึ่ง จากนั้นใสลงไปใน
หมอ อีกทั้งยังเอาไขกระดูกวิเศษสีทองออนออกมาจากกระดูกล้ําคาอีกไมนอย แลวก็ใส
ลงไปในหมอสําริดสีดําเชนกัน ทําใหโอสถทิพยยิ่งงามอราม กลิ่นหอมหวนทวีคูณ
“ทานผูเฒาขอรับ บนกระดูกชิ้นนี้มีอักขระ มีพลังอํานาจลึกลับไหลเวียนอยู!” ใน
เวลานี้เอง สือเฟยเจียวก็รองเสียงหลงขึ้นมา
“อะไรนะ?!” หัวหนาหมูบานและเหลาผูอาวุโสของหมูบานตางก็พุงออกไปอยาง
รวดเร็ว ไมสามารถสุขุมและสงบไดอีกตอไป
หลังจากที่ชําแหละเนื้อของซวนหนีแลว พบอักขระตัวหนึ่งบนกระดูกหนาผากของ
มัน ลึกลับซับซอน สองแสงแวววับพราตาและปรวนแปรไมหยุดหยอน ราวกับดวงดาว
บนฟากฟาที่ไมมีที่สิ้นสุดนั้นกําลังเคลื่อนไหว
“คาดไมถึงวาจะรักษาไวได!” สือยวิ๋นเฟงตื่นเตนจนตัวสั่น จากนั้นก็แหงนหนาขึ้นฟา
หัวเราะเสียงดัง น้ําตาแทบจะหลั่งรินออกมา
ซวนหนีทาํ ลายตนเองกอนจะสิ้นลม ทั่วทั้งตัวแตกราว ตามการพิจารณาของคนใน
หมูบานแลว มันทําลายอักขระดึกดําบรรพของตนทิ้ง ทวากอนที่ทายาทบรรพกาลจะ
สิ้นใจ มักจะคิดหาวิถีทางลบลางรองรอยที่ถายทอดมาจากตนตระกูล เพื่อหลีกเลี่ยงการ
ตกไปอยูในเงื้อมมือของเผาพันธุอื่น พวกมันไมยอมสูญเสียเปนอันขาด
นี่ก็เปนกระดูกโบราณอันล้ําคาเชนกัน เหตุผลก็คือเคล็ดวิชามีมูลคาอยางหาที่สุด
ไมได!
ตามปกติแลว ตระกูลที่ยิ่งใหญอยางแทจริงจะมีเคล็ดวิชาที่แข็งแกรงที่สุดเพียงชนิด
เดียวเทานั้น บวกกับอิทธิฤทธิ์ออนดอยบางชนิดที่ชวยเสริม ก็สิ้นสุดเพียงเทานี้
ผูคนในหมูบานหินผาไมคาดคิดแมแตนอย ครั้งนี้กลับเกิดเรื่องที่เหนือความ
คาดหมาย เนื่องดวยซวนหนีอสูรบรรพกาลสูรบกับปศาจกระทิงไฟและปศาจเจาแหง
วานรอยางดุเดือด สุดทายกลับไมสามารถทําลายกระดูกล้ําคาเหลือทิ้งรองรอยไว
“เก็บซอนไวใหดี ไมวาใครก็หามแพรงพรายออกไปเด็ดขาด! “สือยวิ๋นเฟงสํานึกรู
อยางรวดเร็ว กลาวดวยใบหนาเต็มไปดวยความเครงขรึมวา” สวรรคเมตตาตระกูลของ
เรา เพิ่มเคล็ดวิชาล้ําคาที่ทรงพลังเปนที่สุดมาใหอีกชนิดหนึ่ง เรื่องนี้ใหญหลวงนัก ตอง
เก็บรักษาความลับใหดี”
ตอมา หัวหนาหมูบานหันหนามากลาวอยางเรงรัดวา “สื่อฮาวเจารีบลงไปในหมอ
เร็วเขา ทําพิธีอาบชําระไดแลว รอเจาผานดานนี้ไป เจาจะยิ่งบรรลุเคล็ดวิชาล้ําคาอัน
แข็งแกรงของทายาทอสูรบรรพกาลซวนหนี!”
“ทานผูเฒาขอรับ ขาเตรียมพรอมนานแลวขอรับ!”
ทั่งทั้งลําตัวของเจาตัวเล็กที่ผานการแชโอสถทิพยแลวเปลงแสงพรางแพรว อักขระ
เปลงแสงระยิบระยับ มองดูงดงามและนารัก ยามที่เขากระโดดสูกลางอากาศ โรยตัวลง
ไปในหมอที่เดือดพลาน พลันของเหลวสีทองสองแสงเจิดจาก็ทวมตัวเขา
“ปดหมอสําริด!” สือยวิ๋นเฟงตะโกนเสียงดัง คนในหมูบานนําฝาหมอสีดําสนิทขนาด
ใหญมา จากนั้นก็ชวยกันปดมันใหสนิท ไมมีชองโหวแมแตนิด
เด็กคนอื่นๆ ตางพากันเวียนหัวตาลาย ใบหนาซีดเผือก ปดสนิทไปทั้งอยางนี้ น้ํา
เดือดปานนั้นจะสามารถทนไดหรือ อีกอยาง จะหายใจไดอยางไรกัน?
หัวหนาหมูบานอาวุโสถลึงตาใสพวกเขาแลวพูดวา “รอใหพวกเจาฝกฝนอักขระ
กระดูกจนซึมซับเขาไปในทุกอณูของเลือดเนื้อ จนแปรเปลี่ยนเปนรัศมีแสง กลายเปน
แสงศักดิ์สิทธิ์ จะไดไมตองกังวลเชนนี้ พวกเจาสามารถปลุกพลังจากฟาดินมาบํารุงกาย
ตน ครั้นถึงเวลาก็จะสามารถลงไปในน้ําเดือดได แมจะไมไดหายใจเปนเวลานานก็ไมเปน
ปญหา”
เขาล้ําคาสองแสงสีแดงแวววับกับแขนของปศาจเจาแหงวานรยังไมไดตมเคี่ยว
เพราะสือยวิ๋นเฟงกังวล เกรงวาเจาตัวเล็กจะรับไมไหว อีกอยางอายุของเขายังเยาวนัก
จําเปนตองดูสถานการณกอนจึงจะตัดสินใจได
..............................
[1] ชือหลง มังกรชนิดหนึ่ง เปนมังกรที่ไมมีเขา อาศัยอยูในน้ํา เปนมังกรที่สามารถ
ดับไฟไดตามความเชื่อของชาวจีนโบราณ
[2] ชั่ง มาตราวัดของจีน 1ชัง่ =500กรัม
บทที่ 32 การเปลีย่ นแปลงอันนาตกตะลึง
หมอสําริดสีดําสั่นสะเทือน แสงศักดิ์สิทธิ์แผซานออกมาเปนระลอก เจาตัวเล็กถูกปด
ผนึกอยูขางในกวาหนึ่งชั่วยามแลว[1] ฝาหมอสะเทือนจะเปดออกหลายครา ของเหลวสี
ทองพุงกระฉูด กลิ่นหอมกรุนมอมเมาผูคน
ซวนหนีตัวหนึ่งพุงออกมารางๆ มันคํารามไมหยุด เสียงที่เสมือนจริงเชนนั้น ทําให
ผูคนในหมูบานตางก็หวาดกลัวจนหนังศีรษะเย็นวาบเปนพักๆ
มันมีขนาดไมใหญมาก มีความยาวเพียง 1 เซี๊ยะกวา และกําลังออกแรงกระแทกชน
ฝาหมอ ทั้งลําตัวของมันเปนสีทองเปลงประกายเจิดจา อีกทั้งยังแผดเสียงไปทางเจาตัว
เล็กครั้งแลวครั้งเลา
ฝาหมอสําริดสั่นอยางรุนแรง ผูคนที่มองดูตางกอกสั่นขวัญแขวน หลายครั้งที่
อยากจะเดินไปปดฝาใหแนน แตก็ถูกหัวหนาหมูบานขัดขวาง นี่เปนวิญญาณโอสถใน
หมอสําริด มีสวนที่สําคัญที่สุดอยู จึงตองตมเคี่ยวเชนนี้ ไมสามารถรบกวนได
กลิ่นทวีความหอมมากขึ้น หมอสําริดที่หนักและหนามีแสงวิเศษเทสาดไมหยุดไม
หยอน พวยพุงออกมาจากรอยแยกของฝาหมอ เจาตัวเล็กลอยผลุบๆ โผลๆ อยูขางใน
ตาทั้งคูปดสนิท นอมรับการอาบชําระ
ตูม ตูม...
ซวนหนีสีทองยาว 1 เซี๊ยะดิ้นรนรุนแรงมากขึ้น ทั้งตัวถูกเผาไหมประหนึ่งเทพเจา วิ่ง
ชนทางซายทีจูโจมขวาที หมายกระแทกหมอสําริด
หลายคนหนาถอดสี แมแตสือยวิ๋นเฟงเองก็กระวนกระวายมาก นัยนตาเบิกกวาง
จดจองไปที่วิญญาณโอสถตัวนั้นอยางใกลชิด วิญญาณโอสถที่วานี้ก็คือ เศษแหลก
ละเอียดอันวิเศษที่สืบทอดมาจากราชาแหงซวนหนีบรรพกาล
“หากเปนเชนนี้ตอไปไมสวยแน มันจะพุงออกมารึไม ทานผูเฒาจะไมใหพวกขายุง
เกี่ยวจริงหรือ?” สือเฟยเจียวเอยถาม
สือยวิ๋นเฟงกลาวดวยสีหนาหนักแนนวา “หมอยาก็ถูกปดผนึกแลว หากวาไปขยับ
ตามอําเภอใจ จะทําใหสวนสําคัญของยานั้นระเบิดออกมา และสลายไปในโลกนี้”
“อา ไมไดการณแลว มันเริ่มจูโจมเจาตัวเล็กแลว” เออรเหมิงที่อยูในกลุมเด็กแผด
เสียงรองขึ้นมา
หัวใจของทุกคนบีบรัดแนน วิญญาณซวนหนีตัวนั้นเปลงแสงเจิดจาพราตามากยิ่งขึ้น
มันกางกรงเล็บออก อาปากพนไอออกมา เกิดเสียงฟาคํารามเปนระลอกพุงไปทางดาน
ของเจาตัวเล็ก
“อยากังวลไป มันสิ้นลมตั้งนานแลว นี่เปนเพียงวิญญาณที่แหลกละเอียด ไมมี
จิตสํานึกที่แทจริงหรอก” สือยวิ๋นเฟงกลาว
เจาตัวเล็กสงางามดุจเทพ เขาสงบนิ่งไมขยับเขยื้อน เลือดเนื้อเปลงแสง เขาตกอยูใน
ภวังคที่มหัศจรรย ไมสนใจสิ่งอื่นใด ราวกับตัดขาดกับโลกภายนอกแลว เขาเพิ่มความ
แข็งแกรงจากแสงศักดิ์สิทธิ์เหลานั้นที่หอหุมตัวเองไว กลั่นอักขระจากภายในเลือดเนื้อ
กลายเปนแสงสวาง แปลงเปนแสงศักดิ์สิทธิ์ เลือดทุกหยดตางก็เปนอักขระหนึ่งตัว
ทั้งหมดกลายเปนเตาไฟชั่วนิรันดร ที่เปลงแสงสวางอยางไมมีที่สิ้นสุด เพื่อบํารุงรางกาย
ตน
เวลานี้ ทุกรูขุมขนบนรางกายของเขาคลายตัว เลือดทุกหยดกลายเปนสิ่งศักดิ์สิทธิ์
มันปลอยแสงวิเศษ ขางในประหนึ่งมีเทพเจานั่งขัดสมาธิตนแลวตนเลา
แสงศักดิ์สิทธิ์ไหลทะลักออกมาจากทั่วทั้งรางกายของเขา ลําแสงจุดแลวจุดเลา
ปรากฏอยางเนืองแนน ราวกับเทพเหลือคณานับกําลังรองเพลง ทั้งขับรองบทสวด และ
เปลงประกายแสงสองไปทั่วฟาสีคราม
ซวนหนีสีทองตัวนั้นกระโจนเขามา มันถูกนําโดยลําแสงมากมายนับไมถวน แปลง
เปนกลุมแสงกลุมแลวกลุมเลา จากนั้นถูกลําแสงจุดแลวจุดเลากลั่นใหบริสุทธิ์ หลอม
ละลายเขาสูรางกายของตน
“เหตุการณประหลาดแบบนี้ชางอัศจรรยนัก!” คนในหมูบานพากันนิ่งอึ้ง แตสภาพ
จิตใจที่ตระหนกกลับผอนคลายลงไปไมนอย
“โฮก...”
ซวนหนีกระเสือกกระสน ยิ่งตอตานรุนแรงมากขึ้น หลีกเลี่ยงบริเวณที่เจาตัวเล็กอยู
กระแทกชนหมอสีดําใหญยักษอยางบาคลั่ง มันปลอยเสียงคํารามมาเปนระลอก ทําให
ผูคนอกสั่นขวัญแขวน เกรงวาหมอใบนี้จะแตกละเอียดกะทันหัน
ทายที่สุด ซวนหนีสีทองดุรายมากยิ่งขึ้น มันพุงชนจนหมอสําริดเกิดเสียงดังระงม
สั่นสะเทือนไมหยุดหยอน และในเวลานี้เอง หมอสําริดก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ตะวัน
จันทรา ขุนเขา ธารา วิหค สัตวปา มัจฉา แมลงบนผิวหมอกลับยิ่งดูสมจริงมากยิ่งขึ้น
ประดุจฟนคืนชีพแลว
“เอ อาวุธโบราณที่ตระกูลของเราสืบทอดตอกันมา โดยแรกเริ่มก็คือหมอสําริดล้ํา
คาที่ใชกลั่นโอสถอยางนั้นรึ?” สือยวิ๋นเฟงแปลกใจ พฤติกรรมแบบนี้คลายคลึงกับหมอ
ของตระกูลใหญ
ซวนหนีสีทองโกรธา แรงปะทะดุเดือดมากยิ่งขึ้น แตทวาหมอใบนี้กลับยิ่งเกาแกมาก
ยิ่งขึ้น มีกลิ่นอายความลึกลับบางอยางกระจายอยู อักขระบนผิวหมอทยอยสวางขึ้น ราว
กับกําลังแผดเผาตัวมันเอง
เสียงคํารามของสัตวประหลาดดุรายแตละชนิดดังขึ้น ถึงแมจะเลือนรางมาก แต
กลับไมรูสึกวาเปนภาพมายา และในตอนนี้เอง ผิวหมอก็คอยๆ โปรงแสง มันเริ่มกลั่น
ของเหลวขนสีทองภายในหมอแลว
ซวนหนีสั่นเทิ้ม มันคํารามกองดวยความโกรธจนสะเทือนแกวหู เดิมเปนเพียง
วิญญาณ แตตอนนี้น้ําเสียงกลับสะทอนกองในหมูบานอยางสมจริง ทําใหผูคนเกิดอาการ
เกรงกลัว มันกําลังตอสูครั้งสุดทาย ยันตัวลุกขึ้นแลวพนแสงออกมา ประหนึ่งวาจะ
ทะลวงผิวหมออยางแทจริง
หมอสําริดสีดําใบใหญสั่นไหว บรรพชนครั้งโบราณบนผิวหมอกลับยิ่งเสมือนจริง
และมีเสียงสวดบูชาลอยมาเปนระยะ จากนั้นก็ไดยินเสียงสวดมนตดังไมหยุด
“อาวุธที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษชิ้นนี้ เปนเสมือนหมอตมยาที่ยอดเยี่ยมเสียจริง!”
สือยวิ๋นเฟงตัวสั่นเทา เขาไมเคยคิดมากอนเลยวา หมอสีดําไมมีสิ่งใดนาสนใจที่ใชอยูเปน
ประจําจะมหัศจรรยไดถึงเพียงนี้
ขณะเดียวกัน ลําแสงบนรางกายของเจาตัวเล็กที่อยูกลางของเหลวสีทองเพิ่มมากขึ้น
มันแนนขนัดดุจดั่งทวยเทพปรากฏกายเปนวงกวาง นั่งขัดสมาธิและรายบทสวดมนต
ประชันกับหมอสําริดใบนี้
ซวนหนีเกิดอาการหวาดกลัว ตัวสั่นไมหยุด จากนั้นก็ถูกทําลาย หมอสําริดสีดํา
หลอมมันจนกลายเปนลําแสงวิเศษสีทองเปนสาย ไหลลงไปทามกลางของเหลวขนสีทอง
ในที่สุด ทุกอยางก็สงบลง ฝาหมอปดสนิทไรรอยแยก ปดผลึกหมอตมยาอยางมิดชิด
ภายนอกไมสามารถมองเห็นสถานการณภายในไดอีกตอไป
“เอาละ ปดหมอไดสําเร็จเสียที หากไมเกิดเรื่องไมคาดคิดละก็ เจาตัวเล็กจะตอง
สําเร็จเปนแน!” สือยวิ๋นเฟงกลาวดวยความตื่นเตนเปนที่สุด
“ทานผูเฒาขอรับ ตองใชเวลานานเทาไหรหรือขอรับ?” สือเฟยเจียวเอยถาม
“กําหนดไมได ระยะเวลาของพิธีอาบชําระยาวนานมาก ตั้งแตหนึ่งวันจวบจนสาม
เดือน” สือยวิ๋นเฟงกลาวพลางยนคิ้ว
“อะไรนะขอรับ?” มวลชนตะลึงงัน ถึงวาหัวหนาหมูบานสั่งใหพวกเขาฟนไมมังกร
ดํา เพื่อเตรียมฟนชนิดนี้ใหได
ผานไปหนึ่งวันหนึง่ คืนเต็มๆ ของเหลวขนสีทองยังคงเดือดพลาน ไมแหงเหือด เจา
ตัวเล็กลอยผลุบๆ โผลๆ อยูดานใน ทั้งตัวแดงฉานประหนึ่งเลือดจะหลั่งไหลออกมา
ของเหลวสีทองซึมซาบจากรูขุนขนเขาสูรางกายของเขาอยางตอเนื่อง จากนั้นก็นําสิ่ง
สกปรกออกมาบางสวน แลวก็เริ่มอาบชําระครั้งแลวครั้งเลา
นี่เปนขั้นตอนที่นากลัวขั้นตอนหนึ่ง อํามหิตเปนอยางมาก เด็กทั่วไปจะแบกรับได
อยางไร มันทําใหเจ็บเจียนตายได!
การอาบของเหลวสีทองไมใชการชําระรางกายแบบธรรมดา แตเปนการถลันเขาสู
รางกาย จูโจมอยางบาคลั่ง เชนเดียวกับการหักกระดูกและสับเนื้อ ฟนเสนเอ็นขาดเปน
เรื่องปกติมาก
เจาตัวเล็กขบกรามแนน ไมขยับเขยื้อน ดูดเอาของเหลวสีทองเขาไปชําระกายเนื้อ
จากดานนอกเขาสูดานใน รางกายเปลงประกาย แมวาจะเจ็บปวดเปนอยางมาก แตกลับ
รูสึกวามีพลังเต็มเปยม
แสงศักดิ์สิทธิ์พุงโจมตีอยางรุนแรง ทําใหอวัยวะภายในของเขาราวกับจะแตก
ออกเปนเสี่ยงๆ แตวาสุดทายทั้งหมดก็ถูกบํารุงจนดีขึ้น เกิดแสงมันแววพรางพราย ใน
สวนของกระดูกที่เกือบจะแตกหัก ทายที่สุดก็ถูกซอมแซมแลวเชนกัน มันสมานกันมาก
ขึ้น และขาวกระจางใส ยิ่งไปกวานั้น ไมเพียงแตกายเนื้อไดรับการอาบชําระ พลังวิเศษก็
ไดรับพละกําลังเพิ่มมากขึ้นอีกดวย
หนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืนเต็มๆ ที่เจาตัวเล็กตองผานการเปลี่ยนแปลงที่ยากและเกินจะ
จินตนาการอีกครั้งหนึ่ง!
ยามรุงอรุณมาถึง เขาลืมตาแลวตะโกนวา “ทานปูขอรับ น้ําใกลจะเหือดแหงแลว
ขอรับ”
“สําเร็จแลว!” สือยวิ๋นเฟงปติยินดีมาก สั่งคนใหเปดฝาหมอออก มองเห็นแตเจาตัว
เล็กที่ทั้งตัวโปรงใส มีแสงพุงออกมาจากรูขุมขน ผูคนในหมูบานตางก็ตกตะลึง ไมตองคิด
ก็รูดีวา เจาตัวเล็กไดรับประโยชนมหาศาล
สือยวิ๋นเฟงลังเลอยูพักหนึ่ง สุดทายก็กัดฟนพูดวา “เตรียมเขาล้ําคาสีแดงของปศาจ
กระทิงไฟ และแขนของปศาจวานรใหพรอม รินเลือด!”
สือหลินหูนําเขาล้ําคาสีแดงดุจแสงอาทิตยออกมา แลวปลอยของเหลวสีดําที่อยูใน
แขนวานรนั่นลงในหมอสําริด
“มอ!”
เพียงชั่วครู เสียงวัวรองก็สะเทือนจนหนังศีรษะเย็นวาบ เกือบจะออนแรงจนลมลง
กับพื้น
“โฮก...”
ตามดวยเสียงแผดรองยาวของปศาจราย ปศาจวานรตัวหนึ่งปรากฏขึ้นกลางหมอ
สําริด มันและกระทิงไฟโมโหพรอมกันแลวพุงชนหมอสําริดใบใหญ
ตอมา ของล้ําคาสีทองดวงนั้น ซึ่งก็คือหัวใจ ก็มีซวนหนีพุงพรวดขึ้นมาอีกครา แสงสี
ทองสองออกมาเปนหมื่นสาย มันพุงจูโจมไปพรอมกับพวกมัน
“ปดฝาหมอ!” หัวหนาหมูบานอาวุโสออกคําสั่ง
ครั้งนี้ดุเดือดมากขึ้น โลหิตบริสุทธิ์สามชนิดรวมเขาดวยกัน ปศาจกระทิงไฟสีแดง
ฉาน ซวนหนีสีทอง และปศาจวานรสีดํา ลวนเปนทายาทอสูรบรรพกาล พวกมันดิ้นรน
และพุงชนอยางดุดัน หวังจะทําใหปากหมอแหลกละเอียด
บรรพบุรุษบนผิวหมอปรากฏขึ้นอีกครั้ง พรอมกับเสียงเซนไหวทดี่ ังขึ้น เสียงรายบท
สวดมากมายดังตอเนื่อง เพื่อยับยั้งอสูรบรรพกาลทั้งสามตัว
เจาตัวเล็กที่อยูขางในก็ยังคงเดิม ภายในรางกายเปลงแสงอยางไมสิ้นสุด กระดูกและ
อวัยวะภายในเตนเปนจังหวะ ราวกับเสียงเทพกองกังวาน กระจายความงดงามอันล้ําคา
ประชันกับหมอสําริดสีดํา
ทั้งคนและหมอสําริดลวนแตเปลงประกาย ปลอยอักขระและเสียง ณ ที่แหงนี้ เมฆ
หมอกลอยขึ้นและจับกลุมกัน สาดแสงสวางไสว สองประกายไปทั่วบริเวณ
ขั้นตอนที่ดําเนินมาตอเนื่องวาสองวันสองคืน ในที่สุดทุกอยางก็สงบลง ฝาหมอถูก
กระแทกจนเปดออก เจาตัวเล็กกระโดดพุงขึ้นสูฟากฟาสูงกวา 20 เมตร
“ไหมแลว ไหมแลว!” เขาคลึงตูดไมหยุด ทั้งเนื้อทั้งตัวดําทมิฬ มีเพียงแคดวงตาโตคู
นั้นที่เกลือกกลิ้งไปมา มีชีวิตชีวามาก สวนอื่นๆ เหมือนกับโดนโบกดวยเถาถาน ประหนึ่ง
ลิงกังตัวหนึ่ง
ผูคนในหมูบานตางตะลึงพรึงเพริด เมื่อครูเจาตัวเล็กชนฝาหมอที่มีน้ําหนักมากจน
เปดออก และกระโดดขึ้นสูทองฟาไปพรอมกับมัน ไมคาดฝนวาจะกระโดดไดสูงถึงเพียงนี้
นั่นเปนความสูงถึง 20 กวาเมตรเชียวนะ
หัวหนาหมูบานอาวุโสหัวเราะเสียงดัง เขารูดีวาสําเร็จแลว เจาตัวเล็กบําเพ็ญตบะ
เสร็จสมบูรณแลว หลังจากที่เขาสงบลงเล็กนอยแลวกลาววา “เร็วเขา ดับไฟใตหมอเสีย
รีบเติมน้ําลงไป เชื้อโอสถที่เหลือนั้นยังคงเปนโอสถล้ําคาที่พบเจอไดยาก!”
เจาตัวเล็กรวงลงบนพื้นดิน กลุมเด็กๆ กรูกันมาลอมรอบเขา และทั้งลูบทั้งคลําเขา
ทั้งหมดพากันเยาแหย และมีบางคนตักน้ําใสสะอาดมาชําระรางกายแกเขา
พวกเขาพากันตกตะลึง เมื่อพบวาชั้นหนังกําพราของเขาหลุดลอกออกไป ผิวหนัง
ไหมเกรียมสีดําลอกออก เผยรางกายเล็กๆ สีขาวสะอาดกระจางใสที่สองแสงวิเศษ
“โอโห เจาตัวเล็ก เจาเปนตัวไหมหรือ ไยจึงมีชั้นหนังหนาถึงเพียงนีห้ ลุดลอกออกมา
ไดเลา?” เด็กๆ รองเอะอะโวยวาย เด็กสาวหลายคนที่เบียดเขามาในกลุมคน มองดู
รางกายที่สวางไสวและแวววาวของเขาดวยความอิจฉาอยางไมมีที่สิ้นสุด
เจาตัวเล็กอายมาก เขารีบควานหาเสื้อผามาหนึ่งชุด แลวรีบสวมลงบนตัว การ
กระทํานี้สรางเสียงหัวเราะแกผูคนเปนจํานวนมาก
“ลูกเอย ใหพวกเขาไดยลโฉมวาเจาเปลี่ยนแปลงไปอยางไรบาง” ชายชราคนหนึ่ง
กลาว
สือหลินหูและคนอื่นยางสามขุมเขามา แตละคนยื่นมือใหญราวกับใบปาลมออกมา
ลูบคลํา ทุกคนเดาะลิ้นดวยความประหลาดใจ ความรูสึกเหมือนกําลังลูบหยกเม็ดงาม
เจาตัวเล็กหนาแดงก่ํา พยายามบังของลับ พวกผูใหญยังคงมองเขาเปนเด็กแรกเกิด
เขาตอตานสุดกําลัง เพียงออกแรงผลักไปทีก็เกือบจะผลักสือเฟยเจียวลมลงไปกองกับพื้น
เหลาผูใหญหัวเราะเสียงดัง แตสือเฟยเจียวกลับตะลึงงัน กลาววา “พวกเจาอยาขํา
กําลังของเจาเด็กนี้ชางนากลัวเสียจริง!”
ตองเขาใจวา เพียงเขาตวัดแขนคูนั้นก็มีพละกําลังถึงหาหกพันชั่ง คิดไมถึงวา
เกือบจะถูกเด็กที่อายุไมถึง 4 ขวบผลักใหลม จะไมใหเขาตกใจไดอยางไร
“มานี่สิ เจาตัวเล็กมายกหมอสําริดซิ ลองดูวากายเนื้อของเจาแข็งแกรงเพียงใด”
สือยวิ๋นเฟงกลาว
“ขอรับ!” เจาตัวเล็กราวกับไดรับการอภัยโทษ เขาเรงสลัดผูคนที่สรวลเสเฮฮา และ
เหลาชายฉกรรจที่ลูบคลําเขาไปทั่วโดยวิ่งไปอีกทาง
“ยก!”
เจาตัวเล็กเริ่มจากยกหมอสําริดน้ําหนักพันชั่ง กาวเดินอยางอาจหาญตลอดทั้งทาง
จากนั้นก็ยกหมอทองคําดําที่หนักถึงหาพันชั่งขึ้น ผูคนในหมูบานแข็งเปนหิน
ตองเขาใจวา ที่ผานมาเจาตัวเล็กก็วิเศษมากแลว เขาสามารถยกหมอสําริดหนักพัน
ชั่งไดก็สรางความประหลาดใจแกผูคนมากแลว ตอนนี้กลับยกหมอทองคําดําที่หนักหา
พันชั่งไดภายในอึดใจเดียว สะเทือนจนผูคนตะลึงงันและพูดไมออก
“นี่ยังไมใชขีดสุดของเขา เอาอีก!” สือยวิ๋นเฟงสั่นระรัว เขาแคตองการรูวาจะ
ตื่นเตนไดถึงเพียงไหน
“ฮึบ”
ในการยกหมอครั้งสุดทาย เจาตัวเล็กยกหมอสําริดใบใหญที่หนักที่สุดในหมูบานขึ้น
เหนือหัว นั่นเปนถึงหมอลายโหว[2] บนหมอสลักลวดลายสัตวประหลาดนากลัวตัวหนึ่ง
กลุมคนตางก็ประหลาดใจ อายุเทานี้ พละกําลังขนาดนี้ ไมเคยไดยินมากอนเลย!
“ลูกเอย คอยวันเจาเติบใหญ ชวยลาโหว อสูรบรรพกาลขนานแทกลับมาใหลุงตัว
หนึ่ง ซึ่งก็คือเทพเจาอยางหนึ่งที่บรรพบุรุษกราบไหว ถือเปนการไถโทษ!” สือหลินหูที่ได
สติกลับมาแลวตะโกนเสียงดัง
..............................
[1] ชั่วยาม การนับเวลาแบบจีน 1 ชั่วยาม=2 ชั่วโมง
[2] โหว สัตวในตํานาน กลาววาเปนลูกมังกรทั้งเกา สัตวในตําราโบราณ รูปราง
คลายสุนัข กินคนเปนอาหาร
บทที่ 33 อัจฉริยะ
เมื่อแขนตวัดแขนทั้งสองขาง ก็มีพลังถึง 8000 ชั่ง นี่เปนเพียงเด็กคนหนึ่งที่อายุยัง
ไมครบ 4 ขวบ ผูคนในหมูบานไดยินในสิ่งที่ไมเคยไดยิน ไดเห็นในสิ่งที่ไมเคยไดเห็น แต
ละคนตางก็ตะลึงงันจนอาปากคาง
เด็กๆ รองเสียงหลง ตางพากันวิ่งโรไปดานหนาแลวยกเจาตัวเล็กขึ้น จากนั้นก็ลูบขึ้น
ลูบลงอยางบาคลั่ง นี่ไมใชโหวตัวนอยในคราบมนุษยจริงๆ อยางนั้นรึ?
“เจาตัวเล็ก เจาทําไดอยางไรกัน?” บิดาของเออรเหมิงคอนขางหยาบกระดาง เขา
อาปากกวางจนเห็นฟนสีขาวเต็มปาก ถลึงดวงตาโตพรอมทั้งหยิกและคลําตัวเขา
เหลาชายฉกรรจลวนแตเปนเชนนี้ ทุกคนหยาบกระดางมาก ตอมา กลุมเด็กก็รอง
เอะอะโวยวาย วิ่งตรงไปขางหนาแลวลูบขึ้นลูบลงไมหยุด เปนเวลานานกวาจะยอมรามือ
ทั้งเนื้อทั้งตัวของเจาตัวเล็กขาวสะอาดและพรางพราย แสงวิเศษสองสวางภายใน
ผมยาวนุมสลวยสีดําสนิทปลอยประบา ดวงตากลมโตกลิ้งไปมาเปลงประกาย เต็มเปยม
ไปดวยชีวิตชีวา
“สวรรคชางเมตตาตระกูลของเรา คาดไมถึงวาจะสงเด็กเชนนี้มาใหเรา!” มีผูอาวุโส
พูดไปตัวสั่นไป ตื่นเตนจนริมฝปากสั่นระริก
“ลูกเอย เจารูสึกไมสบายตัวตรงไหนไหม?” สือยวิ๋นเฟงเอยถาม เกรงวาในขั้นตอน
ของการเปลี่ยนแปลงจะทิ้งอันตรายที่แฝงเอาไว
น้ําเสียงที่ออนโยนของเจาตัวเล็ก ตอบกลับอยางจริงจังวา “ไมมีขอรับ ขารูสึกดีมาก
พลังเต็มเปยม มีพละกําลังที่ใชไมหมด”
หัวหนาหมูบานหัวเราะเสียงดัง เขาวางใจไดอยางสิ้นเชิง เขาดึงเจาตัวเล็กมาสํารวจ
ซายทีขวาที ราวกับออนลงสิบขวบ ริ้วรอยบนใบหนาคลายลงไมนอยเลย
จากนั้น เจาตัวเล็กก็ยกหมอลายโหวน้ําหนัก8000ชั่งขึ้นอีกครา แลวเดินรอบที่ดิน
โลงกวาง ถึงแมวาจะหนักเปนอยางมาก แตเขากลับไมหายใจหอบแมแตนิด พลังวิเศษ
ชางทําใหโลกตะลึง!
เมื่อเขาวางหมอลายโหวลง ทําใหผืนดินสะเทือนขุนเขาโยกไหว กระเทือนจน
แผนดินสั่นไหว ผูคนตะลึงจนเปลือกตาสั่นระรัว
“พละกําลังมหาศาลถึงเพียงนี้ ในภายภาคหนาจะหลอมอาวุธใหเจาก็ลําบากเสีย
แลว” ผูอาวุโสคนหนึ่งยิ้มกวาง มองอยางไรก็ไมเหมือนกับชังปญหา แตคือปลื้มใจ
มากกวา
“ไปนําคันธนูล้ําคาที่แข็งแกรงที่สุดของหมูบานมา ใหเจาตัวเล็กลองงางดูเปน
อยางไร?” สือหลินหูกลาวพลางฉีกยิ้ม
นี่เปนคันธนูเขาแรดล้ําคาขนาดมหึมา นาเสียดายที่มันหนาและใหญเกินไป แมวา
เจาตัวเล็กจะสามารถงางมันออกไดอยางงายดาย แตเพราะแขนเขายาวไมพอ จึงไม
สามารถงางออกไดเต็มเหนี่ยว
“โชคดีที่แขนของเจาสั้น มิเชนนั้นคันธนูล้ําคาของขาคงถูกงางจนหักแลวกระมัง” สื
อหลินหูปาดเหงื่อ สรางเสียงหัวเราะใหแกคนในหมูบาน
ผูคนในหมูบานสมถะและเถรตรงตอความรูสึกมาก ในใจคิดอะไรก็จะแสดงออกทาง
สีหนา แมวาจะหยาบกระดางไปหนอย แตก็ใหความรูสึกอบอุน
“เจาตัวเล็ก วันนี้ไปกินเนื้อยางที่บานอาหญิงเถิด”
“เจาหนู อายุจวนจะ 4 ขวบในเร็ววันแลว เจาควรคิดเรื่องแตงงานไดแลว เจาวาลูก
สาวบานสือหลินหูเปนอยางไร?”
“พวกเรากําลังพูดถึงเรื่องอาวุธ พวกเจาพลามกันไปถึงไหนแลว?”
...
คนในหมูบานดีใจมากที่มีเด็กแบบนี้ ขอเพียงเติบใหญ จะตองมีชื่อเสียงระบือไปทั่ว
ทุกสารทิศเปนแน คุมครองผืนดินแหงนี้ เพื่อใหหมูบานหินผาแข็งแกรงอยางถึงที่สุด
“เจาตัวเล็ก แมวาเจาจะทําพิธีอาบชําระสําเร็จ มีพลังพุงสูงขึ้นมหาศาล แตหาม
ทะนงตน จําใหขึ้นใจวาในโลกหลานี้ มีผูกลาอยูมากโข อีกทั้งยังนาเกรงกลัวเปนอยาง
มาก” หัวหนาหมูบานอาวุโสกลาวตักเตือนอยางเครงขรึม
“ขาทราบดีขอรับทานผูเฒา!” เจาตัวเล็กพยักหนาอยางจริงจัง
สือวิ๋นเฟงยังคงไมวางใจอยูบาง จึงตั้งใจจะกลาวปลุกขวัญวา “ตามตํานานเลาวา
เมื่อครั้งบรรพกาล มีเทพวานะไมยอมสําแดงเคล็ดวิชาล้ําคาของตน เขาพึ่งแตกําลังจาก
กายเนื้อ กระบองโลหะที่เขาใชนั้นหนักถึง8000ชั่ง!”
เด็กๆ ตะลึงงัน กระทั่งผูใหญก็นิ่งอึ้งจนพูดไมออก ชางนากลัวเสียจริง การใชอาวุธ
กับการยกของหนักเพียงอยางเดียวนั้นเปนเรื่องที่แตกตางกันโดยสิ้นเชิง ตองมีพละกําลัง
มากถึงเพียงใดกัน?
หลังจากนั้น คนในหมูบานใหสือฮาวกระโดดลอยตัว เพื่อทดสอบวาเขาจะสามารถ
กระโดดไดสูงเพียงใด ครั้งนี้ก็ทําใหพวกเขาตกอกตกใจอยางงายดาย เจาตัวเล็กออกแรง
กระโดดเต็มกําลัง เขาอยูเหนือพื้นดินเกือบ 30 เมตร จากนั้นโรยตัวเหมือนหอกลงสู
พื้นดินดังตูม เทาทั้งสองขางปกลงไปในพื้นดินแข็งกระดาง สั่นสะเทือนจนผืนดินแตก
ออกเปนเสี่ยงๆ
“ของดี นับจากนี้หากไดเขาไปลาสัตวกลางปาใหญ เจาก็ไปดวยกันซะ ขาคิดวาพึ่ง
พละกําลังของเจาในตอนนี้ ก็เพียงพอที่จะทําลายสัตวใหญไดเชียวละ!”
กายเนื้อแข็งแกรงเปนที่สุด อวัยวะภายในรางกายของเจาตัวเล็กสวางไสว กระดูก
โปรงใส ทั้งหมดผานพิธีอาบชําระมาครั้งหนึ่ง อักขระแวววับรวมเปนหนึ่งกับเลือดเนื้อไม
แยกจากกัน แปลงเปนแสงสวยงามศักดิ์สิทธิ์
มีแสงเปนจุดๆ ภายในทุกอณูของเลือดเนื้อ ประหนึ่งเทพเจา มันคือภาพสะทอนของ
อักขระศักดิ์สิทธิ์ มันจะซึมซับพลังจากฟาดินเขาสูรางกายอยางไมขาดสาย
“จิ๊บจิ๊บ...”
ลูกนกสามตัวเบียดตัวเขาไปในฝูงชน แผงเกล็ดของพวกมันเปลงประกาย กระพือปก
พั่บๆ ดวงตาโตมีชีวิตชีวา เสมือนจะปริปากพูด
“ตาเผิง เสี่ยวชิง จื่อยวิ๋น!” เจาตัวเล็กตะโกนแลวกระโจนตัวออกไป
ลูกนกสามตัวฉลาดหลักแหลมมาก พากันรองจิ๊บจิ๊บ ใชหัวถูไถแขนของเขาอยางรัก
ใคร เพื่อแสดงความดีใจ ครึ่งเดือนมาแลวที่พวกมันเฝาแมนกอยูหนาปากถ้ําที่อยู
ทางดานหลังของหมูบาน จะวิ่งมาเลนกับเจาตัวเล็กเปนครั้งคราวเทานั้น
“ทานอาอินทรีเกล็ดเขียวคงจะไมเปนไรแลวใชไหม? ไดรับยาผงของทานผูเฒา และ
ยังมีโลหิตบริสุทธิ์จากเขาล้ําคาของปศาจกระทิงไฟ จะตองฟนคืนสูสภาพเดิมไดอยาง
แทจริง” เจาตัวเล็กเอยถามดวยความหวงใย สองวันมานี้ เขาก็งวนอยูกับการอาบชําระ
ไมรูวาสถานการณของอินทรีเกล็ดเขียวเปนเชนไร
“ยามที่ชําแหละรางกายล้ําคาของทายาทอสูรบรรพกาล ไดสงเลือดเนื้อของซวนหนี
ไปใหมันไมนอยเลย ตอนนี้คงจะพยายามกลั่นโลหิตอยูกระมัง” หัวหนาหมูบานกลาว
การแยงชิงรางกายล้ําคาของซวนหนีมาไดในครานี้ อาศัยการตอสูที่นองเลือดอยาง
ไมคํานึงถึงชีวิตของอินทรีเกล็ดเขียวทั้งหมด หากไมมีมัน คงไมสามารถกลับมาดวยขาว
ของเต็มไมเต็มมือแบบนี้ แนนอนวาหมูบานหินผาจะไมลืมบุญคุณในครั้งนี้ ในระยะนี้ มัน
ไดรับการดูแลเอาใจใสเปนอยางดีจากคนในหมูบาน อสูรปกษาจวนตายคอยๆ หลุดพน
จากอันตราย เพียงแคชวงกอนหนามันออนลาเกินไป ไดรับประทานโลหิตบริสุทธิ์จาก
เขาวัวเพื่อขับพิษก็ถือวาดีมากแลว มิเชนนั้นมันคงตานทานไมไหว กระทั่งตอนนี้ก็คอยๆ
ดีขึ้น อีกทั้งหมูบานหินผายังชําแหละรางกายล้ําคาของซวนหนี และเพิ่งจะสงเลือด
บริสุทธิ์และชิ้นเนื้อบางสวนของทายาทบรรพกาลไปใหมัน
“มันกินโลหิตบริสุทธิ์และชิ้นเนื้อบางสวนของทายาทอสูรบรรพกาลเขาไป อาจจะ
ไดรับประโยชนอยางมหาศาลก็เปนได” เจาตัวเล็กกลาว
เสียดแผดรองดังทะลุฟากฟาไกล ดุจดั่งสายฟาฟาดลงมา ทะลวงทองคําสะเทือนหิน
แหลกละเอียด สนั่นหวั่นไหวจนปวดแกวหู อสูรปกษาขนาดยักษตัวหนึ่ง รางกายทวมทน
ไปดวยแสงสีเขียวสวยงาม บินทะยานมาจากดานหลังของหมูบาน บดบังทองฟาแผคลุม
ผืนดิน มันบินวนบริเวณนี้หนึ่งรอบ จากนั้นก็พุงเขาไปยังจุดที่ลึกที่สุดของเทือกเขา
“มันหายดีแลว มันจะจากไปอยางนั้นหรือ? “เจาตัวเล็กออกแรงโบกมือแลวตะโกน
เสียงดังวา” แลวพบกันใหมนะทานอาอินทรีเกล็ดเขียว!” เสียงแผดรองดังแววมา นี่ถือ
วาเปนการตอบรับ เพียงชั่วพริบตา อสูรปกษาก็จมเขาไปในชั้นเมฆและหายไปในที่สุด
“มันคงใกลแปลงรางใหมแลวละ จึงเลือกไปยังสถานที่ที่มืดชิด” สือยวิ๋นเฟงกลาว
ดวยสีหนาสุขุม
“แปลงราง?!” ผูคนเผยสีหนาตกตะลึงปนไมแนใจ และมองทอดไปยังชั้นเมฆบน
ฟากฟาไกล คลายกับวาพลังของมันจะกาวหนาไปอีกขั้น จะตองแข็งแกรงกวาหมาปาดุ
รายแหงหมูบานหมาปาตัวนั้นเปนแนแท
ตอมา ผูคนตางพากันสรวลเสเฮฮา อินทรีเกล็ดเขียวกับพวกเขาถือวาเปนมิตร
นิรันดร อีกทั้งมันยังมอบลูกนกสามตัวไวยังที่แหงนี้ มันยิ่งแข็งแกรงมากเทาไหรก็ยิ่งเปน
ผลดีตอหมูบานหินผามากเทานั้น
“พวกเจาเติบใหญไปอีกขั้นไหนแลว!” เจาตัวเล็กกลาวยิ้มๆ
ลําตัวของลูกนกยาวเกือบ 3 เมตรแลว แผงเกล็ดของพวกมันสองประกายงดงาม
สองวันมานี้ พวกมันก็กินเลือดเนื้อของทายาทอสูรบรรพกาลเชนกัน และไดรับประโยชน
เปนอยางมาก เปนผลใหพวกมันฉลาดมากยิ่งขึ้น
“ทานผูเฒาขอรับ พวกขาจะไดเขาพิธีอาบชําระเมื่อใดหรือขอรับ?” เด็กๆ จองมอง
อยางอดทนรอไมไหว พวกเขาเห็นเจาตัวเล็กแข็งแกรงปานนี้ ตางก็อิจฉามาก และไม
เกรงกลัววาเนื้อหนังจะเจ็บปวดอีกตอไป
“เริ่มบัดเดี๋ยวนี้เลย แตวาพวกเจาคงไมสามารถทนตอฤทธิ์ยารุนแรงปานนั้นได จะ
ทําเชนนั้นไมได จําตองทําใหเจือจางเสียกอน!” สือยวิ๋นเฟงกลาว
ทันใดนั้น หมูบานหินผาก็เขาสูความโกลาหลอีกครั้ง หมอเดือดใบแลวใบเลา ทั้ง
โลหิตล้ําคาของทายาทอสูรบรรพกาลก็ถูกใชอยางเต็มที่ ผูคนทั้งหมูบานจะไดรับ
ประโยชนกันอยางถวนหนา
ในวันนี้หมูบานหินผาเต็มไปดวยเสียงรองคร่ําครวญ แมวาเด็กเหลานี้จะกัดฟนอยาง
อดทน แตก็ถูกขัดเกลาอยางเจ็บปวดถึงขั้นพูดไมออก เอาแตรองเสียงดังไมหยุดหยอน
ครั้นตะวันลับขอบฟา ทุกอยางก็เสร็จสิ้น เหลาชายฉกรรจก็กินเลือดเนื้อไปบาง
แนนอนวาเด็กๆ ก็ไมตางกัน พวกเขาไมสามารถกลืนกินคําใหญและทําพิธีอาบชําระได
เพราะคนทั่วไปไมมที างจะตานทานได
กระทั่งสองวันผานไป หมูบานหินผาจึงเขาสูความสงบ เนื้อล้ําคาและโลหิตบริสุทธิ์ที่
เหลือถูกปดผนึกอยางมิดชิด มันจะถูกกลั่นกรองอยางชาๆ และไมปลอยใหสิ้นเปลือง
แมแตนิด
ผานการจัดการอยูหลายวัน สือยวิ๋นเฟงนํากระดูกสีขาวขนาดเทาฝามือมาหนึ่งชิ้น
มันคือกระดูกหนาผากที่ซวนหนีไดเหลือรองรอยของอักขระโบราณทิ้งไว ผานการขัด
เกลาอยางยากลําบากมาหลายวันหลายคืนของเหลาชายฉกรรจทั้งหมูบานกวาจะไดมา
และนับวาโชคดี หลังจากที่กระดูกหนาผากเปลงอักขระแลว มันจึงไมเชื่อมตอกับ
ชิ้นสวนทั้งหมด และหลุดออกมานานแลว กลายเปนกระดูกโดดๆ หนึ่งชิ้น มิเชนนั้นคง
ยากที่จะทําใหมันสะเทือน
หัวหนาหมูบานกลาวอยางสุขุมวา “เจาตัวเล็ก ในระยะนี้เจาไมตองทําอะไรทั้งสิ้น
ใหอักขระฝงลงไปในจิตใจของเจาอยางมั่นคง มิเชนนั้นกาลเวลาผานไป ชีวิตของกระดูก
ล้ําคามลายสิ้น รองรอยมหัศจรรยของอักขระก็จะหายไป และละลายลงบนกระดูก มัน
จะเปนไดเพียงกระดูกล้ําคา ไมสามารถไดเคล็ดวิชาล้ําคาจากมันได”
เฉกเชนเดียวกับกําไลเขี้ยวสัตวของหมูบานหมาปาเสนนั้น อักขระและเขี้ยวสัตวสี
ขาวเกาะตัวกัน ไมสามารถยลโฉมสวนที่วิเศษที่สุดได เปนไดเพียงอาวุธเขี้ยวสัตวล้ําคา
แตไมไดรับเคล็ดวิชาจากมัน
เจาตัวเล็กไดยินดังนั้นก็พยักหนาอยางจริงจัง วันนี้ไมตองทําอะไรทัง้ นั้น กํากระดูกสี
ขาวชิ้นนี้และจองมองใหละเอียด เขาจองมองจนตาคาง ดูสนอกสนใจเปนอยางมาก
ถึงแมจะเปนเพียงอักขระเพียงตัวเดียวเทานั้น แตกลับเปนตัวแทนของหนึ่งตระกูล
เคล็ดวิชาตะลึงโลก และรองรอยแปรเปลี่ยนเปนวิเศษอยางตอเนื่อง ราวกับดวงดาว
มากมายบนทองฟาที่แปรผันไมหยุด ทั้งซับซอนและมหัศจรรย กระทั้งกลางดึก เจาตัว
เล็กจึงพยายามจดจําการเปลี่ยนแปลงแตละอยาง ฝงรองรอยลงไปในจิตใจ
“ทานผูเฒา ขาจําไดแลวขอรับ แตวาเคล็ดวิชาของซวนหนีสลับซับซอนมาก ขาไม
เขาใจเสียที” เจาตัวเล็กกลาวตามความจริง
สือยวิ๋นเฟงเงียบ หากสามารถเขาใจไดทันที อยางนั้นก็สามารถสรางความศักดิ์สิทธิ์
ของทายาทอสูรบรรพกาลอีกหนึ่งตัวไดแลวละ ใครก็ทําถึงขั้นนั้นไมได ตองใชเวลาเรียนรู
และกลั่นกรอง
“คอยเปนคอยไป ชาหรือเร็วก็จะบรรลุได ตอนนี้เจาศึกษาเคล็ดวิชาของอสูรบรรพ
กาลใหเขาใจอยาถองแทกอนเถิด มันมากเสียจนเจาจะรับไมไหวเชียวละ จําใสใจไว!”
“เขาใจแลวขอรับทานผูเฒา!”
สองวันผานไป ผูกลากลุมแลวกลุมเลาเรงเดินทางมายังขุนเขา พวกเขาจะเขาไปใน
เทือกเขา มีทั้งตระกูลที่ขี่มาสีเงินเขาเดียว ลูกหลานของตระกูลชั้นสูงที่ยืนอยูบนกระดูก
ชิ้นใหญทบี่ ินต่ําติดพื้น และยังมีบุคคลทรงพลังที่นั่งอยูบนเจียวที่บินมาจากฟากฟา
“อา ทานปูดูนั่นสิ เทพารักษของหมูบานนี่ชางประหลาดเสียจริง ไยจึงเปนตนหลิว
แกที่โดนสายฟาฟาดจนไหมเกรียมเลา เหลือเพียงกานออนเพียงกานเดียว”
ขนนกสีขาวยาวหาหกเมตร ทวมทนไปดวยแสงสีขาวสวยงาม บริสุทธิ์และงดงาม
มาก ดานบนมีชายชราคนหนึ่งกับชายหนุมสองคน และยังมีเด็กสาวงดงามอีกสองคน
สวยงามดุจภูต ลูกตาเกลือกกลิ้งไปมาอยางมีชีวิตชีวา
“ชางเปนเทพารักษที่ประหลาดจริงๆ เปนถึงขั้นนี้แลวยังไมตายอีก เหลือเพียงกาน
ออนเพียงกานเดียว จะตองวิเศษมากแนนอน หลังจากถูกสายฟาโจมตีแลว ก็บมเพาะจน
เกิดพลังใหมที่แข็งแกรงมากที่สุด ตองเปนของล้ําคาที่พบเจอไดยากเปนแนแท กานหลิว
กานนี้เปนของขา!” เด็กหาหกขวบคนหนึ่งกระโดดลงมาจากเจียว ตั้งแตตัวอยูเหนือ
พื้นดินประมาณสิบกวาเมตร
“นี่ชื่อหมูบานอะไร ไยจึงมีเทพารักษเชนนี้กัน?” ภายในของอีกกองทัพหนึ่ง เด็กคน
หนึ่งจดจองไปที่ตนหลิวแกสีดําไหมอยางตะลึง
“ไมชอบมาพากล มันประสบพบเจอกับความหายนะครั้งใหญ เกิดใหมภายใตการ
ถูกทําลาย มีเพียงกานออนเพียงกานเดียวเปนของล้ําคา!” มีคนเอยปากอีกครา
“พวกเจาทั้งหลายตองการจะแยงชิงกับขาอยางนั้นหรือ อยางนั้นก็ลองดูสักตั้ง มาดู
กันวาใครกันแนที่เปนอัจฉริยะอันดับหนึ่ง!” เด็กที่กระโดดลงมาจากเจียวกลาวพลางยิ้ม
เย็น
“เอาสิ อยางนั้นก็ประลองกันสักตั้ง ครั้งนี้ใชของรักเปนเดิมพัน หากมิใชโลหิตล้ํา
คาที่สามารถแปลงรางได ไมตองแสดงความดอยออกมา!”
หลังจากนั้น เหลาผูใหญก็พากันหยุดชะงัก นัยนตาเปนประกายจองไปยังตนหลิวแก
พวกเขาไมคัดคานการประลองของเด็กๆ แมแตนอย แตกลับจะนําโลหิตบริสุทธิ์ออกมา
สนับสนุน
“รบเสียที มาดูกันวาหนึ่งในพวกเจาใครกันที่เปนบุตรแหงสวรรค อีกยี่สิบปใหหลัง
ใครจะเปนผูกําหนดชะตาของแผนดินนี้กันแน”
“แตหามสังหารเทพารักษของผูอื่นละ!”
ผูใหญบางสวนเอยปาก พวกเขาลวนเปนผูกลาที่นากลัว ซึ่งมีชื่อเสียงเขยาโลกหลานี้
บทที่ 34 หมูบ านทีน่ ากลัว
เด็กที่กระโดดลงมาจากเจียวมาจากทะเลสาบแหงสวรรค มีนามวา ‘เจียวเผิง’ แม
จะตัวเล็ก แตดุดันและแข็งแกรงมาก เขากลาวดวยรอยยิ้มเย็นวา “กานหลิวจะตองเปน
ของขา หากไมพอใจก็ลองดู!”
ลูกชายของจื่อซานโหวคนหนึ่งงดงามมาก เขาสุขุมเยือกเย็น เอยปากอยางใจเย็นวา
“เจียวเผิง อยาพูดอะไรบาๆ แมวาจะมีความสามารถอยูบาง แตก็ไมควรโอหังใหมาก
เกรงวาจะสิ้นใจ ณ ดินแดนรกรางแหงนี้” เขามีนามวา ‘จื่อซานคุน’ ไมถูกกับเจียวเผิง
ตั้งแตแรกพบ บวกกับทั้งสองตระกูลไมปรองดองกัน ดังนั้นจึงปะทะกันแบบตาตอตา ฟน
ตอฟนมาโดยตลอด
“อยางนั้นก็ลองสูกันสักครา ตัดสินความเปนความตาย เจากลาไหมละ?” น้ําเสียง
ของเจียวเผิงทรงพลัง ในดวงตาสองแสงเยือกเย็น ดุดันราวกับทายาทของครุฑสีทอง
บรรพกาล
“ทะเลาะอะไรกัน พวกเจาเงียบกันหนอย!” อีกฟากหนึ่ง เด็กที่โตกวาหนอย
นัยนตามีกระแสไฟฟา บนศีรษะกระจายไอดํากวาดผานไปอยางเยือกเย็น เขามาจาก
แผนดินของตระกูลขุนนางชั้นสูง เปนทายาทของเหลยโหว มีนามวา ‘เหลยหมิงหยวน’
เดิมทีเขาจะปะทะกับจื่อซานคุน ทายาทของจื่อซานโหว แตพอเห็นเจียวเผิงโอหังอวดดี
จึงทําใหเขาโมโหมาก
เจียวเผิงกับจื่อซานคุนไดยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว ตางก็เปนอัจฉริยะกันทั้งนั้น โดยปกติก็
จะพูดยกยองความมั่นใจของตน ไมเคยกมหัวใหใคร
“เหลยหมิงหยวน เจารนหาที่ตายรึ?!” เฟยเจียวอายุยังนอย แตกลับมีอํานาจ
เหลือลน เขากาวออกไปขางหนาเพียงกาวเดียว ผืนดินก็เกิดเสียงดังตูม ราวกับสิ่งมีชีวิต
ขนาดใหญขยับเขยื้อน
“หุบปาก!” จื่อซานคุนกลาวตะโกนอยางเถรตรง พวกเขากับตระกูลสายฟามี
ความแคนเคืองดั้งเดิมกัน ทุกคราที่พบหนากันไมเคยปรองดองกันเลย หลายปมานี้
แมวาจะประนีประนอมกัน แตก็ยังทําสงครามอยางลับๆ ดังเชนเมื่อกอน
“สูกันยกหนึ่งใหรูดาํ รูแดงกันไปเลย!” เหลยหมิงหยวนตะโกนบอก เขากระโดด
ลอยตัวขึ้นสูงถึงยี่สิบกวาเมตร จากนั้นลอยพาดผานอากาศ หัวอยูดานหนาขาอยู
ดานหลัง ฟาดเขาไปที่จื่อซานคุนหนึ่งฝามือ ทายที่สุดเขาก็จะยังทําตามคําสั่งของบิดา
หมัดพายุของเขาเปนสีดํา ปลอยเสียงดังพั่บพับ่ มันคือการผสมผสานสายฟาเขาไป
สุดทายกลายเปนลําแสงสีดําแนนขนัดเปนวงกวาง จากนั้นดิ่งลงสูพื้นดิน
เขาเปนเพียงเด็กคนหนึ่งเทานั้น แตกลับมีพลังเชนนี้ อักขระประหลาดหนึ่งตัว
ปรากฏขึ้นกลางฝามือของเขา มันคือความหมายลึกซึ้งของคําวาสายฟา เปนความลับที่
ไมพรางพรายออกไปของตระกูลนี้ เปนเคล็ดวิชาที่พบเจอไดยากชนิดหนึ่ง!
“วิ้ว”
ไอสีมวงแผซาน จื่อซานคุนยกมือขวาขึ้นมาตอตาน บนฝามือมีอักขระสองแสงวูบ
วาบ แสงอันโชติชวงพุงทะลักออกมาเปนวงกวาง กลายเปนตะวันสีมวงหนึ่งดวง และพุง
ออกไปดานหนา
นี่ก็เปนเคล็ดวิชาล้ําคาที่นากลัวอยางหนึ่งเชนเดียวกัน ถือเปนเคล็ดวิชาที่มีเฉพาะใน
ขุนเขาสีมวง บําเพ็ญตบะจนถึงขั้นสูงสุด จนความนาเกรงขามสะเทือนแผนฟา สะทาน
ตะวันจันทราขุนเขาและธารา
ทั้งสองปะทะกัน สายฟาสีดํากับแสงสีมวงปะทุขึ้น แตกกระจายเปนอักขระ ทิ้ง
รองรอยไวกลางอากาศเปนบริเวณกวาง ชางเปนเหตุการณที่นากลัว
“ใครเปนอัจฉริยะอันดับหนึ่งกัน? อยาลืมสิวายังมีขาดวย!” เจียวเผิงจูโจมทันที
กําลังฝามือของเขานากลัวมาก มีอักขระปรากฏขึ้นบนฝามือซายวูบหนึ่ง มีเจียวหนึ่ง
ตัวโผลออกมา ทั้งหมดนี้เกิดจากแสง นี่ไมใชเจียวเลือดผสม แตเปนรองรอยแหลก
ละเอียดของเจียวบรรพกาลขนานแท กลิ่นอายความนากลัวแผซาน
ตนตระกูลของทะเลสาบแหงสวรรคเคยเห็นเจียวบรรพกาล และไดรับทายาทของ
มันอยางคาดไมถึง ทําใหมีเคล็ดวิชาล้ําคาที่แข็งแกรงของตระกูลเจียว แมวาคนรุนหลัง
จะไมสามารถสําแดงอิทธิฤทธิ์นี้ได แตแคนี้ก็นากลัวมากแลว
เจียวตัวนี้กางกรงเล็บออก ทั้งตัวของมันเปนสีน้ําตาลหมน ผานโลกมาอยางโชกโชน
ราวกับฟนคืนชีพจากครั้งดึกดําบรรพ ขามมิติมารวมสูศึกครั้งนี้!
เคล็ดวิชาอันนี้แข็งแกรงมาก ในขณะเดียวกันก็พุงโจมตีไปทางจื่อซานคุนและเหลย
หมิงหยวนสองคน เจียวเผิงตัวเล็กมาก แตกลับหยาบกระดางมาก เขาจะสูหนึ่งตอสอง
เพื่อพิสูจนวาตัวเองเปน ผูมีพรสวรรคที่สวรรคประทานอยางแทจริง
“รนหาที่ตายจริงๆ!” เหลยหมิงหยวนตําหนิอยางเยือกเย็น สายฟาสีดําพุงขึ้น นิ้วทั้ง
สิบนิ้วกางออก ปลอยแสงสีดําทมิฬออกมาพรอมกัน ทําใหลําแสงสวางไสวมากขึ้น ใน
ขณะเดียวกันก็ตามมาดวยเสียงคํารามแผวเบา นกรายตัวหนึ่งที่นา เกรงขามเปนอยาง
มากปรากฏขึ้นกลางแสงไฟแลวบินโฉบผานไป
จื่อซานคุนก็ลงมือแลวเชนกัน ไอสีมวงขมุกขมัว ขณะที่ตะวันหนึ่งดวงลอยออกมา ก็
มีกิเลนไฟปลอยเปลวไฟสีมวงนากลัวออกมา จากนั้นกระโดดลอยขึ้น นากลัวอยางหา
ที่สุดไมได
และเชนนี้เอง เด็กสามคนสูรบกันนัว ตางฝายตางจูโจม ดึงดูดใหผูคนชายตามอง
แมวาอายุยังไมมาก ทวาแตละคนกลับยิ่งใหญมาก ทําใหผูอาวุโสของพวกเขาพยัก
หนากับตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ตกใจกับทายาทของคูตอสูดวยเชนกัน
“ชางนาเบื่อเสียจริง ไมไดเขนฆากันจริงเสียหนอย มีคนแกพวกนั้นอยูดวย ไมมีทาง
ปลอยใหทําอะไรตามอําเภอใจหรอก” เด็กขางๆที่ดูการตอสูอยูเบะปาก
“นั่นนะสิ ผูที่มีพรสวรรคอยางแทจริงจะเกิดขึ้นในสนามรบของการตอสูแตละ
ตระกูลใหญ ของพันธุนี้จะไปนับไดอยางไร” เด็กอีกคนพูดตอ
“พวกเจาวาอยางไรนะ นี่ก็เปนสงครามตัดสินความเปนตายเชนกัน” เด็กสามคนที่
กําลังสูรบกันอยูโมโหเปนอยางมาก พวกเขาขยายอาณาเขตของการตอสู โดยการลาก
เด็กสองคนนี้เขาไปดวย
นี่เปนสงครามตะลุมบอน แมวาอายุยังเยาวนัก แตก็นาทึ่งกันมาก แสดงใหเห็นถึง
พรสวรรคที่นากลัวเปนอยางมาก สงผลใหผูคนที่มองดูอยูตางก็ตกตะลึง
ภายในหมูบานหินผา กลุมเด็กซนกําลังเลนกันอยู ถูกความโกลาหลในผืนปาทําให
ตกใจ พวกเขาวิ่งไปยังหนาหมูบาน มองเห็นคนมากมายอยูในผืนปาก็ตื่นตระหนกตกใจ
สายตาถูกดึงดูดใหมองไปยังตรงนั้น
“ไฉนจึงมีผูคนมากมายถึงเพียงนี้?”
พวกเขามองเห็นการตอสูของเจียวเผิงและคนอื่นๆ ก็พากันพูดไมออก คนพวกนั้น
ควบคุมพลังของอักขระกระดูกไดดีขนาดนี้ ทําใหพวกเขาอิจฉาเปนอยางมาก จุดสนใจ
ของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอยางรวดเร็ว มองเห็นหลินหมา[1]กลายพันธุ ซึ่งเปนสัตวเขา
เดียว แผลเกล็ดทั่วทั้งลําตัวเปลงแสงสีเงินระยิบระยับ เขาเดี่ยวบนหัวสวางไสว ทวงทา
ทรงพลังอยางยิ่ง
“ขาไดยินทานลุงหลินหูเลาวา สัตวปาแบบนี้วิ่งไดไวมาก ในวันหนึ่งสามารถวิ่งได
หมื่นลี้เชียวละ ครั้งกอนพวกเขาเห็นในดินแดนรกราง ตามไลลาอยูหลายวัน ทวาแมแต
ขนสักเสนก็ไมไดแตะ” สือตาจวงกลาว
ไยผูกลากลางผืนปาเหลานั้นจึงความรูสึกไวปานนี้ กลับไดยินเสียอยางนั้น เมื่อไดฟง
อยางนั้นตางก็ตะลึงงัน ตามความเขาใจของพวกเขา ที่นี่เปนหมูบานปาที่ลาหลัง ไมมี
ทางที่จะมีผูมีฝมืออะไรทํานองนั้น แตทวาคําพูดของเด็กพวกนี้กลับทําใหพวกเขา
ประหลาดใจ สัตวประหลาดเขาเดียวไมใชสัตวประหลาดธรรมดาทั่วไป จําเปนตองบา
ระห่ําเปนอยางมาก จึงจะถือไดวา ‘ดุราย’ พละกําลังมหาศาล คนไมกี่คนในหมูบานปา
เขากลาไลตามรึ?
พวกเขารูเสียที่ไหน ครั้งนั้น สือหลินหูและคนอื่นขออาวุธจากบรรพบุรุษสองชิ้นมา
จากหัวหนาหมูบาน จึงกลาไลลาอยางบาคลั่ง มาเขาเดียวที่เดินเหินไดหมื่นลี้ตอวัน
สําหรับชายฉกรรจในดินแดนรกรางแลวนั้น ถือวาเปนสิ่งลอลวงที่ยากจะตานทานได
“พวกเจาดูสิ มีเจียวตัวหนึ่งลอยอยูกลางฟากฟาแนะ ยาวยี่สิบกวาเมตร ลําตัวหนา
เทาเหยือกน้ํา แถมยังมีปกงอกออกมาดวย สัตวประหลาดที่รายกาจปานนี้... ตองอรอย
มากแนเลย”
“เออรเหมิง เจาคนตะกละ ของแบบนี้มีไวใหกินหรืออยางไร ของสิ่งนี้นํามากลั่น
โอสถตางหากเลา แมวาจะเปนทายาทเลือดผสม โลหิตของมันก็มีคามากเชนกัน” ผีโหว
พูดสวน
ทางดานนอกของหมูบาน เหลาผูกลานิ่งอึ้งเล็กนอย เจียวที่แข็งแกรงปานนี้ กลับเอา
มารับประทาน กลั่นเปนโอสถรึ นี่เปนหมูบานแบบไหนกันนะ
“เจียวตัวนี้มองดูแลวนาอรอยจริงๆ แตคงไมหอมหวานเทาเนื้อของซวนหนี มันไมใช
ทายาทอสูรบรรพกาล โลหิตของมันคงจะเทียบไมได” เด็กขี้มูกโปงอีกคนพูดเสริม
ไมกี่วันมานี้ พวกเขากินทั้งเนื้อซวนหนี ทั้งใชเลือดบริสุทธิ์มาทําพิธีอาบชําระ ความ
ตองการจึงเพิ่มสูงขึ้นชั่วขณะ นึกวาพวกตนพูดคุยกันเสียงเบา แตกลับถูกผูกลาเหลานั้น
ไดยินเขาเสียแลว
ไมวาจะเปนตระกูลขุนเขาสีมวง ตระกูลสายฟา หรือแมแตตระกูลเจียวที่มาจาก
ทะเลสาบแหงสวรรค ตางก็เกิดความมึนงง นี่พวกเขาไดยินผิดไปรึเปลา?
หมูบานนี้มันเปนมาอยางไรกัน? กินเนื้อซวนหนีกันอยางงายดาย เกิดอะไรขึ้น ไม
สนใจเฟยเจียวที่ยิ่งใหญตัวนี้อยางนั้นหรือ? ตองเขาใจวานี่เปนถึงสัตวประหลาดดุรายที่
นากลัวอยางที่สุด ผูกลาทั่วไปไมใชคูตอสูของมัน
“เจาเด็กบานปา เจาพูดพลามอะไรนะ?” เจียวเผิงที่กําลังตอสูอยูโกรธมาก นัยนตา
เยือกเย็น มีลําแสงนากลัวสองสายออกมาจากดวงตา จดจองไปยังปากทางเขาหมูบาน
“ดวงตาเฉียบคมเสียจริง ใหความรูสึกเยือกเย็น ขาคิดวาเทียบไดกับเทพารักษที่
สังหารไปครั้งกอน หมาปาดุรายตัวนั้น พลังใกลเคียงกันนะวาไหม?” เออรเหมิงบน
พึมพํา เขานึกวาพูดเสียงเบามากแลว แตก็ถูกผูคนภายในผืนปาไดยินเขาแลว
อะไรนะ? สังหารเทพารักษร?ึ ภายในใจของเหลาผูกลาสั่นสะทานอีกครั้ง เกือบจะ
กลายเปนหิน เพราะพวกเขาเองก็ไมยินยอมที่จะยั่วยุเทพารักษ แมแตคนของทะเลสาบ
แหงสวรรคปลิดชีพเทพารักษ ก็ตองระมัดระวังเปนอยางมาก
เพราะวา เบื้องหลังของสิ่งมีชีวิตเหลานั้น อาจจะมีเทพเจาโบราณที่นากลัว และที่
ปรากฏตัวเพียงลําพัง ก็เพียงเพราะตองการเขาสูนิพพาน และปรารถนาเพียงหลุดพน
จากหนทางของเทพเจาโบราณเทานั้น
“นาเสียดายไมทันไดกินเทพารักษตัวนั้นก็กลายเปนเถาถานเสียแลว” ผีโหวเสียดาย
ผูคนนิ่งอึ้ง นี่เปนหมูบานที่นากลัวเปนอยางมาก ทําไมรูสึกไมชอบมาพากละ? ฝูงชน
รูสึกมึนงงเล็กนอย
“ขาอยากจะบาตาย เจาเด็กบานปาพวกนี้ อยากตายรึไง?!” เจียวเผิงโมโหที่ถกู
หมางเมิน
“โอโห ดุจริงเชียว!”
“เอะ เจาทึ่มนั้นไดยินที่พวกเรากําลังวามันอยางนั้นเหรอ?” ผีโหวสงสัย นี่อยูไกลกัน
มากนะ!
เสียงหัวเราะคิกคักนาฟงดังแววมา เด็กสาวสองคนยืนหัวเราะจนตัวโกงอยูบนขนนก
หิมะที่ลอยควางกลางอากาศ หัวเราะอยางชื่นมื่น แมวาการแตงกายของพวกเธอจะไม
เหมือนกัน แตหนาตาเหมือนกัน ผิวขาวสะอาดกระจางใส งดงามเปนอยางมาก ดวง
ตาโตชําเลืองไปมา มีชีวิตชีวามาก
“นาสนใจจริงๆ ตะลึงธรรมชาติ หรือแกลงทํากันนะ?”
“แนนอนวาแกลงทํา รีบทําใหเจียวเผิงคลั่งตายเร็วเขา”
เด็กสาวสองคนหัวเราะคิกคักไมหยุด แมอายุยังนอย แตเห็นไดชัดวาเปนสาวงาม
แหงยุค ดวงตาเปลงประกาย ขนตายาวเปนแพ พรางพราวและนารัก
ผูอาวุโสของตระกูลสายฟา ตระกูลขุนเขาสีมวงและตระกูลอื่นๆ ออกหนา ใหเด็กๆ
ยั้งมือ ไมตอสูอีกตอไป อยากจะขอดูใหชัดวาหมูบานประหลาดมันเปนอยางไรกันแน
เปนตระกูลลับแลอันนากลัว ที่ไดรับการสืบทอดมาจากโบราณกาลจริงๆ อยางนั้นหรือ?
“เจาพวกเด็กบานปา กลาหัวเราะเยาะขารึ!”
หลังจากสงครามยุติลง เจียวเผิงขยับแขนคูนั้น กระโดดขึ้นสูงเกือบ 20 เมตร ราว
กับอสูรปกษาตัวหนึ่ง มุงหนาไปยังปากทางหมูบาน หวังจะจัดการเด็กเหลานี้
ณ บานหินที่อยูตรงปากทางเขาหมูบาน เจาตัวเล็กที่มีรูปโฉมงดงามและออนเยาววิ่ง
ออกมา เขาพูดวา “อา ไยผูคนจึงมากันมากมายเพียงนี้?”
“เฮย เจาตัวเล็ก เจายังแอบดื่มนมอยูอีกเหรอ เมื่อไหรจะหยานมเสียที?” เด็กๆ พา
กันหัวเราะเยาะ เมื่อพบวาตรงมุมปากของเจาตัวเล็กเลอะคราบนม
“ไมนะ ไมนะ พวกเจาดูผิดไป!” เจาตัวเล็กรีบเช็ดปาก และไมยอมรับ เขารีบซอน
มือที่เปอนคราบนมไวดานหลัง ดวงตากลมโตดําสนิทเกลือกกลิ้งไปมาอยางมีชีวิตชีวา
“ชางเปนเด็กที่นารักเสียจริง” เด็กสาวสองคนบนขนนกหิมะตะลึงงัน เมื่อเห็นเจาตัว
เล็กที่คลายกับตุกตากระเบื้องเคลือบ ไรเดียงสาเปนอยางมาก ตางก็หัวเราะกันขึ้นมา
ในเวลานี้เอง เจียวเผิงก็มาถึงบริเวณใกลเคียง เงื้อฝามือขึ้นจะฟาดลงมา เกิดเสียง
ลมหวีดหวิว ฝามือที่มีแรงเกือบพันชั่ง นากลัวอยางยิ่ง!
“อา พี่ชาย ทานจะทําอะไรหรือ?” เจาตัวเล็กเบิกตากวางเมื่อพบความผิดปกติ
พละกําลังของเจียวเผิงแข็งแกรงเกินไป คาดไมถึงวาจะพุงโจมตีพวกเออรเหมิงและผีโหว
เขารีบรุดไปขางหนา พลันบรรยากาศก็เปลี่ยนไป ยื่นมือเล็กๆ ที่ขาวและออนเยาว
ออกไป เกิดเสียงพายุและสายฟาคําราม และปะทะเขากับฝามือของเจียวเผิง
“ตูม!”
เม็ดทรายปลิววอน กอนหินกระจัดกระจาย เจาตัวเล็กยืนนิ่งอยูตรงนัน้ แตเจียวเผิง
ถอยโซซัดโซเซ ทั้งตัวราวกับถูกสายฟาจูโจม ทุกกาวที่เหยียบยางลง จะทิ้งรอยแตกนา
กลัวขนาดใหญลงบนพื้นดิน ตัวสั่นเทา ถอยแลวถอยอีกจนหางออกไปสิบกวาเมตร จน
เกือบจะลมลงบนพื้น
“โอโห ชางเปนเด็กที่รายกาจเสียจริง!” เด็กสาวสองคนนัยนตาเปนประกาย
กระโดดลงจากขนนกหิมะ และวิ่งเขาไปประชิด อยากจะบีบแกมของเจาตัวเล็ก
เจาตัวเล็กถอยหลังอยางขวยเขิน ดวงตาโตสุกใสกะพริบปริบๆ มองไปยังเจียวเผิง
แลวพูดวา “พี่ชาย ทานทําอยางนี้มันไมถูกตองนะ”
ตรงมุมปากของเขายังเลอะคราบนมบางสวนที่ถูกเช็ดออกไมหมด ดวงตาประหนึ่ง
หินหยกสีดําเปลงประกาย บวกกับความรูสึกที่จริงจัง ทําใหเด็กสาวที่สวยงามดุจภูตชอบ
ใจเขามากขึ้น อยากจะแกลงเขา
ทางดานหลัง เหลาผูกลานิ่งเปนหิน นี่เปนเพียงเด็กที่ยังไมหยานม เพียงแคฝามือ
เดียวก็ทําใหอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงเลื่องลืออยางเจียวเผิง กลิ้งหลุนหลุนออกไปทั้งเปน
เชนนั้น เจอผีแลว!
นี่เปนหมูบานนากลัวประเภทไหนกัน? ผูคนตะลึงพรึงเพริด จนพูดคําใดไมออก
..............................
[1] หลินหมา เปนทายาทรุนหลังของอสูรบรรพกาล รูปเปนมา มีเกล็ดขึ้นปกคลุม
ทั่วตัว มีเขางอกขึ้นบนหัว
บทที่ 35 งุนงง
กลุมคนแนนิ่งกลายเปนหิน ไมสามารถเอยวาจาใดได เหตุการณนี้ทําใหคนตะลึงเปน
อยางมาก
“อา...”
แขนของเจียวเผิงสั่นเทิ้มเล็กนอย เขารูสึกเหมือนกับชนเขากับลําตัวของโหว
เจ็บปวดราวกับกระดูกแตกหัก เขาไมคาดคิดแมแตนิดวา เด็กที่มุมปากเลอะคราบนมคน
หนึ่ง เกือบจะทําใหเขาลมลงไปกองกับพื้น
ผูคนทั้งหมดตางหวาดกลัว นี่เปนหมูบานรกรางจริงๆ อยางนั้นหรือ? มันคลายคลึง
กับตระกูลที่สืบทอดมาแตโบราณที่ซอนตัวจากโลกภายนอกเสียมากกวา!
ผูคนมากมายพากันหวาดกลัว ถาหากวาเปนความจริง มันก็จะนากลัวเปนอยางมาก
ตระกูลลับแลแยกตัวมาอาศัยอยูทามกลางดินแดนรกรางในปาลึกอยางสันโดษ แม
จํานวนประชากรจะมีไมมาก ทวาแตละคนก็เปนผูกลาที่นาหวาดกลัว
เด็กสาวที่เปนดั่งภูตสองคนเดินรุดไปขางหนา นัยนตามีชีวิตชีวา ใบหนารูปไข
ประดับดวยรอยยิ้ม หนาผากขาวสวางมีแสงแหงปญหา หนึ่งในเด็กสาวเอยถามวา
“นองชาย เจาอายุเทาไหรแลว?”
“จวนจะสี่ขวบแลวขอรับ” ดวงตาโตของเจาตัวเล็กมีชีวิตชีวา สุกใสแวววาวมาก เขา
ตอบกลับอยางจริงจัง ในขณะเดียวกันก็รีบเช็ดคราบนมตรงมุมปาก เขายังคงปดบังอยู
อยางนั้น
อะไรนะ เด็กนี่อายุเพียงสามขวบกวายังไมครบสี่ขวบเหรอ? ทําใหประหลาดใจอยาง
หลีกเลี่ยงไมได สิ่งนี้ทําใหทุกคนนิ่งสงบกันตอไปไมไหวแลว เกิดเสียงอาปากสูดลมหายใจ
เฮือกใหญไปทั่วบริเวณ
ภายในดวงตาของเจียวเผิงเปลงแสงราวกับสัตวปา สีหนาไมดีเปนอยางมาก เขา
ตองการจะใชเคล็ดวิชาล้ําคาอันแข็งแกรงของตระกูลโดยทันที หนึ่งฝามือกดเจาตัวเล็ก
ใหจมลงไปในดิน
“เอาอีก!” เขาไมไดสําแดงอิทธิฤทธิ์ของเคล็ดวิชาแหงตระกูลเจียว ยังคงใชกําลัง
จากกายเนื้อเชนเดิม พุงไปขางหนาอยางบาคลั่ง หมัดพายุคําราม ตนไมใกลเคียงสั่นโยก
อยางรุนแรง ใบไมทั้งหมดรวงโรยลงมาเปนกอบกํา
เสมือนวาสัตวประหลาดดุรายขนาดใหญทามกลางเทือกเขากวางใหญไพศาลกาว
เดิน มันนําเอาพายุคลั่งตามไปดวย การเคลื่อนที่ของเจียวเผิงนาตกตะลึง เขากระโจนใส
เจาตัวเล็ก!
“พี่ชาย ไยตองรังแกขาดวยเลา?” เจาตัวเล็กไมเขาใจ ดวงตากลมโตเฉียบคมที่
บริสุทธิ์และไรเดียงสา จดจองไปยังเจียวเผิง จากนั้นกางแขนฟาดลงไปขางหนา
“ปง!”
ครานี้ ฝูงชนมองเห็นไดอยางชัดเจนวา สิ่งที่เด็กที่นารักคนนี้ใชเปนเพียงพละกําลัง
จากกายเนื้ออยางแทจริง ไมไดผสมอํานาจลึกลับของเคล็ดวิชาล้ําคาแมแตนิด เขาเพียง
ผลักมันออกไปเชนนั้น แตทวา เขามีพลังที่ยิ่งใหญ ความแข็งแกรงอันดุดัน ที่ทําใหผูคน
อาปากคาง เสียงโครมดังทําใหเจียวเผิงสะเทือนจนลาถอย
อัจฉริยะผูมาจากทะเลสาบแหงสวรรคถอยหลังอยางตอเนื่อง ยามที่ทิ้งฝเทาลงบน
พื้นดิน เกิดรอยแยกที่แตกออกเปนทางแลวทางเลา ทอนแขนของเขากําลังกระตุก มัน
เจ็บปวดจนเขาตองรองครวญครางออกมา
“แข็งแกรงมาก!” เจียวเผิงกัดฟนแนน เผยแววตาที่คาดเดาไมออก ครั้งนี้ชางอับ
อายขายขี้หนา ไมคิดวาจะถูกเด็กที่ยังดื่มนมควบคุมไวได ใบหนาของเขารอนผาว
“ฮาๆ...” เหลยหมิงหยวนที่อายุหกขวบกวากําลังมีความสุขบนความทุกขของผูอื่น
เขาหัวเราะจนตัวโกงงอ
แตนอกเหนือจากเขาแลว คนอื่นๆ กลับไมมีแมแตทีทาวาจะหัวเราะ หากเรียกเจียว
เผิงเปนอัจฉริยะ แลวเด็กที่ยังไมหยานมคนนี้เรียกวาอะไรละ?
“ศักยภาพของเด็กคนนี้นาตกตะลึงจริงๆ หากวาเขาสูสนามรบแหงการประลองของ
แตละตระกูล ไมแนวาอาจจะ...” มีคนพูดเสียงเบา
เด็กๆ ที่ไดฟงดังนั้นก็สั่นระริก จดจองไปยังเจาตัวเล็กอยางไมลดละ อัจฉริยะเฉก
เชนพวกเขาถูกกําหนดใหเขารวมสนามรบอันนากลัวนั่น จะชาหรือเร็วก็ตองมีสักวันที่
ตองเผชิญหนากับมัน
“แคก... “จื่อซานโซว ทานอาของจื่อซานโหวกระแอม เขามีศักดิ์สูงมาก และมี
อํานาจที่ยิ่งใหญ แตในตอนนี้กลับเอยปากดวยสีหนาที่เมตตาวา” ลูกเอย หมูบานนี้มีชื่อ
วาอะไร?”
“หมูบานหินผาของรับ” เจาตัวเล็กตอบเสียงดังฟงชัด
“ขอพวกขาเขาไปนั่งพักชั่วครู ดื่มน้ําสักจิบไดไหม?” จื่อซานโซวเอยถามอยางเปน
มิตร
ในตอนนี้เจียวเผิงถูกชายวัยกลางคนของทะเลสาบแหงสวรรคฉุดรั้งไว ไมใหเขา
หุนหันพลันแลน แตตระกูลอื่นๆ ตางก็พากันเดินไปขางหนา ตองการจะสํารวจหมูบาน
ประหลาดนี้ใหชัดเจน
“นารักเหลือเกิน” เด็กสาวเสมือนภูตสองคนยืนอยูกับเจาตัวเล็กอยูนานแลว พวก
เธอชอบหยิกใบหนาเล็กๆ นั่นเปนอยางมาก
“พี่สาว พวกทานกําลังทําอะไรนะ?” เสี่ยวสือฮาวหลบซอนตัว
“พาพวกขาเขาไปชมภายในหมูบานไดรึไม?” เด็กสาวสองคนเอยถาม
“เจาตัวเล็กเกิดอะไรขึ้น?” ผูใหญของหมูบานปรากฏตัว และมุงหนามายังผืนปา
ในที่สุด เหลาผูกลาที่มาจากตระกูลขุนเขาสีมวง และทะเลสาบแหงสวรรคก็ไดเขาไป
ยังหมูบานหินผาแลว พวกเขามองไปทั่ว โดยเฉพาะตนหลิวเกาแกที่ไดรับความสนใจมาก
เปนพิเศษ
แตทวา ตนหลิวสีดําเกรียมกลับไมขยับเขยื้อนแมแตนอย แมแตผูคนที่ผานไปมา
อยางเงียบเชียบ มันก็ไมสนใจ
เมื่อเดินเขาไปกลางหมูบาน ผูกลาเหลานี้ตางพากันสงสัย บานหิน ทางเดินหินเขียว
เหลานี้มองดูแลวธรรมดามาก ไมมีสิ่งใดเปนพิเศษ แทบจะไมแตกตางจากหมูบานรกราง
อื่นเลย
“เอะ หมอสําริดใบนี้เกาแกมาก คาดวาประสบกับกาลเวลาที่ยาวนาน หลายยุค
หลายสมัยแลว” จื่อซานโซวมาจากดินแดนของผูปกครองชั้นสูง และมีศักดิ์เปนปูของ
ตระกูลผูปกครองชั้นสูง จึงมีความรูกวางขวางเปนปกติ
หมอสําริดหลายใบในหมูบานเต็มไปดวยมนตเสนหแบบโบราณ สลักลวดลายวิหค
มัจฉาแมลงเปนตน เรียบงายและเปนธรรมชาติ กอใหเกิดความสนใจจากผูคนมากมาย
“ดูเหมือนวาหมอสําริดเหลานี้จะไมธรรมดา ปรกติพวกทานใชทําอะไรอยางนั้น
หรือ?” เจียวชาง ชายวัยกลางคนผูมาจากทะเลสาบแหงสวรรคเอยถาม
“ออ ใชในการฝกพละกําลังขอรับ” เออรเหมิงตอบ พูดพลางยกหมอสําริดหนักพัน
ชั่งขึ้นเหนือหัว
หัวใจของผูคนมากมายเตนรัว เด็กอายุเพียงแปดเกาขวบชูหมอสําริดหนักพันชั่งได
อยางงายดาย แมในตระกูลใหญถือเปนเรื่องธรรมดา แตสําหรับหมูบานปาเล็กๆ นั้นถือ
วายอดเยี่ยมมาก
ยิ่งไปกวานั้น เหมือนวาเด็กพวกนี้ตางก็ไมธรรมดา
ผูกลาเหลานี้เกิดความสงสัยอีกครา หรือนี่จะเปนหมูบานลับแลจริงๆ? ชางลึกลับ
เสียจริง!
เดิมทีเออรเหมิงเองเกือบจะยกหมอสําริดหนักพันชั่งไดอยูแ ลว หลังจากผานการ
อาบโลหิตบริสุทธิ์ของซวนหนี พละกําลังก็เพิ่มขึ้นเปนเทาตัว และเมื่อทําเรื่องนี้อีกครั้งจึง
สบายขึ้นไมนอยเลย
ทวาผูกลาเหลานี้กลับไมทราบ คิดวาเด็กทุกคนตางก็เปนเชนเดียวกัน ในตระกูลของ
พวกเขา อัจฉริยะนั้นมีจํากัด ไมใชวาเด็กทุกคนจะเหมือนเจียวเผิงหรือจือ่ ซานคุน
เด็กสวนมากยังเทียบเออรเหมิงไมติด เด็กอายุแปดเกาขวบมีพละกําลังมากถึงเพียง
นี้ ถือวาคอนขางยอดเยี่ยมแลว
“ทานลุง เฟยเจียวที่ทานนํามาดวยตัวนั้นเอาไวกิน หรือนํามากลั่นเลือดบริสุทธิ์หรือ
ขอรับ?” เออรเหมิงเอยถามดวยความซื่อ
“เจาเด็กโง เจาจะไปรูอะไร? อยาพูดจาซีซัว! “บิดาของเออรเหมิงฟาดฉาดใหญเขา
ที่หัวของเขาดังปาบแลวพูดวา” เจียวดุรายเชนนี้พบเจอไดยากมาก คงเพิ่งจะถูกฝกให
เชื่องสินะ อยากจะเอากลับบานไปเลี้ยงดูใหมันคลอดลูกเจียวออกมาครอกแลวครอกเลา
จากนั้นเก็บไวกินหรือไมก็กลั่นเอาโลหิตบริสุทธิ์ อยางนี้จึงจะเปนแผนการระยะยาว”
คนจากทะเลสาบแหงสวรรครูสึกหดหูใจ แตเดิมที่เห็นชายฉรรจหยาบกระดางคนนี้
สั่งสอนลูกนั้น นึกวาเขาจะพูดจามีหลักการ แตผลกลับเปนคําพูดที่ปาเถื่อน คนใน
หมูบานนี้ผิดปกติกันหมดอยางนั้นรึ?
นี่ไมใชหมูปา ไมใชวัวดิน และไมใชอาหาร แตเปนสัตวประหลาดที่แข็งแกรงเปน
อยางมาก นาเกรงกลัวเปนที่สุด ผูใดจะทําลายใหเสียของกันละ?
นัยนตาของทุกคนเปนประกาย จดจองไปที่บิดาของเออรเหมิง หวังจะดูใหละเอียด
แตกลับไมเห็นพลังของอักขระปรากฏอยูเลย หรือวาเขากําลังกลบเกลื่อน เพื่อเก็บซอน
ความเปนตัวเองอยางนั้นหรือ?
“หมอสําริดใบนี้มีกลิ่นอายความดุรายรุนแรงมาก คงจะเปอนเลือดของทายาทอสูร
เมื่อไมนานมานี้กระมัง?!”
บุตรคนที่สี่ของเหลยโหวเปนชายหนุมวัยยี่สิบกวาป มีนามวา ‘เหลยยวิ๋นคุน’
ทวงทาสงาผาเผย รูปรางสูงใหญกํายํา ในดวงตามีสายฟาสีดําปรากฏใหเห็น ปรารถนาที่
จะเดินออกไปยืนอยูตรงหนาหมอตมยาพวกนั้น เขาเผยสีหนาตกตะลึง
กลุมคนพากันเดินตามขึ้นมา หลับตาลงแลวใชความรูสึกสัมผัสอยางละเอียด แต
หลังจากนั้น ทุกคนก็ลืมตาดวยความตกใจ จะตองเปนราชาแหงสัตวประหลาดอันนา
กลัว ไมนึกเลยวาจะมาตายที่นี่!
“พวกทานคงไมไดเคี่ยวทายาทอสูรบรรพกาลหรอกใชไหม?” เด็กเจียวเผิงที่เสีย
เกียรติและกลัดกลุมใจมากเมื่อครู ในเวลานี้เอยปากถามอยางอดไมได
“ตะลึงละสิ?” เด็กขี้มูกโปงอายุคอนขางนอยไมชอบหนาเจียวเผิง หลังจากไดยินก็ใช
นิสัยเด็กๆ พูดจาเชนนี้ออกไป
“สัตวประหลาดตัวไหน?” อัจฉริยะจือ่ ซานคุนกลาวดวยสีหนาประหลาดใจ
“ซวนหนีตัวหนึ่ง แข็งแกรงมาก” เด็กขี้มูกโปงพูดโพลงออกมา
“เจาเด็กโง!” บิดาของเขาเอ็ดเสียงเบา แตก็ไมทันการณเสียแลว ความจริงเผยออก
มาแลว
เด็กขี้มูกโปงเพิ่งจะนึกไดวาคนในหมูบานย้ําอยูบอยครั้งวา เรื่องของทายาทอสูร
บรรพกาลจะพูดซีซัวไมได มิเชนนั้นอาจจะมีหายนะมาเยือน ในตอนนั้นรูสึกวาตนเขลา
มาก จึงพูดเสียงเบาวา “ขาลืมไป ทานผูเฒาบอกใหเงียบไว”
ทันใดนั้น ผูกลาที่ไดยินกับหู คําพูดนี้ลึกซึ้ง กระตุนความสนใจเปนอยางมาก นี่
จะตองเปนตระกูลลับแลอันนากลัวเปนแนแท คนพวกนี้ตองการเก็บเปนความลับ ไม
ตองการเปดเผย
มิเชนนั้น ใครกันที่กินซวนหนีแลวไมมีปญหากันละ สิ่งมีชีวิตแบบนี้ หากโลหิต
คอนขางบริสุทธิ์ ดุรายอยางนาตะลึง ยิ่งไมตองเอยถึงทายาทอสูรบรรพกาล ที่ใหแรง
กดดันมหาศาลแกตระกูลใหญ นาเกรงกลัวอยางไมมีที่สิ้นสุด
“เจาแนใจรึวาพวกเจากินซวนหนีตัวหนึ่งจริงๆ?” เจียวเผิงเอยถามดวยนัยนตาที่เบิก
กวาง เปนครั้งแรกที่ไมมีทาทีหยิ่งยโส เขาเผยสีหนาตะลึงและประหลาดใจอยางที่เด็ก
ควรจะมี
ตองเขาใจวา โดยปกติแลว ทะเลสาบแหงสวรรคไมกลาแตะตองซวนหนี ที่เปน
ทายาทยิ่งใหญเชนนี้โดยไมคิดหนาคิดหลัง แมวาเขาจะเคยแชโลหิตบริสุทธิ์เชนนี้ แต
ไมไดหมายความวาจะเคยรับประทานเนื้อชนิดนี้มากอน
เนื่องจากในตระกูลใหญนั้น หากเปนทายาทอสูรบรรพกาลที่มีคามากเทาไหร ก็จะ
จัดการทุกอยางดวยความประณีต เลือดเนื้อทุกตารางนิ้ว หรือแมแตกระดูกจะถูกกลั่น
เปนโอสถ กินลงทองโดยตรงเยี่ยงนี้ไดที่ไหนกัน
กลุมผูกลาหมดวาจาจะเอื้อนเอยโดยสิ้นเชิง นี่จะตองมีเรื่องราวเบื้องลึกมากมายถึง
เพียงไหน จึงกลากินรางกายของซวนหนีล้ําคาลงไปโดยตรง?
เมื่อถึงเวลานี้ แมเหลาผูกลาจะมาจากตระกูลใหญ มีประสบการณมากมาย แตวา
มองทุกอยางดวยความสงสัยในทุกสิ่ง แนใจแลววา นี่เปนตระกูลลับแลที่นากลัวตระกูล
หนึ่ง ไมควรยุแหย!
“หัวหนาหมูบานของพวกทานละ ผูอาวุโสอยากจะเขาเยี่ยมคาราวะ” จื่อซานโซวที่
สวมชุดขนนก ศีรษะสวมมงกุฏทอง ทั่วทั้งรางกายทวมทนไปดวยรังสีสีมวง มีลักษณะที่
นาเกรงขามมาก แตกลับสํารวมกายตลอดเวลา ไมกลาทําตัวตามสบายจนเกินไป
“ทานผูเฒาเขาสูสภาวะสงบ และจะไมออกมาสักพัก” เออรเหมิงกลาวตามความ
จริง
“เจาเด็กโง พูดมากจริง!” บิดาของเขายื่นมือขนาดเทาใบปาลมออกมา จากนั้นฟาด
เขาเสียงดังปาบอีกรอบหนึ่ง
เออรเหมิงรูสึกผิดมาก นี่ไมใชความจริงหรอกหรือ เขาไมไดถูกสั่งหามไมใหพดู
หลังจากที่ทานผูเฒาดื่มโลหิตบริสุทธิ์ของซวนหนีไปแลว รูสึกวาโรครายภายในรางกาย
ทุเลาลง ดังนั้นจึงไปบําเพ็ญตบะดวยความมุงมั่น
จือซานโซวกับเจียวชางและคนอื่นๆ ตางสบตากัน ตางเขาใจความรูสึก พวกเขารูสึก
วานี่ตองเปนตระกูลที่ไมธรรมดาเปนแน พละกําลังยิ่งเพิ่มมากขึ้นเทาใด เวลาที่บําเพ็ญ
ตบะจะนานมากยิ่งขึ้น
สุดทาย กลุมคนเหลานี้ก็มองไปยังตนหลิวแกอีกครั้ง หมูบานลึกลับปานนี้ ตนหลิว
ตนนี้ฝงรากไวยังที่แหงนี้ มันจะตองวิเศษมากใชหรือไม?
“นี่เปนเทพารักษหรือ เรียกมันวาอะไรละ?” เหลยยวิ๋นคุนเอยถามอยางระมัดระวัง
“ออ ก็เรียกวาเทพารักษนั่นแหละ ไมก็เรียกวาเทพเจาตนหลิว” ผีโหวตอบกลับ
คําพูดของเด็กเปนความจริงเสมอ จะทําใหคนเชื่อมากกวาอยูแลว
“อะไรนะ เทพเจาตนหลิว?!” เหลาผูกลาเกือบจะลุกยืนขึ้น ไมเวนแมแตจื่อซานโซว
ที่มีอํานาจมากและมียศศักดิ์เปนปูของตระกูลผูปกครองชั้นสูง ยังตะลึงจนอึกอัก
หมูบานที่ลึกลับ คําเรียกเทพารักษที่นากลัว...สิ่งเหลานี้ทําใหทุกคนตางก็งุนงง
บทที่ 36 แปรพักตร
‘เทพเจา’ คําๆนี้จะใชตามอําเภอใจไมได สําหรับตระกูลทั่วไป ถือวาเปนอํานาจ
กระทําในทุกดาน และยิ่งใหญที่สุด!
สมัยโบราณกาล บรรพชนมีความเชื่อ และใหความสําคัญกับการเซนไหวเปนอยาง
มาก พวกเขาคิดวาเทพเจามีอยูจริง สามารถรองเรียกใหออกมาชวยคุมครองพวกเขาใน
สถานการณคับขันได
ในความเปนจริงแลว ตามความเขาใจอยางลึกซึ้งของบรรพชนรุนหลัง แทจริงแลว
สิ่งที่เผาชนพวกนั้นกราบไหวเปนสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกรงมากอยางหนึ่ง เชน เจินโหว[1] ป
เซี๊ยะ[2]ที่มีโลหิตบริสุทธิ์มากที่สุด ลวนแตเปนสิ่งมีชีวิตที่ไดรับการเคารพสูงสุด
อดีตกาลอันยาวนาน บรรพบุรุษแตบรรพกาลกราบไหวสิ่งมีชีวิตประเภทนี้ เซนไหว
และเคารพบูชาพวกมัน และเคยไดรับการคุมครองอยางแทจริง
ตราบใดที่กลาเรียกวา เทพเจา แนนอนวาสามารถตอสูกับอสูรบรรพกาลได
พละกําลังเกินบัญชาสวรรค สามารถทําลายตระกูลขนาดใหญมากมายภายใน
พริบตาเดียว ศักดิ์สิทธิ์ชนิดที่ไมสามารถจินตนาการได ยากที่จะตอกรดวยอยางแทจริง
ตามตํานานกลาววา แมกระทั่งตอนนี้ ประเทศที่มีประวัติอันยาวนาน ซึ่งมีอาณาเขต
กวางใหญไพศาลเหลานั้น ยังเซนไหวสวรรคเชนดังเดิม ยังคงทําพิธีกรรมเกาแกบางอยาง
อยู เซนเครื่องเซนแกทวยเทพ แมวากาลเวลาจะผานไปเนิ่นนานแลว เบื้องหลังของ
ประเทศเกาแกเหลานี้ อาจจะมีเงาของเทพเจาแตโบราณอยู ทั้งนาเกรงกลัวและลึกลับ
คนในหมูบานหินผาเรียกตนหลิวตนนี้วา ‘เทพเจา’ จะไมใหพวกเขาตกใจได
อยางไร? สมญานามนี้ไมสามารถใชตามอําเภอใจได!
“พวกทานแนใจแลวหรือ ที่ยกยองเทพารักษตนนี้วาเปน เทพเจา มันไมคัดคานรึ?”
ชายวัยรุนอายุสิบกวาปคนหนึ่งของตระกูลขุนเขาสีมวงเอยถามอยางระมัดระวัง
“ไมคัดคานนี่ เทพเจาตนหลิวใจดีมาก เฝาปกปกษรักษาตระกูลเรามาโดยตลอด”
เออรเหมิงตอบอยางไมยั้งคิด
เทพารักษไมคัดคานที่เรียกมันวา ‘เทพเจา’ เมื่อขาวคราวนี้ถูกปลอยออกไป ผูกลา
เกือบจะทั้งหมดก็หนาถอดสี ถอยหลังอยางอดไมได เกิดอาการหวาดกลัวตอตนหลิว ที่
ลําตนดําเกรียมและใกลตายตนนั้นเปนอยางมาก
เพียงแตวา สิ่งมีชีวิตที่เปนเทพารักษในเผาพันธุมนุษย สวนมากจะมีความเกี่ยวของ
กับเทพเจา ยิ่งกวานั้นคือเปนทายาทของเทพเจาโบราณ พวกมันคอนขางหวาดกลัว
สมญานามเชนนี้ ไมกลาเลนกับไฟ ไมกลายกตนขมทาน อยางผูเขมงวดเรื่องชนชั้น
ทวาตนหลิวที่อยูตรงหนาตนนี้กลับกลาทําเชนนี้ ไมคัดคานการเรียกขานแบบนี้ นี่บง
ชัดวามันมีพละกําลังที่นากลัว และอาจจะนากลัวผิดธรรมชาติมานานแลว จึงไมสนใจ
แยแสอะไรทั้งนั้น
มันคงไมใชเทพเจาแตโบราณอยางแทจริงหรอกใชไหม ตอนนี้มันจะตายแหลมิตาย
แหล อยูในวัยไมใกลฝงแลวหรือ? นี่เปนความในใจของผูคนมากมาย แตกลับไมกลาพูด
ออกมาใหชัดเจน
ประสบกับเคราะหรายเชนนี้ คนกลุมนี้เกิดความเคารพขึ้นภายในจิตใจ รูสึกไมเปน
ตัวเอง แตก็ไมกลาทําตามอําเภอใจมากเกินไป แมแตจะเดินเหินในหมูบานยังตองระวัง
ตัว
แตพวกเขาก็ยังไมตายใจ ตองการจะทําใหกระจาง ตระกูลลับแลนี้มีความเปนมา
อยางไรกันแน อีกทั้ง ‘เทพเจาตนหลิว’ ตนนี้อัศจรรยอยางไร หรือมันเคยประทานอาวุธ
วิเศษใหอยางนั้นหรือ?
ตองเขาใจวา อาวุธที่เทพเจาโบราณขนานแทชวยสรางใหมนุษยนั้น จะตองเยี่ยม
ยอดผิดธรรมชาติ ฝูงชนเกิดความปรารถนาขึ้น หากจัดพิธีบูชา ณ ที่แหงนี้ เซน
เครื่องเซนที่ดีสุด ไมรูวาจะทําใหตนหลิวชวยพวกเขาหรือไม
พวกเขาเอยถามอยางรื่นหู กลาววาจะคางอางแรมที่นี่สักระยะหนึ่ง แมวาสือหลินหู
และคนอื่นๆ จะซื่อตรง แตไมไดเขลา พวกเขารูสึกถึงความไมชอบมาพากล พวกเขาจึง
พูดวาบานหินมีนอย ไมมีที่พักมากมายปานนั้น
แมวาสือเฟยเจียวและคนอื่นๆ หวังใหพวกเขารีบจากไป แตคนพวกนี้จะยินยอมได
อยางไร ตางพากันแสดงเจตนาวาไมจําเปนตองเขาไปในหมูบาน ขอเพียงพักอยูดานนอก
แตขอน้ําดื่มกินสักอึกจากหมูบานก็เพียงพอแลว
เหลาผูกลาที่มีพละกําลังมหาศาล ที่มาจากขุนเขาสีมวง ทะเลสาบแหงสวรรค
ตระกูลสายฟา เผาชนหมาปาทองคํา ปราสาทเมฆาสวรรคเปนตน ตางก็ตั้งฐานยังที่แหง
นี้ เดิมทีพวกเขาจะเขาไปในหุบเขาลึก หมายคนหาความลึกลับของสมบัติล้ําคาแหง
ขุนเขา
“พี่ชาย ทานรูเรื่องในขุนเขาไหม ไดยินมาวามีสมบัติล้ําคาแหงขุนเขาปรากฏขึ้น ทํา
ใหทายาทอสูรบรรพกาลตางก็คลุมคลั่ง พวกทานไมไปเสาะหาหรือ?” ผูนําของเผาชน
หมาปาทองคําที่มัดสัตวประหลาดเขาเดียวเรียบรอยแลว พยายามตีสนิทกับสือเฟยเจียว
ที่มีอายุใกลเคียงกัน
“เคยไดยิน แตหัวหนาหมูบานไมใหไป ตองเปนคนที่ไดรับพลังวิเศษ หรือเปนสัตว
อสูรจึงจะไดของพรรคนั้นมาครอบครอง มิเชนนั้นก็รนหาที่ตายอยางแทจริง”
...
อีกฟากหนึ่ง เหลยยวิ๋นคุนนําบุปผาวิเศษออกมาโถหนึ่ง จากนั้นใสลงไปในน้ําเดือด
เพียงชั่วครูก็สงกลิ่นหอมกรุน มีกลิ่นอายของความวิเศษทวมทน เขาเชิญชวนใหเหลา
ชายฉกรรจที่มีอายุใกลเคียงใหมาดื่มดวยกัน และพูดจาตีสนิทไมหยุด
หากเทียบกันแลว อยางไรเด็กก็จริงใจกวา
เด็กสาวสองคนที่มาจากปราสาทเมฆาสวรรคกําลังพูดคุยกับเจาตัวเล็ก หัวเราะคิก
คักกันไมหยุด พวกเธอหยิกใบหนาเล็กๆ ที่ออนเยาวของเจาตัวเล็กอยูบอยครั้ง พวกเธอ
รูสึกวาเด็กคนนี้นารักมาก
“พวกขาเคยดื่มนมของเสือดาวเกล็ดหิมะ กลิ่นหอมกรุน รสชาติหอมหวานอยางหา
ที่เปรียบไมได ตอนเด็กจะตองดื่มหนึ่งแกวใหญทุกวันเลย” เด็กสาวคนหนึ่งกลาวพลาง
หัวเราะ
“อืม นมสัตวหอมหวานจริงๆ รสชาติก็อรอย” เจาตัวเล็กพยักหนาอยางจริงจัง พวก
เขาพูดคุยกันถึงเรื่องนมสัตว
“เจาตัวเล็ก เจาชอบนมของสัตวชนิดใดมากที่สุด?” เด็กสาวสองคนที่คลายกันอยาง
กับแกะ พวกเธอขาวสวางและบอบบาง รูปโฉมงดงาม ลูบเสนผมสีดํามันขลับของเขา
เปนพักๆ
“นมพยัคฆไฟ นมแรดขาว ชางเขามังกร... นมเหลานี้ผสมกัน กลายเปนนมสัตว
หลากชนิด อรอยที่สุด”
...
จื่อซานคุน เหลยหมิงหยวนและคนอื่นๆ เดินผานทางนี้ เมื่อไดยินดังนั้นก็กลอกตา
ไปมา นี่มันอะไรกัน ทําไมถึงพูดคุยถึงเรื่องพวกนี้กัน
โดยเฉพาะเจียวเผิง ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เขาถูกเด็กเล็กที่ดื่มนมโจมตีจนแพพาย นี่เปน
ความนาอดสูอยางหนึ่ง แตในตอนนี้ เมื่อสงสัยวาเปนตระกูลลับแล อีกทั้งอาจจะไดรับ
การคุมครองจากเทพเจา เขาจึงทําไดแคเพียงกริ้วโกรธ ไมกลากําเริบเสิบสาน
ผานไปสองชั่วยาม เหลาผูกลาเกิดความคลางแคลงใจ หมูบานหินผาผิดปกติ พวก
เขาสังเกตซ้ําไปซ้ํามา ผูคนมากมายไมเคยครอบครองอักขระกระดูก นี่ไมควรเปนสิ่งที่
ตระกูลลับแลพึงจะมี
“ผิดปกติ เปนไปไมไดที่ทุกคนจะหลบซอนกระมัง ไยจึงไมรูสึกถึงพลังอักขระกระดูก
ของผูกลาที่แทจริงกันนะ?”
“อืม คงไมใชวาพวกเราตื่นตกใจกันไปเองกระมัง?”
ผูคนเหลานี้หลักแหลมเปนอยางมาก ขอเพียงแคมีเบาะแสเพียงนอยนิด ก็สามารถ
คนหารองรอยและชองโหวได กอนหนานี้เปนเพียงการเชื่อในสิ่งที่เห็น ถูกเรื่องแปลก
ประหลาดแตละเรื่องทําใหเขาใจผิด
บัดนี้เมื่อไดหยุดพัก และไดพูดคุยกับคนในหมูบานหินผา ก็คอยๆ พบความผิดปกติ
นึกไดวาคงจะวิตกมากเกินไป จึงเผยความผิดพลาดครั้งใหญออกมา คนมากมายมีสีหนา
บิดเบี้ยว
เจียวเผิงกลัดกลุมจนอกจะแตกตายแลว อัจฉริยะอยางจือ่ ซานคุนกับเหลยหมิง
หยวนเองก็ขุนเคืองใจ เหลาเด็กวัยรุนที่มีพละกําลังมหาศาลก็มีสีหนาหมองหมน ไมนาดู
สักเทาไหร พวกเขารูสึกเหมือนถูกหลอกลวง
หากเรื่องนี้แพรงพรายออกไป คงเปนเรื่องตลกแทๆ เลย ตระกูลใหญมากมาย
เกือบจะถูกหมูบานหินผาขมขูแลว มันจะตองเปนเรื่องราวที่แปลกประหลาดเปนแนแท
“ทานลุงชาง เมื่อครูขาสืบทราบมาวา ตนหลิวที่ถูกสายฟาฟาดตนนี้เพิ่งจะปรากฏ
เมื่อสิบกวาปกอน ไมใชเทพคุมครองทีม่ ีมาแตโบราณ อีกทั้งหลายปมานี้ ตนหลิวตนนี้ไม
เคยปริปากพูดเลย ไมเคยพูดคุยกับผูคนในหมูบาน ขาสงสัยวา มันคงจะสูญเสียพลังของ
เทพารักษไปมาก” เจียวเผิงพูดดวยสีหนาไมสูดี และขบกรามแนน
เจียวชางและคนอื่นๆ อดทนตอไปไมไหวแลว เพราะเชื่อในสิ่งที่เห็นแตแรก จึงทําให
เกิดเรื่องผิดพลาดอยางมหันต โชคดีที่ไมไดแสดงพฤติกรรมที่นาขายหนา ไปเคารพตอ
หนาตนไม
ผูคนที่มาจากขุนเขาสีมวงบนพึมพํา พวกเขาก็คิดเห็นเชนเดียวกัน บนหัวของจื่อซา
นโซวมีไอสีมวงลอยขึ้น หมอกปกคลุมรอบตัว ราวกับเตาไฟสีมวงขนาดใหญ แผกลิ่นอาย
ความนากลัว แตวา เขากลับไมปะทุขึ้น และเก็บอาการอยางรวดเร็ว
“ทานปู พวกเขาจะโกรธเคืองไหมเจาคะ ถาหากสงผลไมดีตอหมูบานนี้จะทําเยี่ยงไร
ละเจาคะ?” เด็กสาวสองคนแหงปราสาทเมฆาสวรรคกังวล
“คนสวนใหญไมใสใจหรอก...” ชายชราที่ถือขนนกหิมะเอยเสียงเบา
ยามทองฟาคอยๆ เปลี่ยนเปนสีดํา กลุมคนเหลานี้เริ่มเขาใจเรื่องราวอยางชัดเจน รู
วาพวกตนเขาใจผิด นี่ไมใชตระกูลลับแลแตอยางใด แตอาจจะเปนไปไดวา พวกเขาได
รางกายของซวนหนีมาอยางไมคาดฝน
เมื่อการคาดเดานี้ถูกปลอยออกมา อยาวาแตคนจากทะเลสาบแหงสวรรค แมแตเผา
ชนหมาปาทองคํายังใจสั่น นั่นหมายความวา ในหมูบานหินผาจะตองซอนเคล็ดวิชาล้ําคา
ไวอยางแนนอน!
ไมตองสงสัยเลยวา อักขระโบราณของซวนหนีมีคามหาศาล แมแตตระกูลใหญยังใจ
สั่นระรัวและอิจฉาตารอน ผูกลาที่สุดในบรรดาทายาทอสูรบรรพกาล เคล็ดวิชาล้ําคาของ
มันกับพลังวิเศษของแตละเผาชนนั้นอยูในระดับเดียวกัน
ของพรรคนี้มีเทาใดก็ไมมากพอ ยิ่งไปกวานั้น โดยปกติแลว หนึ่งตระกูลจะมีเพียง
หนึ่งเคล็ดวิชาเทานั้น นอกเหนือจากนี้ก็จะเปนเพียงพลังธรรมดา เพิ่มขึ้นมาเพื่อ
ชวยเหลือ
เนื่องจากมีนอยมาก มันจึงมีคามหาศาล!
“เฮย เจาเด็กบานปา เจาคุยโวจนเกินเหตุ ยังบอกวาไลตามสัตวประหลาดเขาเดียว
สังหารเทพารักษ เจาไมกลัวลมจะสะเทือนจนปวดลิ้น[3]งั้นรึ” เจียวเผิงสีหนาไมสบ
อารมณ จองมองเออรเหมิง กับเจาเด็กขี้มูกโปง
คนในหมูบานตะลึงงัน โดยเฉพาะพวกเด็กๆ รูสึกถึงความเยือกเย็นเปนระลอก เหตุ
ไฉนถึงแปรพักตรอยางงายดายเชนนี้
เกิดเปนอัจฉริยะ และยังมีนิสัยปาเถื่อน ปกติทั้งดื้อรั้นและหัวแข็ง เจียวเผิงจะอดทน
ตอไปไดอยางไร เขาอัดอั้นตันใจจนถึงตอนนี้ และจะลงมือจัดการเสีย
เจียวชางเองก็ไมไดขัดขวาง แตตองการมองดูวาคนในหมูบานหินผาจะมีปฏิกิริยา
อยางไร คนอื่นๆ ก็พากันนิ่งดูดาย มองดูเรื่องราวเกิดขึ้นอยางเงียบเชียบ
“พี่ชาย ไยทานจึงไรเหตุผล?” เจาตัวเล็กเดินไปขางหนา ยื่นแขนเล็กออกไปขวางอยู
ดานหนา เขาเคยสูรบปรบมือกับเจียวเผิงมาแลว รูถึงความรายกาจของเขา เกรงวาเขา
ทํารายเออรเหมิงกับเด็กขี้มูกโปง
เจียวเผิงอายุไมมาก แตในเวลานี้กลับตอบกลับอยางบึ้งตึงวา “เหตุผลรึ? เจานี่สม
กับเปนเด็กที่ยังดื่มนมจริงๆ เจาไมเขาใจหรือ ในโลกหลานี้ เหตุผลมีเพียงในขอบเขตของ
การตอสูดวยกําปนเทานั้น!”
“พี่ชาย พวกขาไมเคยขัดแยงกับผูใด อยูอยางสงบมาโดยตลอด ไมอยากจะมีปญหา
กับทาน ขอรองทานอยาโมโหโกรธา ถาหากมีสิ่งใดที่พวกเราทําไมถูกตอง จะแสดงความ
ขอโทษตอทานอยางแนนอน” เจาตัวเล็กกะพริบตากลมโต เขาเอยดวยความจริงจังและ
จริงใจ
เด็กที่มุมปากยังเลอะคราบนมกลาวเชนนี้ ทําใหเหลาผูกลารูสึกละอาย
ผูอาวุโสแหงปราสาทเมฆาสวรรคยืนขึ้นแลวกลาววา “ชางเถิด ที่นี่มีธรรมเนียมที่
เรียบงายและซื่อตรง ไยตองทําใหพวกเขารูสึกลําบากใจละ” ยามที่เอยถอยคําพวกนี้ เขา
มองไปยังเจียวชาง ชายวัยกลางคนจากทะเลสาบแหงสวรรคผูนั้น สําหรับเจียวเผิงนั้น
เขาไมตองเกรงใจหรือพูดอะไรใหมากความ
แตทวา ผูคนในหมูบานกินซวนหนีไปตัวหนึ่ง ไดรับของวิเศษที่มันเหลือทิ้งไว ซึ่งก็คือ
กระดูกล้ําคา สิ่งเหลานี้ทําใหผูกลาพวกนี้เกิดความอิจฉา ผูคนมากมายไครอยากจะได
และยากที่จะมีสิ่งใดดีไปกวานี้
“หมูบานนี้หลอกลวงพวกเรา มีสิ่งผิดปกติอยางสิ้นเชิง” คนของเผาชนหมาปา
ทองคําเอยปาก
“จิ๊บจิ๊บ...”
ทันใดนั้น เสียงแผดรองดังลอยมา ตาเผิง เสี่ยวชิงและจื่อยวิ๋น ลูกนกสามตัววิ่ง
กระพือปกมาจากทางดานหลังของหมูบาน พุงไปหาเจาตัวเล็กอยางฉลาดหลักแหลม
ในระยะนี้ พวกมันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หลังจากที่ไดกินเลือดเนื้อของซวน
หนี สําหรับอสูรปกษาที่มีสายเลือดอันแข็งแกรงเชนนี้แลว มีผลดีชนิดที่ยากจะ
จินตนาการ ดวงตาของตาเผิงกลายเปนสีทอง ปกคูนั้นของเสี่ยวชิงปรากฏริ้วรอยวิเศษ
อยูหลายจุด ในสวนของจื่อยวิ๋น เนื้อตัวสีมวงมีสีทอง แผงเกล็ดสองแสงสุกใสมากยิ่งขึ้น
ไมตองพูดอะไรใหมากความ เพียงแคเห็นลูกนกสามตัวนี้ก็เขาใจ นี่เปนนกประหลาด
ที่พบเห็นไดยาก จะตองสืบทอดเลือดบริสุทธิ์ของอสูรปกษาบรรพกาลเปนแน อีกทั้งยัง
เกิดความเปลี่ยนแปลงเชนนี้ ล้ําคาจนไมสามารถจะเอื้อนเอยคําใดได
“นี่เปนสัตวลาของขา ผูใดก็ตามหามแยงกับขา!” เจียวหลงกลาวอยางโอหัง เขานํา
ธนูล้ําคาออกมาจากดานหลัง จากนั้นงางคันธนูออก เตรียมยิงคันศรโลหะ
เจียวชางแหงทะเลสาบสวรรคมิไดหามปราม กลับมองดูอยางใจเย็น
“เจาบอกวาเปนของเจาก็จะเปนไปตามที่เจาพูดงั้นรึ?” จื่อซานคุนกับเหลยหมิง
หยวนก็เขาไปและชักคันธนูออกมาเชนกัน มองลูกนกสามตัวเปนสัตวลา เตรียมพรอม
จับกุม
เหลาผูกลาตางก็ประหลาดใจ นี่เปนลูกนกแปลงกายสามตัว ไมเหมือนทั่วไป หากวา
เลี้ยงจนเติบโต ตองมหัศจรรยเปนแนแท เปนวิญญาณพิทักษที่ยิ่งใหญมาก
“หามทํารายพวกจื่อยวิ๋นนะ!” เปนครั้งแรกที่เจาตัวเล็กโมโห นัยนตาของเขามอง
ขวาง จดจองไปที่เผิงเจียวและคนอื่นๆ แลวยื่นมือขาวดุจหิมะออกไปขัดขวาง
..............................
[1] เจินโหว หรือโหว สัตวแหงลูกมังกรทั้งเกา รูปรางคลายสุนัข กินคนเปนอาหาร
[2] ปเซียะ สัตวแหงลูกมังกรทั้งเกา สัตวศักดิ์สิทธิ์ชวยปองกันและปดเปาภยันตราย
และภูตผีปศาจ
[3] ลมสะเทือนจนปวดลิ้น สํานวนจีน อุปมาวา ตําหนิคนที่พูดโออวดเกินจริง
บทที่ 37 ผยอง
แมวาเจียวเผิงจะตัวเล็ก ทวาแววตาเยือกเย็น เด็ดขาดและทรงพลังมาก เขาออก
แรงงางคันธนูล้ําคา จนรูปทรงเสมือนพระจันทรเต็มดวง บนสายธนูมีลูกศรโลหะเปลง
ประกายเยือกเย็นหนึ่งดาม เล็งไปยังลูกนกสามตัวนั้น
“ชริ้ง”
แสงเย็นเสนหนึ่งลอยออกไป เกิดเสียงดังหวีดหวิว ลมพายุทรงพลังราวกับวิญญาณ
รองไห พุง ไปยังจื่อยวิ๋น เขาเล็งลูกนกตัวนี้ เพราะมองดูแลววิเศษที่สุด ไมนึกเลยวามันจะ
มีรางกายเปนสีมวงทั้งตัว เปลงประกายเจิดจา เขาจึงอยากจะยิงใหมันบาดเจ็บ จากนั้นก็
จับตัวมัน
เสียง ‘เครง’ ดังขึ้น พรอมกับเจาตัวเล็กที่กระโจนเขาไป มือเล็กขาวดุจหิมะฟาดลง
ไปบนลูกศรโลหะ ทําใหมันสะเทือนจนปลิว ผูคนตางตกตะลึง เจาเด็กคนนี้รวดเร็วมาก
เพียงกระโดดขึ้นสูอากาศ ก็สามารถหยุดยั้งลูกศรที่มีอานุภาพรุนแรงปานนี้ได
“ไยทานจึงโหดเหี้ยมไดเพียงนี้ ทําไมตองทํารายพวกจื่อยวิ๋น?” เสี่ยวสือฮาวโมโห
นัยนตาเบิกกวาง
“หลบไป!” เจียวเผิงตวาดเสียงดังลั่น หนานิ้วคิ้วขมวด แววตาดุดัน เล็งเปาหมายไป
ยังเจาตัวเล็ก ใบหนามีรอยยิ้มเยือกเย็น
เขาโหดเหี้ยมและแข็งแกรง ทําใหเออรหมิง ผีโหว เด็กขี้มูกโปงตางก็โกรธเคือง ไม
เคยพบเจอคนที่ไรเหตุผลเชนนี้มากอน ลูกนกสามตัวเปนสัตวที่คนในหมูบานเลี้ยงดูจน
เติบโต แตเขากลับจะยิงพวกมันแลวชวงชิงเอาไป!
“ทานจะมีเหตุผลไดรึยัง?” สือตาจวงกลาวอยางขุนเคือง เขายกมือไปจับหมอสําริด
หนักพันชั่ง เตรียมพุงออกไปดานหนา
“พี่ตาจวง ทานถอยไปกอน!” เจาตัวเล็กกลาว เพราะเขารูดีวา นอกจากเขาแลว ไม
มีใครเปนคูปรับของเจียวเผิงได
“หากยังไมถอยไป อยาหาวาลูกศรของขาไมปราณี!” เจียวเผิงเอยอยางเยือกเย็น
อารมณแบบนี้กับอายุของเขาไมคอยจะสอดคลองกัน
“ตาเผิง จื่อยวิ๋น พวกเจากลับไปเสีย” เสี่ยวสือฮาวเอยปาก เพื่อใหลูกนกสามตัว
ถอยออกไปกอน เกรงวาพวกมันจะไดรบั อันตราย เขาจึงยืนขวางอยูดานหนาสุด
“จะไปไหนไมไดแมแตตัวเดียว อสูรปกษาสามตัวนี้ลวนเปนสัตวลาของขา!” เจียว
เผิงพูดเสียงเย็น จากนั้นก็งางคันธนูขึ้นลูกศรอีกครั้ง เล็งไปขางหนา ลูกศรสองแสงเยือก
เย็น กลิ่นอายความตายลอยคละคลุง
“ฟว...” เสียงลมกรีดรอง อีกฟากหนึ่ง จื่อซานคุนกับเหลยหมิงหยวนก็เริ่ม
เคลื่อนไหว กลัววาจะตามเจียวเผิงไมทัน จึงพุงไปยังลูกนกสามตัว ในมือถือคันธนูล้ําคา
และลูกศรโลหะ เตรียมการลาสัตว
ตาเผิง เสี่ยวชิง และจื่อยวิ๋นรูภาษามนุษยเปนอยางดี มันเพียงพูดไมได แตปญญา
ของพวกมันไมดอยไปกวามนุษยเลย พวกมันรูอยูนานแลววาเกิดเรื่องอะไรขึ้นตรงหนา
ตางก็โกรธเปนอยางมาก
เจาตัวเล็กกระโดดขึ้น ขวางทางสองคนไว แลวพูดดวยน้ําเสียงใสซื่อวา “นี่เปน
สหายของขา พวกทานจะทํารายพวกเขาไมได!”
ในเวลานี้ทั้งสือหลินหูและพวกตางก็ตกใจ และพากันพุงเขามาดวยอารมณโกรธพลุง
พลาน เดิมทีคนพวกนี้ถือวาเปนอาคันตุกะ ไมคาดคิดวาจะกดขี่ขมเหงกันเชนนี้
“ไมดีหรอกกระมัง?” ชายชราแหงปราสาทเมฆาสวรรคกลาวขึ้นอีกครั้งเพื่อหาม
ปราม
“เด็กๆ พวกนี้โกรธเคืองกันเทานั้นเอง ใหพวกเขาไดประลองกันสักตั้ง มาดูกันวา
ผูใดที่เปนอัจฉริยะอันดับหนึ่ง แคนี้ยังตัดสินกันไมไดหรอก” มีคนแกตางอยางขอไปที
หมายอยากกระดูกล้ําคาของซวนหนีของหมูบานหินผา แตติดอยูที่ไมมีขออาง จึงหวังให
เรื่องราวบานปลายใหญโต
เจียวชางที่มาจากทะเลสาบแหงสวรรคกลับเพิกเฉย ไมมีปฏิกิริยาใด ไมเคยขัดขวาง
เจียวเผิง ตระกูลขุนเขาสีมวงและตระกูลสายฟาก็ไมแสดงทาทีใดๆ เชนกัน ตางก็
สังเกตการณอยางเงียบๆ ปลอยใหเด็กในตระกูลจัดการ และรอดูผลอยางสงบ
“เอาละ ถาหากเปนเรื่องของเด็กแลวละก็ พวกเราก็เฝามองดีกวา ไมขอเอี่ยวดวย”
ชายชราแหงปราสาทเมฆาสวรรคกลาวพลางพยักหนา ไมเอยวาจาใหมากความ
แมสือหลินหูและพวกจะโกรธแคน แตเห็นเจาตัวเล็กโบกมือ จําตองดับไฟโกรธให
สงบลง พวกเขารูดีวาเหตุการณตรงหนานั้นเลวราย พวกเขาตางก็หวาดกลัวกันมาก
“ชริ้ง"” ชริ้ง"
เจียวเผิงงางคันธนูโดยพลัน ลูกศรถูกยิงออกไปอยางตอเนื่อง ดามแลวดามเลา แสง
เย็นเจิดจาแยงตา ลมพัดแรงหวีดหวิว ลูกศรโลหะบินไปยังลูกสามตัวอยางมุงราย
เจาตัวเล็กเขาหยุดยั้งโดยไว ทวาไมเพียงแตเจียวเผิงที่ลงมือ หากยังมีจื่อซานคุน
เหลยหมิงหยวนอีกสองคน เขาจึงตองเพิ่มการปองกันอยางเขมงวด อีกทั้งลูกศรที่เจียว
เผิงยิงออกมานั้นมีมากเกินไป ยากที่จะสกัดไดทั้งหมด
“ตูม”
เพียงชั่วครู ประกายไฟแตกกระเด็นรอบทิศ ลูกศรปกลงในรางกายของลูกนกทั้ง
สาม จนเกิดเสียงดังเครง ราวกับโลหะกระทบกันดวยพละกําลังมหาศาล!
ตาเผิงแผดเสียงอยางดัง กระพือปกทั้งสองขาง ออกแรงฟาดลูกศรโลหะ ถึงแมจะมี
เกล็ดแข็งชวยคุมครอง แตก็ไดรับบาดเจ็บ เลือดสดไหลริน เกล็ดสีเขียวหลุดลอกลงหลาย
แผน
“ชริ้ง"” ชริ้ง"
ลูกนกอีกสองตัวก็ถูกปกเชนกัน เสี่ยวชิงเปลงเสียงโหยหวน สะเก็ดเลือดพวยพุง
เจียวเผิงมีพละกําลังมหาศาล ถึงแมจะมีอายุเพียงหาขวบกวา แตเพียงแคแขนคูนั้น
กวัดแกวงก็มีแรงกวาพันชั่ง แรงทะลวงของลูกศรโลหะชางนากลัว!
แมวาลูกนกทั้งสามจะไมธรรมดา อีกทั้งยังเรียนรูอักขระกระดูกไปพรอมกับสือฮาว
แตถึงอยางไรก็เพิ่งจะกําเนิดไดประมาณสามเดือน ยังเยาววัยนัก ยากที่จะสําแดง
อิทธิฤทธิ์ของเคล็ดวิชาล้ําคา และการปองการเกล็ดก็ยังเทียบกับอินทรีเกล็ดเขียวที่โต
เต็มวัยแลวไมได นอกจากจื่อยวิ๋นแลว ตาเผิงกับเสี่ยวชิงก็ไดรับบาดเจ็บเชนกัน แผน
เกล็ดหลุดรวง มีเลือดพุงออกมา
เจาตัวเล็กโกรธเคืองมาก กระโจนเขามา ใชรางกายของตนเองบังอยูดานหนาของ
ลูกนกทั้งสาม จดจองไปยังเจียวเผิง
“หลบไป!” เจียวเผิงกลาวอยางผยอง แววตาเยือกเย็น เขาเล็งลูกศรโลหะไปที่สือ
ฮาว จากนั้นงางคันธนูอยางเต็มที่ จอไปที่ลูกกระเดือกของสือฮาว
คนในหมูบานกริ้วโกรธ ลูกนกทั้งสามเติบโตในหมูบานหินผา เปนสมาชิกของ
หมูบานไปโดยปริยาย แตกลับมีคนวิ่งมาลาถึงในหมูบาน มาแยงชิงอยางเปดเผยไรซึ่ง
ความหวาดกลัว ขมเหงกันเกินไปหนอยแลว
“เจาอยาบีบคั้นขา!” สามารถทําใหเจาตัวเล็กพูดประโยคแบบนี้ออกมาได เห็นได
ชัดวาไฟโทสะของเขาลุกโหมมากเพียงใด
“บีบคั้นเจาแลวอยางไรละ?” เจียวเผิงพูดจายุแหย รางกายถูกโจมตีตอนที่ปะทะกัน
เมื่อครู ทําใหเขาไมสบายใจเปนอยางมาก เขาตัดสินใจแลววาจะใชเคล็ดวิชาล้ําคา
“ซิ่ว!”
แสงเย็นเยือกลอยมา เจียวเผิงคลายสายธนูออก ลูกศรโลหะพุงไปยังลูกกระเดือก
ของเจาตัวเล็กดวยความรวดเร็วและนากลัว เกิดเสียงหวีดหวิวผานอากาศ
“ปง”
ทาทางของเจาตัวเล็กงายดายและคอนขางเร็ว อีกทั้งยังมั่นคงและแมนยํา เขาจับ
หมับเขาที่ลูกศรโลหะที่เปลงแสงเยือกเย็นนากลัวจนเกิดเสียงดังปง จากนั้นก็ใชแรง
สะบัด เกิดแสงเยือกเย็นเจิดจา ลูกศรโลหะบินยอนไปทางเจียวเผิง ในขณะเดียวกัน เขา
กระโดดขึ้นสูงถึงยี่สิบกวาเมตร จากนั้นพุงดิ่งตัวลงราวกับเจียวหลง[1] แมตัวจะเล็ก แต
กลิ่นอายความแข็งแกรงนั้นหนาตกตะลึง
เจาตัวเล็กเริ่มลงมือโจมตีเจียวเผิงกอน!
“ขารอเจาอยูนานแลว!” เจตนารมณการตอสูของเจียวเผิงฮึกเหิม แมวาจะเคยพาย
ฉะนั้นก็เอาชัยชนะกลับมา
เขาเขวี้ยงคันธนูและลูกศรทิ้ง เขาเคลื่อนไหวรางกาย ทรงพลังและปราดเปรียว
ประดุจปศาจวานร เพียงขยับเทาก็เคลื่อนที่พาดผานพื้นดินไปไกลสิบกวาเมตร จากนั้น
แขนทั้งสองขางก็ปรากฏอักขระวูบวาบ สวางขึ้นอยางรวดเร็ว ทําใหทั้งรางของเขาพรา
มัว มีแสงวิเศษเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชั้น
“เจาเด็กบานปา เจาอาศัยกลางปากลางเขา ไมรูวาฟาดินของโลกภายนอก
กวางขวางเพียงไหน บัดนี้ ขาจะใหเจาไดเชยชมอานุภาพของอักขระกระดูก!” เจียวเผิง
พูดดวยถอยคําเยือกเย็น
ในยามที่แขนคูนั้นเปลงประกายเดนชัดขึ้น เขาก็พุงเขาไปหาเจาตัวเล็กอยางไมเกรง
กลัว หมายปะทะ เพื่อใชพละกําลังอยางสมบูรณสังหารเจาตัวเล็ก อักขระเปลงแสง ทํา
ใหเขามีความวองไวและพละกําลังอันนาตกตะลึง
เจาตัวเล็กไมเอยถอยคําวาจาใด พุงทะยานมาหวังเผชิญหนากับความไวของคูตอสู
ภายในรางกายมีแสงสวางแผซาน แสงศักดิ์สิทธิ์ไหลทะลัก กลั่นกรองพลังจากฟาดิน นิ้ว
มือและฝามือสองสวางขึ้นมาโดยพลัน
“ปง!”
ฝามือของทั้งสองปะทะเขาดวยกันจนเกิดเสียงดังระงม ราวกับยอดเขาถลมทลาย
เจียวเผิงรองโอดโอย ทั้งตัวลอยขึ้น งามระหวางหัวแมมือและนิ้วชี้แตกออก ชุมโชกไป
ดวยเลือด แขนกระตุกไมหยุด
หากวาในชวงเวลาคับขัน แขนทั้งสองขางของเขาไมมีอักขระลึกลับเปลงแสงเปน
สาย ไมปรากฏเจียวดุรายขึ้นสองตัว เลื้อยพันบนแขนของเขา กระดูกนิ้วมือของเขาคงจะ
หักอยางแนนอน
“ตูม”
เจียวเผิงลอยออกไปไกลสิบกวาเมตรแลวหลนลงบนพื้นดิน จากนั้นก็กลิ้งหลุนๆ ไป
ไกลอีกเกือบเมตรจึงจะหยุด และรักษาสภาพรางกายไวได
เพียงชั่วครู ทั่วบริเวณที่เกิดเหตุเงียบสงัดอยางสิ้นเชิง เงียบจนไดยินเสียงเข็มหลน
บนพื้น ผูคนตะลึงพรึงเพริด ไมคาดคิดเลยแมแตนอยวาผลจะเปนเชนนี้ นี่เปนเพียงการ
ปะทะครั้งเดียวเทานั้น เจียวเผิงกลับถูกโจมตีจนตัวลอย!
“พละกําลังชางนากลัว!” ชายชราแหงปราสาทเมฆาสวรรคเอยอยางตกใจ
อยางนอย ในชวงอายุนี้ เพียงพลังจากรางกายของเจาตัวเล็กก็ล้ํากวาอัจฉริยะเจียว
เผิงอยูมากโข สมควรถูกยกยองวาเปน พรสวรรคที่ฟาประทาน!
เจียวเผิงดีดตัวลุกขึ้นยืน ใบหนาแดงก่ําราวกับเลือดจะไหลทะลักออกมา ครานี้เขา
เสียทาเปนอยางมาก ทําใหเขารูสึกเจ็บปวดราวกับถูกฟาดที่ใบหนาฉาดใหญ กลิ่นอาย
ความมุงรายพวยพุง
“ตูม!”
เสียงดังทุมดังแววมา เจาตัวเล็กยกขาเตะหมอสําริดหนักพันชั่งใบนั้น ลอยขึ้นกลาง
อากาศ และพุงปะทะจื่อซานคุนและเหลยหมิงหยวน เพราะในขณะที่เขากําลังสูรบ
ปรบมืออยู ทั้งสองคนกลับงางคันธนูขึ้นลูกศรแลวยิงไปทางลูกนกทั้งสาม
หมอยักษลอยพาดผานอากาศ!
กลุมคนตะลึงงัน นี่เปนเด็กที่อายุยังไมถึงสี่ขวบจริงหรือ เตะหมอสําริดหนักพันชั่งขึ้น
สูอากาศได ไมนึกเลยวาจะโหดเหี้ยมปานนี้ ขัดกับลักษณะตุกตากระเบื้องเคลือบในเวลา
ปกติของเขา
เสียงดังกราวกอง หมอสําริดลอยมาอยางทรงพลัง การโจมตีใหถึงที่สุดเชนนี้ ชางนา
กลัวเสียจริง
อัจฉริยะในชวงอายุนี้สามารถยกหมอไดอยางงายดาย แตการใชมันเปนอาวุธฟาดลง
มากระแทกเชนนี้ คอนขางจะทําใหคนตกตะลึง ไมมีใครกลาตอกรดวย
อัจฉริยะทั้งสองเรงหลบซอน หวั่นวาหากถูกโจมตี เพียงแคถากก็ทําใหกระดูกหัก
เสนเอ็นฉีกเปนแน!
“โครม”
สุดทาย คันธนูล้ําคาของจื่อซานคุนโดนกระแทกจนหัก หมอสําริดลอยมาอยางดุดัน
และรวดเร็วมาก มันกะทันหันเกินไป เขาเกรงวาจะหลบซอนไมทัน จึงเคลื่อนไหว
รางกายพรอมกับนําคันธนูมาชวยกําบัง แตคันธนูกลับหักบัดเดี๋ยวนั้นเลย
“พวกเจาสองคนมานี่ “เจาตัวเล็กจดจองสองคนนั้น แลวตวาดเสียงดังลั่น จากนั้นก็
มองไปที่เจียวเผิง ชี้นิ้วไปหาทั้งสามคนแลวพูดวา” พวกเจาทั้งสามคนเขามาพรอมกัน
เลย!”
ฝูงชนตะลึงงัน เหลาผูกลาทั้งจากขุนเขาสีมวง ตระกูลสายฟา ทะเลสาบแหงสวรรค
ตางก็งุนงง นั่นเปนอัจฉริยะของตระกูลนี้ พวกเขามาเยือนหมูบานปาเขา แตกลับตอง
มารวมมือกันสูรบกับเด็กที่ยังดื่มนมอยางนั้นหรือ?
หากวาเจียวเผิง จื่อซานคุน และเหลยหมิงหยวนเปนอัจฉริยะแลวละก็ อยางนั้นเด็ก
อายุไมถึงสี่ขวบคนนี้ละคืออะไร?
..............................
[1] เจียวหลง หนึ่งในลูกของมังกรทั้งเกา อาศัยอยูในน้ํา มีเกล็ดรอบกาย
บทที่ 38 ประลองเคล็ดวิชาล้ําคา
“เจาเปนคนบีบคั้นใหขาใชเคล็ดวิชาล้ําคาเองนะ!” เจียวเผิงเอยเสียงทุม ใบหนา
เปยมดวยสีเลือด แดงฉานไปทั่วทั้งหนา ใบหนาจวนจะบิดเบี้ยว เขาถูกกําราบจนโมโห
ยากที่อดทนตอไปได
เดิมทีเขาก็เปนคนที่ดื้อรั้นและหัวแข็ง และเกิดเปนอัจฉริยะแหงตระกูลใหญ ชื่อของ
เขาก็ติดอันดับผูแข็งแกรงภายในระยะหาหมื่นลี้ของแผนดินอันไกลสุดลูกหูลูกตานี้ แต
กลับแพพายอยูในหมูบานปาเขา ชางเปนเรื่องตลกรายสิ้นดี
เมื่อเรื่องราวมาถึงจุดนี้แลว เสี่ยวสือฮาวไมอยากพูดใหมากความ ในตอนนี้มีแต
สงครามเทานั้น
“เจียวเผิง เจาไหวรึไม ครั้งนี้จูโจมจนตัวลอย ตอนนี้อับอายจนพาลโกรธรึ?” จื่อซาน
คุนยางเทาเดินเขามา ถึงแมจะเหน็บแนมเจียวเผิง แตภายในดวงตากลับมีแสงเย็น
ปรากฏขึ้นแวบหนึ่ง เขาจดจองไปยังเจาตัวเล็ก คันธนูล้ําคาถูกทําลาย ทําใหเขาไมสบาย
ใจเปนอยางมาก เตรียมพรอมจะลงมือตลอดเวลา
“เจาคนเดียวจะตอสูกับพวกเราสามคนอยางนั้นรึ? ชางไมรูจักฟาสูงแผนดินต่ํา[1]!
“เหลยหมิงหยวนยืนอยูอีกฟาก มุมปากเผยรอยยิ้มเย็นเยือกพลางพูดวา” กายเนื้อ
แข็งแกรงไมไดมีความหมายอะไร ภายใตโลกหลานี้ เคล็ดวิชาล้ําคาตางหากที่สําคัญ หาก
ไมมีพลังวิเศษติดตัว พึ่งเพียงพลังของเลือดเนื้อเทานั้น จะองอาจไดถึงขั้นไหนกัน?”
เจาตัวเล็กไมเอยคําใด เพียงแคถลึงตามองพวกเขา จากนั้นหันหลังกลับไปมองเหลา
ผูกลา และเอยปากตอชายชราที่มาจากปราสาทเมฆาสวรรควา “โปรดใหทานผูเฒาชวย
เปนพยานและตัดสิน ดูวาผูใดออนแอและผูใดแข็งแกรง”
ผูคนตางประหลาดใจ เจาหนูนอยคนนี้ชางมีปญญา มองออกวาเหลาผูกลาทั้งหมด
นั้นชั่วชา มีเพียงชายชราที่มีขนนกติดอยูบนมือยังถือวามีเมตตา เด็กนั่นกลาวเชนนี้ เห็น
ไดชัดเจนวาตองการใหเขาตัดสินดวยความเที่ยงธรรม
“วิ้ง”
ครานี้ เปนเจาตัวเล็กลงมือกอน อีกทั้งยังพุงเปาไปที่จื่อซานคุน ผูซึ่งมีความประสงค
รายอยางรุนแรง หนึ่งฝามือฟาดลงไป เกิดแสงพรางพรายบนนิ้วมือและฝามือ ประหนึ่ง
หยกวิเศษ
“เริ่มตนไดดี ขอขาทดสอบกําลังกายของเจา ดูซิวาจะแข็งแกรงเพียงไหนกัน!”
เกิดเปนอัจฉริยะ แมอายุจะไมมาก แตกลับไดรับการยกยองมาตั้งแตเยาววัย
จื่อซานคุนทะนงตนมาโดยตลอด เขาถอยหลังหนึ่งกาว หลบหลีกลําแสงคมกริบของสือ
ฮาว คอยเวลาที่กําลังมือของสือฮาวถึงขีดจํากัด ตวัดมืออยางดุดันและกาวไปขางหนา
แมวาเขาปรารถนาจะพิจารณาพละกําลังกายเนื้อของเจาตัวเล็ก แตกลับหุนหันพัน
แลน มองเห็นเจียวเผิงเสียเปรียบเชนนั้น เขาจึงจะใชเลหกลในการตอสู
ทวา ทวงทาของเจาตัวเล็กนั้นไมแนนอน เขาเติบใหญในดินแดนรกราง ไมเคยศึกษา
วิธีการสังหารที่แนนอน เขาคลายสัตวประหลาด อสูรปกษา ที่ใชวิธีดั้งเดิมที่งายและ
โดยตรง ครั้นกําลังเขาใกลสิ้น รางกายลมลงอยางแรง แตขาขวากลับเตะออกมาจากทาง
ดานหลังประดุจสายฟาฟาด ประหนึ่งแมงปองตวัดหาง คลองแคลวและวองไว!
จื่อซานคุนตกตะลึง ปกติแลว วิธีการจูโจมแบบนี้จะเริ่มเมื่อพวกเขาเติบใหญขึ้นกวา
นี้อีกหนอย เหลาผูอาวุโสเคยกลาวไววา ทาที่แนนอนจะเปนการปูทางใหพวกเขา สนาม
รบจริงนัน้ มีการเปลี่ยนแปลงพันหนหมื่นครั้ง และความตายมาเยือนไดในพริบตา
เขาหลบซอนอยางรวดเร็ว เทาขางนั้นเกือบจะเตะโดนกะโหลกของเขา ฝามือ
ที่จื่อซานคุนออกแรงกวัดแกวงนั้นไปปะทะเขาพอดี
“ปง!”
ประหนึ่งแรดรายตัวหนึ่งชนเขากับหนาผา เกิดเสียงดังครืนครัน เม็ดทรายปลิววอน
กอนหินกระจัดกระจาย ฝุนผงพวยพุงสูนภา
ฝามือของจื่อซานคุนเจ็บปวดรวดราว ราวกับกระดูกหัก หากวาบนหัวแมมือไม
เปลงแสง ชวยกําบังเขาจากพลังอันนากลัวนั่น แขนของเขาก็คงจะหักไปแลว
แตถึงอยางนี้ ตัวเขาก็ลอยเหนือพื้นดิน เพราะถูกสือฮาวเตะจนตัวลอยขึ้นกลาง
อากาศ และลอยออกไปไกลสิบกวาเมตร จากนั้นรวงลงบนพื้นดังตุบ ในขณะเดียวกัน
เจาตัวเล็กเองก็ลอยออกไปเชนกัน แตไมใชเพราะสะเทือนจนตองลาถอย กลับเปน
เพราะเขากําลังเคลื่อนไหว พุง ตัวไปหาเหลยหมิงหยวน แลวโจมตีดวยหมัดที่งายดาย
และดุดัน
“โอโห พอตุกตากระเบื้องเคลือบโมโหกลับรายกาจปานนี้” พี่นองฝาแฝดคูนั้นที่
กําลังดูการตอสูอยู ดวงตาสุกใส แพขนตายาว มีสติปญญาที่พบเจอไดยาก ใบหนา
งดงามที่เหมือนกับอยางกับแกะ มองแลวเพลิดเพลินใจ
เหลยหมิงหยวนเห็นอัจฉริยะถูกเด็กคนนี้ฟาดอยางดุดันจนตัวลอยตอเนื่องกันสอง
คน เขาไมอยากประลองดวยรางกาย แววตาลุกเปนไฟ กระแสไฟฟาสีดําเพิ่มพรวดขึ้น
ฉับพลัน กลางฝามือปรากฏอักขระหนึ่ง ผสานเขากับสายฟา จากนั้นปลอยออกไป
ขางหนา
เกิดเสียงกลางอากาศ ประกายไฟกระเด็นรอบทิศ กระแสไฟขึ้นลงเปนระลอก แลดู
อกสั่นขวัญแขวน สายฟาสีดําหนาใหญหนึ่งเสนพุงขึ้น ฟาดลงไปหาสือฮาว
เจาตัวเล็กไมหวาดกลัว ตวัดแขนขวาเบาๆ อักขระเปลงแสงเจิดจาโดยพลัน สอง
ทะลุแขน แสงศักดิ์สิทธิ์สองสวางรางกาย ทําใหเขาสวางไสวและโปรงใส คอนขางขาว
และออนเยาว พลังจูโจมของเขาเพิ่มขึ้นเปนเทาตัว อักขระกระดูกปรากฏขึ้นเปนวงกวาง
เปลงแสงแวบวับอยูหนาแขนของเขา ราวกับตัวอักษรที่หลอมจากโลหะตัวแลวตัวเลา ทิ้ง
รองรอยไวกลางอากาศ ผสานเขากับสายฟา
เสียงตูมดังขึ้น เจาตัวเล็กไมยอมหยุด เขากวาดขาขวาเตะแทนวางโมหินแผนใหญ
ขึ้น พุงกระแทกเหลยหมิงหยวน
เสียงแควกดังขึ้น พรอมกับฝามือของเหลยหมิงหยวนที่แหลกละเอียด ในตอนนี้เอง
ที่เจาตัวเล็กเขาประชิด กระโดดขึ้นสูอากาศ ตวัดขาเหยียบย่ําลงมาจนเกิดเสียงปงดัง
สนั่นหวั่นไหว เหลยหมิงหยวนลอยพาดผานอากาศ แมวาแขนทั้งสองขางจะไขวกันเพื่อ
ใชเปนเกราะกําบัง แตก็ยังประสบกับการโจมตีที่รุนแรง
เพียงเจาตัวเล็กตวัดแขนคูนั้นก็มีแรงถึงแปดพันชั่ง แรงเตะจากขานั้นยิ่งไมตองพูดถึง
เหลยหมิงหยวนราวกับถูกจาวกระทิงชนโครม เลือดทะลักออกจากปาก แขนทั้งสองขาง
เปลงแสงสั่นระริก จวนจะหักออก
“นี่เปนอักขระทําลายที่เหลยโหวเปนคนบุกเบิก มิเชนนั้นแขนคูนั้นคงหักแลว!” มี
คนเอยอยางตะลึง
เพียงพริบตาเดียว เจาตัวเล็กก็สามารถจูโจมอัจฉริยะไดถึงสามคน ครองตําแหนงผู
ไดเปรียบ นั่นทําใหผูกลาจากทั้งสามตระกูลมีสีหนาถมึงทึง สิ่งนี้ยากที่จะเชื่อจริงๆ เปน
เพียงหมูบ านปาเขา แตกลับมีผูมีพรสวรรคที่ตะลึงโลกเชนนี้ สมควรยกยองใหเปนผูมี
พรสวรรคอันฟาประทานอยางแทจริง!
กระทั่งตอนนี้ ไมเพียงแคเจียวเผิงที่ไฟโทสะสุมในทรวง แมแตจื่อซานคุนและเหลย
หมิงหยวนเองก็หนาขึ้นสี นัยนตาเยือกเย็น ชางนาอับอาย ไมคิดเลยวาจะถูกเตะจนตัว
ลอยเชนนี้ ชางเปนความอัปยศอดสูยิ่งนัก
“วิ้ง”
เจียวเผิงนัยนตาเย็นเยือก หลังจากมองดูแลวจึงตัดสินใจลงมือ ใชเคล็ดวิชาล้ําคา
ขนานแทสังหารเจาตัวเล็ก
ในฝามือของเขาปรากฏอักขระโบราณขึ้น สวางสุกใสสองสวางไปทั่วผืนฟา เสียงตูม
ดังขึ้น ไอเหี้ยมโหดลอยคละคลุง เจียวดุรายสีน้ําตาลหมนตัวหนึ่งแปลงกายออกมาจาก
อักขระ กระโจนเขาใสเจาตัวเล็ก
สือฮาวกลับไมหวั่นวิตก เขาวาดแขนขวากลางอากาศ แสงสีเงินสาดเทไปทั่วบริเวณ
พระจันทรดวงหนึ่งเปลงแสงสวยงามพรางพรายปรากฏขึ้นกําบังรางกายของเขา
เจียวหมนโหดเหี้ยม ลําตัวขนาดเหยือกน้ํา แผนเกล็ดแนนขนัด มันดูเกาแกและผาน
โลกมาอยางโชกโชน กระโจนสูสังเวียนรบ ราวกับขามมิติมาจากครั้งโบราณกาล!
“ตูม”
กงจักรจันทราที่อยูดานหนาเจาตัวเล็กเคลื่อนไหว ความวิเศษโหมซัดไปทั่วปฐพี
กลายเปนแผนมหาสมุทร เสมือนวามันลอยขึ้นมาจากกลางทะเลอันกวางใหญไพศาล
ครอบครองพลังวิเศษอันสูงสุด ฟาดฟนไปยังเจียวหมนตัวนั้น
แตเจียวหมนตัวนี้กลับทะยานสูอากาศ มวนตัวขึ้นลงพนแสงวิเศษออกมาอยาง
ตอเนื่อง มวลแมกไมและหินผาที่อยูใกลเคียงแหลกละเอียดตามกันมาติดๆ จนเกิดเสียง
ดังครืนครัน
เสียงแผดรองทุมต่ําดังขึ้น อสูรปกษาพุงออกมาจากกงจักรจันทราที่สองแสงวิเศษ
เจิดจา เงาของมันขยายใหญขึ้นภายในพริบตา ประดุจกอนเมฆ ยืดขยายและลอยขึ้น
กลางสนามรบ แผกลิ่นอายความอํามหิตอันนาหวาดกลัว
“อะไรกัน นี่เปนอสูรปกษาครั้งบรรพกาล มันเปนวิหคกลืนฟา หรือเปนนกยักษ
เวหามรกต? เคล็ดวิชาอันยิ่งใหญเชียวนะ!” เหลาผูกลาจากเผาชนหมาปาและทะเลสาบ
แหงสวรรคพากันตกตะลึงไมหยุด
แมวาสือฮาวจะสําแดงเพียงแคตนแบบที่ไมถือวาสมบูรณ แตกลับทําใหผูคนรูสึกถึง
กลิ่นอายความนากลัวถึงปานนั้น ชางเปนเคล็ดวิชาล้ําคาที่แข็งแกรงเปนอยางยิ่ง
หากวิวัฒนาการไดสําเร็จมากกวานี้ จะไมดอยกวาพลังพิทักษตระกูลของขุนเขาสี
มวง ตระกูลสายฟาและทะเลสาบแหงสวรรค นี่เปนเคล็ดวิชาโบราณที่ทําใหตระกูลใหญ
ตางก็ตารอน
สายตาของฝูงชนก็หมายตาลูกนกสามตัวนั้นอยางไว แววตาลุกเปนไฟ พวกเขาคาด
เดาถูกตองแลว เคล็ดวิชาล้ําคาชนิดนี้จะตองมาจากอินทรีเกล็ดเขียวสามตัวนี้อยาง
แนนอน
“เกิดปรากฏการณสายเลือดบรรพบุรุษหวนกลับ[2] เศษรองรอยอันแข็งแกรงของ
อสูรปกษาบรรพกาลปรากฏขึ้นอีกครั้ง!” มีคนพบตนสายปลายเหตุดวยความชาญฉลาด
เสียงตูมดังขึ้นพรอมกับอสูรปกษาขนาดใหญตัวนั้น ที่ไมทราบแนวาเปนวิหคกลืนฟา
หรือเปนนกยักษเวหามรกต บินโฉบลงมาพรอมกับกรงเล็บที่มีไอหมอกพรามัว จับหมับ
เขาที่เจียวรายตัวนั้น
มันออกแรงฉีกทึ้งจนแตกหักเกิดเสียงดังปง เจียวรายสีหมนตัวนั้นกลายเปนลําแสง
จากนั้นมลายหายไปภายในพริบตา
ในระยะหลังนี้ เมื่อเจาตัวเล็กไดรับการอาบชําระสําเร็จ เขาเขาใจและเขาถึงเคล็ด
วิชาล้ําคาอยางลึกซึ้งมากขึ้นในแตละวัน จึงทําใหอิทธิฤทธิ์ของเคล็ดวิชาล้ําคาเพิ่มขึ้นสูง
อยางฉุดไมอยู และกําราบเจียวเผิงไดเชนนี้
ขณะนั้นเอง จื่อซานคุน เหลยหมิงหยวนเคลื่อนไหวแลว พวกเขาจูโจมมาจาก
ดานหนาดวยกลิ่นอายที่ทรงพลัง
“วิ้ว”
อสูรปกษาบรรพกาลกระพือปกทะยานขึ้นบดบังทองฟาปกคลุมผืนดินโดยพลัน พายุ
คลั่งโหมกระหน่ํา กลิ่นอายความนากลัวแผซาน มันบินโฉบลงมายังจื่อซานคุนพรอมกับ
ไอหมอกขมุกขมัว ทําใหมองเห็นรางกายไมชัด ทวีความนากลัวอยางหาที่สุดไมได
เจาตัวเล็กเปดฉากโจมตี ใชกงจักรจันทราปองกันตัว ใหอสูรปกษาบรรพกาลพุงขึ้น
ไปโจมตีศัตรู
จื่อซานคุนตะโกนเสียงดังลั่น รางกายเปลงแสง ไอสีมวงพวยพุง พระอาทิตยสีมวง
ลอยออกมา และขยายใหญขึ้นอยางรวดเร็ว ภายในมีกิเลนไฟสีมวง แหงนหนาคําราม
ยาว เปลวไฟลุกโหม
“ตูม”
ทั้งคูปะทะกันอยางจัง กิเลนไฟมวงตัวนั้นคํารามดวยโทสะ พุงขึ้นสูฟากฟา เขาสูรบ
กับอสูรปกษาบรรพกาล ทั้งคูเปลงแสงเจิดจา ราวกับดวงดาวปะทะชนกัน สองสวางจน
ขาวโพลนไปทั่วทุกสารทิศ
เกิดเสียงรองโหยหวน กิเลนไฟมวงตัวนั้นสั่นสะทาน หันหลังหลบหนี แตอสูรปกษา
บรรพกาลตัวนั้นกลับบินโฉบลงมา ตวัดกรงเล็บกดลงที่กะโหลกของมันจนทะลวง
สิ้นเสียงดัง เปลวไฟสีมวงทวมทนทองฟา กิเลนไฟแหลกละเอียด กลายเปนสะสาร
และลําแสงบริสุทธิ์ มลายหายไปในโลกหลา
จื่อซานคุนสั่นเทิ้ม ปลอยพลังออกมาอยางรวดเร็ว สําแดงเคล็ดวิชาเพื่อคุมกันตัวเอง
อสูรปกษากระพือปก กลายเปนเมฆเวทมนตรอันนากลัว แนนขนัดเต็มทองฟา พุง
กระโจนใสเหลยหมิงหยวน
เสียงลมพัดหวีดหวิว เจาตัวเล็กเองก็กระโดดขึ้นสูงสามสิบกวาเมตร เขาประชิดตัว
เจียวเผิงที่โดนโจมตีเขาที่ขา กงจักรจันทราลอยควาง แสงสวยงามรวงโรยเปนรอยเปน
พันสาย
“อาก!”
เจียวเผิงแหกปากรองตะโกน ใบหนาเต็มไปดวยหวาดผวา เขาปองกันไมไหว เจาตัว
เล็กย่ําลงมา กงจักรสีเงินสาดแสงสวยงาม ทะลวงอักขระกระดูกที่เขาปลอยออกมา
หลังจากนั้น สือฮาวเหยียบลงที่คางของเขาดังปง ทําใหเขากลิ้งหกคะเมนไปหลายตลบ
เลือดทะลักออกจากปากและจมูก
เจาตัวเล็กรวงลงสูพื้นดินดวยแววตาสุกใส เขาจับลูกโมหินหนักรอยชั่งที่อยูด านขาง
เล็งที่หัวของเจียวเผิงแลวเหวี่ยงออกไป
“โอย...” เจียวเผิงแผดเสียง แมวารางกายจะมีพลัง แตกลับถูกโมหินมหึมาเพียงนี้
หลนคลุมใบหนา ความรูสึกขมขื่นยากที่จะเอื้อนเอยแบบนั้น ทําใหรับมันไมได
สิ้นเสียงผลุบ เขาก็พนฟองเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นก็คายฟนหักสองซี่ออกมา
ใบหนาเจ็บปวดรวดราว พรอมกับรองโหยหวน
..............................
[1] ฟาสูงแผนดินต่ํา หมายถึง การใหรูจักกาลเทศะ รูวาสิ่งไหนควรทําสิ่งไหนไมควร
ทํา ปฏิบัติตัวใหเหมาะกับฐานะของตนเอง
[2] ปรากฏการณสายเลือดบรรพบุรุษหวนกลับ คือ การปรากฏลักษณะของบรรพ
บุรุษที่ขาดหายไปบางชั่วคน
บทที่ 39 แข็งแกรงและออนแอ
เจาตัวเล็กควบคุมพลังไว ไมไดเอาชีวิตของเจียวเผิง มิเชนนั้นผูคนของทะเลสาบแหง
สวรรคคงไมยอมใหเรื่องยุติเชนนี้แนนอน หรือไมหมูบานหินผาอาจจะนองเลือด และนํา
หายนะครั้งใหญมาสูหมูบาน
นี่คือความเปนจริง หากตองการอยูรอดในดินแดนรกรางแหงนี้ นอกจากจะตานทาน
สัตวประหลาดดึกดําบรรพแลว บางครายังตองกมหัวอยางจํายอม มิเชนนั้นจะเกิดการ
ลมสลายของเผาพันธุได
เปนครั้งที่สือฮาวโหยหาพละกําลัง!
“รุมมัน!”
เหลยหมิงหยวนพูดเสียงต่ํา จากนั้นก็เริ่มโจมตี จื่อซานคุนก็พุงไปจูโจมอีกครั้ง
เชนกัน
เจาตัวเล็กเขวี้ยงเจียวเผิงออกไป ประหนึ่งโยนโถผุพังทิ้ง แลวใชเคล็ดวิชาล้ําคาอีก
หน เพื่อเผชิญหนากับสองคนที่เหลือ แสงโชติชวงขึ้นเพียงครู กระแสไฟสวางวาบขึ้น ไอ
สีมวงพวยพุง อสูรปกษาแผดรอง ตอสูกับอยางดุเดือด
เหลยหมิงหยวนกางนิ้วมือทั้งสิบออก ทามกลางแสงสวางพราตามีอสูรปกษาบิน
ออกมาพรอมกับสายฟาสีดํา พุงโจมตีเจาตัวเล็ก
นาเสียดายที่มันไมไดผล สือฮาวสําแดงเคล็ดวิชาล้ําคา อสูรปกษาบรรพกาลเปด
ปากกวางอันนากลัวนั่น แลวเขมือบปกษาสายฟาตัวนั้นเขาไป มันจึงสลายหายไปอยาง
สิ้นเชิง
ผูคนที่มองดูอยูตางตะลึงงัน ชางเปนเคล็ดวิชาล้ําคาที่แข็งแกรงเสียจริง!
“ซิ่ว!”
ทันใดนั้น แสงเยือกเย็นประดุจสายฟาก็ลอยมาดวยความเร็วสูง หมายโจมตีกะโหลก
หลังของเจาตัวเล็ก
เจียวเผิงซึ่งโหดเหี้ยมและเด็ดขาด หยัดกายลุกขึ้นยืน ไมยอมรับบุญคุณที่สือฮาวป
ลอยใหเขารอด เขาใชเคล็ดวิชาอีกครั้ง แปลงเจียวรายใหกลายเปนลูกศรชั่วราย ขึ้น
ลูกศรบนคันธนูแลวเล็งยิงออกไปเพื่อสังหาร ลําแสงนากลัวทั้งแหลมคมและเยือกเย็น
ทําใหผูคนในหมูบานพากันกรีดรอง ใบหนาซีดเซียวโดยพลัน
“ไอหยา!” เด็กสาวที่มาจากปราสาทเมฆาสวรรคคูนั้นรองขึ้นอยางตกใจ
เจาตัวเล็กประสาทสัมผัสไวจึงหันกลับไปทันที นัยนตาใสเปนประกาย ใสซื่อบริสุทธิ์
เปนอยางมาก เมื่อเขาขยับแขน อักขระเปลงแสงวาบ กงจักรจันทราวงที่สองปรากฏขึ้น
ขางละวง ออกแรงประกบมันเขาดวยกัน ครั้นสิ้นเสียงตูมกงจักรจันทราผสานเปนหนึ่ง
เดียว กลายเปนแทนรองโมหนิ
ลูกธนูเจียวรายถูกยิงออกมา เขาเคลื่อนไหวแทนรองโมหนิ สีเงินสวางเบาๆ พลันเกิด
เสียงเครงลอยมา ฝนลูกธนูที่มีกลิ่นอายความชั่วรายละเอียดไมเหลือแมแตผุยผง
ฝูงชนเผยสีหนาตกตะลึง ชายชราแหงปราสาทเมฆาสวรรคถอนหายใจแผวเบาแลว
กลาววา “ชางยอดเยี่ยมเสียจริง เด็กปูนนี้ก็เริ่มครุนคิดเรื่องการสําแดงเคล็ดวิชาล้ําคา
แลว พรสวรรคที่แทจริง!”
นี่ไมใชการพูดชื่นชมครั้งแรกของเขา เหลาผูกลาก็ยากที่จะโตแยง
ในความเปนจริงแลว ไมวาจะเปนตระกูลสายฟา หรือขุนเขาสีมวง หรือแมแต
ทะเลสาบแหงสวรรคเองก็มีเคล็ดวิชาพิทักษตระกูลที่มีชื่อเสียงมาก เพียงแคเด็กทั้งสาม
สําแดงไดไมถึงขั้น จึงพายแพอยางหมดรูปเชนนี้
ใบหนาเจียวเผิงซีดเผือก ตั้งแตเริ่มตนกระทั่งตอนนี้ สูรบกับเด็กบานปาคนนี้อยู
หลายหน เขาก็ถูกกําราบมาโดยตลอด ไมเคยไดครอบครองตําแหนงสูงสุดเลย
กระทบกระเทือนจิตใจเขาเปนอยางมาก ขยี้ความมั่นใจของเขาอยางรุนแรง
“หากเจายังไมยอมลาถอย อยางนั้นก็รับผิดชอบผลที่จะตามมาเองแลวกัน!” เจาตัว
เล็กกลาวเพียงเทานี้
เจียวเผิงไดฟงดังนั้น ใบหนาซีดเผือก แตเพียงครูนัยนตาก็แปรเปลี่ยนเปนนากลัว สี
หนาถมึงทึง เขาพุงเขามาอีกครา
อัจฉริยะสามคนรวมมือกันตอสูกับเจาตัวเล็ก ที่แหงนี้เกิดสายฟาคํารามพรอมกับ
กิเลนแผดเสียง อีกทั้งเจียวรายกูรอง สะเทือนจนแกวหูจวนดับ
อสูรปกษาบรรพกาลแผดรองยาว ปกคูกระทบกันเสียงดัง บดบังจนเต็มฟากฟา
ทอดเงาขนาดใหญลงบนพื้นดิน กลิ่นอายความนากลัวลอยคละคลุง ทําใหเกิดอาการใจ
สั่นและสลดใจ
เขาออกแรงปราบกิเลนไฟ วิหคสายฟา และเจียวราย สังหารอยางไรความปราณี มี
พลังความเหี้ยมโหดอยางฉุดไมอยู!
กลิ่นอายความตายของอสูรปกษาทวมทนผืนฟา เจียวหมนลําตัวขนาดเหยือกน้ําถูก
มันฉีกทึ้งออกเปนสามทอน และวิหคสายฟากลับถูกมันกลืนลงทองไป ยิ่งกวานั้นคือ
กิเลนไฟถูกปกคูนั้นฟาดจนละเอียด!
“ตูม”
เจียวเผิง จื่อซานคุนและเหลยหมิงหยวนถูกโจมตีจนลอยออกไป ทั้งหมดกระอัก
เลือดออกมาคําใหญ เกลือกกลิ้งไปมาบนพื้น รางกายเต็มไปดวยฝุนผง
เหลาผูกลาตางประหลาดใจ นี่เปนอัจฉริยะถึงสามคน เปนเด็กที่มีพรสวรรคดีที่สุด
ภายในอาณาบริเวณหาหมื่นลี้ พวกเขารวมมือกันจูโจม แตกลับถูกเด็กบานปาคนหนึ่ง
โจมตีจนพายแพ
นี่... ทําใหผูคนอกสั่นขวัญแขวน ยากที่จะเชื่อ
ในตอนนี้เอง ความอายและความโกรธของเจียวเผิง จื่อซานคุนและเหลยหมิงหยวน
เพิ่มขึ้นพรอมกัน โดยปกติแลว พวกเขาถูกปกคลุมดวยแสงแหงพรสวรรค ไมวาจะ
เหยียบยางไปยังที่ใดก็จะไดรับการสรรเสริญเยินยอ ทวาตอนนี้กลับใบหนาเปอนฝุน
กลายเปนน้ําเตาเกลือกกลิ้งบนพื้นดิน นาอับอายถึงเพียงนี้ ระยะที่ทิ้งหางมากทําใหพวก
เขาเกลียดจนจะคลั่ง อยากจะเงยหนาคํารามอยางอดไมได
เจาตัวเล็กพุงตัวออกไป เตะเจียวเผิงที่เพิ่งไดสติจนตัวลอยขึ้นกลางอากาศ ราวกับ
ลูกหนังกระแทกกับหินขนาดใหญที่อยูใกลเคียง เจียวเผิงรองอยางเจ็บปวด ไมเคย
ลําเค็ญเฉกเชนวันนี้มากอน
จื่อซานคุนกับเหลยหมิงหยวนอยากหลบหนี แตก็ไมเปนผล เจาตัวเล็กไลลาตามไป
เตะไปสองขาเชนเดียวกัน เหยียบย่ําจนเลือดไหลทะลักออกจากจมูกและปาก เจ็บปวด
รวดราวไปหมดทั้งตัว เกลือกกลิ้งไปมาบนพื้น
สุดทาย เสี่ยวสือฮาวพุงพรวดผานไป หิ้วปกพวกเขาทั้งหมดขึ้น จากนั้นวางเรียงกัน
มือควาโมหินขึ้นมาอีกครั้ง แลวฟาดลงไป
“โอย...”
จื่อซานคุนกับเหลยหมิงหยวนถูกฟาดจนรองครวญคราง แมวาจะมีพละกําลัง
มากมายเพียงไหน แตกลับรับมือกับความเกงกาจของเจาตัวเล็กไมไดครั้งแลวครั้งเลา
พวกเขาออนลากันและเจ็บปวดเขาไปถึงทรวงใน
“เจากลา หากเจายังลงมือกับขาอีก ขาจะฆาลางทั้งหมูบา นหินผาของเจา!” เจียว
เผิงตวาดดวยอารมณโทสะ เมื่อเห็นสือฮาวหิ้วโมหินหนักรอยชั่งจะพุงเขามาหาเขา
“ปง!”
เจาตัวเล็กไมแมแตกะพริบตา ฟาดโมหินลงปดหนาเขาทันที
“โอย...” เสียงของเจียวเผิงที่เปลงออกมาเกือบจะไมใชเสียงคนแลว ปากเบี้ยวตา
เอียง กระดูกจมูกหัก แตครั้งนี้ฟนทั้งปากหลุดรวงจนหมด เปนเพราะถูกโมหินฟาดลงมา
ทั้งเปนแบบนั้น
อยาวาแตเขาเลย แมแตคนอื่นก็แลดูเจ็บปวดมาก ใบหนาของเจียวชาง ชายวัย
กลางคนของทะเลสาบแหงสวรรคกระตุก ยางกาวไปขางหนาจนเกิดเสียงดังตึงตัง ดวยเจ
ตานาความตองการสังหารที่พุงพรวด!
“นองชายเจียวชาง นั่นเจาจะทําอะไร กอนหนานี้เจาบอกวานี่เปนความโกรธของ
เด็กๆ เทานั้น ใหประลองสักยกก็พอแลว ผูใหญไมตองยุงเกี่ยว” ชายชราที่มาจาก
ปราสาทเมฆาสวรรคเอยปาก
“นั่นนะสิ เปนการประลองของเด็กๆ เทานั้น ไยจึงตองกริว้ โกรธกันเลา” ผูนําแหง
เผาชนหมาปาทองคําก็พูดเพื่อชวยไกลเกลี่ย
สิ่งนี้ทําใหผูคนประหลาดใจกันมาก ตองรูวาภายในสนามประลองแหงนี้ มีผูคน
มากมายที่ปรารถนากระดูกล้ําคาของซวนหนี หากทําใหหมูบานหินผาเสียเปรียบ และ
คิดหาขออาง เผาชนหมาปาทองคํากระตือรือรนเปนอยางมาก ไยตอนนี้จึงกลับคํา?
“ลูกเอย พรสวรรคของเจาสูงสง พบเจอไดยาก ทําใหคนประหลาดใจ แตเจากลับ
อาศัยอยูในดินแดนรกรางแหงนี้ ไมสามารถเผยพลังที่แทจริงได หากเผาชนหมาปา
ทองคําของเรารับอุปการะ ไมทราบวาเจาจะยินยอมเขาสูตระกูลเรารึไม? ครั้นถึงเวลา
จะสอนใหเจาไดเรียนรูอักขระกระดูกที่แข็งแกรงที่สุด อีกทั้งยังมีเคล็ดวิชาล้ําคาอีกอยาง
หนึ่งใหเจาไดเขาใจ” ผูนําคนนั้นกลาวเชนนี้
คนมากมายนิ่งอึ้ง จากนั้นก็กนดาในใจ ชางแสแสรงเกงจริง ทําแบบนี้ไมเพียงแตไดผู
มีพรสวรรคไป แตยังไดกระดูกล้ําคาแหงซวนหนีของหมูบ านหินผาไปครอบครองอยาง
สันติอีกดวย
“เจาตัวเล็ก เจามาที่ทะเลสาบแหงสวรรคของพวกเราดีกวา เมื่อถึงตอนนั้น พวกเรา
จะพาเจาไปดูทะเลหิมะ ดื่มนมสัตวที่หอมหวาน” เด็กสาวสองคนเอยปาก และกะพริบ
ตาปริบๆ ใสสือฮาว
“ขาชอบดื่มนมสัตวมากที่สุด” เจาตัวเล็กกลาวพลางขยิบตา
เมื่อคนของเผาชนหมาปาทองฟงคําแลวยนคิ้ว เจาเด็กคนนี้จงใจสินะ ตองการใช
โอกาสนี้ปฏิเสธพวกเขา แมมองดูแลวจะใสซื่อมาก หากแตตัวเลือกที่เลือกนั้นไมเลวเลย
“ลูกเอย การมีครูนั้นสําคัญมาก จะตองเลือกผูสืบทอดใหถูกตอง พวกเราเทือกเขาผู
ครอบครองสายฟา สามารถแปลงกายเปนเทพเจาสายฟาได ไมทราบวาเจายินยอมเขา
รวมหรือไม?” แมแตทาสรับใชของตระกูลสายฟาก็เอยปาก แมวาอัจฉริยะของพวกเขา
จะแพอยางหมดรูป แตเขาก็ยังพูดไกลเกลี่ย
ผูคนมากมายเผยสีหนาประหลาดใจ รับผูมีพรสวรรคคนหนึ่งเปนศิษย อีกทั้งยัง
สามารถนําเอาทายาทปศาจปกษาบรรพกาลไปดวย ยิ่งกวานั้นคือไดรับกระดูกล้ําคาของ
ซวนหนีดวยเชนกัน ดังนั้น จึงมีผูอํานาจอีกหลายคนเอยปาก
“ไอนองชายตองเดินออกจากดินแดนรกรางสิ เจาจะซอนตัวอยูในปาเขาทั้งชีวิต
ไมได โลกภายนอกสวยงามมาก และตระกูลของเรามีเคล็ดวิชาล้ําคาที่สามารถทําใหเจา
กระโดดขึ้นสูทองฟาไดภายในพริบตา”
“ตระกูลของเรามีเคล็ดวิชาไฟล้ําคา เพียงแครายมนตรจะทําใหผืนดินกลายเปนไฟ
แผดเผาศัตรูในโลกหลา ลูกเอย เขามาอยูในตระกูลของเราเถิด ไมแนวาในภายภาคหนา
สามารถรับชวงเทพเจาโบราณ ซึ่งก็คือผูสืบทอดแหงเทพเจาไฟ”
...
ไมใชวาผูคนทั้งหมดจะเปนเชนนี้ ยังมีคนแอบยิ้มอยางเยียบเย็นพลางพูดวา “คน
พวกนี้ทําเกินไป พวกเราตางก็ทําเพื่อกระดูกล้ําคาของซวนหนี จึงเอาเด็กคนนี้ไปดวย
เทานั้น สุดทายก็คงจะฆาทิ้งเพื่อหลีกเลี่ยงผลที่จะตามมาทีหลัง”
เจาตัวเล็กหยุดลงมือนานแลว เด็กทั้งสามคนถูกพยุงกลับไปโดยคนของตระกูลตน
พวกเขามีใบหนาบวมช้ํา เต็มไปดวยคราบเลือด ทั้งอายทั้งโมโห อับอายไปถึงวงศตระกูล
ผูกลาแหงทะเลสาบแหงสวรรค เจียวชางหัวเราะอยางเยือกเย็นแลวพูดวา “ไยจึง
ตองแสแสรงถึงเพียงนี้เลา ขาผูมาจากทะเลสาบแหงสวรรคเพียงตองการกระดูกล้ําคา
ของซวนหนีเทานั้น หมูบานนี้ดูแลไมไหวแนนอน”
“อืม เจาพูดถูก กระดูกซวนหนีไมใชสิ่งที่หมูบานจะสามารถรักษาไวได หากทิ้งไวให
พวกเขาก็เพียงแตจะเกิดการฆาลางเผาพันธุเทานั้น ขารอเวลาหารือวาจะจัดการเรื่องนี้
อยางไร”
“ถูกแลวละ ควรทําเชนนี้แหละ อีกอยาง ลูกนกประหลาดสามตัวนั่น ก็ไมใชสิ่งที่
หมูบานแบบนี้ควรจะมี ควรจะสงมอบใหเรา”
...
ผูกลาไมนอยเลยที่เห็นดวย พวกเขาเพิกเฉยตอคนในหมูบานหินผาอยางสิ้นเชิง ไม
แมแตจะถามวาพวกเขาเห็นดวยหรือไม จะจัดการอยางไรก็ขึ้นอยูกับผูคนที่อยูใน
เหตุการณ กลับไมใชผูมีสิทธิ์ครอบครอง
ครั้นผูคนในหมูบานหินผาไดฟง ตางก็บันดาลโทสะ มันจะเกินไปหนอยแลว หมูบาน
ของพวกเขาออนแอและเล็ก ถึงกับไมมีสถานะทางสังคมเลยอยางนั้นรึ? แมแตเสียง
ทักทาย หรือเอยถามสักคําก็ไมมี นี่เปนการเหยียดหยามพวกเขาอยางเปดเผย
“ทานลุง กระดูกล้ําคาของซวนหนีเปนของเรา ไยจึงตองใหมูลคาของมันดวยชีวิต
และเลือดละขอรับ อีกทั้งตาเผิง เสี่ยวชิง และจื่อยวิ๋นเปนสหายของขา” เจาตัวเล็ก
ดวงตาสุกใสเปนประกาย น้ําเสียงชัดเจนเอยถามอยางตั้งใจ ทําใหทั่วบริเวณเงียบสงัด
ขึ้นมาโดยพลัน
ลูกนกทั้งสามยังคงเคียงขางเขา ดวงตากลมโตฉายแสงแหงปญญา ใชหัวสีกับแขน
ของเขาแสดงความรักใคร
“หากไมอยากสูญสิ้นเผาพันธุ ก็สงมอบมาเสียเถิด ไมวาจะเปนลูกนกสามตัวนั้น
หรือกระดูกล้ําคาของซวนหนี ตางก็ไมใชสิ่งทีพ่ วกเจาควรจะมี” ผูกลาแหงตระกูลใหญ
คนหนึ่งกลาว
“ของพวกทานงั้นรึ? อีกเพียงครู หมูบานหินผาจะสูญสิ้น มันจะกลายเปนวัตถุที่ไร
เจาของแลว!” เจียวเผิงที่ไดสติกลับมา และเช็ดคราบเลือดจนสะอาดแลว กลาวอยางชั่ว
ชาอํามหิต
“พวกเจา...จะรังแกกันไปเกินไปแลว!” เด็กขี้มูกโปงพูดดวยเสียงสะอื้น เขาใจถึง
สถานการณตรงหนา หมูบานหินผาขัดขวางพวกเขาไมได
บนตัวของเจียวเผิงปรากฏกลิ่นอายความเหี้ยมโหด มองไปยังเฟยเจียวยาวยี่สิบกวา
เมตร ที่ลอยควางอยูกลางอากาศแลวพูดวา “ทานลุงเจียว ไปเขมือบเจาเด็กบานปาคน
นั้นเสีย โดยเฉพาะเด็กที่มุมปากเลอะคราบนมคนนั้น ทะลวงกระดูกของมันใหแหลก
เหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดทาย แลวสงมันมาใหขา!”
“โฮก...”
เสียงคํารามทุมต่ําลอยมา เฟยเจียวตัวนั้นยืดหัวใหญยักษอยูกลางอากาศ จดจองไป
ที่เด็กๆ อยางไมละสายตา นัยนตานาเกรงขาม กลิ่นอายความตายลอยคละคลุง
“พวกเจาขมเหงกันเกินไปแลว!” สือตาจวงโมโหจนตัวสั่นเทา
“ขมเหงเจาแลวอยางไรเลา หากกลาตอตานละก็ ขาจะฆาลางผลาญหมูบานของ
พวกเจา” เจียวเผิงกระโดดขึ้นนั่งบนหลังของเฟยเจียว จองมองมายังดานลางดวยสายตา
เยือกเย็น จองเจาตัวเล็กเขม็ง
ผูกลาของทะเลสาบแหงสวรรค เจียวชางกลับไมขัดขวางแมแตนอย พูดดวยใบหนา
สงบเยือกเย็นวา “สงกระดูกล้ําคาซวนหนี และลูกนกสามตัวนั้นมา มิเชนนั้นหมูบานจะ
ไมเหลือแมแตชื่อ”
นี่เปนหมูบานปาเขา ธรรมเนียมของผูคนนั้นเรียบงายและซื่อตรง แตผูคนในหมูบาน
ไมไรความกลาหาญ สือหลินหูคํารามอยางโกรธแคนแลวพูดวา “ยอมเปนหยก
แหลกลาญ ไมขอเปนกระเบื้องสมบูรณ[1] หากตองการบีบคั้นพวกขาจริงๆ อยางนั้นก็สู
รบจนหยดสุดทาย กระทั่งหลั่งเลือดหยดสุดทาย!”
พวกเขารูวา หากสงมอบกระดูกล้ําคาของซวนหนีให ผูกลาเหลานี้ก็คงจะสังหารเพื่อ
ปกปดความลับ อยางไรเสีย เรื่องแบบนี้ไมใชเรือ่ งดีงาม ไมมีใครปรารถนาใหมันแพรง
พรายออกไป
“พวกเจาตองการใหหมูบานนองเลือดจริงๆ งั้นรึ?” ผูกลาของทะเลสาบแหงสวรรค
เจียวเผิงเอยถามอยางเยือกเย็น
“ทานลุงเจียว เรงเคลื่อนไหว ฉีกพวกมันใหเปนชิ้นๆ!” เจียวเผิงนั่งอยูดานบน และชี้
ไปยังเจาตัวเล็ก
“ทานเทพตนหลิว ขารูวาทานไดยินสิ่งที่ขาพูด และเชื่อวาทานปกปองหมูบานของ
เราได วิงวอนขอทานชวยปกปกษรักษาที่แหงนี้ดวยเถิด” เจาตัวเล็กแววตาใสซื่อ พูด
พึมพําตอตนหลิวไหมเกรียม
“ยังแอบอางวาเปนเทพเจาอยางนั้นรึ? ทานลุงเจียว ฆาลางบางที่นี่เสีย นอกจากนี้
เด็ดกานออนของเทพารักษแหงหมูบานหินผามาใหขา!” เจียวเผิงกําเริบเสิบสานตวาด
เสียงดังลั่น
เจียวเชิงผูมาจากทะเลสาบแหงสวรรคไมเอยคําใด มองดูสิ่งเหลานี้อยางเยือกเย็น
ปลอยใหสถานการณดําเนินตอไป
“โฮก...”
เฟยเจียวเคลื่อนไหวแลว รางกายขนาดใหญพุงตรงลงมาพรอมกับลมพัดโหม
กระหน่ํา พุงตรงไปยังผูคนของหมูบานหินผา
“ทานปู หามพวกเขาเร็วเขา!” เด็กสาวสองคนที่หนาเหมือนกับราวกับแกะวิตก เอย
ขอใหปูของตนชวยเหลือหมูบานหินผา
“อยากังวลไป!” ชายชราผูมาจากปราสาทเมฆาสวรรคกลาวเสียงเบา ตอนนี้เขา
หวาดกลัวจนขนลุกขนชัน
“ชริ้ง!”
ทันใดนั้น แสงสวางงามอรามหนึ่งเสนพุงขึ้น กานหลิวสีเขียวหยกกานหนึ่ง ราวกับ
แกะสลักจากหยกศักดิ์สิทธิ์ สองแสงพรางพรายทั้งกาน กระจายแสงวิเศษระยิบระยับ
ทะลวงแผนฟา
เฟยเจียวที่ปากอากวางขนาดเทาอางพุงดิ่งลงมา หมายลางบางหมูบานหินผาเบิกตา
กวางอยางดุดัน นาหวาดกลัวอยางที่สุด มันเปลงเสียงคํารามนากลัวออกมา
“โฮก...”
อยางไรก็ตาม เพียงชั่วครู เสียงกลับหยุดไปเสียดื้อๆ กานหลิวสีเขียวเขมกานหนึ่ง
ประหนึ่งโซศักดิ์สิทธิ์เปนลําดับเรียบรอย แสงสีเขียวสองสวาง ทะลวงรางกายใหญของ
มันดังผลุบ
..............................
[1] ยอมเปนหยกแหลกลาญ ไมขอเปนกระเบื้องสมบูรณ หมายถึง ยอมตายอยางไม
ยอมเสียศักดิ์ศรี
บทที่ 40 เทพเจาตนหลิว
ตานทานไมไหว!
กานสีเขียวมรกตระยิบระยับกระจายแสงสีเขียววิเศษ มองดูนุมนวลอยางเปรียบ
ไมได แตโซศักดิ์สิทธิ์ที่พุงออกมานั้นกลับแข็งแกรง ตอกเฟยเจียวลงกลางอากาศ เลือด
สดหลั่งรินเปนทางตามกานออนที่สองแสงระยิบระยับ วิเศษและลึกลับ
เฟยเจียวไมสามารถเปลงเสียงไดแลว แผงเกล็ดทั่วทั้งตัวสิ้นแสงโดยพลัน มันเกรง
กลัวอยางสุดขีด จนพลังชีวิตเกือบจะสูญสิ้น รางกายสั่นระริก
“เกิดอะไรขึ้น ทานลุงเจียว!” เจียวเผิงที่นั่งอยูบนเจียวรายตะโกนดังลั่น เขากลัวจน
อกสั่นขวัญแขวน
นี่เปนภาพเหตุการณที่นากลัว เจียวตัวนี้มีลําตัวหนาขนาดเหยือกน้ํา ยาวเกือบสิบ
เมตร แผงเกล็ดแนนขนัดทั้งลําตัว และมีปกงอกคูหนึ่งงอกออกมา นาเกรงขามและดุราย
แตกลับถูกกานหลิวเล็กบอบบางตรึงอยูกลางอากาศ ไมขับเขยื้อน ชางมหัศจรรย!
“ไยจึงเปนเชนนี้?” ผูกลาทั้งหมดรองออกมาอยางตกใจ
นี่เปนเทพารักษแหงหมูบานปาเขาอยางนั้นหรือ? ไยจึงนากลัวไดถึงเพียงนี้ มันเพียง
โจมตีคราเดียว ก็ทะลวงรางกายของสัตวประหลาดที่แข็งแกรงไดเชนนี้
“เร็วเขา ชวยมันลงมา!” เจียวชาง ชายวัยกลางคนของทะเลสาบแหงสวรรคตวาด
เสียงดังลั่น
กลางผืนปาปรากฏเงากวาสิบเงาพุงเขามาอยางรวดเร็ว ฝามือสวางดวยอักขระ
เปลงแสงแวบวับ เพียงชั่วครู ลําแสงก็พวยพุงขึน้ สูทองฟา ปกคลุมปากทางเขาหมูบาน
พวกมันทั้งหมดหมายสังหารตนหลิวพรอมกัน
ตระกูลสายฟา ตระกูลขุนเขาสีมวง เผาชนหมาปาทองคําตางก็ใจสั่น ผูคนจาก
ทะเลสาบแหงสวรรคมองผิวเผินเหมือนมากันไมกี่คน แตกลับมีกลุมคนตามมาในมุมมืด
เตรียมกําลังพรอม
อยางไรก็ตาม ทุกอยางก็สายไปเสียแลว เพียงแคพริบตา ดวงตาของเฟยเจียวหนา
ใหญกลางอากาศตัวนั้นไรพลังชีวิต เกล็ดสองแสงระยิบระยับประดุจผานกาลเวลาอัน
เนิ่นนาน เริ่มแตกออก รางกายชราลงอยางรวดเร็ว สุดทายหลนรวงมาอยางแหลก
ละเอียดไมมีชิ้นดี
เรื่องไมคาดฝนเชนนี้ชางนากลัว เฟยเจียวที่นาเกรงขามมาก และแข็งแกรงเทาเทียม
กับเหลาผูกลาทั้งหมดที่อยูในเหตุการณ กลับกลายเปนผุยผง ประหนึ่งแกตาย!
เจียวเผิงหวาดหวั่น หลนรวงลงมากับพื้น เขาตกใจขวัญหนีดีฝอ นี่ตองเปนเทพารักษ
ที่แข็งแกรงเพียงไหนกัน? เขากลิ้งหลายตลบและพยายามคลานหนี ไรซงึ่ ความโอหัง
อยางสิ้นเชิง ตกใจจนใบหนาเล็กซีดเผือก ลําตัวสั่นเทา
บนกานออนสีเขียวพรางพรายมีของเหลวสีเทาหนึ่งหยด เกลือกกลิ้งเบาๆ กระจาย
ความมีชีวิตชีวา นี่เปนสิ่งที่สกัดจากรางกายของเฟยเจียว และถูกเขากักเก็บไว
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอยางรวดเร็ว ตั้งแตเฟยเจียวถูกทะลวง กระทั่งแหลกละเอียดดวย
ความไว และรวงลงสูพื้นดิน ทุกอยางเสร็จสิ้นภายในชั่วพริบตา
และกลุมคนที่กระโจนออกมาจากกลางปาก็ปะทะเขาพอดี ลําแสงหลากหลายชนิด
เคลื่อนที่ไปมา อักขระทวมทนทองฟา มีเงาเลือนรางของปกษาโบราณ และสัตว
ประหลาดแปลงกาย หอมลอมลําแสงพราตานั่นไว พุงจูโ จมตนหลิวไหมเกรียม
“ซิ่ว!”
กานหลิวยืดขยายกลายเปนโซสีเขียวมรกตหนึ่งเสน วาดเสนรอบวงสวยงามกลาง
อากาศหนึ่งเสน มองดูปราดเปรียวและพรางพราย แตผลลัพธที่ปรากฏนั้นนากลัว
สะทานทรวง!
“ผลุบ”
กานหลิวเคลื่อนที่ผานไป ทําใหสันหลังของมือดีคนหนึ่งหัก มันดูเหมือนจะบอบบาง
แตกลับเทียบไดกับดาบวิเศษหนึ่งดาม ฟาดฟนผูคนจนขาดออกเปนทอน เลือดสดสาด
กระเซ็น
“มันคือ?!” ฝูงชนตะลึงงัน
นี่เปนเพียงการเริ่มตน มือดีทั้งหมดที่พุงเขาประชิด ตางก็ตกอยูภายในอาณาบริเวณ
ที่แสงสีเขียวเจิดจาปกคลุมอยู
กานหลิวกวัดแกวง สะบัดไปตามแรงลม แสงสีเขียวเปนสายรวงโรย พาดผาน
ฟากฟา มันเหมือนแสศักดิ์สิทธิ์ และเหมือนดาบเซียน หวดเหลามือดีจนขาดเปนสอง
ทอนคนแลวคนเลา หรือฟาดฟนจนขาดเปนสองทอน
การโจมตีครั้งนี้นากลัวเกินไป ทั้งที่เปนเพียงแคกานหลิว แตพลังทําลายลางเทียบได
กับอาวุธคมกริบพาดผานทองฟา ฟาดฟนศัตรูใหราบเปนหนากลอง
“ผลุบ"” ผลุบ"
สะเก็ดเลือดแตกกระจาย เสียงดังอยางไมหยุดหยอน กานหลิวตวัดผานอยางแผว
เบา ศพหลนรวงลงมาเปนวงกวาง บางก็ขาดเปนทอน บางก็ฟาดจนเปนสองสวน สะเก็ด
เลือดสาดเทลงมาอยางตอเนื่อง
แสงพลบค่ําสะทอนแสงสีแดงไปทั่วฟากฟา ยอมทั่วหมูบานใหเปนชั้นแสงสีทอง
งดงาม ภายใตอาทิตยอัสดง บนตนหลิวที่ไหมเกรียม มีกานออนแกวงไปมา สองแสง
พรางพราวสุกใส เปนความงามที่ไมสามารถเอื้อนเอยคําใดได แตบนพื้นดินกลับเต็มไป
ดวยคราบเลือด ภาพเหตุการณนี้สะทอนลงไปยังจิตใจของเหลาผูกลาทุกคน ทําใหพวก
เขาจดจําไปชั่วชีวิต
มันงายดายเชนนี้แล มือดีที่มาจากทะเลสาบแหงสวรรคถูกสังหารภายในพริบตา
โดยไมพะวงแมแตนิด เหลาผูกลามองดูดวยรางกายที่เย็นเฉียบ ไอเย็นผุดขึ้นมาดังซูซู
“โอย...” เจียวเผิงรองอยางเจ็บปวด เขาตกใจอยางสุดขีด มีซากศพบางสวนรวงลง
มาบนตัวเขา เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วใบหนาของเขา เขากระเสือกกระสน และสะอึก
สะอื้นหนีกลับมา
เจียวชาง ชายวัยกลางคนจากทะเลสาบแหงสวรรคใบหนาซีดเซียว ไรสีเลือดเปน
เวลานานแลว เหงื่อเย็นผุดออกทั่วรางกาย ความกลัวปกคลุมหัวใจของเขา
เปนเทพารักษที่แข็งแกรงปานนี้ไดอยางไร?!
ผูกลาทั้งหมดที่สงบเยือกเย็นเมื่อครู ตางก็งงงวย เพิ่งจะเมื่อครูที่พวกเขาเหยียด
หยามหมูบานหินผา ไมใหความสนใจแมแตนอย ราวกับพวกเขาไมมีตัวตน ทั้งหวังจะ
จัดการกระดูกซวนหนีและแบงสรรลูกนกทั้งสามดวยตัวเอง ทวาตอนนี้แตละคนกลับ
หวาดผวา
สือเฟยเจียวและชายฉกรรจเถรตรงคนอื่นๆ และกลุมเด็กพวกนั้น อีกทั้งหญิงสาว
และผูอาวุโสที่ตามมาหลังจากไดขาวพากันอาปากคาง มองดูทุกสิ่งอยางนิ่งงัน และไม
กลาเชื่อวาเปนเรื่องจริง!
นี่มันเขยาขวัญเกินไปแลว กานหลิวหนึ่งกาน ทะลวงปฐพี ฟาดฟนกลุมคนแข็งแกรง
สิ่งเหลานี้ทําใหผูคนสั่นสะทาน
หลายสิบปมาแลวที่ตนหลิวไมเคยมีปฏิสัมพันธกับผูคนในหมูบาน ไมเคยมีแมแต
พฤติกรรมแปลกประหลาด แตตอนนี้กลับแสดงผลลัพธที่นากลัวไดถึงเพียงนี้ ทําใหผูคน
รูสึกวานี่ไมใชความจริง
บางที คงจะมีเพียงหัวหนาหมูบานที่บําเพ็ญตบะ และคนไมกี่คนที่ไมประหลาดใจ
เพราะเมื่อสิบปกอน พวกเขาไดเห็นภาพเหตุการณนากลัวยิ่งกวา ทามกลางค่ําคืนที่สาย
ฝนโปรยปรายและสายฟาคําราม
“วาว...” เจียวเผิงตะเกียกตะกายออกมาจากกองซากศพไดในที่สุด วิ่งหนีเขาใกล
เจียวชาง กอดหมับเขาที่แขงของเขา ทั้งรองไหทั้งตะโกน เขาในตอนนี้อยูในอาการตกใจ
สุดขีด
กระทั่งทุกอยางสงบจึงจะคืนสติ ผูกลาคอยๆ ไดสติกลับคืนมาจากความกลัว พรอม
กับความยําเกรง ความหวาดกลัว ไมกลาจองมองตนหลิวตนนั้นโดยตรง
เจียวชาง ผูกลาจากทะเลสาบแหงสวรรคเกิดความไมสบายใจ แตความหวาดกลัวมี
มากกวา เขายืนอยูตรงปากทางเขาหมูบานแลวเอยปากวา “ทานเทพารักษผูยิ่งใหญ ได
โปรดใหอภัยในความไมรูและที่ทําใหทานขุนเคือง...”
เสียงพูดเพิ่งเริ่ม สายลมออนพัดผาน กานหลิวกวัดแกวง ดิ่งลงมาพรอมกับไอหมอก
ขมุกขมัว กานหลิวทะลวงแขนขวาของเขาดังผลุบ
“อา...”
เสียงโหยหวนลอยมา แมเจียวชางจะกระเสือกกระสนอยางสุดแรงเกิดก็ไมไดผล
แสงศักดิ์สิทธิ์ภายในรางกายมลายสิ้นโดยไว แขนขางนี้กําลังหมดแรง จากนั้นก็
แตกระแหง สิ้นเสียงดังผลุบ แขนก็หักลงมาราวกับไมผุพัง หลนรวงลงสูพื้นดิน
เจียวเผิงแผดเสียงรองอยางเจ็บปวด เขาอยูดานลางพอดี และกําลังกอดขาทั้งสอง
ขางของเจียวชางอยู ถูกแขนที่แหงและฉีกขาดกระแทกใส อีกทั้งยังมองเห็นกานหลิว
เปลงประกายเจิดจา เขาตกใจอยางสุดขีดจนตาเหลือก จากนั้นก็เปนลมลมพับไป
เจียวชางหัวเราะอยางขมขื่น ไมเพียงสูญเสียแขนไปหนึ่งขาง กลายเปนคนพิการ เขา
ยืนตัวโงนเงน ภายในใจขมขืนอยางเปรียบไมได เมื่อครูยังสูงสง เพิกเฉยตอคนในหมูบาน
เขนฆาเพื่อชวงชิง เพียงชั่วครู ไมคาดคิดวาการโจมตีเพียงชั่วพริบตา เขาก็พิการ
กลายเปนคนไรประโยชน
ชายวัยรุนสองคนจากทะเลสาบแหงสวรรคเดินไปขางหนา มือของอัจฉริยะทั้งสอง
กําลังสั่นเทา หัวใจเตนแรง สิ่งที่เห็นเมื่อครูจะตราตรึงอยูในหัวใจ ทั้งชีวิตก็ไมสามารถลบ
ลางได
ผูกลาเงียบกริบ ภายในใจหวัน่ เกรงเปนอยางมาก เทพารักษตนนี้นากลัวเกินไป
ความเย็นแผเขากระดูก
ผูคนจากเผาชนหมาปาทองคํา ตระกูลสายฟา ตระกูลขุนเขาสีมวง ตางก็เกิดความ
เคารพยําเกรง เมื่อครูพวกเขาเพิ่งจะถกกันอยูวา จะจัดการกับหมูบานหินผาอยางไร อีก
ทั้งปรารถนาแยงชิงกระดูกซวนหนี แตสถานการณในตอนนี้ ทําใหพวกเขาขนลุกขนชัน
ทุกคนเสียใจเปนอยางมาก หากรูวากานหลิวกานนี้นากลัวถึงเพียงนี้ ถึงจะสงมอบ
อาวุธล้ําคาของพวกเขาให ก็จะไมปริปากพูดแมแตคําเดียว
“เฮย พวกเจาจะชวงชิงกระดูกล้ําคาของเรามิใชรึ? เขามาเอาไปสิ” เด็กๆ ไมพอใจ
กันมาก หลังจากที่สงบสติอารมณไดแลว ก็รูสึกโกรธขึ้นมาอีกครา
“ชนเผาหมาปาทองคํา ทะเลสาบแหงสวรรค และตระกูลสายฟากับตระกูลขุนเขาสี
มวง เมื่อครูพวกเจายังผยอง ไมสนใจใยดีพวกขามิใชรึ? ไยตอนนี้จึงหนาซีดเซียวกันละ?”
เออรเหมิงกลาวพลางจองมองดวยสายตานิ่งงัน
“อีกอยาง เมื่อครูมีผูกลาบอกวาจะฆาลางผลาญหมูบานหินผาของเรามิใชหรือ?”
เด็กขี้มูกโปงกําหมัดแนนพลางรื้อฟนความหลัง
เมื่อเหลาผูกลาไดฟงดังนั้น ตางก็สั่นระริก หวาดกลัวจนหนังหัวจะระเบิด มองไปที่
ตนหลิวตนนั้นอยางรวดเร็ว ดวยกลัววามันจะสําแดงอิทธิฤทธิ์อีกหน
“เจาหนู สิ่งเหลานั้นลวนแตเปนการเหยาแหย ไมใชความจริง อยาเก็บมาใสใจเลย
นะ”
เหลาผูกลาเหงื่อไคลไหลยอย สถานะของพวกเขาสงสูงปานใด โดยปกติแลวจะสนใจ
ผูคนในหมูบานเชนนี้ไดอยางไร ไมวาจะเหยียบยางไปที่ใด ก็จะไดรับเคารพยกยอง
หมูบานและผูคนบานปาระดับนี้ กลาขัดเสียที่ไหน? ทวาตอนนี้ พวกเขากลับตองยอมทํา
ในเรื่องที่ไมอยากทํา ซึ่งก็คือกลาวขอโทษผูคนในหมูบานเสีย
“สหาย พวกทานวาการเขาใจผิดครั้งนี้ปลอยผานไปไดใชหรือไม พวกเราจะตอบ
แทนอยางดีในภายหลัง” ผูนําแหงเผาชนหมาปาทองคําเอยปาก และมองไปยังสือหลินหู
และชายฉกรรจคนอื่นๆ
ชริ้ง!
แสงสีเขียวสองสวางวาบ ตนหลิวกําลังขยับ กานออนกานนั้นรวงโรยอยางรวดเร็ว
ทะลวงหัวไหลของพวกเขาทีละคน ทําใหเลือดแหงขอดเกือบครึ่งตัว หัวไหลแตกออก
หลุดรวงลงมา กลายเปนพิการ อาการคลายกับเจียวชางอยางกับแกะ
จากนั้น กานหลิวเคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว ราวกับหอกศักดิ์สิทธิ์ ทะลวงผูกลา
ติดตอกันเจ็ดถึงแปดคน บางทีอาจเปนเพราะวาพวกเขาเคยพูดวาจะทําใหหมูบานหินผา
นองเลือด หรือเคยแสดงออกถึงภัยอันตราย ตอนนี้กลับถูกกานออนดูดเอาพลังชีวิตไป
จํานวนมาก
“พวกเจาไปเสียเถิด” สือหลินหูกลาว
กลุมผูกลาสั่นเทิ้ม ตนหลิวชางนากลัวเสียจริง ไมสามารถตอกรไดอยางสิ้นเชิง
นอกจากวิงวอนผูนําแหงตระกูลใหมาดวยตนเอง มิเชนนั้น หากเหลาผูกลายังอยูที่นี่ตอ
ก็เทากับรนหาที่ตายเทานั้น
กลุมคนพุงออกจากหมูบานหินผา ทั้งผูนําแหงตระกูลหมาปาทองคํา และเจียวชาง
ผูมาจากทะเลสาบแหงสวรรคตางพากันหัวเราะอยางขมขื่น ทานลุงของจื่อซานโหว และ
ทาสรับใชของตระกูลสายฟาไมเอยถอยคําใด หนนี้พวกเขาแพอยางราบคาบ
มีเพียงผูคนจากปราสาทเมฆาสวรรคที่ยังสงบ เพราะวาพวกเขาไมมีความสูญเสีย
ใดๆ ชายชราพาเด็กสาวงดงามสองคน เขาหรี่ตาลง ไมไดพูดอะไรใหมากความ เด็กสาว
สองคนกะพริบตาโต มองไปยังหมูบานหินผา อยากจะกลาวอะไรสักหนอย แตก็ถูกเขา
กีดกัน
แสงสายัณหมลายหายไปนานแลว ทองฟาแปรเปลี่ยนเปนสีดํา มองไปยังที่หา งไกล
ตนหลิวในหมูบานหินผากระจายรัศมีแสงพรามัว ปกคลุมไปทั่วบริเวณหมูบาน
“ประชากรของเรามีนับสิบลาน อาณาเขตของอาณาจักรกวางขวางสุดลูกหูลูกตา
มันกลับทํากับพวกเราเชนนี้ ไมเกรงวาหายนะจะมาเยือนงั้นรึ?” หางออกไปจากหมูบาน
หินผาเพียงลี้กวา มีคนโกรธแคนอยางไมสิ้นสุด
“จะตองรายงานแกราชาของเรา ใหออกจากขุนเขาดวยตัวทานเอง อยางอื่นขาไม
พูดถึง แตกระดูกของซวนหนีและเทพารักษตนนั้น จะพลาดไมไดเด็ดขาด!” มีคนกลาว
อยางเคียดแคน
อยางไรก็ตาม เมื่อพูดจบ แมวาจะหางไกลถึงเพียงนี้ แตเทพารักษก็สัมผัสได กาน
หลิวเขียวสดยืดยาวออกเกือบเมตรกวา พรอมดวยแสงศักดิ์สิทธิ์หวดลงมา
“ผลุบ"” ผลุบ"...
ทุกคนที่เคียดแคนถูกฟาดจนรางกายฉีกออกเปนทอน ราวกับถูกดาบวิเศษแหลมคม
ฟนฉับลงมาจากกลางอากาศ ฟนจนรางกายทอนบนและทอนลางแยกออกจากกัน เลือด
สาดกระเซ็น
ผูนําทัพของแตละตระกูลก็ไดรับบาดเจ็บเชนกัน ทั้งทาสรับใชของตระกูลสายฟา
และทานลุงของจื่อซานโหวก็สูญเสียฝามือไปหนึง่ ขาง แขนหักพรอมกันทั้งหมด เปนการ
ตักเตือน
เหลาผูกลาขนหัวลุก ไมกลาแมแตจะพูดคําใด หลบหนีไปทั้งกลางค่ํากลางคืน
ทั้งหมดใชอาวุธล้ําคา เปลงแสงเจิดจา วางลงบนพื้น จากนั้นพุงหายเขาไปยังปาลึก
บทที่ 41 ผูก ลา
“เจาตัวเล็ก พวกขาไปกอนนะ วันหลังจะมาเยี่ยมเยียนเจาอีกนะ”
ใตค่ําคืนแหงรัตติกาล ขนนกหิมะยาวหาหกเมตร กระจายแสงสีขาวสะอาดตา วิเศษ
และบริสุทธิ์เปนอยางมาก ดานบนมีเงายืนอยูหลายเงา สองสาวพี่นองประดุจภูตคูนั้นที่
กําลังโบกมือเล็กอันบอบบาง พวกเขามีใบหนาที่เหมือนกัน ผิวขาวกระจางใส ดวงตาโต
เฉียบแหลม เอยคําลาตอหมูบานหินผา
ขนนกหิมะพรางพราย ลอยเหนือพื้นดินสูงสามเซี๊ยะ นําพาคนเหลานั้นลอยไกล
ออกไปทามกลางผืนปา พวกเขาเปนคนกลุมสุดทายที่ออกจากที่นี่ และเปนกลุมคนเพียง
กลุมเดียวที่อยูรอดปลอดภัย
“ลากอนพี่สาว หากครั้งหนาไดมาก็อยาลืมเอานมสัตวหอมหวานมาฝากขานะ เชน
หลินเปาหิมะ ชางธารน้ําแข็ง...” เจาตัวเล็กตะโกนเสียงดัง
พลันกลางหมูบานก็เกิดเสียงหัวเราะเซ็งแซ เด็กๆ พากันกูรองวา “เสี่ยวสือฮาวผูที่
ไลตามนกกระจิบ สี่ขวบแลวยังไมหยานม”
วิกฤตครั้งใหญผานพนไป ผูคนในหมูบานก็วางใจ ตางก็หัวเราะเกรียวกราว เจาตัว
เล็กสายตาเฉียบแหลม ใบหนาแดงก่ํา อธิบายเสียงเบาวา “ขาเพียงอยากจะดูวา น้ํานม
ของหลินเปาหิมะเปนเชนไร ไดยินมาวาพิเศษมาก พวกทานอยาหัวเราะเยาะขา ขาไมได
อยากกินจริงๆ นะ”
“ฮาฮาฮา...”
สือเฟยเจียวเดินเขามาลูบเสนผมของเขา และหยิกใบหนาที่เหมือนแอปเปลสีแดง
ของเขา ดวยความรูสึกสนอกสนใจ
หมูบานหินผากลับสูสภาวะปกติ สีหนาของผูคนแปรเปลี่ยนเปนสุขุมและเครงขรึม
จากนั้นนําเครื่องเซนหลากหลายชนิด และยืนออกันหนาตนหลิวแลวเซนไหวกันอยาง
จริงจัง ทุกคนกําลังอธิษฐาน ดวยศรัทธาอยางแรงกลา ในชวงที่คับขัน ราวกับฟาดิน
คํารามพรอมกัน เกิดพลังมหัศจรรยอยางหนึ่งขึ้น
ผูคนตางตกตะลึง โดยเฉพาะเหลาผูอาวุโส พวกเขาเคยไดยินมาวา ในยามที่บรรพ
บุรุษทําการเซนไหว จะเกิดพลังเหนือธรรมชาติหลากหลายรูปแบบ ลึกลับอยางหาที่
เปรียบไมได
ไมเคยคิดมากอนวา ในวันนี้ที่พวกเขาเซนไหวดวยศรัทธา จะเกิดเหตุการณและ
อํานาจลึกลับเชนนี้ แมวามันจะเบาบาง แตพวกเขาก็ยังรูสึกได อีกทั้ง หมอโอสถสี่ดําที่
ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของหมูบานหินผา กลับยิ่งโยกไหว ลวดลายตะวัน จันทรา
ขุนเขา สายน้ํา และบรรพชนชัดเจนมากขึ้น มีแสงไหลเวียนอยูบางเบา
สิ่งนาเสียดายก็คือ พวกเขาไมรูวาจะใชพลังลึกลับเชนนี้ไดอยางไร
“พลังแหงการเซนไหวยังคงอยู มันไมธรรมดาเสียแลว หากทั้งประเทศเซนไหว
สวรรค จะเกิดพลังแบบไหนกันละ?” เหลาผูอาวุโสตางตื่นตระหนก ไมกลาคิดมากอีก
ตอไป
พิธีกรรมนี้กระทําอยูนานจึงแลวเสร็จ
ค่ําคืนดึกสงัด ทองฟามืดสนิท ยอดเขาสูงตระหงานตั้งเรียงราย โออาและกวางใหญ
ไพศาล แววเสียงคํารามกูรองหลากรูปแบบมาจากปาดึกดําบรรพ มันดังอยางตอเนื่อง
ความนากลัวสะทานไปถึงทรวง
ทามกลางภูเขาที่มืดมิด มีพื้นที่สงบเพียงผืนเดียว มองไปยังที่ไกลหาง บนตนหลิวสี
ดําไหมเกรียม กานออนสีเขียวชอุม กระจายแสงพรามัว ปกคลุมไปทั่วหมูบานหินผา ตัด
ขาดจากโลกภายนอก สงบและเปนมงคล กลายเปนแดนสุขาวดีหนึ่งเดียวทามกลาง
เทือกเขาไกลสุดลูกหูลูกตา
เหลาผูกลาจากตระกูลสายฟา ตระกูลขุนเขาสีมวง ทะเลสาบแหงสวรรค และเผาชน
หมาปาทองคําเรงเดินทางทั้งกลางค่ํากลางคืน ยามที่เดินทางผานเมืองภูเขาสันโดษก็ไม
กลาจะหยุดพักแมแตนิด พวกเขากลัวจนขวัญหนีดีฝอ ตนหลิวศักดิ์สิทธิ์เปนอยางมาก
ทําใหพวกเขาเกิดความหวาดกลัวภายในจิตใจ
ณ เวลานี้ พวกเขาหวังเพียงอยากกลับใหเร็วที่สุด ออกจากเทือกเขาดึกดําบรรพที่
เต็มไปดวยความพิศวงโดยไว เกรงวาจะเกิดเรื่องไมคาดฝนขึ้นอีก
หลินหมาเดินเหินดวยความเร็วสูงสุด โดยเฉพาะสัตวประหลาดหนึ่งเดียวในจํานวนนี้
สัตวประหลาดเขาเดียวนั่นเอง รางกายของพวกมันแนนขนัดดวยเกล็ดสีเงิน เปลง
ประกายระยิบระยับ บนหัวมีเขาเดี่ยว ในหนึ่งวันสามารถเดินทางไดถึงหมื่นลี้
เผาชนหมาปาทองคําตั้งอยูหางจากเทือกเขากวางใหญสี่หมื่นลี้ คนเหลานี้นอกจาก
การพักผอนอยางจําเปน ยังตองควบมาดวยกําลังทั้งหมด ผูคนที่ขี่สัตวประหลาดเขา
เดียวจะกลับถึงที่อยูอาศัยในวันที่สี่
จุดสิ้นสุดของเสนขอบฟา เต็มไปดวยสิ่งปลูกสราง ใจกลางอาณาจักรมีโดมทองหนึ่ง
หลังตั้งตระหงาน ดานบนปกลายหัวหมาปาสีทองอันนาเกรงขามและดุราย
“ผลุบ”
ครั้นถึงหนาโดมขนาดใหญ ผูคนที่อยูบนหลังสัตวประหลาดเขาเดียวก็รวงลงมา หนึ่ง
ในนั้นมีชายวัยกลางคนแขนขาด ยิ่งกวานั้นคือใบหนาซีดเผือก เปนลมลมพับไป
“ปาถู เจาเปนอะไรไป?”
ภายในโดมที่ปกลายหัวหมาปาสีทอง มีชายชรารูปรางสูงใหญคนหนึ่งเดินออกมา
ยามที่กะพริบตามีแสงสีทองเปนสาย นาหวาดกลัวเปนอยางมาก เขาควาชายวัยกลางคน
แขนขาดขึ้น ฝามือปรากฏอักขระสีทองแวบวับ แทรกซึมลงไปรางกาย
“อา... “ชายวัยกลางคนพิการราวกับตื่นจากฝนราย ตะโกนเสียงดังลั่นวา” ทาน
ผูนํา ทานตองแกแคนแทนขานะ!”
“บอกขามาวานี่มันเรื่องอะไรกัน!”
“พวกเราเขาไปในหมูบานประหลาดแลวพบกระดูกของซวนหนี...”
“ตนหลิวที่ถูกสายฟาฟาด พวกเจาไมมีแรงตานทานแมแตนอย ผูคนมากมายถูกฟน
จนขาดและถูกสังหารงั้นรึ?” หลังจากที่ผูนําชราฟงอยูน านก็เปลี่ยนสีหนาอยางชวยไมได
หากพูดตามความรูสึก เขารูดีกวาเทพารักษตนนั้นแข็งแกรงมาก ไมใชสิ่งทีห่ มูบาน
พึงจะมีอยางเด็ดขาด มันไมดอยไปกวาเทพารักษแหงเผาชนที่มีจํานวนคนถึงสิบลานแหง
นี้
“ทานผูนําขอรับ ที่แหงนั้นยังมีทายาทปศาจปกษาบรรพกาลอีกดวย และอักขระล้ํา
คาของซวนหนีที่ไมควรพลาด” คนอื่นก็เอยปากโนมนาว เพื่อวิงวอนใหผูนําออกไป
จัดการ
เมื่อครุนคิดอยูนาน ผูนําวัยชราที่สูงใหญนาเกรงขาม นัยนตาจวนจะกลายเปนสีทอง
ก็พยักหนา ภายในดวงตาเปลงสายฟาสีทองสองเสน กลาววา “มีเทพารักษแข็งแกรง
ปานนี้ปรากฏกายขึ้น ไมวาอยางไรขาก็ควรจะไปดูเสียหนอย แตเพื่อความปลอดภัย ขา
จะเชิญเทพหมาปาใหไปกับพวกเราดวย”
ผูคนพากันใจสั่น จากนั้นก็เผยสีหนาปลื้มปติ ทานผูนําจะไปเชื้อเชิญเทพารักษตน
นั้น หากเปนเชนนี้ยิ่งไมตองกลัว สิ่งมีชีวิตสีทองตนนั้นเกินกวาคําวานากลัว ผูคนใน
อาณาจักรทุกคนตางก็ยําเกรง
“วิ้ว...” เพียงชั่วครู บนที่ราบกวางแหงนี้ ปรากฏพายุหมุนสีทองพุงมาดวยความเร็ว
สูง
เรื่องลักษณะเชนเดียวกันก็เกิดขึ้นภายในตระกูลอื่นเชนกัน
นี่เปนทะเลสาบกวางใหญ สีน้ําเงินราวกับทะเล กวางขวางอยางไมมีที่สิ้นสุด เจียว
ชางและคนอื่นๆ กลับมาแลว เขาไปยังเกาะวิเศษ เพื่อรายงานตามความจริง เกิดเสียง
คํารามอยางโกรธแคนโดยพลัน ประหนึ่งเจียวรายครั้งบรรพกาลถือกําเนิด สะเทือนไปทั้ง
ผืนน้ํา เกลียวคลื่นสีขาวขนาดใหญซัดโหมสูฟากฟา
ณ อีกหนึ่งดินแดนผูปกครองชั้นสูง อาณาเขดกวางใหญไพศาล จํานวนประชากรนับ
สิบลาน มหานครรายเรียง รุงโรจนเปนที่สุด
ใจกลางเมืองโบราณอันกวางขวางและสงา กําแพงสีดําจรัสแสงโลหะอยางไมสิ้นสุด
ประดุจกําแพงเมืองโลหะสรางอยูบนเสนขอบฟา ใหความรูสึกยิ่งใหญอยางไมมีที่สิ้นสุด
“เทพารักษที่ยิ่งใหญ...” ภายในราชวังที่ตั้งอยูใจกลางเมือง มีน้ําเสียงที่ทรงพลังดัง
ขึ้น
พระอาทิตยสีมวงสองสวางพรางพรายไปทั่วตําหนัก มีผูกลานั่งอยูบนบัลลังก มองไม
เห็นใบหนาที่แทจริง แสงสีมวงดุจเปลวเพลิง แผกลิ่นอายความนาเกรงขาม ขมจนเหลาผู
กลาทั้งหมดไมกลาเงยหนาขึ้นมองดานบนแมแตนิด
ในตอนนี้ ตระกูลใหญที่ภายในระยะหาหมื่นลี้ตางก็สะทาน ทราบมาวาทามกลาง
เทือกเขารกราง ปรากฏเทพารักษที่รายกาจตนหนึ่ง ตนหลิวที่ถูกสายฟาฟาด ปลูกปน
คลื่นลูกใหญขึ้นเสียแลว
วัตถุล้ําคาทามกลางดินแดนรกราง อีกทั้งกระดูกซวนหนีแหงหมูบา นหินผา และ
เทพารักษลึกลับตนนี้ สงผลใหเหลาผูกลาใจเตนระรัวจนนัง่ ไมติด
“ไมไดเคลื่อนไหวนานหลายปแลว อยางนั้นก็ออกไปลองดูสักหนอย ขอดูวา
ศักดิ์สิทธิ์อยางไรกันเชียว!”
ไมกี่วันตอมา เมืองภูเขาสันโดษไมสงบอีกตอไป มีคนเห็นผูนําแหงเผาชนใหญมา
เยือนดินแดนแหงนี้ดวยตนเอง ทําใหเหลาผูกลาที่มาที่นี่ดวยวัตุล้ําคาแหงหุบเขาตางก็
ประหลาดใจ
“ครืน”
สายฟาผสานกัน ผูนําแหงตระกูลสายฟายืนอยูขางหนาผา ทั้งเนื้อทั้งตัวรายลอม
ดวยกระแสไฟขนาดใหญ สะเทือนหนาผาแหงนี้จนหักครึ่งทอน ชางเปนภาพที่นากลัว
“ประหลาดนัก คนทั่วไปมองไมออก และผูที่แข็งแกรงจดจองไปยังที่เห็นนั้นมาก
เพียงใด ก็ยิ่งหวั่นใจมากเทานั้น ตนหลิวตนนี้ไมธรรมดาเอาเสียเลย” ผูนําแหงตระกูล
สายฟามิไดทําการบุมบาม น้ําเสียงดุจสายฟาคําราม สะเทือนไปทั่วผืนปาจนแมกไมสั่น
ไหว สัตวโบราณตางหลบหนีจนหมดสิ้น
สองชั่วยามผานไป แมน้ําสายใหญที่พาดผานปาดึกดําบรรพ ไอน้ําลอยคละคลุง
เสียงคํารามทุมต่ําแววมา ประหนึ่งเจียวรายถือกําเนิด เมฆหมอกทวมทนทองฟาโดย
พลันพรอมกับเงาที่พุงขึ้นมา
ทามกลางไอหมอก เงาของมันเลือกรางมาก มีเพียงดวงตาพรางพราวดุจดัง่ แสงไฟ
สองดวง สองทะลุทะลวงเมฆหมอกออกมา หวาดกลัวไปถึงทรวงใน มันจองมายังหมูบาน
ในระยะทีห่ างไกลพอสมควร กลาวเสียงต่ําวา “เทพารักษตนนี้รึ ที่สังหารมือดีของ
ตระกูลเรา?”
สองวันตอมา พายุสีทองพัดผานผืนปาดึกดําบรรพ นากลัวจนเหลาสัตวประหลาดดุ
รายหวาดผวา หลบหนีกันอยางพัลวัน ผืนปาแหงนี้เงียบสงัดทันที
ชายชรารูปรางสูงใหญและนาเกรงขามยืนอยูบนที่สูง เพงมองไปยังหมูบานหินผา
พลางพูดกับตัวเองวา “ถูกสายฟาฟาด และถือกําเนิดภายใตการทําลาย ตนหลิวตนนี้นา
กลัวเปนอยางมาก!”
ขางกายเขายังมีเทพเจาหมาปาสีทอง รูปรางไมใหญมากนัก ยาวเพียงเมตรครึ่ง
เทียบหมาปาสีเขียวที่อยูกลางปาไมติด ทวา มันกลับแผกระจายกลิ่นอายความนากลัว
อยางหนึ่ง ขนทั่วรางกายเปนสีทองพรางพราย แมแตดวงตาก็เปนสีทอง อักขระปรากฏ
ขึ้นแวบเดียว แตกลับนากลัวเปนอยางมาก
พวกเขาไมไดมาถึงชาไป ทั้งหมดตางก็เปนผูกลาที่สุดแหงตระกูล วนเวียนอยูบริเวณ
หมูบานหินผา หมายสังเกตที่นี่ใหแนชดั เตรียมการโหมกระหน่ําคลื่นลูกใหญ!
บทที่ 42 คลืน่ ลูกใหญ
เทือกเขากวางใหญไมสงบอีกตอไป ผูกลาปรากฏตัว บางก็มาดวยเทพารักษแหง
หมูบานหินผา บางก็ดวยเสาะหาวัตถุล้ําคาแหงหุบเขา ทยอยกันมาอยางไมขาดสาย
ผูคนเนืองแนนเต็มเมืองภูเขาสันโดษ
ผูนําแตละตระกูลไมเคยกระทําการใดโดยไมวางแผนมากอน พวกเขาคิดวาตนหลิว
ตนนั้นศักดิ์สิทธิ์มาก ลึกลับซับซอนยากลึกหยั่งถึง
ในระยะนี้ มีผูกลามากมายกรีฑาทัพเขาสูหุบเขาลึก หวังทําความเขาใจใหกระจางวา
มันเปนวัตถุวิเศษเพียงไหน จึงทําใหเหลาทายาทอสูรบรรพกาลสูรบกันอยางไมลาถอย
กินเวลามาสองปแลว
กลุมผูกลามาจากอาณาจักรที่แตกตางกัน รวมกันเปนกองทัพที่แข็งแกรงเปนอยาง
มาก ในยามนี้พวกเขาจะทําลายอาณาบริเวณรอบนอก ประหัตประหารเหลาสัตว
ประหลาดเปนทิวแถว และเขาสูจุดที่ลึกที่สุดของเทือกเขา
“พวกเจาวามันเปนวัตถุล้ําคาชนิดใดกันแน ถึงซอนตัวและหาไมพบไดถึงสองป คง
ไมใชสิ่งมีชีวิตหรอกกระมัง?”
“โอ เปนไปได บางทีอาจจะเปนยาวิเศษ ไมแนวาอาจจะสามารถเดินเหินได”
คนกลุมนี้ปรึกษาหารือกัน แตกลับไมลืมเตรียมการปองกัน การเดินทางเขาสูหุบเขา
ลึก ทุกคนตางก็คาดหวัง จะไมกลาวถึงวัตถุล้ําคาแหงหุบเขา หากไดรับยาวิเศษอยางที่
ไมไดคาดการณไวก็ไมสูญเปลา
แนนอนวา หากพบเห็นซากศพของทายาทอสูรบรรพกาลที่สิ้นใจจากการรบ อยาง
นั้นก็จะยิ่งหวั่นไหว ทายาททุกตัวเปนของมีคามหาศาลอยางปราศจากขอกังขา!
“โฮก...”
ทันใดนั้น กลางปาดงดิบลึก เสียงคํารามทุมต่ําดังแววมา สะเทือนจนขุนเขาสั่นไหว
หินยักษเกลือกกลิ้งทับตนไมเกาแกสูงเสียดฟาหักโครมลง ราวกับเกิดน้ําปาปะทุขึ้น
“ยังเขาไปไมลึก ไยจึงที่เสียงคํารามที่นากลัวปานนี้กันเลา?” ผูคนตกตะลึง
ลมคลั่งพัดหวีดหวิว ตนไมเกาแกโยกไหว กลิ่นคาวเลือดคุกรุนจนนาสะอิดสะเอียน
โชยมาจากกลางปา ในขณะเดียวกันก็มีกลิ่นอายโหดเหี้ยมอันนากลัว
“แยแลว สัตวประหลาดโผลมา รีบเตรียมการปองกันโดยเร็ว!”
หมีขนทองตัวหนึ่งพุงออกมา มันวิ่งมาในลักษณะยืน สูงเกือบสิบเมตร มีเขางอกขึ้น
ตรงกลางระหวางคิ้ว เคลื่อนไหวดวยความเร็วสูงสุด
“ผลุบ”
แมมันจะมีรางกายใหญยักษ แตกลับไมงุมงาม คลองแคลวและวองไวเปนอยางมาก
หนึ่งฝามือฟาดลงมาอยางไมทันไดตั้งตัว ผูคนถูกฝามือดุจกระดุงฟาดจนแหลก กลายเปน
ซากเนื้อเปอยยุย
“ชริ้ง”
ผูกลาคนหนึ่งรายเคล็ดวิชาล้ําคา ใชมันโจมตีหมีขนทองยักษเขาเดียว อักขระขยาย
ใหญขึ้น กลายเปนเปลวไฟพุงลงไปแผดเผาหมีตัวนั้น ทวา สัตวประหลาดตัวนี้ไมไดมี
เจตนาตองการรบกับพวกเขา มันกระโดดขึ้นเกือบยี่สิบเมตร จากนั้นจากไปยังที่หางไกล
ภายในพริบตา
“ไมไดการแลว รีบหนีเร็ว ฝูงสัตวกําลังมา!”
ผูคนตางสงเสียงรองอยางตกใจ หมีขนทองตัวนั้นแข็งแกรงมาก มันวิ่งอยูข างหนาสุด
แตขางหลังของมันยังมีเหลาสัตวประหลาดฝูงใหญ พุงตรงลงมาราวกับน้ําปาหาใหญ
อยางแนนขนัด
ผูคนพวกนี้ตางกลัวกันอกสั่นขวัญแขวน ถึงวามีกลิ่นคาวเลือดโชยแตะจมูก ลมพายุ
พัดโหมกระหน่ํา ที่แทก็มีสัตวประหลาดวิ่งกันขวักไขวมากมายถึงเพียงนี้
“โอสวรรค เกิดอะไรขึ้น ไยจึงมีสัตวประหลาดมากมายปานนี้?” ผูคนหนีกัน
จาละหวั่น ไมกลาจะหยุดพักแมแตวินาทีเดียว ทามกลางกองทัพสัตวปาเชนนี้ แมจะเปน
ถึงผูนําแหงตระกูลก็ยังตองลาถอย ไมกลาเขาปะทะ
“โฮก...”
เสียงคํารามดังมาจากเทือกเขา กอนหินปลิววอนกลางอากาศ ยอดเขาสั่นไหว กอน
หินขนาดใหญกลิ้งหลุนๆ ลงมาไมหยุด กลายเปนฉากที่นากลัวอยางที่สุด
“โอสวรรค ทายาทอสูรบรรพกาล นั่นมันปศาจวานร!”
ผูคนหันขวับไปมองอยางตกตะลึง ราชาแหงวานรสีดําตัวหนึ่งแผกระจายแสงสีดํา
ไอดําทวมทนทองฟา ราวกับปศาจวานรเหนือโลก สูงตระหงานเสียดฟา มันกระพือปก
ปศาจขนาดใหญคูนั้น บินโฉบลงมาทางนี้ เปนมันนี่เองที่ขับไลสัตวพวกนี้
แตสิ่งที่ใหผูคนสั่นสะทานคือ ทายาทอสูรบรรพกาลที่แข็งแกรงตัวนี้ กลับมีแขนเพียง
ขางเดียว อีกขางหักเสียแลว ดวงตาฉายแววโหดเหี้ยมคูนั้นจองมองมายังทีแ่ หงนี้
ผูกลาเหลานี้วิ่งหนีอยางรวดเร็ว แตกลับถูกพบเห็นเขาเสียแลว เพียงปศาจวานรตัว
นั้นกระพือปก ก็กลายเปนสายฟาสีดํา ลมคลั่งพัดหวีดหวิว กอนหินเกลือกกลิ้งกระจัด
กระจาย เพียงครูเดียว มันก็บินพุงลงมา
คนที่วิ่งอยูขางหนาสุดหยุดลงกะทันหัน นัยนตาไรชีวิต เลือดพุงกระฉูดออกจาก
กะโหลก กระดูกหุมสมองปลิววอน ปศาจวานรตัวนั้นอาปากดูดกินสมองของเขาจน
เกลี้ยง
แตมันกลับไมหยุดแคนั้น พริบตาเดียวรางก็เขาประชิดตัวอีกคน รวดเร็วประหนึ่ง
สายฟาสีดํา ทําใหคนไมทันไดตั้งตัว
“ปาบ”
มันฟาดฝามือลงไปเบาๆ กระดูกหุมสมองก็ปลิววอนอีกหน จากนั้นมันก็อาปาก
ดูดกลืนน้ําสมองจนหมดเกลี้ยง สุดทายเลียริมฝปากสีแดงฉานถึงยอมรามือ
กระทั่งกอนตาย กะโหลกไรสมอง เพิ่งจะเปลงเสียงรองโหยหวน กระทั่งสิ้นลม
หายใจ เพราะทุกอยางเกิดขึ้นเร็วเกินไป
“อา...”
ผูคนตางตกใจกลัว รองตะโกนออกมาอยางอดไมได หวาดกลัวจนขนลุกขนชัน คงไม
มีผูใดคาดคิด เพิ่งจะเขาสูเทือกเขาก็พบกับทายาทอสูรบรรพกาลเชนนี้ ไมมีแมแตกําลัง
ตอตาน มีเพียงวิ่งหนีอยางไมคิดชีวิต
เห็นไดชัดวา การกระเสือกกระสนหนีเชนนี้ไมมีประโยชน ปศาจวานรสังหารแตละ
คนภายในพริบตา เหลือไวเพียงภาพที่หดหู กระดูกหุมสมองปลิวอยางตอเนื่อง และมันก็
เพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารรสเยี่ยมอยางไรความปราณี
สุดทาย ไมมีใครเหลือรอดแมแตคนเดียว มือดีทั้งหมดถูกปลิดชีพจนสิ้น
หากวาคนของหมูบ านหินผาอยูที่นี่ ก็จะสามารถระบุไดอยางชัดเจนวา นี่ก็คือ
ทายาทบรรพกาลที่ตอสูกับซวนหนีในตอนแรก และในวันนี้มันกลับทวีความดุราย
ฝูงสัตวนากลัวทําใหตนไมลมระเนระนาด รวมตัวกันเปนกระแส พุงออกไปยังดาน
นอกของเทือกเขา กอใหเกิดเปนคลื่นลูกใหญ ไมเพียงแตหมูบานที่อยูใกลเคียงที่ตื่นกลัว
เหลาผูกลาที่มาจากที่หางไกลตางก็ใจสั่น ตระหนักไดวาตองเกิดเหตุการณไมคาดฝนขึ้น
ในเทือกเขา จึงทําใหสัตวประหลาบนับหมื่นวิ่งหนีกันอยางพัลวัน
มองไปยังที่ไกลหาง แผนฟาที่ปกคลุมเทือกเขาเปนฉากดําทมิฬ อสูรปกษาจํานวน
มากกระพือปกบินหนีออกจากปาอยางรวดเร็ว
“โห ชางเปนฝูงสัตวที่นากลัวเสียจริง เดิมที ขาคิดวาผืนดินรกรางแหงนี้ขาดชีวิตชีวา
คงไมมีสิ่งมีชีวิตที่ประหลาดหรอกกระมัง คิดไมถึงวาพบเจอสัตวประหลาดมากมายปาน
นี้!” ผูนําตระกูลแหงหมาปาทองคํายืนอยูบนแผนหิน จองมองฝูงสัตวพวกนั้นดวยคิ้ว
ขมวด ขางกายมีเทพเจาหมาปาสีทองยืนแหงนหนาอยูบนยอดเขา ดวงตาจองมองไปที่
หางไกล
“เอ นั่นมันทายาทอสูรบรรพกาลกําลังไลกวดกลุมสัตวประหลาด... “ผูนําตระกูล
หมาปาทองคําเผยสีหนาตกตะลึง และกลาวกับตัวเองวา” ทายาทที่แข็งแกรงเพียงนี้
ไดรับคําสั่งใหทําตามอยางนั้นรึ?”
เมื่อมองสิ่งเหลานี้ออกอยางชาญฉลาด เพียงครูเขาก็ตะลึงงัน นั่นเปนถึงทายาทอสูร
บรรพกาล พละกําลังอยางหาที่เปรียบไมได ยากที่จะตอกรดวย แตตอนนี้กลับทําเรื่อง
เชนนี้
เขาเขาใจภายในชั่วพริบตา มีบางสิ่งที่แข็งแกรงภายในหุบเขากําลังอพยพ
เคลื่อนยายสรรพสิ่ง วัตถุล้ําคาแหงขุนเขาจะถือกําเนิดอยางแทจริง!
ในขณะเดียวกัน ผูนําตระกูลสายฟา และทะเลสาบแหงสวรรคตางก็เขาใจเหตุการณ
ดี พวกเขาผูกลาของตระกูล ควบคุมอาณาจักรมากมายในบริเวณนี้ ทวาตอนนี้กลับทําได
เพียงถอนหายใจ รูดีวาวัตถุล้ําคาแหงขุนเขาและพวกเขาไมมีวาสนาตอกัน ไรซึ่ง
ความสามารถที่จะไปแยงชิง
สองชั่วยามผานไป ฝูงสัตวจึงกระจายตัวจนสิ้น หายเขาไปยังผืนปาบริเวณรอบนอก
จากนั้นแยกกันไปคนละทิศละทาง และนี่เปนเพียงฝูงสัตวฝูงแรกเทานั้น สิ่งมีชีวิตที่
ออนแอทีส่ ุดถูกขับไลออกมา เห็นไดชัดวายังมีระลอกที่สอง ดินแดนกวางใหญแหงนี้คง
จะไมสงบสุขเปนแน
เหลาผูกลาลาถอยไปยังเมืองภูเขาสันโดษ รูสึกเรื่องนี้จัดการไดยาก ภาพเหตุการณ
ภายในเทือกเขานั้นชางนากลัว พวกเขาไมสามารถเขาไปไดอยางสิ้นเชิง อยาวาแตวัตถุ
ล้ําคาแหงขุนเขาเลย แมแตซากศพของทายาทอสูร พวกเขาก็จะไมไดมันไป
“ฮึ่ย ครั้งนี้มาเสียเที่ยวแลว คิดไมถึงเลยวาเทือกเขาแหงนี้จะนากลัวไดถึงเพียงนี้
ปศาจวานรผูกลารับหนาที่เพียงขับไลสรรพสัตว และนี่ยังไมใชจุดที่ลึกที่สุดของเทือกเขา
พวกเจาวามีอะไรทีร่ ายกาจปรากฏขึ้นทามกลางเทือกเขากวางใหญแหงนี้กันแน?”
“หรือจะเปนยาวิเศษ หรือจะเปนกระดูกแหงสวรรคในตํานานอยางนั้นรึ?”
“ไมรูสิ อยางไรก็มาเสียเที่ยวเสียแลว ขาไมจะหยุดพักหรอก พรุงนี้ตองไปไดแลว มิ
เชนนั้นคงจะตายอยูที่นี่เปนแน”
ผูคนมากมายสิ้นหวัง ชนเผามากมายรวมมือกัน มาดวยกองกําลังมายิ่งใหญ แตกลับ
มีผลลัพธเชนนี้ ทําใหพวกเขารูสึกตัดใจไมได
“เอะ จริงสิ ในอาณาบริเวณนี้ ตระกูลใหญหลายตระกูลจะตอตานหมูบานอะไรสัก
อยางนี่นา เกิดอะไรขึ้น ไดยินมาวาพวกเขาเสียเปรียบอยางนั้นรึ?”
“ที่แหงนีม้ ีรุนลูกของเผาหมาปาทองคํา อีกทั้งมือดีของทะเลสาบแหงสวรรคอยู ให
พวกเขาเลาสิ”
เมืองภูเขาสันโดษมีเสียงดังเซ็งแซ จํานวนผูมาเยือนจวนจะมากกวาจํานวน
ประชากรแลว และเผาชนหมาปาทองคํา และตระกูลสายฟาเคลื่อนพลเขาตั้งฐาน รอฟง
คําสั่งอยางสงบ
“ไดยินมาวาหมูบานนั้นไมธรรมดา ทําใหเหลาผูมีอิทธิพลที่อยูในโลกหลากวางใหญ
ไพศาลนี้แพอยางราบคาบ”
“เรื่องจริงรึ เปนไปไมไดหรอกกระมัง นั่นเปนถึงสองดินแดนผูปกครองชั้นสูง อีกทั้ง
เผาชนหมาปาทองคํา ทะเลสาบแหงสวรรค มีตระกูลไหนที่ไมสะเทือนแผนดินอันกวาง
ใหญไพศาลนี้บางเลา?!”
ผูคนมากมายตางก็เผยสีหนาตกตะลึงไมอยากจะเชื่อ
เสียงแผดรองเย็นเยือกลอยมา ผูกลาแหงตระกูลหมาปาเดินมา กลาวสีหนาเยือก
เย็น นัยนตาเย็นเยือกวา “หมูบานนั้นจวนจะสูญสิ้นแลว จะถูกกําจัดสิ้นซาก ไมมีอยูอีก
ตอไป!”
เขามีพละกําลังเพียงพอ เพราะเทพหมาปาสีทองแหงตระกูลตัวนั้นมาดวย นี่เปน
เทพารักษที่แข็งแกรงที่สุดในอาณาเขตหาหมื่นลี้ มันมีชีวิตอยูอยางยาวนาน แมวาผูนํา
ตระกูลจะไมใชผูที่แข็งแกรงที่สุดในดินแดนแหงนี้ แตเทพหมาปาสีทองตัวนี้กลับไดรับ
ความเคารพยําเกรงจากเทพารักษของเผาชนใหญอื่นๆ
เหลาผูกลาตกตะลึง นี่เผาชนหมาปาทองคําจะสําแดงกลยุทธสายฟาคํารามหรือ
หมูบานเชนนั้นจะตานทานไดอยางไร?
“ภายในเทือกเขามีราชาแหงทายาทอสูรบรรพกาล ตระกูลของขาไมสามารถเขาไป
ชวงชิงวัตถุล้ําคาแหงหุบเขาได หากจะถอนรากถอนโคนหมูบานที่ไมรูฟาสูงแผนดินต่ํา
เชนนี้ คงไมเสียพละกําลังมากเทาใดนัก” รุนลูกของทะเลสาบแหงสวรรคกลาวอยางดุดัน
กอนหนานี้ไมนาน พวกเขาเสียเปรียบอยางใหญหลวง ทั้งกําลังพลและเจียวหมนถูก
ทําลาย มือดีที่ถูกสงตัวมาก็สูญสิ้นเกือบทั้งหมด ทําใหทั้งตระกูลตางโกรธแคนเปนอยาง
มาก ตอนนี้ผูนําตระกูลที่แข็งแกรงที่สุดเดินทางมาดวยตัวเอง ตีพวกเขาจนตายก็ไมเชื่อ
วาจะทําลายหมูบานนี้ไมสําเร็จ
“ใชแลว ไรวาสนาตอวัตถุล้ําคาในขุนเขา อยางนั้นก็ใหหมูบานนี้ชดใชเสียหนอย
พวกมันไดรับรางกายของซวนหนี วัตถุวิเศษเพียงนี้จะไปเหมาะสมกับหมูบานอยางนั้นได
เยี่ยงไร!” คนจากตระกูลสายฟากลาว
“อา จื่อซานโหวมาถึงแลว!” ในขณะนั้นเอง เกิดเสียงรองดวยความตะลึงไปทั่ว
บริเวณเมืองภูเขาสันโดษ
ดวงอาทิตยสีมวงหนึ่งดวงลอยอยูกลางอากาศ อยูเหนือพื้นดินสามเซี๊ยะ พุงผานหนา
เมืองภูเขาสันโดษไป หายลับเขาไปปา และมุงหนาไปทางหมูบานหินผาพอดี แมจะผาน
ไปไวเพียงพริบตา แตกลิ่นอายความนากลัวลอยโชยไปและทําใหผูคนสั่นสะเทือนไดเฉก
เชนดังเดิม!
เวนแตตระกูลเมฆา ตระกูลลับแล หรือก็คือปราสาทเมฆาสวรรค อีกหนึ่งผูมีอิทธิพล
พิศวงยากที่จะหยั่งถึง ผูคนมากมายไมรูวาบริเวณรอบนอกจะเปนอยางไร แตในดินแดน
อาณาบริเวณหาหมื่นลี้นี้ จื่อซานโหวถูกยกยองวาเปนผูกลาอันดับหนึ่ง
แมแตเขาก็มาถึงแลว เขามาเพื่อสั่งสอนหมูบานที่ไมมีผูใดรูจักนั่นอยางนั้นรึ?
“ผูกลาอันดับหนึ่งถึงแลว หากวาเขาลงมือ บางทีแคเพียงมีผูกลา เฉกเชนผูนําแหง
ตระกูลสายฟากับเทพารักษของเผาชนหมาปาทองคําก็สามารถตานทานกําลังได!”
“โอสวรรค นั่นมันจื่อซานโหวจริงๆ ไปดูสิวามันจะทําอะไรกันแน” เหลาผูกลาพูด
เพื่อปลุกระดม นอยนักที่ผูกลาเพียงนี้จะออกมาจัดการดวยตนเอง แตทุกครั้งที่ลงมือ ก็
จะเปนคลื่นลูกใหญมหึมา
“ผูนําตระกูลลงมือเอง จะตองทําใหหมูบ านนั้นราบเปนหนากลองอยางแนนอน
ขุนเขาสีมวงของขาสูงสง หนาไหนจะกลาทําใหขุนเคือง!” คนวัยรุนคนหนึ่งของตระกูล
ขุนเขาสีมวงเอยปากดวยสีหนายโส
“แคจื่อซานโหวปรากฏตัว ใครจะกลาตอกรดวยเลา? เพียงรางกายเคลื่อนไหว
จะตองมีหนึ่งตระกูลดับสูญ” มีคนกลาวพลางถอนหายใจ เคยมีอุทธาหรณจากคนรุน
กอนวา เมื่อนานมาแลว จื่อซานโหวเคยทําลายหนึ่งเผาชนใหญเพียงลําพังมาแลว
ในขณะนี้เอง กองทัพจากทั้งตระกูลสายฟา ทะเลสาบแหงสวรรค และเผาชนหมา
ปาทองคําตางก็ไดรับคําสั่ง มุงหนาสูผืนปา จากนั้นกลุมคนจากขุนเขาสีมวงก็เคลื่อนไหว
ดวยเชนกัน
เหลาตระกูลใหญตางมุงหนาไปดวยเปาหมายเดียวกัน นั่นคือหมูบานหินผา
“ชวงชิงวัตถุล้ําคาไมไดเสียแลว พวกเขาจึงจะไปทําลายหมูบานนั้น” มีคนถอน
หายใจ
“ถาตระกูลใหญเหลานี้รวมตัวเคลื่อนไหวพรอมกัน อีกทั้งผูนําแหงตระกูลทั้งสี่ลงมือ
ดวยตัวเอง หมูบานปาแหงนี้คงจะไมธรรมดาจริงๆ แลวละ!” ผูคนมากมายเอยดวยความ
ตกตะลึง
ขุนเขาสีมวง ทะเลสาบแหงสวรรค ตระกูลสายฟา เผาชนหมาปาทองคํา ตระกูล
ใหญเคลื่อนไหวพรอมกัน นี่สิ่งที่พบเจอไดยากมาก ในขณะที่ผูอื่นกําลังโตเถียงกัน และ
ทั้งหมดก็ฮึกเหิมและตื่นเตนขึ้นมา นี่จะเปนสงครามของเหลาผูมีอิทธิพล
จื่อซานโหว ผูกลาที่สุดของดินแดนนี้ อีกทั้งเทพหมาปาทองคํา เทพารักษที่ศักดิ์สิทธิ์
เปนอยางมาก และยังมีผูนําตระกูลใหญอีกหลายตระกูลก็กรูกันมา จะตองมีสงคราม
ดุเดือดที่นากลัวเกิดขึ้นอยางแนนอน
บทที่ 43 ผูแข็งแกรงทัง้ สี่
เมืองภูเขาสันโดษวางเปลาภายในพริบตา เหลาผูกลาออกจากที่นี่ไปพรอมกัน ทุก
คนตางก็ตามมือดีของทั้งสี่ตระกูลไปยังหมูบานหินผา หมายเห็นสงครามใหญใหประจักษ
แกตา
ปาไมหนาทึบ เศษใบไมบนพื้นกองเกลื่อนกลาดเปนเวลาเนิ่นนาน กองหนาเกือบ
หนึ่งเซี๊ยะ นุมนวลเวลาเหยียบย่ํา แตนี่ไมใชซากใบไมที่แหลกจนกลายเปนดินดําเมื่อนาน
มาแลว มิเชนนั้นมันจะกองหนากวานี้ ผืนดินอุดมสมบูรณ ตนไมเกาแกสูงตระหงาน
ในผืนปาเต็มไปดวยสัตวประหลาดดุราย แตเมื่อผูคนมากมายขนาดนี้เคลื่อนไหว
แมนจะเปนสัตวใหญหรืออสูรปกษาตางก็ตกใจจนตองลาถอย เพราะการเคลื่อนไหวของ
คนที่มีมากจนเกินไปนั่นดุจดั่งน้ําปาเชี่ยวกราด
“นี่คือหมูที่บานที่วานั่นรึ?”
ระยะหางไกลมาก หางกันสองสามรอยลี้ ตระกูลทั้งสี่หยุดลง ไมเดินหนาตอ พวก
เขาปนขึ้นบนหนาผา ตะกายขึ้นบนที่สูง ยึดครองจุดยุทธศาสตรที่ไดเปรียบ และจองมอง
ไปยังหมูบ านนั้น
มองไมออกวามีสิ่งประหลาดตรงไหน เปนหมูบานที่ธรรมดาและเรียบงายมาก บาน
ที่ทําจากการนําหินมาวางทับกัน มีหนังสัตววางแผอยูดานบน มีเนื้อรมควันแขวนอยู
ผูคนแออัด ผูอาวุโสอิงกําแพงตากแดด เด็กๆ วิ่งไลจับกันอยางมีความสุข
“หมูบานแบบนี้ คุมหรือที่จะใชกองกําลังมากมายเพียงนี้? จากที่ขาดูแลว เพียงมา
ยางกรายผาน โจมตีแคครั้งเดียวก็ทําใหที่นี่ราบเปนหนากลองแลว” คนจากชนเผาหมา
ปาทองคํากลาว นี่เปนถึงกลุมมาศึก ผูคนตางนั่งอยูบนหลินหมา เสื้อเกราะเปลงประกาย
หอกยาวแหลมคม ดาบใหญสองแสงดุจหิมะ ตวัดและชี้ไปดานหนา
“กลาหยามศักดิ์ศรีของทะเลสาบแหงสวรรคแหงขา แมอยูหางไกลก็ตองสังหาร
วันนี้จะเปนวันดับสูญของหมูบ านนี้!” กลุมคนวัยรุนเอ็ดตะโร สีหนาเยือกเย็น เจียวชาง
สูญเสียแขนไปหนึ่งขาง กลายเปนคนพิการ พวกมันจะตองชดใช
อยางไรก็ตาม ผูนําทัพแหงตระกูลทั้งสี่กลับออกคําสั่ง ใหพวกเขาหามกระทําการ
โดยพลการ รอคําสั่งจากเบื้องบน หากมันคนใดกลาจูโจมโดยมิไดรับอนุญาต จะตอง
ไดรับโทษอยางมหันต
“คิดดูแลว หมูบานนี้ไมธรรมดาจริงๆ ทําใหบุคคลที่เกงกาจเหลานี้ระมัดระวังตัวได
ถึงเพียงนี”้
“เอะ ผูนําแหงตระกูลทั้งสี่ ไยจึงไมอยูท ี่นี่ พวกเขาทําอะไรกันอยู?”
ผูกลาที่ตามมาเหลานั้นถกเถียงกัน เฝาสังเกตการณทุกสิ่งอยางใกลชิด
หมูบานหินผาสงบสุข ณ กลางลานที่อยูหนาหมูบาน เจาตัวเล็กอุมไหกระเบื้องไวใน
อก เตรียมจะตมนมสัตวอยางลับๆลอๆ เขาชําเลืองตามองไปทางประตูอยูบอยครั้ง โดย
เกรงวาจะถูกเด็กๆ กลุมนั้นเห็นเขา
“หอมจังเลย” บนกองไฟ นมสัตวในไหกระเบื้องเดือดพลาน เขาขยับจมูกฟุดฟด
ดวงตาปรือ ใบหนาประหนึ่งมึนเมา
“พรึ่บพั่บ”
ทันใดนั้น เสียงกระพือปนของวิหคก็ดังแววมา เจาตัวเล็กเงยหนาขึ้น กลาวดวยสี
หนาตกใจวา “ไยจึงมีนกมากมายเพียงนี้ ทั้งยังมีอสูรปกษา หรือจะเกิดกระแสฝูงสัตวอีก
แลวรึ?”
เขาลุกยืนขึ้น เดินออกจากลานกวาง จากนั้นมองไปยังทองฟา และพบความผิดปกติ
อยางรวดเร็ว นกกระพืออยางตกใจทั่วผืนปาสี่ทิศ และเพียงกระพือปกบินก็ทะยาน
ออกไปไกลเกือบสองสามรอยลี้
“ไมไดการแลว มีสัตวประหลาดดุราย ไมก็ผูคมลอมที่แหงนี้ไวแลว!” เสี่ยวสือฮาว
ฉลาดปราดเปรื่อง ตะโกนเสียงดังขึ้นมาทันที เพื่อเตือนผูคนในหมูบาน
แทที่จริงแลว สือหลินหูและสือเฟยเจียวรูสึกไดตั้งแตแรกแลว คนในหมูบานซื่อตรง
แตไมไดหมายความวา พวกเขาจะไรความระแวดระวัง อาศัยอยูทามกลางดินแดนรกราง
อันโหดรายเปนเวลานาน จําตองมีสัมผัสที่เฉียบแหลม
“ไมใชเจาพวกสารเลวพวกนั้นมาอีกหรอกเหรอ?” บิดาของเออรเหมิงตวาดดังลั่น
กลางผืนปา ผูกลาทั้งสี่เผยสีหนาตกตะลึง คนในหมูบานนี้มีปฏิกิริยาตอบสนองที่
วองไวมาก ไมธรรมดาจริงๆ
“โอะ ทานผูนํามาแลว!” คนของเผาชนหมาปาทองคําเอ็ดตะโร
ชายชรารูปรางสูงใหญนาเกรงขาม นัยนตาสีทองออน ปรากฏสายฟาลอยออกมา
นากลัวจนขาทั้งสองขางของทุกคนสั่นระริก ผูอาวุโสคนนี้แข็งแกรงมาก
ขางกายของเขามีเทพหมาปาทองคําตัวหนึ่ง ขนาดไมใหญมาก แตกลับเดินยางเขา
มาอยางดุดัน จดจองไปที่ผูกลาของแตละตระกูล ดวยทวงทาที่ทรงพลังและหยิ่งทะนง
หมาปาตัวนี้มีแสงสีทองไหลเวียน มีความนาเกรงขามที่ยิ่งใหญกวาคน ลูกตาสีทอง
เยียบเย็นกวาดตามองผูคน ทําใหผูกลาคนหนึ่งถอยหลัง ราวกับจะหมดลมหายใจ มันนา
กลัวกวาผูอาวุโสคนนั้นเสียอีก
ผูคนมากมายเขาใจแลววา นี่จะตองเปนเทพารักษที่แข็งแกรงที่สุดในบริเวณหาหมื่น
ลี้เปนแน!
“เผาชนหมาปาทองคํา พวกทานจะกระทําการอยางบุมบามไมได ถอยหลังอีกหนึ่งลี้
รอคําสั่งจากขาอยางเงียบๆ” ชายชรานาเกรงขามยืนพูดอยูตรงนี้ ครั้นพูดจบก็แปลงกาย
เปนลําแสงสีทองหายเขาไปในปาลึก
เพียงชั่วครู มันก็มาถึงในระยะที่หางจากหมูบานหินผาหนึ่งลี้ นั่งอยูบนยอดเขากับ
เทพารักษตนนั้น จดจองไปยังหมูบานหินผา
ในเวลาเดียวกัน ก็ปรากฏผูกลาทั้งสามมาจากคนละทิศทาง ปนปายขึ้นบนหนาผา
และมองลงไปที่หมูบานหินผา
ผูนําแหงตระกูลสายฟา ทะเลสาบแหงสวรรค ตระกูลขุนเขาสีมวง และเผาชนหมา
ปาสีมวงมาถึงแลว แตละคนครองกันคนละทิศ นี่พวกเขาจะสําแดงวิชาสายฟา เตรียม
ดําเนินการโจมตีเพื่อทําลายลาง
เสียงคลื่นดังขึ้นประหนึ่งสายฟาคําราม มาจากทิศตะวันตก มีแมน้ําสายใหญทะลุ
ออกมาจากผืนปา ผูนําอาณาจักรทะเลสาบแหงสวรรคยืนอยูตรงนั้น ทั้งรางกายทวมไป
ดวยไอน้ํา เจียวขนาดใหญตัวหนึ่งกําลังแปลงราง
เขากําลังกระตุนเลือด และพยายามจะแปลงมันเปนเจียวขนาดมหึมาหนึ่งตัว มัน
คอยๆ หลุดออกมาจากแผนหลังของเขา ขดตัวอยูบนพื้น เปนภาพที่แลดูนากลัว
เขารายเคล็ดวิชาล้ําคา แตวิธีการกลับแปลกประหลาด
หลังจากที่เจียวหลุดออกมาจากแผนหลังของเขา ก็ขยายใหญขึ้นอยางรวดเร็ว ลําตัว
หนึ่งจั้ง[1] ความยาวราวสองรอยกวาจั้ง ความกลัวทวมทนแผนฟา ไอหมอกสีเทาพันลด
เลี้ยว อักขระตัวใหญปรากฏขึ้นแวบวับกลางอากาศ
เจียวรายคําราม สะเทือนทั่วบริเวณปาจนโกลาหลวุนวาย กอนหินเกลือกกลิ้ง ใบไม
ปลิววอนกระจัดกระจาย
“โฮก...”
สิ้นเสียงแผดรอง เจียวรายสีหมนหยัดกายลุกขึ้น พุงถลาลงไปยังหมูบานหินผา
สําแดงพลังการจูโจมที่ปราดเปรียว มันเปนการจูโจมที่เขยาขวัญเปนอยางมาก รางกาย
ของเจียวขนาดใหญบดบังไปทั่วทองฟา ไอหมนเนืองแนนกระเพื่อมขึ้นลง ราวกับมาจาก
ครั้งบรรพกาล อาปากแผดเสียงคําราม พนลําแสงนากลัวออกมามากมาย สะเทือนจน
กอนหินแหลกละเอียด
ดานนอกของหมูบานหินผา กอนหินและมวลแมกไมถูกพลังทําลายลางจูโจม จน
พื้นดินแยกออก เจียวรายตัวนี้มีขนาดมหึมา พลังโจมตีก็แข็งแกรงจนใจสั่นระรัว
“ชางเปนเคล็ดวิชาที่แข็งแกรงเสียจริง!” ผูคนที่อยูไกลออกไปสองสามลี้เอยขึ้น
พรอมกับอยางตกใจ ขนลุกซู วิธีการเชนนี้นากลัวเปนอยางมาก มันเพียงพอที่จะทําลาย
หนึ่งตระกูลใหสิ้นซาก
“ไมไดการละ หมูบานนั้นไมเปนอะไรเลย!”
หนาหมูบาน บนตนหลิวตนนั้น กานออนสีเขียวชอุมเปลงแสง กระจายรัศมีพรามัว
ปกคลุมไปทั่วหมูบาน ขัดขวางการโจมตีอันนาสะพรึงกลัวของเจียวรายตัวนั้น
หลังจากนั้น กานหลิวก็ยืดขยายและพุงขึ้นสูฟากฟาอยางรวดเร็ว หมายทะลวงเจียว
รายตัวนั้น!
“ครืน!”
ทันใดนั้น ทางดานทิศเหนือปรากฏสายฟาเปลงแสงโชติชวง มันเปนสายฟาสีดําเปน
เสนๆ มาจากบนหนาผาสูง ฟาดลงไปยังหมูบานหินผา โจมตีกานหลิวที่กําลังยืดขยายสู
ทองฟา
เหลยโหวลงมือแลว ผูนําดินแดนที่ยิ่งใหญใชพลังทั้งหมด รายเคล็ดวิชาล้ําคาที่
แข็งแกรงที่สุด ราวกับจะแปลงรางเปนเทพเจาสายฟา
“ไมแหงทีไ่ ดฝนชโลมลูบ[2]อยางนั้นรึ? ขาผูเปนตัวแทนแหงเทพเจาสายฟา จะ
ทําลายเจาอีกครั้ง ใหผุพังอยางสิ้นซาก!”
เสียงดังประหนึ่งสายฟาคําราม สะเทือนไปทั่วปฐพี เหลาผูกลาตางพากันอุดหู
เพราะพลังทะลวงแข็งแกรงเปนอยางมาก สะเทือนจนใบไมปลิววอน
เขาไมไดโจมตีลําตนของตนหลิวแตอยางใด แตฟาดฟนกานออนบอบบางกานนั้น ใน
บริเวณนี้ สายฟาสีดําเคลื่อนไหวอยางบาคลั่ง ทั้งหมดกดดันลงไป เปนผลใหแผนดินมืด
สนิท แสงสีดําซัดสาดอยางบาคลั่ง
ทางดานทิศใต เสียงหมาปาเหาหอนดังกึกกองไปทั่วแผนดิน เทพหมาปาแหงนหนา
เหาหอน ที่แหงนั้นมีแสงสีทองสองสวาง แผคลุมไปทั่วยอดเขา เทพารักษตนนั้นเกิดการ
เปลี่ยนแปลงอันนากลัว
สวนหลังของมันแยกออก เกิดเปนรอยแยกสีทอง แผงขนแบงออกสองฝง เทพารักษ
เหาหอน สะเทือนภูเขาจนสั่นไหว
มันกําลังลอกคราบ หลังจากที่หนังสีทองแตกออก มีเทพหมาปาพรางพราวโผล
ออกมาจากขางใน ขนทั้งตัวราวกับหลอมมาจากทองคํา
“โอ หมาปาทองคําตัวนั้นนากลัวเชนนี้เอง ถึงวาเทพารักษในอาณาบริเวณหาหมื่นลี้
ตางก็ยกยอง มันไดรับชีวิตใหมมาหนึ่งครั้งแลว ลอกหนังเกาทิ้งและปลุกเสกจนกลายเปน
อาวุธล้ําคา” ผูคนตางหวาดกลัว
โดยปกติแลว หมาปาทองคําตัวนี้จะอดทนอดกลั้น สวมหนังเกาที่หลุดลอกนั่นอยู
ตลอดเวลา และเผยรางกายดุรายที่แทจริงในวันนี้ รวมทั้งพลังที่แทจริงของมัน
แสงสีทองศักดิ์สิทธิ์โชติชวง หนังหมาปาผืนนั้นพองตัวขึ้นอยางรวดเร็วประหนึ่งมี
ชีวิต ราวกับเทพหมาปาที่ยังมีชีวิตอยู แมกระทั่งฟนก็ยังสองแสงเย็นวูบวาบ
เห็นไดชัดวา ยามที่เทพารักษตนนี้ลอกคราบ มันทําไดอยางสมบูรณ เหลือเพียงหนัง
หอหุมที่สมบูรณ และอาวุธชิ้นลี้ก็ล้ําคามาก แข็งแกรงอยางที่สุด!
“บรูว...” เทพหมาปาหอน แผนดินอึกทึกคึกโครม อาวุธหนังหมาปาเปลงแสง
มากมาย ยอมจนโลกหลาเปนสีทอง พุงไปทางหมูบานหินผา เพื่อจูโจมตนหลิว
ผูคนสั่นระริกดวยความหวาดหวั่น ไมแปลกที่จะเปนเทพารักษที่แข็งแกรงทีส่ ุดใน
รัศมีหาหมื่นลี้ ความนาเกรงขามเชนนี้สะทานไปถึงทรวงใน ทําใหผูคนเกิดความ
หวาดกลัวจากกนบึ้งของหัวใจ
หนังหมาปาสีทองแปลงรางเปนเทพเจาหมาปา พุงตรงไปยังรากของตนหลิวดําไหม
ตนนั้น จะทําลายมันจากรากเหงา แสงสีทองลุกโชติชวง ทวมทนไปทั่วดานหนาของ
หมูบาน
“ตูม!”
ไอสีมวงมาจากทิศตะวันออก ไอสีมวงขมุกขมัวแผคลุมทั่วทองฟา บดบังผืนดิน
กลายเปนเมฆหนาทึบ ปกคลุมไปทั่วผืนปา ความนาเกรงขามทวมทนแผนฟา ผูกลา
อันดับหนึ่ง จื่อซานโหวเองก็ลงมือแลว!
..............................
[1] จั้ง มาตราวัดของจีน 1จัง้ = 3.33 เมตร
[2] ไมแหงที่ไดฝนชโลมลูบ เปรียบเปรยวา ไดรับพลังชีวิตอีกครา
บทที่ 44 เขยาขวัญ
ไอสีมวงขมุกขมัว ซัดโหมราวกับทะเลกวางใหญ แผกดดันไปทั่วทองฟา ปกคลุม
ปฐพี ทรงพลังอยางหาที่สุดไมได บีบคั้นจนจิตใจสั่นไหว ไอหมอกแปลงรางเปนคนสีมวง
ที่มีขนาดใหญ หนึ่งเทาย่ําเทาลงมาบนตนหลิวตนใหญ ครอบครองพลังศักดิ์สิทธิ์ของฟา
ดิน ราวกับสวรรคเปนผูกระทํา
ภาพเหตุการณที่ทรงพลังเชนนี้ ทําใหผูกลานิ่งอึ้ง จื่อซานโหวรายกาจสมคําร่ําลือ
จริงๆ เพียงย่ําเทาลงไป ก็ทําลายหนึ่งวงศตระกูลไดอยางสิ้นเชิง!
มินาถึงมีตํานานเลาขานวา เพียงจื่อซานโหวลงมือ สามารถทําใหชนเผาขนาดใหญ
สูญสิ้นไปจากแผนดินนี้ วิธีการที่ตะลึงโลกเชนนี้ ชางเปนความวิเศษอันยากจะตานทาน
หมูบานหินผาประสบกับหายนะ ตนหลิวถูกผูกลาทั้งสี่รวมมือกันโจมตี ถูกควบคุม
ตั้งแตหัวจรดหาง ทุกการจูโจมก็นากลัวปานนั้น
วงโคจรของกานหลิวไมเปลี่ยนแปลง ยังคงยืดขยายขึ้นไปรับการโจมตีจากผูนําของ
ทะเลสาบแหงสวรรค
เจียวรายที่มีลําตัวยาวกวาสองรอยจัง้ แนนขนัดเต็มฟากฟาทางตะวันตก มันพนแสง
สวยงาม ซึ่งมีอานุภาพการโจมตีที่นากลัว ฟาดฟนกอนหินและแมกไมมากมายจนแหลก
เปนผุยผง
“ชริ้ง”
กานหลิวเขียวชอุม ไมมีสิ่งใดที่มันทําลายไมได ในชวงเวลาที่ทุกคนตกตะลึง กาน
หลิวทะลวงกะโหลกของเจียวรายตัวนั้น สอดทะลุผานไป ราวกับโซศักดิ์สิทธิ์สีเขียวที่มา
พรอมกับอิทธิฤทธิ์ที่ทวมทนแผนฟา กวาดทุกอยางราบเปนหนากอง
เจียวหลง[1]ตัวใหญมหึมาถูกทะลวงจนพลังชีวิตสูญสิ้น แตมันกลับกางกรงเล็บตวัด
ผานอากาศ พนลําแสงสวยงามลงมาโจมตีขางลางเชนเดิม ทั่วทุกทิศของหมูบานหินผา
ประสบกับการโจมตีอันนาสะพรึงกลัวครั้งใหญ มวลไมมลายหายไป กอนหินปลิววอน
แผนดินแยกออก
“ซิ่ว”
กานออนโยกไหว ปลอยลําแสงเจิดจา กานเขียวมรกตบิดเปนเกลียว ประหนึ่งชือห
ลง[2] พันเกี่ยวลําคอของเจียวรายอยางรวดเร็ว จากนั้นออกแรงลาก หัวของเจียวผู
ยิ่งใหญหลุดออกมาจากลําตัว รวงหลนลงสูพื้นดิน
ที่หางไกล ผูนําทะเลสาบแหงสวรรคยืนอยูหนาสายน้ําที่อยูกลางปา อาปากพน
เลือดออกมา ดวงตาคูนั้นปลอยลําแสงออกมาสองเสน เผยสีหนาหวาดกลัว เขารูดีวา
เคล็ดวิชาล้ําคาที่มีพลังชีวิตของเขาถูกทําลายแลว เพียงแคชั่วพริบตา ก็กลายเปน
‘เครื่องบํารุง’ แกตนหลิวตนนั้น เจียวรายที่สามารถมองไดดวยตาเปลานั้นผายผอม ถูก
กานหลิวเขียวขจีนั่นดูดเอาพลังชีวิตไปจนสิ้น และกระจายแสงศักดิ์สิทธิ์อยางหมดจด!
ขณะเดียวกัน กานหลิวถูกโจมตีทางทิศเหนือ กระแสสายฟานับสิบประดังเขามา
พรอมกัน สายฟาสีดํากระเพื่อมขึ้นลงอยางบาคลั่ง โจมตีกานออนที่เขียวชอุม
มันสามารถตานทานไดหรือไม? กิ่งกานที่บอบบาง สองแสงเจิดจาพรางพราย มอง
อยางไรก็ออนชอย แตสายฟากลับโหดเหี้ยมอํามหิต สายฟาสีดําผสานเขาดวยกัน แมจะ
เปนเหล็กกลาก็จะฟาดฟนจนแหลกเปนผุยผง
ผูคนทั้งหมดราวกับหยุดหายใจ สายฟาเปนหนึ่งในพลังที่นากลัวที่สุดในปฐพีนี้ และ
ตนหลิวก็เคยประสบกับการโจมตีเชนนี้มากอน จนทําใหไหมเกรียมทั้งตน นี่บงบอกวา
สายฟาทํารายมันได ตอนนี้มันก็โดนโจมตีถึงเพียงนี้ มันยังจะมีชีวิตรอดตอไปหรือ?
“ดวยเกียรตของขา ขาจะมอบความยอยยับใหแกเจาเอง!” เทพเจาสายฟาคําราม
ลั่น นาเกรงขามอยางหาที่สุดไมได ขุนเขาอึกทึกครึกโครม แผนดินสั่นสะเทือน
แตเรื่องนาตกตะลึงเกิดขึ้นแลว สายฟากระเพื่อมขึ้นลงเต็มฟากฟา ทําใหกานหลิว
จมอยูในนั้น แตมันกลับยิ่งเขียวชอุม ราวกับถูกชโลมดวยน้ําพุหอมหวาน ออนเยาวและ
ชุมชื่นราวกับจะมีน้ําหยดลงมา
ผูคนตางหวาดผวา แตเหลยโหวกลับอาปากคาง เปนครั้งแรกในชีวิตที่เขาสูญเสีย
ความมั่นใจ
กานหลิวกวัดแกวง ระลอกคลื่นสีเขียวกระเพื่อมขึ้นลง พลันสายฟาที่ทวมทนแผน
ฟาก็สูญสิ้นไป ถูกมันดูดซึมจนหมดจด ทุกสิ่งเกิดขึ้นชั่วพริบตา ผูคนตกตะลึงจนอา
ปากกวาง ไมมีเสียงใดหลุดเล็ดลอดออกมา
“ชริ้ง”
แสงเปนจุดๆกระเพื่อมขึ้นลง กานหลิวตวัดเบาๆ วาดวงกลมสวยงามขึ้นมา เสียงสี
เขียวเปนจุดๆ กิ่งกานของมันยืดยาวขึ้น พุงออกไปยังแมน้ําที่อยูทางทิศตะวันตก
ที่แหงนั้นมีเงาหนึ่งยืนอยู ไอน้ําขมุกขมัว แผกระจายกลิ่นอายความแข็งแกรง นั่นคือ
ผูนําของทะเลสาบแหงสวรรค ที่อยูหางเกือบเมตร แตกานหลิวกลับถึงภายในพริบตา
รวดเร็วจนไมทันตั้งตัว
“วู...”
กานหลิวยืดลงมาอยางดุดัน ผูนําของทะเลสาบแหงสวรรครองเสียงหลง ใชแรง
ทั้งหมดที่มีตานทาน เสกกระดูกสัตวออกมาชิ้นหนึ่ง นั่นเปนอาวุธล้ําคาที่แข็งแกรงมาก
ใหมันแทนตัวเอง แตตนกลับหลบหนีไปอยางรวดเร็ว
ที่แหงนี้สองแสงเจิดจาไปทั่วทั้งบริเวณ สองสวางไปทั่วผืนปาและแมน้ํา อยางไรก็
ตาม อาวุธล้ําคาที่แข็งแกรงเพียงนี้ก็ตานทานไมไหว สิ้นเสียงผลุบ มันถูกกานออนหวด
จนแหลก กลายเปนผงกระดูก อักขระหายไปทันควัน พลังชีวิตซึมเขาสูกานหลิวสีเขียว
“อา... ไม!” ผูนําตระกูลทะเลสาบแหงสวรรครองลั่น แมจะวิ่งหนีดวยความเร็วสูงสุด
แตก็สายไปเสียแลว กานหลิวที่โรยตัวลงมาจากฟากฟา แหลมคมยิ่งกวาดาบเซียน เพียง
พาดผานเบาๆ ก็ฟาดจนรางของเขาขาดเปนสองทอน ลมลงไปบนกองเลือด จากนั้น
พลังชีวิตพวยพุง เขาเหมือนกับชราภาพมาเปนเวลาหมื่นป รางกายผายผอม ฉีกขาดเปน
ชิ้นๆ จิตวิญญาณดับสูญ
ขณะนั้นเอง เหลาผูกลาตางหวาดผวา เงียบงันดวยความกลัว คนจากทะเลสาบแหง
สวรรคสีหนาซีดเซียวมาก กอนหนานี้ไมนาน พวกเขายังเอยวาจาตามอําเภอใจ ผูนํามา
เยือน หมูบานไรความสําคัญเชนนี้จะตองถูกกวาดเรียบเพื่อแกแคนใหแกเจียวชาง ทวา
ในตอนนี้ ผลลัพธกลับขื่นขมและนากลัว ผูนําที่แข็งแกรงที่สุดของทะเลสาบแหงสวรรคก็
ถูกฟาดฟนจนเปนสองทอน คราบเลือดเปรอะเปอน นอนตายอยูที่นี่!
“ทานผูนํา!” ผูคนมากมายเปลงเสียงรองอยางสลดใจ
ตอนนี้ ผูคนจํานวนนับไมถวนกําลังขนลุกขนชันดวยความหวาดผวา ตนหลิวชางนา
สะพรึงกลัว ไมสามารถตานทานไดแมแตนิด
“ทานผูนําตระกูล รีบหนีเร็ว!” ผูคนจากตระกูลสายฟารองอยางหวาดกลัว เพื่อ
เตือนเหลยโหว
เพราะวา กานหลิวสองแสงสวยงามเปนจุดๆรนถอยหลัง และเปลี่ยนทิศทาง มุงหนา
มายังทิศเหนือ จูโจมเหลยโหว
ความเปนจริงแลว เหลยโหวก็พบความไมชอบมาพากล ตั้งตัวไดตั้งแตแรก เขาเสก
อาวุธล้ําคาออกมา ควบสายฟาลอยขึ้นสูงสามเมตร พุงออกไปยังที่หางไกลเพื่อเตรียม
หลบหนี
ทวา กานหลิวรวดเร็วมาก แปลงกายเปนลําแสงสีเขียว พาดผานทิศตะวันตกเฉียง
เหนือภายในพริบตา
เหลยโหวที่ยืนอยูบนกอนหินก็ถูกฟาดจนขาดเกิดเสียงดัง ประหนึ่งดาบคมฟน
ดอกไมงาม มันไมยอมหยุดเพียงเทานั้น แตไลตามไปอยางเร็วไว กานหลิวเล็งเปาหมาย
ไปที่กลางหลังของเหลยโหว และเตรียมทะลวงผาน
“หลีกไปใหพน!”
เหลยโหวคํารามลั่น ขนลุกขนชันไปทั้งตัว ลําแสงเปนหมื่นสาย แปลงรางเปนสายฟา
วงกลม เจิดจา และปลอยกระแสไฟออกมาจํานวนมาก นากลัวเปนที่สุด สะเทือนจน
กอนหินระเบิด
กานหลิวหยุดชะงัก ไมไดทะลวงรางกายของเขาแตอยางใด หยุดเจตนาที่จะดูดซึม
กระแสไฟ จากนั้นก็มวนตัวเขาเขามา รัดจนแนนแลวนํากลับมายังหมูบานหินผา
ผูคนมากมายสงเสียงรองอยางตื่นกลัว เหลยโหวผูยิ่งใหญถูกจับอยางหมดหนทาง ไย
ตนหลิวไมสังหารเขา แตนํากลับไปดวยเชนนี้?
เหลยโหวรองครวญคราง ดิ้นรนไมหยุด อาวุธล้ําคาเปลงแสงตามมา หมายฟาดฟน
กานหลิวใหขาด แตทุกสิ่งก็เปลาประโยชน ยากที่จะทําอันตรายกานออนนั้นได ตนหลิว
ดูดกระแสไฟที่เขาปลอยออกมาอยางไมปรานี
“นี่มัน...” ผูคนตางตกตะลึงพรึงเพริด เมื่อรูวาตนหลิวจะทําอะไร มันตองการให
เหลยโหวสําแดงเคล็ดวิชาล้ําคาอยางไมหยุดหยอน ปลอยกระแสไฟออกมาอยางตอเนื่อง
เพื่อใหมันไดดูดซึม
“เพื่อถือกําเนิดใหมภายใตการทําลาย มันปรารถนาการบํารุงจากกระแสไฟฟา...”
ฝูงชนหวาดกลัวจนเนื้อตัวเย็น ตนหลิวตนนี้ชางชั่วรายเสียจริง ไมสามารถตัดสินกับ
แบบพื้นๆ ได ชนเผาใหญทั้งสี่รวมมือกันโจมตีมัน คาดวาจะตองเปนการคิดบัญชีแคน
ครั้งใหญเชียวละ
เหลยโหวถูกหิ้วมายังบนตนหลิวที่อยูดานหนาของหมูบาน เขากระเสือกกระสนไม
หยุด แตพลังกลับออนลงทุกที ดูแลวคงจะอยูไดไมนาน
ผูคนพากันหวาดกลัว นี่คือเหลยโหวผูยิ่งใหญ เปนผูนําของหนึ่งในดินแดนผูปกครอง
ชั้นสูงที่มีอยูเพียงสองแหง แตกลับถูกหอยอยูแบบนั้น กลายเปนนักโทษคนหนึ่งอยาง
คาดไมถึง!
เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้จะตองกระจายไปทั่วแผนดินเปนแนแท ชื่อเสียงเรียงนามของ
หมูบานหินผาจะตองกระฉอนไปทั่วทุกสารทิศ เทพารักษที่ดูเหมือนใกลจะตาย ลําตนดํา
เกรียม แตกลับนากลัวไดถึงเพียงนี้ สังหารไปหนึ่งคน หิ้วปกอีกคนขึ้น นั่นเปนถึงผูกลา
สองคนในผูกลาทั้งสี่ สมควรยกยองวาศักดิ์สิทธิ์สะเทือนโลกา
คนของตระกูลสายฟาสีหนาไมสูดี ผูนําที่ยิ่งใหญแหงตระกูล มีอํานาจทั่วทุกทิศ
ปกครองแผนดินกวางใหญไพศาล แตกลับตองจํานนเชนนี้
เมื่อครู มือดีของตระกูลนี้ยังเอยวาจาดวยความมุทะลุ จะถอนรากถอนโคนหมูบาน
หินผา และจะไมสญ ู เสียพลังแมเพียงเปาฝุน กระดูกล้ําคาของซวนหนีไมใชสิ่งที่หมูบานนี้
พึงจะมี ตอนนี้เกิดเรื่องเชนนี้ คําพูดเหลานั้นก็กลับมาฟาดหนาพวกเขา นี่เปนการถลก
หนังเผยธาตุแท ผูนําใกลจะตายแลว!
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในพริบตาเดียว หนึ่งในสองตระกูลใหญถูกสังหาร อีกหนึ่งถูก
จับกุม และการโจมตีของสองตระกูลนั้นเปนเพียงการเริ่มตนเทานั้น
อาวุธหนังหมาปาสีทองผืนนั้น ประหนึ่งเทพหมาปาตัวจริง ไมมีขอแตกตางแมแต
นอย รางกายดุจหลอมมาจากทองคํา พุงเขาประชิด กางกรงเล็บคูที่ไรเทียมทานออก
จากนั้นปดกอนหินทิ้ง หมายทําลายรากของตนหลิว
ทวา รากเล็ดลอดออกมาบนพื้นผิวเพียงแครากเดียว เทพหมาปาตัวนี้ก็ตกตะลึง
รากประหนึ่งเจียวหลงพุงขึ้นรวบตัวมันไวโดยพลัน จากนั้นฉุดกระชากไปยังรอยแยกของ
พื้นดิน
“บรูว...”
เทพหมาปาสีทองเหาหอน ขนลุกขนลันไปทั้งตัว เจิดจาเปลงแสงพราตา กระเสือก
กระสนดิ้นรนอยางรุนแรง กรงเล็บคูนั้นหวดลงไปที่รากอยางสุดกําลัง
“แควก”
สิ่งที่ทําใหผูคนตกใจก็คือ กรงเล็บสีทองคมกริบนั่นถูกรากตนไมสะเทือนจนหักเปน
สามทอน เพียงรากปดปาย ดินก็แตกกระจาย ทวมทนบริเวณนั้น
ฝูงชนตะลึงงันและนิ่งอึ้งไป อาวุธล้ําคาที่แข็งแกรงปานนี้ ซึ่งเทียบไดกับเทพหมาปา
ออกโรงเอง กลับถูกทําลายทิ้งเสียแลว
กอนที่เศษดินทรายจะกลบฝงที่ตรงนั้น ผูคนเห็นหมาปาสีทองตัวนั้นกําลังแหงเหี่ยว
เปอยยุย มันถูกรากนั้นทําใหละลายกลายเปนปุยไปเสียแลว
“อาวุธล้ําคาแข็งแกรงเพียงนี้ เทพารักษในรัศมีหาหมื่นลี้ลอกคราบ แตกลับเปนได
แคปุยอยางนั้นรึ?” ผูคนหวาดกลัวจนขวัญหนีดีฝอ
ใบหนาของผูคนจากเผาชนหมาปาตางก็ไรสีเลือด เทพหมาปาผูสูงสง ถูกยกยองเปน
เทพารักษที่แข็งแกรงที่สุดในดินแดนนี้ ตอนนี้กลับถูกกดอัดดินไปเสียแลว
พวกเขานึกถึงคําพูดไรสาระเมื่อครู จะควบมาพุงชน เพียงมาเหยียบย่ําก็ทําใหราบ
เปนหนากลอง ตอนนี้คงจะเปนเพียงเรื่องตลกที่เอาใหฟาดหูตัวเองเทานั้น!
มีตนหลิวตนนี้อยูทามกลางดินแดนกวางใหญนี้ ใครจะกลายกตนเปนเทพารักษที่
แข็งแกรงที่สุด?
“ครืน!”
กลางอากาศ ขาสีมวงย่ําลงมา เหยียบย่ําตนหลิวที่อยูหนาหมูบาน นั่นเปนการโจมตี
ของจื่อซานโหว เขาเปนผูกลาอันดับหนึ่งในดินแดนกวางใหญไพศาลนี้ วิธีการเชนนี้
สามารถสะเทือนสวรรคได
กานหลิวรัดเหลยโหวไว และโยกไหวไปตามแรงลม จากนั้นผงกสวนที่ออนที่สุด แลว
ตวัดเบาๆ พลันเกิดกระแสวน จากนั้นก็ใหญขึ้นเรื่อยๆ สุดทายกลายเปนเฮอรริเคนลูก
ใหญ!
ภาพเหตุการณนี้นากลัวเปนอยางมาก ผูกลาที่มองดูอยูตางก็ตาเหลือก ปากอากวาง
เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินไป นี่เปนแคกานออนเทานั้น ตวัดเบาๆ ก็ทําใหเกิด
ปรากฏการณเหนือธรรมชาติที่นาสะพรึงกลัวไดถึงเพียงนี้!
และนี่เปนครั้งแรกที่กานหลิวสําแดงอิทธิฤทธิ์ที่แตกตางออกไป บงบอกวาจื่อซาน
โหวเปนผูกลาอันดับหนึ่งที่ไมธรรมดา สมคําร่ําลือ
“ปง!”
กระแสลมสีเขียวนั่นขยายใหญขึ้นจรดสวรรค เชื่อมตอสวรรคและผืนดิน ทรงพลัง
อยางไมมที ี่สิ้นสุด สะเทือนทั่วทุกสารทิศ มันเหมือนน้ําปาปะทุขึ้น ดุจทะเลกวางใหญ
สะทานฟา เกิดเสียงดังครืนครัน กระเทือนจนเหลาผูกลาจะแตกสลายและสิ้นลมแลว
ขาสีมวงขางหนึ่งถูกลากเขามายังกระแสลมวน จากนั้นรางกายสีมวงก็ลมลงมาดัง
โครม และหายเขาไปในพายุเฮอรริเคน ถูกฉีกจนแหลกละเอียด!
ณ ที่เกิดเหตุ มีเพียงความตะลึงงันและนาสะพรึงกลัวเทานั้น
..............................
[1] เจียวหลง หรือเจียว เปนมังกรชนิดหนึ่ง อาศัยตามลุมหนอง
[2] ชือหลง เปนมังกรในยุคแรก ไมมีเขา มีรูปลักษณแบบงู
บทที่ 45 ลางสังหรณ
ตนหลิวแข็งแกรงเกินกวาที่ทุกคนจินตนาการ กระแสลมวนสีเขียวทะลุฟากฟา ฉีก
ทึ้งทุกสิ่งทุกอยาง บุคคลรางใหญสีมวงถูกบดขยี้จะแหลกละเอียดกลายเปนผุยผง
นับตั้งแตที่ผูนําตระกูลทะเลสาบแหงสวรรคสิ้นลม กระทั่งเหลยโหวหอยอยูก ลาง
อากาศ และอาวุธหนังหมาปาสีทองถูกทําลาย สุดทายก็เปนบุคคลรางใหญยกั ษที่จื่อซาน
โหวเสกมาแหลกละเอียด ทุกอยางเกิดขึ้นในพริบตาเดียว
“โฮก...”
ในขณะนั้นเอง เทพหมาปาตอบสนองอยางรวดเร็ว กอนที่ผูนําของทะเลสาบแหง
สวรรคจะถูกสังหาร มันก็เคลื่อนไหว กระโจนตัวหันหลังแลวหนีหายไป ทิ้งไวเพียงเงาสี
ทองอันนาอดสู
หมาปามีนิสัยเจาเลหเพทุบาย มันรูสึกไดถึงความไมชอบมาพากลอยางหลักแหลม
รางกายดุจทองคํากระแทกชนขุนเขา ทลายปาไม พุงเขาไปในผืนปาดวยความเร็ว
มหาศาล
แทจริงแลว ยามที่หนังหมาปาสีทองผืนนั้นสําแดงเดช และออกจูโจม มันก็แปลงราง
เปนลําแสงสีทอง และเริ่มเผนหนีทามกลางปาดึกดําบรรพแลว
ในนามของผูกลาที่สุดในรัศมีหารอยเมตร ความสามารถและประสาทสัมผัสของมัน
แข็งแกรงเปนอยางมาก ในตอนนี้ มันไมเหลือลักษณะโหดรายแลว มีเพียงแตความ
หวาดกลัว ไมกลาจะหยุดพักแมแตนิด
แมชายชราแหงเผาชนหมาปาทองคําจะยิ่งใหญเกรียงไกร ปกครองดินแดนกวาง
ใหญ แตอยางไรแลวก็เทียบกับเทพหมาปาไมได ปฏิกิริยาตอบสนองชาเล็กนอย เมื่อเขา
ไดสติกลับคืนมาก็เรงเผนหนี
“ปลอยลูกธนู!”
ในขณะเดียวกัน เขาก็ออกคําสั่งใหผูกลาแหงตระกูลทําการตั้งรับ เพื่อถวงเวลาให
เขา เพียงครู ลูกศรก็ถูกปลอยออกมานับหมื่นดาม เสียงทะลวงทองฟาดังไมหยุด ลูกศร
โลหะเนืองแนนพุงไปยังหมูบานหินผากันพรอมเพียง
ทวาก็เปลาประโยชน กระแสลมวนสีเขียวขยายใหญขึ้น ลูกศรทั้งหมดถูกดูดเขาไป
ลูกศรโลหะหักดามแลวดามเลา จากนั้นก็แตกละเอียด เหตุการณนี้ทําใหคนทั้งหมดตะลึง
งัน พวกเขากลัวตั้งแตหัวจรดเทา ภาพเหตุการณเชนนี้นากลัวเกินไป ตนหลิวสะทานฟา
อยางแทจริง จะรับมือกับมันไดอยางไร?
“วู...”
พายุหมุนสงเสียงรองหวีดหวิว ประหนึ่งสัตวประหลาดคําราม สะเทือนไปทั้ง
เทือกเขา ผูนําแหงเผาชนหมาปาทองคํารองลั่น รางกายปลิววอนไปที่หลุมของกระแสลม
อยางไมรตู ัว
“ไม!” เขาตะโกนลั่นดวยความหวาดกลัว หากเขาไปก็ตายสถานเดียว พละกําลังอัน
แข็งแกรงของเขาก็ไมสามารถตานทานการจูโจมของตนหลิวได
“ซวบ!”
แสงสีทองพวยพุง กระเพื่อมขึ้นลงราวกับเกลียวคลื่นนากลัว แตลําแสงเจิดจากลับ
ยิ่งทําใหใจเตนระรัว แสงสีทองที่เหมือนพระอาทิตยระเบิดออก ฟาดไปยังพายุหมุน
“อาวุธจากบรรพบุรุษ!”
“ผูนําตระกูลใชอาวุธบรรพบุรุษแลว!”
คนของเผาชนหมาปาทองคํารองออกมาดวยความตะลึง จากนั้นก็เกิดความรูสึกฮึก
เหิมขึ้น รอคอยการทลายพายุหมุน และฆาฟนตนหลิวตนนั้น
ทวา พวกเขาเพียงเริ่มตื่นเตนเราใจ ทุกอยางก็กลับตาลปตร เมื่อลําแสงสีทองปะทะ
กับกระแสวนสีเขียว ก็หลุดจากการควบคุมของผูนําเผาหมาปาทองคํา แสงสวางมอดลง
และจางหายไป
“โอย...”
ผูนําแหงเผาหมาปาทองคํารองตะโกนดังลั่น รางกายคอยๆ แตกราว ไอเลือดลอย
ขึ้น กลายเปนเศษซากเลือดเนื้อ และสูญสิ้นไปตลอดกาล
ฝูงชนขนลุกชัน และหวาดกลัวเปนระลอกๆ
“เพี๊ยะ”
อาวุธบรรพบุรุษที่หลบหนีออกมา รวงหลนตอหนาผูคนจากเผาหมาปาทองคํา มัน
เปนกริชเลมหนึ่ง ยาวเกือบหนึ่งเซี๊ยะ มีแสงสีทองไหลเวียน อักขระปะทะกับกระแสวนสี
เขียวแปรเปลี่ยนเปนหมนแสง แตมันก็หลุดรอดออกมาได
หากมองอยางละเอียดจะพบวา มันฝนมาจากเขี้ยวสัตวสีทอง มีพลังลึกลับและนา
หวาดกลัวซอนอยู ผูกลาแหงเผาหมาปาทองคําสั่นสะทาน ผูอาวุโสของตระกูลตัวสั่นเทา
โกยมันขึ้นมาดวยสองมือ คิดไมถึงวามันจะตานทานตนหลิวไมไหว
นี่ไมใชเขี้ยวที่หลุดออกมาจากเทพารักษแหงตระกูล แตมันมาจากประเทศเกาแก
เมื่อครั้งที่เผาชนหมาปาทองคํายังไมยายถิ่นฐาน จําตองสงเครื่องบรรณาการแก
ประเทศเกาแกทุกๆ ป บรรพบุรุษของพวกเขาไดทําคุณประโยชนแกที่นั่น จึงไดรับการ
ประทานอาวุธล้ําคา ซึ่งก็คือกริชเขี้ยวหมาปา
ในเวลานั้น เผาชนหมาปาทองคํายิ่งใหญมาก รุงเรืองอยางเปรียบไมได กระทั่ง
คอยๆ ตกต่ําลง ผานระยะเวลาอันยาวนาน จึงไดแยกตัวออกมาตั้งถิ่นฐานที่นี่ กอตัวเปน
ชนเผาจนถึงทุกวันนี้
อาวุธล้ําคาชิ้นนี้ตกทอดอยูในมือของพวกเขา
กริชเขี้ยวหมาปาเปนเขี้ยวที่หลุดออกมาจากเทพารักษของประเทศเกาแก แมวา
พลังที่มีมาแตกําเนิดจะถูกประเทศเกาแกเอาไปแลว ถึงจะเปนเชนนี้ แตหลังจาก
กลายเปนอาวุธล้ําคา อานุภาพของมันก็รายแรงอยางที่ไมสามารถจินตนาการได แต
ตอนนี้มันตานทานตนหลิวไมได
“จื่อซานโหวก็หนีไปแลว!”
กระทั่งตอนนี้ผูคนจึงพบวา จื่อซานโหว ผูที่ถูกขนานนามวาเปนผูกลาอันดับหนึ่งใน
รัศมีหารอยเมตร แปลงรางเปนพระอาทิตยสีมวงลอยต่ําเหนือพื้น พุงเขาไปยังผืนปาเปน
เวลานานแลว
มันหนีไปพรอมกับหมาปาสีทองตัวนั้น ณ ที่แหงนี้เหลือเพียงอาวุธล้ําคากระจายแสง
สวยงาม ผนึกกําลังแปลงเปนรูปรางคน รับความตายแทนเขา
แมวากานหลิวจะมีเพียงกานเดียว หลังจากที่มันกวาดลางทุกทิศจนเรียบแลว ครั้น
มันออกไลลาก็ทันแคเพียงทะลวงอาวุธล้ําคาชิ้นนี้ ดูดพลังศักดิ์สิทธิ์ของมัน ไมไดไลลาผู
กลาอันดับหนึ่ง พายุหมุนสะทานฟาหดเล็กลง และมลายหายไปอยางรวดเร็ว ทุกอยาง
คืนสูสภาพสงบอีกครั้ง การโจมตีของผูกลาทั้งสี่ถูกทําลาย ทําใหผูกลาทั้งหลายรูสึก
หวาดกลัวมาก!
สี่ตระกูลใหญตางก็เงียบงัน เคลื่อนกองกําลังมามากมาย แตผูนําทั้งสี่รอดกลับมา
เพียงคนเดียว บางถูกเขนฆา บางถูกแขวนกลางอากาศ สิ่งนี้เปนการตบหนาพวกเขาฉาด
ใหญ
พวกเขาคิดวาตนปกครองแผนดินกวางใหญผืนนี้ ไมมีใครสามารถตอกรได ทุกครั้งที่
เคลื่อนไหวก็สามารถควบคุมทุกชนเผาได เมื่อครั้งที่มาถึงที่นี่ก็กลาววาจะกําราบหมูบาน
หินผาใหสิ้นซาก แตผลลัพธกลับเปนเชนนี้
หากคิดยอนกลับไป ความแข็งแกรงและการทําลายลางเผาพันธุของพวกเขานั้น
กลายเปนเพียงเรื่องขําขัน เมื่ออยูตอหนาตนหลิวนากลัวตนนี้ สิ่งเหลานั้นมันไรประโยชน
ขึ้นมาทันที
เหลาผูกลาของสี่ตระกูลทั้งตะลึง หวาดกลัว โกรธแคนและหลากหลายความรูสึก
ผูนําตระกูลถูกสังหาร ความอัปยศเชนนี้ทําใหพวกเขาทั้งหวาดกลัวและกริ้วโกรธจนกํา
หมัดแนน
“บิดาของขาจะตายเชนนี้ไมได ขาตองการคําชี้แจง!” ชายวัยรุนรางกํายําของชนเผา
หมาปาทองคําราม ดวงตาดุจหมาปา เปลงลําแสงเหี้ยมโหด
“นายนอยโปรดระงับโทสะ พวกเราไมสามารถตานทานปศาจหลิวนั่นไดแมแตนอย
ไมวาจะเขาไปกี่คนตางก็เผชิญความตาย แมแตทานผูนําก็ยังสิ้นชีพ”
“เขี้ยวหมาปารวงลงมาตรงนี้ ปศาจหลิวไมไดไลลาตามมา ขาคิดวามันคงยืดยาวได
เพียงหนึ่งลี้ คงไมสามารถมาถึงที่หางไกลได” ชายวัยรุนกลาวเสียงเย็น นัยนตาเปน
ประกาย เตรียมการเคลื่อนพล
เมื่อเขาพูดจบ ผูคนทั้งหมดตางก็นิ่งอึ้ง
“ปง”
ตอนนี้เอง เหลยโหวที่แขวนอยูบนตนหลิว ถูกดูดกลืนพลังปราณจนสิ้น ยากที่จะเสก
กระแสไฟฟาไดอีก ทั้งตัวแหงเหี่ยว รวงหลนมายังพื้นดินราวกับกาน้ําชาผุพัง และแตก
กระจายไปทั่ว
“อา...”
ผูคนจากตระกูลสายฟารองโหยหวน ทั้งโกรธแคนและเศราสลด ทายาทของเหลย
โหวนัยนตาแดงก่ํา เตรียมการอยางเต็มกําลัง เพื่อทําศึกสงครามที่จะไมสูญเสียสิ่งใดแม
เพียงอยางเดียว
“พวกเราทะเลสาบแหงสวรรคก็จะไมลาถอย หากวามันไมสามารถโจมตีมาถึงที่นี่ได
พวกเราก็ปลอยเพลิงแผดเผาหมูบานหินผาจากระยะไกลนี้ ฆาลางบางมันใหสิ้นซาก!”
คนจากตระกูลเจียวตะโกนลั่น ผูนําตระกูลตายตรงนี้ ความเคียดแคนนี้หนักหนานัก
มีเพียงคนของขุนเขาสีมวงที่ไมมีปฏิกิริยาใด เพราะจื่อซานโหวหนีไปแลว
“ถอยหลัง โจมตีแบบหยั่งเชิง!”
กองทัพของทะเลสาบแหงสวรรค ชนเผาหมาปาทองคํา และตระกูลสายฟาถอยหลัง
ไปไกลหาลี้ เหลือคนบางสวนที่อยูที่เดิม งางคันธนูใหญ ยิงลูกศรที่อาบเปลวไฟไปยัง
หมูบานหินผา
คนเหลานี้ตางก็เปนมือยิงทีม่ ีกําลังแขนนากลัว เล็งเปาหมายใหมั่น จากนั้นก็รวมตัว
มุงหนาไปทางหมูบานหินผา
เปนไปตามคาด เมื่ออยูไกล กานหลิวไมไดกระทําการจูโจมใดๆ มีเพียงรัศมีแสงปก
คลุมไปทั่วหมูบาน ลูกศรทั้งหมดแหลกละเอียด ยิงเขาไปไมได
ดานนอกหมูบานเกิดไฟไหมครั้งใหญ ไฟลุกโหมแผดเผา แตกลับไมสามารถขยาย
เขตเขาไปในหมูบานได
“ไมไดผลนี่” ผูคนมากมายถอนหายใจ ในขณะเดียวกันก็หวาดกลัว
“เขาลอมพื้นที่ตรงนี้ไว ไมใหผูคนในหมูบานเขาออกได ออกลาสัตวไมได ยังไงก็ตอง
อดตาย!” นายนอยแหงชนเผาหมาปาทองคํากลาวอยางอํามหิต
“นายนอยขอรับ พวกเราถอยทัพดีกวา มิเชนนั้นอาจเกิดหายนะจนสูญสิ้นเผาพันธุ
ได” มีคนกลาวชักจูง
แทจริงแลว ผูกลาทั้งสี่ตระกูลตางก็หวั่นเกรง ผูคนมากมายอยากจะเรงหนีกลับไป
จากที่แหงนี้ ไมอยากจะอยูแมวินาทีเดียว ทวา เหลาผูมีอํานาจทั้งทายาทของตระกูล
และทานลุงของผูนําตระกูลนัยนตาแดงก่ํา สูญเสียสติสัมปชัญญะ หวังแกแคนอยางถึง
ที่สุด
“พวกเราทะเลสาบแหงสวรรคจะไมยอมถอย จะตองชําระแคนแกพี่ชายใหได ลอม
ที่นี่เอาไว ทําใหประชาชนบานปาพวกนั้นอดตายทั้งเปน!” นองชายของผูนําตระกูล
ทะเลสาบแหงสวรรคตวาดดังลั่น
คนจากตระกูลเจียวตางก็หวาดผวา มิไดเต็มใจแมแตนอย จึงมีคนลุกขึ้นประทวง
“ทั้งที่รูวาจะตองตายเปนแน ยังจะไปรบ พวกขาทําไมไดหรอก นั่นเปนพี่ชายของ
ทาน ทานไปชําระแคนเถอะ พวกขาไมอยากไปตาย!”
“เจาวาอะไรนะ ผูนําตระกูลเพิ่งจะตาย พวกเจาไมคิดแกแคนงั้นรึ กลับจะเผนหนี
พวกเจายังเปนชายชาตรีของทะเลสาบแหงสวรรคของเราอยูหรือไม?”
เพียงชั่วครู ทะเลสาบแหงสวรรคเกือบจะเกิดการจลาจลกันเอง
เมื่อเกิดสถานการณเชนเดียวกับตระกูลสายฟา ชนเผาหมาปาทองคํา ไมมีใคร
ยินยอมจะไปตาย ตางก็อยากจะหลีกหนีตนหลิวปศาจตนนั้น
สุดทาย ผูคนบางสวนก็หนีไป มีคนบางสวนที่ทําตามคําสั่ง เขาลอมหมูบานหินผา
เตรียมการตัดขาดชองทางหาอาหารของพวกเขา
“โฮก...”
เทพหมาปาสีทองตัวนั้นพุงกลับมา มาถึงตรงหนาของนายนอยแหงตระกูลหมาปา
พอดี มันฟาดฝามือลงมาจนเขาตัวลอย จากนั้นก็อาปากกัดอาวุธล้ําคา กริชเขี้ยวหมาปา
ดามนั้นไวแนน หันหลังวิ่งหนีไป กลายเปนลําแสงสีทอง หายไปในพริบตา
คนทั้งหมดนิ่งอึ้ง จากนั้นก็กูรองอยางตกใจ
“ทานนายนอยรีบถอยเถิดขอรับ ลางไมดี ทานเทพารักษทอดทิ้งพวกเรา อีกทั้งยัง
ชวงชิงอาวุธบรรพบุรุษของตระกูลเราไปแลว!” ผูอาวุโสคนหนึ่งตะโกนลั่นดวยความกลัว
ไมเพียงแตตระกูลของพวกเขา แมแตทะเลสาบแหงสวรรคกับตระกูลสายฟาเองก็
หวาดผวา ทั้งหมดเกิดความคิดตองการลาถอย ทางดานของตระกูลขุนเขาสี่มวงนั้น เริ่ม
วิ่งหนีกันแลว ไมเหลือแมแตคนเดียว เห็นไดชัดวาไดรับคําสั่งของจื่อซานโหวใหลาถอย
ไมตอตานอีกตอไป
“ซิ่ว!”
ทันใดนั้น กานหลิวเคลื่อนไหวอีกครั้ง ครานี้ลําแสงสวางโชติชวง เจิดจาพราตากวา
ครั้งกอน ยืดขยายใหญขึ้นสี่หาลี้เพียงชั่วพริบตา มันหมุนอยางรุนแรง กอนหินถูกฟนจน
หัก ยอดเขาทลายลงจนเกิดเสียงดังครืน ผืนปาเรียบเปนหนากลอง
ชายวัยรุนของตระกูลหมาปาทองคํารองลั่น หัวคนลอยขึ้น ผูคนมากมายที่ยืดหยัด
อยูตอในสนามรบแหงนี้ ถูกฟนสันหลังจนหักเปนสองทอน ซากศพมากมายลมลง สะเก็ด
เลือดกระเด็นเซ็นซาน
จากนั้น ทั้งทะเลสาบแหงสวรรคและตระกูลเจียวก็ไดรับชะตากรรมเดียวกัน ผูกุม
อํานาจของตระกูลถูกสังหาร เมื่อกานหลิวปดกวาด กะโหลกศีรษะก็ปลิววอนพรอมกับ
สะเก็ดเลือดเปนวงกวาง
กระทั่งกอนตาย คนเหลานี้ก็หวาดกลัวจนถึงขีดสุด และรูสึกผิดอยางไมสิ้นสุด ไมใช
วาตนหลิวไมสามารถยืดมาถึงที่นี่ได เพียงแคกอนหนานี้มันไมใสใจจะทําก็เทานั้น
“ผลุบ"” ผลุบ"...
หลังจากทีฟ่ าดฟนบุคลสําคัญไปแลว ตนหลิวกลับไมเขนฆาตามอําเภอใจ มันเพียงจู
โจมหลินหมาและสัตวประหลาดพวกนั้น กานหลิวทะลวงมาศึกตัวแลวตัวเลา จน
กลายเปนพรวนอยูบ นกานหลิว
สุดทาย เหลามาศึกทั้งหลาย ตั้งแตหลินหมา สัตวประหลาดเขาเดียว และแรด
จันทราก็ถูกเสียบทะลุอยูบนกานหลิว และถูกลากกลับหมูบานหินผา แตหนนี้มันไมไดดูด
พลังชีวิตดังเชนทุกครั้ง มันเหวี่ยงทิ้งลงบนพื้นถนน
“หนีเร็ว!”
เหลาผูกลาจากสี่ตระกูลหวาดกลัว และวิ่งหนีกันอยางไมคิดชีวิต ไมกลาอยูตออีก
ตอไป
คนในหมูบานหินผาที่มองอยูตางนิ่งอึ้ง ตนหลิวแข็งแกรงเปนอยางมาก
เวลาผานไปนาน สือหลินหูไดสติกลับคืนมา เขากลาวดวยความปวดใจอยางที่สุดวา
“นี่เปนสัตวประหลาดเขาเดียวนี่นา สามารถเดินเหินไดเปนหมื่นลี้ เปนมาที่พบเจอได
ยากมาก”
“ตรงนี้มีพยัคฆติดปกหลายตัว เปนสัตวประหลาดที่พบเจอไดยากมาก!” ผูอาวุโส
เอยอยางตกใจ
ผูคนในหมูบานหินผาเคารพยําเกรงตนหลิวอยางหาที่เปรียบไมได เคารพบูชาจาก
ภายใน เปนมันนี่เองที่ปกปองคุมครองหมูบานหินผา ทุกคนตางก็พึมพําวาเปนเทพเจา
ตนหลิว อธิษฐานดวยความเลื่อมใสศรัทธา
ทันใดนั้น ก็มีเสียงศักดิ์สิทธิ์ดังขึ้นวา “นี่เปนอาหาร จะตองเตรียมใหเพียงพอ
หายนะครั้งใหญกําลังจะมาเยือน”
“ผูใดกัน?” ผูคนตางตกตะลึง
“ทานเทพารักษ เทพเจาตนหลิวที่คุมครองหมูบานของเราเอยปากพูดแลว” เจาตัว
เล็กเบิกตากวาง ปลอยลําแสงสวางไสว มองไปยังตนหลิวดําเกรียมอยางตกตะลึง
บทที่ 46 ใจกลางเทือกเขา
ตนหลิวหักโคนมาเปนเวลาหลายปแลว เหลือเพียงลําตนสีดําเกรียมทอนหนึ่ง สูง
เกือบสิบกวาเมตร มีเพียงกานหลิวกานเดียวเทานั้น เขียวชอุมและกวัดแกวงไปตาม
แรงลม
นับสิบปแลวที่มันไมเคยเอยปากพูด ไยวันนี้จึงพูดละ? เจาตัวเล็กกะพริบตาปริบๆ
ดวยความสงสัย
“คาราวะเทพเจาตนหลิว!”
คนในหมูบานตกใจเปนอยางมาก เคารพยําเกรงจากขางในจิตใจ พฤติกรรมของตน
หลิวเหนือความคาดหมาย คนมากมายคํานับจนลมลงไป วิงวอนใหมันชวยปกปกษรักษา
ใหหมูบานหินผาอยูอยางเปนสุข
เหลาผูอาวุโสที่อายุมากสั่นระริก นําสวดอธิษฐานดวยใจศรัทธาและคําพูดจากใจจริง
เพื่อแสดงความเคารพนับถือ
อํานาจลึกลับบางอยางปรากฏขึ้น มหัศจรรยมาก เกิดพลังของการเซนไหวที่
ใกลเคียงกับการบูชาสวรรคของบรรพชน ที่บันทึกไวในตํารากระดูก ขยายออกสูขางนอก
ประหนึ่งเกลียวคลื่น
หมอโบราณที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษเกิดเสียงดังกึกกอง ลวดลายตะวัน จันทรา
ขุนเขา สายน้ําและบรรพชนครั้งโบราณชัดเจนมากยิ่งขึ้น มีแสงศักดิ์สิทธิ์ไหลเวียนแลดู
ขลังมากยิ่งขึ้น มีกลิ่นอายความโชกโชนตอโลกลอยปะทะเขาใบหนา
ทวา ตนหลิวไมพูดไมจาเหมือนเชนดังสิบปที่ผานมา เงียบสงบไรเสียง เสมือนวาไม
เคยเอยปากพูดมากอน
“ทําตามคําเตือนของเทพเจาตนหลิว เริ่มกักตุนอาหาร!” มีผูอาวุโสที่สงบสติอารมณ
ไดแลวกลาวออกคําสั่ง
ชั่วพริบตา ในหมูบานก็ชุลมุนวุนวายขึ้นมาทันที ซากมานับรอยตัวนอนเกลื่อนบน
ทางเดิน กองพะเนินดุจภูเขาลูกเล็ก นี่เพียงพอใหผูคนไดกินสักระยะหนึ่ง เพื่อปองกัน
การเนาเสีย จะตองรีบจัดการโดยไว
วันนี้ กลิ่นเนื้อลอยฟุงกระจายไปทั่วบริเวณ แตละบานตางยุงกับการทําหมูแหงและ
หมูรมควันกันอยางจริงจัง แมแตเด็กๆ เองกชวยเหลือ ตนหลิวเอยวาจา นี่เปนเรื่องที่ไม
เคยเกิดขึ้นเลยในระยะสิบปมานี้ ชาวบานไมกลาทําหูทวนลม ภายในใจตางวาวุนและ
เตรียมการกันอยางตั้งใจ เพื่อรับมือกับหายนะครั้งใหญทจี่ ะมาถึงในภายภาคหนา
ตระกูลใหญทั้งสี่ ทั้งขุนเขาสีมวง ตระกูลสายฟา ทะเลสาบแหงสวรรค และเผาหมา
ปาทองคําเคลื่อนกําลังพลมามากมาย กลับตองเผนหนีกลับไปดวยความหวาดผวาอยาง
ที่สุด เมืองภูเขาสันโดษเกิดเสียงดังอึกทึกครึกโครม
กองพลของสี่ตระกูลใหญหนาตามอมแมม ถูกเขนฆาจนกลายเปนวิหคตื่นคันศร[1]
ในใจเกิดความหวาดผวาเปนอยางหนัก ครั้งนี้อับอายขายหนาจนไมเหลือเกียรติ พวกเขา
หยุดพักที่เมืองภูเขาสันโดษ ไมเหลือคราบที่กําเริบเสิบสานเหมือนกอนหนานี้ ไมมีผูใด
กลาเสนอหนาไปโจมตีหมูบานหินผาอีกตอไป ไมแมแตจะเอยถึงชื่อนั้น
“นาอดสูยิ่งนัก ผูกลาทั้งสี่ผูยิ่งใหญ ซึง่ ปกครองดินแดน บัญชาการปฐพีนี้ ทวากลับสู
หมูบานเล็กๆ นั้นไมได” ผูอาวุโสบางสวนยังโกรธแคนไมสิ้น
หลังจากระบายโทสะแลว คนมากมายตางก็สั่นเทิ้ม ตนหลิวแข็งแกรงเปนอยางมาก
ไมสามารถเอาชนะมันได ครั้งนี้สูญเสียมาก พวกเขาตีอกชกหัว[2] แตคิดไดตอนนี้ก็สาย
ไปเสียแลว
เกิดเรื่องราวใหญโตเชนนี้ จําตองปลุกปนคลื่นลูกใหญขึ้นเปนแนแท และบางทีอาจ
กอใหเกิดวิกฤตเลวรายขึ้นมากมาย ตระกูลทั้งสี่ตัดสินใจออกจากที่นี่ใหเร็วที่สุด
สําหรับพวกเขาแลว ที่แหงนี้เปนดินแดนเวทมนตรนองเลือด หนึ่งหมูบานที่เปนเหตุ
ใหผูนําตระกูลที่แข็งแกรงทั้งสามสิ้นใจ การแพพายครั้งใหญเชนนี้เปนเรื่องที่ไมสามารถ
จินตนาการไดเลย!
ณ ตอนนี้ ใจกลางเทือกเขาดึกดําบรรพเองก็ไมสงบเชนเดียวกัน!
หมอกขมุกขมัวพวยพุงขึ้น ทัศนียภาพภายในปาเลือนรางไมชัดเจน เสมือนวาเขาสู
ยุคสรางโลก เสียงคํารามของเหลาอสูรบรรพกาลหยุดชะงักลงโดยพลัน เงียบสงัดราวกับ
สิ้นชีวิต
เงาขนาดมหึมาปรากฏขึ้น พันเกี่ยวไอหมอกหนาแนน มองรางกายที่แทจริงไมชัด
แตมันกลับกระจายกลิ่นอายความนากลัว สะทานไปทั่วปฐพี เทือกเขาและหุบเขาสั่นไหว
เหลาสัตวประหลาดหมอบคลาน เนื้อตัวสั่นเทาดวยความกลัว คํานับมายังที่แหงนี้
มันรูปรางสูงใหญนา เกรงขาม ไมรูวาสูงกี่ลี้กันแน รางกายสูงเสียดฟา นัยนตาสีมรกต
คูนั้น ประดุจทะเลสาบสองแหงที่ฝงอยูบนสรวงสวรรค มีความยาวเกือบลี้ ดวงตามรกต
เชนนี้นากลัวเกินไป อีกทั้งไอความตายที่สะทานแผนฟา!
ยากที่จะจินตนาการวามันเปนสิ่งมีชีวิตชนิดใด ไมรูวารางกายของมันมีขนาดใหญ
ไพศาลถึงเพียงไหน หากเรื่องนี้แพรงพรายออกสูโลกภายนอก จะตองสะเทือนทั่วทุก
สารทิศเปนแนแท
“ของวิเศษนี้เปนของขา” มันเปลงเสียงทุมต่ําออกมา ดังกึกกองประหนึ่งสายฟานา
กลัว สะเทือนจนภูเขาแทบจะทลายลงมา เหลาอสูรปกษาที่อยูกลางขุนเขาในที่หางไกล
ตางก็สั่นระริก
“ตูม!”
เสียงที่ตอบกลับมันเปนกระบองโลหะขนาดใหญ หนาใหญประดุจเสาค้ํายันสวรรค
ตวัดผานมาจนเกิดพายุพัดโหมกระหน่ํา กอนหินปลิววอนกระจัดกระจาย ไอหมอก
กระเพื่อมขึ้น
การโจมตีครั้งนี้ดุจดั่งทําลายลางโลกา ทะลวงแผนดิน!
“โฮก...”
เสียงคํารามทุมต่ํา ไอเหี้ยมโหดกลืนกินสรวงสวรรค เงาขนาดมหึมาควานกรงเล็บ
ใหญออกมา แผคลุมทองฟา บดบังผืนดิน เพียงพอที่จะกดอัดแนวเขาใหจมดิน แสงเย็น
พรางพราย เฉียบคมอยางหาที่เปรียบไมได
“ตูม”
กรงเล็บใหญปะทะกับกระบองโลหะนัน่ บนชั้นเมฆ ฟากฟาราวกับถูกฉีกทึ้ง มาน
หมอกแตกกระเจิง แสงสวางแตกกระเด็นเซ็นซาน เคล็ดวิชาล้ําคาที่แข็งแกรงปะทุขึ้น
ทวมทนไปทั่วแผนดิน
“ชริ้ง” “ชริ้ง” ...
กลางฟากฟา กระดูกวิเศษหลนรวงลงมาชิ้นแลวชิ้นเลา บางก็แดงฉานดุจเพชรสี
เลือด บางก็ดําสนิทดั่งน้ําหมึก บางก็ขาวสวางไสว โปรยแสงงดงาม ซึ่งทั้งหมดนั้นตางก็
เปนกระดูกล้ําคาที่วิเศษ
หากผูกลาที่อยูนอกเขตเทือกเขาพบเห็นจะตองตารอนเปนแน ทั้งหมดจะตองหลุด
ลอกออกมาจากทายาทอสูรบรรพกาลอยางแนนอน คาดไมถึงวามีถึงสิบกวาชิ้น นี่ตอง
เปนขุมสมบัติล้ําคาถึงเพียงไหน?!
กระดูกล้ําคาที่มีอักขระโบราณซอนอยูล อยลงมา กระจายตัวลงบนแตละจุดของ
เทือกเขาอันกวางใหญไพศาล ผังตัวลงไปในขุนเขา แมพายุคลั่งบนฟากฟาจะทรงพลัง
มากเพียงใด ก็ไมสามารถทําลายภูเขาใหญได
สัตวประหลาดที่มีรางกายขนาดใหญสูงเสียดฟา และยืนตระหงานอยูบนแผนดิน
นัยนตาสีมรกต ราวกับทะเลสาบสองแหง เอยอยางเยือกเย็นวา “ชางมีเมตตายิ่งนัก!”
“ตูม!”
มันอาปากปลอยลําแสงนากลัว แผคลุมไปทั่วโลกหลา เฉกเชนเดียวกับกระดูกล้ํา
คาที่กดอัดเทือกเขากวางใหญเมื่อครู จะตองทําใหมนุษยตกอยูสถานการณอันตราย มัน
ปลอยเมฆไปทั่วทองฟา ฟาดแสงศักดิ์พรางพรายไปขางหนา นี่เปนเคล็ดวิชาล้ําคาที่
แข็งแกรงมาก!
“ตูม!”
สิ่งที่ตอบกลับมาเปนกระบองโลหะ ฟาดลงมายังเคล็ดวิชาเจิดจา ระเบิดคลื่นเสียง
มาเปนระลอก ยิ่งไปวานั้น อักขระโบราณอันแข็งแกรงปรากฏขึ้น เกิดเสียงดังครืน
กระบองปลอยแสงจํานวนมาก พันเกี่ยวอักขระเนืองแนนนั่น หลังจากที่ผนึกเขาดวยกัน
แลว พลังอํานาจลึกลับของกระบองก็พุงพรวดขึ้นอยางมหาศาล
นี่เปนสงครามครั้งใหญ สองผูดํารงอยูที่ไมอาจจินตนาการได กระจายอักขระโบราณ
ล้ําคา ปกหลักเพื่อรบกันอยางเอาเปนเอาตาย ณ ที่แหงนี้
“เจาและนกสีแดงตัวนั้นจะตองรับความพายแพ ลาถอยเปนตัวเลือกเดียวที่เจามี!”
ผูดํารงอยูที่มีดวงตาสีเขียวมรกตโหดเหี้ยมอยางเปรียบไมได เผยเจตนารมณสังหาร
สงครามดําเนินไปอยางตอเนื่อง!
“ตูม!”
ทันใดนั้น ใจกลางที่ลึกที่สุดของเทือกเขา อีกฟากหนึ่งมีเปลวไฟลุกทวมทนผืนฟา
นกสีแดงตัวหนึ่งปรากฏตัว และทําสงครามเขยาโลกกับสิ่งมีชีวิตนากลัวตนนั้น
“คิดไมถึงวาเจายังมีชีวิตอยูบนโลกใบนี้”
“โฮก...”
สิ่งมีชีวิตแข็งแกรงทัง้ หมดสี่ตัวกําลังตอสูกัน ความนากลัวของพวกมันเหนือความ
คาดหมาย ทายาทอสูรบรรพกาล ทั้งปศาจวานรกับปศาจกระทิงไฟตางก็สั่นเทิ้ม หลบ
ซอนอยูทไี่ กลหาง ไมกลาขยับเขยื้อน
ณ เมืองภูเขาสันโดษ เหลาผูกลาหวาดผวา เพราะตางก็ไดยินเสียงจากใจกลาง
เทือกเขาเชนกัน พวกเขาแหงนหนามองไป ที่แหงนั้นทวมทนไปดวยไอพรามัว กระดูก
สัตวสิบกวาชิ้นฝงตัวลงไปในเทือกเขาไรขอบเขต ไมมีใครสามารถมองทะลุได
“เกิดอะไรขึ้น วัตถุล้ําคาแหงขุนเขาจะถือกําเนิดแลวอยางนั้นรึ นี่พวกมันกําลังตอสู
เพื่อทําการชวงชิงครั้งสุดทายใชหรือไม?”
ครั้นพูดจบ กลางเทือกเขากวางใหญสุดลูกหูลูกตาปรากฏแสงวิเศษสะทานฟา ไอ
ขมุกขมัวทวมทน แมวาจะมีกระดูกล้ําคากี่สิบชิ้นฝงตัวลงในแผนดิน เทือกเขาแหงนี้ก็ยัง
สั่นไหวอยางรุนแรงขึ้นมา
เคล็ดวิชาล้ําคาเหนือโลกกําลังปะทะกัน ทั้งสรวงสวรรคและแผนดินกําลังสั่นสะทาน
ผูคนขนลุกขนชัน ตางก็หวาดผวา ในเวลานี้ แมแตวิญญาณของพวกเขาก็สั่นกระเพื่อม
คนมากมายลมพับลงไปกับพื้น
ฝูงชนตัวสั่นระริก สั่นเทิ้มอยางไมหยุดหยอน นั่นเปนการกําราบอันแข็งแกรงที่สุด
ทําใหพวกเขาตองคํานับและยกมือไหวทวมหัวอยางทนไมได
ตองเปนสิ่งมีชีวิตที่นากลัวเพียงใดกัน? คนทั้งหมดกลัวตั้งแตหัวจรดเทา บางคนนึก
ยอนไปตอนที่ตระกูลของตนปรารถนาจะเขาไปเสาะหาวัตถุล้ําคาแหงขุนเขา ไมอยากจะ
มีชีวิตอยูแลวหรือ นับวาโชคดีที่ลาถอยกลับไปในที่สุด!
หนี!
นี่เปนความคิด ณ ตอนนี้ของทุกคน ทามกลางดินแดนโหดรายนี้ หากหยุดพักนาน
เพียงชั่วพริบตาก็จะเพิ่มความอันตรายมากขึ้นเทานั้น หากทําอะไรไมเขาทาก็จะไมเหลือ
แมแตซากศพ
กองกําลังของตระกูลสายฟา ทะเลสาบแหงสวรรค และเผาหมาปาทองคํายิ่งสั่น
ระรัว ตนหลิวปศาจตนนั้นก็ทําใหพวกเขาหวาดกลัวมากพออยูแลว บวกผูดํารงอยูในจุด
ลึกที่สุดของเทือกเขา ดินแดนแหงนี้ไมใชสถานที่ซึ่งมนุษยควรจะอยู เรงลาถอยเทานั้นที่
จะเปนทางเลือกที่ดีที่สุด
ชาวเมืองภูเขาสันโดษหวาดผวา แตละชนเผาใหญและผูกลาเริ่มหลบหนี มุงหนาไป
ยังขอบฟานั่นดวยความเร็วสูงสุด ไมตองการอยูตอแมแตวินาทีเดียว
“ตูม!”
ทันใดนั้น ใจกลางเทือกเขากวางใหญ เกิดเสียงดังสะทานฟาสะเทือนโลกา กอนหิน
ปลิววอนทะลุฟา คาดไมถึงวาจะระเบิดออกแลว ไอพรามัวแผขยาย ปกคลุมไปทั่ว
เทือกเขา
แสงอมตะพวยพุงทะลุชั้นเมฆ ไออันเปนมงคลพวยพุง ราวกับยอนไปในชวงเริ่มตน
ของสวรรพสิ่ง เสมือนมีวัตถุล้ําคาครั้งบรรพกาลถือกําเนิดขึ้นแลว กระเพื่อมขึ้นลงอยาง
ตอเนื่อง สะเทือนไปทั่วทั้งดินแดนรกราง
“วัตถุล้ําคาแหงขุนเขากําเนิดแลว!”
ในขณะนี้ ไมตองมีผูใดพูดอะไรใหมากความ คนทั้งหมดตางก็รูแจง จะตองเปนวัตถุ
วิเศษที่ไดรับแสงอาทิตยอีกคราอยางแนนอน
สิ้นเสียง ใจกลางเทือกเขาก็เดือดพลาน ศึกครั้งใหญทวีความรุนแรงขึ้น สิ่งมีชีวิตนา
กลัวเหนือจินตนาการตอสูกันอยางไมคิดชีวิต ชวงชิงวัตถุล้ําคาแหงขุนเขาที่เพิ่งจะโผล
ขึ้นมาจากดิน
..............................
[1] วิหคตื่นคันศร ใชเปรียบเทียบกับผูที่ผานเหตุการณรายหรือเกิดความตื่น
ตระหนกในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเปนทุนเดิม ภายหลังเมื่อมีสิ่งใดมากระทบแมเพียงเล็กนอยก็
มักจะตื่นกลัวอยางยิ่ง
[2] ตีอกชกหัว รองไหฟูมฟายทุบอกทุบหัวตัวเองไปดวย เนื่องจากเสียใจ, ฮึดฮัด
โวยวายเพราะนอยใจ
บทที่ 47 หายนะมาเยือน
“โฮก...”
เสียงคํารามสะเทือนไปทั่วแปดทิศ แมวาจะอยูบริเวณรอบนอกของเทือกเขา ก็ยังได
ยินเสียงที่ดังสนั่น เหลาผูกลาที่กําลังเผนหนีออนเปลี้ยเพลียแรง คนมากมายลมพับไป
กองกับพื้น
ทางดานของมาพวกนั้นยิ่งไมฟงคําสั่งใดๆ เลย รางกายสั่นเทิ้มหมอบคลานกับพื้น
สั่นระรัวไมหยุด หวาดกลัวถึงขั้นไมกลาผงกหัวขึ้น คํานับไปทางดินแดนรกรางอยาง
ตอเนื่อง
จุดลึกที่สุดของเทือกเขา มีกลิ่นอายความนากลัวตะลึงโลก สิ่งมีชีวิตทั้งสี่กําลังตอสู
กันอยางดุเดือด ประหนึ่งยอนกลับมาสูชวงสรางโลก ประเดี๋ยวเปลวไฟลุกทวมทนผืนฟา
ประเดี๋ยวก็กอนเมฆบดบังดวงตะวัน ประเดี๋ยวก็มีกระบองโลหะกวาดผานทองฟา...
นี่เปนศึกสะทานโลกา หากไมมีกระดูกล้ําคากวาสิบชิ้นฝงตัวอยูในเทือกเขากวาง
ใหญนี้ ปกหลักบนแผนดินนี้ ไมอยากจะจินตนาการเลยวาจะดินแดนแหงนี้จะอยูใน
สภาพใด
ทามกลางหมอกขมุกขมัว เสียงวิหคแผดรองทะลวงสรวงสวรรค นกกระจอกสีแดงที่
แผดรองดวยความโกรธ กําลังสูรบปรบมืออยางดุเดือดกับมือคูนั้น มันเคลื่อนไปพรอมกับ
เปลวไฟที่ลุกทวมทนทองฟา แผดเผาฟากฟาครึ่งซีกดวยไฟที่เรารอน ยากที่จะรับมือ
“โฮก...”
เสียงคํารามดังลั่น แผนดินระส่ําระสาย คูตอสูของมันยิ่งใหญอยางกลืนกินขุนเขา
และธารา[1] มีอํานาจเหนือแผนดิน ระเบิดแสงสวยงามพุงทะลุกอนเมฆ ใชเคล็ดวิชาล้ํา
คาอันแข็งแกรงกําราบเปลวไฟ
หากมีคนอยูตรงนี้จะตองตะลึงจนตาเหลือกและอาปากคาง คูตอสูของนกสีแดงเปน
ปกษาขนาดใหญตัวหนึ่ง แตเสียงที่เปลงออกมากลับเหมือนเสียงของสัตวคําราม
สะเทือนจนภูเขาและวารีสั่นไหว หากไมมีกระดูกล้ําคากําราบอยูกลางปา คงแตกเปน
เสี่ยงๆ เปนแนแท
“ครืน!”
ปกมโหฬารพาดผานทองฟา ดุจดั่งเมฆดําทมิฬแผคลุมไปทั่วฟากฟา ทําใหเปลวไฟ
แดงฉานเลือนรางลงมาก กรงเล็บขนาดใหญควานลงมาจับนกสีแดงตัวนั้น
อสูรปกษาตัวนี้มีขนาดใหญมหึมา มันใหญเสียดทองฟา ปกนกขางหนึ่งพาดผาน ราว
กับภูเขาเลากาถลมลงมา ไอเหี้ยมโหดทวมทนแผนฟา ความนากลัวสะทานไปถึงจิต
วิญญาณที่อยูภายใน
“จิ๊บ!”
เสียงรองแหลมสูง นกกระจอกเพลิงพุงขึ้น แมขนาดตัวจะไมใหญ แตความนาเกรง
ขามยากที่เทียบ ปะทะกับกรงเล็บใหญจนเกิดเสียงดังครืนครัน ประกายไฟแตกกระเด็น
รอบทิศ
ทั้งสองฟาดฟนกันอยางดุเดือด อสูรปกษามหึมาแผคลุมทองฟา บดบังดวงอาทิตย
รอบกายหอมลอมดวยหมอกดําเนืองแนน มองไมเห็นรางกายที่แทจริง ในระยะที่
หางไกลมาก มองเห็นแคดวงตาสีแดงขนาดใหญอยางเปรียบไมได เหมือนกับพระจันทรสี
เลือดที่แขวนอยูกลางฟากฟา
“ตูม!”
อสูรปกษาตัวนี้มีขนาดใหญอยางไรทสี่ ิ้นสุด เมื่อมันกางปก ลอยขึ้นสูงอยางฉับพลัน
ทองฟาของเทือกเขากวางใหญราวกับวาไมสามารถตานทานมันได พลังจูโจมเหนือโลก
อยางหาที่เปรียบไมได ทุกครั้งที่กระพือปกก็สะเทือนแผนดินดังครืนครัน
นกกระจอกสีแดงใชแรงมาก เพราะบนตัวมันมีบาดแผล มันเคยตอสูที่กินระยะ
เวลานานกับสิ่งมีชีวิตที่ถือกระบองเหล็กนั่น บทสรุปคือบาดเจ็บกันทั้งสองฝาย
“จิ๊บ” “จิ๊บ” ...
แสงสีแดงฟาดฟนกอนเมฆ นกกระจอกสีแดงมีอักขระเปลงแสงแวววับทั่วทั้งตัว
อักขระแนนขนัดกําลังผนึกกําลัง อาจะงอยปากที่พรางพราวดุจเพชรสีเลือด พนแสง
สวยงามชวงโชติออกมาเปนสาย เคลื่อนไปอยางรวดเร็ว
นี่เปนเคล็ดวิชาล้ําคาที่ปราดเปรียวอยางหาที่เปรียบไมได แสงศักดิ์สิทธิ์แปลงราง
เปนดาบอมตะสีแดงเจิดจา แหลมคมเปนอยางมาก พุงออกไปเขนฆาอสูรปกษาพรอมกับ
เปลวไฟที่ลุกทวมทนทองฟา
“โฮก...”
อสูรปกษาที่มีขนาดใหญดุจกอนเมฆทมิฬ เปลงเสียงสัตวปาคําราม สัมผัสไดวามี
ภยันตรายใหญหลวงเขาประชิดตัว มันกระพือปกบินลับหายไปในฟาสีครามภายใน
พริบตา
ในขณะเดียวกัน เมฆดําทมิฬเกลือกกลิ้ง หลังจากที่อสูรปกษาตัวนั้นหนีหายเขาไปใน
แผนฟากวางใหญ ขนนกสีเงินทั้งตัวลุกชัน อักขระวูบวาบ บดบังไปทั่วโลกหลา ปลอย
แสงสีดําลงมาขางลางอยางไมมีที่สิ้นสุด
“เครง” “เครง” ...
บนฟากฟามีลําแสงศักดิ์สิทธิ์ปะทุขึ้นเปนวงกวาง แสงสีดําชนกับดาบวิเศษสีแดงจน
เกิดเสียงดัง ประหนึ่งเกิดการพุงชนอันนากลัวของดาวหางตรงนอกโลก สะเทือนไปทั่ว
ดินแดนรกราง
“วูวู...”
อีกฟากหนึ่ง ลมพัดหวีดหวิว ทะลวงผานสรวงสวรรค กระบองเหล็กขนาดใหญกวาด
ผานแผนดิน มันอยูในมือใหญที่เต็มไปดวยขน ตอสูกับสิ่งมีชีวิตสูงเสียดฟานั่นอยาง
ดุเดือดจนถึงขีดสุด ทุกครั้งที่ทั้งสองปะทะกัน ประหนึ่งเขาสูบรรพกาล ไอพรามัวแผ
กระจาย
แสงสวยงามแตกกระเด็นไปทั่วทิศ ลายรอยดวยไอศักดิ์สิทธิ์ อาวุธที่โผลขึ้นมาจาก
ดินกระเพื่อมขึ้นลง สิ่งมีชีวิตทั้งสี่กลับไมไดชวงชิงโดยทันที แตกลับตอสูกับศัตรูของตน
วันนี้มีผูดํารงอยูที่ไมอาจจินตนาการได ไมมีสิ่งมีชีวิตตัวอื่นกลาเขาใกล แมแต
ทายาทอสูรอยางปศาจวานรหรือปศาจกระทิงไฟ ก็ทําไดเพียงตัวสั่นเทิ้ม หลบซอนอยู
ไกลๆ ไมกลาเขาประชิด
สงครามกลับยิ่งดุเดือดขึ้น การดํารงอยูอยางแข็งแกรงเหนือจินตนาการของสิ่งมีชีวิต
ทั้งสี่ สูกันอยางไมคิดชีวิต แยงชิงความเปนใหญอยางดุเดือด มีกลิ่นอายความนากลัว
บางอยางพวยพุงไปทั่วสารทิศ นาหวาดกลัวจนสรรพสิ่งสั่นไหว
เสียงตึงดังขึ้น ผืนดินสั่นไหวอยางรุนแรง กรงเล็บนากลัวทะลวงผานทองฟามา จู
โจมไปที่นกกระจอกสีแดง แสงศักดิ์สิทธิ์กระเพื่อม ประหนึ่งคลื่นลูกใหญซัดกระทบฝง
เปนบริเวณกวางใหญไพศาล นี่เปนการจูโจมอยางไมทันตั้งตัว สิ่งมีชีวิตที่สูงตระหงาน
เสียดฟา นัยนตาสีเขียวสวางไสว กระทําการจูโจมโดยพลัน คูตอสูที่ทิ้งกระบองโลหะ พุง
จูโจมนกกระจอกสีแดงทันที
นกกระจอกเพลิงแผดเสียงรองดวยความโกรธ กระพือปกคูนั้น และเคลื่อนไหวอยาง
ดุดัน กลายเปนกระแสวนที่บาคลั่งและรุนแรง แปลงรางเปนพายุหมุนสีแดงที่ทําลายลาง
โลกา ภายในมีแสงไฟสะทานโลก หมายกลืนกรงเล็บใหญนั่นใหเขาไป
ในขณะเดียวกัน อสูรปกษาที่อยูตรงขามก็บินโฉบเขามา และเคลื่อนไหวตัดผานไป
จูโจมไปทีส่ ิ่งมีชีวิตที่มือถือกระบองโลหะ และซอนกายอยูในไอขมุกขมัว มันพาดผาน
ทองฟา กวางใหญยงิ่ กวาเมฆดํา อีกทั้งยังกระจายหมอกดําแผคลุมไปทั่วทองฟา ดวงตาคู
นั้นราวกับพระจันทรสีเลือด ปลอยหอกโลหิตสองดามหนาดุจภูเขา ลอยออกไปขางหนา
“โครม!”
แผนดินไหวโดยพลัน สั่นไหวอยางรุนแรง สิ่งมีชีวิตทั้งสี่เปลี่ยนคูตอสูภายในพริบตา
เขนฆาซึ่งกันและกัน ทําสงครามนองเลือดกันอยางไมคิดชีวิต
เทือกเขาไรขอบเขต กวางใหญเปนอยางมาก ยอดเขาสูงนับหมื่นเรียงรายกัน
อักขระสองแสงโชติชวงกลุมแลวกลุมเลา บางก็แดงฉานดุจเลือด บางก็ดําทมิฬประหนึ่ง
น้ําหมึก บางก็ขาวสวางไสว สาดทอแสงลงบนผืนดิน นี่เปนกระดูกล้ําคาโบราณของ
ทายาทอสูรบรรพกาลสําแดงเดช ปกปองไปทั่วดินแดน มิเชนนั้น ภายใตสงครามดุเดือด
เชนนี้ แมจะเปนเพียงควันลงที่พุงลงมาจากบนฟากฟา ก็จะทําใหเกิดภัยพิบัติครั้งใหญได
อาณาบริเวณรอบนอกที่ไกลหางของเทือกเขา เหลาผูกลาอดกลั้นตอความกลัวที่
ออกมาจากภายในจิตวิญญาณ โซซัดโซเซ วิ่งหนีกันอยางไมคิดชีวิต ดินแดนแหงนี้ชา งนา
กลัว จินตนาการไมออกเลยวามันเปนสิ่งมีชีวิตประเภทใด เพียงแคกลิ่นอายที่แผซาน
ออกมา ก็ทําใหพวกเขาลมลงไปกองกับพื้นอยางออนเปรีย้ เพลียแรง ตองยกมือไหวทวม
หัวอยางทนไมได ในในเต็มไปดวยความหวาดผวา
ในวินาทีนี้ พวกเขาจําเปนตองรีบหลบหนีเขาไปยังเมืองโบราณที่หลบซอนจากภัย
พิบัติที่กลาวไวในตํานานทันที!
ในหมูบานหินผา ตนหลิวสูงตระหงาน กานออนพลิ้วไหว แมชาวบานจะใจเตนระรัว
แตไมไดหวาดผวาจนสะทานทรวงใน เฉกเชนเหลาผูกลาที่อยูอาณาบริเวณรอบนอก เห็น
ไดชัดวา พวกเขาไดรับการคุมครอง
“เกิดศึกใหญในขุนเขา ไมรูแนวาเปนวัตถุวิเศษแบบใด จึงสูกันไดดุเดือดเพียงนี้”
“ขารูสึกวามีอํานาจลึกลับควบคุมขุนเขานี้ มิเชนนั้น เกรงวาบนแผนดินในรัศมีหา
หมื่นลี้คงจะประสบกับหายนะเสียแลวละ”
สือเฟยเจียวกับสือหลินหูพูดพึมพํา ทั้งสองรูสึกหวั่นวิตก ไมรูวาหายนะครั้งนี้จะ
ยืดเยื้อนานเทาไหร และนากลัวถึงเพียงไหน
ทันใดนั้น เสียงแผดรองยาวดังมาจากฟากฟา อสูรปกษาที่รางกายแนนขนัดไปดวย
เกล็ดสีเขียว แตปกคูนั้นกับเปลงแสงสีเงิน มีสีสันที่แตกตางกัน
“เย ทานอาอินทรีเกล็ดเขียวนั่นเอง มันเปลี่ยนไปแลว ปกสีเขียวกลายเปนสีเงิน!”
เจาตัวเล็กแหงนหนามองทองฟาอยางตะลึง
“จิ๊บจิ๊บ...”
ตาเผิง เสียวชิง และจื่อยวิ๋นตื่นเตนกันมาก พวกมันกระพือปกและพุงออกไปยังหนา
หมูบาน แผดเสียงรองไปยังทองฟา
อินทรีเกล็ดเขียวเปลี่ยนไปแลว ปกคูนั้นเปลงแสงสีเงินแวววับ ประหนึ่งหลอมมา
จากเงินขาว กระจายกลิ่นอายความบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ มันกินเนื้อของซวนหนีแลวจึง
เกิดการแปลงราง
รูสึกไดอยางชัดเจนวา มันมีกลิ่นอายความนากลัวอยางที่สุด แข็งแกรงกวาเมื่อกอน
หลายเทา พละกําลังพุงพรวดขึ้นอยางรวดเร็ว!
“วิ้ว...”
ลมพัดโหมกระหน่ํา อินทรีเกล็ดเขียวบินรอนลงสูพื้นดิน จากนั้นเก็บปกสีเงินคูนั้น
ลูกนกทั้งสามพุงเขาไปทันที ใชหัวถูไถรางกายของมันไมหยุด
ในตอนนี้ อสูรปกษาตัวนี้ดูไมสงบ มันหลบหนีมาจากใจกลางเทือกเขา สงครามที่อยู
ในจุดที่ลึกที่สุดของขุนเขาชางนากลัว แมจะถูกปดอยางมิดชิด แตก็ทําใหสรรพสิ่งสั่น
สะทานเชนเดิม
“ทานอาอินทรีเกล็ดเขียวหามออกไปนะขอรับ อยูในหมูบ านกอนชั่วคราวนะขอรับ”
เจาตัวเล็กกาวไปขางหนา
ชาวบานตางก็รายลอมกันเขามา ในวันนี้ ความสัมพันธระหวางพวกเขาและอสูร
ปกษาบรรพกาลตนนี้ดีมาก หลังจากผานดานทดสอบความเปนความตายมาแลว พวก
เขาตางก็ไมตองการใหเกิดเรื่องไมดีกับมัน
อินทรีเกล็ดเขียวพยักหนา เดิมทีก็มายังที่นี่เพื่อหลบหนีจากหายนะ
สงครามใหญอันนาเศราสลด เสียงสัตวคํารามประหนึ่งคลื่นยักษดังออกมาจากใจ
กลางเทือกเขาอยูบอยครั้ง มันกลืนกินสรวงสวรรค และสะทานโลกา ลักษณะเสียงนา
กลัว และเสียงนกแผดรองอยางนาหวาดกลัว ราวกับเสียงเทพเจาจากตางแดนที่นากลัว
จนบาดลึกเขาไปในจิตใจ
ศึกครั้งนี้ยืดเยื้อเปนเวลาหลายวัน และยังดําเนินตอไป!
เหลาผูกลาหนีกลับอาณาจักรของตนไดอยางปลอดภัยในที่สุด แตใจก็ยังสั่นระรัว
เฉกเชนดังเดิม แมจะหางไกลกี่หมื่นลี้ ยังคงรูสึกหวาดผวา ก็ยังรูสึกวาจะตองมีเรื่องไม
เปนมงคลเกิดขึ้น
ผูนําตระกูลทั้งสามสิ้นชีวิต คาดไมถึงวาจะประสบกับการสูญเสียที่นาสลดใจใน
หมูบานนั่น หากขาวถูกแพรงพรายออกไปจะตองสะเทือนแตละชนเผาใหญเปนแน อีก
ทั้งวัตถุแหงขุนเขาถือกําเนิดแลว และผูดํารงอยูที่ไมสามารถจินตนาการไดกําลังตอสูกัน
อยางดุเดือด กลับยิ่งนากลัวจนผูคนตัวสั่นเทิ้ม
“แผนดินนี้จะวุนวายแลว ไมรูวาจะมีจุดจบอยางไร” ผูอาวุโสของตระกูลใหญบน
พึมพํา
“หวังวาความวุนวายนี้จะหยุดในเร็ววัน” ผูคนมากมายตางพากันอธิษฐาน
ใจกลางเทือกเขากวางใหญไพศาล วัตถุวิเศษขาวบริสุทธิ์ทามกลางการตอสูอยาง
ตอเนื่องของสิ่งมีชีวติ ทั้งสี่ พวกมันตอสูกันอยางดุเดือดและยื่นกรงเล็บออกมาควานหา
วัตถุล้ําคาไมหยุด
“ตูม!”
ไอขมุกขมัวกระเพื่อมขึ้นลง วัตถุล้ําคาสวางไสวชิ้นนั้นถูกโจมตีจนลอยไปที่หางไกล
และทะลวงอักขระที่ปรากฏอยางเนืองแนนบนเทือกเขานี้ กระดูกล้ําคาสิบกวาชิ้น
คุมครองที่แหงนี้ไวไมไดแลว
“ตูม!”
เทาสัตวขนาดใหญนั่นเหยียบลงมา จากนั้นยันตัวลุกขึ้น ทั้งตัวถูกหองลอมดวยมาน
หมอก ดวงตาสีเขียวมรกตกวาดมองไปทั่วทุกสารทิศแลวพูดวา “วัตถุวิเศษชิ้นนี้ยิ่งใหญ
มาก คนรูนอยมากเทาไหรก็ยิ่งดีมากเทานั้น”
“อยางนั้นก็สังหารใหสิ้น เริ่มจากเผาพันธุมนุษย สังหารพวกตระกูลและสิ่งมีชีวิตที่
ปากสวางใหสิ้นซาก” อสูรปกษาตนนั้นพูดสมทบ มันก็พุงออกมาจากไอพรามัว กางปก
ขนาดใหญแผคลุมทองฟาปกคลุมผืนดิน บดบังไปทั่วบริเวณของเทือกเขาที่กวางไกลสุด
ลูกหูลูกตา มันมีขนาดใหญอยางไมสามารถเปรียบได ดวงตาพระจันทรสีเลือดคูนั้น
อํามหิตสะทานฟา
เสียงตูมดังขึ้น กระบองโลหะยื่นลงมา ใหญดุจทิวเขาและทรงพลังอยางมาก อยูใน
มือใหญทเี่ ต็มไปดวยขน สิ่งมีชีวิตตนนี้ถูกปกคลุมดวยมานหมอก เพียงควงกระบองโลหะ
ก็เกิดอิทธิฤทธิ์เหนือธรรมชาติ!
ตอมาคือนกกระจอกสีแดง ที่พุงออกมาพรอมกับเปลวเพลิง
สิ่งมีชีวิตทั้งสี่มีอิทธิฤทธิ์ที่ไมสามารถจินตนาการได ตอสูพลางคํารามไปดวย
สะเทือนไปทั่วแผนดินกวางใหญไรขอบเขต กระดูกล้ําคาพวกนั้นยากที่จะสําแดงเดชแลว
“สรรพสิ่งโปรดนอมรับคําสั่งของขา ไปเหยียบย่ําแผนดินกวางใหญนี้ใหราบเปนหนา
กลอง!” กลางมานหมอก ดวงตาสีเขียวมรกตคูนั้นเยือกเย็นมากยิ่งขึ้น สิ่งมีชีวิตนากลัวที่
สูงเสียดฟาตนนั้นออกคําสั่ง
“ไปเถิด ไปพังทุกอยางที่ขวางหนา!” อสูรปกษาตนนั้นไมแผดเสียงรองอีกตอไป มัน
เริ่มพูดภาษาคน เสียงดังกึกกองของมัน ก็ออกคําสั่งเชนกัน นัยนตาดุจพระจันทรสีเลือด
คูนั้นเยือกเย็นจนนากลัว
ไอพรามัวแนนขนัด วัตถุวิเศษสวางไสวกระเพื่อมขึ้นลง รวงลงบนมือของสิ่งมีชีวิตที่
ถือกระบองโลหะ ผูดํารงอยูทั้งสามก็แผดเสียงรอง จากนั้นก็ไลตามไปขางหนา เพื่อจูโจม
พรอมกัน
..............................
[1] กลืนกินขุนเขาและธารา เปรียบเปรยวา มีลักษณะอันนาเกรงขามเปนอยางมาก
บทที่ 48 แผนดินหายนะ
ดินแดนรกรางแหงนี้ กวางใหญไรที่สนิ้ สุด ภูเขาสูงตระหงานลูกแลวลูกเลา ปาไม
หนาทึบ สัตวดึกดําบรรพคําราม วิหคดุรายบินขึ้นทองฟา ที่แหงนี้วุนวายอยางแทจริง!
“มอ...”
เสียงกระทิงใหญคาํ รามแววมาไกลมากกวารอยลี้ เปลวไฟพวยพุงขึ้นสูทองฟา
กระทิงตัวใหญสีแดงเลือดหนึ่งตัว สูงถึงสิบกวาเมตร ยาวสามเมตร พุงออกมาจากรอย
แยกของภูเขา พรอมกับลาวาและหอมลอมดวยเปลวไฟ
มันคือปศาจกระทิงไฟ มันเคยตอสูกับซวนหนีสีทอง และถูกตัดเขาสีแดงเพลิงทิ้ง
ดํารงอยูเปนกาลเวลาเนิ่นนาน พลานุภาพสะทานดินแดนรกราง แมแตผูอาวุโสของ
หมูบานหินผาก็เติบโตมากับตํานานของมัน เทาสี่ขางของมันย่ําอยูบนเปลวไฟลุกโชน ทั้ง
เนื้อทั้งตัวอาบเพลิง ขนสีแดงประดุจแพรไหม ประกายแสงสีแดง มันพุงออกไปยังที่
หางไกล
ดานหลังของมันยังมีเหลาสัตวดุรายจํานวนนับไมถวน อุนหนาฝาคั่ง และเปนสัตว
ประหลาดทั้งหมด วิ่งหนีผานลาวาและเปลวเพลิง พุงออกมาจากเทือกเขากวางใหญ
พรอมกับมัน และมุงสังหารมายังบริเวณรอบนอกของขุนเขา
“อา...ไม!”
หมูบานที่มีจํานวนประชากรนับรอยครัวเรือน ทุกคนตางก็ตื่นตระหนกตกใจ สัตว
ประหลาดมากมายวิ่งทะยานมา ปศาจกระทิงไฟที่วิ่งนําขบวนนั่น แข็งแกรงกวา
เทพารักษของพวกเขาอยูมากโข จะรับมือไดอยางไร?
เทพารักษของหมูบานนี้พบความผิดปกติ เพียงครูก็ละทิ้งที่แหงนี้ หลบหนีหายไป
อยางไมทงิ้ รองรอย ไมกลาตอตาน สุดทายกลับรวมตัวเขากับกระแสสัตวพวกนั้น
กลายเปนหนึ่งเดียวกับพวกมัน
นี่เปนหนึ่งโศกนาฏกรรม ปศาจกระทิงไฟพุงพรวดผานไป อยาวาแตเทพารักษของ
ที่นี่เลย แมแตเทพารักษของชนเผาใหญก็ไมใชคูตอสูของมัน ไมมีอะไรสามารถหยุดยั้ง
ทุกยางกาวของมันได ทั้งบานหิน แทนบูชาตางก็ถูกเขาที่มีเพียงเขาเดียวของมันขวิดจน
ลอยขึ้นและแตกกระจาย จากนั้นเคลื่อนวงลอผานไปอยางไรความปรานี
ฝุนละอองพุงขึ้นสูทองฟา มันมุงหนาไปยังสุดขอบโลกที่หางไกลออกไป
สัตวประหลาดที่เนืองแนนเต็มภูเขากางกรงเล็บ เมื่อมันตวัดผานไป ชาวบานตางก็สู
อยางสุดชีวิต แตภายใตกระแสสัตวราวกับน้ําปาไหลหลากเชนนี้ เห็นไดชัดวามันไม
เพียงพอ เสียงดังเกิดขึ้นอยางตอเนื่อง กรงเล็บคมกริบ เขี้ยวสัตวขาวดุจหิมะ คราชีวิต
แลวชีวิตเลา
นี่เปนโศกนาฏกรรมของโลกมนุษย ภายในพริบตาก็มีกระแสสัตวประหลาดเนือง
แนน ผูคนตายกันยกหมูบาน ไมมีใครเหลือรอดสักคนเดียว
เหตุการณแบบเดียวกันเกิดขึ้นในแตละสถานที่ตางกัน ภายในชวงเวลาอันสั้น เจ็ด
แปดหมูบานที่อยูในอาณาบริเวณรอบนอกของเทือกเขาถูกเหยียบราบเปนหนากลอง
เหลือเพียงคราบเลือดเปนวงกวาง
ใจกลางเทือกเขา ผูดํารงอยูสองตนนั้นออกคําสั่ง เหลาสัตวประหลาดทั้งหลายไม
กลาขัดคําสั่ง พุงออกจากดินแดนรกรางอยางลนหลาม เพื่อฆาลางผลาญแผนดินนี้
แทที่จริงแลว มีสัตวประหลาดบางสวนถูกยับยั้ง นกกระจอกสีแดงฉานและสิ่งมีชีวิต
ที่ถือกระบองเหล็กนั่นสั่งใหพวกมันหยุด มิเชนนั้นคงจะมีมากกวานี้
ณ เมืองภูเขาสันโดษ ราชสีหขนสีทองโผลมา แผงขนมันขลับ ทั้งเนื้อทั้งตัวเปลงแสง
สีทอง มันลุกขึ้นเดินทาคน สูงเกือบยี่สิบเมตร กลางหัวมีเขาใหญหนึ่งเดียว มีกระแสไฟ
แปลบปลาบ ดวงตาคูนั้นเปนสีเลือด พุงเขามาในเมือง
“โอสวรรค สิงโตทองคําตัวนั้นโผลมาแลว!” ชาวเมืองหวาดผวา นี่เปนสัตวดึกดํา
บรรพ ผูเฒาผูแกมากมายตางก็เคยไดยินตํานานเรื่องเลาของมันในดินแดนรกรางแหงนี้
ไมมีใครคิดวามันจะมาอยูตรงนี้
“รีบหนีเร็วเขา!”
ไมมีใครกลาตอตาน ทายาทอสูรตัวนี้นากลัวอยางมาก เพียงเขาเมือง มันก็ตวัดฝา
มือออกไป มีคนกวาเจ็ดแปดคนถูกตะปบจนแหลก เลือดเนื้อเละเทะในเวลาอันสั้น
จากนั้นก็ตวัดกรงเล็บลงไป ทําใหบานหินหลายหลังแตกกระจาย ผูคนสิบกวาคนถูกหิน
กระแทกจนตาย
เมืองภูเขาสันโดษจลาจลวุนวาย ผูคนวิ่งหนีกันเตลิดเปดเปง แตกลับคนพบความนา
กลัววา ทั่วทั้งสี่ทิศของเมืองภูเขาสันโดษถูกรายลอมดวยฝูงสัตวประหลาด หมดหนทาง
คิดหนี ทําใหเมืองจมอยูใตกระแสสัตวประหลาดปรากฏขึ้น
“สวรรค ไยทานจึงลงโทษพวกเราเชนนี้?” มีผูเฒาหัวขาวแหงนหนาขึ้นคํารามอยาง
โกรธา
“ทานพอชวยขาดวย!” มีเด็กกําลังสะอึกสะอื้นดวยความกลัว
...
เมืองภูเขาสันโดษตกอยูในความหวั่นวิตก จุดจบมาเยือน คนทั้งหมดตางก็หลบหนี
แตกลับพบวาไรหนทางหนี ผูคนกรีดรองดวยโทสะอยางสิ้นหวัง
“เจาสิงโตขนทอง ขาจะสูกับเจาอยางไมคิดชีวิต!” มือฉมังของเมือง เปนชายวัย
กลางคนรางกายกํายําคนหนึ่ง ถือดาบขนาดสูงเทาเอว ผมยาวสยาย รางกายเปลงแสง
พุงเขาใสจาวแหงสัตวประหลาด
“ฟบ!”
นาเสียดาย เขายังหางไกลจากคําวาคูตอสูของทายาทตัวนี้ เพียงแคกรงเล็บเดียว ก็
ทําใหทั้งเขาและดาบขาดเปนสองทอน เลือดพุงกระเด็นขึ้นสูง
“ตูม!”
ใจกลางเมือง เนินหินลูกนั้นสั่นไหวอยางรุนแรง มีหินขนาดใหญชิ้นหนึ่งพุงขึ้นมา มัน
กระจายแสงระยิบระยับ อักขระแนนขนัด พุงเขาชนดวยความรวดเร็ว
“ตูม!”
สิงโตทองคําสะบัดกรงเล็บคมกริบ ฟาดลงไปดังปาบ พลันเกิดประกายไฟแผ
กระเด็นเซ็นซาน กอนหินใหญกลิ้งออกไป
“โฮก...”
เมืองภูเขาสันโดษจมอยูใตกระแสสัตว ฝูงสัตวประหลาดพุงไปขางหนา ฉีกทึ้งหิน
กอนใหญที่แนนขนัดไปดวยอักขระจนเกิดเสียงดัง กอนหินปลิววอน กอนหินเปลงแสง
ปลอยพลังอยางไมสิ้นสุดเพื่อโจมตีอยางตอเนื่อง เสียงดังแววมา เพียงพริบตาฝูงสัตวพวก
นั้นก็กลายเปนซากเละเทะ เลือดสดแตกกระจาย
สิงโตขนทองคํารามดังลั่น จนทั้งเมืองสั่นสะเทือน เขาบนหัวของมันปลอยลําแสง
สวางไสว สายฟาฟาดลงมาบนหินกอนใหญ สิ้นเสียงแควก เกิดรอยราวหลายรอยบน
กอนหิน
“พวกเจาบาคลั่งถึงเพียงนี้ ทําใหแผนดินนี้นองเลือด ไมเกรงกลัวตอบาปเลยรึ? ขา
เปนทายาทแหงเทพเจาขุนเขา!” กอนหินใหญเปลงแสง ปลอยกระแสเสียงแหงเทพ
“เจาเขาไปพูดกับเหลาผูดํารงอยูที่กลางปาเถิด!” สิงโตขนทองก็ปลอยกระแสเสียง
ออกมาเชนกัน มันอาปากที่ใหญดุจอางเลือดแลวพนลําแสงวิเศษมากขึ้น จากนั้นกระโจน
ขึ้นไปทั้งตัว
“แควก”
แมวาเทพารักษของเมืองภูเขาสันโดษจะตอตานอยางรุนแรง อักขระผนึกกําลัง แต
สุดทายก็ถูกสิงโตขนทองตัวนั้นฟาดจนแหลก เลือดแตกกระเซ็นไปทั่วบริเวณ และถูก
สัตวประหลาดตัวนี้กลืนกินเขาไป
เพียงชั่วขณะ เมืองภูเขาสันโดษก็พินาศยอยยับ ซากปรับหักพัง คราบเลือดกระจัด
กระจาย ตายกันทั้งหมูบาน ไมเหลือแมแตซากรางกาย ทั้งหมดอยูในทองของสัตว
ประหลาด
สัตวดุรายอุนหนาฝาคั่ง พื้นที่นอกเขตดินแดนรกรางเกิดเหตุการณราวกับเปนวันสิ้น
โลก ภายใตการนําของทายาทอสูรที่ยิ่งใหญ กระแสสัตวกอเหตุนองเลือดไปทั่วทุก
สารทิศ มุงหนาไปยังสุดขอบโลก
ณ หมูบานหินผา ตนหลิวเงียบสงัดไรเสียง กานออนกระจายแสงพรามัวอันออนโยน
แผปกคลุมไปทั่วทั้งหมูบาน กระแสสัตวพุงทะยาน แตกลับหลีกเลี่ยงที่แหงนี้ตั้งแตไกลๆ
บางที คงจะเปนสถานที่โชคดีแหงเดียวที่หลบหลีกจากภัยพิบัติได
“แผนดินระส่ําระสาย ไมรูวาจะมีผูคนลมตายตั้งเทาไหร เกรงวาในละแวกนี้คงจะไม
เหลือหมูบานแลว” ผูอาวุโสกลาวพลางถอนหายใจ ใบหนาฉายความสลด อาศัยและดิ้น
รนตอสูทามกลางดินแดนรกรางมาดวยกัน จึงรูสึกเจ็บปวดและเห็นอกเห็นใจอยางเลี่ยง
ไมได
เขาไมรูเลยวา หายนะครั้งนี้รนุ แรงกวาที่เขาจินตนาการไวไมรูตั้งกี่เทา นี่ไมใชเพียง
จลาจลในบริเวณเทือกเขาแลว แตแผรัศมีไปถึงแผนดินที่กวางใหญไรที่สิ้นสุด!
ในวันนี้ บนผืนแผนดินเปรอะเปอนคราบเลือดกระจัดกระจาย ไมรูวามีกี่ชนเผาที่ดับ
สูญ เหลาสัตวประหลาดดุรายเที่ยวใชอํานาจบาตรใหญ สัตวประหลาดครั้งบรรพกาล
ปรากฏกาย กลืนกินดินแดนที่มีลมหายใจของมนุษย นี่เปนหายนะชัดๆ
เทือกเขากวางใหญไพศาล ไอขมุกขมัวแพรไปทั่ว แสงอมตะพวยพุงขึ้นไมหยุด สี่ผู
ดํารงที่ไดรับการเคารพสูงสุดตอสูกันอยางดุเดือดเพื่อแยงชิงวัตถุวิเศษ
เปลวไฟวิเศษแผดเผาไปครึ่งแผนฟา ปกษาใหญกวาดลางสวรรค สัตวประหลาดดุ
รายบดขยี้ฟากผา กระบองโลหะทะลวงมานเมฆ สงครามทวีความรุนแรงยิง่ ขึ้น!
กี่ครั้งที่วัตถุวิเศษสองแสงสวางไสวเปลี่ยนเจาของไมหยุด สิ่งมีชีวิตทั้งสี่ตางก็เคยได
มันไปครอง แตกลับไมมีใครมีกรรมสิทธิ์อยางแทจริง สงครามจึงดําเนินอยางตอเนื่อง
กระดูกล้ําคาของทายาทอสูรบรรพกาลสิบกวาชิ้น ไมสามารถปกปองเทือกเขานี้ได
สี่สิ่งมีชีวิตที่ไดรับการเคารพสูงสุดตอสูกัน ทําใหที่แหงนี้ตกอยูในสภาพพินาศยอยยับ
กอนหินกระจัดกระจาย ภูขาพังทลายลูกแลวลูกเลา
พวกมันสูศึกพลางเคลื่อนไหว พุงไปยังที่หางไกล สนามรบขยายกวางมากขึ้น
ผลกระทบเพิ่มมากขึ้น เทือกเขากวางใหญนับพันลี้เกือบจะตานทานพวกมันไมไหว
ณ หมูบานหินผา ตนหลิวไหมเกรียมโยกไหวโดยพลัน กานออนสวางชวงโชติ เขียว
ชอุมจนใจเตนระรัว ปลอยแสงสวยงามพรางพราย แผคลุมทั่วบริเวณหมูบานจนมิด
“เฮ เกิดอะไรขึ้น?” เจาตัวเล็กที่กําลังเลนกับลูกนกทั้งสามอยูหนาหมูบานเงยหนา
ขึ้น เผยสีหนาประหลาดใจ
ชาวบานทั้งหมดตางก็สั่นเทิ้ม รูสึกราวกับเผชิญหนากับเทพเจา หมอตมยาที่ตกทอด
มาจากบรรพบุรุษสองแสง สงเสียงอึกทึกครึกโครมไปพรอมกัน รูปภาพของบรรพชนบน
ผิวหมอชัดเจนมากยิ่งขึ้น
เสียงวิ้งดังขึ้นพรอมกับแสงสีเขียวของตนหลิวพุงขึ้นสูกลีบเมฆ โซศักดิ์สิทธิ์เปน
ระเบียบเรียบรอยเสนแลวเสนเลากําลังผนึกกําลัง ทําใหผูคนลืมตาไมขึ้น จากนั้นก็แผ
คลุมหมูบาน ทันใดนั้นก็หายวับไปจากโลกนี้ ณ สถานที่แหงนี้ไมเหลืออะไรเลย
ลําตนไหมเกรียมทั้งตน เคยประสบกับความเสียหายจากการทําลายลาง และเมื่อ
ความวิบัติมาเยือน มันก็ทําไดแคปกปองตัวเอง ไมสามารถสูรบปรบมือกับสิ่งมีชีวิตนา
กลัวนั่นได
“เอ?”
ในที่หางไกลของเทือกเขากวางใหญ มานหมอกหนาทึบ ดวงตาเขียวดุจทะเลสาบคู
นั้นจองมองมาทางนี้ มีประสาทสัมผัสที่เฉียบแหลมจึงรับรูได เปลงเสียงทุมต่ําออกมาวา
“หลบหนีไปแลว...”
“หากใชความเร็วระดับนี้ ไมรูตองใชเวลากี่วันจึงจะลางผลาญแผนดินนี้ได ชา
เกินไป” อสูรปกษาดุจเมฆดําตนนั้นบินโฉบผานไป ดวงตาประหนึ่งจันทราสีเลือดปลอย
ไอมุงสังหารทวมทนทองฟา
“ขาชิงชังเผาพันธุมนุษย ขยายเผาพันธุไดนากลัวจริง พวกเราตองจัดการดวยตนเอง
ใหจบสิ้นโดยไว!” สัตวประหลาดคํารามต่ํา ดวงตาสีเขียวเต็มไปดวยความมุงราย ปลอย
สายฟาเสนหนาดุจภูเขาออกมาสองสาย โจมตีไปยังตําแหนงของหมูบานหินผา
“ตูม”
เทือกเขาถลมทลาย แผนดินแยกออก ฝุนละอองพวยพุง สูทองฟา ตําแหนงที่อยูของ
หมูบานหินผาเกิดหลุมลึก ราวกับบอใหญ มืดสนิท มองไมเห็นที่สิ้นสุด
“เอ ไมคิดวาจะเปนดินแดนที่มีเทพเจามอดมวย ถึงวามันปกหลักอยูที่นี่ ชางนา
เสียดายที่มันทําสําเร็จ!” สิ่งมีชีวิตกะพริบตาสีเขียวคํารามลั่น ไอความตายทวมทน
ทองฟา
วัตถุวิเศษสวางไสวกระเพื่อมขึ้นลงสาดสีสันสวยงาม สิ่งมีชีวิตทั้งสี่ตอสูกันไมหยุด
ประลองเคล็ดวิชาล้ําคา ทั่วบริเวณเทือกเขากวางใหญทลายลง ภูเขาหักพังไปทั่ว พวก
มันขยายบริเวณออกนับพันลี้ เขาสูโลกหลากวางใหญ
“ไยพวกเจาถึงมีจิตสังหารหนักหนวงเพียงนี้ มิเกรงกลัววาจะเผชิญกับบาปกรรมเขา
สักวันรึ?”
“ใครจะยัง้ ขาได?!” สิ่งมีชีวิตที่มีดวงตาสีเขียวตนนั้นคําราม แคมันคําราม กอนเมฆ
บนฟากฟาก็สะเทือนจนแตกกระจาย
และอสูรปกษาตนนั้นยิ่งไปกันใหญ เพียงมันกระพือปก ก็แผคลุมเต็มฟากฟา ไอดํา
ทวมทนทองฟา รางกายของมันใหญกวาเมฆดําเสียดวยซ้ํา ครานี้ มันกําวัตถุล้ําคาไวแนน
แลวบินโฉบออกไปไกลนับหมื่นลี้
สิ่งมีชีวิตที่เหลือเรงไลลาอยางไมลดละ ทําการโจมตีอยางวองไว
“ขาชิงชังเผาพันธุมนุษย ขาจะทําลายลางใหพวกเจาดู!” อสูรปกษาตนนี้แผดเสียง
รองยาว กระพือปกบินผานโลกกวางใหญไรขอบเขต ถอยหางทัศนียภาพของขุนเขา
ออกไปอยางรวดเร็ว
เพียงชั่วครู มันก็มาถึงดินแดนผูปกครองชั้นสูงที่เปนของตระกูลสายฟา จํานวน
ประชากรนับสิบลาน มันวางวัตถุวิเศษลง จากนั้นเขนฆาลางบางที่นี่ทันที
“โฮก...”
ทั้งทีมันเปนอสูรปกษา แตกลับเปลงเสียงคํารามเชนสัตวอสูร เมื่อมันอาจะงอยปาก
แสงสีดํานากลัวก็พุงออกมา บดบังไปทั่วดินแดนผูปกครองชั้นสูงที่มีประชากรจํานวนนับ
สิบลาน
ตระกูลสายฟามีดินแดนกวางใหญไพศาล มหานครตั้งรายเรียง ประชากรมากมาย
รุงเรืองเปนที่สุด แตทวาในวันนี้กลับเผชิญกับหายนะที่จะทําใหเผาพันธุลมสลาย!
ประหนึ่งน้ําปาไหลทวน เสมือนคลื่นยักษสะทานฟา หลังจากที่ดินแดนแหงนี้ถูกปก
คลุมดวยแสงดําทมิฬแลว ผูคนทั้งหมดพุงขึ้นสูทองฟา บินไปยังจะงอยปากที่เปดอาของ
มัน
นี่เปนภาพนากลัว ราวกับวันสิ้นโลก อยากจะหยุดยั้งก็ทําไมได เพราะหากถูกแสงสี
ดํานี้ปกคลุมแลว ก็หมายความวายากที่จะมีชีวิตรอดได
หากกระเสือกกระสนดิ้นรนทามกลางแสงสีดําก็จะแหลกละเอียด กลายเปน
ลมปราณ!
“นกกระจอกกลืนสวรรค มันเปนนกกระจอกกลืนสวรรคในตํานาน!”
“โอสวรรค ตระกูลขาทําผิดอะไร จึงไดใหปศาจปกษาที่ปรากฏในตํานานมาลงโทษ
พวกเราเชนนี้!?”
...
ภายในตระกูลสายฟามีเสียงรองไหดังระงม ผูคนทั้งหมดตกตะลึง ไรหนทางตอสู
ดิ้นรนไปก็เปลาประโยชน ไมมีผูใดสามารถชวยพวกเขาได แสงสีดําปกคลุมทองฟา
บดบังดวงอาทิตย แผคลุมไปทั่วดินแดนแหงนี้ ทําไดแคมองพวกเขาถูกกลืนเขาไปใน
จะงอยปากของมัน
นี่เปนภาพที่นากลัว นกกระจอกดุรายลอยอยูกลางฟากฟา ทั้งตัวถูกหอมลอมดวย
หมอกดํา บดบังทองฟาทั่วบริเวณ ดวงตาดุจจันทราสีเลือดคูนั้น อาปากกวางกลืนกิน
ผูคนนับสิบลานลงไป
“ฟบๆ”
หลังจากที่คนพวกนี้เขาไปในปากก็แหลกสลายทั้งหมด กลายเปนลมปราณ ถูกมัน
กลืนลงไปในทอง
“ลมปราณมากมายเพียงนี้ ทําใหขาอิ่มเพียงนอยนิด” หลังจากที่ไดรับพลังปราณ
จํานวนมากแลว นกกระจอกกลืนสวรรคตัวนี้ก็มีพลังมหาศาล ขจัดสีหนาเหนื่อยลาทิ้งไป
บทที่ 49 เลือดหลัง่ รินสิบหมืน่ ลี้
หนึ่งกระบองโลหะกวาดลงมา กระแทกทองฟาทลาย จูโจมกะโหลกของปศาจปกษา
ที่ใหญกวาภูเขาขนาดใหญ หวังจะฟาดมันใหสูญสิ้นชีวา
นาเสียดาย อสูรปกษาตัวนี้แข็งแกรงเกินไป เพียงกระพือปกคูนั้น ทะลวงฟากฟา
บินไปที่ไกลหางเพียงพริบตา หลบหลีกกระบองโลหะได แมวาจะมีรางกายใหญโต แต
กลับคลองแคลวมาก และมีความเร็วจนนาอัศจรรย
“เจาบาคลั่งเชนนี้ ไมเกรงกฏแหงสวรรครึ?” มีเสียงลอดออกมาจากมานหมอก
กระบองโลหะโจมตีอีกครั้ง
“กฎแหงสวรรคคืออะไร? สวรรคทําอะไรขาไมได!” รางกายใหญโตของอสูรปกษา
เบียดเสียดทองฟา มันออกแรงกระพือปก หวังจะสะเทือนฟาดินจนแตกเปนเสี่ยงๆ เกิด
ลมพัดโหมกระหน่ํา ทั่วผืนดินมืดสนิท
อสูรปกษาขนาดใหญสําแดงเคล็ดวิชาล้ําคา ความชั่วรายแผคลุมทั่วปฐพี เสียงดังวูวู
ราวกับมาจากสวรรคชั้นฟา ขนนกสีดําที่มีอักขระนากลัวอัดแนนอยูถูกยิงออกมาเปนพัน
เปนหมื่นเสน ทุกเสนใหญและหนาจนนาตกใจ ลอยหวีดหวิวลงมา ราวกับจะทําลายลาง
โลก พุงไปยังสิ่งมีชีวิตที่ถือกระบองโลหะ
หนึ่งสงครามดุเดือดเปดฉากขึ้นอีกครั้ง กระบองโลหะนั่นทะลวงแผนดิน ปะทะชน
กับขนนกสีดําที่ไมมีที่สิ้นสุด เคล็ดวิชาล้ําคาสาดแสง แผนดินจลาจลวุนวาย ผูมีอิทธิพล
ทั่วทุกสารทิศดับสูญ
“ชริ้ง”
แสงสีดําโชติชวง ขนนกสีดํารวมตัวทวมทนทองฟา ทันใดนั้นก็แปรเปลี่ยนเปนกอง
ไฟสีดํา สูงใหญยงิ่ กวาเนินเขาเปนรอยเปนพันลูก ทรงพลังอยางหาที่สุดไมได ตั้ง
ตระหงานระหวางทองฟาและผืนดิน นี่เปนเตาไฟสวรรค
นกกระจอกกลืนสวรรคใชขนนกปศาจถักทอ และแปลงอักขระ ใหกลายเปนเตาไฟ
ปศาจที่นากลัว มันสั่นเบาๆ จนเกิดเสียงวิ้ง จะดูดกลืนสิ่งมีชีวิตที่ถือกระบอง
“วิ้ง”
มันโมโหจนขีดสุด สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ กวัดแกวงกระบองโลหะอยางดุดัน ใน
ขณะเดียวกันก็มีดวงตาโผลขึ้นมาตรงกลางระหวางคิ้ว แสงสีทองสองชวงโชติ อักขระ
ทวมทนทองฟา แปลงรางเปนดาบอมตะไรเทียมทาน ฟนลงบนเตาไฟสีดํา
นี่เปนสงครามตัดสินความเปนความตาย พวกมันเขนฆากันดวยพละกําลังอันเต็ม
เปยม!
อีกฟากหนึ่ง นกกระจอกสีแดงฉานก็กําลังตอสูอยางดุเดือดกับสัตวประหลาดมหึมา
ตัวนั้น สูกันอยางเอาเปนเอาตาย เปลวเพลิงปะทะกับกรงเล็บจนเกิดเสียงดังสนั่น
หวั่นไหว กึกกองไปทั่วปฐพี
พวกมันรบกันไปตลอดทาง แผปกคลุมทองฟา ขามผานขุนเขาที่ไกลสุดลูกหูลูกตา
ขอบเขตของสนามรบขยายกวางขึ้นเรื่อยๆ
บนแผนดิน ตระกูลสายฟาที่รุงเรืองกลายเปนอดีต มหานครไรซึ่งผูคน ประชากรนับ
สิบลานถูกนกกระจอกกลืนสวรรคกลืนลงทองไปภายในคําเดียว นับไดวาเปนพิบัติครั้ง
ยิ่งใหญ
สี่สิ่งมีชีวิตที่ไดรับการเคารพสูงสุดออกเดินทางไกล ลมพัดผานระลอกหนึ่ง มหานคร
นับสิบเมืองและกําแพงเมืองเล็กๆ มากมายก็พังทลายลงมา กลายเปนซากปรักหักพัง
และเศษหินเศษปูน
ตระกูลสายฟาที่เคยปกครองทั่วโลกหลานี้ และแข็งแกรงทรงพลังกลายเปนเพียง
ประวัติศาสตรเลือนราง ไมดํารงอยูอีกตอไป!
“ในรัศมีสิบหมื่นลี้ จะไมมีสิ่งมีชีวิตดํารงอยูอีกตอไป ในโลกนี้ตองอาบไปดวยเลือด
จึงจะสวยงาม!” สัตวประหลาดที่สูงตระหงาน ปกคลุมดวยไอหมอกขมุกขมัว นัยนตา
อํามหิต สะทอนจิตสังหารอันนากลัว
มันบัญชาสรรพสิ่ง และตัวมันเองก็เคลื่อนไหวเชนกัน สลัดความยุงเหยิงใจจากนกสี
แดง จากนั้นพุงออกไปหายลับไปยังที่หางไกล มายังสุดขอบฟา
“โอสวรรค นี่มันสิ่งประหลาดอะไรกัน?”
อีกหนึ่งดินแดนผูปกครองชั้นสูง ตระกูลขุนเขาสีมวงตื่นตระหนก มองไปยังกลาง
มานหมอกกวางใหญ ดวงตาสีเขียวราวทะเลสาบใหญใกลเขามาเรื่อยๆ กดดันจนพวกเขา
แทบจะสิ้นลมหายใจ
“จิ๊บ!”
นกสีแดงที่ตามมาขางหลังอาปากพนแสงสวยงามออกมาเปนวงกวาง พรอมกับเปลว
ไฟทวมทนทองฟา ปลอยดาบอมตะที่แดงออกมา ฟาดฟนสัตวประหลาดใหญโตนั่น
โชครายที่มันยับยั้งไวไมทัน สิ่งมีชีวิตขนาดใหญยืนตระหงานสูงเสียดกอนเมฆอาปาก
ใหญดุจทะเลสีเลือด กลืนกินบริเวณนี้
“โอสวรรค ไม นี่มันสัตวประหลาดอะไรกัน ไยจึงยิ่งใหญถึงเพียงนี้?”
ตระกูลสายฟาหวาดผวา เมืองหลวงทัง้ เมืองลอยขึ้นเหนือพื้นดิน กําแพงเมือง
ประหนึ่งทิวเขาสีดํา ราชวังโออาตางก็แตกสลาย ผูคนเต็มเมืองรวงหลนลงในปากสีเลือด
นกสีแดงตองการจะยั้งการโจมตีของมัน หากแตจิตวิญญาณของผูคนออนแอ
จนเกินไป เพียงสัมผัสแผวเบา ผูคนทั้งหมดก็แหลกละเอียดอยูในปากดุจอางเลือด
กลายเปนไอเลือด เพราะวาคนพวกนี้อยูใตอาณาบริเวณปกคลุมของเคล็ดวิชาล้ําคา
แสงชั่วรายพุงออกไปยังแตละจุดของแผนดิน จากนั้นก็มวนกลับมา แผคลุมสรรพสิ่ง
ประชากรสิบลานคนลอยขึ้นแนนขนัดบนทองฟา กลายเปนกระแสคน จมหายเขาไปใน
ปากใหญดุจอางเลือด และถูกกลืนลงไปในกระเพาะ
แมวาจะเปนเทพารักษก็ไมมีแตแมแรงจะตอบโต ระเบิดกลางอากาศ กลายเปนไอ
เลือดหนึ่งวง ลอยเขาไปในปากของสัตวประหลาดใหญโต
หายนะของมนุษยขนานแท!
ขุนเขาสีมวงสูญสิ้นวงศตระกูล นอกจากจื่อซานโหวที่ไมรูวา อยูแหงหนใด ทั้งตระกูล
ก็ตายอยางสิ้นซาก ไมเหลือรอดแมแตคนเดียว
นกสีแดงโมโหโกรธา มันลูบหนาปะจมูก[1] ไมกลาโจมตี แตสิ่งมีชีวิตที่คลุมคลั่งตัวนี้
กลับไมสนใจสิ่งใด กลืนกินผูคนนับสิบลานลงไปทันที
สายลมพัดผาน ไอพรามัวลอยขึ้น มหานครในดินแดนแหงนี้พังทลายลง กลายเปน
ซากปรักหักพัง
“ในรัศมีสิบหมื่นลี้ ไมวาจะเปนเผาพันธุมนุษย หรือสิ่งมีชีวิตอยางอื่น เพียงกอตัว
เปนชนเผาหรือวงศตระกูล ขาจะฆาลางบางใหไมเหลือรอดแมแตคนเดียว!”
สี่สิ่งมีชีวิตที่ไดรับการเคารพสูงสุดแยงชิงความเปนใหญ สองตัวในนั้นคํารามอยางบา
คลั่ง บัญชาสรรพสิ่ง หมายเหยียบย่ําแผนดินนี้ใหเรียบ ทําใหดินแดนแหงนี้กลายเปน
ผุยผง
ทายาทอสูรบรรพกาลสิบกวาตัวนําทัพ เที่ยวใชอํานาจบาตรใหญไปทั่วดินแดนนี้
โจมตีที่อยูอาศัยของวงศตระกูลจนพังอยางตอเนื่อง จนเลือดนองเปนแอง
“โฮก...”
เสียงคํารามดังมาจากชนเผาที่ตกทอดมาอยางยาวนาน
ปศาจวานรที่มีแขนขางเดียว ดวงตาโหดเหี้ยม มีหมอกสีดํารายลอมทั่วรางกาย ราว
กับวิญญาณรายที่มาจากขุมนรก เมื่อมันกระพือปก ราวกับสายฟาสีดําฟาดผานทองฟา
บินโฉบลงไป
“โอสวรรค ทายาทอสูรบรรพกาลบุก!”
ชนเผานี้ไมถือวาเล็ก มีประชากรกวาสองสามแสนคน ไมขาดผูกลาที่ศึกษาอักขระ
กระดูกอยางลึกซึ้ง ณ ขณะนี้มีกลุมมือดีพุงออกไปหยุดยั้งการโจมตี
“ฟบ”
ทวา เพียงเผชิญหนา ปศาจวานรก็งางกะโหลกของพวกมันออก สูดอยางดุดัน สมอง
หายเขาไปในปากของมันอยางหมดจด
ทายาทอสูรบรรพกาลที่ยิ่งใหญเพียงนี้ ไมสามารถตานทานไดอยางสิ้นเชิง คนสอง
สามแสนเขามาพรอมกันก็ไมใชคูตอสูของมัน ไมใชสิ่งทีจ่ ํานวนจะทดแทนได
เทพารักษของชนเผานี้ปรากฏขึ้น เปนจระเขสีเงินตัวใหญ ผลปรากฏวาเพียงแคไมกี่
ทวงทา มันก็ถูกปศาจวานรใชแขนและขาขางเดียวฉีกมันเปนสองทอนทั้งเปน เลือดสีเงิน
พุงกระเด็น ตายอยางอนาถ
กระแสสัตวปรากฏขึ้นในที่ไมไกลมากนัก และทะลักเต็มที่นี่อยางรวดเร็ว ชนเผาที่มี
จํานวนคนกวาสองแสนคนกลายเปนอดีต คราบเลือดเปรอะเต็มพื้น คนทั้งหมดสิ้นใจอยู
ในทองของสัตวพวกนี้
กระแสสัตวขยายใหญขึ้น เนื่องจากพวกมันพุงไปยังสุดขอบโลก มีเหลาสัตว
ประหลาดมากมายออกมาจากเทือกเขา และเขารวมกับพวกมันมาตลอดทาง เปน
เหตุการณที่นาตื่นตาตื่นใจ ทําใหผูคนตางก็ขนลุกขนชัน
เหลาสัตวประหลาดดุรายกอจลาจลนอมรับคําบัญชา กวาดลางแผนดินนี้ใหนอง
เลือด
“ทําใหแผนดินนี้อาบยอมไปดวยเลือด ขาจะพามือดีในกลุมพวกเจาไปดวย อนุญาต
ใหพวกเจาตามไปดวย เพื่อฝกตนในภูเขาศักดิ์สิทธิ์อันเปนที่อยูของขา” สิ่งมีชีวิตที่ไดรับ
ความเคารพสูงสุดคําราม
เมื่อเสียงเชนนี้ถูกเปลงออกมา สัตวประหลาดบรรพกาลพวกนั้น และสิ่งมีชีวิตที่
สะทานดินแดนแหงนี้ ไมมีตัวไหนที่ไมตื่นเตน หากสามารถเคียงขางผูดํารงเชนนี้ และฝก
ตนในที่พํานักของมัน จะตองเกิดประโยชนอยางสูงสุดเปนแน
แผนดินนี้ระสําระสายอยางสิ้นเชิง เสียงคํารามดังอึกทึกครึกโครม สัตวประหลาด
เคลื่อนไหวดุจกระแสน้ําหลาก และสังหารลางผลาญสิบทิศ
เสียงนกแผดรอง อสูรปกษาขนาดใหญกระพือปก กระทบกอนเมฆจนแตกกระเจิง
นําทัพสัตวประหลาดอุนหนาฝาคั่ง พุงไปยังชนเผาใหญที่มีจํานวนประชากรนับแสน
“ปลอยลูกศร!”
ผูนําชนเผาคํารามลั่น ผูกลาทั้งหมดรวมตัวกัน งางคันธนูขึ้นฟา ลูกศรโลหะเปน
ดามๆ พุงขึ้นดังหวีดหวิว ลอยขึ้นสูฟากฟา และยิงโดนสัตวประหลาดบางสวน รวงลงมา
พรอมกับเสียงรองโหยหวน
แตสวนมากก็อยูในสภาพปกติ เพราะตัวที่นําทัพนั้นบาคลั่งเกินไป มันเปนทายาท
อสูรบรรพกาลที่นากลัว มันอาปากพนอักขระผนึกกําลัง กลายเปนเปลวเพลิงลุกโพลงที่
แผคลุมทองฟา บดบังแผนดินพุงลงไป
“อา...”
เกิดเสียงรองอยางเจ็บปวดดังมาจากในชนเผาอยางตอเนื่อง ผูคนมากมายมีไฟลุก
ทวมตัว และถูกแผดเผาจนกลายเปนเถาธุลี ไมสามารถหยุดยั้งพลังความนากลัวนี้ได
หนึ่งชั่วยามผานไป ชนเผาที่มีประชากรนับแสนกลายเปนขี้เถา อสูรปกษาบินผาน
ทองฟาอยางแนนขนัด เหลือขนนกโรยราบางสวน รวงหลนลงบนซากปรักหักพังเหลานี้
ที่บอกเลาเรื่องราวความตายและความเจ็บปวด
“เพราะเหตุใด สวรรคจึงลงทัณฑเผาขา?”
มีคนตะโกนดังลั่น ในวันนี้ชนเผามากมายถูกโจมตี ไรซึ่งกําลังจะตอตาน ครั้น
เทพารักษถูกสังหาร เหลาผูกลาของตระกูลลมตายในศึกสงคราม ก็เปนสัญญาณวา
เผาพันธุจะสูญสิ้น
“การที่เผาพันธุมนุษยดํารงอยูนั้นไมงายเลย และตองดิน้ รนกระเสือกกระสน
ทามกลางดินแดนรกรางอันเลวราย ไยจึงสงเหตุแหงพิบัติมาใหเชนนี้?!”
ในวันปกติ สัตวประหลาดเกลื่อนโลกหลา อสูรปกษาบินวอนเต็มทองฟา นี่ก็คือ
สภาพการดํารงอยูของเผาพันธุมนุษย ตองตอสู ตองดิ้นรน มิเชนนั้นก็ไมมีหนทางรอด
ทวาตอนนี้ แมจะตอสูอยางสุดชีวิต ก็ตองสูญสิ้นเผาพันธุอยูดี
นี่เปนหายนะที่ดูดกลืนแผนดินนี้ ภายใตการนําโดยนกกระจอกกลืนสวรรค และสัตว
ประหลาดที่ยืนตระหงานสูงเสียดฟา ทั่วผืนแผนดินที่ยอมเปนสีแดง และชนเผาทั้งหมด
ดับสูญ
การทําลายยอมงายกวาการสรางเสมอ แมวานกสีแดงและสิ่งมีชีวิตที่ถือกระบองจะ
มีใจยับยั้ง ก็ไมสามารถ ตอสูกับนกกระจอกกลืนสวรรคและสัตวประหลาดตัวนั้นอยาง
ดุเดือด หากไมระวังก็ทําใหภูเขาทลาย กอใหเกิดอันตรายที่หนักหนาสาหัสกวา
ผืนแผนดินเปนสีแดงฉานดวยเลือดที่หลั่งรินเปนสาย!
ทั้งชนเผาหมาปาและทะเลสาบแหงสวรรคตางก็พินาศยอยยับตามลําดับ จบสิ้นทั้ง
ตระกูล ไมเหลือรอดแมแตผูเดียว ณ ตอนนี้ บนผืนแผนดินนี้ สี่ตระกูลที่แข็งแกรงที่สุด
ดับสูญอยางสิ้นเชิง ที่พํานักอาศัยกลายเปนซากปรักหักพังยอมไปดวยเลือด
นอกจากเผาพันธุมนุษยแลว ยังมีเผาปก เผาไมเปนตน เผาเหลานี้ที่รวมตัวกันเปน
ชนเผา ตางก็เผชิญกับการโจมตีอันนากลัว ถูกกําจัดทิ้งจากดินแดนนี้อยางสิ้นซาก
ชนเผาใหญทั้งหมดสูญสิ้น จากนั้นหายนะก็ขยายออกไปยังดินแดนที่หางไกล
เปนดังที่นกกระจอกกลืนสวรรคและสิ่งมีชีวิตที่ไดรับความเคารพสูงสุดกลาว ในรัศมี
สิบหมื่นลี้ดับสูญ โลกหลายอมเลือด สิ่งมีชีวิตร่ําไห กลายเปนฉากวันสิ้นโลกทั้งหมด
มหานครที่เคยรุงโรจนกลายเปนเมืองราง ที่ราบอันกวางใหญอันเหมาะแกการขยาย
เผาพันธุ แตในวันนี้กลับเนืองแนนไปดวยกลิ่นอายความตาย เต็มไปดวยกระดูกกอง
พะเนิน เลือดหลั่งรินเปนสายน้ํา
เพียงหายนะมาเยือน ไมมีใครสามารถหลีกเลี่ยงได แผนดินเกิดจลาจลวุนวาย
สิ่งมีชีวิตร่ํารองอยางเศราโศก โลกผวา โลหิตหลั่งรินเปนสิบหมื่นลี้!
“ตูม!”
กระทั่งระยะหลัง การตอสูอยางเอาเปนเอาตายของสิ่งมีชีวิตที่ไดรับความเคารพ
สูงสุดทั้งสี่จึงจบสิ้น และปดฉากลง ทั่วผืนแผนดินเงียบสงัดโดยพลัน ไมมีแมแตเสียง
ตาเปลามองออกไป ขุนเขาสูงเสียดฟาไมพังทลายก็หักโคน แผนดินแยกออก ไร
หนทางมีชีวิตอยู คราบเลือดเปรอะเปอน กลายเปนดินแดนแหงความตาย
นี่ก็คือสถานการณจริง สภาพแวดลอมที่อยูอาศัยเลวราย ทั่วแผนดินเต็มไปดวยอสูร
บรรพกาล อสูรปกษาผงาดฟา แมลงมีพิษเรนกายในปา หากตองการมีชีวิตรอด จําตอง
ตอสูและดิ้นรนอยางไมมีที่สิ้นสุด
วันนี้ โศกนาฏกรรมเชนนี้แสดงไปทั่วทุกหนแหง
จันทราสีเงินลอยขึ้น ขุนเขาเงียบสงัด บรรยากาศเงียบวังเวง ไมมีแมแตเสียง สาย
ลมยามรัตติกาลพัดผานแผนดิน เกิดเสียงดังหวีดหวิว ราวกับคนกําลังสะอึกสะอื้นอยาง
โศกเศรา
..............................
[1] ลูบหนาปะจมูก ทําอะไรเด็ดขาดจริงจังลงไปไมไดเพราะเกรงใจ หรือเห็นแกพวก
พอง
บทที่ 50 พบแสงสวางอีกครัง้
นี่เปนพื้นที่แปลกประหลาด มีแสงพรามัว คลายกับภาพของแสงแหงทองฟาทางทิศ
ตะวันออกยามรุงอรุณ อีกทั้งยังมีมานหมอกรายลอมบริเวณนี้อีกดวย
ที่นี่เปนสถานที่ใดกัน คนในหมูบานหินผาไมรูอยูแหงหนใด ทุกอยางดูงุนงงไปหมด
ทําไมจูๆ ถึงออกมาจากดินแดนรกราง เดินออกจากเทือกเขาเทือกนั้นแลวรึ?
เจาตัวเล็กเหลียวซายแลขวา ดานนอกของหมูบานหินผามีหมอกขมุกขมัว ราวกับ
โลกดึกดําบรรพ มีกลิ่นอายวางเปลาและยาวนานลอยมาปะทะเขาหนา เดินไปขางหนา
ใชเวลาไมนานก็จะหลงลืมทิศทาง
หนาหมูบาน ตนหลิวตนใหญฝงราก ณ ที่แหงนี้ เปลือกเกาที่ดําเกรียมแตกออก
กานหลิวที่มีเพียงหนึ่งไมเขียวชอุมอีกตอไป แตกลับหมนหมองไรประกาย
สิ่งที่ตามองเห็นทําใหชาวบานรูสึกหวาดกลัว กระแสสัตวกลางเทือกเขาไหลทะลัก
พวกเขาหลุดจากเขตภูเขาอยางฉับพลัน นี่พวกเขาอยูที่ใด? คนทั้งหมดตางก็ยืนอยู
ตรงหนาตนหลิว และอธิษฐานดวยใจศรัทธา
“เทพเจาตนหลิวสําแดงฤทธิ์เดชขั้นสูงสุด เพื่อใหพวกเราหลบหลีกจากหายนะครั้ง
ใหญนั้น” สือยวิ๋นเฟงเอยปาก เกิดเรื่องใหญถึงเพียงนี้ เขาถูกทําใหตื่นกลัว จึงออกจาก
การบําเพ็ญกอนกําหนด
ตอนนี้อยูที่ใดก็ไมสําคัญ พวกเขาทั้งหมดมีชีวิตรอด นี่เปนผลลัพธที่ดีที่สุด
“อยาตื่นตระหนกไป พวกเรากักตุนเนื้อแหง ถั่ว ธัญพืช และผักตากแหงมากมาย
เพียงพอใหเรากินไปอีกหลายเดือน” หัวหนาหมูบานอาวุโสกลาว
“ใชแลวละ พวกเราเฝารออยางสงบ มีเทพเจาตนหลิวคุมครอง จะไมมีอันตรายใดๆ
เกิดขึ้นแนนอน” สือหลินหูพูดสมทบ
กําลังสําคัญหลายคนเอยปากกันตามลําดับ เพื่อใหชาวบานจิตใจสงบลง ไมกังวลอีก
ตอไป ผูคนทั้งหมดเริ่มทํางานกันอยางเปนระเบียบแบบแผน เชนบดโมธัญพืช เก็บเนื้อ
แหงบนหลังคาบาน...
เพียงพริบตาก็ผานไปสองเดือน เจาตัวเล็กอายุสี่ขวบแลว เสนผมนุมสลวยปลอย
สยายประบา ดวงตาโตราวกับลูกแกวสีดํามีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น รูปโฉมงดงามนารัก แมวา
มองดูแลวเขาจะเหมือนตุกตากระเบื้องเคลือบ แตกลับมีพลังลนหลาม เพียงกระโดดก็สูง
ถึงสามสี่สิบหมี่ กลายเปนยอดฝมืออันดับหนึ่งของหมูบานหินผาเสียแลว
“เจาตัวเล็ก เหมออะไรอีกแลวละ อยากกินนมสัตวอีกแลวใชรึไม? มาเร็ว ตรงนี้มี
ถวยหนึ่งแนะ”
เมื่อเจาตัวเล็กที่นั่งกอดเขาและนั่งเหมอลอยอยูใตตนหลิวไดยิน ก็ลุกขึ้นอยาง
รวดเร็ว ตาโตเกลือกกลิ้งไปมาพลางตะโกนวา “ไหนละ ไหนละ?”
“ฮาฮา... เจาอยากกินนมสัตวจริงๆ เสียดวย ชวงนี้ออกไปไมได ในปากไรรสชาติ คง
จะนาเบื่อแยเลยใชไหมละ?” กลุมเด็กโตพากันหัวเราะครืน
เจาตัวเล็กอายและพูดแกตางวา “ใชเสียที่ไหน ขาเพียงถามไปตามประสาเทานั้น”
เด็กๆ พากันหัวเราะเกรียวกราว เด็กขี้มูกโปงเสนอความคิดชั่วรายแลวพูดดวยเสียง
เบาวา “บานของทานลุงหลินหูเพิ่งจะคลอดลูกเสือ เจาตัวเล็ก หากเจาหิวกระหาย...”
“ไปใหพน !” เจาตัวเล็กรีบพูดตัดบท ดวงตาฉายแววไมสูดี จองไปที่เด็กขี้มูกโปงที่
อายุมากกวาตนไมกี่เดือน แตกลับเต็มไปดวยความคิดชั่วราย
“ผูมีปญญาใชหลักเหตุผล ไมใชกําลังนะ” เด็กขี้มูกโปงเช็ดน้ํามูกออก แลวลาถอย
ไปอยางรวดเร็ว
“ครืน”
ทันใดนั้น ฟากฟาก็แยกออก แสงอาทิตยสองเขามาเปนสาย มานหมอกขมุกขมัว
แตกกระจาย ทั่วบริเวณสวางขึ้นโดยพลัน
“เย พบกับแสงสวางอีกครั้งแลว!” เด็กๆ ตะโกนดังลั่น ทั้งหมดเผยสีหนาปลื้มปติ
พวกผูใหญเองก็ตกใจ ทั้งหมดพากันลุกขึ้น และแหงนหนามองฟากฟา พวกเขา
ตื่นเตนกันมาก เพราะติดอยูที่นี่มาสองเดือนกวาแลว จนรางกายจะขึ้นสนิมอยูแลว
“เครง”
ราวกับขวดหยกแตกละเอียด สถานที่แหงนี้สั่นไหวอยางรุนแรง แสงสวางวูบไหว
อยางตอเนื่อง สุดทายก็เกิดเสียงดังโครม มานหมอกขมุกขมัวมลายหายไปอยางสิ้นเชิง
ไมมีความพรามัวอีกตอไป แสงสวางแหงทองฟาสาดทอลงมา
พระอาทิตยดวงใหญแขวนอยูกลางทองฟาสูง แมจะแยงตา แตฝูงชนกลับตื่นเตน
แหงนหนามองไมหยุด สงเสียงสรวลเสเฮฮา พวกเขาหลุดพนจากความยากลําบาก และ
กลับสูโลกหลาอีกหน
กลุมเด็กตางไมรีรอ สงเสียงดังเซ็งแซและวิ่งออกไปนอกหมูบาน สูดรับอากาศ
บริสุทธิ์ที่มีกลิ่นอายของดอกไมและใบหญาอยางละโมบ พากันกระโดดโลดเตน
“เอ ไมใชสิ นี่ไมใชผืนปาที่อยูนอกหมูบานเรานี่นา” เออรเหมิงนิ่งอึ้ง สิ่งที่มองเห็น
และปาเขาที่ตนเห็นแตเด็กนั้นแตกตางกันอยางสิ้นเชิง
แมน้ําหนึ่งสายไหลผานหนาหมูบาน มีปลาใหญกระโดดขึ้นมาไมหยุด เกล็ดสีทอง
บนรางกายสองแสงระยิบระยับ ละอองน้ําแตกกระเด็น ในที่ไมไกลนักยังมีทะเลสาบหนึ่ง
แหง เปนสีน้ําทะเลใสสะอาด เหลาวิหคที่มีขนนกสีสวางงดงามกําลังยางกาวอยางไม
เชื่องชา ทุกตัวมีขนาดเกือบสองเมตรกวา เปลงประกายแสงสวยงาม และยังมีสัตว
ประหลาดเขาเดียวสองแสงสีเงินแวววับ กําลังกินน้ําอยูขางทะเลสาบ
“ชางเปนทิวทัศนที่สวยงาม!” กลุมเด็กที่ตกตะลึงไปแลว พากันประหลาดใจขึ้นมา
พวกผูใหญก็ตะลึงงันจนตาเหลือก ปากอากวาง หลุดพนจากสถานที่ที่แปลก
ประหลาด สิ่งที่เห็นตรงหนาแตกตางกับผืนปานอกหมูบานที่พวกเขาคุนเคยมากวาสิบป
อยางสิ้นเชิง คาดไมถึงวาจะมายังสถานที่ที่งดงามถึงเพียงนี้
“จิ๊บๆ...”
จื่อยวิ๋น ตาเผิง และเสี่ยวชิงพุงมา ตื่นเตนกันอยางมาก จองมองปลาใหญกลางแมน้ํา
แลวน้ําลายไหล ตอนนี้พวกมันมีรางกายใหญประมาณสามเมตรหา หลังจากผานสอง
สามเดือนแรกมาแลว การเจริญเติบโตของพวกมันก็เริ่มชาลง
อินทรีเกล็ดเขียวปรากฏกาย กระพือปกสีเงินขนาดใหญ จนเกลียวคลื่นกระทบ
ชายฝง ปลาใหญเจ็ดแปดตัวที่มีเกล็ดสีทองถี่ยิบกระโดดอยูบนฝง ทุกตัวมีน้ําหนักเกือบ
สิบกวาชั่ง สิ่งที่นาอัศจรรยที่สุดคือมุมปากของพวกมันมีหนวดมังกรสองเสน สองแสงเจิด
จาพราตา กระจายความหอม
ลูกนกทั้งสามตัวพุงพรวดออกไปอยางดีใจ และเพลิดเพลินกับการกินอาหาร
สือยวิ๋นเฟงตกตะลึง กาวตามมาอยางรวดเร็ว โอบอุมปลาใหญตัวหนึ่งขึ้นมา จากนั้น
พลิกไปพลิกมาดูแลวกลาวอยางตกใจวา “นี่เปนมัจฉาหนวดมังกรจริงๆ อยางนั้นรึ? เปน
พันธุเกล็ดสีทองที่มีคุณภาพดีเยี่ยม นี่เปนของดีเชียวละ มันมีปญญา หากกินเปน
เวลานานสามารถเพิ่มพละกําลัง บํารุงกระดูกและกลามเนื้อใหแข็งแรง มีประโยชนมาก
สําหรับเด็ก!”
เมื่อเด็กๆ ไดฟงเชนนั้น ก็สงเสียงเอะอะโวยวายขึ้นมาทันที และมุงหนาไปยังริม
ทะเลสาบ
ปลาชนิดนี้พบเจอไดยากมาก เต็มเปยมไปดวยปญญา ในโลกภายนอกนั้นมีราคาสูง
ลิ่ว แตในทะเลสาบแหงนี้กลับมีมากมายลนหลาม เพียงพอที่จะเปนเหยื่อใหชาวบานไป
อีกนาน
“ทานผูเฒาดูนี่สิขอรับ นกใหญที่อยูรมิ ทะเลสาบพวกนั้นคือนกหลวนนอย[1] หรือที่
เรียกอีกอยางวาไกหาสีใชไหมขอรับ?” บิดาของเออรเหมิงตื่นเตนเล็กนอยพลางชี้นิ้วไป
ดานหนา เมื่อกอนเขาเคยมองเห็นมันไกลๆ ในปาใหญ แตกลับไมเคยจับไดเลย
“เหมือนวา... ใชจริงๆ ดวย!” สือยวิ๋นเฟงเบิกตาโพลง ไตรตรองอยางถวนถี่แลว
เปลี่ยนสีหนาโดยพลัน
ไกหาสี รางกายปกคลุมดวยขนสีสันงามตา งดงามเปนอยางมาก คลายกับนกหลวน
เปนอยางมาก แตละตัวยาวสองเมตรกวา เปนยาบํารุงกระดูกชั้นเยี่ยม
หากกระดูกหัก หรือเสนเอ็นไดรับบาดเจ็บ เคี่ยวไกหาสีหนึ่งหมอ กินทั้งเนื้อและ
กระดูกพรอมกัน และดื่มน้ําซุปดวย มีสรรพคุณวิเศษ สามารถสมานกระดูกที่หักไดอยาง
รวดเร็ว
สือยวิ๋นเฟงไดสติกลับมา กลาวย้ําเตือนวา “ที่แหงนี้มีอยูมาก หามหุนหันพลันแลน
หามลาสัตวตามใจชอบ ครั้นถึงเวลาที่จะตองกลั่นโอสถ ขาจะบอกพวกเจาเอง หามทําให
พวกมันตื่นตระหนกตกใจ ตองใหพวกมันอาศัยอยูที่ริมบึงนี้อยางยาวนาน”
เหลาชายฉกรรจตางพยักหนาตอบรับ เพราะสายตาของพวกเขาไมไดจดจออยูที่ไก
หาสี พวกเขาใจไมอยูกับรองกับรอย ตางก็จดจองไปที่สัตวประหลาดเขาเดียวที่อยูอีก
ฟากหนึ่ง มาล้ําคาที่สองแสงสีเงินพรางพรายนั่นชางทําใหบุรุษใจเตน
ดํารงชีวิตอยูทามกลางปาเขา เหลาบุรุษผูแข็งแกรงตางก็หวังจะครอบครองมาล้ํา
คาที่เดินเหินไดเปนหมื่นลี้ นี่เปนความฝนและความชอบพิเศษของบุรุษ
สัตวประหลาดเขาเดียวเกิดจากหลินหมากลายพันธุ พบเจอไดนอยมาก แตที่นี่กลับ
มีเปนกลุมใหญ ไมต่ํากวาหาหกสิบตัว ทําใหเหลาคุณชายตารอน แตพวกเขารูดีวา นี่ก็
ถือวาเปนสัตวประหลาดดุราย ซึ่งยากที่จะตอกรดวย
“ใจเย็นๆ จะตองจับไดสักวัน อยาไปทําใหพวกมันตกใจ เพียงแคอาศัยอยูที่ดินแดน
อุดมสมบูรณนี่เปนเวลานาน มันตองเปนของพวกเราเขาสักวัน!” สือเฟยเจียวเอยเสียง
เบา
ทัศนียภาพนอกหมูบานเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ หลังจากผานอาการตกตะลึง
ในตอนแรกแลว ชาวบานไมรูสึกสูญเสียอีกตอไป เพราะที่แหงนี้ชา งดีเสียจริง เพียงรอบ
ขางก็มีสิ่งมีชีวิตที่มีปญญาซึ่งพบเจอไดยากอยูมากมาย เปนดินแดนทรงคุณคาที่งดงามที่
หนึ่ง
เจาตัวเล็กเหมอลอย มองดูมัจฉาหนวดมังกรที่ปกคลุมดวยเกล็ดสีทองหนาแนน
กระโดดอยูในทะเลสาบสีฟา และสัตวประหลาดเขาเดียวริมฝงนับสิบตัว เขาใจลอยและ
บนพึมพํากับตัวเองวา “เหมือนกับเคยเห็นที่ไหนมากอน ทะเลสาบกวางใหญหนึ่งแหง
วิหคงดงามกวานกหลวนพวกนี้ และใหญกวา กษัตริยลาสัตว...”
เมื่อเห็นอาการของเขาเชนนี้ สือยวิ๋นเฟงหนานิ่วคิ้วขมวด แมแตสือหลินหูและสือ
เฟยเจียวก็มีสีหนาเปลี่ยนไป ไมจองสัตวประหลาดเขาเดียวอีกตอไป
“ทานพอ ทานแม ขาคิดถึงพวกทานเหลือเกิน” เจาตัวเล็กโศกเศราพลางเอยเสียง
เบา นั่งกอดเขา เหมอลอยอยูริมทะเลสาบเพียงลําพัง
สือหลินหูและสือเฟยเจียวสบตากัน ไมมีใครกลาพูดอะไรใหมากความ
“ทานผูเฒาขอรับ พวกเขายังมีชีวิตอยูบนโลกใบนี้ไหมขอรับ? ขาคิดถึงพวกทาน!”
เจาตัวเล็กเงยหนาขึ้นมาโดยพลัน ในดวงตามีน้ําคลอ เอยถามอยางจริงจัง นี่เปนครั้งแรก
ที่เขาเถรตรงถึงเพียงนี้
สือยวิ๋นเฟงนึกยอนไปเมื่อตอนนั้น เกิดอารมณหลากหลาย เขายอตัวนั่งลง ใชฝามือ
หยาบกรานลูบหัวของเขาอยางอาสูร ไมรูวาควรเริ่มตนเลาอยางไร
ทันใดนั้น มีกระแสไฟสีแดงพาดผานทองฟา พรางพรายอยางที่สุด เพียงชั่วครูก็อาบ
ยอมทองฟาใหเปนสีแดง ราวกับเกิดแสงสายัณหกวางใหญ
นกกระจอกเพลิงตัวหนึ่ง รางกายระยิบระยับ สองแสงสีแดงสวยงาม มีขนาดใหญ
เทาฝามือ บินตรงดิ่งลงมาจากฟากฟา หลนรวงลงมาตรงหนาของตนหลิวหนาหมูบาน
“เฮ เสี่ยวหง!” เจาตัวเล็กลุกพรวดพราดและพุงเขาหาอยางรวดเร็ว
นกกระจอกตัวนี้แดงฉานทั้งตัว หลังจากที่รวงลงมา แสงศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดก็ดับสูญ
ขนสีแดงหมนหมองลง บาดแผลนากลัวทะลวงตรงหนาอกของมันจนเกือบจะหัก
นอกจากนี้ บนหัวของมันก็มีรอยเล็บหลายรอย อันตรายหนอยก็คงจะทะลุเขาไปใน
กะโหลก
นกกระจอกสีแดงฉานตัวนี้ชางนาสงสาร มันไดรับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลบางสวน
ที่ปรากฏอักขระนากลัวแวบวับ ยังคงทําลายชีวิตของมันเชนดังเดิม
เจาตัวเล็กไมกลาเคลื่อนรางของมันโดยพละการ เพราะนกสีแดงตัวนี้เพิ่งหลนรวงลง
มา ก็แผดเผาพื้นดินจนไหมเกรียม มันคลายกับเตาไฟ อุณหภูมิสูงจนนากลัว
“เสี่ยวหง เจาเปนอะไรไป?” เจาตัวเล็กเอยถามดวยน้ําเสียงแผวเบา
นกกระจอกบนพื้นที่มีเพียงดวงตาไมเปนสีแดง ลูกตาขาวดําแบงชัดเจน ราวกับ
ลูกแกวคูนั้นเหลือกตามองเขา ความคับแคนใจและโกรธเคืองเชนนั้น ทําใหเจาตัวเล็ก
พยักหนาอยางละอายใจ
..............................
[1] นกหลวน นกเทพเจาในตํานานจีน มีความเกี่ยวของกับหงสฟา
บทที่ 51 นกกระจอกเพลิง
“เสี่ยวหง เจาเจ็บรึไม?” อดทนอดกลั้นอยูนาน เจาตัวเล็กเพียงพูดออกมาแค
ประโยคนี้
นกกระจอกที่แดงฉานทั้งตัวถลึงตาโตใสเขาอยางโกรธเกรี้ยว และเหลือกตามองเขา
ดวยลักษณะที่โมโหมาก
มีนกกระจอกสีแดงรวงหลนลงมาจากกลางฟากฟา ทําใหเด็กๆ ตางก็งงงัน หรือนี่จะ
เปนนกนอยที่เจาตัวเล็กจํามิรูลืม และเคยไลตามมันออกไปนอกหมูบานตัวนั้นอยางนั้น
หรือ?
ทวา มีคนที่เขาใจอยางถองแท เชนหัวหนาหมูบานและผูอาวุโสที่มีอายุไมกี่คน ตาง
ก็ชาไปทั้งตัว และสือหลินหูกับสือเฟยเจียวขนลุกขนชัน ไมกลาแมแตจะขยับเขยื้อน ดวย
เกรงวาจะทําใหนกกระจอกแดงขุนเคือง
พวกเขาเคยมองเห็นจากที่ไกล นกนอยเพลิงตอสูอยูใจกลางเทือกเขา แผดเผา
ฟากฟากวาครึ่งซีก ภาพเชนนั้นนากลัวมาก และจะไมมีวนั ลืมในชั่วชีวิตนี้
ทวาวันนี้ ยามที่นกกระจอกสีแดงฉานตัวนี้รวงหลนลงมาจากทองฟา ยอมขอบฟา
จนเปนสีแดง ราวกับแสงสายัณหสาดทอลงมา ไมตองปะติดปะตอเรื่องใหมากมาย ก็ทํา
ใหผูคนตัวชาได นี่เปนสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกรงมากตัวนั้นอยางแนนอน
“ลูกเอย มานี่” สือยวิ๋นเฟงเอยเสียงเบา ดวยเกรงวาจะทําใหนกนอยสีแดงโกรธ จึง
เรียกใหเจาตัวเล็กกลับมา
“ไมเปนไรหรอกขอรับทานปู ขารูวาเสี่ยวหงรายกาจ แตขาไมรูสึกถึงจิตสังหาร มัน
ไมคิดรายตอหมูบานหินผาของเรา” เจาตัวเล็กกะพริบตาโตพลางพูดอธิบาย
นกกระจอกสีแดงฉานหมอบอยูบนพื้นดิน ถลึงตาโตแลวอาปากพนแสงสวยงามที่
คอนขางจะออนแรง รวงลงบนกอนหินกอนใหญ ครั้นสิ้นเสียง ควันสีฟาพวยพุงขึ้น กอน
หินกอนใหญละลายกลายเปนแองลาวา หลั่งไหลบนพื้น รอนลุมอยางทนไมได รอนจน
ปวดแสบปวดรอน
ฝูงชนหวาดผวา เปนเพียงแสงเสนเล็กๆ ไมใชเปลวไฟที่แทจริง แตกลับมีอุณหภูมิที่
นากลัวปานนี้ นึกยอนไปถึงที่เห็นในครานั้น เพลิงมอดไหมไปทั่วฟากฟาอยางไมสิ้น แผด
เผาอยูครึ่งเดือนเต็ม นั่นเปนอิทธิฤทธิ์ระดับไหนกันเชียว?!
คนมากมายหลั่งเหงื่อเพราะเจาตัวเล็ก สือเฟยเจียวและคนอื่นๆ ตางกาวไปดานขาง
ดวยความระมัดระวัง หมายจะลากเขาออกไป
“เสี่ยวหงระงับโทสะกอน เจาดูสิ แมแตหัวก็มีควันแลว เกรงวาหากขนแดงสวยงาม
ของเจาถูกแผดเผาจนหลุดรวง จะนาเสียดายเปนอยางยิ่ง” เจาตัวเล็กกลาว
ขนสีแดงบนหัวของมันสองแสงแวววับ แตละขนลุกชัน แสดงใหเห็นวามันโกรธ
เกรี้ยวเปนอยางมาก แตเพียงชั่วครู มันก็สงบลง แววตาจองมองเจาตัวเล็กดวยความ
ระคนแปลกใจอยางไมลดละ
“ทานปูดูสิ เสี่ยวหงมีจิตใจดีมาก มันไมโกรธแลว” เจาตัวเล็กยิ้มอยางดีใจ ทั้งหวาน
และใสซื่อ เขาอยากจะโอบอุมมันขึ้นมาเปนอยางมาก
นกกระจอกเพลิงกระพือปก หยัดตัวลุกขึ้นอยางยากลําบาก บาดแผลตกกลางอกมี
อักขระแวบวับ ทําลายพลังชีวิตของมันไมหยุด
“เจามาหาเทพเจาตนหลิวใชไหม เมื่อกอน เจาเคยรวงลงบนกิ่งของมัน ครั้งนี้ก็
อยากใหมันชวยรักษาเจาใชไหม?” เจาตัวเล็กเอยถาม
“ฮึ่ม!” ถูกเด็กคนหนึ่งเดาใจมันออก นกกระจอกแดงไมพอใจเปนอยางมาก เปลง
เสียงแหลมชัดออกมา ไมสนใจเขา แตกลับแหงนหนามองไปยังตนหลิวตนนั้น
ตนหลิวใหญและดําเกรียมเงียบสงบไรเสียง กานหลิวหมนแสงกวัดแกวงตามแรงลม
ในเวลานี้กลับโนมต่ําลงมาอยางเงียบเชียบ คอยๆ ปลอยแสงสีเขียวสวยงามออกมา
นกสีแดงฉานแผดเสียงรองอยางแผวเบา ยางเทาไปขางหนาไมกี่กาวอยาง
ยากลําบาก เผชิญหนากับกานหลิวเขียวออน เปดบาดแผลของตนออก และเก็บเปลวไฟ
สุดทายกลับไป
บนกานหลิว มีของเหลวระยิบระยับปรากฏขึ้น ราวกับน้ําคาง กระจายแสงสวยงาม
และมีกลิ่นหอมลอยฟุง ทําใหชาวบานสดชื่นกระปรี้กระเปรา
กานหลิวโนมลงมา กานออนสัมผัสกับนกกระจอกเพลิง ของเหลวสวางไสวกลิ้งลงไป
ไหลเขาสูกลางบาดแผลนากลัวนั่น เกิดเปลวไฟลุกโชติชวงชั่วขณะ อักขระเปลงแสงไม
หยุด นกสีแดงรองแผวเบา รางกายกระตุกราวกับเจ็บปวดมาก และกําลังอดทนอยาง
หนัก
กานหลิวสะบัดเบาๆ ของเหลวหลายหยดปรากฏขึ้นอยางตอเนื่อง เกลือกกลิ้งบน
กานออน ทุกหยดเจิดจาพรางพราย ประดุจไขมุกวิเศษ สองแสงสวางสวยงาม อีกทั้งยังมี
กลิ่นหอมลอยปะทะจมูกเปนระลอก
เมื่อของเหลวเหลานี้หลั่งริน อักขระเหลานั้นคอยๆ จางหายไป บาดแผลที่ทะลวง
กลางอกปดสนิทอยางสิ้นเชิง ความเจ็บปวดของนกสีแดงลดนอยลงมาก
จากนั้น กานออนฉายแสงสีเขียวก็โนมลงไปยังหัวของมัน ของเหลวพรางแพรวรินลง
ลอยเล็บบนหัวของนกกระจอกแดงก็คอยๆ มลายหายไป ณ ตอนนี้ อาการบาดเจ็บสาหัส
ที่มันไดรับหายเปนปลิดทิ้ง
เปลวไฟสวางวาบขึ้น นกสีแดงเปลงแสงสีแดงระยิบระยับ พรางพรายไปทั้งตัว เจิด
จาจนผูคนลืมตาไมขึ้น แสงวิเศษไหลเวียนอยางไมสิ้นสุด ทําใหมันสวางและสวยงาม ตาง
กับเมื่อครูราวกับคนละคน
ชาวบานตะลึงพรึงเพริด นกกระจอกแดงที่มีขนาดเพียงฝามือ แตกลับกระจาย
อานุภาพทรงพลังทวมทนผืนฟา ราวกับกําลังเผชิญหนากับเทพเจาแหงสวรรคครั้งบรรพ
กาล ฝูงชนเกือบจะลมพับลงไป โชคดีที่ตนหลิวแผรัศมีแสง ลบลางอานุภาพเชนนี้ทิ้งไป
ในสถานที่หางไกลเล็กนอย ในละแวกทะเลสาบ เหลาไกหาสีและสัตวประหลาดเขา
เดียวเสมือนกับกราบไหวเทพเจา คํานับมายังที่แหงนี้ กราบไหวอยางไมหยุดหยอน
นกกระจอกสีแดงปลิ้มปติเปนอยางมาก แผดเสียงรองอยางมีชีวิตชีวา ควบคุม
อานุภาพวิเศษไว กระโดดโลดเตนอยูบนพื้นดิน และเปลงวาจาออกมาเปนภาษามนุษย
อยางชัดถอยชัดคําวา “ขาเปนหนี้บุญคุณเจาอยางใหญหลวง”
ตนหลิวดําเกรียมไมมีแมแตเสียงใด กานออนเขียวชอุมโยกไหวและชี้ไปทางชาวบาน
นกกระจอกสีแดงฉานทาทางกระปรี้กระเปรามีชีวิตชีวา กวาดสีหนาสลดทิ้งไป ขน
นกทั่วรางกายพรางพรายสวางไสว มันมีกําลังวังชาอยางลนหลาม พละกําลังฟน
คืนกลับมา
สิ้นเสียงครืน ขนนกสีแดงหลุดรวงออกมาจากตัวของมัน หลั่งรินแสงสวางดุจ
กระแสไฟ มหัศจรรยเปนอยางมาก ปกลงบนกอนหินดัง
“พวกทานเก็บไวใหดี หากมีคนแสหาเรื่อง ก็สําแดงใหพวกมันดูเสีย!” เสียงของมัน
เสนาะหู ชัดเจนและไพเราะ ราวกับหยกตกกระทบพื้นดิน เห็นไดชัดวานี่เปนวัตถุสงสาร
หลังจากที่ขนนกสีแดงปกลงบนกอนหิน ที่ตรงนั้นก็ละลายกลายเปนลาวา แสงสีแดง
ทวมทน ของเหลวเดือดพลาน แผขยายไปอยางรวดเร็ว
ฝูงชนถอยหลัง อุณหภูมิเชนนี้สูงเกินไป
นกกระจอกแดงนิ่งอึ้ง มองไปยังฝูงชนเพียงแวบเดียว จากนั้นอาปากสูดเขาไป บน
หางสีแดงเปลงแสงโชติชวง วูบวาบอยางรุนแรง แสงศักดิ์สิทธิ์เปนเสนสายพวยพุง หาย
ลับเขาไปในปากของมัน
มันดูดเอาพลังปราณเขาไปจนหมด เหลือไวเพียงขนนกสีแดงสวางไสว จากนั้นพยัก
หนากับตนหลิว บินทะยานขึ้นสูชั้นเมฆ
“เสี่ยวหง มาเที่ยวเลนบอยๆ นะ!” เจาตัวเล็กที่ยืนอยูหนาหมูบานออกแรงโบกมือ
ไปยังฟากฟา
นกกระจอกสีแดงบินโซเซอยูกลางทองฟา เกือบจะรวงหลนลงมา มันเหลียวหนา
กลับมา ถลึงตาใสเขาอยางเกรี้ยวกราด จากนั้นรางกายก็ทวมทนไปดวยแสงสวาง มุง
หนาไปที่หางไกลโดยที่ไมหันกลับมาเหลียวมองอีก
“เก็บขนหางชิ้นนี้ไวใหดี!” สือยวิ๋นเฟงกลาวอยางเครงขรึม ขนนกสีแดงเล็กๆ แตมี
อิทธิพลเปนอยางมาก ไมมีผูใดกลามองมันเปนเพียงขนนกธรรมดา
เวลาผานไปเนิ่นนาน ที่แหงนี้จึงสงบลง ชาวบานเริ่มคุนเคยกับสภาพแวดลอมใหม
แหงนี้
เด็กๆ สงเสียงเอ็ดตะโร วิ่งเลนกันบนริมทะเลสาบงดงามที่มีทุงหญาเขียวขจี
ปรึกษาหารือกันวาจะตกปลาหนวดมังกรอยางไร เพื่อใชมันมาเพิ่มความแข็งแกรงใหกับ
กระดูกและกลามเนื้อ พวกเขาปรารถนาพละกําลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
นกหลวนมีขนสวยสดงดงาม ลําตัวยาวสองเมตร วายน้ํากลางทะเลสาบอยาง
เชื่องชา ไมกลัวเด็กพวกนี้แมแตนอย ทางดานสัตวประหลาดเขาเดียวเพียงระแวดระวัง
ตนจากเหลาชายฉกรรจเล็กนอย ไมไดสนใจเด็กๆ พวกนี้แมแตนิดเดียว
หลังจากที่ทุกอยางสงบลงแลว เจาตัวเล็กนั่งกอดเขาอยูริมทะเลสาบเพียงลําพัง และ
เหมอลอยอีกครั้ง ตาโตมองไปยังทะเลสาบสีฟาเขม ไมขยับเขยื้อนเปนเวลานาน
“คิดอะไรอยูรึลูก?” สือยวิ๋นเฟงเดินมา และนั่งลงบนพื้นหญาสีเขียวริมทะเลสาบ
“ทานปู ทานควรบอกขาไดแลว” เสี่ยวสือฮาวหันหนามามองดวยแววตาสุกใส
“เอาละ ขาจะบอกทุกอยางที่ขารูแกเจา” หัวหนาหมูบานพยักหนา สือฮาวเปนเด็ก
ฉลาดเกินวัย ไมควรปฏิบัติตอเขาเฉกเชนเด็กไรเดียงสาไมรูความ
สายลมพัดเอื่อย อากาศบริสุทธิ์ปลอดโปรง พัดเอากลิ่นดินและกลิ่นหอมของ
ตนหญาโชยมา ปลาใหญสีทองกระโดดกลางทะเลสาบไมหยุด มองดูแลวสงบและเปนสุข
“หมูบานหินผาของเรามีความเปนมาที่ยิ่งใหญและนากลัว ทวาแมแตขาเองก็จวนจะ
ลืมเลือนแลว มีเพียงไมกี่ประโยคและไมกี่คําพูดที่บรรพบุรุษเลาขานกันมา” สือยวิ๋นเฟง
เอยเสียงเบา
หมูบานหินผาตกทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ตามที่ผูอาวุโสที่ถึงแกกรรมกลาวกัน
สามารถยอนรองรอยกลับไปถึงชวงบรรพกาล เพียงอยูในกาลเวลาที่ยาวนาน ทุกสิ่งทุก
อยางเลือนรางตามกาลเวลา แมแตชาวบานเองก็ไมเชื่อคําพูดที่กลาวตอกันมาพวกนั้น
“เนิ่นนานหรือ” เสี่ยวสื่อฮาวตกตะลึง
หัวหนาหมูบานถอนหายใจเบาแลวกลาววา “มีเรื่องราวมากมาย แมแตตัวขาเองก็
ลืมเลือน การสืบทอดสิ้นสุดลงเนิ่นนานแลว กระทั่งวันหนึ่ง มีสามีภรรยาคูหนึ่งมาเจอที่นี่
เขา ใหความสนใจตอสิ่งเหลานี้ พวกขาจึงรูวาสิ่งที่บรรพชนกลาวขานอาจจะเปนเรื่อง
จริง”
เสี่ยวสือฮาวเบิกตากวาง เขารูวา นั่นอาจจะเปนบุพการีของเขา
“พวกเขามีลักษณะอยางไรขอรับ?” ชาวบานดีตอเขามาก แตวาผูอื่นตางก็มีพอแม
มีเพียงเขาที่กําพรา แมวาเขาจะเบิกบานและมองโลกในแงดี แตภายในใจก็ยังมีความ
ออนแอ และการเฝารออยางหาที่เปรียบไมได
“สตรีผูนั้นงดงามมาก บุรุษก็รูปงาม แตดูราวกับวาปวยไข” หัวหนาหมูบานเอยตาม
ความจริง
เจาตัวเล็กกําหมัดแนน ดวงตาเปนประกาย ฉายแววดีใจและคาดหวังรอคอย แหงน
หนาขึ้นแลวพูดวา “ทานปู รีบเลาตอเลยขอรับ”
“พวกเขามาจากประเทศเกาแกประเทศหนึ่ง บอกวาหมูบานหินผาเปนแผนดินเกิด
ของพวกเขา แมวาพวกเขาจะรุงเรืองเปนอยางมาก แตกลับหาแผนดินเกิดของตนไม
พบ”
ตระกูลนั้นยิ่งใหญชนิดที่ไมสามารถจินตนาการได แตวาเนื่องจากกฎขอหามของ
บรรพชน หามกลับแผนดินเกิดตามอําเภอใจ เพื่อหลีกเลี่ยงการมาเยือนดินแดนนั้นของ
ศัตรู เปนเชนนี้มาอยางชานาน จึงหาหนทางกลับไมพบ
ทําเชนนี้เพื่อสรางทายาทสืบทอด คงไวซึ่งการสืบสายโลหิตอยางไมขาดสาย หากวา
ชนเผาที่เจริญรุงเรืองถูกทําลาย ที่แหงนี้ยังคงดํารงตอไปได กลายเปนดินแดนสุขาวดี
ตราบนิรันดร
สายโลหิตที่เหลืออยูยิ่งใหญมากในตอนนั้น แตเนื่องจากเหตุผลหลากหลายประการ
หมูบานหินผาก็คอยๆ เสื่อมถอย กระทั่งตอนนี้ ก็ไรซึ่งแนวทางปฏิบัติบําเพ็ญตนอีกตอไป
“คูสามีภรรยาหนุมสาวคูนั้นรับรูหนทางกลับสูแผนดินเกิดอยางคาดไมถึง จึงมายังที่
แหงนี้”
สามีภรรยาคูนั้นแข็งแกรงมาก เดินทางเขาสูดินแดนรกราง ขามผานดินแดนไกลสุด
ลูกหูลูกตา กระทั่งมาถึงที่แหงนี้ แตพวกเขาก็ตองพบกับความผิดหวัง หมูบานหินผา
ไมไดรุงเรืองดังที่คาดการณไว สูญสิ้นความทรงพลังเมื่อครั้งอดีตกาล
“ครานั้น เจาถูกอุมอยูออมอก แลดูออนเพลียมาก อายุเพียงไมกี่เดือน ทวาพวกเขา
กลับบอกวา อายุหนึ่งขวบแลว”
เจาตัวเล็กเบิกตากวาง รับฟงอยางตั้งใจ ในเวลานี้ พวกเด็กๆ ก็พากันวิ่งเขามา นั่ง
ลงบนพื้นโดยไมเอยคําใด นั่งฟงดวยความสนอกสนใจ
“อาการของเจาย่ําแยมาก และทรุดลงอยางหนัก พวกเขาพูดวา ใหเลี้ยงดูเจาเฉก
เชนเดียวกับเด็กอายุไมกี่เดือนก็พอแลว หากวาหมดหนทางรอดแลวจริงๆ ก็จะไมตําหนิ
พวกเรา” หัวหนาหมูบานเอยพลางถอนหายใจแลวลูบหัวเจาตัวเล็ก แมแตเขาเองก็คิดไม
ถึงวา เด็กที่ออนแอคนนั้นจะอยูรอดมาได อีกทั้งยังเปนผูมีพรสวรรคที่สวรรคประทานมา
ให!
เจาตัวเล็กตกอยูในภวังค บนหัวเกิดมานหมอกพรามัว เด็กเพียงนี้คงจําเหตุการณ
เมื่อตอนหนึ่งขวบไมได แตเรื่องนี้ฝงลึกและทิ้งรองรอยลงในจิตใตสํานึกของเขา
“พวกเขา...ญาติ เพื่อชวยเหลือพี่ชาย ขา...”
ในภวังค เสมือนวาเจาตัวเล็กจะมองเห็นอะไรบางอยาง รองไหดวยความเจ็บปวด
อยางอดกลั้นไมได น้ําตาหลั่งรินลงมาตามพวงแกม
บทที่ 52 ทําตนใหแข็งแกรง
เขามองเห็นภาพอันเลือนราง ไมมีความอบอุน มีเพียงความเยือกเย็น แมวาจะขาดๆ
ตอนๆ แตกลับทําใหเขาปวดใจ เขาพยายามเพงมองใหชัดเจน แตหมอกควันบดบังจนไม
สามารถมองเห็นอะไรไดอีก
ในตอนนั้น เขายังเยาวนัก จึงไมมีความทรงจําที่ชัดเจน นี่เปนสิ่งที่ทิ้งรองรอยไวใน
จิตใตสํานึก เกิดจากถูกกระตุนอารมณจึงปรากฏขึ้นมาแวบหนึ่ง
“ลูกเอยอยารอง คนในหมูบานทั้งหมดตางก็เปนญาติของเจาทั้งนั้น ที่นี่เปนบานของ
เจา” สือยวิ๋นเฟงใชฝามือหยาบกรานชวยเช็ดน้ําตาบนใบหนาเล็ก
“เจาตัวเล็กอยารองเลย พวกเราเปนพี่นองของเจา อยาไปคิดถึงเรื่องที่ไมมคี วามสุข
เลย” พวกเด็กๆ สงเสียงเอะอะและพากันรุมลอมเขามา
เสี่ยวสือฮาวเช็ดน้ําตาจนหมดแลวพูดวา “ทานปู เลาตอเถอะขอรับ”
“ภายหลังก็ไมมีอะไร พอแมเจาก็ไมไดพูดอะไรมาก” สือยวิ๋นเฟงเลาเรื่องราวเมื่อ
ครั้งนั้น
สามีภรรยาคูนั้นอยูดูแลสือฮาวในหมูบานหินผาไมกี่เดือน และจากที่นี่ไปเมื่อเขา
รอดชีวิตอยางแทจริง เจาตัวเล็กที่ออนแอในตอนนั้น มีอายุเพียงขวบเศษ แตมองดูแลว
กลับเหมือนเด็กทารกครึ่งขวบเทานั้น
“พวกเขาไมเอาขาแลว...” เสี่ยวสือฮาวหลั่งน้ําตาอีกครั้ง ภายในดวงตาเออลนดวย
น้ําตาคลอหนวย
“ไม!” สือยวิ๋นเฟงสายหนาแลวพูดวา “พวกเขาทิ้งเจาไมลง แตจากไปดวยจําเปน
เพราะตองการรักษาอาการปวยของเจาใหหายขาด จึงออกไปเสาะหายาวิเศษใหเจา”
ผีโหวเกาหัวแลวเอยเสียงเบาวา “ตอนนั้นขายังเด็กนัก แตขาพอจําไดบาง ทานลุง
คนนั้นรูปโฉมงดงาม แตแลดูราวกับมีโรค และทานปาคนนั้นก็เปนสตรีที่สวยที่สุดเทาที่
ขาเคยพบมา”
“ความทรงจําของขาลึกซึ้งกวา เจาตัวเล็กสูญเสียพอแมเมื่อครึ่งขวบ ในตอนนั้นพวก
เขาก็หายไปแลว” สือตาจวงเอยพลางพยักหนา
แมวาจะผานไปหลายป แตภาพการจากลาที่จําใจและเศราโศกนั่น หัวหนาหมูบาน
อาวุโสจํามันไดอยางชัดเจน เขาพูดวา “เจาเปนบุตรหนึ่งเดียวของพวกเขา พวกเขาบอก
วาแมนพวกเขาตาย ก็ไมอาจมองดูเจาออนแรงลงไปเรื่อยๆ ได”
น้ําตาหลั่งรินไมหยุด ปากก็สงเสียงวา “ทานพอ ทานแม พวกทานอยูที่ไหน?”
เมื่อหัวหนาหมูบานไดเอยเลาเรื่องราวในวันนั้นออกมา เพียงชั่วครูในใจก็รสู ึกโลงขึ้น
ไมนอย คูสามีภรรยาในตอนนั้นแข็งแกรงมาก แตกลับไมพูดถึงประเทศเกาแกนั่นมากนัก
เนื่องจากเรื่องราวมากมายไมมีความชัดเจน
สองสามีภรรยาจะออกไปเสาะหายาวิเศษ จําตองเหยียบยางเขาไปในดินแดนเกาแก
ซึ่งอันตรายมาก พวกเขาตองเขาไปในหุบเขาเทพเจาบรรพกาล อาจจะมีโหวเลือด
บริสุทธิ์ยึดครองอยู และหากคนพบ จะตองกอใหเกิดการชวงชิงของทายาทอสูรบรรพ
กาลเปนแน
“ทานเทพหลิว ทานชวยขาไดหรือไม ใหขาไดมองใหแนชดั วา ในจิตใตสํานึกของขา
มีอะไรกันแน?” เมื่ออยูคนเดียว เสี่ยวสือฮาวยืนพูดเสียงเบาตอหนาตนหลิวดวย
ความหวัง
“ขาจะเขาสูชวงจําศีลแลว รอเจาโตกวานี้อีกสักหนอย เมื่อพลังปราณแข็งแกรงแลว
อีกสักปสองปกระมัง” สิ่งที่นาตกใจคือ ตนหลิวตอบกลับมา
“ขอรับ!” เจาตัวเล็กเบิกตากวาง ในใจเปยมไปดวยความหวัง เขากําหมัดแนน ไม
เศราโศกอีกตอไป เขาอยากจะรูเรื่องสุขภาพของตน จากนั้นก็ดูใหแนชัดวาพอแมไปยังที่
แหงใด นี่เปนจุดมุงหมายอันงายดายของเขา
ชาวบานพบวาที่แหงนี้เหมาะแกการดํารงอาศัยอยางมาก ปราศจากสัตวราย
โหดเหี้ยม ในปาไมที่หางไกลมีเหยื่อใหลาเต็มไปหมด แมจะมีสัตวประหลาดดุราย แตก็
รับมือไดไมยากนัก
ทะเลสาบที่อยูใกลเคียง มีปลาหลากหลายชนิดมากตามที่ตองการ โดยเฉพาะปลา
หนวดมังกรที่เปนยาบํารุงชั้นเยี่ยม ชางล้ําคาเสียจริง ชาวบานยิ้มราอยางหุบปากไมได
เมื่อไมนานมานี้ แมจะเปนขุนเขาสีมวง ตระกูลสายฟา เผาหมาปาทองคําที่สืบทอด
สายเลือดบริสุทธิ์ ก็คงไมมีมัจฉากลายพันธุมากมายที่สามารถกินเพื่อเพิ่มพลังไดทุกวัน
“ควรจะออกไปดูโลกภายนอกวา เราอยูสถานที่ใดกันแน หางจากเทือกเขากวาง
ใหญที่เคยอยูมากเพียงไหน ดินแดนที่อยูอาศัยเดิมของพวกเราเปนอยางไรบางแลว” สื
อหลินหูกลาว
“ทานลุง ใหพวกขาไปเถิด ขากับทานอาอินทรีเกล็ดเขียวจะไปดูใหชัด”
ทามกลางสายตาที่อิจฉาของพวกเด็กๆ เจาตัวเล็กปนขึ้นบนหลังของอินทรีเกล็ด
เขียว มันกระพือปกสีเงิน เกิดเสียงลมพัดหวีดหวิว พวกเขากระโจนขึ้นสูงอยางฉับพลัน
หายเขาไปในชั้นเมฆ
อสูรปกษามีสัมผัสเรื่องทิศทางเปนอยางดี มันบินรอนอยูก ลางอากาศหนึ่งรอบ
จากนัน้ มุงหนาบินไปยังทิศทางหนึ่ง รวดเร็วราวกับสายฟาสีเงิน
“เอะ เกิดอะไรขึ้น ไยแนวเขาพวกนี้จึงพังทลายเชนนั้นเลา?” เสี่ยวสือฮาวตกตะลึง
เพิ่งบินมาไดไมกี่รอยลี้ก็พบความผิดปกติของแผนดินนี้
แผนดินแตกแยก บรรยากาศเงียบสงัดไรสิ่งมีชีวิต ขุนเขาธาราพังทลาย สูญสิ้น
โอกาสดํารงชีวิตอยู
เมื่อเขาไปลึกขึ้น พวกเรามองเห็นซากปรักหักพัง มหานครเมืองแลวเมืองเลาถูก
ทําลาย กลายเปนเมืองรางขนาดใหญ คราบเลือดเปรอะเปอน แตกลับไมมีแมแตซากศพ
ลึกเขาไปเกือบพันลี้ ไมพบเงาคนแมแตคนเดียว มีเพียงความเศราสลด ชนเผาใหญ
มากมายถูกทําลาย ดินแดนกวางใหญแหงนี้กลายเปนดินแดนแหงความตาย
“ตรงนั้นเปนรอยเทาขนาดใหญ!”
มองไปยังแผนดินนั้น จากฟากฟาสูงในระดับเดียวกับชั้นเมฆ สามารถมองเห็นได
ชัดเจน ตรงนั้นมีรอยเทาขนาดใหญ ย่ําเทือกเขาพังทลายเปนแนว ยอดเขามากมาย
แหลกละเอียด!
เจาตัวเล็กสั่นสะทาน นี่เปนสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญโตมโหฬารเพียงไหนกันนะ
บินไปขางหนาอยางตอเนื่อง บนผืนดินมีหลุมลึกดําสนิท ที่มีขนาดใหญไรทสี่ ิ้นสุด
แตพอสังเกตอยางละเอียด กลับพบวาเปนรอยกรงเล็บ ที่อสูรปกษาสักชนิดหนึ่งเปน
ผูกระทํา
“อสูรปกษาตัวนี้...” เสี่ยวสือฮาวตะลึงงัน
อินทรีเกล็ดเขียวสั่นเทิ้ม นี่เปนความสั่นดวยความกลัวที่มาจากภายในจิตใจ เปน
ความยําเกรงตอสิ่งมีชีวิตที่ไดรับการเคารพสูงสุด เปนอสูรปกษาเชนเดียวกัน แตความ
แข็งแกรงนั้นหางไกลอยูมากโข
บินตรงไปขางหนาอีก ดินแดนรกรางนับพันลี้ รกรางวางเปลา ทั่วบริเวณขุนเขา
หลอมละลาย ถูกแผดเผาจนราบคาบ
“นี่คงไมใชฝมือของเสี่ยวหง ที่ถูกกดดันจนกอใหเกิดผลลัพธเชนนี้หรอกนะ” เจาตัว
เล็กบนพึมพํากับตัวเอง
อินทรีเกล็ดเขียวมีสติปญญาเฉียบแหลม มันอยูบินวนเวียนอยูบนสนามรบแหงนี้ จับ
สัญญาณจิตสังหารอยางรุนแรงได ราวกับอยูในเหตุการณ โดยเฉพาะรองรอยการตอสู
ของปกษาดวยกัน ชวยมันไดคอนขางมาก
“ทานอาอินทรี ตอไปหากพวกจื่อยวิ๋นกับตาเผิงบินไดแลว ขาจะพาพวกมันมาสัมผัส
กับสถานที่เหลานี้เอง” เจาตัวเล็กเอยปากบอกกลาว
อินทรีเกล็ดเขียวแผดเสียงรองยาวตอบรับ ชื่นชมตอปญญาและความเขาอกเขาใจ
ของเจาตัวเล็ก
เมื่อบินเขาไปลึกอีก เทือกเขากวางใหญสุดลูกหูลูกตาพังทลาย ทั้งหมดถูกกวาดลาง
จนราบเปนหนากลอง ภูเขาสูงตระหงานนับพันลูกหักโคนลงเปนระเบียบ เปนภาพ
เหตุการณที่นากลัวอยางที่สุด!
ผานไปครึ่งคอนวัน เขาสูระยะทางที่ไกลมาก อินทรีเกล็ดเขียวยอนกลับ เพื่อ
หลีกเลี่ยงเรื่องไมคาดฝน เพราะภายในควันหลงจากสงคราม อาจจะซุกซอนภยันตรายไว
ก็เปนได
ยามพระอาทิตยตกดินแลว พวกเขาจึงกลับมา ระยะทางไกลโพน อินทรีเกล็ดเขียว
บินไปหนึ่งวัน แมวาจะเปนทายาทอสูรบรรพกาล แตก็มีความเหนื่อยลาอยูบาง
“วูว... ทานอาอินทรีเกล็ดเขียวกลับมาแลว!”
“ลูกเอย เจาพบเจออะไร ที่นคี่ ือที่ใด อยูหางจากเทือกเขารกรางมากขนาดไหน?”
สือเฟยเจียวเอยถาม คนกลุมใหญรุมลอมกันเขามา แมแตเหลาผูอาวุโสก็เขามาเชนกัน
ชาวบานใหความสนใจกับคําถามนี้เปนอยางมาก
“ไมรูวาหางไกลจากที่อยูอาศัยเดิมของพวกเรามากเพียงใด ขาคิดวาอยางนอยคง
มากกวาหาหมื่นลี้ ผืนแผนดินทั้งผืนถูกทําลายอยางราบคาบ ขุนเขาพังทลาย...”
เจาตัวเล็กบอกเลาเรื่องราวที่พบเจอตลอดการเดินทาง เมื่อกลุมคนไดฟงดังนั้นก็พา
กันหวาดผวา
“เปนหายนะครั้งใหญจริงๆ ถึงวาทานเทพหลิวพาหมูบานหินผาหนีออกมา!”
หัวหนาหมูบานกลาวพลางถอนหายใจ ลึกๆ เขารูดีวา หากไมมีตนหลิว หมูบานหินผา
จะตองถูกทําลายราบเปนหนากองอยางแนนอน ไมเหลือแมแตคนเดียว ภาพเหตุการณ
นากลัวบนแผนดินนั้นก็เพียงพอที่จะอธิบายทุกอยางแลว
ในระยะเวลาหนึ่งเดือนตอมา เจาตัวเล็กออกไปกับอินทรีเกล็ดเขียวอยูบอยครั้ง
บางครั้งก็หายไปหลายวัน สุดทายก็สืบเสาะจนเขาใจสถานการณ
“ทานผูเฒา เทือกเขากวางใหญนับพันลี้แหลกละเอียดอยางสิ้นเชิง ที่อยูอาศัยของ
พวกเราหาไมเจอแลวขอรับ” เจาตัวเล็ก นําขาวที่ทุกคนตกตะลึงมาบอกกลาว
สิ่งมีชีวิตในรัศมีสิบหมื่นลี้ดับสูญทั้งสิ้น แมแตสัตวประหลาดพวกนั้น และอสูรปกษา
สะทานฟาพวกนั้นก็มลายหายไป ไมรูวาไปยังแหงหนใด บางทีอาจจะกลายเปนอาหาร
ของสิ่งมีชีวิตที่ไดรับความเคารพสูงสุดนั้นไปแลวก็ได
ดินแดนสิบหมื่นลี้ กลายเปนดินแดนแหงความตาย มองไมเห็นสิ่งมีชีวิตที่เหลือรอด
สักอยางเดียว ทุกอยางดับสูญตลอดกาล!
“ภัยพิบัติครั้งใหญจริงๆ ทั้งตระกูลสายฟา ขุนเขาสีมวง ทะเลสาบแหงสวรรค และ
ชนเผาหมาปาทองคําเปนชนเผาที่แข็งแกรงมากเพียงไหน ภายในดินแดนผูปกครอง
ชั้นสูงมีจํานวนประชากรนับสิบลาน แตกลับสูญสิ้นไปเชนนี้” มีคนชราถอนหายใจดวย
ความสลดใจอยางอดไมได
แมจะเคยเปนปรปกษ และเคยเรื่องไมดีงาม แตการเผชิญหนากับโศกนาฏกรรม
เลวรายเชนนี้ ความแคนเพียงนอยนิดนั่นเทียบกันไมติดเลย ประชากรของทุกชนเผาใหญ
รวมกันแลวเปนจํานวนนับรอยลาน และตายทั้งหมด นี่เปนหายนะครั้งสะทานฟา!
“ตองแข็งแกรง!”
“พวกเราจะตองแข็งแกรง จึงจะปกปองบานเมืองของเราได!”
เด็กๆ รองตะโกน หายนะเชนนี้ สะเทือนจนหัวใจดวงนอยของพวกเขาสั่นไหว แต
กลับปลุกความมุงมั่นในการตอสูที่ซอนอยูภายใน สงเสียงเอะอะโวยวายวาจะตอง
แข็งแกรงขึ้น
“ถูกตอง พวกเราจะเริ่มตั้งแตตอนนี้ ตั้งใจบําเพ็ญอักขระกระดูก ตอนนี้ในรัศมีสิบ
หมื่นลี้ที่กลายเปนสุญญากาศ บางที พวกเราอาจจะสามารถสรางประเทศขึ้นมาก็
เปนได” เด็กที่โตกวากลาวเชนนี้
“มีความตั้งใจอยางแรงกลา หากแตยากเกินไป ที่ประเทศเกาแกเหลานั้นสามารถ
ดํารงอยูไดถึงทุกวันนี้ นั่นเปนเพราะวาเทพเจาโบราณยังมีชีวิตอยู อีกทั้งแข็งแกรงเปน
ทุนเดิมอยู เพียงแคขุนศึกของขุนนางธรรมดาในประเทศเกาแก ก็สามารถทําลายเผาหมา
ปาทองคํา ทะเลสาบแหงสวรรคใหสิ้นซากไดอยางงายดาย ตั้งแตบรรพกาลกระทั่งตอนนี้
ประเทศเกาแกที่ไมวันสูญสิ้น ระดับความนากลัวนั้นไมสามารถจินตนาการได!” หัวหนา
หมูบานเอยพลางถอนหายใจ
“ไมเปนไร พวกเรามีเทพเจาตนหลิว อีกหนอย เมื่อพวกเราเติบใหญ ก็จะแข็งแกรง
กันมาก และพึ่งพรสวรรคของเจาตัวเล็ก ที่ตอนนี้สามารถสังหารโหววัยเยาว ซึ่งเปนอสูร
บรรพกาลเลือดบริสุทธิ์ไดแลว ในภายภาคหนา จะไมสามารถลมประเทศใหญเหลานั้นได
หรือ?” เด็กๆ ไมพอใจอยางมาก ตางก็กําหมัดไวแนน
“ดี ขารอวันที่พวกเจาบุกเบิกความรุงโรจน ตามที่ผูอาวุโสที่ลาโลกนี้ไปแลวไดกลาว
ไววา เมื่อครั้งบรรพกาล ชนเผาของพวกเรายิ่งใหญอยางที่สุด เคยมีเทพเจาโบราณ ซึ่ง
สามารถตอกรกับอสูรบรรพกาลขนานแทได ขาก็หวังวา พวกเจาจะสามารถสรางความ
รุงโรจนไดอีกครา ใหแผนดินที่เราเรียกวาแผนดินเกิดนี้ มีชื่อเสียงสะทานปฐพีนี้!” สือยวิ๋
นเฟงกลาว เขาลูบหัวของเด็กเหลานี้ เพื่อแสดงถึงการใหกําลังใจ บุรุษจะแข็งแกรง
จะตองมีอุดมคติที่กาวไกล
ในกาลเวลาตอมา เด็กๆ ตางก็พยายามกันอยางมาก มุมานะบากบั่นเพื่อพัฒนาตน
บําเพ็ญเพียรฝกอักขระกระดูกอยางหนัก และฝกพลังปราณ แตละคนตางก็แข็งแกรงดุจ
สัตวประหลาดดุราย
ดินแดนพํานักอาศัยแหงนี้มสี ภาพแวดลอมเปนใจคอยอํานวย นอกจากปลาหนวด
มังกร ชาวบานยังคนพบอสรพิษเอ็นมังกร แมจะเปนอสรพิษราย แตสามารถเปนเหยื่อ
ลาได เอ็นของมันมีคามหาศาล หากเคี่ยวใหเละแลวนํามากิน สามารถบํารุงกลามเนื้อ
และกระดูกใหแข็งแกรงได เปนยาวิเศษที่พบเจอไดยากมาก
ไมเพียงแตเด็กๆ ที่เติบโตอยางรวดเร็ว แมแตพวกผูใหญเองก็ไดรับประโยชนอยาง
มหาศาล แข็งแกรงชนิดที่พละกําลังไมมีหมด
เวลาผานไปอยางรวดเร็ว เพียงพริบตาก็ผานไปหนึ่งปกวาแลว หากคํานวณจากอายุ
เดิมแลว เจาตัวเล็กอายุหาขวบกวา แตหากพูดตามความเปนจริงแลว หากนับรวม
ชวงเวลาไมกี่เดือนที่เขาเสียไปนั้น เขาอายุหกขวบแลว
“ขาอายุหกขวบแลว ตอนนี้สามารถยกหินหนักสามหมื่นชั่งไดแลว ทานเทพเจาหลิว
เมื่อใดทานจึงจะฟน คืนชีพ?”
เจาตัวเล็กกลาวเสียงเบาที่ดานหนาของตนหลิว เวลาผานไปหนึ่งปกวา เขาสูงขึ้น
เปนกอง ดวงตาโตฉายแสงแหงปญญา รูปโฉมงดงามขาวกระจางใส มีลักษณะที่งดงาม
มากยิ่งขึ้น
“จิ๊บจิ๊บ...”
เสียงนกรองดังลอยมาจากฟากฟา จื่อยวิ๋น ตาเผิง เสี่ยวชิงเติบโตไมเร็วมากนัก
ตอนนี้มีขนาดตัวยาวสี่เมตร แตสามารถกระพือปกทะยานสูทองฟา สามารถพุงเขาไปใน
ชั้นเมฆไดอยางรวดเร็ว
“อยาใจรอน ขามาแลว ไปศึกษารองรอยของสนามรบกัน!” สือฮาวโบกมือ จากนั้น
กระโดดขึ้นสูงอยางดุดัน พุงตรงขึ้นสูทองฟา จากนั้นก็รวงลงบนหลังของจื่อยวิ๋นอยาง
มั่นคง
“วูวู...”
สายลมพัดหวีดหวิว เพียงชั่วพริบตา พวกเขาก็หายลับไปในมานเมฆ พุงออกไปยัง
แผนดินที่ไรสิ่งมีชีวติ ที่อยูหางไกล
นี่เปนขุนเขาที่แตกละเอียด แผนดินแตกแยก ภูเขาสูงพังทลาย รกรางอยางหาที่
เปรียบไมได เงียบสงัดไรเสียง
“ครานี้พวกเราเปลี่ยนทิศทาง ไปทิศตะวันตก” หลังจากที่เขาสูสนามรบแลว สือ
ฮาวชี้ไปยังเทือกเขาหักโคนทางทิศตะวันตก
เสียงลมหวีดหวิว พวกเขาเดินทางดวยความเร็วสูงสุด เพียงไมนานก็มาถึงใจกลาง
เทือกเขาหักโคน เสาะหารองรอยการตอสูที่เหลืออยู
“จิ๊บจิ๊บ...” เสี่ยวชิงแผดเสียงรอง พุงออกไปยังแองขนาดใหญ บนตัวมีลวดลาย
เปลงแสงพรางพราย หลังจากที่กินเนื้อซวนหนีแลว มันและตาเผิงก็กลายพันธุ
“เอะ นี่ไมใชแอง นี่เปนทะเลสาบขนาดใหญ แตวาแหงเหือดทามกลางสงคราม
สะทานไฟนั่น” สือฮาวตกตะลึง
ทันใดนั้น จือยวิ๋นก็แผดเสียงรอง ชี้ใหเห็นวามีสิ่งมีชีวิตอยูขางลางนั่น
ตาเผิงที่เปลงลําแสงสีทองออน บินโฉบลงไปสักระยะหนึ่ง และบินวนรอบทะเลสาบ
แหงเหือด
“นั่นเปนสิ่งมีชีวิตชนิดใดกัน?” เจาตัวเล็กตะลึงงัน
บนกนทะเลสาบแหงเหือดนั่น มีสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งนอนแผอยูตรงนั้น เปอนดินไป
ทั้งตัว ไมขยับเขยื้อน ราวกับถูกฝุนผงปกคลุมมานานหลายป หากนัยนตาไมฉายแสง ก็
คงสงสัยวาตายไปนานแลวเปนแน
“เฮ เปนวานรแนะ ยาวแคหนึ่งเซี๊ยะ มัน... ไยมันจึงมีสามหัวหกแขนกันละ?!” สือ
ฮาวตกตะลึง
บทที่ 53 จูเยี่ยน
ทั้วทั่งรางของมันเปอนดิน ความยาวเพียงหนึ่งเซี๊ยะ แตกลับมีสามหัว และหกแขน
รูปรางคลายวานรแตก็ไมใช นี่เปนสิ่งมีชีวิตชนิดใดกัน? เจาตัวเล็กสงสัย ในขณะเดียวกัน
ก็เกรงกลัว สิ่งมีชีวิตในรัศมีสิบหมื่นลี้ดับสูญกันทั้งสิ้น ไยจึงมีสัตวกลายพันธุที่มีลักษณะ
แปลกประหลาดเชนนี้รอดมาได มันตองไมธรรมดาเปนแน!
ทะเลสาบแหงเหือด ดินโคลนที่กนบอตากแหงจนแข็งเปนหิน ขาขางหนึ่งของ
สิ่งมีชีวิตตัวนี้จมอยูในโคลน และตอนนี้ราวกับถูกปดตายอยูในกอนหิน ถอนออกไมได
ทิวเขาโดยรอบ หักโคนจนสิ้น ประหนึ่งถูกคนใชเครื่องมือขนาดใหญกวาดผาน
ทําลายทั่วบริเวณเทือกเขา ภูเขาทั้งหมดเหลือเพียงครึ่งทอน
ทะเลสาบแหงเหือดก็เปนเพราะการเปลี่ยนแปลงอยางรุนแรงของลักษณะภูมิ
ประเทศของภูเขา ในวันนี้ ทะเลสาบแหงนี้เงียบสงัด หมดซึ่งทัศนียภาพอันกวางใหญ
ไพศาล และเกลียวคลื่นสีฟา
ลูกนกทั้งสามบินรอน ประเดี๋ยวก็พุงเขาสูชั้นเมฆ ประเดี๋ยวก็ประชิดกนทะเลสาบ
เจาตัวเล็กนั่งอยูบนหลังของจื่อยวิ๋นพรอมกับจองไปยังเบื้องลาง ลวงอาหารออกมาจาก
ยามหนังสัตวแลวโยนลงไป
สิ่งมีชีวิตตัวนี้หิวโซ เก็บเนื้อแหงที่หลนอยูขางกายขึ้นมาแลวกินอยาง
ตะกละตะกลาม เพียงไมกี่คําก็หมด จากนั้นก็เผยสีหนามีความหวัง แหงนหนามองขึ้นมา
บนฟากฟา
“ดูเหมือนจะไมเปนอันตรายอะไร แตสิ่งมีชีวิตชนิดนี้แปลกประหลาดเล็กนอย จื่
อยวิ๋นลงต่ําอีกหนอย เขาไปดูใกลๆกันเถอะ” สือฮาวกลาว
จื่อยวิ๋นบินโฉบลงมา จากนั้นบินวนเหนือทะเลสาบแหงเหือด แขนของเจาตัวเล็ก
สองสวางขึ้น อักขระเปลงแสงมากมายปรากฏขึ้น สาดเทแสงลงไปดุจสายฝน รวงลงไป
ยังสิ่งมีชีวิตตัวนั้น
สิ่งมีชีวิตที่มีรูปรางคลายวานร และขนาดลําตัวยาวเพียงหนึ่งเซี๊ยะตัวนั้นเบิกตากวาง
มันดูตื่นกลัวเล็กนอย และมึนงงอยูบาง แสงดุจสายฝนสาดเทลงมา ทําใหรางกายของมัน
พรางพราย จนเกือบจะโปรงแสง
นี่เปนเคล็ดวิชาอยางหนึ่งของอักขระกระดูก สามารถตรวจสอบวาเปนสภาพการณ
ของศัตรูได เจาตัวเล็กรองอยางตกใจ แลวกลาววา “มันไดรับบาดเจ็บสาหัส ในรางกายมี
อักขระลึกลับอยู แตก็เกือบจะถูกบดขยี้ อยางอื่นขามองไมชัด ถูกอํานาจลึกลับยับยั้ง”
เมื่อแนใจวาไมมีภยันตราย เสี่ยวสือฮาวก็กระโดดแลวดิ่งลงบนพื้น ลูกนกทั้งสามตัว
สงเสียงต่ํา บินรอนอยูกลางอากาศ ลําตัวเปลงแสง และรออยางพรอมเพรียงกันดวย
ลักษณะที่พรอมตอสูทุกเวลา
“ทะเลสาบแหงนี้เหือดแหงมาปกวาแลว มันคงไมไดไมดื่มไมกิน และถูกตรึงอยูในที่
แหงนี้มาโดยตลอดกระมัง?” เจาตัวเล็กตะลึงงัน
กนทะเลสาบแข็งอยางกับหิน ราวกับเหยียบย่ําอยูบนกอนหินไมมีผิด ในละแวกที่
สิ่งมีชีวิตยาวเพียงเซี๊ยะอยูนั้นมีหนังคลายกับดักแดอยู เพิ่งจะหลุดลอกออกมาเพียง
เล็กนอย
“หรือจะเกิดการแปลงกายขึ้นกับมัน และเพิ่งจะหลุดพนไดเพียงไมนาน ก็ถูกโคลน
ตรึงไว อยางนอยคงปสองปแลวกระมัง” สือฮาวเผยสีหนาประหลาดใจ
“เจี๊ยกเจี๊ยก...” สิ่งมีชีวิตที่มีสามหัวหกแขนรองเบาๆ แขนทั้งหกขางปดปายไปมา
พรอมกัน เพื่อขอของกินจากเสี่ยวสือฮาว
เจาตัวเล็กเปดยามออก ยื่นเนื้อแหงออกไปกําหนึ่งแลวกลาววา “เจาเปนสิ่งมีชีวิต
ประเภทใด ไยจึงถูกตรึงอยูที่นี่?”
สัตวประหลาดที่ยาวเพียงเซี๊ยะเดียวเหลือกตาโตกลม กินอยางตะกละตะกลาม
พลางคิดพินิจ สุดทายก็เผยสีหนานิ่งอึ้ง จนลืมกินอาหาร มันพยายามออกแรงขยี้หัวดวย
ความโกรธเกรี้ยว ราวกับไมพอใจกับตัวเอง
“เฮ เจาจะแปลงรางแลวจริงๆ หนังเกาหลุดอีกหนึ่งแผนแลว”
หนังเกาของสิ่งมีชีวติ ตัวนั้นติดอยูบนโคลนแหง หลังจากที่หนังของมันหลุดลอก
ออกมาจากแขนขางหนึ่ง ก็เผยขนที่สวางไสว และสองแสงระยิบระยับดุจแพรไหมสีทอง
งามตายิ่งกวาหนังเกาที่เปรอะเปอนฝุนผงนั้นเยอะเลย
มันออนแรงมาก เพิ่งฟนฟูไดไมนาน จึงไมสามารถถอนขาที่ถูกตรึงแนนนัน้ ออกมาได
อีกทั้งยังเผยอารมณหลากหลาย เกาหูเกาแกมอยางลุกลี้ลุกลน เหมือนพยายามจดจํา
อะไรบางอยางใหได
เจาตัวเล็กประหลาดใจ แขนเปลงแสงและสาดเทลําแสงดุจสายฝนอีกครั้ง หลั่งไหล
ลงบนตัวของมัน
“เจี๊ยกๆ...” มันรองเสียงหลงขึ้นมาโดยพลัน ราวกับถูกทําใหตกใจ รางกายสองแสง
พรางพราย ภายในมีอักขระลึกลับที่แหลกละเอียดแลวปรากฏแวบวับ จากนั้นหอหุมตัว
ของมันไว ทําใหไมสามารถตรวจสอบไดอีก
“หรือวามันจะไดรับบาดเจ็บสาหัส การแปลงรางจึงจะทําใหเจารอดมาไดอยางงั้น
รึ?” สือฮาวจองมองมัน รูสึกไดวา สิ่งมีชีวิตตัวนี้ไดรับบาดเจ็บสาหัส
“แควกๆ...”
สิ่งมีชีวิตที่มีรูปรางคลายวานรเปลงแสงโชติชวงขึ้นมาโดยพลัน รางกายปริแตก มี
เสียงดังแควกดังขึ้นเปนระลอก หนังเกาทั้งหมดหลุดลอกออกมา เผยรูปรางที่แทจริง
และในขณะนั้นเอง สามหัวหกขาของมันก็พรามัว และแปลงรางเปนหนึ่งหัวสอง
แขนอยางรวดเร็ว กลายเปนสภาพที่เปนปรกติ
“เฮ เกิดการเปลี่ยนแปลงแลว ที่แทนั้นก็เปนเคล็ดวิชาล้ําคาอยางหนึ่ง!” เจาตัวเล็ก
ตะลึง
หลังจากที่สะบัดหนังเกาทิ้งและเก็บเคล็ดวิชาล้ําคาแลว รางกายของมันสวางไสว ขา
ขางนั้นหลุดจากพันธนาการ มันสงเสียงรองเจีย๊ กๆไมหยุด และรางกายหดเล็กลง สูง
เพียงสามซุน
ชางนาตกใจ ทําไมถึงแตกตางกันถึงเพียงนี้? ราวกับเปนสิ่งมีชีวิตอีกตัวหนึ่ง มันตัว
กลมดิ๊ก ประดุจหมัดสีทอง หากออกแรงดันเพียงครั้งเดียว คาดวาจะเกลือกกลิ้งไปมา
ประหนึ่งลูกบอลสีทอง
แตก็ยังเหมือนวานรอยูดี เพียงแคเปลี่ยนรูปรางเปนกลม สีทองระยิบระยับ ใหญเทา
กํามือ ดวงตาคูนั้นเปนประกาย ไมเล็กกวาดวงตาของสือฮาวอยางแนนอน ทุกครั้งที่
กะพริบจะพนลําแสงสวยงามออกมา
“ชางนารักเสียจริง!” เพียงชั่วครู เจาตัวเล็กก็อุมมันขึ้นมาแลววางบนฝามือ ทั้งลูบ
ทั้งคลําจนมีแสงสีทองทะลักออกมา
“เจี๊ยกๆ...” ลูกบอลกลมสีทองดิ้นรนอยางสุดกําลัง ถลึงตาขนาดใหญขึ้น ปากสง
เสียงรองไมหยุด
“เจี๊ยก...อุบ!” เจาตัวเล็กยัดเนื้อแหงชิน้ หนึ่งเขาไปในปากของมัน เพื่อใหมันหยุดรอง
มันดูหิวโซราวกับผีอดตายเขาสิง กอดอาหารไวแลวกลิ้งไปมาบนฝามือของเขา จากนั้น
ฉีกกินอยางรวดเร็ว
สือฮาวกําหางของมันไวแนน ปรากฏวาลูกบอลสีทองเพิกเฉยตอทุกสิ่ง กอดอาหาร
ไวและแทะกินไมหยุด ไมไดสนใจเขาไมแมแตนิด
เจาตัวเล็กหัวเราะโดยพลัน เบิกบานใจ พลิกตัวมันไปมาเลนอยางสนุกสนาน
ในที่สุด ลูกบอกสีทองโมโห แตกลับไมใชเพราะเหตุนี้ แตเพราะกินอาหารจน
หมดแลว และพบวาเจาตัวเล็กไมรูตัว ไมไดเอาอาหารใหมันอยางตอเนื่อง
“ฮาๆๆ...” เจาตัวเล็กหัวเราะราอยางมีความสุข และยื่นเนื้อแหงใหมันอีกครั้ง
ปรากฏวาลูกบอลสีทองก็ไมสนใจสิ่งใด แมจะกําหางของมันขึ้นมาลูบคลํา หรือหิ้วหาง
ของมันขึ้นมาเขยา มันก็ไมสนใจ ใชอุงเล็บนอยๆ กอดอาหารไว กมหนากมตาแทะกิน
ตอไป
จื่อยวิ๋น ตาเผิง และเสี่ยวชิงตางอาปากคาง จากนั้นบินดิ่งลงมา ดวงตาจดจองไปที่
ลูกบอลสีทอง เผยแววตาประหลาดใจ เมื่อครู สิ่งมีชีวิตตัวนี้มีสามหัวหกแขน นั่นเปนถึง
เคล็ดวิชาล้ําคาชั้นสูงชนิดหนึ่งในตํานาน ที่ทําใหพวกมันตื่นตระหนกมาก แตตอนนี้ลูก
บอกกลมตัวนี้กลับนาหมั่นไส พอมีของกินก็ไมสนใจอะไรทั้งสิ้น
ไดสิ่งมีชีวิตตัวนี้มา ทําใหพวกเขาไมสามารถสัมผัสรองรอยบนสนามรบแหงนี้ไดแลว
เจาตัวเล็กกําหางของลูกบอลสีทองไว นั่งอยูบนหลังของจือ่ ยวิ๋น พุงตรงกลับหมูบานหิน
ผา
“วู...” สายลมรุนแรงกระเพือ่ มขึ้น ลูกนกทั้งสามทะยานลงสูทุงหญาเขียวสดริม
ทะเลสาบ เด็กๆ กรูกันเขามา ดวงตาฉายแววประหลาดใจ
“นี่คืออะไร ลูกวานรที่เพิ่งลืมตาดูโลกรึ ไยจึงเหมือนหลอมจากทองคําเลยละ หนัง
ขนสวางเจิดจาพราตา”
“มันชางกลมเสียจริง วางลงบนพื้นดินก็สามารถเกลือกกลิ้งได”
“วาว มันกินไดเยอะจริง ดึงหางมันมันก็ไมโกรธ เอาแตกมหนากมตากิน”
ทะเลสาบสวยงาม สีฟาเขมใสสะอาด หญาเขียวขจีบนฝง ที่หางไกลมีนกขนสีทอง
สวยสดงดงามกําลังยางเดิน และมีสัตวมงคลปรากฏกายอยูบอยครั้ง
เด็กๆ นั่งขัดสมาธิอยูบนผืนหญา จองไปที่สิ่งมีชีวิตตัวนี้ และปลอยเสียงหัวเราะ
ออกมาอยางไมหยุดหยอน
สุดทาย ลูกบอกสีทองก็ไถลเขาไปในยามหนังสัตวของเจาตัวเล็ก ปากก็เอาแตกินไม
หยุด มันกินเนื้อแหงถุงใหญจดหมดเกลี้ยง กระทั่งตอนนี้ พวกเด็กๆ ก็รูสึกถึงความไม
ชอบมาพากล
“โอสวรรค มันใหญเพียงกํามือ ไยจึงสามารถกินอาหารถุงใหญปานนี้ได ทองนอยๆ
นั่นรับไดหมดเลยหรือ?”
“นี่เปนวานรชนิดใดกัน?”
เสียงเอะอะโวยวายตรงนี้ดึงดูดความสนใจของพวกผูใหญ สือเฟยเจียวและคนอื่นๆ
พากันเดินเขามา
“มันไมใชวานร มันสามารถแปลงรางได ตอนที่พบครั้งแรก มันมีสามหัวหกแขน มัน
ยังลอกคราบเชนเดียวกับจั๊กจั่นสีทองอีกดวย” เจาตัวเล็กอธิบาย
“อะไรนะ สามหัวหกขารึ นั่นเปนถึงเคล็ดวิชาล้ําคาชั้นสูงในตํานานเชียวนะ!” สือ
เฟยเจียวตกตะลึง หลายปมานี้ เขาบําเพ็ญเพียรตามหัวหนาหมูบาน เขาเขาใจศาสตร
ลึกลับเพิ่มขึ้นมากมาย
“นาเสียดาย มันเกือบจะสิ้นใจแลว อักขระภายในรางกายแหลกละเอียด ไมสามารถ
ศึกษาไดแลว” เจาตัวเล็กกลาวอยางเสียดาย
ในตอนนี้เอง ผูอาวุโสที่มีอายุมากหลายคนตางก็ตกใจ คําวาสามหัวหกขา สะเทือน
จนเหลาผูเฒาอึ้งงัน สือยวิ๋นเฟงก็เดินมา ยอตัวนั่งลงแลวมองดูจากละเอียด
“เจี๊ยกๆ...” ลูกบอลสีทองโมโห สงเสียงรองไมหยุด เพราะกินอาหารจนหมดเกลี้ยง
แลว
เด็กคนหนึ่งโยนผลไมสีแดงกระแทกลงบนตัวมันดังปาบ ผลปรากฏวามันซื่อตรงมาก
มันกระดกกนขึ้น กมหนากมตาแทะกิน แลวแตวาใครจะเขามาเลนกับมันก็ได
“เจาของสิ่งนี้ไมธรรมดา!” หัวหนาหมูบานมองปราดเดียวก็สะดุงโหยง เผยสีหนา
เครงขรึม
“ทานผูเฒาขอรับ นี่เปนวานรชนิดใดรึขอรับ?” มีเด็กเอยถาม
“นี่ไมใชวานรธรรมดาทั่วไป” สือยวิ๋นเฟงพูดพลางยกขาสองขางของมันขึ้นมา
สังเกตอยางละเอียด ผูคนพากันจองตามไปดวย ตางก็ประหลาดใจเมื่อพบวา เทาคูนั้น
ของมันเปนสีชาด แดงประดุจเปลวไฟที่ถูกแผดเผา หากไมสังเกต ก็จะถูกขนสีทองบนขา
บดบังไว จําตองยกขึ้นมาจึงจะมองเห็น เทาของมันแดงดุจเพลิง งดงามเปนอยางมาก
“เปนสัตวในตํานานจริงๆ อยางนั้นหรือ?!” หัวหนาหมูบานอาวุโสตกใจจนมือสั่นเทา
รูสึกเหมือนกับวากําลังเผชิญหนากับสัตวดุรายไรเทียมทาน
“ทานผูเฒาขอรับ มันคืออะไร?” เสี่ยวสือฮาวเอยถาม
“ในตํานานบรรพกาล มีสัตวประหลาดไรเทียมทานชนิดหนึ่ง มีชื่อวา จูเยี่ยน รูปราง
เปนวานร มีขาสีแดง หัวสีขาว เพียงมันปรากฏกายก็ทํานายวา จะเกิดความจลาจล
วุนวายครั้งใหญ”
ฝูงชนตกใจจนสะดุงโหยง ถอยหลังอยางทนไมได ลูกบอลสีทองตัวนี้เหี้ยมโหดปานนี้
เลยรึ?
“มันคือ...อสูรบรรพกาลรึ?!” หัวใจเตนอยางรุนแรง นี่ทําใหคนตกใจกันอยูบาง
นอกจากจะมีเทพเจาปรากฏกายเทานั้น มิเชนนั้น ผูใดจะกําราบอสูรบรรพกาลไดเลา
“ไมใชสิ หัวของมันไมใชสีขาวนี่ขอรับ” เด็กขี้มูกโปงกลาว
“แนนอนวาไมใชอสูรบรรพกาล คงจะเปนทายาทตัวหนึ่ง บางทีโลหิตคงจะไม
บริสุทธิ์ ไมรูเพราะเหตุใด จึงไดรับบาดเจ็บสาหัสเชนนี้” หัวหนาหมูบานกลาว
แมจะเปนเชนนี้ แตก็ทําใหผูคนอกสั่นขวัญแขวน แมสายเลือดจะไมบริสุทธิ์ แตหาก
ไดรับสมญานามวาเปนทายาทอสูรบรรพกาล ก็เปนสิ่งมีชีวิตอันนากลัวที่สามารถเที่ยวใช
อํานาจบาตรใหญในดินแดนรกรางไดเชนกัน
มีเพียงอยางเดียวที่ทําใหพวกเขาโลงใจอยูบางก็คือ ลูกบอลสีทองตัวนี้ดูแลวไมมีภัย
ตอมนุษย เปนเพียงนักกินเทานั้น ไมมีพิษสงอะไร
ยิ่งกวานั้นคือ มันไดรับบาดเจ็บสาหัส อักขระภายในรางกายแหลกละเอียด
“นาเสียดายที่เคล็ดวิชาล้ําคาในตํานานสูญสิ้นไปพรอมกัน” หลังจากที่สงบลงแลว
คนทั้งกลุมตางก็รูสึกเสียดาย
“เอะ บนหัวของมันมีเขา” เจาตัวเล็กลูบหัวของมัน ไมเพียงแตไมพบผมหงอก อีก
ทั้งกลางขนสีทองมีเขางอกขึ้นมา นี่กลับไมเหมือนกับจูเยี่ยนเทาใดนัก
มีเพียงมองอยางละเอียดจึงจะเห็น เขาคูหนึ่งซอนอยูในหนังขนที่สองแสง
ระยิบระยับ ตองพินิจมองจึงจะมองเห็น นั่นเปนเขากิเลนคูหนึ่ง
บทที่ 54 แปรผันโลหิต
“เจาลิงบา จงหยุดบัดเดี๋ยวนี้!” ภายในหมูบานหินผา สตรีรูปรางสูงใหญกําลังไลตาม
ดานหนาคือลูกบอลสีทองที่มีขนาดเทากําปน ที่กําลังยกขาสัตวหนักรอยชั่งวิ่งหนีอยาง
จาละหวั่น ราวกับกําลังกลิ้งอยูบนพื้น ชางนาขัน และในขณะที่มันวิ่ง มันก็แทะกิน
อาหารอยางรวดเร็วไปพรอมกัน
สิ่งที่ยากที่จะเชื่อคือ มันสูงเพียงสามซุน ทวา ตอนที่มันวิ่งไปถึงหนาหมูบาน ขาสัตว
รมควันหนักรอยชั่งนั่นก็ถูกมันกินลงทองไปหมดแลว เหลือเพียงกระดูกชิ้นโต
“เจาลิงบา เจาไปบานอื่นไมไดรึไง ครึ่งเดือนมานี้นี่เปนครั้งที่หกแลวนะ!” สตรีวัย
กลางคนเปลงเสียงราวกับสิงโตคําราม แยงเอากระดูกที่ยาวครึ่งหมี่ กวามาฟาดลงที่
กะโหลกของมันไปหลายที
เสียงดังตูมขึ้น ประกายไฟกระเด็นรอบทิศ ราวกับฟาดลงบนหินโลหะ เกิดเสียงดัง
เครง เจาลูกบอลสีทองใหญเทากําปนตัวนี้ไรเดียงสา กะพริบตาปริบๆ ตีมันก็ไมตอบโต
ดามันมันก็ไมตอปากตอคํา
“ทานอาหู มันไมใชวานรนะขอรับ มันคือจูเยี่ยน” เจาตัวเล็กแกคํา อีกทั้งยังจับหาง
ลูกบอกสีทองไว แลวหิ้วมันขึ้นมา
“ไมผิดหรอก เกลียดมาก แมแตหมูก็ยังชิงชัง![1]” สตรีวัยกลางคนโกรธเกรี้ยว
จากนั้นก็ใชกระดูกเคาะไปทีหัวของมันอีกที ไมมีทางทําอะไรสิ่งมีชีวิตนี้ได มันแข็งดุจ
เหล็กกลา
“เสี่ยวจู ครึ่งเดือนมานี้ เจาขโมยไปทั่วหมูบานแลวนะ ทองนอยๆ ของเจายังไมอิ่ม
อีกรึ?” สือฮาวดึงหูของมันหลายตอหลายครั้ง
“เจี๊ยกๆ...” ลูกบอลสีทองประทวง มันไมพอใจกับคําเรียกเชนนี้
“ไมใชจูทแี่ ปลวาหมู แตเปนจูของจูเยีย่ นตางหาก หากวาเจาไมชอบละก็ อยางนั้น
ขาเรียกเจาวาลูกขน” เสี่ยวสือฮาวเอยพลางหัวเราะ ทําใหมันกลิ้งไปกลิ้งมาอยูบนฝามือ
ของเขา
จูเยี่ยนสีทองโมโห นี่มันชื่ออะไรกัน เปนทั้งหมู เปนทั้งลูกบอล มันไมชอบเอามากๆ
สือฮาวลูบคลํามัน ใตเสียงรองทวงของมัน พวกเขามายังริมทะเลสาบ เพื่อเตรียม
บําเพ็ญตน
ที่แหงนี้มีเด็กๆ อยูกอนแลว นั่งขัดสมาธิอยูบนผืนหญา ฝกฝนวิชาอักขระกระดูก
ดวยความตั้งใจจริง หลังจากหายนะครั้งใหญทที่ ําลายทุกอยางในรัศมีสิบหมื่นลี้จนสิ้น
ซาก กระทบกระเทือนพวกเด็กๆ เปนอยางมาก ทั้งหมดถูกปลุกปนความฮึกเหิม
อยากจะพยายามทําตนใหแข็งแกรง
“ลูกขนกอเรื่องอีกแลว เมื่อครูขาไดยินทานอาหูของบานหลินหูเปลงเสียงคํารามดุจ
สิงโต”
“ฮาๆ มีวันไหนที่มนั ไมกอเรื่องบางเลา ไมรูจริงๆ วาทําไมมันจึงกินไดมากเพียงนี้
ทองนอยๆ ของมันเหมือนหลุมไรกนเลย”
เด็กๆ ลุกขึ้นยืน หัวเราะแลวรุมลอมกันเขามา ลูบลําตัวของจูเยี่ยนสีทองที่กลมกลิ้ง
ตัวนั้น รูสึกเนื้อสัมผัสดีเปนอยางยิ่ง
“ครึ่งเดือนมานี่ เนื้อรมควันที่มันแอบกินคงมีน้ําหนักเทาชางเขามังกรแลวกระมัง?”
เมื่อเสี่ยวสือฮาวไดยินดังนั้นก็พยักหนาแลวพูดวา “สงสัยคงจะหิวกระหายมาก มัน
ถูกตรึงอยูในกนทะเลสาบมาปกวา ไมไดกินไมไดดื่ม มันกําลังฟนฟูพลังชีวิตแนะ
ทะเลสาบสีฟาเขมใสสะอาด มีปลาใหญสีทองกระโดดขึ้นอยางไมหยุดหยอน เด็กๆ
กลุมหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยูริมฝง เริ่มบําเพ็ญตนอีกครั้ง
ในหนึ่งปมานี้ พละกําลังของสือฮาวกาวหนาขึ้นอยางรวดเร็ว ราวกับดักแดกลายราง
เปนผีเสื้อ เพียงกําลังกายก็สามารถยกกอนหินที่หนักเกือบสามหมื่นชั่งไดแลว ตองเขาใจ
วา นี่เปนเพียงเด็กอายุหกขวบ เมื่อเขาเคลื่อนไหว ก็ทําใหชาวบานตกตะลึงกันทั้งหมูบาน
ยิ่งไปกวานั้น เขายังคงฝกอักขระกระดูก การหยั่งรูเขาขั้นลึกซึ้ง หากเติบโตดวย
ความเร็วเชนนี้ตอไป ยากที่จะจินตนาการวา เขาจะบรรลุถึงดินแดนใด!
การบําเพ็ญตนที่แทจริง ไมเพียงฝกฝนรางกาย แตยังตองหยั่งรูอักขระโบราณใหถอง
แท สัมผัสสัจธรรมของโลก มิเชนนั้น แมกําลังกายจะแข็งแกรงมากเพียงใด ก็ยากที่จะไต
ขึ้นสูจุดสูงสุดได
ขั้นสูงสุดของการบําเพ็ญตนที่แทจริง จะไมแบงรางกายกับอักขระกระดูก เมื่อฝกฝน
รางกายก็จะสรรสรางรองรอยลึกลับ และแปลงเปนวัตถุชิ้นเล็กละเอียด แทรกซึมเขาสู
เลือดเนื้อเปนหนึ่งเดียวกัน แตในการบําเพ็ญอักขระกระดูก กลับแปลงเปนแสงวิเศษ
บํารุงบมเพาะเลือดเนื้อ และหลอมรวมเปนหนึ่ง
ภายหลัง มนุษยก็คอยๆ ตระหนักถึงสิ่งเหลานี้ ดังนั้น ในขั้นแรกของการฝกตน
พยายามไมใหเลือดเนื้อและอักขระแยกจากกัน กลายเปนหนึ่งเดียวกัน แลวเขาสูหนทาง
แหงการบําเพ็ญตน
แนนอนวา หนทางนี้ยากลําบากมาก หมูบานที่มีคนนับรอย หรือแมแตเมืองใหญที่มี
คนนับพัน พบคนที่เขาสูหนทางบําเพ็ญตนไดยากมาก
ขั้นแปรผันเลือด[2] เปนขั้นแรกของการกาวเขาสูหนทางบําเพ็ญตนอยางแทจริง
โดยปกติแลว พบเพียงคนเดียว ในชนเผาใหญมีประชากรนับหมื่นก็ถือวาดีมากแลว
เพราะเงื่อนไขอันเลวราย หนทางแหงนีจ้ ึงยากลําบากมาก
ดินแดนแปรผันเลือดนี้ จําเปนตองเคลื่อนไหวพลังปราณและเลือดลม ใหไหลเวียน
ราวกับสายฟา หลอมรวมอักขระกระดูก เพื่อใหโลหิตปลอยแสงวิเศษ จากนั้นซึมซับพลัง
จากสรรพสิ่ง เพื่อบมเพาะรางกาย
พูดงายๆ ก็คือ ดินแดนแปรผันเลือดก็คือ เลือดและอักขระหลอมรวมกัน กลายเปน
แสงวิเศษ จากนั้นบมเพราะรางกาย เพื่อชวงชิงพลังจากสรรพสิ่งในโลกหลา ทํารางกาย
ใหแข็งแกรง และบรรลุการบําเพ็ญตนในที่สุด
พลังทําลายลางในชวงเริ่มตนของดินแดนแปรผันเลือดก็นาตกตะลึงแลว สามารถ
ปราบสือหลินหู สือเฟยเจียวผูที่แคตวัดแขนก็มีพละกําลังถึงหาหกพันชั่งไดอยางงายดาย
หากจะวัดจากตัวเลขแลวละก็ ในขั้นแรกของดินแดนแปรผันเลือด จะมีพลังทําลาย
ลางอยางนอยแปดพันชั่ง!
เจาตัวเล็กเองก็หลอมอักขระใหรวมเปนหนึ่งเดียวกับเลือดเนื้อ แปลงเปนแสงวิเศษ
ราวกับเตาไฟวิเศษอมตะที่ซึมซับพลังของฟาดินอยางไมสิ้นสุด จึงจะถือวาเขาสูดินแดน
แปรผันเลือดอยางแทจริง
ผูที่แข็งแกรงดุจสือหลินหูและสือเฟยเจียว ก็ไมสามารถนับวาอยูในดินแดนนี้ได
เพราะมันยากเกินไป ในชนเผาที่มีคนนับหมื่น มีเพียงหนึ่งคนที่สามารถขามขั้นนี้ไดก็ถือ
วาไมเลวแลว
และในขั้นกลางของดินแดนแปรผันเลือดจะมีพลังทําลายลางถึงสองหมื่นชั่ง สําหรับ
ขั้นสูงสุดนั้นกลับยิ่งนาตกตะลึง สามารถระเบิดพลังวิเศษถึงหาหมื่นชั่ง สามารถ
อาละวาดในดงสัตวรายขนาดใหญไดอยางงายดาย!
แมวาในชนเผาประชากรนับหมื่น จะมีคนที่เขาสูดินแดนแปรผันเลือด แตอยางไรก็
ไมสามารถบรรลุขั้นสุดทายและระเบิดพลังที่นาตกตะลึงนั้นออกมาได
เจาตัวเล็กอายุเพียงหกขวบ แคเพียงกําลังกายก็สามารถยกกอนหินหนักสามหมื่นชั่ง
ได หากรวมพลังวิเศษของอักขระในเลือดเนื้อเขาไป ก็จะมีพลังอันนาตะลึง ถือไดวาเปน
ขั้นสูงสุดของดินแดนแปรผันเลือด
ระยะสองปมานี้ สือฮาวกาวหนาอยางรวดเร็วมาก ตํารากระดูกที่หัวหนาหมูบาน
สะสมไวทั้งหมด ถูกเขาศึกษาจนถองแท บรรลุผลขั้นลึกซึ้ง เขาบรรลุขั้นสุดและใกลจะ
หลุดพน และกาวเขาสูอีกดินแดนหนึ่ง
สือยวิ๋นเฟงไมใหเขาทําเชนนั้น เพราะความเร็วในการบําเพ็ญของเจาตัวเล็กรวดเร็ว
เกินไป อายุยังนอยก็เดินทางไปทุกหนแหงที่คนทั่วไปไมสามารถทําได นี่เปนสิ่งที่นา
เหลือเชื่อ เขาคิดวา เขาจะใหเจาตัวเล็กสรางพื้นฐานใหมั่นคงกอนในระยะนี้ รอวันเทพ
เจาหลิวฟนคืนแลวคอยขอคําแนะนําจากมัน
ในระยะนี้ เจาตัวเล็กพลิกตํารากระดูกจนจวนจะฉีกขาดแลว ไมมีสิ่งใดใหศึกษาแลว
ทําไดเพียงคนควาและศึกษาดวยตนเอง
นอกจากนี้ เขาก็กําลังศึกษาเคล็ดวิชาล้ําคา เปนอักขระโบราณของอสูรปกษาบรรพ
กาล และพลังเทพเจาของซวนหนี ก็เพียงพอที่จะทําใหชนเผาใหญที่มีคนนับหมื่นเกิด
ความอิจฉา
ยามตะวันจวนจะลาลับขอบฟา แสงสายัณหยอมฟากฟาจนเปนสีแดง ทะเลสาบยิ่ง
สวยงามมากขึ้น วิหคประหลาดกระโดดโลดเตนอยูกลางวารี เพียงชั่วพริบตาก็เกิดความ
วุนวายขึ้น วิหคใหญทั้งหลายตางกระพือปก แผดเสียงรองไมหยุด
กลางพืชน้ํา มีไขขนาดเทาหัวคนกลิ้งไปกลิ้งมาอยางรวดเร็ว และหางไกลออกจาก
บริเวณนั้น มีลูกบอลสีทองมีขนปุกปุยลากมันเขามา
เด็กๆ จองแลวอาปากคาง จูเยี่ยนสีทองขโมยไขของวิหคใหญมา เหลานกกระเรียน
ขนแดงยาวเกือบเมตร ที่มีสีแดงเพลิงทั่วทั้งตัว แผดเสียงรองอยางโกรธาอยูตรงนั้นอยาง
ไมหยุดหยอน
“เหมาฉิว[3] แมวาไขชนิดนี้จะอรอยมากเมื่อปรุงสุกแลว แตไมถือวาเปนยาบํารุง ไป
เอาไขของนกหลวนนอยมาดีกวา นั่นแหละจึงจะเรียกวาของดี” เด็กขี้มูกโปงชี้ทาง ตัว
เล็กแตกลับซุกซนมาก
“เจี๊ยกๆ...” เหมาฉิวสงเสียงรอง แปลงรางเปนแสงสีทอง สิ้นเสียงมันก็หายวับไปกับ
ตาอยางรวดเร็ว
เพียงไมนาน กลุมนกหลวนที่อยูกลางพืชน้ําตรงริมทะเลสาบก็สงเสียงรองอยางโกรธ
เกรี้ยว กระพือปกรุนแรงจนละอองน้ําสาดกระเด็น ระบายความโกรธออกมาจากภายใน
ลูกบอลสีทองขนาดเทากําปนมีประสิทธิภาพสูง เพียงชวงเวลาสั้นๆ ก็ขโมยไขมาได
ยี่สิบกวาฟอง หากไมถูกสือฮาวสั่งหาม มันก็ยังคงทําตอเนื่อง
“ชางหอมหวานเสียจริง!” เด็กๆ กอกองไฟขึ้น และปงไขอยูริมทะเลสาบ
เพลิดเพลินกับอาหารเริศรสไปพรอมกับเหมาฉิว
แมวาไขจะมีไมมาก แตสดมาก เปนยาวิเศษบํารุงรางกาย พวกเขากินกันอยางมี
ความสุขมากแตก็รอนอยางกับไฟคลอก ลูกบอลสีทองเองก็ไมเห็นแกกิน แบงปนอาหาร
ใหพวกเขาดวยความเต็มใจ
แตวาดวงตาโตของมันกลับเกลือกกลิ้งไปมา มันเริ่มครุนคิดวา เย็นวันนี้จะไป
สังเกตการณตามบานเรือนของเด็กเหลานี้ คงจะไมทําใหมันขโมยไขมาอยางเปลา
ประโยชนหรอกนะ?
มานรัตติกาลมาเยือน ตนหลิวหนาหมูบานกระจายรัศมีแสง แผปกคลุมทั่วหมูบาน
จนมิด เฉกเชนเดียวกับตอนที่อยูในเทือกเขากวางใหญนนั่ จะเปนเชนนี้ทุกค่ําคืน
เพียงแคหนึ่งปกวามานี้ มันเขาสูภาวะจําศีลที่เพิ่งจะสิ้นสุดลง
“ทานเทพหลิวฟนแลว!” ชาวบานรองเฮฮา
ในตอนนี้เอง จูเยี่ยนขนลุกขนชันไปทั่วราง ดวงตาเบิกกวางจนกลมอยางตื่น
ตระหนก จดจองไปที่กานออนเขียวชอุมบนลําตนดําเกรียมนั่นอยางไมลดละ
“ซิ่ว”
จูๆ มันก็บันดาลโทสะ กระโจนขึ้นไปบนตนหลิว จะไปกัดกานออนนั่น สัมผัสไดถึง
พลังศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มเปยมจนนากลัว และแฝงไวดวยพลังชีวิตที่แข็งแกรงที่สุด
“เหมาฉิว อยา!” สือฮาวตะโกนลั่น
กานหลิวเขียวชอุมโนมลงมารัดเหมาฉิวไวแนน จากนั้นยกลิ่วขึ้นกลางอากาศ หากไม
เพงมอง ก็คิดวามันลอยขึ้นเอง เหตุการณไมคาดฝนเชนนี้ทําใหมันตกใจจนตาเหลือก
กระเสือกกระสนอยางสุดกําลัง
เจาตัวเล็กอธิบายอยางกระวนกระวายวา “ทานเทพหลิว ทานอยาไดถือสามันเลย
แมวามันจะเปนทายาทอสูรบรรพกาล แตอักขระในรางกายแหลกละเอียดหมดแลว และ
อาจจะลืมอดีตจนสิ้นแลวก็เปนได”
ผานไปเนิ่นนาน เทพเจาตนหลิวจึงคลายลง เห็นไดชัดวามันใสใจจูเยี่ยนสีทองตัวนี้
มาก แตกลับไมไดพูดอะไรใหมากความ
หลังจากที่เหมาฉิวหลุดออกมาไดก็สงเสียงหลง กลิ้งหลุนๆ ลงมา และกระโดดขึ้นไป
บนไหลของสือฮาว หลบอยูดานหลังเสนผมของเขา กะพริบตาปริบๆ จองไปยังตนหลิว
ตนนั้น และไมกลาเคลื่อนไหวอยางบุมบามอีก
ชาวบานทั้งหมดตางก็มายังที่แหงนี้ เซนไหวอยางจริงจัง ดวยศรัทธาอันแรงกลา
แสดงความเคารพจากใจจริง
สุดทาย หัวหนาหมูบานลองเขาไปขอคําแนะนํา เอยเลาถึงผลลัพธของการบําเพ็ญ
ตนของเจาตัวเล็ก เพื่อสอบถามตนหลิววาควรจะทําอยางไรตอไป
ไมมีใครคาดคิดวาตนหลิวจะตอบกลับมาวา “เมื่อครั้งบรรพกาล อสูรที่แข็งแกรง
ที่สุดเหลานั้น อาทิโหวเลือดบริสุทธิ์ และนกครุฑ ทายาทรุนหลังของพวกมัน สามารถยก
โลหะศักดิ์สิทธิ์หนักสิบหมื่นชั่งไดตั้งแตวัยเยาว”
“โอ!”
ทุกคนตางตะลึงพรึงเพริด นี่ชางเขยาขวัญเสียจริง
เทพเจาตนหลิวเปนผูดํารงอยูถึงขั้นใด มันไมกลาวเท็จอยางแนนอน เชื่อถือได
มากกวาตํานานที่พวกเขาเคยไดยินมา เพียงแตวาเรื่องราวนี้นากลัวเกินไป
“นั่นเปนเพียงพละกําลังของรางกายเพียงเทานั้น ไมไดใชเคล็ดวิชาล้ําคาขั้นสูงที่มี
เฉพาะในเผาพันธุของมันอีกดวย” เทพเจาตนหลิวพูดเสริม
พญาครุฑ โหวเลือดบริสุทธิ์ อสูรบรรพกาลสะทานฟาเชนนี้ ไมตองคิดก็รูวาเคล็ด
วิชาของพวกมันยกยองไดวาเหนือโลก ไรเทียมทาน!
ผูคนทั้งหมดตางนิ่งอึ้ง ไมสามารถเอยคําใดได
“ฉะนั้น เจาอยาเรงบรรลุ พยายามใชชวงเวลาอันสั้นนี้ ทําใหกําลังของเจาเขาสู
ขอบเขตของสิบหมื่นชั่งนั่นกอน นี่จะเปนประโยชนตอเจายิ่งนัก” ตนหลิวเอยเตือน
ชาวบานตางอึ้งงัน เห็นไดชัดวาเทพเจาตนหลิวเฝาดูเจาตัวเล็กอยู เอยคําพูด
มากมายเพื่อเขา มากกวาเมื่อสิบปที่แลวรวมกันเสียอีก
“ขาจะพยายามขอรับ!” เจาตัวเล็กกะพริบตาปริบๆ กําหมัดจนแนน จากนั้นก็เอย
ถามอยางกลัวๆ วา “ทานเทพหลิวขอรับ ชวยใหขามองเห็นเรื่องราวในจิตใตสํานึกของ
ขาไดหรือไม ขาอยากรูวาครั้งนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน”
เขากังวลมาก กลัวความจริงที่นาสลดใจ แตกลับตองการรูผลลัพธนั้นเปนอยางมาก
อยากรูเรื่องราวที่ผานไปใหกระจาง
“ไดสิ” ตนหลิวตอบกลับเขาอยางกระชับ
..............................
[1] เปนการเลนคําของคําวา จูเยี่ยน ซึ่งเปนชื่อของอสูรบรรพกาล แตในที่นี้คําวา จู
แปลวาหมู เยี่ยน คือ ชิงชัง สตรีคนนี้จึงพูดดวยความโมโหวา จูเยี่ยน คือสิ่งที่แมแตหมูยัง
ชิงชัง
[2] ขั้นแปรผันเลือด เปนขั้นหนึ่งของการบําเพ็ญตน
[3] เหมาฉิว ชื่อเรียกของจูเยี่ยน แปลวาลูกขน
บทที่ 55 ประวัตชิ ีวิต
ตนหลิวสีดําเกรียม ลําตนกระจายหมอกขมุกขมัว แผขยายออกสูดานนอก ราวกับ
ครั้งบรรพกาล เสมือนวาทั้งผืนแผนดินเงียบสงัด ทุกสิ่งทุกอยางเหมือนอยูในชวงเวลา
กอนการสรางโลก
ผูคนทั้งหมดตางหวาดกลัว อดีต มีเพียงกานหลิวเปลงประกายเพียงกานเดียว
ตอนนี้ ลําตนที่หักโคนก็เกิดการเปลี่ยนแปลง มีภาพที่นากลัวเชนนี้เกิดขึ้น ทําใหพวกเขา
ถอยหลังไปโดยไมรูตัว
“เจี๊ยกๆ...”
เหมาฉิวที่มีขนาดเทากํามือกลับกระโจนออกไป ลําคอเปลงเสียงรองไมหยุด
เกือบจะตกลงในทะเลสาบ ดวงตาโตของมันเบิกกวาง จองมองจากที่ไกลๆ
ชาวบานก็ถอยออกจากที่นั่น ตรงหนาหมูบานเหลือเพียงเจาตัวเล็กคนเดียว ซึ่งถูก
หมอกนั่นคอยๆ ปกคลุมตัวเขาไวขมุกขมัว ไมสามารถมองเห็นสิ่งใดได
เสี่ยวสือฮาวไมขยับเขยื้อน ประหนึ่งยืนอยูสุดขอบโลก กลิ่นอายความรกรางเนือง
แนน ภาพที่เคยมองเห็น แตกลับจําไมไดเพราะความเยาววัย และซอนอยูในจิตใตสํานึก
ปรากฏขึ้นตรงหนา
“เมื่อครั้งบรรพกาล เผาพันธุมนุษยเพิ่งเริ่มตน ราชาแหงสวรรคบันดาลกฎ ศีลธรรม
จรรยาระหวางคนก็แพรไปทั่ว ธาตุทั้งหาเคลื่อนไหว บําเพ็ญตนตามตําราอักขระเพื่อเขา
สูขั้นเซียน...”
เสียงใหญดังสะทานฟา เครงขรึมและจริงจัง นี่เปนภาพดั่งเทพนิยาย
แทนบูชาขนาดใหญตั้งตระหงานสูงทะลุเมฆ แผกลิ่นอายเกาแกและผานการใชงาน
มาอยางโชกโชน ราวกับดํารงอยูมาเนิ่นนานลานๆ ป ประดับดวยภาพวาดเกาแก
หลากหลายชนิด มีตะวัน จันทรา ดวงดาว วารี ทั้งอสูรบรรพกาล บรรพบุรุษ และเทพ
เจา นาเกรงขามเปนอยางมาก
แทนบูชาใหญโตโออา ยิ่งใหญไรที่สิ้นสุด สูงล้ํากวาภูเขา ถูกรายลอมดวยชั้นเมฆ
ดานบนมีซากรางกายของทายาทอสูรบรรพกาลวางอยู เลือดสดหลั่งรินไหลลงไปตาม
ภาพวาดเหลานั้น นอกจากนี้ยังมีของวิเศษประหลาด โอสถทิพยที่พบเจอไดยาก...ทั้ง
ประเทศแหงนี้บูชาสวรรค!
พระอาทิตยสีทองดวงหนึ่งกระจายกลิ่นอายอันทรงพลัง พราตาจนลืมตาไมขึ้น ตรง
กลางมีเงานากลัวยืนตระหงาน สองสวางไปทั่วฟากฟา ราวกับจักรพรรดิแหงสวรรคองค
หนึ่ง ซึ่งสอดสองดูแลสวรรคและปฐพี พลังปราณสีทองแผออกดานนอกอยางเปน
ธรรมชาติ กอใหเกิดปรากฏการณมหัศจรรย
นี่เปนราชันแหงประเทศเกาแก ปกครองแผนดินนับลานๆ ลี้ และในวันนี้กําลังไหว
สวรรคดวยตนเองดวยความเอาจริงเอาจังอยางหาที่เปรียบไมได
ดานหลังของเขาเปนเหลาผูกลาของราชวงศ แตละคนทรงพลังอยางนากลัว ชวง
ดวงตากะพริบดุจลําแสง ดานหลังเปนสามนตราช[1] และเหลาขุนนางจํานวนมากเหลือ
คณานับ
เพียงกลุมคนเหลานี้ก็มีจํานวนนับหมื่น มาจากประเทศราชที่แตกตางกัน แตละคน
เปนผูกลานากลัวที่ทรงพลังในแถบนี้ กระจายกลิ่นอายสะเทือนแผนดิน
ทางดานหลังเปนกองทัพที่มากมายไรที่สิ้นสุด ไรขอบเขตอยางแทจริง ไมรูวามี
จํานวนเทาไหรกันแน ทําใหบริเวณนี้แนนขนัด แมจะยืนอยูบนแทนบูชาก็มองไมเห็นสุด
ขอบ
ฟากหนึ่งเปนสามนตราชที่ปกครองประชากรนับลาน ไมมีบุคคลธรรมดาแมแตคน
เดียว แตกลับมีขุนนางชั้นสูงรวมตัวกันมากเพียงนี้ แมวาพวกเขาจะควบคุมกองทัพ
บางสวนมาทําพิธีไหวสวรรค แตนั่นก็นาตะลึง
บูชาสวรรคทั้งประเทศ ชื่อเสียงบารมียิ่งใหญอยางที่ไมสามารถจินตนาการได ราว
กับอยูในเทพนิยาย!
อีกฟากหนึ่ง มีครอบครัวของบุคคลสําคัญ ตางก็เขารวมพิธีบูชาสวรรคที่ยิ่งใหญครั้ง
นี้ดวย อาบแสงศักดิ์สิทธิ์ดุจมหาสมุทรกวาง หนึ่งในนั้นมีสตรีสาวผูหนึ่งอุมทารกที่ยังอยู
ในหอผา เด็กทารกยิ้มอยางอารมณดี ยื่นมือเล็กๆ นั้นออกมาอยางไมหยุดหยอน ดวง
ตาโตของเขาคลายกับเสี่ยวสือฮาวมาก
ณ ใตตนหลิว เจาตัวเล็กสะดุงออกจากภวังค
ภาพเหตุการณที่บูชาสวรรคเลือนหายไป และภาพอื่นเขามาแทนที่
ทะเลสาบกวางใหญสีฟาเขมใสสะอาด สวยงามอยางไมมีที่เปรียบ จิตวิญญาณ
เขมขนไมเหือดหาย เหมาะแกการบําเพ็ญตนเปนอยางมาก เหลาสัตวประหลาดมากมาย
ปรากฏขึ้นริมทะเลสาบ และไมขาดทายาทอสูรบรรพกาล
คนทั่วไปไมกลาเขาใกลทะเลสาบวิเศษเชนนี้
ที่หางไกลมีมาศึกนับหมื่นตัว บนตัวของสัตวประหลาดแข็งแกรงมีทหารชุดเกราะเงา
วับ ชูขวานศักดิ์สิทธิ์ขึ้นฟา สองแสงโลหะเยียบเย็นระยิบระยับ พรอมกลิ่นอายความนา
ยําเกรง พวกเขาไมขยับเขยื้อน ทําหนาที่ระแวดระวังภัยใหกับขุนนางที่ลาสัตวอยู
ดานหนา
มีทายาทอสูรปรากฏขึ้นที่ริมฝงทะเลสาบวิเศษ และมีทายาทปกษาเทพเจาอาศัยอยู
เปนอาณาเขตตองหามที่คนทั่วไปไมสามารถเขาใกลได มิเชนนั้นจะเกิดการเขนฆากัน
แตขณะนี้กลับมีคนนับรอยกําลังชมทัศนียภาพ และลาสัตวอยางไรซึ่งความกลัว แต
ละคนมีพละกําลังทวมทนทองฟา แข็งแกรงจนผูคนสะเทือน!
อสูรปกษาที่มีขนสวางและสวยสดงดงามอาศัยอยูในทะเลสาบวิเศษถูกคนรบกวน
เขา จึงเดือดดาลโดยพลัน แตละตัวยาวหกเจ็ดเมตร มีขนสองแสงสวางทั้งลําตัว ราวกับมี
เปลวไฟวิเศษกําลังแผดเผา
โดยเฉพาะราชันแหงปกษาตัวหนึ่งในนั้น มีขนาดลําตัวเกือบสิบแปดเมตร ทั้งลําตัวมี
แสงวิเศษหาสีไหลเวียนอยู ขนนกงดงามจนนาตะลึง รายลอมดวยแสงวิเศษ แข็งแกรง
จนมาศึกนับหมื่นที่อยูอีกฟากสั่นเทิ้ม
มันแผดเสียงรองยาวแลวปลอยแสงวิเศษออกมาพวยพุงขึ้นสูทองฟา นากลัวจนมา
ศึกจํานวนมากลาถอย อิทธิฤทธิ์ของมันสะเทือนจนทะเลสาบวิเศษสั่นไหว
“ฮาฮา... นกหลวนชั้นเลิศเชียวละ คาดไมถึงวาจะเปนทายาทอสูรที่แข็งแกรงถึง
เพียงนี้ ภายในมีเลือดของปกษาเทพเจาบรรพการไหลเวียนอยู ชางเปนยาวิเศษที่หายาก
ยิ่ง มาดูกันวาขาจะสังหารมันไดอยางไร!” ชายชราผูหนึ่งหัวเราะลั่น
มันนําคันธนูใหญทเี่ ปนสีดําออกมา และสายธนูที่ทํามาจากเอ็นของเจียว ทั้งคันธนู
แผกลิ่นอายความสลดออกมา งางคันธนูขึ้นลูกศรจนเปนรูปรางจันทรเต็มดวง และเล็ง
ขึ้นสูทองฟา
“ชริ้ง”
เมื่อลูกศรดามนี้ถูกปลอยออกมา ราวกับเจียวหลงตัวหนึ่งพุงทะลุฟา เกิดเสียงลม
และสายฟาคํารามเปนระลอก พรอมกับปลอยลําแสงทวมทนทองฟา พัดโบกแสงวิเศษ
มากมายนั่น พุงไปยังนกหลวน
กลางฟากฟาระเบิดสายฟาหนึ่งเสนขึ้นกะทันหันจนเกิดเสียงดังครืน ลูกศรและ
ทายาทอสูรปกษาตัวนั้นปะทะเขาดวยกัน ระเบิดแสงสวยงามออกมาอยางมากมาย
กลายเปนพายุทรงพลัง
เสียงรองดวยความโกรธดังขึ้น ทายาทอสูรที่แข็งแกรงถึงเพียงนี้กลับไดรับบาดเจ็บ
ไมกลาจูโจมอีกตอไป แปลงรางเปนแสงวิเศษหาสีพุงขึ้นสูชั้นเมฆเพื่อหลบหนี
“ไปไหนแลว!” ชายชรางางคันธนูอีกหน ลูกศรวิเศษถูกปลอยออกมาอีกดาม วาด
เสนวงกลมนากลัวออกมาหนึ่งสาย ลําแสงทะลุขึ้นทองฟา หายเขาไปในกลีบเมฆ สิ้น
เสียงผลุบสายเลือดแตกกระเด็น นกหลวนรวงลงบนพื้น
“เจาสิบหา คิดไมถึงวาศาสตรธนูของเจาจะมหัศจรรยเยี่ยงนี้ ลูกศรเพียงสองดามก็
ยิงนกหลวนแข็งแกรงรวง หากเปนผูอื่น ไมวาอยางไรก็จะตองผานศึกครั้งใหญมากอน
วิธีการเชนนี้จะตองสะเทือนเมืองหลวงเปนแน” ชายชราผูมีอายุมากกลาวชื่นชม
ชายชราที่สังหารทายาทอสูรบรรพกาลหัวเราะลั่น จากนั้นก็ใชดาบสีเงินผารางกาย
ของทายาทปกษาเทพเจาดวยตนเอง เพื่อหลั่งเลือดทรงคุณคาที่หายากนักออกมาจน
เกือบครึ่งถวยใหญ เลือดเพียงครึ่งถวยนี้มีสารสําคัญของปกษาเกือบครึ่ง
เขายางเดินกาวใหญไปยังคูส ามีภรรยาวัยหนุมสาว บุรุษรูปรางใหญ สตรีรูปโฉม
งดงาม อุมเด็กทารกที่ยังอยูในผาหอตัว
“หลานรัก ลองชิมโลหิตล้ําคาของปกษาเทพเจาสักหนอย ภายภาคหนาเจาจะตอง
แข็งแกรงกวาปูและบิดาของเจาเปนแนแท” ชายชรานําตะเกียบหยกออกมาขางหนึ่ง จิ้ม
เกร็ดเลือดที่ระยิบระยับขึ้นมา ปอนเขาไปในปากของทารก
“ทานพอ ฮาวเออรยังเด็กถึงเพียงนี้ จะไหวรึขอรับ?” สามีภรรยาหนุมสาวตองการ
หามปราม
“มันไมมีผลรายหรอก!” ชายชราโบกมือ จากนั้นก็ปอนเลือดของปกษาเทพเจาเขา
ไปอีกหลายหยด และทารกคนนั้นก็ไมตอตาน ออกแรงดูดกิน ดวงตาเปนประกายและ
ยิ้ม จนฝูงชนที่มองดูอยูตางก็ประหลาดใจ
“สายเลือดกษัตริยของพวกเรา ในชาตินี้ชางรุงโรจน มีผูกลามากมาย และเจาเด็ก
คนนี้คงไมดอยไปกวายี่เออรนักหรอก ไมแนวาในภายภาคหนาอาจจะกําราบแปดทิศ
สยบแตละชนเผาใหญได” ชายชราที่มีอายุมากกวาเอย
หากพูดถึง ‘ยี่เออร’ ชื่อนี้ คนทั้งหมดตางก็มองไปยังเด็กคนหนึ่ง เผยรอยยิ้มรักใคร
และหวงใย เพราะวาเขาไมคอยธรรมดา เขาเกิดมาพรอมกับลูกตาดําสองดวงในหนึ่ง
ดวงตา นี่เปนลักษณะแปลกประหลาดของผูวิเศษครั้งบรรพกาล
เด็กอายุประมาณสามขวบยืนอยูที่ไมไกลนักกําลังมองมาทางนี้ แมวาเขายังเยาวนัก
แตกลับสุขุมและหนักแนน ลูกตาทั้งหมดสี่ลูกสองประกายวิเศษ มีความนาเกรงขาม
อยางหนึ่งเห็นอยูรําไร และขัดตออายุของเขา
ครั้นอดีตกาล ผูที่มีลูกตาดําสองดวงถือเปนผูวิเศษ เปนเทพเจา และคนที่เคยปรากฏ
ตางก็เปนบุคคลเหนือโลกที่สะทานฟา สะเทือนโลกา
เมื่อสือยี่เกิดมาก็พบวามีลูกตาดําสองดวงแลว กอใหเกิดความตกตะลึงขึ้นในตระกูล
คนทั้งหมดตางก็คาดหวังในตัวเขา และความเปนจริง เขาก็ไมธรรมดาอยางแทจริง มี
พรสวรรคที่ฟาประทาน เรียนรูทุกอยางไดเร็ว และหางไกลจากคนวัยเดียวกันมาก
“แมวาพวกเราจะมีสายเลือดแหงกษัตริย แตเกิดในวงศตระกูลของกษัตริยภายใน
กายยอมมีสายเลือดแหงกษัตริย ตามกฎมณเฑียรบาล สามารถชวงชิงบัลลังกกษัตริยได”
ชายชราคนหนึ่งกลาว
ฝูงชนมองไปที่สือยี่อีกครั้ง ดวยคาดหวังในตัวเขาเปนอยางมาก!
“ออแอ...” ทารกที่อยูในผาหอตัวรองเบาๆ ใบหนาแดงก่ํากําลังยิ้มใหฝูงชน ดวย
ทาทางไรเดียงสา
คนทั้งหมดตางก็เผยรอยยิ้ม ชายชราคนหนึ่งกลาวา “แนนอน สือฮาวของเราเปน
เด็กดี ไมธรรมดา วันขางหนาจะตองเปนมือขวาของพี่ชายเจาที่จะเปนกษัตริยแหง
ดินแดนนี้เปนแน”
“เรามีลูกหลานมากมายเพียงนี้ คงไมมีใครถูกสั่งใหไปยังดินแดนรกราง ไปเปน
กษัตริยปกครองที่นั้นหรอกกระมัง?” มีคนพูดหยอก
พวกเขารูดี ในดินแดนรกรางที่แสนไกลโพนมีกษัตริยที่แตงตั้งขึ้นเอง ไมใชการ
แตงตั้งโดยประเทศเกาแก ทั้งสองคนไมสามารถเอยเรื่องนี้พรอมกันได!
“ผูคนเพียงสิบลานกลาเรียกวากษัตริยอยางนั้นรึ? ใชอํานาจบาตรใหญใหดินแดนรก
ราง ขุดรีดประชาชน ไมมีใครสนใจใยดี เปนเพียงการแตงตั้งดวยตนเองเทานั้น ไมรูฟาสูง
แผนดินต่ํา กษัตริยที่แทจริงที่ไหนบาง ที่ไมใชผูกลาปกครองประชานับลานๆบางเลา
ครอบครัวที่อยูใตอํานาจ เพียงเดินออกไปก็สามารถทําลายชนเผาที่มีคนนับสิบลานได
อยางงายดาย”
ภาพแปรเปลี่ยนอีกครา ทะเลสาบสวยงามเลือนรางพรามัวในพริบตา
เมืองจักรพรรดิสูงตระหงาน โออามโหฬาร ราวกับกําแพงศักดิ์สิทธิ์ที่ลงมาจาก
สวรรค พื้นที่กวางขวาง ประชากรมากเหลือคณานับ เพียงกําแพงเมืองก็เหมือนทิวเขา
ทอดยาวไมสิ้นสุด ยิ่งใหญจนนาตื่นตะลึง
“ทานปูสิบหาสังหารทายาทอสูรบรรพกาลปเซี๊ยะในสงครามรอยเผา ไมรูวาไยจึง
สะเทือนแปดทิศถึงเพียงนี้ นําไปภัยครั้งใหญ!”
มีสาสนถูกสงกลับมา กอเกิดการถกเถียงกันอยางดุเดือด
“มีขาวที่แนนอนแลว นั่นเปนลูกสัตว แตกลับแข็งแกรงกวาทายาทอสูรบรรพกาล
มาก คาดวาจะมีปเซี๊ยะโตเต็มวัย ที่มีสายเลือดคอนขางบริสุทธิ์เขารวมสงครามรอยเผา
เสียแลว!”
เมืองจักรพรรดิสั่นสะเทือน
..............................
[1] สามนตราช คือ พระราชาแหงแควนที่ใกลเคียง, เจาประเทศราช
บทที่ 56 ผูส ูงสงแตกําเนิด
นี่เปนสิ่งกอสรางที่ใหญมโหฬาร เนืองแนนไปดวยจิตวิญญาณ แสงสวางแปลบปลาบ
ตําหนักระรานตา ราวกับราชวังแหงสรวงสวรรคบนโลกมนุษย มีสัตวมงคลนั่งคําราม เฝา
อยูหนาประตูเมือง
“ทานพอสังหารลูกของปเซี๊ยะที่มีเลือดคอนขางบริสุทธิ์ตัวหนึ่ง นี่... กอหายนะครั้ง
ใหญ!” ชายหนุมวัยรุนที่องอาจกลาหาญเดินไปเดินมาในตําหนักอยางกระวนกระวาย
ณ คฤหาสนที่พํานักอาศัยของกษัตริย มีหมอกควันปกคลุม วิหคล้ําคาแผดรองบน
ฟากฟาของราชวัง ทอแสงเจิดจาพราตาเปนสาย ใจกลางรัฐมีทะเลสาบใสสะอาด น้ํา
หลั่งไหลไปทั่วสี่ทิศ สวนหยอมกวางใหญ ทัศนียภาพงดงาม นี่เปนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่
ทวมทนไปดวยจิตวิญญาณ
“หวังวาทานพอจะเรงถอยออกมาจากสงครามรอยเผา” สตรีงดงามที่อุมทารก
ขมวดคิ้วมีสีหนากังวล
“สาสนถึงเมืองจักรพรรดิแลว เจาจะพูดอะไรก็สายไปเสียแลว เขนฆาทายาทของป
เซี๊ยะ คงเปนเรื่องราวเมื่อหลายวันกอนแลว เรื่องที่ควรเกิด ตอนนี้ก็เกิดขึ้นหมดแลว”
บุรุษหนุมกําหมัดทั้งสองขางไวแนน คิ้วขมวดเปนปม ในตาปรากฏสายฟา ภายในตําหนัก
สั่นไหวฟาคําราม
ทารกที่นอนหลับอยูลืมตาที่ไรเดียงสาขึ้น ไมรูเพราะเหตุใด
“อยาทําใหลูกตกใจ” สตรีงดงามกลาว
“ระยะนีช้ างทรมานเสียจริง ไมไดสนใจฮาวเออร ไยเขาจึงเอาแตนอนเชนนี้ แตขา
ในตอนนี้กลับรูสึกถึงกลิ่นอายอักขระในตัวเขาละ?” บุรุษหนุมหันกลับมา
“เอะ ทานก็สัมผัสไดหรือ ขาก็คิดวาเปนการกําหนดรูที่ผิดไปเสียอีก เขายังเยาวนัก
ทําไมในรางกายจึงปรากฏอักขระกันละ” สตรีสาวงุนงง
“หรือวา...” บุรุษรางกํายําลืมตาขึ้นอยางดุดัน สายฟาสองสายพุงออกนอกหนาตาง
ทําใหเหลาปกษามงคลแผดรองอยางตกใจ และบินจากไปอยางรวดเร็ว
“เจาคิดอะไรออกอยางนั้นรึ?” สตรีรูปโฉมงดงามเอยถาม
“ผูแข็งแกรงสูงสุดของเผาพันธุมนุษย มีบางสวนที่สุดทายสามารถกอกําเนิดกระดูก
วิเศษ มีรองรอยบรรพกาลของตนปรากฏขึ้น และมีเคล็ดวิชาโบราณเปนของตัวเอง!”
บุรุษหนุมพูดดวยเสียงกึกกองกังวาน จากนั้นก็กลาวอยางตื่นเตนวา “และมีบางคนที่เกิด
มาพรอมกับกระดูกล้ําคาโบราณ เชนนกครุฑสีทอง และโหวเลือดบริสุทธิ์ สืบทอดตอกัน
มา เคล็ดวิชาล้ําคาเพียงพอที่จะอหังการตอทุกสิ่ง ยกยองวาเปนกระดูกขั้นสูงสุดก็ไมถือ
วาพูดเกินไป!”
หญิงสาวรูปโฉมงดงามไดฟงดังนั้นก็ตกใจ เผยแววตาเหลือเชื่อ มองทารกนารักใน
ออมอก ตื่นตระหนกจนมือสั่นระริก
“ใหขาพิจารณาอยางจริงจังสักครา!” ชายหนุมเด็ดขาดมาก เดินยางสามขุมเขามา
ทารกประหลาดใจมาก ไมรูวาพวกเขาจะทําอะไร เขากะพริบตาปริบๆ อาแขนเล็กๆ
นั่นอยางสบายใจ ดวยอยากใหพวกเขาอุม
หลังจากที่พินิจพิเคราะหแลว ชายหนุมก็ตกตะลึง นิ้วมือกําลังสั่นเทา เขาที่ปกติจะ
สุขุมและกลาหาญกลับพูดจาไมคลองแคลว เขากลาววา “กระดูกขั้นสูงสุด...โดยกําเนิด!”
นี่หมายความวาอยางไร? ในภายภาคหนาเด็กคนนี้สามารถทัดเทียมไดกับอสูรบรรพ
กาลสะทานฟา สามารถประลองกับนกครุฑสีทอง โหวทีม่ ีสายเลือดบริสุทธิ์ไรมลทิน
ตอไปเคล็ดวิชาล้ําคาโบราณที่มีเฉพาะตัวจะสะเทือนไปทั่วปฐพี ถูกจารึกลงใน
ประวัติศาสตรของเผาพันธุมนุษย
หญิงสาวอุมทารกกลับมา จากนั้นจุมพิตลงใบหนาแดงก่ําของเขาอยางออนโยน
นัยนตาเปลงประกายพรางพรายพลางพูดวา “ไมวาเขาจะเปนกระดูกขั้นสูงสุดหรือไม
เขาก็เปนบุตรของเรา จะตองเติบโตอยางมีความสุข”
หลายวันตอมา มีขาวมาจากสงครามรอยเผา ปเซี๊ยะโตเต็มวัยตัวนั้นถูกทํารายอยาง
แสนสาหัส มันคลุมคลั่งเพราะรางกายอาบเลือด ฆาลางผลาญไปทั่วสนามรบกวางใหญ
ไมมีใครสามารถตอกรกับมันได
แมรอบกายของปูสิบหาจะเต็มไปดวยมือดีก็ไมสามารถหยุดยั้งมันได เขาถูกไลลานับ
สิบหมื่นลี้ และถูกฉีกแขนขาดไปหนึ่งขาง กระดูกหักเกือบทั้งรางกาย
สุดทาย เขาก็ไดรับการชวยเหลือ ใชกระดูกล้ําคาของอสูรบรรพกาลหลายชิ้นวาง
เปนคายกลวิเศษขึ้นมา ในที่สุดจึงสามารถรอดชีวิตกลับมาได แตที่เหลือก็ไมรูวาเปน
อยางไรตอไป
เขาไดรับบาดเจ็บสาหัส รอดรึไมก็พูดยาก สุดทายก็หายสาบสูญไปเชนนี้ ไมรูเปน
ตายรายดี ไมกลับมาที่เมืองหลวงอีกเลย
“ไมได ขาจะตองออกไปตามหาทานพอ!” เมื่อบุรุษหนุมทราบขาวก็ลุกพรวดพราด
ขึ้นมา ตัดสินใจจะมุงไปยังดินแดนทางใต
“ตระกูลไดสงมือดีจํานวนมากออกไปตามหา และจักรพรรดิก็มีพระราชโองการ ให
เหลาสามาตราชของแตละเสนทางออกเสาะหาและชวยเหลือ หากทานออกไปจะชวย
อะไรได?” หญิงสาวเกรงวาสามีจะมุทะลุและฝาภยันตรายออกไปหาปเซี๊ยะตัวนั้น
“ทานพอจะเปนตายรายดีอยางไรไมรู ไมวาอยางไร ขาก็จะออกตามหาอยางสุด
ความสามารถ!” บุรุษ ยืนหยัดจะไปใหได
หญิงสาวรูปโฉมงดงามรูนิสัยของสามีดี เรื่องที่ตัดสินใจแลว จะไมเปลี่ยนใจเด็ดขาด
แตดวยเปนหวงวาเขาจะไปหาปเซี๊ยะนากลัวตัวนั้นจึงพูดวา “ขาจะไปกับทานดวย มี
เคล็ดวิชาล้ําคาสองชนิด ที่จะตองใหเราสามีภรรยารวมมือกันสําแดงอิทธิฤทธิ์ จึงจะ
บรรลุขั้นสูงสุด และมีอานุภาพยิ่งใหญอยางหาที่เปรียบไมได”
“ไมได เจาตองดูแลฮาวเออรนะ!” ชายหนุมปฏิเสธ
“ขาจะวางใจไดอยางไร” หญิงสาวสายหนา และกลาวดวยสีหนาออนโยนวา “วงศ
ตระกูลมีผูคนมากมายถึงเพียงนี้ จะดูแลเสี่ยวฮาวไดไมดีอยางนั้นรึ นอกเสียจากวาอสูร
บรรพกาลตีเมืองแตก มิเชนนั้น ใครเลาจะกลามากอจลาจลในตําหนักแหงกษัติรยของ
เรา?”
เมื่อชายหนุมคิดพิจารณาแลวก็เห็นวามีเหตุผล
เขาไดแอบบอกกลาวเรื่องราวของสือฮาว ที่ภายในรางกายมีกระดูกขั้นสูงสุดแกชาย
ชราผูสําคัญในตระกูลสองคนแลว คิดวาพวกเขาคงจะปฏิบัติตอเขาเฉกเชนวัตถุล้ําคาชิ้น
หายาก คงจะไมเกิดเรื่อง
เรื่องนี้ถือเปนความลับขั้นสุดยอด เพราะมีผลกระทบเปนอยางมาก ลักษณะ
ภายนอกมีเพียงสือยี่ผูเดียวก็เพียงพอแลว เพราะเขามีลูกตาดําสองดวงแตกําเนิด เพียง
แคเผยหนาออกมาก็จะรู แตสือฮาวกลับไมสามารถคนพบไดงาย นอกจากจะเปนผูที่
ใกลชิด ซึ่งสามารถสัมผัสจากในระยะที่ใกลได ดังนั้นไมมีความจําเปนที่จะแพรงพราย
ออกไป เพื่อปองกันไมใหผูอนื่ รับรู และนําไปสูการเสียชีวิตกอนวัยอันควร
“นองสิบเอ็ดและนองสะใภ พวกเจาจะออกเดินทางไกลหรือ? พวกเจาไมตองทํา
เชนนี้หรอก ตระกูลมีมือดีมากมาย จะตองพาทานปูสิบหากลับมาไดอยางแนนอน”
“นั่นสิ พวกเจาอยากังวลไปเลย สวรรคเมตตาคนดี ทานปูสิบหาจะตองไมเปน
อะไร!”
คนในตระกูลชวยกันหามปราม แตสองสามีภรรยาก็ยังยืนหยัดที่จะออกเดินทาง
“นองสิบเอ็ด เจาวางใจเถิด พวกขาจะดูแลสือฮาวเอง ใหเขาใกลชิดกับยี่เอรอบอยๆ
เมื่อเติบใหญมาสองพี่นองรวมกันปราบแปดทิศ กําราบหมื่นชนเผา” หญิงสาวที่แตงงาน
แลวกลาวดวยรอยยิ้ม
นางมีรูปโฉมที่โดดเดน เปนมารดาของสือยี่ มุมปากยกขึ้นเมื่อยิ้มเผยฟนสีขาวเงาวับ
แลดูอบอุนมาก มีบุตรชายที่มีพรสวรรคอันฟาประทาน มีตําแหนงสูงศักดิ์ในตระกูล
“ขอบคุณพี่สะใภมากเจาคะ มีเพียงผูอาวุโสไมกี่คนชวยดูแลก็เพียงพอแลว รบกวน
พวกทานมากไปคงไมดี” สองสามีภรรยากลาวขอบคุณ
“นองสะใภ พวกเจาเกรงใจกันเกินไปแลว พวกเราตางก็เปนครอบครัวเดียวกัน อยา
พูดเชนนี้เลย” หญิงสาวที่แตงงานแลวกลาวอยางออนโยน
ในที่สุด คูสามีภรรยาก็เริ่มเดินทางออกจากประเทศเกาแก มุงหนาไปยังสนามรบ
รอยเผา
“ยี่เออร ตอไปเจากับเสี่ยวฮาวตองสนิทกันไวนะ พรสวรรคของเขาไมธรรมดา เมื่อ
เติบใหญจะเปนมือขวาของเจา” เมื่อกลับมายังตําหนักของตน หญิงสาวที่แตงงานแลวก็
กลาวกําชับกับบุตรชายที่มีลูกตาดําสองดวง
“ขอรับ!” เด็กอายุสามขวบสุขุมมาก อากัปกิริยาของเขาหางไกลจากอายุมาก
คนในตระกูลและขาทาสบริวารทั้งหลายตางชวยกันดูแลสือฮาว จึงไมมีเรื่องอะไร
เกิดขึ้น นอกจากไมกี่วันแรกที่เขารองเอะอะโวยวาย เพราะคิดถึงบิดามารดา แตหลังจาก
นั้นก็วานอนสอนงาย
หลายวันผานไป มารดาของสือยี่รับเอาสือฮาวไปที่พักของตน มองเห็นแสงวิเศษใน
ดวงตาของบุตรชาย จองที่เด็กทารกอยางไมกะพริบตา นางจึงเอยถามอยางไมเขาใจวา
“ยี่เออร ไยเจาจึงจดจองนองชายอยูอยางนั้นละ”
“เขาไมธรรมดา ภายในรางกายมีกระดูกชิ้นหนึ่งปรากฏอักขระลึกลับซับซอน พิศวง
ยากที่จะคาดเดา” สือยี่กลาวอยากเยือกเย็น
หญิงสาวที่แตงงานแลวตะลึงพรึงเพริด นางรูดีวาลูกของตนนั้นเหนือมนุษย มีลูกตา
ดําสองดวง เปนลักษณะพิเศษของผูวิเศษหรือเทพเจาครั้งบรรพกาล สามารถมองทะลุ
บอเกิดของสรรพสิ่งได
ทันใดนั้น นางก็หวาดผวา นึกถึงอะไรบางอยางไดขึ้นมาฉับพลัน เอยถามอยางรีบ
รอนวา “เจาบอกวาในรางกายมีกระดูกชิ้นหนึ่งที่ปกคลุมดวยอักขระโบราณอยางนั้นรึ?”
“ใชแลวขอรับ” เด็กชายกลาวอยางเรียบนิ่ง
“กระดูกขั้นสูงสุด...โดยกําเนิด” หญิงสาวสั่นเทิ้มในทันที นางนึกถึงตํานานเกาแก
นั่น และสั่นสะทานอยางอดไมได
เปนเวลานานที่สีหนาของนางเดี๋ยวดีเดี๋ยวราย จองมองไปยังทารกที่ใสซื่อบริสุทธิ์
อยางมองแลวมองอีก นัยนตาฉายแววชั่วรายเพียงครู จากนั้นก็หันกลับไปกําชับกับ
บุตรชายวา “หามบอกใครเด็ดขาด!”
เด็กชายพยักหนา และไมไดพูดอะไร
ผานไปหลายเดือนอยางทันทีทันควัน เสี่ยวสือฮาวยิ่งโตก็ยิ่งนารัก เพียงพริบตาก็
อายุแปดเกาเดือนแลว เขาสามารถยางเดินไดนานแลว อีกทั้งยังเปดปากพูด ดวงตาโตมี
ชีวิตชีวา ขาวสะอาดงดงาม ราวกับตุกตากระเบื้องเคลือบ ผูใดพบเห็นตางก็เผลอหยิก
แกมอยางอดใจไมได
ในชวงเวลานี้ หญิงสาวที่แตงงานแลวดีตอเขามาก ราวกับลูกในไส สุดทายก็นําเขา
ไปยังตําหนักของตนเสียเลย และเลี้ยงดูไปพรอมกับสือยี่
“ทานปาขอรับ ขาอยากออกไปดูนกกระเรียนขนแดงที่สวนหยอม อาหมันบอกวา
มันสวยงามมาก ทั้งตัวแดงสดดุจเพลิง เสียงรองก็ไพเราะเสนาะหู” เจาตัวเล็กเอยพลาง
กะพริบตาปริบๆ แพขนตายาวสั่นระรัว น้ําเสียงเวลาพูดนั้นออนโยน พรอมดวยเสียง
ออแอ ทั้งนารักและไรเดียงสา
เด็กอายุปูนนี้ยังพูดไดไมคลองแคลว เดินก็คอนขางลําบาก แตเขากลับไมมีปญหา
เลย
“อาหมัน? นั่นเปนเด็กผูหญิงจากชนชั้นต่ํา อยาไปฟงเขาพูดอะไรไรสาระ ตอไปปา
จะพาเจาไปดูนกหลวน จาวแหงนกยูงหาสี” หญิงสาวกลาว
“อาหมันเปนพี่สาวที่ดีคนหนึ่ง มีจิตใจดีและงดงามมาก เขาชอบเลานิทานใหขาฟง
บอยๆ เปนคนดีเชียวละขอรับ” เสี่ยวสือฮาวกะพริบดวงตาโต และกลาวอยางจริงใจ
“เอาละ หลังมื้ออาหารก็ไปดูนกกระเรียนขนแดงกันนะ รอสักระยะหนึ่ง ขาคอยพา
เจาไปดูนกหลวน และจาวแหงนกยูงหาสี” หญิงสาวเอยดวยรอยยิ้ม
“ทานปาใจดีที่สุดเลยขอรับ!” เจาตัวเล็กแหงนหนาขึ้น สองมือกอดอก นัยนตาเปลง
ประกาย เผยสีหนามีความหวัง
จากนั้น เขาก็หันหลังแลวพูดวา “ทานพี่ ตอนนี้พวกเราไปลานหลังตําหนักกันเถิด
ขอรับ ตรงนั้นมีเด็กๆ เยอะแยะเลย”
“ไมไป!” สือยี่ปฏิเสธ นั่งขัดสมาธิอยูตรงนั้น อายุยังเล็กยังนอยกลับนิ่งดุจกอนหิน
บําเพ็ญอักขระกระดูกอยางเงียบๆ
“ออ งั้นขาไปเลนแลวนะขอรับ” เจาตัวเล็กวิ่งออกไปที่ ‘ลานดานหลัง’ ที่อยู
หางไกลอยางโซเซ ไปเลนกับลูกๆ ของขาทาสทั้งหลาย เขาหัวเราะอยางมีความสุขอยู
ตรงนั้น
เจาตัวเล็กงดงาม นารัก และจิตใจดี ไมเคยรังแกเด็กของชนชั้นต่ํา และมักจะมาเลน
กับพวกเขา จึงทําใหคนในเมืองตั้งแตเด็กไปจนถึงผูใหญตางก็รักใครเอ็นดูเขาเปนอยาง
มาก
หลายวันตอมา หญิงสาวพาสือยี่และเจาตัวเล็กออกจากตําหนักแหงกษัตริย รถมา
เคลื่อนออกไปยังจวงหยวน[1] เพื่อไปดูทายาทของปกษาเทพเจาอยางนกหลวน และ
นกยูงหาสี
“ทานปาขอรับ นกหลวนอยูที่ใดขอรับ?” เจาตัวเล็กเอยถามอยางสงสัย ใน
ขณะเดียวกันก็ไมเขาใจ หลังจากมาถึงจวงหยวนแลว พวกเขาก็เขาสูราชวังใตดินโดยตรง
“อีกสักครูก็เห็นแลว” หญิงสาวพูดดวยใบหนาไรความรูสึก
หลังจากที่มาถึงตําหนักลับหองหนึ่ง นิว้ ของหญิงสาวก็มีอักขระปรากฏขึ้นเปนสาย
เมื่อกดลงไปบนรางของเจาตัวเล็ก กระดูกล้ําคาในรางของเขาก็สองแสง ทําใหมันมลาย
หายไป ไมไดสลบไสลแตอยางใด
“สมกับเปนกระดูกขั้นสูงสุด!” หญิงสาวนัยนตายิ่งลุกเปนไฟ ตองเขาใจวา กระดูก
ล้ําคาเพิ่งจะเริ่มเจริญเติบโตเทานั้น!
เมื่อนางปรบมือ ก็ปรากฏเงาขึ้นในที่ไมไกล ราวกับวิญญาณ เขามาประชิดอยาง
เงียบเชียบ จากนั้นหิ้วเจาตัวเล็กแลวกดลงไปบนเตียงที่เย็นเฉียบ
“ทานปา นี่ทานจะทําอะไรขอรับ?” นี่เปนเด็กที่อายุเพียงแปดเกาเดือน เด็กคนอื่นๆ
ยังไมรูประสีประสา และเขาจิตใจดีมาก เอยถามดวยความไมเขาใจ
ดาบสีเงินสวยงามฟาดลงมา พรอมกับลําแสงที่ทําใหมึนเมา ผาหนาอกของเจาตัว
เล็กออก เลือดสดพุงออกมาฉับพลัน ในขณะเดียวกันก็มีกลุมแสงศักดิ์สิทธิ์ขมุกขมัว ทวม
ทนดวยความนาพิศวงอันเปนที่สุด อักขระไมมีที่สิ้นสุด สองแสงพรางพรายอยูตรงนั้น
อยางไมหยุดหยอน
“เจ็บ!” เจาตัวเล็กรองเสียงดังดวยความเจ็บปวด นัยนตนเปยมไปดวยความ
หวาดกลัว ไมคิดเลยวาจะถูกปฏิบัติเชนนี้ เขายังเปนเด็กอายุเพียงแปดเกาเดือน จะรู
อะไร?
“ทําใหมันสลบไมได ชางวุนวายเสียจริง” หญิงสาวเอยอยางเยือกเย็น
ดานขางเปนเด็กคนหนึ่ง สือยี่มองดูอยางเงียบๆ ไมพูดไมจา สิ่งที่ทําใหสงสัยคือ เขา
ยังเปนเด็กอายุสี่ขวบจริงหรือ
เลือดสดหลั่งริน ใบหนาของเจาตัวเล็กซีดเซียว ดวงตาไรความรูสึก รองดวยความ
เจ็บปวดไมหยุด รองโหยหวนจนน้ําตาจะเปนสายเลือด
“หามใหเกิดเรื่องไมคาดฝนเด็ดขาด ขาตรวจสอบในตํารากระดูกที่มีเพียงฉบับเดียว
บันทึกวา การปลูกถายอวัยวะเชนนี้สามารถทําสําเร็จได บุตรของขามีลูกตาดําสองลูก
กําหนดไวแลววาจะตองเปนผูที่ยิ่งใหญที่สุดในโลกหลา!” หญิงสาวตะโกนดวยความ
ตื่นเตน
“ทานปา...” เจาตัวเล็กแหงนหนาที่เต็มไปดวยน้ําตา ยื่นมือเล็กๆ คูนั้นออกมาออน
วอน หมายอยากบรรเทาความเจ็บปวดพวกนี้
ทวา หญิงสาวเพิกเฉยไมสนใจ ใบหนาเยียบเย็นมาก เพียงแคเรงเงาดุจวิญญาณให
ระมัดระวัง หามใหกระดูกขั้นสูงสุดสูญสิ้นพลังชีวิต
“เรียบรอยแลว!” ในที่สุด เงาดําก็เปลงเสียงทุมต่ําราวกับสัตวประหลาดคําราม ควัก
แหลงกําเนิดแสงออกมาจากหนาอกของเจาตัวเล็ก มีพลังเวทมนตรที่ไมสามารถอธิบาย
ได เพิง่ จะเจริญเติบโต ก็ทําใหคนอกสั่นขวัญแขวน กระจายแสงศักดิ์สิทธิ์อยางไรที่สิ้นสุด
สองสวางไปทั่วตําหนักลับ
“ยี่เออร ตาเจาแลว เจาตองทนใหไหว!” หญิงสาวกําชับเด็กอีกคนอยางตื่นตระหนก
เด็กชายพยักหนา แตไมไดพูดอะไร
เขาเอนกายนอนลงบนเตียงหยก มีดสีเงินกรีดผานไป เลือดหลั่งรินลงมา หนาอก
ของเขาถูกกรีดออก
“เจาระวังหนอย หามเกิดขอผิดพลาดแมแตนอย!” หญิงสาวนัยนตาโหดเหี้ยม เอย
กับเงาสีดําตนนั้นดวยความสงสารลูกของตน
บนเตียงเย็นเฉียบที่อยูดานขาง เจาตัวเล็กหนาซีดเผือกและทรมาน ดวงตาโตเออลน
น้ําตา ทุกครั้งที่แพขนตายาวกะพริบ ก็จะมีน้ําตาริบระยับเกลือกกลิ้งลงมา เขากางแขน
เล็กอยางยากลําบาก ราวกับอยากไขวควาความอบอุน เอยออนวอนดวยเสียงสั่นวา
“ทานปา...”
หญิงสาวกวาดสายตามองเขาอยางเย็นชา ราวกับมองแตไมเห็น หันกลับไปมองที่อกี
เตียงหนึ่ง ใบหนาเปยมไปดวยความรักใคร น้ําเสียงออนโยนเปนอยางมาก เอยเสียงเบา
วา “ยี่เออร เจาจะตองอดทนใหได ในภายภาคหนาดินแดนแหงนี้ก็จะเปนของเจา
เพราะวา...เจาคือผูสูงสงแตกําเนิด”
ดานขาง เจาตัวเล็กที่สูญเสียกระดูกขั้นสูงสุด นอนอยูบนเตียงเย็นเฉียบเพียงลําพัง
ใบหนาซีดเซียวเต็มไปดวยน้ําตา คอยๆ หมดสติ บนพึมพําวา “ทานแม...” ชวงที่
เจ็บปวดที่สุด เขากําลังร่ํารองหาครอบครัวที่แทจริงของเขาอยางเจ็บปวด
..............................
[1] จวงหยวน คฤหาสนที่มีที่ดินลอมรอบของขุนนาง
บทที่ 57 เจ็บปวด
“ทานแม...” เจาตัวเล็กพึมพํา ร่ํารองอยางออนแรงทามกลางความไมไดสติ มีเพียง
มารดาเทานั้นที่ดีที่สุด ไมเคยทํารายเขาและออนโยนตอเขามาก
ยามที่มารดาของเขาจากไปนั้น เขามีอายุเพียงไมกี่เดือน มีเพียงความทรงจําที่เลือน
รางอันนอยนิด แตตอนนี้กลับกลายเปนความอบอุนที่เขาปรารถนามากที่สุด อยากจะ
หลับใหลในออมอกของนาง
น้ําตาหลั่งรินจากใบหนาซีดเผือกของเขาไมหยุด เขาขดตัวเปนวง รางกายสั่นระริก
นอนขดตัวอยูบนเตียงเย็นเฉียบทามกลางความไมไดสติ
บนเตียงหยกอีกฟากหนึ่งมีเสียงรองทุมต่ําแววมา แมสือยี่ยังเยาวนัก แตกลับไม
หวาดกลัว นัยนตาซึ่งมีลูกตาดําสองดวงปรากฏแสงศักดิ์สิทธิ์เลือนราง เขากัดเปลือกตน
ไมกอกชิ้นหนึ่ง เหงื่อเย็นทวมกาย กําลังยืนหยัดภายใตความเจ็บปวดทรมาน
“เด็กดี เจาจะตองอดทนใหได หากผานวันนี้ไป เจาจะทะยานสูฟากฟา จะไมมีผูใด
สามารถหยุดยั้งทุกยางกาวของเจาได เจาจะกลายเปนกษัตริยที่โดดเดนที่สุดในดินแดน
ใหญแหงนี้” หญิงสาวจับมือเด็กชายไวแนน เพื่อใหเขาซึมซับไออุน เพื่อตานทานความ
เจ็บปวดนั้น นางกังวลมาก แตนัยนตากลับฉายความรุมรอนอยางไมสิ้นสุด
แหลงกําเนิดแสงกอนนั้นมีอักขระแนนขนัดอยางไมสิ้นสุด ถูกปกคลุมดวยความ
พิศวง ลึกลับซับซอนยากที่จะเขาใจ ทําใหอกสั่นขวัญแขวนเปนระลอก ในยามที่
เผชิญหนากับมันจะตองทําความเคารพอยางทนไมได
หญิงสาวนัยนตาคลุมคลั่ง นางยิ่งแนใจวา การทําเชนนี้นั้นคุมคา แมวาจะถูกจับได
หรือถูกชําระสะสาง แตเพียงปลูกถายเขาไปยังรางกายของสือยี่ไดก็คุมคาแลว กระดูกล้ํา
คาขั้นสูงชิ้นนี้เพิ่งเริ่มเจริญเติบโต ก็มีอิทธิฤทธิ์ถึงเพียงนีแ้ ลว หากวาในวันขางหนามัน
เติบโตไปเรื่อยๆ มันจะตองเยี่ยมยอดมากแนๆ!
ทั้งนกครุฑสีทองและโหวเลือดบริสุทธิ์ เปนผูดํารงอยูที่กลาเขนฆาเทพเจา สูงสง
อยางไมมใี ครทัดเทียม แตผูสูงสุดแตกําเนิดกลับสามารถรบกับมันได ผูใดจะลบคมได?
“ใกลแลว จวนจะเสร็จแลว ยี่เออรอดทนไว!” นางใหกําลังใจอยางไมหยุดหยอน
ใบหนาที่เต็มไปดวยความออนโยน ทําใหสือยี่ผอนคลาย และผานดานยากดานนี้ไปได
แหลงกําเนิดแสงสวางเจิดจา ราวกับมีเทพเจาตนหนึ่งหลับสนิทอยูภายใน กระจาย
แสงวงกลมเปนระลอก สะทอนแสงจนทั่งตําหนักลับจนรุงโรจน รัศมีแสงวิเศษสาดทอ
ประหนึ่งมายังดินแดนแหงเทพเจา
ภายในอกของสือยี่ถูกแสงสวางเจิดจาเติมจนเต็ม เขาดิ้นรนรุนแรงมากยิ่งขึ้น สง
เสียงรองราวกับสัตวปาคําราม ที่เจ็บปวดอยางแสนสาหัส เหงื่อกาฬไหลอาบทวมตัว
“เจาระมัดระวังหนอย อยาทําใหยี่เออรของขาไดรับอันตราย!” หญิงสาวเอยกลาว
กับเงาดํานั่นดวยใบหนาที่ฉายแววโหดเหี้ยม นางตื่นตระหนกและหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น
เกรงวาจะลมเหลว
“แมจะบันทึกไวอยางละเอียด แตนี่เปนถึงกระดูกขั้นสูงสุด การปลูกถายเชนนี้
อันตรายเปนอยางมาก หากไมเขาทา หากวามันระเบิด ทั้งเจาและขาอาจจะตายยังที่
แหงนี้ก็เปนได” เงาดําดุจวิญญาณกลาวเสียงทุมต่ํา
“ขาไมสน ขอเพียงขาทําสําเร็จ แมวาในตํารากระดูกจะบันทึกไว มีกรณีที่เคย
เกิดขึ้นแลว ไมมีเหตุผลที่ขาจะทําไมสําเร็จ” หญิงสาวตะโกนเสียงต่ํา ใบหนางดงามบิด
เบี้ยวเล็กนอย เขาจับมือสือยี่ไวแนนแลวกลาววา “เปนถึงสายเลือดของตระกูลสือ เปนพี่
นองมาจากสายเลือดเดียวกัน อัตราการสําเร็จจะตองสูงมากอยางแนนอน ยี่เออรอดทน
ไว!”
เงาดําคํารามเสียงทุมต่ํา จากนั้นทั่วบริเวณตําหนักลับก็เดือดพลาน แสงศักดิ์สิทธิ์
เจิดจรัสสาดทอแสงกระจายไปทุกอณูบริเวณ
แสงโชติชวงปะทุขึ้น สายฟาจํานวนมากบังเกิดขึ้น กระแสไฟปลิววอน เสียง
ศักดิ์สิทธิ์ดังกึกกอง ภาพประหลาดตางๆ ปรากฏขึ้น
สุดทาย แสงมงคลซึมซาบสูภายใน อักขระรวมตัวกันกลายเปนกระดูกขั้นสูงสุด
แทรกซึมเขาไปในอกของสือยี่ เงาดําเคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว มีอักขระพุงขึ้นสมาน
บาดแผล เพื่อหามเลือดและพลังชีวิต
“เรียบรอยแลว!”
เมื่อสิ้นเสียงคํารามทุมต่ํา ภายในตําหนักลับก็สงบลงโดยสิ้นเชิง ภาพเหตุการณ
มหัศจรรยหายไปจนสิ้น
“เด็กดี เจาเปนความภูมิใจของแม นับแตนี้ตอไป ไมมีใครหยุดยั้งยางกาวของเจาได
แผนดินนี้จะตองสะเทือนอยูใตเบื้องบาทของเจา!” หญิงสาวตื่นเตนอยางหาที่เปรียบ
ไมได กอดแขนของสือยี่ไว ใบหนาเต็มไปดวยความปลื้มปติ ลําแสงในดวงตาลุกโพลง
อยางหาที่สุดไมได
นางนําผานวมหนานุมหมใหสือยี่ที่สลบไสลอยางระมัดระวัง สุดทายก็ลุกยืนขึ้น และ
หัวเราะดังลั่นอยางบาคลั่ง
“ทานปา... ขาหนาว” เจาตัวเล็กที่นอนขดตัวสั่นเทาบนเตียงเย็นเฉียบ ตกใจตื่น
เพราะเสียงหัวเราะเชนนี้ ปวดหนาอกอยางแสนสาหัส สีหนาซีดเผือก ร่ํารองอยางออน
แรง
หญิงสาวหันตัวควัน ไมไดหยิบผานวมใหเขา แตกลับถลึงตามองเขาอยางไมสนใจใย
ดี นัยนตาเยือกเย็นกลาวกับเงาดํานั้นวา “รีดเลือดบริสุทธิ์ในรางกายของมันออกมาให
สิ้น เพื่อบํารุงกระดูกขั้นสูงสุดในรางกายของสือยี่”
ตําแหนงที่กระดูกขั้นสูงสุดเจริญเติบโต มีเลือดบริสุทธิ์ที่ตอบสนองกัน เพื่อใชหลอ
เลี้ยงกระดูกล้ําคาโบราณที่ไมมีใครเหมือน และวิเศษเปนอยางมากชิ้นนั้น
“หากรีดออกมาแลวละก็ เด็กคนนี้จะอยูรอดไดไมเกินสองขวบป” เงาดํากลาว
“สองขวบรึ? เพียงครึ่งปก็เพียงพอแลว ในชวงเวลานี้ เรื่องอะไรก็เกิดขึ้นได” หญิง
สาวกลาวอยางอํามหิต
เมื่อเงาดําไดฟงเชนนั้นก็ไมพูดอะไรใหมากความ นําไหหยกมาหนึ่งใบ จากนั้นราย
เวทมนตรลึกลับ อักขระเปลงแสงเริ่มรีดเลือด เพียงชั่วครูแ สงพรามัวก็สวางขึ้นอีกครั้ง
ทําใหทั่วบริเวณตําหนักลับวิเศษขึ้นมาทันที
“รีบสําแดงอิทธิฤทธิ์ ใชเลือดล้ําคาไหนี้บํารุงรางกายของสือยี่ จะไดหลอมรวมเปน
หนึ่งกับกระดูกขั้นสูงสุดโดยไว ไมแยกออกจากกัน” หญิงสาวรอนรนมาก
“ปลอยใหเปนไปตามขั้นตอนเปนดีที่สุด คอยเปนคอยไป” เงาดํากลาวเตือน
“มันไมเปนอันตราย สือยี่มีลูกตาดําสองดวงแตกําเนิด ไมใชสิ่งที่เด็กทั่วไปจะ
ทัดเทียมได อีกทั้ง หากหลอมรวมเปนหนึ่งโดยไว ขาก็วางใจ อยางนอย ภายในครึ่งป
จะตองมีคนพบ แตก็ไมสามารถถายโอนกระดูกขั้นสูงสุดได หากกระทํามากเกิดความ
จําเปน มันจะแหงตาย”
“หนาวเหลือเกิน...” เจาตัวเล็กสลบไสลไปอีกครา ริมฝปากขาวซีด รางกายเล็กๆ ที่
นอนขดตรงมุมเตียงสั่นระริกไมหยุด
เมื่อทุกอยางเสร็จสิ้น ภายในตําหนักลับสงบลง เงาดํานั่นก็จากไป ทั่วบริเวณของ
ราชวังวางเปลาแลดูอึมครึมอยางเห็นไดชัด
หญิงสาวเดินไปเดินมาเพียงลําพัง หนานิ่วคิ้วขมวดพลางครุนคิดวาจะบอกกลาวเชน
ไร ในวงศตระกูลจะไมมีผูใดลวงรูความลับที่ของกระดูกขั้นสูงสุดที่อยูในรางกายของเจา
ตัวเล็ก นอกเสียจากอุมเขาทุกวัน อีกทั้งผูบําเพ็ญตนขั้นสูงจึงจะสัมผัสได ผูที่เขาขายดังที่
กลาวมา มีเพียงบิดามารดาของเขา แตตอนนี้เขาอายุแปดเกาเดือนแลว ไมตองใหใครอุม
แลว
“ยี่เออรถือกําเนิดดวยลูกตาดําสองดวง สามารถสัมผัสบอเกิดของสรรพสิ่งได ผูอื่น
ไมมีความสามารถอะไร ไมควรจะสัมผัสรู!” หญิงสาวผอนปมคิ้วลง ใครครวญเรื่องราวใน
ภายภาคหนา
“หากสามีภรรยาคูนั้นสิ้นชีพใตกรงเล็บของปเซี๊ยะ หรือไมก็เสียชีวิตเนื่องดวยสาเหตุ
อื่น ทุกอยางก็จะสวยงามไรจุดดางพรอย” นางพูดพึมพํากับตัวเอง มุมปากฉายแววเยือก
เย็น
“ตูม!”
ทันใดนั้น ก็เกิดเสียงนากลัวแววมา ราชวังถลมลงมา ทางออกถูกทําลายดวยกําลัง
มหาศาล ชายชราผูหนึ่งที่มีผมหงอกขาวโพลน แตกลับเกรียงไกรอยางที่สุดพุงเขามา
รางกายสองแสงลนหลาม ราวกับเปลวเพลิงทองคําวิเศษกําลังลุกโหม
หญิงสาวตื่นตกใจ ประตูราชวังนั่นไมใชสิ่งที่คนทั่วไปจะใชอํานาจทําลายได มีเพียงผู
แข็งแกรงที่สุดในตระกูลเทานั้นที่จะทําได
แสงศักดิ์สิทธิ์แผซานเปนแสงมงคลหมื่นสาย ชายชราคนหนึ่งกระโจนเขาสูตําหนัก
ลับลับดุจราชสีหโกรธเกรี้ยว เมื่อเห็นภาพเหตุการณตรงหนาแลว ราวกับดวงตาจะแตก
ออก เปลงเสียงคํารามที่สะเทือนไปทั่วปฐพี “หญิงใจทรามต่ําชา ชางเปนหญิงที่อํามหิต
เสียจริง!”
นี่เปนหนึ่งในสองผูอาวุโสที่สําคัญของตระกูล มียศศักดิ์สูงสง พละกําลังแข็งแกรง
เปนที่สุด ปกติไมคอยจะเจอหนาคราตา บําเพ็ญตนอยูในดินแดนเทพสถิตมาโดยตลอด
บรรลุขั้นลึกซึ้ง
บิดามารดาของสือฮาวมอบลูกใหอยูในความดูแลของเขาและอีกคนหนึ่ง มีเพียงพวก
เขาที่รูเรื่องกระดูกขั้นสูงสุดในรางกายนั่น และจัดใหเปนความลับขั้นสุดยอด
เดิมทีมีเขาและชายชราอีกคนดูแล รับประกันไดวาสือฮาวมีสุขภาพรางกายแข็งแรง
แตพวกเขาอายุมากแลว อีกทั้งยังเปนเพศชาย ดูแลเด็กไมเปนมากนัก จึงไดเห็นดวยวา
ใหคนรุนหลังชวยสอดสองดูแล
ตระกูลรักใครกลมเกลียวกันมาโดยตลอด ลูกสะใภรุนหลานหลายคนตางก็ทําอยาง
สุดความสามารถ ไมกี่เดือนมานี้ก็เลี้ยงดูสือฮาวจนอวนทวนสมบูรณและออนโยนงดงาม
ทําใหพวกเขาวางใจ ไมวาอยางไรก็คาดไมถึงวา วันนี้จะเกิดเรื่องวิบัติถึงเพียงนี้
ชายชราผูนี้ใสใจเปนอยางมากมาโดยตลอด สงมือดีตามประกบเจาตัวเล็ก ในวันนี้
หญิงสาวที่แตงงานแลวผูนี้ พาเด็กสองคนไปดูทายาทปกษาเทพเจา ไปเปนเวลานาน ทํา
ใหมือดีที่ถูกสงไปรีบกลับอยางหวั่นวิตก กลาวรายงานวาคนกลุมหนึ่งเขาไปในราชวัง แต
เปดประตูบานนั้นไมออก เขาจึงตื่นตระหนกตกใจ และรีบตามมาอยางรวดเร็ว
“หญิงชั่วชาเลวทราม ขาจะสังหารเจาเสีย!” ขนและเสนผมของชายชราเปลงแสง
ราวกับสิงโตทองคํา กระโจนเขามาภายในพริบตา ประดุจจับลูกไก ควาเขาที่คอของนาง
และหิ้วขึ้นมา
แมวาหญิงสาวจะบําเพ็ญตนเขาขั้นสูง มีพละกําลังมหาศาล แตหากเทียบกับชาย
ชราผูนี้แลว สิ่งเหลานั้นก็เปลาประโยชน ใบหนาซีดขาวทันควัน อักขระภายในรางกาย
จะแหลกละเอียด
“ทานปูสี่ อยาฆาแมขา!” สือยี่ตกใจตื่นเพราะเสียงคําราม ความีดสีเงินบนหัวเตียง
เลมนั้นแลวกดลงบนคอของตน จนเกิดรอยบาดขึ้นหนึ่งรอย
“เจา... เจาสัตวเดรัจฉาน!” ชายชราโกรธเกรี้ยว
“ทานพี่สี่ ปลอยนางลงกอนเถิด” มีชายชราอีกคนเดินเขามา รางกายเปลงแสงสี
แดงทั้งตัว ราวกับหงสไฟตัวหนึ่ง แมอายุจะมากแลว แตกลับแข็งแรงมีกําลังวังชา ดวงตา
สองขางประดุจโคมไฟสีทอง
“นองหา เจาหมายความวาอยางไร เพรานี่เปนรุนหลังของเจา จึงอยากจะใหอภัย
นางอยางมิชอบธรรมอยางนั้นหรือ?” ชายชราดุจสิงโตทองคําเอยถามเสียงดัง
“ทานปูสี่ ขอรองทานอยาฆาแมขาเลย!” อีกฟากหนึ่ง สือยี่ผูมีลูกตาดําสองดวงเอย
ปากอีกหน มีดสีเงินเปอนเลือดบาดคอจนเปนแผล
“เห็นแลวใชไหม เราสูญเสียผูสูงสงไปคนหนึ่ง จะใหมองดูเด็กที่มีลูกตาดําสองดวง
อีกคนตายไปอยางไรความรูสึกอยางนั้นหรือ? ในอดีตกาลนี่ถือวาเปนผูวิเศษ เปนเทพ
เจา! ปลอยนางกอนเถิด คอยสะสางทีหลัง” ชายชราดุจหงสไฟกลาว
“ตึง”
ชายชราดุจสิงโตทองคําเหวี่ยงออกไปอยางดุดัน หญิงสาวรวงลงบนกําแพงอีกฝงจน
เกิดเสียงดังลั่น สะเทือนกอนหินรวงหลนมากมาย ทําใหนางไมสามารถหยัดกายลุกขึ้นได
เปนเวลานาน
“จื่อหลิง ขารูสึกผิดตอเจาและภรรยายิ่งนัก ขาไมดูแลสือฮาวใหดี เขาจึงประสบกับ
ความทุกขและความทารุณอยางแสนสาหัส” ชายชราแหงนหนาขึ้นคํารามดวยความ
โกรธแคน
“ทานปูสี่... ขาหนาว ขาเจ็บ” เจาตัวเล็กที่นอนขดตัวอยูมุมเตียงเย็นเฉียบเอยปาก
อยางออนแรง
“เด็กดี เปนเพราะพวกขาไมดีเอง!” ชายชราอุมเขาเขามาในออมอก น้ําตาจวนจะ
ไหลออกมา จากนั้นปลอยพลังลึกลับจากอักขระล้ําคา กระจายแสงมงคลปกคลุมรางกาย
ของเขาจนมิด
“กระดูกขั้นสูงสุดละ?” ชายชรารางกายแดงฉาน มีแสงวิเศษกระเพื่อมขึ้นลงดุจหงส
ไฟเอยถาม
หญิงสาวใบหนาซีดเผือกหยัดกายลุกขึ้นยืน และไมไดเอยวาจาใด
“ทานปู มันอยูในกายขา” สือยี่เขวี้ยงมีดเงินทิ้ง และเอยอยางสงบ
เมื่อชายชราดุจหงสไฟไดฟงเชนนั้น นัยนตาฉายแววประหลาดใจ และไมพดู อะไร
เปนเวลานาน
ชายชราที่โอบอุมเจาตัวเล็กไดฟงดังนั้นก็ยิ่งโกรธแคน เอยดวยเสียงเย็นวา “ตระกูล
หินผาของเรามีกฎแหงบรรพบุรุษ หามเขนฆากันเอง จะตองรักใครกลมเกลียวกัน และ
ปฏิบัติตอบุคคลภายนอกเฉกเชนเดียวกัน มิเชนนั้นจะเดินออกจากแผนดินเกิดที่เปนชน
เผาหนึ่งไปกําราบดินแดนกวางใหญแหงนี้ ปกครองไพรฟานับลานลาน ขึ้นนั่งบัลลังก
จักรพรรดิ และแตงตั้งกษัตริยที่มากเหลือคณานับไดอยางไร สตรีผูนี้ เจาชางโหดเหี้ยม
อํามหิต กฎของตระกูลอภัยใหเจาไมได!”
“เรื่องราวคอนขางซับซอน และรวมถึงกระดูกขั้นสูงสุด นี่เปนความลับสุดยอดของ
ตระกูล จะแพรงพรายออกไปไมได ที่นี่ไมใชที่ทจี่ ะมาพูดคุยกันได พวกเรากลับกอนคอย
วากันทีหลัง” ชายชราที่อยูขางๆ เอยปาก
“นองหา เจาจะปดบังเรื่องราวเหลานี้รึ?!” ชายชราดุจสิงโตทองคําตะโกนถาม
“ไมวาอยางไร ผูสูงสงแตกําเนิดจะสูญสิ้นไมได กลับเมืองแลวคอยหารือกันทีหลัง”
ชายชราผูกระจายแสงสีแดงฉานกลาว
“แมวาตอนนี้ขาจะไมลงมือ ครั้นจื่อหลิงกลับมาคงจะไมปลอยเรื่องนี้ไวแน ตามนิสัย
ของเขาแลว ไมสังหารครอบครัวเจาใหสิ้น ก็คงจะสังหารเกาในสิบ หากไมใหความ
ยุติธรรมตอเขาแลวละก็ เขาไมมีทางเพิกเฉยแน!” ชายชราที่นาเกรงขามดุจสิงโตทองคํา
กลาว
บทที่ 58 สือจื่อหลิง
คฤหาสนใหญโตมโหฬาร ตําหนักโออาและยิ่งใหญระรานตา ราวกับราชวังแหง
สวรรคตั้งตระหงานบนโลกมนุษย อาทิตยยามอัสดงอาบยอมดวยแสงตะวันสีทอง สงา
งามและนายําเกรง ใหความรูสึกราวกับปูชนียสถานที่ตองพากันกราบไหว
ทวา กลางสิ่งกอสรางที่รายลอมดวยความเปนมงคล และกวางใหญโออากลับอึมค
รึม แฝงไวดวยความเงียบสงัด กลางตําหนักใหญหลังหนึง่ บรรยากาศตึงเครียด ผูอาวุโส
สิบกวาคนนั่งบรรจง อักขระสองแสงอยางลนหลาม เตรียมพรอมปะทุตลอดเวลา
เจาตัวเล็กจวนสิ้นใจ เพราะกระดูกขั้นสูงสุดถูกควักออกไป เรื่องนี้สะเทือนไปถึง
เบื้องบน เหลาผูอาวุโสที่ถูกดึงตัวมา ตางก็เปนบุคคลอาวุโสที่มีศักดิ์สูงสง เรื่องเชนนี้จะ
ปดพวกเขาไมได
ปกติแลว ผูอาวุโสสิบกวาคนตางก็บําเพ็ญตน ไมสนใจเรื่องทางโลกแมแตนิด และมี
กระทั่งผูอาวุโสบางคนที่ไมปรากฏตัวตอหนาคนในตระกูลเปนเวลายี่สิบสามสิบปแลว แต
ก็ตื่นตระหนกตกใจ และถูกเชิญออกมาจากดินแดนเทพเจาสถิต
“ผูสูงสงแตกําเนิดคนหนึ่งถูกทํารายภายในตระกูล กอกบฏอยางนั้นรึ? จะตองหารือ
อะไรกันอีก เรงเอาตัวหญิงใจทรามผูนี้ไปประหารชีวิตโดยการหลิงฉือ[1]!” ผูอาวุโสคน
หนึ่งกลาวดวยความโกรธเกรี้ยว
“ปูและวงศตระกูลของนางตางก็ไมธรรมดา แข็งแกรงมาตั้งแตอดีตจนปจจุบัน
คําสั่งใหประหารชีวิตโดยไมพูดอะไรเลยเชนนี้ จะเกิดปญหาตามมามากมาย ภายในเมือง
จักรพรรดิจะวิพากษวิจารณอยางไมหยุดหยอน ทั้งคําเลาลือเลาอาง กระดูกขั้นสูงสุดจะ
รั่วไหลออกสูภายนอก” ชายชราอีกคนหนึ่งกลาวอยางนุมนวล
“แมวาจะเปนจักรพรรดิเปนผูกระทําเรื่องนี้ ก็ตองมีคําอธิบายใหแกเหลาไพรฟา ยิ่ง
ไมตองกลาวถึงตระกูลของนาง เจาตองการจะปดเรื่องนี้หรือไม ความรูสึกของคนอยู
เหนือเหตุผล เจาตองการบิดเบือนกฎหมายเพื่อประโยชนสวนตัวหรือไม?” ชายชราที่นั่ง
ตรงขามเอยถามอยางเยือกเย็น นัยนตาปรากฏตะวัน จันทรา ดวงดาว และวารี กลิ่น
อายที่ปลอยออกมาบดขยี้จนโตะแหลกละเอียด
กลางตําหนักใหญโต อักขระแนนขนัด สายฟาผนึกกําลัง นากลัวเปนอยางมาก กลิ่น
ดินปนหนาแนนอยางถึงที่สุด
เจาตัวเล็กนอนหายใจรวยริน ณ ที่แหงนี้ เขาถูกอุมอยูในออมอก เพื่อใชแสงเทพเจา
ที่ชวงโชติดุจมหาสมุทรคุมครอง และหลอเลี้ยงพลังชีวิตของเขา เพื่อหลีกเลี่ยงการ
เสียชีวิตจากความออนแรง
“แนนอนวาจะตองลงโทษนาง แตสามารถหารือกันภายหลังได สิ่งที่สําคัญตอนนี้คือ
กระดูกขั้นสูงสุดจะหายไปไมได ควรเปนผูสูงสงแหงตระกูลหินผาของเรา จะมลาย
หายไปดวยเหตุนี้ไมไดเด็ดขาด” ชายชราเนื้อตัวสีแดงฉาน ราวกับอาบเปลวไฟกลาว
แววตานาเกรงขาม สงบและเยือกเย็น
“นองหา เจาหมายความวาอยางไร?” ชายชราดุจสิงโตทองคํากลาวถามดวยเสียงดัง
ลั่น กระโจนลุกขึ้นแลวพูดวา “แนนอนวาตองควักออกมา และใสลงไปในรางกายของสือ
ฮาว เพราะนี่ถือวาเปนของเขา ผูใดก็มิอาจครอบครอง!”
“หากนําออกมาแลวก็ยากที่จะใหมนั เติบโตอยางรวดเร็วได”
“หรือเพราะยี่เออรเปนสายเลือดของเจา เจาจึงปกปองจนถึงที่สุดใชรึไม กระดูกขั้น
สูงสุดเปนของผูใดก็สมควรเปนของผูนั้น!”
ระหวางทัง้ สองคนมีแสงศักดิ์สิทธิ์วูบวาบ ภายในตําหนักราวกับภูเขาและมหาสมุทร
บาคลั่ง คํารามดังกึกกอง โถงราชวังวิเศษทั้งหลังกําลังสั่นสะเทือน
“พี่สี่ มิใชวาขาตองการจะบิดเบือนกฎหมายเพื่อประโยชนสวนตัว” ชายชราดุจหงส
ไฟลุกยืนขึ้น และชี้ไปยังเจาตัวเล็กแลวพูดวา “พวกทานดูสิ เด็กคนนี้ออนแอถึงเพียงนี้
แมวาจะกินโอสถทิพยทุกวันก็ยากที่จะฟนคืนสูสภาพเดิม จะหลอเลี้ยงกระดูกขั้นสูงสุด
ไดอยางไรเลา?”
เมื่อวาจานี้เปลงออกไป เสียงอึกทึกครึกโครมก็ลดนอยลงทันควัน คนมากมายไมเอย
วาจาใดอีกตอไป นี่เปนความจริง เจาตัวเล็กจะมีชีวิตรอดหรือไมก็ยงั เปนเรื่องที่พูดยาก
“ตามความคิดเห็นของขา ยอมละทิ้งกระดูกขั้นสูงสุดได แตก็ตองประหารสองแมลูก
นั่น!” ชายชราที่นิสัยเลือดรอนที่สุดเอยปาก
เมื่อวาจานี้ถูกเอยออกไป ทุกคนตางตกอกตกใจ ตระกูลสูญเสียผูสูงสงไปคนหนึ่ง ยัง
จะใหเด็กที่มีลูกตาดําสองดวงตายอีกหรือ?
“พี่สองระงับโทสะกอน ยี่เออรเปนเพียงเด็กไมรูประสีประสา เรื่องนี้ไมเกี่ยวของกับ
เขา เขามีศักยภาพของผูวิเศษและเทพเจาบรรพกาล ในภายภาคหนาจะตองเหยียด
หยามหมื่นตระกูลได ไมควรดึงเขาเขามาพัวพันดวย” มีคนกลาวหามปราม
“เด็กที่ไมรูประสีประสาอยางนั้นรึ? พวกเจาดูซิวาเหมือนตรงไหน หากกลับมาจะ
เปนตายรายดีอยางไร ก็จะตองประหารฟนคอ หากวาสังหารแมของเขา เขาก็จะตายไป
พรอมกับแมของเขา โทษทัณฑถึงเพียงนี้ พวกทานจะปลอยหญิงชั่วผูนั้นไปอยางนั้นหรือ
จะพึ่งเขาอยางนั้นหรือ?” ชายชราเอยเสียงเย็น สองแสงสวางพรางพรายทั้งตัว ประดุจ
ดวงดาวเต็มทองฟา มีพลังความนากลัวไหลเวียนอยู
“จะลงโทษหญิงชั่วอยางไร พักเรื่องเอาไวกอนคอยวากันทีหลัง ตอนนี้หารือกันเรื่อง
กระดูกขั้นสูงสุดกอนเถิด”
กลางตําหนักผูคนมากมายตางก็เงียบงัน เรื่องมาถึงเพียงนีแ้ ลว พวกเขาไมสามารถ
ทนไดเปนแน หากเด็กทั้งสองคนถูกทําลาย สายเลือดที่แข็งแกรงทีส่ ุดจะตองสืบทอดไป
“กระดูกขั้นสูงสุดปลูกถายในรางกายของยี่เออรแลว ตอนนี้ผลลัพธเปนเชนไร?”
ในขณะนี้เอง ชายชราที่มีศักดิ์สูงที่สุด ซึ่งไมเคยออกมาจากดินแดนเทพสถิตมาเปนเวลา
สามสิบปก็ลืมตาขึ้นฉับพลัน ราวกับพระอาทิตยสีทองสองดวงปรากฏขึ้น กระจายลําแสง
โชติชวง อีกทั้งเสียงคํารามดังกึกกอง นากลัวอยางถึงที่สุด
ผูคนสงบลงทันที ไมเอะอะโวยวายอีกตอไป
“หลอมรวมเปนหนึ่งเดียวกับยี่เออรแลว ไดรับการหลอเลี้ยงจากเลือดของเขาไม
แยกออกจากกัน ผลลัพธนาตกใจเปนอยางมาก ประหนึ่งวากําเนิดในรางกายของเขา”
เหลาหวูเอยปาก
ฝูงชนอกสั่นขวัญแขวนและสีหนาเปลี่ยน คาดไมถึงวาจะสําเร็จแลว ผูมีลูกตาดําสอง
ดวงและหากเพิ่มกระดูกขั้นสูงสุดเขาไปดวย ในอนาคตจะบรรลุถึงขั้นไหน? ความสําเร็จ
นั่นเปนสิ่งที่ไมอาจจิตนาการได!
“คอยหารือกันวันหลัง วันนี้พอแคนี้กอน” ชายชราอีกคนเอยปาก เขามีศักดิ์สูงและ
ไมปรากฏตัวมาเปนเวลากวายี่สิบสามสิบปแลวเชนกัน
ผูคนตางพากันพยักหนา เหลาซื่อที่ดุจสิงโตทองคํา อีกทั้งชายชราเลือดรอนที่สุดคน
นั้นสบสายตากันอยางเงียบเชียบ พวกเขารูดีวา ตระกูลไมมีทางปลอยใหผูสูงสงสลาย
หายไป และไมยอมใหผูมีลูกตาดําสองดวงสูญสิ้น
หลายวันตอมา มีขาวแววมาวา กระดูกขั้นสูงสุดไมมีผลกระทบใดเมื่ออยูภายใน
รางกายของสือยี่ มันถูกพลังชีวิตอันแข็งแกรงหอหุมไว โดยพื้นฐานแลวถือวาหลอมรวม
และกลายเปนหนึ่งเดียวกันแลว
“นาแคนใจเสียจริง!’ เหลาซื่อคํารามทุมต่ํา เขารูวาไรทางพลิกสถานการณใหดีขึ้น
สิ่งเหลานี้บอกไดอยางชัดเจน เขาอุมเจาตัวเล็กที่ออนแรงในออมอกดวยความรูสึกไม
พอใจ
เจาตัวเล็กหายใจรวยริน ดวงตาหมนหมองไรชวี ิตชีวา แมวาจะไดรับการบํารุงจาก
พลังปรานของผูกลาแหงตระกูล แตกลับยากที่จะฟนฟูสูสภาพเดิมได คนทั้งหมดตาง
ถอนหายใจ
คนในตระกูลเสาะหายาวิเศษมามากมาย แตก็เปลาประโยชน ยากที่จะกลับมา
แข็งแรงเชนดังเดิมได ใบหนาของเขาซีดเซียวขึ้นทุกวัน และไอไมหยุด และมักจะมี
อาการสั่นระริก เนื้อตัวเย็นเฉียบ
ครึ่งเดือนตอมา สภาพของเขากลับยิ่งแยลง ดวงตาไมมีแววแมแตนิด ออนแรงและ
ไรกําลัง ราวกับจะตายไดทุกเมื่อ
ยิ่งกวานั้น ยามเที่ยงคืนของทุกวัน กระดูกของเจาตัวเล็กจะเกิดเสียงดังกรอบแกรบ
รางกายเล็กๆ นั่นหดเล็กลง สูญเสียพลังปราณหมดทั้งตัว และอาการทั้งรางถดถอยลง
อยางแสนสาหัส
ทั้งที่อายุแปดเกาเดือนแลว แตเนื่องจากไดรับความเสียหายอยางสาหัส รางกายเกิด
การเปลี่ยนแปลงอยางรวดเร็ว เสมือนวาเด็กลงหลายเดือน รางกายของเขาย่ําแยลงทุก
วันๆ
“ทานคือ... ทานคือทานปูสี่หรือขอรับ?” เจาตัวเล็กนอนอยูบนเตียงเล็ก ลืมตาที่ไร
ชีวิตชีวาขึ้นและเอยถามอยางออนเพลีย
เขาย่ําแยลงเรื่อยๆ ภายในรางกายราวกับมีหลุมดํา กลืนกินพลังปราณของเขา
หลอมละลายกระดูกของเขา รางกายเหมือนโตเพียงไมกี่เดือน อีกทั้งไมมีปญ ญาเฉกเชน
เมื่อกอนอีกตอไป จนเกือบจะจําคนรอบขางไมไดแลว
ชายชราปวดหัวใจ ตบเบาๆ ไมหยุดเพื่อกลอมเขาเขานอน
“ทําไมขาจึงเริ่มจําคนรอบขางไมไดแลวละขอรับ ยิ่งนานก็ยิ่งเลือนราง...” เจาตัว
เล็กพยายามนึกใหออก แตในดวงตากลับยิ่งงุนงงมากยิ่งขึ้น
ทั้งที่เขาเปนเด็กที่ฉลาดและมีชีวิตชีวา ทวาตอนนี้กลับอยูในสภาพนี้ ทําใหขาทาส
ทั้งหลายตางปวดใจ ไมสามารถทนมองได
หลายวันตอมา แคเขาพูดก็ตองใชแรงอยางมาก ในดวงตาไมมีแมแตแสง มองดู
เด็กหญิงที่น้ําตาไหลอยูขางเตียง เอยถามอยางงงงวยวา “พี่สาว ทานเปนใคร?”
เด็กหญิงหนาตางดงามเช็ดน้ําตาออกแลวพูดเสียงเบาวา “ขาคืออาหมัง คุณชาย
นอย ทําไมทานจําขาไมไดแลวละเจาคะ?”
“อาหมัง คุนมาก ทําไมขาถึงคิดไมออกกันนะ?” เจาตัวเล็กพยายามคิด ดวงตาไร
ชีวิตมองฝาเพดาน สูญเสียไหวพริบที่เคยมีในอดีต
เด็กหญิงสะอึกสะอื้น ยกมือปดปากดวยเกรงวาผูอื่นจะไดยิน น้ําตาหลั่งรินจาก
ดวงตาเปนสาย สุดทายก็เอยเสียงเบาวา “ขาไดยินทานปูสี่พูดกับตัวเองวา ทานเปนผู
สูงสง ไมมีผูใดทัดเทียมได แตถูกผูอื่นทําราย”
“ขาเปนผูสูงสง...” เจาตัวเล็กบนพึมพํา
“เจาคะ ทานเปนผูสูงสง ผูสูงสงโดยกําเนิด เจาตัวเล็ก เจาจะตองดีขึ้นมาอยาง
แนนอน!” เด็กหญิงกลาวพลางรองไห
“แนนอน ขาเปนผูสูงสง ทานคือพี่อาหมัง เคยเลานิทานมากมายใหขาฟง และยัง
บอกวาจะพาขาไปดูนกกระเรียนขนแดง ดีตอขามากเลย” เจาตัวเล็กนึกขึ้นมาไดทันควัน
วาเด็กผูหญิงเปนใคร
“อืม คุณชายนอย ทานจะตองจดจําใหดีวา ทานเปนผูสูงสง และหามลืมวา ขาคือ
อาหมัง ทุกอยางจะตองดีขึ้น” เด็กผูหญิงรองไหพลางเอยย้ําเตือน
“อืม!” เจาตัวเล็กออกแรงพยักหนา จากนั้นก็เหมือนกับวานึกอะไรขึ้นมาได จึงพูด
วา “เหมือนกับวาขาเริ่มมีความทรงจําบางแลว ยังมีพี่ชายและพี่สาวอีกหลายคนเลย ไย
จึงไมมาดวยเลา”
“ลูกของขาทาสคนอื่นมาที่นี่ไมไดเจาคะ ทานชายสือปน... พวกเขาออกไปบําเพ็ญ
ตนกันหมดแลวเจาคะ” เด็กผูหญิงเอยแลวฝนยิ้ม
ในระยะนี้ เด็กคนอื่นๆ ในตระกูลมากันนอยลงเรื่อยๆ กระทั่งไมปรากฏตัว และ
แมแตทานลุง และทานอาก็ไมมา ดูแลเขาแลว
เจาตัวเล็กออนแรงลงทุกวัน ไมใชเด็กที่มีสติปญญาและโดดเดน ที่ถูกกําหนดไววาจะ
พุงขึ้นเปนผูกลาคนนั้นอีกตอไปแลว
คนในตระกูลไมมีผูใดเอื้อนเอยวาจาใด เพราะไมมีความรูสึกลึกซึ้ง แตกลับมาที่นี่กัน
นอยลง จึงเงียบเหงาอยางเห็นไดชัด แตวาเด็กอายุนอยเพียงนี้ก็ไมเขาใจอะไรเชนนี้
ทายที่สุด นานวันเจาตัวเล็กก็ยิ่งออนแรง ถดถอยลงจนถึงสภาพที่สาหัสอยางมาก
ที่สุด จําไมไดแมแตอาหมังและทานปูสี่
“คุณชายนอย ทานตองจดจําใหไดสิเจาคะ และหามลืมขา ขาคืออาหมังเอง”
เด็กผูหญิงงดงามยืนสะอื้นอยูขางเตียง ดวงตาบวมแดง
ทวาเจาตัวเล็กพูดไมไดแลว ไมรูวิธีเปดปากเอยวาจาแลว
หนึ่งเดือนตอมา สือจื่อหลิงกลับมา เขาหาคุณชายสิบสามไมเจอ อีกทั้งเมื่อเขามาใน
รัฐก็รูสึกถึงความไมชอบมาพากล และบรรยากาศแปลกๆ
“ฮาวเออรละ?!” เขาตะโกนถาม
ยามที่สองสามีภรรยาพบเจาตัวเล็กเขา ก็ตกใจจนตัวสั่น นี่ยังเปนเด็กที่มีอายุ
ประมาณสิบเดือนจริงหรือ ไยจึงโรยแรงและผายผอมเชนนี้ ดวงตาอับแสง ทั้งที่เคยมี
ชีวิตชีวาและมีแสงแหงปญญา?
เมื่อเจาตัวเล็กที่ออนเปรี้ยเพลียแรงพบกับสองสามีภรรยา ก็กางแขนออกดวย
จิตสํานึก หัวเราะอยางใจไมอยูกับเนื้อกับตัว ราวกับรูสึกไดถึงครอบครัวและความอบอุน
หมายอยากใหพวกเขาอุม
“ฮาวเออร!” สือจื่อหลิงคําราม ดวงตาเกือบถลนเลือดออกมา บิดาสูญหาย บุตร
เผชิญวิบัติ เขาเคียดแคนจนจะบา
“บุตรของขา เจาเปนอะไรไป?” มารดาของเจาตัวเล็กประดุจจะเปนลมหมดสติ
ควาเขาเขามาในอกและกอดอยางแนบแนน
“จื่อหลิง ขารูสึกผิดตอพวกเจาทั้งสองเหลือเกิน ขาไมดูแลฮาวเออรใหดี ขาไมควร
ใหผูอื่นเลี้ยงดูเขา พวกเจาลงทัณฑชายชราอยางขาเถิด!” ชายชราดุจสิงโตทองคํากลาว
ดวยน้ําเสียงเจ็บปวด
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?!”
เมื่อสือจื่อหลิงรูความจริงก็เคียดแคนจนจะคลุมคลั่ง เสนผมดําขลับของเขาลุกชันทั้ง
หัว ในมือถือหอกศึกทองคําดามหนึ่ง ทั้งตัวรายลอมดวยอักขระ จิตสังหารพลุงพลาน
เสียงตูมดังขึ้น หอกลอยขึ้นไปทั่วบริเวณตําหนัก พุงสังหารไปยังที่พาํ นักอาศัยของตระกูล
สือยี่
“เหลาสือยี (สิบเอ็ด) ระงับโทสะกอนเถิด มีเรื่องพูดคุยกันได พวกเราจะให
คําอธิบายที่ดีแกเจา!” คนกลุมหนึ่งไดยนิ เสียงเคลื่อนไหวก็มุงหนามาอยางรวดเร็ว
ลําดับที่สิบเอ็ดที่ถูกเรียก ไมใชวาเขามีพี่ชายแทๆ สิบคน แตเพราะอยูในลําดับที่สิบ
เอ็ดของรุนนี้ เพียงเพื่อบงบอกความสนิทชิดเชื้อ ตระกูลรักใครกลมเกลียว จึงไดลําดับ
เชนนี้
“ไปใหพน !” สือจื่อหลิงถลึงดวงตา เพียงหอกศักดิ์สิทธิ์ทองคํากวาดผาน อักขระก็
ทวมทนทองฟา กระเพื่อมราวกับเกลียวคลื่นในทองทะเล ความโกรธแคนพุงทะลุฟากฟา
เสียงโครมดังขึ้น คนเหลานี้ก็ลอยออกไป ทั้งหมดพนเลือดออกมาจากปาก ไม
สามารถตานทานไดแมแตนิด รองรอยที่ปกปองรางกายระเบิดออกจนหมด
สือจื่อหลิงดุจเทพเจาสงครามสีทอง รางกายอาบเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สีทองที่ทวมทน
ทองฟา ในมือถือหอกศึก ยางสามขุมไปดานหนา นัยนตาเปลงลําแสงศักดิ์สิทธิ์ เอยดวย
น้ําเสียงเยือกเย็นอยางหาที่เปรียบไมไดวา “ผูใดกลาขวางทางขา ขาจะฆามันใหสิ้น ไมวา
มันผูนั้นจะเปนใคร และมีความเปนมาอยางไร!”
“เหลาสือยี(สิบเอ็ด) เจาอยาบุมบาม!” บุรุษหนุมคนหนึ่งกลาวและยืนขวางอยู
ขางหนา
“บุมบามรึ? ฮาฮาฮา...” สือจื่อหลิงหัวเราะอยางบาคลั่ง กลาวดวยนัยนตาเยือกเย็น
วา “เจาเปนลุงแทๆ ของยี่เออรใชหรือไม ที่ขมเหงสายเลือดของพวกขา? หลีกไป!”
หอกศึกทองคําในมือของเขาพุงออกไปดานหนาดวยแสงศักดิ์สิทธิ์ลนหลาม อักขระ
มากเหลือคณานับ รวมตัวเปนหอกศึกที่หลอมจากแสง กระจายหมอกทวมทนผืนฟา
และพุงออกไปขางหนา
“ฟบ!”
บุรุษหนุมที่อยูตรงขามก็เริ่มลงมือเชนกัน แตกลับตานทานไมได อาวุธขาดสะบั้น
อาวุธล้ําคาแหลกละเอียด จากนั้นถูกหอกศักดิ์สิทธิ์ทองคําทะลวงหนาอก และลอย
ออกไปยังที่หางไกล เสียงตูมดังขึ้นพรอมกับปกอยูบนประตูตําหนัก เขาสําลักเลือดออก
มา นัยนตาเต็มไปดวยความหวาดผวา พวกเขาหางชั้นกันเกินไป
“จื่อหลิง เจาอยาทําเชนนี้ หญิงชั่วจะสงใหพวกเจาลงทัณฑ แตยี่เออรยังเปนแคเด็ก
เจาจะสังหารเขาไมได” ชายชราทั้งหมดปรากฏตัวขึ้น
“ไสหัวไปใหพน ยามที่บุตรของขาทนทุกขทรมาน พวกเจาไปอยูที่ใดกัน? นางหัก
กระดูกของลูกขาไปหนึ่งทอน ขาจะหักกระดูกนางรอยทอน!” สือจื่อหลิงคํารามดวย
ความโกรธแคน นัยนตาชุมไปดวยน้ําตา
เมื่อกลับมายังตระกูล พบวาบุตรที่เคยนารักและเฉลียวฉลาดตกอยูสภาพเชนนั้น ทํา
ใหใจของเขากระตุกและหลั่งเลือด
“ตูม!”
สือจื่อหลิงวาดหอกศึกทองคําในมือ เกิดเคล็ดวิชาสะทานฟา ราวกับเทพเจาสวด
มนต เวทมนตรคํารามเสียงดังกึกกอง สะเทือนแกวจวนจะแตก
ชายชราที่ขัดขวางสะเทือนจนปลิววอน เลือดทะลักออกจากปาก หวาดผวาอยางหา
ที่เปรียบไมได
เมื่อสือจื่อหลิงนึกถึงบุตรของตน ก็ราวกับมีมืดกรีดหัวใจ เจาตัวเล็กชางนาสงสาร
เดิมเปนผูสูงสง แตกลับถูกผูอื่นชวงชิงกระดูกไป เขาเปดศึกสังหารครั้งใหญพรอมกับ
น้ําตาที่หลั่งริน
..............................
[1] หลิงฉือ การแลเนื้อเถือหนัง เฉือนเนื้อเปนพันๆ ครั้งจนกวาจะตาย
บทที่ 59 คลุมคลัง่
แสงโชติชวงสาดทอ ชายชราผูหนึ่งเสกลูกประคํากระดูกหนึ่งพวง แตละลูกใหญดุจ
ไขหาน กระจายแสงระยิบระยับ ประหนึ่งดาวเคราะหที่ลอยมาจากนอกโลก พลังงาน
กระเพื่อมอยางนาตกใจ
พวกมันสรางผังดาวเคราะหอยางลนหลาม รองรอยยืดขยาย ราวกับหมูดาวตกลงมา
กลิ่นฟุงกระจายเปนบริเวณกวาง จากนั้นก็ปกคลุมสือจื่อหลิงทันควัน
“ปลอยขานะ!”
สือจื่อหลิงตะโกนลั่น เสนผมดําขลับพัดปลิว กวัดแกวงหอกยาวในมือ เกิดแสงสีทอง
ทวมทนทองฟา สะเทือนไปทั่วผืนฟา มุมตาของเขาแตกออก มีเลือดหลั่งรินลงมา บุตร
ตองพบกับความวิบัติเชนนี้ ทําใหหัวใจของเขาหลั่งเลือด ตอนนี้ใครกลาขวาง เขาก็จะ
สังหารมันใหสิ้น!
เคล็ดวิชาสะทานฟาสงเสียงคํารามดังกึกกอง ประดุจเทพเจากําลังสวดมนต สาดทอ
แสงศักดิ์สิทธิ์อยางไมสิ้นสุด แผปกคลุมที่แหงนี้ ผังดวงดาวที่พาดผานทองฟานั้นระเบิด
ออกทันที
“บดขยี้มัน!”
สือจื่อหลิงตะโกนลั่น เมื่อหาบหอกยาวในมือขึ้น อักขระโบราณก็ปรากฏขึ้นมากมาย
จูโจมไปยังดานหนา ลําแสงสีทองทะลักทวมทนขางหนา
ภายใตเสียงครืนครัน ลูกประคํากระดูกแตกละเอียดทีละลูก พลังของอักขระยิ่งใหญ
มลายหายไปจนสิ้น กลายเปนแสงศักดิ์สิทธิ์กวางขวาง แผแสงไปทั่วทุกสารทิศ
ตําหนักระรานตาลอยขึ้นฉับพลัน ราวกับใบไมรวงโรย ภายใตความคลุมคลั่งเชนนี้
พวกมันเล็กนอยจนไมมีคาใหเอยถึง จากนั้นก็แหลกละเอียดกลางอากาศ กลายเปนผุยผง
ลูกประคํากระดูกพวงนี้เปนอาวุธล้ําคาที่แข็งแกรงและพบเจอไดยาก แตกลับถูก
หอกโจมตีจนแหลก กลายเปนวิญญาณ หายวับไปในโลกหลานี้ ทําใหชายชรามากมาย
ปวดใจกันมาก
ตระกูลหินมีชาติกําเนิดเปนราชนิกุล ถูกแตงตั้งใหเปนกษัตริย แมจะยิ่งใหญมาก แต
อาวุธล้ําคาก็มิใชสิ่งที่จะเอามาสิ้นเปลืองเชนนี้ได ชายชราผูนี้มุมปากหลั่งเลือด รางกาย
สั่นสะทานอยางรุนแรง กระดูกหักหลายแหง เขาตัวลอยขึ้นเหนือพื้น จากนั้นกระแทกลง
บนตําหนักใหญ ทําใหที่นั่นแตกละเอียดกลายเปนฝุนผง
“จื่อหลิงยั้งมือเสีย ตางก็เปนครอบครัวเดียวกัน อยาทําเขนฆากัน ทําลายความ
ปรองดองเชนนี้เลย!”
กลุมชายชราเดินออกมาจากกองฝุน หนาตามอมแมมเปรอะเปอนไปดวยฝุนและ
คราบเลือด บนใบหนาของพวกเขาฉายความโกรธและความหวาดกลัวระคนกัน หลาน
คนนี้แข็งแกรงมากจนไลตามบิดาของเขาแลว
“ทําลายความปรองดองรึ? กระดูกขั้นสูงสุดของบุตรชายถูกชวงชิง ไดรับอันตรายถึง
ชีวิต แตตระกูลของหญิงชั่วกลับอยูดีมีสุขดังเดิม นี่ไมใชการทําลายความปรองดองหรือ
อยางไร?!” สือจื่อหลิงโกรธจนถึงขีดสุด แสงสีทองทั่วตัวลุกโชติชวงมากขึ้น สองทั่ว
บริเวณนี้จนสวางไสว ราวกับเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์กําลังลุกโหม น้ําเสียงของเขาเยือกเย็น
เอยประณามเสียงดังวา “แมวาพวกทานจะเปนลุงของขา แตก็ไมใชศัตรูของขา นอกจาก
สายเลือดของหญิงชั่วนั้น ที่เหลือโปรดหลีกไป มิเชนนั้นอยาหาวาขาเขนฆาอยางไรความ
ปราณี!”
“เจา...” มีคนเผยใบหนาโกรธเกรี้ยว
“จื่อหลิง มีเรื่องอะไรก็คุยกันกอนเถิด มีอะไรก็นงั่ ลงหารือกันมิไดหรือ?” ชายชราผู
หนึ่งเอยปราม
“ยังมีอะไรตองพูดกันอีก พวกทานไดตัดสินใจปกปองคนชั่วแลว สวนผูถูกกระทํา
กลับตองกมหนาเลียบาดแผลของตนอยางนั้นรึ? ตอนนี้บุตรของขาจะมีชีวิตรอดหรือไมก็
พูดยาก พวกทานจะใหขานั่งลงรึ? ดี ฟนหญิงชัว่ และสือยี่ใหสิ้น!”
“โอหัง นี่เปนการตัดสินใจของบรรพบุรุษสิบกวาคน เจากลาคัดคานอยางนั้นรึ?”
ชายชราคนหนึ่งตะโกนลั่น มือถือพัดขนนก และรายลอมดวยพายุและสายฟา เขาออก
แรงพัด ราวกับเทพเจาสายฟาเยือนโลกมนุษย มีแสงสีมวงพุงผานไปทันควัน
“ทานเปนปูของสือยี่รึ?” สือจื่อหลิงยางเทาอยางไมหยุด พุงไปขางหนาตลอดเวลา
ในเวลานี้เกิดเสียงแผดรองยาว นัยนตาสาดกระแสไฟที่ลุกโพลงออกมาอยางไมสิ้นสุด
เปนสายฟาเฉกเชนเดียวกัน แตกลับเปนสีทอง
“โครม!”
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงสายฟาคํารามสะเทือนหู แผนดินกวางใหญทแี่ นนขนัดไปดวย
กระแสไฟ เกิดการระเบิดอยางรุนแรง
พัดขนนกในมือของชายชราแตกละเอียดทันที ยามที่กระแสไฟลาถอย ทั้งเนื้อทั้งตัว
ของเขาดําเกรียม บนหัวมีควันผุดขึ้นมา ไมรูเปนตายรายดีอยางไร จากนั้นก็ถูกลําแสงสี
ทองโชติชวงที่ถูกยิงออกมาจากดวงตาของสือจื่อหลิงฟาดจนปลิววอน กระแทกชนกับ
ตําหนัก และไมลุกขึ้นอีกเลย
ผูคนทั้งหมดตางก็สูดลมหายใจเย็น สือจื่อหลิงแข็งแกรงเกินไป สมกับที่เปนผูมี
พรสวรรคของรุนนี้ วิธีการเชนนี้และความนาเกรงขามดุจเทพเจาสงคราม ทําใหผูอาวุโส
ตางก็หมนหมองไรสี ไมสามารถแยงชิงความเปนใหญกับเขาได
“เหลาสือหวู ชางมีบุตรที่ดีเสียจริง” มีคนเอยเสียงเบา
ความยิ่งใหญของทานชายสือหวูมีชื่อเสียงมากในดินแดนจักรพรรดิ สังหารนกหลวน
ทายาทอสูรบรรพกาลดวยลูกศรสองดาม ผูใดสามารถ? บําเพ็ญตนทั้งชีวิตจนกลายเปน
บุคคลสะทานฟาสะเทือนปฐพี!
และเนื่องดวยเหตุนี้เอง เขาถึงกลาสังหารทายาทของปเซี๊ยะเลือดบริสุทธิ์กลาง
สงครามรอยเผา ผูอาวุโสมากมายเขาใจถึงเจตนาของทานชายสือหวู เขาจะใชเลือด
บริสุทธิ์ของปเซี๊ยะขนานแท เพื่ออาบชําระรางกายใหแกลูกหลาน
ตอนนี้ บุตรชายของเขาก็แข็งแกรงเปนอยางมาก พละกําลังกายทั้งหมดสะเทือน
ดินแดนจักรพรรดิ ผูอาวุโสตางก็ไมใชคูตอสูของเขา เขาเสมือนเทพแหงสงครามสีทอง
จะมิใหผูคนหวาดหวั่นไดอยางไร
สามารถพูดไดวา หากอีกสายเลือดหนึ่งมีสือยี่ ถือกําเนิดดวยลูกตาดําสองดวง มี
พรสวรรคของผูวิเศษและเทพเจาครั้งบรรพกาล ในภายภาคหนาจะตองเปนบุคคลสําคัญ
ในตระกูลเปนแน
ในความเปนจริง แมวาจะมีสือยี่แลว สายเลือดของสือจื่อหลิงเองก็ตองโดดเดน ผูใด
ก็ไมสามารถปกปดรัศมีได เพราะบุตรของเขาเปนกระดูกขั้นสูงสุดแตกําเนิด
นาเสียดาย สุดทายกลับลงเอยเชนนี้ ทําใหผูคนตางถอนหายใจ
โครม!
สือจื่อหลิงยางสามขุมไปดานหนา ทุกกาวที่ย่ําลงบนผืนดิน จะเกิดรอยแยกเปนทาง
ใหญมากมาย ประหนึ่งยักษสีทองกําลังยางเดิน ไมมีสิ่งใดสามารถขัดขวางได
“รัดมัน!”
ชายชราคนหนึ่งตะโกนลั่น ในมือกําเถาวัลยหนึ่งเถา นี่เปนอาวุธล้ําคาที่แปลงกายมา
จากสิ่งมีชีวิตจําพวกพืชที่แข็งแกรงตนหนึ่ง เปนสีน้ําตาลดําแตกลับสองแสงระยิบระยับ
เสียงตูมดังขึ้น พื้นผิวบริเวณราชวังถูกทะลวง เถาวัลยเถาแลวเถาเลาพุงขึ้นมา ตางก็
กระจายแสงพรางพราย ราวกับเจียวหลงหลายตัว พุงเขาใสสือจื่อหลิงอยางบาคลั่ง
หมายจะพันตัวเขา
“เตาเออร คนของสายเลือดเจา ผูใดขวางทางขา มันผูนั้นตองตาย!” สือจื่อหลิง
ตะโกนลั่น
เขานาเกรงขาม ทรงพลังเปนอยางมาก เสนผมทั่วหัวลุกชันขึ้นทันควัน แตละเสนเงา
วับ จากนั้นก็ปลอยแสงสีทองออกมา ประหนึ่งเทพเจาดวงอาทิตย ทําใหเขาเจิดจาอยาง
หาที่สุดไมได
“ตูม!”
เสนผมสีทองหนาแนน ราวกับน้ําตกไหลพุง พุง มาทางนี้ ทําลายทุกอยางจนพินาศ
ยอยยับ บดขยี้เถาวัลยสองแสงทั้งหมดจนแหลกละเอียด จากนั้นก็ปะทะเขาใสอาวุธล้ํา
คาในมือของชายชราผูนั้น
เสียงฟบดังขึ้น เถาวัลยเถานั้นก็ระเบิดทันที แผดเผาทุกอยางจนเปนขี้เถา วิธีการที่
แข็งแกรงเชนนี้ทําใหทุกคนตกใจอาปากคาง รางกายเย็นเฉียบ
“หลีกไป!”
สือจื่อหลิงตะโกนลั่น เพียงกวัดแกวงหอกยาวในมือ เลือดสดก็แตกกระเด็น ยกชาย
ชราผูนั้นจนลอยลิ่ว ชนโครมเขากับกองหินจนแหลกละเอียด เลือดสดพวยพุงออกมา
เปนฝอย
“จื่อหลิง เจาเปนปศาจไปแลว รีบยั้งมือบัดเดี๋ยวนี้!” เหลาผูอาวุโสตะโกนลั่น
“หากการที่ขามาขอความเปนธรรมใหแกบุตรของขาแลวถือวาเปนปศาจ วันนี้ขาจะ
ลองใฝต่ําเปนปศาจก็ไมเสียหาย!” สือจื่อหลิงคํารามลั่น เสนผมบนหัวพลิ้วไหวอยาง
รุนแรง รางกายอาบแสงสีทองโชติชวง เดินยางสามขุมไปขางหนา ไมมีผูใดทัดเทียมได
เพียงกวัดแกวงหอกศึกทองคํา เลือดสดพุงขึ้นสูงสิบกวาเซี๊ยะไมหยุด ผูใดกลาขวาง
ก็สังหารมันผูนั้น นี่ทําใหผูคนตางก็ลาถอยดวยใบหนาซีดเผือกอยางควบคุมตัวเองไมได
“แผอักขระตรึงแผนดินนี้ใหแนน ใหมันยอมสยบ!”
ในตอนนี้ เขาเขาสูดินแดนพํานักอาศัยของตระกูลสือยี่แลว ผูคนในตระกูลตางก็ตื่น
ตระหนก ใชแผกระดูกล้ําคาเปนคายกล เพื่อกําราบสือจื่อหลิง
“ขาจะคอยดูวาผูใดจะขวางขาได!” สือจื่อหลิงประหนึ่งปศาจที่ไรเทียมทาน ณ
ตอนนี้ ทั่วทั้งรางมีจิตสังหารพุงทะลุชั้นเมฆ แสงในดวงตานากลัวจนเหลาผูอาวุโสตัวสั่น
เทา และพากันถอยหลัง แววตากวาดผาน ไมมีผูใดกลาสบตากับเขา สือจื่อหลิงถือหอก
ศึกกาวเดิน เพียงหนึ่งกวางก็มีระยะทางสิบจั้ง พุงสังหารไปดานหนา ตําหนักฝงตรงขาม
นี้แตกละเอียดเปนบริเวณกวาง
“กําราบมัน!”
กระดูกล้ําคาสองสวาง อักขระกลุมแลวกลุมเลาผนึกกําลังบนผิวดิน แนนขนัดเต็ม
ทองฟา กลายเปนแห เพื่อใหเขายอมสยบอยูขางใน
“โฮก...”
สือจื่อหลิงคลุมคลั่ง ความโกรธเกรี้ยวพุงทะลุทองฟา ราวกับเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่
กําลังลุกโหม รางกายระเบิดแสงอยางไมมีที่สิ้นสุด เขาดุจหลอมมาจากทองคํา ยืน
ตระหงานสูงเสียดฟา ออกแรงกวัดแกวงหอกศึก
ทันใดนั้น เสียงสวดมนตของเทพเจาก็ดังขึ้นอีกครั้ง พละกําลังที่ไมสิ้นสุดกระเพื่อม
ขึ้นลง เคล็ดวิชาสะทานฟา เขาประดุจเทพเจากําราบสี่ทิศ
“ตูม!”
ที่แหงนี้เกิดระเบิดครั้งใหญอยางรุนแรง กอนหินปลิวทะลุเมฆ แสงศักดิ์สิทธิ์ดุจ
มหาสมุทรกวางใหญ แผกระจายออกสูดานนอก สือจื่อหลิงมีจิตสังหารทะลวงเมฆ กวัด
แกวงหอกศักดิ์สิทธิ์ฟาดฟนจนที่แหงนี้แตกละเอียด กระดูกล้ําคาทั้งหมดระเบิดออกเปน
เสี่ยงๆ
“ไปตายเสียใหหมด!”
เมื่อหอกทองคําในมือกวัดแกวง ผูคนที่อยูในเหตุการณลอยขึ้นประหนึ่งฟางขาว
จากนั้นก็ลมลงไปทั้งหมด เลือดแตกกระเด็นเซ็นซาน ไมมีผูใดหยุดยั้งเขาได เขาเดินยาง
สามขุมไปขางหนาอยางไมสิ้นสุด
ภรรยาของสือจื่อหลิงอุมทารก ทั้งตัวมีแสงเงาวับไหลเวียนอยู เดินตามอยูขางหลัง
ตลอดทาง
เจาตัวเล็กมองเงาดุจเทพเจาที่อยูขางหนาอยางมึนงง อาแขนเล็กๆ ไมหยุด ยื่น
ออกไปขางหนาดวยความรูสึกที่สนิทชิดเชื้อเปนอยางมาก ในปากเปลงเสียงออแอ แต
กลับพูดออกมาไมได
มารดาของเขาเศราโศกเสียใจ นัยนตาสวยงามเออลนดวยน้ําตา บุตรผูเคยมีปญญา
กอนวัยมีชีวิตชีวาถึงเพียงนั้น แตตอนนี้กลับถดถอยจนกลายเปนสภาพนี้ ทําใหนางทุกข
ระทมจนหัวใจกําลังหลัง่ เลือด
“หยุดยั้งเขาไว!” ผูคนมากมายรองอยางหวาดผวา
สือจื่อหลิงกลายเปนปศาจแลว เขาคลุมคลั่งอยางสิ้นเชิง ทําใหพวกเขาหวาดกลัว นี่
จะเขนฆาพวกเขาจนสิ้นอยางนั้นหรือ
“ฆามัน!”
เกิดในตระกูลกษัตริย แนนอนวาจะตองมีขาทาสบริวารมากมาย และจะมีผูตาย
มากมายดวยเชนกัน ผูคนในตระกูลนี้เกรงวาสือจื่อหลิงจะกลับมาสะสางกับพวกเขา จึงมี
การเตรียมพรอมปองกัน ผูคนอุนหนาฝาคลั่งพุงเขามา และเปนมือดีทั้งหมด แข็งแกรงไม
กลัวความตาย หมายใชวิธีมดมากมายสามารถสังหารชางได[1]หวังใหสือจื่อหลิงเหนื่อย
ตายทั้งเปน จากนั้นก็สังหารเขา
“เจาพวกไรประโยชน!”
สือจื่อหลิงไมเกรงกลัวแมแตนิด เขาปกหอกลงบนพื้นดิน จากนั้นใชเคล็ดวิชาล้ําคาที่
แข็งแกรงที่สุด เขาในตอนนี้ราวกับเปนเทพเจาที่ถูกบูชา มีกลิ่นอายความศักดิ์สิทธิ์ที่นา
กลัว
เสียงสะทานฟาดังขึ้น แสงศักดิ์สิทธิ์กระจายอยางไมสิ้นสุด ราวกับวาเขาเปนยืน
ตระหงานอยูศูนยกลางของโลก ตะวัน จันทรา ดวงดาว และวารินเคลื่อนไหวรายลอมตัว
เขา สัตวอสูรขนาดใหญตัวหนึ่งปรากฏขึ้น กวาดลางทั่วสี่ทิศ
“โฮก...”
เสียงคํารามสะเทือนหูจวนจะดับ นี่เปนเคล็ดวิชาสะทานฟาชนิดหนึ่ง อสูรบรรพกาล
เลือนรางตัวนี้ทําลายทุกสิ่งอยางบาคลั่ง กําเริบเสิบสาน เพียงหนึ่งกรงเล็บตวัดลงตองมี
ผูคนนับสิบอาบเลือด
สถานที่แหงนี้กลายเปนโรงฆาสัตว รางกายขนาดใหญนั่น ดุรายและกลาหาญอยาง
ไมมีผูใดเทียบ เพียงมันกระโดด ผูกลานับรอยคนก็ถูกสังหารอยางรวดเร็ว ผูคนที่เหลือ
ตางก็หวาดกลัว
วิธีการที่นากลัวเชนนี้ทําใหผูคนตางขนลุกขนชัน เพียงคนเดียวเทานั้น ตอตานผูกลา
มากมายของตระกูลไดอยางนาหวาดกลัว
“ตูม!”
ในที่สุด สือจื่อหลิงเองก็ลงมือ ทั้งรางกายแผกระจายแสงสีทองมากเหลือคณานับไป
ทั่วบริเวณ จากนั้นก็กวาดผานไป คนที่เหลือลอยพาดขึ้นกลางอากาศ เลือดแตกกระเด็น
เซ็นซาน
ในชวงเวลาอันสั้น พื้นที่ดานหนาก็วางเปลา ไมมีผูใดขัดขวางอีกตอไป ทั้งหมดถูก
จัดการจนสิ้นซาก
“จื่อหลิง สังหารจนหนําใจแลวกระมัง ไดระบายอารมณไปบางแลวใชไหม?”
ดานหนามีกลุมคนปรากฏขึ้น ผูที่พูดก็คือ “เหลาหวู” ทั้งตัวสองแสงสีแดงกระเพื่อมขึ้น
ลง ราวกับหงสไฟที่นิพพานแลว แตนัยนตาเปนสีทอง คลายกับโคมไฟสีทองสองดวง
ขางกายของเขาเปนเด็กคนหนึ่ง เปนผูมีพรสวรรค กําเนิดพรอมกับลูกตาดําสองดวง
แมอายุไมมาก แตกลับมีมารยาท และเยือกเย็นสุขุมจนทําใหผูใหญรูสึกละอาย
หลังจากที่สือยี่ไดรับกระดูกขั้นสูงสุดแลวก็ยิ่งไมธรรมดา ยามกะพริบตามีแสง
ศักดิ์สิทธิ์ไหลเวียน และทุกทวงทาการเคลื่อนไหว มีความนากลัวและนาเกรงขาม
เขายังเยาวแตกลับมีลักษณะที่นากลัวมาก ราวกับกําหนดไวแลววาจะตองเหนือกวา
สรรพสิ่ง และกําราบหมื่นวิญญาณ ประหนึ่งเทพเจาเยือนโลก
“ไมพอ!” สือจื่อหลิงตอบกลับดวยน้ําเสียงเยือกเย็น หันหลังกลับไปมองเจาตัวเล็กที่
ดวงตาไรชีวิต หายใจรวยริน ทําใหเขาปวดใจ มือถือหอกชี้ไปยังดานหนาแลวพูดวา
“นอกจากทําใหบุตรของขาฟนฟูสูสภาพเดิม มิเชนนั้นจะตองชดใชดวยเลือด พวกเจา
กระทําเรื่องชั่วชาเลวทรามเชนนี้ แมแตสวรรคก็อภัยใหไมได หักกระดูกขั้นสูงสุดของ
บุตรขา ก็เอากระดูกรอยชิ้นมาคืนขาเสียสิ!”
..............................
[1] มดมากมายสามารถสังหารชางได ผูที่ออนแอกวาใชความไดเปรียบทางจํานวน
คนที่มากกวา สามารถเอาชนะผูที่แข็งแกรงกวาได
บทที่ 60 ผูใ ดจะทัดเทียม
“จื่อหลิง ไมมีใครหวังใหเกิดเรื่องเชนนีข้ ึ้นหรอก ตองชดใชอยางไร เจาเอยมาไดเลย
แตเจาจะจัดการกับมือขวาของตระกูลขาไมได” ชายชรากลาวอยางสงบ
“ทานปูหา ทานกําลังพูดอะไร?!” สือจื่อหลิงตาถลน ยืนถือหอกทองคําและจองไป
ยังกลุมผูกลาที่อยูตรงขามแลวพูดวา “ชิงกระดูกขั้นสูงสุดของบุตรขา ทําใหเขาถดถอย
จนเจียนตาย แตเด็กผูเปนบอเกิดแหงหายนะ กลับกลายเปนมือขวาของตระกูล คําพูด
เชนนี้ทานยังพูดออกมาไดอีกรึ!”
“เหลาหวู” จัดเปนรุนที่หาของพวกเขา มีนามวา สือยวน มีศักดิ์สูงกวาบิดาของสือจื่
อหลิงอีกหนึ่งรุน เปนผูอาวุโสแข็งแกรงของตระกูล บําเพ็ญตนจนแข็งแกรง และอยูในขั้น
ที่ลึกซึ้ง
“จื่อหลิง ไมรูความเปนมาอยาดวนตัดสิน เจาอยาโกรธเคือง นั่งลงแลวคอยๆ คุยกัน
จะตองมีวธิ ีการชดใชที่เจาพึงพอใจเปนแน” สือยวนกะพริบตา มีแสงศักดิ์สิทธิ์ไหลเวียน
และกลิ่นอายนาหวาดกลัว
“พอแลว!” สือจื่อหลิงจะไมรไู ดอยางไรวา เมื่อตระกูลทําการตัดสินใจไปแลว จะ
เรียกคืนกลับมาไดอยางไร? เขาเอยเสียงเย็นวา “เรื่องอื่นเอาไวกอน เอากระดูกขั้นสูงสุด
ของสือฮาวออกมา”
กลุมคนที่อยูตรงขามหนาเปลี่ยนสี พวกเขาตางก็เปนผูกลาแหงตระกูลของสือยวน มี
จํานวนนับสิบคน คําขอรองเชนนี้ไมสามารถตอบรับได ไมวาอยางไรก็จะไมสงมอบ
กระดูกขั้นสูงสุด
“จื่อหลิง เมื่อเอากระดูกขั้นสูงสุดออกมาแลว ก็ยากที่จะเจริญเติบโตตอเนื่องได
ชดใชดวยสิ่งอื่นเถิด” สือยวนเอยอยางออนโยน
“จะเติบโตอยางตอเนื่องไดหรือไม ไมใชธุระกงการอะไรของพวกทาน สิ่งของที่เปน
ของสือฮาว ผูใดก็ไมสามารถครอบครองได!” สือจื่อหลิงตะโกนลั่น ในใจมีความโกรธ
เคือง เดิมเปนกระดูกล้ําคาของบุตรตน แตกลับถูกผูอื่นชิงเอาไปยึดครอง
“ไมได!” สือยวนสายหนาอยางเด็ดขาดแลวพูดวา “เพื่อความรุงโรจนของตระกูลขา
ขาทําเรื่องเชนนี้ไมได ผูสูงสงแตกําเนิดจะมลายหายไปไมได”
“ทานบอกวาไมไดงั้นรึ?” สือจื่อหลิงมีลักษณะดุจสายรุง นัยนตาแฝงกระแสไฟ มือ
ถือหอกศึกแลวกาวไปขาวหนา มองเยยหยันไปดานหนาแลวพูดวา “ขาจะเอามาเอง!”
เขาจองสือยี่ และชี้หอกทองคําในมือเล็งไปที่หนาอกของเขา แสงสวยงามไหลทะลัก
อักขระดุจสายฟาคํารามดังกึกกอง เตรียมจะลงมืออยางแทจริง
สองฟากฝงของสือยวน ผูกลาจํานวนมากถืออาวุธ นัยนตาแฝงความโกรธ
เตรียมพรอมลงมือเพื่อรบอีกครา ไมยอมใหผูวิเศษที่ถือกําเนิดดวยลูกตาดําสองดวง
เสียชีวิตตั้งแตวัยเด็ก
“ดี ดี ดี!” สือจื่อหลิงพูดคําวา ดี สามครั้งตอเนื่องกัน ไฟโทสะพุงพรวด แสงสีทองใน
ดวงตากลับโชติชวง
“จื่อหลิง ขอเรียกรองอื่นๆ อะไรก็ได ขอเพียงอยางเดียวอยาทํารายยี่เออร” สือยวน
เดินออกมา ยางกาวมั่นคง แสงสีแดงฉานทั่วตัวลนหลาม นาเกรงขามเปนอยางมาก ดุจ
แมน้ําและทะเลกระเพื่อมขึ้นลง เขาเปนผูกลาขั้นสูงสุด ไมเพียงแคในตระกูล แมแตใน
ดินแดนจักรพรรดิก็มีชื่อเสียงเปนอยางมาก
สือจื่อหลิงชูหอกขึ้น ยังจะพูดอะไรไดอีก? มีเพียงรบเทานั้น บริเวณรอบๆ ของหอก
ศึกทองคําปรากฏอักขระศักดิ์สิทธิ์ขึ้นตัวแลวตัวเลา ประหนึ่งหลอมจากโลหะ ความรูสึก
เยือกเย็นรายลอมหอกศึกไว ปลอยอิทธิฤทธิ์ที่หาที่เปรียบไมได
“สังหาร!”
สือจื่อหลิงพุงออกไปโจมตี เมื่อหอกศึกกระตุก สะเทือนไปทั่วฟากฟา อักขระ
เหลานั้นดุจมีชีวิต กระจายแสงศักดิ์สิทธิ์ กดดันลงมา
เสียงโครมดังขึ้น เหลาผูกลานับสิบคนที่อยูฝงตรงขามลาถอยอยางทนไมได
ประหนึ่งภูเขานับสิบหมื่นกดดันลงมา ทําใหทุกคนตางก็ใจสั่นระรัว และลงไปคุกเขา
อยางคาดไมถึง
นี่ก็คือระยะหาง สือจื่อหลิงถูกยกยองวาเปน ผูมีพรสวรรคแหงดินแดนจักรพรรดิ
ชื่อเสียงระบือไกลสี่ทิศ ไมใชบุคคลที่พวกเขาจะตอตานได มีเพียงผูอาวุโสขั้นสูงเทานั้นที่
สามารถรบกับเขาได
ในที่เกิดเหตุเหลือเพียงสือยวนเพียงผูเดียว คนอื่นๆ ตางก็ลาถอยไปอยางโอนเอน
ไมมีทางยืนอยูเชนนั้นได มิเชนนั้นคงจะถูกกลิ่นอายแบบนั้นกดจนรางกายแหลกละเอียด
เปนแน
เสียงดังกึกกองแววมาก แขนทั้งสองขางของเขาสั่นสะเทือน ราวกับหงสไฟบิน
ทะลวงเมฆ บริเวณรอบตัวเขามีแสงสีแดงพุงขึ้น ความนาเกรงขามของเพิ่มขึ้นไมรูกี่สิบ
เทา เขาขัดขวางพลังของหอกศึกทองคํา
ตูม!
หอกศึกดุจสายรุง มาพรอมกับพลังชนิดที่ไมเคยมีมากอน อักขระสีทองที่แนนขนัด
เต็มทองฟาพุงทะลวงมา ทําใหสั่นไหวไปทั้งแผนดิน
แขนขวาของสือยวนมีอักขระกระจายอยางหนาแนน ฟาดไปดานหนา กลายเปนปก
ศักดิ์สิทธิ์เขาลอมหงสไฟขนแดง สวางเจิดจา อีกทั้งยังมีเสียงนกหงสแผดรองสะเทือนไป
ทั่วแผนดิน
ขนเทพเจาหงสไฟและหอกทองคําปะทะเขาดวยกัน ราวกับภูเขาไฟกําลังปะทุสอง
ลูกชนกัน ลาวาทวมทนทองฟา เปลวเพลิงบดบังอากาศ สถานที่แหงนี้เจิดจาพราตาไป
ทั้งบริเวณ มองไมเห็นสิ่งอื่นใดเลย
ทั้งตอสูกันอยางรุนแรง เพียงชั่วครูก็สูรบปรบมือมากวาสิบครั้งแลว หนึ่งคนหอหุม
ดวยแสงสีทอง ราวกับเทพเจาสงคราม อีกหนึ่งอาบแสงสีแดง ประหนึ่งหงสไฟ อสูร
ปกษาบรรพกาล ปะทะเขาหากันอยางตอเนื่องดวยความรวดเร็วเปนอยางมาก ทุกครั้งที่
กระแทกกันจะเกิดแสงสวางทวมทนทองฟา
ผูชมศึกไมมีผูใดไมหวาดกลัว สือจื่อหลิงแข็งแกรงมาก บีบคั้นผูอาวุโสของตระกูลจน
ตองตอสูกันอยางเอาเปนเอาตายเชนนี้ ไมสามารถจินตนาการไดอยางแทจริง ตองรูว า
เวลาในการบําเพ็ญตนของทั้งสองคนตางกันมาก
เสียกนกแผดรองดังขึ้น สะเทือนทองคําจนแหลกละเอียด เสียงแหลมอยางมาก
ตําหนักพังทลายหลังแลวหลังเลา เหลาผูกลาทั้งหลายตกใจไมมีผูใดไมใชอักขระมา
คุมครองตนเอง มิเชนนั้นคงจะไดรับลูกหลงเปนแน
ทุกเสนขนของสือยวนตั้งขึ้น นัยนตาแฝงกระแสไฟ รางกายเปลงแสงสวางไปทั่ว
อสูรปกษาบรรพกาลพุงออกมาจากรางกายของเขา สีแดงฉานทั้งตัว ขนนกสวยสด
งดงาม กระพือปกบินทะยานขึ้นสูฟากฟา พุงโจมตีสือจื่อหลิง
เขาใชเคล็ดวิชาล้ําคาขั้นสูงสุด จิตสังหารพุงพรวดขึ้นอยางฉับพลัน ผูคนตาง
หวาดกลัวกันอยางหาที่เปรียบไมได ผูอาวุโสถูกบีบคั้นจนถึงจุดนี้
“โฮก...”
ทางฝงสือจื่อหลิงมีเสียงคํารามทุมต่ําดังขึ้น ทั้งรางกายของเขาสาดทอแสงสีทอง
สัตวอสูรปรากฏขึ้นหนึ่งตัว อัดแนนไปทั่วปฐพี แหงนหนาขึ้นคําราม สรรพสิ่งยอม
ศิโรราบ ราวกับกษัตริยปรากฏตัว กําราบแผนดินที่กวางใหญนี้
เงาสัตวตัวนี้เลือนรางมาก แตผูใดก็ยอมรูวาจะตองเปนหนึ่งในสัตวอสูรที่ยิ่งใหญ มิ
เชนนั้นคงไมมีพลังอํานาจมากมายเชนนี้
เสียงโครมดังขึ้น สัตวอสูรขนาดใหญฟาดกรงเล็บลงมา ตําหนักระรานถูกปกคลุมอยู
ขางลาง ความเหี้ยมโหดของมันสะเทือนทั่วทุกสารทิศ คนทั้งหมดเนื้อตัวสั่นระริกจะกม
ลงหมอบลงไป
อสูรปกษาบรรพกาลแผดรองยาว กระพือปกนกสวางไสวฟาดไปที่กรงเล็บของสัตว
อสูรนั่น ทั้งสองตอสูกันอยางดุเดือด
นี่เปนการประลองเคล็ดวิชา เปนศึกสงครามระหวางผูยิ่งใหญทั้งสองคน มีขาไมมี
เจา เขนฆากันอยางดุเดือดดวยกําลังทั้งหมดที่มี แสงศักดิ์สิทธิ์กวางใหญกวาดลางไปทั่วสี่
ทิศ ชางนากลัวเสียจริง
“ทานปู โจมตีซี่โครงดานซายของเขา!” ในตอนนี้เอง สือยี่เปดปากโดยพลัน ดวงตา
มีลูกตาดําสองดวง มีแสงศักดิ์สิทธิ์ไหลเวียน อายุยังนอยแตกลับมีกลิ่นอายความนากลัว
นัยนตาของเขาสามารถอานทะลวงบอเกิดของสรรพสิ่งได เขามองออกวาสือจื่อหลิงมี
ชองโหวจงึ ตะโกนออกมาทันที เพื่อบอกใหปูของตนโจมตีจุดออน
“ตูม!”
นัยนตาของสือยวนปลอยลําแสงออกมา เรงใชเคล็ดวิชาล้ําคา อสูรปกบรรพกาลตัว
นั้นพุงทะยานลงมา โจมตีไปที่ซี่โครงขางซายของสือจื่อหลิง เพื่อทําใหชองโหวของเขา
ขยายใหญขึ้นอยางไมมีที่สิ้นสุด
“โฮก...” อสูรบรรพกาลตัวนั้นสงเสียงคําราม สะเทือนไปทั่วภูเขาและสายน้ํา เพียง
ชั่วครูก็เขาขัดขวางนกหงส อสูรปกษานากลัวตัวนั้นทันที หนึ่งกรงเล็บฟาดลงมา
สั่นสะเทือนไปทั้งแผนดิน
“ทานปู โจมตีใตรักแรทางขวาของสัตวอสูร!” สือยี่เอยปากอีกครั้ง นัยนตายากแท
หยั่งถึง มีลําแสงศักดิ์สิทธิ์ปลอยออกมาเปนสาย พลังอํานาจลึกลับไหลเวียน นากลัว
อยางหาที่เปรียบไมได
เสียงโครมดังขึ้น อสูรปกษาบรรพกาลโจมตีอีกครั้ง มันกระพือปกทั้งสองขาง เปดอา
จงอยปากพนแสงสวางออกมาอยางไมมีที่สิ้นสุด แตละกลุมแสงถูกปลอยออกไป ก็เพียง
พอที่จะทําลายผูกลาคนหนึ่งใหสิ้นซาก
ปง!
สัตวอสูรยกกรงเล็บขึ้นโบกไปที่จงอยปากของอสูรปกษาบรรพกาลทันที เพื่อ
ขัดขวางแสงสวางทั้งหมด ไมใหมันโจมตีเขามาได
“โจมตีหนาอกของมัน!” สือยี่ตะโกนขึ้นอีกครั้ง แววตากลับยิ่งโชติชวง ราวกับโคม
ไฟศักดิ์สิทธิ์สองดวง กลิ่นอายที่กระจายออกมาทําใหผูคนมากมายอกสั่นขวัญแขวนดวย
ความหวาดกลัว
เสียงโครมดังขึ้น อสูรปกษาบรรพกาลสะบัดหางนกอยางรวดเร็วและดุดัน ฟาดไปยัง
หนาอกของสัตวอสูร นาเสียดายที่เปลาประโยชน อีกทั้งเกือบจะถูกกรงเล็บฟาด มันจึง
ลาถอยอยางรวดเร็ว
“ไมไดการณ มันรวดเร็วเหลือเกิน!” สือยี่เหงื่อกาฬผุดขึ้นเต็มหนาผาก ชี้จุดออน
เรื่อยๆ แตสือจื่อหลิงกลับเยือกเย็นอยางหาที่เปรียบไมได ไมไดสนใจแมแตนิด ลงมือดุจ
สายฟา วิธีการที่ใชควบคุมเคล็ดวิชาล้ําคานั้นไรรองรอยดุจละมั่งซอนตัว
สือยี่มีลูกตาดําสองขาง สามารถมองทะลุธาตุแทของสรรพสิ่ง คนหาชองโหว แตการ
ชี้บอกเชนนี้ กลับตามความเร็วของสือจื่อหลิงไมทันแมแตนอย
“ทานปูหา ทานไมไหวแลว!” สือจื่อหลิงเอยปาก รางกายระเบิดแสงเจิดจามาก
อยางขึ้น เงาสัตวขนาดใหญนั่นเพิ่มขนาดขึ้นอยางรวดเร็ว จากนั้นก็แตกละเอียด แปลง
รางเปนอักขระอสูรบรรพกาล พุงเขาไปในตัวของเขาและหลอมรวมเปนหนึ่ง
เขาสวางเจิดจาสวยงาม กาวเดินไปพรอมกับมือที่ถือหอกศึก ทุกยางกาวที่ย่ําลง
สะเทือนจนแผนดินสั่นไหว หอกในมือจวงแทงอยางรวดเร็ว แสงสีทองทะลวงอสูรปกษา
และสังหารทันที
“ตูม!”
หอกคมสีทองเปลี่ยนทิศทาง พุงไปขางหนา สือยวนเผยความกลัว แตก็สายไปเสีย
แลว คมหอกปกคลุมดวยอักขระแนนหนาทะลวงหัวไหลของเขา
สือยวนคํารามลั่น เขาใชพละกําลังทั้งหมด ผนึกกําลังของอักขระใหรวมตัวกันที่
หัวไหล แสงสวางเจิดจาอยางหาที่เปรียบไมได เขาลอยลิ่วออกไป อักขระลึกลับผนึก
กําลัง หยุดยั้งไมใหบาดแผลลุกลาม ตรงนี้ปรากฏแองเลือดที่สองทะลุหนาหลังได
หากเปนผูอื่นแลวละก็ รางกายคงปริแตกแลว จากนั้นก็แหลกละเอียด แมวาจะ
เกงกาจเพียงใด แตแขนขางนี้ก็แหลกละเอียดทันที แตเคล็ดวิชาของสือยวนนั้นกลัวเปน
อยางมาก ปดผนึกบาดแผลไว แมวาจะพิการเสียแขนไป แตแขนก็ยังไมถือวาแหลก
ละเอียด
ดวยเหตุนี้เองทําใหเขาสูญเสียพลังไป เขาราวกับแกเพิ่มขึ้นสิบป เพียงพริบตาก็ลม
ลงไปกลางผูคน ไมสามารถรบไดอีกตอไป
ผูอาวุโสสูงสงแพพาย ตระกูลของสือยวนไมมีใครตานทานสือจื่อหลิงได นี่ทําใหผูคน
หวาดผวา เขาอายุเทาไหรกันเชียว? อายุเพียงยี่สิบกวาปเทานั้น แตกลับเปนอันดับหนึ่ง
ของตระกูล ทําไมทรงพลังนี้!
ภายในสถานที่เกิดเหตุเงียบสงัดไรเสียง คนในตระกูลสือยวนหวาดกลัว
สือจื่อหลิงเดินกาวไปขางหนาทีละกาว ในมือถือหอกทองคําชี้ไปยังดานหนา เขาจด
จองไปที่สอื ยี่แลวพูดวา “หลานรักของขา เจาเปนคนบอกแมของเจาวาในรางกายของ
ฮาวเออรมีกระดูกขั้นสูงสุดใชรึไม? ความคิดชางลึกซึ้งยิ่งนัก”
สือยี่ไมเอยคําใด ยืนอยูที่เดิมดวยแววตาที่ฉายแสงศักดิ์สิทธิ์แปลบปลาบ
“ตระกูลจะลงทัณฑแมเจา เจาก็ใชอํานาจคุกคามมิใหสังหารนางใชไหม? ไมรูวาหาก
วันนี้ขาสังหารนางที่นี่ เจาจะใชมีดปาดคอตัวเองตายดวยไหม” สือจื่อหลิงเอยอยางสงบ
“ผูอาวุโสสูงสงทานอื่น พวกทานไมลงมือรึ?” มีคนตะโกน
สือจื่อหลิงไมหันกลับไปมอง เขารูนานแลววา ตั้งแตชวงเวลาที่เขาลงมือ ผูอาวุโส
สูงสงก็เคลื่อนไหวแลวเชนกัน ใชกระดูกล้ําคาของทายาทอสูรบรรพกาลปดนึกไปทั่ว
บริเวณคฤหาสน ปองกันเสียงของการตอสูแพรงพรายออกไปยังภายนอก
“จื่อหลิง ผิดพันครั้งหมื่นครั้งก็เปนความผิดของพวกเรา หญิงชั่วคนนั้นอยูที่นี่ จะฆา
จะทรมานก็ตามแตเจาตองการ แตวายี่เออร เจาจะทําอะไรเขาไมได” ตอนนี้เอง ผู
อาวุโสสูงสงหลายคนก็ปรากฏขึ้นพรอมกัน
พวกเขาแตละคนมีพละกําลังอันนาตกตะลึง ตางก็เปนผูมีศักดิ์สูงที่อยูหลายชั่วอายุ
สูงกวาสือจื่อหลิงหลายรุน นัยนตาสวางเจิดจาราวกับพระอาทิตยดวงนอย นี่เปนผูกลา
ขนานแทของตระกูล
เบื้องหนาของพวกเขามีหญิงสาวที่ถูกมัดและถูกสงตัวมายังละแวกใกลเคียง
“พี่สะใภ ใจของทานเปนสีแดงหรือดํากันแน?” สือจื่อหลิงกัดฟน จากนั้นก็เอยถาม
วา “หนาเนื้อใจเสือ[1]เสียจริง!”
ที่ไมไกลนัก สือยี่ใบหนาเยือกเย็น ดวงตาเปนประกาย แผกลิ่นอายความนากลัว
อยางหาที่เปรียบไมได มีความเยือกเย็นที่หนาวไปถึงกระดูก ทําใหผูคนตางสะเทือน
สือจื่อหลิงพูดตอวา “ขาเคยบอกแลว ทานหักกระดูกของลูกชิ้นหนึ่ง ขาจะหักทาน
เปนรอยชิ้น วันนี้แมวาจะมีจักรพรรดิแหงสวรรคมา ก็หยุดยั้งขาไมได!”
หญิงสาวเงยหนาขึ้น สีหนาเยือกเย็น ไมพูดอะไรแตในใจกลับหวาดกลัวและเสียดาย
ทั้งที่ตระกูลของมารดาสงคนไปสังหารสามีภรรยาคูนี้แลว ไยพวกมันจึงยังรอดกลับมา
ได?
“ขาจะทําใหเจาไดเห็นกับตาตัวเอง!” สือจื่อหลิงตะโกนลั่น จากนั้นก็หันไป
เผชิญหนากับสือยี่ทันควัน ชูหอกศึกทองคําขึ้น เหวี่ยงออกไป ใชแทนกระบองโลหะ
“เจากลา!” มีผูอาวุโสสูงสงตะโกนดวยความโกรธ
“จื่อหลิงยั้งมือบัดเดียวนี้ ทํารายยี่เออรไมได เรื่องอื่นคุยกันได!” มีผูอาวุโสสูงสง
กลาวเชนนี้
“สือจื่อหลิง เจาจะกอกบฏรึ?” ผูอาวุโสที่เขาขางตระกูลของจื่อหยวนตะโกนปราม
เสียงดังลั่น
คนเหลานี้ขัดขวางพรอมกัน ในขณะเดียวกันก็ลงมือพรอมกัน เพียงชั่วครูเคล็ดวิชา
สะทานฟา ก็สองสวางไปทั่วจักรวาล
“กบฏแลวอยางไรเลา? ขาพูดแลว ใครก็หยุดยั้งขาไมได!” สือจื่อหลิงตะโกนลั่น ควง
หอกยาวทองคําในมือ ไมเปลี่ยนทิศทางเฉกเชนดังเดิม ฟาดลงไปยังสือยี่
ทันใดนั้น ชายชราก็ยืนจังกาอยูตรงนั้น เคล็ดวิชาแตละขนานถูกปลอยออกมาจนสิ้น
อักขระปดผนึกดานหนา หอกยาวรวงหลนลงมา
สือจื่อหลิงสะบัดมือ อักขระผนึกกําลัง ลึกลับซับซอนอยางหาที่เปรียบไมได รวงไป
ตามหอกสีทอง ปลอยพลังที่มหัศจรรยออกมา
“แยแลว!” ผูอาวุโสทั้งหมดตางก็ตกตะลึง
พวกเขารูสึกถึงพลังลึกลับทะลวงผานเคล็ดวิชาล้ําคาของพวกเขา สื่อนําไฟฟาผาน
ไป และโจมตีไปที่สือยี่ แมวาตอนที่ผานพวกเขาจะออนแรง แตก็นากลัวเฉกเชนดังเดิม
“นี่คือ... เคล็ดวิชาอะไรกัน?” พวกเขาหวั่นในใจ ในตระกูลไมเคยบันทึก มหัศจรรย
มาก ไมคาดคิดวาจะทะลวงผานรางกายของพวกเขาและเคล็ดวิชาล้ําคาได พุงออกไป
ขางหนา หมายอยากขัดขวางก็สายไปเสียแลว
“อา...”
สือยี่สงเสียงรองครวญคราง ทั้งตัวลอยพาดขึ้นกระแทกชนกอนหิน รางกายอาบ
เลือด กระดูกสงเสียงกรอบแกรบ กระดูกนับรอยชิ้นแตกหักพรอมกันภายในพริบตา!
“ยี่เออร!” หญิงสาวหวาดผวาและรองเสียงหลง จากนั้นก็เงยหนาขึ้นทันควัน
อํามหิตจนนาตกใจ จดจองไปที่สือจื่อหลิง เอยเสียงเย็นวา “บิดาของขาไมปลอยเจาไว
แน!”
“ชริ้ง”
ลําแสงสีทองกะพริบ สือจื่อหลิงเขวี้ยงหอกทองคําในมือออกไปอยางเลือดเย็น
ทะลวงรางกายของนางดังผลุบ จากนั้นก็ลอยออกไปไกลนับสิบจั้ง ตรึงอยูบนผืนดิน
..............................
[1] หนาเนื้อใจเสือ หนาตาดูใจดีมีเมตตาแตใจคอดุรายโหดเหี้ยม
บทที่ 61 ตาดําสองอันในหนึง่ ดวง
เงียบสงัด ผูคนสั่นเทา
นี่เปนพลังอํานาจชนิดใดกัน? เหลาผูอาวุโสลงมือพรอมกัน แตกลับไมสามารถยับยั้ง
สือจื่อหลิงได เขาดุจเทพเจาสงครามองคหนึ่ง อาบแสงสวางอันรุงโรจน ยืนตระหงานสูง
เสียดฟา ไมมีผูใดขัดขวางได
หญิงสาวที่แตงงานแลวผูนั้นเปอนเลือด นางถูกหอกศึกตอกลงบนพื้นดิน หอกศึกสี
ทองดามนั้นยังสั่นแผวเบา วิธีการสังหารเชนนี้ ทําใหผูคนหวาดกลัวอยางเปรียบไมได
กระดูกนับรอยชิ้นในรางกายของสือยี่หัก ทั้งตัวเต็มไปดวยเหงื่อเย็น เขาเงยหนา
มองเห็นหญิงสาวผูนั้น ดวงตาพลันยิงลําแสงนากลัวออกมา 2 เสน เปลงเสียงคํารามทุม
ต่ํา
นี่ไมเหมือนเสียงของเด็กแมแตนอย มันทั้งเย็นเยือกและโกรธกริ้ว มากกวานั้นคือ
โหดเหี้ยม ทําใหผูคนเกิดความเย็นซานอยางคาดไมถึง
สือจื่อหลิงประหลาดใจ แมวาการโจมตีที่แข็งแกรงที่สุดของเขาจะถูกเหลาผูอาวุโส
ขัดขวาง ตัดขาดพลังมากกวา 90 เปอรเซ็นต แตคนทั่วไปก็ไมสามารถรับมือไดเฉกเชน
ดังเดิม
เพียงเด็กอายุยังไมครบ 4 ขวบคนเดียว แตกลับนากลัวถึงเพียงนี้ แมกระดูกนับรอย
จะหัก แตพลังชีวิตกลับไมลดลงกลับดุรายมากขึ้น ราวกับเทพเจาเตาไฟแผดเผา พบเจอ
ไดนอยมากในตลอดทั้งชีวิต
“ยี่เออร!”
เหลาผูอาวุโสรองลั่น แปลงรางเปนกระแสไฟหลายเสน เขาหอมลอมเขา ปกปองเขา
ไวตรงกลาง ภายในพริบตา พวกเขาทั้งหมดตางหวาดกลัว นี่เปนถึงผูมีตาดําสองอัน มี
ลักษณะพิเศษของผูวิเศษโบราณและเทพเจา ทั้งยังผสานกระดูกขั้นสูงสุดแลว กําหนดวา
จะตองพุงทะยานขึ้น ไดรับการยกยองวาเปนประเทศเกาแก จะสูญเสียอยางงายดายได
อยางไร?!
“จื่อหลิง เจาทําเชนนี้ไดเยี่ยงไร?” มีผูอาวุโสตะโกนดังลั่น
“สือจื่อหลิง เจาทําเกินไปแลว ใจแข็งลงมือกับสือยี่ได ชางใจไมไสระกําเสียจริง เจา
จะกําจัดกําลังสําคัญของตระกูลเราอยางนั้นรึ?” ผูอาวุโสที่ฝกใฝสายเลือดของสือยวน
กลับยิ่งถมึงทึง กลาวตําหนิเสียงดัง
คนทั้งหมดตางตื่นตระหนก ผูมีตาดําสองอันจะตายไมได ผูสูงสงแตกําเนิดยิ่งมลาย
หายไปไมได มิเชนนั้นจะสูญเสียมากเกินไป นี่เปนการคงอยูแหงความหวังอันนาภาคภูมิ
ของตระกูลนี้
“ลูกขาเลาใครสงสาร?” สือจื่อหลิงเอยอยางสงบ แตความเย็นเยียบเชนนั้น น้ําเสียง
และสีหนาแบบนั้น ทําใหคนสั่นระริก เห็นไดชัดวาเขาหางไกลจากคําวาโกรธแคนแลว
เดิมทีเจาตัวเล็กเฉลียวฉลาด นารัก มีกระดูกขั้นสูงสุดโดยกําเนิด แตเดิมสามารถเยย
ฟาทาปฐพี ผลกลับถูกชวงชิงกระดูกล้ําคาไป รางกายของเขาถดถอยอยางสาหัส จําไมได
แมแตคนสนิทชิดเชื้อ พูดจาไมได หายใจรวยริน กระทั่งชีวิตก็รักษาไวไมได
จะวางใจไดอยางไร ไมโกรธแคนไดหรือ สือจื่อหลิงชิงชังจนบาคลั่ง เมื่อไดยินการ
กลาวโทษเชนนี้ นัยนตาของเขาเย็นเยือกจนนากลัว แลวผูใดเลาสงสารเจาตัวเล็ก ไมเห็น
วาพวกเขาจะเปนหวงปานนี้
ในดวงตาของเขาปลอยลําแสงสีทอง 2 เสน ประหนึ่งกระแสไฟพาดผานทองฟา นา
สะพรึงจนกลุมคนรนถอยอยางพูดไมออก ในใจของผูอาวุโสบางสวนเกิดความละอาย
เงียบงันไรคําพูด
“เจาตัวเล็กนาสงสารมาก...” ในที่สุดก็มีคนถอนหายใจ กลาวออกมาเชนนี้
กระดูกขั้นสูงสุดแตกําเนิด ไมเพียงแตไมนํามาซึ่งความรุงโรจน แตกลับถูกลอบทํา
รายเชนนี้ ชางนาเศราจริงๆ เด็กบริสุทธิ์คนนั้นจิตใจดีงามเพียงนี้ แตจุดจบกลับทําให
ผูคนปวดใจ
“จื่อหลิง ไมวาจะอยางไรก็ตาม ยั้งมือเสีย!” ชายชราคนหนึ่งกลาวโนมนาว
ผูอาวุโสคนอื่นยอตัวลง ตรวจสอบสถานการณรางกายของสือยี่ ขอเพียงไมตาย
แมวาพวกเขาจะตองทุมเทมากมายเพียงใด ก็จะรักษาอาการบาดเจ็บของเขาใหหาย
แสงศักดิ์สิทธิ์เปนเสนๆ หลั่งรินออกมาจากดวงตาคูนั้นของสือยี่ สภาพไมปกติ มัน
คอยๆ หอหุมรางกายของตัวเองไว ประหนึ่งกลายเปนดักแดตัวหนึ่ง หลอเลี้ยงรางกายให
ชุมชื่นดังครืน กระดูกที่หักกลับคืนสูตําแหนงเดิม
แมจะไมสามารถปะติดปะตอกันไดทันควัน แตเขาไมออนเปลี้ยเพลียแรงอีกตอไป
สามารถลุกขึ้นนั่งไดแลว ดวงตาคูนั้นลึกล้ําดุจทะเลดวงดาว ลูกตาดําสองอันกระจาย
อํานาจลึกลับ แสงศักดิ์สิทธิ์หลั่งไหลออกมาไมขาดสาย
นี่ทําใหคนตกตะลึง ผูคนมากมายนิ่งอึ้ง
“ผูมีลูกตาดําสองอันชั้นดี รายกาจกวาในตํานานเสียอีก!” มีผูอาวุโสกลาวยกยอง
หลังจากหายตกใจแลวอยางอดไมได
เสียงวิ้งดังขึ้น บริเวณหนาอกของเขามีแสงวิเศษแนนขนัดสองแสงแวววับ ทําให
บาดแผลที่เลือดออกนั้นแข็งตัว อีกทั้งกระดูกทั่วทั้งตัวเคลื่อนไหวเปนจังหวะราวกับเสียง
แหงเทพ เสมือนวาจะหายดีแลว
นี่เปนพลังของกระดูกขั้นสูงสุด ผูคนตางงงงัน มันเพิ่งจะปลูกถายไมครบ 2 เดือน ก็
นากลัวถึงเพียงนี้ สมชื่ออยางแทจริง!
สือจื่อหลิงเจ็บปวดใจ นี่เปนกระดูกของฮาวเออร แตกลับสําแดงประโยชนอันนา
กลัวบนรางกายของผูอื่น หากรอมันเจริญเติบโตอยางสมบูรณ จะสะทานฟาเพียงใด?
“จื่อหลิงยอมแพเสียเถิด” ชายชราคนหนึ่งกลาวโนมนาว
“สือจื่อหลิง เจายั้งมือเพียงเทานี้ มิเชนนั้นจะกําราบเจาเสียวันนี้!” ผูอาวุโสซึ่งฝกใฝ
สายเลือดของสือหยวนไมไดเกรงใจขนาดนั้นแลว ในดวงตาฉายแววเย็นเยียบ
สือจื่อหลิงโบกมือ หอกศึกที่ตอกอยูบนพื้นดินก็ลอยขึ้น ลําแสงสีทองอราม สิ้นเสียง
ดังผลุบ มันก็ลอยกลับมาพรอมกับสะเก็ดเลือดเปนสาย
“ทานแม!” สือยี่รองลั่น หลุดออกจากออมกอดของผูอาวุโส พุงตัวออกไป นัยนตา
เปลงแสงวิเศษอันนาสะพรึงกลัว หมายบํารุงรักษารางกายนั้นไว
ทวา ไมรอใหเขาไดเขาใกล หญิงสาวรองอยางนาเวทนา รางกายแตกออกเกือบครึ่ง
ทันที
ในขณะเดียวกัน สือจื่อหลิงยางสามขุมเขามา ชี้หอกศึกไปขางหนาดวยจิตสังหาร
รุนแรง
ผูอาวุโสคนหนึ่งรีบอุมสือยี่ ณ ตอนนั้นทันที และถอยหลังอยางรวดเร็ว สือจื่อหลิง
ในตอนนี้ดุจดั่งราชันยปศาจ เทพขวางสังหารเทพ พระขวางสังหารพระ[1] หมายทําลาย
พลังของฝายตรงขาม
“ปูทวดทั้งหลาย พวกทานมาตั้งนานแลว ไยจึงไมโผลหนาออกมาเลา” สือจื่อหลิง
เอยขึ้นกะทันหัน
คฤหาสนแหงนี้มีแสงปกคลุมขมุกขมัวอยูนานแลว นั่นเปนกระดูกล้ําคาของทายาท
อสูรบรรพกาล ซึ่งควบคุมแผนดินนี้ไวแลว เพื่อยับยั้งไมใหเสียงตอสูและเสียงตะโกนเล็ด
รอดออกไป
ชายชรา 4 คนปรากฏตัวขึ้นทั้งสี่ทิศ นั่งขัดสมาธิอยูบนตําหนัก หอมลอมดวยเมฆ
หมอกมืดมัว ประหนึ่งเทพเจาดึกดําบรรพครั้งกอนสรางโลก นากลัวจนทําใหคนสั่นระริก
พวกเขาไมไดลงมือ แตกลับควบคุมทั้งสี่ทิศ
“ยามขาเหยียบยางเขามาในเมือง ยังไมไดลงมือ พวกทานก็ควบคุมแผนดินไวแลว
ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แลว ไยจึงไมลงมือเลา?!” สือจื่อหลิงเอยถาม
ดวงตาของเขาโกรธแคน เมื่อกลับมาถึงเมืองก็รสู ึกถึงความผิดปกติและความไมชอบ
มาพากล ยังไมทันไดคลุมคลั่ง ผูแข็งแกรงของตระกูลก็ชิงวางแผนกอนแลว
“จื่อหลิง ตอนนี้ปลอยทุกอยางไวกอน อีก 10 ปใหหลัง เจาจะตองสืบทอดเมืองหิน
ผาของเรา” ปูทวดคนหนึ่งเอยปาก
“ใหขารักษาตําแหนงแทนยี่เออรหรือ 20 ปใหหลังคอยสงมอบแกเขา?” สือจื่อหลิง
น้ําเสียงเย็นเยือก จากนั้นหันหลังมองลูกเมียของตน บุตรชายมีกระดูกขั้นสูงสุดโดย
กําเนิด แตกลับตกต่ําถึงเพียงนี้ ตอนนี้ทุกอยางเปนเพียงความวางเปลา
“จื่อหลิง เจาเขนฆาผูคนไปมากมาย ความโกรธก็ปลอยออกมาแลว วางมือเสียเถิด”
ปูทวดอีกคนหนึ่งกลาว
“ได คืนกระดูกขั้นสูงสุดแกบุตรขา!” สือจื่อหลิงตะโกนลั่น
ปูทวดทั้งสี่เงียบงัน นั่งขัดสมาธิอยูตรงนั้น ทั้งตัวรายลอมดวยเมฆหมอก มองทุกสิ่ง
ไมชัดเจน ประหนึ่งครั้งดึกดําบรรพอันเลือนรางพรามัว แตพลังชีวิตอันนาเกรงขามและ
นากลัวที่ผลุบโผลมองไมชัด กลับทําใหโลกสะเทือน
“สือจื่อหลิง มันจะมากเกินไปแลว เจารูไหมวากําลังพูดอยูกับใคร นั่นเปนปูทวดของ
ตระกูลขา เจายังมีใจเคารพอยูบางไหม?!” มีผูอาวุโสของตระกูลตวาด
“ไสหัวไป!” สือจื่อหลิงตะโกน แมแตผูอาวุโสยังแพพายในกํามือของเขา แมแตผู
อาวุโสซึ่งเปนญาติกลาจิ้งจอกแอบอางบารมีเสือ[2] รึ? เขาจวงหอกออกไปเกิดแสง
ศักดิ์สิทธิ์หมื่นสาย สีสันมงคลพันเสน อักขระสีทองประหนึ่งทะเลดันผานไปเกิดเสียงดัง
ผลุบ คนๆ นั้นแตกละเอียดทันที เหลือไวเพียงไอเลือดเปนวงกวาง!
“สือจื่อหลิง ตระกูลโหดรายตอเจา ทานปูทวดก็รับปากแลววา 10 ปขางหนาใหเจา
สืบทอดตระกูล เจายังไมพอใจอะไรอีก?” ปูทวดคนหนึ่งเอยเสียงหนัก
“หากมีคนถือดาบฟาดฟนบุตรของทาน จากนั้นทานคอยลองกลับมาพูดประโยคนี้ดู
สิ!” สือจื่อหลิงไมเกรงใจแมแตนิด
“อยางนั้นก็ไรหนทางแลว มีเพียงกําราบเจา และเนรเทศเจาไปยังดินแดนอนารยะ
[3]!” มีคนตะโกนลั่น
ชายชราผูยิ่งใหญเดินออกมา รวบรวมพลังทั้งหมดตอสูกับสือจื่อหลิง เพื่อจับตัวเขา
ไว ที่แหงนี้เกิดแสงศักดิ์สิทธิ์ไหลนองทั่วสารทิศโดยพลัน สวางไปทั่วฟาดิน แสงสวางแวว
วาวปกคลุม
อยางไรก็ตาม สุดทายชายชราผูยิ่งใหญก็ลอยออกไป กระอักเลือดออกมาคําใหญ
จวนจะแหลกสลาย เขาถูกโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส
มือหนึ่งของตระกูลตางก็มากันแลว หลังจากเห็นสถานการณไมมีผูใดไมใจสั่น สือจื่
อหลิงแข็งแกรงจริงๆ หากอัจฉริยะบุคคลเชนนี้ถูกขับไลออกไป ก็เปนเรื่องที่นาเสียดาย
อยางแทจริง!
ปูทวดทั้งหมดสีหนาเปลี่ยน แตยังคงลงมือเฉกเชนดังเดิม เพียงชั่วครูก็เดินออกมา
สามคน ขณะเดียวกันก็รายเคล็ดวิชาล้ําคาโจมตีขางหนา
เพียงครู ตรงนี้เกิดพายุและสายฟาคํารามสะเทือนหู แสงศักดิ์สิทธิ์ทะลุเมฆา เสียง
ฟาคํารามดุจมหาสมุทร จิตสังหารรุนแรง กลายเปนดินแดนพินาศยอยยับ แสงวิเศษ
นานาชนิดบินวอน เคล็ดวิชาแข็งแกรงสูงสุดถูกทําลาย
“สือจื่อหลิง เจาชางอาจหาญเสียจริง จะรังแกอาจารยทรยศบรรพบุรุษหรือ?” ปู
ทวดที่ถือหางของสายเลือดสือหยวนตะโกนลั่น เดินยางสามขุมหมายจะเขารวม
“ทานปูทวดเกาแบกขาขึ้นหลัง!” ทันใดนั้น สือยี่ก็เปดปาก เชื้อเชิญผูอาวุโสผูนี้พา
เขาเขาสูการประลอง
“เจา...” สือลี่ตะลึง
“ขาคือผูมีตาดําสองอัน สามารถเพิ่มพลังลึกลับแกรางกายทานได ยามทําศึกจะเปน
แรงชวยอันวิเศษใหแกทานได!” สือยี่นอนคว่ํากลาวขางหูเขา
สือลี่แบกเขาขึ้นหลัง ปลอยอักขระเพื่อหอหุมเขาไว เพียงพริบตาทั้งสองราวกับ
เชื่อมตอกัน เขารูสึกเจ็บดวงตาทั้งสองขางเปนระลอก จากนั้นก็สามารถมองเห็นทุกสิ่ง
อยางทะลุปุโปรง การหมุนเวียนของเคล็ดวิชาล้ําคาและการโจมตีตรงหนาก็ชาลง
แมจะเปนผูอาวุโสมีศักดิ์สูง เขาก็ตะลึงงัน เด็กคนนี้ไมธรรมดาอยางแทจริง นีอ่ ายุ
เพียงไมเทาไหร แตกลับมีเคล็ดวิชาและการหยั่งรูถึงเพียงนี้
เสียงซวบดังขึ้น สือลี่พุงเขาไปยังสนามรบ สําแดงการโจมตี นัยนตาเปนประกายดุจ
ตะวันอันเรารอน สามารถมองทะลุชองโหวมากมาย ลงมืออยางบาคลั่ง
“ชริ้ง”
เคล็ดวิชาหนึ่งสายลอยขึ้น อักขระสวยงามผนึกกําลัง กลายเปนดาบมังกรเจียวดาม
หนึ่ง มีเกล็ดแนนขนัด กรงเล็บเจียวชั่วรายพุงผานไป ความคมเผยออกมาทั้งหมด ถาก
ผานเสนผมของสือจื่อหลิงไป ฟนเสนผมดําขลับรวงลงหนึง่ กํา นาหวาดเสียวมาก
“ดี!” การโจมตีครั้งหนึ่งของสือลี่ไดผล จึงดีใจชั่วขณะ เขาสงกระแสจิตใหคนอื่นๆ
รวมมือกับเขาอยางเงียบๆ สําแดงทาไมตายอันแข็งแกรงอยางเปรียบไมไดโดยที่แบกสื
อยี่อยูดานหลัง
ลูกตาดําสองอันของสือยี่เปลงแสง เขานอนคว่ําอยูบนหลังของผูอาวุโส จดจองไปยัง
เงาดุจเทพเจาทองคําที่อยูกลางสนามรบผูนั้นอยางเยือกเย็น อายุยังนอย แตแววตากลับ
ทําใหผูคนใจสั่น
ปูทวดทั้งสี่รบกับสือจื่อหลิงใหญ ดุเดือดอยางหาที่เปรียบไมได คนในตระกูลที่มองดู
อยูตางก็สั่นเทิ้ม
“วิ้ง”
ทันใดนั้น สือยี่ก็สงกระแสจิต ไดรับความรวมมือจากผูอาวุโส ซึมซับพลังชีวิตราวผืน
น้ํากวางใหญบํารุงตนใหชุมชื่น ลูกตาดําสองอันของเขาสองแสง ปลอยอักขระมากมาย
ทิ้งรองรอยลงกลางอากาศอยางแนนขนัด สงผลกระทบตอเคล็ดวิชาทั้งหมดในแผนดินนี้
รบกวนการโจมตีของสือจื่อหลิงอยางรุนแรง
“แข็งแกรงจริง!” คนมากมายรองอยางตกใจ
“แมเด็กคนนี้จะยังเยาวนัก แตกลับไมธรรมดาเอาเสียเลย!” แมแตปูทวดที่
นั่งขัดสมาธิกลางเมฆหมอกอยูไกลๆ ยังลืมตาขึ้นโดยพลัน
ตูม!
แสงสวยงามรุงโรจนสวางวาบ ปูทวดทั้งสี่จูโจมราวกับพายุฝนบาคลั่งโจมตี เคล็ด
วิชาสะทานฟา สือจื่อหลิงตัวสั่น เคล็ดวิชาของเขาถูกทําลาย เกือบจะพบเจอความวิบัติ
ดวงตาเย็นเยือกทันที จองมองฝงตรงขาม
“ปกปองยี่เออรไว!” ผูอาวุโสคนหนึ่งตะโกนบอก ในใจเกิดความหวาดกลัว
..............................
[1] เทพขวางสังหารเทพ พระขวางสังหารพระ เปรียบเปรยวา หากตั้งใจจะกระทํา
การใดใหสําเร็จ ยอมไมมีสิ่งใดขัดขวางได
[2] จิ้งจอกแอบอางบารมีเสือ สุภาษิตจีน แปลวา แอบอางบารมีผูอื่นเพื่อขมเหง
[3] ดินแดนอนารยะ คือ ดินแดนที่ปาเถื่อน ไมเจริญ
บทที่ 62 เจาตัวเล็ก
“ปูทวดทั้งสี่อยูตรงนี้ จะไมเกิดเรื่องรายขึ้นแนนอน กอนหนานี้ที่สือยี่กระดูกหัก ขา
คิดวาเปนเพียงการใหจื่อหลิงระบายอารมณเทานั้น” ผูอาวุโสอีกคนกลาวอยางสุขุม
สือจื่อหลิงหิ้วหอกศึก ลอยพาดผานทองฟามาราวกับปศาจเหินเวหา เสียงผิวปาก
ยาวดังขึ้น อสูรบรรพกาลขนาดใหญภายในรางกายปรากฏขึ้น รวมเขนฆาไปพรอมกับ
เขา
“ซิ่ว!”
สือยี่เงยหนาขึ้น ดวงตาคูนั้นลุมลึก มีภาพตะวันจันทราเคลื่อนไหว จักรวาลรวงหลน
นากลัวเปนอยางมาก จากนั้นปลอยลําแสงพรางพรายออกมาสองสาย มันประกอบจาก
อักขระแนนขนัด ยิงจูโจมฟากฟา
เขาทําใหแผนดินโกลาหลขึ้นมาอีกครา รบกวนอิทธิฤทธิ์ของสือจื่อหลิง แตหนนี้กลับ
เปลาประโยชน เมื่อกวาดหอกศึกทองคํา ฟาดินสงเสียงกึกกอง เกลียวคลื่นโหมซัดสาด
กําราบทั่วทุกสิบทิศ
สิ้นเสียง เหลาผูอาวุโสกระอักเลือดคําใหญ ถูกกวาดจนลอยออกไป หลังจากสือลี่
รวงลงบนพื้นกลับยิ่งโซเซ พนเลือดทุกๆ หนึ่งกาว เกือบจะสะบัดสือยี่ออกไป รางกาย
ของเขาสั่นเทิ้มรุนแรง จวนจะลมพับลงไป
“โฮก...” สือจื่อหลิง อสูรบรรพกาลขางกายสือจื่อหลิงตัวนั้นสําแดงเดช สะทานฟา
สะเทือนแผนดิน กลิ่นอายโหดเหี้ยมดุจมหาสมุทร แผกระจายไปทั่วทุกสารทิศ
ปูทวดทั้งสี่ประสบกับความสั่นไหว และพนเลือดออกมาอีกครา
“รบอีก!”
ทั้งสี่พุงออกไปขางหนา เขาลอมโจมตีพรอมกัน
กลุมคนสูรบกันอยางดุเดือด เคล็ดวิชาล้ําคาทะลวงเมฆ สั่นสะเทือนอยางรุนแรง
ตรงนี้ลําแสงโชติชวง สือจื่อหลิงประหนึ่งเทพเจาสีทองแหงสรวงสวรรคองคหนึ่ง เขาจู
โจมอยางไรขอจํากัดภายใตการลอมโจมตีของมือดีทั้งสี่ จนครอบครองตําแหนง
ไดเปรียบ!
การตอสูดําเนินไปถึงขั้นตึงเครียดอยางถึงที่สุด สวนหนาของเสื้อของผูอาวุโสทั้งสี่
ตางก็เปอนเลือด แตสือจื่อหลิงกลับยิ่งสูก็ยิ่งแข็งแกรง แสงศักดิ์สิทธิ์ทวมทนทองฟา
กดดันจนพวกเขาแทบจะหายใจไมออก
ทันใดนั้น คลื่นนากลัวลูกหนึ่งกระจายออกมาจากรางกายของสือลี่ ราวกับเทพเจา
ครั้งบรรพกาลถือกําเนิด สะเทือนฟาดินกวางใหญไพศาล หนาอกของเขากําลังสองแสง
“หือ?” สือจื่อหลิงตะลึงงัน
มันกะทันหันเกินไป พลังนากลัวเชนนี้ยับยั้งทุกสิ่งทุกอยาง ผนึกหอกศึกทองคําไว
ทําลายอสูรบรรพกาลขางกายสือจื่อหลิงจนสิ้นซาก
แสงวิเศษปะทุขึ้นในดวงตาของสือจื่อหลิง ประหนึ่งปลอยกระแสไฟสีทอง สะเทือน
คลื่นนากลัวนั่นจนกระจัดกระจาย หอกศึกในมือเปลงแสงอีกครั้ง พันเกี่ยวดวยอักขระ
ลอยลองมากมาย สะทานทั้งสี่ทิศ
“ตูม!”
จวงหอกศึกไปขางหนา ทะลวงฟาดิน บทสวดของทวยเทพดังขึ้น สมจริงเพียงนี้
ศักดิ์สิทธิ์อยางหาที่เปรียบไมได แสงสวยงามสาดทอ นี่เปนการใชการโจมตีเปนเครื่องมือ
ปองกัน!
การโจมตีของสือลี่นากลัวมากจริงๆ ราวกับเขาและสือยี่ผสานเปนหนึ่ง หนาอกสอง
แสง ทัง้ ตัวเต็มไปดวยลวดลายซับซอน มีความเรนลับของเทพสวรรคไหลเวียนอยู
กลิ่นอายเชนนั้นนากลัวเกินไป กระเทือนจนผูอาวุโสทั้งสามพนเลือดออกมาคําโต
ลาถอยโซซัดโซเซ ทําใหเกิดความกลัวภายในจิตใจ ขนาดไมไดมีพวกเขาเปนเปาหมาย
ยังเปนถึงเพียงนี้
ในที่หางไกล ผูชมสงครามประหนึ่งโดนคอนทุบ ทั้งรางกายสั่นสะเทือน ถอยหลัง
อยางไมรตู ัว หนักกวานั้นคือ ผูคนที่อยูใกลหนอยมีเลือดไหลออกจากมุมปาก กมลงไป
คํานับอยางทนไมได
“กระดูกขั้นสูงสุดของฮาวเออร!” นัยนตาของสือจื่อหลิงเย็นเยือกอยางที่สุดทันควัน
เขาโกรธจนผมตั้งชันยันหมวกไว[1]
สือลี่แบกสือยี่ไวขางหลัง ทั้งสองรวมกันเปนหนึ่ง พวกเขาใชกําลังขับเคลื่อนกระดูก
ชิ้นนั้น จึงสําแดงอานุภาพอัศจรรยไดถึงเพียงนี้ สั่นสะเทือนจนผูคนรอบทิศหวาดผวากัน
ถวนหนา
อยางไรก็ตาม นี่เปนเพียงการโจมตีเพียงครั้งเดียว พลังชีวิตของสือลี่ถูกกลืนกินจน
หมดสิ้น ไมสามารถตานทานได ไอเปนเลือดไมหยุด ทั้งยังปรากฏรอยราวเปนเสนๆ
ทางนั้นของสือยี่ที่อยูบนหลังเขา มีเสียงแควกดังแววมาจากหนาอกของเขา กระดูก
ที่กลับสูตําแหนงเดิมของเขาแตกออกอีกหน เขาไดรับบาดเจ็บสาหัสจากการแวงกัด
กระดูกขั้นสูงสุดยังไมเจริญเติบโตอยางแทจริง ไมควรใชงานมันเชนนี้
รางกายของสือจื่อหลิงเปลงแสงสีทองดุจเปลวเพลิง ลุกโหมโชติชวง ลุกลามไปทั่ว
ฟากฟา ความยิ่งใหญของเขาทําใหผูคนสั่นระริก คาดไมถึงวาจะไมไดรับบาดเจ็บ
สามารถรับมือกับกระดูกล้ําคาได และพุงไปประชิดขางหนา
“ตูม!”
หนึ่งกาวรวงลง แผนดินสั่นไหว เขาดุจเทพเจาสังหารที่หลุดจากบวงพันธนาการ
กระจายความมงคล ทั้งตัวแผจิตสังหารทะลวงกระดูก กวาดหอกไปดานหนา
ผูอาวุโสทั้งสามถูกหวดจนลอย รางกายเปอนเลือด ลมลงไปกลางฝูงชน ไมสามารลุก
ขึ้นไดอีกเลย ไมรูวากระดูกหักไปกี่ทอน แมแตอักขระก็ยากที่จะผสานไดอีก
ทางดานของสือลี่นํามาซึ่งการโจมตีอันแข็งแกรงที่สุดของสือจื่อหลิง คมหอกสอง
แสงแวววับ ดุจมังกรเจียวเหาะเหินมาจากสรวงสวรรค ทะลวงอาวุธล้ําคาที่ปกปอง
รางกายของเขา เลือดสดจํานวนมากทะลักขึ้น
รางกายครึ่งหนึ่งของเขาแตกออกดังผลุบ เจ็บปวดจนตัวสั่นเทา อักขระถูกทําลาย
จนสิ้นทันที ยากตอการทําประโยชน นัยนตาเต็มไปดวยความหวาดกลัว
สือจื่อหลิงประดุจราชันยบรรพกาล ลําตัวอาบแสงสวยงาม กาวไปขางหนาหนึ่งกาว
พรอมกับชี้คมหอกไปดานหนา หมายทะลวงสือลี่กับสือยี่ ตรึงใหตายบนพื้นดินพรอมกัน
“จื่อหลิง เจาควรรามือไดแลว” ในตอนนี้เอง ปูทวดทิศตะวันตกเคลื่อนไหวแลว เขา
นั่งขัดสมาธิเชนดังเดิม แตเคลื่อนยายเขาประชิด ดวยความเร็วดุจกระแสไฟ ทั้งตัวแผไอ
หมอก โครงรางเลือนราง เขายื่นมือออกมาหนึ่งขาง รับคมหอกนากลัวนั่น ปกปองสอง
คนนั้นไวได
แทจริงแลว พวกเขาอยูมาโดยตลอด ตั้งแตคูสามีภรรยาสือจื่อหลิงยางเขากลางเมือง
พวกเขาก็เคลื่อนไหว ปดผนึกทั่วบริเวณนี้ไว
ในตอนแรก สือจื่อหลิงเขาสูตระกูล ก็รูสึกถึงบรรยากาศแปลกประหลาด สัมผัสได
ถึงกลิ่นอายของปูทวดทั้งสี่ เขามีลางสังหรณไมดีตั้งแตตอนนั้นแลว
ทั้งสี่บําเพ็ญตบะขั้นสูง ยากที่จะเผยขีดจํากัดออกมา หากมีพวกเขาอยู การพึ่งพา
กําลังเพื่อเรียกรองหาความยุติธรรมนั้นเปนเรื่องยาก พวกเขาบําเพ็ญตนนานเทาไหรแลว
ก็ไมรูแน
“ทานปูทวด ทานตัดสินความเที่ยงธรรมเชนนี้หรือ?” สือจื่อหลิงตะโกนเสียงดัง
“ขารู เจาคับของใจ คนในตระกูลรูสึกผิดตอฮาวเออร แตขอใหเจาเชื่อ พวกขา
จะตองชดใชแกเจาเปนแน” ปูทวดกลาว
ขณะนี้เอง เกิดมานหมอกแนนขนัด ปูทวดทั้งสามที่เหลือปรากฏกายขึ้น ณ ที่แหงนี้
ปดลอมเขาไวตรงกลาง ทั้งหมดเงียบงัน ไมพูดไมจา
“ขาไมยอม!” สือจื่อหลิงคําราม สวางวาบทั้งตัว ชี้หอกศึกในมือไปทางทิศใต ระเบิด
อักขระทั่วทั้งตัว เขารายเคล็ดวิชาล้ําคาหมายสูรบ
ฝูงชนแสดงอารมณทางสีหนากันถวนหนา อาจหาญชวงชิงชัยชนะกับปูทวด นี่เปน
ครั้งแรกในระยะหลายป คาดไมถึงวาเขาจะกลาถึงเพียงนี้ ความยิ่งใหญของสือจื่อหลิงทํา
ใหคนสั่นเทิ้ม!
“จื่อหลิง เจาทําเกินไปแลว หากเจายืนกรานจะรบ อยาโทษวาพวกเราเปนผูกําราบ
เจา!” ปูทวดผูหนึ่งเอยปาก
“อยางนั้นก็รบสิ!” สือจื่อหลิงกวัดแกวงหอกศึก ทั้งตัวสวางพรางพราย อักขระผนึก
กําลัง อสูรบรรพกาลพุงขึ้น เคล็ดวิชาล้ําคาสะทานโลกา สําแดงการโจมตีที่แข็งแกรง
ที่สุด
ทองฟาราวกับถูกฉีกทึ้งจนแหลก แสงวิเศษกวางใหญพราตา ทําใหคนไมกลาจอง
มองโดยตรง ทั้งหมดสั่นสะทานดวยความกลัว จําตองหมอบคลานอยูใตอานุภาพ
มหัศจรรยเชนนี้
“ปราบมัน!” ปูทวดลงมือ
สถานที่แหงนี้เกิดศึกใหญอันนากลัวอยางที่สุด สะทานฟาสะเทือนโลกา ใจคนสั่น
หวั่นไหว วิญญาณของแตละคนกําลังสั่นระริก รูสึกถึงความกลัวเปนระลอก
“ขามองไมเห็น...” ณ หมูบานหินผา ดานหนาตนหลิว เจาตัวเล็กน้ําตานองเต็มหนา
เขามองศึกครั้งนั้นไมเห็น
“เพราะเจายังเยาวเกินไป มองการตอสูอยางตอเนื่องนั่นไมชัดเจน” ตนหลิวสง
กระแสจิตบอก กลิ่นอายเลือนรางตลบอบอวล ณ ที่แหงนี้ยังคงพรามัวและขมุกขมัว
“ขาจะดูตอไป ขาอยากรูผลลัพธ” เจาตัวเล็กกําหมัดแนน แมจะรูวานั่นเปนเรื่องราว
ที่เกิดขึ้นเนิ่นนานแลว แตในใจยังคงกระวนกระวาย
เมืองหินผา แสงโชติชวงพราตา แสงวิเศษนานาชนิดปลิววอนพรอมกัน บดบังดวง
ตะวัน สุดทายก็ปกคลุมทั่วตําหนัก มองสิ่งใดไมเห็น
“ในใจพอจะรูสึกไดบางแลวขอรับ!” ในที่สุด แมของเจาตัวเล็กเขารวมสงครามแลว
นางอุมเขาเขาสูสนามรบ รวมพลังสําแดงเคล็ดวิชาล้ําคากับสือจื่อหลิง สะเทือนไปทั้ง
เมืองจักรพรรดิ
นาเสียดาย เจาตัวเล็กมองไมเห็นอะไรเลย มองเห็นเพียงแสง เห็นเพียงเคล็ดวิชาล้ํา
คา วิเศษจนทําใหคนใจสั่น แสงโชติชวงวิเศษยอมทั้งฟาดินจนเปนสีทอง
สุดทาย อาจเพราะเขาออนลาเกินไป หมดสติลงขณะซบอยูในออมอกของมารดา
เมื่อจวนจะหลับตา มองเห็นพี่ชายตัวนอยที่อยูนอกสนามรบ
แมวาสือยี่จะกระดูกหักจํานวนมาก แตพลังชีวิตกลับไมลดลง ตาดําสองอันลึกล้ํา
จดจองสือจื่อหลิงดวยความเย็นเยือก จากนั้นก็หันกลับมามองเจาตัวเล็ก มุมปากยกขึ้น
เล็กนอย นัยนตามีประกายเยยฟาทาดิน เจิดจาเปนอยางมาก เขามองเจาตัวเล็กเพียง
แวบเดียว ก็ไมไดสนใจอีกเลย
เนื่องจากเจาตัวเล็กหายใจรวยริน สูญเสียกระดูกขั้นสูงสุด รางกายพิการไปแลว ไม
คุมคาตอการแยแส
เวลาเนิ่นนานตอมา เจาตัวเล็กมึนงงอยูตลอด วนเวียนทามกลางความเปนความตาย
ออนแอจนไมเปนผูเปนคน ราวกับชีวิตพรอมแหงเหือดตลอดเวลา ไมรับรูตอเรื่องที่
เกิดขึ้นแมแตนิด
ยามเขาตื่นขึ้นมา ก็มาถึงดินแดนอนารยะ หางไกลประเทศเกาแกอันกวางใหญ
อําลาเมืองจักรพรรดิอันรุงเรือง สภาพการณแตกตางราวกับฟากับดิน
พวกเขามาถึงที่ดินสวนกษัตริยอันกวางใหญ แตกลับเกายับเยินมาก นี่เปนสถานที่
อันบรรพบุรุษแหงตระกูลหินผาเติบโต ถือไดวาเปนบานเกิดเมืองนอนแหงที่สอง
“จื่อหลิง เจาไมธรรมดาเสียจริง!” คนชราหัวขาวโพลนตบโตะเกาคร่ําครึดวยความ
ฮึกเหิมและโมโห กลาววา “หากขาออนลงอีก 50 ป มีพละกําลังเชนเดียวกับเจา ขาก็จะ
ไปกอเรื่องวุนวายสักครา ขมเหงสายเลือดของขาจนครบงั้นรึ?!”
สือจื่อหลิงพยักหนา ใบหนาซีดเซียวเล็กนอย
ชายชราผูมีอายุมากเอยปากวา “เนรเทศพวกเจามายังดินแดนรกราง พวกมันทํา
เกินไป เจายังหนุมถึงเพียงนี้!”
“ใชแลวขอรับ กลาววาเปนเมืองเกิดแหงที่สอง มีอะไรกันละ? รกรางและหนาวยะ
เยือก มิใชดินแดนสุขาวดีแมแตนอย ไมเหมาะแกการบําเพ็ญตนและการอยูอาศัยระยะ
ยาว!”
บานเกิดเมืองนอนแหงที่สองอันยับเยิน ตั้งอยูบนพรมแดนรกราง มีเพียงคนใน
ตระกูลที่ตองโทษหนัก กอหายนะเหลานั้น จึงจะถูกเนรเทศมาที่นี่
“นี่เปนขอตกลงระหวางขากับพวกนั้น ฮาวเออรจะพักรักษาอาการบาดเจ็บที่นี่”
สือจื่อหลิงกลาว
“มันก็เหมือนกันมิใชรึ มันก็คือการเนรเทศเจามาที่นี่!” ชายชราคนหนึ่งกลาวอยาง
โกรธา จากนั้นก็เอยถามอยางของใจวา “พวกมันใหอะไรแกเจากันแน?”
“พลังชีวิตที่ฮาวเออรจะสามารถฟนฟูชีวิตชีวาได พวกเขาจะเรงคืนกระดูกขั้นสูงสุด
โดยพลัน” สือจื่อหลิงกลาว
“ลูกเอย เจาเชื่อไดอยางไร นี่เปนการถวงเวลา ฮาวเออรปวยหนักเชนนี้ แมจะ
สามารถพูดได แตก็ไมสามารถหลอเลี้ยงกระดูกขั้นสูงสุดไดอีก!” ชายชราผูหนึ่งตีอกชก
หัว[2
ที่แหงนี้นอกจากขารับใชแลว มีผูชราพิเศษทั้งหมด 4 คน เปนบุคคลซึ่งเคยมีบารมี
เลื่องลือเมื่อครั้งกอน มีศักดิ์สูงมาก หากแตเคยทําผิดอยางมหันต จึงถูกขับไลมายัง
ดินแดนอนารยะแหงนี้
หากไมหวงวาทายาทจะไดรับความเดือดรอน พวกเขาคงหลีกหนีไปนานแลว เพราะ
บําเพ็ญตนอยูในขั้นนากลัวที่สุด เพียงพริบตาก็ผานไปหลายป พวกเขาทั้งหลายตางก็เขา
สูวัยไมใกลฝง เหลือชีวิตไมมากแลว
“ทานปูสี่ปกปดคนทั้งหมด ใหแผนภาพขาดๆ ภาพหนึ่งแกขาเปนการสวนตัว เขา
กลาววา หากเสาะหาบานเกิดที่แทจริงของตระกูลเราได ที่นั่นอาจจะสามารถทําใหฮาว
เออรฟนคืนสูสภาพเดิมได” สือจื่อหลิงเอยเสียงเบา
อีกฟากหนึ่ง ภรรยาของเขามีสีหนากลัดกลุม โอบอุมเจาตัวเล็กที่ออนแรง บน
ใบหนางดงามไมเคยปรากฏรอยยิ้มเปนเวลานาน
“อะไรนะ บานเกิดที่แทจริงของตระกูลงั้นรึ?” เหลาชายชราตางเหลือกตาจนโต นั่น
ไมใชสถานที่ธรรมดา มีตํานานเลาขานและความลึกลับมากมาย บรรพชนแหงตระกูลหิน
ผาเดินออกมาจากที่แหงนั้น บุกเบิกความรุงเรืองอันไมสนิ้ สุด กอตั้งประเทศเกาแกขึ้นมา
คนเหลานี้ฮึกเหิมเปนอยางมาก ดินแดนเกิดนั้นสงผลกระทบตอจิตใจของชาว
ตระกูลหินผาจํานวนมาก มีความอัศจรรยมากโข ตามตํานานกลาววา สามารถกอกําเนิด
เทพเจาได! ทวาถูกขัดขวางโดยคําสั่งสอนแหงบรรพชน ตัดขาดการติดตอกับที่นั่น
สุดทาย อยากจะหาก็หาไมเจอ
“เรื่องจริงหรือ ไมใชวาหลอกลวงเจาหรอกกระมัง?” ชายชราคนหนึ่งไมคอ ยเชื่อ
“ไมวาอยางไร ขาจะไปสักครา ใชความพยายามทั้งหมดเพื่อใหฮาวเออรกลับสู
สภาพเดิมใหได!” สือจื่อหลิงมีสีหนาหนักแนนเด็ดเดี่ยว
“หากเจาหาไมพบละ?” ชายชราคนหนึ่งเตือนสติ
“ขาจะไปเสาะหาขุนเขาเทพเจาครั้งบรรพกาล แมตองเดินทางไปทั่วดินแดนรกราง
ก็จะตองเด็ดยาวิเศษมาใหได จะปลอยใหฮาวเออรตกอยูในความทุกขทรมานเชนนี้
ไมได!” สือจื่อหลิงกลาว
ขางกาย ภรรยาของเขาพยักหนา นัยนตางามเต็มไปดวยความหนักแนน โอบเจาตัว
เล็กไวแนน
เหลาชายชราตางก็ตกใจ อาปากคาง กลาวเตือนอยางเอาจริงเอาจัง
“จื่อหลิงอยาทําเชนนี้ ขุนเขาเทพเจาดึกดําบรรพไมใชสถานที่ที่จะพรวดพราดเขาไป
ได บางทีอาจจะมีโหวขนานแท นกยักษปกทอง สิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญที่สุด จะเปนการเอา
ชีวิตไปทิ้งได!”
สือจื่อหลิงวิเคราะหแผนภาพขาดนั่นมาโดยตลอด หากไมถึงขั้นจนใจ เขาไมมี
ทางเขาไปยังขุนเขาเทพเจาแนนอน หวังเพียงคนหาบานเกิดเมืองนอนใหพบ
“หากวาฮาวเออรตาย ขาจะตองทําใหพวกเขาตายกันไปขางหนึ่ง สังหารใหฟา
ทลายแผนดินแยกเปนแน!” สือจื่อหลิงนัยนตานาสะพรึงกลัว เผยกลิ่นอายนากลัว
“ตามขอตกลง ฮาวเออรควรจะรักษาอาการปวยที่นี่ พวกเขาไมไวเจานี่นา หมายยึด
กุมการเคลื่อนไหวของเจา เกรงวาเจาจะกลับไปเขนฆา” ชายชราคนหนึ่งกลาว
“ขาจะไมยอมปลอยฮาวเออรไวที่นี่!” แนนอนวาสือจื่อหลิงไมใชคนเขมงวดเชนนั้น
“เอาอยางนี้ อยาใหขออางแกพวกเขา ไมแนวาเจาอาจจะสามารถรักษาฮาวเออรให
หายดีได ขาจะหาเด็กมาทดแทน ภายภาคหนาจะตองชิงกระดูกล้ําคากลับมาไดแน!”
...
ตอมา คูสามีภรรยาสือจื่อหลิงผานความยากลําบากอยางนานัปการ จนหาหมูบาน
หินผาพบ เมื่อมองเห็นตนหลิวดําเกรียม สั่นสะเทือนอยางแทจริง พวกเขายิ่งใหญมาก
แนนอนวาจะตองมองออกวาตนไมตนนี้ไมธรรมดา
แตวา พวกเขากลับผิดหวังตอทุกอยางของหมูบ านหินผา
สายลมพัดมาระลอกหนึ่ง มานหมอกคอยๆ คลี่คลาย ใตตนหลิว เจาตัวเล็กยืนอยู
เพียงลําพัง น้ําตานองเต็มหนา
เวลาผานไปเนิ่นนาน ตนหลิวคอยเอยกระแสเสียงวา “เจารูสึกอยางไรบาง?”
“ขาปวดใจมาก ทานพอ ทานแม ตอนนี้พวกทานอยูที่ใด?” เจาตัวเล็กน้ําตาหลั่งริน
ไมหยุด
“เจาเปนเด็กที่มีจิตใจดีอยางแทจริง ไมควรถูกความชิงชังกระตุนจนเสีย
สติสัมปชัญญะ ร่ํารองจะแกแคน” ตนหลิวสงกระแสเสียงออกมา จากนั้นก็กลาววา
“เจาสูญเสียกระดูกขั้นสูงสุดไป ไมโกรธแคนรึ และสือยี่ในตอนนี้จะตองมีเกียรติสะทาน
โลกา คลอบคลุมทั่วจักรวาลไรขอบเขต สามัญชนอยาหวังจะแหงนหนามอง”
เจาตัวเล็กตองรูอยูแลว อนาคตของสือยี่ถูกกําหนดใหเหนือธรรมชาติ ความรุงโรจน
จะสองสวางทั่วโลกหลา นั่นเปนสิ่งที่สามารถจินตนาการได
เขาเอยปากอยางสงบวา “มันเปนเพียงกระดูกชิ้นหนึ่งมิใชหรือขอรับ ความสูงสง
ไมไดถูกปดผนึก กระดูกหนึ่งชิ้นไมสามารถตัดสินได การกาวออกมาเปนกาวๆ ของ
ตนเองนั่นแหละที่สําคัญ”
“หากเจาสามารถพูดเชนนี้ได ขาจะบอกความลับอยางหนึ่งแกเจา” ตนหลิวปลื้มใจ
มาก
“ความลับอะไรหรือขอรับ?” เจาตัวเล็กสะดุง
“เจาเคยเห็นตนหญาโรยราแลวรุงเรืองรึไม?” ตนหลิวเอยถาม
..............................
[1] โกรธจนผมตั้งชันยันหมวกไว สุภาษิตจีน เปรียบเปรยวา โมโหเดือดดาลจนถึง
ขีดสุด
[2] ตีอกชกหัว เปนสํานวน แปลวา โกรธแคนหรือโศกเศราอยางที่สุด
บทที่ 63 การหยัง่ รูดงั้ เดิม
“แนนอนวาขาเคยเห็น” เจาตัวเล็กเอยเบาๆ พลางพยักหนา
“ลมแหงสารทฤดู[1]ฟนใบไมเหลือง ไฟปาแผดเผาหญาแหง ลมเย็นเยือกพัดหวีด
หวิวผานไป กิ่งกานงอกงามในวสันตฤดู[2]” ตนหลิวกลาว
ตนหญาเหี่ยวเฉาแลวกลับงอกงาม นี่เปนปรากฏการณธรรมชาติ แตในเวลานี้กลับ
สะกิดใจของเจาตัวเล็กเปนอยางมาก เขาเขาใจความหมายของตนหลิวแลว
“ทานเทพหลิว ทานหมายความวา กระดูกขั้นสูงสุดภายในรางกายของขายังมีวัน
เกิดใหมหรือขอรับ?” เจาตัวเล็กดวงตาเปนประกายคลอดวยน้ําตา มีชีวิตชีวาทามกลาง
ความไรเดียงสา
“สรรพสิ่งไมมีความแนนอน ขาเพียงพูดถึงความเปนไปไมไดอยางหนึ่งเทานั้น” ตน
หลิวไมปฏิเสธ
เจาตัวเล็กกําหมัดแนนทันที ดวงตาตากะพริบปลอยประกายสวางมาก เปยมดวย
ความปรารถนาและคาดหวัง
แมวาเขาจะเปนคนเบิกบาน ไมคิดวากระดูกขั้นสูงสุดจะกําหนดชีวิตของเขาได แต
เขาคิดถึงเรื่องความพิเศษเฉพาะตัวซึ่งเดิมเปนของเขา หากพึ่งพามันจะสามารถทัดเทียม
กับโหวขนานแทและนกครุฑได แตกลับถูกชวงชิงไปอยางทารุณ ฝงในรางกายอยางเลือด
อาบ มันก็ทําใหเขารูสึกหดหูเปนอยางมาก
ตอนนี้เสมือนมีแสงสวยงามปลอยออกมา สองเขาไปภายในหัวใจ สวางขึ้นมาก ทํา
ใหความมุงมั่นในการตอสูของเขามีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
“ทานเทพหลิวชวยอธิบายอยางละเอียดไดไหมขอรับ? ชี้ทางสวางแกขาดวย” เจา
ตัวเล็กนัยนตาเปนประกาย แบงแยกผิดชอบชั่วดีไดอยางชัดเจน มองดูแลวไรเดียงสา
และเจิดจา
“ที่จริงไมมีอะไรนาพูดถึงหรอก หลักการอันงายดายและเรียบงายจะแฝงอยูใน
เรื่องราวธรรมดา ตนไมเกาแกหักโคน อาจจะลมตาย เพราะพลังชีวิตสิ้นสุดนานแลว เฉก
เชนกุยชาย ยามที่ปลูกมันจะเหลืองและบอบบาง แตเมื่อถูกตัดกานแลวกานเลา มันกลับ
ยิ่งเขียวชอุม คอยๆ แข็งแรงขึ้น และก็เชนเดียวกับดักแด หากอยูในรังไหม อาจจะขาด
อากาศหายใจตาย กระทั่งดับสูญ แตหากทําลายรังไหม ก็จะกลายเปนผีเสื้อ สวยสด
งดงาม นี่เปนนิพพานครั้งหนึง่ หลุดพนออกไป”
ตนหลิวกลาวออกมาอยางสงบ สภาพการณมั่นคง บอกเลาเรื่องราวอันแสนจะ
ธรรมดา
ดวงตาโตของเจาตัวเล็กกลับยิ่งสวางไสว มองดูลําตนดําเกรียมของมัน อีกทั้งกาน
เขียวออนที่เหลือเพียงหนึ่งแลวพูดวา “เชนเดียวกับทานเทพหลิว เปลงประกายพลังแหง
ชีวิตทามกลางความพินาศ วันขางหนาจะยิ่งแข็งแกรง การฝกฝนเชนนี้ เปนการบําเพ็ญ
ตนที่แตกตางจากผูอื่น หลังจากนิพพานแลวจะหลุดพนออกไป”
“การหยั่งรูของเจาดีมาก แตสถานการณของขา... เจาอยาไปคิดถึงมันดีกวา” ตน
หลิวกลาวพรอมกับรอยยิ้มจางๆ เกิดความรูสึกผันแปรอันหายาก
“ทานเทพหลิว เปนทานใชไหมที่ชวยชีวิตขา?” เจาตัวเล็กราวกับคิดอะไรออก ตอน
แรกเขาออนแรงปานนั้น รางกายเกิดการถดถอยอยางรุนแรงเจียนตาย
สายลมภูเขาพัดมา กานเขียวชอุมพลิ้วไหว ตนหลิวกลาววา “หากวาขาใหพลังชีวิต
แกเจา เจาเพียงรอดชีวิตเทานั้น เจาจะไดใชชีวิตอันเรียบงาย ในตอนนั้นขาเพียงเฝามอง
อยางเงียบเชียบ”
“ขามีชีวิตรอดดวยตนเองหรือขอรับ?” เจาตัวเล็กตะลึงงัน
“ใชแลว ยามที่เจาแหงเหือด พลังชีวิตก็ปรากฏขึ้นอีกหน คอยๆ เติบใหญแข็งแกรง
สุดทายก็ทําสําเร็จ ขามิไดลงมือเลย” ตนหลิวพูดตามความเปนจริง
“ตนหญาเหี่ยวแหงแลวงอกงามอีกครา แทจริงแลว เพราะขายืนหยัดดวยตนเอง”
เจาตัวเล็กประหนึ่งเขาใจบางแลว ดวงตาโตดุจลูกแกวสีดําเปลงประกายมากขึ้น
เมื่อครั้งกอน ตนหลิวสังเกตเห็นวา เจาตัวเล็กที่อยูภายใตความแหงเหือดแฝงไวดวย
พลังชีวิต เคลื่อนไหวบางสวน สถานการณของมันเปนเชนเดียวกับเจาตัวเล็ก และเกิด
ความเวทนาเนื่องดวยเคยประสบความเลวรายมาเชนเดียวกัน
“ขาจําเปนจะตองเตือนเจา ไมวาเรื่องใดก็ไมแนนอน แมวาเจาจะพึ่งตัวเองจนรอด
ชีวิต ทั้งยังกําเนิดพลังชีวิตอันกระฉับกระเฉง แตผลสุดทายจะสามารถกําเนิดกระดูกขั้น
สูงสุดไดอีกหรือไมคอยวากันอีกที”
“ขาเขาใจแลวขอรับ!” เจาตัวเล็กพยักหนาอยางจริงจัง เขาไมไดหลงระเริงกับ
เรื่องราวนี้ เนื่องจาก ณ ตอนนี้ เขายังไมรับรูถงึ การปรากฏขึ้นของกระดูกขั้นสูงสุดใน
รางกาย
เทพเจาตนหลิวกลาวอีกวา “แตหากมันกําเนิดขึ้นอีกครา ลิขิตไววาจะตองสะเทือน
โบราณกาล รุงโรจนโชติชวงในปจจุบัน นิพพานบนพื้นฐานดั้งเดิม อักขระจะลึกซึ้ง
ซับซอนมากยิ่งขึ้น แฝงไวซึ่งความอัศจรรยสะทานฟา อยูล้ําขึ้นไป และจะแตกตางโดย
สิ้นเชิง!”
หมอกเลือนรางมลายหายไป หนาหมูบานกลับสูความสงบ แสงสีทองหนึ่งเสนวิ่ง
พรวดพราดมา เจาลูกขนที่กลมกลึงดุจกําปนสีทองรวงลงบนไหลของเจาตัวเล็ก สงเสียง
รองเจี๊ยกๆ ไมหยุด
หัวหนาหมูบานและกลุมคนกรูลอมกันเขามา มองเห็นใบหนาอาบน้ําตาของเจาตัว
เล็ก อาหญิงหูกับคนอื่นๆ ตางก็พูดปลอบประโลม เช็ดน้ําตาใหเขาดวยความรักใคร
“เจาตัวเล็ก ที่นี่เปนบานของเจา ไมวาเจาจะรูความเปนมาของเจาหรือไม พวกเรา
ลวนแตเปนญาติของเจา” กลุมหญิงวัยกลางคนกลาว
และเหลาชายวัยกลางคนทั้งหลายกลับยื่นมือใหญอันหยาบกระดางออกไปลูบหัว
ของเขา อาปากหัวเราะแลวพูดวา “ไมใชเรื่องใหญอะไร หมูบานหินของเราเคยแมแต
กําเนิดเทพเจา ตอไปเจาจะตองเปนผูกลา สามารถรบกับนกครุฑ อสูรบรรพกาลไดเปน
แนแท ตองรูวา นั่นเปนผูดํารงอยูที่ถือไดวาเปนเทพเจาเชียว”
“เจาตัวเล็ก เจาอยารองไหเลย ยังมีพวกขาแนะ พวกขาเปนพี่นองที่เติบใหญมา
ดวยกัน ตอไปจะเกิดอะไรขึ้นก็จะแบกรับไปดวยกัน!” เด็กๆ ก็เอยเชนกัน
“อื้ม!” เจาตัวเล็กเช็ดน้ําตาบนใบหนาจนหมด ออกแรงพยักหนา ชาวบานดีตอเขา
มาก ทําใหเขาเติบโตดวยความสุข เบิกบานใจ วัยเด็กของเขาไมไดเต็มไปดวยความ
พยาบาทแมแตนิด
แนนอนวา ในวันขางหนาเขาจะตองเดินทางไปประเทศเกาแกสักคราอยางแนนอน
หมายหาความเที่ยงธรรมใหแกตน!
“ทานผูเฒาขอรับ ขาจะทําตนใหแข็งแกรง!” เจาตัวเล็กไมเคยมีพลังปรารถนาเฉก
เชนวันนี้มากอน ทวาเขาบําเพ็ญตนในหมูบานหินผาจนถึงขีดสุด ไมมีสิ่งใดใหเลาเรียน
แลว
แตประเทศเกาแกนั่นปกครองภูมิประเทศนับลานลานลี้ กวางใหญอยางหาที่เปรียบ
ไมได ประชากรมากกวาลานลานคน มากมายจนยากที่จะจินตนาการ แนนอนวาผูมี
พรสวรรคปรากฏตัวขึ้นอยางไมขาดสาย มีอัจฉริยะสะทานโลการุนแลวรุนเลา
‘พี่ชายตัวนอย’ ของเขา กลับยิ่งเปนแสงอาทิตยเจิดจา แสงของเขาลิขิตไววาจะสอง
สวางไปทั่วโลกหลา ตนเปนผูมีตาดําสองอันในตาเดียว พรสวรรคแตกําเนิดเทียมผูวิเศษ
โบราณและเทพเจา บวกกับกระดูกขั้นสูงสุดที่เขาไดมา หากวาเจริญเติบโตขึ้นมา จะตอง
ดุจเทพเจาแหงสวรรคเปนแนแท!
ตอนนี้สือยี่จวน 10 ขวบแลว ชื่อเสียงสะทานเมืองจักรพรรดิอยางแนนอน!
เผชิญหนากับ ‘พี่ชายตัวนอย’ ผูถูกจับตามองจากมหาชน ลิขิตใหเยยฟา แยงชิง
ความเปนใหญกับโหวเลือดบริสุทธิ์ อสูรบรรพกาลชั้นฟา เจาตัวเล็กกดดันเปนอยางมาก
“ทําตนใหแข็งแกรง... เสียดายการสืบทอดแหงตระกูลขา ที่นี่เปนบานเกิดเมืองนอน
ควรมีอักขระกระดูกและเคล็ดวิชาล้ําคาอันนากลัว ซึ่งตกทอดกันมาตามชะตากําหนดจึง
จะถูก แตกลับสลายหายไปตามกาลเวลา” หัวหนาหมูบานถอนหายใจ เสียดายอยางยิ่ง
แตเพียงครู หัวใจของเขาก็เตนอยางรุนแรง ลูบคลํากระดูกบนหนาอกชิ้นนั้นอยาง
ยากที่จะสงบลง
ยามผูคนแยกยายกันจนสิ้น เหลือเพียงสือยวิ๋นเฟงกับเจาตัวเล็ก และจูเยี่ยนสีทอง
ตัวนั้น หัวหนาหมูบานสุขุมเยือกเย็น ดึงเจาตัวเล็กมาใตตนหลิวแลวพูดวา “ลูกเอย ขา
หมดหนทางสั่งสอนเจาแลว เจาเปนบุคคลมีพรสวรรคอันฟาประทานอยางแทจริง แตขา
มีกระดูกหนึ่งชิ้น อักขระของมันมหัศจรรย เพียงคนเห็นก็สามารถกระอักเลือดได ไมเคย
กลาใหเจาเชยชม ดวยเกรงวาเจาจะไดรับอันตรายอยางสาหัส ทวาตอนนี้ ขาไมมีสิ่งใด
จะสอนเจาแลว เหลือเพียงมัน หากเจาไดเห็น จะตองระมัดระวังนะ!”
หัวหนาหมูบานชรานํากระดูกหนึ่งชิ้นออกมาจากอกอยางระแวดระวัง ขาวกระจาง
มันขลับ ราวกับหยกไขมันแพะขนานเทาฝามือ พรางแพรวอยางไมสามารถเอยคําใดได
ขาวสะอาดโปรงใส
แมจะมีขนาดไมใหญ แตแนนขนัดไปดวยอักขระซึ่งไมรวู าถูกแกะสลักมากมาย
เพียงใด ปรากฏเลือนรางไมชัดเจน เสมือนมีเสียงสวดมนตของเหลาทวยเทพดังมา
สะเทือนจนจิตใจเกิดเกลียวคลื่นซัดสาด[3]
สิ่งนี้สรางความสะพรึงกลัวแกคน ทั้งที่เปนเพียงกระดูกชิ้นหนึ่งเทานั้น เพิ่งจะเผย
ออกมาก็นากลัวถึงเพียงนี้
“อยาจองอยูอยางนั้น มองแวบหนึ่งแลวมองออกไปไกลๆ สักครูหนึ่ง มิเชนนั้นมันจะ
ทํารายเจา” หัวหนาหมูบานอาวุโสตักเตือนอยางเครงขรึม
“อืม ขารูขอรับทานผูเฒา” เจาตัวเล็กรับมาไวในมือแลวลูบไลเบาๆ รูสึกถึงความ
ราบเรียบอยางหาที่เปรียบไมได เย็นเยียบไปถึงกระดูก รูสึกสบายมากเมื่อกําไวในมือ
ไมตองขยายความ กระดูกชิ้นนี้มีความเปนมาเปนแนแท เพียงมองก็รูวาไมใชวัตถุ
ธรรมดา ราวกับบันทึกความหมายอันแทจริงของอักขระกระดูก
“เจี๊ยกๆ...” จูเยี่ยนดุจกําปนสีทองกระโดดโลดเตนอยางไมสุข ดวงตามีไหวพริบคู
นั้นเหลือกจนโต สงเสียงรองแหลม อยากจะชวงชิงมาอยางอดไมได เมื่อมันเห็นกระดูก
ชิ้นนี้แลว ก็ไมสงบและหงุดหงิด
“ทานผูเฒาขอรับ ทานไดมันมาอยางไร กระดูกล้ําคาชิ้นนี้เหมือนจะไมธรรมดานะ
ขอรับ” เจาตัวเล็กเอยถาม
“แนนอน!” หัวหนาหมูบานจับกระดูกชิ้นนี้ขึ้น แมแตน้ําเสียงก็สั่นเทา เงยหนามอง
ยังตนหลิวดําเกรียมหนาใหญ ในใจเตนดวยความกลัวอยางอดไมได
“เกี่ยวของทานเทพหลิวดวยรึขอรับ?” เสี่ยวสือฮาวตะลึง
หัวหนาหมูบานพยักหนา ในค่ําคืนนับสิบปนั่น ฟาแลบแปลบปลาบสงเสียงกระหึ่ม
หาฝนเทกระหน่ํา ลมคลั่งคําราม ปะทุจนถึงขีดสุด ขุนเขามากมายถูกสายฟาฟาดจน
ทลาย น้ําปาดุจมหาสมุทร กระแสสัตววิ่งตะบึงอยางบาคลั่ง นากลัวจนตัวสั่นระริก
ตนหลิวอาบทะเลสายฟา หอมลอมดวยกระแสไฟขนาดใหญหนาดุจขุนเขา กานหลิว
นับพันหมื่นกลายเปนโซศักดิ์สิทธิ์โชติจํานวนมาก เจาะทะลวงทั้งฟากฟา สุดทาย มันหัก
โคน ดําเกรียมทั้งตน รวงลงมาจากทองฟา นอกจากนี้ยังมีกลุมแสง ซึ่งหอหุม กระดูกขาว
กระจางชิ้นนี้ หลนลงมายังหมูบานหินผาพรอมกัน
“อา หลนรวงจากสวรรคพรอมกับทานเทพหลิวหรือ?” เจาตัวเล็กตกใจ
“ใช!” หัวหนาหมูบานออกแรงพยักหนา ในตอนนั้นอายุเขายังนอย เปน
ผูเห็นเหตุการณทั้งหมด สามารถรับรูความกลัวในจิตใจได
สิบปมาแลวที่สือยวิ๋นเฟงกํากระดูกคํานับตนหลิวอยูบอยครั้ง จัดพิธีเซนไหว แตกลับ
ไมเคยไดรับการตอบรับจากตนหลิวเลย ไมรูแมแตวามันสามารถสื่อสารโดยกระแสจิตได
จากมุมของหัวหนาหมูบาน บางทีเทพเจาตนหลิวอาจจะสนใจเจาตัวเล็ก หลายครา
ที่เอยปากพูดจาในหมูบานหินผา ก็มักจะเกี่ยวของกับเขา
“ทานเทพหลิว นี่คืออะไรกันแน?” เจาตัวเล็กเอยปากถามอยางอดไมได
ตนหลิวเงียบงัน สงบไรเสียง มันไมไดตอบกลับ ลําตนหนาใหญดําทมิฬราวกับหิน
ใหญสีดํา
“เจี๊ยกๆ...” ลูกขนสีทองเทากํามือปรารถนามากยิ่งขึ้น ประหนึ่งกําลังหวนคํานึงถึง
อะไรบางอยาง ดวงตามีไหวพริบเกลือกกลิ้ง มันพุงไปยังกระดูกขาวกระจาง หมายโอบ
มันไวในอก
ไมรูวาผานไปนานเทาใด ตนหลิวจึงเปลงเสียงออกมา มีเพียงตัวอักษร 4 ตัววา
“หยั่งรูดั้งเดิม”
..............................
[1] สารทฤดู คือ ฤดูใบไมรวง
[2] วสันตฤดู คือ ฤดูใบไมผลิ
[3] จิตใจเกิดเกลียวคลื่นซัดสาด สํานวนจีน เปรียบเปรยวา จิตใจถูกกระตุน เกิด
ความไมสงบภายในใจ
บทที่ 64 บําเพ็ญตน
“การหยั่งรูดั้งเดิม?” เจาตัวเล็กประหลาดใจ นามนี้ฟงแลวไมธรรมดาเปนอยางมาก
เคยถูกกลุมแสงหอหุม และรวงลงมายังหมูบานหินผาพรอมกับเทพเจาตนหลิว ตองมี
ความเปนมาสะทานฟาเปนแน
เจาลูกขนขนาดเทากําปนรองเจี๊ยกๆ ไมหยุด เกาหูเกาแกม[1] กระโจนลงบนมือของ
เจาตัวเล็ก โอบอุมกระดูกขาวกระจางราวกับหมีโคอาลานอยสีทอง พูดอยางไรก็ไมยอม
ปลอย นั่นหมายความวา ‘นี่เปนของขา ใครก็หามแยงชิงกับขา!’
“ทานเทพหลิวโปรดชี้แนะ การหยั่งรูดั้งเดิมนั้นจะตองบําเพ็ญเชนไร?” หัวหนา
หมูบานเอยถามแทนเจาตัวเล็ก นี่เกี่ยวของกับอนาคตของเขา
“ปรารถนาจะบรรลุการหยั่งรูดั้งเดิม จําตองปูพื้นฐานอันแข็งแกรง เมื่ออายุยังนอย
อยูในขั้นผันแปรโลหิต ตองเปนดั่งเชนทายาทของอสูรบรรพกาลชั้นฟา ใชกําลังกายยกชู
โลหะวิเศษหนักสิบหมื่นชั่ง ทั้งยังขัดเกลาจิตใจใหแข็งยิ่งกวาเหล็กกลา เชนนี้จึงจะดี!”
ตนหลิวกลาว เอยวาจาที่ทําใหหัวหนาหมูบานใจสั่น
มันยากเกินไป เด็กเพียงนี้จะทําไดอยางไร? แมแตคนโตเต็มวัยก็ทําไมได หากไมใช
อํานาจลึกลับของอักขระกระดูก จะมีสักกี่คนที่มีรางกายแข็งแกรงปานนั้น
“ขาจะพยายามขอรับ จะทําใหสําเร็จไดในเวลาอันสั้น” เจาตัวเล็กพยักหนาอยาง
จริงจัง เผยแววตาเด็ดเดี่ยว
นับแตวันนี้เปนตนไป สือฮาวเริ่มบําเพ็ญตนอยางลําบากยากเข็ญ ไดรับคําชี้แนะจาก
ตนหลิวเปนครั้งคราว เขาตั้งใจบมเพาะรางกาย ทํากลามเนื้อและกระดูกใหแข็งแกรง
“ครืน!”
แผนดินสั่นไหว ฝุนควันลอยฟุง
“คุณพระ นั่นเจาตัวเล็กทําอะไรนะ ยกชางเขามังกรตัวหนึ่งวิ่งออกมาจากภูเขารึ
นั่น?!”
ยามฟาสาง เด็กๆ ตะลึงจนตาคาง จนพูดอะไรไมออก หากไมพินิจมอง นึกวาสัตว
ประหลาดขนาดใหญตัวหนึ่งพุงมายังหมูบานหินผา พอเพงมอง มันอยูหางจากพื้นดิน
และดิ้นพลานไมหยุด
ใตชางเขามังกรมีเจาหนูนอยคนหนึ่ง แบกรางกายขนาดใหญของมันอยางขาทั้งสี่
ชี้ฟา วิ่งกระโจนมายังหมูบานหินผา ทุกยางกาวที่ย่ําลงทําใหพื้นดินสั่นรุนแรงไมหยุด
ชางเขามังกรมีขนาดใหญมาก แตละตัวมีน้ําหนักเกือบหมื่นชั่ง ทั้งตัวแนนขนัดไป
ดวยแผงเกล็ด มีเขามังกรใหญหนึ่งคู ดุรายมาก
ทวาตอนนี้กลับจํานนตอเจาตัวเล็ก แบกมันและวิ่งฉิวมา กลุมสัตวประหลาดหายาก
กับนกล้ําคาริมทะเลสาบสวยงามตางตื่นตระหนกตกใจ เงยหนาขึ้นมองอยางไมเขาใจ
พวกเด็กๆ กําลังฝกอยูริมทะเลสาบสีฟาใสสะอาด ตางก็หยุดชะงักดวยความตกใจ
และตื่นเตน นี่มันนาตกตะลึงเกินไป เขาไมไดลามันแลวลากกลับมา แตกลับจับชางเขา
มังกรหนักหมื่นชั่งมาทั้งเปน แบกมันและวิ่งกลับมา นี่ทําใหพวกเขาตางก็พูดไมออก
เจาตัวเล็กเหวี่ยงชางเขามังกรลงหนาหมูบานดังปง เหลาชายฉกรรจที่กรูกันมา
เพราะไดขาว รีบกระโจนเขาไป จัดการเหยื่อลามหึมาตัวนี้ ณ ที่นั้นเลย
“เจี๊ยกๆ!” เจาลูกขนกระโดดจากไหลของเจาตัวเล็กไปบนหัวชาง สงเสียงรองไม
หยุด ราวกับปาวประกาศวา เหยื่อลาตัวนี้เปนของมัน
“พละกําลังของเจาตัวเล็กชางนาตกตะลึง!” เด็กๆ ลอมกันเขามา เจ็ดปากแปดลิ้น
[2] ทั้งตื่นเตนและรอคอย เล็ดรอดออกมาจากสีหนาทาทาง
“หมั่นเพียรฝกฝนก็เพียงพอแลวขอรับ” เจาตัวเล็กเกาหัวอยางเกอเขิน เนื่องจากวิ่ง
ทั้งแบกเหยื่อลาที่หนักเพียงนี้ เขาหายใจหอบเล็กนอย ใบหนาแดงก่ําราวกับผลแอปเปล
“ลูกเอย ทําไดดีนี่ ตอนนี้เจาเปนนักลาอันดับหนึ่งของหมูบ านแลว ฮาๆ...” เหลา
ชายฉกรรจหัวเราะรา พลางตบไหลเขา
วันที่สอง แผนดินสะเทือนขุนเขาสั่นไหว เจาตัวเล็กวิ่งกลับมาอีกครั้ง พรอมกับแบก
ชางเขามังกร ซึ่งเปนวัตถุหนักอึ้งราวหมื่นชั่ง สะเทือนจนพื้นดินสั่นเปนระลอก
เขาโยนมันลงหนาหมูบานดังตูม เกิดเหตุการณไกบินสุนัขวิ่งเพนพาน[3]อีกครา
เด็กๆ ที่ฝกฝนริมทะเลสาบตกใจจนตองลอมกันมามุงดู พวกผูใหญเองก็เคลื่อนไหว
เชนกัน
วันที่สาม วันที่สี่...
ครึ่งเดือนหลัง ยามเจาตัวเล็กแบกชางเขามังกรวิ่งกลับมา เด็กๆ ไมสนใจอีกตอไป
พวกผูใหญก็เพิกเฉยเปนอยางมาก ตางก็ยุงกับเรื่องของตัวเอง มีเพียงทานลุง 2 คนที่รับ
หนาที่จัดการเหยื่อลา เรงเขามาจัดเก็บเหยื่อลา
ผูคนชินหูชินตา เปนเชนนี้มาครึ่งเดือนแลว จากความตะลึงในครั้งแรกกระทั่งเคยชิน
ปรับตัวไดอยางรวดเร็ว
“เจาตัวเล็ก เนื้อมากเกินไปแลว กินไมหมดหรอก อีกทั้งยังกินเนื้อชางเขามังกรทุก
วัน เลี่ยนจะตายชัก” เด็กคนหนึ่งบน
‘ลุงเฉยเมย’ สองคนที่กําลังจัดการเหยื่อลาก็เงยหนาขึ้น กลาวอยางกระชับวา
“จริง”
“เจี๊ยกๆ...”
เจาลูกขนคัดคาน มีเพียงมันที่ไมหนาย ในระยะครึ่งเดือนมานี้ มันจะกินชางเขา
มังกรเกือบครึ่งตัวทุกวัน ปริมาณการกินมากจนเกือบจะตกใจตาย ทั้งที่มีขนาดเพียง
กําปน แตราวกับมีหลุมดําในกระเพาะ สามารถแทะกินกองเนื้อยางอยางหมดจด
“ไมมีปญหา เนื้อที่กินไมหมดก็ใหเจาลูกขนไปใหสิ้น นับแตพรุงนี้ไป ขาจะ
เปลี่ยนเปนสัตวประหลาดตัวอื่น เอาแตจับชางเขามังกรก็ไมใชเรื่องดี ประเดี๋ยวจะลา
หมดเสียกอน” เจาตัวเล็กเกาหัวอยางขวยเขิน
สองเดือนตอมา เจาตัวเล็กจะลาสัตวใหญชนิดตางกันอยางสิ้นเชิงทุกวัน พวกมันตาง
ก็มีน้ําหนักราวหมื่นชั่ง ตัวใหญมหึมาจนนาตกใจ
ในระยะนี้ หัวหนาหมูบานจะลงมือเคี่ยวซุปเนื้อหนึ่งหมอใหเขาดวยตัวเอง อยาง
อสรพิษเอ็นมังกร เพื่อสรางความแข็งแกรงแกกลามเนื้อและกระดูก บํารุงรางกาย
ยิ่งกวานั้นคือเสริมยาโบราณหลากชนิด พละกําลังของเขากําลังปะทุ
ณ ทะเลสาบติดหมูบานหินผา ภายในน้ําสีฟาใสสะอาด มากดวยปลาหนวดมังกร นี่
ก็เปนสิ่งมีชีวิตล้ําคาที่สามารถเพิ่มพละกําลัง ชาวบานจะลงน้ําเพื่อจับปลาใหญแสนรู
น้ําหนักกวา 10 ชั่งขึ้นมาเกือบทุกวัน มันมีเกล็ดสีทองแวววับ หนวดมังกรพรางพราย
เลือดของมันล้ําคาจนชนเผาใหญมองวาเปนวัตถุหรูหรา
แนนอนวาสิ่งเหลานี้หลนลงไปในทองของเด็กๆ เปนที่เรียบรอย พละกําลังของพวก
เขาเพิ่มขึ้นอยางรวดเร็ว
โดยเฉพาะเจาตัวเล็ก เนื่องจากรางกายของเขาไมธรรมดา ชาวบานปฏิบัติตอเขา
เปนการพิเศษ พูดไดวาเสมือนพละกําลังพุงพรวดพราด ตํารายาโบราณนานาชนิดที่
หมูบานบันทึกไว ถูกเอาออกมาใชจนสิ้น
ตองรูวา ตํารายาโบราณเหลานี้ไมใชวัตถุธรรมดา ในอดีตพวกเขาไมรู หากตอนนี้
ชาวบานเขาใจแลว รุงโรจนเปนอันมากเมื่อครั้งบรรพกาล เคยมีเทพเจาปรากฏกาย
ตํารายาโบราณเหลานี้ตกทอดสั่งสมมายาวนาน จะเปนของธรรมดาไดอยางไร?
โชคดีคือ เทพเจาตนหลิวเสาะหาสถานที่ล้ําคาแกพวกเขา ไมเพียงแกไขสภาวะขาด
แคลนอาหาร แตยังพบเจอสิ่งมีชีวิตซึ่งเพียบพรอมดวยไหวพริบ ขอมูลที่บันทึกไวในตํารา
ยาโบราณ เปนสิ่งที่หารองรอยไดเกือบทั้งหมด การเคี่ยวซุปเนื้อและผงยาเชนนี้ มี
สรรพคุณอันอัศจรรย
สามเดือนใหหลัง เจาตัวเล็กสามารถยกวัตถุหนัก 50000 ชัง่ โดยไมใชพลังของ
อักขระกระดูก พึ่งพาเพียงรางกาย พละะกําลังเยยฟา เนื่องจากเขาอายุเพียง 5-6 ขวบ
กวาเทานั้น
“ไกลออกไป70 ลี้มีหมูหินน้ําตก เจาไปบําเพ็ญตนที่นั่นได นอกจากนี้ ขามีตํารา
โบราณอยูแผนหนึ่ง เปนตํารับยาใชสรางพื้นฐานของลูกสัตวอสูรบรรพกาลชั้นฟา” ตน
หลิวเอย บอกกลาวตํารายาแกเจาตัวเล็ก
เสี่ยวสือฮาวนิ่งอึ้งทันที ตํารับยาของอสูรบรรพกาล ยาโบราณและสิ่งมีชีวิตที่ใชทั้ง
มวลนาตกตะลึง สิ่งที่นากลัวคือชนเผาเหนือชั้นที่มีประชากรนับสิบลาน รอยลานยังหา
มาไดยาก
ไมเอยถึงโอสถล้ําคาอันหายาก แมแตเลือดของทายาทอสูรกับกระดูกล้ําคาก็ไดมา
ยากเย็น แตพวกเขากลับรับประทานเสมือนสิ่งจําเปนที่ตองบริโภคใน
ชีวิตประจําวัน หมูบานหินผาจะหามาไดอยางไร? ของเหลานั้นสะเทือนและตะลึงพรึง
เพริดมากเกินไป
ไยอสูรบรรพกาลจึงยิ่งใหญ? สะทานฟาตั้งแตยังเยาววัย เหนือธรรมดา ประหนึ่ง
เทพนิยาย ไมสามารถแยกจากสิ่งเหลานี้ได!
“ทานเทพหลิว สิ่งเหลานี้ พวกขาหามาไมไดหรอกขอรับ” เจาตัวเล็กเอยเสียงเบา
แลวกมหนาลง
“ไมเปนปญหา นอกจากยาหลัก อยางอื่นใชสิ่งของธรรมดาทดแทนก็เพียงพอแลว”
เทพเจาตนหลิวกลาว
“ยาหลักนั่น...” เจาตัวเล็กตาเบิกกวาง เขาเขาใจความหมายของตนหลิว
“เจาเลี้ยงจูเยี่ยนตัวนี้ไว จะปลอยใหมันกินเปลาตลอดคงไมไดกระมัง ใหมันเซน
เลือดหนึ่งหยดวันเวนวัน ถือวาเปนยาหลักก็แลวกัน” ตนหลิวกลาว
“โฮก...” จูเยี่ยนสีทองเทากํามือขนลุกขนชันไปทั้งตัว ไมกลารองเจี๊ยกๆ อีกตอไป
แตกลับสงเสียงรองคําราม ดวงตาเหลือกจนกลมโต จดจองตนหลิวดวยความโกรธ
“เจาลูกขน ตอไปขาจะพาเจาไปกินโอสถล้ําคายังขุนเขาเทพเจา ตอนนี้เจาตองชวย
ขากอน...” เจาตัวเล็กจับมันไวแนนแลวออกแรงโยกมัน
“เจี๊ยกๆ...” ลูกขนสีทองรองโหยหวน ไมพอใจเปนอยางมาก
ไกลออกไปนับสิบลี้ กองกอนหินดํารงอยูดวยกัน น้ําตกกระหน่ําไหลลงมา เฉก
เชนเดียวกับน้ําปา เสียงดังครืนสะเทือนแกวหูจวนดับ
แมน้ําสายใหญ 3 สายไหลมารวมกัน พุงผานกลุมหินระเกะระกะ ขางลางเปนหุบ
เขาเตี้ย กอเปนหนาผาไรที่สิ้นสุด กระแสน้ําเชียวกราด ราวกับไหลดิ่งลงมาจากสรวง
สวรรค น้ําตกกวางใหญ กอนหินเกลือกกลิ้งลงมาอยางไมขาดสาย
เมื่อมาถึงที่แหงนี้ อยาวาแตการปนปายทวนน้ํา เพียงเขาใกลเล็กนอยกอกสั่นขวัญ
แขวน ผืนน้ําปามหึมานากลัวเปนอยางมาก ทั้งกอนหินใหญที่กระแทกลงมา อยางนอยก็
มีน้ําหนักราวพันชั่งหมื่นชั่ง มันหลนจากบนลงลางโดยอาศัยกระแสน้ํา กําลังจะดุดัน
เพียงใดกัน? มันทําใหหวาดหวั่นจิตใจ
นี่เปนสถานที่บําเพ็ญตนแหงใหมของเจาตัวเล็ก เขาจะตองปนปายหนาผาชันทวน
กระแสน้ํา ค้ํายันกอนหินใหญที่กระแทกลงมา มันคอนขางอันตรายอยางเห็นไดชัด
“ตูม!”
เขาเพิ่งจะเขาสูใตน้ําตก ก็ถูกเกลียดคลื่นสีขาวซัดกระเด็นออกไป น้ําตกไหลลงมา
จากหนาผาหินสูงนับรอยเมตรพันเมตร มีกําลังรุนแรงเกินไป
เจาตัวเล็กกลับไมทอถอย หยัดกายลุกขึ้น สองมือดุจคีมเหล็กจับหินไวแนน ไตขึ้นไป
อยางอดกลั้น กาวแลวกาวเลาอยางยากลําบาก
เขาจมอยูในเกลียวคลื่นสีขาว บนริมผาสามารถมองเห็นคลื่นน้ําสีขาวที่กอตัวขึ้น
เพราะกระแสน้ําเชี่ยวกราดเกินไป พละกําลังของคนทั่วไปไมสามารถตานทานได
“ตูม!”
กอนหินใหญหนักกวาพันชั่งรวงลงมากระแทกเจาตัวเล็ก ความรวดเร็วระดับนั้น
ความบาระห่ําเชนนั้นทําใหใจสั่นเทา
แมจะถูกเกลียวคลื่นสีขาวทวมนอง แตเขาก็ตอบสนองดวยการเรงหลบหลีกไปอีกฝง
แมจะหลบกอนหินใหญท่หี ลนลงมาจูโจมได แตรางกายก็โซซัดโซเซ รวงลงมาตามกระแส
น้ําดังตุบ
นี่เปนเพียงการเริ่มตน ขั้นสุดทายของการบําเพ็ญตน จะตองยันเกลียวคลื่นมหึมากับ
กอนหินนับหมื่นชั่งที่กระแทกจากบนลงลาง ปนปายหนาผาทวนกระแสน้ําปาขึ้นไป นี่
เปนขั้นตอนการบําเพ็ญตนอันยากลําบากและนากลัวอยางแนนอน
ดวงตะวันลาลับขอบฟา เจาตัวเล็กกลับมายังหมูบานหินผาดวยบาดแผลฟกช้ํา แม
รางกายของเขาจะแข็งแกรงเพียงใด การเผชิญหนากับน้ําตกหินนากลัวเชนนี้ก็ยากที่จะ
อยูในสภาพดีได
รางกายของเขาฟกช้ําดําเขียว เต็มไปดวยบาดแผล มองดูแลวปวดใจ ในระยะเวลา
การบําเพ็ญตนในอดีต เขาไมเคยไดรับบาดเจ็บเลย เมื่อชาวบานเห็นก็คัดคานการฝกตน
ที่อันตรายเพียงนี้
พวกเขาเคยไปเห็นสถานที่จริง ฉากนากลัวเชนนั้น อันตรายยิ่งกวาการโจมตีของกอง
กําลังขนาดใหญเสียอีก กอนหินใหญรว งลงมาจากที่สูงปานนั้น ดวยกําลังมากกวาหมื่น
ชั่ง หากวากระแทกเขาอยางจัง จะตองกลายเปนซากเนื้อเละเทะเปนแนแท!
“ไมเปนไรขอรับ ขาจะพยายาม ขาจะตองทําลายขั้นสูงสุดของรางกายที่อสูรบรรพ
กาลชั้นฟาบรรลุโดยไว” เจาตัวเล็กกะพริบตา แววตาเด็ดเดี่ยวหนักแนน
หมอสําริดสีดําซึ่งตกทอดจากบรรพบุรุษ เปลวเพลิงลุกโหม ภายในหมอเดือดพลาน
ยาโบราณนานาชนิด อสรพิษเอ็นมังกร ตะขาบสีทอง ปลาหนวดมังกรละลายนานแลว
กลิ่นหอมหวนลอยออกมา
“ขาดเพียงยาหลักเทานั้น” หัวหนาหมูบานกลาว มองไปยังจูเยี่ยนสีทองเทากํามือ
เจาลูกขนแผงขนเปลงประกายทั้งลําตัว ดวงตาเกลือกกลิ้งไปมา เตรียมตัวหลบหนี
แตกลับถูกเจาตัวเล็กที่เตรียมพรอมอยูนานแลวควาหมับเขาให เอยเสียงเบาวา “เจาลูก
ขนชวยขาหนอยดีไหม?”
ลูกขนสีทองรองอยางเวทนาโดยพลัน พัวพันกันอุตลุด สุดทายก็ใชอุงมือปดตาไว
และกัดอุงมืออีกขางอยางแข็งใจ
ฝูงชนตางพากันหัวเราะ เจาลูกขนประหนึ่งฆาไกเชือดเปด สงเสียงรองไมหยุด ปด
ตาตัวเองไวอยางไมยอมหลั่งเลือดสีทองแมแตหยดเดียวลงในหมอสําริด
สิ้นเสียงดังตูม ผิวหมอสําริดสีดําเปลงประกาย ภายในหมอเดือดพลาน สงเสียง
คําราม มีเสียงสวดมนตของทวยเทพดังมาเปนระลอก ยิ่งกวานั้นคือเสียงบูชายัญดัง
กึกกอง ตะลึงจนชาวบานสั่นสะเทือน ตะลึงงันอยางไมสิ้นสุด
..............................
[1] เกาหูเกาแกม สุภาษิตจีน แปลวา ดีอกดีใจ ลิงโลด
[2] เจ็ดปากแปดลิ้น สํานวนจีน แปลวา แยงกันพูดจนฟงไมไดศัพท
[3] ไกบินสุนัขวิ่งเพนพาน สํานวนจีน เปรียบเปรยวา แตกตื่นจนจลาจลวุนวาย
บทที่ 65 ขัน้ สูงสุดสิบหมืน่ ชัง่
ผิวหมอสําริดเปลงแสง ภาพแกะสลักปรากฏใหเห็นเปนภาพๆ ขุนเขาสูงตระหงาน
ตะวันจันทราเคลื่อนไหว บรรพชนเซนสรวงสวรรคดวยเสียงกึกกอง ศักดิ์สิทธิ์และ
เครงครัด
ประหนึ่งยอนกลับไปยังโบราณกาล ไดยินเสียงสวดมนตของเหลาทวยเทพ
อสูรบรรพกาลอยางมังกรเจียวกับปเซี๊ยะบนหมอสําริดสมจริง กระจายกลิ่นอายสิ้น
หวัง อยากกระโจนออกมาจากผิวหมอสําริด ทําใหผูคนอกสั่นขวัญแขวน
มันนาตื่นตะลึงเกินไป หมอสําริดใบนี้ราวกับมีชีวิต!
“นี่เปน...วัตถุล้ําคาอยางหาที่สุดไมได!” หัวหนาหมูบานเสียงสั่น หมอตมยาตกทอด
มาจากบรรพบุรุษกลับยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้
ผิวหมอดานในปรากฏของเหลวพรางพราย ดุจดั่งน้ําคางหอมหวาน แมจะนอยนิด
แตกลับกระจายความหอมกรุน รูสึกผอนคลายสบายใจ รูขุมขนทั้งตัวเปดกวาง
ใชเลือดสีทองของจูเยี่ยนเปนยาหลัก สรรพคุณของมันวิเศษมาก ทําใหหมอสําริดอัน
ตกทอดมาจากบรรพบุรุษกลับมามีชีวิตอีกครั้ง และเกิดภาพเหตุการณอัศจรรยถึงเพียงนี้
ฝูงชนตางก็ตะลึงจนอาปากคาง
หัวหนาหมูบานอาวุโส ผูเคยไดยินตํานานและเรื่องราวลึกลับบางสวนกลาววา
“หมอสําริดใบนี้ล้ําคาอยางไมสามารถเอื้อนเอยคําใดได เคยตมเคี่ยวโอสถล้ําคาหายาก
มากอน ผานกาลเวลาอันเนิ่นนาน ผิวหมอซึมซับคุณสมบัติของอยางตอเนื่อง หลอม
รวมอยูในนั้น และเลือดสีทองขอจูเยี่ยนหลั่งรินลงในวันนี้ ทําใหมันตอบสนองกอง
กังวาน”
ในหมอสําริดเดือดปุดๆ ยาน้ําสีทองออนหอมหวนอยางเปรียบไมได อีกทั้งเสียง
บวงสรวงเซนไหว และเสียงสวดมนตของเหลาทวยเทพ เกิดความศักดิ์สิทธิ์เปนอยางมาก
ราวกับวาโอสถทิพยหนึ่งเตาจะบังเกิดขึ้น
“ดี ดี ดี!” เหลาผูอาวุโสเนื้อตัวสั่นเทา ยื่นมือเหี่ยวยนออกไปหมายลูบคลําหมอใบนี้
คาดไมถึงวามันจะมหัศจรรยถึงเพียงนี้
บนผิวหมอ ไอน้ําหอมหวานเหลานั้นไถลลงมา หลอมรวมลงในของยาน้ําเดือดพลาน
ทวีความหอมกรุนมากยิ่งขึ้น ชาวบานเพงมองจนตาถลน
“นี่เปน ‘หัวเชื้อยา’ ตอนนี้มันกําลังใชความอบอุนบํารุงยาน้ําหมอเตานี้อยู!”
ครั้งอดีต หมอสําริดใบนี้เคยตมเคยเคี่ยวโอสถทิพยนานาชนิด ถูกบํารุงบมเพาะจนมี
คุณสมบัติของยาเต็มเหนี่ยว ซึมซาบลงในหมอ และของเหลวที่ปรากฏขึ้นบนผิวหนาเปน
‘หัวเชื้อยา’ ซึ่งตกตะกอนมาเนิ่นนาน สามารถเพิ่มคุณภาพของยาน้ําที่ตมเคี่ยวอยูใน
หมอได
หมอสําริดอันปรากฏ ‘หัวเชื้อยา’ นั้น จะตองวัตถุล้ําคาเปนแน มูลคามหาศาล เอา
เพชรนิลจินดามาแลกก็ไมยอม เมื่อมาถึงขั้นนี้ มันอัศจรรยเปนอยางมาก สามารถดูดซึม
พลังฟาดินลงในผิวหมอไดดวยตัวของมันเอง หัวเชื้อยานี้เปนการตกตะกอนของยา และ
เปนสิ่งที่หลอมรวมพลังฟาดิน มีสรรพคุณวิเศษอยางไมสิ้นสุด
เปนไปตามความคาดหมาย หลังจากหัวเชื้อยาไถลลงไป ของเหลวสีทองออนก็หอม
กรุนยิ่งขึ้น ทําใหยาน้ําพรางพราวโปรงแสง เมื่อสูดกลิ่นเขาไปก็รูสึกสุขกายสบายใจ
แทรกซึมลงในเนื้อหนังมังสา
“นี่ถือวาเปนโอสถทิพยแลว!” สือหลินหูรองดวยความตะลึง ไมกลาแมแตจะเชื่อ
เปนเพียงหมูบานก็สกัดยาชั้นดีถึงเพียงนี้ได
เด็กๆ น้ําลายไหลอยางไมรูตัว ยาน้ําหอมหวนมาก อดไมไดอยากจะดื่มสักอึก ตอนนี้
พวกเขารูสึกราวกับลิ้นจะละลายอยูในของเหลวนี้
“เจี๊ยกๆ...”
เจาลูกขนเองก็อยูไมสุขเชนกัน มันกระโดดโลดเตนจนเกือบจะหลนลงไปในหมอ
สําริด จนถูกเจาตัวเล็กเรงควาตัวมันไวทันที
“แมเราจะเปนเพียงหมูบานเล็กๆ ไมมีเลือดของอสูรบรรพกาล ไมมีกระดูกล้ําคา
และยาวิเศษหายากมากมาย แตอาศัยหมอสําริดใบนี้กับเลือดสีทองของจูเยี่ยน สกัดยา
ตามตําราก็ไมดอยไปกวากัน” สือเฟยเจียวกําหมัดแนนดวยความฮึกเหิม
เจาตัวเล็กไมปดบังอําพรางชาวบาน บอกเลาเรื่องราวชีวิตของตน กลุมคนพากัน
ถอนหายใจ ตางก็ปลุกใจเขา ดวยหวังวาเขาจะรุงโรจนทามกลางดินแดนรกรางแหงนี้
โดยไว
สือยี่ ผูมีพรสวรรคแหงผูวิเศษโบราณและเทพเจา ทั้งยังไดมาซึ่งกระดูกขั้นสูงสุด
ลิขิตไวใหเหนือกวาอัจฉริยะบุคคลทั่วไป เขาถือกําเนิดในประเทศเกาแก ไดรับการอบรม
บมเพาะจากทั้งตระกูล จะตองนากลัวอยางมากเปนแนแท
แมแตชาวบานก็รูจักเขา ฝายตรงขามเปนผูมีพรสวรรคอันฟาประทานเชนนี้ ไมวา
ใครก็ไมสุข พวกเขาหวังใหเจาตัวเล็กพุงทะยานฟาในเร็ววัน
“เจาเด็กสือยี่คนนั้นกําเนิดในตระกูลขุนนางสูงศักดิ์ สามารถระดมทรัพยากรอยาง
ไมจํากัด ไมขาดเลือดของทายาทอสูรบรรพกาลและโอสถทิพยอันหายากเปนแน หาก
เติบโตเชนนี้ตอไป ตองนาสะพรึงกลัวเปนแนแท”
ตอนนี้เขาอายุ 9 ขวบกวา จวนจะ 10 ขวบแลว ไมตองจินตนาการก็ยอมรู
โชคชะตาดุจหนึ่งดวงตะวันสวางไสวแขวนอยูกลางนภาแหงประเทศเกาแก รัศมีเจิดจา
พราตา เปนที่หมายตาของมหาชน
สือหลินหูสงเสียงฮึมฮัมแลวพูดวา “พวกเราหมูบานหินผาก็ไมนอยหนา มีหมอสําริด
ใบนี้อยู โอสถทิพยที่สกัดออกมาไมดอยไปกวาใคร สามารถตานทานไดเปนแน”
“ใชแลว ประเทศเกาแกรุงเรืองนั่น มีแหลงกําเนิดมาจากหมูบานหินผา พวกเขาเดิน
ออกไปจากดินแดนนี้ ในวันนี้ พวกเราเริ่มใหมตั้งแตตน ลองดูสิวาอัจฉริยะแหงสายเลือด
นั้น หรือผูคนในบานเกิดเมืองนอนอยางเราแข็งแกรงกันแน” เหลาผูอาวุโสประหนึ่งเด็ก
เล็ก ไมยินยอมที่จะแพพาย สั่งการใหชาวบานไปรื้อคนหีบหอ[1] คนหาวัตถุโบราณที่ตก
ทอกจากบรรพบุรุษออกมาใหหมด เพื่อดูวามีสิ่งของชิ้นไหนไมธรรมดาบาง
หมอตมยาสั่นสะเทือนดังตูม แสงสวยงามมากมายทะลักออกมา เลือดจูเยี่ยนอาบ
ยอมหมอจนเปนสีทองออนไปทั่ว ยาน้ําเดือดพลานอยางหนักหนวง
ที่แหงนี้ไอหมอกลอยขึ้น กลุมเมฆเรืองรองเคลื่อนที่ มองดูวิเศษงดงาม กลิ่นหอมให
ความรูสึกสดชื่น ราวกับจะทําใหคนตัวเบาลองลอยขึ้น
“หอมจัง!” ฝูงชนกลืนน้ําลายดังอึกอยางรอคอย เด็กๆ กลับยิ่งสูดจมูกฟุดฟดไมหยุด
ผิวหมอแวววาว การเซนสรวงของบรรพชนดังลอยมาอีกครา กึกกองกังวาน เหลา
อสูรบรรพกาลเกรี้ยวกราด ทวยเทพเลือนราง สาดทอแสงโชติชวงชัชวาล มหัศจรรยมาก
หมอตมยาสั่นไหว กองไฟขางลางมอดดับไปเอง ยาน้ําสีทองออนสําเร็จเสร็จสิ้นแลว!
“เจี๊ยกๆ...” เจาตัวเล็กไมขยับ ทวาจูเยี่ยนสีทองทนตอไปไมไหวแลว เตรียมพรอม
‘เปดฉาก’ หมายอยากลิ้มลอง
“เจาลูกขน นี่เปนยาที่สกัดจากเลือดของเจา เจาอยากดื่มเลือดของตนเองอยางนั้น
รึ?” เออรเหมิงเอยถาม
นี่ทําใหเจาลูกขนกลืนไมเขาคายไมออก เกาหูเกาแกม แตกลับทนตอกลิ่นหอมเยา
ยวนใจไมได ชวงชิงถวยกระเบื้องเคลือบมาจากมือของชาวบาน จากนั้นก็ตักขึ้นมาดื่มอึก
ลงไป
“เลือดของตัวเองก็ดื่มงั้นรึ?”
“เจี๊ยกๆ...” เจาลูกขนสงเสียงรองไมหยุด ความหมายก็คือ ‘ไมมีปญหาอะไร ขาทํา
ดวยความเต็มใจ’
เมื่อเจาตัวเล็กดื่มยาน้ําสีทองลงไปถวยหนึ่ง พลันรูสึกราวกับมีเปลวไฟพลุกพลาน
ภายในรางกาย รางกายเปลงแสง ตามมาดวยเหงื่อชุมโชก เพียงชั่วครูเขาเสมือนงมขึ้นมา
จากน้ํา ไอหมอกพวยพุงทั่วรางกาย แสงสวยงามแตกกระเด็นเซ็นซาน ผิวหนังพราง
พราวโปรงแสง กระดูกดังครืนครัน
ประสิทธิภาพของยาชางดีเสียจริง เกิดความรูสึกชัดเจนบัดเดี๋ยวนั้น แขนขา
องคาพยพ[2]ประหนึ่งถูกขัดถูกฝน อาการเลือดคั่งทั่วรางกายทุเลาจนสิ้น บาดแผลฟกช้ํา
ดําเขียวหายเปนปลิดทิ้ง กระดูกในรางกายเปลงประกายกระจางใส
แสงสวางเปนสายๆ กลายเปนหมอกแสงเปนกลุมๆ ปกคลุมเจาตัวเล็กจนมิดเปน
เวลานานจึงคลี่คลาย
“เปนอยางไรบาง?” เหลาผูอาวุโสจองมองดวยความกระวนกระวายใจ
“ผลลัพธดีเยี่ยมขอรับ” เจาตัวเล็กกลาว
หัวหนาหมูบานตักขึ้นมาอีกถวยแลวยื่นใหเจาตัวเล็กดื่ม การขัดเกลารางกายเมื่อ
เยาววัย จะตองดูแลรางกายใหดี มิเชนนั้นจะเกิดรากรายฝงลึก กอใหเกิดความลําบาก
ยุงยากตามมาภายหลัง
เห็นไดชัดวาเจาตัวเล็กดื่มยาน้ําหมอนี้คนเดียวไมหมด เด็กๆ ตางแบงไดกันคนละ
ถวย กรอกลงในปากอยางรวดเร็ว เพียงแตรางกายของพวกเขายังหางไกลอยูมากเมื่อ
เทียบกับเจาตัวเล็ก เพิ่งจะดื่มลงไปเพียงหนึ่งอึกใหญ ปากและจมูกก็พนแสงสวยงาม
ออกมา ราวกับถูกไฟแผดเผา
“โอย...”
เด็กพวกนี้กระโดดโลดเตน มุงหนาไปยังทะเลสาบพรอมกัน กระโดดลงไปในน้ําดัง
ผลุบๆ มิเชนนั้นรางกายจะปวดแสบปวดรอน ดั่งโดนไฟลวก
ค่ําคืนนี้ พวกเขาตางอยูกันอยางไมสงบ เพียงดื่มแคครึ่งถวย ก็แชอยูในน้ํากระทั่งรุง
อรุณ
ยาน้ําหมอนี้ถูกเคี่ยวจนหนืดขน เกือบทั้งหมดอยูในทองของเจาตัวเล็ก ที่เหลือถูก
เด็กๆ และผูใหญแบงกันกิน แนนอนวาจะขาดลูกนกทั้งสามไปไมได ตางก็รางกาย
เปลงแสง รอนผาวอยางเปรียบไมได นี่เปนค่ําคืนอันไมหลับใหล
เจาตัวเล็กกลับหลับสนิท อวัยวะภายในพรางพราย กระดูกขาวสะอาด ประหนึ่งถูก
ชะลางอีกครั้งหนึ่ง เมื่อตื่นมาขึ้นมายามเชา เขาพบวาของเหลวเหนียวหนึบ ทั้งหมดลวน
เปนสิ่งที่ถูกขับออกมาจากรางกาย
เขาหยิบชุดสะอาดออกมาหนึ่งชุด วางลงริมทะเลสาบ ตัวเขากระโดดลงไปในน้ําดัง
ตูม ทําใหเด็กๆ ที่นัยนตาแดงก่ําดุจกระตายสีแดงตกอกตกใจ
“พวกเจาตื่นเชากันจริง” เจาตัวเล็กทักทาย
“วู... ยังไมไดนอนเลย” เด็กๆ เอยอยางนาเวทนา แตวาพวกเขากลับไมอิดโรยไม
แมแตนิด กลับมีพลังลนเหลือเสียดวยซ้ํา มิเชนนั้นคงไมแชอยูที่นี่แลว
“โอ พวกเจาทําตอไปเถิด ขาไปฝกฝนแลว” การเริ่มตนของวันใหม หลังจากเจาตัว
เล็กกินอาหารเชาแลว ก็มุงหนาวิ่งไปยังน้ําตกหินนั่น
กาลเวลาผานไปวันแลววันเลา เจาตัวเล็กออกเดินทางแตเชา และกลับมาในเวลาค่ํา
มืด
น้ําตกดุจจักรวาล สะเทือนแกวหูจวนดับ ดิ่งตรงลงมาจากกอนหิน เจาตัวเล็กยัน
น้ําตกสีขาวโพลนไกลสุดลูกหูลูกตา เขาปนปายขึ้นไปอยางลําเค็ญ
“ตูม!”
ทันใดนั้น กอนหินหนักพันชั่งก็รวงลงมาจากดานบน แมไมไดหลนมาจากจุดสูงสุด
แตพุงมาพรอมกับน้ําตกเชนนี้ ทรงพลังจนนาตกตะลึง น้ําหนักกวาพันชั่งอยางแนนอน
เพียงกระแทกเขาอยางจัง อยางนอยก็คงเปนแรงนับหมื่นชั่ง
เจาตัวเล็กจมอยูในน้ําตกสีขาว บนผาชันเหลือเพียงจุดนูนสีขาว แตกลับมีไหวพริบ
เปนอยางมาก รูสึกไดถึงภัยอันตราย ทวาหนนี้เขาไมไดหลบหลีก แตกลับอาศัยรางกาย
ตอกรดวยความแข็งกราว
เสียงตูมดังขึ้นพรอมกับกอนหินใหญหลนรวงลงมา กระแทกลงบนแผนหลังของเขา
เปลงเสียงรองทุมต่าํ เกลียวคลื่นสีขาวพวยพุงขึ้นฟาไปทั่วบริเวณ
เจาตัวเล็กไมไดใชอักขระกระดูกแตอยางใด แตรางกายกลับเต็มไปดวยแสงมันวาว
ระยิบระยับ กระจายแสงพรามัว ใชรางกายแบกรับอยางดันทุรัง กระทั่งสุดทายก็ประสบ
ผลสําเร็จ!
รางกายของเขาสั่นสะเทือน แสงวิเศษขมุกขมัวเลือนหายไป แมแผนหลังจะเจ็บปวด
รวดราว แตกลับไมเปนอันตรายถึงกลามเนื้อและกระดูก เขาสามารถตานทานได นาตื่น
ตะลึงอยางแทจริง!
นี่เปนผลสําเร็จจากความพยายามในระยะหนึ่งเดือนมานี้ เขาบําเพ็ญทุกรกิริยาทุก
วัน ฝกฝนรางกายโดยไมพึ่งอักขระกระดูก รางกายปรากฏแสงวิเศษขึ้นปกคลุมหนึ่งชั้น นี่
เปนเพียงพละกําลังของลมปราณ ซึ่งทําการปกปองรางกายดวยตัวของมันเอง
“นี่เปนความหมายอยางถองแทของขัน้ แปรผันเลือดที่ทานเทพหลิวไดกลาวไว
หรือ?” เจาตัวเล็กคุยกับตัวเอง
สิ่งที่เทพเจาตนหลิวกลาว เปนขั้นเดียวกันกับตอนนี้ แตผลลัพธที่ฝกฝนไดกลับ
แตกตางกันอยางสิ้นเชิง มันวัดจากมาตรฐานของอสูรบรรพกาล
เชนนี้เอง วันแลววันเลา เดือนแลวเดือนเลา เจาตัวเล็กออกเดินทางแตเชา กลับใน
เวลาค่ํามืด มีบาดแผลฟกช้ําทุกวัน แตมีตํารายาโบราณของตนหลิวเลมนั้น สกัดยาวิเศษ
ออกมาอยูบอยครั้ง เมื่อกลืนของเหลวหนืดขนสีทอง เขาจะคืนสูสภาพปกติทันที
เขายังคงรูปโฉมงดงามเชนเดิม ใบหนาขาวออนเยาว ดวงตามีชีวิตชีวา แตรางกาย
กลับแข็งแกรงมากขึ้น เมื่อประสบกับการโจมตี พลังปราณเคลื่อนไหว ราวกับเคลื่อนยาย
ดาวกระบวยใหญ[3] รางกายพรางพราย หากกอนหินทั่วไปกระแทกลงบนรางกาย ก็จะ
แตกกระจายทันที ไมสามารถทําอันตรายเขาไดแมแตนิด
เพียงพริบตา เขาบําเพ็ญตนใกลครบปแลว และเจาตัวเล็กก็จวนอายุ 7 ขวบแลว
ยามรุงอรุณ ณ กลุมน้ําตกหิน เจาตัวเล็กยกกอนหินหนักหมื่นชั่งกอนหนึ่งดวยมือ
เดียว และปนไตดวยแขนเดียวกับขาหนึ่งคู ปนปายขึ้นไปยังน้ําตกกวางใหญ พรอมกัน
นั้นกอนหินใหญก็รว งหลนลงมา
“ตูม!”
กอนหินกลิ้งกระแทกลงมา แตกลับไมสามารถโจมตีใหเขาลาถอยได รางกายของเขา
มั่นคงมาก ดุจวานรวิเศษหนึ่งตัว พุงขึ้นไปอยางรวดเร็ว ทั้งเกลียวคลื่น กอนหินใหญก็
ยากที่จะโจมตีเขาจนรวงลงมาได
สุดทาย เขาก็ไตจนถึงยอดเขา ยืนอยูตรงนั้น ดวยรางกายที่สองแสงวิเศษ การ
บําเพ็ญตนจวนปทําใหรางกายของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงอันนากลัว เมื่อหนึ่งเดือน
กอน เขาก็บรรลุถึงขั้นนี้แลว ในตอนนี้เพียงมีเสถียรภาพมากขึ้นเทานั้น
“ยก!”
ขางบนของน้ําตกกวางใหญ โครงรางเล็กๆ หนึ่งราง หันหนารับแสงอรุโณทัย ชูกอน
หินนับสิบหมื่นชั่งขึ้น พรางพราวทั้งตัว รางกายแผแสงวิเศษ
ฉากนี้สะเทือนจนสัตวประหลาดบริเวณใกลเคียงคําราม ปกษาพุงทะยานสูฟากฟา
ตางก็สั่นระริกดวยถูกรางเล็กนั่นทําใหตกใจกลัว
ทามกลางแสงรุงอรุณ รางเล็กเจิดจาเปนอยางมาก กระจายกลิ่นอายอันนากลัว ราว
กับเทพเจาตัวนอยองคหนึ่ง ยื่นตระหงานบนน้ําตก ทั้งตัวมีมนตเสนหอันยากเขาใจ
มีเพียงทายาทของอสูรบรรพกาลชั้นฟาเทานั้นที่สามารถทําได การบรรลุขั้นสูงสุด
สิบหมื่นชั่ง เจาตัวเล็กบรรลุถึงขั้นนี้แลว!
..............................
[1] รื้อคนหีบหอ สํานวนจีน เปรียบเปรยวา คนหาทุกซอกทุกมุม
[2] องคาพยพ คือ สวนนอยและใหญแหงรางกาย อวัยวะนอยใหญ
[3] ดาวกระบวยใหญ เปนหนึ่งในกลุมดาวของกลุมดาวจระเข ดาวกลุมนี้มี 7 ดวง
มีลักษณะคลายกระบวยตักน้ํา 4 ดวงเปนตัวกระบวย อีก 3 ดวง เปนดาน ชาวจีนและ
ชาวยุโรปเขาเห็นเปนรูปกระบวย จึงเรียกกลุมดาวกลุมนี้วา “กระบวยใหญ”
บทที่ 66 เหนือมนุษย
ในวัยเยาว ยกโลหะวิเศษหนักสิบหมื่นชั่งได นี่มันนากลัวเกินไป มันเปนหนึ่งเรื่องที่
ยากจะสําเร็จอยางสิ้นเชิง เพราะเหตุฉะนี้จึงขนานนามวา ขั้นสูงสุด!
เมื่อครั้งบรรพกาล ปกษาเทพเจาและอสูรบรรพกาลชั้นฟาก็วัดคาของทายาทเชนนี้
ตัดสินความสําเร็จของภายภาคหนา แตใชวาทายาททุกตนจะมีศักยภาพขั้นสูงสุดเชนนั้น
ในตอนนี้ เจาตัวเล็กทําไดแลว เขายกกอนหินหนักสิบหมื่นชั่งขึ้น รางกายไหลเวียน
แสงวิเศษภายใตแสงอาทิตยยามอรุณรุง สะเทือนไปทั่วดินแดนรกราง เหลาสัตว
ประหลาดดุรายตางก็วิ่งหนี หวาดกลัวไมเปนอันทําอะไร
“อา ขาทําสําเร็จแลว” เจาตัวเล็กคลายมือ หินกอนใหญกลิ้งลงไปตามแนวน้ําตก
เสียงดังโครมสะทานฟาสะเทือนโลกา ประหนึ่งเกิดแผนดินไหวครั้งใหญ
ในชั่วอายุนี้ เพียงรางกายก็มีพละกําลังเชนนี้ ยกยองไดวาเขยาโลกอยางสมบูรณ นี่
เปนผลลัพธอันเหนือธรรมชาติ โดยปกติแลว กายเนื้อไมสามารถทําไดโดยสิ้นเชิง
เจาตัวเล็กรับแสงตะวันยามฟาสาง ยืนจังกาบนกอนหินใหญ แมน้ําเชี่ยวกราดไหล
ผานเขาไป ขาวโพลนไกลสุดลูกหูลูกตา ราวกับสายฟาคําราม สะเทือนกลุมหินบริเวณนี้
สั่นไหว รางกายของเขามีรัศมีอยางหนึ่ง แข็งแรงและโปรงแสง มีพละกําลังอันใชไมหมด
เขาบรรลุขั้นสูงสุดสิบหมื่นชั่ง ปูพื้นฐานไวอยางแข็งแกรง
“ขาสามารถมอง ‘การหยั่งรูดั้งเดิม‘ ไดแลว ทวาแข็งแกรงอีกสักหนอยคงเปนการณ
ดี!” เจาตัวเล็กพูดกับตัวเอง บรรลุขั้นสูงสุดแลว แตใชจะเปนจุดสิ้นสุดของเขาแตอยางใด
ใชวาเขาจะหยุด แตกลับเตรียมใชเวลาฝกฝนรางกายอีกสักระยะหนึ่ง เพื่อบรรลุขั้น
สูงกวา ปฏิบัติตอตนเองอยางเครงครัด หมายทาทายขีดจํากัดของตน!
กาลเวลาผานไปวันแลววันเลา ไมวาจะฝนตกฟารอง เจาตัวเล็กไมเคยขาดชวงแมแต
วันเดียว ตอนนี้อายุ 7 ขวบกวาแลว
“ปง!”
สายฟาคําราม ฟาแลบแปลบปลาบ สายฝนโหมกระหน่ํา น้ําปาปะทุขึ้นกลางดิน
แดนรกราง ทั้งที่กลางวันแสกๆ แตทองฟากลับดําทมิฬจนนากลัว ยื่นมือมองไมเห็นหา
นิ้ว[1] มีเพียงยามสายฟาพาดผานฟากฟา แผนดินจึงสวางขึ้นฉับพลัน
ทามกลางพายุฝนกระหน่ํา หนึ่งรางเล็กวิ่งอยูบนผืนดิน ยกหินกอนใหญสิบหมื่นชั่ง
พุงเขาไปยังกระแสน้ําปา เขาวิ่งทวนกระแสน้ํา โดยใชรางกายเปนปฏิปกษตออานุภาพ
แหงฟาดิน
นี่ไมใชน้ําตกหิน แตเปนกระแสน้ําปาขนานแท!
ลูกคลื่นทวมทนทองฟา กอนหินเกลือกกลิ้งกลางน้ําปา พังทุกอยางพินาศยอยยับ
ทําลายปาดึกดําบรรพผืนแลวผืนเลา นี่เปนอานุภาพแหงสวรรคซงึ่ ตานทานไดยาก! เบื้อง
หนาของธรรมชาติ มนุษยชางเปราะบางและเล็กกระจอยรอยอยางหาที่เปรียบไมได
ฝูงสัตวประหลาดวิ่งหนีกันพัลวัน ดวยกลัวตายกลางดินแดนน้ําเจิ่งนองนี้
อยางไรก็ตาม เจาตัวเล็กกลับไมกลัวเกรง ยังคงวิ่งทวนน้าํ อยูเชนนี้ ใชรางกายเลือด
เนื้อแบกรับ ดันทุรังวิ่งฝาน้ําปาตลอดทางจนเขาสูใจกลางเทือกเขา
“โครม”
น้ําโคลนขุนมัว กอนหินใหญดุดันไหลเชี่ยวออกมาจากใจกลางเทือกเขาอยางไมหยุด
หยอน นี่เปนภัยพิบัติครั้งหนึ่ง ทวาเจาตัวเล็กไมเกรงกลัวแมแตนิด บางคราถูกน้ําปาอัน
ทวมทนทองฟานั่นฟาดจนตัวลอย กระแทกกับหนาผา แตเขากลับไมหยุดยั้ง หยัดยืนให
มั่นคงแลวก็มุงหนาตอไป
ไรอักขระแวบวับ ไมมีเคล็ดวิชาล้ําคาทะลวงชั้นฟา มีเพียงทุกรกิริยา การฝกฝน
อยางยาวนานโชกโชน ผานการชําระลางอันบาคลั่ง รางกายของเจาตัวเล็กกระจายแสง
แวววาวระยิบระยับ เขาไมเอื้อนเอยคําใด เดินหนาเพียงลําพังภายใตอานุภาพแหง
สวรรค
เมื่อพายุฝนหยุดลง ก็เปนเวลาพลบค่ํา เมฆดําทมิฬคลี่คลายจนสิ้น ภายในขุนเขา
ตนไมหักโคน สายน้ําไหลหลาก กอนหินเกลือกกลิ้ง สถานที่มากมายกลายเปนแองน้ํา
ขนาดใหญ
เจาตัวเล็กเปยกชุมโชก ฟกช้ําดําเขียวไปทั้งตัว แตกลับไมมีที่ใดกระดูกหัก ไมแมแต
จะหลั่งเลือด เห็นไดวารางกายของเขาแข็งแกรงปานใด เขาตานทานมันไดสําเร็จ!
เชนนี้เอง วันแลววันเลา เจาตัวเล็กใชการบําเพ็ญอานุภาพแหงสวรรคนานาชนิด
แมกระทั่งเคยกระโดดลงมาจากหนาผา บางคราก็ยั่วแหยสัตวประหลาดขนาดใหญ ฟาด
ฟนกับมัน
กลับมาอยางบาดแผลเต็มตัว เขาจะดื่มของเหลวสีทองในหมอตมยาตลอด สุขภาพ
รางกายแปรเปลี่ยนอยางตอเนื่อง นับวันก็ยิ่งแข็งแกรง ทําใหชาวบานตางก็ไมอยากจะ
เชื่อ พัฒนาการของเขามีความรวดเร็ววิเศษถึงเพียงนี้
ยามเจาตัวเล็กอายุ 7 ขวบครึ่ง เขาก็หยุดยั้ง ผานการฝกฝนอันยาวนานเชนนี้ ไม
เพียงระดับความแข็งแกรงของรางกายนาตกตะลึง แมแตจิตตานุภาพก็แข็งแกรงดุจ
เหล็กกลา
“ทานเทพหลิวขอรับ รางกายของขาบําเพ็ญจนเสร็จสิ้นไปหนึ่งขัน้ แลวขอรับ” เจา
ตัวเล็กมายังหนาหมูบาน แหงนหนามองตนหลิวดําเกรียม
“เจาไดผลลัพธอยางไรบาง?” ตนหลิวเอยถาม
เจาตัวเล็กเดินไปริมทะเลสาบ ยกหินกอนใหญหนักสิบหมื่นกวาชั่งกอนหนึ่งขึ้นดวย
มือเดียว สะเทือนไปทั่วชายทะเลสาบ ไมวาจะเปนพวกเด็กๆ หรือผูใหญ หรือแมแตเหลา
สัตวประหลาดดุรายเหลานั้นก็นิ่งงัน
นี่มันพลังอะไรกัน? ยกกอนหินหนักสิบหมื่นชั่งไดดวยมือเดียว ชางนาสะพรึงกลัว
เสียจริง ไมเคยพบเคยเห็นมากอน!
ตอมา เขาเปลี่ยนไปใชอีกมือหนึ่งยกขึ้นอีกตามเคย ทั้งตัวเต็มไปดวยแสงสวาง นั่น
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงเองของรางกาย เปนสัญญานของขั้นสูงสุดอยางหนึ่ง!
แมแตเทพเจาตนหลิวก็เงียบงัน มิไดเอยปากโดยพลัน
“ลูกเอย รีบวางลงเถิด อยาทํารายรางกายตนเอง!” ชาวบานตะโกนลั่น
ผูใดกลากระเทือนหินกอนนั้น? ปกติใชมันเพื่อผึ่งตากเนื้อแหงและหนังสัตวเปนตน
มันมีขนาดใหญอันนาตกตะลึง ตอนนี้กลับปรากฏในมือของเจาตัวเล็ก เขยาขวัญผูคน
เปนอยางมาก
“เพียงหนึง่ สะบัดแขนก็มีพละกําลังถึงหนึ่งแสนแปดพันชั่ง เจาทําไดดีมาก เกินกวา
ความคาดหมายของขามาก!” ตนหลิวกลาว เสมือนวาตกตะลึงไปครูหนึ่ง
อยาวาแตชาวบานเลย แมแตทายาทที่แข็งแกรงที่สุดในบรรดาสิ่งมีชีวิตจําพวกนี้
อยางนกยักษปกทองและโหวขนานแทก็เพียงเทานี้ ไมสามารถแข็งแกรงไดอกี ตอไป นี่
มันสะทานทรวงในอยางแทจริง
ขอไดเปรียบของเผาพันธุมนุษยใชวาจะมีพละกําลังสะทานโลกาเชนนี้ ทวาเจาตัว
เล็กกลับไปถึงสุดขีดในดานนี้ ทําใหตนหลิวเองก็ตะลึงงัน
ศักยภาพของเจาหนูนอยคนนี้ยิ่งใหญเสียจริง แข็งแกรงกวาที่คาดคิดไวเสียอีก!
“เจาตัวเล็ก เจาทําไดอยางไร?” เด็กๆ ตางก็กรูกันเขามา ลูบคลําแขนเล็กของเขา
อยูอยางนั้น ตางก็รูสึกวาไมสามารถจินตนาการได
“นั่นเปนถึงกอนหินเชียวนา เจาตัวเล็กไมเบาเลยนะ นึกไมถึงเลยวาจะใชเพียงมือ
เดียวก็สามารถยกขึ้นมาได พลังเชนนี้จะทําใหทายาทอสูรบรรพกาลในขุนเขาตื่น
ตระหนกตกใจได ลูกของพวกมันยังไมสามารถทําไดถึงขั้นนี้”
เด็กๆ ทั้งตกใจและตื่นเตน หอมลอมเจาตัวเล็กไว พูดคุยเจื้อยแจวอยางไมหยุด
หยอน
พวกผูใหญเองก็งุนงงเล็กนอย เขาเปนเพียงเด็กเทานั้น สิ่งนี้ยากที่จะเชื่ออยาง
แทจริง องอาจหาวหาญไดถึงเพียงนี้
“เจาตัวเล็ก ลุงขอไมมากหรอก จากนี้ลาลูกซวนหนีมาใหสักตัวเถิด ใหมันเฝาประตู
ปกปองลานบาน”
“ไปเลยนะ นี่ไมถือวาขอมากไปงั้นรึ? เพียงเปดปากก็เปนสัตวประหลาดอัน
แข็งแกรงที่สุด เจายังอยากไดอะไรอีก? เจาตัวเล็ก คําขอของลุงงายดายกวาเยอะ ตอไป
จับลูกปเซี๊ยะเลือดบริสุทธิ์ขนานแทสักตัวใหขาเถิด”
“ไสหัวไป ปเซี๊ยะแตกตางจากซวนหนีงั้นรึ ก็แข็งแกรงที่สุดเชนกันนั่นแหละ”
เหลาผูใหญยั่วเยา พูดหยอกลอกัน บอกกลาวเจาตัวเล็กวา ในภายภาคหนา หาก
แข็งแกรงแลวอยาลืมหมูบานหินผา จับลูกอสูรบรรพกาลขนานแทกลับมาตัวหนึ่ง เพื่อ
ปกปกษคุมครองทีน่ ี่
กระทั่งผานไปเนิ่นนาน ผูคนจึงแยกยายกันไป
“ทานเทพหลิวขอรับ ขาสามารถฝกฝน《การหยั่งรูดั้งเดิม》ไดหรือยังขอรับ?”
เจาตัวเล็กเงยหนาขึ้น ตอนนี้เขาก็อายุ 7 ขวบครึ่งแลว รางกายสูงขึ้นไมนอย แตยังออน
เยาวเชนเดิม ดวงตาโตแบงแยกผิดถูกดีชั่วไดอยางชัดเจน สุกใสเปนอยางมาก
“ไดสิ” ตนหลิวตอบอยางแนนอน
เจาตัวเล็กไมเพียงมีรางกายที่พละกําลังแข็งแกรงเกินความตองการ แมแตจิตตานุ
ภาพก็นาตื่นตะลึงเชนกัน การบําเพ็ญทุกรกิริยากวาครึ่งปนี้ ไมวาเขาจะประสบกับความ
ลมเหลวกี่คราก็ไมยอทอ ฝกฝนภายใตอานุภาพแหงสวรรคอันนากลัวนานัปการ จิตใจ
แนวแนดุจเหล็กกลา
“แตวา การหยั่งรูดั้งเดิมคืออะไรกันแน?” เจาตัวเล็กนํากระดูกขาวกระจางใส
ออกมา นอมรับคําสอนอยางถอมตน นัยนตาเปลงประกายความปรารถนา
“เจาศึกษาโดยละเอียดดวยตนเองสิ หนทางเปนการพึ่งพารอยเทายางเดินออกมาที
ละกาว ตํารากระดูกเลมนี้ถือไดวาสะทานฟาสะเทือนโลกา จะแพรงพรายแกผูอื่นโดย
พละการไมได” เทพเจาตนหลิวกลาวเตือน
“อื้ม!” เจาตัวเล็กผงกหัวอยางจริงจัง
นับแตวันนี้ไป เจาตัวเล็กดุจตองมนตร นั่งก็ศึกษาตํารา ยืนก็พินิจพิเคราะห นอนก็
หนานิ่วคิ้วขมวด ไมมีเวลาไหนที่เขาเขาถึงและเขาใจตําราสวรรคเลมนี้
กระดูกขาวกระจางใสแนนขนัดไปดวยตัวอักษร บอกเลาที่มาของอักขระ อธิบาย
ความอัศจรรยของกระดูกล้ําคาดึกดําบรรพ ใหคําจํากัดความถึงขอดีดอยของอสูรบรรพ
กาลและปกษาเทพเจา
ตํารากระดูกเลมนี้ตกมาอยูในกํามือจากครั้งบรรพกาล บอกเลาความมหัศจรรยของ
ฟาดิน เกี่ยวโยงเรื่องราวมากมาย ครอบคลุมไปทุกอยาง แตนาเสียดาย ไมไดบันทึกเคล็ด
วิชาล้ําคาใดๆ เลย
สามารถอาศัยมันเพื่อบําเพ็ญตนเพื่อบรรลุได ถูกยกยองวาเปนตําราสวรรคชั้นฟา
เลมหนึ่ง เปนวัตถุล้ําคาสําหรับทุกชนเผา เพียงมันขาดเคล็ดวิชาล้ําคาสะทานฟาเทานั้น
เจาตัวเล็กเริ่มโงเขลา อานจนอาเจียนเปนเลือดอยูหลายครา แมจะแข็งแกรงกวา
หัวหนาหมูบานอาวุโสอยูมาก แตก็ไดรับบาดเจ็ดอยูบอยครั้ง เนื่องจากสิ่งที่จารึกในตํารา
กระดูกนั้นนากลัวเกินไป
เพื่ออธิบายอักขระตั้งแตครั้งโบราณกาล อีกทั้งยังประกอบดวยตัวอยางการรบ นก
ยักษเวหามรกตตัวหนึ่งตอสูกับเทพเจา รูปภาพมองเห็นไดอยางชัดเจน มีกลิ่นอายนา
เวทนาแผคลุมทองฟาปกคลุมพื้นดินพวยพุงออกมา เลือดจะหลั่งรินออกมา ราวกับขาม
มิติไปยังยุคดึกดําบรรพ ปรากฏสงครามนั้นอยางสมจริง
นี่เปนเพียงรูปภาพเทานั้น ยังมีอยางอื่น แตไมเชื่อมโยงไปถึงเคล็ดวิชาล้ําคา เพียง
อธิบายการใชอักขระเทานั้น แคตัวอยางสงครามก็มีรูปภาพกวา 10 รูป รูปธรรมเพียงนิด
สลักอยางยอบนกระดูกขาวกระจางใส
..............................
[1] ยื่นมือไมเห็นหานิ้ว สํานวนจีน แปลวา มืดมิด มองสิ่งรอบตัวไมชัด
บทที่ 67 ขลาดเขลา
กระดูกขาวกระจางชิ้นนี้เรียกไดวาเปนวัตถุล้ําคา จารึกไวซึ้งความมหัศจรรยอันไม
สิ้นสุด ทั้งธาตุแทแหงอักขระ ทั้งรูปสลักอสูรบรรพกาลตอสูกับเทพเจา ทั้งหมดทั้งมวล
ลวนริเริ่มจากครั้งดึกดําบรรพ
เจาตัวเล็กรูสึกขลาดเขลา งุนงงอยางเปรียบไมได เขาโอบอุมกระดูกแวววับชิ้นนั้นไว
งวนอยูกับการทําความเขาใจ ใครครวญคิดพิจารณาอยูตลอดเวลา ยางเทาลงกลาง
ทะเลสาบราวกับตองมนต กระทั่งน้ําทะลักทวมทนจมูกปากจึงไดสติดวยอารามตกใจ สิ่ง
นี้ทําใหชาวบานพูดไมออกบอกไมถูก
“ขาประคองนมสัตวหนึ่งถวย วางประเคนตอเบื้องหนาเขา เขากลับมองไมเห็น นี่
มันผิดปกตินี่นา”
“เสร็จกัน เจาตัวเล็กเขลาแลว เขาจะสติวิปลาสหรือไม?”
เด็กๆ พากันบนอุบอิบ เมื่อเห็นสภาพเชนนี้ของเขา ตางก็รูสึกวาเขาตองมนตสะกด
“อยาหักโหมกระทําเกินไป เกรงเจาจะบาดเจ็บ” หัวหนาหมูบานอาวุโสย้ําเตือน
อยางเครงขรึม เจาตัวเล็กไมเพียงอาเจียนเลือดเพียงหนเดียว แมวารางกายจะเกรียงไกร
มากเพียงใดก็จําตองระมัดระวัง
เจาตัวเล็กหมกมุนทุมเท ไมเปนอันกินอันนอน กระดูกโปรงแสงไมเคยหางจากฝามือ
พลิกไปพลิกไปอยางตั้งใจศึกษา ทําความเขาใจดวยตั้งใจจริง ตัดขาดจากโลกภายนอก
อยางตกอยูในภวังค
เขาไดอานตัวอยางการรบอีกหนึ่งหนา นกยักษปกทองสูศึกเทพเจา อักขระบน
กระดูกแนนขนัด รูปสลักเล็กมาก แตกลับสมจริงปานนั้น ปรารถนาทะลวงกระดูก
ออกมา!
เจาตัวเล็กใจจดใจจอยิ่งขึ้น ดวงตาจดจองไมกะพริบ พลังชีวิตหดเล็กลง จวนหลอม
หายวับไปในกระดูก การทุมเทเชนนี้ แมแตรูปสลักที่มองเห็นก็แตกตางอยางสิ้นเชิง
นกยักษปกทองตัวนั้นกลับเปลงแสงสีทองออนแวววาว จากนั้นคอยๆ พรางพราว
ทั้งตัว ชัดเจนขึ้นบนกระดูก ดุจหลอมจากทองคํา เสมือนมีชีวิตจะบินทะยานออกมา!
มันรบกับเทพเจาอยางเด็ดเดี่ยว ดุเดือดอยางเปรียบไมได ทั้งสองตางบาดเจ็บ และมี
เลือดสีทองเยยปฐพีของตนอีกดวย ปกทองใหญบดบังไปทั่วฟากฟา ปราดเปรียวเหนือ
ธรรมชาติ
ไมมีการจารึกของเคล็ดวิชาสะทานฟา เพียงสาธกการพลิกแพลงใชอักขระดั้งเดิม
รางลายเสนหลากหลาย เปนจุดสําคัญของศึกนี้นี่เอง ความหมายลึกซึ้งไมสิ้นสุดอยาง
แทจริง
เจาตัวเล็กดูเพียงรูปแรกก็ตองมนตอีกครา หลงใหลเคลิบเคลิ้มอยางไมไดสติ เมื่อ
พลังถูกใชจนแหงเหือด จึงอาเจียนเลือดคําใหญ แลวคอยๆ ลืมตาขึ้น
ชาวบานเห็นอยางนี้ตางก็เจ็บปวดหัวใจ เจาตัวเล็กหมกมุนทุมเทมากเกินไป
หลงใหลเชนนี้ตองกอใหเกิดปญหาใหญเปนแน พากันหามปราม ทําถึงเพียงนี้ไมได
“อืม ขารูขอรับ รูปสลักเหลานั้นยากลึกหยั่งถึง ยังมิใชขอบเขตที่ขาสามารถบรรลุได
ทุกอยางคอยเปนคอยไปก็ดีแลว” เจาตัวเล็กนอมฟงคําหามปราม สรุปรวบรัดอยาง
จริงจัง
ตัวอยางการรบเชนนี้ รูปสลักอยางนี้ หากแพรงพรายสูโลกภายนอก จะตองปลุก
ระดมความโกลาหลอยางแนนอน แมจะไมมีวิวฒ ั นาการของเคล็ดวิชาล้ําคา สมกับที่
ไดรับการขนานนามวา ‘บันทึกภาพประกอบเทพเจาสงคราม’
นกยักษปกทองสูศึกเทพเจา มีสักกี่คนประสบพบเห็นกัน? บันทึกภาพประกอบ
เชนนี้ปรากฏขึ้น เพียงพอตอการเขยาโลกา เปนวัตถุล้ําคาอันเหลามือดีใฝฝนแมยาม
นิทรา ไมจํากัดเพียงเผาพันธุมนุษย ชนเผาใหญนานาตางปรารถนาอยากไดมา
ครอบครอง!
นี่คือความนากลัวของ ‘การหยั่งรูดั้งเดิม’ ยามสาธยายความหมายลึกซึ้งของอักขระ
มักจะใชตัวอยางสงครามเปนการอธิบาย ตั้งแตผิวเผินยันลึกซึ้ง สัมผัสถึงฟาดินอันไม
สามารถหยั่งถึง
เรือเล็กลําหนึ่งลอยลองกลางทะเลสาบ น้ําใสสะอาดเกิดระลอกคลื่นกระเพื่อมตาม
สายลม ปลาหนวดมังกรสีทองกระโดดขึ้น สวางไสวเปนประกายพรางพราย ละอองน้ํา
แตกกระเด็นเซ็นซาน
เจาตัวเล็กแผหลาอยูบนเรือลําเล็กอยางสงบนิ่งเงียบ เปนประกายทั้งตัว สะทอนแสง
ศักดิ์สิทธิ์เปนสายๆ สรางอักขระภายในรางกายขึ้นใหม ผสานรวมกับเลือดเนื้อของเขา
อีกครั้ง
เขาศึกษาการหยั่งรูดั้งเดิมจนเสร็จสิ้น ตระหนักรูลึกซึ้งมากทีเดียว การรูคิด
เหนือกวาเมื่อกอน เขาใจความหมายของอักขระดั้งเดิมอยางชัดแจง เริ่มตนบําเพ็ญขั้น
แปรผันโลหิตใหม ลําแสงจุดแลวจุดเลาปรากฏขึ้น ดุจดั่งทวยเทพ คงอยูในรางกายของ
เขาชั่วกัลปาวสาน หมายสวดรายมนต ปกปกษคุมครองรางกาย เลี้ยงบํารุงจิตวิญญาณ
ของเขา ทําใหเขาถือกําเนิดใหม แข็งแกรงอยางตอเนื่อง
ผลลัพธนาสะพรึงกลัว เจาตัวเล็กประหนึ่งเตาไฟเล็ก เปลงประกายแสงจากภายในสู
ภายนอกอยางไมขาดสายนานหลายวัน บนรางกายปรากฏลวดลายเสนแลวเสนเลา
แพรวพรายระยิบระยับ
ชาวบานมิไดรบกวน ปลอยเขาใหตระหนักสัจธรรม บําเพ็ญตน เจาตัวเล็กครึ่งหลับ
ครึ่งตื่น ทุมเทจิตใจทั้งหมดใหกับมัน ทองอยูในโลกอันสวยสดงดงาม
แสงศักดิ์สิทธิ์ตลบอบอวลทั่วรางกายของเขา แปลงรางเปนขนวิเศษขนแลวขนเลา
พลังปราณในรางกายเสียงดังกังวาน เลือดทุกหยดกําเนิดอักขระหนึ่งตัว ผสานเขา
ดวยกัน ลมปราณแกกลามากยิ่งขึ้น
ภายนอกรางกายของเขาปกคลุมไปดวยแสงศักดิ์สิทธิ์ วิเศษพรางพราย ราวกับจิต
วิญญาณลองลอยเปนหนึ่งเดียวกับจักรวาล สาดเทแสงดุจสายฝนลงมาลนหลาม สอง
สวางเจิดจาไปทั่วทะเลสาบ
ชาวบานพากันตื่นตระหนกตกใจ หอมลอมมุงดูอยูริมทะเลสาบ แมแตสัตว
ประหลาดและปกษาล้ําคา เฉกเชนนกหลวนกับสัตวประหลาดเขาเดียวตางตะลึงงัน จอง
มองกลางทะเลสาบดวยความงุนงง กลุมปลาหนวดมังกรวายเขาไปประชิด อาบไลแสง
ดุจสายฝน พวกมันลําตัวแนนขนัดดวยเกล็ดสีทอง สองแสงสะทอนซึ่งกันและกัน
เจาตัวเล็กหลับตาพริ้ม แสงสวยงามเคลื่อนไหวตามรางกาย แสงสายฝนปลิววอน
แปรเปลี่ยนอยางไมหยุดหยอน
พลังฟาดินทะลักเขาสูรางกาย หลอเลี้ยงอวัยวะภายในและรางกายของเขา มองดู
แลวสวางกระจางใส พลังปราณดุจสายน้ํา เกลือกกลิ้งไหลเวียน ราวกับเคลื่อนยายดาว
กระบวยใหญ
ในที่สุดก็สําเร็จ เขาบําเพ็ญตนใหม ขั้นแปรผันโลหิตสมบูรณ บรรลุขั้นขีดสุด
เจาตัวเล็กถลึงตาจนโต แสงศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดเกิดขึ้นภายใน รางกายกระจางแจมแจง
ประดุจเจียระไนจากหยกอิ่มเอิบ กลุมปลาสีทองกลางทะเลสาบตื่นตระหนก กระดิกหาง
ปลาอยางรวดเร็วหมายดําดิ่งลงใตทะเลสาบ
“ตูม”
เจาตัวเล็กกระโดดลงน้ํา จับปลาหนวดมังกรหนักกวา 300 ชั่งไวมั่น รางกาย
ไหลเวียนแสงทอง หนวดของมันพรางพราวและหอมหวน ทั้งตัวเต็มไปดวยของล้ําคา
“เจาเด็กขี้มูกโปงรับไป” เจาตัวเล็กตะโกนบอก โยนมันขึ้นไปยังริมทะเลสาบ
ตอมา เขามุดลงไปกลางน้ํา ไลตามไปโดยไว และจับปลาใหญสีทองหนัก 200 กวา
ชั่งตัวหนึ่งอีกหน กําจายกลิ่นหอม เหวี่ยงโยนขึ้นบนฝงทันที
“วาว จาวแหงมัจฉา ที่เคยจับไดเมื่อกอนหนัก 10 กวาชั่งก็ถือวาตัวใหญแลว คิดไม
ถึงวาปลาล้ําคาชนิดนี้จะมีขนาดใหญปานนี้!”
“เจาตัวเล็ก ปลาใหญไมนอยเลย เมื่อครูขาเห็นตัวใหญขนาดนี้เกือบ 20 กวาตัว รีบ
จับเร็วเขา!”
พวกเด็กๆ สงเสียงเอะอะโวยวาย จาวมัจฉาเชนนี้จะตองมีสรรพคุณยาดีเลิศเปนแน
แท เมื่อกินเขาไปแลว สามารถเพิ่มพลังปราณของพวกเขาไดอยางชัดเจน เสริมสราง
พละกําลังอันแข็งแกรง
เจาตัวเล็กไมไดจับตอ กลับกระโดดขึ้นบนฝง ทะเลสาบสีฟาหลอเลี้ยงพันธุปลาล้ําคา
หายากเชนนี้ไมงายเลย ไมควรจับจาวมัจฉาจนสิ้น จําตองใหพวกมันวางไข
“ทานผูเฒาขอรับ ขาอยากออกเดินทางไกล” หลังมื้อเย็น เจาตัวเล็กกลับเอยวาจา
เชนนี้ออกมาทันควัน
มือหยาบกรานของหัวหนาหมูบานอาวุโสสั่นเทา เงยหนาขึ้นแลวเอยถามวา “ลูก
เอย เจายังเด็กปานนี้ การบําเพ็ญตนยังไมสามารถทองไปทั่วดินแดนรกราง เจาอยากไป
ที่ใดกัน?”
“ขามิไดอยากจากหมูบานหินผาไปแมแตนอย เพียงอยากไปจัดการการขัดเกลาอัน
ทานเทพหลิวฝากฝงใหเสร็จสิ้น อยากออกไปทองโลกสักครา จะรีบกลับมาโดยไวขอรับ”
เจาตัวเล็กกลาวเสียงเบา
แมจะออกไปฝกฝนขัดเกลา แตจุดประสงคก็มีเขาเปนผูกําหนด
ดวงตาของเขามีละอองน้ําคลอหนวย ดวยคิดถึงบุพพาการี คะนึงถึงญาติ ลาจาก
นานนับหลายปแลว พวกสือจื่อหลิงไมกลับมาเสียที เขากังวลใจอยางเปรียบไมได
“ลูกเอย เจามิไดจะไปประเทศเกาแกใชรึไม?” หัวหนาหมูบานกังวล เด็กเล็กเพียงนี้
จะยกทัพจับศึกกับตระกูลเชื้อพระวงศยิ่งใหญเชนนั้นไดอยางไร เปนไปไมไดเลย
เจาตัวเล็กสายหนาแลวกลาววา “ขาไมไปเสี่ยงอันตรายแนขอรับ เพียงเขาประชิด
ชายแดนประเทศเกาแกเทานั้น ทานเทพหลิวบอกขาวา ไปเขนฆาสัตวอสูรบรรพกาล ไป
ฝกฝนขัดเกลายังดินแดนอันตรายและนากลัว เชนนี้จึงจะสามารถพิสูจนสิ่งที่ศึกษา เติบ
ใหญอยางรวดเร็ว”
ตอนนี้เขาบําเพ็ญขั้นแปรผันเลือดอีกครั้ง เสร็จสิ้นสมบูรณ ปฏิบัติตามคํากลาวเตือน
ของเทพเจาตนหลิว ไมรีบเรงบรรลุ หยุดพักในขั้นนี้หนึ่งเดือน ตระหนักรูสั่งสมใหมาก
เปนผลดีตอการบําเพ็ญตนของเขาในภายภาคหนา
เจาตัวเล็กอยากไปสอดสองบานเกิดเมืองนอนแหงที่ 2 นั่นเปนดินแดนแหงการ
เนรเทศ มีผูอาวุโสที่ไมสามารถปฏิบัติตามปณิธานบางสวน เคยพูดคุยกับบุพพาการีของ
เขาอยางถูกอัธยาศัย อาจจะรูวาพวกเขาไปที่ใดเปนแน
เด็กคนหนึ่ง พลัดพรากจากบิดรมารดาหลายป เมื่อรูวาพวกเขาเสี่ยงตายเขาไปใน
ขุนเขาเทพเจา เพื่อเสาะหายาวิเศษแกเขา ความคะนึงหาและกังวลภายในจิตใจอยาง
สามารถคาดเดาได
บางทีเขาอาจจะทําอะไรไมได แตเพียงตองการรูขาวคราวของพวกเขา แฝงไวดวย
ความรูสึกและคนึงหาผูเปนที่รักอยางเต็มเปยม แมจะไมไดพบ เพียงไดขาวคราวเพียงนิด
ก็ถือเปนความสบายใจอยางหนึ่ง
นอกจากนี้ ที่แหงนั้นยังมีเด็กซึ่งแทนที่เขาคนหนึ่ง ถูกเนรเทศไปยังดินแดนอนารยะ
แหงนั้น ไมทราบแนวาหลายปมานี้เปนเชนไร บางทีอาจจะประสบกับอันตรายบางสวน
กระมัง? เจาตัวเล็กเปนคนที่ใสใจความรูสึกเปนอยางมาก เคาคิดวาเด็กคนนั้นไมควร
ประสบชะตากรรมเชนนี้
“ลูกเอย มันไกลเกินไป เสนทางนี้อันตรายเกินไป!” หัวหนาหมูบานไมเห็นดวย
“แมจะไกลเพียงใด แตระยะทางนี้กลับมิไดหมดไป ตามความทรงจําในจิตใตสํานึก
ของขา ทานเทพหลิวเคยคาดคะเนแลว หางจากที่นั่นประมาณสามแสนลี้” เจาตัวเล็ก
กลาว
บานเกิดแหงที่ 2 ตั้งอยูบริเวณชายแดนประเทศเกาแก รกรางและหนาวยะเยือก
ระยะทางไมหางจากบานเกิดเมืองนอนที่แทจริงมากนัก เพียงสามแสนลี้ เห็นไดชัดวา
คนตระกูลหินผาเมื่อครั้งอดีตเสาะหารากเหงาแหงตระกูลมาโดยตลอด
สามแสนลี้ หากเทียบกับดินแดนอันกวางใหญสุดลูกหูลูกตาของประเทศเกาแกแลว
มันเทียบไมไดเลย แตสําหรับเจาตัวเล็ก เด็กนอยผูไมเคยออกเดินทางไกลมากอน ถือวา
เปนตัวเลขมหาศาลอยางแทจริง
“เจาไมเคยออกเดินทางไกล ขาจะวางใจไดอยางไร?” หัวหนาหมูบานคัดคาน
เพียงไมนาน ชาวบานตางรูกันทั่ว และตางก็คัดคานอยางหนักแนน หนทางอันยาว
ไกลนี้ เต็มไปดวยภยันตราย หากพลาดทาเสียที อาจจะตายกลางเทือกเขาได
“ทานเทพหลิวกลาววา นี่เปนการขัดเกลาที่สําคัญมาก ขาจําตองเดินทางไปสักครา”
เจาตัวเล็กเอยปาก
ชาวบานไดยินก็เงียบงันโดยพลัน ในใจของพวกเขาถือตนหลิวดําเกรียมเปนเทพเจา
ตนหนึ่ง วาจาของมันยากคัดคานอยางแทจริง
“การฝกฝนเชนนี้ เจาสามารถปฏิเสธได ใชวาจะตองยอมรับ ขาเพียงฝกฝนเจาตาม
วิธีการขัดเกลาของลูกอสรูบรรพกาลดั่งเชนโหวขนานแทและปเซี๊ยะเทานั้น สามแสนลี้
นากลัวจริงๆ ดินแดนรกรางมากดวยสัตวประหลาด หากพบเจอเขา และไมสามารถหลบ
หลีกไดทันทวงที ก็อันตรายอยางแทจริง” เทพเจาตนหลิวกลาว
เมื่อครั้งบรรพกาล สิ่งมีชีวิตแข็งแกรงนานาชนิดปฏิบัติตอลูกดวยความเครงครัด
เพื่อใหพวกมันเติบโต ภายภาคหนาแข็งแกรงอยางไมมีผูใดทัดเทียม จึงมักจะขัดเกลา
อยางวิถีนักโทษ
เดินทางเพียงลําพังผานเทือกเขามากดวยสัตวประหลาดดุราย เต็มไปดวยภยันตราย
นี่เปนการทดสอบอันใหญหลวง แมจะไมมีศัตรูชัดเจน แตอาจจะมีอันตรายยิ่งกวา
การขัดเกลาของเทพเจาตนหลิว มิไดวัดจากมาตรฐานของชาวบานในตอนนี้แมแต
นิด ตางก็เจริญรอยตามชนเผาที่แข็งแกรงที่สุดในโลกหลานี้
“ขาอยากจะลองดู หากวาไมไหวจริงๆ ขาจะไมเสี่ยงอันตราย จะตองกลับมากอน
เปนแน” เจาตัวเล็กแววตาเด็ดเดี่ยวหนักแนน
มีความทรงจําใตจิตสํานึก ปูของเขาเคยสังหารลูกปเซี๊ยะในสนามรบรอยชนเผา
โลหิตของมันบริสุทธิ์อยางที่สุด เมื่อคิดดูแลว นี่จะตองเปนการขัดเกลาอันทรหดของอสูร
บรรพกาลที่แข็งแกรงที่สุด จงใจปลอยลูกตนเขาไปในสนามรบเปนแนแท
“ขาก็ทําไดเชนกัน!” เจาตัวเล็กกําหมัดแนน เพื่อปลุกใจตนเอง หมายเดินทางไปยัง
ทิศทางของดินแดนประเทศเกาแกนั่น!
บทที่ 68 สัตวประหลาดเขาเดียว
รุงอรุณ หมอกลอยวนเวียน ผืนปาเลือนรางพรามัว แสงสีแดงปรากฏขึ้นบนยอดเขา
หนึ่งเสน ดวงอาทิตยดิ้นรนโผลพนขึ้นมา สาดทอแสงโชติชวงอันอบอุน อาบยอมหมอก
ยามเชาจนเปนสีทองออน แสงตะวันงดงามเคลื่อนไหว
ชาวบานหินผาตื่นกันแตไกโห เด็กๆ กําลังฝกฝนโดยหันหนารับแสงแดดยามอรุณรุง
ปากพนลมปราณ แตละคนแข็งแรงกํายําดุจปเซี๊ยะวัยเยาว
เจาตัวเล็กนั่งมองพวกเขาอยูอีกมุมหนึ่ง จวนจะออกเดินทางไกล ในใจเกิดความไม
สุข จื่อยวิ๋น ตาเผิง เสี่ยวชิงคลอเคลาคลอเคลียขางกายอยางไมยินยอม ยืนกรานจะตาม
ไป แตเขาไมตอบตกลง
หนทางนี้อันตรายเกินไป สามแสนลี้ ระยะทางอันยาวนานถึงเพียงนี้ ตองทะลวง
ผานเทือกเขาไมรูตั้งเทาไหร ระหวางทางเต็มไปดวยภยันตรายเปนแน เมื่อเขาสูขุนเขาสูง
ตระหงาน มักจะมองเห็นโครงรางขนาดใหญที่พาดผานทองฟาไป ปกษารายนากลัว
นานาชนิดก็มีไมนอยเลย
เมื่อเจาตัวเล็กออกบําเพ็ญตน เคยเห็นนกยักษยาวราว 50 เมตรบินขามฟากฟาดวย
ตาตนเอง หนึ่งเปลวเพลิงพนออกมา ยอดเขาหลอมละลายกลายเปนลาวาทันที ครั้งหนึ่ง
เขาเห็นปกษาดุรายขนาดเกิน 100 เมตร บินหายวับเขาไปในชั้นเมฆ มันจับเจียวตัวหนึ่ง
และฉีกออกเปนสองทอน กลืนกินลงไปในทอง เลือดดุจสายฝน โปรยปรายลงยังภูเขา
แมจื่อยวิน๋ ตาเผิง และเสี่ยวชิงจะไมธรรมดา สามารถโบยบินบนทองฟา ยางเดินบน
ผืนดิน ทวาอยางไรก็ตาม พวกมันยังไมโตเต็มวัย หนทางอันยาวนานเชนนี้ หากใชพวก
มันเปนพาหนะ จะเปนอันตรายอยางแทจริง
สวรรคยอมรูวา จะมีปกษารายพุงทะยานออกมาจากเทือกเขาฉับพลันเมื่อใด ฉีก
พวกมันที่กําลังเจริญเติบโตจนแหลกละเอียด
ปกษารายกระพือปกทะลวงเมฆา บินฉวัดเฉวียนทามกลางฟาดินดวยความเร็วสูงสุด
แตกลับเปนที่หมายตามากเกินไป อาจตกเปนเปาหมายกลายเปนเหยื่อของจาวเวหา
อันตรายยิ่งกวาการเดินทางผานผืนปาก็เปนได
“เจาตัวเล็กจะไปจริงหรือ?” เด็กๆ หยุดการฝกฝน ตางก็ลอมกันเขามา
“อืม!” เสี่ยวสือฮาวพยักหนา เมื่อวานเขาไดตัดสินใจแลว ตอนนี้ไมมีทางกลับคํา
แลว
“ระยะทางกวาสามแสนลี้ ไกลมากนะ พวกเรายังอายุนอยปานนี้ ไยเจาจึงตองไปยัง
ดินแดนไกลพนเชนนั้นดวยเลา?” พวกเด็กๆ ถลึงตาจนโต ตัวเลขมหาศาลเชนนี้ ทําให
พวกเขาตาลาย
“เจาจะไปเมื่อไหร?”
“พรุงนี้!” เจาตัวเล็กเพงเล็งกลุมสัตวประหลาดเขาเดียวที่อยูไมไกล เมื่อไมสามารถ
บินโฉบเฉี่ยวกลางนภา อยางนั้นก็จับสัตวพาหนะอันมีความเร็วลมหลามสักตัวก็ไมเลว
“อา เจาจะจับสัตวประหลาดเขาเดียวงั้นรึ?” เด็กๆ เผยสีหนาตื่นเตนเราใจ พวกเขา
อยากทําเชนนี้นานแลว จะทําอยางไรไดเมื่อพละกําลังไมเพียงพอ
แมแตชายวัยกลางคนดุจสือหลินหูกับสือเฟยเจียวก็คิดหาวิธีมาโดยตลอด แตกลับไม
กลากระทําการโดยพละการ สัตวประหลาดเขาเดียวที่ขาวสะอาด มีเกล็ดสีเงิน
ระยิบระยับแข็งแกรงมาก ใชวาคนทั่วไปจะสามารถกําราบได
แนนอนวา ชื่อเสียงลือเลื่องของพวกมันมิไดเปนเพราะพลังการตอสู เมื่อเทียบกับ
ความเร็วอันสามารถเดินเหินหมื่นลี้ตอวันแลว ‘ความยิ่งใหญ’ที่กลาวมานั้นนับไมได
เจาตัวเล็กลุกขึ้น กําหนดเปาหมายอยางชัดเจนวา เปนสัตวประหลาดเขาเดียวเพศผู
ตัวหนึ่งซึ่งกํายําและเปนมาชั้นยอด ทั่วลําตัวดุจกลุมเปลวไฟสีเงินที่แผดเผา ขาทั้งสี่สูง
ยาว รูปรางแข็งแกรง ดวงตาดุจคริสตัล กระดูกหนาผากมีเขาหนึ่งงอกออกมา อบอวล
ดวยแสงสีเงิน
“มันนั่นแหละ”
เมื่อเสี่ยวสือฮาวมีเปาหมายแลว เขาออมหมูบานหินผาไป เขาไปในพุมไมเตี้ย หมาย
สกัดสัตวประหลาดเขาเดียวจากอีกฟากหนึ่ง พวกเด็กๆ เบิกตาจนโต กลั้นลมหายใจ
จองมองกันดวยจิตสงบ
“เจาเด็กพวกนี้ทําอะไรกันนะ?” เหลาผูใหญเองก็ถูกทําใหตกใจ
“อะไรกัน จะจับสัตวประหลาดเขาเดียวรึ?” ชาวบานทุกเพศทุกวัยกรูกันออกมา พา
กันมองดูอยางตั้งใจ
เจาตัวเล็กปรากฏตัวขึ้น พุงมาจากพุมไมเตี้ยที่อยูไมไกล มุงหนาไปยังริมทะเลสาบ
ลอมดักฝูงสัตวประหลาดเขาเดียวไว จดจองเปาหมายสูงใหญในฝูง
ริมทะเลสาบระส่ําระสาย เหลาสัตวประหลาดนานาชนิดที่อาศัยอยูบริเวณนี้ตางก็
แผดรองกันขึ้นมา มีเจตนาอันเปนปฏิปกษตอแขกไมไดรับเชิญผูนี้อยางเต็มเปยม แมวา
เขาจะยังเยาววัย
โดยเฉพาะฝูงสัตวประหลาดเขาเดียว เห็นไดชัดวามันเปนสิ่งมีชีวิตมากดวย
สติปญญาชนิดหนึ่ง พวกมันยังจําเรื่องราวเมื่อครั้งเจาตัวเล็กยกกอนหินหนักสิบหมื่นชั่ง
ดวยมือเดียวริมทะเลสาบได แตละตัวตางอยูไมสุข เปลงประกายทั่วทั้งตัว
“เจาตัวเล็กระวัง!” ชาวบานอุทานเสียงดัง
ฝูงสัตวประหลาดเขาเดียวจลาจลวุนวาย กีบเทาทั้งสี่ตะกุยดิน อักขระทั่วรางผนึก
กําลัง แผออกมาพรอมกัน ในขณะเดียวก็ทําการจูโจม
เสียงวิ้งดังขึ้น แสงสีเงินดุจหาฝนไหลพุงลงมา ขาวโพลนเปนบริเวณกวาง ยากที่จะ
หลบหลีก หลนรวงลงมาทะลวงหินแกรงบางสวน
ความเร็วของเจาตัวเล็กไมตก เมื่อแขนทั้งสองกางขึ้น กลับเคลื่อนตามแนวระนาบ
ไกลออกไปนับ 10 จั้ง ราวกับอินทรีทะลวงฟากวาง ทวงทางดงามทั้งทรงพลัง ไม
เหมือนกับสิ่งที่เด็กพึงกระทําไดแมแตนิด
“กระบวนทารวดเร็วเสียจริง!” แมแตผูอาวุโสตางเอยชมอยางตกตะลึง
นี่เปนเพราะเจาตัวเล็กจดจอกับการหยั่งรูดั้งเดิม เขาไดรับกระบวนทาชนิดหนึ่งมา
จาก ‘บันทึกภาพประกอบเทพเจาสงคราม’ นกยักษปกทองสูศึกเทพเจา วงโคจร
มหัศจรรยรวมทั้งการเคลื่อนไหวของอักขระ สรางภาพแหงความทรงจําอันลึกซึ้งแกเขา
ตอนนี้ แขนสองขางของเขาปรากฏอักขระวูบวาบ กอเสียงลมดังหวีดหวิว ลอยพาด
ผานฟากวาง ประหนึ่งนกปกทองตัวนอย ทวงทางดงามและปราดเปรียว
“ฮี้” “ฮี้” ...
สัตวประหลาดเขาเดียวแผดรองยาว เขาเดียวของพวกมันสวางขึ้น ทั้งหมดยิงลําแสง
ออกมาโจมตีดานหนา กอตัวจากการรวมตัวของอักขระ หากไมพินิจมองอาจนึกวาเปน
กระแสไฟ
เจาตัวเล็กหลบหลีกโดยไว รวงลงหลังหินใหญหนักกวาสิบหมื่นชั่ง เพียงหมอบตัวลง
ไป หินใหญกอนนี้ก็แตกละเอียดดังตูม สะเก็ดหินแตกกระเด็นเซ็นซาน
เขาพุงไปยังอีกฟากอยางรวดเร็ว ประดุจนกยักษปกทองบินพาดผานทองฟา รายวง
โคจรอันนาตกตะลึงหนึ่งเสน เขาหมุนขดเปนเสนโคงแลวพุงไปยังฝูงสัตวประหลาดเขา
เดียว
“โอโห!” เด็กๆ รองลั่น เจาตัวเล็กลอยอยูกลางอากาศ แตยังสามารถเปลี่ยนแปลง
ทิศทาง ชางเหมือนเทพปกษาบรรพกาลกระพือปก รวดเร็วดุจสายฟา
ฝูงสัตวประหลาดกระสับกระสาย กระทืบกีบมา หมดทนทางจูโจมอยางพรอม
เพรียงกัน แผงเกล็ดทั่วตัวแวววาว แตละตัวแหงนหนาแผดเสียงยาว พากันเหยียบยางมา
ขางหนา
“เจาตัวเล็กรวดเร็วเสียจริง วองไวกวาสัตวประหลาดเขาเดียวโดยสิ้นเชิงใน
ระยะทางอันสั้น หากเปนคนทั่วไปไมมีทางเขาประชิดเปนแน แตเขากลับพรวดพราดเขา
ไปยังฝูงสัตวทันทีทันควัน!” สือเฟยเจียวเอยชื่นชม แมพละกําลังของพวกเขาจะเพิ่มขึ้น
มากโข ก็ไมสามารถทําเชนนี้ได
รวดเร็วจนนาตื่นตะลึง เร็วเกินกวาสัตวดุราย เจาตัวเล็กเขาไปยังฝูงสัตว ความ
อันตรายกลับยิ่งเพิ่มมากขึ้น ทางนี้กระทืบมาที ทางนั้นก็ยื่นหนามาพรอมปากกวางดุจ
อาง อีกฟากหนึ่งลําแสงลอยมาเปนสาย ยากที่จะหลบเลี่ยง
ราวกับระฆังศักดิ์สิทธิ์ดังขึ้น เจาตัวเล็กเปลงประกายแสงทั้งตัว แสงศักดิ์สิทธิ์แปลง
รางเปนอักขระ เรียงลําดับกลางอากาศ หอหุมรางกายของเขาไว กําบังการโจมตีรอบนี้
ไว
“ไป!”
เจาตัวเล็กออกแรงผลักอยางดุดัน สัตวประหลาดเขาเดียวนับ 7-8 ตัวลอยลิ่วลม
หลนลงไป ณ ตอนนั้นทันที พละกําลังของเขาแข็งแกรงถึงเพียงใดกัน ไมนับความ
อัศจรรยของอักขระ เพียงตวัดแขนขางเดียวก็มีพละกําลังถึงหนึ่งแสนแปดพันชั่ง ทวาเขา
มิไดลงมือสังหารแตอยางใด สัตวประหลาดพวกนี้มีจํานวนนอยมาก หากวากําราบจนสิ้น
ซาก สําหรับเผาพันธุมนุษยนั้น ถือวาเปนทรัพยสินล้ําคาอยางหาที่สุดไมได
“ซิ่ว”
เจาตัวเล็กพุงขึ้น กระโดดขึ้นขี่หลังของสัตวประหลาดเขาเดียวสูงใหญตัวนั้น แมมัน
จะแนนขนัดไปดวยเกล็ดสีเงิน แตลําคอกลับมีแผงคอสีเงินขาว มันถูกเขาควาหมับ ให
ตายก็ไมคลายมือ
อาชาล้ําคาตัวนี้เหยียดคอแผดรองดวยเสียงดังกองกังวานทะลวงเมฆา ประหนึ่ง
ระฆังนอยใหญดังขึ้นพรอมกัน สมกับเปนมาชั้นยอดล่ําสันกํายํา ล้ําเลิศเปนอยางมาก!
“เจามา หยุดเอะอะโวยวายเถิด ออกไปทองโลกภายนอกกับขา ไมแนวาจะเปนผลดี
ตอการบําเพ็ญของเจา” เจาตัวเล็กโนมตัวเอยขางหูมันอยางแผวเบา
ทวา สัตวประหลาดเขาเดียวตัวนี้กลับเดือดดาล มันเปนสัตวประหลาดดุราย มอง
มันเฉกเชนอาชาทั่วไปไดเยี่ยงไร อยางไรก็ตาม มันก็ถือเปนสัตวประหลาด ความเร็ว
นับวาโดดเดนทามกลางขุนเขากวางใหญนี้
โดยปกติแลว สัตวประหลาดเขาเดียวมิใชสิ่งที่ผูกลาขั้นแปรผันเลือดทั่วไปสามารถ
จับตองได พวกมันมีพละกําลังลนหลามไมสิ้นสุด วิ่งหอดวยความเร็วอันวิเศษ อีกทั้งยัง
สืบทอดอักขระขั้นพื้นฐาน มันไมธรรมดาเลย
ทั้งพวกมันและหลินหมาตางก็เปนทายาทของอาชาสวรรคบรรพกาล เปนรุนหลัง
ของอสูรเทพเจา แมวาสายเลือดจะเบาบางลงมากแลว แตยังสามารถสําแดงพลังได
เล็กนอย เพียงอักขระเชนนี้คงอยูในสายเลือด หากแตมิไดกอรูปเปนรางอยางแทจริง ไม
สามารถกําเนิดในกระดูก เขา แผงขน อานุภาพไมรายแรง มูลคาไมมหาศาล
สัตวประหลาดเขาเดียวสูงใหญตัวนี้คํารามเดือดดาลดุจสายฟา กระเสือกกระสนดิ้น
รนไมหยุด แตภายใตพละกําลังมหาศาลของเจาตัวเล็ก พละกําลังวิเศษของมันหางไกล
อยูมากโข ยากตอการหลุดรอดไปได
เสี่ยวสือฮาวออกแรงกดลงไป หัวสูงสงของมันลูลงมาทันที ทายที่สุด เจาตัวเล็ก
กระโดดลงสูพื้นดิน จากนั้นยกมันขึ้น พุงซายชนขวา พรวดพราดออกจากฝูงสัตว
ฝูงสัตวประหลาดเขาเดียวโกลาหลวุนวาย แผดรองอยางไมขาดสาย แตกลับไร
หนทาง เจาตัวเล็กแข็งแกรงเกินไป พละกําลังมหาศาล กระแทกชนสัตวประหลาดอยาง
ตอเนื่องนับ 10 กวาตัวจนลอยลิ่ว
“จับเปน... นํากลับมาตัวหนึ่งทั้งอยางนี้รึ?” ฝูงชนมองดูอยางตะลึงปากอากวาง
เจาตัวเล็กวิ่งอยางรวดเร็ว พรอมกับแบกสัตวประหลาดสูงใหญตัวหนึ่งกลับมาอยาง
สี่เทาชี้ฟา กระเสือกกระสนดิ้นรนอยางไรก็ไมเปนผล
พวกสือเฟยเจียววางแผนกันเนิ่นนานแลว หากยังมิเคยกระทําการเคลื่อนไหว จับ
ไมไดแมสักตัว ตอนนี้เจาตัวเล็กออกปฏิบัติการ คาดไมถึงวาจะสรางคุณูปการไดงายดาย
เชนนี้
นั่นเปนถึงอาชาล้ําคา แตกลับจับกลับมาอยางงายดายเชนนี้!
“เจาตัวเล็กจับหลายๆ ตัวสิ” พวกผูใหญน้ําลายไหลยอยกันใหญ
“ทานลุงขอรับ หากขาจับอีก พวกมันจะตื่นตระหนกจนหนีไป จากนี้ก็คงไมกลับมา
อีกตอไป รอขาทําใหสัตวประหลาดเขาเดียวตัวนี้เชื่องเสียกอน ปฏิบัติตอมันอยางดี ให
มันรูสึกถึงเจตนาอันดีของพวกเราเสียกอน ไมแนวาตอไปสัตวประหลาดเขาเดียวตัวอื่น
เห็นดังนั้น อาจจะเขาใกลเราดวยตัวของมันเองก็เปนได”
“ดี!”
ชาวบานตางพยักหนา วิธีการนี้ไมเลว เหลาบุรุษตางน้ําลายไหล อาชาล้ําคาที่อยาก
ครอบครองแมแตในฝน
วันนี้ สัตวประหลาดเขาเดียวริมทะเลสาบสวยงามรองดังระงมไมหยุดหยอน แมเจา
ตัวเล็กจะจับมันกลับมาตัวหนึ่ง หากแตยังไมไดฝกใหมันเชื่องอยางจริงจัง แผดรองอยาง
ตอเนื่อง อยากจะหอเหยียดไปทั่วผืนหญาเขียวชอุม
“เจาขาว อยาโกรธเคืองไปเลย ไปกับขาเถิด ขาสอนอักขระอันลึกซึ้งแกเจา ตอไป
บนกระดูก ทั้งเขาเดียวจะกอตัวเปนอักขระขนานแท เมื่อถึงตอนนั้น เจาอาจเปน
เชนเดียวกับพวกจื่อยวิ๋นและตาเผิง กอรูปแปลงรางเปนกระดูกล้ําคาดั้งเดิมของตน มี
เพียงตองไปใหถึงขัน้ นั้น เจาจึงจะถือวาเปนสัตวประหลาดผูแข็งแกรงอยางแทจริง” เจา
ตัวเล็กพูดโนมนาว
กระทั่งตะวันตกดิน สัตวประหลาดเขาเดียวตัวนี้ถึงยอมศิโรราบ มิกลาตอตานอีก
ตอไป เจาตัวเล็กไมไดพูดอะไรใหมากความ สําแดงอักขระกลุมหนึ่งตอหนามันทันที
“อา สัตวประหลาดเขาเดียวตัวนี้ไมเอะอะแลวรึ?” พวกเด็กๆ วิ่งกรูกันเขามา หมาย
ขึ้นขี่มัน
ปรากฏวา เจาขาวเตะขาหลังออกไป จวนถีบโดนเด็กขี้มูกโปง เขาตกอกตกใจจนลม
ไปกองกับพื้น
“โอแมเจา เกือบทําใหขากระอักเลือดเลยทีเดียว” เด็กขี้มูกโปงนึกกลัวในภายหลัง
ตบหนาอกของตัวเองอยางเกินจริง
สัตวประหลาดเขาเดียวตัวนี้แมจะถูกกําราบแลว แตกลับไมยอมใหพวกเขาเขาใกล
เปนยามเชาของอีกวัน เจาตัวเล็กล่ําลาชาวบาน เตรียมพรอมออกเดินทาง
ชาวบานยกโขยงมากันหมด กระทั่งเหลาผูอาวุโสอายุ 80-90 ป หรือแมแตเด็กไม
หยานม หัวหนาหมูบาน ลุง พี่ชาย พี่สาว อาหญิงเปนตน คนกลุมใหญตางก็มาสง
“ลูกเอย เจาอยาฝนตัวเอง เมื่อเดินทางไดสักระยะหนึ่ง เมื่อพบอันตราย เจาจะตอง
ลาถอยกลับมา”
“เจาตัวเล็ก เดินทางใหระมัดระวัง อยาทําตัวใหโดดเดน รักษาเนื้อรักษาตัวนะ!”
ฝูงชนเอยเตือนพันหน กลาวกําชับหมื่นครั้ง ตางก็อาลัยอาวรณ อาหญิงและปาใหญ
บางสวนนัยนตาแดงก่ํา ถือวาเด็กนอยซึ่งดื่มกินน้ํานมจากอกของพวกนางคนนี้ เปนคน
ในครอบครัวไปแลว
ในที่สุด เจาตัวเล็กก็ออกเดินทาง เขาขี่อยูบนสัตวประหลาดเขาเดียว มุงหนาไปยัง
แดนไกล ออกแรงโบกมือไปมาไปทางดานหลัง
หนึ่งแสงทองพวยพุงดังซิ่ว ไลตามไปอยางรวดเร็ว ควาหมับเขาที่หางของสัตวประ
หลาดเขาเดียว
“ไอหยา เจาลูกขนตามไปแลว”
“ไมเปนไร หากทิ้งเจานี่ไวในหมูบาน ก็เปนตัวสรางปญหาโดยแท วันๆ หนึ่งตองกิน
ชางเขามังกรครึ่งตัว หากไมมีเจาตัวเล็ก พวกเราก็เลี้ยงมันไมไหวหรอก”
“มันเปนถึงจูเยี่ยนสีทองเชียวนา ไมแนวาอาจจะชวยเจาตัวเล็กไดมากโขเชียวละ”
กลางนภา จื่อยวิ๋น ตาเผิง เสี่ยวชิงแผดรองยาว ไลตามมาติดๆ สงเขาไปไกลนับหมื่น
กวาลี้ กลับมาอยางอาลัยทามกลางการอําลาของเสี่ยวสือฮาว
“ประเทศเกาแก ขามาแลว!” เจาตัวเล็กพูดกับตัวเอง ออกแรงกํามือแนน จากนั้นก็
ขี่สัตวประหลาดเขาเดียว แปรงรางเปนแสงสีเงิน พุงไปยังขุนเขากวางใหญไรที่สิ้นสุด
หมายทะลวงเทือกเขา ทองไปยังที่หางไกล
ความเร็วของสัตวประหลาดเขาเดียวรวดเร็วเปนที่สุด อีกทั้งฉลาดปราดเปรื่อง
หลีกเลี่ยงเหลาสัตวประหลาดดุรายมากมาย เมื่อยางเขาเที่ยงวัน ก็เดินทางมานับ 3000-
4000 ลี้แลว
สัตวประหลาดเขาเดียวตัวนี้ไมธรรมดาเสียจริง ทะลวงขุนเขาขามผานแนวเขา
ประหนึ่งยางเดินบนพื้นดินราบ ชางเร็วเสียจริง!
“เจี๊ยกๆ...” ทันใดนั้น ลูกขนสีทองเทากําปนก็รองเสียงแหลม ขนลุกขนชันไปทั้งตัว
ดวงตาคูนั้นเหลือกจนโต กระสับกระสายอยางไมเปนสุข
ในขณะเดียวกัน ณ ตนหลิวแหงหมูบานหินผา กานออนกานนั้นเปลงแสงสีเขียวโชติ
ชวง พวยพุงสูฟากฟาทันที อีกทั้งลําตนดําเกรียมสั่นไหวรุนแรง ทามกลางเสียงดัง
เปลือกแกแตกระแหงโรยราเต็มผืนดิน!
บทที่ 69 การเดินทางนองเลือดกลางดินแดนรกราง
ภูเขาใหญรายเรียงลูกแลวลูกเลา สูงตระหงานกวางใหญไพศาล ปรากฏเปนสีเทา
หมนทั่วบริเวณ ไมรูดวยเหตุใด ขาดแคลนพืชพรรณ ใบโกรนกันทั้งสิ้น
ระหวางทางเต็มไปดวยกอนหินนอยใหญมากมาย กระจายตัวตามบริเวณผืนปา
ตั้งแตนับ 1000 จั้งจวบจนสิบหมื่นจั้งแตกตางกันไป
เจาตัวเล็กเห็นขนสีทองของลุกขนลุกชันทั้งตัว ตอนแรกก็มิไดเอะใจ ทวามันกลับ
เย็นวาบทั้งตัวโดยพลัน รูสึกถึงความนาสะพรึงกลัวระลอกหนึ่ง นี่เปนเพราะ
สัญชาตญาณอยางหนึ่ง ใชวาจะมองเห็นอะไรจริงๆ
ขนบนรางกายของมันตั้งชัน ตาโตมองสอดสองไปทั่วสี่ทิศ พยายามจะคนพบอะไร
บางอยาง ทวาไมพบสิ่งใดเลย
“เจาลูกขน เจาพบอะไรอยางนั้นรึ?” เจาตัวเล็กเอยถาม
ลูกขนสีทองเทากํามือเพียงรองเสียงหลง ดวงตาเหลือกจนกลมโต มันเองพูดไมออก
เพียงแคสัญชาตญาณทําใหมันรูสึกถึงภยันตราย กระวนกระวายอยูไมสุข
สุดทาย สัตวประหลาดเขาเดียวก็กระทืบสี่เทาอยางกระสับกระสายขึ้นมา รูสึกถึง
กลิ่นอายนากลัว ไมยินยอมเดินทางในเทือกเขานี้อีกตอไป
“เจี๊ยกๆ...” ทันใดนั้น ลูกขนพุงตัวออกไป แปลงรางเปนแสงสีทอง ขึ้นเขาลงหวย
หมายไปยังจุดที่ลึกที่สุดของเทือกเขา
“เจาลูกขน เจาอยาทําเชนนี้!” เจาตัวเล็กรองลั่น ควบมาเรงไลตามไป
สัตวประหลาดเขาเดียวรอยทั้งรอยไมยอม แตไรหนทางตอตานเจาตัวเล็ก เขาเดียว
ของมันสองแสงสีเงินวูบวาบ เกิดเสียงดัง อักขระกําลังผนึกกําลัง
เมื่อวิ่งหอนับ 10 ลี้ จูๆ ลูกขนก็หยุดกึก สายตาหวาดระแวง สูญเสียปฏิกิริยา
ตอบสนอง ไมกระสับกระสายอีกตอไป
บริเวณผืนปาดานหนาเขียวขจีเจริญงอกงาม ตนไมเกาแกสูงเทียมฟา กอเกิดการ
เปรียบเทียบกับภูเขาหัวโลนเมื่อครูอยางเดนชัด ณ ที่แหงนี้เต็มไปดวยชีวิตชีวา ตนหญา
อุดมสมบูรณ ทั้งยังมีพันธุนกและสัตวรายปรากฏขึ้น
เมื่อหันกลับไปมองขุนเขาสีเทาหมนซบเซาอึมครึม ไมมีแมแตตนหญา ทําใหยิ่งเปลา
เปลี่ยว หมอกหนาตลบอบอวลอยางสุดจะพรรณนา ราวกับหลุมชั่วรายที่ฝุนจับเต็มไป
หมดจะเปดออกแลว
“อา พวกเราเลยผานมาแลวอยางนั้นหรือ?” เจาตัวเล็กตะลึงงัน คิดวามีอันตราย
ขางหนา ไมคิดวาจะเปนดินแดนไรตนไมใบหญานั่น
“แควก”
กลางขุนเขาที่อยูเบื้องหลังเกิดเสียงแปลกประหลาดดังขึ้น ประหนึ่งเบื้องลาง
แตกระแหง กอนหินกําลังเคลื่อนไหว ตามติดมาดวยเสียงโซตรวนดังครืนครัน
ณ ดินแดนไรซึ่งสิ่งมีชีวิตเกิดเสียงเชนนี้ขึ้นฉับพลัน ราวกับเสียงผีหาจากขุมนรก
หมอกควันกระเพื่อมขึ้นลง กลิ่นอายขมขื่นพวยพุงขึ้นไปทั่ว
ทันใดนั้น ภูเขาใหญหลายลูกทลายลงดังปง ไมมีแมแตสัญญาณเตือน หมอกควันสี
เทาหมนลอยลองขึ้น ชางเปนภาพเหตุการณอันนาสะพรึงกลัว
“นั่นคือ...” เจาตัวเล็กเบิกตากวาง และสัตวประหลาดเขาเดียวที่มันนั่งอยูกลับยิ่ง
สั่นเทิ้ม ออนแรงจวนลมพับลงกับพื้น
เจาลูกขนรองเจี๊ยกๆ กระโดดขึ้นไปบนหัวไหลของเจาตัวเล็ก แยกเขี้ยวยิงฟนไปไกล
นับ 10 ลี้ กระวนกระวายไมสงบ
ภูเขาหลายลูกพังทลายลง แผนดินแตกระแหง รอยแยกมีขนาดใหญจนนาตกใจ
ยอดเขาทรุดลงไปทั้งลูก ดํามืดไรที่สิ้นสุด และในตอนนี้เอง มีกรงเล็บสีเขียวขนาดใหญ
ยื่นออกมา ถูกทองคําบริสุทธิ์ผนึกไว
“โอสวรรค นี่มันสิ่งมีชีวิตชนิดใดกัน?” เจาตัวเล็กตกใจ
เพียงกรงเล็บก็ใหญกวาภูเขาหลายลูกรวมกันเสียอีก เปนเพราะมันโผลพรวดออกสู
ผิวดิน จึงเปนเหตุใหภูเขาใหญมากมายถลมทลาย แผนดินแตกแยก
ไอหมอกดุจมหาสมุทร ฝุนผงพวยพุงสูทองฟา กรงเล็บใหญใหญชขี้ นึ้ ฟา ออกแรง
กระเสือกกระสน ประหนึง่ อยากหลุดพนจากใตดิน
อุงมือหนาและกรงเล็บไมคมกริบมากเทาใดนัก มีชั้นหินเกาะอยูหนึ่งชั้นปกคลุมกรง
เล็บไวเกือบทั้งหมด เห็นไดวา มันถูกปดผนึกเปนเวลาเนิ่นนานแลว
กรงเล็บใหญดิ้นพลาน เสียงแผนหินกระทบกันดังยิ่งขึ้น ดังกึกกองไปทั่วปฐพี
นอกจากนี้ โซตรวนทองคําถูกดึงจนตึง มันกําลังใชแรง เสียงดังครืนครันราวกับ
ทวงทํานองสยองขวัญจากนรกอเวจี
“ตูม”
สุดทาย อุงเล็บใหญสีเขียวนั่นก็รวงลงไปอยางหมดแรง ฝุนควันโขมง มลายหายไป
จากพื้นผิวดิน ตอมาเสียงก็เงียบหายไป ไอหมอกคอยๆ คลี่คลาย เหลือเพียงรองรอยนา
กลัวขนาดใหญ
เวลาผานไปนานก็ไรซึ่งการเคลื่อนไหว เสมือนไมเคยมีอะไรเกิดขึ้นมากอน
เจาตัวเล็กตื่นตกใจ พูดไมออกเปนเวลานาน กลางดินแดนรกรางมากดวยเหลาสัตว
ประหลาดดุรายอยางแทจริง นี่เพิ่งเดินทางไดเพียงกี่พันลี้ ก็ประสบพบเจอกับสิ่งมีชีวิต
มหึมาเชนนี้ อีกทั้งยังทําใหเจาลูกขนตื่นตระหนก นี่จะตองเปนผูแข็งแกรงที่สุดอยางไม
สามารถจินตนาการตัวหนึ่งเปนแน
จูเยี่ยนสีทองขุนเคืองไมสิ้น แสดงทาทางชี้ไมชี้มือ อาปากยิงฟนตอพืน้ ที่โกลาหลนั่น
ความหมายของมันคือ หากไมพอใจก็มารบกันสักตั้ง เจาตัวเล็กควาหางของมันแลวหิ้ว
ขึ้นมาอยางไมสนวามันจะตอตาน ควบสัตวประหลาดเขาเดียววิ่งหอไปดวยความบาคลั่ง
อยางไมหยุดพัก
เชาตรูของหลายวันตอมา เจาตัวเล็กลืมตาขึ้นหลังจากลางหนาลางตาขางน้ําพุ
ธรรมชาติแลว กินเนื้อแหงไปบางและดื่มน้ําพุแลวเล็กนอยก็ออกเดินทางอีกครั้ง
“มุงหนาไปยังทิศทางทิศที่พระอาทิตยขึ้น ชายแดนประเทศเกาแกขามาแลว!” เจา
ตัวเล็กกํามือแนนเพื่อปลุกพลังแกตน
หลายวันมานี้ พวกเขาเดินทางมานับหมื่นลี้แลว มีสิ่งมีชีวิตเฉกเชนสัตวประหลาด
เขาเดียวอยู ระยะเวลาการเดินทางรวดเร็วเปนอยางมาก ทะลวงขุนเขาขามผานลําน้ํา
หลบหลีกสัตวรายไดจํานวนไมนอยเลย
แนนอนวาไมสามารถหลีกเลี่ยงได เกิดการรบราอยูหลายครั้งหลายครา กระทั่ง
ตอนนี้ พวกเขายังไมสามารถหลุดพนจากการไลลาโจมตีได
สัตวประหลาดตัวนั้นยืนหยัดไมยอมรามือ ขอเพียงพวกเจาตัวเล็กหยุดพัก มันจะ
ตามกลิ่นมาจนเจอ สรางความวุนวายไมจบไมสิ้น
มันเปนแมลงยักษริ้วลายยาวกวา 10 เมตรตัวหนึ่ง พละกําลังนากลัว ผิวหนังหยาบ
กรานเนื้อตัวหนา มันอาปากพนเมือกออกมาหลอมละลายภูหินจนเต็มไปดวยรูพรุน
ตามการคาดการณของเจาตัวเล็ก มันรายกาจกวาเทพเจาหมาปาตัวนั้นของหมูบาน
หมาปาอยูมากโข มันถือครองอักขระลึกลับอันแข็งแกรง ลําตัวเปลงประกาย ความโชคดี
ที่มีเพียงหนึ่งคือ มันไลตามสัตวประหลาดเขาเดียวไมทัน
“ไปกันเถิด มิเชนนั้นแมลงยักษตัวนั้นจะไลลาตามมาอีก” เจาตัวเล็กตีลังกาขึ้นควบ
มา เขาเชื่อวา หากเดินทางตอเนื่องกันหลายวัน แมลงยักษตัวนั้นไลตามอยางไมหลับไม
นอน มันจะลาถอยอยางออนเปลี้ยเพลียแรงในเร็ววัน
สัตวประหลาดเขาเดียวแหงนหนาขึ้นคําราม แสงสีเงินระยิบระยับไปทั่วทั้งตัว
ทันใดนั้น เจาตัวเล็กตะลึงงันแลวพูดวา “มันมาอีกแลว”
“พรึ่บ”
พวกเขาเพิ่งพุงตัวออกไป คลื่นระลอกใหญก็พุงมา เลือนรางไปทั่วบริเวณ รวงลงบน
เขตภูเขา พลันตนไมเกาแก รวมทั้งกอนหินก็ละลายจนหมดสิ้นดังแปลบปลาบ กลายเปน
ควันสีขาว
เสียงวิ้งดังขึ้น อักขระแวบวับตามมาติดๆ รวงลงมาราวกับแหฟาตะขายดิน มุงหนา
แผคลุมบริเวณนี้
“รีบไป!” เจาตัวเล็กตะโกนบอก
บริเวณภูเขานั้นแตกเปนเสี่ยงดังตูม ฝุนควันตลบอบอวล สถานการณอันตรายมาก
ยิ่งขึ้น พวกเขาเรงพุงออกไปยังที่หางไกล
แมลงยักษหาสีตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ลําตัวหนาดั่งถังน้ํา ทั่วรางกายมีอักขระแวบวับ
ระยิบระยับ ไมใชอสรพิษ แตกลับเหี้ยมโหดกวาพวกมันเสียอีก แผดเสียงรองอยางโมโห
โกรธา อีกเพียงนิด มันบิดรางกายอันมหึมา พังผืนปานี้จนราบเปนหนากลอง
ทันใดนั้น เสียงรองของปกษาดังขึ้น กลางฟากฟาราวกับมีเมฆดําทมิฬทลายลงมา
ปกษาขนาดใหญมากกวา 100 เมตรพุงจูโจมลงมาจากชั้นเมฆ
แมลงยักษตื่นตระหนกตกใจ เรงแหงนหนาพนรังสี หมายใชอักขระตอสู
“พรึ่บ”
ปกษารายแผคลุมทองฟาบดบังดวงอาทิตย ยามอาปากก็มีลําแสงดุจทางชางเผือก
รวงลงมา พังเขตภูเขาจนราบ กอนหินทะลวงอากาศ แมลงยักษตัวนั้นถูกโจมตีหักเปน
ทอนๆ
ปกษาใหญบินโฉบลงมา เริ่มเปดฉากงานเลี้ยงนองเลือด!
นี่ก็คือดินแดนรกราง อันตรายมีอยูทุกหนทุกแหง สิ่งมีชีวิตนากลัวอยูทุกตารางนิ้ว
เมื่อชั่วครูยังนายําเกรง เพียงชั่วขณะก็กลายเปนอาหารของสิ่งมีชีวิตตนอื่น
นี่เปนโลกที่ปลาใหญกินปลาเล็ก[1] ทุกหนแหงชุมโชกไปดวยเลือด ปราศจากเหตุผล
และเจาตัวเล็กตองเดินทางกวา 30000 ลี้ขามผานดินแดนปาเถื่อนเชนนี้ สามารถ
พูดไดวาบนเสนทางนี้จะตองเต็มไปดวยความยากลําบากยากแคน อันตรายและอุปสรรค
อยางไมสิ้นสุด สามารถสิ้นชีวิตไดตลอดเวลา
ตอมา เจาตัวเล็กตอสูดุเดือดอยูหลายครั้ง พบเจอภยันตรายมากมาย เขนฆาสัตว
ประหลาดอยางลนหลาม ไมมีทางเลือก หากปราณี ก็จะกลายเปนอาหารของสิ่งมีชีวิต
ตนอื่น
เพียง 8-9 วันเทานั้น เสื้อผาของเขาก็ขาดกะรุงกะริ่ง เสื้อผากี่ชุดตางยอมดวยเลือด
ฉีกขาดแลว สุดทายจึงทําไดเพียงเปลี่ยนเปนหนังสัตวที่เพิ่งถลกไดมาใหม เพื่อใชมัน
กําบังรางกาย
ดินแดนไรมนุษยเชนนี้มักจะมีสิ่งมีชีวิตที่ไมสามารถจินตนาการได ในเวลานั้นทําได
เพียงหลีกหนีไปใหไกล โชคดีที่ดํารงอยูอยางแข็งแกรงเกินไป ในสายตามีเพียงจาวแหง
สิ่งมีชีวิตเทานั้น ไมไดสนใจพวกเขามากนัก
ในมุมกลับกัน หากเปนสิ่งมีชีวิตแข็งแกรงเชนแมลงยักษริ้วลาย แตก็ไมใชสิ่งมีชีวิตที่
แข็งแกรงที่สุดนั้นเปนภัยคุกคามตอพวกมันมากที่สุด ระหวางทางมีวานรประหลาด
สะทานฟาพื้นดินหวั่นไหวตัวหนึ่ง สะเทือนภูหินจนพังทลาย ไลลาพวกเขาอยางไมลดละ
กระทั่งสามวันสามคืนจึงรามือไป
เขาทําศึกครั้งนับไมถวนบนเสนทางนี้ หากสูไมไหวก็ตองหนี ยังไมถึง 10 วันก็
กลายเปนคนปาตัวนอยไปเสียแลว เนื้อตัวเต็มไปดวยคราบเลือดของเหลาสัตวประหลาด
ดุราย ไมมีแมแตเวลาชําระลาง
เขาในตอนนี้กําลังควบมาตลอดทาง หากวาหยุดพักก็รีบเรงกินอาหาร จากนั้น
พักผอน ในผืนปาอันตรายเกินไป ไมมีเวลาใหใชฟุมเฟอยมากนัก จําตองเหลือไวบํารุง
สุขภาพสะสมกําลัง
ตอมา เขาไดรับบาดเจ็บสาหัสเมื่อตอนออกหาแหลงน้ํา จระเขตัวหนึ่งโผลพรวด
ขึ้นมาจากสระน้ําเย็น อักขระเคลื่อนไหวกําราบไปทั่วสี่ทิศ เกือบจะสังหารพวกเขาเสีย
แลว
นี่เปนครั้งแรกในชีวิตที่เจาตัวเล็กไดรับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ รางกายอันแข็งแกรง
เปนแผลเหวอะหวะจนเผยใหเห็นกระดูก เขาเกือบจะถูกยับยั้งอยูใตอักขระอันมีอํานาจ
ลึกลับของจระเข
สุดทาย จระเขตัวนี้ตองการกลืนกินเจาตัวเล็กเปนอาหาร แตเขาไดโอกาสใชแขนที่มี
พลังวิเศษถึงหนึ่งแสนแปดพันชั่ง ฉีกอุงเทาจระเขจนขาดไปหนึ่งขางในชวงเวลากระชั้น
ชิดทันที เลือดไหลเปนทางยอมสระน้ําเย็นจนแดงฉาน
เขาใชโอกาสนี้กระโดดขึ้น จากนั้นเหยียบกะโหลกของจระเขตัวนี้จนแตก จวน
เหยียบจนแหลกละเอียด
จระเขตัวนี้เจ็บปวดรวดราว ดิ้นรนอยางแสนสาหัส กระทั่งจมดิ่งลงไปในสระน้ําเย็น
และเจาตัวเล็กก็ใชโอกาสนี้หลบหนี วิ่งปรอไปยังที่หางไกล
สัตวประหลาดเขาเดียวที่อยูไกลออกไปไดยินดังนั้นก็รีบวิ่งหอมา บรรทุกเขาไวแลว
หนีออกจากที่แหงนี้ พนจากภัยอันตรายถึงชีวิตไปได
จระเขตัวนั้นโหดเหี้ยมอยางที่สุด เมื่อมันเจ็บปวดอยางรุนแรงก็โผลพรวดขึ้นสูผิวน้ํา
อาปากพนรังสีทําลายยอดเขาจนราบเปนหนากลอง หากกลางฟากฟาไมมีปกษาใหญตัว
หนึ่งบินวนเวียนทําใหมันหวาดกลัว หดหัวหายเขาไปในน้ํา มันก็คงจะไลลาตามฆาอยาง
ไมลดละ
หลายวันตอมา เจาลูกขนฉกเอาผลไมประหลาดนานาชนิดมา อีกทั้งยังกัดเนื้อหนัง
ตัวเองจนขาดอยางใจดี คั้นเลือดสีทองออกมา 3 หยดใหเจาตัวเล็กกิน อาการของเขาจึง
ดีขึ้นมา
จําตองเอยถึงจูเยี่ยนสีทองเทากําปน เลือดของมันมีสรรพคุณวิเศษ หลังเจาตัวเล็ก
หายจากอาการบาดเจ็บแลว ไมเหลือแมแตแผลเปนแมแตนิดเดียว
ครึ่งเดือนตอมา เจาตัวเล็กออกหางจากหมูบานหินผากวา 20000 ลี้แลว สัตว
ประหลาดเขาเดียวตัวนี้รวดเร็วอยางที่สุด แข็งแกรงกวาสายพันธุชนิดเดียวกันอยูหลาย
โยชน หางจากชายแดนประเทศเกาแกอีกประมาณสิบหมื่นลี้
เจาตัวเล็กกลายเปนคนปาอยางแทจริง ตั้งแตหัวจรดเทาเต็มไปดวยเลือดสกปรก
ทั้งหมดกลายเปนคราบเลือดแหงกรัง เสนผมดําสนิทเกาะกันเปนกอน
“เจี๊ยกๆ...”
ยามฟาสาง ขณะที่เจาตัวเล็กกําลังหลับสนิท เจาลูกขนวิ่งปรื่อมาจากใจกลาง
เทือกเขาดึกดําบรรพโดยอุมไขใบเทาโมหิน กระจายรังสีอันนาสะพรึงกลัว
เสี่ยวสือฮาวไดยินการเคลื่อนไหวก็ลุกพรวดขึ้นนั่ง เห็นฉากนี้เขาพอดี เจาลูกขนเลน
หูเลนตา ใบหนาเต็มไปดวยความพึงพอใจ ไขใบใหญที่มนั อุมอยูนั้น ใหญกวาตัวมันไมรู
ตั้งกี่เทา ชางนาขบขันเสียจริง มันสงเสียงรองอยางดีใจไมหยุดไมหยอน
ไขใบนี้พรางพรายโปรงแสง ปกคลุมดวยลวดลายหาสีอยางหนาแนน สีสันสวยงาม
เปนอยางมาก แสงสวยงามพุงขึ้นมาเปนสาย เพียงมองก็รวู าไมธรรมดา แมจะเปนเพียง
ไข แตกลับแผกลิ่นอายอันนากลัว
ไมตองคิดอะไรใหมากความ นี่จะตองเปนไมใชวัตถุธรรมดาอยางแนนอน แมกระทั่ง
เจาตัวเล็กยังสดใส นี่เปนสายเลือดของปกษาเทพเจาตนหนึ่งใชรึไม มิเชนนั้นจะไมชอบ
มาพากลถึงเพียงนีไ้ ดอยางไร
“เจา...ขโมยมางั้นรึ?”
“เจี๊ยกๆ...” เจาลูกขนคัดคาน ตีหนาเครงขรึมจริงจัง ตีอกนอยๆ ของตน เพื่อบอก
วา ขาเปนคนเชนนั้นหรือ?
ทันใดนั้น เสียงแผดรองนากลัวดังมาจากจุดที่ลึกที่สุดของเทือกเขา สะเทือนจน
ขุนเขาสั่นไหว จิตสังหารอันนาสะพรึงกลัวปะทุขึ้น พุงมาราวกับเกลียวคลื่นคลุมคลั่ง
เจาลูกขนโยนไขใหเจาตัวเล็กทันที จากนั้นกระโดดขึ้นไปบนหลังของสัตวประหลาด
เขาเดียวอยางไรศกั ดิ์ศรี หมายหลบหนีกอนเพื่อน
เจาตัวเล็กเห็นดังนั้นจะไมเขาใจอยางนั้นหรือ? เขารีบอุมไขสีสันงดงามแลวกระโดด
ขึ้นนั่งบนลําตัวของสัตวประหลาดเขาเดียว หลบหนีอยางบาคลั่งตามไป
“เจาลูกขน เจากอหายนะอีกแลวนะ!” เจาตัวเล็กตอวา
เจาลูกขนแหงนหนามองทองฟาอยางไมสนใจใยดี แตสุดทายก็แอบชําเลืองมองไป
ยังใจกลางเทือกเขา มองเห็นกลิ่นอายเหี้ยมโหดแผเต็มทองฟาปกคลุมผืนดิน มัน
กระสับกระสายอีกครั้ง กระโดดลงพื้นเสียงดังซิ่ว อุมหินแกรงขึ้นจากนั้นวิ่งอุตลุดกลับมา
หมายเจาะไขใบนี้
“อา ไขอัศจรรยเชนนี้จะเจาะทะลวงไดอยางนั้นรึ?” เจาตัวเล็กลังเล
เจาลูกขนชี้มือชี้ไม ราวกับจะบอกวา บํารุงรางกาย ในความเปนจริง ตัวมันน้ําลาย
ไหลยอย หยดลงบนหลังของสัตวประหลาดเขาเดียว
ไกลออกไปนับ 10 ลี้ อีกบริเวณหนึ่งมีคนกลุมหนึ่ง ผูนําเปนสตรีงดงาม บุคลิกมี
เสนหเหนือคนทั่วไป รูปโฉมงดงามขาวกระจาง ดวงตาโตมีชีวิตชีวา รูปรางอรชร
ออนแอน สวมชุดขาวทั้งตัว พลิ้วไหวไปตามแรงลม ราวกับจะปลิวหายไปกับสายลม ขาง
กายมีสตรีชราผูหนึ่ง อีกทั้งผูกลากวา 10 กวาชีวิต แตละคนไมธรรมดา
บทที่ 70 ตัวปญหา
“ฟง ปกษารายตัวนั้นกําลังแผดรอง!” คนกลุมหนึ่งหยุดการเดินเทาไกลออกไปนับ
10 ลี้ เตรียมตั้งรับสงครามราวกับเผชิญหนากับศัตรูตัวฉกาจ
สตรีผูนําสวมชุดขาวดุจหิมะ งดงามโดดเดน เสนผมดําขลับทั้งนุมสลวย มันขลับดุจ
แพรไหม ใบหนารูปไขขาวกระจางใสไรความกังวล ดวงตาโตมีชีวิตชีวามองไปยังใจกลาง
เทือกเขาแลวเอยวา “ระยะทางไกลหางปานนี้ มันตองไมพบเราจึงจะถูก”
ใจกลางเทือกเขา เสียงนกแผดรองราวกับดาบหมื่นเล็บฟาดฟนกัน และเสมือนฝูงมา
นับหมื่นวิ่งหอ เสียงดังสนั่นหวั่นไหว สะเทือนจนแนวเขารองคําราม กอนหินขนาดใหญ
เกลือกกลิ้ง ประหนึ่งแผนดินไหว เห็นไดวาปกษารายตัวนี้นากลัวเพียงใด
มองไปยังที่หางไกล ทิศทางนั้นกระจายลําแสงพวยพุงสูทองฟา กระเพื่อมขึ้นลงดุจ
มหาสมุทร ประหนึ่งเตาไฟศักดิ์สิทธิ์นิรันดรแผดเผาในโลกหลา ราวกับเทพเจาถือกําเนิด
สองสวางไปทั่วทุกสารทิศ
“ปกษารายตัวนี้เปนทายาทของปกษาเทพเจาบรรพกาล ตอนแรกขานึกวามันบรรลุ
แลว ตองการบํารุงพลังปราณ เพราะเหตุนี้ มันจึงกลืนกินชนเผาใหญที่มีประชากรนับ
ลานจนหมดจด ภายหลังขาจึงรูวา มันจะฟกไข” ชายวัยกลางคนผูหนึ่งกลาว
“นี่เปนทายาทที่แข็งแกรงตัวหนึ่ง ภายในรางกายมีโลหิตของจาวนกยูง ปกษาเทพ
เจาบรรพกาลไหลเวียนอยู ไขของมันไมธรรมดา พวกเราจะตองไดมันมา ดูแลเอาใจใส
มัน ไมแนวาอาจจะสามารถสําแดงอิทธิฤทธิ์บางสวนของเทพเจาบรรพกาลก็เปนได
เคล็ดวิชาของมันในอดีตไดรับสมญานามวาสะทานฟาเชียวนา!” สาวชราเอยอยาง
ตื่นเตน แมอายุจะมากแลว แตกลับมีกําลังวังชา นัยนตามีอักขระสีเงินปรากฏวูบวาบ
ทายาทบรรพกาลเชนนี้ เดิมทีก็เปนสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกรงและพบเห็นไดยาก สืบทวน
หาเบื้องหลังความเปนมาของมัน ไขของมันยิ่งลึกลับและล้ําคา
ตองการเคล็ดวิชาจากนกยูงหาสีโตเต็มวัย เปนสิ่งที่เปนไปไมได อยาวาแตตอง
สูญเสียของแลกเปลี่ยนนากลัวเพียงใดจึงจะยึดครองมันได แคหนึ่งชั่วความคิด อักขระ
บนรางกายก็แหลกสลายอยางไรหนทางได
เฉกเชนเดียวกับการไดมาซึ่งซากรางกายของซวนหนีของหมูบานหินผา อีกทั้งยังพบ
อักขระครั้งโบราณกาล เรื่องเชนนี้เปนเรื่องที่เกิดขึ้นไดยากมาก มีเพียงตัวอยางการพบ
เห็นก็เทานั้น
ปรารถนายอนรอยความลึกลับของจาวนกยูง ปกษาเทพเจาบรรพกาล ไมสามารถ
เริ่มจากรางกายของทายาทโตเต็มวัยได เปาหมายมีเพียงไขของมัน รอวันไขกะเทาะ
ออกมาและเลี้ยงไวขางกาย จึงจะสามารถสืบเสาะหารองรอยของเคล็ดวิชาล้ําคาแหง
ปกษาเทพเจาบรรพกาลได
“อาจจะเกิดเหตุไมคาดคิด พวกเราเรงตามไป ทุกคนโปรดรับมืออยางระมัดระวัง”
สตรีชุดขาวแววตาออนโยน ริมฝปากแดงเผยอเล็กนอย ฟนขาวกระจาง น้ําเสียงไพเราะ
นาฟง งดงามอยางหาที่เปรียบไมได
“มันเพิ่งจะฟกไข รางกายอยูในชวงออนเพลีย นี่เปนโอกาสที่ดีที่สุด” กลุมคน
ทั้งหมดตางพยักหนา
พวกเขาไมรูวาเรื่องที่พวกตนกังวลนั้นเปนจริง ทายาทของเทพเจาบรรพกาลฟกไข
ของตนแลว และกําลังคลุมคลั่ง บินพลานไปทั่วทุกสารทิศ เสาะหา ตามสังหารโจรลักไข
“เจาขาวรีบหนีเร็วเขา มันมาแลว!” เจาตัวเล็กหันหลังมองเห็นแสงศักดิ์สิทธิ์หาสีพุง
ทะลวงเมฆา กลิ่นอายชีวิตที่มีชีวิตชีวาราวกับเกลียวคลื่นกระทบชายฝง นากลัวเปนอยาง
มาก
นกยูงขนาดใหญตัวหนึ่งบินทะยานมาจากใจกลางเทือกเขา ทั้งตัวปกคลุมดวยหมอก
ควันหนึ่งชั้น ปลอยแสงสวยงามหาสี เมื่อกางปกคูนั้นกวาดลางทุกสิ่งอยาง พังผืนปา ภู
หินจนราบเปนหนากลอง
“ผลุบ”
อุงเล็บของเจาลูกขนซุกซนมาก กําหินแกรงขึ้น จากนั้นออกแรงตวัด หมายเจาะ
ทะลวงไขวิเศษหาสี ผลปรากฏวากอนหินแตกละเอียด เปลือกไขไมเสียหายแมแตนิด
ยังคงมีสีสันสวยงามพรางพราย
เจาตัวเล็กพูดดวยความตกใจวา “ลูกขน เจาอยาทําอะไรซี้ซั้ว ปกษารายตัวนั้นเรง
ตามมาแลว ขาวาพวกเรารีบทิ้งไขนกใบนี้แลวหนีเอาชีวิตรอดโดยไวเถิด”
เจาลูกขนสีทองตัวเทากําปน ลูกตากลมโตเกลือกกลิ้งไปมา มันอุมไขนกหาสีขึ้นเอียง
หลบเจาตัวเล็ก ความหมายก็คือ มันเปนของขา หามทิ้งขวางเด็ดขาด
ยิ่งไปกวานั้น มันไดแสดงทาทีอันนาตกตะลึง ณ ตอนนั้น กอนหินเจาะทะลวงไมได
มันอาปากกัดดังกรอบแกรบ ใชฟนเล็กแวววาวเต็มปากแทะเปลือกไข
“ไอหยา เจาลูกขนอยากัดสิ!” เจาตัวเล็กรองลั่น นี่เปนถึงไขล้ําคาที่ลึกลับและ
ยิ่งใหญ เขาคิดไตรตรองมาโดยตลอด หากวาเปลือกไขแตกออกจริงๆ ไมแนวา อาจจะ
สามารถเพิ่มเคล็ดวิชาล้ําคาสะทานโลกาอีกชนิดหนึ่งก็เปนได
ในวันนี้ เขาครอบครอง ‘การหยั่งรูดั้งเดิม’ การบําเพ็ญตนไมเปนปญหาอีกตอไป
หากแตเขาขาดเคล็ดวิชาล้ําคาเพียงเทานั้น
ปจจุบัน เคล็ดวิชาล้ําคามีคามหาศาล แมแตชนเผาใหญประชากรนับรอยลานก็มี
เพียงเคล็ดวิชาล้ําคาคุมครองชนเผาหนึ่งวิชาเทานั้น บวกกับพลังจิตไมกี่อยาง หวังอยาก
เสาะหาหลากหลายชนิดนั้นเปนไมไปไมไดอยางแทจริง
“แควก”
ทามกลางแววตาตื่นตะลึงของเจาตัวเล็ก ฟนเล็กขาวดุจหิมะเต็มปากของเจาลูกขน
ทําสําเร็จ กัดเปลือกไขจนแตกราว แสงศักดิ์สิทธิ์หาสีไหลเวียน พลังปราณอันแข็งแกรง
กระเพื่อมขึ้นลงอยางรุนแรงจนนาตกใจ
“เจาลูกขน เจามันตัวกอปญหา!” เจาตัวเล็กทั้งโมโหทั้งเสียดาย จิกหางของมันแลว
หิ้วขึ้น แมจะเปนเชนนี้ มันก็ไมไดคลายแรงกัด ออกแรงกัดเปลือกไขอยูอยางนั้น
พยายามลับคมฟนของมันอยางสุดกําลัง
ทุกอยางสายไปเสียแลว ไขล้ําคาหาสีใบนี้แตกออก เจาตัวเล็กเองก็ครานจะเอยอะไร
ใหมากความ ถึงอยางไรนี่ก็เปนไขที่ลูกขนอุมมาจากใจกลางเทือกเขา มันมีสิทธิ์จัดการ
“แจบๆ”
เจาลูกขนทุมแรงดูดอยางพึงพอใจ ไมใสใจแสงศักดิ์สิทธิ์หาสีทวมทนทองฟาซึ่งอยู
ขางหลังตนแมแตนอย ทองนอยๆ กลมปอง ดูดของเหลวในไขอยางเต็มกําลัง
กลิ่นหอมหวนทะลักออกมา ของเหลวภายในไขล้ําคาหาสีเจิดจาพรางพราย หอม
กรุนแตะจมูก เจาลูกขนกินจนฮึกเหิม รองเจี๊ยกอยางลืมเลือนทุกสิ่ง
“ตูม!”
แสงศักดิ์สิทธิ์ลนหลามแผคลุมทองฟาปกคลุมพื้นดินมายังที่แหงนี้ กอนหินปลิววอน
จวนพัดสัตวประหลาดเขาเดียวลอยลิ่ว หากวาความเร็วของมันไมมากพอ และเปลี่ยน
ทิศทางอยางรวดเร็ว คงถูกกอนหินหนักหมื่นชั่งที่พุงมาจากภูหินพังทลายบริเวณหางไกล
ฟาดเขาอยางจังเปนแน
“มันตามมาแลว!” เจาตัวเล็กหนังหัวชา[1] นี่เปนทายาทอสูรบรรพกาลตัวหนึ่ง มัน
แข็งแกรงเกินไป ไมใชสิ่งที่พวกเขาจะตอกรไดในตอนนี้
นกยูงหาสีมองไมเห็นพวกเขา แตมันรูวาโจรลักไขอยูทิศทางนี้ จึงไลลาตามสังหาร
อยางเดือดดาลอยางที่สุด
โชคดีเพียงหนึ่งเดียวคือ สัตวประหลาดเขาเดียววิ่งเร็วมาก หากเปนสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น
คงถูกไลตามจนทันเพียงพริบตา แมจะเปนเชนนี้ คงถูกไลตามไมชาก็เร็ว
ความเร็วของทายาทอสูรบรรพกาลเหนือกวาสัตวประหลาดเขาเดียวอยูมากโข หาก
ผืนปาไมบดบังวิสัยทัศนการมองเห็นของมัน คงถูกสังหารภายในชวงเวลาเพียงกระพือ
ปก
ลูกขนสีทองเริ่มเปนกังวลขึ้นมาบางแลว มันยัดไขล้ําคาหาสีแกเจาตัวเล็ก จากนั้น
เกาหูเกาแกมหมายสําแดงเคล็ดวิชาล้ําคา หากแตสงเสียงรองอยูน าน ทวาไมไดสําแดง
อิทธิฤทธิ์ใดๆ มันเพียงสงเสียงรองอยางกระวนกระวาย
เจาตัวเล็กเห็นดังนั้นก็ไมมีเวลาสนใจสิ่งใดมากนัก อุมไขนกพรางพรายไว จากนั้นก็
เทลงไปในปาก ดื่มกินอยางไมหมดไมสิ้น เพียงชั่วขณะ รางกายของเขาก็ฉายแสงสีสัน
เจิดจางดงาม
สิ้นเสียงวิ้ง รางกายเปลงประกายเจิดจา อักขระแนนขนัด คาดไมถึงวาเขากําลังจะ
บรรลุเขาสูอีกขั้นของการบําเพ็ญตน
“เฮ ไมไดการณแลว ทานเทพหลิวมีเหตุผลที่ใหขาควบคุมไว 1 เดือน ตอนนี้กลับ
บรรลุเขาสูอีกขั้นเชนนี้ไมคอยดีเลย” เจาตัวเล็กตะลึงงัน
เขานึกถึง ‘การหยั่งรูดั้งเดิม’ ดานในบันทึกมีปศาจปกษาบรรพกาลอยางเชน
นกกระจอกกลืนสวรรค สามารถกลืนกินสิ่งมีชีวิตนับรอยลานภายในคําเดียว ซอนพลัง
ปราณภายในรางกาย จะถูกปลอยออกมาในยามที่ตองการใช
เจาตัวเล็กศึกษารูปสลักนั้นเปนเวลานาน แมจะไมมีวิชาการใชอักขระของ
นกกระจอกกลืนสวรรคโดยเฉพาะ แตกลับถูกเขาหยั่งรูถึงสัจธรรมบางอยาง มันสามารถ
ซุกซอนพลังปราณไวในรางกายของตนได
เสียงวิ้งดังขึ้นพรอมกับตัวเขาที่สวางวาบ อักขระเปลงแสงตัวแลวตัวเลา กลายเปน
เตาไฟศักดิ์สิทธิ์เสมือนจริงขนาดเล็กเตาแลวเตาเลา รับเอาพลังเหลานี้เขาไป
ทุกหนแหงของรางกายเปลงแสง เตาไฟศักดิ์สิทธิ์เสมือนจริงขนาดเล็กมากจํานวน
มากสองแสงสวางในทุกอณูของเลือดเนื้อ กลืนพลังเขาไปสะสมไวขางใน
“ทานเทพหลิวบอกวา หากจะบรรลุอีกขั้นหนึ่งควรมีพนื้ ฐานแข็งแกรง ยิ่งพลังปราณ
เพียงพอมากเทาใด ความสําเร็จก็ยิ่งมีมาก ตอนนี้ถือวาขาเตรียมตัวลวงหนาแลวกัน”
เจาตัวเล็กกลืนกินของเหลวภายในไขนกหาสีอยางตอเนื่องดังอึกๆ แสงวาววาวเจิดจา
ไหลเวียน ลืมเลือนภัยอันตรายไปชั่วขณะ เขาลุมหลงจนเกินไปเสียแลว
“เจี๊ยกๆ...” เจาลูกขนรองไมหยุด แมนักกินตัวนี้จะรูสึกถึงอันตรายที่มาจาก
ดานหลัง แตยังคงไมลืมเรื่องกินเชนดังเดิม มันอยากรับไขล้ําคาพรางพรายใบนั้นมาจาก
เจาตัวเล็กมาดูดกินตอ
ไขทั้งใบมีขนาดเทาลูกโมหิน สองแสงวาวแวว เปลงประกายแจง สวางไปทั่วบริเวณ
ของเหลวภายในมากกวาครึ่งเขาสูทองของเจาตัวเล็ก แตกลับไมเห็นวาทองของเขาปอง
เลย
ภายในรางกายของเขาเปลงแสง อักขระปรากฏขึ้นอยางตอเนื่อง ซึมซับพลังปราณ
มาสกัดของเหลวพวกนี้ใหกลายเปนแสง กักเก็บไวในอักขระแวบวาบเหลานี้
เจาตัวเล็กเรอเสียงดัง เขากินไมไหวแลว ทายาทของจาวนกยูงหาสีอันเปนสายเลือด
ของอสูรบรรพกาล พลังในไขของมันชางอุดมสมบูรณเสียจริง
เจาลูกขนควาหมับไป ยกขึ้นแลวกรอกเขาปากดังอึกๆ ดวงตาโตกลิ้งไปมาแอบ
ชําเลืองมองไปทางดานหลัง นกยูงหาสีตัวนั้นพบพวกเขาเขาจนได มันระเบิดโทสะทันที
กระโจนมาสังหารดวยความเร็วสูงสุด
“เจาขาว พุงไปขางหนา!” เจาตัวเล็กตะโกนบอก
พวกเขาพุงขึ้นไปยังภูเขาสูงตระหงานหนึ่งลูก เบื้องลางมีแมน้ําสายใหญเชี่ยวกราด
ผิวน้ํากวางราว 10 กวาลี้ เกลียวคลื่นกวางใหญ เสียงน้ําดุจสายฟาคําราม นาสะพรึงกลัว
อยางที่สุด
อีกทั้ง แมน้ําสายนี้ดําทมิฬจนนาตกใจ สามารถรับรูไดถึงความเย็นเยือกแมจะอยู
หางไกล บริเวณใกลเคียงไรซึ่งสิ่งมีชีวติ
ทายาทอสูรบรรพกาลแผดรองยาว จิตสังหารพวยพุงขึน้ สูทองฟา อักขระปะทุทั่ว
รางกาย มันบินโฉบลงมาทันที หมายกลืนกินพวกเขาใหสิ้น เมื่อไมนานมานี้ มันเคยกลืน
ผูคนนับลานมาแลว ทาทีดุรายเชนนั้นไมเคยคลายแมกระทั่งวันนี้ กลับยิ่งทวีความนา
กลัวมากยิ่งขึ้น
“เจาขาว กระโดดลงไป!” เจาตัวเล็กรองลั่น ตอนนี้พะวงอะไรมากไมไดแลว ใตภูเขา
ใหญมีแมน้ําดําทมิฬขวางทางอยู มีเพียงกระโจนลงน้ําเทานั้นจึงจะรอดพนจากความวิบัติ
ได
สัตวประหลาดเขาเดียวละลาละลัง ในมุมมองของมัน แมน้ําสายนี้มิไดทําใหวางใจไป
กวาทายาทอสูรบรรพกาลตัวนั้นแตอยางใด ทําใหใจของมันสั่นสะทานเชนเดียวกัน แต
สุดทายมันก็กัดฟนกระโดดลงไป
เจาตัวเล็กแยงชิงไขหาสีมาจากเจาลูกขน โอบคอของสัตวประหลาดเขาเดียวไว
กรอกของเหลวที่เหลือลงในปากของมัน จากนั้นพวกเขาก็ตกลงในแมน้ําดังตูม
เมื่อตกลงไปในน้ํา เลือดของสัตวประหลาดเขาเดียวจวนถูกแชแข็ง หนาวเย็นเกินไป
แมวาน้ําจะไมเยือกแข็ง แตกลับมีอํานาจลึกลับอยางหนึ่ง เย็นยะเยือกจนรางจะแตก
สลาย
เจาตัวเล็กเองก็รูสึกเจ็บปวดไปทั่วรางราวกับเข็มทิ่มแทง หนาวเย็นเขาไปถึงกระดูก
จนเกือบจะเขาไปถึงจิตวิญญาณ ชางทรมานเสียจริง
แมแตเจาลูกขนสีทองเองก็ทาํ ปากขมุบขมิบ อุงมือปดปายไปทั่ว ขาเล็กเตะถีบไป
เรื่อย เห็นไดชัดวามันทุกขทนมากเพียงใด
กลางทองฟา อสูรบรรพกาลตัวนั้นบินโฉบลงมา แตเมื่อเขาประชิดผิวน้ําก็เกิดความ
ลังเล สุดทายมันก็ไมไดกระโดดลงไปในน้ํา แผดรองอยางโกรธแคน แสงศักดิ์สิทธิ์หาสี
กระเพื่อมขึ้นลง สะเทือนภูเขาสูงเสียดฟาลูกนี้พังทลายลง
ใตน้ํา สัตวประหลาดเขาเดียวกระเสือกกระสน มันทรมานเปนอยางมาก เลือดจวน
หยุดการหมุนเวียน โชคดีที่มันดื่มของเหลวในไขนกหาสี ตอนนี้กลายเปนแสงสวาง ทําให
มันไมถูกแชแข็งจนตายโดยทันที
พวกเขาไมไดโผลพนผิวน้ําขึ้นมา อดทนตอความเจ็บปวดเชนนี้ วายน้ําตามกระแส
น้ําแมน้ําดําสนิท อาศัยมันพรางตัวหลบหนีความตาย
หากไมสามารถหายใจก็ไมเปนไร ครั้งที่เจาตัวเล็กถูกปดผนึกอยูในหมอตมยา ใช
เลือดของซวนหนีมาชวยใหบรรลุ เขาเคยถูกตัดขาดจากภายนอก ภายในรางกายมีแสง
ศักดิ์สิทธิ์ไหลเวียนอยู สามารถเสริมสิ่งที่ตองการได
เบื้องบนของแมน้ําใหญ ทายาทอสูรบรรพกาลแผดรอง ขนหางสีสดงดงาม ราวกับมี
เปลวไฟแผดเผา มันกระพือปกสะเทือนภูเขาใหญจนแตกออก มุงหนาไลลาตามเสนทาง
น้ําไหลไป
ทวา แมน้ําดําทมิฬสายนี้ลึกลับมาก ตัดขาดพลังจิตของมัน หมดหนทางตามกลิ่น
ของโจรขโมยไขจนสิ้น
แมจะเปนเชนนี้ มันก็ยังคงตามลาอยู 2 ชั่วยาม วนเวียนอยูบริเวณแมน้ํา คนหาศัตรู
อยางไมลดละ นาเสียดายที่สุดทายก็ผิดหวัง แผดรองอยางโกรธแคนแลวลาจากไป
ผานไปครึ่งคอนวัน ละอองน้ําแตกกระเด็นเซ็นซาน เจาตัวเล็กโผลพรวดขึ้นมา
ทั้งตัวมวงคล้ํา อาปากพนเศษน้ําแข็งออกมาจํานวนมาก
เจาลูกขนหวีดรองเสียงแหลม โผลขึ้นมาจากน้ําแลวกระโดดขึ้นไปบนหัวของเขา
กอดไหลนอยๆ ของเขาไว กระโดดโลดเตน สงเสียงรองไมหยุด มันเองก็หนาวเย็นไมแพ
กัน
เจาตัวเล็กวายขึ้นฝงโดยลากสัตวประหลาดเขาเดียวตัวแข็งทื่อไปดวย สุดทายก็แบก
มันไปจนถึงบนทุงหญา เพียงวางตัวมันลง กอนหินและตนหญาบริเวณใกลเคียงก็
กลายเปนชั้นน้ําแข็ง
มันนาแปลก ภายในน้ําปราศจากชั้นน้ําแข็ง แตเมื่อขึ้นฝงก็เปนเชนนี้ ไอเย็นอยางนี้
ชางทําใหคนตกตะลึงโดยแท
สัตวประหลาดเขาเดียวไดรับบาดเจ็บสาหัส เย็นยะเยือกจนจวนแตกออก หากมิใช
เพราะเจาตัวเล็กใชแสงศักดิ์สิทธิ์ทั่วรางกายบํารุงรางกายของมัน มันคงสิ้นใจกลางแมน้ํา
ไมมีทางรอดชีวิตเปนแนแท
แมจะเปนเชนนี้ สภาพบาดแผลรายแรงเปนอยางมาก หากไรยาล้ําคา มันคงหมด
หนทางผานดานนี้ไปได
“ลูกขน เจามันตัววายราย เจาตัวสรางปญหา เรงหยดเลือดของเจาออกมาหนึ่งหยด
ชวยใหมันฟนขึ้นมา!” เจาตัวเล็กเอยอยางเดือดพลาน
เจาลูกขนสะบัดหยดน้ําบนขนสีทองจนสิ้น เนื้อตัวสั่นระริก ออกแรงเหลือกตาจน
ขาว
ผานไปเพียงชั่วครู เจาตัวเล็กจึงฟนคืนสูสภาพเดิม เมื่อครูเขาเกือบจะแข็งตายเสีย
แลว ตองรูวา หากเทียบรางกายของเขากับลูกอสูรบรรพกาลแลว มีแตแข็งแกรงไมมี
ออนดอย แตเขาเกือบจะแข็งตายอยูในแมน้ําสายนี้เสียแลว
สุดทาย เจาลูกขน ตัวปญหาบวกตัวกอหายนะก็คั้นเลือดสีทองของตนออกมาหยด
หนึ่งอยางไมเต็มใจ ชวยสัตวประหลาดเขาเดียวใหรอดชีวิตมาได
ริมแมน้ําสีดําสนิท กลุมคนหยุดยางเดิน จองมองยอดเขาที่ถูกทายาทอสูรบรรพกาล
ทลาย พวกเขาตกอยูในภวังค ในมือของหญิงชรามีเปลือกไขเล็กๆ หนึ่งชิ้น นั่นเปน
ชิ้นสวนที่เจาลูกขนกัดขาดและโยนทิ้งลงบนพื้นดิน
“นี่เปนสิ่งมีชีวิตชนิดใดกันแน คาดไมถึงวาจะกินไขของทายาทของปกษาเทพเจา
บรรพกาลเยี่ยงนี้ นี่...มันลางผลาญเกินไปแลว ขาอยากจะกลืนมันทั้งเปนใจจะขาด!”
ชายวัยกลางคนโกรธแคนไมสิ้น
อยางไรพวกเขาก็ไมเคยคิดมากอนวา พวกตนไลกวดมาตลอดทาง แตกลับพบกับ
ผลลัพธอันนาตื่นตะลึงเชนนี้
“สิ่งมีชีวิตที่ขโมยไขกระโดดลงไปในแมน้ําดวงจันทร ไมสามารถรูไดเลยวามีรอดได
อยางไร” บุรุษวัยกลางคนถอนหายใจ
แมน้ําสายนี้มีชื่อเสียงเลื่องลือระบือนาม ตามตํานานกลาววา บนสรวงสวรรคมีดวง
จันทร 10 ดวง ทวาในศึกครั้งบรรพกาลครั้งหนึ่ง มันถูกฟาดฟนจนรวงไป 9 ดวง หนึ่งใน
นั้นหลอมละลาย รวงลงมากลางแมน้ํา กลายเปนดินแดนสิ่งมีชีวิตดับสูญ
หลายวันตอมา เจาตัวเล็กกลายเปนคนปาอีกครา จําตองสังหารเหลาสัตวประหลาด
ดุราย เดินทางทามกลางขุนเขา ทั่วทั้งรางเต็มไปดวยคราบเลือด หนังสัตวบนรางกาย
ขาดรุงริ่ง พวกเขาเดินทางเชื่องชา เนื่องจากสัตวประหลาดเขาเดียวยังไมหายเปนปกติ
ทําใหการเดินทางลาชาลง
ผานไปอีกสองวัน ในที่สุด สัตวประหลาดเขาเดียวจวนหายดีแลว ไมเพียงเทานี้ มัน
ไดรับประโยชนอยางใหญหลวง กลืนกินของเหลวสวนหนึ่งของไขหา สี ทั้งยังดื่มเลือดของ
จูเยี่ยนสีทองเขาไปหนึ่งหยด ทําใหมันยิ่งกลายเปนอาชาชั้นยอด อักขระภายในรางกาย
คอยๆ เกาะตัวกันอยางมั่นคง ประทับรองรอยลงบนกระดูก
“เจี๊ยกๆ...” ลูกขนสงเสียงเตือน เกิดปฏิกิริยาตอตานขึ้นในพริบตา อีกทั้งแผงขนสี
ทองของมันก็แปรเปลี่ยน กลายเปนสีขาวเทา สูญเสียความแวววาว ในขณะเดียวกัน
ดวงตาก็ไรความเฉียบแหลม ไมมีชีวิตชีวาอีกตอไป
เจาตัวเล็กประหลาดใจ เจาลูกขนกําลังแสแสรงแกลงทําเปนซื่ออยางคาดไมถึง
กลายเปนเชนนี้ไปเสียแลว ขณะเดียวกัน เขาก็รูสึกไดเชนกัน มีคนราว 10 กวาคนลอม
พวกเขาไวทั่วทั้งสี่ทิศ
ผูนําเปนสตรีสวมชุดขาว เสนผมสลวยปลอยประบา ผิวขาวดุจหิมะ เนียนละเอียด
เกลี้ยงเกลาดั่งหยกไขมันแพะ เปลงประกายแวววาว ใบหนารูปไข แพขนตายาว ดวงตา
สุกใสประหนึ่งลูกแกว ริมฝปากแดงสด ฟนขาวสะอาดเปนระเบียบดั่งไขมุก
จูๆ ก็พบเจอกับกลุมคนเชนนี้ทามกลางดินแดนรกราง แนนอนวาเจาตัวเล็กมองพวก
เขาอยางตะลึงงัน
ทางดานคนพวกนี้กลับยิ่งตะลึงพรึงเพริด มนุษยฝงตรงขามนั้นมองอยางไรก็เปน
เพียงเด็กคนหนึ่งเทานั้น เยาววัยปานนี้ ไยจึงปรากฏตัวทามกลางดินแดนรกรางแตเพียง
ผูเดียว? ไมสามารถจินตนาการไดจริงๆ!
“นองชาย เจาตัวคนเดียวรึ?” สตรีผูนําหัวเราะ เจิดจาเปนอยางมาก ดวงตาโตมี
ชีวิตชีวาราวกับพูดจาได ริมฝปากชุมชื่น ฟนขาวดุจไขมุกเปนประกาย ทําใหเหลาชาย
ชาตรีในเหตุการณตางใจสั่นไหว
“สวัสดีพี่สาว ขามากับทานปูขอรับ” เจาตัวเล็กยิ้มขวยเขิน แมใบหนาจะเต็มไปดวย
คราบสกปรก หนังสัตวบนตัวเปรอะเปอนดวยเลือดสัตว แตดวงตาคูนั้นกลับสวางไสว ยัง
สามารถทําใหคนรูสึกถึงความบริสุทธิ์และซื่อตรงของเขาได
กลุมคนพยักหนา พวกเขาไมเชื่อแมแตนิดวา เด็กคนหนึ่งจะเดินทางทามกลาง
ดินแดนรกรางอันนากลัวนี้เพียงลําพัง นอกเสียจากมีผูใหญตามมาดวย อยูละแวกใกล
เพียง นี่เปนสิ่งเดียวที่สามารถอธิบายใหเขาใจได
..............................
[1] หนังหัวชา สํานวนจีน เปรียบเปรยวา เกรงกลัว ตื่นตระหนกอยางถึงที่สุด
บทที่ 71 สาวงาม
เจาตัวเล็กดวงตาสุกใส เสื้อหนังสัตวขาดกะรุงกะริ่ง เขินอายถึงปานนี้ เห็นไดชัดวา
เขาใสซื่อถึงเพียงนี้ ทําใหคนกลุมนี้เผยสีหนาขบขัน
“นองชายขี้อายรึ นารักเสียจริง” สตรีผูนําหัวเราะเล็กนอย แววตามีชีวิตชีวา แพขน
ตากระพือขึ้นลง ใบหนามีเสนหขาวสะอาดแพรวพราย มีประกายระยิบระยับอันทําให
ผูคนหวั่นไหว
เจาตัวเล็กพยักหนา ยิ้มอยางเซอซาและไมไดเอยอะไรใหมากความ เจาลูกขนขาง
กายกลับยิ่งขลาดเขลา ประหนึ่งสัตวนอยโงเขลา นอนฟุบบนไหลของเขาอยางเฉื่อยชา
“เจาหนู เจาไมธรรมดาเสียจริง มองดูคราบเลือดเปรอะเปอนบนตัวเจา คงจะ
สังหารสัตวประหลาดไปไมนอยเลยใชรึไม?” หญิงชราเอยปาก นัยนตาปรากฏอักขระสี
เงินแวบวาบ มีลําแสงอันทําใหคนสั่นเทา ยากลึกหยั่งถึง
“นั่นสิ ในปาเขาอันตรายเปนอยางมาก พวกมันดุรายมาก ขาทําไดเพียงโตตอบ
ทางออมเทานั้น” เจาตัวเล็กพยักหนาเปนจริงเปนจัง
“นองชาย เจาแยกจากปูเปนเวลาหลายวันแลวใชรึไม มิเชนนั้นเสื้อหนังสัตวจะขาด
รุงริ่งเพียงนี้ไดอยางไร?” หญิงสาวผูนํายิ้มบางๆ สีสันในดวงตาประดุจภาพความฝน
งดงามจนใจสั่นไหว แมแตผูคนรอบกายของนางตางก็มีสีหนาเปลี่ยนไป
“อืม ทานปูพาขามาฝกฝนหาประสบการณ เขาบอกวานี่เปนการเดินทางแหงการ
ขัดเกลาอันเครงครัด ทั้งหมดทั้งมวลตองพึ่งตัวขาเอง ไมมีอันตรายถึงชีวิต เขาไมสนใจ
ไยดีขาหรอก” เจาตัวเล็ก ‘ซื่อตรงมาก’ ราวกับไมสามารปดบังวาจาได
ผูคนฟงแลวตางก็ใจหนาวสะทาน กลาเคลื่อนไหวคนเดียวเชนนี้ เดินทางไกลพรอม
เด็กทามกลางดินแดนรกราง อีกทั้งยังดําเนินการฝกฝนอันโหดเหี้ยมทารุณ มองอยางไรก็
เปนบุคลิกของมือดี
ลูกตาของหญิงชราเปนสีเงิน มีอักขระไหลเวียนอยู ราวกับตะวันจันทรากระเพื่อม
ขึ้นลง มีกลิ่นอายเกรียงไกรเปนอยางมาก นางพยักหนา เหลาพี่นองขุนนางชั้นยอด
บางสวน มักจะมีมือดีที่นากลัวรวมเดินทางเพื่อไปฝกฝน ทวา การเดินทางกลางดินแดน
รกรางที่นากลัวถึงเพียงนี้ ใหเด็กคนหนึ่งสูศึกเหลาสัตวประหลาดดุรายเพียงลําพังก็พบ
เห็นไดนอยมาก
คนวัยกลางคนพยักหนาแลวพูดวา “หลายปมานี้ โลกหลากวางใหญไพศาลนี้ มีเด็ก
เหนือธรรมดาปรากฏขึ้นอยูหลายคน ภายใตสถานการณที่ไรซึ่งผูอาวุโสรวมเดินทาง
ทะลวงผานดินแดนรกรางนับสิบหมื่นลี้ สูศึกสัตวประหลาดดุรายนานาชนิด กลับไปยัง
ตระกูลอยางอยูรอดปลอดภัย”
เห็นไดชัดวา คนเหลานี้ไมธรรมดา แมการแสดงออกของเจาตัวเล็กจะซื่อตรงมาก
แตพวกเขาก็ไมไดเชื่อทั้งหมด แตละคนเฉลียวฉลาดเปนอยางมาก
“นองชาย เจาคงไมใชผูมีพรสวรรคที่ฟาประทานเชนนั้นหรอกกระมัง เดินทางผาน
ดินแดนรกรางนับสิบหมื่นกวาลี้เพียงลําพัง มิตองใหผูใหญคุมครอง” หญิงสาวงดงาม
และฉลาดหลักแหลมเอยพลางหัวเราะ สยายผมดําขลับ เผยใหเห็นใบหูขาวสะอาด
ประหนึ่งภูตผี ทวงทาเพียงชั่วพริบตา แตโดดเดนจนทําใหผูคนหวั่นไหว
“เดินทางนับสิบหมื่นลี้ พวกเขาชางเกงกาจเสียจริง ไมเกรงวาจะพบเจอกันทายาท
อสูรบรรพกาลรึขอรับ?” เจาตัวเล็กเอยพลางเบิกตากวางอยางตกตะลึง
กลุมคนตางมองหนากันอยางไมพูดไมจา ปกใจเชื่อคําพูดของเขา เพราะดวงตาคูนั้น
บริสุทธิ์มาก ปราศจากมลทิน เขาสามารถทําใหคนเกิดความรูสึกดีและเชื่ออยางงายดาย
โดยกําเนิด เด็กที่สามารถเดินทางทามกลางเทือกเขาอานารยะกวาสิบหมื่นลี้ไดนั้นนา
กลัวเพียงใด จะพบพานสักหนึ่งคนอยางงายดายไดอยางไร
ทันใดนั้น หญิงสาววัยกลางคนเคลื่อนไหว ชุดขาวพลิ้วไหว บิดเอวระหง ทั้งตัวราว
กับตนหลิวบอบบางเขาประชิด สะบัดแขนขาวสะอาดหมายโจมตีเจาตัวเล็ก
เจาตัวเล็กตะลึงงัน ไยจึงลงไมลงมืออยางฉับพลัน ทั้งที่เพิ่งพูดคุยกันไปหยกๆ? แต
เขาตอบสนองดวยความเร็ว ในระยะปสองปมานี้ เขาตอสูกับพลังอันนาเกรงขามของ
ธรรมชาติมาโดยตลอด ใชน้ําปาอาบชําระ สูศึกเหลาสัตวประหลาด เพียงเขาเคลื่อนไหว
อุปนิสัยก็เปลี่ยนไปอยางสิ้นเชิง
เจาตัวเล็กแววตาปลอยลําแสงนากลัว ประหนึ่งคบไฟนอยสองอัน รูปรางดุจนก
กระเรียนกางปก วาดวงแหวนสวยงามหนึ่งวง แขนขวายื่นออกไป ควาแขนงามพราง
พรายขางนั้นไวดังปง จากนั้นออกแรงยัง้ หญิงสาวงดงามจนโงนเงน ลําตัวนั่งยอลงไป
ไมมีผูใดคาดคิดวา เพียงเด็กคนหนึ่งตวัดแขนก็มีพลังวิเศษเยยโลกาเชนนี้ ยังเยาววัย
ถึงเพียงนี้ ดวงตากะพริบปริบๆ เพียงเคลื่อนไหว กลับฉับไวดุจสายฟาฟาด!
ทุกอยางเกิดขึ้นเร็วมาก เจาตัวเล็กหันขวับอยางรวดเร็ว เขาประชิดขางหลังของ
หญิงสาวที่ลมพับลงไป แขนซายรัดคอขาวดุจหยกของนางไวแนน ปลายนิ้วขวาสวางวาบ
อักขระปรากฏแวบวับ ยันตรงหนาอกของนางไวอยางพรอมทะลวงทุกเมื่อ
ทุกสิ่งเกิดขึ้นภายในชวงพริบตาเดียว เกิดขึ้นอยางตอเนื่องไมขาดตอน รวดเร็วดุจ
สายฟาแลบ ทําใหคนกลุมนี้ตะลึงพรึงเพริด หญิงสาวชุดขาวมีฐานะสูงสงถึงเพียงไหน นึก
ไมถึงเลยวาจะเสียเปรียบครั้งใหญในเงื้อมมือของเด็กคนหนึ่ง
“พี่สาว ไยทานจึงทํารายขา?” เจาตัวเล็กน้ําเสียงออนโยน และทาทีไมเขาใจ แต
ดวงตากลับสวางไสว มิไดมองหญิงสาวชุดขาวแตอยางใด กลับจองมองไปยังหญิงชรา
และพวกพอง
ชุดหนังสัตวของเขาขาดกระรุงกระริ่ง เต็มไปดวยเลือดสัตวสีแดงคล้ํา แมแตมือเล็กก็
เปรอะเปอนคราบเลือดแหงกรัง กดบนหนาอกขาวกระจางดุจหิมะ พลันทิ้งรอยมือเล็ก
สกปรกไวหลายรอย
และแมแตบนลําคอขาวสะอาดดุจหงสฟาก็ไมไดรับการยกเวน ทิ้งรอยนิ้วมือดําไว
หลายรอย เกิดการเปรียบเทียบอยางชัดเจนระหวางผิวเนียนละเอียดขาวดุจหิมะ
ไมไกลนัก ชายวันรุนไมกี่คนแปรเปลี่ยนสีหนา และหญิงชราผูนั้นกลับพูดดวยทาที
ออนโยนวา “ลูกเอย พวกเรามิไดมีเจตนารายเลยแมแตนอย”
“ซิ่ว!”
ผิวของหญิงสาวชุดขาวเจิดจาพรางพรายปรากฏอักขระอยางลนหลาม ประหนึ่ง
ตําราสวรรคหนึ่งเลม ทิ้งรองรอยไวกลางอากาศอยางเนืองแนน ทั้งตัวถูกหอหุมดวยแสง
โชติชวง ไหลออกไปราวกับมัจฉา หลุดพนจากการควบคุมของเจาตัวเล็ก
เจาตัวเล็กตะลึงงัน หญิงสาวผูนี้ไมธรรมดาจริงๆ ลื่นไหลจับตัวไมอยู ผิวหนังเนียน
ละเอียดขาวดุจหิมะ ปราดเปรียวดั่งปลาในสายน้ํา จับไมอยู เพียงชั่วครูวายออกไปจาก
มือ
“นองชาย เจาไมธรรมดาเลย” หญิงสาวกําลังหัวเราะ นางตกตะลึงเปนอยางมาก
คาดไมถึงวาจะถูกเด็กจับกุมตัวไวระยะสั้นๆ หากเรื่องนี้แพรออกไป หากวากันตามฐานะ
ของนางแลวนั้น จะตองกอใหเกิดความครึกโครมเปนแนแท
ชั่วเวลาที่หญิงสาวงามหลุดรอดออกไป เจาตัวเล็กก็ผอนคลายลง ไมไดตามไปโจมตี
แตอยางใด มองดูนางอยางไรเดียงสาแลวกลาววา “พี่สาว นี่ทานทําอะไรหรือ?”
“ขาเพียงตองการทดสอบพละกําลังของเจา ชางนาตื่นตะลึงเสียจริง เยาววัยถึงเพียง
นี้ ขารูสึกถึงศักยภาพเต็มเปยมดุจมหาสมุทร” หญิงสาวชุดขาวพยักหนา
“ออ เปนอยางนี้นี่เอง” เจาตัวเล็กเผยใบหนายิ้มแยม ยิ้มอยางละอายใจแลวพูดวา
“พี่สาว ขาขอโทษ”
กลุมคนตางมองไปยังดานบนหนาอกของหญิงงาม ผิวหนังพรางพรายเปลือยเปลาไร
การปดคลุมมีรอยนิ้วมือเดนชัด อีกทั้งลําคอขาวก็เปนเชนเดียวกัน
หญิงงามยิ้ม ไมแมแตอึดอัดวางตัวไมถูกหรือโกรธเคือง มือเรียวสะบัดเบาๆ แสง
สีสันงดงามไหลทะลัก รองรอยทั้งหมดก็พลันมลายหายไป
“ขาชื่อเซี่ยโยวอวี่ เจาชื่ออะไรรึนองชาย?”
“ขาชื่อฮาวเทียน” เจาตัวเล็กตอบอยางคมชัด
“ชื่อนี้...” ฝูงชนตางตะลึงงัน
“ทรงพลัง เปนชื่อที่ดี!” เซี่ยโยวอวี่ยิ้มหวาน
หญิงชราก็เผยรอยยิ้มมีเมตตาพลางเอยวา “เด็กคนนี้ไมธรรมดาอยางแทจริง ไมวา
อยางไรก็ตาม แมวาโยวอวี่ไมระวังตัว ทําใหเจาไดเปรียบเพียงชั่วพริบตา แตเจาก็ยังนา
ตื่นตะลึง”
เซี่ยโยวอวี่ใชมือสยายเสนผมดําขลับ ใบหนางดงามขาวกระจางใส ใบหูแพรวพราว
ดุจภูตผี ดวงตามีชีวิตชีวา มองดูโดดเดนทั้งทําใหผูคนไหวหวั่น ฝามือของนางสองสวาง
วาบ ปรากฏเครื่องมือหนึ่งชิน้ จะวาเหมือนทองก็ไมใช จะวาเหมือนหินก็ไมเชิง แกะสลัก
ลวดลายซับซอนเปนเสนๆ
“มันคืออะไรหรือขอรับ?” เจาตัวเล็กเอยถามอยางแปลกใจ
เซี่ยโยวอวี่ยื่นออกมาขางหนา วางลงบนมือของเขาแลวบอกวา “นองชาย เจาเก็บไว
ใหดี เมื่อถึงเวลาเจาก็สงมอบใหกับผูอาวุโสของเจา ใหพวกเขานําพาเจาไปยัง ‘ศาลาปด
ฟา’”
“ศาลาปดฟารึ?” เสี่ยวสือฮาวงุนงง เขาไมรูวามันเปนสถานที่แบบใดกันแน
“เจาคงเคยไดยินสํานักชวงชิงความเปนใหญสินะ เจตนารมณคือชวงชิงอํานาจสูงสุด
สํานักนี้จะรับอัจฉริยะบนโลกหลากวางใหญไพศาลโดยเฉพาะ ชี้แนะการบําเพ็ญตนแก
พวกเขา และศาลาปดฟา หรือ ตําหนักเทพเจาเองก็เปนเชนเดียวกัน”
เจาตัวเล็กครุนคิด แตกลับไมไดเอยถามอะไรใหมากความ กลาวขอบคุณดวยความ
ตั้งใจจริง
ผูคนรอบขางตางตกตะลึง ไมคาดคิดวาเซี่ยโยวอวี่จะมอบเครื่องรางชิ้นนี้แกเด็กดุจ
คนปาคนนี้ นี่ไมใชสิ่งของธรรมดาทั่วไป
สุดทาย เจาตัวเล็กกลาวลาตอพวกเขา โดยกลาววาจะไปฝกฝนตนตอไป กระโดดขึ้น
ครอมสัตวประหลาดเขาเดียว พุงทะลวงเทือกเขาออกไป ในขณะนี้เอง เจาลูกขนเซื่องซึม
ดวงตาไรชีวิตชีวา ราวกับสัตวปาตัวนอยทั่วไป
“โยวอวี่ เจาทุมกําลังออกเดินทางมายังดินแดนตะวันตก ในมือของเจามีเครื่องราง
เพียง 8 ชิ้นเทานั้น และนี่ก็เปนชิ้นสุดทายแลว เจาจะใหเด็กคนนี้ไปเชนนี้หรือ?” คนวัย
กลางคนผูหนึ่งเอยถาม
วัยรุนคนหนึ่งเอยพลางถอนหายใจวา “หากถือครองเครื่องรางชิ้นนี้เขาสูศาลาปดฟา
หมายถึงฐานันดรอันสูงสง จะไดรับการพิจารณากอนทั้งยาล้ําคาและสูตรลับของอักขระ
เครื่องรางชิ้นนี้มีมูลคามหาศาล!”
“นั่นสิโยวอวี่ ชนเผาสายฝนแหงประเทศหินผาตองการเครื่องรางชิ้นสุดทายในมือ
ของเจา เพื่อปูทางแกลูกหลานผูยิ่งใหญของพวกเขาคนหนึ่ง หมายเขาสูศาลาปดฟา เจา
จะไมไตรตรองดูอีกสักหนอยหรือ?” ชายวัยกลางคนกลาว
“ตามฐานันดรของพวกเขาแลว คิดวาลูกหลานก็คงไมออนดอยมากนัก อยากผาน
การทดสอบเพื่อเขาสูศาลาปดฟาคงไมเปนปญหา ทั้งยาล้ําคาอันสามารถไดมาเพราะ
เครื่องราง ชนเผาของพวกเขายังขาดเหลืออยางนั้นรึ?” เซี่ยโยวอวีไ่ มเห็นดวย
“สิ่งที่ตระกูลเกาแกเชนนี้สนใจมีเพียงเกียรติยศเทานั้น” หญิงชรากลาว
“อยางนั้นพวกเขาก็สามารถรองขอจากมือของผูอื่นได ขาออกเดินทางไปยังดินแดน
ตะวันตก สงมอบเครื่องรางจนหมดสิ้นแลว” เซี่ยโยวอวี่หวั เราะ
ชายวัยกลางคนเอยเตือนวา “ชนเผาสายฝนแข็งแกรงมาก จะลวงเกินไมได
โดยเฉพาะกาลเวลาในภายภาคหนา พวกเขาถูกลิขิตไวใหรุงโรจนอยางที่สุด เพราะพวก
เขาเปนลุงฝายแมของเด็กแหงประเทศหินผานั่น”
หญิงชราไดฟงดังนั้นก็เอยอยางคิ้วขมวดวา “เอาอยางนี้ ขาจะวิงวอนรองขอ
เครื่องรางอีกหนึ่งชิ้น บางตระกูลขุนนางนั้นลวงเกินไมไดแมแตนิด”
“อยางไรก็ตาม เด็กคนเมื่อครูไมธรรมดาเสียจริง ขาคิดวาหากขาไมชิงลงมือ ถูกคน
ของสํานักชวงชิงความเปนใหญพบเขา จะตองแยงชิงเอาไปเปนแน หากเปนเชนนั้น
ศาลาปดฟาของเราจะตองเสียใจภายหลัง” หญิงชุดขาวกลาว พวกเขาเสาะหาไขวิเศษ
หาสีของทายาทอสูรบรรพกาล เพียงเพราะมันเปนทางผาน มิใชจุดประสงคสุดทายของ
การเดินทางนี้
“เขาแข็งแกรงมากรึ?” คนขางกายเอยถาม
“ศักยภาพนาตื่นตะลึงเปนอยางมาก แขนของเขามีแรงกวาหลายหมื่นชั่ง” เซี่ยโย
วอวี่เก็บรอยยิ้มที่ทําใหผูคนหวั่นไหวแลวพูดอยางสุขุม
“เด็กถึงเพียงนี้ เพียงรางกายก็มีพลังมากปานนี้เชียวรึ?” ผูคนรอบขางตางไมอยาก
เชื่อ หากพวกเขาก็เขาใจไดทันทีวา ไยหญิงสาวชุดขาวจึงถูกลากจนโซซัดโซเซจวนจะลม
พับลงไป
“โอ ขาใชสายตาประมาณคาแลว หากวาเจาเด็กใสซื่อคนนั้นมิไดปกปดแลวละก็
แขนทั้งสองขางรวมกันแลวมีแรงอยางนอยแปดเกาหมื่นชั่ง เพียงพละกําลังของรางกาย
เทานั้น!” หญิงชราพูดเสริมอยางเครงขรึม
“อะไรนะ?!” คนกลุมนี้รองออกมาดวยความตกใจ
“เปนไปไมไดหรอกกระมัง แขนสองขางมีแรงถึงแปดเกาหมื่นชั่ง นี่สามารถทัดเทียม
กับดานสูงสุดที่อสูรบรรพกาลใชทดสอดลูกของพวกมันไดเลยนะ!”
“เขาจะตองเปนอัจฉริยะสะทานโลกาคนหนึ่งเปนแนแท คุมคาตอการชวงชิงและ
อบรมบมเพาะ!”
บทที่ 72 เดินทางออกจากดินแดนรกราง
เพียงแขนขางเดียวสะบัดก็มีแรงถึงสี่หา หมื่นชั่ง เมื่อรวมกําลังสองแขนเขาดวยกัน
เปนพละกําลังถึงแปดเกาหมื่นชั่ง นี่เปนเพียงการคาดเดาของพวกเขาเทานั้น มิไดเขาใจ
เสนสนกลในของเจาตัวเล็กอยางแทจริง แตถึงแมวาจะเปนเชนนี้ พวกเขาก็รูสึกคอนขาง
ตกตะลึง ทําใหคนกลุมนี้ทอดถอนหายใจอารามตะลึงและเสียดายอยางไมขาดสาย
“เอะ...” หญิงชราขมวดคิ้ว รูสึกราวกับมีอะไรตกหลน นัยนตาปรากฏอักขระแวบ
วับ ประหนึ่งจักรวาลกําลังดับสูญ
ทันใดนั้น นางเงยหนาขึ้น ดวงตาปลอยลําแสงนากลัวออกมาสองสายแลวกลาววา
“พวกเรามองพลาดไป!”
“พลาดอยางไรรึขอรับ?” ชายหนุมขางกายคนหนึ่งเอยถาม
หญิงชราเอาเปลือกไขออกมาจากหนาอก เนียนละเอียดดุจหยกเม็ดงาม เปน
ประกายแวววาว ดานบนมีลวดลายหาสี แสงสวยงามเปนจุดๆ มันคือเปลือกของไขที่
แตกละเอียดของทายาทอสูรบรรพกาลตัวนั้น
“เมื่อครูขาเพิกเฉยมิไดสนใจ บัดนี้จึงไดสติ บนรางกายของเด็กคนนั้นและสัตวปาบน
หัวไหลของเขามีกลิ่นอายที่เคยรูจักมักคุนอยู ตอนแรกขานึกวาเพราะพวกเขาเปอนเลือด
สัตวจํานวนมาก จึงเปนกลิ่นคาวของเหลาสัตวประหลาดดุรายทั้งหลาย ตอนนี้ขา
ใครครวญคิด หลังจาไตรตรองอยางละเอียดแลว นาจะเปนกลิ่นอายของไขทที่ ายาท
ปกษาเทพเจาบรรพกาลฟูมฟกใบนั้น”
เมื่อผูคนไดฟงตางก็ตะลึงพรึงเพริด
“ไมหรอกกระมัง เด็กคนนั้นกินไขของทายาทเทพเจาบรรพกาลอยางนั้นรึ? ชางนา
ตกตะลึงเสียจริง!” ชายหนุมคนหนึ่งอาปากกวางจนสามารถกลืนกําปนลงไปครึ่งหนึ่งได
“เจาหนูที่ไมมีอันตรายตอคน แตกลับหาญกลาถึงเพียงนี้ นําไขออกมาจากรังของ
ทายาทอสูรบรรกาลอยางอาจหาญรึ?”
กลุมคนไมอยากจะเชื่อ เมื่อรับรูถึงผลลัพธไมมีผูใดไมนิ่งงัน
หากสถานการณเชนนี้แพรงพรายออกไป มีไมกี่คนที่จะปกใจเชื่อ เขาเปนเพียงเด็ก
คนหนึ่งเทานั้น แตกลับอาจหาญเขาสูรังของทายาทอสูรบรรพกาล ทําเรื่องใหญโตอันนา
ตื่นตะลึงถึงเพียงนี้
พวกเขารูสึกอกสั่นขวัญแขวน แตในขณะเดียวกันก็รูสึกเสียดายอยางเปรียบไมได
นั่นเปนถึงไขของทายาทปกษาเทพเจา เพียงเปลือกไขแตกออกและเลี้ยงดูฟูมฟก จะตอง
สืบสาวราวเรื่องถึงความลับบางสวนของเคล็ดวิชาล้ําคาแหงเทพเจาบรรพกาลไดอยาง
แนนอน
ไขล้ําคาถึงเพียงนี้หนึ่งใบ กลับถูกเด็กคนนั้นและสัตวปานั่นกินเขาไปอยางงายดาย
เชนนี้!
นี่จะตองสูญเสียเทาใดกัน ตองเปนเด็กจากตระกูลเชนไหนกันจึงจะทําเรื่องพรรคนี้
ได?
“ไมสิ สัตวปาตัวนอยตัวนั้นก็กินไขนกหาสีเขาไปเชนกัน หรือวามันเองก็ไมธรรมดา
อยางนั้นรึ?” ชายวัยกลางคนในกลุมเอยถาม
เมื่อคนอื่นไดฟงดังนั้นก็สะดุงตกใจ สัตวปาธรรมดาตัวหนึ่งจะรับพลังปราณของ
ทายาทอสูรบรรพกาลไดอยางไร มันจะตองถูกกระทบกระเทือนจนสิ้นใจเปนแน
“สัตวนอยขนาดเทากําปน... ขาเห็นรางๆ วาฝาเทาของมันเปนสีแดง” อีกคนหนึ่ง
กลาว
หญิงชราสีหนาเปลี่ยน เสมือนวานึกอะไรขึ้นได นางพูดวา “หรือวามันจะเปนจูเยี่ยน
ในตํานาน?”
ตามตํานานกลาววา เมื่อสัตวประหลาดเชนนี้ปรากฏตัวขึ้น โลกหลาจะเกิดพิบัติศึก
สงคราม ทุกหนแหงสูรบกัน เปนนิมิตหมายแหงหายนะครั้งใหญ
ผูคนตางอึ้งงัน คาดไมถึงวาจะพบพานกับเด็กนอยแปลกประหลาดเชนนี้ ทําใหพวก
เขาตางมองพลาดไป
หญิงสาวชุดขาวซึ่งเปนผูนําหัวเราะออกมาอยางทนไมได ผมยาวดําขลับพลิ้วไหว
ตามสายลม ผิวขาวพรางพราย ประกายแสงแวววาวอันทําใหคนลุมหลง ลูกตาเกลือก
กลิ้งไปมา กลาววา “เด็กคนนี้ไมธรรมดา ใหคิดเสียวาเปนบุพเพสันนิวาสอันดีงามแลว
กัน”
“หวังวาเขาจะสามารถเขาสูศาลาปดฟา โปรดอยาถูกผูอื่นชวงชิงไปเลย!”
กลางผืนปาหางไกลออกไป เจาตัวเล็กควบมาวิ่งหอ สัตวประหลาดเขาเดียวแปลง
รางเปนแสงสีเงินทะลวงภูขามผานยอดเขา สําแดงความเร็วจนถึงขีดสุด ปาไมสองขาง
ทางถอยรนไปดานหลังดังซิ่ว พวกเขาออกไปไกลนับ 100 ลี้อยางรวดเร็ว
เจาลูกขนตัวเทากําปนฟนคืนชีพอยางสิ้นเชิง แผงขนสีเทาระยิบระยับทั้งตัว
กลายเปนสีทองอีกครั้ง ดวงตาหมนแสงไรชีวิตชีวาเปนประกายในพริบตา ฉลาด
ปราดเปรื่อง นารักซุกซน กระโดดโลดเตนบนไหลของเสี่ยวสือฮาว
เจาตัวเล็กจับหางของมันไวแลวหิ้วขึ้น เขาพูดวา “หามเจาวิ่งเพนพาน และหามกอ
ปญหาอีกเปนอันขาด อนุญาตใหอยูขางกายขาเทานั้น!”
เขาออกจากหมูบานหินผาเปนเวลากวา 21 วันแลว ผานหนทางอันยาวไกลมากวา
ครึ่ง ระยะทางหางจากบานเกิดแหงที่ 2 ของตระกูลหินผาไมถึงสิบหมื่นลี้ อีกไมกี่วันก็ถึง
ที่หมายแลว
หลายวันตอมา เจาตัวเล็กฟนฝาอุปสรรคขวากหนาม มุงหนาเดินทางในดินแดนรก
ราง ประสบพบเจอกับสัตวประหลาดฝูงแลวฝูงเลา ผานการสูศึกนับครั้งไมถวน ในที่สุดก็
เขาประชิดชายแดนประเทศหินผา
เด็กคนหนึ่ง ทะลวงผานเทือกเขากวางไกลสุดลูกหูลูกตาภายในหนึ่งเดือน ตอสูกับ
เหลาสัตวประหลาดดุรายจํานวนมาก เดินทางกวาสามแสนลี้ นี่จะตองเปนวีรกรรม
ยิ่งใหญครั้งหนึ่งอยางแนนอน หากแพรออกไป จะตองกอเกิดคลื่นลูกใหญเปนแน
สะเทือนไปทั่ววงศตระกูลเกาแกอันมีความเปนมายาวนาน
ยามอสูรบรรพกาลผูยิ่งใหญเฉกเชนปอาน[1] และปเซี๊ยะฝกตนก็เปนเชนนี้ การ
ทดสอบภยันตรายขั้นนี้ฟงดูงายดาย หากจะกระทําอยางแทจริง จะตองเปนการตายเกา
รอดหนึ่ง[2]เปนแน
เด็กทั่วไปอยาวาแตเดินทางสามแสนลี้เพียงลําพัง แคเพียง 300 ลี้หรือ 3000 ลี้ก็คง
จะประสบกับภัยอันตราย กลายเปนอาหารของสัตวราย
ดินแดนตะวันมีสัตวประหลาดดุรายมากมายเหลือเกิน ปาเกาแกหนาทึบทุกหนแหง
ไรกลิ่นอายมนุษย เต็มไปดวยเหลาสัตวประหลาดโหดเหี้ยม เปนดินแดนดึกดําบรรพที่นา
กลัวที่สุดแหงหนึ่ง
อยาวาแตเด็กเลย แมแตผูกลากลุมหนึ่งรวมเดินทางไปดวยกัน ยังยากที่จะขามผาน
ไปได กลายเปนอาหารของทายาทอสูรที่อาจจะโผลพรวดออกมาไดตลอดเวลา ไมเหลือ
แมแตกระดูก
เจาตัวเล็กมีประสาทสัมผัสเฉียบแหลม หลบหลีกอันตรายอันนากลัวมาไดตลอดทาง
แตก็พบเจอกับการทดสอบถึงชีวิตหลายครั้งหลายครา ระหวางทางก็ไดรับบาดเจ็บสาหัส
ทวาในที่สุดเขาก็ผานมันมาได
เขาเพิ่งจะ 7 ขวบกวา แตกลับสรางวีรกรรมครั้งนี้ไดอยางเสร็จสมบูรณ!
หากเรื่องนี้ไดยินถึงหูผูอื่นเขา จะตองกลายเปนขาวคราวครึกโครมเปนแน สะเทือน
ไปทั่วสี่ทิศ กระจายไปทั่วทุกสารทิศ และหากผูมีอิทธิพลอยางสํานักชวงชิงความเปน
ใหญรูเขา คงเรงสั่งการใหมือดีออกเสาะหา เพื่อใหเขาเปนหนึ่งในสมาชิกของสํานักอยาง
แนนอน
มองเห็นหมูบานในที่สุด เจาตัวเล็กขี่สัตวประหลาดเขาเดียว หอเหยียดออกจาก
ดินแดนรกราง
เมื่อเขาเอยถามทิศทางจากผูคนแลวก็อึ้งงันอยางชวยไมได เสนทางคราวๆ นั้นไมมี
ปญหา แตกลับยายออกไปไกลกวา 20000 ลี้
“โห ทั้งที่ขาเดินทางตามเสนทางที่ทานเทพหลิวกลาว ผลปรากฏวาคลาดเคลื่อน
อาจเปนเพราะตกลงไปในแมน้ําสีดําจึงทําใหหลงทางไปสักระยะทางหนึ่ง” เจาตัวเล็กเกา
หัวยิกๆ จากนั้นออกเดินทางอีกครั้ง
เมื่อเดินทางออกจากดินแดนรกรางอันกวางใหญแลว พบเจอเหลาสัตวประหลาดดุ
รายนอยลง หากเทียบกันแลวถือวามีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น สองวันตอมา เขา
เดินทางมาถึงเมืองสําคัญในเขตแดนของประเทศหินผา
ประเทศเกาแกกวางไกล ปกครองดินแดนกวารอยลานลี้ เพียงดินแดนขุนนางชั้นสูง
ที่ยิ่งใหญก็มีประชากรนับรอยลาน กระทั่งพันกวาลานคน อาณาเขตของมันกวางใหญ
อยางไมมที ี่สิ้นสุด
อาณาเขตกวางใหญเพียงนี้ แนนอนวายากตอการปกครองใหทั่วถึง ทําไดเพียงสราง
มหานครใจกลางอาณาจักรเพื่อสยบสรรพสิ่ง หากเกิดเหตุจลาจลในเขตแดน มือดีแหง
มหานครจะเคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว ปราบปรามความโกลาหลดุจสายฟาฟาด
แทจริงแลว ประเทศเกาแกรุงโรจนชัชวาล ไรยุคสมัยที่จําตองปราบปรามความ
จลาจลวุนวายมาเนิ่นนาน โดยเฉพาะในระยะไมกี่รอยปมานี้ จักรพรรดิมีอักขระเหนือ
ธรรมชาติ พลังอันนาเกรงขามเยยปฐพี ประเทศเจริญรุงเรืองมากยิ่งขึ้น ไมมีผูใดกลาคิด
คดทรยศหักหลัง
มีเพียงอาณาเขตชายแดนที่ไมมั่นคงมากนัก เนื่องจากมีชนเผาอื่นโจมตีประตูเมือง
เขาลุกล้ําเขตแดนอยางไมขาดสาย จี้ปลนชาวบาน กลืนกินสิ่งมีชีวิต สําหรับประเทศ
เกาแกเกรียงไกรนีแ้ ลว ยุทธการเชนนี้ถือเปนเล็กนอย
เมืองทะลวงเมฆ สามารถเรียกมันวา นคร เพราะมีประชากรราว 80000 คน ตั้งอยู
บนตําแหนงภูมิศาสตรสําคัญ เปนเมืองสําคัญทางดานยุทธศาสตรของทิศตะวันตก ที่นี่
เปนดานอันตรายภายใตศูนยกลางอํานาจแหงมหานครของดินแดนแหงนี้
ในระยะรอยปมานี้ มีผูกลาของชนเผาอื่นรุกรานอยูบอยครั้ง แตเพียงเดินทางผาน
บริเวณนี้ บุคคลที่ตองการฝาทะลวงเขาไปเปนการใหญ ไมเคยประสบผลสําเร็จแมแต
นอย
ระหวางทาง เจาตัวเล็กพบเจอผูคนอยางตอเนื่อง สวนมากเปนพอคาแมขาย เขาไป
ยังปาดึกดําบรรพเพื่อรับซื้อหนังสัตว โอสถทิพยเปนตน จากชนเผาที่อยูคอนขางหางไกล
การเดินทางไปกลับเชนนี้อันตรายมาก หากแตกําไรมากพอดูทีเดียว
“วู รีบกลับไปเถิด ไดยินมาวาระยะนี้ไมคอยสงบมากนัก เผาไมกลางดินแดนรกราง
ปรารถนาอยากสงกองทัพเขามาโดยตลอด อีกทั้งตามที่เลาขานกัน มีทายาทอสูรบรรพ
กาลออกมาใจกลางเทือกเขาตัวหนึ่ง เพิ่งหยุดพักที่นี่ อยางไรก็คงตองมีการประกาศ
ศักดาหมายขมขวัญเปนแน มันจะตองเขามาอาละวาดในเมืองทะลวงเมฆสักครา
แนนอน”
เจาตัวเล็กฟงอยางตั้งอกตั้งใจ หนึ่งคนหนึ่งมาศึกเชนนี้ยอมสะดุดตา แตวาระหวาง
ทางกลับไมมีผูใดเลนแง เด็กรางกายชุมโชกไปดวยเลือดคนหนึ่ง อาจหาญเดินทางเพียง
ลําพังจะตองไมธรรมดาเปนแนแท ในความเปนจริง คนเหลานี้เดินทางเขาปาดึกดําบรรพ
เปนเนืองนิตย ผานเรื่องราวมาอยางโชกโชน คิดวาคงเปนพวกพองของวงศตระกูลใหญ
ออกมาฝกฝนหาประสบการณ
“ไอหยา ไมไดการณแลว เหมือนมีกระแสสัตวระลอกนอย คงมิใชเพราะทายาทอสูร
ปกษาตัวนั้นเคลื่อนไหว สําแดงเดช ณ ที่แหงนี้กระมัง?”
“นาจะไมใชอยางนั้น คงจะเปนจาวแหงสัตวธรรมดาทั่วไป ฝูงสัตวไมไดมีมากมาย
ปานนั้น พวกเรารีบหนีเร็วเขา!”
พวกเขาเดินทางมาโดยตลอด กระทั่งสามารถมองเห็นเมืองทะลวงเมฆจากที่ไกลๆ
กําแพงเมืองใหญโตรโหฐาน ดุจดั่งทิวเขากั้นขวางอยูดานหนา กอสรางจากหินใหญที่มชี ื่อ
วา ‘เพชร’ ดําสนิทไปทั่ว กระจายแสงวาวนาสะพรึงกลัวประหนึ่งเหล็กกลา
เบื้องหนามหานครมีฝูงสัตวประหลาดขมุกขมัว พวกมันมิไดออมผานมหานครไป
เห็นไดชัดวาจะประกาศศักดา ณ ตรงนี้ เสียงคํารามสะเทือนทองฟา พวกมันจะรุกราน
เมืองใหญ ทําใหผูคนตัวสั่นระริก
“รีบหลบซอนโดยไว หวังวาใตเทาเทพารักษจะเขนฆาฝูงสัตวประหลาดพวกนี้ใหสิ้น
ซาก!”
คนเหลานี้วิ่งหนีกันจาละหวั่น มุงหนาไปยังที่หางไกล ไมกลาเขาเมืองในเวลานี้แต
อยางใด ดวยเกรงวาจะถูกฝูงสัตวจดจอง และประสบกับความวิบัติอันโหดรายทารุณ
กลางมหานคร ละแวกใกลเคียงประตูเมืองมีภูเขาอยูลูกหนึ่ง ดานบนมีพืชเจริญงอก
งามหนึ่งตน สูงราว 4-5 จั้ง มองเห็นจากนอกเมืองไดอยางชัดเจน มีสีเขียวเขมทั่วทั้งตน
ใบไมใหญ รูปรางคลายใบปาลม
นี่เปนเทพารักษแหงเมืองทะลวงเมฆ หนึ่งตนไมที่แมแตชาวบานเองก็ไมสามารถ
เรียกชื่อไดอยางถูกตอง ไดรับการขนานนามวา ใตเทาเทพารักษ หรือเรียกวา ใตเทา
ทะลวงเมฆ
มันกระจายกลิ่นหอมเปนระลอก บนใบไมใหญสีเขียวเขมมีดอกไมวิเศษ 3 ดอก แต
ละดอกใหญประมาณแทนหินโม กลีบดอกงดงาม สองแสงสวางพรางพราย ดอกหนึ่ง
หอมลอมดวยแสงสีแดง ดอกหนึ่งขาวสะอาดดุจหินหยก อีกดอกหนึ่งมีไอมวงขมุกขมัว
เมื่อฝูงสัตวมองเห็นผูคนนอกเมือง พลันแยกออกมาหนึ่งกลุมแลวมุงหนามาทางนี้
เปลงเสียงคํารามและมาถึงอยางรวดเร็ว
“ใตเทาเทพารักษชวยขาดวย!” คนกลุมนี้รองลั่น
เจาตัวเล็กเตรียมพรอมสูศึก ขณะนั้นเอง แสงสีแดงสวางวาบ ดอกไมสีแดง หนึ่งใน
ดอกไมของพืชบนภูที่อยูกลางมหานครนั่นผลิบาน กลีบดอกไมบานออกปลอยคลื่นนา
กลัวออกมา
“ชริ้ง”
แสงสีแดงพวยพุง จากนั้นหมุนควาง มุงหนาฟาดฟนมาทางนี้ เพียงครูฝูงสัตว
ประหลาดนับ 10 ตัวก็จลาจลวุนวาย คํารามอยางไมขาดสาย ประกายเลือดโผลออกมา
อยางตอเนื่อง ฝูงสัตวไดรับบาดเจ็บสาหัส
เจาตัวเล็กเผยแววตาประหลาดใจ คนพบดวยความตะลึงงันวา แสงสีแดงที่วานี้เปน
ดาบบินหนึ่งเลม แดงฉานทั้งเลม พรางพรายดุจหยกแดง
“ในดอกไมมีดาบบินอยางนั้นรึ?”
เพียงครู ฝูงสัตวประหลาดดุรายนับ 10 ตัวก็ลมกองลงไปทามกลางแองเลือด บางก็
ถูกฟนจนหัวขาด บางก็ฟนจนรางกายขาดเปนทอน โหดรายทารุณอยางแสนสาหัส!
“รายกาจกวาเทพหมาปาแหงหมูบานหมาปาเสียอีก ทานอาอินทรีเกล็ดเขียวที่ยัง
ไมไดกินเนื้อซวนหนีในอดีต ก็คงไมสามารถทัดเทียมได” เจาตัวเล็กเอยเสียงเบา แสงสี
แดงนั่นดุดันและปราดเปรียวมาก มันเพียงออกแรงชั่วพริบตาก็ประหัตประหารสิ่งมีชีวิต
ดุรายเหลานี้จนสิ้น
แสงโชติชวงสวางวาบ มีดสีแดงบินกลับไปยังใจกลางมหานคร
พอคาแมขายที่รับซื้อหนังสัตวและโอสถทิพยเหลานั้นตางก็ใบหนาซีดเซียว เมื่อได
สติก็กมลงคํานับไปทางเมืองทะลวงเมฆ เพื่อแสดงความขอบคุณตอบุญคุณอันใหญหลวง
ครั้งนี้
“อา ที่แทก็เปนเกสรของมันนี่เอง เหมือนกับดาบบินอยางกับแกะ” เจาตัวเล็กตะลึง
พรึงเพริด ดาบบินนั่นเปนเพียงหนึ่งเกสร รูปรางคลายมีด บินกลับไปแลวปกลงกลาง
กลีบดอกไม เปลงประกายเจิดจา จากนั้นดอกทั้งดอกก็หุบลง
“ใตเทาทะลวงเมฆปกปกษรักษาที่นี่มานานนับ 100 ปแลว โดยเริ่มจากเมืองเล็กซึ่ง
มีประชากรเพียง 1000 คน กระทั่งวันนี้ ประชากรมีมากกวา 80000 คนแลว มีบุญคุณ
ลนพนหาที่สุดไมได”
“หากพูดถึงพละกําลังของใตเทาทะลวงเมฆ เพียงพอสามารถคุมครองมหานครได
ไมดอยไปกวาเทพารักษของเมืองใหญ เพียงแคมันไมยินยอมจากไปก็เทานั้น”
คนพวกนี้คุยถกกันอยางเซ็งแซ เมื่อเจาตัวเล็กไดยินก็ตกตะลึง พืชตนนี้ชางแข็งแกรง
เสียจริง
“เทพารักษตนนี้ไมธรรมดาเปนอยางมาก” ใจกลางนคร บุรุษวัยกลางคนรางทวม
บนพึมพํา ใบหนาขาวเกลี้ยงเกลา นัยนตาเปนประกายแวววาว
“แข็งแกรงมาก เทพารักษเชนนี้พบเห็นไดยาก ใหผูใหญออกหนาไปเชื้อเชิญ ไมแน
วาเทพารักษตนนี้อาจเขารวมพวกเราเผาสายฝนก็เปนได” ชายหนุมขางกายเอยขึ้น
ชายวัยกลางคนรางทวมสายหนาแลวกลาววา “ชางเถิด หากแพรออกไปไมเปน
การณดีแน ยังมีเรื่องสําคัญกวานั้นตองทํา ไมรูวาทานหญิงเซียโยวอวี่กลับมาแลวหรือยัง
พวกขามาเพื่อรองขอเครื่องรางชิ้นนั้น”
บทที่ 73 ตัวเองอีกคนหนึง่
ฝูงสัตวประหลาดนอกเมืองกลับไมแยกยาย อีกทั้งยังมีปก ษารายบินวนเวียนอยู
บริเวณนี้ ไมไดลาถอยเพราะการตายของสิ่งมีชีวติ ชนิดเดียวกันแตอยางใด
ณ ใจกลางมหานคร เทพารักษสูง 4-5 จั้งบนภูตนนั้น ลําตนเขียวแก ดอกไมใหญ
เทาแทนหินโม 3 ดอกรูปรางคลายดอกโบตั๋น มีแสงสวยงามไหลเวียนอยู งดงามเปน
อยางมาก ทั้งยังกระจายกลิ่นหอมสดชื่นเปนระลอก
เทพารักษยังเปนเชนดังเดิม มิไดกระทําการจูโจมกอน ฝูงสัตวนอกเมืองกลับยิ่งอยู
ไมสุข เกรงกลัวเทพารักษที่ฝงรากอยูที่นี่มาเนิ่นนานตนนี้ แมจะไมไดถดถอย แตก็ไมกลา
บุกโจมตีทันทีทันควัน
ทันใดนั้น เสียงแผดรองยาวดุจสายฟาคํารามดังแววมา สะเทือนปาทึบจนใบไมปลิว
วอนกระจัดกระจาย ปรากฏเงาดํามหึมากลางอากาศ ปกษารายยาว 50-60 เมตรบิน
ทะยานมา รางนกเปลงแสงสีดําแวบวับ พลังปราณกระเพื่อมขึ้นลง ดวงตาสีเงินเฉียบ
แหลมประหนึ่งลําแสง มีกลิ่นอายอันนาเกรงขามแผคลุมทองฟาปกคลุมผืนดินพุงตรงลง
มา
“อา ผูนําของฝูงสัตวประหลาดดุรายโผลหัวออกมาแลว เปนปกษารายตัวหนึ่งนี่เอง
ชางเปนลูกคลื่นที่นากลัวเสียจริง!” ผูคนตางตกตะลึง
กระแสสัตวครั้งนี้มีปกษารายยิ่งใหญตัวนี้เปนผูนํา เมื่อมันสงเสียงแผดรอง สัตว
ประหลาดนานาชนิดที่อยูเบื้องลางก็เริ่มจูโจมดวยเกรงกลัวอานุภาพของมัน ไมมีผูใดกลา
ฝาฝนคําสั่ง
“เครง!”
กลางนคร เทพารักษบนภูดินตนนั้นสาดแสงสีแดงอีกครั้ง ดอกไมสีแดงดอกนั้นผลิ
บาน กระแสไฟสีแดงพวยพุงขึ้น ลอยพาดผานอากาศ แหลมคมอยางหาที่เปรียบไมได
“ผลุบๆ”
สัตวประหลาดไมกี่ตัวซึ่งอยูห นาขบวนลมพับลงไปโดยพลัน โดนดาบบินสีแดงฟาด
เขาอยางจัง กระดูกหักพรอมกันทั้งหมด เลือดสีแดงสดหลั่งไหล นําไปสูความสะพรึงกลัว
และความโกลาหลครั้งใหญ
ทั้งที่เปนเพียงพืชตนหนึ่งเทานั้น แตกลับรายดาบแดงเหี้ยมโหดปานนี้ได ดาบรูป
เกสรเชนนี้ถือไดวาเปนอาวุธมีคมสะทานโลกา ไมมีสิ่งใดที่มันไมสามารถทําลายลางได
การโจมตีของเหลาสัตวประหลาดดุรายเชื่องชาลง
มีเทพารักษตนนี้คอยปกปกษรักษา สามารถตานทานกองทัพยิ่งใหญได กระแสสัตว
ทั่วไปยากที่จะขยมรากฐานของเมืองทะลวงเมฆ มันทําใหที่นี่มั่นคงดุจเหล็กหลอม[1]
กลางนภา ปกษารายมหึมายาวกวา 50-60 เมตรตัวนั้นแผดรอง แสงดําทมิฬสวาง
วาบ ทั่วรางกายมีริ้วคลื่นลึกลับลอยลอง อาปากพนเปลวไฟคําใหญรวงลงมา โจมตีพืช
ตนนั้น มันลงมือจูโจมดวยตัวเองแลว มิเชนนั้นกระแสสัตวอาจปราชัย
ดาบบินสีแดงลอยกลับมา ตนพืชเขียวเขมโยกไหว ลําตนเปลงประกาย หมอกเขียว
เขมลอยลองขึ้นสูกลางฟากฟา สกัดกั้นเปลวไฟดวงใหญนั้นไวจนเกิดเสียงดังเปรี้ยง ทําให
เปลวไฟหดเล็กลงอยางรวดเร็ว
ปกษารายดําทมิฬกลางทองฟา ดวงตาสีเงินคูนั้นเปลงแสงโชติชวง ปลอยลําแสง
ออกมาเปนสายๆ ดังครืน ราวกับลูกธนูเงินดามใหญจํานวนมาก ทั้งหมดยาวราว 10 กวา
เมตร ถูกเล็งยิงออกมา
“พรึ่บๆ”
ตนพืชกลางนครตนนั้น ใบไมเขียวเขมโยกไหว ดอกไมใหญดุจแทนหินโม 3 ดอกผลิ
บานพรอมกัน แสงสีแดงขาว มวงสวางพรอมกัน ไอหมอกเกลือกกลิ้ง แสงศักดิ์สิทธิ์พราง
พราย กระจายคลื่นอันนากลัวออกมา
แสงสีแดงสวางวาบ เสียงดาบสะเทือนหู ดาบสีแดงเลมนั้นพุงขึ้นเพียงลําพัง ลอยลิ่ว
สูกลางอากาศ วาดแสงสีแดงงดงามเปนวงกวาง ประหนึ่งแสงสายัณห จากนั้นแสงสีขาว
สวางแปลบปลาบ ดาบหยกสีขาวดามหนึ่งพุงทะลวงชั้นเมฆ จากนั้น ไอมวงขมุกขมัวลอย
ลองขึ้น ดาบสีมวงสงเสียงคําราม
ดาบบิน 3 เลมพุงขึ้นเหนือพื้นดินพรอมกัน ประดุจดาวหางทะลวงอากาศ สะบัด
หางยาวออกมา สองสวางไปทั่วฟากฟา แสงสวางอันนากลัวเชื่อมตอสวรรคและปฐพี!
กลางทองฟา ปกษารายบินวนเวียนดุจเมฆดําทมิฬ อานุภาพนาเกรงขาม ในดวงตาสี
เงินมีลําแสงสีเงินพุงออกมาเปนเสนๆ ผลปรากฏวามันถูกฟาดฟนจนสิ้น
ดาบ 3 เลมดังเครงสะเทือนหู เสียงดาบสะทานฟา อักขระกระจายอยางกวางขวาง
สุดทายก็สะเทือนจนเปลวไฟที่เหลือแตกกระจาย เขาประชิดตัวปกษารายตัวนั้น
ปกษารายกระพือปกตอตานอยางสุดกําลัง บริเวณนั้นมีอักขระเจิดจาปะทุขึ้น พวก
มันเขาประจัญบานกันอยางดุเดือด
ตามมาดวยเสียงดังครืนครัน ในที่สุด เสียงผลุบดังขึ้น ปกษารายตัวใหญยักษถูกฟาด
ฟนจนรางกายแตกออก เลือดดุจสายฝนสาดลงมาจากฟากฟาอยางลนหลาม ปกษาใหญ
ถูกฟนกะโหลกขาดรวงหลนลงบนพื้นดิน
กระแสสัตวแตกกระจายทันที ผูนําถูกสังหาร พวกมันวิ่งหนีแตกกระเจิงไปทั่วทุก
สารทิศ มุงหนาไปยังเทือกเขาไกลหาง
“ฆามัน!”
ประตูเมืองเปดกวาง ผูกลากลุมหนึ่งพุงตัวออกมา ไลลาสังหารตามไปติดๆ ดามธนู
ถูกเล็งยิงขึ้นกลางอากาศทํามุม 45 องศาดามแลวดามเลา จากนั้นรวงลงในฝูงสัตว
ประหลาดพวกนั้น พลันเลือดก็แตกกระเด็นเซ็นซาน เหลือเพียงซากศพรางแลวรางเลา
ณ ที่หางไกล เจาตัวเล็กมองเห็นการตอสูเมื่อครูดวยตาตนเอง ในใจคอนขางจะไม
สงบ เทพารักษแปลกประหลาดเสียจริง มีทุกสายพันธุหลากหลายชนิด ทั้งหมดทั้งมวล
ตางก็เปนเชนนี้ ตางแข็งแกรงอยางที่สุด
เปนเพียงหนึ่งตนพืชเทานั้น มีดอกไมดุจแทนหินโม 3 ดอกงอกออกมา บํารุงหลอ
เลี้ยงดาบเกสร ชางนาตื่นตะลึงเสียจริง
สงครามนี้สะเทือนขวัญของเขาไมนอยเลย เสี่ยวสือฮาวบนพึมพําวา “อักขระ
สามารถใชเชนนี้ได หลอเลี้ยงอาวุธมีคมไวในรางกาย กระทําการโจมตีอยางทําลายทุกสิ่ง
อยางราบคาบ”
เขากําลังไตรตรอง แมจะไดรบั บาดเจ็บ ก็สามารถผนึกกําลังอักขระใหหดเล็ก
กลายเปนอาวุธแหลมคมดามหนึ่งไดอยางนั้นหรือ
ใจกลางมหานคร เมื่อชายวัยกลางคนรางทวมคนนั้นมองเห็นศึกครั้งนี้ก็พึมพําวา
“เทพารักษตนนี้ไมธรรมดาเสียจริง คาดไมถึงวาจะหลอเลี้ยงดาบบินหลายดาม คงไม
สามารถหยุดยั้งผลสําเร็จในภายภาคหนาได”
ดาบ 3 เลมเปนอาวุธล้ําคาอันยากที่จะไดมาครอบครอง มีมูลคามหาศาล ทําใหเขา
ไหวหวั่น แตเขารูดีวา แมชนเผาสายฝนจะแข็งแกรงมากเพียงใด แตสิ่งของบางอยางก็ไม
ควรแตะตอง
“วู ใชแลว ชนบทผุพังนั่นมีขาวคราวอะไรไหม?” เมื่อชายวัยกลางคนไดสติก็เอย
ถามผูดูแลขางกายคนหนึ่ง
“ไมมีขอรับ หลังจากสามีภรรยาคูนั้นจากไปก็ไมเคยกลับมาอีกเลย” ผูดูแลตอบ เขา
อายุ 40 กวาป เคยอาศัยอยูดินแดนตะวันตกครั้งอดีต ปกติมีพลังอํานาจไมนอยเลย ทวา
ในตอนนี้กลับเคารพนบนอบเปนอยางมาก แตกตางกับที่ผานมาอยางสิ้นเชิง
“สือจื่อหลิงผูนี้นากลัวมาก ตระกูลไมวางใจ ไมหวังใหเขาปรากฏกายอีกครั้งเปน
อยางยิ่ง เพิ่มความสนใจใหมากกวานี้ หากมีขาวคราวเรงรายงานตอเบื้องบนทันที” ชาย
วัยกลางคนเผยสีหนาชั่วราย
“ขอรับ หากมีเหตุการณเปลี่ยนแปลงแคเพียงหางลม ขาจะรีบรายงานทันที” ผูดูแล
ทาทีจงรักภักดี เขาอยูในดินแดนอานารยะนี้จนพอแลว ปรารถนาสรางคุณงามความดี
เพื่อกลับไปยังดินแดนจักรพรรดิ
“ออ เด็กคนนั้นยังมีชีวิตรอดอยูรึไม?” ชายวัยกลางคนรางทวม ใบหนาขาวเกลี้ยง
เกลาเอยถามสงเดช
ผูดูแลเอยอยางรีบรอนวา “รางกายของเขาออนเพลียเปนอยางมาก มีชีวิตรอดอยูได
ไมนานแลวขอรับ”
ชายวัยกลางคนเปลงเสียงโออยางคาดเดาอารมณไมออก
ผูดูแลใบหนาซีดเผือกทันที กลาววา “เหลาชายชราแปลกประหลาดพวกนั้นทยอย
สิ้นใจตามกันไป เหลือเพียงคนเดียวที่มีชีวิตรอดไดอีกไมกี่วัน เด็กนักโทษผูนั้นเองก็คงมี
ชีวิตอยูไดไมนานแลว”
“อยาพูดจาซี้ซั้ว แมดินแดนนั้นจะผุพังเพียงใด แตก็แฝงไวดวยนัยยะไมธรรมดา
หากวาเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ... ฮึย่ !” ชายวัยกลางคนกลาวตักเตือน
“ใตเทาโปรดวางใจ ในภายภาคหนา ไมแนวาเด็กคนนี้อาจตกบอน้ํา รวงจากเขา
หรือถูกปกษารายจูโจมจนตายก็เปนได ทั้งหมดตางเปนอุบัติเหตุ ไมมีแมแตรองรอยและ
ชองโหว”
“อยาทําตัวอวดฉลาดใหมันมากนัก!” ชายวัยกลางคนถลึงตาใสเขาอยางไรความ
ปราณี
“ขอรับ!” ผูดูแลเรงรีบโคงคํานับอยางเร็ว มิกลาโตแยงใดๆ
เมื่อชายวัยกลางคนเดินจากไปเพื่อพักผอน ผูดูแลก็หยัดตัวตรงขึ้น จากนั้นยอตัวนั่ง
ลงบนเกาอี้เทาแขน สีแปรเปลี่ยนเปนตึงเครียด มีพลังอํานาจแข็งแกรงอยางหนึ่ง กลาว
อยางคอนขางสุขุมเยือกเย็นวา “เขามาหนอยสิ!”
นอกเมืองทะลวงเมฆ เหลาพอคาที่ออกไปรับซื้อหนังสัตวกับโอสถทิพยจากชนเผา
ดึกดําบรรพปรากฏตัวออกมาจากปาหนาทึบ ทยอยกลับมาและเดินเขาสูประตูเมือง
เจาตัวเล็กมองดูอยูไกลๆ สักระยะหนึ่ง จากนั้นควบสัตวประหลาดเขาเดียวมุงหนา
ออกไปอยางรวดเร็ว เขาไมไดเขาเมืองแตอยางใด ดวยเกรงวาจะเกิดอุบัติภัย เนื่องจากมี
คนกําลังตรวจสอบซักถามอยูหนาประตูเมือง
สัตวประหลาดเขาเดียววิ่งหอ เขาเตรียมออมบริเวณนี้ไป ไปยังบานเกิดแหงที่ 2
ของตระกูลหินผา
ภูเขาสูงตระหงานเปนทิวแถว ภูมิศาสตรอันตรายและนากลัว เพียงเดินทางออมเปน
ระยะกวา 1000 กวาลี้ ตอนแรกเปนผาชันขวางกั้นเสนทาง ตอมาก็เปนหนองน้ําใหญ
ทวา สามแสนลี้ก็ผานมาแลว พวกเขาไมสนใจวาจะตองเดินทางออมอีกกี่พันลี้
สุดทายพวกเขาก็เขาสูอาณาเขตของประเทศเกาแกโดยสวัสดิภาพ เรงมุงหนาไปยังบาน
เกิดเมืองนอนชํารุดทรุดโทรมนั่น
เวลาเที่ยงวัน พวกเขามาถึงที่หมายในที่สุด พระอาทิตยดวงใหญเปย มไปดวย
แสงแดด แตชนบททรุดโทรมแหงนั้นกลับอึมครึมไรชีวิตชีวา สิ่งกอสรางมากมายจวน
พังทลายลงแลว
เจาตัวเล็กมิไดเขาประชิดทันที เขาปลอยสัตวประหลาดเขาเดียวตั้งแตระยะไกลหาง
ใหมันวิ่งเขาไปในผืนปาเพียงลําพัง เขาพาเจาลูกขนตรวจดูบริเวณรอบๆ อยาง
ระแวดระวัง เขาจําเปนตองระมัดระวัง ตระกูลหินผากวางขวางเกินไป หากมีคนเฝารอ
ใหเขาติดกับ ณ ที่แหงนี้ จะตองเปนภยันตรายอยางที่สุดเปนแนแท มีแตตายกับตาย
เทานั้น
หลายวันตอมา เสี่ยวสือฮาวมิไดเคลื่อนไหวโดยพละการ เขาปรากฏตัวบริเวณ
ละแวกใกลเคียง ตรวจสอบพบเจอเรื่องราวมากมาย
บริเวณรอบๆ รายลอมดวยสี่หมูบานกับหนึ่งเมือง แนนอนวาในดินแดนตะวันตกอัน
กวางขวางไรซงึ่ ผูคนพิเศษเปนอยางมาก โดยปกติแลว ทะลวงภูเขาขามผานทิวเขา เดิน
ทางผานเทือกเขามากมาย จึงจะสามารถมองเห็นหมูบานสักหนึ่งหมูบานได
แรกเริ่ม หมูบานเหลานี้สรางขึ้นเพื่อเปนกองหนุนใหแกบานเกิดเมืองนอนทรุดโทรม
นี้ สุดทายจึงกลายเปนดินแดนชุมนุมกันเชนนี้
นี่เปนดินแดนแหงการเนรเทศ แตคนทั่วไปกลับไมกลายางกรายเขามา มีเพียงผูเรือง
อํานาจในตระกูลหินผา ซึ่งทําผิดมหันตจึงจะถูกเนรเทศมายังที่แหงนี้
“เอะ ยิ่งเขาใกลกลับยิ่งไรชีวติ ชีวา คนแกแปลกประหลาดไมกี่คนทยอยตายจากกัน
ไป เหลือเพียงเจาเด็กนาสงสารคนนั้น ทําอยางไรดีเลา? กอกรรมทําเข็ญแทๆ เลย” ชาย
ชราผูหนึ่งนั่งอยูบนรถเทียมสัตว ออกจากชนบททรุดโทรม เขาสงผลหมากรากไมกับ
เหยื่อลามายังที่แหงนี้
แมในชนบทจะมีขาทาสบริวารบางสวน แตสถานที่แหงนีย้ ังคงเย็นยะเยือกเฉกเชน
ดังเดิม ราวกับเปนดินแดนที่ถูกทอดทิ้ง ทั้งอางวางและเปลาเปลี่ยว
“ผูเฒาไห ครั้งหนาอยาลืมพาตาเฮยมาดวยนะ ใหมันเปนเพื่อนเลนขา” กลางชนบท
ทรุดโทรม มีเด็กผายผอมออนแรงนั่งอยูบนบันไดหิน เขาออกแรงโบกมือ พูดไปไอไป
ใบหนาซีดเผือกไรสีเลือด
“ไดสิ รอใหตาเฮยคลอดลูกเสือรังนั้นออกมากอน ขาจะรีบสงพวกมันมา ใหพวกมัน
เลนเปนเพื่อนเจานะ” ชายชราที่นั่งอยูบนรถเทียมสัตวมุงหนาไปยังที่หางไกลพยักหนา
แลวพูดเสียงเบาวา “ชางเปนเด็กที่นาสงสารเสียจริง ไรญาติขาดมิตร เฝาสุสานของ
ชนบทเกาแกไปวันๆ ชีวิตวัยเด็กมืดมนเกินไปเสียแลว”
กระทั่งชายชรานั่งรถเทียมสัตวออกไปไกลแลว เด็กคนนั้นจึงหยัดตัวลุกอยางอาลัย
อาวรณ ขากะเผลกเล็กนอย ใชมือจับกําแพงแลวคอยๆ ยางเดินไปยังชนบท
ไกลออกไป เจาตัวเล็กยืนอยูกลางปา จองมองทุกสิ่งอยางอึ้งงัน จวนจะหลั่งน้ําตา
เขาพูดกับตัวเองวา “นั่นเปนตัวขาอีกคนหนึ่งหรือ เขาเปนตัวแทนของขา อยูที่นี่อยาง
อางวาง ไมมีความสุข รางกายออนแอถึงเพียงนี้ ขากะเผลกเพราะถูกคนทํารายอยางนั้น
หรือ?”
เจาตัวเล็กลูบคลําเครื่องรางประดุจทองคําก็ไมใช ดั่งหินก็ไมเชิงบนหนาอกแลวเอย
อยางแผวเบาวา “ขาจะสงเจาเขาสูศาลาปดฟา ไมวาจะไกลเพียงไหน ขาก็จะไปกับเจา”
“นายนอย ผูอาวุโสคนสุดทายจวนจากโลกนี้ไปแลว เหลือชีวิตรอดเพียงไมกี่วันแลว
หลังจากนี้ ชีวิตของทานคงทุกขระทมเปนอยางมาก” ขารับใชเฝาจวนคนหนึ่งกลาว นั่ง
อยูตรงนั้นอยางเกียจคราน แมจะมองอยางไรก็ไรซึ่งความเคารพยําเกรง ทั้งยังมีความ
เยาะเยยอยูบาง
“เจาพูดพลามอะไร ทานปูจะตองไมตาย!” เด็กใบหนาซีดเซียว ดวงตาเออลนดวย
น้ําตา พูดสวนเสียงดังลั่นพลางไอไมหยุด
“อยางนั้นก็รอดูกันตอไป” ขารับใชคนนั้นพูดอยางไมใสใจ
ขาทาสอีกคนหนึ่งกลาววา “ขาไดยินมาวา นายนอยมิใชบุตรของสือจื่อหลิงผูนั้น
ตัวตนแทจริงเปนทายาทของชายชราประหลาดที่จวนจะลาโลกผูนั้น เปนตัวแทนอยูที่นี่
เทานั้น”
“มีความเปนไปได หากวาเปนทายาทของสือจื่อหลิงจริงๆ แลวละก็ จะตองทุกขเข็ญ
มากกวานี้” ขารับใชที่นั่งอยูต รงนั้นอยางเกียจครานพยักหนา ยามเผชิญหนากับนาย
นอย ไมเคยแมแตจะหยัดตัวลุกยืนขึ้น ไรความเคารพเปนอยางมาก
กลางผืนปาไกลออกไป เจาตัวเล็กมองเห็นทุกสิ่งทุกอยาง เขากําหมัดแนน เปนดั่งที่
เขาเขาใจในไมกี่วันมานี้เกือบจะทั้งหมด ในชนบททรุดโทรมดุจคอกสัตวนี้ ขาทาสบริเวณ
บางสวนถูกกวานซื้อจากภายนอกเสียแลว มีเกลือเปนหนอน[2] หลังจากบรรพบุรุษเพียง
ไมกี่คนสิ้นใจ ก็กําเริบเสิบสาน กระทําการตามอําเภอใจ
..............................
[1] มั่งคงดุจเหล็กหลอม อุปมาวา สิ่งกอสรางหรือการปองกันแข็งแกรงมาก ไม
สามารถตีแตกได
[2] เกลือเปนหนอน หมายถึง ญาติมิตร สามีภรรยา บุตรธิดา เพื่อนรวมงาน หรือ
คนในบาน คิดคดทรยศ
บทที่ 74 จากไปอยางอิม่ เอมใจ
ภายในจวน ขารับใช 2 คนวางทาใหญโต นั่งอยูอยางนั้น ไมมีความเคารพยําเกรงตอ
เจาของตัวนอยแมแตนิด พวกเขาพูดวาบรรพบุรุษเฒาชราจะตายดวยทาทีสบายๆ ยินดี
ปรีดาเมื่อเห็นผูอื่นทุกขรอน
“หามพวกเจาพูดจาซี้ซั้ว!” เด็กชายใบหนาซีดเซียว รางกายออนเปลี้ยเพลียแรง ใน
ดวงตาเต็มไปดวยน้ําตา มีทั้งความเศราโศกและความสิ้นหวัง
เขากลัววาทานปู ญาติเพียงคนเดียวของเขาจะจากโลกนี้ไป เขาไมพรอมปลอยวาง
ความสัมพันธฉันญาติสนิทเชนนี้ อีกทั้งเหลาขาทาสบริวารก็ชั่วชาปานนี้ ตอไปเขาจะใช
ชีวิตอยูไดอยางไร?
“นายนอย ทานใชชีวิตอยางเจ็บไขไดปวยเชนนี้ทรมานอยางแทจริง ขาวานะ
หลังจากสงผูเฒาไปสูสุขคติแลว ทานเองก็...นั่นแหละ” สมาชิกในจวนคนหนึ่งยิ้มแหย
มิไดพูดมันออกมา ดวยเกรงวาจะโจงแจงเกิดเหตุ
“พอไดแลว อยาพูดอะไรใหมากความ มันจะเกิดขึ้นไมชาก็เร็ว มองดูใบหนาของเขา
ก็คงจะอยูไดอีกไมนาน ตองเปนคนอายุสั้นอยางแนนอน” ขารับใชอีกคนหนึ่งเอยเสียง
เบาพรอมกับเสียงหัวเราะเยาะเยย
“พวกเจามันชั่วชาเลวทราม ขาไมมีวันอภัยใหพวกเจาเปนอันขาด!” เด็กชายน้ําตา
คลอ ยันกําแพงและเดินกะเผลกเขาไปดานใน
เขาอางวางมาก เดินทามกลางชนบทกวางใหญ ไรญาติขาดมิตร มีเพียงสิ่งปลูกสราง
ทรุดโทรมหนาวเย็น เมื่อสายลมพัดผาน บานหนาตางเกาก็เกิดเสียงดังเอี๊ยดอาด
เด็กชายเดินตรงดิ่งเขาไปขางใน มาถึงลานบานซึ่งไมกวางมากนัก ผลักประตูไมเม
เปลที่สีสันลวดลายเลือนหายไปจนสิ้นแลวสงเสียงเรียกเบาๆ วา “ทานปูขอรับ”
มีชายชราผมขาวโพลนผูหนึ่งนอนอยูบนเตียงเกาเตียงนั้น ใบหนาเหลืองดุจกระดาษ
ทอง อาการรอแร ดวงตาคูนั้นหมนแสง สูญเสียประกายอันเคยทรงพลังเมื่อครั้งอดีต
“ลูกเอย... หากวาขาตายไป มีเพียงสิ่งเดียวที่ขาปลอยวางไมไดก็คือเจา” ชายชรา
ยกแขนขึ้นอยางยากลําบาก ยื่นมาทางนี้ ลูบมือของเด็กนอยอยางสั่นเทาอยูหลายครา
“ทานปู ทานจะตองไมตายนะ” เด็กชายน้ําตาหลั่งริน
“ลูกเอย...อยางรองเลย” ชายชราใชฝามือหยาบกรานลูบใบหนาซีดเซียวของเขา
นัยนตาฝาฟางหลั่งน้ําตาอยางอาวรณ
“ทานปู!” เด็กชายรองไหดังจา นอนฟุบอยูขางเตียงอยางสิ้นหวัง ออกแรงความือ
ของชายชราไวแนนไมยอมคลายมือ
ชายชราใชมือใหญหยาบกรานจับมือเล็กของเขาไว มองซายมองขวาดวยความรัก
ใครเอ็นดู ทวานัยนหมนแสง อาปากอยากจะเอยวาจา ปรากฏวาหนาอกกระเพื่อมขึ้นลง
ไมสามารถพูดจาอะไรได
“ทานปู ทานจะทิ้งขาไวเชนนี้ไมได หากเหลือขาเพียงตัวคนเดียวจะทําเยี่ยงไรเลา?”
เด็กชายเขยาแขนของชายชราดวยแววตาเศราโศก
หลายปมานี้ เหลาผูเฒาชราทยอยจากโลกนี้ไปยังแดนไกลคนแลวคนเลา ทําใหเขา
เศราสลดอยางเปรียบไมได เหลือเพียงชายชราคนสุดทาย เปนบุคคลที่เขาใกลชิดสนิท
สนมมากที่สุด ตอนนี้ก็กําลังจะสิ้นใจ ทําใหเกิดความหวาดกลัวภายในจิตใจ
“ลูกเอย...” ชายชราอาปาก วาจาทั้งหมดกลายเปนอักษรเพียงสองตัว ไมสามารถ
พูดไดอีกตอไป ดวงตาไรแวว ทําไดเพียงหายใจหอบเทานั้น
ดานนอก เจาตัวเล็กนัยนตาแดงก่ํา เขาแอบเขาไปในชนบทอยางเงียบเชียบ ผาน
การสังเกตมาหลายวัน จึงมั่นใจไดวาไมมีมือดีอะไรมายังที่แหงนี้
เขาผลักบานประตูแลวยางเทาเขามา ปาดน้ําตาทิ้ง มองชายชราบนเตียงแลวกลาว
อยางสะอึกสะอื้นวา “ทานปูขอรับ”
“เอะ เจา...” เด็กชายใบหนาซีดเซียวตกอกตกใจ
ชายชราบนเตียงฉงนสนเทห ในชวงลมหายใจสุดทายของชีวิต กลับพบกับเด็กชายที่
ไมเคยพบเจอมากอนคนนี้ เรียกเขาเชนนี้ เขาจองมองดวยความงุนงง
ผูกลาซึ่งเคยแข็งแกรงทรงพลัง ทายที่สุดก็ตานกาลเวลาไมได สถานการณในชวงบั้น
ปลายของชีวิตชางโดดเดี่ยวเหลือเกิน
“ทานปู ขาเปนเด็กชายเมื่อตอนนั้น ขามาเยี่ยมทานแลว!” เจาตัวเล็กสะอึกสะอื้น
มองเห็นเรื่องราวในอดีตผานทางเทพเจาตนหลิว รูวาชายชราซึ่งถูกเนรเทศมายังที่แหงนี้
ดีตอครอบครัวของเขามาก เด็กชายขางกายคนนั้นก็คือเด็กที่พวกเขาสรางขึ้นมาเพื่อเปน
ตัวแทนของเขา
เมื่อไดยินเชนนี้ ชายชราบนเตียงเบิกตาขึ้นอยางดุดัน เดิมทีนัยนตาอับแสง เพียงชั่ว
ครูก็สองประกายอันนายําเกรง กลาวดวยน้ําเสียงสั่นเครือวา “เจา... เปนเขาจริงๆ อยาง
นั้นรึ?”
คาดไมถึงวาเขาสามารถพูดจาได น้ําเสียงรอนรน แววตานาตื่นกลัว
“ขอรับทานปู ขามาเยี่ยมทานแลว” เจาตัวเล็กกุมมือเขาไว น้ําเสียงสั่นเครือ ผู
อาวุโสคนอื่นตางจากไปแลว เขามาไมทันสงพวกเขาใหไปสูสุขคติ
“อาการเจ็บปวยของเจา...” ชายชราหายใจหอบ เอยถามอยางเรงรีบ หากแตเขาก็
พูดไดไมกี่ตัวอักษร ไมสามารถพูดอยางอื่นไดอีก
“อาการปวยของขาหายดีแลว ขารอดมาได” เจาตัวเล็กกลาว เขารูดีวาในตอนนี้
ชายชราอยากไดยินอะไรมากที่สุด จากนั้นก็เอยเสียงเบาวา “ตอนนี้เพียงหนึ่งสะบัดแขน
ก็มีพละกําลังกวาหนึ่งแสนแปดพันชั่ง”
เขารายงานอยางสัตยจริง เปนไปตามคาด เมื่อชายชราไดฟงดังนัน้ ดวงตาเบิกกวาง
อยางตกตะลึง ริมฝปากขมุบขมิบ ฉุดลากแขนของเขาราวกับจะพิสูจนอะไรบางอยาง
“ใชแลว เปนเพียงพละกําลังของแขนขางเดียวเทานั้น!” เจาตัวเล็กที่น้ําตาคลอออก
แรงพยักหนา
“ฮาฮา...” วินาทีสุดทาย ชายชราราวกับแสงสายัณหที่สะทอนแสงยามตะวันรอน
[1] เปลงเสียงหัวเราะดังลั่น น้ําตาขุนรินหลั่ง ใบหนาเปยมลนดวยความปลื้มปติและอิ่ม
อกอิ่มใจ ประหนึ่งวาไมมีอาลัยใดๆ อีกตอไป
แตเจาตัวเล็กกลับรองไห เขารูวา ชายชราใชพลังปราณจนหยดสุดทาย แมโอสถ
ทิพยก็ชวยอะไรไมไดแลว
ชายชราผูนี้เปนพี่นองรวมสายเลือดกับปูของสือฮาว หากกลาวตามสายเลือดแลว
ใกลชิดเปนอยางมาก ทั้งดีตอเขามาก ไมเลือดเย็นเฉกเชนผูคนในเมืองจักรพรรดินั่น
“ทานปู...” เด็กขางกายคนนั้นรองไหอยางหนัก
ดวงตาของชายชราหมดสิ้นซึ่งแสงสวาง ใชแรงเฮือกสุดทายจับมือเด็กคนนั้นไว
จากนั้นก็มองไปยังสือฮาว อาปากขมุบขมิบ หมายอยากนํามือเล็กนั่นวางลงบนมือของ
เขา แตกลับไรเรี่ยวแรง
เจาตัวเล็กน้ําตาไหล ยื่นมือออกไปหนึ่งขาง จับมือเล็กขางนั้นไว ออกแรงบีบจนแนน
จากนัน้ ก็วางมันลงบนมือหยาบกรานของชายชราพรอมกัน เอยเสียงเบาวา “ทานปูโปรด
วางใจ ขาจะดูแลเขาใหดีเอง!”
ใบหนาของชายชราหลั่งน้ําตาขุนหยดสุดทาย จากนั้นแนนิ่งไป ใบหนาแตมรอยยิ้ม
อันอิ่มอกอิ่มใจ และความพึงพอใจหลังปลอยวางความหนักอึ้งได
เขานําเอาความเบิกบานใจ ทั้งความหลุดพนไปดวย ปลดเปลื้องพันธนาการแหง
ความอาวรณ ตาหลับสนิท จากโลกนี้ไปเชนนี้แล
“ทานปู!” เด็กขางกายคนนั้นรองไหจา กระโจนใสรางกายของชายชราทันที ทุกข
ระทมปานจะขาดใจ เศราโศกอยางไมสิ้นสุด น้ําตาหลั่งไหลเปนสาย
เจาตัวเล็กเองก็หลั่งน้ํา สุดทายก็ดึงเด็กคนนั้นขึ้น กลาวย้ําเตือนเขา จากนั้นก็เดิน
จากไป
สองวันตอมา ชายชราไดรับการฝง เด็กคนนี้รองไหอยูหนาหลุมศพอยางจะเปนจะ
ตาย เหลาขารับใชดึงอยางไรก็ไมยอมลุก หมดสติไปนับครั้งไมถวน
สุดทาย เขาถูกขารับใชแกภักดีสองคนแบกกลับไป
เจาตัวเล็กที่ซอนตัวในผืนปาก็เช็ดน้ําตา สะอึกสะอื้นอยางเงียบเชียบ จองมองไกล
ออกไป ไรหนทางเผยโฉมหนาและเขาประชิด
กระทั่งผูคนทั้งหมดจากไป เขาจึงมายังหนาหลุมศพ เอยวาจาทุมต่ํา คํานับกราบไว
อยางจริงจัง
“นายนอย ขาทานกะเผลกไปขางหนึ่ง เดินชาเสียหนอย ขาเกรงวาทานจะหกลม”
ตรงหนาประตู ขารับใชสองคนนั้นกําเริบเสิบสานมากยิ่งขึ้น หัวเราะเยาะเยยดังลั่น เหลา
ผูเฒาชราตางก็สิ้นใจแลว เด็กนาสงสารคนหนึ่งจะฟนฝาความยากลําบากไปไดหรือ? คน
ภายนอกตองการใหเขาตายมิใชหรือ รีบมากันเถิด
“พวกเจา...” เด็กชายโกรธแคน ใบหนาซีดเผือก นัยนตาแดงก่ําจดจองพวกเขา
“เจาพวกเลว พวกเจาสองคนทําเกินไปแลว นี่เปนถึงคุณชายนอย พวกเจาพูดเชนนี้
ไดอยางไร?!” ขารับใชแกทั้งสองตะโกนลั่น
“ไอแก เจายุงอะไรดวย สถานที่ทรุดโทรมแหงนี้เปนดั่งคอกสัตว มีนายนอยที่ไหน
กัน? ปกติที่เรียกกันเชนนั้น เพียงเพราะตองการไวหนาเขาก็เทานั้น” ขารับใชกลางจวน
แปรพักตร
ขารับใชแกทั้งสองโมโหจนเนื้อตัวสั่นเทา ความือของเด็กชายแลวเดินจากไปอยาง
โกรธแคน
พลบค่ํา เด็กคนนี้นั่งอยูกลางหอง เจาตัวเล็กปรากฏตัวขึ้น เขาเอยเสียงเบาวา
“ตอนนี้เจามีความปรารถนาอะไรไหม?”
“ขาอยากไปเยี่ยมตาเฮยกับลูกเสือของมัน” เด็กชายกลาวพลางหลั่งน้ําตา ตาเฮย
เปนเสือดําที่ผูเฒาไหซึ่งรับหนาที่ขนสงเสบียงผูนั้นเลี้ยงไว เขาไรญาติขาดมิตร อางวาง
เดียวดาย ทุกครั้งที่ผูเฒาไหสงเสบียงมา มีเพียงตาเฮยเปนเพื่อนเลนกับเขา
เจาตัวเล็กปวดใจ ตัวเขาเองก็เปนคนจิตใจดี เคยประสบกับความทุกขยากมากมาย
สามารถรับรูไดถึงสภาพจิตใจและความเจ็บปวดของเด็กผูชายฝงตรงขามได
“เจาไมอยากลงทัณฑขารับใชสองคนในจวนนั่นหรือ?” เจาตัวเล็กเอยถาม
“อยาก หากแตขาไมตองการใหเรื่องราวบานปลายใหญโต” เด็กคนนี้กลาวดวย
นัยนตาแดงก่ํา สองคนนั้นใจรายมาก หลังจากเหลาผูอาวุโสทยอยจากกันไป พวกเขาทํา
เรื่องชั่วรายในชนบทไมนอยเลย
“เจี๊ยกๆ!” เจาลูกขนรองเสียงแหลม มันเองก็เห็นทุกสิ่งทุกอยางกับตา โกรธแคน
อยางที่สุด ความหมายของมันคือ จําตองสั่งสอนใหเข็ดหลาบ
“เจาลูกขน เจาไปจัดการเสีย” เจาตัวเล็กกลาว เขายังมีเรื่องอื่นตองจัดการ หมายรู
ใหไดวาผูใดกันที่กวานซื้อขารับใชเหลานี้ แมจะสามารถคาดเดาไดบางสวน หากยัง
ตองการพิสูจนขอเท็จจริงเฉกเชนดังเดิม อีกทั้งอยากกระทําการเคลื่อนไหวบางอยาง
เพราะฝายตรงขามขมเหงรังแกกันมากไปแลว!
“หยุดรองไหเถิด ลืมทุกสิ่งทุกอยางที่นี่ ตอไปขาจะพาเจาไปยังดินแดนของศาลาปด
ฟา จะไมมีผูใดอาจหาญรังแกเจาอีกตอไป” เจาตัวเล็กพูดจาปลอบประโลม
“โฮก...”
เวลาเที่ยงคืน สัตวประหลาดตัวหนึ่งบินมา รวงลงนอกชนบท นี่เปนหมีเขาเดียวตัว
หนึ่ง สูงราว 3 จั้ง เนื้อตัวสีทองออน บนหัวมีเขาสีทองงอกออกมาหนึ่งอัน บนหลังมีปกคู
หนึ่ง สามารถเหาะเหินเวหาได
สิ่งมีชีวิตชนิดนี้สามารถสําแดงอักขระ แตกลับไมสามารถกอตัวเปนกระดูกล้ําคา
บรรพกาลได เฉกเชนเดียวกับสัตวประหลาดเขาเดียว มีพละกําลังอันแนนอน หากแตไม
ถือวาเปนสัตวประหลาดยิ่งใหญขนานแท
มีสัตวตัวนอยขนาดเทากํามือนั่งอยูบนหัวของมัน เนื้อแนนกลมกลึง เปลงแสงสีทอง
แวววับ เมื่อมาถึงตรงนี้ก็วิ่งหายไปดังซิ่วอยางไรวี่แวว มันคือเจาลูกขนนั่นเอง แมแตเจา
ตัวเล็กก็ไมคาดคิดวา มันจะออกไปเดินเพนพาน และปราบสัตวประหลาดตัวนี้มาได
“ปง”
หมีสีทองฟาดอุงมือลงไปจนจวนพักอาศัยพังทลายทันที ขาทาสสองคนที่กําลังอยูใน
หวงนิทราตกใจตื่นขึ้นมา เห็นปากกวางดุจอางเลือดยื่นมาทางนี้ ทั้งสองตกใจจนออน
เปลี้ยเพลียแรง รองตะโกนอยางหวาดกลัว
เมื่อหมีเขาเดียวยอตัวนั่งลงไป ก็เกิดเสียงแควกดังชัดเจน ไมรูวากระดูกของสองคน
นั้นหักไปกี่ทอน เหลือเพียงชวงบนเผยออกมาดานนอก ชวงลางกลายเปนซากเนื้อเปอย
ยุยทันที
“ชวยดวย!”
กลางค่ําคืนดึกสงัด เสียงรองโหยหวนดวยความเศราโศกเชนนี้ลอยออกไปคอนขาง
ไกล ทั้งสองขวัญหนีดีฝอ หวาดกลัวจนรองไหคร่ําครวญ
ชาวชนบทตางก็ตกตะลึง ผูคนจํานวนมากถืออาวุธยุทโธปกรณมุงหนามาทิศทางนี้
เมื่อเขาประชิดตางก็ตะลึงงัน
หมีสีทองกําลังเคี้ยวเสียงดังกรอบแกรบ กินขาของทั้งสองคนจนสิ้น ชุมโชกไปดวย
เลือด กระดูกขาวแหลกละเอียดจํานวนลนหลาม นากลัวอยางที่สุด
เมื่อมันเห็นผูคนเหลานี้ไลตามมา หมีสีทองลุกยืนขึ้น สะบัดอุงมือใหญชุมโชกไปดวย
เลือด จากนั้นกระพือปกคูนั้น อันตรธานหายไปภายใตทองฟายามรัตติกาล
“อา ชวยพวกขาดวยเถิด!” ทั้งสองคนรองอยางโศกาอาดูร
ทุกคนตางรูดีวา ทั้งสองจบสิ้นแลว สูญเสียขาทั้งสองขางไป ทามกลางดินแดน
ตะวันตกอันโหดเหี้ยมเชนนี้ แมจะมีชวี ิตรอดก็คงจะนาเวทนาเปนอยางมาก
“สมน้ําหนา ใครใชใหพวกเจาไมทําเรื่องถูกทํานองคลองทําละ!”
“กรรมตามสนองแทๆ สวรรคมีตาแลว!”
ไมมีผูใดเห็นใจแมแตนิด เห็นไดวาปกติพวกเขากระทําการชั่วรายเพียงใด
“เจาลูกขน เจาชาง...ชั่วรายเสียจริง” เมื่อเจาตัวเล็กเหตุฉากนี้ ก็มองจูเยี่ยนสีทอง
บนไหลอยางประหลาดใจ คิดไมถึงวามันจะบัญชาใหหมีสีทองทําเรื่องเชนนี้ มิไดสังหาร
สองคนนั้น แตกลับทุกขทรมานยิ่งกวาการฆาพวกเขา
อุงเล็บสีทองของเจาลูกขนโบกไปมา ความหมายคือ เรื่องเล็กจัดการงาย คนชั่ว
จะตองสั่งสอนเชนนี้แล
“พี่ชาย ขาไดยินทานปูพูดวา บุคคลที่ถูกกวานซื้อในชนบทเปนเพียงตัวตลกกอ
ความวุนวายเทานั้น ผูคนภายนอกสิรายกาจของจริง มีผูกลามือฉมังที่นากลัวอยางที่สุด”
ขางกาย เด็กชายใบหนาซีดเซียวคนนั้นกลาว
“มิเปนไร ขามีวิธีจัดการกับพวกเขา” เจาตัวเล็กกําหมัดแนน คาดการณในใจ ไมรูวา
เปนตระกูลของสือยี่ หรือวาตระกูลอื่น เขาเจ็บปวดและเคียดแคนมาก ตัดสินใจแนวแน
วาจะตองเปดศึกครั้งใหญ ณ ที่แหงนี้
“แตวา พวกเขารายกาจจริงๆ อีกอยางพวกเราก็ยังเด็ก” เด็กชายขางกายกลาว
อยางขี้ขลาด
“การตอกรกับสัตวประหลาดที่นากลัวอยางที่สุด ไมจําเปนจะตองตอสูอยางเอาเปน
เอาตาย ออ ลืมไป ขาสูศึกเหลาสัตวประหลาดดุรายอยูบอยครั้ง เคยชินที่จะพูดเชนนี้”
เจาตัวเล็กเกาหัวอยางละอายแลวพูดตอวา “ขามีหนทาง พวกเขาจะหนีรอดไปไมได
แมแตคนเดียว ไมวาพวกเขาจะแข็งแกรงปานใด เพียงอาศัยอยูในดินแดนตะวันตกแหงนี้
ไมวาอยางไรก็ตองประสบกับหายนะ ไดรับการลงทัณฑ!”
..............................
[1] แสงสายัณหที่สะทอนแสงยามตะวันรอน อุปมาวาสีหนากลับดูสดใสขึ้นกอนที่จะ
ตาย
บทที่ 75 ใจกลาบาบิน่
ณ เมืองทะลวงเมฆ กลางคฤหาสนโอฬารหลังหนึ่ง ชายวัยกลางคนรวงทวมยางเดิน
เชื่องชา มีนามวา อวี่เหมิง ใบหนาขาวเกลี้ยงเกลา ดวงตามีอักขระไหลเวียนปรากฏเลือน
ราง เขาเปนมือดีแหงเผาสายฝน
ครานี้ เขาไดรับคําสั่งจากผูอาวุโสของชนเผาออกลาดตระเวนดินแดนตะวันตก
เพราะที่นี่มีกิจการบางสวนของชนเผานี้ อยางเชนเหมืองเหล็กมูลคามหาศาล และเขต
เซนสรวงเหลาสัตวประหลาดดุรายทั้งหลายทั้งปวงเปนตน
“ทานหญิงโยวอวี่ปรากฏตัวรึยัง?” อวี่เหมิงยืนบนสะพานหินโคงกลางสวนปา จอง
มองฝูงปลาเกล็ดมวงกลางสายน้ําพลางเอยถามผูดูแลขางกาย เขาใชโอกาสที่มา
ลาดตระเวนนี้ขอเครื่องรางชิน้ หนึ่งจากทูตของศาลาปดฟา เพื่อสงมอบใหกับอัจฉริยะชั้น
ยอดคนหนึ่งของชนเผา
อัจฉริยะผูนั้นเปนที่รักใครของผูอาวุโส ดังนั้นเขาไมตองการใหเกิดขอผิดพลาดใดๆ
หวังไดรับเครื่องรางและสงมอบกลับไปในเร็ววัน
ผูดูแลกลาวอยางเคารพนบนอบวา “คนของขาเฝาระวังอยูตลอด แตไมเห็นทาน
หญิงเซี่ยกลับมา หากมีขาวคราว ขาจะรีบรายงานตอทานทันที”
“ไมไดดั่งใจจริงๆ ผูอาวุโสใหขาลองสืบหาขาวคราวของสือจื่อหลิง แตทางเจากลับ
ไมสามารถสืบหาเบาะแสไดเพียงนิด ทั้งอยากจะขอเครื่องรางสักชิ้น แตกลับมองไมเห็น
แมแตเงาคน!” อวี่เหมิงใบหนาบูดบึ้ง หันหลังเดินลงไปจากสะพาน ยางเทาเขาสูศาลา
แลวยอตัวนั่งลง
ผูดูแลใบหนาซีดเผือก เรงเดินตามไป จากนั้นโคงคํานับแลวพูดวา “ใตเทาโปรด
อภัย!”
ไมนานนัก ผูดูแลกลับมายังตําหนักหลังหนึ่ง นั่งลงบนเกาอี้พักแขนพลางนวดขมับ
ของตน ทวงทาทรงพลังอีกครา ตะโกนสั่งวา “เขามา!”
พลันมีคนกลุมหนึ่งเดินเขามา คนเหลานี้ตางเปนผูกลากันทั้งนั้น พละกําลังแข็งแกรง
อยางที่สุด
“หลายปมานี้ ขาใหพวกเจาตรวจสอบขาวคราวของสือจื่อหลิง แตพวกเจากลับไม
พบแมแตเสนใยแมงมุมรองรอยจิ้งหรีด[1] เจาพวกไรประโยชน!” ผูดูแลคํารามลั่น
ประหนึ่งสิงโตคลุมคลั่งตัวหนึ่ง แตกตางกับกริยาที่กมหัวลงคํานับอยางไรศกั ดิ์ศรีเมื่อครู
ราวฟากับเหว ทรงพลังอยางหาที่เปรียบไมได
คนกลุมนี้เสียวสันหลังขึ้นมาทันที ลึกๆ พวกเขารูวา ผูดูแลทานนี้ไมเพียงโหดเหี้ยม
อํามหิต หากยังเปนมือดีทานหนึ่ง บําเพ็ญตนขั้นสูง ถือไดวาเปนอันดับ 1 ในเมืองทะลวง
เมฆนี้ไดอยางสิ้นเชิง
ผูดูแลสีหนาเยือกเย็น กลาววา “อีกอยาง พวกคนแกประหลาดในชนบทแหงนั้นก็
ตายจนสิ้นแลว เด็กคนนั้นยังอยูรอดรึ?”
“ใตเทาขอรับ พวกขาสืบสาวราวเรื่องจนกระจางชัดแจง เด็กคนนั้นเปนตัวแทนถึง
ไมมีสิบก็มีแปดมีเกา[2] ไมใชสือฮาวคนเมื่อครั้งนั้นอยางแนนอน” มีคนตอบอยางอาจ
หาญ
“โงเงา!” ผูดูแลเดือดดาล ออกแรงตบโตะจนแหลกละเอียดทันที อีกทั้งคลื่นพลังถา
โถมลงมา สะเทือนพื้นหินเพชรจนแตกออกเปนเสี่ยงๆ ยุบลึกลงไปราว 1 เซี๊ยะ เห็นไดวา
การบําเพ็ญของเขาอยูในขั้นที่นากลัวเพียงใด
“แมจะเปนตัวปลอมก็จะตองหาวิธีกําจัดใหพน ชนเผาสายฝนเปนถึงตระกูล
อยางไหนกัน? ทั้งเกาแกและรุงโรจน ดํารงอยูมานมนาน เกาแกยิ่งกวาประเทศหินผาเสีย
อีก หากปลอยใหเจาเด็กนั่นมีชีวิตรอดตอไป ก็เทากับความอัปยศอดสู!” ผูดูแลคําราม
กึกกอง
กลุมคนเบื้องลางตางเผยความกลัว รนถอยหลังอยางอดไมได บุรุษถมึงทึงเบื้องบนผู
นั้นคํารามลั่น สะเทือนแกวหูจนเจ็บปวดรวดราว
“ใตเทาโปรดวางใจ พวกคนแกประหลาดพวกนั้นตายจนสิ้นแลว ผูใดจะสามารถถือ
หางปกปองเขาได อีกไมนานก็จะไดรับขาวคราวแลวขอรับ” คนกลุมนี้เรงแสดง
เจตนารมณ
“ขาขอเตือนพวกเจาวา อยาใหมีชองโหวแมแตนอย มิเชนนั้นขาจะควานเอาเสน
เอ็นของพวกเจาออกมา แลเนื้อหนังของพวกเจา หากเกิดอุบัติเหตุแลวละก็ จะไมมีผูใด
รอดชีวิตไปได!”
“พวกเราจะจัดการอยางเหมาะสม ใหเขาถูกแมลงพิษกัดจนตายดวยอุบัติเหตุ
หรือไมก็ถูกสัตวรายที่พุงออกมาจากปาเขาทําใหตกใจ และคอยๆ ปวยตาย ทําได
แมกระทั่งเชื้อเชิญผูรายบางสวนมา ไมตองลงมือ แตสามารถ...”
“พอแลว พวกเจาออกไปใหหมด ขารอดูเพียงผลลัพธเทานั้น” ผูดูแลโบกมือไลคน
เหลานี้ไป
กลางชนบทชํารุดทรุดโทรมเย็นเยียบมากยิ่งขึ้น สายลมโชยมา บานหนาตางเกาดัง
เอี๊ยดอาด ราวกับเสียงวิญญาณร่ําไหทามกลางค่ําคืนดึกสงัด
เหลาผูสูงวัยตางก็ลาโลกไปจนสิ้น และในระยะกวา 10 ปมานี้ ก็ไมมีนักโทษใหมถูก
เนรเทศมายังที่แหงนี้ ทําใหที่นี่เงียบสงัด ไรซึ่งพลังชีวิตของมนุษย
กระทั่งยามรัตติกาล แมแตขารับใชก็ไมยินยอมออกนอกประตูจวน มิกลาเดินเหิน
กลางชนบท
“ชื่อของเจา...” เจาตัวเล็กเกาหัว พวกเขามีชื่อเดียวกัน
“พวกเขาเรียกขาวา สือฮาว ตั้งแตแบเบาะ” เด็กคนนั้นเอยเสียงเบา กมหนากมตา
สีหนาเศราโศก เหลาผูสูงวัยตางก็ตายจากกันไป เขารูสึกโดดเดี่ยวอางวางเปนอยางมาก
“อยางนั้น เจาก็ใชชื่อนี้แหละ เดี๋ยวขาตั้งชื่อใหม” เจาตัวเล็กกลาว เด็กคนนี้รับ
เคราะหแทนเขามากมาย เขาไมอยากขอคืนชื่อที่เด็กคนนี้ใชมาโดยตลอด
“ไมตองหรอก ขาเปลี่ยนเองก็พอแลว ชื่อนี้จะกระตุนความทรงจํามากมายของขา
ขาอยากจบเรื่องราวทั้งหมดนี้” เด็กชายขางกายกลาว
หลังจากครุนคิดอยูนาน เขาก็ตั้งชื่อใหตนเองวา สือชิงเฟง เขาหวังวานับแตนี้ตอไป
เขาจะเปนอิสระเฉกเชนสายลม หนีจากคอกสัตวแหงนี้ไป
เด็กชายทั้งสองแววตาเปนประกาย จองมองกันและกัน พลันเกิดเสียงหัวเราะ
“ขาอยากไปเยี่ยมตาเฮย” เสี่ยวชิงเฟงเอย ในดวงตาฉายแววอาลัยและคะนึงหา
หวังอยากไปเยี่ยมเยียนสหายที่ดีที่สุดกอนลาจาก
หลายปมานี้ เขาอางวางเปนอยางมาก ไมมีคนวัยเดียวกัน ไมมีเพื่อนเลน มีเพียงเสือ
ดําตัวนั้นที่สามารถทําใหเขายิ้มอยางมีความสุข เขานาสงสารมาก
“ได!”
เมื่อฟาสาง พวกเขายังไมทันไดขยับกาย ก็มีเสียงดังมาจากนอกประตูจวน น้ําเสียง
กองกังวานแววมาวา “ลูกเอย เจาอยูที่ไหน ลุงมารับเจาแลว ออกจากดินแดนผีหา
ซาตานนี่เสีย จะไดไมถูกพวกขาทาสพวกนั้นรังแก”
ชายวัยกลางคนเขาสูชนบท รางกายสูงใหญกํายํา ใบหนาเต็มไปดวยหนวดเครา
คอนขางหาวหาญ เจาตัวเล็กลุกยืนขึ้น หลบหนีออกไปดวยไมตองการใหคนพบเห็น
“อา ทานลุงไหนี่เอง!” เสี่ยวชิงเฟงดีอกดีใจ
ทานลุงไหเปนลูกชายของผูเฒาไห ครอบครัวนี้ตางก็ดีกับเขามาโดยตลอด เหลาผู
ชราทยอยกันลมตายจากไป ทานผูเฒาไหและลูกชายเห็นพองตองกัน ตัดสินใจจะรับ
อุปการะเด็กคนนี้ ดวยรูสึกวาเขานาสงสารมาก
“หนีไปจากที่นี่คงไมดีมากนัก” มีขารับใชเดินออกมาขัดขวาง
“ไมดีกับผีอะไร หากเด็กคนนี้อยูที่นี่ตอไปคงอยูไ ดไมเกิน 3 เดือนเปนแนแท ขาขาง
นั้นของเขาพิการไดอยางไร พวกเจาไมรูอยางนั้นรึ? เมื่อผูเฒาลมปวยหนัก ก็มีเจียวพิษ
ตัวหนึ่งโผลพรวดมา กัดขาของเขาจนไดรับบาดเจ็บเชนนี้...” ทานลุงไหขุนของใจ หนวด
เครากระเพื่อมดุจเหล็กกลา
“ทานลุงไห ขาจะไปเยี่ยมตาเฮยกับทานนะขอรับ” เสี่ยวชิงเฟงวิ่งออกไป
นี่เปนหนึ่งหมูบานซึ่งรับหนาที่ขนสงเสบียงอยางเหยื่อลา ผลหมากรากไมใหแกบาน
เกิดแหงที่ 2 ของตระกูลหินผา ขนาดไมใหญนกั มีเพียงรอยกวาครัวเรือนเทานั้น
“โฮก...” เสียงคํารามดังแววมา เสือดําขนาดใหญปรากฏขึ้นหนาหมูบาน สูงกวา 3
จั้ง ยาวเกือบ 6-7 จั้ง ขนาดใหญโตมโหฬาร วิ่งมาทางนี้อยางรวดเร็ว ดานหลังของมันยัง
มีเสือนอย 4 ตัวบริสุทธิ์ไรเดียงสาวิ่งตามมาเปนพรวน
“ตาเฮย...” เสี่ยวชิงเฟงกระโจนออกไปอยางเปยมดวยความสุขอยางรวดเร็ว
ในผืนปาไกลหางออกไป เจาตัวเล็กตะลึงงัน เสือตัวนี้ไมธรรมดา มีพลังงานเต็มเปยม
ภายในรางกายมีอักขระลึกลับโดยกําเนิด เปนสัตวประหลาดดุรายตัวหนึ่ง
ที่หางไกล เมื่อชายหนุมสีหนาเยือกเย็นมองเห็นฉากนี้ก็กลาววา “สมควรตาย สอง
พอลูกตระกูลไหอุปการะเลี้ยงดูเด็กคนนั้น พอลูกคูนี้ลวนเปนผูกลา ซอนตัวอยูที่นี่อยาง
ไดรับความเคารพศรัทธาจากชาวบานละแวกนี้”
คืนนั้น สัตวประหลาดกลางปาเขาคําราม มีเงาดําขนาดใหญปรากฏขึ้นจํานวนมาก
ราวกับคลุมคลั่ง พุงตรงมาหมูบานหมายลางบางที่นี่
“โฮก...”
“ไอหยา ไมไดการณแลว สัตวรายมาแลว พวกมันจะทําลายชีวิตคน รีบหนีเร็วเขา!”
ชาวบานหวาดผวา
“ผลุบๆ”
...
ทามกลางความมืดมิด เสียงเคลื่อนสายธนูดังขึ้น ลูกศรเปลงประกายทั้งมีอักขระแวว
วับลอยออกมา เล็งยิงเงาดํามหึมาพวกนั้น เสียงสัตวคํารามหยุดลง สัตวใหญหลายตัวลม
ตาย
เพียงชั่วครู ชาวบานตางสงบจิตสงบใจ
64knk
ae0lu
“ผูเฒาไหยิ่งแกยิ่งแกรง ไมคิดวาจะสังหารสัตวประหลาดเชนเปยว[3]ไดอยาง
งายดาย” ชาวบานกลาวขอบคุณดวยใจจริง
เจาตัวเล็กพยักหนาอยูกลางผืนปาที่หางไกล พอลูกตระกูลไหเปนผูกลาสันโดษ
ความสามารถไมธรรมดา เกงกาจเปนอยางมาก
“เจาผูเฒานี่สามารถยิงธนูอักขระได มีพลังแกกลา คงมิใชผูกลาตะลึงโลกจริงๆ
หรอกกระมัง?” ไกลออกไป กลุมคนขมวดคิ้ว ดวงตาเผยจิตสังหาร
หลายวันตอมา แมลงมีพิษและสัตวประหลาดดุรายปรากฏขึ้นอยางไมขาดสาย กอ
ความวุนวายไปทั่วหมูบาน แมวาทั้งหมดจะถูกพอลูกตระกูลไหสังหารจนสิ้น แตยังคงทํา
ใหชาวบานสั่นเทิ้มดวยความกลัว
“นารังเกียจเสียจริง พวกเขากําลังบีบคั้นใหขาสงมอบตัวเด็ก หากสงกลับไป ขากลา
ฟนธงวาเขาคงอยูรอดไมเกิน 2 เดือนเปนแน” ทานลุงไหโกรธแคน
“ชางเถิด พวกเราซอนตัวอยูที่นี่นานพอแลว ถึงเวลายายถิ่นฐานแลว พาเด็กคนนี้ไป
ดวยกัน แนนอนวากอนจะจากไป ขาเตรียมพรอมทําการเขนฆาใหสิ้น” ผูเฒาไหกลาว
เสียงเย็น
กลางค่ําคืน เมื่อมีสัตวประหลาดโจมตี เงาสองเงาจะเคลื่อนไหว ปราดเปรียวดุจ
วิญญาณ ลอยพาดผานทองฟา หายลับไปในที่หางไกล
“อา...”
“อา...”
เสียงรองโหยหวนดังขึ้นไมขาดสาย ไมเพียงสัตวประหลาดเทานั้น ยังมีผูคนเสียชีวิต
อีกดวย มือดีซึ่งถูกสงตัวมาจากผูดูแลลวนแข็งแกรงและไมธรรมดา บําเพ็ญอักขระ
กระดูก หากธรรมดาจนเกินไป จะสามารถรับหนาที่ไลติดตามเบาะแสและขาวคราวของ
คูสามีภรรยาสือจื่อหลิงไดอยางไร ทวา พวกเขารายกาจไมพอ คน 20 กวาคนลวนถูก
สังหาร ไมมีผูใดเหลือรอดไปได
“สุดยอด!” กลางปา เจาตัวเล็กตกตะลึง
เขาอาศัยอยูกลางปาเขาเปนเวลาหลายป ตอสูกับเหลาสัตวประหลาดดุรายทั้งหลาย
เขายอมรูวิธีการอําพรางกลิ่นอายของตน มิใหถูกคนพบ
ณ เมืองทะลวงเมฆ เมื่อผูดูแลไดรับขาวคราวนัยนตาก็พลันขมึง เหลามือดีตาย
พรอมกัน 20 กวาคนภายในคืนเดียว นี่ไมใชสิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถกระทําไดอยาง
สิ้นเชิง
“ตองใหขาออกโรงดวยตัวเองสักคราอยางนั้นรึ?!” เขาลุกยืนขึ้นโดยพลัน กลิ่นอาย
เกรียงไกรแผกระจาย สะเทือนจนกําแพงทั่วหองแตกราว
ยามฟาสวาง กลางคฤหาสนมโหฬาร อวี่เหมิงลุกขึ้น เดินเลนกลางสวนปา เอยถาม
อยางไมทกุ ขรอนวา “ไดยินวาเจาสูญเสียมือดีไปบางสวนรึ?”
ผูดูแลโคงตัวทันควัน กลาวอยางไมกลาสบสายตาวา “ขอรับ ที่นั่นมีมือดีซอนตัวอยู
เกงกลาสามารถ ขาเตรียมออกโรงฆาพวกมันใหสิ้นดวยตัวขาเอง”
อวี่เหมิงกลาวอยางเย็นเยือกวา “มือดีรึ ขาชอบ ระยะนี้ขาเลี้ยงสัตวประหลาดไวตัว
หนึ่ง ตองการเลือดของผูกลา เจานําพวกคนขางกายขาไปดวย ไปจับตัวสองพอลูกนั่นมา
ใหขา ขาสงสัยวาพวกมันตองมีความเปนมาบางอยาง”
ผูดูแลตะลึงงัน จากนั้นก็ดีอกดีใจ หากบุคคลสําคัญแหงเผาสายฝนเคลื่อนไหว จะมี
ผูใดเหลือรอดไปได? แมพอลูกคูนั้นจะเปนมือดีสันโดษ ก็จะตองตายอยางไรทกี่ ลบฝง[4]
เขารูวาระยะนี้อวี่เหมิงทํางานไมราบรื่น มีไฟโทสะในใจ หากวาปะทุแลวละก็ อาจ
เกิดสถานการณระส่ําระสายครั้งใหญในดินแดนตะวันตกแหงนี้!
ณ หมูบาน ชิงเฟงกลาวอยางซาบซึ้งในบุญคุณวา “ทานผูเฒาไห ขาไปกับพวกทาน
ไมได ขาจะจากไปพรอมกับพี่ชาย เขาบอกวาสามารถรักษาขาของขาใหหายดีได พวก
ทานไปเถิด มิเชนนั้นผูรายเหลานั้นไมยอมรามือเปนแน”
สุดทาย พวกเขาพบกันกลางปาทึบ และเจาตัวเล็กก็ปรากฏตัวขึ้น
“ขอบคุณผูเฒาไหกับทานลุงไหมากนะขอรับ พวกทานรีบไปเสียเถิด ออกจาก
หมูบานนี้ไปเสีย ดินแดนตะวันตกจะเกิดแผนดินไหวครั้งใหญแลว” เจาตัวเล็กกลาว
“เจาหนู เจาชางนาสนใจ เพิ่งจะพบหนากันครั้งแรกก็บอกกลาวขาวคราวเชนนี้แก
พวกเรา” ชายชรากลาวยิ้มๆ
“เจาหนู เจากําลังเจตนาพูดใหพวกขาตกใจใชหรือไม?” ทานลุงไหกลาว
“เปนเรื่องจริงขอรับ” เจาตัวเล็กกะพริบตาปริบๆ กลาวดวยความสัตยจริง หากแต
มองอยางไรก็เปนตุกตากระเบื้องเคลือบที่งดงามนารัก ไมทําใหคนเกิดความเชื่อศรัทธา
มากนัก
“จะเกิดอะไรขึ้นรึ?” ชายชราเอยถาม
“ผูรายทั้งหลายที่ถือกําเนิดในดินแดนตะวันตกจะไดรับการลงทัณฑ!” เจาตัวเล็กกํา
หมัดแนน
“เจาหนู เจาจะทําอะไร?” ผูเฒาไหถาม
เจาตัวเล็กขุดเอาศพของเหลามือดีซึ่งถูกผูเฒาและลูกชายสังหารออกมาไมกี่ศพแลว
เอยวา “รอสักครู”
สุดทาย เขาพุงไปยังชนบททรุดโทรมนั่นพรอมกับนําเอาซากศพไปดวย
“เขาจะทําอะไรนะ?” สองพอลูกไลตามไปติดๆ พรอมกับถามชิงเฟงดวยความไม
เขาใจ
เพียงชั่วครู พวกเขาเนื้อตัวเย็นวาบ เกิดความหวาดกลัว
ที่หางไกล เปลวเพลิงทวมทนทองฟา เหลาขาทาสบริวารวิ่งอุตลุดออกมา ชนบท
กลืนหายเขาไปในกองไฟ
ทานลุงไหหนังหัวชา เอยวา “นี่เปนถึงบานเกิดเมืองนอนแหงตระกูลหินผา ปกติรก
ราง ไรคนปกครอง แตวาผูใดกลาเผาใหสิ้น มันจะนํามาซึ่งหายนะสะทานฟา!”
“รีบไป ไมนานคงมีกษัตริยเดินทางมาดวยตนเองเปนแน!” ผูเฒาไหเองก็หวาดกลัว
ไมคาดคิดแมแตนอยวาเจาตัวเล็กกลาทําเชนนี้ ชางใจกลาบาบิ่นเสียจริง
“อา พี่ชายทําเชนนี้นี่เอง” เสี่ยวชิงเฟงก็ตกตะลึง
เจาตัวเล็กกลับมา กลาวดวยวาสงบวา “บานเกิดของขามีเพียงหนึ่ง มิใชที่นี่ ขาไมมี
ความสัมพันธใดกับประเทศหินผานั่นแลว”
ครั้งเยาววัย เขาถูกชวงชิงกระดูกขั้นสูงสุด ผูคนที่นั่นอํามหิตเลือดเย็น กดขี่ขมเหง
ครอบครัวของเขา และที่แหงนี้ ตัวแทนของเขาประสบกับทุกขเวทนาเชนนี้ ไมมีผูใดใสใจ
เกิดเรื่องพรรคนี้ขึ้น ทําใหเขาหมดความรูสึกอยากคืนสูตระกูลหินผาในเมืองจักรพรรดิจน
สิ้น
แมเขาจะมีจิตใจดีงาม แตมิไดออนแอ กลาทําทุกอยางดั่งใจตองการ
“ไปกันเถอะ!” ผูเฒาไหเกิดความหวั่นเกรง ไมกลาอยูที่นี่ตอไป
พวกเขาหายลับไปอยางรวดเร็ว
“อะไรนะ บานเกิดแหงตระกูลหินผาถูกแผดเผาจนสิ้นซากงั้นรึ?!” เมื่อผูดูแลทราบ
เรื่อง ใบหนาพลันซีดเผือก
“โฮก...”
เมื่ออวี่เหมิงทราบเรื่องก็เปลงเสียงคํารามสะทานฟาสะเทือนแผนดิน เขารูอยูแลววา
จะมีหายนะสะทานฟาเกิดขึ้น ถือกําเนิดในดินแดนตะวันตก และเคยเผยโฉมหนา หาก
ตรวจสอบ ก็ไมมีทางหนีรอดไปได
“เจาโง!” อวี่เหมิงคํารามลั่น เงื้อมมือฟาดผูดูแลซึ่งบําเพ็ญตนอยางแกกลาจนลอย
ลิ่ว ฟนหลุดรวงทั้งปาก อาบยอมดวยเลือด
“ใตเทา ขามิไดเปนผูสั่งการ!” ผูดูแลตกใจจนสั่นสะทาน ลมพับลงไปคุกเขากับพื้น
ดังพรึ่บ
“ไมวามันผูใดเปนคนทํา จะตองกอใหเกิดหายนะสะทานฟา ประเทศหินผาจะตอง
สงกษัตริยมา ไลลาเสาะหาใหถึงที่สุด เลหกลที่ผานมาของเจาคงปดไมมิด และขาเองก็
จะถูกดึงเขามาพัวพัน...” อวี่เหมิงโกรธแคน เสนเลือดสีเขียวตรงหนาผากปูดโปน ภายใน
ใจเกิดความหวาดกลัวเปนอยางมาก
“กษัตริยจะออกโรงดวยตัวเอง...” ผูดูแลอึ้งงัน เนื้อตัวสั่นระริกคุกเขาอยูตรงนั้น
ตกใจจนจวนจะสิ้นลมหายใจ
..............................
[1] เสนใยแมงมุมรองรอยจิง้ หรีด สํานวนจีน หมายถึง เบาะแสรองรอย
[2] ถึงไมมีสิบก็มีแปดมีเกา สํานวนจีน หมายถึง มีความเปนไปไดสูง มั่นใจมาก
[3] เปยว สัตวประหลาด รูปรางคลายเสือ มีปกงอกออกมาจากลําตัวทั้งสองขาง
[4] แมตายก็ไรที่กลบฝง สําวนจีน หมายถึง ตายอยางอนาถ
บทที่ 76 ประเทศหินผาสะเทือน
กษัตริยขนานแทจะปรากฏกาย เมื่อผูดูแลไดฟงดังนั้นก็ลมพับลงไปตอนนั้นทันที
ใบหนาซีดขาวไรสีเลือด รางกายสั่นสะทานดวยความเย็นเยือก แมแตฟนก็สั่นกระทบกัน
เขาหวั่นเกรงอยางเปรียบไมได หากตรวจสอบอยางละเอียด ผูเกี่ยวของทั้งหมดจะ
ถูกสังหารจนสิ้นซาก ในตอนนี้ก็สามารถคาดการณได อีกไมนานจะตองมีศีรษะเกลือก
กลิ้ง หลนรวงเปนจํานวนมาก
เมื่อกษัตริยบันดาลโทสะ เลือดหลั่งเปนสายน้ําโลลอยลอง ซากศพเกลื่อนกลาดสิบ
หมื่นลี้ ผูใดก็ขวางไมได! เขาหมดหนทางรอด แผนดินกวางใหญเพียงนี้ ก็ไรซึ่งที่ใหเขา
หลบซอน!
อยาวาแตเขาเลย แมแตอวี่เหมิงก็พรั่นพรึง เดินไปดวยใจที่หวาดกลัวอยางขีดสุด
เรื่องราวบานปลายใหญโต แมแตเขาก็ปดไมมิด นั่นเปนถึงบานเกิดแหงตระกูลหินผา ไม
อนุญาตใหผูใดดูหมิ่นหยามเหยียด
“ขาไมไดทํา นี่มันไมใชเรื่องดี...” ผูดูแลลมพับอยูตรงนั้น ดวงตาไรแวว พูดซ้ําๆ ไม
หยุดไมหยอน สูญสิ้นความนาเกรงขามที่เคยมี
“ไสหัวไป!”
อวี่เหมิงเดือดดาล ยกขาขึ้นถีบรางกายของเขา พลันเกิดเสียงกระดูกหัก ผูดูแลแผด
รองอยางเจ็บปวด กระอักเลือดคําใหญ ทั้งตัวลอยขึ้นสูง ชนโครมเขากับภูเขาเทียมที่อยู
ไมไกลนัก
ภูเขาเทียมพังทลายดังโครม ทับถมเขาไวเบื้องลาง ฝุนละอองพวยพุง
อวี่เหมิงใบหนาขาวเกลี้ยงเกลา ยามไมสําแดงเดชก็ไรซึ่งความปราดเปรียวดุดันเฉก
เชนผูกลาทั่วไป ทวาตอนนี้ นัยนตาเผยแววชั่วราย อยากลงมือฆาผูดูแลใหสิ้นหลายครั้ง
หลายครา แตสุดทายเขากลับลังเล แมจะสังหารผูดูแลก็ไมมีประโยชน ดวยพละกําลังอัน
ยิ่งใหญปานนั้นของตระกูลหินผา จะตรวจสอบเรื่องนี้ใหถงึ ที่สุด มิใหตกหลนแมแตนอย
ตอมา เขาหวั่นวิตกจนเนื้อตัวสั่นเทา ในขณะที่เขาคิดอยากฆาปดปากคนที่เกี่ยวของ
ผูอาวุโสแหงตระกูลเองก็มีความคิดเชนเดียวกัน และกําจัดเขาทันทีใชรึไม? เพราะ
เรื่องราวครานี้ใหญโตอยางแทจริง มันรายแรงและเกินไปอยางที่สุด
กลางมหานครแหงหนึ่งในดินแดนตะวันตก ผูกลาหลายคนสําแดงกระดูกล้ําคา
บรรพกาล อักขระเปลงแสงวูบวาบ แปลงรางเปนแทนบูชาขนาดเล็กที่เกาแกและเรียบ
งาย พวกเขาวางสาสนฉบับหนึ่งลงบนนั้น
ลําแสงสวางวาบ สาสนมลายหายไป
ในขณะเดียวกัน ณ ประเทศหินผากวางใหญไพศาล ภายในดินแดนจักรพรรดิ
กระดูกล้ําคาของทายาทอสูรบรรพกาลหลายชิ้นสองแสง แปลงเปนแทนบูชาขนาดใหญ
ดานบนเปลงแสงสวางวาบ ปรากฏสาสนฉบับหนึ่ง
“อะไรนะ บานเกิดแหงที่ 2 ถูกทําลาย เปลวเพลิงแผดเผาจนสิ้นซาก ชางอาจหาญ
เสียจริง!”
เมื่อผูอาวุโสผูหนึ่งไดอานสาสนก็บันดาลโทสะทันที ประเทศหินผามีอาณาเขต
ปกครองกวาลานลานลี้กําลังรุงโรจน แตกลับเกิดเรื่องเชนนี้ขึ้นอยางไมคาดคิด!
“สงสาสนออกไป!” เขาตะโกนเสียงดัง สาสนถูกคัดลอกมากมายหลายฉบับ แนนอน
วาฉบับจริงตองถวายแกจักรพรรดิ ฉบับอื่นก็กระจายออกไปใหเหลากษัตริยสกุลสือ
“ตูม!”
ในวันนี้ เมืองจักรพรรดิแตก ปลุกระดมคลื่นลูกใหญ จากนั้นโหมซัดสาดอยางถึง
ที่สุด ผูคนมากหนาหลายตาถกเถียงกันเซ็งแซอยางไมเชื่อกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“มันผูใดเปนคนกระทํา จะฝาฝนกฎธรรมชาติอยางนั้นรึ? เมืองจักรพรรดิกําลังอยูใน
ยุครุงเรือง พลังอํานาจเยยปฐพี กลับมีคนวางเพลิงแผดเผาดินแดนที่จะกลับมารุงโรจน
อีกคราของตระกูลหินผา ชางอาจหาญยิ่งนัก!”
“หรือจะเปนศัตรูคูแคนของตระกูลหินผา แตคงไมทําถึงขั้นนั้นกระมัง หากจะรบก็
จะมุงหนาเขาหาคนที่มีชีวิตจิตใจ ผูใดจะทําเชนนี้กันเลา?”
“คงมิใชทายาทอสูรบรรพกาลเชนเทาเที่ย[1]หรือมังกรชือ[2]หรอกกระมัง เคียด
แคนประเทศหินผา บัญชาใหปกษารายวางเพลิงแผดเผาที่นี่”
ขาวแพรสะพัดออกไปไวมาก ทั่วเมืองจักรพรรดิรับรูเรื่องนี้ ผูคนรูสึกเหนือความ
คาดหมาย พูดคุยถกประเด็นนี้กันอยางแพรหลาย
“สอบถึงที่สุด!” จักรพรรดิทําสาสนตอบกลับ มีเพียงตัวอักษร 4 ตัว เมื่อสาสนฉบับ
นี้ถูกเปดเผยยังโลกภายนอก สองแสงทะลวงเมฆา ตัวอักษรทั้งสี่ดุจดาบเซียน สะเทือน
กอนเมฆบนเมืองจักรพรรดิจนคลี่คลาย จิตสังหารทวมทนทองฟา
ลําแสงสีทองปะทุขึ้นราวกับสายฟาพาดผานทองฟาดังครืนครัน ทั่วทุกสารทิศเก็บ
ตัวเงียบดวยความหวาดกลัว ทั่วเมืองจักรพรรดิเงียบสงบลง ปราศจากเสียง
วิพากษวิจารณ
เวลาผานไปเนิ่นนาน เมืองจักรพรรดิจึงกลับสูสภาพเดิม
ณ ประเทศหินผา บนแทนบูชาเกาแกมีของเซนสรวงล้ําคาวางอยู นี่เปนดินแดนเซน
สรวงบูชาเทพเจาบรรพกาล ขณะนี้กระดูกล้ําคาของทายาทอสูรบรรพกาลกําลังสองแสง
เสียงวิ้งดังขึ้น ราวกับมีเทพเจาโบราณองคหนึ่งตื่นจากการหลับใหล กลิ่นอายนากลัว
ตลบอบอวล จากนั้นก็เปดหนทางสีทองหนึ่งเสน
“ออกเดินทาง!” ผูอาวุโสคนหนึ่งตะโกนลั่น จากนั้น แมทัพผูยิ่งใหญกองแลวกองเลา
เหยียบยางลงบนแทนบูชา สาวเทาบนหนทางสีทอง คนเหลานี้ลวนสวมชุดเกราะมันเงา
มือกําเกอ[3] ถือหอกศึกดวยจิตสังหารทะลวงทองฟา
สุดทาย มีกษัตริย 3 องคปรากฏตัว ทั้งตัวกระจายลําแสงสวางเจิดจา ประหนึ่ง
แสงอาทิตย 3 ดวง คลื่นนากลัวสะทานโลกา ยางเทาเขาสูหนทางสีทองพรอมกัน
หนนี้มีกษัตริยใหญ 3 องคออกโรง พวกเขาจะรับผิดชอบไลลาตรวจสอบใหถึงที่สุด
กระทั่งทุกอยางสงบลง ผูมีศักดิ์สูงแหงเชื้อพระวงศจึงนําฝูงชนมาคํานับกราบไหว
แทนบูชานี้ หมอกควันเลือนรางตลบอบอวล ราวกับมีเทพเจาบรรพกาลหนึ่งองคกําลัง
นอมรับพิธีกรรมของพวกเขา
แทจริงแลว ตรงนั้นไมมีสิ่งใดเลย!
ณ จวนหวูหวัง ผูคนทั้งหมดตางตกใจกลัว ไดเชื้อเชิญผูอาวุโส 10 กวาคนมา
เนื่องจากชนบททรุดโทรมแหงนั้นกอเกิดปฏิกิริยาตอบสนองไวมาก โยงใยมาถึงสายเลือด
ของพวกเขา
“ยี่เออรอยูที่ไหน คนในปกครองของเขาเปนผูกระทําใชรึไม?!” ปูสี่ดุจสิงโตทองคํา
ตะโกนลั่น
“ไมมีทาง แมยี่เออรอายุยังนอย แตฉลาดและมีวิสัยทัศนกวางไกล อีกทั้งยังสุขม
เยือกเย็น เขาจะทําเรื่องขลาดเขลาเชนนี้ไดอยางไร ขาวาตองเปนผูอื่นเปนแน” ผูอาวุโส
อีกคนหนึ่งกลาว
ไมนาน ดินแดนตะวันตกก็ไดรับขาวคราว การตรวจสอบขั้นแรก การลอบวางเพลิง
อาจเกิดจากบุญคุณความแคนบางสวน ชนเผาใหญเฉกเชนประเทศหินผาอาจมีสวน
เกี่ยวของ
ขาวคราวแววกลับมา กอเกิดอึกทึกครึกโครม
“นี่มันรนหาที่ตายมิใชรึ? ไมวาจะเปนบุญคุณความแคนใด อาจหาญทําเรื่องเชนนี้ก็
มีแตตายกับตายเทานั้น อยากสิ้นเผาพันธุรึ?!”
“นี่เปนการสั่งสอน จะตองเปนราชนิกูลแหงกษัตริยเปนแน ไมรูฟาสูงแผนดินหนา
[4] วิ่งแจนมากอความวุนวายยังดินแดนตะวันตก นี่เปนการคิดคดทรยศบรรพชนโดย
แท”
ดินแดนจักรพรรดิวิพากษวิจารณกันอยางเซ็งแซ ชนเผาใหญตระหนักถึงความ
อันตราย ดวยเกรงเพียงประการเดียวคือพวกพองพี่นองตนจะไดรับอันตราย
“เอะ อวี่เหมิงสงขาวกลับมา แมเผาสายฝนเราจะมิไดเปนผูกระทํา แตเลหกลที่คน
ใตลางกระทําในดินแดนตะวันตกนั่นคงปดไมมิด ตองทําใหเหลากษัตริยตระกูลหินผาขุน
เคืองเปนแน”
ผูอาวุโสคนหนึ่งแหงชนเผาสายฝนถอนหายใจ มีหายนะปานนี้เกิดขึ้น เปนเรื่องไม
คาดคิดอยางแทจริง หากตรวจสอบไปเรื่อยๆ ผูคนบางสวนของเผาสายฝนจะตองเกิด
ความอัปยศอดสูเปนแนแท
“ทานทวด ที่ทานพูดยังนอยไป ไมวาอยางไร เรื่องวางเพลิงแผดเผาบานเกิดแหง
ตระกูลหินผานี้ พวกเราจะตองรับผลของการกระทําบางสวน ขาคิดวาจะตองเปนการ
ปลุกปนของผูดูแลคนนั้น ทําใหผูอื่นตองเสี่ยงอันตรายเพราะเขาตาจน จึงลอบวางเพลิง
เผาดินแดนเกิดแหงพระราชตระกูลจักรพรรดิจนสิ้นซาก”
“นําเอาผลประโยชนทั้งหมดในดินแดนตะวันตกถอยออกมาใหหมด สวนคนที่เหลือ
ก็ตามแตพวกเขาจะสังหารใหสิ้น ขาคิดวาเชนนี้นาจะเพียงพอแลว พยายามปกปองอวี่เห
มิงอยางเต็มที่”
“ผูคนในดินแดนตะวันตกมีไมนอยเลย กวาจะฝกฝนไดเพียงนี้ไมงายเลย จะสังหาร
ใหสิ้นรึ?”
“เราจะกอหายนะเชนนี้ไมได ขาวาเจาสือจื่อหลิงเปนคนกอเรื่องเปนแน เพื่อปน
เรื่องใสความชนเผาของเรา!”
“ไมผิดแน ทําเชนนี้ได บอกอวี่เหมิงวาตองกัดไมปลอย กลาววาพบตัวสือจื่อหลิง
แลว และเขาใชความสามารถทั้งหมดสืบหารองรอยบางสวนของมันได”
ชาวชนเผาสายฝนหารือเรื่องแผนรับมือ
ณ ดินแดนตะวันตก แมทัพแตละคนโหดเหี้ยมอํามหิตดุจหมาปาเหมือนเสือราย
แววตาราวกับสายฟาแลบ ลวนแข็งแกรงอยางที่สุด เพียงวันที่สองก็สืบหาเบาะแสจนพบ
นําเอาตัวผูดูแลไปเสียแลว
เมื่อตรวจสอบก็พบเรื่องราวอันกระทําในที่ลับมากมาย แมวาพวกเขาจะมิไดลอบ
วางเพลิง แตเห็นไดอยางชัดเจนวา พวกเขาสามารถสัมผัสตนสายปลายเหตุได อีกทั้ง
สมคบคิดกับขารับใชในบานเกิดนั่น นี่เปนถึงการทรยศเนรคุณเสียแลว
ในวันนั้น ศีรษะเกลือกกลิ้ง หากเปนขาทาสบริวารที่สมคบคิดกับคนภายนอก
หลังจากถูกสอบสวนแลว ทั้งหมดก็ถูกตัดหัว เลือดเจิ่งนอง ซากศพเกลื่อนกลาด!
ตอมา เมื่อผูดูแลใหการรับสารภาพ ถูกประหารชีวิตดวยการหลิงฉื่อ[5] คนในชนเผา
ของเขาก็ตองโทษจําคุก ทั้งหมดลวนเห็นแกเขาที่ไมฆาตัวตายดวยเกรงกลัวโทษทัณฑ จึง
ไมไดสังหารคนอื่นในชนเผาทันที
สองวันตอมา อวี่เหมิงถูกควบคุมตัวนําสงมายังมหานคร ยามเขาถูกจับกุมยังคิดให
การปฏิเสธ จึงถูกแมทัพผูหนึ่งใชแสหวดหนาจนเลือดแตกกระเด็นทันที
เขาปกติโหดเหี้ยมอํามหิต ทวาแมทัพใตอํานาจของกษัตริยโหดเหี้ยมอํามหิตกวาเขา
เสียอีก!
อวี่เหมิงขลาดเขลา ถูกนําตัวมายังตําหนักรโหฐานกลางมหานคร เบื้องบนมีพระ
อาทิตยสองแสงเจิดจา 3 ดวง สงเสียงดังครืนครัน กระจายอักขระออกมาสายใหญ ทํา
ใหคนมิกลาสบตาโดยตรง
เขารูวานั่นคือกษัตริยอยางแทจริง ปกครองทั่วหลา กุมความเปนความตายของคน
นับพันลาน เปนบุคคลที่ยิ่งใหญรองจากจักรพรรดิ มีความนากลัวเขยาโลกา!
พระอาทิตยทั้งสามปลอยแสงโชติชวง อักขระเสนแลวเสนเลาผนึกกําลัง ทิ้งรองรอย
ไวกลางอากาศ เสมือนวาจะหลอมละลายฟาดิน กษัตริยทั้งสามนั่งอยูบนบัลลังก ไม
สามารถมองเห็นรางกายที่แทจริงได
มองเห็นเพียงดวงตา 3 คู สวางเจิดจายิ่งกวาหมอกที่ลอยลองขึ้น มันกอรูปแปลงราง
จากอักขระ มีดวงตะวันดับสูญดวงจันทรอับแสง ทั้งดวงดาวถือกําเนิดใหม กลิ่นอายดึก
ดําบรรพตลบอบอวล ทั้งที่เปนเพียงดวงตา 3 คู แตกลับทําใหคนรูสึกราวกับเปนฉากวัน
สรางโลก
“ไมเกี่ยวกับขา ขาคิดวาสือจื่อหลิงเปนผูกระทํา” เมื่ออวี่เหมิงเขามาถึง ก็เอยวาจา
เชนนี้ รับคําสั่งของผูอาวุโสแหงชนเผา ตองคิดหาวิธีการลางมลทิน
“พูดจาสงเดช ประหาร!” กษัตริยองคหนึ่งเอยอยางเย็นเยือก นัยนตาปลอยอักขระ
ออกมาจํานวนมาก นากลัวอยางหาที่เปรียบไมได ผูคนใตลางพากันสั่นระริก
แมทัพผูหนึ่งเดินหนามา ชักดาบคมออกมาตวัดลงไปดานหนาทันที
“ใตเทาโปรดระงับโทสะ” อวี่เหมิงรองลั่น ทวาไมมีผูใดสนใจ ดาบคมในมือของแม
ทัพตวัดลงไปดังผลุบ ละอองเลือดสาดกระเด็น แขนของเขาขางหนึ่งหลุดรวงลงมา
เขาเปลงเสียงรองเจ็บปวด ไมคาดคิดแมแตนอยวา กษัตริยเบื้องบนจะโหดเหี้ยมได
ถึงเพียงนี้ ไมเกรงกลัวสิ่งใด เมื่อเขามาถึงก็ฟนแขนเขาไปหนึ่งขาง นี่เปนเพราะอะไร?
“ใตเทา ขาเปนบุตรแหงชนเผาสายฝน ขา...’
“ขาไมฟงคําพูดพลามไรสาระ ประหาร!” บนบัลลังก แววสุระเสียงเย็นเยือกลงมา
อีกครา
เสียงผลุบดังขึ้นพรอมกับสะเก็ดเลือดปลิววอน แขนอีกขางของอวีเ่ หมิงหลุดรวงลง
บนพื้น เจ็บปวดจนเขารองโหยหวน ใบหนาซีดเผือก จวนจะลมลงกับพื้น
เขาไมเคยคิดมากอนวาจะมีวันนี้ เขาเปนบุตรสายเลือดโดยตรงของชนเผาสายฝน
ยศศักดิ์สูงสง แตกลับมีคนกลาทํากับเขาเชนนี้ ไมไดเห็นเขาในสายตาแมเพียงนิด
เขาอยากคํารามดวยความโกรธา แมจะเปนกษัตริย ก็ควรชั่งน้ําหนัก เพราะขาเปน
คนในชนเผาสายฝน! หากแตน้ําทวมปาก เกรงวาจะกอใหเกิดความเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น
จากนั้น เขาตัวสั่นสะทานดวยความหวาดกลัว นี่คงมิใชแผนตอรองกับชนเผาสายฝน
หรอกกระมัง? มิเชนนั้นพวกเขาจะกลาทําเรื่องเชนนี้ไดอยางไร เมื่อคิดไดดังนั้นก็เกิด
ความเย็นเยือกขึ้นในหัวใจ
“พูด หามมีคําโกหกหลอกลวงแมแตตัวเดียว” คนเบื้องบนเอยอยางไรความรูสึก สั้น
กระชับมาก
อวี่เหมิงอดทนตอความเจ็บปวด บริเวณที่แขนขาดปรากฏอักขระวูบวาบ หยุดเลือด
ดวยตัวของมันเอง จากนั้นเริ่มเอยคําสารภาพ เลาเรื่องราวทั้งหมด แนนอนวา เขาไมมี
ทางยอมรับวาตนทําผิดมหันต พยายามปฏิเสธอยางผลักไสความผิดแกผูอื่น
“ขาอยากฟงความจริง ไมอยากขอแกตัวของเจา”
บนตําหนัก กษัตริยองคหนึ่งดีดนิ้ว พลันมีแสงสีเงินดุจมหาสมุทรโหมซัดสาด เสียง
ผลุบดังขึ้นสองทีพรอมกับขาของอวี่เหมิงที่แหลกละเอียด รางกายของเขาลอยลิ่วออกไป
“อา...” เขาไมสามารถอดทนอดกลั้นได จวนจะคลุมคลั่ง ไยจึงเปนเชนนี้? กษัตริย
องคนี้ชางหยามเกียรติ ไมวาโทษทัณฑหนักหนาเพียงใด ก็มิควรทําถึงเพียงนี้ วิธีการ
รวดเร็วและดุดัน นาสะพรึงกลัวอยางแทจริง
อวี่เหมิงทอแท กษัตริยสูงสงเกินไป การจะสังหารเขานั้นงายดายดุจพลิกฝามือ
สามารถย่ําเขาใหตายในหนึ่งฝาเทา ไมมีผูใดยับยั้งได
สุดทาย เขาอดกลั้นตอไปไมไหว จึงพูดออกมาจนหมดเปลือกดวยความสัตยจริง
“เอาตัวไปประหาร” เสียงไรความปราณีแววมาจากดานบน
“พวกเจากลาดีอยางไร?” อวีเ่ หมิงกระวนกระวาย แมจะตองเสียสิ่งใดก็ยอม
“กลาเพราะพวกขาเปนกษัตริย!” คนเบื้องบนกลาวเสียงเย็น ลําแสงทวมทนทองฟา
ปกคลุมสิ่งกอสรางรโหฐานจนมิด
ประโยคนี้สะเทือนจนอวี่เหมิงออนเปลี้ยเพลียแรง จวนลมพับลงไปตรงนั้นอยาง
เปยมไปดวยความสิ้นหวัง
แมทัพสองคนกาวออกมาลากตัวเขาขึ้น ลากเขาออกไปจากตําหนักราวกับลากสุนัข
ไมไดสนใจไยดีเขาแมแตนอย
อวี่เหมิงรองตะโกนดวยความกลัววา “พวกเจาไมนําตัวขากลับไป แตกลับสังหารขา
อยางไมไตรตรองเชนนี้ คนในเมืองจักรพรรดิจะวาอยางไรเลา? พวกเจาไมมีหลักฐาน นี่
เปนการสังหารคนเปนผักเปนปลา”
“องคจักรพรรดิรับสั่งใหขามาตรวจสอบ พระองคไวเนื้อเชื่อใจ ผูใดกลาขัดคําสั่ง?”
แววสุรเสียงนาเกรงขามจากในตําหนัก
กอนตาย อวี่เหมิงไดสติฉับพลัน คาดเดาตัวตนของคนในตําหนักผูหนึ่งออกในชั่ว
พริบตา คงเปนกษัตริยสงครามเปนแน เลาลือวา เขาเทิดทูนสือจื่อหลิง อัจฉริยะหนุม ผู
นั้นเปนอยางมาก
เขาสั่นสะทานดวยความหวาดกลัว ไมวาจะพูดอะไรก็สายไปเสียแลว
สิ้นเสียงผลุบ ศีรษะลอยลอง อวี่เหมิงถูกฟนคอขาดทันที สิ้นชีวิตบนดินแดน
ตะวันตก ขาวคราวสงกลับดินแดนจักรพรรดิ เกิดปฏิกิริยาตอบสนองเกรียวกราว นี่เปน
ความอัปยศอดสูแหงชนเผาสายฝน
ตอมา เมื่อผูคนทราบวาเปนการกระทําของกษัตริยสงคราม ตางก็ปลอยวางเพิกเฉย
เพียงสมญานามของเขาก็ทราบได ไมมีสิ่งใดที่เขาไมอาจหาญกระทํา
ณ ดินแดนตะวันตก กลางมหานคร หลังจากกษัตริยสงครามสังหารคนเสร็จสิ้นก็
หยุดการเคลื่อนไหว กษัตริยอีกองคขางกายกลาววา “บางทีเรื่องนีอ้ าจมีสวนเกี่ยวของ
กับจวนหวูหวังอยูบ าง”
“โอ ชนเผาสายฝนกับจวนหวูหวังดองเปนแผนเดียวกัน ควรจะมีเรื่องอะไร
บางอยาง” กษัตริยอีกองคพยักหนา
“ไมผิดแน ตรวจสอบตอไป ไมวาอยางไรก็ตาม จําตองตักเตือนไปทั่วทุกหนแหง”
กษัตริยสงครามแสดงความคิดเห็น
จวนหวูหวังกําเนิดสือยี่ อัจฉริยะสะทานโลกา ราวกับพระอาทิตยรอนแรงลอยสูงขึ้น
สะเทือนไปทั่วปฐพีกวางใหญ แตรุนหลังของกษัตริยทั้งสามก็มีอัจฉริยะเฉกเชนเดียวกับ
ราชสกุลหินผา ในภายภาคหนามีอํานาจชวงชิงบัลลังกจักรพรรดิ เปนคูตอสูของพวกเขา
หากมีโอกาสยั้งการโจมตี พวกเขาไมปลอยไวเปนแน
เรื่องนี้บานปลายใหญโต ชนเผาสายฝนไมสงบ เพราะคนในดินแดนตะวันตกถูก
สังหารเรียบ กะโหลกคนดุจภูเขา แมแตพี่นองพวกพองในตระกูลยังยากที่จะหลีกหนี
หายนะครั้งนี้ได พวกเขาเอ็ดตะโรจนไปถึงองคจักรพรรดิ
สําหรับจวนหวูหวังก็ถูกตรวจสอบจนไดเบาะแสพัวพันบางอยาง
ดินแดนจักรพรรดิสะเทือน เกิดความระส่ําระสาย สุดทายจักรพรรดิปรากฏกาย
ประณามผูคนที่เกี่ยวของ และสังหารผูคนจํานวนมาก จึงทําใหวิกฤตคอยๆ สงบลง
ทวาทุกสิ่งทุกอยางก็ไมเกี่ยวของกับเจาตัวเล็กอีกตอไป เขาพาชิงเฟงเขาสูดินแดนรก
ราง พวกเขาแยกทางกับพอลูกสกุลไหเปนที่เรียบรอย
“นี่เปนนมของเสือดาวหิมะ อรอยที่สุดเลย เจาลองดื่มสิ หอมหวานมากเลย” เจาตัว
เล็กใบหนามอมแมม มีเพียงดวงตาคูนั้นที่สวางไสว เมื่อเขาสูดินแดนรกราง ไมสามารถ
หลีกเลี่ยงการสูศึกกับสัตวประหลาดได รางกายมีคราบเลือดไมนอยเลย
“ขาอายุตั้ง 7 ขวบกวาแลว ไมดื่มนมแลว” เสี่ยวชิงเฟงขวยเขิน
“ไมเปนไร ไมมีผูใดเห็นหรอก มันอรอยจริงๆ นะ” เจาตัวเล็กอุมกระบอกมือไผ
จากนั้นดื่มเขาไปอึกใหญอยางเคลิบเคลิ้ม ดวงตาหยีเปนรูปจันทรเสี้ยว
“จริงรึ?” เสี่ยวชิงเฟงกะพริบตาปริบๆ
“จริงสิ!” เจาตัวเล็กพยักหนาอยางจริงจัง
กลางเทือกเขาอีกฟากหนึ่ง พอลูกสกุลไหเฝาสังเกตกระแสของโลกภายนอกอยู
ตลอด ระยะนี้เกิดเกลียวขึ้นกระเพื่อมขึ้นลงในใจ ยากที่จะสงบ
“เด็กคนนั้นเปนอัจฉริยะอยางแทจริง เปนผูมีพรสวรรคอันฟาประทาน และยิ่งมี
ศักยภาพอันไมหมดสิ้นบนเสนทางการบําเพ็ญตนของเขา” ทานลุงไหถอนหายใจ
“หากมีวันไดพบกันอีก ขาเชื่อวา เขาจะตองมีชื่อเสียงสะทานแผนดินกวางใหญนี้
โลกหลาจะแววชื่อเสียงเรียงนามของเขาไปทั่ว” ผูเฒาไหเอยพลางถอนหายใจ
“โฮก...” ขางกายพวกเขา เสือดําตัวหนึ่งคําราม
..............................
[1] เทาเที่ย ลูกมังกรทั้งเกาในตํานานจีน รูปคลายหมาปา มีนิสัยตะกละตะกลาม
ดังนั้น ในสมัยโบราณผูคนจึงนํามาประดับไวบนภาชนะที่บรรจุของเซนไหว และ
เนื่องจากเทาเที่ยเปนสัตวที่มีนิสัยดุรายและตะกละ
[2] มังกรชือ เปนมังกรชนิดหนึ่งในตํานาน มีรูปรางมังกร ปากกวาง เปนสัตวที่ขจัด
ภัยพิบัติและดับเพลิง มักถูกตั้งไวบนหลังคาของตําหนักหรือบาน เพื่อรักษาความ
ปลอดภัยและขจัดสิ่งอัปมงคล
[3] เกอ อาวุธชิ้นนี้ไมมีชื่อแปลไทย มันคือใบมีดที่มีรูปทรงคลายตัว T เสียบกับไม
พลองยาว ลักษณะมีดกับไมจะติดกันเปนแนวตั้งฉาก
[4] ฟาสูงแผนดินหนา เปรียบเปรยวา เรื่องราวลึกซึ้ง ลึกลับซับซอน
[5] หลิงฉื่อ การแลเนื้อเถือหนัง เฉือนเนื้อเปนพันๆ ครั้งจนกวาจะตาย
บทที่ 77 คืนกลับ
“พี่ชาย อาการบาดเจ็บที่ขาของขาจะรักษาหายจริงๆ หรือ?” เสี่ยวชิงเฟงแววตา
เต็มเปยมดวยความหวัง อายุนอยเพียงนี้กลับตองมาเดินขากะเผลก ในใจรูสึกเศราโศก
ปรารถนาอยากคืนสูสภาพเดิม
“ใชแลว ประกอบยาล้ําคาหลายชนิด จะตองรักษาใหหายไดแนนอน” เจาตัวเล็ก
ชายตามองเจาลูกขนบนหัวไหลของตน
เดิมทีเจาลูกขนกําลังหลับสนิท มันเนื้อตัวสั่นเทาจากความกลัว ตื่นขึ้นจากความฝน
กระโจนลงจากตัวเขาอยางรวดเร็ว กระโดดขึ้นบนตนไมเกาแกตนหนึ่ง มองลงมาดวย
ความระแวดระวัง
“เจาลูกขน เจาอยาตระหนี่ถี่เหนียวเลย ชิงเฟงเปนถึงเพียงนี้แลว เจาไมอยากชวย
เขาอยางนั้นรึ?” เจาตัวเล็กหัวเราะพลางกวักมือเรียกมัน
“เจี๊ยกๆ!” ลูกขนรองลั่นอยางไมยินยอมลงมา
ขาซายของชิงเฟงเคยถูกเจียวพิษกัด แมบาดแผลจะสมานแลว แตนากลัวเปนอยาง
มาก บริเวณนั้นราวกับมีเนื้องอก เมื่อเปรียบเทียบกับใบหนาเล็กของชิงเฟงแลวชางไม
สอดคลองกัน
เจียวพิษมิใชเจียวขนานแท คลายอสรพิษเสียมากกวา ทวายาวหลายเมตร บนหัวมี
เขาเดียวงอกออกมา รางกายมีพิษราย หากถูกฉกกัดก็มีแตตายเทานั้น ครั้งนั้น ชิงเฟงถูก
มันกัดไปคําหนึ่ง หากมิใชเพราะทานปูซึ่งปวยหนักไมสนใจสภาพรางกายของตน ใชชีวิต
ของตนตออายุขัยและขับพิษแกเขา เขาคงตายไปเสียแลว
“ชั่วชาเลวทราม เด็กถึงเพียงนี้ พวกเขายังแข็งใจทําไดลงคอ” เจาตัวเล็กเอย
น้ําเสียงดังผูใหญคนหนึ่ง ลืมเลือนไปชั่วขณะวาอายุของตนยังไมมาก
ยามที่เขาเอยประโยคนี้ ในดินแดนตะวันตก ลมคลั่งพัดโหมกระหน่ํา กลุมเมฆ
กระเพื่อมขึ้นลง[1] ดินแดนจักรพรรดิแหงประเทศหินผาสะเทือนไปทั่ว เกิดการเขนฆา
สังหารครั้งใหญ ทวาผูกระทําการครั้งนี้อยางเจาตัวเล็กกลับไมตระหนักรูแมเพียงนิด
เพิกเฉยตอเรื่องนี้ ลืมเลือนเรื่องราวเหลานั้นไปนานแลว
“พี่ชาย พวกเราจะไปไหนกันรึ?” ชิงเฟงเอยถาม
“กลับบานเกิดแทจริงของตระกูลเรา รอวันเจาหายดี ขาจะใชโอกาสนี้ดูแลรักษา
รางกายสักหนอย ใหพละกําลังของขาแข็งแกรงกวานี้เสียหนอย พวกเราคอยเดินทางไป
ศาลาปดฟา”
“เอ บานเกิดเมืองนอนที่แทจริงรึ?” เสี่ยวชิงเฟงเบิกตากวางดวยอารามตกใจ
“ฮี้ๆ...” สัตวประหลาดเขาเดียวแหงนหนาแผดรองยาว รางกายสีเงิน แผงเกล็ดเปน
ประกายระยิบระยับ บรรทุกเด็กทั้งสองลอยลองขึ้นกลางอากาศ ขามผานลําธารระหวาง
หุบเขา มุงหนาไปยังที่หางไกล
ดินแดนรกรางมากดวยสัตวประหลาดดุราย เสนทางนี้จะขาดศึกนองเลือดไปไมได
ทวาเจาตัวเล็กเคยเดินทางผานไปคราหนึ่งแลว เดินทางกลับหนนี้ราบรื่นกวาเดิมอยูมาก
โข
เมื่อชิงเฟงไดฟงเรือ่ งราวทะลวงดินแดนรกรางกวาสามแสนลี้ของพี่ชายตัวนอย ปาก
เล็กอาจนกวาง เผยสีหนาตกตะลึง เขารูสึกวาหากกลับสูประเทศหินผา จะตองกอเกิด
กระแสตะลึงโลกเปนแนแท
“ตรงนั้นมีรังนกขนาดใหญรังหนึ่ง สรางอยูบนยอดเขาสูง กดอัดยอดเขาทั้งลูกไว!”
ใจกลางเทือกเขา บนภูเขาสูงตระหงาน มีหนึ่งรังนก ขนาดใหญอยางหาที่เปรียบ
ไมได เสนผาศูนยกลางยาวราว 100 กวาเมตร สรางอยูยอดเขาสูง กระจายกลิ่นอายอัน
นาเกรงขาม
ไกลออกไป ปกษารายมหึมาตัวหนึ่ง บินโฉบมาราวกับเมฆดําทมิฬ ยาวเกือบ 100
เมตร และยามกระพือปกกลับยาวกวา 200-300 เมตร รังสีเหี้ยมโหดสะทานฟา ขนนกสี
ดําทั้งตัวประหนึ่งหลอมจากทองคํา พรางพรายลําแสงอันนากลัว
บนเสนทางนี้ เสี่ยวชิงเฟงสงเสียงรองดวยความประหลาดใจอยูบอยครั้ง เขาไมเคย
เดินทางในดินแดนรกราง ไมเคยเห็นสิ่งมีชีวิตที่นากลัวถึงเพียงนี้มากอน
“โอะ ตนไมตนนั้นกลืนกินแรดไฟตัวใหญเขาไป!”
ไมนานนัก พวกเขามองเห็นตนไมเกาแกสูงเทียมฟาตนหนึ่ง กิ่งกานสาขาเคลื่อนไหว
ได ทะลวงแรดไฟยาวหลายจั้ง ดูดซึมโลหิต ชางนากลัวเสียจริง ตนไมทั้งตนแปรเปลี่ยน
เปนสีแดง
“ดินแดนรกรางนากลัวเปนอยางมาก มีสิ่งมีชีวิตประหลาดนานาชนิด พวกเรา
จําตองระมัดระวัง หากหยอนยานก็จะนําหายนะแหงความตายมาสูตน” เจาตัวเล็ก
ตักเตือน
นี่เปนแผนดินแปลกประหลาด และยังเปนโลกอันนากลัว สภาพแวดลอมการ
ดํารงชีวิตเลวราย การแขงขันอันทรหด เผาพันธุมนุษยจําตองตอสูจึงจะอยูรอดตอไปได
ตลอดเสนทาง พวกเขาระมัดระวังมาก หลีกเลี่ยงจุดอันตรายมากมาย สถานที่
เหลานั้นมิใชสิ่งที่พวกเขาจะฝาทะลวงไดในตอนนี้ หมอกควันหนาทึบ มองเห็นเงาอันนา
กลัวปรากฏขึ้นในที่หางไกล นากลัวจนอกสั่นขวัญแขวน
แนนอนวา สุดทายก็หลีกศึกนองเลือดไมพน บนเสนทางนี้เต็มไปดวยเหลาสัตว
ประหลาดดุราย เจาตัวเล็กประสบการทําศึกอยูหลายครา เดินทางดวยเลือดสัตวอาบ
ยอมรางกาย
ในที่สุด ผานการบุกปาฝาดงราว 20 กวาวัน เด็กทั้งสองเขาประชิดหมูบานหินผา
บนชุดหนังสัตวเต็มไปดวยคราบเลือดเปนเสนเปนทาง
“โอ คนปา มีคนปามา 2 คน!”
ริมทะเลสาบสีฟา เด็กกลุมหนึ่งมองเห็นคนปาเปรอะเปอนคราบเลือด 2 คนก็พากัน
รองตะโกนเสียงดัง กรูกันเขามารุมลอมอยางรวดเร็ว
“ไมใช มาสีแดงคล้ําตัวนั้นคือสัตวประหลาดเขาเดียว เจาตัวเล็กกลับมาแลว” เมื่อ
เขาใกลริมทะเลสาบ พวกเด็กๆ ก็มองออกในที่สุด
พวกเจาตัวเล็กลําบากลําบนกันมาก แมแตสัตวประหลาดเขาเดียวก็ถูกเลือดสัตว
ยอมเปนสีแดงคล้ํา บนแผงเกล็ดสีเงินระยิบระยับเต็มไปดวยคราบเลือด ทั้งเจาลูกขนก็ไม
ยกเวน เห็นไดวาระหวางทางพวกเขาพบเจอกับศึกนองเลือดมากมาย
“ไอหยา เจาตัวเล็ก เจากลับมาแลว ชาวบานเปนหวงเจาจวนจะขาดใจแลว ออก
เดินทางก็ไปตั้ง 50 กวาวัน!”
“เจาตัวเล็ก เจาชางนาเวทนา ขาจวนจะจําเจาไมไดแลว!”
เด็กๆ รุมลอมกันเขามาอยางรักใครสนิทสนม ไมสนวารางกายเขาจะสกปรก เปอน
คราบเลือด เมื่อมาถึงก็โอบไหลกอดคอเขาไว ราวกับมีวาจาที่เอื้อนเอยไมหมด
“เด็กคนนี้เปนใคร?” เมื่อพวกเขาเห็นชิงเฟงก็เอยถามอยางอดไมได
“เขาชื่อสือชิงเฟง ตอจากนี้ไป เขาก็คือนองชายของพวกทานแลวนะ” เจาตัวเล็ก
แนะนํา
เหลาผูใหญตะลึงงัน พุงตัวมาอยางรวดเร็ว พวกสือหลินหูตางตื่นเตนกันอยางมาก
แมแตผูสูงอายุเหลานั้นก็วิ่งกันออกมา
เด็กเยาววัยคนหนึ่ง ทะลวงดินแดนรกรางเพียงลําพัง อาจหาญเดินทางกวาสามแสน
ลี้ แตกลับมีชีวิตรอดกลับมา นี่เปนเรื่องราวมหัศจรรยโดยแท!
“ดีเหลือเกินลูกเอย เจากลับมาเสียที กลับมาอยางรอดปลอดภัยก็ดีแลว” แมแต
หัวหนาหมูบานผูเครงขรึมเองก็เสียงสั่นเทา วันเวลาที่ผานมาเขากระวนกระวายใจอยาง
หาที่เปรียบไมได
การทดสอบครั้งนี้ยากลําบากเหลือเกิน แมจะมีผูกลาโตเต็มวัยรวมเดินทางไปดวยก็
เปนตายเการอดหนึ่ง แตเจาตัวเล็กกลับทํามันสําเร็จ
นี่เปนการทดสอบอันโหดรายทารุณที่มังกรฉิว[2] หยาจื้อ[3]ทายาทอสูรบรรพกาล
ยิ่งใหญเคยใชทดสอบลูกของพวกมัน แมกระทั่งลูกของอสูรรายเหลานั้นก็อาจสิ้นใจตาย
ระหวางทางได
เจาตัวเล็กทําสําเร็จแลว อีกทั้งยังปกปองเด็กคนหนึ่งกลับมาอีกดวย
“ลูกเอย เกงกาจเสียจริง เจาทําบททดสอบที่นากลัวที่สุดเสร็จสิ้นสมบูรณแลว ภาย
ภาคหนาจะตองผงาดขึ้นฟาเปนแนแท!” เหลาผูอาวุโสเนื้อตัวสั่นเทา ปลื้มใจอยางเปรียบ
ไมได กระทั่งบางคนน้ําตาคลอหนวยในดวงตา
กี่ปมาแลว ตํานานของหมูบานหินผากลายเปนนิทานไปเสียแลว ไมเชื่อความ
รุงโรจนครั้งอดีตแมแตนิด ทวาตอนนี้กลับโผลพรวดขึ้นเพราะเด็กคนนี้ และเปนไปไดวา
อาจปรากฏความรุงเรืองเมื่อครั้งเกาขึ้นอีกครา
“ลูกเอย เจาบรรลุแลวหรือยัง?” หัวหนาหมูบานเอยถามดวยความเปนหวง
“ไมขอรับ ขาเตรียมจําศีลในหมูบาน การบรรลุมิใชปญหา ขาอยากจะประพฤติตน
ใหมีคุณธรรมสูงสงมากกวานี้เสียหนอย” เจาตัวเล็กตอบ
ฝูงชนตางพยักหนา รูสึกยินดีตอเขา
“เจาทําไดดีมาก ทําบททดสอบอันนากลัวเมื่อครั้งบรรพกาลจนสําเร็จเสร็จสิ้น”
เทพเจาตนหลิวกลาว ชาวบานไดยินตางก็รีบคํานับกราบไหวทันที
เสี่ยวชิงเฟงตะลึงพรึงเพริด มองดูดวยความประหลาดใจ
เจาตัวเล็กเองก็ประหลาดใจเล็กนอย เพราะมองดูตนหลิวแตกตางไปจากเดิม
เปลือกไมดําเกรียมหลุดรวงไมนอย ทั้งบนลําตนกลับเห็นรอยปูดโปน ราวกับจะมีสิ่งใด
เล็ดรอดออกมา
“ขาจะจําศีลแลว ในชวงเวลาหนึ่งปนับจากนี้ขาจะเขาสูภาวะหลับใหล” เทพเจาตน
หลิวบอกกลาวขาวคราวเชนนี้ ทําใหชาวบานตางหวั่นใจ
“ทานเทพหลิวที่เคารพ ทานไมเปนไรนะขอรับ?” ผูอาวุโสคนหนึ่งเอยถามอยางสั่น
เทา
“สําหรับขามันเปนเรื่องดี แตพวกเจาจะตองระวัง เพราะในระยะหนึ่งปนี้ ขาไม
สามารถปกปกษคุมครองพวกเจาได” เทพเจาตนหลิวกลาว
ฝูงชนตางหวาดหวั่น พวกเขาจะสูญเสียความคุมครองจากเทพเจาตนหลิว มันจะ
หลับใหลอีกครา ทําใหพวกเขาจิตใจไมสงบ โชคดีเพียงอยางเดียวคือ ที่แหงนี้ไรซึ่งสัตว
รายใดๆ มิเคยมีความวิบัติใดๆ เกิดขึ้นมากอน
“ไมเปนไรหรอก เมื่อครั้งกอนทานเทพหลิวก็หลับใหลจําศีลเปนเวลานาน พวกเราก็
ยังอยูดีมีสุขมิใชหรือ คงไมมีปญหาอะไรหรอก” สือเฟยเจียวพูดปลอบขวัญชาวบาน
“เจาทําดีมาก อยาใชพรสวรรคของตนใหสูญเปลา รอวันขาฟนคืน จะทําใหเจา
มองเห็นอีกโลกที่แตกตาง” นี่เปนคําย้ําเตือนของเทพเจาตนหลิวที่มีตอเจาตัวเล็กเพียงผู
เดียว
เชนนี้เอง นับจากวันนี้เปนตนไป ตนหลิวหมนแสง กานออนเขียวชอุมนั่นไม
เปลงแสงในยามค่ําคืนอีก มันเขาสูการหลับใหลแลว
“ผลุบๆ”
ทะเลสาบสวยงาม สายน้ําสีฟาใสสะอาด เด็กๆ ทยอยกระโดดลงไป วายไปวายมา
อยางสบายอกสบายใจ รองเอ็ดตะโรเสียงดัง เลนกันอยางสนุกสนาน
เจาตัวเล็กเปลือยกายลอนจอน กระโจนลงไปอยางแรง อาบชําระลางคราบเลือดบน
รางกาย ชิงเฟงยืนดูอยูบนริมฝงดวยความอิจฉา เพราะเขาวายน้ําไมเปน
“ลงมาเถิด ไมเปนไร พวกเราจะสอนเจาเอง” เด็กโตกลุมหนึ่งตะโกนบอก
“อา ขาวายน้ําไมเปน ขากลัวน้ํา” ชิงเฟงรนถอย แตก็ถูกลากลงน้ําไป ภายใตการ
ดูแลของเด็กๆ พวกนี้ ในที่สุดก็วายน้ําเปน หลังจากที่จมน้ําบุงๆ อยูครึ่งชั่วยาม
“งดงามเสียจริง ที่นี่สวยงามเหลือเกิน” ชิงเฟงเบิกบานใจ กลางทะเลสาบสีฟา ปลา
ที่แนนขนัดไปดวยแผงเกล็ดสีทองเปลงแสงระยิบระยับ กระโดดสูผิวน้ําใหเห็นอยาง
ตอเนื่อง ริมฝงตนหญาดุจฟูกนอน นกฝูงแลวฝูงเลายางเดิน มีมากมายหลายชนิด ปกนก
สวยสดงดงาม สวางเจิดจา พวกมันไมเกรงกลัวผูคน สวยงามอยางยิ่ง อีกทั้งยังมีฝูงสัตว
ประหลาดเขาเดียววิ่งอยูริมฝง วิเศษอยางหาที่เปรียบไมได
ชิงเฟงคิดวา นี่เปนโลกที่เคยจินตนาการไวอยางแทจริง สงบสุขเปนมงคล ไมมีสิ่ง
รายใดแผวพาน หากอาศัยอยูที่นี่ระยะยาว จะตองมีความสุขมากแนนอน
ยามพลบค่ํา เด็กๆ พากันขึ้นฝง ทาทางลับๆ ลอๆ หากแตเจาลูกขนกลับยิ่งผลุบๆ
โผลๆ ซอนตัวสอดสองในพงหญา
“พวกเขาทําอะไรกันหรือ?” เสี่ยวชิงเฟงเอยถามสือฮาวอยางไมเขาใจ
เจาตัวเล็กพูดเสียงเบาวา “พวกเขาเตรียมจะไปขโมยไขนก เปนไขของปกษาล้ําคา
ซึ่งพบเห็นไดยากมาก เปนไขของนกหลวน มันเปนยาล้ําคาบํารุงรางกายอยางหนึ่ง ปกติ
แลว หัวหนาหมูบานไมใหพวกเขาทําตามอําเภอใจ”
ชิงเฟงตะลึงงัน ในขณะเดียวกันก็รูสึกสนุกสนาน
เปนไปตามคาด เพียงไมนานไกตกใจบินหนี หมาตกใจวิ่งหนี[4] ริมทะเลสาบ
สวยงามโกลาหลอลหมาน เด็กกลุมหนึ่งพรอมกับลูกขนขโมยไขนกมีสีสันลวดลายมากอง
หนึ่ง วางลงบนกองไฟแลวเริ่มปงยาง
เสียงคํารามของสือหลินหูแววมาจากที่ไกลๆ วา “เจาพวกเด็กเวร ตอไปหามพวก
เจาทําเชนนี้อีก หากเปนเชนนี้ตอไป เหลาสัตวประหลาดพวกนี้จะตองตกใจจนวิ่งหนีเปน
แน”
“ขอรับ!” เด็กๆ หัวเราะฮิๆ พลางกินไขหอมกรุน และกัดปลาหนวดมังกรสีทองแวว
วาวหนึ่งคํา สบายใจเปนที่สุด
“ที่นี่ชางดีเสียจริง!” เสี่ยวชิงเฟงเบิกบานใจมาก มีเพื่อนเลนมากมายขนาดนี้ ทั้งยังมี
เรื่องราวนาสนใจมากมาย เขารูสึกมีความสุขเหลือเกิน
..............................
[1] ลมคลั่งพัดโหมกระหน่ํา กลุมเมฆกระเพื่อมขึ้นลง อุปมาวา เกิดเหตุการณการ
เคลื่อนไหวครั้งยิ่งใหญ
[2] มังกรฉิว ชื่อเรียกของมังกรชนิดหนึ่ง หมายถึงมังกรที่ยังเด็ก ยังอยูระหวางการ
เจริญเติบโต ไมมีเขา
[3] หยาจื้อ ลูกมังกรทั้งเกา เปนมังกรหาวหาญ กาวราว มักแกะสลักลงบนอาวุธ
[4] ไกตกใจบินหนี หมาตกใจวิ่งหนี เปรียบเปรยวา สภาวะสับสนอลหมาน
บทที่ 78 วิกฤต
กลางดึก หมอตมยาสองแสง แผดเสียงกึกกอง แววเสียงเซนสรวงเปนระลอก บนผิว
หมอปรากฏปกษาเทพเจา สัตวประหลาด มีชีวิตชีวาเสมือนจริง ราวกับจะพุงทะลวง
ออกมาจากผิวหมอ
ลูกขนหนานิ่วคิ้วขมวด ยกอุงเล็บขึ้นปดตาของตนไว และกัดอุงเล็บอีกขางดวยความ
กล้ํากลืนฝนทน หยดเลือดสีทองสองหยดลงในหมอสําริด
จากนั้น...มันก็กรีดรองราวกับแขนหักขางหนึ่ง เสมือนฆาไกเชือดเปด กระโดดขึ้นบน
ไหลของเจาตัวเล็กอยางรวดเร็ว แอบดูอยางปดตาหนึ่งขาง
ผูคนอดหัวเราะไมได ลูกบอลสีทองเทากําปนตัวนี้ซุกซนแสนรู กระฉับกระเฉงมาก
สรางเสียงหัวเราะแกผูคน
หมอตมยําเปลงแสง ลึกลับมากยิ่งขึ้น มันเริ่มสกัดยาล้ําคาหมอนี้ กระจายกลิ่นหอม
กรุน สองแสงสวยงามเปนหมื่นสาย สีสันมงคลเปนพันสาย งดงามตระการตาและลึกลับ
เปนอยางมาก
“ชิงเฟงอยากังวลไป การสมานเอ็นใหมจะตองสําเร็จเปนแน มียาล้ําคาเหลานี้อยู
รับประกันวาเอ็นและกระดูกของเจาจะตองงอกใหมอีกครา” เจาตัวเล็กปลอบขวัญ
ขั้นตอนนี้ทุกขทรมานมาก แผลเปนบนเทาของชิงเฟงถูกเฉือนออกอีกครั้ง สายเลือด
หลั่งริน เขารองอยางเจ็บปวด น้ําตาหลั่งไหลไมขาดสาย แตกลับมิไดดิ้นพลาน สือเฟย
เจียวชวยทายาล้ําคาแกเขา
“เสนเอ็นและกระดูกถูกจัดใหตรงตําแหนงแลว ทายาล้ําคาหายากเชนนี้จะตองงอก
ใหมอยางแนนอน วางใจเถิด!” หัวหนาหมูบานปลอบใจ
ผูอื่นไมยุงกับยาตมหมอนี้ เหลือไวใหชงิ เฟงทั้งหมด ทาบนเทาของเขาบางสวน
จากนั้นก็ดื่มไปไมนอย ทําตอเนื่องเชนนี้อยูหลายวัน ฝาเทาของเขาเกิดอาการคัน เสน
เอ็นและกระดูกงอกขึ้นมาใหม และสมานเขากัน
“สมกับเปนเลือดของจูเยี่ยนจริงๆ!” มีผูอาวุโสกลาวอยางตกตะลึง
เพียงไมกี่วัน เสนเอ็นขาดและกระดูกบริเวณบาดแผลบนเทาของชิงเฟงสมานกัน
อยางสนิท พักรักษาไมกี่วันก็คงหมดปญหา และจะตองหายเปนปลิดทิ้ง
ฝูงชนมองเจาลูกขนดวยแววตาประหลาดใจ
มันรองเจ็บปวดโดยพลัน เกลือกกลิ้งบนไหลของเจาตัวเล็ก สุดทายก็ยื่นอุงเล็บนอย
ออกมา ออกแรงโบกและทําทาทําทาง ความหมายคือ ตอไปหากมีเรื่องเชนนี้อยาเรียก
หาขาอีก ตีใหตายขาก็ไมทําแลว
นอกจากยาล้ําคาแลว เจาตัวเล็กยังใชอักขระรักษาเขาอยูทุกเมื่อเชื่อวัน ครึ่งเดือน
ตอมา ชิงเฟงกลับสูสภาพเดิม เสนเอ็นและกระดูกของเขาสมานอยางรวดเร็ว
“ยาล้ําคาชางเกงกาจ มีสรรพคุณวิเศษ เพียงไมนานก็หายดีถึงเพียงนี้” ฝูงชนตางตก
ตะลึง ไมรูแมแตนิดวา การหยั่งรูดั้งเดิมที่เจาตัวเล็กฝกฝนก็สรางคุณประโยชนเปนอยาง
มาก
วันเวลาตอมา ริมทะเลสาบมีรางเล็กเพิ่มมาอีกหนึ่ง ฝกวิชาพรอมกับเด็กๆ ผูคนพบ
เห็นตางตกตะลึง นอกจากเขาจะมีรางกายผายผอมเล็กนอย เขายังรูอักขระกระดูก แม
จะไมลึกซึ้งเฉกเชนเจาตัวเล็ก แตก็แข็งแกรงมาก ตามคําพูดของหัวหนาหมูบานคือ เขา
เปนอัจฉริยะคนหนึ่ง เพียงครั้งอดีตรางกายของเขาออนเพลียเทานั้น
ผานการรักษามาสักระยะหนึ่ง ชิงเฟงคอยๆ ฟนคืนสูสภาพเดิม ใบหนาซีดเซียวเริ่มมี
สีเลือด กลายเปนแดงก่ํา เริ่มวิ่งเลนเพนพานกับเด็กในหมูบาน พลังกายไมมีปญหาอีก
ตอไป
วันเวลาตอมา เจาตัวเล็กออกเดินทางแตเชา กลับมาเสียค่ํามืด ตั้งใจศึกษาการหยั่งรู
ดั้งเดิมกลางปาลึกเพียงผูเดียว ตอสูกับสัตวอสูรอยูบอยครั้ง เพื่อใชทดสอบสิ่งที่ตนได
ศึกษามา
การบําเพ็ญขั้นตอไปเรียกวา ‘ถ้ําเทวะสถิต’ สําหรับผูบําเพ็ญตน ขั้นนี้สําคัญเปน
อยางยิ่ง หากขั้นแปรผันเลือดหนักหนาสาหัส ขั้นนี้กลับยิ่งนากลัวหลายเทานัก
เจาตัวเล็กตกตะกอนความคิดอยูตลอด หวังจะสามารถผงาดง้ําค้ําฟาในขั้นนี้ และ
สําแดงอิทธิฤทธิ์อันนาตื่นตะลึง
ยามพลบค่ํา แสงสายัณหดุจเลือด ยอมฟากฟาจนแดง เปลวเพลิงแผดเผาเมฆจน
กระเพื่อม ประดับแสงสีทองเปนสายๆ แมแตหมูบานหินผาก็ราวกับถูกแสงสวางลึกลับ
ปกคลุมไวชั้นหนึ่ง
เออรเหมิงรองโวยวาย จนชาวบานตองเพงตามองไปยังริมทะเลสาบ เห็นเพียงเขา
นั่งอยูบนสัตวประหลาดเขาเดียวที่กําลังวิ่งหอ มันรวดเร็วเกินไป ใบหนาเขาซีดเล็กนอย
ไมกลาลงมา
“นั่นไมใชเจาขาวที่เจาตัวเล็กกําราบได เปนสัตวประหลาดเขาเดียวอีกตัวหนึ่ง เออร
เหมิง เจาเด็กนี่มีพลังเพิ่มอยางแทจริง ไมคิดวาเขาก็อยากจะกําราบอาชาล้ําคาสักตัว!”
พวกผูใหญเอยดวยความตะลึง แมแตพวกเขายังทําไมได
เมื่อไดยินวาจาเชนนี้ เออรเหมิงจวนจะรองไหเสียแลว เอยดวยน้ําเสียงปนสะอื้นบน
หลังของสัตวประหลาดเขาเดียวสีเงินแวววาววา “ผูใดใครกําราบมันกัน? ขากําลังกิน
ผลไม มันก็กรูเขามาหมายอยากกินดวย ไมเกรงกลัวขาเลย ปรากฏวา... ขาเกิดคันไมคัน
มือ จึงขึ้นมานั่งบนหลังมัน จากนั้นมันก็คลุมคลั่งขึ้นมา!”
เมื่อชาวบานไดยินดังนั้น ตางก็หัวเราะเสียงดัง
ระยะนี้ เจาขาวกลับเขาไปยังฝูงสัตวอีกครา ทวามันเขาออกหมูบานไดอยางอิสระ
ชาวบานยังปอนเบอรรี่แกมันอยูตลอด ทําใหฝูงสัตวประหลาดเขาเดียวลดระดับความ
ระแวดระวังลง มีตัวสองตัวกรูเขามาแยงกินแยงดื่มอยูบอยครั้ง
เปนดั่งเจาตัวเล็กกลาว ฝูงสัตวประหลาดเขาเดียวก็คอยๆ ยอมรับชาวบาน คงจะ
กลายเปนอาชาล้ําคาที่สามารถขี่ไดในเร็ววัน
“เออรเหมิง สูเขา มันไมไดโจมตีเจา นี่แสดงวามันก็คอนขางมีไมตรีจิตตอเจา หาม
ตกลงมาใหอับอายขายขี้หนา ยืนหยัดไวใหได” สือหลินหูตะโกนบอก
เชนนี้เอง สัตวประหลาดเขาเดียววิ่งรอบทะเลสาบใหญนับ 10 รอบเต็ม มันไม
เหนื่อยลาแมแตนิด แตเออรเหมิงจวนอาเจียนแลว ราวกับกระโดดขึ้นขี่กอนเมฆลอยฟา
สุดทาย สัตวประหลาดเขาเดียวก็หยุดลง ยกขาหนาขึ้นยืนทาคน ทําใหเขารวงลงบน
พื้นดิน จากนั้นคอยๆ ยางเดินเขาไปในฝูงสัตว
“งดงาม สัตวประหลาดเขาเดียวตัวนี้กําลังหยอกลอพวกเด็กๆ อยางเห็นไดชัด
จะตองหลอมรวมเปนหนึ่งกับหมูบานหินผาของเราไมชาก็เร็ว” หัวหนาหมูบานสือยวิ๋น
เฟงที่มองดูอยูก็หัวเราะขึ้นมาทันที
สําหรับเหลาชายฉกรรจทั้งหลาย หายใจฟดฟดอยูนานแลว หมายอยากไดอาชาล้ํา
คามาครอบครองอยางอดทนรอตอไปไมไหว
เปนไปตามคาด หลายวันตอมา สัตวประหลาดเขาเดียวผอนคลายมากยิ่งขึ้น สนิท
สนมกับพวกเด็กๆ มากขึ้น ยินยอมใหพวกเขาขึ้นขี่หลัง บรรทุกพวกเขาวิ่งเลนริม
ทะเลสาบ
สิ่งนี้ทําใหเหลาชายฉกรรจอิจฉาริษยาเปนอยางมาก แตกลับไรหนทาง พวกเขา
รูปรางสูงใหญเกินไป ไมงายที่จะไดรับความเชื่อถือจากสัตวประหลาดเขาเดียว ยังคง
ระแวดระวังพวกเขาเชนดังเดิม
เหลาผูอาวุโสตางพากันหัวเราะ หมูบานหินผานับวันยิ่งแข็งแกรง อนาคตอันใกลนี้
จะตองปราบสัตวประหลาดเขาเดียวนับ 10 ตัวไดเปนแนแท เพียงแคคิดก็หัวเราะได
สัตวปราดเปรื่องเชนนี้จับตัวไดยาก อยาวาแตหมูบาน ตอใหเปนชนเผายิ่งใหญก็ยาก
ตอการมีสักตัว ทวาพวกมันกลับมีนับ 10 ตัว!
ครึ่งเดือนตอมา เด็กกลุมหนึ่งสงเสียงรองระงม เด็ก 10 กวาคนขึ้นขี่สัตวประหลาด
เขาเดียว สามารถควบมาวิ่งปรื่อ ทวากอนหนานี้ ตองสงเบอรรี่จํานวนมากมา เลี้ยงดู
พวกมันเปนอยางดีเสียกอน
“ฮาฮา ดีจริงๆ เจาตัวเล็ก พวกเรามาแขงกันสักรอบดีไหม? มาดูกันวาสัตว
ประหลาดเขาเดียวของใครรวดเร็วกวากัน” ผีโหวและคนอื่นๆ แลบลิ้นปลิ้นตา และมี
ทาทีหยิ่งทะนง
“ขาอยากไปบําเพ็ญตนมากกวา” เจาตัวเล็กกลาว
“มาเถิด บําเพ็ญตนอยูทุกวันกดดันเกินไปแลว พวกเราออกไปผอนคลาย ถือโอกาส
เขาปาไปลาสัตวเสียหนอย นั่นก็เปนการบําเพ็ญตนเชนกันมิใชหรือ พลบค่ํากลับมาปง
ยางอาหารอันโอชะ ชางดีเสียจริง” เด็กโตคนหนึ่งยุยง
“ก็ได” เจาตัวเล็กครุนคิดจากนั้นพยักหนา
เหลาผูใหญเกิดความอิจฉาอีกครา พวกเขาไมไดขึ้นขี่สัตวประหลาดเขาเดียว แตเจา
พวกเด็กเวรกลับควบมันออกไปทีละคน เด็กๆ หลายคนตางมีอาชาล้ําคาเปนของตน
“ตาจวง ประเดี๋ยวรีบทําใหมันเชื่อง ใหขาไดขี่สักวันสองวัน มิเชนนั้นหากเจากลับมา
ขาจะถลกหนังเจาเสีย” พอของสือตาจวงพูดดวยความขุนเคือง
ขางกาย สือหลินหูก็ตะโกนบอกวา “หูจื่อ ไดยินรึไม เจาเองก็เรงทําใหมันเชื่อง อยา
ใยดีศักดิ์ศรีของตน หากมิใหขาขี่ละก็ ประเดี๋ยวขาจะจัดการเจาเสีย”
“ฮาฮา...” ผูคนตางหัวเราะเสียงดัง พออิจฉาลูก นี่ทําใหผูคนหมดคําจะกลาว
เหลาผูอาวุโสกลับหัวเราะจนหุบปากไมได สถานการณอันดียิ่งในความคาดหมาย
คอยๆ ปรากฏขึ้น หมูบานหินผาฟนคืนสูสภาพเดิมและแข็งแกรงมากขึ้น ไมแนวาสักวัน
อาจจะเกิดความรุงโรจนเฉกเชนครั้งโบราณกาล
ชาวบานตางวางใจ เจาตัวเล็กเคยทะลวงดินแดนรกรางกวาสามแสนลี้ หากมีเขาอยู
เดินเตรอยูละแวกนี้ คงไมมีอันตรายใดๆ
“ไปกัน!” เออรเหมิงตะโกนลั่น พุงตัวออกไปกอนใครเพื่อน
“ชากอน รอขาดวยสิ” เด็กขี้มูกโปงรั้งทาย ปาดน้ํามูกแลววิ่งไลตามไป แมแตเขา
เองก็ไดรับความไววางใจจากสัตวประหลาดเขาเดียว ทําใหพวกเด็กโตซึ่งไมไดขี่ชั่วคราว
อดทึ่งไมได
สัตวประหลาดเขาเดียว 10 กวาตัวตะกุยกีบเทาสีเงิน ราวกับลูกศรวิเศษลอยออก
จากสายธนู วาดแสงสีเงินเปนเสน หายลับเขาไปในเทือกเขา
“เจาตัวเล็กมาลองแขงกันหนอย” ผีโหวเริ่มทะนงตัวอีกครา
“สัตวประหลาดเขาเดียวของพวกเจาสูเจาขาวไมไดหรอก” เจาตัวเล็กกลาว เดิมที
เจาขาวก็เปนสัตวประหลาดเขาเดียวซึ่งเขาเลือกเพราะมันแข็งแกรงกํายํามากที่สุด
ตอมามันไดกินไขของนกยูงหาสีเขาไป กลืนกินเลือดของจูเยี่ยน มันแข็งแกรงมากยิ่งขึ้น
ลําแสงสีเงินไหลเวียนทั่วตัว เปนมาชั้นยอดเหนือธรรมดา
สัตวประหลาดเขาเดียววิ่งไดรวดเร็ว เด็กๆ ตางรองเอะอะโวยวาย พวกมันพุง
ออกไปไกลนับรอยลี้ทันที ผลปรากฏวาเจาขาวนําหนาไปรอพวกเขาอยูดานหนาสุด
“พวกเราไปลาสัตวกันเถิด ถึงคราวประกาศศักดาแลว” หูจื่อแสดงความเห็น
“ซิ่ว”
ลูกศรโลหะลอยผานผืนปา ปลุกปนเสียงสัตวคํารามไปทั่ว เพียงชั่วครู เด็กกลุมนี้ที่ขี่
สัตวประหลาดเขาเดียววิ่งหนีกันจาละหวั่น เนื่องจากพบเขากับสัตวตัวใหญตัวหนึ่งเขา
พวกเขาไมสามารถตอกรกับมันได
แข็งแกรงเฉกเชนเจาตัวเล็กก็ควบเจาขาวหนีอยางบาคลั่ง ตามหลังมาดวยสัตวมี
หนามตัวหนึ่ง เนื้อตัวดําสนิท มีหนามแหลมชี้ฟาทั่วรางกาย แสงสีดําแวววับ คมกริบ
อยางหาที่เปรียบไมได
สัตวมีหนามตัวนี้มีหัวเปนมังกร รางกายมีลักษณะคลายเมน มีหางจระเข รูปราง
ใหญโต ยาวเกือบ 70-80 เมตร มันอาปากพนไฟ พลันยอดเขาก็หลอมละลาย ลาวาไหล
หลั่ง
เด็กๆ ใบหนาซีดเผือก ควบมาหนีกันอุตลุด ไมกลาทะนงตัวอีกตอไป
เจาตัวเล็กรั้งอยูทายสุด เพื่อระวังหลังใหเด็กขี้มูกโปงและคนอื่นๆ นับวาโชคดี สัตวมี
หนามไมวองไว เพียงไมนานมันก็ทิ้งหางไป
“โอแมเจา ชางนากลัวเสียจริง ยามควบสัตวประหลาดเขาเดียวออกมาจากหมูบาน
ขาคิดวาตนกลายเปนวีรบุรุษแนะ ดูแลวตอนนี้ยังเปนลูกหมีตัวนอย จําเปนตองฝกฝนขัด
เกลาใหมาก”
เมื่อหลบหนีจากปามาไดกวารอยเมตร พวกเขาจึงหยุดลง ถอนหายใจเฮือกใหญ
ดวยทาทีที่ยังหลงเหลือความหวาดกลัวอยู
“เจาตัวเล็ก เจารายกาจไมเบา เทือกเขานากลัวเชนนี้ แตเจากลับเดินทางทะลวง
ผานสามแสนลี้เพียงลําพัง ชางนากลัวเสียจริง!”
พวกเขาออกมาเพียงไมกี่รอยเมตรเทานั้น ก็ประสบพบเจอกับรางใหญยักษนั่น หาก
ชากวานี้หนึ่งกาว อาจตองกมหนารับชะตากรรม แมตายก็ไมมีหลุมฝงศพ
“นี่ยังนอยไป เมื่อครั้งพี่ชายเดินทางกลับพรอมกับปกปองขา พวกเราเห็นสัตว
ประหลาดดุรายตัวใหญเทาภูเขา เพียงหนึ่งตวัดมือ ยอดเขาก็ถลมทลาย” ชิงเฟงกลาว
เด็กๆ อาปากคาง ชื่นชมอยางไมหยุดหยอน
“ไมไดการณแลว ขาตองบําเพ็ญตน จะตองฝกฝนอักขระกระดูกใหถึงขั้นสูงสุด และ
จะเปนมือดีผูยิ่งใหญในเร็ววัน” ผีโหวเอยปฏิญาณ
ตาจวง เออรเหมิง หูจื่อ เด็กขี้มูกโปงตางพยักหนา ภยันตรายชั่วขณะ ทําใหพวกเขา
ตระหนักถึงความสําคัญของพละกําลังอันแข็งแกรง จําตองฮึกเหิมและมานะบากบั่น
“นี่พวกเราอยูที่ใดกัน? ระยะทางคงหางจากหมูบาน 600-700 ลี้กระมัง เอะ บนเขา
ลูกนั้นมีควันไฟ” เออรเหมิงชี้ไปขางหนา
หูจื่อเหลือกตาแลวพูดวา “ควันไฟบานเจาหนาและพวยพุงปานนั้นรึ? สามารถ
มองเห็นไดจากภูเขาอีกลูกหนึ่ง นั่นมันไฟไหม ไป พวกเราไปดูเสียหนอย”
สัตวประหลาดเขาเดียว 10 กวาตัวดุจพายุหมุนสีเงิน พุงขึ้นไปยังภูเขาที่อยูขางหนา
ทะลวงผานกิ่งกานของตนไมเกาแก เมื่อมองลงไปขางลาง พวกเขาก็ตะลึงโดยพลัน
นั่นเปนหนึ่งหมูบาน คาดวานาจะมี 200 กวาครัวเรือน ทวาตอนนี้ทุกบานถูกแผด
เผา เปลวเพลิงทะลวงฟา ควันดําลอยลอง
ภายในหมูบานไรเสียงขอความชวยเหลือ มีเพียงเปลวเพลิงลุกโหมและควันไฟ
ขมุกขมัว ปราศจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
“ดูตรงนั้นสิ!” ตาจวงชี้ไปยังที่หางไกล
บนเสนขอบฟา รางใหญตัวหนึ่งกําลังมุงหนาไกลออกไป นอกจากนี้ยังมีผูคนที่นั่งอยู
บนสัตวประหลาด มือถือดาบคมโชกเลือดกําลังลาถอย ระยะทางหางไกลเพียงนี้ก็รูสึกได
ถึงกลิ่นอายเหี้ยมโหดอันหนาแนน
“คนพวกนั้นเปนใครกัน พวกเขาทําลายหมูบานนี้หรือ?” ตาจวงและคนอื่นๆ ตาง
ตะลึงพรึงเพริด รูสึกถึงความเย็นเยือก
เจาตัวเล็กไมพูดไมจา จองมองรางใหญตัวนั้น นั่นเปนสัตวประหลาดดุรายตัวหนึ่ง
บนผิวหนังมีอักขระวูบวาบ ถูกคนกลุมหนึ่งรายลอม ไดรับการเคารพยําเกรง เขาคิดวา
นั่นคงจะเปนเทพารักษตนหนึ่ง
กระทั่งสัตวประหลาดและคนกลุมนั้นหายไป พวกเด็กๆ จึงมองหนากันอยางไมรูจะ
ทําอยางไรดี
“ลองไปดูกันเถอะ”
พวกเขาขี่สัตวประหลาดเขาเดียวพุงลงไปขางลาง เมื่อเขาประชิดหมูบานก็ไดกลิ่น
คาวเลือดฉุนจมูก เมื่อเดินไปขางหนา ตามองเห็นทุกสิ่งที่ควรเห็น อนาถอยางทนมอง
ไมได
ศพแลวศพเลานอนจมกองเลือด มีผูสูงวัยผมขาวโพลน ถูกตัดหัว โยนไปขางทาง ทั้ง
ยังมีทารกในผาออม ถูกสังหารพรอมมารดา
“ต่ําชาเลวทราม แมแตผูเฒาผูแกและทารกก็มิเวน!”
เด็กๆ มองเห็นภาพสลดเชนนี้ รางกายเย็นวาบ โกรธแคนอยางที่สุด มนุษยไยไร
มนุษยธรรมเชนนี้ แมแตสตรี เด็ก ผูสูงวัยและคนออนแอ คนที่ไมมีแมกระทั่งแรงตอตาน
ก็ยังสังหารอยางเหี้ยมโหด ทําไปเพื่ออะไรกัน?
เด็กบางคนนัยนตาแดงก่ํา น้ําตาไหลอยางทนไมได
“นี่เปนกลุมคนประเภทใดกัน ไยจึงทําเรื่องเชนนี้ได?”
เปลวไฟแผดเผา สิ่งปลูกสรางทั้งหมดถูกเผาไหม ทางดานทิศตะวันออกของหมูบาน
เคยเกิดการตอตานอยางรุนแรง นั่นเปนชายฉกรรจกลุมหนึ่ง ทวาลวนถูกฆาแยกชิ้นสวน
ตายอยางอนาถ อาวุธหักจนสิ้น
“อา นี่เปนเทพารักษของหมูบาน ถูกสังหารเชนกัน” เด็กคนหนึ่งพูดอยางตะลึง
กลางหมูบาน มีแทนบูชาอยู ดานขางมีสัตวใหญตัวหนึ่ง รูปรางคลายสิงโต แตกลับมี
8 ขา นอกจากนี้ บนหัวยังมีเขาสีดําคูหนึ่ง มันชุมโชกไปดวยเลือด ลมอยูขางแทนบูชา
รางกายครึ่งทอนถูกแทะกินจนหมด อักขระล้ําคาโบราณในรางกายหายไป
“สัตวประหลาดที่เพิ่งจากไปเมื่อครูกินรางกายของมันไปครึ่งซีก” เด็กๆ ขนลุกชัน
เทพารักษตนหนึ่งกลับกลายเปนอาหาร
กลางหมูบานเปลวไฟทะลวงฟา แมแตทางเดินก็ถูกเผาจนรอนรุม สัตวประหลาดเขา
เดียวทนไมไดเล็กนอย ไมยินยอมจะอยูที่นี่ตอไป
ทันใดนั้น เสียงรองครวญครางคอนขางออนแรงแววมา นั่นคือชายชราผมขาวโพลน
คนหนึ่ง ถูกควานทอง เลือดและลําไสทะลักออกมา แตกลับยังไมสิ้นลมหายใจ
“ทานผูเฒา!”
เด็กๆ กระโดดลงจากสัตวประหลาดเขาเดียว ยอตัวลงอยางรอนรน ตรวจสอบ
บาดแผลของเขา จากนั้นตางก็ตะลึงงัน บาดเจ็บสาหัสปานนี้ยังรอดมาได
“เคียดแคนนัก คนกลุมนั้นโหดรายทารุณมาก... แมแตเด็กทารกไมกี่เดือนยังไมเวน
เขนฆาชาวบานทุกคน” ชายชรารองไหปานขาดใจ
ไมไกลนัก มีเด็กหลายคนถูกฟาดใหตายทั้งเปนบนพื้น ยากที่จะทนมองตอไปได
อนาถจนทําใหรูสึกขนหัวลุกดวยความโกรธแคน
“พวกเขาเปนใคร ไยจึงตองทําเชนนี้?” หูจื่อเอยถาม
“เปนโจรที่โผลมากะทันหัน พวกมันเคยมาแลวหนหนึ่ง เอยขอทองคําดํากับพวกเรา
เมื่อถึงกําหนด พวกเราไมมีให พวกมันจึงฆาลางบาง แมแตเทพารักษก็ตอสูจนตาย”
ชายชราพูดไปรองไหไป อายุอานามมากถึงเพียงนี้ ผมหงอกเปอนเลือดเคลาน้ําตา ทําให
คนปวดใจและโกรธแคน
“ฮือ ขาแคนนัก...” ชายชราดุจแสงสายัณหยามตะวันรอน เมื่อพูดจบก็ทนตอไปไหว
สุดทายใบหนาอาบน้ําตา หลั่งรินเคลาเลือด แนนิ่งไมขยับ
ในที่สุด เด็กๆ ก็ลาจาก หันหลังกลับไปมอง เปลวไฟคอยๆ มอดดับ ทั่วบริเวณ
หมูบานกลายเปนซากปรักหักพัง ดําเกรียมไปทั่ว
พวกเขาจิตใจหมองหมน หมดซึ่งความคิดลาสัตว ควบสัตวประหลาดเขาเดียวกลับ
หมูบานหินผา บอกเลาขาวคราวแกผูใหญ
“หรือวาจะเปนคนกลุมนั้น... วิกฤตมาเยือนแลว” หัวหนาหมูบานไอ มือกุมหนาอก
หวนคิดถึงเรื่องเมื่อครั้งนั้น พวกพองออกไปทองโลกภายนอกดวยกัน แตกลับเหลือเขา
รอดกลับมาเพียงผูเดียว
“กลุมคนนากลัว มาเพื่อ... คนหาขุมทรัพยขั้นสูงสุด” ชายชราเอยพลางถอนหายใจ
ใบหนาเต็มไปดวยความกังวล ทอดมองไปยังโลกหลาไกลหาง
บทที่ 79 โจรโฉด
บนโลกหลานี้มีตํานานเลาขาน อดีตมีผูกุมอํานาจสูงสุดสะทานโลกาผูหนึ่งทิ้งมรดก
ไวที่นี่ ฝงศพในถ้ําโบราณอันเทวะสถิต บันทึกหลักการถายทอดความคิดของเขาไว
ตั้งแตครั้งโบราณกระทั่งวันนี้ ไมทราบแนวามีผูคนออกคนหาตางก็ตองกลับไปมือ
เปลามากเพียงใด แตตองมีสักวัน สายฟาฟาดลงจากสรวงสวรรค ฟาดเทือกเขาจนแหลก
ละเอียด ทําใหถ้ําโบราณเปดเผยออกมา
“พวกขานับวาโชคดีและโชครายในขณะเดียวกัน” หัวหนาหมูบานสือยวิ๋นเฟง
นัยนตาฉาวแววโศกเศราและผานโลกมาอยางโชกโชน พวกพองพีน่ องเมื่อครั้งกอนตาย
จนสิ้น มีเพียงเขาเหลือรอดเพียงผูเดียว ภายในใจของเขามีความเจ็บปวดอยางไมสิ้นสุด
“พวกขาเขารวมสํานักหนึ่ง รวมกันบําเพ็ญอักขระกระดูก สําหรับชายหนุมผู
เดินทางออกจากหมูบานแลว พรสวรรคของขาถือวาไมเลวนัก บรรลุขั้นถ้ําสวรรค เมื่อ
สายฟาฟาดลงมากจากสรวงสวรรค ขากําลังออกบําเพ็ญตนพรอมกับพี่นอง มองเห็นถ้ํา
เทวะสถิตนั่นเขา”
และความวิบัติก็เริ่มตนจากตรงนี้ พวกเขาขุดพบตํารากระดูกจํานวนมาก แตกลับ
ปดปากถ้ําอันแทจริงไมได ไรหนทางเขาสูเขตสําคัญ
ขาวคราวแพรสะพัดออกไป พวกเขาประสบกับการไลลาสังหารอยางไมหยุดหยอน
ผูมีอํานาจทั่วทุกสารทิศลงมือ หมายชวงชิงตํารากระดูกเหลานั้น
“พวกเขาไมทราบ แมตํารากระดูกเหลานี้จะล้ําคา แตกลับไมใชมรดกอันแทจริงของ
ถ้ําเทวะสถิตนั่น พวกมันไลลาตลอดทาง พวกขาหนีเขาไปยังใจกลางเทือกเขา จะหนีไต
ขึ้นฟาก็ไรทาง จะแทรกแผนดินหนีก็ไมพน”
สือยวิ๋นเฟงอางวาง พวกพองพี่นองตายจากไปเชนนี้ทีละคน ผานพันความ
ยากลําบากดวยกันมาเปนพันหมื่น เหลือเพียงเขากับอีกคนหนึ่งหนีพน และรอดตายมา
ได
หลังจากเกิดเรื่องพวกเขาไดออกไปเสาะหาขุมทรัพยโบราณนั้นอีกครา กลับพบวา
กลายเปน ‘ดาวเคลื่อนดาราคลอย[1]’ ราวกับกาลเวลาผานไปเนิ่นนานนับหมื่นป ไมมีสิ่ง
ใดหลงเหลืออยูเลย
“คงจะเปนอํานาจลึกลับของอักขระกระดูก ทําใหขุมทรัพยนั่นฝงลึกลงใตดิน
ลองลอยไปยังแดนไกล ไมมีผูใดรูวาอยู ณ แหงหนใด” หัวหนาหมูบานถอนหายใจ
แมจะเปนเชนนี้ ภายหลังพวกเขาก็ยังพบเจอการไลลาสังหารอยางไมหยุดหยอน
โจรโฉดกลุมหนึ่งปรากฏตัว ยิ่งใหญอยางเปรียบไมได มีเทพารักษตนหนึ่งตามติด ทําให
พวกเขาเปดฉากการหลบหนีอันยาวนาน
“ตอมาเกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย หลายปใหหลังขาถึงหลุดพน กลับมายังหมูบานหิน
ผาพรอมอาการบาดเจ็บ”
สุดทาย มีเพียงเขาที่รอดชีวิต อีกคนหนึ่งกลับมาถึงหมูบานไมนานก็สิ้นใจ
หัวหนาหมูบานไมไดเลาเรื่องราวในอดีตอยางละเอียด ทวาในเรื่องราวเหลานั้น
จะตองมีความลับไมนอยซุกซอนอยู และมีนิทานเรื่องเลามากมาย สามารถซอนตัวจาก
การไลลาอันเนิ่นนานของผูคนเหลานั้น เขาจะตองไมธรรมดาเปนแน
ชางโชคราย สือยวิ๋นเฟงผูมีพรสวรรคไมธรรมดา แตการบําเพ็ญถูกทําลาย ไดรับ
บาดเจ็บสาหัสอีกครา ภายหลัง การบําเพ็ญตนไมกาวหนาแมเพียงปลายนิ้ว อีกทั้งสภาพ
รางกายนับวันยิ่งย่ําแย
“หนาปากทางถ้ํานั้น พวกขาถูกหมอกชนิดหนึ่งโจมตี รางกายไดรับบาดเจ็บ ตอมาก็
ถูกไลลา ทําใหอาการบาดเจ็บประหลาดเลวรายลง ฉะนั้นหลายปมานี้ ขาจึงไมสามารถ
ใชอํานาจอักขระกระดูกไดอยางงายดาย”
สือยวิ๋นเฟงกลาวอยางงายดาย แตกลับสามารถจินตนาการได ครั้งอดีตมีภยันตราย
มากมายเหลือเกิน แตเขากลับเลาผานไปเพียงไมกี่ประโยค ไมไดพูดรายละเอียดอะไร
“ตอนนั้น ผูมีอิทธิพลยิ่งใหญผูหนึ่ง ใตลางมีโจรโฉดกวา 10 แขนง รับหนาที่สืบ
เสาะหาขุมทรัพยสูงสุด ขาคิดวาในวันนี้ พวกมันคงปรากฏตัวขึ้นอีกหน ไมละความ
พยายามคนหา”
ฝูงชนตางประหลาดใจ นี่เปนครั้งแรกที่หัวหนาหมูบานเผยความในใจออกมาตอ
หนาพวกเขา บอกเลาความลับครั้งอดีต แมจะสั้นกระชับ ไมไดลงลึกถึงรายละเอียด แต
กลับสามารถตระหนักถึงภัยวิบัติอันตึงเครียดและนากลัวเมื่อครั้งนั้นได
ผูมีอิทธิพลหลายสายรวมมือกัน ครั้งนั้นตองเกิดกระแสความระส่ําระสายทวมทน
ทองฟาเปนแนแท
“ขาคิดวาขุมทรัพยสูงสุดนั่นจะตองอยูใ นบริเวณนี้ แมวาภายหลังจะฝงตัวลงใตดิน
และลอยลองหายไป แตก็ไมนาไปไดไกลมาก”
ในดินแดนรัศมีสิบหมื่นลี้เคยเกิดการนองเลือดจากสิ่งมีชีวิตทั้งสี่ และในวันนี้ไมมี
แมแตตนหญา พลังชีวิตดับสูญ หมายอยากเขาไปเสาะหา ก็คงลําบากยากเข็ญอยางหาที่
เปรียบไมได
แตวา โจรโฉดปรากฏตัวขึ้นอีกครา หมายความวาพวกมันคงเกิดการคนพบใหม
ดินแดนนี้ไมสงบอีกตอไป
“เตรียมการรับมือที่เลวรายที่สุดใหพรอม!” สือยวิ๋นเฟงออกคําสั่ง เทพเจาตนหลิว
หลับใหล หากวาโจรโฉดมาเยือน พวกเขาคงทําไดเพียงพึ่งตัวเองเทานั้น
“นาเสียดาย ทานอาอินทรีเกล็ดเขียวนําจื่อยวิ๋น ตาเผิงและเสียวชิงออกไปฝกฝน
และบําเพ็ญตนแลว ไมรูวาอยูแหงหนตําบลใด มิเชนนั้นจะตองเปนกําลังสําคัญในการสู
ศึกเปนแน” เจาตัวเล็กเสียดาย
สถานการณเลวรายกวาที่พวกเขาคาดการณไว หลายวันตอมา ผีโหวและหูจื่อนํา
ขาวรายกลับมา พวกเขาขี่สัตวประหลาดเขาเดียวออกสืบเสาะ ระยะหางไกล 600 ลี้พบ
อีกหนึ่งหมูบานถูกฆาลางบางอยางสิ้นซาก
“พบผูรอดชีวิตคนหนึ่ง แตมีชีวิตอยูเพียงครึ่งชั่วยาม สุดทายก็ตายไป”
“เขาบอกวาคนเหลานั้นเอยขอเพียงกระดูกล้ําคาบรรพกาล อีกทั้งแรล้ําคาซึ่งพบได
ยาก มิไดสอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับเทือกเขากวางใหญนแี้ มแตนอย”
เด็กๆ รายงาน เมื่อหัวหนาหมูบานไดฟงก็ขมวดคิ้ว พูดกับตัวเองวา “ขาเดาผิดอยาง
นั้นหรือ มิใชโจรโฉดเมื่อครั้งอดีตนั่นหรือ? ทวาโจรโฉดเมื่อครั้งอดีตพวกนั้นก็เคยชวงชิง
ทองคําดําเชนกัน”
ครึ่งเดือนตอมา ฝุนควันปลิววอนบริเวณเสนขอบฟา ผูคนขี่สัตวประหลาดปรากฏตัว
ควบมามายังหมูบานหินผา
“ไมไดการณแลว เตรียมพรอมสูรบ!”
ชาวบานกระวนกระวาย สือหลินหูกับสือเฟยเจียว และคนอื่นในมือตางถือธนูเขา
มังกร เล็งไปยังที่หางไกล ยืนสังเกตการณหนาหมูบานอยางรอบคอบ หมายปกปอง
หมูบานดวยชีวิต
นี่เปนกลุมคนที่มีจิตสังหารหนาแนนมาก ในกํามือไมรูวามีกี่ชีวิตมนุษย แตละคน
ดวงตาเผยแววโหดเหี้ยม เพียงดูก็รูวาไมใชคนใจบุญสุนทาน พุงมาหนาหมูบาน
“พวกเจาคนปาคนเขา จะตอตานรึ? หากฝงขาจูโจมจะทําใหพวกเจาตายยังหลุมฝง
ศพของพวกเจา” บนสัตวประหลาดตัวหนึ่ง บุรุษซึ่งมีรอยมีดบนใบหนาเอยอยางเย็น
เยือก ไมไดมองชาวบานอยูในสายตาแมแตนิด มีจิตสังหารอันนากลัว
คนกลุมนี้มีไมมากนัก มีจํานวนราว 100 กวาคน แตทั้งหมดลวนเปนผูสูทัพจับศึกอยู
บอยครั้ง โดยเฉพาะผูนําบางคน ครอบครองอํานาจลึกลับของอักขระกระดูกอันยิ่งใหญ
“ตูม”
ในขณะเดียวกัน ดานหลังของพวกเขามีเสียงนากลัวลอยมา โลกหลาสั่นสะเทือนดัง
กึกกอง วัตถุขนาดใหญปรากฏขึ้น
นี่เปนตัวนิ่มตัวหนึ่ง ทั่วทั้งตัวเปนสีทองออน มหึมาอยางเปรียบไมได ยาวเกือบ 10
เมตร ราวกับภูเขาสีทองลูกหนึ่งมอบคลานอยูตรงนั้น นัยนตาประหนึ่งโคมไฟสีทอง มอง
มายังหมูบานหินผา ไอเหี้ยมโหดทวมทน
เมื่อเห็นสัตวประหลาดเชนนี้ ผูคนทั้งหมดตางหวาดกลัว นี่เปนเทพารักษตนหนึ่ง
คนทั่วไปจะตีเสมอไดอยางไร?!
โดยปกติ เทพารักษจะปกปกษรักษาหมูบาน อาศัยอยูในหมูบานหรือเมืองหนึ่ง นอม
รับการเซนสรวงของมนุษย ไมยินยอมลาจาก ทวาเทพารักษตนนี้กลับเคลื่อนไหวดวย
ตนเอง
และเทพารักษตนนี้มีจิตสังหารหนาแนนมากเปนพิเศษ แผงเกล็ดสีทองออนปรากฏ
แสงแวววาวของเลือดแปลบปลาบ คงจะสังหารมานับครั้งไมถวน อีกทั้งยังกลืนกิน
เทพารักษตนอื่น ยากที่จะตอกรดวย!
สือหลินหู สือเฟยเจียวและคนอื่นเกิดความรูสึกหมดหวังเพิ่มขึ้น เพียงพบเห็น พวก
เขาก็ทราบวา ไมสามารถจัดการกับเทพารักษยาว 10 เมตรตนนี้ไดอยางสิ้นเชิง ชาวบาน
ทั้งหมดออกสูพรอมกับก็ตายอยางไรคา
พลังปราณนาสะพรึงกลัวนั่น อีกทั้งคลื่นทวมทนทองฟา และยังมีอักขระนากลัว ทํา
ใหผูคนยําเกรง เพียงพบเห็น ก็เกิดความรูสึกแพพายอยางควบคุมตัวเองไมได
“รูสึกถึงความออนแอของตัวพวกเจาเองรึยัง? เพียงฝูงตัวเพลี้ยเทานั้น แตกลับคิด
ทัดเทียมโหวขนานแทอยางนั้นรึ?!” ผูนําซึ่งนั่งอยูบนสัตวประหลาดหัวเราะเสียงเย็น
“วางธนูและลูกศรอันนาขันของพวกเจาลงเสีย จะทําอะไรได? ไมมีประโยชนแมแต
นิด ฟงคําสั่งของพวกขา จะไวชีวิตพวกเจา!” อีกคนกลาวอยางเย็นชา
“พวกเจาจะทําอะไร?” ผูอาวุโสสูงวัยผูหนึ่งเอยถามอยางสั่นเทา
“ไอแก พวกเจาเพียงฟงคําสั่งก็พอ ไมตองพูดใหมากความ” ผูนําคนหนึ่งตําหนิ
จากนั้นยกมือขึ้นตวัดแสมามาทางนี้ อักขระหนึ่งสายแวบวับ ผูอาวุโสลอยขึ้นทันควัน
สะเก็ดเลือดแตกกระเด็น
“ทานปูสาม!”
ชาวบานพุงตัวออกไปโอบอุมชายชราไว เด็กๆ นัยนตาคลอหนวย และเหลาชาย
หนุมแววตาแดงก่ํากันถวนหนา เตรียมพรอมพุง ออกไปสูดวยชีวิต
“หยุด!” หัวหนาหมูบานตะโกนอยางไมยอมใหพวกเขาลงมือทันที
“วางใจเถิด ไอแกไมตายหรอก เพียงสั่งสอนพวกเจาก็เทานั้น” คนลงมือหัวเราะดัง
ลั่นแลวกลาววา “พวกขาก็ไมไดไรเหตุผลซะทีเดียว และไมอยากเปดฉากสังหารพร่ํา
เพรื่อ เพียงพวกเจาทําตามความพึงพอใจของพวกขา รับประกันวาพวกเจาจะไมเปน
อะไร”
ชาวบานถลึงตาดวยความโกรธแคน จองมองออกไปอยางเงียบงัน
“ใหเวลาพวกเจา 20 วัน สงมอบทองคําดํา 500 ชั่ง หากในมือของพวกเจามี
เพียงพอ ก็ถือวาโชคดีไป แตหากวาไม ก็เรงออกไปหาแหลงแร หากวาครบกําหนด พวก
เจาไมมีสงมอบจะสังหารอยางไมปราณี!” คนนั้นกลาวอยางเย็นเยือก
“ไดยินแลวใชรึไม? หากวาทําไมได 20 วันตอจากนี้ ขาจะฆาลางบางหมูบานของ
พวกเจา เมื่อถึงเวลาก็ฆาใหสิ้นสังหารใหหมด จะมิใหเหลือผูรอดชีวิตแมแตคนเดียว!”
ผูนําอีกคนหนึ่งตะโกนลั่น
ในขณะเดียวกัน เทพารักษสีทองออนตนนั้นแหงนหนาคําราม สะเทือนไปทั่วทิวเขา
และหุบเขา รางกายของมันมีไอหมอกสีทองกระเพื่อมขึ้นลง ทั้งงดงามและเลือนรางพรา
มัว ทําใหผูคนอกสั่นขวัญแขวน
ชาวบานไมบุมบาม สีหนาสลดใจ ระยะหางอยางไรก็คือระยะหางอยูวันยันค่ํา พวก
เขายากจะตอตาน ยังหางไกลจากคําวาคูตอสูของโจรโฉดพวกนี้
เด็กๆ ใบหนาตึงเครียด ทั้งตื่นตะลึง หวาดกลัวและโกรธแคน ไมเคยพบกับเรื่อง
เชนนี้มากอน ถูกคนขมแหงรังแกถึงหนาหมูบาน ไรหนทางตอตานอยางสิ้นเชิง
เทพเจาตนหลิวหลับใหล ราวกับตนไมเกาแกทั่วไป ชาวบานสูญเสียเกราะปองกัน
ในใจอึดอัดและทุกขทรมาน อยากจะสูศึกกับฝายตรงขามใหสิ้นอยางทนไมได
เด็กๆ นัยนตาแดงก่ํา น้ําตาจวนจะหลั่งริน ฝายตรงขามแข็งแกรงปานนี้ ขมเหงถึง
หนาประตูบาน พวกเขากลับอับจนหนทาง
“ชาวบานปาเขาเทานั้น ยังกลาใชธนูตอตาน แกวงเทาหาเสี้ยนจริงๆ พวกเจาจงรูไว
เพียงในอาณาบริเวณนี้ หมูบานเฉกเชนพวกเจา พวกขาทําลายมาไมแปดก็สิบแลว” คน
หนึ่งกลาวเสียงทุมต่ําอยางเย็นเยียบ กวาดสายตาไปหนาหมูบาน
พวกสือเฟยเจียวเดือดพลาน แตหัวหนาหมูบานสือยวิ๋นเฟงออกคําสั่งใหพวกเขาอยา
กระทําการบุมบาม ผูคนทั้งหมดกําหมัดแนน ในใจทุกขทนอยางที่สุด พวกเขาเคยถูก
หยามเกียรติเชนนี้หรือ?!
“จําไว มีเวลาเพียง 20 วัน มิเชนนั้นพวกเจารอวันสิ้นเผาพันธุเถอะ!” ผูนําคนหนึ่ง
ตะโกนลั่น จากนั้นออกแรงหวดอีกหนึ่งแส
อักขระแปลบปลาบ เสียงดังปาบ บนหนาของสือหลินหู สือเฟยเจียวและคนอื่น
ปรากฏรอยเลือดเปนทาง เนื้อหนังแตกออก เลือดแตกกระเด็กเซ็นซาน เกิดบาดแผลลึก
เหลาชายฉกรรจดวงตาลุกเปนไฟ ฆาไดหยามไมได หากวามีพวกเขาอยู จะตองสูสุด
ชีวิตเปนแน
ทวา หัวหนาหมูบานยังคงยั้งพวกเขาไว มิใหพวกเขารวมรบ ใชสายตาเครงขรึม
หยุดยั้งพวกเขาไว
“ฮาๆ...” เหลาผูนําหัวเราะเสียงดัง จากนั้นบังคับสัตวประหลาดใหหันหลัง และจาก
ไปอยางสงาผาเผย
เทพารักษสีทองออนหันหลัง ดวงตาดุจโคมไฟสีทองออนกวาดมองชาวบานอยาง
เย็นเยือก จากนั้นก็ยางเดิน ราวกับแผนดินไหว จากไปดวยเสียงดังกึกกอง นากลัวอยาง
ที่สุด
สัตวประหลาดคําราม เพียงพริบตา คนพวกนี้ก็หายไปจนสิ้น
“ทานผูเฒา ไยทานไมยอมใหขาตอบโตเลา?” สือหลินหูดวงตาแดงก่ํา ใบหนาปวด
แสบปวดรอน ทวาที่เจ็บปวดมากกวาคือใจของเขา ไมเคยถูกหยามเกียรติปานนี้มากอน
“ทานผูเฒา ขายอมรับไมได!” สือเฟยเจียวเองก็ยากจะอดทนอดกลั้น ใชมือปาด
เลือดบนใบหนา เขาโกรธจนเสนผมจวนตั้งแลว ดวงตาแดงก่ํา
“นั่นสิขอรับ ทานผูเฒา หากพวกเราใชอาวุธจากบรรพบุรุษ ใหปลาตายแหขาด[2]!”
บิดาของเออรเหมิงก็ตะโกนเชนกัน
สือยวิ๋นเฟงถอนหายใจแลวพูดวา “เมื่อถึงเวลานั้นเพียงปลาตายเทานั้น แหจะไมมี
ทางขาด”
“อยางนั้นก็ดีกวาอัดอั้นตันใจเชนนี้เยอะ!” หลายคนอึดอัดจวนทนไมไหว
“หากพวกเรากระทําการโดยพละการ สุดทายก็ตองพบกับความตาย เพราะไมมีผูใด
ครอบครองอักขระขั้นสูง ยากที่จะสําแดงอิทธิฤทธิ์ที่แทจริงของอาวุธบรรพบุรุษ”
หัวหนาหมูบานตาตั้งขึ้น ตะโกนเสียงดังมากขึ้นวา “พวกเจานึกวาขากลัวตายงั้นรึ ยอม
อดทนอดกลั้นงั้นรึ? เปนเพราะพละกําลังของพวกเราไมเพียงพอตางหากเลา!”
“หากวาอดทนเชนนี้ไปเรื่อยๆ 20 วันตอจากนี้แลวจะทําอยางไรได?” มีคนเอยอยาง
ไมพอใจ
“ระยะเวลา 20 วัน เพียงพอใหขาเตรียมการ เมื่อถึงเวลา ขาจะนําอาวุธบรรพบุรุษ
มา และตอสูใหปลาตายแหขาดกับพวกนั้นสักตั้ง!” หัวหนาหมูบานกลาว
“ทานผูเฒา อาการบาดเจ็บของทานแปลกนัก อีกทั้งยังสาหัส ไมสามารถใชพลังของ
อักขระกระดูกได หามเสี่ยงอันตรายเปนอันขาด!” ผูคนตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
“คนกลุมนั้น อีกทั้งเทพารักษตนนั้นแข็งแกรงมาก พวกเจาไปมากเทาใดก็เปนตาย
เทากัน แตหากรอขาเตรียมการพรอม ไมมีทางขาดกําลังตอสูเปนแน” สือยวิ๋นเฟงกลาว
“ไมไดนะขอรับ!” เหลาชายฉกรรจน้ําตาจวนไหล พวกเขารูดีวา การที่หัวหนา
หมูบานขัดขวางพวกเขาอยางสุดกําลัง เปนเพราะไมอยากใหพวกเขาตาย ทวาตัวเอง
กลับจะสูดวยชีวิต
“ทานผูเฒาขอรับ...” เด็กๆ น้ําตารินหลั่ง
“ทานผูเฒาขอรับ ปลอยใหเปนหนาที่ของขา ขาจะตอกรกับพวกเขาเอง!” ในขณะนี้
เอง เจาตัวเล็กเอยปาก แววตาเด็ดเดี่ยว
“ไมได ขั้นถ้ําสวรรคแตกตางกับขั้นอื่นมากนัก แมวาเจาจะบรรลุเขาสูขั้นนั้น
หากแตในระยะเวลาอันสั้น เจาก็ไมสามารถทัดเทียมพวกเขาได โดยเฉพาะเทพารักษตน
นั้น!” หัวหนาหมูบานคัดคานเด็ดขาด
“ขาอยากจะบรรลุเสียเมื่อกี้ สูศึกกับพวกเขา ทวาโจรโฉดพวกนี้กลับจะใหเวลาขาถึง
20 วัน ขาคิดวาคงเพียงพอแลว สามารถทําใหขาบรรลุถึงขั้นที่ขาจินตนาการไว ขา
สามารถตอกรกับพวกเขาได!” เจาตัวเล็กเอยอยางจริงจัง เด็ดเดี่ยวมั่นคงอยางหาที่
เปรียบไมได
..............................
[1] ดาวเคลื่อนดาราคลอย หมายถึง กาลเวลาผันเปลี่ยน เวลาผานไปอยางรวดเร็ว
[2] ปลายตายแหขาด สํานวนจีน แปลวา ตอสูกันจนไดรับความสูญเสียทั้งสองฝาย
บทที่ 80 ถ้ําสวรรค
เขารวมกิจกรรมซึ่งรวมดวยชวยกัน ไมคาดคิดวากระทั่งกลางคืนก็มีเรื่องราวตองทํา
เพิ่งกลับมาถึง ก็เริ่มงานใหมแลว เอยขอโทษ โคงคํานับ ขอประทานอภัย
“ลูกเอย อยาทําตัวโดดเดนจนเกินไป” ผูอาวุโสที่ถูกอักขระหวดจนปลิวกลาว เขา
อายุมากแลว พลังปราณแหงเหือด สูญเสียพลังความกลาหาญเมื่อครั้งยังหนุม
ขณะนี้ มุมปากของเขาเปอนเลือด ยอมหนวดเคราจนแดง ใบหนาเหี่ยวยนมีความ
กังวลอยูลึกๆ
ชาวบานอัดอั้นตันใจ ไมสบายใจเปนอยางมาก ผูอาวุโสทานนี้อายุ 80-90 ปแลว
อายุอานามมากปูนนี้กลับถูกดูหมิ่นดูแคลน แตพวกเขากลับไมสามารถปกปองอะไรได
เลย
“เจาโจรพเนจรเชนนั้นสมควรตาย!” สือหลินหูกัดฟน เช็ดคราบเลือดบนใบหนา บน
นั้นมีบาดแผลอันถูกแสมาฟาด เลือดยังคงหลั่งริน
“ทานผูเฒาและทานลุงทั้งหลายโปรดวางใจ ขาไมเปนไรขอรับ” เจาตัวเล็กเอยปาก
รับปากกับพวกเขาวาจะไมทําตัวโดดเดนจนเกิน หากยังไมมีความพรอม เขาจะไมลงมือ
อยางสะเพราแนนอน
โจรโฉดปรากฏตัว คุกคามหมูบานหินผาอยางแสนสาหัส เกี่ยวโยงไปถึงความเปน
ความตาย ไมวาพวกเขาจะเปนพวกคนโฉดเมื่อครั้งอดีตหรือไม ก็เปนหายนะครั้งใหญ
ชาวบานตางโกรธแคน พวกคนชั่วกําแหงอยางที่สุด เมื่อมาถึงที่นี่ก็ดูถูกเหยียดหยาม
ชาวบาน เหยียบย่ําเกียรติภูมิของพวกเขา ไมเห็นพวกเขาในสายตาแมแตนิด
เด็กๆ นัยนตาแดงก่ํา ลวนแตกําหมัดจนแนน อยากจะรีบเติบใหญใหรูแลวรูรอด
กําจัดพวกคนทรามใหสิ้น คลี่คลายหายนะครั้งนี้
“พวกเราตองผานดานยากครั้งนี้ไปไดอยางแนนอน นับแตนี้ตอไป ขาจะบําเพ็ญตน
ใหดี ทําตนใหแข็งแกรง ปกปองผูอาวุโสและหมูบาน ไมใหมีภัยคุกคามอีกตอไป”
พวกเด็กๆ กลาวคําสัตยสาบานดวยน้ําเสียงออนโยน ทําใหพวกผูใหญรูสึกแยจนเอา
แตกลาวโทษตัวเอง
“เพราะพวกขาไรประโยชน ไรกําลังปกปองหมูบาน” สือเฟยเจียวและคนอื่นกํา
หมัดแนน
“ไมโทษพวกเจาหรอก การสืบทอดของพวกขาตัดขาดแลว พวกเจาตางก็เพิ่งเริ่มฝก
อักขระกระดูกกลางทาง พลาดวัยรุงเรื่องที่สุดไปเสียแลว” หัวหนาหมูบานสายหนา
เหลาชายวัยกลางคนลวนเปนชายชาตรีเลือดรอน เมื่อไดยินวาจาเชนนี้ รูสึกไมสบาย
ใจเปนอยางมาก วันนี้ถูกดูหมิ่นเชนนี้ ทําใหพวกเขากลัดกลุมอยางหาที่สุดไมได
“เคลื่อนไหวใหครบทุกคน วางแผนชั่วรายใหดี” ผูอาวุโสคนหนึ่งกลาว
ตอมา หัวหนาหมูบานเริ่มวางแผน สั่งการใหคนไปเรียกตัวสัตวประหลาดเขาเดียว
ซึ่งซอนตัวอยูในปาเขากลับมา หากวาตานทานไมไหว ก็ใหสัตวแสนรูเหลานี้บรรทุกสตรี
และเด็กลาถอยไปกอน
ยังมีระยะเวลา 20 วัน ชาวบานเริ่มอลหมานกันขึ้นมา บางก็เตรียมกําลังตอสู บางก็
วางแผนเรื่องลาถอย และยังมีคนบําเพ็ญทุกรกริยา ฝกฝนการหยั่งรู
ครอบครองสัตวประหลาดเขาเดียวเปนไมตายของชาวบาน หากวาตานไมไหว ก็ใช
ความเร็วของพวกมันเคลื่อนยายไปกอน แมโจรโฉดพวกนั้นจะแข็งแกรงเพียงใด ก็ยาก
จะไลตามทัน
“ทานผูเฒา ขนนกสีแดงนั่นชวยอะไรไดไหมขอรับ?” มีคนนึกถึงขนนกที่นกนอยสี
แดงทิ้งไวให
สือยวิ๋นเฟงสายหนาแลวพูดวา “หากวาเปนโลกภายนอก หรือสําแดงออกมาตอหนา
เหลาผูมีอิทธิพลคงมีประโยชน ทวาทามกลางดินแดนรกรางนี้ มีเพียงโจรโฉดเชนนี้ พวก
มันจะหุบปากสนิท ไมแพรงพรายออกไป ไมมีประโยชนมากนัก”
เจาตัวเล็กเขาปาไปเพียงลําพัง เริ่มตนการเดินทางทะลวงดาน การบรรลุไมมีปญหา
เขากําลังไตรตรองวาจะทําอยางไรใหขนั้ ถ้ําสวรรคปะทุขึ้น ขึ้นสูงไปถึงระดับสูงที่ตนใฝฝน
ไว
ฝนตกพรําๆ สาดเทลงบนใบไมดังซาซา เขานั่งขัดสมาธิบนกอนหินไมขยับเขยื้อน
เงี่ยหูฟงเสียงธรรมชาติของโลกหลานี้ เขาสงบเปนอยางมาก
“แควก”
กลางฟากฟาหมนหมองมีลําแสงพาดผานหนึ่งสาย เสียงฟาคํารามดังขึ้น สายฟาเปน
เสนๆ พาดผานทองฟา ราวกับอสรพิษสีเงินเตนระบํา งดงามตระการตา เปลงเสียง
กึกกองสะเทือนแกวหูจวนดับ
กลางเทือกเขา สัตวเดินดินหลากชนิดคําราม ปกษารายแผดรอง อึกทึกครึกโครมไป
ทั่ว
เจาตัวเล็กสงบเฉกเชนดังเดิม นั่งขัดสมาธิอยูตรงนั้น แมเสียงฟาคํารามสะเทือนกาว
หู ก็ไมไหวติง ไมมีความรูสึกดีใจ โกรธ เศรา มีความสุข อารมณคงที่ไมสะเทือน แววตา
ของเขาออนโยนเหลือเกิน
เขากําลังหยั่งรูกฎแหงธรรมชาติ เขาใจถึงผลแหงการหยั่งรูกับความมหัศจรรยของ
ขั้นถ้ําสวรรค สามารถบรรลุไดตลอดเวลา เลื่อนไปจนถึงขั้นกําเนิดชีวิตใหม
เนื่องดวยเหตุนี้ เจาตัวเล็กออกเดินทางแตเชา กลับเสียหัวค่ํา ปลดปลอยพันธนาการ
ทั้งปวง ลืมเรื่องราวที่โจรโฉดจะมารุกรานจนสิ้น เขาสูการบําเพ็ญตน เตรียมพรอม
ดําเนินการแปรเปลี่ยนครั้งใหญ
เขาลืมเลือนแมกระทั่งวันเวลา นิ่งไมไหวติงอยูนานหลายวัน นั่งอยูกลางปา สังเกต
ตะวัน เดือนดารา เงี่ยหูฟงเสียงสัตวคําราม พลังชีวิตของเขาผสานเปนหนึ่งกับภูเขาและ
สายน้ํา
เขาทุมเทเชนนี้ หายตัวไปติดตอกันหลายวัน ทําใหชาวบานตางกระวนกระวาย ยังดี
ที่สุดทายเขาก็ปรากฏตัวขึ้นทันการณ
เจาตัวเล็กราวกับเขลาไปเสียแลว ปลอยวางทุกสิ่งอยาง ทุมเททั้งกายและใจลงไปใน
ดินแดนแหงการแปรเปลี่ยนของตน ฝกการหยั่งรูไมหยุดหยอน ศึกษาความมหัศจรรย
ของอักขระ
เพียงพริบตาก็ผานไป 10 กวาวัน ไมวาสายลมพัดโบกฝนโปรยปรายอยางไร เจาตัว
เล็กยังคงสงบเฉกเชนดังเดิม ไมรูสึกรูสาตอสิ่งเราใด ตกอยูในภวังคของการบําเพ็ญตน
แมแตชวงกะพริบตาก็มีอักขระแปลบปลาบ
วันที่ 15 เจาตัวเล็กในมือกํากระดูกฟาขาวกระจาง ราวกับตัดขาดจากโลกภายนอก
ศึกษาการหยั่งรูดั้งเดิม เพื่อเขาถึง ‘ภาพประกอบเทพเจาสงคราม’ ในนั้นมีรูปภาพสี
เลือดอยางเชน มังกรฉื่อสูศึกซวนหนี มีจาวแหงนกยูงหาสีประลองศึกเทาเที่ย อีกทั้งโหว
ขนานแทเขนฆาเทพเจา
กระดูกล้ําคาเปลงแสงระยิบระยับ กระจายแสงมงคล ไอเลือนรางตลบอบอวล หนนี้
เจาตัวเล็กสงบสุขและเปนมงคลเชนนี้ เขาลุมหลงเขาไปจนสิ้น
ชั่วขณะที่เขาจะบรรลุ เขาตระหนักรูถึงความหมายแทจริงบางสวนของ
‘ภาพประกอบเทพเจาสงคราม’ แหงการหยั่งรูดั้งเดิม เขายกระดับขึ้นแลว ทั่วรางกาย
เปนประกาย จิตวิญญาณบริสุทธิ์ ปราศจากมลทิน เขาถูกอักขระหอมลอมไว
ขณะนี้ รางกายของเขาพรางพราย ราวกับหลอมจากทองคําเจ็ดสี แสงล้ําคา
ไหลเวียน อักขระตัวแลวตัวเลาแปลงเปนเตาไฟวิเศษพรางพรายในเลือดเนื้อของเขา ซึม
ซับพลังฟาดิน เพื่อเตรียมการสําหรับขั้นสุดทาย
ถ้ําสวรรคเปนชื่อเรียกขั้นแหงการบําเพ็ญตน และเปนวิธีการบําเพ็ญอยางหนึ่ง ดูด
ซับพลังแหงฟาดิน หยั่งรูความหมายแทจริงของอักขระ เขาใจระเบียบของโลกใบนี้ อีก
ทั้งการเปลี่ยนแปลงของกฎ ราวกับสรางโลกเล็กของตนขึ้นมา
นี่คือขั้นถ้ําสวรรค ในรางกายของคนหรือนอกรางกายของคน เปดเสนทางอันไมดับ
สูญ หรือดินแดนสุขาวดี หรือเปนโลกอีกแหงหนึ่ง
“พรึ่บ!”
ทันใดนั้น เสียงดังกึกกองดังขึ้น สะเทือนไปทั่วดินแดนรกราง เทือกเขาสั่นไหว ยอด
เขากองกังวาน ราวกับฟาถลมลงมา ราชวังแหงทวยเทพรวงลงมา
อักขระจํานวนมากปรากฏขึ้นอยางแนนขนัด เจิดจาพราตา เสมือนกับหลอมจาก
ทองคําวิเศษ ทิ้งรองรอยไวบนอากาศ ทําใหเจาตัวเล็กจมมิดอยูในนั้น
จิตสังหารทะลวงฟา ประหนึ่งคลื่นโหดซัดกระทบฝง กระแทกกอนเมฆบนฟากฟา
จนคลี่คลาย สุดทายปรากฏถ้ําหินบนหัวของเจาตัวเล็ก ราวกับภูเขาไฟหนึ่งลูก
มันเสมือนจริงถึงเพียงนี้ ประหนึ่งขุดเจาะจากหินแกรง สองแสงเทาหมน นาเกรง
ขามและเกาแกเรียบงาย แขวนอยูบนยอดกะโหลกของเจาตัวเล็ก อยูเหนือหัวราว 3 นิ้ว
ภายในถ้ําดุจภูเขาไฟนี้ ดานในมีพลังชีวิตกระเพื่อมขึ้นลง สีแดงสดแพรวพราย เจิด
จาพราตา ดุจดั่งลาวา
เจาตัวเล็กบรรลุขั้นถ้ําสวรรค ชีวิตเลื่อนสูงขึ้น แปรเปลี่ยนอยางเสร็จสมบูรณ
พละกําลังพุงพรวด เพิ่มขึ้นจากเมื่อกอนอยูมากโข แมแตฟาดินยังรวมสงเสียงรองกึกกอง
บนหัวของเขา มีปลองภูเขาไฟสีเทาหมน ดานในมีพลังปราณสีแดงเกลือกกลิ้ง นี่
เปนจุดเชื่อมตอซึ่งเปนพลังของกฎธรรมชาติแหงฟาดิน ดูดซับมาจากโลกภายนอก ผสาน
และเชื่อมตอกับรางกาย
เปดถ้ําสวรรค บรรลุเขาสูขั้นนี้ เทากับชวงชิงพลังฟาดิน ดูดซับพลังปราณจากโลก
ภายนอกอยางไมสิ้นสุดเพื่อบํารุงรางกายตน
เมื่อถึงเวลานี้ เชื่อมตอกับความวางเปลาอันไมสิ้นสุด ซึมซับแกนแทของฟาดินจาก
มัน เทากับพลังอักขระในรางกายปะทุขึ้น เหนือกวาที่ผานมามากโข แนนอนวาจะ
แข็งแกรงอยางที่สุด
นับแตนี้ไปพลังไมสิ้นสุด เชื่อมตอไมขาดสาย สกัดพลังไดตลอดเวลา สามารถรักษา
พลังชีวิตของรางกายใหรุงโรจน เพียงไมทําศึกดุเดือดจนเกินไป ก็ยากจะใชพลังงาน
รางกายจนหมดจด คงไวซึ่งสภาวะรุงเรือง
“ตูม!”
บนหัวของเจาตัวเล็ก ปลองภูเขาไฟแนนหนา ทนทาน เกาแกผานโลกมาอยางโชก
โชน พลังปราณสีแดงกระเพื่อมขึ้นลงไมหยุด จากนั้นหลั่งไหลลงมา
เมื่อภาพเชนนี้ปรากฏใหเห็น พลังปราณในใจกลางเทือกเขาสามารถถูกดูดซับจน
แหงขอด โดนปากปลองภูเขาไฟฉกชิงเอามาจนหมด พลังปราณสีแดงราวกับลาวา หลั่ง
รินและมลายหายไปในหัวของเจาตัวเล็ก
นี่เปนการชวงชิงจากโลกภายนอกโดยตรง รวดเร็ว และใกลเคียงกับการกอกบฏ
บํารุงสิ่งที่รางกายตองการ คงสภาพความแข็งแกรงอันเปนที่สุดของขั้นนี้
“นี่ก็คือขั้นถ้ําสวรรค ที่แทเปนเชนนี้นี่เอง” เจาตัวเล็กพึมพํา กะพริบตาปริบๆ ตก
อยูภวังคของดินแดนนี้ รูสึกมหัศจรรยอยางหาที่เปรียบไมได
นี่เปนความรูสึกยิ่งใหญอยางหนึ่ง ราวกับจะแปลงรางลอยลองขึ้นสวรรค รางกาย
สบายปลอดโปรง เปยมไปดวยพลังกําลังสะทานโลกา ตัวเขาราวกับจะลองลอย
ขั้นถ้ําสวรรค ไมไดมีเพียงเทานี้ มีการเปดฟาดินทั้งภายในรางกายและภายนอก
รางกาย มีสัจธรรมอันลึกซึ้งนานาชนิด เชน หลอเลี้ยงอาวุธล้ําคาในถ้ําสวรรค เซนสรวง
อักขระอันแข็งแกรงที่สุดเปนตน
เจาตัวเล็กยังไมทันไดศึกษามากกวานี้ รางกายของเขาก็สั่นไหวอยางรุนแรง เปลง
เสียงดังตูมขึ้นอีกครา แสงสวางหมื่นเสน สีสันงดงามพันสาย ดังกองสะเทือนหู
ซีกซายของรางกาย ปรากฏปลองภูเขาไฟสีเทาหมนอีกลูกหนึ่ง สมจริงเปนอยางมาก
ปรากฏขึ้นกลางความวางเปลา ภายในปลองมีพลังปราณเดือดพลาน สีเงินเกลือกกลิ้ง
เสมือนกับลาวาประหลาด
เจาตัวเล็กแปรเปลี่ยน เกิด ‘ถ้ําสวรรค’ ขึ้นอีกแหง ปรากฏบนซีกรางกาย เนื้อตัว
พรางพราย แสงดุจสายฝนเทสาด เปนภาพที่งดงาม ประหนึ่งกลีบดอกไมวิเศษและ
ระยิบระยับอยางไมสิ้นสุดกําลังปลิววอน
“เอะ อีกลูกหนึ่ง!” เจาตัวเล็กตะลึงงัน การเตรียมความพรอมที่ดีจึงจะเกิดผลสําเร็จ
ที่ทานเทพหลิวกลาวเปนเชนนี้เองหรอกหรือ? เขานึกวาเปนความลึกซึ้งของ ‘ถ้ําสวรรค’
เสียอีก พลังปราณดุจมหาสมุทร จึงทําใหบรรลุขั้นที่สูงกวา
โดยปกติแลว การทะลวงเขาสูขั้นแหงการบําเพ็ญตนถือวาเปนโชคดีแลว ผูบําเพ็ญ
ตนมากมายทุมเททั้งชีวิตก็ไมสามารถบรรลุได ทวาเจาตัวเล็กเพิ่งบรรลุเขาขั้นนี้ก็เปดถ้ํา
สวรรคตั้ง 2 แหง
“ตูม!”
ทันใดนั้น เรื่องราวยังไมสิ้นสุดเพียงเทานี้ อักขระทวมทนทองฟา ราวกับมหาสมุทร
กระเพื่อมขึ้นลง เกิดเปนอาณาเขตอันไมสิ้นสุด ณ ที่แหงนี้ แสงมงคลไหลทะลักไปทั่ว
ถ้ําสวรรคอีกแหงกอรูปขึ้นแลว!
มันปรากฏขึ้นบนรางกายซีกขวาของเจาตัวเล็ก ภูเขาไฟสั่นไหว ดานในเปนลาวาสี
มวงไหลทะลักออกสูภายนอก
ณ ตอนนี้ บริเวณเหนือหัว 3 นิ้วของเจาตัวเล็ก รางกายซีกซายและขวา กอเปน
ภูเขาไฟสีเทาหมนสามแหง ดูดซับพลังจากความวางเปลาอยางตอเนื่อง ลาวาสีแดง เงิน
มวงกระเพื่อม ไหลเขาสูรางกายของเขา
“อา ขาไมไดบรรลุทันที ตกตะกอนความคิดไมขาดสาย จากนั้นก็สกัดไขล้ําคาของ
นกยูงหาสี เก็บสะสมเชนนี้มาเรื่อยๆ ไมคิดวาจะเกิดประโยชน”
เจาตัวเล็กปลื้มปติ ใบหนาเล็กแตมรอยยิ้มหวาน ดวงตาหยีเปนรูปพระจันทรเสี้ยว
เบิกบานใจอยางหาที่เปรียบไมได เพียงชั่วครู เขาก็เลื่อนขั้นเปนมือดีขั้นกลางแหงถ้ํา
สวรรค
หากเรื่องนี้แพรสะพัดออกไป ตองกอใหเกิดกระแสใหญ สะเทือนจนทั่วแผนดินตอง
อาปากคาง การบรรลุเขาขั้นนี้เปนเรื่องยากมาก ไดยินมาคอนขางนอยวามีคนบรรลุขั้น
บําเพ็ญตนอยางตอเนื่อง ณ เวลานี้การเปดถ้ําสวรรคพรอมกันสองแหงวาพบเจอไดยาก
แลว เปนผูมีพรสวรรคอันฟาประทานอยางแทจริง หากโลกภายนอกลวงรูเขา จะตองตก
ตะลึงจนปากอากวาง
ทวาเจาตัวเล็กกลับเปดถ้ําสวรรคพรอมกับถึงสามแหงภายในพริบตา ตองเปนขาว
ประหลาดเปนแนแท คาดวาหากพูดออกไปคงมีไมกี่คนที่ปกใจเชื่อ!
บทที่ 81 สําแดงเดชสักหนอย
มันเปนความรูสึกมหัศจรรยอยางหนึ่ง เจาตัวเล็กรางกายปราดเปรียว ทวาเมื่อ
เคลื่อนไหวรางกายเพียงนิดก็จะเกิดพละกําลังอันนาทึ่ง ราวกับรางกายจะเหาะเหินขึ้นฟา
‘ถ้ําสวรรค’ ดุจภูเขาไฟ 3 ลูกมีพลังปราณเกลือกกลิ้ง ‘ลาวา’ ไหลรินลง ซึมซาบเขา
สูรางกายของเจาตัวเล็ก กอใหรางกายเปยมดวยพลังคึกคักมีชีวิตชีวา อยูในสภาวะมั่งคั่ง
ตลอดเวลา
หนึ่งเสียงสัตวคํารามแววมา กลางเทือกเขาแหงนี้ปรากฏวัตถุมโหฬาร มีความยาว
เกือบ 30 กวาหมี่ ขนสีเงินเปลงประกายดุจแพรไหม บนหัวมีเขากิเลนคูหนึ่ง ดวงตาใหญ
ประหนึ่งอางลางหนา แดงฉานดุจเลือด จองมองมาอยางเย็นเยียบ
รูปรางของมันคลายเสือขาว ทวากลับมีเขากิเลนหนึ่งคูงอกบนหัว อีกทั้งกระดูกงอก
ชี้ฟานับ 10 ชิ้นบนหลัง สีขาวสวางไสว แตละชิ้นยาวเกือบจั้ง ราวกับหอกศึก
นี่เปนสัตวอสูรขนานแทตัวหนึ่ง เขาใจความเรนลับของอักขระ รุกล้ําเขามายังใจ
กลางเทือกเขานี้ และไมรูวามันเขนฆาสังหารสัตวประหลาดดุรายไปเทาใด จึงสามารถ
ยืนหยัดในสถานะอันเปนเจาแหงสัตวของตนไดอยางมั่นคงเชนนี้ เสียงดังขนาดใหญทํา
ใหมันตื่นตกใจ รูสึกวาศักดิ์ศรีของตนถูกลวงละเมิด จึงมุงหนาหมายฆาทารุณ
หากเปนเมื่อกอน เจาตัวเล็กคงเลือกหลบหนีใหพนไป แตตอนนี้เขากลับไมเกรงกลัว
หยัดยืนบนกอนหินอยางไมสะทกสะทาน ดวงตาใสกระจางมองมันอยางเงียบเชียบ
แรกเริ่มสัตวอสูรตัวนี้มีจิตสังหารโหมซัดสาด ทวายืนคุมเชิงไดเพียงครู พลันก็คําราม
หันหลังวิ่งหนีไปทันที หนึ่งกรงเล็บตวัดฟาดลงบนกอนหินหนักหมื่นชั่งจนแหลกเปน
ผุยผง ตอมา มันลอยตัวกระโดดขึ้น รางกายไหลเวียนรัศมีแสง ประหนึ่งมังกรเจียวสีเงิน
ตัวหนึ่ง พาดผานผืนปา มีความโกรธเคืองภายในใจ ยามมันอาปากพน แสงสีขาวก็ไหล
ทะลัก ทั่วพนาไพรถูกทําลายราบเปนหนากลอง รางสีเงินก็มลายหายไป ณ ใจกลาง
เทือกเขาเชนนี้เอง
ฟากฟาไกลหางมีจุดดําเล็กๆ หลายจุดพุงมาอยางรวดเร็ว ปกษารายไมกี่ตัวปรากฏ
ตัวขึ้น ทั้งตัวมีอักขระแปลบปลาบ เปลงแสงสวางเจิดจาพราตา กลิ่นอายความยิ่งใหญกด
อัดลงมา นาหวั่นเกรงจนสรรพสัตวสั่นระริก หวาดกลัวเปนอยางมาก
พวกมันมีจิตสังหารอยางไมลดละ สามารถบินโฉบลงมาไดตลอดเวลา
เจาตัวเล็กเงยหนา นัยนตาปลอยลําแสงนากลัว 2 เสน ในดวงตากอเกิดอักขระ
ออกมา 2 ตัวในชวงเวลาบีบคั้น
เหลาปกษารายแผดรองยาว กระพือปกขึ้นภายในพริบตา ทะยานขึ้นยังชั้นเมฆ พวก
มันทั้งตื่นตระหนกและโกรธกริ้ว ยิ่งกวานั้นคือความหวาดกลัว หยุดพักเพียงชั่วครูก็บิน
ไปยังขอบฟาอยางรวดเร็ว หายลับนับแตนี้ตอไป
กลางเทือกเขาละแวกใกลเคียง เหลาผูดํารงอยูอันแข็งแกรงซึ่งอยูใ นจุดสูงสุดของ
หวงโซอาหาร ไมมีผูใดอาจหาญทาทายเจาตัวเล็ก ตางลาถอยไปทั้งหมด
สือฮาวมิไดลงมือแตอยางใด ถึงอยางนั้นก็ทําใหเหลาเจาแหงสัตวผูนากลัวกลางปา
เขาตื่นกลัวจนถอยรน
เขานั่งขัดสมาธิ หยั่งรูความรูสึกของขั้นถ้ําสวรรคเชนนี้เงียบๆ ตกอยูในภวังค
‘ลาวา’ ไหลทะลักทวมตัวเขา ตรงนั้นมีไอหมอกลอยขึ้นทั้งบริเวณ มองดูลึกลับอยางหาที่
เปรียบไมได
เปนเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม เจาตัวเล็กจึงหยุดการกระทําลง ลุกขึ้นยืน หันหนารับ
แสงรุงอรุณ กลืนกินแสงตะวัน รูสึกวาในที่สุดก็แข็งแกรงอยางสิ้นเชิง ปากภูเขาไฟทั้ง
สามถูกเก็บ จากนั้นคอยๆ จางหายไป เขามุงหนายางกาวใหญไปยังหมูบานหินผา
“วาว เจาตัวเล็กกลับมาแลว ลาเจียวเปามาตัวหนึ่งเสียดวย!”
เด็กๆ สงเสียงรองประหลาดใจ เจาตัวเล็กหามสัตวใหญตัวหนึ่งกลับมา ยาวเกือบ
10 กวาหมี่ รางกายเปนเสือดาว กลับมีหัวเปนมังกรเจียวอันนากลัว แมวาจะสิ้นลม
หายใจแลว แตยังคงกระจายความนาเกรงขามเชนดังเดิม
“ลูกเอย เจาบรรลุแลวรึ?” หัวหนาหมูบานตื่นตระหนกระคนดวยความดีใจ
หากมิเชนนั้น เจียวเปาตัวนี้คงไมถูกสังหารงายดายเชนนี้ มันแข็งแกรงอยางที่สุด
เจาตัวเล็กกลับมาอยางสบายใจเชนนี้ ก็เพียงพอจะแถลงไข
“ขอรับ!” เสี่ยวสือฮาวพยักหนา ดวงตาสุกใสไรเดียงสาเปนอยางมาก รางกายเล็ก
ทามกลางแสงอรุณเปนประกายเหลือเกิน ทําใหผูคนตางทอดถอนหายใจ เปนเพียงเด็ก
แทๆ แตกลับเปนถึงมือดีแหงขั้นถ้ําแหงสวรรค
คนมากมายใชเวลาชั่วชีวิตไปเสาะแสวงหาก็ยากที่จะเขาสูขั้นนี้ได แตเขากลับบรรลุ
ระดับสูงเชนนี้ภายในระยะสั้นๆ ไมกี่ปอยางรวดเร็ว แมใชสายตาแข็งกราวที่สุดเพงมอง
อยางละเอียดก็จําตองถอนหายใจดวยความตกใจ
“เจาตัวเล็ก เจามั่นใจรึไม สามารถเอาชนะกลุมโจรโฉดนั่นไดหรือไม?” เด็กๆ วิ่งมา
จากริมทะเลสาบเขาลอมเขาไว ทั้งหมดกําหมัดแนน นัยนตาเผยประกายเปยมความหวัง
ผูอาวุโสของหมูบานถูกหวดจนลอยละลิ่ว รอยแสบนใบหนาของคนรุนพอยังคงอยู
การขมเหงรังแกอยางนี้ ทําใหผูคนโกรธแคนดวยความเจ็บปวด ยากกล้ํากลืนฝนทน อีก
ทั้ง การดํารงชีวิตของชาวบานเองก็กลายเปนปญหาใหญ เปนไปไดวาจะตายกันทั้งหมด
ถูกโจรโฉดเขนฆาอยางไรความปราณี
“ขาจะพยายามอยางสุดความสามารถ อยาไปเกรงกลัวพวกมัน!” เสี่ยวสือฮาวดวง
ตาปรากฏกระแสไฟแวบวับ
สองวันตอมา แววเสียงกึกกองจากเสนขอบฟา กลุมมาศึกวิ่งหอมา เกล็ดแนนขนัด
ทั้งหมดเปนสัตวประหลาดอันโหดรายทารุณ แมจะมีเพียง 10 ตัว แตกลับเหมือนกับ
น้ําปาไหลหลาก มีกลิ่นอายคลุมคลั่งโชยออกมา
ตอนนี้ยังไมถึงกําหนด แตกลุมโจรโฉดกลับโผลมากอน จิตสังหารอันไมขาดสาย
สัตวประหลาดมหึมาเหลานั้นมีเขี้ยวคมนากลัว ปากใหญดุจอางเลือด เขาดําสนิทและ
หนาใหญ อัปลักษณเปนอยางมาก
โจรโฉดมาหนึ่งกลุมเล็ก กําลังสําคัญและเทพารักษตนนั้นกลับมิไดมา แตแมจะเปน
เชนนี้ ความมุงรายก็ยังโหมกระหน่ํา ทําใหอุณหภูมิบริเวณรอบๆ หมูบานหินผาลดฮวบ
ลงอยางเฉียบพลัน
“เจาคนบานปา พวกเจาเตรียมพรอมแลวรึ?” บนหลังสัตวประหลาด บุรุษผูสวมชุด
เกราะสีดําเอยถามเสียงดัง ใชแสในมือชี้ไปยังชาวบาน
ชาวบานมิไดตอบ พากันจองมองเขา
“พวกเจาเปนใบไปแลวรึไง ไยจึงไมพูด?! เหลือเพียงสองวันก็ครบกําหนดแลว หาก
ตอนนี้ในมือของพวกเจายังไมมีทองคําดํา ขาวาคงไมตองรอใหอีกสองวันที่เหลือแลว!”
ผูนําคนนี้มีกลิ่นความอํามหิตรุนแรงมาก ตาตั้งขึ้นแมในยามเอยวาจา
“อืม คนนอยลงไปมาก หลบหนีกันไปแลวรึ?” ผูนําอีกคนเอยปาก ใบหนาบิดเบี้ยว
ดวยความไมพอใจ แตนัยนตากลับยิ่งเย็นเยือกมากขึ้น กลาววา “มิไดรับอนุญาตจาก
พวกขา กลับอาจหาญหนีไป ชางรนหาที่ตายเสียจริง คิดวาทําเชนนี้นี้จะสามารถมีชีวิต
รอดอยางนั้นรึ?!”
ในกลุมโจรโฉดมีไมกี่คนเผยสีหนาขบขัน ฟนขาวสะอาด แลดูเหี้ยมโหดมาก ใตที่นั่ง
ของพวกเขาเปนอาวฉวน[1]ขนาดใหญหลายตัว สูงเกือบ 2-3 หมี่ ยาวราว 5 หมี่ เขี้ยว
หมาดุจกริช ขาวสนิทจนนาตกใจ
อาวฉวนที่เติบโตทามกลางดินแดนรกรางเชนนี้ ดุรายและปราดเปรื่อง นาสิก
ประสาทแข็งแกรงเปนที่สุด พวกเขาเชื่อวา แมนชาวบานจะออกจากหมูบานไปแลว ก็
ยากจะหลบหนีไดอยางแทจริง
“หากถูกนําตัวกลับมา ขาจะทําใหพวกเจารูซึ้งวาอะไรคือการรนหาที่ตาย!” ผูนําคน
หนึ่งกลาวอยางนาครั่นคราม ทําใหผูคนรูสึกถึงความเย็นยะเยือกที่ทิ่มแทงกระดูก
“เอะ นั่นคือ...” ทันใดนั้น มีโจรโฉดเห็นสัตวประหลาดขาเดียวโผลออกมาแวบหนึ่ง
ดวงตาเปลงแสงดุรายออกมาโดยพลัน เผยสีหนาตกใจระคนดีใจ
“เปนสัตวกลายพันธุจากหลินหมา สัตวประหลาดเขาเดียวนั่นเอง รางกายแข็งแรง
กํายํา ทั้งตัวสองแสงสีเงิน สามารถเดินทางนับหมื่นลี้ในหนึ่งวัน เปนอาชาอันมีความเร็ว
อยางนามหัศจรรย!”
“มิใชเพียงตัวเดียว แตกลับมีมากมายถึงเพียงนี้!”
เมื่อครั้งกอน สัตวประหลาดเขาเดียวตางหลบซอนเรนกายในผืนปาละแวกใกลเคียง
พวกเขาไมไดพบเห็น ครั้งนี้กลับถูกมองเห็นคาตา โจรโฉดพากันหรี่ตา ตื่นเตนเราใจอยาง
หาที่เปรียบไมได
สัตวมีปญญาชนิดนี้ไมไดแข็งแกรงเทาใดนัก แตมีชัยดานความรวดเร็ว พบเห็นได
ยากมาก
หากไดขึ้นขี่สัตวประหลาดเขาเดียว ภายภาคหนาพวกเขาจะถือวาไปมาดุจสายลม
เคลื่อนไหวไดอยางฉับไวมากยิ่งขึ้น สามารถหอเหยียดตะลุยทามกลางดินแดนรกรางไกล
สุดลูกหูลูกตาแหงนี้ไดอยางไรเทียมทาน
“วูว มันถูกพวกเด็กๆ ขี่ นี่เตรียมพรอมจะหลบหนีอยูตลอดเวลารึ?” ผูนําคนหนึ่งจด
จองอยางเย็นเยียบ จากนั้นก็มองไปยังกลุมชายวัยกลางคนหนาหมูบานแลวพูดวา “ให
พวกมันมานี่สิ ถวายสัตวประหลาดเขาเดียวเสีย”
ทวา ไมมีผูใดตอบกลับ เหลาชายฉกรรจหนาหมูบานตางมองเขาอยางเฉยเมย
“พวกบานปา พวกเจาเปนใบไปกันหมดแลวรึ ไมไดยินที่ขาพูดรึ? ใหเจาเด็กพวกนั้น
พาสัตวประหลาดเขาเดียวมานี่ เซนถวายแกขา มิเชนนั้นจะฆาลางบางหมูบานนี้เสีย!”
ผูนําอีกคนใชอํานาจคุกคาม สวมใสชุดเกราะสีดํา แววตานาหวาดกลัวดุจมีดดาบ
เขาเรงสัตวประหลาดใหเคลื่อนไปขางหนา ตวัดแสในมือหวดบนใบหนาของสือหลิน
หูและสือเฟยเจียว หนกอนก็คือเขาผูนี้ ที่หวดจนใบหนาของกลุมชายชาตรีเกิดรอยแผล
ยาว หลั่งเลือดไปมินอยเลย ครั้งนี้เขายังคงอํามหิตและปาเถื่อนเฉกเชนดังเดิม มาถึงก็ลง
แส รัศมีเหี้ยมเกรียมจนนาตกใจ
“ปง”
เจาตัวเล็กกาวออกมากําแสไวแนน ยืนบังอยูดานหนาฝูงชน
“เอะ...” ผูนําคนนี้ประหลาดใจ กําลังหนึ่งแสนี้มากมายเพียงใด ตัวเขาเองรูดีที่สุด
เด็กเพียงคนเดียวกลับความันไวไดดวยหนึ่งกํามือ
เสียงวิ้งดังขึ้น เพียงเขาสะบัดขอมือเบาๆ อักขระก็แผกระจาย ลามไปตามเสนแส
ทวา เมื่อปะทะกับฝามือของเจาตัวเล็กก็ดับสูญไปทันที
“เจาเด็กเวร เจาคนประหลาด!” เขาตกตะลึง ยกเทาเตะลงไปหมายเหยียบย่ํา
ใบหนาของเจาตัวเล็กใหแหลก ชางใจดําอํามหิต
ดวงตาเจาตัวเล็กมีกระแสไฟแลนผานแปลบปลาบ วองไวยิ่งกวาเขา จับขอเทาของ
เขาไวดังปง ออกแรงเพียงนิดผลักเขาตกลงจากสัตวพาหนะ และหมุนควางอยางรุนแรง
กระแทกลงบนพื้นดินทันที
“โอย...” ผูนํารองอยางเวทนา
เศษฝุนพวยพุง ใบหนาของเขาสัมผัสแนบสนิทกับพื้นดิน เลือดทะลักออกจากจมูก
และปาก โดยเฉพาะปากกลายเปนเนื้อเละมองไมชัดเจน ฟนหลุดรวงออกมาราว 10
กวาซี่
การเปลี่ยนแปลงนี้ชางนาตกตะลึง โจรโฉดไมคาดคิดวา หมูบานออนแอนี้จะมีคน
กลาตอตาน อีกทั้งยังเปนแคเด็กคนหนึ่งเทานั้น เกิดความงุนงงไปชั่วขณะ
ผูนําเดือดดาล รางกายสองแสง อักขระผนึกกําลัง ปรารถนาจะหลุดพนออกไป ทวา
ภายใตพละกําลังอันมหัศจรรยของเจาตัวเล็ก การตอตานของเขาไรประโยชน ขอเทาถูก
มือเล็กขางนั้นจับไวแนน ราวกับถูกหวงเหล็กรัดแนน จวนจะหักแลว
เจาตัวเล็กประหนึ่งกวัดแกวงหุนไลกา จับตัวเขาหมุน ฟาดลงบนพื้นอีกคราอยาง
งายดายและรุนแรง
“ผลุบ”
เสียงผิวหนังแหลกเหลวดังขึ้น ผูนําคนนี้รองโอดโอย ครั้งนี้กระแทกเขากับกอนหิน
ใหญกอนหนึ่ง กระดูกทั่วรางกายหักหลายแหง เนื้อตัวขาดเหวอะหวะ
เจาตัวเล็กโยนเขาทิ้งตรงหนาหมูบานราวกับเขวี้ยงศพหมา สือหลินหูกาวออกมา
หนึ่งเทาใหญเหยียบย่ําลงบนหนาอกของเขาแลวตะโกนวา “เจากําแหงมากมิใชรึ?”
“กลาลงแสหวดหนาของผูเฒา ขาทนเจามานานแลว!” เหลาชายวัยกลางคนตางกรู
กันเขามา ฝาเทาใหญกระทืบลงไปอยางบาคลั่ง
“อา...”
“ผลุบ”
ใบหนาของผูนําคนนี้เปลี่ยนรูปในบัดดล ถูกย่ําจนเปนแตงโมเละ
ทุกอยางเกิดขึ้นชั่วพริบตา กลุมโจรโฉดนิ่งอึ้ง สิ่งเหลานี้กะทันหันเกินไป ครั้งกอน
ชาวบานยังออนแอดุจแกะ ไมกลาตอตาน ไยวันนี้แมแตเด็กคนหนึ่งก็ดุดันแข็งกราวไดถึง
เพียงนี้ พวกชายวัยกลางคนพวกนั้นกลับยิ่งบาคลั่ง!
“ฆามัน!” ผูนําอีกคนตะโกนอยางรอนรน ออกคําสั่งใหกลุมโจรลงมือ เพื่อเริ่มการ
สังหารหมูฝูงชนตรงหนาหมูบาน
เสียงดังครืนครันดังอยางไมขาดสาย กลุมคนชักอาวุธคมกริบออกมา พุงตัวมาหมาย
ฆาลางบางหมูบานหินผา
เจาตัวเล็กคํารามลั่น ตวัดมือฟาดกลุมคนที่อยูดานหนาสุด อักขระแผกระจาย ฝามือ
ราวกับขยายใหญเทาแผนรองโมหินในชัว่ ครู เสียงปงดังขึ้นตอเนื่อง โจรโฉดลอยละลิ่วขึ้น
ทีละคน ทั้งหมดถูกฟาดจนตัวลอยออกไป
นี่เปนพละกําลังมหาศาลอันนาตื่นตะลึง ผูคนทั้งหมดกระดูกหัก หลังจากสะเทือน
จนตัวลอยก็ยากจะหยัดยืนลุกขึ้นไดอีก ไมสามารถขยับเขยื้อนกายไดแมแตนิด
และนี่เปนเพียงการโจมตีอยางไมตั้งใจของเจาตัวเล็กเทานั้น มิไดออกแรงมากมาย
เพียงใด แตกอใหเกิดการทําลายลางครั้งใหญปานนี้
ผูนําที่เหลือสบถเสียงเบา ฝามือเปลงแสง กระแสไฟโชติชวงแตกกระจาย สองสวาง
ทั่วบริเวณหนาหมูบาน เขาใชพลังจากอักขระ สําแดงเคล็ดวิชาเปลวเพลิง
ครั้งอดีต พวกเขาเผาสังหารเพื่อปลนชิง เขาเปนหนึ่งในกําลังสําคัญ รับผิดชอบ
วางเพลิงเผาหมูบาน ทําใหผูคนไมนอยฝงรางทามกลางทะเลเพลิง โดยใชเคล็ดวิชาเปลว
เพลิงเชนนี้
แตในวันนี้ใชกับเจาตัวเล็กไมไดผล เสี่ยวสือฮาวผลักหนึ่งฝามือออกไปอยางงาย
อักขระทอดผานอากาศ ดับเปลวเพลิงโชติชวงนั่นจนสิ้น ตอมาเกิดเสียงดังปง ราวกับ
ภูเขาสูงเทียมฟาพุงเขาชน ทําใหผูนําคนนี้ลอยออกไปไกลนับ 10 หมี่
กระดูกทั่วรางกายของผูนําคนนี้แตกละเอียดมากกวาครึ่ง ยากจะลุกขึ้นยืนไดอีก
“โจรพเนจร อํานาจบาตรใหญของพวกเจาละ ความกําแหงของพวกเจาไปไหนเสีย
แลว?!”
สือเฟยเจียวและคนอื่นๆ กาวขึ้นมาดวยมือกําอาวุธหนัก ทุกคราที่ฟาดลงไป สะเก็ด
เลือดก็แตกกระเด็น
โจรโฉดทีน่ อนแผอยูบนพื้นเหลานี้ แตละคนลวนกําชีวิตคนอยางนอย 10 ชีวิต ปกติ
โหดเหี้ยมทารุณ ตอนนี้กลับหวาดกลัวกันขึ้นมา ตาเหลือกจนโต สงเสียงดังรองขอใหไว
ชีวิต
เจาตัวเล็กลงมืออยางเดือดดาล การตอกรกับโจรโฉดกลุมเล็กนี้ชางงายดาย เขารูดี
ศัตรูตัวฉกาจคือเทพารักษตนนั้น กองทัพเล็กนี่ไมคณามือเขาหรอก
..............................
[1] อาวฉวน สุนัขพันธุมาสทิฟฟ เปนสุนัขขนาดใหญ
บทที่ 82 บุกเดี่ยวรังโจร
เด็กๆ ตื่นเตนและฮึกเหิม พากันวิ่งเขามาทันใด หอมลอมเสี่ยวสือฮาวไวตรงกลาง
พูดคุยกันอยางเจ็ดปากแปดลิ้น[ 1 ]
“เจาตัวเล็ก เจาชางเกงกาจเสียจริง สามารถโจมตีคนเหลานี้ใหพายในหนึ่งฝามือ
แมแตผูนําซึ่งรูเคล็ดวิชาเปลวเพลิงผูนั้น ก็ไมสามารถตานทานได”
“เมื่อใดขาจะสามารถสังหารโจรพเนจรพวกนี้ดุจถอนหญาเชนนี้กัน?!”
ผูคนนับสิบถูกจัดการจนเรียบ สือเฟยเจียวและคนอื่นๆ ไมปราณี โยนพวกเขาเขา
ปาเปนอาหารแกสัตวประหลาด มือของโจรโฉดพวกนี้แปดเปอนดวยเลือด หากปลอย
พวกเขาไปเทากับยกยองสงเสริมความชั่ว กอเกิดหายนะแกผูคนจํานวนมาก
สําหรับสัตวพาหนะของคนเหลานี้ บางสวนดุรายเกินไป ไมสามารถฝกใหเชื่องได มี
เพียงเขนฆาเทานั้น กลายเปนเสบียงอาหารของชาวบานหินผา และยังมีอีก 10 กวาตัว
แมจะเปนสัตวประหลาดดุราย แตกลับเชื่องกวามาก กลายเปนสัตวพาหนะของชาวบาน
“ฮาๆ เจาตัวเล็กสรางวีรกรรมใหญหลวงเสียแลว สัตวประหลาดเหลานี้เปนพาหนะ
ชั้นยอด เสียเพียงอยางเดียวคือโหดเหี้ยม จําตองกินเลือดเนื้อทุกวัน”
แนนอนวาสัตวพาหนะของโจรโฉดกลุมนี้ไมดอยนัก เหมาะแกการเดินทางเขาออก
ดินแดนรกราง แมแตละตัวจะปากกวางดุจอางเลือด มีคมเขี้ยวนากลัว เกล็ดแนนขนัด
แข็งแกรงอยางแทจริง เมื่อฝกมันใหเชื่องก็จะเปนพาหนะชั้นยอดที่แทจริง
ดวงตะวันคลอยทางทิศตะวันตก ชาวบานดีอกดีใจกันมาก นําเอาสัตวประหลาดที่
ถูกเชือดเหลานั้นใสลงในหมอใหญ ตมเคี่ยวจนเปอยยุย วางหนุนบนกองไฟ ยางจน
เหลืองทองแวววาว กลิ่นหอมของเนื้อฟุง กระจาย ทําใหผูคนพากันน้ําลายไหลดวยความ
อยาก
พวกเขากินเนื้อคําโตพลางพูดคุยถึงเรื่องราวในวันนี้ โจรผูรายที่มารุกรานเหลานี้ตาง
ถูกความตายลงทัณฑ เปนเหตุใหความโกรธของพวกเขาปะทุขึ้น ความอัดอั้นในระยะ
หลายวันมานี้ถูกระบายบางแลวบางสวน
“สบายใจเสียจริง โจรโฉดพวกนี้สรางความวิบัติแกกี่ชนเผาแลวไมทราบแน ชีวิตนับ
ไมถวนในกํามือ วันนี้สามารถสังหารพวกมันได ไมมีซึ่งความรูสึกผิดบาป”
“เจาตัวเล็กทําไดดี ขาเห็นตอนเจาปะทะกับผูนําคนนั้น เจาทําลายเคล็ดวิชาเปลว
เพลิงนากลัวของมันไดอยางงายดาย นี่ไมธรรมดาเลย เด็กดื่มนมของพวกเรานับวันก็ยิ่ง
เกงกาจ ฮาๆ...”
พวกผูใหญตางหัวเราะเสียงดังพลางลอเลียนเสี่ยวสือฮาว
“มา ลุงเคี่ยวนมสัตวใหเจาโถหนึ่งเปนพิเศษเชียวนา ดื่มเสียสิ” ชายวัยกลางคนมี
หนวดเครารุงรังกรูเขามา
เจาตัวเล็กขวยเขิน แตก็ยังอุมโถดินเผาอยางเคยชิน กรอกนมเขาปาก ทวาเพิ่งดื่มได
เพียงอึกเดียวก็รองลั่นขึ้นมาวา “หลอกลวง นี่เปนน้ําเบอรรี่นี่นา”
“ฮาๆ...” กลุมคนพากันหัวเราะเสียงดังอยางอดไมได
ครั้นหยุดหัวเราะ หัวหนาหมูบานก็สีหนาเครงขรึมขึ้น ยืนอยูหนากองไฟ กลาวย้ํา
เตือนฝูงชนวา “โจรโฉดพวกนี้ถูกสังหารแลว แตไมนาน จะตองนํามาซึ่งกําลังสําคัญและ
เทพารักษตนนั้นเปนแนแท”
“ทานผูเฒาขอรับ ขาจะไปจัดการหายนะที่จะตามมา” เจาตัวเล็กหยัดตัวลุกขึ้น
ชาวบานไดยินตางกังวลใจ แมเจาตัวเล็กจะแข็งแกรงเพียงใด แตอยางไรก็เปนเพียง
เด็ก ทวาฝายตรงขามมีมือดีอยูมาก โดยเฉพาะเทพารักษตนนั้นที่ทําใหพวกเขา
หวาดหวั่น
เทพารักษคืออะไร? เปนตัวแทนของความลึกลับและยิ่งใหญ ปรารถนาใหชนเผา
เคารพบูชา เซนสรวงดวยศรัทธา ยากจะกวนโทโส ไมมีผูใดยอมเปนปรปกษกับ
เทพารักษ
“นี่เปนเทพารักษชั่วรายตัวหนึ่ง ขาจะคิดหาทางกําจัดมันใหได!” เจาตัวเล็กน้ําเสียง
หนักแนน ใหคํามั่นแกชาวบานอีกครา จะไมใหเกิดปญหาตามมาภายหลังเพราะการ
กระทําของตนเปนแน หากเกิดขอผิดพลาด เขาจะหลบหนีทันที
แนนอนวาเจาขาว สัตวประหลาดเขาเดียวตองตามไปอยางแนนอน มันสามารถพา
เขาหลบหนีอยางรวดเร็วในยามคับขัน หลุดพนจากความตายได
กอนออกเดินทาง เจาตัวเล็กแนะนําใหชาวบานอพยพลวงหนาไปกอน หามอยูเฝาที่
แหงนี้ ผูคนมากมายพยักหนาเห็นดวย หัวหนาหมูบานก็หมายความเชนนี้ เนื่องจากค่ํา
คืนนี้ยากจะคาดการณวาผูใดชนะ ผูใดแพพาย ครั้นเจาตัวเล็กพายแพ ชาวบานทั้งหมด
จะตองเผชิญหนากับการลางแคนสาบเลือด
“ลูกเอย ขาจะไปกับเจา!” หัวหนาหมูบานจะเดินทางไปพรอมกัน
“มิไดนะขอรับ บนรางกายของทานผูเฒามีโรครายซอนเรนอยู ไมสามารถสําแดง
อักขระไดตามอําเภอใจ ใหเปนหนาที่ขาเถิด!” เจาตัวเล็กสายหนาไมเห็นดวย
“ลูกเอย... ลําบากเจาแลว!” เหลาผูใหญละอายใจ
“นี่เปนสิ่งที่ขาพึงกระทํา ไปแลวนะขอรับ!”
ในที่สุด เจาตัวเล็กก็ออกเดินทางเพียงลําพัง ควบมาวิ่งหอไปยังสุดขอบโลกพรอมกับ
ความกลาหาญ หมายทําลายโจรโฉดทีย่ ิ่งใหญกลุมนั้นดวยตนเอง
เขารูสถานที่พํานักของคนเหลานั้นจากของกลุมโจรโฉดเมื่อครู ตอนนี้เดินทางอยาง
ไมหยุดหยอน มุงหนากลางดินแดนรกรางราวกับพายุหมุนสีเงิน
สัตวประหลาดเขาเดียววองไวดุจแสง ขามภูเขาผานแนวเขา ขึ้นเขาลงหวย ผืนปา
สองขางทางรนถอยหลังอยางรวดเร็ว เขาใกลจุดหมายปลายทางในเวลาครึ่งชั่วยาม
แสงจันทรสลัว สัตวปาคํารามกลางปาเขา
นี่เปนพื้นที่ภูเขาซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศคอนขางสูง มีรั้วกั้นงายๆ กลุมโจรโฉดตั้ง
ฐานไวที่นี่ชั่วคราว พวกเขามีที่อยูไมเปนหลักแหลง คุนชินกับการดํารงชีวิตเชนนี้มาเนิ่น
นานแลว
กองไฟเริงระบํา เหลาโจรโฉดกําลังกินสัตวปาที่ลามาได กระจุกตัวกันเปนกลุมนั่ง
ลอมรอบกองไฟ ฉีกกินชิ้นเนื้อที่ยางจนสุกแลว ทั้งกําลังหารืออะไรกันอยู
ไมไกลนัก กลุมสัตวประหลาดถูกผูกไวกับตนไมเกาแก บางก็ถูกลามบนกอนหินใหญ
แตละตัวดุรายเปนอยางมาก
นี่เปนคายปาธรรมดาเรียบงาย มีคนเฝาระวังอยูไ มกี่คน เตือนภัยหากสัตวประหลาด
ในปาเขาประชิด เพราะที่นี่เปนดินแดนรกรางอันไรที่สิ้นสุด ไมแนวาอาจมีสิ่งประหลาดที่
แข็งแกรงโผลมาฉับพลันก็เปนได
เจาตัวเล็กควบมาวิ่งหอมา เขานั่งอยูบนหลังสัตวประหลาดเขาเดียว ประหนึ่งเทพ
เจาชุดขาวยางมาจากสวรรค แปลงรางเปนลําแสงสีเงิน มาเยือนในชั่วพริบตา
“ใครนะ?!” คนเฝาประตูคายและสังเกตการณตะโกนลั่น
“เจาขาว เจาหลบซอนเสียกอน!” เจาตัวเล็กกลาว จากนั้นกระโดดลงสูพื้นดินเพียง
ลําพัง ขณะเดียวกันก็สะบัดตัว โยนเจาลูกขนกลับไปบนหลังของสัตวประหลาดเขาเดียว
“นาแปลก ไมนึกเลยวาเด็กคนหนึ่งจะมาที่นี่ได” กลุมคนที่เฝาประตูคายตาง
ประหลาดใจ แตกลับมิกลาสบประมาท เพราะยิ่งไมชอบมาพากล จะทําใหผูคนยิ่ง
กระวนกระวายและใหความสําคัญมากขึ้น
“มีคนบุกคาย!” พวกเขาตะเบ็งเสียงเพื่อสงขาวแกคนดานใน
เจาตัวเล็กไมหวั่นเกรง เดินยางสามขุมไปขางหนา ดุจแมทัพผูรบรอยครั้งชนะรอย
ครั้งคนหนึ่ง แมจะตัวเล็ก แตกลับลักษณะนาพรั่นพรึง มีพลังอํานาจดั่งพยัคฆมังกร
“หยุด!” โจรโฉดคนหนึ่งเขาขัดขวาง มือถือหอกศึกชี้มาขางหนาอยางอํามหิต
“ปง!”
เจาตัวเล็กยกมือฟาดลงไป หอกศึกหักดังแควก และคนนี้ก็ลอยลิ่วขึ้นออกไปไกลนับ
10 หมี่ กระแทกกับกอนหินใหญ การเคลื่อนไหวจึงหยุดยั้งลง นอนแนนิ่งไมขยับอยูตรง
นั้นทันที
“แข็งแกรงมาก!” เหลาโจรโฉดสูดลมหายใจเย็น พากันลาถอยอยางรวดเร็ว ดึงคัน
ศรใหญขนึ้ มางางสายธนู ลูกศรดามแลวดามเลาลอยพาดอากาศ เกิดเสียงดังวิญญาณ
โหยหวน พุงตรงไปยังเจาตัวเล็กอยางแมนยําและดุดัน ปราดเปรียวเปนอยางมาก
“วิ้ง”
เจาตัวเล็กมือซายวาดวงแหวน กอตัวเปนอักขระกระแสวนขนาดใหญ หมุนเวียน
ดวยความเร็วสูงสุด ลูกธนูแนนขนัดถูกดูดเขาไปทั้งหมด บดขยี้จนเปนผงโลหะ รวงพรั่ง
พรูลงบนผืนดิน
“โอสวรรค ปศาจจิ๋ว!” โจรโฉดเหลานี้ตกตะลึง พวกเขาผานศึกนองเลือดมานักตอ
นัก พบเจอผูคนมาหลากประเภท ทวาไมเคยเห็นเด็กเชนนี้มากอน เยาววัยปานนี้ แต
กลับนากลัวถึงเพียงนี้
เจาตัวเล็กฟาดลงไปหนึ่งฝามือ อักขระทวมทนทองฟา คน 10 กวาคนที่เรงมาหลัง
ทราบขาวก็ลอยขึ้นประหนึ่งฟางขาว ชนโครมกับกอนหินใหญที่อยูด านหลัง เลือดทะลัก
จากปาก ลุกขึ้นไมไดอีกตอไป
“ศัตรูบุก เตรียมพรอมตอสู!” เสียงผิวปากแหลมดังขึ้น คายปาชุลมุนวุนวาย โจร
โฉดทั้งหมดลุกฮือกันขึ้นมา
เจาตัวเล็กมิไดเกรงกลัวแมแตนิด เขนฆาสังหารมาตลอดทาง สูศึกโจรโฉดดวยมือ
เปลา ไมใชพละกําลังแตอยางใด ก็ทําใหคนราว 20 กวาคนกระดูกหักเอ็นขาด สูญเสีย
กําลังการตอสูไป
“ชางนาตื่นตะลึงเสียจริง ทั้งที่เปนแคเด็กแทๆ!” ผูนําคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เขาเผย
แววตาแปลกใจ จดจองเจาตัวเล็กไมหยุด
สือฮาวยางเทาราวกับเขาสูดินแดนไรผูคน เขาลงมืออยางตอเนื่อง ผูนําคนนี้เห็น
ดังนั้นก็พุงเขามาดวยความเร็ว ทั้งตัวเปลงแสงงดงาม จากนั้นเกล็ดก็ปรากฏขึ้นแผนแลว
แผนเลา ปกคลุมรางกายของเขาไว
“อืม หนังจระเขรึ? ไมใชสิ เปนชุดเกราะที่กอรางจากเกล็ดของตัวนิ่ม” คนคนนี้ดุจ
ดั่งจระเขใหญ เกราะบนตัวสวางไสว อัปลักษณและเหี้ยมโหด พุงมาสังหาร
“ตูม”
เจาตัวเล็กฟาดฝามือออกไป สะเทือนคนอื่นๆ จนลอยลิ่ว กระดูกหัก มีเพียงบุคคลผู
นี้ แมจะโดนพละกําลังมหาศาลเชนนี้ทําใหลอยหมุนควางหลายตลบ แตกลับพลิกตัวลุก
ขึ้นไดทันที
“อาวุธล้ําคาอยางนั้นรึ?” เจาตัวเล็กแววตาพลันเปนประกาย วัตถุเชนนี้พบเจอได
ยากมาก เขากระโจนไปขางหนาอยางรวดเร็วหมายลงมืออีกครั้ง
“ทําไดดีนี่!” คนนี้คํารามลั่น ยกฝามือขึ้นรับการโจมตี อักขระล้ําคาแวววับ ฝามือ
ขางนั้นสวางขึ้นประหนึ่งอุงเล็บสัตว
“ปง”
เจาตัวเล็กยืนตระหงานไมไหวติง ทวาไหลของอีกฝายชักกระตุก เปลี่ยนรูปทันที แม
เกราะชุดนี้จะไมเลว แตก็ยากจะปกปองเขาไดอยางรอบดาน ทําใหกระดูกไหลหัก
“เจา...” เขาไมอาจเชื่อเรื่องราวทั้งหมดนี้ได ไมคาดคิดวาศัตรูวัยเยาวฝงตรงขามจะ
แข็งแกรงไดถึงปานนี้ เหนือความคาดหมาย เด็กธรรมดาทั่วไปในชวงอายุนี้จะบรรลุถึง
ขั้นนี้ไดอยางไร?
“เขามาอีก!” เจาตัวเล็กกาวขึ้นมาลงมืออีกครั้ง เขาตองการทดสอบวาชุดเกราะของ
ฝายตรงขามใชอาวุธล้ําคาหรือไม มันเกิดประโยชนรึเปลา
“โครม!”
หนนี้ ผูนําโจรโฉดลอยลองขึ้นทันที แขนอีกขางหัก อีกทั้งกระดูกซี่โครงยุบตัว เกร็ด
บนชุดเกราะหลุดรวงออกมาเปนกอบเปนกํา ตานทานพละกําลังของเจาตัวเล็กไมได
“นาเสียดาย ไมถือวาเปนอาวุธล้ําคา อักขระภายในเกล็ดขาดหายไปเสียแลว” เจา
ตัวเล็กสายหนา
โจรโฉดพวกนี้ตางตะลึงจนตาคาง นี่เปนถึงผูนําคนหนึ่ง ยิ่งใหญอยางที่สุด แตกลับ
แสดงพลังตานทานไมกี่ทวงทาตอหนาเด็กคนนี้ บัดนี้นอนแผหลาอยูตรงนั้นราวกับดิน
โคลน ลุกไมไดเสียแลว
“เศษสวะ แมแตเด็กคนเดียว พวกเจาก็ตานไมไหวอยางนั้นรึ?” ขณะนี้เอง เสียงของ
ชายวัยกลางคนแววมา น้ําเสียงกองกังวาน ประหนึ่งระฆังทองสั่นไหว
เจาตัวเล็กยั้งเทา เขารูดีวาประสบกับมือดีขนานแทเขาแลว ดานหนามีอักขระ
แข็งแกรงมากชนิดหนึ่งกระเพื่อมขึ้นลง ดั่งสัตวอสูรตื่นจากการหลับใหล
คนๆ นี้เสนผมดําหนา ตาขาวมีมาก ลูกตาดําที่มีเพียงนิดเปนสีทองออน กลิ่นอาย
แข็งแกรงเปนอยางมาก ทุกยางกาวย่ําลงสะเทือนผืนปาสั่นไหว ประหนึ่งสิ่งมีชีวิตมหึมา
เดินเหิน
นี่เปนผูนําใหญแทจริงแหงกลุมโจรโฉด ปกครองผูกลานับ 100 กวาชีวิต ฝมือสูงสง
มีเทพารักษยิ่งใหญตนหนึ่งเคียงขาง มิใชบุคคลธรรมดา
“ชริ้ง”
เปลวเพลิงกลุมหนึ่งลุกโหม เพียงชั่วพริบตาก็แผทั่วทองฟาปกคลุมผืนดิน กลายเปน
ทะเลเพลิงทันใด ลุกทวมรอบตัวเจาตัวเล็กในบัดดล
ชายวัยกลางคนจูโจมกะทันหัน มิไดเอยวาจาใดใหมากความ เปนเคล็ดวิชาเปลว
เพลิงเชนเดียวกัน ทวาอิทธิฤทธิ์นั้นหาที่เปรียบไมได
เสียงเปรี้ยะๆ ดังขึ้น ลําธารเล็กขางๆ ระเหยจนแหงเหือด กอนหินบริเวณโดยรอบ
หลอมละลายเปนลาวา ที่แหงนี้ราวกับปากปลองภูเขาไฟที่ยังไมดับมอด พรั่งพรูออกมา
โกรกกราก รอนระอุอยางยากจะตานทาน
เจาตัวเล็กตะลึงงัน นี่เปนมือดีชั้นยอดขนานแท เหนือการคาดเดาของเขา เดิมคิดวา
มีเพียงเทพารักษตนนั้นที่นากลัวมาก คาดไมถึงวาผูนําใหญจะไมธรรมดาไดถึงเพียงนี้
“วิ้ง”
เขาประกบฝามือเขาดวยกัน จันทราสีเงินก็ลอยขึ้น หมุนเควงและดูดซับเปลวไฟ
อยางรวดเร็ว จากนั้นขยายใหญขึ้น กงจักรจันทราบดบังที่แหงนี้ นี่เปนเคล็ดวิชาล้ําคาซึ่ง
ไดมาจากจื่อยวิ๋น ตาเผิงและเสี่ยวชิง
“เจาเปนเด็กของหมูบานนั้น แตกลับเกงกาจปานนี้เชียวรึ?!” เมื่อชายวัยกลางคน
เห็นเจาตัวเล็กทําลายเคล็ดวิชาเปลวเพลิงของตนทิ้งก็เกิดความตกใจ เขาความจําดีเลิศ
นึกขึ้นไดวาเคยพบเจอเจาตัวเล็กในตอนนั้น
ยามไปหมูบานหินผาเมื่อครั้งกอน เขานั่งอยูบนสัตวอสูร จองมองอยางเย็นเยือกจาก
ดานหลัง มิไดแสดงอากัปกิริยาใด ในตอนนั้นสายตาเฉียบคม และตอนนี้ยังคงมีความ
ทรงจําอยู
เผชิญหนากับศัตรูคนนี้ เจาตัวเล็กไมกลาประมาท อักขระสวางวาบ รายเคล็ดวิชา
ล้ําคาเตรียมพรอมโจมตี
ขณะนี้เอง ชายวัยกลางขึ้นเนื้อตัวสองแสง คํารามลั่นวา “ทานเทพารักษ โปรด
ประทานพลังแกขา”
เมื่อสิ้นเสียงโครม รางกายของเขาราวกับถูกแผดเผา แปลงรางเปนตัวนิ่มรูปราง
มนุษย รัศมีโชติชวง ยืนตระหงานอยูตรงนั้น สั่นหัวกระดิกหาง สําแดงการโจมตีที่
แข็งแกรงที่สุด
“ซวบ”
เขาสะบัดมืออยางดุดัน กรงเล็บใหญที่หลอมรวมจากลําแสงก็พาดผานทองฟา
หมายตะปบเจาตัวเล็ก เสียงดังกึกกอง ลวดลายวิเศษทวมทนทองฟา
เจาตัวเล็กเผยตัวตนที่แทจริงเครงขรึม ตะโกนเสียงเบา สําแดงเคล็ดวิชาล้ําคา
จันทราสีเงินขนาดใหญหนึ่งดวงปรากฏขึ้นดานหลังของเขา เสนผาศูนยกลางยาวเกือบจั้ง
สองสะทอนบริเวณนั้นจนพรางพราว ราวกับวงแหวนวิเศษเจิดจาคุมกันเขาใหอยูตรง
กลาง
แสงสีเงินปะทุขึ้น ไหลทะลักออกจากกรงจักรจันทราอยางไมขาดสาย พุงตรงไปยัง
กรงเล็บนั่น เกิดเสียงปะทะกันอยางหนักหนวง กลายเปนแสงระยิบระยับดุจหาฝน
ภาพเหตุการณเชนนี้นาสะพรึงกลัวอยางยิ่งและงดงามมาก ดานหลังของเจาตัวเล็ก
เปนจันทราวิเศษสีเงิน เขาถูกปกคลุมดวยแสงสวางศักดิ์สิทธิ์ขมุกขมัว ประหนึ่งเทพเจา
แหงสรวงสวรรคตัวจิ๋ว
ตัวนิ่มรางคนฝงตรงขามตัวนั้นคํารามวา “ครั้งกอน หากขาฆาลางบางหมูบานนั้น ก็
คงจะไมเกิดเรื่องราวยุงเหยิงปานนี้ เจาเพิ่งจะบรรลุอยางนั้นรึ?!”
“ใชแลว!” เจาตัวเล็กไมปฏิเสธ ภูเขาไฟทั้งสามปรากฏขึ้นกลางอากาศ ‘ลาวา’
เกลือกกลิ้ง นั่นคือพลังปราณวิเศษ หลั่งไหลเขาสูรางกายของเขา
“อะไรกัน?” ชายวัยกลางคนผูยิ่งใหญตะลึงพรึงเพริด เพิ่งจะบรรลุก็เปดถ้ําสวรรค
ตอเนื่องกัน 3 แหง ไดยินในสิ่งที่ไมเคยไดยินมากอน เหมือนกับเรื่องเหนือจินตนาการ
นากลัวจนทําใหตกใจอยูเล็กนอย
“ไมคิดวาจะมีอัจฉริยะไรเทียมทานปรากฏตัวกลางดินแดนรกรางแหงนี้!” ชายวัย
กลางคนตะโกนลั่น หลังจากแปลงรางเปนตัวนิ่มรางคน ทั้งเนื้อทั้งตัวมีกระแสไฟลุกทวม
แลดูนากลัวเปนอยางมาก กลาววา “ขานาจะฆาลางเผาพันธุหมูบานนั้นใหสิ้นตั้งแต
แรก”
เจาตัวเล็กนัยนตาสุกใส จันทราสีเงินดานหลังสองแสง สาดทอแสงสวางวิเศษอยาง
ลนหลาม ลุกทวมปกคลุมเขาไว ยิ่งทําใหเขาเหมือนเทพเจามากยิ่งขึ้น
ทั้งสองตอสูกันอยางดุเดือด ชั่วพริบตาผานไปนับ 10 ทวงทา จันทราสีเงินดานหลัง
เจาตัวเล็กสั่นเทิ้มโดยพลัน เสียงแผดรองของปกษาดังขึ้น ปศาจปกษาขนาดใหญตัวหนึ่ง
ปรากฏขึ้น พุงตัวออกมาและขยายใหญขึ้นอยางรวดเร็ว พลันแผทั่วทองฟาปกคลุมผืน
ดิน บดบังไปทั่วบริเวณผืนปา
“ผลุบ”
ปศาจปกษาบินทะลวงฟา หนึ่งกรงเล็บตวัดลงไป สะเทือนอักขระอันไมสิ้นสุดของ
ชายวัยกลางคนจนแหลก ฉีกทึ้งแขนหนึ่งขางพรอมกับหัวไหล จวนจะขาดเปนสองทอน
ทั้งเปน เลือดสดไหลหยด สาดกระจายไปทั่วพื้นดิน
“อา...”
ชายวัยกลางคนกลายรางเปนมนุษย รัศมีแสงทั่วรางกาลจางหายไป ลมพับลงกลาง
กองเลือดอยางไมยนิ ยอม นัยนตาหมนแสง แววตาเหี้ยมโหดดับสูญ พูดกับตัวเองวา “ขา
ฝกตนมากวาครึ่งคอนชีวิต บรรลุขั้นถ้ําสวรรคเมื่อครั้งอายุ 30 ป วันนี้ตัวขาบําเพ็ญตน
จนอายุ 50 ปแลว ยังไมสามารถบรรลุขั้นที่สูงกวาได เจาเปนเพียงเด็กคนหนึ่ง แตกลับ
อยูในขั้นเดียวกับขาเสียแลว”
เขากลัดกลุม สีหนาสับสน สําหรับเด็กที่คาดการณไมไดเฉกเชนเจาตัวเล็ก เขารูสึก
ตกตะลึงเหลือเกิน ไมพอใจเปนอยางมาก
กลุมโจรโฉดนิ่งอึ้ง ผูนําที่พวกเขาเคารพยําเกรงดูเทพเจาแหงสรวงสวรรคแพพาย
เสียแลว ถูกเด็กอายุ 7-8 ขวบคนหนึ่งหักแขนหนึ่งขางดวยพละกําลังอันแข็งแกรง นา
สะพรึงกลัวจนตัวสั่นระริก
“โครม”
ขุนเขาสั่นไหว สิ่งมีชีวิตสีทองออนตัวหนึ่งปรากฏขึ้น ใตรัตติกาลนี้ ราวกับการมา
เยือนของภูเขาสีทองแวววาว ทําใหบริเวณภูเขาแปรเปลี่ยนเปนสีทอง
เทพารักษตนนั้นปรากฏตัวแลว แววตาเย็นยะเยือกอยางเปรียบไมได ประหนึ่งโคม
ไฟสีทอง 2 ดวง ไหลเวียนแสงสวางอันนากลัว จองเจาตัวเล็กเขม็งดวยจิตสังหารที่นา
กลัว
เจาตัวเล็กสงบเปนอยางมาก ปราศจากความหวาดกลัว เอยกับตนเองวา
“เทพารักษหรือ ทั้งมหัศจรรยและยิ่งใหญ กุมความลับไวมากมาย ขาไมเคยสังหารมา
กอนเลย”
..............................
[1] เจ็ดปากแปดลิ้น สํานวนจีน แปลวา แยงกันพูดจนฟงไมไดศัพท
บทที่ 83 สงครามตัดสินความเปนความตาย
นี่เปนตัวนิ่มตัวหนึ่ง ทั้งตัวเปนสีทองออน ใหญโตมโหฬารจนนาตกใจ ยาวเกือบ 10
กวาหมี่ หมอบคลานอยูตรงนั้น นัยนตาสีทองคูนั้นเย็นชา กลิ่นความชั่วรายรุนแรงมาก
เทพารักษรูปรางใหญปานนี้หนึ่งตัว เพียงมองดูก็ทําใหขนลุกขนชัน เสียวสันหลัง
วาบ ภายในรางกายสีทองดุจภูเขาเล็กจะมีพละกําลังแข็งแกรงเพียงใดกันนะ?
เจาตัวเล็กสีหนาเรียบเฉยไรความรูสึก จองมองอยางเงียบเชียบ เตรียมพรอมดําเนิน
สงครามครั้งสะทานฟา!
ตัวนิ่มตัวนี้ราวกับสังหารสิ่งมีชีวิตมานับพันนับหมื่น มีกลิ่นคาวเลือดอันนาเวทนา
ลอยปะทะใบหนา ปรากฏภาพศพกองพะเนินดุจภูเขากองเลือดดั่งมหาสมุทรขึ้นมาแวบ
หนึ่ง ทั้งประหลาดและนากลัว
“จะเริ่มแลวรึ?!” เจาตัวเล็กฉงนสนเทห รอคอยพรอมรบ ปองกันการโจมตีทางจิต
เชนนี้
ภาพเหตุการณเหลานี้สมจริงถึงเพียงนี้ ชนเผาแลวชนเผาเลาพินาศยอยยับ ผูคน
ทั้งหมดถูกสังหารหมู ซากศพเกลื่อนกลาด มีแองน้ําสีเลือดทั่วทุกหนแหง โลกหลาแดง
ฉาน
ประหนึ่งขุมนรก หากเปนคนทั่วไปคงลมพับลง ณ ตอนนั้น
เจาตัวเล็กสีหนาหนักแนน เทพารักษตนนี้ไมธรรมดาเปนแน หรือบางทีบนตัวของ
มันอาจมีวัตถุอยางเดียวกัน บันทึกภาพเหตุการณเหลานั้นไว เสมือนวาความเปนมาจะ
ยิ่งใหญจนนาตกใจ กระจายกลิ่นอายอันทําใหอกสั่นขวัญแขวน!
ตัวนิ่มมหึมาเคลื่อนไหว ทั่วผืนปาสั่นสะเทือนตามมา รางกายยาวนับ 10 หมี่ปลอย
แสงสวางเจิดจาพราตา แสงสีทองแผซาน ยอมกอนหิน มวลไม ใบไมแหงจนเปนสีทอง
ออน
ทั่วบริเวณผืนปาขมุกขมัวไปดวยจิตสังหารอันใหญหลวง
“โครม”
ทันใดนั้น ตัวนิ่มเคลื่อนไหวแลว ดั่งแมน้ําสีทองกวางใหญ สะเทือนจนเกิดคลื่นลูก
ใหญ พุงตรงมาขางหนาดวยความเชี่ยวกราด เพียงชั่วขณะเดียว ตนไมเกาแกเหลานั้นก็
หักโคนลงภายใตเกลียวคลื่นสีทองนี้ จากนั้นลอยลิ่วออกไป กอนหินก็เชนเดียวกัน พุง
สะเปะสะปะขึ้นกลางอากาศ
ภาพเหตุการณเชนนี้นาสะพรึงกลัว ราวกับคลื่นบาคลั่งกระทบฝง กอนหินและตนไม
ใหญหักแตก แตกระเบิดใตพลังสีทองอันแข็งแกรง
ไกลออกไป โจรโฉดกลุมนั้นสั่นเทิ้ม มองเห็นเหตุการณดั่งอานุภาพแหงสวรรคเชนนี้
ความอํามหิตของพวกเขามลายหายไปจนสิ้น เนื้อตัวสั่นระริก
กรงเล็บสีทองใหญมีความยาวเกือบจั้งยื่นออกมา ตวัดไปทางเจาตัวเล็ก สะเทือนจน
กอนหินแหลกละเอียด มวลไมเปนผุยผง แสงสวางเจิดจาพราตา อานุภาพนาตกตะลึง
เจาตัวเล็กมิไดหลบซอน หนึ่งแขนสะบัดก็มีพละกําลังถึงหนึ่งแสนแปดพันชั่ง และ
ตอนนี้ก็บรรลุแลว บวกกับพลังอํานาจของอักขระ นากลัวยิ่งขึ้นไปอีก ยกมือขึ้นมา
ปองกันตัวเอง
“ปง”
แขนของเจาตัวเล็กมีอักขระกระจายอยางหนาแนน ปะทะเขากับกรงเล็บสีทองใหญ
พลันระเบิดกระแสไฟทวมทนทองฟา กวาดไปทั่วทุกสารทิศ
ตนไมหักโคน กอนหินปลิววอนทะลวงฟา ยิ่งกวานั้นคือ กลุมโจรโฉดที่อยูหางไกล
ตางลอยละลิ่วประหนึ่งหญาแหง คลื่นสีทองกวางใหญ นากลัวเปนอยางมาก
ในที่สุด เมื่อทุกอยางสงบลง เจาตัวเล็กเพียงรนถอยไปไมกี่กาว พละกําลังของมันถือ
ไดวาสะทานโลกา ตานทานตัวนิ่มสีทองมหึมาตัวหนึ่งเชนนี้ กลับไมตกอยูในสภาวะ
เขาตาจนแมแตนิด
นัยนตาของเทพารักษสีทองตนนั้นเผยแววประหลาดใจ มันมิใชเทพารักษธรรมดา มี
ความเปนมาอันยิ่งใหญ สืบทอดสายเลือดแหงฉิวหลง[1]บรรพกาล รางกายแข็งแกรง
อยางที่สุด
“โครม!”
ตัวนิ่มเคลื่อนไหวอีกครา หมุนตัวอยางดุดัน หางสีทองกวาดผานมา ทําลายทุกอยาง
จนพินาศ ระหวางทางกระแทกชนกอนหินหนักสิบหมื่นชั่งกอนหนึ่งจนแตกละเอียด
ยิ่งใหญและรุนแรงเกินไป!
เจาตัวเล็กไมเคยกระทําการบุมบาม เขาไมไดปองกันการโจมตีอีกครั้ง รางกายปราด
เปรียวประหนึ่งภูตผีเสื้อ ถอยหลังดวยความวองไว เคลื่อนไหวไปตามเกลียวคลื่นบาคลั่ง
เชนนี้
หางสีทองใหญกวาดลางทุกอยางราบเปนหนากลอง และฟาดฟนกอนหินหนักนับ
หมื่นชั่งจนแหลกลาญ พลังของมันจึงออนกําลังลง ในชั่วขณะที่มันหยุดพัก เจาตัวเล็กก็
เคลื่อนไหวตามสถานการณ ยื่นมือคูเล็กออกไป ควาเกล็ดบนหางของมันไว ออกแรงจับ
ไวแนน จากนั้นกวัดแกวงอยางบาคลั่ง
“อะไรนะ?” ไกลออกไป โจรโฉดกลุมนั้นจองมองจวนตาถลน เทพารักษขนาดใหญ
ปานนั้น กลับถูกเขยาขวัญเขาเสียแลว
เจาตัวเล็กออกแรงรัดหางของมันไวแนนแลวหมุนตัวมัน ฟาดกับหนาผาดังโครม
กอนหินใหญทลายลงปดคลุมตรงนั้นจนมิด กระแสเสียงนาตื่นตะลึง
แมเขาจะเลนแง กระทําการตามสถานการณ แตยังคงสําแดงพละกําลังบาระห่ําได
เชนดังเดิม ทําใหคนไมอาจเชื่อ นี่เปนเพียงเด็กอายุ 7-8 ขวบเทานั้น
“เขาเปน...ทายาทของอสูรบรรพกาลรึ?”
“เมื่อครั้งบรรพกาล หยาจื้อ[2]และเทาเที่ย[3]ที่สามารถยกทัพจับศึกกับเทพเจาได
ทายาทของมันก็คงเปนเฉกเชนนี้! ทามกลางดินแดนรกรางนี้ หมูบานเล็กๆ หมูบานหนึ่ง
ไยจึงมีเด็กที่นากลัวเชนนี้ปรากฏตัวขึ้นเลา?!” ผูนําใหญกลางกลุมโจรโฉดเผยสีหนา
หวาดกลัว
“ปง”
กอนหินนับพันชั่งหมื่นชั่งจํานวนมากปลิววอน ตัวนิ่มสีทองตัวนั้นคลานออกมา ไร
รองรอยบาดแผล ไมสะทกสะทานแมแตนิด การโจมตีเชนนี้ยากจะทะลวงหนังอัน
แข็งแกรงของมันได
มันเปนเทพารักษ ทั้งมหัศจรรยและยิ่งใหญ จะพายแกศัตรูอยางงายดายไดเยี่ยงไร
การจะทําใหมันไดรบั บาดเจ็บสาหัสนั้น ยังหางไกลอีกมากโข
ตัวนิ่มพุงดิ่งเขามาสูศึกกับเจาตัวเล็ก มันมีรางกายใหญยักษ แรงมหาศาล พละกําลัง
อันไมสิ้นสุด ทุกครั้งที่กรงเล็บสีทองตวัดลง จะมีกลิ่นอายดุดัน ตางเพียงพอจะสะเทือน
ภูเขาจนแตกทลายได
ทวา เจาตัวเล็กกลับรับทั้งหมดนั่นไว กระโจนรับการโจมตีของเทพารักษสีทอง ทั้ง
สองระเบิดแสงสวางเจิดจาออกมา ตางมีกลิ่นอายอันนายําเกรง
“พละกําลังของรางกายสามารถสูรบกับเทพารักษที่สืบทอดสายเลือดของฉิวหลงได
นี่ราวกับเทพนิยายอยางแทจริง” ผูนําใหญรูสึกเหมือนตนจะคลุมคลั่ง สิ่งที่เห็นตรงหนา
ไมสมจริงถึงเพียงนี้
สิ่งมีชีวิตหนึ่งตัวใหญหนึ่งตัวเล็กสูศึกนับรอยทวงทาดวยความดุเดือด ไมรูแพรูชนะ
กลุมโจรโฉดตางงุนงง เด็กคนหนึ่งสามารถสูรบปรบมือกับเทพารักษไดอยางนั้นรึ? หาก
มิไดเห็นแจงกับตา ผูใดจะเชื่อกันเลา!
ทันใดนั้น ตัวนิ่มลุกยืนขึ้นในทาคนอยูตรงนั้น แสงวิเศษสาดทอ พลังอันยิ่งใหญ
แข็งแกรงขึ้นหลาเทาตัว มันเหมือนกับมนุษย กรงเล็บปราดเปรียว ขาหลังยิ่งเหมือนขา
ของมนุษย เคลื่อนไหวยักยายดวยความคลองแคลว
ซวบ!
หนึ่งกรงเล็บฟาดลงมา เจาตัวเล็กหลบหลีก แตมันกลับยกขาหลังกวาดผานตามมา
ติดๆ ราวกับปรมาจารยผูเชี่ยวชาญการตอสูสุดนากลัว รวดเร็วและเหี้ยมเกรียม
เจาตัวเล็กลอยตัวกลางอากาศ หลบหนีจนหมดหนทาง แขนทั้งสองปดปอง ขัดขวาง
ขาขางนี้จนรางกายลอยกลับหัวกลับหาง
ทวาในตอนนี้เอง เทพารักษพลิกตัวดุจสายฟาฟาด ฉิวหลงตัวหนึ่งโยกหาง หางสี
ทองใหญยาวทะลวงผานอากาศ จากนั้นหวดลงมา
“ปง”
แมเจาตัวเล็กจะไขวแขนทั้งสองของปองกันไวดานหนา แตการโจมตีจากฟากฟาสูง
อีกทั้งแมนยําเชนนี้ ก็หวดลงบนรางของเขา ทําใหลอยออกไปกระแทกกับหนาผาที่อยู
ไกลออกไป
ที่แหงนั้นเกิดรองรอยรูปรางคนขึ้นทันที ผาหินแตกเปนเสี่ยง กอนหินเกลือกกลิ้ง
ชางนาตะลึงพรึงเพริด
เจาตัวเล็กพนฟองเลือดออกมาคําหนึ่ง ออกแรงกระเทือนจนหินกอนนี้แตกออก เขา
ลอดออกมาจากดานใน แววตาสวางไสว ระแวดระวังมากยิ่งขึ้น
รางกายของเทพารักษสีทองใหญโตมโหฬาร แตกลับการเคลื่อนไหวกลับเฉียบไวเปน
อยางมาก ไมมีความงุมงามแมแตนอย การเคลื่อนไหวเชนนี้ขัดกับรูปรางของมัน
“ซวบ”
มันพลิกตัวดวยความไว จากนั้นกระโดดอยางดุดัน พุงตัวไปหาเจาตัวเล็กทันที นี่เปน
สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาที่ยาวนับ 10 หมี่ หากวาถูกโจมตีเขาอยางจัง คงเกิดเขาพสุธาแตก
[4]เปนแนแท
เจาตัวเล็กชะงักงัน เขาประเมินเทพารักษตนนี้ต่ําเกินไปอยางแทจริง อักขระสอง
แสงแปลบปลาบ เขาเคลื่อนไหวดวยความเร็วสูงสุด พุงออกจากกลางกอนหิน เขาหลบ
ซอนยังบริเวณขางเคียง
ตัวนิ่มสีทองมุงสังหารลงมา ครั้นลงสูพื้นดิน มันก็ยางเดินอยางดุเดือด พุงกระแทก
เขามาหมายบีบอัดเจาตัวเล็กใหแหลกอยูภายในหนาผา เหี้ยมโหดและเคียดแคนอยาง
แทจริง
มันรวดเร็วเกินไป ประดุจสายฟาสีทองพาดผาน เทพารักษเคลื่อนไหวอยางวองไว
ลงมือรวดเร็วดั่งเปลวไฟ เหี้ยมโหดและขมเหง
เจาตัวเล็กรางกายเต็มไปดวยอักขระ ติดอยูบนหนาผา ไตคลานขึ้นไปอยางรวดเร็ว
ประหนึ่งจิ้งจก ชั่วพริบตาก็ปนขึ้นไปสูงนับ 10 หมี่
เสียงโครมดังขึ้น ตัวนิ่มสีทองพิงตัวอยูร ิมผา มิไดบีบอัดเจาตัวเล็กไวตรงนั้น มัน
สะเทือนกอนหินสั่นไหว เกิดรอยราวใหญเปนสายๆ
เจาตัวเล็กเด็ดเดี่ยวมาก ดิ่งลงมาทันใดราวกับลูกนกวิเศษ กระพือปกทะลวงฟากฟา
จากนั้นรวงลงมาดวยความเร็วสูงสุด ย่ําลงบนศีรษะของเทพารักษดังปง
พละกําลังของเขาแข็งแกรงปานใด เมื่อกอนก็สามารถยกกอนหินหนักหนึ่งแสนแปด
พันชั่ง นับประสาอะไรก็หนึง่ เทาที่ดุเดือดรุนแรงเชนนี้ ถีบเกล็ดสีทองจนแหลก บริเวณ
นั้นมีเลือดเทพารักษพวยพุง
จําตองกลาววา ตัวนิ่มตัวนี้แข็งแกรงเกินไป หนังหยาบเนื้อหนา หากเปนผูกลาคน
อื่นคงถูกเจาตัวเล็กย่ําจนกะโหลกแตกละเอียดและสิ้นลมหายใจไปเสียแลว แตมันกลับ
ไมมีปญหาใด มันสายหัวอยางรุนแรง อักขระสีทองโชตชวง สะเทือนเจาตัวเล็กจนลอย
ออกไป
“แกรงมาก!” เจาตัวเล็กตะลึงงัน เทพารักษตนนี้นากลัวมาก แข็งแกรงกวาที่
จินตนาการไวอยูมากโข
อักขระแวววับ เคล็ดวิชาล้ําคาลอยลองขึ้นอยางไมขาดสาย ทั้งสองปะทะกันอยาง
รุนแรง ชัว่ พริบตาเดียวก็ผานไปกวา 100 ทวงทา เจาตัวเล็กยิ่งตอสูยิ่งพรัน่ พรึง เขาไดรับ
บาดเจ็บสาหัส นอกจากถูกหางสีทองโจมตีเขาอยางจังแลว บนหลังยังโดนหวดหนึ่งกรง
เล็บ จวนทําใหกระดูกสันหลังของเขาหัก เลือดชุมโชก เจาตัวเล็กพนเลือดออกมาคําใหญ
เทพารักษตนนี้ปาเถื่อนและแข็งแกรง ยากจะตอกร อีกทั้งเจาตัวเล็กรูสึกวา
เทพารักษตนนี้เกิดปญหาบางอยางในตัวมันเอง มิเชนนั้นคงนากลัวมากกวานี้
ตัวนิ่มสีทองจะตองมีความหลังไมนอยเลย บางทีอาจมาจากชนเผาที่ไมถือวาเล็ก มิ
เชนนั้นคงไมมหัศจรรยถึงปานนี้ อีกทั้งสายเลือดแลดูสูงสงเปนอยางมาก
“มันมีโรคราย มิเชนนั้นขาคงไมมีโอกาสแมแตนิด ทําไดเพียงหลบหนีเทานั้น” เจา
ตัวเล็กพึมพํากับตัวเอง
ทันใดนั้น เสียงวิ้งดังขึ้น คลื่นนากลัวปะทุขึ้น แสงสีทองดุจหาฝนทวมทนทองฟา
กลิ่นอายนาหวาดเกรง ทําใหผูคนอกสั่นขวัญแขวนและสั่นระริก
เจาตัวเล็กขนลุกชันในบัดดล แผนหลังเย็นวาบ แสงสีทองดุจหาฝนปรากฏขึ้น เปน
เกล็ดสีทองของเทพารักษนั่นเอง มันลอกคราบลอกเกล็ดทั่วตัวภายในพริบตา
ดําเนินการจูโจมอันนากลัวถึงเพียงนี้
“นี่เปนอาวุธล้ําคาของมัน!” เจาตัวเล็กสะพรึงกลัว
เกล็ดของเทพารักษลวนเปนวัตถุล้ําคาทั้งสิ้น กลายรางเปนแสงดุจหาฝนแผเต็ม
ทองฟา แลดูพรางพรายและงดงาม แตพลังทําลายลางรายแรงจนนาตื่นตะลึง สุดทาย
กลายเปนพายุฝนคลั่งสีทอง
เจาตัวเล็กเคลื่อนยายดวยความเร็วสูงสุด หลบซอนอยางรวดเร็ว อาวุธล้ําคาสําแดง
เดช นากลัวอยางแทจริง
สามารถมองเห็นไดอยางชัดแจง แสงดุจหาฝนเหลานั้นสาดทอ กอนหินและหนาผา
ขรุขระไมราบเรียบโดยพลัน เกิดหลุมโปรงแสงหลุมแลวหลุมเลา ถูกทะลวงเขาใหแลว!
แมเจาตัวเล็กจะวองไวมาก แตกลับไมสามารถเหาะเหินเวหา ยางเดินพสุธาได เกล็ด
สีทองเนืองแนนกลางอากาศ ตัดขาดหนทางขางหนา
“ไป!”
เขาตะโกนลั่น สองมือสวางขึ้น จันทราสีเงินสองวงปรากฏขึ้น ปะทะกันอยางจัง
ผสานรวมกันอยางรวดเร็ว แปลงรางเปนฐานรองโมหินสีเงิน ขัดขวางอยูดานหนา
ฐานรองโมหินหมุนควาง มีแรงดึงดูดที่ยิ่งใหญ ดูดเอาเกล็ดสีทองหมายบดขยี้ให
แหลกทั้งหมด
ทวา นั่นเปนอาวุธล้ําคาขนานแท ไมสามารถโจมตีใหแตกละเอียดไดอยางแทจริง มิ
เชนนั้นจะเรียกวาล้ําคาอยางนั้นหรือ? เกล็ดสีทองถูกควบคุมไดชั่วครูเพียงบางสวน
ยังมีบางสวนที่ลอยลอง แสงดุจสายฝนกระจายเต็มทองฟา สงเสียงดังพรึ่บพรั่บ
ทายที่สุดแลว เจาตัวเล็กก็ไมสามารถหลบหลีกไดทั้งหมด มีเกล็ดสีทอง 3 แผนทะลวง
รางกายของเขา เกิดหลุมเลือดชัดเจน 3 หลุม
..............................
[1] ฉิวหลง หนึ่งในมังกรทั้งเกา เปนมังกรที่มีพลังอํานาจมากที่สุด ลักษณะเปน
มังกรมีเขา
[2] หยาจื้อ ลูกมังกรทั้งเกา รูปลักษณคลายหมาใน ชอบการฆาและกลิ่นคาวเลือด
[3] เทาเที่ย ลูกมังกรทั้งเกา รูปลักษณคลายหมาปา ชอบกินดื่ม ตะกละตะกลาม
[4] เขาพสุธาแตก สํานวนจีน แปลวา เสียงดังกึกกอง หรือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ
ที่นํามาซึ่งความวิบัติ
บทที่ 84 สังหารเทพารักษ
หลุมเลือดชัดเจน เลือดไหลพรั่งพรู โชคดีเพียงอยางเดียวคือ มิไดรับบาดเจ็บที่
อันตรายตอหัวใจกับกะโหลก มิเชนนั้นคงชีพดับในการโจมตีเพียงหนเดียว เจาตัวเล็กชุม
โชกไปดวยเลือด ศึกครานี้ลําเค็ญมาก แตเขากลับไมหวั่นเกรงแมแตนิด ดวงตาจองมอง
ไปขางหนา
ไดรับบาดเจ็บอยางตอเนื่อง เจาตัวเล็กเองก็โกรธแคน แตนัยนตายังคงชัดแจว มิได
สูญเสียความสงบเพียงนิด เขากําลังมองหาจุดออนของตัวนิ่ม หมายควาโอกาสรบราครั้ง
สําคัญ
แสงสายฝนสีทองกลับยิ่งเจิดจา พัดหวีดหวิวมาราวกับดวงดาวและอุกบาตรพุงดิ่งมา
จากนอกโลกอยางไมสิ้นสุด ทั้งงดงามและนาหวาดกลัว
เจาตัวเล็กเรนกาย แตแสงเหลานี้แนนหนาจนเกินไป มันแผทั่วทองฟาปกคลุมปฐพี
ทุกหนแหง หอหุมทวมตัวเขาจนมิด!
การโจมตีเชนนี้นากลัวอยางที่สุด สามารถแทรกซึมไปไดทกุ ที่ แสงทุกจุดลวนเปน
เกล็ดสีทองคมกริบ สามารถทะลวงขุนเขาสะเทือนทองคําแหลกละเอียด พละกําลังอัน
สามารถทลายทุกอยางได หากโจมตีเขารางกายของคนอยางจัง ตองทิ้งหลุดเลือดใหญไว
เปนแน
เสียงโครมดังขึ้น เจาตัวเล็กเก็บฐานรองโมหินสีเงินกลับ สําแดงเกราะปองกันที่
กระตุนอยางหนึ่ง รางกายแนนขนัดดวยแสงสีเงิน จากนั้นกอตัวเปนจันทราศักดิ์สิทธิ์ที่
คอนขางพิเศษ ปรากฏขึ้นดานหลังเขา
นี่เปนจันทราสีเงิน มหัศจรรยอยางหาที่เปรียบไมได ราวกับเปลวไฟสีเงินกําลังแผด
เผา เขายืนอยูตรงกลาง สะทอนแสงจนเขามหัศจรรยและนาเกรงขาม ประหนึ่งเทพเจา
ตัวนอยองคหนึ่ง
ดวงจันทรวิเศษลอยขึ้นลง ขนาดไมใหญมากนัก ปกคลุมเจาตัวเล็กไดพอดิบพอดี
แสงสีเงินไหลเวียน ขัดขวางแสงดุจสายฝนไวดานนอก ไมสามารถเขาประชิดรางกายได
ปองกันไวไดแลว!
ทวา นี่ไมไดกระตุนอะไรมากนัก การปองกันเชนนี้ใชพลังปราณเปนอยางมาก หาก
เปนเชนนี้ตอไป เจาตัวเล็กคงถูกดูดพลังจนสิ้นเปนแนแท แมจะมี ‘ปากปลองภูเขาไฟ’
ทั้งสามคอยเสริมพละกําลังใหเขาก็ไมเปนผล เขาเปนฝายถูกกระทํามากจนเกินไป
หลังตัวนิ่มลอกเกล็ดสีทองทั่วตัวแลว มันเนื้อตัวเปลือยเปลา มองดูอัปลักษณอยูบาง
ในตอนนี้มันวางใจแลว คงใชเวลาไมนานในการโจมตีเจาตัวเล็กใหแหลกเหลว มันหรี่ตา
ประกายเย็นเยือกไหลเวียน รอคอยผลลัพธสุดทาย
ทันใดนั้น ชั่วขณะที่เทพารักษวางใจ คลื่นนากลัวก็ปะทุขึ้น จันทราวิเศษดวงนั้น
ระเบิดออก แสงวิเศษลุกโชติชวง สะเทือนเกล็ดสีทองทั้งหมดจนแตกกระจาย ปลิววอน
ไปทั่วทุกสารทิศ หมดทางรวมตัวกันไดทันควัน
ตอมา เจาตัวเล็กพุงขึ้นดังซิ่ว ลอยผานอากาศมาอยางรวดเร็ว เขากางนิ้วมือทั้งสิบ
พรอมกัน เล็งยังเทพารักษ พลันวัฏจักรแหงธรรมชาติก็จลาจลวุนวาย
เสียงโครมดังขึ้น ตรงงามนิ้วของเขาเกิดไอหมอกแผซาน สายฟาสีทองฟาดฟนลงไป
โชติชวงอยางหาที่เปรียบไมได ราวกับแสงแหงการทําลายลาง โจมตีที่ศีรษะของ
เทพารักษอยางจัง ทําใหมันโงนเงน กะโหลกศีรษะเกือบจะแตกออกเปนเสี่ยง เลือดไหล
ทะลักออกมา จวนลมลงทามกลางฝุนผง
ทุกอยางกะทันหันเกินไป เจาตัวเล็กเสียเปรียบอยางเห็นไดชัด แตกลับโตตอบกลับ
อยางวองไวเชนนี้ทันใด เหนือความคาดหมายของเทพารักษ เกือบทําใหมันหลนรวงลง
มา
เจาตัวเล็กสําแดงเคล็ดวิชาที่ยิ่งใหญที่สุด นี่เปนสิ่งที่ไดมาจากกระดูกล้ําคาของซวน
หนี ทุมเทแรงใจศึกษาอยูนานนับป เกิดการหยั่งรูอันนาตื่นตะลึงเนิ่นนานแลว รูรับได
อยางลึกซึ้ง
เทพารักษบันดาลโทสะ เกล็ดทั้งตัวของมันปลิววอน รางกายปราศจากเกราะ
ปองกัน หลังถูกสายฟาสีทองฟาดเขาจัง มันไดรับบาดเจ็บอยางแสนสาหัส สงกลิ่นเหม็น
ไหม
จากที่มันเห็นกอนหนานี้ แมเจาตัวเล็กจะมีวิธีการแตคงไมแข็งแกรงไปมากกวานี้
หากแมเกิดวิกฤตขึ้น มันก็สามารถเรียกเกล็ดกลับมาไดอยางรวดเร็ว ดําเนินการปองกัน
มันมั่นใจจนเกินไป เจาตัวเล็กรอคอยโอกาส เตรียมพรอมปะทุในชวงเวลาสําคัญ
ตลอดเวลา สําแดงการโจมตีใหถึงแกความตาย
เกล็ดสีทองดุจสายฝนปลิววอนทวมทนทองฟา พลังทําลายลางสูง สําหรับเจาตัวเล็ก
มันเปนทั้งความวิบัติ และยังเปนโอกาสอีกดวย เกล็ดของตัวนิ่มคุมกันรางกาย ยากจะ
ทะลวง พลังการปองกันนาตื่นตะลึง และยามเมื่อเกล็ดหลุดออกจากรางกาย นั่นก็คือ
โอกาสลงมือที่ดีที่สุดสําหรับเขา!
เขาควาโอกาสของการตอสู จะไมละมืออีกตอไป!
“แควก”
สายฟาสีทองบินวอน เจาตัวเล็กโจมตีอยางกลาหาญ ใชความสามารถทั้งหมด
ระเบิดอานุภาพวิเศษของสายฟา ที่แหงนี้เนืองแนนไปดวยกระแสไฟฟา ทั้งหมดรวงลง
บนรางกายของเทพารักษ
ในที่สุด รางกายดําเกรียมสั่นเทิ้ม เนื้อหนังหลุดรวงเปนกอบกํา กระทั่งเผยกระดูกสี
ขาว อานุภาพแหงสายฟานาพรั่นพรึง ฟาดฟนจนเทพารักษไดรับบาดเจ็บสาหัส!
“โฮก...”
ตัวนิ่มคําราม ศัตรูรางเล็กคนนี้เจาเลหเพทุบายนัก ไมคิดวาจะซอนเรนวิธีการเชนนี้
ไว ระเบิดมันออกมาในชวงเวลาคับขันเชนนี้ ทําใหมันโกรธแคนดวยความเจ็บปวด
มันอาปากแผดเสียงคําราม อักขระทวมทนทองฟา เรียกเกล็ดสีทองเหลานั้นกลับมา
ทวา เร็วเพียงใดจะเร็วกวาสายฟาไดหรือ ในตอนนี้เอง สายฟาก็รวงลงเปนแนว โจมตีมัน
จนตัวลอย กระดูกระเบิดจนหักหลายทอน ดําเกรียมไปทั่ว อีกเพียงนิดก็กระทบอวัยวะ
ภายในของมันเสียแลว
เทพารักษเกิดความเย็นเยียบจากกนบึ้งของหัวใจ มันไมคาดคิดวาเจาตัวเล็กจะเปน
ปญหาถึงเพียงนี้ สิ่งที่เหนือความคาดหมายมากที่สุดคือ เขาครอบครองเคล็ดวิชาล้ําคา
ของทายาทอสูรบรรพกาลซวนหนี ไอหมอกและสายฟาสงเสียงคํารามกึกกอง นากลัว
อยางที่สุด
“ชริ้ง”
เมื่อเห็นตัวนิ่มเรียกคืนเกล็ด เจาตัวเล็กก็รายเคล็ดวิชาล้ําคาอีกชนิดหนึ่ง จันทราสี
เงินลอยขึ้นสูทองฟา หลอเลี้ยงปศาจปกษาบรรพกาลไวขางใน ฟาดฟนเทพารักษ
เสียงผลุบดังขึ้น เลือดเนื้อปลิวกระจาย การสังหารครานี้สะทานฟาสะเทือนโลกา
แสงสีเงินแตกละเอียด ปศาจปกษาทําลายลาง จวนหั่นเทพารักษเปน 2 ทอน
2ehbv
ในที่สุด แสงสายฝนกลับลํา ถูกตัวนิ่มเรียกกลับมาดังครืนครัน แสงสีทองไหลเวียน
ปกคลุมตัวมัน ปกปองรางกายของมันไว
หลังจากปกคลุมรางกายไวอยางแนนหนาแลว มันก็สงเสียงคํารามเยยฟาทาดิน
สะเทือนจนขุนเขาสั่นไหว กอนหินเกลือกลิ้ง มันจองมองเจาตัวเล็กดวยความแคน เผย
จิตสังหารอันทวมทนทองฟา
เจาตัวเล็กไมหวาดหวั่น ยังคงใชสายฟาเปดทาง กระแสไฟตรงงามนิ้วพุงพรวดขึ้น
อักขระสีทองแผเต็มทองฟา จากนั้นกดอัดลงมา
ตูม!
สายฟาคํารามสะเทือนแกวหู ปราณสีทองอันแข็งแกรงทวมทนที่แหงนี้ อานุภาพไม
อาจตานทาน รางเล็กถูกกระแสไฟสีทองหอหุม ราวกับเทพเจาสายฟาเยือนโลก สูศึกตัว
นิ่ม
เกล็ดทั่วตัวของเทพารักษสองแสง แตยังคงปริแตกเฉกเชนดังเดิมจนชุมโชกไปดวย
เลือด
ไกลออกไป กลุมโจรโฉดเกรงกลัวถึงขีดสุด ตกใจจนเนื้อตัวสั่นระริก เทพารักษผู
แข็งแกรงที่สุดกลับเสียเปรียบเสียนี่ ทําใหพวกเขายากจะยอมรับ รูสึกราวกับเรื่อง
หลอกลวง
“ตายเสียเถิด!”
กระแสเสียงดังขึ้น ตัวนิ่มสีทองโมโหโทโส กะโหลกของมันเปลงแสง อาปากพนกลุม
แสงออกมา โชติชวงจนไมสามารถลืมตามองได ทั้งแปลกประหลาดและนากลัว สงเสียง
มังกรแผดรองเจียวคําราม[1]เปนระลอก
แผนดินเย็นเยือกขึ้นทันตา สิ่งสําคัญที่สุดคือ ภาพเหตุการณที่เห็นตอนแรกปรากฏ
ขึ้นอีกครั้ง ชนเผาแลวชนเผาถูกทําลายยอยยับ ซากศพกองพะเนินดุจภูเขา ผืนดินแดง
ฉาน
“นี่มันอะไรกัน?!”
จวนแลว เจาตัวเล็กมองเห็นอยางชัดเจนวามันคืออะไรในที่สุด ราวกับเปนกระดูก
ขากรรไกรบนลางของเทพารักษ และเปนสวนที่แข็งแรงทีส่ ุดของรางกาย มิเชนนั้นจะ
ทะลวงขุนเขาไดหรือ?
สิ่งที่นาตกใจคือ กระดูกสีทอง 2 ชิ้นนี้เชื่อมตอกัน ลําแสงนาตื่นตะลึง แมแตดวง
อาทิตยก็หมนหมองอับแสง อีกทั้งมันมิไดสองทิ่มแทง แตกลับตัดฉับราวกับกรรไกร
หมายตัดกลางเอวของเขาใหขาด
เจาตัวเล็กขนลุกชัน รูสึกถึงภัยคุกคามแหงความตาย แตคลื่นพลังเชนนี้นากลัว
เกินไป เขามิไดตอบโต เรงหลบซอนทันควัน พลิกตัวเคลื่อนไปอีกทาง
“แควก”
กรรไกรวิเศษสีทองเลมนี้พุงผานไป กอนหินดานหนาซึ่งสูงนับ 100 กวาหมี่ก็หักโคน
ลงทันที ทอนบนรวงมาดังสนั่นหวั่นไหว
อานุภาพรายแรง!
เจาตัวเล็กสูดลมหายใจเย็นเยือก อาวุธล้ําคานี่แข็งแกรงเกินไปเสียแลว
ยิ่งไปกวานั้น กระดูกสีทองใหความรูสึกนาหวาดกลัวยิ่งกวารางกายของเทพารักษ
เสียอีก ภาพเหตุการณที่นานาชนเผาถูกทําลาย ซากศพเกลื่อนกลาดทั่วสารทิศ สะทอน
ออกมาจากกระดูกชิ้นนี้นั่นเอง
“นี่...ไมใชกระดูกล้ําคาของตัวมันเอง เปนชิ้นสวนกระดูกของทายาทตัวอื่นซึ่งมีความ
เปนมายิ่งใหญกวา!” เจาตัวเล็กพบสิ่งผิดปกติอยางเฉียบแหลม
กรรไกรวิเศษสีทองเลมนี้ประกอบขึ้นจากกระดูกสีทอง 2 ชิ้น โชติชวงพราตา สีทอง
นั่นหนาแนนจนไมสามารถหลอมละลายได หางไกลจากกระดูกของเทพารักษอยูมากโข
กระดูกของตัวมันเองนั้นเปนสีทองออน
“มันกําลังเซนสรวงและบมเพาะกระดูกชิ้นนี้ หมายใหกระดูกสีทองฟนคืนชีพ” เจา
ตัวเล็กเผยแววตาประหลาดใจ กรรไกรกระดูกสีทองเลมนี้เหนือธรรมชาติ ไมใชสิ่งที่คน
ทั่วไปจะครอบครองได
เขาคิดวา มันนาจะเปนสิ่งที่สืบทอดแกจาวแหงตัวนิ่มผูนากลัวยิ่งกวาและมีสายเลือด
บริสุทธิ์ตัวหนึ่งเปนแน ไมทราบไดวาไยจึงตกอยูในกํามือของเทพารักษตนนี้
“มันทะเยอะทะยานไมเบา ปรารถนาใหกระดูกสีทองคืนชีพ ถือกําเนิดอีกหนใน
รางกายของตน ผลปรากฏวามันสงผลรายตอรากฐานพลังงานชีวิตของตน” เจาตัวเล็ก
ตื่นจากภวังค ในที่สุดก็เขาใจวา ไยเทพารักษตนนี้จึงไมชอบกล ทั้งที่หวาดกลัวมาก แต
กลับไมสามารถสําแดงพละกําลังที่แทจริงบางสวนได
บางทีนี่อาจเปนโอกาส กระดูกชิ้นนี้แฝงไวดวยกลิ่นอายความตายอยางลนหลาม กอ
เกิดการเขนฆามากมาย ตัวนิ่มเพื่อหลอมละลายมัน ทําใหแหลงพลังงานชีวิตของตระกูล
แตกออก ชีพจวนดับ
ตอนนี้พลังปราณของมันเสียหายอยางหนัก ไมแข็งแกรงเฉกเชนวันวาน หากควา
โอกาสนี้ไวใหมั่น ไมแนวาวันนี้อาจสังหารมันได งายดายยิ่งกวาตอนมันรุงโรจน
หลายเทาตัว!
“สูรบตัดสินความเปนความตายเถิด!” เจาตัวเล็กตะโกนลั่น แมใบหนาจะออนเยาว
แตจิตสังหารฮึกเหิม พละกําลังเฟองฟู
เขาตองการสูสุดชีวิต พรอมสูรบปรบมือ เพียงสังหารสิ่งมีชีวิตชั่วรายตัวนี้ กรรไกร
กระดูกที่มหัศจรรยและยิ่งใหญเลมนี้ก็จะถูกเปลี่ยนมือ เขาจะไดมาซึ่งอาวุธล้ําคาที่ไม
ธรรมดานี้!
ทวาตัวนิ่มแข็งแกรงอยางแทจริง จะตอกรไดงายดายไดอยางไร? เพียงอาปากพน
อักขระก็ทวมทนทองฟา กรรไกรกระดูกสีทองหมุนเควง มุงตรงมาอีกหน
แววเสียงมังกรแผดรองเจียวคํารามมาแวบเดียว กระแสเสียงนาตกใจ ไมวาจะเปน
กอนหิน หรือวาตนหญา เพียงสัมผัสก็จะถูกตัดเปน 2 ทอน ปราศจากความใครครวญ
กระดูกสีทองสองแสง ปรากฏลวดลายมังกรขึ้น เพราะภายในรางกายของตัวนิ่มมี
เลือดของฉิวหลงอยูเปนทุนเดิม สืบทอดมาแตโบราณ เจาของเดิมของกระดูกล้ําคาตอง
นากลัวมากเปนแนแท ปรากฏลวดลายมังกรเชนนี้ รองรอยของมันชางนาตื่นตะลึง
เสียงโครมดังขึ้น เจาตัวเล็กมลายหายไปจากที่เดิม เขาไมตอตานอยางแนนอน อาวุธ
ล้ําคาชิ้นนี้นากลัวเกินไป
เกิดไอหมอกขึ้นกลางผืนปาทันที ขมุกขมัว แผคลุมปาดึกดําบรรพแหงนี้อยาง
รวดเร็ว กระทั่งแมยนื่ มือก็มองไมเห็นหานิ้ว เลือนรางพรามัว
เขาสําแดงเคล็ดวิชาล้ําคาของซวนหนี ไมไดมีเพียงแคสายฟา แตยังมีหมอก นี่เปน
จิตสัมผัสที่มีแตกําเนิดของซวนหนี สามารถเรนกายของตน ใชสายฟาตอสูกับศัตรู
เทพารักษคลุมคลั่ง ทามกลางมานหมอกหนาทึบเชนนี้ รายกรรไกรล้ําคาอยางไม
หยุดหยอน หั่นปาไมขาดสะบั้น บิดกอนหินและตนไมใหญขาดจํานวนมาก ทําใหภูเขา
เตี้ยมากมายพบกับความวิบัติ ครึ่งทอนบนหักรวงลงมา
นี่ทําใหคนหวาดผวา กรรไกรกระดูกนาสะพรึงกลัวเกินไป เพียงสําแดง แมแตยอด
เขาก็หักลงมา สมกับเปนอาวุธล้ําคาอันลึกลับ
เจาตัวเล็กสงบมาก เรนกายกลางไอหมอก เคลื่อนไหวรางกายอยางตอเนื่อง เปลี่ยน
ตําแหนงอยางรอโอกาส
เห็นไดชัดวา กระดูกกรรไกรผลาญพลังเปนอยางมาก แมยิ่งใหญดจุ เทพารักษสีทอง
ตนนี้ก็ตานทานไมไหว สําแดงเพียงไมกี่ครา รางกายของมันก็สั่นเทา มีครั้งหนึ่งที่จวนจะ
ลมลงไปกองกับพื้น
มันโกรธแคนเปนอยางมาก ทั้งที่รูสึกวาเจาตัวเล็กอยูขางหนา จึงรายกรรไกรกระดูก
เตรียมพรอมโจมตีหมายสังหาร ทวาก็พบกับความวางเปลาทุกครั้ง
เทพารักษหยุดยั้ง สัมผัสอยางละเอียดถี่ถวน กรรไกรกระดูกหยุดลงบนศีรษะของมัน
เตรียมสําแดงตลอดเวลา อาวุธล้ําคาปลอยแสงวิเศษรวงลงมา จิตสังหารสะเทือนไปทั่ว
ทุกสารทิศ
เงาคนปรากฏดานหลังของมันแวบวับ เทพารักษนัยนตาเย็นเยือก มิไดหันหลังไป
กรรไกรล้ําคาบนศีรษะลอยออกไปทันที บิดหนึ่งรางของคนจนขาดดังแควก เลือดแตก
กระเด็นเซ็นซาน เสียงรองโอดโอยดังทะลวงผานผืนปา
เทพารักษเดือดดาล มันรูวาสังหารผิดตัวเสียแลว นั่นเปนโจรโฉดที่ฝายตรงขามโยน
ออกมา
มันเรงทําการปองกัน ทวาก็สายไปเสียแลว ลําแสงนากลัวหนึ่งสายสองมา ราวกับ
หอกศึกทะลวงมาจากนอกโลก แทงทะลุหนาอกของมัน
“เปรี๊ยะ”
ที่แหงนั้นสงกลิ่นไหมเกรียม เกล็ดและเนื้อหนังปริแตกทันใด หลุดรวงลงมา เผยให
เห็นกระดูกภายใน
ที่หางไกล เจาตัวเล็กมือกํากระจกใหญเทาฝามือ สองแสงสวางงดงาม มันหลอมจาก
กระดูกแวววาว อานุภาพรายแรงนัก!
นี่เปนกระดูกที่ควักออกมาจากหวางคิ้วของซวนหนีชิ้นนั้น ผานการบมเพาะมานับป
มันถูกเจาตัวเล็กรายมนตรจนกลายเปนกระจกวิเศษ มีอิทธิฤทธิ์นาสะพรึงกลัว
เมื่อครอบครองโอกาสในสงครามแลว แนนอนวาหามพลาดเด็ดขาด เจาตัวเล็กยก
มือขึ้น เกิดเสียงดังตูม แสงวิเศษสะทอนออกมาเปนสาย ประหนึ่งดาบคมฟาดฟนลงมา
หนนี้โจมตีเขาที่จุดออนของเทพารักษ
เมื่อครั้งเทพารักษใชแสงสายฝนโจมตีนั้น บนรางกายไรเกล็ดปกคลุม เจาตัวเล็กเคย
ไดโอกาส ใชสายฟาจูโจมจนกระดูกหักหลายทอน ในตอนนี้บาดแผลเหลานั้นไดรับ
บาดเจ็บสาหัสอีกหน
แสงจากกระจกระยิบระยับเปนสายฟาชนิดหนึ่ง เจิดจาเหลือเกิน อานุภาพรายแรง
ราวกับเทพเจาสายฟาออกจูโจม!
กระดูกเหลานั้นหักรวงลงมาทันที อวัยวะภายในของเทพารักษไดรับผลกระทบ มัน
แผดเสียงคํารามสะทานฟาสะเทือนโลกา ไมคาดคิดวามนุษยที่มีขนาดตัวเทาแมลงจะ
ปราดเปรียวไดถึงเพียงนี้ เพียงไดโอกาส เขาจะขยายมันใหใหญขึ้นอยางไมไรขอบเขต
สังหารใหถึงที่สุด
มันหมุนกรรไกรกระดูกสีทองอยางรวดเร็ว โจมตีมาทางนี้หมายทําลายเจาตัวเล็กให
สิ้นซาก
วิถีการโจมตีถูกสําแดงออกมาแลว เจาตัวเล็กจะกระทําผิดไดเยี่ยงไร กระจกกระดูก
ในมือปรากฏอักขระโบราณซ้ําซอนหนึ่งตัว สองแสงโชติชวงอยางที่สุด ยิงทะลวงรางกาย
ของตัวนิ่ม
“ผลุบ”
อวัยวะภายในขาดวิ่น ตัวนิ่มประสบกับการโจมตีอันหนักหนวง อาจไมสามารถ
รักษาชีวิตไดเนื่องดวยเหตุนี้
หลังเจาตัวเล็กบรรลุเปาหมายก็ลาถอยอยางเด็ดขาด มิไดสูสุดชีวิต ลอยตัวผานไป
อยางรวดเร็ว หลบซอนเรนกายกลางไอหมอก
เสียงสั่นเทิ้มแผวเบาดังขึ้น กรรไกรกระดูกสีทองลอยขามอากาศ หั่นผืนปาจนขาด
สะบั้น เทพารักษตามหาเจาตัวเล็กอยางคลุมคลั่ง ทวากลางอากาศมีพลังอันนากลัว จึง
เสาะหาศัตรูไมพบ
เจาตัวเล็กดวงตาสุกใส ซอนกายในความเงียบงัน มือกํากระจกกระดูกอันพรางพราย
และละมุนละไม เขาสูสมาธิ เตรียมการโจมตีสังหารครั้งสุดทาย
ทวา ไมตองรอใหเขาลงมือ เทพารักษกลับรองโหยหวนขึ้นเสียเอง เกิดการ
เปลี่ยนแปลงอันนาตกตะลึง มันปริแตกทั้งตัว อักขระสีทองสองแสงแวววับ จากนั้นก็
ระเบิดดังตูม
มันมีความทะเยอทะยานสูงมาก เซนสรวงและบมเพาะกระไรวิเศษอยางไมหยุด
หยอน ดวยหวังสามารถปลุกพลังชีวิตใหกระปรี้กระเปรา ปรารถนาทําการขัดตอบัญชา
สวรรค แนนอนวามันลมเหลว อีกทั้งยังกระเทือนตอรากฐานของตน จึงระเบิดตัวหลัง
ผานศึกครั้งใหญ
“ผลุบ”
เทพารักษแตกออกเปนเสี่ยง ตายอยางเวทนาในจุดเกิดเหตุ แสงสีทองกะพริบแปลบ
ปลาบ กรรไกรกระดูกสีทองเลมนั้นรวงลงสูพื้นดิน
..............................
[1] มังกรแผดรองเจียวคําราม สํานวนจีน แปลวา สงเสียงดังกองกังวาน
บทที่ 85 การเก็บเกี่ยว
ดวงตาของเจาตัวเล็กเปนประกาย หัวใจรอนรุมอยางเปรียบไมได พุงตัวออกไปดวย
ความรวดเร็วอยางไมสนใจสภาวะบาดแผลบนรางกาย
ณ บนบริเวณผืนปา กรรไกรกระดูกสีทองมีแสงวิเศษขมุกขมัวไหลเวียนอยู
มหัศจรรยและยิ่งใหญ ลอยเควงอยูกลางกลุมกอนหินปลิววอน ปลอยพลังอันทําใหอกสั่น
ขวัญแขวนอยางหนึ่ง
“ชางเปนอาวุธล้ําคาที่นากลัวเสียจริง!” เจาตัวเล็กปลื้มอกปลื้มใจ ควากรรไกรล้ําคา
มากําไวในมือ พลิกไปพลิกมามองดูอยางละเอียดถี่ถวน
ยามหดเล็กลง มันมีขนาดแคฝามือ เปนสีเหลืองทอง โชติชวงเจิดจา ไมตองเอยคําใด
ใหมากความ นี่จะตองเปนวัตถุล้ําคาซึ่งหาไดยากเปนแนแท มูลคายากจะประมาณคาได
ไดมาครอบครองพรอมกับน้ําหนักที่มีมาก ยิ่งกวาโลหะหลากชนิดอยูมากโข มัน
ประกอบจากกระดูกขากรรไกรบนลาง 2 ชิ้น หากไมมองอยางถี่ถวนก็ไมสามารถตัดสิน
ได ผานการขัดเกลาและบมเพาะ พรางพราวระยิบระยับ เปลี่ยนโฉมมาเนิ่นนานแลว
ในความเปนจริงแลว มันงดงามเหลือเกิน ราวกับปรมาจารยชั้นยอดหลอมมันดวย
หยาดเหงื่อแรงกายของทั้งชีวติ ฉิวหลง 2 ตัวสานเขาดวยกัน สมจริงเปนอยางมาก เปน
ผลงานยิ่งใหญสืบทอดไปชั่วลูกชั่วหลาน
กรรไกรกระดูกแลดูมิไดแหลมคมมากนัก เมื่อลูบคลําแลวรูสึกไหลลื่นอยางเปรียบ
ไมได แตในศึกสงคราม มันนากลัวจนตื่นตะลึง สามารถฟาดฟนยอดเขาใหทลายไดอยาง
งายดาย
บนกระดูกสีทองมีลวดลายอยูเล็กนอย ทั้งเลือนรางและเกาแก เปนฉิวหลงนั่นเอง
ยกยองวาเปนอสูรบรรพกาลผูนากลัว แตนี่ไมใชอักขระ เปนเพียงลวดลายประดับความ
งดงามก็เทานั้น
“ภาพเหตุการณที่ชนเผามากมายถูกทําลายปลอยออกมาจากมันนี่เอง” เจาตัวเล็ก
ออกแรงผลักเบาๆ มองเห็นภาพศพกองพะเนินอีกครา กรรไกรกระดูกเลมนี้มีความ
เปนมาอันนาตกตะลึง
นี่เปนอาวุธสังหารรายแรงเลมหนึ่งอยางไมตองสงสัย มิเชนนั้นจะกอใหเกิดความ
วิบัติครั้งใหญปานนั้นไดหรือ? ยามศึก หากกรรไกรเลมนี้ถูกปลอยออกมา สรรพสิ่งตอง
พินาศยอยยับเปนแนแท
เจาตัวเล็กทดสอบแลวหนหนึ่ง เมื่อกรรไกรล้ําคาลอยออกไป เสียงวิ้งดังขึน้ บดขยี้
แนวเขาเตี้ยดานหนาจนหัก เขามองดูจนตาคางปากอากวาง อานุภาพรายแรงอยาง
แทจริง
ทวา มีขอเสียอยางหนึ่งคือ เพียงการโจมตีหนึ่งครั้ง ก็ดูดพลังปราณภายในรางกาย
ของเจาตัวเล็กไปอยางลนหลาม ทําใหรางกายของเขาวางเปลา ชักกระตุกระลอกหนึ่ง
“ผลาญพลังงานมากเกินไป ไมสามารถใชตามอําเภอใจได” เจาตัวเล็กพึมพํา
ถึงวายามเทพารักษใชอาวุธล้ําคาเชนนี้โจมตี มันสูญเสียพลังงานปานนั้น เพียงไมกี่
หนรางกายก็สั่นเทิ้ม ยิ่งกวานั้นคือกอใหเกิดผลขางเคียงในตอนสุดทาย รางกายแตก
ระเบิดอยางสิ้นเชิง
“ขามิใชตัวนิ่มเสียหนอย มิใชเผาพันธุเดียวกับกระดูกชิ้นนี้ ไมตองทําใหมันคืนชีพ
อยางฝนกฎธรรมชาติแตอยางใด ถือวามันเปนอาวุธล้ําคาเลมหนึ่งก็เพียงพอแลว เชนนี้ก็
จะไมเปนอันตรายแกชีวิตตน”
เจาตัวเล็กดวงตาเปนประกาย ชมชอบกรรไกรล้ําคาจนไมอยากจะปลอยมือ สําหรับ
เขาแลว อาวุธกระดูกสีทองแวววาวชิ้นนี้ไมมีภยันอันตรายใด ในทางกลับกันมันสามารถ
ปองกันตัวได
กรรไกรกระดูกแปลงรางเปนแสงสีทองดังซิ่ว จมหายไปใน ‘ภูเขาไฟ’ ลูกหนึ่ง
‘ลาวา’ กระเพื่อมขึ้นลง ลอยผลุบๆ โผลๆ อยูภายใน ถูกบํารุงดวยพลังแหงฟาดิน มันถูก
เจาตัวเล็กครอบครองไวเชนนี้แล
มานหมอกจางหายไป แผนดินกลับสูความสงบ ดวงจันทรลอยเควงกลางอากาศ ที่
แหงนี้ขรุขระไมเรียบ ทุกหนแหงพังพินาศยอยยับ มวลไมถูกทําลาย
แววเสียงครวญครางมาไกลๆ ราวกับเจ็บปวดรวดราวมาก เจาตัวเล็กสูรบปรบมือกับ
เทพารักษเปนเวลานาน จวนทําใหที่นี่ราบเปนหนากลอง แนนอนวาทําใหเหลาโจรโฉด
พลอยโดนลูกหลงไปดวย
โดยเฉพาะวัตถุใหญโตเฉกเชนตัวนิ่มตัวนั้น ทุกครั้งที่โจมตี หรือยามรายอาวุธล้ําคา
ลวนทําใหกอนหินทะลวงฟา กระแทกคนใหไดรับบาดเจ็บจํานวนมาก มีโจรโฉดอยาง
นอย 20-30 คนถูกฆาตกรรมโดยไมตั้งใจ
ครั้นเมฆหมอกมลายหายไป สถานการณในสนามรบแจมชัด กลุมโจรโฉดหยัดตัวลุก
ขึ้นยืนอยูดานหลังกอนหินที่อยูไกลออกไป มองดูเหตุการณจากตรงนั้น เนื้อตัวเย็นวาบ
อยางชวยไมได คนทั้งหมดตางนิ่งอึ้ง
เทพารักษปราชัย สิ้นลมหายใจบนผืนปาเสียแลว!
สําหรับพวกเขา มันเสมือนหนึ่งตํานานสูญสลาย กระทบกระเทือนอยางสาหัส ตองรู
วาเทพารักษตนนี้เปนดั่งเทพเจาในดวงใจของพวกเขา ไมสามารถเอาชนะได ทวาบัดนี้
กลับถูกเด็กคนหนึ่งสังหารเสียนี่
“เจา...สังหารเทหารักษ อสูรบรรพกาลเกิดใหมในรางมนุษยแลว!” คนกลุมนี้กูรอง
ดวยความรูสึกหวาดผวา
พวกเขาใบหนาซีดเซียว รางกายสั่นระริก สูญเสียแลวซึ่งเทพารักษ จะบุกทะลวง
ดินแดนรกรางแหงนี้ไดอยางไร? จําตองตายอยางปราศจากขอสงสัยเปนแน
คนทั้งหมดตางคิดวา ไมอาจเอาชนะเทพารักษได นั่งรอเจาเด็กคนนี้ถูกกลืนกินเขา
ไป ไมคาดคิดแมแตนิดวาจะไดเห็นผลลัพธอันไมนาเชื่อนี้ได
“เจา...จะทําอะไร จะสังหารพวกขาอยางนั้นรึ?” โจรโฉดคนหนึ่งสั่นเทา ยามพวก
เขาเขนฆาผูอื่นกลับไมรูสึกรูสา ครั้นประสบกับตัวเอง ก็หวาดกลัวเชนเดียวกัน
“กองทัพที่พวกขาสงไปเหลานั้นคงถูกสังหารเสียแลวละสิ?” พวกเขากลัวจนขวัญ
หนีดีฝอ แคเด็กคนเดียว สังหารคนของพวกเขากวา 30-40 คน อีกทั้งยังตามมาถึงที่นี่
โจมตีเทพารักษจนชีพวาย และยังจะจัดการพวกเขาทั้งหมด เพียงคิดก็หวาดกลัวขึ้นมา
ในตอนนี้ เจาตัวเล็กเปนดั่งปศาจรายในจิตวิญญาณของพวกเขาไปแลว
“ขามิไดสังหารคนเหลานั้น และมิไดจะฟนคอพวกทานเชนกัน” เจาตัวเล็กเอยอยาง
สงบ
“อา...” พวกเขาถอนหายใจอยางตะลึง จากนั้นก็ดีใจจนบาคลั่ง เพียงรอดชีวิตก็
สําคัญกวาสิ่งอื่นใด
“คนพวกนั้นยังมีชีวิตอยูรึ?” ผูนําใหญเผยสีหนาประหลาดใจ
“เปลาเลย ตางฝงรางในทองของสัตวปาแลว” เจาตัวเล็กตอบ
“เจา...” ฝูงชนหนาถอดสี เขาใจทันที นี่เปนเพียงเด็กคนหนึ่ง ทนเห็นเลือดมากมาย
ปานนั้นไมได ไมอยากลงมือเอง แตก็ไมอาจปลอยพวกเขาไปได
“ทานผูเฒาบอกวา หากปราณีคนชั่วก็เทากับสงเสริมใหพวกเขากอหายนะ จะทําให
ผูคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น” เจาตัวเล็กพูดเสียงเบา เขายกขอมือขึ้น
เผยกําไลเขี้ยวสัตวแวววาว แตละชิ้นโปรงแสง ขาวสะอาดดุจหยก นี่เปนอาวุธล้ําคา
ชิ้นแรกที่เขาไดมาครอบครอง มันเปนของเทพารักษของหมูบานหมาปาตนนั้น
“ชริ้ง”
เสียงฟาปริแตกดังขึ้น แสง 42 จุดลอยออกไป ขาวพรางพรายดุจหยก พุงตรงไปยัง
ฝูงชน เสียงผลุบดังแววมา สะเก็ดเลือดแตกกระเด็น โจรโฉดมากมายถูกสังหาร พลัง
ปราณในรางกายสูญสิ้น
“อา ไม!”
“เจา...”
พวกเขาทั้งตื่นตะลึง ทั้งโมโห และทั้งหวาดกลัว พวกเขาสูญเสียกําลังทางการรบ
ทามกลางดินแดนรกรางแหงนี้ ประหนึ่งผลักลงสูขุมนรก จะเอาอะไรไปตอตานสัตว
ประหลาดรายกันเลา?
ผูนําใหญปรารถนาจะหลบหนี ถูกเจาตัวเล็กหมายหัว กําไลเขี้ยวสัตวสีขาวลอยขึ้น
พันเกี่ยวตัวเขาไว ออกแรงบีบรัด ทําใหอักขระทั้งหมดในรางกายถูกบดขยี้จนแหลก
ละเอียด
“โอสวรรค ไม!”
แตวาทุกอยางก็สายไปเสียแลว เพียงชั่วพริบตาคนนับสิบลวนลมลงไปกองกับพื้น
หายใจหอบหนัก ในใจเต็มไปดวยความผวา
เจาตัวเล็กตั้งแตเขาปามาก็สังหารผูคนไปอยางนับไมถวน แตกลับมิไดลงมือขั้น
สุดทาย ไวชีวิตพวกเขาหมายใหดินแดนรกราง ‘ชําระลาง’ คนชั่วเหลานี้
“ขาตองการรูวา พวกทานมาจากที่ใดกันแน รับใชผูใดกัน?” เจาตัวเล็กเริ่มเอยปาก
สอบถาม เขาอยากรูวาโจรโฉดอยูใตเสนสายอิทธิพลใด
ตอนแรกกลุมโจรมิยอมรวมมือ แตสุดทายก็สารภาพจนสิ้น
“ชมพูทวีป...” เจาตัวเล็กพึมพํา โจรโฉดพูดชื่อนี้ออกมา แตวาสิ่งที่รูมีขอจํากัด พวก
เขาเพียงกระทําการตามคําสั่ง เสาะหาขุมทรัพยขั้นสูงสุด ไดฟงตํานานก็ตองขมวดคิ้ว
แลว แตวันนี้กลับตองรวบรวมทองคําสีดําจํานวนมาก รอคอยวันทําลายคายกลอักขระ
โจรโฉดไมไดมีเพียงหนึ่งแขนง ทวากลุมโจรที่มีเทพารักษยิ่งใหญอยางแทจริงมีเพียง
พวกเขา ตัวนิ่มตัวนี้มากจากชมพูทวีปนั่น!
หลังจากทุกอยางคลี่คลายแลว ความตึงเครียดที่บีบเจาตัวเล็กไวแนนผอนคลายลง
แลว ลมลงไปกองกับพื้น ยิ่งกวานั้นคือนอนแผหลาอยูตรงนั้น
เขาเหนื่อยลาทั้งกายใจ บนรางกายมีหลุมเลือดมากมาย กระดูกสันหลังจวนถูกฟาด
จนหัก รางกายชุมโชกดวยเลือด บาดแผลเต็มพืดไปทั้งตัว ไดรับบาดเจ็บอยางแสนสาหัส
ในสนามรบแหงนี้ ฝนรางกายตอตานมาถึงตอนนี้
เทพารักษตายไป กลุมโจรสูญเสียกําลังทางการรบ เจาตัวเล็กผอนคลายโดยสิ้นเชิง
นอนแผหลาแนนิ่ง ไมอยากลุกขึ้นอีกแลว
อักขระกะพริบ รักษาบาดแผลดวยตัวมันเอง เขาสงเสียงครวญครางอยางเจ็บปวด
ศึกใหญครั้งนี้อันตรายเปนอยางมาก เขาเกือบจะดึงชีวิตเขามาพัวพัน เจียนตายอยูตรงนี้
เขารบกับเทพารักษนับ 100 ยก ลวนอาศัยจิตใจอันแนวแน และฝนทนอดกลั้น
จนถึงตอนนี้ สุดทายก็คลี่คลายลงได เลือดหยุดไหลนานแลว ภายในดังกรอบแกรบ มัน
กําลังสรางเลือดเนื้อขึ้นใหม ซอมแซมรางกายอีกหน
“เจี๊ยกๆ...”
เจาลูกขนปรากฏตัว ชี้มือชี้ไมไปที่หางไกล มันตองการบอกเขาวา สัตวพาหนะของ
กลุมโจรถูกมันควบคุมไวหมดแลว
มันมองออกวาอาการบาดเจ็บของเจาตัวเล็กสาหัสมาก เกาหูเกาแกม สงเสียงโอด
ครวญอยางอดไมได ความหมายของมันคือ ตองใหขาหยดเลือดอีกแลวรึ? บัดซบเสียจริง
“ไมตองแสรงกรีดรอง ขามิไดขอใหเจาใชเลือดรักษาชวยขาเสียหนอย” เจาตัวเล็ก
พูดพลางยนจมูก ฉกไหหยกออกมาจากอก เทผงวิเศษที่สงกลิ่นหอมกรุนออกมา
เจาลูกขนรองลั่นทันที หายใจกระหืดกระหอบ กระโดดโลดเตน อุงมือเล็กชี้ไปมา
“เอาละ หยุดสงเสียงไดแลว ขายอมรับวามันเคี่ยวมาจากเลือดสีทองของเจา แตมัน
เปนของเหลือจากเมื่อกอน” เจาตัวเล็กอธิบายอยางขาดความมั่นใจ
กลืนโอสถทิพยลงทองดังอึก ชั่วพริบตา พลังปราณโหมซัดสาด ผงยาละลายทันที
บํารุงซอมแซมรางกายที่บาดเจ็บของเขาอยางรวดเร็วดวยสรรพคุณวิเศษ
ลูกขนนิสัยไมดีอยางยิ่ง พรวดพราดเขามาแยงชิงไหหยกนั่นไป กรอกเขาปากของตน
ดวยอยากกินเชนกัน ผลปรากฏวามันวางเปลา โมโหจนรองลั่น เขวี้ยงออกไปไกลทันที
“เจาลูกขน นั่นเปนยาโบราณที่หลอมจากเลือดบางสวนของเจา ไยเจาจึงอยากกิน
กันนะ? เอาอยางนี้ไหมละ...ขากลับไปเคี่ยวใหเจาไหหนึ่งดีไหม?” เจาตัวเล็กเอยถามดวย
น้ําเสียงหารือ
“เจี๊ยกๆ...” ลูกขนกําหมัดสีทองแนน ถลึงตาใสเขาอยางรังเกียจ ตีใหตายมันก็มิอาจ
ตอบรับได
“ไปกันเถอะ!”
ครึ่งชั่วโมงผานไป เจาตัวเล็กหยัดตัวลุกขึ้น พลังปราณโชติชวง จิตวิญญาณนักสูฮึก
เหิม ภูเขาไฟทั้งสามปรากฏขึ้น หลั่งรินลาวาเขาสูรางกายของเขา ทําใหพละกําลังเต็ม
เปยม
สัตวพาหนะถูกกอนหินฟาดตายไปไมนอยเลย เหลือเพียง 3-4 ตัว เหมาะแกการ
บรรทุกชิ้นสวนรางกายใหญโตที่ขาดวิ่นของเทพารักษ นี่เปนของล้ําคา ทิ้งไวที่นี่ไมได
“ลูกขน เจามาจัดการโจรโฉดพวกนี้เถิด” เจาตัวเล็กสั่งการ
เจาลูกขนสงเสียงตะโกนเขาไปในผืนปาที่หางไกล มันจองเขมือบดุจพยัคฆอยูนาน
แลว คอยเวลาสัตวใหญหลายตัวโผลมา วิ่งหอเขาไปยังผืนปาพังพินาศ
สุดทาย โจรโฉดลวนถูกสังหารจนสิ้น ไมเหลือแมแตคนเดียว
เพิ่มเริ่มเดินทางไดเพียงไมกี่ลี้ เจาตัวเล็กก็พบกับหัวหนาหมูบาน เขามาดวย
ความเร็วสูงสุด ใบหนาเต็มไปดวยความกังวลและกระวนกระวาย
เจาตัวเล็กอบอุนในใจมาก ทานผูเฒาเปนหวงเขา เห็นวานานแลวที่เขาไมกลับไป จึง
เสี่ยงชีวิตชราออกมา
“ทานผูเฒา ขาอยูนี่”
“ลูกเอย เจา...ไมเปนไร ชางดีเสียจริง!” หัวหนาหมูบานตื่นตันใจมาก เมื่อเห็นสัตว
ประหลาดนับสิบหามรางกายสีทองขาดวิ่นของตัวนิ่ม ก็ตาเหลือกอาปากคาง
“สังหาร...เทพารักษตนนั้นแลวรึ?”
“ฮาๆ...” หัวหนาหมูบานหัวเราะเสียงดัง น้ําตาจวนหลั่งรินออกมา ปลื้มใจและชื่น
มื่นอยางหาที่เปรียบไมได รูสึกวาเด็กคนนี้เติบโตแลว สามารถไปทองโลกกวางไดแลว
พวกเขากลับไปพรอมกัน เมื่อเดินทางไปไดนับ 10 กวาลี้ ก็พบกับคนกลุมใหญ
เปนสือหลินหูกับสือเฟยเจียวและเหลาชายฉกรรจ แตละคนนัยนตาแดงก่ํา ทาทางพรอม
สูสุดชีวิต
“อะไรนะ ฆาเทพารักษตัวใหญยักษตนนั้นแลวรึ?” เหลาชาตรีนิ่งงัน จากนั้นพากัน
หัวเราะเสียงดัง
ความกระวนกระวายและเปนหวงหายไปเปนปลิดทิ้ง พวกเขานําเอาเชลยศึกกลับไป
ยังหมูบานหินผา หมูบานหินผาในตอนนี้เงียบสงัด นอกจากพวกเขาแลว คนอื่นๆ ตาง
เคลื่อนตัวหลบซอนแลว
“เร็วเขา ออกไลตามคนทั้งกลางคืน เรียกพวกเขากลับมาใหหมด”
เรื่องนายินดีเชนนี้ ไมมีทางรอใหถึงพรุง นี้เปนแน ใหชาวบานรูกันใหทั่ว เพื่อขจัด
ความกระวนกระวนและความเปนหวง
“ทานผูเฒา ขาเขานอนกอนนะขอรับ” เจาตัวเล็กหลับสนิท เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีก
ครั้ง ก็เปนยามพลบค่ําของวันที่สอง
ขณะนี้ หมูบานมีกลิ่นเนื้อหอมลอยแตะจมูก เสียงสรวลเสเฮฮา ชาวบานตางกลับ
มาแลว บนใบหนาของทุกคนแตมรอยยิ้มเจิดจา
พวกทานปาและหญิงชราตางหัวเราะจนหุบปากไมได กําลังจัดการซากของ
เทพารักษ เนื้อตุนในหมอสองแสงสวางเบาบาง เปยมดวยพลังปราณจนนาตกใจ
เด็กๆ วิ่งกรูกันเขามาพรอมกับโหรอง นี่เปนเนื้อของเทพารักษ เมื่อกอนแมแตคิดก็
ไมกลา วันนี้กลับจะไดกินอยางอิ่มหนําสําราญ
“เจาตัวเล็กชางเกงกาจเสียจริง สามารถสังหารเทพารักษเชนนี้ได” เด็กๆ หอมลอม
เสี่ยวสือฮาว ตางก็ตื่นเตนและระทึกใจอยางเปรียบไมได
“พี่ชาย ยอดเยี่ยมมากขอรับ ตอไปตองสั่งสอนขาใหดีนะ” ชิงเฟงแววตาเปน
ประกาย ราวกับจะกราบไหว
ทางดานเหลาชายฉกรรจราวกับเกิดลมใตฝาเทา[1] ปลื้มปติเปนอยางยิ่ง ตอง
จัดการเนื้อของเทพารักษที่แฝงไวดวยพลังปราณอยางดี นี่เปนของล้ําคาอันมีมูลคาอยาง
ประมาณมิได
เนื้อที่ตมสุกกับยางจนสุกนั้นมีเพียงสวนนอย เนื้อและกระดูกสวนมากถูกเคี่ยวรวม
กับยาโบราณ หากทําเชนนั้นสรรพคุณจะยอดเยี่ยมมากยิ่งขึ้น ชาวบานทั้งหมดตางไดรับ
ผลประโยชน สุขภาพรางกายจะตองดีเพิ่มขึ้นหลายเทาตัว
ทางดานของเหลาชายชราเองก็ชุลมุนเปนวัน เลือดล้ําคา อีกทั้งเสนเอ็นลวนถูก
จัดการโดยพวกเขา
เขนฆาตัวนิ่มสีทองตัวหนึ่ง สําหรับหมูบานหินผาแลว เทากับไดรับขุมทรัพยล้ําคามา
ครอง หากใชใหเกิดประโยชนแลวละก็ สามารถแสดงประโยชนอยางใหญหลวงได
ค่ําคืนนี้ ชาวบานตางชื่นมื่นอยางเปรียบไมได เสียงหัวเราะดังเซ็งแซไปทุกหนแหง
นั่งลอมรอบกองไฟอยางสนุกสนานครื้นเครง พลางกินเนื้อเทพารักษอันหอมหวาน
..............................
[1] เกิดลมใตฝาเทา สํานวนจีน เปรียบเปรยวา เดินเหินอยางรวดเร็ว หรือ
เคลื่อนไหวรวดเร็ว
บทที่ 86 เทพเจาตนหลิวทะยานฟา
เปลวไฟเริงระบําดังเปรี๊ยะ ที่นี่ครึกครื้นมาก ชาวบานเฉลิมฉลองกันอยางถึงอกถึงใจ
สือเฟยเจียวและเหลาชายฉกรรจกินเนื้อคําโตพลางคุยโวโมอวด ชื่นชมวาลูกของตน
มีแรงมาก ตองกลายเปนวีรบุรุษผูมีพละกําลังเหนือธรรมชาติในภายภาคหนาเปนแน
แนนอนวา คนที่ไดรับคําชมมากที่สุดคือเจาตัวเล็ก ยิ่งสือหลินหูที่ตะโกนวา “ลูกเอย
อายุเจาก็ไมนอยแลว อีกไมกี่เดือนก็ 8 ขวบแลว อีกทั้งความสามารถมากมายเพียงนี้
ควรจัดงานมงคลรื่นเริงแลว เจาวาลูกหญิงหูบานขาเปนอยางไร?”
เจาตัวเล็กพูดอยางเขินอายวา “ทานลุง ขายังเด็ก”
สือหลินหูเหลือกตาแลวพูดวา “เด็กกับผีอะไร ลุงในตอนนั้นแตงงานตั้งแตอายุ 12
ขวบ ครั้งนั้นยังไมเกงกาจเทาเจาเลย ตามความสามารถในตอนนี้ของเจาถือวาทําได
แลว”
เด็กๆ พากันหัวเราะฮิฮิ เลนหูเลนตาใสเจาตัวเล็ก
สือหลินหูถลึงตาใสพวกเขาพลางพูดวา “หัวเราะอะไร พวกเจาก็อายุไมนอยแลว
เหมือนกัน ถึงเวลาตองใครครวญแลว ใชแลว ตาจวง เออรเหมิง กับผีโหว สองปมานี้
พวกเจากาวหนาอยางรวดเร็ว พละกําลังยิ่งใหญ ควรแตงงานแลว”
“ไมผิดเลย แตงงานกันไดแลวละ” มีชายชราพยักหนา
“หา?!” เด็กๆ รองดวยความตกใจ ตางก็ขวยเขิน กองไฟสะทอนจนใบหนาพวกเขา
แดงก่ํา
สําหรับผูอื่นแลว วาจาเหลานี้ถือวาเปนเรื่องปรกติ แตกลับทําใหเจาตัวเล็กอดรนทน
ไมไหว เพราะเด็กผูหญิงดานหลังรอคอยเขาแลว
“ทานผูเฒาและทานพอบอกแลววา ใหขาหมั้นหมายกับเจา เจาจะตอบรับเมื่อใด
กัน?” บุตรีของสือเฟยเจียวเอยถามเสียงดัง
“ขายังเยาวนัก ยังไมอยากแตงงาน!” เจาตัวเล็กสายหนา พวงแกมเหอรอนเล็กนอย
อีกฟากหนึ่ง สาวนอยหูมัดผมแกละ อายุนอยกวาเขา สองมือเทาสะเอว ตาถลึงจน
โต โวยวายถามวา “เจาตัวเล็ก เจาจะมาสูขอขาเมื่อใดกัน?”
“ขาพูดตอนไหนวาจะไปสูขอเจา?” เจาตัวเล็กจวนวิ่งหนีอยางรอนรน อดทนตอไป
ไมไหวแลว
“ฮาๆ...” พวกผูใหญหัวเราะเสียงดังขึ้นมา
“ลูกเอย เจาวางแผนไวอยางไรละ?” สุดทาย หัวหนาหมูบานยิ้มตาหยีพลางเอยถาม
เจาตัวเล็ก
“ขาอยากสงชิงเฟงไปยังศาลาปดฟา พวกเราจะบําเพ็ญตนไปตลอดทาง ทานผูเฒา
พูดเองมิใชรึขอรับ อานตํารากระดูกนับหมื่นไมสูออกเดินทางนับสิบหมื่นลี้” เจาตัวเล็ก
ตอบ
“แตวาเจายังเยาวนัก ระยะทางชางไกลแสนไกล อีกทั้งพวกเราตางก็ไมรูวาศาลาปด
ฟาตั้งอยูแหงหนใด” หัวหนาหมูบานเปนหวง
“ลูกอยาดวนตัดสินใจ” ผูอาวุโสคนอื่นๆ เองก็พูดโนมนาว เพื่อใหเขารอบคอบ
จริงจัง
เจาตัวเล็กพยักหนาแลวกลาววา “ขอรับ ขารู รอวันทานเทพหลิวฟนคืน เขาพูดแลว
วาจะพาขาไปทองยังดินแดนลึกลับ อีกทั้งตัวขาในตอนนี้ไมวางใจ หากโจรพเนจร
เหลานั้นโผลหัวมาจะทําเยี่ยงไร”
ค่ําคืนนี้ ชาวบานสนุกสนานกันอยางที่สุด ดื่มกินจนกระทั่งดึกสงัด พวกเขาคุยโวโอ
อวด บอกเลาเรื่องราวลึกลับมากมายในดินแดนรกราง ดึงดูดเด็กๆ ใหอยากฟงอยาง
เปรียบไมได
สิ่งเดียวที่นาเสียดายคือ ตัวนิ่มทําลายตนเองในชวงชีวิตสุดทาย กระดูกล้ําคาโบราณ
และเกล็ดแหลกละเอียด ไมเหลือเคล็ดวิชาล้ําคาใด
หลังเที่ยงคืน หมูบานหินผาไมสงบ เด็กๆ เอะอะโวยวายไมหยุดราวกับวิญญาณร่ํา
ให เพราะตะกละตะกลาม กินเนื้อเทพารักษมากไป เนื้อตัวสองแสง รอนรุมเกินตานทาน
พวกเขาวิ่งโรทั่วหมูบ าน สุดทายก็พากันกระโดดลงทะเลสาบหมายใชมันลดอุณหภูมิ
ทั้งที่ผูอาวุโสกลาวเตือนแลว แตละคนกินมากสุดเพียง 2 ชิ้น ไมสามารถกินมันจน
อิ่มเหมือนขาวได แตก็ยังกอใหเกิดผลลัพธเชนนี้
กระทั่งฟาสาง เด็กๆ และชายหนุมบางสวนปนขึ้นจากทะเลสาบดวยขอบตาดําคล้ํา
แยกยายกลับบานของตนอยางเซื่องซึม
“ฮาๆ...” ชาวบานเหลานี้ที่ตื่นเชา เมื่อเห็นฉากนี้ตางก็หัวเราะเสียงดัง
เทพารักษตนนี้ไมธรรมดาอยางไมตองสงสัย ภายในรางกายแฝงดวยพลังปราณ
แข็งแกรง สมควรยกยองวาเปนรางกายที่เปนโอสถทิพย แกไขปรับปรุงรางกายของ
ชาวบานใหดีขึ้นไดอยางมีประสิทธิภาพ
ครั้งนั้น ไดซากศพซวนหนีมาอยางไมคาดฝน ชาวบานกินมันเขาไปทั้งตัว ในตอนนั้น
สุขภาพรางกายของชาวบานดีขึ้นกันอยางมาก มิเชนนั้นเด็กเหลานี้จะฝกฝนอักขระ
กระดูกไดอยางนั้นหรือ?
ตองรูวา หนึ่งชนเผาที่มีประชากรนับหมื่นก็ยากจะพบเจอผูกลาขั้นแปรผันโลหิตคน
หนึ่ง ทวาเด็กเหลานี้ตางมีโอกาสบรรลุในวันขางหนา
เห็นไดชัดวา รางกายล้ําคาของทายาทอสูรบรรพกาลกอใหเกิดคุณประโยชนอยาง
ใหญหลวง หากแตยากจะพบเห็น ถือไดวามีมูลคาอยางมหาศาล ชนเผาใหญปรารถนา
จัดการมัน หากไมดี จะเกิดการสูญสิ้นเผาพันธุได
เนื่องจาก ซวนหนีมิใชทายาทอสูรบรรพกาลทั่วไป!
และเทพารักษตนนี้เทียบชั้นซวนหนีไมได แตก็มิใชของธรรมดา ความหลังของมัน
ยิ่งใหญ มาจากชมพูทวีปอันลึกลับนั่น มิใชสิ่งที่เทพารักษแกของหมูบานหมาปาจะ
ทัดเทียมได
แทจริงแลว กําลังการตอสูที่สําแดงออกมาของตัวนิ่มควรจะแข็งแกรงกวามัน
เพียงแตมันบมเพาะเพื่อเรียกกรรไกรกระดูกสีทองใหฟน คืนชีพ ทําใหตัวมันเองไดรบั
บาดเจ็บสาหัส เปนเหตุใหมันพายแพจนชีพวาย
ชั่วพริบตา เวลาครึ่งปก็ผานไปอยางรวดเร็ว เทพารักษตัวใหญถูกชาวบานกินเขาไป
อยางหมดจด
พละกําลังของเด็กๆ พัฒนาอยางกาวกระโดด หยั่งรูอักขระกระดูกอยางลึกซึ้ง
ผลลัพธนี้สะเทือนเหลาคนชรา สุดทายตางหัวเราะกันอยางหุบปากไมได จนเคราสีขาว
เกือบจะหลุดรวงลงมา
นอกจากพวกเด็กๆ แลว เหลาชายฉกรรจไมกี่คนก็ปะทุ อยางเชนสือหลินหูและสือ
เฟยเจียว แทจริงแลว ระยะเวลาการบําเพ็ญอักขระกระดูกยาวนานกวาเด็กๆ หลังจาก
หัวหนาหมูบานกลับมาจากโลกภายนอก ก็ไดสอนอักขระกระดูกแกพวกเขา เพียงแต
พลาดชวงอายุทองของการบําเพ็ญตนไป ดังนั้นความสําเร็จอาจไมเปนอยางใจคิด
หลายปมานี้มีเนื้อล้ําคาจากซากศพของซวนหนีอันสะทานโลกามากอน ตามมาดวย
เทพารักษเหนือธรรมชาติตนนี้ เลือดเนื้อของพวกมันแฝงพลังปราณวิเศษอยางลนหลาม
บํารุงรางกายของพวกเขาจนดีขึ้นอยางใหญหลวง
ดวยประการฉะนี้ การบําเพ็ญตนและประสบการณอันยาวนานหลายปของพวกเขา
จึงคอยๆ ปะทุออกมา สือหลินหูกับสือเฟยเจียวเลื่อนเขาขั้นแปรผันโลหิต และอยูในขั้น
ไมต่ํา การหยั่งรูลึกซึ้ง
ผูคนไมทอดถอนหายใจไมได ทายาทอสูรบรรพกาลและเทพารักษลึกลับแหงชมพู
ทวีปกลับเหนือธรรมดาเชนนี้ สมกับเปนเนื้อโอสถวิเศษที่พบเห็นไดยาก เอาอะไรมาแลก
ก็ไมยอม
เวลาผานไปอีกหลายเดือน เทพเจาตนหลิวหลับใหลจวนครบปแลว และเจาตัวเล็ก
ในวันนี้ก็อายุ 8 ขวบครึ่งแลว
ในระยะเวลาอันยาวนานนี้ เจาตัวเล็กเคี่ยวเลือดของเทพารักษใหเปนยาวิเศษ เสริม
ความชวยเหลือ เปดภูเขาไฟลูกที่สี่ ปรากฏขึ้นดานหลังเขา ลาวาไหลหลั่ง พลังปราณ
เกลือกกลิ้ง มหัศจรรยเปนอยางมาก
“ชาจริง เกือบปแลวเพิ่งจะเพิ่มมาแคลูกเดียว” เจาตัวเล็กพึมพํา รูสึกวาการบําเพ็ญ
ยากลําบากมากยิ่งขึ้น
เมื่อหัวหนาหมูบานไดยินคําพูดเหลานี้เขา ไมเอยวาจาใดเปนเวลานาน สุดทายก็
ปาดเหงื่อแลวบอกเขาวา นี่ถือวาอัศจรรยมากแลว ชั่วชีวิตของคนมากมายไมอาจเขาใกล
แมเพียงนิว้ เดียว แมพรสวรรคจะสูงสุดปานใด นานหลายปก็ไมเห็นวาจะบรรลุเพิ่มอีกขั้น
“งั้นรึขอรับ อยางนั้นขาก็วางใจ” เจาตัวเล็กหัวเราะอยางเบิกบานใจ ไมหนานิ่วคิ้ว
ขมวดอีกตอไป
ขั้นถ้ําสวรรค ภายในหรือภายนอกของรางกาย เปดหนึ่งเสนทางอมตะหรือดินแดน
สุขาวดี หรือจะเปนหนึ่งโลกหลา อาศัยมันเชื่อมตอกับความวางเปลาอันไมสิ้นสุด
เสาะหาพลังแหงฟาดิน ทําใหพลังงานของอักขระภายในรางกายพุงพรวดขึ้น คงสภาพ
ความรุงโรจนไวตลอดเวลา
ตามคํากลาวของหัวหนาหมูบาน เสี่ยวสือฮาวถือวาเปนมือดีชั้นยอดในขั้นถ้ําสวรรค
แลว เขาสรางหนทางอมตะขึ้นถึง 4 ทาง
“ชั่วชีวิตของบางคนมีเพียงเสนทางเดียว อาศัยมันดูดซึมพลังฟาดิน แตก็สามารถ
บรรลุเขาสูอีกขั้นที่ยิ่งใหญกวา ทวายากจะปนปายไปถึงจุดสูงสุด ผลลัพธก็ถึงเพียงเทานี้
เจียนเขาใกลจุดสิ้นสุดแลว” หัวหนาหมูบานอธิบาย
เมื่อผูกลาทั่วไปเปดถ้ําสวรรค 4-5 แหงแลว จะริเริม่ ไตรตรองและตกตะกอน
ความคิด รอคอยวันปะทุ พลังวิเศษของอักขระอันไมสิ้นสุดที่ทะลักออกจากถ้ําสวรรค
ผลักดันตนใหเขาสูอีกขั้นที่สูงกวา
หัวหนาหมูบานอธิบายเพิ่มเติมวา “ผูที่สามารถเปดถ้ําสวรรคได 6 แหง ถือไดวาเปน
ผูองอาจของขั้นนี้แลว สําหรับการเปดถ้ําแหงที่เจ็ดนั้น แนนอนวาเปนอัจฉริยะที่พบเห็น
ไดนอยมาก ปกติแลวจะเปนเพียงตํานานที่ถูกบันทึกไวในตําราโบราณเทานั้น ในความ
เปนจริง หากปรากฏขึ้นอยางแทจริงแลว คงเปนพรสวรรคอันฟาประทานเปนแนแท!”
เจาตัวเล็กกะพริบตาปริบๆ ฟงดวยความตั้งใจ แทจริงแลว ตัวเขาในตอนนี้ควร
พิจารณาเรื่องการฝาดานแลว อาศัยมันบรรลุอีกขั้นที่สูงกวา ทวาเขาเลือกไมได
ตามที่หัวหนาหมูบานกลาว ทุกครั้งที่เปดถ้ําสวรรคเพิ่ม ศักยภาพก็จะเพิ่มขึ้น
บางสวน หากจํานวนศักยภาพของถ้ําสวรรค 1 แหงเปนหนึ่ง เชนนั้นถ้ําสวรรค 2 แหง
ตองเปนสอง หากอนุมานโดยการเปรียบเทียบเชนนี้ตอไป กระทั่งถ้ําสวรรคที่ 8 ก็เทากับ
แปด ระยะหางกันมากโข!
กาลเวลาผานไป หลังโจรโฉดดับสิ้น กลุมโจรอื่นๆ ก็มิไดปรากฏตัวขึ้น ชมพูทวีปไมมี
ปฏิกิริยาตอบสนองใด หรือบางทีอาจคิดวาตัวนิ่มฝงรางลงทองของทายาทอสูรบรรพกาล
ในดินแดนรกรางแหงนี้เสียแลวกระมัง
ระยะนี้ ชาวบานหินผาเคยเคลื่อนไหวหนหนึ่ง ขุดเอาทองคําดําที่โจรโฉดฝงไว แมจะ
มีเพียงครึ่งตารางเมตร แตกลับมีน้ําหนักกวาหมื่นชั่ง นี่เปนวัตถุดิบล้ําคาที่ใชในการ
หลอมอาวุธสงคราม และยังเปนโลหะซึ่งมีนอยที่ใชในการควบคุมคายกลชนิดหนึ่ง พบ
เห็นไดยากมาก เห็นไดวาหลายปมานี้ พวกเขากอเหตุฆาตกรรมมานักตอนัก เงื้อมมือ
ตองเต็มไปดวยชีวิตคนเปนแนแท
ครึ่งเดือนตอมา สายลมพัดแผวเบา กลางทะเลสาบสีน้ําเงินริ้วคลื่นเปนแหงๆ ตน
หลิวที่เงียบสงัดนับปหนาหมูบานสวางวาบ แสงสีเขียวพุงทะลวงเมฆ ทั่วบริเวณเทือกเขา
ปกคลุมไปดวยรัศมีขมุกขมัว
“อา ทานเทพหลิวคืนชีพแลว!”
ชาวบานรองดวยความตกตะลึง จากนั้นก็สรวลเสเฮฮา เทพารักษคืนชีพ นับแตนี้ไป
พวกเขาไมตองกังวลใจแลว แมสัตวประหลาดมารุกราน พวกเขาเชื่อวาเทพเจาตนหลิว
ตานทานไวได
ขณะนี้ ไมวาจะเปนบุรุษ สตรี ชราหรือเด็ก คนทั้งหมดตางวิ่งกรูกันเขามา
ดําเนินการเซนสรวง กราบไหวตนหลิว
“แควก”
เปลือกไมเกาหลุดรวง เผยบริเวณที่นูนขึ้นมาใหเห็นกอน ณ ตอนนี้แสงสีเขียวโชติ
ชวง กิ่งกานใหมเล็ดรอดออกมาหลายกิ่ง ลวนเขียวชอุม ชั่วพริบตาก็เกิดไอหมอกควัน
แสงงดงามเปนหมื่นสาย
ตนหลิวถือกําเนิดใหม แผกิ่งกานทั้งสี่ออกมาอีกครา เจริญเติบโตอยางรวดเร็ว บรรลุ
ความยาวเกือบหมี่ในทันที แตกตางจากกิ่งเดิมนั่นโดยสิ้นเชิง
กานหลิวทั้งหาเขียวชอุม กระจายแสงแวววาวประหนึ่งโซศักดิ์สิทธิ์เปนระเบียบ
เรียบรอย แผคลุมไปทั่วปฐพี มหัศจรรยอยางยากลึกหยั่งถึง มีเกลียวคลื่นอันนา
หวาดกลัวอยางหนึ่ง
ชาวบานปลื้มปติ เทพเจาตนหลิวแข็งแกรงมากยิ่งขึ้น ลําตนดําเกรียมมีบางสวน
กลายเปนสีเขียว เปยมดวยพลังชีวิต แสงสีเขียวแผซาน ทําใหแผนดินนี้คละคลุงไปดวย
กลิ่นอายชีวิต
“ทานเทพหลิว... ทานหายดีแลวรึ?” มีผูอาวุโสถามเสียงสั่น
“ขาสบายดี สิ้นสุดภาวะจําศีลแลว” ตนหลิวกลาว เก็บแสงสวางไวภายใน แสงสี
เขียวดุจกระแสน้ําลาถอยปาเขา เทือกเขากลับสูสภาพเดิม
ในวันนี้ หมูบานหินผาเฉลิมฉลอง ครื้นเครงอยางเปรียบไมได มีเทพเจาตนหลิวอยู มิ
ตองกังวลการแกแคนของโจรโฉดอีกตอไป
“เจาทําดีมาก สังหารเทพารักษไปตนหนึ่ง มันไมธรรมดาเอาเสียเลย สูงกวาขั้นถ้ํา
สวรรค เพียงแตรากฐานแหลกละเอียด มิเชนนั้นเจาคงเปนอันตรายเชนกัน” ตนหลิว
มองผานกระดูกที่หลงเหลือของตัวนิ่มก็รับรูสถานการณในตอนนั้นของมันไดอยางชัดแจง
“ทานเทพหลิวขอรับ ขาเปดถ้ําสวรรคได 4 แหงแลว ตาม ‘ทฤษฎีศักยภาพ’ ที่ทาน
ผูเฒากลาว ขาหวังจะเปดใหไดมากกวานี้” เจาตัวเล็กนัยนตาเผยกระแสไฟแหง
ความหวัง
หลังผานการสนทนาแลว ตนหลิวรูแจง กานหลิวโยกไหว ราวกับวาพยักหนาเบาๆ
แลวกลาววา “ถ้ําสวรรคแหงที่แปดเปนจุดสูงสุดแลวรึ? นี่เปนเพียงมาตรฐานของ
เผาพันธุมนุษยเทานั้น ถ้ําสวรรคแหงที่เกามิไดมีบันทึกในตําราโบราณเทานั้น แตมันมีอยู
จริง”
“หา?” เจาตัวเล็กตะลึงงัน นอมรับคําสอนดวยความตั้งใจจริง
“หากมองตามสถานการณเมื่อครั้งบรรพกาลแลว...” เทพเจาตนหลิวเพิ่งเอยปาก
เจาตัวเล็กก็เขาใจทันที คงวัดจากขั้นแหงการบําเพ็ญของอสูรบรรพกาลผูยิ่งใหญที่สดุ
อยางแนนอน นี่เปนมาตรฐานที่นากลัวอยางหนึ่ง
เปนไปตามคาดหมาย ตนหลิวเอื้อนเอยตอวา “เมื่อครั้งดึกดําบรรพ เถาวู[1] หงส
แดง เทาเที่ยตางคิดวา ในขั้นถ้ําสวรรค ผูมีถ้ําสวรรคทั้งเกาถือวาเปนราชันย แตถ้ํา
สวรรคแหงที่สิบจึงจะเปนขั้นสูงสุด เปนจาวขนานแทแหงขั้นนี้”
เจาตัวเล็กตะลึงพรึงเพริด หลักการนี้ชางนากลัวเสียจริง หางไกลมาตรฐานของ
เผาพันธุมนุษย ที่แพรหลายในปจจุบันอยูหลายขุม
“ดํารงชีวิตทามกลางดินแดนรกรางนั้นแคบเกินไป ยากจะมีโอกาสพบเจออัจฉริยะ
ขนานแท ยิ่งไมอาจสูศึกตัดสินความเปนความตายกับทายาทเจินโหวเพื่อประกาศศักดา
ได อยูตรงนี้กอผลเสียตอการบําเพ็ญตนของเจา”
“ทานเทพหลิว ทานมีวิธีการไหมขอรับ?” เจาตัวเล็กเขาใจความหมายของ
เทพารักษแหงหมูบา นหินผา
“ขาเคยพูดวา รอวันขาฟนคืนชีพ ขาสามารถพาเจาทองไปโลกลึกลับได เจายินยอม
รึไม? ไมแนวาเจาอาจจะพบกับสือยี่ พี่ชายของเจา ณ ที่แหงนั้นกอนก็เปนได แมอาจจะ
มิไดพบเจอกับรางจริง”
“ขายินยอม!” เจาตัวเล็กพยักหนาอยางเด็ดเดี่ยว
..............................
[1] เถาวู อสูรบรรพกาลชนิดหนึ่ง หนึ่งในอสูรทั้งสี่ของจีน
บทที่ 87 โลกแหงความวางเปลา
“งั้นดี เจาไปบอกกลาวแกชาวบานเสียหนอย พวกเขาจะไดไมตองหวง จากนั้นพวก
เราคอยออกเดินทาง!” ตนหลิวกลาว ดุดันดุจสายฟาฟาด รวดเร็วดั่งสายลม เพิ่งเอยจบก็
จะออกเดินทางเสียแลว
“ขอรับ!” เจาตัวเล็กก็ไมเอยถามอะไรใหมากความ หันหลังทันที พุงตัวเขาไปยังลาน
บานของหัวหนาหมูบาน บอกกลาวสถานการณอยางกระชับและรวดเร็ว
สือยวิ๋นเฟงกับผูอาวุโสคนอื่นตางชะงักงัน สือเฟยเจียวและคนอื่นๆ ที่มาเพราะไดยิน
ขาวคราวก็ตะลึงงัน ลวนปาดเหงื่อแทนเจาตัวเล็ก นั่นเปนสถานที่แบบไหนกัน?! สถานที่
ที่สามารถตอสูกับทายาทอสูรเฉกเชน ฉงฉี[1] ปฟาง[2] เจียวถู[3]ได อีกทั้งอาจจะพบ
เจอกับสือยี่ ผูมีตาดําสองดวง ฟงแลวนาตกตะลึงเล็กนอย
“ลูกเอย เจาตองระมัดระวังนะ มันเปนสถานที่ใด ไยจึงพบเจอกับทายาทอสูรบรรพ
กาลไดเลา? เจาตองระวังความปลอดภัยนะ!”
“การขัดเกลาเชนนี้นากลัวเกินไป เปนการประลองกับเทพเจาวัยเยาวรึ?!”
พวกเขาตกตะลึงเปนอยางมาก ดวงใจกระวนกระวาย
เจาตัวเล็กเถรตรงมาก บอกกลาวแกชาวบานเรงหวนกลับ ไมมีเวลาใหออยอิ่ง
นั่งขัดสมาธิลงตรงหนาตนไมดําเกรียมทันที สีหนาเครงขรึม เตรียมพรอมออกเดินทาง
“เอาละ พวกเราเริ่มการเดินทางทะยานสวรรคเถิด” ตนหลิวกลาว แมสุระเสียงจะ
นุมนวลและสงบ แตกลับมีความนาเกรงขาม กานหลิวทั้งหาพุงขึน้ โดยพลัน แปลงราง
เปนโซศักดิ์สิทธิ์เปนระเบียบพรางพราย พุงขึ้นสูทองฟา
เสียงตูมดังขึ้น แสงสีเขียวโชติชวง เขียวชอุมไปทั่วดินแดนสุขาวดี กานหลิวงดงามทั้ง
หาทะลวงฟากฟา ราวกับประตูแหงบัญชาถูกเปดออกแลว!
กลางนภา ไอหมอกขมุกขมัวไปทั่วบริเวณ ทั้งลึกลับและลึกล้ํา
เสียงระรัวดังวิ้ง เจาตัวเล็กรูสึกเสมือนลาจากที่เดิม ขามผานประตูที่เต็มไปดวยไอ
หมอกพรามัว เขาทะลวงผานไป เขาสูแผนดินประหลาด
“นี่เปนที่ใดกัน?” เจาตัวเล็กพบวารอบขางเต็มไปดวยมานหมอกเลือนราง ประหนึ่ง
ความพรามัวกระเพื่อมขึ้นลง แลดูลวนคลุมเครือ
“มานี่!” แสงสีเขียวนุมนวลแผกระจาย ปรากฏตนหลิวดําเกรียมขึ้นดานหนา มันฝง
รากลงกลางดินแดนสุขาวดี นําเจาตัวเล็กไปขางหนา
มานหมอกคลี่คลาย ขางหนากวางโลงขึ้นมาทันตา ความรกรางและหางไกลอยาง
เปรียบไมไดปรากฏใหเห็น ราวกับดินแดนที่ถูกละทิ้ง
“เหมือนกับดินแดนโบราณที่รกรางเลยขอรับ” เจาตัวเล็กประหลาดใจ
ไอหมอกแปรเปลี่ยนเปนเบาบาง เขายืนอยูใตตนหลิว ทอดมองไปขางหนา เขาเห็น
ซากปรักหักพังจํานวนมาก ราชวังใหญพังทลายหลังแลวหลังเลา ในวันนี้เหลือเพียงแนว
กําแพงผุพัง
“ไปดูเสียหนอยเถิด” เทพเจาตนหลิวกลาว
เจาตัวเล็กยางเทา พบเจอความรกรางไปทั่วบริเวณ ทุกหนแหงเต็มไปดวยเศษ
กระเบื้อง ราชวังและตําหนักที่เคยโออาพินาศยอยยับ มีกลิ่นอายอันผานโลกมาอยางโชก
โชนและโบราณ
“ที่นี่คือที่ใดกัน?” เจาตัวเล็กเอยถามอีกครา
“โลกแหงความวางเปลา” ตนหลิวตอบ
“โลกแหงความวางเปลารึ?” เจาตัวเล็กใจสั่นไหว เมื่อไดฟงชื่อนี้ก็รูสึกไมธรรมดา
เปนแน มิเชนนั้นคงมิอาจหาญใหชื่อเชนนี้
“มีหลักการหนึ่งกลาววา นี่เปนดินแดนที่จะมาเยือนหลังจากบรรลุกลายเปนเทพ
เจา” ตนหลิวกลาว
“หา?!” เจาตัวเล็กตะลึงพรึงเพริด นี่เขาาเขาสูดินแดนเทพเจาหรือ? ความรูสึกเชนนี้
ไมสมจริง อีกทั้งยังนาตกใจ
“ยังมีคนพูดวา เทพเจา สิ่งมีชีวิตขั้นสูงสุดที่บรรพชนเคารพกราบไหว พวกเขาผนึก
กําลัง ใชพลังทางความคิดสรางดินแดนประหลาดนี้ขึ้น” ตนหลิวกลาวอีกหลักการหนึ่ง
“ดินแดนจิตวิญญาณที่เทพเจาซึ่งบรรพชนเคารพนับถือรวมกันสรางขึ้นหรือ
ขอรับ?” เจาตัวเล็กเบิกตากวาง เผยสีหนายากจะคาดเดา
เขากมหนามองซากปรักหักพังใตฝาเทา จากนั้นทอดมองไปยังขุนเขาเทพเจาบรรพ
กาลพังทลายลูกแลวลูกเลานั่น รูสึกราวกับปาฏิหาริย นี่เปนดินแดนสมจริงเพียงใดกัน
“ทั้งที่กายหยาบของขายืนอยูตรงนั้น หากเปนดินแดนที่สรางจากจิตนาการ ขายัง
สามารถยืนหยัดไดหรือ?” เจาตัวเล็กเอยถาม
“มีสวนที่ขาตองแกไข เจามิไดอยูที่นี่อยางแทจริง แตเปนเพียงจิตวิญญาณเทานั้น”
ตนหลิวย้ําเตือน
เจาตัวเล็กไมอาจเชื่อ ออกแรงบีบแขนของตน รูสึกเจ็บปวด นี่ไมใชดินแดนแหง
ความฝน และไมใชภาพลวงตา ทั้งที่รูสึกเหมือนจริงปานนี้
“สิ่งมีชีวิตชนิดใดก็ตาม จิตวิญญาณลวนมหัศจรรยอยางที่สุด ยิ่งกวารางกายเสีย
อีก” ตนหลิวกลาว พูดอธิบายแกเขาวา “จิตของเจาเขามาแลว ราวกับถือกําเนิดใหมขึ้น
ณ ที่แหงนี้ ไมตางอะไรกับกายหยาบของเจา”
“แตนี่เปนเพียงจิตมุงมั่นของขา มิใชกายหยาบ ไยจึงสมจริงเชนนี้ละขอรับ? ยากจะ
วินิจฉัย” เจาตัวเล็กงุนงง
“นี่เปนความมหัศจรรย อีกทั้งมูลคาของโลกแหงความวางเปลา ขัดเกลาดวงจิตที่นี่
เมื่อกลับสูโลกแหงความเปนจริง จะนําพาการหยั่งรูทั้งหมดกลับเขาสูกายหยาบ
แปรเปลี่ยนพรอมกัน ก็เหมือนกับกายหยาบบําเพ็ญตนอยูที่นี่แล!” ตนหลิวชี้แนะทาง
สวาง
“เปนดินแดนที่ประหลาดเสียจริง!” เจาตัวเล็กอุทานดวยความตะลึง
เขาย่ําอยูบนเศษกระเบื้องจนเกิดเสียงดังกรอบแกรบ ซากปรักหักพังใหญโตและโลง
กวาง ทางดานของภูเขาไกลกลับยิ่งกวางใหญไพศาล แมจะพังทลาย แตก็ยังทําใหรูสึกถึง
ความมโหฬารและมหัศจรรย
หากสิ่งเหลานี้ลวนเปนสิ่งที่สรางจากจิตวิญญาณ จําตองมีจิตสัมผัสแกกลาเพียงใด
จึงจะสามารถทําได?!
ตนหลิวถอนหายใจแลวกลาววา “มีตํานานกลาววา เกิดความจลาจลวุนวายครั้ง
ใหญในอดีตกาล เปนเหตุใหดินแดนแหงจิตวิญญาณถูกทําลายเชนเดียวกัน ดวยเหตุนี้จึง
ปรากฏซากปรักหักพังมากมายเพียงนี้”
ทวยเทพอันบรรพชนกราบไหว บางทีอาจเปนเทพเจา หรือสิ่งมีชีวิตดึกดําบรรพ
อยางจูเจียนเลือดบริสุทธิ์[4] ฉื่อเหวิน[5] ยาอวี่[6] นั่นเปนยุคที่ซับซอนและลึกลับเปน
อยางมาก
“ขาตองขัดเกลาตนเองในดินแดนจิตวิญญาณนี่หรือขอรับ? แตที่นี่ไมมีสิ่งใดเลย ถือ
เปนดินแดนซึ่งถูกทอดทิ้งเนิ่นนานแลว” เจาตัวเล็กไมเขาใจ
“ผิดแลว ดินแดนแหงนี้ไรที่สนิ้ สุด สิ่งที่เจาเห็นเปนเพียงเศษเสี้ยว” เทพเจาตนหลิว
แกไข บอกกลาวเขาวายังมีอาณาบริเวณกวางใหญไพศาล สถานที่เหลานั้นมากดวย
สิ่งมีชีวิต
“นั่นเปนสิ่งมีชีวิตแบบไหนกันหรือ?” เจาตัวเล็กสงสัย
“เฉกเชนเดียวกับเจา ดวงจิตของเขาเขามาจากโลกภายนอก ปรากฏขึ้นในโลกแหง
ความวางเปลานี้” ตนหลิวตอบ
“พวกเขาก็เขามาไดหรือ อีกทั้งยังมีผูคนมากมายรึขอรับ?” เจาตัวเล็กงงงวย
“ใชแลว ดุจดั่งประเทศสมจริงนั่นแหละ” ตนหลิวตอบ
ตอมา มันอธิบายเพิ่มวาคนเหลานั้นเขามาที่นี่ไดอยางไรวา “เจาคงเคยไดยิน
เรื่องราวทั้งประเทศเซนสรวงสวรรค”
“ขอรับ ขารู” เจาตัวเล็กพยักหนา
“ตั้งแตโบราณกาลจวบจนตอนนี้ เทพเจาที่ประเทศเกาแกนับถือนั้นตายไปนานแลว
แตพวกเขายังคงเซนไหวบวงสรวง จัดพิธีทั้งประเทศดวยความตั้งใจจริงและศรัทธา มันมี
เหตุผลนานัปการ ประเด็นคือเพื่อสืบทอดสิ่งที่เทพเจาเหลือทิ้งไว...”
สามารถเขาสูโลกแหงความวางเปลาได ก็เปน ‘ขุมทรัพย’ ซึ่งสืบทอดมาจากเทพเจา
บรรพกาล หากศรัทธามิเสื่อมคลาย ภายใตดินแดนเกาแกแหงนี้ จะมีการจัดพิธีเซนสรวง
ทุกป ผูกลาจึงรับรูโลกแหงความวางเปลาได
“มหัศจรรยถึงเพียงนี้เชียวหรือ?” เจาตัวเล็กในใจถูกกระตุนอยางหนัก ดวงตาคูนั้น
สุกใส ไตรตรองอยางจริงจังเปนเวลานาน รูสึกวาความรูเพิ่มพูนขึ้นไมนอยเลย
ตนหลิวเอยวา “ทั้งประเทศบูชาพรอมกัน เมื่อทั่วประเทศเกาแกยอมรับแลว จะ
ไดรับความโชคดี เมื่อบุคคลบําเพ็ญจนถึงขั้น ก็จะสามารถสัมผัส เขาออกโลกแหงความ
วางเปลาได”
หมูบานหินผาตั้งอยูกลางดินแดนรกราง ไกลหางจากประเทศเกาแก มิไดเซนสรวง
สวรรคแตอยางใด ปรารถนาเขาสูโลกแหงความวางเปลานั้นเปนเรื่องที่เปนไปไมได
ครั้งตนหลิวนําพาเจาตัวเล็กเขามา มิไดใชวิธีการเดียวกับประเทศเกาแก เพราะเหตุ
นี้จึงมองไมเห็นคนอื่นๆ แตปรากฏตัวขึ้นทามกลางซากปรักหักพัง
“จากตรงนี้ใหเจาเดินออกไปขางนอก อีกไมนานก็จะพบกับสถานที่ขัดเกลาอัน
แทจริง” ตนหลิวกลาว มันไมกาวไปขางหนา ยั้งกาวไวตรงนี้
เชนนี้เอง เจาตัวเล็กจึงออกเดินทางเพียงลําพัง ยามกาวเทาออกจากดินแดนผุพัง
กวางใหญนี้ ภายในใจก็เกิดขอกังขามากมาย เพียงแตตนหลิวคอยๆ เลือนราง มิไดตาม
ติด บอกกลาวเขาวาทุกสิ่งอยางหาคําตอบไดจากขางหนา
มานหมอกนอยลงเรื่อยๆ คอยๆ เขาประชิดดินแดนแหงแสงสวาง ในที่สุด เจาตัว
เล็กก็ออกจากเมืองลมสลาย เขาสูกอนหินใหญทมี่ ีอักขระเปลงแสงแวบวับ ดานบนฝง
กระดูกสัตวขาวแวววาวหลายชิ้น
“นี่คือกระดูกล้ําคาโบราณหรือ แลดูล้ําคาและหายาก” เจาตัวเล็กฉงนสนเทห ยอ
ตัวนั่งลง ใชนิ้วลูบคลํา ตองการฉวยมันออกมา
“ซวบ”
ทวา เขายังไมทันลงมือ เสนทางสีทองปรากฏขึ้น เคลื่อนยายเขาไปทันที
นี่เปนความรูสึกไมชอบกล เจาตัวเล็กพบวาตนกําลังไถลออกจากที่เดิม เพียงชั่ว
พริบตาปรากฏสถานที่ซึ่งแนนขนัดดวยอักขระอีกแหงหนึ่ง
เปนกอนหินใหญเชนเดียวกัน เสนผาศูนยกลางประมาณจั้ง บนกอนหินฝงกระดูกล้ํา
คาหลายชิ้น อํานาจอักขระลึกลับไหลเวียน
หนนี้ เขาสูดหายใจเขาลึก ยอตัวนั่งลง ลูบไลกระดูกชิ้นหนึ่ง จากนั้นออกแรงโดย
พลันหมายาสะเทือนผิวหินใหแตก เพื่อนําเอากระดูกออกมา
กอนหินนี้ประหลาดมาก ทนทานเปนอยางมาก อีกทั้งกระดูกตางสวางขึ้นพรอมกัน
กอรางเปนลวดลายมากมาย ปกปองที่แหงนี้ ดําเนินการคุมกัน
“เขากําลังทําอะไรนะ ไยจึงตองทําลายหนทาง?”
“โอสวรรค เขากําลังขุดกระดูกล้ําคาบนกอนหิน กระทําการอุกอาจเสียจริง เขาไมรู
วานี่เปนหนทาง ไมสามารถกระเทือนไดแมแตนิด?”
...
เสียงดังเซ็งแซแววมา เจ็ดปากแปดลิ้นพูดกันไมหยุด คึกครื้นเปนอยางมาก
เจาตัวเล็กงงงัน หยัดตัวลุกขึ้นอยางรวดเร็ว อักขระรอบกายคอยๆ หมนแสงลง
มองเห็นสถานการณโดยรอบไดอยางชัดเจน กลุมคนรายกอนหินและชี้มือชี้ไมมาทางเขา
“เยาววัยปานนี้ ถึงวาไมเขาใจอะไรเลย คิดเพอเจอหวังทําลายหนทางที่ทอดออกสู
โลกภายนอก ขุดเอากระดูกอักขระไป”
“จะอยางไรก็ถือวาอุกอาจมาก อาจหาญทําเรื่องเชนนี้ ผูใหญมิไดบอกหรือวา เมื่อ
เขาสูดินแดนวาเปลาแลวตองประพฤติตนเชนไร?”
เจาตัวเล็กสายหนา พบวาตนคงทําเรื่องโงเขลาเขาเสียแลว มิเชนนั้นไยคนเหลานี้จึง
จองมองมาดวยสายตาเชนนี้ เขาพูดเสียงเบาวา “กระดูกล้ําคาในที่แหงนี้ ลวนมีเจาของ
แลวหรือขอรับ? ขาไมทราบจึงทําเชนนี้”
กลุมคนเงียบงัน
“คนในตระกูลเจามิไดแนะนําสถานการณที่นี่แกเจารึ? เมื่อเยือนโลกแหงความวาง
เปลาหนแรก จําตองถูกสงเขา ‘ดินแดนขั้นตน’แหงนี้ เมื่อบําเพ็ญตนจนครบกําหนดเวลา
แลว ตองอาศัยหนทางอักขระ จึงจะสามารถเขาสูดินแดนขั้นสูงกวาได เมื่อเจาเขา
มาแลว ไมศึกษาวาเสนทางนี้ใชเพื่ออะไร อีกทั้งจะขุดกระดูกล้ําคาไป ชางนา...” ชายวัย
กลางคนอายุ 30 กวาปคนหนึ่งสายหัว อธิบายอยางอดทนอดกลั้น รูสึกหมดคําจะเอย
“ฮิฮิ...”
“ฮาฮา...”
ผูคนละแวกใกลเคียงพากันหัวเราะ
เจาตัวเล็กใบหนาแดงก่ํา รูสึกละอายใจ พูดเสียงเบาวา “พูดเชนนี้ กระดูกล้ําคา
เชนนี้ไรเจาของใชรึไม?”
เสียงหัวเราะของฝูงชนหยุดกึกทันที ใบหนาเต็มไปดวยความตะลึง พูดไปพูดมา เขา
ยังจะขุดกระดูกล้ําคาอีกอยางนั้นรึ?
“โอสวรรค เจาเด็กคนนี้เปนคนบาปอยางแทจริง ยังคงใครครวญเรือ่ งกระดูกล้ํา
คา!”
“นี่เปนลูกหลานบานใดกัน เลี้ยงดูกันอยางไร หรือปลอยใหเติบโตในปากันแน?”
กลุมคนหัวเราะไมออกรองไหไมได เจาหนูคนนี้ซื่อจนนารัก ไยจึงมีพฤติกรรมเชนนี้?
เขาอยูในชนเผาใดกันแน? เมื่อคืนสูโลกแหงความเปนจริง หากสืบหาตัวตนของเขา
จนพบ จะตองกลายเปนเรื่องนาขันของวงศตระกูลเปนแน นี่เปนเรื่องราวทีแ่ ปลก
ประหลาดจริงเชียว!
“นี่ไมใชโลกที่เทพเจาสรางขึ้นจากจิตวิญญาณหรือขอรับ ขาคิดวากระดูกล้ําคา
เหลานี้ตองมีมูลคามหาศาล มิใชเพราะละโมบ เพียงอยากขุดขึ้นมาศึกษาดูเสียหนอย”
เจาตัวเล็กแกตาง
ชางทําใหคนหมดคําจะพูด ฝูงชนไมรูควรเอยถอยคําใดใดอีก
“ฮาฮา...” สุดทาย ผูคนทําไดเพียงหัวเราะลั่น แมวานี่จะเปนดินแดนขั้นตน มิใช
ดินแดนแหงเทพเจาขั้นสูงสุด แตก็มิใชสิ่งที่จะทําลายไดตามอําเภอใจ
ชายชราผูหนึ่งหัวเราหึหึแลวพูดวา “กระดูกอักขระเหลานี้หายากและล้ําคามาก
หากเจาสามารถขุดมันออกมาได ขายินยอมนําแผนหยกกลมมหาศาลมาแลก!”
..............................
[1] ฉงฉี หนึ่งในสัตวอสูรทั้งสี่ รูปรางคลายเสือ มีปก ทําหนาที่ขับไลสิ่งชั่วราย
อัปมงคล
[2] ปฟาง สัตวทํานายอัคคีภัยของจีน รูปรางคลายนกกระเรียนมงกุฎแดง แตมีขา
ขางเดียว บางตํานานกลาววามีปกขางเดียว ลําตัวสีน้ําเงินจุดแดง จะงอยปากสีขาว
[3] เจียวถู ลูกมังกรทั้งเกา มีรูปคลายลวดลายกนหอย มักจะปดปากเปนนิจสิน
เนื่องจากธรรมชาติของหอยนั้น เมื่อถูกรุกรานจากศัตรูภายนอก ก็จะปดเปลือกสนิท
แนน
[4] จูเจียน สัตวเทพเจาในตํานานจีน ใบหนาเปนคน รูปรางเปนเสือดาว ใบหูวัว
นัยนตาขางเดียว
[5] ฉื่อเหวิน ลูกมังกรทั้งเกา มีรูปรางแบบมังกร ปากกวาง เปนสัตวขจัดภัยพิบัติ
และดับเพลิง
[6] ยาอวี่ สัตวในตํานานโบราณ หนาเปนคน รางเปนมังกร ชอบกินมนุษย บางก็วา
หนาเปนมนุษย รางเปนวัวเทามา บางก็วาหัวเปนมังกร รางเปนพยัคฆ"
บทที่ 88 คนบาป
“แผนหยกกลมคืออะไรขอรับ?” เจาตัวเล็กเอยถามดวยความประหลาดใจ
ฝูงชนสับสน ไยเจาหนูคนนี้ถึงไมรูเรื่องอะไรเลย หรือจะวิ่งออกมาจากปาดงดิบ
จริงๆ?
“เอาละ รอเจาขุดกระดูกล้ําคาขึ้นมาไดคอยวากัน” ชายชราคนนั้นหมดความอดทน
“ออ ดีเลย!” เจาตัวเล็กพยักหนารัว เขาเขาสูโลกแหงความวางเปลาเพื่อศึกษาและ
ขัดเกลา
ตามที่เทพเจาตนหลิวกลาว วัตถุที่ปรากฏขึ้นที่นี่ตอบสนองโลกแหงความเปนจริง
ลวนมีรูปแบบจริง เขาเติบโตในดินแดนรกรางอันคับแคบ ไมเขาใจโลกภายนอกแมแตนิด
ไดโอกาสอาศัยสิ่งนี้มาทําความรูจัก
“แมแตแผนหยกกลมก็ไมรูจักงั้นรึ?” ผูคนมากมายเฮโลกันเขามาหลังจากทราบ
ความ ราวกับโอบลอมวัตถุล้ําคา ยืนชี้มือชี้ไมอยูไมไกล
เจาตัวเล็กเคาะตี นั่งอยูบนกอนหินรัศมีหนึ่งจัง้ พินิจมองกระดูกอักขระเหลานั้นดวย
สีหนามุงมั่นและจริงจัง
“เจาคนบาป เจาจะขุดกระดูกล้ําคาบนหนทางนี้จริงๆ รึ? ขาไมเคยเห็นคนเชนเจา
มากอนเลย!”
“เจาหนูนอยคนนี้ชางละโมบเสียจริง ขาจะคอยดูวาเจาจะขุดมันออกมาไดอยางไร
ไมเคยไดยินวามีคนกระทําเรื่องเชนนีม้ ากอน”
“ฮาฮา ซื่อจนนารัก นี่เปนลูกบานไหน ไยจึงมาอวดดีอยูที่นี่?”
กลุมคนนั่งคอยเรื่องนาขัน รูสึกวาเด็กคนนี้นาสนใจอยางแทจริง นีม่ ันโลภโมโทสัน
มากไปไหม? หากเขาเปนผูใหญ คงถูกดูหมิ่นดูแคลนเปนรอยครั้งแลว ทวาตอนนี้กลับทํา
ใหผูคนอยากหัวเราะอยางอดรนทนไมไหว รูสึกวาเขาโงเขลาเสียจริง
“ลูกเอย ตองการเครื่องมือรึไม ขาหยิบยืมใหเจาสักชิ้น” ชายวัยกลางคนเอยพลาง
ยิ้มตาหยี แฝงความหมายยั่วเยา
เจาตัวเล็กไมถือสา นอมรับเจตนาอันดีของทุกคน กลาวดวยน้ําเสียงไพเราะวา
“ขอรับ ขอคอนหนักสองหมื่นชั่งแกขาที”
ฝูงชนชะงักงัน นี่มันเหลือเชื่อเกินไปไหม นั่นเปนคอน มิใชกระทอมหญาคา ผูใดจะ
รนหาเรื่องกันเลา มีแรงเหวีย่ งหรือ? ยิ่งกวานั้น เจาโตปานใดกัน เมื่ออาปากก็เอยขอ
คอนหนักสองหมื่นชั่ง นี่ตองมั่นใจและประเมินตนไวสูงเพียงใดกัน
“ไมมีสองหมื่นชั่ง หากเปนสองพันชั่งก็มีอยูหนึ่งอัน” ชายวัยกลางคนเหวี่ยงคอน
ขนาดเทาแผนหินโมอันหนึ่งมาดังตูม ฟาดจนผืนดินกลายเปนหลุมลึก
“ขาเกรงวาจะใชจนมันพัง” เจาตัวเล็กยังคงกมหนา กระดกกนอยูบนกอนหินพลาง
ลูบไลและศึกษากระดูกอักขระเหลานั้น
เด็กคนนี้พูดออกมาไดอยางไรกัน? ชายวัยกลางคนหนาดํา คิดวาถูกยั่วยุเขาแลวจึง
กลาววา “ไมเปนไร เจาใชเถิด หากพังก็มิตองใชคืนขา”
“ออ ขอรับ อยางนั้นขาจะไมเกรงใจแลว” เจาตัวเล็กเกาหัว สุดทายก็เหมือนนึก
อะไรขึ้นมาไดจึงพูดวา “ใชสิ ทานลุงขอรับ นี่เปนดินแดนจิตวิญญาณที่เหลาทวยเทพ
สรางขึ้นใชรึไม ทานนําคอนอันนี้มาไดอยางไร หรือสิ่งเหลานี้ก็เปนจิตใตสํานึกของทาน
เชนกัน?”
“ไป ไปทางโนนเลย เจาทึ่มจริงๆ ใหเจาใชก็ใชสิ ไยตองพลามอะไรไรสาระ!”
“ขอรับ” เจาตัวเล็กมิไดเอยถามตอ นาเสียดาย ถึงอยางไรก็เปนคําถาม คนพวกนี้
ชางหยาบเสียจริง ไยจึงไมปราณีชี้ทางใหเสียหนอย
เจาตัวเล็กกระโดดลงจากกอนหิน ลากคอนใหญอันนั้นมา
ชายชราเสนผมขาวโพลนเอยเตือนอยางเมตตาวา “ลูกเอย สามารถหิ้วหรือยกชู
อาวุธชนิดหนึ่งไดนั้น มิไดแปลวาจะสามารถกวัดแกวงได จําตองใชแรงนับ 10 กวาเทาจึง
จะดี เจาตองระมัดระวัง อยาใหเกิดอันตรายแกตัว”
“ขอรับ” เจาตัวเล็กพยักหนา จากนั้นจดจองวิหคขนงดงามบนไหลของเขาแลวถาม
วา “ทานผูเฒา วิหคนี้ก็คือตัวทานหรือ? แปลงรางเปนเชนนี้”
“ไป ไสหัวไปเสีย!” ชายชราสะบัดแขนเสื้อ ใบหนาดําแดง
“ไยเปนเชนนี้กันหมด อดทนชี้แนะขาหนอยมิไดหรือ?” เจาตัวเล็กบนอุบ แมเสียง
จะเบา แตฝูงชนก็ไดยินเชนกัน
“เจาเด็กเวรนี่!” คนไมนอยตางพูดเปนเสียงเดียว คําถามไรสาระเหลานั้นของเจา จง
ใจยั่วเยาพวกเราใชรึไม?
ขณะที่ผูคนกนดาในใจ เจาตัวเล็กกวัดแกวงคอนใหญ ฟาดลงไปยังกอนหินกอนใหญ
ดังตูม ประกายไฟปลิววอน สะเทือนหูจวนดับ
“ดี เจาพอมีพละกําลังอยู กวัดแกวงไดจริงๆ เสียดวย” มีคนพยักหนา
“ตูมๆ...”
ตอมา ฝูงชนพากันอุดหู คอนเหล็กในมือของเจาตัวเล็กดุจดั่งลูกไกจิกขาวสาร ฟาด
ลงบนกอนหินอยางตอเนื่อง เสียงโลหะและหินกระทบกันดังขึ้นเปนสาย สะเทือนแกวหู
ของคนเจียนแตก
นี่คือโลกแหงความวางเปลา ใหความรูสึกราวกับกายหยาบอยู ณ ที่แหงนี้อยาง
แทจริง ปราศจากความแตกตาง
สุดทาย สิ้นเสียงดังเครง คอนเหล็กเปลี่ยนรูป หัวคอนปลิววอน หักออกจากดาม
คอนเสียแลว
ผูคนตาเหลือกปากอากวาง เจาหนูคนนี้มีฝมือจริงๆ ทําคอนใหญพงั ในเวลา
อันรวดเร็ว พละกําลังถือวาไมนอยเลยทีเดียว!
เจาตัวเล็กมีทาทีกระวนกระวาย เอยปากอยางรอนรนวา “ทานลุงขอรับ ทานพูดเอง
วา ขามิตองใชคืน!”
อยางไรก็ตาม นี่เปนดินแดนจิตวิญญาณ อาวุธที่แปลงรางมาคงไมดอยมากนัก เขา
เกรงวาจะชดใชคืนไมไหว
เมื่อเห็นเขากระวนกระวายใจถึงขั้นนี้ ฝูงชนตางพากันหัวเราะ มีเพียงชายวัย
กลางคนหนาดําหนาแดง สงเสียงฮึดฮัด เขาเจ็บใจเปนอยางมาก
“ขาวานะ เจาสามารถขุดเอากระดูกล้ําคาออกมาไดหรือไม อยาเสียเวลาพวกเรา
มานั่งคอยเจาสําแดงความสามารถเชนนี้เลย” คนอื่นๆ กระเซาเยาแหย
“ขาเขามาเปนครั้งแรก ไมมีประสบการณใดเลย ไมทราบวิธีคลายปม พวกทานลุง
และพี่สาวทั้งหลายมีคําแนะนําหรือไม โปรดชี้แนะทางสวางแกขาดวยเถิด” เจาตัวเล็ก
เอยถาม
ฝูงชนไมรคู วรเอยถอยคําใด ผูใดจะรนหาปญหาทําลายหนทางแหงโลกแหงความ
วางเปลากันละ อยาวาแตพวกเขาเลย แมแตเชื้อเชิญอสูรบรรพกาลมาตัวหนึ่ง ก็ไม
สามารถทําลายได
แทจริงแลวพวกเขาอยากตอวา เจาเด็กคนนี้โงเขลาอยูเล็กนอย มือวางจนไมมีสิ่งใด
ใหกระทํา จึงกอเรื่องชั่วชาเชนนี้ ดึงดูดผูคนใหมุงดู
“เจาหนุม เอาเลย ทุมพลังของเจาทั้งหมด ขาคอยดูเจาอยู!” มีคนเจตนารายตะโกน
ปลุกเรา หมายตองการเห็นเขาทําตอไปอยางตอเนื่อง
หญิงสาวใจดีผูหนึ่งเอยหามปรามวา “มันไมสามารถทําลายมันได นอกจากเจาจะ
ทําลายสถิติชนิดใดชนิดหนึ่ง สรางความอัศจรรยในโลกแหงความวางเปลาแหงนี้ มีเพียง
การบรรลุขั้นสูงสุดเทานั้น”
หญิงสาวอธิบายเพิ่มเติมวา ที่นี่เปนดินแดนที่เหลาทวยเทพบรรพกาลสรางขึ้น เหลา
เทพคํานึงอยางละเอียดถี่ถวน หนึ่งในนั้นคือ สามารถอบรมบมเพาะรุนหลังที่มีศักยภาพ
ยิ่งใหญได ณ ที่แหงนี้
แมกาลเวลาจะผานไปเนิ่นนาน กฎบรรทัดฐานของที่นี่ยังคงดําเนินตอไป หากผูใด
สามารถบรรลุขั้นใดใดได ก็จะไดรับผลประโยชนอยางแนนอน
ยิ่งไปกวานั้น ในขั้นตอนนี้ โลกแหงความวางเปลาจะใหการคุมครองอยางดี อําพราง
พลังชีวิตของผูใชกฎ มิใหเคล็ดวิชาล้ําคาเผยสูผูคน เพื่อปกปองความลับ
“นี่เปน ‘ดินแดนขั้นตน’ ไมวาเจาจะบําเพ็ญแกกลาเพียงใด กําลังตอสูที่สําแดง
ออกมาจะอยูในขั้นแปรผันโลหิตเทานั้น ไมสามารถขามขั้นได” หญิงสาวพูดเสริม
“อา มหัศจรรยเชนนี้เลยหรือ?” เจาตัวเล็กเบิกตากวาง
“ใชแลว หากอยากจะบรรลุขั้นในดินแดนแหงนี้ ใชไดแคเพียงพละกําลังในขั้นผัน
แปรโลหิต แมที่นี่จะมีผูคนไมนอยขามขั้นนี้มาแลว แตก็ไรความหมาย”
“เปนเชนนี้นี่เอง” เจาตัวเล็กพยักหนา จากนั้นพูดดวยดวงตาเปนประกายวา “หาก
ขาทําสําเร็จ จะเกิดผลดีอยางไรขอรับ?”
ฝูงชนงงงวย เจาคิดวาจะสามารถสรางวีรกรรมอันยิ่งใหญไดอยางนั้นหรือ? บุคคล
อันนาเกรงขามเชนนี้จะปรากฏตัวสะเปะสะปาไดเยี่ยงไร อีกทั้งมองอยางไรเด็กคนนี้ก็โง
เขลา ไมรูฐานะของตน
“เจาเด็กโงคนนี้ไมเขาใจอะไรเลยจริงๆ” คนขางๆ เบะปากแลวพูดวา “ประเดี๋ยว
เจาตองหลั่งน้ําตาแน”
คนไมนอยกอดอกพลางยิ้มกระหยอง รอดูเจาตัวเล็กเสียหนาอยางชอบดูชอบฟง
“ขาวองไวมาก ขาตั้งใจจะพิชิตความเร็วสูงสุด” เจาตัวเล็กกลาวอยางจริงจัง
“เจาลองดูสักตั้งได” คนบางสวนพูดพลางหัวเราะหึหึ
ตอมา เจาตัวเล็กรางกายสวางวาบ อักขระนานาชนิดปรากฏขึ้นอยางเนืองแนน ปก
คลุมบริเวณนี้อยางรวดเร็ว
“เขาจะทําอะไรนะ?” ผูคนจองเขม็ง มองเห็นเพียงแสงสวางมากมายปลิววอน ทวม
ทนกอนหินใหญทันที ฝูงชนไมสามารถมองเห็นสถานการณภายในได
“เขาจะสําแดงเคล็ดวิชาล้ําคาหรือ แตไยขาจึงรูส ึกวามิไดแข็งแกรงปานนั้นกันละ?”
ฝูงชนนัยนตาพรามัว ที่แหงนี้เต็มไปดวยอักขระ ผนึกกําลังจนกลายเปนมานแสงพราง
พราย
“เขา...กําลังวิ่งอยูจริงๆ คิดจะระเบิดความเร็วสูงสุดจริงๆ อยางนั้นหรือ? นี่ไม
เกี่ยวของกับการขุดกระดูกล้ําคาเลยแมแตนอย”
ในตอนนี้เอง บริเวณใกลเคียงกอนหินใหญมีกลุมแสงปะทุขึ้น ตัดขาดที่นี่จาก
ภายนอก กฎบรรทัดฐานแหงโลกแหงความวางเปลาเริ่มทําการคุมกันเจาตัวเล็ก
อิทธิฤทธิ์ของเขาแปรเปลี่ยนทันควัน นัยนตาสุกใสคูหนึ่งปลอยลําแสงออกมา 2 เสน
โบกกํามือฟาดลงไปยังกอนหินใหญดวยความรุนแรง อานุภาพรายแรง
“ตูม!”
เขาใชพละกําลังของรางกาย มิไดใชเคล็ดวิชาล้ําคามาโจมตีกอนหิน ตอนนี้
พละกําลังสะทานฟา หลังจากกระแทกลงบนนั้นก็ระเบิดกลุมแสงเจิดจาพราตา นากลัว
อยางเปรียบไมได
“แควก”
เสียงแตกระแหงดังขึ้น เจาตัวเล็กดีใจ บังเกิดผลแลว เมื่อครูเขาใชพลังของอักขระ
หากแตพบวากระดูกล้ําคาบนกอนหินจะระเบิดริ้วรอยวิเศษดวยประการนี้ เพื่อทําการ
ปองกัน หลังทดลองอยูหลายครา เขาพบวาหากใชพลังของอักขระนอยมากเพียงใด
กระดูกล้ําคาเหลานั้นจะตอบสนองนอยลง ตอนนี้เขาใชเพียงกําลังของรางกาย กระดูก
ล้ําคาเหลานั้นไมเปลงแสงแตอยางใด ไมปกปองคุมครองกอนหินอีกตอไป
แมจะเปนเชนนี้ กอนหินกอนนี้ก็นาตื่นตะลึงเปนอยางมาก เมื่อหนึ่งแขวนของเจาตัว
เล็กสะบัด อยาวาแตหินกอนหนึ่ง แมแตเหล็กวิเศษก็ถูกฟาดจนแหลกได ทวา เขาใช
พละกําลังมหาศาลสะทานโลกากวาสิบหมื่นกวาชั่ง ก็ฟาดกอนหินใหเกิดเพียงรอยราว
เทานั้น
“เอาอีก!”
ดวงตาเปยมดวยประกาย ใชพละกําลังสุดขีดที่มีทั้งหมดในขั้นแปรผันโลหิต ฟาดลง
ไปบนกอนหิน ราวกับเกลียวคลื่นกระทบฝง กลิ่นอายบาคลั่งสะเทือนปฐพี นาเสียดายที่
ไมมีผูใดพบเห็น
“แควก...”
ในที่สุด ภายใตพละกําลังขีดสุดของรางกาย กอนหินใหญรศั มีหนึ่งจัง้ ก็แตกออกเปน
เสี่ยงๆ กระดูกล้ําคาแวววาวหลนรวงลงบนทุงหญา
“สําเร็จแลว” เจาตัวเล็กดีอกดีใจ เก็บกระดูกชิ้นหนึ่งขึ้นมาโดยเร็ว ขาวสะอาดแวว
วาว เจิดจาพรางพราย
ทันใดนั้น กระดูกชิ้นอื่นๆ ก็เปลงประกาย ทะยานขึ้นฟา นอกจากนี้ กอนหินใหญก็
กลายเปนแสงสายฝน มลายหายไปจากตรงนี้ เจาตัวเล็กกระทืบเทาแลวพูดวา “เอะ ไย
จึงหายไปเสียแลว หยุดนะ!”
สุดทาย เขาไดมาเพียงกระดูกล้ําคาเปลงประกายเจิดจาหนึ่งชิ้น
กลุมคนตาเหลือกอาปากคาง เขาทําสําเร็จแลวจริงๆ!
ผูคนไมกลาแมแตจะเชื่อ แตละคนลูกตาแทบถลนออกมา นี่เปนไปไดอยางไร
เหลือเชื่อเกินไป!
“หลอกลวง ไยคนอยางเขาสามารถทําลายสถิติได?!” ผูคนรองลั่น
ทวา เสียงของเจาตัวเล็กดังกวาพวกเขา กลาวอยางกระหืดกระหอบวา “ไยขาไดแค
กระดูกชิ้นเดียว อีก 3 ชิ้นไปไหนเสียแลว ทําไมจึงลอยหายไปแลวละ?”
อยางไรก็ตาม เขาเต็มไปดวยทาทีละโมบโลภมาก ทั้งกระโดดและเอะอะโวยวายอยู
ตรงนั้น ฝูงชนมองดูอยางหมดคําพูด
“ของขา ของขา ลวนเปนของขา ไยจึงวิ่งหนีไปแบบนั้น?” เจาตัวเล็กรองตะโกน
“ในมือของเจามีชิ้นหนึ่งมิใชหรือ?” คนหนึ่งกลาวอยางโมโห นี่ชางไมยุติธรรมเอา
เสียเลย เจาเด็กหัวขนตรงหนาคนนี้ทําสําเร็จแลว
“เดิมทีมันมีหลายชิ้นนี่นา” เจาตัวเล็กกลาว
ผูคนไมรูจะเอยวาจาใด รูสึกปวดฟน ปวดทอง เจ็บปอด ชายชราผูหนึ่งกลาววา
“หยุดตะโกนไดแลว เจาโจมตีหนทางแหงโลกแหงความวางเปลา กระทําเรื่องเหลือเชื่อ
และบาปนัก ไมถูกลงทัณฑก็เปนเรื่องดีแลว มอบกระดูกล้ําคาแกเจาหนึ่งชิ้นเพื่อรับรอง
วาเจาทําสําเร็จแลว”
“เชนนี้เอง” เจาตัวเล็กเกาหัวแลวเอยเสียงเบาวา “หากขาทําสําเร็จอีกหน จะไดอีก
หนึ่งชิ้นใชหรือไม?”
ฝูงชนชะงักงัน เจาเด็กคนนี้...
บทที่ 89 ชอบดืม่ นมทีส่ ุด
อากัปกิริยาของเจาตัวเล็กนาตะลึงจนปากอากวางอยางแทจริง เขาทําสําเร็จแลว
ผูคนทั้งหมดลวนหมดวาจาจะเอื้อนเอย ยังมีความยุติธรรมอยูรึไม?!
ตองทราบวา นั่นเปนถึงหนทางของโลกแหงความวางเปลา ในอดีต ผูใดอาจหาญ
กระทําการเชนนี้? ทําเชนนี้เทากับทําผิดครรลองคลองธรรมอยางแทจริง เมื่อเจาเด็กหัว
ขนคนนี้เขามาแลว ก็เหมือนกับคนโลภโมโทสัน ทั้งสุดทายยังไดกระดูกล้ําคาชิ้นหนึ่งไป
ครอง
ผูคนสาปแชง ยากจะยอมรับความจริงนี้ได
“เจาเด็กโงคนนี้ยังสามารถทลายขีดจํากัดได ไยขารูสึกวามีกลิ่นทะแมงๆ แตก็ไมรูวา
ตรงไหนทีไ่ มชอบมาพากล!”
“เขาทําลายสถิติได มีอะไรผิดพลาดรึเปลา ประเดี๋ยวขาจะลองดูสักตั้ง จะสูเด็กหัว
ขนไมไดเชียวหรือ!”
เจาตัวเล็กมือกํากระดูกล้ําคา เปยมดวยความดีใจ พลิกไปมองพลิกมามอง กระดูก
อักขระขาวสะอาดอยางไมสิ้นสุด ไหลเวียนแสงเจิดจา โปรงแสงระยิบระยิบ แฝงดวย
อักขระยิ่งใหญ เพียงมองก็รูวา ไมธรรมดา
“เจาหนู พวกขานัดหมายกันไวกอนหนานี้มิใชหรือ หากเจาทําสําเร็จ ขาจะนําแผน
หยกกลมมาแลกเปลี่ยนกระดูกชิ้นนี้” ชายชราเสนผมขาวโพลนยิ้มตาหยีพลางเดินมา
ขางหนา
“ขาไปตกลงกับทานเมื่อใด ตัวขายังตองศึกษามันกอน ไมใหหรอก!” เจาตัวเล็ก
ปฏิเสธ
ชายชราไมยอมรามือ กลาวพลางหัวเราะเหอะเหอะวา “เจาอยากรูวาแผนหยกกลม
คืออะไรมิใชหรือ ขาจะพูดใหเจาฟง”
“ตอนนี้ขาไมมีเวลาฟงแลว ขาตองขัดเกลากระดูกล้ําคาแนะ” เจาตัวเล็กไมแมแตจะ
เงยหนาขึ้นมา ทาทีหนักแนนไมลังเล
เจาเด็กหัวขนคนนี้ ชายชราโมโห เมื่อครูเจาตัวเล็กยังวิงวอนใหเขาชวยชี้แนะ แตเขา
ครานจะพูดใหมากความ ตอนนี้ผลลัพธกลับกัน เขากลับจะอธิบายแกเด็กโงคนนี้วาแผน
หยกกลมคืออะไรดวยตัวเอง แตเขากลับเฉยเมยไมสนใจ
“เจาหนู เห็นแกที่ขาหยิบยื่นอาวุธแกเจาเถิด เจาพิจารณาขายกระดูกล้ําคาแกขาได
หรือไม?” ขางกาย ชายวัยกลางคนพรวดพราดเขามา
“อาคอนนี่เอง” เจาตัวเล็กเงยหนา
ชายวัยกลางคนขมวดคิ้วแลวพูดวา “ขอพูดอีกครั้งวา คอนนั่นไมเกี่ยวของอะไรกับ
ขา”
“มันมิใชของทานหรือ หากไมใชไยทานจึงหยิบยืมแกขาได อีกทั้งยังพูดวาเห็นแก
คอนอันนั้นอีกละ?” เจาตัวเล็กกะพริบตาปริบๆ ดวยความไมเขาใจอยางมาก
“เจาเด็กบานี่!” ชายวัยกลางคนเดือดดาล จวนระเบิดอารมณแลว
ฝูงชนหัวเราะเสียงดัง
ตอมา คนทั้งหมดดวงตารอนเปนไฟ แมในใจคํารามวาไรความยุติธรรม แตยังคง
ลอมกันเขามา ทั้งหมดจดจองไปที่กระดูกอักขระในมือของเจาตัวเล็ก
ทันใดนั้น ศิลาแทงหนึ่งปรากฏขึ้นแกสายตา หอมลอมดวยไอหมอก ดานบนมี
ตัวอักษรหนึ่งบรรทัด ทุกตัวอักษรลวนสองแสงเจิดจา สงเสียงดังครืนครัน
“โจมตีหนทางแหงดินแดนขั้นตนจนแตกออกเปนเสี่ยง รับกระดูกอักขระหนึ่งชิ้น
เปนของกํานัล”
อักษรหนึ่งบรรทัดนี้สั่นไหวไมหยุด ทรงพลังและนุมนวล อีกทั้งยังพรางพรายอยาง
เปรียบไมได สองสวางไปทั่วฟากฟา ราวกับดาบเปนหมื่นดังสงเสียงดังพรอมกัน สะเทือน
ผูคนละแวกใกลเคียง
“สามารถกําเนิดสถิติใหมไดจริงๆ โลกแหงความวางเปลาไดทําการบันทึกไวแลว
ปาวประกาศแกทั่วหลา!” ฝูงชนตะลึงพรึงเพริด จากนั้นก็โจษจันเซ็งแซ
“เจาเด็กโงคนนี้มีชื่อโดยพลัน มาเยือนโลกแหงความวางเปลาครั้งแรกก็กระทําการ
ใหญปานนี้ ชางเปน...” ผูคนหมดความอดทน ชางไรความเที่ยงธรรม
แผนศิลาพรางพราว เขาใกลเจาตัวเล็ก ทําใหเขาไมเขาใจ บนอุบอิบวา “เจายังติด
กระดูก 3 ชิ้นของขาอยูนะ!”
ฝูงชนคลุมคลั่ง เจาคนโลภ นี่มันเวลาไหนแลว ยังอาทรอยูหรือ
“ตัดเรื่องอื่นทิ้งไปใหสิ้น ทําสถิตินี้ใหดียิ่งขึ้นไป” ชายชราผูมีนกหาสีบนไหลกลาว
เตือน
“ขอบพระคุณทานผูเฒาวิหค”
“ไป ไสหัวไป!” ชายชราโมโหจนหนวดเคราตั้งชัน
เจาตัวเล็กเกาหัว จากนั้นยืนขึ้นหนาแผนศิลา ทุกสิ่งอยางลวนแปลกใหม ทวากลับมี
ความรูสึกสลับซับซอนอยูเล็กนอย วาดลวดลายอยูนานก็เขียนอะไรไมออก
“ไมตองเขียนเรื่องราวความเปนจริงก็ได สามารถเขียนตามอําเภอใจไดเลย
อยางเชนสิ่งที่เจาชอบที่สุด รักที่สุด” หญิงสาวใจดีคนนั้นกลาว
เจาตัวเล็กปลื้มอกปลื้มใจ ยกมือขึ้นขีดขีดเขียนเขียนตอเนื่องจนเสร็จสมบูรณ เขียน
อักษร 5 ตัวลงดานบนสุดวา ‘ชอบดื่มนมที่สุด’
อักขระบนแผนศิลาสองแสงแวบวับ รองรอยที่เขาไดขีดเขียนเกิดกระแสไฟโดยพลัน
ประทับลงตรงนั้น เจิดจาพรางพราย
ผูคนทั้งหมดแข็งเปนหิน เงียบสงบลงชั่วขณะ
“อะไรกัน?!” เจาตัวเล็กรูสึกถึงลางไมดี
ชั่วพริบตา กลุมคนระเบิดเสียงหัวเราะ ยากจะหุบปากลงได มีคนบางสวนหัวเราะ
จนตัวงอ
“ชื่อนี้ชางนาสนใจเสียจริง หึหึหึ...”
“เจาเด็กโง เจายังไมหยานมใชรึไม?”
ผูคนหัวเราะไมหยุด
“อะไรนะ ใหเติมสิ่งที่ชอบหรือรักที่สุดมิใชหรือ?” เจาตัวเล็กใบหนาถมึงทึงขึ้นทัน
ควัน นี่ชางนาอายเสียจริง
หญิงสาวใจดีผูนั้นพูดอธิบายวา “ความหมายของขาคือ มิตองเขียนชื่อจริงลงไป
เพียงใชอาวุธล้ําคาสุดที่รัก หรือเหลาสัตวประหลาดนานาพันธุแทนก็เพียงพอแลว ณ ที่
แหงนี้ ขามีนามวา ไฉหลวน[1]”
เจาตัวเล็กใบหนาบูดเบี้ยว เอยถามเสียงเบาวา “แกไขไดรึไม?”
“มิได!” ผูคนพูดขึ้นพรอมกันดวยกระแสเสียงกองกังวาน ไมวาจะมองอยางไรก็ตาม
พวกเขาลวนกําลังหัวเราะเยาะเขาอยู
เจาตัวเล็กอับอายอยางหนัก นี่มันนาขายหนาเกินไป แบกชื่อนี้ไว ตอไปจะมีหนาไป
พบผูคนไดอยางไร?
“เร็วเขา ยังมีอีกบรรทัดหนึ่งยังมิไดสลักลงไป” มีคนเรงเรา
แผนศิลายังอยูใกลเคียง แสงสวยงามไหลเวียน มีพลังงานอันเปนมงคลกระเพื่อมขึ้น
ลง รอคอยเจาตัวเล็กสลักตัวอักษรอีกหนึ่งบรรทัด ขณะนี้ เขามิกลาขีดเขียนตาม
อําเภอใจ เขาละลาละลังอยูนาน ถามวา “หนนี้ตองเขียนอะไร พวกทานไดโปรดพูดให
ชัดเจน”
“เจาทลายขีดจํากัดดานใน เขียนไปตามความจริงก็พอแลว” ชายวัยกลางคนผูหนึ่ง
กลาว
ครั้งนี้ พวกเขาอดกลั้นไมหัวเราะ ตางเครงขรึมกันมาก รอคอยใหเขาลงหมึก
เจาตัวเล็กเขียนตัวอักษรลงไป 2 ตัววา ‘รวดเร็ว’
“ครั้งนี้ไมแยแลวกระมัง?” เขาพึมพํากับตัวเอง
มีคนพยักหนาแลวพูดวา “อืม ไมแยแลว ตามความเปนจริงแลว ภายภาคหนาโลก
แหงความวางเปลาจะใหการคุมกันแกเจาอยางแนนอน ถึงอยางไรเจาก็สรางสถิติใหมใน
ดินแดนขั้นตนแหงนี้”
“มีหลักการเชนนี้ดวยหรือ?” เจาตัวเล็กเบิกตากวาง ทนนั่งตอไปไมไหวแลว
“หากเปนคําลวง อยางนั้นก็ไมมีขอดีเหลานี้แลวละ ตามตํานานกลาววา จะถูกดูแล
อยางใหความสําคัญ ดําเนินการขัดเกลาเปนพิเศษอีกดวย” คนขางเคียงพูดเสริม
เจาตัวเล็กนิ่งอึ้ง หนาดําหนาแดง
ในขณะนี้เอง ไมเพียงแตดินแดนขั้นตน แมแตสรวงสวรรคขั้นสูงกวาก็มีแผนศิลา
ลอยขึ้น รูกันทั่วทุกหนแหง แสงสวางเจิดจาพรางพราย ตัวอักษรไมกี่บรรทัดปรากฏ
“เอะ มีคนทําลายสถิติ!”
“ผูใดกัน บรรลุขั้นไหนกัน?”
...
ตอนนี้เอง โลกแหงความวางเปลาสั่นสะเทือนไปทั่ว ไมวาจะเปนการบันทึกชนิดใดก็
ไมมีผูใดกลาดูหมิ่น เปนตัวแทนขั้นสูงสุดในดินแดนนั้น ควรคาแกการเคารพยําเกรง
“ชอบดื่มนมที่สุด?!”
เมื่อผูคนไดอานตัวอักษรเหลานี้ ก็เกิดทาที่ประหลาดใจ นี่เปนชื่อที่ตั้งซี้ซั้ว ผูใดเบื่อ
หนายถึงปานนี้ ไยจึงใชชื่อนีไ้ ด?
“นี่คงมิใชคนบากามหรอกกระมัง ฮาๆ...” คนไมนอยพากันหัวเราะ
ผูคนอานตอไป เมื่ออานถึงบรรทัดที่วา ‘ทําลายหนทางแหงดินแดนขั้นตน’ เกิดเสียง
อึกทึกคึกโครมขึ้นมาชั่วขณะ
“เปนไปไมได กระทําเรื่องที่ไมนาใหอภัยเชนนี้ได และใหกระดูกล้ําคาหนึ่งชิ้นเปน
ของกํานัลอีก นี่ยังมีความเที่ยงธรรมอยูหรือ?”
“ผูใดกัน ไมมีเรื่องใหกระทําจึงแสหาเรื่อง ไยจึงทําลายหนทางของโลกแหงความวาง
เปลาเชนนี้กัน ปาเถื่อนเกินไปแลว!”
เกิดเสียงเอะอะไปทั่วทุกหนแหง คนทั้งหมดตางสาปแชงไมหยุด
โลกแหงความวางเปลากวางใหญไพศาล แตเมื่อเกิดสถิติใหม คนทั้งหมดตางก็ให
ความสําคัญ เพราะนั่นจะตองเปนผูกลาที่นากลัวเปนแนแท เปนตัวแทนของขั้นสูงสุดใน
แตละดินแดน!
“ปาเถื่อนที่สุด ไอเวรนั่นเปนผูใด ทั้งคนทั้งผีตางเคียดแคน ใหอภัยไมไดเปนอัน
ขาด”
“ตองเบื่อหนายเพียงไหนกัน ถึงกลาทําลายหนทาง ถึงกลายเปนสถิติใหมเชนนี้
เพราะไมมีผูใดเคยทําเรื่องเชนนี้มากอน!”
ผูคนทั้งหมดตางโมโหโทโส สิ่งที่ยอมรับไมไดมากที่สุดคือ โลกแหงความวางเปลา
กลับใหกระดูกล้ําคาหนึ่งชิ้นเปนรางวัล
“กระดูกอักขระที่ฝงตัวอยูบนหนทางเปนวัตถุล้ําคาอันหายาก อาจเปนกระดูกของ
ทายาทอสูรบรรพกาลก็เปนได มีประโยชนในโลกหลานี้มาก”
“หากโจมตีหนทางแลวไดกระดูกล้ําคา อยางนั้นขาเองก็จะลองดูสักหนอย!”
เกิดเสียงดังเซ็งแซไปทั่วทุกหนแหง คนมากมายอิจฉาตารอน
ในวันนี้ ทั่วทั้งโลกแหงความวางเปลาชุลมุนวุนวาย ทุกหนทุกแหงตางปรึกษาหารือ
วา ทําใหหนทางแตกออกไดเยี่ยงไร ‘ชอบดื่มนมที่สุด’ ชื่อประหลาดนั่นถูกกลาวขวัญ
อยางไมหยุดหยอน
“นี่ก็ถือเปนสถิติไดอยางนั้นหรือ ขาคิดวาเปนเพราะไมเคยมีผูใดปาเถื่อนเชนนี้มา
กอน ไมมีผูใดโจมตีหนทางมากอน จึงทําใหเขาเปดสถิติใหมเชนนี้เอง”
วันนี้ คนไมนอยลงมือเปนระนาว หนทางทั่วทุกสารทิศเกิดเสียงดังตูม แตพวกเขา
กลับแพพายจนสิ้น กลับมาตัวเปลา
“ไมไดผลเลย พวกเราอยูในดินแดนที่สูงกวา หนทางแหงสรวงสวรรคเหลานี้คง
ทนทานกวามาก ขาคิดวาควรไปลอง ณ ดินแดนขั้นตนสักตั้ง”
“หากไปยังดินแดนขั้นตน มากสุดก็ทําไดเพียงสําแดงพละกําลังในขั้นแปรผันโลหิต
เทานั้น ยากจะทําลายสถิติเปนแน”
“ขั้นต่ํากวานาจะงายดายกวาดินแดนสุขาวดีเหลานี้อยางแนนอน ขาวาจะลองไป
สํารวจสักครา ไดยินมาวากระดูกที่เปนของรางวัลนั่น อาจเปนของทายาทอสูรบรรพ
กาล”
“อะไรนะ ล้ําคาปานนี้ หากเปนพันธุราชันยที่พบเจอไดนอย ตองเหนือธรรมชาติยิ่ง
กวา ไป พวกเราไปดูสักหนอย!”
โลกแหงความวางเปลาเกิดคลื่นลูกใหญอยางตอเนื่อง การกระทําของเจาตัวเล็ก
เปนเหตุใหทุกหนแหงไมสงบ
ณ ดินแดนขั้นตน แสงดุจสายฝนเปนจุดๆ กอนหินกอนนั้นรวมตัวกัน ปรากฏขึ้นอีก
ครั้ง กระดูกล้ําคาทั้งสี่เรียงตัวกันอีกครา หนทางสมบูรณไรตําหนิ ถูกสรางขึ้นใหมจน
เสร็จสิ้น
กลุมคนออกันอยูตรงนั้น หนึ่งในนั้นมีทานอาคอน ทานผูเฒาวิหค และลุงแผนหยก
กลมอยูขางหนาสุด ทั้งสามเขาไปทีละคน เหนื่อยลาจนกระอักเลือด ก็มิเกิดผลอันใด
“เด็กโง เจาบอกความจริงแกพวกขาเถิด เจาใชความเร็วสูงสุดทําลายมันจริงหรือ?”
อาคอนหายใจหอบ เขาเปนมือดีในขั้นถ้ําสวรรค แตกลับสูเด็กหัวขนไมได เหนื่อยเจียน
ตายอยูบนหินกอนนั้น
“จริงแทแนนอนขอรับ ขารวดเร็วกวาพวกทานนัก!” เจาตัวเล็กพูดเด็ดขาด จากนั้น
ยังเผยเคล็ดลับบางสวน หัวเราะอยางเซอซา ใหพวกเขาเก็บเปนความลับ
ครึ่งชั่วยามผานไป ผูคนรองอยางนาเวทนา ถูกกอนหินใหญสงแสงสะเทือนจนตัว
ปลิว เพราะเขาโจมตีอยางตอเนื่อง เปนเหตุใหกระดูกสัตวเปลงแสง อักขระผนึกกําลัง
“เจาเด็กนมสัตว เจาพูดปด!”
“เจาชางชั่วชา ตีขาใหตายก็ไมเชื่อวาเจาวิ่งจนเกิดความเร็วสูงสุดบนหินกอนนี้!”
ผูคนโมโหโกรธา
เจาตัวเล็กปากแข็ง ตีใหตายก็ไมยอมรับวาพูดเท็จ จากนั้นทองไปทั่วดินแดนขั้นตน
ทําความรูจักสถานการณทั่วทุกทิศ บริเวณที่มีรองรอยของมนุษยนั้นกวางขวางเปนอยาง
มาก และที่หางไกลเปนปาดึกดําบรรพอันไรทสี่ ิ้นสุด
เขารูสึกถึงแววตาพิกลเปนระลอก มีคนมากมายกําลังสอดสองดวยเจตนาไมดีมาก
นัก แตเขาก็ไมสะทกสะทาน ในดินแดนขั้นตนแหงนี้ แมจะบําเพ็ญตนสูงสงเพียงใด ก็
สําแดงไดแคพละกําลังของขั้นแปรผันโลหิตเทานั้น ไมมีอะไรตองกังวลใจ
“ลูกเอย ระมัดระวังตัวดวย มีคนคิดแยงชิงกระดูกล้ําคาของเจา” ผูเฒาวิหคเตือน
“เจาเด็กติดนม หากไมไหวก็ขายมันแกขาเถิด มิเชนนั้นเจาตองไดรับอันตรายเปน
แน” ลุงแผนหยกกลมเตือน
แนนอนวา ทั้งชื่อผูเฒาวิหค อาคอน และลุงแผนหยกกลมเปนชื่อที่เจาตัวเล็กเพิ่ม
ใหกับพวกเขาอยางบังคับ ทําใหพวกเขาเดือดดาล แตกลับทําอะไรมิได
“ไมเปนไรขอรับ ขาไมรบกวนพวกทานหรอก” เจาตัวเล็กเมินเฉย
ฝูงชนหมดวาจาจะเอย เจาไมรบกวนพวกเขา พวกเขาจะไมยั่วยุเจางั้นหรือ พวกเขา
คิดใครครวญเรื่องของเจาเปนทุนเดิมอยูแลว
“พวกเขาตองการตอกรกับเจา” หญิงสาวไฉหลวนกลาวเตือนเสียงเบา นางคิดวา
เด็กคนนี้ซื่อเกินไป อาจเสียเปรียบได
สิ่งที่ทําใหผูคนเหลานี้คิดไมถึงคือ เด็กติดนมคนนี้แววตาเปนประกาย กําหมัดจน
แนน พูดอยางตื่นเตนวา “พวกเขามีของดีหรือไม?”
ฝูงชน “...”
นี่ใครตองการแยงชิงใครกันแน? ฝูงชนเกิดความรูสึกสับสนอลหมาน
หญิงสาวเหลือกตา ความรูสึกกังวลแทนเขานั้นสูญเปลา เด็กโลภคนนี้เฉก
เชนเดียวกับคนพวกนั้น มีความคิดไมชอบกลเชนเดียวกัน
ผูคนที่มีแววตาเหี้ยมโหดเหลานั้นไมบุมบาม ถึงอยางไร ‘ชอบดื่มนมที่สุด’ ก็เปนผู
ทําลายสถิติคนหนึ่ง พวกเขามิกลาหุนหันพลันแลน รอคอยมือดีจากแตละชนเผามาเยือน
เจาตัวเล็กยังคงมีทาทีไมแสหาเรื่อง ไมลงมือกอนเชนเดิม เขาไดเรียนรูอะไรมากมาย
ในดินแดนขั้นตนนี้ สุดทายก็กลับไปหนาแผนศิลา เริ่มตนตรวจสอบสถิติที่ผานมา
“เซียนเมฆเพลิง ทองบนเพลิงสวรรค บรรลุขั้นสูงสุดในดินแดนขั้นตนดวยหนทาง
แหงการดับไฟ”
เจาตัวเล็กมีสีหนาจริงจัง คนคนนี้ตองนากลัวมากเปนแน ทวาเมื่อเขามองเห็นเวลาที่
อยูดานหลังแลว ก็นิ่งอึ้งอยูบ าง นี่เปนการบันทึกเมื่อหมื่นปกอนแลว
เขามองตอไปอยางรวดเร็ว หมายคนหาสถิติในระยะไมกี่ปมานี้
“จันทราปศาจ หนึ่งความคิดดอกไมผลิบาน ไมแหงคืนชีพ พลังชีวิตยิ่งใหญ ไมมีผูใด
อยูเหนือขั้นแปรผันโลหิต”
เขาอานสถิติเปนเวลานาน พบวาบรรทัดนี่ก็เปนเวลานับพันปมาแลว
เจาตัวเล็กพลิกจนถึงดานหลังอยางยากเย็น ชื่ออันคุนเคยกระโดดเขาสูมานตาของ
เขา สือยี่!
สือยี่ ผูมีลูกตาดําสองดวง ผูซึ่งมีพรสวรรคเฉกเชนเทพเจาและผูวิเศษครั้งบรรพกาล
มาเยือนแลว เคยเขาสูโลกแหงความวางเปลา เขาอาจอยูในดินแดนแหงสรวงสวรรคที่อยู
สูงกวาในโลกแหงความวางเปลานี้ก็เปนได
บทที่ 90 ชวงชิง
ดวงตาของเจาตัวเล็กเผยแววตาประหลาดใจ จองมองอยางถี่ถวน บนแผนศิลามี
อักษรไมกี่บรรทัด บันทึกผลลัพธไววา ‘สือยี่ ตาดําสองดวงเปดฟา สังหารราชันแหงสัตว
9 ตัวในหนึ่งสงคราม สรางสถิติผูสังหารราชันมากที่สุดในดินแดนขั้นตน’
นี่เปนสถิติอันนาตื่นตะลึง ราชันแหงสัตวหนึ่งตัวปกครองหนึ่งเทือกเขา พละกําลัง
มหาศาลอยางไมมผี ูใดเทียบ สูงสง หากคนธรรมดาพบเจอเขาตัวหนึ่ง จําตองหลบหนี
อยางสุดชีวิต ไมมีทางตอตานมันได
หากราชันแหงสัตวปะทะกับผูกลาสูงสุดในดินแดนเดียวกัน ยากจะแยงชิงความเปน
ใหญกับมัน มิเชนนั้นจะขนานนามวาราชันอยางนั้นหรือ?
ปกติ พบเจอราชันแหงสัตววายากแลว แตสือยี่กลับถูกลอมโจมตีถึง 9 ตัวในหนึ่ง
สงคราม อีกทั้งลวนถูกสังหารจนสิ้น ผลการรบของเขาถือไดวาโชติชวงอยางที่สุด!
สถิตินี้ไมธรรมดา มีมูลคามหาศาล นี่เปนสิ่งที่บงบอกพลังการตอสูที่แทจริง และยัง
เปนการดํารงอยูขั้นพื้นฐานที่ผูคนขัดเกลาตนมากมายตามหา
“เอะ เจากําลังดูสถิติเหลานี้หรือ สิ่งที่บันทึกในนี้ลวนเปนบุคคลยิ่งใหญ มีชอื่ อยูบน
แผนศิลา อยางนอยก็สามารถประกาศศักดาสะเทือนหนึ่งอาณาบริเวณได” อาคอน
พรวดพราดเขามาแลวกลาวเชนนี้
“นั่นสิ ขาเองก็ถูกบันทึกไวบนนี้” เจาตัวเล็กเชิดอกนอยๆ ของตน ใบหนาเต็มไป
ดวยความทะนงองอาจ
อาคอนลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท เมื่อไดฟงความพลันเหมือนกับกินซากหนูเขาไป หมด
ถอยคําจะพูดโดยสิ้นเชิง
“เมื่อเทียบสถิติที่เจาทําไวกับผูอื่นนั้นแตกตางกันอยางมาก เจามันแคฉวยโอกาสใช
เลหกลทําลายหนทางของโลกแหงความวางเปลา ของผูอื่นเขาไดมาเพราะตอสูอยาง
สุดแรงเกิดโดยแทจริง”
“ทานลุงแผนหยกกลม ทานพูดอะไรนะ ไมอยากแลกกระดูกล้ําคาแลวใชรึไม?” เจา
ตัวเล็กชายตามองเขา
“แลก ขาบอกวาเจาเปนผูสูงสงแตกําเนิดแนะ มาเถิดลูกเอย เราเรงแลกเปลี่ยนกัน
เถิด” ลุงแผนหยกกลมหนวดขาวโพลนตั้งชันขึ้น คิ้วคลายปมนัยนตายิ้มแยม
“รอขาศึกษาอยางถองแทกอน” เจาตัวเล็กกลาวคําพูดฟาดหลังกะโหลกเขา
รอยยิ้มของลุงแผนหยกกลมคางทันที รอเจาศึกษาจนถองแทนั่นตองใชเวลากี่สิบป
กัน ขาจะไดเห็นวันนั้นรึ? อีกอยาง เจาเด็กเวรนี่ ขามิไดชื่อแผนหยกกลม!
ผูเฒาวิหคเองก็กําลังมองดูแผนศิลา กลาววา “โอ เจาเห็นสถิติแลวใชไหม สือยี่ไม
ธรรมดาเสียจริง กลาวขานวาเปนผูสูงสงแตกําเนิด”
“สังหารราชันแหงสัตว 9 ตัวในหนึ่งสงคราม ผลการรบนี้ชางนาตื่นตะลึง” หญิง
สาวไฉหลวนแลบลิ้น
“ผูสูงสงแตกําเนิดรึขอรับ?” เจาตัวเล็กนัยนตาสั่นไหว ราวกับไดยินกระแสเสียงครั้ง
อดีตบางสวน ภาพเหตุการณบางอยางปรากฏขึ้นแกสายตาอยางเลือนราง
เด็กหญิงงดงามในดวงตาคลอน้ําตาคนหนึ่ง พูดย้ําอยางไมหยุดหยอนกับเด็กคนหนึ่ง
ที่ดวงตาหมนแสงไรแววบนเตียงผูปวย เด็กที่ผายผอมและออนแรง หมายเรียกคืนความ
ทรงจําแกเขา กลาวเสียงสะอื้นวา “เจาเปนผูสูงสงแตกําเนิดอยางแทจริง ขาคืออาหมัน
...”
“นามวาสือยี่ชื่อนี้สะเทือนไปทั่วโลกหลามาเนิ่นนานแลว มีเพียงไมกี่ที่ไมรูจัก นี่เปน
อัจฉริยะไมมีผูใดเทียม โดดเดนแตอดีตยันวันนี้ มีกี่คนจะเทียบเทียมได?” อาคอนพยัก
หนา
“ทานอาคอน หาราชันแหงสัตวแกขา 10 ตัว ขาจะทําลายสถิติของเขาทันที” เจา
ตัวเล็กกลาว
“อะไรนะ? เจาเด็กโงพูดอะไรไมคิดอีกแลว!” อาคอนสะดุงโหยง
ผูเฒาวิหคสายหนา ดินแดนขั้นตนตามหาราชันสัตวงายเสียที่ไหน ลวนไหนมาไหน
เพียงลําพัง 9 ตัวรวมตัวกัน รวมกันโจมตีสือยี่ นั่นเปนกรณีพิเศษและความมหัศจรรย
หากพูดตามความเปนจริงแลว นี่พิสูจนความแข็งแกรงสูงสุดของผูมีตาดําสองลูกไดเปน
อยางดี
“อยาทําเรื่องโงๆ ระวังจะเอาชีวิตตัวเองเขาไปเสี่ยง หากวาตายลงตรงนี้ จําตอง
รักษาตัวในชีวิตจริงนานหลายเดือน สิ่งแลกเปลี่ยนรายแรงเกินไป สถิติของบุคคลนั้นมิใช
สิ่งที่เราจะทําลายได มันตองถูกบันทึกไวนับพันนับหมื่นปเปนแน!” ทานลุงแผนหยกกลม
กลาว
“บุคคลนั้นเหนือธรรมชาติจริงๆ หรือขอรับ?” เจาตัวเล็กมีทาทีสบายๆ ไมมีความ
เครงขรึมและจริงจังแมแตนอย
“แนนอน ขาไดยินวาเขาบรรลุเขาสูดินแดนแหงสรวงสวรรคที่อยูสูงกวาแลว กําลัง
เสาะหาลูกปเซี๊ยะกับทายาทของเถาวูแนะ หมายรบกับสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกรงที่สุดปาน
นั้น!” ลุงแผนหยกกลมกลาวอยางสุขุม
เมื่อไดยินดังนั้น ผูคนทั้งหมดตางมีสีหนาจริงจังและหนักแนนขึ้นมา ในดินแดนขั้นสูง
เหลานั้น มีทายาทอสูรยิ่งใหญนานาชนิด แมกระทั่งลูกอสูรบรรพกาลเลือดบริสุทธิ์
แตผูกลาแหงเผาพันธุมนุษยที่อาจหาญทาทายสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ ลิขิตแลววาจะทิ้งชื่อ
ไวบนหนาประวัติศาสตร อีกทั้งจะเขาสูสงครามรอยเผาพันธุเปนแน ทําการแยงชิงความ
เปนใหญ ชวงชิงผลประโยชนแกเผาพันธุมนุษย
“เจาตองเขาใจวา เขากลาประลองกับลูกปเซี๊ยะ สูรบกับทายาทของหยาจื้อ
พละกําลังของเขามหาศาลเพียงใด? แมแตรุนอาวุโสยังตองหวาดผวา!”
ผูคนในเหตุการณลวนทอดถอนหายใจ บางคนกําเนิดเพื่อเปนเทพเจา เปนผูวิเศษ
ลิขิตไวแลววาจะสองประกายไปทั่วปฐพี ไมมีผูใดขัดขวางการกาวสูจุดสูงสุดของพวกเขา
ได
“อยางนั้นก็ใหเขาประลองกับลูกปเซี๊ยะ สูรบกับหยาจื้อเถิด จากนั้นขาคอยไปลม
เขาดีไหม?” เจาตัวเล็กเมินเฉย กลาวคําตามอําเภอใจ
ฝูงชนยังคงถอนหายใจเชนดังเดิม ในภวังค เมื่อไดยินดังนั้นตางรูสึกราวกับวาถูก
รองเทาฟาดหนา ทุกครั้งที่เจาเด็กหัวขนคนนี้อาปาก ไยจึงทําลายบรรยากาศตลอดเวลา
กันนะ? ผูคนลวนโมโหโทโส
“หึ สือยี่สรางสถิติใหมอยางไมหยุดไมหยอน สถิติเมื่อครูอันตรายเกินไป เจามาดูอัน
นี้สิ ใชเพียงพลังกายกระโดดขึ้น ไมใชอักขระกระดูก ขึ้นสูยอดเขาในหนึ่งกาว” อาคอนชี้
ไปยังแผนศิลา มองไลลงไป ผลปรากฏวายังมีอีกหนึ่งสถิติ
“แข็งแกรงมาก เพียงหนึ่งกาวเดิน ก็สามารถทะยานฟาไดทันที ขึ้นเหยียบยอดเขา
นี่เปนการระเบิดพลังที่นากลัวเพียงใดกัน?!” หญิงสาวไฉหลวนใบหนาเต็มไปดวยความ
ตะลึง รูสึกวามันนาเหลือเชื่อ
“นาหวาดผวาเสียจริง การระเบิดพลังเชนนี้นากลัวเกินไปแลว” ผูเฒาวิหคอุทาน
ดวยความตะลึง
ประการฉะนี้เพียงพอที่จะเห็นเบาะแสบางอยาง สือยี่มีกําลังรบอันไมมีผูใดทัดเทียม
สถิติของเขามีมูลคาสูงสง เพียงเห็นก็เกิดความเคารพยําเกรง
“ทานอาคอน ผูเฒาวิหค และทานลุงแผนหยกกลม พวกทานลองไปเสาะหาเขาลูก
นั้นใหพบ ขาจะยางกาวทําลายสถิติของเขาเสีย” เจาตัวเล็กกลาว
“เจาเด็กนี่หมดทางเยียวยาแลว” พวกเขาทั้งรูสึกนาโมโหและนาขัน
ทันใดนั้น คนหลายคนเดินมาพรอมกัน บุรุษที่เดินนําผูนั้นเผยฟนขาวสะอาดทั้งปาก
แลวพูดวา “นองชาย ขอคุยดวยสักประเดี๋ยว”
“อยาไปตอบรับ พวกเขากําลังหาเรื่องเจา คงตองการกระดูกล้ําคาในมือเจาเปน
แน!” ผูเฒาวิหคกลาวเตือนเสียงเบา
เหนือความคาดหมายของพวกเขา เมื่อเจาตัวเล็กเห็นคนกลุมนี้ ดวงตาเผยความชั่ว
ราย ตอบรับอยางสบายอกสบายใจ เพียงครูก็เดินไปดวยทวงทาที่คอนขางจะนาหมั่นไส
ลุงแผนหยกกลมและอาคอนตางตะลึงงัน
“นองชาย ขาไดยินวาเจาทําลายหนทางของโลกแหงความวางเปลา ไดรับกระดูกล้ํา
คาชิ้นหนึ่ง ใหพวกขาเชยชมสักหนอยไดหรือไม?” ชายหนุมผูนําคนนั้นกลาวดวยรอยยิ้ม
“ไดขอรับ!” เจาตัวเล็กยิ้มแยม ยื่นกระดูกล้ําคาชิ้นนั้นใหทันที
ไยเด็กคนนี้ซื่อบื้อเพียงนี้? อาคอนกับลุงแผนหยกกลมจองตาเจียนถลน ชาง
หลอกลวงงายเสียจริง!
คนรอบขางสงเสียงดังอื้ออึงขึน้ มาโดยพลัน หากรูวางายดายปานนี้ ไยตองคิดหาเลห
เหลี่ยมอันใด ไมตองติดตอมือดีแหงตระกูลแมแตนิด หลอกเอาไปเชนนี้ก็เพียงพอแลว
สําเร็จงายดายเหลือเกิน กลุมคนเสียใจแตก็ไมทันการณเสียแลว นาจะมาใหไวกวานี้
เด็กคนนี้ชางโงเขลาเหลือเกิน
“อืม ไมเลวเลย” ชายหนุมผูนําคนนั้นพยักหนา จับกระดูกล้ําคาจองมองอยางไม
วางตาแลวพูดวา “นี่ ใหแผนหยอกกลมแกเจา 10 ชิ้น ขาขอซื้อกระดูกล้ําคาชิ้นนี้แลว
กัน” เมื่อพูดจบ เขาทิ้งวัตถุแวววาวรูปรางแข็งและกลมบางสวนไว จากนั้นหันหลังแลว
เดินไป
“ขาไมขาย” เจาตัวเล็กสายหนา
ทวาชายหนุมไมสนใจไยดี ไมยั้งกาวเดินแมแตนอย เดินยางสามขุมไปขางหนาจะ
จากไปทันที แตคนขางกายเขากลับหันหลังมายิ้มเยาะดวยแววตาเยาแหย แมแตพวกเขา
ก็ไมคิดวาจะงายดายปานนี้
“ขาบอกแลววาไมขาย พวกทานไมไดยินหรืออยางไร?!” น้ําเสียงของเจาตัวเล็ก
แปรเปลี่ยนเปนเสียงสูง สีหนาเครงขรึมขึ้นทันควัน
“นองชายจะพูดเชนนี้ไมได ของอยูในมือของพวกขาแลว เจาเองก็เห็นพองตองกัน
แลว” คนฝงตรงขามเอยยิ้มๆ ดวยทาทีที่วาเจาจะทําอะไรขาได
“พูดเชนนี้คือทานจะใชกําลังแยงชิงไปอยางนั้นรึ?” เจาตัวเล็กวิ่งเขามาอยางเดือด
ดาล
คนกลุมนี้ใบหนานิ่งเฉยขึ้นมาทันที ไมพูดอะไรใหมากความ ลงมือทันที พวกเขามิ
กลาบุมบาม เนื่องจากเจาตัวเล็กไดสรางสถิติแลว
แนนอนวา พวกเขาก็มิไดเกรงกลัวมากนัก เพราะสถิติที่วานี้ไมโดดเดนมากนัก
เพียงแตในอดีตไมมีผูใดลงแรงทําเรื่องเชนนี้ ดังนั้นสถิติของเจาตัวเล็กนั้นกลาวเกินจริง
มากไป
“ชริ้ง”
อักขระมากมายลอยมา ราวกับดอกไมไฟแตกกระจาย ปกคลุมเจาตัวเล็กไว คน
เหลานี้แสดงทาไมตายหมายจัดการเขาใหสิ้น
“โครม!”
เจาตัวเล็กวองไวกวา หนึ่งกาวไถลไปไกลนับ 10 หมี่ จากนั้นสะบัดมือทั้งสองขาง
จันทราวิเศษ 2 ดวงปรากฏขึ้น ปะทะใสกัน ผสานเปนแผนหินโมสีเงินขนาดใหญ ทําลาย
ดานหนาจนเรียบ
อักขระแหลกละเอียดจนหมด คนเหลานี้สะเทือนจนตัวปลิว เจาตัวเล็กพุงเขาไปแยง
ชิงกระดูกล้ําคากลับคืนมา
“เครง”
กลางนภา กระแสไฟสีแดงสะทานฟา กระแสเสียงนากลัว นั่นเปนแสงสีแดง 18
สายลอยมา เกิดเสียงดังเกรียวกราว พันเกี่ยวแสงสวางกลุมใหญไว กลิ่นอายนากลัว มีจิต
สังหารของอสูรดึกดําบรรพอันทําใหผูคนอกสั่นขวัญแขวน
“อาวุธล้ําคา!”
“เปนวัตถุล้ําคาที่ยิ่งใหญปานนี้นี่เอง!”
ฝูงชนรองดวยความตื่นตะลึง จองมองอยางถี่ถวน มันคือขนนกสีแดง 18 เสน แตละ
เสนยาวเกือบ 10 กวาหมี่ ลอยมาเชนนี้ ประหนึ่งหอกยาวสีเลือด 18 เลม มีกลิ่นอายมุง
สังหารอันนาหวาดกลัว
ไมตองใครครวญก็ยอมทราบวา นี่เปนขนล้ําคาของทายาทอสูรปกษา ถูกปลอย
กระจายมาเชนนี้ บดบังแผนฟานี้เพื่อทําใหเขาอับจนหนทาง หมายสังหารเจาตัวเล็ก
คนที่ถูกสะเทือนจนตัวลอยหัวเราะเย็นเยือก พวกเขารูวา มือดีแหงตระกูลมาเยือน
แลว อาวุธล้ําคาที่แข็งแกรงทีส่ ุดเชนนี้ ครอบครองไดแคบุคคลผูมีความสามารถเทานั้น
เจาตัวเล็กนัยนตาสวางวาบ อักขระในมือผนึกกําลัง พุงออกไปขางหนา โตตอบขน
แดงเสนหนึ่ง ระเบิดกลุมแสงเจิดจาพราตา แสงสีแดงทวมทนทองฟา ลวดลายดุจ
กระแสไฟแนนขนัด
นี่เปนกลิ่นอายที่นากลัวอยางที่สุด ผูชมเหตุการณตางลอยละลิ่ว ผูคนมากมายสง
เสียงกรีดรอง
“ชางเปนอาวุธล้ําคาที่ยิ่งใหญเสียจริง ตองเปนของชนเผาใหญที่เลื่องชื่อลือนามเปน
แนแท มิเชนนั้นคนทั่วไปจะใชมันไดหรือ?!”
ผูคนเผยสีหนาขึงขัง มีชนเผาใหญเคลื่อนไหว หมายชวงชิงกระดูกล้ําคาของเด็กคน
นั้น นี่ทําใหผูคนตื่นเตน ควรแคแกการจับตามอง
อักขระระหวางสองมือของเจาตัวเล็กหนาแนนมากยิ่งขึ้น ประหนึ่งเปลวไฟกําลังลุก
โหม ปะทะเขากับขนนกเสนที่สอง หนนี้เกิดเสียงสะทานฟาสะเทือนโลกา อานุภาพ
รุนแรงเหลือเกิน
ขนนกสีแดงเสนนี้สาดกระจายแสงสีแดง ดุจดั่งภูเขาไฟปะทุ แสงสีแดงประหนึ่ง
ลาวาเกลือกกลิ้ง แผเต็มผืนฟา รอนระอุจนผูชมตางอกสั่นขวัญแขวน อาวุธล้ําคาเชนนี้
พบเจอไดยากมาก อนุภาพรายแรงถึงเพียงนี้
หากเปนคนทั่วไป เพียงการเผชิญหนึ่งครั้งคงกลายเปนเถาถาน และฝายตรงขามมี
ขนสีแดงทั้งหมด 18 เสน จะตองตอสูอยางไรอีก? จะตองเปนผูมีอิทธิพลใหญอยางที่
สุดกําลังลงมือเปนแนแท
แตสิ่งที่ทําใหผูคนยิ่งตกตะลึงคือ เด็กคนนั้นตานทานได และกําลังตอบโตอาวุธล้ําคา
เกิดเสียงครืนครัน สะเทือนทุกหนแหงจนสั่นไหว
พวกที่แยงชิงกระดูกล้ําคาของเจาตัวเล็กแลวสะเทือนจนตัวลอยเหลานั้นตางยิ้มเย็น
มือดีแหงตระกูลปรากฏตัวแลว แมเด็กคนนี้จะเกงกาจก็พลิกฟามิได
ทันใดนั้น ความเหี้ยมโหดและความเย็นเยือกของพวกเขาก็แชแข็งอยูบนใบหนา เจา
ตัวเล็กปรากฏตัวขึ้น โซอักขระลอยออกมา รอยพวกเขาเปนพรวนแลวหิ้วขึ้นมา
กลายเปนโลรางกายมนุษย ใชปองกันอาวุธล้ําคา
“ชริ้ง”
แสงสีแดงทะลวงผาน เปลวไฟทวมทนทองฟา มีคนกวา 4-5 คนถูกทะลวงทันที
จากนั้นกลายเปนกลุมขี้เถา ตายอยางอนาถ
คนที่เหลือหวาดกลัวจนวิญญาณหลุดออกจากราง เจาตัวเล็กกลับมิไดใชพวกเขา
ขัดขวางขนสีแดง แตเขวี้ยงพวกเขาไปอีกที
แสงสีแดงกะพริบขึ้นอีกหน ขนวิเศษ 18 เสนปรากฏขึ้นอีกครา ลอยมาพรอมกันราว
กับหอกแหงเทพเจาสงคราม 18 เลม แสงสวางดุจเลือด ยอมฟากฟาจนแดงฉาน
“ตูม”
รางกายของเจาตัวเล็กมีกระแสไฟฟาผุดขึ้นเปนเสนๆ พันเกี่ยวไหลของเขาไว เขาพุง
ตัวเขาใสขนสีแดงหลายเสนที่ลอยเขาหาตน เกิดการปะทะอยางรุนแรง จากนั้นพุงไป
ขางหนา
“อา...”
ดานหลังเกิดเสียงรองโอดครวญดังขึ้น ผูคนที่ถูกเจาตัวเล็กเหวี่ยงลงกับพื้นลวนถูก
ขนสีแดงทะลวง กลายเปนเถาถาน เสียชีวิตกันจนสิ้น
ผูชมสงครามขวัญหนีดีฝอ นี่เปนการฆาปดปาก เปนวิธีการของชนเผาใหญ ไม
ยินยอมใหเปดเผยสถานะ จึงกําจัดใหสิ้นซาก
เจาตัวเล็กแววตาเย็นเยือก ตะโกนบอกวา “ไปเลย!”
อักขระสีเงินเนืองแนนระหวางแขนทั้งสองขาง มือคูนั้นวาดลวดลาย เกิดแผนรองโม
หินสีเงินขนาดใหญปรากฏขึ้นดานหนา หมุนอยางเชื่องชา เกิดเสียงอันนากลัว ราวกับ
ยอดเขาสีเงินสองลูกกําลังเสียดสีกัน
“ตูม”
ขนนกสีแดงกระแทกชนจนเกิดการสั่นสะเทือนอยางรุนแรง แผนรองโมหินไม
เสียหาย ยังคงหมุนอยูเชนเดิม หมายบดขยี้อาวุธล้ําคาใหแหลก
ฝูงชนตางสูดลมหายใจเย็น เคล็ดวิชาล้ําคาของเด็กคนนี้ชางนาตื่นตะลึง สามารถสู
รบกับขนนกแดงยิ่งใหญปานนี้ได มันทําใหผูคนตางหวาดผวา
“เครง”
ประกายไฟแตกกระเด็นเซ็นซาน แผนรองโมหินสีเงินปะทะกับขนนกสีแดงอยาง
รุนแรง ระเบิดเกลียวคลื่นประหนึ่งทะเลคลั่งโหมซัดสาดอยางนากลัว
“ขานึกออกแลว ขาเคยพบเจออาวุธล้ําคาเชนนี้ในดินแดนสวรรคขั้นสูงกวาอยูครั้ง
หนึ่ง มันเปนอาวุธของทานชายชื่อยวิ๋น” ทันใดนั้น มีคนเอยปากบอกกลาวเชนนี้
เห็นไดชัดวา คนที่พูดมาจากดินแดนสวรรคขั้นสูงกวา มายังดินแดนขั้นตนแหงนี้ มิ
เชนนั้นคงไมรูเรื่องเชนนี้
“อะไรนะ เปนไปไมไดหรอก ทานชายชื่อยวิ๋นเปนถึงผูกลาหนุมเลื่องชื่อแหงโลกแหง
ความวางเปลา เขาจะมาดวยตนเองอยางนั้นหรือ?” คนมากมายตางอุทานอยาง
ประหลาดใจ
ดวยเหตุนี้จึงสามารถรูวา ทานชายชื่อยวิ๋นผูนั้นนากลัวเพียงใด ทําใหผูคนมากมาย
เพียงนี้ตางหวาดกลัว
“อาวุธล้ําคานี้มีความเปนมาอันยิ่งใหญ อาจเปนขนล้ําคาของทายาทอสูรบรรพกาล
ก็เปนได เปนวัตถุล้ําคาแหงชนเผาไดเชียวละ มันมีคลื่นชีวิตของตน เนื่องจากมันสามารถ
ปรากฏตัวในโลกแหงความวางเปลานี้ได” มีคนกลาวเชนนี้
เจาตัวเล็กไมไดสนใจเรื่องเหลานี้ นี่เปนดินแดนขั้นตน ไมวาผูใดจะมาเยือน ลวนถูก
ควบคุมใหอยูในขั้นแปรผันโลหิต เขาไมเกรงกลัวแมแตนิด
“โครม”
แผนรองโมหินสีเงินขยายใหญขึ้น จวนบดบังไปทั่วฟากฟา ขัดขวางขนนกสีแดงอยู
ภายนอก ยากจะหลนรวงลงมา ทําอันตรายเขาไมได
เสียงตูมดังขึ้น เจาตัวเล็กออกแรงกระทืบเทาทั้งสองขาง จากนั้นพุงขึ้นสูงนับ 100
หมี่ ชั่วพริบตาก็รวงลงละแวกใกลเคียงชายหนุมคนนั้น กลาววา “หลบซอนอยูตรงนี้ คิด
วาขาจะหาเจาไมพบหรือ?!”
“ปง”
หนึ่งฝามือฟาดลงไปเกิดเสียงดังดุจสายฟาฟาด เพียงพละกําลังของรางกายก็
เพียงพอจะสะทานโลกา หากรวมพลังของอักขระเขาไปดวยแลวละ? หนึ่งฝามือฟาดลง
ไป บดอักขระของชายหนุมคนนี้จนแหลกละเอียด
“พรึ่บ”
ชายหนุมกระอักเลือดคําใหญ ตัวลอยพาดขึ้น กระดูกของรางกายครึ่งซีกดังกรอบ
แกรบ หักอยูภายในรางกายไมเปนชิ้นดี มองดูแลวออนเปลี้ยเพลียแรง
“แข็งแกรงเสียจริง หนึ่งฝามือฟาดลงไปจนเจาของขนนกสีแดงลอยลิ่ว!”
“แมแตอาวุธล้ําคาที่ยิ่งใหญปานนี้ยังตานทานไมได!”
“เอะ เขาไมใชทานชายชื่อยวิ๋น นี่เปนนองชายของเขา ขาเคยเจอมากอน”
ชวงเวลาที่ชื่อเฟงรวงลงบนพื้น ขนนกวิเศษ 18 เสนก็อับแสง หดตัวเล็กลงอยาง
รวดเร็ว ปลิวสูพื้นดิน
เจาตัวเล็กพุงตัวไปรับไวในฝามือ พวกมันกลายเปนพัดสีแดงหนึ่งเลม นี่เปนลักษณะ
ที่แทจริงของอาวุธล้ําคา ชายหนุมเมื่อครูไมมีความสามารถใชมันได ดวยเหตุนี้เขาจึงแยก
ใชมัน
“หยุดนะ!” มีคนตะโกนเสียงดัง
ปรากฏกลุมคนไมไกลนัก ผูนําลวนเปนชายวัยกลางคน มีกลิ่นอายอันนาเกรงขาม
เพียงมองก็รูวาเปนผูมีศักดิ์สูงมาแตชานาน
ผูชมสงครามตะลึงงัน ไยจึงมีกลุมคนเชนนี้ปรากฏตัวขึ้น เพียงมองก็รูวาเปนบุคคล
สําคัญจากตระกูลใหญ กระดูกล้ําคาในมือของเด็กคนนั้นวิเศษมากหรือ?
“กระดูกล้ําคาชิ้นนั้นตองมีคาอนันตเปนแน อาจใชในการสรางหนทางของโลกแหง
ความวางเปลาก็เปนได!”
“ไมผิด ดวยเหตุนี้เอง มันจึงสะเทือนชนเผาใหญเชนนี้!”
ผูคนเดาสถานะไดอยางรวดเร็ว
“ปลอยมือเสีย คืนพัดล้ําคามา!” คนกลุมนั้นตะโกนลั่น เมื่อดวงตากะพริบ มีอักขระ
ไหลเวียนอยู นากลัวอยางที่สุด
“พวกทานบอกใหปลอยมือขาตองปลอยมืองั้นหรือ? หมอบคลานลงไป นอมรับการ
ปลนชิงซะดีๆ!” เจาตัวเล็กกลาว ไมเกรงกลัวแมแตนิด ในดินแดนขั้นตนแหงนี้ แมจะเปน
ถึงหัวหนาเผา หรือจะเปนกษัตริยแหงแควนใด ก็สําแดงไดเพียงพฤติการณในขั้นแปรผัน
เลือดเทานั้น
“วิ้ง”
เขาเด็ดขนนกออกมาหนึ่งเสน สะบัดไปตามทิศทางลม ยาวขึ้นกวา 10 จั้งกวาดไป
ขางหนาทันที
“ปง”
ผูคนดานหนามีฐานันดรศักดิ์สูงอยางยิ่ง แตกลับเปนหนังหนาไฟ[1] สองคนในนั้น
สะเทือนจนตัวลอยละลิ่ว ผูคนที่เหลือลาถอย
เสียงซวบดังขึ้น เจาตัวเล็กสําแดงขนนกสีแดงอีกครา ฟาดสองคนนี้จนนอนแผหลา
กับพื้น จากนั้นพุงเขาไปอยางรวดเร็ว เหยียบย่ําลงบนรางกายของพวกเขา
ผูคนตางตะลึงพรึงเพริดจนตาตั้งขึ้น นี่ตองเปนบุคคลสําคัญแหงชนเผาใหญเปนแน
แตกลับถูกเหยียบย่ําเชนนี้ มันตองเปนขาวคราวสะทานวงการ สะเทือนไปทั่วทุกสารทิศ
อยางแนนอน
..............................
[1] หนังหนาไฟ แปลวา ผูที่ไดรับความเดือดรอน หรืออันตรายกอนผูอื่น
บทที่ 91 ปลนชิงใหถงึ ทีส่ ุด
“โครม”
ผืนดินสั่นสะเทือน สองคนใตฝาเทาสือฮาวดิ้นพลาน ยามขยับฝามือ พื้นดินก็
แตกแยก กอนหินแตกละเอียด ราวกับสัตวดึกดําบรรพสองตัวกําลังคลุมคลั่ง ปรารถนา
จะลุกขึ้นดวยพละกําลังมหาศาล
เสียงดังปง เจาตัวเล็กกระทืบเทาลงบนแผนหลังของพวกเขาสองที สองคนนี้รองโอด
ครวญเสียงทุมต่ํา เลือดไหลออกจากมุมปาก หมอบอยูกับพื้นอยางโรยแรง ยากจะขยับ
เขยื้อน
ทั้งผืนปาเงียบสงัด ไมตองพิสูจนอะไร เพียงทวงทาเมื่อคนเหลานี้ปรากฏตัวขึ้น ก็รู
วาเปนผูมีอิทธิพลใหญ ตองเปนผูอาวุโสแหงชนเผาใหญใดๆ เปนแนแท
ทวา ตอนนี้กลับถูกเจาตัวเล็กใชสองขาถีบจนคว่ํา ย่ําไวใตฝาเทา นี่มันนาตื่นตะลึง
จนอาปากคาง เด็กที่มองดูซื่อบื้อ แตกลับแข็งแกรงถึงเพียงนี้เชียวหรือ?!
“ชางนาตกใจเสียจริง ผูสามารถทําลายสถิติยอมมีจุดเดนของตน แมจะเปนเพียง
เด็กก็มิควรตัดสินตามกฏธรรมชาติเชนนี้!” กลุมคนอุทานดวยความตกใจ
โดยเฉพาะอาคอน ผูเฒาวิหคและลุงแผนหยกกลม จองจนลูกตาจะถลน เจาเด็กขน
ที่เถียงพวกเขาฉอดๆ เมื่อครู ยิ่งใหญเพียงนี้เชียวหรือ? มองพลาดไปอยางแทจริง!
พวกเขารูสึกมาโดยตลอดวาเรื่องราวไมชอบมาพากล มักจะทําเรื่องที่ทําใหหมดคํา
จะเอย เมื่อครูยังกังวลใจแทนเขา เกรงวาเขาจะถูกชวงชิงเอากระดูกอักขระไป มี
อันตรายถึงชีวิต ทวาตอนนี้ มองดูแลวมิใชเรื่องใหญอันใด เจาเด็กคนนี้เกงกาจเพียงนี้ ถึง
วาเมื่อไดยินวาจะมีคนชวงชิงของของเขา กลับเผยแววตามีเลศนัย นั่นคือการทักทายคน
ประเภทเดียวกันรึ? เห็นไดชัดวาเปนการคาดหวังและรอคอย ชางไรคุณธรรมเสียจริง!
“เจาหนู กรุณาปลอยพวกเขาทั้งสองดวย”
ฝงตรงขาม กลุมคนมีสีหนาบูดเบี้ยว พวกเขาเปนตระกูลใหญที่รงุ โรจนเพียงใด ผู
อาวุโสทั้งสองกลับถูกเจาเด็กหัวขนคนหนึ่งฟาดจนคว่ํา ย่ําอยูใตฝาเทา หากเรื่องนี้แพรง
พรายออกไป ยังมีเกียรติอันใดอยูอีก?
โชคดีเพียงอยางเดียวคือ นี่เปนโลกแหงความวางเปลา พวกเขาซอนเรนสถานะและ
ตัวตนที่แทจริงไว มิเชนนั้นคงเปนเรื่องนาขันในวงการชนเผาใหญ
“ไมปลอย” เสี่ยวสือฮาวน้ําเสียงเด็ดขาด มีเพียงสองตัวอักษร
กลุมคนฝงตรงขามมีแววตานากลัว มองเขาอยางเย็นเยือก เปนแคเด็กคนหนึ่ง อาจ
หาญทาทายอานุภาพของชนเผาใหญของพวกเขาหรือ? สมควรกําราบทันที
“ลูกเอย รามือเถิด ขาจะใหพวกเขาชดใชแกเจา” ชายวัยกลางคนผูหนึ่งกลาว
หมายใชคําพูดควบคุมเขาไว
“พวกทานไมเพียงอยากชวงชิงกระดูกล้ําคาในมือของขา อีกทั้งจะสังหารขา สุดทาย
ก็กลาวถอยคําดั่งไลน้ําหมึกผานเบาๆ เชนนี้ก็จบเรื่องหรือ?” เจาตัวเล็กสงบมาก
คนทั้งสองที่ถูกเจาตัวเล็กเหยียบอยูใตฝาเทา มีอํานาจเทียบผูนําสามคนที่อยูฝงตรง
ขามมิได สามารถเห็นไดจากพฤติการณการบําเพ็ญ เมื่อครู คนเหลานี้ตางประสบกับการ
โจมตีในเวลาเดียวกัน มีเพียงพวกเขาสองคนที่ถูกฟาดจนคว่ําเทานั้น
แมจะเปนเชนนี้ ฐานันดรและสถานะของทั้งสองก็สูงสงมาก ความนาเกรงขามทวม
ทนทองฟา ในกลุมคนเหลานี้ พวกเขาเพียงมีศักดิ์ต่ํากวาชายวัยกลางคนสามคนนั้น ปกติ
เมื่อเขาบันดาลโทสะ ชนเผาใหญที่มีประชากรนับรอยลานมากมายหรือมีไพรฟาจํานวน
มากเหลือคณานับลวนสั่นสะเทือน ทวาตอนนี้กลับถูกเด็กหัวขนคนหนึ่งย่ําไวใตฝาเทา
“เจาจะทําอะไร?” ชายวัยกลางคนฝงตรงขามถามขึ้น ดวงตากะพริบ อักขระ
ไหลเวียน ตะวันจันทราปรากฏขึ้น มีกลิ่นอายนาสะพรึงกลัวอยางหนึ่ง ทําใหผูคนสะทาน
ไปถึงทรวงใน
“ขาตองการการชดใช เอาเคล็ดวิชาแหงชนเผามาแลกเปลี่ยนเสีย” เจาตัวเล็กเอย
อยางละโมบ
ฝูงชนสงเสียงเซ็งแซ ไมวาจะชนเผาใหญใดใดก็ตาม สิ่งของที่ล้ําคามากที่สุดคือเคล็ด
วิชาล้ําคาแหงชนเผา เปนรากฐานการดํารงชีวิตและความรุงโรจน
ในความเปนจริง เคล็ดวิชาล้ําคามีนอย แมเปนชนเผาใหญที่มีประชากรนับรอยลาน
นับพันลาน ก็มีเคล็ดวิชาล้ําคายิ่งใหญเพียงหนึ่งเทานั้น นอกนั้นก็เปนจิตสัมผัสเล็กๆ
นอยๆ ไมกี่ชนิด
เมื่อเจาตัวเล็กอาปากก็เอยขอเคล็ดวิชาล้ําคาแหงชนเผา จึงทําใหกลุมคนหนาดํา
ถมึงทึงขึ้นมาทันที จะตอบปากรับคําไดอยางไรกัน? แตละคนลวนมีใบหนาเรียบนิ่ง
นัยนตาเย็นเยือกอยางเปรียบไมได
“เอะ ทานทั้งสองแลดูไมเกงกาจอะไร ขายังคิดวาจับปลาใหญไดเสียอีก” เจาตัวเล็ก
ถอนหายใจ ยอตัวนั่งลง มองดูคนทั้งสองใตฝาเทาดวยลักษณะเปยมดวยความขมขื่น
ลักษณะเชนนี้ วาจาแบบนี้ทําใหผูคนตางจองมองกันอยางกลืนไมเขาคายไมออก
และผูมีศักดิ์สูงใตฝาเทาของเขาขุนเคืองอกเจียนแตก อัปยศอดสูอยางที่สุด
ตอมา เจาตัวเล็กเคลื่อนไหวอยางช่ําชอง คลองแคลวเปนอยางมาก ลูบขึ้นลูบลง
เริ่มทําการปลนชิง
กิริยาเหลานี้ทําใหผูคนมองจนตาเหลือกปากอากวาง ไยจึงคลองแคลวปานนี้? ผูใด
เปนเหยื่อกันแน มองอยางไรก็เห็นวาเจาเด็กหัวขนกําลังปลนชิง
“เจา...” ชายทั้งสองโกรธจนตัวสั่น พวกเขามีศักดิ์สูงสงเพียงใด ไมมีผูใดไมเคารพยํา
เกรง ตอนนี้ผลปรากฏวาถูกคนรีดไถ ทําการปลนชิง
“ผลุบ”
หนึ่งในชายชรากระอักเลือด หมดสติไปเสียแลว
“พวกเจายากจนเสียจริง ไยออกจากบานไมพกอาวุธล้ําคามาดวยเลา แมแตทานลุง
แผนหยกกลมเองก็เชนกัน” เจาตัวเล็กพึมพํา
ไกลออกไป ฝูงชนตางงุนงง สามารถสําแดงอาวุธล้ําคาไดในโลกแหงความวางเปลา
จะตองไมธรรมดาเปนแน หากไมมีปญหา ผูใดจะนํามันมาดวยเลา หากพลาดพลั้ง
เสียหายจะทําอยางไร?
หากอาวุธล้ําคาสูญหายในโลกแหงความวางเปลา อยางนั้นในโลกแหงความเปนจริง
ก็เทากับสูญเสียจิตวิญญาณแหงอาวุธ อานุภาพถดถอย นานวันเขา มันจะกลายเปนวัตถุ
ธรรมดาได
ที่ไมไกลมากนัก ลุงแผนหยกกลมใบหนาถมึงทึง ไยจึงเอาเขาไปใสรวมกับแผนหยก
กลมอยางสิ้นเชิงเชนนั้น ในสายตาของเด็กคนนั้น ตัวเองกับสิ่งของแวววาวชิ้นนั้นขีด
เครื่องหมายเทากับไวอยางนัน้ หรือ
“ลูกเอย พอไดแลว!” ชายวัยกลางคนเอยปาก บนศีรษะปรากฏพลังปราณ
กลายเปนดอกไมใหญแนนขนัดเต็มทองฟา รายลอมดวยสายฟาอันนากลัว ตามมาดวย
เสียงดังกึกกอง
อีกสองคนที่เหลือก็มีแววตาเย็นเยือกเชนกัน ปรากฏอักขระขึ้นภายนอกรางกาย ทํา
ใหแผนดินสั่นไหว ราวกับทายาทอสูรบรรพกาลยิ่งใหญสองตนยืนอยูตรงนั้น
ทางดานของสามคนนี้ ไพรฟา เหลานั้นอดรนทนไมไหวอยูน านแลว อยากจะลงมือ
พรอมกัน กําจัดเจาเด็กนาชังคนนี้อยางรวดเร็ว
“คิดวาขากลัวพวกทานอยางนั้นหรือ? หากไมใหเคล็ดวิชาแกขา อยาคิดจะพาคน
กลับไป” เจาตัวเล็กกลาว
“จัดการมัน!” ผูนําวัยกลางคนเอยปาก เขาเปดปากพนแสงสีฟาจํานวนมาก ราวกับ
เปลวไฟ เสมือนกระแสไฟ สงเสียงดังแปลบปลาบ ยับยั้งเจาตัวเล็กไว หมายลบลาง
อานุภาพของพัดล้ําสีแดงในมือของเขา
ทวา สิ่งที่ทําใหผูคนตกใจจนสะดุงโหยงคือ เด็กคนนั้นแปลงขนวิเศษ 18 เสนใหใหญ
เทาฝามือ เก็บเขาไปในอก จากนั้นหิ้วปกทั้งสองใตฝาเทาขึ้น โบกไปมาแทนอาวุธ
สงคราม มุงไปสังหารคนเหลานั้น
“ระวัง!” คนกลุมหนึ่งขวางหนูหวงของ[1]
เจาเด็กเวรคนนี้ชั่วชาเสียจริง กวัดแกวงสองคนนั้นราวกับกังหันลม เกิดเสียงลมพัด
ดังโฮกฮาก ชี้ทิศตะวันออกฟาดทิศตะวันตก ฟาดทิศใตชี้ทิศเหนือ เปลี่ยนแปลงมากครั้ง
ยากจะคาดเดา เปนระเบียบแบบแผน
“ขาจะอกแตกตายแลว!”
“ผลุบ”
อีกคนก็พนเลือดเต็มปาก สลบเหมือดไป เมื่อตาไมเห็น หัวใจก็ไมวุนวาย นอมรับ
การเหวี่ยงไปมาของเจาตัวเล็ก หมายใชพวกเขาแทนอาวุธสงคราม
“อยาไปสนใจอะไรมากมาย หากไดรับบาดเจ็บจริงๆ ใหพวกเขาพักฟนในโลกแหง
ความเปนจริงไมกี่เดือนแลวกัน” ชายวัยกลางคนทั้งสามกลาว ลวนระเบิดกลิ่นอายอันนา
สะพรึงกลัว
“ฆามัน!”
กลุมคนพุงเขามา เคล็ดวิชาล้ําคาสองแสงแปลบปลาบ อักขระผนึกกําลัง ที่แหงนี้
กลายเปนทะเลแหงแสง ทวมทนบริเวณนี้
“ผลุบ”
แขนของผูมีอิทธิพลในมือซายของเจาตัวเล็กถูกสายฟาสาดจนขาด เลือดชุมโชก เขา
เจ็บปวดจนไดสติ คํารามดวยความโกรธไมขาดสาย
“ทานผูเฒา พวกขามิไดตั้งใจ โปรดอภัยแกขา” คนกลุมนี้หวาดหวั่นเล็กนอย ไม
กลาลงมือ
เจาตัวเล็กไมสนใจไยดี ทําการสังหารครั้งใหญ กวาดตามองขางหนา รางกายทั้งสอง
ในมือแข็งแรงทนทาน ฟาดผูคนเหลานี้จนรางกายฉีกขาดปลิววอน ชุมโชกไปดวยเลือด
หากกอสงคราม หากสูอยางเอาเปนเอาตาย ตองเกิดความระทมทุกขเปนอยางยิ่ง
บนพื้นมีคนหมอบคลานอยูเปนกอง ลวนเปนของกํานัลของเจาตัวเล็ก เขาเหวี่ยงคนที่
แขนขาด หมดกําลังตอสูเขาดวยกัน
ทางดานคนสองคนในกํามือเหลือเพียงรางกายครึ่งซีก รองโหยหวนไมหยุดหยอน
หากเปนเชนนี้ตอไปจะตองตายอยางปราศจากขอกังขา สุดทายถูกเขาเหวี่ยงลงในกอง
คน
ที่แหงนั้นราวกับกองซากศพ แมผูคนยังมีชีวิตอยู แตเลือดหลั่งไหลรวมกันเปนแมน้ํา
สายเล็กๆ ภาพเหตุการณนาสะพรึงกลัว ทําใหคนอยากอาเจียนอยางทนไมได
นับวาโชคดีที่อยูในโลกแหงความวางเปลา ตอไปหากมีเวลาพักฟนเพียงพอ ก็
สามารถคืนสูสภาพเดิมได มิเชนนั้นการสังหารเชนนี้นากลัวเกินไป มือดีมากมายของชน
เผาจะถูกกําจัด สูญเสียมหาศาล
“ไอเวรดินแดนขั้นตน สําแดงไดเพียงพละกําลังขั้นแปรผันโลหิต” ผูมีอิทธิพลคน
หนึ่งโมโหโทโส ทวาในใจกลับพรั่นพรึง เด็กฝงตรงขามคนนั้นก็อยูในขั้นแปรผันเลือด
ตอสูก ับพวกเขาเพียงลําพัง นี่เปนอานุภาพอยางไหนกันนะ? หากเล็ดรอดออกไป เกรงวา
คงมีคนไมมากเชื่อเรื่องนี้!
อยางไรก็ตาม มีผูคนในเหตุการณมากมายเห็นกับตา นี่เปนความจริงอยางไมตอง
สงสัย ผูคนลวนตะลึงอาปากคาง ตางมองพลาดไป เด็กทึ่มคนนี้รายกาจมาก ยั่วเยาไมได
ไมนานนัก ตรงหนาเหลือเพียงผูมีอิทธิพลสามคน ลวนเต็มไปดวยบาดแผล รอย
เลือดเปรอะเปอน
พวกเขาเปนบุคคลระดับไหน เพียงคํารามก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ สะเทือน
ไปทุกทิศ วันนี้กลับตานทานเด็กคนนี้ในดินแดนขั้นตนไมได หากพูดออกไปคงถูกหัวเราะ
จนฟนหลุดรวง
ฝูงชนตะลึงงัน มันพิสูจนไดวา หากทุกคนลวนอยูในขั้นแปรผันโลหิต ผูคนแหงชน
เผาใหญที่ปรากฏตัวขึ้น มิใชคูตอสูของเด็กคนนั้นแมเพียงคนเดียว นี่บงบอกอะไร? ดาว
รุงใหมถือกําเนิด อัจฉริยะผูมีพรสวรรคอันฟาประทานอีกหนึ่งคนปรากฏตัวขึ้นแลว!
“เจาหนู เจาทําเกินไปแลว ทํารายคนในชนเผาของขานับไมถวน เจายังจะทําตอไป
รึ?” ชายวัยกลางคนเริ่มหมดความอดทน หรือจะตองรองขอความชวยเหลือจากชนเผา
ใชพละกําลังทั้งหมดของชนเผามาลงทัณฑเด็กคนนี้อยางนั้นหรือ?
“ผูคนกวา 100 ชีวิตตางลมกองกับพื้นแลว เหลือเพียงพวกทานสามคน เขามา
หมอบคลานไปพรอมกันเถิด!” เจาตัวเล็กเผยฟนเล็กขาวสะอาด เปนปศาจรายในสายตา
ของผูคนอยางแทจริง
เสียงโครมดังขึ้น แมอักขระของพวกเขาจะทวมทนทองฟา แมกลิ่นอายของพวกเขา
จะนากลัว แตอยางไรก็อยูในขั้นแปรผันโลหิต เจาตัวเล็กโจมตีอยางอิสระ ดวยทวงทา
ราวกับไรศัตรู
“ปง”
หนึ่งฝามือฟาดออกไป แสงสวางก็ลอยออกมา ทะลวงแผนหลังของชายวัยกลางคน
จนเห็นทะลุไปดานหนา เลือดไหลพรั่งพรู ลมกองลงไปในกองคน
จากนั้น เขาก็พุงไปขางหนาอยางดุดัน หนึ่งเทาถีบอักขระที่ทวมทนทองฟา กวาด
สายตามองขาคูนั้นของเขา เสียงแควกดังแววมา ทําใหกระดูกขาของหัก เกิดเสียงรองหด
หู และรวงลงบนกองคนเชนกัน
คนสุดทายคิดหลบหนี พุงตัวออกไปไกล ขนนกในมือสวางวาบ ขนนกวิเศษหนึ่งเสน
ลอยขึ้น ขยายใหญขึ้นนับ 10 กวาจั้ง สิ้นเสียงดังผลุบ ทําใหขาขางหนึ่งของคนนั้น
กลายเปนเถาถาน หลนรวงลงมา
ชั่วพริบตา กองทัพคนของชนเผาใหญถูกถอนรากถอนโคน กลายเปนเชลยศึก
“เอะ ไมสิ ยังมีอีกคนนี่นา” เจาตัวเล็กควบคุมขนนกสีแดง สงเสียงดังชริ้ง ฟาดชาย
หนุมซึ่งหลบซอนอยูที่ไกลๆ จนคว่ํา เลือดพนออกจากปาก ลากเอาตัวมา
“ขอบคุณน้ําใจทาน ทานมีนามวาอะไร? ไดยินวาเปนนองชายของทานชายชื่อยวิ๋น
มีเพียงทานที่มอบอาวุธล้ําคาแกขา พวกเขาทั้งหมดยากจนเหลือเกิน” เจาตัวเล็กกลาว
“ผลุบ”
ชายหนุมคนนี้พนเลือดออกมาคําใหญ หมดสติไปพรอมกับความโกรธแคนและ
บาดแผล
คนทั้งหมดตางตะลึงพรึงเพริด ดานหนาโออาเปนอยางมาก เปนภูเขารางกายหนึ่ง
ลูก กองจากมือดับนับรอยชีวิต กองทัพจากชนเผาใหญที่มาเยือนที่นี่ลวนกลายเปนเชลย
ศึก
เจาตัวเล็กกาวไปขางหนา ดวงตาเปนประกาย เอยวาจาอันทําใหกลุมคนเจ็บปวด
รวดราววา “ของรางวัลหนึ่งกองยอดเยี่ยมกวาคนสองคนใชไหม ใครในพวกเจาจะไปสง
ขาวละ เอาเคล็ดวิชาล้ําคามาแลกตัวคน”
“ทานนี่แหละ ไปบอกกลาวแกชนเผาของทาน บอกวาขาชอบอาวุธล้ําคาที่สุด และ
ชอบเคล็ดวิชาล้ําคาเชนกัน ขายินดีจะนั่งหารือกับพวกเขาเปนอยางยิ่ง” เจาตัวเล็กชี้มือ
ไปยังชายหนุมคนหนึ่ง หมายใหเขาไปสงขาว
“ผลุบ”
คนกลุมหนึ่งกระอักเลือด โกรธแคนเจียนไมไหว
เจาตัวเล็กนั่งอยูบานกอนหินใหญ นั่งเทาคางจองพวกเขาเขม็ง เพื่อปองกันการ
หลบหนี ดวงตาโตคูนั้นฉายแววเจาเลห ราวกับกําลังจองมองของล้าํ คากองหนึ่งดวยทาที
โลภโมโทสัน
ไกลออกไป ผูชมสงครามเหงื่อกาฬหลั่งริน ไมรูวา ควรพูดอะไรดี เด็กคนนี้ชางชั่วราย
เสียจริง เมื่อครู คนมากมายคิดวาเขาเลอะเลือน ไมเขาใจอะไรเลย ตอนนี้ฝูงชนตาง
เหลือกตา เจาคนหลอกลวง เจาโจรผูราย ปศาจราย!
เจาตัวเล็กพลิกไปพลิกมามองดูพัดขนนกสีแดงในมือ รักจนไมอยากปลอยมือ เขา
มองออกวา วัตถุมีคาชิ้นนี้หายากนัก เปนไปไดวามันอาจจะเปนขนของทายาทอสูรก็
เปนได
“เมื่อขาไดขนนกสีแดงมาแลว อาวุธล้ําคาของชนเผาทานจะขาดหายไปเปนครึ่งใช
หรือไม?” เจาตัวเล็กเอยถาม
ผูคนเจ็บปวดรวดราว ตางฮึมฮัมเสียงเย็น ไมใหคําตอบ
ทันใดนั้น เจาตัวเล็กจูโจม สําแดงขนนกสีแดงในมือ สะบัดเบาๆ สายฟาแปลบปลาบ
เปลวเพลิงสีแดงทวมทนทองฟา ลุกทวมกลุมคนทางทิศตะวันออก
“แข็งแกรงมาก นี่เปนวัตถุล้ําคาที่สุด หากไดขนนกในโลกแหงความเปนจริงมาก็จะ
ดียิ่งขึ้นไปอีก” เจาตัวเล็กดวงตาเปยมดวยดวงดาวเล็กๆ
“เจากําลังทําอะไร?”
“เจาเด็กติดนม พวกขามิไดยั่วยุอะไรเจาเลย ไยจึงตองโจมตีขาเลา?”
กลุมคนทางตะวันตกคํารามดวยความโมโห ตางพากันรองเสียงดัง กระแสสายฟา
คําราม เปลวไฟสีแดงทวมทนทองฟา พวกเขาประสบกับการโจมตีที่นากลัวอยางยิ่ง
อานุภาพของอาวุธล้ําคาชิ้นนี้รายแรงนัก มีอิทธิฤทธิ์วิเศษ ยากจะตานทาน
“ฮึ่ย อยาคิดวาพวกทานไมลงมือแลวขาจะไมรู เดิมทีพวกทานจองขาเขม็ง หากมิใช
เพราะคนเหลานั้นเคลื่อนไหว พวกทานเองก็ลงมือแลว” เจาตัวเล็กกลาว เขาควบคุมพัด
ล้ําคา แสงสีแดงโชติชวง แผดเผาคนเหลานี้จนไดรับบาดเจ็บสาหัส แตกลับมิไดรับ
อันตรายถึงชีวิต มิไดกลายเปนเถาถาน
มีคนที่คอนขางแข็งแกรงอยูไมกี่คน ปรารถนาจะหลบหนี แตพัดล้ําคาในมือของเจา
ตัวเล็กโบกสะบัดไปมาไมหยุด ชางเปนอานุภาพสะทานฟาเสียจริง บวกกับเขารายเคล็ด
วิชาล้ําคา นี่แหงนี้มีอักขระกะพริบเต็มไปดวยเสียงเทพเจา ราวกับเปดสวรรค
สุดทาย คนเหลานี้ถูกกําราบจนสิ้น กองคนปรากฏขึ้นอีกกอง
“โครม!”
เจาตัวเล็กลงมืออีกครา โบกพัดล้ําคาไปอีกฟากหนึ่ง สัญญาณควันพวยพุงเปน
ระลอก ไอเลือดปะทุขึ้น ฟาแลบแปลบปลาบ สายฟาคําราม อีกสถานที่หนึ่งมีเปลวไฟสี
แดงลุกทวมอีกหน
“เจา...ทําอะไร?!” คนเหลานั้นคํารามดวยโกรธเกรี้ยว
“ปลนชิง!” เจาตัวเล็กตอบ
“กําเริบเสิบสาน เจารูไหมวาเลนอยูกับใคร ปกติไมมีผูใดกลาโจมตีขา เจามีสิบชีวิตก็
ไมพอใหขา สังหาร!” คนกลุมนี้เดือดดาล
“พวกทานก็จับตามองขาเชนกันมิใชหรือ อยากชวงชิงกระดูกล้ําคาของขา ทําราย
ขา ตอนนี้ขาตัดสินใจจะปลนชิงพวกทานกอน” เจาตัวเล็กกลาว
สงคราใหญปะทุขึ้น แมคนกลุมนี้จะแข็งแกรงมาก แตในดินแดนขั้นตนและขั้นแปร
ผันโลหิต ไมมีผูใดขัดขวางเจาตัวเล็กได แมคนมากก็ไรประโยชน พัดล้ําคาในมือรายกาจ
เกินไปแลว
สุดทาย กองทัพทั้งสี่ทิศปราชัย ลวนมาจากชนเผาใหญ ปรากฏภูเขามนุษยขึ้น 4 ลูก
เหลาผูชมมองดูจนตะลึงพรึงเพริด
“โอสวรรค ขาวใหญเชียวละ ขาวสะเทือนวงการ เด็กคนหนึ่งจัดการตระกูลทั้งสี่จน
เรียบ!”
เมื่อผูคนไดสติ ตางพากันอุทานดวยความตกใจ
เจาตัวเล็กกลาวดวยดวงตาสุกใสแวววาววา “ใหคนของชนเผาเจานําเคล็ดวิชาล้ําคา
มาไถตัว ขาเจราจาดวยงายที่สุด เพียงเคล็ดวิชาล้ําคาดีพอ อาวุธล้ําคางดงามแลวละก็
ขาก็จะไปเอง”
ฝูงชนอกสั่นขวัญแขวน เด็กคนนี้ชางใจกวางเสียจริง นี่เขาจะนั่งเฝาดินแดนขั้นตน
ทุมเทแรงกายทั้งหมดกับชนเผาทั้งสี่หรือ?
“อาคอน ผูเฒาวิหค ลุงแผนหยกกลม พวกทานเสาะหาภูเขาลูกนั้นพบแลวรึยัง หนึ่ง
ยางกาวเหยียบยอดเขามิใชหรือ ขาจะทําลายสถิตินั่นเสีย” เจาตัวเล็กตะโกนถามคน
เหลานี้
เมื่อคนเหลานี้ไดฟง ขนก็ลุกชันเกรียวกราว เจาหนูคนนี้มิใชคนธรรมดา ฟาดมือดี
แหงตระกูลจนลมพับลงโดยลําพัง เรื่องนี้ยังไมจบ ไยจะกอเรื่องอีกแลว?
ในขณะนี้เอง แผนศิลาก็ปรากฏขึ้น ดานบนมีอักษรหนึ่งบรรทัด สองแสงเจิดจา
แปลบปลาบ พรางพรายเปนอยางมาก
“นี่...มีความยุติธรรมอยูหรือ สรางสถิติใหมอีกแลวหรือ!”
“ปลนชิงมากที่สุด!”
ฝูงชนตกตะลึง จากนั้นสงเสียงเซ็งแซ บนแผนศิลาปรากฏตัวอักษร เจาตัวเล็กปลน
ชิงคน 563 คนภายในระยะเวลาอันสั้นดวยตัวคนเดียว สรางสถิติปลนชิงมากที่สุดใน
ดินแดนขั้นตน
ฝูงชนตาพรามัว อยางนี้ก็ไดหรือ? แลดูมิไดโดดเดนมากนัก!
แผนศิลาสวางวาบ ปรากฏหัวขอใหเจาตัวเล็กเขียนเพิ่มเติม เขาขีดขีดเขียนเขียน
ตัวอักษรลงไปวา ‘พรสวรรคอันปราดเปรื่อง มากดวยคุณธรรม’
“มีอะไรผิดพลาดรึเปลา ไยจึงเปนเจาคนนี้อีกแลว?!”
“นี่มันสถิติอะไรนะ? ปลนชิงมากที่สุด พรสวรรคอันปราดเปรื่อง มากดวยคุณธรรม?
สมองขาเพี้ยนไปแลวหรือ?!”
“นี่เปนเจาเด็กเหลือขอจากที่ใดกัน การปลนชิงกลายเปนเรื่องมีคุณธรรมเสียแลว
เขาทําเรื่องไมนาใหอภัยอันใดอีก?”
เกิดเสียงเอะอะโวยวายไปทั่วแผนดิน ผูคนมากมายไมเขาใจ สาปแชงพลางใหคนไป
สืบขาวคราว
“ปลนชิงคน 500 กวาคน อีกทั้งยังใชวิธีคุกคามเพื่อแยงชิงตระกูลทั้งสี่หรือ? ชางไม
นาใหอภัยอยางแทจริง!”
“เด็กหัวขนนี่โผลมาจากไหน เขาอยากขัดบัญชาสวรรครึอยางไร?!”
เสียงดังอึกทึกคึกโครมไปทั่วโลกแหงความวางเปลา โหมคลื่นลูกใหญ แมจะเปนผูคน
ที่อยูในดินแดนสรวงสวรรคขั้นสูงกวาเหลานั้น ลวนอยากจะไปดินแดนขั้นตนสักครา
นี่เปนเด็กเวรอยางไหนกันแน ไยจึงเอาแตสรางสถิติที่อัปยศเชนนี้?
..............................
[1] ขวางหนูหวงของ ตรงกับสุภาษิตไทยวาลูบหนาปะจมูก หมายถึง ทําอะไร
เด็ดขาดจริงจังลงไปไมไดเพราะเกรงใจ หรือเห็นแกพวกพอง
บทที่ 92 ขูกรรโชกสําเร็จ
ดินแดนขั้นตนครึกครื้นมาก ผูคนเขาๆ ออกๆ กอนหินที่มีกระดูกอักขระฝงอยูกอน
นั้น เสนผาศูนยกลางยาวหนึ่งจั้ง สองแสงสวางอยางไมขาดสาย กอสรางหนทางสีทอง
คนกลุมแลวกลุมเลาพากันเดินออกไป
“เด็กหัวขนคนนั้นอยูไหน ใหพวกขาดูเสียหนอยวาเหนือธรรมชาติจริงไหม สราง
สถิติตอเนื่องไดภายในวันเดียว”
“เจาหนูคนนี้ชางไมนาใหอภัยเสียจริง แตวาขาคาดหวังมาก รอดูวาเขาจะขูกรรโชก
ตระกูลใหญทั้งสี่อยางไร หึห”ึ
หนทางสีทองพรางพราว ผูบําเพ็ญเดินออกมากันเปนกลุมเปนคณะ คนเหลานี้ลวน
เปนผูกลาที่มาจากดินแดนสรวงสวรรคขั้นสูงกวา รับรูสถานการณจากสถิติของโลกแหง
ความวางเปลา เรงกรูกันมาสรางความครื้นเครง
“สหายไมเจอกันเสียนาน ระยะนี้บําเพ็ญตนอยูหนแหงใดละ?”
“ขาบําเพ็ญตนในขั้นถ้ําสวรรคเลือนราง ลาจากกันวันนั้นเวลาก็ผานมาเนิ่นนานแลว
สหายชางไหจากไปแลว เหลือเพียงเจาและขาไมกี่คน ประเดี๋ยวเราชุมนุมกันสักหนอย”
...
ณ ดินแดนขั้นตน บนกอนหินใหญนั่นปรากฏหนทางสีทองอยางตอเนื่อง มีผูคน
ตั้งแตวัยรุนยันชรามาเยือน ยิ่งกวานั้นคือคนชราที่ฟนรวงจนหมด เสนผมหลุดจนสิ้น เมื่อ
พบเจอกันตางก็ถอนหายใจใสกันอยางทนไมได
เห็นไดวาดินแดนขั้นตนดึงดูดความสนใจของผูคนมากมาย วันนี้ครึกครื้นกวาอดีต
หลายเทาตัว
โลกภายนอกจลาจนวุนวาย แตเจาตัวเล็กกลับนั่งเทาคางอยูหินกอนใหญ ดวงตาไม
กะพริบอยางลืมตัว เขาจดจองของกํานัลของตน แววตารอนระอุ ปากพึมพําวา “ทาง
ฟากตะวันออกสามารถแลกอาวุธล้ําคาหนึ่งชิ้นได ทางทิศใตจําตองแลกเคล็ดวิชาล้ําคา
หนึ่งชนิดจึงจะดี ทิศเหนือนี้...”
ทุกกองที่กลาวมา ลวนเปนผูกลานับ 100 กวาชีวิต โดยเฉพาะหนึ่งในกองเหลานี้ ยัง
มีผูสูงสงซึ่งมีฐานันดร สถานะสูงสง ปรากฏวาตอนนี้จวนกลายเปนผักกาดขาวเสียแลว
ถูกเขานํามาประเมินมูลคาตามกอง
ฝูงชนกลืนไมเขาคายไมออก เจาเด็กเหลือขอคนนี้เกงกาจเหลือเกิน จะใหตระกูล
ใหญทั้งสีร่ ับไดเยี่ยงไร? คาดการณวาเจียนอกแตกตายแลว
ความจริงก็เปนเชนนี้ ผูกลาแหงตระกูลทั้งสี่ที่เปนเชลยมีทั้งสิ้น 563 คน ถูกกองกัน
เปนภูเขามนุษย 4 ลูก ลวนไดรับบาดเจ็บสาหัส ขยับเขยื้อนกายไมได
ตอนนี้เจาเด็กหัวขนคนหนึ่ง ประมาณมูลคาของพวกเขาตามกอง คนเหลานี้โกรธ
แคนจนจมูกจวนเบี้ยว นี่ยังมีความยุติธรรมอยูหรือไม? ไยถูกจัดการไดอยางนาเวทนา
เชนนี้
กลางภูเขามนุษยทั้งสี่ บุคคลสําคัญซึ่งมีศักดิ์สูงไมกี่คน สามารถเรียกลมเรียกฝน
สาดถั่วสรางกองทัพ เยยปฐพี ทวาตอนนี้กลับปลอยทิ้งไวในกองเหลานี้ ไดรับโทษทัณฑ
เชนนี้ ความรูสึกอัดอั้นตันใจแบบนั้น แทบทําใหเขาสําลักเจียนตาย
“ชางนาอดสู!” ชายชราคนหนึ่งหายใจหอบ โมโหจนปวดตับ เขาจองเด็กเหลือขอที่
นั่งเทาคางเฝาสมบัติของตนอยูบนหินกอนใหญคนนั้น
“ฟู...” ชายวัยกลางคนหนึ่งคนสูดหายใจ ออกแรงกัดฟน ในโลกแหงความจริง ทุก
ครั้งที่เขาออกเดินทาง จําตองไดรับการตอนรับจากสิ่งมีชีวิตมากมาย ตอนนี้เดือดดาลจน
รางกายสั่นระริก
“พวกเจาทั้งสองเปนอะไรไป ตองอดทนใหไดสิ อาวุธล้ําคาและเคล็ดวิชาล้ําคาของ
ขารอวันนําพวกเจามาแลกแนะ ตองตานทานใหไดนะ” เจาตัวเล็กใบหนากังวลใจ ดวย
เกรงวาพวกเขาจะสิ้นใจเสียกอน
แตความกังวลใจที่ปรากฏขึ้นบนใบหนาเล็กนั่น ทําใหผูคนเหลานั้นอยากจะกระโดด
ตัวขึ้นใหรูแลวรูรอด หยิกเขาใหตายไปเสีย ชางนาโมโหเสียจริง
“เจาเด็กนี่ผิดปรกติจริงๆ!”
เหลาผูเฒาอายุอานามมากไมกี่คนที่เดินทางมาจากแดนไกล มาสรางความเครงครื้น
ทําไดเพียงทอดถอนหายใจเชนนี้แล
คนจํานวนมากไมพอใจ เจาเด็กเหลือขอคนนี้สรางสถิติถึงสองอันในหนึ่งวัน อีกทั้งยัง
นาอัปยศ ทั้งไมเที่ยงธรรม อยากจะลงมือจัดการเขาใหรูแลวรูรอด
“ปง”
ปรากฏวา เจาตัวเล็กควบคุมคนประเภทนี้โดยเฉพาะ เพียงชั่วครูอักขระก็แผเต็ม
ทองฟา แสงสวางปลิววอน สงครามแลวสงครามเลา ลมกองลงไปกับพื้นเปนบริเวณกวาง
อีกครา
“มองดูแลวพวกเจาก็มิใชปลาใหญอะไร ชางเถอะ ขาจะไมสรางมันขึ้นใหมอีกหนึ่ง
กองแลว แบงพวกเจาไวในสี่กองนี้ เปนสวนเกินแลวกัน หากตระกูลของพวกเจามาไถตัว
เจาก็ไปกับพวกเขาเสีย” เจาตัวเล็กพึมพํา
คนกลุมนี้อยากรองไหแตก็ไมมีน้ําตา แมแตจะสรางกองของตนเองยังไมมีสิทธิ์
เปนไดแคสวนเกิน เจาเด็กเวรคนนี้ชั่วรายเหลือเกิน พูดจาโหดรายเชนนี้ไดอยางไรกัน?
แมจะมีมอื ดีอยูในที่เกิดเหตุ หากแตมิไดลงมือบุมบาม แตละคนมีสีหนาเย็นเยือก
จองมองอยางเงียบงัน
“โครม”
ทันใดนั้น เสียงราวกับกระแสน้ําโหมซัดกระทบฝงลอยมา กระดูกอักขระ 4 ชิ้น
ปรากฏ ผสานรวมกันเกิดลวดลายแนนขนัด กลายเปนแนวกําแพงแสงสีฟา ปดผนึกเจา
ตัวเล็กไวภายใน
คนจากตระกูลใหญทั้งสี่มาถึงแลว ไมทราบแนวาเปนตระกูลใด เพียงเริ่มลงมือก็
เหี้ยมโหดและดุดันเชนนี้ รายกระวิเศษ 4 ชิ้น สรางคายกลแหงหนึ่งขึ้น ผนึกเจาตัวเล็ก
“ชางทรงพลัง กระดูกล้ําคาทั้งสี่ลึกลับและมหัศจรรยมาก เพียงครูก็สําแดงมันออก
มากมาย ตระกูลทั่วไปมิอาจตานทานได” มีชายชราที่ฟนรวงจนหมดเอยปาก
เหมือนกับวาเขามองเห็นอะไร จึงพูดพูดเสริมวา “เอะ ไมใชสิ นี่เปนภาพลวงที่อาวุธ
ล้ําคาแสดงออกมา มิใชของจริง พวกเขาสูญเสียพัดขนนกสีแดงไป เกรงวาวัตถุล้ําคาแหง
ชนเผาจะมลายหายไปในโลกแหงความวางเปลานี้ แปรเปนระมัดระวังมากยิ่งขึ้น วัตถุชิ้น
นี้ใชไดเพียงหนเดียวเทานั้น”
เจาตัวเล็กนัยนตาลุมลึก สีหนาเครงขรึม มิกลามุละทุ สะบัดมือดังซวบ พัดล้ําคาสี
แดงในมือเกิดแสงสีแดงขมุกขมัวไหลเวียนอยู ราวกับมีกลิ่นอายดึกดําบรรพไหลเวียนอยู
ปลอยคลื่นอันนาสะพรึงกลัว
“สงพัดล้ําคามา ปลอยคนมาทันที มิเชนนั้นจะสังหารเจาใหตายอยูตรงนี้!”
แสงสวางสีฟาขมุกขมัวแผกระจาย ผนึกฟาดินบริเวณนี้ไว กระดูกล้ําคาทั้งสี่ฝงอยู
กลางอากาศ ผูกลาทั้งสี่กระจายตัวในแตละทิศ เตรียมพรอมลงมือ
“เอาอาวุธล้ําคามาแลก กระดูกทั้งสี่ยอดมาก นาเสียดายที่เปนเพียงภาพลวง ขาจะ
เอาของจริง!” เจาตัวเล็กกลาว
“พูดจาโอหังนัก สังหารมัน!” ตะโกนเสียงดัง
คนทั้งสี่ลวนเปนชายวัยกลางคน อายุยังนอยมีกําลังวังชามาก ตางก็อยูในสถานนะ
รุงโรจนทสี่ ุด อักขระเคลื่อนไหว ฟาดินราวกับสายฟากระเพื่อมขึ้นลง กระแสไฟสีฟาเริง
ระบํา จากนั้นกลายเปนเกลียวคลื่น พุงไปหาเจาตัวเล็ก
เสียงดังครืนครันสะเทือนหู ประหนึ่งกองทัพทหารนับพันมานับหมื่นกําลังวิ่งหอ
เจาตัวเล็กโบกพัดล้ําคาในมือ พลันแสงสีแดงดุจมหาสมุทรโหดซัดสาดพรอมกับ
สายฟา อานุภาพรายแรงเปนอยางมาก เสมือนวาทั่วปฐพีจะแปรเปลี่ยนสีแดงฉาน
ทั้งสองปะทะกัน ระเบิดแสงวิเศษสีแดงและสีฟา สะเทือนจนเกิดเกลียวคลื่นบาคลั่ง
ทวมทนทองฟา ดูดกลืนแผนดินนี้ ราวกับภูเขาไฟระเบิด ขุนเขาทลาย สั่นไหวอยาง
รุนแรง
คนจํานวนมากยืนอยางไมมนั่ คง แมจากอยูหางไกลมาก แตก็พลอยโดนโจมตีไปดวย
ปากกระอักเลือด ตัวลอยขึ้นมา
ผูคนพรั่นพรึง ลาถอยอยางรวดเร็ว พลังทําลายลางเชนนี้รุนแรงเกินไป กลายเปน
พายุคลั่งนากลัว ณ ที่แหงนี้ แสงสีแดงและกระแสไฟสีฟาปะทะกัน กลายเปนมหาสมุทร
แหงพลังวิเศษ
นี่เปนการปะทะกันระหวางอาวุธล้ําคา เปนการโจมตีและตอตานของวัตถุล้ําคา
รุนแรงมากยิ่งขึ้น ประหนึ่งทายาทอสูร 2 ตัวฟนคืนชีพ ระเบิดสงครามสะทานโลกา ณ ที่
แหงนี้
สงครามครั้งนี้รุนแรงเปนอยางมาก ดึงดูดสายตาจากทั่วทุกสารทิศ คนทั้งหมดตาง
หยุดลมหายใจ มิกลาเอยคําใด ลวนติดตามกันอยางตื่นเตน
“ชวยชีวิตคน!”
มีคนออกคําสั่ง ควบคุมเจาตัวเล็กไวไดชั่วคราว พวกเขาสั่งคนหนึ่งกองทัพ หมาย
ชวยเหลือผูกลาที่ถูกกําราบ
“ทําลายมัน!” เจาตัวเล็กตะโกนลั่น ฝามือสวางวาบ ปรากฏกระดูกล้ําคาสีขาวแวว
วาวชิ้นหนึ่ง เปนชิ้นที่ฝงตัวในกอนหินบนหนทางของโลกแหงความวางเปลานั่นเอง
เขาศึกษาอยูเปนเวลานาน รูประโยชนของกระดูกชิ้นนี้พอสังเขป เมื่อหลายชิ้นอยู
ดวยกัน สามารถสรางหนทางของโลกแหงความวางเปลา หากสําแดงเพียงลําพัง
สามารถสงคลื่นรบกวนวงจํากัดได
เปนไปตามคาด ในเวลานี้ คายกลอักขระที่ฝายตรงขามสรางเริ่มระส่ําระสาย แสงสี
ฟาขมุกขมัวเริ่มปริแตก จากนั้นก็ระเบิดออก
เจาตัวเล็กสะบัดพัดล้ําคาสีแดงในมืออยางรุนแรง แสงสีแดงดุจพนลาวา กวางขวาง
อยางไรทีส่ ิ้นสุด คายกลที่ปริแตกสวนหนึ่งพลันสลายตัว ประสบกับการโจมตีที่นากลัว
อยางยิ่ง
เขาหลุดพนออกมาดวยทาทีไมปราณีผูใด ออกแรงโบกพัดล้ําคา บีบคั้นจนหนึ่งในผู
กลาทั้งสี่จะไตขึ้นฟาก็หมดหนทาง จะแทรกแผนดินก็จนปญญา แสงสวางสีแดงสวางวาบ
กวาดผานดังชริ้ง แขนขางหนึ่งของคนนั้นถูดแผดเผาจนกลายเปนเถาถาน
“ชนเผานี้เสียเปรียบเปนอยางมาก พัดล้ําคาสีแดงมีมูลคามหาศาล ตองเปนวัตถุล้ํา
คาที่ทายาทอสูรบรรพกาลเหลือทิ้งไวเปนแน! ถึงวากังวลถึงเพียงนี้ รายคายกลผนึกที่นี่ไว
กระวนกระวายอยากแยงชิงกลับไป”
“โอ กระดูกล้ําคาในมือของเด็กคนนั้นชางนาตื่นตะลึง สมกับเปนวัตถุล้ําคาที่ใชสราง
หนทางของโลกแหงความวางเปลา” ผูคนมากมายสังเกตเห็นกระดูกชิ้นนี้
และพวกเขาตางก็รูวา ไยตระกูลทั้งสี่ระดมกําลังมาเปนจํานวนมาก ปรารถนาชวงชิง
กระดูกชิ้นนี้ ที่แทมันก็มหัศจรรยอยางไมสิ้นสุด ล้ําคาและพบเจอไดยากเชนนี้นี่เอง
“นี่เปนของกํานัลจากการสูรบของขา พวกทานจําตองเอาของมาแลก” เจาตัวเล็ก
ลงมืออีกครั้ง หนึ่งพัดโบกสะบัด คนที่ลวงหนาเขาชวยเหลือเหลานั้นไดรับบาดเจ็บสาหัส
แสงสีแดงพัดพาน คนเหลานั้นลมพับลงไปกองกับพื้น
“ฆามัน!”
ผูกลาทั้งสี่ผนึกกําลัง รายคายกลขึ้นอีกครา กระดูกล้ําคาทั้งสี่สวางวาบ พุงสังหารมา
หนนี้เปนการสังหารเทานั้น มิใชการปดผนึก แมเจาตัวเล็กคิดใชกระดูกชิ้นนั้นสง
คลื่นรบกวนอากาศก็ไรผล ทวาเขาก็มิไดกลัวเกรง ที่นี่ไมมีทางเกินขีดจํากัดของขั้นแปร
ผันโลหิต เขามิเกรงกลัวใครหนาไหนทั้งสิ้น
“ตูม!”
แผนดินคํารามกึกกอง แผนรองโมหินสีเงินหมุนควาง พัดล้ําคาสีแดงฟาดโจมตี เขา
พุงตัวออกไปโตตอบมือดีทั้งสี่
สุดทาย เขาถูกโจมตี ทวารางกายยังสุขสบายดี อักขระมอดดับ แตฝายตรงขามกลับ
แตกตาง ราวกับถูกสายฟาฟาด เนื้อตัวลอยลิ่ว
“เขาตานทานอาวุธล้ําคาไดรึ? ใชพลังชนิดไหนปกปองรางกายกันนะ เกงกาจ
เหลือเกิน เชนนั้นรางกายของเขาคงทัดเทียมลูกซวนหนีกับเทาเที่ยไดแลวละ” ฝูงชน
อุทานอยางตกตะลึง
ทั้งสองฝายตางถูกอาวุธล้ําคาโจมตี แตผลลัพธกลับแตกตาง เจาตัวเล็กมิไดรับ
อันตรายใด แตสองในสี่คนนั้นแตกละเอียดทันที กลายเปนแสงเลือด มลายหายไปตลอด
กาล
ยังมีอีกสองคนไดรบั บาดเจ็บ หนึ่งคนสูญเสียกําลังเคลื่อนไหว อีกหนึ่งอาศัยกระดูก
ล้ําคาทั้งสี่ พึ่งพาพลังของคายกล เหาะเหินหลบหนีไป
สงครามสิ้นสุด ในหนึ่งกองภูเขามนุษยมีจํานวนคนเพิ่มขึ้นอีกนับสิบ ไมมีการ
เปลี่ยนแปลงอื่นใดนอกจากนี้ เจาตัวเล็กสุขกายสบายดี
“เจาเด็กหัวขนคนนี้แข็งแกรงเสียจริง!”
ฝูงชนตางสูดลมหายใจเย็น นี่เปนผลการรบอยางแทจริง ปราศจากความลวง
ตอมา ผูกลาจากทั้งสี่ตระกูลใหญรุกรานอยางตอเนื่อง ผลคือพายแพทั้งหมด ใน
ดินแดนขั้นตนและขั้นแปรผันโลหิตนี้ ไมมีผูใดเปนคูตอสูของเจาตัวเล็กได
คนทั้งหมดหนาถอดสี ในตอนแรก พวกเขาคิดวาเด็กคนนี้ไรจิตใจ เพียงฉวยโอกาส
สรางสถิติอันนาอัปยศขึ้นเทานั้น ทวาตอนนี้กลับเปลี่ยนความคิด นี่ตองเปนเด็กผูมี
พรสวรรคอันฟาประทานเปนแน เขาแสดงลักษณะอันไรคูตอสูแหงขั้นแปรผันโลหิต
ตั้งแตยามเริ่มรบกระทั่งตอนนี้
ในวันนี้ มีมือดีมาเยือนอยางไมขาดสาย ทาทายเจาตัวเล็ก สุดทายไมเพียงแคคนจาก
สี่ตระกูลใหญเทานั้น ยังมีผูกลาขนานแทมากมาย และขาดบุคคลบําเพ็ญตนสูงกวาขั้นถ้ํา
สวรรคไปมิไดเลย ลวนเขามาตอสูกับเจาตัวเล็ก มาดวยความแปลกใจ มาดวยความ
เหลือเชื่อ หมายชวงชิงความเปนใหญ
ผลเปนไปตามคาดอยางไรขอ กังขา คนทั้งหมดลวนปราชัย กระทั่งผูอาวุโสเลื่องชื่อ
บางสวน อีกทั้งหัวหนาชนเผา แมจะไมมีผูใดเปดเผยสถานะ แตคนไมนอยก็มองเห็น
ลักษณะทรงพลังและอํานาจของพวกเขา ตองเปนจอมราชันยแหงดินแดนใดสักแหง
อยางแนนอน
“แข็งแกรงมาก!”
ฝูงชนอกสั่นขวัญแขวน ตะลึงอยางเปรียบไมได รูสึกราวกับวา เห็นอัจฉริยะบุคคล
ปรากฏประจักษแกตา
เจาตัวเล็กทุมเทพลังไปกับสี่ตระกูลใหญ ทําใหมือดีของพวกเขาแพราบคาบ
ยิ่งกวานั้นคือสงสาสนบอกกลาววา หากยังไมมาไถตัวเชลย เขาเตรียมสังหารใหสิ้น
สี่ตระกูลใหญนั่งไมติดแลว หากคนเหลานี้ตายไป เชนนั้นจะไมมีคนคุมครองดินแดน
สรวงสวรรคขั้นสูงยิ่งขึ้นไปของพวกเขา เมื่อถึงตอนนั้นจะสูญเสียมากมายมหาศาล
สุดทาย มิไดสงมอบเคล็ดวิชาล้ําคา อาวุธล้ําคาไมสามารถเอามาแลกตัวคนได
ตระกูลใหญทั้งสี่สงไหหยกหนึ่งชิ้นมาดวยตนเอง ดานในมีเลือดบริสุทธิ์ของอสูร
ไหหยกทั้งสี่มีขนาดเล็ก แตเมื่อไดมาครองกลับมีน้ําหนักมาก ดานในมีเลือดล้ําคา
หลากสี มีคาอยางยิ่ง ความเขมขนของสายเลือดเจียนเทียบเทาทายาทอสูรบรรพกาล มี
มูลคามหาศาล
ผูคนตางนิ่งงัน เจาเด็กหัวขนคนนี้ขูกรรโชกสําเร็จแลวหรือ? ทําใหตระกูลใหญทั้งสี่
ยอมศิโรราบ ทําใหคนมากมายอิจฉาตารอนอยางเปรียบไมได!
คนจํานวนมากกําลังคิดใครครวญ ควรเอาอยางหรือไม? ปรากฏวาตางก็สายหนา
ผูใดจะเหนือธรรมชาติเชนเจาเด็กคนนี้ สูรบปรบมือกับสี่ตระกูลใหญเพียงลําพัง โจมตีจน
พายแพทีละตระกูล ผลการรบดุจดั่งตํานาน!
“ขูกรรโชกสําเร็จจริงๆ รึ?”
“เจาไมเขาใจละสิ ตระกูลใหญเหลานี้ไดรับดินแดนสรวงสวรรคของตนในโลกแหง
ความวางเปลานี้ เจารูไหมวาเลือดล้ําคาเหลานั้นมาจากไหน ลวนไดมาจากการลาใน
ดินแดน หากคนนับรอยเหลานี้ตายไป ในระยะหลายเดือนจะไมมคี นเฝารักษาดินแดน
ตองเกิดการเปลี่ยนผูครอบครองเปนแน!”
กองทัพแหงสี่ตระกูลใหญจากไปอยางเซือ่ งซึม ระดมกําลังพลมากมายมา ผลกลับ
ปราชัยกลับไป ชางโศกาอาดูรอยางหาที่เปรียบไมได ถูกคนกําราบ อีกทั้งตองนําเลือดล้ํา
คามาไถตัวคน คับอกคับใจอยางแทจริง
เจาตัวเล็กโบกมืออยูดานหลัง กลาวอยางอาลัยอาวรณวา “รอขานะ เมื่อขาไปจาก
ดินแดนขั้นตน ขาจะไปรื้อฟน อดีตกับพวกเจายังดินแดนขั้นสูงกวาอยางเชนขั้นถ้ําสวรรค
เปนตน”
คนจํานวนไมนอยโงนเงนโซเซ จวนลมพับลงไป
แตก็มีคนจํานวนมากหันกลับมา นัยนตาเย็นเยือก กัดฟนกลาววา “ขาจะรอ!”
เจาตัวเล็กโอบไหหยกไวในอกอยางปลื้มอกปลื้มใจ เขาเขาใจวิธีการใชเลือดล้ําคา
อยางปราดเปรื่อง หากใชมัน สามารถเพิ่มพลังความแข็งแกรง เมื่อกลับสูโลกแหงความ
จริง ยังสามารถบํารุงพลังและรางกายไดเชนกัน
“อะไรนะ เด็กคนนั้นขูกรรโชกตระกูลใหญทั้งสี่สําเร็จแลวรึ เจามิไดพูดเลนใชไหม?”
“สี่ตระกูลนั้นลวนโหดเหี้ยมอํามหิต แตกลับแพพายในดินแดนขั้นตน ไมมีผูใด
ตานทานเด็กคนนั้นไดรึ?”
“เด็กคนนี้ไมธรรมดา ทําใหสี่ตระกูลใหญยอมศิโรราบได!”
ขาวคราวแพรออกไป สะเทือนไปทั่วสี่ทิศ ในดินแดนสรวงสวรรคขั้นสูงยิ่งขึ้นไป
หลายแหง เหลาผูกลาจํานวนไมนอยตางตะลึงงัน รูสึกชางนาเหนือเชื่อ
ณ ดินแดนขั้นตน ผูคนยังไมแยกยาย
“ทานอาคอน ผูเฒาวิหค ลุงแผนหยกกลม พวกทานหาภูเขาลูกนั้นพบหรือยัง ขาจะ
ไปทําลายสถิติ” เจาตัวเล็กกลาว
“อะไรนะ เจาเด็กนี่จะทําลายสถิติรึ เรื่องอันใดกัน?” ผูกลาที่ยังไมจากไปตางตะลึง
พรึงเพริด มิอาจหาญดูหมิ่นเด็กคนนี้ เจาตัวเล็กกําราบตระกูลใหญทั้งสี่ภายในหนึ่ง
สงคราม เมื่อขูกรรโชกสําเร็จแลว คนมากมายตางใหความสําคัญ วาจาของเขาศักดิ์สิทธิ์
ขึ้นมาทันตา
“เจอแลว อยูหางออกไปหลายลี้ สือยี่ฝากสถิติอันนากลัวที่ทุกวันนี้ยังไมมีผูใด
ทําลายไดอยูที่นั่น” ลุงแผนหยกกลมตอบ
“อะไรนะ สถิติของสือยี่?!” ที่แหงนี้เกิดเสียงอึกทึกครึกโครมขึ้นทันที
สือยี่ ตัวอักษรสองตัวเสมือนพลังความชั่วราย ทําใหฝูงชนในที่เกิดเหตุตางคึกคัก นั่น
เปนชายหนุมดุจเทพเจา ไมสามารถเหนือกวาเขาได หนึ่งกาวยางเดิน ทิ้งตํานานมากมาย
ไวดานหลัง
ไมวาจะเปนประเทศเกาแกในโลกแหงความจริง หรือในโลกแหงความวางเปลา นาม
วาสือยี่เปนดั่งดวงตะวัน เจิดจาอยางหาที่เปรียบไมได หากเอยถึงเขา ไมมีผูใดไมสั่น
สะทาน!
“ไมเคยลิ้มลองความแพพายตั้งแตกําเนิดกระทั่งวันนี้ ผลการรบรุงโรจน ราวกับเทพ
เจาเยือนโลกมนุษย!”
“ในยุคนี้ มีเพียงไมกี่คนที่สามารถทัดเทียมเขาได หางไกลจากคนรุนเดียวกันอยู
หลายขุม ยิ่งใหญอยางแทจริง!”
ผูคนจํานวนมากทอดถอนหายใจ เดิมทีชื่อนี้ก็ตัวแทนของขั้นสูงสุด ยากจะมีผูใด
เหนือกวา แมจะเยาววัย แตกลับเพียงพอจะเดินเหินเยยปฐพีได
“เขามีลูกตาดําสองดวงแตกําเนิด นี่เปนลักษณะพิเศษของผูวิเศษและเทพเจา
โบราณ ลิขิตใหเปนผูยิ่งใหญแหงโลกหลา การดํารงอยูในยุคเดียวกับเขา เปนความเศรา
สลดอยางยิ่งของคนรุนเดียวกัน”
“โอ ระยะหลายปมานี้ มีขาวลับแพรงพรายออกมา กลาววาเขาเปนผูสูงสุดแต
กําเนิด มีกระดูกอันหาที่เปรียบไมได!”
“อะไรนะ?!” ฝูงชนตะลึงพรึงเพริด
“มีพรสวรรควิเศษเชนนี้ ถูกกําหนดไวแลววาจะยิ่งใหญสะทานฟาแตเพียงผูเดียว ไม
มีผูใดสามารถแยงชิงความเปนใหญได” ผูอาวุโสเลื่องชื่อที่ฟนรวงหมดปากมากมายตาง
ถอนหายใจกันระนาว
“ใชแลว เด็กคนนี้จะทําลายสถิติของสือยี่งั้นรึ?” ฝูงชนนึกขึ้นไดทันที ตางเผยสีหนา
ประหลาดใจ
“เปนไปไมไดหรอก สองปมานี้ ผูใดอาจหาญมิประมาณตนละ? อัจฉริยะมากมายไม
พอใจ จึงพากันทําลายสถิติ ผลปรากฏวาตางคอตกกลับมา ความมั่นใจถูกทําลายอยาง
รุนแรง”
ผูคนลวนตกตะลึง เผยสีหนาประหลาดใจ มองไปยังเจาตัวเล็ก ทวาเขากลับนิ่งเฉย
ไมมีความกระวนกระวายและความกดดันแมแตนิด สงบเปนอยางมาก ราวกับจะไปทํา
เรื่องธรรมดาเสียอยางนั้น
“อัจฉริยะมากมายลวนแพพาย ไมวาจะในโลกแหงความจริง หรือในโลกแหงความ
วางเปลา ชวงชิงความเปนใหญกับสือยี่ มีเพียงตอนจบที่เศราสลดเทานั้น”
“คนเหลานั้นลวนเปนผูมีพรสวรรคสะทานโลกา แตตามที่ไดยินมา สุดทายพวกเขาก็
พบวาตางกับสือยี่ราวฟากับเหว ไมใชเพียงอันดับเดียวเทานั้น”
ตอนนี้ เหลาคนที่มีจิตใจดีอยูบางเอยปรามเจาตัวเล็ก บอกกลาวเขาวาอยาไปลิ้ม
ลองสถิติของสือยี่ นั่นไมมีความเปนไปไดเลย รังแตจะสรางความอัปยศอดสูแกตนเทานั้น
“สถิติของเขาทําลายยากมากรึ? ขาตั้งใจวาทําลายทีละอันแนะ” เจาตัวเล็กกลาว
อยางไมสนใจ
ฝูงชนนิ่งอึ้ง พลันรูสึกวาเขาเริ่มเหมือนเด็กโงแลว
“ลูกเอย หากวาเจาอยากทดลอง อยางนั้นก็ไปเถิด เจายังเยาวนัก ประสบความ
ลมเหลวเสียบาง คงไมใชเรื่องเสียหายอะไร จะกระตุนใหเจาเดินหนาดวยความพยายาม
ได” ชายชราบางสวนกลาวสอนสั่งเชนนี้
“ขาจะไปทําลายสถิติ สรางสถิติใหมใหหมดสิ้น” เจาตัวเล็กเอยเสียงเบา ไมพอใจกับ
วาจาของพวกเขาเปนอยางมาก เผยตัวตนที่แทจริงออกมา
“งั้นดี พวกขาจะไปมองดู รอคอยปาฏิหาริย!” ผูคนรองเอะอะขึ้นมาพรอมกัน
ดวยเหตุนี้เอง ผูคนจํานวนมากมายมหาศาลก็ออกเดินทาง มุงหนาไปยังบริเวณผืน
ปาแหงนั้น
ไมนานนัก ขาวคราวก็กระจายออกไป ทุกหนแหงอึกทึกครึกโครม ไมคาดวาจะมี
หวังทําลายสถิติของสือยี่ นี่ตองมั่นใจและยิ่งใหญปานใดกัน?
“ขาวคราวเชื่อถือไดรึไม เปนเรื่องจริงหรือ?” สะเทือนคนในดินแดนสรวงสวรรคขั้น
สูงกวาเปนจํานวนมาก
“เชื่อถือไดแนนอน!”
“มันเปนผูใดกันแน ยโสโอหังไดถึงเพียงนี้ นี่จะปรากฏผูมีพรสวรรควิเศษอีกคนแลว
รึ?”
ในดินแดนล้ําคามากมาย แมแตผูอาวุโสเลื่องชื่อกับหัวหนาของแตชนเผาใหญตาง
ตื่นตกใจ ตางใหความสนใจกันมาก
“พวกเจาตองเคยไดยินชื่อเจาคนนี้มากอนเปนแน ก็คือเจาเด็กหัวขนที่โหมคลื่นลูก
ใหญคนนัน้ ”
“หา เขาอีกแลวหรือ? ชางไมนาใหอภัย!”
“ไมผิด ไมนาใหอภัยเสียจริง เขาอีกแลว!”
ในแตละดินแดนสรวงสวรรคขั้นสูงกวา ผูคนตะลึงจนอาปากคาง
“ไป หนนี้จะตองไปดูเสียหนอย”
คนมากมายสีหนาแปรเปลี่ยน เพราะหากทําลายสถิติของสือยี่ไดแลวไซร ก็เทากับ
จะเลื่องชื่อระบือนามไปทั่วปฐพี เมื่อผูคนไดยินดังนั้นก็ยากจะสงบลงได
“พวกขาจะไปเชนกัน ไปดูวาเขาสามารถทําลายสถิติของสือยี่ไดหรือไม!”
“ใชแลว ขาก็จะไปดวยเชนกัน!”
วันนี้โลกแหงความวางเปลาสั่นสะเทือน เจาตัวเล็กจะทําลายสถิติของสือยี่ นาสนใจ
กวาเรื่องที่เขาสรางสองสถิติภายในวันเดียว และขูกรรโชกสี่ตระกูลใหญเพียงลําพังเปน
ไหนๆ
บทที่ 93 ทําลายสถิตขิ องสือยี่
ดินแดนขั้นตนมีผูคนมืดฟามัวดิน เบียดเสียดจนแนนขนัด หนทางสีทองบนกอนหิน
กอสรางอยางไมหยุดหยอน แสงสวางกะพริบแปลบปลาบ แตยังคงขาดแคลนเชนดังเดิม
ไมเพียงพอตอการใชแมแตนิด คนปรากฏตัวกลุมแลวกลุมเลา
มีคนจะทําลายสถิติของสือยี่ กอใหเกิดคลื่นลูกใหญ ทุกหนแหงสั่นสะเทือน มือดีที่
บําเพ็ญตนในดินแดนสรวงสวรรคมากมายตางออกจากการบําเพ็ญตน
หลายปมานี้ ไมเคยมีวันไหนครึกครื้นเชนวันนี้มากอน จํานวนคนในดินแดนขั้นตน
พุงพรวดพราดเปนสิบเทา รอยเทา ผูคนขยับไปมาอยางเบียดเสียดยัดเยียด
“ไยจึงเปนเด็กไมนาใหอภัยผูนี้อีกแลว? เขาอยากขัดบัญชาสวรรคอีกแลวหรือ สราง
สองสถิติในหนึ่งวันก็นาตื่นตะลึงมากแลว แมจะมิใชเรื่องดีงามมากนัก แตก็มิควรยโส
เชนนี้ จะทําลายสถิติของสือยี่งั้นรึ?!”
“คอยดูวาเขาจะทําสําเร็จรึไม อัจฉริยะมากมายปานนั้นตางคอตกกลับไป ไมเวนแต
เจาชายแหงประเทศเกาแกหรือผูสืบทอดยอดเยี่ยมแหงดินแดนเทพเจา หากเจาเด็ก
เหลือขอคนนี้ทําสําเร็จจริง เชนนั้นก็ถือวาสะเทือนโลกาแลว”
ผูคนวิจารณกันอยางไมขาดสาย สุดทาย พฤติกรรมของเจาตัวเล็กเมื่อเยือนดินแดน
ขั้นตนลวนถูกคนขุดคุยออกมา
“โอ ไดยินวาเขาชั่วรายมาก ขูกรรโชกสี่ตระกูลใหญ ชวงชิงเลือดล้ําคามา 4 ไห”
สี่ตระกูลใหญผูอับโชค เมื่อไดฟงคําวิจารณของผูคน ราวกับหัวใจหลั่งเลือด เพียงชั่ว
ครูขาวคราวก็แพรสะพัดไปอยางกวางขาง ทําใหพวกเขาอับอายขายขี้หนาอยางแทจริง
จวนคลุมคลั่งแลว
ในตอนนี้ ไมเพียงโลกแหงความวางเปลา แมแตประเทศหินผาในโลกแหงความจริงก็
เกิดอึกทึกคึกโครม โดยเฉพาะในดินแดนจักรพรรดิ เหลาตระกูลขุนนางชั้นสูงตางพูดคุย
กันถึงเรื่องนี้
“เจาเด็กติดนมคนนี้เปนลูกเตาเหลาใครกันแน มองดูมิใชคนธรรมดา”
“เจาวาใชทายาทของเทพเจาสงครามผูนั้นรึไม เพื่อชวงชิงบัลลังกแหงจักรพรรดิ
ตอนนี้จะริเริ่มกอศึกนองเลือดกับสือยี่ ผูมีตาดําสองลูกแลวใชหรือไม?”
ประเทศหินผากวางใหญไพศาล สือยี่ไดรับสมญานามดุจดวงตะวันคางฟา แมยังไม
บรรลุนิติภาวะ แตเลื่องชื่อไปทั่วประเทศเกาแก ถูกยกใหเปนผูชิงบัลลังกจักรพรรดิที่
แข็งแกรงที่สุด
ตอนนี้ ในตําหนักของกษัตริยและในดินแดนสุขาวดีของศาสนใหญมากมาย ไมทราบ
แนวามีผูคนมากมายเพียงใดใหความสนใจกับเรื่องนี้ ยิ่งไมตองเอยถึงรุนหนุม สาว ตางฮึก
เหิมกันมาก
“ศิษยพี่ออกจากการบําเพ็ญตนเร็วเขา เรงเขาโลกแหงความวางเปลา เกิดเรื่องใหญ
ขึ้นที่นั่นแลว!”
“เกิดอะไรขึ้น?”
“มีคนทาทายสถิติของสือยี่”
เวลานี้ เหลาอัจฉริยะตางตื่นตระหนกตกใจ ไมมีผูใดไมตกตะลึง พากันเขาสูโลกแหง
ความวางเปลาอยางรวดเร็ว
นอกจากประเทศหินผา ประเทศเกาแกซึ่งมีอาณาเขตติดตอกันก็สั่นสะเทือน ราวกับ
อุกกาบาตพุงกระแทกมหาสมุทร โหมคลื่นลูกใหญทวมทนทองฟา
“ศิษยพี่ อยาชา ขาเขาโลกแหงความวางเปลากอนนะ ประเดี๋ยวเจามาหาขานะ”
“ขาจะรีบตามไป!”
“ตองไปดูเสียหนอย ผูใดจะทําลายสถิติของสือยี่กันแน!”
ประเทศเกาแกเซนสรวงสวรรคทุกวัน ดวยเหตุนี้เหลาผูกลาแหงมหานครและ
ดินแดนยุทธศาสตร จึงสามารถเขาสูโลกแหงความวางเปลาได
ณ โลกแหงความวางเปลา การตัดสินใจของเจาตัวเล็ก กอเกิดคลื่นลูกใหญ ไมวาจะ
เปนที่นี่หรือโลกแหงความจริง พลันไมสงบสุขอีกตอไป
แมกระทั่งในดินแดนจักรพรรดิบางสวน ผูกุมชะตาของประเทศเกาแกก็สงเสียง
เอะอะ ดวยถูกเด็กหัวขนคนนี้ทําใหตื่นตะลึง
ณ ดินแดนขั้นตนในโลกแหงความวางเปลา
เจาตัวเล็กเดินเหินคลองแคลว กาวเดินอยางมั่นคง ราวกับคนที่ไมมีเรื่องทุกขใจอัน
ใด เขาไมเขาใจเล็กนอยวา ไยจึงมีคนตามมามากมายเพียงนี้ หรือพีช่ ายคนนั้นจะเลื่องชื่อ
มากมากอยางนั้นหรือ เพียงพอจะสะเทือนโลกาแลวหรือ?
“ขาวานะเจาหนู เจาไวกวานี้ไดหรือไม!” มีคนเรงเรา
“รีบทําไมกัน?” เจาตัวเล็กบนอุบ
“หากมิใชเพราะในระยะสองปนี้ไมมีผูใดอาจหาญทําลายสถิติของสือยี่ อีกทั้งเจา
สรางสองสถิติตอเนื่องในหนึ่งวัน ยิ่งกวานั้นคือปลนชิง ขูกรรโชกสี่ตระกูลใหญเพียงลําพัง
แลวละก็ ขาคงไมมาหรอก”
“นั่นสิ เพราะขาไดยินวามีเด็กที่ไมนาใหอภัยคนหนึ่งปรากฏตัว จึงมาเปนการณ
พิเศษ เจาอยาทําใหพวกขาผิดหวังเลย หวังวาเจาจะสรางความมหัศจรรยได!”
“ทานสิไมนาใหอภัย! เปนเพียงสถิติธรรมดามิใชหรือ มีอะไรนาตื่นเตน อยากทําลาย
ก็ทําลาย หากทําลายไมไดพวกทานก็คอยดูเถิด” เจาตัวเล็กไมพอใจ
เจาตัวเล็กไมสะทกสะทาน ทั้งยังเปนธรรมชาติมาก นี่ทําใหคนเหลานี้คลั่งเล็กนอย
เด็กคนนี้จะไปทําลายสถิติจริงๆ อยางนั้นหรือ ไยจึงไมตื่นเตนแมแตนอย ชางไมแยแสเอา
เสียเลย
“รีบไปสิ รีบไป” ฝูงชนเรงรัด
“กษัตริยมิกังวลขันทีกังวล![1]” เจาตัวเล็กพึมพํา
กลุมคนตางเหลือกตา เจาเด็กคนนี้พูดจาเชนนี้ไดอยางไร? ทวาเมื่อคิดถึงเรื่องชั่วชา
ที่เขากระทํา จึงมิไดใสใจ
อะไรนะ เจาจะเอาเรื่องงั้นรึ? ไมเห็นเจาเด็กละโมบผูนี้ทําลายหนทางของโลกแหง
ความวางเปลาอยางมือมืดหรือ จากนั้นก็เผยความออนแอ เปนเหตุใหสี่ตระกูลใหญมา
ดวยความเร็ว เอาตนเขาสูกับดัก ตางถูกขูกรรโชกทั้งสิ้น เจาจะยั่วยุเจาเด็กติดนมคนนี้
ไมแนวาอาจทําเรื่องไมนาใหอภัยแกเจาเชนเดียวกัน แมจะเปนดินแดนขั้นตน แต
พละกําลังการตอสูของเจาเด็กคนนี้ก็เหนือธรรมชาติเล็กนอย สูงจนนาตกใจ
ในที่สุดก็ถึงจุดหมาย ผืนปาแหงนี้มีกลิ่นอายไมธรรมดา มีทะเลสาบตั้งอยูดานหนา
มีสีครามกวางใหญไพศาล ใสสะอาดดุจลูกแกว ดานหลังมีน้ําตกขาวโพลนดุจแพรไหม
สงเสียงดังดั่งสายฟาคําราม
ในปามากดวยสัตวประหลาด สามารถมองเห็นเงามหึมาวิ่งหอผานไป เสียงคําราม
สะเทือนฟา และยังสามารถมองเห็นปกใหญบดบังทองฟาในที่ไกลออกไป แผดเสียงนก
รองสะเทือนไปทั่วฟากฟา
“ภูเขาลูกนี้แหละ ครั้งนั้นสือยี่กระทืบเทาอยางดุดัน พุงขึ้นกลางนภา จากนั้นโรยตัว
ลงบนยอดของภูเขาลูกนี้” ลุงแผนหยกกลมกลาว
ผูอาวุโสอีกทานพูดตอวา “ไมผิดแน ภูเขาลูกนี้แหละ ตัวขาเห็นความมหัศจรรยครั้ง
นั้นประจักษแกตา ตอนนั้นมีชายชรามากมายอยู ณ ที่แหงนี้ อีกทั้งผูนําแหงชนเผาใหญ
บางสวน ไมมีผูใดสามารถบรรลุความสูงปานนั้นได”
ในดินแดนขั้นตนนี้ สําแดงไดเพียงผลแหงการบําเพ็ญของขั้นแปรผันโลหิตเทานั้น
และยามสือยี่สรางสถิตินี้ เขาใชเพียงพละกําลังของรางกายทะลวงฟากฟา
ภูเขาลูกนี้โออามโหฬาร ทั้งลูกเปนสีน้ําตาล ดานบนมีพืชคลุมดินอยูนอยมาก มี
เพียงตนไมเกาแกสูงเสียดฟาไมกี่สิบตน อีกทั้งยังมีเถาวัลยแกพันเกี่ยว
ละอองน้ําเกลือกกลิ้งบนยอดเขา น้ําตกไหลลงมาเปนสาย กอเกิดไอน้ําขมุกขมัว ทํา
ใหภูเขาลูกนี้รายลอมดวยมานหมอก เลือนรางพรามัว สวยสดงดงามใตแสงอาทิตย ราว
กับพญาหงสฟนคืนชีพ
“ลูกเอย เจาเตรียมพรอมรึยัง?” ผูเฒาวิหคเอยถาม
“จะตองเตรียมตัวอะไรกัน เพียงออกแรงกระโดดก็เทานั้น” เจาตัวเล็กกลาว
ผูคนในเหตุการณตางเผยสีหนาประหลาดใจ เด็กคนนี้นิ่งเฉยเกินไปรึเปลา เจามา
ทําลายสถิติจริงหรือ ไยจึงรูส ึกราวกับเพียงเดินผานมาเทานั้น
“คงมิใชวามีคนหลอกลวงพวกเราหรอกกระมัง เด็กคนนี้สามารถทําลายสถิติได
จริงๆ รึ?” มีคนซักถาม
และในตอนนี้เอง ไกลออกไปเกิดแสงสวางทะลวงทองฟา หนังสัตวขนาดใหญแผน
หนึ่งปรากฏขึ้น ลอยปะพื้นดินมาอยางรวดเร็ว มีคนเปนแถวอยูดานบน
“โอ ไมธรรมดานี่ นี่เปนคนจากตระกูลใดกัน อาจหาญใชอาวุธล้ําคาในโลกแหง
ความวางเปลาแหงนี้ มิกลัวสูญเสียรึ?” ผูคนตางอุทานดวยความตะลึง
ยากจะสําแดงอาวุธทั่วไปในโลกแหงความวางเปลานี้ มีเพียงกระดูกล้ําคาของ
ทายาทอสูรบรรพกาลเทานั้นจึงไมมีปญ
 หา ทวาหากสูญหาย จะทําใหอาวุธล้ําคาในโลก
แหงความจริงคอยๆ สูญสิ้นพลัง
หนังสัตวมีอักขระสวางวาบเขาประชิด มีสาวงาม 10 กวาคนยินอยูขางบน แตละคน
มีลักษณะโดดเดน ชุดขาวดุจหิมะ ประหนึ่งเทพเซียนเยือนโลก
“นี่คงเปนผูสืบทอดยอดเยี่ยมแหงศาลาปดฟา ไยมาพรอมกันเชนนี้ พวกเขามิได
ปดบังสถานะ” คนไมนอยตกใจ
เมื่อแสงกะพริบ กระดูกแผนหนึ่งก็เปลงประกายสีมวง มีหมอกควันไหลเวียน พุง
ตรงมาจากที่ไกลๆ อยางรวดเร็ว ดานบนมีคนกลุมหนึ่ง ทั้งชายและหญิง ชราและเด็ก
“ทรงพลังเสียจริง นี่คือ...”
“วูว เงียบซะ เหมือนจะเปนบุคคลในราชวงศแหงประเทศเกาแก!”
คนมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งลวนสูงสง แนนขนัดเบียดเสียดไปทั่วผืนปา
“ขาไมเชื่อเด็ดขาด มีคนสามารถทําลายสถิติของสือยี่ไดจริงๆ อยางนั้นรึ เปนเพียง
ปนน้ําเปนตัวเพื่อดึงดูดความสนใจก็เทานั้น!” กลางฝูงชน มีชายหนุมหลายคนยืนกันเปน
กลุม จองมองเจาตัวเล็กอยางเย็นเยือก
พวกเขาลวนเปนอัจฉริยะ บางคนเคยทาทายสือยี่ แตกลับแพพายกลับไป ยากจะลืม
ความหลังนั้นได ตอนนี้มีเด็กอายุนอยปานนี้มาทาทาย หากวามีชัย จะใหพวกเขายอมรับ
ไดอยางไร?
“ดูนั่นเร็วเขา นั่นเปนสตรีเทพเจาสงครามแหงสํานักชวงชิงความเปนใหญ นางก็มา
เชนกัน”
ไอหมอกแนนขนัด นกหลวนหาสีบินมาพรอมกับสตรีผูหนึ่ง รายลอมดวยหมอกสีสัน
สามารถมองเห็นหญิงสาวสวมชุดเกราะสีทองในชั่วพริบตา สวางไปทั้งตัว รูปรางงดงาม
เสนผมปลิวสยาย แตแววตากลับดุดัน
นี่ทําใหผูคนตะลึงเล็กนอย นางมาพรอมกับวิหคประหลาดตัวหนึ่ง ชุดเกราะสีทอง
กระจายแสงแวววาว เจิดจาเปนอยางมาก ราวกับเทพเจาสงครามผูงดงาม
“โอ เด็กคนนี้หรือ มีความเปนมาอยางไรกัน ไยจึงอยากทําลายสถิติของสือยี่”
ณ ที่หางไกล บนยอดเขาลูกหนึ่ง มีคนยืนเรียงนับ 10 กวาคน มีทั้งคนชรา วัย
กลางคน และวัยหนุม ใบหนาฉายความเย็นเยือก
“ตรวจสอบประวัติของเขาไมพบ วันนี้เปนวันแรกที่เขาเขาสูโลกแหงความวางเปลา
แข็งแกรงเปนอยางมาก”
“บอกกลาวแกกองทัพของตระกูลสายฝนใหเฝาระวังอยางใกลชิด ตรวจสอบความ
เปนมาของเขาเสีย”
คนกลุมนี้แข็งแกรงมาก เปนสายเลือดโดยตรงของชนเผาสายฝนนี่เอง เรงมาที่แหงนี้
เชนกัน หมายดูวาผูทาทายสามารถทําลายสถิติของสือยี่ไดหรือไม
“เฮ พวกทานถอยไปสิ จะใหขาทําลายสถิติอยูหรือไม”
ขณะที่แตละฟากชุลมุนวุนวายและคาดหวังรอคอยนั้น เจาตัวเล็กไมพอใจแลว คน
มากมายเกินไป บดบังตัวเอกอยางเขาไวเสียแลว
“เร็วเขา เปดทางเสีย!” ผูคนที่มีนิสัยหุนหันพลันแลนก็เรงเรา ใหฝูงชนหลีกทางแก
เจาตัวเล็ก
เจาตัวเล็กมองแลวมองอีก ภูเขาลูกนี้สูงมาก อาศัยเพียงพลังกายกระโดดขึ้นไป ถือ
วานาตกตะลึง
เขาเดินรอบบริเวณนี้ จากนั้นมองยังภูเขาขางเคียงลูกนั้น แมทั้งสองจะมีความสูง
ใกลเคียงกัน แตอีกลูกหนึ่งสูงกวาเกือบ 10 กวาจั้ง
“ขาเลือกลูกนี้แลวกัน” เจาตัวเล็กกลาว
ฝูงชนพยักหนา นี่เปนภูเขาแฝด หากตองการทําลายสถิติ ภูเขาสูงกวาเล็กนอยลูกนี้
ถือเปนตัวเลือกที่ดี
“พวกทานถอยไปใหหมด” เจาตัวเล็กพูดเสียงดัง
“ออกหางจากเจาเพียงพอแลว เจายังสําแดงเดชมิไดอยางนั้นหรือ?” มีคนเบะปาก
แมจะมีผูคนมากมายมาเยือน แตกลับมีไมกี่คนที่เชื่อวาเขาสามารถทําลายสถิติได
เพราะวามันเหลือเชื่อเกินไป สือฮาวมาจากที่ใดกันแน? ชายหนุมดั่งเทพเจา ยากจะอยู
เหนือเขาได!
“งั้นก็ดี แลวแตพวกทานแลวกัน” เจาตัวเล็กไมพูดอะไรใหมากความ เขายืนอยูที่
เดิม เริ่มจัดลําดับลมหายใจ
ที่เกิดเหตุพลันเงียบงัน มีเพียงเสียงน้ําตกแววมา แพรไหมสีเงินซัดโหม ละแวก
ใกลเคียงมีหมอกหลากสีสัน งดงามเปนอยางมาก
“ไป!”
เจาตัวเล็กตะโกน กระทืบเทาคูนั้นอยางดุดัน แผนดินก็คํารามกึกกองโดยพลัน ราว
กับเกิดแผนดินไหวครั้งใหญ!
ทั้งที่พื้นเปนกอนหินที่แข็งแรงทนทานอยางยิ่ง ตอนนี้ปริแตก จากนั้นระเบิด
ออกเปนเสี่ยง แตละรอยแยกกวางใหญอยางเปรียบไมได ประหนึ่งสายฟาแผขยายไปทั่ว
ทุกสารทิศ ฝุนผงพุงทะลวงอากาศ
คนทั้งหมดตางชะงักงัน พลังเชนนี้ชางนาตื่นตะลึง นี่ยังเปนมนุษยอยูอีกหรือ หาก
บอกวาเปนลูกของเจินโหวและนกยักษสีทองในรางมนุษยคงมีคนเชื่อละสิ?
หนึ่งเทากระทืบลงไป แผนดินหินแกรงพังทลาย รอยราวผสานตัดสลับกัน!
ลักษณะของเจาตัวเล็กแปรเปลี่ยนไป พลันปราดเปรียวขึ้นมา ราวกับเทพเจาตัว
นอย พุงขึ้นสูฟา ทะลวงมานหมอก ลอยขึ้นดังหวีดหวิว นัยนตามีกระแสไฟนากลัว ทําให
ฝูงชนมิกลาสบตา
คนทั้งหมดลวนนิ่งอึ้ง ไมใชพลังของอักขระ อาศัยเพียงรางกายก็พุงทะยานฟาเชนนี้
ทะลวงไอหมอก พุงขึ้นสูงกวาภูเขาสูงเสียดฟาลูกนั้นเสียอีก!
“ทําลายแลว ทําลายสถิติแลว!” มีคนตะโกนออกมา
..............................
[1] กษัตริยมิกังวลขันทีกังวล สํานวนจีน แปลวา เปนเดือดเปนรอนแทนผูอื่น
บทที่ 94 สะทานโลกา
เหนือกวาแลว เงารางเล็กนั่นดุจเทพเจา นัยนตาปลอยแสงวิเศษ ทะลุเมฆาทะลวง
หมอก ประหนึ่งสายฟาพาดผานฟากฟา
ในตอนนี้ เจาตัวเล็กมีลักษณะอันนาหวาดกลัว เสนผมดําขลับปลิวสยาย นัยนตาดุจ
กระแสไฟ เหมือนผูวิเศษแหงบรรพกาลอยางแทจริง!
เขาระเบิดพลังอันยากจะจินตนาการกระโดดสูฟา มิเพียงเหนือกวายอดเขาของสือยี่
ลูกนั้น อีกทั้งยังเหนือกวาภูเขาสีน้ําตาลลูกนั้นอีกดวย
ตามที่ผูคนเหลานี้เห็น นี่เปนความมหัศจรรย ผูมีพลังสะทานฟาปรากฏขึ้นแลว โผล
มาในวันนี้ ทําลายสถิติที่สือยี่ดํารงรักษาไว ตองเกิดเรื่องสะเทือนทั่ววงการเปนแน
เขาลอยตัวอยูกลางอากาศ ทวาพื้นดินกลับมีฝุนผงแตกกระเด็กเซ็นซาน แตก
ออกเปนเสี่ยงๆ รอยแยกขยายใหญ คนจํานวนมากสะเทือนจนตัวลอย และผูคนไมนอย
ที่รองโหยหวน
เสียงโครมดังขึ้น แผนดินทรุดตัวลงไป ยากจะจินตนาการวาเทาคูนั้นของเจาตัวเล็ก
มีพลังมหาศาลเพียงใด หินเพชรที่ไดรบั สมญานามวาแข็งแรงทนทานก็กลายเปนผุยผง
นี่ยังไมจบ รอยแยกขยายใหญออกไปนับหลายรอยหมี่ น้ําในทะเลสาบเกลือกกลิ้ง
ไหลยอนมาตามรอยแยก คนมากมายรวงลงไปในน้ํา
“นี่...ยังเปนพละกําลังของมนุษยอีกหรือ?”
ตรงนี้มีผูคนยืนออกันมากมาย ลวนกลายเปนไกตกน้ําแกง น้ําในทะเลสาบกระเพื่อม
ขึ้นลง เพียงครูก็ซัดโหมมา
เพียงกระทืบเทาคูนั้น เปนพละกําลังวิเศษอยางแทจริง ทําใหทะเลสาบบาคลั่งตาม!
“ดูนั่นสิ ทะเลสาบก็เปนเชนเดียวกับที่นี่ เกิดรอยแยกมากมาย ครั้งนั้นสือยี่คงพุงขึ้น
เชนเดียวกัน สงผลใหน้ําในทะเลสาบไหลยอน” มีคนตาดีมองเห็นความจริง
“นากลัวจัง!” ผูคนเกิดความเคารพยําเกรงคนเฉกเชนเจาตัวเล็กและสือยี่จากกนบึ้ง
ของหัวใจ
ถึงวาเมื่อครูเด็กคนนั้นเอยเตือนพวกเขาใหถอยหาง ผลคือจะทําเชนนี้ สองเทา
กระทืบ ภูเขาทลายแผนดินแยก อานุภาพมิอาจตานทาน ทําใหทะเลสาบเคลื่อนยายเสีย
แลว
“แข็งแกรงมาก นี่ยังเปนเด็กอยางนั้นหรือ เหนือธรรมชาติปานนี้ ทําลายสถิติ วัน
ขางหนาผูใดจะตานทานได!” แมแตเหลาผูเฒาก็พากันรองตะโกนอยางไมสนภาพพจน
ฝูงชนชะงักงัน เด็กคนนี้กําลังคิดอะไรอยู ลักษณะในตอนนี้ไมสอดคลองกับอายุ
แมแตนอย กลิ่นอายทรงพลังเชนนั้นกลับทําใหคนเคารพยําเกรง
“เหนือกวาแลว ทําลายสถิติอยางแทจริง!”
“ถูกยกยองวาเปนผูมีพรสวรรคอันมิอาจเหนือกวา ชายหนุมดุจเทพเจา สถิติที่เขาได
สรางถูกชวงชิงเสียแลว อีกทั้งยังทําลายภายในหนเดียว!”
ที่แหงนี้คกึ คัก ผลลัพธสะทานโลกา
กอนหนานี้ ผูคนมากมายมาเพื่อสรางบรรยากาศครึกครื้น ไมเชื่อวาสถิติของสือยี่จะ
ทําลายได ตอนนี้ตางอาปากจนเปนตัวโอ ไมอาจเชื่อฉากนี้ไดอยางสิ้นเชิง
นี่มันนาตกตะลึงเกินไป เด็กอายุนอยเพียงนี้ก็เปนเชนนี้แลว ภายภาคหนาจะมี
ผลลัพธมหาศาลเพียงใดกัน?!
ฝูงชนยากจะควบคุมความรูสึก คนชราที่เหลือเวลาชีวิตไมมากตางปลื้มปติยินดี เด็ก
ผูมีพรสวรรควิเศษเชนนี้ทําใหพวกเขารูสึกดีอกดีใจเปนอยางมาก ราวกับอายุลดลงหลาย
ปโดยพลัน
และอัจฉริยะบางสวน อยางเชนชายหนุมไมกี่คนที่จองดวยสายตาเย็นเยือกเมื่อครู
ตางหนาถอดสี ครั้งนั้นพวกเขาทาทายสือยี่ แตกลับแพพายกลับไป ตอนนี้เด็กเยาววัย
ปานนี้คนหนึ่งทําในสิ่งที่พวกเขาทําไมได ในใจเกิดความรูสึกยากจะควบคุม
อักขระสวางวาบ นกหลวนหาสีตัวหนึ่งพุงทะยานขึ้น หอมลอมดวยสีสัน พรางพราย
อยางที่สุด พุงมายังยอดของภูเขาลูกนั้น
“สตรีเทพเจาสงครามแหงสํานักชวงชิงความเปนใหญ!”
“ไดยินวา สตรีผูนี้แข็งแกรงและนากลัวอยางยิ่ง มิเชนนั้นคงมิไดรับสมญานาม
เชนนั้นหรอก”
นกหลวนหาสีทะลวงมานหมอกเขามาประชิด สตรีเทพเจาสงครามพรางดวยชุด
เกราะทองคําทั้งตัว แตกลับยากจะปดบังรูปรางจับใจของนางได หนาอกอวบอิ่ม เอว
คอดกิ่ว ขาสองขางเรียวยาว เนื้อตัวเปลงประกายสีทอง มีความงามคอนขางพิเศษอยาง
หนึ่ง
แมจะสวมหมวกสีทอง หากแตใบหนาก็เผยออกมาเปนสวนใหญ คิ้วดุจวาดขึ้น ผิว
ขาดกระจางใส นี่เปนหญิงงามที่พบเห็นไดยาก มีลักษณะแตกตางไมเหมือนใคร
นางมองเจาตัวเล็ก ยามอาปากเผยฟนขาวเปนประกายแวววาว นางพูดวา “ขา
อยากเชื้อเชิญเจาใหเขารวมสํานักชวงชิงความเปนใหญ”
ผูคนทั้งหมดตางตะลึงพรึงเพริด สตรีเทพเจาสงครามแหงสํานักชวงชิงความเปน
ใหญก็ชางเถรตรง เมื่อมาถึงก็กลาวเชื้อเชิญเชนนี้ พวกเขาหวังสรางเครือขายกับเหลาผู
กลาใหถึงที่สุด มิเชนนั้นจะยิ่งใหญและอยูเหนือธรรมชาติเชนนี้หรือ
หนังสัตวเคลื่อนไหวอยางดวยความเร็ว อักขระสวางวาบ พุงสูทองฟา ดานบนมีกลุม
หญิงสาวสวมชุดสีขาว แตละคนงดงามกวาปกติ ราวกับกลุมเทพเซียน
“นองชาย พวกขาอยากเชิญเจาเขารวมศาลาปดฟา”
นี่ทําใหคนมากมายพากันริษยา ดินแดนสุขาวดีทั้งสองตางแยงชิงตัวเด็กคนนี้ คิดวา
เมื่อเขาไปแลวตองปฏิบัติตอเขาอยางยอดเยี่ยมเปนแน อบรมบมเพาะใหเปนผูพิทักษ
หรือเปนผูสืบทอด
“สหายนอย เจาตองคอยๆ ตัดสินใจ หากตองการบําเพ็ญตน ไมจําเปนตองเขารวม
สถานที่เหลานั้น วงศตระกูลบรรพกาลอาจเหมะสมกับเจามากกวา” ในตอนนี้เอง ชาย
ชราผมขาวดั่งหงส หนาแดงดุจเด็ก[1]คนหนึ่งเอยปาก นั่งขัดสมาธิอยูบนกอนหิน
ประหลาด ลอยลองสูฟากฟา
“โอ สหายตัวนอย ขอคุยเปนการสวนตัวหนอย” มีคนกลาวขึ้นอีกครา
...
เพียงชั่วครูก็มีคนหลายสิบกลุมยื่นไมตรีจิตแกเจาตัวเล็ก
และคนเหลานี้ลวนเปนผูมีอิทธิพลใหญอยางยิ่งยวด ชนเผาทั่วไปมิไดเอยปากแต
อยางใด เพราะรูดีวา พวกเขาสูญเสียขอไดเปรียบทางการชวงชิงไปเสียแลว เมื่อ
เผชิญหนากับผูสืบทอดแหงสํานักชวงชิงความเปนใหญ ศาลาปดฟา ตระกูลบรรพกาล
เหลานี้
เจาตัวเล็กตื่นจากภวังค เกาหัวแลวยิ้มอยางเขินอาย อัดอั้นตันใจอยางเห็นไดชัด
คนมากมายรูสึกวาเด็กคนนี้ชางซื่อตรง ทวาก็มีคนบางสวนไมแสดงความเห็นใด
โดยเฉพาะสี่ตระกูลใหญที่ถูกขูกรรโชก สาปแชงในใจ เจาเสแสรงตอไปเถิด ถึงจะบริสุทธิ์
เขินอายอยางไร ก็ทําลายหนทางของโลกแหงความวางเปลาไปแลวมิใชหรือ! หากเขิน
อายปานนี้ ไยจึงขูบังคับพวกเรา? โมโห!
“ขอบคุณน้ําใจพี่สาวและทานลุงทานหลาย ตอนนี้ขาเองก็ไมรูวาควรเลือกอยางไร
ใหขาลองใครครวญสักประเดี๋ยว” เจาตัวเล็กตอบ ไมอยากเลือกแมแตนิด ดวยเกรงวาจะ
ขัดใจกันทั้งหมด
“ได!”
คนบางสวนกลับเด็ดเดี่ยว บางมาจากดินแดนสุขาวดีโบราณ บางมากจากตระกูล
เกาแก มิไดบีบคั้น รูวาทําเชนนั้นไมมีประโยชน ตางลาถอยตามกันไป
จากนั้น แววตาของเจาตัวเล็กลองลอยและลุมลึก ทอดมองไปยังฟากฟา ไมรูวาคิด
อะไรอยู จิตใจไมอยูกับเนื้อกับตัว
“ลูกเอย เจาคิดอะไรอยู?” ลุงแผนหยกกลมเอยถาม รูสึกวาเขาลังเลมาก อาจนึกถึง
เรื่องที่ทําใหไมสบายใจก็เปนได
“เอะ” เจาตัวเล็กถอนหายใจแลวกลาววา “ขาลืมไปเรื่องหนึ่งไปเสียสนิท”
“เรื่องอันใดกัน?” ผูเฒาวิหคเอยถาม และคนอื่นๆ ลวนประหลาดใจ
“ขาลืมพนันกับพวกทาน กอนจะทําลายสถิติ ขาควรวางพนันแกตัวขาสักหนอย ขา
ลืมไป!” เจาตัวเล็กเก็บสายตาลองลอยนั้นไป ตะโกนอยางฉุนเฉียว
“ไสหัวไป!” ผูคนลวนอยากจะฟาดเขาสักแสหนึ่ง เห็นนัยนตาลังเลของเจา สีหนา
อมทุกขไมสุข นึกวาเปนอะไรไปเสียอีก ที่แทก็เปนเรื่องขี้ผงเชนนี้หรือ ยังขูดรีดกันไมพอ
สินะ?!
เมื่อครูฝูงชนยังคิดวาเขาทรงพลังอยางมาก แมจะตัวเล็ก แตกลับทอดมองไปยัง
ฟากฟาไมหยุด ลักษณะไมธรรมดา ตอนนี้...ภาพลักษณสูญสิ้น เจาเด็กหัวขนคนนี้กลับ
เอาแตเสียดายที่ขูดรีดผูคนไมได!
เจาตัวเล็กกระโดดลงมาจากยอดเขาดังฟว ผูคนตะลึงจนรนถอยอยางรวดเร็ว ดวย
เพราะบทเรียนจากรถคันหนาคว่ํานั่นเอง[2] ผูคนไมอยากถูกเขาสะเทือนจนตัวลอย
“โครม”
หินเพชรแหลกละเอียด พื้นดินปรากฏหลุมลึกขนาดใหญ เด็กมหัศจรรยเดินออก
อยางไรรอยขีดขวน แลวตบเศษดินบนเนื้อตัว เดินตรงดิ่งกลับไปตามทิศทางเดิม
“แคกๆ...” คนมากมายไดรับลูกหลงจากเศษกอนหินและฝุนผง พลันสําลักทันที
เจาตัวเล็กทําลายสถิติของสือยี่ไดสําเร็จ เรื่องราวกระจายออกไปดวยความเร็วอันนา
ตกใจ เริ่มจากปรากฏสถิติบนศิลากอน ทําใหโลกแหงความวางเปลาสั่นสะเทือนครั้งใหญ
จากนั้นในประเทศหินผาและที่อื่นๆ สํานักใหญและตําหนักกษัตริยมากมายตาง
วิพากษวิจารณกันอยางเซ็งแซ
ขาวคราวนี้เปนเหมือนกันพายุคลั่ง แพรสะพัดไปทั่ววงการผูบําเพ็ญตน ทุกคนตางก็
ทราบเรื่องแลว เด็กนอยคนหนึ่งรุงโรจน เปนผูมีพรสวรรควิเศษ
“ทําลายสามสถิติภายในวันเดียว โดยเฉพาะอันสุดทาย แสดงใหเห็นถึงการระเบิด
พลังอันหาที่เปรียบไมไดของเขา เหนือกวาสือยี่อยูเล็กนอย สถิติวิเศษเชนเดียวกันเลย!
ก”
“เสาะหาเขาใหถึงที่สุด ทําใหกระจางวาเขามาจากที่ใดกันแน มีสถานะใด เชื้อเชิญ
เขามาในดินแดนจักรพรรดิจะเปนการณดีที่สุด!”
ในตอนนี้ แมแตประเทศเกาแกก็สั่นสะเทือน อิทธิพลใหญลวนออกคําสั่ง นี่อาจเปน
เด็กอัศจรรยที่สามารถตานทานสือยี่ก็เปนได ควรคาแกการแลกดวยทุกสิ่งเพื่อใหไดตัว
เขามา
“สืบ ตองสืบเบาะแสของเขาใหชัด หามแพรงพรายและพลาดโอกาสเปนอันขาด!”
ในขณะเดียวกัน ผูมีอิทธิพลใหญซึ่งสืบสายเลือดของเผาสายฝนโดยตรง สีหนาไมคอย
นาดูเทาใดนัก ปรารถนาไลลาเสาะหาตัวทนของเจาตัวเล็ก
ตํานานของสือยี่ถูกทําลายแลว แมจะเปนเพียงหัวขอเดียว แตกลับกอใหเกิดคลื่นลูก
ใหญ ไมวา จะเปนคนในโลกแหงความวางเปลา หรือประเทศเกาแก ตางพูดคุยถึงเรื่องนี้
“โอ เบาะแสของเด็กคนนี้หาไมงายนัก ติดตามความเคลื่อนไหวของเขาในโลกแหง
ความวางเปลาไปกอนเถิด”
ผูคนมากมายลวนตองการทราบวา เจาตัวเล็ก ผูซึ่งทําลายตํานานตลอดกาลของสือ
ยี่กําลังทําอะไรอยู ดวยเหตุนี้ คนที่มิไดมาชมเหตุการณก็โผลมามากมาย ดินแดนขั้นตน
แนนขนัดเบียดเสียด
“เอะ ไยเขาจึงนั่งอยูหินกอนนั้นอีกแลว คิดจะทําอะไร?” ผูคนไมเขาใจ
“ตูม”
กอนหินสั่นไหว จากนั้นมานแสงกวางใหญก็แผปกคลุม บดบังที่แหงนั้นไว
“เขา...คงมิไดคิดทําลายหนทางของโลกแหงความเปนจริงแลวใชไหม?”
ถอยคําเพิ่งกลาวจบ แผนศิลาปรากฏขึ้น ดานบนมีอักษรบรรทัดหนึ่งเขียนไววา
‘ทําลายหนทางแหงดินแดนขั้นตนจนแหลกลาญ...’
“เวรเอย!”
“ไมนาใหอภัย!”
“เขาโจมตีในระยะเวลาอันสั้นอีกคราจริงๆ เสียดวย!”
มวลชนตะลึงจนตาเหลือกปากอากวาง จากนั้นก็เต็มไปดวยเสียงเอะอะโวยวาย
“ลอกันเลนรึเปลา เขาไดกระดูกล้ําคามาอีกแลว!”
เกิดเสียงดังเซ็งแซไปทั่วทุกหนแหง เจาเด็กเหลือขอคนนี้เหลือเชื่อจริงๆ เพื่อใหไดมา
ซึ่งกระดูกล้ําคา จึงสรางสถิติอีกครั้ง ทําลายหนทางสีทองอีกครา
“ชั่วชาเลวทราม ชางไมนาใหอภัยเสียจริง!”
“ประหลาดนัก เด็กคนนี้รนหาที่จริงๆ”
ผูคนในแตละดินแดนสรวงสวรรคตางโมโหโทโส เชนนี้ก็ไดหรือ แมแตโลกแหงความ
วางเปลาเองก็เชนกัน กลับตบรางวัลใหกระดูกล้ําคาแกเขา มิใหโกรธเกรี้ยวไดอยางไร
“มีผูใดจะไปฟาดเขา ณ ดินแดนขั้นตนสักฉาดไหม? อดทนอดกลั้นตอไปไมไหว
แลว”
“ในดินแดนผีเชนนั้น ไมมีผูใดกลาเหิมเกริมกับเจาเด็กคนนั้นหรอก หากไปก็เทากับ
รนหาที่ชัดๆ”
“เวรเอย...เขาทําลายสถิติอีกแลว พวกเจาดูสิ ผลคือ...ทําลายหนทางแหงดินแดน
ขั้นตนครั้งที่สาม”
ผูคนคลุมคลั่งอยางสิ้นเชิงแลว เด็กคนนี้ชางชั่วชานัก เพื่อกระดูกล้ําคา จะกระทํา
การอยางไมสิ้นสุดเชนนี้หรือ?
“เอะ ไมสิ หนนี้มิไดมอบกระดูกล้ําคาแกเขา นี่มัน...สวรรคมีตา ฮาๆ กลับถูกโลก
แหงความวางเปลาตักเตือนเสียอยางนั้น จัดใหเปนบุคคลอันตราย!”
“ฮาๆ...เจาเด็กประหลาดคนนี้!”
ทุกหนทุกแหง ผูคนพากันหัวเราะอยางบาคลั่งไมหยุดหยอน หนนี้ถือวาสวรรค
ยุติธรรมแลว
เจาตัวเล็กทุกขระทม เดิมทีตองการเก็บกระดูกล้ําคาชิ้นที่สาม เขาเตรียมการสราง
คายกลดวยตนเอง ไมคาดคิดวาจะถูกตักเตือนอยางเขมงวด บนศีรษะปรากฏกลุมเมฆดํา
ทมิฬ รวมตัวกันอยางไมแยกจากกัน หมดหนทางจะหลีกหนี
เจาตัวเล็กบนพึมพําวา “ไยตองตักเตือนขา มิไดกลาวไวเสียหนอยวาหามทําลาย
หนทางของโลกแหงความวางเปลา หากมีกฎระเบียบเขียนไวชัดเจน ขาคงไมกระทําผิด
หรอก”
“ฮิๆ...”
“ฮาๆ...”
ผูคนตางหัวเราะลั่น ไมรูเพราะเหตุใด เมื่อเห็นเจาเด็กประหลาดพายแพ มีเมฆดํา
ปรามอยูบนศีรษะ ผูคนตางรูสึกเบิกบานใจ ดีอกดีใจเปนอยางมาก
มีเพียงเจาตัวเล็กที่หดหูใจ เดินเลนเดินเตรไปทั่วดินแดนขั้นตนพลางบนอุบวา “พวก
ทานหาราชันแหงสัตวมาใหขา 10 ตัว ขาจะทําลายอีกสถิติหนึ่งของสือยี่เสีย”
เมื่อวาจานี้ถูกเอยออกไป พลันเกิดเสียงอึกทึกครึกโครม ไมสามารถตัดสินเจาเด็กคน
นี้ดวยบรรทัดฐานทั่วไปได เขาจะกอเรื่องอีกแลว
ไมนานนัก มีคนเริ่มออกตามหาราชันแหงสัตวแลว หมายทดลองวาเขาแข็งแกรง
เพียงใดกันแน
“เอะ เขากําลังทําอะไรนะ?”
ผูคนพบวา เจาตัวเล็กยืนอยูหนาแผนศิลา ลูบขึ้นไลลง สัมผัสกระดูกล้ําคาบนนั้น
“เวรเอย เจาเด็กคนนี้บาไปแลว คงมิไดคิดจะทําลายแผนศิลาบันทึกสถิติหรอกนะ?”
คนมากมายเกิดลางสังหรณไมดี แววตามิชอบมาพากล
“โครม”
เสียงดังสะทานฟาสะเทือนโลกาดังขึ้น พิสูจนการคาดการณของผูคนไดอยางดี
“โอบรรพบุรุษ ไยเจาไมใจเย็นกวานี้เสียหนอย แมแตแผนศิลาก็จะทําลายอยางนั้น
หรือ?” ลุงแผนหยกกลมและคนอื่นๆ ตางลิ้นจุกปาก กลืนไมเขาคายไมออก
คนอื่นๆ ตางตะลึงงัน เด็กคนนี้ชางประหลาดเสียจริง เขาชางอาจหาญนัก!
เพียงชั่วครู มานแสงที่ปกคลุมแผนศิลาคลี่คลาย เผยรางกายของเจาตัวเล็กอยาง
ชัดเจน อีกทั้งเศษศิลาที่ถูกทําลายจนแหลก
“หา เขาทําลายมันแลวจริงๆ ดวย!”
จุดแสงลนหลาม ปรากฏแผนศิลาขึ้นทุกหนแหง ผูคนมองดูจนนิ่งอึ้ง!
มีแตเจาตัวเล็กที่โมโหอยางยิง่ เมฆดําทมิฬที่กดอัดอยูบนศีรษะหนาแนนมากยิ่งขึ้น
จวนฝงรางของเขาแลว
“ฮาๆ...”
หลังจากเงียบงันไปชั่วขณะ ก็เกิดเสียงดังเซ็งแซไปทั่วโลกแหงความวางเปลาทันที
ไมรูแนวามีคนมากมายเทาไหรกําลังหัวเราะ
“นี่คงเปนครั้งแรกในประวัติศาสตรกระมัง เขาถูกโลกแหงความวางเปลาขับไลเสีย
แลว!” ผูคนตางหมดวาจาจะเอื้อนเอย เรื่องเชนนี้เกิดขึ้นแลว
“ฮาๆ...สนุกสนานเสียจริง!” คนจํานวนมากหัวเราะอยางไมหยุดหยอน
รางของเจาตัวเล็กกําลังเลือนราง เมฆดําบดบังรางกาย บดรางกายของเขาจนพรา
มัว จวนมลายหายไป
“เพราะเหตุใดกัน ขามิไดทําความผิดเสียหนอย บนแผนศิลามิไดเขียนไววาหาม
ทําลายนี่นา?!” เขาตะโกนอยางโมโห
“ลูกเอย เวลาสองปผานไปไวนัก พวกขารอเจากลับมา ในระยะนี้ เจาตองกลายเปน
ตํานานซึ่งไมมีผูใดทดแทนไดในโลกแหงความวางเปลาเปนแน ฮาๆ!” คนกลุมหนึ่งรูวา
เปนการยินดีปรีดาบนความโชครายของผูอื่น แตก็ยังกลาวลาเขาดวยใจจริง
สองป วาเร็วก็เร็ว วาชาก็ชา บางทีอาจมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายก็เปนได
..............................
[1] ผมขาวดั่งหงส หนาแดงดุจเด็ก สํานวนจีน แปลวา ผูสูงวัยที่แข็งแรง มีกําลัง
วังชา
[2] บทเรียนจากรถคันหนาคว่ํา สํานวนจีนแปลวา บทเรียนแหงความลมเหลว มิให
ทําซ้ํารอยเดิม
บทที่ 95 กลายเปนตํานาน
เมฆทมิฬกําราบ หมอกดําแผคลุม เจาตัวเล็กตอตานอยางสุดกําลัง อยางไรก็
ตานทานไมไหว รางกายเลือนรางมากยิ่งขึ้น เขากูรองอยางโกรธเกรี้ยว
ไมรูเพราะเหตุใด เมื่อเห็นเด็กดื้อคนนี้เปนเชนนี้ จวนถูกขับไล ฝูงชนตางหัวเราะจน
ริมฝปากกระตุก ชางไรความเห็นใจ
“ฮิๆ...”
“ฮาๆ...”
“แลวขาจะกลับมา!” เจาตัวเล็กทิ้งเสียงออนโยนที่มีทั้งความไมพอใจ ความเสียดาย
และความโกรธไว
“คอยเจากลับมา!” ลุงแผนหยกกลมหรี่ตา เอยตอบเสียงดังพลางลูบเคราขาวโพลน
“รีบไปรีบกลับละ ครั้งหนาอยาละโมบเชนนี้อีก” อาคอนหัวเราะอยางสบายอก
สบายใจ โบกคอนหักอันหนึ่งเพื่ออําลาเขา
“เฮอ เด็กนาสงสาร ถูกโลกแหงความวางเปลาเนรเทศเสียแลว นี่ก็เปนอีกสถิติหนึ่ง
กระมัง เหมือนวาจะไมเคยเกิดขึ้นมากอน” ผูเฒาวิหคทอดถอนหายใจ เด็กคนนี้ทําให
ผูคนเอือมระอา ชั่วรายอยูเล็กนอย อาจหาญทําทุกอยางเพื่อกระดูกล้ําคา
“ฮึ่ม...” เจาตัวเล็กฉุนเฉียว ไมคิดวาจะถูกขับไสไลสง กระเสือกกระสนไปก็ไร
ประโยชน เขาถูกหมอกดําทมิฬเบียดออกจากดินแดนขั้นตน
ซากปรักหักพังจํานวนมากเหลือคณะนับปรากฏขึ้นเบื้องหนา แนวกําแพงพังทลาย
แผกระจายกลิ่นอายเกาแกอันผานโลกมาอยางโชกโชน บอกเลาความรุงโรจนในอดีต
ยิ่งกวานั้นคือ ภูเขาปศาจลูกแลวลูกเลา รายลอมดวยรังสีดึกดําบรรพ ปรากฏขึ้นบน
เสนขอบฟา นาหวาดผวา ราวกับมาเยือนวันสรางโลก
นี่เปนโลกแหงความวางเปลาเชนกัน เหลาทวยเทพสรางขึ้นจากจิตวิญญาณ เพียง
แคที่แหงนี้แยกตัวออกจากดินแดนขั้นตนและดินแดนสรวงสวรรค ไมอยูในขอบเขตของ
ดินแดนเหลานั้น
ไกลออกไป ตนหลิวทะยานฟาตนหนึ่งฝงรากลงในซากปรักหักพัง กานออนทั้งหา
พลิ้วไหวไปตามสายลม ดูดซึมไอหมอก สกัดกลิ่นอายเกาแก สะบัดปลอยแสงสีเขียว
“ทานเทพหลิว” เจาตัวเล็กเรียกเสียงเบา เขาหดหูใจมาก ใบหนาเล็กแตมสีหนาไม
เบิกบานใจ เคลื่อนตัวมาทีละกาว
ตนหลิวตื่นฟนคืนจากการบําเพ็ญพิเศษอยางหนึ่ง กลาวอยางประหลาดใจเล็กนอย
วา “ไยจึงกลับมาแลวละ ตามพรสวรรคของเจาแลว แมจะอยูสักครึ่งเดือน ก็ไมเปน
ผลรายตอรางกายในโลกแหงความจริงนี่”
“ขาถูกขับไลกลับมา” เจาตัวเล็กกลัดกลุม ลูบเขี้ยวขาวสะอาดแวววาวแลวพูดวา
“ขาไมพอใจอยางยิง่ มีวิธีดิ้นรนกลับไปไหมขอรับ?”
“ผูใดขับไลเจากัน หรือเจาพบเจอกันคูตอสูแลวตานทานไมไหว จึงถูกผูคนขับไลงั้น
รึ?” ตนหลิวเอยถามดวยน้ําเสียงออนโยน ใหความรูสึกสงบและมงคล
“ขาถูกโลกแหงความวางเปลาเนรเทศ มันไมใหขา อยูในนั้นแลว” เจาตัวเล็กหนา
มอยคอตก เตะเศษกระเบื้องจนปลิว
“หืม?” ตนหลิวประหลาดใจ แมแตผูนิ่งเฉยและสงบเชนมันยังเผยความรูสึกเมื่อถูก
เรื่องนี้กระตุนเขา เอยถามวา “เพราะเหตุใดกัน ไยโลกแหงความวางเปลาตองเนรเทศ
เจา?”
“ขา...สะเทือนหินกอนหนึ่งจนแตก จากนั้นก็พลั้งมือทําศิลาแผนหนึ่งแหลก ขุดเอา
กระดูกออกมา ปรากฏวาถูกตักเตือน ใชเมฆดํากําราบขา” เจาตัวเล็กตอบ
“ไมสิ ตองเกิดเรื่องพิเศษบางอยาง เจาลงรายละเอียดเสียหนอย หากถูกกดขี่และ
ปฏิบัติตออยางไมยตุ ิธรรม สามารถกลับเขาไปได” เทพเจาตนหลิวกลาว
“ออ ศิลาแผนนั้นคือศิลาสถิติ หินกอนนั้นคือหนทางของโลกแหงความวางเปลา...”
เจาตัวเล็กเอยความกระชับอยางไมใสใจ
ตนหลิว “...”
ผานไปเนิ่นนาน ตนหลิวไมเอื้อนเอยวาจาใด ลําตนดําเกรียมดูดซึมหมอกพรามัว
กานหลิวทั้งหาเขียวชอุมซึมซับพลังปราณกลางนภา ราวกับแชแข็ง ณ ที่แหงนั้นไปเสีย
แลว
“ทานเทพหลิว ทานเอยวาจาเสียหนอยสิขอรับ ขาจะกลาวเหตุผลแกมันไดหรือไม
กลับเขาไปอีกหน ขาไมยอมนะ!” เจาตัวเล็กเผยสีหนาคาดหวังรอคอย
“ไมได!” ตนหลิวกลาวอยางกระชับและเด็ดขาด ปฏิเสธเขาทันที
“เพราะเหตุใด?” เจาตัวเล็กเริ่มขาดความมั่นใจ
ตนหลิวถอนหายใจแลวเอยวา “เจามัน...ยังทํามากกวานี้อีกไดหรือ หากเปนขา ขา
จะไมเนรเทศเจา”
“ขารูดีวาทานเทพหลิวมีเมตตา เอะ เสียดายทานมิใชโลกแหงความวางเปลาผูไร
จิตใจ”
“หากเปนขา จะจับเจาโยนลงในคุกสัตวสีดําเสีย”
เมื่อเจาตัวเล็กไดฟงก็เหมอลอย เกาหัวไมหยุด เขาอธิบายเสียงเบาวา “โลกแหง
ความวางเปลาใหญปานนั้น ศิลามากมายเพียงนั้น ขาดแผนนั้นไปคงมิเปนไร อีกอยาง
ดานบนไมไดเขียนวาหามทําลายนี่นา”
“สองปใหหลังคอยกลับมาใหม” ตนหลิวสรุปหลังจากไดฟงความจริง ปดความคิด
ของเขาทิ้งอยางเด็ดขาดตรงไปตรงมา
“ขาจะกลับมาแนนอน!” เจาตัวเล็กวิ่งไปยังสุดขอบดินแดนผุพัง ตะโกนใสกอนหิน
ใหญซงึ่ เปนหนทางเชื่อมไปยังดินแดนขั้นตน
“เอะ ไยขาจึงไดยินเสียงตะโกนของเด็กคนนั้นละ เปนความจริงหรือ เขาถูกเนรเทศ
ออกไปแลวนี่ ยังมีพลังจิตแกกลาปานนั้นอีกหรือ?” กลุมคนในดินแดนขั้นตนตางสงสัย
และไมแนใจ จองมองกันและกัน
กลางดินแดนผุพัง แสงสีเขียวดุจสายฟา ตนหลิวสวางไปทั้งตน จากนั้นระเบิดคลื่น
ทวมทนทองฟาอยางรุนแรง กานออนทั้งหาขยายขึ้น ยาวไมรูกี่ลี้กันแน พุงยอนขึ้นไป
ทะลวงฟากฟา
“โครม!”
นภาสั่นไหว ประตูบานหนึ่งปรากฏขึ้น ไอหมอกขมุกขมัว กลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ลอย
กลางอากาศ มันหุมตัวเจาตัวเล็กแลวพุงทะลวงเมฆา ขามผานประตูบานนั้นไป
ณ หมูบานหินผา เด็กคนหนึ่งกําลังนั่งขัดสมาธิ ใบหนาเล็กขาวกระจางดุจหยก แพร
ขนตายาว ในตอนนี้กลับลืมตาขึ้นมาทันใด ลุกพรวดขึ้นอยางรวดเร็ว
“ลูกเอย เจาฟนแลวหรือ รูสึกอยางไรบาง?”
“รางกายของเจาไมขยับ ไรจิตวิญญาณ พวกขาคิดวาเกิดปญหาอะไรกับเจาเสียอีก
วิญญาณหลุดออกจากรางแลวหรือ?”
กลุมคนกรูกันเขามาลอมตัวเขาไวดวยความกังวลใจ สีหนาเปยมดวยความกระวน
กระวาย
“ขาไมเปนไร มีทานเทพหลิวคอยดูแล ไมมีอันตรายหรอกขอรับ ขาไปยังสถานที่ที่มี
ชื่อวา โลกแหงความวางเปลา” เจาตัวเล็กลุกยืนขึ้น บอกกลาวแกพวกเขาวา เพียงแคจิต
วิญญาณทองในดินแดนสรวงสวรรคเทานั้น
“ออ ขาควรคิดใหออกแตแรกวาเปนโลกแหงความวางเปลา ทวาขาไมเคยเขาไปเลย
แมแตครั้งเดียว” หัวหนาหมูบานอุทานดวยความตะลึง
“โอโห จิตทองในดินแดนสรวงสวรรครึ เปนความรูสึกแบบใดกันนะ ดินแดนเทพเจา
เปนสถานที่อยางไหนกัน?” ชิงเฟงประหลาดใจ ตามดวยเด็กๆ เขามาหอมลอม เอะอะ
โวยวาย วิงวอนใหเขาเลาเรื่องโดยไว
เจาตัวเล็กกลาวตามความเปนจริง มิไดปดบังแตอยางใด ชาวบานฟงจนนิ่งอึ้ง พากัน
เหมอลอย ผานไปชั่วครูจึงระเบิดเสียงหัวเราะดังเกรียวกราว
“ขาวานะ เจาก็ชางรนหาปญหาใสตัวเสียจริง เนรเทศเจาออกมาก็ถูกตองแลว”
คนทั้งหมดตางหัวเราะ มีเพียงเจาตัวเล็กที่หนาถมึงทึง โกรธเคืองไมสิ้น
“พวกขาจะไปบําเพ็ญตนที่นั่นดวย” เด็กๆ พึมพําดวยความคาดหวัง
เมื่อถอยออกจากโลกแหงความวางเปลาแลว ทุกอยางก็เปนเชนดังเดิม เจาตัวเล็ก
เริ่มบําเพ็ญตนอีกครั้ง ในทุกๆ วัน เขาจะเขาสูปาลึก ทะลวงดินแดนรกราง ตอสูกับ
สิ่งมีชีวิตดุรายนานาชนิด
ทวาเมื่อถึงดึกดื่นค่ําคืนไรผูคน เมื่อทําการหยั่งรูดั้งเดิมเพียงลําพัง ก็ยากจะสงบจิต
สงบใจ มักจะหวนคํานึงถึงประสบการณเมื่อไมนานมานี้
การทองเที่ยวของจิตวิญญาณในครั้งนี้ ทําใหเขามองเห็นโลกภานอก จิตใจคาดหวัง
มีผูกลามากมายปานนั้นตอตาน สํานักและดินแดนสุขาวดีจํานวนนับไมถวน อีกทั้ง
กษัตริยแหงประเทศเกาแกตางชวงชิงความใหญ เขาอยากเขารวมเปนอยางมาก
สุดทาย เขาบอกกลาวความคิดเหลานี้แกหัวหนาหมูบาน ฝายหลังเงียบงัน ผานไป
นานจึงพยักหนาแลวพูดวา “ลูกเอย เจาควรสยายปกโบยบิน หมูบานหินผาเล็กเกินไป
ไมเหมาะกับเจาเสียแลว”
เมื่อชาวบานทราบเรื่อง ตางกรูกันมา แมจะเขาใจการตัดสินใจของเจาตัวเล็ก แต
กลับอาลัยอาวรณมาก
มองดูเขาหัดยางเดิน ฝกพูดออแอ จากนั้นก็แปรเปลี่ยนเปนไมธรรมดา ตอนนี้จาก
ลาจาก เหลาอาหญิงและทานยาตางหลั่งน้ําตา
แมแตเหลาชายฉกรรจเองก็เงียบงัน เด็กคนนี้เติบโตแลว หมูบานหินผาเล็กๆ เหนี่ยว
รั้งเจาตัวเล็กไวไมไดแลว เขาตองการโบยบินในทองฟากวางใหญกวา
“เจาตัวเล็ก พวกขาไปกับเจาดีไหม” เออรเหมิง ผีโหวและคนอื่นๆ ตางพรวดพราด
เขามา ดวยอยากออกไปทองโลกภายนอกเชนกัน
“ไมได การบําเพ็ญของพวกเจายังไมเพียงพอจะเดินออกจากดินแดนรกรางแหงนี้
ยังหางไกลอยูมากโข บําเพ็ญตนที่นี่ใหดีกอนเถิด!”
“นั่นสิ เออรเหมิง ผีโหว พวกเจาเองก็อายุตั้งสิบสองสิบสามแลว ควรแตงงานมี
ครอบครัวไดแลว ทิ้งลูกไวสักครอกหนึ่งแลวคอยไป”
รุนพอและผูอาวุโสตางคัดคาน กลับยิ่งเอยถึงเรื่องแตงงาน ทําใหเด็กๆ ใบหนาแดง
ก่ํา ขวยเขินเปนอยางมาก
“ขาจะไปกับพี่ชายดวย” ชิงเฟงกลาว
ฝูงชนมิไดคัดคาน เพราะเจาตัวเล็กจะสงเขาไปสํานักปดฟานั่นเอง
“ดี พวกเราจะออกเดินทางวันรุงขึ้นเลย บําเพ็ญตนไปตลอดทาง คอยๆ เดินทาง
ไป” เจาตัวเล็กพยักหนา สุดทาย เขาเอยลาเทพเจาตนหลิว เอยถามความเห็นจากมัน
“ไปเถิด ระมัดระวังตัว ทวาเจาควรกลับมากอนอายุ 12 ปจะเปนการณดีที่สุด”
เทพเจาตนหลิวแนะนํา
เจาตัวเล็กเผยความสงสัย เอยถามเหตุผลจากมัน
“กลับหมูบานหินมาทําพิธีอาบชําระ” ตนหลิวกลาว
เด็กในชนเผาใหญ เหลาราชนิกุลและศิษยแหงดินแดนสุขาวดีเปนตน ตางทําพิธีอาบ
ชําระเมื่ออายุ 5 ขวบ 10 ขวบและ 15 ขวบ ใชเลือดบริสุทธิ์ของสัตวอสูรและโอสถล้ําคา
มาบมเพาะรางกาย ชําระอวัยวะภายใน เพราะมีความเชื่อมโยงกับความสําเร็จในอนาคต
ครั้งเจาตัวเล็กอายุ 5 ขวบ เคยถูกผนึกไวในหมอสําริด ใชเลือดล้ําคาของซวนหนี
ทายาทอสูรบรรพกาลมาบมเพาะรางกาย สรางรากฐานอันแข็งแกรง
“เนื้อแทแตกําเนิดของเจาดีมาก ทําพิธีอาบชําระกอนปสองป หรือชากวาปสองปก็
ไมใชปญหา แตหามพลาดเปนอันขาด จําตองกลับมา” ตนหลิวย้ําเตือน
เจาตัวเล็กพยักหนาอยางจริงจัง บงบอกวาจดจําไวแลว จิตใจฮึกเหิม หนนี้เทพเจา
ตนหลิวใหความสําคัญมาก ไมทราบแนวาจะใหเขาอาบชําระแบบไหนกัน
ในที่สุดก็ถึงวันออกเดินทาง ชาวบานทั้งหมดลวนมาสง เจาขาว สัตวประหลาดเขา
เดียวสวางวาบไปทั้งตัว สองแสงสีเงิน ราวกับหลอมมาจากทองคํา เขาเดี่ยวรายลอมดวย
อักขระ มันจวนแปรเปลี่ยนเปนสัตวอสูรแลว และตอนนี้กลายเปนผูนําแหงฝูงอาชาล้ําคา
เหลานี้เสียแลว
และฝูงสัตวประหลาดเขาเดียวเหลานี้ลวนคุนเคยกับชาวบานแลว แทบจะเปนหนึ่ง
ในสมาชิกของชาวบาน
“เจาขาว หนนี้ใหเจาติดตามไปดวยไมไดแลว สถานที่ที่ขาจะไปอยูห างไกลมาก เต็ม
ไปดวยภยันตรายมากมาย” เจาตัวเล็กตบกะโหลกที่กมลงมาของมันเบาๆ
เสียงแผดรองของปกษาดังขึ้น จื่อยวิ๋น ตาเผิงและเสี่ยวชิงบินโฉบลงมา แตละตัวยาว
นับหลายหมี่ มหัศจรรยและยิ่งใหญมากยิ่งขึ้น อักขระไหลเวียนทั้งตัว
อีกสักปสองป พวกมันจะตองเติบโตอยางสิ้นเชิง กลายเปนจาวแหงเทือกเขาละแวก
นี้ เมื่อถึงเวลานั้น ไมเพียงหมูบ านหินผาจะแข็งแกรงเทานั้น ยามชาวบานออกลาสัตวจะ
ไมมีภัยอันตรายอีกตอไป
“จื่อยวิ๋น พวกเจาก็ตามไปไมไดเชนกัน ระยะทางไกลเหลือเกิน อีกทั้งยังอันตราย
เปนอยางมาก” เจาตัวเล็กปลอบประโลมพวกมัน ใหพวกมันอยูที่นี่ เพื่อปกปองหมูบาน
หินผา
อสูรปกษาทั้งสามใชหัวถูไถรางกายของเขาไมหยุด แสดงความสนิทชิดเชื้อและไม
พอใจ แตก็อับจนหนทาง
สุดทาย มีเพียงเจาลูกขนสีทองกระโดดขึ้นบนไหลของเขา เพียงเพราะมันมีขนาด
เทากําปน ไมเปนที่สังเกต ไมวาจะไปที่ใด นําตัวมันไปดวยนั้นสะดวกมาก
กอนออกเดินทาง หัวหนาหมูบานนํากลองหินออกมา เปดมันออกอยางเครงขรึม
นําเอาขนสีแดงออกมาแลวพูดวา “ลูกเอย นํามันติดตัวไปดวย”
นี่เปนสิ่งที่นกสีแดงทิ้งไวใหเมื่อกอน ตนหลิวรักษาอาการบาดเจ็บใหมันจนหายดี มัน
ไมมีสิ่งอื่นตอบแทน จึงทิ้งขนวิเศษหนึ่งเสนเพื่อเปนของที่ระลึก สําหรับบางชนเผาใหญ
แลว มันเปนความนาสะพรึงกลัวอยางใหญหลวง
สุดทาย เจาตัวเล็กกับชิงเฟงก็ออกเดินทาง ชาวบานตามไปสงพวกเขาเปนระยะทาง
หลายลี้ ผูคนมากมายหลั่งน้ําตา ดวยกลัววาเกิดเรื่องไมคาดฝนกับเด็กสองคนนี้ เพราะ
พวกเขายังเด็กถึงเพียงนี้
แผนดินกวางใหญไพศาล เพียงดินแดนรกรางก็กินเนื้อที่นับหลายสิบหมื่นลี้ จากกัน
หนึ่งหนยากจะพบกันอีก สตรีในหมูบานหลายคนตางร่ําไห แมแตชายวัยกลางคนเองก็
รูสึกปวดเมื่อยสายตา
“เจาตัวเล็ก เจาตองรีบกลับมานะ พวกขารอเจากลับมา เราออกไปทองโลกดวยกัน
นะ!” เด็กๆ ตะโกนบอก เมื่อพบกันอีกครา บางทีพวกเขาอาจจะเติบใหญเปนพอเปนแม
คนแลวก็เปนได
“ลากอน!” เจาตัวเล็กก็หลั่งน้ําตา สุดทายก็หันกลับมามองอีกหน มุงหนาไปยังที่ไกล
แสนไกลพรอมกับชิงเฟง
เจาตัวเล็กกับชิงเฟงยังเดินทางไมพนผืนปา หากเดินทางดวยเทา ระยะทางสามแสน
กวาลี้นับวาเปนตัวเลขมหาศาล อยางไรก็ตาม ทั้งสองตองคิดหาหนทาง บนเสนทางนี้
กําราบเหลาสัตวรายจํานวนมาก แนนอนวาสถิติการตายมากมายปานนี้ พวกเขาจําตอง
เปลี่ยนสัตวพาหนะตลอดเวลา
เนื่องจากครั้งนี้ พวกเขามาเพื่อขัดเกลาตนเองเปนหลัก มิใชเรงออกเดินทาง ผจญ
ภัยอยางตอเนื่อง ไปยังพื้นที่อันตรายมากมาย เกือบนําหายนะมาสูตนอยูหลายครา
นี่เปนเหตุผลที่เจาตัวเล็กไมพาสัตวประหลาดเขาเดียวมาดวย เนื่องดวยเกิด
ความรูสึกผูกพัน มิอยากใหมันตายระหวางทาง
“ไอหยา!”
ชิงเฟงรองเสียงหลง ตัวลอยอยูกลางอากาศ กระวนกระวายเปนอยางมาก รอบกาย
มีเสียงลมดังหวีดหวิว
เจาตัวเล็กจับตัวอสูรปกษาตัวหนึ่งได ทั้งสองกระโดดขึ้นขี่บนหลังของมัน เดินทาง
กลางนภาของเทือกเขาดวยความเร็วสูงสุด อสูรปกษาคลุมคลั่ง จวนจะเหวี่ยงพวกเขาลง
ไปอยูหลายครา
แตเด็กทั้งสองเปนเหมือนกอเอี๊ยะ[1]แปะอยูบนตัวมันอยางแนนหนา ควบคุมมันให
บินไปตามทิศทาง
กระทั่งหลายวันตอมา อสูรปกษาตัวนี้ออนแรงจนน้ําลายฟูมปาก อดทนตอไปไมไหว
แลว พวกเขาจึงปลอยมันไป แทจริงแลว พวกเขากักตุนน้ําและเสบียงแลว
“ตื่นเตนเหลือเกิน!” ชิงเฟงฮึกเหิมมาก สําหรับเขาแลว ชวงการเดินทางนี้ถือวาเปน
เรื่องแปลกใหม
ทวาทําเชนนี้เปนอันตรายมาก บางครั้งเหลาสัตวประหลาดแกรงกราวมากไป พุง
ตรงเขาไปในสถานที่อันตราย อาจยั่วยุสิ่งมีชีวิตที่นากลัวอยางหาที่เปรียบไมไดออกมาก็
เปนได
แทจริงแลว หลายวันตอมา พวกเขาประสบกับอันตราย ทั้งสองจับสัตวประหลาด
นิรนามที่รางกายแนนขนัดไปดวยเกล็ดสีมวงตัวหนึ่งได บรรทุกพวกเขาพุงเขาสูหนองน้ํา
ยั่วตะขาบยาวเกือบ 10 กวาหมี่เขา พนพิษออกมา ทําลายผืนปาในชั่วพริบตา
และสัตวเกล็ดมวงตัวนั้นกลับตายอยางอนาถ ณ ตรงนั้นทันที กลายเปนกระดูกสี
ขาวกองหนึ่ง หากมิใชเพราะเด็กทั้งสองคลองแคลววองไว กระโดดลงมา วิ่งหนีกลับไป
ทางเดิม ก็คงจะกลายเปนซากเนื้อเปอยยุยไรชวี ิต
พวกเขาไมเรงเดินทาง เดินทางและบําเพ็ญตนมาตลอดทาง คนพบยาวิเศษ 10 กวา
ตน อีกทั้งยังลาเอาเลือดของสัตวอสูรมาไดไมนอยเลย สิ่งเหลานี้มีผลดีตอการบําเพ็ญ
ของพวกเขาเปนอยางมาก
สุดทายก็กินเวลานับครึ่งป ทั้งสองเดินทางออกหางดินแดนรกรางนับสามแสนลี้
มายังชายแดนประเทศเกาแก
ในระยะนี้ เจาตัวเล็กเปดถ้ําสวรรคแหงที่หาไดสําเร็จ ภูเขาไฟลูกหนึ่งพนของเหลวสี
ทอง ไหลพรั่งพรูออกมา เขาสูรางกายของเจาตัวเล็ก
ตอนนี้ บนศีรษะ รางกายทั้งสองฝง หนาอกและแผนหลังของเขาตางถูกภูเขาไฟ
หอมลอม และตอนนี้เขาเพียงอายุ 9 ขวบเทานั้น
“พี่ชายชางแข็งแกรงเสียจริง นี่เพียงครึ่งปก็บรรลุอีกแลว ทานผูเฒากลาวา ผูอื่นจะ
เปดถ้ําสวรรคแหงหนึ่งตองใชเวลาอยางนอยหลายป!” ชิงเฟงเกือบจะกราบไหว ภายใน
หัวใจนอยๆ ของเขา พี่ชายที่ไมสอดคลองกับอายุคนนี้สามารถทําไดทุกอยางจริงๆ
“ยังไมเพียงพอ ขาจะตองแข็งแกรงมากกวานี้” เจาตัวเล็กพูดเสียงเบา
ในระยะกวาครึ่งปมานี้ ชิงเฟงเองก็กาวหนาอยางรวดเร็ว ใตการชวยเหลือของเจาตัว
เล็ก เขาสังหารสัตวอสูรจํานวนมาก ใชเลือดบริสุทธิ์อาบชําระรางกาย ขณะเดียวกันก็
กลืนกินยาวิเศษ เขาเขาสูขั้นแปรผันโลหิต อีกทั้งจวนเขาสูระดับกลางแลว
อักขระของเขาลึกซึ้งเปนเวลานานแลว จุดออนเพียงอยางเดียวคือ กระดูกใน
รางกายแข็งแกรงไมพอ มิอาจตอสูกับทายาทอสูรและปกษาเทพเจาเลือดบริสุทธิ์ดั่งเจา
ตัวเล็กได
ในที่สุด พวกเขาก็เขาสูประเทศหินผา มิใชเสนทางเดียวกับครั้งกอน แตผานเขามา
จากอีกมหานครหนึ่ง
“เอะ ขาสัมผัสถึงโลกแหงความวางเปลาแลว นาเสียดาย ขาเขาไปไมได” เมื่อพวก
เขาเขาสูประเทศหินผา มาถึงมหานครใหญแหงหนึ่ง เจาตัวเล็กก็พบความจริงขอนี้
“ชิงเฟง เจาลองเขาไปยังโลกแหงความวางเปลา ไปหาพวกคนที่ชื่ออาคอน ผูเฒา
วิหคและลุงแผนหยกกลม เอยถามพวกเขาวาศาลาปดฟาอยู ณ แหงหนใด ตองเดินทาง
ไปอยางไร”
ครั้งนั้นเขาอยูในนั้นไมถึงวัน ไมทันไดเอยถามสิ่งเหลานี้
สุดทาย ชิงเฟงนั่งขัดสมาธิ รวบรวมจิตอยางสงบ สัมผัสไดถึงโลกแหงความวางเปลา
และเขาไปในที่สุด
ผานไปครึ่งวันเต็ม จิตของเสี่ยวชิงเฟงจึงกลับคืนสูรางกาย คอยๆ ลืมตาขึ้น
“เปนอยางไรบาง?” เจาตัวเล็กคาดหวัง แทจริงแลว เขาคิดถึงโลกมหัศจรรยนั่นเปน
อยางมาก
“พี่ชาย ขาไมคิดวาทานจะเลื่องชื่อปานนั้น โลกแหงนั้นอึกทึกครึกโครมเพราะทาน”
เสี่ยวชิงเฟงตื่นเตน
“เกิดอะไรขึ้น?”
ชิงเฟงกลาววา “ทานทําเรื่องราวใหญโตเพียงนั้น ทําลายหนทางของโลกแหงความ
วางเปลาจนแหลกลาญ ทําลายสถิติของผูมีตาดําสองลูก อีกทั้งยังทําลายศิลาบันทึกสถิติ
แมจะไมปรากฏตัวกวาครึ่งเดือน แตกลับกลายเปนบุคคลในตํานาน ทวา...ชื่อเสียงไมดี
มากนัก” ชิงเฟงพูดเสริมอยางระมัดระวัง
เจาตัวเล็กหนาดํา ลูบคางไปมา ยังคงอาลัยอาวรณ อยากจะเขาไปที่นั่นมาโดยตลอด
“ทานอาคอนพลั้งปากพูดวา คนไมนอยรูวาทานจะไปศาลาปดฟาและสํานักชวงชิง
ความเปนใหญ ตอนนี้โลกนั่นบาคลั่งและสั่นสะเทือนแลว อีกทั้งเหมือนวาคนมากมายจะ
ตายที่ศาลาปดฟากับสํานักชวงชิงความเปนใหญ” ชิงเฟงบอกกลาวขาวคราวเชนนี้
ออกมา มีความกังวลใจอยูบาง
เปนไปตามคํากลาว ตอนนี้โลกแหงความวางเปลาเกิดคลื่นลูกใหญขึ้นแลว ทั้งหมด
ลวนเปนเพราะเด็กเหลือขอในตํานานปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง และเปนโลกแหงความจริง
เสียดวย
..............................
[1] กอเอี๊ยะ ขี้ผึ้งปดแผลชนิดหนึ่งของจีน
บทที่ 96 ผูม ีอทิ ธิพลรวมตัว ณ ศาลาปดฟา
ณ โลกแหงความวางเปลา ดินแดนขั้นตน
“เรื่องจริงหรือ? เขาปรากฏตัวแลวรึ ขาคาดหวังอยูบาง หวังจะเห็นเขาที่ศาลาปด
ฟาและสํานักชวงชิงความเปนใหญเปนอยางมาก อยากเห็นใหประจักษแกสายตาวาเขา
ไมธรรมดาเพียงไหน”
“พบหนาไมสูคํานึงถึง”
“ยังจะคิดถึงรึ เจาคิดวาเปนคนรักรึ เจาเด็กประหลาดเชนนี้ หากขาพบเจอใน
ดินแดนสุขาวดี ขาจะหวดกนใหแตกเปนสิบแปดชิ้นใหรูแลวรูรอด!”
“ก็ใช หากอยูในดินแดนนี้ เจาเด็กหัวขนคนนั้นเหี้ยมโหดเกินไป พลังการตอสู
เหลือเชื่อเล็กนอย สูงสงจนนาตื่นตะลึง พวกขาถูกจํากัดใหอยูขั้นแปรผันโลหิต หาก
ปะทะกันจะเสียเปรียบไดงาย”
ในดินแดนขั้นตน หินใหญกอ นนั้นกะพริบแปลบปลาบอยางตอเนื่อง สรางหนทางสี
ทองเสนแลวเสนเลา ปรากฏรางคนเดินออกไปไมขาดสาย
คนเหลานี้ลวนมาจากดินแดนสวรรคขั้นสูงกวา พวกเขาไดยินขาวคราวของเจาตัว
เล็ก ตางใหความสําคัญกันมาก ลวงหนามายืนยันใหเห็นแกตาเปนการเฉพาะ
“ปากขานี่แหละ สมควรโดนฟาด!” อาคอนฟาดหนาตัวเองฉาดใหญ แมเสียใจก็ไม
ทันการณเสียแลว วันนี้ เมื่อไดยินขาวของเจาตัวเล็กก็ตื่นเตนเล็กนอยพูดเสียงดังไปนิด
เพียงครูขาวก็แพรสะพัดออกไป
ผูเฒาวิหคสงบนิ่ง กลาวอยางไมกังวลใจแมแตนิดวา “อยาโทษตัวเองเลย ตามนิสัย
ของเด็กประหลาดคนนั้น ตองไมเสียเปรียบอยางแนนอน มีความคิดชั่วอยูเต็มทรวง ขา
คาดการณวา ไมแนวาตอนนี้เขาอาจจะมีความคิดชั่วรายอยูแลวก็เปนได”
ลุงแผนหยกกลมกลับยิ่งชั่วราย สรางแผนศิลาขึ้นในสถานที่ผูคนพลุกพลาน ดานบน
สลักตัวอักษรใหญหนึ่งบรรทัดวา ‘หากเอยถามวาเด็กติดนมหยุดพักที่ใด โปรดจายแผน
หยกกลมหนึ่งแผน’
“ไอแกนี้นี่!” เมื่ออาคอนเห็นดังนั้น ตางตกตะลึงจนปากอากวาง ชายแกหนวดขาว
โพลนคนนั้นก็ชางคาขายเกงเสียจริง สมควรแลวที่ถูกเด็กประหลาดคนนั้นเรียกวา ทาน
ลุงแผนหยกกลม
ผูเฒาวิหคก็ไมสงบแลว ลากผาขาดมาผืนหนึ่ง รวมคาขายขาวลวงกับทานลุงแผน
หยกกลม ดึงดูดผูคนมาลอมมุงดูเปนจํานวนมาก
“เห็นรึยัง ตาแกสองคนนี้ อีกทั้งชายชาตรีผูถือคอน ตางทําชั่วชาเชนเจาเด็ก
เหลือขอนั่น ลวนประหลาดและบาปหนานัก”
คนที่รูเรื่องราวภายในยืนชี้มือชี้ไมอยูท ี่ไกลๆ รูซึ้งถึงความหมายแทจริงของการ
รวมตัวของคนประเภทเดียวกัน เพราะตอนนี้ไดรับคําอธิบายที่ดีที่สุดแลว
เหลาคนสวมใสชุดเกราะสีดําปรากฏตัว ทั้งตัวสองประกายของโลหะแวววาวอยาง
เย็นเยียบ ยางสามขุมออกจากหนทางสีทอง จากนั้นกระจายตัวอยางรวดเร็ว แยกยาย
กันเอยถามขาวคราวของเจาตัวเล็กกับผูคน
ผูคนตางตะลึงพรึงเพริด คนเหลานี้ตองแข็งแกรงมากเปนแน ความเปนมาไม
ธรรมดา มีอิทธิพลใหญกําลังติดตาม ไมรูวาเด็กคนนั้นดีหรือชั่วกันแน
ตอมา กระดูกสัตวชิ้นหนึ่งก็ปรากฏขึ้น ไอมวงกระเพื่อมขึ้น บินมากลางอากาศ
ดานบนมีคนมากมาย มีสตรีผูหนึ่งนําหนา ลวนสวมชุดสีมวง ดวงตาสุกใส ฟนขาวสะอาด
รูปรางเพรียวระหง งดงามอยางยิ่ง ดานหลังตามมาดวยเหลาผูกลา นาเกรงขามดุจภูเขา
สูงตระหงานหลายลูก
“นี่...ไยจึงรูสึกราวกับเปนราชนิกูลแหงประเทศเกาแกสักแหงกันละ?”
“ชูว เงียบหนอย หามวิจารณตามอําเภอ อยายั่วยุเปนอันขาด”
คนจํานวนมากตางเผยสีหนาขึงขัง มิกลาเขาประชิด ไมยินยอมกลาวคําทักทาย ดวย
เกรงวาจะบังเกิดบอเกิดแหงหายนะ
สตรีชุดมวงกาวลงจากกระดูกสัตว กรอกตาไปมา ไมไดเอยถอยคําใด แตละคนโยน
แผนหยกกลมหนึ่งแผนลงบนแผงคาขายของลุงแผนหยกกลมกับผูเฒาวิหค นั่งฟงพวก
เขาบอกกลาวขาวคราวอยางสงบ
“นางฟา แนนอนวาตองฟงขาวจริงนะ” ลุงแผนหยกกลมใบหนาเปยมดวยเคารพยํา
เกรง เขามิกลาหลอกลวงคนเหลานี้ บอกเลาความจริง ตนทําไดเพียงยืนยันวาเด็กคนนี้
ตองเดินทางไปศาลาปดฟาหรือสํานักชวงชิงความเปนใหญเทานั้น เรื่องอื่นไมอาจทราบ
ได
ผูเฒาวิหคก็มีสีหนาเครงขรึม มิไดพูดเกินจริงแมแตนิด มีชีวิตอยูถึงอายุปูนนี้แลว รู
ไดทันทีวายั่วยุคนเหลานี้ไมได แมแตสรางเรื่องหลอกลวงเพียงนิดก็ไมกลา
“ตาแกสองคนนี้ มิใชคนดี อีกทั้งชายถือคอนผูนั้นเองก็มิใชคนดีอะไร!” ฝูงชนชี้แนะ
อยางไรก็ตาม ผูคนตางก็ปกใจเชื่อ เด็กที่สรางเรื่องไมหยุด สรางเรื่องเกงมากคนนั้น
จะปรากฏตัวในโลกแหงความจริงอยางแทจริง มิใชขาวลือและความเท็จ
ในวันนี้ ไมเพียงเกิดคลื่นลูกใหญในโลกแหงความวางเปลาเทานั้น แมแตประเทศหิน
ผาก็เกิดขอวิจารณมากมาย ผูมีอิทธิผลใหญจํานวนมากใสใจเด็กผูซึ่งทําลายสถิติของสือยี่
ตอมาก็ถูกเนรเทศออกจากโลกแหงความวางเปลาคนนั้นเปนอยางมาก
มวลชนคิดมาโดยตลอดวา แมเด็กเหลือขอคนนี้จะชั่วราย แตพรสวรรคสะเทือน
โลกา มีศักยภาพอันยากจะประมาณคา ควรคาแกการเสาะหาและลากเขามารวมในกอง
กําลังของตน
สิบยี่สิบปขางหนา เด็กคนนี้อาจมีอานุภาพสะเทือนดินแดนมากมาย กลายเปนการ
ดํารงอยูอยางไมมีผูใดทัดเทียมได!
กษัตริยยิ่งใหญบางสวนกําลังเคลื่อนไหว บัญชารับสั่งใหขุนศึกออกตามหา
“โอ เทพเจาสงครามเคลื่อนไหวแลว เขาสงขุนศึกผูชาญชัยทั้งแปดที่อยูใตการ
ปกครองของตนออกไป นี่เปนการตัดสินใจอยางเด็ดขาดวาตองหาเด็กคนนี้ใหพบ”
“ราชันยไมเองก็ออกจากการบําเพ็ญตนแลว สั่งการใหราชนัดดาของตนนําเหลาผู
กลาออกเสาะหาเด็กคนนั้น คาดวาคงใหความสําคัญกับเด็กคนนั้นมาก จะเชื้อเชิญเขาสู
ตําหนักอยางนั้นหรือ?”
ผูมีอิทธิพลใหญมากมายกําลังเคลื่อนไหว สงกองทัพมุงหนาเขาประชิดศาลาปดฟา
และสํานักชวงชิงความเปนใหญ เพราะไมมีหนทางที่ดีกวานี้แลว รอคอยอยูตรงนั้นอยาง
สงบ
ไมเพียงแตประเทศหินผาเทานั้น ดินแดนที่มีอาณาเขตติดตอกับประเทศเกาแกก็เกิด
คลื่นลูกใหญ ดวยเหตุนี้จึงทําใหเกิดเรื่องราวมากมายนัก
“เจารูเรื่องรึยัง องคหญิงผูเปนที่รักยิ่งแหงจักรพรรดิออกจากดินแดนจักรพรรดิ ได
ยินวาจะออกไปศึกษาเลาเรียนยังแดนไกล”
นี่เปนขาวอันนาตื่นตะลึง ผูคนมากมายคาดเดาวา องคหญิงผูมีปญญาล้ําเลิศคงมิได
เดินทางไปศาลาปดฟาหรือสํานักชวงชิงความเปนใหญหรอกกระมัง?
“มีคนเห็นกับตาวา ราชรถลํานั้นเหาะเหินไปตามสายลม เดินทางไปยังแดนไกลดวย
ความเร็วสูงสุดในค่ําคืนหนึ่ง เสมือนวาเปนทิศทางของศาลาปดฟา ไมนาพลาด”
ทุกหนแหงไมสงบอีกตอไป กระทั่งมีขาวลือวา มีทายาทอสูรบรรพกาลปรากฏตัว
เอยถามขาวคราวของเด็กคนนั้นกับมนุษย
“ทายาทอสูรบรรพกาลสอบถาม ไมผิดแน เพราะเมื่อกอนสือยี่เคยประลองกับ
ทายาทอสูรบางสวน กลายเปนผูชนะ ตอนนี้มีคนทําลายสถิติของเขา ทายาทจึงออกมา
สอบถามตามปกติ”
ผูมีอิทธิพลใหญใหความสําคัญ มีคนปรารถนายื่นไมตรีจิต ยอมมีคนที่เจตนาชั่วราย
ชนเผาสายฝนถือวาอยูในกลุมหลัง
ในเขตราชฐานโตมโหฬาร มีราชวังโออาจํานวนมาก นี่เปนที่พํานักของชนเผาสาย
ฝน ในตําหนักใหญแหงหนึ่ง คนบางสวนนั่งขัดสมาธิอยางสงบเยือกเย็น หลังจาก
ปรึกษาหารือกันแลว คิดวาจําเปนตองเสาะหาเด็กคนนั้น ควรเฝาระวังติดตามขาวคราว
ของเขาทั้งหมดทั้งสิ้น
แมจะใหความสําคัญมาก แตพวกเขากลับมิไดคิดวาเจาตัวเล็กเปนภัยคุกคามตอสือยี่
แตอยางใด พวกเขามีความเชื่อมั่นในตัวของหลานชายเปนอยางมาก
“แมจะทําลายหนึ่งสถิติของสือยี่ได แตหากตอสูกันอยางแทจริง เขายังไกลหางอยู
มาก อาจถูกสังหารภายในพริบตา เพราะนอกจากสือยี่จะเปนผูมีตาดําสองลูก ยังมีไพ
ตายมากมายปานนั้น”
“พวกพี่นองเฟงเออรเขาสูศาลาปดฟาแลว ใหพวกเขาเพิ่มการเฝาระวังสักหนอย
หากพบเปาหมายนาสงสัย ใหลงมือใหถึงที่สุด! อีกอยาง สงรุนลูกที่โดดเดนไปอีกสักคน
สองคน”
“ไมผิดแน หากคํานวณตามอายุของเจาเด็กคนนั้นแลว บําเพ็ญตนไดไมกี่ปนัก ขั้น
ของการบําเพ็ญไมมีทางเหนือกวาเด็กของเผาเราเปนแน”
บทสนทนาของคนเหลานี้อํามหิตอยางเห็นไดชัด มีจิตสังหารอยางหนึ่ง หลายปมานี้
จิตใจของพวกเขาลวนไมสงบ คูสามีภรรยาสือจื่อหลิงและเด็กที่หายสาบสูญคนนั้น
กลายเปนหอกทิ่มแทงจิตใจ เมื่อปรากฏผูมีพรสวรรคที่มีอายุใกลเคียง จะกระตุน
ประสาทที่ตอบสนองไวของพวกเขา
หลายปกอน พวกเขาสั่งการใหมือดีมากมายลอมสังหารสือจื่อหลิง ผลปรากฏวาถูก
สังหารจนเรียบ เลือดยอมดินแดนตะวันตก ครอบครัวนั่นรอดพนไปไดอยางสงบ
ในวันนี้ คนจากจวนหวูหวังเคลื่อนไหวแลวเชนกัน พวกเขาใสใจเปนอยางมาก
เนื่องจากเด็กคนนี้ทําลายสถิติของผูมีตาดําสองลูกในจวนของตน แตไมมีผูใดทราบไดวา
พวกเขาจะกระทําการอันใด
“กษัตริยหวูหวังบําเพ็ญตนอยางปดตาย ไมปรากฏตัวออกมานานนับหลายป ไมรู
เปนตายรายดีอยางไร นั่นเปนถึงผูดํารงอยูที่นากลัว ซึ่งสามารถชิงบัลลังกจักรพรรดิ”
“สายเลือดนี้นากลัวและนาตื่นตะลึงเสียจริง แมจะมีอัจฉริยะมากมายปรากฏขึ้นใน
ดินแดนจักรพรรดิ แตในจวนหวูหวังมีเพียงสือยี่ก็เพียงพอจะชนะอัจฉริยะบุคคลจํานวน
มากแลว ชางนาสะพรึงกลัว”
เมื่อโลกแหงความวางเปลากวางไกลสุดลูกหูลูกตา และประเทศเกาแกไรที่สิ้นสุดเกิด
ประเด็นรอน ชนเผาใหญมากมายตางอยูในชวงของการเคลื่อนไหว เจาตัวเล็กและชิงเฟง
ออกเดินทางอีกครา ตรงกลางขั้นดวยเทือกเขากวางไกลและมหานครใหญ
หากคนทั่วไปตองการเดินทางไปไหนมาไหน เปนเรื่องที่เปนไปไมได ไมรูวาระหวาง
ทางจะพบเจอกับภัยอันตรายมากมายเพียงใด สัตวประหลาดบรรพกาลอยูทุกหนทุกแหง
ปกษาอสูรทะลวงชั้นฟา หนทางยากลําบาก
ผูคนไมสามารถรูไดวา เด็กสองคนเดินทางเพียงลําพัง ไรซึ่งผูใหญคอยดูแล ทะลวง
ผานภูเขาดึกดําบรรพอันไรทสี่ ิ้นสุด เดินทางผานดินแดนอันตรายมานับไมถวน สูรบ
ปรบมือมาตลอดทาง มุงหนาเดินทางทามกลางการตอสูอันนาเวทนา
นี่เปนการฝกฝนชั้นดีอยางหนึ่ง ระหวางทางพวกเขาผานมหานครมากมาย พัก
ชั่วคราวจากนั้นก็ออกเดินทางอีกครั้ง มุงหนาไปยังเปาหมายที่กําหนดไว
พวกเขาเดินทางดวยความเร็วที่ไมชาเลย ผานประสบการณมากมาย ระหวางทางทํา
ไดเพียงพึง่ พาสัตวอสูรที่มีความเร็งอยางยิ่งยวดเฉกเชนสัตวประหลาดเขาเดียว หรือ
ปกษาที่ไมดุราย ใชพวกมันเปนพาหนะในการเดินทาง
เพียงชั่วพริบตาก็ผานไปหลายเดือน พวกเขาเดินทางมาไกลกวาหกเจ็ดแสนลี้ ราว
กับคนปา สวมใสชุดหนังสัตวขาดรุงริ่ง ควบสัตวประหลาดนากลัวทะลวงผานดวย
ความเร็วสูงสุด
กระทั่งตอนนี้ พวกเขารูจักดินแดนรกรางดียิ่งกวามหานครของมนุษยเสียอีก
บางครั้งเพียงไดกลิ่นหรือเห็นลมพัดตนหญาโยกไหว ก็รูวามีสิ่งมีชีวิตนากลัวชนิดใด
ปรากฏตัว
ในที่สุด พวกเขาก็เขาใกลจุดหมาย จวนถึงดินแดนสุขาวดีเกาแกในตํานานแลว
ศาลาปดฟาและสํานักชวงชิงความเปนใหญอยูใ นทิศทางเดียวกัน ระยะหางกันไม
มากนัก แนนอนวาสิ่งที่เรียกวาไมไกลนั้น เปนเพียงการเปรียบเทียบกับแผนดินกวางใหญ
ไพศาลนี้เทานั้น เพราะระยะหางแทจริงระหวางทั้งสองคือเกาหมื่นลี้ เพียงพอจะทําให
คนธรรมดาตื่นตกใจได ถือไดวาเปนจํานวนตัวเลขที่นากลัว
“พี่ชาย ทานเขาไปยังศาลาปดฟาพรอมขาเถิด พวกเราจวนถึงแลว” ชิงเฟงเกรงวา
เมื่อเจาตัวเล็กสงเขาถึงจุดหมายแลวจะลาจากทันที
คนปาทั้งสองลอดออกมาจากปาดึกดําบรรพ เสื้อผาขาดรุงริ่ง ชุดหนังสัตวถูกหนาม
ขวนจนขาดวิ่นหลายแหง นอกจากนี้ ยังมีลูกขนตัวดํามอมแมมจนดูไมได
“ตัดสินใจตามสถานการณแลวกัน” เจาตัวเล็กกลาว
“ทานตองอยูนะ มิเชนนั้นขาก็จะไปดวย!” ชิงเฟงอาลัยอาวรณ
“เห ผูคนมากมายเหลือเกิน” เจาตัวเล็กประหลาดใจ
ระยะทางยังหางจากศาลาปดฟาอยูมากโข แตกลับเห็นสัตวอสูรวิ่งหอ ปกษาอสูร
กระพือปก ตางบรรทุกคน ลวนเปนพาหนะมหัศจรรย
“วาว ชางเปนสัตวอสูรที่ยิ่งใหญเสียจริง พี่ชายดูนั่นสิ นั่นคือชางมังกรหยกใน
ตํานาน ทั้งตัวขาวแวววาว อักขระแนนขนัด ชางทรงพลังเหลือเกิน”
“ตามตํานานกลาววา ชางมังกรหยกเปนสัตววิเศษคุมครองศาสนาแหงชมพูทวีป ไม
คิดวาที่นี่จะมีทายาทตัวหนึ่งของมัน” เจาตัวเล็กพยักหนารัว
ระหวางทาง พวกเขาออกจากดินแดนรกราง และเขาสูมหานครมากมาย เขาใจ
สถานการณมากมาย เกิดประสบการณเพิ่มขึ้นไมนอยเลย
ชมพูทวีป เปนศาสนาที่นากลัวและยิ่งใหญมากแหงหนึ่ง สืบทอดมาเนิ่นนาน
สามารถยอนรอยกลับไปยังยุคที่เกาแกอยางยิ่งยวด
“ขาสังหารโจรโฉดกลุมหนึ่ง ตามคําสั่งเสียของพวกมัน มีรองรอยของชมพูทวีปในชั่ว
พริบตา” เจาตัวเล็กขมวดคิ้ว เขาไมตองการปะทะกับศาสนานี้ในระยะเวลาที่เร็วเกินไป
เพราะฝงตรงขามมีอิทธิพลใหญอยางยิ่ง
“เหมือนวาจะเปนคนของชมพูทวีปจริงๆ ตามเสนสนกลในเกาแกของพวกเขา ไมมี
ความจําเปนตองมาบําเพ็ญตน ณ ศาลาปดฟาแตอยางใด” ชิงเฟงงุนงง
“อยาไปสนใจพวกเขา” เจาตัวเล็กลากเขาเทียบขางทาง
ทันใดนั้น มีคลื่นนากลัวลอยมาตามอากาศ ปกษารายที่มีขนสวยสดงดงามทะลวงฟา
ผานไป ดานบนบรรทุกสตรีนับ 10 กวาคน
หนนี้ชิงเฟงมิไดตกตะลึง แตบนเสนทางตางก็มีคนตื่นตะลึง ลวนเงยหนาขึ้นมองดวย
ความสนใจอยางอดรนทนไมไหว
“นี่เปนนกยูงหาสี มีสายเลือดของเทพเจาบรรพกาล ชางยิ่งใหญและมหัศจรรยยิ่ง
นัก!”
“โฮก...”
เสียงคํารามดุจสายฟาฟาดสะเทือนคีรีธารา หุบเขาสั่นไหว มีราชสีหเกาหัวปรากฏ
ตัวอยูไมไกลนัก สีทองอรามทั้งตัว พนเมฆสาดหมอก แสงสีทองสาดทอไปทั่วทุกทิศ ราว
กับไมพอใจเสียงแผดรองของนกยูงหาสี
“นี่...เปนทายาทอสูรบรรพกาลอยางนั้นหรือ?” ฝูงชนตะลึงพรึงเพริด
“นี่ตองเปนทายาทอสูรบรรพกาลตัวหนึ่งเปนแนแท เปนสิ่งที่พระบรมวงศานุวงศ
แหงประเทศเกาแกพึงมี นี่เปน...บุตรธิดาแหงราชวงศจะเยือนศาลาปดฟารึ? ชางนาตก
ตะลึง”
บนหลังของสิงโตเกาหัวมีตําหนักอยูองคหนึ่ง สามารถเห็นเงาบางสวนในชั่วพริบตา
ทรงพลัง อาจมีความเปนไปไดวาเปนบุตรธิดาราชนิกุล ถูกมือดีคุมครองนําสงมายังที่แหง
นี้
เจาตัวเล็กกับชิงเฟงจองหนากันอยางตะลึงงัน ยังอยูระหวางการเดินทาง ก็พบเจอผู
มีอิทธิพลใหญซงึ่ มีสถานะสูงสงบางแลว
มุงหนาเดินตอไป เหลาสัตววิเศษก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ลวนนากลัวอยางยิ่ง บางสวน
ยิ่งใหญจนคนตัวสั่นระริก
หากเทียบกับคนเหลานั้น เจาตัวเล็กกับชิงเฟงก็เหมือนกับขอทานตัวจอยนาสงสาร
ชุดหนังสัตวขาดรุงริ่ง ไมมีแมแตสัตววิเศษเปนยานพาหนะ
“เราไปจับสัตวปามาอีกสักตัวดีไหม?” ชิงเฟงกลาวเสียงเบา
“ชางเถิด ไยจึงมีคนมากันมากมายปานนี้?” เจาตัวเล็กงงงัน
“เจาไมรูหรือ ตอนนี้ศาลาปดฟาไมธรรมดาเสียแลว เด็กประหลาดจากโลกแหง
ความวางเปลาผูนั้นจะมาเยือนแลว กอเกิดการเคลื่อนไหวไปทั่วทุกสารทิศ ผูคนมากมาย
มาเพราะชื่อเสียงเรียงนามเปนการณพิเศษ”
เมื่อชิงเฟงไดยินดังนั้น ก็เมมปากแอบหัวเราะอยูขางเคียง
“เจาสิประหลาด!” เจาตัวเล็กตําหนิในใจ ทวามิไดเอยออกไป เขาผมเผารุงรัง
หนาตามอมแมม กลาวเสียงเบาวา “ใหญโตปานนั้นเชียวหรือ?”
“ใช ผูมีอิทธิพลใหญมากมายตางเสาะหาตัวเขา มีคนตองการสรางไมตรี ยอมมีคน
ไมพอใจเขาเชนกัน”
เจาตัวเล็กหนานิ่วคิ้วขมวด ไมไดเอยถอยคําใดอีก ดึงชิงเฟงใหเดินตอ
“ดูนั่นสิ ราชรถบินมาแลว นั่นเปนปกษาอสูรชนิดใดกัน ชางงดงามเหลือเกิน หงส
มรกตหรือ?” มีคนอุทานอยางตกใจ
กลางฟากฟาสวยสดงดงาม ราชรถทะลวงฟามา ปกษาอสูรสีเขียวตัวหนึ่งสองแสง
แวววาว กระจายกลิ่นอายยิ่งใหญ บินผานศีรษะของผูคนไป
“นี่เปนราชรถแหงประเทศเพลิงไฟ โอ บุคคลไมธรรมดามาอีกแลว” มีคนอุทาน
“พี่ชาย พวกเขาลวนมาเพราะทานหรือ?” ชิงเฟงพูดเสียงเบา
“ไมนาใช” เจาตัวเล็กขมวดคิ้วพลางสายหนา
ไมนานนัก พวกเขาทราบขาวอันนาตกตะลึง ศาลาปดฟาจะเปดสํานักวิเศษ ผูไดรับ
การขนานนามวาโดดเดนจึงจะสามารถเขาได
นอกจากนี้ เจาตัวเล็กยังไดรับอีกขาวหนึ่งวา สือยี่อาจจะมา
“ครั้งนี้ชางครึกครื้นเสียจริง เด็กหัวขนที่สามารถสรางเรื่องในโลกแหงความวางเปลา
ซ้ําแลวซ้ําเลาคนนั้นจะมา อีกทั้งผูมีตาดําสองลูกจะสงพี่นอ งในตระกูลมาดวย ไมแนวา
อาจปะทะกันก็เปนได”
“ขาก็ไดยินมาเชนกัน นี่เปนขาวที่เพิ่งปลอยออกมา สือยี่ผูนั้นทรงพลังมาก ขาจะ
เขาสํานักวิเศษไปดูใหเห็นแกตาเสียหนอย!”
เมื่อขาวคราวเชนนี้แววมาก ยอมกอใหเกิดเสียงอึกทึกครึกโครม ผูมีตาดําสองลูกจะ
มา อีกทั้งจะเขารวมศาลาปดฟา ตองเปนขาวสะเทือนวงการ ไมวาจะเปนประเทศเกาแก
หรือโลกแหงความวางเปลา ลวนเพียงพอจะโหมคลื่นลูกใหญกันทั้งนั้น!
บทที่ 97 สถานการณภายในดินแดนสุขาวดี
ภูเขาตั้งสูงต่ําสลับกัน ตนไมเกาแกกระจายไปทั่ว รายลอมดวยมานหมอก ยิ่งเขาใกล
ศาลาปดฟามากเทาใด ทัศนียภาพอันงดงามก็เพิ่มมากขึ้นเทานั้น ภูเขาเปนลูกๆ ไมชัน
มากนัก ทิวทัศนงดงาม ปรากฏสัตวมงคลมากมาย
ระหวางทางมองเห็นทะเลสาบมากมาย ใสสะอาดไมขุนมัว มัจฉาวิเศษแหวกวายตัว
แลวตัวเลา เผยลวดลายงดงามแวบวาบ ทําใหพื้นผิวน้ํามีแสงสะทอนระยิบระยับ เปยม
ดวยชีวิตชีวา
“ชางเปนสถานที่ดีเหลือเกิน นี่เปนเพียงบริเวณรอบนอกศาลาปดฟา แตกลับมีกลิ่น
อายแหงจิตวิญญาณแนนหนาปานนี้ เหมาะแกการบําเพ็ญตนอยางยิ่ง” มีคนกลาว
สรรเสริญ
“โอ ถึงวาพวกเขาสามารถสืบทอดมาตั้งแตโบราณกระทั่งตอนนี้ เพียงมองจาก
ดินแดนวิเศษแหงนี้ กําหนดไวแลววาจะรุงโรจนและเปนมงคล”
ผูคนบนเสนทางมากขึ้นเรื่อยๆ หนทางใหญตัดผานเทือกเขา เมื่อมาถึงที่แหงนี้ก็ไม
เห็นสัตวรายนานาชนิดแลว ปลอดภัยขึ้นมากโข มองเห็นเพียงสัตวมงคลและปกษาวิเศษ
เทานั้น
เมื่อเดินหนามาได 100 กวาลี้ เห็นแผนศิลาใหญตั้งตระหงานอยูเบื้องหนา สลัก
ตัวอักษรไววา ‘ศาลาปดฟา’
พลังการเขียนทรงพลังและมีชีวิตชีวา มีกลิ่นอายยิ่งใหญและกวางใหญไพศาลลอย
มาปะทะหนาในชั่วพริบตา ราวกับมีเทพเจาตนหนึ่งยืนตระหงานอยูตรงนั้น จองมองไพร
ฟามาจากเบื้องบน
เมื่อถึงตรงนี้จึงจะถือวาเขาใกลศาลาปดฟา แตยังไมใชทางเขา ยังคงอยูบริเวณรอบ
นอก
“คนเยอะเหลือเกิน!” ชิงเฟงรองออกมาดวยความตื่นตะลึง เมื่อมาถึงจุดหมาย เขา
พบวามีคนนับหมื่นรออยูกอนแลว เบียดเสียดแนนขนัดเต็มผืนปา
“ไยจึงมีคนมากมายเพียงนี้ละ?” คนอื่นๆ ตางก็ตะลึงงัน
คนขางเคียงกลาววา “พวกเจาไมลองคิดดูสักนิด ศาลาปดฟาเปดรับศิษย ผูใดจะมิ
อยากเขาบาง นี่เปนดินแดนสุขาวดีเกาแก แมชนเผาใหญบางสวนตองทําทุกวิถีทาง ก็
ตองใหไดมาอยางนอยสักหนึ่งที่นั่ง”
ผูคนนับหมื่นมาถึงนานแลว ลวงหนามารอที่นี่เปนเวลาหลายวัน พื้นที่ปาบริเวณ
ดานหนาแทนศิลาเบียดเสียด แมแตเนินเขาละแวกใกลเคียงก็มีหนังสัตวแผอยู และมีคน
นั่งขัดสมาธิอยูขางบน
“แผนดินกวางใหญไพศาล หนทางไกลแสนไกล ดินแดนรกรางแผขยายกินเนื้อที่กวา
สิบหมื่นลี้ ผูคนมากมายไมสามารถเดินทางมาได มิเชนนั้นคงจะมีคนมากกวานี้” ชาย
ชราคนหนึ่งกลาว
เขาพูดความจริง คนจากชนเผาเล็กไมสามารถเดินทางหลายพันลี้ได แมจะใชการคุม
กันจากทั้งชนเผาก็ยากจะสงใหถึงจุดหมายได
เพื่อเสาะหาผูมีพรสวรรคอยางแทจริง ศาลาปดฟามักจะสงเหลาคณะทูตออกไปทุก
ป เดินเหินทั่วดินแดนรกราง เขาออกชนเผาใหญ ออกไปเฟนหาดวยตนเอง เสาะหาเด็ก
ที่มีพรสวรรคไมธรรมดา ศาลาปดฟาจะรับผิดชอบคุมกันตลอดการเดินทาง
ผูคนนับหมื่นที่อยูขางหนาเหลานี้ ลวนถูกสงมาจากชนเผาใหญหรือวงศตระกูลใหญ
หากชนเผายิ่งใหญมากพอ จะสามารถเดินทางมากกวาแสนลี้ลานนี้ได เดินทางนําพา
ชาวบานมาจากชนเผาของตน
สามารถพูดไดวา ในคนนับหมื่นนี้มีลักษณะจําเพาะชนเผาอยางรุนแรง ลวนใชชน
เผาเปนมาตรฐาน คัดสรรเด็กกลุมใหญมาจากชนเผาขนาดใหญแหงหนึ่ง รวบรวมและสง
มาที่นี่พรอมกัน
“นี่ยังไมถอื วามาก รออีกไมกี่วัน เมื่อเริ่มคัดเลือกอยางแทจริงจะมีคนมากกวานี้”
ชายหนุมอายุ 15-16 ปคนหนึ่งกลาว เขาตามชนเผามาเปนครั้งที่สามแลว สองครั้งกอน
ลวนไมถูกเลือก
“พี่ชาย ทานดูนี่เร็วเขา มีคนนิรนามมากมายกําลังเสาะหาอะไรอยู คงมิใชมุงหนามา
เพราะทานหรอกนะ?” ชิงเฟงพูดเสียงเบา
“อืม!” เจาตัวเล็กพยักหนา
เรื่องที่เขาจะมาศาลาปดฟาแพรงพรายออกไปในโลกแหงความวางเปลาเมื่อหลาย
เดือนกอน ผูมีอิทธิพลใหญมากมายซึ่งรวมถึงกษัตริยตางสงขุนศึกออกมา หมายเฝารอ
อยูที่นี่
ไมไกลนัก กลุมคนที่สวมชุดเกราะสีดํามีแววตาดุจกระแสไฟ ทวงทายางเดินทรงพลัง
เพียงมองก็รูวามาจากกองทัพที่มีกฎระเบียบเครงครัดเปนแน กําลังกวาดสายตามองใน
ฝูงชน
นาเสียดาย คนเยอะเกินไป จํานวนนับหมื่น พวกเขาปวดกระบาล ไมสามารถ
แยกแยะได
ไมไกลนัก ขนนกวิเศษขาวสะอาดลอยมา มีสตรี 10 กวาคนยืนอยูขางบน กรอกลูก
ตาไปมา เห็นไดชัดวากําลังตามหาอะไรบางอยางอยูเชนกัน
ผูคนเชนนี้มีมาก เมื่อเจาตัวเล็กกวาดสายตามอง ก็พบนับสิบนับรอยกลุม นี่ยังไมนบั
กลุมที่ยังไมมาและกลุมที่อยูหางไกลออกไป
เพียงสายลับที่สงมาก็มีกวาพันคน อิทธิพลใหญเหลานี้สมควรถูกยกยองวาระดมพล
ทําการใหญอยางแทจริง
“ลูกขน หยุดเสแสรงแกลงทําเปนตายไดแลว รีบตื่นขึ้นมาเถิด” เจาตัวเล็กหิ้วเจาลิง
นอยที่หาวหวอดๆ อยูบนไหลของเขาขึ้นมา
มันมีรูปรางกลมกลึง เดิมทีเปนสีทอง แตตอนนี้เนื้อตัวมอมแมมเชนเดียวกับเจาตัว
เล็ก ลูกขนถูกเลือดสัตวยอมจนตัวคล้ําไมนามอง
“แปลงรางใหอยูในลักษณะทั่วไป หามใหผูอื่นรูเปนอันขาด” เจาตัวเล็กเตือน ที่นี่
ไมใชสถานที่ธรรมดาทั่วไป หากมีคนรูวาเขานําจูเยี่ยนสีทองมาดวย ตองเกิดปญหาใหญ
เปนแนแท
เจาลูกขนบนอยางไมพอใจ เพียงชั่วครูข นก็กลายเปนสีเทาหมน ดวงตาไรแวว มองดู
เซอซาเล็กนอย จากนั้นก็หมอบลงกับไหลของเขาแลวนอนหลับอยางสนิท
ในขณะเดียวกัน เจาตัวเล็กเองก็คอยๆ แปลงราง ใบหนากลมขึ้นเรื่อยๆ สุดทายก็
นารักราวกับลูกแอปเปล มีเพียงดวงตาโตคูนั้นถูกบีบจนเล็ก เพราะใบหนาของเขาอวบ
อวนเสียแลว
“โอ ไดผล” ชิงเฟงประหลาดใจ แยมริมฝปากยิ้มอยางสนุกสนาน แมลักษณะของ
พี่ชายจะไมงดงามเชนเดิม แตไยจึงนารักเพียงนี้ อยากจะบีบแกมสักทีสองที
นี่เปนพลังเพียงอยางเดียวที่เจาตัวเล็กเรียนรูมาจากเจาลูกขน เปนวิชาการแปลง
กาย สามารถเปลี่ยนแปลงลักษณะภายนอกและกระดูกเปนตน มหัศจรรยอยางหาที่
เปรียบไมได
จูเยี่ยนเปนหนึ่งในเทพเจาวานรบรรพกาล ตามตํานานกลาววา พวกหยั่งรูการ
เปลี่ยนแปลงถึง 72 ชนิด นั่นเปนเคล็ดวิชาล้ําคาสะทานโลกาอยางหนึ่ง อานุภาพเคย
สะเทือนโบราณกาลมาแลว
นาเสียดาย อักขระภายในรางกายของเจาลูกขนแหลกละเอียดจนสิ้น รองรอยถูก
ทําลาย เหลือเพียงการแปลงรางเพียงอยางเดียว พลังการเปลี่ยนแปลงทั้ง 72 ไม
ครบถวนสมบูรณ ไมสามารถสําแดงไดอีกตอไป
เฉกเชนรางสามหัวหกแขน พลังสะทานโลกาสองชนิดนี้ไมสามารถเห็นไดอีกตอไป
ทําใหเจาตัวเล็กเสียดายอยางยิ่ง ศึกษาเจาลูกเปนเวลานาน แตกลับไมไดอะไรเลย
“ชิงเฟง เจาเขาไปสํานักไปไดแลว ถือแผนเครื่องรางนี้ไว ไมตองทําการทดสอบใด
สามารถกลายเปนศิษยที่ศาลาปดฟาใหความสําคัญมากที่สุด”
“ขา...” ชิงเฟงกมหนา นี่เปนเครื่องรางที่พี่ชายไดมา ตอนนี้กลับจะมอบใหเขา ทํา
ใหเขาละอายใจ เขาพูดมาตลอดทางวา เขาอยากผานดานไดดวยตัวเอง นอมรับการ
ทดสอบ แตพี่ชายกลับไมเห็นดวย
“ระหวางเจากับขามิตองเกรงใจถึงเพียงนี้ พวกเราเปนพี่นองกัน” เจาตัวเล็กพูดโนม
นาว
“พี่ชาย ทานคงมิไดคิดจะจากขาไปใชไหม?” ชิงเฟงทุกขระทม
“เจาวางใจเถิด ขาไมไปไหนหรอก เมื่อมาถึงดินแดนสุขาวดีโบราณเชนนี้ ถึงอยางไร
ขาก็ตองไดเรียนรูอะไรสักหนอยจึงจะเปนการดี เมื่อมาถึงที่แลวจะกลับไปมือเปลามิได”
“ขาขออยูเคียงขางทานเพียงไมกี่วัน จนกระทั่งทานผานดาน” ชิงเฟงกลาวดวยเกรง
วาเจาตัวเล็กจะจากไป
“มีคนอาศัยปายเครื่องรางเขาไปแลว!” ผูคนที่อยูไมไกลนักอุทานขึ้น เกิดเสียงดัง
เอะอะโวยวาย มวลชนอิจฉาเปนอยางมาก คนนับหมื่นตางตารอน
“นี่เปนคนที่ 15 แลว หลายวันมานี้มีเด็กเขาไปโดยอาศัยเครื่องรางนับ 10 กวาคน
แลว”
เจาตัวเล็กกับชิงเฟงไดยินดังนั้นก็ตกตะลึง พวกเขาเฝาสังเกตการณอยูอีกมุมหนึ่ง
“นี่ไมถือวาเปนเรื่องดีงามมากนัก พวกเจาเห็นที่ประทับไกลๆ เหลานั้นไหม มีเหลา
บุคคลสําคัญพํานักอยู พวกเขาสงเด็กพิเศษบางสวนมา คงไมจําเปนตองถือเครื่องราง ก็
สามารถเขาศึกษาในหองเรียนขั้นสูงสุดไดเปนแนแท”
มีคนชี้ไปขางหนา บนยอดเขาสวยงามเหลานั้นมีราชวังตั้งเรียงราย มีอาคันตุกะที่
สูงสงพํานักอยูดานใน บนเขามีสัตวมงคลของพวกเขาหมอบคลานอยู
ฝูงชนอกสั่นขวัญแขวน ตรงนั้นมีคนของชมพูทวีปอยูดวย มีธิดาของจักรพรรดิผู
ยิ่งใหญ อีกทั้งทายาทอสูรบรรพกาล เมื่อมีบุคคลเหลานี้มาเยือน ตองมีผูวิเศษและ
ยิ่งใหญเฉกเชนสือยี่เปนแน
หลายวันผานไป ในที่สุดก็มาถึงวันสําคัญ ศาลาปดฟาเริ่มทําการทดสอบ คัดเลือกลูก
ศิษยเขาสํานักของปนี้
ตามที่คาดไว จํานวนคนเพิ่มขึ้นเปนอยางมาก ตอนนี้มีคนนับแปดเกาหมื่นแลว
เบียดเสียดยัดเยียด ตางก็รออยูบริเวณรอบนอกศาลาปดฟา
สุดทาย กลุมคนเดินทางออกมาจากสํานักที่ตั้งอยูไกลออกไปดวยความเร็ว บางยืน
อยูบนกระดูกสัตว บางนั่งขัดสมาธิบนกอนหินประหลาด ลวนเนืองแนนไปดวยอักขระ
ลอยตัวเหนือพื้นดินสูงหลายจั้ง จองมองลงมา บุคคลสําคัญแหงศาลาปดฟาปรากฏตัว
แลว มิไดพูดอะไรใหมากความ เพียงนําทางผูคนไปยังทิศทางที่แทจริงของสํานัก
สองขางทาง เทือกเขาดุจฉิวหลงทอดกายนอน ทรงพลังเหลือเกิน สามารถมองเห็น
สมุนไพรโบราณฝงรากอยูกลางหนาผา ในรองหินไดอยางไมขาดสาย แตกลับไมมีผูใด
กลาเด็ด
ณ ที่แหงนี้ ผูคนมองเห็นภายในของดินแดนสุขาวดีบางสวน ตางเผยสีหนาตกตะลึง
“เอะ นั่นมันไมเลื้อยใบสุนัขที่พบเห็นไดยาก ตามตํานานกลาววาจวนสูญพันธุแลว
ตนนี้คงมีอายุอยางนอยก็หลายรอยป” มีคนชี้แนะ
บนเนินเขาลูกหนึ่ง ไมเลื้อยดําสนิททั้งตน ใบไมรูปรางประหลาด แผกิ่งกานคดเคี้ยว
เจริญงอกงาม ใบไมดุจหยกดํา เพียงแตลักษณะแปลกประหลาด ราวกับสุนัขสีดํา มัน
ไมไดมีขนาดใหญมาก หนาเทาขอมือ ยาวเกือบหมี่เทานั้น
ตลอดการเดินทาง ผูคนเห็นสมุนไพรโบราณจํานวนมาก ลวนมีคามหาศาล หากเปน
โลกภายนอกคงถูกเด็ดจนสิ้น แต ณ ที่นี่มีสํารองเต็มไปหมด ถูกหลอเลี้ยงในผืนปา ไมมี
ผูใดกลาแตะตอง
ขางทางมีปาหินเปนบริเวณกวาง มีสระน้ําเย็นอยูแหงหนึ่ง มีไอมวงผุดขึ้นมาเปน
สายสาย แมจากอยูหางไกล แตกลับรูสึกเย็นยะเยือกบาดกระดูก มีตนหญาฝงรากริม
สระน้ําเย็น มีใบไมรวมสี่ใบ เปนสีมวงทั้งตน มีแสงวิเศษไหลเวียนขมุกขมัว และใบไมทุก
ใบลวนมีลวดลายดวงดารา งดงามอยางยิ่ง
“นี่คือหญาดวงดารา มีใบไมถึงสี่ใบ แนนอนวาเปนยาวิเศษ พบเห็นไดยากมาก นี่
เปนยาวิเศษขนานแทเชียวละ!”
ผูคนมองเห็นลักษณะภายในของศาลาปดฟาอีกครา ในบริเวณรอบนอก เต็มไปดวย
ยาวิเศษล้ําคา ที่ไมเกรงกลัววาจะมีผูใดลักขโมยเอาไป
“ทานพี่ ยาวิเศษที่พวกเราเด็ดถอนมานั้นเทียบอะไรไมไดเลย” ชิงเฟงพูดเสียงเบา
ใบหนาเปยมดวยความตะลึง
เจาตัวเล็กพยักหนา พวกเขาทะลวงผานดินแดนรกรางนับสิบหมื่นลี้ บุกปาฝาดงมา
ตลอดทาง ผานสถานที่อันตรายมากมาย เด็ดยาล้ําคามาไดนับสิบ ทวาตอนนี้ มีเพียง
สามสี่ชนิดเทานั้นที่ถือวาเปนยาวิเศษ ลวนถูกเขาและชิงเฟงกินไปเสียแลว
แทจริงแลว ที่ชิงเฟงสามารถบรรลุไดรวดเร็วเพียงนี้ เขาสูระยะกลางของขั้นแปรผัน
โลหิต เกี่ยวเนื่องกับยาวิเศษขนานแทเหลานั้น
“ประเดี๋ยวพวกเราลองศึกษาเสียหนอย มองดูวาสามารถปลอยลูกขนออกมาเดิน
เลนไดหรือไม ชวยกําจัดแมลง ถางหญาในสวนยาของศาลาปดฟา อืม ถือโอกาสเด็ดยา
เสียหนอย” เจาตัวเล็กกลาว
ชิงเฟงสะดุงโหยง ปดปากโดยพลัน ไมกลาเอยถึงเรื่องนีอ้ ีก
ในที่สุด มาถึงประตูใหญบานหนึ่ง กอนหินสองกอนตั้งเรียงกัน กลายเปนประตู
ธรรมชาติ กวางใหญและตั้งตระหงานสูงเทียมฟา ปกคลุมดวยไอมงคลขมุกขมัว
“แตละปจะมีผูคนจํานวนมากมาที่นี่ แตกลับมีไมกี่คนที่เขาไปได ขาหวังวาปนี้จะมี
คนเขารวมเพิ่มมากขึ้น” ชายชราที่ลักษณะเหนือธรรมชาติคนหนึ่งเอยขึ้น นั่งขัดสมาธิ
พลางจองมองผูคนจากบนกอนหินใหญ
“ไปกันเถิดชิงเฟง” เจาตัวเล็กเรงเรา
“อืม!” สุดทาย ชิงเฟงกําแผนเครื่องรางเดินไปยังบานประตู
“อา อัจฉริยะอีกคนแลว นาจะเปนแผนเครื่องรางที่ 16 แลว” ผูคนอุทานอยางตก
ตะลึง ริษยาอยางหาที่เปรียบไมได
เสียงโครมดังขึ้น ปรากฏวิหคยักษตัวหนึ่งในทีห่ างไกล กระพือปกทะลวงฟา แผคลุม
บดบังดวงอาทิตย บินมาดุจเมฆดําทมิฬ กระจายกลิ่นอายนากลัวผิดปกติ ทําใหผูคนสั่น
สะทาน คนจํานวนมากออนแรงเจียนลมลงไปกับพื้น
“นี่เปนทายาทอสูรบรรพกาลตัวหนึ่ง วงศตระกูลชนิดใดกันจะสามารถใชสิ่งมีชีวิต
มาสงทายาทเชนนี้กันนะ?” ฝูงชนตื่นตะลึง
นกยักษคอนขางนากลัว มีขนาดใหญโตมโหฬาร ทอดเงาขนาดใหญลงบนพื้นดิน ทํา
ใหคนหยุดหายใจ เพียงชั่วพริบตาสามารถมองเห็นผูสูงวัยหลายคนคนและวัยรุนไมกี่คน
ยืนอยูดานบน
ผูคนตางประหลาดใจ มาเพื่อสงทายาทตามที่คาดไว
“นี่เปนสัตวพาหนะของกษัตริยหวูหวัง ขาวา...เด็กหนุมดุจเทพเจาคนนั้นมาแลว!”
“ผูใดกัน?”
“สือยี่!”
ผูคนรูถึงความเปนมาของนกยักษตัวนั้น มันเปนสัตวพาหนะของจวนหวูหวังผูมีพลัง
อํานาจยิ่งใหญ เปนทายาทอสูรบรรพกาล ระยะนี้มักจะหยุดพักในเทือกเขาที่ซึ่งเหลา
อาคันตุกะพํานักอาศัยอยู วันนี้เพิ่งจะปรากฏตัวอยางเปนทางการ
“ปลอยใหเขาไป!” ชายชราผูนั่งขัดสมาธิดานหนาบานประตูกลาว อนุญาตให
ทายาทอสูรบรรพกาลนากลัวตนนั้นพุงเขาไป มิใหผูใดขวางกั้น
“เปนไปตามที่คาดไว สือยี่จะเขารวมศาลาปดฟา เปาหมายของเขามีเพียงประการ
เดียวคือ ปรารถนาจะทัดเทียมผูวิเศษโบราณ” ผูคนตะลึงพรึงเพริด ตอนนี้สามารถเชื่อ
ไดอยางไรขอกังขาแลว
ขาวคราวนี้ถูกพิสูจนใหประจักษแลว นี่ตองเปนขาวสะเทือนปฐพีอยางแนนอน!
หากเทียบกันแลวเรื่องที่ชิงเฟงถือปายเครื่องรางเดินเขาบานประตู เทียบอะไรไมได
เลย เพียงชั่วครูก็ถูกเหยียบจนมิด
บทที่ 98 ฝาดาน
สือยี่ปรากฏตัว ขาวลือกลายเปนความจริง อิทธิพลรุงโรจนเชนนี้มุงหนาเขาบาน
ประตูไป ชางนาตื่นตะลึง!” แมแตผูอาวุโสจากชนเผาใหญก็พากันหรี่ตา แววตาเปน
ประกาย
ยามทายาทอสูรบรรพกาลกางปกราวกับเมฆาบนฟากฟา โหมกระพือพายุคลั่งเปน
ระลอก พัดโชยจนฝูงชนบนพื้นดินปวดใบหนา หายลับเขาไปบานประตูของศาลาปดฟา
เหลือไวเพียงเด็กหนุมตาเหลือกปากอากวางจํานวนนับหมื่น
สือยี่ เด็กหนุมผูถูกขนานนามวาเทพเจา มีพรสวรรคแตเยาววัย ปกคลุมดวยรังสี
วิเศษ ดุจอาทิตยรอนระอุมาแตกําเนิด สองสวางไปทั่วโลกหลากวางใหญ สรางตํานานไว
มากมาย
“มีเพียงศาลาปดฟา สํานักวิเศษโบราณเทานั้นที่สามารถดึงดูดเขาได นี่ตองเปนคลื่น
ลูกใหญสะทานฟาเปนแน” ผูคนรูวาจะแพรสะพัดไปทั่วทุกหนแหง สะเทือนประเทศ
เกาแก
เด็กหนุมมากมายตางกําหมัดแนน เลือดรอนเดือดดาล เมื่อคิดถึงเรื่องที่สามารถ
บําเพ็ญตนรวมกับเด็กหนุมดุจเทพเจาผูนั้นในดินแดนสุขาวดีโบราณ มีโอกาสทาทาย
ลวนตื่นเตนอยางเปรียบไมได
สิบปใหหลัง หากหวนคํานึงถึง สําหรับพวกเขาแลว เรื่องราวเหลานี้อาจเปน
เกียรติยศอันยากจะจินตนาการ เคยทาทายชายหนุมผูสูงสง อีกทั้งยังเคยรวมสํานัก
เดียวกัน หากเอยถึงมัน ตองเปนตนทุนอันรุงโรจนในวันขางหนาเปนแน
“หากวาแข็งแกรงเพียงพอ ภายใตอายุที่เหมาะสม พวกทานก็มีโอกาสเขาสูสํานัก
วิเศษ” ชายชราผูที่นั่งขัดสมาธิอยูหนาประตู เปลงประกายไปทั้งตัว สุระเสียงดุจสายฟา
คําราม
ชายหนุมมากมายลวนฮึกเหิม เลือดรอนพุงพรวด แตละคนเปยมดวยจิตวิญญาณนัก
สู นัยนตาปลอยลําแสงนากลัว
ผูสูงวัยกลุมหนึ่งทอดถอนหายใจ มองดูลูกหลานของชนเผาตนแลวสายหนา สํานัก
วิเศษเปนสถานที่ชนิดใดกัน? หลายสิบหลายรอยปมีคนสามารถเขาไปไดคนหนึ่งก็ไมเลว
แลว
“โอ สหายผูรวมทางทั้งหลายหมายความวาอยางไร มาทําอันใดหนาประตูศาลาปด
ฟาแหงขา?” หนาประตูทางเขา ชายชราผูนั้นเปดปากอีกครั้ง เมื่อกะพริบตา ปรากฏ
อักขระดุจมหาสมุทร สงเสียงดังครืนครัน สะเทือนหูจวนดับ ตาพรามัว
วันนี้มีผูคนมากันอยางลนหลาม นอกจากเหลาเด็กหนุมผูอยากเขารวมสํานัก ยังมี
สายลับของกษัตริยยิ่งใหญมากมายและเหลาผูมีอิทธิพล มาเพื่อตามหาเด็กคนหนึ่ง
“สหายโปรดอภัย ขาเพียงมาเพื่อรวมพิธีเทานั้น” มีคนเอยปาก
ความจริงเปนเชนไร ทุกคนรูอยูแกใจ แตไมมีผูใดเปดเผย บนกอนหินใหญหนา
ประตูทางเขา ชายชราผูนั่งขัดสมาธิคนนั้นไมไดเอยอะไรใหมากความ แตเห็นไดชัดวา
หากเกิดเรื่องเกิดราว เขาไมมีทางกอดอกนิ่งดูดายแน
แตละชนเผาใหญลวนทราบเรื่องราวในโลกแหงความวางเปลา ศาลาปดฟาก็ยอมรูดี
รูวาเกิดเหตุใดขึ้นอยางหมดสิ้น
“ซวบ”
แสงสวางกะพริบ นกหลวนหาสีปรากฏกาย หอมลอมดวยไอหมอก แสงวิเศษ
ไหลเวียน มีสตรีสวมชุดเกราะสีทองนั่งควบอยูดานบน คิ้วดุจวาดเขียน ใบหนาเรียว
กระจางใส เกราะสีทองยากจะอําพรางรูปรางอันเยายวนใจ ทรวดทรงงดงาม เสนผม
ปลิวสยาย ราวกับเทพเจาสงครามผูงดงาม
“สตรีเทพเจาของสํานักชวงชิงความเปนใหญ!” ฝูงชนอุทานดวยความตะลึง
นางมีแววตาดุจกระแสไฟ สายตาปราดเปรียวกวาดผานผูคนนับหมื่น ตรวจสอบ
และมองหาทีละคน จุดมุงหมายชัดเจนอยางยิ่ง
“สํานักชวงชิงความเปนใหญชางเถรตรงเหลือเกิน มาชิงคนยังศาลาปดฟา” คน
จํานวนมากประหลาดใจ ไมตองคิดก็รูวานางจะทําอะไร
“สหายตัวนอย เจาล้ําเขตแดนแลว” ชายชราหนาประตูกลาว
“ศิษยพี่กลาวเกินไป” สตรีเทพเจาเอยปาก กายสวมชุดเกระสีทอง เนินอกอวบอิ่ม
รางเพรียวระหง ขาเรียวยาว ใบหนากระจางใสเรียบนิ่ง มีความงดงามผิดมนุษยมนา
ในตอนนี้เอง กองกําลังกองแลวกองเลาก็เริ่มเคลื่อนไหว มีสตรีเทพเจานําทัพ กลุม
อิทธิพลอื่นตางไมลังเล ทําการตรวจสอบอยางรวดเร็วเพื่อเสาะหาเปาหมาย
เนื่องจากตรงนี้ยังเปนนอกประตู มิไดเขาไปอยางแทจริง เมื่อการคัดเลือกเสร็จสิ้น
เด็กประหลาดคนนั้นเขาไปดานในแลว ก็จะไมมีโอกาสอีกตอไป
“เริ่มการทดสอบ!” ชายชราหนาประตูไมพูดอะไรใหมากความ วิธีการที่ดีที่สุดคือ
เรงใหเหลาเด็กหนุมฝาปราการโดยเร็ว คนนอกไมสามารถแทรกแซงได
คนกลุมหนึ่งปรากฏขึ้น เปนเหลาผูกลาที่นําทางฝูงชนมายังที่แหงนี้นั่นเอง บางยืน
อยูกระดูกที่ลอยควางกลางอากาศ บางนั่งขัดสมาธิบนกอนหินบินได แบงคนแปดเกา
หมื่นออกเปน 8 กลุม
“ไปกันเถอะ พวกเรามุงหนาไปยังสนามรบบรรพกาลกันเถิด”
พวกเขาไมไดเขาไปในประตู แตนําฝูงชนมุงหนาไปทางทิศตะวันตก สองขางทาง
แนนขนัดไปดวยผืนปา ยิ่งเดินก็ยิ่งรกราง ไอมงคลและหมอกสวยงามคอยๆ จางหายไป
บรรยากาศเปนพิษปรากฏขึ้น ตนไมเกาแกสูงเทียมฟา
ทางทิศตะวันตกของศาลาปดฟา เคยเปนสนามรบแตโบราณ กวางใหญสุดลูกหูลูก
ตา กินเนื้อที่กวางขวาง แตตอนนี้กลายเปนดินแดนรกรางไปเสียแลว
ผืนปาไรที่สิ้นสุดแหงนี้ถูกศาลาปดฟายึดครองมาเนิ่นนานแลว ภายในมีสัตวรายใด
ตางรูแจงแกใจ กลายเปนสนามประลองเสียแลว
“สนามรบแหงนี้ถูกแบงออกเปน 8 สวน พวกขาไดทําการรายอักขระผนึกที่แหงนี้ไว
รับประกันวาสัตวรายจะไมสามารถเขาไปได”
คนของศาลาปดฟาอธิบายกฎระเบียบ เพื่อมิใหผูคนตอสูกับสัตวราย เพื่อหลีกเลี่ยง
การไดรับอันตรายถึงชีวิต การคัดเลือกเชนนี้โหดเหี้ยมเกินไป เพียงเด็กเหลานี้สามารถ
ทะลวงผานบริเวณที่มีอักขระก็เพียงพอแลว
“ตอสูกับคายกลอักขระ เชนนี้ลําบากยากเข็นนัก ขาพายมาสามหนแลว” เด็กหนุม
อายุ 17-18 ปคนหนึ่งกลาวขมขื่น
เขาถือวาโดดเดนในชนเผา ทุกครั้งก็ไดรับเลือก ทวาเมื่อมาถึงที่นี่ก็แพพาย ไมผาน
การทดสอบ
“หากมีคนแข็งแกรงมากพอ ทะลวงคายกลอักขระได สามารถเขาสูสนามรบขั้นที่
สอง อาจเกิดความปลื้มปติ ทวาตรงนั้นมีสัตวอสูรจํานวนไมนอย อันตรายนัก จะเลือก
ทางใด กรุณาตัดสินใจอยางระมัดระวัง”
คนจากศาลาปดฟากลาว แตกลับมิไดอธิบายเพิ่มเติม ทวาเพียงพอจะทําใหผูคน
เขาใจ คายกลอักขระคัดสรรลูกศิษยทั่วไป สนามรบขั้นที่สองจึงจะเปนสนามประลอง
ของผูมีพรสวรรคอยางแทจริง
“เอาละ เขาสูคายกลได!”
เสียงกลาวคําสั่งดังขึ้น กลุมทั้งแปดวิ่งกันเกรียวกราว มุงหนาสูบริเวณของตน ไม
ตองหวงวาคนเยอะจะมีพื้นทีไ่ มเพียงพอ ที่นี่กวางขวางเหลือเกิน
ขุนศึกของเหลาผูมีอิทธิพลกระวนกระวาย จะหาเด็กคนหนึ่งในกลุมคนมากมาย
เพียงนี้ไดอยางไร? ตอนนี้ไมทันการณเสียแลว พวกเขาพุงตรงไปยังแตละทางเขาอยาง
รวดเร็ว ทําการตรวจสอบขั้นสุดทายอยางไมยอมรามือ
นาเสียดาย ปรากฏวาไมมีผลลัพธใดเลย
ใบหนาของเจาตัวเล็กตอนนี้ราวกับผลแอปเปล แกมอวบอวน ทําใหคนอยากจะบีบ
สักทีอยางอดรนทนไมไหว แตกตางกับลักษณะของเขาเมื่อครั้งอยูใ นโลกแหงความวาง
เปลาโดยสิ้นเชิง
“เจาอวนตรงนั้น เจากําลังมองอะไรอยู อยามาขวางทางเชนนี้!” หญิงสาวคนนี้
หัวเราะคิกคัก มุงหนามาหยิกแกมเขาไปทีหนึ่ง
เจาตัวเล็กสลด เพียงมองศิษยหญิงงดงามกลุมนั้นของศาลาปดฟานั่นแคชั่วครู มิได
โอเอนานเสียหนอย ไยจึงถูกหยิกเชนนี้เลา?
“เจาอวน เจาควรลดความอวนแลว ดูเจาสิ เนื้อแนนไปหมด ไมดีตอการบําเพ็ญตน
นะ” เมื่อเขาใกลสนามรบบรรพกาล ขณะที่กําลังจะเขาไป มีศิษยหญิงคนหนึ่งบีบใบหนา
แอปเปลของเขาแลวหัวเราะคิกคัก
“ขาไมอวนเสียหนอย!” เจาตัวเล็กพึมพํา เหยียบประตูแสงอักขระบานหนึ่ง หายไป
จากตรงนั้นทันที
ณ โลกแหงความวางเปลา เกิดเสียงอึกทึกครึกโครมไปทั่ว เรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ
ศาลาปดฟากระจายเขามา ดินแดนสรวงสวรรคมากมายตางทราบเรื่อง
“สือยี่ไปจริงๆ ศาลาปดฟาเลื่องชื่อระบือนามนัก ตอจากนี้จะมีผูวิเศษเพิ่มขึ้นอีกคน
แลวหรือ?”
“จวนหวูหวังเองก็ชางระดมพลกระทําการใหญ ใชทายาทอสูรบรรพกาลตัวหนึ่งสง
เขาเขาไป ใหความสําคัญกับเขามากมายนัก หมายทําทุกวิธีเพื่ออบรมบมเพาะเขา”
“โอ ทานชายสิบสามแหงจวนหวูหวังเปนตายรายดีอยางไรไมทราบแน ผูมี
พรสวรรคสือจื่อหลิงก็หายสาบสูญไปหลายป พวกเขายอมทําทุกทางเพื่อชุบเลี้ยงผูมีตา
ดําสองลูก เมื่อเติบใหญ จะตองกวาดลางผูมีอิทธิพลใหญมากมายเปนแน”
เสียงดังเซ็งแซไปทั่วโลกแหงความวางเปลา ขาวคราวแพรสะพัดไปดวยความเร็วที่
นาตกใจ ดวยเหตุนี้จึงสะเทือนเหลาประเทศเกาแก ทราบขาวศาลาปดฟาอยางรวดเร็ว
นามของสือยี่โดงดังนัก ขณะนี้ลวนมีแตผูคนกลาวขวัญ
ตอมา ผูคนก็เอยถึงเจาตัวเล็กที่ไมมีแมแตเงากระทั่งตอนนี้ ไมมีผูใดพบเห็นเขาแต
อยางใด
“เจาเด็กคนนั้นไปศาลาปดฟาจริงหรือ ไยจึงยังเสาะหาไมพบ?”
“ไมสิ มีเรื่องมิชอบมาพากล ขาคิดวาตามนิสัยประหลาดของเจาเด็กคนนั้นแลว หน
นี้คงหลอกลวงพวกเราทั้งหมด จงใจหาเรื่องทุกคน”
“มีความเปนไปไดสูง!”
รอคอยเนิ่นนานก็ไมมีขาวคราวของเจาเด็กเหลือขอคนนั้น ฝูงชนใบหนาถมึงทึง คิด
วาอาจถูกเจาเด็กคนนั้นหลอกแลว
“แปลกๆนะ ลุงแผนหยกกลมผูนั้นถูกบีบคั้นจนกลาวคําลวงหรือ เขากลาหลวก
หลวงองคหญิงแหงประเทศงั้นรึ?”
“นั่นสิ แลวไยเขาถึงไมปรากฏตัวกันละ ไมวาจะเปนศาลาปดฟาหรือสํานักชวงชิง
ความเปนใหญก็ไมมีแมแตเงาของเขา”
ผูคนทั้งหมดตางคาดหวังวาเจาตัวเล็กจะโผลมาศาลาปดฟา เนื่องจากเขาทําลาย
สถิติของสือยี่ได หากทั้งสองไดพบกัน นั่นก็จะยิ่งควรคาแกการรอคอยอยางยิ่ง
ณ ศาลาปดฟา บริเวณที่ 8 ของสนามรบบรรพกาล เจาตัวเล็กยางเทาอยูในผืนปา
จดจองไปเบื้องหนา อักขระสวางวาบดังตึง ลอยเขามาปะทะหนา
ที่นี่ไมมีสัตวปา ยิ่งกวานั้นคือไมมีปกษาราย มีเพียงอักขระจํานวนมากเหลือคณานับ
สําหรับเด็กมากมายถือวาเปนดั่งการฝาปราการสวรรค ยากเย็นแสนเข็ญนัก
แนนอนวาเจาตัวเล็กไมอยูในกลุมนี้ หนึ่งเทากระทืบ ผืนดินก็แตกแยก กอนหินปลิว
วอน กระแทกดานหนาจนแหลก อักขระพังทลาย
เขามิไดเปลืองแรงเปลืองเวลามากนัก ทําลายคายกลงายดายและรวดเร็ว มุงหนา
เดินตอ ทั้งหมดถูกทําลายจนสิ้นซาก มีพละกําลังแข็งแกรงยิ่งนัก
เพราะแมวาอักขระเหลานี้จะสลับซับซอน แตสําหรับเขาแลวไมมีความหมายอะไร
เขาเคยศึกษาอยางถองแท เขาอยูเหนือขั้นนี้แลว ไมตองการเสียเวลาเพราะทําลายไปที
ละขั้น ดวยเหตุนี้ ตอนนี้จึงมีเด็กนอยบาพลังคนหนึ่ง
“ขอบเขตนี้ชางใหญเสียจริง ถึงวาใหเวลาตั้งสามวันแนะ” เจาตัวเล็กพึมพํา บุกหนา
เหมือนผาลําไผ[1] เขาสูจุดที่ลึกที่สุดของบริเวณที่ 8
เมื่อมาถึงบริเวณนี้ เขาพบวาความยากของอักขระเพิ่มมากขึ้น คายกลบางสวน
แปรเปลี่ยนเปนเรื่องสนุก จึงเริ่มหยุดเดิน ใชเวลาพักนานเพิ่มขึ้น
“การทําลายคายกลเชนนี้นาเบื่อนัก ไมสนุกเอาเสียเลย” เจาตัวเล็กบนอุบ
เขาไมรูเลยวาดานหลังของเขา คนเหลานั้นลําบากมากมายเพียงใด มีตั้งแตอายุ 7-8
ขวบกระทั่ง 20 กวาป ลวนเหนื่อยลาจนออนเปลี้ยเพลียแรง เหงื่อกาฬดุจสายฝน
รางกายจวนแตกสลาย
“มีอะไรผิดพลาดรึเปลา วันนี้ศาลาปดฟาไมอยากรับศิษยเขาสํานักงั้นหรือ ไยจึงจัด
วางอักขระยากเย็นเชนนี้ จะมีสักกี่คนที่ผานการคัดเลือกกันนะ?”
“ฮึ่ย เปนความวิบัติที่เหลาอัจฉริยะสรางขึ้นทั้งนั้น ไหนจะสื่อยี่ ธิดาแหงจักรพรรดิ
อีกทั้งเจาเด็กประหลาดนั่นอีก เปนเหตุใหเหลาผูมีพรสวรรคเคลื่อนไหวดวยขาวคราวนี้
มาที่นี่พรอมกัน เงื่อนไขของศาลาปดฟาจึงสูงขึ้นเชนนี้”
คนเหลานี้กลาวโทษ แตละคนโกรธแคนอยางเปรียบไมได
ณ ใจกลางบริเวณที่ 8 เจาตัวเล็กเดินไปทั่ว ครุนคิดไปพักหนึ่ง นัยนตาพลันเปน
ประกายขึ้นมา กําหมัดแนนอยางฮึกเหิม หัวเราะหึหึ
“ในเมื่อมีอักขระเชนนี้ ใตดินตองมีกระดูกล้ําคาเปนแน!”
ดวงตาฉายแววชั่วราย แปลงรางเปนเงา ทะลวงผานสนามรบดวยความเร็วสูง เสาะ
หนไปทุกหนแหงดวยหวังวาจะไดกระดูกล้ําคาโบราณ
“พบแลว ตรงนี้ตองมีชิ้นหนึ่งแนนอน!” เขาหยุดลง เผชิญหนากับภูหินเตี้ยที่มีความ
สูงเพียง 10 หมี่ลูกหนึ่ง พินิจมองอยางถี่ถวน จากนั้นเกิดเสียงผิวปากแผวเบา พุงออกไป
อยางรวดเร็ว ใชพลังกายจนสิ้นและพลังของอักขระลงมืออยางโหดเหี้ยมและบาคลั่ง
“ตูม”
ในที่สุด ฝุนผงพวยพุงทะลวงฟา ภูหินเตี้ยลูกนี้ถูกเจาตัวเล็กสะเทือนจนแหลก
ละเอียด มีกระดูกล้ําคาแวววาวชิ้นหนึ่งรวงลงมาจากภายใน
เขาพุงตัวออกไปอยางรวดเร็ว กมเก็บขึ้นมาดวยความดีอกดีใจ จากนั้นก็สอดสองไป
ทั่วทุกสารทิศราวกับโจรผูราย จากนั้นเก็บเขาไปในอกทันที เพียงชั่วครูก็หายลับไปอยาง
ไรรองรอย
“สนามรบบรรพกาลกวางใหญเพียงนี้ ตองมีกระดูกล้ําคามากกวาหนึ่งเปนแน” เจา
ตัวเล็กพึมพํา มองที่แหงนี้เปนดั่งสวนผักของตน เตรียมการ ‘ขุดหัวไชเทา’
“ตูม”
เปาหมายแหงที่ 2 ถูกคนพบ หนนี้กลับยิ่งงายดาย ทํานบถูกเขาเตะจนทลาย ทําให
อักขระแหงนี้สวางโชติชวง กระดูกล้ําคาชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้น
“แมจะไมใชกระดูกหายาก แตก็ไมเลวทีเดียว” เจาตัวเล็กยิ้มแยม ใบหนาลูกแอป
เปลแยมรอยยิ้มพึงพอใจ เผยเขี้ยวเสือขาวกระจางใส
เชนนี้เอง เขามุงหนาทําลายคายกลอยางตอเนื่อง ขุดกระดูกล้ําคา ไดมาถือครอง 10
กวาชิ้นภายในเวลาอันสั้น ใชหนังสัตวหอหุมไวทั้งหมดแลวสะพายขึ้นหลัง
“เอะ ไยจึงงายขึ้นมาบางแลวละ พละกําลังของขาฟนคืนแลวอยางนั้นหรือ?”
ขณะนี้เอง เด็กหนุมในบริเวณที่ 8 ตางก็ประหลาดใจ รูสึกระดับความยากลดลง แต
ละคนฮึกเหิมอยางเปรียบไมได มุงหนาอยางฉกาจฉกรรจ พากันโจมตีอยางสุดกําลัง
“ไยขาจึงรูสึกวา การฝาดานของขาครั้งนี้จะสําเร็จ!”
ขณะนี้ ในบริเวณที่ 8 มิใชเพียงคนเดียวที่มั่นใจอยางที่สุด แตเปนคนทั้งหมด ฮึกเหิม
อยางหาที่เปรียบไมได ตางเริ่มมุงหนาไปดวยพลังทั้งหมดที่มี
เวลาผานไปเรื่อยๆ ผูคนที่รออยูภายนอกเริ่มกระวนกระวาย โดยเฉพาะเหลาผู
อาวุโสจากชนเผาใหญ พวกเขาคุมกันสงลูกหลานของตระกูลตนมา ไมรูวาสุดทายจะมี
สักกี่คนที่อยูที่นี่ตอ
“โอ ดานปราการของปนี้มีระดับความยากสูงนัก ขาคาดการณวาคงมีชนเผาไมนอย
เลยที่หนามอยคอตกเพราะผิดหวัง มีเด็กไมมากที่อยูที่นี่ตอ” ชายชราผูหนึ่งของศาลาปด
ฟากลาวเสียงเบา
ขางกายเขายังมีคนไมกี่คน สถานะสูงสงอยางเห็นไดชัด พากันพยักหนากันระนาว มี
คนหนึ่งกลาววา “เนื่องจากมีอัจฉริยะมากมายมาเยือน มีจํานวนไมนอยเลย จึงตองทํา
เชนนี้แล”
“ไมรูวาบริเวณใดจะแข็งแกรงที่สุด มีคนออกมามากที่สุด”
“เวลาผานมานานแลว หากโดดเดนมากพอ นาจะมีเด็กบางคนฝาออกมาไดแลว
พวกเราควรไปรอทีน่ ั่น นําทางผูที่ฝาดานสําเร็จเขาสูสํานักศาลาปดฟาแหงเรา”
ชายชราคนหนึ่งขมวดคิ้วแลวกลาวดวยความกังวลใจวา “ขาเกรงวาจะมีบางบริเวณ
ที่พายแพกันทั้งสิ้น เพราะดานสุดทายยากเกินไป เตรียมไวเพื่อผูมีพรสวรรคเปนการ
เฉพาะ”
ดวยเหตุนี้ พวกเขาจึงเคลื่อนกายมุงหนาไปยังทางออก เตรียมตอนรับเด็กที่ฝาดาน
ไดสําเร็จ
เมื่อผูอาวุโสแหงวงศตระกูลใหญและชนเผาใหญเห็นดังนั้นก็เรงเดินตาม กระวน
กระวายเล็กนอย ตางก็คาดหวังวาชนเผาของตนจะสามารถฝากเด็กๆ หลายคนไวที่นี่
ในขณะเดียวกัน ในโลกแหงความวางเปลาก็เกิดเสียงวิจารณกันอยางเซ็งแซ ผูคน
ตางรอคอยการปรากฏตัวของเด็กคนนั้น ผลคือไมมีการเคลื่อนไหวใดๆ ตางรูสึกผิดหวัง
กันอยางมาก
“เด็กคนนั้นคงมิไดหลอกลวงแมกระทั่งพวกเราหรอกใชไหม?” ณ ดินแดนขั้นตน อา
คอนขมวดคิ้ว
“คงมิใช” ผูเฒาวิหคยังคงนิ่งสงบเฉกเชนดังเดิม
ลุงแผนหยกกลมกลาววา “ขามีความรูสึกวา หนนี้เด็กเหลือขอคนนั้นตองกระทํา
การใหญกวาเปนแน พวกทานคอยดูเถิด”
..............................
[1] บุกหนาเหมือนผาลําไผ แปลวา ลักษณะเหมือนการตัดปลองสวนบนลําไผสอง
สามปลอง ปลองดานลางก็จะแตกหนอมาตามรอยมีดนั้น อุปมาวาไดชัยชนะไปทุกดาน
ไมมีสิ่งใดมาขัดขวาง
บทที่ 99 เรื่องใหญ
ในบริเวณที่ 8 เจาตัวเล็กสะพายยามหนังคอนขางใหญ ขุดเอากระดูกล้ําคาออกมา
รวมทั้งสิ้น 18 ชิ้น ลวนเจิดจาพรางพราย สงแสงสวางระยิบระยับ อักขระแนนขนัด
แมจะมิใชกระดูกล้ําคาของทายาทบรรพกาล แตถุงใหญปานนี้ก็ถือวามีมูลคา
มหาศาล
ในบริเวณนี้มีกระดูกของทายาทอสูรบรรพกาลขนานแทอยู ใชในการกําราบและ
คุมครองที่แหงนี้ แตนาเสียดายที่เขาขุดไมได หากจะขุดใหลึกลงไปอาจไดรับอันตราย
อยางแสนสาหัส อีกทั้งอาจจะกอใหเกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ
เจาตัวเล็กดอมๆ มองๆ สังเกตการณสถานการณสักครูหนึ่ง เมื่อเห็นวาไมมีผูใดมา
จับตัวเขา ในใจจึงสงบลงเล็กนอย
“ตองรีบออกจากที่นี่ใหไว!” เขาวิ่งปรอดวยระดับที่เรียกวารวดเร็ว
เขาเตรียมเขาสูสนามรบขั้นที่ 2 อยูที่นี่ตอไปมิไดแลว มิเชนนั้นคงมีคนจัดการเขา
ดวยความโกรธแคนอยางที่สุด
ในบริเวณที่ 8 ผูคนตางฮึกเหิมกันมาก ยิ่งเขาไปลึกมากเทาใดก็ยิ่งมีความมั่นใจมาก
เทานั้น รูสึกมีพละกําลังอันใชไมหมด ทําลายคายกลดวยเพียงยื่นมือก็ไดตัวขาศึก[1]บุก
หนาเหมือนผาลําไผ
ราวกับผูคนนับหมื่นกําลังใกลเขามาเรื่อยๆ พวกเขากระจายตัวอยูผืนปาแตกตางกัน
ไป มุงหนาฝาทะลวงดานสุดทายไปทั่วทุกสารทิศ ดวยความมั่นใจวาจะไดรับชัยชนะ
“โอสวรรค โอแผนดิน ขาพายมาตอเนื่องกัน 4 ครั้งแลว ปนี้ขาตองทําสําเร็จเปนแน
ใหคุมกับที่ขามานะบากบั่นฝกฝนบําเพ็ญตน!” ชายหนุมอายุ 29 ปคนหนึ่งหลั่งน้ําตาเต็ม
ใบหนา
“ไมไดยากเย็นอะไรนี่ ขาเขารวมการฝาดานหนแรก ไยจึงรูสึกวาจะเขาผานการ
คัดเลือกกันนะ? ดูเหมือนวาขานี่แหละผูมีพรสวรรคตัวจริง!” เด็กขี้มูกโปงคนหนึ่งพูด
อยางพออกพอใจ
อักขระสวางวาบ ตรงนั้นคือทางออก แตเจาตัวเล็กกลับเพิกเฉยมิสนใจไยดีแมแต
นอย พุงตัวไปอีกทางหนึ่ง ดานหนามีแสงสวางเจิดจาพราตา กลายเปนสิ่งกีดขวางไปทั่ว
บริเวณ ขวางกั้นอยูเบื้องหนา
“ตูม!”
เจาตัวเล็กสําแดงเดช กางนิ้วทั้งสิบออก ระเบิดสายฟาออกมา นี่เปนเคล็ดวิชาล้ําคา
ของซวนหนี ทลายสิ่งกีดขวาง จากนั้นเขาก็กระโดดขามไปอยางรวดเร็ว
เสียงโครมดังขึ้น ไกลออกไปมียอดเขาสูงพังทลาย เสือดําขนาดใหญแหงนหนา
คําราม หนึ่งอุงเล็บตะปบลงไป บดขยี้ยอดเขาจนพังครืน นากลัวจนตัวสั่นระริก
“นากลัวนัก รูปรางก็ใหญเสียจริง!” แมจะเปนเจาตัวเล็กก็ตกตะลึงอยูบาง เสือดําตัว
นั้นไมใชทายาทอสูรบรรพกาล แตก็หามยั่วโมโห นี่เปนราชันยแหงสัตวนากลัวตัวหนึ่ง
“สมกับเปนสนามรบขั้นที่ 2 เมื่อมาเยือนที่แหงนี้ ความเปนความตายมีสวรรคเปนผู
กําหนด ทั้งหมดลวนเปนการเลือกดวยตนเองทั้งนั้น!” อีกฟากหนึ่งก็มีคนเขาสูสนามรบ
ขั้นที่ 2 แลว
สามารถเขามาไดยอมเปนผูมีพรสวรรค เพียงชั่วครูตางก็พากันพรางรางกาย หาที่
หลบซอนตัว มิเชนนั้นอาจถูกสัตวอสูรที่โผลออกมากะทันหันสังหารเอาได
สนามรบขั้นที่ 2 เปนทางเชื่อม คนที่เขามาจากบริเวณทั้ง 8 สามารถพบกันได ไม
แบงแยงอีกตอไป
เมื่อเจาตัวเล็กเขามาแลวกลับไมกระวนกระวายแมแตนอย เนื่องจากเขาผานการ
เดินทางในดินแดนรกรางนับหลายแสนลี้ บางครั้งยังตองปกปองชิงเฟง เขาคุนเคยกับปา
ดึกดําบรรพเชนนี้เปนอยางยิ่ง
หลังจากสํารวจอยางรวดเร็วแลว ปราดเปรียวดุจเสือดาวเทพเจาบรรพกาล กระโจน
ผานผืนปาอยางรวดเร็ว ทําใหเหลาสัตวปาตื่นตระหนกตกใจ แตกลับมิไดยั่วยุสิ่งมีชีวิตนา
กลัวเหลานั้น
สุดทาย เมื่อเขาใจสภาพการณในบริเวณนี้อยางกระจางแลว เขาก็สัมผัสอีกฟากหนึ่ง
อยางถี่ถวน จากนั้นก็จัดการของที่ขโมยมาดวยทาทางลับๆ ลอๆ
เขาแบงกระดูก 18 ชิ้นออกเปน 6 กอง กองละ 3 ชิ้น ฝงลงในสถานที่แตกตางกัน
บางอยูในหนองน้ํา บางอยูในลําธาร และในรังนกที่ถูกละทิ้ง
เขากําลังครุนคิด สนามรบขั้นที่ 2 แหงนี้เปนเชื่อมตอกับดินแดนรกราง ไมมีผูใดเฝา
ระวัง ปกติคงสามารถออมทางเขามา คอยกลับมาขุดกระดูกล้ําคาภายหลัง
เขาจัดการทุกอยางเรียบรอยแลว จิตใจก็สงบลง ยืดอกหนาตั้งตรง ลักษณะอกผาย
ไหลผึ่ง สงาผาเผย เริ่มเดินเพนพานไปทั่วผืนปา
ตามเงื่อนไข พวกเขาตองเขามาในสนามรบขั้นที่ 2 เพื่อตามหาแผนศิลา ดานบนจะ
บันทึกภารกิจที่พวกเขาทําเสร็จสิ้น
แนนอนวา ไมไดบอกตําแหนงที่แทจริงของศิลา เพื่อตองการใหพวกเขาทองไปทั่ว
บริเวณนี้ ตอสูกับเหลาสัตวประหลาด ใชวิธีการเหลานี้มาทดสอบผูมีพรสวรรค
เจาตัวเล็กพออกพอใจ จิตใจสงบ แตกลับไมรูเลยวา ภายนอกมีคนบางสวนไดรับ
ความเจ็บปวดอยางแสนสาหัส
ผูอาวุโสไมกี่คนแหงศาลาปดฟาเดินนํา เดินไปยังทางออกของบริเวณทั้งแปด มาถึง
อยางรวดเร็วเพื่อรอคอยเด็กที่ฝาดานไดสําเร็จ ณ ที่แหงนี้
“บริเวณที่ 1 ชางนาสงสาร ไยกระทั่งตอนนี้ก็มีเพียงเด็ก 9 คนที่ทําสําเร็จละ ดู
เหมือนวาหนนี้ปราการจะยากจนเกินไป”
เมื่อมาถึง เหลาผูเฒาผูแกของชนเผาใหญตางมีสีหนาถมึงทึง สิ่งเหลานี้ยากเย็น
เกินไป คนนับหมื่น มีคนออกมาเทานี้หรือ?
ตองทราบวา เดิมทีพวกคนที่สงมาก็ผานการคัดเลือกมาอยางดี โดดเดนในชนเผา
มาก ไยมาถึงศาลาปดฟาจึงกลายเปนเชนนี้?!
ฝูงชนตางไมพอใจ ในใจทราบดีวาเพราะเหตุใด เพราะการมาเยือนของเหลาราชนิ
กูล แมกระทั่งมีลูกของทายาทอสูรบรรพกาลจะเขารวมศาลาปดฟา เหลาผูมีพรสวรรคได
ที่นั่งเปนจํานวนมาก
ดังนั้น การคัดเลือกลูกศิษยหนนี้ ศาลาปดฟาจึงเพิ่มระดับความยากใหสูงขึ้น เปน
เหตุใหเด็กที่มีความหวัง ทําไดเพียงคอตกกลับไป
“ไมมีทางเลือก ครั้งนี้มีผูกลามากเกินไป” สงเฟย ชายชราของศาลาปดฟากลาว แม
จะรูสึกผิด แตก็ไมสามารถทําใหฝูงชนพึงพอใจได
“บริเวณที่ 2 ก็มีไมมากเชนกัน นับไปนับมามีเพียง 16 คนเทานั้น เฮอ!” ผูคนถอน
หายใจ
บริเวณที่ 3 กลับยิ่งไปกันใหญ สุดทายมีเพียง 8 คนที่ฝาออกมาได อีกทั้งยังเหนื่อย
ลาเจียนจะไมไหว รางกายเต็มไปดวยเหงื่อกาฬ
“ยากเกินไปแลว!” ผูคนตางวิพากษวิจารณ สีหนาถมึงทึงมากกวาเดิม
“อยากังวลไปเลย มีเวลาตั้ง 3 วัน ตอนนี้คนที่คอนขางโดดเดนฝาออกมาแลว เดี๋ยว
ตองมีตามมาอีกแน” ผูอาวุโส เฉายวิ๋นแหงศาลาปดฟากลาว
“มีนะมีแน แตก็มีไมมากนัก ระยะเวลานานมากขึ้น จะสูญเสียพลังงานมากยิ่งขึ้น
และจะยิ่งออนลามากยิ่งขึ้น ยังมีแรงทําลายคายกลอีกหรือ?” ผูอาวุโสจากชนเผาใหญคน
หนึ่งเอยคาน
“จะพูดเชนนี้ไมได ยังมีผูมีพรสวรรคบางสวนนี่นา ตอนนี้คงเขาสูสนามรบขั้นที่ 2
แลว ขาเชื่อวาจํานวนคนคงไมนอยเกินไป” ผูอาวุโสไมกี่คนของศาลาปดฟาปลอบขวัญ
มวลชน
แมจะกลาวเชนนี้ แตไมกี่บริเวณตอมาก็เซื่องซึมเชนกัน จิตใจของฝูงชนหอเหี่ยว สี
หนาไมนามองมากยิ่งขึ้น
แมผูอาวุโสของศาลาปดฟาจะรูสึกผิด แตในใจกลับเบิกบานใจอยางหาที่เปรียบไมได
เนื่องจากพรสวรรคของลูกศิษยในครั้งนี้ดียิ่งนัก ตองเหนือกวาในอดีตเปนแนแท
กระทั่งบริเวณที่ 8 สถานการณก็เปลี่ยนแปลงไป ทําใหเหลาผูอาวุโสจากชนเผาใหญ
มีความหวังขึ้นมาบาง เพราะที่นี่มีคนยืนอยูนับสิบนับรอย
“สุดยอด อัจฉริยะรวมตัวกันในบริเวณที่ 8 ชางยอดเยี่ยมเสียจริง ไมคาดวาจะมีคน
มากมายเพียงนี้ เกินจํานวนคนทั้ง 7 บริเวณรวมกันเสียอีก” ผูอาวุโสสงเฟยแหงศาลาปด
ฟาพยักหนาดวยใบหนาแตมรอยยิ้ม
“นั่นสิ บริเวณที่ 8 ไมธรรมดาเสียจริง” เฉายวิ๋นเห็นดวย
เหลาผูอาวุโสจากชนเผาใหญมีสีหนาผอยคลายลงบาง ไมบูดเบี้ยวปานนั้นแลว
“เอะ นั่นตาเหมิงแหงตระกูลขา เขาพายตอเนื่องกันถึง 4 หน ไมคิดวาปนี้จะสําเร็จ
แลว ฮาๆ...” ผูอาวุโสคนหนึ่งหัวเราะอยางสบายใจ
“เอะ ชิงหูของขาก็สําเร็จแลวเชนกัน ดูเขามีกําลังวังชา ราวกับไมไดออกแรงมากนัก
วีรบุรุษแตวัยเยาวอยางแทจริง ไมธรรมดา!”
ผูอาวุโสเหลานี้เผยรอยยิ้มกันระนาว ดีอกดีใจยิ่งนัก เพราะทางออกมีคนเดินออกมา
ไมขาดสาย เด็กหนุมเดินออกมาคนแลวคนเลา พบเห็นเด็กในชนเผาของตนอยาง
ตอเนื่อง
เดิมทีผูอาวุโสสงเฟยเองก็เผยรอยยิ้ม พยักหนาซ้ําแลวซ้ําเลา รูสึกวาบริเวณที่ 8
แข็งแกรงตามที่คาดไว เพราะมีอัจฉริยะเดินออกมาเปนจํานวนมาก ทวา ผานไปเนิ่นนาน
เขารูสึกไมชอบมาพากล ไยจึงยังไมหมด มีคนมากมายไดรับชัยชนะออกมา เสมือนวายัง
ไมจบไมสิ้น
“1 2...214...”
เมื่อลองดับดูคราวๆ เขาก็ขมวดคิ้วเปนปม ไยจึงออกมามากมายเพียงนี้ เพิ่มระดับ
ความยากของดานแลว เสมือนวาจะไมมีประโยชนมากนัก
“400 401...”
จํานวนคนทําใหผูอาวุโสสงเฟยนั่งไมติด พึมพํากับตัวเองวา “ไยผูมีพรสวรรคในครั้ง
นี้จึงมีมากมายเหลือเกิน พบเห็นไดยากนัก”
“อืม เหนือกวาที่ผานมาจริงๆ เสียดวย เหนือความคาดหมาย แตก็ถือวาเปนเรื่องดี”
ผูอาวุโสเฉายวิ๋นพยักหนาอยางพอใจ
เมื่อจํานวนคนเกินพัน ผูอาวุโสสงเฟยดุจไฟลนกน ลุกขึ้นยืนอยางทันที
ผูอาวุโสเฉายวิ๋นเองกลาวอยางตะลึงงันวา “อัจฉริยะมากมายเหลือเกิน เด็กใน
บริเวณที่ 8 ไมธรรมดาเลย”
ผูอาวุโสคนอื่นๆ ตางขมวดคิ้ว เอยกันอยางลับๆ วา “คนมากเกินไป จะเปนเชนนี้
ไมได พวกเราควรจะทดสอบใหมอีกครารึไม มิเชนนั้นจะเกินกวาจํานวนคนที่ประมาณ
การไว”
“เกรงวาจะมิเปนการดีนัก ผูอาวุโสจากชนเผาใหญเหลานั้นจะเกิดขอคิดเห็นและไม
พอใจ เพราะปนี้สรางดานยากเกินไป” มีคนกลาวตามความจริง
เมื่อจํานวนคนบรรลุ 2000 ผูอาวุโสสงเฟยตกใจจนหนาเขียว นี่ไมมากเกินไปหรือ?
และผูอาวุโสเฉายวิ๋นก็ตะลึงจนปากอากวาง ไมรูควรพูดอะไรดี
“นี่...” ผูอาวุโสคนอื่นๆ ของศาลาปดฟาพากันงุนงง ตะลึงจนตาคางกันทั้งสิ้น
“เปนไปไมได!” เมื่อนับจํานวนคนถึง 3000 ผูอาวุโสตางกระสับกระสาย จวนจะไมมี
หนวดเคราใหถอนเสียแลว ตางตะลึงจนหนาเขียว ไมสงบอีกตอไป
แตเหลาผูอาวุโสจากชนเผาใหญและวงศตระกูลใหญกลับแตกตาง แตละคนคิ้ว
คลายปมดวงตายิ้ม ดีใจอยางยิ่ง รูสึกวาเด็กในตระกูลชางมีเกียรติ กลับมีคนไมนอยเลยที่
ผานการทดสอบ
“ลูกเอย เกงกาจยิ่งนัก เด็กเพียงนี้ก็สามารถฝาดานได”
“เออรเฮย คุมกับที่เจายืนหยัดเชนนี้แมจะอายุ 20 กวาแลว ในที่สุดเจาก็ทําสําเร็จ
แลว!”
เมื่อไดฟงคําวิจารณของเหลาผูเฒาผูแก ผูอาวุโสแหงศาลาปดฟารูสึกไฟไหมคิ้วอยาง
แทจริง กระวนกระวายจวนตายแลว สถานการณพลิกแตกตางจากตอนแรก
“ขา...ขาจะพูดวาอะไรนะ ออใชแลว นั่นเปนเด็กขี้มูกโปงนี่ เจาทําไดอยางไร?!” ผู
อาวุโสสงเฟยกระทืบเทา กระวนกระวายจนวิงเวียนศีรษะหูจวนดับ
“ขอบคุณสําหรับคําชมของทานอาวุโสขอรับ” เด็กขี้มูกโปงอายุ 6-7 ขวบเดิน
ออกมา โคงคํานับผูอาวุโสสงเฟย จากนั้นปาดน้ํามูกไปที เกือบปายบนตัวผูอาวุโสสงเฟย
“เห็นผีแลว ตองเกิดปญหาขึ้นอยางแนนอน!” เมื่อถึงขั้นนี้ ผูอาวุโสของศาลาปดฟา
หลับหูหลับตาไมอยากรับรูเรื่องราว หมดสติไปทันที
เนื่องจากสิ่งที่เห็นเบื้องหนานากลัวเหลือเกิน จํานวนคนพุงสูงขึ้นเกิน 4000 คน ที่
ไมนาใหอภัยคือ เด็กพวกนี้กอดคอกอดไหลกันเดินออกมากลุมแลวกลุมเลา
อยาวาแตตอนนี้ แมแตในอดีตกาล ในยุคผูวิเศษชวงชิงความเปนใหญ ก็ไมเคยเห็นผู
มีพรสวรรคมากมายถึงเพียงนี้มากอน
นี่เปนลักษณะของผูผานประสบการณมาเสียทีไหน เด็กเหลานี้จับกลุมพูดคุยและ
หัวเราะ พรั่งพรูออกมาเปนกลุมๆ ผูคนตะลึงจนอาปากคางกันเปนแถว
ผูอาวุโสหลายคนหนาเขียวไปกวานี้ไมไดแลว สุดทายก็ตะโกนออกอยางมิอาจอด
กลั้นวา “ตรวจสอบ ตรวจสอบใหถึงที่สุด!”
เสียงของพวกเขาเศราโศกอยางหาที่เปรียบไมได สะเทือนเบื้องบนของศาลาปดฟา
ผูคนมากมายดวยไดยินเสียง จึงนึกวามีทายาทอสูรบรรพกาลบุกรุกเสียอีก
สองชั่วยามผานไป ในที่สุดก็ไมมีเด็กเดินออกมาแลว ผูคนนับอยางละเอียดหนึ่งรอบ
พบวามีทั้งหมด 8927 คนที่ฝาดานสําเร็จ
ตัวเลขนี้สะเทือนเบื้องบนของศาลาปดฟาจนหนาเขียว นาตกตะลึงเหลือเกิน เกิดขึ้น
นอยครั้งนัก เหนือกวาประวัติกาล เปนที่สุดแหงโบราณกาลจวบจนวันนี้
คนนับหมื่น มีเพียง 1000 กวาคนที่ไมสามารถเดินออกมา ที่เหลือลวนประสบ
ความสําเร็จ
ครึ่งชั่วยามผานไป ในบริเวณที่ 8 ผูอาวุโสหลายคนหายใจหอบ ยิ่งกวานั้นคือ ผู
อาวุโสสงเฟยและเฉายวิ๋นแทบกระอักเลือด
“สมควรตาย มันผูใดกระทํา?!”
เมื่อไดยินเสียงเศราโศกและโกรธแคนเชนนั้น ผูอาวุโสจากชนเผาใหญตางมองหนา
กัน ไมรูวาคนเหลานั้นไดรับแรงกระตุนมากมากเพียงใด
เพียงชั่วครู เบื้องบนของศาลาปดฟาไดรับรายงาน แตละคนตางเงยหนามองฟา ไม
เอยถอยคําเปนเวลานาน
“เกิดอะไรขึ้น?” เหลาผูอาวุโสเอยถามอยางระมัดระวัง
สุดทาย เบื้องบนเหลานั้นตางหันหลังแลวจากไป เมื่อมองแผนหลังของพวกเขา ผูคน
มิอาจคาดเดาอารมณของพวกเขาได
“มีเด็กเวรคนหนึ่งลักเอากระดูกล้ําคาในบริเวณที่ 8 ไป ทําลายสนามประลอง!”
ขาวคราวแพรงพรายออกไปในที่สุด เหลาผูอาวุโสตางตะลึงพรึงเพริด และกลายเปน
หิน ลวนงงงัน สุดทายก็กระตุกริมฝปาก อดทนตอแรงกระตุนอยางหนึ่ง มิไดออกเสียง
“ผูใดทํากันแน?” ผูอาวุโสคนหนึ่งคํารามลั่น
“จะมีใครเสียอีก ตองเปนเด็กเหลือขอคนนั้นเปนแน บอกวาเขาไมมา ตอนนี้ก็
พิสูจนใหประจักษแลว เขาตองมาแลวอยางแนนอน” ผูอาวุโสสงเฟยใบหนาอาบน้ําตา
ชางหลอกลวงคนเกงเสียจริง
“อยาใหขาเห็นเชียว หากวาเขาเขาสูศาลาปดฟา เรื่องแรกที่ขาจะทําก็คือ โบยกน
เขาใหแตกเปนสิบแปดสวน!” ผูอาวุโสเฉายวิ๋นกลาวอยางโหดเหี้ยมอํามหิต
ทวากลับมีคนเอยปากทันทีวา “นองชาย เจาอยูที่ใด ประตูแหงสํานักชวงชิงความ
เปนใหญเปดรอเจาเสมอ”
ผูพูดคือสตรีเทพเจาสงครามแหงสํานักชวงชิงความเปนใหญนั่นเอง นางกระจายแสง
สีทองทั่วทั้งตัว อรชรออนแอน สวยสดงดงาม ใบหนาเรียวขาวดุจหยก แตกตางกับ
วันวาน เผยรอยยิ้มออนโยน
ผูอาวุโสเฉายวิ๋นเหงื่อผุดเต็มหนาผาก สายตาสอดสองไปทั่ว
ในขณะเดียวกัน โลกแหงความวางเปลาก็ชุลมุนวุนวายเมื่อขาวแพรสะพัดเขามา
ราวกับพายุคลั่ง
“เปนเด็กคนนั้นจริงหรือ เหมือนจะปรากฏตัวแลวหรือ?”
“นอกจากเขาแลวจะมีใครอีก พฤติกรรมเหมือนเมื่อครั้งอยูในดินแดนขั้นตนอยาง
กับแกะ ศาลาปดฟาผูนาสงสาร”
“ฮาๆ เจาเด็กประหลาดคนนี้ชางไรคุณธรรม!”
“ชางนาสงสารศาลาปดฟาเสียจริง เจาเด็กเหลือขอคนนี้ทําขาหมดถอยคําจะเอย
ทําเรื่องไมนาใหอภัยอีกแลว!”
“นั่นสิ หากผูใดยั่วโมโหเขา ตองทําเรื่องไมนาใหอภัยตอเจาเชนกัน แมแตโลกแหง
ความวางเปลาก็หมดความอดทน ไมรูวาศาลาปดฟาจะขับไลเขาหรือไม ฮาๆ...”
ณ ตอนนี้เวลานี้ เกิดเสียงอึกทึกครึกโครมไปทั่วโลกแหงความวางเปลา ผูคนตางพา
กันวิจารณและหัวเราะลั่น
“เด็กคนนี้สามารถหลอกหลวงไดจริงๆ เปนตัวหายนะอยางแทจริง ยางกรายไปที่ใด
ก็ไมสงบสันติ โชคดีที่อยูหางจากพวกเรา” อาคอนปาดเหงื่อ
ลุงแผนหยกกลมมิไดพูดอะไร เคลื่อนไหวอยางวองไว คลองแคลวยิ่งนัก ปกปายลง
ในบริเวณที่มีคนพลุกพลาน ดานบนเขียนวา ‘หากตองการทราบความลับของเด็กติดนม
กรุณาโยนแผนหยกกลมหนึ่งแผน’
ผูเฒาวิหคเองก็ไมรอชา กางผาขาดวิ่นขางเคียง เขียนไววา ‘หนึ่งแผนหยกกลม ขาว
ลับเฉพาะ’
..............................
[1] เพียงยื่นมือก็ไดตัวขาศึก สํานวนจีน แปลวา สําเร็จอยางงายดาย ไมสิ้นเปลือง
พลังงาน
บทที่ 100 สนามรบแหงทีส่ อง
โลกแหงความวางเปลาเกิดเสียงดังเซ็งแซไปทั่ว มีเสียงจอกแจกจอแจทุกหนทุกแหง
ขาวที่เด็กเหลือขอปรากฏตัว ณ ศาลาปดฟาดุจดั่งอุกบาตรรวงลงในมหาสมุทร กอเกิด
เกลียวคลื่นใหญ กลายเปนประเด็นรอนอยางรวดเร็ว
กระทั่งกลบขาวที่สือยี่จะเขารวมสํานักวิเศษโบราณจนสิ้น ผูคนเกือบทั้งหมดตาง
พูดคุยเรื่องนี้ บางหัวเราะลั่น บางสาปแชงเสียงดัง แตผูคนที่ทราบเรื่องตางทอดถอน
หายใจอยางเศราสลด
เจาเด็กเหลือขอคนนี้ก็ไมสมควรทําเชนนี้ แปลกประหลาดอยูเล็กนอยตามที่
คาดการณไว เกิดเรื่องเชนนีข้ ึ้น จะใหศาลาปดฟายอมรับไดอยางไร? ชางนาขันเสียจริง
“คาดวาศาลาปดฟาคงร่ําไหอยางสะเทือนอารมณแลวกระมัง ผานการกอกวนของ
เจาเด็กเหลือขอคนนี้ ปนี้ประตูทางเขาของพวกเขาจะไมถูกเบียดจนแตกรึ มีคนกวาแปด
เกาพันคนที่ฝาดานสําเร็จแนะ!”
“เจาเด็กคนนี้ชั่วรายนัก เดินไปถึงไหนก็แสหาเรื่อง ถึงวาแมแตโลกแหงความวาง
เปลาก็ทนไมได จึงเนรเทศเขาออกไป มีลางสังหรณอยางแทจริง”
ผูคนพากันหัวเราะเหอะๆ รูส ึกวาเรื่องราวครั้งนี้ชางสนุกสนาน นอกจากศาลาปดฟา
ผูรับเคราะห คาดวาที่เหลือคงกระตุกริมฝปากเปนแนแท
ผูคนมากมายสุขบนทุกขของผูอื่น หัวเราะอยางไมหยุดหยอน
แนนอนวายอมมีคนโกรธแคน เฉกเชนสี่ตระกูลใหญซึ่งเคยถูกขูกรรโชกทรัพย
ตอนนี้ยังคงมีใบหนาถมึงทึง กนดาและสาปแชงอยางไมขาดสาย อยากจะสังหารเจาตัว
เล็กใหรูแลวรูรอด
พวกเขายากจะเกิดความรูสึกยินดีปรีดา เพราะตนก็เปนเหยื่อ เคยเปนหนึ่งในสาเหตุ
ของความสุข กลายเปนตัวตลกใหผูอื่นหัวเราะเยาะ
ขาวคราวของศาลาปดฟากลืนทุกสารทิศภายในชั่วพริบตา แพรไปถึงราชวังของ
กษัตริยในประเทศเกาแก ทําเอาตกตะลึงกันจนตาเหลือกไปทุกหนแหง ผูใดก็ไมคาดคิด
วาเด็กเหลือขอคนนั้นจะใชวธิ ีการเชนนั้นประกาศศักดา แมแตในดินแดนสุขาวดี
“ขาเห็นใจศาลาปดฟายิ่งนัก ไยจึงตองพบเจอกับเด็กเชนนี้? ออใชแลว พวกเจาลอง
เดาสิ ดินแดนสุขาวดีโบราณจะลงทัณฑเขาอยางสาสมหรือไม จะเนรเทศเขารึเปลา?” มี
คนพูดถึงคําถามเหลานี้
“ไมมีทางแนนอน หากเปนขาคงเชิญเขาสํานัก จากนั้นคอยๆ จัดการ มิเชนนั้นจะ
งายดายเกินไป” ฝูงชนพยักหนา ลวนรูสึกวามีเหตุผล ผูมีอิทธิพลใหญมากมายจอง
เขมือบ หากวาขับไลเด็กคนนั้นออกมา คาดวาจะถูกชิงตัวไปในระยะเวลาอันรวดเร็ว”
ผูคนในโลกแหงความวางเปลาถกประเด็นรอนกันอยางไมหยุดหยอน
“มีคนอยากไปศาลาปดฟารึไม? หากวาเด็กคนนั้นปรากฏตัวแลว ขาเชื่อวาจะตอง
เล็ดรอดออกมาอยางรวดเร็วเปนแน”
มีคนมีปฏิกิริยาตอบสนองอยางรวดเร็ว ประกาศกราววาจะเดินทางไปศาลาปดฟา
เพื่อรุมประณามเจาเด็กเหลือขอคนนั้นสักหนอย ทําเรื่องที่ไมนาใหอภัยเชนเดียวกันที่เขา
ทํา
ยิ่งกวานั้นคือมีคนตะโกนวาจะไปสังหารเจาตัวเล็ก
“ในเมื่อปรากฏตัวแลว ขาตองไปสังหารมันใหสิ้น!” นี่ไมเหมือนเรื่องลอเลนแมแต
นิด แผกระจายจิตสังหารอันยิง่ ใหญ
“โผลหัวมาจนได!” มีคนกัดฟน
ผูคนคาดการณวา คนที่อยากลงมือ หากมิใชสี่ตระกูลใหญที่ถูกขูกรรโชกทรัพย ก็คง
เปนเหลาผูมีอิทธิพลที่รูดีวาการเชื้อเชิญไมมีหวัง และไมยอมใหผูอื่นไดไปครอบครอง
เจาตัวเล็กกอคลื่นลูกใหญมหาศาล ดึงดูดความสนใจจากผูคนไมรูตั้งเทาไหร นําเอา
ผูมีอิทธิพลไปยังศาลาปดฟา ที่นี่ตองกลายเปนดินแดนแหงความวุนวายเปนแน!
คนจํานวนมาเคลื่อนไหว มุงหนาไปที่นั่น
“แมเด็กคนนี้จะทํามิถูกมิควร แตก็ไมสมควรไดรับความตาย คนเหลานั้นทําเกินไป
มีผูใดอยากขัดขวางหรือไม?!”
“มี ขาอยากชวยเขากอน จากนั้นคอยดาเขาสักฉาด!”
“เหอะๆ ฮาๆ...”
ผูมีอิทธิพลใหญเคลื่อนไหวแลว สงผูกลาที่นากลัวออกไปจํานวนมาก เชนตระกูลนา
กลัวที่สูญเสียพัดล้ํา ตอนนี้ในใจเดือดดาล หากมีขาวคราวจะเปนเรื่องดี วัตถุล้ําคาแหง
ชนเผาหามเสียหายแมแตนิด!
ดานนอกเกิดเสียงดังเอะอะโวยวาย ศาลาปดฟายากจะสงบ
ผูอาวุโสทั้งหลายเคียดแคนเหลือเกิน เมื่อมองไปยังกลุมคนเบียดเสียดยัดเยียด พวก
เขาก็ตาพรามัว มีคนถึงแปดเกาพันคน จะรับเขาสํานักไดเยี่ยงไร?
เบื้องบนปลอยคําสั่งลงมาแลววาใหพวกเขาทั้งหลายแกไขปญหากันเอง เพราะหนนี้
พวกเขาเปนผูรับผิดชอบ ตอนนี้พวกเขามีความรูสึกอยากตายขึ้นมาเสียอยางนั้น
คนกวาแปดเกาพันคนจองมองอยางคาดหวัง อีกทั้งเหลาผูอาวุโสก็รอคอยอยางแรง
กลา
“คนเยอะเหลือเกิน...” ผูอาวุโสสงเฟยเอยปากอยางฝนใจ ทวาเพิ่งเอยออกไปไดไมกี่
ตัวอักษรก็ถูกคนขัดขึ้นมา
“เปนธรรมดา ลูกหลานของเราลวนเปนผูมีพรสวรรค!” ผูเฒาผูแกจากชนเผาใหญ
พูดตะโกนขึ้นพรอมกัน
“สหายทั้งหลาย โปรดอภัย” ผูอาวุโสเฉายวิ๋นใบหนาระทมทุกข คาดหวังวาผูคนจะ
เขาใจและผอนผัน
“พวกเราเขาใจและเชื่อในศาลาปดฟา เด็กๆ ผานการทดสอบที่ยากที่สุด ตองได
ศึกษาเคล็ดวิชาล้ําคาและอักขระที่ดีที่สุดจากสํานักเปนแน” ผูสูงวัยของชนเผายืนหยัดใน
คําพูดอยางไมยอมยืดหยุน
“ครั้งนี้เกิดขอผิดพลาดจากการประมาทเลินเลอ จะเก็บมาคิดจริงจังไมได” ชายชรา
ผูหนึ่งกลาวดวยสีหนาถมึงทึง
“ศาลาปดฟายิ่งใหญเชนนี้ กษัตริยตรัสแลวไมคืนคํา พวกทานพูดเองวาปนี้ระดับ
ความยากสูง สรางดานที่ไมเหมือนทุกครา เพียงผานดานก็จะรับเปนศิษย จะกลับคํา
อยางนั้นหรือ? หากเล็ดรอดออกไปยังโลกภายนอก ก็รังจะทําใหพวกทาเสียเกียรติเสีย
ชื่อ”
ผูอาวุโสทั้งหลายตะลึงงัน อยากจะจับตัวเด็กเหลือขอคนนั้นใหรูแลวรูรอด หากจะ
โบยเจียนตาย ก็จะเปนการสรางหายนะ ตอนนี้ควรทําเชนไร?
“สหายทั้งหลาย เรามาปรึกษาหารือกันสักหนอย พวกทานวาเชนนี้ดีไหม?” ผู
อาวุโสทั้งหลายเชื้อเชิญผูเฒาผูแกทั้งหลายมาอีกฟาก หมายพูดคุยกันพวกเขาอยาง
จริงจัง ไมวาอยางไรก็ตามการรับคนกวาแปดเกาพันเขารวมศาลาปดฟานั้นเปนเรื่องที่
เปนไปไมได เกินจํานวนที่คาดการณไวมากเกินไป
สตรีเทพเจาสงครามแหงสํานักชวงชิงความเปนใหญและเหลาขุนศึกที่ถูกผูมีอิทธิพล
สงตัวมา แตละคนตางยืนมองอยูอีกฟากอยางนิ่งเฉย มองหาเจาตัวเล็กอยางถี่ถวน ยินดี
ปรีดายิ่งที่ไดเห็นเหตุการณเชนนี้
โลกภายนอกสับสนอลหมาน เจาตัวเล็กเดินเตรอยูในปาของสนามรบแหงที่สอง ไม
ทุกขรอนแมแตนอย
“คนที่เขามาไมถือวามากนัก บางคนแข็งแกรงเหลือเกิน” เขาพึมพํา พบคนหลาย
สิบคนแลว หลายคนในนั้นเกงกาจเปนอยางมาก แมจะเยาววัย แตเปดถ้ําสวรรคไดหลาย
แหงแลว
เขาเดินเพนพานไปทั่วผืนปา คนหาศิลาในสนามรบแหงที่สอง
ทันใดนั้น กลิ่นคาวเลือดก็ลอยมาปะทะหนา เจาตัวเล็กสะดุงโหยง ละแวกใกลเคียง
กับน้ําตกเบื้องหนาเปรอะเปอนคราบเลือด ที่นั่นมีกะโหลกครึ่งหนึ่ง เปนคนชายหนุมอายุ
15-16 ปคนหนึ่ง รางกายและบริเวณอื่นถูกเขมือบจนสิ้น
เขาไมไดเขาไปใกล คาดการณวาในน้ําตกตองมีสิ่งมีชีวิตดุรายเชนเจียวเรนกายซอน
ตัวอยูเปนแน
ครึ่งชั่วยามผานไป เขามาถึงบริเวณหนองน้ํา พบรองรอยการตอสูอยางรุนแรง บน
พื้นมีแขนชุมเลือด ตรงนั้นมีจระเขแกตัวหนึ่ง นากลัวอยางหาที่เปรียบไมได มีความยาว
เกือบ 80 หมี่
“อัตราการตายถือวาไมต่ําเลย” เจาตัวเล็กลาถอย
“โฮก...”
ทันใดนั้น มีเสียงคํารามแววมา ดินโคลนระเบิดออก ราวกับภูเขาทลายแผนดินแยก
กอนหินและตนไมใกลเคียงถูกพัดกระพือจนปลิวขึ้นฟา
“ยังมีอีกตัว!”
เจาตัวเล็กตะลึงงัน ในละแวกใกลเคียงกับบอโคลนนี้ ไมไดมีสัตวรายเพียงตัวเดียว
ยังมีจระเขแกที่ยิ่งใหญกวาอีกตัวหนึ่งอยู รูปรางใหญโตมโหฬาร ไมต่ํา 100 หมี่
รางกายแนนขนัดไปดวยเกล็ดหนังสีทองแดง ฉายประกายเย็นเยือกแวววาว
กระโจนออกมาจากบอโคลน พุงมาหาเจาตัวเล็ก
“ซวบ”
เจาตัวเล็กไถลตัวไปดานขาง หลบหลีกปากใหญชุมเลือด เสียงแควกดังขึ้น ปากใหญ
นากลัวนั่นกัดตนไมเกาแกสูงเทียมฟาหลายตนจนแหลก กลิ่นอายสาบเลือดคละคลุง
เสียงโครมดังขึ้น จระเขแกโหดเหี้ยมเปนอยางมาก เมื่อปากใหญดุจอางเลือดกัดไม
โดนเปาหมาย อุงมือยาว 10 หมี่ก็ตวัดลงมา อักขระแปลบปลาบ เปลวไฟทวมทนทองฟา
เจาตัวเล็กลอยตัวกลางอากาศ หนึ่งเทาเตะออกไป ปะทะกับอุงมือใหญ ทั้งสองตาง
รนถอยหลังดวยพลังสะทานโลกา
จระเขแกตื่นตระหนกตกใจ มนุษยผูนั้นตัวเล็กเชนนี้ ไยจึงมีพละกําลังนากลัวปานนี้
สามารถปะทะกับมันซึ่งมีขนานกวา 100 หมี่ได ตองทราบวามันผานการบําเพ็ญตนเปน
เวลาเนิ่นนานจึงจะสามารถบรรลุขั้นที่หนึ่ง
เจาตัวเล็กกางมือออกพรอมกัน สายฟาสีทอง 10 เสนใหญลอยออกมา ฟาดลงบน
ตัวของจระเขแกจนหมด บริเวณนั้นไหมเกรียมทันที จากนั้นเกร็ดก็รวงลง เนื้อเละเปอย
ยุย
จระเขโมโหโทโส จวนจะยืนขึ้นดั่งเชนมนุษย กระโจนใสเจาตัวเล็ก ในขณะเดียวกัน
จระเขแกอีกตัวมีอักขระเปลงแสงสวางวาบ พุงเขาสังหารทันที
เจาตัวเล็กขมวดคิ้ว ไมทําการตอสูอันไรความหมายอีกตอไป หันหลังเดินจากไป
ทันที ทวาจระเขทั้งสองกลับไมยอมรามือ ไลลาตามติด รางกายใหญยักษคืบคลานไป
ตามผืนปา บดขยี้ตนไมเกาแกมากมายจนแหลกลาญ
“โฮก...”
ทันใดนั้น แววเสียงพยัคฆมาไกลๆ สะเทือนไปทั่วเทือกเขา นากลัวจนเจาตัวเล็กขน
ลุกขนชัน เขานึกถึงเสือดําตัวนั้นโดยพลัน เคยเห็นมันใชอุงเทาของมันเหยียบย่ํายอดเขา
ลูกหนึ่ง
เขาหลบหนีอยางรวดเร็ว ไมอยากหยุดพัก
ทวา จระเขแกที่ไดรับบาดเจ็บตัวนั้นนัยนตาแดงก่ํา ไลลาหมายสังหารเขาอยางไม
ลดละ ในขณะที่อีกตัวรีบมุดหายลับไปในบอโคลนทันทีที่ไดยินเสียงพยัคฆคําราม
ผืนปาสั่นไหว ตนไมเกาแกหักโคน กอนหินปลิววอน สัตวประหลาดนานาชนิดหนีหัว
ซุกหัวซุน ภายใตการไลลาของสิ่งมีชีวิตดุรายที่มีขนาดใหญโตมโหฬารกวา 100 หมี่
บริเวณผืนปาก็จลาจลวุนวายไปทั่ว
“ปง”
ทันใดนั้น มีเงาพุงออกมาจากดานขาง สวางวาบไปทั้งตัว ราวกับเทพเจาสงครามสี
เงินตนหนึ่ง กลิ่นอายนายําเกรง ฟาดเจาตัวเล็กไปทีหนึ่ง
เสียงโครมดังขึ้น อักขระผนึกกําลัง แสงสีเงินเจิดจาพรางพราย ทําใหบริเวณนี้
สั่นสะเทือนอยางรุนแรง ตนไมเกาแกมากมายแหลกละเอียด กอนหินหนักหมื่นชั่งหลาย
กอนกลายเปนผุยผง
การโจมตีหนนี้นากลัวเปนอยางยิ่ง ทําใหเจาตัวเล็กตะลึงพรึงเพริด คนที่ฝาดานเขา
มาไดยอมไมธรรมดา และคนคนนี้ถือวาเปนบุคคลที่นากลัวคนหนึ่ง
คนดานหลังนิ่งอึ้ง เด็กที่พุงผานไปคนนั้นนากลัวเหลือเกิน นี่ยังเปนการกระโดดอยู
หรือ เหมือนกับเหาะเหินอยางกับแกะ กระโดดขามผืนปาทั้งบริเวณภายในพริบตา!
เขามิไดหยุดพัก ใตฝาเทามีอักขระแวบวาบ แสงสีเงินแผคลุมผืนดิน พุงไปอีกฟาก
หนึ่งชั่วพริบตา หลบหนีหายไปเชนกัน
“โฮก...”
ใจกลางเทือกเขา เสียงหวีดหวิวสะเทือนฟา เสือดําตัวหนึ่งมาดวยความเร็วสูง
เหยียบย่ําผืนปาจนแตกราว ตรงกลางมียอดเขาสองลูกขวางทาง ถูกมันตะปบจนแหลก
ละเอียด
จระเขแกสั่นสะทาน สังหารเหยื่อลาขนาดใหญหลายตัวอยางรวดเร็ว จากนั้นหมอบ
คลานบนพื้นดิน เนื้อตัวสั่นระริก รอคอยราชันยแหงสัตวตัวนั้นโรยตัวลงมา
เสือดําปรากฏตัว กมหัวเพงมอง เมื่ออาปากสูดลมหายใจ แสงสีดําก็กลิ้งมา เขมือบ
เหยื่อลา 10 กวาตัวอยางหมดจด จากนั้นมองดูจระเขแกที่พรางตัวในบอโคลน เผยสี
หนาชิงชัง จากนั้นหันหลังเดินจากไป
เหลือไวเพียงคราบเลือดเปรอะเปอนผืนดิน หลั่งไหลประหนึ่งลําธารเล็ก นั่นเปนสิ่ง
ที่เหยื่อลาเหลานั้นทิ้งไว แตจระเขแกกลับจากไปดวยความเร็วราวกับพนโทษ
ในที่สุดเจาตัวเล็กก็พบกับศิลาแผนนั้น รายลอมดวยแสงสวาง ไอมงคลขมุกขมัว
เห็นไดชัดวานี่คือวัตถุล้ําคา เมื่อเขาใกลก็มีกอนหินสีดําลอยออกมาจากตรงนั้น รวงลงบน
ฝามือของเขา
บนศิลามีอักษรไมกี่บรรทัดวา ‘ผูที่มีกอนหินปดฟาสองชิ้น ถือวาผานดาน หากมีสิบ
ชิ้นขึ้นไปจะไดรับการบมเพาะอยางใหความสําคัญ’
“ขามีเพียงชิ้นเดียว ยังไมถือวาผานดานหรือ? นี่เปนการสงเสริมใหขาชวงชิง” เจา
ตัวเล็กพึมพํา
เขาเขาใจแลวาเพราะเหตุใด จึงอยากจะเฝารออยูที่นี่ รอผูคนมาเสาะหา ถือโอกาส
ศึกษาศิลาแผนนี้ บางทีอาจจะขุดวัตถุล้ําคาออกมาได
ทวา ศิลาไมธรรมดา กระจายแสงสวาง จากไปไกลอยางรวดเร็ว จากนั้นมุดหายลง
ดินไป
“นี่เปนการหลีกเลี่ยงใหคนมานั่งเฝาแผนศิลา เพื่อใหคนเขาผืนปาไปตอบโต สังหาร
กันและกัน”
เจาตัวเล็กอกสั่นขวัญแขวน ปรารถนาจะเปนลูกศิษยผูมีพรสวรรคนั้นไมงายเลย ที่นี่
ไมมีกฎระเบียบใด นี่หมายความวา ชวงชิงกอนหินปดฟาอันตรายนัก? ตองมีการตาย
เกิดขึ้นเปนแน!
ถึงวาคนเมื่อครูแอบโจมตีเขา ตองเปนเพราะกอนหินปดฟาอยางแนนอน
“ไมรูวามีอัจฉริยะกี่คนที่เขามาในสนามรบแหงที่สองนี้” เจาตัวเล็กไมไดเรงลงมือ
เดินเตรไปทั่วผืนปา สืบหารองรอยของผูอื่น
เขาเดินทางทะลวงดินแดนรกรางนับแสนนับลานลี้ มีประสบการณในผืนปาอยางลน
หลาม เหนือกวาคนรุนเดียวกัน หากระมัดระวังตัวขึ้นมา ตองนากลัวเปนแนแท
“1 2...” เจาตัวเล็กนับจํานวน สองชั่วยามผานไป เขาพบคน 7-8 คนแลว ตามการ
คาดการณของเขา มีอัจฉริยะอยางนอย 100 กวาคนในเทือกเขานี้
“เจาคนที่โจมตีขาเมื่อครูนั้นแข็งแกรงมาก ทําใหขาสัมผัสไมได ไมรูวาหลบซอนอยูที่
ใดกัน” เจาตัวเล็กพึมพํา
จากนั้นเขาก็ไมสนใจไยดีสิ่งเหลานี้ มุงหนาเดินเขาไปยังใจกลางเทือกเขา เมื่อเห็น
เสือดําตัวนั้น เขาคิดวาในปาจะตองมีของดีอะไรอยูแน
แตบนรังของสัตวรายที่แข็งแกรงที่สุด มักจะมีของวิเศษอยูสักหนอย นี่เปน
ประสบการณจากการทะลวงดินแดนรกรางนับลานลี้
บนเสนทางนั้น เขาไดลงมือหลายครั้งหลายครา ยิ่งกวานั้นคือการเด็ดยาวิเศษที่มี
เจียวปกปกษรักษา ผลคือเขาและชิงเฟงถูกไลลาสองวันสองคืน จากนั้นทําใหเขาไมกลา
ลงมือบุมบามอีกเลย
นี่เปนลานดานหลังของศาลาปดฟา เจาตัวเล็กครุนคิด หากเสือดําคลุมคลั่งก็ไมใช
เรื่องใหญอะไร เพราะมีดินแดนสุขาวดีค้ําหัว กําราบบริเวณนี้ไว
ใจกลางเทือกเขา ไอหมอกรายลอม ตนไมเกาแกสูงเทียมฟา ยิ่งกวานั้นคือกอนหิน
ใหญตั้งเรียงราย
เจาตัวเล็กเขาใกลที่ราบสูงแหงหนึ่ง บริเวณนี้ปราศจากพืชคลุมดิน กลิ่นอาย
เหี้ยมโหดนาสะพรึงกลัว หมอกดําทมิฬหนาแนน เพียงมองก็รูวาเปนสถานที่อันตราย
อันมีสัตวอสูรโหดเหี้ยมพํานักอาศัยอยู
เขาระมัดระวังนัก มิเชนนั้นจะตองทิ้งชีวิตไวที่นี่เปนแน เขาคอยๆ เขาไปดวย
ลักษณะหยั่งเชิง ไมมีทางตอสูอยางสุดแรงเกิดอยางแนนอน
พื้นดินทนทานแข็งแรง ถูกย่ําเหยียบจนแข็งแกรงดุจหินเพชร วางเปลาไมมีสิ่งใดเลย
เขาประชิดในที่สุด ตรงนั้นมีอุโมงคใตดินขนาดใหญ ดําสนิท ไอเหี้ยมโหดหลั่งไหล
ออกมาเปนสาย เปนรังของเสือดําตัวนั้นนี่เอง
“สมุนไพรวิเศษนี่นา!”
เจาตัวเล็กดีอกดีใจ ทางออกอุโมงคมีแสงสีดําเปนจุดๆ มีพืชตนหนึ่งฝงรากอยูบริเวณ
นั้น ตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก
ละแวกนี้ไมมีตนหญาแมแตนิด มีเพียงสมุนไพรวิเศษริมถ้ําเสือตนนั้น ยอมดึงดูด
ความสนใจ มันมีขนาดสูงเพียงเซี๊ยะ รูปรางคลายดอกบัว ดําสนิทไปทั้งตน ประหนึ่ง
หลอมจากหยกดํา
“บัวไอดํา!”
เจาตัวเล็กปลื้มปติ นี่เปนยาวิเศษที่พบเห็นไดยาก เติบโตจากการดูดซึมไอชั่วราย
ปกติยากจะพบเห็นสักตนหนึ่ง เพราะมันมีนอยมาก
แนนอนวา แมมันจะดูดซึมไอเหี้ยมโหด แตกลับเปนยาวิเศษ เพียงเพราะมันพิเศษ
สรรพคุณยารุนแรงกวายาวิเศษทั่วไปนัก เหี้ยมโหดอยางยิ่ง
โดยเฉพาะตนนี้ มันดูดซึมความชั่วรายของเสือดํา ระดับยามีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
เหนือกวายาวิเศษทั่วไป ถูกยกยองใหเปนยาวิเศษล้ําคาอันพบเห็นไดยาก
“ระยะนีข้ าบําเพ็ญตนโดยการฝาดานปราการ ควรจะบรรลุแลว แตกลับรูสึกวาควร
จะมีประสบการณมากกวานี้เสียหนอย รวบรวมยาวิเศษใหมากขึ้น ดูเหมือนวาตอนนี้จะ
ไมตองรอคอยแลว”
เจาตัวเล็กพออกพอใจ ดวยรูสึกวาสามารถเปดถ้ําแหงที่ 6 ไดแลว การบําเพ็ญจะ
กาวกระโดดอีกครั้ง
แนนอน สมุนไพรวิเศษที่เขาไดมากอนหนานี้ ไมไดเสี่ยงเอาชีวิตไปทิ้ง
“เอะ บัวดํานี่ถูกคนหมายปองกอนเสียแลว” เจาตัวเล็กประหลาดใจ บนผนังหิน
ของอุโมงคถ้ําเสือดํามีอักษรบันทึกอายุของสมุนไพรตนนี้
“รองรอยที่ศาลาปดฟาเหลือทิ้งไว” เจาตัวเล็กครุนคิดไปพักหนึ่ง จากนั้นบนอุบวา
“แมแตกระดูกล้ําคาในบริเวณที่ 8 ขาก็ขุดมาแลว จะพลาดสมุนไพรตนนี้รึ? แนนอนวา
ไม หากทําเชนนั้นตองถูกฟาผาเปนแน”
เขาทําตัวลับๆ ลอๆ ดอมๆ มองๆ ไปซายทีขวาที ดวงตาเปนประกาย จากนั้นคอยๆ
ยองไปยังถ้ําเสือดํา
บทที่ 101 ลมลงในหนึง่ คอนทุบ
บริเวณนี้โลงกวาง ไมมีแมแตตนหญาสักหยอมเดียว มิเชนนั้นคงไมสามารถจุเสือดํา
มหึมาปานนั้นได เจาตัวเล็กเดินยองไปตามทางเดินถ้ํา
จิตสังหารเขมขนมากยิ่งขึ้น หมอกดําสายแลวสายเลาลอยลองออกจากถ้ําเสือที่มืด
มิด เห็นไดชัดวาเจาแหงสัตวตัวนี้นากลัวเพียงใด เพิ่งจะเดินถึงตรงนี้ก็รูสึกถึงความเย็น
เยือกทิ่มแทงกระดูก จิตสังหารโจมตีรางกาย
“มิไดการณ อันตรายเกินไป หากทําใหมันตื่นตระหนกตกใจ ขาก็ยากจะรอดชีวิต
เปนแน” เจาตัวเล็กหยุดกาวเดิน
แมบัวไอดําจะดีเลิศ แตมิไดสําคัญไปกวาชีวิต เขามิอาจหาญกระทําการอยางมุทะลุ
ตั้งใจสังเกตการณ ตอบสนองอยางละเอียดถี่ถวน กลั้นลมหายใจของตน แมแตรูขุมขนก็
ปดไปนานแลว ดวยเกรงวาจะยั่วยุราชันแหงสัตวตัวนั้นเขา
ในที่สุด เจาตัวเล็กก็ลาถอย กาวถอยหลังไปทีละกาว จากนั้นหายลับไปผืนปา
จนกระทั่งออกไปจนไกลหาง เขาจึงถอนหายใจ เมื่ออยู ณ ที่แหงนั้นทําใหหัวใจเตน
แรงผิดปกติ เกิดความรูสึกหายใจลําบาก ราวกับมีภูเขาสีดําลูกหนึ่งกดทับตรงหัวใจ
เลือดก็จวนจะแข็งตัวเสียแลว
“บัวไอดํามีตัวอักษร บันทึกชวงเวลาของมัน เจาแหงสัตวตัวนี้ถูกศาลาปดฟากําราบ
แลวงั้นรึ?” เจาตัวเล็กพึมพํา เขาพลันนึกถึงเรื่องราวเมื่อไมนานมานี้
จระเขแกตัวนั้นคลุมคลั่ง ไลลาตามเขาในทิวเขา สัตวประหลาดมากมายผวา วิ่งหนี
กันจาละหวั่น ทําใหเสือดําตื่นตกใจ มันเรงตามไปคํารามเพื่อหยุดจระเขบาคลั่ง ประหนึ่ง
กําลังรักษาความเรียบรอยกลางเทือกเขาใหคงอยู
“หวังวาการคาดการณของขาจะเปนเรื่องจริง” เจาตัวเล็กแววตาเปนประกาย พุง
หายเขาไปในภูเขา ทะลวงออกจากบริเวณนี้
เพียงครู เขามาถึงละแวกน้ําตกแหงหนึ่ง เมื่อมีระยะหางนับ 100 จั้งแลวจึงหยุดลง
ยกกอนหินใหญหนักหลายพันชั่งขึ้นแลวขวางออกไปอยางรุนแรง
อักขระลอยวน กอนหินสองแสงวาดเสนโคงหนึ่งเสน พุงเขาไปยังน้ําตก สะเทือนจน
หนาผาสั่นไหว คลื่นขาวทวมทนทองฟา อีกทั้งในตอนนี้เอง น้ําตกก็ปลอยเสียงดังกึกกอง
สะทานฟา
เจียวหนาใหญตัวหนึ่งคลานออกมา มันมีสีเทาเขียวทั้งตัว ลําตัวหนาเทาถังน้ํา เกล็ด
และกรงเล็บดุรายนากลัว เพียงชั่วครูก ็กระโจนออกมา ลุกยืนทาคน เสาะหาผูกอกวน
“ปง”
สิ่งที่ตอนรับมันคือกอนหินใหญอีกกอนหนึ่งซึ่งหนักยิ่งกวา มีน้ําหนักเกินหมื่นชั่ง มัน
ถูกหอหุมดวยอักขระ พุงมาดวยความเร็วสูง กระแทกลงบนกะโหลกของมันเกิดแสงสวาง
วาบ กอนหินแตกออกเปนเสี่ยง เจียวตัวนี้โมโหโทโสอยางที่สุด
เมื่อมันมองเห็นเจาตัวเล็ก พลันกระโดดขึ้นแลวเขาประชิดดวยความเร็วภายใน
พริบตา อีกทั้งยังอาปากพนแสงสวางออกมามากมาย ทําใหผืนปาดานหนาละลาย
กลายเปนเถาถาน แมแตลําธารหนึ่งสายก็ระเหยจนแหงเหือด
เจาตัวเล็กวิ่งปรื๋อเรงหลบหนีอยางบาคลั่ง ออกแรงกระทืบเทาทั้งสองขาง เหยียบย่ํา
แผนดินจนแยก จากนั้นก็พุงสูฟากฟาราวกับลูกธนู ลอยผานเนินเขาเตี้ยลูกหนึ่งในชั่ว
พริบตา
การระเบิดพลังของเขาชางยิ่งใหญเหลือเกิน ครั้งที่ทําลายสถิติของสือยี่ในโลกแหง
ความวางเปลานั้นก็แสดงออกมาใหเห็นแลว ครานี้เขากระโดดขึ้นดวยกําลังทั้งหมด มัน
นาตกใจอยูไมนอยเลย
เจียวโกรธเกรี้ยวระคนตกใจ เรงไลตามไมลดละ บดขยี้ผืนปาแหงนี้จนราบ
ทันทีทันใด เมื่อมาถึงฟากเนินเขาเตี้ย ทําใหสัตวประหลาดมากมายตื่นตกใจจนขวัญหนีดี
ฝอ วิ่งหนีอยางบาระห่ํา
เจาตัวเล็กเดินทางในปาทึบ มาถึงเบื้องหนาบอโคลนอยางรวดเร็ว เขาโอบกอนหิน
ใหญกอนหนึ่งขึ้น จากนั้นฟาดไปทางพื้นโคลน
เสียงตูมดังขึ้น น้ําโคลนแตกกระเด็นเซ็นซานกอน ตอมาก็มีเสียงจระเขรองอยางนา
เวทนา มันกระโดดขึ้นทันที เพราะหินกอนนั้นกระแทกลงบนเบาตาของมันพอดี จวน
สรางความเสียหายแกดวงตา
มันลืมตาสีเลือดดุจโคมไฟขึ้น มองเห็นเจาตัวเล็กกําลังหัวเราะเยาะมันพอดี มันจึง
ระเบิดความโกรธทันใด กอนหนานี้ไมนานก็เปนเจาเด็กคนนี้ที่ทํารายมัน ตอนนี้ยังใจกลา
มายั่วยุ
ขณะนี้มันไมสนใจสิ่งใดแลว กระโจนออกจากบอโคลน ลากรางกายยาวนับ 100 หมี่
ประหนึ่งกองภูเขาเนื้อ ทั้งเกล็ดแนนขนัดพุงชนเขามา
และสหายของมันเองก็ทนดูตอไปมิไดแลว จึงพุงมาจากอีกฝง ตีวงลอมสกัดกั้นศัตรู
หมายสังหารเด็กนาชังคนนั้น
เจาตัวเล็กวิ่งหนีอยางบาคลั่งไปไกล สุดทายก็กระโดดขึ้นกลางอากาศ ขามผานทิว
เขาเตี้ยเปนแนวไปยังอีกอาณาเขตหนึ่ง
ที่นี่มีวิหคมังกรสามขา มันเปนปกษาปศาจ ปกครองผืนดินบริเวณนี้ สัตวประหลาด
ตัวอื่นมิกลารังควาน แมพันธุนี้จะมีปกคู หากแตไมสามารถเหาะเหินได อาศัยขาทั้งสาม
ในการวิ่ง รางกายยาวเกือบ 10 กวาหมี่
แมขนาดตัวจะเทียบจระเขแกมิได แตมันกลับดุรายเปนอยางมาก พละกําลังมิออน
ดอย ปกติหากอักขระเปลงแสง เพียงพอจะสะเทือนภูเขาลูกเล็กจนระเบิดได มันเปน
ใหญในผืนปาแหงนี้ ไมมีผูใดสามารถเขยาขวัญได
เจาตัวเล็กพรวดพราดเขามายังที่แหงนี้ ไมเอยถอยคําใดใหมากความ กระโดดขึ้นบน
หลังของวิหคมังกรนอยตัวหนึ่งทันที รัวหมัดสะเปะสะปะจนมันรองเสียงหลงอยาง
เจ็บปวด
วิหคมังกรนอยที่วานี้ก็มีความยาวหลายหมี่ ปกนกสวยสดงดงาม แตกลับบินไมได
ขากํายําทั้งสามขางตะเกียกตะกายสุดกําลัง หมายอยากสะบัดเจาตัวเล็กใหรวง ทวาก็ไร
ประโยชน
ไมไกลนัก วิหคมังกรใหญตัวนั้นกลับหลังหัน พลันก็เตนเราๆ ดวยความโกรธ เจา
แมลงตัวนี้มาจากไหนกัน? กลาขมเหงรังแกลูกเพียงหนึ่งเดียวของมัน ขนสีสดงดงามเปน
เสนๆ ก็ลุกชันขึ้นทันควัน มันพุงตรงมาทันที
เมื่อเจาตัวเล็กปลอยหมัดสุดทายลงไป ลูกนกเจ็บปวดจนรองเสียงหลงไมหยุด
จากนั้นเขาก็กระโดดลงมา วิ่งหายลับไปในพริบตา
วิหคมังกรใหญไลกวดอยางไมลดละ โมโหเดือดดาลอยางไมเคยเปนมากอน มิเคยมี
สิ่งมีชีวิตใดอาจหาญยั่วยุมันมากอน แมลงตัวนอยปานนี้กลับใจกลาระรานลูกมัน นี่เปน
เรื่องที่ใหอภัยไมไดเด็ดขาด!
เชนนี้เอง ผืนปาบริเวณนี้จึงเกิดความโกลาหล ทั้งเจียว จระเขแก และวิหคมังกร
สามขารวมแลวมีเจาแหงสัตวกวา 6-7 ตัวที่ถูกเจาตัวเล็กปลุกปนจนโกรธขึ้ง คลุมคลั่ง
และไลตามสังหารในเทือกเขาแหงนี้
สุดทาย มีหลายตัวเผชิญหนากัน ประจันหนากัน กระทั่งวาสูรบปรบมือ กอเกิดการ
ปะทะกันอยางดุเดือด ทั่วทั้งเทือกเขาชุลมุนวุนวาย สัตวรายนานาชนิดตื่นตระหนกตกใจ
จนเตลิด ทุกหนแหงของพนาไพรก็เปนเชนเดียวกัน
อัจฉริยะผูซึ่งเขาสูสนามรบแหงที่สองตางอกสั่นขวัญแขวน ปาดเหงื่อกาฬเย็นเยียบ
ที่นี่อันตรายเหลือเกิน เหลาสัตวประหลาดดุรายกอความจลาจล ความยากของการ
ทดสอบนี้สูงเกินไปแลว
ทุกคนลวนกลัวลาน! สุดทาย ผืนปาแหงนั้นปรากฏกระแสสัตวขึ้น ทําลายลางสิบทิศ
วิ่งอุตลุดไปทั่ว แนนอนวาพวกเขาตางถูกจูโจมอยางหลีกเลี่ยงไมได
อัจฉริยะเหลานี้ไมรูวา อันตรายนี้เปนสิ่งที่เกิดจากเงื้อมมือมนุษย ไมรวมอยูในการ
ทดสอบดั้งเดิมแมแตนิด แตละคนตางขวัญหนีดีฝอ พยายามหลบซอนจากกระแสสัตว
อยางสุดความสามารถ
“โฮก...”
ณ ใจกลางเทือกเขามีเสียงพยัคฆคํารามลอยมา ราชันแหงสัตวตัวนั้นเดือดดาลเปน
อยางมาก มันเพิ่งจะนอนหลับหลังจากกลับสูถ้ําเสือไดไมนานนักก็ถูกรบกวนอีกหน จึง
ฉุนเฉียวมากกวาปกติ
เกิดพายุหมุนสีดําลูกหนึ่งพัดโหมกลางจุดที่ลึกที่สุดของเทือกเขาขึ้นทันที ปกคลุมเงา
ดําขนาดใหญไวภายใน มันพุงตัวออกมา แหงนหนาคํารามอยางไมขาดสาย
“อยางที่คิดไวจริงๆ มันคงจะถูกศาลาปดฟากําราบ รับผิดชอบปกปองเทือกเขาแหง
นี้เพื่อดํารงรักษาความเปนระเบียบเรียบรอย” เจาตัวเล็กดวงตาเปนประกาย จากนั้นก็
แสดงสีหนาชื่นมื่น
เขาหลบซอนเขาพงไพร อําพรางรางกาย พุงไปยังถ้ําเสืออยางไรรอ งรอย
ในตอนนี้ เสือดําออกจากที่พํานักอาศัย ไปขางนอกเพื่อควบคุมการจลาจลนี้ดวย
ตนเอง
ทั้งสองคลาดกันอยางไมมีทางบรรจบกัน เจาตัวเล็กอาศัยโอกาสนี้วิ่งอยางบาคลั่ง
ฝนทนจนใบหนาเล็กแดงก่ํา อักขระทั่วรางกายผนึกกําลัง กลายเปนแสงหนึ่งเสน จากไป
ที่หางไกลภายในพริบตา
เขาใชความเร็วสูงสุดมายังปากถ้ํา ซึ่งมีไอดําเนืองแนน ที่นี่สงัดเงียบและโลงกวาง
อยางที่สุด มีเพียงบัวไอดํากระจายแสงดําเปนจุดๆ
เปนบัวขนานแท หากแตมิไดเจริญเติบโตในน้ํา ดํารงชีวิตโดยอาศัยการดูดซึมจิต
สังหาร ดําเงาทั้งตน มีความสูงเพียงเซี๊ยะ มีกลิ่นหอมตลบอบอวล
เจาตัวเล็กจิ้มนิ้วมือลงในชั้นดิน รูสึกถึงสิ่งชั่วรายที่โจมตีรางกาย เพราะชั้นดินถูกจิต
สังหารของเสือดํายอมจนกลายเปนสีดํา ชางนาพรั่นพรึง
“ปง”
หินโคลนแตกกระเด็น เขาขุดเอาบัวไอดําออกมา จากนั้นหันหลังแลวหนีหายไป ไม
หยุดพักแมแตวินาทีเดียว
แมเขาจะเยาวนัก แตการระเบิดพลังของเขานากลัวอยางแทจริง เพียงกระโดดไมกี่
ครั้งก็สามารถขามสันเขาเตี้ยหลายลูก จากไปดวยความเร็วสูงสุด
หลังจากมาไดไกลมากพอแลว เจาตัวเล็กก็เปลี่ยนเปนเดินเหินในปาทึบ ไมกระโดด
อีกตอไป เขาเดินทางออกจากพื้นที่นี้ หลบหนีไปยังปารกชันอันเปลาเปลี่ยว หลบซอนให
ไกลที่สุดเทาที่จะไกลได
และในระหวางการเดินทางนั้น เขาเปนอิสระมาก ฉีกใบบัวดุจหยกดําแลวสงเขาปาก
ทันที รีบกลืนกินเขาไปประหนึ่งควายเคี้ยวโบตั๋น[1]
ไมนานนัก เขากินโอสถทิพยไปพอประมาณแลว กําจายแสงดําไปทั่วทั้งตัว รางกาย
จวนเผาไหมขึ้นมาทันที
“ขาควรเรงหลอมละลายยาวิเศษใหสิ้น หากเปนเชนนี้ แมมันจะเสาะหา แต
ทายที่สุดเงื่อนงําก็จะถูกตัดขาดหายไป” เจาตัวเล็กครุนคิด
เขาเดินทางทะลวงผานดินแดนรกรางนับลานลี้ เขาเขาใจราชันแหงสัตวพวกนี้เปน
อยางดี มิกลาเหลือรองรอยไวแมแตนิด มิเชนนั้นอาจถูกไลลาจนจะหนีไตขึ้นฟา แทรก
แผนดินก็หมดหนทางรอด
สุดทายเจาตัวเล็กปายน้ําที่เหลือจากใบลงบนรางกายของหมาปาสีเขียวขนาดตัวเทา
บาน ครั้นแลวเขาก็เดินทางจากไปไกลอยางรวดเร็ว
เขาวิ่งไปพลางใชอักขระกระดูกไปพลาง เพื่อดูดซึมพลังปราณอันไมสิ้นสุดภายใน
รางกาย หลอมละลายลงในทุกอณูของเลือดเนื้อ เพียงชั่วครูก็เกิดแสงสวางโชติชวง
อักขระพรางพราย เขาเหมือนกับเทพเจาแหงสวรรคเจิดจาพราตาองคหนึ่ง
ตอมาไมนาน กระแสสัตวสงบลง เสือดํากลับคืนถ้ําเสือ ทวาเพียงเขาใกลก็พบความ
ไมชอบมาพากล แหงนหนาแผดรองดวยความบาคลั่ง ขุนเขากวางใหญคํารามดังกระหึ่ม
สั่นไหวตามกันมา
มันโกรธแคนอยางที่สุด รางกายปรากฏลวดลายสีดํามากมาย กอเปนพายุงวงชาง
บดขยี้ยอดเขาละแวกใกลเคืองจนปริแตก ตนไมเกาแกหลากชนิดลอยลิ่วกลางอากาศ
จากนั้นก็แตกละเอียด
ภาพเหตุการณเชนนี้นาครั่นครามที่สุด เจาแหงสัตวโมโหโทโส กระโจนออกจาก
เทือกเขา ไลลาตามหาโจรลักขโมยยา นัยนตาคูหนึ่งกลายเปนจันทรสีเลือดสองดวง สอง
แสงกลางนภา นาสะพรึงกลัวอยางหาที่เปรียบไมได
พงไพรที่เพิ่งสงบราบคาบเดือดพลานขึ้นมาอีกครั้ง หนนี้ราชันแหงสัตวเปนผูนํากอ
เหตุจลาจล หนึ่งกรงเล็บตะปบลงไป ฟาดภูเขาลูกหนึ่งจนแหลก กอนหินทะลวงอากาศ
“โอสวรรค หากรูเชนนี้มากอน ตีใหตายขาก็ไมเขามาสนามรบแหงที่สองเปนแน
การทดสอบเชนนี้เตรียมไวเพื่อคนอยางขาจริงหรือ?”
อัจฉริยะหนึ่งกลุมหนังหัวชา ตางพากันหลบซอน เนื้อตัวสั่นเทาอยางอดไมได ที่แหง
นี้เหมือนกับขุมนรกอยางแทจริง ไมสามารถทนอยูตอไปไดแลว
เจาตัวเล็กวิ่งหนีไปไดไกลเพียงพอแลว จากนั้นกระโดดลงแมน้ําสายใหญ ดําดิ่งสูกน
แมน้ํา ตัดขาดลมหายใจจากลมภายนอก ปลอยตัวไหลไปตามกระแสน้ํา
เขาปดตาและนั่งขัดสมาธิ จมดิ่งสูการบําเพ็ญตนขั้นลึกซึ้ง เตรียมการกระตุน
ลมปราณภายในรางกาย บรรลุขั้นบําเพ็ญตนขั้นใหม
แทจริงแลว เขาสามารถบรรลุเนิ่นนานแลว เพียงแตเพื่อสั่งสมพลังปราณใหมากกวา
นี้ สรางพื้นฐานที่แข็งแรงที่สดุ และบัววิเศษตนนี้เปนตรงกับความตองการของเขาพอดี
คุณสมบัติของยารุนแรงอยางที่สุด มีฤทธิ์รายแรงเต็มเปยม กลายเปนเปลวไฟสีดํากลุม
หนึ่งในรางกายของเขา แผดเผาอยางบาระห่ํา ยางกลามเนื้อและกระดูกของเขา หลอ
หลอมเลือดเนื้อของเขา
ในที่สุด เจาตัวเล็กลืมตาโดยพลัน นัยนตาคูนี้สองแสงดําทมิฬออกมาสองเสนไกลนับ
10 กวาจั้ง กระโดดลุกยืนขึ้นกลางน้ํา ภูเขาไฟหนึ่งลูกปรากฏขึ้นใตฝาเทาทั้งสองขาง
ปากปลองเจิดจา พนลาวาออกสูภายนอก หลั่งไหลเขาสูฝาเทาของเขา
ณ ตอนนี้ เขาเปดถ้ําสวรรคแหงที่หกแลว พละกําลังเพิ่มขึ้นอีกมากโข!
ในเวลานี้ พลังปราณทั่วรางกายของเขามีอยางมหาศาล ภูเขาไฟที่ปรากฏขึ้นใหมนั้น
พนลาวาออกมาไมขาดสาย แทรกซึมเขาสูรางกาย เสริมสรางความแข็งแกรง อักขระ
ผนึกกําลัง ฟาแลบแปลบปลาบ สายฟาคําราม ราวกับกําลังเปดสวรรคแยกแดนดิน
เจาตัวเล็กไมขยับเขยื้อนเปนเวลาหนึ่งคืนเต็ม ตระหนักรูความลึกซึ้งของอักขระ
กระดูก หยั่งรูพลังใหมทั้งหมด กระทั่งฟาสาง เขาจึงลืมตาขึ้น สิ้นเสียงดังซวบ กระแสไฟ
สวางวาบ ภูเขาไฟถูกเก็บหายไป
“ตูม”
ละอองน้ําสาดกระเซ็น เจาตัวเล็กพุงออกมาจากน้ํา เขาคนพบวาถูกพัดเขาสูทะแล
สาบใหญแหงหนึ่ง
พระอาทิตยเพิ่งโผลพนขอบฟา แสงแดดที่สาดทอมานั้นอบอุน เจาตัวเล็กสดชื่นและ
เบิกบานใจ เมื่อสามารถเปดถ้ําสวรรคแหงที่หกได รูสึกไดดวยตนเองวาแข็งแกรงเปน
พิเศษ เสมือนวามีพละกําลังอันไมสิ้นสุด
ออกจากหมูบานหินผา เดินทางกวาลานลี้ ซึ่งกินระยะเวลาเกือบป เขาจึงจะเดินทาง
มาถึงศาลาปดฟา และตอนนี้เขาเพิ่งอายุ 9 ขวบครึ่ง แตสามารถบรรลุถึงขั้นนี้ได ชางนา
ตื่นตะลึงอยางแทจริง
เขาเดินยอนกลับไปตามสายน้ํา ระยะทางไมไกลนัก เพราะยามที่เขาถูกพัดเขาสู
ทะเลสาบ เขาก็หยุด มิไดไหลไปตามคลื่นน้ํา
“อา ปาแหงนี้นากลัวเสียจริง เกิดเหตุโกลาหลขึ้นรึ?”
สิ่งที่เห็นคือความพินาศยอยยับเต็มไปหมด เศษกิ่งไมแหงใบไมโรยราเกลื่อนกลาดไป
ทั่ว เห็นไดชัดวาเคยเกิดกระแสสัตวมากอน ยิ่งกวานั้นยังมียอดเขาพังทลายบางสวน
นับวาโชคดี มันมิไดสาหัสอยางที่จินตนาการไว แมเสือดําตัวนั้นจะคลุมคลั่ง แตกลับ
มิสูญเสียสติสัมปชัญญะ ทําลายลางคราเดียวก็ลาถอยไป มีเพียงบริเวณนี้ที่เสียหาย
เทานั้น
“เหลือเวลาไมมาก ขาเองก็ควรจะไปเสาะหาหินปดฟาสักหนอยแลว” เจาตัวเล็ก
พึมพําเมื่อกลับมายังผืนปาแหงนี้
เขาเดินทางอยางลับลอซอนเรนรอยเทา ไมนานนักก็พบเห็นซากศพบางสวน
เห็นชัดวาถูกสังหารโดยฝมือของมนุษย หินปดฟาสูญหายไป บงบอกความโหดรายและ
ความนากลัวของสนามรบแหงที่สอง
ผานไปเพียงประเดี๋ยวเดียว เขาก็มองเห็นเหลาชายหนุมซึ่งมีสีหนาสิ้นหวัง อยูใน
อาการขวัญหนีดีฝอ หินปดฟาของพวกเขาถูกชวงชิงไป ในตอนนี้สองมือวางเปลา
“เกลียดนัก เซียวเทียนผูนั้นแข็งแกรงนัก มาจากที่ใดกัน พวกเราทั้งหลายรวมมือ
ตอสูแตกลับพายแพเชนนี้”
“ชางเถอะ รอดชีวิตมาไดก็บุญโขแลว เรงใชเวลาไปชวงชิงผูอื่น เพื่อใหไดมาซึ่งหิน
ปดฟา มิเชนนั้นพวกเราอาจมิบรรลุแมแตความตองการขั้นต่ําที่สุด มิสามารถผานการ
ทดสอบได”
กลุมคนที่เจาตัวเล็กพบเจอเปนกลุมความรวมมือขนาดเล็กกลุมหนึ่ง การบําเพ็ญตน
ลวนแข็งแกรง ทวาเวลานี้กลับเสื้อผาหลุดลุย ขาดรุงริ่ง เต็มไปดวยคราบเลือด ประสบ
กับความแพพายอยางยอยยับปนป
“ดูเหมือนวาจะมีผูกลาจริงๆ เสียดวย คนเหลานี้มีการบําเพ็ญตนที่ไมออนดอยเลย
แมรวมมือกันก็ยังมิใชคูตอสูของคนผูนั้น” เจาตัวเล็กพึมพํา จากนั้นก็หายไปจากที่เดิม
ในพงไพร มีชายหนุมชุดเงินผูหนึ่งกําลังเคลื่อนไหวอยางลับๆ เขามีนามวาเซียว
เทียน การบําเพ็ญแกกลา หลังจากผานการสูรบปรบมือมาคอนคืน เขารวบรวมหินปดฟา
ไดถึง 16 กอน
เขาขมวดคิ้วแลวพึมพําวา “ไยจึงไรการเคลื่อนไหวของเจาเด็กนั่น ขาฟาดฝามือลง
บนหลังไปที เขากลับยืมแรงกระโดดขามภูเขาเตี้ยไปเสียอยางนั้น ชางนาตื่นตะลึง หาก
พูดตามหลักแลวเขานาจะชิงหินปดฟาไดจํานวนมาก ไฉนจึงไมมีผูใดเอยถึงเขาละ”
เวลาลวงเลยไป ผานไปอีกสองชั่วยาม ผืนปาแหงนี้แนนขนัดดวยจิตสังหาร สงคราม
ใหญปะทุขึ้นตลอดเวลา
“ชายหนุมจากเผาไมผูนั้นแข็งแกรงเหลือเกิน เขามาสายถึงเพียงนี้ กลับชนะศึก
ติดตอกันถึง 7 หน”
มีหลายคนเริ่มหนามอยคอตก กลายเปนผูปราชัย มิสูญเสียชีวิตถือวาโชคดีมากแลว
แตยังคงรูส ึกผิดหวังอยางหาที่เปรียบไมได สนทนากันดวยเสียงแผวเบา
ตอมาไมนานก็เกิดแสงสวางเจิดจาในบริเวณผืนปา กอนหินทลายฟา ตนไมใหญ
แหลกละเอียด ใบไมรวงโรย บรรยากาศนาสะพรึงกลัว
เพียงชั่วครูก็สงบลง ชายหนุมคนหนึ่งเนื้อตัวอาบเลือด หลบหนีไปอยางจนตรอก
พรอมกับอาการบาดเจ็บสาหัส ตอมา ชายหนุมชุดเงินผูหนึ่งเดินออกมา ปรับการหายใจ
เล็กนอย จากนั้นกลืนผงยาวิเศษ พลันสวางวาบไปทั้งตัว ฟนคืนสูสภาพแข็งแรงมีกําลัง
วังชา
“ชายหนุมแหงเผาไมพายแลว เซียวเทียนไดชัยชนะอีกแลว นากลัวเหลือเกิน เขา
ตองเปนอันดับหนึ่งในหนนี้เปนแน แสดงความสามารถเหนือผูคนกวาเกาหมื่นคน เปนผู
มีพรสวรรคอันฟาประทานอยางแทจริง!”
ไกลออกไป เหลาผูพายแพตางตกตะลึง จากนั้นก็ถอนหายใจ พวกเขาตางบาดเจ็บ
สาหัส สูญเสียความสามารถในการตอสูไปเสียแลว
บุรุษชุดเงินเดินทางโดยลําพัง ปรากฏกายกลางพนา เพงจิตสัมผัสอันเฉียบแหลมไป
ทั่วทุกอณูของผืนดิน เขารูสึกกระวนกระวายใจอยูตลอดเวลา ไยคนนั้นจึงไมปรากฏตัว
กันนะ?
ทามกลางอัจฉริยะเหลานี้ เขาสามารถยืดคอทระนงไดอยางแนนอน ทวากลับ
หวาดกลัวชายหนุมผูที่เขาเคยซุมโจมตีไปหนึ่งฝามือ แตกลับมิสรางผลใดผูนั้นเพียงผู
เดียว
นี่มันผิดปกติอยูบาง หากกลาวตามพละกําลังของเด็กคนนั้น ควรจะมีการ
เคลื่อนไหวจึงจะถูกตอง นาจะชิงหินปดฟาไดอยางนอย 20 ชิ้นแลวกระมัง แตวามิเคย
พบรองรอยของเขาแมแตนิด
บุรุษชุดเงินหนานิ่วคิ้วขมวด เขารูสึกถึงความมิชอบมาพากลอยูรําไร
ทันใดนั้น มีเสียงประหลาดแววมาจากดานบนของศีรษะ ชายชุดเงินรูสึกตัว หนึ่งฝา
มือฟาดขึ้นฟา นภาพลันเกิดอักขระเนืองแนน ตามมาดวยยอดตนไมใหญแตกละเอียด
จํานวนมาก
มีเพียงขนนกเสนหนึ่งลองลอยลงมา ไรเงาของคูตอสู
อยางไรก็ตาม ในเวลานี้เซียวเทียนรูสึกหนังหัวชาขึ้นมาทันที ขนลุกขนชัน เมื่อเขา
รูสึกถึงลางรายก็เตรียมจะรับมือ หากแตก็สายไปเสียแลว
เงียบสงัดไรเสียง ตนไมแหงดานหลังเขาปริแตก เจาตัวเล็กกํากระบองกระดูกขาว
ชิ้นใหญ เขาใชมันแทนคอนทุบเขาที่หลังศีรษะของเขาดังตูม
บุรุษชุดเงินรองเสียงดัง นัยนตาพรามัว อักขระทวมทนทองฟาภายในพริบตา เขา
ตอตานสุดชีวิต มิอยากใหตนหมดสติ ยิ่งกวานั้นคืออยากจะหันหลังไปมองสักหนอยวา
เปนผูใด
ทวาเพียงเขาเหลียวหลังมอง ยังมิทันมองเห็นสิ่งใด ก็มีสีขาวโพลนกดทับลงมา
กระบองกระดูกใหญทุบลงมาอีกครา โจมตีหนาผากของเขา
“ตูม”
เซียวเทียนตาเหลือก ลมพับลงในหนึ่งคอนทุบ
..............................
[1] ควายเคี้ยวโบตั๋น สํานวนจีน สําหรับวัวควาย โบตั๋นอาจไมอรอยเทาหญาที่กินอยู
ทุกวัน แตโบตั๋นเปนวัตถุล้ําคา สํานวนนี้อุปมาถึงคนที่ไมเห็นคุณคาของสิ่งที่อยูต รงหนา
บทที่ 102 ชางนาสงสาร
เซียวเทียนเกลียดนัก สุดทายพยายามหันหลังกลับไปได แตก็มองไมเห็นวาผูใดลอบ
โจมตีเขา ถูกหนึ่งคอนทุบลมพับลงไปกองกับพื้น ดวงตาเหลือก หมดสติไปพรอมกับ
ความไมพอใจ
เจาตัวเล็กขวางกระบองกระดูกขาวทิ้งไป ตบมือไลฝุนแลวพูดวา “กลาลอบโจมตีขา
อยางนั้นรึ? คิดตื้นเสียจริง ถือวาหายกันละนะ”
หากมีคนอยูที่นี่ จะตองตะลึงจนอาปากคางเปนแน เซียวเทียน บุรุษผูไดรับสมญา
นามวาเปนอันดับหนึ่ง โดดเดนทามกลางผูคนนับเกาหมื่นกวาคน ถูกทุบจนลมพับไป
กระบองกระดูกอันนี้วาววับและโปรงแสง เปนสิ่งที่ทิ้งไวหลังจากสัตวรายสิ้นชีวิต
แลว นาเสียดายที่มันผานกาลเวลาอันเนิ่นนาน อักขระมลายสูญสิ้น ทวาทนทานจนนา
ตกใจ เจาตัวเล็กเก็บมาใชแทนคอนไดพอดี
ทุบไปสองหนเชนนี้ ลอบโจมตีอัจฉริยะอันดับหนึ่งจนลงไปนอนแผกับพื้นทันที
แนนอนวามันเกี่ยวของกับการเตรียมพรอมอยางเต็มเปยมของเขา เขาเพงเล็งหนุม
ชุดเงินเปนเวลานานแลว ทายที่สุดจึงเลือกเตรียมการที่นี่ ดําเนินการซุมโจมตี เพียงหนึ่ง
การโจมตีก็ประสบผลสําเร็จ
เดิมทีเขาตองการรบกับฝายตรงขามสักครา ตอนหลังมานึกขึ้นไดวา ยากจระเขแก
ไลลาสังหารเขานั้น บุรุษชุดเงินเคยลอบจูโจมเขา หากไมตอบแทนการกระทําของเขา
ดวยการกระทําเชนเดียวกันนั่นถือวาไมสมเหตุ ครั้นแลวจึงทุบไปทีหนึ่งเชนนี้
อนิจจาเซียวเทียน แมกระทั่งหมดสติแลวยังชิงชัง ถูกทุบใหลมลงไปเชนนี้ชางไร
ความยุติธรรมนัก!
เจาตัวเล็กยอตัวนั่งลง การเคลื่อนไหวปราดเปรียว พลิกตัวหนุมชุดเงินดวยความ
ช่ําชอง เริ่มชวงชิงของล้ําคาจากตัวเขาอยางคลองแคลว
เพียงชั่วพริบตา สิ่งของบนรางกายของเซียวเทียนลวนเปลี่ยนแปลงผูถือกรรมสิทธิ์
ไปเสียแลว ถูกเจาตัวเล็กรับชวงตอ นอกจากหินปดฟาจํานวน 25 กอนแลว ยังมีผงยา
วิเศษ 2 ขวด สามารถบํารุงเลือดลม รักษาอาการบาดเจ็บสาหัส มิสามารถประมาณคา
ได
การเก็บเกี่ยวมั่งคั่งเปนอยางมาก แตเจาตัวเล็กยังคงมิพึงพอใจ บนอุบวา “ไยจึงไมมี
อาวุธล้ําคาสักชิ้นเลา? ยากจนเกินไปแลว”
เขาจะรูไดเยี่ยงไร เซียวเทียนเปนผูมีพรสวรรค เขามาเพราะตองการเปนที่หนึ่งเปน
ทุนเดิม แมวงศตระกูลจะมีอาวุธล้ําคาแกเขา แตกลับมิไดนําเอามาดวย เพียงตองการ
พิสูจนใหประจักษวา ตนแข็งแกรงที่สุดในบรรดาเกาหมื่นคน
เจาตัวเล็กเหวี่ยงหนุมชุดเงินขึ้นบนตนไมเกาแกตนหนึ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงมิใหเขาถูก
สัตวรายคาบไป จากนั้นควาเอากระบองกระดูกแลวหันหลังจากไปอยางสงาผาเผย
ไมรูวาเวลาผานไปเนิ่นนานเพียงใด เซียวเทียนไดสติ รูสึกปวดหัวเจียนตาย ตอมา
ราวกับนึกอะไรขึ้นได ลุกพรวดขึ้นนั่ง จวนรวงตกลงมากจากตนไม
“ไอหยา ปวดฉิบหายเลย!” เขาใชมือลูบหลังหัวปอยๆ รูสึกราวกับตรงนั้นจะแตก
ออกเปนเสี่ยง เจ็บปวดอยางหาที่เปรียบไมได
ตอมา เขาก็รูสึกวาปวดหนาผาก เมื่อใชมือคลํา ปรากฏกลามเนื้อปูดดุจเขาสัตวตรง
บริเวณนั้น เขาโกรธเกรี้ยวจนเกือบดิ่งลงมากลางอากาศ
“ฮึ่มฮา...” บุรุษชุดเงินฮึดฮัด เขาเปนถึงผูมีพรสวรรคอยางแทจริง ติดตามผูอาวุโส
เดินทางไปยังชนเผาใหญนับไมถวน มิเคยลิ้มรสความแพพายกระทั่งวันนี้
คิดไมถึงวาวันนี้เขาจะเสียเปรียบอยางใหญหลวงเชนนี้ อีกทั้งยังไมเห็นแมแตใบหนา
ของฝายตรงขาม
“ตองเปนเขาแน!” เซียวเทียนนึกถึงเด็กที่ตนเคยฟาดไปหนึ่งฝามือคนนั้น ในตอน
นั้นคิดวาเขามีหินปดฟาไวในครอบครอง ปรารถนาจะชวงชิง ไมคาดคิดวาเด็กคนนั้นจะมี
พฤติกรรมนาตื่นตะลึงเชนนี้
สิ่งที่ทําใหเขาเสียดายคือ ตอนนั้นมิไดมองใบหนานั้นใหชัดเจน ฝายนั้นมิไดเหลียว
มอง ฟาดหนึ่งฝามือกลับมา จากนั้นกระโดดขามภูเขาเตี้ยไป
“จะบาตาย!” ชายชุดเงินกลัดกลุมอยางเปรียบไมได แพพายไมมีชิ้นดี แมแตฝาย
ตรงขามเปนใคร มีลักษณะเชนใดก็ไมทราบ ชางนาอับอายขายขี้หนาเหลือเกิน
เขาปรับจังหวะการหายใจอยูชั่วครูแลวกระโดดลงมาจากตนไมแก มายังริมแมน้ํา
สายหนึ่ง มองเห็นเงากับหัวของตน พลันเสนเลือดปูดโปนขึ้นมา กลามเนื้อนูนบน
หนาผากนั้นใหญเกินไป ราวกับมีเขางอกขึ้นมาจริงๆ
“โอย!”
ยามเสนเลือดเตนตุบๆ แนนอนวามันตองกระเทือนบริเวณกลามเนื้อปูด ทําใหเขา
เดือดดาลจนทนไมไหว แมแตจะโมโหก็ทําไมได มิเชนนั้นจะยิ่งเจ็บปวด
“อยาใหขาเจอเจาเชียว!” เมื่อชายชุดเงินคํารามจบ ก็รีบกุมหัวไวแนน คลึงหนาผาก
พลางรองโอดโอย สงเสียงจิ๊จะอยางขัดใจ
เจาตัวเล็กแชมชื่นที่จัดการเรื่องหินปดฟาไดภายในสองคอน มิตองเสียแรงไป
เสาะหาชวงชิงจากผูอื่น นี่ลดปญหาไดมากมายเชียวละ อีกทั้งยังดูมีเมตตา มิตองแยงชิง
กับผูใด สามารถสนิทสนมกลมเกลียวกับเหลาผูมีพรสวรรค เชนนี้ก็เปนผลดีแกทุกคน
เขารูสึกพึงพอใจเปนอยางมาก
“เอะ ยังมีปญหาอยู ขาขุดกระดูกล้ําคาแหงบริเวณที่ 8 ขึ้นมา หวังวาตาแกพวกนั้น
จะสืบหาไมพบ มิเชนนั้นทุกอยางที่ทําไปจะสูญเปลา” เขากังวลใจเล็กนอย
“เจาลูกขนไมอยู มิเชนนั้นคงใหมันนําเอากระดูกล้ําคาโบราณหลบหนีไปกอน” เขา
พึมพํา ยามเขาสูบริเวณที่ 8 เจาลูกขนถูกกันออกไป ไมวาใครก็หามนําสัตวรบมาดวย
หลีกเลี่ยงการทุจริต
เจาตัวเล็กทําภารกิจจนสําเร็จเสร็จสิ้น และมิไดละโมบโลภมาก มิไดฉกฉวยแยงชิง
ศาลาปดฟาอีกตอไป เขาเดินเตรไปทั่วพนาไพร
“นี่ ดานนอกเกิดเรื่องสนุกขึ้นละ พวกเจาไมรูละสิ?” ชายหนุมคนหนึ่งหัวเราะฮิๆ
เบื้องหนามีชายหนุมหลายคน เห็นไดชัดวาพวกเขาสรางกลุมความรวมมือกัน มิไดสู
รบปรบมือกันแตอยางใด ในมือถือครองหินปดฟาเพียงพอแลว รวมกลุมเพื่อปกปองกัน
และกัน
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น เจารูไดอยางไร?” มีคนเอยถาม
“มีเจาหนุมคนหนึ่งเพิ่งเขามา ยังมิเจอศิลาจารึก ไมรูวาตองทําอะไรที่นี่ วิงวอนใหขา
สอนอยางโงเงา เขาจึงเอยถามวาขางนอกเปนอยางไรบางแลว ปรากฏวาเขาเลาเรื่อง
สนุกหนึ่งเรื่อง ขาขําแทบตายแนะ”
“รีบเลา รีบเลา!”
“บริเวณที่ 8 เกิดความโกลาหล ผูคนนับแปดเการอยผานดานสุดทายออกมาพรอม
กัน ลวนทําสําเร็จ แตเหลาผูอาวุโสแหงศาลาปดฟากลับมีสีหนาราวกับเห็นผี แทบเปน
ลมลมพับไป”
“เปนไปมิไดหรอกกระมัง?”
“เปนเรื่องจริง ไดยนิ วากระดูกอักขระในบริเวณที่ 8 ถูกปลนอยางหมดจด เพราะ
เหตุนี้คายกลจึงไมเกิดผล กลุมคนเหลานั้นจึงผานดานไดสําเร็จ”
กลางพงไพร ชายหนุมหลายคนอาปากเปนรูปตัวโอ มิกลาแมแตจะเชื่อ นี่มัน
เหลือเชื่อเกินไป
“ไยลักษณะนี้จึงคุนเคยนัก ขารูสึกวามันเคยเกิดขึ้นมากอน”
“ขาก็รูสึกเชนกัน”
“เหมือนเจาเด็กติดนมในโลกแหงความวางเปลาผูนั้น!” มีคนอุทานดวยความตก
ตะลึง
พวกเขาถกกันอยางดุเดือดขึ้นมาโดยพลัน
“เอะ มิใชสิ เรื่องที่เกิดขึ้นในบริเวณที่ 8 ไยเด็กที่เพิ่งเขามาผูนั้นจึงรูเลา? เขามิได
เปนคนของบริเวณนั้นเสียหนอย” เวลาผานไปนานจึงมีคนเอยถามหลังจากไดสติ
“แมเขาจะอยูในบริเวณที่ 2 แตก็ไดยินไดฟง เพราะเกิดเหตุอันนาตื่นตะลึงเชนนี้ขึ้น
คนของศาลาปดฟาจึงเรงออกตรวจสอบทุกบริเวณ ทุกที่ลวนรับรูแลว”
“เปนเชนนี้เอง!”
ไกลออกไป เมื่อเจาตัวเล็กไดยินเรื่องราวเหลานี้แลวก็หนาดําคร่ําเครียด ประสานมือ
ทั้งสองเขาดวยกันพลางทอดถอนหายใจ
เขาคาดการณไวนานแลว จึงกระวนกระวายใจมาตลอด ครุนคิดหาวิธีการ ตอนนี้ได
ยินถอยคําเหลานี้ พบวาสถานการณเลวรายกวาที่ตนคิดไวนัก คาดไมถึงวาจะรูกันทั่ว
ศาลาปดฟาแลว
ณ บริเวณที่ 8 เหลาผูอาวุโสสงเฟย เฉายวิ๋นรวมปรึกษาหารือกับเหลาผูอาวุโสจาก
ชนเผาใหญ สุดทายก็กล้ํากลืนฝนทน น้ําตาเจียนไหล ตกปากรับคําอนุญาตใหคนกวา
3000 คนผานการทดสอบ
ตัดคนจํานวนมากจากคน 8900 กวาคน ดูเหมือนจะมาก แตหากคิดอยางถี่ถวนก็
ถือวาเพียงพอแลว ในที่สุดก็เหลือผูคนกวา 3000 คนไว มากกวาครั้งประวัติกาลอยูมาก
โข
“บริเวณที่ 8 ตองทําการคัดเลือกใหม นอกจากอัจฉริยะที่เขาสูสนามรบแหงที่สอง
แลว การผานดานหนนี้ถือเปนโมฆะ”
จะคัดเลือกคนกวา 3000 คนไดอยางไร? อาจมีทางเดียวคือคัดเลือกใหมอีกครั้ง
เจาตัวเล็กสับสนอยางหาที่เปรียบไมได เขาพบเจอชายหนุมหลายคนที่เพิ่งเขามา
กลางผืนปา สอบถามขาวคราวดานนอกไดโดยทางออม ทําใหเขากระสับกระสาย
เหลือเกิน
“เอะ แมจะเกิดปญหาแตก็หลุดพนไดงายดาย ทวาขาเสียแรงเสียเวลา หินปดฟา
20 กวากอนที่ขาไดมาอยางยากลําบากคงจะใชประโยชนมิไดเสียแลว นาเศรา
เหลือเกิน”
หากบุรุษชุดเงินไดยินวาจาของเขาคงจะกระอักเลือดเปนแน ยิ่งกวานั้นคือตวาด
เสียงดังลั่นวา นั่นเปนสิ่งที่ขาไดมาดวยหยาดเหงื่อแรงกาย สูรบปรบมือดวยชีวิต ใช
ระยะเวลานานกวาจะไดมา มันเกี่ยวของกับเจาอยางนั้นหรือ?!
ทั้งแปดบริเวณมิไดเชื่อมตอกัน แตเมื่อผูมีพรสวรรคเขาสูสนามรบแหงที่สองก็
สามารถมาบรรจบกันได
เจาตัวเล็กแบกสะพายหอผาที่อัดแนนไปดวยหินปดฟา เขาเลือกบริเวณที่ 3
ตัดสินใจแลววาจะเดินทางยอนเพื่อหลบหนีกลับไป
เสียงตูมดังขึ้น มิตองสงสัยเลย เพราะเขามีพละกําลังแข็งแกรงปานนี้ จึงสามารถ
ทําลายสิ่งกีดขวางอันมีอักขระสวางวาบนั้นไดดวยตนเอง ปรากฏบริเวณที่ 3 ขึ้น
ตอมา เขาดอมๆ มองๆ ซายทีขวาทีแลววิ่งตรงไปยังทางออกทันที ไมเตรียมตัวเปน
อัจฉริยะแลว เพียงเตรียมตัวเปนผูผานการทดสอบธรรมดาทั่วไปคนหนึ่งเทานั้น
เขาผานการทดสอบไดอยางราบรื่น ทะลวงผานออกมาทันที
แตเมื่อออกมาแลวกลับตะลึงงันไปเล็กนอย ไยจึงมีคนนอยปานนี้ หากวาเขาแทรก
ตัวเขาไป สุดทายถูกเหลาผูอาวุโสเพงเล็ง คาดวาคงสอแววพิรุธเปนแน
โอย กลัดกลุมจริง เจาตัวเล็กหนานิ่วคิ้วขมวด
“ไยบริเวณที่ 8 จึงครึกครื้นเชนนี้?” เขามองเห็นตรงนั้นมีผูคนจํานวนมาก ราวกับ
ทะเลมนุษย เขาจึงแอบสอบถามคนที่ผานดานบริเวณที่ 3 สําเร็จเชนเดียวกัน
“บริเวณที่ 8 เลวรายเสียจริง เจาเด็กพิลึกพิลั่นจากโลกแหงความวางเปลาคนนั้นกอ
เรื่องจนย่าํ แยเสียแลว ตอนนี้เหลาผูอาวุโสกําลังรวบรวมคน เตรียมการใหพวกเขาทําการ
ทดสอบใหม โอ ชางโชคดีเสียนี่กระไร หนนี้ใหตั้ง 3000 ที่นั่งแนะ” ชายหนุมผูนี้ตอบ
กลับอยางเหมอลอย ครั้นเขาอยากจะพูดอะไรเพิ่มเติม พบวาคนที่เอยถามเขานั้นไรเงา
ไมอยูขางกายนานแลว ประหนึ่งเขาเจอผีเขา
แนนอนวาเจาตัวเล็กวิ่งหนีไปอยางไรรอ งรอย เขาสูบริเวณที่ 3 อีกครั้ง จากนั้น
ทําลายสิ่งกีดขวางของสนามรบแหงที่สอง และเขาสูสนามทดสอบแหงผูมีพรสวรรคอีก
หน
“ตอนนี้รับมือไดงายแลว!” เขาปลื้มอกปลื้มใจ
เขาเตรียมลาถอยจากสนามรบแหงที่สองไปยังบริเวณที่ 8 รอคอยกลุมคน ณ ที่แหง
นั้น จากนั้นออกมาพรอมกันเปนหมูคณะ เชนนั้นก็จะลางมลทินไดอยางหมดจด ผูใดจะ
เพงเล็งคนกวา 3000 คนกันละ
“เอะ คนในสนามรบแหงผูมีพรสวรรคนอยเหลือเกิน มีอัจฉริยะเพียง 100 กวาคน
หากอยูที่นี่ก็สะดุดตาจนเกินไป” เจาตัวเล็กถอนหายใจ
“กลุมใจจริง ขาเสียแรงชวงชิงหินปดฟา 20 กวากอนมาอยางนาสงสาร เดิมทีขา
ตองการโดดเดนเหนือผูอื่น เขาสูสนามรบดวยสถานะอันดับหนึ่ง สวรรคไมยุติธรรม ขา
นาสงสารเหลือเกิน” เจาตัวเล็กมีทาทีตรอมตรม
“ไยขาจึงรูสึกเหมือนไดยินคนเอยถึงหินปดฟา 20 กอน ยังมีอะไรไมยุติธรรมอีกรึ?
แมงไมยุตธิ รรมกับขานะสิ!” บุรุษชุดเงินปรากฏตัวในบริเวณนี้พอดี เขาโมโหเตะตนไมแก
สูงตระหงานจนหักโคน
“เอะ?” เจาตัวเล็กตอบโตในใจ จากนั้นพุงตัวไปอยางรวดเร็ว หมอบตัวอยูกลางกิ่ง
ใบและพบกับชายหนุมชุดเงินอีกครา
“เจานั่นอีกแลวรึ!” เจาตัวเล็กลูบคางพลางครุนคิด หากหินปดฟาอยูในมือเขาก็คง
จะไรประโยชน คืนมันแกหนุมชุดเงินดีหรือไม
ขณะนี้เขามีเรื่องกังวลใจเต็มไปหมด ขมขื่นอยางหาที่เปรียบไมได ทอดถอนหายใจ
อยางตอเนื่อง รูสึกวาตนนาสังเวชเหลือเกิน
ไมรูเลยวาผูที่นาเวทนาอยางแทจริงในตอนนี้ไมมีหินปดฟาแมแตกอนเดียว มีความ
เปนไปไดวาเขาอาจกลายเปนผูแพซึ่งถูกคัดออก สามารถจินตนาการความทุกขระทม
ภายในใจไดเปนอยางดี
“ชางมันเถอะ ใครใชใหขาเปนคนเมตตาเพียงนี้ละ คืนมันแกเขาดีกวา แตวา
ภายหลังเจาจําตองทบตนทบดอกคืนขาละ!” เจาตัวเล็กตัดสินใจแลว
เซียวเทียนดั่งไฟสุมทรวง ระทมจนยากจะพรรณนา ผูมีพรสวรรคอันดับหนึ่งแตเดิม
อาจถูกคัดออก นี่มันนาอับอายเหลือเกิน ตอนนี้อยากจะเสาะหาคนเพื่อชวงชิงกอนหินก็
ยากเย็นแสนเข็ญนัก คนเหลานั้นตางพากันหลบซอน หรือไมก็รวมกลุมสรางความ
รวมมือกันกลุมใหญ ชวยกันตอตานเขา
“กลุมจริงๆ” เจาตัวเล็กพึมพํา
คนที่กลัดกลุมอยางแทจริง กลับมิสามารถพูดออกคํานี้ออกมา รูเพียงแตเดิน
เตร็ดเตรโงเงาอยูในพนาไพร
ชายหนุมชุดเงินใจไมอยูกับเนื้อกับตัว เดินเหินอยางไรจดุ มุงหมาย เขารูสึกขนลุกชัน
ขึ้นทันใด หนังหัวชา ความรูสึกไมดีปรากฏขึ้นอีกครั้ง เขาเตรียมรับมือดวยความรวดเร็ว
แตก็สายเกินไป
“ตูม”
เขารูสึกปวดทายทอยไปถึงทรวงใน รูสึกหนามืดเชนเดียวกับครั้งกอน ถูกจูโจมอยาง
ไมทันตั้งตัวอีกแลว!
“แมงเอย โดนอีกแลว!” ชั่วขณะนี้ เขาสบถคําหยาบออกมาอยางอดไมได ถลึงตา
อยางสุดกําลัง มิยอมใหดาวที่ผุดขึ้นมาสะเปะสะปะเหลานั้นมาทําใหตนเปนลมหมดสติ
ไป อีกทั้งยังอยากหันหัวกลับไปเพื่อมองใหชัดเจน
ทวาครั้งนี้ยังไมทันแมแตจะหันหัวกลับมา กระบองกระดูกอันนั้นก็วกกลับมายัง
เบื้องหนาของเขาดวยตัวของมันเอง หนึ่งคอนฟาดลงมา ทุบลงบริเวณเนื้อปูดโปนนั้น
“เอื๊อก...” ชายหนุมชุดเงินตาเหลือก หมดสติไปเชนนี้พรอมกับไฟโทสะอันทวมทน
ทองฟา
“เฮอ ขานาสงสารเหลือเกิน” เจาตัวเล็กมีทาทีทุกขระทม เอยวาจาเชนนี้ตอหนา
หนุมชุดเงินที่ลมพับลงกับพื้นดวยความคับแคนใจเล็กนอย
ไมทราบวาหากชายหนุมชุดเงินรับรู ไดยินถอยคํานี้จะรูสึกเชนไร บางทีอาจจะแปลง
รางเปนคนบาครั้งบรรพกาล คํารามตอเนื่องถึงสามวันสามคืน
“จดจําขาไว ตอไปจะตองชดใชขาทั้งตนทั้งดอก!” เจาตัวเล็กโบกกํามือไปมา
จากนั้นโยนหินปดฟาถุงหนึ่งลงขางกายชายชุดเงิน
ในขณะเดียวกันเขาก็ดึงเอาปนปกผมติดมือมาดวย ของสิ่งนี้มองดูมีมูลคา หนที่คน
ของมีคาครั้งกอนไดมองขามมันไป ครั้งนี้ก็จัดการมันเสีย
“ขาชางนาสงสาร” เจาตัวเล็กหันหลังจากไปยังบริเวณที่ 8 อยางโดดเดี่ยว
บทที่ 103 พรสวรรคอนั ปราดเปรื่อง
เจาตัวเล็กอางวาง ทุกขระทม ไปไวมาไว หันหลังเดินไปไมนานนักก็คอยๆ สลัด
ออกไปจากหัวสมอง แตวา การจากไปเชนนี้ เขามิยินยอมพรอมใจแมแตนิด
เพื่อพิสูจนวาตนเคยเยือนที่นี่แลว เขาจึงหาหินมากอนหนึ่ง ซึ่งไมสะดุดตาแมแตนิด
มันเปนหินกอนใหญแข็งแรงทนทาน สลักตัวอักษรลงไปบรรทัดหนึ่งวา ‘พรสวรรคอัน
ปราดเปรื่อง มากดวยเมตตาธรรม!’
เขาหยุดชะงักไปพักหนึ่ง ครุนคิดแลวเพิ่มเติมลงไปอีกประโยควา ‘คอนในกํามือ ขา
เปนใหญในปฐพี’
จากนั้นเขาก็วิ่งหายลับไป
เจาตัวเล็กทลายสิ่งกีดขวางในบริเวณที่ 8 ดอมๆ มองๆ ทางซายทีทางขวาที เมื่อ
พบวาสถานการณทั้งหมดปกติทั้งหมด จึงทะลวงเขามาอยางรวดเร็ว จากนั้นหายเขาไป
ในผืนปา
“เฮอ...” เขาทอดถอนหายใจยาว ทุกอยางกลับคืนสูวัฏจักรเดิมแลว
“ไมรูวาพวกเขาจะมาเมื่อใด หาสถานที่พักผอนสักประเดี๋ยว” เขาเดินเขาไปดานใน
ปนไตขึ้นบนตนไมเกาแกตนหนึ่ง ขับไลปกษารายตัวหนึ่งใหพนไป ใชอํานาจเผด็จการ
ครอบครองรังนกขนาดใหญนี้ไวชั่วคราว ดึงใบไมบางสวนมาปูไวภายใน จากนั้นเริ่มหลับ
อุตุ
กลางนภา ปกษารายตัวนั้นแผดรองยาวดวยความโกรธเกรี้ยว นี่มันเรื่องอะไรกัน
เด็กเหลือขอคนหนึ่งกลาแยงรังนอนของมัน หากเปนอสูรปกษาตัวอื่นๆ นะแลวไป เจา
เด็กขนเผาพันธุมนุษยเยี่ยงเจาจะครอบครองรังนกไปเพื่ออะไร?
เจาตัวเล็กเพิกเฉยมิสนใจ เมื่ออดีตมิเคยทําเรื่องเชนนี้ หากเทียบกับการนอนคาง
อางแรมบนพื้นดิน รังนกของเหลาปกษารายนั้นออนนุมและสบายกวา เขานอนหลับ
สบายอยางมิใหความสนใจใดๆ
ปกษารายโมโหโทโส สุดทายก็อับจนหนทาง ทะยานลงยอดเขาขางเคียง จองมอง
อยางจนปญญา รอคอยใหเขาจากไป
ผลาญเวลาจนถึงบัดนี้ ตอนนี้เปนชวงเวลาพลบค่ํา เขานอนหลับสบาย และตื่น
ขึ้นมาในรุงอรุณของวันที่สอง
เจาตัวเล็กขยี้ตาแลวปนขึ้นมาจากรังนก แหงนหนารับแสงอาทิตยอุทัยแลวบิดขี้
เกียจ รูสึกสบายไปทั่วรางกาย อบอุนภายใตแสงตะวันอันละมุนละไม
เขากระโดดลงจากตนไมเกาแกดังฟว เริ่มออกหาเสบียงและลางหนาลางตา
ปกษารายตัวนั้นจองมองดวยความคาดหวัง หมอบตัวอยูบนยอดเขา ถลึงตาจนแดง
ก่ํา มันเกือบพุงกระโจนไปสังหารอยูหลายครา แตก็ถือวาอดทนอดกลั้นจนได สุดทายก็
รอกระทั่งเด็กเหลือขอคนนี้จากไป
“สหาย เจาไดไขนกมาบางรึไม เรามาเปนพันธมิตรกัน มากินดวยกันเถอะ”
ในตอนนี้เอง ชายหนุมซึ่งอยูไมไกลนักเอยปาก
“ไยขาจึงมองดูเขาเหมือนเพิ่งตื่นนอนในรังนกนั่นละ เจาดูสิ ตายังปรืออยูเลย”
หญิงสาวอีกคนหนึ่งกระซุบกระซิบ
นี่เปนพี่นองคูหนึ่ง พละกําลังไมธรรมดา เดิมทีพวกเขาสามารถผานดานไดโดยอาศัย
แรงของตน แตปรากฏวาผลประกาศเปนโมฆะ จึงตองเริม่ ใหมอีกหน
“อรุณสวัสดิ์” เจาตัวเล็กทักทายพวกเขา
“เจาคงมิไดยึดรังนกเปนที่นอนไปคืนหนึ่งกระมัง?” หญิงสาวคนนั้นเบิกดวงตารูปอัล
มอนดจนโต ยกมือปดปาก เผยสีหนาตกตะลึง
“ที่ไหนกันละ ขาชื่นชอบสัตวจําพวกนกมากที่สุด ขาเปนมิตรกับพวกมัน” เจาตัว
เล็กพูดพลางนั่งลงราวกับรูจักกันมาเนิ่นนาน ฉีกนองไกที่ยา งจนเหลืองอรามบนกองไฟ
เบื้องหนาของสองพี่นอง เริ่มแทะกินอยางออกรส
“ทวา สิ่งที่เจากําลังกินก็เปนขาของสัตวปกตัวหนึ่งนะ” เด็กหญิงบนอุบอิบ ริม
ฝปากยื่น นี่เปนสิ่งที่นางชอบกินมากที่สุด ตอนนี้กลับถูกเด็กแปลกหนาคนหนึ่งแยงไป
เสียอยางนั้น
“นาเศราแท คิดไมถึงวาพวกเจาจะกลายางปกษากินเชนนี้ ตาไมเห็นใจก็ไมวาวุน
เรงกินใหสิ้นเสีย!” เจาตัวเล็กเริ่มรองเรียกทั้งสองใหกินพรอมกัน
“ผูใดกันนะ!” เด็กหญิงไมพอใจเปนอยางมาก
“นั่นสิ นี่เปนเรื่องอะไรกันแน?” เจาตัวเล็กตีสนิทกับพวกเขาเพื่อสอบถาม
สถานการณ
“จะทําอยางไรไดละ ก็เริ่มตนใหมนะสิ โทษเด็กติดนมผูนั้นเลย เอาแตทําเรื่องมินา
ใหอภัย สงผลรายจนพวกเราตองทําการทดสอบใหมอีกครั้ง!” เด็กหญิงหายใจฟดฟด
เจาตัวเล็กหูตั้งขึ้นมาทันที ตั้งอกตั้งใจฟง สอบถามเรื่องราวไดมากมาย จากนั้นก็เอย
ถามวา “เหลาผูเฒาแหงศาลาปดฟามิไดสั่งการใดหรือ?”
ชายหนุมเปดปากบอกวา “มีสิ ทอดแหฟาตาขายดิน ปดผนึกสนามรบแหงที่สองไว
เนิ่นนานแลว หนนี้ตองจับตัวเด็กติดนมคนนั้นไวเปนแน”
เมื่อเจาตัวเล็กไดฟงดังนั้นก็เบิกบานใจขึ้นมาโดยพลัน แทบจะเกลือกกลิ้งไปกับพื้น
หัวเราะฮาๆ ไมหยุด สองพี่นองมองดูเขาอยางประหลาดใจ แลดูมิชอบมาพากล
เด็กหญิงฮึกเหิมมาก ชูกําปนขึ้นแลวพูดวา “หนนี้เขาไมรอดแน ตอใหมีปกก็หนีจาก
สนามรบแหงที่สองมิได ตองสั่งสอนเขาใหหลาบจํา ผูคนมากมายตางพูดกันวาจะ
กระหน่ําฟาดเขา และจะทําเรื่องมินาใหอภัยตอเขาอีกดวย!”
ชายหนุมกลาววา “อืม ครั้งนี้ครื้นเครงเสียจริง ไดยินมาวา ศาลาปดฟาอนุญาตให
คนภายนอกเขารวมพิธีการเปนพิเศษ แนนอนวาไปชมวาจะมีเหลาอัจฉริยะฝาดาน
ออกมาไดสําเร็จกี่คน แทจริงแลวเพื่อใหเหลาผูมีอิทธิพลเชยชมเจาเด็กนาชิงชังผูนั้น
ตางหาก!”
“ไมผิด หนนี้เปนการจับตัวเด็กนาชังคนนั้นทามกลางสายตาของประชาชีมากมาย
บัดนี้มีเรื่องนาสนุกใหติดตามแลว!” เด็กหญิงเหวี่ยงกําปนไปมาดวยความตื่นเตน
“ดีเหลือเกิน ฮาๆ...” เจาตัวเล็กดูเหมือนจะดีอกดีใจมาก หัวเราะอยางไรความกังวล
เขาไดรับความรูสึกดีที่มีศัตรูคูแคนรวมกันจากเด็กหญิงคนนั้นไปชั่วขณะ
ทั้งสามรับประทานอาหารเชามื้อนี้อยางถึงอกถึงใจ ทั้งพูดคุยทั้งหัวเราะ
แมกระทั่งตอนลาจาก เจาตัวเล็กนําเอายาวิเศษ 2 ขวดออกมา เทออกมาขวด
ละเม็ด มอบใหสองพี่นอง จากนั้นยางจากไปอยางรวดเร็ว
“หอมเหลือเกิน นี่มันยาอะไรกัน?”
“เอะ นาจะเปนผงมังกรกับยาพยัคฆ อันหนึ่งสามารถบํารุงกระดูกและเอ็นให
แข็งแรง ฟนฟูพลังปราณภายในพริบตา อีกอันหนึ่งสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได มี
สรรพคุณวิเศษ มูลคามหาศาล”
สองพี่นองกระซิบกระซาบกัน เมื่อมองหา เจาตัวเล็กกลับหายไปอยางไรรองรอยเสีย
แลว
แนนอนวานี่เปนของกํานัลซึ่งรีดไถมาจากชายหนุมชุดเงินคนนั้น เจาตัวเล็กมี
ความสุขจนแสดงความมีน้ําใจออกมาอยางตอเนื่อง เขาดื่มกินจนอิ่มหนํา คาบตนหญา
แลวเริ่มเดินเตรในบริเวณที่ 8 สบายอยางหาที่เปรียบไมได
เนื่องจากครั้งนี้จะรับศิษยกวา 3000 คนจากบริเวณที่ 8 ระดับความยากของดาน
ทดสอบลดฮวบลงทันที สุดทายก็คัดเลือก 3000 คนที่สามารถผานดานมาไดไวที่สุด
ระหวางทางเจาตัวเล็กพบเจอชายหนุมมากมาย แตละคนลวนพุงชนอยางเต็มกําลัง
เขานับอยางละเอียด กระทั่งดวงตะวันโผลขึ้นสูงกวาไมไผสามทอน[1] มีคนฝาดาน
ออกไปไดนับ 1000 กวาคนแลว
“ใกลไดเวลาแลว ขาควรจะเคลื่อนไหวไดแลว”
เขาเลือกชวงเวลาที่มีผูคนจํานวนมาก เมื่อคนที่มีพละกําลังใกลเคียงกันหลายรอย
คนพุงมายังทางออก เขาก็รีบแทรกตัวเขาไป ฝาดานออกมาพรอมกับคนกลุมใหญ
ณ บริเวณดานนอก เหลาผูอาวุโสจากแตละชนเผาใหญพากันยิ้มแยม ปลื้มปติเปน
อยางมาก และผูมีอิทธิพลอื่นซึ่งมารวมชมพิธีการตางก็หัวเราะรา แฝงไวซึ่งเสนหอันยาก
จะตีความ
มีเพียงเหลาผูอาวุโสแหงศาลาปดฟาที่ทอดถอนหายใจดวยความขื่นขม เมื่อเห็นหมู
คณะนับหลายรอยคนฝาดานออกมาได พวกเขากลับยิ่งหนาดําคร่ําเครียด นี่ยังเปนการ
ทดสอบอยางนั้นรึ? ปนี้รับสมัครคนเหลานี้ มากมายเชนนี้ ศาลาปดฟาเจียนตกอยูใน
สถานการณเลวรายเสียแลว
“ประเดี๋ยวคิดบัญชีกับเด็กเหลือขอคนนั้นเสีย!” ผูอาวุโสสงเฟยกลาวอยางอํามหิต
“ใชแลว เมื่อเขารวมการทดสอบ ถือวาเปนลูกศิษยของศาลาปดฟาแหงเราแลว ไม
ผานก็จะใหเจาผาน อยากหนีก็หนีไมพน!” ผูอาวุโสเฉายวิ๋นเองก็เนนย้ําดวยใบหนา
ถมึงทึง
ในที่สุด การคัดเลือกคน 3000 คนก็เสร็จสิ้น เรียกไดวา ‘สรางกุศลสําเร็จ’ นอกจาก
ศาลาปดฟาแลว ทุกฝายลวนนาชื่นตาบาน
“พวกเราไปสนามรบแหงที่สองกันเถิด คํานวณดูเวลาก็เหมาะสมแลว!” ครั้นผู
อาวุโสสงเฟยโบกมือ มีบารมีอันสามารถกลืนกินคีรีธารา องอาจผึ่งผายยิ่งนัก
แตวามองดูอยางไรก็เหมือนเขากําลังกัดฟน ดวยเหตุนี้จึงมีสีหนาฮึกเหิมอยางรุนแรง
เชนนี้
“ไป ขอเชิญเหลาสหายทั้งหลายเขาชมพิธีการรวมกัน มองดูบุคคลสําคัญและ
อัจฉริยะในภายภาคหนาของศาลาปดฟาแหงเรา!” ผูอาวุโสเฉายวิ๋นก็ตะโกนลั่นเชนกัน
เนนคําวา ‘บุคคลสําคัญ’ กับ ‘อัจฉริยะ’ เสียงดังฟงชัด ราวกับอยากจะฉีกกินเสีย
“ใหเด็ก 3000 กวาคนที่ผานดานสําเร็จเขาไปดูเสียหนอยวา สิ่งที่เรียกวาสนามรบ
แหงที่สองเปนเยี่ยงไรไดรไึ ม? ใหพวกเขาไดเปดโลกทัศนสักหนอย” ผูเฒาผูแกจากชนเผา
ใหญเอยปากขึ้นพรอมกัน
“ได!” ผูอาวุโสสงเฟยโบกมือแลวตกปากรับคํา
สนามรบแหงที่สองเปดออก มวลชนเตรียมย่ําเขาไป
เจาตัวเล็กเองก็เบียดอยูกลางฝูงชน ใบหนาแตมรอยยิ้ม ดวงตาหยีเปนรูปจันทรเสี้ยว
ฟนกระตายหนึ่งคูในปากแวววาว เขาเดินตามผูคนเขาไปอยางแชมชื่น
ภายในสนามรบแหงที่สอง ชายหนุมชุดเงินไดสติคืนมา หนนี้หมดสตินานนัก เขา
ปวดหัวรุนแรง มึนๆ งงๆ รูสกึ ทุกขใจอยางยิ่ง ราวกับคุดคูอยูในที่แคบ ยื่นแขนยื่นขาไม
ออก
ไมนานนัก เขาตื่นอยางเต็มตาแลวเปลงเสียงคํารามเจ็บปวดทันทีวา “ออกมาเดี๋ยวนี้
นะ!”
“ปง”
เขาออกแรงมากไป ศีรษะจึงกระแทกกับกอนหินอยางฉับพลัน ความเจ็บปวดมา
เยือนอีกระลอก เขาเดือดดาลยิ่งนัก มีครั้งแรก ครั้งที่สอง แตจะไมมีครั้งที่สาม คนในมุม
มืดฟาดเขาอีกคราหนึ่งจนเขาหมดสติไป ขมเหงรังแกกันเกินไปแลว อภัยใหมิได!
เขาพบวาตนอยูกลางรองหิน ดานนอกถูกปดกั้นไว คงเพราะเกรงวาเขาจะถูกสัตว
รายเขมือบ เขาออกแรงคลานออกมา แสงแดดรอนระอุสาดทอผานใบไมลงมา ดวง
ตะวันขึ้นโผลขึ้นสูง นาจะเปนวันใหมแลว
“ขาหมดสติไปหนึ่งคืนรึ?” เขาระงับโทสะ ถูกคอนทุบอยูตลอด และโดนบริเวณเดิม
อีกดวย โดยเฉพาะคราวนี้ทําใหเขายิ่งเจ็บปวดทรวงใน หมดสตินานเหลือเกิน
เซียวเทียนเงยหนามองฟา จิตใจหดหู ตรอมตรมยิ่งนัก ทั้งที่เขาเปนถึงอัจฉริยะ
อันดับหนึ่ง แตกลับจะถูกคัดออกเชนนี้
เสียงโครมดังขึ้น เขารูสึกถึงความมิชอบมาพากล เมื่อกมดูก็เห็นบริเวณหนาอกนูน
ขึ้นมา เมื่อลวงออกมาก็รูแจง ไมคาดวาจะเปนหินปดฟากําหนึ่ง เมื่อหันหลังกลับ ตรง
รอยแยกยังมีหอผา คุนตายิ่งนัก มันเปนของเขาอยูทุนเดิมแลว และมีหินปดฟาอีกกอง
หนึ่งเชนกัน
หนุมชุดเงินตะลึงงันโดยพลัน นี่เกิดอะไรขึ้น? ทั้งที่ถูกรีดไถจนสิ้นแลว ไยตอนนี้จึง
คืนสูกํามืออีกครา?
เขารีบเก็บหอผาหนังสัตวขึ้น นําหินปดฟาออกมาจากอกแลวใสรวมกัน นับอยาง
ละเอียดถี่ถวน มีทั้งสิ้น 20 กวากอน!
“อะไรกัน?” เขางุนงงเล็กนอย
ผานไปชั่วขณะ เขาตื่นจากภวังค กระทืบเทาปงปงดวยความโกรธแคน กัดฟนพูดวา
“เจาลอขาเลนรึ!”
กระทําการเชนนี้หรือ เจาจะเอาหินปดฟาหรือไมเอากันแน เริ่มจากลอบโจมตีดวย
หนึ่งคอนทุบ รีดไถประหนึ่งปศาจรายอยางหมดจด ไมเหลือแมแตกอนเดียว
ตอนนี้กลับสงมอบคืนมาทั้งหมด สิ่งที่ไมนาใหอภัยก็คือ สงคืนก็ถือวาจบสิ้นแลว แต
ยังคงฟาดลงมาหนึ่งคอนเฉกเชนดังเดิม จนเปนลมลมพับไป มองไมเห็นแมแตคนกอเหตุ!
“อาก...” เดิมหนุมชุดเงินมีรูปโฉดงดงาม ทวาตอนนี้กลับแปลงรางเปนสัตวปา กู
รองคํารามไมหยุด สะเทือนจนผืนปาสั่นไหว
อักขระสีเงินปกคลุมรางกายของเขาอยางหนาแนน เขาเจียนคลุมคลั่งแลว นี่มันขม
เหงรังแกกันซ้ําแลวซ้ําเลา ถูกคอนทุบอยางตอเนื่อง แมแตเทพเจาก็ตองเดือดเปนฟน
เปนไฟ
ชายหนุมละแวกใกลเคียงลวนตะลึงพรึงเพริด ชางเปนพลังคลื่นเสียงที่แข็งแกรงเสีย
นี่กระไร พลังเชนนี้นากลัวอยางแทจริง เพียงพอจะทําลายลางพวกเขาเหลานี้ได
“ซิ๊ด....” เมื่อคํารามจบแลว หนุมชุดเงินเริ่มสูดลมหายใจเย็น กุมหัวอยางทุกข
ทรมาน ตรงนั้นปูดโปน เจ็บปวดเจียนตาย
ไกลออกไป เหลาผูอาวุโสแหงศาลาปดฟานําฝูงชนเขาสูสนามรบแหงที่สองเรียบรอย
แลว ไดยินเสียงกูรองซึ่งมีกําลังวังชา สะเทือนขุนเขาธาราพอดี ตางเผยรอยยิ้มที่ตื่นตะลึง
และพึงพอใจขึ้นมาทันใด
“ชางเปนเด็กที่แข็งแกรงเสียจริง ตองเปนผูมีพรสวรรคอันฟาประทานเปนแน ขา
เพิ่งจะพบเห็นในรอบ 10 ป ศาลาปดฟาแหงขามีลูกศิษยยอดเยี่ยมเพิ่มอีกคนแลว!”
“ใชแลว เด็กคนนี้ไมธรรมดา เลือดลมดี เสียงของเขาดุจดั่งมังกรกูรอง หากวาอบรม
บมเพาะดวยความใสใจ ตองเปนจาวสะทานฟาผูไมธรรมดาคนหนึ่งเปนแน”
ผูอาวุโสสงเฟยกับผูอาวุโสเฉายวิ๋นยกยองสรรเสริญอยางไมตระหนี่ เพิ่งจะเขาสู
สนามแหงผูมีพรสวรรค ก็ไดรับขาวคราววามีชายหนุมเชนนี้อยูคนหนึ่ง จะมิใหฮึกเหิม
และเบิกบานใจไดเยี่ยงไร
ผูมีอิทธิพลคนอื่นๆ ริษยาไมหยุด ผูสืบทอดศาลาปดฟานาพรั่นพรึงอยางแทจริง คน
มีความสามารถรุนแลวรุนเลา บุรุษผูนี้ตองโดดเดนอยางแนนอน
กระทั่งบางคนเกิดความคิดอยากชวงชิง
“ไป พวกขาลองไปดูเสียหนอยวาอัจฉริยะผูนั้นสงางามเพียงใด” ผูอาวุโสงเฟยกลาว
ฝูงชนพยักหนา ตางคาดหวังรอคอยอยางยิ่ง
ที่ไกลออกไป หนุมชุดเงินยืนอยูหนาทะเลสาบ จองมองใบหนาของตน น้ําตาเจียน
ไหลนองเต็มหนา บนหนาผากมีเนื้อปูดโปนขึ้นมาใหญมาก ดูเหมือนเขาสัตวนัก คอนทุบ
ลงมาในบริเวณเดิมทั้งดานหนาและดานหลัง กอกําเนิดผูกลาเขาเดี่ยวคนหนึ่งขึ้นแลว
“ชิงชังนัก!” เขาคํารามเสียงทุม
คนกลุมหนึ่งเดินหนาอยางรวดเร็ว หมายอยากจะมองดูผูมีพรสวรรคคนนั้น
นอกเหนือจากนี้ ผูคนรูสึกวา จวนจะพบเด็กเหลือขอในตํานานผูนั้นแลว
สนามรบแหงที่สองถูกปดผนึก เพื่อจับตัวเด็กเวรคนนั้นอยางแนนอน เพียงแคคิดก็
ทําใหผูคนตื่นเตนเราใจ หากเจาเด็กเลวทรามต่ําชาคนนี้โผลหางออกมา เขาจะหนีไมพน
อีกตอไป!
“โอ ประเดี๋ยวขอเชิญสหายทั้งหลายไปชมยาล้ําคาตนหนึ่ง พบเจอไดยากนัก เปน
วัตถุล้ําคาซึ่งหลอเลี้ยงดวยจิตสังหารของเสือดํา ในภายภาคหนาอาจแปรเปลี่ยนเปนยา
วิเศษก็เปนได”
ผูอาวุโสเฉายวิ๋นเอยอยางไมใสใจ ทวงทาสงบเยือกเย็น สุขุมอยางหาที่เปรียบไมได
ในยามคับขัน จําตองแสดงใหเห็นเสนสนกลบางสวนแหงศาลาปดฟา เชนนี้จึงจะสามารถ
สะเทือนสี่ทิศ ดึงดูดผูมีพรสวรรคเขามามากขึ้น
..............................
[1] ดวงตะวันโผลขึ้นสูงกวาไมไผสามทอน สํานวนจีน เปรียบเปรยวา สายโดงมาก
แลว
บทที่ 104 สุขุมลุม ลึก
“คาดหวังรอคอยยิ่งนัก ศาลาปดฟาสามารถหลอเลี้ยงยาวิเศษ ทําใหขาเคารพยํา
เกรง อยากดูเสียหนอยวายาตนนั้นหนาตาเปนเยี่ยงไรกันแน!” กลุมคนตางตะลึงพรึง
เพริด กลาวถอยคําชื่นชมอยางไมตระหนี่ถี่เหนียว
ยาวิเศษคืออะไร? ทําใหคนตายฟนคืนชีพ ปลุกเถากระดูกใหสรางเนื้อหนัง เสาะหา
ไปทั่วทุกหนแหงในดินแดนรกรางนับลานลี้ก็ยากจะพบเจอสักตนหนึ่ง! ตองทราบวา แม
จะมี แตลวนอยูในภูเขาเทพเจา สถานที่เหลานั้นอาจมีเจินโหวหมอบคลานอยู มีนกยักษ
สีทองเลือดบริสุทธิ์กําลังสรางรัง ไมมีผใู ดอาจหาญเขาใกล มิเชนนั้นคงตองตายอยางไม
ตองสงสัย
ในโลกมนุษย โดยเฉพาะในกํามือของเผาพันธุมนุษย ยากจะพบเจอยาวิเศษขนาน
แทสักตน ทวาศาลาปดฟากลับสามารถหลอเลี้ยงได จะมิใหผูคนอุทานอยางตื่นตะลึงได
อยางไร
พวกเขาเฝารออยางยิ่ง รูสึกวามิไดมาสูญเปลาอยางแทจริง
“ไป ใหพวกขาไปดูบุคคลผูมีความสามารถเหลานั้นเสียกอน ชื่นชมลักษณะเหนือ
ธรรมชาติของพวกเขาสักหนอย อนาคตเปนของพวกเขา นี่เปนกลุมวีรบุรุษเชียวละ!” ผู
อาวุโสสงเฟยกลาวดวยน้ําเสียงฮึกเหิม
“ดี!” ฝูงชนพยักหนาเห็นดวย พากันยางสามขุมไปขางหนา
ทะเลสาบเงียบสงบ ชายหนุมชุดเงินผูหนึ่งนั่งหันหลังใหริมฝง ทอดมองทะเลสาบสี
ครามกวางใหญไพศาลอยางโดดเดี่ยว เสนผมดําขลับปลิวสยาย รูปรางสูงตระหงาน มี
เสนหอันยากจะบรรยาย
แมเขาจะมิไดสําแดงเดช หากแตสัตวประหลาดโดยรอบตางพากันหลบซอนเรนกาย
อสูรปกษาหลีกหนีไปไหล สรรพสิ่งลวนเงียบสงัด กลายเปนหนึ่งเดียวในโลกหลา
ณ ตอนนี้เขาราวกับผสานเปนหนึ่งกับธรรมชาติ เห็นไดชัดวารูปรางสูงใหญนั่น
แตกตางจากคนทั่วไป โดดเดนเหนือผูอื่น ประหนึ่งเทพเจาชุดเงินจําแลงกายลงมายังโลก
มนุษย
เมื่อฝูงชนมาเยือน มองเห็นภาพเหตุการณที่อยูเหนือขอพิพาทใด ตางพากันพยัก
หนาไมหยุด วีรบุรุษหนุมชั้นยอดเชียวละ!
“เจาหนุม เจารวบรวมหินปดฟาไดทั้งหมดกี่กอนแลว?” ผูอาวุโสสงเฟยเดินมา เอย
ปากสอบถามดวยสีหนาออนโยน
เซียวเทียนถูกปลุกใหตื่นจากสภาพทุกขระทมอันยากจะบรรยาย หันหลังกลับทันที
นัยนตาปลอยกระแสไฟนากลัวออกมาสองเสน ทิ่มแทงจนผูคนสะดุงโหยง
“วีรบุรุษชั้นยอดคนหนึ่งเชียวละ เสนผมดําขลับปลิวสยาย นัยนตาดุจกระแสไฟเย็น
เขาบนหัวนั่น...”
ผูอาวุโสเฉายวิ๋นกลาวชื่นชม ทวาเมื่อพูดไดครึ่งเดียวก็พูดตอไปไมได เขาอาปากคาง
เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้? ไยบนหัวจึงปูดเชนนั้น?!
ฝูงชนตะลึงงัน หนาผากของบุรุษชุดเงินปูดโปนมาก ไยจึงเหมือนกับเขาสัตวเชนนั้น
ละ? มันนาตกใจอยูบาง
ผูอาวุโสเลื่องชื่อหลายคนเตรียมถอยคําสรรเสริญชื่นชมไวแลว ทวาพลันพูดคําใดไม
ออก ไมสามารถพูดสิ่งที่ไมตรงใจได กลามเนื้อเจาปูดโปนเหลือเกิน ใหญและไมธรรมดา
เลย
“นี่มัน...เจาไดรับบาดเจ็บรึ?” ผูอาวุโสทานหนึ่งแหงศาลาปดฟาเอยถาม
เซียวเทียนพยักหนาอยางสุขุม
“อูย...” ฝูงชนชะงักงัน คนผูนี้พายแพอยางนั้นหรือ ทวาฟงจากเสียงคํารามของเขา
ประหนึ่งมังกรกูรองพยัคฆคําราม ตองเปนอัจฉริยะบุคคลที่ไมธรรมดาเปนแนแท
“เจารวบรวมหินปดฟาไดกี่กอนแลวละ?” ผูอาวุโสสงเฟยปรับสีหนาใหเปนปกติ เผย
ทาทีเครงขรึม
ในความเปนจริงแลว ฝูงชนเห็นเขาเงียบงันเชนนี้ ตางนึกวาเขาปราชัยเสียแลว
ชายชุดเงินมิไดพูดอะไรใหมากความ โยนถุงหนังสัตวชิ้นหนึ่งออกไปดังโครมทันที
เสียงดังจนนาตกใจ
ผูคนสะดุงโหยง ชายหนุมคนนี้ดื้อรั้นและโอหัง นิสัยแข็งกราวยิ่งนัก แตผูอาวุโสแหง
ศาลาปดฟากลับเพิกเฉย ย่ําเทาไปขางหนาเพียงผูเดียว เมื่อเปดหอผาแลวก็ใจสั่นโดย
พลัน เงยหนาขึ้นมาทันที
“มีหินปดฟาทั้งสิ้น 28 กอน นาตื่นตะลึงเสียจริง ผลลัพธเชนนี้ตองเปนอันดับหนึ่ง
เปนแน!”
เมื่อฝูงชนไดฟงดังนัน้ ตางเปลี่ยนสีหนาไมสิ้น กรูกันเขาไปดูหอผา ผลปรากฏวามี
หินปดฟานับ 20 กวากอน สองแสงแวววาว
“วีรบุรุษหนุมชั้นยอด!” ในตอนนี้ ผูคนพากันเอยชื่นชมอยางไมหยุดหยอน
“นาตื่นตะลึงจริงๆ ขาเพิ่งจะพบเห็นในระยะหลายปมานี้ ผลสําเร็จเชนนี้เพียงพอจะ
เยยหยันผูมีพรสวรรคจํานวนมาก สมควรยกยองใหเปนอัจฉริยะบุคคล!” ผูอาวุโสสงเฟย
อุทานดวยความชื่นชมยินดี
“เนื้อปูดตรงหนาผากของเขามาไดอยางไรกัน?” นอกจากผูมีอิทธิพลแตละแขนง ยัง
มีเด็กซึ่งฝาดานสําเร็จเขารวมดวย ในตอนนี้พากันถกเถียงกันเสียงเบา
“เด็กจะไปรูอะไรกัน? นั่นมิใชหัวโน แตเปน ‘ลักษณะเดน’” ผูเฒาคนหนึ่งกลาว
ตําหนิ
“ขามองอยางไรก็คือหัวโนนีน่ า” เด็กคับของใจ รูสึกวาตนมิไดมองผิดไป
“อยาพูดไรสาระ นี่เปนความเลิศล้ําอยางแทจริงเลยละ” ผูอาวุโสจากชนเผาใหญคน
หนึ่งอธิบายอยางมีน้ําอดน้ําทนวา “รูไหมวาเลิศล้ําคืออะไร? ก็คือแตกตางจากทั่วไป มี
พรสวรรค เสมือน...มีเขางอกขึ้นมา นี่เปน ‘สิ่งที่ฟาประทาน’ มาแตกําเนิด คนทั่วไป
อยากจะเปนเชนนี้ก็ไมมีทาง ไมสามารถกําเนิดดวยใบหนาเชนนี้ได!”
เด็กที่อายุคอนขางนอยบางสวนตางก็จองมองดวยความสงสัย
ผูอาวุโสจากชนเผาใหญคนหนึ่งกลาวตักเตือนหลานของตนเสียงเบาวา “เอะ นี่เปน
ถึงเจาแหงศาลาปดฟาในภายภาคหนา จะลวงเกินมิได เจาไมตองไปสนใจวาจะเปนหัวโน
หรือลักษณะพิเศษ สรางความสัมพันธไวก็มิเสียหาย!”
“ออ ทราบแลวขอรับ” เด็กนอยพยักหนา
ริมทะเลสาบ ชายหนุมชุดเงินราวกับถูกมาปาที่ย่ําโคลนนับสิบหมื่นตัววิ่งหอผานไป
อยากจะแผดเสียงคํารามวา “ลักษณะพิเศษกับผีสิ ‘สิ่งที่ฟาประทาน’อะไรละแมง!”
หนุมชุดเงินแผดรองในใจอยางบาคลั่ง ขมเหงรังแกกันเกินไปแลว เขาเคียดแคนเจา
เด็กนิรนามคนนั้นเจียนตาย แตตอนนี้เขายังพูดอะไรไดละ ? จะใหพูดอะไรละ? ทําได
เพียงแหงนหนาขึ้นฟา ปลอยใหน้ําตาหลั่งรินเงียบๆ
แตในสายตาของผูคนกลับมีความหมายแตกตางออกไป ชายหนุมคนนี้มหัศจรรย
อยางแทจริง ทอดสายตามองฟากฟา แววตาลุมลึกและยากแทหยั่งถึง ลักษณะเชนนี้ไม
ธรรมดานัก!
ผูอาวุโสไมคิดวาเขายโสโอหัง ทระนงตนก็เปนเชนนี้แล นี้เปนสิทธิพิเศษของผูมี
พรสวรรค มิใชปญหาใหญ
หากหนุมชุดเงินหยั่งรูความคิดในใจของพวกเขา น้ําตาคงจะหลั่งรินอาบแกม ดาแมง
สักสิบหมื่นครั้ง ขาหยิ่งทะนงตนกับผีอะไรละ ขาเพิ่งจะถูกคอนทุบมาสองครั้งติด
ตางหาก!
“ขารูจักเขา เขามาจากตระกูลเซียว ซึ่งอยูหางจากที่นี่ประมาณสามแสนลี้” มีคน
กลาว
“ที่แทก็เปนอัจฉริยะบุคคลแหงตระกูลเซียวนี่เอง พวกเขาปกครองดินแดนกวาง
ใหญ จํานวนประชากรมากกวารอยลาน พึงจะมีผูมีพรสวรรคเชนนี้ปรากฏขึ้น” คนขางๆ
พยักหนา
“โอ การไดพบกับอัจฉริยะหนุมเชนนี้ ถือเปนเกียรติแกเราชาวศาลาปดฟา ไปกัน
เถิดทานทั้งหลาย ยังมีอัจฉริยะหนุมคนอื่นๆ รอคอยใหเราไปเชยชม เริ่มชมกันตอได” ผู
อาวุโสสงเฟยพออกพอใจยิ่งนัก ขณะเดียวกันภายในใจก็เกิดไฟรอนรุม ผูมีพรสวรรคในป
นี้ชางนาตะลึง คนเฉกเชนเซียวเทียนพบเจอไดยากนัก ตองเปน ‘เมล็ดพันธุ’ ที่ควรคาแก
การใหความสําคัญในการอบรมบมเพาะ
ในขณะเดียวกัน จิตใจของเขายังมีไฟรอนที่โชติชวงยิ่งกวา นั่นก็คือการจับกุมตัวเด็ก
ติดนม ดูสิวาหนนี้เจาจะเอาตัวรอดอยางไร!
สงเฟยมีไฟสุมเต็มทรวง ภาพเหตุการณที่คนกวาแปดเกาพันกรูกันออกมาอยาง
มโหฬารพันลึก ทําเอาตาพรามัวกระทั่งตอนนี้ ลวนเปนสิ่งที่เด็กเหลือขอคนนั้นเปน
ผูกระทํา เปนเหตุใหเขาคลุมคลั่ง
วิกฤตคราวนี้ทําใหศาลาปดฟากลายเปนประเด็นอยางมิตองสงสัย โลกภายนอกพา
กันวิพากษวิจารณอยางอึกทึกครึกโครม
ผูคนเดินหนาตอไป ทยอยพบเจอเหลาอัจฉริยะหนุม บางคนไดรับบาดเจ็บ สูญเสีย
หินปดฟา บางก็กําหลายกอนในมือ การเก็บเกี่ยวมั่งคั่ง ผลลัพธแตกตางกันไป
หากกลาวโดยภาพรวม แมพวกเขาลวนแข็งแกรง สมควรยกยองวาเปนอัจฉริยะ แต
กลับไมมีผูใดนากลัวเชนชายชุดเงินผูนั้นอีกแลว มีระยะหางอันเห็นไดชัด
“โอ เด็กจากเผาไมผูนี้ไมเลวนัก สั่งสมหินปดฟาได 9 กอน ไดยินวากอนหนานี้
รวบรวมได 7-8 กอนแลว โชครายที่พบกับเซียวเทียนเขา จึงถูกชวงชิงไปเสียแลว” ผู
อาวุโสเฉายวิ๋นพยักหนา ในที่สุดก็คนพบเด็กพิเศษอีกคนหนึ่ง
อัจฉริยะคอยๆ ปรากฏตัว รวมตัวกันชาๆ และในชั่วขณะนี้ เหลาผูเฒาแหงศาลาปด
ฟาตางพากันขมวดคิ้ว ผืนปาแหงนี้รกชัฏเหลือเกิน ตนไมเกาแกถูกทําลาย ไมหักกิ่งแตก
ระเนระนาด กระทั่งยอดเขาก็ทลาย เกิดเหตุจลาจลใดขึ้นกันแน?
“ไฉนขาจึงรูสึกวาเคยมีกระแสสัตวจูโจมที่นี่ อีกทั้งเจาดํายังมากําราบปราบปราม”
ผูเฒาคนหนึ่งเอยเสียงต่ํา เรงนําตัวอัจฉริยะคนหนึ่งมาสอบถาม
“อะไรนะ มีกระแสสัตวจริงๆ เจียว จระเขแก และวิหคมังกรสามขาตางสรางความ
โกลาหลรึ?” ผูอาวุโสแหงศาลาปดฟาตะลึงพรึงเพริด จากนั้นเอยถามอยางลึกซึ้งตอไป
หมายคนหาสาเหตุ
“เจาหมายความวา เคยเห็นเงารางเลือนรางไปยั่วยุเจาแหงสัตวประหลาดเหลานั้นรึ
เปนผลใหพวกมันสรางความอลหมาน?” ผูอาวุโสสงเฟยคิ้วกระตุก
อัจฉริยะผูหนึ่งกาวออกมา กลาววามองเห็นฉากหนึ่ง ระรานสัตวอสูรไปทั่วทุกหน
แหง เปนเหตุใหบังเกิดความจลาจลครั้งนากลัวขึ้น
ฝูงชนสงเสียงดังเกรียวกราว นี่ก็พิลึกพิลั่นเกินไปไหม แมจะเปนอัจฉริยะ เมื่อ
เผชิญหนากับราชันแหงสัตวเหลานี้ก็ควรลาถอยจึงจะถูกตอง ไยจึงรุกไปปลุกปนเชนนี้
พละกําลังชางนากลัวเสียจริง
ผูเฒาผูแกทั้งหลายมีสีหนาไมสูดีนัก เทือกเขาแหงนี้ถูกโจมตีจนพินาศยอยยับ เจา
แหงสัตวทั้งปวงกอการจลาจล มีพลังทําลายลางอันนาพิศวง
“เจาจะบอกวา คนคนนั้นออกแรงกระทืบผืนดิน เมื่อกระโดดลอยตัวขึ้น มีระดับ
ความสูงเกินยอดเขา สามารถขามผานแนวเขาไดอยางนั้นหรือ?” ผูอาวุโสแหงศาลาปด
ฟาไดรับขาวคราวอันมีประโยชนมาจากปากของอัจฉริยะหนุม
“ไมผิดแนขอรับ!” ชายหนุมคนหนึ่งพยักหนา
ผูคนตางมองหนากันแลวนึกถึงคนคนหนึ่งขึ้นมาพรอมกัน ตองเปนเด็กติดนมผูมินา
ใหอภัยคนนั้นเปนแนแท
“เด็กติดนม!” ผูอาวุโสสงเฟยตะโกนลั่นจนเสียงแหบแหง คํารามดังลั่น เขาเดือด
ดาลเหลือเกิน ทั้งยังเหิมฮึก นี่พิสูจนแลววา เจาเด็กนั่นอยูที่นี่
“เตรียมการเคลื่อนไหว จับตัวมันมาใหจงได!” ผูอาวุโสอีกคนราวกับถูกฉีดเลือดไก
[1] ฮึกเหิมผิดปกติวิสัย
“โปรดสงบจิตสงบใจ” ผูอาวุโสเฉายวิ๋นเอยปากดวยทาทางผอนคลายดั่งสายลมพัด
เอื่อย เมฆาเบาบาง แมจิตใจยากจะอดทนอดกลั้น อยากจะชิงลงมือใหรูแลวรูรอด แตมิ
ควรทําลายบรรยากาศและภาพลักษณเชนนี้
ผูอาวุโสทั้งหลายตางจองมองกันและกัน จากนั้นก็หัวเราะ ในเมื่อเขาเขามาแลว จะ
หนีรอดไดอยางนั้นหรือ เมื่อมีหินปดฟาก็คือลูกศิษยศาลาปดฟาแหงเรา ตอไปจะจัดการ
อยางไรก็ไดมิใชรึ?!
“ทานทั้งหลาย เราไปเชยชมยาล้ําคากันเถิด ประเดี๋ยวคอยไปพบเด็กคนนั้น” ผู
อาวุโสสงเฟยเอยอยางสงบนิ่ง
“ดียิ่งแลว!” ฝูงชนพยักหนา ลวนพึงพอใจยิ่งนัก ตางคาดหวังรอคอย
อัจฉริยะในสนามรบแหงที่สองก็เขารวมดวย กลุมคนมโหฬารพันลึกเดินทางเขาสูใจ
กลางเทือกเขา สังเกตสนามรบทดสอบไปตลอดทาง มิมีผูใดไมพยักหนา
“ทานทั้งหลาย จวนจะถึงแลว สมุนไพรตนนี้เจริญเติบโตมา 800 ปแลว มีความ
เปนไปไดสูงวามันอาจคอยๆ แปรเปลี่ยนเปนวิเศษในพันป” ผูอาวุโสสงเฟยพูดแนะนํา
มาถึงใจกลางเทือกเขาในที่สุด เบื้องหนาโลงกวาง พื้นดินแนนแข็งแหงผาก ไอดํา
ขมุกขมัว ประหนึ่งอุโมงคขนาดใหญทอดขาม นาสะพรึงกลัวอยางยิ่ง
“ยิ่งใหญนัก นี่เปนจิตสังหารแหงเสือดําขนานแท!”
“โอสวรรค เสือดําขนาดมหึมาปานนี้ มิดอยไปกวาทายาทอสูรบรรพกาลเปนแน
แท!”
เพียงชั่วครู ผูคนพบวามีนัยนตาขนาดใหญคูหนึ่งสวางวาบมาจากถ้ําใตดินอันมืดมิด
ประหนึ่งจันทราสีเลือดสองดวงปรากฏขึ้นตรงหนา ผูคนตางอกสั่นขวัญแขวน นากลัว
อยางที่สุด
ผูอาวุโสสงเฟยสุขุมเยือกเย็น สงบยิ่งนัก เขายังคงสงบจิตสงบใจแมในใจจะวาวุน
เพียงใด เขายกมือชี้ไปดานหนาอยางเชื่องชาแลวกลาววา “เชิญทานทั้งหลายดู...”
ทันใดนั้น นิ้วของเขาพลันแข็งทื่อ รอยยิ้มอันเปยมดวยเสนหเยือกแข็งภายในพริบตา
ถลึงดวงตาออนโยนจนโตในบัดดล เขาเจียนจะเปนลมหมดสติไปเสียแลว
บริเวณนั้นมีหลุมอยูหนึ่งหลุม บัวไอดําหายไปแลว ถูกขุดเอาไปพรอมกันทั้งตนทั้ง
ราก!
“เลวทรามต่ําชา ยาละ ยาล้ําคาละ?!” ความสุขุมเยือกเย็นทั้งหมดของผูอาวุโส
เฉายวิ๋นมลายหายไปจนสิ้น สะดุงโหยงราวกับถูกเหยียบหางเขา เสนเลือดเขียวบน
หนาผากเตนระริก คํารามดวยโทสะอยางไมขาดสาย
ผูอาวุโสเฉายวิ๋นคลุมคลั่ง เสมือนแปลงกายเปนคนบาครั้งบรรพกาลไปเสียแลว
..............................
[1] ฉีดเลือดไก มาจากความเชื่อทางการแพทยจีนเมื่อยุคป 60 วาการฉีดเลือดไกเขา
ตัวเปนยารักษาสารพัดโรค เปรียบเปรยวา คึกคัก ฮึกเหิม
บทที่ 105 สิน้ สุดการทดสอบ
กลุมคนตกตะลึงจนตาคางปากอากวาง ผูอาวุโสเฉายวิ๋นนากลัวเหลือเกิน อาปาก
คํารามไมหยุด สะเทือนปฐพีสั่นไหว นี่แตกตางกับลักษณะทาทางอันสุภาพเรียบรอยและ
สุขุมเยือกเย็นเมื่อครูโดยสิ้นเชิง
คนทั้งหมดพากันลาถอยอยางควบคุมไมได ดวยเกรงวาเขาจะคลุมคลั่งแลวพาลให
เปนผูอื่นไดรับบาดเจ็บ
“ทานปู ผูอาวุโสเฉายวิ๋นเปนอะไรไปหรือ เขากําลังสําแดงพลังอสูรสุนัขบรรพกาล
หรือ นากลัวเหลือเกิน” เด็กคนหนึ่งจับชายเสื้อของทานปูไวแนน ใบหนาเล็กฉายแวว
หวาดกลัว
“นี่...ใกลเคียงกระมัง” ผูเฒาพูดกํากวมพลางพยักหนา
“สมุนไพรบัวไอดําอยูที่ใด?!” ผูอาวุโสเฉายวิ๋นตะเบ็งเสียง นัยนตาแดงก่ํา เพียงยาง
สองกาวก็มาถึงปากถ้ํา สอดสองสายตาไปทั่วทุกสารทิศ
ผูอาวุโสทานอื่นแหงศาลาปดฟาตางกระโจนกันไปรวดเร็วราวกับไฟลนกน
เหงื่อกาฬเต็มใบหนา ความโกรธพลันสุมทรวง เมื่อมองเห็นหลุมนั่น ลวนหนาดําคร่ํา
เครียด เกิดความคิดอยากจะเปนลมหมดสติไปขึ้นในหนึ่งชั่ววูบ
สมุนไพรล้ําคาเชียวนะ หากเปนยาสามัญทั่วไปก็ชางมันเถิด ตนนี้อาจแปรเปลี่ยน
เปนยาวิเศษสุดล้ําคาก็เปนได ไยจึงสูญหายไปเชนนี้เลา?
“เลวทรามต่ําชา ผูใดลักไป?” ผูอาวุโสสงเฟยโกรธเปนฟนเปนไฟ
ฝูงชนเงียบงัน เดิมมาเพื่อเชยชมยาล้ําคา ไมคิดวาจะไดเห็นฉากนี้ประจักษแก
สายตา บัวไอดําหายไป ผูอาวุโสทั้งหลายแผดรองราวกับปศาจคลั่ง
รางกายของพวกเขาดุจสายฟา รวดเร็วอยางหาที่เปรียบไมได คนหาในบริเวณนี้
หมายหาเบาะแสบางสวน
“อะแฮม...” ผูชมซึ่งมาจากอิทธิพลใหญคนหนึ่งกระแอมไอหนหนึ่งแลวกลาววา
“ยาล้ําคาจริงรึ?”
มีคนตั้งขอสงสัยเชนนี้ แนนอนวาเหลาผูอาวุโสแหงศาลาปดฟายิ่งคลุมคลั่งหนักขึ้น
หนนี้อับอายขายขี้หนาเสียจริง เดิมทีตองการจะเผยเสนสนกลในบางอยาง ผลกลับสราง
เรื่องตลกขบขันเชนนี้เสียได
“ฝมือใคร?” พวกเขาอยากจะรวบตัวผูกระทําอยางอดรนทนมิได
ผูอาวุโสเฉายวิ๋นยังคงคํารามอยางบาระห่ํา สะเทือนจนปวดแกวหู เขาอยากจะบาให
รูแลวรูรอด นี่ชางนาอัปยศอดสูเหลือเกิน เปนเขาเองที่เชื้อเชิญสหายทั้งหลายมาที่นี่
ผลลัพธกลับทําใหเขาอับอายขายหนาเพียงนี้
เสือดํายางออกมาจากถ้ําใตดิน รูปรางใหญโตมโหฬารทําใหทุกคนตางสั่นเทิ้ม นา
พรั่นพรึงเหลือเกิน รางกายของมันสูงกวายอดเขาหลายขุม นี่ชางนาตกตะลึงเสียจริง
เนื้อตัวดําทมิฬ ขนยาวยิ่งนัก ยืนจังกาอยูตรงนั้น ประหนึ่งภูเขาปศาจสีดํา ผูคนลวน
อกสั่นขวัญแขวน ดวงตาสีเลือดมหึมาอยางหาที่เปรียบไมได จองมองลงมายังฝูงชนอยาง
เย็นเยือก
และมีจิตสังหารสีดําทะลักออกจากถ้ําไมหยุดหยอน หลั่งไหลออกมาไมขาดสาย ดุจ
ดั่งมาเยือนปากขุมนรก ทําใหผูคนขวัญหนีดีฝอ
เมื่อเสือดําปรากฏตัว เหลาผูอาวุโสตางใจสั่นไมหยุด มิอาจหาญลวงเกินมัน เพราะนี่
เปนสัตวใหญที่สามารถสูรบปรบมือกับทายาทอสูรบรรพกาลได พละกําลังมหาศาลจน
นาตกใจ เมื่อครั้งอดีต ผูอาวุโสซึ่งบําเพ็ญตนในขั้นหยั่งรูค วามลับของฟาดินเปนผูลงมือ
ทําลายอาวุธล้ําคา ทําทุกวิถีทางจนสามารถกําราบมันได
เสือดําคําราม ขุนเขาสั่นสะเทือน ผูคนจํานวนมากตกใจจนขวัญหนีดีฝอ เจียนลม
พับลงกับพื้น โดยเฉพาะพวกเด็กๆ ใบหนาซีดเผือก มิเคยพบเห็นสัตวประหลาดสูงใหญ
กวายอดเขาเชนนี้มากอน
มันสงกระแสจิตออกมาบอกกลาวเรื่องราวแกสงเฟยกับเฉายวิ๋น
“แผนลอเสือออกจากถ้ํา!” เหลาผูอาวุโสปวดฟน ปวดตับ ปวดทอง แผนการนี้ ชื่อ
เรียกนี้ก็ชางเปนการขุดหลุมฝงเสือโดยเฉพาะ
เสือดําคอยๆ ลาถอยกลับเขาถ้ํา หายลับตาไป กระทั่งตอนนี้ ฝูงชนจึงทอดถอน
หายใจ ชางนาตกตะลึงเหลือเกิน ความนาเกรงขามเชนนั้นทําใหแมแตจะหายใจยัง
ยากลําบาก
“สืบสาวใหถึงที่สุด เรงหาเบาะแสมาใหจงได!” ผูอาวุโสสงเฟยตวาด เขารูสึกหนา
มืดตามัว สองวันนี้เกิดเรื่องราวมากมายปานนี้ กอเรื่องจนเขาเจียนอดรนทนตอไปไมไหว
แลว
เมื่อถอยคําเชนนี้ปลอยออกไป ที่เกิดเหตุพลันเงียบสงัดไมมีแมแตเสียงนกเสียงกา
แตเพียงชั่วครูก็อึกทึกครึกโครมขึ้นมาโดยพลัน ฝูงชนคาดเดาวา รอยละ 80 ตอง
เปนฝมือของเด็กเวรนั่นอยางแนนอน นี่เปนลักษณะเฉพาะตัวของเขา แมแตหนทางของ
โลกแหงความวางเปลาก็มิละเวน สมุนไพรตนใหญเพียงนี้วางอยูตรงนี้ เจาวาเขาจะไม
เกิดความคิดพิสดารงั้นรึ? หากคิดตามเด็กคนนั้น หากเขาไมลงมือละก็ ขอใหฟาผาตาย
“ขาไปเอง เจาเด็กคนนี้เปนยอดแหงการกอหายนะอยางแทจริง ผูใดพบพานผูนั้น
อับโชค”
“ฮาๆ ยามไดขาววาเขาจะมาศาลาปดฟา ขาก็รับรูไดวา หายนะมาเยือนดินแดน
สุขาวดีโบราณแน พวกเจาก็ลองตรองดูสิวาเจาเด็กนั่นเปนใครกัน แมแตโลกแหงความ
วางเปลายังมิยอมรับ ขับไลไสสงเสียอยางนั้น”
“เปนไปตามคาด ฝมือของเขาจริงๆ กอเรื่องมินา ใหอภัยอีกแลว ฮาๆ ไยขาจึงอยาก
หัวเราะกันนะ”
...
เหลาผูอาวุโสนาสงสารทั้งหลายลวนหนาดําคร่ําเครียด โกรธจนควันออกหู เมื่อคาด
เดาวาเปนผูใดแลว ผูชมเหลานี้กลับไรจิตใจ ในทางกลับกันยังมีความสุขบนความทุกข
ของผูอื่นเชนนี้
“ไลลา!” ผูอาวุโสเฉายวิ๋นบาคลั่ง อาปากกวางดุจอางเลือด ตะเบ็งเสียงดังจนแหบ
แหง
“ใช เรงไลลา เจาเด็กเหลือขอนั่นขุดเอาไปแมแตราก รีบไลตามติด นํากลับมาปลุก
อีกครั้ง ตองฟนคืนชีพไดเปนแน” ผูอาวุโสคนหนึ่งกลาว
ไมนานนัก พวกเขาก็พบหลุมลึกนากลัวที่เจาตัวเล็กย่ําทิ้งไวยามกระโดดลอยตัว เมื่อ
เสาะหาเบาะแสบริเวณนั้นก็พบวา เทาขางนั้นเหยียบจนพื้นหินแหลกละเอียด ผลลัพธ
เปนเชนเดียวกับที่เขากระทําเมื่อครั้งทําลายสถิติของสือยี่ในโลกแหงความวางเปลา
“โอสวรรค เปนเขาจริงเสียดวย!” ขณะนี้ฝูงชนตางอุทานดวยความตกใจ
สิ่งที่คาดเดาไวเปนอีกเรื่องหนึ่ง สิ่งที่พิสูจนใหเห็นก็เปนอีกเรื่องหนึ่ง เจาเด็กคนนี้ชั่ว
รายเหลือเกิน ลักเอายาล้ําคาแหงศาลาปดฟาไปงายดายเชนนี้แล
“เลิกนิ่งไดแลว รีบผนึกแหฟาตาขายดินใหแนน ตอนนี้ไปจับตัวขโมยตัวจอยพรอม
กัน!” ผูอาวุโสเฉายวิ๋นแปลงรางเปนลามะ ตะโกนดวยความโกรธเปนฟนไฟอยางไมไยดี
ภาพลักษณ
สนามรบแหงที่สองถูกปดผนึก พวกเขาเชื่อวา แมเจาตัวเล็กจะติดปกก็ยากจะหนี
รอด ตองถูกจับกุมตัวไวอยางแนนอน
พวกเขาไลตามไปตามทิศทางที่เจาเด็กเหลือขอใชหลบหนี ครั้นเห็นรองรอยที่เขา
ขามผานสันเขาโดยการกระโดดเพียงครั้งเดียว ผูคนทั้งหมดตางสูดลมหายใจเย็นเยือก
รางกายและพลังเชนนี้เหนือธรรมชาติอยางแทจริง ชางนาสะพรึงกลัว
“สือยี่มีคูแขงเสียแลว!” มีคนบางสวนลอบถอนหายใจ เผยแววตาระทึกใจ
“เกรงวาจะตองรอคอยอีกสัก 2-3 ปกระมัง เด็กเหลือขอผูนี้ยังเยาววัยนัก” อีกคน
กลาว
ไลตามไปตลอดทาง ผูคนแหงศาลาปดฟาหนาเขียว เพราะพวกเขาเก็บเศษของยา
วิเศษไดระหวางทาง ดานบนมีรอยฟนเล็กอยางชัดเจน
ในตอนนี้ อยาวาแตศาลาปดฟา แมแตฝูงชนที่เขารวมตางก็ปวดหัวใจอยางไมหยุด
หยอน คนบาปชั้นยอดเชียวละ!
ยาล้ําคามีวิธีการกินเชนนี้หรือ ไมตองกลาวถึงเรื่องที่อาจแปรเปลี่ยนเปนยาวิเศษใน
อนาคต แมเจาจะเด็ดเอามาแลวก็มิควรกัดกินเชนนี้ ควรจะนําไปกลั่น ประสิทธิภาพของ
มันจึงจะดีเลิศ
เจาเด็กคนนี้แทะกินกรุบกรับราวกับแครอท นี่มันสิ้นเปลืองเพียงใดกัน เกรงวาฤทธิ์
ยาคงแสดงออกมาไมถึงรอยละ 30
“นาโมโหจริง” ผูอาวุโสสงเฟยหัวฟดหัวเหวี่ยง
“ผลุบ”
ยิ่งกวานั้นคือผูอาวุโสเฉายวิ๋นกระอักเลือดออกมาคําหนึ่ง เจาเด็กลางผลาญ ไฉนอาจ
หาญกระทําเรื่องเชนนี้ ไมรูหรือวานี่คือบัวไอดํา? เขาแหงนหนาคํารามขึ้นฟา
“ขาตองรูอยูแลวสิวานี่คือบัวไอดํา กินดิบ กินสุก ก็กินลงทองเชนเดียวกัน สําหรับ
ขาแลวไมแตกตางกันหรอก ขาเพียงใชมันเพื่อบรรลุถ้ําสวรรคแหงที่ 6 เทานั้น” เจาตัว
เล็กแอบเถียงในใจ
ขณะเดียวกัน เขาสายหนาพัลวัน ตอนนั้นวิ่งเร็วเกินไป ไมคิดวาจะมีเศษใบไมรวง นี่
มันสิ้นเปลืองนะ
หากฝูงชนลวงรูความคิดของเขา และรวบตัวเขาแลวละก็ คงจะตรึงเขาลงกับพื้น
ฟาดหนาสักฉาดแลวเอยถามวา นี่ก็เรียกวาสิ้นเปลืองรึ? ที่เจาแทะกินดั่งแครอทตางหาก
ที่เรียกวาสิ้นเปลืองนะ!
ในที่สุด เมื่อไลตามไปเรื่อยๆ ศาลาปดฟาเก็บรากไดอีกชิ้นหนึ่ง ผูอาวุโสเฉายวิ๋นหนา
มืดทันใด เจียนเปนลมหมดสติ เด็กเหลือขอคนนี้กินเขาจนไปสิ้น แมแตรากก็มิเวนรึ?!
“เจากินแมแตรากไดอยางไร?” สงเฟยก็เดือดดาลเชนกัน คํารามอยางตอเนื่อง
คนของศาลาปดฟาหมดหวังอยางสิ้นเชิงแลว แมแตรากก็ถูกกิน ไมสามารถฟนฟูไอ
บัวดําไดอีกตอไป นี่ทําใหพวกเขาปวดใจยิ่งนัก
“มันเปนยาล้ําคามิใชรึ ทั้งเนื้อทั้งตัวลวนมีคา หามสิ้นเปลือง ตองกินใหหมด” เจา
ตัวเล็กพึมพําในใจ ไมพอใจกับการกระทําของพวกเขาเปนอยางมาก พวกเจาสิสิ้นเปลือง
แมแตรากก็จะสิ้นเปลืองอยางนั้นหรือ? สิ้นเปลืองอยางนาอดสู!
นับวาโชคดีที่เฉายวิ๋นและสงเฟยไมสามารถลวงรูความในใจของเขาได มิเชนนั้นคง
กระอักเลือดอีกหนเปนแน
“อยาใหขาเจอตัวเชียวนะ มิเชนนั้นขาก็จะทําเรื่องมินาใหอภัยตอเจาเชนกัน!”
เฉายวิ๋นตะเบ็งเสียงดวยความโกรธา
สงเฟยจวนน้ําตาหลั่งรินเต็มใบหนา ตั้งแตเด็กคนนั้นเขาสูศาลาปดฟา สองวันนี้ไม
สงบเลย เรื่องราวบาบอเกิดขึ้นเรื่องแลวเรื่องเลา สมดั่งคําพูดของฝูงชนในโลกแหงความ
วางเปลาวา ‘มินาใหอภัย’
“พลิกสนามรบแหงที่สอง แมตองไตขึ้นฟาแทรกแผนดินก็จงหาใหพบ ปลอยใหรอด
ไปมิไดเด็ดขาด” ผูอาวุโสคนหนึ่งออกคําสั่ง
ขณะนี้เอง เหลาบุรุษและสตรีกลุมหนึ่งหายลับเขาไปในพงไพรอยางรวดเร็ว ออก
คนหาไปทั่วทุกสารทิศ คนเหลานี้ลวนเปนลูกศิษยขนานแทแหงศาลาปดฟา ตางมีอายุอา
นาม 20 ปขึ้นไป แข็งแกรงอยางที่สุด
“ไพรพลยังมิเพียงพอ แมจะปดผนึกที่นี่ไวแลว แตสถานที่กวางใหญนัก หากเขา
หลบซอนเรนกาย ก็ยากจะเสาะแสวงหา เรียกกําลังคนมาเพิ่ม!”
วันนี้ ศาลาปดฟาชุลมุนวุนวาย สุดทายเหลาลูกศิษยในสํานักทั้งหมดถูกเกณฑมาจน
สิ้น คนมากมายละลานตา แผคลุมทองฟาบดบังพื้นดิน ปกคลุมไปทั่วสนามรบแหงที่สอง
เรื่องนี้แพรสะพัดไปถึงโลกแหงความวางเปลา บังเกิดความโกลาหลขึ้นมาทันที ผูคน
พร่ําพรรณนาถึงความสามารถของเด็กเหลือขอดวยความตื่นตะลึง ไมคิดวาจะบีบคั้นจน
ศาลาปดฟาจะขุดหลุมลึกสามเซี๊ยะเพื่อคนหาตัวเขา นาตะลึงพรึงเพริดอยางแทจริง
“ศาลาปดฟานาสงสารเหลือเกิน”
ทุกหนแหงในโลกแหงความวางเปลาตางวิพากษวิจารณ พลันเด็กติดนมก็กลาย
บุคคลประเด็นรอน เปนเหตุใหฝูงชนคาดเดาและหารือกันไปตางๆ นานา สรางเสียง
หัวเราะอยูตลอดเวลา
ศาลาปดฟาผูนาสงสาร ตกอยูในสถานการณคับขัน ถูกหัวเราะเยาะอยูตลอดเวลา
ทําใหพวกเขาโกรธแคนอยางไมสิ้นสุด สาบานวาจะตองหาตัวเจาเด็กคนนั้นใหพบ ขังตัว
อยูในดินแดนสุขาวดี คอยๆ จัดการทีละเล็กละนอย
“พบแลว!” ทันใดนั้น เกิดเสียงตะโกนภายในสนามรบแหงที่สอง รายงานขาวดี ณ
ที่แหงนี้
“อยูที่ใด?!” ผูอาวุโสเฉายวิ๋นดวงตาตั้งขึ้น
“พบกระดูกล้ําคา 3 ชิ้นบนรังนกขอรับ” ลูกศิษยผูหนึ่งมาพรอมกับกระดูกล้ําคา
พรางพรายโปรงแสง 3 ชิ้นอยางรีบเรง
“คนพบอีกแลว พบกระดูกล้ําคา 3 ชิ้นหลังน้ําตกขอรับ” ลูกศิษยอีกหนึ่งคนกลับมา
พรอมกับผลเก็บเกี่ยว
“ของขา ของขา ลวนเปนของขา!” เจาตัวเล็กจองมองจากกลางฝูงชน ดวง
ตาเหลือกจนโตอยางกระวนกระวายยิ่งนัก แตก็ทําไดเพียงร่ํารองในใจ มิกลาปลอยเสียง
เล็ดรอดออกจากปาก
สุดทาย ศาลาปดฟาคนพบกระดูกเพียง 6 ชิ้น ไรการคนพบอื่นใดอีกตอไป ทําใหเจา
ตัวเล็กถอนหายใจยาว ยังมีอีก 12 ชิ้นแนะ จิตใจสมดุลขึ้นมาบางเล็กนอย
จากนั้นเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงรูปรางหนาตา ใบหนาเล็กยังคงคลายผลแอปเปล แต
กลับแตกตางจากกอนหนาเล็กนอย เขาระแวดระวัง มิอยากใหเหลือเบาะแสแมเพียงนิด
แทรกตัวทามกลางลูกศิษย 3000 คน คนมากมายปานนี้ ไมเปนจุดสนใจอยาง
แนนอน อีกทั้งเขายังเบียดไปเบียดมา เปลี่ยนแปลงตําแหนงอยางตอเนื่อง การแปลงรูป
โฉมก็เปนสิ่งที่เขาคอยๆ ดําเนินการทํา หากเปนเชนนี้ก็ยากจะมีคนมองออก
เหลาผูอาวุโสแหงศาลาปดฟาใบหนาขึงขัง รวมตัวอัจฉริยะ 100 กวาคนภายใน
สนามรบแหงที่สองเขาดวยกัน กวาดสายตามองพวกเขาทีละคน หมายหาเบาะแส
“เสร็จสิ้นการทดสอบ!”
ทายที่สุด สงเฟยกับเฉายวิ๋นก็พนตัวอักษรออกมาไมกี่ตัว นัยนตาสองแสงสีเขียว จด
จองไปยังผูมีพรสวรรคเหลานั้น ดวยคิดวาเด็กเวรคนนั้นอาจอําพรางซอนตัวอยูทามกลาง
พวกเขาก็เปนได
คอยๆ ตรวจสอบ เพียงเขาสูศาลาปดฟา ไมเชื่อวาจะตรวจสอบไมเจอ! นี่เปน
ความคิดอยางเดียวกันในจิตใจของคนเหลานี้
อยางไรก็ตาม พวกเขาตางกังวลใจที่จบั ไมไดคาหนังคาเขาเชนนี้ เด็กคนนั้นก็ชาง
หลบหนีไดไวเสียจริง จะเปนสวนหนึ่งของอัจฉริยะเหลานี้หรือ?
หลังจากเหลาผูอาวุโสปรึกษาหารือกันแลว คิดวาเจาตัวเล็กอาจเปนดั่งที่บางคน
คาดการณไว เปนลูกของทายาทอสูรบรรพกาลบางชนิด แปลงกายเปนมนุษย สัตว
ประหลาดบางประเภทตองมีพลังวิเศษเชนนี้เปนแนแท!
“เกลียดนัก!” เหลาผูอาวุโสคํารามอยางโมโหโกรธา
นอกจากพวกเขาแลว ชายหนุมชุดเงินเองก็เลือดลมเดือดพลาน ในที่สุดเขาก็รูวา
ผูใดที่ทุบเขาสองหน เขาแหงนหนาทอดสายตามองทองฟา น้ําตาแทบไหลอาบแกม
ความแคนครั้งนี้ใหญหลวงนัก!
“เห็นรึไม นี่เปนวีรบุรุษหนุมผูมีลักษณะพิเศษ ไมสะทกสะทานตอสิ่งใด ยามที่ผูคน
ตางทอดถอนหายใจ มีเพียงเขาที่เยยฟาเชนนั้น”
“ทานปูขอรับ ขามองเห็นแลว มีเพียงพี่ชายซึ่งเขาบนหัวเทานั้นที่กําลังมองทองฟา
เพียงลําพัง”
“บุรุษผูนี้ไมธรรมดาเสียจริง จิตใจเหนือธรรมชาติ เกินกวาคนสามัญจะทัดเทียมได!”
ผูอาวุโสเลื่องชื่อบางสวนพากันกลาวชื่นชม
เมื่อชายหนุมชุดเงินไดยินดังนั้น จิตใจราวกับมาในทุงหญาที่เหยียบย่ําดินโคลนนับ
สิบหมื่นตัววิ่งหอผานไปทันใด เขากล้ํากลืนอารมณที่อยากจะกูรองยาวไว
“สิ้นสุดแลว นับแตนี้ตอไป พวกเจาลวนเปนศิษยแหงศาลาปดฟา ไดรับการสืบทอด
ดินแดนสุขาวดีโบราณ เอาละ เริ่มเขาสูสํานักได ณ บัดนี้!” ผูเฒาคนหนึ่งตะโกนลั่น
กลุมคนมโหฬารพันลึกเดินออกจากสนามรบแหงที่สอง มุงหนาไปทางประตูศาลา
ปดฟา
มีชายหนุมหญิงสาวกลุมหนึ่งรอคอย ณ บริเวณทางเขา มีสื่อยี่ บุตรีผูเปนที่รักยิ่ง
แหงจักรพรรดิ องคชายแหงประเทศเกาแก และยังมีลูกของทายาทอสูรบรรพกาลเปน
ตน รวมพิธีเขาสูสํานักพรอมกับพวกเขา
บทที่ 106 นักโทษตามหมายจับแหงดินแดนสุขาวดี
ลูกเอย เมื่อเขาสูศาลาปดฟาแลวจําตองมุมานะบากบั่น อยาเนรคุณตอความหวังที่
วงศตระกูลมีตอเจา!”
“ดินแดนสุขาวดีโบราณหาไดเหมือนทั่วไป เคยสรางความศักดิ์สิทธิ์ เจาจะทะนงตน
ณ ที่แหงนี้มิได ตองเชื่อฟงคําสั่งสอนของทานอาจารย บําเพ็ญตนอยางหมั่นเพียร”
เหลาผูเฒาผูแกจากชนเผาใหญกําชับแลวกําชับอีก สั่งสอนลูกหลานในตระกูลของ
ตนครั้งแลวครั้งเลา ใหพวกเขาคร่ําเครงบําเพ็ญตนจนมีพลังวิเศษ จึงจะสามารถปกปอง
ชนเผาไดในภายภาคหนา
เด็กจํานวน 3000 กวาคนนัยนตาแดงก่ํา แตละคนเดินตามผูเฒาผูแกตอยๆ ตั้งใจฟง
คําสอน ปาดน้ําตาไมหยุด ตองลาจากแลว ไมรูอีกเดือนไหนปไหนจึงจะไดพบกัน เมื่อถึง
เวลานั้น บางทีผูสูงวัยมากมายอาจตายจากแลวก็เปนได
“ทานผูเฒารักษาตัวดวยนะขอรับ!”
พวกเขาลวนเปนลูกศิษยชั้นยอดที่ถูกเลือกมาจากวงศตระกูล เพียงเพราะมี
พรสวรรค สวนมากมิใชลูกหลายของผูอาวุโสเหลานี้ แตในเวลานี้กลับอาลัยอาวรณ ดวย
เพราะเหลาผูเฒาผูแกพาพวกเขาเดินทางไกลผานดินแดนรกรางนับสิบหมื่นลี้ มายังที่
แหงนี้ ไดรับโอกาสในการเปลี่ยนแปลงตัวเองเชนนี้
เจาตัวเล็กยืนทามกลางผูคน แมจะอาลัยบานเกิด แตที่นี่ไมมีญาติสนิทของตน เขา
เพียงแสรงเช็ดน้ําตา ฉุดรั้งตาแกแปลกหนาคนหนึ่ง สงเสียงรองฮือๆ
“อยารองไหเลยลูกเอย ตั้งใจบําเพ็ญตนก็เพียงพอแลว” ผูเฒาปลอบประโลม
“ขอบพระคุณขอรับทานปู ขาเขาใจแลว!” เมื่อเจาตัวเล็กเห็นวาเด็กที่รองไหโยเย
นอยลงแลว จึงหยุดสะอึกสะอื้นทันที บนใบหนาไมมีน้ําตาแมแตหยดเดียว หันหลังแลว
เดินจากไปทันใด ปลอยใหผูสูงวัยตะลึงงันอีกครัง้
สุดทาย ประตูสํานักใหญสงบลงไมนอยเลย เหลาผูอาวุโสจากชนเผาใหญตางลาถอย
กลับไป นําเอาเหลาบุรุษและสตรีซึ่งไมผานการทดสอบนับเกาหมื่นกวาคนกลับไปดวย
เหลือไวเพียง 3000 คน เนืองแนนละลานตา ชายชราผูนั่งขัดสมาธิอยูบนหินกอน
ใหญหนาทางเขาสํานักเครงเครียดขึ้นมาทันที การคัดเลือกที่ผานมารับลูกศิษยเพียงไมกี่
รอยคนเทานั้น หนนี้มากมายเหลือเกิน ตั้ง 3000 คน จะจัดการอยางไรละ? นี่เปนปญหา
อันนาปวดหัว
ผูอาวุโสสงเฟย เฉายวิ๋นยืนกมหนาอยูอีกมุมหนึ่ง ดั่งไฟสุมในทรวง เรื่องราวครั้งนี้
เปนความผิดพลาดอยางแทจริง เมื่อเผชิญหนากับผูสูงศักดิ์แหงสํานักจึงรูสึกอัปยศอดสู
“เอาเชนนี้ละ รับเขาสํานักใหหมด เปลืองแรงใจสักหนอย คนทั้งหมดดูแลลูกศิษย
มากหนอยแลวกัน” ชายชรานั่งขัดสมาธิอยูตรงนั้น ยามกะพริบตาปรากฏภาพสรางโลก
ขึ้นชั่วพริบตา นาตะลึงพรึงเพริดยิ่งนัก
ประตูสํานักโตโออา ประกอบจากภูหินใหญสองลูก สูงตระหงานอยางนาเกรงขาม ผู
อาวุโสมากมายแหงศาลาปดฟาปรากฏตัว นําเด็กเหลานี้เขาสูสํานัก เพื่อไปกราบไหวรูป
ปนปรมาจารย
เมื่อถึงที่นี่จึงจะถือวาเขาสูศาลาปดฟา ภายในยังคงกวางขวางอยางหาที่เปรียบไมได
ภูเขางามตั้งตระหงานเรียงราย มีไมดีอยูดานบน ศาลาตั้งอยู น้ําตาทอดลงมายังเบื้องลาง
ดุจดั่งเขาสูดินแดนเทพเซียน ยอดเขาลูกแลวลูกเลาลวนงดงามเชนนี้ เมฆหมอกลอย
ลองสีสันสวยงาม ไอหมอกกระเพื่อมขึ้นลง เปยมดวยกลิ่นอายอันเปนมงคล
นี่ก็คือดินแดนสุขาวดีโบราณ ภายในมีความวิเศษลอยวน ตนไมงามบนยอดเขา
พิศวงเขียวขจี มากดวยน้ําพุวิเศษและน้ําตก อีกทั้งสัตวมงคลนานาชนิด ประหนึ่งโลก
แหงเทพนิยาย
“ที่นี่พิเศษเหลือเกิน เมื่อสูดลมหายใจ รูขุมขนทั่วรางกายผอนคลาย เหมาะแกการ
พักผอนหยอนใจยิ่งนัก!” บุรุษมากมายตางตื่นเตน
“อืม อยางที่เจาวานั่นแหละ ขาคิดวาหากบําเพ็ญอักขระกระดูก ณ ที่แหงนี้
ความเร็วสามารถเพิ่มขึ้นหลายเทาตัว” เหลาชายหนุมตางเผยสีหนาระทึกใจ
“วิหคฝูงนั้นอวนทวนนัก ดูเหมือนนกกระจอกไฟวิเศษ ดูนากินเหลือเกิน” เจาตัว
เล็กบนพึมพําพลางน้ําลายไหลยอย
ละแวกใกลเคียงหมูบานหินผามีนกหลวนนอย เปนวิหควิเศษเชนเดียวกัน แตทานผู
เฒามิอนุญาตใหลามัน ตอนนี้เมื่อเจาตัวเล็กหวนคํานึงถึงรสชาติหอมหวานเชนนั้น ยัง
รูสึกถึงรสชาตินั้นอยางไมสิ้นสุด
“ที่นี่มีนกกระจอกไฟวิเศษมากเพียงนี้ หากกินไปสักตัวคงมิเปนไรหรอกกระมัง?”
เจาตัวเล็กพึมพํา
“เจาวาอยางไรนะ?” ชายหนุมขางกายเผยสีหนาประหลาดใจ
“มิไดพูดอะไร ใชสิ เจาดูสินั่นอะไรนะ เหมือนเถาวัลยเจียวพิสดาร นั่นเปนถึงยา
วิเศษเชียวนะ หักออกมาสักทอนหนึ่งไดรึไม ยาวเกือบ 2 หมี่กวาแลว” เจาตัวเล็ก
ตองการจะเปลี่ยนหัวขอบทสนทนา แตกลับชี้มือไปยังยาวิเศษซึ่งรายแรงกวา ทําใหชาย
หนุมคนนั้นหดคอทันที เรงรีบหันหลัง เขามิอยากทําผิดมหันตในดินแดนสุขาวดีแหงนี้
“เจาลูกขนไปไหนเสียแลว วันหนาจะพามันเขามา ใหมันเดินเพนพานไปทั่วภูเขา
วิเศษสักรอบ ตองพบเจอของวิเศษจํานวนไมนอยเลยทีเดียว” เจาตัวเล็กหัวเราะอยาง
เบิกบานใจ
บนยอดเขางดงามลวนมีตนไมเกาแก งอกเงยสมุนไพรโบราณ วิหควิเศษพํานักอาศัย
และยังมีเขาวิเศษบางลูกสาดพนกลิ่นอายมงคล เจาตัวเล็กคาดการณวา มันสามารถ
กอใหเกิดยาวิเศษบางสวนเปนแนแท
พวกเขามาถึงพื้นที่โลงกวางขนาดใหญโดยไมรูตัว ภูเขาวิเศษละแวกใกลเคียงสอง
แสงรายลอมบริเวณนี้ไว ตรงกลางมีรูปปนหินองคหนึ่ง สูงใหญอยางหาที่เปรียบไมได
สรางโดยการขุดเจาะภูหินลูกหนึ่ง
“นี่ก็คือปรมาจารยแหงเรา เมื่อเขาสูศาลาปดฟาแลว สิ่งแรกที่ตองทําคือคาราวะ
ปรมาจารย!”
รูปปนหินใหญโตมโหฬาร แตภายใตการชะลางของกาลเวลา มันทรุดโทรม
กระดํากระดางเสียแลว มองเห็นเลือนรางวาเปนรูปรางของมนุษย แตมิสามารถแยกแยะ
ไดวาเปนชายหรือหญิง
“คาราวะทานอาจารย!” มีผูอาวุโสเปลงเสียงดังลั่น นําเด็กกวา 3000 คนทําพิธีเซน
สรวงครั้งใหญ
“นี่เปนตาแก หรือเปนหญิงแก หรืออาจเปนเทพารักษ เจาเคยไดยินมากอนรึไม?”
เจาตัวเล็กสะกิดชายหนุมขางกาย
“ขาไมรู!” ชายหนุมคนนั้นสะดุงโหยง ไมคิดวาเด็กขางกายคนนี้จะกลาหาญเพียงนี้
เขาตอบกลับไปหนึ่งคําอยางรวดเร็วแลวรีบกมหนาคํานับกราบไหว มิกลาพูดเหลวไหล
เจาตัวเล็กดึงกระโปรงของเด็กหญิงตรงหนาแลวกลาววา “เจาเคยไดยินไดฟงมา
หรือไม ปรมาจารยทานนี้มีความเปนมาอยางไร มีพลังวิเศษใดบางเมื่อครั้งบรรพกาล
เคยสรางคุณงามความดีใดบาง?”
“เกลียดนัก!” เด็กหญิงหนาตางดงามกระชากกระโปรงกลับมาดวยความกระวน
กระวาย เรงนอมคํานับอยูตรงนั้นอีกครั้ง
เด็กๆ ดานขางอยากหัวเราะแตก็มิกลา แตละคนตางกมหนา ในปากรายคําพูดไม
หยุด อธิษฐานตอปรมาจารย มิอาจหาญจองมองตามอําเภอใจ
เจาตัวเล็กเกาหัว กระทุงคนนี้ที แตะคนนั้นที หมายอยากสรางความสัมพันธ
ปรากฏวาเด็กเหลานี้ตางตื่นตระหนกตกใจ มิกลาวอกแวกในพิธีกรรมใหญเชนนี้
ในที่สุดพิธีกรรมอันยืดยาดก็เสร็จสิ้น
เจาตัวเล็กดึงกระโปรงของเด็กหญิงอายุ 3-4 ขวบดานหนาแลวเอยถามอีกครั้งวา
“เอะ ใชสิ ไดยินวามีบุตรีแหงจักรพรรดิดวยมิใชหรือ และมีลูกของทายาทอสูรบรรพกาล
ไยขาจึงไมเห็นเลา?”
“อยาแตะตองตัวขา!” เด็กหญิงถลึงตาใสเขาอยางเกรี้ยวกราด
“ทานรูรึไม?” เขามิไดละอายใจแมแตนิด เอยถามกลุมชายหนุมอายุ 10 กวาปขางๆ
ในนี้ถือวาเขาอายุนอย แตกลับหาวหาญปานนี้
“ไปตั้งนานแลว ตําแหนงของพวกเขาแตกตางจากเรา ทําพิธีโดยลอมรอบรูปปนหิน
คนกลุมนั้นจากไปหลังจากคาราวะปรมาจารยเสร็จสิ้น” ชายหนุมคนหนึ่งตอบ
“นาเสียดายนัก ขาอยากดูวาผูมีตาดําสองดวงมีลักษณะเชนไร มีลูกตาดําสี่ดวงจริงๆ
รึ?” เด็กอีกคนผิดหวังเหลือเกิน
“ลูกตาดําสี่ดวงมีอะไรนาดูกัน นาสะพรึงกลัวยิ่งนัก” เจาตัวเล็กสายหนาแลวกลาว
วา “ขาอยากดูใหประจักษแกสายตาเสียหนอยวา บุตรีแหงจักรพรรดิงดงามสมคําร่ําลือ
หรือไม และยังอยากจะเห็นลูกของทายาทอสูรบรรพกาลเหลานั้นสักหนอย”
“ชูว เบาเสียงหนอย นั่นเปนถึงบุตรีแหงจักรพรรดิ จะพูดพลามตามอําเภอใจมิได”
ชายหนุมอายุ 15-16 ปคนหนึ่งกลาวเตือนเขา
“จะเปนอะไรไปละ เปนเพียงเด็กหญิงอายุ 10 กวาปมิใชหรือ เมื่ออยูที่นี่ทุกคนลวน
เปนศิษยแหงศาลาปดฟา ไรขอแตกตาง” เจาตัวเล็กกลาวอยางไมสนใจไยดีวา “บานนาง
มีแผนหยกกลมมากมายปานนั้น ภายหลังหากพบพาน ขอใหนางเชื้อเชิญขากินเนื้อนก
หลวน หากมอบอาวุธล้ําคาดวยก็จะดียิ่งนัก”
เมื่อฟงเขาคุยโวโออวด เหลาชายหนุมพากันหัวเราะขึ้นมา เจาตัวเล็กซุกซน
เหลือเกิน ทําใหเกิดความรูสึกดีไดงาย เพียงไมนานก็กลายเปนหนึ่งเดียวกับคนกลุมนี้
“พวกเจาทั้งหลาย เร็วเขา ขาจะพาพวกเจาไปแนะนําแกอาจารย เครงขรึมจริงจัง
กันสักหนอย อยาหัวเราะคิกคัก” ในตอนนี้เองมีเสียงไพเราะแววมา สตรีงดงามอายุ 18-
19 ปนางหนึ่งเดินเขามาชี้แนะพวกเขา
“พี่สาวโฉมงาม ทานเปนอาจารยใหพวกเขาเถิด” เจาตัวเล็กหัวเราะคิกคัก
เนื่องจากแปลงโฉมหนาแลว ใบหนาผมแอปเปลจึงอวบอิ่ม
“เจาเด็กอวนคนนี้ เจากลาพูดจาแทะโลมแมแตศิษยพี่เชียวหรือ?” สตรีชุดขาวเดิน
มาหยิกใบหนาอวนของเขา
“ขามิใชเด็กอวน อยางขาเรียกวาอุดมสมบูรณ เฉกเชนรูปรางเพรียวระหงของพี่สาว
สิ่งเหลานี้ลวนเปนสัญลักษณของความดีงาม” เจาตัวเล็กหนาตาบิดเบี้ยว ควาหมับที่นิ้ว
มือเรียวยาวขาวกระจางดุจหยก มิใหนางหยิก
หญิงสาวประหลาดใจ นางเพิ่งเคยพบเจอเด็กทะเลนเชนนี้ บัดนี้ผูอื่นตางคิดถึงคนใน
ชนเผาและบิดามารดา แตเขากลับสุขใจเสมือนปลาไดน้ํา
“เจาเด็กอวน ขาขอเตือนเจา มิอนุญาตใหชักจูงผูอื่นไปในทางมิชอบ รีบไปเลือก
อาจารยใหไว” หญิงสาวบีบใบหนาอวนทวนของเขาอีกครา และเพิ่งจะรามือบัดเดี๋ยวนี้
เอง
ทันใดนั้น มีขนนกสีขาวสะอาดลอยมาเสนหนึ่ง ยาวหลายหมี่ ดานบนมีลูกศิษยหญิง
และชายยืนอยูหนึ่งคู กลาวรายงานเรื่องราวบางอยางแกเหลาผูอาวุโส
“อะไรนะ?” เหลาผูอาวุโสลวนตะลึงงัน พลันเบาเสียงลง เห็นไดชัดวากําลัง
ปรึกษาหารือกันอยู
จากนั้นผูอาวุโสสงเฟยก็ลุกยืนขึ้นแลวกลาววา “ยกมาที่นี่!”
ฝูงชนตางประหลาดใจ ไมทราบวาเกิดเรื่องอันใดขึ้น
ไมนานนัก หนังสัตวเกาแกผืนหนึ่งเกิดอักขระสวางวาบ อยูเหนือพื้นดินหมี่กวา พุง
ตรงมาอยางรวดเร็ว ดานบนมีผูกลาหลายนาย นอกจากนี้ยังมีหินแกรงกอนหนึ่งอีกดวย
“นั่นคืออะไร หินประหลาดนั่นคือเทพารักษงั้นรึ?” ชายหนุมหลายคนลวนอยากรู
อยากเห็น
“ประเดี๋ยวคอยไปเลือกอาจารย กลับมาใหหมด!” ผูอาวุโสสงเฟยกลาว
เด็กๆ ที่ถูกนําตัวไปในตอนตนตางหยุดชะงักไปชั่วขณะ กลับมายังเบื้องหนารูปปน
ปรมาจารยอีกครั้ง
ผูอาวุโสเหลานั้นใบหนานิ่งเฉย โดยเฉพาะผูอาวุโสสงเฟยกับเฉายวิ๋นกลับยิ่งหนาดํา
คร่ําเครียด มองอยางไรก็รูสึกวาพวกเขามีอารมณไมสูดีนัก
เจาตัวเล็กมีสีหนาประหลาด มิพูดความใด ยืนรวมกับชายหนุมเหลานั้นอยางยากจะ
สงบ
“ใหพวกเขาดูสิ!” ผูอาวุโสเฉายวิ๋นกลาว
หินแกรงถูกยกขึ้นบนแทนสูง ประจันหนากับฝูงชน เผยตัวอักษรหนึ่งบรรทัดวา
‘พรสวรรคอันปราดเปรื่อง มากดวยคุณธรรม’
เหลาชายหนุมดานลางฮือฮาขึ้นมาทันที พวกเขาลวนเปนผูองอาจในวงศตระกูล
สวนมากอายุจะอยูในชวง 13-14 ป ตางเคยเขาสูโลกแหงความวางเปลา รูจักสอง
ประโยคนี้เปนอยางดี
“เด็กติดนม!”
“นี่เปนสิ่งที่เด็กประหลาดคนนั้นเหลือทิ้งไว ลายมือเหมือนกันราวกับแกะ เขาเขามา
ศาลาปดฟาแลวรึ?”
“เปนไปมิได เด็กเหลือขอคนนั้นหลบหนีไปแลวมิใชหรือ หรือสุดทายก็กลายเปน
ศิษยอยางนั้นรึ?”
คน 3000 กวาอุทานอยางตะลึงพรึงเพริด
ผูอาวุโสเฉายวิ๋นสั่งใหหันหินแกรงกลับไป หันหลังไปทางฝูงชน ปรากฏตัวอักษรอีก
หนึ่งบรรทัดวา ‘คอนในกํามือ ขาเปนใหญในปฐพี’
ฝูงชนตะลึงงัน ระเบิดเสียงหัวเราะอยางอดรนทนไมไหว วิพากษวิจารณกันเซ็งแซ
มีเพียงบุรุษชุดเงินที่กําหมัดแนน จากนั้นรีบกุมหนาผากไว เพราะเมื่อถูกกระตุน
เสนเลือดเขียวบริเวณกลามเนื้อปูดจะเตนระริก ทําใหเขาเจ็บปวดรวดราวอีกหน
“เปนเขาจริงเสียดวย!” ชายชุดเงินกัดฟนดวยความเคียดแคน
ผูอาวุโสสงเฟยตีหนาเครงขรึมแลวพูดวา “ขาคิดวาพวกเจารูแลววาเปนใคร เปนไป
ไดวาเจาเด็กเหลือขอคนนี้อยูในศาลาปดฟาแหงเรา บัดนี้ขอมอบหมายงานแกพวกเจา
...”
ผูใ ดก็มิคาดคิด ผูอาวุโสสงเฟยจะออกหมายนําจับเชนนี้วา หากผูใดพบตัวเด็กติดนม
หรือมีเบาะแสของเขา ใหเรงแจงเหตุ จะไดรับสิทธิเปนลูกศิษยคนสําคัญยิ่ง
“โครม!”
ที่แหงนี้อกึ ทึกครึกโครมขึ้นมาโดยพลัน เหลาบุรุษสตรีกวา 3000 ชีวิตลวนฮึกเหิม
ระทึกใจ!
เจาตัวเล็กเหยียดริมฝปาก นี่อํามหิตโหดเหี้ยมเหลือเกิน เขาเพิ่งเขาสูสํานัก กลับ
กลายเปนผูตองหาตามหมายจับไปเสียแลว หรือตาแกพวกนี้ตรวจพบอะไรบางอยาง จึงรู
วาเขาอยูในกลุมคนเหลานี้หรือ? ตองระวังตัวสักหนอย จะประมาทมิได!
“จับตัวไอเวรไมนาใหอภัยผูนี้ใหจงได!” เหลาลูกศิษยที่เพิ่งเขาสูสํานักกูรอง สุระดัง
กึกกองอยางหาที่เปรียบไมได
เจาตัวเล็กซอนตัวยังจุดลึกของกลุมคนอยางหนามอยคอตกทันใด รวมตะโกนเสียง
ดังวา “จับตัวเจาเด็กเหลือขอใหได!”
“เอาละ พวกเจาไปเลือกอาจารยเถิด” เหลาผูอาวุโสโบกมือ
เจาตัวเล็กเดินเขาไปหากลุมคนที่คอนขางคุนเคยเมื่อครู ติดตามสตรีชุดขาวผูนั้นไป
เลือกอาจารย ทวาเดินวกไปวนมาก็ไรประโยชน ทุกหนแหงเบียดเสียดยัดเยียด เนื่อง
ดวยปนี้จํานวนคนมากมายเหลือเกิน
“เอาเถิด เด็กกลุมนี้ใหเปนหนาที่ของขากับเฉายวิ๋นเถิด” ผูอาวุโสสงเฟยเดินเขามา
“หา?!” เจาตัวเล็กตะลึงลาน ตาแกทั้งสองถูกเขาเลนงานเจียนกระอักเลือด บัดนี้
กลับเปนอาจารยของพวกเขา ตอไปจะอยูอยางสุขกายสบายใจไดหรือ?
สตรีชุดขาวผูนั้นแอบหยิกแกมอวบอิ่มของเขาแลวแสรงพูดอยางโมโหวา “หาม
เลนพิเรนทรเด็ดขาด ไดทานทั้งสองสั่งสอนพวกเจานั้น ถือวาเปนบุญของพวกเจา ตอง
ทราบวาพวกทานเปนผูอาวุโสสูงศักดิ์ ทําเชนนี้ บรรดาศักดิ์อลหมานไมนอยเลย”
เหลาบุรุษสตรีดวงตาเปนประกายโดยพลัน เจาตัวเล็กทําหนาพองลมอยางชวยไมได
ถลึงตาจนโต พยายามแสรงทําสีหนาประหลาดใจและปลื้มปติ แทจริงภายในใจกระวน
กระวายจวนตายแลว
ในความเปนจริงแลว สงเฟยและเฉายวิ๋นเองก็อับจนหนทาง ทั้งสองรับศิษยกวา
100 คน นี่มันเรื่องอะไรกัน? นี่สามารถสอนตัวตอตัวไดหรือ? ไมมีทางเลือก หนนี้พวก
เขาทําพลาดครั้งใหญ ทําไดเพียงเปนผูตามเก็บงานหนักเทานั้น
“ไป ขาจะพวกเจาไปดูที่พัก” สตรีชุดขาวพาศิษยใหมกวา 100 ชีวิตมุงหนาไปอีก
บริเวณหนึ่ง ระหวางทางก็บอกกลาวกฏระเบียบบางสวนอยางตอเนื่อง ยิ่งกวานั้นคือ
ตักเตือนอยางเอาจริงเอาจังวา หามไปยังเขตสถิตของเทพารักษเปนอันขาด อยาแมแต
จะรบกวน
นี่เปนเขตภูหิน ศิษยใหมทั้ง 3000 คนตางก็พักอาศัยอยูที่นี่ สิ่งปลูกสรางรายเรียง
ปาไผรกชัฏ สภาพแวดลอมไมเลวเลยทีเดียว
สิ่งที่ทําใหเจาตัวเล็กปลื้มอกปลื้มใจคือ ผูอาวุโสทั้งสองจะโผลหนามาเพียงครั้งเดียว
ในระยะหลายวัน อีกทั้งเมื่อสิ้นคําอธิบายอักขระกระดูกแลวก็จะจากไปอยางเรงรีบ มิได
โอเอเสียเวลานานนัก
“ชีวิตแหงความสุขเริ่มตนขึ้นแลว ไยเจาลูกขนยังไมเขามากันนะ?” เจาตัวเล็ก
กะพริบตาเปนประกาย
หลายวันผานไป เขายังคงไมพบตัวเจาลูกขน แตกลับพบกับชิงเฟงเขาโดยบังเอิญ
เขาขมวดคิ้วทันใด เนื่องจากบนรางกายของชิงเฟงมีบาดแผล ฟกช้ําดําเขียวทั้งตัว
เจาตัวเล็กมิไดเขาไปหา แตกลับกําหมัดแนนในมุมมืด
“มันผูใดเปนผูกระทํา นี่แคไมกี่วัน แตกลับขมเหงชิงเฟง หรือเปนเพราะการบําเพ็ญ
ตนของเขาต่ําเกินไป?” เจาตัวเล็กขมวดคิ้ว แตมิไดมุทะลุบุมบาม
เนื่องดวยอยูในศาลาปดฟา มิใชดินแดนรกราง หากผลีผลาม อาจนํามาซึ่งปญหา
ใหญ จําตองระมัดระวัง
อยางไรก็ตาม เขาปลอยปะละเลยมิไดเปนอันขาด ชิงเฟงกับเขาดุจดั่งพี่นองรวม
สายเลือด เพิ่งเขาสูศาลาปดฟาก็ถูกรังแกเชนนี้ รางกายเต็มไปดวยบาดแผลฟกช้ํา
อยางไรก็ตองถามหาความยุติธรรมอยางแนนอน
บทที่ 107
ณ โลกแหงความวางเปลา เอะอะโวยวายจนสะเทือนไปทั่ว
เด็กเหลือขอไปศาลาปดฟาจริงๆ มิเพียงขุดกระดูกล้ําคาในบริเวณที่ 8 เทานั้น ยังลัก
ยาล้ําคาตนหนึ่งไปดวย ยิ่งกวานั้นคือทิ้งหินแกรงกอนหนึ่งไวในสนามรบแหงที่สอง
พฤติกรรมของเขากอเกิดคลื่นลูกใหญเปนวงกวาง
“เด็กคนนี้จะขัดบัญชาสวรรคหรือ นั่นเปนถึงดินแดนสุขาวดีโบราณ แตเขากลับกอ
หายนะไปทั่ว ผูอาวุโสสงเฟยผูนาสงสาร และผูอาวุโสเฉายวิ๋นผูนาเวทนาคงเคียดแคน
เจียนกระอักเลือดแลวกระมัง”
“เด็กคนนี้ก็เปนเหมือนเคย ลักษณะนิสัยมิเปลี่ยนแปลง เรื่องราวต่ําชาดั่งเชนขุด
กระดูก ลักยามิเคยละเวน กลับยิ่งช่ําชอง”
“ฮาฮา นาสนใจนัก หมูคนนับพันผานปราการสําเร็จ ลวนตองขอบคุณน้ําใจเจาเด็ก
คนนั้น ปหนาศาลาปดฟาจะเปดรับสมัครลูกศิษยอีกหรือ? ขาวาหมดหวังเสียแลวละ!”
ขาวคราวแพรสะพัดไปทั่วโลกแหงความวางเปลาไวยิ่งนัก ผูคนรับรูเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ณ สนามรบแหงทีส่ องในวันนี้ในเวลาอันรวดเร็ว
“ชางนาสนใจเหลือเกิน เหลาผูอาวุโสที่โมโหโทโสจนกระอักเลือดแหงศาลาปดฟา
เริ่มออกหมายนําจับเจาเด็กเหลือขอ ไมรูวาหนสุดทายจะจับกุมไดหรือไม”
หัวขอประเด็นรอนที่สุดในโลกแหงความวางเปลาตอนนี้ตองเกี่ยวของกับเด็ก
เหลือขออยางแนนอน เด็กคนนี้พิลึกพิลั่นสมคําร่ําลือ เหยียบยางไปแหงหนใดก็ไม
อางวาง ตองทําเรื่องมินาใหอภัยสักหนอยเปนแนแท
“พวกเจาวาเซียวเทียนไดเนื้อปูดบนหัวมาไดอยางไร?”
“ตามการคาดการณของขา ตองเปนพฤติกรรมของเด็กคนนี้อยางแนนอน พวกเจา
ลืมตัวอักษรบนกอนหินบรรทัดนั้นแลวหรือ คอนในกํามือ ขาเปนใหญในปฐพี เนื้อปูดบน
หัวของหนุมชุดเงินนั่น ตองเกิดจากเจาเด็กคนนั้นฟาดดวยหนึ่งคอนทุบเปนแนแท!”
“ฮิๆ ฮาๆ...”
โลกแหงความวางเปลาเต็มไปดวยเสียงหัวเราะ ชายชุดเงินในศาลาปดฟาเจียนคลุม
คลั่ง
ภูหินกลุมนี้ไมสูงมากนัก แตกลับปกคลุมดวยไอมงคล ยิ่งกวานั้นคือสมุนไพรเกาแกที่
งอกเงยระหวางซอกหินเหลานั้น กลิ่นหอมหวนตลบอบอวล เปนธรรมชาติและมงคล
อยางยิ่ง
บริเวณละแวกใกลเคียงเต็มไปดวยตนไผ บานชองตั้งเรียงราย ในขั้นตนศิษยใหมนับ
3000 กวาคนตางพักอาศัยอยูที่นี่
หลายวันตอมา ผูมีพรสวรรคบางสวนถูกคัดเลือกไป อยางเชนชายหนุมชุดเงินเปน
ตน พฤติกรรมของพวกเขาในสนามรบแหงที่สองนาตื่นตะลึงนัก
ตอมา เจาตัวเล็กพบวาอยูที่นี่ไมมีอิสระนัก กลับตองทํางานหนัก ยกตัวอยางเชนรด
ไรสมุนไพรดวยน้ําพุวิเศษ ขุดเหมืองแรหายากเปนตน
“ขามาบําเพ็ญตน ตาแกสองคนนั้นโผลหนาออกมาเพียงหนเดียว เพียงถายทอด
ความรูบางสวนที่ขารูอยูแลว การอยูที่นี่เสียเวลาขานัก” เจาตัวเล็กไมพอใจ
“อยาบนไปหนอยเลย ศิษยที่เขาสํานักใหมลวนเริ่มจากจุดต่ําสุด มิเชนนั้นคนเขาจะ
ถายทอดอักขระกระดูกและเคล็ดวิชาล้ําคาเจาหาสวรรควิมานอะไร นอกจากพรสวรรค
ของเจาเพียงพอจะเขยาขวัญผูคน จึงจะไดรับความสนใจ” ชายหนุมอายุ 14-15 ปคน
หนึ่งกลาว
“ก็ได!” เจาตัวเล็กพยักหนา หลายวันมานี้เอาแตนั่งจองไรสมุนไพรตาละหอย
เมื่อใดจะถึงเวรรดน้ําตนไมของเขา? จิตใจของเขาคาดหวังรอคอย นาเสียดายที่ไมถึงที
ของเขาเสียที
เมื่อหยุดคิดเรื่องเหลานี้ เจาตัวเล็กก็ใครครวญเรื่องราวของชิงเฟง นี่ก็ชางขมเหง
รังแกกันนัก เขาตองจัดการ ทวาตอนนี้เขารูเพียงวาอัจฉริยะเหลานั้นอาศัยอยูที่ใด แต
กลับไมรูวาผูใดทําใหชิงเฟงไดรับบาดเจ็บ
เขาอยากลักลอบเขาไป แตก็เกรงจะถูกพบตัวเขา เนื่องจากนี่เปนถึงดินแดนสุขาวดี
มือดีนากลัวเฝาระวังอยูแหงหนใดบางใครเลาจะรู
“เจาลูกขน เจาคนไมเอาไหน เมื่อใดเจาจึงจะมา?” เจาตัวเล็กพึมพํา
สองวันตอมา วัตถุจิ๋วเนื้อตัวมอมแมมตัวหนึ่งปรากฏตัว ทําตัวลับๆ ลอๆ ขยับจมูก
เล็กฟุดฟด มาถึงหนาที่พักของเจาตัวเล็กจนได
“ปง”
เพียงชั่วครูประตูก็ถูกผลักออก เจาตัวเล็กพุงตัวออกมา ควาหมับเขาที่หางของเจา
ลูกขนแลวหิ้วมันขึ้น
“เจี๊ยกๆ...” ลูกขนตอตาน สงเสียงรองอยางเดือดดาล
“ทําไมเจาเพิ่งมา เจาไปไหนมา วาว บนอุงเล็บมีกลิ่นยาวิเศษ เจาจัดการไปกี่ตนกัน
แน?” เจาตัวเล็กพบรากเหงาแหงปญหาโดยทันที
ลูกขนขวยเขิน สุดทายก็ยื่นอุงเล็บออกมาขางเดียว จากนั้นก็รองเอะอะอยางโมโห
ขึ้นมาทันที มันพบวายาวิเศษมิไดมีเพียงชนิดเดียว ลวนเติบโตในเขาวิเศษที่พนไอมงคล
เดินเตรอยูหลายวัน มันเสี่ยงอันตรายลงมือไปเพียงหนเดียวเทานั้น
เฝาคอยภูเขาวิเศษเรียงรายเชนนี้ กินยาวิเศษไปเพียงตนเดียวเทานั้น สําหรับเจาลูก
ขนแลว นี่ถือวาเปนเรื่องอัปยศอดสูยิ่งนัก มันจึงโกรธเกรี้ยวกับความไมยุติธรรมนี้
เจาตัวเล็กทั้งจิกทั้งทึ้งมันแลวพูดวา “พอไดยาวิเศษก็ลืมขาเสียแลว เจาจงใจซอนตัว
ใชรึไม เจาแอบกินไปแลวใชไหม?”
เจาลูกขนยื่นอุงมือขางหนึ่งออกมาทําทาทําทางพลางสงเสียงรองเจี๊ยกๆ มันกําลังดู
หมิ่นดูแคลนเจาตัวเล็ก เพราะแมแตมันเองก็ไดยินเรื่องพิลึกกึกกือที่เขาทําในบริเวณที่ 8
กับสนามรบแหงทีส่ อง
เมื่อถูกลิงตัวเทากําปนเหยียดหยามเชนนี้ เจาตัวเล็กจําตองแกไขใหถูกตอง ทั้งจิกทั้ง
ทึ้ง จากนั้นกลาวดวยสีหนาเครงขรึมวา “ชิงเฟงถูกรังแก เจาแอบไปถามเขาเสียหนอยวา
เกิดอะไรขึ้นกันแน”
เมื่อกลาวถึงเรื่องสําคัญ ดวงตาของลูกขนกลิ้งไปมา มิไดปฏิเสธ มันหายวับไปอยาง
รวดเร็ว
นี่เปนดินแดนวิเศษ ยอดเขาเขียวขจี ไอหมอกกระเพื่อมขึ้นลง เหมาะแกการบําเพ็ญ
ตนยิ่งนัก ดีเลิศกวาสถานที่พํานักอาศัยของศิษยสามัญเปนไหนๆ เพราะที่นี่เปนของเหลา
ผูมีพรสวรรคทั้งหลาย
ทวาชิงเฟงในตอนนี้ใบหนาบวมปูด นั่งทําแผลอยูในบานไมเพียงลําพัง รองโอดโอย
ไมขาดสาย
“เมื่อใดขาจึงจะบรรลุขั้นถ้ําสวรรคนะ มิเชนนั้นคงถูกคนพวกนั้นรังแกอยูทุกเมื่อ
เชื่อวัน” เขาพึมพําเสียงเบาเคลาความโศกเศรา
หากกลาวโดยภาพรวมแลว เขาอายุนอยนัก การบําเพ็ญตนออนดอย เมื่อมาถึงที่นี่ก็
ถูกเพงเล็ง หาเรื่องเขา ลงมืออยางเหี้ยมโหด กระหน่ําตีรางกายเขาจนฟกช้ําดําเขียว
มากกวาครึ่ง
นี่เปนบาดแผลช้ําใน ยากจะสมานกัน ทําไดเพียงคอยๆ รักษาตัว แตคนเหลานี้กลับ
หาเรื่องเขาทุกวัน ลงมือกับเขาอยางปาเถื่อน
ชิงเฟงมิเขาใจ กระทั่งวันนีจ้ ึงรูวา หากอยูในคายอัจฉริยะแลวไมมีความกาวหนาแม
เพียงนิด จะถูกคัดออก และถูกแทนที่โดยคนภายนอก
“พวกเขาไมยอมใหขารักษาตัวจนหาย จึงอยากใหอาการของเขาทรุดตัว การ
บําเพ็ญตนไมกาวหนา รอวันถีบขาออกไป เพื่อใหคนของพวกเขาเขามาแทนได” ชิงเฟง
พึมพํา บนใบหนาเล็กเต็มไปดวยรอยฟกช้ํา ขยับเพียงนิดก็เจ็บปวดรวดราว
เขาไมคิดวาการแขงขันที่นี่จะโหดรายทารุณและดุเดือดเพียงนี้ แมแตชายหนุมอายุ
ไมมากเหลานี้ก็ฉกฉวยโอกาสเชนนี้ สรางกลุมรวมตัวกันขึ้น ปจจัยสําคัญคือ ผงยาล้ําคา
และตํารากระดูกที่คายอัจฉริยะแจกจายทุกตนเดือนนั้นดีเลิศกวาโลกภายนอกอยูมากโข
จึงทําใหคนเจริญวัฒนาอยางกาวกระโดด
“จะอยางไรก็ตาม ขาตองกล้ํากลืนฝนทนใหถึงตนเดือน รอวันแจกจายผงยาเพื่อ
นํามารักษาบาดแผล ขณะเดียวกันก็จดจําเนื้อหาในตํารากระดูกเพื่อพี่ชายของขา” ชิง
เฟงพึมพํา อดทนกัดฟนไว
เขารูวาแมคนเหลานั้นจะแข็งแกรง แตก็ยังมิใชบุคคลที่นากลัวที่สุด เพราะพวกเขา
ยังมีที่พึ่งพิง
“ขาจะตองยืนหยัดใหไหว อยูที่นี่ตอไป เทพารักษที่อยูใจกลางดินแดนสุขาวดีจะ
ถายทอดวิชาความรูหลายหนในทุกๆ ป ตามตํานานกลาววาสะทานโลกายิ่งนัก ทําใหคน
หยั่งรูไดทนั ที ขาจะจดจําเนื้อหาเพื่อทานพี่”
เมื่อชิงเฟงจัดการทําแผลใหตัวเองเสร็จแลวก็นั่งขัดสมาธิบนเตียง เริ่มบําเพ็ญตน นา
เสียดายที่บนบาดแผลมีอักขระสะเปะสะปะ นั่นเปนสิ่งที่ชายหนุมเหลานั้นฝากทิ้งไว ยาก
จะชําระใหสะอาดชั่วขณะ จึงสงผลเสียตอการบําเพ็ญตน
“เฮอ หากวาทานพี่อยูที่นี่ คงจะกําราบพวกเขาไดภายในหนึ่งฝามือ แตวา ขาจะเอา
แตพึ่งทานพี่ทุกอยางมิได ขาจะตองพยายามดวยตัวเอง หากระยะการบําเพ็ญของขา
ยาวนานเชนพวกเขา ขาก็ไมดอยไปกวาพวกเขาอยางแนนอน!” ชิงเฟงใหกาํ ลังใจตัวเอง
นอกหนาตางมีวัตถุขนาดเล็กดอมๆ มองๆ อยู จากนั้นคลานเขามาดังซวบ
“เจาลูกขน!” ชิงเฟงตื่นเตนระคนประหลาดใจ หลายวันมานี้เขาอางวางเหลือเกิน
ถูกขมเหงรังแก หวนคํานึงถึงความอบอุนในหมูบ านหินผา เขาอาลัยอาวรณยิ่งนัก ไมพบ
ลูกขนเพียงไมกี่วัน น้ําตาพานจะไหลออกมา
“เจี๊ยกๆ”
ลูกขนสงเสียงรองดวยความโมโห เมื่อเห็นรอยฟกช้ําหลายแหงบนรางกายของเขา
รอยเหลานั้นลวนเปนบาดแผลช้ําในที่มีอักขระ มันนั่งไมติดขึ้นมาโดยพลัน เพราะอาศัย
อยูดวยกันมาตลอด จึงเกิดความสัมพันธตอชิงเฟงเปนเวลาเนิ่นนานแลว
“ไมเปนไรหรอก ขาไมเจ็บ” ชิงเฟงปลอบใจมัน
“เจี๊ยกๆ”
ลูกขนสงเสียงรองดวยความไมพอใจอยางไมขาดสาย ความหมายของมันคือ ตองแก
แคน
“เจาอยาไปเลย หากถูกพวกเขาพบเขา เจาคงหนีไมพนเปนแน พวกเขารายกาจ
นัก” ชิงเฟงพูดปลอบขวัญ
ลูกขนสงบลง เกาหัวเกาแกม ชี้มือชี้ไม เพื่อใหชิงเฟงเลาความเปนไปแกมัน มันจะ
นําไปบอกกลาวเจาตัวเล็กในภายหลัง เมื่อถึงเวลาคอยจัดการกับคนพวกนั้น
“ทานพี่ไดเขารวมศาลาปดฟา ขาดีใจยิ่งนัก แตขามิอยากรบกวนเขาทุกเรื่อง มิ
เชนนั้นตัวขาคงไรประโยชนเหลือเกิน” ชิงเฟงกลาว
ลูกขนใชอุงเล็บฟาดโตะทันที ความหมายก็คือ เขารูตั้งนานแลว เจาไมพูด เขาจะยิ่ง
เปนหวง
ชิงเฟงตื้นตัน ไมเพียงแตทานพี่ที่เปนหวงเปนใยเขา แมแตลูกนอยตัวนี้ก็เชนกัน
ดวงตาของเขาแดงก่ําขึ้นมาทันที น้ําตาหลั่งริน บอกเลาเรื่องราวทีป่ ระสบพบเจอในระยะ
นี้
คอนคืนหลัง ลูกขนกลับมาแลว เจาตัวเล็กรับรูเรื่องราวทัง้ หมด พลันหนาดําคร่ํา
เครียด เดินไปเดินมาในที่พัก
“ชายหนุมเหี้ยมโหดหลายคน มีอัจฉริยะแซอวีค่ อยหนุนหลัง เปนตระกูลสายฝนใน
ประเทศหินผางั้นรึ?” เจาตัวเล็กพึมพําดวยแววตาเย็นเยือก
“จัดการคนเหลานั้นเสีย บางทีอาจยั่วยุชนเผาสายฝนใหโผลหางออกมา สุดทายจะ
ดึงสือยี่เขามาพัวพันดวยหรือไม?” แมเรื่องนี้จะเล็กนอย แตเจาตัวเล็กกลับคิดการณไกล
ลูกขนโบกอุงมือไปมาอยูขางเคียง แสดงทาทางโหดเหี้ยมยิ่งนัก
เจาตัวเล็กหัวเราะแลวพูดวา “ลูกขน เจาจงจําไวใหดี พุงออกไปทุบตีสังหารทันที
มิได นั่นเปนสิ่งที่คนปาเถื่อนเทานั้นจะกระทํา”
ลูกขนเตนแรงเตนกาขึ้นมาโดยพลัน สงเสียงรองเจี๊ยกๆ ไมหยุด อุงมือคูนนั้ ชี้ไปชี้มา
บอกกลาววา เจาก็ทําอยูบอยๆ มิใชหรือ? ปาเถื่อนมาโดยตลอด
เจาตัวเล็กกลืนไมเขาคายไมออก เกาหัวแลวพูดวา “นั่นก็ขึ้นอยูกับสถานการณ
จัดการกับผูใด จําตองพุงชนอยางปาเถื่อนในดินแดนรกรางเชนนั้นอยูแลวละ”
ลูกขนเหยียดริมฝปาก แสดงความเหยียดหยาม
“วูว ใหขาลองคิดดูสักหนอย อีกสองวัน คนจากคายอัจฉริยะจะมาเยือนที่นี่ สําแดง
ความแข็งแกรงและไมธรรมดาของพวกเขา เพื่อปลุกเราพวกขาใหฮึกเหิม จัดการกับพวก
เขาในตอนนั้นแหละ!” เจาตัวเล็กกลาว
เขาไดรับขาวคราวนานแลว ในวันนั้นเหลาปรมาจารยจะไมถายทอดอักขระกระดูก
พวกเขาเองก็ไมตองทํางานหนัก เพียงรอคอยที่นี่ อัจฉริยะเหลานั้นจะมาดวยตนเอง
ประเด็นคือมีชายหนุมหลายคนไมพอใจ คิดวาเขาสํานักเพื่อการบําเพ็ญตน ยังตอง
ทํางานหนักไมหยุดหยอน ยากจะเขาใจ
และวาจาของเหลาผูอาวุโสก็ชางงายดาย หากแข็งแกรงเพียงพอ หากพรสวรรค
เหนือธรรมชาติ ก็สามารถเขาสูคายอัจฉริยะไดทนั ที มิตองทนอยูที่นี่ตอไป หนนี้จึงใหผูมี
พรสวรรคเหลานั้นมาที่นี่ เพื่อใหฝูงชนเห็นระยะหาง หลีกเลี่ยงการกลาวโทษไมสิ้นสุด
เชนนี้
สองวันผานไปในพริบตา กลุมผูมีพรสวรรคมาเยือน ปรากฏตัวกลางภูหินเหลานี้
คนเหลานี้มากดวยพละกําลัง แตละคนไมธรรมดา ลวนเปนอัจฉริยะบุคคลที่โดดเดน
จากชนเผาใหญ ศาลาปดฟาใหความสําคัญและเชื้อเชิญเขารวมสํานัก
อัจฉริยะกลุมหนึ่ง มีลักษณะพิเศษสมคําร่ําลือ แตละคนตางแข็งแกรงอยางยิ่ง!
บทที่ 108 คายอัจฉริยะ
ปาไผเขียวชอุม ไอวิเศษขมุกขมัว บนกอนหินตั้งเรียงรายมีสมุนไพรโบราณฝงรากลง
กลางซอกหิน สถานทีแ่ หงนี้เปนมงคลยิ่งนัก เปนที่พํานักอาศัยของเหลาลูกศิษยในสํานัก
ทวา เมื่ออัจฉริยะกลุมนี้มาเยือนกลับหนานิ่วคิ้วขมวดไมหยุด เพราะหากเทียบกับ
ดินแดนวิเศษของพวกเขาแลว ที่นี่แลดูซอมซอ ความเขมขนของกลิ่นอายวิเศษเทียบกัน
ไมติด
โดยเฉพาะบริเวณภูหินนี้เปลือยเปลา ปราศจากตนไมชั้นดี ขาดไอมงคล และ
สถานที่ที่พวกเขาอาศัยอยูยอดเยี่ยมกวามากโข ความเร็วของการบรรลุขั้นของการ
บําเพ็ญสามารถเพิ่มขึ้นไดเปนเทาตัว
ในตอนนี้ พวกเขาตางเตือนตัวเองอยางเงียบเชียบ จะถูกคัดออกจากคายอัจฉริยะ
มิไดเปนอันขาด เงื่อนไขภายนอกลําบากยากเข็ญนัก หากเทียบกันแลว จะทราบไดวา
สํานักปฏิบัติตอเหลาอัจฉริยะดีเหลือเกิน
“ศิษยนองทั้งหลาย พวกเขามาที่นี่เพื่อแลกเปลี่ยนการเรียนรู โปรดอยาทําลาย
มิตรภาพ” มีคนหนึ่งทามกลางกองทัพอัจฉริยะพูดดวยรอยยิ้ม ดุจดั่งแสงอาทิตยอบอุน
ใหความรูสึกสบาย
ฝูงชนพยักหนาอยางเห็นพองตองกัน
เขาสวมชุดขาว รูปรางผอมสูง อายุประมาณ 14-15 ป แมจะเปนบุรุษ แตกลับมี
บุคลิกลักษณะโดดเดน สมควรยกยองวาเปนผูมากดวยกําลังวังชา รูปโฉมงดงามดุจหยก
กลาวตอไปวา “การบําเพ็ญตนมีกอนมีหลัง แตไมมีสูงต่ํา พวกเราลวนเปนพี่นองรวม
สํานัก ควรรวมดวยชวยกัน”
เขาออนนอมถอมตนปานนี้ ยอมไดรับความรูสึกดีจากฝูงชน อยางไรก็ตามคนผูนี้ก็
เปนถึงผูมีพรสวรรค อีกทั้งอาจเปนอัจฉริยะบุคคลทามกลางคนเหลานี้
“ศิษยพี่มีนามวาอะไร?” ศิษยใหมเอยถาม
“ศิษยพี่ชุดขาวเหลอเหลายิ่งนัก!” หญิงสาวมากมายแววตาเปนประกาย ทอดมอง
ไปยังเบื้องหนา
“ขามีนามวา อวี่เฟง ขาเขาสํานักกอนพวกเจาไมกี่ป ทุกคนลวนเปนสํานักเดียวกัน
ตอไปตองการความชวยเหลือก็มาหาขาได” อวี่เฟงชุดขาวยิ้มแยม เสนผมดําขลับปลิวไป
ตามสายลม แววตาสุกใส ฟนขาวสะอาด ลักษณะเฉพาะตัวโดดเดนเหนือผูอื่น
“เขาคืออวี่เฟงหรือ?” ผูคนมากมายอุทานอยางตกตะลึง
ในระยะหลายวันนี้ ศิษยใหมทั้งหลายเขาใจเรื่องราวมากมาย ในที่สุดก็รับรูคราวๆ
แลววา ทามกลางศิษยรุนอื่นมีบุคคลเกงกาจใดบาง
อวี่เฟงเปนผูกลาอยางแนนอน เลื่องชื่อลือนาม แมจะตอสูกับคนอยางจํากัดเพียง
ไมกี่หน แตกลับมีชัยเหนือผูกลาทามกลางกลุมอัจฉริยะ อานุภาพยิ่งใหญนกั
ในอัจฉริยะหลายรุนนี้ มีไมกี่คนที่สามารถกําราบเขา นอกจากนี้ เขายังมีนองสาวอีก
คน มีนามวา อวี่หลิน งามเพริศพริ้งดุจบุปผา งดงามยิ่งนัก เปนอัจฉริยะสาวผูหนึ่ง
ชื่อเสียงลือเลื่อง
มีคนพูดผลการรบของเขาออกมาบางสวน นั่นทําใหผูคนเกิดความเคารพยําเกรง
ขึ้นมาโดยพลัน
เจาตัวเล็กมองอยูขางเคียงแลวพยักหนา อวี่เฟงผูนี้ไมธรรมดา จากนั้นก็ขมวดคิ้ว
ครุนคิด หรือนี่จะเปนคนหนุนหลังของกลุมคนที่รังแกชิงเฟง?
ทวามองจากลักษณะแลว เขาเปนถึงผูกลาแหงดินแดนสุขาวดีมินาจะเพงเล็งชิงเฟง
คนเหลานั้นกระทําการดวยตนเอง เพียงเพื่อบีบอัจฉริยะที่คอนขางดอยออกไป จากนั้น
รับคนฝายตนเขามาแทน
“ศิษยนองทั้งหลาย มีผูใดอยากทาทายรึไม?” ขณะนี้เองมีคนเปดปาก กายสวมชุด
เทา อายุ 14-15 ป รูปโฉมธรรมดาสามัญ พวกเขามาเพื่อประกาศศักดา รับคําสั่งจากผู
อาวุโส เพื่อใหศิษยใหมเห็นถึงระยะหาง
“ขาเอง!”
ชายหนุมคนหนึ่งอาสา เดินออกมาจากแถว ออกมาประลองกับชายชุดเทา
เสียงวิ้งดังขึ้น แสงสวางดวงใหญลอยขึ้น อักขระผนึกกําลัง แปลงรางเปนนกเขาสีรุง
ตัวหนึ่ง กระพือปกทะยานขึ้นฟา แผดรองยาว บินโฉบลงมาหาอัจฉริยะกลางสนามคน
นั้น
“วาว เคล็ดวิชาล้ําคา!” ฝูงชนตะลึงพรึงเพริด เคล็ดวิชาล้ําคาหายากนัก ศิษยเพิ่ง
เขาสํานักใหมจะหยั่งรูไดอยางไร นอกจากชนเผาใหญที่มีความเปนมายาวนานจึงจะมีไว
ครอบครอง
ชายชุดเทายืนอยูตรงนั้นไมขยับเขยื้อน มือขางหนึ่งวาดเบาๆ แสงสีแดงสวางวาบ
ปรากฏกําแพงขึ้นเบื้องหนา แนนหนาและทนทาน อีกทั้งเจิดจาพราตายิ่งนัก นี่เปน
กําแพงไฟสูงใหญ กอตัวจากเปลวไฟวิเศษ แผดเผาอยางดุเดือด ตัดขาดหนทาง
นกเขาสีรุงตัวนั้นรองโหยหวน กลายเปนเถาถานทันที กระจายเปนแสงสายฝน ผูทา
ประลองสงเสียงฮึดฮัด ลาถอยออกไป เขาพายแพเสียแลว อีกทั้งยังแพพายอยางไมมีชิ้น
ดี
ฝูงชนตะลึงลาน นี่เปนการเผชิญหนาเพียงหนเดียว ชายหนุมผูทาประลองรายเคล็ด
วิชาล้ําคาไมธรรมดา แตกลับปราชัยในพริบตา
ผูคนทั้งหมดตางเกิดความยําเกรงตอชายชุดเทา มองใบหนาธรรมดาสามัญของเขา
ไมคิดวาเพียงหนึ่งสะบัดมือ จะปรากฏกําแพงไฟแข็งแรงทนทานและแนนหนาเชนนี้
ทําลายเคล็ดวิชาล้ําคาอันแข็งแกรงจนสิ้นซาก
หนุมชุดเทาไมเอยคําใด ถอยหลังหายไป นี่ก็คือผูมีพรสวรรค โจมตีอยางงายดาย แต
กลับมีอานุภาพถึงเพียงนี้ ทําใหศิษยใหมผูยิ่งใหญแพพาย
ตอมา มีคนเดินออกมาจากคายอัจฉริยะอีกหนึ่ง รูปรางสูงใหญราว 2 หมี่ รางกาย
คอนขางกํายํา เสนผมดําขลับปลอยสยาย มีกลิ่นอายอันสัมผัสไดลอยมาปะทะใบหนา
“ขาเขาสํานักมา 4 ปแลว นานกวาพวกเจาหลายปนัก อายุขาก็ 18 ปแลว หากลง
มือไมยุติธรรมนัก พวกเจามาโจมตีขาดีกวา ขาจะไมตอบโต” ยามเขาพูดมากดวย
พละกําลัง ประหนึ่งระฆังใหญสงเสียงกองกังวาน สะเทือนจนหูทั้งสองขางดังวิ้งวิ้ง
“เชนนี้ก็ไดหรือ?” มีคนจํานวนไมนอยอยากจะลองดูสักตั้ง
ในที่สุดมีชายหนุมคนหนึ่งกาวออกมา ตะเบ็งเสียงดัง อักขระผนึกกําลังบริเวณงาม
นิ้ว แปลงรางเปนหอกยาวดามหนึ่ง กอตัวจากอักขระทั้งหมด กระจายกลิ่นอายนาพรั่น
พรึง นากลัวยิ่งนัก
ฝูงชนอกสั่นขวัญแขวน แมแตคนในคายอัจฉริยะเองก็ตะลึงงัน ทามกลางศิษยสามัญ
เหลานี้กลับมีคนที่แข็งแกรงปานนี้ เหนือความคาดหมายของคนอยางแทจริง เกรงวาคง
มิดอยกวาหลายคนในกลุมพวกเขานัก
“ไป!”
ชายหนุมผูนี้ตะโกนลั่น หอกแสงพุงออกไปดั่งสายฟา พละกําลังทั้งหมดรวมอยูที่
เดียวกัน เปลงเสียงโลหะกระทบกันดังเครงเสมือนจริง นากลัวอยางหาที่เปรียบไมได พุง
ไปหาอัจฉริยะสูงใหญกํายําผูนั้น
ผูคนตางหัวใจสั่นไหว หากหอกนี้ทิ่มแทงรางกายตน กลาตอตานงั้นหรือ? แมแต
อัจฉริยะบางสวนตางรูสึกราวกับกลองรัวอยูในใจ เกิดความหวาดกลัวเล็กนอย
อยางไรก็ตาม อัจฉริยะสูงใหญผูนั้นยืนไมขยับอยูตรงนั้นจริงๆ เพียงแครางกาย
ปรากฏแสงสีทองชั้นหนึ่ง กลายเปนน้ําวนสีทองกลุมแลวกลุมเลา โคจรรอบรางกายของ
เขา อักขระมากเหลือคณานับ พิศวงอยางยิ่ง
เมื่อหอกคมดามนั้นพุงมาเขาใกลรางกายของเขา น้ําวนสีทองเหลานี้กลับยิ่ง
เคลื่อนไหวรุนแรงมากขึ้น เกิดเสียงแควกดังลอยมา หอกคมทิ่มแทงเขาไป แตกลับถูกบด
ขยี้จนแหลก กลายเปนแสงสายฝน
ฝูงชนตางพากันสูดลมหายใจเย็นเยียบ นี่เปนพลังปองกันตัวชนิดใดกัน โหดเหี้ยม
และเด็ดขาดเหลือเกิน ผูคนตางอุทานอยางตื่นตะลึง
ผูทาประลองพายแพอยางปราศจากขอกังขา
“ศิษยพี่ นี่เปนพลังอะไรหรือ?” เจาตัวเล็กแววตาเปนประกาย เอยถามโดยหลบ
ซอนกลางฝูงชน
“นี่คือพลังเกลียวคลื่นน้ําวนสีทอง กําเนิดจากอักขระคุมกายของนกยักษสีทอง”
อัจฉริยะสูงใหญตอบตามความจริง
“รายกาจนัก พวกขาเรียนไดหรือไม?” ศิษยใหมหลายคนตางเผยสีหนาแหงความ
ปรารถนา
“หากพวกเจามีโอกาสก็เขาไปยังหอเก็บคัมภีร ที่นั้นมีตํารากระดูกมากมายให
เลือกสรร ตอนนั้นขาพบกระดูกสีทองเปรอะเปอนเถาถานชิ้นหนึ่งตรงมุมหนึ่ง ศึกษาจาก
มัน นาเสียดายที่พบเพียงมวนเดียว” เขาพูดอยางไมปดบัง
พลังวิเศษเชนนี้แมจะเทียบไมไดกับพลังคุมกายของเผาพันธุนกยักษสีทอง แตนาตื่น
ตะลึงยิ่งนัก หากเสาะหาที่เหลือพบในหอเก็บคัมภีร คงนากลัวยิ่งนัก
“หากมีโอกาส ตองคิดหาวิธียัดเจาลูกขนเขาไปในหอเก็บคัมภีรใหจงได!” เจาตัวเล็ก
นัยนตาเปนประกาย หัวเราะอยางเบิกบานใจยิ่งนัก เผยเขี้ยวเสือระยิบระยับ
ฝูงชนตางปรารถนา หอเก็บคัมภีรมีมาแตบรรพกาล ไมรูวาจัดเก็บตํารากระดูกไว
มากมายเพียงใด ตองมีพระสูตรจํานวนมากเหลือคณานับเปนแนแท ผูคนลวนใฝหา
แตเหลาศิษยใหมรูดีวา การจะเขาไปคงยากนัก ไมรูวาตองผานเงื่อนไขเพียงใดจึงจะ
มีโอกาส คนทั้งหมดเริ่มคาดหวัง รอคอยใหวันนั้นมาถึงในเร็ววัน
ตอมา ศิษยผูมีพรสวรรคลงสนามอยางตอเนื่อง ศิษยใหมนับสิบออกมาทาประลอง
อยางไมขาดสาย แตกลับพายไปอยางไรขอกังขา ไกลจากคําวาคูตอสูอยูหลายขุม
แมแตชายชุดเงิน เซียวเทียนก็ลงสนาม เขาเปนศิษยอัจฉริยะคนใหม ปรากฏวา
แข็งแกรงเชนเดียวกัน เพียงหนึ่งสะบัดมือ แสงสีเงินก็กลายเปนสายฝน กลืนศิษยหญิง
คนหนึ่งจนปลิวหายไป
“สุดยอด!” คนมากมายอุทานอยางตกตะลึง
เมื่อเซียวเทียนไดฟงก็พยักหนาตอบรับอยางเปนมิตร
“ผูมีลักษณะพิเศษนี่เอง!” มีคนอุทาน กลาวยกยองเสียงดังลั่น
ชายชุดเงินนิ่งไมไหวติงทันใด จากนั้นเสนเลือดเขียวบนหนาผากก็เตนตุบๆ กล้ํากลืน
ฝนทนแรงปะทุภายใน ลาถอยไปอยางเชื่องชา
เจาตัวเล็กหัวเราะฮิฮิ
ฝูงชนกลาวยกยองสรรเสริญ เขาใจวาระยะหางไกลหางเพียงใดในที่สุด เมื่อ
เปรียบเทียบกับคนจากคายอัจฉริยะ หนทางที่พวกเขาตองเดินยังไกลนัก
ศิษยใหมตางมิยอมลงสนาม เพราะดอยกวาคนในคายอัจฉริยะจนเกินไป แมพวก
เขาจะเปนชายหนุมหญิงสาวโดดเดนที่ถูกคัดเลือกมาจากชนเผาใหญ แตในศาลาปดฟา
แหงนี้นับไมไดเลย
“เอาอยางนี้ พวกขาจะเลือกสรรศิษยนองที่คอนขางออนดอยคนหนึ่งในคาย
อัจฉริยะ พวกเจามาทาทายได” ชายหนุมคนหนึ่งกลาว อายุประมาณ 11-12 ป สวมชุด
สีน้ําเงิน ตาโตคิ้วเขม กลิ่นอายนาเกรงขาม เพียงมองก็รูวาเปนผูกลา
เขามีสีหนายิ้มแยม โบกมือใหคนจากคายอัจฉริยะผูหนึ่ง หมายเรียกเขาเขามา
เจาตัวเล็กคิ้วขมวดทันที นัยนตาพลันเย็นเยือก ฉายลําแสงนากลัว
“ศิษยพี่โจว ขากําลังบาดเจ็บ ตอนนี้ลงมือมิได” ชิงเฟงพรั่นพรึง เขาออนระโหยโรย
แรง รางกายช้ําในและฟกช้ําดําเขียวจํานวนมาก
โจวอวี๋หาวพูดดวยเสียงหัวเราะวา “ศิษยนองอยาไดถอมตนเชนนั้น แลกเปลี่ยน
ความรูกับทุกคนจึงจะกาวหนา”
รางกายของเขาแข็งแรง กลามเนื้อสีทองแดง ดวงตาปรากฏอักขระวูบวาบ แมกําลัง
ยิ้ม ใหความรูสึกอบอุน แตกลับเดินเขามาควาแขนของชิงเฟงแนน ออกแรงประหนึ่งคีม
เหล็ก ทําใหชิงเฟงรูสึกราวกับกระดูกจะปริแตก ณ ตรงนั้นทันที
“มาเถิดศิษยนอง อยาเอาแตเขินอายเชนนี้ อาศัยอยูในคายอัจฉริยะจะเอาแต
หมกมุนกับการบําเพ็ญตนมิได จําตองสรางปฏิสัมพันธกับคนจึงจะเปนการดี” โจวอวี๋
หาวพูดดวยรอยยิ้ม ดูเหมือนเปนศิษยพี่คนดี กําลังชี้แนะศิษยนอง ทําใหคนไมพบสิ่ง
ผิดปกติแมแตนิด
มีเพียงชิงเฟงที่อกสั่นขวัญแขวน กระดูกแขนของเขาเจียนหักแลว เขาถูกบังคับขู
เข็ญใหมาที่นี่ เขาไมอยากนอมรับการทาทายที่นี่เลย เพราะอาการบาดเจ็บรุนแรง ชาย
หนุมตรงหนากับอัจฉริยะอีกสองคนเปนผูทุบตี
“ชางเถิด อยาบังคับชิงเฟงเลย หากเขาไมสบายกาย ก็อยาใหเขาลงสนามเลย” คน
จากคายอัจฉริยะขมวดคิ้ว
อวี่เฟงชุดขาวพยักหนาแลวบอกวา “ชางเถิด”
เพราะหากชิงเฟงถูกศิษยสามัญโจมตีจนแพพาย พวกเขาจะตองอับอายขายขี้หนา
โจวอวี่หาวไดยินดังนั้นก็หัวเราะแลวกลาววา “เมื่อเปนเชนนี้แลว ใหคนในคาย
อัจฉริยะมาแสดงวิชา บอกเลาวิธีการใชอักขระอยางชาญฉลาดสักหนอย”
“ขอรับ!” เมื่อศิษยใหมไดยินก็ปลื้มปติยินดีขึ้นมาทันที
“ศิษยนองชิงเฟง พวกเรามารวมมือกันเถิด สําแดงพลังวิเศษของอักขระใหเหลาลูก
ศิษยเสียหนอย” โจวอวี่หาวเชื้อเชิญดวยความจริงใจ
ดวงตาของชิงเฟงเผยความหวาดกลัว ถอยตัวออกไป
“ไมเปนไรหรอก อยาเขินอายไปเลย พวกเราเพียงแคสําแดงวิชาเทานั้น มิไดตอสู
ตัดสินความเปนความตาย” โจวอวี่หาวกาวออกไป เริ่มลงมือเสียแลว
ชิงเฟงจําตองตอสูอยางฝนใจ มิเชนนั้นอาจไดรับบาดเจ็บสาหัสกวานี้
“ศิษยนองทั้งหลายจงมองใหดี นี่เปนวิธีการใชอักขระมัจฉามังกร เพียงสะบัดเชนนี้
สามารถสําแดงพลังลึกลับอันใหญยิ่ง โจมตีคูตอสูจนตัวลอย”
โจวอวี่หาวมีทาทีเครงขรึมจริงจัง มือขวาวาดวงแหวนสวยงามขึ้น ประหนึ่งมัจฉา
มังกรสะบัดหาง ปลอยอักขระออกมาอยางไมสิ้นสุดในพริบตา โจมตีชิงเฟง
แมชิงเฟงจะพยายามหลบซอนอยางสุดกําลัง แตอับจนหนทางเพราะฝายตรงขาม
หยั่งรูอักขระลึกซึ้งกวาเขานัก ฝามือวาดออกไป มัจฉามังกรตัวหนึ่งสวางวาบ ปรากฏขึ้น
อีกครั้งอยางสมจริง ทําใหเขาลอยลิ่วออกไปทันที
“ปง”
ชิงเฟงลอยพาดขึ้นแลวกระแทกลงบนพื้นดินอยางจัง กระดูกหนาอกแนบกับพื้นผิว
เย็นเฉียบ รูสึกราวกับตัวเองปริแตกเสียแลว อวัยวะภายในเจ็บปวดรุนแรง เวลาผานไป
เนิ่นนานก็ไมสามารถหยัดตัวลุกยืนได เขารูวาไดรับบาดเจ็บอยางแสนสาหัส อยากจะ
กระอักพนเลือด แตกลับไอไมออก
เห็นไดชัดวา พลังที่ฝายตรงขามลอบใชสวยงามอยางยิ่ง ทําใหคนหมดคําจะเอื้อน
เอย มองไมออกวาอะไรเปนอะไร
เวลาผานไปนานจนชิงเฟยยากจะลุกขึ้นยืนได รูสึกวาอวัยวะทั้งหาเจ็บปวดราวกับ
จะแตกออกเปนเสี่ยง
“ศิษยนองชิงเฟง เจาไมเปนไรใชรึไม?” โจวอวี่หาวเอยถามอยางแปลกใจ จากนั้นวิ่ง
เขามาอยางรวดเร็ว พยุงเขาลุกขึ้นแลวพูดพลางสายหนาวา “ศิษยนอง ขามิไดอยากจะ
วาเจาหรอกนะ รางกายเจาชางออนแอ หาตองการอยูในคายอัจฉริยะตอไป เจาจําตอง
พยายามใหมากกวานี้เสียแลว”
เขาแสดงทาทีของศิษยพี่ผูแสนดี ทําใหผูคนเกิดความรูสึกดีขึ้นมาในใจ
ในที่สุดชิงเฟงก็สามารถลุกขึ้นยืนได ดวงตามีไฟโทสะ แตกลับยากจะโตตอบ ทําได
เพียงกําหมัดแนน บีบจนขอนิ้วซีดเผือก
“มา ขากระตุนการไหลเวียนของเลือดแกเจาสักหนอย จากนั้นเราคอยแสดง
วิธีการใชอักขระอีกชนิดหนึ่งแกเหลาศิษยนอง” โจวอวี่หาวกลาว
เขาบีบแขนของชิงเฟงแนน ออกแรงอยางรุนแรง สะเทือนชิงเฟงเลือดลมไหลเวียน
ไมสะดวกขึ้นมาชั่วขณะ ทุกขทรมานอยางหาที่เปรียบไมได จูโจมเขาใหไดรับบาดเจ็บอีก
ครา
“เอาละ เรามาแสดงอักขระอีกชนิดหนึ่งกันเถิด” โจวอวี่หาวยิ้มนอยๆ
“โครม”
ชิงเฟงตัวลอยขึ้นอีกครั้ง พุงตรงเขาไปในปาไผ เขารูสึกวาอาการบาดเจ็บของตน
สาหัสยิ่งขึ้น แมขยับตัวยังยากเย็น
“เฮอ ศิษยนอง เจาจะเปนเชนนี้มิได ตองมานะบากบั่น มิเชนนั้นก็ยากจะอยูในคาย
อัจฉริยะตอไปได หากมีอะไรที่ไมเขาใจเกี่ยวกับเรื่องของการบําเพ็ญ เจามาหาขาได” โจ
วอวี่หาวสายหนาแลวดึงเขาใหลุกขึ้น
ไกลออกไป เจาตัวเล็กนัยนตาเกิดกระแสไฟวูบวาบ เขี้ยวเสือคูหนึ่งบดจนเกิดเสียง
เขามองออกวา แมในยามที่โจวอวี่หาวฉุดตัวชิงเฟง เขายังคงใชพลังลึกลับ ทําใหชิงเฟง
บาดเจ็บอีกหน ชางโหดเหี้ยมและระยําตําบอนยิ่งนัก
“เอาละ พอเทานี้เถิด” มีคนจากคายอัจฉริยะทนดูตอไปมิไหวแลวจึงเอยปากเชนนี้
“ศิษยนองทั้งหลาย มีสิ่งใดที่ไมเขาใจ สามารถเอยถามขาได” อัจฉริยะผูหนึ่งพูดขึ้น
เชนนี้
“ขอรับ!”
ศิษยใหม 3000 กวาชีวิตปรารถนาจะพุงตัวเขาไปสอบถามปญหาตางๆ โดยทันที
บริเวณของอวี่เฟงชุดขาวมีจํานวนคนมากที่สุด รายลอมดวยหญิงสาวกลุมใหญ สง
เสียงจอกแจกจอแจ วิงวอนขอใหเขาชวยชี้แนะ
บริเวณอื่นก็เบียดเสียดยัดเยียดเชนเดียวกัน เนื่องจากจํานวนคนแออัดกอเกิดปญหา
ผูมีพรสวรรคมากมายลวนถูกหอมลอม รวมไปถึงชายชุดเงิน เซียวเทียน
ลูกศิษยนับ 3000 กวาคนสอบถามทุกเรื่องราวตั้งแตสากกะเบือยันเรือรบ บาง
วิงวอนขอรองใหชวยชี้นําเรื่องการบําเพ็ญตน บางก็ซักถามเรื่องราวลี้ลับบางอยางใน
ศาลาปดฟา
“ไดยินมาวา สือยี่ก็มา อีกทั้งบุตรีแหงจักรพรรดิก็เชนกัน มีอัจฉริยะบุคคลหลายสิบ
คนเขาสูศาลาปดฟา ไยพวกเขาจึงไมปรากฏตัวละ?”
“คนเหลานี้มีฐานันดรพิเศษ ยิ่งกวาไปนั้นยังมีลูกของทายาทอสูรบรรพกาลอีกดวย
คนสามัญทั่วไปปรารถนาจะพบเจอยังยาก ถูกคนประหลาดกลุมหนึ่งนําตัวไปแลวละ”
ที่นี่เต็มไปดวยความครึกครื้น อัจฉริยะทั้งหมดถูกรุมลอม ชี้แจงแถลงไขอยางมี
น้ําอดน้ําทน
ครึ่งชั่วยามผานไป เกิดเหตุโกลาหลในที่ไกลออกไป แววเสียงรองอยางเจ็บปวดลอย
มา มิทราบวาเกิดเรื่องอันใด ฝูงชนหันหลังเพงสายตามอง เห็นเพียงศิษยใหมนับรอย
ประหนึ่งถูกฉีดเลือดไก ไลลาคนคนหนึ่งอยางฮึกเหิม
“เกิดอะไรขึ้น?” เหลาอัจฉริยะประหลาดใจ
ไมนานนัก คนกรูกันเขารวมมากยิ่งขึ้น และเสียงรองโหยหวนก็ยิ่งทวีความเศราโศก
มากขึ้น
“นี่เปนเสียงของอวีห่ าวมิใชหรือ?” มีคนจากคายอัจฉริยะตะลึงพรึงเพริด
“รีบตามไป อยาใหหนีรอดไปได ทําใหเขาคายที่อยูของเด็กเหลือขอออกมา!” กลุม
คนตางเหิมฮึก
“นั่นคือโจวอวี่หาว ไยจึงพัวพันกับเด็กเหลือขอในโลกแหงความวางเปลาไดละ?!”
คนจากคายอัจฉริยะรูสึกสับสนอลหมานขึ้นมาเล็กนอย
โจวอวี่หาวคลั่งจนกระอักเลือด ทั้งที่เขาเพียงพูดคุยกับคนขางเคียงอยางขบขัน
เทานั้น บอกวาตนรูตําแหนงที่ตั้งของเด็กเหลือขอในโลกแหงความวางเปลาคนนั้น
ปรากฏวาถูกวัตถุจิ๋วรัวลงบนหนาหนึ่งหมัดทันที ชกจนใบหนาปูดโปน เลือดสาดกระเด็น
ไกลหากาว ปายสีวาเขาเปนเพื่อนของเด็กเหลือขอ
ตอมา วัตถุจิ๋วที่มองไมเห็นแมแตใบหนาก็รองลั่น กลุมคนพากันกระโจนเขามา
ประหนึ่งถูกฉีดเลือดไก กระหน่ําทุบตีและดาทอเขาจนฟนกระเด็นหลุดออกมา
“ขาโชครายไปแปดชาติ ขาแมงแคพดู ขบขัน ไยเจาวัตถุจิ๋วนั่นจึงคิดวาเปนความ
จริง?! ใชโอกาสนี้ไดโหดเหี้ยวอํามหิตนัก!” โจวอวี่หาวคลุมคลั่ง
ผูอาวุโสแหงศาลาปดฟาเคยกลาวไววา เพียงรูตําแหนงของเจาเด็กเหลือขอ มี
เบาะแสเกี่ยวกับเขา รายงานบอกกลาวแกสํานัก สามารถเลื่อนขั้นเปนศิษยคนสําคัญได
แมของรางวัลนาตะลึงพรึงเพริด แตพวกเจาก็ควรหาขอพิสูจนเสียกอน ขาไมรูจริงๆ
วาเด็กเหลือขออยูที่ใด โจวอวี่หาวกระอักเลือด กุมหัววิ่งหนีหัวซุกหัวซุนประหนึ่งหนู
คนมากมายเพียงนี้พุงตัวราวกับถูกฉีดเลือดไก แมเขาจะเปนอัจฉริยะก็ไมเพียงพอ
ที่สําคัญคือ มีวัตถุจิ๋วตัวหนึ่งเปดฉากซัดเขาจนหนาปูดโปน นําคนกลุมหนึ่งไลลาเขา
บังเกิดปฏิกิริยาหลับหูหลับตาคลอยตามผูอื่น เปนเหตุใหคนหลายรอยคนเขารวมดวย
“ไยขาปากพลอยเชนนี้!” โจวอวี่หาวหนีหัวซุกหัวซุน รองโหยหวนในใจอยางอดรน
ทนไมไหว แตเขาคิดวาวัตถุจิ๋วนั่นต่ําชาเลวทรามยิ่งกวา ทําเชนนี้ไดเยี่ยงไร? ฉกฉวย
โอกาสเชนนี้ ไรคุณธรรมเสียจริง นี่มันเรื่องบัดซบอันใดกัน!
บทที่ 109 เหตุปะทะนองเลือด
โจวอวี่หาวรองโอดโอย เลือดทะลักออกมุมปาก ใบหนาซีดเผือก วิ่งหนีอยางสุดชีวิต
คนมากมายปานนี้จูโจม อักขระนานาชนิดผนึกกําลัง แสงสวางสองแวววาว ฝูงชน
กระหน่ําทุบตีเขา
อัจฉริยะเปนมนุษย เมื่อเผชิญหนากับบุรุษที่แข็งแกรงที่สุดนับหลายรอยชีวิตจากแต
ละชนเผา ก็ยากที่เขาจะสําแดงอานุภาพได เลือดหลั่งรินทางจมูกและปาก ผมเผา
กระเซิง นาเวทนาเกินกวาจะทนดูได
ปกติเขาเปนคนยโสโอหัง เนื้อแทไมธรรมดา ไมเห็นศิษยสามัญเชนนี้อยูในสายตาแม
เพียงนิด แมจะมิไดดูหมิ่นดูแคลนดวยวาจา แตในใจเหยียดหยามมาโดยตลอด ทวา
ตอนนี้เขากลับถูกพวกเขารุมกระหน่ําฟาด
เหลาบุรุษและสตรีนับรอยชีวิตจากหลายชนเผาใหญสงเสียงโหรอง กลายเปน
กระแสน้ําทวมตัวเขา โจวอวี่หาวตะโกนลั่นวา “ขาไมรูจริงๆ มิไดมีความสัมพันธใด
เกี่ยวของกับเขา”
แตผูใดเลาจะเชื่อ? เมื่อครูเจายังตอตานอยางรุนแรง พูดเองกับปากกลาววา รูวาเด็ก
เหลือขออยูแหงหนใด คนมากมายไดยินเต็มสองรูหู ยิ่งกวานั้นคือ หากเจาไมรู ไยจึงตอง
วิ่งหนี
โจวอวี่หาวกนดาไมหยุด หากขาไมหนีก็ถูกทุบตีจนตาย แมจะกระโดดลงแม
น้ําเหลืองก็ชะลางไมสะอาด[1]
“สหายทั้งหลาย จับตัวเขาใหจงได คอยๆ ไตสวน” มีคนรองตะโกน
อยางไรก็ตาม พลังการตอสูของโจวอวี่หาวไมธรรมดาอยางแทจริง พุงชนซายทีขวา
ที แมจะหมดหนทางใหหลบหนี ทั้งยังไดรับบาดเจ็บสาหัส แตยังคงกัดฟนสูทน
“ปง”
มีอักขระแปลงรางเปนฝามือเล็กลอบฟาดลงมา ประทับตราลงบนชายโครงดานซาย
ทันที โจวอวี่หาวดั่งโดนสายฟาฟาด รางกายลอยลิ่วพรอมกับเสียงรองโหยหวน ฝามือ
อักขระนี้นาตื่นตะลึงยิ่งนัก สะเทือนกระดูกซี่โครงซีกซายของเขาหักจนสิ้น
หนนี้เขาลมพับลงกับพื้น ถูกกระแสคนรายลอมจนมิดภายในพริบตา กลุมคนพากัน
ตะลุมบอน เขายกมือกุมหัว เรงปองกันภัยอันตราย
“โอย...”
เสียงรองของโจวอวี่หาวไมเหมือนเสียงมนุษยแมแตนิด ประหนึ่งสัตวปาแผดรอง
ดวยความเจ็บปวด พนฟนที่หลุดรวงหมดปากออกมา ถูกฝูงชนทั้งเหยียบทั้งตี รางกาย
หมดเรี่ยวแรง
“มิไดการแลว หากเปนเชนนี้ตอไป อวี่หาวสิ้นชีพแน!” มีคนพูดเสียงต่ํามาจากฝงคา
อัจฉริยะ
แมจะไกลหางกันมากโข อีกทั้งมีคนนับรอยนับพันขวางกั้น แตพวกเขายังคงมองเห็น
เลือนรางวา โจวอวี่หาวลมลงไปแลว หากเปนเชนนี้ตอไปตองเสียชีวิตเปนแนแท
นี่มิใชการลงมือเพียงคนหรือสองคน แตคนหลายรอยกําลังโจมตี แคเพียงเหยียบย่ํา
ก็เพียงพอจะทําใหเขากลายเปนซากเนื้อเปอยยุย
“โครม”
อักขระสวางวาบ เสียงดั่งธารน้ําตก สะเทือนแกวหูจวนดับ สองคนที่มีความสัมพันธ
คอนขางดีกับโจวอวี่หาวกระโดดลอยตัว พุงไปโจมตีบริเวณนั้นทันที ดวยใชเคล็ดวิชาล้ํา
คาเบิกทาง พลันสะเทือนคนมากมายปลิววอน
เพียงชั่วครูก็มีชายหนุม 10 กวาคนกระอักเลือด ยืนตอไปไมไหว ลมลงไปนอนกับ
พื้น
เพียงไมนาน สถานที่เกิดเหตุพลันเงียบสงบลง สรางความนาสะพรึงกลัวไดอยาง
แทจริง เมื่อคนทั้งสองเห็นดังนั้นก็วางใจ สีหนาเฉยเมย กระโจนเขาใสอยางรวดเร็ว เมื่อ
ลงมืออีกหนก็จูโจมคนนับสิบจนตัวลอย
“ศิษยจากคายอัจฉริยะขมเหงรังแกผูม าใหม พวกเราเดินออกจากชนเผาตนมายัง
ศาลาปดฟา เพื่อรับการขมเหงอยางนัน้ รึ? รวมกลุมกันตอตาน!” เจาตัวเล็กตะเบ็งเสียง
ทามกลางฝูงชน
ไมนานนัก คนจํานวนมากเหลือคณานับดั่งไฟโทสะแผดเผา เพราะเมื่อครูเห็น
ประจักษแกตาวา ทั้งสองลงมืออยางไรความเห็นอกเห็นใจ มาถึงก็ทําใหศิษยใหมกวา
20-30 คนลมลงไป ความยโส เยือกเย็น ทระนงบนใบหนา ไมวาผูใดก็มองเห็น
“ขมเหงรังแกพวกเราศิษยใหมรึ? สังหารพวกเราเชนนี้ คืนจุดยืนแกพวกขา กอบกู
ศักดิ์ศรีแกพี่นองพองพวก!”
“คายอัจฉริยะแลวอยางไรละ จะฉวยโอกาสที่เขาสํานักกอนมาใชอํานาจบาตรใหญ
รึ? จัดการเจาคนสามหาวนั้นเสีย!”
ที่แหงนี้เดือดพลาน หนนี้มิใชเพียงหลายรอย แตมีคนนับพันพุงกระโจนไปขางหนา
ดวยความบาระห่ําอันยากจะทัดเทียม อักขระนานาชนิดลอยขึ้น กระแทกไปขางหนา
พรอมกัน
สองคนนี้รูสึกขนลุกขนชันขึ้นอยางฉับพลัน การสรางความสะเทือนมิไดผล พวกเขา
หายไปในกระแสคนเชนเดียวกัน ขางกายมีอักขระหลากหลายผานมาผานไป การโจมตีที่
ฝูงชนรวมมือกันนั้นนากลัวและนาตื่นตะลึง
“ผลุบ...”
ไมนานนัก ทั้งสองคนก็ถูกทุบตีจนกระเอือกพนเลือดคําใหญ
“ปง”
ในพริบตาปรากฏฝามือเล็กลึกลับสองขางซึ่งแปลงรางจากอักขระ ฟาดลงบนตัวพวก
เขาทันที กระดูกหัก 10 กวาทอนในบัดดล พลังการตอสูของทั้งสองลดฮวบฮาบ กลืน
หายเขาไปในกลุมคน
กระทั่งตอนนี้ เจาตัวเล็กลาถอยเมื่อภารกิจสําเร็จเสร็จสิ้น คนตะเบ็งเสียงกูรองยอม
เปนเขา คนชกไปหนึ่งหมัดก็เปนเขา ลงมือทํารายอยางสาหัสในชวงเวลาคับขันก็เปนเขา
อีกเชนเดียวกัน
บัดนี้ทั้งสามถูกกลืนหายเขาไปดานใน เขาถอยหลังอยางรวดเร็ว ดวยรูสึกวาเรื่องนี้
สมบูรณแลว ดีหนอดีหนอ ทั้งสามพึ่งพาตนเองเอาแลวกัน
“โอย...”
กระทั่งตอนทาย ทั้งสามแผดรองดัง คุกเขาวิงวอนขอรองก็มิเปนผล
คนจากคายอัจฉริยะหนานิ่วคิ้วขมวด หากเปนเชนนี้ตอไปตองเกิดปญหาอยาง
แนนอน ทั้งสามไมพิการก็คงสิ้นชีพวายชนม ฝูงชนมองหนากัน มีคนไปหาผูอาวุโส และมี
บางสวนยางสามขุมเขาไปรวมลงมือ หมายชวยชีวิตคนเหลานั้นออกมา
“คนแหงคายอัจฉริยะขมเหงรังแกคน แมเมื่อครูพวกเขาจะนอบนอมถอมตน แต
ตอนนี้มองดูแลวคงเปนเพียงการสรางภาพ ทุกอยางลวนเสแรงแกลงทํา ตอนนี้เผยคม
เขี้ยวออกมาเสียแลว ปรารถนาจะประกาศสงครามกับหมูเรา!”
สิ้นหนึ่งเสียงตะโกน ที่แหงนี้เกิดเสียงอึกทึกครึกโครม ศิษยใหม 3000 กวาคนเฮโล
กันเขามา อักขระสาดเทดั่งหาฝน สะเทือนอัจฉริยะหลายคนปลิววอนกระเด็นกระดอน
เจาตัวเล็กตะลึงงัน เขาเพียงอยากผลักดันในเวลาอันเหมาะสมเทานั้น ไมคิดวา
เรื่องราวจะบานปลายใหญโตเชนนี้ เขาวิ่งหายไปภายในพริบตา
ฟากคายอัจฉริยะก็โมโหเดือดดาลแลว คนมากมายสวางวาบ เตรียมรายเคล็ดวิชาล้ํา
คาอันยิ่งใหญ กําราบเหลาศิษยใหมเบื้องหนาเหลานั้น ทําใหพวกเขาเขาใจวาอัจฉริยะคือ
อะไร!
อวี่เฟงขมวดคิ้ว หากโตตอบเชนนี้ อาจยิ่งทําใหขอบเขตของการปะทะขยายใหญขึ้น
เมื่อถึงตอนนั้นก็ไมทราบแนวาผูใดที่เสียเปรียบ เขาอยากหยุดยั้ง แตรูวาคงไมมีประโยชน
“โครม!”
การตอบโตดวยอักขระของทัง้ สองฝายเริ่มขึ้นแลว หายนะครั้งใหญปะทุขึ้นแลว
ระเบิดกลางนภา กลายเปนกระแสไฟโชติชวง เพียงพอจะพังยอดเขาหลายลูกใหพินาศ
“หยุด!”
เสียงตะโกนดังแววมา น้ําเตาทองคําผลหนึ่งปรากฏขึ้นกลางนภา สีเหลืองอราม
กําจายแสงสวาง จากนั้นดูดกลืนอักขระทั้งมวลดั่งวาฬดูดน้ําวัวกินน้ํา[2] นี่เพียงพอจะ
กลืนกินหายนะครั้งใหญที่ทําลายยอดเขา ทุกสิ่งมลายหายไปในปากน้ําเตา
ฝูงชนตะลึงงัน รูสึกถึงกลิ่นอายนากลัว บนน้ําเตานั่นมีอักขระเพียงตัวเดียว สองวูบ
วาบราวกับเปดสวรรคแยกแดนดิน สรรพสิ่งสั่นไหว กลิ่นอายบรรพกาลตลบอบอวล
ขึ้นมาชั่วขณะ
สุดทายน้ําเตาหดเล็กลง อักขระจางหายไป หมุนควางแลวกลายขนาดเหลือเทาฝา
มือ รวงลงในกํามือของผูอาวุโสทานหนึ่ง เปนผูสูงวัยที่นั่งขัดสมาธิอยูหนาสํานักในตอน
แรกนั่นเอง
ในตอนนี้มีใบหนาเครงขรึม ปราศจากรอยยิ้ม ตวาดดวยความเอาจริงเอาจังวา “ผู
ริเริ่มรวมเหตุวิวาทครั้งนี้หันหนาเขากําแพงแลวทองคัมภีรเปนเวลา 3 ป!”
เจาตัวเล็กที่เจียนฝาฝูงชนวิ่งหนีเอาตัวรอดในตอนแรกหูตั้งขึ้น เมื่อไดยินถอยคํา
เหลานี้ก็รีบมุดตัวแทรกเขาไปดานใน หากแยกตัวออกจากเรื่องราว จะแปลกแยกอยาง
เห็นไดชัด อยางไรก็ตามน้ําไปดีกวา
ผูอาวุโสนัยนตานาสะพรึงกลัว กวาดมองลูกศิษยทั้งหลาย ทอดถอนหายใจในใจ รับ
ศิษยเขามากวา 3000 คนอยางรวดเร็ว แตกลับเกิดปญหาใหญเชนนี้ จึงเกิดความขัดแยง
ภายในจิตใจ
ไมนานนัก ผูอาวุโสหลายคนก็ปรากฏตัวขึ้น แตละคนลวนปาดเหงื่อเย็น โดยเฉพาะ
สงเฟยและเฉายวิ๋น สิ่งที่สุมในทรวงนัน่ เรียกวาไฟโทสะ ไยความวัวไมทันหายความควาย
ก็เขามาแทรกเชนนี้เลา? ในปนี้หลังจากรับศิษยใหมแลว ไมมีเรื่องราวราบรื่นแมแตเรื่อง
เดียว
พวกเขาเริ่มตรวจสอบหาตนตอของปญหา กลับทําใหหมดคําจะเอย ไมมีผูนํากอ
เรื่องแตอยางใด มีเพียงแตผูเคราะหรายเทานั้น
โจวอวี่หาวกระดูกทั้งตัวหักกวารอยละเกาสิบ สองคนที่เหลือไดรับบาดเจ็บสาหัส
พิการไปเสียแลว หากใชผงยารักษา คาดวาตองใชเวลานานหลายเดือนจึงจะคืนสูสภาพ
ปกติ
คนสวนมากลวนหลับหูหลับตาคลอยตามผูอื่น มิไดตองการกอเหตุจลาจลอยาง
แทจริง
“ไยเจาถึงพูดวารูวาเด็กเหลือขออยูที่ใดกันละ?” ผูอาวุโสเฉายวิ๋นชี้โจวอวี่หาวที่นอน
แผหลาอยูบนพื้น ทั้งโมโหทัง้ เครงเครียด กระหน่ําดาเปงไปฉาดหนึ่ง จวนพูดคําวา
‘สมควร’ ออกมาเสียแลว
โจวอวี่หาวเต็มไปดวยความรูสึกผิด เขาคิดวาตนปากพลอยจริง แตวัตถุจิ๋วที่ไมเห็น
แมแตใบหนาผูนั้นต่ําชากวา ไรคุณธรรมยิ่งนัก ไยเจาจึงไมพูดพร่ําทําเพลง มาถึงก็รัวหมัด
ใสขาเชนนั้น เอยถามใหชัดแจงแลวคอยทุบตีก็ไดมิใชหรือ?!
ขณะเดียวกัน เขาก็เกิดความแคลงใจ เขาเปนถึงอัจฉริยะ ไฉนจึงถูกวัตถุจิ๋วกระโจน
เขามารัวหมัดใสจนใบหนาบวมปูด จวนเปนลมหมดสติไปเชนนั้นเลา? หมดหนทางจะ
หลบซอน เพียงแตเขาไมมีหนาจะเอยถามขอสงสัยนี้ ดวยเกรงวาจะอับอายขายขี้หนา
ไมมีบุคคลที่เรียกวา ผูนํากอเหตุ ก็ยอมไมมีเรื่องหันหนาเขากําแพงทองคัมภีรสามป
ผูอาวุโสในมือกําน้ําเตาทองคํา สะบัดแขนเสื้อแลวจากไปทันที
“พวกเจา...ขาเจียนอกแตกตายแลว!” ผูอาวุโสสงเฟยและเฉายวิ๋นคําราม ผานไป
ครึ่งชั่วยามเต็มๆ พวกเขาจึงเก็บ ‘พลังปศาจสุนัข’ จากไปอยางโมโหโกรธา
เมื่อหายนะดับสูญ เจาตัวเล็กกะพริบตาใสชิงเฟงที่อยูไมไกลนักพรอมดวยรอยยิ้ม
นอยๆ
ชิงเฟงอาปากกวาง จวนจะหลุดเสียงออกมา วิกฤตครั้งใหญนี้เปนฝมือของทานพี่แต
เพียงผูเดียวหรือ? ชางนาตะลึงลานนัก!
เหลาบุรุษหนุมสตรีสาวกรูกันมา อายุอานาม 20 กวาปขึ้นไป เขาสูศาลาปดฟาเกิน
กวา 8ปแลว มีพละกําลังมหาศาล พวกเขารับผิดชอบจัดการเก็บกวาด บอกกลาว
ระเบียบวิวาทกันในศาลาปดฟาไปพลาง รักษาผูไดรับบาดเจ็บไปพลาง
“ศิษยพี่ เจารูไหมวาน้ําเตาในมือของผูเฒาเมื่อครูนี้เปนของล้ําคาอะไร มีประโยชน
ยิ่งนัก งอกมาจากที่ใด?” เจาตัวเล็กเบียดไปขางหนาแลวเอยถาม
“เจาเด็กอวน เจานี่มันสงสัยไปเสียทุกอยางเลยนะ สิ่งของเชนนั้นเจาอยาไปใสใจ
เลย แถมยังถามวา งอกมาจากที่ใด เจาจะไปเด็ดใหไดหรืออยางไร?” ศิษยพี่จิตใจ
ออนโยนคนหนึ่งพูดดวยรอยยิ้ม
หญิงสาวงดงามขางเคียงเหลานั้นตางยกมือปดปาก หัวเราะเสียงเบา มีศิษยพี่หญิง
คนหนึ่งพูดดวยรอยยิ้มวา “เจาอวนอยาพะวงเลย นั่นเปนสมบัติล้ําคาที่สุดของศาลาปด
ฟา งอกมาจากเทพารักษ เจายังอยากไปเด็ดอีกรึไม?”
“หา?” เจาตัวเล็กชะงักงันไปชั่วขณะ ที่แทเทพารักษแหงศาลาปดฟาคือตนน้ําเตา
นี่เอง มหัศจรรยยิ่งนัก
วิกฤตสงบลง เวลาผานไปหลายวัน
ไมมีผูใดหาเรื่องชิงเฟงอีกตอไป เขาสามารถบําเพ็ญตนไดอยางสบายใจ ทําใหเจาตัว
เล็กวางใจ จากนั้นก็เริ่มเดินเตรไปทั่วหมายสรางความคุนเคยกับศาลาปดฟา
บริเวณนี้กวางใหญยิ่งนัก เพียงสถานที่บําเพ็ญตนของเหลาลูกศิษยก็มีเขาวิเศษนับ
หลายรอยลูก และผูอาวุโสและผูสูงศักดิ์ทั้งหลายยึดครองภูเขาโบราณมโหฬารลูกหนึ่ง
นอกจากนี้ยังมีสถานที่มหัศจรรยพันลึกมากมาย ดั่งเชนดินแดนรกรางบรรพกาล มิ
อนุญาตใหลูกศิษยเขาใกล กวางใหญไพศาลยิ่งนัก
“นั่นก็คือสํานักวิเศษ” เจาตัวเล็กทอดสายตาไปไกล มองเห็นดินแดนกวางใหญสุด
ลูกหูลูกตา มีมานหมอกเลือนรางกระเพื่อมขึ้นลง
“เอะ มีคนอยูคนหนึ่ง!” และในตอนนี้เอง เขาก็ตะลึงงัน สํานักวิเศษนั่นมีไอมงคลแผ
คลุม ไมสามารถมองเห็นสิ่งปลูกสราง เห็นเพียงหนทางเดิน มันนําทางไปสูจุดสิ้นสุดอัน
เลือนราง
บนเสนทางนั้นมีชายหนุมคนหนึ่ง กาวเดินอยางมั่นคงไปขางหนาทีละกาว ให
ความรูสึกยากจะพรรณนา ราวกับผสานกลายเปนหนึ่งเดียวกับฟาดิน หลอมความคิดเขา
กับสัจธรรม
อยางไรก็ตาม หนทางที่เขากาวเดิน แมกําลังกาวไปขางหนา แตหนทางนั้นไมมี
จุดสิ้นสุด ไมสามารถบรรลุฝงฝน
“สือยี่” เจาตัวเล็กพึมพํา
เขาเชื่อวาคนคนนั้นตองเปนสือยี่ผูยิ่งใหญอยางแนนอน ไดรับสมญานามวาเปนผู
ดํารงอยูที่ใกลเคียงเทพเจาในสิ่งมีชีวิตรุนราวคราวเดียวกัน!
“เขาเดินอยูตลอด เสมือนวาเดินมาหลายวันแลว แตกลับไมบรรลุปลายทางสักที”
เจาตัวเล็กครุนคิด สํานักวิเศษลึกลับอยางแทจริง
บริเวณนั้นกวางใหญไรขอบเขต นอกจากหนทางเสนนี้แลว มีเพียงความพรามัว ไมรู
แนวาจะไปสิ้นสุดที่ใด เห็นไดชัดวาสือยี่อยูบนเสนทางมาโดยตลอด ดูเหมือนเดินหนา แต
กลับมิไดรุดหนาเลยแมแตนิด
“เสนทางนี้ไมงายเลย เพียงมองจากตรงนี้ ขาก็สามารถรูสึกไดถึงสุระเสียงเกรียว
กราวจากหนทางนั้น เขายางเดินบนเสนทางนั้น แมจะไมบรรลุเขาสูสํานักวิเศษ แตเชนนี้
ก็ไดรับประโยชนอยางใหญหลวงเชนเดียวกัน”
เจาตัวเล็กพึมพํา หลังจากไตรตรองอยางจริงจังอยูเปนเวลานาน เขารูสึกวาตนตอง
พยายามมากยิ่งขึ้น มิเชนนั้นคงถูกสือยี่สะบัดทิ้งหางออกไปเปนแนแท
..............................
[1] กระโดดลงแมน้ําเหลืองก็ชะลางไมสะอาด สุภาษิตจีน แปลวา จะแกตัวหรือ
พิสูจนอยางไรก็ไมมีทางพนผิด
[2] วาฬดูดน้ําวัวกินน้ํา สํานวนจีน แปลวา กระหน่ําดื่มกินอยางเต็มที่
บทที่ 110 เทพารักษแหงดินแดนสุขาวดี
ขาจะสามารถกาวขึ้นเสนทางนั้น เขาสูสํานักวิเศษโบราณอันเลือนรางไดรึไม?” เจา
ตัวเล็กพึมพําแลวสายหนาพัลวัน ผานการเรียนรูมานานหลายวัน เขารับรูแลววา สํานัก
วิเศษแหงนั้นจะเปดตามอําเภอใจไดอยางไร ในรอบสิบปรอยปสามารถเปดไดครั้งหนึง่ ก็
ไมเลวแลว
และครั้งนี้ศาลาปดฟาคัดเลือกสือยี่เขามา จะไมมีผูอื่นกาวขึ้นไปแลว แมผูอาวุโส
แหงดินแดนสุขาวดีจะเคยกลาววา ขอเพียงพฤติกรรมโดดเดนกวาผูอื่น เนื้อแทเหนือ
ธรรมชาติ ยอมมีโอกาส แตนั่นเปนเพียงคําพูดปลุกระดมคนก็เทานั้น
“สํานักวิเศษโบราณ...” เจาตัวเล็กพร่ํารําพัน จากนั้นหันหลังกลับไปอยางไมลังเล
บนเสนทางนั้น มีชายหนุมคนหนึ่งกําลังเดินหนา ผูไดรับสมญานามวาเปนผูดํารงอยู
ที่ใกลเคียงกับเทพเจาในสิ่งมีชีวิตรุนราวคราวเดียวกัน ผสานเปนหนึ่งกับฟาดิน มีสุระ
เสียงแหงธรรมชาติแววมา ประหนึ่งทวยเทพบรรพกาลขับรองบทสวด
เจาตัวเล็กไมปลอยใหตัวเองกังวลใจ ตัดเรื่องนี้ออกจากความคิดอยางรวดเร็ว ควา
หางของลูกขน ราวกับขโมยขโจร วิ่งหนีเขาไปบริเวณลึกลับอยางไรรองรอย
แมจะดึกสงัด แตทัศนียภาพชัดเจนแจมแจง
นี่เปนสวนที่มีอาณาเขตกวางใหญยงิ่ นัก ภายในมีตนหญานานาชนิด และมีสะพาน
เล็กบนธารน้ําไหล ศาลาตําหนัก แตมีลักษณะพิเศษอันเห็นไดชัด ทุกอยางลวนเกาแก
สะพาน ตําหนักเหลานั้นราวกับจะพังทลายลงมาอยูตลอดเวลา ประหนึ่งมิไดปรับปรุงมา
หลายพันป
พืชคลุมดินยังคงเหมือนเดิม แตสะพานโคงเหมือนดั่งวัตถุที่สืบทอดมาแตโบราณ
จวนพังทลาย เขาเดินยองเขามาโดยดึงหางของลูกขนไปดวย
ดวงตาลูกขนกลิ้งขลุกขลัก ถูกควาหางจนตัวคว่ําลงก็ไมเกรี้ยวโกรธ มันแคลงใจ
เชนเดียวกับเจาตัวเล็ก สอดสอง ณ สถานที่นี้
นี่เปนสถานที่ลึกลับที่สุดแหงศาลาปดฟา เปนสถานที่จําศีลของเทพารักษ กินอาณา
เขตหลายรอยลี้ เปนสวนโบราณขนานใหญ ปกติไมมีผูใดอาจหาญเขาใกล
เพราะถูกตักเตือนแลว
ที่นี่ไมมีผูใดคอยเฝาคุมกัน เพราะไมมีเหตุจําเปนใด ลองคิดสักนิดวาเทพารักษแหง
ศาลาปดฟายังตองมีคนคุมครองหรือ เปนมันคุมครองดูแลดินแดนสุขาวดีแหงนี้ตางหาก
“ทานเทพารักษขอรับ ขามาดวยใจนอมบูชา มีศิษยบางคนกลาววา หากมีวาสนาตอ
กัน อาจไดรับการชี้นําจากทานได ขามาวิงวอนขอทานชวยสอนสั่งดวยใจเลื่อมใส
ศรัทธา”
เจาตัวเล็กพึมพําพลางกวาดสายตาไปมา กมหนาเสาะหายาวิเศษ และจมูกของเจา
ลูกขนก็ขยับไปมาไมหยุด ดวงตาเปนประกายสอดสองไปทั่วทุกสารทิศ
“ไยที่อยูข องเทพารักษจึงรกรางเชนนี้นะ?” พวกเขาเดินมุงหนาเขาไปภายใน ยิ่ง
เดินยิ่งรูสึกถึงความมิชอบมาพากล ตนหญานอยลง พื้นดินแปรเปลี่ยนเปนโลงโกรน
กระทั่งสุดทายไมมีแตตนหญาสักตนเดียว
เมื่อถึงที่นี่ เจาตัวเล็กรูสึกวาแสงสวางกําลังปะทุขึ้นในรางกาย สวางวาบขึ้นมา พลัง
ปราณสลับซับซอนจวนลาจากรางกาย ลวดลายนานาชนิดปรากฏขึ้นบนผิวอยางแนน
ขนัด
และลูกขนเองก็กรีดรอง กระเสือกกระสนดิ้นหลุดออกจากนิ้วมือของเจาตัวเล็ก วิ่ง
อุตลุดขึ้นไปบนหัวไหลของเขา เผยสีหนาตื่นตระหนกตกใจ
เจาตัวเล็กสูดลมหายใจเย็น ในที่สุดก็ทราบสาเหตุแลววาทําไมที่นี่จึงเปลาเปลี่ยว
เชนนี้ เปนเพราะพลังอํานาจชั่วรายบางอยางดูดเอาความชื้นของผิวดิน ชวงชิงเอาไป
นาแปลกนัก เปนเชนนี้ก็ตอเมื่อเหยียบยางเขาสูบริเวณนี้เทานั้น เมื่อถอยหลัง
เล็กนอย กลับไมรูสึกถึงพลังเชนนี้
“เกิดอะไรขึ้นกับสิ่งมีชีวิตแหงศาลาปดฟา เกิดปญหาอะไรขึ้นงั้นรึ?” เจาตัวเล็กชั่งใจ
อยางตื่นตะลึงระคนความสงสัย ยางกาวไปขางหนาอยางระแวดระวัง
เบื้องหนารกรางวางเปลา พื้นดินแหงแลงไรพืช ราวกับมาเยือนผืนทะเลทรายใหญ
มีเพียงกรวดทรายและกอนหิน เดินเหินที่นี่โดดเดี่ยวอางวางอยางหาทีเปรียบไมได เสียง
ฝเทาแววออกไปไกลอยางยิ่ง
“ทานเทพารักษ ขามาเพื่อคาราวะทาน ลูกศิษยทุกคนลวนมีโอกาสมิใชหรือ ทาน
โปรดอยาเขาใจผิดไป” เจาตัวเล็กกระซิบกระซาบ เขาอยากรูอยากเห็นอยางแทจริง มุง
หนาเดินเขาไปดานใน
ผืนดินเงียบสงัดไรเสียงไกลสุดลูกลูกตา เขาเดินหนาไปนับหลายสิบลี้ รางกายสอง
แสงราวกับพระอาทิตยดวงนอย อักขระผนึกกําลัง ตอตานพลังชั่วรายไมลดละ
“ยิ่งใหญเหลือเกิน ดูดซึมความชื้นของผิวดินจนสิ้น กลืนกินพลังปราณ เทพารักษ
กําลังฝกฝนพลังวิเศษหรือ?” เขาพึมพํา
เมื่อเงยหนาก็มองเห็นแสงวิเศษไหลพุงลงมาจากฟากฟากลุมแลวกลุมเลา ดวงดารา
เต็มทองฟา อีกทั้งจันทราสีเงินลวนทอสาดแสงสวาง ประหนึ่งสายฝนสีเงินตกลงไปในใจ
กลางทะเลทราย
เขาประชิดในที่สุด บริเวณนี้เริ่มปรากฏพืชคลุมดิน เจาตัวเล็กมาถึงเบื้องหนาสวน
โบราณแหงหนึ่ง
นี่เปนสิ่งปลูกสรางในสวน มีแนวกําแพงเกาแกอันผานโลกมาโชกโชน ทิ้งรองรอย
มากมายไวที่นี่
ผุพังเปนระยะเวลานานแลว บนแนวกําแพงเต็มไปดวยพฤกษาสามัญ มิใชสมุนไพร
วิเศษแตอยางใด และปราศจากตนไมล้ําคา ลวนเปนตนหญาที่พบเห็นไดใน
ชีวิตประจําวัน
“ไยจึงมิชว งชิงพลังปราณจากที่นี่ละ?”
เจาตัวเล็กฉงนสนเทห สวนแหงนี้เกาแกยิ่งนัก หลงเหลือเพียงกอนหิน สิ่งปลูกสราง
ที่เคยมีอยูพังทลาย มากดวยเถาวัลยพันเกี่ยว
แสงสวางสาดทอลงมากลางสวน พฤกษาสามัญตางไดรับอานิสงสกันถวนหนา ดวย
เหตุนี้จึงมีสภาพการเติบโตอันมีชีวิตชีวา มิไดแปรเปลี่ยนเปนทะเลทรายแหงแลง
“นี่คงจะเปนสวนของคนโบราณแหงหนึ่งเปนแน!” เมื่อเจาตัวเล็กเขามาจึงพบความ
ผิดปกติ เผยสีหนาประหลาดใจ
บริเวณลานบานมีทั้งสิ้นสามชั้น ลานหลังบานมีแสงสวางโชติชวงมากที่สุด แสง
จันทรทั่วฟาฉายลงตรงนั้นอยางเต็มเปยม บงบอกวาเทพารักษอยู ณ ที่แหงนี้
เจาตัวเล็กเดินเพนพานไปทั่วทุกหนแหง พบวาบานเรือนที่นี่ลวนพังทลาย กลบฝง
ดวยหญาปา แมแตสะพานหินโคงแหงนั้นก็หักโคน ปกคลุมไปดวยเถาวัลย
ยิ่งมองก็ยงิ่ รูสึกวา นี่เปนที่พํานักอาศัยของคนครั้งอดีตกาล
เขาเขาใกลสวนหลังบานในที่สุด จิตใจกระสับกระสาย เมื่อถึงที่นี่ เขาไมสูญเสียพลัง
ปราณอีกตอไป แตกลับเกิดความเคารพยําเกรงอยางนาประหลาด
“คาราวะทานเทพารักษ!” เขาเปดปากตั้งแตระยะไกล จากนั้นยองเบาเขาสูสวน
หลังบาน
“นี่มัน...” เขามองเห็นชัดเจนในที่สุด เจาตัวเล็กนัยนตาฉายแววตื่นตะลึง รูสึก
เหลือเชื่อ!
แสงสวางสาดสองอยางไมขาดสาย แสงสีเงินกระเพื่อมขึ้นลง ศักดิ์สิทธิ์และเปน
มงคล มีพืชตนหนึ่งอยูตรงนั้น คือเทพารักษของศาลาปดฟานั่นเอง แตกตางจาก
จินตนาการโดยสิ้นเชิง มันมิไดสวางไสวและเขียวชอุม แตกลับเปนสีเหลือง กะปลกกะ
เปลี้ย เสมือนวาจะแหงเหี่ยวโรยรา
นี่เปนตนน้ําเตาหนึ่งตน ปนไตอยูบนกลุมกอนหิน อับเฉาไรแสงวิเศษ มีเพียงเหลือง
เฉา มันมิไดมีขนาดใหญโตนัก สูงเพียง 5-6 หมี่ ใบไมบางตา ดุจดั่งสารทฤดูมาเยือน ทํา
ใหมันสูญเสียพลังชีวิต
เถาวัลยเหี่ยวเฉา เหลือเพียงพลังชีวิตอันนอยนิด เต็มไปดวยใบเหลืองน้ําตาล แสง
สวางที่สาดสองจากฟากฟาไมสามารถคลี่คลายความแหงเหี่ยวของมันได
แสงแหงดวงดาราและแสงจันทราสวางไสว เทกระจาดลงมาทําใหสวนขางหลังขาว
โพลนไปทั่วบริเวณ แทรกซึมลงไปในเถาวัลย แตมันยังคงไรชีวิตชีวาเฉกเชนดังเดิม ขาด
พลังชีวิตอยางแสนสาหัส
และนี่ก็คือเทพารักษแหงศาลาปดฟา เถาวัลยที่มีชีวิตผานกาลเวลายาวนานไมสิ้นสุด
ทําใหรูสึกอกสั่นขวัญแขวน แมวามันจะกะปลกกะเปลี้ย เหมือนเขาสูวัยไมใกลฝง ยังคงมี
ความนาเกรงขามอยางนาประหลาด ดุจดั่งเทพเจาองคหนึ่ง!
คงมิไดเปนเทพเจาองคหนึ่งจริงๆ หรอกกระมัง? เจาตัวเล็กรําพึงในใจ แตกลับปด
ปากแนน มิไดพูดออกมา
และไมรูวา ผานไปนานเทาใด เขาถึงจะเปลงเสียงออกมาอีกครั้ง เอยถอยคําวาจาที่
พูดระหวางทางเหลานั้นซ้ําอีกหน ตาดําสุกใสแอบชําเลืองมองดูปฏิกิริยาของตนน้ําเตา
เงียบสงัดไรเสียง ไมเถาเกาแกราวกับสูญเสียจิตวิญญาณเสียแลว
“เอะ มีน้ําเตาอยูผลหนึ่งแนะ!”
ภายใตการบดบังของใบไมเหลือง ซุกซอนน้ําเตาเขียวไวผลหนึ่ง มีขนาดใกลเคียงกับ
น้ําเตาทองคําในมือผูอาวุโสแหงศาลาปดฟาผูนั้น ตางก็มีขนาดเทาฝามือ แตสีแตกตาง
กัน
เจาตัวเล็กกรอกตาไปมา พบวาผลน้ําเตานี้มหัศจรรยเหลือลน ยิ่งมองก็ยิ่งรูส ึกพรั่น
พรึง เสมือนกับมีโลกอยูภายใน พรอมกําราบปราบปรามอยูรําไร
ยิ่งไปกวานั้น บริเวณนั้นหอมลอมดวยไอเลือนรางเปนสายๆ หอหุมผลน้ําเตาไว
ภายใน
บนหัวไหลของเขามีลูกขนหมอบอยูอยางสงบเสงี่ยม ยากจะมีสักครั้งที่มิอาจหาญ
กระทําการบุมบาม แทจริงแลวมันเปนเชนเดียวกับเจาตัวเล็ก ปรารถนาจะเด็ดเอาผล
น้ําเตาไปเหลือเกิน ทวาสัญชาติญาณบอกมันวา ทําเชนนี้มิได
“การบําเพ็ญตนที่นี่ดูทาจะไมเลวนัก” เจาตัวเล็กพําพึม เขานั่งขัดสมาธิตามแสง
สวางที่สาดทอลงมา เขาไดรับมันบางสวน รูสึกสบายไปทั้งรางกาย อักขระก็รับความรูสึก
ตามไปดวย
เขาแอบชําเลืองมองเทพารักษอยูหนหนึ่ง เถาวัลยไรการเคลื่อนไหว ใบไมนิ่งไมไหว
ติง ไมมีปฏิกิริยาใด
“ทานลุงเทพารักษขอรับ ทานไมคัดคานที่ขาบําเพ็ญตนที่นี่ใชรึไม?” เจาตัวเล็กเอย
ถาม จากนั้นพูดตามมาติดๆ วา “ทานปวยใชหรือไม ขารูจักตนหลิวตนหนึ่ง มันเคยปวย
สาหัสกวาทานนัก ลําตนเปลือยเปลา เหลือกานออนเพียงกานเดียว ทวาผลสุดทายก็ฟน
คืนชีพ”
เจาตัวเล็กพยายามตีสนิท พูดตามอําเภอใจ ตนน้ําเตายังคงไมขยับเขยื้อน ภายนอก
มิไดรับความเสียหายใด แตเพราะตนมีชีวิตอยูมาเนิ่นนาน สูญเสียพลังชีวิตไปเปนจํานวน
มาก
“เพียงใจมีความหวัง แมจะสูญเสียโลกทั้งใบ แตก็ตองดํารงชีวิตดวยสีสัน ทานลุงสู
เขา!” เจาตัวเล็กชูกําปนขึ้น
เขาใชดวงตาโตลอบมอง พบวาเทพารักษยังคงไรการตอบสนอง เขาทอดถอนหายใจ
ไมหยุดแลวพูดวา “ทานกําลังหลับใหลหรือ? อยางนั้นขาไมเกรงใจแลวนะ จะบําเพ็ญตน
อยูที่นี่แหละ”
เจาตัวเล็กเพงจิตถึงการหยั่งรูดั้งเดิมในใจ ศึกษาอักขระลึกลับหลากชนิดที่บันทึกอยู
ภายในอยางถี่ถวน นั่งขัดสมาธิอยูใตตนน้ําเตา นาเคารพเลื่อมใส เขาสูสมาธิอยางรวดเร็ว
สายลมพัดเอย ใบไมเหลืองโยกไหว เครือเถาวัลยนเคลื่อนไหวเล็กนอย แสงสีเงิน
สาดสอง สถานที่แหงนี้ศักดิ์สิทธิ์และเปนมงคลยิ่งนัก
ไมรูวาเวลาผานไปนานเทาใด ขณะที่เจาตัวเล็กกําลังศึกษาการหยั่งรูดั้งเดิม ราวกับ
ไดยินเสียงธรรมชาติกูรอง ลืมตาขึ้นมาโดยพลัน พบวาน้ําเตาเขียวบนตนกําลังขยับ
ปรากฏอักขระเกาแกขึ้นบนพื้นผิว ควบคูกับความเลือนราง มหัศจรรยเหลือเกิน
เขาตะลังงัน อยากมองดูอักขระเหลานั้นใหชัด แตพยายามหลายหนก็ไรผล ไม
สามารถมองมันไดอยางชัดเจนแมแตนิด
สถานการณสงบลงอีกครั้ง เขาพบวา เมื่ออักขระสวางวาบ สุระเสียงแหงธรรมชาติ
ดังกึกกอง เสมือนวาการศึกษาการหยั่งรูดั้งเดิมของเขาจะงายดายมากขึ้น
เจาตัวเล็กแปรเปลี่ยนสีหนา ที่นี่ยอดเยี่ยมเสียจริง!
ค่ําคืนดึกสงัด สรรพเสียงเงียบงัน เจาตัวเล็กออกจากสมาธิ เขาคิดวาควรออกจาก
ที่นี่แลว ไมกลับทั้งคืนเชนนี้มิได
เมื่อถอยออกจากที่นี่ เขาก็ชะงักงัน นี่เปนบานเรือนของคนโบราณอยางแทจริง
น้ําเตาตนนี้ถูกปลูกโดยมนุษยหรือ? มันไมเคยจากที่นี่ไปเลยหรืออยางไร?
มองดูสวนผุพังแหงนี้ สถานที่รกราง เกิดความรูสึกแตกตางขึ้นภายในใจ ในรัศมี
หลายสิบหมี่ลวนกลายเปนทะเลทรายแหงแลง มีเพียงสวนแหงนี้ยงั คงเปนเชนเดิม
ตนหญาสามัญสามารถดํารงอยูได นี่เปนการตั้งใจรักษาสภาพใหเปนเชนดังอดีตกาลของ
ทานเทพารักษหรือ?
มันหวนคํานึงและรําลึกถึงอะไรรึเปลา? เจาตัวเล็กคิดวาเทพารักษตนนี้มี ‘เรื่องราว’
ของตน
สุดทายเขาก็คาราวะไปทางหลังสวนอีกครั้ง หันหลังเดินจากไป ตัดสินใจวาพรุงนี้จะ
มาอีกหน
เพียงยางออกจากสวน เจาตัวเล็กพลันรูสึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที ถอยหลังตึงตังอยู
หลายกาว และเจาลูกขนก็รองเสียงหลง ขนทั้งตัวลุกชันขึ้นมา
เจาตัวเล็กจองมองไปเบื้องหนา นอกสวนมีชายชราผูหนึ่ง ศีรษะขาวโพลน เบาตา
กลวง บนหัวของเขามีดาบเกาเลอะคราบสนิมเลมหนึ่งปกทะลวงผาน
มือทั้งสองขางของเขาหอยลง เล็บมือดําคล้ํา ยาวกวาครึ่งเซี๊ยะ นากลัวยิ่งนัก
เสื้อผาอาภรณเกาอยางหาที่เปรียบไมได รูปแบบโบราณเชนเดียวกับที่บันทึกใน
ตําราโบราณราวกับแกะ ใหความรูสึกขนลุกขนชัน นี่เปนคนโบราณหรือ?
เขาหมดลมหายใจ หัวใจหยุดเตน ปราศจากพลังชีวิต ยืนจังกาอยูเชนนั้น เบาตา
กลวงอันนาสะพรึงกลัว ราวกับหลุมดําสองหลุม
“ทานผูอาวุโส...ทานขวางทางขา” เจาตัวเล็กกลาว
ชายชราคนนี้หายไปอยางไรรองรอย ประหนึ่งไมเคยปรากฏตัวมากอน แตเจาตัวเล็ก
กลับรูสึกเย็นสันหลัง หันตัวกลับไปทันใด หนังหัวชาขึ้นมาอยางฉับพลัน
เจาลูกขนตื่นตระหนกตกใจจนกระโดดโหยงเหยงบนไหลของเจาตัวเล็ก เพราะชาย
ชราหัวขาวอยูดานหลังเจาตัวเล็ก เจียนจะใกลชิดแนบกายเขาแลว
เจาตัวเล็กขนลุกขนชัน กาวถอยหลังไมหยุด
“ซวบ”
ชายชราคนนี้มลายหายไปอีกครั้ง หนนี้มิไดปรากฏตัวดานหลัง แตปรากฏตัวขึ้น
ระหวางซากกําแพงผุพังเหลานั้นภายในพริบตา อีกทั้งยังสงเสียงดังกึกกอง ราวกับกําลัง
ร่ําไห
รวดเร็วเหลือเกิน เสมือนหายไปอยางไรรองรอย จากนั้นสรางรางขึ้นมาอีกครั้ง นา
หวาดกลัวนัก
“เขาไมมีชีวิต พลังชีวิตในรางกายสูญสิ้น ไยจึงเปนเชนนี้...” เจาตัวเล็กถอยหลัง
“วูๆ...”
ชายชราผูมีดาบโบราณปกทะลวงกะโหลก เสนผมปลอยสยายโผลซายทีขวาที เคย
โผลไปยังหลังสวน ยืนร่ําไหอยูหนาเทพารักษไมหยุด สุดทายก็เขามาใกลเจาตัวเล็ก ขวาง
กั้นทางเดินของเขา
บทที่ 111 วิญญาณบรรพกาล
เจาตัวเล็กรูสึกหนังหัวชา ชายชราไรชีวิตคนหนึ่งขวางกั้นเชนนี้ ตองการอะไรกันแน?
มันทําใหเขาขนลุกขนชัน
เสนผมสีขาวเปรอะเปอนคราบเลือดดํา ไมรูวาแหงเหือดมาเปนเวลากี่ป เดิมเคยเปน
ดาบโบราณคมอันหาที่เปรียบไมได ในวันนี้กลับเปรอะเลอะคราบสนิม ไมสามารถ
จินตนาการไดวา ผานกาลเวลาอันยาวนานเพียงใด
“ทานลุง ทานขวางทางขาทําไม มีเรื่องอันใดขอใหบอกกลาว” เจาตัวเล็กกลาว
เจาลูกขนกลับหลบเขาหลังเขาทันที ดวงตาคูนั้นชําเลืองไปมา จิกทึ้งเสนผมของเขา
แนนอยางกระวนกระวาย ดวยเกรงวาชายชราผูนั้นจะอาละวาด
ทุกอยางเงียบสงัด ชายชรายืนนิ่งไมไหวติง ไรการแสดงออกใดๆ ใบหนาดุจไม
พลาสติก เบาตากลวง เอาแตสกัดกั้นทางเดินเขาไว
เมื่อเจาตัวเล็กเห็นดังนั้นก็หลบหลีก เดินไปอีกทางหนึ่ง หมายออมผานเขาไป
เมื่อสิ้นเสียงซวบ ชายชราสรางรางกลางอากาศ ปรากฏตัวขึ้นตรงนั้นอีกครั้ง
ขัดขวางทางเดินเขาอีกครา
“ทานลุง ทานมีเหตุผลหรือไม มีการใดก็เอื้อนเอย อยาทําใหขาตกใจสิ” เจาตัวเล็ก
ใบหนาบูดบึ้ง เตรียมการรับมืออยางเงียบเชียบ
นี่ก็ชางประหลาดเสียจริง ไยจึงมีชายชราไรชีวิตโผลมาเชนนี้ มีความเปนมาอยางไร
กันแน? เพราะเหตุใดจึงตองขวางทางเขา นี่มันเห็นผีกลางวันแสกๆ[1]ชัดๆ!
ตองรูวานี่เปนถึงสถานที่พํานักอาศัยของเทพารักษ ไยจึงมีชายชราที่เปนคนก็ไมใช ผี
ก็ไมเชิง สวมชุดโบราณเชนนี้ละ? ชางนาขนพองสยองเกลา
ทันใดนั้น เจาตัวเล็กก็หันหลัง มุงหนากลับไปในสวนอยางรวดเร็ว พุงหายไปยังหลัง
สวนดังฟว
เทพารักษอยูที่นี่ ลองดูสิวาชายชราหัวขาวคนนั้นยังสามารถขัดบัญชาสวรรคไดอีก
ไหม หากแมแตตนน้ําเตาที่ปกปกษรักษาดินแดนสุขาวดียังกําราบเขามิได เชนนั้นก็จน
ปญญาแลว
ตั้งแตเริ่มตนกระทั่งตอนนี้ เจาตัวเล็กมิไดลงมือ เพราะเขารูสึกถึงความมิชอบมาพา
กล การดํารงอยูเยี่ยงผีเยี่ยงคนเชนนี้อาจเปนภัยอันตรายอยางแสนสาหัส ไมยั่วยุรังควาน
จะเปนการดีที่สุด
ณ หลังสวน ตนน้ําเตายังคงเหี่ยวแหงเชนเดิม นอมรับการชําระลางจากแสงดาวและ
จันทรา ขมุกขมัวและออนโยนไปทั่วบริเวณ
“ทานลุงเทพารักษ ครั้งนี้มีชายแกคนหนึ่งมาดวย ทานพูดคุยกับเขาเสียหนอย มิ
เชนนั้นเขาจะขัดขวางขาเชนนี้ ไมยอมใหขาจากไป” เจาตัวเล็กมายังใตตนน้ําเตา
เขาหวังวาเทพารักษจะตอบโต อยางไรก็ตาม นี่ถือวาอยูในอาณาบริเวณดินแดน
สุขาวดี มันอาจจะสนใจไยดี ทวาเขากลับสิ้นหวัง เถาวัลยแหงไมขยับ ใบเหลืองหมนแสง
ไมมีอากัปกิริยาใดๆ
ชายชราผมขาวก็มายังละแวกใกลเคียง ยืนประจันหนากับเขา เผชิญหนาอยูเชนนั้น
ขวางทางเดินของเขา จองมองเขาดวยเบาตากลวงโบ
เจาตัวเล็กกังวล พุงตัวไปยังกลุมหินเกลื่อนกลาด หมายขยับผลน้ําเตาบนตน เพื่อ
ปลุกเทพารักษใหตื่นจากการหลับใหล
เมื่อเขาใกล ผลน้ําเตาเขียวก็แผไอพรามัว สงเสียงสะเทือนแกวหู ปลอยอักขระ
ออกมาหนึ่งตัว กลิ่นอายนากลัวเกรียงไกร นาตื่นตะลึงเหลือเกิน ระลอกคลื่นประหลาด
ทําใหเจาตัวเล็กลาถอยอยางจําใจ
อักขระนับพันหมื่นผนึกกําลัง อีกทั้งไอพรามัวคอยๆ แนนหนาขึ้น แผคลุมผลน้ําเตา
เขียว ราวกับมาเยือนวันสรางโลก ที่นี่มีมานหมอกขมุกขมัว กระแสไฟประสานกัน
ในขณะเดียวกัน ชายชราผมขาวผูนั้นตัวกระตุก มีเสียงเล็ดรอดออกมาจากปากวา
“คืนดาบขามา...”
ในค่ําคืนดึกสงัด เจาตัวเล็กเย็นสันหลังวาบ คืนดาบอะไรกัน? ตรงนี้มีอยูเลมหนึ่ง แต
ปกอยูบนศีรษะของชายชรา จะคืนไดอยางไร?!
“ทานลุง ดาบอยูบนหัวทาน”
ชายชราราวกับไมไดยิน ยังคงเอยกับเจาตัวเล็กวา “คืนดาบขามา”
เจาตัวเล็กตกใจระคนสงสัย หรือจะใหเขาชวยชักดาบออกมาหรือ? เขาเอยวา “จะ
คืนไดเยี่ยงไร ทานกมหัวลงมาสิ ขาชักออกให”
“ชริ้ง”
ดาบโบราณสงเสียงสั่นออกมา บริเวณนั้นฉายคราบเลือดสีดําเปนทาง ชายชรา
กระตุกอีกครั้งแลวพึมพําวา “คืนดาบขามา”
เขายืนขวางเจาตัวเล็กไว พร่ําเอยประโยคนั้น ทําใหสือฮาวลนลาน ไมรูจะทํา
อยางไรดี หนสุดทายเจาตัวเล็กถูกบีบคั้นจนพูดออกมาวา “เอาละ ขาจะชวยหาดาบของ
ทานใหภายหลัง แลวคืนมันแกทาน”
เมื่อวาจานี้ถูกเอยออกไป ฟาดินพลันเปลี่ยนแปลง เสียงลมพัดกรรโชก ฟาแลบ
แปลบปลาบสายฟาคําราม ชายชราหายไปในบัดดล มองไมเห็นอีกตอไป
เจาตัวเล็กสันหลังเย็นยะเยือก ชางนาสะพรึงกลัว สรางความโกลาหลในดินแดน
เทพารักษเชนนี้ ตนน้ําเตาไรการตอบสนองใด หรือทั้งสองจะรูจักกัน?
“เขามีความเปนมาอยางไรกันแน ไยจึงพิลึกกึกกือเชนนี้?!” เจาตัวเล็กตื่นตระหนก
ใจอยางแทจริง หลีกหนีจากดินแดนพํานักของเทพารักษในพริบตา ไมแมแตจะหันหลัง
กลับมา
ลูกขนกระสับกระสาย จับคอเสื้อของเขาไวแนน ราวกับมีโคอาลาเกาะอยูบนตัวเขา
สายลมพัดหวีดหวิวจนเนื้อตัวลอยขึ้น วิ่งหนีตามเขาไปอยางรวดเร็ว
ศาลาปดฟาใหญโตยิ่งนัก กวางใหญไรที่สิ้นสุด เจาตัวเล็กวิ่งออกมาไกลหลายสิบลี้ใน
หนึ่งอึดใจ ออกหางดินแดนพํานักของเทพารักษไดในที่สุด แสงจันทรสวางไสว ดวงดาว
พรางพรายเต็มฟากฟา ผืนดินบริเวณนั้นเงียบสงบ ชายชราผูนั้นมิไดปรากฏตัวอีกตอไป
“ไป!” เขาออกวิ่งอีกครั้ง
ระหวางทางมีภูเขาวิเศษตั้งตระหงานเรียงราย ใตแสงจันทราสีเงินปกคลุมดวยมาน
หมอกบางหนึ่งชั้น ราบเรียบขมุกขมัว แตละตําหนักตั้งอยูบนนั้น ทั้งยังมีน้ําตกวิเศษไหล
ลงมาจากขุนเขา ใสสะอาดดุจแพรไหม ไอหมอกกระเพื่อมขึ้น ใตแสงจันทรดุจสายน้ํา
สงผลใหมันยิ่งเลือนราง ประหนึ่งมายังดินแดนเทพเจา
ผานการเดินทางนับรอยลี้ เจาตัวเล็กกลับมาถึงที่พัก ดึกดื่นคอนคืน ศิษยคนอื่นๆ
เขานอนกันหมดแลว เขามุดเขาไปในกระทอมของตนดังซวบ ลมตัวลงนอน
ผานเรื่องราวมาเมื่อครู ทําใหเขาไมอยากจะหวนคิดถึงอะไรทั้งสิน้ แลว คาดหวังให
ลืมไปโดยเร็ววัน เขาสูหวงนิทราใหไวที่สุด
ลูกขนก็เชนเดียวกัน มันชายตามองนอกหนาตางไปกี่หนอยางกระวนกระวาย
จากนั้นหลับตาลง หลบอยูหลังเจาตัวเล็ก เริ่มเขาสูการหลับใหล
เวลาผานไปหลายวัน ทุกอยางปกติสุข เจาตัวเล็กวางใจ ไมมีปญหาอะไรเกิดขึ้น
อยางไรก็ตาม เขาไมกลับไปที่นั่นอีกเลย ดวยเกรงวาจะเห็นผีอีกครั้ง
หลายวันตอมา เขาสงบเสงี่ยม ไมออกนอกลูนอกทาง โดยเฉพาะกลางค่ํากลางคืน
เขาจะไมออกนอกประตูเลย เพียงนั่งขัดสมาธิบนหลังคา กลืนกินพลังฟาดิน แปรเปลี่ยน
แสงดาว เมื่องวงก็เขานอน
คืนที่หก เจาตัวเล็กขนหัวลุกขึ้นมาโดยพลัน กระโดดขึ้นนั่ง สงเสียงรองโวยวายวา
“ผี!”
ไมรูวาชายชราหัวขาวผูนั้นมาเมื่อใด ยืนอยูปลายเตียง เบาตากลวงโบจดจองเขา
อยางไมลดละ หัวหลั่งเลือดสีดํา จิตสังหารของดาบโบราณเลมนั้นนาเกรงขาม
ในชวงเวลาดึกสงัดเงียบสงบ เสียงรองเชนนี้ลอยออกไปอยางไกลโพน ลูกศิษย
ละแวกใกลเคียงตางตะลึงงัน พากันตื่นขึ้นมา ลุกนั่งอยางรวดเร็ว
ลูกขนที่กําลังหลับใหลยอมสะดุงโหยง ขนลุนขนพองไปทั้งตัว กระโดดจากหมอน
ของเจาตัวเล็กอยางสะลืมสะลือ
“ปง”
มันกระแทกชนกับศีรษะของชายชราทันที ควาหมับเขาที่เสนผมสีขาว ประจันหนา
กับเบาตากลวงโบนั่นอยางจัง มันสงเสียงรองโหยหวนขึ้นมาทันใด ตื่นกลัวจนลนลาน
ลมลุกคลุกคลาน ปนไตขึ้นบนศีรษะของเขา จากนั้นกระโดดลงมาตรงไหล สุดทาย
ตาเหลือกจนแทบจะเปนลมหมดสติไป
เจาตัวเล็กสันหลังเย็นเยือก กระโจนเขาไปควาหางของเจาลูกขน หิ้วตัวมันมาแลว
พุงชนหนาตางวิ่งหนีออกไป
ที่นี่ชุลมุนวุนวาย สะเทือนคนจํานวนมาก ที่พักมากมายมีแสงเทียนสวางขึ้น
“อะไรกัน ผูใดเอะอะโวยวาย เกิดอะไรขึ้น?”
“ผูใดกันแน ไยจึงสงเสียงดังกลางค่ํากลางคืนเชนนี้ รบกวนการนอนผูอื่นไมรูรึ?!”
ผูคนมากมายพุงตัวออกมา เสาะหาตนตอของเสียง
“ทางนี้ ทุกคนมาดูเร็วเขา ขาแนะนําสหายคนใหมใหพวกเจารูจัก” เจาตัวเล็ก
ตะโกนลั่น พยายามขมความกลัว ดวยอยากสรางความประหลาดใจใหแกฝูงชน
ชายชราผูนั้นดุจดั่งวิญญาณ เขาใกลตัวเขาอยางเงียบเชียบ จองมองเขาอยางแข็งทื่อ
อยูอยางนั้น
หากวาเปนผีจริง คนอยูอาศัยรวมกันตั้ง 3000 คน จิตสังหารทวมทนทองฟา จะไม
ทําใหเจาหนีเตลิดไปหรือ? นี่เปนความคิดของเจาตัวเล็ก แนนอนวาเมื่อทุกขก็ตองรวม
เสพ มีความคิดอยากใหทุกคนมาทําความรูจักกับตาลุงพิลึกพิลั่น
“เฮ เจาตะโกนทําไม?” ชายหนุมกลุมหนึ่งพุงเขามา จองมองเขาอยางประหลาด
มองไมเห็นชายชราผมขาวผูนั้น
เจาตัวเล็กตะลึงงัน พูดวา “พวกเจากลาหาญถึงเพียงนี้ ไมเกรงกลัวเลยหรือ?”
“แปลกคน ขาไมเขาใจวาเจากําลังพูดเรื่องอะไร” ชายหนุมเหลานี้ไมพอใจ
โดยเฉพาะเด็กหญิงงดงามในฝูงชนซึ่งเคยถูกเจาตัวเล็กดึงชายกระโปรงคนนั้นกลับ
ยิ่งถลึงตา มือเทาเอวแลวพูดวา “เจาทําเรื่องพิลึกอีกแลว หาเรื่องทุกคนใชไหม?”
เจาตัวเล็กงุนงง คนกลุมนี้มองไมเห็นชายชราหัวขาวผูนี้หรือ? ชางนากลัวเหลือเกิน
ขนลุกชันไปทั้งตัว เขาพูดวา “พวกเจาไมเห็นเขาหรือ ยืนอยูหนาขาตรงนี้ ชายชราคน
หนึ่ง เบาตากลวงโบ บนหัวมีดาบปกอยู หลั่งเลือดสีดํา...”
“เลวนัก กลางค่ํากลางคืนอยามาหลอกใหตกใจ!” หญิงสาวงามคนนั้นถลึงตาใสเขา
คนอื่นๆ ก็ไมพอใจ
“ขาไมได โอย ผีนะ!” เจาตัวเล็กรองโหยหวน ยิ่งกนดาตาลุงคนนี้ก็ยิ่งรุดเขามาใกล
ตัวเจียนแนบติดกับเขาเสียแลว
เขามากดวยพละกําลัง ตะโกนเสียงดังเชนนี้ ยอมทําใหคนทั้งหมดตื่นตกใจ เพียงชั่ว
ครูคนกวา 100 คนก็เฮโลกันมา จองมองเขาอยางฉงนสนเทห
“มีตาลุงคนหนึ่งจริงๆ นะ เลือดดําไหลลงบนใบหนา ทําไมพวกเจาไมเห็นกันละ?!”
เจาตัวเล็กกระสับกระสาย
สุดทายมีคนหลายรอยรวมตัวกันที่นี่ ชี้ไมชี้มือ ไมพอใจเขาเปนอยางมาก เพราะ
รบกวนการนอนของพวกเขา
“ตูม!”
เจาตัวเล็กกระวนกระวาย กระโดดลอยตัวขึ้น ใชนิ้วดีดลงบนดาบเบาๆ เกิดเสียงสั่น
ดังเครงขึ้นหนึ่งเสียง ลานที่เคยมีเสียงเอะอะโวยวาย เงียบสงบลงในพริบตา
ผูคนลวนตะลึงลาน หวาดหวั่นพรั่นพรึง
แตคนบางสวนตื่นจากภวังคทันที มีคนรองตะโกนวา “หลอกลวง เจาคิดวาพลังอํา
พรางจะทําใหพวกเราตกใจรึ?”
เจาตัวเล็กพุงออกไปดังฟว ชายชราผมขาวยอมตามติด ยืนขวางอยูเบื้องหนา
“หากไมเชื่อ เจาลองมาสัมผัสดูเสียสิ” เจาตัวเล็กตะโกนบอก
“ขาไมเชื่อ!” หญิงสาวที่ถลึงตาอยูตลอดคนนั้นกาวออกมา นอกจากนี้ยังมีชายหนุม
อีกหลายคนยื่นมือออกมา
เพียงพริบตา พวกเขารูสึกราวกับสัมผัสกับน้ําแข็งแกะสลัก เย็นเยือกทิ่มแทงกระดูก
ตกใจจนขวัญหนีดีฝอ หดมือกลับอยางรวดเร็ว ปากก็รองตะโกนวา “ผี!”
ทั้งที่มองไมเห็นอะไรเลย แตกลับสัมผัสได ทําใหเหลาชายหนุมตะลึงพรึงเพริด มี
บางสวนลมลุกคลุกคลานระหวางที่กําลังรนถอยหลัง
“อาก...” หญิงสาวงดงามคนนั้นรองเสียงหลง จ้ําอาวโกยหนี เหยียบย่ําชายหนุมที่
เกลื่อนกลาดบนพื้น วิ่งหนีหายไปอยางไรรองรอย
เจาตัวเล็กเบียดตัวเขาไปในฝูงชน ทําใหเด็กๆ พากันร่ําไหขึ้นมาทันที มีคนจํานวน
มากสัมผัสได ตื่นตระหนกใจกันเปนอยางมาก พากันหาทางวิ่งหนีกันอยางบาคลั่ง
เพียงชั่วพริบตา ไรเงาผูคนนับรอย ที่แหงนี้โลงกวาง เจาตัวเล็กนิ่งอึ้ง ชางรวดเร็วกัน
เหลือเกิน
ละแวกภูหินชุลมุนวุนวาย บานเรือนจุดเทียนจนสวาง ศิษยใหม 3000 ชีวิตลวนตื่น
ตระหนกตกใจ หนึ่งคนบอกเลาใหสิบคน สิบคนบอกเลาใหรอยคน ลวงรูกันไปทั่ว
ชั่วพริบตา รอบกายเจาตัวเล็กเงียบสงัด คนที่พักใกลเคียงจ้ําอาวหนีไปอยางไร
รองรอย
“รีบไปรายงานผูอาวุโส!”
ระยะนี้ผูอาวุโสสงเฟยและเฉายวิ๋นออนเปลี้ยเพลียแรง เกิดเรื่องราวมากมายปานนั้น
ทําใหสะบักสะบอมสิ้นทา กินไมไดนอนไมหลับ
กวาจะสงบลงไดนั้นไมงายเลย พวกเขาคิดวาคงไมมีปญหาใดแลว ทวาในตอนดึกดื่น
คอนคืนเกิดเสียงรองโวยวายไปทั่วภูเขาวิเศษของพวกเขา
“เกิดอะไรขึ้นอีกแลว?!” ทั้งสองเกิดออนระโหยโรยแรง
“ทานผูอาวุโสขอรับ ผีอาละวาดขอรับ ชายชราผมเผารุงรัง ดาบปกหัว เลือดสีดํา
ไหลเปนทางปรากฏตัว...” เหลาชายหนุมตะโกนเสียงดัง
“อะไรนะ?!” สงเฟยกับเฉายวิ๋นหนาเปลี่ยนสี พุงตัวลงจากภูเขาวิเศษ ความือเด็ก
คนหนึ่งไวดวยทาทางขึงขังอยางหาที่เปรียบไมได ซักถามเสียงดัง
ชายหนุมเหลานี้บอกเลาเรื่องราวทั้งหมดอยางรวดเร็ว
สงเฟยกับเฉายวิ๋นใบหนาซีดเผือก ริมฝปากสั่นระริก เจียนวิ่งหนีเตลิดไป
“ทานผูอาวุโสเปนอะไรไปขอรับ พวกเจารีบไปดูเสียหนอย”
“ตั้งแตบรรพกาลกระทั่งตอนนี้ หลายรอยปปรากฏตัวหนหนึ่ง แตหากโผลมา ตองมี
คนตายไมนอยเลย!” ผูอาวุโสเฉายวิ๋นเอยเสียงสั่น
เมื่อเด็กๆ ไดยิน ตางตกใจกันอยางเหลือลน แตละคนถอยหลังตึงตัง ลวนกระวน
กระวายอยางที่สุด เนื้อตัวเย็นเยียบ หนังหัวชากันระนาว
ยิ่งไปกวานั้น สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือ ผูอาวุโสสงเฟยกับเฉายวิ๋นกลับเพิกเฉย
ตอพวกเขา แตกลับวิ่งหนีเตลิดเปดเปง ไรรองรอยภายในพริบตา
มีผูอาวุโสที่ไมรับผิดชอบเพียงนี้เชียวหรือ หนีเอาตัวรอดไปกอนเสียแลว!
“พวกเจารอกอน พวกขาจะไปเชิญผูสูงศักดิ์!” โชคดีที่มีเสียงของคนสองคนแววมา
เกิดหายนะในภูหิน วิญญาณที่ดํารงอยูตั้งแตครั้งบรรพกาล ไมสามารถแกไขได
ตั้งแตอดีตกาลจวบจนวันนี้หรือ? นี่มันเรื่องอะไรกัน ไยพวกเขาจึงประสบพบเจอเชนนี้
เลา?
ทุกคนตางหวาดผวา แตเห็นอกเห็นใจเด็กเคราะหราย เห็นไดชัดวาวิญญาณตนนั้น
หมายหัวเขา
คนมากมายแข็งใจเดินมุงหนาไปสักระยะหนึ่ง ทอดสายตามองสวนแหงนั้น แตกลับ
ตะลึงจนพูดไมออก เด็กคนนั้นทําอะไร? อาจหาญนัก!
เมื่อเจาตัวเล็กตกใจตื่น สติคอยๆ คืนกลับมา ไมหวาดกลัวอีกตอไป ในตอนนี้
กระโดดเขาชายชราผมขาว ขึ้นขี่คอเขาไว
ในมือกํากอนหินกอนหนึ่ง ฟาดลงไปไมยั้งมือ ไมรูวาอยากทําใหกะโหลกนั่นเปดออก
หรืออยากทําใหดาบเลมหนักหัก ปากบนพึมพําวา “คืนดาบแกทาน ขาจะเจาะมัน
ออกมา อยาติดตามขาเลย นารําคาญใจยิ่งนัก!”
ในขณะเดียวกัน มีเสียงทะลุชั้นฟามา ผูสูงอายุคนหนึ่งปรากฏขึ้นไกลๆ ในมือกํา
น้ําตาเหลืองอราม ไอเลือนรางตลบอบอวล
นอกจากนี้ มีเสียงคํารามยาวจากทางไกลดังมาเปนระลอก เหลาผูกลาที่บําเพ็ญตน
บนภูเขาล้ําคามโหฬารลวนถูกปลุกปน ผูสูงศักดิ์แหงศาลาปดฟาสะเทือน ออกจากการ
บําเพ็ญตนพรอมกับ มุงหนามาที่นี่อยางรวดเร็ว
..............................
[1] เห็นผีกลางวันแสกๆ อุปมาวา เหลือเชื่อ แปลกประหลาด
บทที่ 112 ตายหรือแสวงโชค
“ตูม”
เจาตัวเล็กออกแรงทุบตี แตวาแขนปวดเมื่อย สําหรับพละกําลังเพียงหนึ่งสะบัดแขน
ก็มีน้ําหนักวาสิบหมื่นกวาชั่งของเขา นี่มันเหลือเชื่ออยางแทจริง
บนพื้นมีผงหินกระจายเกลื่อนกลาด เกิดจากกอนหินแหลกละเอียดรวงหลนลงไป
เขากระโดดลงมาแลวควาหมอสําริดมา ขึ้นขี่คอชายชรา ออกแรงทุบตี กระหน่ํา
ฟาดอีกครั้ง
ที่แหงนี้เสมือนตีเหล็ก เกิดเสียงดังครืนครัน ประกายไฟกระเด็นกระดอน ไมวาจะ
เปนกะโหลกหรือดาบเลมนั้น ลวนไมไดรับความเสียหาย นาครั้นครามยิ่งนัก
เจาตัวเล็กเกาหัว แข็งแรงทนทานเหลือเกิน เมื่อเขากางแขนออก มีพละกําลังรุนแรง
ปานใด แตกลับขุดออกมาไมได เสียงดังตึงตัง สะเก็ดไฟแตกกระเด็นเซ็นซาน อยางไรก็
นิ่งไมไหวติง
“ทานลุง ดาบบนหัวทานตองเปนอาวุธล้ําคาอยางแนนอน ทนทานยิ่งนัก หากขาชัก
ออกมาได ตองคืนใหทา นจริงๆ หรือ?!” เจาตัวเล็กน้ําลายจวนไหล
ไกลออกไป ชายหนุมกลุมหนึ่งมองเห็นทวงทาของเขา แมจะไมเห็นชายชรา แต
เขาใจวาเขากําลังทําอะไร แตละคนตะลึงพรึงเพริด
เจาเด็กคนนี้องอาจกลาหาญนัก!
ยิ่งกวานั้นคือ เขากลับตองการรวบดาบโบราณเลมนั้นไวดวยรึ? คนอะไรกัน เจียน
เอาชีวิตไมรอด ยังคิดถึงเรื่องอาวุธล้ําคา!
เจาตัวเล็กยอมไมไดยินคําบอกเลานั่น ไมรูวาเรื่องราวดํามืดของวิญญาณบรรพกาล
ยังตลบอบอวลจวบจนทุกวันนี้ ดวยเหตุนี้ เขาจึงทุบตีอยางไมเกรงกลัว หมายอยากชัก
ดาบออกมา
“ไอหยา ตาแกพวกนี้ยกโขยงกันมา สถานการณไมดีเสียแลว” เจาตัวหลังหัน
กลับไปมอง พบหนังสัตวสวางวาบ เขาโบราณกะพริบระยิบระยับ เถาวัลยสาดแสง
บรรทุกตาแกกลุมหนึ่งลอยมา
ผูสูงวัยดานหนาสุดเคยปรากฏตัวแลว มีนามวาเถาเหยี่ย ในมือกําน้ําเตาเหลืองอราม
ไอเลือนรางตลบอบอวล เสมือนบรรจุโลกหลาไว มุงหนามาอยางรวดเร็ว
เจาตัวเล็กไมอยากเปนจุดสนใจ มิเชนนั้นตัวตนที่แทจริงอาจถูกลวงรู ถูกเปดเผย
ออกมา แตตอนนี้ก็อับจนหนทาง ชายชราผูถูกมีดปกกะโหลกคนนี้ดึงเขาเขาไปเกี่ยวของ
เสียแลว
เมื่อกลุมคนกรูกันเขาประชิด ไมมีผูใดไมตกตะลึง เด็กคนนี้เปนใคร? ผูวิเศษแน!
เขากําลังทําอะไร ขี่คอชายชราผูนั้นแลวกระหน่ําทุบตีหรือ? ตะลึงจนตาแทบถลน
ออกจากเบา ชางหมดคําจะเอื้อนเอย อาจหาญลงมือกับวิญญาณบรรพกาลเชียวหรือ!
“ตาขาฝาฟางแลวหรือ หรือมาผิดที่ผิดทาง? เด็กคนนั้นคือใคร องอาจกลาหาญยิ่ง
นัก”
ตั้งแตอดีตกาล กาลเวลาผานไปอยางไมสิ้นสุด มิเคยไดยินวามีผูใดกลาลวงละเมิด
ความลี้ลับเชนนี้มากอน วันนี้ถือเปนการเปดวิสัยทัศน เด็กไมรูความคนหนึ่งองอาจไดถึง
เพียงนี้!
คนกลุมหนึ่งเขาใกลแลวรอนลงสูพื้นดิน
เจาตัวเล็กพูดอยางระมัดระวังตัววา “พวกทานจะทําอะไร?” พูดพลางกอดดาบไว
แนน ทั้งยังขี่บนคอชายชราไมยอมลงมา
คนกลุมนี้ตะลึงงันไปชั่วขณะ พวกขามาชวยเจา ไยจึงมองพวกขาเปนคนชั่วเชนนั้น
และสิ่งที่ทําใหหมดคําพูดคือ เด็กคนนี้กอดดาบไว มองดูอยางไรก็ราวกับเด็กหวงของกิน
แมแตดาบเลมนั้นเจาก็ปรารถนาจะครอบครองหรือ?
“ดาบที่เจากอดอยูนั่น...” ผูอาวุโสทานหนึ่งกลาว
“ของขา ของขา ขาเก็บมันได!” เจาตัวเล็กกอดดาบไวแนนดวยทาทีระแวดระวัง
คนกลุมนี้กลืนไมเขาคายไมออก เปนไปตามคาดหมาย เด็กคนนี้จะขัดบัญชาสวรรค
เสียแลว แมวัตถุนี้ก็กระตือรือรนจะแยงชิงรึ? ชางทําใหผูคนพูดคําใดไมออก
“อะแฮม!” ชายชราผูถือน้ําเตากระแอมไอแลวกลาววา “ขาวาเจาเขาใจเจตนาของ
พวกขาผิดไป ดาบนี่พวกขาไมตองการ แตมาเพื่อชวยเหลือเจา”
“เชนนั้นพวกทานก็เอยมา” เจาตัวเล็กหนึ่งมือกอดดาบไวอยางตื่นตัว อีกหนึ่งมือหิ้ว
หมอสําริด ฟาดลงไปตึงตังอีกหน นี่มันใชแรงงานอยางเห็นไดชัด ตองการชักออกมาใหไว
ที่สุด
ชาวศาลาปดฟากลืนไมเขาคายไมออก เพิ่งเคยพบเห็นเด็กดื้อเชนนี้ ไยลักษณะจึง
คุนเคยยิ่งนัก?
“หยุดทุบเถิด ไมมีผูใดแยงชิงหรอก!” ผูอาวุโสสงเฟยใบหนาซีดเซียว ตะโกนบอก
อยางรวดเร็ว เพื่อหยุดยั้งมิใหเขาทําลายตอไป
แตเด็กดื้อคนนั้นกลับเมินเฉย กวัดแกวงหมอสําริดเต็มแรง ฟาดจนฟาสะเทือน ฝูง
ชมในเหตุการณมองดูจนอกสั่นขวัญแขวน เจาเด็กนี่พลังงานเหลือลนจริง พละกําลังชาง
นาตะลึงงัน!
ผูอาวุโสเฉายวิ๋นหนาเขียว บอกเลาเรื่องราวของวิญญาณบรรพกาล บอกกลาวเขาวา
นี่เปนปริศนาไมคลี่คลาย กระทั่งวันนีย้ ังคงปกคลุมดวยเงาดํามืด
“อะไรนะ เมื่อปรากฏตัวจะมีคนตายเปนเบือ โดยเฉพาะอัจฉริยะหรือ?” เจาตัวเล็ก
นิ่งงัน หมอสําริดในมือรวงลงพื้นดังตุบ จากนั้นกระโดดลงมาทันที มุงหนาวิ่งมาทางนี้
สิ้นเสียงดังซิ่ว เขาวิ่งเขาไปเกาะหลังผูอาวุโสเฉายวิ๋นไว กอดไวแนนอยางแมตัวตายก็
มิยอมปลอยมือ
“เจาเด็กคนนี้จะทําอะไรนะ กอดขาไวทําไม?” ผูอาวุโสเฉายวิ๋นใบหนาซีดเซียว ตาม
หลักกลาววา เมื่อสัมผัสของตองหาม แมแตผูอาวุโสก็ตองตาย!
“ขาจะมอบดาบเลมนั้นใหทาน ทานผูอาวุโสชวยขาดวย!” เจาตัวเล็กเลนไกวชิงชา
บนตัวเขา
“ขา...ไมเอา!” เฉายวิ๋นใบหนาซีดเผือก เขาควรทําอยางไร พูดวาตนหวาดกลัวก็มิได
นี่ตอหนาคนกวา 3000 คนเชียวนะ
เมื่อเจาตัวเล็กเห็นใบหนาไรสีเลือดของเขา พลันเกิดความแคลงใจ จากนั้นปนขึ้น
หลังของผูอาวุโสสงเฟยทันที กอดคอของเขาไวแนนอยางไมยอมรามือ
“ใตเทาเทพารักษ!” ผูอาวุโสสงเฟยหนาเขียวขึ้นมาชั่วขณะ เด็กดื้อคนนี้เคลื่อนไหว
เร็วยิ่งนัก เปลี่ยนมาอยูบนตัวเขาอยางคาดไมถึง ในใจพลันเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา
ยิ่งไปกวานั้น เขารูสึกราวกับมีรางกายเย็นเยือกยืนตระหงานอยูเบื้องหนา กําลังจอง
เขาเขม็ง
“ทานผูอาวุโสโปรดอยาขยับ ศีรษะทานเจียนชนกับใบหนาของเขาแลว” เจาตัวเล็ก
เตือน
โอสวรรค! ผูอาวุโสสงเฟยตื่นตกใจระคนหวาดกลัว สบถดาในใจ สาปแชงไมหยุด
เจาเด็กผีคนนี้ชางไรมารยาท ปนปายรางกายของผูอาวุโสตามอําเภอใจไดหรือ? ใครก็ได
ชวยขาที เขาร่ํารองในใจ! ตองรูวา การดํารงอยูของวิญญาณตนนี้ไดชื่อวา เทพเจาแหง
ความตาย เมื่อเพงเล็งผูใด สุดทายก็มักจะไรทางรอด ตั้งแตครั้งบรรพกาลจวบจนวันนี้
หลายรอยปปรากฏตัวขึ้นหนหนึ่ง หากไมเปนไปตามเงื่อนไขของมัน ตราบใดที่มีผูพบเห็น
จําตองมีคนตายเปนเบือ
“แยกยายกันไปใหสิ้น หาไดมีสิ่งใดนาดู” ผูสูงศักดิ์มือกําผลน้ําเตาเถาเหยี่ยเอยปาก
ใหศิษยใหม 3000 กวาคนถอยออกไป
“นําเขาไปที่ตําหนักโบราณ” บุคคลสูงศักดิ์อีกผูหนึ่งกลาว จะพาเจาตัวเล็กไปยัง
สถานที่สําคัญที่สุดแหงหนึ่งของศาลาปดฟา
ผูอาวุโสสงเฟยกล้ํากลืนฝนทน เจาเด็กคนนี้เกาะอยูบนตัวเขาไมยอมลงไป จะนําไป
ดวยไดอยางไร เบื้องหนามีซากวิญญาณบรรพกาลขวางกั้นอยูเชียวนะ
“ทานผูอาวุโส ทานเดินถอยหลังก็เพียงพอแลว” เจาตัวเล็กออกความเห็น
ผูอาวุโสสงเฟยอยากเอยปากขอรองเขาดวยใบหนาอภิรมย แตกลับเผยรอยยิ้มที่นา
เกลียดยิ่งกวาการร่ําไหแลวพูดวา “เจาลงกอนไดรึไม?”
“มิได ขากลัวตายที่สุด” เจาตัวเล็กกอดคอเขาไวแนน แขนคูนั้นรวมกันแลวมีพลังถึง
สองสามแสนชั่ง ยังมิไดออกแรงมากนัก แตกลับรัดจนผูอาวุโสสงเฟยเจียนขาดลมหายใจ
“ปลอยมือ!”
“ไมปลอย ขากลัวตาย!”
“ปลอยมือ...แคกๆ...” ผูอาวุโสสงเฟยตาเหลือก หากรางกายไมปรากฏอักขระวูบ
วาบ คาดวาอาจถูกเจาเด็กเลวกอดรัดจนหมดสติ เรื่องนาขบขันจะไปกันใหญ
“รีบปลอยมือเสีย มิเห็นหรือวาผูอาวุโสสงเฟยหายใจไมออกแลว?” ผูอาวุโสเฉายวิ๋น
ตวาด
“ออ ขอรับ” เจาตัวเล็กคลายออกเล็กนอย แตกลับเกาะอยูบนหลังเขาราวกับที่แปะ
หนังหมาไมยอมลงมา
ฝูงชนสับสนอลหมาน พบเห็นเด็กเชนนี้นอยนัก ไมมีผูใดไมเคารพยําเกรงทานผู
อาวุโส ใกลเคียงกับหนูเจอแมว แตเขากลับทําดี เมื่อพบหนาก็กระโดดขึ้นหลังทานผู
อาวุโส แตกตางจากผูอนื่ อยางสิ้นเชิง!
มีคนเผยสีหนาฉงนสนเทห เมื่อครูเจาตัวเล็กเกาะหลังทานผูอาวุโสสงเฟยเจียนขาด
อากาศหายใจ พละกําลังกายเชนนั้นนาตกใจอยูไมนอยเลย
ในที่สุดกลุมคนมโหฬารพันลึกมุงหนากาวเดิน เบียดเสียดยัดเยียด ลวนเปนชายชรา
และหญิงแก นําเจาตัวเล็กมุงหนาไปตําหนักโบราณอยางรวดเร็ว
ผูอาวุโสสงเฟยร่ําไหในใจไมหยุด เขาเดินถอยหลังมาตลอดทาง สัมผัสไดถึงไอเย็นยะ
เยือกบาดกระดูก ไยเจาเด็กดื้อคนนี้จึงเกาะเขาไวแนน นาชิงชังกวาเด็กเหลือขอในโลก
แหงความวางเปลาเปนไหนๆ เพราะหนนี้เกี่ยวพันถึงความเปนความตาย!
ตําหนักโออา ไอมงคลกระเพื่อมขึ้นลง ตั้งตระหงานอยูบนภูเขาสูง เบื้องลางหอม
ลอมดวยปาทั่วทั้งสี่ทิศ อีกทั้ง ภายในตําหนักโอโถงมีกระดูกล้ําคาโบราณ อักขระ
ไหลเวียน ค้ําจุนที่แหงนี้ ปลอยแสงสวางวิเศษออกมาสายแลวสายเลา
ตําหนักสีสดงดงาม สาดแสงพนไอมงคลเจิดจาจนเจาตัวเล็กตาเบิกโพลง อยากหา
คอนมาสักเลม จากนั้นทุบไปทั่วใหรูแลวรูรอด จัดการกระดูกล้ําคาเหลานั้นใหสิ้น
“ทานทั้งหลายนั่งลงเถิด” ผูอาวุโสทานหนึ่งกลาว
เจาสํานักมิเคยออกจากการบําเพ็ญตน เหลาผูอาวุโสในตําหนักลวนมี
ยศถาบรรดาศักดิ์ใกลเคียงกัน มิตองเรียงลําดับที่นั่ง แนนอนวาผูอาวุโสเฉกเชนสงเฟย
และเฉายวิ๋นไมอยูในตําแหนงนี้ ยศศักดิ์หางกันอยูมากโข
เมื่อเจาตัวเล็กจิตใจสงบลงแลว แสงสวางเจิดจาภายในตําหนักก็คอยๆ มลายหายไป
แปรเปลี่ยนเปนเกาแกอยางหาที่เปรียบไมได เขาทอดถอนหายใจในใจ ผานกาลเวลาอัน
รุงโรจนอยางแทจริง หนสุดทายก็คืนกลับสูความสงบอีกครั้ง
ทุกหนแหงของศาลาปดฟากําจายเสียงบทสวด คืนสติแกบรรดาลูกศิษย สรางความ
นายําเกรงยิ่งนัก
“หากคํานวณเวลาดูแลว เขารอยยอดจะเปดขึ้นอีกครา มิเชนนั้นศาลาปดฟาแหงเรา
ผูนี้คงมิปรากฏกายขึ้น” เถาเหยี่ยมียศศักดิ์สูงสง มือกําน้ําเตาเหลืออราม กวาดสายตา
มองฝูงชนจากบนบัลลังก
“หนนี้ ‘เขา’ มิไดไปยังสํานักวิเศษโบราณ และมิไดไปคายอัจฉริยะ กลับเลือกลูก
ศิษยปุถุชนธรรมดาผูหนึ่ง พึลึกพิลั่นนัก” คนขางเคียงกลาว
“พวกทานพูดเรื่องอะไรกัน?” เจาตัวเล็กฉงนสนเทห
“ลูกเอย เจาอยากมีชีวีตรอดรึไม?” เถาเหยี่ยเอยถามดวยรอยยิ้ม
“ไยขาตองตายดวยเลา?!” เจาตัวเล็กกอดคอสงเฟยไว เอยถามอยางเดือดดาล
“เบาแรงหนอย!” ผูอาวุโสสงเฟยกลัดกลุม พละกําลังของเด็กคนนี้ลนเหลือนัก
ทันใดนั้น เขานึกถึงความเปนไปไดอยางหนึ่ง พลันรางกายแข็งทื่อ จากนั้นโกรธ
เกรี้ยวจนตัวสั่นระริก เขาอยากหันหลังกลับมา หันใบหนาของเด็กคนนี้มาหมายมองให
แจงแกตา
“ลูกเอย หากเจาอยากมีชีวิตรอด จําตองเสาะหาดาบมาคืนแก ‘เขา’ มิเชนนั้น
จะตองตายอยางปราศจากขอกังขา ตั้งแตอดีตกระทั่งวันนี้ คนที่ถูกเลือกตางพบกับความ
ตาย ไมมีผูใดรอดชีวิต” เถาเหยี่ยกลาว น้ําเตาในมือสวางวาบ กอตัวเปนแสงล้ําคาหนึ่ง
ชั้น ปองกันตนเองไว ราวกับมิยอมใหกลิ่นอายของ ‘เขา’ แปดเปอนตน
“ดาบปกอยูบนศีรษะของเขามิใชหรือ?” เจาตัวเล็กคลางแคลงใจ
เถาเหยี่ยสายหนาแลวกลาววา “นี่มิใชดาบของเขา แตเปนของศัตรูเมื่อวันวาน ดาบ
ของเขาสูญหายไปในเทือกเขารอยยอด ตองการคนชวยเสาะหามันคืนมา”
“เทือกเขารอยยอดเปนสถานที่อยางใดกัน?” เจาตัวเล็กกังขา มิเคยไดยินมากอน
“พวกขาเองก็ไมรูเรือ่ งราวแนชัด รูเพียงวามันจะเปดหนึ่งครั้งในรอบหลายรอยป
ชวงเวลาไมแนนอน ยากลึกหยั่งถึง” ชายชราผูหนึ่งสายหัว
“ถึงอยางไรก็ควรจะเรื่องเลาลือมิใชหรือ?” เจาตัวเล็กประหลาดใจ
“อืม มีตํานานเรื่องเลาในโลกนี้บางสวน กลาววาเปนสถานที่ซึ่งทําใหทวยเทพบรรพ
กาลหลั่งน้ําตา นองเลือด” เถาเหยี่ยกลาว
“หา?!” เจาตัวเล็กเบิกตากวาง สายหัวพัลวันแลวกลาววา “ตีใหตายก็ไมไป!”
“หากไมไป เจาตองตายเปนแน อดีตจวบจนวันนี้ คนที่ตกปากรับคํา ‘เขา’ แตทํา
ไมได ลวนไมมีชีวิตรอด” เถาเหยี่ยกลาว
เจาตัวเล็กนัยนตาเบิกกวางทันใด เขายั่วยุของแปลกอันใดเขาละนี่?
“เทือกเขารอยยอดนากลัวปานนั้น แมแตทวยเทพบรรพกาลยังร่ําไห หลั่งเลือด ไย
ขาจึงตองไป เอาชีวิตไปทิ้งเชนกัน!”
เถาเหยี่ยสายหัวแลวกลาววา “ผิดแลว หากเทียบกันแลว มันแตกตางจากวันวาน
ในวันนี้ที่แหงนั้นมีโชค เดิมทีศาลาปดฟาจะสงตัวเหลาอัจฉริยะ เฉกเชนสือยี่แหงสํานัก
วิเศษโบราณ บุตรีแหงจักรพรรดิ ลูกของทายาทอสูรบรรพกาล ไมเคยคิดจะเลือกสรร
จากศิษยปุถุชน ตอนนี้ ในเมือ ‘เขา’ เลือกเจาแลว พวกขาก็ควรเพิ่มเจาเขาไปดวย”
“ขาไมไป!” เจาตัวเล็กเกรงวาจะติดกับ
“เจาไมไปจริงรึ? ผูอื่นพยายามคิดหาทุกวิถีทางก็ไมมีโอกาสเชนนี้ เจารูหรือไมวา
การเปดในอดีตมีสิ่งมีชีวิตชนิดใดเขารวมบาง?”
“ไมรู”
“อยาวาแตตระกูลขุนนางเกาแกแหงเผาพันธุมนุษยที่แปรพักตรเพื่อเพิ่มโอกาสให
เผาพันธุของตนไดเขารวมเลย แมแตเจียวเลือดบริสุทธิ์หรือเทาเที่ยเองก็สงลูกของตนเขา
รวมดวย” เถาเหยี่ยกลาว
“เปนไปไดหรือ?” เจาตัวเล็กทําตาโต
บทที่ 113 ตัวตนเปดเผย
“ไยจึงเปนไปไมได หลายรอยปกอน ลูกของทายาทอสูรบรรพกาลรวมกลุมกันเขาไป
หนึ่งในนัน้ ตองมีลูกสัตวอสูรบรรพกาลเลือดบริสุทธิ์อยูบางสวนเปนแนแท มีคนไมนอย
มองเห็นกับตา สะเทือนไปทั่วโลกหลา”
“เขาไปที่นั่นเพื่ออะไร?” เจาตัวเล็กยังคงไมเขาใจ มีอะไรนาครึกครื้นหรือ
ผูอาวุโสคนหนึ่งพูดอธิบายวา “ยอมเปนเพราะที่นั่นมีโชค คนเหลานั้นที่เขาไปเมื่อ
หลายรอยปกอน วันนี้ลวนปกครองบริเวณหนึ่ง อานุภาพสะเทือนปฐพีกวางใหญไพศาล
อยางเชนจักรพรรดิแหงประเทศหินผาและเจาสํานักชวงชิงความเปนใหญเปนตน
อัจฉริยะบุคคลและกษัตริยจํานวนมาก กุมอํานาจใตฟา ปกครองอาณาเขตกวาลานลาน
ลี้ ยิ่งไมตองเอยถึงผูนําตระกูลเกาแกเหลานั้น ลวนหยั่งรูความลึกซึ้งของธรรมชาติ”
ตามที่ผูอาวุโสแหงศาลาปดฟากลาว เขารอยยอดมีโชคมากมาย อาจไดรับการสืบ
ทอดจากผูวิเศษ อาจแสวงหากระดูกฟาไดหนึ่งชิ้น อีกทั้งอาจพบยาวิเศษ สามารถขนาน
นามวาเปนดินแดนวิเศษแหงหนึ่ง
เจาตัวเล็กหนานิ่วคิ้วขมวด เขามิไดหลงกลงายเชนนั้น สถานที่ที่แมแตทวยเทพยัง
หลั่งน้ําตา นองเลือด ตองมีภยันตรายอยางไมสิ้นสุด หากกระทําการผลีผลามอาจถึงแก
ชีวิตได
ผูอาวุโสเหลานี้ใชวาทศิลป พูดเพียงเรื่องนาฟง เพียงมองก็รูวาปรารถนาใหเขารวม
ศึก มีจุดประสงคของพวกเขา เต็มไปดวยความคิดดีดลูกคิดรางแกว[1]
“หากขาไปที่นั่น พวกทานใหประโยชนใดแกขาบาง?” เขาเอยถามขึ้นในบัดดล
ฝูงชนชะงักงัน เด็กคนนี้ชางแปลกคน เมื่อผูอื่นไดยินวามีโอกาสเชนนี้ ตื่นเตนและ
ซาบซึ้งในพระคุณไปนานแลว ไฉนเขายังยอนถามถึงผลประโยชน?
“หากไปก็เทากับไปตาย หากไมมีประโยชนก็ไมไป” เจาตัวเล็กเอยพลางกอดคอผู
อาวุโสสงเฟยไว
ผูคนตกตะลึง เด็กคนนี้กําลังขูเข็ญ รีดไถหรือ? มิเคยพบเห็นลูกศิษยเชนนี้มากอน
“หากเจาไมไป ‘เขา’ ที่อยูขางกายเจาอาจไมรับปาก เจาอาจจะตายวันตายพรุงก็
เปนได” เถาเหยี่ยกลาว
“โอย!” เจาตัวเล็กกระวนกระวาย สิ่งเหลานี้ลวนเปนความจริง วิญญาณรายตามติด
เขาอับจนหนทางอยางแทจริง
“หากมีประโยชนมากมายเพียงนี้ ทําไมพวกทานไมไปกันเองเลา?” เขาเอยอยาง
โมโหโทโส
“พวกขาอยากเขาไปยิ่งนัก นาเสียดาย กาลเวลามิเคยปราณีผูใด ขัดขวางพวกขาไว
อดีตกาลผานไป เทือกเขารอยยอดเปดออกอีกครั้ง มีเพียงผูมีพรสวรรคอายุ 18 ขึ้นไปที่
สามารถเขาสูภายในได” มีคนถอนหายใจอยางจนใจ
“ขาตกลง!” เจาตัวเล็กพยักหนา เขารูวาหมดหนทางหนีเสียแลว
“หนนี้จะมีคนเขาไปจํานวนมาก มีทั้งอัจฉริยะแหงวงศตระกูลขุนนางเกาแก รัช
ทายาทแหงประเทศเกาแก ทายาทอสูรบรรพกาล อาจมีแมกระทั่งสายเลือดของนกยักษ
สีทอง เมื่อถึงที่นั่นเจาจําตองระมัดระวังตัว หากเผลอไผลอาจสิ้นชีพได”
เหลาผูอาวุโสทั้งหลายกลาวตักเตือน จากนั้นเอยถึงผลประโยชนที่เขาอาจไดรับ
เจาตัวเล็กจิตใจไมอยูกับรองกับรอย หนาดําคร่ําเครียด เขามิยอมเอาตัวเขาไปอยูใน
อันตราย เชนนี้ชางกล้ํากลืนฝนทนยิ่งนัก
ในความเปนจริงแลว ที่นั่นอันตรายอยางแทจริง อัจฉริยะที่เดินทางเขาไป หน
สุดทายมีชีวิตรอดกลับมารอยละ 40 ก็ดียิ่งแลว อัตราการตายสูงอยางที่สุด
มีเพียงสิ่งเดียวที่ทําใหเขาใจเตนคือ หากมีลูกอสูรบรรพกาลเลือดบริสุทธิ์จริงๆ เขา
อาจชั่งใจได เมื่อครั้งที่ทานลุงทั้งหลายในหมูบานหินผาพูดคุยกันอยางขบขันเคยกลาวไว
วา เมื่อเขาแข็งแกรงเพียงพอแลว จับลูกอสูรบรรพกาลสักตัวไปมอบแกพวกเขา เลี้ยงดู
ฟูมฟกจนเติบใหญแลวปกปองคุมครองหมูบานหินผา แมตัวเขาในตอนนี้จะยังเยาววัย
ไมเพียงพอจะเปนใหญในโลกหลา แตหากพบเจอกับลูกอสูร และไมถูกบิดรมารดาของ
มันพบเขาละก็ ไมแนวาอาจจับไดสักตัวก็เปนได
เพราะเขามีพละกําลังอันสามารถสูรบปรบมือกับเจินโหวรุนราวคราวเดียวกันได!
เจาตัวเล็กคิดไปคิดมาวอกแวก พลันหัวเราะฮิๆ ขึ้นมา
“เอะ เจาคิดอะไรอยูนะ ขาพูดกับเจาไดยินรึไม?” มีคนขางเคียงเอยปาก เมื่อครูเจา
เด็กนี่ยังหนานิ่วคิ้วขมวด เพียงชั่วพริบตากลับกลายเปนเชนนี้ไปเสียแลว เด็กหนอเด็ก
เจาตัวเล็กหยุดละเมอเพอพก เช็ดน้ําลายแลวกลาววา “ขาตองการจับลูกนกยักษขน
ทองสักตัว”
คนทั้งหมดตัวแข็งทื่อ ทําหูทวนลมเพิกเฉยใสเขา
“อะแฮม สงเฟยนําตัวเขาลงไปกอน พวกขาจะหารือกันสักหนอย” เถาเหยี่ยกลาว
กระทั่งครึ่งชั่วยามผานไป เจาตัวเล็กจึงถูกนําตัวกลับเขาไปในตําหนักอีกหน พบวา
คนสวนใหญไมอยูแ ลว เหลือเพียงชายชราสี่คน จองมองเขาแลวหัวเราะหึๆ นัยนตา
กระหาย
“พวกทาน...จะทําอะไรขา?!” เขารูสึกถึงลางราย ถลึงตาแลวเอยถาม
“ไมมีอะไรหรอก แคอยากจะฟาดเจาสักฉาด หึๆ!” ชายชราสี่คนลุกขึ้นจากที่นั่งแลว
กรูกันเขามา
เจาตัวเล็กคิดผิดเสียแลว หามเขาใกลจิ้งจอกเฒาเชนนี้ใหมากนัก หากมิเชนนั้นอาจ
สอแววมีพิรุธ ลวงรูตัวตนที่แทจริงของเขาเปนแน
“พวกทานกลาลวงเกินขา ขาจะทรยศหลบหนีไปยังสํานักชวงชิงความเปนใหญ!”
เขาตะโกนดังลั่น
“ฮาๆ...” เหลาชายชราหัวเราะไมหยุด ยังคงจองมองดวยแววตากระหาย
“โอย ตีขาจริงหรือ? เจ็บเจียนตายแลว!” เจาตัวเล็กรองโอดโอยดวยถูกคนฟาดกน
โครม!
เขามิอาจนั่งงอมืองอเทา หนึ่งฝามือฟาดออกไป กระแทกกับชายชราเขาอยางจัง
เพียงชั่วพริบตาประหนึ่งสายฟาฟาด สะเทือนจนตําหนักดังครืนครัน
“เจาเด็กนี่แข็งแกรงพอตัว รางกายเชนนี้ถือวาเหนือธรรมชาติแลว!” มีคนกลาว
อุทานไมขาดสาย เบิกบานใจอยางหาที่เปรียบไมได
“ชางเถิด อยาบีบคั้นเขาเลย” เถาเหยี่ยเอยปากดวยใบหนาแตมรอยยิ้ม
พวกเขารามือ มิไดจัดการเขาตามที่กลาวไว
ในเวลานี้ สงเฟยไดสติกลับมา ชี้ไปยังเจาตัวเล็กแลวกลาววา “เจา...เจาคือเด็ก
เหลือขอผูนั้นรึ?!” เขากัดฟนดวยความโกรธ จวนกระโจนลงไปอยางโหดเหี้ยม
นับตั้งแตเด็กเหลือขอเขามา ศาลาปดฟามิเคยสงบสุขเลย สรางเรื่องราวมากมาย
ตอเนื่องกัน ทําใหเขาและเฉายวิ๋นออนระโหยโรยแรงเจียนอกแตกตาย อยากจะจับตัวมา
กระหน่ําทุบตีใหรูแลวรูรอดไป
และเมื่อครู เขายังแบกเจาเด็กคนนี้เดินมาตลอดทาง เกือบจะอิงแอบแนบชิดกับ
วิญญาณบรรพกาล อภัยใหมิได!
“ชางเถิด สงเฟย เจาออกไปกอน”
สงเฟยดั่งไฟสุมทรวง แตมิอาจหาญละเมิดคําพูดของผูสูงศักดิ์ ถลึงตามองเจาตัวเล็ก
แลวหันหลังเดินจากไป
“ตาเฒาทั้งสี่ พวกทานเห็นหรือไม ขาไมกลาอยูศาลาปดฟาแลว วันหลังผูอาวุโส
สงเฟยตองจัดการกับขาเปนแนแท”
สงเฟยยังมิไดเดินออกไปก็ตัวเซทันใด เขายังมิไดดาลโทสะ เจาเด็กไมรูจักที่ต่ําที่สูง
คนนี้ก็เริ่มปรักปาเขาแลวหรือ? เขาโกรธกริ้วขึ้นมาทันใด
“สงเฟย อยาบีบคั้นเขา เขาเปนเพียงเด็ก ซุกซนเปนเรื่องปกติวิสัย” เถาเหยี่ยพูด
ดวยสีหนารื่นรมย
ผูอาวุโสสงเฟยกลืนไมเขาคายไมออก ทารุณคนถึงเพียงนี้ แคดื้อซนหรือ? คนทั้งโลก
แหงความวางเปลาลวนอยากรุมยําเขา มิใชแคขาคนเดียวเสียหนอย!
“วูว ไปเถิด” ผูอาวุโสทั้งสี่เอยปากไลคน ทําใหสงเฟยเดือดดาลยิ่งนัก
“เจาหนู ศาลาปดฟาแหงขาหยั่งรูสรรพสิ่ง ทําผิดเพียงนิดมิเก็บมาใสใจ แตอยาทํา
ผิดอยางมหันต” ชายชราผูหนึ่งหัวเราะเบาๆ
เจาตัวเล็กพยักหนาเปนพัลวันดั่งไกจิกเม็ดขาว แสดงลักษณะวานอนสอนงายเปน
อยางยิ่ง
“เมื่อเจาเขาสูเขารอยยอดในคราวนี้ จําตองระวัง คนหาน้ําพุอมฤทธิ์ หากสามารถ
นํากลับมาได นามของเจาจะจารึกไวบนปายวิเศษมิผุพังแหงศาลาปดฟา” ชายชราอีกคน
กลาว
เจาตัวเล็กกระตุกริมฝปากเล็กนอย เจรจางายดายเชนนี้เอง ไมมีผูใดจัดการเขา
เพราะตองการความชวยเหลือจากเขานี่เอง
“เด็กเหลือขอ สายตาเจานี่มันอะไรกัน เขาสูศาลาปดฟาแหงเรา ตองไมลืมคุณ
อาจารย ขอใหเจาทําเรื่องนี้มันยากนักหรือ?” ผูอาวุโสคนหนึ่งถลึงตา
“ชางเถิด เจาพูดสิ่งเหลานี้กับเขา สูบอกกลาวสิทธิพิเศษแกเขาไปเลยวา หากทํา
สําเร็จ อนุญาตใหเขาเขาไปยังหอเก็บคัมภีร เพื่อเลือกสรรเคล็ดวิชาล้ําคาชนิดหนึ่ง” เถา
เหยี่ยกลาว
“ทําไมดูหมิ่นขาเชนนี้... ที่จริงแลว ขายินยอมพรอมใจรับใชทานอาจารย” เจาตัว
เล็กเขินอาย สายนิ้วมือดุกดิกแลวพูดวา “หลังจากกลับมาแลว ใหขาอาศัยอยูในหอเก็บ
คัมภีรเปนเวลาหนึ่งเดือน เคล็ดวิชาล้ําคาชนิดเดียวจะไมพออะไร!”
ตอนแรก ชายชราทั้งสี่พยักหนาดวยความพึงพอใจ ถึงอยางไรก็เปนเด็ก ทวา เมื่อ
ถอยคําดานหลังถูกเปลงออกมา ทําใหพวกเขาหนาดําคร่ําเครียดขึ้นมาทันที!
น้ําพุอมฤทธิ์อยูในสถานที่ลึกลับในเทือกเขารอยยอด ไดยินวาสภาพแวดลอมเลวราย
ยิ่งนัก มิใชที่ซึ่งผูกลาที่มีพละกําลังแข็งแกรงเขาใกลได มีคายกลบรรพกาลทําลายอักขระ
อยู
เมื่อสงเฟยพบเจาตัวเล็กอีกครา คิดวาเขากําลังแทะหัวไชเทา ก็ตื่นตะลึงไมหยุด แต
เมื่อขยี้ตาแลวมองอยางถี่ถวน พลันกระทืบเทาปงปงแลวพูดวา “เจา... กลาลักยาวิเศษ
รึ? นี่เปนโสมหยกหิมะที่ปลูกอยูหนาตําหนักนี่นา!”
“ผูอาวุโสเถาเหยี่ยใหขามา” เจาตัวเล็กตอบ
“สามหาว!” สงเฟยจะเชื่อไดเยี่ยงไร
“กอนลาจาก ขาเอยถามทานเถาวา หัวไชเทาในสวนผักกินไดหรือไม เขาพยักหนา
อยางชวยมิได” เจาตัวเล็กกลาว
มีวาจาอันจนปญญาของเถาเหยี่ยแววออกมาจากในตําหนักวา “จับตามองเขาใหดี
ตอไปมิอนุญาตใหเขาเขาใกลสวนสมุนไพร วันหลังสงหัวไชเทาของแทไปใหเขาสักหนึ่ง
ตะกรา!”
วันตอมา เจาตัวเล็กรูสึกเปนอิสระอยางแทจริง มิตองกังวลใจ นอกจากเตรียมการ
บําเพ็ญตนแลว ก็เดินสํารวจสถานที่ลึกลับไปทั่วศาลาปดฟา
ชายชราผูมีดาบปกหัวจะปรากฏตัวทุกค่ําคืน ประหนึ่งตองการเรงเราใหเขาออก
เดินทาง เขารูสึกไมสบอารมณในตอนแรก ทวาภายหลังกลับกลายมองมันเปนเรื่องปกติ
วิสัย แมกระทั่งแขวนอาภรณที่ถอดแลวบนตัวของเขา ใชแทนราวแขวนผา บางครั้งก็
โยนเจาลูกขนใหไปนอนหลับบนศีรษะของเขา
เมื่อลูกขนตื่นจากหวงนิทรายอมสงเสียงรองอยางโกรธเกรี้ยว ตื่นตระหนกตกใจจน
ขนลุกขนพอง
เมื่อฟาสาง ชายชราก็จะมลายหายไปทันที
“เอะ นี่ไมใชลูกศิษยสามัญหรอกหรือ ไยจึงเขามาในคายอัจฉริยะของพวกเรากัน
นะ” กลุมคนสงสัย
ทัศนียภาพรอบคายอัจฉริยะงดงาม มีทะเลสาบสีคราม หุบเขาเขียวขจี และยอดเขา
สวยงาม ไอมงคลกระเพื่อมขึ้นลง แสงสวางเคลื่อนไหวไปมา เหมาะแกการบําเพ็ญตนยิ่ง
นัก ล้ําเลิศกวาที่พํานักของเหลาศิษยสามัญ
“หยุดนะ หามเดินเพนพานที่นี่”
เจาตัวเล็กหยุดลงแลวกลาววา “ขามาหาชิงเฟง”
“เจาจะมาหาเขาทําไม?” บางคนประหลาดใจ
“เขาเปนนองชายของขา ขาสงยาใหเขา” เจาตัวเล็กมือหิ้วหอผา
เพียงชั่วครูชิงเฟงรีบมา รับเอาหอผาไป เมื่อเปดดูก็ตะลึงพรึงเพริด ภายในเปนยา
วิเศษตนหนึ่ง แสงสวางงดงามพวยพุง กลิ่นหอมลอยปะทะจมูก
“อา... นี่คืออะไรรึทานพี่?” ชิงเฟงเกิดอาการตื่นกลัว ตอนนี้เขาเขาใจพี่ชายของเขา
นี่คงมิไดลักเอามาจากสวนสมุนไพรหรอกกระมัง
ยาวิเศษล้ําคาหายาก หากผูอื่นลวงรู เปนความผิดอยางมหันต มือของเขากําลังสั่น
ระริก
เมื่อเปดหอผา ผูอื่นยอมมองเห็น ตางอุทานดวยความตกใจ จากนั้นตางตารอนเปน
ไฟ แมจะเปนศิษยผูมีพรสวรรค แตก็มีเพียงผงยาล้ําคาใหใช และไมมียาวิเศษที่
รับประทานไดทั้งตนใหใชฟุมเฟอยเชนนี้ได
“เฮ สหาย เจาเปนศิษยสามัญ ไมมีทางครอบครองยาวิเศษเชนนี้ได เจาไปลักเอามา
จากสวนสมุนไพรละสิ นี่เปนโทษมหันต อาจถูกขับไลออกจากสํานักก็เปนได” คนกลุม
หนึ่งเดินมา
“สามหาว นี่เปนของเดิมพันที่ขาไดดวยทายาทอสูรบรรพกาลปราชัยแกขา” เจาตัว
เล็กชี้แจงดวยความสัตยจริง อยางไรก็ตาม นี่ไมถือวาเปนคําปด เพราะลูกขนอยากจะ
กลืนลงทองไป แตถูกเขาตะเพิดไปอีกทาง
ฝูงชนยอมไมหลงเชื่อ ตางพากันหัวเราะเยาะ
“หากไมเชื่อ พวกขาพนันได ผูใดจะเดิมพันกับขา?” เจาตัวเล็กจองมองพวกเขา
ฝูงชนหัวเราะเยาะเยย เจาเด็กคนนี้ชางคุยโวเกงนัก เพียงศิษยปุถุชนธรรมดาคน
หนึ่ง แมแตคายอัจฉริยะยังไมมีปญญาเขารวม คิดอยากใหผูคนพนันกับเขารึ?
“ขาเดิมพัน หากขามีชัย จะมอบยาวิเศษของเจาแกขาไดหรือไม?” หญิงสาวชุด
เขียวนางหนึ่งเดินเขามา อรชรออนแอน ดูทาอายุคงประมาณ 15-16 ป ผิวขาวดุจหิมะ
ผมสลวยสยายดั่งน้ําตก คิ้วดกดําโกงงอน ดวงตาโตสุกใสประหนึ่งสายน้ําฤดูใบไมรวง
ใบหนาแตมรอยยิ้ม
“ไอหยา นองหญิงผูงดงามนี่เอง เจาเอาอะไรมาเดิมพัน มียาวิเศษหรือไม?” เจาตัว
เล็กแววตาเปนประกาย
ฝูงชนสงเสียงหัวเราะ เจาเด็กคนนี้เตี้ยกวาหญิงสาวตั้งหนึ่งศีรษะ เห็นไดชัดวาอายุ
ยังนอย ก็ชางกลาแสรงทําตัวแก เรียกผูอื่นวานองสาว?
หญิงสาวยิ้มอยางงดงามแลวกลาววา “นองชาย อยาเพิ่งเอารัดเอาเปรียบเชนนี้
ประเดี๋ยวถึงคราวเจาร่ําไห ขาไมมียาวิเศษ แตขามีผงยาล้ําคา และของอื่นๆ เล็กนอย สิริ
รวมแลวก็คงพอประมาณ”
“การไดสนทนากับหญิงงาม ชางสุขใจเสียจริง นับเจาเปนหนึ่ง ยังมีผูใดอีกหรือไม?”
เจาตัวเล็กเอยถาม
ฝูงชนงงงัน เจาหนูคนนี้ชางโงเขลาเบาปญญานัก ไมรูหรือวาจะสูญเสียยาวิเศษอยู
รําไร ยังคิดเดิมพันกับผูอื่นอีกหรือ?
พวกเขาหมดคําจาเอื้อนเอยอยางแทจริง ไมสามารถมองเจาตัวเล็กเกงกาจได เพราะ
นองชายของเขา ชิงเฟงผูนั้นออนดอยนัก แตตัวเขาเองกลับไมมีแมแตปญญาเขารวมคาย
อัจฉริยะ
“เจาชางทะนงตัวนัก นับขาดวยสิ” หญิงสาวนางหนึ่งกาวออกมา นางสวมชุดหนัง
สัตว เผยทอนแขนเปลือยเปลา และทอนขาเรียวยาว เนื้อหนังสีแทน เปยมดวยความมัน
แววอยางสุขภาพดี รูปโฉมงดงามยิ่งนัก แตนัยนตาฉายแววปาเถื่อน
“นองหญิงงามอีกคน ขาชื่นชอบสานสัมพันธกับหญิงงามอยางยิ่ง” เจาตัวเล็ก
พยายามแสดงทาทีสุขุม ดวงตาจองมองบริเวณที่ไมควรจะมองอยางจาบจวง
“เจาเด็กเวร ประเดี๋ยวขาจะฟาดใหฟนรวงหมดปาก!” หญิงสาวงดงามและหาวหาญ
ผูเผยตนขาและตนแขนเปดปากโพลงออกมาโดยตรง ฟนขาวสะอาดยิ่งนัก
“ชิ ขาไมกลัวหรอก นองหญิง ประเดี๋ยวเจาพายแพก็อยาไดร่ําไหไป” เจาตัวเล็กโบก
มืออยางองอาจ มุงหนาเขาไปในกลุมชายชาตรีแลวกลาววา “พวกเจาชางพึ่งพามิได ไย
จึงใหนองหญิงผูงดงามลงสนามดวยตนเองเชนนี้? ชางไมนาใหอภัย” จากนั้น เขาหัน
กลับไปมองหญิงสาวกลุมหนึ่งแลวพูดวา “เจาหนุมพวกนั้นลวนพึ่งมิได!”
แมง ยั่วยุกันนี่หวา เหลาชายหนุมโมโหจนกระอักเลือด เจาเด็กเวรคนนี้รนหาที่ตาย
ชัดๆ ฆามัน!
เหลาอัจฉริยะอายุ 15-16 ปเฮโลกันเขามาในบัดดล หมายเขารวมศึกเดิมพันครั้งนี้
ประลองฝมือกับเขา โดยความเปนจริงแลวคือ ตองการรุมสกรัมเขาสักที
..............................
[1] ดีดลูกคิดรางแกว แปลวา คิดถึงผลประโยชนที่จะไดฝายเดียว
บทที่ 114 ศึกเดิมพัน
อัจฉริยะกลุมหนึ่งรุมลอม มีทั้งหญิงสาวรูปโฉมงดงามจนหัวใจเตน และมีทั้งชาย
หนุมนาเกรงขาม ขวางกั้นเจาตัวเล็กไว ราวกับหมาปาหิวโซนัยนตากระหายที่จองมอง
แกะนอยขนขาวตัวหนึ่ง พลางเผยรอยยิ้มชั่วราย
“ทําไม พวกเจาจะรุมสกรัมรึ?” เจาตัวเล็กระแวดระวังตัว ดวงตาโชนแสงแพรว
ระยับ สวางไสวเปนพิเศษ
“ตอกรกับเจาไยตองรุมยํายกพวกเลา เจาคิดวาตนเปนผูวิเศษบรรพกาลกลับชาติมา
เกิดรึ?” กลุมคนกรอกตา บงบอกความเหยียดหยาม
“เฮอ ขาคิดวาสงครามชั่วรายจะปะทุขึ้นแลวเสียอีก เดินเตรไปทั่วคายอัจฉริยะเพียง
ลําพัง ไรเทียมทาน หากแพรงพรายออกไปตองเปนเรื่องราวอภิรมยไปหนึ่งชวงเวลาเปน
แน!” เจาตัวเล็กเพอฝน กําหมัดแนน แววตาเปยมดวยประกายดาว ลุมหลงมัวเมาอยาง
หาที่เปรียบไมได
“ไปตายเสีย!”
กลุมคนดูหมิ่นดูแคลน เจาเด็กคนนี้รนหาที่ตายอยางแทจริง แมจะเปนเพียงความ
เพอฝน ก็นาชิงชังยิ่งนัก มองวาอัจฉริยะขาดเขลารึ?!
เจาตัวเล็กยิ้มแหงแลวกลาววา “ขาอยากทําเชนนั้นจริง แตทวา เกรงวาจะ
กระทบกระเทือนจิตใจอันเปราะบางและเยาววัยของพวกเจา ขาใครครวญดูแลวก็ชาง
มันเสียดีกวา”
แมง ยังยัว่ ยุปลุกปนไมสิ้น สมควรกดอัดเจาเด็กนี่ลงกับพื้น จากนั้นกระหน่ํารุมยําสัก
ฉาดจึงจะดี ฉุนเฉียวยิ่งนัก
“ตัวขามีนามวาเยี่ยนซิน ประเดี๋ยวถูกฟาดจนเจ็บปวด เจาอยาไดร่ําไหไป!” หญิง
สาวชุดเขียว ผูที่ขอเขารมศึกเดิมพันเปนคนแรกกลาว ผิวเนื้อขาวดุจหิมะ ดวงตาสุกใส
จองเจาตัวเล็กอยางยิ้มไมยิ้ม
“ขาชื่นชอบการวิวาทกับสาวงามที่สุด น้ําลายสอเชียวละ” เจาตัวเล็กยิ้มตาหยี ตัว
กระจอยรอย แตกลับทําหนาหื่นกระหาย ทําใหเหลาอัจฉริยะหมดคําพูด เจาเด็กคนนี้ต่ํา
ชาเลวทรามนัก รนหาที่ตายอยางแทจริง
ใบหนางดงามของเยี่ยนซินเรียบนิ่ง แตเกิดลมใตฝาเทา อักขระผนึกกําลัง พุงตรงเขา
มา ลงมือทันที
“ชากอน หามลอบโจมตีเด็ดขาด!” เจาตัวเล็กตะโกนลั่น หลบหายไปยังดานหลัง
ของชายหนุมคนหนึ่งดังฟว
“เจาจะตอสูหรือไม?” ใบหนาเพราพริ้งของเยี่ยนซินฉายความโกรธเกรี้ยว
“สูสิ เจาจะมอบของกํานัลแกขาไยขาไมรับละ” เจาตัวเล็กแสดงทาทีเจาเสร็จขาแน
จากนั้นชี้ไปยังฝูงชนแลวพูดวา “ผูที่ตองการเขารวมศึกเดิมพันรีบแสดงของเดิมพันใหไว
นอยไปขาไมตกปากรับคํา จากนั้นวางเรียงรายกับพื้น หากสงครามยังไมสิ้น มิอนุญาตให
เอาไป”
“เจาหนู เจาชางวุนวายนัก รบสักฉาดก็เสร็จสิ้นแลว พูดพลามไรสาระใหมากความ
ไปไย” เหลาอัจฉริยะพูดอยางหมดความอดทน
“ขาจริงจังตั้งใจ ขาเกรงวามีชัยเหนือนองนางคนงาม ทําพวกเจาสะดุงสะเทือน ลา
ถอยไปทีละคน จะไปตามหาของกํานัลที่ขาปรารถนาจากที่ใดเลา?” เจาตัวเล็กกลาว
เยี่ยนซินกัดฟน เจาเด็กคนนี้นาชิงชังนัก ทาทางมีชัยแนนอนเชนนั้น ใบหนาเผย
รอยยิ้มจางๆ อยูตลอดเวลา ประเดี๋ยวจะทําใหเขารองไหดังจา
กลุมคนหนาดําคร่ําเครียด อยากจัดการเขาใหสิ้นซากไปเสียโดยไว
ในที่สุด พวกเขาก็เขวี้ยงของเดิมพันอยางฉุนเฉียว ถือวาเลนสนุกแลวกัน ประเดี๋ยว
สั่งสอนเขาใหหลาบจําสักหนอย
“ดี ขาจดจําไวแลววาสิ่งของเปนของผูใดบาง ประเดี๋ยวเห็นความรายกาจของขา
แลว ของของตนก็ไมเอา และไมกลาแมแตจะลงสนาม” เจาตัวเล็กกลาว
ของเดิมพันทั้งหลายยอมเปรียบเทียบกับยาวิเศษมิได ฝูงชนเพียงเลนใหสนุกพอเปน
พิธีก็เทานั้น
“ดี เจาเด็กเวร ดูสิวาเจาจะโอหังไดสักกี่น้ํา ตอนนี้พอใจแลวกระมัง” กลุมคนพูดกัด
ฟน
เยี่ยนซินลงมือ ชุดเขียวพลิ้วไหว ดุจเมฆเบาบางพัดผาน แขนเรียวฟาดลงมา นกยูง
ตัวหนึ่งบินออกไป กระพือปกบินทะยาน สองแสงเจิดจาพราตา บินโฉบหมายโจมตีเจา
ตัวเล็ก
เจาตัวเล็กหัวเราะคิกคัก อักขระผนึกกําลังตรงแขนขวา กลายเปนคอนสีเงิน ปรากฏ
ขึ้นกลางฝามือ กระเดงขึ้นอยางรุนแรง พุงออกไปตอตานการโจมตีของนกยูงสีเขียว
ราวกับสายฟาฟาดกลางนภา แสงเงินปะทุขึ้นฉับพลัน ประหนึ่งน้ําตกกวางใหญ
หลั่งไหล ขาวโพลนไปทั่วบริเวณ สะเทือนจนอกสั่นขวัญแขวน ยากจะควบคุมตนได
โครม!
ทามกลางความตะลึงพรึงเพริดของฝูงชน เจาตัวเล็กมือกําคอน ประหนึ่งเทพเจา
สายฟาเยือนโลก โจมตีนกยูงเขียวจนแตกพาย กลายเปนจุดแสงกลุมใหญ เขาลงสูพื้นดิน
“เปนไงละ หวาดกลัวละสิ?” เขาพุงเขาไปเอยถามผูคนดวยความทะนงตน
เมื่อครูฝูงชนตกตะลึงอยางแทจริง เปนเพียงศิษยสามัญคนหนึ่ง แตกลับระเบิด
อานุภาพยิ่งใหญปานนี้ในชั่วพริบตา หนึ่งคอนจูโจมแสงอักขระของเยี่ยนซินจนกระจาย
นาตื่นตะลึงอยูไมนอ ย
“อยาผยองใหมันมากนัก!” เยี่ยนซินกลาวเสียงเย็น ใบหนางามบูดบึ้ง กระแสไฟสี
เขียวพวยพุงขึ้นเปนสายสาย นางกระโจนเขามาอยางรวดเร็ว ยกมือสะบัดผานตัวเขาไป
ระหวางงามนิ้วของนางมีลวดลายสีเขียวจํานวนมาก ประหนึ่งตาขายสีเขียว แผคลุม
ลงมา หมายจับตัวเจาตัวเล็ก
“นองหญิง ไรประโยชนหนา!” เจาตัวเล็กสะบัดคอนในมืออยางรุนแรง ระเบิดทันใด
จูโจมตาขายเขียวจนแหลกละเอียดดังตูม และตัวเขาเองก็พุงเขาไปอยางรวดเร็ว ความือ
ของเยี่ยนซินดังปง กระชากอยางดุดันแลวเหวี่ยงหนึ่งรอบ จับตัวหันหลังใสตนอยูใน
ละแวกใกลเคียง
ปลายนิ้วปรากฏอักขระวูบวาบ ทอสาดแสงสวาง ยันลําคอขาวดุจหงสฟาของเยี่ยน
ซินไว ควบคุมนางไวในบัดดล
ฝูงชนตะลึงงัน เยี่ยนซินพายแพแลวรึ? อีกทั้งยังรวดเร็วปานนี้ ทั้งหมดเปนเพราะ
ความประมาทเลินเลอ
หญิงเยี่ยนซินทั้งอับอายทั้งโมโห ถูกเด็กไมรูความคนหนึ่งพูดจาแทะโลมเรียกวานอง
หญิง เดิมอยากทุบตีเขาสักฉาด ไมคิดวาตนจะถูกจับกุมตั้งแตเริ่มตน ทําใหใบหนางาม
ขาวดุจหิมะขึ้นสี ยากจะอดกลั้น
เจาตัวเล็กหัวเราะหึๆ ขยิบตาใสฝูงชน เพื่อบงบอกวาขาชนะแลว เยี่ยนซินขุนเคือง
ใจ หลุดออกจากการควบคุม ลูบคอขาวของตนไปมาแลวกําหมัดแนน
“ยอมรับความแพพายเสีย อยาเลนตุกติก!” เจาตัวเล็กเตือน จากนั้นพูดวา “คน
ตอไป!”
ผูลงสนามคนที่สองก็ยังเปนสตรี ซึ่งก็คือหญิงงามผูสวมชุดหนังสัตว ผิวสีแทน หาว
หาญและดึงดูดเพศตรงขามผูนั้น นางมีนามวา เพียวเสวี่ย กระโจนเขามาดั่งเสือชีตาร
เพียงชั่วพริบตาเกิดแสงสวางลุกโชติขึ้นโดยรอบ ผสานกันเปนหอกศึกจํานวนมาก
แปลงรางเปนแสงโชติชวง ลอยออกไปดานหนา หมายทิ่มทะลวงเจาตัวเล็ก
เพียวเสวี่ยจูโจมอยางเต็มกําลัง เมื่อเห็นเยี่ยนเซี่ยนพายเพราะความประมาท นางใช
ทาไมตายทันที หอกศึกดามแลวดามเลาทะลวงอากาศ สงเสียงดังกึกกอง พราวระยับ
อยางที่สุด
เจาตัวเล็กประหลาดใจเล็กนอย เคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว หลบไปอีกฟากภายใน
พริบตา จากนั้นสองมือประกบกัน แผนโมหินสีเงินปรากฏขึ้น กลิ้งผานไปดวยความเร็ว
สูงสุด เสียงแควกดังขึ้นไมขาดสาย หอกศึกทั้งหลายลวนแหลกละเอียด
ผลลัพธนี้ตางสะเทือนผูคนทั้งหมด หากเมื่อครูเจาตัวเล็กมีชัยเพราะโชคชวย เชนนั้น
ตอนนี้ละ? เปนเพราะพละกําลังนาพรั่นพรึงอยางแนนอน แข็งแกรงเหลือเกิน
เจาตัวเล็กพุงผานไปดังฟว หนึ่งนิ้วแตะเขาที่เอวคอดกิ่วของเพียวเสวี่ย นางรูสึกราว
กับสายฟาฟาดฉับพลัน จากนั้นหนึ่งนิว้ ลากผาน ตัดเสนผมรวงลงมาหนึ่งเสนแลวลาถอย
ไปอยางรวดเร็ว
มีชัยอยางสมบูรณแบบ หากเผชิญหนากับศัตรู การโจมตีสองครานี้เพียงพอจะ
สังหารขาศึกใหราบคาบ
ฝูงชนชักสีหนา เจาเด็กคนนี้รายกาจยิ่งนัก เปนสัตวอสูรอยางแทจริง องอาจมาก
ดวยกําลังวังชา มีพลังการโจมตีอันแข็งแกรง
“ขาชื่นชอบหญิงงามยิ่งนัก ไดแลกเปลี่ยนความเห็นกับพวกเจา และยังไดรับของ
กํานัล ขอบใจยิ่งนัก” เจาตัวเล็กหัวเราะอยางเบิกบานใจ
ฝูงชนแข็งเปนหิน ไรเสียงอยูเนิ่นนาน ฝมือของเด็กคนนี้ สามารถเขารวมคาย
อัจฉริยะไดเปนแนแท ไยจึงเปนศิษยสามัญเลา?
“ยังมีอีกหรือไม? หากมีก็เขามาใหไว ของกํานัลมากมายเหลือเกิน ของขาทั้งนั้น”
เจาตัวเล็กเสมือนกับคนละโมบโลภมาก ดวงตาเบิกกวาง จองมองผงยา เม็ดยาล้ําคา
ตํารากระดูกบนพื้นเหลานั้น
ไมมีคนที่สามเขาสูสนาม ฝูงชนประหลาดใจนัก หันหลังไปมองพบวามีผูบาดเจ็บคน
หนึ่ง โจวอวี่หาว
เขากระอักกระอวนยิ่งนัก เขายืนอยูในกลุมคนที่ถูกเจาตัวเล็กพูดหักหนาเมื่อครู ทั้ง
ยังถูกชี้ตัว เขาจึงทําไดเพียงโยนของเดิมพันบางสวนลงไป เขาเชื่อวาเด็กไมรูความผูนี้ตอง
ถูกผูคนดานหนาจัดการจนนาเวทนา มิตองใหเขาออกโรง
หนกอนเกิดเหตุปะทะนองเลือดขึ้นกับเขา ถูกศิษยสามัญฮึกเหิมหลายรอยชีวิต
เหยียบย่ําปางตาย หากมิไดยาล้ําคาจากชนเผา เขาใชเวลาอยางนอยหลายเดือนกวาจะ
ลุกเดินจากเตียงได
“เฮ หยุดงงงวยไดแลว ถึงตาเจาแลว” ครั้งนี้เจาตัวเล็กทําการโจมตีกอน พุงตัว
ออกไปในชั่วพริบตา
โจวอวี่หาวกาวถอยหลัง ตอนนี้กระดูกและรางกายออนเพลียยิ่งนัก เขารวมการตอสู
ไดที่ไหน ทวาสายไปเสียแลว เจาตัวเล็กเขาประชิด ปลอยหมัดออกมาเปนชุด กระหน่ํา
ลงมาบนใบหนาของเขา
“โอย...” โจวอวี่หาวกระอักพนเลือดทั้งจมูกและปาก เนื้อตัวลอยลิ่ว กอนที่จะเปน
ลมหมดสติ เกิดความคิดขึ้นมาในใจวูบหนึ่ง ไยหมัดนี้จึงคุนเคยยิ่งนัก? คลายกับหมัดที่
เจาเด็กเวรทํารายตนหนนั้นเหลือเกิน ใชแลว เขาเปนพี่ชายของชิงเฟงหรือ? อาก โจ
วอวี่กระอักพนเลือดออกมาคําใหญกอนจะหมดสติไป เขาเขาใจเรื่องราวมากมายอยาง
แจมแจง
“คนตอไป!” เจาตัวเล็กเหวี่ยงหมัดไปมาแลวพูดกับชิงเฟงวา “ไอเวรคนนี้ใชไหมที่
รังแกเจา? ตอไปชกใหลมในหมัดเดียวเยี่ยงขาเชนนี้”
ชิงเฟงตาเปนประกาย กําหมัดแนนดวยความฮึกเหิมอยางยิ่ง ในใจเกิดแรงกระตุน
ใหญยิ่งยากจะทัดเทียม เขาจะกาวหนาอยางองอาจหาวหาญ บรรลุในเร็ววัน
“มาอีก!” เจาตัวเล็กกลาวทาทายตอไป
ปรากฏวาเขาไดรับชัยชนะตอเนื่องกันถึง 18 ครั้ง ไมมีผูใดสามารถตอกรได
สะเทือนไปทั่วคายอัจฉริยะโดยพลัน ผูคนเฮโลกันมาเพิ่มมากขึ้น
“เจาหนูคนนี้เปนใคร ผยองนัก มากอเรื่องวุนวายในคายเรา ผูใดก็ไดออกโรงกําราบ
เขาที”
ยอมมีคนลงมือดวยความไมพอใจ ผลคือเจาตัวเล็กชนะตอเนื่องอีก 10 ครั้ง สิริรวม
28 ครั้ง เจาตัวเล็กรองเพลงอยางสบายอกสบายใจ ไมมีผูใดสามารถปราบปรามเขาได
อยางแทจริง กอใหเกิดเสียงอึกทึกครึกโครมดังเซ็งแซ
“ขาขอปาวประกาศ ณ ที่นี้วา ชิงเฟงเปนนองชายขา รังแกเขาเทากับรังแกขา ขาจะ
มาพูดคุยกับเจาบอยเชียวละ!” เจาตัวเล็กกลาว เปดเผยจุดประสงคแทจริงที่เขามากอ
เหตุจลาจลที่นี่
หากเขาพูดเชนนี้ตั้งแตเริ่มตน คาดวาฝูงชนคงหัวเราะเยาะ ยิ่งกวานั้นคือ อาจมีคน
รัวหมัดใสเขาทันที ทวาตอนนี้กลับแตกตาง ผูคนลวนหวาดผวา
“สหายอวี่เฟง ถึงคราวเจาออกโรงแลว มิเชนนั้นคงไมมีผูใดกําราบเจาเด็กประหลาด
นี่ได” มีคนกลาว
อวี่เฟงชุดขาวสายหนา มิไดลงสนามแตอยางใด แตนัยนตากลับมีแสงสวางปรากฏ
ขึ้นแลวหายวับไป เขากอดอก นิ่งไมไหวติงเปนเวลานาน
การตอสูหนนี้ของเจาตัวเล็ก กอเกิดคลื่นลูกใหญ คายอัจฉริยะยากจะสงบอยูหลาย
วัน ยิ่งไปกวานั้นคือ เขากลับมาอีกครั้งหลังจากผานไปไมกี่วัน ปะทะกับคน ลูกศิษย
ปราชัยจํานวนมาก
ขาวคราวแพรกระจายไปยังหมูศิษยสามัญ กอเกิดคลื่นลูกใหญขึ้นมาทันที
เจาตัวเล็กบอกกลาวชิงเฟงวา อีกไมกี่วันเขาจะไปจากที่นี่ อีกนานมากโขจึงจะหวน
กลับ ทวาขอเขาจงวางใจ เขาบอกกลาวสํานักแลว และจะมีผูอาวุโสชวยดูแลเขา ไมมี
ผูใดกลาทําตามอําเภอใจ
สิ่งที่ชิงเฟงตองการคือเวลา เขาอายุนอยกวาคนอื่นในคายอัจฉริยะ เพียงบําเพ็ญตน
อยางสงบจิตสงบใจ ตองสามารถตามพวกเขาไดทันอยางแนนอน
หลายวันมานี้ เจาตัวเล็กเยือนคายอัจฉริยะอยางไมขาดสาย สรางสัมพันธไมตรีกับ
คนไมนอย ดวยความแข็งแกรงของตนและรอยยิ้ม ทําใหเขาสรางสัมพันธกับผูคนไดงาย
ในที่สุดเวลาก็มาเยือน เจาตัวเล็กจวนออกเดินทาง มุงหนาไปยังเทือกเขารอยยอด
“วีรบุรุษผูกลามากมายรวมตัวกันอยูที่นั่น ลวนเปนลูกศิษยจากเหลาผูมีอิทธิพล
สูงสง พวกเจาจะตองระมัดระวังตัว จะประมาทมิไดเปนอันขาด!” ผูอาวุโสทานหนึ่ง
กลาวเตือนกอนออกเดินทาง
กอนออกเดินทาง เจาตัวเล็กก็ตองตะลึงงัน เมื่อพบวามีเพียงไมกี่คน สวนมากอายุ
ราว 16-17 ป ลวนไมรูจักกันทั้งสิ้น
“สือยี่ บุตรีแหงจักรพรรดิ และทายาทอสูรบรรพกาล ลวงหนาเดินทางไปใตการ
อารักขาของวงศตระกูลแลว” เถาเหยี่ยกลาว
อิทธิพลใหญสงตัวผูกลาดวยตนเอง ปกปองคุมกันทายาท มุงหนาเดินทางไป
เทือกเขารอยยอด
“ขาขอเนนย้ํา พวกเจาอาจพบกับลูกของอสูรบรรพกาลอยางแทจริง อีกทั้งคนรุน
เดียวกันที่ยิ่งใหญจนไมอาจเอาชนะได ตองคิดหาหนทางเอาตัวรอดใหจงได!”
สุดทาย พวกเขาเขาสูดินแดนเทพารักษ มายังบริเวณนอกสวนซึ่งอยูไมหางจากตน
น้ําเตามากนัก เหลาผูอาวุโสอธิษฐานอยางเงียบงัน จากนั้นตั้งวางกระดูกของอสูรบรรพ
กาล
เสียงโครมดังขึ้น เกิดแสงสวางพวยพุงไปทั่วบริเวณ น้ําเตาเขียวปรากฏขึ้นและกําลัง
โยกไหว กอสรางหนทางสีเขียวไดสําเร็จเสร็จสิ้น กลุมคนเรียงแถวยางเดินเขาไปยัง
เสนทาง จากนั้นหายลับไปจากศาลาปดฟา
บทที่ 115 เมืองตัดนภา
นี่เสมือนวาเปนหนทางที่หลอมจากหินแลพิสแลซูลี[ 1 ] แสงสีเงินระยิบระยับ
อักขระลึกลับซับซอนนานาชนิดปรากฏขึ้นพรอมกัน ประหนึ่งดวงดาราประดับเต็ม
ฟากฟา
เมื่อกลุมคนยางเทาเขาสูทางเดิน เกิดความรูสึกราวกับชิ้นสวนแหงกาลเวลาลวงผาน
หวงอากาศอลหมาน ประหนึ่งวิญญาณจะแยกออกจากราง ถูกชวงชิงเอาไป นี่เปน
ประสบการณประหลาดอยางหนึ่ง
เนิ่นนานราวกับผานไปชั่วชีวิต อีกทั้งเสมือนวาเพิ่งออกเดินทาง เศษทองพรางพราว
แสงสีฟาลอยขึ้น ปรากฏประตูสองแสงอยูเบื้องหนา มายังจุดสิ้นสุดของหนทาง
อักขระกระดูกผนึกกําลัง สัญลักษณพิลึกกึกกือมากมาย ทางออกเจิดจาพรางพราว
เหลือเกิน ประหนึ่งเปลวไฟวิเศษกําลังแผดเผา กอสรางประตูมหัศจรรยบานหนึ่ง กลุม
คนเดินเรียงแถวออกมา ลวนทอดถอนหายใจ ตางคิดวาการเหยียบยางบนเสนทาง
แทจริงนัน้ ปลอดภัยที่สุด
ทางสีฟาเลือนรางจางหาย ลําแสงปลิววอน มลายหายไปจากที่นี่
“นี่เปนเสนทางที่เทพารักษเปนผูสรางหรือ?” เจาตัวเล็กเหลียวหลังอยางใจไมอยูกับ
เนื้อกับตัว
ผูอาวุโสทานหนึ่งพยักหนาแลวกลาววา “เทพารักษศาลาปดฟาแหงเรามีอานุภาพ
สะเทือนไปทั่วปฐพี เพียงระยะนี้อายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอยนักที่มันจะสําแดงอิทธิฤทธิ์”
ที่นี่พื้นดินราบเรียบ มิไดมาถึงขุนเขาสูงตระหงานตั้งเรียงรายแตอยางใด เมื่อทอด
มองออกไป มองเห็นเมืองโบราณตั้งอยูบนเสนขอบฟาอยางเลือนราง
“พวกเรามิไดจะเดินทางไปเขารอยยอดหรอกรึ ที่แหงนี้ไมมีแมแตเนินเขา” อัจฉริยะ
แหงศาลาปดฟาคนหนึ่งสงสัย
“ที่นั่นจะเปดเมื่อใด ไมมีผูใดบอกกลาวเวลาที่แนนอนได ถึงอยางไรก็คงเปนไมกี่
วันนี้ ตั้งอยูไมไกลจากที่นี่ เราไปยังเมืองนั่นกอน” ผูอาวุโสเถาเหยี่ยแหงศาลาปดฟา
กลาว เขาเปนผูนําทางในครั้งนี้ คุมกันและสงตัวเด็กเหลานี้มาที่นี่
ผูรวมเดินทางในหนนี้ นอกจากเขากับเจาตัวเล็กแลว ยังมีคนอื่นอีก 5 คน ชายสาม
หญิงสอง ลวนเปนอัจฉริยะบุคคลตัวฉกาจ ถูกผูสูงสงในศาลาปดฟารับตัวเปนศิษย ปกติ
แทบจะไมปรากฏตัวในคายอัจฉริยะ
“อา พวกเจาก็คือลูกศิษยที่ตาแกปศาจรับไปใหการดูแลเปนพิเศษเหลานั้นหรือ?”
เจาตัวเล็กกะพริบตาปริบๆ จองมองคนเหลานี้ดวยความฉงนสนเทห
เมื่อวาจานี้ถูกเปลงออกไป ไมเพียง 5 คนนี้ที่ถลึงตาใสเขา แมแตเถาเหยี่ยก็เงียบ
สนิท หากพูดเชนนี้ เขาก็ถือวาเปนหนึ่งในกลุมตาแกปศาจ
“อยาถลึงตาใสขาเชนนั้น ปกติตาแกปศาจพวกนั้นสอนอะไรแกพวกเจาบางละ?”
เจาตัวเล็กรุดเขาไปตีสนิท
“เขาเมืองตัดนภาเสียกอน” เถาเหยี่ยเดินนําพวกเขาไปยังเมืองแหงนั้น
นี่เปนดินแดนเกาแกโบราณ เคยคึกคักมีชีวิตชีวา แตกลับคอยๆ ลมสลายเพราะศึก
สงคาม ตามที่เถาเหยี่ยไดยินมา ที่นี่เคยเปนประเทศเกาแกอันรุงเรืองอยางหาที่เปรียบ
ไมได ปกครองอาณาจักรกวาลานลานลี้ แตสุดทายกลายเปนเถาธุลีมลายหายไปใน
กาลเวลา
“เทพารักษของพวกเขาละ?” อัจฉริยะคนหนึ่งเอยถาม
“สิ้นชีพแลว มิเชนนั้นประเทศเกาแกคงมิเสื่อมสลายรวดเร็วเชนนี้”
พวกเขาสนทนาพลางยางเดิน มาถึงสุดขอบฟาอยางรวดเร็ว หนึ่งเมืองตั้งอยูเ บื้อง
หนา คอนขางทรงพลัง ประตูเมืองมโหฬาร แนวกําแพงสีเทาสูงใหญยิ่งนัก
เมืองตัดนภา เปนเมืองโบราณ ถูกกาลเวลาสลักรองรอยไวมากมาย แตยังถือวา
รุงเรืองเชนดังเดิม
ในเมืองผูคนขวักไขว รานรวงเต็มสองขางทาง เสียงซื้อเสียงขายดังไมขาดสาย
นอกจากสินคาในชีวิตประจําวัน ยังมีอาวุธในการบําเพ็ญตนหลากชนิด ยกตัวอยางเชน
กระดูกสัตวล้ําคา สมุนไพรโบราณอายุเกาแก อีกทั้งอาวุธยุทโธปกรณและตํารากระดูก
เปนตน
“ผูคนมากหนาหลายตาเดินทางมาจากแดนไกล มาดวยการเปดของเขารอยยอด
เปนการเฉพาะ” เถาเหยี่ยอธิบาย
เทือกเขารอยยอดจะเปดหนึ่งครั้งในรอบหลายรอยป สะเทือนโลกหลา ดินแดนรก
รางกวางใหญไพศาล อาณาจักรมโหฬาร เหลาผูมีอิทธิพลตางพากันคุมครองและสง
อัจฉริยะแหงวงศตระกูลเรงเดินทางมาที่นี่
หลายวันมานี้ ในเมืองจะครึกครื้นมากขึ้นตามลําดับ เสียงคนอึกทึกครึกโครม
นักพรตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คนมากมายนําวัตถุล้ําคามาเพื่อทําการคาขายกับเหลาผูกลา
“ถือวาเรามาไว เสาะหาที่พัก หากมาชากวานี้คงทําไดเพียงนั่งขัดสมาธิบนกอนหิน”
เถาเหยี่ยพูดพลางหัวเราะ
นี่เปนสิ่งกอสรางที่เหมือนกับสวนปา ทิวทัศนงดงาม มีเขาเทียมสะพานโคง มีศาลามี
ทะเลสาบ สามารถหาที่พักเชนนี้ไดในหนึ่งเมือง หากมิใชผูมีอิทธิพลใหญเชนศาลาปดฟา
ยอมทํามิได
เห็นไดชัดวา ผูคนที่สามารถอางแรมอยูท ี่นี่ไดนั้นลวนมีความเปนมา
เจาตัวเล็กหันหลัง มองเห็นทัศนียภาพมหัศจรรย พลันตะลึงงัน เผยสีหนาประหลาด
ใจ
ไมไกลนัก มีรถลากแลนออกมาจากบานที่ตั้งอยูโดดเดี่ยว มีสัตวอสูรนากลัวหลายตัว
เปนผูลาก มีผูกลาคนหนึ่งเปนพลขับ ยิ่งกวานั้นคือมีหนวยอารักขาติดตามทั้งหนาหลัง
มานของรถลากรอยจากหยก ยากจะบดบังภาพฉากภายในรถ มีเสือขาวตัวหนึ่งนั่ง
อยูที่นั่น แววตาอํามหิตโหดเหี้ยม จิตสังหารตลบอบอวล มีหญิงงามสองคนคอย
ปรนนิบัติรับใช ปอนชิ้นเนื้อสดแกมัน
“เสือขาวตัวนั้นเดินทางโดยรถลากเชนนั้น ทั้งยังมีผูกลาคอยรับใชทั้งซายขวา
เจาของมันตองยิ่งใหญปานใดกัน” ศิษยหญิงจากศาลาปดฟาอุทานดวยความตกใจ
“อยาพูดจาเหลวไหล!” เถาเหยี่ยสีหนาขึงขัง ใชแววตาจริงจังปรามนาง
ลูกศิษยเหลานี้ลวนมิใชปุถุชนคนธรรมดา ไดสติทันใด นี่คงเปนทายาทอสูรบรรพ
กาล มิใชสัตวเลี้ยง มิเชนนั้นจะมีอิทธิพลปานนี้ไดอยางไร
เสียงคํารามทุมต่ําแววมา เสือขาวตัวนั้นนัยนตาตั้งขึ้น ดุรายยิ่งนัก กลิ่นอายนากลัว
จดจองมายังศิษยหญิงที่เพิ่งเปดปากพูดเมื่อครูอยางเย็นเยือก
“ตบปากตัวเองเสีย มิเชนนั้นจะเกิดหายนะแกชีวิต!” พลขับผูนั้นกลาวอยาง
เครงครัด
“สหาย เด็กไมรูความ โปรดอยาถือสา” เถาเหยี่ยกลาว
“ปลาหมอตายเพราะปาก หนนี้เปนการสั่งสอน มิเชนนั้นนางจะมิหลาบจํา และนี่
ถือวาเปนการลงโทษเพียงนอยนิด หากเสือขาวลงมือดวยตนเอง พวกเจาจะหมดทาง
รอดชีวิต” พลขับกลาวอยางไมยินดียินราย
เหลาองครักษกาวเขามา เสื้อเกราะสองแสงดําทะมึน จิตสังหารเดือดพลาน และเจา
เสือขาวในรถลากตัวนั้นดวงตาตั้งขึ้นดวยความโมโหเดือดดาล
ฝูงชนตางตะลึงพรึงเพริด ทายาทอสูรบรรพกาลตัวนี้รายกาจนัก สายเลือดยิ่งใหญ
อยางที่สุด อกสั่นขวัญแขวน มีความนาเกรงขามอันทําใหขวัญหนีดีฝอ
เหลาอัจฉริยะเคยพบเห็นศิษยพิเศษในศาลาปดฟา ทายาทอสูรบรรพกาลเหลานั้น
แตพบเห็นเพียงไกลๆ นี่เปนครั้งแรกที่ไดเผชิญหนาเชนนี้
“โฮก...” เสือขาวคําราม สะเทือนจนสวนปาสั่นไหว มันบันดาลโทสะเสียแลว
พลขับพูดดวยสีหนาถมึงทึงวา “สายเสียแลว มันจะเขมือบศิษยหญิงผูนั้น”
ฝูงชนหนาวสะทาน ทายาทอสูรบรรพกาลตัวนี้ชางเผด็จการยิ่งนัก จะสังหารคน
เพียงคําพูดประโยคเดียว ความยโสโอหังทวมทนทองฟาอยางแทจริง
“สหาย เลิกแลวตอกันไป ทานชวยพูดโนมนาวมันสักหนอย” เถาเหยี่ยกลาว
“มิได!” พลขับสายหนา
เถาเหยี่ยไมพูดใหมากความ แสงทองสวางวาบบนฝามือ ปรากฏน้ําเตาเหลืองอราม
มีอักขระไหลเวียนอยูแลวกลาววา “พวกขามาจากศาลาปดฟา แมจะไมชอบปญหา แตก็
มิไดเกรงกลัวปญหา”
เมื่อสี่คําวาศาลาปดฟาถูกเปลงออกไป พลขับที่อยูตรงขามก็แปรเปลี่ยนสีหนา นั่น
เปนดินแดนสุขาวดีโบราณ พละกําลังนากลัวและยิ่งใหญอยางแทจริง แมเจาเสือขาวจะมี
ฐานันดรสูงสง ก็มิอาจหาญเขนฆาสังหารตามอําเภอใจ ณ ที่แหงนี้ได
“ศาลาปดฟาไมธรรมดา ทวาพวกทานก็พึงจะรู พวกขามาจากขุนเขาสัตวตะวันตก
โลกแคบนัก คงไดพบกันสักวัน” พลขับพูดเสียงเย็น ประจันหนาดวยตาตอตา ฟนตอฟน
เถาเหยี่ยตื่นตะลึง นอกจากเจาตัวเล็กที่ไมเขาใจ ศิษยผูมีพรสวรรคคนอื่นๆ ตางอก
สั่นขวัญแขวน เผยสีหนาจริงจังขึงขัง
ขุนเขาตะวันตก ตามตํานานกลาววาเปนสถานที่ฝงศพผูกลาของเหลาอสูรบรรพกาล
แมกาลเวลาลวงผานอยางไมสิ้นสุด เกิดเหตุการณเปลี่ยนแปลงตาลปตร ไรกระดูกอสูรให
คนหาไดอีกตอไป ทวา กลับมีทายาทอสูรบรรพกาลปรากฏตัวตลอดเวลา ปกปกษ
คุมครองขุนเขาตะวันตก เทือกเขาที่พวกมันอยูอาศัยเรียกวา ขุนเขาสัตวตะวันตก นา
กลัวเปนอยางยิ่ง
“โฮก...” เสือขาวคําราม ออกคําสั่งใหรถลากเดินหนาตอ
พลขับหันหลังกลับมาแลวกลาววา “มันใหขาบอกพวกเจาวา แลวพบกันใหมที่
เทือกเขารอยยอด”
เสือขาวตัวนั้นเหลียวมองดวยแววตาเขยาขวัญ เผยจิตสังหารออกมาจนสิ้น เห็นได
ชัดวา หากเขาสูเทือกเขารอยยอด และไดพบหนากัน ตองเกิดสงครามนองเลือดครั้งนา
กลัวขึ้นเปนแนแท
“ผูอาวุโส ขาสํานึกผิดแลว” ศิษยหญิงผูนั้นกมหนากลาวคําขอโทษ เพียงเพราะ
ความสงสัยของนาง ถอยคําอันมิไดใสใจ กลับไปยั่วยุคูตอสูนากลัวปานนี้เขา
“มิตองกังวล เพียงเสือประหลาดตัวหนึ่งเทานั้น เมื่อถึงเวลาพวกเราชวยกันจัดการ
มัน เนื้อเสือหอมหวานยิ่งนัก” เจาตัวเล็กกลาว
ฝูงชนเงียบงัน นั่นเปนเสือปกติทั่วไปหรืออยางไร เกรงวาจะยิ่งใหญยิ่งนักแมแตใน
บรรดาทายาทอสูร เปนรุนหลังของราชันย หากประสบพบเจอเทากับสงครามนองเลือด
อันนาเวทนาอยางแนนอน
“นองชายชางองอาจนัก ขาชอบ เมื่อถึงเวลานั้น มาหาขา หากเจาตองการความ
ชวยเหลือ” ชายหนุมชุดครามที่อยูไมไกลนักกลาวพลางหัวเราะ หยิบยื่นไมตรีจิตแกพวก
เขา
ฝูงชนยอมตอบดวยความเกรงใจ
ยามชายหนุมชุดครามกวาดสายตามองเจาตัวเล็ก นัยนตาฉายแวววิเศษแปลบปลาบ
อายุประมาณ 17-18 ป บําเพ็ญตนในขั้นยากลึกหยั่งถึง หยิบยื่นไมตรีจิต กลาววา
สามารถสรางความรวมมือไดเมื่อถึงเวลานั้น
“ขามีนามวาเมิงเซี่ย มาจากประเทศเพลิง” เขาพูดแนะนําตัว
“เปนศิษยของตระกูลเมิ่ง ตระกูลขุนนางเกาแกใชหรือไม?” เถาเหยี่ยเอยถาม
“ขอตอบผูอาวุโสวา ใชแลวขอรับ” เมิงเสียมิไดปฏิเสธ
“วีรบุรุษแตกําเนิดจริงๆ ยอดเยี่ยมนัก” เถาเหยี่ยพยักหนา
“ไอหยา” หนึ่งเสียงเปลงออกมา ประตูบานที่อยูไมไกลนักถูกผลักออก มีบุรุษชุด
เขียวผูหนึ่งเดินออกมา ใบหนาประดับรอยยิ้มเย็นเยือกกลาววา “เมิ่งเซี่ย เจารวบรวม
สหายไวสูศึกรึ?”
“รูจักคนมากไวยอมเปนการดี” เมิ่งเซี่ยกลาว
“ตระกูลกูของขาไมนิยมชมชอบใหสรางมิตร” ชายหนุมแซกูยิ้มเยาะ
“ไปเถิด!” เถาเหยี่ยกลาว
เมื่อเจาตัวเล็กเหลียวกลับไปมอง สองคนนั้นยังยืนประจันหนากันอยู ที่นี่
สลับซับซอนนัก คนเหลานี้ลวนเปนเพียงชายหนุมอายุ 10 กวาป แตกลับกอสงคราม
ประสาทเชนนี้เสียแลว พวกเขาเกือบจะถูกลากตัวเขาไปยังกลางวังวนเสียแลว
“ที่แหงนีซ้ ับซอนเหลือลน!” อัจฉริยะผูหนึ่งแหงศาลาปดฟาบนอุบ มาถึงก็ลวงเกิน
ทายาทอสูรตัวหนึ่ง ตอนนี้เกือบจะเขาไปพัวพันกับสงครามระหวางวงศตระกูลขุนนาง
เกาทั้งสอง
เมื่อเขาสูลานบานของพวกเขา เถาเหยี่ยปราดตามองเขาแลวกลาววา “นี่ยังธรรมดา
เมื่อเขาสูเขารอยยอดจะนากลัวยิ่งกวา จิตสังหารทุกยางกาว อัจฉริยะรวมตัว สัตวอสูร
ปรากฏกาย สามารถรอดชีวิตไดก็ถือวาเปนชัยอันยิ่งใหญแลว”
สิ่งที่เขาพูดลวนเปนความจริง คนที่สามารถรอดมาจากเทือกเขารอยยอด ผานการ
ขัดเกลา ภายหลังลวนเปนบุคคลยิ่งใหญ เพียงมีชีวิตรอด ยอมเลื่องชื่อระบือนามไปหนึ่ง
บริเวณ
“เมืองนี้ถือวาไมเล็กนัก วีระบุรุษผูกลาอายุนอยมากมายมาเยือน ศิษยพี่ พวกเรา
ออกไปเชยชมบุคคลเหลานั้นสักหนอยกันเถิด” เจาตัวเล็กแนะนํา
เดิมเถาเหยี่ยตองการหยุดยั้ง ดวยเกรงวาอาจไปสรางความวิบัติ แตภายหลังกลับคิด
วา เมื่อเขาสูเทือกเขารอยยอดอาจอันตรายยิ่งกวา หากตอนนี้ยังเกรงกลัวถึงเพียงนี้ พวก
เขาจะมาที่ไปเพื่ออะไร!
“ก็ดี พวกเจาไปเถิด”
อัจฉริยะอีก 5 คนที่เหลือของศาลาปดฟาลวนแข็งแกรงยิ่งนัก เมื่อเดินอยูบนถนน
ยอมตกเปนเปาสายตา สําหรับเจาตัวเล็กที่เยาววัยปานนี้ แมจะรูปงาม แตกลับไมมีผูใด
คิดวามีภัย
เบื้องหนาแววเสียงวิวาท ลูกศิษยจากสองตระกูลประจันหนากัน มีคนหลายสิบชีวิต
จะลงมือบนถนนหนทาง อักขระเจิดจาพรางพรายปรากฏขึ้นอยางเนืองแนน
“วุนวายนัก หากมีปญญาก็ไปสูกันในเทือกเขารอยยอด ตอสูกันที่นี่ใหไดอะไร?”
ชายหนุมที่นั่งดื่มชาอยูในรานชาใกลเคียงไมชอบใจที่พวกเขากอวิวาท ตบโตะแลวตวาด
ลั่น
“มันเรื่องอะไรของเจาละ?!” คนทั้งสองฝายหันกลับมาประณามอยางเกรี้ยวกราด
เสียงผิวปากยาวดังขึ้น ปรากฏนกกระจอกวิเศษลวดลายหาสีตัวหนึ่งบนไหลของ
หนุมคนนั้น อาปากสูดลมหายใจ กลายเปนวังวนนากลัว กลืนคนหลายสิบคนเขาไปจน
สิ้น
“ผลุบ”
นกกระจอกวิเศษหาสีหุบปากฉับ เลือดสาดกระเซ็นทันใด หลายสิบคนแหลกคาปาก
มัน ถูกกลืนลงทองไปทันที
ตอมา แสงพรางพรายสวางวาบ มันบินกลับมาบนไหลของหนุมจิบชาอีกครั้ง
หลับตาพักผอนนิ่งไมไหวติง
ชายหนุมไมแมแตจะเงยหนา เทน้ําชาใหตนเองหนึ่งแกว ปากพนตัวอักษรออกมา
สองตัววา “หนวกหู!”
ทางเดินเงียบสงัดไรเสียงฉับพลัน ฝูงชนขนลุกขนพอง ชายหนุมคนนี้ชางนากลัวยิ่ง
นัก เพียงนกที่เขาเลี้ยงก็วิเศษปานนี้ ตัวเขาจะยิ่งใหญเพียงใดกัน?!
ลูกศิษยแหงศาลาปดฟาพรั่นพรึง มิอยากแสหาเรื่อง พากันจะเดินจากไป แตกลับ
พบวาเจาตัวเล็กจองนกตัวนั้นเขม็ง น้ําลายไหลยอย
นี่มันอารมณอยางใดกัน? พวกเขาแทบคลุมคลั่ง เจาเด็กคนนี้ตองการกินนกกระจอก
วิเศษนากลัวตัวนั้น นี่เปนถึงปกษาอสูรนาสะพรึงกลัวตัวนั้นเชียวนา!
“ไปเถอะ” พวกเขาดึงแขนเสื้อเจาตัวเล็ก
“เลือดเนื้อเปนยาล้ําคา” เจาตัวเล็กเช็ดน้ําลาย เดินจากไปอยางอาวรณ เดินไปบน
ไปวา “นาเสียดาย มันกินคน ขามิอยากกินมันแลว”
คนจากศาลาปดฟาเหลานั้นตัวเซไปที เหลียวหลังมองเขาแลวเหลือกตาพรอมกัน
ศิษยนองผูนี้ไยจึงแปลกคนยิ่งนัก
พวกเขาลากเจาตัวเล็กจากไปโดยไว เขาสูใจกลางเมือง พบวาคนมากมายรวมกลุม
หารือกันอยู
“เฮ เกิดอะไรขึ้นหรือ?” เจาตัวเล็กเบียดตัวเขาไปสอบถามผูคน
“รางวัลมูลคามหาศาล...” มีคนกลาว
เจาตัวเล็กพูดดวยนัยนตาเปนประกายวา “รางวัลอะไร ใหอาวุธล้ําคาชนิดใด ตอง
ทําอะไร?!”
“ดูเอาเองเถอะ บนปายนั่นสลักไวอยางชัดเจน”
เมื่อเจาตัวเล็กไดยินดังนั้นก็พุงตัวเขาไปอยางรีบเรง ทวาเพียงชั่วพริบตา เขาก็หนา
มอยคอตกวิ่งหนีออกมา เพราะมีคนจะเด็ดหัวเขานะสิ!
“ทางนี้ก็มี จะจัดการกับเจาเด็กคนนั้นเชนกัน แตเงื่อนไขเขมงวดกวานัก จําตองจับ
เปน คอขาดขาขาดอยางไรก็ได”
เจาตัวเล็กเดินไปทั่วบริเวณ ใบหนาเล็กถมึงทึง ไมใชเพียงหนึ่งอิทธิพลตองการ
จัดการเขา ตามที่ผูคนคาดเดา นิสัยเชนเขาจะตองเขาสูเขารอยยอด สาบานวาจะจับตัว
เขาใหได
“จะจับเปนรึ ตองเปนตระกูลที่เสียพัดล้ําคาสีแดงแนนอน นั่นคงเปนอาวุธล้ําคาปก
ปกษชนเผา ผูอื่น...ชางมันประไร พบกันในสนามรบ!” เจาตัวเล็กพึมพํา
เขารูวา การเขาสูเขารอยยอดหนนี้มีอุปสรรคมากมาย อาจตองสูศึกไมหยุดหยอน
อันตรายอยางเหลือลน แตกลับเต็มไปดวยโอกาสอันไมสิ้นสุด แมที่นี่จะเปนดินแดนเทพ
เจาหลั่งน้ําตา นองเลือด แตคงไมขาดน้ําพุอมฤทธิ์ การสืบทอดเทพเจาสงคราม กระดูก
ฟาเปนแน!
ทันใดนั้น ทองฟาดําทมิฬ ราวกับเมฆดําทะลวงนภา ตามมาดวยจิตสังหารทวมทน
ฝูงชนครั่นคราม ลวนเงยหนาจองมอง ไมมีผูใดไมหวาดผวา
สัตวอสูรสูงตระหงานตัวหนึ่งบินผานที่นี่ไป เงารางขนาดใหญบดบังดวงอาทิตย
จากนั้นทะลวงอากาศบินจากไปไกล
“อสูรบรรพกาลตัวนี้ชางนากลัวนัก!”
ผูคนอกสั่นขวัญแขวน สัตวโบราณตัวนี้มีความนาเกรงขามของอสูรบรรพกาล มิ
เชนนี้จะนาหวาดกลัวเชนนี้ไดเยี่ยงไร
“มันมาเพื่อสงทายาท ตอนนี้จากไปแลว มองดูแลว สงครามแหงเขารอยยอดคงนา
กลัวอยางหาที่เปรียบไมได อัจฉริยะบุคคลจํานวนมากจะหลั่งเลือดและลมตาย มีเพียงผู
กลาที่แข็งแกรงที่สุดรอดชีวิต”
ผูคนหวาดหวั่นพรั่นพรึง วิพากษวิจารณกันเกรียวกราว กระทั่งเกิดความลังเลใจ
ปลอยใหศิษยของตนเขาสูเขารอยยอดจะเปนการดีหรือไม
..............................
[1] แลพิสแลซูลี รัตนชาติกึ่งสูงคา ถือวาเปนอัญมณีที่คอนขางหายาก ถือเปนของมี
คามาตั้งแตโบราณเพราะมีสีน้ําเงินสด
บทที่ 116 วิกฤตอยางตอเนื่อง
ณ เมืองตัดนภา แนวกําแพงสีเทาใหญโตมโหฬาร แมเปนเมืองโบราณ แตยังคง
ประกายแสงอันมีชีวิตชีวาเฉกเชนดังเดิม
โดยเฉพาะในระยะนี้ นับวันก็ยิ่งครึกครื้น ศาสนาสูงสง ตระกูลขุนนางเกาแกลวนสง
ผูมีพรสวรรคมายังที่แหงนี้ เตรียมการเขาสูเขารอยยอด
หนุมสาวเหลานี้ลวนเกงกาจล้ําเลิศ จัดอยูในอันดับตนของชนเผา เปนผูปกครอง
ดินแดนกวางใหญในภายภาคหนา ควบคุมดูแลศาสนาสําคัญในโลกหลา
“ดูนั่นสิ มีอสรพิษแปลกอยูตรงนั้นตัวหนึ่ง ไยมีหนึ่งหัว สองรางกายละ?” เจาตัวเล็ก
ดึงแขนเสื้อของศิษยพี่คนหนึ่ง หมายใหมองเบื้องหนา
อสรพิษประหลาดตัวหนึ่ง มีสีแดงทั้งตัว ตั้งแตสวนหัวลงเริ่มแบงแยกรางกายเปน
สอง งอกขาหกขา ปกสองคู เกล็ดหนาแนน ทั้งประหลาดและอัปลักษณ
คนบนทางเดินลวนหลบหลีก ไมยินยอมเขาใกล
อัจฉริยะแหงศาลาปดฟาทั้งหลายตางสูดลมหายใจเย็นเยียบ ลากตัวเจาตัวเล็กไปอีก
ฟากหนึ่ง กระซิบกระซาบบอกเขาวา นี่เปนอสูรบรรพกาล นามวาเฝยหยี
“นี่หรือเฝยหยี” เจาตัวเล็กเบิกตากวาง เขาเคยอานคัมภีรดินแดนรกราง แนะนํา
สิ่งมีชีวิตนานาชนิดเปนการเฉพาะ ไมคิดวาจะมีลักษณะเชนนี้
เมื่อเฝยหยีปรากฏตัว จะเกิดวิกฤตครั้งใหญ เปนเพราะมันหยั่งรูเคล็ดวิชาเพลิง เปน
มือฉกาจในวิชานี้ อสูรบรรพกาลเฝยหยีที่โตเต็มวัย สามารถทําลายชนเผาใหญใหพินาศ
เพียงลําพังได
“อยาไปรังควานมัน แมนี่จะเปนเพียงตัวลูก แตทามกลางอัจฉริยะแหงเผาพันธุกลับ
มีผูที่ทัดเทียมมันไดอยูนอย” ศิษยหญิงคนหนึง่ กลาวเตือนดวยสีหนาเครงขรึม
เฝยหยีตัวนี้ยาวหลายหมี่ คืบคลานเชื่องชา สิ่งมีชีวิตทุกประเภทบนทางเดินตางหลีก
ทางแกมัน เจาตัวเล็กจองมองดวยความสงสัย คาดเดาในใจวา หนึ่งหัวสองราง หากตอสู
กันขึ้นมาจะสามารถควบคุมไดหรือ?
อสรพิษประหลาดสีแดงตัวนี้ปรายตาจองมองเขาอยางเย็นยะเยือก สะบัดหางมา
ทันใด หางแดงดุจกระแสไฟ หวนพื้นดินจะแตกราวดังปง กอเกิดฝุนผงเปนกอบกํา
หากมิใชเพราะเจาตัวเล็กคลองแคลววองไว คงถูกหวดเขาอยางจังเปนแน
“เจาแมลงอวนอาจหาญยั่วโมโหขารึ?!” เจาตัวเล็กตะโกนลั่น เตรียมพุงตัวออกไป
ศิษยแหงศาลาปดฟาใบหนาเปลี่ยนสี กุลีกุจอเขาไปจับตัวเขาไว
ทวา เพียงรางกายของพวกเขาจะเทียบกับเจาตัวเล็กไดอยางไร แตเสียงกระซิบของ
ศิษยหญิงคนหนึ่งไดผล นางกลาววา “ผูอาวุโสเถาเหยี่ยกลาวไววา หามกอเรื่องในเมือง
เปนอันขาด เมื่อเขาสูเขารอยยอดแลวจะปลอยใหเจาสรางเรื่อง”
“ถือวาเจาโชคดี ภายหลังหากขาเดินผาน อยายั่วโมโหขา” เจาตัวเล็กชี้เฝยหยีแลว
พูดอยางโมโหโทโส
ทั้งทางเดินเงียบสงัด เด็กคนนี้เปนใคร? เหนือธรรมชาติยิ่งนัก กลาวเตือนอสูรบรรพ
กาลตัวหนึ่ง ตองกลับกันจึงจะถูก
“นี่...ไยขาจึงรูสึกวาเขาเปนอสูรบรรพกาลในรางมนุษยขนานแท มิเชนนั้นจะกลา
เอยวาจาเชนนี้ไดหรือ” มีคนกระซิบ
เฝยหยีหยุดเลื้อย รางกายแดงฉาน แสงเย็นเยือกพราวกระจาง ดุจหลอมจากธาตุ
ทอง ขณะเดียวกันก็เปยมดวยพลัง มันจองเจาตัวเล็กเขม็ง สงเสียงขูฟอฟอ แลบลิ้น
ออกมารับกลิ่นเหยื่อ
“เขาเปนแคเด็กคนหนึ่ง อยาไดถือสาเลย” ศิษยแหงศาลาปดฟาพูดกับเฝยหยี พลาง
ลากเจาตัวเล็กใหพนทาง หายลับไปในกระแสคนอยางรวดเร็ว
เฝยหยีมิไดไลตาม มองดูเขาจากไป เนื้อตัวฉายแสงสีแดง ชั่วพริบตาที่เจาตัวเล็กจะ
พุงเขาหา มันสัมผัสไดถึงกลิ่นอายโหดเหี้ยมเฉกเชนที่มันมี
“หนึ่งอัจฉริยะแหงเผาพันธุมนุษย นากลัวปานนี้ แลวพบกันที่เขารอยยอด” เฝยหยี
ทอดมองเขาจากขางหลังดวยสายตาที่เย็นเยียบมากขึ้น
ผีเสื้อตัวหนึ่งบินมาดวยความเร็วสูง สาดทอแสงสดงดงาม สีสันแวววาวพรางพราย
กําจายแสงวิเศษ ทําใหฝูงหลบถอย มันยาว 1 หมี่ กระพือปกบินวอน กระจายแสงมงคล
งดงามอยางยิ่ง
ผูคนบนทางเดินลวนหลบหลีก เห็นไดชัดวาเปนหนึ่งเผาพันธุผูกลา แมจะปรากฏ
เพียงหนึ่ง แตกลับนายําเกรง กายของมันเต็มไปดวยอักขระธรรมชาติ ไหลเวียนความ
มหัศจรรยลึกลับ
“ผีเสื้อปศาจสะทานฟา ฉายาสองปกกระพือ สามารถฉีกฟาครามนับหมื่นลี้ นี่เปน
สิ่งที่บันทึกไวในตําราโบราณ!” มีคนซุบซิบดวยสีหนาหวั่นเกรง
แนนอนวา สิ่งที่จารึกไวในตําราโบราณยอมเปนผีเสื้อปศาจเลือดบริสุทธิ์ ผีเสื้อ
เยาววัยที่เห็นอยูเบื้องหนามิไดมีบริสุทธิ์ปานนั้น
ตลอดการเดินทาง เจาตัวเล็กรูสึกวาดวงตาจวนไมพอใช พบเห็นคนเหล็กในราง
มนุษย กอนหินพูดได และเทพารักษพฤกษาที่ฝงรากกลางนภา ลึกลับและยิ่งใหญ
เหลือเกิน
อัจฉริยะแหงเผาพันธุมนุษยมีจํานวนมากเหลือลน และเผาพันธุอื่นที่มาเพียงลําพัง
นั้นมีพลังยิ่งใหญ สิ่งมีชีวิตพิสดารมากมายมายังใจกลางเมือง ลวนนาพรั่นพรึงอยางทีส่ ุด
แนนอนวา ยอมมีเผาพันธุที่ใกลเคียงกับมนุษย บางมีเขางอกออกมา บางมีสองหัว
บางก็มีหัวเปนคนรางกายอสรพิษ รางกายเปลงแสงวิเศษ ราวกับเทพเจา ยิ่งใหญมาก
เปนพิเศษ
“สิ่งมีชีวิตหลากหลายเหลือเกิน ชนพื้นเมืองยังไมมากเทาเหลานักพรต เมื่อถึงเวลา
นั้น เขารอยยอดจะจุไดหรือ?” เจาตัวเล็กตั้งคําถาม
“นามวาเขารอยยอดมีคําวา เขา แตแทจริงแลวเปนโลกใบเล็ก เมื่อเขาสูภายในเจา
จะรูเองวาอัศจรรยปานใด” ศิษยหญิงคนหนึ่งอธิบาย
“เชนนี้หรือ ชางคาดหวังนัก” เจาตัวเล็กเบิกบานใจ ขออยาใหเปนผืนปาทรุดโทรม
รกรางเปนพอ เขายังปรารถนาจะแสวงหาขุมทรัพยสักหนอย
ไมนานนัก พวกเขาเตร็ดเตรในเมืองพอสังเขป พบเจอนานาเผาพันธุ เขาใจความลับ
ไมนอยเลย
สิ่งเดียวที่ทําใหเจาตัวเล็กขุนเคืองคือ คาหัวของเขาเพิ่มขึ้นเปนเทาตัว ศีรษะมี
มูลคาเพิ่มขึ้น มีคนยินยอมจะใชอาวุธล้ําคา ตํารากระดูก ยาวิเศษเปนของแลกเปลี่ยน
เมื่อไดยินขาวคราวเชนนี้ เจาตัวเล็กก็หนาดําคร่ําเครียด
อีกหนึ่งขาวคราวแพรงพรายตามมา เลวรายกวานัก มีคนคาดเดาไวอยางแมนยําวา
เด็กเหลือขออยูในขบวนคนจากศาลาปดฟา หากเพงเล็งพวกเขา ก็จะรูวาเขาอยูที่ใด
เปนใครกันแน
ขาวนี้ตางไดรับการยอมรับกันถวนหนา แมศาลาปดฟาจะเปนถึงดินแดนสุขาวดี
โบราณ สืบทอดกันมาชานาน มากดวยผูกลามือฉมัง เด็กเหลือขอเขาสูศาลาปดฟา
ระยะเวลาเนิ่นนานเพียงนี้ เปนไปไมไดวาพวกเขาจะไมรูสึกตัว
“ศิษยนอง ไยหนาเจาถมึงทึงปานนี้เลา?” ศิษยหญิงงดงามเอยถาม
“แสงแดดแผดเผานัก รอนเหลือเกิน” เจาตัวเล็กสงเสียงฮึดฮัด
“ไฉนขาจึงรูสึกวา พวกเราจะถูกจัดการพรอมกัน เมื่อเดินรวมกันเชนนี้ละ?” ศิษย
อีกคนพูดดวยสีหนาพิกล ยอมมีสัมผัสเมื่อไดยินขาวคราวเหลานั้น
“คงมิใชเจาหรอกกระมัง หากใช โปรดใหขาตีกนเจาสักทีกอนเถิด!” ศิษยหญิง
งดงามอีกคนบดฟน เด็กคนนี้กอจลาจลครั้งใหญหลวงในศาลาปดฟา ทั้งดินแดนสุขาวดี
ลวนอยากจะฟาดเขา
“โอย เจาเด็กตัณหากลับ อาจหาญแตะตองขา...” ศิษยหญิงงดงามรองลั่น ใบหนา
แดงก่ํา เมื่อเจาตัวเล็กฟาดกนอวบอิ่มของนางหนึ่งฝามือ
“ในการตอสู ผูลงมือกอนยอมไดเปรียบ ออกหมัดชาไปก็อวมเทานั้นเอง มาเถิดศิษย
พี่ ขาเตรียมพรอมสูศึกแลว” เจาตัวเล็กเอาจริงเอาจัง พูดอยางคิดวาตนมีเหตุมีผลไม
หยุดหยอน
ชายสามหญิงสอง อัจฉริยะทั้งหาตะลึงพรึงเพริด เจาเด็กคนนี้ชางนาชังนัก มองดู
ลักษณะของเขาแลวตองเปนเด็กเหลือขอผูนั้นไมผิดแน
“ตีมัน!” หาคนวิ่งไล
เจาตัวเล็กวิ่งหนีเตลิดเปดเปงพลางพูดวา “หยุดตีไดแลว หากผูอื่นลวงรูวา เราเปน
ศิษยแหงศาลาปดฟา พวกทานจะพลอยโชครายไปดวย”
แมพวกเขาอยากรุมสกรัมเขาสักหน ใจกลางเมืองนี้ไมเอื้อตอการไลลา กําราบเทาใด
นัก หากตัวตนถูกเปดเผย พวกเขาตองไดรับลูกหลงเปนแนแท
มีแทนบูชาตั้งอยูกลางเมือง ทวาผูคนที่เดินทางมายังใจกลางเมืองลวนมาไวอาลัย ณ
ที่แหงนี้ เนื่องดวยตามตํานานกลาววา นี่เปนอนุสรณแหงทวยเทพ เคยอาบเลือดวิเศษมา
กอน
เมื่อเหลาลูกศิษยแหงศาลาปดฟามาถึงที่นี่ มีผูคนเดินเพนพานอยูกอนแลว แทนบูชา
นั่นผุพังทรุดโทรมยิ่งนัก เหลือเพียงกอนหินสีดําบางสวน ไมพบสิ่งอื่นใด อักษรที่ทวยเทพ
สลักไวเลือนรางจางหาย
ที่นี่มิไดมีเพียงมนุษย แตยังมีสิ่งมีชีวิตพิเศษจํานวนไมนอย ทําใหผูคนมิอาจหาญเขา
ใกล เพราะกําจายกลิ่นอายนาสะพรึงกลัวอยางยิ่งยวด
“อัจฉริยะจากเผาพันธุมนุษยผูหนึ่งทิ้งชื่อเสียงอันเกริกเกียรติไวในโลกแหงความวาง
เปลา ระยะนี้มีเพียงประเด็นของเขา นาระอาใจนัก” ภูติไมตนหนึ่งกลาว
“ชื่อเสียงเลื่องลื่อมากรึ จับมาเปนขาทาสเสียยังดีกวา ขามีหญิงรับใชงามถึง 4 คน
องครักษ 12 นาย ลวนเปนมือฉมังในเผาพันธุมนุษย ไดรับสมญานามวา อัจฉริยะ”
สิ่งมีชีวิตผูกายเปนมนุษย แตกลับมีเขาเดี่ยวสีทองกลาว เสนผมสีมวง ใบหนาคลาย
มนุษย เพียงวามีเขี้ยวแหลมคูหนึ่ง อัปลักษณนัก
“ไมวาผูใดก็หามแยงขา กระทั่งตอนนี้ขาไมมีแมแตทาส เมื่อมนุษยตางร่ําลือวาเขา
เกงกาจ เชนนั้นขาก็เลือกเขานี่ละ”
ขณะนี้เอง เสียงดั่งระฆังวิเศษก็ดังสนั่นหวั่นไหว สะเทือนแกวหูดังวิ้งๆ ราชสีหเกา
เศียร เนื้อตัวเหลืองอราม เจิดจาพรางพรายตัวหนึ่ง องอาจหาญกลา ทรงพลังและนา
กลัวอยางสะทานทรวง
“สิงโตตัวนี้แกรงนัก ยังเยาววัย แตกลับมีเกาเศียร บงบอกวาเลือดบริสุทธิ์อยางยิ่ง
มิไดผสมปนเปมากนัก ความสําเร็จไมภายภาคหนาไมธรรมดาเปนแน” ชายชราผูหนึ่ง
เดินผานมาอุทานขึ้น เปนผูอาวุโสแหงวงศตระกูลผูดีเกาแก
“โฮก...” ขณะนั้นเอง สิงโตเกาเศียรคําราม แสงทองทั่วรางโชติชวง กําราบกลิ่นอาย
ของมนุษยที่อยูเคียงใกล มันพูดวา “ตางร่ําลือวารายกาจ มนุษยผูนี้ขาจอง พวกเจา
อยาไดแยงชิง อัจฉริยะผูยิ่งใหญตองเปนบริวารแหงขา ติดตามรับใชขา เขาจึงจะได
โอกาสอันสะทานปฐพีในภายหนา”
สิงโตเกาเศียรคําราม สุระเสียงดุจสายฟาพิโรธ สะเทือนจนแทนบูชาโบราณสั่นไหว
ผูคนอกสั่นขวัญแขวน มิกลาพูดใหมากความ
ในอดีตมิเคยเกิดเรื่องราวเชนนี้ เคยมีผูกลาแหงเผาพันธุมนุษยออกลาอสูรบรรพกาล
เมื่อคืนกลับมาก็แบงแยกดินแดนตั้งตนเปนราชัน ปกครองอาณาจักรลานลานลี้
“สิงโตทองตองอรอยเปนแน ขาชื่นชอบหัวสิงหน้ําแดงยิ่งนัก!” ไกลออกไป เจาตัว
เล็กพูดพลามดวยใบหนาชั่วราย เขี้ยวเสือวาววับ
“อยาเชียวนา สิงโตเกาเศียรตัวนี้ใกลเคียงเลือดบริสุทธิ์ หามยั่วยุเด็ดขาด นอกจาก
คนสวนนอยเชนสือยี่แลว ขาคาดวานอยนักที่อัจฉริยะแหงเผาพันธุจะตั้งตนเปนปฏิปกษ
กับมัน” ศิษยหญิงหยุดยั้งเขาไว
“อาหารอันโอชะยอมตองใชเวลาปรุง คอยวากันหลังเขาสูเขารอยยอด!” เจาตัวเล็ก
พูดไปเช็ดน้ําลายไป
อัจฉริยะแหงศาลาปดฟาตางเงียบงัน
นอกรัศมีแปดแสนลี้ ณ จวนสายฝน ดินแดนจักรพรรดิแหงประเทศหินผา
ในอาณาบริเวณสิ่งปลูกสรางใหญโตโอฬาร ตําหนักตั้งเรียงราย ราชวังลนพน ลวน
สูงตระหงาน กําจายกลิ่นอายนายําเกรง
ภายในตําหนักใหญ อักขระสองวูบวาบ ไอมงคลตลบอบอวล บุคคลสําคัญแหงเผา
สายฝนนั่งขัดสมาธิอยูเปนจํานวนมาก นอกจากนี้ยังมีสาสนอยูแผนหนึ่ง
“เฟงเออรสงขาวจากศาลาปดฟา ยืนยันแลววาเด็กในโลกแหงความวางเปลาผูนั้น
เปนใคร เขามีนามวาฮาวเทียน และวันนี้ไปเยือนเมืองตัดนภาแลว ตองเขาสูเขารอยยอด
อยางแนนอน”
“ชื่อมีตัวอักษร ฮาว อายุใกลเคียงกับเด็กในอดีตผูนั้น และเมื่อตรวจสอบถี่ถวน
พบวาการแสดงออกทางสีหนาคลายกับสือจื่อหลิงเมื่อวันวาน พวกเจาวาบังเอิญรึไม?”
เมื่อวาจานี้เปลงออกไป ภายในตําหนักพลันอึมครึม
“เด็กคนนั้นพิการ ไมมีทางรอดชีวิต อยางไรก็ตาม ฮาวเทียนในศาลาปดฟาผูนั้น
แข็งแกรงนัก มิดอยไปกวาสือยี่เทาใด ควรคาแกการจับตามอง”
“โอ ขาเคยอานตําราโบราณเลมหนึ่ง มีการคาดการณอยางหนึ่งกลาววา เมื่อผูสงสูง
แตกําเนิดสูญเสียกระดูกของตน หากผานพนไปไดก็สามารถเขาสูนิพพานแลวเกิดใหม
จะยิ่งใหญและนากลัวมากยิ่งขึ้น พวกเจาวา เด็กนามวาฮาวเทียนคนนี้...”
เมื่อการคาดเดาเชนนี้เปดเผย คนทั้งหมดพากันสูดลมหายใจเย็นเยียบ
“จะอยางไรก็ชาง เด็กคนนี้ก็เกงกาจอยางยิ่ง ผูมีพรสวรรคแหงเผาเรา อีกทั้ง
อัจฉริยะที่รับเลี้ยงลวนไดรับคําสั่ง เมื่อเขาสูเขารอยยอด ตองจับตามองเขาใหดี หากมี
โอกาส...อยาไดพะวาพะวัง!”
บทที่ 117 เขารอยยอด
ครึ่งเดือนผานไป ไอหมอกพวยพุง ณ สุดขอบโลกอันไกลโพน ขมุกขมัวเลือนราง
ตามมาดวยเสียงดังสนั่น สะทานฟาสะเทือนธรณี เปลงแสงสวางเปนหมื่นสาย
ผูคนทั้งหมดในเมืองตัดนภาตางตื่นตระหนกตกใจ รูสึกราวกับเทพเจาองคหนึ่งตื่น
จากการหลับใหล ลืมตาทามกลางความสลัว นัยนตาปลอยกระแสไฟออกมาเปนสาย
ณ สุดขอบโลก ความเลือนรางคืบคลาน กระแสไฟผนึกกําลัง สายฟาคํารามสะเทือน
หู พายุฝนเทกระหน่ํา ประหนึ่งวันโลกาวินาศ!
“มาแลว เขารอยยอดจะปรากฏแลว หนทางเปด ปรากฏยังธรณีอกี ครา!” มีผูสูงวัย
ในเมืองตางเบิกตากวาง ใหความสนใจอยางตื่นเตน
เดิมดินแดนแหงนี้ราบเรียบ แตตอนนี้มีเงาเลือนรางเพิ่มขึ้นมา ประหนึ่งเทือกเขายก
ตัว ปรากฏวับวาบ
เมื่อมองอยางถี่ถวน แผนดินยังคงราบเรียบอยางสามารถควบมาหอเหยียดได เงา
ที่วานั่นอยูตางโลก ขวางกั้นดวยนภากวางใหญไมมีสิ้นสุด ตอนนี้เพียงปรากฏใหเห็น
เทานั้น
“มาแลว มันสรางโลกของตนขึ้น เปดในวันนี้อยางแนนอน โอกาสอันหายาก เด็กๆ
โอกาสของพวกเจามาถึงแลว บางทีอาจพบโชคใหญในนั้นก็เปนได หรือบางทีอาจตาย
อยางไรหลุมฝงศพ จงเลือกและรักษาโอกาสดวยตนเอง!” ชายชราผูหนึ่งตะโกนลั่น
สะเทือนไปทั่วเมืองตัดนภา
“บัดนี้พวกเจายังพอมีเวลา เรงเตรียมการเถิด” ผูอาวุโสสูงศักดิ์เปลงเสียง
หลายรอยปกอน มีอัจฉริยะบุคคลมากมายโผลขึ้นมาจากเขารอยยอด เมื่อกลับมา
โดดเดนทะลวงฟา สุดทายขึ้นนั่งบัลลังกจักรพรรดิ และมีผูคนตายเกาครั้งไดกลับมาหนึ่ง
ชีวิต กลายเปนศาสดาสูงสงในภายหลัง
ไมตองกลาวถึงเมื่อครั้งบรรพกาล ชื่อเสียงเรียงนามของบางคนเปลงประกายกลิ่น
อายของเทพเจา สะทานฟาจวบจนทุกวันนี้ สะเทือนไปทั้งโลกหลากวางใหญครั้งอดีต
กาล
แนนอนวามนุษยยอมมีมากที่สุด ทั้งวงศตระกูลขุนนางเกาแก ศาสนาสูงสุด และ
เหลาราชนิกูลแหงประเทศเกาแก ผูคนมืดฟามัวดิน เบียดเสียดยัดเยียด ยืนออกันบน
แนวกําแพง
“ศิษยนอง เจาทําอะไรนะ ชักชาอยูไย พวกเราจะเขาไปเปนกลุมสุดทายมิได” ศิษย
คนหนึ่งเรงเราเจาตัวเล็กอยางกระวนกระวาย
“ของอรอยตองใชเวลาปรุง ไมรีบ ขากําลังเก็บของแนะ มิเชนนั้นพวกทานเดินทาง
ลวงหนาไปกอนเถิด” เจาตัวเล็กเก็บถุงนอยถุงใหญเปนกอบกํา ราวกับจะยายบาน
ทําใหอัจฉริยะทั้งหาตางตะลึงพรึงเพริด เจาจะไปทองเที่ยว หรือไปสูรบปรบมือกัน
แน ไยจึงหอบขาวของมากมายปานนี้? ใชมิไดจริงๆ
“เสร็จแลว ขาเก็บของสําเร็จเสร็จสิ้น!” ในที่สุดเจาตัวเล็กแบกกระสอบใหญแลว
ตามมาอยางคลองแคลว
เมื่อเถาเหยี่ยตาแกปศาจแหงศาลาปดฟาเห็นดังนั้นก็พูดไมออก ผูอื่นลวนพกพาผง
ยา อาวุธเสียเปนสวนมาก ไฉนเจาเด็กคนนี้จึงวิ่งออกมาจากครัว หอบขาวของไรสาระ
อะไรกันแน?!
เวลามีจํากัด เถาเหยี่ยมิไดถามใหมากความ นํากลุมหนุมสาวมุงหนาไปยังประตูเมือง
“ผูอาวุโส มีอาวุธล้ําคาไหม โปรดประทานแกขาสักชิ้น หรือไหหยกที่จุของได
จํานวนมากก็ได ใหขาแบกกระสอบเชนนี้วุนวายนัก” เจาตัวเล็กกลาว
“ไมมี!” เถาเหยี่ยสายหนา ไมมีเวลาโตเถียงกับเขา นํากลุมคนพุงขึ้นแนวกําแพง
อยางรวดเร็ว
“โครม!”
ณ เสนขอบฟา ไอเลือนรางหนามากยิ่งขึ้น สุดทายราวกับเกลียวคลื่นสีขาว โหมซัด
คํารามมา อลังการนัก
คลื่นใหญทวมทนทองฟา ขาวโพลนไปทั่ว ซัดสาดอยางตอเนื่อง รุนแรงอยางหาที่
เปรียบไมได ภาพเหตุการณนี้นาสะพรึงกลัวยิ่งนัก
ไอเลือนรางจูโจม มากมายปานนี้ นากลัวเชนนี้ ผูคนมากมายอยูมาครึ่งคอนชีวิต
กลับเห็นเพียงหนเดียว มโหฬารยิ่งนัก
ประหนึ่งกองทัพไพรพลมาศึกนับพันหมื่นวิ่งหอ เสมือนแมทัพใหญพุงมาสังหาร
เสียงดังสนั่นหวั่นไหว หมอกขาวทะลวงฟา นากลัวอยางไมมีที่สิ้นสุด
“โครม!”
เสียงดังขึ้นหนสุดทาย ไอพรามัวพุงมาทางนี้ คนจํานวนมากตื่นตะลึงจนขวัญหนีดีฝอ
ดวยเกรงวาจะถูกเขมือบ ทวากลับพบวาเหมือนกับฟาดินตัดแยก เกลียวคลื่นขาวโพลน
หยุดยั้งลง ณ ที่แหงนี้
“เมืองสมดั่งชื่อของมัน เรียกวาเมืองตัดนภานั่นชางมีเหตุผลเสียจริง” ฝูงชนอุทาน
อยางตกตะลึง
ขณะเดียวกัน แทนบูชาทรุดโทรมกลางเมือง อนุสรณซึ่งเคยอาบเลือดของเหลาทวย
เทพ เปลงแสงจางๆ ราวกับฟนคืนชีพ ประหนึ่งรําลึกเรื่องราวในอดีต
“มิตองรอคอยแลว เขารอยยอดเปดออกแลว สามารถเขาไปไดตอนนี้เลย!” เสียง
ตะโกนดังลั่น วานรแกตัวหนึ่งขวางลูกขนตนออกไป
ตามมาดวยเจียวละออนกระโจนหายไปในมานหมอกเลือนรางภายในพริบตา
ตอมา นกยักษสีทองตัวหนึ่งทะลวงชั้นฟา หายลับไปในความเลือนราง
ผีเสื้อปศาจหนึ่งตัวกระพือปก ตัดแยกฟากฟา พุงไปอยางรวดเร็ว
ชางเขามังกรหยกสองตัววิ่งทะยานเขาไปพรอมกัน ยางผานแผนดินเสียงดังกึกกอง

ในตอนนี้ สิ่งมีชีวิตนานาพันธุเคลื่อนไหวพรอมกัน ลวนจูโจมเขาสูมานหมอก ตาง
ตองการเปนผูเขาสูเขารอยยอดเปนอันดับหนึ่ง ปรารถนาไดรับโชคใหญอยางยิ่งยวด
อัจฉริยะแหงเผาพันธุมนุษยยอมมิยินยอมตามหลัง กระโดดไลตามไปทันที และ
ยิ่งกวานั้นคือมีคนไปยังแนวหนา รายอาวุธล้ําคาแขงความเร็วกับยักษสูง 10 กวาหมี่ ชิง
ความเปนใหญกับทายาทปกษาปศาจ
มีเพียงหนึ่งประตู ณ เสนขอบฟา แมจะโอฬารอยางหาที่เปรียบไมได แตเนื่องจาก
จํานวนคนลนหลาม ไมสามารถแทรกเขาไปไดในทันที ผูคนมืดฟามัวดินถูกสกัดกั้นไว
ดานนอก
แมกระทั่งวาเกิดสงครามปะทุขึ้นที่นี่ สิ่งมีชีวิตบางชนิดตอสูกันทันที
ศาลาปดฟาแทรกตัวอยูในกลุมคน เจาตัวเล็กที่แบกกระสอบใหญยอมเปนจุดสนใจ
สิ่งมีชีวิตตางมองเขาวาพิลึกพิลั่น
ผูอาวุโสมากมายมาที่นี่เพื่ออําลา ตางจองมองเขาดวยสีหนาประหลาดเชนกัน มีคน
เอยถามอยางทนมิไดวา “สหายนอย เจาแบกขาวของอะไรบาง?”
“ของล้ําคาทั้งนั้น!” เจาตัวเล็กเหวี่ยงกระสอบลงพื้นดังโครมแลวนั่งลงไป ถึงอยางไร
หนทางขางหนาก็อุดตัน ไมสามารถเดินหนาไดชั่วขณะ
“ของมีคาทั้งนั้นหรือ กระสอบใหญปานนี้เชียว?!” กลุมคนไมเชื่อ แมแตสิ่งมีชีวิต
ตางพันธุก็แปลกใจ
“แนนอน!” เจาตัวเล็กตบกระสอบใตกนดวยทาทีเต็มภาคภูมิ
“สํานักเจายิ่งใหญนัก มอบของล้ําคามากมายเพียงนี้แกลูกศิษย ชางนาเคารพยํา
เกรง!” มีคนอุทาน
ผูอาวุโสเถาเหยี่ยแหงศาลาปดฟารอนใบหนา นั่นเปนของล้ําคาอะไรกัน? เขา
คุมครองอารักขามาตลอดทาง ไดยินเสียงหมอชามกระบวยไหกระทบกันอยางชัดเจน!
ผูคนละแวกใกลเคียงตางเผยแววตาชั่วราย เพงเล็งเจาตัวเล็ก ตองการชวงชิงอยาง
เห็นไดชัด
“ขาขอเตือนพวกเจา อยาคิดจะชวงชิงของรักของขา มิเชนนั้นขาจะตุนพวกเจาทีละ
คน!” เจาตัวเล็กถลึงตาใสสิ่งมีชีวิตพิสดารเหลานั้น เฝากระสอบไวดวยทาทีประหนึ่งหวง
ของกิน
เหลาชายชรารอบขางพากันหัวเราะแลวกลาววา “สหายนอย ขอพวกขาดูหนอยวา
ของมีคาดานในคืออะไร ขาอายุปูนนี้แลว ไมแยงชิงอยางแนนอน”
“ก็ได!” เจาตัวเล็กคอยๆ เปดกระสอบออกอยางจําใจ
คนทั้งหมดจองมองมาทางนี้ ยืดคอหมายอยากมองดูวาเปนอะไรกันแน แมแต
เผาพันธุประหลาดเหลานั้นก็ไมยกเวน สายตาเปลงประกายชั่วราย ขณะเดียวกันก็เปยม
ดวยความสงสัย
มีเพียงเถาเหยี่ยใบหนาแดงก่ํา อยากหันหลังเดินจากไปใหรูแลวรูรอด เขาฟาดเจา
ตัวเล็กไปหนึ่งฝามือแลวกลาววา “มีของล้ําคาอะไรกัน แบกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!”
“ของมากไปขาแบกไมไหว มอบอาวุธล้ําคาหรือไหวิเศษมาสักอยาง ขาจะยัดของ
เหลานี้เขาไป” เจาตัวเล็กแบมือขอเขา
“ไมมี!” เถาเหยี่ยเดือดดาล เจาเด็กเหลือขอคนนี้อยากใชโอกาสนี้ขูกรรโชกเขานี่นา
“เปดออกเถิด ใหพวกขาเชยชมสักหนอย” คนรอบขางไมพอใจเสียแลว
“ก็ได” เจาตัวเล็กแกะปากกระสอบอยางรวดเร็ว เผยของดานในจนสิ้น กลุมคนยืด
คอยาว จองมองตาไมกะพริบ ชั่วครูลวนตะลึงงัน นี่…ของล้ําคาอะไรกัน?!
ฝูงชนเงียบงันเปนเวลานาน เด็กคนนี้ก็คือนักตมตุนดีๆ นี่เอง สรางเรื่องหลอกลวง
ผูอื่นใหดีใจ
“ขาวานะ เจาคงมิไดยกเคาครัวของผูอื่นหรอกกระมัง?” ชายชราคนหนึ่งกลาว
“ทานรูไดเยี่ยงไร?” เจาตัวเล็กเบิกตากวาง จากนั้นอธิบายตอวา “ขามิไดยกเคา
เฉยๆ นะ ขาทิ้งขอความไวแลว ระบุนามของสํานักขาเปนการพิเศษ บอกวาหนนี้ตอง
เกณฑมาเพื่อใชสอย รับคืนไดที่ดินแดนสุขาวดีแหงเราในภายหลัง”
ผูอาวุโสเถาเหยี่ยแหงศาลาปดฟาใบหนาแดงก่ําเปนทุนเดิม ตอนนี้กลัดกลุมใจจน
ใบหนาถมึงทึง หนามืดคลายจะวูบ เจาเด็กตมตุนคนนี้ ไรคุณธรรมยิ่งนัก อัปยศอดสู
เหลือเกิน ศาลาปดฟาผูยิ่งใหญยังตองใชสอยของเหลานี้หรือ?! เขายินยอมใหเจาเด็กไมรู
ความคนนี้เปนโจรผูราย ยกเคามือฉมังทั้งหลายแหล แตไมยอมใหทําเชนนี้ ศาลาปดฟา
จะยอมรับเด็กตมตุนเชนนี้ไดเยี่ยงไร!
ฝูงชนแข็งเปนหิน คนทั้งหมดไมคาดคิดวาของล้ําคาที่วาจะเปนสิ่งของเหลานี้
สิ่งมีชีวิตตางพันธุหดคอกลับ นี่มันของล้ําคาประเภทไหนกัน จําเปนตองใชเมื่อเขาสู
เขารอยยอดหรือ? เมื่อเด็กคนนี้เขาไปเทากับเอาชีวิตไปทิ้งอยางสูญเปลาในสนามรบ
อยางแทจริง!
“พวกทานชางเขลานัก ไมเขาใจการอยูรอดในตางแดนแมแตนิด เมื่อถึงเวลาพวก
ทานตองริษยาขาเปนแน หัวสิงหน้ําแดง เฝยหยีตุน ซุปกระดูกเสือ… พวกทานตองจอง
ตาเปนมันแน!” เจาตัวเล็กเช็ดน้ําลาย
“หยุดพูดเถอะขาขอรอง!” ศิษยหญิงงามที่อยูเคียงเขายกมือปดใบหนา การพบเจอ
กับศิษยนองผูนี้ชางนาอับอายนัก
ชายชราผูหนึ่งสงสัย ยอตัวลงนั่งแลวกวาดสายตามองอยางถี่ถวน ชางครบกันยิ่งนัก
แมแตเครื่องปรุงรสนานาชนิดก็มี ยกเคาหองครัวไดอยางสะอาดหมดจดเหลือเกิน
“ไปเถอะ เขาไปไดแลว!”
ผูคนลนหลามเบื้องหนาจวนหมดสิ้น สิ่งมีชีวิตมากมายตางเขาไปกันแลว อัจฉริยะ
แหงศาลาปดฟาออกเดินทางอีกครั้ง บอกลาผูอาวุโสเถาเหยี่ย มุงหนาไปยังบานประตู
ใหญเปลงแสงนั่น พวกเขาทะลุผานดังซวบ กระโจนสูหนทางมากดวยมานหมอก
ขมุกขมัว ไมรูวาไปสิ้นสุดที่ใด
“ไป มุงหนาไปเรื่อยๆ!”
“ที่นี่มีหนทางมากมาย หนทางที่แตกตางยอมไปถึงสถานที่แตกตางกันออกไป
หนทางลวนเชื่อมตอกัน สิ่งมีชีวิตที่มาจากหนทางตางกัน ยอมไปบรรจบกันสักวัน” ศิษย
พี่คนหนึ่งของศาลาปดฟากลาว
นี่เปนคําบอกเลาของเถาเหยี่ย ซึ่งเปนประสบการณของบรรพชน
เมื่อเขามายอมตองหลีกเลี่ยงการเบียดเสียดยัดเยียดของสิ่งมีชีวิต มิเชนนั้นอาจเกิด
การเหตุปะทะนองเลือดครั้งใหญโดยทันที
หลังจากพวกของเจาตัวเล็กเขาสูหนทางนี้ ก็พากันวิ่งไปขางหนาอยางรวดเร็ว ไมรูวา
ผานไปนานเทาใด มานหมอกคอยๆ คลี่คลาย แสงสวางสองผานเขามา
จากนั้นพวกเขาทะลุออกมา เพียงชั่วพริบตาก็รูสึกถึงไอวิเศษหนาแนน เขมขนกวา
ศาลาปดฟาหลายเทาตัว พลังปราณจวนละลายเปนน้ํา
“ในโลกใบเล็กนี่เปนขุมทรัพย การบําเพ็ญตน ณ ที่แหงนี้ใชพลังเพียงนิด แตไดรับ
ประโยชนอยางทวีคูณ!” ผูคนตางตื่นเตน
เบื้องหนามีทะเลสาบใสสะอาด ไอวิเศษลอยขึ้นเปนสายๆ สมุนไพรโบราณหอมกรุน
อยูขางเคียง เสียงสัตวปาคํารามจากทางไกล
ยอดเขาสวยสดงดงาม เถาวัลยวิเศษปนปายไปทั่ว มีตนไมชั้นยอด ประหนึ่งดินแดน
แหงเซียน
“มียาวิเศษตรงนั้น 4 ตน!” ศิษยหญิงคนหนึ่งอุทานพลางชี้ไปยังหนาผาแหงหนึ่ง
ในตอนนี้เอง เจาตัวเล็กก็สงเสียงดังลั่น โยนกระสอบใหญทิ้งไป ประหนึ่งอสูรในราง
มนุษยสําแดงเดช กระโจนออกไปอยางดุดัน
“แควก”
เสียงขาดสะบั้นดังขึ้น ตนไมใหญตนหนึ่งรองโหยหวน ขาดเปนสองทอน แปลงราง
เปนภูติไมแตกระแหง
ศิษยคนอื่นๆ แหงศาลาปดฟาตางพรั่นพรึง นี่เปนมือดีแหงเผาไม ปกติสามารถแปลง
รางเปนตนไมใหญ ซอนเรนอําพรางตัวในปายากจะสัมผัสได นากลัวเปนอยางมาก
เห็นไดชัดวานี่เปนอัจฉริยะแหงเผาไม ยิ่งใหญเปนแนแท เมื่อครูมันจะลอบโจมตี
พวกเขา ทวาถูกเจาตัวเล็กใชรางกายกระแทกชนจนหักทั้งเปน
“พรึ่บ!”
ไกลออกไป นกยักษสีแดงพุงทะยานขึ้น บินไปยังแดนไกล กําจายคลื่นนากลัว
“เจาแดง อยาไป เขามาในถวยเร็วเขา!”
เจาตัวเล็กตะโกนพลางยกกอนหินหนักหลายพันชั่งขึ้น ขวางออกไปยังนภา เสียงปง
ดังขึ้น นกยักษแผดรองดวยความโกรธา ระเบิดเปลวเพลิงอยางไมสิ้นสุด แผดเผากอนหิน
กลายเปนลาวาหลั่งลงมา
“เจาดํา หามไปเด็ดขาด ทิ้งอุงมือของเจาไวที่นี่เสีย!” เจาตัวเล็กหันหลังอีกครั้ง มอง
ไปยังที่หางไกล เห็นเพียงหมีสีดํามีเขาตัวใหญ อักขระวูบวาบทั้งตัว วิ่งหนีหัวซุกหัวซุน
อัจฉริยะทั้งหลายตะลึงลาน ศิษยนองผูนี้กลาหาญยิ่งนัก เมื่อเขาสูพงไพร ประหนึ่ง
มังกรคืนสูทะเล หาวหาญปาเถื่อนถึงเพียงนี้ สะเทือนสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญรอบขางจนลาถอย
ลวนเปนอัจฉริยะตางเผาพันธุ
บทที่ 118 เด็กอํามหิต
หมีดําเขาเดียวสั่นเทิ้มเมื่อไดยิน เด็กอํามหิตคนนี้นากลัวนัก พบกันหนแรกก็จะกิน
มันเสียแลวหรือ?!
แสงดําทมิฬลุกโชติชวงทั่วรางกาย กระแทกชนตนไมแกอยางตอเนื่อง วิ่งหนีอยาง
สุดชีวิต อักขระกลายเปนเปลวไฟสีดํา หอหุมฝาเทาของมันไว ทําใหเกิดความเร็วสูงสุด
“มือหมีของขา!” เจาตัวเล็กรองโหยหวน ใบหนาบิดเบี้ยว โศกเศราอยางหาที่เปรียบ
ไมได นี่เพียงชั่วขณะ หมีตัวนั้นก็หายลับไปอยางไรรองรอย เขาอยากไลตาม แตก็ไปไมได
นาเสียดายนัก
วิหคแดงตัวนั้นแผดรองอยางเดือดดาลกลางนภา แดงฉานทั้งตัว ระเบิดเปลวเพลิง
ทวมทนทองฟา หลอมละลายกอนหินที่ฟาดมันจนกลายเปนลาวา แดงสดดุจเลือด
หลั่งไหลลงมายังพื้นธรณี
มันคับแคนเหลือเกิน ทั้งที่มองเห็นเด็กอํามหิตคนนั้น โจมตีอัจฉริยะผูยิ่งใหญแหง
เผาไมจนขาดเปนสองทอน จึงอยากซอนพลังของมันไวมิเปดเผย หาโอกาสโจมตี แตไม
คิดวาเกือบถูกหินฟาดเชนนี้
นี่เปนนกกระจอกเมฆาเพลิง อุปนิสัยมุทะลุ ทนการกระตุนไมได คลุมคลั่งในบัดดล
อักขระไฟทวมผืนฟาเทลงมายังบริเวณที่เจาตัวเล็กยืนอยู
เมื่อมองจากที่ไกล ประหนึ่งกระแสน้ําสีแดง หลั่งไหลไมขาดสาย กระหน่ําเทลงมา
จากฟากฟา คลื่นความรอนแผดเผา เหตุการณนากลัวยิ่งนัก
“เจาแดง เจาตองชดใช!” เจาตัวเล็กนิ่วหนา ตะโกนเสียงดัง เมื่อถูกนกกระจอก
เมฆาเพลิงตัวนี้สกัดไว เปนผลใหหมีเขาเดียวตัวนั้นวิ่งหนีเตลิดเปดเปง มือหมีหายไปเสีย
แลว
แสงเงินดุจสายน้ํา กําจายออกมาจากผิวหนังของเขา กลายเปนจานเงินอยางรวดเร็ว
ปรากฏขึ้นดานหลังเขา มันขาวสะอาดและมหัศจรรย ความสูงใกลเคียงกัน มันจวนบด
บังเขาไว กระจายแสงสวางสีเงิน
เจาตัวเล็กดุจเทพเจา ยืนตระหงานบนธรณี สวางไปทั้งกาย จานเงินใบนั้นประดุจ
จันทราแหงสรวงสวรรคลอยลงมา ขับเขาใหวิเศษและทรงพลัง
เปลวเพลิงดุจกระแสน้ํา แผคลุมทองฟาบดบังปฐพี หลั่งไหลลงมาดังกึกกอง สุระ
เสียงนากลัวอยางที่สุด! จานเงินดานหลังเจาตัวเล็กลุกโชติชวง แสงเงินดุจสายน้ําหมุน
เกลียวขึ้นไป สกัดกั้นเปลวเพลิงไวได
อัจฉริยะแหงศาลาปดฟาตะลึงพรึงเพริด พากันถอยหลังอยางรวดเร็ว แตละคนหนา
ถอดสี การกระทําของศิษยนองผูนี้นาตื่นตะลึงนัก
เปลวเพลิงทะยานลงมา กอนหินบนแผนดินหลอมละลาย ตนไมเกาแกกลายเปนเถา
ถาน ผิวดินละลายกลายเปนของเหลวสีแดง ลาวาไหลเกลือกกลิ้ง ผืนปาบริเวณนี้
กลายเปนทะเลเพลิง
เจาตัวเล็กโกรธแคน รางกายระเบิดกลิ่นอายอันยากจะทัดเทียม อักขระบนผิวลุก
โชติชวง เมื่อเขยาตัวอยางรุนแรง จานเงินดานหลังก็ยิ่งบริสุทธิ์และวิเศษ ไมวาลาวาที่
สาดกระเซ็น หรือเปลวเพลิงลวนถูกขวางกั้น
ขณะเดียวกัน เขากางนิ้วมือทั้งหาออกพรอมกัน แสงเงินผนึกกําลัง ประหนึ่ง
กระแสไฟ ปกษาปศาจหนึ่งตัวปรากฏขึ้นตรงนั้น พุงทะยานขึ้นฟา บินโฉบเขาหา
นกกระจอกเมฆาเพลิง
เสียงปงดังขึ้น ปกษาทั้งสองปะทะกัน แสงสีแดงกับแสงเงินระเบิดออกมาพรอมกัน
เสียงดังครืนครันลอยมาจากฟากฟา
“ไปไหนแลว!” เจาตัวเล็กตวาด เพราะพบวานกกระจอกเมฆาเพลิงไดสติ จะกระพือ
ปกบินหนี
เขาพุงตัวออกไปไกล ย่ําเทาลงบนเนินหินเตี้ยอยางรุนแรง พละกําลังนากลัวปานนี้
ทําใหเนินเขาทลายทันที ชางเปนภาพที่นากลัว และตัวเขาเองกลับกระโดดลอยตัวขึ้นสู
ฟาสูง พุงเขาหานกยักษสีแดง
นกกระจอกเมฆาเพลิงสะดุงโหยง เด็กคนนี้อํามหิตเหลือเกิน พุงขึ้นฟากฟาในหนึ่ง
กระทืบเทา นี่เขาจะเหินเวหาหรือ?!
มันแผดรองหนึ่งเสียง รางกายแผดเผา เคล็ดวิชาล้ําคาผสานกําลังบนรางกายของมัน
ความเร็วเพิ่มขึ้นทวีคูณภายในพริบตา ถือวาหลีกหนีจากมนุษยนากลัวคนนั้นได
เจาตัวเล็กไมยอม ฝามือสวางเจิดจา ประหนึ่งโปรงแสง ระเบิดกระแสไฟสีทอง พุง
ไปดวยความเร็วสูงสุด กระแทกลงบนรางกายของนกกระจอกเมฆาเพลิง
หนึ่งเสียงแผดรองดวยความเคียดแคน นกยักษสีแดงขนลุกขนพอง ขนวิเศษแดง
ฉานรวงหลนเปนกอบกํา อีกทั้งรางกายบางสวนไหมเกรียม กระจายกลิ่นเนื้อหอมหวน
“ชริ้ง”
แสงเงินหนึ่งสายพาดผาน เจาตัวเล็กขวางจันทราสีเงินดวงหนึ่งออกไปอยางเต็ม
กําลัง สวางประหนึ่งคมมีด ฟนเขาที่นกกระจอกเมฆาเพลิงอยางจัง รางกายของมันสั่น
สะทาน ชิ้นเนื้อหลุดออกมา และรางกายกลับรวงดิ่งลงมาอยางรวดเร็ว
เจาตัวเล็กหัวเราะอยางเบิกบานใจแลวพูดวา “เจาแดงมาในถวยของขาเร็วเขา!”
นกกระจอกเมฆาเพลิงแผดรองดวยความเจ็บปวด หลนรวงลงมาดวยความเร็วสูง
ทวาเมื่อมันจวนตกลงมากระทบพื้น มันพลิกสถานการณโดยพลัน หยุดยั้งการรวงหลน
บินโฉบแนบพื้นไปยังที่หางไกล
“อา เจาเลหนัก แกลงตายรึ!” เจาตัวเล็กโกรธเกรี้ยว กําลังการกระโดดของเขาถึง
ขีดสุด เริ่มรวงลงมาโดยที่ไมสามารถทําอะไรได
นกกระจอกเมฆาเพลิงดุงวิหคกลัวคันธนู เมื่อไดยินวาจาของเขาก็ชักกระตุก วิ่งหนี
อยางรวดเร็ว เหาะเหินแนบพื้นดิน ปกคูนั้นฟาดตนไมเกาแกมากมายจะหักเปนทอน
อัจฉริยะแหงศาลาปดฟามองดูดวยความตะลึงงัน ศิษยนองผูนี้โหดเหี้ยมนัก แมแต
ปกษาปศาจยิ่งใหญเชนนี้ก็ตื่นตระหนกจนวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน
บริเวณปาเขาไกลออกไป หมีเขาเดียวตัวนั้นปาดเหงื่อ ปากพนภาษามนุษยวา
“อํามหิตยิ่งนัก!”
เจาตัวเล็กหลนลงบนพื้นดังโครม สะเทือนจนภูหินทลาย ปรากฏหลุมลึกขนาดใหญ
รอยแยกขยายออกไปไกลตั้งไมรูเทาใด
เขาวิ่งขึ้นมาดวยโทสะ ปากบนพึมพําวา “เจานกนอยปลิ้นปลอนหนีไปเสียแลว อยา
ใหขาพบเจาเชียวนะ!”
อัจฉริยะแหงศาลาปดฟาตางมองหนากันอยางไมรูวาควรพูดอะไร ศิษยนองผูนี้
อํามหิตยิ่งกวาสัตวอสูร
เจาตัวเล็กวิ่งออกไปไกล หอบเอาเนื้อสดนัก 20 กวาชั่งออกมาจากผืนปา และขนนก
แดงฉานเหลานั้น นี่เปนสิ่งที่จันทราสีเงินไดมาจากการโจมตีหนสุดทาย
“ถึงอยางไรก็มิไดเสียพลังเปลา ไดลิ้มลองความสดอรอยดวย” เขากลาว
มีสิ่งมีชีวิตมากมายจําศีลอยูพนาผืนนี้ เมื่อเห็นเหตุการณนี้ตางอกสั่นขวัญแขวน
ปฐพีสั่นสะเทือนทันใด ตนหญาพลิ้วไหว ใบไมปลิววอน ตางพากันหลบหนี
“อา มีอูฐมวงซอนตัวอยูตรงนั้น ไดยินมาวาเนื้อโหนกอูฐอรอยที่สุด หนีไปเสียแลว”
เจาตัวเล็กโมโหจนกระทืบเทา ถลึงตามองผืนปาแหงนั้น
เมื่ออูฐมวงไดยินก็ตัวเซ เจียนลมลงไป จากนั้นจ้ําอาวหนีไปอยางบาระห่ํา กลายเปน
แสงสีมวงหายลับไปในพงไพรในชั่วพริบตา
“เอะ มีแกะทองคําตัวหนึ่ง ขาแกะยางของขา!” เจาตัวเล็กคร่ําครวญ
แกะสองเศียรเนื้อตัวเหลืองอรามเจิดจาพราตาตัวหนึ่ง ดีดเทาวิ่งอยางคลุมคลั่ง
หลังจากไดยินประโยคนั้น ความเร็วเพิ่มขึ้นจากวันวานเปนเทาตัว เพียงกะพริบตาก็ไร
รองรอยเสียแลว
ผูกลาเหลานี้ลวนเปนอัจฉริยะตางเผาพันธุ รวมถึงสิ่งมีชีวิตในรางมนุษย เมื่อไดยิน
ถอยคําของเจาตัวเล็กลวนหนีเตลิดหายไป ดวยเกรงวาจะถูกเขาจับกิน ประหนึ่งหลบ
ซอนโรคหา
“ศิษยพี่ทั้งหลาย พวกเรากินอะไรกันกอนเถิด ประเดี๋ยวคอยไปทองโลกแหงนี้ ออก
คนหากระดูกฟา น้ําพุอมฤทธิ์ ทายาทของเทพเจา”
เจาตัวเล็กจัดการชิ้นเนื้อจนสะอาดสะอานดวยความคลองแคลว ลางมันจนสะอาด
ตรงริมทะเลสาบ นําเอาถวยชามรามไหออกมา กอไฟอยางรวดเร็ว เริ่มทําการปรุง
อาหาร
“กินจริงๆ เสียดวย อํามหิตนัก!” สิ่งมีชีวิตดุรายหลายตัวที่ไมไดหนีไปตางขนลุกขน
ชัน ไมกลาละลาละหลัง รีบบิดตัวแลวหนีไป
“นกกระจอกเมฆาเพลิตัวนี้รายกาจนัก หรือจะเปนทายาทอสูรบรรพกาล? เลือด
เนื้อของมันตองยาล้ําคาอยางแนนอน!” ศิษยพี่ที่เพิ่งกินเขาไปไดคําเดียวหนาถอดสี
“เปนเชนนี้จริงๆ!” ศิษยหญิงหนาตาสะสวยคนหนึ่งลวงเอาเนื้อออนหอมกรุนและ
พราวพรายออกมาจากหมอ นําเขาปากแลวบดเคี้ยว พลันมีพลังปราณพุงเขาสู
องคาพยพ ทําใหเนื้อตัวเบาสบาย
พวกเขาเคลื่อนตะเกียบอยางรวดเร็ว กินเนื้อหนัก 20 กวาชั่งจนหมดภายในพริบตา
สุดทายแมแตน้ําซุปก็เหลืออยูไมมาก
“เลือดเนื้อเปนยาล้ําคา!” กลุมคนอุทานอยางตะลึงลาน บัดนี้เนื้อตัวของพวกเขา
สองแสงสวางจางๆ
“พวกทานเขาใจแลวละสิวา ขาวของที่ขานํามาดวยเหลานี้สําคัญเพียงใด มิเชนนั้น
จะหอมหวานเชนนี้หือ อรอยจริง!” เจาตัวเล็กตบทอง พลางนอนแผบนผืนหญาออนนุม
ริมทะเลสาบ ปากคาบกานหญา สบายอกสบายใจอยางหาที่เปรียบไมได
เขาสัมผัสไดถึงคลื่นรอนในรางกาย กระทบกันอยูดานในดังกึกกอง พลังปราณกําลัง
ขยายตัว หากไดกินยาล้ําคาเชนนี้ทุกวัน เขาเชื่อวาใชเวลาไมนานก็สามารถบรรลุไดอีก
หน
อัจฉริยะคนอื่นๆ รูสึกละอายใจ โดยเฉพาะศิษยหญิงงดงามทั้งสองเขินอายยิ่งนัก ไย
จึงถูกเด็กเหลือขอคนนี้แพรเชื้อใส กลายเปนคนตะกละตะกลาม ตั้งแตสูโลกใบนี้ก็พูด
เรื่องกินไมหยุด มิไดออกแสวงหากระดูกฟาและยาวิเศษอยางสิ้นเชิง
“ที่นั่นมียาวิเศษ 4 ชนิด ขาไปเด็ดเอง” ศิษยชายผูหนึ่งลุกยืนขึ้น
“อยารีบรอน คืนนี้พวกเราออกมาลาสัตวอสูรสักตัว ใชยาวิเศษตมเคี่ยว นั่นจึงจะ
เลิศรส” เจาตัวเล็กกลาว
ในขณะเดียวกัน ใจกลางเทือกเขาอีกแหงมีสิ่งมีชีวิตเจาถิ่นกระซิบกระซาบกัน
“ไดขาวรึยัง มีราชันปศาจตัวนอยปรากฏตัวขึ้นที่นี่ กินทุกสิ่งที่ขวางหนา ทาน
ทั้งหลายโปรดระวัง อยาขามไปเปนอันขาด”
“อํามหิตนัก กินภูติไม และกินนกกระจอกเมฆาเพลิงแลวยังอยากกินหมีเขาเดียว
เปนราชันปศาจขนานแทเชียวละ”
สิ่งมีชีวิตกลุมหนึ่งวิจารณกันเซ็งแซ ขณะนั้นเอง มีสิ่งมีชีวิตรางมนุษยเดินมา กวาด
ผานไปอยางเงียบเชียบ พลันทําใหผืนปาแหงนี้เย็นยะเยือก ดั่งแสงเย็นสาดสองลงมา
จํานวนมาก
เขาเดินออกจากใจกลางเทือกเขา รางกายปกคลุมดวยแสงเงิน มุงหนาไปยังริม
ทะเลสาบ กําจายกลิ่นอายอันนาสะพรึงกลัวมาตลอดการเดินทาง สิ่งมีชีวิตละแวก
ใกลเคียงตางครั่นคราม
ริมทะเลสาบมีหนาผาอยูแหงหนึ่ง ดานบนมีสนแกหลายตน เขียวชอุมและเกาแก
ประหนึ่งฉิวหลงหมอบคลาน มียาวิเศษ 4 ตนอยูเคียงขาง สองแสงสวางพรางพราย
นี่เปนกลวยไมแดง 4 ตน ดุจหลอมจากเลือด สวางเจิดจา เจริญเติบโตจากการดูด
ซึมพลังฟาดิน กําจายกลิ่นหอม
แมแตเจาตัวเล็กก็ตองอุทาน ในโลกภายนอกยาวิเศษตองอาศัยภูเขาวิเศษจึงจะหลอ
เลี้ยงใหงอกงามได พบเห็นไดยากนัก ทวาที่นี่กลับเกิดขึ้นพรอมกับถึง 4 ตน ชางนาตะลึง
นัก
โลกใบเล็กนี้มีไอวิเศษคละคลุงไปทั่ว ดวยเหตุนี้จึงหลอเลี้ยงยาวิเศษทั้งสี่ได!
“ขาคิดวาฤทธิ์ยาตองนาตื่นตะลึงเปนแน คงเปนสมุนไพรโบราณมีอายุ ดานบนมีริ้ว
รอยสีเลือด ไมแนวาอาจทําใหเรารอดพนจากความตายได” ลูกศิษยหนุมสาวแหงศาลา
ปดฟาแววตาเปนประกาย
ศิษยพี่คนหนึ่งลุกขึ้น ปนปายขึ้นไปบนหนาผา หมายเด็ดลงมาใหสิ้น
เมื่อเขาจวนเขาใกลยาวิเศษทั้งสี่ พลันรางกายรูสึกเย็นเยียบ เงยหนาขึ้นทันใด พบวา
มีสิ่งมีชีวิตรางมนุษยปรากฏขึ้นดานบน กําลังจองมองลงมาที่เขา
“เจาเปนใคร?!”
“โครม!”
สิ่งมีชีวิตตัวนี้โหดเหี้ยมนัก หนึ่งเทากระทืบลงมา หนาผาถลมทลาย ประหนึ่ง
กระแสน้ําปาปะทุ หลั่งไหลลงมาอยางเชี่ยวกราด
ทุกอยางเกิดขึ้นรวดเร็วมาก อัจฉริยะแหงศาลาปดฟาอุทานดวยความตกใจ รวงลง
มาทันที กอนหินหนักหลายพันชั่งเกลือกกลิ้ง และขาดกอนหินหนักหลายหมื่นชั่งไปมิได
เลย หลนรวงลงมาอยางตอเนื่อง
สิ่งมีชีวิตรางมนุษยบนหนาผาย่ําเทาลงมา เจียนทําใหภูหินทลายจนสิ้น หมายฝง
อัจฉริยะแหงศาลาปดฟาใตกองหินหนักหมื่นชั่ง
“ศิษยพี่!”
ผูคนดานหลังตะโกนลั่น การเปลี่ยนแปลงนี้กะทันหันยิ่งนัก มิใชทุกคนจะมี
พละกําลังนากลัวเฉกเชนเจาตัวเล็ก หากปุถุชนคนธรรมดาถูกหินนับหมื่นชั่งโจมตีอยาง
ไมขาดสายเชนนี้ ตองกลายเปนซากเนื้อเปอยยุยเปนแนแท
“โครม!”
เจาตัวเล็กเคลื่อนไหว พุงตัวเขาไปในกองหิน สองมือกระหน่ําฟาด สะเทือนจน
ขุนเขาและธาราถอดสี เขาควาแขนของศิษยพี่ไวแนน โยนออกไปอยางเต็มแรง ใชตัวเขา
มาแทนที่ ตานทานหินใหญทรี่ วงหลนลงมา
สิ่งมีชีวิตรางมนุษยบนหนาผาตัวนั้นเปดมวนภาพออกแลวเปรียบเทียบกับคน
ขางลาง นัยนตาสีเงินพลันฉายแสงโชตชวงแลวกลาววา “พวกเจานี่เอง”
เขาย่ําเทาลงไป สะทานฟาสะเทือนแผนดิน ยาวิเศษทั้งสี่ถูกเขาเด็ดไปครอบครอง
และภูหินทั้งลูกถูกเหยียบจนระเบิด กลิ้งลงไปปกคลุมเจาตัวเล็กไว
อักขระเปลงแสง รอบกายของเจาตัวเล็กเกิดเสียงสายฟาคําราม โจมตีกอนหิน
มากมายจนแหลกละเอียด เขาพุงออกมาในที่สุด ไมถูกฝงรางใตกองหิน
“เจาคงจะเปนเด็กพิเศษของเผาพันธุมนุษยผูนั้นกระมัง?” เขาจดจองเจาตัวเล็กดวย
นัยนตาสีเงินอันนากลัวอยางที่สุด เฉียบคมจะนาสะพรึงกลัว
“เจาเปนใคร ไยจึงโจมตีพวกขา?” ศิษยหญิงคนหนึ่งตะโกนถาม
“ราชสีหเกาเศียรบอกวาจะกําราบเจา ขาจะไมใหมันสมหวัง ไปกับขาเถิด เปนเชลย
ศึกของขา เมื่อถึงเวลาปลอยตัวเจากลับสูเผาพันธุมนุษย เจาตองไดเปนราชันอยาง
แนนอน!” เขาจองมองเจาตัวเล็กจากบนหินใหญ ไมแมแตจะปรายตามองผูอื่น รางกาย
ขาวเงิน เปลงแสงวิเศษวูบวาบ กระจายคลื่นนากลัว!
“เจาเปนตัวใดกัน?” เจาตัวเล็กเอยถาม
“ขาเปนเจาชีวิตเจา ภายหนาเจาตองติดตามเคียงขางขา บุกเบิกความรุงโรจนอันมิ
เสื่อมคลาย หากกลาวตามคําพูดของมนุษย ขาคือเจานายของเจา” สิ่งมีชีวิตสีเงินกลาว
ระเบิดคลื่นดุจทะเลในชั่วพริบตา กลิ่นอายนากลัวดั่งเกลียวคลื่นโหดซัดมายังเบื้องหนา
เจาตัวเล็กหนาดําคร่ําเครียดขึ้นมาทันที กาวเดินไปขางหนา เดินวนรอบตัวเขา จอง
มองตั้งแตหัวจรดเทา
“เจายังละเลอะไรอยูอีก?” สิ่งมีชีวิตสีเงินเอยถาม
“เนื้อเจาไมมี กระดูกก็มีไมนอย ทั้งยังมีรูปรางมนุษย ขาจะกินไดเยี่ยงไรเลา? แมจะ
ตุนเคี่ยว ก็ไมกลาเอาเขาปาก ขาเกรงวาจะไมสบายใจ” เจาตัวเล็กพูดดวยใบหนาถมึงทึง
กลาวโทษอยางโมโหวา “ไยเจาจึงมีรางเปนมนุษย ขาจะเอาเจาไปทําอะไร! เจาพูดสิ ขา
จะจัดการกับเจาเยี่ยงไร ฝงทัง้ เปน หรือตมนึ่ง?!”
บทที่ 119 เก็บเกีย่ วอสูร
สิ่งมีชีวิตสีเงินยืนบนกอนหินใหญ ความงงงันเต็มใบหนา สีหนาจังงัง เจาเด็ก
ตรงหนาคนนี้เปนมนุษยจริงหรือ? ไยจึงอํามหิตเชนนี้ คิดจะเขมือบเขา!
“กลัวละสิ รีบชําระลางตัวเองใหสะอาด จากนั้นลงหมอมาซะดีๆ” เจาตัวเล็กจอง
เขาเขม็ง
ผูใดเปนมนุษย ผูใดเปนทายาทอสูรบรรพกาลกันแน? สิ่งมีชีวิตสีเงินเกิดความรูสึก
สับสนอลหมาน ไฉนเหมือนวาเผาพันธุของทั้งสองสลับสับเปลี่ยนไปเสียอยางนั้น?!
“เจา…พูดกับขารึ?” เขาเอยถามอยางลังเล
“เหลวไหล นอกจากเจาแลวยังมีของนากินอยางอื่นอีกรึ?” เจาตัวเล็กยอนถามอยาง
เต็มปากเต็มคํา
“โฮก…” สิ่งมีชีวิตสีเงินคําราม สะเทือนพงไพรจนสั่นไหว ใบหนารวงหลน สีหนา
ของเขาถมึงทึงอยางหาที่เปรียบไมได แสงสีเงินหายวับไป เผยตัวตนที่แทจริงออกมา
เขามีน้ําโห ไมเคยพบเจอมนุษยเชนนี้มากอน จะกินเขารึ? ประสาทไปแลวหรือ!
เขามีกายเปนมนุษย แตรางกายกลับปกคลุมดวยเกล็ด ใบหนาคลายคน มีเลือดเนื้อ
อีกทั้งยังหลอเหลาเอาการ มีลักษณะพิเศษคือ ลูกตาเปนสีเงิน ทรงพลังนาเกรงขาม เสน
ผมสีเงินปลอยสยายดุจน้ําตก
แตไหนแตไรมา เขากินมนุษยมาโดยตลอด สิ่งมีชีวิตตางพันธุตางวิ่งหนีเมื่อเห็นเขา
แตวันนี้กลับมีมนุษยที่จะกินเขาปรากฏตัวขึ้น เขาหนาเปลี่ยนสีโดยพลัน กลายเปนแสงสี
เงินมุงหนาเขามาโจมตี
“ขาจะสั่งสอนเจาใหรูวาควรเคารพราชันในภายภาคหนาอยางไร!”
แสงเงินดุจเกลียวคลื่น บาคลั่งและนาตื่นตะลึง เขาประชิดภายในพริบตา หนึ่งหมัด
จูโจมกะโหลกของเจาตัวเล็ก พายุคลั่งกอตัว กอนหินหนักสิบชั่งรอยชั่งรอบขางลอยละ
ลิ่ว
ลูกศิษยแหงศาลาปดฟาตื่นตระหนก สิ่งมีชีวิตคนนี้แข็งแกรงอยางแทจริง เพียงพายุ
ที่กอตัวขึ้นดวยเงื้อมมือของเขาก็พัดกอนหินใหญจนปลิววอน เขาจะแกรงเพียงไหนกัน?
เจาตัวเล็กรองลั่น พุงตัวออกไปหมายเตรียมการรับมือ เสนผมดําขลับปลิวไป
ดานหลัง ทําใหใบหนาออนเยาวลงเล็กนอย เพิ่มความองอาจหาญกลา เขาพนลมหายใจ
“โครม”
หมัดของทั้งสองปะทะกัน เกิดหนึ่งเสียงดังสะเทือนฟา ประหนึ่งสายฟาระเบิดออก
สิ่งมีชีวิตสีเงินเบิกตาสีเงินจนกวางโดยพลันดวยความตกใจสุดขีด ตอมา ฝามือของเขามี
อักขระกระจายตัวอยางหนาแนน ผนึกกําลังอยางรวดเร็ว
ทั้งสองจึงถอยหลังเชนนี้เอง เจาตัวเล็กนัยนตาเปนประกาย จองเขาเขม็งอยาง
กระหายอยากลอง เตรียมพรอมพุงโจมตีอีกคราดวยพฤติกรรมดิบเถื่อนอยางคาดไมถึง
ฝามือของสิ่งมีชีวิตสีเงินสั่นเล็กนอย เขาสูดลมหายใจเย็นเฮือกใหญ พละกําลังของ
กายเนื้อไมอาจตานทานได หากมิใชเพราะใชพลังแหงอักขระในชวงเวลาคับขันแลวละก็
เมื่อครูอาจเสียเปรียบครั้งใหญหลวงก็เปนได
เพียงเขาสะบัดมือขวางยาวิเศษทั้ง 4 ตนออกไป รวงหลนบนภูหิน หมายเลี่ยงการ
ถูกทําลายระหวางตอสู
ตอมา เขาก็ลงมืออีกครั้ง นัยนเนตรสีเงินเปลงประกายขึ้นทันใด กลายเปนลําแสงสี
เงินสองสาย ยาวเกือบ 10 หมี่ ลอยมาดวยความเร็วสูงสุด นาสะพรึงกลัวยิ่งกวาศรวิเศษ
ที่ยิงออกมาเสียอีก
เจาตัวเล็กสีหนาไมแปรเปลี่ยน ลงมืออยางรวดเร็ว ฝามือโปรงแสง กลายเปนสี
เหลืองทอง สายฟาสวางเจิดจาสงเสียงดังครืนครัน แผคลุมลงมาภายในพริบตา
ฟาดินสวางโชติชวงไปทั่วบริเวณ สายฟาสีทองกับลําแสงสีเงินรวมเริงระบํา!
เจาตัวเล็กเซถลา ผมปอยหนึ่งถูกตัด อีกทั้งบริเวณคอยังถูกแสงสีเงินเฉียดแฉลบเปน
รอย เกิดรอยเลือดเปนหยอม ไดรับบาดเจ็บเล็กนอย
อันตรายแลวอันตรายอีก หากเอียงมากกวาอีกสักหนอย แสงสีเงินคงทะลวง
ลูกกระเดือกของเขาไปเสียแลว ถาเปนเชนนั้นเกรงวาอาจถูกตัดคอจนหลุด ทําให
กะโหลกของเขารวงลงพืน้
ขณะเดียวกัน บนกายของสิ่งมีชีวิตสีเงินปรากฏรอยไหมบางสวน โซเซถอยหลัง
เกล็ดหลุดรวงหนึ่งอัน เขาเผยสีหนาตกใจแลวกลาววา “เคล็ดวิชาล้ําคาของจาวซวน
หนี!”
“เกงกาจนัก!” เจาตัวเล็กเช็ดคราบเลือดบนลําคอทิ้งดวยสีหนาประหลาดใจ
“แข็งแกรงเหลือเกิน ถึงวาสิงโตทองคําเกาเศียรจะรับตัวเจาไวเปนเชลยศึก ขาแยง
แนนอน!” สิ่งมีชีวิตสีเงินเอยปาก ประกายในตาลุกชวงโชติมากขึ้น ในเวลาเดียวกัน รอบ
กายของเขามีแสงสีเงินพวยพุง ขึ้น มันลุกโหมกระหน่ํา โดยมีเขายืนตระหงานอยูใจกลาง
ดุจดั่งราชันองคหนึง่ เสมือนกําลังจองมองลงมายังขาทาสรับใชของตน เพียงหนึ่งลม
หายใจก็ยิ่งใหญขึ้นกวาสิบเทายังไมพอ!
คนจากศาลาปดฟาตางสูดลมหายใจเย็น อสูรบรรพกาลตนนี้แข็งแกรงกวาที่พวกเขา
จินตนาการไวมากโข แมยังหางไกลจากวัยฉกรรจ แตกลับมีรัศมีราชันในขั้นตนเสียแลว
“โฮก…”
เขากระโจนเขามาพรอมกับแสงเงินอันไมสิ้นสุด ประหนึ่งผืนน้ํากวางใหญซัดโหมมา
เจาตัวเล็กเผยสีหนาสุขุมเยือกเย็น กระแสไฟแปลบปลาบทั่วรางกาย แสงทองทะลวง
เมฆา เขากลายเปนเทพเจาสายฟาตัวนอยองคหนึ่ง เมื่อยกมือก็เปนสายฟาสีทอง เริง
ระบําไปทั่วทุกสารทิศ ลอยออกไปฟาดฟน ณ ที่แหงนี้
“ปง”
หินหนักสองแสนกวาชั่งกอนหนึ่งแหลกเปนผุยผงใตกระแสไฟฟา สายฟาสีทองลอย
กลางนภา ชางนาตกตะลึง
“พรึ่บ”
แสงเงินมืดฟามัวดิน ทําลายผืนปาจนราบเปนหนากลอง กลายเปนเถาธุลี เหลือ
เพียงความยุงเหยิงรกรุงรัง
เจาตัวเล็กตอสูกับสิ่งมีชีวิตสีเงินอยางดุเดือด ไมคํานึงถึงชีวิต เคลื่อนยายรางกาย
อยางรวดเร็ว ทามกลางทั้งสองสวางโชติชวง เจิดจาจนลืมตาไมขึ้น เต็มไปดวยอักขระ
และเคล็ดวิชาล้ําคาไปทั่วทุกอณู
ระยะเวลาการบําเพ็ญของสิง่ มีชีวิตตนนี้เหนือกวาเจาตัวเล็ก ขั้นของการบําเพ็ญแก
กลากวาเล็กนอย เขาหมายใชพลังขั้นสมบูรณกําราบอัจฉริยะแหงเผาพันธุมนุษยคนนี้
แตกลับพบวา เด็กหนุมคนนี้รับมือยากเย็นนัก หลายหนที่หลบหลีกการโจมตีหมายเอา
ชีวิตของเขาได
เจาตัวเล็กครึ้มอกครึ้มใจไมเกรงกลัว ยิ่งตอสูก็ยิ่งอาจหาญ
สิ่งมีชีวิตสีเงินพนอักขระโจมตีเจาตัวเล็ก ทะเลแสงเงินแผคลุมลงมา ขณะเดียวกัน
ประกายในตาของเขาก็ลุกโชน เคล็ดวิชาล้ําคาสองชนิดผสานเปนหนึ่ง พุงออกไปสังหาร
ทันใดนั้น แสงรุงโรจนสวางวาบเปนทาง อักขระผนึกกําลังในมือของเจาตัวเล็ก
กระจกกระดูกใสแวววาวหนึ่งบานปรากฏขึ้น ขัดขวางแสงเงินที่ยิงออกมาจากนัยนตา
ของฝายตรงขาม อีกทั้งยังสะทอนกลับออกไปในบัดดล
“อุก”
สิ่งมีชีวิตสีเงินสงเสียงฮึดฮัดในจมูก ถอยหลังโงนเงน ปรากฏรูเลือดสองแหงบนลาด
ไหล มีเลือดไหลโกรกออกมา เขามีสีหนาตะลึงลาน
“เจามีเคล็ดวิชาล้ําคาของซวนหนีรึ อีกทั้งยังฝกปรือใหเปนของล้ําคาสูงสุด…”
เผาพันธุยิ่งใหญตางยากจะยอมรับการแพรกระจายของเคล็ดวิชาล้ําคาในเผาพันธุ
จะทําลายกระดูกล้ําคาในชั่ววินาทีกอนสิ้นชีพดวยตัวเอง ทลายทุกสิ่งอยาง สถานการณที่
กระดูกอักขระบรรพกาลตกอยูในเงื้อมมือผูอื่นนั้นพบเห็นไดยากนัก
“ขอโทษที กระจกลื่นไปนิด จึงหลนลงมาจากอก” คําขอโทษของเจาตัวเล็กขาด
ความจริงใจอยางแทจริง ทําใหสิ่งมีชีวิตสีเงินนัยนตาเย็นเยือก
เขาบําเพ็ญยาวนานกวาอีกฝาย ขั้นแหงการบําเพ็ญลึกซึ้งกวามากโข อยากใชโอกาส
นี้ปราบอีกฝายแตก็ไมสามารถ และตอนนี้เจาตัวเล็กใชอาวุธล้ําคา ทําใหเขาไมสามารถ
เอยคําใดได
“ปง”
สิ่งมีชีวิตสีเงินอาปากพนหนึ่งกลุมแสงออกมา ลอยพลิ้วไปตามลม กลายเปนพัดสี
เงินเลมหนึ่ง พัดโบกมาทางเจาตัวเล็ก เกลียวคลื่นสีขาวทวมทนทองฟา
เจาตัวเล็กใชกระจกล้ําคาตอตาน กําบังรางกายไวมั่น ทวาภูเขาที่ตั้งอยูดานหลังกลับ
ดินทรายปลิววอนกอนหินเกลือกกลิ้ง
ตนไมแกสูงเสียดฟาทั้งหลายหลุดออกมาทั้งราก กระแทกกันกลางนภาจนแหลก
ละเอียด ยิ่งไปกวานั้น เขาหินลูกหนึ่งก็แตกออกเปนเสี่ยง ประหนึ่งประสบกับการจูโจม
ของเทพเจาสายฟา กอนหินกลิ้งหลุนๆ ลงมาดังครืนๆ
ภาพเหตุการณเชนนี้นาสะพรึงกลัวเหลือเกิน อาวุธล้ําคามีอานุภาพรายแรง จนอก
สั่นขวัญหาย ทําใหเหลาอัจฉริยะแหงศาลาปดฟาที่มองดูอยูไกลๆ ตางหวาดผวา
สิ่งมีชีวิตสีเงินตนนี้ตองเปนทายาทแหงราชวงศกษัตริยที่ยากจะจินตนาการไดเปนแน
มิเชนนั้น ดวยอายุที่ยังนอยเชนเขา จะสามารถครอบครองพัดสีน้ําเงินเยี่ยงนี้ได
อยางไร ฤทธิ์เดชยิ่งใหญนัก ไมควรปรากฏอยูในมือของอสูรที่ยังโตไมเต็มวัยเชนนี้
แนนอนวา พวกเขาก็ตกตะลึงกับเจาตัวเล็กอยางที่สุด ศิษยนองตัวจอยผูนี้จะมีเบื้อง
ลึกเบื้องหลังมากไปหนอยกระมัง? คาดไมถึงวาจะถือครองกระดูกล้ําคาของซวนหนี อสูร
บรรพกาลที่แข็งแกรงที่สุด เสกมันใหกลายเปนกระจกกระดูก นี่นาชางนาเหลือเชื่อ
“ไป!”
เจาตัวเล็กเปลงเสียงดังกังวาน ตะโกนเสียงดังแลวพลิกกระจกกระดูกในมือ ใชอีก
ดานหนึ่งประจันหนากับสิ่งมีชีวิตสีเงิน บนกระดูกมันวาวมีอักขระหนึ่งตัว กระแสไฟแลน
แปลบปลาบ
เสียงโครมดังขึ้น สายฟาขนาดใหญลอยออกไป นี่เปนความลึกลับของอสูรบรรพกาล
ซวนหนี มันถูกเสกออกมาเชนเดียวกับกระจก พลานุภาพนาทึ่งนัก
สิ่งมีชีวิตสีเงินสีหนาแปรเปลี่ยน โบกพัดในมืออีกครั้ง แสงสีเงินมืดฟามัวดินพุงชน
สายฟาสีทองขนาดใหญนั่น ระเบิดแสงสวางเจิดจา
สุดทายทั้งสองก็ถอยหลัง ตางเผยสีหนาตกตะลึง กลาวชมความยิ่งใหญของอาวุธล้ํา
คาในมือของอีกฝายดวยความตะลึงงัน
“เจาทําใหขาตะลึงเสียจริง เปนเพียงมนุษยคนหนึ่งเทานั้น อายุนอยปานนี้ แตพลัง
การตอสูกลับยิ่งใหญนัก ขาเพิ่งจะเคยพบเจอหนแรก” สิ่งมีชีวิตสีเงินแมอายุไมมาก
ระยะเวลาการบําเพ็ญก็ยาวนานกวาเจาตัวเล็กเสียอีก แตกลับทําอันใดอีกฝายไมได ทํา
ใหเขาไมอยากเชื่อ สีหนาบูดเบี้ยวไมนาดู
“รูซึ้งถึงความรายกาจแลวกระมัง เอาเชนนี้สิ ขาจะไมกินเจาแลว เจามาเปนเชลย
ศึกของขาดีไหม?” เจาตัวเล็กยิ้มเยาะ
เสนเลือดบนใบหนาของสิ่งมีชีวิตสีเงินเตนตุบๆ พลันคํารามหนึ่งเสียงทันใดวา “หาก
ขาไมไดตัวเจามาเปนสัตวรบ พวกสิงโตเกาเศียรก็อยาหวังวาจะได วันนี้ขาจะฉีกทึ้งเจา
แลวกินเสีย ผูใดก็อยาหวังวาจะไดทาสแข็งแกรงคนหนึ่งไป”
เมื่อเจาตัวเล็กไดฟงดังนั้น ใบหนาเล็กก็พลันถมึงทึงขึ้นมา กลาวอยางเขนเขี้ยวเคี้ยว
ฟนวา “ยังมีอสูรบรรพกาลกี่ตัวที่มีความคิดเชนนี้? ขาวาพวกเจาคงไมอยากมีชีวิตอยู
แลวกระมัง เมนูอาหารของขาไมไดมีเพียงหัวสิงหน้ําแดง ซุปกระดูกเสือเสียแลว ดู
เหมือนจะตองเพิ่มอาหารจานพิเศษอีกหลายจานเชียวละ เพียงแต… เจาไรคาที่สุด ทําได
เพียงสังหารทิ้ง นําตัวไปแลกเปลี่ยนของรักกับมนุษยเทานั้น!”
เขาเริ่มสําแดงเดช กระจกล้ําคาในมือสองแสงระยิบระยับ ลงมืออยางไมลดละ สูศึก
กันอยางดุเดือด
“ขาไมอยากเสียเวลาแลว นอมรับความตายเสีย!” สิ่งมีชีวิตสีเงินคํารามต่ําอยางไม
แยแส เขาพนกริชเลมหนึ่งออกมา แสงเงินวูบวาบ บินออกไปภายในพริบตา
ในระหวางนี้ เขาโบกพัดเงินอยางสุดกําลัง เพื่อตรึงกระจกกระดูกในมือของเจาตัว
เล็ก ทําใหเขายากจะดึงพลังที่มากกวาออกมาตอตานกริช
กริชเงินเลมนี้หลอมตีมาจากกระดูกล้ําคา แมอานุภาพจะไมเทียบเทาพัดล้ําคา แตก็
ดูแคลนไมได ตอนนี้พัดกับกระจกล้ําคาซวนหนีค้ํายันกันไว ปรากฏอาวุธล้ําคาชิ้นที่สาม
ขึ้นอยางฉับพลัน ก็แลดูจะนากลัวขึ้นมาบางแลว
“พรึ่บ”
บนศีรษะของเจาตัวเล็กมีปากปลองภูเขาไฟโผลมาโดยพลัน ลาวาไหลพรั่งพรู แวว
เสียงดังครืนครันเปนระลอกจากภายใน ตามมาดวยกลุมแสงทองพุงขึ้นมา ทั้งพิกลและ
นาครั่นคราม
เสียงแควกดังขึ้น กริชเลมนั้นถูกฟาดฟนจนหัก รวงลงบนพื้นดิน กลายเปนสองทอน
อาวุธล้ําคาชิ้นนี้ของเจาตัวเล็กประกอบจากการเชื่อมกระดูกสีทองสองชิ้นเขา
ดวยกัน ลําแสงเจิดจา แมแตดวงตะวันยังหมนแสงไปถนัดตา เปลงเสียงมังกรคํารนเจียว
คํารามเปนระลอก
“อะไรกัน?” สิ่งมีชีวิตสีเงินชะงักงัน ฝายตรงขามนําอาวุธล้ําคายิ่งใหญอีกชิ้นออกมา
นี่มันนาตื่นตะลึงเหลือเกิน
กลุมแสงทองลอยมาดังชริ้ง ราวกับมังกรฉิวสองตัวหลอมเปนหนึ่ง กลายเปนกรรไกร
หยกหนึ่งเลม ลอยพาดมาในพริบตา
“ไมไดการแลว!” เขาหันหลังวิ่งหนีทนั ที เขาอาศัยการบําเพ็ญขั้นสูง ฝนใจตอสูกับ
เจาตัวเล็กอยางเสมอกัน ตอนนี้แพในอาวุธล้ําคาอยางราบคาบ จะไมใหหนีไดเยี่ยงไร
แตทวา ยามชาเพียงกาวเดียว กรรไกรกระดูกสีทองก็พุงผาน แขนซายของเขาหลุด
ลงมาดังผลุบ ถูกฟนขาดเสียแลว เลือดสาดกระเด็นกระดอน
“สมควรตาย!”
เขาตะเบ็งเสียงดังลากยาว พัดล้ําคาสีเงินในมือหมุนวน บรรทุกตัวเขาขึ้น สองสวาง
อยางไมสิ้นสุด ลอยระนาบกับพื้นไปยังที่หางไกลอยางรวดเร็ว
“ไปไหนแลว!” เจาตัวเล็กตวาดเสียงเบา กระจกกระดูกสองแสง รองเทาทั้งสองขาง
ของเขาไว รวดเร็วปานลมกรด ลอยระนาบพื้นไลลาตามไป
การทําเชนนี้สิ้นเปลืองพลังปราณอยางที่สุด แตทั้งสองตางไมไดสนใจอะไรมากนัก
หนึ่งคนหนีหัวซุกหัวซุนอยางไมคิดชีวิต อีกหนึ่งรวดเร็วปานสายฟาแลบ ปรารถนาจะรั้ง
อีกฝายไว
“ศิษยนองตัวนอยผูนี้มีความเปนมาอยางงไรกันแน ไยจึงมีอาวุธล้ําคายิ่งใหญเพียง
นี้? ปุถุชนคนธรรมดาที่ไหนจะมี แตละชิ้นลวนสามารถเปนวัตถุล้ําคาปกปองชนเผาได
ทั้งนั้น”
ศิษยศาลาปดฟาทั้งหลายตางถอนหายใจ ไมตายของเจาตัวเล็กนากลัวเหลือเกิน
ในชวงเวลาคับขัน สามารถนําอาวุธล้ําคาอันยิ่งใหญออกมาไดถึงสองชิ้น
พวกเขาไมทราบ อาวุธล้ําคาสองชิ้นนี้ลวนเปนสิ่งที่เจาตัวเล็กแลกมาดวยชีวิต ไมใช
สิ่งที่คนในชนเผาหรือผูอาวุโสประทานให
พวกเขาเก็บแขนขาดขางนั้นขึ้นมา ไดยาวิเศษทั้งสี่ตนมา ไลลาตามไปตลอดทาง
ดวยกังวลวาเจาตัวเล็กจะเสียเปรียบ เกรงวาจะเกิดเรื่องไมคาดฝนขึ้น
ครึ่งชั่วยามตอมา พวกเขาตามรองรอยการตอสูไปจนพบเขาในที่สุด สงครามครั้งนี้
ปดฉากลงแลว คราบเลือดเปรอะเปอนเต็มพื้น
เจาตัวเล็กถอนหายใจ ใบหนาปราศจากรอยยิ้ม อีกทั้งยังดูเศราโศกอยางไมสามารถ
อธิบายได ทําใหพวกเขาตกใจจะสะดุงโหยง เหมือนวาศิษยนองจะเสียเปรียบอยางใหญ
หลวงเสียแลว
“ศิษยนองเปนอะไรไปรึ?”
“อาวุธล้ําคาของขา…ฮือฮือ หมดกัน สูญสิ้นหมดแลว” เขาเสียใจยิ่งนัก
“หา!” เขาทั้งหลายตางตะลึงพรึงเพริด เจ็บปวดหัวใจตามกัน ไมวาจะเปนกระจก
กระดูกหรือกรรไกรกระดูกสีทอง ลวนเปนของมีคาสูงสง มูลคามหาศาล สามารถใช
ปกปองหนึ่งชนเผาได ไมวาชิ้นใดเสียหายก็ยากจะประมาณคาความเสียหายได
“กรรไกรล้ําคาเสียหาย หรือกระจกบานนั้นเลา?” ศิษยหญิงรูปโฉมงดงามคนหนึ่ง
เอยเสียงเบา หมายตองการปลอบประโลม
“ไมใชทั้งนั้น” เจาตัวเล็กสายหนา ลวงพัดชํารุดเลมหนึ่งออกมาจากอก กระดูกสีเงิน
หมนแสง เสียหายไปกวาครึ่งแลว
“ผลุบ”
พวกเขาเกือบจะกระอักเลือด เจาเด็กละโมบคนนี้กําลังปวดใจกับของรางวัลจากการ
รบ พวกเขาคิดวาสมบัติของเขาถูกทําลายจริงๆ เสียหาย ชางหมดคําจะพูดเสียจริง
สิ่งมีชีวิตสีเงินสิ้นใจเสียแลว ถูกกรรไกรโบราณสีทองตัดคอจนขาด ชั่วขณะที่
กะโหลกหลุดออกจากบา ก็ถูกสายฟาที่ปลอยออกมาจากกระจกล้ําคาซวนหนีฟาดจน
กลายเปนเถาธุลี
“สุดทายเปนเพราะขั้นบําเพ็ญของขาไมแกกลาพอ จําตองบรรลุใหไวที่สุด
ไมเชนนั้นหนนี้คงจัดการอสูรบรรพกาลตนนี้ไปนานแลว อาวุธล้ําคาชิ้นนี้ก็จะไมถูก
ทําลาย” เจาตัวเล็กเคียดแคน
ผูคนรอบขางตางหมดคําพูด ศิษยนองคนนี้อายุนอยปานนี้ การบําเพ็ญกลับสูงสง
อยางนาตกใจ ยังคิดจะบรรลุไปถึงไหน? อายุยังไมถึง 10 ขวบเสียดวยซ้ํา ตองการจะ
ทัดเทียมบุคคลผูอาวุโสเยี่ยงนั้นหรือ?!
“อสูรบรรพกาลตนนี้ตองมีเลือดเนื้อเปนยาล้ําคาอยางแนนอน หากวาเคี่ยวแลวสกัด
เลือดลมของเขานํามาบํารุงขา คงจะสามารถบรรลุถึงขั้นใหมเปนแน แตขาไมอยากกิน
สิ่งมีชีวิตรูปรางมนุษย” เจาตัวเล็กขมวดคิ้วเล็กนอย ใบหนาบูดบึ้ง ลังเลสองจิตสองใจ
“สามารถนําไปแลกเปลี่ยนกับผูอื่นไดนี่” ศิษยพี่คนหนึ่งกลาวเตือนเขา
“เฮอ ทําไดเพียงเทานี้ หากกินเขาเขาไป ขาเกรงวาจะเกิดเงาดํามืดในจิตใจ” เจาตัว
เล็กหงอยเหงาเซื่องซึม จูๆ ก็ผงกหัวขึ้นทันใด ตะโกนเสียงดังไปทางภูเขาหางไกลวา “มี
คนจะแลกเปลี่ยนอสูรบรรพกาลรึไม?”
หนึ่งเสียงตะโกนออกไป ขุนเขาตางสั่นไหว สิ่งมีชีวิตมากมายตางตื่นตระหนกตกใจ
“มี ตองดูวาอสูรในมือเจาเพียงพอรึเปลา”
สิ่งที่ทําใหคนตะลึงงันคือ มีเสียงตอบกลับมาจากทางไกลอยางรวดเร็ว
เจาตัวเล็กตาตั้งขึ้นทันที กระโดดลุกขึ้น ลากเอาสิ่งมีชีวิตสีเงินขึ้น ยางสามขุมไป
ขางหนา ปากปลองภูเขาไฟปรากฏอยูบนศีรษะ กรรไกรกระดูกสีทองผลุบโผล เขา
เตรียมการปองกัน ไมไดประมาทเลินเลอ
ขามผานแนวเขาแหงหนึ่ง เขาพบกับอัจฉริยะกลุมใหญ มีคนทั้งสิ้น 40 กวาคน เฝา
รักษารถลากคันหนึ่ง แสงสวางสีแดงพราวระยับ เพียงมองก็รูวาเปนวัตถุล้ําคา
“ไยจึงมีผคู นมากมายปานนี้?” เจาตัวเล็กนัยนตาสองประกายแวววาว เขาหยุดฝ
กาวลง
“เอะ เปนธิดาแหงจักรพรรดินั่นเอง เปนศิษยนองของเราเชนกัน!” เหลาอัจฉริยะ
แหงศาลาปดฟาตกใจระคนดีใจ เมื่อจํารถลากคันนี้ได
เจาตัวเล็กนึกถึงราชรถที่พบเห็นเมื่อตอนเดินทางไปยังศาลาปดฟาครั้งแรกขึ้นมาได
ทันควัน คันนี้นี่เอง
รถลากปกคลุมดวยแสงสีแดง ละแวกใกลเคียงลวนเปนอัจฉริยะหนุมสาว ปกปองคุม
กันอยูรอบๆ เกรงวาจะมีเพียงธิดาที่จักรพรรดิรักใครหวงแหนเทานั้นที่ทําใหพวกเขาทํา
เชนนี้ได
“อสูรบรรพกาลชั้นดีเชียวละ พวกขายินยอมแลกเปลี่ยน!” ฝงตรงขามมีคนเผยสี
หนาตื่นเตน
บทที่ 120 เจ็ดถ้าํ สวรรค
เมื่อเจาตัวเล็กไดฟงก็ดีอกดีใจ เขาลังเลอยูตลอดเวลาวา จะกินสิ่งมีชีวิตสีเงินตนนี้ดี
หรือไม ในที่สุดก็มีวิธีการแกปญหาอันนาพึงพอใจ
“พวกเจามีสิ่งของอันใดจะมาแลกเปลี่ยนรึ?”
“รอสักประเดี๋ยว พวกขาตองพิสูจนเสียกอนวานี่ใชเผาภูติรึไม” บุคคลลึกลับที่มีชุด
คลุมสีดําบดบังทั้งกายคนหนึ่งเดินมาจากบริเวณรถลากนั่นพูดดวยน้ําเสียงแหบแหง
“นี่เปนเผาภูติรึ?” ศิษยพี่แหงศาลาปดฟาทั้งหลายหนาเปลี่ยนสี พวกเขาจองมองกัน
และกันแวบหนึ่ง ตางแปรเปลี่ยนสีหนาอยางหามไมได
เผาภูติถือเปนอสูรบรรพกาล ซึ่งมีจํานวนนอยยิ่งนัก แตกลับเปนเผาพันธุที่ยิ่งใหญ
จนมนุษยสั่นสะทาน สิ่งมีชีวิตที่เจาตัวเล็กสังหารนั้นรางกายเปนสีเงินทั้งตัว อาจเปน
ทายาทสายเลือดแหงราชัน
“หากเปนเผาภูติจริง พวกขายินยอมแลกเปลี่ยน” คนที่คลุมรางกายดวยเสื้อคลุมสี
ดําก็เถรตรงเหลือเกิน ไมไดมีเจตนาหลอกลวงแตอยางใด แสดงใหเห็นโดยตรงวา
ตองการสิ่งมีชีวิตตนนี้
เหลาอัจฉริยะหนุมสาวตางมีสีหนาระทึกใจ ตามตํานานกลาววา ภายในรางกายของ
เผาพันธุนี้มีเลือดวิเศษซึ่งพบเห็นไดยากในโลก เพียงสามารถสกัดมันออกมา สามารถ
ชวยใหบรรลุสัจธรรมได มหัศจรรยและวิเศษอยางที่สุด
“เผาภูติจริงๆ” คนที่มีชุดดําพรางตัวและงอบคลุมหัวเดินไปยังรถลากแลวกลาว
รายงาน
“ดี ใชหัวใจเตียวมวง[1]เปนการแลกเปลี่ยน” เสียงไพเราะเสนาะหูแววมา ดั่งไขมุก
นอยใหญหลนลงบนจานหยก นาฟงเหลือเกิน
อัจฉริยะ 40 กวาคนที่รายรอบอยูบริเวณนั้น ตางแปรเปลี่ยนสีหนาเปนตื่นเตน แต
กระนั้นผูคนขางรถลากไมกี่คนคัดคานทันที ดวยรูสึกวาไมคุมคา
“หัวใจเตียวมวงมีนอยยิ่งนัก เปนอสูรบรรพกาลเชนกัน แตฤทธิ์ยารุนแรงกวานัก มี
คุณประโยชนอยางใหญหลวงตอการบรรลุ องคหญิงโปรดพิจารณา”
“เลือดวิเศษหายากนัก แมจะเปนรางกายของอสูรบรรพกาล ก็ไมแนวาจะสามารถ
สกัดออกมาไดสักกี่หยด เพราะนี่ไมใชการสืบทอดทางสายเลือด แตเปนการรวมตัวของ
ความวิเศษ”
ผูคนจํานวนไมนอยหามปราม
อยางไรก็ดี ภายในราชรถที่สองแสงสีแดงระยิบระยับ หญิงสาวราชนิกูลไดตัดสินใจ
แลว ในมุมมองของนาง เลือดวิเศษซึ่งสามารถชวยใหบรรลุสัจธรรมนั้นมีคาเหนือสิ่งอืน่
ใด
คนที่ปกคลุมดวยไอดําแนนขนัดเดินมา ในมือถือไหหยกขนาดดานยาว 1 เซี๊ยะ
ไมไดพูดอะไรใหมากความ ยื่นออกมาดานหนาอยางไมออ มคอมไมลังเล หมายตองการ
ทําการแลกเปลี่ยนทันทีทันใด
เจาตัวเล็กยอมตองดูใหละเอียดถี่ถวน ดวยเหตุเพราะอสูรบรรพกาลมีคาอยางหาที่
เปรียบมิได การแลกเปลี่ยนเชนนี้ จะประมาทเลินเลอไมไดเปนอันขาด ศิษยพี่ทั้งชาย
สามหญิงสองแหงศาลาปดฟาก็พากันรุดหนามามองดู
ไหหยกเปดออก ไอมวงขมุกขมัวไหลเวียนอยางตอเนื่อง กลิ่นหอมลอยแตะจมูก อณู
รูขุมขนทั่วรางกายเปด สบายตัวอยางหาที่เปรียบมิได
ภายในมีวัตถุขนาดใหญเทาศีรษะมนุษย เปนสีมวงเจิดจาพรางพราย ประหนึ่งอัญ
มณีสีมวงอันงดงาม กําจายแสงแพรวพราว สงกลิ่นหอมหวน ไอหมอกสีมวงลอยขึ้นมา
เปนกลุมๆ
นี่คือหัวใจของเตียวมวง มาจากอสูรบรรพกาลดุรายตัวหนึ่ง มันเปนเพียงหัวใจหนึ่ง
ดวง แตกลับคลายกับอัญมณีสีมวงกอนใหญเสียมากกวา งดงามตระการตา
“ยาล้ําคานี่เอง มีนอยยิ่งนักในโลกมนุษยนี้!” เหลาอัจฉริยะแหงศาลาปดฟาตาง
อุทานอยางตกตะลึง
นัยนตาของอัจฉริยะพวกนั้นเผยประกายประหลาด กอนหนาไมนาน พวกเขาเขา
รวมศึกครั้งนี้ดวยตัวเอง เขนฆาเตียวเมฆามวงตัวนั้น ทุมเทพลังกายใจไปอยางมหาศาล
สิ่งโหดเหี้ยมชนิดนี้แมจะพวงดวยคําวา เตียว แตกลับจัดอยูในประเภทปกษา เพราะ
นอกจากสวนหัวที่คลายกับเตียวมวงแลว รางกายสวนที่เหลือลวนมีลักษณะพิเศษของ
ปกษาราย ยามกระพือปกเหาะเหิน เหลาผูกลาก็ยากจะรับมือ
เพียงอสูรบรรพกาลตัวหนึ่งเทานั้น แตทําใหอัจฉริยะกลุมนี้หัวรางขางแตก หากไมใช
เพราะจํานวนคนมาก อีกทั้งธิดานอยแหงจักรพรรดิลงมือดวยตนเองในตอนสุดทาย คง
บาดเจ็บและลมตายอยางแสนสาหัส
หากกลาวตามความรูสึกแลว พลังการตอสูของเตียวเมฆามวงตัวนี้แข็งแกรงกวา
สิ่งมีชีวิตสีเงินเสียอีก โชครายที่พบเจอกับกลุมผูกลาเขา นี่สินาคับแคนใจ
“ไมเลว!” เจาตัวเล็กพึงใจเปนอยางมาก หัวใจสีมวงดวงนี้สมชื่อของมัน ไอมวงลอย
ขึ้น ประดุจเมฆาหอมลอม ปราศจากกลิ่นคาวเลือด กลับกันกลับมีกลิ่นหอมกรุน
ขางราชรถ อัจฉริยะเหลานั้นนัยนตาลุกเปนไฟ จองเขม็งที่หัวใจดวงนั้นอยางอาลัย
ไมยินยอมแลกเปลี่ยน หากแตจนปญญา ปกษารายตัวนี้ถูกสังหารไดนั้น องคหญิงนอย
เปนตัวแปรที่สําคัญที่สุด ยิ่งไปกวานั้น คนจํานวนครึ่งหนึ่งในนี้ ถูกจักรพรรดิเรียกตัวมา
เพื่อธิดานอย อีกครึ่งเปนอัจฉริยะจากประเทศเพลิง ภักดีตอองคหญิงนอย จึงตามติดทั้ง
ซายขวา
เมื่อธิดาแหงจักรพรรดิแสดงเจตจํานง พวกเขาจะยินยอมหรือไมก็ทําอันใดไมได
เจาตัวเล็กรับเอาไหหยกมา ทอดมองไปยังราชรถแลวกลาววา “ศิษยนององคหญิง
ขาก็เปนคนของศาลาปดฟาเชนกัน ไยเจาไมออกมาพบศิษยพี่สักหนอยเลา”
อัจฉริยะทั้งหลายนิ่งงัน เด็กคนนี้ก็ชางไมแยแสอันใด แมจะเปนสํานักเดียวกัน จะมี
สักกี่คนอาจหาญสนทนากับธิดาแหงจักรพรรดิ ทุกผูทุกคนลวนถวายความเคารพตาม
ธรรมเนียมปฏิบัติ สงบเสงี่ยมอยางหาที่เปรียบมิได
แมแตอัจฉริยะทั้งหาแหงศาลาปดฟาเองก็ไมเปนตัวของตัวเอง มาตรแมนจะบําเพ็ญ
ตนอยูในดินแดนสุขาวดีโบราณแหงเดียวกัน แตพวกเขาก็ไมเคยสนทนากับองคหญิงมา
กอนเลย เพียงมองเห็นภาพดานหลังไกลๆ เทานั้น
แสงสีแดงกะพริบ มานของราชรถที่รอยจากไขมุกและหยกเปดออก หญิงสาวนาง
หนึ่งยางเดินออกมา อายุราว 15-16 ป หนาผากโหนกนูนขาวกระจาง ใบหนารูปไข คิ้ว
โกง ดวงตาโตเปนประกายดุจลูกแกว มีแสงสวางแหงปญญาอยางหนึ่ง
ผิวขาวดุจหิมะ แมจะยังไมไดโตเต็มวัย แตรูปรางสูงระหง ไมไดเตี้ยกวาหญิงสาวอายุ
18-19 ป สูงกวาคนในวัยเดียวกันหนึ่งศีรษะ ทวงทาการกาวเดินวิจิตรเชื่องชา เอวคอดดู
ออนชอยสายไปมา ประหนึ่งเงี้ยวงู ทรวดทรงองคเอวงดงามยิ่งนัก
นางรูปรางดีอยางที่สุด สองขาเรียวยาวกาวยางกรีดกรายมา สะโพกโยกยายไปมา
อรชรออนแอนนาประทับใจ ทําใหหญิงสาวอายุ 18-19 ปตางละอายใจที่ไมอาจเปน
เชนเดียวกัน
“เจาเด็กไมรูความ เจาเรียกขาวาอยางไรนะ?” หั่วหลิงยกริมฝปากขึ้นเล็กนอยดวย
ความเยาะเยยแลวกลาววา “ตัวกระจอยเทานี้ ยังอาจหาญเอาเปรียบรึ”
“ขาเขาสํานักกอนเจา ตามหลักแลวควรจะเปนศิษยพี่ของเจา อีกอยางขาก็ไมได
เยาววัยกวาเจาเทาใดนัก ศิษยนอง เมื่อพบหนาศิษยพี่ ยังไมมาทําความเคารพรึ” เจาตัว
เล็กวางมาดถือดีเปนผูอาวุโส เชิดคางขึ้น กลาวกับหญิงสาวงามผิดมนุษยมนาเชนนี้
ฝูงชนตางจังงัง เจาเด็กไมรูความคนนี้ชางไมรูจักที่ต่ําที่สูง อาจหาญเอาเปรียบแมแต
กับองคหญิง ไมเกรงกลัวอันใดอยางแทจริง
“เอะ!” ธิดาที่องคจักรพรรดิรักที่สุด ประกายตาแววโรจน บนใบหนางดงาม
เพริศพริ้งฉายแววตกตะลึง จองมองเจาตัวเล็กครั้งแลวครั้งเลาแลวกลาววา “เปนเจา
จริงๆ รึ?”
เมื่อไดยินองคหญิงตรัสเชนนั้น เหลาอัจฉริยะตางมึนงง จากนั้นจดจองใบหนา
มอมแมมของเจาตัวเล็ก หมายตองการมองอยางละเอียดลออ
ในสงครามครั้งหนึ่งเมื่อไมนานมานี้ ยามเจาตัวเล็กสังหารสิ่งมีชีวิตสีเงินนั้น สูญเสีย
พลังงานเปนอยางมาก จนหนาตาสกปรกมอมแมม และยอมดวยคราบเลือดบางสวน
ใบหนาที่แทจริงเจียนถูกบดบังจนมิดเสียแลว
“เด็กเหลือขอ!” ทันใดนั้น มีคนตะโกนเสียงดังเมื่อมองออกวาเขาเปนใคร
ตั้งแตเขาเขามาในโลกใบเล็กนี้ เจาตัวเล็กก็คืนสูสภาพเดิมดวยความไมเกรงกลัว
แมแตนิด เนื่องดวยบัดนี้วินิจฉัยมองอยางถี่ถวน จึงมีคนมองเขาออก
“โอสวรรค เจาเปนเจาเด็กเหลือขอคนนั้นจริงๆ ปรากฏตัวออกมาแลว!” กลุม คน
รองลั่น นัยนตาลุกเปนไฟ คอยๆ กรูกันเขาไปลอมรอบ ปรารถนาจะจับตัวไวมั่น
“เจาสิเด็กเหลือขอ พวกเจาทั้งตระกูลตางหากที่เปนเด็กเหลือขอ” เจาตัวเล็กตอวา
จากนั้นกะพริบตาเผยแววตาระแวดระวังแลวกลาววา “ขาขอเตือนพวกเจา อยาไดเขา
ใกลขา มิเชนนั้นจะกินพวกเจาใหสิ้น!”
ผูคนมากมายในโลกแหงความวางเปลาลวนอยากจะจับตัวเด็กเหลือขอมาแลวฟาด
สักที แนนอนวาสงอิทธิพลตออัจฉริยะหนุมสาวเหลานี้ พวกเขามีทาทีฮึกเหิม ตางจะ
เฮโลกันเขาไป
แมแตธิดาผูเปนที่รักยิ่งขององคจักรพรรดิก็ระทึกใจอยางรวมรุมสกรัม ดวงตาโตเปน
ประกาย กําหมัดแนน ยางกาวเชื่องชา เอวคอดกิ่วขนาดหนึ่งแขนโอบ ทวงทาอันชวน
หลงใหล แมยังทรงพระเยาว แตทรวดทรงองคเอวกลับนาตื่นตะลึง แทบจะสมบูรณแบบ
บัดนี้ใบหนางามขาวผองเต็มไปดวยความตื่นเตน อยากจะลงมือเสียตอนนี้ เพื่อจับกุม
ชายหนุมคนนั้นเสีย
“ศิษยนอง เมื่อเห็นศิษยพี่อยาไดสนิทชิดเชื้อปานนี้ มันไมดีนัก” เจาตัวเล็กรนถอย
เขาไมตองการใหเหลาอัจฉริยะลอมรอบตัวเขา
“กรูเขาไปพรอมกัน จับตัวเขาไว!” ทันใดนั้น ธิดาแหงองคจักรพรรดิตะโกนเสียง
นุมนวล อัจฉริยะกวา 10 คนทั้งสี่ทิศเคลื่อนไหว กระโจนเขาใสอยางพรอมเพรียงกัน
“คอยดูเถิด ขาจะกลับมาจัดการพวกเจาภายหลัง!” เจาตัวเล็กกระโดดขึ้นแลว
หลบหนี ไรเงาภายในชั่วพริบตา เขาไมอยากถูกกลุมคนรุมกระหน่ําทุบตี
สิ่งที่สําคัญยิ่งขึ้น เขาอยากจะหลบไปบรรลุ ในมือกําหัวใจเมฆามวง หากไมสกัดใน
เร็ววัน ยอมรูสึกกระวนกระวาย หากเพียงบรรลุ พละกําลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอยาง
มหาศาล
“ตามไป จับเปนเจาเด็กเหลือขอ!” กลุมคนโหรอง ไลลาตามติดอยางไมลดละ ทวา
เจาตัวเล็กรวดเร็วเหลือเกิน โผนเขาไปในพงไพร หายลับตาไปในหนึ่งกะพริบตา
“ศิษยพี่ทั้งหญิงชาย พวกเจาตามศิษยนององคหญิงไปเถิด ขาไปกอนละ” เสียงของ
เจาตัวเล็กแววมาไกลๆ เขายืนอยูเทือกเขาแหงหนึ่งเสียแลว ทําใหเหลาทหารไลตางอึ้ง
กิมกี่ นี่ก็ชางรวดเร็วเสียจริง
หลายวันตอมา แววเสียงดังสนั่นจากภายในถ้ําโบราณแหงหนึ่งเปนระลอก ไอมวง
ลอยขึ้น เมฆหมอกเลือนราง หลั่งไหลออกมาจากปากถ้ําอยางไมหยุดหยอน พรอมทั้ง
แสงสวางกระเพื่อม แสงอันเปนมงคลโหมซัดสาด
“โฮก…”
เสียงคํารามทุมต่ําลอยมา เจาตัวเล็กบรรลุแลว รางกายเปดถ้ําสวรรคแหงที่เจ็ด
ภายในปากปลองภูเขาไฟมีลาวาเกลือกกลิ้ง ไหลพรั่งพรูออกมา เขาสูกายเขา
สิ้นเสียงดังตูม เขาหินระเบิดออก เงาเล็กที่หอหุมดวยกลุมแสงสีมวงเดินออกมา
กําจายกลิ่นอายนากลัว สัตวรายรายรอบตางหลบหนีอยางตื่นตระหนกตกใจ กลางพนา
อลหมานไปชั่วขณะ
เวลาผานไปเนิ่นนาน แสงมวงหายไป ไอมงคลมลาย เผยรางกายที่แทจริงของเจาตัว
เล็ก เขาสําราญใจอยางหาที่เปรียบมิได เขาบรรลุแลว ระยะเวลานานกวาคราแลวยิ่งนัก
เขาทลายสิ่งกีดขวางอีกครั้ง กาวไปสูอีกขั้นหนึ่ง
ผูอื่นตองใชเวลาเปนปหรือหลายปจึงจะเปดถ้ําสวรรคแหงหนึ่งได แตเขากลับบรรลุ
ติดตอกันในระยะเวลาอันสั้น ความเร็วเชนนี้หากรั่วไหลออกไปคงจะทําใหตกตะลึงสุดขีด
เปนแน
“ตึง”
ยามออกแรงกระทืบเทาทั้งสองขาง ปาเขาพลันพังทลาย เขาพุงสูชั้นฟาประหนึ่ง
พญาครุฑ จากนั้นขามผานแนวเขาเบื้องหนา ราวกับกําลังบินรอน
“เอะ เจาเด็กคนนี้ไมไดไปไหนไกล เขาเลือกจะบรรลุในละแวกใกลเคียงนี้” กลาง
หุบเขาแหงหนึ่งมีรถลากจอดอยู ผูคนมากมายยืนอยูชิดใกล ไดยินเสียงเคลื่อนไหว
มองเห็นเจาตัวเล็กเขาเสียแลว
ฝูงชนเห็นเขาประดุจปศาจทะยานฟา แตละคนตะลึงจนอาปากคางอยางไมกลาเชื่อ
สิ่งที่เห็น!
กลางหุบเขา นอกจากองคหญิงแหงประเทศเพลิง ยังมีเผาพันธุอื่นอยูไมมากนัก
ลวนไมธรรมดา พละกําลังแข็งแกรง ราวกับกําลังหารือกับมนุษยทางฟากนี้
เจาตัวเล็กยอมมองเห็นองคหญิงและคนอื่น เขาไมไดหลบเลี่ยง ทะยานสูพื้น
กระแทกจนเกินหลุมลึกแลวยางเทาเขาไปในหุบเขา
“เจาชางทําใหผูคนตื่นตะลึงเสียจริง บรรลุเร็วเหลือเกิน” ศิษยพี่ชายสามหญิงสอง
แหงศาลาปดฟาก็อยูที่นี่เชนกัน ทั้งหมดตางพากันมาตอนรับ
“มนุษยผูนี้…” ทันใดนั้น สิ่งมีชีวิตรางมนุษย มีเขางอกบนศีรษะ หลังงอกปกคูขมวด
คิ้ว ชักมวนภาพออกมาเปรียบเทียบกับเจาตัวเล็กแลวอุทานอยางตะลึงวา “เจานี่เอง
ราชันสิงโตเกาเศียรแยงชิงหมายอยากรับเจาไปเปนสัตวรบ เจาอยูนี่นี่เอง”
“เจาสิงโตพิสดารตัวนั้นอยูที่ใดกัน? เรงโผลหนามาเสียใหไว!” นีไ่ มใชครั้งแรกของ
เจาตัวเล็ก ใบหนาเล็กขมึงทึง ขบฟนแนน เดินยางสามขุมมา
“อารมณรายไมเบานี่ อยาไดโกรธเปนฟนเปนไฟ สิงโตเกาเศียรยิ่งใหญถึงเพียงนั้น
สําหรับพวกเขาแลว มีสัตวรบเพิ่มสักคนหรือลดสักคนไมไดสรางประโยชนอันใดนัก
สวามิภักดิ์แกราชันแหงขาดีไหม? เปนขาทาสติดตามทาน”
ปง!
เจาตัวเล็กไมไดพูดใหมากความ หนึ่งฝามือฟาดออกไป อักขระแผทั่วทองฟา สุระ
เสียงดังขึ้น สายฟาสีทองดุจเกลียวคลื่นพุงออกไป เสียงเปรี้ยงดังขึ้น สิ่งมีชีวิตรางมนุษยที่
มีเขางอกบนศีรษะ หลังงอกปกคูก็ลอยขึ้นมา กลายเปนถานดํา
“เจาชางองอาจ กลาสังหารแมแตคนของกษัตริยขนนกรึ?” คนอื่นๆ ตวาดลั่น ลวน
เปนตางเผาพันธุกันทั้งนั้น
“ขาชิงชังกษัตริยขนนก คงเปนรางมนุษยอีกแน ไมใชอาหารของขา ขาตองการ
สิงโตเกาเศียรและเฝยหยี” เจาตัวเล็กกลาวแลวยกมือขึ้นอีกครั้ง เมื่อกางนิ้วทั้งสิบออก
สายฟาหนาใหญสิบเสนก็ทอดขามฟากฟา เผาตางพันธุเหลานี้ถูกฟาดทะลวง กลายเปน
เถาธุลี
เหลามนุษยอัจฉริยะรอบๆ ราชรถตางพรั่นพรึง เจาเด็กเหลือขอคนนี้แข็งแกรงยิ่งนัก
เพียงยกมือก็กําราบเผาตางพันธุเหลานี้จนสิ้น
“ดี!” องคหญิงแหงประเทศเพลิงแววตาระทึกใจ แมนางปรารถนาจับตัวเจาตัวเล็ก
เฉกเชนคนอื่น จากนั้นฟาดกนเขาสักฉาด แตตอนนี้กลับระงับความหุนหันพลันแลนแลว
กลาววา “เจาแข็งแกรงปานนี้ เขารวมเปนหนึ่งกับพวกขาเถิด
ขาติดตอกับผูกลาเชนสิงโตเกาเศียร กษัตริยขนนกและยักษโลหิตเงินแลววา จะไป
ชวงชิงสมบัติล้ําคาในถ้ําวิเศษ”
“มีสิงโตประหลาดนั่นดวยรึ?” เจาตัวเล็กนัยนตาแววโรจน
“ใช!” องคหญิงพยักหนา รางเพรียวระหงโยกยาย ยางเทาเขามาชิดใกลอยางวิจิตร
เชื่องชา ทรวดทรงงดงามอยางนาตกใจ
“ดี ขาไปดวย ตองตุนมันใหได!” เจาตัวเล็กกําหมัดแนน
“อยาไดเหี้ยมโหดเพียงนี้ เขาเปนสหายของพวกขา จะรวมเดินทางไปยังถ้ําวิเศษ”
ดวงตาองคหญิงเปนประกายดุจลูกแกว มุมปากยกขึ้นเล็กนอย กลาวอยางขําขันวา
“เปนเด็กดีละ มิเชนนั้นขาจะฟาดกนเจา”
เสียงเพี๊ยะดังกังวาน เจาตัวเล็กฟาดฝามือลงบนสะโพกอวบอิ่มของนางอยางไม
เกรงใจ กะพริบตาปริบๆ แลวเอยถามวา “ฟาดเชนนี้ใชหรือไม?”
“เจากลา… ฟาด…ของขา” องคหญิงแหงประเทศเพลิงนิ่งงัน โกรธาจนใบหนาแดง
ก่ํา แยกเขี้ยวเผยฟนขาวแวววาวทั้งปากทันที กัดริมฝปากแดงสด อักขระทั่วรางพวยพุง
เริงระบําไปทั่วทองฟา
……………………………………………

[1] เตียวมวง หรือภาษาจีนเรียกวา จื่อเตียว ชื่อภาษาอังกฤษคือ เซเบิล มีถิ่นกําเนิด


ในแมนจูเรีย รูปรางคลายแมว จมูกแหลม หางยาว ขนฟู สีดําอมน้ําตาล
บทที่ 121 พบหนา
หั่วหลิงบันดาลโทสะ เสนผมดําขลับปลิวสยาย ดวงตาดุจลูกแกวถลึงกลมกวาง แสง
สวางลอยวนเวียน อาภรณพลิ้วไหว ราวกับจะปลิวสะบัด
“หยุดเถิด มีเรื่องอันใดหารือกันได” เจาตัวเล็กถอยหลังอยางรวดเร็ว รูสึกถึงไฟรอน
ระอุระลอกหนึ่ง พบวาบัดนี้ผืนดีที่ตนย่ําอยูแดงฉาน กอนหินทั้งหลายจวนหลอมละลาย
เสียแลว
องคหญิงแหงประเทศเพลิงพิโรธ อาปากจิ้มลิ้มแดงสดดุจลูกเชอรรี่ พนเปลวเพลิง
ออกมาเปนกลุม ที่นี่เกิดลาวาเกลือกกลิ้งทันใด
“โอสวรรค เจาพนไฟไดดวยหรือ เปนเชนเดียวกับมังกรชั่วรายในตํานานเลย!” เจา
ตัวเล็กตะลึงลาน ถอยหลังเวนระยะหางอีกชวงหนึ่ง
“เจานั่นแหละมังกรชั่วราย!” หั่วหลิงไดยินวาจาก็โมโหโทโสยิ่ง แมแตดวงตาก็เริ่ม
พนไฟ เปลวไฟเบื้องหนากลายเปนนกสีแดงตัวหนึ่ง พุงมาพรอมกับเปลวไฟเกลือกกลิ้งไล
หลังดวยคลื่นความรอน สมจริงสมจัง ประหนึ่งหงสไฟตัวหนึ่งปรากฏขึ้นอีกครา
เจาตัวเล็กไมไดถอยหลังอีกตอไป ปรากฏจันทราสีเงินขึ้นดานหลัง ขนาดสูงเทาเขา
กระจายแสงเย็นยะเยือก ปกคลุมเขาไวภายใน ขัดขวางเปลวเพลิงอันทวมทนทอง
“ศิษยนอง หารือกันได อยาไดเดือดดาลใชอารมณเลย มังกรรายบรรพกาลลวนเปน
เชนนี้กันทั้งนั้น หากเจาเปนเชนนี้ตอไป คนทั้งหมดจะตกใจจนหนีกระเจิงนา” เจาตัวเล็ก
กลาว เขาเปดถ้ําสวรรคเจ็ดแหงติดตอกัน บัดนี้ทั่วรางกายอุดมไปดวยพลังปราณ เขาถือ
วาเปนมือฉมังผูหนึ่งทามกลางโลกใบเล็กที่เปนจุดรวมตัวของเหลาอัจฉริยะนี้
“ศิษยนองโปรดระงับโทสะ ศิษยนองผูนั้น…เพียงแคซุกซน อยาไดใสใจเลย”
อัจฉริยะทั้งหาแหงศาลาปดฟารุดเขามาไกลเกลี่ย
แสงสวางทั่วกายหั่วหลิงมอดไป เปลวไฟแดงฉานจางหาย กลับคืนสูใบหนาเดิม นาง
ถลึงมองเจาตัวเล็กแลวกลาววา “ตัวกระจอยปานนี้ แตกลับชั่วรายเพียงนี้ หากเติบใหญ
จะเหลือรึ ขาจะอภัยใหเจาก็ได ครั้งนี้จําตองไปถ้ําวิเศษ หามมีปญหากับสิงโตเกาเศียร
เด็ดขาด”
“ได อันดับแรกคือพวกเขาตองหามมายั่วยุขา” เจาตัวเล็กตกปากรับคําอยางสบาย
อกสบายใจ
ถ้ําวิเศษตั้งอยูบนที่ราบ ตนหญาสูงกวามนุษย หมาปาคําราม ที่แหงนี้ทุรกันดารยิ่ง
นัก ยากจะพบเห็นรองรอยของมนุษย
กลุมคนยางเขาสูทุงหญา สรางความตื่นตระหนกแกเหลาหมาปามาตลอดทาง พวก
เขาเดินทางทะลวงผานหญาเฮียเฮียะ[1] เตรียมความพรอมอยางระแวดระวัง อาทิตย
อัสดงยอมฟากฟาจนเปนสีแดง เมฆแดงทําใหทุงหญากวางกลับยิ่งเปลาเปลี่ยว
“ศิษยนอง เจาก็ชางอาจหาญลงมือ นั่นเปนถึงธิดาผูเปนที่รักยิ่งแหงองคจกั รพรรดิ
แหงประเทศเพลิง ปกติยามกษัตริยและขุนนางชั้นสูงพบหนา ตางตองใหเกียรตินางกัน
ทั้งนั้น” ศิษยพี่ผูหนึ่งกลาว
“ไมใชวานางตองการฟาดกนขาหรือ ขาเพียงยืมหอกสนองคืน[2]เทานั้น” เจาตัว
เล็กกลาว
“นางเพียงพูดไปเชนนั้น ไมไดฟาดเจาจริงๆ เสียหนอย” ศิษยพี่ผูหนึ่งกลาวอยาง
ฉุนเฉียว
“ขาก็ไมไดฟาดแรงเสียหนอย เพียงฟาดเบาๆ ก็เทานั่น ประหนึ่งจั๊กจี้ นางไมไดเจ็บ
จริงๆ หรอก” เจาตัวเล็กพูดพลามราวกับตนมีเหตุผล
เบื้องหนา องคหญิงแหงประเทศเพลิงในราชรถเหลียวหลังมอง ดวงตาสุกใสจวนจะ
พนไฟอีกครา
“ศิษยนองเจาอยาถลึงตามองขา หากขาไมใชศิษยพี่ของเจาขาคงไมพูดไมกลาว มี
บางสิ่งที่เจาควรตองปรับปรุงแกไขแลว” เจาตัวเล็กตองการพูดอธิบายดวยความไมเกรง
กลัวแมแตนิด
“เจาอยากพูดอะไร?” หั่วหลิงขบฟน ภายในริมฝปากสีแดงสด ฟนขาวกระจางแวว
วาว
“กอนอื่น เจาควรลดความอวนไดแลว ดูกนเจาสิ ใหญขนาดนี้ อีกทั้งยังกลมปานนี้
เมื่อฟาดลงไปก็สั่นไมหยุด เชนนี้ไมดีตอการบําเพ็ญนะ” เจาตัวเล็กพูดดวยทาทีเอาจริง
เอาจังเหลือเกิน
ในทุงหญาเงียบงันไปชั่วขณะ จากนั้นคนทั้งหมดก็เหลียวหลังมองไปยังเจาตัวเล็กที่
อยูดานหลัง แตละคนลวนหยุดชะงัก ราวกับเห็นผี เจาเด็กเหลือขอคนนี้กําลังทาทาย
หรือ อยากจะดวลกับองคหญิงผูเปนที่รักยิ่งขององคจักรพรรดิรึ?!
“เจาดูสิ ขาพูดใชหรือไม คนทั้งหมดตางเห็นพองตองกัน ไมมีผูใดโตแยง เห็นชอบ
กับคําพูดของขา” เจาตัวเล็กเอยปากตอไป
“อาก”
หั่วหลิงหนาดําหนาแดง เจียนกระอักเลือด รางกายลอยขึ้นจากราชรถ อักขระผนึก
กําลัง ปรากฏเปนปกของหงสไฟคูหนึ่งอยูดานหลังนาง แดงสดพราวระยับ บินโฉบมาหา
เจาตัวเล็ก
“ขาจะสังหารเด็กเวรอยางเจาเสีย!” หั่วหลิงมีทาทีโหดเหี้ยม ดวงตามีชีวิตชีวาคูนั้น
พนไฟ รางกายเพรียวระหงทีล่ อยอยูกลางอากาศดุจงูน้ํา พลิ้วไหวจนเกิดรองรอยอันไม
สามารถจินตนาการไดเปนทางๆ
“อา ศิษยนอง นี่เปนเคล็ดวิชาล้ําคาอันใด สามารถสรางปกไดเยี่ยงนี้ สอนขาสัก
หนอยสิ” เจาตัวเล็กมีทาทีดั่งศิษยคนดี เอยปากขอใหสอนอยางถอมตน
“ไอเด็กเวร!” เมื่อองคหญิงนอยแหงประเทศเพลิงโบกมือ เพลิงแดงดุจกระแสไฟ
ลอยมาแลวรวงลงมาเปนกลุมใหญ แผคลุมลงมา
เจาตัวเล็กหนีเตลิด ไมไดตอสูกับนาง พุงตัวเขาไปในถ้ําวิเศษของจุดที่ลึกยิ่งของทุง
หญา วิ่งหนีพลางตะโกนบอกวา “ศิษยนอง ขาไมอยากวาเจาหรอกนะ แตนิสัยของเจา
รายนัก กนใหญไมใชปญหาใหญ ลดความอวนก็พอแลวไมใชหรือ หมั่นออกกําลังกายเสีย
หนอย จะสามารถมีรูปรางสวยงามเชนเดียวกับขาในเร็ววัน”
“ขาจะฆาเจา!” หั่วหลิงบดฟนจนดัง มีศักดิ์เปนถึงธิดาแหงองคจักรพรรดิ ผูใดจะ
อาจหาญสัพยอกหยอกลอ แมแตสนทนากับนางก็ตองเคารพยําเกรง วันนี้เจาเด็กคนนี้
พูดจาสามหาวครั้งแลวครั้งเลา นางโมโหจนปวดทองแลว
“พรึ่บ”
บนทุงหญา เปลวไฟลุกโหม ซัดสาดมาเบื้องหนา หญาเฮียเฮียะถูกแผดเผา
กลายเปนทะเลเพลิง
นี่เปนสงครามไลลาครั้งใหญ สุดทายเจาตัวเล็กตอบรับสงคราม ปะทะกับหั่วหลิงอ
ยางดุเดือด ตอสูกันทามกลางเถาถาน นาพรั่นพรึงจนเหลาอัจฉริยะผินสายตา
นี่เปนถึงธิดาแหงจักรพรรดิ ไดรับการขนานนามวาอัจฉริยะ ถูกเรียกวาผูมีพรสวรรค
อันฟาประทาน ยิ่งใหญอยางที่สุด บัดนี้สูศึกกับเด็กคนหนึ่งอยางดุเดือดรุนแรง ยากจะ
จบสิ้นในเวลาอันสั้น
สุดทาย การตอสูสงบลง เจาตัวเล็กยังคงมีกําลังวังชาเชนเดิม หั่วหลิงหายใจกระหืด
กระหอบ เมื่อฝูงชนเห็นสถานการณ ตางก็ตะลึงพรึงเพริด
เขาหินลูกหนึ่งตั้งตระหงานอยูเบื้องหนา โอฬารใหญโตเหนือทุกสิ่ง กลางทุงหญามี
เพียงภูเขาใหญลูกนี้เทานั้น มันจึงดูสูงเสียดฟาและมโหฬาร
กึ่งกลางภูเขามีอุโมงคดํา ไมรูวาลึกปานใด กระจายกลิ่นอายอันพิศวง
บริเวณตีนเขามีสิ่งมีชีวิตกลุมหนึ่งรอทาอยูกอนแลว แตละผูแตละคนลวนยิ่งใหญ
จองมองตาเปนมัน ฉายแววตาเหี้ยมโหด
โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตเปนผูนําเหลานั้น แตละตัวพิสดารกันทั้งนั้น ไมธรรมดาเปนอยาง
มาก เชนสิงโตทองคําเกาเศียร ยักษสีเงินตัวสูงเกิน 10 กวาเมตร และยังมีสิ่งมีชีวิตราง
มนุษยซึ่งมีเขาเดี่ยวสีทองบนหัว หลังมีปกคู
ตางมีกลุมผูติดตามอยูดานหลังของพวกเขา หนึ่งในนัน้ ไมขาดมนุษยอัจฉริยะ ที่บัดนี้
กลับถูกกําราบ กลายเปนขาทาสของพวกมันไปจนสิ้น
“ในที่สุดพวกเจาก็มา เชื่องชายิ่งนัก เอะ องคหญิงแหงประเทศเพลิง เจาผานศึก
ใหญมาหรือ แลดูจะสูญพลังไปไมนอยเลย ทาทางโรยแรงนัก” ยักษเงินเอยปาก สุระ
เสียงดุจระฆังใหญ ดังกึกกอง สะเทือนหนาผาสั่นไหว
“อยาพูดเพอเจอ ศิษยนองขาเพียงลดความอวนก็เทานั้น” เจาตัวเล็กตอบ
เมื่อไดยินคําวา ‘ลดความอวน’ หั่วหลิงถลึงตาดวยความโกรธเกรี้ยว เสมือนกับถูก
กระตุนอยางใหญหลวง เจียนระเบิดพลังทําลายลางอีกครา
“เอะ เจาคือ…” สิ่งมีชีวิตรางมนุษยที่มีเขาทองงอกบนหัว มีปกหาสีคูหนึ่งงอกบน
หลัง ราชันแหงเผาขนนกเผยสีหนาตกตะลึง
ยิ่งกวานั้นคือ สิงโตเกาเศียรหันมองมาทางนี้ทันใด จากนั้นคลี่มวนรูปออก
เปรียบเทียบแลวกลาววา “เจานี่เอง… ขาคนหาสัตวรบแข็งแกรงมาโดยตลอด”
รางกายของมันไมไดใหญโตมากนัก แตเนื้อตัวปกคลุมดวยเกล็ดสีทองอยางเนือง
แนน ราวกับหลอมจากทองคํา กําจายแสงทองระยิบระยับ กดอัดผูคนประหนึ่งภูเขาลูก
ใหญ ลมปราณหลั่งไหลไมขาดสาย น้ําเสียงดุจสายฟาอันทําใหอกสั่นขวัญแขวน
ในตอนนี้เอง สิงโตทองเกาเศียรกลาวดวยความปลื้มปติวา “ขาทาสแหงขา ติดตาม
ราชันผูยิ่งใหญ ในภายภาคหนาขาจะใหความรุงโรจนอันไมรูจบรูสิ้นแกเจา ประทาน
เกียรติยศแกเจา”
“จะพูดเชนนี้ไมได ขายักษเลือดเงินมีความเปนมาอันไมมีผูใดทัดเทียมเชนกัน เจา
มนุษยหนุมติดตามขาเถิด มาเปนขาทาสของขา วันขางหนาเจาตองมีอานุภาพสะเทือน
ฟาดิน ไดเปนเจาคนนายคน” ยักษสีเงินกลาวดวยน้ําเสียงดุจกัมปนาท เขามีรูปราง
มหึมา เหมือนกับภูเขาเล็กลูกหนึ่ง
“พวกเจาทั้งสองหยุดแยงกันไดแลว มนุษยและเผาขนนกของขารูปรางใกลเคียงกัน
ตามหลักควรเปนสัตวรบของขาย” ราชันขนนกกลาว
เจาตัวเล็กใบหนาบูดบึ้ง ยื่นมือชี้นิ้วไปยังราชันขนนกกับยักษเลือดเงินแลวพูดวา
“พวกเจาสองคนหลบไป ขาไมกินผูที่มีรางมนุษย มาเปนขาทาสของขาเสียเถิด”
จากนั้นเขาก็ชี้ไปทางสิงโตทองเกาเศียรแลวเอยวา “เจาเปนคนแรกที่เอ็ดตะโรวาจะ
รับขาเปนสัตวรบ ไมรูวาจะอภัยใหเจาไดอยางไร เจาลงหมอมาเสียดีเถิด”
สิ่งมีชีวิตกลุมนี้ตางนิ่งอึ้ง ถลึงมองชายหนุมคนนี้ดวยแววตาประหลาด
ราชันขนนกหัวเราะแลวกลาววา “สัตวรบก็แข็งกราวเชนนี้แล มีอุปนิสัยของตน มิ
เชนนั้นจะยกทัพจับศึกไปทั่วทุกสารทิศไดหรือ” เขาลงมือทันทีขณะที่พูด
ยักษเลือดเงินไมยอมดอยกวา กาวยางไปดานหนาเชนกัน ยื่นมือใหญดั่งปุงกี๋ออกไป
ทางเจาตัวเล็กหมายฉวยโอกาสปราบปราม นําตัวมาเปนทาสรับใช
สิงโตทองคํารามเสียงดัง แสงทองสาดทอเปนกลุมใหญ มันใชเคล็ดวิชาล้ําคา เพื่อ
สะเทือนทั้งสองใหพนทาง ไปจัดการเจาตัวเล็กเพียงลําพัง
“พวกเจาทําขาโมโหแลวนะ!” เจาตัวเล็กใบหนาขึงขัง สิ่งมีชีวิตทั้งสามมองเขาเปน
อะไร? เหมือนกับเปนเหยื่อในเลาของพวกเขา อยากจะจัดการอยางไรก็ยอมได ไมได
สนทนากับเขาแมแตนิด เอาแตแยงชิงกันเอง
เขากระโดดขึ้นทันที ทั้งงายดายและโดยตรง หนึ่งหมัดพุงไปทางยักษเลือดเงิน
ปะทะกับฝามือใหญดุจปุงกี๋ แววเสียงดังดุจสายฟาฟาดกลางนภา อักขระระเบิด
บนทุงหญา หญาเฮียเฮียะถูกคลื่นกวาดผานจนลมโคนทั้งหมด ราบอยูบนธรณิน
กอนหินมากมายปลิววอน
ยักษสีเงินกูรอง รางกายถอยหลังโงนเงน ฝามือปุงกี๋มีเลือดไหลพรั่งพรูดังเปาะแปะ
แตเจาตัวเล็กกลับกระโดดขึ้นอีกครั้ง หนึ่งเทาถีบราชันขนนก
“โครม”
ราชันขนนกกระพือปก ขนนกวิเศษหาสีพุงมาอยางรวดเร็ว ประหนึ่งศรวิเศษทะลวง
นภา เสียงดังครืนครันสะเทือนแกวหู
“แควก”
ขาขวาของเจาตัวเล็กสองแสง สายฟาสีทองระเบิดออก ทําลายกลุมลูกศรดังตึงตัง
สุดทายก็สงเสียงดังปง เขาและราชันขนนกปะทะกันอยางรุนแรงครัง้ หนึ่ง
เขาลงสูพื้น ทวาราชันขนนกกลับถูกพลังมหาศาลสะเทือนจนตัวปลิว เลือดไหลออก
จากมุมปาก
“อยางพวกเจานะหรือ?” เจาตัวเล็กยิ้มเย็นแลวกลาววา “เปนสัตวรบของขายังจะดี
เสียกวา!”
เสียงโครมดังขึ้น แสงทองแผคลุมฟาดิน สิงโตเกาเศียรกระโจนเขามา ยิ่งใหญอยาง
ที่สุด รายกาจยิ่งกวาสิ่งมีชีวิตสองตนนั้นทับทวี ศีรษะทั้งเกาแผดรองยาว สะเทือนคีรี
ธาราสั่นไหว
เพียงมันโจนเขามา แผนดินก็แยกออก อุงเล็บสีทองมีพละกําลังมหาศาล กลิ่นอาย
จิตสังหารกดขี่คน ผูคนมากมายไมสามารถหยัดยืนตอไปไมได ถูกพายุคลั่งสีทองพัดจน
ปลิวออกไป
เม็ดทรายเริงระบํา กอนหินเกลือกกลิ้ง หญาเฮียเฮียะกลายเปนผุยผงเนิ่นนานแลว
กอนหินใหญขนาดแผนรองโมหินดุจสายฝน กอนหินหนักหลายพันชั่งดั่งลูกเห็บ ถูกพายุ
คลั่งสีทองมวนเขมือบ พุงไปทางเจาตัวเล็ก
“สะทอนกลับ!”
เพียงกาวออกมา เจาตัวเล็กก็ใชอาวุธไมตายทันที มือกํากระดูกล้ําคาของซวนหนี
แลวเสกใหเปนกระจก สองอักขระออกมาเปนวงกวาง สะทอนพายุคลั่งทั้งหมดกลับไป
ยอนเขมือบไปทางสิงโตทอง
และซอนตัวระหวางกอนหิน หนึ่งพุงตัวก็มาถึง ประหนึ่งใบไมรวงโรย รวงลงบนกาย
ของสิงโตทองอยางแผวเบา ทึ้งแผงคอของมันไวแนนแลวพูดวา “เปนยานพาหนะก็ไม
เลวนัก แตขาอยากกินหัวสิงหน้ําแดงจริงๆ!”
“โฮก…” สิงโตเกาเศียรคํารามลั่น สองแสงไปทั้งตัว อักขระผนึกกําลัง สะเทือนเจา
ตัวเล็กจนหลุดออกไปภายในพริบตา ทั้งสองสัมผัสกันในระยะประชิด เคล็ดวิชาล้ําคา
ปะทุ
เสียงวิ้งดังขึ้น เจาตัวเล็กฟาดมือที่กํากระจกกระดูกซวนหนี เกิดแสงสายฟานาพรั่น
พรึง แตภายในรางกายของสิงโตเกาเศียรมีลูกประคํากระดูกพุงขึ้นมาเปนพรวน แตละ
ลูกแวววาว ระเบิดแสงเจิดจา ลบลางการโจมตีครั้งนี้
ฝูงชนในเหตุการณตางหยุดนิ่ง ชายหนุมผูนี่แข็งแกรงยิ่งนัก โจมตีอสูรบรรพกาลสาม
ตนเพียงลําพัง สะเทือนจนลาถอยไปสอง ฝมือสูสีไลเลี่ยกับสิงโตเกาเศียร ไมดอยไปกวา
กัน ชางนาตื่นตะลึงนัก!
“เจาแข็งแกรงมาก หลายวันกอน มูเฟงแหงเผาภูติไปตามหาเจา เมื่อไปก็ไมหวน
กลับ คิดวาคงจะสิ้นชีพเพราะตอสูแลวกระมัง?” สิงโตทองเอยปาก ยามกะพริบตา เกิด
ลําแสงสีทองดุจแสงของดาบ นายําเกรงอยางที่สุด
“ขากินไปแลว” เจาตัวเล็กกลาว
“อะไรนะ?!” กลุมตางเผาพันธุที่อยูในเหตุการณตางตะลึงจนอาปากคาง ตามมา
ดวยอาการขนลุกขนชัน
“มีอะไรนาตื่นตกใจ หนนี้ขาเขามาในเขารอยยอดเพื่อกําราบทายาทอสูรบรรพกาล
ขนานแท เชนลูกของเจินโหว ทายาทของนกยักษปทอง เยี่ยงพวกเจานี้ อยาไดยั่วยุขา
เดินออมขาไปก็พอแลว หากอาจหาญยุแหยขา ก็ตองลงหมอเสียดีๆ” เจาตัวเล็กกลาว
พลางแสยะยิ้มเผยฟนขาวเต็มปาก
ชางอํามหิตนัก กําเริบเสิบสานเหลือเกิน นี่เปนความคิดของเหลาสัตวตางพันธุ
“ผานดานขาไปกอน คอยคุยโวโออวด!” สิงโตทองนัยนตาเย็นเยียบ บัดนี้นาเกรง
ขามอยางหาที่เปรียบมิได ยางสามขุมเขาประชิด อุงเทาย่ําลง ปฐพีแตกทลาย
“รูปลักษณไมเลวนัก กลับเกรียงไกร เชนนี้เปนไง ชวงนี้เจามาเปนพาหนะของขา
ขาจะกินหัวเล็กทั้งแปดของเจากอน เหลือหัวตรงกลางไวใหเจา” เจาตัวเล็กกลาวอยาง
จริงจัง
“รนหาที่ตาย!” สิงโตเกาเศียรบันดาลโทสะ หัวทั้งเกาพนลําแสงสีทอง กลายเปนมีด
บินเกาเลม ทั้งหมดลวนเปนสีทอง เจิดจาอยางหาที่เปรียบมิได ลอยไปทางเจาตัวเล็ก
“ขาหวังดีกับเจา มีศีรษะมากมายปานนั้น ถือเปนความพิกลพิการ หักใจฟนลงแปด
หัวเสียยังดีกวา สามารถปรุงอาหารเลิศรสและยาล้ําคาได” เจาตัวเล็กหลบมีดบินได
ระเบิดสายฟาอันไมสิ้นสุด แผคลุมไปทั่วบริเวณดานหนา
เขาสูรบครั้งใหญกบั สิงโตทอง ตอสูพลางกลาวกับหั่วหลิงวา “ศิษยนอง หัวสิงหทอง
เหลานี้ลวนเปนยาล้ําคา ประเดี๋ยวขาจะปรุงน้ําแดง ขาขอเชิญเจาและสหายรวมสํานักมา
รับประทานดวยกัน แตหากกินหมดแลวอยาลืมลดความอวนนะ”
องคหญิงแหงประเทศเพลิงพิโรธจนคิว้ ดกดําเตนตุบๆ นางรูสึกวาตนเริ่มจะประสาท
เสียแลว หรือบันทายงามของตนจะอวบอวนจริง มิเชนนั้นไยเจาเด็กเวรนี่จึงย้าํ หนักย้ํา
หนาเลา?
“สิงโตเกาเศียร เจาพูดเองวา ภายภาคหนามีความหวังทัดเทียมอสูรบรรพกาลไมใช
หรือ เรงกําราบเขาเสีย!” หั่วหลิงตะโกนเสียงนุม
…………………………………………..

[1] เฮียเฮียะ ใบสีเทาเขียว มีขนนิ่มๆอยูประปราย ดานลางสีเทาขาว มีขนจํานวน


มาก ใชเปนยาสมุนไพร รักษาตับ มาม และ ไต ใบใชเปนยาแกไอขับเสมหะ ใชเปนยา
หามเลือด บรรเทาปวด
[2] ยืมหอกสนองคืน แปลวา มาไมไหนก็ไปไมนั้น
บทที่ 122 สิงโตเกาเศียรปราชัย
อาทิตยสีแดงตกดินทางทิศตะวันตก ฟากฟามีรองรอยสีแดงอยูประปราย จวนจะ
มลายหายไป สีของทองฟามืดเริ่มสลัว
บนทุงหญา เสียงสิงโตคํารามสะเทือนฟา วิญญาณของผูคนแทบออกจากราง คน
ทั้งหมดตางถอยออกไปไกลอยางรวดเร็ว หลบเลี่ยงสนามรบนากลัวแหงนี้
เจาตัวเล็กตอสูกับสิงโตเกาเศียรครั้งใหญ จนทะลวงเขาสูใจกลางทุงหญา หางไกล
เขาหินโอฬารลูกนั้น ขอบเขตสนามรบกวางขวางยิ่งนัก แสงวิเศษแหงเคล็ดวิชาล้ําคา
สะทานฟา
สิงโตทองคํารามยาว หัวเกาหัวคํารามพรอมกัน สามารถมองเห็นระลอกคลื่นสีทอง
เกาเสนพุงขึ้นไดอยางชัดเจน ราวกับคลื่นยักษเกาลูก สะเทือนฟาดินดังสนั่นหวั่นไหว
นี่เปนเคล็ดวิชาล้ําคาแหงสายเลือดของสิงโตเกาเศียร เปนวิชาราชสีหคํารามขนาน
แท เมื่อปลอยคลื่นเสียงออกไป พสุธาก็แตกทลาย ตนหญามากมายบนทุงหญาหัก
หมอบคลานกันถวนหนา ภาพเหตุการณชางนาสะพรึงกลัว
เจาตัวเล็กตอตานอยางสุดกําลัง ทัง้ สองตอสูจนถึงจุดเดือด ปะทะตลอดทางจนไกล
ออกไปนับหลายรอยลี้อยางไรขอจํากัด ขอบเขตของสนามรบใหญขึ้นเรื่อยๆ
“โฮก…”
วิชาราชสีหคํารามนาครั่นคราม ศีรษะทั้งเกาแผดรองพรอมกัน คลื่นเสียงมี
ประสิทธิภาพ สามารถมองเห็นระลอกคลื่นกวางใหญกระเพื่อมดั่งคลื่นยักษไดอยางชัด
แจง มืดฟามัวดิน เสมือนคลื่นคลั่งกระทบฝง
พวกเขาพุงฆากันและกันไปทั่วทุกหนแหง เปลี่ยนแปลงสนามรบอยางตอเนื่อง
มองเห็นเขาหินกลางทุงหญาอีกครา ทวาภายใตเสียงคํารามของสิงโต คลื่นยักษสี
ทองมวนตัวผานไป เขาหินเตี้ยเหลานี้ลวนแตกออกเปนเสี่ยง มีกอนหินบางสวนระเบิด
กลายเปนผงละเอียด
ฝูงชนที่ไลตามมาตลอดทางตางตะลึงงัน แตละคนตัวสั่นระริก วิชาคลื่นเสียงนี้ราย
กาจยิ่งนัก หากมิใชสายเลือดสิงโตทองคํา มิสามารถสําแดงพลังวิเศษเชนนี้ได
ทุงหญากวางใหญ ราชสีหคํารามดวยความพิโรธ ผูกลาชวงชิงความเปนใหญ คําราม
สะเทือนคีรีธารา ปลาใหญยอมกินปลาเล็ก ผูที่ปรับตัวเขากับสภาพแวดลอมไดจึงจะมี
ชีวิตรอด นี่เปนสถานการณปจจุบันของดินแดนรกราง
สิงโตทองคํารูปรางนาหวาดกลัว กํายําและนาเกรงขาม ทุกครั้งที่อุงเทาสีทองคูนั้น
ย่ําลง มีพลังอันสามารกอความวิบัติครั้งใหญได อุงเทาปะทะกับหมัดของเจาตัวเล็ก
อักขระทวมทนทองฟา สุระเสียงกึกกอง ทําใหฝูงชนที่อยูไกลออกไปหวั่นเกรง
สิ่งที่ผูคนหวาดหวั่นมิใชสิงโตทองคํา แตเปนเงารางเล็กๆ นั่น ไยจึงมีพละกําลัง
มหาศาลถึงเพียงนี้ กระแทกดวยกายอยางมิดอยกวา ยิ่งกวานั้นคืออาจจะเกงกาจกวา
เปนเทาตัว
สิงโตทองใชอักขระหอหุมอุงเล็บสีทองทุกครั้ง มิไดใชเพียงพลังกายกําราบศัตรู ทุก
คราที่ทั้งสองปะทะกัน จะระเบิดเสียงสายฟาดังเปนระลอก คํารามผานทุงหญาแหงนี้ไป
“ชริ้ง”
นอกจากการตอสูดวยพลังกายแลว ระหวางทัง้ สองจะมีแสงเจิดจาพราตาปะทุขึ้น
อยางตอเนื่อง อาวุธล้ําคาก็ปะทะกัน มีดบินเกาเลมที่สิงโตเกาเศียรอาปากพนออกมา
ฟาดฟนอยางไมลดละ
นี่เปนอาวุธล้ําคานากลัวแหงเผาพันธุ มีสองลักษณะ หนึ่งคือกลายเปนดาบคม
ประเดี๋ยวก็แปลงเปนเขี้ยมคมของราชสีห เจิดจาพรางพราย ราวกับตะวันเกาดวงกดอัด
ลงมา
เห็นไดชัดวา มีดบินทั้งเกาเลมเสกมาจากเขี้ยวของสิงโตเกาหัว แตมิไดเปนของสิงโต
หนุมตัวนี้ เปนของสืบทอดมากจากผูอาวุโสของมัน มิเชนนั้นคงไมมีอานุภาพยิ่งใหญปาน
นี้
“ซิ่ว”
เขี้ยวคมสีทองเกาซี่ลอยกลางอากาศ แตละซี่ยาวหมี่กวา เปลงลําแสงนาตื่นตะลึง
บินเฉียดผานศีรษะของเจาตัวเล็กไป ฟนเสนผมรวงหลายเสน ฟาดเขาหินลูกหนึ่งที่อยู
ใกลเคียงจนหัก
“ชางเปนสมบัติที่รายกาจเสียจริง!” เจาตัวเล็กตะลึง เขาทุมสุดกําลัง กระจกล้ําคา
ในมือเปลงแสงสายฟาเจิดจาออกมาเปนสายๆ สองสะทอนไปทั่วนภา ตอสูกับศัตรูอยาง
ดุเดือด
“ตูม”
สายฟาฟาดลงบนเขี้ยวคมสีทอง ระเบิดเสียงดังสะทานฟา ประหนึ่งตีเหล็ก และ
คลายกับกลองวิเศษกูรองบนฟากฟา สะเทือนจนผูชมเหตุการณตางอกสั่นขวัญแขวน
เจาตัวเล็กเผชิญหนากับศัตรูขนานแท สิงโตทองคํานากลัวอยางแทจริง ทั้งสองสูจน
โกลาหลอลหมานไปหมด พายุคลั่งพัดหวีดหวิว ทั่วบริเวณทุงหญาสั่นไหว
“นากลัวยิ่งนัก เจามนุษยหนุมคนนี้มีความเปนมาอยางไรกันแน จึงสามารถทัดเทียม
กับสิงโตเกาเศียรเยี่ยงนี้ มิดอยแมแตนิด!”
“ไยขาจึงรูสึกวาพลังกายของเขาสามารถทัดเทียมกับทายาทอสูรบรรพกาลไดเลา นี่
มันนาเหลือเชื่อไปหนอยกระมัง?”
ฝูงชนวิจารณ สัตวตางพันธุเหลานั้นตางหวาดระแวง
กลางสนามรบ ตัวสิงโตเกาเศียรเองตะลึงพรึงเพริดยิ่งกวา มันอยูในขั้นสูงกวา แต
กลับสูสีไลเลี่ยกับศัตรู หากวาระยะเวลาบําเพ็ญเทาเทียมกัน มันคงไมสูดีเสียแลว
โครม!
ทั้งสองปะทะกันอีกครา สิงโตทองคําราม คลื่นเสียงกระเพื่อมขึ้นลงดุจมหาสมุทร
แผไปอยางมืดฟามัวดิน แตชายหนุมผูนั้นกลับเปนดั่งเทพเจา แสงสวางบังกาย รัศมีวิเศษ
ปกคลุม หยุดยั้งทุกสิ่งไว
เจาตัวเล็กเองก็สูจนคลุมคลั่ง ผิดแผกจากปรกติไป เปนครั้งแรกที่เปลืองแรงปานนี้
เลือดเดือดพลานไปทั้งราง นัยนตาตั้งขึ้น ความองอาจกลาหาญกดดันผูคน
“ฆามัน!”
บนศีรษะของเขาปรากฏปลองภูเขาไฟ ลาวาแดงฉานเกลือกกลิ้ง อาวุธล้ําคาสีทอง
หนึ่งชิ้นลอยกระเพื่อม สองแสงสวางละลานตา พุงออกมาฟาดไปยังสิงโตทอง
กรรไกรกระดูกปรากฏขึ้นอีกครา ประกอบจากกระดูกสีทองสองชิน้ ดั่งมังกรเจียว
สองตัวพันเกี่ยวกัน เปลงลําแสงคมกริบอันสามารถทําลายทุกสิ่งอยางได
กรรไกรเจียวทองพุง ออกไป เกิดเสียงเจียวคํารามเปนระลอก ทําใหสรรพสิ่งสั่น
สะทาน คุกเขาลงสวามิภักดิ์อยางไมรูเนื้อรูตัว!
สิงโตเกาเศียรพรั่นพรึง หลบซอนอยางรวดเร็ว แปลงเปนแสงทองหอเหยียดไปทั่ว
ทุงหญา ซายทีขวาที เสมือนกับทะเลสายฟาโชติชวงกําลังเคลื่อนไหว ใตเสียงซิ่วซิ่ว แสง
ทองประสานเปนกลุม ยอมทุงหญาจนเปนสีทอง
มันกําลังระเบิดเคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว เสียงแควกดังขึ้น กรรไกรกระดูกสีทองโฉบ
ผานไป ตัดเขาหินลูกหนึ่งหักเปนสองทอน ทอนบนพังทลาย กลิ้งหลุนๆ ลงมาดังกึกกอง
ฝุนควันพวยพุงอยางไมรูจบ
สิงโตทองจนตรอกอยางที่สุด แผงคอถูกตัดรวงเปนกอบกํา อีกทั้งหัวเจียนแตกออก
ถูกบาดจนเปนแผลนากลัว เลือดหลั่งริน อาบดวงตามันจนแดงฉาน
“โฮก…”
สิงโตคํารามสะเทือนฟา ลูกประคําลอยออกมาจากกายของมันวงหนึ่ง ราวกับหลอม
จากทองคํา แตละลูกโปรงแสง แสงสวางสาดทอ ประหนึ่งลูกโลกทั้งเกาอัดลงมา ปะทะ
กับกรรไกรกระดูก
เสียงดังดั่งสายฟาฟาด ที่แหงนี้เกิดการปะทะครั้งใหญ แสงวิเศษตลบอบอวล กลิ่น
อายสะทานฟา แสงสวางพราตาทวมทนทุงหญากวางใหญ นาสะพรึงกลัว แขงขาสั่น
พั่บๆ
“โครม!”
สุดทาย ทั้งเจาตัวเล็กและสิงโตทองตางกระอักเลือด ทั้งคูตัวลอยออกไป อาวุธล้ําคา
ของพวกเขาก็ยอนกลับ รวงหลนลงขางกายของพวกเขา
“สุดยอด!” เจาตัวเล็กไดรับบาดเจ็บครั้งแรกหลังจากเขาสูโลกใบนอยนี้
สิงโตเกาหัวหวาดหวั่นจิตใจ มันอายุมากกวาชายหนุมผูนี้ไมกี่ป ขั้นบําเพ็ญสูงกวา
มากโข ทวาเพียงเสมอกัน จะมิใหเกรงกลัวไดเยี่ยงไร!
“ทัดเทียมทายาทมังกรฉิวไดอยางแทจริง เขาเปนผูใดกันแน?” สิงโตทองคําเกิด
ความยําเกรง ในใจหวาดหวั่น กังวลผูอาวุโสที่อยูเบื้องหลังของเจาตัวเล็ก จะเปนสัตว
วิเศษเชนปเซี๊ยะหรืออิงหลง[1]จริงหรือไม?
ทางดานผูชมเหตุการณตางหวั่นใจอยางไมสิ้นสุด สิงโตเกาเศียรเปนผูโดดเดนในกลุม
อสูรบรรพกาลอยางแนนอน หากไดรับโชคใหญในภายภาคหนา บางทีอาจมีโอกาสแปร
เปลี่ยนเปนสัตวอสูรเลือดบริสุทธิ์ก็เปนได แตบัดนี้กลับไดรับบาดเจ็บ ยากจะปราบปราม
ชายหนุมผูนี้
“เอาอีก!” เจาตัวเล็กเอยปาก เก็บรอยยิ้มบริสุทธิ์ไปจนสิ้น ใบหนาพลันเครงขรึม
ตอนนี้เขาดุจเทพเจาสงคราม แววตานาสะพรึงกลัว กระโจนออกไป
“ฆามัน!”
สิงโตทองคํารามอยางคลุมคลั่ง เจาตัวเล็กกําจายแสงสวางทั่วรางกาย จันทราสีเงิน
หนึ่งดวงปรากฏขึ้น ปกคลุมเขาไวภายใน อีกทั้งภายในดวงจันทรยังมีราชวัง ตนไมเกาแก
ปกษาอสูรลวนปรากฏขึ้น ทําใหพลังอํานาจของจันทราสีเงินรุงเรืองมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน เขาอาปากพนไอหมอกออกมาเปนกลุม รายเคล็ดวิชาล้ําคาของซวน
หนี แผคลุมทั่วทุงหญา มานหมอกเชนนี้พิเศษยิ่งนัก แมแววตาดุจสายฟา ก็ยากจะ
ทะลวงผานได
“โฮก…”
เจาตัวเล็กคลุมคลั่ง ใชเคล็ดวิชาล้ําคาของอินทรีเกล็ดเขียวคุมกันกาย ใชเคล็ดวิชา
ล้ําคาของซวนหนีจโู จม พุงออกไปประดุจมังกรเจียว
มานหมอกดุจมหาสมุทร ทวมทนที่นี่โดยสิ้นเชิง ไมมีผูใดสามารถมองเห็นวาเกิดสิ่ง
ใดขึ้นกันแน เจาตัวเล็กเปดฉากสังหารอันนากลัวยิ่ง กายอยูกลางทะเลหมอก รางกาย
ระเบิดแสงสวาง กลายเปนเทพเจาสายฟาสีทอง
ไมมีผูใดมองเห็นการตอสูภายใน ไดยินเพียงเสียงคํารามของราชสีหและเสียงตะโกน
ของเจาตัวเล็ก ทั้งสองสูรบกันอยางดุเดือด สุดทายระเบิดกลุมแสงอันนาสะพรึงกลัว
ออกมาทันใด สะเทือนมานหมอกจะกระจายตัว
ฝูงชนตะลึงพรึงเพริด พบวาเจาตัวเล็กสูรบปรบมือกับสิงโตทอง โรมรันพันตู พลิกไป
พลิกมาบนทุงหญา ทั้งสองตางเปรอะเปอนคราบเลือด
อาวุธล้ําคากําลังปะทะกัน สะเทือนหูจวนดับ แสงวิเศษทะลวงเมฆา และกายหยาบ
ของพวกเขากําลังตอสูดวยเชนกัน เปดฉากการรบระยะประชิดที่อันตรายยิ่งและดุเดือน
รุนแรง
“ปง”
เจาตัวเล็กนั่งอยูบนตัวสิงโตทองคํา กําแผงคอของมันไวแนน จูโจมหัวที่ใหญที่สุด
ตรงกลางนั่นอยางสุดแรง เสียงสายฟาสะเทือนหู นากลัวอยางหาที่เปรียบมิได
“โครม”
ในตอนนี้เอง สิงโตทองคํานัยนตาเย็นเยือก หนึ่งเสียงคํารามดวยความโกรธา กลุม
แสงนากลัวลอยออกมา โจมตีแผนหลังของเจาตัวเล็ก นั่นเปนสิงโตสีทองนอยตัวหนึ่ง
สมจริงราวกับมีชีวิต
“มุทราราชสีห[2]ปราศจากความกลัว!”
คนมากมายที่อยูไกลออกไปตางอุทานอยางตะลึง อัจฉริยะแหงศาลาปดฟาใบหนา
ซีดเผือกในชั่วพริบตา เคล็ดวิชาล้ําคาชนิดนี้เลื่องชื่อนัก เปนพลังวิเศษปกปกษเผาพันธุ
สิงโตทองคํา
แมจะมีสายเลือดแหงราชัน ก็จําตองรอคอยใหโตเต็มวัยจึงจะสําแดงได ไมมีผูใด
คาดคิดวาสิงโตเกาหัวที่อายุนอยตัวนี้จะสําแดงมันออกมาในตอนนี้
มุทราวิเศษสะทานโลกา พลังอํานาจนากลัวอยางหาที่เปรียบไมได กําจายรัศมีแสง
พรางพราย ทําใหแผนดินทลาย กอนหินทะลวงนภา แสงทองทวมทนที่แหงนี้
มุทราสูตรนี้สามารถเคลื่อนภูเขาถมทะเล สามารถเรียกลมเรียกฝนได อีกทั้งยัง
สามารถยั่วยุสายฟาแหงสรวงสวรรคได มหัศจรรยและนากลัวอยางยิ่ง
แมสิงโตเกาเศียรไมไดฝกปรือ แตเพียงหนึ่งโจมตี สําแดงแบบจําลอง แตก็ทําใหผูคน
สั่นเทา ทุงหญาผืนนี้แตกออกเปนเสี่ยงๆ
เจาตัวเล็กลอยไปมา รีบหลบซอนอยางรวดเร็ว เขารูสึกถึงแผนดินจนถลมลงมา
มุทราราชสีหปราศจากความกลัวลวนเปนเชนนี้ องอาจและเผด็จการ มีพลังอันทําลาย
ลางสูง!
เจาตัวเล็กสบถเสียงเบา ไมไดใชเคล็ดวิชาล้ําคาของซวนหนีมาตอตาน และไมไดเสก
ปกษาอสูรบรรพกาลแตอยางใด แตแสงวิเศษปรากฏขึ้น ตองการสําแดงอีกวิชาหนึ่ง
ในใจคํานึงถึงแกนแทตั่งตางของการหยั่งรูดั้งเดิม โดยเฉพาะรูปประทับเหลานั้นที่
มังกรชือสูศึกเทพเจากับนกยักษปกทองสังหารเทพเจา ปรากฏขึ้นในสมองเปนฉากๆ
นั่นเปนบันทึกภาพเทพเจาสงคราม จารึกสงครามครั้งใหญที่เหลาผูดํารงอยูขั้นสูงสุด
แลกมาดวยชีวิต เขาเคยไดรับทางสวางจากสิ่งเหลานี้อยางไมรูจักจบสิ้น
ภายในรูปวิเศษเหลานั้นไมไดบันทึกเคล็ดวิชาล้ําคา แตการใชอักขระและ
ความหมายอันลึกซึ้งเปนตน กลับมีจารึกไวในการหยั่งรูดั้งเดิม
เจาตัวเล็กเคลื่อนไหวไปมา อักขระปรากฏแปลบปลาบยางกางมือ เปลี่ยนแปลง
อยางตอเนื่อง ในปากตะโกนลั่นวา “ถอน!”
เขาไมไดกระทําตามรูปจารึกเทพเจาสงครามแตอยางใด เพราะไมเคยมีสงครามที่
คลายคลึงกันมากอน สถานการณแตกตาง หากลอกเลียนแบบซี้ซั้วอาจนําความตายมาสู
ชีวิตก็เปนได
อักขระในมือเจาตัวเล็กแปรเปลี่ยนไมหยุดหยอน ตั้งแตอักขระไฟไปถึงอักขระ
สายฟา กระทั่งอักขระลม กอเกิดเสียงแผดรองเปนพรวนไมขาดสาย ถอนกําลังอยาง
ตอเนื่อง ขณะเดียวกันรางกายของเขาก็โซเซโงนเงน ประเดี๋ยวก็รุดหนาดุจเทาเที่ยว
ประเดี๋ยวก็ทะยานฟาดั่งวานรบรรพกาล ประเดี๋ยวก็มุดลงทะเลดุจมังกรชือ
เพียงชั่วพริบตา ทวงทาของเจาตัวเล็กเปลี่ยนแปลงไปกลายสิบครั้ง บางก็เขาจูโจม
บางก็กระโดดถอยหลัง และอักขระยามกางมือของเขาก็เปนเชนเดียวกัน
“โครม!”
มุทราราชสีหปราศจากความกลัวหมดพลังในที่สุด ถูกเขาขจัดจนสิ้น กําลังถูกถอน
ออกไปเสียแลว
เจาตัวเล็กไมไดใชเคล็ดวิชาล้ําคาแตอยางใด ลวนใชอักขระ นานาชนิดประสานรวม
เปนหนึ่ง แปลงเสื่อมโทรมเปนมหัศจรรย ทําลายมุทราราชสีหปราศจากความกลัว
นี่เปนใบเบิกทางจากรูปจารึกเทพเจาสงคราม แสงวิเศษปรากฏขึ้น พิสูจนวา
สงครามครั้งใหญยงิ่ ไมจําเปนตองใชพลังวิเศษเยยปฐพีเสมอไป เขารูสึกราวกับเหยียบ
ยางเขาสูโลกใบใหม รูแจงกระจางใจขึน้ ทันที
สิงโตทองนัยนตาหมนแสง พลังวิเศษอันนากลัวนี้ดูดซับพลังปราณของมันมาก
เหลือเกิน ทุกขระทมซึมเศรา มันหันหลังหลบหนีทันที
“จะไปไหน!”
เจาตัวเล็กกระโดดขึ้นขี่สิงโตเกาเศียร ยกกําปนแลวฟาดลงไปดวยความเกรียงไกร
อยางหาที่เปรียบมิได
ฝูงชนตะลึงงัน สิงโตทองปราชัยเสียแลว พลังปราณของมันไมเพียงพอ กําลังเริ่มโรย
รา จวนถูกเจาตัวเล็กกดอัดลงกับพื้น
สิงโตเกาเศียรคํารามอยางโมโหโทโส แสงทองลุกโชติชวงทั่วกาย สั่นหัวกระดิกหาง
ระเบิดเคล็ดวิชาล้ําคา หมายแยกเจาตัวเล็กออกไป ทวาเจาตัวเล็กก็เปลงประกายแสง
เชนเดียวกัน สายฟาผนึกกําลัง ทําการกําราบ
เมื่อทอดมองออกไปไกล เขาเหมือนเทพเจาตัวจอยองคหนึ่ง นั่งอยูส ัตววิเศษ ลง
มายังโลกมนุษย
ฝูงชนจังงัง นี่เปนถึงราชสีหผูยิ่งใหญ ไดรับสมญานามวา ผูไรพายตัวนอย แตกลับ
แพพายเชนนี้ บัดนี้ตกอับกลายเปนพาหนะ!
“เจาทําใหขาลังเลใจ หากขี่สิงโตทองคําออกจากบานจะนาเกรงขามปานใดกันนะ
หากจะใหเขมือบเจาเลยก็นาเสียดาย” เจาตัวเล็กพึมพํา
เขาเคยไดยินวา เมื่อครั้งบรรพกาล สิงโตทองคําจัดอยูในยานพาหนะสิบอันดับแรก
แมแตทวนเทพก็รักใครยิ่งนัก มันมีเนื้อตัวสีทองแวววาว มีเกาเศียร กลาหาญชาญชัย
อยางหาที่เปรียบมิได
เจาตัวเล็กกระหยิ่มยิ้มยอง สัตวพาหนะที่แมแตเทพเจาซึ่งประเทศเกาแกเซนสรวง
ยังตองศิโรราบ บัดนี้ตนมีครอบครองหนึ่งตัว กินมันเสียหรือเลี้ยงไวดีละ?
“อยางนี้เปนไง ขากินหัวของเจาเสีย ขาจะรักษาใหดวยยาล้ําคาในภายหลัง หัวของ
เจาสามารถงอกขึ้นมาใหมได เจาวาดีไหม?” เขาพูดดวยน้ําเสียงหารือ
องคหญิงแหงประเทศเพลิงและอัจฉริยะกลุมหนึ่งไดยินดังนั้นก็หมดคําพูด แต
สิ่งมีชีวิตตางพันธุกลับขนลุกขนพอง ชางอํามหิตเสียจริง!
“โฮก!” สิงโตเกาเศียรคํารามอยางพิโรธ แสงทองระเบิด ทวมทนทุงหญากวางใหญ
“อยากริ้วสิ มิเชนนั้นขาจะกินเจาเสียเดี๋ยวนี้” เจาตัวเล็กกลาวคุกคาม ตอนนี้เขา
สับสนนัก ปรารถนาจะปรุงอสูรบรรพกาลน้ําแดงทันที แตกลับตองการจะเก็บไวเปนสัตว
พาหนะเสียอยางนั้น
………………………………………………….
[1] อิงหลง เปนชื่อเรียกของมังกรมีปก นับเปนสุดยอดมังกร
[2] มุทรา เปนทาทางแสดงสัญลักษณทางพิธีกรรมในศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธ
[1] สวนมากเนนที่ลักษณะมือและนิ้ว มุทราแตละทาจะแฝงนัยความหมายทางจิต
วิญญาณแตกตางกันไปตามประติมานวิทยาและการฝกจิตที่พบในศาสนาแบบอินเดีย
บทที่ 123 ถ้ําวิเศษ
สิงโตเกาเศียรยอมพิโรธอยางสุดแสน สายเลือดสูงศักดิ์ ความหลังอันยิ่งใหญ ผูใด
กลาใชมันเปนสัตวพาหนะ เวนแตทวยเทพบรรพกาลกลับชาติมาเกิดเทานั้น!
แสงทองปะทุ ทุงหญาถูกยอมจนเปนสีทอง มันลอยหนาลอยตา อักขระแนนขนัดทั่ว
ราง ตอตานอยางรุนแรง หมายสะเทือนมนุษยหนุมผูนี้ใหตาย
อยางไรก็ตาม เจาตัวเล็กจิกแผงคอมันไวแนน ขี่บนกายของมันอยางมั่นคงดุจหิน
แกรง นิ่งไมไหวติง ประหนึ่งหลอมรวมเปนหนึ่งกับมัน เติบโตอยูเบื้องบน
“หากเจายังหาเรื่อง ขาจะกินเจาจริงๆ นะ!” เจาตัวเล็กตักเตือนอยางจริงจัง
“สังหาร!”
สิงโตเกาเศียรพยายามสุดกําลัง ยอมไมยอมศิโรราบ อักขระพุงออกรางกาย ทาทาง
ผลาญลางหยกศิลา[1]อยากบับคั้นใหเจาตัวเล็กลุกอาจจากหลังของมันไปเสีย
เงียบสงัดไรเสียง ลูกประคํานั่นโผลมาอีกครั้ง แตละลูกสุกใสแพรวพราว ประหนึ่ง
ลูกโลกใบนอย หอมลอมดวยหมอกขมุกขมัว กําราบเจาตัวเล็ก ขณะเดียวกันก็แปลง
เขี้ยวคมใหเปนมีดบิน ฟาดไปยังศีรษะของเขา
“ชริ้ง”
กรรไกรกระดูกสีเงินแผดรองแผวเบา กระจกล้ําคาซวนหนีสองแสงเชนเดียวกัน
ขัดขวางอาวุธล้ําคาทั้งสองชนิด ปะทะกันอยางดุเดือด
เจาตัวเล็กพิโรธ ไมปราณีอีกตอไป หนึ่งมือจิกแผงคอสีทองของมันไว อีกหนึ่งมือกํา
หมัดโจมตีกะโหลกของมัน แสงทองแตกกระจาย งดงามดุจภูเขาไฟปะทุ ที่นี่เกิด
ลมปราณจลาจลวุนวาย
“โฮก…”
สิงโตทองคําครวญครางดวยความเจ็บปวด สงเสียงแผดรอง หนึ่งหัวของมันถูก
กระหน่ําตีจนเหวอะหวะ แทบจะแยกออกอยูรําไร
“เจามนุษยหนุม เจาทําขากริ้วแลวนะ!”
สิงโตเกาเศียรคํารามดวยความเคียดแคน ขนสีทองลุกตั้งชัน แลดูนาสะพรึงกลัว
เล็กนอย ศีรษะหนึ่งของมันขยายตัวอยางรวดเร็ว ใหญขึ้นอยางทวีคูณ ประหนึ่งแทนรอง
โมหิน แสงทองจาตา
“ศิษยนองระวัง!” ดานหลัง ศิษยพี่ผูหนึ่งของศาลาปดฟาตะโกนเตือน สิงโตเกาเศียร
จะระเบิดตัวเองแลว
เจาตัวเล็กตะโกนหนึ่งเสียงแลวกระโดดขึ้น หลุดจากหลังของสิงโต เขาไมตองการ
พินาศไปพรอมกับอีกฝาย
อยางไรก็ตาม สิ่งที่ทําใหผูคนประหลาดใจคือ หัวสิงหที่ขยายพรวดพราดนั้นกลับหด
เล็กลงอยางรวดเร็ว กลับคืนสูสภาพเดิมในชั่วพริบตา ยิ่งไปกวานั้น สิงโตเกาเศียร
ตองการใชอาวุธล้ําคาโจมตีเจาตัวเล็ก หมายสังหารเขากลางนภา
“เจาสิงโตพิสดารนาชัง!” เจาตัวเล็กตะเบ็งเสียงเย็น แผดเสียงกองกังวาน แปลงราง
เปนทะเลสายฟา สายฟาสีทองเริงระบํา แมแตเสนผมก็แปรเปลี่ยนเปนสีทอง ราวกับดวง
ตะวันเจิดจาระเบิด
“ไป!”
เขาเก็บกรรไกรกระดูกที่ดวลกับลูกประคํากลับมา ใหไปฟาดฟนสิงโตเกาเศียรแทน
และตัวเองกลับใชเคล็ดวิชาล้ําคาที่แข็งแกรงยิง่ ควบคุมสายฟา เผชิญหนาการโจมตีจาก
ลูกประคํา ขัดขวางอาวุธล้ําคาของมัน
“โครม”
เจาตัวเล็กใชเคล็ดวิชาล้ําคาตอตานลูกประคําทั้งเกาอันโปรงแสงแวววาว แจมจรัส
อยางหาที่เปรียบมิได ราวกับตอสูกับโลกหลายใบ ถูกสะเทือนจนเลือดหลั่งออกจากมุม
ปาก
ฝูงชนพรั่นพรึง สะพรึงกลัวอยางที่สุด รางกายของเจาหนุมคนนี้ตองแข็งแกรงปาน
ใด? ใชเคล็ดวิชาล้ําคาตอตานลูกประคําสีทอง ผลกลับสูสีคูคี่อยางคาดไมถึง สามารถตี
เสมอกับมันได!
ขณะเดียวกัน กรรไกรกระดูกสีทองสรางประโยชนอยางใหญหลวง แปลงกายเปน
มังกรเจียวสองตัว พุงทะยานลงมาอยางรวดเร็ว หางคูพันเกี่ยว สงเสียงมังกรคํารามเจียว
แผดรอง ทะลวงฟากฟา ฟาดฟนไปอยางรวดเร็ว
สิงโตทองหวาดผวา หลบซอนเปนพัลวัน แตก็สายไปเสียแลว เสียงดังผลุบแววมา
สองเศียรฝงซายของมันถูกฟาดจนขาด เลือดพุงพรวดอยางบาคลั่ง รวงลงสูธรณิน
“อาก…” มันสงเสียงคํารามสะทานฟาสะเทือนโลกา เปยมดวยความไมยอมจํานน
แลวหวาดกลัว เก็บคืนอาวุธล้ําคา ลาถอยอยางรวดเร็ว
“ผลุบ” “ผลุบ”
สองเสียงดังขึ้นอีกครั้ง ประกายเลือดพุงสูงหลาย 10 เซี๊ยะ ศีรษะสีทองรวงลงบน
พื้นดินอีกสองหัว สิงโตทองคํารามอยางโศกา สองเศียรริมขวาสุดถูกกรรไกรกระดูกตัด
จนหลุดออกจากบา
มันไมไดเหนือธรรมชาติเชนเจาตัวเล็ก ไมสามารถใชเคล็ดวิชาล้ําคาตอตานกรรไกร
เจียว
เพราะไมวาจะเปนกรรไกรกระดูกสีทอง หรือลูกประคําสีทองของมัน ลวนเกิน
ขีดจํากัดของรางกายมัน สิ่งมีชีวิตทั่วไปจะสามารถตอตานขามขั้นไดเยี่ยงไร?!
บัดนี้ เขี้ยวคมทั้งเกาหวนกลับ หายลับเขาไปในกายของสิงโตทอง ลูกประคําทั้งเกา
สองแสง ปรากฏอยูใตฝาเทาของมัน จากนั้นลุกโหมดุจแผดเผา ทําใหมันกลายเปนกลุม
แสง ลอยระนาบพื้นดินจากไปที่ไกลหางอยางรวดเร็ว
“ไปไหนแลว ทิ้งอาวุธล้ําคาของขาไวเสีย ยังมีหัวสิงหล้ําคาของขาเลา!”
เจาตัวเล็กตะโกนลั่น หยัดยืนบนกระจกล้ําคาขาวกระจางแวววาว แสงสวางพราว
ระยับ เขาก็อยูเหนือพื้นดินเชนกัน พุงตัวลงไปอยางรวดเร็ว ในมือกํากรรไกกระดูกสีทอง
ไลลาติดตามอยางไมลดละ
คนมากมายไมเขาใจ มีเพียงศิษยแหงศาลาปดฟาที่รูแจงกระจางใจ ถอยคําที่พูดวา
คืนอาวุธล้ําคาแกเขา ก็คืออาวุธสองชิ้นของสิงโตทอง เพราะในความคิดเขา นี่ถือวาเปน
ของเขาแลว
ฝูงชนหวาดผวา สงครามนี้ปดฉากลงเพียงเทานี้ สิงโตเกาเศียรแพยอยยับ เจาตัวเล็ก
ยิ่งใหญเหลือเกิน
หั่วหลิง อีกทั้งมนุษยอัจฉริยะหลายสิบคนตางหวาดหวั่นอยางหาที่เปรียบมิได และ
สิ่งมีชีวิตเชนยักษเลือดเงิน ราชันขนนกตางขวัญหนีดีฝอ ชายหนุมคนนี้อํามหิต
เหลือหลาย ตีสิงโตเกาเศียรจนพาย บัดนี้จะเขมือบมัน ทําใหพวกเขาขนลุกขนชัน
ยามหวนคิดถึงเมื่อตอนที่พวกเขาตองการรับชายหนุมคนนี้มาเปนสัตวรบ สิ่งมีชีวิต
เหลานี้ตางสั่นเทิ้ม นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ ยั่วยุปลุกปนราชันปศาจตัวนอยเขาเสียแลว
คนทั้งหมดไลตามติดไป หมายตองการเห็นผลลัพธสุดทายใหประจักษแกตา
สิงโตทองถูกไลลาจนหนีไตขึ้นฟาก็ไรทาง แทรกแผนดินหนีก็จนปญญา สะบัดเจา
หนุมใจเหีย้ มเบื้องหลังคนนั้นอยางไรก็ไมหลุด แมรูปโฉมจะมองดูงดงาม แตในความคิด
ของมัน เหมือนสัตวรายบรรพกาลกําลังอาปากกวางดุจอางเลือด จองเขมือบมัน
สุดทาย มันถูกบีบคั้นจนอับจนหนทาง หนีไปถึงเบื้องหนาของเขาหินมโหฬาร หาได
แยแสอันใด พุงเขาไปในอุโมงคดํามืดที่ตั้งอยูกึ่งกลางภูเขาแหงหนึ่ง
“สิงโตเกาเศียรเขาสูถ้ําวิเศษแลว!” กลุมคนอุทานอยางตกใจ
“ไมได พวกเราจําตองเรงตามเขาไป ไมเชนนั้นมันอาจชวงชิงโชคแหงเทพเจาไปก็
เปนได ประเดี๋ยวจะไมทันการณ!” องคหญิงนอยประเทศเพลิงเอ็ดตะโร
เหลาสัตวตางพันธุเชนยักษเลือดเงิน ราชันขนนกสองจิตสองใจ ไมรูวาจะเขาไป
หรือไม
“ทานทั้งหลาย พวกเรารวมมือกันเถิด!” หั่วหลิงเอยปาก คิ้วหนาโกงเล็กนอย
ใบหนาขาวกระจางดุจหิมะฉายแววตื่นเตน นางรูดีวาที่นี่เปนสถานที่ลวงลับของเทพเจา
องคหนึ่ง
เจาตัวเล็กหยุดอยูหนาถ้ําวิเศษ ไมไดยางเขาไป ภายในมืดสนิท ลึกล้ําอยางหาที่
เปรียบมิได แววเสียงร่ําไหเปนระลอก เสมือนผีรายมากมายกําลังรองไหคร่าํ ครวญ
และในตอนนี้ ดวงดาราเต็มทองนภา จันทราสีเงินลอยเดน ถ้ําวิเศษภายใตรัตติกาล
มืดมิดคลายคลึงกับถ้ําชั่วรายนาเกรงขาม
“เด็กเวร เจาจะเขาไปพรอมพวกขารึไม?” หั่วหลิงเอยถามพลางชายตามองเขา
“หากขาเขาไป จําตองกําราบสิงโตเกาเศียรใหเปนสัตวพาหนะของขา อาจกอใหเกิด
เหตุจลาจลครั้งใหญได” เจาตัวเล็กกลาวตามจริง
หั่วหลิงพูดคัดคานหนักแนนวา “ไมได เมื่อเขาไปหามเปนปรปกษกัน อาจสะเทือน
พลังตองหาม พวกเราจําตองรวมมือกันสํารวจ ที่นี่เปนที่จําศีลของเทพเจาบรรพกาลองค
หนึ่ง มีขุมทรัพยที่เขาเหลือทิ้งไว”
“อยางนั้นเจาชดใชสัตวพาหนะแกขาเสียสิ!” เจาตัวเล็กกลาว เวลานี้สายฟาสีทอง
มลายไป เก็บคืนอาวุธล้ําคาทั้งสองชิ้น ผอนคลายอยางสิ้นเชิง
“ไมมี!” องคหญิงประเทศเพลิงถลึงตาใสเขา
“งั้นขาไมไป” เจาตัวเล็กสายหนา ดวงตากะพริบ กลาวตักเตือนและเตือนสติอยาง
จริงจังวา “ขาคิดวาที่แหงนี้พสิ ดารนัก ทําใหรูสึกกระวนกระวาย เจาอยาเขาไปเลย อยู
ดานนอกเถิด ขาจะเลี้ยงหัวสิงหน้ําแดง”
“เจาขี้ขลาด!” องคหญิงประเทศเพลิงขมวดคิ้ว นางนับถือพลังการตอสูของเจาตัว
เล็ก หวังใหเขาเขารวม แตเมื่อเห็นเขาปฏิเสธเด็ดขาดปานนี้ จึงรูวาหมดหนทางเสียแลว
สุดทาย หั่วหลิงก็นําอัจฉริยะหลายสิบชีวิตเขาสูถ้ําวิเศษ
สิ่งมีชีวิตทั้งหลายเชนยักษเลือดเงิน ราชันขนนกก็เรงตามหลังไป รวมมือกับองค
หญิงประเทศเพลิง เดิมทีพวกเขายังลังเลใจ หากแตมองเห็นเจาตัวเล็กขบฟน คนกลุมนี้
พลันหนังหัวชา ผูใดเปนอสูรบรรพกาลกันแน? เจามนุษยหนุมคนนี้ไยจึงจองเขมือบพวก
เขาอยางโหดเหี้ยมอํามหิตเชนนี้
สิ่งมีชีวิตเหลานี้เกรงกลัวอยางแทจริง แมแตสิงโตเกาเศียรผูยิ่งใหญยังปราชัย ผูใด
อาจหาญตอกรกับเขา? ทุกผูทุกคนลวนสั่นเทา ไมกลาอยูรวมกับเขา
เหลาลูกศิษยแหงศาลาปดฟาไมไดเขาไป ตลอดการเดินทาง พวกเขาเชื่อมั่นเจาตัว
เล็กยิ่งนัก จึงเฝารออยูดานนอกพรอมกับเขา
“ศิษยนอง เจาบาดเจ็บหรือ?” ศิษยพี่โฉมงามผูหนึ่งยื่นยาวิเศษขวดหนึ่งให เพื่อให
เขาใชรักษา
“ไมเปนไร ประเดี๋ยวกินขาวสักมื้อก็เพียงพอแลว ขากระอักเลือดเล็กนอยเทานั้น
สิงโตตัวนั้นเกงกาจเสียจริง เหนือความคาดหมายของขานัก” เจาตัวเล็กสายหัว
ทุกคนตางหมดคําพูด เกงกาจมากหรือ สิงโตเกาเศียรยอมจัดอยูในอันดับสิ่งมีชีวิตที่
ยิ่งใหญ ถูกเจาฟนจนหัวหลุดออกมาถึงสี่หัว หากเรื่องนี้แพรงพรายออกไป ตองกอเกิด
คลื่นลูกใหญเปนแนแท
“เริ่มปรุงอาหารได!” เจาตัวเล็กยินดีปรีดา น้ําลายไหลยอย
หัวสิงหทองสี่หัวถูกศิษยทั้งสามลากเอามา ปราศจากกลิ่นคาวเลือด กลับกันมันมี
กลิ่นหอมหวน เห็นไดชัดวาเลือดเนื้อของมันมีฤทธิ์ยาล้ําเลิศปานใด
บริเวณใกลเคียงกับขุนเขามีแมน้ําสายหนึ่ง เมื่อผานหนึ่งกระบวนการ หัวสิงหทั้งสี่
ถูกถลกหนังและชําระลางจนสะอาดเอี่ยมออง ตั้งหมอสําริดเสียริมแมน้ํานี่แหละ
“ศิษยนอง เจา… ชางเตรียมพรอมครบคันเสียจริง” ศิษยพี่แหงศาลาปดฟามีสีหนา
พิลึก
ถึงวายามของเขาหนักเหลือเกิน ดานในมีหมอสําริดใบเล็กอยูดวย คลายกับยายบาน
เสียจริง มีพรอมทุกสิ่งอยาง
“หมอสําริดปรุงหัวสิงหไดดีที่สุด หมอโลหะไมหนาพอ” เจาตัวเล็กพูด
เปลวไฟเริงระบํา เวลาผานไปหนึ่งชั่วยาม หัวสิงหในหมอสําริดสองแสง ลอยผลุบๆ
โผลๆ ในน้ําเดือด แสงสวางไหลเวียน กลิ่นเนื้อหอมกรุนโชยแตะจมูก
“ศิษยพี่ใสยาวิเศษสี่ตนนั้นลงไป ยาล้ําคาหมอนี้จะทวีความตื่นตะลึง” เจาตัวเล็กสูด
กลิ่นหอมหวน เผยสีหนาเคลิบเคลิ้มลุมหลง
ยาวิเศษสี่ตนที่เด็ดจากริมทะเลสาบโชยกลิ่นหอมปะทะจมูก แสงสวางหอมลอม แต
ละตนระยิบระยับ ถูกใสลงไปในหมอสําริด พนสาดแสงมงคลโดยพลัน
“จวนจะเสร็จแลว ตุนอีกสักประเดี๋ยวจนน้ําแหงเหือด เชนนี้หัวสิงหจึงจะไดรสชาติ”
ปดฝาหมอ เปลวไฟลุกโชน กลิ่นหอมลอยปะทะ หัวสิงหถูกตุนจนเหลืองอราม เนื้อ
เปอย เลือดกลายเปนแสงสวางหลอมรวมอยูในน้ําขน จากนั้นคอยๆ ซึมเขาสูเนื้อหอม
กรุน
ไมจําเปนจะตองอธิบายใหถี่ถวน นี่ตองเปนยาล้ําคาอันยากจะจินตนาการอยาง
แนนอน!
สวนสําคัญมากมายของสิงโตเกาเศียรรวมตัวอยูในเศียรทั้งแปด ไมใชเศียรที่แทจริง
แตเปนจุดกักเก็บพลังปราณและความวิเศษ แฝงดวยพลังสีทองมหาศาล
เมื่อตุนมัน พลังวิเศษของสายเลือดสิงโตเกาเศียรจึงหลอมละลายทันที กลายเปนยา
ล้ําคาหนึ่งหมอ กําจายแสงสวาง หอมกรุนแตะจมูก
บวกกับการใสยาวิเศษทั้งสี่ลงไป ฤทธิ์ยาจึงมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ของเหลวสี
ทองในหมอดุจแสงตะวัน เจิดจาจนทําใหลุมหลงมัวเมา
“หอมเหลือเกิน ทนไมไหวแลว” เจาตัวเล็กเลียริมฝปาก น้ําลายแทบจะไหลหยดลง
มา ดวงตาเปนประกายระยิบระยับ
“เสร็จแลว ไดที่แลวละ” ศิษยพี่ผูหนึ่งกลาว
“กินขาวไดแลว!” เจาตัวเล็กรองเรียก จวงหัวสิงหเหลืองทองขึ้นมา กัดไปคําหนึ่ง
เขาปากแลวละลายทันที ของเหลวสีทองไหลทะลัก แสงสวางพรั่งพรู ราวกับเปลวไฟ
มอดไหม
“ล้ําเลิศนัก สรรพคุณยานาตื่นตะลึงเหลือเกิน!” ศิษยทั้งหลายตางอุทาน รูสึก
รางกายของตนกําลังพนไฟ แสงสวางหลั่งไหลออกจากรูทวารทั้งเจ็ด
“รีบกินเขาสิ กินตอนรอนรสชาติดียิ่งนัก” เจาตัวเล็กกลืนกินคําใหญ น้ําขนสีทอง
ไหลหลั่ง กลิ่นหอมฟุงขึ้นจมูก จวนทําใหกระดูกเหน็บชา
“ไดยินมาเนิ่นนานแลววา ศีรษะของสิงโตเกาเศียรพิเศษนัก เปนหนึ่งในอาหารโอชะ
แหงโลก และเปนทั้งยาล้ําคา คงจะเปนความจริงเสียแลวกระมัง” แมแตศิษยพี่รูปงามทั้ง
สองก็ไมแยแสรูปลักษณ รวมวงแยงชิง
หัวทองไรกระดูก ลวนเปนของเหลวขนและเนื้อหอมสีทอง ไมใชกะโหลกแทจริง
เปยมดวยพลังวิเศษ
เหลาอัจฉริยะจากศาลาปดฟากินไปหนึ่งหัวครึ่ง ดื่มกินน้ําซุปสีทองไปเกือบครึ่ง และ
ไมสามารถขยับเขยื้อนไดอีก นั่งขัดสมาธิทันที เคลื่อนไหวอักขระ เริ่มเขาสูการบําเพ็ญ
เจาตัวเล็กรองฮึมฮัม อิ่มหนําสําราญ เขากินอยางหนาชื่นตาบาน ของเหลวสีทอง
แตกกระเด็นเซ็นซานไปทั่วปาก ถึงอกถึงใจ แทบจะกลืนลิ้นลงไปดวย
“อิ่มมาก!” เขากินหัวสิงหสีทองไปสองหัว กับน้ําซุปสีทองที่เหลือเกือบครึ่งหมอ เอน
กายลงบนผืนหญาริมแมน้ําอยางเกียจคราน
“ศิษยนอง หามขี้คราน รีบฝกปรือวิชา ใชโอกาสนี้บรรลุเสีย” ศิษยพี่ผูหนึ่งเรงเรา
“ไมตองหรอก ขาหลอมพลังปราณมหาศาลเหลานนี้เขาสูเลือดเนื้อและกระดูก ใช
มันในการบรรลุครั้งตอไป” เจาตัวเล็กเรอดวยความอิ่มเอมใจ
เขาเพิ่งบรรลุจากการใชหัวใจเมฆามวง เปดถ้ําสวรรคแหงที่เจ็ด บัดนี้ไมอยากรีบเรง
จําตองสรางพื้นฐานใหมั่นคง ทั้งนี้จะไดไมทิ้งอันตรายแฝงเรนใดๆ ไว
คอนคืนหลัง แสงสวางเจิดจา อัจฉริยะทั้งหาบรรลุติดตอกัน แตละคน
กระปรี้กระเปรามีชีวิตชีวา กระโดดลุกพรวดขึ้น เต็มไปดวยความปลาบปลื้มและระทึกใจ
“ขอบใจศิษยนอง!” พวกเขาขอบคุณดวยใจจริง
“ไมเปนไร หนหนาพวกเราไปกินเฝยหยีกับเสือขาว ที่นี่มีของอรอยเต็มไปหมด” เจา
ตัวเล็กกลาวอยางไมยี่หระ จากนั้นก็นอนหลับอุตุ เขาสูหวงนิทรา ใบหนาแตมรอยยิ้ม
บริสุทธิ์
พวกเขาจองหนากัน ศิษยนองผูอํามหิตเหี้ยมโหดปานนี้ แตกลับมีรูปโฉมงดงาม
นารัก ชางหมดคําพูดเสียจริง
ค่ําคืนดึกสงัด แววเสียงครืนครันมาจากถ้ําวิเศษเปนระลอก แตกลับไมไดกระทบตอ
การนอนหลับพักผอนของพวกเขา กระทั่งเสียงซาซาแววมาในคอนคืนหลัง เจาตัวเล็กลุก
ขึ้นนั่ง เสียวสันหลังขึ้นมาทันที
พนาไพรทุกหนแหง ดวงตาเขียวเปนมันขลับสวางขึ้นดวงแลวดวงเลา ประหนึ่งโคม
ไฟ ลวนใหญมหึมา มาจากทั่วทุกสารทิศ
“สวรรค หมาปาทั้งนั้น ตัวใหญเทาแมมมอธ กลายรางแลวหรือ?” ศิษยทั้งหลายก็
ตกใจตื่นเชนกัน ตางเผยสีหนาตกตะลึง
“สถานการณไมชอบกล พวกมันจะลอมโจมตีถ้ําวิเศษ พวกเราถูกลอมไวเสียแลว”
เจาตัวเล็กขมวดคิ้ว
นี่รายแรงยิ่งกวากระแสสัตวเสียอีก เพราะนี่เปนสายพันธุเดียวกัน มีความเปนหนึ่ง
และความเปนระเบียบ แนนขนัดไปทั่วทุงหญา เบียดเสียดยัดเยียด มืดฟามัวดิน ไมรูวามี
กี่ตัวกันแน
สิ่งที่สําคัญที่สุดคือ ลวนเปนสัตวประหลาด เปลี่ยนสายพันธุทั้งสิ้น ไมใชหมาปา
ธรรมดาทั่วไป
พวกมันมีขนาดใหญดั่งคชสาร บางเปนสีเงิน บางดําสนิท บางเปนสีเขียว แตละตัวดุ
รายอยางยิ่ง เสนขนมันขลับ นัยนตาฉายแววเจาเลหและอํามหิต
“ถอย!” เจาตัวเล็กตะโกนเสียงทุม เปนผูนําพุงขึ้นไปยังเขาหินมโหฬารนั่น ทวาไมได
เขาสูถ้ําวิเศษกึ่งกลางภูเขานั่น แตไตขึ้นไปบนยอดเขา
“พวกมันคงจะเขาสูอุโมงคดํานั่น พวกเรารอจังหวะชุลมุน ใชโอกาสนี้ขี่อาวุธล้ําคา
หนีไป!”
บัดนี้มีหมาปาประหลาดอยูทั่วทุกหนแหงของพงไพร มากมายละลานตา และอาจมี
หมาปาผูนําที่หยั่งรูเคล็ดวิชาล้ําคาหรือราชันหมาปาแฝงตัวในมุมมืดก็เปนได นี่ไมใชเวลา
แหงการฝาวงลอม
“บรูว…”
เปนไปตามคาด หนึ่งเสียงหอนยาว ปรากฏหมาปาเงินตัวหนึ่งดานทิศตะวันออก สูง
เกือบ 10 กวาหมี่ แหงนหนาเหาหอนพระจันทร กระจายแสงวิเศษทั่วทั้งตัว ออกคําสั่ง
ใหฝูงหมาปามุงหนาเขาสูถ้ําวิเศษ
“ฮึ่ม…”
ทางดานทิศเหนือ หมาปายักษสีแดงตัวนั้นลุกยืนทามนุษย สูงหลาย 10 หมี่ แสง
แดงพรางพราย มีเขาเดี่ยวงอกกลางหนาผาก มองดูนากลัวเหลือหลาย
เสียงหมาปาเหาหอนดังตอเนื่องทั่วทุกสารทิศ เพียงพริบตาก็ปรากฏราชันหมาปา
หลายสิบตัว ลวนหยั่งรูเคล็ดวิชาล้ําคา กระโจนเขาไปในถ้ําวิเศษอยางบาระห่ํา
ไมรูวามีหมาปายักษกี่ตัวพุงตัวเขาไปในอุโมงคดํา ภูเขาทั้งลูกราวกับหลุมดํา หมาปา
ยักษจํานวนนับไมถวนพุงเขาไป ไมมีแมแตละอองน้ํากระเซ็น ถึงอยางไรก็เติมไมเต็ม
ในชวงเวลานี้ ราชันหมาปาเหลานั้นก็เคลื่อนไหวบุกทะลวงเขาถ้ําวิเศษเชนกัน
เมื่อรุงอรุณ เขาหินสั่นไหว ราวกับเกิดเหตุจลาจล เสมือนกับภูเขาจะพังทลายลง
“โฮก…” ยักษสีเงินกระโจนออกมา รางกายเต็มไปดวยเลือด บาดแผลกระจายเนือง
แนน บนลําตัวมีศพหมาปาที่กัดตายไมปลอยหอยตองแตงอยูจํานวนมาก
“ไมใชถ้ําวิเศษ นี่เปนถ้ําปศาจ!” มันโซซัดโซเซ แทบจะลมพับลงไป
ชั่วพริบตาผานไป ราชันขนนกพุงออกมา ปกหาสีคูนั้นเสียหาย เนื้อตัวขาด
เหวอะหวะ เขาแทบจะลมไปกองอยูในแองเลือด
ขาทาสของพวกเขาเหลือเพียงไมกี่คน ชีพวายกันแทบทั้งสิ้น
ตามมาดวยหั่วหลิง บนกายของนางอาบยอมดวยเลือดเชนกัน ไมทราบวาเปนของ
นางหรือหมาปากันแน ชายชุดดําขางกายของนางเหลานั้นตางชุมไปดวยเลือด คุมกัน
นางไวตรงกลาง
ดานหลังมีอัจฉริยะ 10 กวาคนพุงตามออกมา ลวนไดรับบาดเจ็บสาหัส ฝเทาโรย
แรง โซเซโงนเงน
“นี่เปนที่จําศีลของเทพเจาหมาปา และเปนดินแดนชั่วรายที่ใชเลี้ยงหมาปา ไมใชถ้ํา
วิเศษนั่นแตอยางใด!” สิงโตเกาเศียรกระโจนออกมาตัวสุดทาย หลั่งเลือดทั่วกาย
“พวกเจาไดอะไรมา?” ยักษเลือดเงินเหลียวหลังมองหั่วหลิง
ขางกายนางมีชายชุดดําผูหนึ่งหอบยามหนังสัตวกําจายแสงสีเงิน อยากปดก็ปดไม
มิด
“ไขใบเดียวเทานั้น” หั่วหลิงกลาวเสียงเรียบ
“อะไรนะ นั่นอาจจะเปนทายาทของเทพเจาหมาปา!” ราชันขนนกตะลึงพรึงเพริด
สิงโตเกาเศียรและยักษเลือดเงินกลับยิ่งพรั่นพรึง นี่คลายคลึงกับตัวอักษรที่สลักอยู
บนผนังถ้ําวิเศษ เทพเจาหมาปามีทายาท เปนไขสีทองหนึ่งใบ
“หมาปาฟกไขไดดวยหรือ?” บนเขาหิน เจาตัวเล็กเอยถามศิษยพี่ทั้งหลาย
“ปกติ…ก็ไมได”
“ศิษยนอง ไขที่เจาถือเปนของปลอม ไมใชไขของเทพเจาหมาปา พวกเรากินมันเสีย
เถิด!” เจาตัวเล็กพุงกระโผลกกระเผลกลงมาจากเขา ฟาดฝูงหมาปาที่กระโจนเขาสูอยาง
โหดเหี้ยมจนตัวปลิว
“บรูว…” ฝูงราชันหมาปาปรากฏกาย เคล็ดวิชาล้ําคาเริงระบําไปทั่วทองฟา อักขระ
ทวมทนที่นี่จนมิด
ชายชุดดําขางกายหั่วหลิงสั่นสะทานอยางรุนแรง เขาไดรับบาดเจ็บสาหัส ยามหนัง
ในมือชํารุด ไขทองใหญดุจอางน้ํากลิ้งออกมา
สิงโตเกาเศียร ยักษเลือดเงิน ราชันขนนก อีกทั้งขาทาสบางสวนที่รอดชีวิตพุงตัวไป
ขางหนา หมายแยงชิงมาครอบครอง
หั่วหลิวกับอัจฉริยะ 10 กวาคนพากันวิตกกังวล จึงกระโจนเขาไปหมายชวงชิง
กลับมา
ราชันหมาปาหลาย 10 ตัวคําราม นําทัพหมาปาจํานวนมากเหลือคณานับลอมโจมตี
เบียดเสียดยัดเยียดอยูที่นี่
สุดทาย ไขสีทองถูกกระแทกจนปลิว เจาตัวเล็กพุงมาถึงแลวโอบอุมไว เบิกบานใจ
อยางหาที่เปรียบมิได ดวงตาหยีเปนรูปจันทรเสี้ยว กลาวกับฝูงชนวา “รีบไปกันเถอะ
พวกเราไปตมสุกแลวกินมันเสีย!”
“ไมได!” คนทั้งหมดแปรเปลี่ยนสีหนา พุงตัวขึ้นไปพรอมกัน
“อรอยมากนะ พวกเจาไมเชื่อขารึ!” เจาตัวเล็กเปรมปรีดา กอดไขสีทองไวแลวพุง
ลงจากเขาดังฟว ทะลวงฝูงหมาปาอยางองอาจ หายลับไปในพริบตา
“อาก…ไม!” กลุมคนโอดครวญ แทบจะคลุมคลั่ง ไลลาตามหลังอยางสุดชีวิต ไมยอม
ใหเขากินมันอยางเด็ดขาด
………………………………………………………..
[1] ผลาญลางหยกศิลา ไมวาจะหยกงามหรือกอนหินก็นํามาเผาจนสิ้น เปรียบเปรย
การไมแยกแยะชั่วดี จะคนดีหรือคนเลว เรื่องดีหรือเลวก็ทําลายจนพินาศยอยยับ
บทที่ 124 ยางจนไดเทพเจา
กลุมคนรองคร่ําครวญ พวกเขาเพียรพยายามทั้งกายใจ สูญเสียกําลังจนสิ้น ตอสูมา
คอนคืน ไขสีทองที่ไดมาจากการเสี่ยงเปนเสี่ยงตายถูกเจาตัวเล็กอุมแลววิ่งหนีไป หมาย
กินมันใหสิ้น ไมใหเดือดรอนไดหรือ?!
ทุกคนตางกระหืดกระหอบ ไลตามหลังไป อยางไมยินยอมใหเขาไดมันไป ไมเชนนั้น
ฝูงชนตองคลุมคลั่งเปนแน
“หยุดนะ!” กลุมคนตะโกน ทวาฝูงหมาปามากมายเหลือเกิน เจาตัวเล็กจึงหายลับ
ไปเนิ่นนานแลว
“ไลตามไป ขาสาดน้ําของตนกลวยไมลงบนไขสีทองหลายหยอด เขาหนีไมพนแน
พวกเราเรงตามรอยไป” ชายชุดดําคนหนึ่งกลาว
“บรูว…”
หมาปาเหาหอนไมหยุด ลวนมุงหนาวิ่งไปในทิศทางเดียวกัน บัดนี้หมาปาจํานวน
มากสละกลุมขององคหญิงประเทศเพลิง ไลลาสังหารเจาตัวเล็กแทน สิ่งเหลานี้ชี้ทางแก
พวกเขาไดอยางปราศจากขอกังขา
คืนนี้ ทุงหญากวางใหญชุลมุนวุนวาย สิ่งมีชีวิตทั้งหลายลวนไมสงบสุข เสียงหมาปา
หอนทุกหนทุกแหง นัยนตาเขียวแตละคูดุจโขมด[1] โผลออกมากลางหญาเฮียเฮียะ
เงานากลัวแตละเงาแหงนหนาหอนดวงจันทร ทําใหแผนดินระส่ําระสาย ฝูงหมาปา
เดือดพลาน เผยเขี้ยวคมขาวกระจาง วิ่งไปทั่วอาณาบริเวณนี้อยางบาระห่ํา
“นากลัวเหลือเกิน หมาปาจํานวนมากเหลือคณานับแยงชิงไขวิเศษสีทองกับขา”
เจาตัวเล็กตะลึงงัน เขาเพิ่งเคยพบเห็นหมาปาจํานวนมากเพียงนี้คลุมคลั่ง เสมือนกับ
กระแสน้ําปาดังกึกกอง ดานหลังเกิดฝุนควันทะลวงฟา ตนหญาถูกเหยียบย่ําจนมิด
หมาปายักษสีเงิน จาวหมาปาสีเขียว หมาปารายสีดํา หมาปาเขาเดียวสีแดง มีครบ
ครันละลานตา มืดฟามัวดิน เบียดเสียดยัดเยียด มาพรอมกับจิตสังหารอันนาเวทนา ไล
ตอนไมหยุด
เจาตัวเล็กใชกรรไกรกระดูกเขนฆาสังหารจนเกิดรอยเลือดเปนทาง เดิมทีเขาหนี
ออกจากวงลอมไดแลว ทะลวงออกไปไกล แตนาสิกประสาทของหมาปาเหลานี้เฉียบ
แหลมนัก ไลตามมาติดๆ และสรางวงลอมอีกครั้ง
ฝูงหมาปากินอาณาเขตกวางใหญไรจดุ สิ้นสุด เขี้ยวคมขาวกระจางยิ่งแวววาวใตค่ํา
คืนดึกสงัด นาสะพรึงกลัวอยูไมนอย นัยนตาสีเขียวดุจสายฟา เผาพันธุดุรายทั้งหมดใน
ทุงหญากวางใหญเริ่มเคลื่อนไหวแลว ตามมายังที่นี่ ทําการลอมดักไว
เสียงซิ่วซิว่ ดังไมขาดสาย ราชันหมาปาหลาย 10 ตัวดานหลังลวนหยั่งรูเคล็ดวิชาล้ํา
คาอันยิ่งใหญ ไรซงึ้ ผูดอยโดยสิ้นเชิง ฝูงหมาปารุมโจมตีเจาตัวเล็ก ทรงพลังมหาศาล แสง
สวางลอยมา สะเทือนภูเขาใกลเคียงจนทลาย
“ขาจะหนี!”
เจาตัวเล็กย่ําอยูบนกระจกกระดูกแวววาว ใชพลังจนหมดสิ้น ปลูกระดมพลังปราณ
ภายในรางกาย ลอยตัวเหนือพื้นสูง 3 เซี๊ยะหนีไปอยางรวดเร็ว แมอัตราเชนนี้จะรวดเร็ว
นัก แตสิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล
แตก็ไรซึ่งหนทาง เขาทําไดเพียงบินหนี มิเชนนั้นอาจจมอยูในฝูงหมาปา ถูกขย้ําฉีก
กินทั้งเปนอยางแนนอน
“เหนื่อยฉิบหาย!” เขาหยุดลงในที่สุด หลุดออกจากทุงหญากวางใหญ ทะยานลง
หนาพื้นที่เขตภูเขา นอนแองแมงอยูตรงนั้นอยางไมขยับเขยื้อน
“บรูว…”
พักผอนไดครึ่งชั่วยาม แววเสียงหมาปาหอนมาไกลๆ อีกครา เทือกเขาเรียงรายสง
เสียงดังกึกกอง สะเทือนไปพรอมๆ กัน
“ตูม”
เจาตัวเล็กถูกบีบคั้นจนอับจนหนทาง กระโดดหนีลงแมน้ํา เพราะนาสิกประสาทของ
ฝูงหมาปาเฉียบแหลมนัก ไมสามารถหลุดพนได
แมน้ําสายนี้กวางมาก ทั้งยังเชี่ยวกราด เขาลอยผลุบโผลตามระลอกคลื่น ไมรูวาผาน
ไปนานเทาใด จึงจะโผลพนผิวน้ํา สองฟากฝงเขียวขจี ตนหลิวพลิ้วไหวตามสายลม มาถึง
บริเวณแถบเนินเขา
“คงจะหลุดพนแลวกระมัง?” เขาอุมไขสีทองพุงสูผิวน้ํามายังชายฝง
เวลานี้ฟาสวางแลว พระอาทิตยโผลขึ้นทางทิศตะวันออก โลกใบเล็กนี้ปราศจากดวง
ตะวัน ตามตํานานกลาววา ตะวันแดงที่มองเห็นนั้นเปนศพของนกยักษสีทอง
แตละวัน มันจะลอยขึ้นและตกลง กําจายความรอนระอุ เปนปกษาเทพเจาบรรพ
กาลขนานแทตัวหนึ่ง แมนตัวจะตาย แตยังทรงพลังสะทานฟา ผูคนมากมายลวนเคย
พิชิตมัน แตกลับตายอยางนาเวทนา
“ไขวิเศษนี่คืออะไรนะ เปนไขหมาปาจริงรึ?” เจาตัวเล็กมายังกลางเนินเขา ผิง
อาภรณจนแหง ตีเคาะไขในออมอกพลางขบคิดไมหยุด
ไขสีทองมีขนาดใหญดุจอางน้ํา ประหนึ่งหลอมจากทองคํา บนเปลือกไขมีลวดลาย
ประหลาด ฉายแสงมันวาว มีพลังอํานาจลึกลับบางอยางกระเพื่อมขึ้นลง
“นี่ไมใชไขธรรมดา ไมแนวาอาจเปนทายาทเทพเจาอยางแทจริง อยางนั้นมันก็
สามารถทัดเทียมอสูรบรรพกาลเชนเทาเที่ย เถาวู เจินโหวไดนะสิ?”
เขาเบิกบานใจนัก ความหวังอันใหญยงิ่ แหงการเขาสูโลกเล็กใบนี้ก็คือ การจับลูก
อสูรบรรพกาลหนึ่งตัว นํามันกลับหมูบานหินผา แมโอกาสจะเลือนรางเหลือเกิน แตเขา
กลับเปยมดวยความหวัง ดูเหมือนบัดนี้จะเปนจริงแลว
“หากสามารถฟกมันออกมาได บางทีขาอาจไดเคล็ดวิชาล้ําคาเยยฟาชนิดหนึ่งก็
เปนได ไมมีสิ่งใดทัดเทียมไดอยางแนนอน ยิ่งใหญสะเทือนโลกา!” เจาตัวเล็กตื่นเตน
นัยนตาระยับดวยแววแหงความระทึกใจ
อยางไรก็ตาม เมื่อเขาครุนคิดอยางถี่ถวนแลว พลันหอเหี่ยวเซื่องซึมขึ้นมา โยนไขสี
ทองทิ้งลงพื้นดินทันที จากนั้นนั่งลงบนไข
เขาเทาคางแลวพูดวา “นี่เปนโลกดึกดําบรรพ ผานกาลเวลาอันยาวนานไมสิ้นสุด
จวบจนวันนี้ ไขสีทองใบนี้ไมเคยฟกออกมา ขาจะรอไดเยี่ยงไร”
เขาคาดการณวา ไขสีทองใบนี้คงเสียแลว ไมเชนนั้นคงฟกอสูรบรรพกาลออกมาแลว
คงมิรอกระทั่งชาตินี้
“นาเศราใจเหลือเกิน” เจาตัวเล็กหงอยเหงาเศราซึม เมื่อครูยังเปรมปรีดา ทวากลับ
พบกับจุดจบเชนนี้ ทําใหเขามิยอม
“ชางเถิด วันหลังขาไปจับทายาทปกษาเทพเจาดวยตัวขาเอง ไมเสียเวลาฟูมฟกอีก
ดวย” เขามองโลกในแงดียิ่งนัก เพียงชั่วพริบตาก็หัวเราะเริงราขึ้นมา กะพริบตามองไขสี
ทองแลวกลืนน้ําลายดังอึก
“ขาวามันตองอรอยแน แมสัตวดานในจะตายไปแลว ก็อาจมีวัตถุวิเศษจํานวนมาก
ไมเชนนั้นคงไมเปลงประกายเชนนี้ หากไมกินเสียตอนนี้ ตองถูกสายฟาฟาดเปนแน!”
เจาตัวเล็กตัดสินใจอยางรวดเร็ว จากนั้นลงมือทําทันที
เปลวไฟลุกไหมบนธรณิน กระทะก็ตั้งเรียบรอย เขาพึมพํากับตัวเองวา “กินอยางไร
ดีละ มื้อเชาควรจะกินไขดาวจึงจะถูกตอง”
บัดนี้เปนยามอรุณรุง นกยักษสีทองกลางนภาสองแสง แสงสวางเจิดจาสาดทอลงมา
กลางเนินเขามีไอน้ําหนาแนน ถูกสองสะทอนจนสีสดงดงาม
เจาตัวเล็กฉกฉวยกอนหินแหลมคมมากอนหนึ่ง เริ่มทําการกะเทาะเปลือกไข เสียง
ดังตึงตังดุจตีเหล็ก ประกายไฟแตกกระเด็น สะเทือนจนอาณาบริเวณนี้ดังกึกกอง
หั่วหลิง ยักษเลือดเงิน ราชันขนนกและคนอื่นๆ เหนื่อยจนกระอักเลือด ตลอดทาง
เปลี่ยนทิศทางอยูหลายครั้งหลายครา พวกเขาสาปแชงไมหยุด เจาเด็กเวรคนนี้ไยจึงวิง่
วกวนไปมาเชนนั้น
สิ่งที่ไมนาใหอภัยยิ่งคือ ยามที่พวกเขาคนหาเลียบแมน้ํานั้น พบวาวนกลับมาเสีย
แลว ระยะทางหางจากจุดเดิมเพียง 10 กวาลี้เทานั้น
เจาเด็กเวรคนนี้หลงทิศหรืออยางไร? พวกเขาอยากจะดาทอ วิ่งวนรอบทุงหญากวาง
นี้หนึ่งรอบเต็มๆ ทวากลับมายังจุดเริ่มตน และเนินเขานี้ใกลกับทุงหญายิ่งนัก
ผูคนทั้งหมดโมโหจนกระอักเลือด วิ่งจนเอ็นปลีนองพลิก แมแตขอเทาก็วิ่งจนเรียว
เล็ก ซ้ําแลวซ้ําแลวทั้งราตรี วิ่งอุตลุดอยูคอนคืน คาดไมถึงวาจะกลับมายังจุดเริ่มตน หาก
รูเชนนี้นั่งคอยทาอยูที่นี่ไมดีกวาหรือ เสนเลือดกลางหนาผากเตนตุบๆ
“นาโมโหจริง!”
“เจาเด็กเวรนี่มีการรับรูทิศทางหรือไม หลอกพวกเราทั้งคืน วิ่งกลับมาที่เดิมอีกแลว
หรือ?!”
ฝูงชนสาปแชงไมจบสิ้น โกรธเกรี้ยวจนเสนผมแทบลุกเปนไฟ
โชคดีเพียงอยางเดียวคือ กลวยไมนั่นมหัศจรรยมาก เพียงหนึ่งหยดจะมีกลิ่นหอมสด
ชื่นแมจะผานลวงไปหลายวัน สามารถไลตามตอเนื่องไปได
“อา เขาอยูตรงนั้น หาเจอแลว!” มีคนอุทาน
ยามกลุมคนมองเห็นเจาตัวเล็กตางก็ริมฝปากกระตุก เสนผมตั้งชัน เขาจะกินมัน
จริงๆ หรือ เจาเวรนี่กําลังจะตั้งกระทะ กอไฟเรียบรอยแลว ไขสีทองถูกวางไวตรงกลาง
เขาโยกกระทะไปมา ราวกับกําลังผัดผัก
“รีบรอนสิ รีบแตกออก ขาหิวเจียนตายแลว…”
เขายางไขพลางบนพึมพําไมหยุด เสมือนวาตองการจะกินทันทีทันใด
“สมควรตาย จงวางลงบัดเดี๋ยวนี้!” ชายชุดดําลึกลับที่ยืนเคียงกายองคหญิงประเทศ
เพลิงคํารามดวยความโกรธ แทบจะคลุมคลั่งแลว ไขที่พวกเขาไดมาอยางยากลําบาก
กลับจะถูกเจาเด็กคนนี้กินเขาไปจริงๆ
“ตระหนี่จริง ขาไมไดจะกินเพียงผูเดียวเสียหนอย ประเดี๋ยวจะเชิญพวกเจากินไขตม
ดูแลวคงจะยางไมสุกเสียแลวละ” เจาตัวเล็กเงยหนามองพวกเขาแวบหนึ่ง จากนั้นยก
กระทะขึ้น นําไขสีทองโยนลงไปในหมอสําริด
“อาก…ไม!”
กลุมคนหวีดรอง ดวงตาแทบถลนออกมา สมดั่งคําวา โกรธจนเบาตาเจียนแตก
หัวใจกําลังหลั่งเลือด นาแคนใจนัก ไฟโทสะสุมทรวง อยากจะรุดเขาหยุดยั้งใหรูแลวรู
รอด
แตก็สายไปเสียแลว เสียงดังตูม ไขสีทองรวงลงไปในน้ําเดือดพลาน ไอน้ําลอยขึ้น ไข
วิเศษลอยผลุบโผลอยูขางใน เคลื่อนไหวไปพรอมกัน
“ขาจะฆาเจา!” หั่วหลิงโมโหจนเนื้อตัวสั่นเทิ้ม รางกายเพรียวระหงสั่นระริก ดวงตา
สุกใสพนไฟ เนื้อหนังมังสาขากระจางดุจหิมะเผยอักขระอยางลนหลาม หมายตอสูกับเจา
ตัวเล็ก
“ทําเสียของนัก นี่เปนถึงทายาทเทพเจา แตกลับจะตมสุกแลวกินมัน ขาเกลียดนัก!”
ยักษเลือดเงินกับราชันขนนกรองเอ็ดตะโร โกรธแคนจนดาพอลอแมพลางกระทืบเทา
คนกลุมนี้ตางบาคลั่งกันหมด กระโจนเขามาพรอมกัน เพียงชั่วพริบตาเคล็ดวิชาล้ํา
คานานาชนิดก็เริงระบํา ปลิววอนดุจสายฝน
เจาตัวเล็กไมยอมดอยกวา เสกกรรไกรกระดูกสีทองอีกทั้งกระจกล้ําคาซวนหนี
ออกมา ระเบิดพลังสายฟา ตอตานคนเหลานี้ หายใจกระหืดกระหอบแลวกลาววา “พวก
เจาชางไรเหตุผล ขาไมไดพูดวาไมใหพวกเจากินเสียหนอย ผูเห็นยอมมีผลประโยชน
รวม”
ผูใดแยงชิงกับเจา ผูใดจะอยากกิน พวกขาเพียงอยากใหมันฟกตัวออกมา กลายเปน
เทพเจาในภายภาคหนา น้ําตาไหลอาบหนา ฝูงชนคลุมคลั่งแลว!
คนเหลานี้ตอสูครั้งใหญในถ้าํ วิเศษทั้งคืน จากนั้นก็วิ่งอุตลุดกวาคอนคืน เหนื่อยใจ
เหนื่อยกายสิ้นดี ไมไดเปยมดวยกําลังวังชาดุจเจาตัวเล็ก แมคนจะมีมากกวา แตกลับ
จัดการเขาไมไดในระยะเวลาอันสั้น
“ศิษยนอง พวกขาชวยเอง!” อัจฉริยะทั้งหาจากศาลาปดฟาลงมือตอตานคนกลุม
นั้นเชนเดียวกัน พวกเขาลวนแข็งแกรง
บัดนี้ เคล็ดวิชาล้ําคาปลิววอนกระจัดกระจาย แสงสวางลอยเพนพาน เนินเขา
ละแวกใกลเคียงราบเปนหนากลอง กลุมคนโกรธจนควบคุมตัวไมได ยากจะสงบลงได
“หยุดไดแลว ไขจวนสุกแลว สงกลิ่นหอมหวนแลว” เจาตัวเล็กกลาว ลวงไขในหมอ
สําริดออกมา จากนั้นโยนลงไปในกระทะ ใชวิชาเพลิงที่หั่วหลิงเสกขึ้นมาทําการปงยาง
ยิ่งไปกวานั้น เขายังใชทัพพีโลหะตีลงไปไมหยุด หมายทําใหเปลือกไขแตก
ผูคนมองดูจนหายใจฟดฟด แตกลับจนปญญา เจาเด็กคนนี้รายกาจยิ่งนัก ยากจะ
จัดการภายในเวลาอันสั้น
“เปลือกไขแข็งจริง ไยจริงกะเทาะไมไดเสียที หากลูกขนอยูคงดี ฟนของมันแข็งแรง
และแหลมคม คงจะแทะใหแหลกได” เจาตัวเล็กพึมพํา
ลูกขนไมไดตามมา มันถูกทิ้งไวที่ศาลาปดฟา
สุดทายเจาตัวเล็กก็ใชไขสีทองใบนี้แทนโล ปองกันเคล็ดวิชาตั่งตางของฝูงชน
ตอตานเปลวไฟโชติชวงและกระแสไฟลุกโชน ใชโอกาสนี้ยางมัน
“แควก”
ทันใดนั้น แววเสียงกังวานจากเปลือกไข มันแตกเปนรอยแยกหนึ่งทาง ไอหมอก
ขมุกขมัวพุงออกมา
“อา แตกแลว หยุดสูกันไดแลว ไขถูกพวกเจากะเทาะจนละเอียดแลว” เจาตัวเล็ก
ตะโกนดวยสีหนารื่นรมย
เมื่อฝูงชนไดยินดังนั้นก็ตะลึงงัน พากันหยุดยั้งอยางไมไดนัดหมาย กวาดสายตามอง
มาทางนี้ในหนึ่งกะพริบตา จากนั่นพุงตรงมาอยางรวดเร็ว
“เจาเด็กเวร สมควรตายนัก ขาสูญเสียไขของเทพเจาไปเสียแลว อากกก…” กลุมคน
รองลั่น เคล็ดวิชาล้ําคานานาชนิดลอยลองขึ้นมาอีกครั้ง
เจาตัวเล็กกุมหัวหนีหัวซุกหัวซุน หามไขวิเศษสีทอง พูดพลามอยางมีเหตุมีผลวา
“ขาไมไดทําแตกเสียหนอย เปนเพราะพวกเจาใชเคล็ดวิชาล้ําคากะเทาะจนมันแตก
ตางหากเลา!”
“สามหาว ทั้งที่ถูกเจายางจนแตกแทๆ เทพเจาตัวนอยถูกสังหารเสียแลว อภัยให
ไมได!”
กลุมคนตะโกนลั่น ลงมือกับเขาดวยทาทางเดือดดาล
“แควก”
มีเสียงดังมาจากไขสีทองอีกครา รอยราวเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งทาง แสงสวางที่ไหล
ออกมาสวยสดงดงามมากยิ่งขึ้น ไอหมอกลอยขึ้น มหัศจรรยอยางยิ่ง
“ไมชอบกลแลว ไยขารูสึกวาภายในมีสิ่งมีชีวิตกําลังพลิกตัวละ?” เจาตัวเล็กหยุดลง
กอดไขพลางพึมพํา
ขณะนี้เอง ฝูงชนก็ตะลึงงัน ยั้งมืออยางรวดเร็ว กรูกันเขามาลอมภายในพริบตา
พวกเขาเงี่ยหูฟงพรอมกัน ทั้งหมดเผยสีหนาตะลึงพรึงเพริด จากนั้นแปรเปลี่ยนเปน
แชมชื่น เพราะมีการเคลื่อนไหวดานในจริงๆ ราวกับจะกะเทาะเปลือกไขออกมา
เจาตัวเล็กรนถอยหลังอยางระแวดระวังแลวพูดวา “ขาขอเตือนพวกเจา หามแยง
ไขใบนี้ตองกินดวยกัน”
“อาก”
ฝูงชนอยากจะพนเลือด เจาเด็กเวรคนนี้ยังคิดจะกินมันอีกหรือ หากไขสีทองใบนี้อยู
ในมือของเขาคงไมปลอดภัยแน
“แควก”
เปลือกไขสีทองแหลกละเอียด มีวัตถุเล็กโผลออกมาจากภายใน นอนมวนตัวบนฝา
มือของเจาตัวเล็ก
“อา เทพเจาฟกตัวแลว!” กลุมคนรองลั่น เบียดตัวเขาไปพรอมกัน
“โอสวรรค เปนเทพเจาจริงๆ เทพเจาตัวจอยองคหนึ่งละ!” หั่วหลิงตื่นเตนจนอก
ขาวกระเพื่อม รางกายขาวผองพราวระยับ อยากจะชวงชิงมาใหรูแลวรูรอด
คนทั้งหมดตางพากันกระโจนเขาไป
………………………………………………..

[1] โขมด ชื่อผีชนิดหนึ่งเปนผีปา จะเห็นเปนแสงเรืองวาวในเวลากลางคืน


บทที่ 125 เทพเจานอย
กลุมแสงขมุกขมัวลอยวนเวียน ไอหมอกหนาแนนกระเพื่อมขึ้น ปกคลุมรางกายของ
สิ่งมีชีวิตตัวนอย มองดูลึกลับเปนอยางมาก
ฝูงชนยอมหวีดรอง นี่เปนทายาทแหงเทพเจาบรรพกาล กระโจนไปขางหนาพรอม
กัน ดวยอยากจะแยงชิงมาครอบครอง
“หามแยง!”
เจาตัวเล็กเหลืองอรามทั้งตัว ระเบิดกระแสไฟนับรอยนับพันสายคุมกันกายตน วิ่ง
พรวดพราดออกไปอยางดุดัน หมายฝาวงลอมหนีไป
“ทิ้งเทพเจานอยไวเสีย!” ยักษเลือดเงินคําราม แมจะไมสามารถตอกรดวยเกรงกลัว
เจามนุษยหนุมคนนี้ แตบัดนี้จะใสใจมากไมไดแลว หากทุกคนเขาไปพรอมกันจะไม
สามารถควบคุมเขาไดอีกหรือ?
เขายื่นมือใหญควานออกไป อักขระปรากฏวูบวาบ ลุกโชติชวงไปทั่ว กระหน่ําฟาด
ลงมาทันที หมายอัดเจาตัวเล็กใหเละเทะ ขณะเดียวกัน ราชันขนนกก็ไมยอมลาหลัง ปก
ขาดเหวอะหวะเปลงลําแสงวิเศษออกมาสองเสน ฟาดลงมาดวยตองการฟนแขนทั้งสอง
ขางของเจาตัวเล็ก
“ทิ้งทายาทเทพเจาไวที่นี่!” ตัวเขาเองก็ตะโกนเสียงดัง ลงมือพรอมกัน เคล็ดวิชาล้ํา
คานานาชนิดรายรํา กลางเนินเขาพลันสวางไสวขึ้นมา จุดแสงลอยลอง
“เอะ!”
“เกิดอะไรขึ้น?”
แทบจะในขณะเดียวกัน ผูคนรูสึกถึงความไมชอบมาพากล เคล็ดวิชาล้ําคาสิ้น
ประสิทธิภาพ กระแสไฟจางหาย ตางหายลับเขาไปในอกของเจาตัวเล็ก ถูกไอหมอก
ขมุกขมัวนั่นดูดซึมเอาไป
“เทพเจานอยนี่เอง มันกําลังดูดซึมพลังเพื่อเติบใหญ!”
ฝูงชนตะลึงงัน นี่เพิ่งจะฟกตัว แตกลับมีพฤติกรรมอันนาตื่นตะลึงเชนนี้ หากเติบ
ใหญแลวจะมีลักษณะเชนใดกันเลา?
เจาตัวเล็กฝาออกมา รูสึกถึงขนปุกปุยในมือ หมอกหาสีมลายหายไป สิ่งมีชีวิตที่ยาว
หลายเซี๊ยะตัวหนึ่งเผยโฉมอันแทจริง นอนขดตัวอยูในอกของเขา
นี่เปนตัวจอยเนื้อตัวมอมแมม ขนออนนุม ดูไมประสีประสา หูทั้งสองตั้งขึ้น บนหัวมี
เนื้อปูดขึ้นมาสองแหง ราวกับจะมีเขางอกออกมา
มันมีรางกายเปนสีเทา ขนปุกปุย ดวงตาดําขลับ ลุมลึกเปนอยางมาก สอดสองไปทั่ว
บริเวณ ขดตัวอยูในฝามือของเจาตัวเล็กอยางตื่นกลัวเล็กนอย
“เปนทายาทของเทพเจาหมาปานี่เอง!” ฝูงชนอุทานอยางตื่นตะลึง
นี่เปนหมาปานอยตัวหนึ่งไมใชหรอกหรือ เพียงแตไมไดมหัศจรรยตามที่จินตนาการ
ไวแมแตนิด ไรแสงวิเศษคลุมกาย ปราศจากแสงมงคลลอยวนเวียน มีเพียงดวงตาดั่ง
แกะสลักจากลูกแกว กลมโตและมีชีวิตชีวา
“เอะ มีปกหนึ่งคูดวยนี่นา” ศิษยพี่ผูหนึ่งแหงศาลาปดฟาตะลึงลาน ปกเล็กคูนั้นก็
มอมแมม มวนพับอยูดานหลัง หากไมพินิจมองอาจถูกมองขามก็เปนได
นอกเหนือจากนี้ หนอกทั้งสองแหงบนหัวตองเปนเขาอยางไมตองสงสัย เพราะเจา
ตัวเล็กแหวกขนออกดู พบวามันสวางพรางพราว ตองเปนเขาอยางแนนอน
“หมาปาฟกไขไดจริงหรือนี่” เจาตัวเล็กอุทาน จองหมาปานอยในอกเขม็ง
ฝูงชนมองเห็นเขาน้ําลายไหล ตางสะดุงโหยง เขาคงไมไดอยากกินลูกเทพเจาหรอก
กระมัง? นี่เปนบาปแหงการสบประมาทศาสนา หากเทพเจาหมาปามีวิญญาณ อาจ
ลดหยอนอาญาสวรรคใหก็เปนได
“หามกิน!” หั่วหลิงกาวออกมา มองเขาดวยความตื่นตระหนก ยื่นแขนงามพราง
พราวที่แข็งแกรงทรงพลังคูนนั้ ออกไปทําการหามปราม
“นี่เปนเทพเจานอย เจาไมควรดูหมิ่น และยิ่งไมควรกิน!” ไกลออกไป สิงโตเกาเศียร
ก็มาแลวเชนกัน แตกลับไมเขาใกล ตะโกนเสียงดัง แสงทองโหมซัดสาด
เจาตัวเล็กมองฝูงชนดวยสายตาอันไมสามารถอธิบายได จากนั้นพูดอยางโมโหโทโส
“พวกเจาเหี้ยมโหดนัก จะทารกกินเทพเจาล้ําคาเชนนี้ไดเยี่ยงไร? เจาพวกตะกละ!”
เมื่อผูคนไดยินก็แทบจะคลุมคลั่ง ผูใดโหดเหี้ยมกัน ผูใดตะกละกันแน ก็ตัวเจาเอง
ไมใชหรือ ยังมีหนาประณามผูอื่นอีกรึ? ไมยอมรับแลวยังจะยอนเลนงานพวกเขาอีก!
“ยอมตองเลี้ยงดูเทพเจานอยใหเติบใหญ ไมเชนนั้นอาจถูกสายฟาฟาดตายได” เจา
ตัวเล็กพูดพลางเช็ดน้ําลาย แววตารอนเปนไฟ ทําใหฝูงชนจังงัง
เห็นไดชัดวา พวกเขาคิดมากไปเสียแลว เจาตัวเล็กไมไดจะกินเทพเจานอย เขาจะ
เลี้ยงดูมันจริง จากนั้นสืบเสาะคนหาความหมายอันลึกซึ้งของอักขระในตัวมัน เพิ่มญาณ
วิเศษเยยปฐพีอีกชนิดหนึ่ง!
“ใชสิ เมื่อครูพวกเจาใชเคล็ดวิชาล้ําคาโจมตีขา แสงสวางทั้งหมดถูกมันดูดซึม ดู
เหมือนจะมีประโยชนตอการเติบโตของมัน พวกเจาลองอีกสักตั้งสองตั้งซิ” เจาตัวเล็ก
กลาว
ยิ่งไปกวานี้ เขามุมานะกระทําดวยตนเอง พูดพลางเสกสายฟาสีทองออกมา สะบัด
ไปยังทายาทเทพเจาหมาปา ฟาดลงตัวมันดังเปรี้ยง
“บรูว…”
หนึ่งเสียงแหลมดังขึ้น หมาปานอยเนื้อตัวมอมแมมขนลุกขนชัน ดวงตาไรแวว ขาทั้ง
สี่ขางชักเกร็ง เห็นไดชัดวาเปนอาการของไฟฟาโจมตี
เจาตัวเล็กรองอาก เรงยั้งมือโดยไว ทําแกมพองลม เหลือกตามองหมาปานอย เผยสี
หนาฉงนสนเทห ไยจึงไมเกิดผลเลา เมื่อครูยังกลืนกินพลังอักขระของพวกเขา บัดนี้กลับ
ตานทานไมไหวเสียแลว
“อาก เจาเด็กเวร เจาจะทําอะไร เทพเจานอยจะตายเพราะกระแสไฟไดนะ” องค
หญิงประเทศเพลิงตําหนิดวยน้ําเสียงตะลึง เปยมดวยสีหนาทุกขระทม
กลิ่นไหมเกรียมลอยมา ขนของหมาปานอยแผงใหญกลายเปนสีดําทะมึน เกือบ
ไดรับบาดเจ็บ นับวาโชคดีที่ไมไดอันตรายตอเสนเอ็นกระดูกกับเลือดเนื้อ ดวงตาโตฉาย
แววหวาดกลัว กระวนกระวายยิ่งนัก
“แปลกนัก มันเปนทายาทแหงเทพเจา ตองยิ่งใหญจึงจะถูก ขาขอลองอีกสักตั้ง”
ปลายนิ้วของเจาตัวเล็กปรากฏกระแสไฟจวนรวงลงไปอีกครา
กลุมคนตางรอนอกรอนใจ พุง ตัวออกไปทําการขัดขวาง
“แมนเปนทายาทแหงเทพเจา ก็ไมสามารถเรียกลมเรียกฝนตั้งแตเพิ่งกําเนิดได มัน
ตองเติบโต เจาจะทําตามอําเภอใจไมได!”
“อยาไดใชสายฟาโจมตีมันอีกเปนอันขาด ไมเชนนั้นมันจะตายได อสูรบรรพกาล
หรือปกษาเทพเจาเชน ฉงฉี[1] นกยักษทอง ซวนหนีสามารถชวงชิงความเปนใหญกับ
เหลาทวยเทพได แตพวกมันก็ไมไดแข็งแกรงแตกําเนิด จําตองรอวันเติบใหญ”
เจาตัวเล็กฟงความแลวพยักหนา กลาววา “มีเหตุผล สิ่งมีชีวิตเหลานี้ไมไดเหนือ
สรรพสิ่ง อยางนอย หากขาพบเจอลูกอสูรบรรพกาลวัยเดียวกันตัวหนึ่ง ก็คงสามารถจับ
ตัวไปได”
ฝูงชนเหลือกตา ลวนไมเชื่อวาจาของเขาอยางสิ้นเชิง พวกเขาเพียงเปนหวงชีวิตของ
หมาปาตัวนอยนี้
เจาตัวเล็กไมแยแสพวกเขา หิ้วตัวหมาปานอย พลิกไปพลิกมาสํารวจดู จากนั้น
หลับตา เพื่อคนหารองรอยอักขระในตัวของมัน
ในชั่วขณะนี้ทุกคนตางแปรเปลี่ยนสีหนา ลวนรูแจงวาเขากําลังทําอะไร นี่เปนการ
เสาะหาการสืบทอดของเทพเจา รับเอามันมาจากภายในรางกายของหมาปานอย
“โครม”
ยักษเลือดเงินอดกลั้นตอไปไมไหวแลว ฉวยโอกาสลงมือ หมายฉกชิงทายาทแหง
เทพเจาไป เพราะนี่แสดงวาเปนเคล็ดวิชาล้ําคาเยยปฐพีชนิดหนึ่ง ไมวาเผาพันธุใดก็ยอ
มอดรนทนไมไหว ปฏิเสธความยั่วยวนใจเชนนี้ไมได
“ผูที่พายในกํามือขา ยังอาจหาญทําเรื่องชั่วชาอีกรึ?!” เจาตัวเล็กลืมตาในบัดดล
หวีดรองอยางเกรี้ยวกราด อาปากพนสายฟาหนึ่งเสน สงเสียงเปรี๊ยะๆ ฟาดลงบนมือของ
ยักษเลือดเงิน ทําใหมันชักกระตุกอยางรุนแรงทันที บริเวณนั้นดําเกรียม
“เจากลา!” ตอนนี้ เจาตัวเล็กหันหลังทันใด พลิกฝามือสะบัดกรรไกรกระดูกสีทอง
ออกมา ลอยออกไปในชั่วพริบตา สกัดการโจมตีของราชันขนนก
เนื่องจากบัดนี้ราชันขนนกคิดกบฏ ระเบิดแสงวิเศษ สีสันมงคลพวยพุง ในมือของ
เขากําดาบเลมหนึ่ง ตวัดฟนลงมา พรอมกับพลังแหงอักขระอันไมสนิ้ สุด แมแตฟากฟาก็
สั่นสะเทือน
เสียงแควกดังขึ้น กรรไกรกระดูกสีทองมีชัย ตัดดาบคมจนหัก นี่เปนอาวุธล้ําคาที่พบ
เห็นไดนอยและนาตื่นตะลึงชนิดหนึ่ง เหนือความคาดหมายของหมูคน เคยนําไปสูมหันต
ภัยครั้งใหญ ทําใหชนเผาใหญจํานวนมากประสบกับหายนะ
ครั้งที่เจาตัวเล็กชิงมาจากตัวนิ่มสีทองนั่น ก็รูวาไมใชอาวุธล้ําคาของเทพารักษตนนั้น
นาจะเปนสิ่งที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ เพราะกระดูกสีทองเคยฉายภาพมายา
หลากหลาย ศพกองพะเนินดั่งภูเขา เลือดหลั่งไหลดุจสายน้ําบนธรณิน ชนเผานอยใหญ
ถูกทําลายอยางไมรูจักจบสิ้น จิตสังหารเย็นเยือกสะทานฟา
ตอนนี้ กรรไกรกระดูกพุงผานไป ไมเพียงตัดดาบกระดูกนากลัวนั่นจนหัก ยังฟน
แขนของราชันขนนกขาดไปหนึ่งขาง หลุดรวงลงมา เลือดสาดกระเซ็น
“อาก…” ราชันขนนกรองลั่น รองคร่ําครวญอยางอนาถ เก็บแขนที่ขาดขึ้นมากด
บริเวณบาดแผลแลวถอยหลังไปอยางรวดเร็ว
ผูติดตามของเขาและยักษเลือดเงินตางหนาถอดสี รนถอยหลังอยางไมรูเนื้อรูตัว
เจาตัวเล็กชายตามองดวยหางตา นั่นเทากับวาเตือนหมูคนไมใหจโู จมเพื่อสังหารเขา
สถานที่เกิดเหตุเงียบสงัดไรเสียง ไมมีผูใดกลาบุมบามตามที่คาดการณไว
สิงโตเกาเศียรจดจองอยูไกลๆ แววตาเย็นเยียบ แตก็อดทนไดในที่สุด มันปราชัยแลว
กระโจนโผนเขาใสอีกคราก็ไรความหมาย
คนทั้งหมดอับจนหนทาง นี่เปนเพียงมนุษยคนเดียวเทานั้น แตกลับยิ่งใหญปานนี้
โหดเหี้ยมอํามหิตยิ่งกวาพวกเขาชาวอสูรบรรพกาลยิ่งนัก
ชายชุดดําขางกายองคหญิงประเทศเพลิงเหลานี้แผกลิ่นอายนากลัวเปนระลอก
เสมือนวาไดลงมือแลว แตเพียงพวกเขาเคลื่อนไหว ตางก็กระอักเลือด เนื่องดวยไดรับ
บาดเจ็บสาหัสจากถ้ําวิเศษนั่น
หั่วหลิงหามปรามพวกเขา ไมไดรับสั่งใหพวกเขาลงมือ
เจาตัวเล็กสะเทือนขวัญผูคนไวได จึงไมมีผูใดกลาลงมือ เขาเก็บกรรไกรกระดูกแลว
คนหาความลับของหมาปานอยอีกครั้ง
“ไยจึงไมมีเลา?!” เวลาผานไปเนิ่นนาน เขาลืมตาดวยความตกตะลึง นี่เปนทายาท
ของเทพเจาหมาปา ภายในรางกายควรมีอักขระยิ่งใหญซึ่งมีเอกลักษณจึงจะถูก ทวาเขา
คนหาอยูครึ่งคอนวัน กลับไมพบสิ่งใดเลย ในภายของมันปราศจากอักขระและรองรอย
มีเพียงรางกายที่ถือวาพอแข็งแกรงอยูบาง ทําใหเขาผิดหวังยิ่งนัก
เขาคิดวาประสาทการรับรูของตนบกพรอง พยายามสงบจิตสงบใจ สุดทายจิตวาง
เปลา เขาสูการบําเพ็ญอันมหัศจรรย เริ่มคนหาอีกหน ยิ่งไปกวานั้น ครั้งนี้เขาใชวิชาคน
กระดูกแหงการหยั่งรูดั้งเดิม เสาะหากระดูกทั่วกายหมาปานอย แตก็ยังคงไมพบสิ่งใด
เฉกเชนดังเดิม
เจาตัวเล็กทอดถอนหายใจ ครั้งนี้ไมมพี ลาดอยางแนนอน วิชาคนกระดูกแหงการ
หยั่งรูดั้งเดิมไมมีทางลวงเขา แมใชมันก็ไมพบสิ่งใดเลย อยางนั้นคงมีเพียงทายาทเทพเจา
ที่บกพรองเสียแลวละ
“เอะ นี่เจาเปนทายาทแหงเทพเจาจริงหรือ?” เจาตัวเล็กจองมัน หมาปาตัว
มอมแมมไมไดพิสดารแตอยางใด มองดูออนนุม มีเพียงดวงตาคูนั้นที่ถือวาโตและสุกใส
เขาจับหางของหมาปานอยแลวหิ้วขึ้นมา จากนั้นกางปกของมันออก เปนผลให
สิ่งมีชีวิตตัวนอยสงเสียงรองเองๆ
“หามปนหัวมันเชนนี้ เอามาใหขา!” หั่วหลิงทนดูตอไปไมได ควาหมับไปแลวอุมไว
กลางอก
อยางไรก็ตาม สิ่งมีชีวิตเนื้อตัวมอมแมมนัยนตาเปนประกาย กระสับกระสาย
จากนั้นกระโดดหนีออกดังฟว เกาะไหลของเจาตัวเล็กไว ราวกับโคอะลา
ยิ่งไปกวานั้น มันยังอาปากแลบลิ้น สงเสียงเองๆ เพื่อบงบอกวามันหิวแลว
เจาตัวเล็กเกาหัว ไยหมาปาตัวนี้จึงตัวติดเขาเชนนี้ และตัวเขาเองก็ไมมีสิ่งใดจะปอน
เขามองหั่วหลิงแลวกลาววา “ศิษยนองมีนมไหม?”
คนในเหตุการณตัวแข็งเปนหิน ตางนิ่งอึ้งกันหมด
“ไปตายซะ!” หั่วหลิงเดือดเปนฟนเปนไฟ ปรกตินางสะโอดสะอง สงางามนามอง
งดงามทั้งรูปโฉมและกิริยา ทวาตอนนี้กลับคลุมคลั่งสิ้นดี ปาขาวของรอบกาย อีกทั้ง
อักขระแปลบแปลบ รางกายพนไฟ โผนเขาใสภายในพริบตา
เจาตัวเล็กแบกหมาปาวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน เศราโศกอยางแสนสาหัส ไมไดคาดคิดวา
ตนลวงเกินหั่วหลิงใหแลว พลางหลบหนีพลางพึมพําวา “พิลึกคนนัก ไมมีก็ชางประไร ไย
ตองเดือดดาลเชนนี้ ไป พวกเราไปหาเอาเอง นมสัตวอรอยที่สุดแลว”
ฝูงชนไดยินดังนั้นก็กลืนไมเขาคายไมออก นึกถึงฉายาในโลกแหงความวางเปลาของ
เขาขึ้นมาอยางชวยไมได ชอบดื่มนมสัตวที่สุด มีความเปนมาเยี่ยงนี้เอง
“ศิษยนอง กลาวขอโทษศิษยนองหั่วหลิงเถิด เจาไมควรพูดกับสตรีเชนนี้” ศิษยพี่
กลาวดวยใบหนาแดงก่ํา
“แปลกคนนัก ไยจึงตองขอโทษดวยเลา หากยังตามขา ขาจะฟาดนางแลวนะ” เจา
ตัวเล็กโกรธเกรี้ยว
ผลปรากฏวาการไลลานี้กินระยะเวลานานถึง 2 ชั่วยาม ฝูงชนจึงจะหยุดลง
เจาตัวเล็กจับหมาปาเพศเมียมาตัวหนึ่ง เพื่อใหมันใหนมเจาหมาปานอยตัวนี้ ปรากฏ
วามันไมยอมกิน กลับกันมันจองไปที่ยา มใบหนึ่งของหั่วหลิงดวยสีหนาคาดหวัง
“เอะ?” องคหญิงประเทศเพลิงเปดยาม นํายาวิเศษสองตนกับไหหยกออกมา
หมาปานอยโผเขาใสทันที กินยาวิเศษทั้งสองจนเกลี้ยงในไมกี่คํา จากนั้นพลิกไห
หยกลม น้ําลายจวนไหลออกมา พรอมกระโจนเขาใส
“นี่เปนหัวใจของสัตวอสูรตัวหนึ่ง เปนยาล้ําคา มันเยาววัยปานนี้ แตกลับจะกินของ
เหลานี้!” หั่วหลิงตะลึงงัน
เจาตัวเล็กถลึงตาจนโต หัวใจดวงนั้นโปรงแสงเปนประกายแวววับ เปนถึงศูนยรวม
พลังปราณวิเศษของอสูรผูยิ่งใหญ แตกลับเอามาปอนหมาปานอย เขาสับสนอยูชั่วขณะ
นี่ชางสิ้นเปลืองเหลือเกิน หากมียาล้ําคาเชนนี้ ยังไมพอตอการบําเพ็ญตนของเขา มีเหลือ
ไวปอนหมาปาเสียที่ไหน
ราวกับหั่วหลิงอานใจเขาออก ถลึงตาใสเขาแลวพูดวา “หากเจาไมมีเวลาเลี้ยงดูมันก็
คืนมันแกขาเสีย เปนสิ่งที่พวกขานําออกมาจากถ้ําวิเศษเปนทุนเดิมอยูแลว”
หมาปานอยแทะยาล้ําคาจนหมด เมื่อไดยินวาจาเหลานั้นก็พลันหูตั้งขึ้น จากนั้น
กระโจนดังฟวไปเกาะหลังเจาตัวเล็ก มองหั่วหลิงดวยสายตาระแวดระวัง
ทําใหหั่วหลิงฉุนเฉียวนัก กลาววา “ขาเปนคนใหอาหารแกเจา ไยเจาจึงมองขาดวย
สายตาระวังภัยเชนนั้น เจาควรจะระวังเด็กเวรนั่น หาไมแลว เขากินเจาแน!”
เจาตัวเล็กหัวเราะหึหึแลวพูดวา “ไปเถิด นางเปนที่พึ่งของเจา หากไมมีการมีงานก็
ขอดื่มขอกิน ภายหลังหากขาตองการเจา เจาคอยมาหาขา”
สิ่งมีชีวิตตัวนอยกระพือปกแลวพยักหนารัวๆ จากนั้นก็คลานเขาไปใกลหั่วหลิง
กะพริบตามมองนางดวยความฉงนสนเทห
“เจา…” หั่วหลิงโมโหไมสิ้น อยากจะฟาดมันสักฉาด แตเมื่อพินิจพิเคราะหแลวก็
หัวเราะ หากนํากลับราชวัง คอยๆ สอนสั่ง หมาปาเยาววัยปานนี้จะไปเขาใจอันใดกัน
จะตองแปรพักตรเปนแน
ยักษเลือดเงินกับราชันขนนกมองหนากันแวบหนึ่ง จากนั้นถอยหลังไปอยางรวดเร็ว
เพราะพวกเขารูดีวาไมมีทางชิงเทพเจานอยได ปรารถนารวบรวมกําลังพลคอยรบ
ภายหลัง
อยางไรก็ดี พวกเขาประสบกับการรวมมือไลลาของเจาตัวเล็ก หั่วหลิงและอัจฉริยะ
แหงศาลาปดฟา แทบสิ้นชีวิต ลวนถูกจับกุมตัว
หลายวันตอมา กลางหนองน้าํ แหงหนึ่ง สิงโตเกาเศียรคํารามอยางพิโรธ พุงตัว
ออกมาจากโคลน สูรบกับเจาตัวเล็กอยางไมยอมรามือ
มันลวงหลบหนีไปกอน หลบซอนอยูน านหลายวัน ไมตองการใหเจาปศาจนอยตัว
นั้นพบตัว เชนเดียวกันยักษเลือดเงินกับราชันขนนก เขาแพพายใตจมูกของหมาปานอย
ตัวนั้น แมจะลวงหนาหลบหนีไป ทั้งยังหางไกลเหลือหลาย เรนกายในบอโคลนก็ไร
ความหมาย
“เจาสกปรกนัก ไมสามารถขี่ไดแลว” เจาตัวเล็กไมพอใจ รบกับสิงโตเกาเศียรเปน
การใหญ สุดทายรวงลงบนน้ําตกทั้งสองฝาย เขาจึงไดทีขึ้นขี่สิงโตทอง
“ตัวขานี้เปนหลานแหงราชันเกาเศียร เจาขมเหงขาเชนนี้ หากออกจากโลกใบเล็กนี้
ไมเกรงกลัววาจะพบกับความวิบัติรึ?” สิงโตเกาเศียรคําราม แผงคอสีทองเปลงประกาย
หายใจกระหืดกระหอบ
“ปวดกบาลนัก เปดฉากรบแลว หากขาไมจัดการเจา เจาจะไมกลับไปรองเรียนใน
ภายหลังหรืออยางไร?” เจาตัวเล็กถามมัน
สิงโตเกาเศียรหายใจฟดฟด นี่ไมใชวาทําใหมันสุดทนหรืออยางไร?
“เชนนี้ดีกวา ใหขาไดกลอมเกลาเจา เจาจะไดนอมรับดวยความเต็มใจ ยินยอมเปน
สัตวพาหนะของขานั้นดีเพียงใด หากออกไปเจาจะไดไมตองไปฟองรอง” เจาตัวเล็กขี่อยู
บนหลังของมันอยางไมยอมลงมา เนื้อตัวสองแสงเตรียมปราบมัน
เห็นไดชัดวาจะไมสังหารทันที การตอสูเชนนี้จะตองกินระยะเวลานานเปนแนแท
เสียงสิงโตคํารามตอเนื่องอยูสามวันสามคืน เจาตัวเล็กขี่บนตัวมัน ใชญาณวิเศษจนหมด
หมายกําราบมัน
สุดทาย สิงโตเกาเศียรเหนื่อยลาไมไหว ขาออนลมพับลงไป ขนสีทองหมนแสง หอบ
หายใจหนัก
“วีรบุรุษหนุม ขายอมแลว พวกเราสาบานเปนพี่นองกันเถิด” สิงโตเกาเศียรเริ่มเกรง
กลัวเจาตัวเล็กขึ้นมาจริงๆ แลว
“กอนหนานี้เจาจะนําขาไปเปนสัตวรบไมใชรึ? ขาตองการใหเจามาเปนสัตวพาหนะ
ของขา!” เจาตัวเล็กนั่งอยูบนนั้น ไมยอมลงมา
“ขาผิดไปแลว ครั้งนั้นขาพูดโดยไมไตรตรอง โปรดอยาใสใจ มีสหายเชนขานี้ วัน
หนาเจาตองสะเทือนฟาดินเปนแน เพราะเผาพันธุของขาคนพบวิชาเกาแกอยางหนึ่ง ขา
จําตองใชมันเพื่อแปลงรางเปนอสูรบรรพกาลเลือดบริสุทธิ์ในภายภาคหนา เทียบเทากับ
เหนือสรรพสิ่งในโลกหลาเชียวละ”
สิงโตเกาเศียรกลาว พูดถึงความสําคัญของตนในเผาพันธุในชวงเวลาคับขัน เตือน
เขาไมใหมุทะลุบุมบาม ไมเชนนั้นอาจพบกับความหายนะได
“รายกาจปานนี้เชียวหรือ?” เจาตัวเล็กถลึงตาโตทันใดแลวกลาววา “ขามาที่นี่ก็เพื่อ
จับลูกอสูรบรรพกาลตัวหนึ่ง เชนนี้เทากับวา จับตัวเจาก็พอแลว ขาจะประหยัดพลังมาก
โขเชียวละ”
“โฮก…” สิงโตเกาเศียรคําราม แสงทองสวางโชติชวงอีกครั้ง มันเดือดดาลจนถึงขีด
สุด ไยจึงรูสึกวากําลังสีซอใหควายฟง
“เด็กชั่ว เจาปลอยมันเสียเถิด รวมสาบานกับมันเสียดีกวา ภายภาคหนาจะไม
เสียเปรียบ มีขอดีอยางใหญหลวง” หั่วหลิงเตือน
“เพียงแคสามารถผันแปรเปนสิงโตเกาเศียรเลือดบริสุทธิ์ไมใชหรือ รายกาจมากรึ?
ขาวา ขาไปจับลูกเจินโหวสักตัว หรือทายาทของนกยักษปกทองก็ไมใชปญหา” เจาตัว
เล็กไมยี่หระ
“เมื่อสิงโตเกาเศียรบรรลุเปนอสูรบรรพกาลเลือดบริสุทธิ์ มันจะรายกาจอยางที่เจา
จินตนาการไมได เคยสังหารเทพเจา ไมดอยไปกวานกยักษปกทอง!” แววเสียงศิษยพี่ผู
หนึ่งในมุมมืด
เจาตัวเล็กพยักหนาอยางจําใจแลวกลาววา “ก็ได เมื่อออกไปแลวเจามาเปนนองขา
ออ ใชสิ อยาลืมกําชับบอกราชันเกาเศียรประทานรางวัลงามแกขาละ อยางนอยๆ ตองมี
ยาล้ําคาหลายรอยชั่ง หากมียาวิเศษตนหนึ่งก็จะยิ่งดี”
“ผลุบ”
สิงโตเกาเศียรกระอักเลือด อายุอานามมากกวามัน ตองเปนนองงั้นรึ? ชางมันเสีย
เถิด ถูกโจมตีจนเจ็บปวดนานหลายวัน ยังจะใหประทานรางวัลแกเขาอีกหรือ? นี่… ยัง
ตองเปนยาล้ําคาหลายรอยชั่ง ผูอื่นนับเปนตน แตเขานับเปนชั่ง เห็นสิ่งเหลานี้เปน
ผักกาดขาวหรือ? สําหรับยาวิเศษ อยาไดฝนเฟอง แมแตจะคิดก็ไมตองคิด แมแตสิงโต
เกาเศียรเองยังตองใครครวญ ไมเคยเห็นวาปูของตนจะเด็ดใหกิน ของเยี่ยงนั้นอยูในเขา
เทพเจาบรรพกาล บางทีอาจมีอสูรบรรพกาลเชนมังกรชือ ฮุนตุน[2] เทาเที่ยเปนตน
พํานักอยูที่นั่น
“นองชาย พวกเราตอสูนานหลายวัน ตองพลาดโชคมากมายเปนแน ไดยินเผาพันธุ
ของเจามีญาณวิเศษ แบกขาไปหาของวิเศษพวกนั้นเร็วเขา” เจาตัวเล็กรองขอวา “หาก
หาบอน้ําอมฤตพบ จะไดรักษาหัวเหลานั้นของเจาดวย”
“ผลุบ”
สิงโตเกาเศียรเจียนกระอักเลือดอีกหน หารือมาคอนวันยังตองเปนสัตวพาหนะอีก
หรือ?!
“อยาไดกังวลไป เพียงชวยใหขาหาบอน้ําอมฤตจนพบ ก็ไมตองใหเจานําทาง ผูใดใช
ใหโลกภายนอกเลาขานกันวาพวกเจามีญาณวิเศษละ เจาจําตองชวยเหลือขา”
เสียงซิ่วดังขึ้น หมาปานอยคลานมาจากที่ไมไกลนัก นอนขดตัวอยูในอกของเจาตัว
เล็กดวยทาทีอิ่มเอมใจ
สิงโตเกาเศียรเห็นดังนั้นก็ใจสั่น นี่เปนถึงเทพเจานอย ไยจึงพึ่งพาพีน่ องรวมสาบานที่
ชั่วชาผูนี้ หรือเขาสามารถกําราบอสูรบรรพกาลไดจริงๆ หรือ?
มันครุนคิดอยูพักหนึ่ง พลันหวาดผวาขึ้นมา เพราะมันลึกๆ แลวมันรูวาตนนั้น
ยิ่งใหญ เมื่อเปรียบเทียบกันแลว รูสึกวาเจาเด็กตะกละคนนี้ไมไดคุยโวโออวด เขา
เกือบจะสามารถตอสูกับอสูรเลือดบริสุทธิ์วัยเดียวกันได
สุดทาย สิงโตเกาเศียรยอมศิโรราบ ใหเจาตัวเล็กสาบานวา หากพบบอน้ําอมฤตแลว
จะไมบีบบังคับมันอีกตอไป
“โปรดวางใจ เจาเปนนองขา ขาเปนพี่ยอมไมรังแกเจา พวกเราออกเดินทางกันเถิด”
เจาตัวเล็กฝากเทพเจานอยที่กําลังกระพือปกไวกับหั่วหลิงแลวพูดกําชับมันวา “กิน
ใหมาก รีบอวนทวนสมบูรณ ภายหลังขาจะนําเจากลับหมูบานของขา หากขาจับลูกอสูร
บรรพกาลไมได เจาตองรับผิดชอบปกปกษหมูบาน”
กลุมคนมองหนากันเลิ่กลั่ก ในใจกนดาเจาตัวปญหา นี่เปนถึงเทพเจานอย เจากลับ
ปฏิบัติกับมันเชนหมาปาหรือไมก็สุนัขตัวหนึ่งงั้นรึ? ใชใหเฝาบานระวังภัย ปกปกษ
หมูบาน ชางสุรุยสุรายนัก
สิ่งที่ทําใหคนเหลานี้หมดคําพูดคือ หมาปาเทากระพือปกพั่บๆ พยักหนาอยางจริงจัง
จากนั้นหันหลังไปขอของกินกับหั่วหลิงทันที
“ไยเจาคลายเขานัก ตะกละตะกลาม ชั่วชา!” องคหญิงประเทศเพลิงเดือดดาล
เจาตัวเล็กขี่อยูบนตัวสิงโตเกาเศียรลาลับไปไกล
อีกบริเวณหนึ่ง กลุมคนรวมตัวชุมนุมกัน สายฝนสาดทอ พรอมกับแสงอรุณ กระทบ
กายของพวกเขา ปรากฏมานหมอกเปนระลอก เสมือนวากลิ่นอายของพวกเขาแปร
เปลี่ยนเปนแข็งแกรงขึ้นทับทวี
“เผาสายฝนแหงขาเหมาะสมจะตอสูใตฤดูฝนยิ่งนัก มีขาวคราวของชายหนุมคนนั้น
หรือยัง?”
“จับตัวหมีเขาเดียวไดตัวหนึ่ง มันบอกวาเคยเห็นหนุมอํามหิตคนนั้น สังหารอัจฉริยะ
เผาไมผูหนึ่ง กินอสูรยิ่งใหญหลายตัว รูคราวๆ แลววาเขาอยูบริเวณใด”
“รอเขาออกมาจากเขตนั้น ขาวาจวนจะพบแลว พวกเรารอเขาปรากฏตัวอยูที่นี่
แหละ!”

………………………………………………….

[1] ฉงฉี หนึ่งในสี่สัตวอสูรของจีน รูปรางคลายเสือ มีปก ทําหนาที่ขับไลสิ่งชั่วราย

[2] ฮุนตุน หนึ่งในสี่สัตวอสูรในตํานานจีนโบราณ รูปรางอวนทวนคลายสุนัข แดง


ฉานดุจไฟ มีปกสองคู ขาหกขาง
บทที่ 126 เผาสายฝน
ไยสิงโตเกาเศียรจึงดุรายทรงพลังปานนั้น รางกายดุจหลอมจากทองคํา แข็งแรง
กํายําและนาสะพรึงกลัว แผงคอสีทองพราตาอยางยิ่ง กายเปยมดวยพลังอันนาตื่นตะลึง
นัยนเนตรเย็นเยือก ราวกับเทพเจาบรรพกาลมาจุติบนโลกมนุษย กระทดกระทวย
ทามกลางเทือกเขา สรรพสัตวพากันสั่นเทิ้มดวยความกลัว
“ขาไมไดมองผิดไปสินะ นั่นคือสิงโตเกาเศียรใชไหม ตามตํานานกลาววาเปนอสูร
เมื่อเติบใหญจะมีพลังวิเศษขั้นสูง ไมสามารถทัดเทียมได ไยบัดนี้จึงกลายเปนสัตวพาหนะ
เลา?”
“ขามองเห็นอะไรกัน? สิงโตเกาเศียรจริงๆ! ขาเคยมองเห็นมันอยูไกลๆ เพียงหนึ่ง
คํารามสะเทือนภูเขาแตกเปนเสี่ยง ราชันเยยสรรพสิ่งเชนนี้ ไฉนตอนนี้ถูกกําราบเสีย
แลว?”
ไมรูวามีสิ่งมีชีวิตมากมายเพียงใดกลางเทือกเขาที่หวาดผวา สิงโตเกาเศียรสงาผาเผย
ไดรับสมญานามวาเปนจอมราชันแหงอสูรบรรพกาล ภายในกายมีเลือดวิเศษไหลเวียน
อยู เลื่องชื่อลือนาม บรรพบุรุษของสะเทือนตั้งแตโบราณ รุงโรจนจวบจนปจจุบัน มีฉายา
วาราชันเทพเจาเมื่อครั้งบรรพกาล ทวาบัดนี้ สีทองทองคําผูมีสายเลือดยิ่งใหญกลับถูก
มนุษยคนหนึ่งปราบปราม กลายเปนสัตวพาหนะ นี่ตองเปนขาวคราวอันนาตื่นตะลึงเปน
แน!
เจาตัวเล็กควบอยูบนสิงโตเกาเศียรดวยความพออกพอใจยิ่งนัก เยื้องยางกลางพนา
ทะลวงผานปาใหญ ไรสิ่งมีชีวิตมาทาทาย ลวนขวัญหนีดีฝอ ยําเกรงอยางหาที่เปรียบ
ไมได
สัตวพาหนะเชนนี้ ชางนาเกรงขาม สะเทือนเทือกเขาสั่นไหว ทุกหนแหงที่ยา งผาน
สรรพสัตวหนีเตลิดตั้งแตมองเห็นมันรําไร ลวนตัวสั่นงันงก
“นองชาย เจารายกาจจริง เพียงเดินเหินกลางพงไพร หมื่นสัตวพรั่นพรึง รอยปกษา
หวาดกลัว พวกเราออกเดินตั้งแตรุงอรุณยันตอนนี้ ไมพบคนที่อาจหาญหาเรื่องแมแตคน
เดียว” เจาตัวเล็กกลาวชื่นชม
สิงโตเกาเศียรไดยินก็แทบจะร่ําไห ลดฐานะเปนเพียงสัตวพาหนะ เดินทางเชนนี้มา
ตลอดทาง ผูอื่นจะไมเกรงกลัวไดหรือ? เมื่อครั้งอดีตกาลก็มีเพียงทวยเทพที่สามารถใชผู
กลาของเผาพันธุนี้เปนสัตวพาหนะเทานั้น หากเปนผูอื่นจะกลาหรือ?
ยิ่งไปกวานั้น ในอดีต ภายหลังจากบรรพบุรุษแหงเผาพันธุกลายเปนอสูรบรรพกาล
เลือดบริสุทธิ์ ก็สังหารเทพเจาทิ้งทันที เผาพันธุที่อํามหิตเชนนี้ จะมีสักกี่คนกลายั่วยุ?
สิงโตเกาเศียรอกตรม ตลอดการเดินทาง พวกเขาสะเทือนขวัญไปทั่วทุกสารทิศ ทํา
ใหอัจฉริยะของเผาตางพันธุตางหนีเตลิด แตสําหรับมันแลวไมถือวาเปนความสงางามแต
อยางใด เพราะลดฐานันดรกลายเปนสัตวพาหนะเสียแลว
พวกเขาแยกทางกับองคหญิงประเทศเพลิง และอัจฉริยะแหงศาลาปดฟาแลว เจา
ตัวเล็กจะออกตามหาบอน้ําอมฤต แสวงหาโชคของเขา เดินทางออกจากอาณาเขตนี้
“ลูกประคําสีทองของเจาไมเลวนัก แตละลูกดุจโลกใบเล็ก นายําเกรง” เจาตัวเล็ก
พูดเยินยอลูกประคํากระดูกมันขลับของมันไมขาดปาก
สิงโตเกาเศียรทะนงตน และไมไดหวนคิดถึงความเปนมาของลูกประคําเสนนี้ มัน
เปนสิ่งที่ขัดอยางประณีตจากกระดูกทองคําของผูอาวุโสซึ่งมากดวยคุณธรรมที่ลวงลับไป
แลว มีพลังอักขระอันนากลัวของเผาพันธุนี้ เมื่อราชันเกาเศียรประทานให มันก็รักษายิ่ง
ชีพ
“ขอขาเชยชมสักหนอยไดหรือไม?” เจาตัวเล็กยิ้มเอียงอาย ยื่นมือออกไปขอชื่นชม
สักหนอย
“ไมได!” แผงคอของสิงโตเกาเศียรลุกซู ขนสีทองทั่วรางตั้งชัน นัยนตาตั้งขึ้นทันใด
ปฏิเสธอยางเด็ดขาด
เพราะมันรูวา หากมันสงออกไป ตองเปนการใชซาลาเปาไสหมูตีสุนัข[1] พี่นองรวม
สาบานผูนี้อํามหิตเหลือเกิน หากไดไปครองตองไมไดคืนเปนแน
“นองชาย เจาตองใจกวาง ภายภาคหนาจึงจะทรงพลังสามารถกลืนกินคีรีธารา เปน
กษัตริยปกครองไพรฟา มันเปนเพียงลูกประคําเสนหนึ่งไมใชหรือ เพียงเชยชมไมทําให
มันลดลงเสียหนอย เจาก็ชางตระหนี่เหลือเกิน” เจาตัวเล็กไมพอใจ
“หากถึงมือเจา ขายังจะไดมันคืนหรือ ตองกลายเปนของเจาอยางแนนอน!” สิงโต
เกาเศียรตอบดวยทาทีฟาดใหตายก็ไมยอมสงมอบ
เจาตัวเล็กสายหนาแลวกลาววา “ชางเถิด แคลูกประคําเสนเดียว แตเจากลับตื่นตูม
ถึงเพียงนี้ วันหลังพี่จะมอบใหเจาสัก 180 เสน ใหเจาไดมองลูกประคําจนอยากจะ
อาเจียน ออ ใหขาดูดาบทองที่แปลงจากเขี้ยวคมเกาชิ้นนั่นเสียหนอยสิ อันนี้คงไมมี
ปญหาหรอกกระมัง?”
“ไมได!” สิงโตเกาเศียรหนักแนนและเด็ดขาด ไมวาจะพูดอยางไรก็ไมยอมใหหยิบ
ยืม
“นองชาย นี่เปนขอบกพรองของเจาแลวละ แคอาวุธล้ําคาชิ้นเดียวเทานั้น พี่ขอดูสัก
หนอยก็ไมได เจาวาเจาตองขี้เหนียวปานใด เปนราชสีหตองใจอารี ไมสมควรทําเชนนี้!”
สิงโตเกาเศียรไมแยแส พร่ําบนในใจ เพียงอารีก็จะเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ ยินยอมจะ
ตระหนี่เชนนี้เสียยังดีกวา
เจาตัวเล็กพร่ําสอนจนปากเปยกปากแฉะมาตลอดทาง ตักเตือนซ้ําแลวซ้ําเลา เปน
สิงหตองมีใจกรุณา อยาคิดเล็กคิดนอย วันขางหนาจึงจะมีประสบผลสําเร็จอยางใหญ
หลวง เขาคิดหาทุกวิถีทางเพื่อยืมสมบัติมาเชยชม ปรากฏวาลมเหลวสิ้นดี
สุดทาย เขาเรงเสียงใหดังแลวกลาววา “เจาจะใหยืมหรือวาไมใหยืม?”
“ไมให!”
“เยี่ยงนั้นจะโทษพี่ไมได ขาจะแยงมาดูดวยตัวขาเอง!” เจาตัวเล็กขมขู
“อาวุธล้ําคาสองชิ้นนี้เปนสวนหนึ่งของกระดูกขาเนิ่นนานแลว หากเจายังบีบคั้น ขา
ระเบิดตัวเองเสียดีกวา!” สิงโตเกาเศียรก็เด็ดขาด ยอนกลับมาขูเข็ญ
“เจาสิงโตตระหนี่แมแตขนเสนเดียวก็ไมยอมถอน![2]” เจาตัวเล็กฉุนเฉียว
“โฮก…” สิงโตเกาเศียรรองโหยหวนแลวกลาววา “เจาทึ้งแผงคอทองของขาเปน
กอบกํา นี่ยังเปนขนเสนเดียวไมยอมถอนอีกหรือ? หากเจาจิกทึ้งขนของขาอีก ขาจะไม
ทน!”
“เจาไมใหอาวุธล้ําคาแกขา มอบขนทองสักหนอยนาจะไดกระมัง ถักทอเปนเสื้อ
คลุมแขนกุดก็ไมเลวนัก”
“ขาจะไมทนแลว!”
ตลอดการเดินทางนี้ พวกเขาทั้งสองประเดี๋ยวก็วิ่งตะบึง ประเดี๋ยวตวาดดวยความ
โมโห ไมมีเวลาที่สงบแมเพียงวินาที
เบื้องหนามีหมอกเลือนราง มาถึงปลายทางของเขตนี้ ที่แหงนั้นมีหนทางสองแสง
หนึ่งทาง เชื่อมทะลุไปยังอีกเขตหนึ่ง
“ชริ้ง”
เจาตัวเล็กยกมือ ใชกระจกกระดูกแวววาวในมือสองออกไป ดงไพรที่หางไกลสั่นไหว
สายฟาแลบแปลบปลาบ สะเทือนจนกลุมสิ่งมีชีวิตโผลมา ในนั้นไมขาดผูดํารงแข็งแกรง
สิงโตเกาเศียรผงกศีรษะ แสงทองสวางไสว ยางสามขุมเขาไปเอยถามวา “ระยะนี้
ที่นี่มีสิ่งที่ไมชอบมาพากลหรือไม?”
จวนกาวขามเขตนี้ เขาสูสิ่งแวดลอมอันไมคุนเคย พวกเขาเพียงเอยถามแบบขอไปที
ก็เทานั้น ไมคาดคิดวาจะไดรับขาวที่ทําใหพวกเขาใจเตนระรัว
“มีมนุษยผูกลาบางสวนเขาๆ ออกๆ เสมือนวากําลังรอคอยคน จัดเตรียมบางสิ่งบน
ปลายทางของอีกเสนทางหนึ่ง” แววเสียงปกษาอสูรตัวหนึ่ง
“มีการซุมโจมตี!” สิงโตเกาเศียรตะลึงงัน
“นองชาย ผูกลาเหลานั้นตองมาเพราะเจาเปนแน อยากจับตัวอสูรบรรพกาลเชน
เจา เพราะทั้งเนื้อทัง้ ตัวของเจาลวนเปนของล้ําคา ประเดี๋ยวยามลงมือ เจาตองทุมพลัง
ใหเต็มที่ ตัวพี่จะคอยเปนเสริมอยูเคียงขางเจา” เจาตัวเล็กมีทาทีองอาจผึ่งผาย
หากไมรูจักเขา สิงโตเกาเศียรตองตื้นตันใจเปนแน ทวาจากการไดสัมผัสอยูนาน
หลายวัน ทําใหเขารูสึกวา เจาเด็กนี่ไมมีทางหวังดีถึงเพียงนี้ เขากลาวอยางลังเลวา “ขา
ไดยินวา อิทธิพลใหญมากมายแหงเผาพันธุมนุษยลวนตองการจับตัวเจา คงไมไดมุง
เปาหมายมาที่เจากระมัง?”
เจาตัวเล็กพูดหักลางดวยเหตุดวยผลวา “ความขัดแยงในเผาพันธุมนุษยคงไม
โหดรายเพียงนี้ กอนเขามาที่นี่ ขาไดยินวามีหนึ่งเผาพันธุตองสกัดผงยาวิเศษ 6 ชนิด
ตองการเลือดล้ําคาของอสูรบรรพกาล 6 ชนิด
ร่ําลือวาสิงโตเกาเศียรมีญาณวิเศษ แนนอนวาเจาถูกจัดอยูในใบสั่งยานั่น แมจะเปน
มนุษยเหมือนกัน ขาก็ไมอาจทนดูได ครั้งนี้ตัวพี่จะชวยเปนแรงเสริม สังหารพวกมันให
พายแพยับเยิน!”
สิงโตเกาเศียรเหลือกตามองเขา ไยจึงรูสึกวาไมชอบกล แตวา มันกลับไมสามารถ
สงบจิตสงบใจได เพราะกอนเขามา มันไดฟงคําเลาลือเชนนี้อยางแทจริง
“ไป พวกเราเลือกอีกเสนทางหนึ่ง จากนั้นออมไปดานหลังของพวกเขา ลอมพวก
เขาในเขตนั้น สังหารใหสุขใจ” เจาตัวเล็กกลาว
เขตนี้มีทั้งสิ้นสองเสนทาง เชื่อมไปยังนอกโลก พวกเขาเปลี่ยนทิศทางอยางรวดเร็ว
วิ่งหอไปอีกเสนทางหนึ่ง
สิงโตเกาเศียรมีความเร็วถึงขีดสุด กลายเปนแสงทองหอเหยียดบนแผนดิน ทําให
สรรพสัตวตื่นตระหนกตกใจ
เบื้องหนาของอีกเสนทางหนึ่ง ไอน้ําขมุกขมัว แสงอรุณระยับพราว ดานหลัง
ประหนึ่งดินแดนราบลุมแมน้ํา ที่นี่ไรการปรากฏกายของสิ่งมีชีวิต เพราะทุรกันดารเปน
อยางมาก
“ไป!”
เจาตัวเล็กควบสิงโตเกาเศียรพุงทะลวงผานไป เหยียบย่ําเสนทางสีทอง เดินทางขาม
โลกออกจากเขตเดิม
สายฝนพรําๆ ไอหมอกลอยวนเวียน
พวกเขาฝาผานมา รูสึกวาไอวิเศษในเขตนี้เขมขนอยางหาที่เปรียบไมได เพียงแต
ความชื้นเชนนี้ทําใหรูสึกไมสบาย ไมคอยคุนชิน
เดินทางลึกเขาไปหลายสิบลี้ ฝนยังคงโปรยปราย ฟาดินเต็มไปดวยหมอกขมุกขมัว
และบนแผนดินมากดวยทะเลสาบและแมน้ําลําคลอง เปนดินแดนราบลุมแมน้ําขนานแท
“ตรงนั้นมีเจียวอยูตัวหนึ่ง!”
เจาตัวเล็กชี้แมน้ําใหญสายหนึ่ง ใหสิงโตทองวิ่งหอผานไป หมายลงน้ําเพื่อจับเจียว
ปรากฏวาเมื่อเขาประชิด เจียวเขียวตัวนั้นก็วิ่งหนีไป
สิ่งมีชีวิตจํานวนมากถูกทําใหตื่นตกใจ พวกเขาตางหวาดผวากับชายหนุมที่ควบสิงโต
เกาเศียรทะเลอทะลาเขามา ตางพากันลาถอย ไมกลายั่วยุ
“โครม”
ทันใดนั้น ยามสิงโตเกาเศียรพาเจาตัวเล็กกาวเขาสูเขตภูเขาและแมน้ํา อักขระก็
ปรากฏวูบวาบเปนวงกวาง แสงวิเศษนานาชนิดสอดประสาน ประหนึ่งดาบคมฟาดลงมา
ทางพวกเขา
นี่เปนหายนะครั้งหนึ่ง อักขระผนึกกําลัง แสงวิเศษบดบังทองฟา ทวมทนบริเวณนี้
นากลัวจนทําใหผูคนสั่นสะทาน
“โฮก…” สิงโตเกาเศียรคํารามดวยความพิโรธ
เจาตัวเล็กเองก็แหงนหนาหวีดรองขึ้นฟา พวกเขาตอตานอยางสุดแรงเกิด
นี่เปนคายกลอักขระ พวกเขายางเขาสูภายใน กระตุนคายกลใหตื่นตัว ทําใหที่นี่
กลายเปนดินแดนแหงความวิบัติ แสงวิเศษจํานวนมากกวาดผานไป อัดผืนปาใหราบเปน
หนากลอง
“ชางเปนคายกลที่แข็งแกรงนัก!”
ทั้งสองตอตานดวยพลังทั้งหมดที่มี ตางเสกอาวุธล้ําคาออกมา ทําการปะทะโจมตี
ดวยตองการฝาทะลวงออกไป ไมเชนนั้นหากชักชาอาจสิ้นชีพ ณ ตรงนี้ก็เปนได
“ชริ้ง”
กรรไกรเจียวทองในมือเจาตัวเล็กสองแสง ฟนภูเขาลูกหนึ่งหัก ทลายจุดสําคัญของ
คายกลอักขระ สิงโตเกาเศียรําคามเชนกัน ปากพนลูกประคําออกมาหนึ่งเสน โจมตีปา
หินจนแหลกลาญ พุงไปดานหนาอยางบาระห่ํา
พวกเขาฝาคายกลแหงนี้ไปได ทวาสิ่งที่รอคอยพวกเขาอยูกลับเปนแสงโชติชวงที่เจิด
จายิ่งกวา ลวดลายคายกลอันไมสิ้นสุดสวางขึ้นอีกครา แผคลุมไปทั่วบริเวณนี้
“ยังมีอีกหนึ่งชั้น!”
หนึ่งคนหนึ่งสัตวตะลึงงัน ทุมเทสุดความสามารถ ทลายคายกลอยางไมลดละ หมาย
พุงออกไป
“โครม”
อักขระกะพริบระยิบระยับ พื้นดินสั่นสะเทือนอีกครา ลวดลายคายกลสวางขึ้นอีก
ครั้ง ปกคลุมที่แหงนี้ไว
“สมควรตาย มีคายกลกี่ชั้นกันแน?” สิงโตเกาเศียรรูสึกเย็นเยือกจับขั้วหัวใจ
สังหรณใจวาเรื่องนี้ไมชอบมาพากล
ใตการลงมือของพวกเขา บริเวณนี้สองแสงอยางไมรูจักจบสิ้น คายกลอักขระถูก
กระตุนใหตื่นตัวสิริรวมหาชั้น ผนึกที่แหงนี้ไว หมายกําราบพวกเขาใหวายชนมอยูตรงนี้
แตนี่คือเจาตัวเล็กและสิงโตเกาเศียร หากเปนผูอื่นคงถูกฟาดฟนจนเละเทะเปน
เวลานานแลว สิ้นชีพอยูในคายกลอักขระนี้
แนนขนัดเต็มทองนภา ทุกหนแหงลวนมีแสงวิเศษ อักขระหลากชนิดสองแสงวูบวาบ
กลายเปนลูกธนูแสง รวมตัวกันเปนหอกศึก กอตัวเปนดาบวิเศษ และยังมีขวานดามเล็ก
จูโจมไปทัว่ ทุกบริเวณ นากลัวสุดแสน
สุดทาย พวกเขาฝาทะลวงออกมาได รางกายมีลอยเลือดเปนจุดๆ ไดรับบาดเจ็บกัน
เล็กนอย
“ผูใดซุมโจมตีพวกเรากัน?” สิงโตเกาเศียรคําราม ไหลของมันถูกอักขระฟาดเขา
อยางจัง เลือดหลั่งริน แสงทองทั่วรางเดือดพลาน สะเทือนจนมันโกรธกริ้วอยางแทจริง
เจาตัวเล็กมือถือกระจกกระดูก ทอดมองไปไกล มีเสียงทะลวงฟาแววมาจากตรงนั้น
คายกลอักขระทั้งหาถูกปลุกปน สะเทือนผูคนที่อยูหางไกล
“อะไรกัน คายกลถูกทลายแลวรึ?”
มีคนทั้งสิ้น 10 คนรุดเขามา แตละคนลวนไมธรรมดา ตางเปนผูกลาวัยหนุม พวก
เขาเผยสีหนาตะลึง
“สิงโตเกาเศียร!” พวกเขาอุทานอยางตกตะลึง มองเห็นหนึ่งคนหนึ่งสัตวกําลังเดิน
ออกมาจากกลุมควันดวยนัยนตาขมึงทึง
มีคนกําราบสิงโตเกาเศียรได ทําใหคนกลุมนี้พรั่นพรึง เดิมทีนี่เปนหนึ่งในเปาหมาย
ของสือยี่ เขาจะเขามาเสาะหาสัตวพาหนะสักตัวสองตัว
ทวา บัดนี้บนหลังของสิงโตเกาเศียรไมใชสือยี่อยางแนนอน แตกลับเปนชายหนุมอีก
คน ทําใหพวกเขาอกสั่นขวัญแขวน
“เปนเขา!”
เมื่อพินิจมอง พวกเขามองออกวาเปนเจาตัวเล็ก เปนเจาเด็กเหลือขอในโลกแหง
ความวางเปลาผูนั้นเอง
“พวกเจาเปนใคร ไยจึงสรางคายกลลอบโจมตีขา?” เจาตัวเล็กน้ําเสียงเย็นเยียบ
สายฝนโปรยปราย สาดเทลงบนรางกายของคนกลุมนี้ ทําใหแสงล้ําคาพวยพุง
ออกมาจากกายของพวกเขา พลังปราณของแตละคนลวนยิ่งใหญ นัยนตาเย็นเยือก แต
กลับไมปริปากตอบคําถาม
ไอหมอกกระเพื่อมขึ้นลง เจียนอัดลงมายังพื้นดิน ฝนตกหนักยิ่งขึ้น นี่ไมใช
ปรากฏการณตามธรรมชาติ เหมือนวาเพราะคนเหลานี้ยืนอยูที่นี่ จึงกอใหเกิดสายฝน
กระหน่ําเทลงมา
เมื่อเจาตัวเล็กเห็นเชนนั้นก็หวั่นวิตก คาดเดาสถานะของพวกเขาออก ตามตํานาน
กลาววา เมื่อเผาสายฝนอาบน้ําฝน พละกําลังจะเพิ่มขึ้นเปนเทาตัว
“8 ปกอน เผาขาสั่งการมือดีโจมตีคูสามีภรรยาสือจื่อหลิง แมจะมีผูกลาสิ้นชีพไม
นอย แตทําใหพวกเขาหลั่งเลือดยอมดินแดนตะวันตก ไดรับบาดเจ็บสาหัส เชื่อวาคงยาก
จะมีชีวิตรอด”
หนึ่งคนเปดปาก เขาไมไดเผยตัวตนที่แทจริงของคนกลุมนี้ เพียงเอยวาจาพิลึกเชนนี้
จากนั้นจดจองเจาตัวเล็กอยางไมละสายตา มองดูปฏิกิริยาของเขา
เจาตัวเล็กใบหนาไรความรูสึก จองมองพวกเขาอยางไมยหี่ ระ
เห็นไดชัดวา คนเหลานี้กําลังสืบเสาะตัวตนของเขา หากเปนเด็กเมื่อครั้งนั้น อาจถูก
ปลุกปนใหโมโห เพราะนี่เปนความแคนอันยากจะลืมเลือน
เจาตัวเล็กเปนผูสูงสงแตกําเนิด แตกลับถูกมารดาของสือยี่ขุดเอากระดูกขั้นสูงสุดไป
ชุมเลือด ฝงมันในรางของสือยี่ผูเปนลูกในไส สตรีผูนี้ถือกําเนิดในเผาสายฝน
สุดทาย พวกเขาไมไดขออภัยโทษ ไมเคยสํานึกผิด กลับกันยังเปดฉากไลลาสังหาร
นับแสนลี้ หมายกําจัดคูสามีภรรยาสือจื่อหลิง
เจาตัวเล็กเฉยเมยอยางยิ่ง นั่งควบอยูบนสิงโตเกาเศียร ไมไดเอื้อนเอยถอยคําใด
เพียงยกกระจกล้ําคาในมือเทานั้น!

……………………………………………………

[1] ใชซาลาเปาไสหมูตีสุนัข สุภาษิตจีน เปรียบเปรยวา ใชซาลาเปาไสหมูตีสุนัข มัน


ไมเจ็บ กลับกันจะคาบเอาไปกิน หมายความวา มีแตใหไมไดคืน

[2] ขนเสนเดียวก็ไมยอมถอน สํานวนจีน อุปมาวา ตระหนี่ขี้เหนียว


บทที่ 127 ลาเหยือ่ กลางสายฝน
กลุมคนตรงขามแปรเปลี่ยนสีหนา พวกเขามาจากเผาสายฝน มากประสบการณและ
มีความรูกวางขวาง ยอมดูออกวากระจกกระดูกแวววาวในมือของเจาตัวเล็กไมธรรมดา
สุดทายกลับสงเสียงคลื่นซัดสาดดังครืนครั่น
เสียงโครมดังขึ้น คนทั้งสิบเคลื่อนไหวพรอมกัน เกลียวคลื่นใหญสีฟาไหลบามาลูก
แลวลูกเลา ทวมทนผืนปา เผาสายฝนความของกับน้ําแตกําเนิด
กลางนภา สายฝนหาใหญเทกระหน่ํา ราวกับเติมพลังปราณแกพวกเขาอยางไมหยุด
ไมหยอน ชั่ววินาทีนี้ สิบคนเชื่อมประสานฟาดิน ลมปราณดุจมหาสมุทร อักขระเนือง
แนน กลายเปนคลื่นใหญหลายสิบลูกมวนตัวไปขางหนา
นี่ไมใชบริเวณหนองบึงโดยแทจริง แตเปนคลื่นที่เกิดจากการผนึกกําลังของอักขระ
กวางใหญสุดลูกหูลูกตา บดบังฟากฟา นาตื่นตะลึงและครั่นครามเหลือเกิน
“ปง”
ไมไกลนัก ภูเขาเตี้ยลูกหนึ่งถูกคลื่นทวมนองทันที ยอดเขาหักทลาย รวงดิ่งลงมา
กอนหินสั่นสะเทือนดังกึกกอง ตนไมแกหักโคน ระเบิดจนแหลกละเอียดภายในพริบตา
“ไป!”
สิงโตเกาเศียรคํารามทุมต่ํา ลูกประคําสีทองเสนหนึ่งปรากฏขึ้น แบกมันลอยขึ้น
กลางฟาสูง หลบหลีกคลื่นอักขระหลายสิบลูกนี้ แข็งแกรงปานมันก็ไมอาจตานทาน
“นี่เปนเคล็ดวิชาล้ําคาที่นากลัว สิบคนรวมอักขระเปนหนึ่ง อานุภาพที่สําแดง
ออกมาไมไดงายดายเชนการรวมมือของสิบคน
แตเทากับยี่สิบสามสิบคนกําลังลงมือ นาสะพรึงกลัว!” แมแตเจาตัวเล็กก็หวาดกลัว
สิบคนนี้ไมธรรมดา แตสิ่งที่ทําใหพวกเขาอกสั่นขวัญแขวนยิ่งกวาคือ การรวมเคล็ดวิชา
ล้ําคาของพวกเขา
“ลมเอื่อยฝนพรําฟนจันทราและดารา!”
คนเหลานี้ตะโกนพรอมกัน สายฝนหนาแนนกลางนภา กลายเปนมีดคมกันจนสิ้น
รองหวีดหวิว ระยับแสงเจิดจาพราตา มวนตัวมายังหนึ่งคนหนึ่งสัตวอยางมืดฟามัวดิน
“ชริ้ง” “ชริ้ง”
สามารถมองเห็นไดชัดเจน หยาดฝนทุกหยดลวนแหลมคนดุจโลหะ ทิ่มแทงยอดเขา
แหงหนึ่งจนเปนรูพรุน ทางดานของตนไมเกาแกเหลานั้นแหลกละเอียดทันที และกอน
หินใหญกลับกลายเปนรังผึ้ง เปนหลุมไปทั่วทุกหนแหง
สิงโตทองคํารน กระทืบเทาทั้งสี่แลวลอยตัวขึ้น รางกายสวางวาบ พุงเขาหาคน
เหลานั้นจากนภาสูง ขณะเดียวกัน ลูกประคําก็สองแสง กลายเปนกลุมแสงคุมกัน
รางกายของมันไว
“ยิ่งใหญเหนือฟาสะเทือนปฐพี!” สิบคนรองตะโกน
บัดนี้ สายฝนเทกระหน่ํา แองน้ําบนพื้นดินพลุกพลาน กลายเปนหนองบึ้งขาวโพลน
อักขระกระจายตัวทุกหนแหง มวนตัวพัดเขามาหาพวกเขา
ทั้งทะเลสาบใหญใกลเคียงก็ถูกเชื่อมประสาน ซัดสาดเขามาประหนึ่งทะเลคลั่ง
อักขระรวมตัว ระยับแสงพรางพราย มาเยือนดวยอานุภาพรายแรง
เสียงทึบดังครืนครั่น เกลียวคลื่นสะทานฟา อักขระมากเหลือคณานับเขาสมทบ
กลายเปนแหลงกําเนิดแหงหายนะ จะทวมทนจนพวกเขาทั้งสองจมอยูที่นี่
สิงโตทองใบหนาถมึงทึง มันเปนจาวแหงสัตวบก ชิงชังหนองบึงเชนนี้ที่สุด มากกวา
นั้นคือแฝงดวยเคล็ดวิชาล้ําคา ริ้วรอยอันนับไมถวนผนึกกําลัง ทําใหมันรูสึกไมเปนสุขยิ่ง
นัก
“ทําลาย!”
เจาตัวเล็กลงมือ กางมือขวาออก สายฟาสีทองหาเสนถูกปลอยออกไป สะเทือนไป
ทั่วผืนน้ํา ขณะเดียวกัน มือซายถือกระจกล้ําคา กระตุนมันอยางสุดแรงเกิด ระเบิดเสียง
ดังสนั่นหวั่นไหว สายฟาพุงขึ้น ใหญโตมโหฬารอยางหาที่เปรียบไมได โจมตีมานสายฝน
เสียงตูมดังขึ้น ไมรูวามีกระแสไฟมากมายเพียงใดปะทุ เริงระบํากลางบึงน้ํา แสง
สายฟาโชติชวงเคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว บาคลั่งอยางยิ่ง
เมื่อมีน้ําก็ตองมีสายฟา พวกมันประสานเชื่อมโยง ภาพเหตุการณนากลัว พลังของ
น้ํารุงโรจนมากยิ่งขึ้น สายฟาผนึกกําลังแข็งแกรงขึ้น หนึ่งเปนตัวพาหะ อีกหนึ่งเปนพลัง
วิเศษ เมื่อทั้งสองพบกัน กลายเปนการปะทะที่งดงามอยางนาตื่นตะลึงครั้งหนึ่ง
“อาก…”
เพียงชั่วขณะก็มีหกคนรองครวญคราง ตัวลอยขึ้น สามารถมองเห็นไดชัดเจนวา
รางกายของพวกเขาดําเกรียม มีควันพุงขึ้นมาเปนกลุมเปนกอนใตสายฝน ไหมเกรียมสิ้น
ดี
หกคนรวงลงสูพื้น กระแทกจนแยกเปนสี่ชิ้นหาสวน เพราะพวกเขาถูกสายฟาฟาด
จนเปนถานดํา กระแทกเพียงเล็กนอยก็แตก
ยังมีอีกสามคนกระอักพนเลือดคําใหญ รางกายดําเกรียม ไมไดสิ้นลมทันใด นัยนตา
เผยแววหวาดกลัว ชี้เจาตัวเล็กอยางสั่นเทาแลวกลาววา “เจา…”
เพียงพวกเขาอาปาก ก็พนกระแสไฟออกมา พนออกมาเพียงคําเดียวก็แยกเปนชิ้นๆ
สิ้นชีพอยูตรงนั้น
มีเพียงหนึ่งคนที่ไดรับบาดเจ็บนอยกวา รางกายครึ่งซีกเริ่มดําเกรียม ชักกระตูกดวย
ความหวาดผวา ศีรษะไมถูกสายฟาโจมตี ใบหนาซีดเผือก เขาพูดเสียงสั่นวา “กระตุน
และพิชิตในเวลาเดียวกัน ความลึกลับขั้นสูงของเผาสายฟา ไยจึงตกอยูในเงื้อมมือของ
เจาได? ใชสิ นั่นเปนกระดูกล้ําคาของซวนหนี พิชิตพวกเราชาวสายฝนโดยเฉพาะ ชิงชัง
นัก!”
เขาวิ่งหนีทามกลางความพรั่นพรึง อยากลาจากอยางรอดชีวิต เพื่อตักเตือนชาวเผา
สายฝน แตทวา เจาตัวเล็กจะใหโอกาสแกเขาไดเยี่ยงไร เรงเราสิงโตเกาเศียรใหรุดหนา
ตัดขาดเสนทางในพริบตา
สิงโตเกาเศียรกําจายแสงทอง เจิดจาพรางพรายทั้งตัว ยืนตระหงานอยูตรงนั้น สกัด
กั้นเสนทางดุจกําแพงชั่วรายสีทอง ทําใหเขาสิ้นหวัง เต็มไปดวยความเกรงกลัว
ชายหนุมผูนี้เยาววัยถึงปานนี้ กลับสามารถกําราบสิงโตเกาเศียรได คิดดูแลวเมื่อ
หลายปกอน ครั้งสือยี่วัยเดียวกับเขาก็เปนเชนนี้แล แมวาจะแข็งแกรงก็ไมไดเหนือกวา
มาก เกิดความหวาดกลัวยิ่งขึ้นมาในจิตใจ ไมรูวาหนนี้เผาสายฝนทําพลาดไปแลวหรือไร
ไยจึงตองยั่วยุชายหนุมนากลัวปานนี้ดวย หากวันนี้ไมขุดรากถอนโคน ตองเปนความวิบัติ
ครั้งใหญหลวงในภายหลังแน!
“ขาจะบอกเจาใหก็ได ขาก็คือเด็กในอดีตผูนั้น” เจาตัวเล็กพูดเสียงเบา ดวงตาดุจ
ทะลุเขาสูความวางเปลาอันไรที่สิ้นสุด มองเห็นเรื่องราวในอดีตเมื่อ 8 ปกอนเปนฉากๆ
“อะไรนะ?!” อัจฉริยะผูนี้หวาดหวั่น เนื้อตัวเย็นวาบ รางกายเย็นเฉียบ เขารูสึกราว
กับตกลงไปในขุมนรก เขาสํานึกผิดแลว!
เมื่อครั้งอดีต เผาสายฝนกอเรื่องมากมายปานนั้น จะมีคุณงามความดีไดอยางไร เด็ก
ที่สูญเสียกระดูกขั้นสูงสุดในวันวานกลับมีชีวิตรอด ทั้งยังเติบโตจนถึงขั้นที่นากลัวเพียงนี้
ตองกอเกิดความวิบัติครั้งใหญในวันขางหนาเปนแน
เหมือนวาเขาจะมองเห็นแลว ในอนาคต สงครามใหญกินเวลานานหลายวัน บรรพ
บุรุษลาทางโลกเขาสูการบําเพ็ญทั้งหลายแหงเผาสายฝนถูกปลุกใหตื่น เดินมาจาก
ประเทศบานเกิด ลวนจะรวมรบจนอาบเลือด! เด็กคนนี้แมสูญเสียกระดูกขั้นสูงสุดแลว
ยังสามารถมีชีวิตรอด ถือวาเหนือธรรมชาติยิ่งนักแลว
เขาไดรับแรงกดดันทางจิตใจอยางใหญหลวง ตะโกนลั่นอยางทนไมไดวา “ไม เจาไม
ควรรอดมาได!”
หากเด็กคนนี้ไมสูญเสียกระดูกขั้นสูงสุด จะยิ่งใหญถึงระดับไหนกัน? ตองรายกาจยิ่ง
เปนแน เขาสั่นระริกไมหยุด!
“สือยี่ดั่งเทพเจาผูไรพาย มีเขาอยู เผาสายฝนเราปราศจากเภทภัย สามารถรุงโรจน
หลายพันป!”
ชวงเวลาสุดทาย เขาราวกับควาฟางขาวเพื่อความอยูรอด[1] เมื่อนึกถึงสือยี่ ชาย
หนุมผูทัดเทียมเทพเจาผูนั้น มีเพียงเขาที่สามารถปราบเด็กคนนี้ได สามารถสังหารเขา
อยางขุดรากถอนโคนได!
เจาตัวเล็กไมไดพูดอะไรใหมากความ พลิกกระจกกระดูกแวววาวในมือ สายฟา
ขนาดใหญลอยออกมา กลิ่นอายนาสะพรึงกลัว ทะลวงผานมานสายฝน เสียงโครมดังขึ้น
หนาอกของคนๆ นี้ถูกทะลวง เนื้อตัวไหมเกรียม จากนั้นก็ระเบิด!
สิงโตทองขนลุกวาบ พี่นองรวมสาบานผูนี้ปรกติหนาทะเลนมากรอยยิ้ม กลับมีอีก
หนึ่งมุมทีด่ ุดันและเด็ดขาดเชนนี้ดวย ทําใหมันเกิดความยําเกรง
“ชาวเผาสายฝนมาไมนอยเลย เสนทางทุรกันดารนี้มีอัจฉริยะถึงสิบคน เห็นไดวา
อีกหนึ่งเสนทางตองมีกําลังพลเฝาระวังเปนจํานวนมากเปนแน ไป พวกเรากระโจนไป
สังหารเถิด” เจาตัวเล็กเรียบเฉยนัก
นี่เปนที่ราบลุมมากดวยแองน้ํา ทะเลสาบกวางใหญ แมน้ําไหลหลั่ง ทามกลางภูเขามี
มานหมอกลอยวนเวียน มองดูเลือนรางพรามัว
“โครม”
ขณะที่พวกเขาเดินทางผานทะเลสาบแหงหนึ่ง มีครีบปลาโผลเหนือผิวน้ํา ตามมา
ดวยวัตถุขนาดใหญกระโดดขึ้น กระโจนเขมือบมายังริมฝง เกลียวคลื่นสีขาวทวมทน
ทองฟา
สิงโตเกาเศียรพรั่นพรึง วิ่งออกไปไกลอยางรวดเร็ว มันรูสึกถึงความกดดันอันนากลัว
ริมฝง ปากขนาดใหญปรากฏขึ้น กัดจนปาไมขาดเปนวงกวาง อีกทั้งแสงสวางระเบิด
เปนกลุมใหญ อักขระดุจสายฝน กวาดผานมา โจมตีเนินเขาจนแหลกละเอียดดังแควก
“นั่นมันตัวประหลาดอันใดกัน ยิ่งใหญนัก!”
“มันคือมัจฉามังกร!” เจาตัวเล็กตะลึงงัน
กลางทะเลสาบนั่น หัวมังกรโผลพนผิวน้ํา เพียงดวงตาก็มีขนาดใหญเทาแผนรองโม
หิน เขี้ยวยาวหมี่สองหมี่ ขาวกระจางและนาสะพรึงกลัว เกล็ดอันอัปลักษณ สองแสงสี
มวงระยิบระยับ
รางกายของมันคลายปลา แหวกวายกลางน้ําจนเกิดเกลียวคลื่นใหญ จองหนึ่งคน
หนึ่งสัตวเดินทางไกลออกไปอยางเย็นเยือก ไมไดไลลาแตอยางใด
เจาตัวเล็กใจกลาวดวยใจเตนระรัววา “ดูแลวโลกใบนอยนี้มากดวยอันตราย พวกเรา
จําตองระมัดระวัง หามปลุกปนมัจฉามังกรตัวนั้นเด็ดขาด”
พวกเขาวิ่งหอไปตลอดทาง มุงหนาเดินทางไปยังอีกเสนทางหนึ่ง ระหวางทางพบ
เห็นสิ่งมีชีวิตไมมาก อัจฉริยะแหงเผาพันธุอื่นตางไมยอมหยุดพักในเขตชื้นนี่นานนัก
“ชริ้ง”
ลําแสงกะพริบผานไป เคล็ดวิชาล้ําคาที่เจาตัวเล็กเสกขึ้นโจมตีและสังหารอัจฉริยะ
ลําดับที่ 11 แหงเผาสายฝน จันทราสีเงินวาดผานไป ศีรษะมนุษยหลุดรวง ชวงชิงลม
หายใจของคนผูนี้ไป
คนเหลานี้ลวนเปนอัจฉริยะแหงเผาสายฝน ภายในหนึ่งวันก็เขนฆาผูคนมากมาย
ปานนี้ ไมจําเปนตองคิดใหมากความ พวกเขาจําตองปวดใจอยางหาที่เปรียบไมได นี่เปน
การฝงรางผูยอดเยี่ยมรุนตอไปของพวกเขา
“ผลุบ”
แสงฟาแลบแวบวับ เจาตัวเล็กทะลวงรางคนไปอีกหนึ่ง ที่นั่นดําเกรียม รางศพลมลง
“ขาสังหารคนไปทั้งสิ้น 12 คน คาดวายังมีอีก ไยชาวสายฝนจึงมามากมายเพียงนี้
ไมควรเปนเชนนี้นี่นา?” เจาตัวเล็กเกิดขอกังขา
“นี่ยังตองพูดอีกหรือ เปนเพราะพวกเขาไมเคารพกฎระเบียบ ใชวิธีการพิเศษลวงตา
ปะปนเขามา สงคนจํานวนมากกวาเขามา” สิงโตเกาเศียรกลาว
มีคนนั่งขัดสมาธิเบื้องหนาของอีกหนึง่ เสนทาง ถูกแสงวิเศษปกคลุม กลิ่นอายนา
กลัว อักขระเนืองแนน ประทับตราอยูเต็มฟากฟา ทวมทนบริเวณนี้
ใตการหายใจของคนๆ นี้ พลังปราณมหาศาลแหงฟาดินกอตัวโหมซัดมา อักขระ
กะพริบและผลุบโผล กระเพื่อมขึ้นลงประหนึ่งมหาสมุทรสะทานฟาดิน
หากมีคนอยูที่นี่ ตองสะพรึงกลัวเปนแน ชายหนุมผูนี้นากลัวเหลือเกิน พบเห็นได
ยากนัก!
บุคคลผูนี้นิ่งไมไหวติง ราวกับแข็งเปนหินไปเสียแลว เฝาเสนทางอยูอยางนี้ รอคอย
การมาเยือนของคนทางนั้นอยางสงบ
มีคนไมกี่คนอยูไมไกลนัก ตอนนี้พวกเขาไมไดฝกวิชา หยัดตัวลุกขึ้นเปนเวลานาน
แลว เดินเตรเรียบริมทะเลสาบ บุรุษองอาจผึ่งผาย สตรีอรชรออนแอน ลวนกําจายกลิ่น
อายแหงความยิ่งใหญ
“ไมรูวานองสือยี่จะมาเมื่อใด หากวาเขาอยู อยาวาแตเจาเด็กเหลือขอคนนั้นเลย
แมแตลูกอสูรบรรพกาลก็ตองยอมศิโรราบเชนกัน”
“เขาไมไดเปนบุคคลในแดนดินเดียวกับพวกเราแลว เพียงกายเขาสูเขตหวงหาม
บรรพกาล หมายคนหากระดูกฟา หากไดมาอยางราบรื่น คิดวาคงจะปรากฏตัวในไมชา”
หมูคนพูดเสียงเบา เมื่อเอยถามสือยี่ แตละคนตางมีสีหนาเครงขรึมและมากดวย
ความยําเกรง ดวงตาเปยมดวยความเคารพ เอยถึงนามของเทพเจาองคหนึ่งไมหยุด
หยอน เกรงจะถูกลงทัณฑจากสวรรค
“หนึ่งในยอดฝมือแหงเผาสายฝนเราอยูที่นี่ เลื่องชื่อลือนามในเมืองจักรพรรดิ ไดรับ
สมญานามวา ผูมีพรสวรรค แมจะไมเทียบเทานองสือยี่ แตก็เหนือกวาอัจฉริยะคนอื่นๆ”
หญิงสาวผูหนึ่งกลาว
คนเหลานี้ทอดมองไปยังทางออกของเสนทางโดยไมไดนัดหมาย ตรงนั้นมีเงา
นั่งขัดสมาธิ อักขระผนึกกําลัง สงเสียงกองกังวาน ราวกับประสานเปนหนึ่งกับโลกใบนี้
แสงวิเศษทวมทนบริเวณนั้น
นี่เปนหนึ่งในสองยอดฝมือแหงเผาสายฝน พละกําลังนาตื่นตะลึง เคยเดินทางทะลวง
ดินแดนรกรางนับแสนลี้เพียงลําพังเมื่อวัยเยาว มีชัยเหนือราชนิกูลมากมาย เลื่องชื่อลือ
นามในดินแดนจักรพรรดิ
“เกรงวาเจานั่นไมปรากฏตัว ไมเชนนั้นตองตายอยางไมตองสงสัย นอกจากยอด
อัจฉริยะของเราแลว อยาลืม ยังมีคนเหลานั้น” ชายหนุมคนหนึ่งยิ้มเย็น เบนสายตามอง
ไปยังยอดเขาที่อยูไมไกลนัก
“เงียบ!” หญิงสาวขางๆ เอ็ดเสียงเบา
คนเหลานี้ตื่นตัว ตางเผยสีหนาเครงขรึม ไมพูดอันใดอีก
“ไมไดการแลว ราชันปศาจนอยคนนั้นมาเยือนแลว คนของพวกเราลวนรบจนตัว
ตาย!” ขณะนี้เอง ผูกลาแหงเผาสายฝนที่กายชุมเลือด รางกายครึ่งซีกไหมเกรียมโผล
พรวดมา
“เจาวาอะไรนะ?” หญิงสาวริมทะเลสาบคนอื่นขมวดคิ้ว เอยถามเสียงดัง
“พี่หก อัจฉริยะตางสกุลที่เผาเราเลี้ยงดูทั้งสิบคน อีกทั้งลูกพี่ลูกนองของพวกราลวน
สิ้นชีพแลว เด็กปศาจนั่นปรากฏขึ้นในอีกเสนทางหนึ่ง” เพียงเขาพูดจบก็ลมลงกับพื้น
เนื้อตัวมีกระแสไฟลอยขึ้น กระอักเลือดไมหยุด
“อะไรนะ?!” เมื่อคนเหลานี้ไดยินก็พลันหนามืด ไยเจาเด็กคนนั้นรายกาจเพียงนี้
บําเพ็ญตนเพียงไมกี่ป ตอตานอัจฉริยะอายุสิบเจ็ดสิบแปดปไดอยางไร?!
ครั้งนี้พวกเขาสูญเสียไปตั้งเทาไหร สงมอบประโยชนแกชนเผาใหญบางสวน
แลกเปลี่ยนเพื่อใหไดมาซึ่งการเพิ่มจํานวนคน เพื่อเขามาเสาะหาอัญมณีที่เผาสายฝน
ปรารถนาอยางแรงกลาในโลกใบนี้
ไมเคยคิดเลยวายังหาอัญมณีไมพบ เพียงชั่วครูก ็สูญเสียคนมากมายเชนนี้ มีอัจฉริยะ
วายชนมทั้งสิ้นสิบกวาชีวิต ความสูญเสียนี้หนักหนาเหลือเกิน ไมสามารถยอมรับได!
กลางสายฝน ชายหนุมคนหนึ่งปรากฏตัว ควบอยูบนสิงโตเกาเศียร แสงทองพราง
พราย ทลายมานหมอกจนสิ้น ดุจดั่งเทพเจาเยือนโลกมนุษย
เจาตัวเล็กมาแลว ไมไดเรนกาย มุงหนากวาดลางมาเชนนี้เอง เขาลาเหยื่อกลางสาย
ฝนมาตลอดทาง ปลิดชีพอัจฉริยะแหงเผาสายฝนสิริรวมสิบแปดคน!
“สิงโตเกาเศียร! สมญานามราชันในหมูอสูรบรรพกาล ไยจึงกลายเปนสัตวพาหนะ
ของเขา ถูกปราบปรามแลวหรือ?!”
สิงโตเกาเศียรเหนือกวาคําวาเกรียงไกร มันกลายเปนสัตวพาหนะ ยอมกอเกิดความ
อึกทึกครึกโครม เพียงชั่วครูค นเหลานี้ก็ถูกควบคุมตัวไวจนสิ้น รูสึกราวกับขุนเขาอัดลง
มาปะทะหนา
“ไมเทาไหรหรอก นองสือยี่สามารถทําเชนนี้ไดตั้งแตเมื่อหลายปกอน เพียงเปดเนตร
ผูใดจะเปนเทียบเทา?”
“ใชแลว นองยี่เปนผูสูงสงแตกําเนิด ไมมีผูใดสามารถทัดเทียมได!”
พวกเขาลากผูยิ่งใหญอีกคนหนึ่งมาเปรียบเทียบ หากเพียงเพื่อปลอบขวัญตนเองก็
เทานั้น ในความเปนจริง ยากจะปดบังความหวาดกลัวและความยําเกรงในดวงตาของ
พวกเขา
“โครม”
ในตอนนี้เอง เจาตัวเล็กก็ลงมือ เพียงยกมือขวา กระจกล้ําคาซวนหนีก็เปลงแสงวาบ
อักขระตัวหนึ่งกอรูปแปลงรางบนผิวกระจก จากนั้นระเบิดแสงสายฟาออกมา
สายฟาสีทองโชติชวงนัก ฟาดลงริมทะเลสาบ คนเหลานี้ครั่นคราม ตางใชอักขระมา
ตอตาน
“ผลุบ”
คนที่วิ่งมาสงขาวและลมพับลงกับพื้นกอนหนานี้ถูกสายฟาฟาดเขาอยางจัง รางกาย
แตกออกเปนสี่ชิ้นหาสวน ตายอยูตรงนั้น
ชาวสายฝนทั้งตะลึงและเดือดดาล ขณะเดียวกันก็มีความหวาดกลัว ชายหนุมคนนี้
กําลังสรางบารมี สังหารปลาที่เพิ่งหลุดจากแห[2]เมื่อครูตอหนาพวกเขา ไมมีผูใด
สามารถขัดขวาง ทําใหพวกเขาหนาวสันหลัง!
สิงโตเกาเศียรพราวระยับดวยแสงทอง บรรทุกเจาตัวเล็กเยื้องยางไปขางละทีละกาว
ดุจเทพเจาสงครามเยือนปฐพี กลิ่นอายยิ่งใหญและนากลัวไหลเวียน ทําใหผูคนสั่นเทิ้ม
“ขามองเห็นอนาคตอันไกลโพน ทุกอยางเลือนราง เมื่อเหลียวหลัง เบื้องหลังของขา
วางเปลา ไยจึงเปนเชนนี้?”
ในตอนนี้เอง รางที่นั่งขัดสมาธิบนเสนทางลุกยืน อักขระมากเหลือคณานับสองแสง
วูบวาบ นางเผยรูปโฉมแทจริง หนึ่งในผูยอดเยี่ยมของเผาสายฝนเปนสตรีผูหนึ่ง อายุราว
สิบหาสิบหกป
[1] ควาฟางขาวเพื่อความอยูรอด สํานวนจีน คนเมื่อจมน้ํา ยอมควาทุกอยางเพื่อให
มีชีวิตรอด ไมวาจะเปนฟางขาว ใบหญา อยากจะควาแมสิ่งที่ไมสามารถชวยชีวิตได
เปรียบเปรย เมื่อตกอยูในอันตราย ตื่นตระหนกจนใชวิธีที่ไรประโยชน

[2] ปลาที่หลุดจากแห เปรียบเปรย คนที่เพิ่งรอดพนจากความผิดหรือศัตรู


บทที่ 128 ญาณวิเศษ
นางมีนามวา อวี่จื่อมั่ว สวมอาภรณสีเขียว พลิ้วไหวตามแรงลม เนื้อหนังแวววาว ขน
ตายาวเปนแพ นัยนตาคูนั้นปราดเปรียวลุมลึก ดุจนางในภาพวาด รูปโฉมงดงาม ทั้งยังมี
ปญญาอันพบเจอไดยาก
ชาวสายฝนลวนตะลึงพรึงเพริด พวกเขารูดีแกใจวา อวี่จื่อมั่ว หนึ่งในยอดฝมือผูนี้มี
พรสวรรคอันแตกตาง มีญาณวิเศษแหงการหยั่งรู บางครั้งสามารถเห็นแจงผลแหงการ
กระทําในชวงเวลาหนึ่ง
ผูใดก็ตอบไมไดวานี่เปนความสามารถพิเศษอยางใดกัน ผูคนในชนเผาลวนยกยอง
สรรเสริญนาง หากไมมีบุคคลเชนสือยี่ นางตองโชติชวงชัชวาลมากยิ่งขึ้นเปนแน
เจาตัวเล็กหารูเรื่องราวเหลานี้ไม และไมสนใจใยดี เขามีทาทีสงบดังเดิม นั่งอยูบน
หลังของสิงโตเกาเศียร มองคนเหลานี้อยางเยือกเย็น เตรียมการรบครั้งใหญ
“เขาเปนเชนเดียวกับสือยี่ มองไมทะลุปุโปรง อานไมออก ถูกปกคลุมดวยมาน
หมอก” อวี่จื่อมั่วกลาวดวยน้ําเสียงเสนาะหู ประหนึ่งไขมุกและหยกหลนรวงลงกลาง
น้ําพุแตกกระเด็นเปนละอองน้ําแวววาว แผวเบาและวองไว
“เขาสังหารมือดีสิบแปดคนแหงเผาสายฝน จื่อมั่วเจาตองจับกุมเขาใหได” คนริม
ทะเลสาบเหลานั้นเอยปากพรอมกัน ยางสามขุมเขามา หมายเปนกําลังเสริมชวยเหลือ
นาง
“ขายอมลงมือเปนแน นั่งขัดสมาธิเบื้องหนาเสนทางเพื่อรอคอยการมาเยือนของ
เขา” จื่อมั่วกลาว นางเปนหนึ่งในเผาสายฝน ผูอาวุโสออกคําสั่ง ใหนางเขาสูเขารอยยอด
เพื่อลอบสังหารคนๆ หนึ่งตามความตองการของตน
เพียงชั่วพริบตา ลักษณะของจื่อมั่วผิดแผกไป อักขระสีเขียวมากมายปรากฏขึ้น
ประทับลงในอากาศเบื้องหลังนาง กลิ่นอายโบราณ ราวกับมวนภาพโบราณลายพรอย
นี่เปนอักขระแหงญาณวิเศษ กําจายแสงสวางขมุกขมัว อักษรแตละตัวใหความรูสึก
สมจริง ทั้งยังเสมือนมีชีวิต ปลอยพลังอันยากจะอธิบาย
“ดี จื่อมั่วเรงลงมือ สังหารเขาเสีย!”
ทุกคนยินดีปรีดา รูวาลูกพี่ลูกนองของตนใชญาณวิเศษ นี่พบเห็นไดนอยในเวลาปกติ
แมนานทีปหนก็ยากจะเห็นนางสําแดงสักครั้ง
เจาตัวเล็กนั่งอยูบนสิงโตเกาเศียรอยางมั่นคง จองมองอยางสงบ แตนัยนตากลับฉาย
แววนายําเกรง ในใจเขาคิดเพียงวา หากเปนศัตรูก็ไมไดแตกตางแตอยางใด ไมสนใจวา
จะมีตัวตนหรือความเปนมาอยางไร
“ผนึก!”
จื่อมั่วตะโกน สุรเสียงดุจดังมาจากสรวงสวรรค ใตความออนโยนมีความเย็นเยือก
อัดแนนดวยจิตสังหาร โบกแขนขวาขาวกระจาง สะเทือนอักขระดานหลังสั่นไหว แสง
สวางเจิดจาผลิบาน จากนั้นลอยไปขางหนาอยางรวดเร็ว
อักขระเหลานี้ลวนพรางพราว แตละตัวอักษรประหนึ่งหลอมจากโลหะ กะพริบ
ระยิบระยับ สองประกายโลหะแวววาว ทั้งยังมีความเกาแกอันไมสิ้นสุด อานุภาพนาตื่น
ตะลึง
“โครม!”
เจาตัวเล็กลงมือ เขายอมไมรอคอยการจูโจม สิบนิ้วกางออก ปลอยสายฟาสีทอง
หนาใหญ ลอยทะลวงอักขระเหลานี้ไป
อักขระไมนอยถูกสายฟาฟาด กลายเปนประกายไฟกลางนภา สวางไสวและงดงาม
กระจายคลื่นพลังอันนากลัว
อยางไรก็ตาม นี่เสมือนมวนภาพโบราณลายพรอย แบกรับพลังแหงกาลเวลา มัน
แทบจะไมชํารุดทรุดโทรม เมื่ออักขระทั้งหลายมลาย มันก็ปรากฏขึ้นในตําแหนงเดิมอีก
ครั้ง จากนั้นกดอัดลงมา
อักขระปรากฏทั่วทุกสารทิศ เบียดเสียดยัดเยียด ประหนึ่งคาถาแหงเทพเจา สาดทอ
ลงมา มวนภาพโบราณลอยควางกลางเวหา ปดผนึกฟากฟาไว
คลื่นนากลัวชนิดหนึ่งปรากฏขึ้น แมจะราบเรียบ ไมรุนแรง แตกลับทะเลกวางซัด
สาดเชื่องชา พรอมระเบิดคลื่นคลั่งทวมทนทองฟาตลอดเวลา เจียนโจมตีเมฆดําทมิฬนั่น
ใหแตกกระจาย
เจาตัวเล็กรูสึกเย็นจับขั้วหัวใจ ยื่นมือทั้งสองขางออกไป ออกแรงประสานมือ
ปรากฏแผนรองโมหินสีเงินหนึ่งคูขึ้นเบื้องหนา ประกบเขาดวยกัน หมุนควางอยาง
เชื่องชา
เสียงแควกดังไมขาดสาย แผนรองโมหนิ สีเงินกําลังบดขยี้อักขระ ทําลายอักขระอัน
แนนขนัดนั่น หมายทะลวงมานแสงที่ปดผนึกนี้
“มวนภาพหนึ่งชาติ!”
จื่อมั่วตะโกนออกไป ครั้งนี้เสียงกังวาน ดังสะทานฟาดิน รางกายของนางสวางวาบ
โชติชวงอยางหาที่เปรียบมิได เสียงดังครืนครัน สะเทือนพลังดั้งเดิมของที่แหงนี้ใหสนั่ ไหว
อยางรุนแรง
อักขระจํานวนมากมายกลางนภา มวนภาพโบราณแผออก คอยๆ แปรเปลี่ยนเปน
สมจริงและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ประหนึ่งมวนภาพผนึกปศาจแหงฟากฟา ปดผนึกพวกเจา
ตัวเล็กไว
สิงโตเกาเศียรแปรเปลี่ยนสีหนา เคล็ดวิชาล้ําคาของหญิงสาวคนนี้พิกลและยิ่งใหญ
มีลักษณะพิเศษถึงเพียงนี้ มันกระหยิ่มยิ้มยอง เตรียมใชเคล็ดวิชาล้ําคาเพื่อคุมกันตน
เจาตัวเล็กสบถเสียงเบา เขาไมกลาประมาทเลินเลอ อาบแสงสีเงินเพราะถูกจันทรา
ดวงหนึ่งปกคลุม สองมือผลักแผนรองโมหินสีเงินใหคอยๆ เคลื่อนไปขางหนา หมายบด
มวนภาพใหแหลกเปนผุยผง ทําลายการปดผนึก
“โครม”
แผนรองโมหินทะลวงฟา ปะทะกับมวนภาพ อักขระลึกลับนานาชนิดสวางวาบ ราว
กับดวงดาราแหงทองฟา
“ปด! ปด! ปด!” หญิงสาวตะโกนอยางตอเนื่อง เนื้อตัวพรางพราย ถูกอักษรโบราณ
นานาชนิดหอมลอม ทําใหนางแทบจะลอยตัวเหนือพื้นดิน
“เปด!” เจาตัวเล็กคํารามลั่น อานุภาพยิ่งใหญทะลวงเมฆา นัยนตาเผยแสงทอง ผม
เผาตั้งชัน ลักษณะเปลี่ยนแปลงไปอยางใหญหลวง ปราดเปรียบและเด็ดเดี่ยว
ประหนึ่งดาวหางตกลงสูทะเลกวาง ระเบิดคลื่นอันทวมทนทองฟาขึ้น ณ ที่แหงนี้ สิ่ง
ที่แตกตางคือ เกลียวคลื่นลูกนี้สรางจากจิต นากลัวยิ่งกวา มวนตัวไปทั่วทุกสารทิศ
อัจฉริยะอื่นๆ แหงเผาสายฝนตางวิ่งหนี ออกหางที่นี่ ดวยเกรงจะถูกมวนเขาไปอยู
ในวังวน
กลางเวหา แสงสวางลอยลอง อักขระผนึกกําลัง เสียงฟาคํารนไมขาดสาย มวนภาพ
ลายพรอยแผขยาย ดั่งทางชางเผือก สวางไสวมากยิ่งขึ้น
และแผนรองโมหินสีเงินก็สั่นสะเทือนอยางรุนแรง จากนั้นแยกออกจากกัน จากนั้น
ปะทะกันอยางจัง เสียงโครมดังขึ้น ระเบิดกลุมแสงสีเงิน พวยพุงดุจภูเขาไฟระเบิด ทะลุสู
ชั้นฟา
ฟาจวนถลมแผนดินเจียนทลาย ทะเลสาบกระเพื่อมรุนแรง พนาไพรดังสนั่น
หวั่นไหว!
สุดทาย แผนรองโมหินสีเงินแยกออก ระเบิดจุดแสงอันไมสิ้นสุด ทะลวงมวนภาพ
โบราณ แตกเปนเสี่ยงกลางนภา อักขระทั้งหลายมลายหายไป
“เคล็ดวิชาญาณวิเศษของจื่อมั่วสิ้นประสิทธิภาพแลว!”
ชาวสายฝนลวนตะลึงงัน เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาในจิตใจ
“อยาไดกระวนกระวาย นี่เพิ่งเริ่มตนเทานั้น”
พวกเขากล้ํากลืนฝนทน ชมการตอสูตอไป
มวนภาพสูญสิ้น ละอองฝนระเหย สายฝนเทกระหน่ําลงมายังจื่อมั่ว กลายเปน
ละอองน้าํ แวววาวมากเหลือคณานับ ลอยกระจายรายรอบตัวนาง แฝงดวยความลึกลับ
ของอักขระ
แปลงฝนเปนอาวุธ น้ําฝนทั่วฟาหมุนวน หอมลอมกายของจื่อมั่ว กลายเปนกลีบดอก
แวววับ มองดูแลวเจิดจาอยางหาที่เปรียบไมได ระยับแสงสวางอันนาตื่นตะลึง
มุมปากเจาตัวเล็กเผยรอยยิ้ม เขาคาดหวังใหเผาสายฝนสําแดงวิชาเชนนี้ นี่เทากับวา
สงเสริมสายฟาของเขา ยามฟาดลงไป อานุภาพแหงสายฟาเพิ่มขึ้นอยางทวีคูณ!
ทามกลางเสียงดังฟว กลีบดอกแตละกลีบลอยลอง โจมตีมาเบื้องหนา ประหนึ่งมีด
บิน แผขยายเต็มทองฟา แหลมและคม
“ทําลาย!”
เจาตัวเล็กตะโกน กระแสไฟเริงระบํา แสงทองยัดเยียดเต็มทองนภา บินไลตามไป
นากลัวเหลือเกิน
ใตเสียงแหลกละเอียด กลีบดอกแวววับทั้งหลายลวนแตกเปนเสี่ยง อักขระพินาศ
ยอยยับ อีกทั้งสายฟาเหลานั้นพุงมาประชิดตัวจื่อมั่ว บีบคั้นจนนางถอยหลังอยางรวดเร็ว
เสียงแควกดังขึ้น แขนเสื้อของนางถูกฟาดจนแหลก เผยแขนขาวนิ่มดุจรากบัว
ออกมาเปนทอน ฝามือบวมแดง ประสบกับการโจมตีอยางหนัก
หากเปนผูอื่น แขนขางนี้คงขาดสะบั้นแลว นางใชอักขระในวินาทีคับขัน เบนพลัง
สายฟาไปยังพื้นดิน
“เขารูเคล็ดวิชาสายฟา ควบคุมวิชาแหงเผาสายฝนไดพอดิบพอดี ไมไดการเสีย
แลว!” ผูชมเหตุการณหวาดผวา ลวนกระวนกระวายไมสุข
สายฝนดั่งฟารั่ว ทวมทนตัวหญิงสาว ไอน้ําลอยขึ้นอยางตอเนื่อง ทั้งเมฆดําปกคลุม
จนขมุกขมัว เนื้อตัวของสองแสง กําลังควบคุมอักขระอยางสุดกําลัง
“เอะ แยแลว!” ในตอนนี้เอง สิงโตเกาเศียรแสยงขนทันใด หันหลังแลววิ่งหนีทันที
มันรูสึกถึงความวิกฤต
เจาตัวเล็กเงยหนาทันทีแลวเผยสีหนาตกตะลึง
ฝนตกหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ไมรูวาเมื่อใดกันที่กลุมเมฆดําทะมึนลอยอยูบนศีรษะ คลุม
อยูเบื้องบน ขณะนี้เกิดเสียงดังเปรี้ยง สายฟาสีเขียวฟาดลงมา เปนภาพที่นาสะพรึงกลัว
อยางสุดแสน
นี่ไมใชสิ่งที่สําแดงดวยน้ํามือมนุษย แตเปนอานุภาพฟาดิน นาหวาดผวาอยางยิ่ง
สิงโตเกาเศียรกับเจาตัวเล็กกระโดดขึ้นในชั่วพริบตา เรงหาที่หลบซอน
“เปรี้ยง”
เนินเขาดานขางถูกสายฟาโจมตี ระเบิดเปนเสี่ยงๆ ทันที กอนหินเกลือกกลิ้ง ชาง
เปนภาพที่นากลัว
“แข็งแกรงนัก จื่อมั่วฝกฝนเคล็ดวิชานี้เขาขั้นสูงสุด สามารถสําแดงไดตามอําเภอใจ
ไมตองตระเตรียมแตอยางใด”
“เกิดสายฟากลางสายฝน สงเสริมซึ่งกันและกัน นี่เปนการดํารงแทจริงอันเหนือ
ตัวตนแหงเผาสายฝน!”
เหลาอัจฉริยะฮึกเหิมยิ่งนัก
“โจมตี!”
สายฟาสีเขียวฟาดลงโจมตีเจาตัวเล็ก กระหน่ําลงมาอยางไมหยุดหยอน กระแสไฟ
นากลัว ทําใหผูคนสะพรึงกลัว
เจาตัวเล็กทาทีถมึงทึง มือกํากระจกซวนหนี และปลุกระดมสายฟาสีทอง พุงไปยัง
ยอดหญิงแหงเผาสายฝน กระแสไฟดุจทะเล เสียงสายฟาดังระงม
สายฟากลางสายฝนผนึกกําลัง ทําใหทั้งสองตกอยูในอันตราย พวกเขาเปดฉากการ
ตอสูที่ดุเดือดอยางยิ่ง
“วิ้ง”
หญิงสาวเสกอาวุธล้ําคา รมใหญลอยออกมา บดบังมานสายฝน สกัดกั้นสายฟา คุม
กันตัวนางไวภายใน
แมนางจะเรียกสายฟาได แตสิ่งที่นางหยั่งรูไดดียิ่งก็ยังเปนพลังน้ําแหงเผาสายฝน สู
รบปรบมือกันมายาวนานเชนนี้ ก็ไมอาจกําราบเจาตัวเล็กได กลับยิ่งรูสึกเปลืองแรง
เสียงพรึ่บดังแผวเบา รมคันนั้นหักเปนทอน ขาดรุงริ่งภายในพริบตา ขณะเดียวกัน
สายฟาสีทองลอยเลียบตามรมชํารุดไปยังกายของหญิงสาวเผาสายฝน
ยิ่งไปกวานั้น กรรไกรกระดูกสีทองดิ่งลง ฟาดฟนลงอยางปราดเปรียวอีกครา รมล้ํา
คาหัก ขาดรุงริ่งหมดสภาพ
“ไอหยา อาวุธล้ําคาของขา!” เจาตัวเล็กปวดใจ กรรไกรกระดูกสีทองมีอานุภาพ
รายแรงนัก ทําลายอาวุธล้ําคาไปอีกหนึ่งชิ้น ทําใหเขาหนาบูดหนาบึ้ง คิ้วขมวดเปนปม
แตกลับจนปญญา ทามกลางการตอสูอยางเอาเปนเอาตาย จะปราณีไมได จําตอง
กระโจนใสอยางสุดกําลัง ไมเชนนั้นตนเองอาจไดรับอันตรายถึงชีวิตก็เปนได
“ทําลาย!”
เจาตัวเล็กยกมือ กระจกล้ําคาในมือเปลงแสง สะทอนแสงทองอันนาสะพรึงกลัว เล็ง
เปาไปที่จื่อมั่ว สายฟาสีทองพุงมา รุนแรงและนากลัว
“อัด!”
จื่อมั่วตะโกนอยางนุมนวล เนื้อตัวสองแสง ปรากฏอาวุธล้ําคาบนกาย ถักทอจากขน
สีมวง มันคืออาภรณล้ําคาชิ้นหนึ่ง สองแสงสวางโชติชวง
ทามกลางเสียงดังกึกกอง จื่อมั่วกระอักเลือดคําใหญ รางกายลอยออกไป อาภรณล้ํา
คาสองแสงวูบวาบ แตสุดทายก็ระเบิด ตอตานกระจกล้ําคาซวนหนีไมได
เผยลําตัวออนชอยงดงาม ขาวดุจงาชาง พรางพรายแวววาว อาวุธล้ําคาถูกทําลาย
นางตัวลอยขึ้น ชุดเกราะบนรางกายมลายหายไปจนสิ้น
เจาตัวเล็กไมลังเล มือขวายื่นออกไป ฝามือแวววับ สายฟาหนาใหญลอยออกไป พุง
ใสจื่อมั่วอีกครั้ง
“ปองกัน!”
เมื่อหญิงสาวเผาสายฝนตะโกน เคล็ดวิชาญาณวิเศษปรากฏขึ้นอีกครา ดานหลังมี
อักขระอันไมสิ้นสุด สําแดงในชวงเวลาคับขัน รายลอมตัวนางเพื่อทําการปองกัน
นี่เปนมวนภาพลายพรอย หอหุมหญิงสาวผูอับจนหนทาง รางกายขาวสะอาดแวว
วาว ตอตานสายฟาวิเศษของเจาตัวเล็ก อักขระแนนขนัดผนึกกําลังกลายเปนทะเล
อักษรโบราณมากมาย สงเสียงสวดมนต แสงสวางเจิดจา ทําใหรางกายนั่นขาว
กระจางนาหลงใหลมากยิ่งขึ้น สกัดกั้นอนุภาพวิเศษแหงสายฟาไวชั่วคราว
เจาตัวเล็กโจมตีตอไมไดชั่วขณะ กะพริบตาแลวพูดวา “เอวเจาบางนัก ดุจดั่งงูน้ํา
แมหนาอกกับสะโพกจะใหญมาก แตไมไดกํายํา รูปรางเทียบขาไมได สงผลกระทบตอ
การตอสูของเจาอยางแสนสาหัส”
“อา…”
หญิงสาวยอดฝมือแหงเผาสายฝนที่เดิมทีกลั้นลมหายใจ ทุมเทตอสูผูนั้นไดฟงก็กรีด
รองทันใด รางกายสั่นระริก อักขระโคลงโคลงอยางรุนแรงตามไปดวย มวนภาพโบราณ
กะพริบ ประเดี๋ยวสวางประเดี๋ยวดับมอด ไมมั่นคงเสียแลว
“ทําลาย!”
เจาตัวเล็กไมพูดคําใดใหมากความ ยกมือกวัดแกวงกระดูกล้ําคาซวนหนี เสกสายฟา
ออกมา ขณะเดียวกันรางกายเกิดกระแสไฟฟาสีทอง ฟาดลงมาดานหนา
บทที่ 129 ผูผนึก
เด็กคนนี้ต่ําชานัก ทําเชนนี้ไดเยี่ยงไร? ชาวสายฝนตางสาปแชง สมกับเปนเด็กพิลึก
ในโลกแหงความวางเปลาคนนั้น เพียงพบเจอก็พบความเลวทรามของเขา
จื่อมั่วจิตใจวาวุน อักขระทั่วรางไมมั่นคง แตเจาตัวเล็กกลับโจมตีอยางบาระห่ํา
สายฟาสีทองดุจเกลียวคลื่นฟาดลงไปเสนแลวเสนเลา
“ปง”
มวนภาพโบราณลายพรอยเสียหาย รางกายขาวดุจหิมะและวิจิตรงดงามหลนรวง
หญิงสาวยอดฝมือแหงเผาสายฝนตะลึงจนหนาถอดสี เจาตัวเล็กฉกฉวยโอกาส โจมตี
อยางรวดเร็ว สายฟาผนึกกําลัง สองสวางโชติชวงไปทั่ว
“ชน!”
“ทุกคนลงมือพรอมกัน สังหารเขาเสีย!”
เหลาอัจฉริยะริมทะเลสาบตะโกนลั่น อักขระทั่วรางกายพราวระยับ กระโจนออกไป
พรอมกันเพื่อลอบสังหารเจาตัวเล็ก ไมสามารถทนดูจื่อมั่วสิ้นชีพได
“วิ้ง”
เจาตัวเล็กรวดเร็วอยางยิ่ง หลังจากโจมตียอดหญิงแหงเผาสายฝนแลว หนึ่งกาวยาง
เขาประชิด ปลอยหมัดโจมตี กระแสไฟฟาสะเทือนอักขระดานหลังนางจนแหลกละเอียด
“ผลุบ”
จื่อมั่วกระอักเลือด หลั่งไหลลงบนทรวงอกขาวแวววาว ขับมันใหนาหลงใหลมาก
เปนพิเศษ ดวงตาของนางปรากฏแสงประหลาดเปนกลุมๆ เชื่อมประสานเปนแห แผ
คลุมไปทางเจาตัวเล็ก นี่เปนการโจมตีสุดทายของเคล็ดวิชาญาณวิเศษของนาง หากมัน
ยังไรประโยชน เชนนั้นนางก็ยอมรับความพายแพ
กําปนของเจาตัวเล็กสองแสง ทะลวงเขาไปกลางแหอยางไมลดทอนกําลัง ยังคง
รุดหนาจูโจมเชนเดิม แมกระแสไฟฟาจะถูกปกคลุม แตพละกําลังอันนากลัวของกําปน
ยังคงอยู
“ผนึก!”
จื่อมั่วปริปากสงเสียง ตอตานสุดกําลัง แขนคูนั้นไขวกัน ขาวสวางไสว กะพริบแสง
แวววาว กําบังไวขางหนา ตานทานอานุภาพแหงกําปน
“แควก”
เพียงสัมผัส กระดูกแขนก็หัก อีกทั้งยังพลังมหาศาลสูกายนาง สั่นสะเทือนอยาง
รุนแรง ทําใหมุมปากหลั่งเลือด หูดังวิ้งวิ้ง กระดูกทั่วรางแทบจะระเบิด
พลังมหาศาลอันไมสามารถตานทานนี้ หากนางไมดึงพลังกระจายตัวเขาสูองคาพยพ
ในชวงเวลาคับขัน แขนคูนั้นของนางตองแหลกละเอียด ยากจะตอตาน
ลําพังรางกาย เจาตัวเล็กสามารถตอสูกับอสูรบรรพกาลเยาววัยได เมื่อปะทะกับ
ยอดหญิงเผาพันธุมนุษย ยอมมีขอไดเปรียบอยางเด็ดขาด แมนางจะอัจฉริยะมากขึ้นก็ไม
เพียงพอ รางกายไมสามารถเทียบเทียมเขาได
จื่อมั่วลอยลิ่ว ปากกระอักเลือด ดวงตาที่ปราดเปรียวและลุมลึกคูนั้นฉายแววตะลึง
งัน พลังกายบาคลั่งเมื่อครู นางเพียงเคยพบบนตัวของสือยี่เมื่อหลายปกอน ไมคาดคิดวา
เด็กคนนี้จะเปนเชนเดียวกัน
“นองหญิงเอวงูน้ําจะไปไหน!” เจาตัวเล็กรองเรียก ราวกับกําลังแทะโลม แตนัยน
กลับระเบิดแสงวิเศษ อีกหนึ่งกําปนพุง ออกไป อีกทั้งกรรไกรกระดูกสีทองและกระจก
ซวนหนีลอยขึ้น เตรียมดําเนินจูโจมดวยทาไมตายสุดทาย
อัจฉริยะริมทะเลสาบทั้งหลายรวมมือโจมตี แตที่สุดแลวก็ไมสามารถยับยั้งความ
รวดเร็วของเจาตัวเล็กได
สิ่งนี้ทําใหพวกเขาสะดุงสะเทือน พวกเขาไดชื่อวาเปนอัจฉริยะ เปนความหวังแหง
การพุงทะยานและรุงโรจนแหงชนเผา พวกเขารวมมือ แตยังคงหาทางทําอะไรเขาไมได
ทําใหพวกเขาหวาดกลัว
“วิ้ง”
ทันใดนั้น คลื่นนากลัวซัดมาระลอกหนึ่ง จูโจมเจาตัวเล็กกับสิงโตเกาเศียรโดยตรง
อักขระแผเต็มฟากฟา ราวกับภูเขาไฟระเบิด ปลุกปนฟาดิน เจิดจาพราตา
“แยแลว!” เจาตัวเล็กรองลั่น คลื่นพลังเชนนี้นากลัวเหลือเกิน เหนือขีดจํากัดที่เขา
จะรับได
เขาเก็บกรรไกรกระดูกสีทองอยางรวดเร็ว เพื่อตอสูกับคลื่นผันผวนนี่ ไมเชนนั้นเขา
ตองกล้ํากลืนความคับแคนใจอยู ณ ตรงนี้เปนแน ผูมาเยือนตองนากลัวจนนาตกใจอยาง
แนนอน เหนือกวาอัจฉริยะทั้งหลายเปนเทาตัว
“โฮก…” สิงโตเกาเศียรคํารามลั่น ขนสีทองทั้งกายลุกชัน รูสึกเหมือนถูกอสูรบรรพ
กาลเพงเล็ง หมายเขมือบเขา
ไรหนทาง มันพนลูกประคําสีทองออกมาทําการปองกัน ตอตานอานุภาพมหาศาล
เหลานี้ มิเชนนั้นมันอาจกลายเปนซากเนื้อเละเทะพรอมกับเจาตัวเล็กก็เปนได
“ไมไดการแลว!”
เจาตัวเล็กรางกายกระตุก ขนลุกขนพองทั่วราง เหลียวหลังมองทันใด ปรากฏคลื่น
นากลัวขึ้นอีกฟากหนึ่ง โหมซัดมาภายในพริบตา อักขระอันไมสิ้นสุดโจมตียังพวกเขา
ความกดดันเชนนี้หนักหนาเหลือเกิน หากตอตาน คงบดขยี้พวกเขาจนเปนซอสเนื้อ
เปนแน
“สมควรตาย ไยจึงยังมีอีก มีมือดีมากมายเพียงใดกันแน?!” สิงโตเกาเศียรรองดัง
มันหวาดกลัวสิ้นดี รูสึกเหมือนดําดิ่งอยูในประตูแหงขุมนรก
ปรากฏเงารางขึ้นทั่วสารทิศ ทั้งทิศตะวันออก ทิศตะวันตก ทิศเหนือ และทิศใต
ขวางกั้นทุกทิศทาง ตางคนตางลงมือ ปดลอมที่นี่ไว ปดกั้นทางหนีของเจาตัวเล็กกับสิงโต
เกาเศียร
สี่คนออกแรงพรอมกัน ปรากฏคลื่นขึ้นเบื้องหนาของพวกเขา เบียดเสียดมาดั่งทะเล
สี่ผืนกระทบฝง นี่เปนคลื่นที่สรางจากอักขระ มุงหนาไปบดขยี้เจาตัวเล็ก
“ไยจึงยิ่งใหญปานนี้นะ?” เจาตัวเล็กรูมานตาหดตัว รูสึกถึงความไมชอบมาพากล
เขากระตุนอาวุธล้ําคาทั้งสองชิ้น ทุมเทปองกันสุดกําลัง กรรไกรกระดูกสีทองสั่นไหว
ดั่งมังกรเจียวสองตัวติดพันกัน วาดแสงสังหารขมุกขมัวไปทั่วบริเวณ ตอตานคนทางทิศ
ตะวันออก กระจกล้ําคาขาวบริสุทธิ์สะทองแสง กระแสฟาหนาใหญ สายฟาฟาดสะเทือน
หู ฟาดไปยังคนทิศตะวันออกนั่น
สิงโตเกาเศียรแยกเขี้ยวยิงฟน รูสึกถึงอันตราย แหงนหนาคําราม พนเขี้ยวคมสีทอง
เกาซี่ออกมา มุงหนาสังหารคนทิศตะวันตก และลูกประคํามันขลับจัดการทิศใต
โชคดีที่พวกเขามีอาวุธล้ําคาทั้งสิ้นสี่ชิ้น ทุกชิ้นลวนมีภูมิหลังอันใหญยิ่ง เปนถึงอาวุธ
ล้ําคาแหงอสูรบรรพกาลโตเต็มวัย
หากไมมีอาวุธล้ําคาโบราณสี่ชิ้นนี้อยูในมือ เจาตัวเล็กกับสิงโตเกาเศียรคงถูกอักขระ
ของคนทั้งสี่อัดดวยพลังอันแข็งแกรงจนเปนซากเนื้อเละเทะทั้งเปน ยากจะรับมือ
“ไมสิ ไยจึงปรากฏอัจฉริยะยิ่งใหญเพียงนี้ในเวลาอันรวดเร็ว มันไมคอยสมจริงนัก”
สิงโตเกาเศียรคํารามต่ํา
หากสามารถบรรลุการบําเพ็ญถึงขั้นนี้ดวยอายุหนุมสาว ตองมีชื่อเสียงเกริกไกรกอง
ทั่วปฐพี มนุษยโลกลวนรูจัก ปรากฏตัวพรอมกันถึงสี่คน ทั้งยังรวมมือกัน นี่มันเหนือ
จินตนาการไปเล็กนอย
“พวกเจาเปนใคร?” เจาตัวเล็กตะโกนถาม
อัจฉริยะริมทะเลสาบยินดีปรีดา พวกเขารูวาคนที่ซุมซอนบนยอดเขาเหลานั้น
เคลื่อนไหว ทิศทางถูกกําหนดไวแลว ตอใหชายหนุมคนนี้แข็งแกรงปานใดก็หมดทาง
ตอตาน
“วิ้ง”
คนทางทิศตะวันออกไมไดปริปาก แตกลับลงมือเสียอยางนั้น หนึ่งมือใหญยนื่ ออกมา
เกิดแสงสวางมากเหลือคณานับ หนึ่งเสียงดังครืน ฝามือของเขากลายเปนแมน้ําสายใหญ
พุงกระแทกมา
สิงโตเกาเศียรแสยงขน นี่เปนพลังน้ําอันบริสุทธิ์ หนึ่งฝามือกลายเปนแมน้ําวิเศษ นี่
ไมใชญาณวิเศษที่อัจฉริยะหนุมสาวทั่วไปจะสามารถสําแดงได
เจาตัวเล็กถลึงตาโตอยางตื่นตะลึง เพราะกอนฝามือจะปลอยอักขระ เขามองเห็นริว้
รอยบนใบหนา นี่ไมใชสิ่งที่คนหนุมสาวพึงมีอยางแนนอน
“เปนไปไดอยางไร เขารอยยอดมีขอจํากัด อายุเกินเกณฑไมสามารถเขามาได พวก
เจาเขามาไดเยี่ยงไร?” เขาตะโกนถามเสียงดัง เสกกระจกล้ําคาออกมา ใชแสงสายฟา
เปนตัวตอตาน
“เชนนี้นี่เอง พวกเขาเปนผูผนึก” สิงโตเกาเศียรคําราม นันยตาเผยแวววิตก นี่ไมใช
คนหนุมสาวเด็ดขาด แตเปนมือดีอาวุโสสี่ทาน
“ผูผนึกรึ?” เจาตัวเล็กประหลาดใจ
สิงโตเกาเศียรกลาว “เขารอยยอดแฝงดวยโชคชั้นใหญ ยามเปดในทุกครั้งตางมีคน
สวนนอยใชของแลกเปลี่ยนมหาศาลมาจํากัดตน เพื่อลดทอนกําลัง อีกทั้งยังเสริมพลัง
ปราณจํานวนมาก ทําใหสมรรถนะของรางกายดุจคนหนุมสาว ทวาการเขามาเชนนี้ตอง
ทุมเทอยางใหญหลวง หากโลกใบเล็กนี้ลวงรู พวกเขาตองพบกันความวิบัติ”
เขารอยยอดมีนามเปนขุนเขา แตในความเปนจริงแลวมันเปนโลกใบเล็ก ภายหลัง
จากเหลาทวยเทพตองร่ําไห หลั่งเลือดเมื่อครั้งบรรพกาล ที่นี่มีภาวะกีดกัน ดําเนินการ
ปองกันตัว ยับยั้งคนที่มีพลังการทําลายลางสูงเขามาเยือน
หลายปมานี้ ผูคนสรุปไดวา การขจัดเกี่ยวของกับอายุและขั้นแหงการบําเพ็ญ
แมนจะเปนเชนนี้ แตทุกครั้งที่เขารอยยอดเปด ยังมีคนอายุเกินบางสวนจะคิดหาวิธี
ปะปนเขามาทุกวิถีทาง เพียงเพื่อโชคชั้นใหญมหาศาลนั่น ปรารถนายาวิเศษ กระดูกฟา
การสืบทอดแหงเทพเจาเปนตน
แตทวาของแลกเปลี่ยนใหญหลวงยิ่งนัก หากถูกโลกใบนี้พบเขา ตองตายอยางอนาถ
เปนแน กลายเปาเถาธุลี
อดีตจวบจนวันนี้ มีเพียงคนสวนนอยทะลวงดานปะปนเขามาไดสําเร็จ สุดทายจาก
ไปอยางสงบ ผูเกินเกณฑที่เขามาไดทุกครั้งอยางนอยเกาสิบเปอรเซ็นตที่พบกับความตาย
หนนี้เผาสายฝนเพื่อคนหาอัญมณีชนิดหนึ่งที่สําคัญกับพวกเขายิ่ง จึงสงตัวผูเกิน
เกณฑทั้งสี่อยางจําใจ ตางเปนยอดผูกลาแหงชนเผา
พวกเขาเสี่ยงอันตรายอยางสุดแสน และใชพลังเกินขีดจํากัดไมได ไมเชนนั้นหากถูก
พบเขา คนทั้งสี่นี้ตองตายอยางปราศจากขอสงสัย
เจาตัวเล็กนึกถึงชายชุดดําขางกายองคหญิงประเทศเพลิงเหลานั้น ลวนปดบังโฉม
หนาที่แทจริง เขาเขาใจไดทันที คงเปนผูผนึกแนนอน มิเชนนั้น หลังจากที่เขาสูถ้ําวิเศษ
จะตามมาไขล้ําคาพบไดอยางไร? ตองเปนเพราะพวกเขาแข็งแกรงสุดขีด ไดมาดวยการ
ทุมเทอยางสุดพลังเปนแน
“ขาจะสู แมพวกเขาจะแกรง แตซุกหัวหดหาง ไมอาจหาญระเบิดพลังปราณทั้งหมด
ทําไดเพียงควบคุมจนถึงจุดวิกฤตหนึ่งเทานั้น” สิงโตเกาเศียรกลาว
“ขาจะสูกับพวกเจา!” เจาตัวเล็กตะโกนลั่นดวยทาทางจะรบกับผูกลาทั้งสี่อยางสุด
ชีวิต รางกายระเบิดอักขระ อาวุธล้ําคาสองชิ้นสองประกายขึ้นพรอมกัน
แนนอนวาสิงโตเกาเศียรก็เปนเชนเดียวกัน เหวี่ยงเจาตัวเล็กออกไป ลุกยืนทาคน
เสกอาวุธล้ําคาออกมา สูรบปรบมือกับสี่คนอยางไมคํานึงถึงชีวิต
แสงสวางโชติชวงทวมทนที่แหงนี้ชั่วขณะ แมแตทะเลสาบก็เดือดพลาน ไอน้ําลอย
ขึ้น กอตัวอยูบริเวณคนทั้งสี่ ถูกพวกเขาหยิบยืม เปนเหตุใหอักขระรุงโรจนมากขึ้น
เจาตัวเล็กพุงตัวออกไปอยางดุดันดวยทาทีพรอมพินาศยอยยับไปพรอมกัน มุงหนา
สังหารไปทางทิศตะวันออก สิงโตเกาเศียรเห็นเชนนั้นก็คํารนคําราม กลาวดวยความ
เศราสลดเคลาความฮึกเหิมอยางหาที่เปรียบมิไดวา “ยอมเปนหยกแหลกลาญ ไมขอเปน
กระเบื้องสมบูรณ[1]” มันกระโจนตามติดมา
ผูกลาทั้งสี่ลวนตะลึงงัน หนึ่งคนหนึ่งสัตวรายเคล็ดวิชาล้ําคาอันยิ่งใหญทสี่ ุด
ยิ่งกวานั้นคือทําใหอาวุธล้ําคาทั้งสี่ชิ้นฟนคืน สําแดงกลิ่นอายที่ทําใหพวกเขาอกสั่นขวัญ
แขวน พวกเขาจําตองรวบรวมพลังเพื่อตระเตรียมการตอตาน
ในความคิดของสี่คนนี้ เห็นไดชัดวาหนึ่งคนหนึ่งสัตวจะสูสุดชีวิต ผูกลาทั้งสี่จําตอง
ทุมเทดวยกําลังทั้งหมดที่มี เตรียมการตอสูถึงที่สุด หมายจับตัวพวกเขาใหได
อยางไรก็ตาม ขณะที่หนึ่งคนหนึ่งสัตวระเบิดแสงอันเจิดจา พวกเขาพุงทะยานขึ้นฟา
ในบัดดล เปลี่ยนทิศทาง แตละคนมีอาวุธล้ําคาใตฝาเทา พุงทะลวงเมฆา รวดเร็วจนถึง
ขีดสุด
เจาตัวเล็กย่ําเหยียบกระจกล้ําคา กระโจนสูเวหา เมื่อเห็นสิงโตเกาเศียรเปน
เชนเดียวกันก็พูดวา “นองชาย เจาชางไรคุณธรรม กลาสะบัดขาทิ้งเพื่อหลบหนีรึ”
“ถุย เจาเองก็จะวิ่งหนีเหมือนกันไมใชหรือ?” สิงโตเกาเศียรมองเยยหยัน มีทาที
พรอมพินาศไปดวยกันทั้งสองฝายเสียที่ไหน มันหันกนใสเจาตัวเล็กแลวกลาววา “แลว
พบกันใหม ไมสิ ชาตินี้อยาไดพบกันอีกเลย!”
มันย่ําอยูบนลูกประคํากระดูกแวววาว หายลับไปอยางไรรองรอย
ผูกลาทั้งสี่เดือดเปนฟนเปนไฟ พวกเขาปดผนึกทั้งสี่ทิศ แตกลับไมสามารถจะบดบัง
ฟากฟาไดอยางสิ้นเชิง ถูกหนึ่งคนหนึ่งสัตวหยิบยืนอาวุธล้ําคาหนีหายไปบนเวหา ทั้งสี่
ยางขึ้นบนหนังสัตว เสกอาวุธล้ําคาเหาะเหินไลลาตามไป
เจาตัวเล็กเกาหัว ไมไดพูดอะไรใหมากความ ตามกนสิงโตเกาเศียรไปติดๆ อีกทั้ง
ความเร็วมากกวาอยูหนอย สุดทายกลับล้ําหนาไปวิ่งอยูขางหนามัน
“หา?” สิงโตเกาเศียรตลึงตาคาง ขนพองสยองเกลา หันหลังมองปราดเดียว ไอเวรสี่
คนนั้นไลตามอยางบาคลั่ง มันกลายเปนแพะรับบาป กําบังอยูดานหลังของเจาตัวเล็ก
“พี่ใหญ ไวชีวิตขาเถิด ขาไมชอบใหเลนแบบนี้ คนกลุมนี้พุงเปามายังเจา เจาจะลาก
ขาเขาไปดวยไมได” สิงโตเกาเศียรจวนจะรองไหแลว
“นองชาย มีสุขรวมเสพ มีทุกขรวมตาน เราพี่นองรวมมือรวมใจแสดงออกถึงพลังอัน
ยิ่งใหญ” เจาตัวเล็กน้ําเสียงเสนาะหู ทาทีมีเหตุมีผล
“เชนนั้นเจาอยาวิ่งอยูขางหนาขาสิ ตอนนี้ขากินฝุนเจาอยู เปนโลเนื้อดีๆ นี่เอง
เคล็ดวิชาของไอเวรพวกนั้นจวนโจมตีกนขาแลว” สิงโตเกาเศียรพูดหนามุย
ถึงอยางไรเจาตัวเล็กและสิงโตเกาเศียรก็เยาววัยนัก ไรหนทางตอตานผูกลาทั้งสี่ได
ถูกไลลาจนจะหนีไตขึ้นฟาก็ไรทาง แทรกแผนดินหนีก็หนีไมพน
พวกเขาหลบหนีพลางสูรบมาตลอดทาง เลือดสาดตามทาง ตางไดรับบาดเจ็บสาหัส
“โฮก…”
สิงโตเกาเศียรคําราม อกดานขวาถูกกลุมสายฝนโจมตีเขาอยางจัง แทบจะกลายเปน
ตะแกรง ทะลุปุโปรงทั้งหนาหลัง ทําใหขนสีทองของมันถูกเลือดยอมจนแดงฉาน
มันโซเซโงนเงนเจียนรวงหลนกลางนภา เวทนาจนทนดูไมได แมแตอาวุธล้ําคาใต
เทายังหมนแสง แทบตกลงไปทันที
ตลอดการหลบหนี พวกเขาทําสงครามนองเลือดอยางไมหยุดหยอน ระยะเวลาการ
ตอสูยาวเนินเหลือเกิน สามารถยืนหยัดจนถึงตอนนี้ถือวาล้ําเลิศยิ่งนัก
เจาตัวเล็กไดรับบาดเจ็บ ถูกมานฝนวาดผานโดนตัว ฝนหาใหญมพี ลังการทําลายลาง
กระแทกลงบนกายของเขา ทําใหเขากระอักเลือดคําใหญ
หากไมใชเพราะรางกายของเขาสามารถทัดเทียมอสูรบรรพกาลวัยเยาวชั้นฟา
แข็งแกรงอยางที่สุด การโจมตีนี้เพียงพอจะทําใหกระดูกหักเอ็นขาด กลายเปนซอสเนื้อ
“โฮก…” สิงโตเกาเศียรคํารามอยางพิโรธ มันถูกบีบคั้นจนอับจนหนทาง เลือด
เปรอะทั่วรางกาย แผงคอสีทองเปยกชุมโชก กลายเปนสีแดงคล้ํา
“ไป!” เจาตัวเล็กตะโกนบอกมัน เขาขัดขวางผูกลาทั้งสี่ ตัดเสนทางของพวกเขา
สิงโตเกาเศียรงงงัน ไมคาดคิดวาเขาจะชวงชิงโอกาสรอดชีวิตแกมันในชวงเวลาคับ
ขัน การกระทําของเจาตัวเล็กลบลางภาพลักษณในใจของมัน
“ไยเจาไมหนี?” สิงโตเกาเศียรเอยถาม
“พวกเขาพุงเปามาที่ขา เจารีบไปเสีย!” ในชวงเวลาแหงความเปนความตาย เจาตัว
เล็กสองแสงทั้งตัว เรงเราใหมนั รีบจากไป
สิงโตเกาเศียรสีหนายุงเหยิง พฤติกรรมของเจามนุษยหนุมคนนี้แตกตางจาก
เมื่อกอน ยามไมทําหนาทะเลนแชมชื่น คาดไมถึงวามีโฉมหนาเชนนี้ดวย
“ดี ขาไปละ หากเจารอดชีวิต ขาจะไมใหทานปูราชันเกาเศียรหาเรื่องเจา บัญชีกอน
หนานี้ถูกลบเลือนจนสิ้น” สิงโตเกาเศียรคํารามต่ํา
“นองชาย เจาทําใหขาผิดหวังเหลือเกิน เดิมทีเจาชิงชังขามาโดยตลอด” เจาตัวเล็ก
เดือดดาล
เหมือนสิงโตเกาเศียรเกิดความละอายใจ เพราะบัดนี้เจาตัวเล็กขวางผูกลาทั้งสี่เพื่อ
ชวงชิงหนทางรอดใหมัน มันหยุดฝกาวในที่หางไกลแลวกลาววา “ทุกอยางรอเจารอด
ชีวิตคอยวากัน”
“ได เมื่อถึงเวลาเจาเลี้ยงหัวสิงหน้ําแดงขานะ!” เจาตัวเล็กหัวเราะลั่น
“ไสหัวไปซะ!” สิงโตเกาเศียรบันดาลโทสะ หันหลังทันใด แสงสวางสีทองเจิดจา
จากไปไกลภายในพริบตา หายไปยังสุดเสนขอบฟา
เจาตัวเล็กพนฟองเลือดเปนคํา เก็บใบหนายิ้มแยมไป เผชิญหนากับผูกลาทั้งสี่อยาง
เยือกเย็น กําหมดแนนแลวพูดวา “พวกเจาระวังถูกสวรรคลงทัณฑ กอสงครามอึกทึก
ครึกโครมเชนนี้ โลกใบนอยนี้ตองลวงรูอยางแนนอน”
“สังหารเจาไมถือวาโจงแจง” คนหนึ่งมุมปากเผยรอยยิ้มเย็นเยือก ตอบกลับอยาง
เลือดเย็น
“โห พวกเจาดูสิ ยามคิ้วของเขาตั้งขึ้นเหมือนคนๆ หนึ่งมากวาไหม?” ตอนนี้ผูสูงวัย
คนหนึ่งกลาว เขาออกแรงควบคุมการบําเพ็ญสุดกําลัง เพราะตอนนี้เขาฮึกเหิมยิ่งนัก จน
หนาอกกระเพื่อมขึ้นลง
เมื่อถอยคํานี้พนออกไป สามคนที่เหลือลวนตะลึงลาน ตางจองเจาตัวเล็กเขม็ง
เวลานี้ทั้งสี่ไมไดซอนเรนโฉมหนาที่แทจริงอีกตอไป เก็บละอองฝนไป เผยตัวตน
แทจริง ชายวัยกลางคนสองคน ชายชราสองคน นัยนตาเปนประกายเหลือเกิน ดุจโคม
ไฟสีทอง
ชายวัยกลางคนผูหนึ่งสูดลมหายใจเย็น พูดเสียงสั่นวา “เปนเด็กเมื่อตอนนั้นจริงๆ
รึ?” เขาจดจองเจาตัวเล็กอยางเหลือเชื่อ รูสึกวายามที่เด็กคนนี้โกรธเกรี้ยว คลายคลึง
กับสือจื่อหลิงที่เดือดดาลอยางยิ่งในอดีต!
“เมื่อครูพวกเจาคงรูสึกตัวแลว รางกายของเขาแข็งแกรงจนเหมือนเปนภาพมายา
ไมไดดอยไปกวายี่เออรเมื่อหลายปกอนเทาใดนัก นี่มัน…เหลือเชื่อยิ่งนัก!” ชายชราผูหนึ่ง
นัยนตาเปนประกาย
“เจาเปนเด็กเดรัจฉานเมื่อวันวานคนนั้นจริงหรือ?” ชายชราเผาสายฝนผูหนึ่งเอย
ถามดวยใบหนาเรียบนิ่ง
พวกเขาไมไดรูสึกผิดบาปตอเรื่องเมื่อครั้งวันวาน ยิ่งไมเคยกลาวขอโทษ มีแตเพียง
ขุดรากถอนโคน ลบลางสิ่งที่จะตามมาทีหลัง น้ําเสียงและอากัปกิริยาเชนนี้กลับยิ่งบง
บอกถึงความไรเมตตา จิตใจอํามหิตและไรความรูสุก
เจาตัวเล็กดั่งไฟโทสะแผดเผาในทรวง อยากเขนฆาสังหารคนเหลานี้ใหรูแลวรูรอด
สองมือกําหมัด สายฟาลอยลองแผปกคลุมและทวมทน
“ไยจึงไมพูดไมจา?” พวกเขามองไมเห็นรูปรางที่แทจริงของเขา จึงไมรูวาเขามีสี
หนาเชนใด
ชายวัยกลางคนผูหนึ่งปริปากถามวา “ครั้งนั้น ทานปูของขารับผิดชอบควบคุม
สงครามครั้งนั้น ออกติดตามจากดินแดนจักรพรรดิ นําทัพมือดีมากมายไลลาสังหารไปถึง
ดินแดนตะวันตก เคยใชกรรไกรกระดูกเลมหนึ่งทะลวงบริเวณปอดของสือจื่อหลิง นา
เสียดายที่พลาดไมโดนหัวใจของเขา”
เขามีนามวา อวี่คุน เปนผูกลาเลื่องชื่อคนหนึ่งในเผาสายฝน ขณะนี้ ดวงตาคูนั้นของ
เขาปลอยลําแสงออกมาเปนสายๆ จดจองเจาตัวเล็ก หมายทะลวงมานสายฟานั่น เพื่อ
มองเห็นอารมณความรูสึกของเขา
[1] ยอมเปนหยกแหลกลาญ ไมขอเปนกระเบื้องสมบูรณ หมายความวา แมตัวตายก็
ไมยอมเสียศักดิ์ศรี
บทที่ 130
“พูดมากเชนนั้นไปไย ไมวาเขาจะใชหรือไม จัดการทันที เพียงไตสวนดวยการทารุณ
ก็รูทุกอยางแลวไมใชหรือ” ชายชราผูหนึ่งกลาว
เจาตัวเล็กเจ็บปวดหัวใจ นัยนตาระยับแสงวิเศษ จิตสังหารเนืองแนน เขายังจดจําสี
หนาซีดเผือกของบิดาเมื่อครั้งนั้นได คิดวาศึกครั้งนั้นคงประสบกับการซุมโจมตีมากมาย
ไดรับบาดเจ็บอยางแสนสาหัส ไมคิดวาเกือบจะถูกผูอื่นเจาะทะลวงหัวใจ เมื่อไดยินคน
เบื้องหนากลาวถึงมัน ทําใหเขาโกรธแคนอยาหาที่เปรียบมิได
“ยิ่งรบเร็วเทาใดก็ยิ่งดี ไมวาเขาจะใชหรือไม ควรเรงสังหารเปนดีที่สุด”
“โอ จะใหคนของจวนหวูหวังรูไมไดเปนอันขาด เพื่อหลีกเลี่ยงไมใหเกินการ
เปลี่ยนแปลงใดๆ”
สองคนที่เหลือตางพยักหนา ตีวงลอมกันเขามาพรอมกัน
หากชายหนุมตรงหนาผูนี้เปนเด็กใกลตายในอดีตคนนั้นจริง พวกเขาแบกภาระอัน
ใหญยิ่งเสียแลว เขามีชีวิตรอด เพียงพอจะบงบอกพรสวรรคอันนากลัวของเขาได บางที
อาจเปนเชนดังผูอาวุโสทานหนึ่งในชนเผาเปนกังวล เขานิพพานและถือกําเนิดใหม จะนา
กลัวมากยิ่งขึ้นในภายภาคหนา!
ยิ่งไปกวานั้นหากเปนเด็กคนนั้นจริง เมื่อชาวจวนหวูหวังรับรูจะมีปฏิกิริยาเชนใด?
แมจะสูญเสียกระดูกขั้นสูงสุด แตเด็กคนนี้ตองทะยานฟาเปนแนแท!
หากชาวจวนหวูหวังลวงรู บางทีอาจกอเกิดคลื่นลูกใหญ นี่ไมเปนผลดีตอสือยี่ พวก
เขาไมอนุญาตใหปจจัยผันผวนนี้คงอยู ควรใชโอกาสนี้ขุดรากถอนโคนเสีย
“วิ้ง”
พัดชํารุดปรากฏขึ้นในมือเจาตัวเล็ก แสงเงินระยิบระยับ เขาไดมันมาจากผูกลาเผา
ภูติผูนั้น นาเสียดายที่ถูกกรรไกรกระดูกสีทองฟาดจนขาดรุงริ่ง
บัดนี้เจาตัวเล็กออกแรงปลุกเราอยางเต็มกําลัง ทั้งยังใชกระจกล้ําคาซวนหนี ถาย
พลังงานสายฟาเขาไปอยางไมสิ้นสุด ทําใหพัดคืนสูสภาพเดิม จากนั้นระเบิดแสงสวางวูบ
วาบ
นี่เปนกระดูกอักขระโบราณ ไดรับการกระตุนดวยพลังปราณจํานวนมหาศาลและ
สายฟา ยอมประกายแสง สุดทายมันแทบจะตานทานไมไหว ระเบิดออกทันที
“ตูม!”
เจาตัวเล็กสะบัดมือแลวเหวี่ยงออกไปโจมตีคนทั้งสี่ทันที
ผูกลาทั้งสี่ลวนตะลึงลาน ไมมีผูใดคาดคิดวาเจาเด็กคนนี้จะเด็ดเดี่ยวเพียงนี้ คิดไมถึง
เลยวาจะทําลายอาวุธล้ําคาทิ้ง เพื่อตอกรกับพวกเขา
แสงเงินลุกไหม เวหาเดือดพลาน พัดเงินระเบิดโดยพลัน ปกคลุมทั้งสี่ไวภายใน ทํา
ใหพวกเขาเกิดความรูสึกหวั่นวิตก เสนผมของชายชราผูหนึ่งถูกแสงเงินตัดฉับทันที
นาเสียดาย แมทั้งสี่จะจะถูกโจมตี อีกทั้งยังอกสั่นขวัญหาย แตกลับไมมีผูใดตาย มี
เพียงหนึ่งคนบาดเจ็บ มุมปากหลั่งรอยเลือดเปนทาง
เจาตัวเล็กใชพัดระเบิดการปดลอม โกยหนีไปไกลอีกครั้ง แตถึงอยางไรก็ไมอาจสลัด
พวกเขาหลุดได ตลอดการเผนหนี รางกายของเขามีบาดแผลเพิ่มมาอีกหลายแผล
กระดูกเจียนโผลออกมาแลว
การโจมตีของเผาสายฝนนากลัวเปนอยางมาก หยาดฝนยั้วเยี้ยเทสาด ปองกัน
อยางไรก็ปองกันไดไมหมด หยาดฝนที่หยุดสามารถทะลวงรางกายได แมนเจาตัวเล็กจะ
ตั้งรับ แตยังคงยากจะสกัดกั้นไดทั้งหมดเชนเดิม
ชายโครงดานซาย หัวไหลและแผนหลังของเขาชุมเลือด แทบจะทะลุหลัง พลังการ
ตอสูของผูกลาทั้งสี่บบรรลุขีดจํากัดที่เขารอยยอดอนุญาต เมื่อพบเจอผูใดในโลกใบนอยนี้
สามารถตอสูสักตั้งได
แนนอนวา เวนแตสิ่งมีชีวิตดั้งเดิมในโลกใบนี้
เจาตัวเล็กแววตาพราวระยับ เลือดสาดตลอดทาง รางกายของเขาโซซัดโซเซ จวน
จะยืนหยัดตอไปไมไดแลว สุดทายหลนรวงลงไป แทบจะลมพับลงไป รวงลงเบื้องหนา
ทะเลสาบ
“ไยไมหนีแลวละ?” อวี่คุนมีรอยยิ้มจางๆ ผอนคลายอยางสิ้นเชิง ทุกอยางอยูในกํา
มือ เขามองลงมายังเด็กที่อยูเบื้องหนาคนนั้น
ไมพูดไมไดวา ชายหนุมคนนี้กอใหเกิดแรงกระทบกับเขาอยางใหญหลวง เยาววัย
ปานนี้แตกลับมีฝมือถึงเพียงนี้ หากเติบใหญมาจะเหลือรึ!
“เจามีพรสวรรควิเศษอันฟาประทาน บางทีวันหนาอาจแยงชิงความเปนใหญกับสือ
ยี่ไดจริง นาเสียดาย เจารอดไมพนวันนี้แลว” ชายชราผูหนึ่งหัวเราะดวยเสียงทุมลึก แวว
ตาเย็นเยือก
ทั้งสี่กดดันพรอมกับ เตรียมทําการลงมือ
“ในใจขายอมรับแลววาเจาเปนเด็กคนนั้น ทวาจวนหวูหวังไมมีทางลวงรู แมเจาเปน
ผูวิเศษ วันนี้ก็ทําไดเพียงสิ้นชีพวายชนมเทานั้น ยิ่งกวานั้น ถึงพวกเขาจะรูวาเจามีชีวิต
รอดแลวอยางไร พวกเขาไดตัดสินใจไปเมื่อครั้งวันวานแลว!”
“ครั้งนั้นไมมีผูใดสามารถสังหารบิดาเจาได เพียงทําใหเขาบาดเจ็บสาหัสเทานั้น
กลับทําใหเราเผาสายฝนสูญเสียมือดีไปจํานวนมาก และเมื่อขาสังหารเจาในวันนี้ คิดวา
เมื่อสือจื่อหลิงทราบความ ตองคลุมคลั่งเปนแน”
มุมปากแตมยิ้มเย็นเยียบ มาถึงขั้นนี้ยังคงไมลมื พูดจากระทบกระเทียบ หมายยืนยัน
ตัวตนของเจาตัวเล็กใหจงได
ทะเลสาบเงียบสงบจนนากลัว เจาตัวเล็กกลามเนื้อหดเกร็ง ขนลุกขนชัน
เตรียมพรอมกระโดดตลอดเวลา เขายืนอยูริมทะเลสาบ หนึ่งมือไขวหลัง หันกระจกล้ําคา
ไปทางผิวน้ํา
ทันใดนั้น มือดีทั้งสี่เคลื่อนไหว กระโจนไปขางหนาพรอมกัน หมายรวบตัวและ
สังหารเจาตัวเล็ก เนื้อตัวสองอักขระอยางไมสิ้นสุด แสงสวางเจิดจาพรางพราย
เสียงตูมดังขึ้น เจาตัวเล็กใชกรรไกรกระดูกสีทองคุมกันตัว และกระจกล้ําคาซวนหนี
ปลอยสายฟาออกมาเปนสาย ฟาดลงทะเลสาบ พลันระเบิดเกลียวคลื่นอันทวมทน
ทองฟา โหมซัดมา
“เจาคิดจะอาศัยคลื่นหลบหนีไปหรือ หากเราชาวสายฝนยืนอยูเบื้องหนาสายน้ํา
สามารถเพิ่มพลังการตอสูขึ้นเปนเทาตัว เจาอยากพึ่งน้ําเพื่อเผนหนีมันไรประโยชน”
หนึ่งคนยิ้มเย็น
ทั้งสี่กลายเปนแสง พุงเขามาในพริบตา
ในตอนนี้เจาตัวเล็กมีเพียงการเคลื่อนไหวเดียวเทานั้น นั่นก็คือไถลตัวอยางรวดเร็ว
ความเร็วของเขาบรรลุขีดสุด ไถลตัวไกลออกไปไกลหลายสิบจั้ง ทิ้งรองรอยบนตําแหนง
เดิม
มือดีทั้งสี่แหงเผาสายฝนหยุดฝเทาชั่วขณะ จะไถลตัวตามไป ทวาในตอนนี้เอง กลาง
คลื่นน้ําทวมทนทองฟาที่ถูกกระตุน ครีบปลามหึมาโผลออกมา จากนั้นปากใหญโชก
เลือดปรากฏขึ้นทันที เพียงเขี้ยวคมก็ยาวถึงหมี่สองหมี่ ขาวโพลนและแหลมคม กะพริบ
แสงเย็นยะเยือก นากลัวเปนอยางยิ่ง
นี่เปนมัจฉามังกรตัวหนึ่ง กลิ่นอายนากลัว หัวเปนมังกร ตัวเปนมัจฉา เพียงดวงเนตร
ก็มีขนาดใหญเทาแผนรองโมหิน ศีรษะดั่งภูเขาลูกเล็ก โผลพนผิวน้ํา อาปากแลวกัดลงมา
นี่มันฉับพลันเกินไปนัก
“อาก…”
สองคนในนั้นรองโหยหวน ถูกอักขระจํานวนมากปกคลุม ลิ้นแดงฉานมวนหุมพวก
เขาเขาไปยังปากใหญ จากนั้นปดปากฉับ สะเก็ดเลือดสาดกระเซ็น
หนึ่งคนถูกเขี้ยวขาวดั่งดาบกัดจนขาดทันที ถูกกลืนเขาไปในทอง
อีกหนึ่งกระเสือกกระสนสุดชีวิต ชั่วขณะที่เขาสูปากใหญ ฟนขาคูนั้นของตนในหนึ่ง
อึดใจ หลุดพนจากการผูกมัด เขารวงลงมา รองอยางเจ็บปวดอยูริมทะเลสาบ เลือดยอม
ผืนดินจนเปนสีแดง
“อาก…ไม!”
ที่เหลืออีกสองคนคํารามอยางโกรธเกรี้ยว โจมตีอยางบาคลั่ง หมายชวยเหลือคนที่
ถูกเขมือบลงทองผูนั้น นาเสียดายที่ตัวของพวกเขาเองยังไมพนจากอันตราย อีกทั้งยังไม
สามารถทําใหวัตถุมหึมานี้สะดุงสะเทือนได
อักขระกะพริบแปลบปลาบ มวนตัวมาดั่งเกลียวคลื่น ปากสีเลือดเปดอาอีกครั้ง
มัจฉามังกรไมพอใจ ยังตองการจะกินอีก เพราะคนเหลานี้ลวนเปนผูกลาที่มีพบเจอได
ยาก สําหรับมันแลวนี่เปนเนื้อโอสถอันล้ําคา
สองคนดานหลังใบหนาซีดเผือก แบกคนที่เสียขาบนพื้น สําแดงเคล็ดวิชาล้ําคาอยาง
บาระห่ํา อักขระมืดฟามัวดิน โกยแนบจากทะเลสาบไป
นี่เปนการเปลี่ยนแปลงอันนาตื่นตะลึงครั้งหนึ่ง เกิดขึ้นฉับพลันนัก ทําใหพวกเขา
ตอบสนองไมทัน นี่เพียงหนึ่งกะพริบตา หนึ่งในมือดีทั้งสี่ก็เสียชีวิต อีกหนึ่งสูญเสียขาทั้ง
สองขาง เลือดไหลพรั่งพรูออกมา
เจาตัวเล็กหันหลังหายลับไปในพนา หลบหนีไปอยางรวดเร็ว
เขายอมรูวาในทะเลสาบมีมัจฉามังกร ครั้งแรกที่เขาผานทางนี้ เขากับสิงโตเกาเศียร
เกือบถูกอสูรนากลัวตัวนั้นเขมือบลงทอง
โลกใบนอยนี้มีสิ่งมีชีวิตนากลัวอยูไมนอยเลย พวกมันถือกําเนิดในโลกใบนี้ ไมถูก
กําราบเปนแน มีเพียงบุคคลที่แข็งแกรงเกินไปจากโลกภายนอกเทานั้นที่จะประสบกับ
วิบัติ
“ไยจึงเปนเชนนี้?”
เพียงชั่วพริบตาสี่ยอดฝมือแหงเผาสายฝนก็ตายไปหนึ่ง บาดเจ็บพิการอีกหนึ่ง อวี่คุน
กับชายชราอีกคนนัยนตาพนไฟ ออกคนหาเจาตัวเล็กแลเนื้อเขาทั้งเปน เด็กคนนี้นาชิงชัง
เหลือเกิน
“หากจับตัวได สังหารดวยการหลิงฉือเสีย!”
พวกเขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟน เสนเลือดบนหัวเตนอยางบาคลั่ง
กลางทะเลสาบ มัจฉามังกรไมไดขึ้นฝงแตอยางใด มันเพียงสะบัดหางกลางวาริน
เผยศีรษะดุจภูเขาเล็กออกมา จองพวกเขาเหลานี้เขม็ง เสมือนกับเตรียมจะโจมตีอีกหน
ทั้งสองจับตามองทะเลสาบ ปรารถนาจะกระโจนลงน้ําไปเขนฆามัจฉามังกรเสียใหรู
แลวรูรอด แตสุดทายก็กระทืบเทาปงปงอยางเคียดแคน แบกผูบาดเจ็บจากไป ควบอาวุธ
ล้ําคาไลลาเจาตัวเล็กไปตลอดทาง
เพราะมัจฉามังกรตัวนี้นาสะพรึงกลัวยิ่งนัก ขั้นบําเพ็ญไมไดต่ํากวาพวกเขา หากรบ
เพราะพิโรธตอไป พวกเขาอาจถูกกฎแหงโลกเล็กใบนี้สัมผัสได จากนั้นกําจัดทิ้ง
แมเจาตัวเล็กยังคงถูกตามลา แตในใจกลับไมไดย่ําแยเทาใดนัก ศัตรูคูอาฆาตไม
เพียงตายไปหนึ่ง แตยังมีภาระเพิ่มมาอีกหนึ่ง การไลตามเขาเชนนี้ คงไมสบายเฉกเชน
ดังเดิม
อยางไรก็ตาม ผูกลาเผาสายฝนเกงกาจอยางแทจริง แมแบกคนพิการหนึ่งคน
หลังจากปลุกเสกอาวุธล้ําคาแลว ก็ยังคงรวดเร็วอยางหาที่เปรียบมิได ปรากฏตัวขึ้นอีก
ครา ไลตามติดมาอยางไมลดละ
“ตองคิดวาวิธี ฝาทะลวงเขาเขตหวงหาม ปลุกปนผูดํารงอยูที่นากลัวยิ่งขึ้น มิเชนนั้น
คงไมมีทางหลุดพนจากพวกเขาแน” เจาตัวเล็กตัดสินใจหลบหนีเขาไปยังเขาลึก
เขาขี่อาวุธล้ําคาทะลวงเมฆทลายหมอก เมื่อขามยอดเขาแหงหนึ่ง เกือบพุงชนปกษา
อสูรตัวหนึ่งในชั้นเมฆ เห็นไดชัดวา นี่เปนปกษารายที่ยิ่งใหญและนิสัยมุทะลุ อาปากแผด
รอง พนเปลวไฟออกมาทันที
“ซวบ”
เจาตัวเล็กไถลตัวหลบหลีกในชั่วพริบตา จากนั้นพุงดิ่งตรงไปอยางดุดัน มุงหนาโจมตี
อยางไมยหี่ ระ
นี่เปนนกยักษแดงเพลิงตัวหนึ่ง รายลอมดวยแสงสีแดง มหัศจรรยเหลือหลาย พูดได
เต็มปากวาลักษณะภายนอกดีงามอยางยิ่ง คลายกับปกษาเทพเจาบรรพกาล หงสไฟตัว
นั้นยิ่งนัก
มันทะลุผานมานหมอก มองเห็นรูปโฉมแทจริงของเจาตัวเล็กในที่สุด พลันตกใจจน
ใบหนาไรสี หนึ่งเสียงรองโหยหวน แทบจะรวงจากนภาสูง กระพือปกบินหนีทันที
“แดงใหญอยาไดหนี ขาไมไดใหเจาลงถวยเสียหนอย!”
บัดนี้เจาตัวเล็กใชแรงจนสิ้น ลมนอนฟุบบนตัวนกกระจอกเมฆาเพลิง โอบล้ําคอของ
มันไวอยางใหตายก็ไมยอมปลอย ดวงตาที่ดีใจเปลงประกาย ตอนนี้ไมตองฝาเขาไปยัง
เขตหวงหามเหลานั้นแลว
นกยักษแดงแผดรอง ราวกับถูกมังกรคลั่งตัวหนึ่งรัดแนน ทําใหมันโรยแรง เปยม
ดวยความไมยินยอมและสิ้นหวัง พูดพลางสะอึกสะอื้นวา “เพราะเหตุใด ไยจึงพบเจาอีก
แลว ขาหลบซอนเรนกายในชั้นเมฆ แตก็ยังพบเจอเจาได”
“พรหมลิขิต!” เจาตัวเล็กหัวเราะฮาฮา โอบคอมันไวดวยใจอันแชมชื่น
แตทวา นกกระจอกเมฆาเพลิงกลับตื่นตกใจจนตัวสั่น แผดรองไมหยุดประหนึ่งฆาไก
เชือดเปดแลวกลาววา “ไยขาโชครายปานนี้ สวรรคจะลงทัณฑขาหรือ พบกับราชัน
ปศาจตนนี้อีกแลว”
เมื่อครั้งเจาตัวเล็กเพิ่งเขาสูเขารอยยอด ก็เคยพบกับแดงใหญแลว ทั้งยังแลเนื้อกวา
ยี่สิบกวาชั่งจากกายมัน ใสหมอแลวตุนใหสุก อิ่มหนําสําราญไปหนึ่งมื้อ
ตอนนี้ เมื่อแดงใหญพบเขา ราวกับเห็นผีอยางแทจริง ในใจมีเงาดํา มันสาปแชงไม
ขาดสาย ในใจราวกับมีมานับแสนตัววิ่งหอผานไป ไยจึงพบปศาจตนนี้แมกระทั่งยาม
เหาะเหินกลางชั้นเมฆ? นี่มันโชครายเหลือเกิน
“แดงใหญอยาไดกลัว ขาใจดีมาก ไมทํารายเจาหรอก” เจาตัวเล็กปลอบขวัญ
“อาเจียนเนื้อขาออกมา!” แดงใหญโกรธแคน
เจาตัวเล็กยิ้มแหง
“คนชั่วดานหลังกําลังไลตามขา รีบหนีเร็วเขา ใชความเร็วของเจาสลัดพวกเขาให
หลุดนั้นงายดายเหลือเกิน” เจาตัวเล็กหันหลังมองแวบหนึ่งอยางกระวนกระวาย
เมื่อแดงใหญไดฟง นัยนตาพลันเปนประกาย ยิ่งไปกวานั้น เจานกจัญไรตัวนี้หันหลัง
ทันที เตรียมพุงใสกลุมคนลาลา ศัตรูของศัตรูก็คือมิตรไมใชหรือ? มันหวังใหมีคนจัดการ
ปศาจตนนี้ ชวยเหลือมันจากสภาพตกนรกทั้งเปนนี้
“นกโง รีบหนีสิ มิเชนนั้นขาจะกินเจาเสียตอนนี้!” เจาตัวเล็กออกคําสั่งอยาง
เหี้ยมโหด เผยฟนขาวโพลนทั้งปาก กอดคอมันไวแนนแลวเริ่มขบฟน
แดงใหญตกใจจนรางกายสั่นสะทาน แทบจะรวงหลนจากฟาสูง มันหดคอประหนึ่ง
สะใภถูกแมยายรังแก หันหลังหนีไปไกลอีกครั้ง
“ตองอยางนี้สิ” เร็วนัก เจาตัวเล็กตะลึงงัน แดงใหญกลายรางเปนเปลวเพลิง ขาม
ผานชั้นเมฆ รวดเร็วจนนาตื่นตะลึง
ดานหลัง มือดีสองคนอึ้งงัน นี่ยังมีความยุติธรรมอยูหรือไม พวกเขาเหนื่อยอยางสุด
แสน จวนจะไลทันแลว ไยเขาจึงเปลี่ยนเปนขี่นกเชนนี้ละ? ทั้งสองโมโหจนปวดฟน ปวด
ทอง ปวดปอดไปหมด
บทที่ 131 ขนนกเต็มพสุธา
อวี่คุน อวี่เหวินเฉิงเหนื่อกายใจสิ้นดี การไลลานี้มาดวยความเหนื่อยลาอยางแทจริง
อีกนิดก็สามารถจับตัวเจาตัวเล็กไดแลว ทวากลับตะลึงงัน มองดูเขาขี่นกกระจอกเมฆา
เพลิงหลบลี้หนีหนาหายลับไปอยางไรรองรอยในพริบตา
ทั้งสองมีไฟโทสะลุกโหม รูจมูกพนควันขาว แตกลับไรซึ่งหนทาง ไอหมอกขมุกขมัว
จะไปเสาะหาหนึ่งคนหนึ่งวิหคไดจากที่ใด สุดทายก็เรือลมเมื่อจอด[1]
“ชางเถอะ พวกเรากลับไปกอน มีเบาะแสของลูกแกวนั้นแลว สําหรับเผาเราแลว
มันมีความเกี่ยวของอยางใหญหลวง บางทีอาจเพียงพอจะทําใหเผาสายฝนเราพุงทะยาน
ฟาได ปรากฏองคจักรพรรดิอีกหนึ่งพระองค”
ทั้งสองแบกคนที่เสียขาทั้งสองขางแลวหันหลังอยางโกรธแคน จากไปยังที่หางไกล
เมื่อจัดการทุกอยางเรียบรอยแลว พวกเขาจะทุมเทสุดแรงเพื่อฆาฟนเจาตัวเล็กแน
“แดงใหญ เจาชางรวดเร็วเสียจริง” เจาตัวเล็กพูดชื่นชม นกแดงยักษแปลงรางเปน
เปลวเพลิง ทะลวงเมฆทลายหมอก ลอยผานไปดุจแสงสีแดง
นกแดงยักษพูดอยางทะนงตนวา “แนนอน เจาก็ดูสิวาขาเปนใคร ราชันปกษานา
เกรงขามเชนขา หากไรซึ่งความสามารถจะอาจหาญเยื้องกรายในเขารอยยอดหรือ ขา
ตั้งใจไวแลววาจะจารึกชื่อไวในประวัติศาสตร”
“ราชันปกษารึ? อรอยมากแนๆ ทั้งยังเปนอสูรบรรพกาล รสชาติจะยิ่งเลิศล้ํา!” เจา
ตัวเล็กปาดน้ําลาย
นกแดงยักษไดยินดังนั้นก็ชะงักงัน สายหัวเปนพัลวันแลวกลาววา “ในตัวขามีแต
กระดูก ไมมีเนื้อมากหรอก อีกทั้งขามาจากอาณาจักรเล็กๆ เปนเพียงราชันในภูเขาลูก
หนึ่งเทานั้น!” มันเกรงกลัวเจาตัวเล็กอยางแทจริง ดวยกลัวจะกินมันเขาจริงๆ
“ถึงจะเปนกระดูกก็ดี อรอยกรุบๆ กรอบๆ” เจาตัวเล็กโอบคอมันไว จนสัมผัสไอ
รอนจากปากของเขาได
นกแดงยักษขนลุกซู ตะโกนลั่นวา “อยานะ ระยะนี้ขาปวยเปนโรคประหลาด
รายแรงนัก หากเจากินขารางกายเจาจะเปนแผลเหวอะหวะได”
“ชางเถอะ ไมหลอกเจาแลว ตัวขานี้เปนคนดียิ่งนัก ตอไปพวกเรารวมหัวจมทาย
ชวยเหลือซึ่งกันและกัน ขารับรองวาเจาไดโชคใหญแน” เจาตัวเล็กกลาวอยางสนิทสนม
นกแดงยักษไดยินก็ไมสุขอุรา รวมหัวจมทายอะไรกัน ทั้งที่เจานั่งอยูบนตัวขา หากมี
ปญญาประเดี๋ยวเจาแบกขาเหาะเหินสิ นี่ถึงจะเปนการชวยเหลือซึ่งกันและกันอยาง
แทจริง
“เฮ นกโง นี่แววตาอะไรของเจานะ ไยจึงมีแตตาขาวเชนนั้น?” เจาตัวเล็กเอยถาม
แนนอนวาเหลือกตาใสเจานะสิ อยากจะสะบัดเจาทิ้งเสีย นกแดงยักษอยากจะพน
ถอยคําเหลานี้ยิ่งนัก แตที่สุดแลวก็ไมกลาปริปาก มันกระซุบกระซิบอยางกลัดกลุมวา
“ขาเกิดมาตาขาวเยอะนะ”
เจาตัวเล็กตบแลวตบมัน พลางพูดวา “อยาใจแคบไป วันหลังขาจะมอบของรางวัล
ใหเจาหนึ่งชิ้น ขารูจักนกแดงนอยตัวหนึ่ง แมจะใหญเพียงฝามือ แตรายกาจกวาเจามาก
โข วันหนาจะแนะนําเจา ใหเจาคาราวะมันเปนอาจารย รับประกันวาเจาจะไดดิบไดดี
อยางรวดเร็ว ชื่อเสียงเกริกกองไปชั่วชีวิต”
“อะไรนะ นกนอยขนาดเทาฝามือรึ? ใหขาคาราวะยกยองมันเปนอาจารย ขายอม
ไมได!” นกแดงยักษเดือดดาล
เจาตัวเล็กเยาะเยยมันวา “เจาอยามาเสียใจภายหลังแลวกัน บางทีเจาอาจไดเปน
ทายาทหงสไฟตัวหนึ่งหรือของมัน เมื่อถึงเวลา หากเห็นมันแลวเจาอยารองคร่ําครวญ
คุกเขาขอใหมันรับเจาเปนศิษยก็แลวกัน”
“ถุย กูไมใชคนเยี่ยงนั้น กูไมทําเรื่องเชนนั้น” นกแดงยักษมีสีหนาเหยียดหยาม
“นกโง บังอาจกําเริบกับขา กูอะไรนั่นอีก ขาจะตีให!”
เสียงตูมดังขึ้น ศีรษะของนกยักษแดงปูดโปนขึ้นชั่วขณะ มันมึนงงจนหลงทิศ แทบ
จะหลนรวงลงมา แผดรองไมหยุด
“คนหาเขาวิเศษสักลูก ขาจะรักษาบาดแผล” บาดแผลของเจาตัวเล็กสาหัสไมนอย
เลย รางกายมีหลุมเลือดมากมาย ตอนนี้ยังคงหลั่งเลือด
นกแดงยักษแดงไดยินก็นัยนตาเปนประกายโดยพลัน มุงหนาบินไปยังเทือกเขาแหง
หนึ่ง มันคิดวาคงหลุดพนจากราชันปศาจตนนี้ไดแลว
“นกโง เพียงเจากระดกกน ขาก็รูวาเจาจะทําอะไร อยาเลนตุกติก มิเชนนั้นขาจะกิน
เจาแน” เจาตัวเล็กตักเตือน
“ไยเจาตองเพงเล็งขา เปลี่ยนเปนอสูรบรรพกาลตัวหนึ่งไมดีกวาหรือ?” นกแดงยักษ
ไมยินยอมพรอมใจ
“ผูใดใชใหเจาเหาะเหินไดไวละ หากเปลี่ยนเปนปกษารายอีกตัวอาจถูกคนดานหลัง
ไลตามมาทันนั่นจะเปนเรื่องใหญ” เจาตัวเล็กกลาว
“เชนนั้นขาจะบินชาลงสักหนอย หักปกทิ้งเสียขางหนึ่งก็แลวกัน” แดงใหญโมโห
โทโส อยากจะหยุดงานเพื่อประทวง
“งั้นดี ขาชวยเจา!” เจาตัวเล็กเริ่มจิกขนของมัน บัดนี้ขนแดงปลิวกระจัดกระจาย ดู
ทาแลวคงจะถอนขนมันจริงๆ
“อาก…เจาจะทําอะไร?”
“ถอนขนนะสิ จากนั้นลากเจาไปขัดๆ ถูกๆ ในแมน้ํา ใสลงหมอแลวตุนซะ” เจาตัว
เล็กกลาว
“เจาพูดเองวาจะไมกินขา ไยจึงกลับคําเชนนี้” แดงใหญรองเสียงแหลม
“ตอนแรกเจาบรรทุกขาแลวเหาะเหิน บัดนี้เจาจะหยุดงานเพื่อประทวงขา จะเก็บ
เจาไวทําไม กินเจาเสียยังดีกวา”
“ไมหยุดแลว ขาจะบิน เจาสั่งใหไปไหนขาก็ไปนั่น” แดงใหญทกุ ขระทม ราวกับ
สะใภทนทุกข
แนนอนวามันก็กระสับกระสายดวยเชนกัน ลูกตากลิ้งไปมาแลวพูดวา “เจาอยากได
ปกษารายที่มีผีเทารวดเร็วยิ่งกวาใชหรือไม ขารูจักตัวหนึ่ง ไมดอยกวาขาเลย ไปเฝารอที่
รังของมันดีหรือไม?”
“ไป ขาจะไดรักษาบาดแผลดวย” เจาตัวเล็กเพียงมองก็รูวา นั่นคงจะเปนศัตรูคูแคน
ของนกแดงยักษ เจานกนี้ก็ไมใชของดีอะไร อยากหยิบยืมมือเขาตอกรกับศัตรู
นี่เปนหนาผาแหงหนึ่ง มีรังนกขนาดใหญกอตัวอยูดานบน ตีนหนาผากองเต็มไปดวย
กระดูกขาวนานาชนิด กระทั่งกระดูกมนุษย เพียงมองก็รูวา เปนรังของสิ่งมีชีวติ โหดเหี้ยม
ปานใด
เจาตัวเล็กขมวดคิ้ว สิ่งมีชีวิตตัวนี้ไมธรรมดา เขามองเห็นโครงกระดูกมนุษยถึงเจ็ด
แปดคนกลางกองกระดูกนั่น ทั้งยังเปรอะเปอนคราบเลือด คิดวาคงถูกเขมือบไปไมนาน
นัก
“ลวนเปนอัจฉริยะแหงเผาพันธุมนุษย แตกลับกลายเปนอาหารในปากของมันเสีย
แลว”
รังนกถูกสรางจากไมแหง กระจายจิตสังหาร หนาผาขางเคียงแนนขนัดดวยกลิ่นคาว
เลือด คงเหลือจากที่อสูรรายเขมือบเหยื่ออยางแนนอน
นกแดงยักษบินวนรอบรังแลวกลาวดวยความฉงนสงสัย “เอะ มันไมอยูในรัง”
จากนั้นก็เก็บปกอยางรวดเร็ว รวงดิ่งลงกลางรังนก
ไมแหงหนามาก และแข็งแรงทนทานมากเชนกัน แตภายในรังนกกลับปูดวยดอก
หญาออนนุม อีกทั้งยังสะอาดและสบาย
“วาว มีไขดวย!” นกกระจอกเมฆาเพลิงหัวเราะฮาฮา กระโจนเขาไปอยางลิงโลด
แหวกกองดอกหญาออกมา ปรากฏไขใบใหญสามใบ
นี่เปนไขขนาดใหญเทาโมหิน ดําทะมึนและแวววาว ราวกับเจียระไนจากหยกดํา
บรรจุอักขระไวภายใน พลังปราณไหลเวียน
นกแดงยักษอาปากหัวเราะบาคลั่งแลวกลาววา “นี่เปนไขของจาวแหงขุนเขา ทั้งยัง
เปนยาบํารุงเสียดวย”
“เอะ หมอของขาหายไป!” เจาตัวเล็กทอดถอนหายใจ หมอชามรามไหของตนหลน
หายจนเกลี้ยงระหวางการถูกไลลา ตอนนี้อยากจะปรุงอาหารเลิศรสสักมื้อก็ไรหนทาง
“จะใชหมอไหไปทําไม ดูขานี่ ขามันผูเชี่ยวชาญเรื่องการกินไข” นกแดงยักษพูดดวย
ใบหนาองอาจภาคภูมิ
มันยืนอยูกลางรังนก กลางปกขางหนึ่งอยางดุดัน วาดผานไขใบหนึ่งไป เสียงดัง
แควก แยกออกอยางราบเรียบ ประหนึ่งเฉือนดวยมีด
ยิ่งไปกวานั้น ไขที่แยกออกเปนสองสวนใบนี้ ดานกลมหันลงขางลางทันใด ตั้งอยูตรง
นั้นอยางมั่นคง ไมมีของเหลวหลั่งลงแมแตหยดเดียว
บัดนี้เปลือกไขดั่งถวยชาม เปยมลนดวยไขขาวและไขแดง สองแสงสวาง ของเหลว
ดานในระยิบระยับ กําจายกลิ่นหอมหวน ทําใหกระหายจนน้ําลายสอ
หนึ่งแบงเปนสอง ดานในของเปลือกไขสองซีกนี้ลวนเปนเชนเดียวกัน
นกแดงยักษหัวเราะอยางบาคลั่ง กิริยาทาทางคลองแคลววองไว อาปากพนไฟ เริ่ม
เพิ่มความรอนใหกับถวยเปลือกไข แตละถวยลวนสงกลิ่นหอมกรุน ของเหลวเหลานั้นเริ่ม
เดือดปุดเปนฟองอากาศ ตอมาเริ่มกลายเปนสีเหลืองแวววาว
เจาตัวเล็กตะลึงพรึงเพริด ที่แทเจานกโงก็ตะกละเชนกัน เมื่อกอนคงจะทําเรื่องเยี่ยง
นี้ไมนอยเลยทีเดียว
“ที่แทเจาก็เปนโจรลักไขนี่เอง!”
“ถุย ขาทําแคนานทีปหน ในวัยเจริญเติบโตจะอยางไรก็ตองบํารุงเสียหนอย มิ
เชนนั้นจะสูง รวดเร็ว แข็งแกรงมากขึ้นไดอยางไร?” นกแดงยักษดูมีเหตุมีผล พูดไดอยาง
เต็มปากเต็มคํา
เจาตัวเล็กหาไดสนใจพฤติกรรมชั่วรายในวันวานของมัน ตอนนี้เขาบาดเจ็บสาหัส
ยอมไมพลาดวัตถุวิเศษบํารุงกายเชนนี้ เขาแทบจะมุดหัวเขาไปในถวยเปลือกไข กินอยาง
อิ่มหนําสําราญ เพียงชั่วพริบตา ไขใหญดุจโมหินก็ถูกกินจนเกลี้ยง
“ขายังไมไดกินเลยนะ!” แดงใหญโมโหฉุนเฉียว
“ยังมีอีกตั้งสองใบ ยางอีก!” เจาตัวเล็กเช็ดปาก ยามอาปาก พลังปราณก็พุงทะลัก
แสงสวางตลบอบอวล เห็นไดชัดวาพลังปราณที่บรรจุอยูในไขนกนั้นเขมขนเพียงใด
สุดทาย เจาตัวเล็กกินไขไปสองใบ หนักยิ่งกวารางกายของเขา ทั้งหมดสกัดเปนพลัง
ปราณ สองแสงไปทั้งตัว นั่งขัดสมาธิเริ่มปลุกอักขระเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
นกแดงยักษกินไปหนึ่งใบ อิ่มเอมใจยิ่งนัก มันเรอแลวนอนเอนกายไขวหางอยูตรง
นั้น ทั้งยังชักไมตะบองออกมาดามหนึ่ง วางทาวางทางแคะฟนอยูอยางนั้น
“เจามีฟนหรือ?” เจาตัวเล็กปรายตามองเขาแวบหนึ่ง
“ขาพอใจ นี่เปนการเสพสุขทางอารมณอยางหนึ่ง” นกแดงยักษพูดดวยทาทางราว
กับบอกวาเจาไมเขาใจหรอก
เจาตัวเล็กไมไดสนใจ รวบรวมพลังปราณรักษาบาดแผล เห็นไดดวยตาเปลาวา หลุม
เลือดแตละหลุมสมานกันทันใด กลับคืนสูสภาพเดิมอยางรวดเร็วดวยผลแหงแสงสวาง
กายเขาเต็มไปดวยความสะอาดหมดจด ไมหลงเหลือแมแตบาดแผล
“พิลึกนัก นี่คงไมใชอสูรบรรพกาลขนานแทหรอกนะ?” นกแดงยักษแคลงใจ มัน
จองเจาตัวเล็กอยูเปนเวลานาน เห็นวาเขาไมตอบสนอง จากนั้นคอยๆ ลุกขึ้นเสียงเบา
กระโดดลงจากผาชัน กางปกหมายบินหนีทันที
เสียงปงดังขึ้น เจาตัวเล็กก็กระโดดลงมา กระแทกลงบนหลังของมัน
“โอย…” นกแดงยักษคร่ําครวญ มันรูสึกเหมือนกับถูกสัตวประหลาดยุคกอน
ประวัติศาสตรตัวหนึ่งย่ําเหยียบ นัยนตาพลันมืด เจียนจะตกลงสูพื้นดิน
“ขายังไมอิ่มหนํา เจาคงไมอยากยัดตัวเขาไปในเปลือกไขแลวถูกยางใชหรือไม?”
เจาตัวเล็กนั่งขัดสมาธิบนหลังของมัน ทําการรักษาตอไป
“โอย เอวนอยๆ ของขา!” นกแดงยักษกระพือปกกลางเวหา ขนนกหลุดรวงเต็มพื้น
นับแตนี้ไป นกแดงยักษไมกลาหลบหนีอีกตอไป
ทันใดนั้น เสียงแผดรองยาวแววมา ปกษาใหญตัวหนึ่งบินโฉบมาจากฟากฟา สุระ
เสียงดั่งสายฟาสะเทือนหูจวนดับ มันยาวเกือบยี่สิบสามสิบหมี่ รูปรางนาตกตะลึง
“เจาทุกขมาแลว หนุมอํามหิตรีบตอสูเร็วเขา!” นกแดงยักษรองลั่น
“ไมใชไขที่ขายางเสียหนอย เจาเปนมือมืดกระทําเอง ไปเผชิญหนารับศึกเสีย” เจา
ตัวเล็กพูดพลางครอบเปลือกไขซีกหนึ่งไวบนหัวของมัน ประหนึ่งหมวกเหล็ก ระยับแสง
ดําทมิฬ
“ใหขาแบกหมอดํา ใสหมวกดํา[2]เชนนี้ ขาไมเลนดวยนะ ทั้งที่เจากินไปตั้งสองใบ
ขากินไปเพียงใบเดียวเทานั้น!” นกแดงยักษตวาด
แตมันแทบจะรองไมออกแลว และไมมีเวลาลําพองจน เพราะจาวขุนเขาตัวนั้น
ปรากฏกาย ใหญโตมโหฬารสมชื่อ ประดุจเมฆดําทมิฬอัดลงมา เมื่อเห็นบนหัวมันมี
‘หมวกดํา’ นัยนตาก็ลุกเปนไฟ โจมตีอยางบาระห่ํา
นกแดงยักษไมใชตะเกียงประหยัดน้ํามัน[3] ไมใชคูตอสูของเจาตัวเล็ก แตไมได
แปลวามันจะออนดอย กลับกันมันมีฐานะเปนถึงอสูรบรรพกาล ยิ่งใหญเหลือหลาย เริ่ม
โตตอบกลับไป
บัดนี้ ขนนกปลิววอนเต็มทองฟา เปลวไฟลุกโหมกระหน่ํา แสงดําทะมึนลอยลอง
ที่นี่เกิดเสียงดังอึกทึกครึกโครม
สุดทาย จาวขุนเขาปราชัย หนีเตลิดไป
“สูกับขา ไมดูเลยวากูเปนใคร” นกแดงยักษทะนงตน ทาทีปลื้มอกปลื้มใจ กระทั่ง
จาวขุนเขาหายไป มันถึงเริ่มรองโหยหวนวา “แมง เจ็บบรรลัย เจานกบานี่ไยอํามหิต
เชนนี้ โอย เอวบางๆ ขายาวๆ ขนงามๆ ของขา จวนจะแตกออกเปนเสี่ยงๆ แลว”
มันหกคะเมนตีลังกากลางนภา พลิกไปพลิกมาไมหยุดหยอน รองไหคร่ําครวญอยาง
โศกาอาดูร
หลายวันผานไป เจาตัวเล็กไมเพียงหายจากอาการบาดเจ็บอยางปลิดทิ้ง อีกทั้ง
รางกายและจิตใจแข็งแกรงมากยิ่งขึ้น ดวงตาสุกใส เขาพูดวา “ไป พวกเราไปดูเสีย
หนอยวาเผาสายฝนเปนเชนไรกันบางแลว”
เขตนี้มากดวยหนองบึงและทะเลสาบ บรรพบุรุษแหงเผาสายฝนมายังที่แหงนี้เมื่อ
หลายรอยปกอน สัมผัสไดถึงกลิ่นอายของน้ําทิพยในตํานาน
นี่ถือไดวาเปนของเหลววิเศษอยางหนึ่ง มีสรรพคุณวิเศษนานับปการ อยางเชน ผสม
กับยา สกัดเปนผงยาสะทานฟา และในยามปลุกเสกอาวุธล้ําคา ผสมเขาไปเพียงนิด ก็
สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของอาวุธเปนเทาตัว
มันแฝงดวยกฎและระเบียบแหงน้ํา แมมนุษยโลกจะเสาะหาความมหัศจรรยดั้งเดิม
ของมันไมได แตสําหรับเผาสายฝน มันกลับไมธรรมดา อาศัยมันในการบําเพ็ญตน จะ
เปลืองแรงนอยแตไดผลอยางมหาศาลเชียวละ
เผาสายฝนระดมกําลังเพื่อการนี้โดยเฉพาะ คนหามานานหลายวันก็คอยๆ พบ
เบาะแส
ไมไดอยูรมิ ทะเลสาบ ไมไดอยูขางบอน้ําพุวิเศษ พวกเขารูดีวาในดินแดนนี้มี
ทะเลทรายแหงหนึง่ มองเห็นแหลงน้ําอยูไกลๆ มีขนาดเพียงหมี่เดียว ของเหลววิเศษไหล
เกลือกกลิ้ง ไอมงคลลอยขึ้น
อยางไรก็ตาม ชาวสายฝนใชเวลาเดินทางสองวันก็ไปไมถึงบอวิเศษนั่น
“ตองเปนน้ําทิพยอยางแนนอน ทวาแสดงภาพลวงตา เพื่อทําใหพวกเราหลงผิด แต
นั่นก็บงบอกวาพวกเราเขาใกลมันแลว”
อวี่คุนตื่นเตน เคลื่อนกําลังคนมากมายปานนี้ แสวงหาอยางทรหดอดทน สุดทายก็มี
การเก็บเกี่ยวบางแลว
ตามตํานานกลาววา น้ําทิพยนี้ สามารถใชไดแมกระทั่งยามทวยเทพปลุกเสกอาวุธ
ล้ําคา ใชมันเพื่อบํารุงความวิเศษของอาวุธล้ําคา เพียงหยดเดียวก็มีมูลคามหาศาล ล้ําคา
จนไมอาจจินตนาการได
และที่นี่มีบอวิเศษอยูแหงหนึ่ง หากถูกโลกภายนอกลวงรูเขา ตองกอเกิดความ
จลาจลวุนวายเปนแนแท เหลาผูเฒาทั้งหลายตางไมยี่หระ ตางคิดหาวิธีรับคนเขามาเพื่อ
ไปชวงชิง

[1] เรือลมเมื่อจอด หมายถึงการกระทําสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ตลอดระยะเวลาที่ทํางานมา


สามารถทํามาไดเปนอยางดี แตเมื่อใกลจะเสร็จงานแลว กลับมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ทํา
ใหงานนั้นลมเหลวลง
[2] แบกหมอดํา ใสหมวกดํา หมายถึง ใสรายปายสีใหกลายเปนแพะรับบาป
[3] ตะเกียงประหยัดน้ํามัน หมายถึง เปนผูมีปญญา หรือพิษสง รับมือไดยาก
บทที่ 132 บุรุษผูม ีลกั ษณะพิเศษ
“ขาไมเอาดวยแลว ขอลาออก ติดตอกันหลายวัน ขนงามของขาจวนหลุดลอก
หมดแลว หากเปนเชนนี้ตอไปขาคงไดตายกอนวัยอันควรเปนแน!” นกแดงยักษบิน
ตอเนื่องเปนเวลาหลายวัน เหนื่อยลาจนโรยแรง เริ่มขอหยุดงาน
“เมื่อครูขาปอนยาวิเศษตนหนึ่งแกเจา บัดนี้ขาจะตุนเจาเสีย ตุนเหมือนไกตุนเห็ด
รสชาติดั้งเดิมแบบพื้นบาน” เจาตัวเล็กขมขู
“ตุนเถิด ตายๆ ไปเสีย จะไดไมตองทรมาน!” นกแดงยักษพูดดวยทาทีหมูตายไม
กลัวน้ํารอนลวก[1]มันมองออกวา เด็กอํามหิตคนนี้ไมมีทางกินมันตอนนี้ เพราะตอง
อาศัยมันในการเดินทาง
“เจาจะไมไปจริงรึ?” เจาตัวเล็กขบเขี้ยว เริ่มถอนขนบนกายของมันอยางบาคลั่ง ขน
นกสีแดงปลิววอนกระจัดกระจาย ประหนึ่งฝนเทกระหน่ํา
นกแดงยักษแผดรองดวยความเจ็บปวด แตครั้งนี้มันตัดสินใจวาจะตอตาน เพื่อชวง
ชิงสิทธิและประโยชนที่ตนพึงจะมี มันจึงกัดฟนยืนหยัดไว ปากพูดพึมพําวา “มันงอก
ขึ้นมาใหมได มันงอกขึ้นมาใหมได…”
“ฮึมฮา”
เจาตัวเล็กนํากรรไกรกระดูกสีทองออกมา แปลงมันใหกลายเปนรูปรางเดิม
ประหนึ่งหัวมังกร ขากรรไกรทั้งบนลางอาออก ฝงเขี้ยวบนคอมันไปที เลือดพลันหลั่งไหล
“หากเจายังไมไป ขาจะกินเจาเสีย”
“เจาขาเอย ชวยดวย เด็กอํามหิตคนนี้รังแกขา!” หนนี้นกแดงยักษตกอกตกใจอยาง
สุดแสน มันไมไดเหลียวหลังมอง และคิดวาเจาตัวเล็กลงมือกระทําเอง กระพือปกพั่บๆ
พุงทะยานสูฟากฟา
“ไปขางหนา สืบหาตอไป” เจาตัวเล็กออกคําสั่ง
นกแดงยักษหมดอาลัยตายอยาก หมดซึ่งพลังปราณ หลายวันมานี้มันตามหา
รองรอยของเผาสายฝนอยางไรชีวิตชีวา แตเสมือนวาคนเหลานี้หายไปอยางไรรองรอย
ยากจะสืบหาเงาของพวกเขา
ตอมา แมนกกระจอกเมฆาไฟจะเคลื่อนไหว แตกลับหนามอยคอตกไมอยากทํางาน
มองเจาตัวเล็กก็พลันปวดฟน นี่ตองคนหาไปถึงเมื่อใด? มันเกิดความคิดในเสี้ยววินาที
มันรูสึกวา เหมือนเผาสายฝนจะมีความลับบางอยาง ไมเชนนั้นไยตองหยุดการไลลาเขา
ละ? มันคิดวามันคิดไมผิดแน
“แดงใหญ ขาเคยบอกแลววาจะแนะนําอาจารยแกเจา เจายังจําไดไหม เพียงเจามี
พฤติกรรมดี ภายหลังขาจะทําใหเจาไดดิบไดดีขึ้นมาทันตาเชียวละ” เจาตัวเล็กเองก็ตกที่
นั่งลําบาก จึงเริ่มสรางแรงจูงใจใหมัน
“ถุย อยาพูดถึงไอนกเวรนั่น ใหญไมเทาฝามือดวยซ้ํา ขายอมรับไมได!” นกแดงยักษ
หยิ่งผยอง เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ก็โมโหเดือดดาลจนควันออกหู
“เจาพูดเองนะ เมื่อถึงเวลาอยามารองไหคร่ําครวญขอรองขาละ” เจาตัวเล็กกลาว
“อยาฝนเฟองไป ขาไมทําเชนนั้นหรอก อยาเอาไอเวรที่ขนยังขึ้นไมครบนั่นมา
ลอลวงขา ขาไมติดกับเจาหรอก” นกแดงยักษเหลือกตามองเขาดวยทาทีที่บงบอกวา
เจาคิดวาขาโงรึ
“เจาแนใจหรือ เมื่อถึงเวลาจะไมวิงวอนขอรองขาหรือ?” เจาตัวเล็กจองมองเขา
“ขาแนใจ ตีใหตายขาก็ไมมีทางขอรองเจาเด็ดขาด!” นกแดงยักษใหคําสัตยสาบาน
เชิดหนาชูคอ หันทายทอยใหเขาดู
เจาตัวเล็กไมไดพูดอะไร ลวงผอบหินออกมาจากสาบเสื้อบริเวณอก วางตั้งอยูเพียง
ลําพัง จากนั้นเปดฝาออก และเชยชมดวยตนเอง
“กลิ่นอายอะไร? ไมชอบมาพากล!” นกแดงยักษเหลียวหลัง จองไปยังผอบหินในมือ
ของเขา นัยนตาตั้งขึ้นโดยพลัน
ภายในผอบหินมีแสงสีแดงหลั่งไหล กระจายเปลวเพลิงพิเศษอยางหนึ่ง แมพลัง
ปราณจะไมเต็มเปยมนัก แตคลื่นเยี่ยงนั้นกลับทําใหอกสั่นขวัญแขวน โดยเฉพาะนกแดง
ยักษเปนสัตวปก สัมผัสจึงยิ่งแตกตาง ลึกซึ้งยิ่งนัก มันเนื้อตัวสั่นเทาอยางควบคุมไมได
สั่นระริกไปทั่วราง
เจาตัวเล็กมีสมาธิแนวแน นําขนนกสวยงามเสนหนึ่งออกมาจากผอบอยางเชื่องชา
จับไวแนนดวยสองนิ้ว ใหอยูในระยะสายตาแลวเชยชมมัน
“นี่มัน…” นกแดงยักษเบนสายตาหนีไมได นิ่งอึ้งอยางสิ้นเชิง อาปากคาง พูดอะไร
ไมออก
ขนนกเสนนั้นแดงฉานดุจเลือด กําจายกลิ่นอายอันทําใหใจสั่นสะทาน มันรูสึก
เหมือนมองเห็นผูสูงสงยืนตระหงานดวยไฟโทสะอยูเบื้องบน กําลังมองลงมาที่มัน!
นี่เปนแสงวิเศษที่มีในสัตวปกโดยเฉพาะ แมมันจะไมไดเห็นรางของนกแดงนอยกับ
ตา แตกลับมองเห็นอานุภาพเยยปฐพีจากขนนกเสนนี้ซ้ําแลวซ้ําเลา
มันบินลงบนยอดเขาแหงหนึ่ง รอคอยเจาตัวเล็กลงมา จากนั้นหันหลังกลับมาทันที
กระพือปกพุงเขามาแลวพูดวา “ขอรองละ ใหมันรับขาเปนศิษยดวยเถิด”
“เอะ เมื่อครูเจายังดูหมิ่นเหยียดหยาม บอกวาตีใหตายเจาก็ไมขอรองขาไมใช
หรือ?” เจาตัวเล็กนั่งบนกอนหินใหญ เอยถามพลางทําทาทางประหลาดใจ
“นี่ยังไมไดถูกตีจนตายไมใชหรือ? ฉะนั้น ตองรับขาเปนศิษย!” นกแดงยักษหนา
ดานหนาทนจนเปนโลกําบังได พูดกลาวอยางไรยางอาย
“ขาจําได มีคนพูดวา ไอนกเวรนั่น…” เจาตัวเล็กยิ้มตาหยี
“ขาผิดไปแลว นั่นเปนอาจารยของขา ขาจะไมเคารพยําเกรงเชนนี้ไดเยี่ยงไร ขาจะ
สํานึกผิดและปรับปรุงตัว…” นกแดงยักษน้ําตานองหนา มีทาทางทุกขระทมจากการ
กระทําผิดของตน
“ขาพูดเมื่อตอนนั้นแลววา เจาตองมีทาทางเชนนี้เปนแน เจายังใหคําสัตยกับขาวา
ไมมีทาง ผลลัพธเปนเชนไรเลา หลั่งน้ําตาอาบนองเต็มหนา เปนไปตามคํากลาวของขาใช
หรือไม?” เจาตัวเล็กหัวเราะฮาฮา
นกแดงยักษพราวระยับสีแดงเปนทุนเดิม บัดนี้ใบหนาแดงก่ํายิ่งขึ้น แตยังปากหนัก
เชนเดิม มันพูดวา “รูผิดแลวแกไข เปนยอดดี คนเสเพลกลับตัว แมแตทองคําก็ไมอาจ
แลกได หมายถึงปกษาเยี่ยงขานี่แหละ!”
“ปกษาที่ไมไดดีเทาใด!” เจาตัวเล็กกลาวสรุป
“นี่เจาวาขานี่” นกแดงยักษฉุนเฉียว
“ขากําลังบอกกลาวความจริงตางหาก” เจาตัวเล็กตบบามันแลวพูดวา “ขาวานะ
เจาแดง เจาวาพวกเราจะหาคนพวกนั้นพบเมื่อใด?”
เมื่อไดคําวาเจาแดง นกแดงยักษก็กระตุกไปที รูสึกหยาบคายฟงไมเขาหู แตกลับยืด
อกผึ่งผายอยางรวดเร็ว พูดดวยความทรงพลังนาเกรงขามวา “คนโงเชนนั้น หนีไมรอด
หรอก คอยดูขาเถิด!”
ตอมา มันมุดเขาไปยังผืนปา เสียงรองโหยหวนดังขึ้น มันอาละวาดลากตัวกลุมสัตว
ประหลาดดุรายออกมากลุมใหญ จากนั้นอาปากพนไฟ ตําหนิเสียงดัง สอบถามพวกมัน
วารูถึงทิศทางของเผาสายฝนหรือไม
หลังจากขนวิเศษสีแดงปรากฏขึ้น นกแดงยักษโดนฉีดเลือดไก นั่นเรียกวาพละกําลัง
มันบินผานเขาสูงจํานวนนับไมถวนในเวลาเพียงครึ่งวัน หาเรื่องสัตวอสูรจํานวนไมนอย
เลย สยบพวกมันแลวสืบสวนรองรอยของเผาสายฝน
เชนนี้เอง ผานไปเพียงหนึ่งวัน มันสืบทราบขาวคราวอันนาเชื่อถือ ประสิทธิภาพ
ไมไดเพิ่มขึ้นเปนเทาตัว แตเปนสิบเทา รอยเทา
นกแดงยักษเต็มเปยมดวยความฮึกเหิม กลาววา “คนพวกนั้นเขาไปในผืน
ทะเลทรายแลว ราวกับกําลังคนหาวัตถุล้ําคาอยางหนึ่ง พวกเราเรงไปปลนเอาจนไม
เหลือ ลวงหนาไปยังที่หมายกอนพวกเขา!”
นี่เปนทะเลทรายสีทองผืนใหญ แหงเหือด รอนระอุ เม็ดทรายสะทอนแสง สาดสอง
จนผูคนปวดตา
ณ ที่ไกลหางมากดวยทะเลสาบ แมน้ํายาวลอมรอบภูเขา แตที่นี่กลับตรงขามอยาง
สิ้นเชิง แตกตางกันสิ้นดี ทําใหปรับตัวไมทันเล็กนอย ทะเลทรายสีทองแหงแลงยิ่งนัก
ครึ่งคอนวันผานไป พวกเขาเขาสูทะเลทรายลึก แมจะไรประสาทสัมผัสพิเศษแหงน้ํา
ของเผาสายฝน แตในชั่วพริบตาก็คนพบสิ่งผิดปรกติ ที่นี่มีคลื่นพลังลึกลับอยู
“โอที่รัก ตองเปนวัตถุล้ําคาอยางแนนอน ที่มีทะเลทรายปรากฏขึ้นที่นี่ ตองเกิดจาก
วัตถุวิเศษนี้เปนแน” นกแดงยักษตื่นเตนยิ่งกวาเจาตัวเล็กเสียอีก
หลังจากเขาสูทะเลทราย เจาตัวเล็กตองการใหนกแดงยักษแยกกันไปตามหาชาว
สายฝน ปรากฏวามันประหนึ่งแผนยาหนังหมา ไลเทาใดก็ไมยอมไป
นี่ทําใหเขาหมดคําพูดเล็กนอย เดิมทีเขาตองขูเข็ญใหมันยอมศิโรราบ บรรทุกเขาบิน
ไปอยางหนามอยคอตก บัดนี้กลับตรงกันขาม ถีบมันก็ไมไป
“เจาตองรับผิดชอบขา!” นกแดงยักษพูดอยางเต็มปากเต็มคําดวยคิดวาตนมีเหตุผล
“ไสหัวไป!” เจาตัวเล็กถีบมันอีกที ผลคือมันหกคะเมน จากนั้นก็กลับมาอีกครั้ง
“เอะ กลิ่นหอมของยาล้ําคา!” จมูกของนกแดงยักษเฉียบแหลมนัก ไดกลิ่นหอมของ
ยาในระยะไกลอยางยิ่งยวดเชนนี้
“ไมผิดแน ยาล้ําคา!” เจาตัวเล็กพยักหนา จากนั้นพุงไปขางหนาอยางรวดเร็ว
ดานหนามีสีเขียวทั่วบริเวณ นั่นเปนกระบองเพชรจํานวนมาก หนามแหลมคม นี่
เปนหนึ่งในพืชที่สามารถอยูรอดไดในทะเลทรายได
แสงเงินกะพริบแปลบปลาบ บนผืนทรายของเหลากระบองเพชรมีดอกสีเงินพลิ้ว
ไหว หอมหวนแตะจมูก แสงสวางระยิบระยับ สาดทอแสงสีเงิน ประหนึ่งสายฝน
“มัน…คือเงินทะเลทรายในตํานาน นี่เปนยาล้ําคาเชียวนะ เหนือกวายาวิเศษทั่วไป!”
นกแดงยักษนัยนตาลุกเปนไฟทันที
เจาตัวเล็กตื่นตะลึงยิ่งกวา เพราะขางๆ ยาล้ําคาตนนั้นมีชายหนุมชุดเงินอยู กมตัว
ยื่นมือเขาไปเด็ดเสียแลว ระยะทางไกลเพียงนี้ อยากจะขัดขวางก็ไมทันการเสียแลว
นอกจากนี้ บนพื้นยังมีแมงปองตัวใหญหลายตัว กะพริบแสงสีเงิน ลวนมีขนาดใหญ
เทาแผนรองโมหิน อัปลักษณและนากลัว กระจายกลิ่นอายชั่วราย
เห็นไดชัดวา แมงปองสีเงินเหลานี้คอยเฝายาล้ําคาตนนี้ เพียงดอกผลิบานก็จะถูก
พวกมันกลืนกิน อาศัยอยูที่นี่มาเนิ่นนานแลว
ทวาตอนนี้แมงปองยักษเหลานี้ลวนสิ้นชีพ ถูกเขนฆาจนหมดสิ้น
“เขานี่เอง” เจาตัวเล็กเผยสีหนาพิลึกกึกกือ ชายหนุมชุดเงินคนนั้นไมไดแปลกหนา
แมแตนิด เคยถูกเขาลอบโจมตี ทั้งยังทุบไปหลายครั้งหลายคราดวย เขาคืออัจฉริยะ
อันดับหนึ่งในการเปดรับลูกศิษยครั้งนี้ของศาลาปดฟา เซียวเทียนผูนั้น
“โอย เขากินมันแลว!” นกแดงยักษกระทืบเทาดวยความชิงชัง ระยะทางหางไกล
เกินไป ไมสามารถขัดขวางไดโดยสิ้นเชิง ทวาตอมา มันกลับรองตะโกนอยางอํามหิต
โหดเหี้ยมวา “เขากินยาล้ําคา ขาก็กินเขาเสีย เชนนี้เปนไง ไมสิ้นเปลืองสรรพคุณยา”
เวลานี้ เจาตัวเล็กเองก็มุทะลุ อยากจะเดินออมดานหลังไป ทุบเขาอีกสักหนึ่งคอนให
ลมพับลงไป แตเมื่อคิดๆ ดูแลว เขาก็อดกลั้นอารมณไวได
ชายหนุมชุดเงินมาจากเผาเซียว หนนี้มีคนในชนเผาคุมกันสงตัวมา ไมไดผานศาลา
ปดฟา ดวยเหตุนี้จึงไมไดรวมเดินทางมากับเจาตัวเล็ก
ในความเปนจริงแลว ไมเพียงเขา บุคคลที่มีความเปนมาใหญยิ่ง เชนสือยี่ องคหญิง
ประเทศเพลิง ลวนมาดวยชนเผาของตน มีคนอารักขาเปนการเฉพาะ
เซียวเทียนนั่งขัดสมาธิ เริ่มทําการสกัดยาล้ําคา เนื้อตัวสองสวาง เห็นชัดวานี่เปน
อาการของการบรรลุ
“แข็งแกรงนัก เจาหนุมคนนี้อายุยังนอย แตจะเปดถ้ําสวรรคแหงทีแ่ ปดแลว ตอง
เปนผูมีพรสวรรคไมธรรมดาคนหนึ่งแหงเผาพันธุมนุษยเปนแน พบเห็นไดนอยนัก” นก
แดงยักษตะลึงพรึงเพริด
ในปจจุบันนี้ ผูที่สามารถเปดถ้ําสวรรคแหงที่เจ็ด ถือวาเปนผูปราดเปรื่อง อัจฉริยะผู
สามารถเยยหนึ่งแผนดินแหงเผาพันธุมนุษย
แตการเปดถ้ําสวรรคแหงที่แปดนั้น ลําบากแสนเข็ญเหลือเกิน พบเจอไดยาก มีนอย
ดั่งขนหงสไฟและเขากิเลน[2] เปนดั่งที่นกแดงยักษกลาว ตองเปนผูมีพรสวรรคอันฟา
ประทานในเผาพันธุมนุษยอยางแนนอน
สําหรับผูที่สามารถเปดถ้ําสวรรคแหงที่เกาได นั่นเปนเพียงตํานาน ทั่วไปกลาววา
เปนเพียงการจารึกในตําราโบราณ พบเห็นไดยากในโลกมนุษย
เจาตัวเล็กรวบรวมสมาธิ สํารวจอยางถี่ถวน พบวารอบตัวเซียวเทียนมีกลุมแสงอยู
เจ็ดดวง และดวงที่แปดกําลังกอรูปเปนราง เจียนจะเปดมันไดแลว
ถ้ําสวรรคที่แตละคนเปดจะแตกตางกัน อีกทั้งจะเปลี่ยนแปลงหลังจากไดมา
ทันใดนั้น แสงเงินสวางวาบ แมงปองยักษสองตัวมุดออกมาจากกลางผืนทราย กาม
เย็นยะเยือก หางงอนาสะพรึงกลัว คอยๆ เคลื่อนตัวไปทางชายชุดเงินอยางเชื่องชา
เตรียมการโจมตีดวยสายฟา
“พวกเราเขาไปกันเถิด!”
“ดี นกปากสอมกับหอยกาบวิวาทกัน ชาวประมงไดประโยชน[3] พวกเราไปหา
ผลประโยชนกันดีกวา” นกแดงยักษฮึกเหิม
“พวกเราไปชวยเปนแรงเสริมแกชายชุดเงินตางหาก” เจาตัวเล็กพูดแก
ฝายตรงขามเขามาในทะเลทราย คงไมไดเดินทางอยางไรจุดหมาย เพราะโลกใบ
นอยนี้กวางขวางไรที่สิ้นสุด มากดวยสถานที่ที่มีสิ่งมีชีวิตวิเศษ ไมคุมคาจะเดินทางใน
ดินแดนทุรกันดารนี้แมเพียงนิด บางทีฝายนั้นอาจรูอะไรบางอยางก็เปนได
“แควก”
กรรไกรกระดูกสีทองลอยออกไป ฟนแมงปองยักษจนขาดอยางรวดเร็วจนลมลง
สะเทือนเซียวเทียนใหรูสึกตัวในที่สุด ในขณะเดียวกันเขาก็บรรลุแลว เปดถ้ําสวรรคแหง
ที่แปดได
เขาเขาใจวาเกิดเรื่องอะไรขึ้นภายในพริบตา แมเขาจะรูวาแมงปองยักษทั้งสองตัว
ตานทานเขาไมได แตถึงอยางไรก็รูสึกขอบคุณที่เจาตัวเล็กลงมืออยางมีคุณธรรม เกิด
ความสํานึกบุญคุณ
“พี่ชายชางเปนผูมีพรสวรรคอยางแทจริง จึงเปดถ้ําสวรรคแหงที่แปดไดเชนนี้” เจา
ตัวเล็กกลาวชม เขาไมไดกังวลวาจะเผยตัวตนแมแตนิด เพราะกายเต็มไปดวยคราบเลือด
ใบหนามอมแมม เมื่อครูยังตั้งใจเปลี่ยนแปลงเปนพิเศษอีกดวย
ยิ่งไปกวานั้นทั้งสองไมเคยพบหนากันโดยแทจริง เพียงแคเขาเคยทุบอีกฝายจนสลบ
ไปจากดานหลังเทานั้น อีกฝายคงไมมีปฏิกิริยาไวปานนั้น
“ดูเจาหนาผากโหนกนูน สวางไสว แคมองก็รูวาคือเปนผูมีลักษณะพิเศษ วัน
ขางหนาตองพุงทะยานฟาเปนแน” นกแดงยักษพูดชื่นชมตามเจาตัวเล็กอยางใหความ
รวมมือ
อยางไรก็ตาม เมื่อชายหนุมชุดเงินไดยินคําวา ลักษณะพิเศษ รางกายพลันหยุดชะงัก
ไปชั่วขณะ เขาเกลียดคํานี้ยิ่งนัก ภาพที่คนเหลานั้นวิจารณและยกยองเนื้อปูดบน
หนาผากเขาเมื่อครั้งนั้น เขายังจําไดจนถึงทุกวันนี้ แทบจะคลุมคลั่ง
เจาตัวเล็กเพียงมองสีหนาของเขาก็เขาใจ มุมปากกระตุก กลั้นรอยยิ้มไว ตําหนินก
แดงยักษวา “พูดอะไรนะ มีชายหนุมผูมีลักษณะพิเศษที่ไหนกัน ทุกอยางลวนอาศัย
ความมานะบากบั่นของตน จึงจะสามารถเหนือกวาผูอื่นในที่สุด ขาเกลียดชังคําวา
ลักษณะพิเศษ นี้เปนที่สุด”
ชั่วพริบตา ชายชุดเงินแทบหลั่งน้ําตาอาบหนา นี่เปนการรูใจอยางแทจริง ไดพบเจอ
คนที่ถูกนิสัยใจในที่สุด เขาเกลียดชังคํานั้นยิ่งนัก
“สหาย เพิ่งพบหนาแตกลับเหมือนดั่งรูจักกันมาเนิ่นนาน คําพูดของเจา สะกิดใจขา
อยางเหลือหลาย ขาเห็นดวยอยางยิ่ง” เซียวเทียนจิตใจสั่นไหว แมจะพบเจาตัวเล็กครั้ง
แรก แตความรูสึกดีกลับเพิ่มขึ้นชาๆ
เจาตัวเล็กกาวออกไปสนทนากับเขา สุดหลาฟาเขียว อสูรดินแดนรกราง
ขนบธรรมเนียมประจําถิ่น พูดคุยกันเคลาเสียงหัวเราะ ชายชุดเงินพยักหนาไมหยุด คิด
วาชายหนุมคนนี้ถูกคอยิ่งนัก รูสึกพบคนรูใจ
สุดทาย เซียวเทียนเปดปากวา “เมื่อครูที่ทานลงมือชวยขา ทําใหขาซาบซึ้งใจ เชนนี้
เถิด เจารวมเดินทางไปกับขา ขาอาจมอบโชคใหญแกเจาได”
“โชคอะไรรึ?” เจาตัวเล็กสงสัย
“น้ําทิพย!” ชายชุดเงินเผยสีหนาเครงขรึม พนตัวอักษรสองตัวนี้ออกมา
เจาตัวเล็กตะลึงพรึงเพริด เขายอมเคยไดยินของสิ่งนี้มากอน นั่นเปนของวิเศษ แม
ยามทวยเทพบรรพกาลปลุกเสกอาวุธยังตองใชมนั มูลคามหาศาล เพียงปรากฏแคหนึ่ง
หยดก็อาจถูกคนตีแสกกะโหลกแลวชวงชิงเอาไป
“หลายรอยปกอน บรรพบุรุษทานหนึ่งของขาเคยพบเบาะแส ไดทิ้งคําชี้แนะไว ดวย
เหตุนี้เมื่อเขารอยยอดเปด ขาจึงเดินทางมาที่นี่ทันที” เซียวเทียนพูดอยางเปดเผย การ
เดินทางนี้มองไมเห็นความสําเร็จเลย เพราะน้ําทิพยนั่นราวกับมีชีวิต รูจักการหลบซอน
เรนกาย สามารถกลายรางเปนอักขระได
เจาตัวเล็กแววตาเปนประกายแลวกลาววา “ถึงอยางไรก็ตองพยายามชวงชิง หาก
พลาดของสิ่งนั้นไป ตองถูกสายฟาฟาดเปนแน”
ชายชุดเงินไดยินก็หัวเราะเสียงดัง คิดวาเขานาสนใจเหลือเกิน
“การเดินทางนี้ไมมีทางสงบ ขาพบวามีคนลวงหนาเดินไปกอนแลว เมื่อถึงเวลาคงมี
อุปสรรคแนนอน” เซียวเทียนพูดตอ เขาเตรียมพรอมเต็มเปยม แมกระทั่งวาชนเผานี้ยัง
เสาะหาวิชาทําลายภาพมายาเพื่อเขาเปนพิเศษ
“ที่จริงแลว บางทีพวกเราอาจไมตองลงมือดวยตนเอง มีคนพวกหนึ่งเดินทาง
ลวงหนาไปกอนแลวไมใชหรือ พวกเราตามหลังพวกเขาไป จากนั้นลงมือในชวงเวลาคับ
ขัน” เจาตัวเล็กกลาว
ชายชุดเงินพยักหนา เขาเองก็มีความคิดนี้เชนกัน
ทั้งสองพูดคุยหัวเราะกันไปตลองทาง ทําใหเซียวเทียนยิ่งรูสึกวาชายหนุมคนนี้ถูกคอ
เขามากนัก ทุกคําพูดลวนทําใหเขารูสึกสบายใจ
เจาตัวเล็กเปยมดวยความฮึกเหิม ทาทางมีคุณธรรมสูงสงเทียมฟา กลาววา เรื่อง
ของเซียวเทียนของเหมือนเรื่องของเขา ภายหลังหากมีอุปสรรครวมกันฟนฝา
ชายชุดเงินกลาวดวยความตื้นตันวา “กลาวคําสัตยไมปกปดกัน ขามีศัตรูหมายเลข
หนึ่ง แมจะไมเคยพบหนา แตเด็กคนนั้นยิ่งใหญเหลือเกิน ไมรูวาในวันขางหนาจะระเบิด
ความชั่วรายหรือไม”
“ผูใดกัน?” เจาตัวเล็กกะพริบตาดวยทาทางฉงนสนเทห เอยถามอยางจริงจัง
“เด็กเหลือขอที่ชั่วรายยิ่งนัก ขาอยากใหเขาปรากฏตัวตอหนาขาบัดเดี๋ยวนี้ จากนั้น
ขาจะลากคอนมากระหน่ําทุบเขาสักครั้ง” ชายชุดเงินขบเขี้ยวเคี้ยวฟน
“ดี ศัตรูของเจาก็คือศัตรูของขา วันหลังพวกเราชวยกันกระหน่ําทุบตีเด็กเหลือขอ
ชั่วรายคนนั้น!” เจาตัวเล็กกลาวอยางองอาจอยางที่สุด
เซียวเทียนตื้นตัน เพื่อนแทหายากนัก การเดินทางครั้งนี้คุมคาเหลือเกิน!
ทั้งสองยิ่งคุยก็ยิ่งเขาขา สุดทายกอดคอโอบไหล มุงหนาเดินทางกลางทะเลทราย
แทบจะกลายเปนคนเดียวกัน
นกแดงยักษเดินตามเจาตัวเล็กตอยๆ ดวยความเอาอกเอาใจอยางหาที่เปรียบไมได
แทรกบทสนทนาไมหยุดหยอน พูดคลอยตามวาจาของเขา เพราะยังคาดหวังใหเขา
แนะนําอาจารยให
พวกเขาไมไดอาศัยนกกระจอกเมฆาเพลิงใหเหาะเหินกลางเวหา เพราะเขาใกล
จุดหมายปลายทางแลว เกรงวาผูอื่นจะพบเห็น พวกเขาเพียงซุมเดินทางกลางผืนทราย
เทานั้น

………………………………………………………
[1] หมูตายไมกลัวน้ํารอนลวก หมายถึง พรอมจะเผชิญกับความยากลําบากดวย
ความไมแยแส เพราะไมมีอะไรจะเสียแลว
[2] หงสไฟ เขากิเลน เปรียบเปรยวา ล้ําคาและหายาก
[3] นกปากสอมกับหอยกาบวิวาทกัน ชาวประมงไดประโยชน อุปมาวา สองฝาย
ทะเลาะวิวาทไมยอมกัน ปลอยใหบุคคลที่สามฉกฉวยโอกาสควาเอาประโยชนไป
บทที่ 133 น้าํ ทิพย
ทะเลทรายกวางไกล เม็ดทรายสีทองกะพริบระยิบระยับ พราตาเล็กนอย ยาม
เหยียบย่ําฝาเทาอยูดานบนยังรูสึกปวดแสบปวดรอน คลื่นความรอนโจมตีเปนระลอก
หากปุถุชนคนธรรมเดินเหินอยูที่นี่ คงยืนหยัดไดไมนานก็เปนลมลมไป ผืนทรายมี
อุณหภูมิสูงจนนาตกใจ ราวกับเตาไฟใหญโตมโหฬาร
บัดนี้ชาวสายฝนจิตใจรอนรุม เชนเดียวกับทะเลทราย เต็มเปยมดวยความเปรมปรีดิ์
เพราะพวกเขาเขาใกลจุดหมาย มองเห็นน้ําทิพยในตํานานแลว
แมจะมองเห็นบอน้ําวิเศษในระยะทางสองลี้ มีขนาดเพียงหมี่เดียวเทานั้น ไมไดใหญ
เทาใดนัก แตกลับคอนขางเตะตากลางทะเลทรายสีทองเชนนี้
แมบอน้ําวิเศษจะเล็ก กลับมีคลื่นใหญไพศาล ดุจดั่งทะเลกวางใหญกระเพื่อมขึ้นลง
นายําเกรง น้ําวิเศษเหลานั้นสวางแวววาว สองแสงวิเศษ สะทอนแสงสวางเปนสายๆ
ทั้งยังมีหมอกควันลอยขึ้น สีสันมงคลไหลทะลัก ปกคลุมที่แหงนั้น แมคนไมรูจัก ไมรู
วานี่เปนน้ําทิพย ก็อาจเขาใจวามันเปนวัตถุล้ําคา มีมูลคามหาศาล
เพราะภาพเหนือธรรมชาติตรงนั้นนาตื่นตะลึงมาก เหมาะกับลักษณะพิเศษของ
ขุมทรัพยใตดิน
“ดีเหลือเกิน เผาสายฝนเรามีหวังแลว หากพวกเราไดบอน้ําเชนนี้มาครอง ภายภาค
หนาเผาเราตองรุงโรจนอยางหาที่เปรียบมิได ปรากฏเกียรติภูมิแหงตระกูลเกาแกอีก
ครั้ง” อวี่เหวินเฉิงตื่นเตน ทั้งเผาผมและหนวดเคราสั่นระริก
คนกลุมนี้เหมอมองดวนความปรารถนาอยางหาที่เปรียบมิได น้ําเออลนเต็มบอ
หมายความวาอยางไร? คนทั้งหมดตางรูดี สําหรับเผาสายฝนถือวาเปนความสําคัญอยาง
ใหญหลวง แตละคนตื่นเตนเปนอยางมาก รางกายสั่นเทิ้ม
แคหนึ่งหยดปรากฏในโลกภายนอก ก็เพียงพอจะสรางความอึกทึกครึกโครม หนึ่ง
บอเชนนี้ไมสามารถประเมินมูลคาไดโดยสิ้นเชิง!
อวี่คุนตักเตือนวา “ระมัดระวังหนอย น้ําทิพยมีจิตวิญญาณ พวกเราหามพาลทําลาย
อักขระ ตองเขาใกลทีละนิด เชื่อมประสานมันดวยพลังและความชิดเชื้อกับน้ําแตกําเนิด
แหงเผาสายฝนเรา เพื่อใหไดมาซึ่งความเชื่อใจของมัน”
แมน้ําทิพยจะเปนบอน้ําวิเศษ แตจวนจะมีญาณวิเศษ สําแดงอักขระและกฎเกณฑ
สามารถเหาะเหินเดินอากาศ มุดทะลวงใตดิน ยากจะจับตัวไดอยางแทจริง
จําตองไดรับความไวเนื้อเชื่อใจจากมันเทานั้น หากอุกอาจนําเอามา ไมมีทางไดครอง
น้ําบอนี้มาทั้งหมดแน
ชาวสายฝนอธิษฐานอยางเงียบงัน จากนั้นกาวแลวหยุด หยุดแลวกาว สวดทอง
คาถาโบราณ พลังแหงน้ําในปฐพีนี้พลันมีชีวิตชีวาขึ้นมาชั่วขณะ สองแสงสีฟาขมุกขมัว
“โฮก…”
เสือดําตัวหนึ่งคํารนคําราม เกิดพายุหมุนสีดําขึ้นมากลางทะเลทราย มวนเนินทราย
หลายลูกขึ้นสูฟาสูง ชางเปนภาพที่นากลัว พายุหมุนนั่นขึ้นสูฟากฟาทันที
“นี่มันอะไรกัน ไยจึงปรากฏสัตวอสูรเยี่ยงนี้?” ฝูงชนตะลึงงัน
“ไมใชสัตวอสูรของจริง มันแปลงรางจากอักขระ กึ่งมายากึ่งเสมือนจริง อยาไดถูก
มันลวงหลอกเปนอันขาด” อวี่เหวินเฉิงพูดเสียงต่ํา
เขานั่งสมาธิ แมกลางทะเลทราย แตกลับมีคลื่นน้ําสีฟากระเพื่อมขึ้นลง ขยายตัวมา
จากบริเวณที่เขาอยู ขวางกั้นเสือดําตัวนั้น หมายเปดเผยตัวตนที่แทจริงของมัน
“ตูม”
เสียงระเบิดดังตูม เสือดําคําราม แตกออกเปนสี่ชิ้นหาสวนทันที กลายเปนเม็ดทราย
จํานวนมาก และพายุหมุนก็มลายหายไป
อยางไรก็ตาม เสียงลมเพิ่งหยุดลง เสียงประหลาดก็แววมา ประหนึ่งขอตอกระดูก
ผิดตําแหนง
“แกรก” “แกรก” …
เม็ดทรายสีทองสั่นสะเทือน จากนั้นผืนทรายก็แยกออก กระดูกขาวโพลนเปนกอบ
เปนกําปรากฏขึ้น รวมตัวกันอยางรวดเร็ว กลายเปนปกษารายตัวหนึ่ง เพียงแตไรปก
เทานั้น
บนหัวของมันมีอักขระเปลงแสงวูบวาบ แผคลื่นพิลึกพิลั่น กลิ่นอายนากลัวเปนอยาง
ยิ่ง
“นี่เปนผูกลาที่สิ้นชีพกลางทะเลทรายเมื่อครั้งวันวาน คิดไมถึงวาน้ําทิพยจะมีจิต
วิญญาณจริง สามารถรองเรียกกระดูกเหลานี้ใหปรากฏขึ้นอีกครั้ง”
แสงสวางกะพริบแปลบปลาบ เสียงขอตอกระดูกเคลื่อนไหวดังขึ้นอีกครั้ง เนินทราย
อีกแหงแยกออก ครั้งนี้ปรากฏโครงกระดูกหลายสิบรางขึ้นทันที ตางมีอักขระรายลอม
“สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญมากมายเพียงนี้ตายอยูที่นี่!” ฝูงชนชะงักงัน
ขณะเดียวกัน คนจํานวนไมนอยดวงตารอนเปนไฟ นั่นลวนเปนกระดูกล้ําคาทั้งสิ้น
มีหลายสิบราง ไมพูดถึงเรื่องอื่น เพียงทรัพยสินเหลานี้ก็นาตกตะลึงมากแลว
“พวกเราจะโจมตีดวยไมแข็งไมได ไมเชนนั้นจะปลุกปนน้ําทิพยใหตื่นตระหนก หาก
มันหลบหนีไป อยากจะคนหาอีกคราก็ลําบากแลว” อวี่เหวินเฉิงกลาว
“น้ําทิพยนี้เลิศล้ําเสียจริง มันมีการแปลงรางดั่งเชนเทพารักษ ทั้งยังสามารถควบคุม
โครงกระดูกเหลานี้ได” ชายชราผูเสียขาทั้งสองขางอุทาน
น้ําทิพยจะประทานชีวิตตางเผาพันธุแกโครงกระดูกเหลานี้ในชั่วพริบตา ทําให
อักขระคึกคักมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ภาพนี้นาทึ่งอยูไมนอย
“โชคดีที่พวกเราเตรียมความพรอมมาเต็มเปยม ผานการอนุมานมากหลากหลาย
คาดเดาเรื่องราวตางๆ ที่อาจเกิดขึ้นในเขารอยยอดไว” อวี่คุนพยักหนา
พวกเขานําขวดล้ําคาออกมาขวดหนึ่ง เมื่อเปดออก ไอหมอกสีเหลืองขมุกขมัวลอย
ขึ้น จากนั้นสองแสงดําทะมึนออกมาเปนกลุมๆ ทั้งสามรายเคล็ดวิชาล้ําคาพรอมกัน ปลุก
แสงดําใหเปนคลื่นเล็กๆ พุงออกไปขางหนา
แสงดําลอยลอง เคลื่อนไหวไปตามรอยคลื่น กลายเปนสิ่งมีชีวิตรางแลวรางเลา บาง
เปนปศาจ บางเปนมังกรชือ บางเปนรางมนุษย แตกตางกันออกไป
นี่เปนน้ําพุเหลืองที่เผาสายฝนสกัดออกมา มีมูลคาสูงนัก นํากระดูกอักขระจํานวน
มากหลอมดวยเตาไฟ เพิ่มน้ําใตดินกลางสุสานลงไปเคี่ยว ผสมอักขระมากมายเขา
ดวยกัน
แนนอนวา กระดูกล้ําคาทั้งหมดที่ใชยอมไมใชของสมบูรณแบบ ลวนเปนอาวุธล้ํา
คาที่เสียหายระหวางการตอสู หรือกระดูกอักขระที่เพิ่งกอเปนรูปราง มูลคาไมสูง
มิเชนนั้นเพียงน้ําพุเหลืองแคขวดเดียว ไยทําใหชนเผาใหญปวดใจอยางหาที่เปรียบ
มิได เพราะตองการกระดูกอักขระจํานวนมากหลอมรวมไวภายใน
น้ําพุเหลืองเดือดพลาน ไอหมอกลอยขึ้น แตแสงที่สองออกมากลับไมใชสีเหลือง
กลับเปนแสงสีดํา ลอยออกมาเปนกลุมๆ ปกคลุมดานหนาไว อักขระนานาชนิดสงเสียง
กังวาน ราวกับเปดขุมนรก ทําใหที่นี่มืดครึ้มนาสะพรึงกลัว
กลางทะเลทรายมีโครงกระดูกรางแลวรางเลา เคลื่อนไหวอยางเชื่องชาใตแสงดํา
ทมิฬ สุดทายก็ลมลงไป ขอตอกระดูกผิดตําแหนง สลายหายไปอยางสิ้นเชิง
“มีผลมหัศจรรยเสียจริง!” ฝูงชนดีอกดีใจ รูสึกเหิมฮึกยิ่งนัก
“สกัดน้ําพุเหลือขวดนี้ ก็เพื่อเขาสูดินแดนหวงหามแหงความตาย ไมคิดวาจะตองมา
สูญสิ้น ณ ที่แหงนี้ ดูแลวคนเราตองรูจักพอประมาณ หากไดน้ําทิพยมาแลว พวกเราก็
หลบซอนในผืนทราย อยาไดไปไหน กระทั่งทางออกแหงเขารอยยอดเปดออก”
ชาวสายฝนมองบอน้ําวิเศษเบื้องหนาดวยหัวใจฮึกเหิม แตกลับไมลืมการเตรียมตัว
ดวยบอน้ําวิเศษนี้มีญาณวิเศษ สามารถเรียกโครงกระดูกเพื่อใชงาน สวรรครูวามันจะทํา
อะไรอีก
“ไยจึงรบกวนการหลับใหลของขา” จิตออนแรงและเลือนรางปรากฏขึ้น มีความนา
พิศวง
ฝูงชนตะลึงลาน บอน้ําวิเศษนี้จะกลายรางเปนวิญญาณ ตัวมันมีความวิเศษอยางเต็ม
เปยม หากประสบผลสําเร็จ ภายภาคหนามันตองยิ่งใหญยากจะทัดเทียมเปนแน กระทั่ง
วันหนึ่งอาจจุดไฟวิเศษ ตั้งตนเปนเทพเจาไดสําเร็จ
ยังดี ตอนนี้มันเปนเพียงจิตออนแรง หางไกลจากเสนทางนั้นอีกไกล สามารถตอกร
ได
“พวกขาเปนทายาทแหงเทพเจาสายฝน เปนเผาพันธุเดียวกับเจา ไมไดคิดชั่ว…”
ชาวสายฝนลองสื่อสารกับมัน
ทันใดนั้น พสุธาแยกออก แสงสีเขียวเจิดจาลอยออกมา ตรงนั้นปรากฏเถาวัลยขึ้น
แวววาวทั้งตน ยาวหลายจั้ง ไมไดหนาใหญมากนัก แตกลับเปนดั่งมังกรเจียว รูปราง
คลายเทพเจา
“มีผูปกปกษ!” ชาวสายฝนอกสั่นขวัญแขวน
แตวัตถุวิเศษยอมมีสัตวอสูรดุรายปกปกษคุมครอง คิดไมถึงวาที่นี่จะมีเครือเถาวัลย
ดูลักษณะแลวมันคงไดรับประโยชนจากน้ําทิพย หลอเลี้ยงกานรากของมัน ทําใหมัน
เปยมดวยพลังปราณ ยิ่งใหญเหลือหลาย
“ดานสุดทายแลว เพียงโจมตีเถาวัลยวิเศษนั่นใหแพพาย น้ําทิพยก็จะตกเปนของ
เรา” ชาวสายฝนกําหมัดแนน ดวงตาแววโรจน
“ขาจะไปรบกับมันสักตั้ง” อวี่คุนกาวออกมา
“ระวังตัวดวย รบใหพายได แตทํารายมันอยางแทจริงไมได ไมเชนนั้นน้ําทิพยอาจ
พิโรธ หลบหนีหายไปทันที” อวี่เหวินเฉิงเตือน
“วางใจเถิด” อวี่คุนพยักหนาแลวมุงหนาเดิน เขาเสกหนังสัตว อักขระทวมทน
ทองฟา กลายเปนถุงหยินหยาง สองแสงสวางอันไมสิ้นสุด จะดูดเถาวัลยเขาไป
“ชางเปนอาวุธล้ําคาที่ประหลาดนัก!” ไกลออกไป เจาตัวเล็กโผลหัวออกมาจากกอง
ทราย พูดดวยสีหนาตะลึงงัน
“แข็งแกรงจริง แตนี่หางไกลจากถุงหยินหยางในตํานานอยูมากโข นี่เปนเพียงของ
ลอกเลียนแบบเทานั้น ของแทหลอมจากหนังของอสูรบรรพกาลชั้นฟาหลายแผน นากลัว
จนยากจะจินตนาการ เก็บทุกสรรพสิ่งได” เซียวเทียนชายชุดเงินกลาว
เจาตัวเล็กไดยินก็นิ่งอึ้งไป จิตใจลองลอยเขาไปหา ผูวิเศษบรรพกาลและเทพเจา
ยิ่งใหญถึงเพียงใดกันแน?
“อยาฝนเฟอง ถุงหยินหยางเปนหนึ่งในอาวุธล้ําคาที่สุดตั้งแตอดีตเปนตนมา มิ
เชนนั้น เจาคิดวาจะสามารถเขนฆาสังหารปกษาเทพเจาบรรพกาล หรืออสูรบรรพกาล
ใหเจานํามาทําอาวุธล้ําคารึ? พวกมันสามารถสังหารเทพเจาเชียวนะ” เซียวเทียนปลุก
เขาตื่นจากภวังค
กลางทะเลทรายเกิดสงครามดุเดือด แมจะเปนเพียงของเลียนแบบ แตถุงหนังสัตวก็
นากลัวมากเชนกัน อักขระไมสิ้นสุด เสมือนกับจะดูดทะเลทรายผืนนี้เขาไปอยางแทจริง
เถาวัลยก็นากลัวมากเชนกัน ลอยขึ้นมาทั้งราก กลายเปนมังกรเจียวสีเขียวตัวหนึ่ง
อักขระกะพริบแวบวับ แสงสวางลอยออกมาเปนสายๆ จากนั้นพุงเขาไปในถุงหยินหยาง
“ดี ดูดเขาไปแลว ควบคุมมันไดแลว!” ชาวสายฝนยินดีปรีดา
อยางไรก็ตาม พวกเขายังไมทันไดโหรอ งดวยความดีใจ ถุงหนังสัตวกลับขาดรุงริ่ง
เถาวัลยวิเศษลอยออกมา กวาดผานไป อวี่คุนกระอักเลือดคําใหญ กระดูกหักหลายที่
ไดรับบาดเจ็บสาหัส เขาแพพายเสียแลว
“ยิ่งใหญเหลือเกิน เถาวัลยวิเศษรายกาจยิ่งนัก ทําลายถุงหยินหยางเสียอยางนั้น
พวกเรารับมือไมไหว!” ชาวสายฝนดั่งน้ําเย็นรดหลัง[1] เย็นวาบไปทั้งตัว เกิดความวิตก
กังวลขึ้นระลอกหนึ่ง
“คิดดูแลวคงตองใชไมตายเสียแลว รับไมไดจริงๆ นั่นเปนถึงการตกทอดอันเปน
ความลับของเผาสายฝนเราอยางแทจริง” อวี่เหวินเฉิงถอนหายใจ
“สูญสิ้นก็สูญสิ้นเถิด มิเชนนั้นก็ไรซึ่งพลังการตอสูสิ่งใดเปนพิเศษ เพียงตองการให
วิญญาณเกิดความสะพรึงกลัวก็เทานั้น” อวี่คุนเช็ดรอยเลือดตรงมุมปาก
ไกลออกไป เจาตัวเล็กลูกตากลิ้งไปมา จองภาพเหตุการณประหลาดเบื้องหนาดวยสี
หนาชอบกล
“พวกเขาตั้งแทนบูชาขึ้น จะทําอะไรนะ?” นกแดงยักษเองก็เกิดความกังขา
ชาวสายฝนลวนคุกเขาลง แทนบูชาดําสนิทสูงไมเกินเซี๊ยะ วางตั้งอยางดี กระดาษ
เหลืองซีดถูกกางบนแทนบูชา อวี่เหวินเฉิงและคนอื่นๆ ทองคาถาเงียบๆ ปลุกระดมเคล็ด
วิชาล้ําคา เริ่มทําการเซนสรวง
ทันใดนั้น กระดาษสีเหลืองใบนั่นสองแสง ลุกโชติชวงขึ้นมา จากนั้นตัวอักษรก็
ปรากฏขึ้นเปนจํานวนมาก ทะลุกระดาษออกมา ประทับรอยอยูกลางนภา พรางพราว
ประหนึ่งดวงดารา
“หลักธรรมแหงเทพเจา!” เซียวเทียนตัวสั่น รูสึกตื่นตระหนกตกใจอยางหาที่เปรียบ
มิได
ชั่วขณะที่เคลิบเคลิ้ม พวกเขาไดยินเสียงสวดมนตของเทพเจาบรรพกาล คาถา
โบราณแววมาจากโลกโบราณกาล เครงขรึมและศักดิ์สิทธิ์ ทําใหเกิดความเคารพเลื่อมใส
อยากจะกมลงคํานับอยางอดทนไมได
“นี่มันอะไร…” น้ําทิพยสงเสียงงงงวย และเถาวัลยนั่นก็สั่นระริก หมอบคลานอยู
หนาบอน้ํา
“นี่เปนหลักธรรมที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษแหงเผาสายฝนเรา แมจะไมใชตัวอักษร
ที่เขียนขึ้นเอง เปนเพียงคําบอกเลา แตกลับจารึกเสียงวิเศษบางสวนไว เพียงพอจะ
พิสูจนไดวาเราเปนเผาพันธุเดียวกัน ลวนใกลชิดกับสายน้ํา” อวี่เหวินเฉิงกลาว
ไกลออกไป เจาตัวเล็กหวาดหวั่น หลักธรรมที่สืบทอดจากเทพเจาสายฝน เปนเพียง
คําบอกเลาเทานั้น แตกลับมีอานุภาพถึงเพียงนี้ หากเปนตัวอักษรที่ลงมือเขียนเองจริงๆ
เชนนั้นแลวหลักธรรมที่เหลือไวจะนากลัวปานใด?
หากมีตัวอักษรสืบทอดอยางแทจริง ตองสามารถเขนฆาสังหารผูดํารงอยูที่แข็งแกรง
จํานวนมากเปนแน ทําลายอาวุธล้ําคานานาชนิดใหสิ้นซาก!
การสื่อสารงายดายหนนี้ เผาสายฝนพิสูจนวาตนเปนทายาทแหงเทพเจาสายฝน อีก
ทั้งยังสมบัติแหงเทพเจาหลายตอหลายอยาง ลวนไมใชอาวุธล้ําคา เพียงใชแทนฝนหมึกที่
เคยผานการใชงาน หินทับกระดาษเปนตน แตกลับมีแสงสวางบริสุทธิ์ผุดผองไหลเวียน
สิ่งของเหลานี้ปราศจากอักขระ ไมสามารถสําแดงพลังการตอสูได แตกลับพิเศษยิ่ง
นัก กลิ่นอายเชนนั้นทําใหน้ําทิพยรูสึกสนิทชิดเชื้อ อนุญาตใหเผาสายฝนเขาใกลในที่สุด
“พวกเราพาเจาออกจากโลกใบเล็กนี้ ไปยังเผาสายฝน ที่นั่นสามารถทําใหเจาเติบโต
ไปอีกหนึ่งขั้น ไมแนวาอาจกลายเปนเทพเจาก็เปนได!” อวี่คุนกลาว
หลังจากน้ําทิพยสัมผัสไดถึงกลิ่นอายของเทพเจาสายฝน ทาทีที่มีตอพวกเขาก็
เปลี่ยนแปลงไปอยางสิ้นเชิง ยินยอมคลอยตาม ถึงอยางไรก็มันก็เปนเพียงจิตเลือนราง
เทานั้น ไมมีความคิดลึกซึ้งมากนัก
“สําเร็จแลว เราควรทําอยางไร?” เจาตัวเล็กเบิกตากวาง มองไปเบื้องหนา เร็ว
เหลือเกิน หักมุมเหนือความคาดหมาย
“เผาเซียวไดตระเตรียมวัตถุล้ําคาอยางหนึ่งแกขา เพียงเขาใกลน้ําทิพย ก็สามารถชิง
ของเหลววิเศษมาไดหนึ่งอุงมือ นาเสียดายที่ตอนนี้เผาสายฝนถึงจุดหมายกอนดวยความ
รวดเร็ว มีพวกเขาคอยเฝาระวัง หากจะบุกเขาไปนั้นอันตรายเกินไป” เซียวเทียนกระวน
กระวาย รูสึกเสียดายอยางสุดแสน
เจาตัวเล็กไดยินก็กลาวดวยนัยนตาเปนประกายขึ้นมาทันใดวา “ขาไมเกรงกลัว
อันตราย ใหขาลองดูสักตั้ง!”
บัดนี้ชาวสายฝนสีหนาเครงขรึม เชื้อเชิญน้ําทิพยเขาสูหมอหยกอยางจริงจังและ
เคารพนบนอบ เพื่อนํามันไป
ทุกคนลวนตื่นเตนเราใจ ไมคิดเลยวาจะไดน้ําทิพยมาครอบครองอยางแทจริง เผา
สายฝนตองรุงเรืองอยางหาที่เปรียบมิได วันขางหนาอาจสรางประเทศไดดวยเหตุนี้!
พวกเราตางเปนผูมีคุณงามความดีตอบานเมือง ภายภาคหนาตองเรืองอํานาจอยาง
ที่สุด
“แมพวกเราจะเปนสวนหนึ่งของเผาสายฝน แตทุกสิ่งที่ทําตองสงผลตอคนแซอวี่
ทั้งหมดทั้งมวล เผาแหงขาจะตองพุงทะยานขึ้นอีกครา!”
“ขารอเวลานานนี้มาเนิ่นนานแลว ใกลจะสําเร็จแลว!”
น้ําทิพยลอยกลางอากาศ กลายเปนกลุมแสง หายลับไปในหมอหยกจนสิ้น ไมเหลือ
แมแตหยดเดียว
ชาวสายฝนทอดถอนหายใจดั่งยกภูเขาออกจากอก
“ไมมีเวลาแลว สงขาออกไป!” เจาตัวเล็กใหเซียวเทียนเสกอาวุธล้ําคา เขาเตรียม
อาศัยแรงระเบิดของมัน บุกทะลวงเขาไปทันที
เสียงวิ้งดังขึ้น ปรากฏโลขึ้นในมือของเซียวเทียนใชเปนเกราะกําบัง แสงสีเขียว
ไหลเวียน กะพริบอักขระอันไมสิ้นสุด เขาออกแรงกวัดแกวง
เจาตัวเล็กตะโกนหนึ่งเสียง กระโดดขึ้นอยางดุดัน สองเทาเหยียบบนโล ระเบิดพลัง
มหาศาลแลวกระโจนออกไปทันที
ตองรูวา เพียงเขากระทืบเทาทั้งสองก็เพียงพอจะทลายปฐพี เขามีการระเบิดพลังอัน
ยากจะทัดเทียม สามารถอาศัยมันพุงทะยานขึ้นฟาสูง ไปยืนอยูบนยอดเขาสูงได
ตอนนี้เขากําลังระเบิดพลังที่ผูอื่นยากจะบรรลุถึง แตกลับเปนแนวนอน พุงตรงไปยัง
หมอหยกใบนั้น ดวยความเร็วสูงสุด กระแทกลงไปราวกับฝนดาวตก
ในตอนนี้ เจาตัวเล็กไมเพียงระเบิดพลังพุงตัวออกไปไดสําเร็จ ชายชุดเงินเซียวเทียน
เองก็ทะยานออกไปแลว แตเขานั้นถูกสะเทือนจนตัวลอย ไมคิดวาอาวุธล้ําคายิ่งใหญใน
มือจะปริแตก ผลักเขาใหลอยออกไปไกลหาหกลี้ จากนั้นโลก็ระเบิดออกเปนเสี่ยงๆ
เขาตะลึงจนอาปากคาง หากไมใชเพราะเจาตัวเล็กตักเตือนเขา ใหใชอาวุธล้ําคาอีก
ชิ้นหนึ่งคุมกันรางกาย แขนทั้งสองขางของเขาคงระเบิดจนแหลกละเอียดเปนแน
“ขาตัวลอยออกมาไกลนับหาหกลี้?” เขาไมอาจเชื่อ เทาคูนั้นของชายหนุมคนนั้น
ตองมีพลังนากลัวปานใดกัน
และที่ตื่นตะลึงเชนเดียวกันคือเผาสายฝน ความปติดีใจและความตื่นเตนแข็งตัวอยู
บนใบหนาของคนทั้งหมด นี่เปนหายนะรวงจากฟาอยางแทจริง น้ําทิพยถูกรบกวนเขา
แลว!
เด็กเหลือขอคนหนึ่งดั่งอุกบาตร รวงหลนจากฟา กระแทกลงในหมอหยก แหวกวาย
อยูขางใน กลืนน้ําทิพยอึกใหญอยางตอเนื่อง
ชาวสายฝนมึนงงสิ้นดี นี่มันเหลือเชื่อเกินไป ภาพลวงตา ตองเปนภาพลวงตา
แนนอน!

…………………………………………………………..

[1] น้ําเย็นรดหลัง อุปมาวา ถูกกระตุนดวยเหตุสุดวิสัยจนสะดุงสะเทือน


บทที่ 134 กิน
เจาเด็กซนนี้มาจากไหนกัน?!
โผลมานี่ไดอยางไร?!
ชาวสายฝนเจียนคลุมคลั่งแลว นี่ยังมีกฎแหงสวรรคอยูหรือไม? นี่มันหายนะรวงจาก
สวรรคจริงๆ เลย!
นี่ชางไรคุณธรรมนัก ทะยานลงมาจากฟากฟาไดอยางไร กระแทกลงไปเชนนี้ยังจะ
เหลืออะไรอีก น้ําทิพยตองตื่นตระหนกจนหนีเตลิดเปนแน
ชาวสายฝนแทบร่ําไหแลว ของเหลววิเศษนี้มิไดมีไวกินแตอยางใด ใชเปนสวนผสม
ของยา และยังสามารถนํามาหลอมอาวุธล้ําคา ถึงแมเจาจะอยากดื่มก็ดื่มเถิด แต
กระแทกลงมาเชนนี้ไดอยางไร?
น้ําทิพยชําระลางใบหนามอมแมมของเจาตัวเล็กจนสะอาดหมดจด พวกเขามอง
ปราดเดียวก็รูทันทีวาเขาเปนใคร ไฟโทสะสุมเต็มทรวง ความโกรธทวมทนทองฟา ปอด
แทบจะระเบิดแลว
“นี่เจา!”
ชาวสายฝนเดือดดาลจนควันออกจากทวารทั้งเจ็ด รางกายแทบลุกเปนไฟ
พวกเขาลําบากยากเข็ญ ทุมเทพลังกายและใจ แมแตหลักธรรมแหงเทพเจาสายฝน
ก็สูญสิ้น เดิมจะสําเร็จอยูรอมรอ ปรากฏวามีเด็กเวรคนหนึ่งกระโจนลงจากฟาสูง ทําให
น้ําทิพยตื่นตระหนก!
เผาสายฝนจําตองยอมรับเรื่องราวที่เกิดขึ้น นี่มิใชภาพลวงตา เด็กเหลือขอคนนี้
แหวกวายอยูภายใน ละอองน้ําไมขาดสาย เขาเกลือกกลิ้งอยูขางใน สามารถกลืนกินได
อยางเต็มที่
ชาวสายฝนรองโหยหวน นี่เจ็บปวดยิ่งกวาควานเนื้อของพวกเขาเสียอีก พวกเขารูวา
จบสิ้นแลว น้ําทิพยอยูมิไดแลว
“ฆามัน!”
“ไม รีบชิงน้ําทิพย อยาใหมันหนีไปได!”
นี่เปนสองเสียงแตกตางกันอยางสิ้นเชิง บงบอกวาเผาสายฝนมีความเห็นสองอยาง
หนึ่งคือโมโหจนคลั่งแลว ไมสนใจไมแยแส พุงโจมตีเจาตัวเล็ก หมายทําใหเขากลายเปน
ซากเนื้อเละ อีกหนึ่งยังไมสญ
ู เสียสติสัมปชัญญะ เตรียมการแยงชิงของเหลววิเศษ
บางสวนกอน เพื่อหลีกเลี่ยงมิใหมันหลบหนีหายไปกลางทะเลทราย สุดทายก็มิไดอะไร
เลย
แมคนเหลานี้จะเห็นตางกัน แตกลับเคลื่อนไหวพรอมกัน บางมุงตัดคอเจาตัวเล็ก
บางก็นําภาชนะออกมาเพื่อบรรจุน้ํา
“ตูม”
ที่แหงนี้อกึ ทึกครึกโครม อักขระนานาชนิดลอยลอง แผเต็มทองฟาอยางแนนขนัด
น้ําทิพยยอมตื่นตระหนกเปนเวลานานแลว กระเสือกกระสนอยางรุนแรง หมาย
หลบหนีไปจากหมอหยก
“หยุดเวลา!”
เจาตัวเล็กตะโกน เขานําไขมุกออกมา แสงมงคลไหลเวียน กลายเปนมานแสง สกัด
ขัดขวางการโจมตีของอักขระ อีกทั้งยังหยุดยั้งการดิ้นรนของน้ําทิพยชั่วคราว
ชาวสายฝนทั้งตกใจและโกรธแคน การโจมตีของพวกเขาลมเหลว อักขระถูก
ขัดขวาง ยากจะทลายมานแสงนั่น นี่มันของล้ําคาแบบไหนกัน?
“ไขมุกหยุดเวลา!”
อวี่เหวินเฉิงคํารามดวยความโกรธ เสนเลือดบนขมับเตนตุบๆ อีกฝายน้ําของล้ําคา
วิเศษเชนนี้ออกมาในชวงเวลาวิกฤตเยี่ยงนี้ ทําใหพวกเขาหมดปญญาสู กระวนกระวาย
ดั่งไฟแผดเผา
“ขัดเกลาจากชิ้นสวนของไขมุกหยุดเวลาบรรพกาล เร็วเขา พวกเราจูโจมพรอมกัน
คงสามารถทลายได!” พวกเขารองตะโกน
คนทั้งหลายออกแรงพรอมกัน อักขระนานาผนึกกําลัง กระแทกมานแสงอยางดุดัน
“ใชพลังกายและอาวุธฟาดลงไป มิเชนนั้นอักขระสองแสงทั้งหลายจะถูกรบกวน
อาจถูกหยุดยั้งไว!” อวี่คุนออกคําสั่งกับลูกศิษยอัจฉริยะเหลานั้น
อาวุธหลากหลายชนิดรอบๆ หมอหยกสองแสงพรอมกัน พุงกระแทกเขามาพรอม
เพรียงกัน เสียงดังครืนครั่น ราวกับกําลังตีเหล็ก สะเทือนจนหูดังวิ้งๆ
เจาตัวเล็กมือกําไขมุกหยุดเวลา กลืนอึกๆ อยูตรงนั้นอยางไมสะทกสะทาน มุกหยุด
เวลาในมือของเขาเปนอาวุธประหลาดที่เซียวเทียนนํามา เพื่อหยุดน้ําทิพย ปองกันมิให
มันหลบหนี
เห็นไดชัดวา นี่เปนเพียงชิ้นสวนแหลกเหลว อักขระภายในเสียหายอยูมากโข บัดนี้
สําแดงกําลังไดเพียงนอยนิด ไมสามารถหยุดยั้งไดอยางสิ้นเชิง
“อยานะ!” เจาตัวเล็กรองลั่น แมเขายังคงกลืนคําใหญอยู แตน้ําทิพยมีวิญญาณ
กลับพุงออกจากจมูกเขาเสียอยางนั้น
ยิ่งไปกวานั้น เมื่อดื่มเขาไป ของเหลววิเศษเหลานี้จะไหลยอน พยายามหนีออกไป
ขางนอก
หนสุดทาย ใบหูและนัยนตาของเขาสองแสง น้ําทิพยกลายเปนพลังปราณกระจาย
ตัวออกไปอยางไมยอมศิโรราบ กระทั่งรูขุมขนก็มีแสงสวางเล็ดรอดออกมา
“กลายเปนลมปราณแลว!”
เจาตัวเล็กปวดหัว ปลุกอักขระลึกลับเหลานั้นที่บันทึกอยูในการหยั่งรูดั้งเดิม ทําการ
ขัดเกลา เขาปดรูขุมขน ผนึกทวารทั้งเจ็ด เหลือเพียงปากที่กลืนคําใหญ
“อึก” “อึก”
เจาตัวเล็กพยายามดื่ม น้ําทิพยอยากพุงออกมาจากปากเขาอยางสุดชีวิต ทั้งสอง
ตอสู แตสุดทายก็กลืนน้ําลงทองไปจํานวนมาก
ชาวสายฝนคลุมคลั่ง เจาเด็กคนนี้ต่ําชาเลวทรามนัก นี่เปนสิ่งที่ใชสําหรับการสกัดยา
และหลอมอาวุธ เจาผลีผลามเขามาแกงแยงไมถามเหตุถามผลเพื่ออะไร ตานทานไวได
หรือ?
“ทลายมันซะ สังหารมัน!” กลุมคนบันดาลโทสะ
“เปดสิ!” ฝูงชานกวัดแกวงอาวุธ ใชเคล็ดวิชาล้ําคา แตก็ไมสามารถทําลายมานแสง
ได
“โอย ไยขาปวดทองเลา?” กลางน้ําทิพย เจาตัวเล็กที่กําลังแหวกวายเงยหนาขึ้น
ดวงตากลิ้งไปกลิ้งมา
“ไอเด็กเวร เจาดื่มเขาไปอีก รางกายจะตองแตกเขาสักวัน!” อวี่คุนกระทืบเทา
สาปแชง
เจาตัวเล็กกะพริบตาปริบๆ ในเมื่อเปนของเหลววิเศษ อีกทั้งยังนําไปเปนสวนผสม
ของยาวิเศษได กลืนกินเชนนี้คงมิใชปญหาใหญหรอกกระมัง? เขาเริ่มกลืนอึกๆ อีกครั้ง
“หยุดดื่มไดแลว มันตองสกัดจึงจะเกิดผล เจากลืนเขาไปตั้งกี่ชั่งแลว!” ในกลุมคนมี
คนจะรองไหแลว นี่มันสิ้นเปลืองเกินไปแลว
เจาตัวเล็กหาไดสนใจ ปดจมูก หู รูขุมขน กลืนอยางสุดฤทธิ์สุดเดชจนทองพองขึ้น
“วิ้ง”
มุกหยุดเวลาหมนแสง สูญสิ้นประสิทธิภาพทันที
เจาตัวเล็กรูวาไมมีเวลาแลว เรงนําไหหยกออกมา กรอกน้ําทิพยใหเต็มอยางรวดเร็ว
จากนั้นใสมุกหยุดเวลาลงไป เขาเสกกรรไกรกระดูกสีทอง ตัดหมอหยกดังแควก ถีบ
กระเด็นออกไปในหนึ่งฝาเทา
ชาวสายฝนบาคลั่งไปแลว คนกลุมหนึ่งกระโจนไปขางหนาเพื่อเก็บของเหลววิเศษ
นาเสียดาย น้ําทิพยที่หลุดรอดออกมาไดกลายเปนไอหมอก พุงผานกายของพวกเขาไป
เริ่มหลบหนีอยางบาระห่ํา
“ไลตามไป!”
กลุมคนตะโกนลั่น มีคนลงมือกับเจาตัวเล็ก หมายตัดคอเขาเสีย มีคนใชภาชนะเก็บ
ไอหมอก เพื่อใหไดมาซึ่งของเหลววิเศษบางสวน
ที่นี่ชุลมุนวุนวายสิ้นดี เจาตัวเล็กลงมือโดยอาศัยความวุนวาย เผชิญหนากับอาวุธล้ํา
คาที่ลอยมา เขากระทืบเทาลงไป พึ่งพาพละกําลังทะยานขึ้นฟา
“เจาหนีไมรอดแน!”
ชาวสายฝนนัยนตาแดงก่ํา เจาตัวเล็กกระโจนลงมาจากฟากฟา กระแทกความฝน
อันรุงโรจนของพวกเขาจนแหลกลาญ ทําใหความหวังจะพุงทะยานฟาของชนเผานี้หลน
รวงจากสรวงสวรรคตกลงไปยังขุมนรก ความแคนนี้ใหญหลวงนัก สังหารเขาสิบหนก็ไม
พอ
“ดูสิเจาจะบินหนีไปไดอีกหรือ!”
ชาวสายฝนคํารามอยางโกรธแคน รายเคล็ดวิชาล้ําคา บดบังสี่ทิศ ทั้งยังมีคนย่ําบน
อาวุธล้ําคา ลอยตัวขึ้นสูชั้นฟา ไลลาตามไปสังหาร
“บินไปแลว แมง บินหนีไปจริงๆ!”
ชาวสายฝนรองลั่น ดวงตาแทบถลนออกมา นกยักษสีแดงตัวหนึ่งบินมาอยางสงาผา
เผย กระพือปกอันงดงาม รับตัวเจาตัวเล็กไว หันหลังดวยทวงทางดงามและมีเสนห
ปรายตามองมาดานหลังแลวหัวเราะ หนีไปแลว!
อวี่เหวินเฉิง อวี่คุนหนาดําจนมวง นกแดงยักษนาชังตัวนั้นอีกแลวหรือ กอนหนานี้ที่
พวกเขาไลตามเจาตัวเล็กไมทัน มิไดบอกกลาวกับชาวสายฝน ผูอื่นลวนไมรูถึงการมีอยู
ของนกตัวนี้
“สังหารเขา ขาตองสังหารเขาใหได!”
ชาวสายฝนรองคร่ําครวญ หลั่งน้ําตาแหงความขมขื่น ทุกอยางวางเปลา ตื่น
ตระหนกก็ไมสามารถเรียกหาไดอีก หายลับไปในดินพรอมกับเถาวัลยวิเศษนั่น หนี
หายไปอยางไรรองรอย
นี่มันทุกขทรมานยิ่งกวาสังหารพวกเขาเสียอีก ความหวังจะพุงทะยานฟาแหงชนเผา
ถูกเจาเด็กเหลือขอทําลายโดยสิ้นเชิง คนกลุมนี้คับแคนเจียนบาแลว
ถึงขั้นนําเอาหลักธรรมแหงเทพเจามาดวย เดิมคิดวาคงประสบผลสําเร็จ ปรากฏวา
เด็กเวรนาชังคนนี้บุกทะลวงเขามา ทําลายทุกสิ่งอยาง นี่มันเปนการตัดชุดแตงงานแก
ผูอื่น[1]อยางแทจริง
“เกลียดนัก!”
อวี่เหวินเฉิงและอวีค่ ุนเคียดแคนจนสั่นสะทานไปทั้งกาย รูจมูกพนควันขาว หูพนไฟ
ดวงตามีดาวผุด รูสึกเหมือนกับวัวคลั่งบรรพกาลตัวหนึ่งยางกรายเขามาในสมอง แทบจะ
เปนลมหมดสติไป
สุดทาย เขาโซซัดโซเซ เสกอาวุธล้ําคา เริ่มไลตามไปสังหาร
“ไดมาแลวรึ?” นกแดงยักษบรรทุกเจาตัวเล็ก ดวงตาฉายแววอกุศล จองไหในมือ
ของเจาตัวเล็ก
“วูว!” เพียงเจาตัวเล็กเปดปาก แสงสวางก็สาดออกมา น้ําทิพยหนีออกมา
“สวรรค เจาดื่มไปเทาใด จึงคลายคลึงขาเชนนี้ พนไฟไดแลวหรือ?!” นกแดงยักษ
อุทาน
เจาตัวเล็กถอนขนของมันออกมาเปนกอบเปนกํา มาพรอมกับเลือดบางสวน จากนั้น
รีบละเลงลงบนใบหนาของตนอยางรวดเร็วแลวทําการเปลี่ยนแปลงบางสวน
นกแดงยักษกรีดรอง “เจาจะทําอะไร?”
“ไมมีอะไร อยาบนหนา”
นกแดงยักษหันไปมองเขาแวบหนึ่ง พลันเดือดดาลอยางที่สุด ที่แทก็เพื่อซอนโฉม
หนาแทจริงของตน จึงถอนขนเอาเลือดจากตัวของมัน เจาเด็กบานี่ชางนาชิงชังยิ่งนัก
ไมนานนัก พวกเขาพุงไปหาชายชุดเงิน เซียวเทียนกระโดดขึ้นบนหลังปกษา
เชนเดียวกัน จองมองไหหยกในมือของเจาตัวเล็กดวยความตื่นเตนอยางหาที่เปรียบมิได
“สําเร็จแลวรึ?” เสียงของเขาสั่นเล็กนอย
“สําเร็จแลว” เมื่อเจาตัวเล็กพูด ปากก็เริ่มพนแสงมงคล
“ไยเจาจึงกลืนของเหลววิเศษเชนนั้นเลา?” เซียวเทียนตกตะลึงจนอาปากคาง สิ่งนี้
เปนวัตถุวิเศษ แตกินไดหรือ?
เจาตัวเล็กปดปากตัวเองแนน พึมพําวา “นํามาเปนสวนผสมของยาไดมิใชหรือ ขา
คิดวากินได ชวยขาคิดหาวิธีหนอย เพียงเปดปากก็พนน้ําทิพย สิ้นเปลืองยิ่งนัก”
“นาละอายนัก สิ้นเปลืองอยางสุดแสน!” นกแดงยักษเยยหยัน ขณะเดียวกันก็ริษยา
อยางที่สุด หันกลับมาพูดวา “เชนนั้นเจาก็พนน้ําทิพยออกมาเถิด ขาชวยเจาสกัด ไม
ขยะแขยงเจาดวย”
“ไสหัวไปใหพน!” เจาตัวเล็กกระจายแสงสวางเต็มปาก พูดประโยคนี้จบก็มิกลาปริ
ปาก ทําแกมพองลม ถลึงตาโต อับจนหนทางอยางแทจริง
ชายชุดเงินหมดคําพูด คนรูใจคนนี้ชั่วรายอยูไมนอย ไยจึงทําเรื่องพรรคนี้ได พบเห็น
ไดนอยยิ่งนัก
“หาที่ใหเจาคอยๆ ขัดเกลากอน มิเชนนั้นอาจเกิดปญหาใหญได” เซียวเทียนกังวล
เล็กนอย
เจาตัวเล็กปดปากแนน ไมกลาพูดกลาเจรจา พวกเขาพุงออกไปไกลอยางรวดเร็ว
ออกจากทะเลทราย เขาสูใจกลางเทือกเขาดึกดําบรรพอันกวางใหญ
เมื่อทะยานลงเขาวิเศษลูกหนึ่ง เซียวเทียนถอนหายใจแลวพูดวา “สหายเจาไม
เปนไรใชไหม อยาหาวาขาวาเจาเลย ไมควรทุมเทเพียงนี้ แมน้ําทิพยจะดี แตก็ไม
สามารถใชทองมาบรรจุได”
“เจาไมเขาใจโลกของเด็กอํามหิตหรอก” นกแดงยักษกลาว
“ไสหัวไป!” เจาตัวเล็กถีบเขา ปากเริ่มพนแสงสวางอีกครั้ง
นกแดงยักษเดินตามหลังเขาตอยๆ อยางไมฉุนเฉียว เพงมองไหใบนั้นไมหยุดแลวบน
พึมพําวา “ขาจะดูวาหลังจากเจาเด็กอํามหิตคนนี้ดื่มน้ําวิเศษไปแลว จะเกิดปญหา
หรือไม หากไมมีปญหาละก็ กูจะใชทองมาบรรจุมันดวย!”
เจาตัวเล็กนั่งขัดสมาธิเริ่มทําการสกัดมัน เขาขมวดคิ้ว ในใจพร่ําบนวา คงมิไดกินจน
เกิดปญหาหรอกใชไหม?
ตําราโบราณมีการบันทึก ของเหลววิเศษเชนนี้สามารถสกัดยาวิเศษ ไยกลืนลงทอง
แลวยังวิ่งออกมาขางนอกได เขาหนาบูดหนาเบี้ยว สับสนอยางมาก ตอนนี้ไมสามารถอา
ปากพูดจาไดแลว
“กินซะ กินซะ กินมันใหหมด!” เขาเมมปากสนิท พึมพําอยางสะลืมสะลือ
“อํามหิตนัก!” นกแดงยักษกลาว
ชายชุดเงินเห็นทาทางของเขาก็อยากจะหัวเราะเสียงดัง แตก็อดกลั้นไวได เขาคิดวา
ลักษณะการทํางานของคนรูใจผิดมนุษยมนา
“ลักษณะเชนนี้… ราวกับเคยพบเห็นมากอน” แตเซียวเทียนก็ไมคิดมาก เพราะเขา
อุมไหหยกไวดวยความตื่นเตน ทิ้งเรื่องราวอื่นๆ ไวขางหลังอยางรวดเร็ว

…………………………………………………………

[1] ตัดชุดแตงงานใหผูอื่น สํานวนจีน หมายถึง ตนเองลําบากลําบนทําทุกอยาง แต


สุดทายกลับไมไดอะไร กลับกันกลับทําใหผูอื่นไดดี
บทที่ 135 กลิน่ อายอันสูงสง
บนเขาวิเศษมีไอมงคลพวยพุง แสงสวางแตกกระเด็นไปทั่วสี่ทิศ ราวกับฝนดาวตก
โปรยปราย สวางพรางพรายและงดงาม ทั้งยังเจิดจานาตื่นตะลึง
เจาตัวเล็กนั่งขัดสมาธิบนกอนหินใหญ รางกายสองแสง แมเขาจะปดรูขุมขมไวมิด
ปดปากปดจมูก แตยังคงมีน้ําทิพยที่กลายเปนแสงไหลทะลักออกมา สวางไสวไปทั่ว
บริเวณยอดเขา
“ฟุมเฟอยนัก ทําเชนนี้สมควรโดนสายฟาฟาด!” นกแดงยักษยืดคอ ถลึงดวงตา ขน
นกลุกชัน มีลักษณะตกตะลึงพรึงเพริด
นี่มิใชน้ําคางบนยอดหญา และมิใชสายฝนที่หวานไปทั่วทองฟา นี่เปนน้ําทิพยขนาน
แท เพียงปรากฏขึ้นหนึ่งหยด ก็สามารถทําใหโลกภายนอกโกลาหลได
วัตถุวิเศษปานนี้กลับถูกเจาเด็กซนคนหนึ่งนํามาถลุงเชนนี้ มันคิดวาไมเหมาะสม นก
แดงยักษรองเองๆ คลายคลึงหมาปา ไมเหมือนปกษาราย
“หากสกัดไมไดก็ใหขาเถิด อยาสิ้นเปลือง!” นกแดงยักษกลาวดวยนัยนตาแดงก่ํา
ทั้งยังมุมานะจะทําดวยตัวเอง อาปากพนหมอดําใบหนึ่งออกมา อักขระกะพริบวูบวาบ
เริ่มกักเก็บของเหลววิเศษเหลานี้
“ขาชวยเจาอีกแรงหนึ่ง!” เซียวเทียนเองก็รูสึกเสียดาย ลงมือชวยเหลือนกแดงยักษ
“ขอบใจนะ ชายหนุมใจดี เจาโดดเดนมีลักษณะพิเศษ วันขางหนาจะตองพุงทะยาน
ฟาเปนแน!” นกแดงยักษแสดงความขอบคุณ
เซียวเทียนสะบัดแขนเสื้อ เกือบจะเดินจากไปทันที
หมอดํากลางนภาชางนากลัว อักขระกระจายตัวอยางหนาแนน ผนึกกําลังปลอย
สายฟาและเปลวไฟ ปดผนึกที่แหงนี้ไว
เมื่อพินิจมอง นี่ไมใชหมอดําของจริง แตเปนสิ่งที่ขัดฝนจากไขนกหนึ่งใบ แสงดํา
แปลบปลาบ แวววาวมันขลับประหนึ่งหยกดํา
น้ําทิพยออกจากรางกาย แมกําลังหนีหัวซุกหัวซุน แตกลับไมมีสติมากมายนัก
ของเหลววิเศษที่พุงออกเหลานี้มีเพียงนอย ลวนถูกเก็บเขาไปในหมอดําจนสิ้น
“ฮาฮา…ของดี!” นกแดงยักษอาปากกวาง จะงอยปากจวนฉีกขาด หนึ่งเสียงดังอึก
น้ําลายในปากแทบจะไหลยอยออกมา รีบใชปกนกแดงเพลิงเช็ดปากอยางไว
เซียวเทียนมองดูอยางหมดคําพูด ไยนกตัวนี้จึงมีลักษณะนิสัยเหมือนคนรูใจที่เพิ่ง
รูจักของตน เห็นของดีก็น้ําลายสอ นี่มันโรคบาอะไรกัน
บนกอนหินใหญ เจาตัวเล็กลืมตาขางหนึ่ง ปรากฏวามีแสงสวางลอยออกมาอีกเชน
เคย จําเปนตองรีบปดตาอยางรวดเร็ว จากนั้นปดปาก พึมพําฟงไมไดศัพทวา “นั่นเปน
ของเหลววิเศษของขา…”
“ฮาฮา ตอนนี้เปนของขาแลว รีบพูดเร็วเขา พนแสงสวางออกมาอีกสักหนอย” นก
แดงยักษเอ็ดตะโร
ชายชุดเงินพูดโนมนาววา “สหาย ขาวาเจากระแอมไออกมาเถิด อยาฝนรับมือเลย
นี่เปนถึงน้ําทิพย ไมใชยาวิเศษ กินเขาไปเชนนี้อาจเกิดปญหาใหญได”
“มิเปนไร… ขาสกัดไปบางสวนแลว ขาไหว” เจาตัวเล็กปดปากพูดงึมงํา ยากจะ
เขาใจได
“อะไรนะ เจาสามารถสกัดไดรึ?” นกแดงยักษไดฟงก็เบิกตากวางโดยพลัน จากนั้น
เลียนทาเลียนทาง ขานกยาวคูนั้นขัดกันแลวนั่งบนพื้นหญา ปกทั้งสองประสานโอบหมอ
ดํา เทของเหลววิเศษเขาปากดังอึกอึกแลวไมพูดคําใด เริ่มทําการสกัด
“สหาย แมจะสามารถสกัดก็ไมได เจาดื่มมากไป ไมสิบชั่งก็แปดชั่งไดกระมัง? เจา
ตองอาเจียนออกมาบาง มิเชนนั้นขาวาสุดทายน้ําทิพยนี้จะหลอมเจาจนละลาย” เซียว
เทียนเปนกังวล
เจาตัวเล็กปดปากไมพูดไมจา ดวงตากลิ้งไปกลิ้งมา นั่งขัดสมาธิอยูตรงนั้น ใช
แมกระทั่งพลังจากการดื่มนม[1] พยายามใชอักขระชวยทําการสกัดอยางสุดกําลัง
เสียงดังกึกกอง อักขระเปลงแสบวูบวาบ เวลาไมนานนัก บริเวณที่เจาตัวเล็กอยูมี
หมอกควันพวยพุง แสงสวางตลบอบอวล ทวมทนที่แหงนี้โดยสิ้นเชิง สองแสงไปทั่วยอด
เขา
กระทั่งตอนนี้ น้ําทิพยไมหนีอีกตอไป แตเริ่มตีวงลอมขางกายเจาตัวเล็ก ทําการ
ตอตานเขา หมายยอนกลับมาหลอมละลายเขาเสีย
นี่เปนวัตถุวิเศษ มีความวิเศษอันยากจะจินตนาการ เมื่อมันตัดสินใจเด็ดขาดเชนนี้
นากลัวยิ่งนัก
เซียวเทียนสูดลมหายใจเย็นเยียบ กอดไหหยกในอกแนน โชคดีที่ภายในไหมีมกุ หยุด
เวลา มิเชนนั้นของเหลววิเศษขางในคงไมสงบ
“โอย…”
สุดทาย นกแดงยักษแผดรองออกมาอยางทนไมไหว พนของเหลววิเศษออกมาใน
หนึ่งคํา กลายเปนแสงสวาง แตเจานกนี้ก็รวดเร็วยิ่งนัก อาปากกวางอีกครั้ง สูดเขาไป
อยางรุนแรง กลืนมันลงไปอีกครา
“เด็กอํามหิตยืนหยัดได ขาก็ตองตานทานได!” มันตะโกนลั่น
บนกอนหินใหญ เจาตัวเล็กพรางพรายโปรงแสง อักขระจํานวนมากมาย ผนึกกําลัง
ในกาย สามารถมองเห็นน้ําทิพยตอตานอยางรุนแรง
ของเหลววิเศษบางสวนหลอมละลายเขาสูเลือดเนื้อของเขาแลว ทําใหรางกายเจิด
จามากยิ่งขึ้น ถูกมันสกัดสําเร็จไปบางสวน ทําใหเขาแข็งแกรงขึ้นมา
นี่เปนพลังปราณอันยากจะจินตนาการ ทรงพลังและมากมายมหาศาลอยาง
เหลือเชื่อ หากเจาตัวเล็กคิดอยากสกัดมันไดทั้งหมด ยากเหลือเกิน คงฝนทนจนรางกาย
ไดรับอันตรายเปนแน
และนี่เปนเพราะ รางกายของเขาทัดเทียมไดกับอสูรบรรพกาลชั้นฟาวัยเยาวได หาก
เปนคนอื่นคงระเบิดจนแหลกละเอียดไปเสียแลว
“ขา…ไมยอม!” เจาตัวเล็กเบิกตาจนกลมกวาง ทําแกมพองลม ปดปากแนน ไม
อยากยอมแพเชนนี้ จึงทําการพยายามครั้งสุดทาย
“ตูม!”
น้ําทิพยสําแดงอานุภาพ ดวยเกรงวาจะถูกเขาสกัด จูโจมดุเดือดมากยิ่งขึ้น กายเขา
ราวกับลุกไหมขึ้นมา
“แมงเอย เขาคงไมระเบิดหรอกนะ ขาลองดูกอนก็แลวกัน” นกแดงยักษเฝา
สังเกตการณ เมื่อเห็นสถานการณก็พนของเหลววิเศษออกมาเปนคํา เก็บเขาไปในหมอ
ดํา พยายามกําราบและปดผนึก
เซียวเทียนเห็นจนคลื่นเหียน ผูอื่นคงไมสามารถใชของเหลววิเศษนั่นตอได เจานกตัว
นี้มิใชนกดี
“ตูม”
น้ําทิพยโจมตี เจาตัวเล็กรางกายสั่นสะทานรุนแรง เสมือนจอกแหนกลางมหาสมุทร
สามารถถูกโหมซัดใหพลิกคว่ําไดตลอดเวลา ถูกโจมตีจนแหลกลาญกลางเกลียวคลื่น
เขาทําหนาพองลม พึมพําวา “หากไมไหวจริงๆ ขาจะนํามาบํารุงอาวุธสองชิ้นเสีย”
เจาตัวเล็กยอมไมยอมใชชีวิตในการทดลองแน ตอใหของวิเศษดีเพียงใดก็ไมสามารถ
ฝนดูดซึมเชนนี้ได หากวาไมไหว ก็ทําไดเพียงยอมแพเทานั้น
“ตูม”
คลื่นใหญซัดมาอีกครั้ง รางกายของเขาสั่นไหวรุนแรง เนื้อตัวถูกของเหลววิเศษชะ
ลาง กระดูกสงเสียงดังกรอบแกรบ ประคับประคองตอไปไมไหวแลว
แตทวา ในตอนนี้เอง ทรวงอกของเขาก็รอนขึ้นมาทันใด สองแสงสวางเจิดจาพราง
พราย ระเบิดคลื่นนากลัว วินาทีนี้แมแตฟาดินก็แปรเปลี่ยนสีไป
กลางนภา กอนเมฆดังกึกกอง ลอยขึ้นลอยลงอยางรุนแรง ราวกับกระเพื่อมขึ้นลง
ตามหนาอกของเขา ขุนเขาทั้งสี่ทิศคํารามดังสนั่น ราวกับจะแตกออกเปนเสี่ยง
ชายชุดเงินสั่นสะทาน เรงใชอาวุธล้ําคาปองกันตน ไมกลาเชื่อสิ่งเห็นทั้งหมดนี้แมแต
นิด และนกแดงยักษกลับยิ่งตะลึงตาคาง ปากอากวาง ปกสั่นพั่บๆ ไมหยุดอยางไมรตู ัว
หนาอกของเจาตัวเล็กกระเพื่อมขึ้นลงอยางตอเนื่อง ประหนึ่งมีกระดูกกําลังกอตัว
และสองแสง นาเขยาขวัญ โชคดีที่เปนเพียงคลื่นลูกเดียวเทานั้น ไมไดแผขยายดวย
พละกําลังมหาศาลอันไรเทียมทาน
น้ําทิพยในกายของเจาตัวเล็กถูกควบคุมไวได แปรเปลี่ยนจากกระสับกระสายเปน
สงบ สุดทายกลายเปนกลุมแสงสวางอันนับไมถวนจมหายไปในอกของเขา
ประหนึ่งมีดวงอาทิตยอยูตรงนั้น เจิดจาพราตา และกลางตะวันวิเศษเสมือนปกคลุม
ทารกแวววาวคนหนึ่ง นั่งขัดสมาธิอยูภายใน
เลือดลมเปนกลุมๆ ราวกับดวงดาราพราวระยับ รวมตัวกันในบริเวณนั้น
น้ําทิพยเปนสารบํารุงชนิดหนึ่ง ถูกเลือดลมเหลานั้นดูดซึมอยางรวดเร็ว ผสานเขากับ
พระอาทิตยดวงนอยตรงกลาง ประหนึ่งมีผูสูงสงถูกเลี้ยงดูในครรภ นั่งขัดสมาธิอยูใจ
กลาง
เจาตัวเล็กอกสั่นขวัญแขวน เขาสัมผัสไดถึงพลังพิเศษอยางหนึ่งกําลังตื่นไดอยางชัด
แจง เสมือนวาจะซอมแซมรางกายที่บาดเจ็บของเขา กลิ่นอายเชนนี้คุนเคยเปนอยางมาก
เพราะเขาเคยรับรูเมื่อครั้งเยาววัย
“กระดูกขั้นสูงสุด…”
ดวงตาเจาตัวเล็กชุมน้ําตาเล็กนอย หลังจากเขากําเนิดเกิดเรื่องราวมากมาย นํา
แสดงโศกนาฏกรรมที่หฤโหดและนองเลือดเปนฉากๆ กระดูกล้ําคาถูกขุด เดิมเปน
ทายาทสายตรงแหงจวนหวูห วัง แตกลับลี้ภัยอยูตางแดน แยกจากญาติสนิท บิดรมารดา
เปนตายรายดีก็ยากจะคาดเดา ทั้งหมดนี้เกิดจากกระดูกชิ้นนี้
เดิมทีกระดูกขั้นสูงสุดและพลังปราณลวนถูกคนชวงชิงเอาไป ฝงรากในกายของสือยี่
ชายหนุมดั่งเทพเจาผูนั้น คิดวาคงยากจะพบเจอไดอีกตอไป
ทวาตอนนี้หนาอกของเขากําลังรอนรุม ประหนึ่งกระดูกชิ้นหนึ่งจะถือกําเนิดอีกครั้ง
สองแสงเจิดจาพราตา กลายเปนตะวันดวงเล็ก ทําใหผูคนไมสามารถจองมองโดยตรงได
เจาตัวเล็กรับรูไดอยางชัดเจน เลือดลมในรางกายกําลังฟนคืนอีกครั้ง กําลังกําเนิด
ใหม รวบรวมพลัง ตองการกําเนิดกระดูกขั้นสูงสุดอีกครั้ง!
“การคาดการณของทานเทพหลิวเปนจริงแลว…” เขาพึมพํากับตัวเอง
ตลอดทาง เขามีหลากหลายอารมณ แตใจหนึ่งดวงก็ไมเคยเปลี่ยนแปลงมาโดย
ตลอด บริสุทธิ์ไรมลทิน เขาตอสูกับผูสูงสงมาตลอด ไมสั่นคลอนแมแตนิด
ตอนนี้เขารูสึกดีมาก รางกายอาบแสงสวางมหัศจรรย สัมผัสถึงความรอนระอุและ
นากลัวในทรวงอกมากยิ่งขึ้น ราวกับมีผูสูงสงคนหนึ่งกําลังหลับใหล รอคอยเขามาปลุก
“ตองมีสักวันที่กระดูกขั้นสูงสุดจะเกิดใหมอีกครั้ง!” เจาตัวเล็กกําหมัดแนน เขาไมได
ถูกความสุขโจมตีจนสูญเสียสติสัมปชัญญะ ตระหนักรูอยางตื่นตัววา เพียงแคน้ําทิพยยัง
ไมพอจะทําใหกระดูกชิ้นนั้นถือกําเนิดใหม
แตเขารูวา มันตองสําเร็จในวันขางหนา สามารถทําได เพราะวันนี้เขามองเห็น
ความหวังแลว กระดูกขั้นสูงสุดจะตองนิพพานแลวกําเนิดใหมเปนแน และเขาเองก็
เชนกัน ตองมีสักวันที่เขาจะเกิดมาพรอมกับการอาบเปลวไฟวิเศษ อยูเหนือมันและ
ยิ่งใหญมากขึ้น
น้ําทิพยแข็งแกรงมาก แฝงไวดวยความสามารถวิเศษอันไมรูจบรูสิ้น แมแตเหลาทวย
เทพบรรพกาลยังตองการใชมัน แตหนนี้เจาตัวเล็กดื่มมากไป ปรากฏวากลับถูกกลุมแสง
ในทรวงอกดูดซึมจนสิ้น
กลามเนื้อของเขาไมมีแสงสวางไหลพรั่งพรูแลว ของเหลววิเศษทั้งหมดถูกสกัดหาย
เขาไปในทรวงอก เหมือนกับมีเปลวไฟวิเศษกําลังแผดเผาอยูตรงนั้น สุดทายก็คอยๆ จาง
หายไป
“แข็งแกรงเหลือเกิน!”
ไกลออกไป นกแดงยักษทอดถอนหายใจ เมื่อครูมันตกใจสุดขีด ยามที่หนาอกของ
เจาตัวเล็กเปลงแสง ฟาดินราวกับสงเสียงรองไปพรอมกับการหายใจของเขา นากลัว
เหลือหลายอยางแทจริง
บัดนี้สงบลงในที่สุด ที่แหงนี้เงียบสงัด รางกายของเขาไรแสงสวางระยิบระยับแลว
“ตูม”
ทันใดนั้น ลําแสงวิเศษโชติชวงพุงขึ้น ปกคลุมยอดเขาอีกครา ชายชุดเงินและนกแดง
ยักษสะดุงสะเทือน นึกวาภาพเหตุการณนากลัวเชนเมื่อครูจะเกิดขึ้นอีกครั้ง
แตทวาครั้งนี้พวกเขาเปนกังวลมากไป เจาตัวเล็กเนื้อตัวสองแสง ขางกายปรากฏ
ภูเขาไฟลูกที่แปด ลาวาไหลทะลัก พลังมหาศาลจนนาตื่นตะลึง
“บรรลุเชนนี้เลยรึ?”
ไมวาเซียวเทียนหรือนกแดงยักษตางก็ตะลึงงัน เพราะไมมีลางบอกแมแตนิด เจาตัว
เล็กเปดมันไดสําเร็จทันที
ผูมีถ้ําสวรรคแปดแหง พบเห็นไดยากยิ่งนักในเผาพันธุมนุษย สามารถยกยองวาเปน
ผูมีพรสวรรคได ตอนนี้เจาตัวเล็กบรรลุอยางงายดาย ทําใหเซียวเทียนและนกแดงยักษ
แคลงใจ เสมือนวานี่ยังไมใชศักยภาพขั้นสุดของเขา บางทีอาจมีสักวัน เขาอาจเปดถ้ํา
สวรรคแหงที่เกาก็ไดกระมัง?
ตองรูวา ถ้ําสวรรคแหงที่เกาพบไดยากนักในความเปนจริง มีเพียงการจารึกในตํารา
โบราณเทานั้น ทําใหผูคนสงสัยมาโดยตลอดวามันมีอยูจริงหรือไม
เจาตัวเล็กยืดขยาย ยังไมทันสัมผัสความตางของถ้ําสวรรคแหงทีแ่ ปด ก็รูสึกตัวกอน
แลววารางกายเปลี่ยนแปลงไป โครงสรางรางกายพัฒนาขึ้นอยางทับทวี เหนือกวาที่แลว
มาอยูมากโข

……………………………………………………..

[1] พลังจากการดื่มนม ตอนแบเบาะ เราตองดื่มนมเพื่อใหอยูรอด หลังจากหยานม


ก็กินขาวเพื่อเสริมสรางความแข็งแรง เพิ่มพละกําลัง ในชวงเวลาพยายาม เราใชพลังจาก
การกินขาวจนสิ้น ยังรูสึกไมเพียงพอ จึงใชแมกระทั่งพลังจากการดื่มนม เปรียบเปรยวา
พยายามอยางสุดกําลัง
บทที่ 136 สมรูร วมคิด
สูดหายใจเขาลึกๆ ในกายเจาตัวเล็กพลันเกิดเสียงน้ําตกกระทบ อีกทั้งแสงมงคลยัง
ไหลพรั่งพรู นอกจากเสนเอ็นและกระดูกสองแสงแวววาวและแข็งแรงแลว องคาพยพ
เปลงแสง แตละอวัยวะราวกับตะวันดวงนอย
นี่ไมใชภาพลวงตา แตเปนเรื่องจริง เจาตัวเล็กออกแรงเล็กนอย อวัยวะตันทั้งหาและ
อวัยวะกลวงทั้งหกก็สงเสียงดุจดั่งน้ําปากระทบสันเขื่อนเปนระลอก กระแสเสียงนาตื่น
ตะลึง ทั้งยังกําจายแสงล้ําคา ปลอยกลิ่นอายอันยิ่งใหญ
สามารถรูสึกไดอยางชัดแจง อวัยวะตันทั้งหาดุจกงจักร เขาเสกอักขระอัดไปยัง
องคาพยพของตน หัวใจและมามอันพรางพรายกําลังเตนอยางมีจังหวะ แข็งแรงอยาง
ที่สุด ตานทานพลังลึกลับไวได
นี่ทําใหเจาตัวเล็กทั้งตกใจและดีใจ หากยกทัพจับศึกกับผูอื่น สามารถครองความ
ไดเปรียบเปนแนแท แมแตองคาพยพก็แข็งแรงทนทานดั่งกระดูกหรือ? นี่เปนความรูสึก
ยิ่งใหญอยางที่สุดอยางหนึ่ง
จากนั้นเขาก็ชกตัวเองหนึ่งหมัด เสียงดังตูมประหนึ่งตีกลองสวรรค ปลอยเสียง
อวัยวะทั้งหาสั่นสะเทือนพรอมกัน แผแสงล้ําคา
เขารูดีวา ระดับความแข็งแกรงของกายเนื้อของตนเพิ่มขึ้นอยางมากโข ไมเพียงแต
แสดงออกทางขอตอกระดูกและเสนเลือด แมแตองคาพยพก็เปนเชนเดียวกัน แข็งแรง
ทนทานอยางหาที่เปรียบมิได ไมดอยกวาผิวเนื้อและกระดูก เมื่อเตนตามจังหวะ
ประหนึ่งกลองสวรรคสงเสียง
เจาตัวเล็กนั่งทางใน ในเวลานี้ตอนนี้ กายเนื้อของเขาโปรงแสง โครงกระดูกขาว
กระจางใส องคาพยพเปลงประกายระยิบระยับ แมกระทั่งเนื้อหนังมังสาก็สวางทะลุปรุ
โปรง ยิ่งกวานั้นคือเสนผมดําขลับที่สองแสง จากภายในสูภายนอก สะอาดบริสุทธิ์ไร
มลทิน
นี่เปนการแสดงออกของรางกายที่แข็งแกรงจนถึงขีดสุด กายเนื้อชําระใหสะอาดดวย
ตัวของมันเอง ไมวาอวัยวะภายในทั้งนอยใหญ หรือกระดูกวิเศษ ลวนดุจดั่งหลอมจาก
กระจก แมจะยางเดินกลางเถาธุลีก็ไมปลุกปนฝุนผง
“แข็งแกรงยิ่งนัก” นี่เปนความรูสึกที่รับรูไดดีที่สุดจากอวัยวะสัมผัส เขามีพละกําลัง
อันไมสิ้นสุด
เขากระโดดตรงดิ่งลงมาจากยอดเขา ระยะหางจากพื้นดินยังไกลมาก แตกลับไรซึ่ง
ความเกรงกลัว สุดทายฝุนควันก็พวยพุง แผนดินสั่นสะเทือนรุนแรง เขากระแทกพื้นผิว
จนเปนหลุมลึก รอยแยกใหญแผขยายออกไปไกล
“วิปริต… เจาเด็กอํามหิตคนนี้ มีพลังกาย…แข็งแกรงนัก!” นกแดงยักษอุทาน พูด
ตะกุกตะกักเล็กนอย
เจาตัวเล็กกาวออกจากหลุมลึกมายังเบื้องหนาปาหิน หนึ่งแขนออกแรง ตะโกนเสียง
ดังวา “ยก!”
กอนหินใหญหนักสามสี่แสนชั่งลอยขึ้นเหนือพื้นดินในเสี้ยววินาที ถูกเขาใชแขนขาง
เดียวยกมันขึ้น และหินผาใตเทาเขาก็แหลกละเอียดดังกรอบแกรบ แบกรับแรงกดอัด
เชนนี้ไมไหว
เซียวเทียนนิ่งงัน ในใจพรั่นพรึงอยางที่สุด นี่เปนพละกําลังของมนุษยหรือ? ควรเปน
ของอสูรบรรพกาลเสียมากกวา เขามองลงไปเบื้องลาง จดจองเจาตัวเล็กดวยความรูสึก
พิกล
นับตั้งแตที่แกวงแขนแลวมีพละกําลังมหาศาลกวาหนึ่งแสนแปดพันชั่ง เจาตัวเล็กก็
ไมไดฝกฝนรางกายอยางแทบลมประดาตายอีกเลย แตเริ่มใหความสําคัญกับการบรรลุ
การหยั่งรูดั้งเดิม เขาใจความลึกลับของอักขระ
หากแตวา ความแข็งแกรงของรางกายก็มิไดลดระดับลงแตอยางใด โดยเฉพาะเมื่อ
ไดรับการชําระจากน้ําทิพย มันก็เพิ่มมากขึ้นเปนเทาตัว ความแข็งแกรงทางกายภาพทํา
ใหคนหวาดผวา
ตองรูวา ตอนนี้เขายังไมครบสิบขวบ! หากเจริญเติบโตเชนนี้ตอไป เขาจะบรรลุถึง
ขั้นไหน? ขอแคโตเต็มวัยก็เพียงพอจะสะเทือนโลกาแลว
เจาตัวเล็กไมไดตรวจสอบตอ โยนกอนหินขนาดดุจภูเขาลูกเล็กทิ้ง เขาพิสูจนแลววา
ความรูสึกของตนไมใชเรื่องเท็จ กายเนื้อแข็งแกรงถึงขั้นที่นากลัวยิ่งนัก
เขายังเยาววัยเหลือเกิน ใบหนาออนเยาว แพขนตายาว ดวงตาสุกใส รูปโฉมงดงาม
นารัก ลักษณะนี้ไมสอดคลองกับวีรกรรมอันยิ่งใหญดุจขุนเขา อาจหาญเยยโลกาเมื่อครู
ของเขา ทําใหคนยากจะจินตนาการวา พละกําลังที่เขาระเบิดออกมานากลัวปานนั้นได
หลังจากเปดถ้ําสวรรคแหงทีแ่ ปด การควบคุมอักขระของเจาตัวเล็กยกระดับขึ้น
พลังการตอสูทั่วกายเพิ่มขึ้น หากพบศัตรูผูแข็งแกรงอีกครา ตองทําใหผูคนหวาดกลัวเปน
แน
“ตูม!”
เจาตัวเล็กออกแรงกระทืบเทา หินผาทลาย ผืนดินแตกแยก ขยายออกไปไกลไมรูตั้ง
เทาใด ปรากฏรอยแยกสีดําขนาดใหญกวาหลายสิบหลายรอยรอย
เขาพุงทะยานฟา กระโดดขึ้นไปยังยอดเขาสูงอีกครั้ง
“นี่…อํามหิตเหลือเกิน ไมแมแตจะตองยืนบนอาวุธล้ําคา พุงขึ้นมาไดโดยตรงในเวลา
อันสั้น บินเร็วกวาขาอีก!” นกแดงยักษหวีดรอง
“นี่…” เซียวเทียนตะลึงงัน รูสึกวาสายตาไมเพียงพอตอการใชงานเสียแลว มอง
ประเมินเจาตัวเล็กตั้งแตหัวจรดเทา หนึ่งคือถูกทําใหตกใจ พฤติกรรมของคนรูใจผูนี้
สามารถทําใหทุกคนตะลึงจนอาปากคาง สองคือรูสึกวา ไยชายหนุมคนนี้…จึงคลายคลึง
กับอีกคนยิ่งนัก!
“วิปริตนัก โลกของเด็กอํามหิตไมมีผูใดเขาใจ” นกแดงยักษสายหัวเปนพัลวัน
“ไยขาจึงรูสึกวาเจาเหมือนคนๆ หนึ่ง?” ชายชุดเงินกลาวดวยความตะลึงระคน
ความสงสัย
“เจาวาขาเหมือนเด็กเหลือขอในโลกแหงความวางเปลาคนนั้นละสิ? ขาเกลียดยิ่งนัก
ที่ผูอื่นหาวาขาเหมือนเขา ควรพูดวาเขาเหมือนขาสิจึงจะถูก ขาแข็งแกรงกวาเขา ขา
อยากจะฟาดเขาอยูตลอด หากแตไมมีโอกาสพบเจอ ยิ่งกวานั้น องอาจหาวหาญ มาก
ดวยชีวิตชีวาเยี่ยงขา เจาเด็กเวรคนนั้นจะสูไดเยี่ยงไร? ” เจาตัวเล็กกลาวอยางทะนงตน
“แลดูเจาจะแข็งแกรงกวาเขา แตวา…” ชายชุดเงินละอายใจที่จะเอยออกมา
ใบหนาเจาอวบอวน ตัวจ้ําม่ํา มองดูแลวอยากจะหยิกสักที ใกลเคียงคําวาองอาจหาว
หาญเสียที่ไหน? แมเด็กเหลือขอคนนั้นจะนาชัง แตรูปโฉมงดงามยิ่งนัก
“หยุดพูดเถิด วันหลังพวกเราเขาโลกแหงความเปนจริงดวยกัน เมื่อถึงเวลาเราจะ
กําราบใตหลาอยางไรศัตรู ทาทายดินแดนสุขาวดีใหญทั่วปฐพีตามลําดับ และใชโอกาสนี้
ชวยเจาจัดการเขาดวย” เจาตัวเล็กกลาวดวยความฮึกเหิม
แมชายชุดเงินจะฉงนสนเทห แตเมื่อคิดๆ ดูแลวก็ปลอยวาง หากเปนเด็กเหลือขอ
คนนั้นจริง จะสามารถเรียกพี่เรียกนองกันอยูตรงนี้หรือ? คาดวาคงฟาดเขาดวยหนึ่งคอน
ฉกชิงของเหลววิเศษหนีไปเสียแลว
เซียวเทียนหันหลังเดินไปยังกอนหินใหญ มีไหหยกที่เต็มไปดวยน้ําทิพยวางอยู
ดานบน
เจาตัวเล็กถีบกอนหินรูปรางดุจอิฐที่อยูขางเคียง หมายอยากเก็บมันขึ้นมา นี่ตอง
เปนโอกาสดีแน ฟาดชายชุดเงินใหลมในหนึ่งอิฐ หอบของเหลววิเศษแลวหลบลี้หนีหนา
หายไปอยางลอยนวล
แตวา หากทําเชนนี้ หลังเกิดเรื่องชายชุดเงินจะบาตายหรือไม ถาเกิดสติฟนเฟอน
หรือทิ้งเงามืดไว เชนนั้นคงจะไมดีนัก ถึงอยางไรก็มิไดมีความอาฆาตพยาบาท
เจาตัวเล็กมองแผนหลังของเขา กอดอก กะพริบตาปริบๆ สับสนอยางหาที่เปรียบ
มิได
นกแดงยักษมองเห็นก็เขาใจความคิดของเจาตัวเล็ก เห็นไดวาปกติเจานกนี่ก็มิใช
ตะเกียงประหยัดน้ํามัน มิใชนกดีอยางสิ้นเชิง
ดวงตาทั้งคูของมันกะพริบแววชั่วราย ใชปกขางหนึ่งทําทาทําทาง ความหมายของ
มันคือ ลงมือเถิด พวกเราสองคนลงมือพรอมกัน!
เจาตัวเล็กยิ่งสับสน ทําเชนนี้ไมดีเอาเสียเลย แตวา…หนแลวทุบเขาไปสองคอน รูสึก
วาทายทอยนั่นดึงดูดใจเหลือเกิน คิดแลวก็อยากจะลองดูอีกสักครา
เขาเก็บกอนหินบนพื้นดิน ใชมันแทนกอนอิฐ จากนั้นกาวไปขางหนาทีละกาว
นกแดงยักษคึกคักขึ้นมาโดยพลัน สองตาเปลงประกาย คอยๆ ยองเทาตามไป สอง
หัวยอมดีกวาหัวเดียว มันสงสัญญาณบอกเจาตัวเล็ก เตรียมการลงมือกอน
เมื่อเห็นเจาตัวเล็กพยักหนาให มันจึงใชปกทั้งสองขางโอบหมอดําไว อาปากหัวเราะ
อยางไรเสียงไมหยุดไมหยอน จากนั้นกระโดดขึ้นอยางดุดัน โผตัวไปขางหนาเตรียมทุบ
ชายชุดเงินใหหมดสติ
ขณะนี้เอง เจาตัวเล็กก็กระโดดขึ้น กํากอนอิฐไวแนนแลวฟาดลงไปขางหนา
เสียงดังตุบ ฟาดดวยความแข็งแรงไปที่ทายทอยอยางจัง ฝมือเชนนี้สมควรยกยองวา
ช่ําชองและเชี่ยวชาญ
“เอื้อก…”
ปากของนกแดงยักษที่อาจนกวางและรอยยิ้มชั่วรายเต็มใบหนาลวนชะงักคาง
จากนั้นเริ่มเหลือกตา ปากพนคําวาเอื้อก เหลียวหลังอยางเชื่องชา ออนเปลี้ยลมลงกับ
พื้น
มันไมไดเปนลมหมดสติไป เพียงแครสู ึกมองเห็นดาวลอยเต็มหัว สองหูดังวิ้ง
นอกจากนี้คือปวดทายทอยอยางรุนแรง ราวกับถูกวัวคลั่งเตะเขาจัง เนื้อบริเวณนั้นปูด
โปนขึ้นอยางรวดเร็ว
นกแดงยักษวิงเวียนศีรษะ แตแลวก็โมโหเดือดดาลโดยพลัน ทวดมึงสิ ความแมนยํา
ของเจาเด็กอํามหิตคนนี้แยเสียจริง ไยจึงทุบบนทายทอยของขา เบื้องหนามีกะโหลกใหญ
ปานนั้น เจามองไมเห็นรึ? สายตาเยี่ยงใดกัน? จะทํางานไดอยางไรเลา? ความแมนยํา
เลวรายยิ่งนัก!
มันเจียนสบถกนดา เด็กอํามหิตกระทําการไดมินาเชื่อถือเหลือเกิน
เซียวเทียนไดยินเสียงเคลื่อนไหว เหลียวหลังมองแลวเอยถามดวยความไมเขาใจวา
“ไยมันจึงนอนแผอยูกับพื้นเลา?”
“ขาฟาดเอง เห็นมันทําทาทางลับๆ ลอๆ อยากทําเรื่องชั่วราย จึงฟาดมันไปหนึ่ง
กอนอิฐ” เจาตัวเล็กกลาว
เมื่อนกแดงยักษไดฟงก็กระทืบเทาทันทีทันใด กระเสือกกระสนดิ้นรนจะลุกขึ้น มัน
โมโหเจียนตาย เอะอะโวยวายอยูคอนวัน ปรากฏวามิไดสูญเสียความแมนยํา แตมุงหนา
ฟาดลงที่ทายทอยของมันตั้งแตแรก
เสียดายที่มันยังคิดหาเหตุผลใหเด็กอํามหิต คิดวาเขาสูญเสียความแมนยํา
“ไอเด็กนี่ เจาหมายความวาอยางไร?!” นกแดงยักษโกรธเกรี้ยว ทั้งที่เจาจะทุบจาก
ดานหลัง ลอบโจมตีชายชุดเงิน ใจดีเมตตาสมรูรวมคิด ไยถูกเจาทุบดวยกอนอิฐจนลมลง
เชนนี้เลา?
“ปกษาตัวนี้ไมใชของดี เมื่อครูคิดอยากลอบจูโจมเจา ชวงชิงน้ําทิพย ขาทนไมไดจึง
ฟาดไปหนึ่งกอนอิฐ” เจาตัวเล็กกลาวกับชายชุดเงิน
นกแดงยักษเดือดดาลถึงขีดสุด ลูบคลําเนื้อปูดบริเวณทายทอย แยกเขี้ยวยิงฟน
โมโหจนแทบกระอักเลือด ทั้งๆ ที่เจาเปนคนตนคิดทําชั่ว ไฉนสุดทายจึงผลักทุกสิ่งอยาง
มาหาขา สิ่งที่ไมนาใหอภัยอยางยิ่งคือ ฟาดขาไปหนึ่งกอนอิฐ เจ็บปวดเจียนตาย มีวิธีการ
ทําการเชนนี้หรือ?
เซียวเทียนสีหนาไมสูดี จองนกแดงยักษเขม็งแลวกลาววา “เจาจดจองไหหยก
ตลอดเวลา ที่แทก็มีความคิดชั่วนี่เอง”
“ไมเกี่ยวกับขา” นกแดงยักษหายใจกระหืดกระหอบ ชางโชครายเสียจริง ถูกใสราย
ปายสีอยางไมเปนธรรม อยากสมรูรวมคิดแตกลับถูกทุบเสียอยางนั้น ทั้งยังถูกเจาทุกข
กลาวโทษ ใชแลว เขายังไมใชเจาทุกข ตัวเองนี่สิเจาทุกข นี่สวรรคยังมีความเที่ยงธรรม
อยูหรือไม!?
มันยอมไมยินยอมแบกหมอดํา อาปากกวาง เตรียมพนคําพูดหมายเปดโปงเจาตัว
เล็ก
“อยาสนใจมันเลย เจานกนี้ชั่วราย หากมันไมตองการใหขาแนะนําอาจารยแกมัน
แลวละก็ มันคงคิดคดทรยศไปนานแลว” เจาตัวเล็กกลาว สายหัวเปนพัลวันแลวพูดวา
“มันไมเชื่อฟงปานนี้ ตอนนี้ขาเริ่มลังเลไมแนใจวาจะแนะนําอาจารยแกมันดีหรือไม”
เดิมนกแดงยักษราวกับฉีดเลือดไก เตรียมตัวคะยั้นคะยอ หมายหารือกับเจาตัวเล็ก
และเซียวเทียนใหชัดเจน พูดคุยใหกระจาง เปดโปงใหถึงทีส่ ุด แตวาเมื่อไดยินวาจา
เหลานี้ก็พลันเซื่องซึม จับเนื้อปูดตรงทายทอยพลางหายใจกระหืดกระหอบ ไมกลาปริ
ปากพูดอีกตอไป
“สหาย เจาชางควรคาจะคบหาอยางลึกซึ้งยิ่งนัก หากเปนผูอื่น เกรงวาคงยุยงนกให
ทําชั่ว ตรงตามความตองการของมัน หากเปนเจาเด็กเหลือขอนาชังคนนั้น คงไมพลาด
โอกาสนี้เปนแน” ชายชุดเงินรูสึกขอบคุณจากใจจริง ยิ่งรูสึกวาคนรูใจคนนี้ไมเลวเลย
เมื่อเปรียบเทียบกันแลว เขาก็ขบเขี้ยวเคี้ยวฟนใสเด็กเหลือขอ
“ผลุบ…” นกแดงยักษกระอักเลือด สวรรคเอย โลกหลาเอย ยังมีที่แหงเหตุผลอยู
หรือไม เปนเด็กอํามหิตที่คิดทําเชนนี้ ไยจึงปลอยใหขาแบกหมอดําเชนนี้
“เจาและขาเพียงพบก็เหมือนรูจักกันมานมนาน มิจําเปนตองเกรงอกเกรงใจหรอก”
ใบหนาของเจาตัวเล็กแตมรอยยิ้มเจิดจา แตในใจกลับสับสนอลหมานอยางหาที่เปรียบ
มิได พึมพําไมหยุดวา “ขาเปนคนดี ไมไดลงมือแตอยางใด แปรเปลี่ยนความคิดกะทันหัน
ขามีจิตใจดีงามยิ่งนัก ขาชางมีจิตใจดีงามเหลือเกิน…”
“สหาย เจาตองระวังนกตัวนี้ไวหนอย สันดานชั่วชาเหลือหลาย อยาปลอยใหมันลวง
หลอกอีกเลย” ชายชุดเงินเซียวเทียนตักเตือนอยางจริงจัง
“มิเปนไร ใหโอกาสแกมันอีกสักหน ขาไมมีทางปลอยใหมันทําชั่ว คอยๆ กําราบมัน
ใหเชื่อง” เจาตัวเล็กพูดพลางกะพริบตาปริบๆ
“ผลุบ”
นกแดงยักษกระอักเลือดอีกครั้ง รูสึกเหมือนกับหิมะขาวโพลนในเดือนหก[1]อยาง
แทจริง มีความไมเปนธรรมยิ่งกวานี้อีกไหม? เด็กอํามหิตคนนี้ไรคุณธรรมยิ่งนัก มันโมโห
โทโสจนอยากจะพุงกระโจนเขาไป
“กู…อยากจะสูเหลือเกิน!” นกแดงยักษเคียดแคน
“เจาดูสิ มันอาฆาตพยาบาทนัก” เซียวเทียนกลาว
“ใหอภัยมันสักครั้ง แทจริงแลวในใจของมันยังคงมีความดีอยูนอยนิด แกไขปรับปรุง
ไดก็เปนการดีแลว” เจาตัวเล็กกลาวดวยใจอารี
“กูเสียเปรียบฉิบหาย!” นกแดงยักษไดยินวาจาของพวกเขา น้ําตาเจียนอาบเต็ม
หนา เสียงดังตึงตังแววมา มันเอาหัวโขลกกับพื้น
“เจาดูสิ มันชั่วรายเหลือเกิน ใชวิธีทํารายตัวเองมาขมขูพวกเราแนะ” เจาตัวเล็ก
กลาว
“กูจะกบฏแลว!” นกแดงยักษทุกขระทมและโกรธแคน
สุดทาย เซียวเทียนกับเจาตัวเล็กหารือกันวาจะแบงสันปนสวนน้ําทิพยกันอยางไร
ตัดนกแดงยักษออกอยางเด็ดขาด
เจาตัวเล็กกลาววา “ขาใหโอกาสเจาหนึ่งครั้ง ใชแรงกายลางบาป บรรทุกขาไปหา
ชาวสายฝน จัดการพวกมันเสร็จสิ้น ขาจะใหน้ําทิพยบางสวนแกเจา”
“ขาไมอยากไดน้ําทิพย ขาเพียงอยากลางมลทินใหขาวสะอาด…” นกแดงยักษสง
เสียงบอกเจาตัวเล็กอยางเกรี้ยวกราด
เจาตัวเล็กกลาววา “เดิมกายเจาเปนสีแดง ทั้งยังแบกหมอดําใชเปนอาวุธล้ําคา ขาว
สะอาดที่ใดกัน ไมเอาของเหลววิเศษก็ชางเถิด”
“ขา…ขา…ขาเอา!” นกแดงยักษคลึงเนื้อปูดตรงทายทอย สุดทายก็คํารามเชนนี้ มัน
ปดจมูกแลวบรรทุกทั้งสองบินขึ้น ออกเสาะหาเผาสายฝน

…………………………………………………….

[1] หิมะตกในเดือนหก เปรียบเปรย ความไมเปนธรรม


บทที่ 137 ชัยชนะครัง้ ใหญ
"บรูว…”
แววเสียงหมาปาเหาหอนจากทองนภา สัตวรายมากมาย ณ ใจกลางเทือกเขาแปลก
ประหลาดใจ แหงนหนาขึ้นมองอยางไมหยุดหยอน เห็นเพียงนกแดงยักษกระพือปก บิน
ผานที่นี่ไป
“มองอะไรกัน ไมเคยเห็นปกษาที่มีขนนกงดงาม ทั้งทรงพลังและเปนใหญในปฐพี
เชนนี้หรือ?” นกแดงยักษมองเยยหยันพวกมันดวยทาทางดูหมิ่นผูกลาในโลกหลา
“นี่มันนกอะไรกัน ไยจึงแผดเสียงรองเชนหมาปา?”
“คงเปนลูกผสมตัวหนึ่ง เปนทายาทของนกกระจอกเมฆาเพลิงกับหมาปาปศาจ”
เบื้องลางมีสัตวอสูรพูดวิพากษวิจารณเสียงต่ํา
นกแดงยักษแบกหมอดําไวบนกาย จิตใจย่ําแยเปนทุนเดิมแลว ตอนนี้มันไมสบายใจ
มากยิ่งขึ้น กวาดตาลงมองสัตวอสูรที่อยูใจกลางเทือกเขาแลวคํารามวา “พวกเจามันกบ
ในกะลาจะไปรูอะไร กูเปนทายาทแหงหงสแดง ปกษาเทพเจา หากยังกลาวิจารณสุมสี่
สุมหา กูจะจัดการทีละตัวใหเรียบเลย!”
“โฮก…”
วานรคลั่งตัวหนึ่งกระโจนออกจากกลางหุบเขาใหญ สูงหลายรอยหมี่ เนื้อตัวดําสนิท
ขนดกหนา ไอเหี้ยมโหดทวมทนทองฟา มันกระโดดขึ้นบนฟาสูงทันใด หมายตะปบนก
แดงยักษ
นกแดงยักษแผดรองเสียงหลง พรวดพราดหนีเตลิด กระพือปกอยางรุนแรง เฉียด
ผานฝามือใหญของวานรคลั่ง อีกเพียงนิดก็ถูกตะปบลงไปแลว มันกลายรางเปนเปลวไฟ
หายลับไปในเทือกเขาแหงนี้ เหงื่อเย็นผุดพราวทั่วรางกาย
“นี่มันดินแดนหาเหวอะไร อันตรายยิ่งนัก ขาถูกยกยองใหเปนจาวเปนราชันในโลก
ใบใหญขางนอกนั่น ไยมาที่นี่จึงถูกขมเหงรังแกตลอดเวลา ที่ผานมาลวนเปนขาที่กดขี่ขม
เหงผูอื่น” นกแดงยักษเคืองโกรธจนนิสัยหุนหันพลันแลนจวนพุงขึน้ มา
เจาตัวเล็กกับเซียวเทียนตางก็ตื่นตกใจ วานรคลั่งตัวนั้นตองนากลัวมากเปนแน มิใช
สิ่งที่ปุถุชนจะตอกรได ขั้นบําเพ็ญสูงอยางยากลึกหยั่งถึง เปนเจาถิ่นของที่นี่
พวกเขาเหาะเหินตามหาเบาะแสของชาวสายฝนมาตลอดทาง ปรากฏวาไรรองรอย
“ไปทะเลสาบ ไมแนวาพวกเขาอาจไมตายใจ ยังคงอยูทนี่ ั่น” เจาตัวเล็กคาดการณ
เชนนี้
ทะเลทรายสีทองกวางไกลสุดลูกหูลูกตา เม็ดทรายระยิบระยับ เจิดจาพราตา ที่นี่
ชางกวางใหญเสียจริง มโหฬารไรที่สิ้นสุด เงียบสงัดไปทั่วบริเวณ
“ขาขอบอกไวกอน ประเดี๋ยวขาจะไมรวมรบ ตาแกพวกนั้นนากลัวเหลือเกิน รักษา
ชีวิตรอดเปนสําคัญ” นกแดงยักษกลาว
“หากสถานการณชอบกล เจาบรรทุกพวกขาหนีก็พอแลว” เจาตัวเล็กพูด
คลื่นความรอนเกลือกกลิ้ง แมแตทัศนียภาพก็เห็นอยูเลือนราง พวกเขาเขาสูจุดลึก
ของทะเลทรายเพื่อคนหาอยางถี่ถวน ขณะเดียวกัน เจาตัวเล็กก็อยากลองเสาะหาน้ํา
ทิพยอีกดวย
“ของเหลววิเศษหนึ่งไหนี้อยางนอยก็หนักหลายชั่ง เพียงพอใหเราแบงปนกันแลว”
เซียวเทียนกลาว เขารูดีวา การเขาใกลน้ําทิพยนั้นอันตรายสุดแสน
“ยิ่งมากยิ่งดี ถึงอยางไรก็รูสึกวาไมมากพอ” เจาตัวเล็กกลาว นอกจากตัวเองที่
ตองการแลว เขายังนึกถึงหมูบานหินผา หักนิ้วนับพลางพูดวา “ทานผูเฒา พวกอาหู ตา
จวง เออรเหมิง ผีโหว…”
“ถูกตอง ของเยี่ยงนี้จะมากไปไดอยางไร” นกแดงยักษพูดแทรก
“ไมใชกงการอะไรของเจา” ชายชุดเงินกลาว ตลอดการเดินทางเขาระแวดระวังนก
ตัวนี้เปนอยางมาก ราวกับปองกันขโมยขโจร
“สวรรคเอย เจาปลอยใหขาตายไปเสียเถิด ทรมานเหลือเกิน ไยปกษาเทพเจาที่
บริสุทธิ์ทั้งโคตรตระกูลเยี่ยงขาจึงรวงมาถึงจุดนี้?!” นกแดงยักษอกตรมอยางแสนสาหัส
อยากจะลับฟน กัดเจาตัวเล็กสักสองคํา
“เงียบ!” เจาตัวเล็กเอ็ด เหมือนจะไดยินเสียงอะไรบางอยาง
นกแดงยักษกระวีกระวาดบินเลียบผิวดิน จากนั้นทะลวงผานเนินทรายอยาง
ระมัดระวัง มองไปเบื้องหนาแลวตะโกนวา “มีตาแกคนหนึ่งกับเด็กนอยอีกไมกี่คน”
ระยะนี้อวีเ่ หวินเทียนใบหนาถมึงทึงตลอดเวลา ในใจทุกขระทม ขบเขี้ยวเคี้ยวฟนอยู
บอยครั้ง อยากจะจับตัวเจาเด็กเหลือขอนั้นใหไดทันที สังหารเขาดวยวิธีหลิงฉือเสีย
อายุอานามของเขาปาเขาไป 60 กวาปแลว ขั้นบําเพ็ญสูงจนนาตื่นตะลึง ครั้งนี้
ยับยั้งขั้นบําเพ็ญเขามา ยังมิทันไดสรางประโยชนก็สูญเสียขาทั้งสองขางไป กลายเปนผู
พิการ นี่เปนความพายแพและกระทบกระเทือนอันแสนสาหัสอยางแทจริง
และขณะที่กําลังจะไดมาซึ่งน้ําทิพย ชายหนุมนาชังผูนั้นกลับพุงลงมาจากฟากฟา
ทําลายความหวังจะทะยานฟาแหงเผาสายฝน ทําใหเขาฉุนเฉียวและโกรธแคน
“อยาใหขาไดเจอเจานะ มิเชนนั้นขาจะบดขยี้กะโหลกเจาใหแหลก คอยๆ ทรมาน
เจาจนตาย!” เขาคํารนคํารามอยางทนไมไหว
ขางกายยังมีหนุมสาวอีกไมกี่ชีวิต ลวนเปนอัจฉริยะแหงเผาสายฝน มีสองคน
รับผิดชอบหามเกาอี้ แบกอวี่เหวินเทียนมุงหนาเดินในทะเลทราย
สําหรับความทุกขของปู พวกเขาแสดงความเขาอกเขาใจ แมนเขาจะมีการบําเพ็ญ
อันนาตกใจ แตกลับตองปดผนึก ไมสามารถสําแดงได ถูกเด็กคนหนึ่งปนหัวก็เหลือทน
ยังสูญเสียขาไปทั้งสองขาง ยอมเคียดแคนเปนธรรมดา
“นองหญิงจื่อมั่วไปเชื้อเชิญสือยี่แลว หากเขายินยอมมา อาศัยดวงตาอันมองทะลุ
สรรพสิ่ง ตองหาตัวเด็กเหลือขอคนนั้นเจอในเร็ววันแน” ชายหนุมคนหนึ่งกลาว
“หวังวาจะเชื้อเชิญนองสือยี่มาได ไมรูวาเขาจะหลุดพนเขตหวงหามไดหรือไม หาก
วาไดกระดูกฟามา เชนนั้นเขาคงสามารถเตรียมรับการเปลี่ยนสภาพ ตองไมมีผูใด
สามารถทัดเทียมไดเปนแน”
คนกลุมนี้นัยนตาเปนประกาย เชื่อมั่นและเคารพยําเกรงสือยี่อยางหาที่เปรียบมิได
“อยาใหขาจับตัวไดเชียว!” อวี่เหวินเทียนกัดฟน กลัดกลุมอยางที่สุด ขาทั้งสองที่
สูญเสียไปงอกขึ้นมาใหมไดหรือ นั่นจําเปนตองใชของวิเศษปานใดจึงจะเพียงพอ? เขา
รูสึกวาทองฟาแหงชีวิตมืดมน เต็มไปดวยพยับเมฆ
“ทุกสิ่งลวนเปนเพราะเจารนหาที่เอง” กระแสเสียงแววมา สองคนหนึ่งปกษาเดิน
ออกมาจากดานหลังเนินทราย คนที่นําหนาเปนเด็กเหลือขอที่ทําใหเผาสายฝนกัดฟน
ดวยความเคียดแคนคนนั้นพอดี
“เจานี่เอง ยังกลาปรากฏตัวอีกรึ!” อวี่เหวินเทียนโกรธเกรี้ยว เขารับผิดชอบคนหา
น้ําทิพยในทะเลทรายตอไป ไมไดไปรุกไลโจมตี ไมคิดวาเจาตัวเล็กจะใจกลาบาบิ่น
ปรากฏตัวฉับพลันขณะที่อีกฝายเผอเรอ
“ใจของเจาผูกพยาบาทผูอื่น เคยคิดไหมวาเพราะเหตุใดกันแนที่กอใหเกิดผลลัพธ
เชนนี้ หากมิใชเพราะพวกเจาคิดสังหารขา จะมาถึงจุดนี้ไดเยี่ยงไร” เจาตัวเล็กพูดพลาง
จองมองขากางเกงโหรงเหรงของเขา
“ไอเด็กเวร เอาชีวิตเจามา!” อวี่เหวินเทียนมีสีหนาเหี้ยมเกรียม ฟาดเกาอี้หวายแลว
พุงพรวดขึ้นฟา โผนเขาใสเจาตัวเล็ก โหดรายจนนาหวาดกลัว
เขาถลึงตาดวยความโกรธ ขนคิ้วตั้งชัน จิตสังหารบีบคั้นผูคน สองฝามือฟาดออกมา
อักขระระยิบระยับ แนนขนัด แสงสวางทวมทนเบื้องหนา
พละกําลังของเจาตัวเล็กเพิ่มขึ้นเปนเทาตัว เผชิญหนากับเขาอีกครั้งดวยความมั่นใจ
เต็มเปยม มิไดลนลาน เสกกรรไกรกระดูกสีทองออกมาทันที อักขระมากมายดับสูญใต
เสียงดังแควก
“ไป!”
เจาตัวเล็กตะโกนลั่น ฝามือสวางวาบ สายฟาปะทุอยางรวดเร็ว ผสานอักขระกับกาย
เนื้อเปนหนึ่ง ปะทะกับมือใหญกลางนภาที่ปกคลุมดวยไอหมอกขมุกขมัวและรายลอม
ดวยประกายฝน
เสียงสายฟาระเบิดดังขึ้น ฝามือกระแสไฟของเจาตัวเล็กชนกับมือใหญที่มีไอหมอก
หนาแนน สะเทือนผืนทะเลทราย เม็ดทรายดุจเกลียวคลื่น แผกระจายไปทั่วทั้งสี่ทิศ
มวนจนเกิดคลื่นใหญหลายสิบลูก
เหตุการณนาสะพรึงกลัวอยางที่สุด คลื่นทรายสีทองทวมทนทองฟา แผคลุมไปทั่ว
บริเวณนี้ มืดฟามัวดิน พวยพุงขึ้นบนฟาสูง นาหวาดกลัวชอบกล
“ปง”
อวี่เหวินเทียนตกตะลึง หลังจากปะทะกันในหนึ่งฝามือแลว ตัวเขาลอยเอียงออกไป
กระดูกแขนทั้งทอนเกิดอาการชา สูญเสียประสาทสัมผัส กระแสไฟหอมลอมแขนของเขา
รางกายสั่นรุนแรง จากนั้นกระอักเลือดคําใหญดังผลุบ
เขามิอาจเชื่อไดอยางสิ้นเชิง ขั้นบําเพ็ญของตนสูงสงปานใด การหยั่งรูอักขระเหนือ
คนหนุมสาว แตวาระหวางการโตตอบครั้งนี้ เขาราวกับถูกสายฟาโจมตี พละกําลัง
มหาศาลเชนนั้นนากลัวเสียจริง ฝาทะลวงการสกัดกั้นของอักขระ สงผลกระทบตอกาย
เนื้อของเขา
“เปนเพียงพลังกายเทานั้น!” เกิดความวิตกและหวาดกลัวขึ้นมาในใจของเขา ชาย
หนุมคนนี้นากลัวเหลือเกิน หากปลอยใหเขาพัฒนาตอไปจะยอดเยี่ยมปานใด
“แควก”
อยางไรก็ตาม ไมปลอยใหเขาไดใครครวญมากนัก กระดูกแขนสงเสียงแหลก
ละเอียด พลังมหาศาลที่ทะลวงอักขระไมจางหายไป จึงระเบิดในเวลานี้เอง
ตามมาดวยเสียงกระดูกปลายแขนหักเปนหลายทอน เจ็บปวดจนเหงื่อกาฬผุดเต็ม
ใบหนา มิอาจเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด นากลัวเหลือเกิน พละกําลังอันเปนพรสวรรคเชนนี้
นาตื่นตะลึงอยางยิ่งยวด เขารูสึกวาจําตองนําขาวนี้ไปบอกกลาวชาวสายฝน จะปลอยให
เด็กคนนี้เติบใหญไมไดเปนอันขาด
อวี่เหวินเทียนคํารามดวยโทสะ อาปากพนกลุมแสง เขาสัตวอันหนึ่งลอยออกมา ดํา
ทมิฬ ชั่วรายเปนอยางมาก แสงดํากวาดออกมาเปนกอบเปนกํา อีกทั้งยังมีเสียงหวีดหวิว
ออกมาจากเขา กระแสเสียงสะเทือนหู จวนฉีกวิญญาณคน
“กิเลสมารรายจงแพพาย!” เจาตัวเล็กตะโกนเสียงดังทันใด กระจกล้ําคาในมือ
เปลงแสง สองสะทอนสายฟาที่แข็งแกรงที่สุด กระแสไฟสีทองหนาใหญ ทะลวงหมอกดํา
กวาดไปดานหนาทันที
เสียงตูมดังขึ้น เขาสัตวฝงตรงขามสั่นเทิ้ม รับมือกระจกล้ําคาซวนหนีไมได เนื่องจาก
เปนวัตถุล้ําคาที่หลุดลอกออกมาจากกายของทายาทอสูรบรรพกาล เหนือกวาอาวุธล้ําคา
ทั่วไปอยูมากโข
“แยแลว หลังจากทานปูสูญเสียขาไป พลังปราณก็เสียหายครั้งใหญ และอาวุธล้ําคา
ยังแข็งแกรงสูฝายตรงขามไมได คงจะตานทานไมไหว” ลูกหลานหนุมสาวที่อยูดานหลัง
เหลานั้นจองมองกันแวบหนึ่งแลวพุงขึน้ พรอมกัน
“คิดจะเอาชนะดวยกําลังคนมากกวารึ?” ชายชุดเงินเซียวเทียนกาวออกมา เขาเปด
ถ้ําสวรรคแหงที่แปด เปนอัจฉริยะหนุม อยางยิ่งยวดในเผาพันธุมนุษยอยางแนนอน หนึ่ง
คนขัดขวางคนทั้งหมดไว
ในขณะเดียวกัน นกแดงยักษใบหนาขมึงทึง กาวขายาวคูนั้นยางเดินเขามากดดัน
มันหงุดหงิดงุนงานเปนอยางมาก ปกนกขางหนึ่งดั่งมือมนุษย ลากหมอดําหนึ่งใบ พุงเขา
ประชิดคนกลุมนี้อยางรวดเร็ว เริ่มคลุมคลั่งขาดสติ
“ไอพวกโงเงาเตาตุน อาจหาญขมเหงขา กูจะฟาดใหเจ็บ!”
พวกเขาตื่นตกใจ นกแดงยักษคลุมคลั่งแลว ลากหมอดําแลวฟาดซายทีขวาที
กระแทกจนอาวุธบางสวนแหลกเละ อักขระมากมายสลายหายไป หมอโลหะดังตึงตัง
จากนั้นฟาดศีรษะของคนเหลานี้จนกลายเปนกะโหลกเปรอะเลือดอยางรวดเร็ว
ชาวสายฝนกลัดกลุม นกตัวนี้บาไปแลวหรือ ไปยั่วโมโหเจาตอนไหน รังแกเจาเมื่อใด
กัน? จูโจมพวกขาอยางไรเหตุผล ทั้งยังดาทอตอวาไมหยุด ชางนาโกรธแคนเสียจริง
ศึกครานี้ ชายชุดเงินรับผิดชอบเพียงปดลอม ปองกันผูติดตามชาวสายฝนหลบหนี
กระเจิดกระเจิง เรื่องอื่นยกใหเปนหนาที่ของนกแดงยักษแทบทั้งสิ้น
อยางไรก็ตาม มันก็เปนถึงทายาทอสูรบรรพกาล พละกําลังยิ่งใหญอยางเปรียบมิได
แพพายในกํามือเจาตัวเล็ก ไมไดแปลวามันออนแอ กลับกันมันแข็งแกรงอยางที่สุด มีคู
ตอสูเพียงนอยนิด
นกตัวหนึ่งหิ้วหมอดําใบหนึ่ง ฟาดซายทีสะเทือนขวาที ขาดสติจนคลุมคลั่ง ทําให
ผูติดตามชาวสายฝนรองโหยหวนดวยความเจ็บปวดอยางไมขาดสาย ตางถูกหมอดํา
โจมตีจนเลือดไหลเต็มหนังหัว กระดูกหักเอ็นขาด
อีกฝงหนึ่ง เจาตัวเล็กปะทะกับผูอาวุโสชาวสายฝน ดุจดั่งโหววัยเยาวตัวหนึ่ง ทุกครั้ง
ที่ออกวิ่ง จะขับเคลื่อนคลื่นทรายสีทองอันทวมทนทองฟา โหดเหี้ยมและบาระห่ํา
เสียงวิ้งดังขึ้น กระจกล้ําคาซวนหนีสองแสง สายฟาลุกโชติชวง สะเทือนเขาสัตวสีดํา
จนแหลก ทําใหมันหมนแสงลงไป
เจาตัวเล็กแววตาลุกโชน พุงไปขางหนาอยางดุดัน โจมตีศัตรู อวี่เหวินเทียนออกแรง
ทุบพื้น กระโดดขึ้นอีกครั้ง อักขระทั่วรางผนึกกําลัง พลังแหงฝนฟาคะนองปรากฏขึ้น
แตทวา ที่นี่เปนทะเลทราย พลังวิเศษของเขาลดระดับจนต่ําสุด บวกกับขาสองขาง
กับแขนขางหนึ่งไดรับบาดเจ็บสาหัส พลังตอสูในตอนนี้ดอยอยางแทจริง พลังฝนฟา
คะนองไมสามารถทําอันตรายเจาตัวเล็กได ถูกเขาใชกระจกล้ําคาซวนหนีสาดสอง จน
พายแพหนีกระเจิงจนสิ้น
เสียงวิ้งดังขึ้น กรรไกรกระดูกสีทองลอยออกมา ตัดเขาสัตวสีดําที่ปรากฏรอยราว
เปนทุนเดิมจนหักดังแควก รวงลงบนพื้นดิน
อวี่เหวินเทียนมองดูดวยความปวดใจอยางหาที่เปรียบมิได อาวุธล้ําคายิ่งใหญชิ้น
หนึ่งกลับพินาศยอยยับ แทบจะกระอักเลือดออกมา
ทายาทอสูรบรรพกาลยิ่งใหญ นอยคนจะเปนเชนเจาตัวเล็ก ถือครองวัตถุล้ําคา
ยิ่งยวดสองชิ้นนี้ อาวุธปานนี้เพียงพอจะทําใหชนเผาขนาดใหญยิ่งอิจฉาตารอน
“ไอเด็กเวร ขาจะใหเจาไดเห็นพลังตองหามสักหนอย!” อวี่เหวินเทียนบาดเจ็บ
สาหัส บวกกับอาวุธล้ําคาถูกทําลาย สงเสียงคําราม
“เขาจะทําลายการปดผนึก เปดฉากโจมตีกอนสิ้นใจ รีบถอยเสีย!” ชายชุดเงิน
ตะโกนดังลั่น
“ถอย!” เจาตัวเล็กเอยเสียงทุม เตือนนกแดงยักษที่กําลังคลั่ง จากนั้น เขาออกแรง
กระทืบเทาอยางรุนแรง ฝุนควันพวยพุงขึ้นในเสี้ยววินาที คลื่นทรายเกลือกกลิ้ง หายลับ
ไปจากที่นั่น
อวี่เหวินเทียนเผยรอยยิ้มเย็น เขามิไดใชพลังตองหามแตอยางใด ไมคิดเปดการผนึก
เพราะเขายังไมอยากตาย เขาเตรียมจะเสกอาวุธล้ําคาอีกชิ้นหนึ่ง หมายหลบหนีจากที่นี่
ขนปกนกเสนหนึ่งปรากฏขึ้น มีสีมวง สองแสงสวาง เขานั่งอยูดานบนเตรียมเหิน
เวหา
ทันใดนั้น คลื่นนากลัวโหมซัดมา แสงสวางเจิดจา กรรไกรกระดูกสีทองเลมหนึ่ง
ปรากฏขึ้น ตัดขนนกล้ําคาดังแควก เจียนหั่นรางกายของอวี่เหวินเทียนไปดวย
ขณะเดียวกัน เงารางพุงผานไป รวดเร็วยิ่งนัก เสียงผลุบดังขึ้นแผวเบา บิดกะโหลก
ของเขาลงมาทันที เหวี่ยงทิ้งลงพื้นแลวลาถอยไปอยางรวดเร็ว หลบหลีกคลื่นเลือดที่พุง
ขึ้น
เจาตัวเล็กมิไดหลบหนี แตกลับเตะใหเกิดพายุทราย ฉวยโอกาสที่ชุลมุนพุงพรวดเขา
ประชิด สําแดงการสังหารที่คลองแคลวและเด็ดขาดที่สุด
“เจา…” กะโหลกที่หลุดรวงลงมาพนหนึ่งคําออกมาเชนนี้ ทําไดเพียงมองอยางอับ
จนหนทาง เต็มเปยมดวยความไมพอใจและความสิ้นหวัง
“หากเจามีใจจะใชพลังตองหามจริง คงไมตะโกนเสียงดังเตือนลวงหนาหรอก” เจา
ตัวเล็กมองลงมาหาเขา
“ผลุบ”
อวี่เหวินเทียนพนเลือดคําสุดทาย นัยนตาคูนั้นหมนแสง เขาตายไปพรอมกับความ
ไมพอใจและความทุกขระทม หากรูวาจะเปนเชนนี้ ใชพลังตองหามเสียยังดีกวา ทําการ
โจมตีครั้งสุดทาย
“ผูอาวุโสสิ้นแลว ทานปูปราชัยแลว!”
ลูกหลานชาวสายฝนหวาดกลัว ประหนึ่งฟาถลมแผนดินทลาย ผูอาวุโสที่ยิ่งใหญ
ปานนี้กลับสิ้นชีพในสนามรบ พวกเขาจะตอตานไดเยี่ยงไร? มิใชคูตอสูเปนแน
“รีบไป ไปเชิญนองสือยี่!” มีคนรองลั่น พวกเขาเริ่มแยกยายกันหมายหลบหนี
“กูยังระบายอารมณไมพอ หามไปเด็ดขาด!” นกแดงยักษขาดสติคลุมคลั่งอีกครั้ง
เสกหมอดําออกมา กระหน่ําฟาดอยางตอเนื่องจนคนเหลานี้หักเปนทอนทันที
ขณะเดียวกัน ชายชุดเงินก็ลงมือเชนกัน ไมมีผูใดหนีรอดไปไดแมแตคนเดียว ตอน
จบของศึกครั้งนี้ถูกกําหนดไวแลว
อวี่คุน อวี่เหวินเฉิง ทั้งสองนําทัพออกจากทะเลทราย ตามหารองรอยของเจาตัวเล็ก
และอวี่จื่อมั่วกลับไปหาสือยี่ นอกจากพวกเขาทั้งสามแลว ชาวสายฝนที่เขาสูเขารอยยอด
ลวนตายดวยการศึกจนเหี้ยน
หลังออกจากทะเลทราย อารมณของนกแดงยักษดูเหมือนจะดีขึ้นมาก เริ่มลําพอง
ตนอีกครา
“พลังการตอสูของขาไรเทียมทานตามที่คาดไว กวาดทําลายพวกเขาทั้งหมดเพียง
ลําพัง ขานับถือในตัวเองยิ่งนัก”
เจาตัวเล็กพูดพลางยิ้มตาหยีวา “ถูกแลว มีความกาวหนา การตอกรกับอวี่คุน
และอวี่เหวินเฉิงหนหนาใหเจาลงมือ”
นกแดงยักษสายหัวโดยพลันแลวกลาววา “มิได ตาแกสองคนนั้นรายกาจเกินไป ขา
แบกรับไมไหวหรอก แตวาหากพวกเขาไดรับขาวคราวแลว ขาเดาวาคงโมโหเจียนตาย
เมื่อถึงตอนนั้น ไมแนวาการลอบโจมตีอาจไดผล”
ไมตองคิดใหมากความ หากมือดีที่เหลือทั้งสองคนของเผาสายฝนรับรูสถานการณ
ตองคลุมคลั่งเปนแน การสูญเสียครั้งนี้ยิ่งใหญเหลือเกิน อัจฉริยะที่นําเขามาทั้งหมดลวน
ถูกประหาร ยากจะรับได
ชายชุดเงินจากไปแลว เขาคนหาสถานที่เพื่อหลบซอน ไมเตรียมการเสี่ยงอันตราย
เพียงสามารถปกปองของเหลววิเศษไดถือเปนการเก็บเกี่ยวอันใหญยิ่งแลว
เจาตัวเล็กไรมุกหยุดเวลา จึงฝากของเหลววิเศษไวกับเขาชั่วคราว มิไดนําเอาสวน
ของตนไปดวย เริ่มสํารวจโลกใบเล็กนี้ตอไป
ประตูสองแสงปรากฏขึ้น นั่นเปนเสนทางหนึ่งเสน สามารถออกจากดินแดนลุม
แมน้ํานี้ได มุงหนาไปยังอีกอาณาเขตหนึ่ง
นกแดงยักษพุงผานไป เดินทางเลียบเสนทางสีทองเขาสูแผนดินผืนใหม
“หามผูใดกอกวน จวนหวูหวังออกลาทายาทอสูร รีบถอยไปใหไว!” เพิ่งเขามายัง
แผนดินนี้ก็มีคนคํารามดัง ตําหนิเจาตัวเล็กที่อยูบนหลังนกแดงยักษ
“จวนหวูหวัง…” เจาตัวเล็กนัยนตาพราวระยับ นั่นเปนสถานที่กําเนิดของตนมิใช
หรือ ไมคิดวาจะพบคนตระกูลเดียวกัน เพียงแตวาคนของจวนหวูมิไดเลือกเขาเมื่อคราว
นั้น สวนใหญเลือกยืนขางสือยี่
บทที่ 138 ลูกหลานจวนหวูหวัง
เตียวมวงที่ยาวเกือบจั้งตัวหนึ่ง เนื้อตัวมวงแวววาว ดวงตาคูนั้นดุจหยกแดง โปรง
แสงพรางพราย ทะลวงพนาไพร ปรากฏตัวในตําแหนงนี้
ผูกลาวัยหนุมสาวกลุมหนึ่งวิ่งหอมาพรอมกันอยางรวดเร็ว เสกอาวุธล้ําคาออกมา
โจมตีดานหนา หมายปราบทายาทอสูรบรรพกาลวัยเยาวตัวนี้
“สัตวพาหนะชั้นยอด เตียวมวงตัวนี้ไมธรรมดานัก หากมิใชเพราะประสบกับ
อันตราย รางกายไดรับบาดเจ็บสาหัสอยูกอนแลว คนกลุมนี้คงรับมือกับมันไมได” นก
แดงยักษประหลาดใจ
นี่เปนทายาทอสูรบรรพกาลอันพบเห็นไดยาก ลักษณะวิเศษอันนายําเกรง และไม
ขาดกลิ่นอายเหี้ยมโหด หวางคิ้วของมันมีดวงตาหนึ่งดวง ไมรูวาบาดเจ็บจากการตอสูกับ
สิ่งมีชีวิตอะไร มีรอยเล็บนากลัวอยูบริเวณนั้น
“รีบหลบไปใหไว จวนหวูหวังจับตัวทายาทอสูรบรรพกาล อยาเกะกะขวางทาง!”
คนที่พุงอยูดานหนาสุดตะโกนลั่น
เจาตัวเล็กกระโดดลงจากหลังนก ยืนอยูบนพื้นดินอยางไมยี่หระ แตกลับจดจอง
เตียวมวงที่ถูกลอมตัวนั้น ดวยคิดวานี่ตองเปนยาบํารุงชั้นยอดเปนแน
“วาพวกเจาแนะ ไดยินหรือไม!” มีคนตะโกนเสียงดังขึ้นมาฉับพลัน พุงตรงมาทางนี้
ทําการปดกั้นเสนทางสีทองกอนเปนอันดับแรก ปองกันเตียวมวงขามเขตหลบหนีไปยัง
อาณาบริเวณอื่น
เจาตัวเล็กยังคงเพิกเฉย เขาเงียบขรึมเปนอยางมาก
คนกลุมนี้เผยความโกรธเกรี้ยว เดินตรงมาดวยสีหนาเยือกเย็น มีคนจองนกแดงยักษ
เขม็งแลวพูดอยางตกตะลึงวา “นกกระจอกเมฆาเพลิง เปนทายาทอสูรบรรพกาล
เชนกัน”
“ตัวขากําลังพูดกับพวกเจา ไดยินรึไม?” คนนําหนามีดวงตาโตคิ้วหนาดก รูปราง
กํายําแข็งแรง มองดูแลวคงมีอายุราวสิบหาสิบหกป องอาจผึ่งผายเหนือผูอื่น พินิจมอง
มาทางนี้
เจาตัวเล็กมองดูคนเหลานี้ จมอยูในภวังคแหงความคิด อยากคนหาเงาของพวกเขา
จากความทรงจําฝุนจับ บางทีอาจเคยเลนสนุกสนานกับพวกเขาในวัยเด็ก แตวาตามที่
เขาหวนคํานึง กลับหาไมเจอแมแตเงา เวลาแปดปผานไป เด็กเมื่อวันวานตางกลายเปน
ชายหนุมที่เปยมดวยความกลาหาญ แตกตางกันเปนอยางมาก
บางที คนกลุมนี้อาจไมใชเด็กๆ ที่เคยพบเจอเมื่อครั้งนั้นก็ได
เมื่อครั้งเจาตัวเล็กยังไมลมปวย เหลาลูกพี่ลูกนองมักเลนสนุกกับเขา แตเมื่อเขา
สูญเสียกระดูกขั้นสูงสุด ออนลาอยางที่สุด กลับไมมีผูใดไปหาเขาเสียแลว มีเพียงอาหมัน
ผูเดียวที่เคียงขาง
“เฮ เจาไดยินรึไม?” มีคนกลาวตําหนิ
“ไดยินแลว ขาไปยืนอยูมุมหนึ่งก็พอแลว แผนดินกวางใหญเพียงนี้ คงมีที่ที่สามารถ
ใหขายืนไดบางกระมัง” เจาตัวเล็กกลาว
นกแดงยักษตกตะลึง เจาเด็กอํามหิตคนนี้ผิดปกติ กลับมีความรูสึกหดหูเล็กนอย
“พวกขาใหเจาถอยไปอีกทาง อยากระทบตอการจับตัวทายาทอสูรบรรพกาลของ
พวกขา” มีคนวากลาว
เจาตัวเล็กนัยนตาตั้งขึ้น เพงมองพวกเขาอยางเงียบงัน
นกแดงยักษพูดอยางไมพอใจวา “กูจะยืนอยูตรงนี้แลวจะทําไม ไยตองหลีกทางให
พวกเจาดวย พวกเจาคิดวาตตัวเองเปนใครกัน?”
“ชางเปนนกที่กําแหงนัก ทั้งยังเปนทายาทอสูรบรรพกาล ขาวารวบตัวไปพรอมกัน
ดีกวา” คนหนึ่งพูดเสียงเย็น ถูกใจนกแดงยักษนานแลว
คนที่นําหนาเหลานั้นโบกมือ กลุมคนก็รีบลอมเตียวมวงตัวนั้นอยางรวดเร็ว ในชั่ว
ขณะเดียวกันก็จะจัดการกับเจาตัวเล็กและนกแดงยักษเชนกัน
เจาตัวเล็กถอนหายใจ สะบัดไลความทรงจํา คืนสูสภาพเดิมอยางสิ้นเชิง กะพริบตา
แลวพูดอยางจริงจังวา “ขาขอเตือนพวกเจา อยาไดยั่วยุขา!”
“พวกขาไมอยากขมเหงคน แตเจาเองก็อยามายืนเกะกะขวางทาง พวกขาจะจับ
เตียวมวง ฉะนั้นขาเชิญเจารีบหลีกทางไปเสีย มิเชนนั้นก็จงรับผิดชอบผลลัพธที่ตามมา
เถิด” คนนําหนาคนหนึ่งกลาวดวยใบหนาเครงขรึม
ดานหลังเขา มีคนบางสวนจดจองนกแดงยักษดวยทาทีหยั่งเชิง ตองการลงมือ
หมายจัดการมันพรอมกัน
“สถานที่กวางใหญปานนี้ สนามรบของพวกเจาเพียงพอแลว อยาไดกําเริบเสิบสาน
นัก อยามารบกวนขา” เจาตัวเล็กพูดอยางเถรตรง
“แมงเอย ไอเวรนั่นมองอะไรนักหนา หากยังจองกูอีก ประเดี๋ยวจะตุนเจาเสีย!” นก
แดงยักษสุมหัวอยูกับเจาตัวเล็กตลอดทั้งวัน ตอนนี้ขมขูวาประเดี๋ยวจะกินเจาเสีย
ประเดี๋ยวจะตุนเจาเสีย
“ฮาฮา… เด็ดเดี่ยวยิ่งนัก ยั่วยุปลุกปนพวกเราจวนหวูหวังกอนนั้นมีนอยนัก พวกเจา
ถือวาเปนคนแรก หลังเขาสูเขารอยยอด!” มีคนหัวเราะเสียงดัง
“ยังตองพูดอะไรใหมากความ รวบตัวพวกเขาเสีย ขาวานกกระจอกเมฆาเพลิงตัวนี้
ไมเลวเสียจริง จับตัวมา หลังจากฝกเลี้ยงใหเชื่อง ตองเปนสัตวพาหนะที่ไมธรรมดาตัว
หนึ่งเปนแน” กลุมคนพูดพลางหัวเราะ เตรียมดําเนินการปดลอม
นกแดงยักษใบหนึ่งถมึงทึง สภาวะจิตใจของมันไมดีมากเปนทุนเดิม บัดนี้กลับยิ่ง
ย่ําแย มันพูดวา “อาจหาญคิดจัดการขา พวกเจาขัดๆ ถูๆ ดวยตนเอง เตรียมตัวลงหมอ
เสีย”
กลุมคนสีหนาเย็นเยือก มุงหนาเขามาพรอมกัน
“ขาจะพูดอีกครั้ง อยายั่วโมโหขา” เจาตัวเล็กเอยปากอีกครา
“เจาคิดวาเจาเปนใคร เปนสือยี่แหงตระกูลขาหรือ หากสามารถทัดเทียมสายเลือด
ทวยเทพ ดูหมิ่นขาเชนนี้ได เชนนั้นก็จงรับผลแหงการกระทําเถิด!” คนที่นําหนาเหลานั้น
สีหนาเฉยเมย
“ขาจะเปนตัวแทนหวูหวังสั่งสอนพวกเจาสักที” เจาตัวเล็กสีหนาเรียบเฉย ยางสาม
ขุมตรงไป
“สามหาว อาจหาญพูดจาเชนนี้!” กลุมคนโมโหโทโส ในความคิดของพวกเขา นี่เปน
การกาวราวตอจวนหวูหวังทั้งหลัง
อัจฉริยะหนุมคนหนึ่งกระโดดขึ้น โผนมาขางหนา อาปากคําราม อักขระพุงทะลัก
แผปกคลุมเจาตัวเล็ก
เจาตัวเล็กสงบนิ่งใจเย็น ยกมือฟาดลงไป อักขระเต็มทองฟาพินาศยอยยับ ฝามือสง
กระแสไฟออกมา รายลอมตัวคนผูนั้นแลวหิ้วเขาเขามาทันที
“อาก…” ชายหนุมคนนี้รองลั่น ควันขาวพุงขึ้นตามตัว มือเทาทั้งสี่ชักเกร็ง ลมลงใต
เทาเจาตัวเล็ก
ฝูงชนตกตะลึง นี่เปนเพียงหนึ่งเผชิญหนา อัจฉริยะคนหนึ่งแหงตระกูลก็ถูกคว่ําเสีย
แลว ชายหนุมคนนี้เหนือชั้นอยางแทจริง!
หนึ่งในกลุมคนนําหนากาวมาดานหนา แววตาดุจกระแสไฟ สองมือเคลื่อนไหว พลัน
ปรากฏริ้วคลื่นเปนวงกวาง มังกรเจียวตัวหนึ่งสะบัดหาง แปลงรางออกมา รายเคล็ดวิชา
ล้ําคาหมายจูโจมเจาตัวเล็ก
เจาตัวเล็กยืนอยูตําแหนงเดิมไมเขยื้อน ฝามือสองแสง ฟาดสายฟาออกมาหนึ่งเสน
ทันใด สายฟาสีทองโจมตีมังกรเจียวตัวนั้นจนสะดุงสะเทือนอยางตอเนื่อง สุดทายก็สลาย
หายไป
“แข็งแกรงจริง!”
ชายหนุมแหงจวนหวูหวังตางเผยสีหนาเครงเครียด ครั้งนี้คงพบกับคนอํามหิตเขา
เสียแลว
“ฆา!”
ชายหนุมคนนั้นลงมืออีกครั้ง นําเอาหนังสัตวออกมาอยางรวดเร็ว ปรากฏอักขระ
สองแสงวาววับ วางลงบนแขน ผสานเขากัน กลายเปนหนึ่งเดียวกับรางกายของเขา
“โฮก…”
เขาคํารนคําราม รางกายขยายใหญขึ้นเปนเทาตัว อีกทั้งแขนทอนนั้นยังปรากฏ
เกล็ดแนนขนัด แปลงรางเปนกรงเล็บเจียว หนาใหญเปนอยางยิ่ง ฟาดโจมตีมาดานหนา
เจาตัวเล็กตะลึงพรึงเพริด ฝายตรงขามใชอาวุธล้ําคา เดิมเปนหนังของมังกรเจียว
ผสานหลอมเปนหนึ่ง เกิดเปนกรงเล็บเจียว
กรงเล็บเจียวใหญโตปกคลุมดวยเกล็ดเต็มไปหมด เพียงพอจะระเบิดขุนเขาทลาย
กอนหิน เจาตัวเล็กหลบซอนในมุมหนึ่ง กรงเล็บนั่นสะเทือนกอนหินหนักหลายหมื่นชั่ง
จนแตกแยก ฝุนควันพวยพุง
เห็นไดชัดวา ตัวตนของชายหนุมคนนี้ไมธรรมดา เพราะอาวุธล้ําคามีนอยอยางยิ่ง
แมจะเปนถึงจวนหวูห วังก็ไมสามารถจัดเตรียมกระดูกโบราณทุกชิ้นใหเด็กทุกคนได
คนกลุมนี้ก็มีอาวุธล้ําคาเพียงสองชิ้นเทานั้น แตผูครอบครองลวนมีสถานะแตกตาง
กัน
“ดี กําราบเขาซะ!” เหลาชายหนุมปลุกใจ
กรงเล็บเจียวมหึมาสามารถทําลายลางทุกสิ่งอยาง อานุภาพเกรียงไกรไรที่สิ้นสุด อัด
ลงมาหมายสังหารอีกครา
เจาตัวเล็กพนเสียงเย็นเยือกในคอ ไมหลบซอนอีกตอไป เขาใจถึงอานุภาพของอาวุธ
ล้ําคาชิ้นนี้ ฝามือของเขาเปลงแสง สายฟาผนึกกําลัง ยื่นไปเผชิญหนาดวยมือเปลา
“ปง”
เสียงสั่นสะเทือนอยางรุนแรงแววมา เจาตัวเล็กไมไหวติง แตชายหนุมคนนั้นแมจะ
อาศัยอาวุธล้ําคาสําแดงพลังอันใหญยงิ่ แตบัดนี้กลับเจ็บปวดอยางหาที่เปรียบมิได
ใบหนาซีดเซียว รนถอยหลังตึงตัง
แขนทั้งทอนของเขาชักกระตุก ขณะเดียวกัน หนังสัตวแผนนั้นหลุดลอก แยกออก
จากกายเนื้อของเขา ความวาวหมนหมอง
“สะเทือนอาวุธล้ําคาดวยมือเปลารึ?” ชายหนุมเหลานี้ลวนอึ้งงัน นีเ่ ปนพลังนากลัว
ปานใดกัน
เจาตัวเล็กโผไปโจมตีดวยความเร็วอยางยิ่งยวด กอเกิดพายุคลั่ง ดินทรายปลิววอน
กอนหินเกลือกกลิ้งบนธรณิน ประหนึ่งทายาทอสูรบรรพกาลตัวหนึ่งเหาะเหินผานไป
“แยแลว!” ชายหนุมคนนั้นรองลั่น แมวาจะตอตานอยางสุดกําลัง แตอักขระยังคง
ถูกทําลายเชนเดิม ชายหนุมคนนั้นแข็งแกรงเหลือเกิน ทะยานลงมาจากฟากฟา ควาเอา
หนังสัตวไปทันที ทั้งยังฉวยโอกาสหิ้วคอเสื้อเขาแลวเหวี่ยงเขาอยางรุนแรง ขวางเขาลง
ไปขางกายของชายหนุมที่ถูกควบคุมตัวกอนหนานี้
เขาโกรธอยางยิ่ง เพียงคิดจะขัดขืน ปรากฏวาเทาขางหนึ่งย่ําลงมา เหยียบบนทรวง
อกของเขา อีกทั้งแสงสายฟาระเบิด สายฟาสีทองหลั่งไหลเขาสูกายของเขา ทําใหเขาชัก
เกร็ง ประสบกับการโจมตีสาหัส ยากจะขยับเขยื้อน
“เขาไปพรอมกัน จัดการเขาเสีย!” คนของจวนหวูหวังรูวา หนนี้เตะแผนเหล็ก
[1]เขาเสียแลว ชายหนุมคนนี้ยิ่งใหญผิดธรรมชาติเล็กนอย เหนือคนรุนเดียวกัน บางที
อาจตองใชอัจฉริยะศักดิ์สูงกวาครึ่งชีวิตของพวกเขา จึงจะสามารถกําราบเขาได
คนกลุมนี้ลงมือพรอมกัน อักขระนานาชนิดลอยลอง และยังมีเขาสัตวชิ้นหนึ่ง
ปรากฏขึ้น เปนอาวุธล้ําคาอีกเชนกัน เสียงหวีดหวิวอันนาอกสั่นขวัญแขวน สองแสง
สวางสีแดง
เมื่อนกแดงยักษเห็นเขา พลันตื่นเตนดีใจ เตรียมพุงออกไปกวนน้ําจับปลา[2]
เจาตัวเล็กหามปรามมันไว ลงมือดวยตนเอง
สงครามนี้รุนแรงยิ่งนัก รวมสูศึกจากหกเจ็ดคน กระทั่งเขามาพรอมกันตลอดทั้งแนว
แมแตคนที่ลอมเตียวมวงตางก็พุงเขามา รุมจูโจมเจาตัวเล็ก
นกแดงยักษชมศึก ขณะเดียวกันก็เรียกทายาทอสูรบรรพกาลสีมวงแวววาวตัวนั้น
มารวมสนทนากับมัน
อักขระในสนามรบแลบแปลบปลาบ กระแสไฟลอยพาดทองฟา และมีอาวุธล้ําคา
กะพริบระยิบระยับตลอดเวลา ยิ่งกวานั้นคือเสียงครวญครางอยางเจ็บปวดดังเสียงแลว
เสียงเลา
กลุมคนจากจวนหวูหวังรายกาจเสียจริง ลวนยิ่งใหญเปนอยางมาก สมกับสถานะ
ของพวกเขา แตนาเสียดายยิ่งนักที่พบเจอกับเจาตัวเล็ก ทําใหพวกเขาประสบกับ
โศกนาฏกรรม
แมระหวางการศึกจะดุเดือด แตกลับไมสามารถทนมองผลลัพธได คนเหลานี้ตางถูก
ตีจนเลือดทะลักออกทั้งงปากและจมูก เต็มไปดวยบาดแผล แทบจะกลายเปนหัวหมู
แตละคนลวนหนาบวมช้ํา เนื้อปูดโปนเต็มศีรษะ ไมรูวาถูกเจาตัวเล็กทุบไปกี่ที คน
เหลานี้ถูกตีจนลมลุกคลุกคลานไปทั่วบริเวณ ไมสามารถลุกยืนขึ้นไดแมแตผูเดียว
สุดทาย เจาตัวเล็กกองพวกเขารวมกัน กลายเปนกองมนุษย ตนเองนั่งอยูดานบนสุด
แลวเอยถามวา “ยอมหรือยัง?”
คนกลุมนี้สงเสียงฮึดฮัด ปรากฏวาปลุกปนกระแสไฟขนาดใหญหลายสิบเสน จูโจม
จนพวกเขาสั่นเทิ้มอีกครั้ง ปากพนฟองขาว
“จะใหบทเรียนแกพวกเจาสักครา อยาลําพองตน คนเยี่ยงพวกเจา มาเทาใดขาก็
จัดการเทานั้น” เจาตัวเล็กกลาว
คนกลุมนี้เสียหนาจนแทบจะแทรกแผนดินหนี พวกเขากําเนิดในจวนหวูเชียวนา
ปกติถือวาโดดเดนเหนือใคร ไยตอนนี้จึงตานทานการโจมตีไมไดเชนนี้? ยิ่งไปกวานั้น คน
ลงมืออายุนอยกวาพวกเขาหลายป นี่เปนความอัปยศอดสูอันใหญหลวงอยางแทจริง
“ไมยอมรึ? มาเอาคืนขาเสียสิ” นกแดงยักษกาวออกมา ใชปกขางหนึ่งแทนมือ หิ้ว
หมอดํากระหน่ําฟาดสะเปะสะปะดังตึงตัง คนเหลานี้เปลงเสียงรองโหยหวนทันใด
เจาตัวเล็กไมปราณี ปลอยใหมันกระทํา
“จวนหวูหวังเกงกาจมากรึ? ถึงอยางไรก็ถูกฟาดอยูใตกนขาอยูดี!” นกแดงยักษนั่ง
บนกองคน ฟาดสะเปะสะปะดังปงปง ทุบตีจนคนกลุมนี้ใบหนาบวมช้ํา หมดหนทางจะ
โมโหโทโสอยางสิ้นเชิง
“พวกเจาระวังตัวใหดี” สุดทาย เจาตัวเล็กถีบคนละที เตะคนกลุมนี้จนกลายเปน
น้ําเตาเกลือกกลิ้ง จากนั้นเหยียบรางกายของพวกเขาแลวเดินจากไป
“มันเปนใคร?!” กลุมคนเคียดแคนและตื่นตะลึงในเวลาเดียวกัน นี่อายุเพียงเทาใด
กัน ก็นากลัวปานนี้แลว คลายคลึงกับสือยี่เมื่อสองสามปกอนเหลือเกิน!
“พี่สี่ พี่หก กับนองเกาแยกยายออกเดินทาง ตางทะลวงพืน้ ที่ตองหามโดยลําพัง
คนหาพวกเขา บอกกลาววามีชายหนุมนากลัวเชนนี้คนหนึ่ง”
“นองสือยี่อยูหนใด ครั้งนี้อับอายยิ่งนัก หากไมสามารถโจมตีเขาใหพายได เทากับ
พวกเราชาวหวูหวังไรบุคคลมีความสามารถมิใชหรือ?!”
คนกลุมนี้ลวนฟกช้ําดําเขียว ปากเบี้ยวตาเอียง บวมเปงดุจหัวหมู ตางก็ไมพอใจกัน
อยางมาก
ไกลออกไป เจาตัวเล็กจองเตียวมวงเขม็ง เช็ดน้ําลาย คิดตลอดวาหากตุนใหสุกตอง
อรอยมากเปนแน ถึงอยางไรก็เปนทายาทอสูรบรรพกาลเชียว
จะทําอยางไร ในเมือ่ เตียวมวงตัวนี้ซาบซึ้งในบุญคุณของพวกเขาเหลือเกิน
แสดงออกอยางสนิทสนม ทําใหพวกเขาละอายแกใจที่จะตุนมัน
เตียวมวงหลบหนีมาจากที่นั่น เหลาอัจฉริยะผูยิ่งใหญมากมายกําลังแยงชิงความเปน
ใหญ แมมันจะเกงกาจ แตประสบกับการลอบโจมตี เกือบจะสิ้นชีพ
“ใชแลว ตามตํานานกลาววา โบราณสถานเหลานั้นเปนหนึ่งในพื้นที่ตองหามที่
สําคัญยิ่งของเขารอยยอด และเปนขุมสมบัติอันล้ําคาที่สุดแหงหนึ่งอีกดวย!” เตียวมวง
ตอบ
“มัวรีรออะไร พวกเรารีบไปกันเถิด!” นกแดงยักษอยูไมสุขแลว
“ถึงวาอาณาบริเวณรอบนอกเปลาเปลี่ยวเชนนี้ มองเห็นคนเพียงนอยนิด ที่แท
อัจฉริยะทั้งหมดตางไปยังสถานที่เหลานั้น ทําสงครามในโบราณสถานและขุมสมบัติ
ตางๆ” เจาตัวเล็กพึมพํา
พวกเขาออกเดินทางอีกครั้ง ทะลวงผานเสนทางสีแดง มุงหนาไปอยางตอเนื่อง ผาน
แปดดินแดนติดตอกัน ทะลุประตูสีทองแปดบาน วิ่งผานพื้นที่กวางใหญไพศาล
มือดีที่พบเห็นระหวางทางเพิ่มมากขึ้น และคึกครื้นมากขึ้นเรื่อยๆ
เปนไปดังคาดการณ ยิ่งเดินทางเขาสูใจกลางเทือกเขารอยยอด สิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญก็
เพิ่มมากขึ้น อัจฉริยะคอยๆ ปรากฏตัวเปนกลุม
สุดทาย พวกเขาเดินทางผานทั้งหมดยี่สิบสี่เขต ระหวางทางประสบกับการตอสู
หลายครั้งหลายครา เพราะอัจฉริยะของแตชนเผามีมากขึ้นเรื่อยๆ ไมสามารถหลบเลี่ยง
การปะทะ จึงระเบิดสงครามครั้งใหญ
พวกเขาใชเวลาในการเดินทางหลายวัน ในที่สุดก็เขาสูบริเวณรกรางแหงหนึง่
ที่นี่ปราศจากพืชพรรณ ขาดแคลนพลังชีวิต แผนดินแดงฉาน ประหนึ่งถูกเลือดอาบ
ยอม
อยางไรก็ตาม ที่นี่กลับไมเงียบสงัด อัจฉริยะมากมายกรูกันมา มุงหนาไปยังจุด
ศูนยกลาง ที่นั่นมีมานหมอกลอยวนเวียน แสงสวางระยิบระยับ ราวกับดินแดนปศาจที่
เปยมดวยขุมทรัพย
เขาหินสองลูกประกอบเปนบานประตู พื้นที่ภายในกวางขวางเปนอยางมาก หมอก
ดํารูปรางเปนสาย ปกคลุมโบราณสถานอันกวางใหญไว มีอาวุธล้ําคาลอยขึ้นไมขาดสาย
สงเสียงทะลวงนภา
นอกประตูที่ประกอบจากเขาหินสองลูก สิ่งมีชีวิตมากเหลือคณานับเดินไปเดินมา
ตางตัดสินใจไมไดวาจะเขาไปดีหรือไม
ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตมากมายเหลือเกิน เบียดเสียดยัดเยียดอยูนอกประตู เจาตัวเล็กมองดู
จนตาพรามัว มีสิ่งมีชีวิตนานาชนิด นกยักษสีทอง สิ่งมีชีวิตรูปรางคลายโหว มีปเซี๊ยะ
และซวนหนี ทั้งยังมีลูกหลานแหงตระกูลเกาแก ผูกลาแหงดินแดนสุขาวดี และราชวงศ
แหงประเทศเกาแกเปนตน
“รีบดูนั่น นกที่มีสีทองทั้งตัวนั่นใชครุฑหรือไม?” นกแดงยักษเกิดอาการขวัญออน
เล็กนอย สะกิดเจาตัวเล็ก
“มองดูแลวทาทางนากินเหลือเกิน” เจาตัวเล็กนัยนตาเปนประกาย ใชแขนเสื้อเช็ด
ปาก ดวยเกรงวาน้ําลายจะไหลออกมา
เตียวมวงหมดคําพูด ตลอดทางนี้มันเขาใจอยางถองแทแลว มนุษยหนุมคนนี้อํามหิต
ยิ่งกวาทายาทอสูรบรรพกาลเชนพวกมัน เขากินทายาทอสูรบรรพกาลที่อาจหาญยั่วยุเขา
ไปหลายตัวแลว
“ดูนั่น มังกรชือตัวนั้นมีเลือดบริสุทธิ์หรือไม ไยขาจึงรูสึกหวาดกลัวยิ่งนัก ทรงพลัง
อยางใหญหลวง คงมิไดเดินออกมาจากเขาวิเศษบรรพกาลจริงๆ หรอกกระมัง?”
เมื่อมาถึงที่นี่ ดวงตาของนกแดงยักษไมพอใชงานเสียแลว ขณะเดียวกันก็ไมทะนง
ตนปานนั้นอีก สงบเสงี่ยมขึ้นมา เพราะที่นี่มากดวยสิ่งมีชีวิต ลวนยิ่งใหญอยางที่สุด
กําจายกลิ่นอายอันทําใหอกสั่นขวัญแขวน

…………………………………………………………

[1] เตะแผนเหล็ก อุปมาวา คิดวาผูอื่นดอยกวา ขมเหงรังแกไดงาย ปรากฏวาผูอื่น


กลับเกงกาจกวาตน จึงพบกับความแพพาย

[2] กวนน้ําจับปลา ฉวยโอกาสตอนที่ผูคนกําลังสับสนวุนวาย


บทที่ 139 บุรุษผูอ งอาจ
เบื้องหนาบานประตูใหญโตและสูงตระหงาน สิ่งมีชีวิตมากมาย บางมีเกล็ดแนนขนัด
บางมีปกสวยสดงดงาม พวกมันกลืนและคายแสงสวาง ทายาทผูยิ่งใหญนานาชนิดพรอม
หนาพรอมตา ลวนมีญาณวิเศษแตกําเนิด
หมอกสีเหลืองกระเพื่อม แผนดินสั่นไหว วัตถุมหึมาตัวหนึ่งยาวกวา 50 หมี่ รูปราง
ดุจตัวนิ่ม แตกลับมีหัวมังกรเจียว สงาผาเผยอยางหาที่เปรียบมิได แสงสวางสีทอง
หลั่งไหล ปรากฏขึ้น ณ ที่แหงนี้
ฝูงชนอุทานอยางตกตะลึงขึ้นมาทันใด นี่เปนมังกรเดินดินตัวหนึ่ง เพียงมันหยัดยืน
ในปฐพี พละกําลังของมันจะยิ่งใหญอยางไมมีที่สิ้นสุด สามารถเคลื่อนภูเขายายทะเล นา
กลัวผิดปกติ
“โฮก…”
วานรคลั่งเนื้อตัวดําสนิทปรากฏขึ้นบนเขาหินลูกหนึ่ง แหงนหนาคํารามยาว เสียงดั่ง
คลื่นยักษ ทําใหผูคนขวัญหนีดีฝอ มันออกแรงทุบหนาอกของมัน ราวกับเสียงกลอง
สวรรคกําลังสงเสียงดัง ทุมต่ําและนาสะพรึงกลัว
เสียงตูมดังขึ้น วานรคลั่งสูง 10 กวาหมี่ตัวนี้กระโดดจากเขาหินไปยังยอดเขา
ใกลเคียงทันที ทําใหตรงนั้นเกิดฝุนควันพุงขึ้นสูชั้นฟาโดยพลัน ย่ําเหยียบยอดเขาจน
แหลกลาญ มันมีขนสีดําหนาดกทั่วกาย กระโจนมาทางนี้
สิ้นเสียงดังปง แผนดินแตกออกเปนเสี่ยงทันที วานรคลั่งสีดําคํารนคําราม เผยเขี้ยว
คมสีขาว อีกทั้งแสงดําทะมึนกะพริบแปลบปลาบ ลอยวนรอบรางกาย มองดูแลว
อัปลักษณและดุรายยิ่งนัก
ฝูงชนจําตองหลบซอน วานรคลั่งตัวนี้โหดเหี้ยมเหลือเกิน ผูใดก็ไมตองการจะแสหา
เรื่อง มันหยุดอยูเบื้องหนาบานประตู ทอดมองเขาไปขางใน มิไดเขาไปทันทีทันใด เสียง
คํารามดังไมขาดสาย
ผีเสื้อตัวหนึ่งบินมา ยาวเกือบหมี่กวา สีสันสวยงาม สวางไสว งดงามเปนอยางมาก
บินวองไวมายังเบื้องหนาบานประตู
ฝูงชนหวาดหวั่นพรั่นพรึง แมแตวานรคลั่งตัวนั้นก็ไมกลาเปลงเสียง ถอยหลังสอง
กาวอยางควบคุมตัวเองไมได เผยสีหนาระแวดระวัง
“ผีเสื้อปศาจแยกฟา!” นกแดงยักษสองตาเปนประกาย กระวนกระวายเล็กนอย ที่
มากกวาคือความคาดหวัง
เจาตัวเล็กก็สังเกตอยางสนอกสนใจ สีสันลวดลายของผีเสื้อปศาจตัวนี้เปนอักขระ
ลึกลับทั้งหมด ประหนึ่งของตัวมันเองตามธรรมชาติ เสมือนออนแอ แตแทจริงแลว
ยิ่งใหญอยางหาที่เปรียบมิได
ตามจารึกในตําราโบราณ เมื่อผีเสื้อปศาจบรรพกาลกางปก สามารถแยกฟาคราม
กวาหมื่นลี้ เลื่องลือไปทั่วทุกหนแหง ยิ่งใหญจนไมสามารถทัดเทียมได
ไกลออกไป พญานกสีทองตัวหนึ่งชําเลืองมอง นอกจากนี้ยังมีปกษาประหลาดสี
เขียวตัวหนึ่งมองมา จดจองผีเสื้อปศาจอยางไมลดละ
สําหรับสัตวปกแลวสิ่งมีชีวิตประเภทนี้มีความดึงดูดใจที่มีอันตรายถึงชีวิต หากได
กลืนกิน พละกําลังของตนจะเพิ่มมากขึ้น แตหากถูกยอนกลับมาสังหาร เชนนั้นก็นา
โศกเศรา
“ครืน” “ครืน”
ปฐพีสั่นไหวเบาๆ มดสีทองแดงตัวหนึ่งปรากฏขึ้น มีความยาวเพียงจั้งกวา ทุกยาง
กาวสะเทือนโลกหลาแตกราว ราวกับภูเขาหนึ่งลูกเคลื่อนไหว
“มดวิเศษ ทายาทแมลงวิเศษบรรพกาลปรากฏขึ้นอีกชนิดหนึ่งแลว เมื่อครั้งอดีต
กาล พวกมันโผลมาเปนกลุม เคยเปนราชันในหนึ่งชวงเวลาอันนากลัว ทุกตัวลวน
สามารถเคลื่อนยายขุนเขาถมทะเลได พละกําลังมหาศาลอันไมสิ้นสุด” มีคนสูดลม
หายใจเย็นเยียบ
“โชคดีที่มาเพียงตัวเดียว”
“เปนไปไมได พวกมันอาศัยกันเปนกลุมมาโดยตลอด จะมีตัวเดียวไดเยี่ยงไร!”
เปนไปตามคาด เมื่อเสียงพูดหยุดลง ผืนดินสั่นสะเทือนอีกครา ปรากฏสีทองสําริด
ไปทั่วบริเวณในที่หางไกล สิริรวมทั้งสิ้น 12 ตัว แตละตัวแข็งแรงมากพลัง สามารถ
กระแทกชนเขาหินใหแหลกละเอียดได
หนึ่งในนัน้ มีมดวิเศษตัวหนึ่งที่ไมใชสีทองแดง แตปรากฏเปนสีเงิน ระยับแสงสวาง
พรางพราย แข็งแกรงมากพลังยิ่งกวา เพียงเขาประชิด ก็ทําใหฝูงชนหวาดผวา
“ตัวนี้มีพลังแหงสายเลือดที่นาสะพรึงกลัวยิ่งนัก!” คนทั้งหมดตางยําเกรง นี่ตองเปน
คูตอสูที่นากลัวกลุมหนึ่งเปนแนแท
แสงสวางไหลหลั่งไปทั่วทุกสารทิศ พืชตนหนึ่งรูปรางคลายดอกแดนดิไลออนปรากฎ
ขึ้น มิใชตนหญาแตอยางใด แตเปนตนไมหนึ่งตน กิ่งกานและใบไมเขียวชอุม ครึ่งบนมีลูก
กลมสีขาวลูกหนึ่ง กําจายแสงแวววาว ดุจขนสีขาว มีบางสวนหลุดรวงมาตลอดเวลา
ลองลอยไปไกล
“ตนแดนดิไลออนปศาจ!”
คนมากมายหวาดกลัว ถอยหลังเกรียวกราว ปุยฝายสีขาวที่หลุดรวงเปนอันตรายถึง
ชีวิต ไดรับสมญานามวา ฝอยปศาจแหงคําสาปแชง เพียงหลนลงบนรางกาย จะฝงราก
ทันใด ดูดซึมพลังปราณ
เมื่อครั้งดึกดําบรรพ เคยมีตนแดนดิไลออนปศาจตนหนึ่งบําเพ็ญตนจนแกกลา เคย
สังหารเทพเจา ฝอยปศาจรวงหลน ฝงรากลงกายของเทพเจาองคหนึ่ง ดูดพลังปราณทั้ง
รางจนสะอาดหมดจด
ตอมา เหลานักปราชญรวมลงมือเขนฆาตนแดนดิไลออนปศาจนั่น แตก็หลั่งเลือด
วิเศษอันไมสิ้นสุด ศึกครั้งนั้นลําบากยากเข็ญอยางหาที่เปรียบไมได
แมตนแดนดิไลออนปศาจจะเปนตนไม แตรากฝอยของมันดั่งฝาเทา สามารถอาศัย
มันชวยเดินเหิน ทั้งยังวองไวอยางที่สุด เมื่อถึงที่นี่ มันฝงรากลงผืนดินทันที ดูดซึมพลังฟา
ดิน ไมขยับเขยื้อน
ฝูงชนประหนึ่งหลบอสรพิษ หลีกทางแกมันหนึ่งอาณาเขต ไมมีผูใดยินยอมเขาใกล
ทันใดนั้น เกิดลมพายุคลั่ง เม็ดทรายลอยลองกอนหินเกลือกกลิ้ง พญานกตัวหนึ่งบิน
โฉบลงมาจากฟาสูง เนื้อตัวสีเขียว แตกลับมีลายจุดสีชาดระยิบระยับ สองแสงสวางเจิด
จา จะงอยปากเปนสีขาวสะอาด สิ่งที่พิเศษอยางยิ่งคือ มันมีขาขางเดียว แตเมื่อลงสู
พื้นดินกลับมั่นคงยิ่งนัก สะเทือนผิวดินจนแตกราว
“ปฟาง นี่เปนปฟางในตํานาน!” มีคนอุทาน
เมื่อฝูงชนไดยินลวนแปรเปลี่ยนสีหนา ปกษาประหลาดเชนนี้พบเห็นไดยากยิ่งนัก
แตเมื่อครั้งบรรพกาล มันเคยเปนจอมปศาจแหงทิศ ฉายาปกษาปศาจชั้นฟา ไรเทียม
ทาน จาวแหงเผาพันธุนี้เคยเขมือบเหลาทวยเทพทั้งเปนมากอน
คนทั้งหมดตางลาถอย ปกษาปศาจเชนนี้มีนอยผิดปกติ ไมรูวาสายเลือดของปฟาง
ตัวนี้บริสุทธิ์เพียงพอหรือไม หากเปนปกษาอสูรชั้นฟาวัยเยาวจริง คาดวายามอาปากจะ
สามารถเขมือบกลุมอัจฉริยะได
ปฟางรูปรางดุจนกกระเรียน มีสีเขียวทั้งกาย ประดับดวยลายจุดสีชาด จะงอยปากสี
ขาว แสงสวางวิเศษรายลอมทั่วรางกาย เจิดจาพราตา
มันชายตามองฝูงชน กวาดสายตาผานรางกายของพญานกสีทอง ซวนหนี ปเซี๊ยะ
มังกรชือตามลําดับ มันยืนอยูเพียงลําพังอยางไมขยับเขยื้อนพลางสํารวจภายในบาน
ประตู
ละแวกประตูสูงตระหงาน สิ่งมีชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ เบียดเสียดยัดเยียด มืดฟามัวดิน
มองไมเห็นที่สิ้นสุด ลวนนากลัวอยางหาที่เปรียบมิได ตางก็เปนอัจฉริยะของแตละ
เผาพันธุ
เมื่อมาถึงที่นี่ มนุษยผูกลาทั้งหลายลวนแปรเปลี่ยนเปนระแวดระวัง ไมกลาประมาท
มิเชนนั้นอาจถูกสิ่งมีชีวิตนากลัวตัวหนึ่งฉีกทึ้งก็เปนได
“นองชาย!” ทันใดนั้น เจาตัวเล็กเผยสีหนาแชมชื่น เขาสายตาดี มองเห็นสิงโตเกา
เศียรกลางกลุมสิ่งมีชีวิต เพราะมันสะดุดตาเปนอยางมาก งามอรามทั้งกาย ประหนึ่ง
หลอมจากทองคํา แมนอยูที่ใดก็ดึงดูดสายตา
ยามสิงโตเกาเศียรไดยินเสียงก็พลันหยุดชะงัก มันกําลังสนทนากับเหลาสหาย ไมคิด
วาจะไดยินเสียงดุจมารรายเชนนี้
เจาตัวเล็กไมแยแส เบียดตัวเดินไปขางหนา เมื่อสิ่งมีชีวิตรอบๆ เห็นวาเปนมนุษยก็
บันดาลโทสะอยางทนไมไหว แตไมคิดวาชายหนุมคนนี้มีพละกําลังมหาศาล ผลักเหลาผู
กลาทั้งหลายไปอีกฟากหนึ่ง
“มนุษย เจายางกรายเขามาในบริเวณที่ไมควรยางเทาเขามา!” มีสิ่งมีชีวิตตักเตือน
บริเวณนี้ลวนเปนทายาทอสูรบรรพกาล แตละตัวยิ่งใหญเหลือหลาย มนุษยไมอาจหาญ
มาที่นี่
“อยายั่วโมโหขา!” เจาตัวเล็กตอบกลับเชนนี้ ทําใหสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญกลุมนี้ฉงน
สงสัย
“โฮก…” สัตวอสูรตัวหนึ่งคํารามอยางพิโรธ กําจายกลิ่นอายชั่วราย ขนทั่วกายระยับ
แสงสวาง ทรงพลังอยางนาสะพรึงกลัว
“ขาขอเตือนเจา อยามาขบเขี้ยวเคี้ยวฟนตอหนาขา มิเชนนั้นขาจะกินเจาเสีย!” เจา
ตัวเล็กหันหลังทันใด เผชิญหนากับสัตวอสูรตัวนั้นแลวดุดาเสียงดัง
ทันใดนั้น สิ่งมีชีวิตกลุมนี้แข็งเปนหิน มิไดฟงผิดไปหรอกกระมัง? ไยวาจาจึงพิกล
เชนนี้ ปกติมีแตทายาทอสูรบรรพกาลคุกคามมนุษยมิใชหรือ ขูวาจะกินพวกเขาเสีย ไฉน
วันนี้จึงกลับตาลปตร? ยิ่งไปกวานั้น เด็กเหลือขอคนนี้ยังเยาววัยถึงปานนี้!
“เจามนุษย เจาไมอยากมีชีวิตตอแลวรึ?” สัตวอสูรตัวนี้กระโจนไปขางหนาอยาง
ดุดัน อักขระไหลบาเขามาดั่งน้ําปา
เจาตัวเล็กไมเอยคําใด สะบัดขาอยางรุนแรง อักขระจํานวนมาก มวนตัวไปประหนึ่ง
เกลียวคลื่น เสียงปงดังขึ้น ฝาเทาของเขาชนกับสัตวอสูรตัวนั้น
ขณะที่ฝูงชนคิดวาเขาจะถูกเขมือบขาหนึ่งขาง สัตวอสูรโหดเหี้ยมตัวนั้นกลับรอง
โหยหวน เขียวหลุดรวงทั้งปาก เลือดไหลเปนทางยาว รางกายมหึมาลอยพาดขึ้น
สิ่งมีชีวิตอื่นๆ หลบซอน สัตวอสูรตัวนี้กระแทกลงบนพื้นดังตูม ลุกไมไดอีกตอไป
กระดูกขากรรไกรหัก รองคร่ําครวญไมขาดสายอยูตรงนั้น
ทายาทอสูรบรรพกาลกลุมนี้ตางพรั่นพรึง มนุษยหนุมผูนี้ยิ่งใหญเสียจริง เพียงหนึ่ง
เทาก็จัดการสัตวอสูรตัวหนึ่งจนเรียบ
“อยายั่วโมโหขา!” เจาตัวเล็กหมดความอดทนอยางเห็นไดชัด ทําปากพองลม เบิก
ตากวาง กวาดตามองเหลาทายาทอสูรทั้งหลาย
จากนั้นเขาก็เดินไปขางหนา ผลักเผาพันธุยิ่งใหญเหลานี้ กองพวกเขาไวมุมหนึ่ง มุง
หนาเดินไปดวยความกลาหาญเปนอยางยิ่ง
ทายาทอสูรเหลานี้ตะลึงงันอยางสิ้นเชิง ผูใดเปนอสูรกันแน? เด็กคนนี้อํามหิต
เหลือเกิน ประหนึ่งเขาสูดินแดนไรผูคน ฝาเขาสูถิ่นของพวกมันโดยตรง เหวี่ยงพวกมันไป
อีกมุมหนึ่งอยางไรความอดทน
กลับตาลปตรจริงๆ พวกมันไมอยากจะเชื่อเลย
ไกลออกไป เหลามนุษยอัจฉริยะก็มองดูจนตาคาง แมทามกลางพวกเขาจะมีบุคคล
ยิ่งใหญ มิเกรงกลัวทายาทอสูรบรรพกาล แตก็ไมหาวหาญปานนี้
เด็กคนนี้อํามหิตเหลือเกิน!
เจาตัวเล็กเปดทางดานหนา นกแดงยักษเดินตามหลังตอยๆ พูดอยางยโสโอหังไม
หยุดวา “หลีกไป หลบไป ไมเห็นรึวาเด็กอํามหิตกําลังเดินทาง รีบหลบไปใหพน อยามา
โทษวาขาไมเตือนพวกเจา หากยังไมรูกาลเทศะจะถูกกินจนเหี้ยน!”
สิ่งมีชีวิตเหลานี้ตะลึงงันเล็กนอย แคะหูเพื่อใหแนใจวาฟงไมผิด เด็กคนนี้จะกินพวก
มันจริงอยางนั้นหรือ? ลบลางความเขาใจที่มีตอมนุษยจนหมด
โดยเฉพาะเมื่อมองเห็นนกแดงยักษที่เปนทายาทอสูรบรรพกาลยิ่งใหญตัวหนึ่ง นอบ
นอมถึงเพียงนี้ เหลาตางพันธุที่โกรธเกรี้ยวในตอนแรกตางระงับโทสะไวชั่วขณะ
เตียวมวงกล้ํากลืนฝนทน เดินหนาตามไป มันหวาดกลัวเล็กนอย แมตนจะยิ่งใหญ
ตามหลังเจาเด็กอํามหิตคนนี้ก็ยังรูสึกอกสั่นขวัญแขวนอยูบาง นี่มันกลาหาญเกินไปแลว
เจาตัวเล็กเดินขามไป มาถึงเบื้องหนา กลาวพลางยิ้มอยางไรเดียงสาวา “นองชาย!”
สิงโตเกาเศียรรางกายแข็งทื่อ มันไมตองการพบเจอเด็กเหลือขอคนนี้เลย รูสึกลําคอ
ชาเล็กนอย หันหัวกลับมาอยางยากลําบาก
“เจายังมีชีวิตอยูรึ?” มันมีสีหนาสับสน รูสึกชิงชัง โมโห และซาบซึ้งตอเด็กคนนี้อยู
บาง แมจะเกิดเรื่องราวที่ทําใหมันเคียดแคนมากมาย แตในชวงเวลาคับขัน อีกฝาย
ขัดขวางผูกลาทั้งสี่เพื่อมันอยางไมคิดชีวิต เปดหนทางรอดชีวิตแกมัน
“แนนอน ตาแกสี่คนนั้นถูกขาจัดการไปสอง” เจาตัวเล็กกลาวอยางไมยี่หระ
สิงโตเกาเศียรไดยินก็นิ่งงัน ภายใตสถานการณอันตรายเชนนั้น เด็กอํามหิตคนนี้ยัง
สามารถตอบโตขณะจนมุมไดหรือ? แตทวาเห็นเขายังคงกระโดดโลดเตนไดเชนเดิม
ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ สิ่งที่พูดมาคงเปนความจริง
“นองชาย เจาไมเปนไรก็ดีแลว ขาเกรงวาเจาจะประสบอันตราย” เจาตัวเล็กเดินมา
ตบอุงเทาเจิดจาดุจหลอมจากทองคําของมัน
เหลาทายาทอสูรบรรพกาลที่เคยขัดขวางเจาตัวเล็ก คางแทบจะตกลงกับพื้น ตะลึง
จนตาถลนตกเต็มผืนดิน ที่เขารองเรียกวานองชายคือสิงโตเกาเศียรรึ?
สิ่งมีชีวิตทั้งหลายตะลึงพรึงเพริด นั่นเปนถึงทายาทอสูรบรรพกาลที่ไดรับการขนาน
นามวา ผูเคยสังหารเทพเจา สายเลือดยิ่งใหญไรเทียมทาน สิ่งมีชีวิตทั่วไปไมอาจหาญเขา
ใกล มนุษยหนุมคนนี้กลับทําตามอําเภอใจ เรียกมันวา… นองชาย!
สิงโตเกาเศียรสวางไสวทั้งตัว ถลึงดวงตาดวยความโกรธ ทรงพลังอยางนาตกตะลึง
แทบจะระเบิดโทสะ ถูกเรียกขานวานองชายตอหนาทายาทอสูรมากมายปานนี้ ชางอับ
อายขายหนาเสียจริง
“นองชาย เจาคิดจะแปรพักตรรึ? อยาหาวาขาไมเกรงใจ!” เจาตัวเล็กถลึงตา หมด
ความอดทนอยางสิ้นเชิง มันกาวเดินไปขางหนา จดจองสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญที่รางกาย
ประหนึ่งแสงทองลุกโชติชวง
สิงโตเกาเศียรเกิดความเครงขรึมอันนากลัว เพงมองไปดานหนา แตเมื่อสบตาอยู
ชั่วขณะ มันแพพายสิ้นดี ดวยเกรงวาเด็กเหลือขอจะคลุมคลั่ง กระหน่ําทุบตีมันตอหนา
ฝูงชน พูดเสียงเบาวา “มิตรภาพก็คือมิตรภาพ แตอยาเรียกขานขาเชนนี้ไดหรือไม?”
“กลัวอะไร เจาเปนนองชายขา มีสิ่งใดหนาอับอายกัน ผูใดกลาหัวเราะรึ?” เจาตัว
เล็กกวาดตามองรอบๆ
สิ่งมีชีวิตที่ขวางทางเขาเมื่อครูไมมีผูใดหัวเราะ รูสึกรางกายเย็นยะเยือก
อยางไรก็ตาม มีสัตวตางพันธุไมกี่ตัวละแวกใกลเคียงที่ไมใหเกียรติ มีคนพูดพลางยิ้ม
เยาะวา “ขาวานะสิงโตเกาเศียร เจายอมใหมนุษยคนหนึ่งเปนพี่นองจริงๆ หรือ? ชาง
ขายหนาขายตานัก”
“นั่นสิ พี่นองขาเปนมิตรกับเจา เจากลับเรียกขานมนุษยคนหนึ่งวา พี่ชาย จะให
พวกขายอมรับไดอยางไร?”
สิ่งมีชีวิตที่ปริปากพูดเปนเผาพันธุเดียวกัน พวกเขามีรางกายเปนมนุษย ทวาศีรษะ
ไมคลายคลึงมากนัก มีขนาดใหญกวา ทั้งยังมีดวงเนตรกลางระหวางคิ้ว
นี่เปนผูกลาแหงเผาสามเนตร เปนทายาทอสูรบรรพกาล พวกเขาเปนพี่นองรวม
สายเลือด เขาสูเขารอยยอดพรอมกัน พละกําลังแข็งแกรงและนาตื่นตะลึง
“ขาวานะเกาเศียร เจาชางทําใหขาตกใจเหลือเกิน ไมคิดวาจะเอามนุษยหนุมคนนี้
มาเปนพี่นอง มีความลับอยูในกํามือของเขาใชหรือไม หรือใหขาชวยกินเขาเสียดีไหม?”
บัดนี้ นกหลวนตัวหนึ่งเอยปาก ปกนกสวยสดงดงาม กะพริบแสงอันมีสีสัน
นี่ตองเปนสัตวประหลาดที่พาลใชอํานาจบาตรใหญอยางแนแท บรรพชนของมัน
เปนนกวิเศษบรรพกาลเลื่องชื่อลือนาม อานุภาพสะเทือนโลกหลาเมื่อวันวาน ยากจะพบ
เจอศัตรู
“พวกเจาทั้งสองไสหัวไปเสีย” เจาตัวเล็กใจกลายิ่งนัก เมื่อไดฟงความก็มุงหนาเขา
ประชิด มือชี้ผูกลาสองตนแหงเผาสามเนตรแลวกลาววา “นับวาพวกเจาโชคดี ขาไมกิน
สิ่งมีชีวิตรูปรางมนุษย ไปยืนอีกมุมไป!”
เขาตวาดเสียงดัง มิไดเห็นผูกลาทั้งสองอยูในสายตาแมแตนอย มันยอมกอใหเกิด
ความจลาจลวุนวาย สิ่งมีชีวิตนับไมถวนตางมองมา
“เจา!” เขาชี้ไปยังนกหลวนสีรุงแลวพูดวา “เจาลองคิดพิจารณาวาจะเตรียมตัวถูก
ยางหรือตม ขาใหโอกาสเจาไดเลือก”
ทันใดนั้น เกิดเสียงดังเกรียวกราวนอกประตู ไมวาจะเปนมนุษย หรืออัจฉริยะตาง
พันธุ ตางตะลึงพรึงเพริด เสียงอึกทึกครึกโครมดังเซ็งแซ
บทที่ 140 สําแดงพลังชั่วรายแหงมนุษย
นกหลวนสีรุงไดยิน ขนนกทั่วทั้งกายก็ลุกชัน โดยเฉพาะขนนกสวยสดงดงามที่สุด
กระจุกหนึ่งบนหัวนั้น สวางเจิดจาทั่วกาย มันเบิกตาดวยความโกรธ ฉายแววเหี้ยมโหด
ออกมาเปนระลอก
“มนุษย เจารูหรือไมวากําลังพูดอยูกับใคร?!” วาจาของมันดังครืนครัน ดั่งมีดดาบสง
เสียงกึกกอง มีความนาเกรงขาม
“ก็แคนกตัวหนึ่งมิใชหรือ เปนเพียงอาหารเทานั้น” เจาตัวเล็กเอยอยางไมแยแส
ชายตามองมัน ความหมายคือ เจาวิเศษวิโสมากหรือ?
นกหลวนแผดรองสะเทือนฟากฟา แสงสวางอันมีสีสันเปลงประกาย ขนนกหลากสี
ลอยออกมาเปนกอบเปนกํา ประหนึ่งลูกศรวิเศษสีรุงพุงมาจูโจม สงเสียงดังทะลวงนภา
เสียงวิ้งนาสะพรึงกลัว โจมตีหวางคิ้วของเจาตัวเล็ก
“โฮก…” สิงโตเกาเศียรคําราม แสงสีทองลุกโชติชวง ทวมทนเบื้องหนา ขัดขวางลูก
ธนูที่แปลงกายจากขนนกหลากสี หยุดสกัดมันอยูกลางอากาศ
“สหายสิงห เจาหมายความวาอยางไร?” นกหลวนสีรุงใบหนึ่งขึงขัง บงบอกวาไม
พอใจเปนอยางมาก
“สหายหลวน ไมจําเปนตองทําเชนนี้ อยาใชกําลังเลย” สิงโตเกาเศียรกลาว หาก
เปนผูอื่นก็ชางเถิด แตปูของนกหลวนตัวนี้มีมิตรภาพอันดีงามกับราชันเกาเศียร ไม
สามารถทนมองมันประสบเคราะหรายได เพราะมันรูดีวาเด็กเหลือขอนั่นอํามหิตเพียงใด
หากวายั่วโมโหเขา บางทีอาจกินนกหลวนเขาไปจริงๆ ก็เปนได
เจาตัวเล็กพูดอยางไมพอใจวา “นองชาย ไยเจาตองขัดขวางเหยื่อของขา นก
ประหลาดเยี่ยงนี้พบเห็นไดยากนัก คิดวาตองอรอยมากเปนแน”
นกหลวนสีรุงขนลุกขนชัน สองแสงพราวระยับ พูดดวยนัยนตาแดงก่ําวา “มนุษย
เจาพูดอีกคราซิ?”
เจาตัวเล็กไมไยดีแมแตนอย ไมเปดปากอีกตอไป ยางสามขุมไปดานหนาทันที ใช
การเคลื่อนไหวสนทนา เขาประชิดนกหลวนสีรุงดวยใบหนาถมึงทึง เขาเกลียดการ
คุกคามจากสิ่งมีชีวิตตางพันธุ
สิ่งมีชีวิตที่มุงดูตางตะลึงงัน มนุษยหนุมคนนั้นแข็งแกรงยิง่ นัก ไมเกรงกลัวนกหลวน
สีรุง นี่เขาจะกินมันจริงๆ หรือ?
“มนุษย เจาชางผยองเหลือเกิน…” ชั่วขณะที่นกหลวนสีรุงยังมิไดเคลื่อนไหว ผูกลา
แหงเผาสามเนตรเอยปากอีกครั้ง มุมปากปรากฏรอยยิ้มเย็นเยือก
“หากไมยั่วยุขา ขาก็ไมระรานใคร” เจาตัวเล็กหันกลับมา มองพวกมันแลวพูดวา
“ขาพูดแลวมิใชหรือ พวกเจาทั้งสองมีรางมนุษย ไมอยากกินพวกเจา อยายั่วขา!”
สองพี่นองแหงเผาสามเนตรพลันมีสีหนาเครงขรึมขึ้นมา แตไหนแตไรมาเปนพวกเขา
ที่ขมขูผูอื่น ไมเคยมีผูใดอาจหาญเอยวาจะกินพวกเขาหรือไมกินพวกเขาตลอดเวลาเชนนี้
“วันนี้ใครก็หามลงมือ พวกขาจัดการเอง!” หนึ่งในสองพีน่ องพูดเสียงทุม
“เจานี่เอง พบกันอีกแลว” ในตอนนี้เอง มีเสียงหัวเราะเย็นยะเยือกลอยมา งู
ประหลาดยาวหลายหมี่ตัวหนึ่งโผลมา ขนาดไมหนามากนัก แตกลับนาพรั่นพรึงเปน
อยางมาก
มันมีเนื้อตัวแดงฉาน ประหนึ่งหลอมจากธาตุทอง นับตั้งแตสวนหัวลงมาเริ่ม
แบงแยก มีรางกายสองราง ขางอกออกมาหกขา ปกสองคู เกล็ดแนนขนัด พิสดารและ
อัปลักษณ
นี่คือเฝยหยี ทายาทอสูรบรรพกาล พบเจอกับเจาตัวเล็ก ณ เมืองตัดนภา เคยสะบัด
หางมาหาเรื่องและจูโจมตัวเล็กจนเกือบจะเกิดการปะทะ
“เจางู เจาอีกแลวหรือ หากยั่วยุอีก ครั้งนี้ขาจะไมใหอภัยเจาแน” เจาตัวเล็ก
ตักเตือน
ภายในบานประตูสูงตระหงาน มานหมอกแนนหนา แสงวิเศษลอยขึ้นเปนสายเปน
สาย ตามตํานานกลาววา ลวนเปนอาวุธล้ําคาอันยิ่งใหญ มีญาณวิเศษ เจิดจาพราตา
แตนอกประตู สิ่งมีชีวิตมากมายเบียดเสียดยัดเยียดอยูที่นี่ กลับไมกลามุทะลุบุมบาม
ไมไดเขาไปทันใด สายตาของฝูงชนถูกเจาตัวเล็กดึงดูดไวเสียแลว
เฝยหยีฮึดฮัด รางกายแดงฉานดุจเลือดสองแสงระยิบระยับ นัยนตาเยือกเย็นอยาง
หาที่เปรียบมิได มันพูดวา “ที่นี่มิใชเมืองตัดนภา ไรผูอาวุโสของเจาคอยคุมกัน ยังไมถึง
คราเจาผยองลําพองตน ณ ที่แหงนี้”
“วูว ครึกครื้นเสียจริง ไมมีมนุษยกลายั่วยุหาเรื่องพวกขามาเนิ่นนานแลว” นกกาไฟ
ตัวหนึ่งกลาว เนื้อตัวสีดํา เปลวไฟสีดําผุดออกมาเปนกลุมๆ เปนสหายเกาของสิงโตเกา
เศียรเชนกัน
สิงโตเกาเศียรกลัดกลุม บัดนี้คึกคักแลว ทั้งหมดลวนเปนสัตวประหลาดยิ่งใหญ อีก
ทั้งยังมาจากเผาพันธุที่มีความเปนมาอันใหญยิ่ง ตอนนี้รวมตัวกันเชนนี้จะเปนเรื่องดีได
อยางไร
“แดงใหญ!” เจาตัวเล็กรองเรียก แมในตอนนี้เขาก็ไมมีความหวาดกลัว กลับกันเขา
ฮึกเหิมเปนอยางมาก กะพริบตาปริบๆ จองมองฝูงสัตวประหลาดแลวปาดน้ําลาย
“อยูนี่แนะ” นกแดงยักษโผลมาดวยความลิงโลด รุดขึ้นมาประชิด
“เร็วเขาชําระลางหมอดําของเจาใหสะอาดสะอาน ตมน้ําหนึ่งหมอ เตรียมกินอาหาร
มื้อใหญ!” เจาตัวเล็กออกคําสั่ง
นกแดงยักษขมวดคิ้ว นั่นเปนถึงอาวุธล้ําคาของมัน คลายคลึงหมอดํา แตมันทําจาก
ไขนก ไอวิเศษเขมขน มูลคามหาศาล ทวามันก็ผอนคลายอยางรวดเร็ว หนาชื่นตาบาน
ตุนทายาทอสูรบรรพกาลหนึ่งหมอ เพลิดเพลินกับมื้ออาหารอันโอชะจะขาดมันไปได
อยางไร?
“ไดเลย ขาไปตมน้ํา!” มันสํารวจทั้งสี่ทิศ คนหาแหลงน้ํา สุดทายพบตาน้ําพุริม
ประตู
นกหลวนสีรุงอดทนมาเนิ่นนานแลว จึงเตรียมกระพือปกบินมา แตกลับถูกแสงทอง
สกัดกั้น สิงโตเกาเศียรขัดขวางมัน ไมวาจะอยางไรก็ตาม จะตองปกปองมันใหได เพราะ
ทั้งสองเผาพันธุเปนมิตรสหายกัน
“เจากาวขามเสนตายแลว หาเหตุใสตนแทๆ!” คนพี่ของเผาสามเนตรลงมือทันที
อยางปราศจากความลังเล
หวางคิ้วของเขาเกิดแสงสวางโชติชวง สองแสงสีน้ําเงินออกมา ลําแสงนากลัว เจาตัว
เล็กหิ้วกอนหินหนักกวาหมื่นชั่งขึ้น กระแทกลงบนแสงสีน้ําเงิน เสียงดังตูม กอนหิน
ระเบิดกลางนภาทันที กลายเปนผุยผง รวงพรั่งพรูลงสูพื้นดิน อานุภาพเชนนี้สะเทือนจน
สิ่งมีชีวิตเหลานี้อกสั่นขวัญแขวน ประหวั่นพรั่นพรึง
“แควก”
เจาตัวเล็กยกมือ แสงสีทองตรงฝามือเจิดจา สายฟาลอยออกมา ชนกับแสงสีน้ําเงิน
ระเบิดกลุมแสงพราตาขึ้นกลางอากาศโดยพลัน ลําแสงสาดทอ รวงหลนบนผิวดินและ
กอนหิน สงเสียงพึ่บพั่บเปนระลอก ปรากฏหลุมลึกนากลัวหลุมแลวหลุมเลาบนผิวดิน
“มีฝมือ” ผูกลาแหงเผาสามเนตรออกแรงกระทืบพื้น ทําใหแผนดินทลายแตกแยก
ทันตา รอยแยกสีดําแผขยายออกไปไกลหลายสิบจั้ง เห็นไดวาพลังกายของมันนากลัว
เพียงใด
ผมสีเงินของมันปลิววอน กระโดดขึ้นสูชั้นฟาในบัดดล สองแขนกางออก พุงดิ่งตรง
มาขางหนา ประหนึ่งครุฑกระพือปก ปราดเปรียวอยางที่สุด กลิ่นอายนากลัวเยี่ยงนั้นนา
สะพรึงกลัวเหลือเกิน
ฝูงชนหวาดกลัวอยางหาที่เปรียบมิได พลังของเขาเปยมลนยิ่งนัก เสมือนน้ําปาปะทุ
เฉียบพลันอยางแทจริง ไหลบามาจากกลางขุนเขามากเหลือคณานับ ทําใหผูคนไมอาจ
เผชิญหนา ไมกลาลูบคม!
“แข็งแกรงเหลือเกิน ดุจดั่งเจินโหวถือกําเนิดในรางมนุษย!”
“ไยจึงยิ่งใหญเพียงนี้ เผาสามเนตรนาตื่นตะลึงโดยแทจริง สมกับเปนหนึ่งใน
เผาพันธุผยอง พรสวรรคอันฟาประทาน มิใชสิ่งที่สิ่งมีชีวิตอื่นจะทัดเทียมได”
ฝูงชนอุทานอยางตกตะลึง
อัจฉริยะแหงเผาสามเนตรผูนี้พุงตรงเขามา ขับเคลื่อนพายุคลั่ง เม็ดทรายปลิววอน
กอนหินเกลือกกลิ้งบนธรณิน เมฆหมอกกระเพื่อมขึ้นลง ทั้งยังมีแสงสวางแปลบปลาบ
เขยาขวัญผูคนอยางยิ่งยวด
ขณะที่ฝูงชนใจเตนและตื่นตะลึงนั้น สิงโตเกาเศียรทนดูตอไปไมได หันหลัง
ประจันหนากับอีกฟากหนึ่ง เพราะมีเพียงมันทีร่ ูวารางกายของเจาตัวเล็กนากลัวเพียงใด
การตอสูกับเขา ใชแคเคล็ดวิชาล้ําคาก็เพียงพอแลว ไยตองพุงกระโจนเขาโจมตีดวยเลา?
เขาแสดงวาเห็นอกเห็นใจตอผูกลาแหงเผาสามเนตร
“ตูม”
แสงสีน้ําเงินสวางไสว ผูกลาแหงเผาสามเนตรทะยานลงจากฟากฟา สองเทาเหยียบ
ลง หมายย่ํากระดูกหนาผากของเจาตัวเล็ก นี่เปนการปดฉากการตอสูดวยทวงทาอัน
แข็งแกรง ใชหนึ่งเทาย่ํากะโหลกของศัตรูจนแหลกละเอียด
เจาตัวเล็กสองตาสุกใส เมื่อเผชิญกับการโจมตีเชนนี้ ยืนอยูที่เดิมไมขยับเขยื้อน เขา
เพียงยื่นมือขางหนึ่งออกมา ทําลายอักขระสีน้ําเงินสุกสวางนั่น จากนั้นควาขอเทาของผู
กลาแหงเผาสามเนตรดังปง จองจําดวยพลังมหาศาลอันนากลัว ตอมาก็เหวี่ยงอยาง
รุนแรง กระแทกลงบนพื้นดินดังตูม
รอยแยกเปนทางแผขยายบนผิวดิน หนึ่งวัตถุรูปรางคลายมนุษยถูกกระแทกเขาไป
ยังหินโคลน ชักเกร็งทั้งตัว กระอักเลือดคําใหญ ฝุนควันพวยพุง
อัจฉริยะของแตละเผาพันธุใหญแข็งเปนหิน ไมมีผูใดคาดคิดวาจะเปนเชนนี้
แตกตางกันเหลือเกิน
ผูกลาแหงเผาสามเนตรโจมตีดวยความแข็งแรง หนึ่งเทาเหยียบลง แตกลับถูกมนุษย
หนุมคนนั้นควาไวได เสมือนโยนลูกไก ทุมลงบนพื้นหินทันที นี่มันชางนาตกใจเสียจริง
“โอย…”
ผูกลาเผาสามเนตรตาเหลือก แทบจะสลบไสล รางกายของมันแข็งแกรง สะเทือน
พื้นหินจนแตกแยก แตตนเองก็เจ็บปวดอยางแสนสาหัส ปากพนเลือด ตองการกระเสือก
กระสนดิ้นรนขึ้นมา
อยางไรก็ตาม เจาตัวเล็กจับขอเทาของมันแลวเหวี่ยงอีกครั้ง กระแทกลงบนกอนหิน
ดังปง หนนี้ผูกลาสามเนตรสลบทันที กระดูกหักไมรูตั้งเทาใด
“ปลอยนองขาเสีย!”
อีกหนึ่งผูกลาแหงเผาสามเนตรพิโรธ เพียงวาดสองมือ แสงน้ําเงินดุจดาบ ฟน
แผนดินแยก ลอยมาอยางรวดเร็ว โจมตีกลางหลังเจาตัวเล็ก
“ผลุบ”
เจาตัวเล็กจับตัวเชลยศึกในมือขึ้นมากําบังดานหลัง สะเก็ดเลือดพุงขึ้น คนในกํามือ
สงเสียงรองโหยหวน เจ็บปวดจนตื่นจากการสลบไสล ถูกฟาดจนแทบจะเปนสองทอน
“นองพี่!” อัจฉริยะเผาสามเนตรอีกหนึ่งอุทาน เบาตาแทบถลน จูโจมมาขางหนา
อยางดุดัน
เจาตัวเล็กหันหลัง หิ้วตัวเชลยศึก เนื้อตัวระเบิดสายฟาสีทอง ลงมืออยางสุดกําลัง
ทะเลสายฟาเดือดพลานขึ้นมาทันใด ฟาดไปดานหนาจนสิ้น
“เปรี้ยง!”
การโจมตีของผูกลาเผาสายฝนพังทลาย กระอักเลือดคําใหญ ถอยหลังโซเซไป
ชางตื่นตะลึงนัก ตองรูวาเจาตัวเล็กใชพลังทั้งหมด ประหนึ่งสงครามรุนแรงครั้งใหญ
ไมสามารถสังหารเขาไดแตอยางใด เพียงแคสะเทือนจนกระอักเลือด เรือนกายดําเกรียม
เทานั้น เคล็ดวิชาล้ําคาและอักขระแหงเผาพันธุนี้นากลัวอยางแทจริง
เจาตัวเล็กไมพอใจ การโจมตีหนนี้ไมบรรลุผลตามที่คาดการณไว
แตทวา ในสายตาของผูอื่นนั้นกลับแตกตาง นี่มันนากลัวโดยแท นี่เพียงหนึ่งการ
โจมตีเทานั้น กลับทําใหผูกลาสามเนตรที่ยิ่งใหญไดรับอันตรายสาหัส
เสียงดังซวบ เจาตัวเล็กพุงออกไป อักขระทวมทนทองฟา ปกคลุมเบื้องหนา ผูกลา
สามเนตรซึ่งไดรับบาดเจ็บสาหัสยอมไมสามารถตอตาน โดยเฉพาะเมื่อยิ่งถูกเขาประชิดก็
ยิ่งอันตรายมากเทานั้น
เสียงโครมดังขึ้น ผูกลาเผาสามเนตรลอยลิ่ว เนื้อตัวดําเกรียม ควันขาวผุดลอยขึ้นมา
ลมลงบนพื้นแลวเกร็งกระตุก ไมสามารถลุกขึ้นไดอีกตอไป
เจาตัวเล็กโยนนองชายของเขาไวขางกาย ทั้งสองนอนเรียงราย ลวนไดรับบาดเจ็บ
สาหัส หมดหนทางจะลุกขึน้ ยืน
คนทั้งหมดพากันหวาดกลัว นี่ชางอํามหิตเหลือเกิน ไมกี่หนเทานั้น ก็จัดการผูกลา
อัจฉริยะทั้งสองไปเสียแลว
“ไยตองเปนรางมนุษยดวยเลา ขาเกลียดทายาทอสูรบรรพกาลเยี่ยงนี้!” เจาตัวเล็ก
บนอุบอิบ เคียดแคนเปนอยางมาก
ฝูงชนนิ่งงัน เขาจะกินจริงๆ ดวย
“นกหลวนตัวนั้นเลา ขาชอบกินที่สุด ไมวาจะยางสุก หรือตุนสุก ตองอรอยมากเปน
แน” เจาตัวเล็กหันหลัง จดจองทายาทปกษาเทพเจาที่มีลวดลายหลากสี ปกนกสวยสด
งดงามตัวนั้น
วินาทีนี้นกหลวนสีรุงหวาดกลัวขึ้นมาเล็กนอย คูพี่นองผูยิ่งใหญปานนั้นกลับพายแพ
เชนนี้ ถูกโคนลมทันที มันเขาไปก็ไมไหวแน
“เฮ ขาวาเจาแนะ รีบเขามาในหมอเสีย” เจาตัวเล็กตะโกนลั่น มุงหนาเขาประชิด
นกหลวน
“เจาโอหังเกินไปแลว ขาจะจัดการเจาเสีย!” นกหลวนสีรุงตวาดดวยความเดือดดาล
ดิ้นรนออกจากอุงเทาของสิงโตทองคํา กระพือปกเหินเวหา รางกายสองแสง วาดอักขระ
ทวมทนทองฟา
เจาตัวเล็กจองเขม็ง เตรียมการตอสู
แตในตอนนี้เอง แสงสีแดงพุงมาเปนสาย นากลัวอยางหาที่เปรียบมิได จูโจมทาย
ทอยของเขาอยางเงียบเชียบ โหดรายและทารุณ หมายทะลวงกะโหลกของเขา
เฝยหยีลงมือ ปากพนมีดบินที่รายลอมดวยเปลวไฟออกมาดามหนึ่ง ยาวเพียงฝามือ
แตกลิ่นอายนาสะพรึงกลัว สีแดงสดงดงาม
“ตูม”
เจาตัวเล็กเบี่ยงตัวหลบหลีกมีดบิน ใชนิ้วมือปะทะใบมีดหมายชวงชิงเอามา ทวามีด
เลมนี้วิเศษยิ่งนัก หลบหลีกอยางรวดเร็ว อีกทั้งยังระเบิดเปลวไฟอันไมสิ้นสุด แผดเผา
แขนของเขา
ศึกใหญจะบังเกิดขึ้นเชนนี้เอง อักขระของนกหลวนกลางนภาลงสูพื้นดิน บนดิน
มีเฝยหยีลงมือ หนึ่งนกหนึ่งงูดุดันรวดเร็วดั่งสายฟา ลวนกะพริบแสงสวางโชติชวง
“ตูม!”
เจาตัวเล็กไมสงวนอีกตอไป เขาใชอาวุธล้ําคา กระจกล้ําคาซวนหนีปะทุสายฟา
ขนาดมหึมา ทําใหนกหลวนขนลุกขนชันไปทั่วกาย ไหมเกรียมเปนหยอม
“ฆามัน!” นกหลวนโกรธเกรี้ยว อาปากพนพัดล้ําคาสีรุงออกมา กอตัวจากขนนก
สิ้นเสียงดังโครม แสงสวางลอยออกมาเปนสาย ฟาดผิวดินจนเกิดหลุมใหญ
“แควก”
เจาตัวเล็กหลบได กระแสไฟลอยลอง เปาหมายสําคัญที่เขาโจมตีคือเฝยหยี งู
ประหลาดตัวนี้โหดเหี้ยมยิ่งนัก กําจัดใหไวจะเปนการดี
“เครง”
แสงสีแดงลอยวนเวียน มีดบินเลมนั้นโจมตีอีกครั้ง ระเบิดเปลวไฟลุกโหมมากขึ้น
หากพินิจมอง มันขัดเกลาจากเขี้ยวคมชิ้นหนึ่ง แวววาวประหนึ่งหินโมราแดง
เฝยหยีกําเนิดมาพรอมกับความแหงแลง นี่เปนเพราะพวกมันหยั่งรูเคล็ดวิชาไฟ มีด
บินเขี้ยวคมสีชาดถูกเปลวไฟหอหุม ฟาดฟนลงมาทันใด แผนดินแตกแยกดังครืนครัน
รอยแยกนาสะพรึงกลัว ทลายไกลออกไปรอยจั้งทันที
แมแตเจาตัวเล็กเองก็ตะลึงงัน หลบซอนอยางรวดเร็ว เจียนถูกฟน ทั้งยังเกือบตกลง
ไปในรอยแยกสีดํากวางหลายหมี่นั่น เขาเริ่มกระทําการอยางเอาจริงเอาจัง สูศึกครั้งใหญ
กับศัตรูทั้งสอง
เจาตัวเล็กพุงเปาไปที่เฝยหยีเปนสําคัญ ตองการกําจัดมันกอน แสงสายฟารายลอม
ทั่วกาย กลายเปนเงาสีทองพุงตัวออกไป มือกํากระจกล้ําคา ลงมือวองไวดุจสายฟา
ขณะนี้ ฝูงชนตางพรั่นพรึง เมื่อเห็นเขาแข็งแรงดั่งเทพเจาตัวนอยองคหนึ่ง แสงทอง
เจิดจาทั่วกาย พลังการโจมตียิ่งใหญจนผูคนสั่นสะทาน
เฝยหยีหนังหัวชาขึ้นมาโดยพลัน ไมคาดคิดแมแตนิดวา เจาตัวเล็กจะนากลัวยิ่งกวา
ที่พบเห็นครั้งแรกหลายเทาเชนนี้ มันเองก็เพิ่งจะบรรลุ ตองการจะกลืนกินเลือดของ
มนุษยหนุมคนนี้ ไมคิดวาหนนี้จะเตะแผนเหล็กเขา
แตวา ขั้นบําเพ็ญของมันนากลัวเหลือเกิน อยางนอยถือวามันโดดเดนเหนือผูอื่น
ทามกลางทายาทอสูรบรรพกาล มีศัตรูนอยยิ่งนัก
ตอตานอยางตอเนื่อง เปลวไฟทวมทนทองฟา รางกายของมันถูกเปลวไฟปกคลุม
แสงสวางสีแดงเริงระบํา เคล็ดวิชาล้ําคาลอยลอง ทลายแผนดิน สะเทือนกอนหินแหลก
ละเอียด
เขี้ยวคมชิ้นนั้นเปลงแสง กลายเปนมีดบิน ฟาดฟนไปทั่วอยางอิสระ ไรเทียมทาน
เดิมทีเจาตัวเล็กไมกลาโตตอบมากนัก ทําใหเหลาสัตวตางพันธุมองดูอยางประหวั่นพรัน่
พรึง
“เครง!”
ทันใดนั้น เจาตัวเล็กลงมือแลว เริ่มโตตอบมีดบินแดงฉาน ระเบิดอักขระและสายฟา
อันไมสิ้นสุด หมายกําราบอาวุธล้ําคาชิ้นนี้ สงเสียงดังเครง
เฝยหยีแปรเปลี่ยนสีหนา ศึกใหญผานไปหลายสิบครั้ง มันเกิดความคิดอยากลาถอย
เคล็ดวิชาล้ําคาถูกปลอยจนสิ้น เปลวไฟทวมทนทองฟา อับจนหนทางจะจัดการฝายตรง
ขาม และนี่เปนเพราะมีนกหลวนกลางนภาที่รวมมือสูศึก มันจึงจะหลบหนีทันใด
“อยากหนีรึ ไมงายดายปานนั้น!”
ดานหลังเจาตัวเล็กปรากฏจันทราวิเศษขึ้นหนึ่งดวง สีเงินสวางไสว ลอยออกมาในชั่ว
พริบตา ชนเขากับมีดวิเศษสีแดงของเฝยหยี
เสียงวิ้งดังขึ้นแผวเบา แสงสวางสีเงินขมุกขมัว จันทราสีเงินปกคลุมมีดบินแดงฉาน
แวววาวไว จองจํามันไวภายใน ทําใหมันบินหนีไมได
ตามการเพิ่มระดับพละกําลังของเจาตัวเล็ก การหยั่งรูและเขาใจเคล็ดวิชาล้ําคาของ
เขาก็ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เพราะเหตุนี้การเปลี่ยนแปลงจึงหลากหลาย อานุภาพแข็งแกรงไม
มีผูใดทัดเทียม
เฝยหยีหนาถอดสี สูญเสียอาวุธล้ําคาชิ้นนี้ไมไดเด็ดขาด มันแปลงจากกระดูกล้ําคาที่
แข็งแกรงที่สุดของตัวมันเอง ถูกมันปลุกเสกมาสิบกวาป จึงคอยๆ กอเปนรูปรางมีดบิน
มันพุงมาดานหนา หมายชวงชิงกลับไป เปลวไฟลุกโชติชวงมากยิ่งขึ้น พราตาอยาง
หาที่เปรียบมิได ทําใหพื้นดินกลายเปนลาวา เดือดพลานไมหยุดไมหยอน
“ของขา ของขา เปนของขาทั้งหมด!” เจาตัวเล็กยินดีปรีดา เก็บจันทราสีเงิน
กลับคืน ครั้งนี้ไมไดใชกรรไกรสีทอง ไมไดทําลายอาวุธล้ําคาของอีกฝาย จึงไดอาวุธอัน
สมบูรณแบบไรที่ติมาชิ้นหนึ่งในที่สุด
“คืนขา!” เฝยหยีพิโรธ สีหนาบูดบึ้ง
“ชริ้ง”
แสงทองลอยมา กรรไกรมังกรเจียวจําตองเคลื่อนไหว สิ้นเสียงดังพรึ่บ เกิดสะเก็ด
เลือดเปนสาย เฝยหยีแทบจะหักเปนทอน หลั่งเลือดเปนทางยาว
“ตูม”
ตอมา เจาตัวเล็กพลิกมือ กระจกล้ําคาสีขาววาววับสองสะทอน สายฟาผนึกกําลัง
ครั้งนี้ฟาดลงบนกายที่ไดรับบาดเจ็บสาหัสของเฝยหยีทั้งหมด มันยากจะปองกัน
“อาก…”
เฝยหยีกรีดรอง ไหมเกรียมทั้งตัว ลอยลิ่วออกไป ยากจะลุกขึ้นไดอีก
ขณะเดียวกัน เจาตัวเล็กเสกกรรไกรกระดูกสีทองอีกครา ปลอยมันพุงทะลวงเมฆา
ฟาดฟนนกหลวนกลางนภา
การโจมตีและการเคลื่อนไหวทั้งหมดทั้งมวลนี้เกิดขึ้นตอเนื่องในอึดใจเดียว ตั้งแต
เฝยหยีถูกกรรไกรกระดูกโจมตี กระทั่งกรรไกรพุงขึ้น รวดเร็วจนผูคนตอบสนองไมทัน
แสงทองหนึ่งเสนวาดผาน เสียงพรึ่บดังขึ้น นกหลวนกลางเวหารองลั่น ขนนกหลาก
สีรวงโรย สวนขาไดรับบาดเจ็บ ถูกฟนเนื้อขาดนับสิบกวาชั่ง หลนรวงลงพื้นดิน ในเวลา
เดียวกัน ปกของมันถูกกรรไกรรัดพัน แสงทองกะพริบไมขาดสาย สงเสียงดังครืนครัน
สุดทายมันหลุดพน หนีรอดออกไป แตวาปกขางหนึ่งกลับถูกบดขยี้จนเกิดหลุมเลือด เนื้อ
เปรอะขนนกและเลือดหลุดรวงลงมาเปนชิ้น
“อาก…” นกหลวนสีรุงรองโหยหวนไมหยุด ไมกลาทะยานลง บินวนเวียนอยูกลาง
นภา
คนทั้งหมดตางครั่นคราม นี่เพียงชั่วครู ผูกลาทั้งสี่ลวนปราชัย ไมใชคูตอสูโดยสิ้นเชิง
“แดงใหญเตรียมพรอมหรือยัง?” เจาตัวเล็กเอยถาม
“พรอมแลว รอแคลงหมอเทานั้น!” นกแดงยักษเอยปากหนาประตู ตั้งหมอใหญใบ
หนึ่งไวเนิน่ นานแลว น้ําดานในเดือดพลานแลว
เจาตัวเล็กเช็ดน้ําลาย จับเนื้อนองของนกหลวนสีรุงและเนื้อปกชิ้นหนึ่ง แสงสวาง
พรางพราย ไอมงคลลอยขึ้น เขาพูดวา “เนื้อสองชิ้นนี้ยางกินแลวกัน!”
ตอมา เขาเขาใกลเฝยหยี หิ้วตัวมันขึ้นพาดกับไหลทันทีแลวกลาววา “ซุปงูอรอย
ที่สุด ตุนก็แลวกัน”
เขาลากของกํานัลศึกเดินไปยังบานประตู รองเรียกสิงโตเกาเศียรวา “นองชาย ไป
กันเถิด ขาเลี้ยงอาหารเจา”
ระหวางทาง อัจฉริยะแหงเผาพันธุใหญตางพากันหลบถอย ชางอํามหิตยิ่งนัก จะกิน
จริงๆ หรือ ครั้งนี้ไมมีผูใดกลาขัดขวางอีกเลย
นอกประตู มีน้ําพุบอหนึ่ง หลังจากเจาตัวเล็กเหวี่ยงของกํานัลลงแลว ชําระลาง
ใบหนามอมแมม เผยโฉมหนาแทจริง
“เขาคือ… เด็กเหลือขอในโลกแหงความวางเปลา!”
มนุษยอัจฉริยะบางสวนเอ็ดตะโร ตางเผยแววตาอันไมคาดคิด
เจาตัวเล็กเผยโฉมหนาแทจริง เมื่อถูกมองออกยอมทําใหฝูงชนหวาดกลัว ที่แหงนี้
อึกทึกคึกโครมขึ้นมาทันใด
ไกลออกไป นกสีทองตัวหนึ่งชายตามอง ซวนหนี มังกรชือ ปเซี๊ยะตางประหลาดใจ
จองมองเขาอยางพิกล แตกลับมิไดลงมือ
ผีเสื้อตัวหนึ่งโบยบินวองไว ตนแดนดิไลออนปศาจสั่นไหว ตางเปนผูชมศึก
“แข็งแกรงนัก!” ปฟางพึมพํา นัยนตาระเบิดแสงสวางเจิดจา
บทที่ 141 อิม่ หนําสําราญ
“ขาไมไดมองผิดใชไหม? เปนเขาจริงๆ เด็กเหลือขอในโลกแหงความวางเปลาเขาสู
เขารอยยอด!”
เสียงเอะอะเอ็ดตะโรนอกประตู มนุษยอัจฉริยะทั้งหมดตางสงเสียงดังเกรียวกราว
มินาเลา มีคนประกาศใหรางวัลนําจับ จะเด็ดหัวของเขา เขาเขาสูโลกใบนอยนี้แลวจริงๆ
“พบหนาดีกวาไดยินชื่อเสียงเรียงนาม เฝยหยีผูนาสงสาร อัจฉริยะเผาสามเนตรผูนา
สงสาร นกหลวนสีรุงผูนาสงสาร ตองมาพบกับเขาเชนนี้”
“ชางสมกับกิตติศัพทเสียจริง เด็กเหลือขอ ผูที่ฝูงชนเคียดแคนอยางสุดแสน!”
ผูคนอุทานดวยความตะลึง เมื่อหวนคิดถึงเรื่องเหลือเชื่อที่เขากระทําเหลานั้น ทอด
ถอนหายใจระลอกหนึ่ง คนมากมายตางก็อยากทําเรื่องไมนาใหอภัยตอเขาอยูบาง
ปรากฏวาลวนพบเจอกับหายนะครั้งใหญหลวง
มนุษยอัจฉริยะทั้งตะลึงทั้งสะเทือนขวัญ ขณะเดียวกันก็รูสึกฮึกเหิม เจาเด็กเวร
อํามหิตเชนนี้ ครั้งนี้เปนการจัดการเผาพันธุยิ่งใหญอื่นๆ เพิ่มความนาเกรงขามแหง
เผาพันธุมนุษย
“ไมคาดคิดเลยวาวันหนึ่งจะไดพบเจอตัวจริงของเด็กเหลือขอ เหลือเชื่อเสียจริง!”
หญิงสาวบางสวนสงเสียงจอกแจกจอแจ ดวงตาสุกใสเบิกกวาง อยากจะกรูไปขางหนาให
รูแลวรูรอด แตทวาบริเวณประตูเต็มไปดวยตางพันธุที่ยิ่งใหญ พวกนางไมอยากพุงพรวด
พราดเขาไป
แนนอนวา ยอมมีคนโกรธแคน ไมชื่นชอบเจาตัวเล็กตั้งแตครั้งอยูในโลกแหงความ
วางเปลา ตอนนี้จึงยิ่งมองอีกฝายเปนศัตรู
“หากเรื่องนี้แพรงพรายออกไป ไมวาประเทศเกาแกหรือโลกแหงความวางเปลาตอง
เดือดพลานเปนแน เด็กเหลือขอคนนี้อํามหิตมากขึ้นเรื่อยๆ ชั่วชาจนถึงขีดสุด!”
ที่แหงนี้เกิดเสียงดังเซ็งแซไปทัว่ แมแตอัจฉริยะแหงเผาพันธุอื่นก็ลวงรูที่มาของเด็ก
เหลือขอคนนี้ รับรูเรื่องราวรุง โรจนที่ผา นมาของเขา ตางก็ตะลึงจนตาคางปากกวาง ไอ
เวรนี่ชางพิกลเหลือเกิน
ริมประตู บอน้ําพุหอมหวานและใสสะอาด ไหลโกรกกราก นกแดงยักษตั้งหมอดําใบ
หนึ่ง อาปากพนแสงวิเศษ เปลวไฟลุกโหม แผดเผาน้ําในหมอจนเดือดระอุ
“เร็วเขา น้ําเดือดนานแลว” มันเหลียวหลังมองแวบหนึ่ง ตื่นเตนจนเนื้อตัวสั่นระริก
สําหรับสัตวปกแลว งูประหลาดเชนเฝยหยีมีความลอลวงใจอันรายแรงยิ่งนัก
“เจาจัดการเสีย” เจาตัวเล็กโยนงูประหลาดใหมัน
“ไดเลย!” นกแดงยักษตอบรับอยางสุขใจ ใชขนนกเช็ดปากอยูพัลวัน ดวยเกรงวา
น้ําลายจะไหลออกมาอยางทนไมได
เฝยหยีแดงดุจเพลิงทั่วทั้งตัว เกล็ดแนนขนัด แข็งแรงอยางหาที่เปรียบมิได แสงสี
แดงกะพริบแปลบปลาบ เมื่อเคาะลงบนกายมันจะสงเสียงดังตึงตัง แข็งแกรงยิ่งกวากอน
หินและเหล็กกลามากโข
มันมีหนึ่งหัว ตั้งแตลําคอลงมาแบงเปนรางงูสองตัว รางกายแตละตัวมีปกงอกหนึ่ง
ขาง รวมกันจึงจะสามารถบินได มีอุงเทาหกขาง ดุจกรงเล็บเจียว เกล็ดสีแดงปกคลุม
แนนหนา สามารถฉีกทึ้งกอนหินเหล็กกลาไดอยางงายดาย
“จัดการยากเสียจริง ขาไมเคยกินงูเชนนี้มากอนเลย” นกแดงยักษมีเหงื่อกาฬผุด
เต็มใบหนา เพราะเกล็ดแดงฉานของงูตัวนี้แข็งเหลือเกิน ใชกําลังจนสิ้นจึงจะถลกหนัง
บริเวณที่ถูกสายฟาฟาดจนดําเกรียมไดเพียงเล็กนอย
สุดทาย มันหยิบยืมกรรไกรกระดูกสีทองมาจากเจาตัวเล็ก ความเร็วจึงเพิ่มขึ้นใน
ที่สุด ถลกหนังเฝยหยี จากนั้นตัดออกเปนทอนๆ
เนื้อของเฝยหยีขาววาววับ ออนนุมมันขลับ มีแสงสวางไหลเวียน ยังไมทันไดตมสุก
ก็สงกลิ่นหอมหวนเปนระลอก ทําใหหิวกระหายจนน้ําลายแทบไหลยอย
“ฮาฮา เรียบรอย เคี่ยวซุปงูสักหมอ นี่ตองเปนรสชาติอันล้ําเลิศอยางแนนอน!” นก
แดงยักษใสเนื้องูแวววาวลงไปในหมออยางคลองแคลว เริ่มทําการตุนเคี่ยวตอหนาฝูงชน
เตียวมวงก็รุดเขามาใกล ดวงตาดุจโมราแดงกลิ้งไปกลิ้งมา พึมพําในใจวา มนุษย
หนุมคนนี้นากลัวแท คิดวาจะตองสรางสัมพันธไมตรีกับเขา มิเชนนั้นหากถูกเขากินจะทํา
เยี่ยงไร?
“ตรงนี้ยังมีเกลืออยูนิดหนอย อยาไดสิ้นเปลือง” เจาตัวเล็กเหวี่ยงถุงเกลือมา ใหมัน
ใชอยางประหยัด
หลังจากจัดการกลุมผูกลาแหงเผาสายฝนในทะเลทรายแลว เจาตัวเล็กเคยออกไป
คนหาอาวุธล้ําคาที่สูญหายของตน จึงนําเอาเครื่องปรุงอาหารบางสวนติดตัวมาดวย
เวลานี้ เขากําลังจัดการเนื้อนองและเนื้อปกของนกตัวนั้นดวยตนเองที่ริมน้ําพุ เมื่อ
ถอนขนนกสองแสงจนสะอาดหมดจดแลว เขาใหนกแดงยักษกระพือปกปลอยเปลวไฟ
ดุเดือด
เจาตัวเล็กมีน้ําอดน้ําทนมาก นําเนื้อที่เปนยาล้ําคาหนักหลายสิบชั่งทั้งสองชิ้นวางลง
ตั้งใจปงยาง เวลาไมนาน กลิ่นเนื้อหอมโชยแตะจมูก ชิ้นเนื้อพรางพรายเริ่มเปลี่ยนเปน
เหลืองอรามเปนมัน
“หอมเหลือเกิน!” เจาตัวเล็กกลืนน้ําลาย
อยาวาแตเขาเลย แมแตเหลาตางพันธุที่ลอมมุงดูเองก็ลูกกระเดือกขยับ ลอบกลืน
น้ําลาย เพราะนี่ไมใชเนื้อธรรมดาทั่วไป แตเปนเนื้อล้ําคาแหงนกหลวนวิเศษสีรุง จะมีสัก
กี่คนไดกินมัน?
แสงสวางเปนกลุมๆ เนื้อนองและเนื้อปกเหลืองอรามแวววาว น้ํามันหยดลงบนกอง
ไฟสงเสียงดังฟูว ดึงดูดใหผูคนหิวกระหายน้ําลายแทบไหล
นี่ตองเปนยาบํารุงชั้นดีอยางแนนอน เมื่อกินเขาไปสามารถทําใหมีพลังปราณไมขาด
สาย พละกําลังไมสิ้นสุด ความสามารถเพิ่มขึ้นอยางมากโข
ไมเอยถึงผูอื่น แมแตทายาทอสูรบรรพกาลที่ตอกรกับเจาตัวเล็กเมื่อครู บัดนี้ตางก็
จองมองอยางหิวกระหาย อยากเขาไปตีสนิทอยางแรงกลา มุงหนาไปขอแบงเนื้อหอมสี
ทองสักชิ้น
มีเพียงสิ่งมีชีวิตหนึ่งตัวที่คับแคน นั่นก็คือนกหลวนสีรุง มันบินควางกลางนภาสูง
แผดรองไมหยุด อยากจะโจมตีฟากฟาใหแตกทลายใจจะขาด แสงสวางทั่วกายลุกโชติ
ชวง
“หยุดรอง ขาไมไดกินเจาเขาไปทั้งตัวเสียหนอย ขาเห็นแกนองชายขา กินแคเนื้อ
นองและเนื้อปกอยางละชิ้นก็เทานั้น” เจาตัวเล็กแหงนหนาบอกกลาว
นกหลวนสีรุงขนลุกขนชันทั่วทั้งกาย มันโมโหจนแทบคลั่ง เด็กอํามหิตคนนี้นา
รังเกียจยิ่งนัก กินเนื้อของมันตอหนาฝูงชน ทั้งยังยโสโอหังปานนี้ ทําใหมันกระอักเลือด
รางกายโคลงเคลง เจียนหลนรวงลงมาทั้งตัว
ใตความเหลืองอรามของปกนกและเนื้อนองปรากฏไขมันหนึ่งชั้น กลายเปนหนัง
กรอบ กลิ่นหอมตลบอบอวล ดึงดูดผูคนมากยิ่งขึ้น เจาตัวเล็กนําของกํานัลศึกที่ไดมา ซึ่ง
ก็คือมีดบินพรางพรายที่ฝนจากเขี้ยวคมสีชาดเลมนั้น ชําระลางในน้ํา จากนั้นเผาในกอง
ไฟอยูเปนเวลานาน ใชมันแทนมีดทําอาหาร
เขาใชมีดบินโปรงแสงแวววับตัดเนื้อล้ําคาสีทองสดกรอบ สาดเกลือเขาไปเล็กนอย
จากนั้นเปดขวดใบหนึ่ง เริ่มทาน้ําผึ้งลงบนชิ้นเนื้อ ยางดวยไฟออน
ตอนแรก เขาเตรียมเครื่องปรุงและเครื่องครัวมามากมาย แตปรากฏวาสูญหาย
ระหวางการถูกไลลา สุดทายหาเจอเพียงเครื่องปรุงไมกี่ขวดเชนนี้
“วาว หอมเหลือเกิน!”
ยางพอไดที่ เจาตัวเล็กฉีกเนื้อเหลืองทองมาชิ้นหนึ่ง น้ําผึ้งหนืดขน เมื่อกัดไปคําหนึ่ง
กลิ่นหอมฟุงเต็มปาก ละลายในปากทันที หอมหวนจนทําใหคนน้ําลายสอ เจียนหลั่งไหล
ออกมา
เจาตัวเล็กหลับตาพริ้ม เพื่อรับรสชาติอยางลึกซึ้ง ใบหนาเปยมดวยความเคลิบเคลิ้ม
หนึ่งคํานี้ทําใหเขารูสึกรูขุมขนทั่วกายเปดออก รูสึกสบายเปนอยางมาก รสชาติล้ําเลิศ
อยางแทจริง
“อรอยเหลือเกิน!” เจาตัวเล็กฉีกเนื้อออกมาอีกชิ้น น้ําผึ้งยืดยาวเปนเสน
ระยิบระยับ ชิ้นเนื้อเหลืองอรามและหอมอบอวล
“แดงใหญ เตียวมวง พวกเจามากินดวยสิ” เจาตัวเล็กกินอยางตะกละตะกลาม
เพียงชั่วพริบตาก็กินเนื้อไปกวาสองชั่ง ลิ้นเจียนละลาย หวนคิดถึงรสสัมผัส
เหลาสิ่งมีชีวิตรอบขางตางอิจฉาริษยา เจาเด็กมนุษยคนนี้แมจะอํามหิต แตชางเสวย
สุขเปนเสียจริง สถานที่คับขันและอันตรายถึงเพียงนี้ กลับทําเหมือนปราศจากผูคน กิน
อยางอิ่มหนําสําราญ ทําใหพวกเขาตารอน
โดยเฉพาะกลิ่นหอมนี้ชางนาหลงใหลเหลือเกิน อัจฉริยะแหงเผาพันธุอื่นแทบจะกรู
กันเขาไป รวมกลุมเพื่อแยงชิงมัน
นกแดงยักษพูดดวยความลังเลวา “นั่นเปนเนื้อนก หากขากินมันเขาไปคงรูสึกไมดี
เทาใดนัก ขารอกินซุปงู”
“เจาชางไมรูความ นี่เปนเนื้อนกหลวน มิใชเผาพันธุเดียวกับเจาเสียหนอย พลัง
ปราณเต็มเปยม หากกินเขาไปคงทําใหเจาบรรลุได” เจาตัวเล็กกลาว
นกแดงยักษพูดดวยความโลเลมากยิ่งขึ้น “เฝยหยีก็บํารุงไดเชนกัน ไมดอยไปกวามัน
ขาจะรอ!”
เตียวมวงน้ําลายไหล มันไมใชนก จึงรุดเขาไปใกลชิด มันไดรับบาดเจ็บสาหัส ดวง
เนตรกลางหวางคิ้วเจียนถูกควักเอาไป ตองการเนื้อที่เปนยาล้ําคาเชนนี้มาเสริมอยูพอดี
ยิ่งไปกวานั้น ตัวมันเองก็ยิ่งใหญอยางยิ่งยวด ภูมิหลังไมธรรมดา ไมดอยกวานกหลวน
กลางนภานั่น ฉะนั้นจึงไมเกรงกลัวมันแกแคน
เตียวมวงเขมือบเนื้อไปชิ้นหนึ่งดังอึก พลันสงเสียงรองทันใดวา “หอมนัก รสชาติล้ํา
เลิศแท!”
“แนนอน เจาไมมองหรือวาฝมือผูใด ขาเปนพอครัวหัวปากเลื่องชื่อลือชา!” เจาตัว
เล็กทะนงองอาจ
พวกเขาทั้งสองกินอยางอิ่มหนําสําราญ แนนอนวาเตียวมวงรูจักบันยะบันยัง มันยาว
เพียงหนึ่งจั้งกวา ไมกลาเขมือบคําใหญ กินตามขนาดรางกาย
แสงสวางแปลบปลาบ กลิ่นหอมโชยแตะจมูก ทายาทอสูรบรรพกาลละแวกใกลเคียง
ตางเคียดแคนและลังเลอยางหาที่เปรียบมิได อยากเขาไปขอสักชิ้น กลิ่นรุนแรงนั่นดึงดูด
ใจเหลือเกิน
มีเพียงนกหลวนสีรุงแผดรองอยางโกรธากลางนภา อยากบินโฉบลงมาอยางแรงกลา
สูศึกตัดสินความเปนความตาย แตมันสะกดอารมณมุทะลุนี้ไวได ดวยเกรงวาจะเพิ่มมื้อ
อาหารใหแกเจาตัวเล็ก
“นองชายไมตองเกรงใจ รีบมากินดวยกันสิ” เจาตัวเล็กรองเรียก ปกนกและเนื้อ
นองหลายสิบชั่งนี้ ทําใหเขากินอยางถึงอกถึงใจ อิ่มหนําสําราญ พูดจาพลางพนแสงสวาง
ทั้งเนื้อทั้งตัวอาบดวยแสงสีรุง
สิงโตเกาเศียรเขาใกล สีหนาสับสนยุงเหยิง พี่นองรวมสาบานคนนี้โหดเหี้ยม
เหลือเกิน ทําเชนนี้ไดเยี่ยงไร ตอนนี้มันรูสึกวาตนเองเปนมนุษย แตเด็กเวรคนนี้สิอสูร
บรรพกาลอํามหิตที่แทจริง
“อยามัวนิ่งงัน รีบกินสิ” เจาตัวเล็กเอยปากอีกครั้ง
สิงโตเกาเศียรจะกินไดอยางไร มิเชนนั้นสหายนกหลวนสีรุงตองเปดศึกเอาเปนเอา
ตายกับมันแน แตเมื่อมองดูเนื้อล้ําคาเหลืองอราม มันหิวกระหายน้ําลายแทบไหล เริ่มอด
รนทนไมไหว กลืนน้ําลายดังอึก
นกหลวนสีรุงบินเฉียดผานไปพอดี มองเห็นไดแจมแจง ไดยินอยางชัดเจน เดือดดาล
ทันใด รองลั่นวา “สิงโตเกาเศียร เจา…ทําขาโมโหเจียนตายแลว!”
“ขามิไดกิน…” สิงโตเกาเศียรกลืนไมเขาคายไมออก นี่จะโทษมันไมไดนี่นา เนื้อนั่น
หอมเหลือเกิน หากไรผูคนรอบกาย นกหลวนสีรุงไมอยูทนี่ ี่ มันคงไมเกรงใจเปนแน
“ซุปงูเสร็จแลว!” นกแดงยักษรองตะโกน ในหมอมีแสงวิเศษพราวระยับ เนื้องูหนึ่ง
หมอเปลงสีสันมงคล กลิ่นหอมลอยแตะจมูก น้ําซุปโปรงใสแวววาว
“นองชาย ขาเลี้ยงเนื้องูเจา” เจาตัวเล็กกินเนื้อนกหลวนชิ้นสุดทายจนเกลี้ยง ตบ
หนาทองกลมปองของตนแลวตบสิงโตเกาเศียรเบาๆ จากนั้นเดินไปทางหมอดํา
นอกจากเนื้องูแลว ยังมีดีงูสองชิ้นถูกเก็บไว นกแดงยักษยอมไมเกรงใจ ฉกชิงมาหนึ่ง
ชิ้นแลวกลืนลงไปทันที เจาตัวเล็กเก็บอีกชิ้นขึ้นใหมจากตาน้ําพุ ไมตองมากพิธีรีตอง
กลืนลงทองไป นี่เปนสวนที่ดีที่สุดในรางกายของเฝยหยี จะสิ้นเปลืองมิได
รางกายของเจาตัวเล็กมีแสงสวางพวยพุงขึ้นทันใด อานุภาพแหงดีงรู ุงโรจนนกั พลัง
ปราณไมขาดสาย ทําใหกายของเขาสงเสียงสายฟาคําราม
“ดี แข็งแกรงยิ่งนัก!” เจาตัวเล็กปลื้มปติ
ตอมา เขารองเรียกนกแดงยักษ เตียวมวงและสิงโตเกาเศียรใหมารวมกินเฝยหยี
เนื้อหมอนี้พิเศษอยางแทจริง น้ําซุปพรางพราว กะพริบแสงสวาง เนื้องูกําจายแสงล้ําคา
ทําใหอัจฉริยะแตละเผาพันธุตางกระเหีย้ นกระหือรืออยากลิ้มลอง
“ฮาฮา…จะกินแลวนะ!” นกแดงยักษตะโกนอยางฮึกเหิม เริ่มเปดฉากกอน ไม
เกรงใจแมแตนิด
แมเจาตัวเล็กจะกินจนทองปอง แตความอยากอาหารยังมีมาก เมื่อสกัดเนื้อล้ําคา
กอนหนานี้แลว เนื้อตัวเปนประกาย เริ่มสวาปามอีกครา
เตียวมวงก็ไมเกรงใจ มีเพียงสิงโตเกาเศียรที่ลังเลใจ อยากกินเหลือเกิน แตเมื่อมอง
ทองฟาแวบหนึ่ง นกหลวนสีรุงคํารามอยางโกรธเกรี้ยวอยูตรงนั้น มันจึงไมกลาเขารวม
อยางแทจริง
“หยุดรองไดแลว หากไมสูรบปรบมือก็จะไมรูจกั ซึ่งกันและกัน ลงมากินดวยกันเถิด
ตอนแรกขากับนองชายก็รูจักกันเยี่ยงนี้แหละ” เจาตัวเล็กตะโกนไปยังทองฟา
นกหลวนโมโหโกรธา มันยอมไมยอมประนีประนอม
สิงโตเกาเศียรอึดอัดวางตัวไมถูก ไมกลาพูดอะไรใหมากความ
หนึ่งชายหนุมอํามหิต หนึ่งนกแดงยักษ และหนึ่งเตียวมวง นั่งลอมหมอดํา กินอยาง
ถึงอกถึงใจ
ขางเคียงยังมีสิงโตเกาเศียร ลังเลใจจนอยากจะชนกําแพง
พวกเจาตัวเล็กประหนึ่งไรผูคน กินอยางสุขใจ มิไดแยแสสายตาชอบกลของเหลาผู
กลารอบๆ แมแตนิด
นี่เปนเหตุการณพิสดารอยางหนึ่ง สิ่งมีชีวิตจํานวนมากตางก็ยิ่งใหญอยางหาที่
เปรียบมิได จดจองไปขางหนา มนุษยหนุมหาไดสนใจ แชมชื่นอุรา กินอยางอิ่มหนํา
สําราญ
เหลามนุษยอัจฉริยะกลับมีสีหนาสับสน องอาจหาวหาญคืออะไร?
เด็กเหลือขอใหอรรถาธิบายไดดีที่สุด ตอหนากลุมทายาทอสูรบรรพกาล ก็ปงยางนึ่ง
ตมอสูรเชนนี้ สวาปามทันที
“ชาง…พิลึกคนนัก!”
เหลามนุษยอัจฉริยะตางอุทาน เด็กเหลือขอคนนี้มักกระทําการใหผูอื่นหมดคําพูด
ประสบพบเจอเขา ผูคนมากมายลวนเคราะหราย ฝูงชนเคียดแคนสุดแสน! แตทวา
พฤติกรรมของเขาหนนี้ยกระดับความนาเกรงขามแหงเผาพันธุมนุษยอยางแทจริง
เรื่องราวเยี่ยงนี้ เพิ่งมีใหเห็นในหลายสิบหลายรอยป ไมเคยพบเห็นมนุษยที่อํามหิต
เพียงนี้มากอน อาจหาญกระทําการเชนนี้
อัจฉริยะมากเหลือคณานับ ผูกลาตางพันธุมากมายตางมองพวกเขาสวาปามอยูตรง
นั้น เมื่อเวลาผานไปหลายป หากฝูงชนเอยถึงเรื่องนี้ คงจะทอดถอนหายใจอยางไมขาด
สาย
แนนอนวา เมื่อถึงเวลานั้น สถานะของเด็กเหลือขอคนนี้ก็แตกตางเปนเวลาเนิ่นนาน
แลว สิ่งเหลานี้จะกลายเปนเรื่องเลาความลับที่นาสนใจ
เจาตัวเล็กกินจนทองกลมปอง เมื่อเปดปากเอยวาจา จะเปลงแสงสวาง ดูดซึมเนื้อ
ยาล้ําคามากเกินไป รางกายของเขานอมรับการชําระลางอีกครั้งหนึ่ง
นาเสียดายที่เขามิไดเปดถ้ําสวรรคแหงที่เกาดวยเหตุนี้ ถึงอยางไรมันก็เปนเพียง
ความสําเร็จที่จารึกในตําราโบราณ ไมมีใหเห็นในความเปนจริง ยากเย็นอยางไมอาจ
จินตนาการได!
ความเปนจริงก็เปนเชนนี้แล เปนไปไมไดที่เจาตัวเล็กจะทําลายพันธนาการเพื่อสราง
ปาฏิหาริย เพียงเพราะกินเฝยหยีกับนกหลวน
งานเลี้ยงสิ้นสุดลงในที่สุด สําหรับพวกเขาถือเปนการเสพสุขอยางหนึ่ง แตสําหรับ
คนรอบขางแลวเปนความทุกขทรมานแทๆ เนื้อยาล้ําคาเชนนั้นเปนสิ่งที่ทําไดเพียงมอง
ไมอาจกินได เจ็บปวดเหลือเกิน
เจาตัวเล็กลากตัวผูกลาทั้งสองแหงเผาสามเนตรมา รักษาอาการบาดเจ็บเบื้องตนแก
พวกเขา ปลอบขวัญไปที จากนั้นก็สนทนากับอีกาไฟและทายาทอสูรบรรพกาลอีกหลาย
ตัว พวกนี้ลวนเปนสหายเกาแกของสิงโตเกาเศียร
“ในเมื่อพวกเจาเปนสหายของนองชายขา ก็เหมือนสหายของขา วันหนาพวกเราก็มี
สุขรวมเสพมีทุกขรวมตาน” เขาเรอแลวพูดพลางตบทองกลมปองของตน
ทายาทอสูรบรรพกาลที่มีอํานาจบาตรใหญทั้งหลายตางมองหนากัน เปนเพื่อนกับ
เจาชางอันตรายเหลือเกิน หากไมดีอาจถูกกิน ไมเห็นนกหลวนบนทองนภานั่นรึ ตอนนี้
ยังสาปแชงและดาทออยูแนะ
ยิ่งกวานั้น เขาอายุเทาใดกัน มีผูใดในเหตุการณที่ไมอาวุโสกวาเจาละ แตกลับเรียก
สิงโตเกาเศียรวานองชาย
แตเมื่อถึงเวลานี้ พวกเขาไมกลาดูหมิ่นมนุษยหนุมคนนี้ ยามเขาอาปากพูด ไมมี
สิ่งมีชีวิตตนใดกลาลวงเกิน ภายใตความปฏิบัติอยางเทาเทียม ยังมีความเคารพยําเกรง
อยูดวย
“บรูว…”
ในตอนนี้เอง นกแดงยักษรองโหยหวน ขนนกทั่วกายแผดเผา หลายเปนเถาธุลี ทั้ง
เนื้อทั้งตัวเปลือยเปลาลอนจอน นาเกลียดอยางที่สุด
“แดงใหญ เจาเปนอะไรไป?” เจาตัวเล็กตื่นตะลึง
อีกาไฟขางสิงโตเกาเศียรเผยสีหนาริษยา ปริปากอธิบายวา “ทายาทงูบรรพกาลมี
ประโยชนอันใหญยงิ่ ตอพวกเราสัตวปกโดยแทจริง มันกลืนกินดีงูเขาไป และกินเฝยหยี
เปนทอน นี่เปนการอาบไฟเลื่อนขั้น ความสามารถเพิ่มขึ้นอยางมาก”
เปนไปตามคาด คําพูดของมันเพิ่งสิ้นสุดลง นกแดงยักษก็รองโอดโอยขึ้นมา เนื้อตัว
ไรขน แมลักษณะจะตลกขบขัน แตกลับกระจายกลิ่นอายอันนากลัว
จากนั้น ผิวหนังของมันเปลงแสง กอนหินและพื้นผิวละแวกใกลเคียงตางหลอม
ละลาย ลาวาเดือดระอุหลั่งไหลไมขาดสาย
เสียงโครมดังขึ้น รางกายของนกแดงยักษงอกขนนกขึ้นมาใหม แดงสดและงดงาม
มากยิ่งขึ้น สวางไสวเจิดจา
“ฮาฮา… ขาบรรลุแลว ยิ่งใหญกวาเดิมแลว!” นกแดงยักษโหรองดวยความดีอกดีใจ
แสงวิเศษในดวงตาพุงพรวดพราด กวาดสายตามองรอบทิศ สุดทายเพงมองเจาตัวเล็ก
แลวกลาววา “ตอนนี้ขาไมกลัวเจาแลว!”
เจาตัวเล็กถลึงตาพูดวา “หากรองอีก ประเดี๋ยวจะกินเจาเสีย!”
เมื่อไดยินถอยคํานี้ นกแดงยักษพลันเหี่ยวเฉา ไรความโกรธอยางสิ้นเชิง แมจะรูสึก
วาความสามารถของตนพุงทะยานขึ้น แตเมื่อหวนคิดถึงเหตุการณที่เจาตัวเล็กสกัดน้ํา
ทิพยทั้งเปน มันเกิดความรูสึกออนแอ หนามอยคอตก โมโหอยางทีส่ ุด
สุดทาย มันเชิดหนาขึ้น คํารามใสเหลาอัจฉริยะแตละเผาพันธุที่อยูรอบๆ วา “อยา
ยั่วขา มิเชนนั้นจะกินเจาเสีย!”
ฝูงชนตะลึงงัน นี่เปนการสืบทอดสายพันธุเดียวกันอยางแทจริง แมแตนกตัวนี้ก็ถูก
เด็กอํามหิตแพรเชื้อใสเสียแลว
เตียวมวงก็เนื้อตัวสองแสง บาดแผลมลายจนสิ้น เจียนบรรลุ พรางพรายทั่วรางกาย
แสงสีมวงระยิบระยับ
ตอนนี้ รอบกายเจาตัวเล็กมีเหลาทายาทอสูรบรรพกาลผูยิ่งใหญ เชนสิงโตเกาเศียร
นกแดงยักษ เตียวมวง อีกาไฟ สองพีน่ องเผาสามเนตร บนหัวยังมีนกหลวนสีรุงพิโรธอีก
หนึ่ง คึกคักเหลือเกิน
“หยุดรองไดแลว เราตองเปนเพื่อนกันสักวัน เจาดูสิ สิงโตเกาเศียรก็สาบานเปนพี่
นองกับขาแลวมิใชหรือ?” เจาตัวเล็กเงยหนามองนกหลวน อยากจะบอกเลาวา
ความสัมพันธของมันกับสิงโตทองก็เกิดจากการกินนี้แล
ปรากฏวา สีหนาของสิงโตเกาเศียรเขียนขึ้นมาทันใด รีบเรงขัดขวาง ไมใหเขาพูด
ออกมา มิเชนนั้นจะอับอายขายขี้หนายิ่งนัก ความลับหัวสิงหน้ําแดงนี้ ตีมันใหตายก็ไม
อยากใหสหายเกาลวงรูเปนอันขาด
“เจาชวยพูดเกลี้ยกลอมใหขาที” เจาตัวเล็กกลาว
สิงโตเกาเศียรพยักหนาเปนพัลวัน เพียงไมแพรงพรายภูมิหลังของมัน ทุกสิ่งก็ยอม
เจรจาไดงาย
ที่นี่มากดวยสัตวประหลาด ลวนยิ่งใหญอยางหาที่เปรียบมิได ไมวาจะเปนมิตรหรือ
ศัตรู เพียงยิ่งใหญเพียงพอ เด็กอํามหิตก็สามารถยืนทามกลางทายาทอสูรบรรพกาล ถูก
เคารพยําเกรง
“ใชเขาหรือไม?” ไกลออกไป มีกลุมคนสนทนาดวยเสียงทุมต่ํา
“ไมผิดแน เจาเด็กเหลือขอคนนี้แหละ ในโลกแหงความวางเปลา โจมตีผูกลาแหง
ตระกูลขาจนหนีเตลิดเปดเปง สุดทายถูกเขากําราบจนสิ้น จับคนทั้งหมดกองเปนภูเขา ขู
กรรโชกพวกเรา!”
“อยาเพิ่งลงมือตอนนี้ เมื่อเขาสูกลางโบราณสถานคอยไลลาสังหารเขา!”
คนพูดอายุอานามไมนอยแลว เห็นไดชัดวาปดฟาขามทะเล[1] ผนึกตนเขาสูเขารอย
ยอด
อีกฟากหนึ่งก็มีกลุมคนเยี่ยงนี้เชนกัน นัยนตาเยือกเย็น ระยับแสงเย็นเยียบ และ
ประกายความเคียดแคนชิงชัง สงเสียงทุมต่ํา กําลังหารือวาจะจัดการเจาตัวเล็กอยางไร
เมื่อเขาสูโบราณสถาน
ตอนแรก เจาตัวเล็กถูกคนเพงเล็งในดินแดนขั้นตน ณ โลกแหงความวางเปลา มีคน
ตองการชวงชิงกระดูกล้ําคาของเขา ปรากฏวาเขาตอบโตสุดกําลัง ไมเพียงมีชัยเหนือฝูง
ชน แตยังกองคนจากสี่ตระกูลใหญเปนภูเขา รีดไถอยางทารุณไปหนึ่งครั้ง
สิ่งนี้ยอมผูกความพยาบาทอันใหญหลวง มีคนจากสี่ตระกูลใหญเขาสูเขารอยยอด
หนึ่งในนัน้ อยากจับเปนเขา นําเอาพัดล้ําคาขนสีแดงนั่นกลับคืนมา มันเปนวัตถุล้ําคาที่
ปกปกษคุมครองชนเผาของพวกเขา สูญหายในโลกแหงความวางเปลา ถูกเด็กเหลือขอ
แยงชิงเอาไป
การประหารจะเริ่มตน ความไมสงบกอตัวอยางเงียบงัน!
“ไยพวกเจาไมเขาไปในโบราณสถาน ขาเห็นขางในมีแสงวิเศษพุงขึ้นอยางตอเนื่อง
เพียงมองก็รูวาเปนอาวุธล้ําคา ไฉนจึงไมเขาไปไลกวดเลา?” เจาตัวเล็กเอยถาม รอบกาย
เขามีทายาทอสูรบรรพกาลไมนอยเลย เขาอยากจะลากฝูงชนเขารวมฝาทะลวง
โบราณสถานพรอมกัน
“มีคนกลุมที่เขาไปกอนหนานี้ ตายเสียแทบทั้งหมด อาวุธล้ําคาเหลานั้นมีญาณวิเศษ
สามารถสังหารผูเขาประชิดได” อีกาไฟพูดอยางเถรตรง
เตียวมวงพยักหนา มันหลบหนีออกจากที่นั่น ตอนนั้นถูกคนลอบโจมตี ยิ่งกวานั้นคือ
มีอาวุธล้ําคาจะสังหารเขา หากมิใชเพราะความสามารถของมันนากลัวพอ คงสิ้นชีพเปน
แนแท
“ในเมื่อมาแลว ไมเขาไมได ไปเถิด พวกเราเขาไปจับอาวุธล้ําคา!” เจาตัวเล็กไร
ความเกรงกลัว มุงหนาเดินไป
มันยอมกอเกิดความชุลมุนวุนวาย เพราะไมมีผูใดยางกรายเขาไปเนิ่นนานแลว
“ไป ขาเองก็ควรเคลื่อนกายแลว!”
อีกฟากหนึ่ง ปฟาง นกวิเศษสีทอง ปเซี๊ยะ มังกรชือที่มองดูนากลัวอยางหาที่เปรียบ
มิได ทําใหผูคนประหวั่นพรัน่ พรึง สิ่งมีชีวิตนากลัวที่ยากลึกหยั่งถึงเหลานี้ก็เคลื่อนไหว
แลว เขาสูกลางโบราณสถาน
ฝูงชะตกตะลึง จากนั้นที่นี่ก็เกิดเสียงดังเกรียวกราว ผูคนมากมายจะเขารวม หมาย
ฝาทะลวงโบราณสถาน
ผีเสือปศาจแยกฟา มังกรเดินดิน วานรคลั่ง ตนแดนดิไลออนปศาจเคลื่อนไหวแลว
กลายเปนกลุมแสง พุงเขาไปในซากปรักหักพังโบราณ
“ไป ทุกคนทะลวงพรอมกัน รวมกันกําราบอาวุธล้ําคาเหลานั้น หากเขาไปชาจะ
ไมไดอะไรเลย!”

……………………………………………………..
[1] ปดฟาขามทะเล หมายถึง ใชวิธีหลอกลวงตางๆ ทําการเคลื่อนไหวอยางลับๆ
บทที่ 142 กระแสน้ําวิเศษ
ประตูมโหฬาร เขาหินทั้งสองมีสีน้ําตาลหมน ทนทานและเกาแก ตั้งตระหงานเชนนี้
ไมรูกี่ปมาแลว
นับตั้งแตเหลานักปราชญบรรพกาลหลั่งเลือดกระทั่งวันนี้ ทุกๆ หลายรอยปจะมี
วีรบุรุษหนุมสาวเขาสูเขารอยยอด คนมากมายมายังที่นี่ คนหาอาวุธล้ําคาอันเลื่อมใส
เมื่อเจาตัวเล็กเขามา มีอัจฉริยะแหงเผาพันธุใหญกลุมหนึ่งฝาเขาไปกอนแลว ตอมา
กระแสคนดุจน้ําหลาก หลั่งไหลสูภายในตามมา
ซากปรักหักพังนี้กวางขวางไรขอบเขต หมอกดํารายลอมเปนเสนๆ แผนดินทั่ว
บริเวณมืดสลัว ไมสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่ไกลเกินไปไดชัดเจน บนธรณี เศษหิน
เศษปูนเปนพืด แนวกําแพงพังทลายมากมาย นี่เปนโบราณสถานครั้งบรรพกาลแหงหนึ่ง
“ชริ้ง”
แสงสวางพุงเปนสายออกมาจากซากปรักหักพัง ประหนึ่งดายสีเงิน ทะลวงนภาไป
อยางรวดเร็ว ตะลึงจนฝูงสะดุงสะเทือน เสมือนลอยขึ้นจากขางกาย
“ตามไป!”
อัจฉริยะกลุมใหญรองลั่น วิ่งเปนพัลวัน มุงหนาไลตามไปยังที่หางไกล นี่เปนอาวุธล้ํา
คา ทั้งยังมีญาณวิเศษ หากจับได มีมูลคามหาศาล
“อาวุธล้ําคาฝงตัวในซากปรักหักพังทั้งสิ้นหรือ?” เจาตัวเล็กฉงนสนเทห เขามองเห็น
ดายเงินเสนเมื่อครูไดอยางชัดเจน มันเปนกิ่งไมหนึ่งกิ่ง ผานกาลเวลาอันเนิ่นนานแตไมผุ
พัง ความวิเศษเปยมลน
“อาวุธล้ําคาเหลานี้ลวนมีชีวิต ไมมีทางซอนเรนในที่เดียวกัน มักจะเปลี่ยนแปลง
ตําแหนง สามารถปรากฏขึ้นทุกที่” อีกาไฟกลาว
สิ่งมีชีวิตกลุมหนึ่งเดินมาดวยกัน นอกจากเจาตัวเล็กแลวลวนเปนทายาทอสูรบรรพ
กาล แข็งแกรงทรงพลัง ยากลึกหยั่งถึง ปุถุชนคนธรรมดาไมกลาเขาใกล
โบราณสถานแหงนี้กวางใหญอยางยิง่ ยวด ทอดยาวไปไกลถึงสุดขอบฟา นอกจาก
เศษหินเศษปูนแลว ไกลออกไปยังมีขุนเขาหักทลาย มีแสงล้ําคาพุงขึ้นอยางตอเนื่อง
ทามกลางเมฆหมอกอันเลือนราง
พวกเขาเดินเขาไปลึกมากขึ้น ย่ําเทาลงบนเศษหินเศษปูนที่คงอยูมาตั้งแตบรรพกาล
สงเสียงดังกรอบแกรบ เสมือนไดยินกระแสเสียงตอสูตางๆ เมื่อครั้งนั้น เดินอยูที่นี่ทําให
จิตใจยากจะสงบ
“ฮือ…”
ไอมวงกลุมใหญลอยขึ้น สงเสียงรองคร่ําครวญ อาวุธล้ําคาอีกหนึ่งชิ้น มันคือเขาสัตว
สีมวง ทะลวงซากกําแพง พุงไปที่หางไกล
“ตามไป!”
เจาตัวเล็กตะโกนบอก ฝูงทายาทอสูรบรรพกาลตารอนอยูนานแลว เขานี่ตองมิใช
ของธรรมดาแน เสียงของมันดั่งคําสาปแชง ทําใหวิญญาณแทบแหลกสลาย คงเปนอาวุธ
ล้ําคาที่หายากเปนแน
นกแดงยักษแผดรองบรูว ใชปกขางหนึ่งแทนฝามือ หิ้วหมอดํา ขวางออกไปอยาง
รุนแรง กระแทกลงบนเขาอันนั้น
“ตูม!”
ถูกกระแทกเขาอยางจัง แตเขาสีมวงกลับไมไดรับอันตราย หมอกขมุกขมัวลอยขึ้น
พรางพรายมากขึ้น หมอดําสะเทือนจนแตกแยก ชนกับราชวังใหญโตมโหฬารพังทลายที่
อยูหางไกล ฝุนควันพวยพุง
“ทุกคนลงมือพรอมกัน!”
สิงโตเกาเศียร เตียวมวง อีกาไฟ ผูกลาเผาสามเนตร และเจาตัวเล็กเคลื่อนไหวพรอม
กัน อักขระแผเต็มทองฟา ปกคลุมไปยังเขาสัตวนั่น
ขณะเดียวกัน พวกเขาก็วิ่งดวยความเร็วสูงสุด เขาลอมหมายจัดการอาวุธล้ําคาที่มี
ญาณวิเศษชิ้นนี้
“ชริ้ง”
เขาสีมวงเปลงแสง เจิดจามากยิ่งขึ้น ทะลวงฟาทันที กระโจนเขาไปในฟากฟาสลัว
รวดเร็วยิ่งนัก หายไปในชั่วพริบตา
“แข็งแกรงเสียจริง!”
“อาจเปนของเหลือจากเหลานักปราชญ ความวิเศษเปยมลน ไมไดรุกโจมตีก็มี
อานุภาพถึงเพียงนี”้
พวกเขาอาลัยเปนอยางมาก จองมองตาคางอยางอับจนหนทาง
เสียงวิ้งดังขึ้น ทองนภาสั่นระริก แสงขาวโพลนดุจกาแล็กซี่ปรากฏขึ้น กวาดผานบั้น
เอวของเจาตัวเล็ก คมมีดนาสะพรึงกลัวนี้ตองการฟนสันหลังของเขาใหขาด
เขาหลบหลีกอยางรวดเร็ว คมมีดดุจสายรุง พุงเฉียดกายเขาไป หั่นกอนหินหนักแสน
กวาชั่งจนแยก ดานหนาตัดราบเรียบดุจกระจก!
ดาบเลมนี้คมกริบอยางหาที่เปรียบมิได แหลมคมนากลัว หากฟนกายเขาคงไรซงึ่
หนทางรอดใหเอยถึง ยิ่งใหญเหลือเกิน!
“อาจหาญลอบสังหารพวกขารึ?” นกแดงยักษเผยแววตาชั่วราย มันเพิ่งจะเลื่อนขั้น
ความสามารถเพิ่มขึ้นอยางมากโข มันคิดอยากหาคนมาทดลองความฝมือเสียหนอย
เจาตัวเล็กขมึงถึง ใบหนาปรากฏความโกรธเกรี้ยว ทอดมองไปทิศทางนั้น เห็นเพียง
ชายชุดครามคนหนึ่งลาถอยไปดวยความไว
“สังหาร!”
นกแดงยักษตะโกนลั่น กระพือปกบินขึ้น กระโจนออกไปไกลอยางรวดเร็ว มัน
สามารถเหาะเหิน ความเร็วยอมเหนือกวามนุษย
“พวกเราไปพรอมกัน กลาลงมือตอหนาพวกเราที่มีมากมายเชนนี้ ไมเห็นพวกเราอยู
ในสายตาหรือ?” สิงโตเกาเศียรคํารนคําราม อาปากผิวเสียงใส แสงสวางสีทองทวมทน
ซากปรักหักพัง
ทายาทอสูรบรรพกาลกลุมใหญกอจลาจล ติดตามนกแดงยักษ สิงโตเกาเศียร และ
เจาตัวเล็กเพื่อไลลาสังหารพรอมกัน
“เครง”
เปลวไฟแตกกระเด็นเซ็นซานกลางนภา หมอดําของนกแดงยักษปะทะกับมีดบินเลม
หนึ่งอยางรุนแรง สองแสงสวางไสวเปนระลอก เสียงดังตึงตัง
“เร็วเขา แมงเอย เจอคนโฉดเขาแลว!” นกแดงยักษกรีดรองเพื่อขอความชวยเหลือ
เจาตัวเล็กแมจะไมสามารถเหาะเหิน แตมีความเร็วอยางยิ่งยวด ไลตามมาถึง เสก
กระจกล้ําคาซวนหนี สองแสงสายฟา เล็งหมายสังหารชายชุดครามคนนั้น
“โฮก…” สิงโตเกาเศียรก็คํารามลั่น มีพลังอันสามารถกลืนกินคีรีธารา อักขระสีทอง
กระเพื่อมดั่งมหาสมุทร โหมซัดไปดานหนา
“กา!” อีกาไฟรองลั่น เสียงของมันไมเปนมงคล เปลวไฟอันไมสิ้นสุดลุกโหม ปกคลุม
เบื้องหนา
ดวงตากลางหวางคิ้วของผูกลาเผาสามเนตรเบิกกวาง แสงวิเศษสีน้ําเงินลอยออกมา
สงเสียงดังครืนครัน
ชายชุดครามยิ่งใหญเปนอยางมาก แตภายใตการโจมตีของเจาตัวเล็ก ทามกลางการ
จูโจมของเหลาทายาทอสูรบรรพกาล ค้ํายันไมไหวขึ้นมาทันที กระอักเลือดคําใหญ ดาบ
กระดูกในมือสงเสียงแตกราว ปรากฏรอยแยก อีกทั้งมุมปากหลั่งเลือด
ดวงตาของเขาปลอยลําแสงนาหวาดกลัว ในใจโศกเศราอยางหาที่เปรียบมิได อาวุธ
ล้ําคาในมือปรากฏรอยราว กระดูกมันขลับหมนแสง ทําใหเขาโกรธาและปวดใจ
“เอะ เปนชายหนุมคนหนึ่งแนะ!” เตียวมวงประหลาดใจ
ชายชุดครามเสนผมปลอยสยาย เผยโฉมหนาแทจริง มองดูแลวทาทางอายุคงยี่สิบ
หายี่สิบหกป มิใชอัจฉริยะหนุมสาวแตอยางใด เห็นไดชัดวานี่เปนผูผนึกคนหนึ่ง
เจาตัวเล็กตะลึงพรึงเพริด ครุนคิดอยางเงียบงันจากนั้นพุงไปขางหนาอยางรวดเร็ว
แลวพูดวา “สังหาร!”
ฝูงชนติดตาม เริ่มไลลาคนๆ นี้
แมชายชุดครามจะมากพลัง เหนือกวาอัจฉริยะทั่วไปอยูมากโข แตกลับจนตรอก
อยางสุดแสน ถูกฝูงทายาทอสูรบรรพกาลไลลาเชนนี้ ผูผนึกเองก็มีความสามารถไม
เพียงพอ กระอักเลือดอยางตอเนื่อง รางกายแทบจะถูกฟนขาด
“ผลุบ”
เจาตัวเล็กเสกกระจกล้ําคาซวนหนีสําแดงเดช สายฟาเสนหนึ่งฟาดลงบนไหลซาย
ของเขา เกิดรอยเลือดเลือนรางขึ้นมาทันที กระดูกสะบักแยกออก แขนขางนั้นแทบจะ
หลุดรวง
ชายชุดครามรองโหยหวน สุดทายก็กัดฟน นํายันตแผนหนึ่งออกมาจากกลางอก
แปะไวใตฝาเทา เขาแปลงรางเปนลําแสงหายลับไปในโลกหลา
“ชางเปนยันตที่แข็งแกรงเหลือเกิน นี่เปนผลิตผลแหงอดีตกาล คงไดมาจาก
โบราณสถานแหงนี้เปนแนแท มูลคามหาศาล!”
“ยันตเชนนี้มีจํานวนการใชที่จํากัด เขาใชไดไมกี่ครั้งหรอก”
ทายาทอสูรบรรพกาลเหลานี้มีประสบการณกวางขวาง มองออกวานั่นคือ ‘ยันตยน
พื้นที่’ ตางอุทานอยางอดไมได ชายชุดครามคนนี้โชคดีเสียจริง คาดไมถึงวาจะมีการเก็บ
เกี่ยวจากกลางซากปรักหักพัง
“สมควรตาย ดาบกระดูกของขาแตกระแหงเสียแลว” ชายชุดครามสาปแชงในที่
หางไกล ใบหนาเปอนเลือด อัปลักษณเปนอยางมาก เขาจนตรอกอยางยิ่ง
“อยาคิดวาตนเปนผูผนึกแลวจะสามารถสังหารเด็กคนนั้นได เขาตอกรดวยยากนัก”
ชายชราผูหนึ่งเอยปาก
ในบริเวณใกลเคียงยังมีคนอีกหลายชีวิต แตละคนตางมีกลิ่นอายนากลัว ลวนไม
ธรรมดา
“พวกเราโจมตีพรอมกัน สังหารทายาทอสูรบรรพกาลเหลานั้นใหสิ้นซาก บนกาย
ของพวกมันตองมีอาวุธล้ําคาเปนแน สังหารพวกมันงายยิ่งกวาคนหาในซากปรักหักพัง”
ชายหนุมชุดครามกลาว
“ทายาทอสูรเหลานั้นมีความเปนมาที่ยิ่งใหญ หากเขนฆาอยางลับๆ สักตัวสองตัว
ของไมเปนไร แตหากสังหารทั้งหมด ถูกคนพบเขาแลวรั่วไหลออกไป อาจนําหายนะครั้ง
ใหญมาสูเผาเรา!” ชายชราผูหนึ่งกลาวเสียงทุม
พวกเขามาจากตระกูลใหญ เปนหนึ่งในสี่ตระกูลใหญที่ถูกเจาตัวเล็กขูกรรโชกในโลก
แหงความวางเปลานั่นเอง
อีกฟากหนึ่งก็มีกลุมคนกําลังประชุมลับ จะตอกรกับเจาตัวเล็ก อีกทั้งยังมีคนเริ่ม
เคลื่อนไหวแลว เคลื่อนไหวเขาประชิดอยางลับๆ เตรียมการโจมตีอยางรวดเร็วดุจสายฟา
ฟาด
กลางซากปรักหักพัง เจาตัวเล็กตื่นตัวเปนเวลานานแลว เขามีประสาทสัมผัสวองไว
สํารวจเหตุการณเปลี่ยนแปลงเล็กนอยบริเวณรอบๆ ตลอดเวลา
“มีคนจะจัดการพวกเรา!” ครั้งนี้ เจาตัวเล็กเตือนลวงหนา
“ยังไมจบสิ้นหรือ? ฉีกทึ้งพวกมันพรอมกันเลย!” นกแดงยักษรองตอบ
สิงโตเกาเศียร เตียวมวง ผูกลาแหงเผาสามเนตรลวนพิโรธ กระโจนไปขางหนา
พรอมกัน แสงสวางระยิบระยับ เคล็ดวิชาล้ําคาพุงขึ้นพรอมกัน กระแสเสียงนาตกตะลึง
อยางที่สุด ผูผนึกเหลานี้ตะลึงงัน จากนั้นหันหลังหนีไปทันที
“สมควรตาย ทั้งที่พวกขาเพิ่งมาเยือน กอนหนานี้ไมเคยถูกเปดเผยนี่นา!” คนแหง
ตระกูลนี้ไมรูวามีชายชุดครามลงมือไปกอนแลว
กลางซากปรักหักพังชุลมุนวุนวาย เหลาทายาทอสูรบรรพกาลสูศึก อานุภาพนา
หวาดหวั่น ผูกลาสี่ชีวิตถูกปลิดชีพจนเลือดทวมกาย ไตขึ้นฟาก็ไรหนทาง แทรกแผนดินก็
หนีไมพน สุดทายถูกสังหารจนหมดสิ้น
“ชิงชังนัก ไยเด็กอํามหิตคนนี้จึงมากับทายาทอสูรบรรพกาลเหลานี้ได ยิ่งใหญถึง
เพียงนี้!” ผูคนแหงตระกูลนี้ตางโมโหโทโส เรงตามมาจากที่หางไกล
สองวันตอมา เจาตัวเล็ก สิงโตเกาเศียร นกแดงยักษ อีกาไฟเปนตน เสมือน
กลายเปนราชัน กวาดลางภายในซากปรักหักพัง มีผูยั่วยุปลุกปนนอยยิ่งนัก
ในระหวางนี้ พวกเขาไลฆาผูผนึกแหงเผาพันธุมนุษยอยูหลายครั้งหลายครา เพียง
มองเห็นผูมีอายุมาก เขาใกลอยางเงียบเชียบ พวกเขาจําตองไลลาอยางบาระห่ํา
พลแหงสี่ตระกูลใหญที่ลวงหนามากอนตางเคียดแคน ใครสังหารใครกันแน? พวก
เขาระดมผูกลาเขาสูเขารอยยอด หมายจัดการเด็กเหลือขอ ปรากฏวาเมื่อเขามาแลว ไย
กลับถูกไลทุบตีเชนนี้?!
โบราณสถานกวางขวาง ไรขอบเขตไรที่สิ้นสุด เดินทางอยูสองวันก็ยากจะมองเห็น
จุดสิ้นสุด ระหวางนีพ้ วกเจาตัวเล็กพบอาวุธล้ําคาทั้งสิ้นสิบกวาชิ้น แตกลับบินหายไปใน
ฟากฟา ยากจะจับตัวได
ทันใดนั้น เสียงดุจน้ําปาดังขึ้น ณ เสนขอบฟาเกิดแสงสวางโชติชวง ประหนึ่งดวง
อาทิตยเกาดวงลอยขึ้นพรอมกัน ทําใหหมอกดําเปนเสนๆ กระจัดกระจาย สงเสียงดั่ง
สายฟาคําราม
“แยแลว รีบหนีเร็ว อาวุธล้ําคามากมายฟนคืนชีพ กอตัวเปนกระแสน้ําวิเศษ!” มีคน
ตะโกนลั่น
เบื้องหนามีสิ่งมีชีวิตนับหมื่นวิ่งหนีกลับมา ใบหนาซีดเผือกไรสีเลือด หนึ่งในนั้นมี
วานรคลั่งผูยิ่งใหญ ซวนหนีผูนากลัวเปนตน ไมเวนแตเหลาราชนิกูลแหงเผาพันธุมนุษย
สิ่งมีชีวิตที่เขาสูซากปรักหักพังตางหลบหนีกันจาละหวั่น หวาดหวั่นจนถึงขีดสุด!
“โอสวรรค อาวุธล้ําคาฟนคืนชีพ เขนฆาสิ่งมีชีวิตที่เขาสูซากโบราณสถาน รีบหนีเร็ว
เขา!” อีกาไฟรองลัน่ หลายวันกอนเคยเกิดเหตุจลาจลเชนนี้ขึ้นครั้งหนึ่ง ครัง้ นั้นมี
อัจฉริยะลมตายไมรูตั้งเทาไหร
มันกระพือปกทะยานขึ้นฟา แปลงรางเปนแสงดําทมิฬ ไปยังที่หางไกลในพริบตา ไม
สามารถตอตานไดอยางสิ้นเชิง
“โฮก…” สิงโตเกาเศียรคําราม รางกายกําจายแสงทอง เทาย่ําลูกประคําวงหนึ่ง หนี
ไปไกลอยางรวดเร็ว
นกแดงยักษ เตียวมวง ผูกลาแหงเผาสามเนตรเองก็ไมละเวน หันหลังแลวหนีทันที
มันมิใชสิ่งที่กําลังของมนุษจะตานทานได นากลัวเหลือเกิน
ณ เสนขอบฟา สุระเสียงดุจสายฟาคําราม แสงสวางลุกโชติชวง แผคลุมฟาดินอยาง
สิ้นเชิง ราวกับนกครุฑ ปกษาเทพเจาบรรพกาลหลายสิบตัว สูงใหญตระหงานเสียดฟา
สองสวางไปทั่วซากปรักหักพัง
อาวุธล้ําคาเหลานั้นอยูรวมกัน เปลงแสงสวางกระทําการเขนฆาสังหาร เสมือน
กระแสน้ําวิเศษอยางแทจริง เสียงดังกึกกอง หมดหนทางจะตอตาน
สิ่งมีชีวิตมืดฟามัวดิน หนีเตลิดเปดเปงไปทั่วทุกสารทิศ
เจาตัวเล็กเบิกตากวาง มองเห็นวัตถุล้ําคามากมาย ลวนเปนสิ่งที่ปลุกเสกมาจาก
กระดูกล้ําคากับหนังแหงทายาทอสูรบรรพกาลที่แข็งแกรงอยางยิง่ เชนปกวิเศษของอีกา
ทอง เขาสีเทาของมังกรเจียว กระดองล้ําคาของเตาวิเศษ… เปนวัตถุล้ําคาอยางยิ่ง
“ของขา ของขา ของขาทั้งหมด!” เจาตัวเล็กกําหมัดแนน ตาโตหรี่เปนรูปจันทร
เสี้ยว เช็ดน้ําลายไมหยุด แตวา ตามเสียงดังกึกกองที่แววมา กระแสน้ําวิเศษเขาประชิด
เขาก็ทําไดเพียงกระทืบเทาปงปง จากนั้นหนีหายไปอยางไรรองรอย
“ผลุบ”
ละอองเลือดแตกกระเด็น ขณะที่ยักษสูงสิบกวาหมี่ตนหนึ่งกําลังวิ่งหนี ถูกงาชาง
อาวุธล้ําคาขาวสะอาดกิ่งหนึ่งทะลวงผาน กะโหลกขนานใหญกลิ้งลงมา เลือดพุงขึ้นสูง
รางไรหัวลมลงบนพสุธา
“อาก…”
ไมไกลนัก อัจฉริยะกลุมหนึ่งรองโหยหวน ปกอีกาทองพัดลงมา เปลวไฟทวมทน
ทองฟา มีคนนับหลายสิบคนกลายเปนคบเพลิงในเสี้ยววินาที จากนั้นละลายเปนเถาถาน
ไมเหลือสิ่งใดเลย
นี่เปนภาพที่นาเวทนา กระแสน้ําวิเศษไหลบา อาวุธล้ําคาโจมตี เสียงสายฟาคําราม
สะเทือนหู ราวกับดวงตะวันหลายสิบดวงลอยควาง เจิดจาพราตา ที่นี่กลายเปนลาน
ประหาร
“ตูม”
เสียงกลองสะทานฟา นั่นเปนกลองหนังมังกรชือใบหนึ่ง เพียงเสียงดังขึ้น ก็สะเทือน
จนคนจํานวนนับไมถวนกระอักเลือดคําใหญ อัจฉริยะมากมายหวาดกลัว
ในแตละชนเผา พวกเขามีศัตรูนอยมากในหมูคนรุนราวคราวเดียวกัน แตเมื่อมาถึง
ที่นี่กลับพบวาชีวิตไรคาอยางแทจริง
“ตูม” “ตูม” …
เสียงกลองดังสนั่น คนหลายสิบชีวิตดานหลังสุดรางกายสั่นไหวรุนแรง จากนั้น
กระอักเลือดคําใหญ หัวใจแหลกละเอียดถูกพนออกมา อีกทั้งกระดูกหักทั่วทั้งรางกาย
กลางโบราณสถานมีกลิ่นคาวเลือดโชยแตะจมูก เกิดการเขนฆาสังหารทุกหนแหง
กระทั่งสองชั่วยามผานไป แสงสวางเจิดจา ณ เสนขอบฟาถดถอย กระแสน้ําวิเศษ
ลาถอย อาวุธล้ําคาหายไป
กลางนภามืดสลัว ที่หางไกลที่อาวุธล้ําคาพุงขึ้นเปนครั้งคราว สองแสงพราตาเปน
สายๆ ประหนึ่งฝนดาวตกทอดขามฟากฟา
ทวา ฝูงชนกลับไมตารอนปานนั้นแลว แตกลับรูสึกรางกายเย็นยะเยือก อาวุธล้ําคา
ที่นี่นากลัวเหลือเกิน เมื่อรวมตัวกัน กอเปนกระแสน้ําวิเศษ สามารถทําลายสรรพสิ่งได
อยางแทจริง ไมมีสิ่งใดสามารถขัดขวาง
เมื่อหายนะครั้งใหญนี้ผานไป มีคนถูกฆาอยางนอยสองพันกวาคน ศพเกลื่อน
โบราณสถาน เลือดยอมเศษหินเศษปูนจนแดงฉาน
“อาวุธที่ผูกลาบรรพกาลเหลือไวนากลัวแท!”
คนมากมายเกิดความคิดอยาลาถอย แมอาวุธล้ําคาจะดี แตไมสําคัญไปกวาชีวิต
ยากจะไดสิ่งของเหลานั้นมาครอบครอง
เจาตัวเล็กใบหนามอมแมม มีเพียงดวงตาคูนั้นมีสุกใส เมื่อครูเขาก็เปนหนึ่งใน
กองทัพที่หนีเอาชีวิตรอด พนจากความตายครั้งหนึ่งไดอยางอยูรอดปลอดภัย
“นากลัวเสียจริง เจียนถูกกิ่งไมวิเศษทิ่มแทงแลว” เจาตัวเล็กลูบคลําแขน ตรงนั้นมี
บาดแผลหลายแหงที่สมานกันแลว
รางกายของเขาคืนสูสภาพเดิมอยางรวดเร็ว เปนเพียงอาการบาดเจ็บเล็กนอย เลือด
หยุดไหลไดในพริบตา ทําการสมานแผลดวยตัวมันเอง
เวลานี้ เขาแยกจากสิงโตเกาเศียร อีกาไฟ นกแดงยักษและเตียวมวงแลว เพราะเขา
จองมองอาวุธล้ําคาอยางสงสัยแคลงใจ จึงถูกทิ้งไวหลังสุด คิดดูแลว พวกมันคงไมไดรบั
อันตราย
“ฮูว ตองระวังตัวเสียแลว”
เวลาผานไปครึ่งเดือนเร็วทันตา เจาตัวเล็กเสื้อผาขาดรุงริ่ง เดินเขาสูจุดลึกที่สุดของ
ซากปรักหักพัง ระหวางนี้เกิดกระแสน้ําวิเศษอยูหลายครั้ง เขาคอยๆ คนพบกฎเกณฑ
ของมัน เมื่อกระแสน้ําวิเศษผานไปจะมีชวงเวลาเงียบสงบอยูหลายวัน
เบื้องหนามียอดเขาเรียงราย บนภูเขามีแสงวิเศษสวางขึ้นอยูบอยครั้ง จิตสังหารจู
โจมผูคน
“อาวุธล้ําคายิ่งใหญมากมายตางซอนเรนอยูที่นี่ ที่นี่เปนจุดเริ่มตนแหงกระแสน้ํา
วิเศษ พวกมันรวมตัวกันพุงเขาไปยังซากโบราณสถานนอกภูเขา สามารถกอใหเกิดการ
สังหารครั้งใหญได” เจาตัวเล็กพูดเสียงเบา
ในความเปนจริงแลว แมที่นี่จะมีอาวุธล้ําคามากมายซุมซอนอยู แตสงบกวาโลก
ภายนอกอยูบาง อยางนอยที่นี่ก็ปราศจากกระแสน้ําวิเศษ สวนใหญกอตัวจากภายนอก
“คงมิใชขาผูเดียวที่เขาใจสภาพการณอยางแจมแจง ผูกลามากมายตางเขามากัน
แลว!”
เจาตัวเล็กระแวดระวังขึ้นมาทันใด เขามองเห็นผูกลาบางสวนลักลอบเคลื่อนไหว
ปรากฏตัวกลางยอดเขา เพื่อเสาะหาอาวุธล้ําคา
คนที่สามารถเขามาที่นี่ไดไมมีผูดอยแมแตคนเดียว ลวนมีพละกําลังอันนากลัว
ความสามารถเหนือธรรมชาติ
เขตภูเขาแหงนี้ไรพชื พรรณ โลงเตียน ไมวาจะเปนภูเขา ที่ราบ หรือหุบเขาก็เปน
เชนนี้ เสมือนประสบกับภัยพิบัติ เปนเหตุใหพลังชีวิตของที่แหงนี้ถกู ทําลายจนสิ้น
“ผูผนึก!” เจาตัวเล็กตะลึงงัน เขาพบผูกลาแหงเผาพันธุมนุษย ตางก็เปนบุคคล
อาวุโส เขาปวดใจตอสิ่งนี้ เตรียมการปองกันอยางเครงครัด
สําหรับเขาแลว มนุษยอาจจะอันตรายกวา เผาพันธุเดียวกันบางสวนตัดสินใจจะเขน
ฆาเขา จําตองปฏิบัติตออยางระมัดระวัง
“ผลุบ”
สองวันตอมา เจาตัวเล็กถูกซุมโจมตี หัวไหลพน ละอองเลือดเปนสาย เกือบจะถูกคน
ฟนไหลขาด ไดรับบาดเจ็บสาหัส
ขณะเดียวกัน เขาก็เสกกรรไกรกระดูกสีทอง ฟนคนนั้นจะบั้นเอวขาด อวัยวะภายใน
รวงลงบนพื้น คาวเลือดและนากลัวเปนอยางมาก
“สังหาร!”
ยังมีหาคนที่สุขกายสบายดี อายุตั้งแตยี่สิบกวาปจนถึงสามสิบสองปแตกตางกันไป
กระโจนเขาจูโจมโหดเหี้ยมดั่งพยัคฆและหมาปา ลวนเปนผูผนึกทั้งหมด
เจาตัวเล็กประสบกับวิกฤต สองเทาออกแรงกระทืบ เขาหินทั้งลูกพังทลายทันที
จากนั้นยอดเขาลื่นไถล กลิ้งหลุนๆ รวงลงไป ฝุนควันพุงทะลวงชั้นฟา
คนอื่นๆ แปรเปลี่ยนสีหนา ชายหนุมคนนี้นากลัวเหลือเกิน สะเทือนยอดเขาจน
ทลาย ไถลลงมา นาสะพรึงกลัวอยางสุดแสน พวกเขาไมสนใจการสังหารศัตรู พากัน
ปองกันตัว
เจาตัวเล็กฉวยโอกาสหลบหนี หายลับไปกับฝุนควันและกอนหิน
เขาพบเจอกับวิกฤต เทือกเขาแหงนี้เต็มไปดวยภัยอันตราย หากไมระวังตัวอาจ
สิ้นชีพวายชนมได
หลายวันผานไป เจาตัวเล็กรักษาอาการบาดเจ็บจนหาย กาวออกมาจากถ้ํา นัยนตา
กะพริบแสงวิเศษ หนนี้จําตองระวัง เห็นไดชัดวามีผูมีอิทธิพลหลายกลุมเพงเล็งเขา ตางก็
เปนผูผนึก
“เอะ?”
เขาประหลาดใจ ภายในหุบเขาที่หางไกลมีแสงสวางเปนระลอก บงบอกวามีอาวุธล้ํา
คาซุกซอนอยู เขาพุงออกไปอยางรวดเร็วดุจเสือดาว เขาประชิดอยางลับๆ
กลางหุบเขาไรพืชคลุมดิน เปนเชนเดียวกับที่อื่นๆ เปนดินแดนรกราง โลงเตียน
เจาตัวเล็กเขาไปดวยความระวัง ดวงตาเบิกกวางทันใด เปนอาวุธล้ําคาตาม
คาดการณ มีเจดียกระดูกขาวสะอาดกระเพื่อมขึ้นลง กลืนและพนแสงสวาง ไอมงคล
ลอยขึ้น นาตื่นตะลึงอยางที่สุด
นี่ตองเปนวัตถุล้ําคาเปนแน เจาตัวเล็กหวั่นวิตก ดวยเกรงวาอาจทําใหมันตื่นตกใจ
และหนีหายไป หรืออาจจะไมสามารถกําราบมันได
เขานํากระจกล้ําคาซวนหนีออกมา จากนั้นสองไปขางหนาทันที จากนั้นเสกกรรไกร
กระดูกสีทองอยางรวดเร็ว ลงมือพรอมกัน มุงหนาไปควบคุม หมายพันธนาการเจดีย
กระดูกวิเศษองคนี้
กลางหุบเขาระเบิดเสียงสวางฉับพลัน แสงวิเศษเปนพันนับหมื่นสายลอยลอง แผ
คลุมที่แหงนี้ มหัศจรรยอยางยิ่ง
ไมไกลนัก มีรถลากบนยอดเขาลูกหนึ่ง มีเสือขาวหมอบอยูบนนั้น ขางกายมีสตรีผู
กลาสองนางกําลังปอนเนื้อสดแกมัน
ปราศจากสัตวประหลาดลากรถ แตเปนผูกลาสี่นายแบกรถคันนี้เดินเหิน ยิ่งไปกวา
นั้น หนารถยังมีชายชราผูหนึ่ง ทําการเฝาระวังอยูตรงนั้น
“เอะ วัตถุล้ําคารึ? รีบไปที่นั่น ไมวาจะเปนผูใด ก็ขามันเสีย!” เสือขาวกระโดดขึ้นนั่ง
สงเสียงดวยกระแสจิต นัยนตาสองลําแสงนากลัว พลันเกิดเสียงฟาคํารามกึกกองขึ้นที่นี่
“ไป!”
รถลากสองแสง มันเปนอาวุธล้ําคาที่ยิ่งใหญ แสงสวางปกคลุมคนเหลานี้แลวบินไป
ยังหุบเขาดวยความเร็วสูงสุด
“ตูม”
เมื่อถึงที่นี่ พวกเขาก็เปดฉากจูโจม อักขระอันไมสิ้นสุดสาดทอ เจียนจะทวมทนที่นี่
หุบเขารอบดานทลาย กอนหินทะลวงนภา
เจาตัวเล็กพิโรธ ในชวงเวลาคับขันเชนนี้ แตกลับจะมีคนสอดมือเขามายุง ทําลายที่นี่
ขัดขวางการชิงเจดียกระดูกวิเศษของเขา ทําใหไฟโทสะลุกโหม
“เอะ เจานี่เอง ที่นี่ไมใชเมืองตัดนภา ไมมีผูอาวุโสแหงศาลาปดฟาคุมกะลาหัว ครั้งนี้
เจาหนีไมพน สังหารมัน!” เสือขาวตะโกนลั่น มันสงเสียงพยัคฆคําราม เพราะภาษา
มนุษยไมควรคาแกการใช
รถลากเปลงแสง อักขระดานบนลุกโชติชวง พุงลงมาทั้งหมด
“เปนอาวุธล้ําคาชิ้นหนึ่งจริงๆ มนุษย เจาอยาไดฝนเฟอง มันเปนของขา!” เสือขาว
ปลื้มปติ นี่เปนอาวุธล้ําคาที่มันชื่นชอบที่สุดเมื่อไดพบเจอหลังจากเขาสูเขารอยยอด
บทที่ 143 สมบัตลิ ้ําคาแหงโบราณสถาน
รถลากสองสวาง นี่เปนทั้งยานพาหะที่ใชเดินทาง และยังเปนรถศึกโบราณ บัดนี้
อักขระผนึกกําลัง กอเปนมานแสง บรรทุกคนมากมาย อักขระมากมายสาดทอ
เบียดเสียดยัดเยียด แทบจะเติมหุบเขาจนเต็ม หนาผาแตกออกเปนเสี่ยง กอนหินเกลือก
กลิ้ง ฝุนควันพวยพุง
เจาตัวเล็กหลบซอนอยางตอเนื่อง เสกอาวุธล้ําคามาตอตาน เขาประสบกับวิกฤต
ลําแสงวิเศษถูกยิงมาเปนเสนๆ โจมตีตําแหนงที่เขายืนจนแหลก กอนดินแตกกระจาย
ผาทั้งสี่ทิศของหุบเขาถลม เสียงดังกึกกอง กอนหินมากมายถูกฟาดจนปลิววอน พุง
ขึ้นกลางฟาสูง กลางหุบเขาเสื่อมโทรม ฝุนควันตลบอบอวล เปนภาพที่จวนจะพินาศยอย
ยับ!
“เสือขาว เจาทําขาโมโห ขาจะกินเจาแน!” เจาตัวเล็กเดือดดาล ขมวดคิ้วเปนปม
เขาสูญสิ้นพลัง พยายามริบเอาเจดียกระดูกแวววาวไป ไมคิดวาเสือขาวจะพรวดพราดมา
ทําลายอยางสิ้นเชิง
เจดียกระดูกองคนี้ไมธรรมดาเสียจริง กระเพื่อมขึ้นลงดวยตัวมันเอง เพียงสั่นแผว
เบาไอมงคลก็ลอยขึ้น ผลักกรรไกรกระดูกและกระจกล้ําคาออกไป ยากจะเขาใกลมันได
ตองรูวา มันยังมิไดกระทําการโจมตีอยางแทจริง นี่เปนเพียงคลื่นมหัศจรรยที่ลน
ออกมาดวยตัวมันเองเทานั้น!
สุดทาย เจาตัวเล็กใชวิชาโบราณแหงการหยั่งรูดั้งเดิม พยายามสื่อสารกับมัน สําแดง
อักขระเพื่อแสดงความเปนหนึ่งเดียวกับมัน เพิ่งจะเกิดผลเพียงเล็กนอย ปรากฏวาเสือ
ขาวพรวดพราดเขามา ทําใหเจดียกระดูกตื่นตกใจทันที
เสือขาวยื่นตระหงานบนรถลาก รางกายของมันไมถือวาใหญโตเทาใดนัก แตกลับมี
พลังอํานาจอันเหยียดหยามผูอื่น นัยนตาคูนั่นกําจายแสงสีทองออน นาสะพรึงกลัว
ประหนึ่งมีดดาบ
“เจากําลังพูดกับขางั้นรึ?” มันพูดภาษามนุษยในที่สุด สีหนาเย็นเยือก ในเบาตา
กะพริบแสงเย็น ราวกับจะยิงดามลูกศรออกมา
“เหลวไหล แมวยักษ เจากําลังรนหาที่ตาย!” เจาตัวเล็กพูดอยางโมโห ตอนนี้เขา
สื่อสารกับเจดียกระดูกนั่น แตกลับไรประโยชน มีหมอกแผกระจาย ผลักไสเขาออกไป
ขางนอก
“ปดผนึกหุบเขา สังหารเขาเสีย ขาเกลียดที่มนุษยพูดจาเชนนี้กับขา เรงเก็บสมบัติ
ล้ําคาชิ้นนี้ขึ้นมา!” เสือขาวกลาว ตัวมันเองก็ลงมือแลว ยกอุงมือเสือขางหนึ่งขึ้นตะปบลง
มา เสมือนภูเขาลูกหนึ่งกระแทกลงมาในบัดดล แผนดินสั่นไหว ขุนเขาโยกคลอน อักขระ
ขาวโพลนทวมทนหุบเขา
บนรถลาก เสือขาวประทานถุงหนังสัตวลงมาชิ้นหนึ่ง ชายชรากาวออกมารับเอาไป
ปลดเชือกออก ปากถุงปลอยแสงสวางทันที มีแรงดึงดูดอันไรเทียมทาน หมายกักเก็บทุก
สิ่งอยางในหุบเขาใหสิ้น
“ตูม!”
เมื่อถูกรบกวนอยางตอเนื่อง เจดียกระดูกองคนั้นฟนคืนชีพในที่สุด ระเบิดแสงสีขาว
ดุจเกลียวคลื่น สะเทือนไปทั่วทุกสารทิศ
เจาตัวเล็กตะลึงงัน รีบเก็บกรรไกรกระดูกและกระจกล้ําคาโดยไว คุมกันตนเอง
จากนั้นลาถอยใหหางจากที่นี่อยางรวดเร็ว
“สมบัติล้ําคาชั้นดี แมนตองแลกดวยสิ่งใดมากมายเพียงไหน จะตองไดมันมา
ครอบครอง พวกเจารวมพลังเสกถุงหยินหยางของขา เก็บมันขึ้นมากอน!” เสือขาวตื่น
ตะลึงระคนปลื้มปติ คํารามไมขาดสาย
หญิงสาวอัจฉริยะทั้งสองในรถลาก และชายฉกรรจรางกํายําสี่นายก็กาวออกมา
ชวยเหลือชายชรา ปลุกกระตุนถุงหยินหยางที่ปลุกเสกจากหนังล้ําคาแหงอสูรบรรพกาล
พวกเขากระจายแสงวิเศษทั่วราง หลั่งไหลเขาสูถุงหนังสัตว ทําใหมันเจิดจามากขึ้น
ปากถุงพรางพราย กลืนกินสรรพสิ่ง สามารถมองเห็นกอนหินหลายหมื่นชั่งแสนชั่งถูก
เก็บขึ้นมา กระแทกชนกันเขาไปในถุง
ทั้งที่ปากถุงไมใหญ แตเสมือนวาสามารถบรรจุคีรีธาราทั้งมวลได
เจาตัวเล็กมองดูอยางแววตาเปนประกาย ถุงใบนี้ชางดีเหลือเกิน สามารถเก็บสรรพ
สิ่ง ไมวาสิ่งของจะมากมายปานใดก็สามารถใสเขาไปในนั้นได ไมตองกังวลวาจะเอาไป
ไมได
“สมบัติล้ําคาชั้นดี หากขาไดมันมา จะจับตัวอสูรบรรพกาลทั้งหมดใสถุงกลับไปก็
ยอมได!” เขากําหมัดแนน
กอนหินนานาชนิดในหุบเขาลอยขึ้น พุงเขาไปในถุงหยินหยางไมขาดสา แตเจดีย
กระดูกองคนั้นกลับไมนิ่งไมไหวติง ไอหมอกขมุกขมัวไหลเวียน มหัศจรรยพนั ลึกมาก
ยิ่งขึ้น
“ไป!” เสือขาวคํารามลั่น มันลงมือแลว พนแสงสวางสาดทอลงบนถุงหยินหยาง ทํา
ใหพลังอํานาจของมันรุงโรจนมากขึ้น
“ตูม!”
เจดียกระดูกขาวสะอาดถูกรบกวนซ้ําแลวซ้ําเลา สุดทายก็ตอตานขึ้นมา เจดียสั่น
ไหว หุบเขาแหงนี้ระเบิด จากนั้นมันลอยสูงขึ้นแลวสั่นสะเทือน ริ้วคลื่นดุจทะเล ทําให
ขุนเขาโยกไหว เกิดแผนดินไหวครั้งใหญ
“มิไดการแลว อาวุธล้ําคาชิ้นนี้คลั่งแลว!” เสือขาวอุทานอยางตกใจ รถลากลอยขึ้น
ฟาอยางรวดเร็ว จวนจะหายเขาไปในชั้นเมฆ รักษาระยะหางที่ปลอดภัย
เจดียกระดูกสั่นไหว สาดอักขระออกมากลุมแลวกลุมเลา แทบจะทําใหพวกเขาลม
คว่ํา รถลากเจียนจะหลนลงมา โชคดีที่หางไกลพอสมควร
“ลองครั้งสุดทาย หากลมเหลว พวกเราจะรีบไปทันที!” เสือขาวไมถอดใจ
พวกเขารวมพลังปลุกกระตุนถุงหยินหยาง แสงสวางสองไปทั่วสี่ทิศ ปากถุงปลอย
อักขระจํานวนมาก แผกระจายไปทั่วทุกหนแหงเปนกลุมเปนสาย
เจดียกระดูกโยกไหว เก็บไอหมอกทั้งหมดอยางรวดเร็ว เริ่มสองแสง แวววาวจน
แทบโปรงใส มีคลื่นอันทําใหอกสั่นขวัญแขวนแผขยาย
เจาตัวเล็กเห็นดังนั้นก็ไมพูดอะไรใหมากความ และไมอยากกินเนื้อเสือขาวเสียแลว
กระโดดขึ้นบนกระจกล้ําคาซวนหนี แปลงรางเปนลําแสง หลบหนีไปดวยความเร็วสูงสุด
เขาสัมผัสไดถึงกลิ่นอายอันตราย
“ตูม”
เปนไปตามการคาดหมาย ขางหลังปะทุขึ้น เจดียกระดูกสองแสง คลายกับดาวหาง
กระแทกลงมา พื้นดินแตกแยก เสมือนนภาแตกออกเปนเสี่ยง เสมือนมีพระอาทิตยดวง
หนึ่งระเบิด
พลังอันนากลัวมวนเทือกเขาแหงนี้ไป ยอดเขามากมายสั่นสะเทือน จากนั้นถลมลง
ฝุนควันแตกกระเด็นรอบทิศ ที่นั่นกลายเปนดินแดนพังพินาศ
“ชางเปนอาวุธล้ําคาที่แข็งแกรงเสียจริง!” เจาตัวเล็กหนีอยางรวดเร็ว ในใจรูสึก
เสียดายอยางหาที่เปรียบมิได อาวุธล้ําคาเชนนี้แข็งแกรงเหลือเกิน คาดวาแมแต
จักรพรรดิพบเห็นก็คงนัยนตารอนเปนไฟ
“รีบหนี!” เสือขาวคําราม มันรูวาอาวุธล้ําคาชิ้นนี้แตะตองไมได เมื่อคืนชีพ เหนือ
เกินคําบรรยาย มิใชสิ่งที่พวกมันจะเขาไปของเกี่ยวได
“คงมิใชเครื่องใชประกอบพิธีแหงนักปราชญบรรพกาลกระมัง?” ชายชราลังเล
รถลากเหาะเหินอยางรวดเร็ว แมจะเปนเชนนี้ แตก็มีชายฉกรรจผูหนึ่งถูกแสงสวางที่
พุงขึ้นมาโจมตีเขาอยางจัง รวงลงมากจากรถลาก จากนั้นแตกออกเปนเสี่ยงๆ กลางนภา
“เร็วอีก!” เสือขาวแปรเปลี่ยนสีหนา เปยมดวยความหวาดกลัว
พวกเขาเขาสูชั้นเมฆสูงเปนเวลานานแลว ระยะหางไกลเพียงพอ แตแสงสวางเบื้อง
ลางกระเด็นรอบทิศทาง ลอยลองเต็มฟากฟา และมีลําแสงกวาดผานมาเปนครั้งคราว
ผูคนบนรถลากรวมแรงกางมานแสง หลบหนีไปอยางรวดเร็ว
“โฮก…” เสือขาวรองอยางนาเวทนา แมแตมันก็ถูกแสงวิเศษฟาดเขา โซเซโงนเงน
แทบรวงลงจากรถลาก หัวไหลถูกทะลวง เลือดไหลพรั่งพรู
เสียงผลุบดังขึ้น หนาอกดานขวาของชายชราถูกทะลวง กระอักเลือดคําใหญ เจียน
สิ้นชีพ
รถลากวิ่งหอดวยความเร็วสูงสุด ลอยขามฟากฟาอยางรวดเร็ว หนีจากที่แหงนี้
กลางนภาสาดทอเลือดเปนวงกวาง พวกเขาหนีอยางไมคิดชีวิต
เสียงชริ้งดังขึ้น เจดียกระดูกไมลอยกระเพื่อมอีกตอไป แปลงรางเปนแสงสีรุงจากไป
ไกล เขตภูเขาทรุดโทรมคืนสูสภาพเงียบสงบ
“เจดียกระดูกยิ่งใหญปานนี้ ไยจึงเลือกที่จะหนีออกไปจากหุบเขากันเลา?” เจาตัว
เล็กมองเห็นอยางชัดเจนในมุมมืด เจดียนั่นจากไปเสียแลว รีบรอนยิ่งนัก ทําใหเขางุนงง
อยางที่สุด
เขามิไดหยุดยั้ง ไลตามไปในชั่วพริบตา ตามติดตลอดทาง เสกกระจกล้ําคาบรรทุก
เขาเหาะเหินอยางรวดเร็ว
แตทวา เจดียองคนั้นเร็วเหลือเกิน รองรอยที่เหลือเปนทางมลายหายไปยังเบื้องหนา
เจาตัวเล็กมุงหนาไปตลอดทาง ทัศนียภาพแหงภูเขาและสายน้ําถอยหลังอยาง
รวดเร็ว เขาไมรามือ หลังจากขามผานเทือกเขามากมาย ในที่สุดก็สัมผัสไดถึงคลื่นของ
เจดียกระดูก
ขางหนาเกิดเปลวไฟทวมทนทองฟา นั่นเปนทะเลไฟผืนใหญ ลาวาอันไมสิ้นสุด
เกลือกกลิ้ง หลั่งไหลพรั่งพรู ยอดเขาแดงฉาน ภาพเหตุการณพิสดาร มองดูนากลัวยิ่งนัก
“คาดไมถึงวาจะมีทะเลไฟเชนนี้!” เจาตัวเล็กฉงนสนเทห
หลายวันกอน เขาเดินทางผานที่นี่ยังไมมีอันใด บัดนี้เขตภูเขานี้หลอมละลายเสีย
แลว สามารถมองเห็นวายอดเขาหลายลูกก็ละลายเชนเดียวกัน กลายเปนลาวา ไหลบา
มาลง
“นี่เปนไฟแหงหงสดิน ไยจึงปรากฏขึ้นที่นี่!” เจาตัวเล็กตะลึงงัน มองออกในที่สุด
นี่เปนเปลวไฟขั้นสูงสุดที่ใชปลุกเสกอาวุธล้ําคา ผุดออกมาจากที่แหงนี้อยางไมนา
เชื่อ แทที่จริงแลวเปนเพียงไฟธรณินเทานั้น แตกลับหลอมคีรีธาราทั้งหลายจนละลาย
กลางภูเขาและสายน้ําแหงนี้ มีเปลวไฟกลุมหนึ่งเริงระบํา เจิดจาดุจแสงวิเศษ โชติ
ชวงเปนพิเศษ มีเสียงหงสไฟแผดรองแววมาอยางเลือนราง
เจาตัวเล็กนัยนตาฉายแสงวิเศษ ทอดมองอยางพินิจพิเคราะห มันตองเปนไฟล้ําคา
อยางแนนอน กลุมเปลวไฟนั่นกระโดดโลดเตน เสมือนหงสไฟหนึ่งตัวกําลังเริงระบํา
ทัศนวิสัยนาตื่นตะลึง
“เจดียกระดูกอยูกลางกองไฟนั่น!” เจาตัวเล็กตกใจ พบรองรอยของเจดียกระดูกใน
ที่สุด มันกระเพื่อมอยูตรงนั้น นอมรับการหลอมละลายและตีใหเขารูปจากเปลวไฟ
หรือวามันบาดเจ็บ อยากฟนฟูตนเอง? หรือมันอาจจะถอดรูปแปลงราง ปลุกเสก
ตัวเองใหมหรือ? นี่ตองเปนเรื่องนาตื่นตะลึงเปนแนแท พบเห็นไดยากในหมูอาวุธล้ําคายิ่ง
นัก
เขาสูงหลอมละลาย ลาวาพุงทะลัก ทวมทนที่แหงนั้น มองเห็นเพียงเปลวไฟ เจาตัว
เล็กจําตองลาถอย
หลายวันตอมา เขาปรากฏตัวในละแวกใกลเคียง อยางมากก็ไมไกลเกินหาสิบลี้ รอ
คอยเปลวเพลิงมอดดับ แตทวาที่นี่มีลาวาหลั่งไหลตลอดเวลา ไมมีทาทีจะหยุดลง
“ชริ้ง”
คมดาบฟาดมา ชายหนุมชุดครามคนหนึ่งปรากฏตัว ถือดาบกระดูกเดินมา ยืนใน
ตําแหนงที่ไดเปรียบ ฟาดฟนเจาตัวเล็ก ปรากฏเงาคนในบริเวณใกลเคียงอยางตอเนื่อง
หนึ่งในสี่ตระกูลใหญมาเยือนอีกแลว ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ และเปนชายชุดครามที่โจมตี
เจาตัวเล็กกอนคนอื่นใด หลังจากเขาสูโบราณสถานแลว ถูกเขาและเหลาทายาทอสูร
บรรพกาลโจมตีจนหนีเตลิดไป
เจาตัวเล็กหลบหลีกคมดาบ จองคนเหลานี้เขม็ง มีทั้งสูงวัยและเยาววัย มีจํานวน
กวายี่สิบคน มีผูผนึกทั้งสิ้นหกเจ็ดคน
“พวกเจามีจิตใจต่ําชาเสียจริง พวกเจามีความแคนอันใดกับขากันแน?” เจาตัวเล็ก
เอยถาม
“หนึ่งในกองพลที่ถูกเจาสรางเปนกองภูเขามนุษยในโลกแหงความวางเปลา” ชาย
ชุดครามกลาวอยางเยือกเย็น
เจาตัวเล็กไดยินถอยคําก็ชะงักงัน จากนั้นหัวเราะเสียงดังแลวพูดวา “นั่นเปน
ชวงเวลาที่เบิกบานใจจริงๆ เสียดายที่ขาถูกเนรเทศออกมา คิดถึงเหลือเกิน รอครบ
กําหนดขาจะเขาไป ขาจะไปสรางกองภูเขามนุษยที่ใหญกวาเดิม”
นี่เปนการพูดเสียดสีอยางเปดเผย ทําใหคนกลุมนี้แปรเปลี่ยนสีหนาในบัดดล พาย
แพแกเด็กเหลือขอคนนี้ก็เพียงพอแลว ทั้งยังถูกขูกรรโชก อับอายขายหนาอยางสุดแสน
“ฮูว พวกเจาคงมิไดเปนคนที่ถูกขากองเปนกองมนุษยเหลานั้นหรือกระมัง?” เจาตัว
เล็กสงสัย
เมื่อวาจานี้ถูกเปลงออกไป คนกลุมนี้มีสีหนาไมนาดูอยางยิ่งยวด เสนเลือดบน
หนาผากของชายหนุมบางคนเตนระริก แมแตชายชราเหลานั้นก็ใบหนาถมึงทึง
“ฮาฮาฮา…” เจาตัวเล็กระเบิดเสียงหัวเราะ สุขอุราอยางหาที่เปรียบมิได ที่แทคนที่
ไลสังหารตนลวนเคยถูกตนจัดการจนนอนคว่ํา
เสียงหัวเราะเชนนี้ ทําใหคนเหลานี้สีหนาเรียบเฉยดุจสายน้ํา อยากจะเฉือนเขาทั้ง
เปนทันที
“ขาเขาใจแลว ผูอื่นที่ไลลาขาก็เปนเชนนี้ มาจากสี่ตระกูลใหญ ลวนเปนคนที่พายใน
กํามือขา ฮาฮา…” เจาตัวเล็กหัวเราะดวยความเบิกบานใจอยางที่สุด
เดิมทีเขากลัดกลุม ไยจึงถูกคนลอบสังหารอยูตลอดเวลา บัดนี้โลงใจอยางสิ้นเชิง ถึง
อยางไรคนเหลานี้ก็เคยถูกเขาทุบตีมากอน เผชิญหนาคนที่ถูกกําราบดวยเงื้อมมือของตน
เขาเบิกบานใจเหลือเกิน
“ที่นี่ไมใชดินแดนขั้นตนของโลกแหงความวางเปลา ขั้นบําเพ็ญของพวกขามิไดถูก
ควบคุมจนต่ําปานนั้น เจาเอาชีวิตเจามาเสีย!” ชายชุดครามตะโกนลั่น ตัวเขาเปน
อัจฉริยะแหงรุน มีคูตอสูนอยนักในคนรุนราวคราวเดียวกัน แตวากลับถูกคนกระหน่ําทุบ
ตีในโลกแหงความวางเปลา กองรวมกับคนในตระกูล ชางเปนความอัปยศอดสูอยาง
แทจริง
“แตถึงอยางไรก็เปนเพียงคนที่พายในกํามือขา ขาไมกลัวเจาหรอก หากยังดื้อไมเชื่อ
ฟง วันหลังขาจะไปกองภูเขามนุษยตอ”
นี่เปนสังหารครั้งหนึ่ง เจาตัวเล็กกลับหนาชื่นตาบาน ทําใหคนเหลานี้เผยแววตา
เยือกเย็น ทั้งโกรธแคนและชิงชัง
เจาตัวเล็กวาดสองมือไมหยุด สําแดงอักขระแหงการหยั่งรูดั้งเดิม กลายเปนเกลียว
คลื่นสีทอง โหมซัดไปดานหนา ปะทะกับดาบกระดูกของชายชุดคราม
“ลงมือพรอมกัน กําจัดเขาเสีย!” ชายหนุมอีกหนึ่งคนกาวออกมารวมลงมือ
ขณะเดียวกัน เหลาผูสูงวัยยางกาวไปขางหนา แตละกาวย่ําลง ผิวดินสั่นไหวแผวเบา
ราวกับยักษหลายตนเดินมา แววตาเจิดจาดุจโคมไฟสีทอง
“ตูม”
ศึกครั้งใหญปะทุขึ้นอยางดุเดือด เจาตัวเล็กตอบโตคนเหลานี้ทีละคน พลังปราณ
และเลือดเกลือกกลิ้ง อักขระอันทวมทนทองฟากดอัดจนเขาหายใจไมออก เคล็ดวิชาล้ํา
คาโจมตี ปดผนึกที่แหงนี้
เลือดลมของเขาพลุงพลาน แมรางกายจะไรเทียมทาน แตความลึกซึ้งของอักขระ
เทียบชายชราเหลานี้ไมได ถูกสะเทือนจนมุมปากเปอนเลือด
คนมากมายเพียงนี้ลงมือพรอมกัน เขาไมสามารถตอกรได เจาตัวเล็กรูสึกหวาดหวั่น
ผูผนึกสูงวัยเหลานี้มิใชคนธรรมดา ไมอาจตอบโตดวยพละกําลังได หากถูกลอมไวที่นี่
เขาตองสิ้นชีพเปนแนแท
เจาตัวเล็กมิไดกระตือรือรนอยากสูศึกตอไป เช็ดเลือดตรงมุมปาก ไมปลอยใหพวก
เขาตีวงลอม สูศึกพลางลาถอย
“เจาหนุม พรสวรรคของเจานาตื่นตะลึงอยางแทจริง แตเจายั่วโมโหคนที่ไมควรยั่ว
ตระกูลคุนแหงขาจะปลอยใหเจามีชีวิตรอดไดอยางไร ยอมรับความตายเสีย!” ชายชรา
คนหนึ่งแผดเสียง
พวกเขาเผยตัวตนออกมา เพราะคิดวาชายหนุมตรงหนาไมมีทางรอดเปนแน
เจาตัวเล็กตอสูกับพวกเขา ถูกอักขระของชายชราเหลานี้ระงับอยางตอเนื่อง เคล็ด
วิชาล้ําคาพุงมาดุจมหาสมุทร ทําใหมุมปากของเขาหลั่งเลือดอีกครา สุดทายควบกรรไกร
กระดูกสีทองพุงไปยังใจกลางเทือกเขาอยางรวดเร็ว
“จะไปไหน!” คนกลุมนี้จะปลอยใหรอดไปไดเยี่ยงไร เหลาชายชรายืนอยูบนอาวุธล้ํา
คา นําพาลูกหลานแหงตระกูล ไลลาตามไปพรอมกัน
ของเหลวแดงฉานขวางทาง เปลวไฟโหมซัดสาด เหตุการณเบื้องหนานาสะพรึงกลัว
ยอดเขาแดงก่ํา คลื่นความรอนหลั่งไหลบนแผนดิน หลอมละลายกลายเปนลาวา
เจาตัวเล็กเหยียบกรรไกรกระดูกสีทอง ขามผานดินแดนลาวาอันกวางใหญ นัยนตา
ระยับแสง มองไปขางหลังแวบหนึ่ง จากนั้นเริ่มเพิ่มความเร็วในการเหาะเหิน
ดานหลังมีกลุมคนยิ้มเย็น ความเร็วของพวกเขาไมดอยไปกวาเจาตัวเล็ก แมนติดปก
เขาก็หนีไมรอด ถึงอยางไรก็สามารถไลทันเขาสักวัน
“ชนเผาอื่นก็ใหรางวัลนําจับมิใชหรือ? พวกเราเขนฆาสังหารเขา นําเอาอาวุธล้ําคา
ของเขาไป จากนั้นนําหัวของเขาไปรับรางวัล”
“เด็กเหลือขอคนนี้นาชิงชังแท หากเพียงฟนคอก็ดูหมิ่นเขาเกินไป ควรจะสังหารโดย
การหลิงฉือเสีย!”
คนเหลานี้อํามหิตโหดเหี้ยมเปนอยางมาก จวนจับตัวเด็กเหลือขอไดในที่สุด ตางก็
คิดวาจะหยามหยันและเอาชีวิตเขาอยางไร
ทันใดนั้น เจาตัวเล็กเหลียวหลัง เผยรอยยิ้มพิกล ยกมือสองกระจกล้ําคาซวนหนี
จากนั้นระเบิดลาวาดานหลังทันใด สายฟาวาดลงมาเสนแลวเสนเลา
“เปรี้ยง”
ใจกลางลาวาเดือดพลาน เกลียวคลื่นพุงทะลวงฟา อุณหภูมิของของเหลวแดงฉาน
นากลัว ทะลักขึ้นสูฟาสูง
“ถึงอยางไรก็เปนเด็ก คิดวาลาวาจะทําอะไรขาไดรึ?” ชายชราคนหนึ่งยิ้มเย็น อาวุธ
ล้ําคาสองแสง ขัดขวางเกลียวคลื่นสีแดงที่พุงขึ้นมา
แตทวา รอยยิ้มเย็นเยือกของเขาคางทันใด คนทั้งหมดตางรูสึกหวาดกลัวขึ้นมา
กลิ่นอายนากลัวพุงขึ้นสูทองฟา ทําใหแตละคนสั่นสะทาน!
เจดียล้ําคาแวววาวลอยกระเพื่อมกลางลาวา ถูกเปลวไฟแหงหงสหอหุม เผยรูปโฉม
แทจริง จากนั้นสั่นไหวอยางรุนแรง ประหนึ่งโมโหเดือดดาลอยางที่สุด ระเบิดแสงสวาง
อันทวมทนทองฟา
“อาก…ไม!”
คนตระกูลคุนกรีดรอง พวกเขารูวาประสบกับความวิบัติครั้งใหญหลวง อาวุธล้ําคา
ชิ้นนี้นากลัวเหลือเกิน เหนือกวาสมบัติล้ําคาที่ปกปกษคุมครองตระกูลอยางมากโข
ตอนนี้โจมตีพวกเขาเพราะความโกรธ
“ผลุบ”
เสียงอาวุธล้ําคาแหลกละเอียดดังขึ้น อาวุธล้ําคาของชายชราสามรายแหลกเปน
ผุยผงทันตา พวกเขาและลูกหลานที่นํามาดวยรองโหยหวน รวงดิ่งลงสูลาวา
“รีบหนี!”
ชายชุดครามและชายชราอีกสองคนพาคนในตระกูล เหยียบอาวุธล้ําคาแลวหนีไป
อยางไมคิดชีวิต
นาเสียดาย ระยะหางของพวกเขาใกลกับลาวาเกินไป ยิ่งไปกวานั้น ครั้งนี้อาวุธล้ําคา
อยูในชวงเวลาคับขันแหงการปลุกเสกตนเอง ถูกคนรบกวนจึงบันดาลโทสะ สําแดงเดช
อยางบาระห่ํา
“ผลุบ”
อาวุธล้ําคาอีกหนึ่งชิ้นฉีกขาด ชายชราดานบนแหลกละเอียดทันที คนขางกายตกลง
ไปในลาวา
ชายชุดครามและชายชราอีกหนึ่งไดรับบาดเจ็บสาหัส เลือดเปรอะเปอนทั่วกาย อีก
ทั้งอาวุธล้ําคาราวจวนจะพินาศ พวกเขาทอดทิ้งคนในตระกูล หนีไปจากบริเวณที่มีลาวา
โชคดีที่เจดียกระดูกไมไดสนใจไยดีอีกตอไป
โชครายคือ เจาตัวเล็กยืนอยูเบื้องหนา เสกกรรไกรกระดูกสีทองออกมา เสียงผลุบ
ดังขึ้น ฟนสันหลังของทั้งสองจนขาด เลือดสดสาดกระเด็น
“ขาเกลียดนัก!” ทั้งสองสิ้นหวัง เต็มไปดวยความไมพอใจ สิ้นชีพขางลาวา
“นากลัวเหลือเกิน!” เจาตัวเล็กจดจองใจกลางทองลาวา เกิดความหวาดกลัวขึ้นมา
โดยพลัน
เชนนี้เอง เขาเฝารออยูที่นี่นานสิบกวาวัน และเขาสูโบราณสถานเปนเวลาเดือนกวา
ลาวาเยือกแข็งตัวในที่สุด อุณหภูมิที่นี่เริ่มลดลง
“เอะ เจดียกระดูกไมโผลมาแลวรึ?”
เจาตัวเล็กสงสัย เดินวนรอบบริเวณแหงนี้ สัมผัสอยางถี่ถวน สุดทายก็ทนไมไหว
เริ่มทําการทดสอบหยั่งเชิง
เขาเสกมีดบินสีชาดที่ไดมาจากเฝยหยีออกมา กลายเปนเสนดายสีแดง ตัดหั่นใจ
กลางลาวา คนหาอยางละเอียด ปรากฏวาไรคลื่นเชนเดิม เจดียกระดูกไมกอการจลาจล
อีกเลย
ครึ่งวันผานไป เจาตัวเล็กเคลื่อนไหวดวยตนเอง มายังสถานที่ซึ่งเจดียกระดูกเคย
กระเพื่อมขึ้นลง เสาะหาอยางถี่ถวน ที่นี่ถูกมีดบินขุดจนเกิดหลุมใหญเปนเวลานานแลว
กอนหินแหลกเปนชิ้นกระจัดกระจายทั่วทุกหนแหง
เสียงตูมดังขึ้น แววเสียงความวางเปลาจากใตดิน และกะพริบเปลวไฟ เจาตัวเล็ก
สะดุงโหยง จองมองลงไป เผยสีหนาตื่นตะลึงอยางชวยไมได
ตรงนั้นมีเจดียองคหนึ่ง ดูดซึมไฟธรณินจนหยดสุดทาย แปรเปลี่ยนเปนแวววาวโปรง
แสง
“นี่… ลาวาทั้งหมดถูกมันดูดจนแหงเหือดรึ?” เจาตัวเล็กขนพองสยองเกลา เขาลา
ถอยอยางรวดเร็ว แตกลับพบวา อาวุธเบื้องลางนั้นไรการตอบสนอง
“เอะ เปลี่ยนแปลงแลว”
เจดียในอุโมงคใตดิน แสงสวางมลายจนสิ้น ไมปรากฏทัศนวิสัยประหลาดอีกตอไป
ยิ่งไปกวานั้น มันเริ่มหดเล็กลงจากขนาดเทาฝามือ สุดทายยาวเพียงหนึ่งขอนิ้ว เมื่อตั้งขึ้น
ก็สูงไมเกินหนึ่งนิ้ว
เจาตัวเล็กตะลึงงัน รอมาเนิ่นนาน กลับไมเห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ ของมัน เขาสง
อักขระเปนสายออกมาทดสอบหยั่งเชิง ก็เปนเชนเดิม เจดียกระดูกขาวแวววาว นิ่งไม
ไหวติง
สุดทาย เขานําเจดียนอยมาวางไวบนฝามือ มันไรการตอบสนองใดๆ
เจดียนอยสูงไมถึงนิว้ มีขนาดเทาขอนิ้ว แวววับโปรงแสง ประหนึ่งแกะสลักจากหยก
ขาวมันแพะ งดงามนาหลงใหลเหนือธรรมชาติ มันไมเหมือนอาวุธล้ําคา แตกลับเหมือน
ของประดับวิจิตรตระการตาชิ้นหนึ่ง ปราศจากกลิ่นอายนากลัว
เจาตัวเล็กวิเคราะหซ้ําแลวซ้ําเลา สัมผัสไมถึงอักขระแมแตนอย จากนั้นเขากระตุน
พลังวิเศษ หมายเสกอาวุธล้ําคาชิ้นนี้ กลับพบวามันไมมีปฏิกิริยาใดๆ
หากมิใชเพราะเห็นประจักษแกตา เขาคงคิดวานี่เปนเพียงเครื่องประดับที่ประณีต
และงดงามเทานั้น
“ไยจึงไมมีการตอบสนองใดๆ เลยเลา?” เจาตัวเล็กเกาหัว เต็มไปดวยความ
คลางแคลงใจ ศึกษาเปนเวลานานก็ไรซึ่งดอกผล สุดทายก็ฟดฟด มัดมันรวมกับเสนผม
ใชเจดียนอยขาวแวววาวแทนเครื่องประดับอยางแทจริง
หลายวันผานไป เจาตัวเล็กมายังใจกลางขุนเขา ตลอดทางเขาพบเจออาวุธล้ําคา
ทั้งสิ้นยี่สิบชิ้น แตไมสามารถกําราบไดแมแตชิ้นเดียว รูสึกเสียดายเปนอยางมาก แตทวา
เขาสามารถแนใจไดวา อาวุธล้ําคาเหลานี้ไมมหัศจรรยและนากลัวเทาเจดียกระดูก
นาเสียดาย เจดียนี้ไมแยแสเจาตัวเล็ก ราวกับสิ่งของธรรมดา
ใจกลางดินแดนมีภูเขาลูกใหญ มโหฬารพันลึก ประหนึ่งยอดเขาสิบลูกรวมตัว กวาง
ใหญและนาเกรงขามผิดปรกติ
“ชางเปนภูเขาที่ใหญเสียจริง!”
เจาตัวเล็กอุทาน บนเขามีแสงวิเศษระยิบระยับ มีอาวุธล้ําคาลอยขึ้นไมขาดสาย ราว
กับดอกไมไฟเบงบาน ลวนเปนวัตถุวิเศษที่ยิ่งใหญ
เขามองเห็นกลุมอัจฉริยะทีแ่ ข็งแกรงยิ่งเชน ปฟาง นกวิเศษสีทอง มังกรชือ ปเซี๊ยะ
ตนแดนดิไลออกวิเศษ ผีเสือแยกฟาเปนตน ณ บริเวณตีนเขา
มีคนบนภูเขาอยูกอนแลว ลวนพุงชนโชคชะตา ที่นี่เปนแหลงกําเนิดของ
โบราณสถาน ไดรับการขนานนามวา ผาแบงสมบัติ ตามตํานานกลาววามีของล้ําคา
แขวนเต็มไปหมด
“ดาบของขา… ดาบของขา…” ทันใดนั้น มีเสียงแกดังขึ้นขางหูเจาตัวเล็ก ทําใหเขา
ขนลุกขนพอง เขาพูดอยางหวาดกลัววา “ตาเฒาผี อยาทําขาตกใจ เจามิไดอยูที่ศาลาปด
ฟาหรือ ไยจึงสงเสียงอีกแลว?”
บทที่ 144 ผาแบงสมบัติ
“ดาบของขา… ดาบของขา…” เสียงขาดๆ หายๆ
เจาตัวเล็กผูไมกลัวฟาไมกลัวดินรูสึกหวาดกลัว เพราะเขาใชกระจกล้ําคาซวนหนี
สองตัวเอง พบวามีอัขระสีดําเปนวงปรากฏอยูบนหนาผาก กระแสเสียงเกี่ยวของกับมัน
“ใหตายเถอะ!” เจาตัวเล็กประหลาดใจ กอนจะมาที่นี่ เขาทําความเขาใจอยาง
จริงจังแลว วิญญาณบรรพกาลแหงศาลาปดฟาดํารงอยูมาเนิ่นนาน หากผูที่ถูกเลือก
ลมเหลว จะตองตายภายใตคําสาปแชง
“ตาเฒาผี… แมงเอย!” เจาตัวเล็กรูสึกกลัดกลุม
ผาแบงสมบัติมโหฬารและทรงพลัง สูงเสียดฟา บนภูเขามีหมอกดํารายลอมเปนริ้วๆ
ประหนึ่ง ภูเขาปศาจอันโอฬารในอดีตกาล มีกลิ่นอายอันนาเกรงขาม!
เสนทางเกาแกเสนหนึ่งทอดเขาไปยังภูเขา หินสีน้ําเงินปูทาง เต็มไปดวยการผัน
เปลี่ยนแหงกาลเวลา นับแตโบราณกาลมา ไมรูวามีวีรบุรุษหนุมสาวตั้งเทาใดไดเดินผาน
ไป แตสุดทายกลับเลือดอาบภูเขาปศาจ มิไดเดินลงมาอีกตอไป
ปฟาง ปเซี๊ยะ นกวิเศษสีทอง ตนแดนดิไลออนยืนอยูคนละมุม เตรียมการปองกันตัว
จากกันและกัน แตละตนมีกลิ่นอายนาสะพรึงกลัว พวกมันเปนอัจฉริยะยิ่งใหญที่ไมควร
ยั่วยุอยางยิ่ง
เจาตัวเล็กตองคําสาป สภาพจิตใจยอมไมดี หนาดําคร่ําเครียด มุงหนาเดินตรงไป
ราวกับคนทั้งหมดเปนหนี้อาวุธล้ําคาเขาสิบชิ้น ไมสนใจไยดีผูกลานากลัวเหลานี้
ภูเขาไมมีพืชพรรณแมแตหยอมเดียว มีสีน้ําตาลหมนทั้งลูก กอนหินบางสวนเปนสี
แดงคล้ํา เสมือนกับคราบเลือด บันไดหินสีน้ําเงินยาวมาก เขาเหยียบบันไดขึ้นไป เมื่อคิด
วาจําตองหาดาบเลมหนึ่งใหพบ ใบหนาก็ยิ่งถมึงทึง โมโหอยางที่สุด
“ขารูวาเปนดาบอยางใดรึ? มิไดบอกขาเสียหนอยวามีลักษณะแบบไหน จะหาเยี่ยง
ไร? ปวดหัวฉิบหายเลย!” เจาตัวเล็กยนจมูก เดินไตขึ้นเขาไป
ขางทางเดิน ปฟาง ปเซี๊ยะและตนแดนดิไลออนตางประหลาดใจ มนุษยหนุมคนนี้ไม
มองพวกเขาแมแตนิด เดินดุมๆ ขึ้นไปอยางทะนงตนเชนนี้แล
ตองรูวา สิ่งมีชีวิตที่เขาสูโบราณสถานตัวใดกลาเหมอลอยเชนนี้ เพียงหนึ่งในพวกมัน
ปรากฏตัวลวนกอเกิดความหวาดกลัว จําตองเตรียมการรับมืออยางดี
“ยะโสโอหังนัก” วานรคลั่งตัวหนึ่งเอยปาก แววตาเย็นเยือก
เมื่อเจาตัวเล็กไดสะดุงตื่นจากภวังคของตน หันหัวไปมองแลวพูดวา “เจากอริลลา
ยักษมองอะไร อัปลักษณจริงๆ เอะ เจามีเลือดบริสุทธิ์ใชหรือไม?”
วานรคลั่งเปนทายาทอสูรบรรพกาล เผาพันธุแข็งแกรง บรรพบุรุษไดชื่อวา วานร
เทพเจา ผูใดอาจหาญเรียกมันวา กอริลลา? มีอยางที่ไหนกัน โมโหจนจมูกแทบเบี้ยว
แลว!
เจาตัวเล็กเกาหัวแลวกลาววา “ขารับปากทานอาแลว สักวันจะกําราบสัตวอสูร
เลือดบริสุทธิ์ตัวหนึ่ง เจาใชหรือไม?”
วานรคลั่งพิโรธ เผชิญหนากับนัยนตารอนดั่งไฟคานั้น มันอยากจะกระโจนขึ้นมา
คํารามดวยความโกรธ จากนั้นฉีกใหเละเปนชิ้นๆ
นกวิเศษสีทองที่อยูด านหลังตัวนั้นฉายแววตาเยือกเย็นยิ่งกวา เบาตาสีทองสอง
ลําแสงมหัศจรรยออกมา จองมองเจาตัวเล็กซ้ําแลวซ้ําเลา
“ชางเถิด ตอนนี้ไมมีกะจิตกะใจ ขาตองไปหาดาบชํารุดเลมนั้น มิเชนนั้นตองตาย
เพราะคําสาปแชงเปนแน” เจาตัวเล็กหมดอาลัยตายอยาก หันหลังปนปายภูเขาไป
สิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญกลุมนี้ตางมีแววจาดุจดาบคม เมื่อไดยินถอยคํานี้ก็ประหวั่นพรั่น
พรึง ถอยหลังอยางชวยไมได สิ่งของเยี่ยงคําสาปนั้นพิลึกพิลั่นอยางยิ่ง หากทําไมดีอาจ
ประสบกับหายนะ ผูใดก็ไมกลาสัมผัสมัน
“โฮก…”
วานรคลั่งออกแรงทุบตีหนาอกของตน ระบายความไมพอใจ ประหนึ่งกลองสวรรค
สงเสียงดังตึงตัง
ภูเขาปศาจใหญโตมโหฬาร เดินอยูขางบนมองไมเห็นยอดเขา มองไมเห็นจุดสิ้นสุด
เปนครั้งแรกที่เจาตัวเล็กปภูเขาสูงตระหงานเชนนี้ ไมคลายกับปนเขาแมแตนิด แตกลับ
เหมือนเดินเหินกลางที่ราบสูง ภูเขามีขนาดมหึมาอยางแทจริง
บนเขามีกอนหินใหญนอนพาด กอเปนทิวทัศนมหัศจรรย แตที่นี่มิใชดินแดนสุขาวดี
แตอยางใด หมอกดําเปนริ้วๆ ลอยวนเวียน ผืนแผนดินมืดสลัว มองเห็นโครงกระดูก
ขนาดใหญตลอดเวลา ลวนเปนสิ่งที่เหลือไวหลังสิ้นชีพของอัจฉริยะในอดีตกาล
โลกใบนอยแหงนี้จะเปดทุกๆ หลายรอยป นับแตอดีตยันปจจุบันไมรูวามีวีรบุรุษ
หนุมสาวมากเทาใดทิ้งศพฝงรางไวทนี่ ี่
“วาว นี่คือปอาน[1]นาเสียดายที่มีคนเก็บเอากระดูกอักขระโบราณไปเสียแลว” เจา
ตัวเล็กสอดสองไปทั่วบริเวณแลวมุงหนาเดินตอไป
มีโครงกระดูกนานาชนิดทั้งยาอวี่[2] นกเกาเศียร เจียวถู[3]เถาวู[4] เปนตน ตลอด
ทางนี้ เขาพบซากกระดูกหลากหลายชนิด ตางทนทานดุจเหล็กกลา
นี่เปนของสะสมแหงกาลเวลาอันยาวนาน เปนสิ่งที่ตกตะกอนตั้งแตบรรพกาล
กระทั่งตอนนี้
บนเขามืดครึ้มมาก ยิ่งเดินขึ้นไปมากเทาใด มานหมอกก็ยิ่งหนาขึ้นเทานั้น เจาตัว
เล็กระแวดระวังตัว เพราะในภูเขาแหงนี้อันตรายเปนอยางมาก สามารถมองเห็นไดจาก
ซากกระดูกเหลานั้น ที่ผานมามีสิ่งมีชีวิตสิ้นชีพมากมายเหลือเกิน
“ชริ้ง”
ทันใดนั้น ลําแสงคมกริบเย็นยะเยือกปรากฏขึ้น พุงโจมตีกลางหลังของเจาตัวเล็ก
เสถียรและแมนยํา เด็ดเดี่ยวและปราดเปรียว นี่เปนหอกเขียวเลมหนึ่ง แจมจรัสแตนา
พิศวง ยามเขาใกลรางกายของเจาตัวเล็กจึงจะระเบิด จิตสังหารทิ่มแทงกระดูก
กายของเขาเกิดตุมหนังไกไปทั่ว ขนลุกขนชัน รางกายลอยพาดออกไป ดุจมวนภาพ
แบนราบ ลอยลองไปอีกมุมหนึ่ง เสียงตูมดังขึ้น คมหอกสีเขียวปกลงไปในกอนหินหนัก
หมื่นชั่ง สั่นไหวแผวเบา กอนหินแหลกเปนสี่สวนหาชิ้น
ตอมา หอกวิเศษสีขาวกวาดมา ทําลายสรรพสิ่งในพริบตา กอเกิดพายุคลั่งลูกหนึ่ง
กอนหินบนดินลอยลองตามมา ฝุนควันบดบังนภา สงเสียงดังหวีดหวิว
เจาตัวเล็กถอยหลัง ประหนึ่งวานรวิเศษตัวหนึ่งกระโดดขามกอนหินใหญ จากนั้น
เหลียวหลังมองดู
“ตูม”
ที่นั่นมีปาหินหักโคน แหลกละเอียด คมหอกสีเขียวแข็งแกรงเหลือเกิน กวาดกอน
หินมากมายจนหัก จากนั้นไลตามมา
นี่มิใชมนุษย แตเปนพืชประหลาดตนหนึ่ง คมหอกสีเขียวเปนลําตนใตดินของมัน
แข็งแรงและแหลมคม สามารถทะลวงเหล็กกลา จูโจมอีกครา
เจาตัวเล็กมั่นใจวา ไมเคยพบเจอพืชตนนี้มากอน ไรความเคียดแคน เห็นไดชัดวา
เปนการลาสังหารโดยเฉพาะ หมายชวงชิงอาวุธล้ําคาในกายเขา
เมื่อเขาสูเขารอยยอด พบเห็นเรื่องราวเหลานี้ไดบอยยิ่งนัก โดยเฉพาะคนที่ปนขึ้นมา
บนภูเขาใหญโตมโหฬารลูกนี้ยอมมิใชคนธรรมดา บนกายตองมีวัตถุล้ําคาวิเศษอันพบ
เห็นไดยากเปนแน จึงทําใหผูคนเกิดความปรารถนาอยากไดอยางงายดาย
เจาตัวเล็กนัยนตาเปนประกาย มุงหนาไปเผชิญ ทําศึกครั้งใหญกับพืชประหลาดตน
นี้ คมหอกสีเขียวมาพรอมกับอักขระ สองแสงสีเขียวเปนระลอก อานุภาพมหาศาล
แตทวา เมื่อเจาตัวเล็กใชสายฟา มันกลับตื่นกลัว ควบคุมยับยั้งโดยอัตโนมัติ มี
อันตรายถึงชีวิตของมัน
กอนหนานี้ มันไมเคยพบเจอเจาตัวเล็กมากอน ไมรูวาเขาแข็งแกรงปานใด เห็นวา
เปนมนุษยหนุมคนหนึ่ง นึกวาสามารถโจมตีสังหารไดเร็วไว ไมคิดวาจะจัดการยากเพียงนี้
ไมพูดไมไดวา มันยิ่งใหญเปนอยางมาก มันยืนหยัดใตการโจมตีของเจาตัวเล็กกวา
สิบกระบวนทา ถือวาเปนอัจฉริยะที่ล้ําเลิศอยางแนนอน!
“แควก”
สายฟาสีทองลอยมา ปกคลุมมันอีกครั้ง เสียงเปรี้ยงดังขึ้น มันไหมเกรียมสิ้นดี ไดรับ
บาดเจ็บอันตรายถึงชีวิต
เจาตัวเล็กนัยนตาฉายแวววิเศษ กระโจนพรวดออกไป เพื่อหักลําตนใตดินของมัน
ฉกชิงหอกเขียวเลมนั้น มันเปนอาวุธล้ําคาอันพบเห็นไดนอยยิ่ง ขณะเดียวกันก็อยากได
อักขระและเคล็ดวิชาล้ําคาของมันอีกดวย
“ตูม”
พืชชนิดนี้รูชะตากรรมของตน สองแสงทั้งตัว จากนั้นระเบิดจนแหลก หมายทําลาย
รองรอยชีวิตและอักขระของตน
“เครง”
เจาตัวเล็กเสกกรรไกรกระดูกออกกมา ฟนหอกศึกเลมนั้นในชั่ววินาทีสุดทาย รวงลง
สูพื้นดังตึง มิไดพินาศไปพรอมกับมัน
“โอย นาเสียดาย หอกศึกเสียหาย อักขระซอนเรนภายใน” เจาตัวเล็กเก็บขึ้นมา
หอกศึกเลมนี้สูงเทาคน แตกก็สั้นกวารูปรางเดิมอยูมากโข
“อันนี้ใหพวกตาจวงและผีโหว” เขารวบรวมกระดูกอักขระมาโดยตลอด หมาย
นํากลับหมูบานหินผา มอบใหแกชาวบาน
ภูเขาใหญโต ยิ่งเดินขึ้นไปยิ่งมากคน ครึ่งชั่วยามตอมา เจาตัวเล็กสูศึกกับคนหลาย
ครั้งหลายครา และมองเห็นซากศพมากมายตลอดทาง ซึ่งเสียชีวิตไปไมนานนัก
“ชริ้ง”
แสงวิเศษลอยขึ้น อาวุธล้ําคาปรากฏตัว เรนกายอยูในภูเขาจํานวนไมนอยเลย นํามา
ซึ่งการโอบลอมจากกลุมสิ่งมีชีวิต ลวนอยากไดมันมา ยอมเกิดสงครามตะลุมบอนครั้ง
หนึ่งยากหลีกเลี่ยงไมได มีไอเลือดลอยออกมาอยางรวดเร็ว
“ปกนกครุฑปรากฏแลว!” มีคนรองตะโกน
“นี่เปนอาวุธล้ําคาที่ดํารงอยูมาตั้งแตครั้งบรรพกาล!” กลุมคนดานบนคํารามลั่น พุง
โจมตีอยางบาคลั่ง
ที่นั่นมีปกสีทองมากมายลอยลอง เพียงกะพริบเบาๆ เปลวไฟก็ทวมทนทองฟา
หลอมละลายเขตภูเขากวางใหญ ลาวาเกลือกกลิ้ง หลั่งไหลลงสูเบื้องลาง
เจาตัวเล็กกนดา หันหลังวิ่งหนีทันที เพราะเขาอยูขางลางพอดี ถูกลาวาดั่งกระแส
น้ําปาสกัดกั้นเบื้องหนา
เขาเสกอาวุธล้ําคาและหอเหยียดไปอยางรวดเร็ว สงครามขางบนเจียนมวนตัวเขา
เขาไป นี่เปนความวิบัติอันเกินคาดคิด
“โอสวรรค มีคนไดปกนกครุฑไปครองแลว ไยอาวุธล้ําคาชิ้นนี้จึงเลือกเจาของใหม
เลา?” มีกลุมผูกลาขางบนอุทาน
นกวิเศษสีทองตัวหนึ่งพุงผานไป ปากคาบพัดล้ําคาสีทอง ลอยพาดผานทองฟาดุจ
ฝนดาวตก หายลับไปยังอีกฟากหนึ่งของภูเขา
“มันนี่เอง!” เจาตัวเล็กตะลึงงัน เกิดความอิจฉาอยางหาที่เปรียบมิได เขาเคยพบนก
วิเศษสีทองตัวนี้บริเวณตีนเขา รูวามันยิ่งใหญมากนัก
“เฮอ ปกยาวยอมไวกวาขายาว ขึ้นเขาหลังขาแตกลับวิ่งไปกอน ขานาสงสาร
เหลือเกิน” เจาตัวเล็กพึมพํา
ขณะเดียวกันก็ตื่นตัว พญานกสีทองตัวนั้นแข็งแกรงเปนทุนเดิมอยูแลว คลายคลึง
นกครุฑนัก ตอนนี้ไดพัดล้ําคาเชนนี้ไปครอง นากลัวยิ่งกวาเดิมเปนแนแท จําตองเตรียม
ปองกันอยางเขมงวดกวดขันมากขึ้น
ผาแบงสมบัติมีขนาดใหญมาก เจาตัวเล็กปนไตขึ้นไปตลอดทาง คนหาอาวุธล้ําคา
กินระยะเวลานานหลายวัน ยังไตไมถงึ ยอด และในระหวางนี้ เกิดสงครามนองเลือด
หลายครั้งเหลือเกิน เพียงสิ่งมีชีวิตปรากฏตัว จําตองเกิดการสังหารหมูอันคาวเลือด
“ผลุบ”
แสงทองกะพริบ เขาเสกกรรไกรมังกรเจียวออกมา สังหารผูกลาคนหนึ่ง กะโหลก
ลอยขึ้นสูง พรอมกับละอองน้ําจํานวนมาก รางกายไรหัวลมลง
นี่เปนผูกลาแหงตระกูลหลี เปนเชนเดียวกับตระกูลคุน เคยคิดชวงชิงอาวุธล้ําคาของ
เขาในดินแดนขั้นตน ลงมือจัดการเขา แตกลับถูกกองเปนภูเขามนุษย
หลายวันมานี้ เขาฝาทะลวงขึ้นขางบนอยางตอเนื่อง ประสบกับการลอบสังหารจาก
บุคคลนิรนามมากมาย รับรูความเปนมาของสี่ตระกูลใหญไดอยางกระจางชัดแจง
ตระกูลคุนพินาศสิ้นดีกลางโบราณสถาน และยังมีตระกูลหลี ยวน เหมิงอีกสาม
ตระกูล พบเจอกันในผาแบงสมบัติ เกิดสงครามนองเลือดอยูหลายครั้ง
หลายวันตอมา เจาตัวเล็กเต็มไปดวยบาดแผล เขาแข็งแกรงมาก แตอีกฝายมีผูผนึก
ชั่วชาเลวทราม ปรากฏขึ้นอยางตอเนื่อง หลายครั้งที่เขาตองพบกันหายนะถึงชีวิต
นับวาโชคดีที่เขาแข็งแกรงมากพอ แมอายุยังนอย แตอัจฉริยะหนุมของสามตระกูล
กลับมิใชคูตอสูของเขา อาศัยการลงมือของผูผนึกทั้งสิ้น ระหวางนี้ เจาตัวเล็กสังหารคน
จากทั้งสามตระกูลสิริรวมยี่สิบสามสิบคน ฟาดฟนเขนฆาอัจฉริยะของพวกเขาแทบ
ทั้งหมด
ผูผนึกที่รอดชีวิตระเบิดโทสะ คลุมคลั่งอยางสิ้นเชิง สาบานวาตองหาเขาใหพบ
สังหารเขาดวยการหลิงฉือ
ภูเขาสูงตระหงาน เขาใกลยอดเขามากเทาใดก็ยิ่งอันตรายมากเทานั้น เพราะกลุม
คนที่สามารพเดินทางมาที่นี่ไดตองเปนผูที่แข็งแกรงที่สุด เจาตัวเล็กปนไตดวยเทาเปลา
มาถึงยอดเขาในที่สุด เขาสูผาแบงสมบัติที่แทจริง
และผูผนึกแหงสามตระกูลจวนถึงแลว พวกเขาตั้งใจตามอยูขางหลัง หมายตีโอบเขา
หมายทําการสังหารครั้งสุดทาย
ยอดเขากวางใหญ ประหนึ่งที่ราบสูง มิใชอาณาบริเวณเล็กๆ ที่นี่มีกอนหินนานา
ชนิดนอนเรียงราย รูปรางประหลาดพิสดาร เสมือนอาวุธล้ําคาตางๆ แข็งตัว
แทจริงแลว มีตํานานเชนนี้อยู นักปราชญบรรพกาลหลั่งน้ําตา นองเลือด หลังจาก
คนมากมายสิ้นชีพ อาวุธตั้งเรียงรายลงบนหินแบงสมบัติ
มีปายโบราณตั้งตระหงาน ดานบนสลักตัวอักษรไมกี่แถว ตักเตือนมนุษยโลก หาม
สงเสียงดัง ณ ที่แหงนี้ รบกวนการหลับใหลของเหลานักปราชญ หามทําลายที่แหงนี้ ทํา
ใหผาแบงสมบัติพินาศ
นี่เปนเขตปลอดอาวุธ ไมอนุญาตใหกอสงคราม
“จริงหรือ?” มีทายาทอสูรตัวหนึ่งเอยถามดวยความไมเชื่อ
“ทางโนนมีชือเหวิ่น[5] ตัวหนึ่งไมเชื่อเชนกัน อยากทําลายกอนหินใหญนี้ ปรากฏวา
ตนเองกลายเปนแองเลือด” สัตวประหลาดรางคนตัวหนึ่งที่รูจักกับมันกลาวเตือน
ไมไกลนัก สัตวรายขนาดมหึมาตัวหนึ่งลมอยูกับพื้น กลายเปนแองเลือด เหลือเพียง
เศษกระดูกบางสวนสองแสงขาวแวววาว ตายอยางอนาถยิ่งนัก
อัจฉริยะทั้งหมดตางสูดลมหายใจเย็น หามลวงเกินที่แหงนี้เปนอันขาด
แมเหลานักปราชญบรรพกาลสิ้นชีพวายชนมแลว แตหามทําลายสถานที่หลับใหล
และฝงอาวุธของพวกเขา
คนมากมายเขาสูปาหิน ตั้งใจสัมผัส คนหาอาวุธล้ําคา เพราะตามตํานานกลาววา มี
อาวุธไมนอยที่ฝงตัวอยูในกอนหิน
“โอ กินกอนนั้นสองแสงแลว!” คนมากมายรองอุทาน
หินกอนหนึ่งแตกระแหง กลางรอยแยกกระจายแสงล้ําคา เปลือกหินหลุดลอก เผย
อาวุธล้ําคาหนึ่งชิ้น
มันคือไมโบยแทงหนึ่ง แวววาวโปรงแสง แดงฉานดุจเลือด ยาวไมถึงเซี๊ยะ แตกลับ
เจิดจาพรางพรายอยางที่สุด อักขระมากมายหอมลอม สงเสียงสายฟาคํารามดังกึกกอง
ชางเปนภาพที่นากลัว
“สวรรค เปนอาวุธที่เหลานักปราชญเหลือทิ้งไวจริงหรือ ตํานานเรนอาวุธแหงผา
แบงสมบัติเปนเรื่องจริงหรือ?” ผูคนอุทานอยางตื่นตะลึง
เบื้องหนาหินกอนนั้นมีนกตัวหนึ่ง เนื้อตัวสีเขียว ประดับดวยลวดลายสีเลือด แสง
สวางโชติชวงไหลเวียน มันคือปฟาง ไมโบยรวงตกลงตรงหนามัน มันไดไปครอง
“เสียดาย ไมโบยชํารุด ยากจะสําแดงพลังวิเศษบรรพกาล” ผูคนอาลัย เมื่อพบวา
ไมโบยนั่นหักเสียแลว นี่เปนเพียงทอนเดียวเทานั้น
แตนี่ก็เพียงพอจะสะทานโลกาแลว หากวาบมเลี้ยงและปลุกเสกศาสตราวุธทอนนี้ให
ดี สามารถกลายเปนสมบัติล้ําคาปกปองคุมครองชนเผาได
“ไยมันจึงไดไปเลา?” มีคนไมพอใจ เพิ่มระดับเสียง พุงกระโจนออกไป
แตทวา เสียงพรึ่บดังขึ้นแผวเบา ผาแบงสมบัติปลอยลําแสงนากลัวออกมา ฟาดเขา
ใหแหลกในพริบตา กลายเปนแองเลือด
ฝูงชนตางสูดลมหายใจเย็นเยือก คนทั้งหมดเงียบในทันที ไมอาจหาญพูดพลามอีก
ตอไป
ปฟางเหลียวหลัง นัยนตาเยือกเย็นกวาดมองฝูงชน
“พวกเราเขาไปในปาหิน ไปสื่อสารกับศาสตราวุธ ใหไดมาซึ่งอาวุธล้ําคาของพวกเรา
เอง!” อัจฉริยะของแตละเผาพันธุนัยนตาแววโรจน เฮโลกันเขาไป
เมื่อเจาตัวเล็กเขามาถึง สายตาก็ไมพอใชเสียแลว เมียงมองหินเสือนอนกอนนี้แลว
จองมองหินวัวเขียวกอนนั้น จากนั้นสํารวจหินโหวกลืนจันทราที่อยูเบื้องหนา เขากะพริบ
ตา เต็มไปดวยความเปรมปรีดิ์
“ของขา ของขา ของขาทั้งหมด!” คนละโมบแววตาเปนประกาย กําหมัดแนน
หากภายในหินเหลานี้ผนึกอาวุธล้ําคาไวจริง คงนาตื่นตะลึงอยางยิ่งก สมกับนามผา
แบงสมบัติ
ผูผนึกแหงตระกูลหลี ยวน และเหมิงตางขึ้นมาแลว มองดูปายสลักแลวจองเจาตัว
เล็กเขม็ง นัยนตาประกายแสงอํามหิต แตที่สุดแลวก็มิอาจหาญกระทําการบุมบาม
“รอเรื่องที่นี่จบสิ้น เมื่อออกจาผาแบงสมบัติคอยเอาชีวิตของเขา!”
เจาตัวเล็กมองเห็นพวกเขาแลว จึงเหลือกตาใสพวกเขาทันที จากนั้นหันหลังใส
เพิกเฉยอยางสิ้นเชิง ทําใหคนกลุมนี้โมโหจนหนาเขียว
“เอะ แมวยักษ เจาก็มารึ” เมื่อเจาตัวเล็กหันหลังกลับก็มองเห็นเสือขาวเขา
เสือขาวสงเสียงคํารามทุมต่ํา นัยนตาเผยประกายเหี้ยมโหด
“เจากําลังสงเสียงรึแมวยักษ ไยจึงมีพลังไมเทาแมวนอยที่เพิ่งกําเนิดเลา เสียงดัง
หนอยสิ” เจาตัวเล็กยกมือขึ้นมาปองหู เพื่อบงบอกวาเขาไมไดยิน
เสือขาวนัยนตาเยือกเย็น พูดเสียงเบาวา “เมื่อออกจากผาแบงสมบัติ ขาจะเอาชีวิต
เจา!” มันยอมไมกลาคํารามเสียงดัง มิเชนนั้นคงกลายเปนแองเลือดแน
เจาตัวเล็กไมโกรธเคืองแมแตนอย แตกลับเช็ดน้ําลายแลวกลาววา “รอคอยการพบ
กันที่งดงามของเราในครั้งตอไป”

………………………………………………….
[1] ปอาน ลูกมังกรทั้งเกา รูปเปนพยัคฆ นาเกรงขาม มักเกี่ยวของกับคดีความ
โดยมากจึงสลักรูปสัญลักษณนี้ไวบนประตูเรือนจํา เสือเปนสัตวที่ทรงอํานาจ ดังนั้นป
อานจึงมีสวนในการขมขวัญเหลานักโทษในเรือนจําใหมีความเคารพตอสถานที่

[2] ยาอวี่ สัตวในตํานานโบราณ มีบันทึกในซานไหจิง หนาเปนคน รางเปนมังกร


ชอบกินมนุษย บางก็วาหนาเปนมนุษย รางเปนวัวเทามา บางก็วาหัวเปนมังกร รางเปน
พยัคฆ

[3] เจียวถู ลูกมังกรลําดับที่ 9 เปนลูกมังกรตัวสุดทาย ลักษณะของเจียวถูมีความ


คลายคลึงกับสิงโต มีอุปนิสัยคอนขางแปลกไปกวาลูกมังกรตัวอื่น ๆ คือชอบความ
สันโดษและเงียบสงบ

[4] เถาวู อสูรบรรพกาลชนิดหนึ่ง หนึ่งในอสูรทั้งสี่ของจีน รูปรางคลายพยัคฆ มีขน


ดกและยาว ใบหนาคลายคนเล็กนอย ขาดุจเสือ มีเขี้ยวคลายเขี้ยวหมูปางอกออกมาสอง
มุมปาก

[5] ชือเหวิ่น ลูกมังกรทั้งเกา มีรูปคลายมังกรแตไมมีสันหลัง ปากอากวาง ชอบการ


ผจญภัย และยังชอบกลืนไฟ กลาวกันวา ชือเหวิ่นอาศัยอยูในทะเล มีหางคลายเหยี่ยว
นกกระจอก สามารถพนน้ําดับไฟได
บทที่ 145 ดาบโบราณ
ยอดเขาโลงกวาง กอนหินนานาชนิดนอนเรียงราย เมื่อเดินเขาสูจุดลึกของปาหิน ทํา
ใหผูคนอดไมไดที่จะอุทานอยางตะลึง บนกอนหินมากมายลวนมีรูปประทับ มีชีวิตชีวา
เปนอยางมาก เชนอีกาทองไลตามสายฟา ฉิวหนิว[1]ย่ําทะเล คุนเผิง[2]กางปก… รูปราง
ลักษณะแตกตางกันออกไป
รูปประทับโบราณมีมากมายหลายรูปแบบ ไมรูวาตองการจะสื่ออะไร ตั้งแตอดีตกาล
อัจฉริยะมากมายเขามาสํารวจที่นี่ แตกลับไมไดสิ่งใดเลย บางทีอาจเปนเพียงการจารึก
ความรุงโรจนเมื่อครั้งนั้นกระมัง
“อาวุธล้ําคา อาวุธล้ําคา อยูหนใดกันแน?” เจาตัวเล็กพึมพํา
ปาหินกวางใหญไพศาล กอนหินใหญมากมายเหลือเกิน เขาสัมผัสอยางถี่ถวน กลับ
ไมไดสิ่งใดเลย ใชอักขระที่บันทึกในการหยั่งรูดั้งเดิมทําการสื่อสารก็ไรความหมาย
“เพราะเหตุใดกัน มีสิ่งมีชีวิตมากมายไดอาวุธล้ําคา ไยขาจึงไมไดอะไรเลย” เจาตัว
เล็กเกาหัว ใบหนาถมึงทึง คิดทบทวนเทาใดก็ไมเขาใจ
เขาหันซายแลขวา มองเห็นผูผนึกหลายคน กําลังสุมหัวหารืออะไรบางอยางอยู มี
คนกําลังเช็ดกอนหินใหญกอนหนึ่ง และมีคนสัมผัสอยางละเอียดรอบคอบ
เจาตัวเล็กเดินมาจากขางหลัง ตบบาหนึ่งคนในกลุมแลวกลาววา “พี่ชาย ได
อะไรบางไหม?”
“เฮอ ไมไดสักอยางเลย” ชายชราสายหัว ตอมารูสึกไมชอบมาพากล เสียงมันไมใชนี่
นา ไฉนจึงออนเยาวปานนี้? พวกเขาหันหลังพรอมกัน
เห็นเพียงเด็กเหลือขอใบหนามอมแมมคนหนึ่ง ดวงตาสุกใส ยืนอยูบนหินสีน้ําเงิน
กําลังเขยงเทา ตบบาของคนในกลุมนี้ดวยทาทางคุนเคยเปนอยางมาก
“ไปใหพน !” ชายชราที่ถูกตบบาฉุนเฉียวจนหนวดเคราตั้งขึ้น นี่เปนศัตรูคูอาฆาตนี่
นา เขนฆาอัจฉริยะแหงตระกูลของพวกเขาจนเหี้ยน แตกลับมาตีสนิทอยางหนาดานๆ
เชนนี้ นาโมโหเสียจริง
“พี่ชาย ระวังภาพพจนหนอย ทั้งขาและทานลวนเปนผูมีวิชา ตองมีความโอบออม
อารี ยิ่งตองมีเมตตาปราณี” เจาตัวเล็กเหยียบบนกอนหินใหญ เขยงเทา ตบบาเขาอีก
ครั้ง
ชายชราโมโหจนจมูกแทบเบี้ยว หากที่นี่ไมใชเขตปลอดสงคราม เขาจะฟาดหนึ่งฝา
มือออกไป ตีเจาเด็กเหลือขอคนนี้ใหกะโหลกแยกออกเปนเสี่ยง!
“เด็กเวร เจากําลังยั่วยุขา อยาคิดวาพวกขาไมกลาลงมือ!” คนอื่นทนมองตอไปไมได
แลว พวกเขาเกลียดแคนจนคันฟน
“พี่ชายทั้งหลาย พวกทานทําไมถูกตองนา สิ่งที่เรียกวาคูตอสูที่แทจริง ตองยกยอง
ใหเกียรติซึ่งกันและกัน พวกเราสามารถตอสูอยางเอาเปนเอาตาย แตเมื่อนั่งลงก็สามารถ
กินเหลาพลางสนทนา พูดคุยเรื่องราวตางๆ ในโลกหลา” เจาตัวเล็กรูสึกเสียใจ สายหัวไม
หยุด
“ไอเด็กเวร ผูใดจะยกยองเจากัน หากมิใชที่นี่ เจาก็ควรคาจะเปนคูตอสูของขา ขา
จะบดขยี้เจาใหตายเพียงนิ้วเดียว!” ชายชราคนหนึ่งนิสัยหุนหันพลันแลน นัยนตาตั้งขึ้น
ทันที
“พี่ชาย ไฟโทสะของทานโชติชวงนัก ขากลาพูดวา อักขระของตับแหงอวัยวะทั้งหา
ของทานมีปญหา ไฟโทสะมากเกินไป สงผลกระทบกับการใชชีวิตในวันขางหนา” เจาตัว
เล็กกาวไปขางหนา เหยียบลงบนหินสีน้ําเงินกอนใหญ กอดไหลเขาแลวโอบคอไวแนน
“ไป ไสหัวไปใหพน!” ทาทางของชายชราคนนี้เรียกวาชิงชัง แมงไอเด็กเหลือขอ ตัว
กะเปยกเดียว ยังกลาเรียกขานคนแกวาพี่นอง สิ่งที่นาชิงชังอยางยิง่ คือ ไมนานกอนหนา
นี้ยังสังหารลูกหลานของขาอยางเอาเปนเอาตายไปหลายคน
ผูสูงวัยทั้งหลายลวนโกรธา หากสามารถใชกําลังได จะกระโจนขึ้นไป แลเนื้อเฉือน
หนังของเขาทั้งเปน
สุดทาย เจาตัวเล็กสายหนา ตบบาเขาแลวตบกนของตน หันหลังเดินไปทันที
“ไอเด็กเวรนี่!” คนกลุมนี้แทบจะกระทืบเทา ตะโกนรองใหดังดุจสายฟาคําราม
มีวานรขนสีดําทั้งตัว สูงใหญกํายําตัวหนึ่งอยูข างเคียง หัวเราะโฮะๆ ไมหยุด จากนั้น
ใชสายตาเหยียดหยามจองมองเจาตัวเล็ก และตลบอบอวลไปดวยจิตสังหาร
เปนทายาทอสูรบรรพกาลที่พบกันตรงตีนเขาตัวนั้นนี่เอง เจาตัวเล็กปรายตามองมัน
แลวพูดวา “มองอะไรนักหนากอริลลายักษ อยามาตีสนิทขา ขาไมรูจักเจา และจะไมให
เกียรติเจาดวย เพราะเจามีรางมนุษย ใสลงไปในหมอไมได”
วานรคลั่งพิโรธ ทุบตีหนาอกของตน อยากแหงนหนาขึ้นคําราม แตสุดทายก็ปดปาก
โดยไว กลืนความคับแคนใจลงไปเกือบครึ่ง มีเพียงเสียงลมเล็ดลอดออกมาจากปาก
“กอริลลายักษ เจาหัวเราะบาอะไร สิ่งที่ขาพูดนาขันมากรึ? ถึงเมมปากหัวเราะอยู
เชนนั้น” เจาตัวเล็กถลึงตามองมัน
วานรคลั่งหันหลังแลววิ่งทันที เนื้อตัวสั่นระริก ปดปากอยางสุดกําลัง ไมกลาผอนมือ
จมูกพนควันขาวออกมา
“กอริลลายักษ เจาวิ่งทําไม มีเรื่องนาเบิกบานใจอันใดจงบอกมา ใหขาไดรวมสุข
ดวย สุขใจผูเดียวไมสูรวมกันสุขใจ เจาเห็นแกตัวเกินไปแลว”
กอริลลาทนตอไปไหวแลว แมแตหูก็เริ่มพนควันออกมา กาวขายาวคูนั้น พุงตรงออก
จากปาหิน จากนั้นกระโดดลอยขึ้น กระโจนลงไปจากยอดเขา บัดนี้จึงผอนมือลง แหงน
หนาคํารามวา “เจาลิงผิวเหลือง อยาใหขาจับไดเชียว ขาจะฉีกเจาเปนชิ้นๆ!”
มันกระโดดลงมาหลายสิบจั้ง ยืนบนกอนหินใหญ ออกแรงทุบหนาออก ประหนึ่ง
เสียงฟาคํารามทุมต่ํา สะเทือนฟาดิน คลุมคลั่งอยูตรงนั้น
“สหายลิงกัง สหายชะนีทั้งหลาย พวกทานโปรดระวัง กอริลลาดานลางตัวนั้นบอก
วาจะฉีกพวกทานเปนชิ้นๆ กินเขาไปในคําเดียว” เจาตัวเล็กตักเตือนดวยความหวังดี
ลิงหลายตัวหมดคําพูด เหลือกตาพรอมกัน
เจาตัวเล็กวกไปวนมา คนหาอาวุธล้ําคาของตน เมื่อมาถึงเบื้องหนากอนหินทรุด
โทรมกอนหนึ่ง เขาตัวสั่นดวยความขนลุกขึ้นมาทันใด เพราะมีเสียงเย็นยะเยือกดังขึ้นมา
ขางหู
“ดาบของขา… ดาบของขา…”
เขายกมือขึ้นสองกระจกล้ําคาซวนหนี จองมองกระจก อักขระสีดําเปนวงปรากฏขึ้น
บนหนาผาก ไอหมอกผุดขึ้นเปนกลุมๆ รายลอมขางหูเขา
“ตาเฒาผี เจาเอาแตรอง ชี้แนะใหละเอียดเสียหนอยสิ มิเชนนั้นขาจะหาเจอได
อยางไร?” เจาตัวเล็กกลัดกลุม
ในตอนนี้เอง กอนหินทรุดโทรมที่ยาวไมเกินสองเซี๊ยะใตฝาเทาเริ่มมีควันดําผุดขึ้นมา
จากนั้นแตกระแหง สงเสียงดังครืนครัน แตกแยกในที่สุด
“อาก… หาเจอแลว!” เจาตัวเล็กดีอกดีใจ
เสียงอุทานดวยความดีใจเชนนี้ ทําใหคนทั้งหมดชายตามองมา ตางตะลึงงัน มีคนได
อาวุธล้ําคาอีกแลว พวกเขาอิจฉาอยางหาที่เปรียบมิได
อยางไรก็ตาม เมื่อผูคนเห็นกอนหินชํารุดกอนนั้นแลวตางชะงัก มองเห็นที่นั้นไรแสง
สวาง แตกลับพนควันดํา ก็พากันเบะปาก
นี่เปนอาวุธล้ําคาอยางใดกัน? ไยจึงไรซึ่งไอมงคล ยิ่งกวานั้นคือปราศจากอักขระปก
คลุม กลับกันเสมือนกับจุดไฟเผาขี้วัวแหง เกิดควันดําลอยขึ้นมากมายเชนนี้
เจาตัวเล็กใบหนาถมึงทึง ไยจึงไมมีทศั นวิสัยที่ดีแมแตนอย ที่นี่เหมือนกับเผาฟน
เปยกกลางถ้ํา ควันไฟหนาแนนลอยขึ้นทั่วทุกหนแหง ชางไมนามองเหลือเกิน
สุดทาย ควันดําจางหาย เผยแผนเหล็กชํารุดออกมาทอนหนึ่ง อยากใหนาเกลียด
เทาใดก็นาเกลียดเทานั้น คราบสนิมเปนจุดๆ กัดกรอนจนแทบผุพัง
ตองพินิจมองอยางถี่ถวนจึงจะพบวา นี่เปนดาบเลมหนึ่ง ของประดับตกแตงตรงดาม
ดาบผุพัง เหลือเพียงปลายดาบ ฝนใจใชมือกําไวได
“ดาบเลมนี่ชาง…มีเอกลักษณเสียจริง!”
“ฮาฮา…”
ฝูงชนชี้ไมชี้มือ มีคนลอเลียนอยางอดไมไห
เจาตัวเล็กใบหนาขึงขัง เขาเองก็คิดวาดาบเลมนี้เรียบงายเหลือลน ใชไดจริงๆ หรือ?
เสียงแควกแววมา เพราะเขานิ่งไมไหวติง เปลือกหินที่แยกออกจวนปดสนิท อยาก
หอหุมดาบเลมนี้ไวอีกครั้ง
เจาตัวเล็กยนจมูก รีบยอตัวนั่งลง มือขวากําดาบแนนแลวออกแรงดึง แตทวากลับไม
ขยับเขยื้อนแมแตนิด ทําใหเขาตะลึงพรึงเพริด
ในขณะนั้นเอง จิตสังหารทวมทนทองฟามวนตัวมา พุงเขาสูรางกายของเขา เพียงชั่ว
พริบตา เขามองเห็นกองศพแองเลือด ภาพที่เลือดหลั่งนอง สิ่งมีชีวิตมากเหลือคณานับ
ดับสิ้น
กลิ่นอายเชนนี้นากลัวเหลือเกิน เพียงพอจะทําใหอัจฉริยะคนหนึ่งแหลกละเอียด
แมแตรางกายที่แข็งแกรงดั่งเชนเจาตัวเล็กก็สั่นสะทานขึ้นมา ไดรับบาดเจ็บเสียแลว
เลือดไหลขึ้นมา ถูกเขาฝนกลืนลงคอไป
ผูอื่นมองไมเห็นอะไร แตเจาตัวเล็กรูแลววา ดาบเลมนี้รายกาจยิ่งนัก มิใชสิ่งของ
ธรรมดาเปนแน ตองเปนอาวุธสังหารที่เหลานักปราชญเหลือทิ้งไวอยางแนนอน!
จิตสังหารไมจบไมสิ้น รุกล้ําเขาไปอยางตอเนื่อง เจาตัวเล็กตอตานสุดกําลัง ถือวา
ตานทานไวได เขาเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาในจิตใจ
เวลานี้ เขาเขาใจแลววา ไยคนในอดีตจึงแพพา ย หากเปลี่ยนเปนอีกคน รางกายคง
ถูกบดขยี้จนแหลกลาญ!
ในตอนนี้เอง เจดียนอยที่ประดับบนเสนผมของเขา ซึ่งมีขนาดใหญเทาขอนิ้วก็โปรง
แสงแวววับ กะพริบแสงจางๆ เสนหนึ่ง จิตสังหารทั้งหมดลาถอยไปดุจกระแสน้ําโดย
พลัน
ไมมีผูใดสัมผัสไดถึงความผิดปรกติของเจดียนอย
เจาตัวเล็กถอนหายใจ ปรับลมหายใจอยางเงียบงัน คืนสูสภาพเดิม คอยๆ ดึงดาบ
อยางเบามืออีกครั้ง เสียงชริ้งดังขึ้นชัดเจน ดาบโบราณหลุดออกจากกอนหิน ปรากฏขึ้น
ในมือของเขา
“ฮาฮา”
คนมากมายหัวเราะทันใด ดาบนี่ผุพังเหลือเกิน แทบจะไมเหลือเคาของดาบแลว
เปรอะสนิมไปทั่ว ยาวเพียงหนึ่งเซี๊ยะ เพราะกวาครึ่งทอนหักและสูญหาย
แมแตทอนที่เหลือก็เคยหักมากอนเชนกัน เปนการตอเติมใหมในภายหลัง รองรอย
ชัดเจน นอกจากนี้บนดาบยังเปนหลุมเปนบอ เจียนผุพังเสียแลว
คนกลุมนี้ตางสายหนา ศาสตราวุธบรรพกาลสามารถดํารงอยูมาไดถือวาไมธรรมดา
สวนใหญลวนเสียหาย นี่เปนเรื่องปรกติมาก เด็กเหลือขอคนนี้เพียงเคราะหรายเทานั้น
พบเจอกับอาวุธที่เสียหายไมเหลือชิ้นดีเชนนี้
“ดาบผุพังนี่ชางย่ําแยเหลือเกิน แบกกลับไปหลอมตีเสียใหมเถอะ หึหึ!”
“เหมาะสมกับเจาเหลือเกิน” แมแตวานรคลั่งก็อดไมไดที่จะเยยหยัน อาปากดุจอาง
เลือด เผยเขี้ยวคมขาวดุจหิมะ หัวเราะไมหยุดอยูตรงนั้น
“เก็บไวใหดี ถือเสียวาเปนสมบัติล้ําคาแหงตระกูล” มีคนในหมูผูผนึกลูบเคราพลาง
ยิ้มจาง วางใจอยางสิ้นเชิง เมื่อครูเจาตัวเล็กคนหาอาวุธล้ําคา พวกเขากระวนกระวาย
อยางแทจริง ตองรูว า นี่เปนถึงศาสตราวุธบรรพกาล บางทีอาจมีสมบัติล้ําคาสะทาน
โลกาอีกหลายชิ้นปรากฏขึ้นก็เปนได
“แมจวนจะชํารุด แตถึงอยางไรก็เปนศาสตราวุธบรรพกาล นํากลับไปเถิด บูชาใหดี
อาจสามารถสําแดงความวิเศษไดสักวัน” ผูผนึกอีกคนที่เยาววัยกวาเยาะเยย
เจาตัวเล็กหนาดํา ไมเอยถอยคําใด เพราะมีเพียงเขาที่รูวา ดาบเลมนี้ไมธรรมดาแน
ไมเพียงจิตสังหารสะทานโลกานั่น ที่ไมเคยพบเจอมากอน แมแตน้ําหนักของมันก็
เพียงพอจะทําใหคนตกตะลึง มองดูเจียนชํารุด แตเมื่ออยูในมือกลับหนักหลายหมื่นชั่ง นี่
เปนเพียงทอนที่หักเทานั้น
เปนเพราะกายเนื้อของเจาตัวเล็กนากลัว ปุถุชนไมอาจกําไวในมือดังหิ้วฟางขาวเยี่ยง
นี้ได เขาพลิกไปพลิกมามองดู
ดาบโบราณไรคม บริเวณที่ไมมีคราบสนิมเปนสีดํา มีลวดลอยเลือนราง ตัวดาบเย็น
เยียบ
“พวกเจามีตาหามีแววไม ดาบวิเศษไรเทียมทานเยี่ยงนี้ก็มองไมออก ยังอาจหาญ
เยยหยัน ฮึ!” เจาตัวเล็กสายหัว จากนั้นแบกดาบขึ้นหลังอยางไมยหี่ ระ
ยิ่งเขาพูดเชนนี้ บวกกับทาทีไมสนใจไยดีเยี่ยงนี้ ก็ยิ่งทําใหผูคนเชื่อมั่นวา ดาบนี่เปน
เศษเหล็ก กอเกิดเสียงหัวเราะเกรียวกราวขึ้นชั่วขณะ
“ยามกอนหินแยกออกเมื่อครู หมอกดําลอยขึ้น มันเปนความไอเหี้ยมโหดแหงสนาม
รบโบราณ อาวุธล้ําคาที่ยิ่งใหญกวา เมื่อถูกมันกัดกรอนก็จะคอยๆ ผุพัง ปดผนึกตั้งแต
อดีตกาล มีไอเหี้ยมโหดเคียงขางมาโดยตลอด หากดาบเลมนี้ยังมีจิตวิญญาณ เชนนี้ก็
เหนือธรรมชาติโดยแทจริง” เสือขาวปรากฏตัว สุขุมอยางหาที่เปรียบมิได นัยนตาฉาย
แววเยาะเยย เห็นไดชัดวากําลังมีความสุขบนความทุกขของผูอื่น
“พวกเจาไมเขาใจ!” เจาตัวเล็กราวกับกําลังอําพราง ลูบๆ คลําๆ ดาบสนิมบนหลัง
แสรงทําเปนพูดจาโอหังวา “ในเมื่อไดพบกับแสงอาทิตยอีกครา เกียรติยศของเจาจะ
เลื่องลือไปทั่วใตหลาในสักวัน”
กลุมคนยิ้มเย็น วานรคลั่ง ผูผนึก และเสือขาวตางเพงเล็งเจาตัวเล็ก เขาไมไดอาวุธ
ล้ําคาที่ไมโดดเดนพอ ยามจากไปเปนโอกาสดีในการลงมือ
คนอีกกลุมหนึ่งเขาสูปาหิน ผูนําเปนสตรีคนหนึ่ง เสนผมดําขลับ หนาผากโหนกนูน
คางแหลมเล็ก ดวงตาสุกใส ฟนขาวสะอาด งดงามนาหลงใหล มีพรสวรรคอันชาญฉลาด
เปนองคหญิงประเทศเพลิงนั่นเอง แมจะมีอายุเพียงสิบหาสิบหกป แตรูปรางอรชร
ออนแอน มีทรวดทรงองคเอว แทบจะสมบูรณแบบ ดวงตาเคลื่อนไหว เดินโยกยายมา
ลําคอขาวดุจหิมะ ทรวงอกเอิบอิ่ม เอวบาง สองขาเรียวยาว ทวงทาการเดินออนชอย
งดงาม
หั่วหลิงมีเนื้อหนังมังสาขาวกระจางดุจหยกไขมันแพะ ทั่วกายมีรัศมีแสงหนึ่งชั้น
ไหลเวียน แขนคูนั้นของนางอุมหมาปาตัวนอยมอมแมม ขนปุกปุย ดวงตาโตสุกใส มีปก
งอกออกมาคูหนึ่ง นารักเปนอยางยิ่ง
ดานหลังองคหญิงประเทศเพลิงมีชายชุดดําสวมงอบอยูหลายคน เห็นไดชัดวาเปนผู
ผนึก พวกเขาฝาทะลวงเขาไปในถ้ําวิเศษ นําเอาทายาทแหงเทพเจาออกมา ยิ่งใหญอยาง
ที่สุด และบัดนี้ พวกเขารักษาอาการบาดเจ็บจนหายดีแลว
นอกจากนี้ อัจฉริยะแหงศาลาปดฟาก็ติดตามอยูขางหลัง มิไดสิ้นชีพวายชนมแต
อยางใด
ฝูงชนปรายตามอง มีคนมากมายมากันเปนขบวนเชนนี้ บงบอกวามิใชปุถุชนคน
ธรรมดา เปนผูยิ่งใหญอยางสิ้นเชิง
“เอะ องคหญิงแหงประเทศเพลิง ธิดาแหงจักรพรรดิ!” มีคนรองอุทาน
เมื่อวาจานี้เปลงออกไป ไมวาจะเปนมนุษยผูกลา หรืออัจฉริยะเผาพันธุอื่นก็อดไมได
ที่จะสูดลมหายใจเย็น จักรพรรดิองคนั้นมีเกียรติยศสะทายโลกหลา มีขั้นบําเพ็ญอันแก
กลาหยั่งรูฟาดิน แข็งแกรงเหลือเกิน เผาพันธุแข็งแกรงมากมายตางมิอาจหาญยั่วยุ ลวน
ลาถอย
เจาตัวเล็กแบกดาบชํารุด เดินเขาไปอยางทะนงตน มุงหนาเขาไปใกลหั่วหลิงแลว
กลาววา “ศิษยนอง ที่นี่เจาไมตองเกรงกลัว มีศิษยพี่คุมกันเจา ไมมีผูใดอาจหาญคิดทํา
รายเจา”
องคหญิงหั่วหลิงใชดวงตาดุจหยกดําถลึงมอง ตําหนิวา “ขาใชใหเจาปกปองรึ?!” ไม
วาจะมองอยางไรก็ตาม เด็กเหลือขอคนนี้กําลังหยิบยืมอํานาจ แถมยังพูดจาตาม
อําเภอใจและทรงพลังเชนนี้ ทําใหนางควันออกหู
ยิ่งไปกวานั้น นางโตกวาเจาตัวเล็ก หากเรียงตามลําดับแลวละก็ นางควรจะเปน
ศิษยพี่ของเขามากกวา แตกลับถูกเรียกวาศิษยนองอยูทกุ ครา นางไมสบอารมณเปน
เวลานานแลว
เจาตัวเล็กหยิกๆ จับๆ หมาปาตัวนอย เทพเจานอยคลานมายังอกของเขาทันที ทั้ง
ยังนํากลิ่นกายเฉพาะตัวของหั่วหลิงมาดวย ถูไถรางกายเขา แสดงความรักใคร
คิ้วงามขององคหญิงหั่วหลิงเตนตุบๆ กลาวอยางพิโรธวา “หมาปาตาขาวเลี้ยงไม
เชื่อง!” ตลอดทางนี้ ของดีลวนใหมันกิน แตเมื่อพบเจาตัวเล็กก็หักหลังหนีไปในบัดดล
เจาตัวเล็กยิ้มอยางเบิกบานใจ จากนั้นหันประจันหนากับฝูงชนแลวพูดวา “ขามิได
โปปด นี่เปนศิษยนองของขา มีขาคอยคุมกัน ไมวาผูใดก็หามคิดทําราย มิเชนนั้นขาจะไม
เกรงใจมันผูนั้น”
[1] ฉิวหนิว ลูกมังกรทั้งเกา มีรูปเปนมังกรสีเหลืองตัวนอยที่มีเขาของกิเลน ชอบ
ดนตรี ผูคนจึงมักสลักรูปของฉิวหนิวไวที่ดามซอ

[2] คุนเผิง สัตวเทพเจาโบราณ เปนปลาที่แปลงรางเปนนกขนาดใหญ


บทที่ 146 พิโรธ
องคหญิงหั่วหลิงโฉมงามล้ําเลิศ ยืนเยายวนตาอยูตรงนั้น แตขางกายมีเด็กเหลือขอ
ยืนเคียง ทําใหผูคนรูสึกบรรยากาศอันงดงามถูกทําลาย คนมากมายอยากจะทุบเขาสักที
“ทําเยี่ยงไรดี?” ผูผนึกขมวดคิ้ว ชายหนุมนาชังคนนั้นเดินเขาไปหาองคหญิง
ประเทศเพลิง ทําใหพวกเขาคอนขางพะวาพะวัง
“ถึงอยางไรก็ตองกําจัดเขา เชนนั้นเมื่อเขาออกจากเขารอยยอด เขาสูศาลาปดฟา
เมื่อนั้นจะยิ่งลงมือไดยาก” มีคนเอยเสียงเบา
กลางปาหินกลับสูสภาพเงียบสงบ ฝูงชนคนหาอาวุธล้ําคาอีกครา สื่อสัมผัสอาวุธล้ํา
คาของตน แตหลายวันมานี้ มีอาวุธล้ําคาปรากฏขึ้นไมถึงสิบชิ้น ลวนมีคนไดไป
ครอบครอง
เห็นไดชัดวา ปรารถนาจะไดมันมานั้นยากเย็นยิ่งนัก จําตองปฏิบัติตามเงื่อนไข
เฉพาะ ทวาผูคนกลับไมรูแนชัดวาควรทําเชนไร
“พี่ชาย พวกทานยังหาอาวุธล้ําคาไมพบรึ?” เจาตัวเล็กเอยถาม พลางพาหั่วหลิง
และเหลาศิษยพี่จากศาลาปดฟาเดินเตรบริเวณนี้ พลางบอกเลาสถานการณ
“ไสหัวไปใหพน!” เหลาผูผนึกไมตองการจะเห็นเด็กเหลือขอคนนี้อีก เมื่อเห็นเขาก็
โกรธจนควันออกหู
“ศิษยนอง เจารูจักพวกเขาหรือ?” ศิษยหญิงแหงศาลาปดฟาเอยถาม เห็นเขาสนิท
สนมเพียงนี้ ก็นึกวาเปนสหายเกาแนะ
เจาตัวเล็กพยักหนาแลวกลาววา “อืม รูจักพวกเขาดีเชียวละ หลายวันมานี้ เดินทาง
เคียงขางกันมา จวนจะเปนคนรูใจแลวละ”
“ออ คุนเคยกันปานนี้ รีบแนะนําใหพวกขารูจัก พวกเราควรจะเขาไปพบเสีย
หนอย” ศิษยหญิงผูนั้นกลาว
“อยาเลย ไมตองสนิทชิดเชื้อใหมากนัก” เจาตัวเล็กสายหนาอยางไมยี่หระ
“เหราะเหตุใด?” ศิษยชายผูหนึ่งไมเขาใจ
“เห็นตาแกอวนคนนี้หรือไม ขาสังหารหลานของเขา และตาเฒาผอมคนนั้น ขา
สังหารหลานของเขาไปสองคน สวนตาแกตัวดํานั่น เหมือนวาขาจะเตะหลานชายของ
เขาจนกระจาย…” เจาตัวเล็กชี้มือไปและแนะนําไปทีละคน
เหลาลูกศิษยศาลาปดฟาตางตะลึงพรึงเพริด นี่มันความสัมพันธเยี่ยงใดกัน เจาพูดวา
เดินทางเคียงขางกันมามิใชหรือ เด็กอํามหิตคนนี้ทําเรื่องไมนาใหอภัยอันใดกันแน?
กลุมตาแกฝงตรงขามพนไฟโทสะ ควันขาวออกจากหู โมโหเดือดดาลอยางที่สุด เจา
เด็กเวรนี่สมควรถูกฆาเสียจริง
หั่วหลิงถลึงตาใสเขาแลวกลาววา “เจาคุยโวโออวดอีกแลว!”
“ไมใช ขาพูดความจริง พวกเขาไลลาขาตลอดทาง ไมยอมรามือ แตผลกลับตรงกัน
ขาม ถูกขาจัดการลูกหลานเสียแลว ขาคิดจะสรางสัมพันธไมตรีกับพวกเขา ตองการ
เปลี่ยนอาวุธเปนเครื่องหยกและผาไหม แตพวกเขาไมยอมรับน้ําใจขา ประกาศศักดาวา
จะทุบตีขาสังหาร ไมเปนมิตรเอาเสียเลย” เจาตัวเล็กกลาว
คนกลุมนี้เงียบงัน เขนฆากันถึงเพียงนีแ้ ลว เปลี่ยนอาวุธอันใดเลา? หากไมตายก็จะ
ไมรามืออยางแนนอน
“พี่ชาย การตอสูและฆาคนนั้นไมถูกตอง มีสิ่งใดไยจึงนั่งลงคุยกันมิไดเลา หากพวก
เรารวมยกจอกเชิญจันทรตั้งแตแรกเริ่ม ยอมไมเกิดโศกนาฏกรรมเปนเรื่องๆ เชนนี้หรอก
เฮอ ขาควรพูดอยางไรดี” เจาตัวเล็กเดินเขาไปใกล เขยงเทา ตบไหลของชายแกคนหนึ่ง
อีกครั้ง
“ไอเด็กเวร คอยดู!” ชาชราผูหนึ่งโกรธเกรี้ยวจนควบคุมอารมณไมได โมโหจนปอด
เจียนระเบิด สะบัดแขนเสื้อดังซวบ ไมอยากจะอยูรวมกับเขาอีกตอไป มิเชนนั้นอาจโมโห
จนตายได
หลายวันผานไป เจาตัวเล็กยอมแพอยางสิ้นเชิง นอกจากดาบชํารุดแลว เขาไมได
อาวุธล้ําคาแมสักชิ้นเดียว ระหวางนี้มีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ไดสมบัติ รวมกันแลวเกือบถึงสิบชิ้น
ในที่สุด
เขาเอนกายบนหินพยัคฆหมอบ นอนหลับอุตุ ไมไปใหเสียเวลาอีกตอไป สะสมพลัง
ความเขมแข็ง เตรียมออกจากที่แหงนี้ ไปตามหาน้ําพุอมฤต
หากทําได เขาอยากจะทุบกอนหินทั้งหมดใหแหลกในหนึ่งคอน นําเอาศาสตราวุธบร
รพกาลที่ถูกผนึกไวออกมา แตดวยเกรงกลัวความวิบัติ จึงทําไดเพียงอดทนอดกลั้น
ทันใดนั้น หมาปานอยเหาหอน บิดไปบิดมากลางอกหั่วหลิง ถลึงตามองหินใหญ
กอนหนึง่ จะวาไปก็ประหลาด กอนหินนั่นแตกระแหงอยางคาดไมถึง สองแสงสวางเจิด
จา
“สวรรค อีกหนึ่งอาวุธล้ําคามหัศจรรย!” ผูคนอุทาน
นี่เปนกําไลกระดูกวงหนึ่ง มีสีน้ําเงิน ประหนึ่งแกะสลักจากหยก ไมทราบวา
เจียระไนจากกระดูกล้ําคาของสัตวชนิดใด มีความวิเศษอันนาตื่นตะลึง แมกาลเวลาอัน
ยาวนานลวงเลยไป ความวาวยังคงไมหางหาย
เมื่อกําไลวงนี้โผลมา กระแสเสียงดังขึ้นเปนระลอก อักขระกระจายอยางหนาแนน
สองสะทองบริเวณนั้นจนพรางพราย กลายเปนสีฟาคราม หั่วหลิงถูกปกคลุมไวภายใน
เนื้อหนังพรางพราว แววตาพราวระยับ ยิ่งทําใหดูงดงามเปนอยางยิ่ง
“ศาสตราวุธบรรพกาล นาเสียดายที่มันก็มีขอบกพรองเชนกัน” ผูคนอาลัย กําไล
กระดูกวงนี้หักไปสวนหนึ่ง มิไดเปนวงกลมที่สมบูรณแบบ
ฝูงชนทอดถอนหายใจ กระทั่งตอนนี้ ไมมีศาสตราวุธบรรพกาลที่สมบูรณอยาง
สิ้นเชิงแมสักชิ้น ลวนชํารุดเสียหาย
แตทวาผูคนครุนคิดแลวก็ปลอยวาง หากปรากฏหนึ่งชิ้นที่สมบูรณไรที่ติจริง
เพียงพอจะกลายเปนสมบัติล้ําคาคูบานคูเมือง ทําใหราชันผูยิ่งใหญมากมายนั่งไมติดเปน
แน
กําไลกระดูกวงนี้ไมใหญ สวมบนขอมือขาวของหั่วหลิงไดพอดิบพอดี ประหนึ่งกําไล
หยก แวววาวโปรงแสง สองแสงสวางระยิบระยับ
เพียงขยับ มันจะสองแสง อักขระเบียดเสียดยัดเยียดจนนาตกใจ มากมายละลานตา
แนนขนัดเต็มทองนภา ไมตองคิดใหมากความก็รูวา อานุภาพยิ่งใหญเปนแนแท
หั่วหลิงสวมมันบนขอมือดวยความยินดีปรีดา ปรากฏวาหมาปานอยกัดไมหยุด ถอด
มันออกมา หมายคาบไปใหเจาตัวเล็ก
องคหญิงหั่วหลิงเดือดดาลอยางที่สุด วิ่งมาอยางรวดเร็วแลวพูดวา “ไมเลวนัก เปน
อาวุธล้ําคาชั้นดี สวยงามเพียงนี้ หากมอบมันแกพวกหูนิวคงดีใจมากเปนแน”
“มันเปนของขา!” หั่วหลิงพูดอยางฉุนเฉียว สวมมันเขาไปในขอมือขาวดุจหิมะ ไม
ยอมถอดออกมาอีกเลย จากนั้นอุมหมาปานอยไวแนน เอยถามเจาตัวเล็กดวยความฉงน
สนเทหวา “หูนิวคือใคร?”
“สาวนอยคนหนึ่ง แข็งแรงและรูปรางงดงามเยี่ยงขา” เจาตัวเล็กกลาว เมื่อ
ใครครวญอยูพักหนึ่งก็เพิ่มอีกหนึ่งประโยควา “งามกวาเจามากโขเชียวละ”
เมื่อไดยินประโยคขางหนา หั่วหลิงยังกะพริบตา กลั้นใจไมหัวเราะ สาวนอย
แข็งแรงเพียงนั้น ยังถือวามีรูปรางงดงามไดหรือ? ครั้นไดยินประโยคหลัง ไฟโทสะลุกโหม
กรีดรองวา “ไปตายเสีย!”
นางอุมหมาปานอยขึ้น บิดสะโพกอวบอิ่มแลวฟดฟดเดินจากไปทันที ทนเจาตัวเล็ก
ไมไหวอีกตอไป
“พิลึกคนนัก” เจาตัวเล็กสายหนา
“ศิษยนอง เจายังเยาวนัก รอสักสองป เจาก็จะเขาใจวา สิ่งใดที่เรียกวา งดงาม และ
สิ่งใดที่เรียกวา แข็งแรง” ศิษยพี่ผูหนึ่งเดินมา ตบบาเขาแลวเอยคําพูดที่มีความหมาย
ลึกซึ้ง
“ชิ คิดวาขาโงหรือไร ไยขาจะไมรู ศิษยพี่ หนแลวทานแอบดูศิษยพี่หญิงทัง้ สอง
อาบน้ําใชไหม?”
“อยาพูดเพอเจอ ขามิไดทําเชนนั้น!” ศิษยพี่ผูนี้กระวนกระวาย จากนั้นหันหลังเดิน
ไปทันที
ศิษยหญิงทั้งสองทีอ่ ยูดานหลังเผยแววตาที่มีจิตสังหารออกมาเสียแลว
เจาตัวเล็กสงบลงในที่สุด เดินเตรไปทั่วทุกหนแหงอยางเบื่อหนาย เตรียมสิ้นสุดการ
เดินทางแหงโบราณสถาน เพราะเขาไมไดสิ่งใดจากที่นี่เลย เพียงผลาญเวลาไปอยางสูญ
เปลาเทานั้น
เขาลูบคลําเจดียนอยบนเสนผมแลวพึมพําวา “นอกจากดาบสนิม ก็มีเพียงเจาแลว
ไยจึงไมขยับเสียแลวละ แมแตอักขระก็ไมเห็น มีประโยชนอันใด?” เจาตัวเล็กโมโหโทโส
ใชเสนผมมวนมันอยูหลายรอบ มัดใหแนนมากยิ่งขึ้น
เจาตัวเล็กมายังขอบปาหิน แหงนหนามองทองฟามืดสลัว เพราะที่นี่มากดวยไอ
หมอก มองไมเห็นดวงตะวันที่แปลงรางจากอีกาทอง
“ไยจึงไมมีอาวุธล้ําคาปะทะชนกายขา เพื่อรอขาเก็บกันนะ?”
“วิ้ว”
เปลวไฟพาดผานฟากฟามืดสลัว รวงตกลงมาทันที
“มาจริงหรือ?” เจาตัวเล็กดีอกดีใจ แตเขากลับขมวดคิ้วเปนปมอยางรวดเร็ว นก
แดงยักษนี่เอง เนื้อตัวอาบเลือด ออนแรงจนหายใจโรยริน หลนรวงบนยอดเขา
“อา เจาอยูที่นี่จริงๆ ดวย รีบไปชวยชีวิต สิงโตเกาเศียรกับเตียวมวงจวนถูกคนฉีก
รางแลว!” นกแดงยักษรีบรอนมาก
เจาตัวเล็กตะลึงงัน สิงโตเกาเศียรยิ่งใหญเพียงนั้น ยังมีคนสามารถทําใหทายาทอสูร
บรรพกาลอยางพวกมันตายอยางอนาถไดดวยหรือ? ผูใดกันแน นากลัวไดปานนี้
เพียงชั่วพริบตา เขาสงบจิตสงบใจแลวกลาววา “เจารูไดอยางไรวาขาอยูที่นี่?”
“ขาไดยินตอนสูศึก!” นกแดงยักษรายมนตรไมขาดสาย สองแสงทั้งตัว รักษา
บาดแผล มันเรงรอนเปนอยางมาก เรงเราใหเจาตัวเล็กออกเดินทาง
เจาตัวเล็กแววตาพราวระยับ ลูบดาบกลางหลังเลมนั้น สายตาก็พลันสุกใสทันใด
ปราศจากความหวาดกลัว
“รอสักครู!” เขาพุงกลับไปในปาหิน รองเรียกหั่วหลิงมาแลวพูดวา “ศิษยนอง ผูที่
อยูใตบังคับบัญชาของเจาใชผูผนึกหรือไม? ประเดี๋ยวไปชวยเหลือเสียหนอยสิ”
เขาหันหลัง ใหนกแดงยักษบอกกลาวตําแหนง จากนั้นไมพูดอะไรใหมากความ
กระโดดขึ้นขี่หลังนกแดงยักษ หายลับไปในมานหมอกในบัดดล
สนามรบไมไกล หางจากตีนเขาของผาแบงสมบัติไมเกินยี่สิบกวาลี้ บัดนี้เสมือนวา
การตอสูสิ้นสุดลงแลว แลดูอนาถใจเหลือเกิน
สิงโตเกาเศียรออนระโหยโรยแรง แสงทองทั่วตัวหมนแสง มีหลุมใหญกลางหนาอก
ลมลงกลางแองเลือด หายใจหอบลึก
อีกาไฟขางกายมันแผดเผาตัวเองจนไหมเกรียม ขนดําทั่วรางยุงเหยิง ทั้งยังถูกขน
หางนกสีทองหลายเสนทะลวงกาย เลือดหลั่งริน
กระดูกหนาผากของสองพีน่ องแหงเผาสามเนตรจวนแตกออก มีรอยเล็บชัดเจน
โชคดีเพียงอยางเดียวคือ ดวงเนตรไมถูกตะปบจนหลุดออกมา
นกหลวนสีรุงก็รวมสูศึก แตบัดนี้กลับหายใจรวยริน ถูกคนฉีกรางกายแทบแยกเปน
สองทอน แผดรองเสียงต่ําอยูตรงนั้นไมขาดสาย
ขาหนาของเตียวมวงบิดเบี้ยว เห็นไดชัดวาถูกคนบิดจนหักทั้งเปน กระดูกแตกหัก นี่
เปนอาการบาดเจ็บอันสาหัสสุดแสน ชางเปนวิธีที่โหดรายทารุณ
พวกมันลวนยังมีชีวิต รวมตัวกันทําการปองกันขั้นสุดทาย แตกลับไดรับบาดเจ็บ
สาหัสเชนนี้ ตานทานไดไมนานเปนแนแท
เจาตัวเล็กมองฝงตรงขาม เมื่อเห็นวาศัตรูคือใคร เขาก็โลงใจ พวกสิงโตเกาเศียร
ปราชัยนั้นไมแปลกเลย เพราะอีกฝายยิ่งใหญมากพอ!
สิ่งมีชีวิตที่อยูดานหนา เขาลวนเคยเห็น หนึ่งนกวิเศษสีทอง คลายคลึงนกครุฑยิ่งนัก
ยืนนิ่งไมไหวติงบนกอนหินใหญ หนึ่งวานรคลั่ง สูงถึงสิบกวาหมี่ มีขนสีดําทั่วทั้งรางกาย
ปากกวางเขี้ยวคม กําลังทุบหนาอกตัวเองเสียงดังตึงตัง หนึ่งเสือขาว กลิ่นอายนากลัว
นัยนตาเยือกเย็น จองเขม็งมาที่นี่
นอกจากพวกมันแลว ยังมีทายาทอสูรบรรพกาลอีกสิบกวาตัว แตละตัวลวน
แข็งแกรงมาก จิตสังหารไหลเวียน บางสวนมีรางมนุษย เปลงประกายรัศมีแสงล้ําคา
เพียงดูจากจํานวน พวกมันครอบครองความไดเปรียบโดยสิ้นเชิง ใชกําลังขมเหง
สิงโตเกาเศียร ยิ่งไมตองกลาวถึงผูดํารงอยูที่มีการบําเพ็ญอันลึกซึ้งยิ่งในนั้น สามารถ
ทัดเทียมผูผนึกได
“เพียงกลอุบายเล็กๆ เจาก็มาหาที่ตายอยางวางาย เชื่อฟงดีจริงๆ” เสือขาวพูดอยาง
เย็นยะเยือก ใบหนามีความจองหอง และทาทีเหยียดหยาม
“แมวโง เจาคิดวาเด็กเหลือขอกับขาไมรูแผนการโงๆ ของเจาหรือ เขามาเพื่อกินเจา
โดยเฉพาะ!” นกแดงยักษแผดเสียงรองไปที
“หากไมรนหาที่ตายก็ยอมไมตาย พวกเจากําลังรนหาที่ตาย” เจาตัวเล็กกวาดตา
มองฝูงทายาทอสูรบรรพกาล
“ขาทนเจามานานแลว วันนี้ ขาจะฉีกเจาใหเละ!” วานรคลั่งคํารามอยางพิโรธเปน
ครั้งแรก
เสือขาวสายหนา มองเจาตัวเล็ก ยิ้มเย็นแลวพูดเยยหยันวา “เจานะสิรนหาที่ตาย
บังอาจลวงเกินขา ไมเคยเห็นผูใดมีชีวิตรอดไดนานนัก”
“ขาอยากกินซุปกระดูกเสือมานานแลว ขอบคุณการพบกันที่งดงามในครั้งนี้” เจา
ตัวเล็กตอบ จากนั้นมองไปยังพญานกสีทองตัวนั้น
มันยังคงไมขยับเขยื้อน และไมปริปากออกเสียง แตไมมีผูใดอาจหาญละเลยมันเปน
แน เพราะกลิ่นอายเชนนั้นนากลัวยิ่งนัก
“เจากาวออกมาจากภูเขาเทพเจาบรรพกาล มีเลือดบริสุทธิ์หรือไม?” เจาตัวเล็กเอย
ถาม
“ใชแลวอยางไร ไมใชแลวอยางไร?” นกวิเศษสีทองยอนถาม นัยนตาสองลําแสงสี
ทองเปนสาย นาเคารพยําเกรง
“หากเปนเลือดบริสุทธิ์ ขจะกําราบเจาแลวนําไปดวย หากมิใชเลือดบริสุทธิ์ จะกิน
ทันที!” เจาตัวเล็กกลาว สิงโตเกาเศียรและนกแดงยักษไดรับบาดเจ็บ ทําใหเขาพิโรธ
อยางแทจริง
บทที่ 147 พลังวิเศษแหงวัชระ
“เจากินขา?” พญานกสีทองปรายตามอง ตาดําดุจน้ําวนสีทอง นากลัวอยางที่สุด
เสมือนจะเขมือบกลืนวิญญาณของผูคนเขาไป
“ขา…ไยจึงเวียนหัวเชนนี้?” นกแดงยักษหวาดผวา ขนนกทั่วกายลุกชัน ออกแรง
สายหัวเปนพัลวัน จึงไดสติกลับคืนมา
นกวิเศษสีทองตัวนั้นมีนัยนตายากลึกหยั่งถึง กระแสวนดุจขุมนรกและมหาสมุทร
ราวกับจะฉุดลากวิญญาณของคนเขาไปอยางแทจริง หากเปนสิ่งมีชีวิตธรรมดาทั่วไปคง
กล้ํากลืนความเจ็บแคนเปนแน!
มันยืนจังกาอยูบนกอนหินใหญ แสงทองทั่วรางสวางไสว มีความทรงพลังโดยกําเนิด
ประหนึ่งเทพเจาสีทององคหนึ่งเยือนโลกมนุษย ทอดมองลงมายังไพรฟาของมัน
เจาตัวเล็กเกิดความยําเกรงในจิตใจ นกยักษวิเศษตัวนี้แข็งแกรงยิ่ง จําตอง
ระแวดระวัง มิเชนนั้นอาจเสียเปรียบอยางใหญหลวงได
“ไมมีอะไรตองพูดแลว ใหขาเริ่มกอน ฉีกทึ้งเจาลิงขนเหลืองนี่ใหแหลก ขาทนมัน
จนถึงตอนนี้แลว!” วานรคลั่งคํารามอยางพิโรธ ยางสามขุมมาดานหนา ชิงลงมือกอน
เปนคนแรก
แผนดินสั่นไหวเปนระลอก กอนหินบนพสุธาโคลงเคลง มันสูงนับสิบกวาหมี่ แตพลัง
ยามเหยียบย่ําลงมากลับเหนือกวาน้ําหนักอยูมากโข ขนดําหนาดกทั่วกายยาวกวาหนึ่ง
เซี๊ยะ นากลัวและนาขยะแขยง
“ระวัง วานรคลั่งตัวนี้มากดวยพลังอันไมสิ้นสุด มีเคล็ดวิชาพลังวิเศษแหงวัชระ ”
สิงโตเกาเศียรเตือนอยางออนแรงจากขางหลัง
นกหลวนสีรุงครวญคราง มันไดรับบาดเจ็บเพราะวานรคลั่งตัวนี้แล แทบจะถูกฉีก
เปนสองทอน บัดนี้เลือดอาบกาย ลมลงบนพื้น มันบาดเจ็บสาหัสที่สุดในกลุม
เสียงตูมดังขึ้น วานรคลั่งสีดําตัวนั้นกระทืบหนึ่งเทาลงมาดวยความองอาจหาวหาญ
ยิ่งกวานั้นคือความปาเถื่อน และความดูหมิ่นดูแคลน ใชความไดเปรียบดวยอยูสูงกวา
เหยียบเจาตัวเล็กใหตายทั้งเปนในหนึ่งฝาเทา
มันมีปากกวางเขี้ยวคม รูปโฉมอัปลักษณ นี่เปนความมั่นใจอันลําพองอยางหนึ่ง
มากกวานั้นคือดูหมิ่นเหยียดหยาม ไมยี่หระเสมือนมังกรใหญบดขยี้แมลง ใชพลังอันไม
สามารถสกัดกั้นอัดลงมาหมายสังหาร!
เจาตัวเล็กเปนใคร และไมเคยถูกผูใดหมิ่นเกียรติมากอน ยอมถือทิฐิ เพียงยกมือ
กระจกล้ําคาซวนหนีก็สองสวาง เสกออกมาอยางโหดเหี้ยมและแมนยํา สายฟาสีทองเสน
ใหญฟาดกลางฝาเทาของวานรคลั่งทันที
“โฮก…” วานรคลั่งคํารามอยางเจ็บปวดในบัดดล
แมเทาใหญสีดําดั่งปุงกี๋ของมันจะมีอกั ขระกะพริบแปลบปลาบ แตเพราะยโสโอหัง
ปานนี้ ย่ําลงมาอยางปาเถื่อน ขาดการปองกัน เมื่อถูกสายฟาฟาด มานแสงกลางฝาเทา
ถูกทิ่มทะลวง สงกลิ่นไหมเกรียม
เจาตัวเล็กไดทีขี่แพะไล พุงตัวออกไป เสกกรรไกรกระดูกล้ําคาสีทองออกมาทันใด
เลียบตามจุดไหมเกรียมไปฟาดฟน ปลายแหลมคมกริบ
“ผลุบ”
ละอองเลือดแตกกระเด็นเซ็นซาน วานรคลั่งบาดเจ็บ แตมันรับมือกับสถานการณได
รวดเร็วอยางยิ่งยวด กระบวยวิเศษปองกันตนปรากฏขึ้น แสงดําปะทุขึ้น มันกระโดดขึ้น
ชั่วพริบตา ลอยขึ้นสูงหลายสิบหมี่ หลบหลีกการโจมตีที่นากลัวนี้
กรรไกรเจียวลอยกลับมาพรอมเลือด เจาตัวเล็กสีหนาเยือกเย็น ยกกระจกล้ําคาใน
มือขึ้นอีกครา สายฟาเสนใหญ ทะลวงฟาสูง
วานรคลั่งโกรธาอยางยิ่ง ไมคิดวาความประมาทเลินเลอในตอนแรก จะทําใหมันถูก
กระทําเชนนี้ สูญเสียฐานะเปนตอ ตกเปนฝายเสียเปรียบ
แมมันจะใหญโตมโหฬาร แตปราดเปรียวเปนอยางมาก เพียงหนึ่งเซถลา ลอยพาด
ออกไปไหลหลายรอยหมี่ ลงสูพื้นดินดังโครม เหยียบแผนดินจนทลาย มือใหญสีดําขาง
หนึ่งฟาดลงไปอยางกลัดกลุมใจ กอนหินหนักหลายแสนชั่งแตกระเบิดในเสี้ยววินาที
มันบันดาลโทสะ ครั้งนี้มันเก็บใจอันสบประมาทอยางสิ้นเชิง ถอยหลังไป จากนั้น
เนื้อตัวสองแสง หมอกดําทวมทนทองฟาพุงขึ้น กลายเปนพายุหมุน ลอมรอบตัวมัน
นี่เปนอักขระวัชระ พลังวิเศษสะทานโลกา รางกายของมันขยายพรวดพราด เพียง
ชั่วประเดี๋ยวก็สูงขึ้นมากโข รางกายใหญกวาสามสิบเมตรนาตื่นตะลึง สูงกวาเดิมอยาง
มหาศาล อีกทั้งเนื้อหนังบวมพอง ราวกับมีมังกรฉิวหลายตัวพันเกี่ยวกาย
“ตูม!”
วานรคลั่งพุงเขามาอีกครั้ง แสงดําทะมึนคลุมกาย ประหนึ่งระฆังใหญสีแดงผูกกาย
เสียงดังวิ้งวิ้ง มันพุง ชนเขามา ย่ําจนแผนดินแตกระแหงอยางรวดเร็ว กอนหินพวยพุง ดิน
ทรายไหลเชี่ยวดุจกระแสน้ํา หมายทวมทนกายเจาตัวเล็ก
นี่เปนคลื่นโจมตีลูกหนึ่ง ระเบิดจากกายของวานรคลั่ง อักขระสีดํากลายเปนคลื่น
กวาหลายสิบลูก กระแทกเบื้องหนา ฟาดเจาตัวเล็กที่อยูดานลาง
“ไป!”
เจาตัวเล็กตะโกนลั่น สองเทากระทืบดิน อักขระสีเงินแผกระจาย จันทราล้ําคาลอย
กลางนภา ปกคุลมเขาไวภายใน เขาลอยควางกลางอากาศ ประหนึ่งเทพเจาองคหนึ่ง
“อัดมัน!”
เจาตัวเล็กแผดเสียง เขาเปลี่ยนกระบวนทาอยางตอเนื่อง อักขระหลากชนิดปรากฏ
ขึ้น เคลื่อนไหวรางกาย ประเดี๋ยวเปนนกครุฑกางปก ประเดี๋ยวเปนมังกรชือทะยานฟา
ประเดี๋ยวเปนเจินโหวกลืนจันทรา… อักขระเหลานี้ลวนเปนสิ่งที่บันทึกไวในการหยั่งรู
ดั้งเดิม มิใชเคล็ดวิชาล้ําคา สามารถเลื่อนขั้น แตเมื่อเจาตัวเล็กสําแดงมันออกมากลับมี
พลังอยางนามหัศจรรย!
สิ้นเสียงดังปง เกลียวคลื่นสีดําถูกโจมตีกระจาย แมชายหนุมกลางนภาจะเยาววัย
แตพลังกลับยิ่งใหญไรเทียมทาน หนึ่งหมัดกระแทกออกไป ฟาดินแตกออกเปนเสี่ยง
วานรคลั่งนัยนตาโหดเหี้ยม มือใหญดจุ ปุงกี๋ยื่นออกมา อัดลงมาดั่งสายฟาฟาดบน
กบาล หมายกําเจาตัวเล็กใหเละเปนชิ้นๆ
ทั้งสองเนื้อตัวเปลงแสง ปรากฏริ้วรอย นี่ไมใชเพียงพลังกาย แตใชพลังลึกลับของ
อักขระดวย ผสานเปนหนึ่ง นากลัวเปนอยางยิ่ง
ในที่สุด พวกเขาปะทะชนกัน มือใหญขางนั้นดูเหมือนจะปกคลุมเจาตัวเล็ก แตบัดนี้
กลับชักกระตุก วานรคลั่งคํารามอยางโกรธเกรี้ยว รูสึกเจ็บปวดอยางหาที่เปรียบมิได
หมัดนอยๆ นั่นดุจหัวคอน รายลอมดวยอักขระ กระแทกเขาไปในกายมัน เลือดพุง
กระเด็นจํานวนมาก ทําใหมันหวาดหวั่นพรั่นพรึง
ทั้งที่เปนเพียงรางกายเล็กๆ แตพลังที่ระเบิดออกมากลับแข็งแกรงกวามัน เมื่อปะทะ
ชนกัน ทะลวงกายเนื้อของมัน ทําใหมันหวาดผวา
“ไป!”
วานรคลั่งคําราม แสงดํานอกกายลุกโชติชวงมากยิ่งขึ้น สุดทายกลายเปนระฆังสีดํา
ใหญ เสียงดังวิ้งวิ้ง สะเทือนเจาตัวเล็กจนตัวลอย
“ตึง”
เจาตัวเล็กโบกมือทันใด ฟาดลงบนระฆังดําใหญนั่น สงเสียงดังสะทานฟา แวว
ออกไปไกลกวาสิบลี้รอยลี้
“ชางเปนเคล็ดวิชาล้ําคาที่แข็งแกรงนัก!” เขารูสึกประหลาดใจ พลังการปองกันของ
วานรคลั่งนาตื่นตะลึง ระฆังดําไมแตกตางกับของจริงแมแตนิด
วานรใหญสีดําคําราม แหงนหนาทุบหนาอกของตน ระฆังใหญจากรางกายไป แสง
ดําทะมึนสวางเจิดจา คลุมเจาตัวเล็ก กลิ่นอายนากลัวและนาตกใจ
ระฆังใบนีใ้ หญเหลือเกิน อีกทั้งยังรวดเร็วอยางยิ่ง อยากจะหลบหลีกก็ยากนัก เมื่อ
เจาตัวเล็กลงสูพื้นดินก็ถูกมันครอบทันที ปดลอมไวภายใน
“ลิงขนเหลือง กลาดวลกับขา จะสังหารเจาใหซากศพเละเปนชิ้นๆ!” วานรตะโกน
ลั่น สองมือฟาดระฆังใหญตอ ไป
“ตึง” “ตัง” …
ระฆังใบนีส้ งเสียงสะเทือนหูจวนดับ มันกระตุนระฆังใหญ อยากสะเทือนเจาตัวเล็ก
ใหตายทั้งเปนอยูขางใน กลายเปนแองเลือด
ในความเปนจริง ที่ผานมามันตอกรกับศัตรูเชนนี้มาโดยตลอด บดขยี้ศัตรูมากมาย
ดวยคลื่นระฆังจนกลายเปนไอเลือดและเศษกระดูก ราบรื่นตลอดมา รอยครั้งไมเคย
ผิดพลาด
แตทวา ครั้งนี้กลับไมเห็นผลทันตา เจาตัวเล็กถูกจันทราสีเงินปกคลุม ย่ําบนธรณิน
ประหนึ่งฝงรากอยูตรงนั้น ตานทานคลื่นระฆังได
“อืม ลิงขนเหลือง เจาชางแข็งแกรง มาอีก!” วานรสีดําคํารามอยางพิโรธ สองมือ
กระหน่ําฟาดมา อักขระมากมายไหลหลั่งเขาไป ระฆังใหญสีดําสองแสง ปรากฏตัวอักษร
เกาแกขึ้นดานบน แปลงรางเปนคําวา “ผนึก”
ระฆังใหญสีดําทวีความนากลัว คลื่นระฆังหลั่งไหลหลอมเขาหินใกลเคียงจนเปน
ผุยผง แตเจาตัวเล็กที่อยูใจกลางถูกจันทราสีเงินปกคลุม ไมไดรับอันตรายเชนเดิม
รางกายเพียงโยกคลอนเทานั้น
“ขาไมเชื่อ เจายังยืนหยัดได!” วานรคลั่งบันดาลโทสะ สองมือกระหน่ําฟาดดวย
ความรุนแรงมากขึ้น อักษรโบราณปรากฏขึ้นตัวแลวตัวเลา แบงออกเปน ฆา หลอม
บวงสรวงเปนตน
ระฆังใหญสงเสียงมหัศจรรย ประหนึ่งเสียงบวงสรวงเซนไหว หมายเซนสรวงเจาตัว
เล็กทั้งเปน แสงดําทมิฬดุจกระแสน้ํา แผปกคลุมใจกลาง
“กอริลลายักษ ความสามารถของเจาสิ้นสุดเทานี้หรือ?” เจาตัวเล็กกระจายอักขระ
ทั่วทั้งกาย ลุกโชติชวง จากนั้นระเบิดทันใด โหมซัดกระทบตําแหนงเดิมของระฆังใหญ
อยางไมขาดสาย สุดทายกระแทกจนระฆังใหญระเบิดดังตูมทันที
รางกายมหึมาของวานรสีดําลอยพาดขึ้น ชนเขากับเขาหินลูกหนึ่ง ปากพนเลือด ใช
เวลานานจึงลุกขึ้นมาได คํารามอยางโกรธาแลวกระโจนมาขางหนา
“ลายวิเศษสถิตราง!” มันคํารามลั่น ใบหนาโกรธเกรี้ยวนากลัวดุจวัชรปาณีโพธิสัตว
สําแดงญาณวิเศษมารวิชัย
แขนขาของมันเปลงแสง อักขระกลายเปนชุดเกราะ ปรากฏบนแขนของมัน โผนใส
เจาตัวเล็กดวยความบาระห่ําอยางหาที่เปรียบมิได
ที่แหงนี้เกิดความชุลมุนวุนวายขึ้นมาโดยพลัน วานรคลั่งสําแดงเดช พลังวิเศษ
สะทานโลกา ถอนเขาหินออกมา กระแทกยังเจาตัวเล็ก
อยางไรก็ตาม สิ่งที่ทําใหผูคนตกตะลึงคือ มนุษยหนุมคนนั้นอํามหิตเชนเดียวกัน เขา
กลับตอบโต ไมลาถอยแมแตนอย เพียงพลังกายก็มีหลายแสนชั่ง บวกกับพลังลึกลับแหง
อักขระ เขามีอานุภาพยิ่งใหญอันนาตะลึง เหนือกวาคนวัยเดียวกัน
ที่แหงนี้สั่นสะเทือน ทั้งสองสูรบปรบมือนับหลายสิบครา เจาตัวเล็กโอบหนึ่งนิ้วมือ
ของวานรใหญแนนแลวเหวี่ยงมันทันใด จากนั้นกระแทกลงบนเขาหินดังปง กอนหินลอย
ลิ่ว
ผูชมศึกมากมายมองดูอยางตะลึงจนปากอากวาง รางกายเล็กปานนั้นเหวี่ยงวานร
คลั่งเยี่ยงนั้นหรือ? นี่มันเหลือเชื่อแทๆ ใหความรูสึกไมสมจริง
วานรคลั่งคํารามอยางโกรธเกรี้ยว นิ้วมือนั่นหักเสียแลว
“โครม”
เจาตัวเล็กเปลี่ยนเปนใชอีกมือหนึ่งโอบ เหวี่ยงมันอีกครั้ง กระแทกลงบนเขาหินอีก
ลูกหนึ่ง ฝุนควันพวยพุง กอนหินเกลือกกลิ้ง เจียนกลบฝงรางวานรคลั่ง
“โฮก…” มันคํารามดวยโกรธา บาดเจ็บติดตอกัน อักขระหลุดลอกเปนจํานวนมาก
รางกายหดเล็ก กลายเปนความสูงสิบกวาหมี่อีกครั้ง
เจาตัวเล็กนัยนตาระยับแสงสวาง ไดที่ขี่แพะไล พุงออกไปทันใด จับตัววานรคลั่ง
แลวออกแรงฟาดอยางรุนแรง
“โครม”
ตอมา เขายกตัวมันกวัดแกวงเหนือหัวแลวเหวี่ยงวานรกระแทกลงบนพื้นหินอีกฟาก
หนึ่ง สะเทือนจนขุนเขาสั่นไหว เหตุการณชางนาตะลึง
คนทั้งหมดลวนอึ้งงัน ในกายรางเล็กๆ นั่นบรรจุพลังที่นากลัวเพียงใดกันแน? ถึงได
องอาจเพียงนี้ เสมือนเหวี่ยงหุนไลกา กวัดแกวงวานรคลั่งสูงสิบกวาหมี่ไปทางซาย
กระแทกลงทางขวา นากลัวอยางที่สุด
“ขัดขวางเขา!”
ทายาทอสูรบรรพกาลสิบกวาในฝงตรงขามรวมกันกอจลาจล มองดูวานรคลั่งถูก
กระแทกใหตายทั้งเปนอยางโหดรายทารุณเชนนี้ไมได
ผูกลาสี่หารายพุงมาในบัดดล มีสิ่งมีชีวิตรางมนุษย สัตวอสูร และปกษาราย ย่ํา
เหยียบแผนดินแยก กางปกทะยานฟา ถลาลงมาพรอมกัน
“สังหาร!”
แสงล้ําคากะพริบระยิบระยับ อักขระแผเต็มทองฟา และอาวุธล้ําคาอัดลงมา ภาพ
เหตุการณนากลัว
เจาตัวเล็กตะโกนลั่น ไมเก็บไวแมแตนิด กรรไกรกระดูกสีทองลอยกลางนภา กระจก
ล้ําคาซวนหนีสองแสง จันทราสีเงินพุงขึ้น สายฟามากเหลือคณานับเริงระบํา ยังมีอักขระ
ตางๆ แนนขนัด กลางทองฟาสวางไสวเจิดจา ถูกพลังของเขาเพียงผูเดียวทวมทนเสีย
แลว
เขามิเพียงใชอาวุธล้ําคา แตสําแดงญาณวิเศษ โจมตีหมายสังหารสิ่งมีชีวิตเหลานี้สุด
ความสามารถ
เบื้องหนามีเสียงนากลัวแววมาเปนระลอก ทั้งเสียงอาวุธล้ําคาแหลกละเอียด เสียง
แผดรองโหยหวนของปกษาราย เสียงดังกึกกองจากวัตถุมหึมาลมกองกับพื้น
ผูกลาทั้งหาที่พุงเขามาตางไดรับบาดเจ็บสาหัส หนึ่งในนัน้ มีสัตวอสูรตัวหนึ่งถูก
กรรไกรสีทองทําลายอาวุธล้ําคาจนแหลก พรอมกับฟาดฟนเขนฆามัน รางกายกลายเปน
สองทอน เลือดไหลพรั่งพรู
ปกษารายตัวหนึ่งถูกสายฟาฟาด ดําเกรียมทั้งตัว หนีหัวซุกหัวซุนกลับมา ผูกลาทั้ง
สามที่เหลือลวนถอยหลังโงนเงน ไดรับบาดเจ็บสาหัส
เจาตัวเล็กยั้งกาวแลวหันหลังกลับ แววตาดุดันอยางหาที่เปรียบไมได แผนหลังของ
เขามีรอยเลือดหลายรอย เลือดไหลหลั่งริน กระดูกจวนเผยออกมาแลว
นอกจากสิ่งมีชีวิตทั้งหาตัวแลว ยังมีผูกลาอีกหนึ่งลงมือแลวเชนกัน เลือกการลอบ
โจมตี แทบผาแผนหลังของเขา เหนือกวาทายาทอสูรบรรพกาลหาตัวนั้นอยางทับทวี นา
กลัวสุดแสน
เสือขาวเรียบเฉยเปนอยางมาก และสุขุมเยือกเย็นยิ่งนัก นํากรงเล็บคมเปอนเลือด
ของตนเขาปาก ยิ้มเย็นและพูดยั่วเยาวา “รสชาติไมเลว เปนของเซนสรวงที่ขาชื่นชอบ”
“เจากําลังรนหาที่ตาย!”
เจาตัวเล็กกาวไปขางหนา จากนั้นก็วิ่งทันที เหยียบรางวานรคลั่งผานไป หมาย
กระโจนใสเสือขาว เมื่อสิบกาวย่ําลง วานรคลั่งก็สงเสียงคํารามสะทานฟา กระดูกทั่วกาย
ของมันระเบิดจนสิ้น แหลกละเอียดอยางสิ้นเชิง ลุกขึ้นไมไดอีกตอไป
“โฮก…” เสือขาวเคลื่อนไหวแลว กรีดรองสะเทือนฟาดิน กลายเปนแสงขาวโชติชวง
พุงเขามาพรอมกับลมคลั่ง ตอสูและปะทะชนกับเจาตัวเล็กอยางตอเนื่องทามกลางแสง
สวางเจิดจา
บทที่ 148 ดาบหักสังหารแปดทิศ
เสือขาวรวดเร็วเหลือเกิน ดั่งแสงขาววิ่งตัดสลับไปมาอยางอิสระ กอเกิดพายุคลั่ง
มวนกอนหินหนักหลายรอยชั่งพันชั่ง ลอยลองสะเปะสะปะกลางฝุนและทราย
มันกับเจาตัวเล็กปะทะกันอยางตอเนื่อง
เล็บเสือตอหมัด สงเสียงดังครืนครัน อักขระเริงระบํา กอนหินรายรอบทะลวงฟา
ลอยกระจัดกระจายไปทุกหนแหงภายใตคลื่นกระแทกมหาศาล
“โฮก!”
เสือขาวอาปากคําราม พนลําแสงดุจกาแล็กซีกวางใหญไพศาล จิตสังหารทวมทน
ทองฟา เจาตัวเล็กเนื้อตัวสองแสง ทําการสกัดกั้น และเขาหินเบื้องหลังเขาถลมทลายดัง
กึกกอง จากนั้นระเบิดกลายเปนผุยผง
“ตูม”
อุงเทาเสือสีขาวตะปบลงมา เจาตัวเล็กหลบหลีก แผนดินแตกละเอียดทันใด ถูกผา
จนแยกออก ปรากฏรองใหญลึกมาก ดําสนิท นากลัวอยางหาที่เปรียบไมได
เสือขาวทรงพลัง จูโจมอยางอํามหิต รางกายของมันมากดวยอาวุธ แมหันหลังเผชิญ
กับเจาตัวเล็ก เพียงหนึ่งสะบัดหาง หางสีขาวกวาดผาน หวดกอนหินหนักแสนชั่งกอน
หนึ่งจนระเบิด
ความบาดีเดือดเชนนี้ ทําใหคนทั้งหมดสะเทือนขวัญ!
“แมวยักษตัวนี้คลั่งแลว ชางเปนพลังโจมตีที่แข็งแกรงนัก!” ดานหลัง ไมวาจะเปน
นกแดงยักษหรืออีกาไฟ แมแตสิงโตเกาเศียร ตางก็พรั่นพรึง
เจาตัวเล็กยกมือตอตาน ระเบิดสายฟาอันไมสิ้นสุด แผขยายทวมเสือขาว ตัวเขาเอง
ก็ตอสูจนเลือดเดือดพลาน
“โฮก…”
เสือขาวแผดเสียงยาว พนอักขระสีขาวมากมาย แสงของโลหะกะพริบระยิบระยับ
ประจันหนากับสายฟากลางนภา ระหวางทั้งสองระเบิดแสงสวางโชติชวง ทั้งยังมีเสียง
โลหะกระทบกันแววมา นําสายฟาทั้งหลายลงสูใตดินจนสิ้น
ตามตํานานกลาววา เมื่อครั้งบรรพกาล เสือขาวพํานักอาศัยทางตะวันตก มี
คุณสมบัติเปนธาตุทอง ตัวแทนของสงครามและการปรามปราม ปราดเปรียวและนากลัว
อยางยิ่ง
ขณะเดียวกัน มันปลอยไอโลหะ เสมือนตองการพิสูจนยืนยันขอนี้ สะทานฟา
สะเทือนดิน ขจัดสายฟาจนสิ้น นําลงสูใตดินกวางใหญไรขอบเขต ทําลายทะเลสายฟา
“รสชาติอันโอชะทีส่ ดใหมและยิ่งใหญ ขายิ่งชอบเสียแลวสิ” เสือขาวคําราม นัยนตา
เยือกเย็น กระโดดขึ้นและกระโจนมาโจมตีอีกครา
มันไมเพียงมีรางกายแข็งแกรงไรเทียมทาน แตยังมีขั้นบําเพ็ญสูงยิ่งยวด ทัดเทียมผู
ผนึก ฉะนั้นมันจึงทรงพลังอยางสิ้นเชิง ใชกระบวนทาสังหารที่องอาจและผยองพุงใสเจา
ตัวเล็ก
“ปง”
เจาตัวเล็กปลอยหมัดขึ้นไป รางกายทั้งสองสั่นสะเทือน อักขระดุจสะเก็ดดาว พวย
พุงไมขาดสาย ที่แหงนี้ประหนึ่งภูเขาไฟปะทุ ผิวดินสั่นไหวรุนแรง
เสือขาวและเจาตัวเล็กถอยหลังพรอมกัน จากนั้นสําแดงเคล็ดวิชาล้ําคาอีกครั้ง
ปะทะกันสูศึกครั้งใหญ
“โฮก…”
เสือขาวคํารามหนึ่งเสียง ดานหลังปรากฏหอกศึกยี่สิบแปดเลม สีเงินสวางไสว
เคลื่อนไหวตามอักขระ ระเบิดจิตสังหารทะลวงเมฆา แสงสวางลุกโชติชวง
หอกศึกยี่สิบกวาเลมนี้กลายรางจากเขี้ยวเสือ ทุกดามชี้ฟา ตั้งตระหงานบนแผนดิน
ประหนึ่งเสาค้ําฟาหลายตน หนาใหญและเย็นยะเยือก ใหความรูสึกยิ่งใหญนาตื่นตะลึง
และนาหวาดกลัว
หอกศึกเหลานี้ใหญโตมโหฬารเหลือเกิน เปนอาวุธล้ําคาของเสือขาว เมื่อแปลงรางก็
เบียดเสียดยัดเยียดไปทั่วฟาดิน อีกทั้งยังเริ่มปรากฏความมหัศจรรย หอกศึกทุกเลมอาบ
เลือด ชางเปนภาพที่นากลัว
“ฆามัน!”
เสือขาวคํารามหนึ่งเสียง กระโจนเขามา หอกศึกยี่สิบแปดเลมหันเหคมหอก ลวนชี้
มายังเบื้องหนา ตั้งเรียงรายรอบกายมัน มุงหนาทิ่มมายังเจาตัวเล็ก
การโจมตีเชนนี้ทําใหคนหวาดหวั่นพรั่นพรึง เสือขาวมีพลังทัดเทียมผูผนึก จากนั้น
ปลุกกระตุนอาวุธล้ําคาที่ยิ่งใหญเชนนี้ ในโลกใบเล็กนี้ มีผูใดปองกันไดเลา?
เสือขาวกลาหาญทรงพลัง ขางกายมีหอกศึกยี่สิบแปดเลมรายเรียง ประหนึ่งพุง
ออกมาจากพันธนาการแหงเลือด มาพรอมกับกลิ่นอายแหงมหันตภัย ลําแสงนากลัว พุง
เขามาประชิด
เจาตัวเล็กแปรเปลี่ยนสีหนา เสกกระจกล้ําคาซวนหนี จากนั้นปลอยกรรไกรมังกร
เจียว แสงสวางพรางพราย สีสันมงคลหมื่นสาย ชวงชิงความเปนหนึ่งกับอาวุธล้ําคา
เหลานี้ ขณะเดียวกัน ตนเองก็ถูกสายฟาทวมทน ใชพลังสูงสุดเผชิญหนากับเสือขาว เปด
ฉากการตอสูดวยชีวิต
“ตูม”
อักขระเจิดจา ลําแสงลอยพาดนภาดุจดาวหางมากเหลือคณานับ ฝงกลบที่แหงนี้
พลังวิเศษทั่วทุกหนแหง ริ้วคลื่นอันไมสิ้นสุดทําลายกอนหินแหลกลาญ ฟาดเขาหิน
แตกแยก ทําใหผูคนหวาดกลัวและสั่นสะทาน
เสียงดังตึงตังไมขาดสาย กรรไกรกระดูกสีทองและกระจกล้ําคาซวนหนีกวาดทําลาย
แสงวิเศษ ปะทะกับหอกศึกนั่น สายฟาผนึกกําลัง
อาวุธล้ําคาเขี้ยวคมของอสูรบรรพกาลลวนแข็งแรงทนทาน จิตสังหารสะทานฟา
กระโจนเขามา บิดหินและโลหะจนแหลกเปนผุยผง แตเจาตัวเล็กยืนตระหงานอยูตรงนั้น
รางกายมิไดแตกระแหงแตอยางใด เขากําลังตอตาน ใชเคล็ดวิชาล้ําคาโจมตี
“ไปตายซะ!”
เสือขาวคําราม นัยนตาเย็นเยือก มันอาปากพนแสงขาว หอกศึกยี่สิบแปดเลมสวาง
ไสวมากขึ้น ทะลวงเมฆทลายหมอก เจาะอักขระทะลุ พุงอัดรางกายของเจาตัวเล็ก
พวกเขาสูรบจนถึงจุดเดือด เจาตัวเล็กหวาดหวั่น หอกศึกเหลานี้แข็งแกรงเหลือเกิน
มิใชเลมเดียว แตมีถึงยี่สิบแปดเลม ทําใหรับมือจนเหนื่อยลา
“ตูม!”
หอกศึกมหึมาลอยมา ปกลงขางกายเขา ทรงพลังอยางเปรียบมิได ทะลวงผืน
แผนดิน จากนั้นทลายจนสิ้น
หอกศึกทุกเลมหนาใหญจนนาตะลึง ประหนึ่งเสาตนใหญ นี่มิใชการทิ่มแทง แตเปน
ดั่งเขาลูกใหญกดอัดลงมา หากถูกโจมตีเขา มิใชการทะลวง แตเปนการกระแทกให
กลายเปนแองเลือด
ตูม!
หอกศึกยี่สิบแปดเลมพุงลงมาพรอมกัน เจาตัวเล็กหลบหลีกอยางเสนยาแดงผาแปด
แตผืนดินที่เขายืนอยูกลับแยกออก หลุมดํายี่สิบแปดหลุมแผขยาย ทําใหที่นี่ระเบิด กอน
หินพุงชนเขาจนตัวลอย จิตสังหารมวนตัว หมดหนทางหลีกเลี่ยง รุกล้ําเขารางกายของ
เขาในที่สุด ทําใหมุมปากของเขาหลั่งเลือด
นับตั้งแตเจาตัวเล็กสูรบปรบมือกับอัจฉริยะหลายชนเผามา งายดายราวกับหักหญา
แหงและไมผุพัง กวางลางศัตรูมากมาย ยากจะไดรับบาดเจ็บ เขาเช็ดเลือดไปที ลําแสง
ในตาลุกโหมมากขึ้น จิตวิญญาณนักสูฮึกเหิม
อีกฝายมีขั้นบําเพ็ญสูงกวาเขา นี่เปนปญหาในทางปฏิบัติที่นากลัวอยางหนึ่ง แตพลัง
การตอสูของเขาเหนือธรรมชาติ ไมเกรงกลัวแมแตนอย เสียงครืนดังขึ้น กรรไกรกระดูก
พุงทวนขึ้นไป หลุดจากกายเจาตัวเล็กไปสังหารเสือขาว
ขณะเดียวกัน กระจกล้ําคาซวนหนีก็ปรากฏขึ้น สองสะทอนสายฟาหลายสิบเสน
ฟาดไปขางหนาพรอมกัน แผคลุมเสือขาว
เสียงวิ้งดังขึ้น แสงเงินกะพริบแปลบปลาบ บนกายเสือขาวปรากฏชุดเกราะสีขาว
หนึ่งชั้น เจิดจาพราตา แสงสวางลานตา จากนั้นอักขระก็แผเต็มฟา สกัดกั้นการเขาใกล
ของกรรไกรกระดูกสีทองและกระจกล้ําคาซวนหนี
“ชุดล้ําคาเสือขาว!” มีคนอุทาน มันเปนชุดเกราะที่ปลุกเสกจากหนังล้ําคาของอสูร
บรรพกาลอาวุโส พลังการปองกันนาตะลึง โดยปรกติแลว ยากจะโจมตีใหทลายได
ถึงวาเสือขาวไมเกรงกลัวแมแตนิด เพราะมันครอบครองอาวุธล้ําคาที่นากลัวปานนี้
นี่เอง แมนจะยางกรายไปแหงหนใด สามารถหยัดยืนในตําแหนงไดเปรียบไรพายภายใน
กลุมสิ่งมีชีวิตรุนเดียวกัน
“เครง”
กรรไกรเจียวสองแสง โจมตีขางหนาทันใด สุดไดก็บังเกิดผล ทลายแสงสีขาวนั่น ตัด
ชุดเกราะเสือขาวเปนรอยแยก และมีเลือดหลั่งริน
“ชางเปนกรรไกรล้ําคาที่แข็งแกรงเสียจริง!” คนทั้งหมดตางแปรเปลี่ยนสีหนา ไม
คาดคิดวาจะสามารถทลายชุดเกราะเสือขาวได กรรไกรกระดูกสีทองนี้มีความเปนมาที่
นาตื่นตะลึงเปนแนแท
แมแตพญานกสีทองที่ชมศึกอยูไกลๆ เองก็เกิดความคลางแคลงใจ จองเขม็ง มอง
แลวมองอีก
“โฮก…” เสือขาวบันดาลโทสะ กลิ่นอายลุกโหม หอกศึกยี่สิบแปดเลมดานลางสอง
แสง จิตสังหารทวมทนทองฟา มวนตัวไปหาเจาตัวเล็ก
“แยแลว!” เจาตัวเล็กตะลึงงัน หอกศึกเหลานี้มิไดทิ่มแทงมาขางหนา ยังคงปกอยูใน
ธรณี แตทวามันกลับระเบิดอักขระมากมายไมสิ้นสุด กอตัวเปนคายกลสังหาร หมายลอม
เขาใหตายอยูภายใน
แสงขาวกวางใหญดั่งมหาสมุทรกระเพื่อมขึ้นลง ทวมทนที่นี่ในชั่วพริบตา เจาตัวเล็ก
กระอักเลือดออกมาคําหนึ่ง ถูกคลื่นหลายสิบลูกซัดเขา สิ่งเหลานี้ลวนเปนอักขระ เต็ม
เปยมดวยพลังลึกลับและกฎเกณฑ
“มา!” เจาตัวเล็กตะโกน เพียงยกมือ กระจกล้ําคาซวนหนีก็พุงตรงลงมาจากนภาสูง
ปรากฏในมือของเขาระเบิดเสียงสายฟาคํารามขึ้นมาทันใด
ขณะเดียวกัน กรรไกรกระดูกสีทองกลางนภาก็โจมตีทันที ฟนชุดเกราะเสือขาวจน
แยก เลือดไหลพรั่งพรูอีกครั้ง เสือขาวไดรับบาดเจ็บอีกครา
“เจาทําขากริ้ว!” เดิมทีเสือขาวอาศัยความสามารถสูงสุดของตนกําราบศัตรู ทําลาย
จิตวิญญาณการตอสูของอีกฝาย ทําใหความมั่นใจของตนเพิ่มมากขึ้น แตทวา ในศึกใหญ
นี้ มันมีขั้นบําเพ็ญสูงกวา แตไมสามารถปราบฝายตรงขามได ทั้งยังไดรับบาดเจ็บสาหัส
มันทนตอไปไมไหวแลว
มันอาปากแผดรอง พนกลุมแสงขมุกขมัว กําจายไอมงคลเปนกอบเปนกํา มันลอย
ขึ้น ลานตาเหลือเกิน
นี่เปนถุงหนังสัตว เสือขาวนําอาวุธล้ําคาที่ยิ่งใหญที่สุดออกมา หมายเก็บอาวุธของ
เจาตัวเล็กไป พันธนาการเขาไวในถุงแลวสังหารใหเหี้ยน
ปลดเชือกสีทอง ปากถุงเปดออก สองแสงสวางเปนพันเสนทันใด สีสันมงคลหมื่น
สาย แสงล้ําคาไหลทะลักอยางไมสิ้นสุด แผปกคลุมเบื้องลาง เพื่อดูดทุกสิ่งไป
“มิไดการแลว!”
เจาตัวเล็กแปรเปลี่ยนสีหนา เขาเคยเห็นประจักษแกตาวาถุงหยินหยางนากลัว
เพียงใด มันกลัววากรรไกรกระดูกสีทองจะถูกดูดเขาไป จึงเก็บมันอยางรีบรอน
กลายเปนลําแสงรวงลงขางกายมัน
บนกายเสือขาวมีชุดล้ําคา สามารถลอยตัวกลางอากาศได บัดนี้ยืนอยูบนยอดเขา
พูดเสียงเย็นวา “เจาควรรูวา ตนเองต่ําตอยเพียงใด หากขาตองการสังหารเจา
สามารถเสร็จสิ้นในชั่วพริบตา เมื่อครูใหโอกาสเจา แตเจารักษาไวไมไดเอง ตอนนี้ขาจะ
เอาชีวิตเจา ไมยอมเสียเวลาอีกตอไป!”
มันเอยปากอยางเย็นเยือก ทอดมองลงขางลาง เปดถุงหยินหยางหมายเปดฉาก
สังหารครั้งสุดทาย!
เปนไปตามคาด คลื่นนากลัวแผขยาย ปากถุงสองแสงมงคลไมขาดสาย เริ่มกลืนกิน
สรรพสิ่ง กอนหินตางๆ ขางลางลอยลอง แมแตเจาตัวเล็กเองก็เริ่มโงนเงน จวนเขาไปใน
ถุง
“แมวยักษ เจากําลังรนหาที่ตาย!” เจาตัวเล็กตะโกนเสียงเย็นเยือก ชักดาบหัก
ออกมาจากดานหลังดังเครง ชี้มันขึ้นฟา สั่นแขนทันใด ลําแสงทวมทนทองฟาพวยพุงขึ้น
ในบัดดล
“ปง”
สีสันมงคลที่ปลอยมาจากถุงหยินหยางถูกยับยั้ง ไมไดปกคลุมลงมา ไมสามารถดูด
เจาตัวเล็กเขาไปได
“ดาบพังเลมนั้นรึ?” เสือขาวตะลึงงัน มันเคยลักษณะของดาบเลมนี้ตอนโผลขึ้นมา
กับตาตนเอง ถูกไอดําแหงสนามรบบรรพกาลปกคลุม เจียนจะผุพัง ไยจึงมีอานุภาพ
เชนนี้?
เจาตัวเล็กไมอยากใชมัน เพราะเผยตัวตนเร็วเกินไป จะทําใหพญานกสีทองจะตื่นตัว
แตตอนนี้เสือขาวใชถุงหยินหยาง เขาไมมีทางเลือก
“เครง” “เครง”
หอกศึกดังครืนครัน หอกศึกที่แปลงรางจากเขี้ยวเสือยี่สิบซี่เคลื่อนไหวพรอมกัน จะ
ทะลวงเจาตัวเล็ก ขณะเดียวกันถุงหยินหยางก็เปลงแสงอีกครา เสือขาวทุมสุดพลัง
หมายสังหารมนุษยหนุมที่นากลัวคนนี้
เจาตัวเล็กนัยนตาเยือกเย็น มือกําดาบหัก ทําลายลางทั่วแปดทิศ ลําแสงนากลัวตลบ
อบอวล ประหนึ่งคลื่นยักษ เสียงดังครืนครันแววมาไมขาดสาย หอกศึกยี่สิบแปดเลมถูก
ฟนจนหักทั้งสิ้น
“ไอหยา ปวดใจเหลือเกิน!”
ยามฝูงชนตะลึงพรึงเพริด มีวาจาเชนนี้ปลอยออกมา ราวกับโศกเศราอยางสุดแสน
แตกลับไมใชเสือขาว ผูคนตางงุนงง เจาตัวเล็กทุบอกกระทืบเทา ไมคิดวาดาบสนิมจะมี
อานุภาพมหัศจรรยปานนี้ ทําลายหอกศึกทั้งหมด เดิมทีเขาอยากจะเก็บมันมาแนะ
เสือขาวแทบกระอักเลือด นั่นเปนอาวุธล้ําคาของมัน ปรกติเก็บสะสมไวกับตัว ทําใจ
ใชไมได ตัวเองยังไมทันตะโกนวาปวดใจ มนุษยหนุมคนนั้นกลับรองตะโกนเชนนี้ อยาก
ทําใหกลัดกลุมตายทั้งเปนแทๆ
เจาตัวเล็กรูสึกปวดใจจริงๆ ในความคิดของเขา หอกศึกนี้เปนของเขาแลว แตกลับ
ไมคิดวาจะถูกดาบสนิมฟนขาดเปนสองทอนจนหมดสิ้น ชางสิ้นเปลืองอาวุธล้ําคา
เหลือเกิน
ตองรูวา เขามิไดกระตุนดาบหักเลมนี้อยางจริงจัง ศาสตราวุธแหงเหลานักปราชญ
บรรพกาลนากลัวเหลือเกิน!
“ถุงหยินหยางเปนของขา!” เจาตัวเล็กพึมพํา สองตาลุกวาว จองวัตถุล้ําคาชั้นดียิ่ง
เขม็ง ครั้งนี้เขาตัดสินใจตองไดมันมาครอง มิใหเกิดเหตุการณไมคาดคิดเปนแน
เขาย่ําเทาบนกระจกล้ําคาซวนหนี ปลอยกระแสไฟฟา ลอยขึ้นกลางนภา พุงไปยัง
ยอดเขาลูกนั้น
“สังหาร!”
เสือขาวคํารามดวยความโกรธา มันโมโหแทบบาแลว อาวุธล้ําคาถูกทําลาย มนุษย
หนุมคนนี้ยั่วยุเชนนี้ ใหอภัยมิได ปรกติ ผูใดอาจหาญปฏิบัติตอมันเชนนี้? ผูใดบังอาจ
ลวงเกิน สังหารใหเหี้ยนทันใด กลายเปนแองเลือด
“ขาตางหากที่จะสังหารเจา!” เจาตัวเล็กองอาจไรเทียมทาน กําดาบหักมา แตกลับ
หลบหลีกถุงหยินหยางได เตรียมโจมตีรางจริงของเสือขาว
“รนหาที่ตาย!” เสือขาวฉายแววตาขมึงทึง อาจหาญดูหมิ่นมันเชนนี้ เพิกเฉยตอ
อาวุธล้ําคาของมัน นี่มันรนหาที่ตาย รางกายของมันระเบิดแสงสวาง เพียงเปดปากพน
ผายันตล้ําคาลอยมา กระแทกลงขางหนา
ฝูงชนมองอยางตะลึงงัน เสือขาวตัวนี้ตองมีภูมิหลังอันใหญยิ่งเปนแน มิเชนนี้จะ
อาวุธล้ําคามากมายเพียงนี้ไดอยางไร ตองรูวา อัจฉริยะคนอื่นๆ ตองการครองสักชิ้นยัง
ยากเย็นเหลือเกิน
“เครง!”
เจาตัวเล็กฟาดดาบหักในมือ ผายันตล้ําคาผืนนี้ก็ระเบิด กลายเปนลําแสงนากลัว
“ไอหยา ปวดใจเหลือเกิน เจาเสกอาวุธล้ําคา ไยไมบอกกลาวลวงหนาเลา?!” เจาตัว
เล็กโกรธกริ้ว ปวดใจอยางสุดแสน ของกํานัลศึกอีกชิ้นสูญสิ้นไปแลว
“ผลุบ”
เสือขาวทนไมไหวอีกตอไป โมโหจนกระเลือดคําใหญ ผูใดจะปวดใจเทามันเลา?
กลัดกลุมจนหัวใจเจียนระเบิด ปวดกระเพาะอยางรุนแรง อาวุธล้ําคาที่หลอเลี้ยงดวย
เลือดลมและปลุกเสกเนิ่นนานหลายป พังพินาศไปเชนนี้เอง
ตอนจบของสงครามนี้ถูกตัดสินแลว เจาตัวเล็กหลบหลีกถุงหยินหยางได ทะลวงแสง
มงคลเหลานั้น ถือดาบหักฟาดฟนเบื้องหนา
“ผลุบ”
เสือขาวคํารามลั่น เลือดพุงกระฉูด ขาหลังขางหนึ่งถูกฟนรวงลงมา
“แดงใหญรับไว อยาสิ้นเปลือง!” เจาตัวเล็กสงเสียง นี่เปนเนื้อเสือขาวในตํานาน
เปนยาบํารุงชั้นเลิศ การสิ้นเปลืองเปนเรื่องนาละอาย
เขาควบคุมดาบหักอยางระมัดระวัง สามารถกําราบมันใหเชื่องไดในที่สุด ไมไดฟาด
เสือขาวจนแหลกเปนชิ้น จึงมุงหนาไปสังหารอีกครา
แมเสือขาวจะตอตาน แตกลับตานทานไมได เสียงผลุบดังขึ้น ถูกฟนกลางหลังจน
ขาดเปนสองทอน รางกายทอนลวงรวงลงไป เลือดไหลอยางบาคลั่ง
ในขณะเดียวกัน เจาตัวเล็กก็ชวงชิงถุงหยินหยางไดสําเร็จ เมื่อสูญเสียการควบคุม
ของเสือดาว อักขระจางหาย คอยๆ หมนแสง ถูกเจาตัวเล็กควาหมับมาอยูในมือ
“ของล้ําคา!” เจาตัวเล็กชื่นชอบจนไมอยากปลอยมือ ดวงตาหรี่เปนรูปจันทรเสี้ยว
เผยเขี้ยวแวววาว เบิกบานใจอยางหาที่เปรียบมิได
“เมื่อมีถุงหยินหยาง ขาจะหออสูรบรรพกาลทั้งหมดในเขารอยยอดกลับไปก็ไมมี
ปญหา” นัยนตาเปนประกายมากดวยดวงดารา จากนั้นรีบรอนเช็ดน้ําลาย
นกแดงยักษ สิงโตเกาเศียร เตียวมวง และอีกาไฟที่โหรองอยางปติมีความสุขในตอน
แรก เมื่อเห็นเขาเปนเชนนี้ ตางก็ปดปากฉับมันที
“โฮก…” เสือขาวจนตรอก มันไมคิดเลยวาจะตกอยูในสภาพแบบนี้ พบเจอกับ
ผลลัพธเชนนี้
เสียงวิ้งดังขึ้น แสงทองพุงสูท องฟา เบียดเสียดยัดเยียดเต็มทองฟาในทันที ฟาดินมืด
สลัวพลันระเบิดแสงวิเศษ ถูกรัศมีแสงวิเศษปกคลุม พลังนากลัวมืดฟามัวดินกดอัดลงมา
ทําใหคีรีธาราสั่นสะเทือน
นกวิเศษสีทองเคลื่อนไหวแลว กางปกทะยานฟา ปรากฏตัวกลางนภา ประหนึ่งเทพ
เจาสีทององคหนึ่ง ทอดสายตามองลงมายังผูคนเบื้องลาง
“พวกเจาไปสังหารเขาเสีย!” มันตะโกนออกคําสั่งใหเหลาทายาทอสูรบรรพกาล
สังหารเจาตัวเล็ก
“เขา… มีดาบหักเลมนั้น อาวุธล้ําคาของพวกขารับมือไมไหว” ทายาทอสูรบรรพ
กาลเหลานี้หวาดกลัวอยางแทจริง ดาบหักเลมนั้นนากลัวเหลือเกิน
“ไมเปนไร หากเขากลาลงมือ ขาจะเก็บดาบหักนั่นเสีย พวกเจาสามารถสังหารเขา
ไดตามตองการ!” พญานกสีทองพูดอยางเย็นยะเยือก รางกายดุจหลอมจากทองคํา
กําจายรัศมีแสงกวาหมื่นจั้ง นากลัวอยางหาที่เปรียบมิได ประหนึ่งราชันเทพเจามองลง
ยังอาณาประชาราษฎร
บทที่ 149 พญาครุฑ
“จองหองเหลือเกิน!” นกแดงยักษตกใจจนพูดไมออก
พญานกสีทองเหินเวหา เนื้อตัวถูกปกคลุมดวยรัศมีแสง ประหนึ่งเทพเจา นากลัว
อยางหาที่เปรียบมิได มีจิตใจอันยโสโอหังอยางหนึ่ง กวาดสายตาดูหมิ่นเหยียดหยามไป
ทั่วทุกหนแหง
สิงโตเกาเศียร นกหลวนสีรุง อีกาไฟตางยําเกรง สิ่งมีชีวิตตัวนี้มีอํานาจบาตรใหญ
อยางที่สุด สอดคลองกับศักยภาพอันยิ่งใหญ กลิ่นอายเชนนี้ทําใหผูคนหวาดกลัว
แมแตสองพี่นองแหงเผาสามเนตรผูมีตาวิเศษเลื่องชื่อก็หวาดผวา ไมกลาจองมองมัน
เพราะดวงตาของสิ่งมีชีวิตสีทองตัวนั้นดุจกระแสวนสีทอง กลืนจิตวิญญาณของคน
เจาตัวเล็กไมเงยหนา ไมมองดูพญานกสีทอง แตกวัดแกวงดาบ ฟาดไปยังเสือขาวที่
ดวงตาอับแสง เหลือเพียงครึง่ ทอนนั้น ไมอยากจะเหลือใหเปนปญหาใดๆ ตามมา
“ไม เจาจะสังหารขาไมได!” เสือขาวรองลั่น นัยนตาเปยมดวยความตื่นกลัว ไมมี
สิ่งมีชีวิตตัวใดไมเกรงกลัวความตาย เมื่อถึงวินาทีสุดทาย แมแตเทพเจาก็หวาดหวั่น
เจาตัวเล็กเงียบสนิท สูศึกมาถึงขั้นนี้แลว หากยังมีเมตตาใจออน รังแตจะเกิดปญหา
ใหญในภายภาคหนา
“สหายครุฑชวยขาดวย!” เสือขาวรองลั่น มองไปยังฟากฟา ควบคุมอารมณไมอยู
ภายใตความหวาดกลัวมีความคลุมคลั่งอยางหนึง่ วิงวอนขอความชวยเหลือจากสิ่งมีชีวิต
ตัวนั้น
ฝูงชนไดยินตางเกิดความหวาดกลัวในจิตใจ มีความหนาวเย็นผุดขึ้นมาจากกนบึ้ง
ของหัวใจ ตื่นตระหนกตกใจอยางยิ่งยวด นี่เปนพญาครุฑจริงๆ อยางนั้นรึ?!
เจาตัวเล็กใบหนาเรียบเฉย ไมปราณีแมแตนอย มือถือดาบหักฟาดลงไป เสียงผลุบ
ดังขึ้น เลือดแตกกระเด็น หัวเสือลอยขึ้นพรอมกับละอองเลือดจํานวนมาก
เสือขาวนัยนตาเต็มไปดวยความไมยอม ชั่ววินาทีสุดทาย ดวงตาลุกวาว ประหนึ่ง
กองไฟแผดเผา หนาผากของมันแตกออกเปนเสี่ยงอยางรวดเร็ว จากนั้นก็ทําลายเขี้ยวคม
สีขาวดวยตนเอง
เจาตัวเล็กถอนหายใจ นาเสียดายเหลือเกิน แมเสือขาวจะแพพายยับเยิน แตเสี้ยว
วินาทีสุดทายกอนสิ้นลม มันยังสามารถทําลายกระดูกอักขระโบราณ ทําใหเขาอาลัยยิ่ง
นัก
นี่หมายความวาเขากับเคล็ดวิชาล้ําคาแหงเผาพันธุเสือขาวเฉียดไหลผานไป![1]
เคล็ดวิชาที่แตละชนเผาครอบครองนั้นมีนอย ฉะนั้นมันจึงล้ําคา ดวยประการฉะนี้
แล ยากจะชวงชิงญาณวิเศษของเผาพันธุอื่น เพราะผูกลาแตละเผาพันธุจะทําลายกระดูก
ล้ําคาดวยตนเองแมตัวตาย ไมเหลือมันแกศัตรู
พญานกสีทองเฉยเมยมาตั้งแตตนยันตอนนี้ กลิ่นอายนากลัวแผกระจาย ดุจ
กระแสน้ําปา มันยืนตระหงานกลางฟาสูง มองดูเสือขาวถูกเขนฆา มิไดชวยชีวิตแตอยาง
ใด
“ทุกคนมีเสนทางของตน เหลือเพียงครึ่งทอน มีชีวิตอยูไปก็เปนทุกข!” มันเปดปาก
ในที่สุด พนวาจาเหลานี้ออกมา บงบอกวาไรความปราณีเปนอยางมาก
“แดงใหญรับไว!”
เจาตัวเล็กโยนรางพิการของเสือขาวไป เขาเพิ่งควบคุมถุงหยิงหยาง ไมมีเวลาสํารวจ
ไมอาจเก็บรางเสือขาวไวทันที
“ของดี!” นกแดงยักษน้ําลายไหลยอย นี่ตองเปนยาบํารุงชั้นยอดอันพบเจอไดยาก
เปนแน
เจาตัวเล็กฟนคอคูตอสูที่แข็งแกรง ปดฉากสงครามครั้งใหญ เมื่อไดสติก็แหงนหนา
มองฟา พูดอยางโกรธาวา “ลูกไกนาชัง ทํารายขาใหเรงลงมือ ทําลายชุดเกราะของเสือ
ขาว เจาชดใชไดหรือ?”
เหลาอสูรบรรพกาลตางตะลึงงัน คางเจียนตกลงสูพื้น เรียกวาอะไรนะ โอหัง
เหลือเกิน เรียกขานพญานกสีทองวาลูกไก… ชางจองหองเสียจริง
มีความเปนไปไดวาเปนพญาครุฑตัวหนึ่งจริง แตกลับถูกเรียกขานเชนนี้ เปนการดู
หมิ่นและหยามเกียรติอยางแทจริง แววตาของเหลาอสูรบรรพกาลตางชอบกล
กลางฟากฟา พญานกสีทองตัวนั้นก็ชะงักงัน ตั้งแตกําเนิดยันตอนนี้ไมเคยมีผูใดอาจ
หาญเยาะเยยมันเชนนี้มากอน มนุษยหนุมคนนี้บังอาจเกินไปแลว!
“สังหาร!”
แววเสียงตะโกนลั่นจากกลางฟาสูง อสูรบรรพกาลสิบกวาตัวรับคําสั่ง พุงตรงมา
ขางหนา แตละตัวรายเคล็ดวิชาล้ําคา พลันมีปกษาประหลาดทะยานฟา สัตวอสูรหอน
ดวงจันทร ลวนมาเยือนแลว
อักขระเจิดจา ที่แหงนี้เกิดพายุคลั่ง ทรายลอยลองกอนหินเกลือกกลิ้ง สายฟาผนึก
กําลัง เปลวไฟทวมทนทองฟา ญาณวิเศษตางๆ ปรากฏขึ้นพรอมกัน อัจฉริยะหนุมสาว
คนใดเห็นลวนตองประหวั่นพรั่นพรึง
สิงโตเกาเศียร นกแดงยักษ เตียวมวง อีกาไฟตางแปรเปลี่ยนสีหนา กังวลใจอยาง
แทจริง เมื่อสิ่งมีชีวิตเหลานี้อยูรวมกันนั้นแข็งแกรงเหลือเกิน เพียงพอจะพังทลายคีรี
ธารา
เจาตัวเล็กไรความหวาดกลัว มือถือดาบหัก กวาดไปขางหนา ลําแสงคมดาบขาว
โพลนมวนตัวออกมาดุจเกลียวคลื่นทันใด เสียงตูมดังขึ้น ทําลายแสงล้ําคาจนสิ้น
ตานทานญาณวิเศษเหลานี้ได
ยิ่งไปกวานั้น ลําแสงคมดาบกลายเปนน้ําตก หลั่งไหลไมขาดสาย ขาวโพลนทั่ว
บริเวณ ทวมทนเบื้องหนา หมายฟนศัตรูทั้งหลายใหเหี้ยน ฟาดสังหารจนสิ้น
ผูคนตางสั่นสะทาน ดาบผุพังสนิมเขรอะเลมนี้มีอานุภาพรายแรงนัก ไมมีทาง
ตอตานไดโดยสิ้นเชิง หากถูกฟาดเขา คงทําไดเพียงระเบิดจนละเอียด กลายเปนแอง
เลือด
อสูรบรรพกาลสิบกวาตัวแปรเปลี่ยนสีหนาทันใด แมพวกมันจะรวมพลังก็สกัดกั้นไม
ไหว อาวุธล้ําคาชิ้นนี้ไรเทียมทาน เพียงพอจะสังหารพวกมันทั้งหมด!
แววเสียงฮึดฮัดจากฟากฟา พญานกสีทองกระจายหมอกขมุกขมัวทั่วราง กลิ่นอาย
นาหวาดกลัว ราวกับภูเขาใหญแสนลูกกดอัดลงมา ทําใหผูคนสั่นระริกอยากสวามิภักดิ์
ไอหมอกลอยวนเวียน มันอาปากพนแผนหินสลัวออกมา จากนั้นขยายใหญอยาง
รวดเร็ว กลายเปนยอดเขา ขวางกั้นลําแสงคมดาบสะทานฟาทั้งหมดไว
“นี่มันอาวุธล้ําคาอะไรนะ?!” นกแดงยักษอุทาน รูสึกขนลุกขนชัน เมื่อภูเขาล้ําคานี้
ปรากฏขึ้น สามารถตานทานอานุภาพแหงดาบได เหลือเชื่อเสียจริง
นกหลวนสีรุงและอีกาไฟลวนตะลึงพรึงเพริด อานุภาพแหงดาบหักเปนที่ประจักษ
ชัดแจงแกทุกสายตา นกวิเศษปกทองตัวนี้กลับอาปากพนอาวุธชิ้นหนึ่งทีน่ าตกใจ
เชนเดียวกัน
ยอดเขาสลัวเปลงแสงสีสันอันเปนมงคล กะพริบแสงแมเหล็กสวยงาม สงเสียงดังช
ริ้งๆ จะริบดาบหักในมือของเจาตัวเล็กไปทันที
“นี่คือยอดเขาพลังแมเหล็ก!” เมื่อสิงโตเกาเศียรเห็นก็ตะลึงงัน มันเคยไดยินอาวุธล้ํา
คาชิ้นนี้มากอน นากลัวและยิ่งใหญอยางที่สุด เปนอาวุธล้ําคาประเภทโลหะเชนเดียวกับ
ดาบพิชิต หอกศึก ทวนวงเดือน[2]เปนตน
“ชางแข็งแกรงเสียจริง ยอดเขาสลัวลูกนั้นเดิมเปนเทพารักษผูยิ่งใหญอยางทีส่ ุด ถูก
คนสังหารแลวปลุกเสกใหกลายเปนอาวุธล้ําคา มีพลังวิเศษอันไมธรรมดา” ผูกลาเผาสาม
เนตรพูดดวยน้ําเสียงตะลึง ดวงเนตรที่สามของพวกเขามีญาณวิเศษ สามารถมองเห็น
ความเปนมาและเนื้อแทของอาวุธล้ําคานั่น
ดาบหักในมือเจาตัวเล็กกําลังสั่นไหว ราวกับจะหลุดออกจากมือไป สงเสียงเครงเปน
ระลอก ประสบกับการรบกวนจากพลังวิเศษแหงแมเหล็กอันใหญยงิ่
“เก็บ!”
พญานกปกทองกลางฟากฟาตะโกนลั่น นี่เปนเหตุผลที่มันกลาผยอง เพราะมอง
อาวุธล้ําคาที่ยากลึกหยั่งถึง ยิ่งใหญและนาทึ่งชิ้นนี้ ยอมไรความเกรงกลัว มุงพิชิตอาวุธ
ของผูอื่น
“ระวัง ยอดเขาพลังแมเหล็กนั่นมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ มีผูกลามากมายลวนพบกับความ
วิบัติเพราะมันเมื่อครั้งวันวาน!” สิงโตเกาเศียรพูดเสียงดังเพื่อเตือน
นี่ไมใชอาวุธล้ําคาทั่วไปอยางสิ้นเชิง ทําใหเหลาผูกลาในกลุมอสูรบรรพกาลลวนกล้ํา
กลืนความเคียดแคน ตองรูวาสิ่งมีชีวิตเหลานั้นไมใชสิ่งที่หนุมสาวเหลานี้จะทัดเทียมได
ในตอนนี้
“วิ้ง”
เจาตัวเล็กสั่นดาบ ลําแสงคมดาบขาวโพลนกระเพื่อมออกไปอยางกวางขวาง มิใช
ลําแสงเพียงสายหรือสองสาย แตเปนกอบเปนกํา ประหนึ่งกระแสน้ําปาซัดสาดกระทบ
ฟาสูง สงเสียงดังครืนครัน
กลางนภามีกลุมแสงอันไมสิ้นสุดปะทุขึ้น จากนั้นระเบิด ลําแสงคมดาบปะทะกับ
แสงแมเหล็ก ราวกับไฟแรงพบเจอกับฟนแหง แผดเผารุนแรง ฟาดินเดือดระอุ
แมยอดเขาพลังแมเหล็กจะไมใชศาสตราวุธบรรพกาล แตกลับนากลัวอยางยิ่ง
เชนกัน เหนือกวาอาวุธล้ําคาทั่วไปที่ผูคนพบเห็นอยางมหาศาล เรียกไดวาเปนสมบัติล้ํา
คาชิ้นหนึ่ง
เมื่อกอน มีเทพารักษตนหนึ่งมีชื่อสะเทือนปฐพี ไรเทียมทาน ตัวมันเปนภูเขาพลัง
แมเหล็ก สามารถกําราบทุกสิ่งอยาง ไรศัตรูมาโดยตลอด แตสุดทายกลับประสบกับ
ความแพพาย พบเจอพญาครุฑสีทองตัวหนึ่ง ฉีกมันจนเปนชิ้นๆ การปราชัยหมายถึงตัว
ตาย ถูกเสกใหเปนอาวุธล้ําคาชิ้นนี้
แสงแมเหล็กเริงระบํา แตละเสนที่หลั่งไหลออกมาลวนสามารถทะลวงผูกลาให
กลายเปนโคลน ยิ่งกวานั้นคือสามารถริบเก็บอาวุธล้ําคามากมาย สูบเอาพลังปราณ
นําไปใชกับตนเอง
ดาบหักเปนศาสตราวุธบรรพกาล มีอดีตอันรุงโรจนที่มนุษยโลกไมอาจจินตนาการได
แมดาบจะหัก แตก็ยิ่งใหญอยางที่สุดเชนกัน อาวุธล้ําคาขั้นสูงสุดทั้งสองชนิดพบเจอกัน
เมื่อเผชิญหนากันก็ยอมดุเดือดอยางหาที่เปรียบมิได
พญานกปกทองตะลึงงัน อาวุธล้ําคาแหงเผาพันธุทําลายลางทุกสิ่งอยาง แตกลับไม
สามารถทําอันใดดาบโบราณเลมนี้ได เพิ่งเคยพบเคยเห็นครั้งแรกในรอบหลายปมานี้
เจาตัวเล็กเกิดความหวาดหวั่น อาวุธล้ําคาของอีกฝายเหนือธรรมชาติจริงๆ สามารถ
ตานทานศาสตราวุธบรรพกาลได พบเจอไดนอยและหายากอยางแทจริง
“สังหาร!”
เมื่อเหลาอสูรบรรพกาลที่อยูเบื้องหนาเห็นสถานการณเชนนี้ มุงหนามาสังหารพรอม
กัน โจมตีเจาตัวเล็ก
“กูมาแลว จะสูใหรูแพรูชนะไปเลย!” นกแดงยักษเห็นรูปการก็จะพุงเขามา
สนับสนุน เพราะเจาตัวเล็กประจันหนากับนกวิเศษสีทองแตเพียงผูเดียว ยากจะคาดเดา
ผลลัพธ บัดนี้หากมีเหลาอสูรยิ่งใหญลงมือพรอมกัน คงจะมากอันตรายโชคดีนอย[3]
สิงโตเกาเศียร เตียวมวงและอีกาไฟตางกระเสือกกระสนลุกขึ้น เตรียมลงมือ หาก
เจาตัวเล็กปราชัย พวกมันตองตายเปนแน บัดนี้จําตองสูใหถึงที่สุด
“พวกเจาถอยไป!” เจาตัวเล็กตวาด ไมคาดคิดวาเขาจะยับยั้งฝูงชนไว
“ตูม!”
กายของเขาสองแสง สายฟาผนึกกําลัง จันทราสีเงินปรากฏขึ้น จากนั้นดาบหักใน
มือก็สั่นระริก ลําแสงคมดาบปะทุขึ้น สะเทือนยอดเขาพลังแมเหล็กกลางนภาจนรนถอย
หลุดจากพันธนาการ มุงหนาไปกวาดลาง
“อัดมัน!” พญานกสีทองตะโกนลั่น มันใชพลังทั้งหมด ทําใหภูเขาแมเหล็กสลัวลุก
โชติชวงมากยิ่งขึ้น ปลอยอานุภาพวิเศษนากลัวเชนนี้ลงมา หยุดยั้งดาบหักเลมนี้
ภูเขาลูกนี้สําแดงเดช และเกิดประโยชนอยางแทจริง ทําใหลําแสงคมดาบสับสน
อลหมาน แตก็เชื่องชาไปเสียหนอยเชนเดิม ไมสามารถสกัดกั้นไดทั้งหมด
“ผลุบ”
อสูรบรรพกาลตัวหนึ่งถูกลําแสงคมดาบฟาดเขาอยางจัง ระเบิดแหลกละเอียดทันที
กลายเปนไอเลือด อีกสิบกวาตัวที่เหลือลวนพรั่นพรึง ยั้งเทาทันใด จากนั้นถอยหลังอยาง
รวดเร็ว
ดาบเลมนี้ถูกหยุดยั้งแลวมิใชหรือ? ไยจึงสําแดงเดชอยางฉับพลันเชนนี้ อสูรบรรพ
กาลทั้งหลายตางหวาดกลัว ไมกลากระทําการบุมบามอีกตอไป
พญานกสีทองสีหนาเยือกเย็น แหงนหนาแผดรองขึ้นฟา บินโฉบลงมา ยอดเขาพลัง
แมเหล็กอัดตามลงมา ปกคลุมดาบหัก หมายผนึกมัน
เจาตัวเล็กเผยยิ้มเย็นตรงมุมปาก แหงนหนามองฟา สูศึกครั้งใหญกับนกวิเศษตัวนั้น
“ตูม”
ดาบหักสองแสง ปะทะชนกับยอดเขาพลังแมเหล็ก ประหนึ่งคลื่นยักษกระทบฝง
และเสมือนฟาถลมพสุธาทลาย ลําแสงขาวโพลนแผคลุมที่แหงนี้ สงเสียงดังครืนครัน
ขณะเดียวกัน พญานกปกทองพุงดิ่งเขามา ใชอาวุธล้ําคาพลังแมเหล็กคุมกันตน
จากนั้นกรงเล็บสีทองขางหนึง่ ถูกปลอยลงมา ตะปบไปทางเจาตัวเล็ก
“ปง”
เจาตัวเล็กไมหลบหลีกแมแตนิด ดาบหักปะทะเขาแมเหล็ก มือซายประจันหนากับ
กรงเล็บใหญ ทั้งสองรบกันโรมรัน กลางทองฟาราวกับเกิดสายฟาฟาด เสียงดังกึกกอง
ระเบิดอักขระอันไมสิ้นสุด
พญานกสีทองแผดรองยาว พุงทะยานขึ้นฟา ดวงตาเผยแววประหลาด การหยั่งรู
อักขระของมันลึกซึ้งกวาอีกฝาย ขั้นบําเพ็ญสูงกวา แตไมสามารถฟาดมนุษยหนุมคนนั้น
ใหกลายเปนแองเลือดได
เจาตัวเล็กหวาดหวั่น พญานกสีทองตัวนี้นากลัวอยางแทจริง เหนือกวาเสือขาว นี่
เปนศัตรูที่แข็งแกรง
“ไกฟา เจามิใชเลือดบริสุทธิ์ แตกลับแข็งแกรงกวาอสูรบรรพกาล มีความเปนมา
อยางไรกันแน?” เขาถือดาบหักพลางเอยถาม
“มันเปนครุฑเลือดผสม!” สิงโตเกาเศียรเอยปากจากดานหลัง เปดเผยวาสายเลือด
ของนกตัวนี้แข็งแกรงปานใด แทที่จริงแลว มันเองก็จะเดินเสนทางนี้ วันหนาอาจ
กลายเปนสิงโตเกาเศียรเลือดบริสุทธิ์ก็เปนได
“ครุฑเลือดผสมหรือ ตองอรอยมากแนๆ!” เจาตัวเล็กกลาว กําดาบหักชี้ขึ้นฟา บัดนี้
ทาทีไมเหมือนเดิมอีกตอไป
“พวกเจาถอยไปใหหมด!” พญานกปกทองกลางนภาตะโกนสั่ง เนื้อตัวเปลงแสง
หมายใชญาณวิเศษที่แข็งแกรงอยางยิ่งยวดสังหารเจาตัวเล็ก
มันเอยปากเชนนี้ ไมเพียงแตอสูรบรรพกาลสิบกวาตัวเหลานั้นที่พุงตัวออกไปไกล
อยางรวดเร็ว แมแตนกแดงยักษเองก็รีบรอนจากไปไกล ที่แหงนี้กลายเปนดินแดนแหง
หายนะเปนแนแท
จิตวิญญาณการตอสูของเจาตัวเล็กเขมขนมากยิ่งขึ้น ตะเบ็งหนึ่งเสียง รางกายของ
เขาจวนโปรงแสง พลังปราณทั่วรางเดือดพลาน จากนั้นกรอกลงไปในดาบผุพังจนสิ้น
เสียงวิ้งดังขึ้น ดาบเลมนี้เสมือนตื่นจากการหลับใหล แปลงรางเปนดวงตะวันสวาง
ไสว แสงสวางเจิดจายิ่งขึ้น ลําแสงดาบคมทวมทนทองฟา พุงพรวดขึ้นขางบนประดุจ
ทะเล
อานุภาพของดาบเลมนี้ยากจะคาดเดา กอนหนานี้เจาตัวเล็กสงวนเอาไวตลอดมา
ในตอนนี้ เขากระตุนมันอยางเต็มกําลัง หมายสังหารพญาครุฑ
พญาครุฑแผดรองยาว แววตานาสะพรึงกลัว พุงขึ้นอยางรวดเร็ว บินทะยานขึ้นไป
ยังฟากฟา ใชยอดเขาพลังแมเหล็กขัดขวาง จําตองบอกวา มันรวดเร็วเปนอยางมาก จึง
หลบหลีกหายนะครั้งนี้ไดเชนนี้
ความเร็วเชนนี้ทําใหนกแดงยักษขนลุกวาบ มันประเมินวาตนทัดเทียมไมได
“เผาพันธุครุฑเปนหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่มีความเร็วที่สุดในโลกมนุษยอยางแทจริง!” เจา
ตัวเล็กพึมพํา ในใจระแวดระวังมากยิ่งขึ้น
“เจาแกรงมาก ไดอาวุธล้ําคาที่ล้ําเลิศมาครอง แตก็ยังไมควรคาแกการมองเชนเดิม
วันนี้ขาจะเอาชีวิตเจา!” พญานกปกทองกลาวอยางเยือกเย็นกลางฟาสูง
“ตูม”
ทันใดนั้น เพลิงวิเศษทวมทนทองนภา แสงสวางสีทองนากลัวมากยิ่งขึ้น ไมเพียงแต
พญานกตัวนั้นที่สองแสง ยังมีพัดเลมหนึ่งเพิ่มมา มีสีเหลืองทอง ลุกไหมโชน
“ศาสตราวุธบรรพกาล!” มีอสูรอุทาน มันเปนพัดสีทองเลมหนึ่ง ขนนกพรางพราย
ประหนึ่งดวงตะวันลุกไหม เมื่อครั้งกระแสน้ําวิเศษปะทุ อาวุธล้ําคาชิ้นนี้เคยสําแดงเดช
มากอน
“ปลุกเสกจากปกขางหนึ่งของอีกาทอง ชางเปนอาวุธล้ําคาที่ยิ่งใหญเหลือเกิน!” ฝูง
ชนหวาดหวั่นพรั่นพรึงอยางสุดแสน
เปลวไฟทวมทนทองฟา ไหลบาลงมา ทําใหลาวาเดือดพลานบนแผนดินทันใด
เกลียวคลื่นสีแดงพวยพุง แผทวมเจาตัวเล็ก อานุภาพวิเศษสะทานโลกา
“ทลายมัน!” เจาตัวเล็กแผดเสียง เทาย่ํากระจกล้ําคาซวนหนี สายฟาเริงระบํา พุง
ขึ้นสูนภาสูง ดาบหักในมือฟาดทองฟาทันที ฟนคลื่นไฟกวางใหญออก มุงหนาไปสังหาร
ครุฑ
“ฆามัน!”
พญานกปกทองตะโกนลั่น พุงตรงเขามา ยอดเขาพลังแมเหล็กอัดลงมา รบกวนดาบ
หักเลมนั้น และพัดล้ําคาสีทองพัดอยางรุนแรง กวาดลงมายังเบื้องลาง คลื่นนากลัวอยาง
ที่สุด
ทั้งสองปะทะชนกัน สิ้นเสียงดังโครม แสงสวางอันไมสิ้นสุดทวมทนฟาดิน ผูคน
ทั้งหมดตางลืมตาไมขึ้น
กระทั่งเวลาผานไปเนิ่นนาน แสงสวางกระจายไป ผูคนจึงจะสามารถกะพริบตา
มองดู เจาตัวเล็กเปนแผลเหวอะหวะทั่วกาย หลายที่ถูกเปลวไฟลวกจนไดแผล หลั่ง
เลือดออกจากปาก
ครุฑปกทองเองก็เจ็บปวด ขนสีทองหลุดรวง ทรวงอกมีรอยแผล เลือดหลั่งไหลพรั่ง
พรูออกมา
“แข็งแกรงแท!” เจาตัวเล็กไดบาดเจ็บสาหัส รางกายของเขายิ่งใหญปานใด วันนี้
แทบจะถูกสะเทือนจนแหลกละเอียด
พญานกสีทองก็ตะลึงเชนเดียวกัน พัดล้ําคาของมันไดมาจากผาแบงสมบัติ เปน
ศาสตราวุธที่เหลืออยูของเหลาปราชญบรรพกาล แมจะชํารุดเสียหาย แตถึงอยางไรก็
สมบูรณกวาดาบหักเลมนั้น ไยจึงไมสามารถปองกันได ประสบกับลําแสงคมดาบเสนหนึ่ง
เยี่ยงนี้?
หากมิใชเพราะมันวิวัฒนาการเปนเลือดบริสุทธิ์ รางกายแข็งแกรง แปรเปลี่ยนเปน
สิ่งมีชีวิตตนอื่นคงระเบิดเปนชิ้นๆ เสียแลว
ครุฑปกทองแผดรองดวยโกรธา ขั้นบําเพ็ญของมันสูงกวาเจาตัวเล็ก มีอาวุธล้ําคา
สะทานโลกาสองชิ้นในมือ แตกลับไมสามารถสังหารฝายตรงขามได นี่มันอภัยใหไมได
แลว
หากเปลี่ยนจากมนุษยหนุมเปนเสือขาว มันเชื่อมั่นวา คงถูกสังหารทันทีเปนแนแท
มนุษยหนุมคนนี้แข็งแกรงกวาเสือขาวถึงปานนี้เชียวหรือ!
“สังหาร!”
ครุฑปกทองกางปกทะยานฟา หนีบอาวุธล้ําคาทั้งสองชิ้นแลวบินโฉบลงมา ยอดเขา
พลังแมเหล็กผนึกดาบหัก ไมขอใหหยุดยั้งไดอยางสิ้นเชิง ขอเพียงสามารถรบกวนมันไดก็
เพียงพอแลว มันกระตุนปกอีกาทองสุดกําลัง ตามตํานานกลาววา อาวุธล้ําคาชิ้นนี้อาจมี
ขนของอีกาทองเลือดบริสุทธิ์ผสมอยู แมจะชํารุด แตอานุภาพก็ไรเทียมทาน!
เจาตัวเล็กคํารามดวยความโกรธ ประสบพบเจอกับศัตรูที่ยากจะจินตนาการ อีกฝาย
มีอาวุธล้ําคาสองชิ้น ลวนสามารถทัดเทียมศาสตราวุธบรรพกาล ในเวลานี้ เขาเองก็สูสุด
ชีวิตแลว
“วิ้ง”
เมื่อดาบหักเจอสิ่งที่แข็งแกรงกวา มันก็แข็งแกรงมากยิ่งขึ้น เริ่มสองแสงอีกครั้ง รอย
สนิทกําลังหลุดลอก เผยดาบสีดําทะมึนบางสวน ลําแสงคมดาบสวางเจิดจายิ่งกวาเดิม
“อะไรกัน ยังแข็งแกรงกวาเดิมไดอีกหรือ?” ครุฑปกทองครั่นคราม มันพบวายิ่งมัน
กําราบมากเทาใด ดาบเลมนั้นจะยิ่งนากลัว หากเปนเชนนี้ตอไป คงไมอาจจินตนาการได
เกิดความทุกขขึ้นภายในจิตใจของมัน
กอนหนานี้ เจาตัวเล็กถือดาบเลมนี้ตอสูกับเสือขาว พญานกปกทองจองมองดวย
นัยตตาเยือกเย็น ประมาณอานุภาพของดาบเลมนี้ ดังนั้นมันจึงไมเกรงกลัว
แตทวาเมื่อรบมาถึงขั้นนี้แลว มันลมเลิกความคิดเรื่องขีดจํากัดของดาบเลมนี้หลาย
ครั้งหลายครา ยิ่งรบยิ่งนากลัว!
“ขาเปนผูกําหนดการสังหาร ขาจะสังหารเจาที่นี่!” ครุฑปกทองตะโกนลั่น แสง
สวางลุกโหมทั่วกาย ปลอยศักยภาพทั้งหมดออกมา หมายสังหารเจาตัวเล็กโดยไว เพราะ
มันคิดวาหากยืดเวลาอาจเกิดปญหาใหญได
“ตูม”
พัดล้ําคาสีทองสองแสง กลายเปนปกวิเศษมหึมา ลอยกลางอากาศ พัดลงมาขางลาง
ไมเพียงมีไฟวิเศษทวมทนทองฟา แตยังมีกระแสไฟและอักขระนากลัวนานาชนิด
เสนผมดําขลับของเจาตัวเล็กลุกชัน นัยนตาดุจไฟฟา ชี้ขึ้นฟาสูง ดาบหักในมือ
ระเบิดลําแสงหนาใหญออกมาดุจภูเขาไฟปะทุ ฟาดไปยังปกวิเศษนั่น
เสียงวิ้งดังขึ้น ยอดเขาสลัวนั่นหลนลงมา รบกวนอยางรุนแรง สงผลกระทบตอ
อานุภาพของดาบเลมนี้
สิ้นเสียงดังตูม อาวุธล้ําคาทั้งสามชิ้นระเบิด ทําใหฟากฟานากลัวอยางไรที่สิ้นสุด
เปลวไฟ ลําแสงคมมีด พลังแหงแมเหล็กลวนเดือดพลาน กลายเปนดินแดนพินาศ
เจาตัวเล็กกระอักเลือด คํารามเสียงดังลั่น สูรบปรบมือกับครุฑปกทองอยางดุเดือด
รางกายของพญานกมีบาดแผลเพิ่มมาอีกหนึ่ง เลือดไหลรินออกมา
สงครามนี้ดุเดือดอยางยิ่ง หากผูใดรนถอย ผูนั้นจะถูกสังหารทันที มีเพียงกาวหนา
อยางไมเกรงกลัว ตอสูสุดชีวิตใหถึงที่สุด
เจาตัวเล็กรบจนเหนื่อยลา อีกฝายมีอาวุธล้ําคาสองชิ้น เขาเหน็ดเหนื่อยกับการ
รับมือ อยากจะเสกถุงหยินหยางออกมา ทดลองอานุภาพของมันเสียหนอย แตทวาเพิ่ง
ไดมันมา ยังมิเคยปลุกเสก ยากจะควบคุม
“ฆา!”
เจาตัวเล็กเสกดาบหัก ปลอยมันพุงขึ้นฟาสูงไปฟนยอดเขาพลังแมเหล็กและปกวิเศษ
“ทําไดดี!” พญานกสีทองคําราม มันกระตุนอาวุธล้ําคาสองชิ้น กําราบศาสตราวุธบร
รพกาลนั่นพรอมกัน และตัวเองพุงไปฆาเจาตัวเล็ก
อาวุธล้ําคาชิงความเปนใหญ และพวกเขาทั้งสองก็เริ่มสูรบโรมรัน
ครุฑทองเปนปกษาเทพเจาเลือดผสม อีกทั้งยังมีขั้นบําเพ็ญสูงกวา การหยั่งรูอกั ขระ
เหนือกวาเจาตัวเล็ก พลังที่สําแดงออกมานากลัวอยางลนหลาม
อยางไรก็ตาม เจาตัวเล็กก็แข็งแกรงอยางที่สุด เพียงพอจะสูศึกกับอสูรบรรพกาลวัย
เยาวขนานแท ยิ่งไปกวานั้นคือ สามารถจับตัวมาแลวเขนฆาได
ดวยเหตุนี้ สงครามนี้จึงอันตรายและดุเดือด เลือดแตกกระเด็น สูสีคูคี่ สิ่งมีชีวิต
เหลานั้นมองดูดวยความประหวั่นพรั่นพรึงอยางหาที่เปรียบมิได
ครุฑปกทองตะลึงพรึงเพริด กอนหนานี้มนุษยหนุมคนนี้ตองปกปดอําพรางเปนแน
คอยสําแดงกําลังการสูที่แทจริงออกมาในตอนนี้ รางกายของเขาแข็งแกรงเสียเหลือเกิน
สามารถทัดเทียมอสูรเทพเจาเลือดบริสุทธิ์ไดเปนแนแท
“ฆามัน!”
เมื่อรบมาถึงขั้นนี้ ไรหนทางลาถอย ครุฑปกทองดวงตากลายเปนกระแสวนสีทอง
กลืนกินจิตวิญญาณผูคน หมายกระชากจิตวิญญาณของเจาตัวเล็กไป
“อาก…” เจาตัวเล็กรองลั่น พนพลังปราณที่แข็งแกรงที่สุดออกมา ประสานกับ
สายฟา พุงโจมตีดวงตาของครุฑทอง
“ตูม”
แสงวิเศษระเบิดขึ้นที่นั่น กระแสไฟแผดเผากระแสวนสีทอง ชางเปนภาพที่นาตื่น
ตะลึง!
สิ้นเสียงดังซวบ ปกสีทองถูกฟนตกลงมา แหลมคมยิ่งกวาดาบสวรรค สมชื่อพญา
ครุฑกางปก อักขระสีทองแผเต็มทองฟา นากลัวอยางหาที่เปรียบไมได
“ทลาย!”
เจาตัวเล็กตะโกนเสียงดัง สะบัดขาขวาแลวเตะออกไปอยางรุนแรง แสงวิเศษเปน
หมื่นสายเชนกัน ชนกับปกวิเศษนั่น กระแสเสียงดังกึกกอง อักขระตางๆ ผนึกกําลังและ
แผกระจายอยางเนืองแนน
ทั้งสองเนื้อตัวลอยลิ่วออกไป เจาตัวเล็กนัยนตาเฉียบแหลม นกวิเศษปกทองรูสึกวา
ปกขางนั้นปวดอยางรุนแรง หากมิใชเพราะอาศัยอักขระขั้นสูงขจัดมัน บัดนี้อาจไดรับ
บาดเจ็บแลวก็เปนได
เจาตัวเล็กหวาดหวั่น หากเปลี่ยนเปนอสูรบรรพกาลตนอื่น อาจถูกเทาที่แข็งแกรง
ที่สุดของเขาเตะจนแหลกละเอียด พญานกสีทองตัวนี้กลับตานทานได พบกับคูตอสูอยาง
แทจริง
ขณะนี้ เขาคาดหวังอยางสุดแสน หากตนเองมีขั้นบําเพ็ญสูงกวานี้ สงครามนี้คงไม
ยากเย็นแสนเข็ญถึงเพียงนี้ เขาปรารถนาจะยิ่งใหญ!
“สังหาร!”
ครุฑปกทองกางปก บินโฉบลงมาจากชั้นเมฆ การโจมตีอันทรงพลังเริ่มตนขึ้นอีก
คราว กรงเล็บสีทองยื่นออกมา หมายฉีกเจาตัวเล็กเปนชิ้นๆ

……………………………………………………………..

[1] เฉียดไหลผานไป อุปมาวา ทั้งสองใกลชิดกันมาก แตสุดทายกลับไมพบเจอกัน

[2] ทวนวงเดือน เปนอาวุธของจีนโบราณ จัดเปนอาวุธยาวประเภททวนหรือหอก


ชนิดหนึ่ง มีลักษณะปลายยาวแหลม ดานขางตีโลหะเปนรูปพระจันทรเสี้ยวคลายงาว
เอาไว จึงใชทั้งแทงทั้งฟนได ในพงศาวดารจีน ขุนพลที่ใชอาวุธนี้เดน ๆ คือ ลิโป ในยุค
สามกก

[3] มากอันตรายโชคดีนอย อุปมาวา สถานการณเลวราย ย่ําแย


บทที่ 150 บุรุษผูอ งอาจปราบครุฑ
ครุฑปกทองพุงดิ่งมา กรงเล็บครุฑแหลมคมลานตา ไอเย็นนาเกรงขาม ตะปบลงมา
ขางลาง สงเสียงหวีดหวิวแหลมหลงเปนระลอก!
อยาวาแตรางกายมนุษยเลย แมแตกอนหินและเหล็กกลาอันแข็งแกรง หรือยอดเขา
ลูกหนึ่งลวนสามารถถูกตะปบใหแหลกละเอียดได กรงเล็บสีทองนาสะพรึงกลัวอยางที่สุด
ผมดําขลับของเจาตัวเล็กปลิวสยายไปขางหลัง ทั้งหมดเปนเพราะถูกลมแรงโจมตี
ภายในดวงตาของเขามีกระแสไฟฟากะพริบแปลบปลาบ เหยียบลงบนกระจกล้ําคาซวน
หนี ยืนตระหงานสูงเสียดฟา
“ตึง”
เขาใชหมัดตอบโต ระหวางทัง้ สองคนมีอักขระพุงพรวดออกมา ประหนึ่งภูเขาไฟ
ปะทุ ระเบิดกลุมแสงเจิดจาพราตา กวางใหญไรที่สิ้นสุด
นี่เปนการประจันหนาของพลังวิเศษแหงอักขระ และเปนประลองของรางกาย ทั้ง
สองฝายสูสีคูคี่ ไมรูแพรูชนะ ลวนลอยลิ่วออกไป
ครุฑปกทองเหนือกวาดวยการหยั่งรูอักขระลึกซึ้งกวา เพียงออกจูโจม ตองมีแสง
สวางเต็มฟากฟา กระแสเสียงดังกระหึม่ เจาตัวเล็กมีชัยดวยรางกายแข็งแกรงมากพอ
ใกลเคียงกับคงกระพัน ทัดเทียมกับอสูรเลือดบริสุทธิ์ชั้นฟาวัยเยาวได
เพิ่งแยกจากกัน ครุฑปกทองบินวนกลับมาอีกครั้ง ความทรงพลังเพิ่มมากยิ่งขึ้น
อักขระสีทองทั่วกายกะพริบระยิบระยับ ขนนกแตละเสนดั่งหลอมจากทองคํา เปยมดวย
ความสมจริง บัดนี้มันระเบิดขึ้นทันใด
“ชริ้ง…”
ที่นี่กลายเปนมหาสมุทรสีทอง แปลงรางเปนทิวทัศนแหงลูกศร ครุฑบินโฉบลงมา
ขนนกทั่วกายลุกชัน มีจํานวนไมนอยที่หลุดรวงจากรางกาย ยิงลงมาเบื้องลางอยาง
รุนแรง
เสียงลมพัดหวีดหวิว ลูกศรเจิดจา ขนนกทุกเสนลวนยาวหลายหมี่ ประหนึ่งคมหอก
สีทองเปนเลมๆ นาตกตะลึงเปนอยางมาก เสียงทะลวงฟาดังดุจสายฟาคําราม
เจาตัวเล็กแปรเปลี่ยนสีหนา สองมือวาดไปมา จันทราสีเงินดวงหนึ่งปรากฏขึ้น
ภายในมีราชวัง ตนไมเกาแก และมีพญานกฟาเขียวตัวหนึ่ง ระเบิดแสงวิเศษแลวบินไป
ขางหนา
นี่ยังไมเพียงพอ มือทั้งสองของเขาสองแสงไมขาดสาย อักขระแนนขนัด จันทรา
วิเศษดวงแลวดวงเลาลอยออกไป ดานหนาถูกแสงเงินทวมทนอยางสิ้นเชิง ทั่วทองฟา
เต็มไปดวยดวงจันทร สวางไสวมาก
ยิ่งไปกวานั้น ดวงจันทรล้ําคาทุกดวงกําลังลอยควาง รวมกันเปนคู กลายเปนแผน
รองโมหินสีเงิน เริ่มบดขยี้ลูกศรสีทองที่เบียดเสียดยัดเยียดกลางฟาสูง
เสียงกรอบแกรบแววมา ขนนกสีทองบางสวนหัก และมีสวนนอยทะลวงแผนรองโม
หินสีเงิน เขามาประชิดตัวเจาตัวเล็ก ถูกเขาใชฝามือฟนหัก สงเสียงดังกรอบแกรบ
หากเปลี่ยนเปนผูอื่น คงไมสามารถรับมือไดแมแตนิด ถึงจะมีเชี่ยวชาญดานการใช
รางกายดุจวานรคลั่ง ก็ถูกทะลวงกายเปนแนแท กลายเปนเฮจดฮอก[1]สีทองตัวหนึ่ง แต
เจาตัวเล็กกลับขจัดหายนะครั้งใหญนี้จนสูญสิ้นไป
ครุฑแผดรองยาว ไมพอใจเปนอยางมาก ขนนกเต็มฟากฟาหมุนยอนกลับมา ปก
คลุมลงบนกายของมันอีกครั้ง สีทองเจิดจาพราตาเชนดังเดิม
“ไกฟา ยังไมหมดอีกหรือ? ตาขาแลว!” ถูกครุฑทองโจมตีอยูตลอด เจาตัวเล็กไฟ
โทสะลุกโชน ย่ําลงบนกระจกล้ําคาซวนหนีแลวลอยขึ้นกลางนภา
มือซายของเขาปรากฏจันทราสีเงิน มือขวาปรากฏกระแสไฟฟาจํานวนมาก จากนั้น
ประสานทั้งสองเขาดวยกัน หลอมเปนหนึ่งเดียว กลายเปนดวงจันทรวิเศษสีทองดวงหนึ่ง
มีปกษาปศาจบรรพกาลแผดรองอยูภ ายใน
“ตูม”
นี่เปนการซอนและรวมเคล็ดวิชาล้ําคา ทะเลสายฟาสีทองเดือดพลาน กอตัวเปน
สายฟาทรงกลม ผสานกับจันทราสีเงิน ภายในมีพญานกสีทองหนึ่งตัว มุงหนาเขาประชิด
หมายสังหาร
ครุฑทองบันดาลโทสะในบัดดล ปกษาปศาจกลางจันทราสีเงินมีรูปรางคลายคลึงมัน
กลับกลายเปนอาวุธโจมตี มันกางปเหาะเหิน รางกายเปลงแสง แปลงรางเปนลําแสงเสน
หนึ่งแลวพุงตรงดิ่งมา
“โฮก!”
ครุฑทองหวีดรอง เสียงคํารามสะเทือนคีรีธาราสั่นไหว ไมเหมือนสัตวปกตัวหนึ่ง
แมแตนิด อักขระสีทองอันไมสิ้นสุดผนึกกําลัง กอตัวเปนดาบวิเศษสีทองหนึ่งเลม คม
กริบอยางหาที่เปรียบมิได ลําแสงพุงทะลวงเมฆา
นี่เปนเคล็ดวิชาล้ําคาของมัน บงบอกความปราดเปรียวและแข็งแกรงของมัน ไมมีสิ่ง
ใดที่มันทําลายไมได สรรพสิ่งดับสูญ!
ในความเปนจริงแลว ครุฑเลือดบริสุทธิ์ขนานแทเปนเชนนี้จริง ไดรับสมญานามวา
เทพเจาแหงสวรรค เปนจาวเมื่อครั้งบรรพกาล มันไรเทียมทาน ยากจะพบเจอกับคูตอสู
โดยสิ้นเชิง
ดาบวิเศษสีทองสองแสง แสงโชติชวงนาตื่นตะลึง ประหนึ่งดาบกําลังลุกไหม ฟนมา
ดานหนา เจิดจาพราตา นภากําลังสั่นคลอน ราวกับถูกตัดจนขาด!
“เครง”
ดวงจันทรวิเศษสีทองดวงนั้นระเบิด กระแสไฟฟาผนึกกําลัง พลังการปองกันนา
ตะลึง ปะทะกับดาบวิเศษ สงเสียงดังเครง
หากมิใชเพราะระยะนี้การบําเพ็ญของเจาตัวเล็กกาวกระโดด พลังพุงพรวดพราด
ความเขาใจอักขระลึกซึ้งมากขึ้น สําแดงเคล็ดวิชาล้ําคาทั้งสองชนิดที่ตนครอบครองอยาง
ตอเนื่อง ทั้งยังทดลองหลอมรวม คงยากจะตานทานดาบวิเศษ
เนื่องดวยอีกฝายมาจากเผาพันธุเกาแก มีการสืบทอดที่ไมธรรมดา เคล็ดวิชาล้ําคา
นาทึ่ง พบเห็นไดนอยในใตหลา แตเจาตัวเล็กกลับขาดภูมิหลังและการสืบทอดเชนนี้ เขา
พึ่งพาตัวเอง คอยๆ หยั่งรูจากอินทรีเกล็ดเขียวและกระดูกล้ําคาซวนหนีทีละเล็กละนอย
อยางไรก็ตาม การเขาใจเชนนี้ จําตองลึกซึ้งมากเปนแน คนหาดวยตัวเอง คอยๆ
หยั่งรูไปทีละนิด บุกเบิกเคล็ดวิชาล้ําคา จะเกิดประโยชนแกเขาในภายภาคหนา
“เครง!”
ดาบวิเศษสีทองฟาดฟน ทําลายลางทุกสิ่งอยาง จันทราวิเศษนั่นแยกออก แต
เพราะวาเชนนี้มันจึงนากลัวมากยิ่งขึ้น มันเปนสายฟาทรงกลม เมื่อถูกโจมตีเชนนี้ จึง
ระเบิดอยางสิ้นเชิง
“ตูม!”
แสงสายฟาทะลุขึ้นฟา อักขระสีทองตลบอบอวล สายฟาไหลพุงออกมาดั่ง
มหาสมุทร ระเบิดออกจากดวงจันทรวิเศษนั่นทันที อัดแนนเต็มทองฟา
ดาบวิเศษไดรับอันตราย ปรากฏรอยแยก สงเสียงดังแควก
ขณะเดียวกัน ปกษาปศาจบรรพกาลที่ถูกหลอเลี้ยงกลางดวงจันทรวิเศษกอนหนานี้
ปกคลุมดวยขนนกสีเขียว ยอมดวยสีทอง กางปกทะยานฟา พุงกระโจนออกมา ขยาย
ใหญอยางตอเนื่อง
“แควก”
กรงเล็บคมของพญานกฟาเขียวตัวนี้ฟาดดาบวิเศษสีทองที่แตกแยกเปนทุนเดิมนั้น
หัก จากนั้นบินตรงไปหาครุฑปกทอง ทั้งสองมีรปู รางใกลเคียงกัน ลวนกระจายคลื่นนา
กลัว
ครุฑระเบิดโทสะ นี่เปนการดูหมิ่นเหยียดหยามมัน จึงสําแดงเคล็ดวิชาล้ําคาเยี่ยงนี้
กลายเปนรูปรางที่คลายคลึงกับมัน ทําใหนัยนตาสีทองคมกริบมากยิ่งขึ้น
“ชริ้ง”
มันอาปากพนไฟสวรรคสีทอง บินตรงเขามา ประจัญบานอยางดุเดือด กลางนภา
ระเบิดทิวทัศนสีทองนากลัวผืนแลวผืนเลาขึ้นทันใด ทั้งสองปะทะกันอยางรุนแรง
“ตูม!”
สุดทาย เมื่อแสงวิเศษสวางพรางพรายและนากลัวลอยผานอากาศไป ฟาดินสวาง
ไสวและเงียบสงบ เคล็ดวิชาล้ําคาทั้งหมดมลายหายไปแลว
ครุฑปกทองปรายตามองอยางเยยหยัน ขนหางนกบางสวนลอยลงมา บินฉวัดเฉวีย
ดกลางนภา แสงสวางทั่วกายไมลดลง
เจาตัวเล็กยืนตระหงานบนกระจกล้ําคา ใบหนาเครงขรึม พบเจอกับศัตรูผูแข็งแกรง
อยางแทจริง รบกันจนถึงขั้นนี้ ยังไมรแู พรูชนะ เปนสงครามยากเข็ญครั้งหนึง่ อยาง
แทจริง
“ฆามัน!”
ทั้งสองแทบจะตะโกนพรอมกัน พุงเขาหากันอีกครั้ง
ครุฑปกทองนัยนตานากลัว กลายเปนกระแสวนสีทอง กระชากพลังปราณของเจา
ตัวเล็ก หมายกลืนเขาไปทั้งเปน ขณะเดียวกัน ปกทั้งสองของมันขยายใหญขึ้น แสงทอง
สวางเจิดจามากขึ้น ประหนึ่งฝามือคูหนึ่งตบลงมา สะเทือนเขาหินเบื้องลางจนแยกออก
ฝามือครุฑมีพลังวิเศษเยยปฐพี เมื่อครั้งบรรพกาล เคยกวาดลางเหลาทวยเทพ พบ
กับคูตอสูไดยาก ดํารงอยูอยางทะนงตน
เจาตัวเล็กคลุมคลั่ง ในดวงตาสองลําแสงวิเศษ ใชสองมือเผชิญหนา ใชอักขระสามัญ
ที่จารึกในการหยั่งรูดั้งเดิมกลายเปนความลึกซึ้งที่ตนเขาใจ กําลังฝามือสะทานฟา
โครม ทั้งสองชนกัน กอนเมฆกลางฟาสูงแตกกระจัดกระจาย พวกเขารบราฆาฟน
อยางดุเดือดกลางนภา
นี่เปนการตอสูที่มังกรปะทะพยัคฆ[2] เลือดสาดทอ ขนนกสีทองหลุดรวง ทั้งสอง
ไดรับบาดเจ็บ แตกลับรบอยางดุเดือดและโหดรายทารุณมากยิ่งขึ้น อยางไมคิดชีวิต รบ
กันพันตู
“ชริ้ง”
กรงเล็บสีทองยื่นลงมา เจาตัวเล็กหลบหลีก จากนั้นกระโดดขึ้น ปนไตอุงมือขึ้นไป
แลวโจมตีกลางทรวงอกของครุฑทันใด ฝามือดุจสายรุง คมกริบไรพาย
“ผลุบ”
เลือดผุดออกมา ทรวงอกของครุฑประสบกับการโจมตี มันแผดรองดวยโกรธา สอง
แสงทั่วกาย อักขระเต็มทองนภา โดยเฉพาะบริเวณทรวงอกที่กลายเปนทะเลสีทอง สิ้น
เสียงดังตูม สะเทือนเจาตัวเล็กจนตัวลอย ทําใหเขากระอักเลือด
ศึกครานี้ ไมสามารถถดถอยได รบมาถึงขั้นนี้แลว ทําไดเพียงตัดสินความเปนความ
ตาย หากวาหนีไป เกรงวาจะกระทบความเชื่อมั่นของพวกเขาไมนอยเลย ยากจะกาว
ออกจากความทุกขใจในวันขางหนา
สงครามใหญดําเนินตอเนื่อง ประหนึ่งแสงสองดวงปะทะกัน เคล็ดวิชาล้ําคาพุงขึ้น
รางกายตอบโต นี่เปนสงครามบาระห่ํานองเลือดที่มีขาตองไมมีเจา
เวลาผานไปเนิ่นนาน พวกเขาสูรบปรบมือกันอยางนอยหลายรอยครั้ง ตางไดรับ
บาดเจ็บสาหัส แตกลับยืนหยัด หากพลังของผูใดออนดอยก็จะแพพายและพบกับจุดจบ
ครุฑปกทองจูโจมอยางรุนแรงตอเนื่องกัน รางกายลุกไหมขึ้นมา เลือดสีทองออน
โปรยปราย แตมันยิ่งสูยิ่งองอาจ แทบจะกดเจาตัวเล็กลงแลวกระหน่ําตี
พวกเขาตอสูกันตั้งแตบนฟายันผืนพสุธา จากนั้นรบจากแผนดินไปถึงหุบเหวลึก
สุดทายก็กระโดดสูนภา ยืนตระหงานกลางฟากฟาอีกครา ครุฑอยูในตําแหนงที่ไดเปรียบ
ทําใหบาดแผลบนกายเจาตัวเล็กเพิ่มขึ้นจํานวนมาก การโจมตีที่สาหัสอยางยิ่งคือ คมเล็บ
สีทองเจียนตะปบทรวงอกของเขาจนแยกออก ตรงนั้นมีเลือดไหลพรั่งพรู ลําไสแทบ
ทะลักออกมา
โชคดีที่รางกายของเจาตัวเล็กนาตะลึง สูดลมหายใจเขาลึกๆ แสงสวางไหลเวียน
บาดแผลสมานกันอยางรวดเร็ว เลือดไมไหลอีกตอไป
รบอยางดุเดือดจนหยดสุดทาย ทั้งสองตางออนระโหยโรยแรง โดยเฉพาะครุฑปก
ทอง อักขระของมันมิไดสวางไสวปานนั้นอีกตอไป ความเร็วก็ไมเร็วปานนั้น
ในตอนนี้เอง เจาตัวเล็กระเบิด แสงทองทั่วรางพุง สะเปะสะปะ ควบสายฟาพุงขึ้นฟา
เริ่มรุกโจมตีครุฑปกทอง
“ขาทนเจามานานแลว ศึกครานี้ควรปดฉากแลว!”
แมเขาจะเหนื่อยลา อักขระไมโชติชวงเหมือนกอนหนานี้ แตรางกายแข็งแกรงไร
เทียมทาน นี่เปนขอดีของเขา แตไหนแตไรมาไมแปรเปลี่ยน
แตอักขระเปนจุดแข็งของครุฑปกทอง เมื่อผลาญมันกระทั่งตอนนี้ ออนแรงเสียแลว
เจาตัวเล็กกลับระเบิดพลังในตอนนี้ ยอมเปนอันตรายถึงชีวิต
ครั้งนี้ เขาจับคมเล็บสีทองของครุฑไวแนนแลวกระโดดขึ้นไปยังทรวงอกของมัน
กระแทกลงไปยังรุนแรงในตําแหนงเดิม
“ตูม”
เลือดพวยพุง ครุฑแผดรองอยางพิโรธ ไดรับบาดเจ็บอยางแสนสาหัส ทรวงอกของ
มันถูกโจมตีจนเกิดหลุมเลือด ขนนกสีทองลอยลองไมขาดสาย แสงทองทั่วรางของมัน
พรางพรายอีกครั้ง โจมตีเจาตัวเล็กหมายสะเทือนใหเขาลอยออกไป
เจาตัวเล็กควาขนของมันแนน พุงตัวขึ้นแลวพลิกตัว ไปยังหลังของครุฑ รายเคล็ด
วิชาล้ําคาหมายสังหารครั้งใหญ!
ครุฑทองแผดรองอยางโกรธเกรี้ยว รางกายสองแสง สัญลักษณสีทองโบราณเรียง
ราย ปกคลุมทั่วกาย หมายหลอมเจาตัวเล็กใหละลาย
เจาตัวเล็กยอมพยายามสุดความสามารถ ใชพลังทั้งหมดของตนตอตาน จากนั้น
โจมตีหลังครุฑอยางรุนแรง ในตอนนี้ ทั้งสองเปลงแสง อักขระประจันหนา รางกายตอสู
อยางสุดชีวิต เลือดโปรยปราย
ทายาทอสูรบรรพกาลทั้งหมดดานลางตางพรั่นพรึง ไมคิดวาจะยกทัพจับศึกจนถึง
ขั้นนี้ ดุเดือดและนากลัวเหลือเกิน หากพวกมันเขาไปคงรบจนตายไปนานแลว ถูกตีให
ระเบิดอยูกลางนภา
“สังหาร!”
เจาตัวเล็กองอาจหาวหาญอยางหาที่เปรียบมิได ถูกอักขระสีทองระงับยับยั้ง กระอัก
เลือดออกมาคําหนึ่บคอของครุฑไวแนน เมื่อแขนทั้งสองขางออกแรง จิกลําคอของมัน
จวนขาด
เสียงตูมดังขึ้น อักขระสีทองพุงขึ้น ขนนกลุกชัน ครุฑปองกันตนเอง ไมใหเขาโจมตี
ลําคอ
“ทําลายมัน!” เจาตัวเล็กคํารามลั่น เหวี่ยงหมัดกระแทกลงบนศีรษะของครุฑ เปด
ฉากการสังหารสุดทายที่ดุเดือดรุนแรงอยางยิ่ง
“หลอมละลาย!” ครุฑก็คํารามเสียงดังเชนกัน อักขระเต็มฟาผนึกกําลังและกอตัว
ปกคลุมสวนหัวและลําคอของเจาตัวเล็กจนหมด หอหุมเจาตัวเล็กไว หมายหลอมใหเขา
ละลาย
“ปง”
เจาตัวเล็กเหวี่ยงหมัดทุบศีรษะสีทองนั่น ทุกการโจมตีลวนมีพลังมหาศาล สามารถ
ระเบิดขุนเขาทลายกอนหิน
หัวครุฑเปลงแสง มีอักขระคุมกัน สัญลักษณสีทองมากมายมหาศาลโหมซัด หอหุม
เจาตัวเล็ก กดอัดและหลอมละลายอยางบาระห่ํา
พวกเขากําลังดวลกันสุดกําลัง ดูวาผูใดสามารถยืนหยัดจนถึงวินาทีสุดทาย โจมตีกัน
และกันอยางบาคลั่ง หากผูใดเผยทาทีพายแพ ก็หมายถึงความตาย
ตูม!
จําตองกลาววา รางกายของเจาตัวเล็กเปนหนึ่งไมเปนสองรองใคร ยิง่ รบยิ่งกลาหาญ
ในทางตรงกันขาม ครุฑจวนตานทานไมไหวแลว รบรานับแปดรอยกวารอบแลว เหนื่อย
กายใจสิ้นดี อักขระคอยๆ หมนแสง
“ขาจะกินลูกไกตุนเห็ด!” เจาตัวเล็กคํารามดวยความโกรธ พลังของหมัดยิ่งใหญขึ้น
เรื่อยๆ ฟาดลงบนมานแสง สะเทือนจนครุฑกระอักเลือด รางกายสั่นไหวรุนแรง หยัดยืน
ตอไปไมไดแลว
เหลาทายาทอสูรบรรพกาลเบื้องลางตางตะลึงพรึงเพริด มนุษยหนุมมีความเปนมา
อยางไรกันแน ไยรางกายจึงแข็งแกรงปานนี้? ครุฑเลือดผสมที่มีขั้นบําเพ็ญสูงกวายังมิใช
คูตอสู นากลัวเหลือเกิน!
“ปง”
อีกหนึ่งหมัด รางกายของพญานกสีทองโยกคลอน พนเลือดคําใหญ จวนรวงหลน
จากฟาสูงทันใด
มันรูวาพายแพแลว มิใชคูตอสู แหงนหนาแผดรองอยางโมโหโกรธา อาวุธที่ตอสู
กลางฟากฟาสองแสง ตกลงมาพรอมกัน
ดาบหัก ปกอีกาทอง ยอดเขาพลังแมเหล็กตางประจัญบานจนถึงตอนนี้ แสงสวาง
โชติชวง นาตกตะลึงอยางที่สุด
“กลับมา สังหารเขา!” ครุฑทองตะโกนอยางโมโห
ยอดเขาพลังแมเหล็กมีรางกายเชื่อมตอกับมัน เพราะปลุกเสกมาสิบกวาปแลว และ
ปกอีกาทองก็ไดมาหลายวันแลว จึงสามารถควบคุม ตางลอยกลับมา
เจาตัวเล็กไมเกรงกลัว เขาไดดาบหักมาก็หลายวันแลว ปลุกเสกบนผาแบงสมบัติอยู
หลายวัน สามารถควบคุมไดเชนกัน เผชิญศึกกับศัตรูใหญ
“ตูม”
เปลวไฟทวมทนทองฟา ปกอีกาทองปลอยพลังที่ยิ่งใหญมากขึ้น ยอดเขาพลัง
แมเหล็กก็กอจลาจล รบกวนไปทั่วทองนภา
แตทวา ในขณะนี้เอง ดาบหักเลมนั้นก็เกิดความเปลี่ยนแปลง สงเสียงเครงๆ ราวกับ
คืนชีพอยางตอเนื่องเพราะถูกกําราบ สนิมหลุดลอกออกมามากมาย อานุภาพแข็งแกรง
ขึ้นอยางทับทวีในชั่วพริบตา
ทําใหครุฑทองหวาดกลัว อาวุธล้ําคาสองชิ้นของมันทัดเทียบไมไดแลว แตดาบหัก
เลมนี้ราวกับยังไมถึงขีดสุด เพราะบนดาบยังมีรอยสนิมมากมาย หากถูกกระตุนจนหลุด
รวงทั้งหมด จะนากลัวถึงขั้นไหน?
“กําราบ!”
ครุฑทองเกิดความหวาดกลัว ไมอยากสูศึกอีกตอไป ถึงจะเกิดความทุกขในวันหลัง
แตยอมดีกวาตายในตอนนี้ มันรองเรียกอาวุธล้ําคาสองชิ้น ทะยานลงมา หมายสะเทือน
เจาตัวเล็กใหลอยออกไป เพื่อดีตอการหลบหนี
เมื่อครั้งบรรพกาล เมื่อครุฑปกทองกางปก สามารถกวาดทลายนภา แผดรองกอง
จักรวาล มีความเร็วอันสูงสุด นอยคนที่สามารถทัดเทียม
เพียงมันมีโอกาส กางปกทะยานฟา สามารถหลบหนีไปไกลไดอยางรวดเร็วเปนแน
มนุษยหนุมไลตามไมทัน
เปลวไฟทวมทนทองฟา โปรยปรายลงมา แตกลับถูกดาบหักสะเทือนกระเด็น ยาก
จะทําอันตรายเจาตัวเล็ก อานุภาพของดาบเลมนี้โชติชวงมากยิ่งขึ้น ลําแสงคมดาบดุจ
ทะเล
แตไมมีผูใดสังเกตวา การรบอยางดุเดือดของดาบหัก ยอดเขาพลังแมเหล็ก และปก
อีกาทองนั้น รบกวนอาวุธอีกชิ้นหนึ่ง
บนเสนผมของเจาตัวเล็ก เจดียนอยที่สูงไมถึงนิว้ นั่นสองแสงแวววาว ประหนึ่ง
แกะสลักจากหยกไขมันแพะ งดงามนาหลงใหลอยางหาที่เปรียบมิได บัดนี้มันกะพริบ
แสงจางๆ กําลังดูดซึมพลังแหงไฟ ไอดาบ และแสงแมเหล็ก
ที่แหงนี้สวางไสวไปทั่วบริเวณ ทวมนองทองฟาทั้งผืน เพราะเหตุนี้แมเจาตัวเล็กกับ
ครุฑจะอยูใกลชิดมากก็มิไดสังเกตเห็น
แตอาวุธล้ําคาทั้งสามชิ้นกลับสังเกตเห็น ปกอีกาทองราวกับไดรับความตื่นตระหนก
มันพบความไมชอบมาพากล สั่นระริกแผวเบา กลายเปนเปลวไฟลอยจากไป ความเร็ว
บรรลุขั้นสูงสุด
“อะไรนะ?!” คนทั้งหมดตางตะลึงงัน ศาสตราวุธบรรพกาลชิ้นนั้นออกจากสนามรบ
หลบหนีไปเสียแลว เพียงชั่วพริบตาก็หายลับไปในเสนขอบฟา
“ของรักของขา!” เจาตัวเล็กปวดจนเจียนตาย
ขณะเดียวกัน ยอดเขาพลังแมเหล็กก็สั่นเบาๆ พุงทะลวงเมฆา เตรียมหนีจากไป
เชนกัน
ครุฑปกทองตะลึงพรึงเพริด เหตุใดจึงเปนเชนนี้? อาวุธล้ําคาของตนหนีไปอยางเสีย
การควบคุม โดยเฉพาะปกอีกาไฟที่เพิ่งไดมา หากหนีไปได ก็ยากจะเก็บกลับมาได
“อยาไป!” เจาตัวเล็กคํารามอยางโมโห กระตุนดาบหัก ปลอยลําแสงออกมาเปน
สาย มุง หนาไปฟาดฟนยอดเขาพลังแมเหล็ก ปลอยใหหลุดมือไปชิ้นหนึ่งแลว ไมอยาก
พลาดอีกชิ้นอีกตอไป
มีเรื่องหนึง่ ที่เขาลืมเลือนไป เมื่อครูดาบหักมีสนิมหลุดลอกไมนอย อานุภาพพุง
พรวดพราด เพียงพอจะกําราบอาวุธล้ําคาทั้งสองชิ้นของอีกฝายได ตอนนี้เขาลงมือตอกร
กับอีกหนึ่งชิ้นอยางสุดความสามารถ พลังทําลายลางนากลัวจนนาตกใจ
“แควก”
ยอดเขาพลังแมเหล็กถูกฟนจนแหลก ระเบิดกลางอากาศ ลําแสงลอยสะเปะสะปะ
แบงออกเปนหลายสิบชิ้น รวงหลนลงสูธรณี
“ไอหยา กลัดกลุมเหลือเกิน ปวดใจเหลือเกิน!” เจาตัวเล็กดวงตาพนไฟ อาวุธล้ํา
คาที่ดีปานนี้ กลับพินาศไปเชนนี้ เขาปวดใจและปวดปอด เขาโศกเศราเสียใจอยางสุดซึ้ง
ครุฑทองปวดใจกวาเขาเสียอีก ทุกขระทมจนกระอักเลือด แตมันกลับไมขาดสติ
ฉวยโอกาสยามที่เจาตัวเล็กโมโห กักเก็บพลัง ระเบิดทันที เนื้อตัวสองแสง สะเทือนเขา
จนลอยลิ่ว จากนั้นกางปกหมายบินทะยานฟาไป
“ไกนอยตุนเห็ดจะไปไหน!” เจาตัวเล็กรองลั่น สะเทือนจนพัดล้ําคาอีกาทองหนีไป
จากนั้นก็ฟนยอดเขาพลังแมเหล็กจนสิ้น หากปลอยครุฑปกทองไปอีก นั่นเทากับการมี
ดํารงชีวิตที่สูญเปลา
ดาบหักลอยมา เจาตัวเล็กถือไวในมือ ครั้งนี้รูถึงอานุภาพของมันแลว เขาควบคุม
อยางระมัดระวัง ปลอยลําแสงคมดาบพรางพรายออกมาหนึ่งเสน วาดทะลวงฟากฟา
“ผลุบ”
ละอองเลือดสาดกระเด็น นกวิเศษสีทองแผดรองโหยหวน ปกใหญขางหนึ่งถูกฟน
รวง มันลมลงสูแผนดิน ตอนจบถูกกําหนดไวเชนนี้แล

…………………………………………………………

[1] เฮดจฮอก มีลักษณะทั่วไปคลายกับเมน ดานหลังของลําตัวปกคลุมไปดวยขนที่มี


ลักษณะแข็งคลายหนาม ซึ่งไวสําหรับปองกันตัว แตเฮดจฮอกมีขนาดที่เล็กกวามาก และ
มีหนามที่สั้นกวามาก โดยขนของเฮดจฮอกมีลักษณะเล็กแข็งคลายเสี้ยนหรือหนาม
มากกวา

[2] มังกรปะทะพยัคฆ อุปมาวา พลังอํานาจของทั้งสองฝายยากจะตัดสินแพชนะ


ตอสูกันอยางดุเดือด
บทที่ 151 ทําลายพินาศสิน้
เสียงปงดังขึ้น ปกสีทองขางหนึ่งตกสูพื้น กระแทกกอนหินจนแตก นี่เปนปกครุฑ
เลือดผสมขางหนึ่ง แข็งแรงทนทานยิ่งกวาเหล็กกลาและกอนหิน มีสาระสําคัญที่มีความ
วิเศษอยางลมหลาม
“อาก…”
ครุฑปกทองรองเสียงดัง มันปราชัยแลว อีกทั้งยังอนาถถึงเพียงนี้ มันหลนลงสูผืน
แผนดิน เลือดสีทองออนแตกกระเด็นเซ็นซาน กระทบผืนดินจนเกิดหลุมลึก รอยแยก
ขยายออกไปไกลหลายสิบหลายรอยหมี่
“รีบหยุดเลือดเร็ว อยาปลอยใหสิ้นเปลือง!” นกแดงยักษปวดใจ พุงมาขางหนา
เพราะนั่นเปนยาล้ําคาบํารุงรางกาย
เจาตัวเล็กไมไวหนาปราณี เหยียบกระจกล้ําคาซวนหนีอนั พรางพรายแลวลอยดิ่งลง
มา มือถือดาบหักฟนลงยังเบื้องลาง รบราเอาเปนเอาตายมาถึงขั้นนี้ จะมีเมตตาไมได
“ไม… อาก!” ครุฑคํารามดวยความพิโรธ ดวงตาสีทองเบิกจนกลมกวาง
เจาตัวเล็กเมินเฉย ลําแสงคมดาบในมือดุจสายรุง วาดมาในบัดดล
ครุฑสองแสงสีทองสวางไสวทั่วกาย ขนนกระยิบระยับ กระดูกหนาผากของมันแตก
ออก แววเสียงระเบิดภายในรางกาย ทําลายกระดูกอักขระดวยตนเอง!
เจาตัวเล็กถอนหายใจ เปยมดวยความเสียดาย เขาเฉียดไหลผานเคล็ดวิชาล้ําคาที่
แข็งแกรงที่สุดของเผาพันธุพญาครุฑ ทําใหเขาสิ้นหวัง แตกลับทําอันใดไมได
“ผลุบ”
ลําแสงคมดาบดุจสายรุง ลอยพาดผานนภา ศีรษะสีทองขนาดใหญลอยเฉียงออกไป
พรอมกับเลือดจํานวนมาก หลนรวงสูพื้นดิน
ไมจําเปนตองพินิจมอง กระดูกอักขระที่สําคัญในรางกายของครุฑปกทองระเบิดแลว
ปกษาเทพเจาเลือดผสมแพพายเชนนี้เอง ทําใหเหลาอสูรบรรพกาลรูสึกเหลือเชื่อ
ครุฑปกทองผูที่ยิ่งใหญปานนั้นกลับไมสามารถเทียบเทียมมนุษยหนุมผูนี้!
หนี!
อสูรบรรพกาลสิบกวาตัวหันหลังแลวหนีทันที อีกทั้งยังกระเจิดกระเจิง แยกกัน
หลบหนี ชายหนุมคนนั้นอํามหิตเหลือเกิน ไมสามารถตานทานได
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว เจาตัวเล็กมีประสาทสัมผัสไว เมื่อจัดการครุฑ
ทองแลว พยายามกระตุนดาบหักสุดความสามารถ ฟาดไปยังอาณาบริเวณนั้น
ดาบหักสําแดงเดช ลําแสงคมดาบดุจผืนทะเล กระเพื่อมโหมซัดสาด ฟาดฟนผืนดิน
นั้นจนเละเทะในชั่วพริบตา กอนหินทุกหนแหงลอยขึ้น ฝุนควันพวยพุง
ดาบเลมนี้มีอานุภาพรายแรงยิ่งนัก ฝูงอสูรบรรพกาลที่วิ่งหนีถูกโจมตีทันที มีสองตัว
ถูกฟน ทายาทอสูรที่เหลือเนื้อตัวโซเซ ไมถูกโจมตีเขาอยางจัง รีบหลบหนีจากไปอยาง
รวดเร็ว
“ตามไป อยาปลอยใหรอดแมแตตัวเดียว!” เจาตัวเล็กตะโกนลั่น เรื่องราวในวันนี้
หากรั่วไหลออกไปตองเกิดปญหาใหญเปนแน เนื่องจากเสือขาวกับพญานกสีทองลวนมี
ความเปนมาอันใหญยิ่ง
สิงโตเกาเศียรรูถึงความสัมพันธอันรายกาจนี้ คํารามหนึ่งเสียง ลากกายบาดเจ็บ ไล
ตามไปในทิศทางหนึ่ง นกแดงยักษ เตียวมวง สองพี่นองแหงเผาสามเนตร และอีกาไฟ
ลวนเขาใจ ตางพากันไลลาสังหาร
พวกมันไมหวังจะสังหารอีกฝายใหได เพียงจับตัวไวใหเจาตัวเล็ก รอเขามาชวยเหลือ
เทานั้น
เจาตัวเล็กนัยนตาแดงก่ํา ไลทันทายาทอสูรตัวหนึ่งในเวลาอันสั้น ดาบหักสําแดงเดช
ฟนสันหลังของพวกมัน จากนั้นไลตามไปชวยเหลือทุกที่อยางรวดเร็ว
เวลานี้ เสียงคํารามดวยโทสะ เสียงปกษารายแผดรองประสานกัน ดังขึ้นในแผนดิน
อาบเลือดนี้ เขนฆาสังหารอยางดุเดือด เคล็ดวิชาล้ําคาสะทานโลกา แสงวิเศษลอยลองไป
มาอยางอิสระ
สงครามนี้ดุเดือดยิ่งกวาเมื่อครู ฟากหนึ่งอยางวิ่งหนี อีกฝงขัดขวางสุดชีวิต คาวเลือด
อยางหาที่เปรียบมิได สูรบตัดสินความเปนความตายอยางไมคิดชีวิต
อสูรบรรพกาลสิบสามตัวถูกเจาตัวเล็กจัดการไปสี่ตัว พวกสิงโตเกาเศียรรวมพลัง
ขัดขวางไดหาตัว แตยังมีอีกสี่ตัวหลบหนีไปไกล
โดยเฉพาะสัตวปกสามตัวในนั้น กางปกพุงทะยานเขาชั้นเมฆ อยากไลตามนั้น
ยากเย็นเหลือเกิน
“ปลอยไปไมไดเด็ดขาด!” นกแดงยักษดวงตาแดงก่ํา สละทายาทอสูรตัวหนึ่ง
กระโจนขึ้นฟาสูงไปไลลาปกษารายตัวหนึ่ง
อาการบาดเจ็บของมันไมถือวาหนักหนา ยังถือวาเปนกองกําลังแข็งแกรง รวดเร็ว
อยางยิ่งยวด หายลับไปในชั้นเมฆ หมายสังหารทายาทอสูรตัวนั้น ไมอยากใหขาวคราว
รั่วไหล นํามาซึ่งหายนะ
สิงโตเกาเศียรไดรับบาดเจ็บสาหัส นกหลวนสีรุงเกือบถูกฉีกเปนชิ้นๆ อีกาไฟถูกเผา
จนดําเกรี้ยม บัดนี้รวมมือฝนใจพันธนาการคูตอสู แตกลับไรเรี่ยวแรงสังหาร
เจาตัวเล็กไลตามปกษารายตัวหนึ่ง หนึ่งเทาย่ําบนกรรไกรกระดูกสีทอง อีกหนึ่งเทา
เหยียบกระจกล้ําคาซวนหนี อาวุธล้ําคาสองชิ้นเปลงแสงสวาง หลอมรวมเปนหนึ่ง
ความเร็วเพิ่มขึ้นอยางทับทวีในเสี้ยววินาที เขาไมเสียดายสิ่งที่ตองสูญเสีย แผดเผาพลัง
ปราณ ไลตามไปอยางรวดเร็ว
สามารถรักษาระดับความเร็วเชนนี้ไดในระยะเวลาอันสั้น แตปลอยไวนานไมได มิ
เชนนั้นอาจทําใหพลังปราณเหือดแหง ผลาญจนตายทั้งเปน เขาฉวยโอกาสนี้ ทะลวงเขา
ไปในกลีบเมฆ มองเห็นเงาของทายาทอสูรตัวนั้นในที่สุด ยกดาบหักขึ้นแลวฟาดทันที
ปกษารายแผดรองอยางโกรธเกรี้ยว ขนนกทั่วรางลุกไหม เริ่มเพิ่มความเร็วอยางสุด
ชีวิต อีกทั้งยังเสกอาวุธล้ําคาออกมาขวางกั้น หมายชวงชิงความอยูรอด เพียงหนีจากที่นี่
ได บอกกลาวบรรพชนแหงครุฑ สามารถทําใหหายนะครั้งใหญเยือนกายมนุษยหนุมคน
นั้นได ยากจะหลบหนีความตาย
นาเสียดาย ดาบหักระเบิดพลัง มันหมดโอกาสแลว คลื่นดาบกวางใหญพุงมา ไมใช
การฟน แตเปนการกดอัด เสียงตูมดังขึ้น มันแหลกละเอียดกลางนภา
“บรูว…”
อีกทิศทางหนึ่ง นกแดงยักษหอนยาว เปลวไฟลุกทั่วกาย หมอดํา อาวุธล้ําคาที่ทํา
จากเปลือกไขปกษาใบนั้นเปลงแสงสวางเปนหมื่นสาย ไอมงคลลอยขึ้น โตตอบปกษาราย
ตัวนั้น
การตอสูของพวกมันดุเดือดรุนแรงมากขึ้น ละอองเลือดโปรยปราย เมื่อเจาตัวเล็ก
ตามมาจนพบ นกแดงยักษบินลงสูผืนดิน รองโหยหวนไมขาดสายวา “เจ็บฉิบหายเลย
ประเดี๋ยวขาจะกินสัตวทายาทอสูรสิบตัว!”
คูตอสูของมันถูกสังหาร หลนรวงลงบนธรณิน นกแดงยักษก็จวนสิ้นชีวิตเชนกัน
กระพือปกทะยานลงมา
“ผลุบ”
เจาตัวเล็กเสริมดวยดาบ ฆาทายาทอสูรบรรพกาลที่พวกสิงโตเกาเศียรสกัดกั้นไวที
ละตัว เด็ดขาดและดุเดือด ไมมีทาทีชื่นมื่นแมแตนิด
“นาเสียดาย รอดไปสองตัว!” พวกเขาลวนมีใบหนาเครงขรึม
แมจะมีทายาทอสูรทั่วบริเวณ ยาบํารุงรางกายอุดมสมบูรณจนนาตกใจ แตพวกเขา
กลับไรรอยยิ้ม เพราะเสือขาวและครุฑตัวนั้นมีความเปนมาที่ยิ่งใหญเหลือเกิน หาก
ความลับรั่วไหลออกไปคงไมดีแน
ทันใดนั้น เสียงปกษาแผดรองลอยมา อีกทั้งมีละอองเลือดโปรยปรายกลางอากาศ
“เอะ ไยนกโงนั่นจึงหนีกลับมาละ?” เจาตัวเล็กประหลาดใจ
เมื่อวาจานี้ปลอยออกไป ทําใหนกแดงยักษ นกหลวนสีรุง และอีกาไฟเคียดแคน
ขึ้นมาชั่วขณะ พวกมันก็เปนสัตวปก ชิงชังการเรียกขานเชนนี้
เจาตัวเล็กเหยียบกรรไกรกระดูกสีทอง พุงขึ้นมาทันใด กวัดแกวงดาบหัก สิ้นเสียงดัง
ผลุบ ฟนทายาทอสูรที่ดวงตาเผยความอาฆาต แตกลับหวาดกลัวมากตัวนี้
ปรากฏหลายเงาในที่หางไกล หั่วหลิงที่อุมเทพเจานอยปรากฏตัว ชายชุดดําสวม
งอบหลายคนรายลอมสี่ทิศ เปนพวกเขาเองที่บีบคั้นใหทายาทปกษาปศาจบรรพกาล
กลับมา
“ขอบใจศิษยนอง!” เจาตัวเล็กลงสูพื้นดิน กะพริบตาปริบๆ ทําทาคาราวะ
“ทายาทอสูรเหลานี้…เจาเปนของสังหารทั้งหมดหรือ?” เมื่อคนเหลานี้มายังละแวก
ใกลเคียง หั่วหลิงอาปากคาง ดวงตามงามเปยมดวยแววที่ไมเชื่อ
นางและเหลาผูผนึกมาถึงสักพักแลว แตมิไดเขาใกล ยืนอยูที่หางไกลโดยตลอด
เพราะในโบราณสถานมีหมอกลอยวนเวียน มองไมชัดเจนมากนัก
“ขาอํามหิตปานนั้นหรือ ฆาสัตวตัดชีวิตนอยยิ่งนัก!” เจาตัวเล็กปฏิเสธอยางเด็ดขาด
ดวงตาโตมองไปยังสิงโตเกาเศียรและนกแดงยักษแลวกลาววา “มองไอพวกอํามหิตนั่น
ไหม แตละตัวลวนเปอนเลือด พวกมันเปนผูสังหารละ”
สิงโตเกาเศียร อีกาไฟ ผูกลาแหงเผาสามเนตรตางเหลือกตา พนเสียงฮึดฮัด ผูใด
อํามหิตกัน เจาเปนคนสังหารแทบทั้งหมดแตเพียงผูเดียว!
เมื่อเห็นพวกมันเปนเชนนี้ ไยหั่วหลิงจะไมเขาใจ หวาดหวั่นพรั่นพรึงอยางหาที่
เปรียบไมไดทันที โดยเฉพาะเมื่อเห็นเสือขาวและครุฑปกทอง ยิ่งตื่นตระหนกตกใจมาก
ยิ่งขึ้น
นี่ตองอํามหิตเพียงใดกัน สังหารไดแมแตครุฑปกทอง!
ชายชุดดําคนหนึ่งกาวออกมา จิ้มเลือดสีทองออนหยดหนึ่ง ตรวจสอบอยางละเอียด
แลวเอยเสียงหลงวา “นี่เปนปกษาเทพเจาเลือดผสม ศักยภาพไรขีดจํากัด ยากจะพบเจอ
คูตอสู”
หั่วหลิงอายุสิบหาสิบหกป ใบหนางามออนเยาว ขาวกระจางแวววาว หนารูปไข คิ้ว
โกงดกหนา ดวงตามีชีวิตชีวาอยางที่สุด บัดนี้ฉายแววประหลาด เปยมดวยความตกตะลึง
จองมองเจาตัวเล็กอยางเหลือเชื่อ
เจาตัวเล็กยิ้มอยางขวยเขิน เกาหัวแลวพูดวา “แมขาจะองอาจ แตเจาจะมองขา
เชนนี้ไมได ที่จริงแลว… เพียงเจามุงมั่นลดความอวน แมจะสูขาไมได แตก็ไมดอยกวา
นัก”
ดวงตาของเขาเพงมองไปทั่ว มองดูตําแหนงที่ไมควรมองเหลานั้น ความหมาย
ชัดเจนยิ่งนัก
เดิมที่องคหญิงประเทศเพลิงยังตะลึงพรึงเพริด นับถือเขาอยางยิ่งยวด แตเมื่อไดยิน
วาจานี้ก็คลุมคลั่งทันใด ตําหนิวา “ไปตายเสีย ไปตายเสียเด็กเหลือขอ!”
เหลาชายชุดดําขางกายตางเงียบงัน ในใจเกิดคลื่นกวางใหญไพศาล ชายหนุมคนนี้
กลาหาญเหลือเกิน สังหารทายาทอสูรมากมายเพียงนี้ ทั้งยังมีครุฑเลือดผสม นี่มันนา
หวาดผวาอยางแทจริง ทําใหผูคนอกสั่นขวัญแขวน
“เขาเยาววัยปานนี้ มีความสามารถในการเรียนรูสูง ศักยภาพไรขอบเขตอยาง
แทจริง”
“เมื่อเทียบกับจักรพรรดิครั้งเยาววัยคงใกลเคียงกัน นากลัวแท!”
นี่เปนขอสรุปที่พวกเขาทําการวินิจฉัยอยางรวดเร็ว ยากจะสงบจิตสงบใจ มองเด็ก
อํามหิตคนนั้นดวยสายตาประหลาด
“เอะ จนสุดทายก็มีสัตวทายาทอสูรหนีไปไดหนึ่งตัว เปนปญหาใหญเสียแลว” เจา
ตัวเล็กหนานิ่วคิ้วขมวด
“ตอนนี้กลัวเสียแลวหรือ ตอนกอเรื่องไยไปคิดใหมากสักหนอยเลา?” หั่วหลิงมี
ความสุขบนความทุกขของผูอื่น รางกายอรชรออนแอน รูปรางวิจิตรงดงาม
“พวกมันจะกินแดงใหญและนองชายขา ขายอมสูสุดชีวิต แมจะกอเกิดหายนะอัน
ทวมทนทองฟาก็จะถอยไมได!” เสียงของเจาตัวเล็กดังกังวานและมีพลัง
สิงโตเกาเศียรตื้นตันเหลือเกิน แทบจะคํารามออกมา
ดานหลัง อีกาไฟและผูกลาเผาสามเนตรตางมีสีหนาชอบกล เกิดความรูสึกซาบซึ้งใน
จิตใจ หากครั้งนี้มิใชเพราะเจาตัวเล็กมาสังหาร พวกเขาคงตายกันหมด
มีเพียงนกแดงยักษที่เบะปาก มันรูจักเด็กเหลือขอดีเหลือเกิน แมพวกมันไมประสบ
กับความวิบัติ ตามนิสัยของเด็กอํามหิต ก็คงจะกินเสือขาวแนนอน
“นกบา นั่นสายตาอะไรของเจา ไมมีเรื่องจะเหลือกตาทําไม?” เจาตัวเล็กแยงหมอ
ดําของมันมา ทุบลงบนหัวมันดังตึงตัง
“ขาจะสูกับเจา!” นกแดงยักษกระทืบเทา นวดคลึงเนื้อปูดตรงทายทายอยางแรง
“หากยังสงเสียง ขาจะกินเจาเสีย!” เจาตัวเล็กแยกเขี้ยวยิงฟนเผยเขี้ยวขาวแวววาว
นกแดงยักษเซื่องซึมทันที ชวยไมได เด็กคนนี้อํามหิตเกินไป สิงโตเกาเศียร นกหลวน
สีรุงและมันที่อยูในนี้ตางก็ถูกกินมาแลว
“ศิษยนอง บิดาของเจาเปนจักรพรรดิ หยั่งรูพลังฟาดิน การบําเพ็ญตนเพียงพอจะ
เยยปฐพีได ในโลกหลาใบนี้ คงจะมีศัตรูนอยยิ่งนักกระมัง?” เจาตัวเล็กเอยถาม
“ใชแลวอยางไร?” หั่วหลิงมองเขาอยางระแวดระวัง
“หากสามารถเปนพี่นองรวมสาบานของทาน คงไมมีปผูใดอาจหาญยั่วยุกระมัง?”
คิ้วงามของหั่วหลิงตั้งขึ้นทันที เด็กเหลือขอคนนี้ตองการจะใชประโยชนจากนาง
หรือ?
“อยาเขาใจผิด ทานแกปานนั้น ขาจะรวมสาบานกับทานไดเยี่ยงไร” เจาตัวเล็กโบก
มือเปนพัลวัน
“เจาพูดอันใดกัน อะไรที่เรียกวาแกปานนั้น?” หั่วหลิงเดือดดาลถึงขีดสุด เด็กชั่วคน
นี้พูดจาไมเขาหูเอาเสียเลย
เจาตัวเล็กเอยถามอยางซื่อบื้อวา “คนเราเมื่อแกตัวมายอมหวนระลึกถึงครั้งเยาววัย
ทานไมอยากหาสหายรูใจตางวัยหรือ? ชายหนุมองอาจผงาดฟาเชนขา คนหาทั่วแผนดิน
ก็พบไมมากนัก”
หั่วหลิงพูดอยางโมโหวา “เจากอปญหา ตองการใหเสด็จพอของขาคุมครองเจารึ?
เรื่องเชนนี้เจายังคิดออกมาได! ตัวกระจอยปานนี้ ยังคิดจะตั้งตนเปนสหายกับ
จักรพรรดิ”
“ทําไมจะไมไดเลา พอบุญธรรมของอัจฉริยะสาวมากมายอายุนับรอยปแลว เจารูได
อยางไรวาขาเปนสหายตางวัยของเสด็จพอเจามิได?”
“ไสหัวไป!”
ปรกติหั่วหลิงสงางาม มีความรูความสามารถ เปยมดวยความฉลาดเฉลียว แตบัดนี้
กลับบันดาลโทสะ คิ้วดําโกงขึ้นเล็กนอย แทบกระโจนเขามาอยางคลุมคลั่ง
“เอง…”
ในตอนนี้เอง หมาปานอยในออมอกขององคหญิงประเทศเพลิงสงเสียงรอง ขยับ
จมูกฟุดฟด พุงตัวออกไปหมายบอกตําแหนง
เจาตัวเล็กตบหนาผากแลวกลาววา “จะจักรพรรดิหรือสหายตางวัยอะไรขาไม
ตองการแลว!” เขาแยงเทพเจานอยมาแลวพูดวา “ชวยขาคนหาปลาที่หลุดจากแหตัวนั้น
ใหขาเร็วเขา!”
เทพเจานอยมองดูอยูขางๆ มาโดยตลอด รูความตองการของเขา ไมพูดคําใดใหมาก
ความ ยื่นอุงมือนอยชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง
เจาตัวเล็กเก็บรอยยิ้ม ถือดาบหักไลตามไปอยางรวดเร็ว พวกสิงโตเกาเศียรเห็น
ดังนั้น ตางเผยสีหนาเครงขรึม ติดตามไปขางหลัง
คนกลุมนี้วองไวดุจสายฟาฟาด คีรีธาราถอยหลังอยางรวดเร็ว อาศัยจมูกของเทพ
เจานอยในการไลลาตามหา สุดทายก็ยั้งเทาในบริเวณนอกรอยลี้ เจาตัวเล็กฟาดหนึ่งดาบ
ออกไป สะเทือนเขาหินลูกหนึ่งจนแตกกระจาย
“บรูว…” สัตวอสูรตัวหนึ่งกระโจนออกไป ทั้งนากลัวและเคียดแคน ถึงอยางไรก็หนี
หายนะนี้ไมพน
สุดทาย ทายาทอสูรบรรพกาลสิบกวาตัวเชนครุฑทองและเสือขาวลวนถูกสังหารสิ้น
ไมมีตัวใดหนีรอดไปได
“ตอนนี้วางใจแลว ขาและองคหญิงประเทศเพลิง สิงโตเกาเศียรถูกซุมโจมตี ผาน
สงครามนองเลือด สังหารฝูงสัตวทายาทอสูรไดในที่สุด!” เจาตัวเล็กกําหมัดแนน พูด
พลางออกแรงกวัดแกวง
“ขามิไดออกแรง พวกเจาตางหากที่สังหาร” หั่วหลิงแสดงเจตนาวาตนไมเกี่ยวของ
“ลวนเปนเพราะเจาสําแดงพลังวิเศษครั้งใหญ ฆาลางบางจนสิ้นซากมิใชหรือ?”
สิงโตเกาเศียรฉงนสนเทห
“อยาเพิ่งพูดเรื่องเหลานี้เลย ตอนนี้อาหารรสเลิศกองเปนภูเขา แคมองก็น้ําลายไหล
พวกเรากินกันกอนเถอะ” เจาตัวเล็กเชิญชวนอยางมีมิตรไมตรี
หั่วหลิงไมเอยคําใด ผูผนึกขางกายเหลานั้นพูดเสียงทุมวา “นั่นเปนถึงครุฑปกทอง
เลือดผสม เปนโอสถล้ําคาหายาก พลาดไมไดเปนอันขาด ตอนนี้รวมรับประทาน แมผู
กลาแหงเผาพันธุครุฑทองจะลวงรูในวันหนาก็คุมคา ไมเสียหายแตอยางใด”
หั่วหลิงพยักหนา มูลคาของปกษาเทพเจาเลือดผสมยากจะจินตนาการ ไมอาจมองดู
พวกตะกละอํามหิตกลุมนี้ทําใหเสียของโดยไมทําอะไรเลย อยางนอยนางก็รูจักตํารับ
โบราณอยูบาง สามารถทําใหประสิทธิภาพของยาสําแดงออกมาอยางเต็มเปยม
“ที่นี่เงียบสงบมาก พวกเราไปตมตุนกันเถิด”
กลุมคนลงมือพรอมกัน พบกับน้ําพุบอหนึ่ง เริ่มเฉือนหนังแลวขัดถู หมายเคี่ยวตุน
ทายาทอสูรบรรพกาลที่นี่ ใชสารสําคัญที่มีความวิเศษบํารุงและทําตนใหแข็งแกรง
บทที่ 152 กาวหนา
“อยาขยับ ครุฑปกทองเปนปกษาเทพเจาเลือดผสม กินเยี่ยงนี้สิ้นเปลืองนัก ขามี
ตํารับโบราณ เมื่อเจอยาล้ําคา เคี่ยวตุนพรอมกัน สามารถสําแดงประสิทธิภาพที่วิเศษ
ได”
นี่เปนพื้นที่เขตภูเขา คลายคลึงกับโบราณสถานอื่นๆ มีหมอกดําเปนเสนลอย
วนเวียน ลึกลับและเงียบสงบเปนอยางมาก กลางเขามีน้ําพุพรั่งพรูออกมา นกแดงยักษ
และสิงโตเกาเศียรพรอมพวกกําลังเตรียมถอนขนพญานกสีทอง
ครุฑมีรูปรางใหญโต เนื้อตัวกะพริบแสงสีทองระยิบระยับ ไมตองกลาวถึงรางกาย
ของมัน แมแตปกที่ถูกฟนขาดนั่นก็ยาวถึงสิบกวาหมี่ แสงวิเศษสวางเจิดจา พลังปราณ
ไหลลนไมขาดสาย พอจะทําใหคนทั้งกลุมกินจนอิ่มหนํา
“ยังตองพิถีพิถันอันใดอีก?” เหลาทายาทอสูรอดรนทนไมไหว ลวนไมอยากรอนาน
ตองรูวานี่เปนถึงทายาทแหงเทพเจา พบนอยในโลกมนุษย
หั่วหลิงพูดดวยสีหนาจริงจังวา “ความพิถีพิถันยอมมีมาก ผสมยาล้ําคาเขาไป
เล็กนอย ตนไมวิเศษ เลือดวิเศษเปนตน ฤทธิ์ยาที่แสดงออกมาของครุฑทองตัวนี้จะเหนือ
ความคาดหมายของพวกเจา!”
สิงโตเกาเศียรพยักหนา มันมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ กําเนิดในราชวงศเกาแก ยอมรูเรื่อง
พวกนี้ เห็นดวยกับมุมมองของนาง
“เอาเถิด หากสามารถสําแดงประสิทธิภาพที่ดียิ่ง ขาก็ไมมีความเห็นใด” นกแดง
ยักษกลาว แมจะเปนตระกูลสัตวปกเชนเดียวกัน แตมันก็อยากจะแทะครุฑปกทองสักคํา
สองคํา
สุดทาย เหลาสิ่งมีชีวิตตางพยักหนา ยอมรับขอเสนอแนะขององคหญิงประเทศเพลิง
นี่เปนโลกใบนอยบรรพกาล ยอมไมขาดยาวิเศษเปนแน มากดวยตนไมวิเศษ แมลง
วิเศษเปนตน สวนผสมที่ใชปรุงเพื่อเพิม่ ประสิทธิภาพของยาลวนมีใหเสาะหา จําตองออก
จากโบราณสถานแหงนี้กอน ที่แหงนี้ไรพืชพรรณ ไมสามารถรวบรวมของเหลานั้นได
“วานรคลั่งตัวนี้เปนทายาทอสูรที่พบไดนอยจริงๆ เลือดเกาแกเขมขน กําลังกระจาย
แสงดําทะมึนแนะ รูปรางใหญโตปานนี้ ยากจะไดมา เพียงพอใหพวกเรากินแลว” นก
แดงยักษเช็ดน้ําลาย
เสียงตูมดังขึ้น เจาตัวเล็กยกหมอดําขึ้น ทุบลงบนหัวของมันแลวพูดวา “เจาชาง
โหดรายนัก จะกินสิ่งที่เปนรางมนุษย อยามายางตอหนาขา”
นกแดงยักษกระทืบเทาอยางโมโห พูดดวยความกลัดกลุมอยางหาที่เปรียบมิไดวา
“เจาตางหากที่โหดเหี้ยม เอาแตกินสัตวอสูรและปกษาวิเศษ อํามหิตเหลือเกิน”
ขางเคียง สิงโตเกาเศียรเห็นดวยในใจ แมแตมันก็เคยถูกเจาตัวเล็กกิน เพียงมันรูสึก
วานาอับอาย จึงไมอาจบอกกลาวแกเหลาสหายมาโดยตลอด
“เฮ สหายหลวน นี่มันสายตาอะไรของเจา หนนี้ขาชวยเจาอยางไมคิดชีวิต วิวาทกับ
อสูรบรรพกาลกลุมใหญ แทบจะเอาชีวิตเขาแลก” เจาตัวเล็กชายตามองพญานกที่
บาดเจ็บสาหัส
นกหลวนสีรุงถลึงตาขาวใส ถูกมนุษยหนุงคนนี้กินเนื้อปก ยางเนื้อนอง แมครั้งนี้
ไดรับการชวยเหลือจากเขา แตยังคงยากจะปลอยวางไดอยางสิ้นเชิง
“ไมตองถลึงแลว ประเดี๋ยวใหเจากินยาล้ําคามากเสียหนอย บํารุงรางกายของเจา”
เจาตัวเล็กกลาว
ริมน้ําพุใสสะอาด ชายชุดดําขางกายหั่วหลิงกําลังจัดการปกษาปศาจตัวหนึ่ง มีหัว
ชางงอกออกมา แตสวนอื่นกลับไมแตกตางจากสัตวปก ขนนกสีเขียวมรกตทั่วกาย
กระจายแสงสวาง
“นี่เปนคชวิหคขนมรกต เปนสัตวประหลาดที่พบไดยากมากชนิดหนึ่ง นาเสียดายที่
งาขาวของมันถูกทําลายเสียแลว มิเชนนั้นจะวิเศษเปนที่สุด” ผูผนึกคนหนึ่งอาลัยสุดแสน
จนปญญา เผาพันธุยิ่งใหญเหลานี้ไมยอมเหลือกระดูกล้ําคาอักขระใหศัตรูแมกอน
ตาย
อีกฟากหนึ่ง สิงโตเกาเศียรและอีกาไฟสุมหัวจัดการวานรคลั่ง รางกายใหญโต
มโหฬารเชนนี้เพียงพอสําหรับใหสัตวตางพันธุเหลานี้กิน
เจาตัวเล็กตั้งเรียงของกํานัลศึกอยูลําพัง หนานิ่วคิ้วขมวด เต็มไปดวยความเสียใจตอ
การกระทําของตน ชุดเกราะเสือขาวกลายเปนหลายทอน สวนยอดเขาพลังแมเหล็ก
กลายเปนหลายสิบชิ้น รวมเขาดวยกันก็ไมได อานุภาพลดลงอยางมหาศาล
“รูจักพอไดแลว ถุงหยินหยางที่เจาไดมานั้นล้ําคายิ่งนัก สืบทอดจากผูกลาเสือขาว
รุนกอนที่มรณะในทานั่งสมาธิ ถือเปนสมบัติล้ําคาแหงเผาพันธุชิ้นหนึ่ง” หั่วหลิงเหลือก
ตาใสเจาเด็กโลภคนนี้
เมื่อพูดถึงของกํานัลศึกชิ้นนี้ เจาตัวเล็กก็เบิกบานใจโดยพลัน สนใจเปนอยางมาก
นําถุงหนังสัตวชิ้นนี้ออกมา พลิกไปพลิกมามองดู
นี่เปนสิ่งที่สรางมากจากหนังเสือขาว บนถุงมีอักขระนานาชนิด เกาแกและผาน
กาลเวลามาโชกโชน บริเวณปากถุงมัดดวยไหมสีทอง แสงสวางระยิบระยับ มันยาวไม
เกินฝามือ ทวาสามารถกลืนกินสรรพสิ่ง ยิ่งกวานั้นคือมหัศจรรยพันลึก
เจาตัวเล็กตั้งใจปลุกเสก จากนั้นเริ่มทดลองใชมันปลอยอาวุธ ทําความคุนเคยชาๆ
คอยๆ เขาใจวิธีการใชมัน
เสียงโครมดังขึ้น กอนหินเกลือกกลิ้ง กอนหินหนักหลายแสนชั่งถูกดูดเขาไปในถุง
แสงมงคลลอยขึ้น เปนภาพที่มองดูแลวนาตะลึง
“ชางเปนอาวุธล้ําคาชั้นดี!” เจาตัวเล็กชื่นชม จากนั้นยอนอักขระกลับ เศษกอนหิน
ทั้งหมดก็หลั่งไหลออกมา
เขาทดสอบอีกครั้ง สิ้นเสียงดังโครม ฝุนควันที่ไกลออกไปก็พวยพุง เนินเขาหลุดออก
จากผืนดิน ถูกเก็บเขาไปในถุงหยินหยาง ปากถุงหนังสัตวสองแสงสวางเปนหมื่นสาย
สีสันมงคลพันเสน กักเก็บทุกอยางตามคาดหมาย
“โอย เด็กเวรเจาทําอะไร?” นกแดงยักษรองเสียงหลง สูญเสียการควบคุม หดเล็ก
ลงอยางรวดเร็ว แสงสวางรายลอมรางกาย ลอยเขาไปในถุงหยินหยาง หายลับไปในที่สุด
“ฮาฮา…” เจาตัวเล็กหัวเราะเสียงดัง ใชไหมสีทองมัดปากถุงไว เขยาไปมา แววเสียง
พลิกไปพลิกมาออกมาจากถุงทันใด นกแดงยักษถูกขวางกั้นดวยถุงหนังสัตว เสียงที่
ปลอยออกมาจึงเบานัก มันพูดวา “รีบปลอยขาออกไป”
ปลดไหมสีทองออก ไอมงคลไหลทะลัก นกแดงยักษถูกปลอยออกมา มันพูดดวย
ความเดือดดาลจนถึงขีดสุด “กูจะไมทนแลว!”
เจาตัวเล็กยกถุงหยินหยางขึ้นทันที ปรากฏวามันกลัดกลุม สะบัดกนแลวมุงหนาไป
หาวานรคลั่ง เอะอะโวยวายวา “ขาจะกินเจาเสีย!”
เปลวไฟเริงระบํา สิงโตเกาเศียรกับอีกาไฟลอมวงกินวานรคลั่งที่ยางสุกแลวอยาง
ตะกละตะกลาม เนื้อสีทองกระจายกลิ่นหอมกรุน เจาพวกนี้แทบจะกัดลิ้นขาดเสียแลว
เนื้อชิ้นนี้แฝงดวยพลังปราณอันยิ่งใหญ พวกมันตางบาดเจ็บ ยาล้ําคาเชนนี้เปนการ
เสริมบํารุงที่ดีอยางยิ่งยวด
เวลาเพียงไมนาน เตียวมวง นกหลวนสีรุง และผูกลาเผาสามเนตรตางเริ่มเปลงแสง
ขอตอกระดูกในกายสงเสียงดังกรอบแกรบ กระดูกหักเชื่อสมานกันใหม แมไมสามารคืน
สูสภาพเดิมไดทันที แตการเคลื่อนไหวก็ไรอุปสรรคแลว
ยิ่งไปกวานั้น เนื้อและเลือดกระดุกกระดิก แสงวิเศษสองไปทั่วทุกสารทิศ บาดแผล
ทั้งหมดสมานกัน เลือดสงเสียงดังกึกกอง กระจายลําแสงทั่วกาย
“แข็งแกรงนัก ขารูสึกจวนบรรลุแลว” เดิมทีกระดูกขาคูหนึ่งของเตียวมวงหัก
ตอนนี้กินเนื้อของวานรคลั่งผูยิ่งใหญไปกวาหลายพันชั่ง รางกายสองแสง ไอมวงลอยขึ้น
กระแสเสียงดังสะทอนตามมัน
“เลือดของขาบริสุทธิ์อีกขั้นหนึ่งแลว แข็งแกรงเหลือเกิน!” สิงโตเกาเศียรก็ดีอกดีใจ
ภายในรางกายปรากฏเสนเลือดสีทองออน ยาล้ําคาเชนนี้มีประโยชนตอมันอยางใหญ
หลวง
ผานความเปนความตายมาครั้งหนึ่ง พลังปราณในรางกายถูกใชจนสิ้น เมื่อบํารุง
เชนนี้ ทําใหพวกมันแทบจะบรรลุ แตละตัวเปลงแสงราวกับพระอาทิตยดวงเล็ก
“กินสิ!”
วานรใหญสูงสิบกวาหมี่ รูปรางกํายํา แมเหลือเลือดและเนื้อที่เปนยาล้ําคาไวมาก
แตทายาทอสูรเหลานี้ก็กินกันจนเรอ สุดทายไมเหลือแมแตกระดูก
พวกมันทั้งหมดเอนกายลงบนพื้นดิน เนื้อตัวสองแสง ไมอยากขยับเขยื้อนแมแตนิด
อีกฟากหนึ่ง เจาตัวเล็กกับหั่วหลิง และผูผนึกหลายคนก็ไมไดดีไปกวากันนัก ทายาท
ปกษาปศาจตัวหนึ่งถูกแทะกินไปมากกวาครึ่ง เนื้อแวววาวโปรงแสงเขาปากแลวละลาย
ทันที รสชาติล้ําเลิศหอมหวน
ในที่สุด หั่วหลิงรับไมไหวแลว กินไมลงแลวจริงๆ โดยเฉพาะชายหนุมนาชังคนนั้นที่
ย้ําเตือนนางไมหยุดวา ควรลดความอวน หนาอกใหญเกินไป สะโพกอวบอิ่มเกินไป นาง
โมโหจนกลัดกลุมและคลุมคลั่ง
สุดทาย แมแตผูผนึกก็ไมกลากินแลว แมพวกเขาจะมีความสามารถยิ่งใหญ แตถึง
อยางไรก็ยอยยาล้ําคามากมายปานนี้ไมได
“สิ

You might also like