You are on page 1of 26

1

จากใจครูโหร

ตำราโหราศาสตร์น้ี ข้าพเจ้า ลักษณ์ เรขานิเทศ ได้เรียบเรียงเขียนขึน้ โดยมีคณ ุ ตวงทิพย์ เป็นผูช้ ว่ ยในการ


รวบรวมคำบรรยายจากในห้องเรียนตลอดระยะเวลาเรียน ๘ ปีทผี า่ นมา เอกสารตำราทุกชุดเป็นเอกสารตำรา
ทีไ่ ด้รวบรวมและเรียบเรียงเขียนขึน้ ใหม่ ไม่ได้ไปคัดลอกหรือตัดต่อจากตำราเล่มใด และเนือ้ หาส่วนใหญ่ทเ่ี ขียนขึน้ นัน้
เขียนจากประสบการณ์ในการเรียนรูจ้ ากครูบาอาจารย์ อ่านจากตำรับตำราของครูบาอาจารย์ และนำไปใช้จนเป็น
ผลสำเร็จ เห็นจริงในการเป็นนักพยากรณ์อาชีพ ซึง่ วิชาความรูโ้ หราศาสตร์มอี ยูม่ ากก็จริงอยู่ แต่ไม่สามารถประติด
ประต่อเป็นเรือ่ งเป็นราวได้ บ้างก็คดั ลอกกันมาแบบผิดๆ ถูกๆ บ้างก็เป็นนักวิจยั ตำรา จะเห็นเป็นประโยชน์อยูบ่ า้ ง
ก็เพียงแต่เห็นว่าเป็นตำรา แต่ผทู้ ศ่ี กึ ษาโหราศาสตร์สว่ นใหญ่กจ็ ะปวดเศียรเวียนเกล้าเมือ่ ได้หยิบไปอ่านเข้า
ข้าพเจ้ามีความเชือ่ เป็นแน่แท้วา่ ด้วยบุรพกรรมแต่อดีตทีไ่ ด้สะสมมาในสายของโหรนี้ เกิดมาในชาตินจ้ี งึ ได้
ครูบาอาจารย์ทด่ี ี ได้ตำรับตำราทีด่ ี ได้ประสบการณ์ทด่ี จี ากการเป็นนักพยากรณ์อาชีพ สอบสวนทวนความจนได้
เป็นหลักวิชา ข้าพเจ้าจึงปรารถนาสงวนวิชานีไ้ ว้ให้เฉพาะศิษย์ทไ่ี ด้คดั เลือกมา ศิษย์ทไ่ี ด้รบั การครอบครู ศิษย์ทม่ี ี
ความตัง้ ใจในการศึกษา ศิษย์ทม่ี คี วามเคารพนับถือในครูบาอาจารย์ และศิษย์ทม่ี คี ณ ุ ธรรม หมายความว่าผูใ้ ดมี
องค์ประกอบครบถ้วนตามทีไ่ ด้กล่าวในเบือ้ งต้น และได้เข้ามาขอฝากตัวเป็นศิษย์ ก็ขอประสิทธิป์ ระสาทวิชา
โหราศาสตร์ในทุกตัวอักษรไว้เป็นความรูค้ ตู่ วั เรียนรูเ้ ข้าใจในทุกบทตอน อีกทัง้ มีครูบาอาจารย์ในสายแห่งข้าพเจ้า
ร่วมกันประสิทธิป์ ระสาทพร คุม้ ครองป้องกันสรรพภัย ตลอดจนถึงทวยเทพเทวา เทวดานพเคราะห์ทง้ั ๙ พระองค์
ร่วมกันประสิทธิป์ ระสาทพระพรให้เป็นกำลัง เรียนรูส้ ง่ิ ใดเข้าใจทุกบทตอน นำไปใช้พยากรณ์กเ็ กิดความแม่นยำ
มีหนทางคลายทุกข์เพิม่ สุข ชีแ้ นะแนวทางให้เข้าใจในโลกธาตุโลกธรรม เป็นวิชาทีย่ งั ใหัเป็นสมบัตคิ ตู่ วั เกือ้ กูลต่อ
บิดามารดา ครูอปุ ชั ฌาย์อาจารย์ ญาติพน่ี อ้ งบริวาร และประชาชนทัง้ หลาย หากท่านมิใช่ศษิ ย์ทอ่ี ยูใ่ นกฏเกณฑ์แห่ง
การฝากตัวแล้วไซร้ จงอย่าได้รบั สิทธิน์ ้ี ด้วยว่ามนุษย์มจี ติ ใจทีย่ ากจะหยัง่ ถึง หากไม่ได้มคี วามเคารพศรัทธา มีบญ ุ

2
วาสนามาฝากตัวเป็นศิษย์อาจารย์ จงอย่าได้มาพบเห็นตำราชุดนี้ หรือแม้ได้พบได้เห็น ก็อย่าได้อา่ นแล้วเข้าใจ
เทวดาจงช่วยปิดบังอำพรางให้รวู้ า่ เป็นวิชาทีเ่ จ้าของหวง เพราะอาจจะเป็นดาบสองคม ผูท้ ม่ี ปี ญ ั ญาอาจจะศึกษา
แล้วไปใช้ในทางทีไ่ ม่ถกู ไม่ควร ยิง่ ไม่มคี รูบาอาจารย์กำกับยิง่ น่ากลัวใหญ่ พลอยจะเป็นทีต่ เิ ตียนแก่นกั ปราชญ์และ
เทวดาทัง้ หลาย
ดังนัน้ จึงขอสรุปตรงนีว้ า่ ใครผูใ้ ดเป็นศิษย์แล้วไซร้ จงสงวนวิชาของครูบาอาจารย์ชดุ นีไ้ ว้เสมอด้วยชีวติ
เพราะวิชานีม้ จี ติ ผูกพันของครูบาอาจารย์และทวยเทพเทวาสถิตอยู่ ใครผูใ้ ดมิใช่ศษิ ย์แล้วไซร้อย่าได้ถอื วิสาสะ
เพียงสักแต่วา่ หน้าด้านอยากดูอยากเห็น แม้ขา้ พเจ้ามิได้สาปแช่งคำอันใด อันตัวของศิษย์กไ็ ม่เหมาะว่าจะกระทำ
แต่ตามใจตน

อาจารย์ลกั ษณ์ เรขานิเทศ


๑๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๒

ปล. หากกาลอนาคตข้างหน้า ข้าพเจ้าได้หมดอายุขยั ละสังขารจากโลกนีไ้ ปแล้ว ผูใ้ ดมีโอกาสมาประสบ


พบเจอตำราเล่มนี้ อาจจะได้รบั การสืบทอดจากสายวงศ์ตระกูลแต่บดิ ามารดา อาจประสบพบเจอโดยหนทางใด
หนทางหนึง่ ถ้ามัน่ ใจว่าเป็นคนดีมศี ลี ธรรม จะใช้วชิ าไปในทางทีถ่ กู ทีค่ วร จะใช้วชิ ายังประโยชน์ให้เกิดแก่ชาติศาสนา
ประชาชน รวมถึงตัวท่านแล้ว จงหาหนทางด้วยปัญญาของตัวเองเถอดว่าจะทำการอันใดทีจ่ ะทำให้ดวงจิตดวง
ญาณของครูบาอาจารย์และข้าพเจ้ายอมรับท่านเป็นศิษย์ได้

3
โครงสร้างหลักสูตรโหราศาสตร์ไทยขั้นพื้นฐาน
บทที่ ๖ หลักเกณฑ์การพยากรณ์
โดย อาจารย์ลักษณ์ เรขานิเทศ
วันที่ ๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๒
รุ่นพิเศษ โหราศาสตร์ช่วยชาติ
ณ ศาลาอบรมสงฆ์ วัดสามพระยา กรุงเทพมหานคร

วัตถุประสงค์ของการศึกษา

๑. เพือ่ ให้เข้าใจหลักเกณฑ์การพยากรณ์ในขัน้ พืน้ ฐานของวิชาโหราศาสตร์


๒. เพือ่ ให้เข้าใจพืน้ ฐานการพยากรณ์ลกั ษณะนิสยั ของเจ้าชะตาหลังจากผูกดวงวางลัคนาแล้ว
๓. เพือ่ ให้เข้าใจพืน้ ฐานของการพยากรณ์ดา้ นการเรียน การเงิน และความรัก
๔. เพือ่ ให้มคี วามรูแ้ ละเข้าใจความสัมพันธ์ในมุมกุม โยค เล็ง ตรีโกณ จตุโกณ ระหว่างดาวกับลัคนา หรือระหว่าง
ดาวกับดาว
๕. เพือ่ ให้มคี วามรูแ้ ละเข้าใจพระเคราะห์เรือนนอกและพระเคราะห์เรือนใน
๖. เพือ่ ให้มคี วามรูแ้ ละเข้าใจกฏเกณฑ์ความสัมพันธ์ของมุมดาวทีใ่ ห้คณ ุ และให้โทษ
๗. เพือ่ ให้เรียนรูแ้ ละจดจำเกณฑ์ทส่ี ำคัญทางโหราศาสตร์ อันได้แก่ องค์เกณฑ์และอุดมเกณฑ์
๘. เพือ่ ให้สามารถประมวลความรูด้ า้ นหลักเกณฑ์ตา่ งๆ เพือ่ เป็นแนวทางการวิเคราะห์ดวงชะตา

หมายเหตุ : โครงสร้างหลักสูตรโหราศาสตร์ไทยพืน้ ฐานนี้ คิดค้นขึน้ โดย อาจารย์ลกั ษณ์ เรขานิเทศ ส่วนตำรา


ค้นคว้าอ้างอิงทีก่ ล่าวถึงในส่วนท้ายนัน้ หากท่านได้ศกึ ษาเนือ้ หาวิชาจากตำราของอาจารย์ลกั ษณ์ ด้วยความเข้าใจ
ก็เพียงพอแล้วโดยไม่จำเป็นต้องไปค้นคว้าจากตำราทีอ่ า้ งอิงใดๆ
4
เนื้อหาวิชาประกอบด้วย

หลักเกณฑ์การพยากรณ์
การพยากรณ์ลกั ษณะทัว่ ไปของเจ้าชะตา
การพยากรณ์เรือ่ งการเรียน, การเงิน, คูค่ รองความรัก
การพยากรณ์การเดินทางไกล การย้ายสถานที่
การพยากรณ์เกณฑ์โชค เกณฑ์เคราะห์
พระเคราะห์ทส่ี ง่ แรงเอือ้ มถึงกัน
ความสัมพันธ์ระหว่างดาวกับลัคนา
กุม, เล็ง, โยค, ตรีโกณ, จตุโกณ
พระเคราะห์เรือนใน, พระเคราะห์เรือนนอก
พระเคราะห์เป็น ๑-๑๒ แก่ลคั น์, ภพและเรือน
ราศีทวาร, อุด ๔ ทวาร, ศูนยพาหะ
ดวงแตก, อัฏฐเคราะห์
อายุโหร, สุรทิน, เบียน, พระเคราะห์แลกเรือน
ลักษณะการโคจรของดาวพระเคราะห์
หลักการพยากรณ์เรือนภพ
ดวงชะตาทีไ่ ด้เกณฑ์ทส่ี ำคัญ
องค์เกณฑ์ และอุดมเกณฑ์
เกณฑ์พระจันทร์ฃรึง่ เสีย้ ว
เกณฑ์เสาร์ชยั ๔ ต้น
พฤทธิ, ปรัก, จักร, ไทยเกณฑ์

ตำราอ้างอิง
โลกธาตุ พระสารประเสริฐ
คัมภีรโ์ หราศาสตร์ไทย หลวงวิศาลดรุณกร
เคล็ดลับมหาทักษา อ.สำราญ สมุทรวาณิช
เผด็จโหราศาสตร์ อ.ทองเจือ อ่างแก้ว
โหราศาสตร์ วิชาการฉบับครู โหรญาณโชติ
วิทยาศาสตร์โหร อ.จำรัส ปัทมสูต

หมายเหตุ : การกำหนดเนื้อหาวิชานี้ เรียบเรียงขึ้นโดย อาจารย์ลักษณ์ เรขานิเทศ


5
ผมแทบจะไม่มีคำพูดใดที่จะเอ่ย พอนึกขึ้นมาได้แล้วจึงใช้คำกล่าวอำลาแทนความรู้สึก ความ
ปรารถนาใดๆ นับตัง้ แต่คณ ุ ทุกๆ คนเข้ามาเป็นศิษย์ ผมมีความยินดีและมีความสุขใจทีไ่ ด้ถา่ ยทอดองค์วชิ า
ความรู้ทั้งที่เป็นของครูบาอาจารย์และที่เป็นประสบการณ์ตรงจากตัวผมเอง ขอให้ศิษย์มั่นใจในวิชาความรู้
ทีผ่ มถ่ายทอดไว้ให้เป็นแนวทาง พยายามเรียนรู้ จดจำ และค่อยๆ ทำความเข้าใจ ผมได้ตรวจดวงชะตาของคุณ
ทุกๆ คนแล้ว และมัน่ ใจว่ามีบญ ุ มีวาสนาทีจ่ ะศึกษาได้ ทีเ่ หลือคือความวิรยิ ะอุตสาหะโดยส่วนตัวของคุณเอง
ให้ระลึกไว้เสมอว่าผมสามารถใช้วิชาความรู้ที่ได้ถ่ายทอดให้ทั้งหมดนั้นประกอบอาชีพโดยสุจริต
มีความสำเร็จ มีความมัน่ คง มีชอ่ื เสียง ได้รบั การยอมรับในสังคม ขอให้คณ ุ ทุกคนได้ใช้วชิ าอย่างบริสทุ ธิใ์ จ
มีความศรัทธา มีความเมตตา แล้ววันหนึง่ คุณจะได้รบั สถานะอย่างทีอ่ าจารย์คณ ุ ได้มไี ด้เป็น ตำราเล่มนีเ้ ป็นเล่ม
สุดท้ายและเป็นเล่มทีม่ เี คล็ดลับ มีหวั ใจอันเป็นหลักวิชา และอยากให้พงึ ระลึกไว้เสมอว่า “ศิษย์มคี รู ครูมศี ษิ ย์”
ด้วยจิตสือ่ จิตแม้อยูห่ า่ งไกล
ขอให้ทกุ คนโชคดี ประสบความสุขความเจริญ

อาจารย์ลักษณ์ เรขานิเทศ 6
หลักเกณฑ์การพยากรณ์

๑. ผูกดวงวางลัคนา เมือ่ ผูกดวงวางลัคนาแล้ว ลัคนาอยูใ่ นนวางศ์-ตรียางค์อะไร ดาวทีค่ รอง


นวางศ์นน้ั เป็นอะไรตามทักษาเดิมของวันเกิดก็อา่ นความหมายตามนัน้ ถ้านำมาผสมกันอีกว่านวางศ์-ตรียางค์
ขัดกันไหม เป็นคูม่ ติ ร-คูศ่ ตั รู-คูส่ มพล-คูธ่ าตุ ตีความหมายว่าสภาวะทีเ่ กิดเอือ้ อำนวยต่อความสุขและความ
เจริญของคนๆ นีไ้ ด้ดว้ ย
๒. ตนุลคั น์ เมือ่ ผูกดวงชะตาแล้วรูว้ า่ ลัคนาอยูร่ าศีอะไร ดาวเกษตรเจ้าเรือนของราศีนน้ั เรียกว่า
“ตนุลัคน์” ดาวตนุลคั น์ไปอยูท่ ใ่ี ด ณ วันทีเ่ กิด ก็ทายไปตามพืน้ ภพทีด่ าวตนุลคั น์ไปอยู่
๓. ตนุเศษ นำไปสูก่ ารหาตรีวยั ตนุเศษบอกอะไร บอกอารมณ์ บอกจิตใจ บอกสันดาน
๔. ตนุจนั ทร์ พระจันทร์อยูเ่ รือนไหน พระจันทร์บอกถึงอะไร จะบอกสภาพลักษณะของ เจ้าชะตา
๕. ราศีและธาตุ
๕.๑ เกิดราศีอะไร ราศีกม็ าจากดาวเกษตรเจ้าเรือนทีส่ ว่ นหนึง่ ใช้ในการทาย โลโก้ประจำราศี นักษัตรประจำ
ราศี นำมาตีความหมายได้ทั้งนั้น
๕.๒ ธาตุประจำราศี ก็บง่ บอกเรือ่ งอารมณ์ เรือ่ งของธาตุทบ่ี อกอุปนิสยั ธาตุประจำราศี ธาตุ ประจำดาว
ค่อยๆ ผสมกัน
๖. ดาวมาตรฐานทั้งหลาย ผมได้บอกแล้วว่าดาวมาตรฐานที่ผมให้ความสำคัญคือ
- ดาวเกษตรและดาวประเกษตร หมายถึงพืน้ ฐานทีส่ ำคัญ
- ดาวอุจจ์และดาวนิจจ์ แสดงถึงวาสนาบารมี
- ดาวราชาโชค แสดงถึงความสง่างาม เป็นทีน่ ยิ ม เมตตา มหานิยม
- ดาวมหาจักร หมายถึงความโลดโผนโจนทะยาน การต่อสู้ การแข่งขัน
๗. ภพ
“ลัคนา” เป็น“ตนุภพ” จะต้องทราบว่าดาวอะไรไปอยูใ่ นภพอะไร แล้วค่อยๆ อ่านจากเรือนภพ ผมได้
กล่าวไปแล้วในหลายวาระ เรือนภพคือโรงละคร ส่วนดาวนั้นเป็นตัวแสดง เพราะฉะนั้นคุณจะต้องตีความ
ตรงนีใ้ ห้ได้ เป็นความลึกซึง้ ทีม่ อี ะไรซ่อนเอาไว้
๘. ทักษา-ตรีว ัย
เมื่อทราบวัวันเกิด แล้วทำให้ทราบว่าดาวอะไรเป็นบริวาร อายุ เดช ศรี มูละ อุตสาหะ มนตรี
และกาลกิณี ต้องทราบว่าดาวกาลกิณไี ปอยูเ่ รือนใดภพใด หรือดาวทีส่ ถิตอยูใ่ นเรือนภพนัน้ เป็นอะไรทางทักษา
ให้พจิ ารณาการกุมของทักษาและเรือนชะตา หรือภพทีท่ กั ษานัน้ ไปครอง และค่อยๆ ตีความออกมา ดาวทีเ่ ป็น
เดช ศรี มูละ ให้ความหมายอะไร ความหมายนัน้ ต้องจำให้หมด สัมพันธ์กบั เรือนภพอย่างไร เรือนภพก็มดี าว
เจ้าเรือนภพไปเป็นอะไรตามทักษา นี่คือหลักเกณฑ์อย่างหนึ่งที่ต้องเข้าใจตามสถาบันพยากรณ์ศาสตร์
เรื่องของตรีวัยเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ คุณต้องทราบความสัมพันธ์ของตรีวัยกับทักษา และผูกความ
7
สัมพันธ์กับเรือนชะตา
๙. หมู ่ ด าวสั ม พั น ธ์ ต ่ า งๆ
ความสัมพันธ์ก็บอกแล้วว่าเป็นโยคเกณฑ์ต่างๆ ที่ใช้เป็นสาม เป็นสี่ เป็นห้า เป็นเจ็ด หรือเล็ง
คูม่ ติ ร-คูศ่ ตั รู-คูส่ มพล-คูธ่ าตุ นีค่ อื หลักเกณฑ์ในเบือ้ งต้นทีต่ อ้ งอ่านให้ได้ สิง่ สำคัญต้องดูตวั อย่างการวิเคราะห์
เพราะฉะนั้นจะต้องมาจากดวงชะตาของเพื่อนร่วมชั้นและการวิจารณ์ดวงชะตานั้น ก็แปลว่าคุณได้วิจารณ์
จากความเป็นจริง ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมลงไป
๑๐. ดาวจร
เรือ่ งของดาวจรเป็นเรือ่ งง่ายแล้วถ้าคุณอ่านพืน้ ดวงได้ ครูบาอาจารย์หลายท่านบอกว่า ถ้าลักษณ์ตี
ดาวแตกและทำนายพืน้ ดวงชะตาได้ การทายจรก็เป็นเรือ่ งหมูๆ เป็นเรือ่ งง่ายเสียยิง่ กว่าปอกกล้วยเข้าปาก
ก็เห็นจะจริงตามนัน้ เพราะฉะนัน้ บันไดทุกขัน้ นำไปสูก่ ารพยากรณ์จร ก็คอื ใช้หลักของดาวจรสัมพันธ์กับดาว
เดิม เป็นคู่มิตร-คู่ศัตรู-คู่สมพล-คู่ธาตุ ได้เกณฑ์หรือไม่ ดาวจรได้เกณฑ์อย่างไร ปทุมเกณฑ์, องค์เกณฑ์,
อุดมเกณฑ์ อยูใ่ นเรือนในภพทีด่ หี รือไม่ โคจรไปเจอกับดาวเดิมในพืน้ ดวงเดิมทีด่ กี จ็ ะเกือ้ หนุน เกือ้ กูล หรือเป็น
ศัตรูกนั ทีค่ อยขัดแย้ง มีปญ ั หาอุปสรรค

หลักเกณฑ์การพยากรณ์ลักษณะทั่วไปของเจ้าชะตา
๑. ลักษณะรูปร่างงของเจ้าชะตา ดูได้จากดาวเจ้าเรือนที่ลัคนาสถิตอยู่
๒. นิสยั ดูจากธาตุประจำราศี และดาวทีก่ มุ ลัคนา (ถ้ามีดาวกุมลัคนา) ตลอดจนตนุเศษ ซึง่ เป็นเรือ่ ง
สำคัญ คุณต้องไม่ลมื วิธคี ำนวณ
๓. สถานการณ์ครองชีวิตครอบครัว ดูจากตนุลัคน์และตนุจันทร์ พร้อมทั้งดาวจันทร์ ว่าจะมี
ความสุขความทุกข์อย่างไร ครอบครัวเป็นอย่างไร ดูดาวเจ้าเรือนภพปัตนิ สัมพันธ์กบั ดาวอะไร มีการโยคเกณฑ์
อย่างไรในพื้นดวงชะตา
๔. โยค
โยคหรือเล็ง จะมีส่วนสัมพันธ์กับสถานที่เกิด
๕. เรื่องสุขภาพ ดูสขุ ภาพให้ดใู นภพอริ มรณะ วินาศ จะเป็นโรคประจำตัวเกีย่ วกับภพนัน้ ๆ ภพ
ที่แสดงสัดส่วนของร่างกาย ซึ่งผมได้สอนได้ให้ความรู้ไปแล้ว ดูประเภทของดาวเคราะห์เป็นดาวศุภเคราะห์
หรือบาปพระเคราะห์ หรือดูดาวกาลีวา่ อยูใ่ นราศีใด จะมีโรคเกีย่ วกับราศีนน้ั ๆ หรือทักษาทีเ่ ป็นอายุ ไปตกเรือนใด
เรือนนเป็นโรงละคร
หรือกุมกับทักษาอะไร ก็หมายถึงโรคภัยไข้เจ็บทีจ่ ะเป็น อันนีด้ เู รือนทีด่ าวนัน้ ไปอยู่ ให้จำไว้วา่ “เรื
ดาว
ดาวเป็นตัวชี้”
๖. ดูความเป็นไปในครอบครัว ให้ดูตนุลัคน์ ตนุจันทร์ ตนุเศษ พระจันทร์ พระอาทิตย์ ดาวเจ้า
เรือนปัตนิ ดูจากดาวปัตนิของตนุเศษ

หลั ก เกณฑ์ ก ารพยากรณ์ ก ารศึ ก ษาการเรี ย น


สำหรับในพื้นดวงชะตาที่คุณจะวิเคราะห์นั้นเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์คนในวัยเด็กด้วย การศึกษา
เล่าเรียนก็ดทู ด่ี าวพฤหัสบดี ซึง่ แปลว่าการเรียนการศึกษา จะสำเร็จมากน้อยเพียงใด ก็ตอ้ งดูวา่ ดาวพฤหัสบดี
ในดวงชะตา ดาวพฤหัสบดีจะต้องดีเด่น
8
- เรือนภพทีด่ าวพฤหัสบดีไปอยูน่ น้ั เป็นเรือนอะไร ดูทกั ษาประกอบด้วย ดาวพฤหัสบดีเป็นอะไรตาม
ทักษา ถ้าดาวพฤหัสบดีเป็นกาลี ก็จะต้องมีปัญหาเรื่องการเรียน ทำให้มีความล่าช้าในการศึกษาเล่าเรียน
แต่ก็ประสบความสำเร็จ
- ดาวพฤหัสบดีเป็นมหาอุจจ์ มหาจักร ราชาโชค จะประสบความสำเร็จในเรือ่ งการเรียน
- ดาวพฤหัสบดีตอ้ งไม่เป็นอริ มรณะ วินาศกับดวงชะตา
- ถ้าดาวพฤหัสบดีกมุ ลัคนา เรียกว่า “กุมทุ เกณฑ์หรือโกมุทเกณฑ์”
- ดาวพฤหัสบดีเป็นสอง แก่ลคั น์ เรียกว่า “ศูนยพาหะ”
- ดาวพฤหัสบดีเป็นสี่ แก่ลคั น์ เรียกว่า “ปทุมเกณฑ์” หรือ“จตุเกณฑ์” หรือบางทีเรียก “ธรรมเกณฑ์”
- ดาวพฤหัสบดีเป็นเก้า แก่ลคั น์ เรียก “ธนูเกณฑ์”
- ดาวพฤหัสบดีเป็นสิบเอ็ด แก่ลคั น์ เรียก “สิงห์เกณฑ์”
- ดาวพฤหัสบดีเป็นสาม แก่ลัคน์ สมองไม่ค่อยดี ไม่ค่อยฉลาดเท่านั้น อันนี้ต้องจดจำเลยไม่ว่า
จะได้ตำแหน่งอะไรก็ตามที มีขอ้ ยกเว้นอยูว่ า่ ถ้าดาวพฤหัสบดีเป็นเดช ศรี มนตรี ตามทักษา ยังค่อยแปรเปลีย่ น
อะไรไปได้บา้ ง จากร้ายกลายเป็นดี
- ถ้าดาวอังคารเด่น แปลว่า มีความรูแ้ บบไม่ตอ้ งศึกษาเลยก็ได้ ไม่ตอ้ งเรียนในสถาบันหรือองค์กร
เรียนรู้ด้วยตัวเอง
- ดูทกั ษาทีเ่ ป็นเดช ศรี มนตรี ว่าไปอยูใ่ นเรือนดาวมาตรฐานของตัวเองก็นบั ว่าดี คือเป็นเกษตร
ดาวพวกนี้ถ้าเป็นเกษตรก็ถือว่าดี

หลั ก เกณฑ์ ก ารพยากรณ์ ก ารเงิ น


๑) พิจารณาเรือนภพทีเ่ กีย่ วข้อง ได้แก่ ภพกฎุมภะ สหัชชะ ปุตตะ ศุภะ กัมมะ ลาภะ
๒) ดาวเจ้าเรือนอริ มรณะ วินาศมาอยูใ่ นภพกฎุมภะ
๓) ดาวเจ้าเรือนกฎุมภะกุมลัคนา
๔) พิจารณาดาวศุกร์วา่ อยูภ่ พใด ถ้าเป็นอริ มรณะ วินาศ แปลว่าเงินทองรัว่ ไหล
๕) ดาวศุกร์เป็นดาวมาตรฐานประเภทใด และมีดาวดีทส่ี มั พันธ์ถงึ ดาวศุกร์หรือเปล่า
๖) ดูจากทักษาว่าศรีเป็นดาวอะไร อยูเ่ รือนไหนภพไหน สัมพันธ์กบั ดาวอะไร เป็นคูส่ มพลกับตนุลคั น์
หรือไม่
๗) ดาวการเงินทัง้ หมดดูได้จากดาวศุกร์, ดาวจันทร์, ดาวพฤหัสบดี, ดาวพุธ

หลักเกณฑ์การพยากรณ์ การ
การเ ดินทาง ไ กล การย ้ายสถานที
ายสถานที่
๑) ดูภพกัมมะ ภพพันธุ ภพปัตนิ ดาวเจ้าเรือนทัง้ ๓ ภพนีไ้ ปอยูใ่ นเรือนใด หรือว่ามีดาวอะไรสถิตอยู่
อ่านตามลักษณะของดาวเคราะห์เพือ่ ให้ทราบว่าการงานทีท่ ำเกีย่ วข้องกับญาติหรือคูค่ รองด้วยหรือไม่อย่างไร
๒) ดูจากทักษาที่เป็นมูละและมนตรี คือดูสถานที่ทำงานว่าควรมีลักษณะอย่างไร และมีผู้ใหญ่
อุปถัมภ์ช่วยเหลือเกื้อกูลหรือไม่
๓) ดูในเรือ่ งทักษาเดิมเป็นอะไร และทักษาจรตกภูมใิ ดในปีนน้ั ๆ
9
“อายุย่าง” ผมได้อธิบายไว้แล้วว่า อายุย่าง แปลว่า ต้องนับอายุย่างในการพยากรณ์ เพราะ
อายุย่างเป็นอายุที่ต้องใช้ในการวิเคราะห์ความเป็นไปของชีวิต อายุเต็มคือสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ตลอดจนการดู
ดวงคือการทายอนาคต จึงต้องวิเคราะห์อายุย่าง
- ถ้าอายุจรตกภูมอิ าทิตย์ ภูมเิ สาร์ จะได้ยา้ ยทีอ่ ยูห่ รือมีการเดินทาง
- ดูมลู ะเดิม มูละจร เป็นเดช ศรี มนตรี เกีย่ วข้องกับภพกัมมะหรือไม่ ถ้าเกีย่ วข้องกันให้ดดู าว
พฤหัสบดีจร, ดาวจันทร์จรสัมพันธ์ดว้ ย จึงจะมีการเดินทาง
๔) สำหรับในพืน้ ชะตาทีม่ ดี าวเกตุสมั พันธ์ถงึ จุดเกิด เจ้าชะตาต้องเดินทางไกลไปต่างประเทศ ดูดาว
ในภพพันธุ ดาวในภพมรณะหรือดาวเจ้าเรือนภพศุภะสัมพันธ์ถงึ จุดเกิด ในพืน้ ดวงบอกว่ามีโอกาสเดินทางไกล
ไปต่างประเทศ
๕) ถ้าจะดูผลงานให้ดทู ด่ี าวเสาร์จะดีตอ้ งไม่อยูอ่ ริ มรณะ วินาศ
๖) ชาวต่างประเทศครอบคลุมดาวเสาร์เพราะมีผลงานที่ต้องเผชิญวงล้อเดียวกันต้องพิจารณา
ร่วมไปด้วย

หลักเกณฑ์การพยากรณ์เนื้อคู่ คู่ครอง
หลักเกณฑ์ทีท่ไี ม่ควรทาย
วรทายคือ คนที่แต่งงานมีครอบครัวแล้วจะหย่าหรือไม่ ห้ามดู อย่าไปตัดสินใจ
แทนใคร บอกไปตามความจริงว่าจะเป็นอย่างไร อะไรจะเกิดขึน้ เท่านัน้ จบ แล้วให้คนนัน้ ไปตัดสินใจเอง
การดูเรือ่ งคูค่ รองจะดูวา่ ลักษณะรูปร่างหน้าตาของคูค่ รองนัน้ เป็นอย่างไร พืน้ ฐานนิสยั เป็นอย่างไร
ก็ตอ้ งดูภพปัตนิ ภพปัตนิคอื ภพที่ ๗ เมือ่ นับจากลัคนา ดูจากพืน้ ราศีทเ่ี ป็นคูค่ รอง และดาวเกษตรประจำราศีนน้ั
ใช้ทกั ษาเข้ามาประกอบเป็นเรือ่ งทีจ่ ำเป็นเพราะสามารถทายอะไรได้อย่างลึกซึง้ ทำให้เห็นรูปร่างหน้าตาคูค่ รอง
ได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้พิจารณาดวงชะตาชายหรือหญิงอันเป็นพระเคราะห์ตรีวัย เพื่อหาตนุเศษหรือตนุเกษตรใน
ดวงชะตาแล้วให้นบั จากตนุเศษทีอ่ ยูใ่ นราศีน้ันๆ เป็นต้นไป โดยการนับเยีย่ งกับการนับตนุลคั นาทุกประการ
ดวงชะตาชายหรือหญิงก็ดมี ดี าวพระเคราะห์คใู่ นเรือนตรีวยั ตนุเศษ อันได้แก่ตนุ กฎุมภะ สหัชชะ พันธุ ปุตตะ
ปัตนิ เป็นกาลกิณีเดิมไปสถิตอยู่ในภพปัตนิ ภพสหัชชะ ภพกัมมะของเจ้าชะตาแล้ว เจ้าชะตาจะเกิดความ
ร้าวรานภายในครอบครัว หาความสุขมิได้ จะอยูก่ บั คูค่ รองไม่ยง่ั ยืน ถ้าไปสถิตในภพอริ มรณะ วินาศของลัคนา
กลับมีผลดีอยูก่ บั คูค่ รองมีความสุข มีความยัง่ ยืน ถ้าพระเคราะห์คใู่ นเรือนตรีวยั ดังกล่าวนีไ้ ปสถิตในภพอริ มรณะ
วินาศของลัคนาแล้ว เจ้าชะตาจะต้องแตกร้าว พลัดพรากจากคูค่ รอง ถ้าพระเคราะห์คใู่ นเรือนตรีวยั อันได้แก่
อริ มรณะ วินาศ ไปสถิตในภพอริ มรณะ วินาศของลัคนา ก็ปรากฏผลดี ถ้าอยูร่ ว่ มกับคูค่ รองจะร่มเย็นเป็นสุข
ถ้าพระเคราะห์คใู่ นเรือนตรีวยั อันได้แก่ ตนุ กฎุมภะ สหัชชะ พันธุ ปุตตะ ปัตนิ เป็นศรีหรือมนตรีเดิม
ไปสถิตร่วมกับลัคนาในภพตนุ หรือภพพันธุ หรือภพลาภะ และอยูใ่ นราศีของเรือนอุจจ์ นับว่าเป็นเลิศ เจ้าชะตา
มีคคู่ รองทีด่ ี ถ้าอยูร่ ว่ มกันแล้วมีความสุขความเจริญ
อีกประการหนึง่ ให้เอาดวงชะตาชายหญิงทีเ่ ป็นคูส่ มรสมาเทียบกันเลย ถ้าพระเคราะห์คใู่ นเรือนตรีวยั
ของชายที่สถิตในราศีของดวงชะตาชายไปตรงกับพระเคราะห์คู่ในเรือนตรีวัยของหญิงที่สถิตในราศีของ
ดวงชะตาหญิงก็ดี หรือถ้าพระเคราะห์คใู่ นเรือนตรีวยั ของหญิงทีส่ ถิตอยูใ่ นราศีของดวงชะตาหญิงไปตรงกับ
10
พระเคราะห์คู่ในเรือนตรีวัยของชายที่สถิตในราศีของดวงชะตาชายก็ดี ท่านให้พยากรณ์ว่าคู่สมรสนี้ความดี
ความชัว่ ดุจดังพระเคราะห์คใู่ นเรือนตรีวยั ของชายทีส่ ถิตอยูใ่ นราศีของดวงชะตาของชาย หรือดุจดังพระเคราะห์
คู่ในเรือนตรีวัยของหญิงที่สถิตอยู่ในราศีของดวงชะตาของหญิง ดังที่ได้กล่าวมาแล้วทุกประการ

หลั ก เกณฑ์ ก ารพยากรณ์ เ กณฑ์ โ ชคใหญ่


มีพระคาถาแต่เดิมได้กล่าวไว้ชัดเจนเรื่องเกณฑ์การพิจารณาโชคใหญ่ในดวงชะตา
ผิควณจะดูโชคใหญ่ในชันษา พระอสุ ร ิ น ทร์ ต ้ อ งองค์ พ ระเสารา
พระสุ ร ิ ย าต้ อ งครู เ ป็ น คู ่ ค ง เสาร์ เ ล็ ง อสุ ร าท่ า นว่ า ไว้
จะเป็ น โชคใหญ่ ใ นปี น ั ้ น ดั ง ประสงค์ พระเสาร์ ต ้ อ งราหู ค ู ่ น ิ ย ม
อังคารคงเล็งศุกร์แลสุร ิยา ถู ก พฤหั ส บดี ม ี โ ชคชั ย
จะมี ล าภใหญ่ ใ นชั น ษา อนึ ่ ง จั น ทร์ ต ้ อ งลั ค น์ ใ นดวงชะตา
พฤหั ส บดี จ รต้ อ งองค์ พ ระพุ ธ า พุ ธ เล็ ง จั น ทราโชคอุ ด ม
อนึ่งครูต ้องพระสุริเยศ ระวิ เ ล็ ง ภุ ม เมศดู ง ามสม
จั น ทร์ ต ้ อ งราหู ส ู ่ น ิ ย ม เป็ น อุ ด มโชคใหญ่ ใ นชาตา
อนึ ่ ง อั ง คารต้ อ งพระศุ ก ร์ สุริยะเล็งจันทร์นั้นคุณว่า
พระจั น ทร์ จ รถู ก องค์ พ ระพุ ธ า เดื อ นนั ้ น เป็ น มหาสิ ท ธิ โ ชคชั ย
อนึ ่ ง เล่ า องค์ พ ระเสาร์ เ ล็ ง ภุ ม เมศ อั ง คารประเวศถู ก เสาร์ ผ ิ ด วิ ส ั ย
ถึ ง มี ล าภสาบสู ญ ให้ เ สี ย ไป ลาภนั ้ น ถึ ง จะได้ ไ ม่ ด ี เ ลย
อนึ ่ ง พฤหั ส บดี เ สาร์ ร าหู ทั ้ ง สามหมู ่ ม าเป็ น ศรี
ต้องลัคน์ต้องจันทร์สังคี ประวรรติ ส ามี อ าราม
บริ บ ู ร ณ์ ป ริ ข าม ไทยทานก็ เ หลื อ หลาม
ขึ ้ น ชื ่ อ ระบื อ นาม วรสรรพสั ง ฆราช
แม้ จ วบพระเคราะห์ ใ ด เว้ น ไว้ แ ต่ ต ั ว กาลี
กล่ า วคุ ณ อุ ต มหา มหิ ท ธิ โ ชคในบางปี
เกณฑ์โชคทีผ่ มสังเกตก็มดี าวทำมุมแบบนี้ ดาวเกษตรเจ้าเรือนในภพกฏุมภะ ภพลาภะในพืน้ ชะตา
เดิมจะต้องดีดว้ ย ทักษาจรต้องเป็นเดช ศรี มนตรีจรด้วย บางทีในพืน้ ชะตาเดิมไม่ดอี ย่างทีค่ าดหมายเพราะ
วาสนาเดิมไม่มี เมือ่ ดาวจรมาดีกไ็ ม่เห็นได้ เพราะฉะนัน้ ถ้ามีดาวทำมุมดีแบบนีก้ ใ็ ห้ซอ้ื ลอตเตอรี่ และทำงาน
ให้มาก แล้วก็ยงั มีเกณฑ์ทด่ี าวโคจรอยูใ่ นมุมลาภะก็ถอื เป็นโชค ดาวใหญ่ๆ โคจรอยูใ่ นภพลาภะ ภพกัมมะ
แล้วก็ทำมุมดีกบั ดวงชะตา แต่กด็ เี ป็นบางดวง บางทีไม่ดอี ย่างทีค่ ดิ เวลาใช้กต็ อ้ งระวัง

หลั ก เกณฑ์ ก ารพยากรณ์ ช ะตาถึ ง ฆาต


มีโคลงกลอนกล่าวไว้ว่า
ผิว์จะฆาตลัคนาอายุขัย พระอสุ ร ิ น ทร์ ถ ึ ง ลั ค นาใน
บาปเคราะห์ จ รไปเข้ า ทั บ กั น ทั ้ ง พระจั น ทร์ น ั ้ น มาทั บ ลั ค นา
11
ให้ ท ายตั ด ชี ว าถึ ง อาสั ญ ฯ
อนึ ่ ง อาทิ ต ย์ แ ละอั ง คารมาทั บ จั น ทร์ จะเป็ น โทษผู ก พั น ต้ อ งจำจอง
อนึ ่ ง เล่ า อสุ ร ิ น ทร์ ม าทั บ จั น ทร์ อั ง คารนั ้ น เล็ ง ลั ค น์ เ ข้ า เป็ น สอง
ทั ้ ง อาทิ ต ย์ ถ ึ ง เสาร์ เ ข้ า โดยปอง ควรสนองทายตั ด ว่ า ถึ ง ตาย
อนึ ่ ง อสุ ร ิ น ทร์ ถ ึ ง ภุ ม เมศ อั ง คารประเวศต้ อ งพฤหั ส บดี ห มาย
ทั ้ ง อาทิ ต ย์ ต ้ อ งลั ค น์ ท ่ า นทายตาย ด้ ว ยอาญาโทษร้ า ยมาถึ ง ตน
อนึ่งเสาร์เล็งลัคน์ครูเล็งจันทร์ พระศุ ก ร์ ต ้ อ งพระเสาร์ ม าสั ง หรณ์
จะตายในปี น ั ้ น พยากรณ์ เพราะหญิ ง ร้ า ยราญรอนท่ า นทำนาย
อนึ ่ ง อาทิ ต ย์ เ ล็ ง ราหู จ ั น ทร์ ต ้ อ งลั ค น์ พระเสาร์พักร์ถูกอังคารทำนายหมาย
อย่ า สร้ า งบ้ า นเรื อ นใหม่ จ ะให้ ต าย ว่ า เคราะห์ ร ้ า ยท่ า นห้ า มตามตำรา
อนึ ่ ง อาทิ ต ย์ ต ้ อ งอาทิ ต ย์ เ สาร์ ถ ู ก จั น ทร์ อั ง คารนั ้ น ถึ ง เสาร์ ใ นชั น ษา
จะตายด้ ว ยไข้ ล มเป็ น โรคา ให้ ท ำนายทายทั ก วิ บ ั ต ิ เ ป็ น ฯ
อนึ ่ ง อั ง คารทั บ ลั ค น์ ท ำนายไว้ ราหู ไ ซร้ ถ ู ก จั น ทร์ จ ะเกิ ด เข็ ญ
อาทิ ต ย์ ต ้ อ งเสาร์ จ ำเพาะเป็ น พิ เ คราะห์ เ ห็ น ต้ อ งตายด้ ว ยพิ ษ ยาฯ
อนึ่งอสุรินทร์ทับลัคน์อยู่ พระพุ ธ เล็ ง ราหู ว ิ ห ิ ง สา
พระอังคารต้องพระเสาร์แทรกเข้ามา พระเสาร์ เ ล็ ง ศุ ก ร์ ท ่ า นทำนาย
จะสิ ้ น สู ญ อายุ ข ั ย สั ง ขารา ตกต้ น พฤกษาสู ง ฉิ บ หาย
อายุ ต ั ด เร่ ง ระมั ด ประหยั ด กาย ว่ า เคราะห์ ร ้ า ยหนั ก อยู ่ จ งรู ้ ต นฯ
อนึ่งศุกร์ต ้องจันทร์เล็งจันทร์ ราหู น ั ้ น เล็ ง พุ ธ อย่ า ฉงน
พระอาทิ ต ย์ ต ้ อ งลั ค น์ เ ป็ น สาละวน จะตกสายชลชี ว าวาย ฯ
อนึ ่ ง พระเสาร์ ม าพ้ อ งต้ อ งภุ ม เมศ อั ง คารประเวศเล็ ง ลั ค นาหมาย
อาทิ ต ย์ ถ ู ก อั ง คารท่ า นอภิ ป ราย อั ง คารต้ อ งอาทิ ต ย์ ต ายด้ ว ยพิ ษ งู ฯ
อนึ ่ ง เสาร์ ท ั บ ลั ค น์ ภ ุ ม พ้ อ งต้ อ งอาทิ ต ย์ สำแดงฤทธิ ์ จ ั น ทร์ จ รถู ก ราหู
อาทิ ต ย์ ถ ู ก ลั ค นาตำราดู อี ก ราหู น ั ้ น จรมาต้ อ งจั น ทร์
อายุ ข าดจะพิ น าศมรณา จะต้ อ งถู ก สายฟ้ า ถึ ง อาสั ญ
ถ้ า พระเคราะห์ ต ้ อ งทั บ มาทั น กั น ตำรานั ้ น ท่ า นทายว่ า ตายเอย ฯ
โคลงกลอนพวกนี้จำยาก แต่ถ้าจำได้จะเป็นเสน่ห์อย่างมาก แต่เดิมนักโหราศาสตร์หรือครูโหรที่
ชำนาญการในสมัยโบราณ เรียกว่าโหรต้องรูว้ ชิ าไสยศาสตร์ โชคลาง การแก้เคราะห์สะเดาะห์ดวง ครูบาอาจารย์
บอกว่าเมือ่ จะทำนายสิง่ ใดก็ให้เหมาะสมกับกาลเทศะ จะทายเรือ่ งตายหรือไม่ ต้องระมัดระวัง ดวงชะตาจะถึง
ฆาตหรือไม่ ห้ามทาย คือถ้าเห็นว่ามีเกณฑ์การตาย ก็ควรให้เจ้าชะตาหลีกเลีย่ งไปประกอบคุณงามความดีหรือ
ไปบวชก็จะเป็นเรือ่ งทีด่ ี ผมได้เห็นดวงชะตามามาก กฎเกณฑ์ตา่ งๆ นี้ บางอย่างใช้ได้บา้ งไม่ได้บา้ ง แต่ให้ถอื เป็น
หลักหัวใจจริงๆ แล้วอยู่ที่ดาว ใครไม่ได้ดาวก็ทายไม่ได้ ต้องพยายามอ่านและตั้งใจ อ่านบ่อยๆ หวังว่า
“อนาคตังสญาณ” จะเกิดกับทุกๆ ท่าน

12
ดาวพระเคราะห์ที่ส่งแรงเอื้อมถึงกัน

๑. พระเคราะห์อาทิตย์(๑) จะมีมมุ ทีส่ มั พันธ์ถงึ ดาวหรือกลุม่ ดาวหรือลัคนาในมุมต่างๆ ได้หมด


๑.๑ ทับหรือร่วม กับราศีใดราศีหนึง่ ร่วมกับดาวดวงใดดวงหนึง่ หรือทับดาวดวงใดดวงหนึง่ หรือหลายๆดวง
๑.๒ เล็ง กับกลุม่ ดาว กับลัคนา ก็จะส่งแรงเอือ้ มไปถึง
๑.๓ โยค โยคหน้าโยคหลังกับกลุม่ ดาว กับลัคนา ก็จะส่งแรงเอือ้ มไปถึง
๑.๔ ตรีโกณ จตุโกณ ถึงกลุม่ ดาวกับลัคนา ก็จะส่งแรงเอือ้ มไปถึง
๒. พระเคราะห์จนั ทร์(๒) พระจันทร์โคจรเร็วมาก ใช้เวลา ๒ วันครึง่ โคจรยกย้ายราศี เพราะฉะนัน้
จึงมีบทโคลงกลอนในเรือ่ งเกีย่ วกับเคราะห์วา่
ตราบอสุรินทร์ถึงลัคนาใน บาปพระเคราะห์ จ รไปมาต้ อ งทั บ กั น
อีกทั้งจันทร์มาทับลัคน์ ทายว่าตัดชีวาถึงอาสัญ
๓. พระเคราะห์องั คาร(๓) จะส่งผลแรงทีส่ ดุ ในมุมทีร่ ว่ ม หรือ ทับ เล็ง และเป็นสี่ เป็นแปด แก่
ลัคน์ แก่ดาวดวงนัน้ จึงจะส่งแรงให้ เกิดคุณเกิดโทษได้
๔. พระเคราะห์พธุ (๔) จะส่งแรงเอือ้ มถึงในมุมทับหรือร่วม เล็ง และเป็นสี่ เป็นแปด
๕. พระเคราะห์พฤหัสบดี(๕) จะส่งแรงเอือ้ มถึงในมุมทับหรือร่วม เล็ง โยคหน้าโยคหลัง ตรีโกณ
จตุโกณ ได้หมด แต่ในประสบการณ์ ของผมทีใ่ ช้มากทีส่ ดุ ก็คอื ในมุมร่วม เล็ง ตรีโกณ จตุโกณ
๖. พระเคราะห์ศกุ ร์(๖) จะส่งแรงเอือ้ มถึงในมุมทับหรือร่วม เล็ง และเป็นสี่ เป็นแปด
๗. พระเคราะห์เสาร์(๗) จะส่งแรงเอือ้ มถึงในมุมทับหรือร่วม เล็ง และเป็นสาม เป็นสิบ
๘. พระเคราะห์ราหู(๘) จะส่งแรงเอือ้ มถึงในมุมร่วมและเล็ง เท่านัน้ จะตรีโกณ จตุโกณถึง
ดาวใดไม่ได้เพราะราหูเป็นจุดคราส
๙. พระเคราะห์เกตุ(๙) จะส่งแรงเอื้อมถึงในมุมร่วมและเล็ง เท่านั้น

13
ความสัมพันธ์ของดาวและลัคนา

ความสัมพันธ์ของดาวและลัคนา จะมีเรื่องของเรือนภพเข้ามาเกี่ยวข้อง มีเรื่องโยคเกณฑ์ต่างๆ


เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นผมจะเรียงลำดับเรื่องที่สำคัญที่จะเป็นองค์ความรู้ไปตามลำดับว่ามีคำหรือ
ความหมายอะไรบ้างทีเ่ กีย่ วข้องพอจะนำมาใช้ได้ กล่าวคือ
๑. กุม
๑.๑ “ดาวกุมกัน” คือดาวพระเคราะห์ทส่ี ถิตอยู่ ณ ราศีเดียวกัน เรียกว่า “ดาวกุมกัน” พระเคราะห์ทก่ี มุ
กันอาจจะมีพระเคราะห์อยูร่ ว่ มราศีเดียวกันตัง้ แต่ ๒ ดวงขึน้ ไป
๑.๒ คำว่า “ร่วม” มีความหมายเดียวกับคำว่า “กุม” ถ้ามีลคั นาอยู่ ณ ทีน่ น้ั ด้วย ดาวทีก่ มุ อยูก่ บั ลัคนา
เรียกว่า “ดาวกุมลัคน์” หรือดาวร่วมกับลัคนาในราศี จะส่งผลให้คณ ุ ให้โทษเป็นไปตามเหตุของดาวทีก่ มุ นัน้
๑.๓ คำว่า “ต้อง, ถึง, ทับ, ถูก” หมายความว่าเมื่อผูกดวงวางลัคนาแล้ว ดาวพระเคราะห์ที่โคจรมา
ประจำในราศีเดียวกับดาวพระเคราะห์ในพืน้ ชะตาเดิมหรือลัคนาในดวงชะตากำเนิด ทับ ก็คอื ดาวโคจรผ่านไป
ณ ปัจจุบนั นัน้
๒. โยคเกณฑ์หรือตรีเกณฑ์
ได้แก่ ดาวพระเคราะห์ทอ่ี ยูห่ า่ งกัน ๓ ราศี เรียกว่า “โยคเกณฑ์หรือตรีเกณฑ์” ถือว่าเป็นการสัมพันธ์
ที่ให้คุณแก่กัน การพิจารณามุมที่เรียกว่า“โยคหน้าและโยคหลัง” นั้นก็ดูลัคนาอยู่ที่ใดก็นับไป ๓ ราศีใน
ทิศทางทวนเข็มนาฬิกา เป็นตำแหน่งโยคหน้า และนับในทิศทางตามเข็มจากลัคนาไป ๓ ราศีกเ็ ป็นตำแหน่ง
โยคหลัง
๓. เล็ง
หมายถึง ดาวพระเคราะห์ทอ่ี ยูใ่ นราศีทต่ี รงข้ามกัน เรียกว่า “ดาวเล็งกัน” หรือมีดาวพระเคราะห์
อยูใ่ นเรือนที่ ๗ เมือ่ นับจากลัคนา เรียกว่า “ดาวเล็งลัคน์”
๔. ตรีโกณ
หมายถึง ดาวพระเคราะห์ทอ่ี ยูห่ า่ งกันทุก ๕ ราศีจะเป็นมุมดาวทีเ่ รียกว่า “ตรีโกณ” คำว่าตรีโกณ
บางทีกเ็ รียกว่า “ตรีกลู ” ดาวพระเคราะห์หรือลัคนาอยูใ่ นราศีใดราศีหนึง่ นับจากตรงนัน้ ไป ๕ ราศีและ ๙
ราศี หรือนับถอยหลังก็ตาม มีดาวพระเคราะห์องค์ใดสถิตอยูเ่ รียกว่า “ตรีโกณ”
๕. จตุโกณ
หมายถึง ดาวพระเคราะห์หรือลัคนาอยูใ่ นราศีใดราศีหนึง่ นับไป ๔ ราศีถงึ ๗ ราศี และ ๑๐ ราศี
ก็คอื ภพที่ ๑, ๔, ๗, ๑๐ หรือจะนับถอยหลังก็ตาม เมือ่ มีดาวพระเคราะห์องค์ใดสถิตอยูเ่ รียกว่า “จตุโกณ”
คือห่างกัน ๔ ราศี
๖. พระเคราะห์เรือนใน
หมายถึง ดาวพระเคราะห์ทเ่ี ป็นเกษตรประจำอยูใ่ น ๑๒ ราศี เรียกว่า “ดาวพระเคราะห์เรือนใน”
14
หรือเจ้าของเรือน
๗. พระเคราะห์เรือนนอก
หมายถึง พระเคราะห์ทอ่ี ยูใ่ นดวงชะตาเป็นดาวทีส่ ถิตอยูใ่ นราศีนน้ั ๆ เรียกว่า “ดาวพระเคราะห์เรือน
นอก” หรือเรือนนอก ก็คอื เมือ่ ผูกดวงแล้วดาวทีส่ ถิตอยูเ่ รียก “พระเคราะห์เรือนนอก” ส่วนดาวเกษตรเจ้าเรือน
เรียก “พระเคราะห์เรือนใน”
๘. ดาวพระเคราะห์เป็นหนึ่งถึงสิบสองแก่ลัคนา
หมายความว่า ถ้านับลัคนาเป็นราศีท่ี ๑ ไปตามเรือนภพจนถึงภพที่ ๑๒ เรียกดาวพระเคราะห์ทอ่ี ยู่
ในแต่ละเรือนภพว่าดาวพระเคราะห์นั้นเป็น..…แก่ลัคนา
๙. ราศีทวาร
หมายถึง ราศีแม่ธาตุทง้ั ๔ คือ ไฟ น้ำ ลม ดิน เรียกว่า “ราศีทวาร” คือราศีประตูหรือราศีแม่ธาตุ
๑๐. อุด ๔ ทวาร
หมายถึง ดวงชะตาของบุคคลใดมีดาวพระเคราะห์สถิตอยูใ่ นราศีทวารทัง้ ๔ เรียกว่า “ปิดทวารหรือ
อุดทวาร” ดวงชะตานีจ้ ะให้คณ ุ ดีเลิศ แต่ถา้ ตกต่ำก็จะตกต่ำแบบสุดๆ
๑๑. ภพหรื อ เรื อ น
หมายถึง ลัคนาสถิตอยูร่ าศีใดราศีหนึง่ ราศีนน้ั ก็จะเป็น ภพตนุ จากนัน้ ก็ไล่ไปตามเรือนภพกฎุมภะ-
สหัชชะ - พันธุ - ปุตตะ - อริ - ปัตนิ - มรณะ - ศุภะ - กัมมะ - ลาภะ - วินาศนะ คือจะนับตัง้ แต่ภพที่ ๑
ถึงภพที่ ๑๒ ในจักราศีมี ๑๒ ภพ จึงเรียกว่า “ภพหรือเรือน” แต่ละภพก็จะมีความหมายแตกต่างกันไป
ตามเรือนภพที่ได้ไล่เรียงไปนั้น
๑๒. ศูนยพาหะ
หมายถึง ดาวพระเคราะห์ที่สถิตอยู่ในราศีที่นำหน้าลัคนา เรียกว่าดาวพระเคราะห์นั้นเป็น “ศูนย
พาหะ”
๑๓. ดวงแตก
เกณฑ์“พิ
“พินทุบาทว์” เป็นลักษณะทีเ่ รียกว่า “ดวงแตก” คำว่า “แตก” ก็แปลว่าวิถชี วี ติ นัน้ มีความ
แตกแยก ไม่สมบูรณ์ทง้ั ในเรือ่ งชีวติ คู่ ในความมัน่ คง ในความถาวรของชีวติ
เสาร์เพ่งเล็งลัคน์แล้ว อสุ ร า
ภุ ม เมนทร์ อ ั ษ ฎา ว่ า ไว้
จั น ทร์ เ ป็ น สิ บ เอ็ ด แก่ ร า หู เ ล่ า
อาภั พ อั ป ภาคย์ ใ ห้ โทษแท้ ป ระเหิ น หิ น
ส่วนคำว่า “ดวงร้าว” หรือเกณฑ์ “ภิณทุบาทว์” ได้แก่
ระวิภุมมะทั้ง โสรา
ปั ญ จะแก่ ล ั ค นา พุ ธ เก้ า
จั น ทรกั บ ชี ว า เป็ น แปด
ศุ ก ร์ เ จ็ ด อาจารย์ เ จ้ า ว่ า ร้ อ นนิ ร ั น ดร์

15
๑๔. อัฏฐเคราะห์
หมายถึง พระเคราะห์ ๘ ดวง ได้แก่ดาวอาทิตย์, ดาวจันทร์, ดาวอังคาร, ดาวพุธ, ดาวพฤหัสบดี,
ดาวศุกร์, ดาวเสาร์, ดาวราหู รวมกำลังอัฏฐเคราะห์ได้ ๑๐๘
คำว่า “นพเคราะห์” หมายถึงพระเคราะห์ ๙ ดวง คือเพิ่มดาวเกตุ(๙)อีก ๑ ดวง ได้แก่ดาว
อาทิตย์, ดาวจันทร์, ดาวอังคาร, ดาวพุธ, ดาวพฤหัสบดี, ดาวศุกร์, ดาวเสาร์, ดาวราหู, ดาวเกตุ นพเคราะห์มี
กำลั ง รวม ๑๑๗
๑๕. อายุโหร
หมายความว่า นับตั้งแต่ วันที่-เดือน-ปี-เวลาเกิดจนถึงปัจจุบัน คำนวณอายุที่เกิดจนถึงปัจจุบัน
จนละเอียด เช่น เจ้าชะตาเกิดวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๑๔ เวลา ๐๖.๐๐ น. เติบโตมาจนกระทัง่ ถึงปัจจุบนั
วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ เวลา ๑๒.๐๐ น. เมือ่ คำนวณอายุอย่างละเอียดแล้วก็จะได้อายุ ๓๘ ปี
๑๐ เดือน ๗ วัน
๑๖. สุรทิน
หมายความว่า จำนวนวันทีโ่ หรคำนวณไว้ในปฏิทนิ โหราศาสตร์ ทุกๆ วันภายใน ๑ ปี โดยคำนวณ
วันตัง้ แต่วนั เถลิงศกเป็นต้นมาทุกๆ ปี คือเปลีย่ นจุลศักราชใหม่หลังวันสงกรานต์ วันสงกรานต์เป็นวันมหา
สงกรานต์ วันกลางเรียกว่าวันเนา วันที่สามนับจากวันสงกรานต์เรียกว่าวันเถลิงศก รุ่งขึ้นเป็นวันใหม่
จึงคิดเป็นสุรทินทีเ่ รียกว่า “เถลิงศกขึน้ จุลศักราชใหม่”
๑๗. เบียน
หมายถึง รบกวนหรือเบียดเบียนให้เดือดร้อน ดาวพระเคราะห์ทเ่ี บียนกันแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ ๔
ประเภท
๑๗.๑ ดาวพระเคราะห์ทเ่ี บียนกัน คือดาวที่อยู่ชิดกัน ๒ ราศี เรียกว่า พระเคราะห์ที่อยู่ราศีหลังเบียน
พระเคราะห์ที่อยู่ราศีหน้า
๑๗.๒ ดาวพระเคราะห์เบียนดาวมาตรฐาน ได้แก่ ดาวบาปพระเคราะห์เข้าร่วมราศี กับดาวมาตรฐาน
ทั้งหลายเหล่านี้ คือเกษตร มหาอุจจ์ ราชาโชค มหาจักร หรือเพียงแต่เล็ง ก็ทำให้ดาวมาตรฐานเหล่านี้
เสื่อมไปด้วย ทำให้ต้องพบอุปสรรคก่อนจึงได้ดี
๑๗.๓ ดาวพระเคราะห์ที่เบียนลัคนา ได้แก่
- ดาวเจ้าเรือนลัคนาไปเป็นห้ากับลัคนา ถือว่าเบียน ยกเว้นเป็นดาวมาตรฐาน
- พระอาทิตย์(๑) เป็นสาม กับสิบสอง ถือว่าเบียน
- พระจันทร์(๒) เป็นสิบสองแก่ลคั นา ถือว่าเบียน
- พระอังคาร(๓) เป็นสาม เป็นสิบสองแก่ลคั นา ถือว่าเบียน
- พระพุธ(๔) เป็นสาม เป็นสิบสองแก่ลคั นา ถือว่าเบียน
- พระพฤหัสบดี(๕) เป็นสิบสองแก่ลคั นา ถือว่าเบียน
- พระศุกร์(๖) เป็นเจ็ด สิบสองแก่ลคั นา ถือว่าเบียน
- พระเสาร์(๗) เป็นหนึง่ สอง ห้า เจ็ดแก่ลคั นา ถือว่าเบียน
- พระราหู(๘) เป็นสอง สี่ สิบสองแก่ลคั นา ถือว่าเบียน
16
๑๗.๔ ดาวพระเคราะห์นิจจ์เบียนลัคนา พิจารณาจากวันเกิดของเจ้าชะตา ดูดาววันเกิดนั้นว่าห่างจาก
ลัคนากีร่ าศี ไม่วา่ จะเป็นดาวมาตรฐานหรือไม่ จะต้องเดือดร้อนก่อนจึงจะได้ดี
- เกิดวันอาทิตย์ ดาวอาทิตย์(๑) เป็นสี่ เป็นสิบสองแก่ลคั น์ ถือว่าเป็นนิจจ์เบียนลัคนา
- เกิดวันจันทร์ ดาวจันทร์(๒) เป็นแปด เป็นเก้าแก่ลคั น์ ถือว่าเป็นนิจจ์เบียนลัคนา
- เกิดวันอังคาร ดาวอังคาร(๓) เป็นสีแ่ ก่ลคั น์ ถือว่าเป็นนิจจ์เบียนลัคนา
- เกิดวันพุธ ดาวพุธ(๔) เป็นเก้าแก่ลคั น์ ถือว่าเป็นนิจจ์เบียนลัคนา
- เกิดวันพฤหัสบดี ดาวพฤหัสบดี(๕) เป็นแปด เป็นสิบสองแก่ลคั น์ ถือว่าเป็นนิจจ์เบียนลัคนา
- เกิดวันศุกร์ ดาวศุกร์(๖) เป็นเจ็ดแก่ลคั น์ ถือว่าเป็นนิจจ์เบียนลัคนา
- เกิดวันเสาร์ ดาวเสาร์(๗) เป็นสี่ เป็นห้าแก่ลคั น์ ถือว่าเป็นนิจจ์เบียนลัคนา
- เกิดวันพุธกลางคืน ดาวราหู(๘) เป็นเก้าแก่ลคั น์ ถือว่าเป็นนิจจ์เบียนลัคนา
๑๘. แลกเรือนหรือสลับเรือน
พระเคราะห์แลกเรือน การทีด่ าวพระเคราะห์มาตรฐานทัง้ หลายทีเ่ ป็นเกษตร อุจจ์ มหาจักร ราชาโชค เหล่านีแ้ ลก
ทีก่ นั อยู่
พระเคราะห์สลับเรือน การทีด่ าวพระเคราะห์มาตรฐานแลกเรือนกันในทางเล็งกัน เรียกว่า “สัปตเกณฑ์” กลาย
เป็นประไปทัง้ คู่ ทำให้กำลังของดาวพระเคราะห์เสือ่ มลงกว่าการเป็นเกษตร
ถ้าเป็นพระเคราะห์มหาอุ
มหาอุจจ์สลับเรือนกัน ก็จะดีแบบเสียๆ คือทางยศอำนาจ

17
ลักษณะการโคจรของดาวพระเคราะห์

คือวิถกี ารโคจรของดาวพระเคราะห์ จุดทีน่ า่ สนใจ ได้แก่


๑. จุดวิกลคติ คือ จุดหยุดนิง่ ของดาวพระเคราะห์ หรือเพือ่ เปลีย่ นทิศทางการโคจร
๒. พักร์ ปกติพระเคราะห์จะโคจรไปข้างหน้า พระเคราะห์พกั ร์ คือ พระเคราะห์ทโ่ี คจรถอยหลัง หรือ
มีองศาลดน้อยถอยลง เรียกว่า“พักร์”
ขณะทีพ่ ระเคราะห์โคจรพักร์จะมีอาการหยุดนิง่ เรียกว่า “จุดวิกลคติ“ ณ จุดหยุดนิง่ เมือ่ พักร์เพียง
พอแล้วก็จะเดินหน้าต่อไป หรือก่อนจะพักร์กจ็ ะมีจดุ หยุดนิง่ ณ จุดหนึง่ ก็เรียกว่า“จุดวิกลคติ”
๓. เสริด ตามธรรมดาดาวพระเคราะห์จะโคจรปกติ ซึ่งตามธรรมชาติจะโคจรไม่เท่ากัน คราใด
พระเคราะห์เดินเร็วผิดปกติธรรมดาของพระเคราะห์นน้ั เรียกว่า“เสริด” คือโคจรอย่างรวดเร็ว ข้อสังเกต พระเคราะห์
เสริดจะเกิดขึน้ ภายหลังจากทีพ่ ระเคราะห์พกั ร์องศา
๔. มณฑ์ คือดาวพระเคราะห์ซง่ึ ปกติโคจรไปข้างหน้า หรือบางครัง้ ก็พกั ร์องศา บางครัง้ พักร์ราศี หากไม่
โคจรไปทัง้ ข้างหน้าและข้างหลัง กลับหยุดอยูก่ บั ทีเ่ รียกว่า “มณฑ์” หรือพระเคราะห์โคจรเดินหน้าถอยหลังอยูอ่ ย่าง
นัน้ องศาบวก-ลบ ขึน้ -ลง อยูอ่ ย่างนัน้
๕. จุดบีบ คือพระเคราะห์ทม่ี วี ถิ กี ารโคจรแตกต่างกัน เช่น ดาวราหูโคจรถอยหลัง ดาวเสาร์จะโคจร
เดินไปข้างหน้า เมือ่ เทียบกับลัคนา เช่น ลัคนาอยูร่ าศีสงิ ห์ ดาวราหูโคจรจากราศีกนั ย์ ผ่านมาทางราศีสงิ ห์ คือในทิศ
ทางตามเข็มนาฬิกา ดาวเสาร์โคจรจากราศีกรกฎมาทางราศีสงิ ห์ ในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา การทีด่ าวเสาร์และ
ดาวราหูโคจรในลักษณะดังกล่าวนี้ อยูใ่ นมุมทีบ่ บี กับลัคนาจึงเรียกว่า “พระเคราะห์เสาร์กบั ราหูโคจรบีบลัคนา”
๖. จุดสวน คือ ดาวเสาร์และดาวราหูโคจรเข้าบีบลัคนา ณ จุดใด เรียกจุดนัน้ ว่า“จุดสวน”
๗. จุดร่วม คือ ดาวพระเคราะห์ดวงหนึง่ โคจรช้า เช่น ดาวพฤหัสบดีโคจรราศีละ ๑ ปี ดาวเสาร์โคจร
ราศีละ ๒ ปีครึง่ แต่ดาวอังคารโคจรราศีละ ๔๕ วัน ในขณะทีด่ าวพฤหัสบดีหรือดาวเสาร์โคจรอยูน่ น้ั ดาวอังคาร
โคจรเร็วกว่าจึงตามทัน เมือ่ ตามทันกัน ณ จุดทีล่ งองศานัน้ เรียกว่า“จุดร่วม”
๘. จุดดับ คือ จุดทีพ่ ระอาทิตย์โคจรทันดาวพระเคราะห์ดวงใดก็ตาม องศา-ลิปดาตรงกันพอดี แสงของ
พระอาทิตย์จงึ บดบังแสงของดาวพระเคราะห์นน้ั อย่างสิน้ เชิง ทำให้ดาวพระเคราะห์นน้ั หมดกำลังไปเรียกว่า“จุดดับ”
จุดต่างๆ เหล่านีเ้ ป็นเรือ่ งทีส่ ำคัญต้องรูเ้ อาไว้บา้ ง และเป็นเรือ่ งทีต่ อ้ งสังเกตดูวา่ มีเรือ่ งอะไรเกิดขึน้ บ้าง
หรือไม่ ทุกครัง้ ทีด่ าวพระเคราะห์โคจรในมุมทีม่ ลี กั ษณะดังกล่าว

18
องค์เกณฑ์และอุดมเกณฑ์

ภาพแสดงสัญลักษณ์ประจำราศี

หัวข้อเกณฑ์ของราศีนม้ี คี วามสำคัญสำหรับผูท้ ศ่ี กึ ษาวิชาโหราศาสตร์ ทุกคนจะต้องจดจำและทำความ


เข้าใจให้ลกึ ซึง้ เป็นอย่างดี เนือ่ งจากเป็นกฏเกณฑ์ทส่ี ามารถนำไปใช้พยากรณ์ดวงชะตาได้อย่างแม่นยำ โดยมี
หลักเกณฑ์การแบ่งตามสัสัญลักษณ์ประจำราศ ระจำราศี โดยนำเอาสัญลักษณ์ประจำราศีมาแบ่งแยกเป็น ๔ ประเภท
ได้แก่
๑. ราศีทม่ี สี ญ ั ลักษณ์เป็นสัตว์สเ่ี ท้า เรียกว่า “ปัศวะเกณฑ์” มี ๓ ราศี
๒. ราศีทม่ี สี ญ ั ลักษณ์เป็นมนุษย์ เรียกว่า “นระเกณฑ์” มี ๕ ราศี
๓. ราศีทม่ี สี ญ ั ลักษณ์เป็นสัตว์นำ้ เรียกว่า “อัมพุเกณฑ์” มี ๓ ราศี
๔. ราศีทม่ี สี ญั ลักษณ์เป็นแมลง เรียกว่า “กีฏะเกณฑ์” มี ๑ ราศี
การแบ่งประเภทของราศีตามสัญลักษณ์ประจำราศีนเ้ี ป็นการแบ่งทีท่ ำให้เห็นภาพได้ชดั เจน และง่ายต่อ
การจดจำ ซึง่ ต่อไปจะต้องนำไปเชือ่ มโยงกับหลักเกณฑ์ ทีเ่ รียกว่า “องค์เกณฑ์” และ “อุดมเกณฑ์” เป็น
ขัน้ ตอนทีจ่ ะต้องนำไปใช้ในของการพยากรณ์ตอ่ ไป ทัง้ องค์เกณฑ์และอุดมเกณฑ์นส้ี ามารถนำมาใช้เป็นบทสรุป
หรือฟันธงดวงชะตาได้ เปรียบเสมือนเครือ่ งมือทีช่ ว่ ยเสริมความมัน่ ใจให้แก่นกั พยากรณ์ ถือว่าเป็นเกณฑ์ทเ่ี ชิดชู
หรือสรรเสริญดวงชะตาทีไ่ ด้เกณฑ์นน้ั ๆ สามารถบอกโชคบอกเคราะห์และบอกคุณงามความดีทจ่ี ะเกิดขึน้ กับ
เจ้าชะตาได้
19
หลักการพิจารณาดวงชะตาที่ได้องค์เกณฑ์ มีดังนี้
๑. ดวงชะตาทีม่ ลี คั นาสถิตในราศีประเภทปัศวะ และมีดาวพระเคราะห์สถิตอยูภพที
่ภพที่ ๑๐
๒. ดวงชะตาทีม่ ลี คั นาสถิตในราศีประเภทนระ และมีดาวพระเคราะห์กุกมุ ลัคนา
๓. ดวงชะตาทีม่ ลี คั นาสถิตในราศประเภทอั
ีประเภทอัมพุ และมีดาวพระเคราะห์สถิตอยูภพที
่ภพที่ ๔
๔. ดวงชะตาทีม่ ลี คั นาสถิตในราศีประเภทกีฏะ และมีดาวพระเคราะห์สถิตอยูภพที
่ภพที่ ๗
ดวงชะตาทีถ่ กู ต้องตามหลักขององค์เกณฑ์จริงๆ แล้วต้องมีดาวพระเคราะห์ทก่ี ำหนดขึน้ จึงถือว่า
ดวงชะตานัน้ ได้องค์เกณฑ์โดยสมบูรณ์ คือ
๑. ดวงชะตาทีม่ ลี คั นาสถิตในราศีประเภทปัศวะ และมีดาวพระเคราะห์สถิตอยูภพที ่ภพที่ ๑๐ ดังนี้
- ดาวอาทิตย์(๑) ดาวจันทร์(๒) ดาวอังคาร(๓) และดาวพฤหัสบดี(๕)
๒. ดวงชะตาทีม่ ลี คั นาสถิตในราศีประเภทนระ และมีดาวพระเคราะห์กุกมุ ลัคนา ดังนี้
- ดาวอาทิตย์(๑) ดาวพฤหัสบดี(๕) และดาวเสาร์(๗)
๓. ดวงชะตาทีม่ ลี คั นาสถิตในราศีประเภทอัมพุ และมีดาวพระเคราะห์สถิตอยูภพที
่ภพที่ ๔ ดังนี้
- ดาวจันทร์(๒) ดาวพุธ(๔) ดาวพฤหัสบดี(๕) และดาวศุกร์(๖)
๔. ดวงชะตาทีม่ ลี คั นาสถิตในราศีประเภทกีฏะ และมีดาวพระเคราะห์สถิตอยูภพที
่ภพที่ ๗ ดังนี้
- ดาวราหู(๘) เพียงดวงเดียว

ต่อไปเป็นเกณฑ์ที่สำคัญอีกเกณฑ์หนึ่งเรียกว่า “อุดมเกณฑ์” คำว่า อุดม แปลว่า มากมาย


การพิจารณาก็เช่นเดียวกับองค์เกณฑ์
ปัสสวะคือพระเคราะห์ ภุมม์ศุกร์เกาะ พระจันทร์สูรย์
เรือนดีทวีคูณ กัมมะกูล อริเขา
นระคือโสโร วุโธ ชีโว ศุกโกรเล่า
สหัชช์ตนุ พันธุเคล้า เอาปั ต ตนิ แ ละลาภา
อัมพุคือภุมโม ชีโว โสโร และโสรา
พันธุและปุตตา แลศุภาว่าสำคัญ
กีฎะคืออสุรินทร์ ทั้งภุมมินทร์ สหัชช์พัน
ปัตตนิศุภะอัน วินาศน์นั้น อุดมเกณฑ์
ในส่วนของการพยากรณ์นน้ั ก็จะมีเกร็ดแยกย่อยทีต่ อ้ งจดจำในเรือ่ งของดาวพระเคราะห์ให้โทษหรือ
คราวเคราะห์ คือ
ปั ศ วะชี โ ว อัมพุภุมโม นระโสโร กีฏะอสุรินโท
ปัศวะชีโว เป็นคราสลัคนา ในปีทด่ี าวพฤหัสบดี(๕)โคจรทับลัคนา ของผูท้ เ่ี กิดราศีประเภทปัศวะ
อัมพุภมุ โม เป็นคราสลัคนา ในปีทด่ี าวอังคาร(๓)โคจรทับลัคนาของ ผูท้ เ่ี กิดราศีประเภทอัมพุ
นระโสโร เป็นคราสลัคนา ในปีทด่ี าวเสาร์(๗)โคจรทับลัคนาของ ผูท้ เ่ี กิดราศีประเภทนระ
กีฏะอสุรนิ โท เป็นคราสลัคนา ในปีทด่ี าวราหู(๘)โคจรทับลัคนาของ ผูท้ เ่ี กิดราศีประเภทกีฏะ
นีค่ อื หลักเกณฑ์ทจ่ี ะนำไปใช้พยากรณ์ เรียกว่า คราสลัคนา
20
เกณฑ์พระจันทร์ครึ่งเสี้ยวหรือเกณฑ์จันทร์ตรี
เดิมทีเดียวเรียกพระจันทร์ครึง่ ซีก คือ ๗ ราศีมดี าวเรียงต่อกัน บางทีกอ็ นุโลมให้ ๖ ราศีมดี าวเรียงต่อกัน
เรียกว่า “เกณฑ์จนั ทร์ตรี หรือ เกณฑ์พระจันทร์ครึง่ เสีย้ ว” บ้างก็เรียกว่า “เกณฑ์มาลัยโยค” บุคคลทีม่ ี
เกณฑ์ดงั กล่าวนีจ้ ะเป็นบุคคลทีม่ เี สน่ห์ เป็นบุคคลทีม่ พี ลกำลัง มีบญ
ุ วาสนาทีไ่ ด้รบั อิทธิพลจากดวงดาว กรรม
นำมาเกิดให้มีบริวารแวดล้อม อยู่ในมุมที่มีการจัดระบบของดาวได้อย่างเป็นขั้นตอน เกณฑ์การพิจารณา
ดวงพระจันทร์ครึง่ เสีย้ วนัน้ ทีจ่ ะเห็นได้ชดั มี ๓ เกณฑ์ คือ
๑. เกณฑ์ลัคนานำพล
๒. เกณฑ์ลัคนาคุมพล
๓. เกณฑ์ลัคนาขับพล

เกณฑ์เสาร์ชยั ๔ ต้น
๑ . พระเสาร์(๗)อยู่ในราศีพฤษภ จะเป็นคนที่มีน้ำเสียงดี มีกำลังและมีอำนาจ
๒. พระเสาร์(๗)อยูใ่ นราศีกนั ย์ จะเป็นคนทีม่ เี นือ้ ดี เป็นคนทีม่ รี ปู ลักษณะดี ผิวพรรณดี
๓. พระเสาร์(๗)อยูใ่ นราศีพจิ กิ จะเป็นคนทีม่ หี ดู ี ได้ยนิ ในทีไ่ กลๆ
๔. พระเสาร์(๗)อยูใ่ นราศีมนี จะเป็นคนทีม่ ตี าดี สามารถรูเ้ ห็นอะไรได้กว้างไกล
คนถามว่าผมมีหรือเปล่า แต่กอ่ นผมก็เข้าใจอย่างทีท่ กุ คนเข้าใจคือหูทพิ ย์แปลว่า ได้ยนิ เสียงไปไกล
ในเสียงทีอ่ ยากได้ยนิ ซึง่ งง ผมมาคิดดู ถ้าผมหูทพิ ย์จริงๆ ผมคงประสาทแล้ว ใครพูดอะไรมาผมได้ยนิ หมด พูดเรือ่ ง
ไม่สบายใจ ผมก็ทกุ ข์อกี จริงๆ แล้ว หูทพิ ย์แปลว่า ในขณะทีเ่ ราจะดูดวงให้ใครก็มคี นมาเล่าเรือ่ งของอีกคนให้ฟงั
เป็นอย่างนัน้ อย่างนี้ เราก็บอกว่าเมือ่ วานเพิง่ มีคนมาเล่าให้ฟงั นีค่ อื หูทพิ ย์ ในขณะทีก่ ำลังจะอยากรู้ อยากดู
อยากเห็นในเรือ่ งหนึง่ ก็ได้ดไู ด้เห็นในเรือ่ งนัน้ พอดีเลย นัน่ คือตาทิพย์ ซึง่ ไม่รจู้ ะอธิบายอย่างไร ไมใช่ความมหัศจรรย์
แต่มนั เป็นเรือ่ งปกติ

พฤทธิเกณฑ์, ปรักเกณฑ์, จักรเกณฑ์, ไทยเกณฑ์


พฤทธิเกณฑ์ ดาวชะตาทีม่ คี วามเป็นพฤทธิเกณฑ์ เป็นดวงชะตาทีม่ แี ต่ความสุขความเจริญ คือ
ดวงชะตาทีม่ ดี าวอาทิตย์(๑) อยูใ่ นราศีเมษ, สิงห์, ธนู
ปรักเกณฑ์ หรือปะรักเกณฑ์ ดวงชะตาทีม่ คี วามกล้าหาญ รุง่ เรือง คือดวงชะตาทีม่ ดี าวอังคาร(๓)
อยูใ่ นราศีพฤษภ, กันย์, มังกร
จักรเกณฑ์ มักจะได้ครองแผ่นดิน คือมีอำนาจวาสนา ในพืน้ ชะตามีดาวเสาร์(๗)อยูใ่ นราศีเมถุน, ตุลย์,
กุมภ์
ไทยเกณฑ์ (อาสะธิโส) หาผูเ้ สมอเหมือนได้ยาก คือในดวงชะตามีพน้ื ฐานแห่งดาวราหู(๘)อยูใ่ นราศีกรกฎ,
พิจกิ , มีน

21
การพยากรณ์เรือนภพ

ภพที่ ๑ ตนุภพ
ภพทีผ่ กู ดวงมามีลคั นา หมายถึงคำว่า ตนุ แปลว่า ตัวตนหรือตนเองก็ได้ ตำแหน่งนีจ้ ะบอกถึงตัวตนของ
เจ้าชะตาทัง้ หมด หมายถึงบอกรูปร่าง ลักษณะ ผิวพรรณ สิง่ ทีจ่ ะบอกถึงตนุ ยังดูถงึ เรือ่ งความสุข ความทุกข์
และอุปสรรคต่างๆ ก็ได้ดว้ ยเหมือนกัน โหราจารย์บางท่านยังบอกว่าสามารถดูคคู่ รอง ศัตรูทเ่ี ปิดเผย หรือภรรยา
สามีของคูแ่ ข่ง หรือภรรยาและสามีของคูค่ ดีความ ตนุในทีน่ ห้ี มายถึงเวลาผูกดวงแล้วตรงลัคนา(ลั) เรียกว่า ตนุ
ยังสามารถดูการเดินทางไกลของลูกได้ ทรัพย์สนิ ในบ้านเรือนของพ่อได้ สิง่ ทีจ่ ะบอกต่อไปคือบอกถึงนิสยั ใจคอ
ของเจ้าชะตา ความรูส้ กึ นึกคิด ซึง่ ในส่วนนีป้ ราชญ์แต่โบราณเขาบอกให้ดทู ด่ี าวจันทร์และดาวพุธ อีกส่วนหนึง่
ให้ดูทลัี่ลคั นา, ตนุเศษ, ตนุลัคน์ หมายถึงลัคนาอยู่ราศีไหน ดาวที่เป็นดาวเกษตรเจ้าเรือนเรียกว่า ตนุลัคน์
ตนุเศษ หมายถึงสันดานหรือจิตใจอันแท้จริง จิตใจลึกๆ คิดอย่างไร ความต้องการ ต้องใช้ตนุเศษในการทาย
ส่วนตนุ

ภพที่ ๒ กฎุมภะภพ
ภพที่ ๒ หรือเรือนที่ ๒ คือภพกฎุมภะ หมายถึงเรือ่ งของหลักทรัพย์ หลักฐานการเงิน สภาพคล่องของ
เจ้าชะตา ทัง้ นีท้ ง้ั นัน้ อาจจะหมายถึงทรัพย์สนิ สถานที่ ทีท่ ำงาน เคหะสถาน ภาระผูกพันต่างๆ นอกจากนีย้ งั
หมายถึงอริยทรัพย์ คือปัญญาความรูท้ แ่ี ปรเปลีย่ นมาเป็นเงินได้ หลักเกณฑ์การพิจารณาเรือ่ งภพกฎุมภะนัน้
มีหลักดังต่อไปนี้
ประการแรก ดาวเกษตรเจ้าเรือนภพกฎุมภะเป็นบาปพระเคราะห์หรือศุภเคราะห์ และพิจารณาทักษา
ประกอบด้วย
ประการที่ ๒ พิจารณาดาวในพืน้ ดวงทีค่ รองในภพกฎุมภะเป็นบาปพระเคราะห์หรือศุภเคราะห์ ดาวนัน้
ได้ตำแหน่งทางโหราศาสตร์หรือไม่
ประการที่ ๓ พิจารณาดาวพฤหัสบดีซง่ึ เป็นดาวทีท่ ำนายโชคลาภหรือความสำเร็จ มีความสัมพันธ์
กับภพกฎุมภะอย่างไร
ประการที่ ๔ พิจารณาจากดาวศุกร์ เพราะดาวศุกร์คอื ดาวขุนคลัง เป็นดาวตัวแทนการเงิน(financial)
เมือ่ ใดก็ตามทีด่ าวเกษตรเจ้าเรือนการเงินโคจรไปอยูใ่ นสภาพทีเ่ ป็นทุรสถานภพ มักขัดสน ลำบากใน
การหาทรัพย์ หรือมีรายจ่ายมากในช่วงนัน้ หรือโคจรไปอยูใ่ นตำแหน่งทีเ่ สีย เช่น เป็นประ เป็นนิจจ์ ยิง่ แล้วใหญ่
จะมีสภาวะ ทีท่ กุ ข์ใจ เงินทีค่ วรจะได้กลับต้องได้ลา่ ช้าออกไปหรือต้องโดนตัดทอน

ภพที่ ๓ สหัชชะภพ
ภพที่ ๓ หรือเรือนที่ ๓ คือภพสหัชชะ สหัชชะในกฎเกณฑ์ทผ่ี มพอจะสรุปได้นน้ั เกีย่ วข้องกับเพือ่ น
การเดินทางระยะใกล้ ญาติรว่ มสายโลหิตเดียวกัน สหัชชะยังหมายถึง การติดต่อ การสือ่ สาร ประสานงาน
22
การสังคม พีห่ รือน้องชาย ตัวแทนนายหน้า กำลังใจ ภพสหัชชะใช้พจิ ารณาเกีย่ วกับพีน่ อ้ งชายหญิงคนที่ ๑
เพือ่ นบ้านทีใ่ กล้ชดิ การศึกษาในเบือ้ งต้นของเจ้าชะตา มิตรร่วมตาย จดหมาย รถไฟ รถยนต์ เพือ่ นของบุตร
ศัตรูสว่ นตัวของบิดา ถ้าจะสรุปลงไปอีกทีตอ้ งกล่าวถึงดาวเกษตรเจ้าเรือนภพสหัชชะว่าคือดาวอะไร เป็นดาวบาป
พระเคราะห์หรือศุภเคราะห์ ได้ตำแหน่งมาตรฐานอะไรทางโหราศาสตร์ และตามทักษานัน้ ได้ตำแหน่งเป็นอะไร

ภพที่ ๔ พันธุภพ
ภพที่ ๔ หรือเรือนที่ ๔ ใช้ดบู น้ั ปลายในชีวติ หรือหลุมฝังศพของเจ้าชะตาก็ได้ ศัตรูลบั ๆ อุปสรรคที่
ขัดขวาง ความสำเร็จของลูกคนที่ ๑ สามารถวิเคราะห์ถงึ หน้าทีก่ ารงานและเกียรติยศชือ่ เสียงของลูกคนที่ ๒
ได้ ภพพันธุสามารถดูคสู่ ญ ั ญาและหุน้ ส่วนของบิดาได้ สามารถดูภรรยาคนที่ ๒ ของพ่อเราได้ สามารถดูลาภผล
รายได้ของศัตรูคอู่ ริได้ แต่โดยสรุปรวมเท่าทีผ่ มดูดวงมาผมก็ใช้เรือ่ งบางเรือ่ ง ผมกำลังบอกว่าวิธกี ารดูของโหร
สามารถดูได้ลกึ ขนาดนัน้ แต่ทใ่ี ช้เป็นประจำใช้ไม่ครบ หลักก็คอื เรือ่ งของทีอ่ ยู่ บ้านจะเป็นอย่างไร เรือ่ งของรถยนต์
เรือ่ งของทรัพย์สนิ ทีม่ คี า่ ถ้าภพกฎุมภะ แปลว่าเงินทีม่ สี ภาพคล่องมาก ถ้าเป็นภพพันธุ สภาพคล่องจะน้อย เช่น
บ้าน รถยนต์ เป็นทรัพย์สนิ ทีเ่ ป็นของหนักของใหญ่ เคลือ่ นทีย่ ากมีสภาพคล่องน้อยทีจ่ ะผันเป็นเงินหรือจะจับจ่าย
ใช้สอยนัน่ คือดูในภพพันธุ

ภพที่ ๕ ปุตตะภพ
ภพที่ ๕ หรือเรือนที่ ๕ ก็คอื ภพปุตตะ แปลว่าบุตรหรือบริวาร สิง่ ทีผ่ มใช้ได้ผลคือ อ.พัฒนา ให้ความหมาย
ของภพปุตตะว่า Project หรือโครงการความคิดของเจ้าชะตา มีความหมายถึงความผูกพันร้อยรัก และยังหมายถึง
บุตรธิดา ความรักในวัยรุน่ การพนันและการเสีย่ งโชค ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน ความรอบรูเ้ ฉลียวฉลาด
โรงเรียน สถานศึกษา เงินทองทรัพย์สนิ ยวดยานพาหนะ ทรัพย์สมบัตขิ องมารดาในชะตาชายได้ ยกตัวอย่าง
ผูห้ ญิงมาดูวา่ จะแต่งงานกับผูช้ ายคนนี้ ทรัพย์สมบัตทิ างแม่ของผูช้ ายหรือสามีคนนีจ้ ะมีเยอะไหม ก็ดจู ากภพปุตตะ
ของสามี และสามารถดูเรือ่ งทรัพย์สนิ เงินทองของบิดาในชะตาหญิง สามารถดูนสิ ยั ใจคอความเป็นอยูข่ องลูกคนที่
๑ ได้ ดูเรือ่ งรายได้ฐานะของลูกคนที่ ๒ ได้ สามารถดูลกู เขยได้หรือลูกสะใภ้ของลูกคนที่ ๔ ได้ สามารถดูคคู่ รอง
ั ญาค้าขาย หุน้ ส่วนทีร่ ว่ มกันของเพือ่ นบ้านใกล้เรือนเคียงทีไ่ ปมาหาสูเ่ สมอได้
คูส่ ญ
สิง่ ทีเ่ ป็นประสบการณ์ทผ่ี มใช้ในการดูภพปุตตะ คือเรือ่ งเกีย่ วกับบริวาร ดูทกั ษาประกอบด้วย ให้ดวู า่ เกิดวัน
อะไร ดาวนัน้ ถือเป็นบริวาร ดาวบริวารไปอยูภ่ พไหน

ภพที่ ๖ อริภพ
ภพที่ ๖ หรือเรือนที่ ๖ คือภพอริ หรือศัตรู หมายถึงอุปสรรคทีข่ ดั ขวางการดำเนินชีวติ สุขภาพอนามัย
การเจ็บไข้ได้ปว่ ยของเจ้าชะตา หลักทรัพย์ทด่ี นิ พาหนะทีห่ าได้เองของลูกคนที่ ๑ เท่าทีเ่ คยดูภพอริยงั หมายถึงศัตรู
อุปสรรค และเรือ่ งของคูแ่ ข่งตลอดจนสุขภาพ แล้วทีผ่ มสังเกตดวงชะตาทีม่ ดี าวใหญ่ๆ ทีอ่ ยูใ่ นภพอริจะต้องตีความ
ว่ามีการคิดโครงการใหญ่ นีเ่ ป็นเรือ่ งทีแ่ ปลก และในจังหวะทีด่ าวโคจรอยูใ่ นภพอริ เช่นดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์
คนนัน้ จะเริม่ คิดโครงการอะไรใหญ่ๆ ทีแ่ บบยากๆ เดินตรงไม่เดิน เดินทางอ้อม

23
ภพที่ ๗ ปัตนิภพ
ภพที่ ๗ หรือเรือนที่ ๗ คือภพปัตนิ หมายถึงคูค่ รอง คูส่ ญ ั ญา การแต่งงานของชายหญิง การร่วม
หุน้ ส่วนทำธุรกิจด้วยกัน สามารถดูได้ถงึ บ้านเรือนทีอ่ ยูอ่ าศัยของบิดาในชะตาผูห้ ญิง และสามารถดูบา้ นเรือนทีอ่ ยู่
อาศัยในชะตาของมารดาผูช้ าย สามารถดูลกู คนที่ ๒ ของเจ้าชะตา ดูถงึ กิจการงานเกียรติยศชือ่ เสียงของบิดาใน
ชะตาชายในภพปัตนิ เท่าทีผ่ มเคยดูกค็ อื เรือ่ งคูค่ รอง ทำหุน้ ส่วนกัน แต่เวลาคนถามว่าแล้วคนทีร่ าศีตรงกันเป็น
คูค่ รองกันหรือไม่ ผมบอกว่าเป็นราศีทเ่ี ห็นกันแล้วอาจจะชอบกันแต่จะเป็นคูค่ รองกันหรือไม่นน้ั ต้องดูดาวอืน่ ประกอบ
เช่น ถ้าคนเรามีดาวอาทิตย์ถงึ กัน ได้ตำแหน่งระดับเดียวกัน มักให้เกียรติกนั เข้าใจในเรือ่ งเกียรติยศศักดิศ์ รีซง่ึ กัน
และกัน ถ้าพระจันทร์ถึงกัน อารมณ์จะคล้อยตามกัน เข้าใจในจิตใจและความรู้สึก ถ้าดาวพุธถึงกัน
จะเป็นลักษณะพูดจาทันกัน ดาวพฤหัสบดีถงึ กันคือปัญญาจะใกล้เคียงกันเท่าเทียมกัน ถ้าดาวศุกร์ถงึ กันก็คอื เรือ่ ง
โลกีย์ เรือ่ งความใคร่ถงึ กันคล้ายกัน นีค่ อื ดูดาวทีส่ มั พันธ์กนั เพราะฉะนัน้ การดูคคู่ รองในเรือนปัตนิในส่วนทีจ่ ะใช้มาก
คือดูลกั ษณะอันแท้จริงของคูค่ รองว่ามีนสิ ยั เป็นอย่างไร

ภพที่ ๘ มรณะภพ
ภพที่ ๘ หรือเรือนที่ ๘ คือภพมรณะ หมายถึงภพทีแ่ สดงถึงความตาย และจุดเปราะในร่างกาย เช่นจุดนัน้
เป็นจุดอ่อนของร่างกาย อย่างทีผ่ มเคยพบเคยประสบ ถ้าภพอริเป็นอุบตั เิ หตุ เป็นการเจ็บไข้ได้ปว่ ย แต่เป็นวิบาก
กรรมเดิม แต่ถา้ มีดาวสถิต อยูใ่ นภพมรณะ เป็นวิบากกรรมทีจ่ ะทำให้เกิดการเจ็บป่วย แต่รนุ แรงกว่าอริหลายเท่า
อริอาจจะแค่เจ็บคอหรือว่าปวดหัวเป็นไมเกรน แต่ถา้ มรณะอาจถึงเส้นเลือดในสมองแตก อะไรแบบนี้ จะแรงกว่า
หลายเท่า
ข้อดีอาจจะหมายถึงมรดกตกทอดของปูย่ า่ ตายาย ส่วนผมมีดาวเสาร์อยูใ่ นภพมรณะ มีคนบอกว่า ต้องได้
มรดกจากปูย่ า่ ตายาย ผมก็มานึกดูผมก็ได้เหมือนกัน เรือ่ งปากเสียนีไ่ ด้มาจากปู่ เป็นมรดกในสิง่ ทีไ่ ม่ปรารถนา
ไม่เห็นได้ทด่ี นิ หลักทรัพย์หลักฐานอะไรเลย และอาจจะหมายถึงศัตรู อุปสรรค สุขภาพ และโรคภัยไข้เจ็บของเพือ่ นฝูง
มิตรสหายและญาติพน่ี อ้ งร่วมท้องกับเจ้าชะตา การใส่ความ การใส่รา้ ยป้ายสีให้เสียชือ่ เสียง เพราะฉะนัน้ ท่าน
สังเกต ถ้าผูห้ ญิงคนไหนมีดาวอยูใ่ นภพมรณะ มักจะมีโรคภัยไข้เจ็บทีเ่ กีย่ วกับมดลูก ต้องมีอะไรสักอย่างทีเ่ กีย่ วข้อง
กับตรงนี้ แต่ผชู้ าย ผมไม่รจู้ ะทายอย่างไร ทายยากเหมือนกัน ถ้าผูช้ ายมีดาวบาปพระเคราะห์อยูใ่ นภพมรณะ
ส่วนมากถ้ามีดาวไม่ดอี ยู่ เช่น ดาวทีเ่ สือ่ มๆ ดาวทีเ่ สีย ดาวกาลี เขาบอกอย่าเทีย่ วซุกซนมาก อย่าเทีย่ วกลางคืน
ทีต่ อ้ งไปยุง่ สัมพันธ์กบั ผูห้ ญิงขายบริการจะมีปญ
ั หา
ผมถึงบอกง่ายๆ ว่าดาวไม่มอี ะไรทีจ่ ะเป็นแบบอย่างทีว่ า่ ต้องเป็นอย่างนัน้ ต้องเป็นอย่างนี้ ถ้าเป็น
อย่างนัน้ ท่านไม่ตอ้ งทำอะไรแล้วเพียงแต่ทา่ นศึกษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แล้วก็ให้ใครสักคนมาประมวลทัง้ หมด
แล้วก็กดออกมาเป็นข้อมูล แต่เรือ่ งการพยากรณ์ดวงชะตาเป็นเรือ่ งศาสตร์ คือความรูท้ ไ่ี ด้เรียน ศิลป์ คือศิลปะ
ในการเรียนรู้ ในการพูดและการขยายความ ต้องรูเ้ รือ่ งศาสนา เศรษฐกิจ สังคม ประเพณี วัฒนธรรม

ภพที่ ๙ ศุภะภพ
ภพที่ ๙ หรือเรือนที่ ๙ คือภพศุภะ ใครจะเป็นคนดีหรือไม่ดใี ห้ดทู ภ่ี พศุภะ ภพศุภะจึงหมายถึงคุณงาม
ความดีทง้ั หลาย และยังหมายถึงเป้าหมายแห่งชีวติ ความมีสง่าราศี มงคลต่างๆ ความเมตตา ความเอือ้ เฟือ้ เผือ่ แผ่
24
ความกรุณาสงสาร การบำเพ็ญกุศล ถือศีลกินเจ การฟังเทศน์ฟงั ธรรม การยกย่องสรรเสริญ การเลือ่ นฐานะ
ตำแหน่งหน้าทีก่ ารงานและเงินเดือน อาจจะหมายถึงเพือ่ นฝูงมิตรสหายของภรรยาในชะตาชาย อาจจะหมายถึง
เพือ่ นฝูงมิตรสหายของสามีในชะตาหญิง ดูได้ถงึ อุปสรรค ศัตรู โรคภัยไข้เจ็บของมารดาในชะตาชาย และการเขียน
การประพันธ์ การพิมพ์หนังสือ

ภพที่ ๑๐ กัมมะภพ
ภพที่ ๑๐ หรือเรือนที่ ๑๐ คือภพกัมมะ หมายถึงหน้าทีก่ ารงานหรืออาชีพของเจ้าชะตา เครดิต ความ
เชือ่ ถือทีบ่ คุ คลอืน่ ๆ มีตอ่ ตัวท่าน อาจจะหมายถึงบิดาของเจ้าชะตาชาย มารดาของภรรยาเจ้าชะตา หมายถึง
บิดาของสามีในชะตาหญิง ศัตรูอปุ สรรค โรคภัยไข้เจ็บ และการเจ็บป่วยของลูกคนที่ ๑ และยังหมายถึง นายจ้าง
ผูบ้ งั คับบัญชา ผูม้ อี ำนาจเหนือกว่าเจ้าชะตา ญาติพน่ี อ้ งวงศ์ตระกูลของคูค่ รองของเจ้าชะตา
เวลามีคนมาถามว่างานทีเ่ หมาะสมกับดวงชะตานีค้ อื อะไร ดวงชะตานีท้ ำงานอะไร การทายดวงตอนนี้
จะทายยาก ถ้าเราระบุเรือ่ งงานจะทายผิด เพราะแค่หมอยังมีสารพัดหมอ เพราะฉะนัน้ ควรจะเอาขอบเขตของ
งานจากดาว ควรจะทายขอบเขตของงานจากทฤษฎี คุณอาจจะทำงานตรงหรือไม่ตรงกับดวงก็ได้ เพราะบาง
คนก็เดินทางอ้อม ชีวติ นีม้ ะงุมมะงาหรา ทำอะไรก็ไม่รไู้ ม่ประสบความสำเร็จ ทำไปวันๆ อย่างนัน้ คุณอาจจะ
เป็นคนในทำนองนี้ก็ได้ ซึ่งผมอาจทายไม่ถูกในความเป็นจริงของคุณ แต่ทายถูกที่ดวงของคุณควรจะเป็น
เพราะฉะนั้นผมจะไม่ทายว่าคุณทำงานอะไรอยู่ แต่ผมจะทายว่าดวงชะตาของคุณเหมาะกับการทำงานอะไร
ผมกำลังจะอธิบายว่าให้ดูดาวเกษตรเจ้าเรือนการงานเป็นหลัก อันนี้คืองานที่ชัดเจนมาก แต่ดาวที่จะเกลา
ให้ไปเป็นอย่างอืน่ เพราะอาจจะมีดาวพฤหัสบดีอยูใ่ นเรือนการงาน ซึง่ เป็นดาวทีม่ าเกลาจากเดิมทีเ่ ป็นอยู่ แต่เดิมคือ
ต้องดูเกษตรเจ้าเรือนกัมมะ ส่วนดาวทีไ่ ปสถิตในเรือนกัมมะในวันทีเ่ กิดนัน้ เป็นดาวทีท่ ายขึน้ ไปอีกขัน้ หนึง่

ภพที่ ๑๑ ลาภภพ
ภพที่ ๑๑ หรือเรือนที่ ๑๑ คือภพลาภะ แปลว่าโชคลาภและความสำเร็จ และยังหมายถึงเพือ่ นบ้าน
เรือนเคียงก็ได้ ทีป่ รึกษา ผูท้ ใ่ี ห้คำแนะนำกับเราได้ การเสีย่ งโชค การเล่นพนัน เงินทอง ทรัพย์สมบัตทิ ห่ี าด้วย
ตนเองของบิดาในชะตาชายหรือของมารดาของภรรยา และหมายความถึงลูกของภรรยาทีต่ ดิ มาด้วยหรือลูกของ
สามีทต่ี ดิ มาด้วยเช่นเดียวกัน ในประสบการณ์ของผม เรือ่ งราวในภพลาภะมักจะเป็นลาภทีเ่ กิดขึน้ โดยทีไ่ ม่ได้เกิด
จากการลงทุนลงแรงเท่าไรนัก คือเกิดอย่างนึกไม่ถงึ แต่ตอ้ งดูดว้ ยว่าภพลาภะนัน้ มีดาวอะไรสถิตอยู่ เช่น ถ้าเป็น
ดาวบาปพระเคราะห์ ลาภนัน้ มักเป็นทุกข์ลาภ ถ้าเป็นดาวศุภเคราะห์ ลาภนัน้ จะเกิดขึน้ โดยทีเ่ ป็นลาภผลจริงๆ
สิง่ ทีเ่ กิดขึน้ ก็จะเกิดขึน้ แบบง่ายๆ แล้วก็เป็นโอกาสดีๆ ลาภะอาจจะแสดงว่าผมรูจ้ กั คุณมนตรี แล้วก็เป็นมิตรทีด่ ี
เป็นผูใ้ หญ่ทใ่ี ห้คำแนะนำ นีก่ ล็ าภะแล้ว เพราะฉะนัน้ ลาภะของคนเรา อย่าไปตีความหมายเฉพาะเรือ่ งเงิน ต้องตี
ความทีค่ วามรู้ ตีความทีR่ elationship ทีค่ วามสัมพันธ์ ทีม่ ติ รภาพ ได้ความรู้ ได้มติ ร ได้โอกาสดีๆ ส่วนอวัยวะ
ของร่างกาย คือ ข้อเท้า ขา น่อง ตาตุม่

25
ภพที่ ๑๒ วินาศนะภพ
ภพที่ ๑๒ หรือเรือนที่ ๑๒ คือภพวินาศ หมายถึงความวิบตั ฉิ บิ หาย การสูญสิน้ การกักขังหน่วง
เหนีย่ ว การซุกซ่อนปิดบัง คนชอบทายเรือ่ งวินาศเป็นเรือ่ งไม่ดี ผมไม่รเู้ ป็นอะไรถ้ามีดาวในภพวินาศ หรือเห็น
ดาวอะไรโคจรอยูใ่ นภพวินาศ ผมมักจะทายดีๆ ส่วนอ.พัฒนา และอ.วิกรมเคยบอกว่า ภพวินาศสามารถนำมา
ใช้วางฤกษ์ได้ เขาห้ามให้ฤกษ์อริ มรณะ แต่วนิ าศให้ได้ เพราะวินาศแล้วมาตนุ แปลว่าเป็นสิง่ ทีห่ นุนการเกิด นีค่ อื
สิง่ ทีผ่ มรูส้ กึ ว่าใช่ ทำไมคนจะต้องมาตีความวินาศเป็นความวิบตั ฉิ บิ หาย การสูญสิน้ การทำลาย ทำไมไม่แปลว่า
ถ้าไม่มวี นิ าศจะมีการเกิดขึน้ ใหม่หรือ คือเมือ่ วินาศแล้วมาตนุ แสดงว่าต้องมีการจบสิน้ อย่างหนึง่ เพือ่ เกิดอย่าง
หนึง่ ขึน้ ใหม่ เพราะฉะนัน้ วินาศ แปลว่าสนับสนุนก็ได้ อยูเ่ บือ้ งหลังสิง่ ทีเ่ ป็นความลับทีไ่ ม่ตอ้ งเปิดเผย การได้รบั การ
สนับสนุนจากบางคนที่ไม่เปิดเผย การคิดค้น การค้นคว้าในเรื่องที่เป็นเรื่องเร้นลับ และวินาศยังแปล
ว่าสิง่ ทีอ่ ยูเ่ บือ้ งหลังของความรักทีไ่ ม่เปิดเผย คำตอบทีต่ อ้ งการ ตีความในลักษณะนีก้ ไ็ ด้
ผมมีความรูส้ กึ อย่างนีใ้ นประสบการณ์ทด่ี มู า หรืออาจจะเป็นเพราะวงรอบของชีวติ ผมในขณะทีเ่ ป็นโหร
ยังไม่เห็นจังหวะทีด่ าวศุภเคราะห์ดๆี เช่นดาวพฤหัสบดีไปเป็นวินาศลัคน์ ผมยังไม่ถงึ จุดนัน้ เพราะฉะนัน้ ในจังหวะที่
ดาวโคจรเข้าเรือนวินาศต้องดูให้ดใี นเรือ่ งของการตีความ ไม่ใช่ดาวทุกดวงอยูว่ นิ าศแล้วไม่ดหี มด ผมอยากเน้น
ให้ทา่ นเข้าใจธาตุของดาว ถ้าธาตุของดาวทีม่ ไี ฟ ดิน ลม น้ำ แล้วพิจารณาเป็นประเด็นๆ ดังนี้
๑. ถ้าใครอยูร่ าศีไหนต้องดูวา่ ดาวทีโ่ คจรเข้าเรือนวินาศเป็นธาตุอะไร เป็นธาตุเดียวกับดาวเจ้าเรือนหรือไม่
เช่น ในปี ๓๙-๔๐ ดาวพฤหัสบดีโคจรมาเป็นวินาศกับดวงเมือง ในช่วงนัน้ ก็ไม่ดจี ริงๆ ผูใ้ หญ่ไม่เป็นผูใ้ หญ่
การวางแผนบริหาร การแก้ไขไม่เป็นไปตามผลทีค่ วรจะได้
๒. เรีอนวินาศเป็นราศีธาตุอะไร แล้วมีดาวธาตุเดียวกันโคจรมาอยูใ่ นมุมวินาศ น่าจะเป็นเรือ่ งเสียมาก
กว่าเรื่องดี คือถ้าดาวไหนไปอยู่ในมุมวินาศและเป็นธาตุเดียวกับราศีนั้นมักจะไม่ดี ต้องนำมาผสมใน
การพยากรณ์ดว้ ย นีค่ อื ข้อสังเกต
วินาศอาจจะหมายถึงญาติพน่ี อ้ ง เพือ่ นพ้องของบิดาในชะตาชาย หรือญาติพน่ี อ้ งของมารดา ภรรยา
หรือสามีกไ็ ด้ อันนีแ่ ปลก บาปกรรมหรือนรกสวรรค์ทเ่ี จ้าชะตาชายได้รบั การล้มละลาย การหมดสิน้ การพินาศ
ย่อยยับ การเจ็บป่วย อุบตั เิ หตุ การตายจากของลูกคนที่ ๑ ส่วนของร่างกาย ก็คอื เท้า ข้อเท้า ฝ่าเท้า นิว้ เท้า
เพราะฉะนัน้ ทัง้ หมดนีท้ า่ นพยายามจำให้ได้ ตนุ กดุมภะ สหัชชะ พันธุ ปุตตะ อริ ปัตนิ มรณะ ศุภะ
กัมมะ ลาภะ วินาศนะ และดาวอาทิตย์ ดาวจันทร์ ดาวอังคาร ดาวพุธ ดาวพฤหัส ดาวศุกร์ ดาวเสาร์ ดาวราหู
ดาวเกตุ ดาวมฤตยู ทีผ่ มเคยสอน ท่านต้องไปทำความเข้าใจ จดจำความหมายให้ได้ เพือ่ ทีจ่ ะใช้ในบทต่อๆ ไป

26

You might also like