You are on page 1of 13

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การสืบพันธุแ์ ละการเจริญเติบโตของสัตว์

แผนฯ ที่ 2 การสืบพันธุ์ของมนุษย์

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2
การสืบพันธุ์ของมนุษย์
เวลา 5 ชั่วโมง
1. ผลการเรียนรู้
2. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศชายและระบบสืบพันธุ์เพศหญิง
3. อธิบายกระบวนการสร้างสเปิร์ม กระบวนการสร้างเซลล์ไข่ และการปฏิสนธิในมนุษย์

2. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะสืบพันธุ์ในระบบสืบพันธุ์เพศชายและระบบสืบพันธุ์เพศหญิง
(K)
2. อธิบายกระบวนการสร้างสเปิร์มและกระบวนการสร้างเซลล์ไข่ (K)
3. ระบุชื่อของเซลล์ระยะต่าง ๆ ในรังไข่และอัณฑะจากการศึกษาภายใต้กล้องจุลทรรศน์ (P)
4. ใช้กล้องจุลทรรศน์ในการศึกษาได้อย่างถูกต้อง (P)
5. สนใจใฝ่รู้ในการศึกษาและมุ่งมั่นในการทางาน (A)

3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น
- การสื บ พั น ธุ์ ข องมนุ ษ ย์ มี ก ระบวนการสร้ า ง พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา
สเปิ ร์ ม จากเซลล์ ส เปอร์ ม าโทโกเนี ย มภายใน
อั ณ ฑะ และกระบวนการสร้ า งเซลล์ ไ ข่ จ าก
เซลล์โอโอโกเนียมภายในรังไข่
- อวัยวะสืบพันธุ์ของเพศชายประกอบด้วยอัณฑะ
ทาหน้าที่สร้างสเปิร์มและฮอร์โมนเพศชาย และ
มี โ ครงสร้ า งอื่ น ๆ ที่ ท าหน้ า ที่ ล าเลี ย งสเปิ ร์ ม
สร้ า งน้ าเลี้ ย งสเปิ ร์ ม และสารหล่ อ ลื่ น ท่ อ
ปัสสาวะ
- อั ณ ฑะประกอบด้ ว ยหลอดสร้ า งสเปิ ร์ ม ซึ่ ง
ภายในมีเซลล์ ส เปอร์ มาโทโกเนี ย มที่เป็นเซลล์
ตั้งต้นของกระบวนการสร้างสเปิร์ม
- อวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิงประกอบด้วยรังไข่
ท่อนาไข่ มดลูก และช่องคลอด รั งไข่ทาหน้าที่
สร้างเซลล์ไข่และฮอร์โมนเพศหญิง
28
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การสืบพันธุแ์ ละการเจริญเติบโตของสัตว์
แผนฯ ที่ 2 การสืบพันธุ์ของมนุษย์

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น
- กระบวนการสร้ า งสเปิ ร์ ม เริ่ ม ต้ น จากสเปอร์ - พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา
มาโทโกเนียมแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสได้สเปอร์ -
มาโทโกเนี ย มจ านวนมาก ซึ่ ง ต่ อ มาบางเซลล์
พั ฒ นาเป็ น สเปอร์ ม าโทไซต์ ร ะยะแรก โดย
สเปอร์ ม าโทไซต์ ร ะยะแรกจะแบ่ ง เซลล์ แ บบ
ไมโอซิส I ได้สเปอร์มาโทไซต์ระยะที่สองซึ่งจะ
แบ่ ง เซลล์ แ บบไมโอซิ ส II ได้ ส เปอร์ ม าทิ ด
ตามลาดับ จากนั้นพัฒนาเป็นสเปิร์ม
- กระบวนการสร้างเซลล์ไข่เริ่มจากโอโอโกเนีย ม
แบ่ ง เซลล์ แ บบไมโทซิ ส ได้ โ อโอโกเนี ย มซึ่ ง จะ
พัฒ นาเป็ น โอโอไซต์ ร ะยะแรก แล้ ว แบ่ ง เซลล์
แบบไมโอซิส I ได้โอโอไซต์ระยะที่สองซึ่งจะเกิด
การตกไข่ต่อไป เมื่อได้รับการกระตุ้นจากสเปิร์ม
โอโอไซต์ระยะที่สองจะแบ่งแบบไมโอซิส II แล้ว
พัฒนาเป็นเซลล์ไข่
- การปฏิสนธิเกิดขึ้นภายในท่อนาไข่ได้ไซโกตซึ่งจะ
เจริ ญ เป็ น เอ็ ม บริ โ อและไปฝั ง ตั ว ที่ ผ นั ง มดลู ก
จนกระทั่งครบกาหนดคลอด

4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
มนุษย์มีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศและมีการปฏิสนธิภายในร่างกาย เพศผู้สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้
เรียกว่า สเปิร์ม เพศเมียสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย เรียกว่า เซลลไข เมื่อสเปิร์มเข้าผสมกับเซลล์ไข่ใน
ร่างกายเพศเมียจะเกิดการปฏิสนธิได้เป็นไซโกต ซึ่งจะแบ่งเซลล์ เพิ่มจานวนและพัฒนาเป็นเอ็มบริโอ และ
เจริญเติบโตเป็นทารก เด็ก และผู้ใหญ่ต่อไป
อวัยวะในระบบสืบ พันธุ์เพศชายประกอบด้ว ยอัณฑะทาหน้าที่ผ ลิต ฮอร์โมนเพศชายและเซลล์
สืบพันธุ์เพศชาย ถุงอัณฑะทาหน้าที่ห่อหุ้ม อัณฑะและปรับอุณหภูมิของอัณฑะ หลอดเก็บสเปิร์มทาหน้าที่
เก็บสเปิร์มที่สร้างมาจากอัณฑะจนกว่าจะเจริญเต็มที่ หลอดนาสเปิร์มทาหน้าที่เป็นทางผ่านของสเปิร์มออก
สู่ ภ ายนอกร่ า งกาย ต่ อ มสรางน้ า เลี้ ย งสเปิ ร์ ม ท าหน้ า ที่ ส ร้ า งน้ าเลี้ ย งสเปิ ร์ ม ที่ มี ส ภาพเป็ น เบสอ่ อ นๆ
ต่อมลูกหมากทาหน้าที่สร้างสารที่มีสภาพเป็นเบสเพื่อหล่อเลี้ยงสเปิร์มและลดความเป็นกรดในช่องคลอด
ของเพศหญิง ตอมคาวเปอรทาหน้าทีส่ ร้างสารเมือกทีม่ ีสภาพเป็นเบสเพื่อช่วยหล่อลื่นและลดความเป็นกรด
ในท่อปัสสาวะ และองคชาตเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกร่างกาย

29
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การสืบพันธุแ์ ละการเจริญเติบโตของสัตว์
แผนฯ ที่ 2 การสืบพันธุ์ของมนุษย์

กระบวนการสร้างสเปิร์มเกิดภายในผนังของหลอดสร้างสเปิร์มที่อยู่ในอัณฑะ เริ่มจากสเปอร์ -
มาโทโกเนี ย มแบ่ งเซลล์ แบบไมโทซิส ได้ส เปอร์มาโทโกเนี ยมจานวนมาก บางเซลล์ พัฒ นาเป็นสเปอร์ -
มาโทไซต์ระยะแรก (2n) และแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส I ได้สเปอร์มาโทไซต์ระยะที่สอง 2 เซลล์ (n) และแบ่ง
เซลล์แบบไมโอซิส II ได้สเปอร์มาทิด 4 เซลล์ (n) และเปลี่ยนแปลงรูปร่างและพัฒนาเป็นสปอร์มาโทซัวหรือ
สเปิร์ม
อวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ประกอบด้วยรังไข่ทาหน้าที่ผลิตเซลล์ไข่และฮอร์โมนเพศหญิง
ท่อนาไข่ทาหน้าที่เป็นทางผ่านของเซลล์ไข่ที่ออกจากรังไข่เข้าสู่มดลูกและเป็นบริเวณที่ สเปิร์มปฏิสนธิกับ
เซลล์ไข่ มดลูกทาหน้าที่เป็นที่ฝังตัวของเซลล์ไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิและเป็นที่เจริญเติบโตของทารกในครรภ์
และช่องคลอดทาหน้าที่เป็นทางผ่านของสเปิร์มเข้าสู่มดลูกและเป็นทางออกของทารกเมื่อครบกาหนด
คลอด
กระบวนการสร้างเซลล์ไข่เกิดภายในรังไข่ เริ่มจากโอโอโกเนียม (n) ที่อยู่ในรังไข่ตั้งแต่เป็นทารกใน
ครรภ์ แบ่งเซลล์แบบไมโทซิสได้เซลล์ใหม่จานวนมาก เซลล์ส่วนหนึ่งพัฒนาเป็นโอโอไซต์ระยะแรก (2n) ที่
ถูกล้อมรอบด้วยฟอลลิเคิล เมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ แต่ละรอบเดือนโอโอไซต์ระยะแรกบางเซลล์ถูกกระตุ้นให้
แบ่งเซลล์ไมโอซิส I ได้เป็นโอโอไซต์ระยะที่สอง 1 เซลล์ (n) และโพลาร์บอดี 1 เซลล์ (n) จากนั้นโอโอไซต์
ระยะที่สองถูกกระตุ้นให้ตกเข้าสู่ท่อนาไข่ และฟอลลิเคิลจะเจริญเป็นคอร์ปัสลูเทียม
การปฏิสนธิและการตั้งครรภ์ เมื่อสเปิร์มเข้าสู่ช่องคลอดของเพศหญิงในช่วงเวลาที่มีการตกไข่เคลื่อนที่
ไปปฏิสนธิกับเซลล์ไข่บริเวณท่อนาไข่ นิวเคลียสของสเปิร์มจะรวมกับนิวเคลียสของเซลล์ไข่เกิดเป็น ไซโกต
และแบ่งเซลล์เพิ่มจานวนและพัฒนาเป็นเอ็มบริโอเข้าไปฝังตัวที่ผนังมดลูก

5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินัย
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้
1) ทักษะการสังเกต 3. มุ่งมัน่ ในการทางาน
2) ทักษะการเปรียบเทียบ
3) ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. กิจกรรมการเรียนรู้
 แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : แบบเน้นมโนทัศน์ (Concept Based Teaching)

30
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การสืบพันธุแ์ ละการเจริญเติบโตของสัตว์
แผนฯ ที่ 2 การสืบพันธุ์ของมนุษย์

ชั่วโมงที่ 1-3
ขั้นนา
การใช้ความรู้เดิมเชื่อมโยงความรู้ใหม่ (Prior Knowledge)
1. ทบทวนความรู้ เรื่อง การสืบพันธุ์ ของมนุษย์ ที่นักเรียนได้ ศึกษามาในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นว่า “การ
สืบพันธุ์ของมนุษย์เป็นการสืบพันธุ์ แบบอาศัยเพศ โดยเพศผู้สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ จากอัณฑะ เรียกว่า
สเปิร์ม ส่วนเพศเมียสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย จากรังไข่ เรียกว่า เซลลไข เมื่อสเปิร์มเข้าผสมกับเซลล์ไข่
ภายในร่ า งกายเพศเมีย จะเกิดการปฏิ ส นธิ ได้เ ป็นไซโกต ซึ่ง จะแบ่งเซลล์ เ พิ่มจ านวนและพัฒ นาเป็ น
เอ็มบริโอ และเจริญเติบโตเป็นทารก เด็ก และผู้ใหญ่ต่อไป”
2. ถามคาถามทบทวนความรู้เดิมกับนักเรียน ดังนี้
- การสืบพันธุ์ของมนุษย์เหมือนหรือแตกต่างจากการสืบพันธุ์ของสัตว์อย่างไร
(แนวตอบ: การสื บพั นธุ์ของมนุ ษย์ เป็ นการสื บพันธุ์แบบอาศัยเพศเหมือนของสั ตว์ มีกระดู กสั นหลั ง
ส่วนใหญ่ เพศผู้สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ คือ สเปิร์ม เพศเมียสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย คือ
เซลลไข่ และมีการปฏิสนธิภายในร่างกายเพศเมียเหมือนสัตว์มีกระดูกสันหลังบางชนิด)
- เซลล์สืบพันธุ์ของมนุษย์สร้างจากอวัยวะใด
(แนวตอบ : สเปิร์มสร้างจากอัณฑะ เซลล์ไข่สร้างจากรังไข่)

ขั้นสอน
รู้ (Knowing)
1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม ออกเป็น 5 กลุ่ม โดยนักเรียนแต่ละกลุ่มแบ่งหน้าที่กันไปศึกษาหัวข้อในฐานต่าง ๆ ดังนี้
- ฐานที่ 1 โครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศชาย
- ฐานที่ 2 โครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศหญิง
- ฐานที่ 3 กระบวนการสร้างสเปิร์ม
- ฐานที่ 4 กระบวนการสร้างเซลล์ไข่
- ฐานที่ 5 การปฏิสนธิและการตั้งครรภ์
โดยใช้แบบจาลองโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศชายและเพศหญิง และใช้วีดิทัศน์
แสดงกระบวนการสร้างสเปิร์ม กระบวนการสร้างเซลล์ไข่ การปฏิสนธิและการตั้งครรภ์ ตัวอย่างวีดิทัศน์ เช่น
- https://www.youtube.com/watch?v=-XQcnO4iX_U
- https://www.youtube.com/watch?v=m12xsf5g3Bo2
- https://www.youtube.com/watch?v=RFDatCchpus
- https://www.youtube.com/watch?v=63hFfJOJg9w
- https://www.youtube.com/watch?v=VmlcRqdDqH4
- https://www.youtube.com/watch?v=DGyRD9HnXVs

31
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การสืบพันธุแ์ ละการเจริญเติบโตของสัตว์
แผนฯ ที่ 2 การสืบพันธุ์ของมนุษย์

2. นักเรียนแต่ละคนที่ถูกแบ่งหน้าที่ไปศึกษาในฐานต่าง ๆ กลับมารวมกลุ่มของตนเอง แล้วร่วมกันอธิบาย


และวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ไปศึกษาในฐานต่าง ๆ
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มทากิจกรรม โครงสร้างภายในรังไข่และอัณฑะของหนู เพื่อระบุชื่อของเซลล์ในระยะ
ต่าง ๆ ของกระบวนการสร้างเซลล์ไข่และสเปิร์ม และเปรียบเทียบรูปร่างลักษณะของเซลล์ไข่และสเปิร์ม
จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน้า 13
4. ถามคาถามท้ายกิจกรรม โครงสร้างภายในรังไข่และอัณฑะของหนู กับนักเรียน ดังนี้
- บริเวณที่พบสเปอร์มาโทโกเนียมและสเปิร์มต่างกันหรือไม่ อย่างไร
(แนวตอบ: สเปอร์มาโทโกเนีย มจะพบบริเวณผนังด้านในของหลอดสร้างสเปิร์ม แต่ สเปิร์มจะพบ
บริเวณกลางของหลอดสร้างสเปิร์ม)
- นักเรียนทราบได้อย่างไรว่าเซลล์ใดเป็นเซลล์ไข่ที่สมบูรณ์พร้อมจะตกไข่
(แนวตอบ : เซลล์ไข่ที่สมบูรณ์จะมีขนาดใหญ่และอยู่ในฟอลลิเคิลที่มีขนาดใหญ่ที่สุด)
5. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายผลกิจกรรมเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า
- เมื่อส่ องสไลด์ถาวรภาคตัดขวางรั งไข่ของหนูจะพบเซลล์ ฟอลลิ เคิล ที่มีเซลล์ ไข่อยู่ภ ายใน และพบ
คอร์ปัสลูเทียมซึ่งเป็นโครงสร้างที่เปลี่ยนแปลงมาจากฟอลลิเคิลหลังการตกไข่

เซลล์ไข่
คอร์ปัสลูเทียม

ฟอลลิเคิล

∆ โครงสร้างภายในรังไข่
- เมื่อส่ องสไลด์ถาวรภาคตัดขวางอัณฑะของหนูจ ะพบสเปอร์มาโทโกเนียมซึ่ งอยู่ส่ ว นนอกสุ ดของ
หลอดสร้างสเปิร์ม ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นสเปอร์มาโทไซต์ และบริเวณกลางหลอดสร้างสเปิร์มจะ
เป็นสเปอร์มาทิดซึ่งจะพัฒนาเป็นเสปิร์มต่อไป
สเปอร์มาโทโกเนียม
สเปอร์มาโทไซต์
สเปอร์มาทิด

∆ โครงสร้างภายในอัณฑะ
6. นักเรียนทาใบงานที่ 1.1 เรื่อง การสร้างสเปิร์มและเซลล์ไข่
32
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การสืบพันธุแ์ ละการเจริญเติบโตของสัตว์
แผนฯ ที่ 2 การสืบพันธุ์ของมนุษย์

ชั่วโมงที่ 4-5
เข้าใจ (Understanding)
7. นักเรียนแต่ละกลุ่มจับสลากเลือกหัวข้อที่ศึกษาเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ของมนุษย์ ดังนี้
- หมายเลข 1 โครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศชาย
- หมายเลข 2 โครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศหญิง
- หมายเลข 3 กระบวนการสร้างสเปิร์ม
- หมายเลข 4 กระบวนการสร้างเซลล์ไข่
- หมายเลข 5 การปฏิสนธิและการตั้งครรภ์
นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันเขียนแผนภาพจากหัวข้อที่จับสลากได้ แล้วส่งตัวแทนกลุ่มนาเสนอหน้าชั้นเรียน
โดยระหว่างที่นักเรียนนาเสนอให้นักเรียนในชัน้ เรียนร่วมกันเสนอแนะ และครูคอยเพิ่มเติมประเด็นที่ขาดหายไป
8. ถามคาถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน เช่น
- น้าอสุจิมีองค์ประกอบใดบ้าง
(แนวตอบ: สเปิร์มและของเหลวที่สร้างจากต่อมน้้าเลี้ยงสเปิร์ม ต่อมลูกหมาก และต่อมคาวเปอร์)
- จานวนโครโมโซมที่พบในสเปอร์มาโทไซต์ระยะแรกและสเปอร์มาโทไซต์ระยะที่สองมีจานวนเท่ากัน
หรือไม่ อย่างไร
(แนวตอบ: แตกต่างกัน ในสเปอร์มาโทไซต์ระยะแรกมีโครโมโซมเป็น 2n ส่วนสเปอร์มาโทไซต์ระยะที่
สองเกิดจากการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส จึงมีโครโมโซมป็น n )
- หากมีสเปอร์มาโทไซต์ระยะแรก 250 เซลล์ จะสร้างสเปิร์มได้ทั้งหมดกี่เซลล์
(แนวตอบ: 1,000 เซลล์)
- ในกรณีทตี่ ่อมคาวเปอร์ทางานผิดปกติจะส่งผลต่อสเปิร์มอย่างไร
(แนวตอบ: สเปิร์มเคลื่อนที่ช้าลง เนื่องจากขาดสารหล่อลื่นที่สร้างจากต่อมคาวเปอร์)
- ลักษณะรูปร่างของสเปิร์มมีความเหมาะสมต่อการทาหน้าที่อย่างไร
(แนวตอบ: สเปิร์มมีรูปร่างแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนหัวมี ลักษณะกลมรีช่วยลดแรงเสียดทานขณะ
เคลื่อนที่ มีนิวเคลียสและถุงอะโครโซมซึ่งภายในมีเอนไซม์ส้าหรับย่อยเยื่อหุ้มเซลล์ไข่ ส่วน
ล้าตัวมีไมโทคอนเดรียท้าหน้าที่เป็นแหล่งสร้างพลังงานส้าหรับใช้เคลื่อนที่ และส่วนหาง
เป็นแฟลเจลลัมช่วยในการเคลื่อนที่ของสเปิร์ม)
- ในแต่ละรอบเดือน โอโอไซต์ที่พบในรังไข่ของเพศหญิงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
(แนวตอบ: ในรังไข่ของเพศหญิงจะประกอบด้วยโอโอไซต์ระยะแรกจ้านวนมาก เมื่อถูกกระตุ้นด้วย
FSH โอโอไซต์ระยะแรกบางเซลล์จะแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส I ได้โอโอไซต์ระยะที่สอง 1
เซลล์ และโพลาร์ บ อดี 1 เซลล์ โอโอไซต์ร ะยะที่ ส องจะแบ่ง เซลล์ แบบไมโอซิ ส II ได้
โอโอทิด 1 เซลล์ และโพลาร์ บ อดี 1 เซลล์ โอโอทิด จะพัฒ นาเป็ นโอวั มและตกเข้ า สู่
ท่อน้าไข่เพื่อไปปฏิสนธิกับสเปิร์มที่ผนังมดลูก)

33
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การสืบพันธุแ์ ละการเจริญเติบโตของสัตว์
แผนฯ ที่ 2 การสืบพันธุ์ของมนุษย์

- หากเพศหญิงมีโอโอไซต์ระยะแรก 100,00 เซลล์ จะสร้างเซลล์ไข่ได้ทั้งหมดกี่เซลล์


(แนวตอบ: 100,000 เซลล์)
- เพราะเหตุใด เซลล์ไข่ที่พบในเพศหญิงในช่วงวัยเจริญพันธุ์จึงมีจานวนน้อยกว่าโอโอไซต์ระยะแรก
(แนวตอบ: โดยปกติเพศหญิงจะเริ่มสร้างเซลล์ไข่ตั้งแต่อายุ 12-50 ปี ซึ่งจะสร้างเซลล์ไข่ได้เดือนละ
1 เซลล์ ดังนั้นจึงสร้างเซลล์ไข่ได้ประมาณ 450 เซลล์ ซึ่งโอโอไซต์ระยะแรกที่เหลือจะเริ่ม
ฝ่อตั้งแต่เริ่มกระบวนการสร้างเซลล์ไข่ ท้าให้ไม่สามารถแบ่งเซลล์เป็นเซลล์ไข่ได้ทั้งหมด)
- ลักษณะและกระบวนการสร้างเซลล์ไข่และสเปิร์มแตกต่างกัน อย่างไร
(แนวตอบ: เซลล์ไข่มีรูปร่างกลม มีขนาดใหญ่เพราะมีไ ซโทพลาซึมมากกว่าสเปิร์ม ซึ่งเซลล์ไข่จะถูก
สร้างครั้งละ 1 เซลล์ แต่สเปิร์มมีรูปร่างแบ่งเป็นส่วนหัว ส่วนล้าตัว และส่วนหาง มีขนาด
เล็กกว่าเซลล์ไข่ เพราะสลัดไซโทพลาซึมบางส่วนเพื่อลดขนาดของเซลล์ ซึ่งสามารถสร้าง
ได้ครั้งละ 300-500 ล้านเซลล์)
- เพราะเหตุใด สเปิร์มจึงมีโอกาสเข้าปฏิสนธิกับเซลล์ไข่ได้เพียง 1 เซลล์เท่านั้น
(แนวตอบ: เมื่อสเปิร์มเคลื่อนที่ไปถึงเซลล์ไข่จะปล่อยเอนไซม์จากถุงอะโครโซมออกมาย่อยสลายสาร
หุ้มเซลล์ไข่ แล้วจึงเคลื่อนที่ต่อไปถึงเยื่อหุ้มเซลล์ไข่ ซึ่งมี 2 ชั้น ได้แก่ เยื่อวิเทลลีนและ
เยื่ อหุ้ มเซลล์ หลั งจากนั้นสเปิร์มจะกระตุ้นเซลล์ ไข่ให้ ปล่ อยสารออกมาแทรกระหว่าง
เยื่อหุ้ม 2 ชั้นนี้ ท้าให้เยื่อวิเทลลีนแยกออกจากเยื่อหุ้มเซลล์ เกิดเป็นเยื่อหุ้มหลังการ
ปฏิ ส นธิ และผิ ว ของเซลล์ ไ ข่ จ ะหนาขึ้ น เพื่ อ ป้ อ งกั น ไม่ ใ ห้ ส เปิ ร์ ม เซลล์ อื่ น เข้ า ผสมกั บ
เซลล์ไข่)
9. นักเรียนจับคู่กับเพื่อนที่นั่งข้างกัน ศึกษาสถานการณ์ที่กาหนดให้ ในกิจกรรม Apply Your Knowledge
จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน้า 32 ร่วมกันวิเคราะห์และตอบ
คาถามในกรอบ Apply Your Knowledge ว่า “นักเรียนคิดว่าสามีภรรยาคู่นี้มีความผิดปกติของระบบ
สืบพันธุ์หรือไม่ อย่างไร และจะสามารถมีบุตรตามธรรมชาติได้หรือไม่ หากไม่สามารถแก้ไขได้จะมีวิธีการ
แก้ไขอย่างไร”
(แนวตอบ: สามีภรรยาคู่นี้มีความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ โดยสามีมีความผิดปกติในการสร้างสเปิร์ม
ซึ่งปกติควรสร้างได้ประมาณ 350-500 ล้านเซลล์ต่อการหลั่งน้้าอสจิ 1 ครั้ง ส่วนภรรยามี
ความผิดปกติในการสร้าง LH ซึ่งมีผลต่กการตกไข่เข้าสู่ท่อน้าไข่ ความผิดปกติเหล่านี้ท้าให้
สามีภรรยาคู่นี้ไม่สามารถมีบุตรตามธรรมชาติได้ ซึ่งอาจแก้ไขปัญหาการมีบุตรด้วยวิธีต่าง ๆ
เช่น การท้าทารกในหลอดแก้ว ( IVF) อิกซี (ICSI))
10. สุ่มเลือกนักเรียนอย่างน้อย 3 คู่ ออกมาเฉลยคาตอบในกรอบ Apply Your Knowledge ที่หน้าชั้นเรียน
โดยระหว่างที่นักเรียนนาเสนอให้นักเรียนในชั้นเรียนร่วมกันเสนอแนะ และครูคอยเพิ่มเติมประเด็นที่ขาด
หายไป
11. นักเรียนทา Topic Questions ท้ายหัวข้อ การสืบพันธุ์ จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน้า 16 โดยบันทึกลงในสมุดบันทึกของนักเรียน
34
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การสืบพันธุแ์ ละการเจริญเติบโตของสัตว์
แผนฯ ที่ 2 การสืบพันธุ์ของมนุษย์

12. นักเรี ยนทาแบบฝึกหัด เรื่อง การสืบ พันธุ์ของมนุษย์ ในแบบฝึกหัด รายวิช าเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และ


เทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 (อาจสั่งให้นักเรียนทาเป็นการบ้าน)

ลงมือทา (Doing)
13. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน สืบค้นข้อมูล เรื่อง ภาวะการมีบุตรยากที่เกิดจากความผิดปกติของ
ระบบสืบพันธุ์ และวิธีการแก้ปัญหาภาวะการมีบุตรยาก โดยจัดทาเป็นรูปเล่มรายงาน และนักเรียนแต่ละ
กลุ่มเลือกวิธีการแก้ปัญหาภาวะการมีบุตรยาก กลุ่มละ 1 วิธี มาจัดทาป้ายนิเทศเพื่อนาเสนอหน้าชั้นเรียน

ขั้นสรุป
1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ของมนุษย์เพื่อให้ได้ข้อสรุป ดังนี้
- ระบบสืบพันธุ์เพศชาย ประกอบด้วยอัณฑะทาหน้าที่ผลิตฮอร์โมนเพศชายและเซลล์สืบพันธุ์เพศ
ชาย ถุงหุ้มอัณฑะทาหน้าที่ห่อหุ้มอัณฑะและปรับอุณหภูมิของอัณฑะ หลอดเก็บสเปิร์มทาหน้าที่เก็บ
สเปิร์มที่สร้างมาจากอัณฑะจนกว่าสเปิร์มจะเจริญเต็มที่ หลอดนาสเปิร์มทาหน้าที่เป็นทางผ่านของ
สเปิร์มออกสู่ภายนอกร่างกาย ต่อมสรางน้าเลี้ยงสเปิร์มทาหน้าที่สร้างน้าเลี้ยงสเปิร์มที่มีสภาพเป็น
เบสอ่อน ๆ ต่อมลูกหมากทาหน้าที่สร้างสารที่มีสภาพเป็นเบสเพื่อหล่อเลี้ยงสเปิร์มและลดความเป็น
กรดในช่องคลอดของเพศหญิง ตอมคาวเปอรทาหน้าที่สร้างสารเมือกที่มีสภาพเป็นเบสเพื่อช่วยหล่อ
ลื่น และลดความเป็น กรดในท่อปั สสาวะ และองคชาตเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกร่างกาย โดย
กระบวนการสร้างสเปิร์มเกิดภายในผนังของหลอดสร้างสเปิร์มที่อยู่ในอัณฑะ เริ่มจากสเปอร์มาโท-
โกเนี ยมแบ่ งเซลล์ แบบไมโทซิส ได้สเปอร์มาโทโกเนียมจานวนมาก บางเซลล์ พัฒ นาเป็นสเปอร์ -
มาโทไซต์ระยะแรก (2n) และแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส I ได้สเปอร์มาโทไซต์ระยะที่สอง 2 เซลล์ (n)
และแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส II ได้สเปอร์มาทิด 4 เซลล์ (n) และเปลี่ยนแปลงรูปร่างและพัฒนาเป็น
สปอร์มาโทซัวหรือสเปิร์ม
- ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ประกอบด้วยรังไข่ทาหน้าที่ผลิตเซลล์ไข่และฮอร์โมนเพศหญิง ท่อนาไข่ทา
หน้าที่เป็นทางผ่านของเซลล์ไข่ที่ออกจากรังไข่เข้าสู่มดลูกและเป็นบริเวณที่สเปิร์มปฏิสนธิกับเซลล์ไข่
มดลูกทาหน้าที่เป็นที่ฝังตัวของเซลล์ไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิและเป็นที่เจริญเติบโตของทารกในครรภ์
และช่องคลอดทาหน้าที่เป็นทางผ่านของอสุจิเข้าสู่มดลูกและเป็นทางออกของทารกเมื่อครบกาหนด
คลอด กระบวนการสร้างเซลล์ไข่เกิดภายในรังไข่ เริ่มจากโอโอโกเนียม (n) ที่อยู่ในรังไข่ตั้งแต่เป็น
ทารกในครรภ์ แบ่งเซลล์แบบไมโทซิสได้เซลล์ใหม่จานวนมาก เซลล์ส่วนหนึ่งพัฒนาเป็นโอโอไซต์
ระยะแรก (2n) ที่ถูกล้อมรอบด้วยฟอลลิเคิล เมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ แต่ละรอบเดือนโอโอไซต์
ระยะแรกบางเซลล์ถูกกระตุ้นให้แบ่งเซลล์ไมโอซิส I ได้เป็นโอโอไซต์ระยะที่สอง 1 เซลล์ (n) และ
โพลาร์บอดี 1 เซลล์ (n) จากนั้นโอโอไซต์ระยะที่สองถูกกระตุ้นให้ตกเข้าสู่ท่อนาไข่ และฟอลลิเคิลจะ
เจริญเป็นคอร์ปัสลูเทียม

35
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การสืบพันธุแ์ ละการเจริญเติบโตของสัตว์
แผนฯ ที่ 2 การสืบพันธุ์ของมนุษย์

- การปฏิสนธิ และการตั้งครรภ์ เมื่อสเปิร์ม เข้าสู่ ช่องคลอดของเพศหญิงในช่ว งเวลาที่มีการตกไข่


เคลื่อนที่ไปปฏิสนธิกับเซลล์ไข่บริเวณท่อนาไข่ นิวเคลียสของสเปิร์มจะรวมกับนิวเคลียสของเซลล์ไข่
เกิดเป็นไซโกต แบ่งเซลล์เพิ่มจานวนและพัฒนาเป็นเอ็มบริโอเข้าไปฝังตัวที่ผนังมดลูก
2. นักเรียนเขียนสรุปในรูปแบบผังมโนทัศน์ เรื่อง การสืบพันธุ์ของมนุษย์ โดยอธิบายโครงสร้างอวัยวะใน
ระบบสืบพันธุ์เพศชายและอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศหญิง กระบวนการสร้างสเปิร์มและเซลล์ไข่ และ
การปฏิสนธิและการตั้งครรภ์ ลงในกระดาษ A4

ขั้นประเมิน
1. ประเมิ น ความรู้ เ กี่ย วกับ เรื่ อง การสื บ พัน ธุ์ข องมนุษ ย์ โดยสั งเกตพฤติ ก รรมการตอบค าถาม ตรวจ
แบบฝึกหัด ตรวจใบงาน ตรวจรายงาน และตรวจผังมโนทัศน์
2. ประเมิ น ทั ก ษะและกระบวนการ โดยสั ง เกตพฤติ ก รรมการท าปฏิ บั ติ ก ารในกิ จ กรรม การใช้ ก ล้ อ ง
จุลทรรศน์ในการศึกษา และการนาเสนอผลงาน
3. ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยสังเกตพฤติกรรมความสนใจใฝ่รู้ในการศึกษาและความมุ่งมั่นใน
การทางาน

7. การวัดและการประเมินผล
รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน
7.1 การประเมินระหว่าง
การจัดกิจกรรม
1) การสืบพันธุ์ของ - ตรวจใบงานที่ 1.1 - ใบงานที่ 1.1- ร้อยละ 60
มนุษย์ ผ่านเกณฑ์
- ตรวจ Topic Questions - Topic Questions - ร้อยละ 60
ผ่านเกณฑ์
- ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60
ผ่านเกณฑ์
- ตรวจรายงาน เรื่อง - แบบประเมินรายงาน - ระดับคุณภาพดี
ภาวะการมีบุตรยาก ผ่านเกณฑ์
- ตรวจผังมโนทัศน์ เรื่อง - แบบประเมิน - ระดับคุณภาพดี
การสืบพันธุ์ของมนุษย์ ผังมโนทัศน์ ผ่านเกณฑ์
2) การปฏิบัติการ - ประเมินการปฏิบัติการ - แบบประเมิน - ระดับคุณภาพดี
การปฏิบัติการ ผ่านเกณฑ์

36
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การสืบพันธุแ์ ละการเจริญเติบโตของสัตว์
แผนฯ ที่ 2 การสืบพันธุ์ของมนุษย์

รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน


3) การนาเสนอ - ประเมินการนาเสนอ - ผลงานที่นาเสนอ - ระดับคุณภาพดี
ผลงาน ผลงาน ผ่านเกณฑ์
4) พฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพดี
การทางาน การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
รายบุคคล
5) พฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพดี
การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
6) คุณลักษณะ - สังเกตความมีวินัย - แบบประเมิน - ระดับคุณภาพดี
อันพึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น คุณลักษณะ ผ่านเกณฑ์
ในการทางาน อันพึงประสงค์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้
ที่ 1 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์
2) แบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้
ที่ 1 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์
3) ใบงานที่ 1.1 เรื่อง การสร้างสเปิร์มและเซลล์ไข่
4) PowerPoint เรื่อง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์
5) QR Code เรื่อง กระบวนการสร้างสเปิร์ม สเปิร์ม มดลูกและรังไข่ และการตั้งครรภ์
6) แบบจาลองโครงสร้างของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศชายและเพศหญิง
7) วีดิทัศน์ เรื่อง กระบวนการสร้างสเปิร์ม กระบวนการสร้างเซลล์ไข่ และการปฏสนธิ
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรียน
2) ห้องสมุด
3) ห้องปฏิบัติการ
4) สื่ออิเล็กทรอนิกส์

37
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การสืบพันธุแ์ ละการเจริญเติบโตของสัตว์
แผนฯ ที่ 2 การสืบพันธุ์ของมนุษย์

ใบงานที่ 1.1
เรื่อง การสร้างสเปิร์มและเซลล์ไข่
คาชี้แจง : จงตอบคาถามต่อไปนี้
1. จากภาพสไลด์ถาวรที่กาหนดให้ จงระบุชื่อของเซลล์ให้ถูกต้อง

………………………………..
………………………………..

………………………………..

………………………………..
………………………………..

………………………………..

2. เปรียบเทียบสเปิร์มและเซลล์ไข่ในตารางให้ถูกต้อง
ข้อเปรียบเทียบ สเปิร์ม เซลล์ไข่

.............................................................. ..............................................................
ขนาด
............................................................. .............................................................
รูปร่าง .............................................................. ..............................................................

.............................................................. ..............................................................
กระบวนการสร้าง ............................................................. .............................................................
............................................................. .............................................................
จานวนโครโมโซม .............................................................. ..............................................................

38
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การสืบพันธุแ์ ละการเจริญเติบโตของสัตว์
แผนฯ ที่ 2 การสืบพันธุ์ของมนุษย์

ใบงานที่ 1.1 เฉลย


เรื่อง การสร้างสเปิร์มและเซลล์ไข่
คาชี้แจง : จงตอบคาถามต่อไปนี้
1. จากภาพสไลด์ถาวรที่กาหนดให้ จงระบุชื่อของเซลล์ให้ถูกต้อง

สเปอร์มาโทโกเนียม
………………………………..
สเปอร์มาทิด
………………………………..

สเปอร์มาโทโกไซต์
………………………………..

เซลล์ไข่
………………………………..
คอร์ปัสลูเทียม
………………………………..

ฟอลลิเคิล
………………………………..

2. เปรียบเทียบสเปิร์มและเซลล์ไข่ในตารางให้ถูกต้อง
ข้อเปรียบเทียบ สเปิร์ม เซลล์ไข่

มีขนาดใหญ่เพราะมีไซโทพลาซึม
.............................................................. มีขนาดเล็กกว่าเพราะสลัดไซโทพลาซึม
..............................................................
ขนาด บางส่วนเพื่อลดขนาดของเซลล์
จานวนมาก
............................................................. .............................................................
รูปร่าง กลม
.............................................................. เรียวยาว แบ่งเป็นหัว ลาตัว และหาง
..............................................................

สร้างครั้งละ 1 เซลล์
.............................................................. สร้างครั้งละ 300-500 ล้านเซลล์
..............................................................
กระบวนการสร้าง ............................................................. เพราะสเปิร์มต้องเคลื่อนที่ไปผสมกับ
.............................................................
............................................................. เซลล์ไข่
.............................................................
จานวนโครโมโซม ..............................................................
1 ชุด (แฮพลอยด์) 1 ชุด (แฮพลอยด์)
..............................................................

39
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การสืบพันธุแ์ ละการเจริญเติบโตของสัตว์
แผนฯ ที่ 2 การสืบพันธุ์ของมนุษย์

9. ความเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย

ข้อเสนอแนะ

ลงชื่อ .................................
( ................................ )
ตาแหน่ง .......
10. บันทึกผลหลังการสอน

 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์

 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อุปสรรค

 แนวทางการแก้ไข

40

You might also like