Professional Documents
Culture Documents
สมเด็จพระเจาบรมวงศเธอ กรมพระยาเดชาดิศร
สอนโดย อ.ขวัญจิรา โพธิ์ทอง
โลกนิติ
หรือ ระเบียบแบบแผนของโลก
(โลก + นิติ)
โลกนีติ
โคลงโลกนิ ติ (โลก – กะ -นิ ด ) หรือ โลกนี ติ เป็ น คัม ภีร์คํา สอนของอิน เดีย ที่โ บราณจารย์
ได้ร วบรวมไว้ และเป็ น ที่รู้จกั กัน มาเป็ น เวลาช้า นาน โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ได้รบั อิท ธิพ ลจากปรัชญา
วัฒนธรรมอินเดีย เป็ นคัมภีรท์ ไ่ี ด้รบั ความนิยมแพร่หลายมากกว่าคัมภีรอ์ ่นื ๆ ในแนวเดียวกัน มีเนื้อหาเป็ นคติ
สอนใจและให้แนวทางในการดําเนินชีวติ ที่ถูกต้องดีงาม ตลอดจนเป็ นหลักในการปกครองและบริหารบ้านเมือง
เพราะคัมภีรโ์ ลกนิตมิ ขี อบข่ายเนื้อหากว้างขวางครอบคลุมวิถชี วี ติ ของคนทัวไปมากกว่
่ าคัมภีรอ์ ่นื ๆ
๑. ประวัติผูแตง
ผูแตง
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร
สมัยที่แตง
พระบาทสมเด็จพระนังเกล้
่ าเจ้าอยูห่ วั (รัชกาลที่ ๓)
๑. ประวัติผูแตง (ตอ)
พระนิพนธเรื่องอื่นๆ
• โคลงโลกนิติ • ฉันท์กล่อมมงคลคเชนทรชํานิเผือกพลาย
• โคลงภาพต่างภาษา • ประกาศพระราชพิธพี ชื มงคลและจรดพระนังคัลใหม่
• โคลงนิราศเสด็จไปทัพเวียงจันทน์ • ฉันท์สงั เวยพระมหาเศวตฉัตร
• ประกาศพระราชพิธสี ารท • ฉันท์ดุษฎีสงั เวยพระพุทธบุษยรัตน์
• ประกาศพระราชพิธคี เชนทรัศวสนาน • คําฤษฎี
๒.ประวัติความเปนมา
• พระนิพนธ์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร ฉบับนี้แต่งขึน้ ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๗๔-
๒๓๗๘ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนัง่ เกล้าเจ้าอยู่หวั เมือ่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสงั ขรณ์
วัดพระเชตุพวิมลมังคลาราม(วัดโพธ์ ิ ) กรุงเทพมหานคร แล้วจารึกตํารับตําราต่างๆ ทัง้ ด้านวรรณคดี
โบราณคดี พุทธศาสนา ประเพณี ตํารายา ตลอดจนสุภาษิต ลงแผ่นศิลาที่ประดับผนังปูชนียสถาน
ต่างๆทีท่ รงปฏิสงั ขรณ์นนั ้ สําหรับให้ประชาชนได้ศกึ ษาหาความรู้
• ในการนี้โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร ทรงชําระโคลงโลกนิติ
สํานวนเก่าให้ถูกต้องตามพระบาลีบางโคลงก็พระนิพนธ์ขน้ึ ใหม่ ปรากฏต้นฉบับในสมุดไทย ๔๐๘ บท
แล้วจารึกไว้ทแ่ี ผ่นศิลาประดับศาลาทิศพระมณฑป ๔ หลัง แต่จาํ นวนโคลงทีจ่ ารึกไว้มมี ากกว่านี้ เข้าใจ
ว่าทรงเพิม่ เติมภายหลังเพือ่ ให้พอดีกบั พืน้ ทีท่ จ่ี ะจารึก
๒.ประวัติความเปนมา (ตอ)
• เชื่อกันว่ามีมาตัง้ แต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยนักปราชญ์ในสมัยนัน้ ได้คดั เลือก หาคาถา
สุภาษิตภาษาบาลีและสันสกฤตที่ปรากฏในคัมภีร์ต่างๆ เช่น คัมภีร์โลกนิติ คัมภีร์โลกนีติ
คัมภีรร์ าชะนีติ คัมภีรพ์ ระธรรมบท เป็ นต้น และนํ ามาถอดความแล้วเรียบเรียงแต่งเป็ นโคลง
โลกนิติ
• โคลงส่วนใหญ่ไม่ได้สอนแบบชีถ้ ูกชีผ้ ดิ เหมือนสุภาษิตทัวๆไป
่ แต่ทุกบทจะนําไปสูค่ วามคิด
และการเปรียบเทียบอย่างชัดเจนมาก
• โคลงโลกนิตพิ ระนิพนธ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศรนี้ได้รบั ความ
นิยมแพร่หลายมากกว่าสํานวนอื่นๆ รวมทัง้ ได้ใช้เป็ นแบบเรียนในโรงเรียนด้วย
๒.ประวัติความเปนมา (ตอ)
• โคลงบางบทก็ทรงนิพนธ์ขน้ึ ใหม่เพื่อจารึกลงแผ่นศิลาติดไว้ในวัดพระเชตุพน
วิมลมังคลาราม โคลงโลกนิตติ งึ แพร่หลายแต่นนั ้ มา ตามพระราชประสงค์ทท่ี รง
หวังให้โคลงโลกนิตสิ อนใจแก่ประชาชน
๓. จุดประสงคในการแตง
เพื่อให้ประชาชนอ่านและรู้สุภาษิตต่าง ๆ และตามพระราชประสงค์ใน
พระบาทสมเด็จพระนัง่ เกล้าเจ้าอยู่หวั เพื่อเป็ นตัวอย่างของโคลงสุภาพจารึกไว้ท่ี
แ ผ่ น ศิ ล า ป ร ะ ดั บ ผ นั ง ศ า ล า พ ร ะ ม ณ ฑ ป ๔ ห ลั ง เ มื่ อ ค ร า ว ป ฏิ ส ั ง ข ร
วัดเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ ์)
๔. ลักษณะคําประพันธ
• แต่งเป็ นโคลงสีส่ ภุ าพและโคลงกระทูใ้ นบางบท จํานวน ๔๓๕ บท
• เป็ นวรรณกรรมคําสอน
• กวีเลือกใช้คาํ ทีง่ า่ ยๆ ทําให้ผอู้ า่ นเข้าใจ และเป็ นคําสอนทีใ่ ช้ได้กบั ทุกยุคทุกสมัย
๏ ก้านบัวบอกลึกตืน้ ชลธาร
มารยาทส่อสันดาน ชาติเชือ้
โฉดฉลาดเพราะคําขาน ควรทราบ
หย่อมหญ้าเหีย่ วแห้งเรือ้ บอกร้ายแสลงดิน
๏ เห็นท่านมีอย่าเคลิม้ ใจตาม
เรายากหากใจงาม อย่าคร้าน
อุตสาห์พยายาม การกิจ
เอาเยีย่ งอย่างเพือ่ นบ้าน อย่าท้อทํากิน
๏ อ่อนหวานมานมิตรล้น เหลือหลาย
หยาบบ่มเี กลอกราย เกลือ่ นใกล้
ดุจดวงศศิฉาย ดาวดาษ ประดับนา
สุรยิ ส่องดาราไร้ เมือ่ ร้อนแรงแสง
๕.๔.๑
• อุปมา (simile)
๕.๔.๒
• การซํา้ คํา
๕.๔.๓
• สัญลักษณ์ (symbol)
๕.๔.๔
• ปฏิพจน์ (paradox)
๕.๔.๕ • การเล่นเสียง
๕.๔.๑
• อุปมา (simile)
๏ คุณแม่หนาหนักเพีย้ ง พสุธา
คุณบิดรดุจอา- กาศกว้าง
คุณพีพ่ ่างศิขรา เมรุมาศ
คุณพระอาจารย์อา้ ง อาจสูส้ าคร
๏ นํ้าใช้ใส่ตุ่มตัง้ เต็มดี
นํ้าอบอ่าอินทรีย์ อย่าผร้อง
นํ้าปูนใส่เต้ามี อย่าขาด
นํ้าจิตอย่าให้ขอ้ ง ขัดนํ้าใจใคร
๏ สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อ ในตน
กินกัดเนื้อเหล็กจน กร่อนขรํา้
บาปเกิดแต่ตนคน เป็ นบาป
บาปย่อมทําโทษซํ้า ใส่ผู้
จะเห็น ได้ว่ า กวีใ ช้ คํ า ว่ า “สนิ ม” ซึ่ง มีค วามหมายโดยปริย ายว่ า มลทิน เช่ น สนิ ม ในใจ
โดยนําสัญลักษณ์ทบ่ี ่งบอกถึงลักษณะของสนิมเหล็กมาเปรียบเทียบกับผลของการกระทํา ในการทําความดี
ความชัว่
๕.๔.๑
• ปฏิพจน์ (paradox)
จะเห็นได้ว่า กวีใช้คาํ คู่เปรียบทีต่ รงข้าม โดยใช้คาํ ว่า “รัก” และ “ชัง” ซึ่งเป็ นการใช้ถอ้ ยคําทีม่ ี
ความหมายตรงกันข้ามกัน
๕.๔.๑
• การเล่นเสียง
สัมผัสพยัญชนะ สัมผัสสระ
จะเห็น ได้ว่ า กวีใ ช้ส ัม ผัส พยัญ ชนะต้ น จะเห็นได้ว่า กวีใช้สมั ผัสพยัญชนะต้น
เสียงเดียวกัน คือ พยัญชนะ “ก” “ค” และ “ส” เสียงเดียวกัน คือ สระ “อุ” และ “อิ”
๖. สรุป
โคลงโลกนิ ติ : สมเด็จพระเดชา ฯ
กบเกิดในสระใต้ บัวบาน
ฤๅห่อนรูร้ สมาลย์ หนึ่งน้อย
ภุมราอยู่ไกลสถาน นับโยชน์ ก็ดี
บินโบกมาค้อยค้อย เกลือกเคล้าเสาวคนธ์
บรรณานุกรม
กรมวิชาการ, กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๔๓). โคลงโลกนิ ติ พระนิ พนธ์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเดชาดิ ศร. กรุงเทพฯ:
โรงพิมพ์คุรสุ ภาลาดพร้าว.
กรมวิชาการ, กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๔๙). แนวการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรม ๓. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรสุ ภาลาดพร้าว.
กรมวิชาการ, กระทรวงศึก ษาธิก าร. (๒๕๕๙). วรรณคดี วิ จกั ษ์ ชัน้ มัธ ยมศึ กษาปี ที่ ๑. พิมพ์ค รัง้ ที่ ๙. กรุง เทพฯ: โรงพิมพ์ สกสค.
ลาดพร้าว.
นิยะดา เหล่าสุนทร. (๒๕๓๗). โคลงโลกนิ ติ : การศึกษาที่มา. กรุงเทพฯ: แม่คาํ ผาง.
ปราชญา กล้าผจัญ. (๒๕๕๔). โคลงโลกนิ ติ ถอดความเป็ นร้อยแก้ว. กรุงเทพฯ: ปราชญา.
เดชาดิศร, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา. (๒๕๔๕). โคลงโลกนิ ติ. พิมพ์ครัง้ ที่ ๑๐.
กรุงเทพฯ: เรือนปั ญญา.