You are on page 1of 3

แบบทดสอบความรู้ด้านการเงิน และภาษีสาหรับผู้ประกอบการ โช ม ญ อม

650610498
1. ข้อใดคือประโยชน์ของการเก็บข้อมูลการเงินอย่างเป็นระบบ
A. สามารถตรวจสอบรายรับรายจ่ายได้
B. ป้องกันการขาดสภาพคล่องในการดาเนินธุรกิจ
C. ป้องกันการเกิดปัญหาเรื่องภาษีย้อนหลัง
D. ช่วยให้การดาเนินธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น
·E. ถูกทุกข้อ
2. ข้อใดไม่ใช่การควบคุมค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม สาหรับการบริหารเงินแบบผู้ประกอบการ
A. รู้ว่ามีค่าใช้จ่ายรายการใดบ้าง จ่ายเมื่อไหร่ และไม่นาเงินไปจ่ายอย่างอื่นก่อน
B. ต้องวางแผนการใช้เงินล่วงหน้าทั้งระยะสั้น ระยะยาว
C. มีแผนสาหรับการเก็บเงินทุนสารอง เพื่อนาไปขยายธุรกิจ หรือลงทุน
D. มีการคานวณรายได้ และเงินทุนที่มี ว่าสามารถจะนาไปต่อยอดอะไรบ้าง

·E. มีความรู้ ความเข้าใจในการอ่านงบการเงินของธุรกิจ

3. ข้อใดคือสิ่งที่ไม่ควรกระทาในการบริหารจัดการเงินทุนของธุรกิจ
A. จ่ายเงินกับสิ่งที่จาเป็นสาหรับการดาเนินธุรกิจ
B. มีการเตรียมความพร้อมด้านเงินทุนสารองอยู่เสมอ
C. ตรวจสอบบัญชี การเงินก่อนนาเงินไปใช้ทุกครั้ง
·D. นาเงินจากผลประกอบการไปลงทุน หรือหมุนเวียนในธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ทาอยู่
E. มีแผนการใช้จ่ายทั้งระยะสั้น และระยะยาว

4. ข้อใดคือเทคนิคในการบริหารเงินสาหรับผู้ประกอบการ
บุ
ณี
ติ
ล้
A. การชาระหนี้ให้ตรงเวลาทั้งต่อสถาบันการเงิน หรือคู่ค้า เพื่อสร้างเครดิตที่ดีให้กับธุรกิจ
B. มีการใช้เทคโนโลยีในการช่วยบริหารจัดการธุรกิจ
C. ติดตามสถานะทางการเงินของธุรกิจอย่างสม่าเสมอ
D. เก็บข้อมูลการเงินให้เป็นระบบ มีความเข้าใจบัญชีการเงิน
·E. ถูกทุกข้อ

5. ข้อใดคือเทคนิคในการบริหารการเงินที่ไม่ถูกต้อง
A. เมื่อเริ่มต้นธุรกิจควรเตรียมเงินทุนสารองไว้อย่างน้อย 3 - 6 เดือน
B. การเตรียมเงินสารองควรเตรียมไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
·
C. ธุรกิจทั่วไปควรมีเงินทุนหมุนเวียน และสารองไว้ 3 เดือน
D. ธุรกิจที่ซื้อสินค้าเป็นเงินสด แต่มีการขายแบบ "ขายเชื่อ" หรือ "เครดิต" ควรมีเงินทุนหมุนเวียนสารองไว้อย่างน้อย
6 เดือน
E. การคานวนเงินสารองสาหรับธุรกิจ จะต้องคิดถึงค่าวัตถุดิบ ค่าแรง ต้นทุนแฝง ค่าใช้จ่ายต่างๆ สาหรับการชาระหนี้

6. รายได้ของธุรกิจที่ควรจดทะเบียนบริษัท ควรมีรายได้มากกว่าเท่าใด
A. 300,000 บาท
B. 500,000 บาท
·
C. 1,000,000 บาท
D. 5,000,000 บาท
E. ถูกทุกข้อ

7. ค่าธรรมเนียมยกเว้นภาษีของ บุคคลธรรมดา / นิติบุคคล คือเท่าใด


A. 100,000 บาท สาหรับบุคคลธรรมดา / 200,000 บาท สาหรับนิติบุคคล
·
B. 150,000 บาท สาหรับบุคคลธรรมดา / 300,000 บาท สาหรับนิติบุคคล
C. 300,000 บาท สาหรับบุคคลธรรมดา / 500,000 บาท สาหรับนิติบุคคล
D. 400,000 บาท สาหรับบุคคลธรรมดา / 600,000 บาท สาหรับนิติบุคคล
E. ไม่มีข้อใดถูกต้อง

8. ข้อดีที่สาคัญที่สุด สาหรับการจดทะเบียนนิติบุคคลในรูปแบบ "บริษัท ขนาด SME" คือข้อใด


A. จ่ายภาษีถูกกว่าแบบบุคคลธรรมดา
B. ภาษีจะถูกบริหารจัดการเข้าสู่ภาครัฐได้ถูกต้องมากกว่ารูปแบบบุคคลธรรมดา
C. การจ่ายภาษีทาได้สะดวกกว่าแบบบุคคลธรรมดา
·
D. ทาให้การดาเนินธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย
E. ไม่มีข้อใดถูกต้อง

9. การจัดทาบัญชีของนิติบุคคล สามารถทาได้อย่างไรบ้าง
A. จ้างนักบัญชีที่มีใบประกอบวิชาชีพจากภายนอก เพื่อจัดทาบัญชี
B. จ้างหน่วยงานรับทาบัญชีจากภายนอก เพื่อจัดทา และตรวจสอบบัญชี
C. ให้พนักงานในองค์กรที่จบสาขาวิชาบัญชีที่มีใบประกอบวิชาชีพบัญชี เป็นคนทาบัญชี
D. ผู้ประกอบการทีจ่ บสาขาวิชาบัญชี เป็นคนจัดทาบัญชีด้วยตนเอง
·E. ถูกทุกข้อ
10. ข้อใดไม่ใช่ “ภาษี” ขั้นพื้นฐาน 3 ประเภท ที่ผู้ประกอบการจาเป็นต้องรู้ เพื่อดาเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้องตาม
กรมสรรพากร
A. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat)
B. ภาษีเงินได้นิติบุคคล
C. ภาษีโรงเรือน
·
D. ภาษี ณ ที่จ่าย
E. ไม่มีคาตอบที่ถูกต้อง

You might also like