Professional Documents
Culture Documents
อําเภอโพธิ%ไทร จังหวัดอุบลราชธานี
นายปภณ รั กษาธรรม
วันที,อนุมัติ ……../……./…….
………………………………………………
(รศ.ดร. มนตรี ชูวงษ์ )
อาจารย์ ท, ีปรึกษาโครงงาน
ง
บทคัดย่ อ
แหล่งสามพัน โบก เป็ นพื น! ที3 ที3มีกุมภลักษณ์ หรื อที3 ร้ ู จักกันโดยทั3วไปว่า “โบก” กระจาย
ตัวอย่างมากมายในชัน! หิ นทรายหมวดหิ นภูพาน อย่างไรก็ ตามการศึกษาเชิ ง ลึกทางด้ านธรณี
สัณ ฐานวิทยาในพื น! ที3 ร วมถึ ง การจํ าแนกลักษณะกุม ภลักษณ์ นัน! มี ค่อนข้ างน้ อย อี กทัง! การตัง!
อุทยานธรณีวิทยาในบริ เวณพื !นที3สามพันโบก จําเป็ นต้ องศึกษาข้ อมูลการทํางานหรื อวิวฒ ั นาการ
ของแม่นํ !าโขงในพื !นที3ซึ3งมีการเกิดของกุมภลักษณ์ การจําแนกรู ปแบบของกุมภลักษณ์ วิเคราะห์
การเกิด รวมทังหาความสั
! มพันธ์ กบั สภาพธรณีสณ ั ฐานวิทยา เพื3อการเผยแพร่ ข้อมูลธรณีวิทยาใน
พื !นที3
หินทรายในพื !นที3ศึกษาเป็ นหินทรายเนื !อทรายหยาบปนเม็ดกรวด ชันหิ ! นด้ านบนสุดที3พบ
กุมภลักษณ์มีเนื !อค่อนข้ างละเอียดหรื อมีขนาดเม็ดตะกอนที3เท่าๆกัน มีความหนาตังแต่ ! 1-3 เมตร
พบโครงสร้ างชันเฉี
! ยงระดับขนาดใหญ่ พบมีเม็ดกรวดเรี ยงตัวตามแนวชันเฉี ! ยงระดับ ตําแหน่งที3พบ
กุมภลักษณ์อย่างมากมายนัน! พบว่าชันหิ ! นมีมมุ เอียงเทที3ตํ3ามากหรื อน้ องกว่า 5 องศา และพบว่า
กุมภลักษณ์มีการกระจายตัวอยูป่ ระมาณกลางโครงสร้ างแบบประทุนหงายของชันหิ ! นที3มีแม่นํ !าโขง
ตัดผ่านจากแนวทิ ศเหนื อไปสู่ทิศใต้ ซึ3ง จากการวิ เ คราะห์ การกวัดแกว่ง ของทางนํ า! พบว่ามี การ
เปลี3ยนแปลงหรื อวิวฒ ั นาการในแนวระดับน้ อยมาก
ผลการวิ เ คราะห์ รู ปแบบของกุม ภลักษณ์ โดยคํ านึงถึ ง ปั จ จัยทางธรณี วิทยาของชัน! หิ น
ลั ก ษณะปรากฏของเนื อ! หิ น โครงสร้ างตะกอนในชั น! หิ น และโครงสร้ างทางธรณี วิ ท ยา
สามารถจําแนกรู ปแบบของกุมภลักษณ์ ได้ 6 รู ปแบบ คือ 1) รู ปแบบหม้ อกลม 2) รู ปแบบแนวโค้ ง
ยาว 3) รูปแบบสระนํ !าขนาดใหญ่ 4) รูปแบบโพรงถํ !าคล้ ายหลุมยุบ 5) รูปแบบเส้ นตรงเชื3อมต่อกัน
6) รูปแบบร่องนํ !ารูปตัวยู หรื อแคนยอน
Abstract
Sam Pun Bok area is characterized by widespread of pot-holes or “Bok” in Thai.
The pot-holes in this area are found relatively in PhuPhan Formation. However, there are
little documents for geomorphic study of the pot-hole formation in this area. In addition,
studying of pot-hole formation, paleo-evolution and avulsion of the MeKong river,
identifying pot-hole pattern and relationship between geomorphology and pot-hole will
bring a great information for geo-park establishing.
Pot-hole in this area occurs extensively in place where the bedding of sandstone
of PhuPhan Formation lying as sub-horizontal beds (less than 5 degree). These
sandstone beds are located just in the middle part of almost east-west syncline axis
where the Mekong river cutting across the beds from almost north-south direction and
the analysis of the development or avulsion of the Mekong river showed that is changed
in a very low level. Pebbly sandstone here contains mega cross-bedding and trough
cross-bedding with the thickness of each bed ranging between 1-3 m.
Patterns of pot-hole are classified based on their morphology, texture,
sedimentary and geological structure as 1) single pot shape, 2) long curve shape, 3)
large pool shape 4) sink-hole like cave, 5) straight and connect shape and 6) U-shape
valley or canyon
Keywords : Mekong river, Sam Pun Bok, Phu Phan Formation, Avulsion, Pothole
ฉ
กิตติกรรมประกาศ
ขอขอบคุณ คณะอาจารย์ ที3 ค อยให้ ข้ อ มู ล และคํ า ปรึ ก ษาในการทํ า งานวิ จัย นี ! ได้ แ ก่
ผศ.ดร.ฐาสิณีย์ เจริ ญฐิ ตริ ัตน์ อาจารย์ ดร. สันติ ภัยหลบลี ! และดร.สุเมธ พันธุวงค์ราช
สารบัญ
หน้ า
บทคัดย่ อภาษาไทย ง
บทคัดย่ อภาษาอังกฤษ จ
กิตติกรรมประกาศ ฉ
สารบัญ ช
สารบัญรู ปภาพ ฌ
บทที, 1 บทนํา 1
1.1 ที3มาและความสําคัญ 1
1.2 นิยามปั ญหา 2
1.3 สมมติฐาน 2
1.4 วัตถุประสงค์ 2
1.5 ขอบเขตการศึกษา 2
1.6 พื !นที3ศกึ ษา 3
1.7 ผลที3คาดว่าจะได้ รับ 4
1.8 ทฤษฎีพื !นฐานและงานวิจยั ที3เกี3ยวข้ อง 4
บทที, 2 วิธีการดําเนินงานวิจัย 8
2.1 ระเบียบวิธีวิจยั 8
2.2 การรวบรวมข้ อมูล และจัดทําแผนที3ต้นร่าง 11
บทที, 3 ผลการดําเนินงาน 17
3.1 ผลการวิเคราะห์การเปลี3ยนแปลงของแม่นํ !าโขงจากการวิเคราะห์ภาพถ่าย 17
ดาวเทียม
3.2 ผลการศึกษาวิจยั เชิงลึกทางธรณีสณ ั ฐานวิทยา 18
ซ
สารบัญ(ต่ อ)
หน้ า
บทที, 4 อภิปรายผล 20
4.1 บทวิเคราะห์ลกั ษณะเด่นหรื อรูปแบบของการเกิดแหล่งสามพันโบก 20
4.2 บทวิเคราะห์วิวฒั นาการธรณีสณ ั ฐาน 31
บทที, 5 สรุ ปผลการวิจัย 34
เอกสารอ้ างอิง 35
ฌ
สารบัญรู ปภาพ
หน้ า
รูป 1.1 ภาพถ่ายดาวเทียมจากโปรแกรม Google earth แสดงกรอบพื !นที3ศกึ ษา
อุทยานสามพันโบก 3
สารบัญรู ปภาพ(ต่ อ)
หน้ า
รูป 3.2 แผนที3ธรณีสณ
ั ฐานวิทยา มาตราส่วน 1:50,000 ครอบคลุมพื !นที3ศกึ ษา
และครอบคลุมสภาพธรณีสณ ั ฐานไปจนถึงฝั3 งสาธรณรัฐประชาธิปไตย
ประชาชนลาวที3ได้ จากการแปลข้ อมูลภาพดาวเทียม 18
สารบัญรู ปภาพ(ต่ อ)
หน้ า
รูป 4.7 โมเดลแสดงการเกิดและวิวฒ
ั นาการของโบก รู ปแบบสระนํ !าใหญ่
(Large pool shape) 27
รูป 4.10 โบกที3เชื3อมต่อกันเป็ นแนวยาวลึกจนเป็ นรู ปตัวยูคล้ ายร่ องนํ !าแนวตรงหรื อคล้ าย
แคนยอน 30
บทที, 1
บทนํา (Introduction)
1.1 ที,มาและความสําคัญ
ธรณี สณ ั ฐานวิทยา (Geomorphology) เป็ นสาขาหนึ3งทางธรณี วิทยาที3ว่าด้ วยพื !นผิวของ
โลก ซึ3งประมวลเอาทังรู! ปร่ างธรรมชาติ กระบวนการเกิด การปรับสภาพของพื !นผิวโลก ตลอดจน
การเปลี3 ยนแปลงต่างๆที3 พ บเห็ นได้ ใ นปั จ จุบัน ซึ3ง ข้ อมูล ที3 ไ ด้ จ ากการศึกษาธรณี สัณ ฐานวิ ทยา
สามารถนํามาประยุกต์ใช้ กบั งานหลายๆด้ าน เช่น ด้ านสํารวจแหล่งโบราณคดี ด้ านการสํารวจหา
แหล่งทรัพยากรธรรมชาติ การสํารวจพิบตั ิภัยต่างๆ ตลอดจน อธิ บายกลไกการทํางานของนํ !า ลม
ธารนํ !าแข็งที3ปรากฏบนพื !นผิวโลกได้ อย่างชัดเจน ดังนันจึ ! งเป็ นการดีที3จะทําการศึกษาเกี3ยวกับธรณี
สัณฐานวิทยา โดยมุง่ เน้ นไปที3กระบวนการของธารนํ !า ซึ3งนับว่ามีความสําคัญต่อการดํารงชีวิตของ
ประชาชนไทยตังแต่ ! อดีตจนถึงปั จจุบนั
แม่นํ !าโขงเป็ นแม่นํา! สายหนึ3งที3 สําคัญมากต่อประชากรชาวไทย เป็ นแม่นํา! สากลซึ3งมี จุด
กําเนิดมาจากประเทศจีน ประมาณครึ3 งหนึ3งของลํานํ !า (2,373 กิโลเมตร) อยู่ในส่วนที3เรี ยกว่า “ลุ่ม
นํ !าโขงตอนล่าง” ไหลผ่าน 4 ประเทศ คือ ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนามพื !นที3ล่มุ นํ !าในส่วนนี !เป็ นที3
อยู่อาศัยของผู้คนของทัง4 ! ประเทศจํานวนประมาณ 62 ล้ านคน เท่าๆกับประชากรในปั จจุบนั ของ
ประเทศไทย
การศึก ษาในครั ง! นี ม! ี พื น! ที3 ศึกษาที3 บริ เ วณสามพันโบก ตํ าบลเหล่า งาม อํ าเภอโพธิ% ไ ทร
จังหวัดอุบลราชธานี ซึ3งจากการศึกษางานวิจยั ต่างๆที3ผ่านมา พบว่ามีการศึกษาพื !นที3ดงั กล่าวใน
เชิง ลึกอยู่น้อยมาก รวมทัง! จากการที3 กรมทรั พ ยากรธรณี แ ละกระทรวงทรั พยากรธรรมชาติและ
สิ3งแวดล้ อมได้ มีนโยบายจัดตังให้ ! พื !นที3สามพันโบกเป็ นอุทยานธรณีวิทยาแห่งแรกของประเทศไทย
และในอนาคตจะยื3นต่อองค์การยูเนสโก(UNESCO) เพื3อพัฒนาสูอ่ ทุ ยานธรณีวิทยาระดับโลกต่อไป
โดยผู้ทํา วิ จัย เห็ นว่ าในพื น! ที3 ดัง กล่า วมี ก ารโค้ ง ตวัดของแม่ นํ า! โขงที3 ค่อ นข้ างชัด เจน และมี ก าร
วิวฒ ั นาการของกุมภลักษณ์ (Potholes) ที3นา่ สนใจ
ด้ วยเหตุนีท! างผู้ทําวิจัยจึงมี แนวคิดที3 จะศึกษากระบวนการทํ างานและวิวัฒนาการของ
แม่ นํ า! โขง รวมทัง! ความสัม พัน ธ์ เ ชิ ง วิ วัฒ นาการของธรณี สัณ ฐานแม่ นํ า! โขงกั บ ลัก ษณะของ
กุมภลักษณ์ ซึ3งมีลกั ษณะหลากหลายรู ปแบบ ซึ3งการศึกษานี !จะใช้ ข้อมูลโทรสัมผัสรวบรวมข้ อมูล
จากแผนที3ภมู ิประเทศ ภาพถ่ายทางอากาศ และภาพถ่ายดาวเทียม เพื3อเปรี ยบเทียบลักษณะธรณี
สัณฐานของแม่นํ !า และหาความสัมพันธ์เชิงวิวฒ ั นาการดังกล่าวไว้ แล้ วข้ างต้ นได้
2
1.3 สมมติฐาน
สภาพธรณีสณ
ั ฐานวิทยาและธรณีวิทยาของแม่นํ !าโขงมีผลต่อการเกิดกุมภลักษณ์
1.4 วัตถุประสงค์
1. สํารวจธรณีสณ
ั ฐานและธรณีวิทยาตามแนวแม่นํ !าโขงที3พบกุมภลักษณ์
2. จําแนกชนิดกุมภลักษณ์ วิเคราะห์ การเกิ ดและความสัมพันธ์ กับสภาพธรณี สัณฐาน
วิทยาและธรณีวิทยา
1.5 ขอบเขตการศึกษา
ศึกษาธรณี สณ ั ฐานและความสัมพันธ์ เชิงวิวัฒนาการของธรณี สัณฐานและกุมภลักษณ์
จากพื น! ที3 กวัดแกว่ง ของแม่นํา! โขง บริ เ วณสามพันโบก ตําบลเหล่างาม อํ าเภอโพธิ% ไทร จัง หวัด
อุบลราชธานี โดยการแปลภาพถ่ายทางอากาศและภาพถ่ายดาวเทียม
3
1.6 พืนที,ศึกษา
ขอบเขตพืนที,ศึกษา
สามพั น โบก ตั ง! อยู่ ใ นพื น! ที3 บ้ านโป่ งเป้ า ตํ า บลเหล่ า งาม อํ า เภอโพธิ% ไ ทร จั ง หวั ด
อุบลราชธานี บริ เวณพิกดั ที3 0542319 ตะวันออก 1746386 เหนือ ในแผนที3ภูมิประเทศมาตราส่วน
1:50000 ระวางอําเภอโพธิ%ไทร (6040 I) บริ เวณริ มแม่นํ !าโขงฝั3 งประเทศไทย
4
แนวคิดการเกิดกุมภลักษณ์
รู ป แบบจากการกั ด กร่ อ นในพื น! ผิ ว และเนื อ! ทรายที3 พ บในบริ เ วณอุ ท ยานสามพัน โบก
ที3โดดเด่นมากคือ กุมภลักษณ์ (Pothole) ที3ชดั เจนว่าเกิดมาตังแต่ ! อดีตในช่วงที3แม่นํ !าโขงมีการไหล
ผ่ า นชัน! หิ น ทรายในบริ เ วณพื น! ที3 นี ! อย่ า งไรก็ ต ามการวิ เ คราะห์ วิ วัฒ นาการและการเกิ ด ของ
กุมภลักษณ์ในระดับสากลยังไม่เป็ นที3แพร่ หลายเนื3องจากร่ อยรอยการกัดเซาะชนิดนี !มักถูกพบใน
พื !นที3ที3ถูกจํากัดโดยปั จจัยทางธรณี วิทยาโครงสร้ าง เช่น การวางตัวของชันหิ ! น รอยแตก รอยแยก
ในชันหิ
! น หรื อแม้ กระทัง3 ความรุ นแรงของการพัดพาของกระแสนํ !าในอดีตและปั จจุบนั ปั จจัยต่างๆ
เหล่านี !มีความสําคัญในการนํามาช่วยวิเคราะห์การเกิดของกุภลักษณ์ ทงสิ ั ! !น รวมถึงการประเมิน
การเปลี3ยนแปลงรูปแบบของกุมภลักษณ์ที3อาจเกิดขึ !นในอนาคต
งานวิ จั ย บุ ก เบิ ก ได้ ก ล่ า วถึ ง กลไกการเกิ ด กุ ม ภลั ก ษณ์ ต ามท้ องนํ า! ได้ เ ผยแพร่ โ ดย
Alexander (1932) ซึ3งกล่าวไว้ ว่า การกัดเซาะในท้ องนํ !าจะเกิดขึ !นก็ตอ่ เมื3อมีรอยแตก (Joint) หรื อ
รอยแยก (Fracture) ขนาดต่างๆ กัน ซึ3งเมื3อก้ อนหินมีการเคลื3อนตัวบนผิวท้ องนํ !าที3เป็ นหินที3มีรอย
แตกจะสามารถกระแทกในที3ซํ !าๆ เดิมจนเกิดเป็ นหลุมที3เกิดการผุกร่ อน (Weathering pit) ต่อมา
ต้ องมีตวั การในการขัดถูท้องนํ !าซึ3งก็คือก้ อนกรวดขนาดต่างๆ (Grinder) ซึ3งในธรรมชาติแล้ วจะมี
หลายขนาด ตังแต่ ! ก้อนกรวดขนาดใหญ่ (Boulder) ถึงขนาดเม็ดทราย (Sand)
6
บทที, 2
วิธีการดําเนินงานวิจัย (Methodology)
2.1 ระเบียบวิธีวิจัย (Methodology)
2.1.1 ศึกษางานวิจยั ที3เกี3ยวข้ อง
2.1.1.1 ศึกษางานวิจยั ที3เกี3ยวข้ องกับพื !นที3ศกึ ษา รวมทังงานวิ
! จยั ที3สามารถนํามา
ประยุกต์ใช้ ได้
2.1.1.2 รวบรวมข้ อมูลงานวิจยั ที3เกี3ยวข้ องกับขอบเขตการศึกษา นํามาประยุกต์ใช้
ในการดําเนินงาน
2.1.2 ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลทางธรณีสณ ั ฐานวิทยาและลักษณะของกุมภลักษณ์ในพื !นที3
ศึกษา
2.1.2.1 ศึกษาข้ อมูลแผนที3ภูมิประเทศ (Topographic map) แผนที3ธรณีวิทยา
(Geological map) และแผนที3เส้ นทางคมนาคม (Route map)
2.1.2.2 ข้ อมูลภาพถ่ายดาวเทียม (Satellite image) และภาพถ่ายทางอากาศ
(Aerial photograph)
2.1.2.3 ข้ อมูลเชิงพื !นที3ศกึ ษา เช่น ลักษณะภูมิประเทศ ลักษณะภูมิอากาศเป็ นต้ น
2.1.2.4 กําหนดขอบเขตพื !นที3ศกึ ษา
2.1.2.5 แปลภาพถ่ายทางอากาศ ร่วมกับภาพถ่ายดาวเทียมโดยใช้ ลกั ษณะธรณี
สัณฐานวิทยา (Morphology) เพื3อจําแนกชนิดของธรณีสณ ั ฐาน รวมทัง!
สังเกตการเปลี3ยนแปลงของกุมภลักษณ์ในพื !นที3ศกึ ษาในภาพกว้ างจาก
กระบวนการดังกล่าวด้ วย
2.1.2.6 รวบรวมข้ อมูลที3ได้ เพื3อเพื3อจัดทําแผนที3ธรณีสณ ั ฐานวิทยาและกําหนด
ตําแหน่งเพื3อทําการออกภาคสนาม
2.1.3 สํารวจภาคสนามภาคสนาม
2.1.3.1 ตรวจสอบความถูกต้ องของลักษณะทางธรณีสณ ั ฐานที3ได้ จากการแปล
ภาพถ่ายทางอากาศและภาพถ่ายดาวเทียม
2.1.3.2 ศึกษาสภาพของแม่นํ !าและลักษณะของกุมภลักษณ์ในปั จจุบนั รวมทัง!
สํารวจปั จจัยที3มีผลต่อการวิวฒ
ั นาการของทังทางนํ
! !าและลักษณะของ
กุมภลักษณ์
9
2.1.4 รวมรวบและวิเคราะห์ข้อมูล
2.1.4.1 แก้ ไขและปรับปรุงข้ อมูลที3ได้ จากการแปลภาพถ่ายไว้ แล้ วให้ ถกู ต้ องตาม
ข้ อมูลที3ได้ จากการออกภาคสนาม เพื3อจัดทําแผนที3ธรณีสณ ั ฐานวิทยา
ของพื !นที3ศกึ ษาฉบับสมบูรณ์
2.1.4.2 วิเคราะห์กระบวนการกวัดแกว่งของแม่นํ !า ความสัมพันธ์ของแม่นํ !ากับ
ลักษณะที3เปลี3ยนแปลงของกุมภลักษณ์
2.1.5 สรุปผลการศึกษาและจัดทํารายงาน
10
วิธีการดําเนินงานวิจัย (Methodology)
จําแนกชนิดธรณีสณ
ั ฐานของพื !นที3ศกึ ษา
ออกภาคสนาม
ตรวจสอบธรณีสณ
ั ฐานในพื !นที3ศกึ ษาที3ได้ ศึกษาการเปลีย3 นแปลงลักษณะของ
ทําการแปลไว้ แล้ ว กุมภลักษณ์ และปั จจัยต่างๆทีเ3 กี3ยวข้ อง
รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล
จัดทําแผนที3ธรณีสณ
ั ฐานวิทยา
ฉบับสมบูรณ์
สรุปผล และจัดทํารายงาน
11
4 km.
รู ป 2.5 กรอบแผนที3ธรณีสณ
ั ฐานวิทยาต้ นร่ าง มาตราส่วน 1:50,000
15
2.2.2.2 แผนที3ธรณีวิทยาและธรณีสณ
ั ฐานต้ นร่ าง มาตราส่วน 1:4,000
2.2.3 การสํารวจภาคสนาม
จากการสํ ารวจภาคสนามเก็ บข้ อมูลเบื อ! งต้ น บริ เวณพื น! ที3 อุทยานสามพันโบก
อําเภอโพธิ% ไทร จังหวัดอุบลราชธานี เมื3อวันที3 25 พฤษภาคม พ.ศ.2556 เพื3อตรวจสอบ
ลักษณะทางธรณีวิทยา ธรณีสณ ั ฐาน รวมทังดู
! การกระจายตัวและลักษณะของกุภลักษณ์
ในพื !นที3 นําข้ อมูลจากการออกภาคสนามเบื !องต้ น มาวิเคราะห์การเกิดของกุภลักษณ์ และ
หาความสัม พัน ธ์ กับธรณี วิทยา ธรณี สัณ ฐาน และธรณี โครงสร้ างในพื น! ที3 ศึกษา โดยมี
ขันตอนการศึ
! กษาต่อไป ดังนี !
1. นําเอาข้ อมูลจากการสํารวจภาคสนาม มาใช้ ควบคูก่ บั การแปลภาพถ่ายทาง
อากาศ และภาพถ่ายดาวเทียม เพื3อศึกษาการเปลี3ยนแปลงหรื อวิวฒ ั นาการของ
ทางนํ !าโขง
2. ศึกษาข้ อมูลการสํารวจภาคสนาม และข้ อมูลที3ได้ จากการวิเคราะห์ภาพถ่ายทาง
อากาศ ภาพถ่ายดาวเทียม เพื3อจําแนกรู ปแบบของกุมภลักษณ์ รวมทังวิ ! เคราะห์
การเกิดและวิวฒั นาการ
17
บทที, 3
ผลการดําเนินงาน
3.1 ผลการวิเคราะห์ การเปลี,ยนแปลงของแม่ นําโขงจากการวิเคราะห์ ภาพถ่ ายดาวเทียม
จากการเปรี ยบเทียบขนาดและตําแหน่งของแม่นํ !าโขงในพื !นที3อุทยานสามพันโบก โดยใช้
ภาพถ่ายดาวเทียมและภาพถ่ายทางอากาศทีมีระยะเวลาการถ่ายภาพห่างกัน ได้ แก่ปี ค.ศ.1999,
2006 และ 2009 สังเกตได้ อย่างชัดเจนว่า การกัดเซาะเกิดขึ !นในแนวดิ3งเป็ นหลัก ไม่มีการกัดเซาะ
ในแนวระดับหรื อกัดเซาะตลิ3 ง ที3 รุ นแรงแต่อย่างใด เนื3 องจากมี การปรั บเปลี3 ยนระดับของแม่นํา!
ในแนวดิง3 ในพื !นที3กําลังดําเนินไปอย่างต่อเนื3องในปั จจุบนั
3.2 ผลการศึกษาวิจัยเชิงลึกทางธรณีสัณฐานวิทยา
ผู้ศึกษาได้ จัดทํ าแผนที3 ธรณี สัณฐานวิ ทยา มาตราส่วน 1:50,000 ครอบคลุมพื น! ที3 ศึกษา
ทังหมด
! แสดงการกระจายตัวความโดดเด่นเป็ นเอกลักษณ์ ของธรณี สัณฐานโดยรอบและในบริ เวณ
พื !นที3อุทยานสามพันโบก (รู ป3.2) และแผนที3ธรณีสณ ั ฐานวิทยามาตราส่วน 1:4,000 (โดยประมาณ)
ที3แสดงเฉพาะตําแหน่งของกุมภลักษณ์ ซึ3งเป็ นแหล่งธรณี วิทยาหรื อเอกลักษณ์ ที3โดดเด่นในเชิงพื !นที3
(รูป 3.3)
บทที, 4
อภิปรายผล(Discussion)
4.1 บทวิเคราะห์ ลักษณะเด่ นหรื อรู ปแบบของการเกิดแหล่ งสามพันโบก
บทวิเคราะห์สาเหตุการเกิดแหล่งอนุรักษ์ ธรณี วิทยาความโดดเด่น ของแหล่งสามพันโบก
ในบทนี !ผู้ศกึ ษาจะเริ3 มจากการวิเคราะห์ปัจจัยทางธรณีวิทยาก่อนว่า แหล่งสามพันโบกเกิดขึ !นโดยมี
ปั จจัยทางธรณีวิทยาโครงสร้ างอะไรเป็ นตัวควบคุมการเกิด ซึง3 สามารถสรุปได้ ดงั นี !
แหล่งสามพันโบก ที3พบโบกหรื อกุมภลักษณ์ (pot-hole) กระจายตัวอย่างมากมายในชัน!
หินทรายของหินหมวดภูพาน (Phu Phan Formation) ซึ3งเป็ นหินทรายเนื !อหยาบปนเม็ดกรวด
(coarse-grained sandstone with pebbles) ชันหิ ! นด้ านบนสุดที3พบโบกมีเนื !อค่อนข้ างเนียนหรื อ
มีขนาดเม็ดตะกอนทรายเท่าๆกัน มี ความหนาประมาณ 1-3 เมตร พบโครงสร้ างตะกอนชันเฉี ! ยง
ระดับขนาดใหญ่ (mega cross-bedding) พบเม็ดกรวดเรี ยงตัวตามแนวชันเฉี ! ยงระดับ ตําแหน่งที3
พบโบกหรื อกุภลักษณ์ กระจายตัวอยู่ม ากนัน! พบว่า เป็ นพื น! ที3 ที3ชัน! หิ นมี มุมเอี ยงเทตํ3ามากหรื อ
ตํ3 ากว่า 51 องศา หากดูอ ย่า งคร่ าวๆ เหมื อนชัน! หิ นวางตัวในแนวเกื อ บราบ ซึ3ง เป็ นตํ า แหน่ง ที3
พบโบกจะอยูป่ ระมาณกลางโครงสร้ างแบบประทุนหงาย (syncline) ของชันหิ ! นบริ เวณนี !พอดี ด้ วย
ความจํ าเพาะด้ านโครงสร้ างธรณี วิทยานี เ! องที3 ตอบคําถามว่า ทําไมจึงพบโบกกระจายอยู่อย่าง
มากมายเฉพาะในบริ เวณนี ! อย่างไรก็ ตาม โบกสามารถพบได้ อีกในบริ เวณชัน! หินที3มีมุมเอี ยงเท
มากกว่า 5 องศา แต่ต้องเป็ นเฉพาะบริ เวณที3มีเนื !อหินที3มีความเนียนหรื อมีขนาดตะกอนใกล้ เคียง
กันมาก
4.1.1 การจําแนกรู ปแบบโบกหรื อกุมภลักษณ์
โบก หรื อ กุมภลักษณ์ ที3พ บในพื น! ที3 กระจายตัวส่วนใหญ่ ในแนวชัน! หิ นที3 วางตัว
แนวราบหรื อเกือบราบ ครอบคลุมพื !นที3ประมาณ 4 ตารางกิโลเมตร ปรากฏอยู่ทงในฝั
ั ! 3 งไทย
และสาธารณรั ฐ ประชาธิ ป ไตยประชาชนลาว จากการวิ เ คราะห์ รู ป แบบของโบกโดย
คํานึงถึงปั จจัยทางธรณี วิทยาของชัน! หิน ลักษณะปรากฏของเนื !อหิน ตะกอน โครงสร้ าง
ตะกอนในชัน! หิ น และโครงสร้ างทางธรณี วิท ยา สามารถจํ าแนกรู ป แบบของโบกหรื อ
กุมภลักษณ์ ได้ 6 รูปแบบ คือ
21
Tabular cross-bedding
bedding
Trough cross-bedding
(Allen, 1970)
รู ป 4.11 พื น! ที3 ศึ ก ษาเป็ นส่ ว นต่ อ เนื3 อ งจากแนวคดโค้ ง ของเทื อ กเขาภู พ านการสลับ กั น ของ
โครงสร้ างประทุนควํ3าและประทุนหงายในพื !นที3ศึกษาและบริ เวณโดยรอบน่าจะเป็ นผล
มาจาก Himalayan Orogeny
32
บทที, 5
สรุ ปผลการวิจัย(Conclusion)
จากการวิเคราะห์ สาเหตุการเกิดลักษณะธรณีวิทยาที3โดดเด่นของแหล่งอนุรักษ์ ธรณีวิทยา
สามพันโบก โดยพิจารณาจากปั จจัยทางธรณีวิทยา ผลการวิเคราะห์สามารถสรุปได้ ดงั นี !
แหล่งสามพันโบก ที3พบโบกหรื อกุมภลักษณ์ (pot-hole) กระจายตัวอย่างมากมายใน
ชันหิ
! นทรายของหมวดหินภูพาน (Phu Phan Formation) ซึ3งเป็ นหินทรายเนื !อทรายหยาบปนเม็ด
กรวด(coarse-grained sandstone with pebbles) ชันหิ ! นด้ านบนสุดที3พบโบกมีเนื !อค่อนข้ างเนียน
หรื อมี ขนาดเม็ดตะกอนทรายเท่าๆกัน มี ความหนาประมาณ 1-3 เมตร พบโครงสร้ างตะกอนชัน!
เฉี ยงระดับขนาดใหญ่ (mega cross-bedding) พบเม็ดกรวดเรี ยงตัวตามแนวชัน! เฉี ยงระดับ
ซึง3 ตําแหน่งที3พบโบกกระจายอยูอ่ ย่างมากมายนัน! พบว่ามุมเอียงเทของชันหิ ! นตํ3ามากหรื อน้ อยกว่า
5 องศา หากดูเผินๆ เหมือนชันหิ ! นวางตัวในแนวเกื อบราบ ซึ3งตําแหน่งที3พบโบกจะอยู่ประมาณ
กลางโครงสร้ างแบบประทุนหงาย (syncline) ของชันหิ ! นบริ เวณนี !พอดี ด้ วยความจําเพาะทางด้ าน
โครงสร้ างธรณี วิ ท ยานี เ! องที3 ต อบคํ า ถามว่ า ทํ า ไมจึ ง พบโบกอย่ า งมากเฉพาะในบริ เ วณนี !
อย่างไรก็ตาม โบกสามารถพบได้ อีกในบริ เวณชันหิ ! นที3 มีมุมการเอียงเทมากกว่า 5 องศา แต่ต้อง
เป็ นเฉพาะบริ เวณที3เนื !อหินมีความเนียนหรื อมีขนาดตะกอนที3ใกล้ เคียงกันมาก
จากการวิเคราะห์วิวฒ ั นาการหรื อการกวัดแกว่งของแม่นํ !า ทําให้ เห็นได้ ชดั เจนว่า แม่นํ !าโขง
ในบริ เ วณพื น! ที3 ศึกษา มี การเปลี3 ยนตํ าแหน่ง ในแนวระดับ น้ อยมาก ไม่มี การกัด กร่ อนการผุพัง
ของตลิ3งอย่างรุ นแรงแต่อย่างใด โดยส่วนใหญ่การกัดเซาะจะเกิดขึ !นในแนวดิ3งเป็ นหลักเนื3องจาก
มีการปรับเปลี3ยนระดับของแม่นํ !าในแนวดิง3 ดําเนินอย่างต่อเนื3องในปั จจุบนั
ผลการวิ เคราะห์ รู ปแบบของโบกโดยคํานึงถึ งปั จจัยทางธรณี วิทยาของชัน! หิน ลักษณะ
ปรากฏของเนื อ! หินตะกอน โครงสร้ างตะกอนในชัน! หิ น และโครงสร้ างทางธรณี วิทยา สามารถ
จําแนกรู ปแบบของโบกหรื อกุภลักษณ์ (patterns of pot-hole) ได้ 6 รู ปแบบ คือ 1) รู ปแบบหม้ อ
กลม 2) รู ปแบบแนวโค้ งยาว 3) รู ปแบบสระนํ า! ขนาดใหญ่ 4) รู ปแบบโพรงถํ า! คล้ ายหลุมยุบ
5) รูปแบบเส้ นตรงเชื3อมต่อกัน 6) รูปแบบร่องนํ !ารูปตัวยู หรื อแคนยอน
35
เอกสารอ้ างอิง
Ward, D.E. and Bunnag, D. 1964, Stratigraphy of the Mesozoic Khorat Group in Northern
Thailand; Rep. Invest. DMR. , Bangkok, No.6 95 pp.
Kummu, M., Lu, X.X., Rasphone, A., Sarkkula, J., and Koponen, J.,2007 , Riverbank
changes along the Mekong River : Remote sensing detection in the Vientiane –
Nong Khai area, Quaternary International , 186: pp. 100-112
Chenrai, P. 2011, Paleocurrent Analysis of the Sao Khua Formation, Khorat Group, Nong
Bua Lamphu region, NE Thailand. Arab J Sci Eng, pp. 37:115-120
36
Sangsuay, A., 2008, Lithostratigraphy of Sao Khua and Phu Phan formations of
Amphoe Mueang Nong Bua Lum Phu, Changwat Nong Bua Lum Phu,
Unpublished Senior Project, Department of Geology, Faculty of Science,
Chulalongkorn University. Bangkok, Thailand.
Meesook, A., Suteethorn, V., Chaodumrong, P., Teerarungsikul N., Sardsud A., and
Wongprayoon T. 1995, Non-marine Mesozoic Rock in the Vicinity of Khorat
Plateau. Proceedings of the Symposium on Geology of Thailand 26-31 August
2002, Bangkok, Thailand, pp. 102-110
Phensiri, C., 2012 Geomorphic Analysis from meandering zone of Nan river, Amphoe
Pua, Changwat Nan. Unpublished Senior Project. Department of Geology Facalty
of Science, Chulalongkorn University. Bangkok, Thailand.
Netoff, D.I., Cooper. J.B., and Shroba, R.R., 1980. Giant sandstone weathering pits near
Cookie Jar Butte, Southeastern Utah. P. 25-53
Alexander, H.S., 1932. Pothole erosion. The journal of Geology, 40, 4, p.305-337.