Professional Documents
Culture Documents
อานิสงส์เข้าพรรษา
อานิสงส์เข้าพรรษา
ในฐานะราชกุมาร แต่พอเสด็จออกบวชเหลือพระองค์ท่านองค์เดียว
ก็ต้องคอยหลบซ่อนอยู่ในป่ า เพราะเกรงว่าถ้ามีผู้มาพบเข้า ก็อาจจะ
ถูกปองร้ายได้ พระองค์ท่านไม่ได้กลัวตาย แต่กลัวบุคคลอื่นจะสร้าง
กรรมอันหนัก แล้วเป็ นโทษมหาศาลแก่บุคคลนั้น ในความคาดคิด
ของอาตมา ระยะเวลา ๑๑ วัน ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เสด็จออกจากอุรุเวลาเสนานิคมไปยังอิสิปตนมฤคทายวันนั้นคาดว่า
พระองค์ท่านจะออกเสด็จในเวลาค่ำคืนที่ดึกมาก เพื่อที่จะให้ปลอด
จากผู้คนอย่างแท้จริง และ
ต้องรีบหลบเข้าป่ าไปก่อนที่จะสว่าง เพราะเกรงว่าผู้อื่นจะพบเห็น ถ้า
หากว่ามีคนเห็นเมื่อไร เหล่าจาเรบุรุษส่งข่าวไป เชื่อว่าพระเจ้าปเส
นทิโกศล ซึ่งมีอำนาจเหนือแคว้นพาราณสีหรือเมืองกาสีในเวลานั้น ก็
คงจะใช้ราชบุรุษหรือกองทหารเข้ามาจับ หรือว่าทำร้ายพระองค์ท่าน
ซึ่งจะเป็ นกรรมอันหนักมากพระองค์ท่านจึงต้องใช้เวลาถึง ๑๑ วัน
กว่าจะเสด็จไปถึงป่ าอิสิปตนมฤคทายวันถ้าถามว่าพระองค์ ประกอบ
ไปด้วยฤทธิ์ สามารถเหาะไปถึงได้ในระยะเวลาชั่วลัดนิ้วมือเดียว แล้ว
ทำไม
ถึงไม่ทำ ? ตรงนี้เราต้องมาพิจารณาว่า พระองค์ทรงสั่งห้ามบรรดา
พระภิกษุสงฆ์ในบวรพุทธศาสนาแสดงฤทธิ์ เพราะว่าการแสดงฤทธิ์
นั้นทำให้บุคคลไปยึดติด การยึดติดในตัวบุคคล ยึดติดในฤทธิ์อำนาจ
ทำให้ไม่สามารถจะเข้าถึงมรรคถึงผลได้ เพราะว่าเป็ นการยึดตัว
บุคคล ไม่ใช่ยึดในคุณพระรัตนตรัยซึ่งเป็ นสิ่งที่เป็ นนามธรรม ดังนั้น
พระองค์จึงไม่ต้องการให้ปั ญจวัคคีย์ได้ยึดติดพระองค์ท่าน ในฐานะผู้
ที่มีฤทธิ์มีเดชเหนือกว่าผู้อื่น เพราะว่าจะเป็ นการขวางมรรคผลพระ
นิพพานของพวกเขาทั้งหลายพระองค์จึง
ต้องเสด็จไปโดยพระบาท ก็คือเดินไปและจะต้องหลบซ่อนไปในเวลา
ค่ำคืน กว่าจะไปถึงจึงต้องใช้เวลาถึง ๑๑วัน เมื่อพระองค์เสด็จไปถึง
ปั ญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ซึ่งมั่นใจว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เสด็จ
มานั้น คงจะมาเพราะทนลำบากไม่ไหว พระองค์ก็เลยเลิกการทรมาน
กาย แล้วก็มาให้ปั ญจวัคคีย์ทั้ง ๕ เป็ นผู้ปรนนิบัติรับใช้ตามเดิม เมื่อ
เห็นพระองค์ท่านเสด็จมาแต่ไกล ปั ญจวัคคีย์จึงได้นัดแนะกันว่า เรา
จงอย่าลุกขึ้นต้อนรับ จงอย่าปูอาสนะถวาย จงอย่าถวายน้ำใช้น้ำฉัน
ทั้งปวง แต่เมื่อพระองค์ท่านเสด็จไปถึง
ด้วยอำนาจของพุทธานุภาพ ปั ญจวัคคีย์แม้จะนัดแนะกันดีแล้ว ต่าง
คนต่างก็กุลีกุจอทำหน้าที่ของตนเอง ท่านที่เคยล้างเท้าก็ล้างเท้าให้
ท่านที่เคยปูอาสนะก็ปูอาสนะถวาย ท่านที่เคยถวายน้ำใช้น้ำฉันก็
ถวายน้ำใช้น้ำฉันแก่พระองค์ท่าน แต่ก็ยังใช้คำพูดในลักษณะของ
ผู้ใหญ่พูดกับเด็ก พระองค์จึงได้ตรัสห้ามและกล่าวว่าบัดนี้เราบรรลุ
มรรคผลแล้ว ปั ญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ก็ยังไม่เชื่อ พระองค์จึงตรัสย้ำว่า
ระหว่างที่อยู่ด้วยกันมา ๖ ปี เราเคยกล่าวคำไม่จริงหรือไม่ ?
ปั ญจวัคคีย์พิจารณาตามไปแล้ว ก็เห็นว่าตลอดทั้ง ๖ ปี