You are on page 1of 4781

รายละเอียด

เรื่อง : ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี : Losing Money to Be a


Tycoon
ผู้เขียน : ชิงซานฉวี่จุ้ย
ผู้แปล : ตฤณวัฒนา ภูชานนต์ (Thunderbird Translators)
นิยายแฟนตาซี -ระบบ ตัวเอกเปิดบริษัททำเกม และมีเป้าหมายที่จะทำ
ธุรกิจให้ขาดทุน!
ต้องทำธุรกิจให้ “ขาดทุน” เขาถึงจะรวย แต่ไม่รู้ดวงดีหรือดวงซวย ถึงได้
แต่ “กำไร” เนี่ย!

เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน
โดยมี ระบบสั ่ ง ให้ เขาตั ้ง บริ ษ ั ท อะไรก็ ไ ด้ เพื่ อ หาเงิน ทำกำไรโดยจะมีการ
ประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ
แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วน
แบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100
แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และ
หาทางทำให้บริษัทขาดทุน
ด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไป
ละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะ
แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดี
เป็นเทน้ำเทท่า
ทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!
บทที่ 1 ระบบแปลงความมัง่ คั่ง

ปี 2009
มณฑลฮั่นตง เมืองจิงโจว มหาวิทยาลัยฮั่นตง
“พี่เชียน ตื่นได้แล้ว เดี๋ยวไปเรียนสาย! วันนี้รองคณบดีเข้าสอน มีเช็กชื่อ
ด้วย!”
เผยเชียนลืมตาตื่น ขยี้ตา นึกสงสัยว่าใครกันที่เป็นคนเรียก
ฉันเช่าห้องเตียงเดี่ยวนี่ ใครมาห้องกัน
พอลืมตาก็เห็นใบหน้ายาว บดบังวิสัยทัศน์ไปเกือบหมด
“หม่าหยางเหรอ”
เผยเชียนนิ่งงันไป นึกว่าตัวเองกำลังฝันอยู่
“พี่รีบลุกเถอะ ถือว่าผมปลุกพี่แล้วนะ ไปเช็กชื่อไม่ทันอย่ามาโทษกันล่ะ ”
ใบหน้ายาวของหม่าหยางหายไปจากวิสัยทัศน์ของเผยเชียนเมื่อชายหนุ่มรีบรุด
ออกจากหอพักไป
เดี๋ยวนะ หอพักหรือ
เผยเชียนตื่นในทันใด เจ้าคนขี้เกียจดีดตัวขึ้นจากเตียง
หอพักมหาวิทยาลัย ห้องพักหกคน!
เขายังอยู่บนเตียงชั้นล่างของเตียงสองชั้นที่ตั้งอยู่ติดประตู จำได้ว่าประตูนั้น
ปิดไม่ค่อยสนิท ตอนหน้าหนาวจะมีลมพัดผ่านเข้ามาด้านใน ตอนนั้นเผยเชียนบ่น
ถึงเรื่องนี้บ่อยๆ
รูมเมตอีกสองคนเก็บของเรียบร้อยและกำลังเดินออกจากห้อง
“รีบๆ เลยพี่เชียน เร่งมือหน่อยน่าจะยังตามไปทัน ถ้าไม่มีเช็กชื่อพวกเราไม่
ปลุกหรอก รองคณบดีรู้ว่าโดดจะซวยเอา”
ทั้งสองคนรีบออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
ปี 2009 หรือ!
เขาย้อนเวลากลับมาสิบปีเลยหรือ
เผยเชียนใช้เวลาสักพักกว่าจะทำใจให้สงบและยอมรับความจริงได้
ตั้งแต่เรียนจบเมื่อปี 2013 เขาได้เข้าไปทำงานในอุตสาหกรรมสองสายและ
เปลี่ยนงานเปลี่ยนบริษัทมาหลายหน ได้เจอหัวหน้าสุดร้ายกาจ ต้องทนรับมือกับ
อำนาจและการเมืองในชีวิตการทำงาน
เป็นแค่ทาสของสังคมคนหนึ่ง
เป็นธรรมดาที่ชายหนุ่มจะรู้สึกตื่นเต้นดีใจที่ได้เจอเหตุการณ์มหัศจรรย์เหมือน
ได้เกิดใหม่ ได้ย้อนเวลากลับไปสิบปีก่อนเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ นี่คงเป็นอะไรที่ใคร
คนอื่นได้แค่เฝ้าฝันถึง!
หลังจากหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง เผยเชียนก็พลิกตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง
ชายหนุ่มควรทำอะไรต่อไปดี
ควรไปคุยกับผู้คุมกาลอวกาศไหม
คงจะไม่ถูกฆ่าหรือตายคาที่ใช่หรือเปล่า
หรือ…ที่ควรทำอย่างแรกคือไปเข้าเรียน
นี่มันบ้าไปแล้ว!
สิบปีก่อน ถึงความทรงจำจะเลือนราง แต่เผยเชียนก็จำได้ว่าตัวเองโดดเรียน
ไปหลายครั้งตอนอยู่ปีหนึ่ง รวมถึงคลาสของรองคณบดีด้วย
ถึงรองคณบดีบอกว่าจะเช็กชื่อ แต่จริงๆ ก็ไม่ค่อยเช็กหรอก
กลับกันแล้ว ครูหนุ่มคนหนึ่งที่เหมือนจะใจดี ไม่เคยเช็กชื่อ ดันมาเช็กชื่อตอน
ปลายเทอมแล้วเอาไปรวมกับผลสอบ
“ผมไม่ได้อยากเช็กชื่อ ผมแค่อยากรู้จักทุกคน”
เขาพูดว่าอย่างนั้น
พอมาคิดดูดีๆ แล้ว ก็เพิ่งจะรู้ว่าตัวเองโดนหลอก ตอนนั้นเขายังเด็ก จึงเชื่อ
อาจารย์ที่ตนเคารพหมดใจ
ทั น ใดนั ้ น หน้ า จอโปร่ ง แสงก็ ป รากฏขึ ้ น ตรงหน้ าเผยเชี ย นพร้ อ มบรรทัด
ข้อความมากมายไล่เรียงลงมาเต็มหน้าจอ
<ดำเนินการเชื่อมต่อระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เชื่อมต่อเสร็จสิ้น>
<เจ้าของ: เผยเชียน>
<โปรดอ่านคู่มือการใช้งานระบบ>
“นี่มันอะไรเนี่ย!”
เผยเชียนทั้งตกใจและตื่นเต้น
แน่นอนอยู่แล้วว่าพอได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ก็ต้องมีระบบอะไรสักอย่างโผล่มา!
พลังโกงของเขามาแล้ว!
ใจเย็น ใจเย็น! ปกติก็มาอีหรอบนี้ตลอด ไม่เห็นต้องตกใจอะไร!
ไม่นานเผยเชียนก็สงบสติอารมณ์ได้และมองไปยังข้อความบนหน้าจอ
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<อัตราการแปลงกำไร/ขาดทุน: อยู่ในระหว่างดำเนินการ>
<เงินทุนระบบ: 50,000>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 443>
นี่คือหน้าจอเมนู
ด้านล่างของหน้าจอเมนูมีหน้าต่างแสดงข้อมูลการทำงานของระบบ มันต้อง
เป็นคู่มือการใช้งานแน่
<กฎการแปลงความมั่งคั่ง>
<ในช่วงเวลาที่กำหนด ระบบจะมอบเงินทุนให้ผู้เป็นเจ้าของในจำนวนที่
กำหนด เงินทุนนี้ใช้ได้ในการประกอบธุรกิจของบริษัทเท่านั้น ไม่สามารถใช้ไปกับ
การใช้จ่ายสิ้นเปลือง>
<หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง ระบบจะสรุปบัญชีโดยประเมินจากกำไร/ขาดทุน
ของระบบ และแปลงเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคลของผู้เป็นเจ้าของตามอัตราส่วนที่
กำหนดไว้>
<หมายเหตุ: เพื่อกระตุ้นให้ผู้เป็นเจ้าของตั้งใจทำงาน ผู้เป็นเจ้าของไม่สามารถ
จ่ายเงินเดือนให้ตนเองผ่านบัญชีของบริษัทได้>
<ขั้นตอนต่อไป: ตรวจดูกฎแบบละเอียด>
“โห ระบบนี่เจ๋งสุดๆ เลย!”
“ให้เงินทุนไม่พอ ยังจะให้เงินฉันอีกเหรอ ช่างเป็นระบบที่รู้จักคิดจริงๆ!”
เผยเชียนเข้าใจการทำงานของระบบในทันที
แม้ว่าทั้งเงินทุนระบบและความมั่งคั่งส่วนบุคคลจะหมายถึงเงิน แต่ก็เป็นส่วน
ที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
ความมั่งคั่งส่วนบุคคลที่มีอยู่ 433 แสดงถึงเงินทั้งหมดที่เผยเชียนมี ซึ่งก็คือ
443 หยวน เป็นส่วนที่เขาสามารถใช้จ่ายได้ตามใจชอบ
ส่วน 50,000 หยวนเป็นเงินทุนระบบ ตามกฎของระบบแล้ว เงินจำนวนนี้
สามารถใช้ในการประกอบธุรกิจได้เท่านั้น เช่น ก่อตั้งบริษัท
หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง ไม่ว่าเขาจะได้กำไรหรือขาดทุน ระบบก็จะแปลง
เงินทุนระบบมาเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคลตามอัตราที่กำหนด จากนั้นเขาก็จะเอา
เงินนี้ไปใช้ได้ตามใจชอบ!
“เจ๋งเป้ง! ดูกฎแบบละเอียดดีกว่า!”
เผยเชียนกดหน้าจอต่อ
<ผู้เป็นเจ้าของต้องประกอบธุรกิจที่มีรูปแบบปกติ ถูกกฎหมาย และใช้ทักษะ
เฉพาะทาง>
<รายการด้านล่างคือข้อละเมิดต่อกฎ ห้ามกระทำ>
<หมวดการทำกำไร:>
<1. กว้านซื้อหรือปั่นราคาทรัพย์สิน>
<2. ซื้อสกุลเงินดิจิทัลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ระดมทุนแบบผิด
กฎหมาย หรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมายรูปแบบอื่นๆ>
<3. เก็งกำไรและแสวงผลกำไรจากการกักตุนสินค้า หรือทำลายกลไกตลาด>
<… (แตะที่นี่เพื่อแสดงข้อละเมิดอีก 97 รายการ)>
<หมวดการขาดทุน:>
<1. ทำการกุศลหรือยกบริษัทให้ผู้อื่น>
<2. จัดจ้างพนักงาน เช่าพื้นที่สำนักงาน และจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ในราคาที่สูง
กว่าราคาตลาด>
<3. ขาดการทำงาน มีประสิทธิภาพการทำงานต่ำ และขาดการสร้างมูลค่า
เป็นเวลานาน>
<… (แตะที่นี่เพื่อแสดงข้อละเมิดอีก 97 รายการ)>
<กฎเพิ่มเติม: ผู้เป็นเจ้ าของไม่สามารถเปิดเผยหรือบอกเป็นนัยถึงการมีอยู่
ของระบบให้ผู้อื่นทราบ>
<ระบบมีสิทธิ์ตัดสินใจเด็ดขาดเรื่องคำนิยามของข้อละเมิด>
<ขั้นตอนต่อไป: สุ่มอัตราแปลงกำไรขาดทุน>
“กฎเข้มจังแฮะ”
เผยเชียนตรวจดูข้อละเมิดทั้งสองร้อยข้อขณะตัดแผนในหัวออกไปทีละแผน
ระบบไม่อนุญาตให้เก็งกำไรทรัพย์สินและซื้อสกุลเงินดิจิตอล
เขาทำได้ แ ค่ ล งทุ น ธรรมดาทั ่ ว ไปและบริ ห ารจั ด การความมั ่ ง คั ่ ง แต่
ผลตอบแทนรายปีที่ได้นั้นน้อยเกินไปสำหรับชายหนุ่ม
หลังจากอ่านข้อ ละเมิดไปทั้งหมดสองร้อ ยข้อ เผยเชียนก็ตระหนักได้ว่ า
นอกจากมีข้อจำกัดในส่วนการแสวงหากำไรแล้ว ยังมีข้อจำกัดในส่วนการขาดทุน
อีก
ทั้งหมดทั้งมวลก็คือ ชายหนุ่มไม่สามารถทำอะไรที่ผิดกฎหมายได้เลย
เผยเชียนแตะหน้าจอต่อเพื่อดำเนินการขั้นตอนต่อไป
<กำลังสุ่มอัตราแปลงกำไรขาดทุน…>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1:1>
“เอ๊ะ เดี๋ยวนะ อัตราส่วนนี่…”
เผยเชียนดูให้ละเอียดอีกครั้งและตระหนักว่าน่าจะเกิดบั๊กบางอย่าง
อัตราแปลงขาดทุนสูงเกินไปหรือเปล่า
ถ้าเกิดเสียเงินทุนระบบทั้งหมดไป เงินทุนทั้งหมดนั้นก็จะถูกแปลงมาเป็น
ความมั่งคั่งส่วนบุคคลของเขา!
แสดงว่ายิ่งเสียเงินก็ยิ่งได้เงิน!
“นี่ฉันสุ่มได้อัตราแปลงที่สุดยอดขนาดนี้เลยเหรอ เทพธิดาแห่งโชคกำลังยิ้ม
ให้ฉันอยู่แน่ๆ!”
“เสียดายที่อัตราแปลงกำไรน้อยเกินไปหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร เสียเงินน่ะมัน
ง่ายกว่าหาเงินอยู่แล้ว!”
เผยเชียนรู้สึกว่าดวงตัวเองกำลังพุ่ง!
<ขั้นตอนสุดท้าย: โปรดตั้งชื่อบริษัทของคุณ (กดที่นี่เพื่อใส่ชื่อ)>
ซึ่งมาจาก เฟยหวงเถิงต๋า ที่หมายความว่า ‘รุ่งเรืองก้าวไกล’
นั่นคือสิ่งที่เขาหวัง ชายหนุ่มอยากให้บริษัทรุ่งเรืองไวๆ!
<ลงทะเบียนบริษัท “เถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีจำกัด” เสร็จสิ้น>
เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนสุดท้าย คำบนหน้าจอก็หายไปก่อนที่หน้าจอเมนูจะ
กลับไปอยู่ในสภาพตั้งต้น
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ: เผยเชียน>
<อัตราการแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราแปลงขาดทุนอยู่ที่ 1:1>
<วันปิดบัญชีครั้งต่อไป: อีก 14 วัน>
<หมายเหตุ: หากมีสินค้าที่ยังไม่ได้วางจำหน่ายในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนการ
สรุปบัญชี ระบบจะเลื่อนวันสรุปบัญชีออกไปและกำหนดวันขึ้นใหม่>
<เงินทุนระบบ: 50,000>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 443>
เผยเชียนวิเคราะห์ความหมายของหมายเหตุนั้น
เขาจะมีสินค้าที่ยังไม่ได้วางจำหน่ายในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนวันสรุปบัญชีไม่ได้
ถือว่ามีเหตุผล
ถ้าไม่มีกฎข้อนี้ ชายหนุ่มก็สามารถเทเงินทุนระบบที่เหลือไปพัฒนาสินค้าใหม่
ก่อนปิดบัญชีได้ ทำให้ไม่เหลือเงินทุนระบบสักหยวนและเกิดช่องโหว่ขึ้น
กฎข้อนี้บังคับให้เผยเชียนวางจำหน่ายสินค้าทั้งหมดก่อนช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อน
ปิดบัญชี เพื่อที่จะได้คำนวณกำไรขาดทุนได้ มันเป็นขั้นตอนที่เขาหลีกเลี่ยงไม่ได้
“อุดช่องโหว่ไปอีกหนึ่ง แต่ก็ไม่เป็นไร”
“ถ้าอย่างนั้น ที่ต้องทำต่อไปก็คือเปลี่ยนเงินทุนระบบจาก 50,000 ให้เป็น 0
และเพิ่มความมั่งคั่งส่วนบุคคลจาก 443 ไปเป็น 50,443”
“ฉันแค่ต้องเริ่มเสียเงินตามกฎใช่ไหม ไม่ได้ดูเป็นเรื่องยากอะไรเลย” เผย
เชียนรู้สึกมั่นใจมาก
ตั้งบริษัท สร้างมูลค่า และผลิตสินค้าตามวิธีปกติ
ในฐานะเจ้าของบริษัท ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือปล่อยให้ความปกติผิดเพี้ยนไป
เล็กน้อย
ทั้งหมดก็แค่นั้นเอง
บริษัททั้งหมดที่ก่อตั้งกันมา มีไม่กี่บริษัทที่ประสบความสำเร็จ ส่วนบริษัท
อื่นๆ นั้นเจ๊งกันหมด แค่นี้ก็ชัดเจนแล้วว่าทางไหนมันง่ายกว่า!
บทที่ 2 โลกที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย

“ถ้าอย่างนั้น คำถามตอนนี้คือจะเข้าไปแวดวงไหนดี”
หลังจากครุ่นคิดดูแล้ว เผยเชียนก็ตั ดสินใจว่าต้องดูสถานการณ์ความเป็นไป
ในโลกนี้ก่อน
เขาเปิดโน้ตบุ๊ก เข้าไปที่โปรแกรมค้นหาเชียนตู้ จากนั้นก็เริ่มค้นหาข่าว
ปัจจุบันอ่าน โดยเฉพาะข่าวเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยี
“แตกต่างกันอยู่บ้าง แต่ก็มีแค่เรื่องเล็กๆ” เผยเชียนได้รู้รายละเอียดสิ่งต่างๆ
คร่าวๆ

เหมื อนกับโลกก่อ น เทรนด์ใ นตอนนี้ยังวนเวียนอยู่กับเรื่อ งอินเทอร์เน็ต
เทคโนโลยี เกม และอุตสาหกรรมวัฒนธรรม
เผยเชียนจะเลือกลงทุนในอุตสาหกรรมไหนก็ได้ เพราะเป็นจุดที่ระบบไม่ได้มี
ข้อห้ามอะไรไว้
แต่การจะสร้างมูลค่าและไม่ละเมิดกฎของระบบได้ เผยเชียนต้องจ้างผู้ที่
เชี่ยวชาญในแวดวงนั้นๆ มาในขณะที่จัดตั้งบริษัท
ในแวดวงอุตสาหกรรมที่ไม่คุ้นเคย เผยเชียนไม่มั่นใจว่าจะสามารถนำทาง
บริษัทได้หรือเปล่า เกิดพนักงานที่จ้างมาดันเก่งสุดยอดแล้วทำให้โปรเจกต์รุ่งเรือง
ขึ้นมาจะทำอย่างไร
หลังจากคิดสักพัก เผยเชียนก็ตัดสินใจเลือกอุตสาหกรรมเกม
แม้เผยเชียนจะไม่เคยทำงานในอุตสาหกรรมเกมมาก่อน แต่เขาก็เคยเล่นเกม
มามากมาย จึงทำให้พอรู้เรื่องอุตสาหกรรมนี้อย่างคร่าวๆ
เทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ แล้ว เขามั่นใจว่าตนจะหาลู่ทางในอุตสาหกรรม
เกมได้มากกว่า
แค่เปลี่ยนรูปแบบการเล่นของเกมนิดหน่อยก็สามารถสร้างเกมที่น่าจะเจ๊งได้
จุดนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก!
นอกจากนี้ การเอาเงินไปผลาญในอุตสาหกรรมเกมยังเป็นเรื่องแสนง่ายดาย
ด้วย
สำหรับธุรกิจที่จับต้องได้ ชายหนุ่มยังสามารถขายสินทรัพย์ถาวรเพื่อเอาเงิน
มาหักกลบลบหนี้ไม่ให้ขาดทุนย่อยยับได้ แต่สำหรับอุตสาหกรรมเกม อะไรที่เสีย
ไปแล้วก็เสียไปเลย เหลือแต่โค้ดเกมที่ไม่มีค่าอะไร
จากความทรงจำของโลกสิบปีให้หลัง ขอแค่เขาตั้งใจไม่สร้างเกมที่ทำกำไรได้ก็
น่าจะเพียงพอแล้ว
ขั้นแรก: สร้างเกม!
ขั้นสอง: ผลาญเงินทิ้งเพื่อให้เงินทุนระบบทั้งหมดถูกแปลงเป็นความมั่งคั่งส่วน
บุคคล!
ขั้นสาม: ใช้เงินตามที่ใจปรารถนา!
อา ช่างสมบูรณ์แบบจริงๆ
เผยเชียนรู้สึกว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะแท้ๆ!

หลังจากตัดสินใจได้ว่าจะไปในทิศทางใด เผยเชียนก็ค้นหาเว็บไซต์ทางการ
ของสำนักงานพาณิชย์ จากนั้นก็ล็อกอินด้วยเลขบัตรประชาชนและรหัสผ่านตั้ง
ต้นเพื่อเข้าไปดาวน์โหลดโปรไฟล์บริษัทของตัวเอง
มีบริษัทจดทะเบียนภายใต้ชื่อของเขา เถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีจำกัด มี
เงินทุนมูลค่า 50,000 หยวน
ต้องเป็นเทคโนโลยีมืดของระบบแน่ๆ ที่ช่วยเขาจัดการเรื่องพวกนี้
ในแง่มุมการประกอบธุรกิจ มีจุดแตกต่างใหญ่ๆ หนึ่งจุดระหว่างโลกในชีวิต
ก่อนของเผยเชียนและโลกคู่ขนานแห่งนี้ที่อะไรๆ ก็ง่ายขึ้น
เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเริ่มประกอบกิจการเป็นของตนเอง จึงมีการลด
อุปสรรคในการจัดตั้งบริษัทลงและวิธีดำเนินการต่างๆ ก็เปลี่ยนไปเป็นรูปแบบ
สมาร์ต ทำให้สามารถดำเนินการออนไลน์ได้ด้วยตนเอง
จุดนี้ถือเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการอย่างมาก แม้แต่โลกสิบปีให้หลังของ
เผยเชียนก็ยังไม่อาจเทียบได้
นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่คล้ายๆ กันอื่นๆ อีก
ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีการสื่อสารและเทคโนโลยีคลาวด์ที่ก้าวหน้ามาก ทำ
ให้ หลายๆ อุตสาหกรรมรวบรวมเครือ ข่ายและทรัพ ยากรของตัวเองมาเสริ ม
ประสิทธิภาพการทำงานออนไลน์
อย่ า งอุ ต สาหกรรมเกม มี อ งค์ ก รการร่ ว มมื อ อย่ า งเป็ น ทางการที ่ ช ื ่ อ ว่ า
Entertainment Software Ranking Organization (องค์กรจัดอันดับซอฟต์แวร์
เพื่อความบันเทิง) เรียกสั้นว่า ESRO ทำหน้าที่คอยควบคุมดูแลและตรวจสอบเกม
ประเภทต่างๆ
ขณะเดียวกัน ESRO ก็มีเว็บไซต์ทางการสำหรับเผยแพร่ทรัพยากรเปิดให้
ผู้ประกอบการทุกคน
เว็บไซต์ทางการของ ESRO ถือเป็นแหล่งรวมทรัพยากรเกมต่างๆ ของตลาด
เกมในประเทศทั้งหมด สามารถเข้าไปซื้องานภาพที่ใช้กันได้ทั่วไป ซื้อเทมเพลต
การเขียนโค้ด ดราฟต์การออกแบบ ทำได้กระทั่งจ้างผู้เชี่ยวชาญมาปรับแต่งเกม
ให้
งานภาพ เทมเพลตการเขียนโค้ด ทั้งหมดทั้งมวลนั้นมาจากบุคคลหรือบริษัท
ในอุตสาหกรรมนี้ ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้แต่มีค่าใช้จ่าย
แต่ก็แน่นอนว่าทรัพยากรทั้งหมดบนเว็บไซต์ล้วนเป็นของธรรมดาทั่วไปและ
อยู่ในระดับล่างๆ
บนเว็บไซต์มีตัวเลือกให้ติดต่อพวกตัวท็อปในวงการอย่างนักออกแบบเกมชื่อ
ดังและเจรจาให้มาร่วมงานกันได้
นอกจากนั้นแล้ว ESRO ยังรวมเครื่องมือพัฒนาเกมต่างๆ ในตลาดมาปรับปรุง
ให้ง่ายขึ้น แล้วปล่อยออกมาเป็นเครื่องมือพัฒนาเกมอย่างเป็นทางการของตัวเอง
ขอแค่พยายามศึกษาดู คนส่วนใหญ่ก็สามารถใช้เครื่องมือตัวนี้ได้แม้จะไม่เคยเรียน
เขียนโปรแกรมมาก่อน
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงสองถึงสามปีที่เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่าง
ก้าวกระโดด ซึ่งก็คือช่วงประมาณปี 2007 ถึงปี 2009
ที่เป็นแบบนั้นได้เพราะมีอ งค์ก รทางการที่ ทรงอำนาจอย่า ง ESRO ช่วย
สนับสนุนให้อุตสาหกรรมเกมเกิดการเปลี่ยนแปลง
แน่นอนว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น ภาพยนตร์ แอนิเมชัน และอุตสาหกรรม
วัฒนธรรมต่างๆ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงคล้ายๆ กันนี้เหมือนกัน แต่ตอนนี้เผย
เชียนไม่จำเป็นต้องทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น

“ไหนดูสเป็กของโปรแกรมรวมทรัพยากรกับเครื่องมือพัฒนาเกมนี่สิ…”
“โอเค โน้ตบุ๊กฉันพอใช้โปรแกรมนี้ได้ แต่ก็มีจุดที่ปรับไม่ได้อยู่บ้าง แล้วก็สร้าง
เกมสเป็กสูงๆ ไม่ได้”
“ไม่เป็นไร ฉันก็ไม่ได้จะสร้างเกมสเป็กสูงอยู่แล้ว”
เผยเชียนซื้อโน้ตบุ๊กหลังจากเข้ามหาวิทยาลัยได้ไม่นาน ตอนนี้เพิ่งจะผ่านมา
ไม่กี่เดือน โน้ตบุ๊กของเขาจึงพอจะใช้เข้าโปรแกรมรวมทรัพยากรกับเครื่องมือ
พัฒนาเกมของ ESRO ได้อยู่
แต่โน้ตบุ๊กที่เผยเชียนซื้อมานั้นเป็นเครื่องสเป็กกลางค่อนไปทางต่ำ ดังนั้นจึง
ทำอะไรไม่ค่อยได้มาก สร้างได้แต่เกมธรรมดาทั่วไป ไม่สามารถสร้างเกมสเป็กสูง
ได้
แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะเผยเชียนไม่ได้จะสร้างเกมสเป็กสูงอยู่แล้ว เขาไม่
มีทั้งกำลังทรัพย์และกำลังคน แถมยังไม่ได้คิดจะสร้างกำไรจากเกมด้วย
เขาอยากสร้างแค่เกมง่ายๆ ที่ผ่านการตรวจสอบได้ก็พอ
เผยเชียนเปิดเครื่องมือพัฒนาเกมและศึกษาวิธีใช้งาน
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป เผยเชียนเริ่มง่วง
“ไหนบอกว่าไม่มีพื้นฐานก็เรียนได้ไง บ้าจริง!”
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก
ถึงตัวเครื่องมือจะออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายมากขึ้น เมื่อเทียบกับการเขียน
โปรแกรมหรือเครื่องมือพัฒนาเกมตัวอื่นๆ แต่ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องยากสำหรับเผย
เชียนผู้ที่ไม่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมแม้แต่นิดอยู่ดี!
แต่เขาก็ได้รู้วิธีใช้เทมเพลตสำเร็จรูปและวิธีใช้งานภาพ
“ไปค้นโปรแกรมรวมทรัพยากรกับวิเคราะห์เกมในตลาดดีกว่า”
เผยเชียนเข้าโปรแกรมรวมทรัพยากรและดูเทมเพลตที่วางขายอยู่
มีเทมเพลตเกมหลากหลายรูปแบบ ทั้งเกมจำลองการขับรถ เกมต่อสู้ เกมยิง
ปืน เกม RPG และอื่นๆ
เทมเพลตเหล่านี้เป็นเทมเพลตระบบพื้นฐาน ราคาไม่ค่อยแพง
ตัวอย่างเช่น เทมเพลตเกมยิงปืน พอเอาไปใส่เครื่องมือพัฒนาเกมก็จะได้
ระบบพื้นฐานต่างๆ เช่น เดิน ยิง โหลดกระสุน ปืนบางกระบอกมีค่าเส้นวิถีกระสุน
ตั้งต้นมาให้
พอซื้องานภาพเข้ามาใส่ ก็จะได้เกมยิงปืนง่ายๆ มาหนึ่งเกม
ถ้าจะสร้างให้เป็นเกมมีความซับซ้อนขึ้น ก็ต้องเรียนรู้วิธีใช้เครื่องมือพัฒนา
เกมในเชิงลึกเพิ่ม
และระบบเชิงลึกบางอย่างก็ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีให้ บริการในเว็บไซต์มาช่วย
ดู
บทที่ 3 โดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย

สภาพปัจจุบันของอุตสาหกรรมเกมคล้ายกันกับในปี 2009 ของโลกชาติ


ก่อนที่เผยเชียนจากมา
ยกตัวอย่างเช่น เกมออนไลน์ที่ฮิตกันที่สุดเปลี่ยนจาก World of Warcraft
ไปเป็น Fantasy World จาก CS ไปเป็น Counter Strike จาก DOTA ไปเป็น
Gods Rising แม้เปลือกนอกจะต่างกัน แต่รูปแบบการเล่นยังคงเหมือนเดิม
เกมมือถือพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาจเป็นเพราะฮาร์ดแวร์มีการพัฒนาไป
รวดเร็วกว่าโลกชาติก่อนของเผยเชียน
ยกตัวอย่างเช่น ชาติก่อนของเผยเชียน เกมการ์ดมือถือเริ่มมีกระแสขึ้นมาเมื่อ
ปี 2012 จากเทรนด์สมาร์ตโฟน แต่เพราะในโลกนี้มีการพัฒนาสมาร์ตโฟนออกมา
ตั้งแต่ปี 2008 เกมคล้ายๆ กันนี้จึงมีออกมาให้เห็นตั้งแต่ตอนนั้น และเกมรูปแบบ
นี้ก็เติบโตขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว
“ถ้าเป็นแบบนี้ก็แสดงว่าสถานการณ์ค่อนข้างดี”
“ที่ฉันต้อ งทำก็แค่ใช้เงินห้าหมื่นหยวนซื้อพวกเทมเพลตกับงานภาพบน
เว็บไซต์ให้หมด แล้วเอามาสร้างเกมที่ไม่มีใครอยากเล่น จะได้ขายไม่ออก! ผ่านไป
สองสัปดาห์เงินส่วนนี้ก็จะกลายเป็นขาดทุน!”
“สมบูรณ์แบบ!”
เมื่อตัดสินใจได้แล้ว เผยเชียนก็เริ่มค้นดูเทมเพลตที่ต้องการบนเว็บไซต์
“เทมเพลตพื้นฐานจำลองการขับรถสองหมื่นหยวนได้ภาพด้านนอกกับด้านใน
รถเป็นของแถม”
“เทมเพลตพื้นหลัง เทมเพลตถนนบนทะเลทรายหมื่นห้าพันหยวน ถ้าอยาก
ให้เปลี่ยนสภาพแวดล้อมได้ต้องเพิ่มเงินอีกแปดพันหยวน รวมเป็นสองหมื่นสาม
พันหยวน”
“แพงไปหน่อย แต่ก็อยากให้เป็นแบบนี้อยู่แล้ว!”
“ยังมีเงินเหลืออยู่อีก”
“เพลงวิทยุ เลือกสามสิบเพลงจากร้อยเพลงหรือปล่อยให้สุ่มเล่มจากคลัง
เพลงของระบบ หกพันหยวน”
“เหลืออยู่พันหยวน อืม…ซื้อระบบจัดอันดับง่ายๆ แล้วกัน ไหนๆ ก็ซื้ออะไร
ไม่ได้แล้วนี่”
หลังจากคิดคำนวณ เผยเชียนก็ซื้อของบนเว็บไซต์อย่างบ้าระห่ำ ผลาญเงินห้า
หมื่นหยวนไปจนหมด
จริงๆ แล้ว ทรัพยากรเหล่านั้นไม่ได้แพงเลย
เมื่อนำเทมเพลตจำลองการขับรถมาใส่เครื่องมือพัฒนาเกมก็จะทำให้สร้ าง
ระบบพื้นฐานของเกมจำลองการขับรถได้
เร่งเครื่อง เบรก เลี้ยว ชน และอื่นๆ มีครบหมด
พื้นหลังถนนบนทะเลทรายรองรับการปรับแต่งระยะทางบนเครื่องมือพัฒนา
เกม นอกจากนี้พื้นหลังยังสุ่มเปลี่ยนไปมาได้ด้วย
พอนำมารวมกั บ ระบบเปลี ่ ย นสภาพแวดล้ อ มก็ จ ะมี ด วงอาทิ ต ย์ ข ึ ้ น ดวง
อาทิตย์ตก พายุทราย รวมถึงสภาพแวดล้อมอื่นๆ อีก
เนื่องจากเป็นเทมเพลตที่สามารถใช้ได้ทั่วไป ผู้พัฒนาเกมอินดี้หลายคนก็
น่าจะซื้อเทมเพลตพวกนี้ไปด้วยเหมือนกัน ทำให้มีโอกาสร้อยเปอร์เซ็นต์ที่จะ
คลอดเกมซ้ำกันออกมา
เพื่อไม่ให้เกมไปซ้ำกับของคนอื่น ผู้พัฒนาเกมบางคนจึงปรับงานภาพเพื่อ
สร้างความหลากหลาย ซึ่งก็จะไปเพิ่มงบประมาณการลงทุนให้สูงขึ้น
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เผยเชียนต้องเป็นกังวล
ซ้ำหรือ เอาเลย! ฉันมาเพื่อเสียเงินอยู่แล้ว! ถ้าพวกเกมเมอร์ไม่เล่นเพราะเกม
มันซ้ำ ฉันคงจะดีใจจนน้ำตาปริ่ม!
เผยเชียนเริ่มสร้างเกมของตัวเอง
ถึงเป้าหมายจะวางไว้ให้ขาดทุน ตัวเกมที่สร้างขึ้นก็ต้องดีพอที่จะผ่านการ
ตรวจสอบและได้รับการอนุมัติจาก ERSO เพื่อที่จะได้ออกวางขายได้
ถ้าปล่อยเกมครึ่งๆ กลางๆ ระบบไม่ครบสมบูรณ์ไปแล้ว ERSO ไม่อนุมัติ
ระบบอาจตัดสินว่าเผยเชียนทำผิดกฎเอาได้
เพราะเหตุน ี ้ ไม่ ว ่ า เกมจะห่ว ยแตกแค่ไ หน อย่ า งน้ อ ยก็ต ้ อ งมี ร ะบบครบ
สมบูรณ์
หลังจากใส่เทมเพลตพื้นฐานและเทมเพลตพื้นหลังเข้าไปในเครื่องมือพัฒนา
เกม โครงร่างของเกมก็เสร็จสมบูรณ์
เมื่อเข้าเกม ผู้เล่นจะเริ่มออกตัวบนถนนทะเลทราย
แต่จะให้ทรัพยากรที่ซื้อมาสูญเปล่าไม่ได้
เผยเชียนเพิ่มระบบวิทยุในรถเพื่อให้ผู้เล่นเปิดเพลงฟังได้ระหว่างขับรถ
เพลงที่เปิดได้ล้วนเป็นเพลงธรรมดาๆ หรือไม่ก็เป็นเพลงเก่าๆ สุดคลาสสิก
ระบบนี้ไม่สามารถเปิดเพลงที่กำลังฮิตอยู่ได้เพราะเขาซื้อมาในราคาถูกมาก
และแล้วก็มาถึงปัญหาสุดสำคัญ
แก่นของเกมนี้จะเป็นอะไรดี
เผยเชียนคิดอะไรไม่ออกเลย
เอาเป็นเกมแข่งรถดีไหม
ไม่ ไม่ได้หรอก เขามีเงินไม่พอ
ที่เขาซื้อมาเป็นแค่เทมเพลตพื้นฐานกับรูปรถและพื้นหลังเท่านั้น
ส่วนพวกทางแข่งที่ซับซ้อนและเหล่ารถหน้าตาโฉบเฉี่ยว รวมถึงอัลกอริทึมที่
ใช้ในการประมวลการแข่งรถนั้น เขามีเงินไม่พอซื้อ!
จะสร้างรูปแบบการเล่นเหล่านั้นได้อย่างไรถ้าไม่มีเงินพอ
เผยเชียนตบหัวตัวเองเมื่อนึกอะไรออก
แก่นของเกมนี้ก็ง่ายๆ แค่ขับรถเล่น!
ผู้เล่นแค่ขับจากจุดเริ่มต้นไปเส้นชัยก็ถือว่าจบเกม!
แต่แค่นั้นไม่พอ เพราะทุกอย่างที่เขาเอามารวมกันนั้นเป็นทรัพยากรที่ใช้ได้
ทั่วไป ไม่มีความสร้างสรรค์แปลกใหม่อะไรใส่ลงไปในระบบการเล่น ถ้าเป็นแบบ
นั้นเขาคงไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบแน่
เขาต้องใส่อะไรลงไปเพื่อให้มั่นใจว่าจะผ่านการตรวจประเมิน แต่สิ่งที่ใส่เข้า
ไปก็จะโดดเด่นสะดุดตาไม่ได้ เผยเชียนต้องทำให้มั่นใจด้วยว่าจะไม่มีใครอยากเล่น
เกมนี้ เพื่อที่เขาจะได้เสียเงินลงทุนไปเปล่าๆ!
เผยเชียนคิดเรื่องนี้สักพักและตัดสินใจขยายพื้นหลังถนนทะเลทรายออกไปให้
ไม่มีที่สิ้นสุด…และขยายเวลาเล่นเกมเป็นแปดชั่วโมง!
ใช่! ผู้เล่นต้องขับรถไปแปดชั่วโมงกว่าจะถึ งเส้นชัย! นอกจากนี้ยังมีทางให้
เลี้ยวเรื่อยๆ อีกด้วย!
ทำให้ผู้เล่นไม่มีทางเคลียร์เกมได้โดยกดแค่ปุ่มเดียว!
ถ้าปรับแบบนี้ เกมของเขาก็น่าจะผ่านการตรวจประเมินเพราะระบบการเล่น
แตกต่างจากเกมจำลองขับรถอื่นๆ ในตลาด
นอกจากนั้น ด้วยระบบเกมเฮงซวยนี้เขาคงจะโดนชาวเกมเมอร์ถล่มเละ ไม่มี
ทางที่เกมนี้จะทำเงินได้!
เผยเชียนปลาบปลื้มกับความฉลาดปราดเปรื่องของตัวเอง
ในที่สุด เขาก็สร้างหน้าจอจบเกมด้วยวิธีสุดเรียบง่าย มีประโยคเด้งขึ้นมาแค่
ประโยคเดียวว่า ‘ขอแสดงความยินดี คุณได้สูญเสียเวลาชีวิตอันมีค่าไปแปด
ชั่วโมง!’
ถึงจะมีคนเล่นจนจบเกม เผยเชียนก็ต้องทำให้มั่นใจว่าเกมเมอร์พวกนั้นจะ
เดือดจัดจนไม่อยากเล่นเกมจากบริษัทเขาอีก!
เพื่อไม่ให้ระบบจัดอันดับที่ซื้อมาสูญเปล่า เขาได้สร้าง ‘อันดับคนเอาเวลามา
เขวี้ยงทิ้ง’ และนับ ‘จำนวนครั้งที่เล่นจบ’ รวมถึง ‘เวลาที่ดีที่สุดที่ทำได้’ ของผู้
เล่นแต่ละคนขึ้นมา
นี่คือระบบจัดอันดับแสนไร้ประโยชน์ที่ใส่เข้ามาเพียงเพราะว่าเสียเงินซื้อไป
แล้ว
ไม่นาน เขาก็สร้างเกมเสร็จ
ระบบการเล่นทั้งหมดเป็นระบบพื้นฐานของเครื่องมือพัฒนาเกม ที่ต้องทำมี
แค่ลากนั่นนี่ง่ายๆ และเปลี่ยนค่าต่างๆ ใครที่มีมือก็สามารถทำได้
เผยเชียนใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงในการเรียนรู้การใช้งานเครื่องมือพัฒนาเกม
ด้วยตัวเอง ซื้อทรัพยากรต่างๆ และสร้างเกม
“เกมกากๆ นี่จะต้องทำให้ฉันขาดทุน!”
หลังจากสร้างเกมเสร็จ เผยเชียนก็ทดสอบเกมบนโน้ตบุ๊ก
ผ่านไปห้านาที เขาก็กดออกเกม แทบจะอ้วกแตก
สิ่งเดียวที่เขาทำคือขับรถ ขับรถ แล้วก็ขับรถ! น่าเบื่อสุดๆ!
เมื่อพึงพอใจกับผลงานตัวเอง เผยเชียนก็ปล่อยตัวเกมทันที
ชื่อเกม: <โดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย>
คำอธิบายเกม: การขับรถคนเดียวบนทางเปลี่ยวกลางทะเลทรายไปสักสอง
สามชั่วโมงจะทำให้คุณตรึกตรองถึงชีวิต
เผยเชียนนึกลังเลตอนเขียนคำอธิบายเกม
ควรจะโม้ไปดีไหม ไม่เหมาะ เกิดออกไปเป็นเหมือนคลิกเบตแล้วสะดุดตาคน
อื่นเข้าคงจะขาดทุนน้อยลง
หรือจะเขียนให้ดูเป็นเกมกากๆ ดี ไม่ได้ เดี๋ยวจะชัดเจนเกินไป นอกจากระบบ
จะถือเป็นการละเมิดกฎแล้ว พวกเกมเมอร์อาจคิดว่าเป็นจิตวิทยาย้อนกลับก็ได้
เกิดยิ่งเขียนให้ดูห่วย คนยิ่งอยากเล่นขึ้นมาจะทำอย่างไร
ดังนั้นเขาจึงเลือกเขียนคำอธิบายไปแบบเถรตรงสุดๆ ให้เกมเมอร์ไม่นึกสนใจ
เลยสักนิดหลังจากอ่านดู!
ต่อไปคือการตั้งราคา
เผยเชียนตั้งราคาที่หนึ่งหยวน
เขาไม่อยากตั้งราคาสูงเกินไปเพราะกลัวจะมีพวกโง่มาซื้อเข้าจริงๆ ถ้าเป็น
อย่างนั้น เขาจะขาดทุนน้อยลง!
เมื่อตั้งราคาไว้ต่ำๆ เผยเชียนก็มั่นใจได้ว่าจะไม่ส่งผลต่อการขาดทุนแม้จะมีคน
สักสิบยี่สิบคนซื้อไปก็ตาม
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ เผยเชียนก็อัปโหลดเกม เมื่อผ่านกระบวนการ
ตรวจสอบ เกมก็จะไปปรากฏบนแพลตฟอร์มเกมทางการอัตโนมัติ
กระบวนการทั้งหมดส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณไม่กี่ชั่วโมงไปจนถึงสองสาม
วัน
แพลตฟอร์มนี้ใช้ระบบแนะนำอัตโนมัติ เกมใหม่ที่ออกพร้อมๆ กันจะขึ้น
แนะนำตามการเปลี่ยนแปลงของข้อมูล และถ้าเกิดไม่มีการจงใจปรับแต่งอันดับ
แอดมินก็จะไม่เข้ามายุ่ง
เผยเชียนปราศจากความกังวล
เกมขยะแบบนี้จะต้องหายไปจากสายตาปวงชนไม่นานหลังวางขาย พอผ่าน
ไปสองสัปดาห์ เงินห้าหมื่นหยวนก็จะกลายเป็นของเขา! ยอดเยี่ยมที่สุด!
เผยเชียนปิดโน้ตบุ๊ก รู้สึกผ่อนคลาย ในใจอัดแน่นไปด้วยความสุขล้น!
บทที่ 4 ตามหาเกมขยะ

เที่ยงวันนั้น เหล่ารูมเมตก็ทยอยกลับมาทีละคน
รูมเมตคนหนึ่งโบกถุงพลาสติกใส่อาหารที่ซื้อมาจากโรงอาหาร
เผยเชียนจำได้ว่าคนคนนี้คือรูมเมตจากชาติที่แล้ว หม่าหยาง หน้าใหญ่ยาว
ของเขายังฝังอยู่ในความทรงจำ
“พี่เชียน กล้ามากนะที่โดดเรียน! แต่ยังโชคดีที่รองคณบดีไม่ได้เช็กชื่อ” หม่าห
ยางมองเผยเชียนด้วยสีหน้าราวกับจะสื่อว่า ‘ไอ้นี่จะโชคดีไปไหน’
รูมเมตคนอื่นๆ เริ่มเปิดโน้ตบุ๊กของตัวเอง
“ตอนบ่ายไม่มีเรียน ใครอยากเล่นเกมบ้าง”
“ฉันๆ เข้าเกมเร็ว! หม่าหยาง แกอยู่ไหน”
“แป๊บนะ ยังกินข้าวไม่เสร็จ”
“เร็วๆ เลย อืดอาดจริงๆ ใครก็ได้ไปเรียกคนจากห้องอื่นมาเพิ่มหน่อย”
คนอื่นๆ ในห้องตั้งโต๊ะญี่ปุ่นบนเตียงพร้อมเปิดโน้ตบุ๊ก
นี่คือสภาพความเป็นอยู่อันแสนลำบากของหอพักมหาวิทยาลัย เตียงสองชั้น
แต่ละตัวไม่ได้มีโต๊ะให้ด้านล่าง ต้องนั่งขัดสมาธิเล่นเกมบนเตียง
เผยเชียนสงสัยมาตลอดว่าอาการปวดหลังของเขาน่าจะมีต้นตอมาจากชีวิต
ช่วงนี้
เพื่อให้ได้ประสบการณ์เล่นเกมที่ดีที่สุด แม้พวกเขาจะมีโน้ตบุ๊ก และสามารถ
ตั้งเล่นได้ง่ายๆ ในหอ แต่นักศึกษาส่วนใหญ่ก็เลือกไปร้านเน็ตอยู่ดี
หม่าหยางถือถ้วยสแตนเลสที่มีถุงอาหารอยู่ข้างใน พอเขมือบเสร็จอย่างรีบ
ร้อนก็โยนถุงพลาสติกทิ้งถังขยะไป
วันนี้ยังดีที่มีเรียนตอนเช้า ทุกคนเลยได้แวะไปซื้อข้าวกินที่โรงอาหาร
ถ้าวันไหนไม่มีเรียน ทุกคนจะนอนตายอยู่บนเตียง
ถ้ามีใครตัดใจลุกจากเตียงไปโรงอาหารได้ พวกที่เหลือก็จะขอให้ ‘ซื้อมาเผื่อ
ด้วย’
แน่นอนว่าการสั่งเดลิเวอรี่นั้นมาทีหลัง ช่วงนี้ยังไม่มีแอปสำหรับสั่ งเดลิเวอรี่
ต้องโทรสั่งเอา นักศึกษาที่ไม่ค่อยมีเงินใช้ก็จะรับทำเป็นงานพาร์ตไทม์เพื่อหา
รายได้เสริม
หม่าหยางพุ่งออกไปนอกห้องและตะโกนชวนเล่นเกม ไม่นานห้องก็แน่นขนัด
เผยเชียนมองหน้าจอโน้ตบุ๊ก เกมบนหน้าจอคือ Gods Rising เป็นเกมแนว
5v5 Multiplayer Online Battle Arena (MOBA) หรือ เกมออนไลน์แบบ
วางแผนสู้กัน 5 ต่อ 5 รูปแบบการเล่นเหมือน DOTA แตกต่างกันแค่เปลือกนอก
ในส่วนลำดับเวลา League of Legends เริ่มมีกระแสขึ้นมาเมื่อปี 2011 แม้
เกมนี้จะมีมาตั้งแต่ 2009 แต่ตอนนั้นยังดูทรงไม่ค่อยดีเท่าไหร่
นอกจากนี้ จากความรู้ที่เผยเชี ยนมี ถ้าดูจากสถานการณ์การเปลี่ยนของโลก
ใบนี้ ไม่สามารถการันตีได้เลยว่าจะมีการพัฒนา League of Legends ขึ้นหรือ
เปล่า
ช่วงนี้เกมแนว MMORPG ยังคงครองร้านเน็ต เกมที่ฮิตที่สุดคือ Fantasy
World
ถึงเกมแนว Gods Rising จะได้รับความนิยมเหมือนกัน แต่ก็ฮิตกันในหมู่ชาว
หอ ไม่ได้ถือเป็นเกมออนไลน์อย่างแท้จริง
แม้จะมีคนเล่นในร้านเน็ตบ้างและเป็นเกมแนวผู้เล่นสู้กับผู้เล่นกันเอง (PvP)
ก็ยังไม่สามารถเทียบชั้นกับเกมแนว MMORPG ได้อยู่ดี
“พี่เชียน ทำไมวันนี้ดูเอ๋อๆ นอนไม่ค่อยหลับเหรอ”
หม่าหยางงุนงงกับท่าทีของเผยเชียน “ขาดคนหนึ่ง พี่จะเล่นไหม”
เผยเชียนส่ายหัว “ไม่ละ หาคนอื่นเลย”
“โอเค เดี๋ยวไปเรียกเพื่อนหวังข้างห้องแทน” หม่าหยางไม่ได้เซ้าซี้อะไร
ไม่นานจากนั้น ห้องสองห้องที่ติดกันก็เริ่มตะโกนโหวกเหวก
“กลางหาย! ระวัง!”
“แม่ง! ฆ่ากันได้ไงเนี่ย!”
“ฮ่าๆๆ! แก๊งสามแต่ตายเอง! กากฉิบหาย!”
เผยเชียนยืนอยู่หลังหม่าหยาง ตามองเคอร์เซอร์เมาส์เลื่อนไปมาบนหน้าจอ
มือซ้ายของรูมเมตรัวอยู่บนคีย์บอร์ด เสียงรัวคีย์บอร์ดบ่งบอกได้ว่าหม่าหยาง
เชี่ยวชาญขนาดไหน
เขาหันไปมองสกอร์บอร์ด ผ่านไปสิบนาทีแล้ว สกอร์อยู่ที่ 10 ต่อ 9 สกอร์
สกอร์ส่วนตัว (KD) ของหม่าหยาง อยู่ที่ 0-0
รูมเมตของเขากำลังสู้กันวุ่นขณะที่เขาพลาดกดสละป้อม
เผยเชียนอดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญถึงความยอดเยี่ยมที่ทุกคนได้กลับมาเป็น
วัยรุ่นในปี 2009 อีกครั้ง ตอนที่ยังสามารถดื่มด่ำกับความหรรษาของเกมได้
พอเริ่มทำงาน เขาก็ซื้อเกมมามากมาย แต่ก็ได้แต่ทิ้งดองในกองฝุ่นและลืมไป
ว่าเคยซื้อมา
ชีวิตการทำงานนั้นแสนเหน็ดเหนื่อย หลังทำงานเสร็จก็อยากนอนโง่ๆ อยู่บน
โซฟาพลางเลื่อนดูเว็บไซต์ต่างๆ หรือไม่ก็ดูไลฟ์สตรีม แค่เกมมือถือก็ขี้เกียจเกิน
กว่าจะเล่นแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเกมที่ต้องใช้ทักษะในการเล่นเลย
โชคดีที่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว
ขอแค่เขาผลาญเงินทุนระบบทั้งหมดได้ เขาก็จะได้เงินมาอย่างง่ายดาย!
จากนั้นก็จะใช้ชีวิตไปวันๆ อย่างสุขสบาย!
เผยเชียนนอนจินตนาการอนาคตของตัวเองอย่างมีความสุข
เงินห้าหมื่นหยวนก้อนแรกจะเอาไปใช้อย่างไรดีนะ…
เอาไปซื้อคอมพ์สเป็กเทพอย่างแรกเลยดีไหม
จากนั้นก็เช่าบ้าน แล้วก็ใช้ชีวิตโง่ๆ ไปวันๆ ไม่อายใคร!
หุหุหุหุ
เผยเชียนอดหัวเราะคิกคักไม่ได้


“และนี่ก็คือ ‘สับเละเกมขยะ’ ประจำสัปดาห์นี้! ถ้าบิดาทุกท่านชอบคลิป
สัปดาห์นี้ อย่าลืมกดไลก์ กดแชร์ กดซับสไครบ์กันด้วยนะครับ!”
ณ บ้านเช่าหลังหนึ่งในปักกิ่ง ชายอ้วนคิ้วหนาตาโตดูเซื่องซึมคนหนึ่งกำลังนั่ง
อัดวิดีโออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเฉื่อยชา
ชายหนุ่มผู้นี้คือเฉียวเหลียง เป็นอัปโหลดมาสเตอร์ชื่อดังบนเว็บไซต์ฟานฉูใน
หมวดเกม โดยใช้ชื่อเล่นว่า อาจารย์เฉียว แฟนๆ เรียกเขาอย่างรักใครว่า ‘บิดา
ทูนหัวแห่งแชแนลเกม’ เพราะทุกครั้ง เขาจะจบวิดีโอด้วยการเรียกคนดูว่า ‘บิดา’
ในฐานะอัปโหลดมาสเตอร์มืออาชีพ เฉียวเหลี ยงค่อนข้างมีชื่อเสียงและมีกลุ่ม
แฟนจำนวนหนึ่ง อย่างไรเสีย ตอนนี้คือปี 2009 ด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
รายได้ของเขาจึงไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่
ถ้ามีสปอนเซอร์ดีๆ เข้า เขาก็จะลืมตาอ้าปากขึ้นมาได้ชั่วขณะและสามารถไป
กินอาหารดีๆ ในภัตตาคารได้
แต่ถ้าสปอนเซอร์ไม่เข้าก็ต้องซดซุปดูดเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เข้าวงการลด
น้ำหนักด้วยการอดอยากปากแห้ง
เฉียวเหลียงพยายามเปลี่ยนทิศทาง แต่ ‘สับเละเกมขยะ’ ก็ยังเป็นซีรีส์ยอด
ฮิตที่มียอดคนดูเยอะที่สุด ดึงดูดบรรดาผู้ชื่นชอบเกมได้มากมาย
เฉียวเหลียงมีคลิปอีกซีรีส์ที่ชื่อ ‘แนะนำเกมมาใหม่ประจำเดือน’ ที่เอาไว้หา
สปอนเซอร์
อย่างไรเสีย ที่เขามีชื่อเสียงขึ้นมาได้ก็เพราะ ‘สับเละเกมขยะ’ แต่คงไม่มี
ผู้พัฒนาเกมคนไหนอยากสปอนเซอร์ให้เกมตัวเองมาออกคลิปนี้แน่
เป็นเหตุให้เฉียวเหลียงปล่อยซีรีส์ ‘แนะนำเกมมาใหม่ประจำเดือน’ ออกมา
เพื่อหาสปอนเซอร์ เทียบกับ ‘สับเละเกมขยะแล้ว’ ถือว่ามีคนดูน้อยมาก
หลังจากอัดคลิป ‘สับเละเกมขยะ’ ตอนล่าสุดเสร็จ เฉียวเหลียงก็ยังไม่ได้
ปล่อยออกไปในทันที กลับปล่อยเอาไว้อยู่อย่างนั้น
เขารู้สึกว่ามันยังขาดบางอย่างไป
ใช่ ถูกแล้ว มันขาดจิตวิญญาณไป
เกมที่พูดถึงรอบนี้ดูไม่มีอะไรพิเศษ เป็นแค่เกมกากๆ ทั่วไป!
แม้จะเตรียมเนื้อหา สื่อต่างๆ เสียงพากย์ และอัดคลิปมาอย่างพิถีพิถัน เฉียว
เหลียงรู้สึกว่าถึงคลิปตอนนี้จะพอดูได้ แต่ก็ยังขาดความตื่นเต้นเร้าใจไป
เกมที่นำมาพูดถึงนั้นกากเกินไปจนไม่มีจุดไหนจะเอามาเป็นจุดเด่น
เรื่องนี้กวนใจเฉียวเหลียงเป็นอย่างมาก เพราะชีวิตความเป็นอยู่ของเขาขึ้นอยู่
กับสิ่งนี้ ถ้ายอดวิวไม่ขึ้น ก็จะหาสปอนเซอร์ยาก
เพราะเหตุนี้ เฉียวเหลียงจึงไม่ได้รีบร้อนปล่อยตอนล่าสุดออกไป เขาเลื่อนดู
รายการแนะนำเกมใหม่ในแพลตฟอร์มเกมทางการเพื่อหาเกมขยะสุดเด็ดดวงมา
ลงคลิป
ทันใดนั้น เขาก็เริ่มหิวขึ้นมา จึงหยิ บซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมาและไปต้ม
น้ำ เตรียมพร้อมฟื้นฟูพลังกายให้ตัวเอง
ระหว่างรอน้ำเดือด เฉียวเหลียงก็หาเกมใหม่ต่อไป
“โดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย เกมบ้าไรเนี่ย”
เฉียวเหลียงอ่านคำอธิบายเกม
“เกมจำลองการขับรถที่จะทำให้ตรึกตรองถึงชีวิต”
“มันจะมาตรึกตรองชีวิตได้ยังไง”
คำอธิบายเกมทำให้เฉียวเหลียงนึกสงสัย
ในฐานะนักสร้างคอนเทนต์หมวดเกมมืออาชีพ เฉียวเหลียงเป็นคนที่จะเล่น
เกมอะไรก็ตามแต่ที่ทำให้เขานึกสนใจ
เขากดซื้อเกม ไม่นานการดาวน์โหลดก็เสร็จสิ้น ก่อนที่เกมจะเปิดขึ้นมาเอง
อัตโนมัติ
บทที่ 5 เกมนี้ทำให้ตรึกตรองถึงชีวิตได้จริงๆ

“เอ๊ะ เริ่มแบบนี้เลยเหรอ”
น้ำในกาต้มน้ำยังไม่ทันเดือด แต่เฉียวเหลียงก็ไม่มีเวลามาสนใจเนื่องจากได้
เข้าสู่เกมเรียบร้อยแล้ว
ไม่มีฉากเปิดหรือแอนิเมชันอะไร ไม่มีกระทั่งปุ่มตัวเลือกด้วย เพราะผู้เล่นเข้า
ไปในเกมทันที
เข้าสู่ทะเลทรายเวิ้งว้างอันไกลโพ้นที่มีถนนคดเคี้ยวทอดไกลสุดลูกหูลูกตา
เกมนี้มีมุมมองกล้องแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่งจากในรถ มีหน้าคำแนะนำเกม
แบบเรียบง่าย สามารถควบคุมได้ผ่านแป้นพิมพ์หรือจอยเกม ดูแล้วก็เหมือนเกม
แนวแข่งรถอื่นๆ ในตลาด
เฉียวเหลียงมองดูรูปบนหน้าจอและพบว่าการควบคุมนั้นไม่มีปัญหาอะไร
เพราะอย่างไรนี่ก็เป็นเทมเพลตที่ออกแบบไว้แล้วให้มีระดับไม่สูงหรือต่ำ
เกินไป
เฉียวเหลียงหยิบจอยเกมที่วางอยู่ข้างๆ ขึ้นมาต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์และเริ่ม
เล่นเกม
รถค่อยๆ เคลื่อนตัวไปด้านหน้า
เฉียวเหลียงขับเลี้ยวไปตามทางเรื่อยๆ
ในเกมเป็นเวลาเช้า ดวงอาทิตย์เพิ่งขึ้น แสงสว่างจึงไม่ได้แรงจนเกินไป
เม็ดทรายพัดปลิวไปบนทะเลทราย ไกลออกไปมีพายุทรายเป็นหย่อมๆ ซึ่งจะ
ส่งผลกระทบต่อวิสัยทัศน์การมองเห็นในเกม
ถนนทอดยาวออกไปไกล ไม่ได้เป็นแค่ทางตรงธรรมดา แต่มีจุดให้เลี้ยวเป็น
พักๆ
ติ๊ก!
น้ำในกาเดือดแล้ว
เฉียวเหลียงขับรถไปตามทาง เริ่มตกอยู่ในภวังค์ความคิด
ฉันกำลังทำอะไรอยู่
แล้วฉันควรทำอะไร
เกมนี้ต้องการให้ฉันทำอะไร
เขาขับมาสามนาทีแล้ว มีจุดให้เลี้ยวอยู่หลายจุด แต่…
ไม่มีอะไรอื่นน่าสนใจเลยนอกจากนั้น
ขับ เลี้ยว ดูพายุทรายที่อยู่ไกลลิบ นอกจากนั้น เกมนี้ก็ไม่มีอะไรอีก!
บนถนนกลางทะเลทรายนี้ แม้แต่รถสักคันก็ไม่มี!
เฉียวเหลียงอยากไปต้มบะหมี่สำเร็จรูปกินจึงกดปุ่มเรียกเมนูเกม
แต่กลับไม่มีการตอบสนองอะไร
เฉียวเหลียง: ???
ถ้ากดปุ่มนี้ในเกมอื่นๆ จะเป็นการหยุดเกมชั่วคราว แต่เกมนี้กลับไร้ซึ่งการ
ตอบสนองใดๆ!
เฉียวเหลียงคิดว่าคงเป็นบั๊กจึงถือจอยไว้และเลื่อนมือไปกดปุ่ม ESC ปุ่ม
Space Bar และปุ่ม Return บนแป้นพิมพ์…
แต่ก็ยังไม่มีการตอบสนองใดๆ!
เกมนี้หยุดไม่ได้!
เฉียวเหลียงนิ่งอึ้งไป
ขณะที่กำลังอึ้งอยู่นั้น เขาเสียสมาธิจนลืมกดเลี้ ยว รถพุ่งออกจากถนน จม
หายไปในทะเลทราย
GAME OVER
ตัวอักษรภาษาอังกฤษปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
เฉียวเหลียงอ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง
เกมนี้ได้แหกกฎบรรดาเกมขยะที่เขาเคยเล่นมา!
ไม่ ถ้าจะพูดให้ถูก นี่ไม่ใช่เกมขยะ
เกมขยะส่วนใหญ่คือเกมที่คุณภาพไม่ถึงเกณฑ์ งบไม่พอ หรือขาดทิศทางที่
ชัดเจนของผู้พัฒนา ทำให้บรรดาผู้เล่นรู้สึกว่าเกมสร้างมาไม่ค่อยดี
แต่เกมนี้ต่างออกไป
เหมือนวางเป้าหมายมาว่าจะกวนบาทาคนอื่น!
ทำไมถึงไม่มีระบบหยุดหรือจุดเซฟมาให้ พลาดครั้งเดียวก็ขึ้น Game Over
เลย
“เดี๋ยวนะ เกมนี้น่าสนใจไม่เบา…”
“ไม่แน่ เกมนี้อาจจะทำให้ออกคลิปยอดวิวเยอะๆ เหมือนคลิปวิจารณ์เกมก็
ได้”
เฉียวเหลียงรีบต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและเริ่มวิเคราะห์ชื่อเกมกับคำอธิบายเกม
“โดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย ดูน่าจะเน้นคำว่าเดียวดาย”
“เกมจำลองการขับรถที่ จะทำให้ตรึกตรองถึงชีวิต…ใช่ ฉันกำลังคิดถึงชีวิต
จริงๆ คำอธิบายเกมไม่ได้โกหกเลยสักนิด…”
“เหมือนว่าเกมนี้จะเต็มไปด้วยเจตนาชั่วร้ายจริงๆ แฮะ!”
“บริษัทที่พัฒนาเกมนี้ชื่อเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีจำกัด ไม่เคยได้ยินชื่อนี้
เลย แถมดูเหมือนมีแค่เกมนี้เกมเดียว”
“จิ๊…”
หลังกินเสร็จ เฉียวเหลียงก็หยิบจอยเกมขึ้นมาอีกครั้ง
แต่รอบนี้กดเปิดโปรแกรมอัดหน้าจอไปด้วยเพื่อบันทึกการเล่น

สามชั่วโมงต่อมา
เฉียวเหลียงสมาธิหลุดไปชั่วครู่จนลืมเลี้ยว ปล่อยรถจมทรายจนเกมจบไป
“อ๊ะ!”
“แม่งเอ๊ย…!!!”
เฉียวเหลียงโมโหจนเกือบจะเขวี้ยงจอยใส่โต๊ะ เขาเพิ่งเสียเวลาไปสามชั่วโมง!
เขาใช้เวลาสามชั่วโมงขับรถไปบนทะเลทราย ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่น แต่กลับ
พบหน้าจอ GAME OVER เด้งใส่หน้าประกาศให้ทราบถึงความล้มเหลวอย่างไร้
เมตตา
เวลาสามชั่วโมงแสนสำคัญในชีวิตหมดไปแบบนั้น นอกจากค่าไฟที่เพิ่มมาก็
ไม่ได้สร้างประโยชน์อื่นใด
วิดีโอที่อัดมาก็เปล่าประโยชน์ ที่อัดไปทั้งหมดสามชั่วโมงตัดมาใช้ได้แค่ช่วง
ตอนจบเกมไม่กี่วินาทีเพื่อเอาไปทำเป็นช่วงรวมฉากพลาด
เฉียวเหลียงโยนจอยลงบนโต๊ะคอมพ์ก่อนจะลุกขึ้นสงบจิตสงบใจตัวเอง
เขาไม่ได้ทุบจอยระบายความโกรธเพราะจน
จอยอันนี้ราคาสองร้อยหยวน ถ้าเกิดพลาดทำเสียหายขึ้นมาคงทำให้เขาใจ
สลายแน่
“ฮึบ…”
“ใจเย็น…”
“ทั้งหมดก็เพื่องาน”
“ไม่ธรรมดา เกมนี้ทำให้ฉันเดือดได้ ถือว่าเป็นคุณสมบัติที่ดีของเกมขยะ”
เฉียวเหลียงใช้เวลาสงบสติอยู่พักใหญ่
ในฐานะที่เป็นอัปโหลดมาสเตอร์มืออาชีพด้านการวิจารณ์เกม เขาผ่านความ
ท้าทายและความยากลำบากมานักต่อนัก แค่แมลงหวี่ตัวจ้อยแบบนี้ไม่ใช่อะไรที่
เขาจะจัดการไม่ได้
แต่เฉียวเหลียงก็รู้ดีว่าคงไม่สามารถเล่นเกมนี้จบได้อย่างง่ายดาย
นี่คือความท้าทาย!
คิดได้ดังนั้น เฉียวเหลียงจึงโทรสั่งอาหารให้มาส่ง
โชคดีที่เขาเกมโอเวอร์เร็ว ถ้าช้ากว่านี้บริการเดลิเวอรี่คงปิดหมดแล้ว
เขาใช้โอกาสนี้งีบบนเตียงเพื่อฟื้นพลัง
หลังจากตื่นและกินจนอิ่ม เขาก็วางน้ำแก้วใหญ่ไว้บนโต๊ะ เตรียมพร้อมลุยศึก
สุดยาวนาน
เขารู้แล้วว่าเกมนี้เป็นอย่างไร
ถ้าถามว่ายากไหม ตอบได้เลยว่าไม่
ไม่ได้เกินจริงไปเลยถ้าจะบอกว่าใครที่มีมือก็เล่นเกมนี้ให้จบได้
ไม่มีเลี้ยวหักศอก ไม่มีรถตำรวจตามไล่ล่าสร้างปัญหา ไม่มีแม้กระทั่งการ
กำหนดความเร็ว
จุดเดียวที่ยากคือเวลา!
ถ้าสามชั่วโมงยังไม่พอที่จะเคลียร์เกม ก็บอกไม่ได้ว่าจะต้องใช้เวลาไปมาก
เท่าไหร่
ตามสัญชาตญาณ ผู้เล่นจะต้องอยากเร่งความเร็วรถเพื่อไปถึงเส้นชัยให้เร็ว
ที่สุด แต่ผู้เล่นก็ต้องใช้สมาธิมากขึ้น ไม่อย่างนั้นอาจลืมเลี้ยวได้
ทันทีที่รถออกนอกถนน ผู้เล่นจะต้องเริ่มเล่นใหม่ตั้งแต่ต้น
ถ้าอยากจะไปให้ได้อย่างราบรื่นก็ต้องขับช้าลง แต่ก็เป็นการยืดเวลาเล่น
ออกไปอีก
“เฮงซวย! เกมนี้มันเฮงซวยจริงๆ!”
เฉียวเหลียงรู้สึกอยากท้าทายและวิจารณ์เกมนี้มากเสียจนไม่รู้จะบรรยาย
อย่างไร
ถ้าเขาสามารถสร้างวิดีโอวิจารณ์เกมนี้ออกมาได้ แค่ชื่อคลิปก็เป็นคลิกเบต
เรียกแขกมาดูได้หลายวิวแล้ว!
เฉียวเหลียงกัดฟันแน่น กดเริ่มเกมและท้าทายมันอีกครั้ง

ผ่านไปกว่าแปดชั่วโมง
กลางดึก
“บัดซบ!”
“จบแล้ว! เล่นจบแล้วจริงๆ โว้ย!”
เฉียวเหลียงแทบน้ำตาไหลเมื่อเห็นเส้นชัย!
เส้นชัยที่เห็นนั้นเหมือนๆ กับเส้นชัยในเกมแข่งรถมากมายที่ใช้งานภาพซึ่ งใช้
กันทั่วไป แต่สำหรับเฉียวเหลียงในตอนนี้ เส้นสีขาวดำบ่งบอกเส้นชัยนั้นทำให้เขา
รู้สึกตื้นตันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
น้ำตารื้นขึ้นมาทันใด!
เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้โต๊ะคอมพ์ ในมือถือจอยเกม
แต่เขาก็อดทนมาจนถึงแปดชั่วโมง!
ความพยายามไม่ได้สูญเปล่า!
ความรู้สึกมากมายประเดประดังเข้ามาจนเฉียวเหลียงก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเอง
รู้สึกอย่างไร
ตอนที่รถขับผ่านเส้นชัยไป เขารู้สึกราวกับว่าตนเองถูกวิญญาณของรถเข้าสิง!
ในตอนนั้น เขาเป็นรถที่เท่ที่สุดในสนามแข่ง
หลังจากนั้น หน้าจอก็มืดไปพร้อมตัวอักษรที่ปรากฏขึ้น
“ขอแสดงความยินดี คุณได้สูญเสียเวลาชีวิตอันมีค่าไปแปดชั่วโมง!”
บทที่ 6 ทำไมมียอดโหลดเป็นพัน!

เฉียวเหลียงสับสนไปหมด
แค่นี้หรือ
เขาเพิ่งจะเคลียร์เกมไป
แต่ได้แค่ประโยคนั้นเป็นการตอบแทน
อย่างน้อยก็ควรจะสร้างถ้วยรางวัลให้ฉันหรือเปล่า สร้างแท่นรับรางวัลสิ!
ถึงจะไม่มีงานภาพ อย่างน้อยใส่เสียงเฮมาให้ก็ยังดี!
เสียงคนเฮมันจะราคาเท่าไหร่กัน จะขี้เหนียวเกินไปแล้ว!
ฉันใช้เวลาตั้งแปดชั่วโมงกว่าจะเคลียร์เกมได้ แต่แค่ขึ้นจอดำกับประโยคกวน
บาทาแทนหรือ!
เฉียวเหลียงทนไม่ได้อีกต่อไป ทั้งในแง่ร่างกายและจิตใจ
เขาอยากจะร้องไห้เ พราะทั้งเวลาและแรงกายที่ทุ่มไปกลับโดนเยาะเย้ย
กลับมา!
แต่ถึงจะหงุดหงิดและสิ้นหวังเพียงใด ภายในก็ยังรู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อย
รู้สึก…โล่งใจขึ้นมาหน่อยหรือเปล่านะ
ไม่ใช่เพราะเขาเป็นพวกชอบความเจ็บปวด แต่เพราะรู้ว่าตนเองได้วัตถุดิบล้ำ
ค่ามาไว้ในมือแล้ว!
เห็นอัปโหลดมาสเตอร์อันเป็นที่รักต้องทนทุกข์ระทมแบบนี้ แฟนๆ คงจะถล่ม
กดไลก์กดแชร์ให้แน่
เฉียวเหลียงตรวจดูวิดีโอ การเดินทางตลอดแปดชั่วโมงของเขาถูกบันทึกไว้
ครบถ้วน
“รอก่อนเถอะ! ตื่นแล้วเดี๋ยวจะมาจัดการให้เรียบร้อย!”
เขากระแทกเสียงใส่เกมบนหน้าจอก่อนจะกดบันทึกวิดีโอ แล้ วล้มตัวลงเตียง
นอนหลับปุ๋ยไป

สามวันต่อมา
เผยเชียนตื่นตามเวลาปกติในหอพัก รู้สึกสุขสันต์กับชีวิต
เขาปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตในมหาวิทยาลัยได้อีกครั้งในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ชายหนุ่มสามารถตื่นนอนได้ตามสบาย ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องงาน ไม่ต้องกดดัน
ว่าต้องทำอย่างไรให้ผ่าน KPI หรือต้องทนแบกรับอารมณ์ของหัวหน้า
สั้นๆ คำเดียวคือชีวิตในตอนนี้ช่างสุขสำราญเสียจริง
แต่คงจะดีถ้าเขารวยกว่านี้
อย่างแรกที่ต้องทำหลังตื่นคือเปิดระบบ!
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ: เผยเชียน>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1:1>
<วันปิดบัญชีครั้งต่อไป: อีก 11 วัน>
<เงินทุนระบบ: 0 (↓50,000)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 367>
เผยเชียนพึงพอใจมากเมื่อได้เห็นเลขศูนย์ในระบบ
ยอดเยี่ยม!
ส่วนจำนวนที่แสนละเหี่ยใจตรงช่องความมั่งคั่งส่วนบุคคลนั้น เขาไม่สามารถ
ทำอะไรกับมันได้
เขาพยายามเต็มที่แล้วแต่ก็ไม่สามารถเก็บเงินได้เลย!
ชายหนุ่มได้เงินไว้ใช้จ่ายหนึ่งพันหยวนต่อเดือน ถึงจะกินข้าวที่โรงอาหารทุก
วันก็ไม่พอใช้จ่ายอยู่ดี
จะให้เอาเงินไว้จ่ายค่าอาหารอย่างเดียวก็ไม่ได้ อย่างไรเสียก็ต้องมีค่าใช้จ่าย
ประจำวันส่วนอื่นๆ อยู่ดี
เผยเชียนแทบจะรอไม่ไหวให้ถึงวันปิดบัญชีในอีกสิบเอ็ดวันต่อมา ที่ส่วน
ขาดทุนทั้งหมดจะแปลงมาเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคล ถ้าเป็นแบบนั้นคงยอดเยี่ยม
น่าดู
เงินทุนระบบยังคงเป็นศูนย์เพราะกำไรที่ทำได้จากแพลตฟอร์มวางขายเกมยัง
ไม่ได้โอนมาที่บัญชีของบริษัท
แพลตฟอร์ ม เกมของ ESRO นั ้ น จะคำนวณบั ญ ชี ด ้ ว ยระบบอั จ ฉริ ย ะโดย
อัตโนมัติ ผู้พัฒนาเกมกับทางแพลตฟอร์มจะได้รับส่วนแบ่งเท่ากัน
ถ้าอยากดูยอดขายและยอดดาวน์โหลดก่อนวันจ่ายเงินจะต้องไปดูที่ส่วนหลัง
บ้านในเครื่องมือพัฒนาเกม
สองวันแรกหลังจากอัปโหลดเกมขึ้นแพลตฟอร์ม เผยเชียนแอบไปเช็กหลัง
บ้านดูตลอดแล้วพบว่ามีผู้โชคร้ายอยู่สิบกว่าคนที่หลงเข้ามาซื้อและดาวน์โหลด
เกมเขา
อย่างไรเสีย เกมของเขาก็เป็นเกมใหม่ มีขึ้นแนะนำเป็นครั้งคราว จึงไม่ใช่เรื่อง
แปลกที่จะมีเกมเมอร์หน้าโง่ลองโหลดไปเล่นดู
ยอดโหลดสิบกว่าคน…หลังจากแบ่งกำไรกับทางแพลตฟอร์มแล้วจะได้กำไร
มาไม่กี่หยวน ไม่ได้ส่งผลกระทบกับภาพรวมทั้งหมด
และเกมเมอร์ เ หล่ า นั ้ น ก็ ต ้ อ งรี ว ิ ว ให้ ห นึ ่ ง ดาวเป็ น ธรรมดา เกมโดดเดี ่ ย ว
เดียวดายกลางทะเลทรายตอนนี้มีคะแนนรีวิวอยู่ในระดับห่วยแตก และคงไม่มี
เกมเมอร์หน้าโง่คนไหนหลงมาซื้ออีก
พอมั่นใจแล้วว่าเกมจะต้องขาดทุนย่อยยับ เผยเชียนก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
ไม่เข้าไปเช็กยอดขายยอดโหลดอีก
ถึงจะมั่นใจว่าเข้าไปเช็กดูวันนี้ก็ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยน แต่เขาก็กดเข้าไปดู
ตามสัญชาตญาณ
ความอยากรู้อยากเห็นสั่งให้ชายหนุ่มกดเข้าไปดู
ในขณะที่ผู้พัฒนาเกมคนอื่นๆ หวังอยากให้เกมที่ตัวเองปล่อยมาได้กระแส
ตอบรับที่ดี หวังไปถึงขนาดว่าจะเห็นยอดโหลดเพิ่มขึ้นหลักหมื่นหลักแสนทุกครั้ง
ที่กดรีเฟรช แต่เผยเชียนนั้นกลับหวังให้เกมมีกระแสตอบรับยอดแย่ มียอดโหลด
เป็นศูนย์ได้ยิ่งดี
“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ยอดดาวน์โหลดก็ไม่น่าจะเกินสองหลัก”
“อะไรวะเนี่ย!”
“เกิดอะไรขึ้น!”
เผยเชียนตะลึงงันไป
เขาตกใจเมื่อได้เห็นยอดดาวน์โหลดที่ตอนนี้ทะลุไปสี่หลักกำลังจะขึ้นห้าหลัก!
ป้าบ!
ชายหนุ่มยกมือขวาตบหน้าผาก ไม่คาดคิดว่าจะเห็นภาพแบบนี้
“มียอดโหลดแปดพันกว่าได้ไง!”
“จะทะลุไปหมื่นแล้วเนี่ย!”
“เหลืออีกตั้งสิบวันกว่าจะถึงวันปิดบัญชี!”
เผยเชียนสับสน ทำอะไรไม่ถูก
ทุกอย่างไปไกลกว่าที่เขาคิดไว้!
นี่เป็นโจทย์คณิตง่ายๆ ที่เด็กประถมก็แก้ได้ ยอดดาวน์โหลดแปดพันครั้ง
เท่ากับทำเงินได้แปดพันหยวน หักครึ่งหนึ่งให้ทางแพลตฟอร์ม เขาก็จะได้กำไรถึง
สี่พันหยวน!
ESRO ระบุไว้ว่าเกมส่วนใหญ่ต้องโดนหักภาษีประมาณ 5% แต่พวกเกมอินดี้
จะได้รับคืนภาษีทำให้แทบไม่ต้องเสียภาษีเลย
แสดงว่าจำนวนเงินที่ทางแพลตฟอร์มจะโอนเข้าบัญชีบริษัทสัปดาห์นี้จะไป
เพิ่มเงินทุนระบบถึงสี่พันหยวน!
แล้วนั่นหมายความว่าอย่างไร
หมายความว่าเผยเชียนทำเงินได้สี่พันหยวนหรือ
เปล่า!
กลับกันเลยต่างหาก เขาจะเสียเงินไปถึงสี่พันหยวน!
ตอนแรก เผยเชียนจะได้ห้าหมื่นหยวนจากการแปลงเงินทุนระบบที่ใช้ไปเป็น
ความมั่งคั่งส่วนบุคคล
เมื่อมีรายได้เพิ่มมาสี่พันหยวน เขาก็จะขาดทุนแค่สี่หมื่นหกพันหยวน ทำให้
รายได้หายไปจากห้าหมื่นเป็นสี่หมื่นหกพันหยวน!
นั่นยังไม่น่าห่วงเท่ายอดดาวน์โหลดที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ!
ทุกครั้งที่เผยเชียนกดรีเฟรช ยอดดาวน์โหลดจะพุ่งขึ้นทีละสิบ ทีละร้อย
ทุกยอดดาวน์โหลดที่เพิ่มขึ้นก็เปรียบเหมือนเอาเกลือมาถูบนแผลของชาย
หนุ่ม!
นั่นเพราะยิ่งทำกำไรได้เท่าไร ความมั่งคั่งส่วนบุคคลก็จะลดลงเรื่อยๆ!
นอกจากนี้ ยังเหลือเวลาอีกตั้งสิบวันกว่าจะถึงวันปิดบัญชี ถ้ายอดดาวน์โหลด
ทะลุเพิ่มไปอีกสิบเท่าภายในสัปดาห์นี้ละก็…
จิ๊…!
ซวยแล้ว!
เผยเชียนเริ่มอยู่ไม่สุข
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่! หลังบ้านบั๊กเหรอ”
“เกมกากๆ แบบนี้จะมียอดดาวน์โหลดหลักพันได้ไง จะกวนส้นเท้ากันเกินไป
แล้ว”
เขายังไม่ปักใจเชื่อ รีบเปิดแพลตฟอร์มทางการและค้นดูช่องคอมเมนต์ของ
เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย
ชายหนุ่มตื่นตะลึงไป แม้คะแนนรีวิวจะยังเหมือนเดิม แต่มีคอมเมนต์ใหม่
เพิ่มขึ้นมากว่าร้อยคอมเมนต์!
“ตามมาจากคลิปอาจารย์เฉียว!”
“ตามมาจากคลิปอาจารย์เฉียว +1”
“ฉันขำจนท้องแข็ง ไม่คิดว่ าจะมีเกมที่ต่อต้านมนุษยชาติแบบนี้อยู่ เปิดโลก
จริงๆ!”
“โหลดแล้ว ลองเล่นดูแล้วก็ยอมรับความพ่ายแพ้ในห้านาที”
“หยวนเดียวแทบไม่คุ้มแรงขอรีฟันด์ ขอถุยน้ำลายใส่แทนแล้วกัน ขาก…ทุ้ย!”
“ผมไปบอกให้เพื่อนโหลดเกมนี้แล้วทนเล่นให้จบจะได้เห็นเซอร์ไพรส์สุด
ยิ่งใหญ่กับอีสเตอร์เอ๊ก ตอนนี้เพื่อนจะเลิกคบผมแล้ว ทำไงดีครับ”
“เจ้าของคอมเมนต์ข้างบนนี่ยังเป็นคนอยู่รึเปล่า ฉันบอกเพื่อนไปตามตรงว่า
ตอนจบมีแค่จอมืดๆ กับประโยคโผล่ข ึ้นมา เอาจริงๆ ฉันบอกไปหมดเลยว่า
ประโยคขึ้นมาว่ายังไง รู้มั้ยเป็นไง เขาคิดว่าฉันโกหก ยืนกรานจะเช็กดูด้วยตา
ตัวเอง! ตอนนี้เขายังเคลียร์เกมไม่ได้ แต่ทุบจอยพังไปสามตัวแล้ว ฉันว่าอีกนิด
น่าจะโดนตัดเพื่อนเหมือนกัน”
“มีใครรู้ที่อยู่คนสร้างเกมมั้ย ฉันถามเล่นๆ ดูเผื่อจะส่งของฝากสุดพิเศษจาก
แถวบ้านไปให้”
“แนะนำว่าให้เลิกเล่นแล้วไปดูคลิปอาจารย์เฉียวดีกว่า เขาอัดไว้เต็มแปด
ชั่วโมงเลย…”
“เฮ้อ บอกเลยว่าเกมนี้ทำให้พวกนายตรึกตรองอะไรได้จริงๆ ดูคลิปก็ไม่
เหมือนเล่นเอง”
“ปั่นจัด ปั่นสุดๆ”
“เอาจริงดิ! พระถังซัมจั๋งต้องผ่านความทุกข์ยากแปดสิบเอ็ดประการถึงจะ
อัญเชิญพระไตรปิฎกได้ใช่มั้ยล่ะ พวกนายคิดว่าดูไซอิ๋วแล้วจะเป็นเหมือนท่านได้
เลยรึไง”
เผยเชียนงงไปหมด
ทั้งหมดนี้คืออะไร
คอมเมนต์พวกนี้มาจากไหน
ตามมาจากคลิปอาจารย์เฉียวหรือ
ขณะที่กำลังงุนงง เผยเชียนก็เอาชื่ออาจารย์เฉียวไปค้นอินเทอร์เน็ตดู
ไม่นานเขาก็เจอหน้าเพจของอาจารย์เฉียวบนเว็บไซต์ฟานฉูและเห็นวิดีโอที่ลง
ไปเมื่อวาน
<สับเละเกมขยะ EP.64: เล่นเกมกากไม่หยุดแปดชั่วโมงจนเคลียร์แต่ได้พบสิ่ง
นี้…>
ยอดวิวทะลุเกินสองแสนไปแล้วเรียบร้อย
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก
เหมือนว่าเขาจะเจอตัวคนร้ายแล้ว
บทที่ 7 เจอตัวคนร้ายแล้ว!

เผยเชียนเปิดดูวิดีโอ
เสียงยืดแหบห้าวเป็นเอกลักษณ์ พูดสำเนียงภาษาถิ่นของอาจารย์เฉียวสร้าง
ความประทับใจให้เผยเชียน
“สวัสดีครับ ท่านบิดาทั้งหลาย ผมบิดาทูนหัวแห่งวงการเกมคนดีคนเดิมที่ทุก
ท่านรู้จักกันในนามอาจารย์เฉียว”
“มีแฟนๆ บอกว่าคิดถึงคลิปวิจารณ์เกมกาก อยากให้ผมอัปโหลดคลิปใหม่สัก
ที ที่ผมไม่ได้อัปคลิปใหม่ไม่ใช่เพราะผมขี้เกียจ แต่เป็นเพราะเกมกากๆ ที่ผมเจอ
เป็นเกมที่กากแบบไร้ที่ติ…”
“และในที่สุด สวรรค์ก็ไม่ละเลยผู้ที่บากบั่น หลังจากตรากตรำขุดค้นเพชรใน
กองขยะ ผมก็ได้พบขยะ…เอ้ย ทองคำ ใช่แล้วครับ ขอเชิญทุกท่านพบกับ เกมโดด
เดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย”
“นี่คือเกมสุดแสนน่าประทับใจที่จะพาทุกท่านใช้เวลาแปดชั่วโมงในโลกจริง
เดินทางไปในเส้นทางสายปรัชญา!”
“เกมนี้เป็นเกมจำลองการขับรถสุดเบสิก นอกจากได้ขับรถแล้ว ยังสามารถ
บีบแตรและดื่มด่ำกับบทเพลงขณะเชยชมทิวทัศน์ทะเลทรายที่เปลี่ยนไปมา”
“ใช่แล้วครับ ถึงรอบๆ จะมีแต่ทราย ไม่มีอะไรนอกจากนั้น แต่เชื่อผมเถอะ
ทรายที่พัดปลิวไปมาจะทำให้ทิวทัศน์ดูเปลี่ยนไปทุกครั้งที่รถเคลื่อนตัวไปด้านหน้า
ขับไปนานสักหน่อย คุณอาจจะเห็นภาพลวงตาก็ได้…”
“อะไรนะครับ ไม่เห็นเหรอ ไม่เป็นไร ขอแค่คุณอดทนเล่นให้ครบแปดชั่วโมง
เดี๋ยวก็ได้เห็นเองแหละ”
“นอกจากนั้น เกมนี้ยังมีระบบจัดอันดับที่สร้างมาอย่างพิถีพิถัน สามารถเก็บ
ข้อมูลจำนวนครั้งที่เคลียร์เกมและเวลาที่ดีที่สุดที่ทำได้ด้วย!”
“ช่างเป็นฟังก์ชันสุดเลิศเลอที่คอยย้ำเตือนผมอยู่เสมอว่าได้เสียเวลาชีวิตให้
เกมนี้ไปเท่าไหร่…”
“อะแฮ่ม เอาละ ทุกคนน่าจะดูออกว่าเมื่อกี้ผมประชด จริงๆ แล้ว ผมบอกได้
เลยว่าเกมนี้คือเกมที่น่าเบื่อที่สุดในประวัติศาสตร์วงการเกม”
“ใช่ครับ คุณได้ยินไม่ผิด จะในอดีตหรืออนาคต ในหรือนอกประเทศ ไม่น่าจะ
มีเกมขับรถที่น่าเบื่อไปกว่าเกมนี้แล้ว”
“คุณต้องจ้องจอตลอดการเล่นเกมทั้งแปดชั่วโมงเพื่อดูว่ามีทางเลี้ยวโผล่มา
หรือเปล่า ถ้าเกิดลืมกดเลี้ยวขึ้นมาแล้วละก็…ขอแสดงความเสียใจ คุณพลาดแล้ว
ต้องกลับไปเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น!”
“อย่ามาถามผมว่าทำไมไม่มีปุ่มหยุดหรือจุดเซฟ เพราะว่า…เกม! นี้! ไม่! มี!
ปุ่ม! หยุด! โว้ย!”
“สิ่งจรรโลงใจที่ทำได้ในเกมคือบีบแตรกับฟังเพลง แต่ข่าวร้ายคือ นอกจากจะ
ฟังเพลงที่ตัวเองชอบไม่ได้แล้ว ยังกดเปลี่ยนช่องวิทยุไม่ได้อีก! ต้องทนฟังแค่เพลง
เก่าๆ อะไรไม่รู้! ยิ่งไปกว่านั้น คุณกดข้ามเพลงที่ไม่ชอบไม่ได้ด้วย!”
“ที่น่าตื่นตะลึงที่สุดคือตอนจบเกมที่มีประโยคหนึ่งเด้งขึ้นมาว่า ขอแสดง
ความยินดี คุณได้สูญเสียเวลาชีวิตอันมีค่าไปแปดชั่วโมง!”
“ใช่ครับ! เกมนี้บอกว่าจะทำให้ตรึกตรองถึงชีวิต แล้วมันก็ทำให้ผมได้ตรึก
ตรองจริงๆ!”
“มันทำให้ผมตระหนักถึงความสำคัญของเวลา และเกมก็เป็นอะไรที่ทำให้
เสียเวลายิ่งนัก!”
“ถ้าจะให้คะแนนความน่าเบื่อ เต็มสิบผมให้ร้อย!”
“แต่เกมนี้ก็ยังไม่สมบูรณ์แบบ”
“ในฐานะที่เป็นผู้เล่นคนแรกที่เคลียร์ เกมนี้ได้ (เช็กอันดับในเกมได้) ผมขอ
แนะนำให้ใส่ระบบพวกนี้เข้าไปในเกมด้วย!”
“อย่างแรกเลยคือ จะให้เกมจบหลังเข้าเส้นชัยทำไม ผมขอแนะนำให้ใส่จุด
กลับรถเข้าไปหลังเส้นชัยจะได้ขับกลับไปจุดเริ่มต้นได้! ถือเป็นวิธีที่ดีในการพัฒนา
โหมดไม่มีจุดจบ!”
“จะมาอ้างได้ไงว่าเทพเกมนี้แล้วถ้าไม่ได้ขับกลับไปกลับมาสักสิบรอบ”
“อีกอย่าง ผมอยากให้เพิ่มระบบเล่นหลายคนเข้ามา ให้ผู้เล่นอื่นเข้ามานั่งใน
รถได้ ดูวิวไปด้วยกัน หรือคุยกับคนขับก็ได้!”
“ผมหวังว่าผู้พัฒนาเกมจะนำคำแนะนำของผมไปใช้ในการอัปเดตตัวเกม
รับรองต้องดังเปรี้ยงปร้างแน่!”
“…”
“ขอจบคลิปวิจารณ์เกมกากประจำสัปดาห์นี้ไว้ตรงนี้! อีกแปดชั่วโมงที่เหลือ
เป็นคลิปการเล่นเกมเต็มแปดชั่วโมง ใครเบื่อๆ ก็ไปนั่งดูให้จบแบบไม่ต้องกดเร่ง
ความเร็ว”
“เชื่อผมเถอะ ดูจบแล้ว คุณจะได้ตรึกตรองถึงชีวิตเหมือนผม!”
เผยเชียนเลื่อนดูวิดีโอและพบว่าอาจารย์เฉียวอัดคลิปการเล่นเต็มแปดชั่วโมง
จริงๆ
ช่องคอมเมนต์มีแฟนๆ มาแสดงความคิดเห็นกันเต็มไปหมด
“ฉันดูคลิปเต็มแปดชั่วโมงแบบไม่กดเร่งความเร็ว ตอนนี้เริ่มตรึกตรองถึง
ความหมายของชีวิตแล้ว…”
“อาจารย์เฉียวทุ่มมาก! ยอมเอาชีวิตเข้าแลกเพื่ออัดคลิปมาให้เราดู!”
“อาจารย์เฉียว หยุดเถอะ! เดี๋ยวหัวจะเถิกไปกันใหญ่!”
“เดี๋ยวนี้ต้องเอาชีวิตเข้าแลกเพื่ออัดคลิปเลยเหรอ!”
“ฉั น ดาวน์ โ หลดมาแล้ ว มั ่ น ใจว่ า จะต้ อ งเข้ า ใจความหมายของชี ว ิ ต บน
ทะเลทรายนี้แน่!”
“ถึงคอมเมนต์ด้านบน ฉันบวกด้วย!”
“เกมชื ่ อ เต็ ม ว่ า โดดเดี ่ ย วเดี ย วดายกลางทะเลทราย ลองไปหาดู ไ ด้ บ น
แพลตฟอร์มเกมทางการ ไม่ต้องขอบคุณ ผมแค่ชอบช่วยเหลือคน!”
“ผมด้วย +1”
“ทีมตามคลิป ไปบวกกัน!”

เผยเชียนงงไปหมดเมื่อได้อ่านคอมเมนต์
โลกนี้มันผิดปกติ!
ฉันสร้างเกมกากๆ ขึ้นมาแต่โดนเอาไปทำเป็นคอนเทนต์สร้างกระแสให้ตัวเอง
หรือ!
ถึงจะยังสับสนอยู่ แต่เผยเชียนก็ค่อนข้างเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
จู่ๆ สวรรค์ก็ดลบันดาลให้อาจารย์เฉียวผู้เชี่ยวชาญเรื่องการทำคลิปวิจารณ์
เกมมาเจอเกมของเขาและทำคลิปขึ้นจากแรงบันดาลใจที่ได้
ยิ่งได้คำอธิบายเกมอันเหนือชั้นของเขา ฐานแฟนคลับขนาดใหญ่ บวกกับการ
ตัดต่อสุดชาญฉลาด วิดีโอก็ฮิตติดกระแสทันที!
ไม่นานก็มีชาวเน็ตที่ดูคลิปแล้วชอบแห่ไปเล่นเกมเพราะอยากดูว่ามันกากแค่
ไหน
คนส่วนใหญ่เล่นไปได้พักเดียวก็เลิกเพราะเกมมันน่าเบื่อจริงๆ และหลายคนก็
คิดว่าหยวนเดียวนั้นเป็นเงินเล็กน้อย ไม่น่าจะต้องขอรีฟันด์ให้วุ่นวาย
คนส่วนหนึ่งดันรู้สึกอยากเอาชนะเพราะมีระบบจัดอันดับ นอกจากนี้ยังมี
บางส่วนตั้งใจเผยแพร่ข่าวลือผิดๆ ออกไป!
บางคนบอกว่าเล่นไปถึงชั่วโมงที่สี่จะมีอีสเตอร์เอ๊กตลกๆ โผล่มาถ้ามองไป
กลางทะเลทราย
บางคนบอกว่าถ้าเคลียร์เกมได้สามครั้งจะปลดด่านลับได้!
ในช่องคอมเมนต์มีหลายคนขอแชร์วิดีโอนี้
เผยเชียนรู้แล้วว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยสู้ดีนัก
หรือว่า…เกมนี้จะทำให้เขาขาดทุนไม่ได้!
“ไม่สิ เป็นงั้นไม่ได้ ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง…”
เผยเชียนไม่ได้คิดจะนั่งดูอยู่เฉยๆ เขาต้องหาทางรอดให้ตัวเอง!
ถ้าเกมดันฮิตติดตลาดขึ้นมา เขาต้องขาดทุนย่อยยับแน่!
ชายหนุ่มคิดว่าปัญหาน่าจะมาจากคำอธิบายเกมที่ตัวเองเขียน
ทั้งกำกวมและทำให้เหล่าเกมเมอร์เข้าใจกันไปผิดๆ!
ถึงเวลาซื่อสัตย์ต่อเหล่าเกมเมอร์แล้ว เขาต้องหยุดคนอื่นๆ ไม่ให้มาเสียเงินซื้อ
เกมเขาอีก!
บทที่ 8 ปิดบัญชี!

แต่จะห้ามพวกเกมเมอร์ได้อย่างไร
เผยเชียนไม่ใช่คนดั ง ถึงจะประกาศตัวออกไปว่าเป็นผู้พัฒนาเกมโดดเดี่ยว
เดียวดายกลางทะเลทราย ก็ไม่รู้ต้องทำอย่างไรให้เผยแพร่เรื่องนี้ออกไปได้อย่าง
รวดเร็ว
หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็ตัดสินใจว่าน่าจะดีกว่าถ้าอธิบายทุกอย่างไป
ในช่องคำอธิบายเกมในหน้าเกมบนแพลตฟอร์มทางการ
ถ้าทำแบบนั้น เหล่าเกมเมอร์ที่คิดจะเข้ามาซื้อเกมก็จะได้อ่านข้อความของ
เขาโดยตรง วิธีนี้น่าจะเป็นวิธีห้ามพวกเขาได้ดีที่สุด
เมื่อคิดได้แบบนั้น เผยเชียนก็เข้าส่วนหลังบ้านไปแก้คำอธิบายเกม
“ขออภัยทุกๆ ท่านอย่างสุดซึ้ง!”
“ผมขอโทษจริงๆ นี่เป็นเกมที่ห่วยแตกที่สุด!”
“มันน่าเบื่อมากๆ ไม่ควรค่าแก่การเล่นเลยสักนิด!”
“โปรดหยุดเล่นเกมนี้เถอะครับ! ขอความกรุณาเกมเมอร์ทุกท่านที่ซื้อไปให้กด
ขอรีฟันด์ด้วย! ขอบคุณครับ!”
เผยเชียนแก้คำอธิบายเกม จากนั้นก็ตั้งตาคอย
ถึงกระนั้น ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ยอดดาวน์โหลดเกมรายชั่วโมงก็ไม่ได้ลดลงไป
เลย!
นอกจากนี้ยังมีคอมเมนต์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาอีก
“หืม คำอธิบายเกมเปลี่ยนไปรึเปล่าเนี่ย”
“คนสร้างเกมเป็นอะไรไปหรือเปล่า”
“คนสร้างเกมออกมาขอโทษแบบนี้ ผมก็ให้อภัย แต่จะขอรีฟันด์แค่หนึ่งหยวน
มันวุ่นวายเกินไป คิดซะว่าผมเลี้ยงขนมคุณแล้วกันนะ!”
“คนสร้างเกมทำฉันขำจนท้องแข็ง นี่คิดว่าเราไม่รู้จริงๆ เหรอว่าเกมมันกาก ที่
เราเล่นก็เพราะเกมมันกากนี่แหละ!”
“คนสร้างเกมนี่โคตรแมนเลยว่ะ จริงใจแบบนี้ ตรูแถมอีกห้าหยวน!”
“เดี๋ยวเราซื้อเกมนี้ส่งให้เพื่อนนะ!”
เผยเชียนแทบจะร้องไห้เมื่อได้อ่านคอมเมนต์
ฉันเขียนบอกไปว่าให้พวกแกขอรีฟันด์ไม่ใช่หรือไง!
เผยเชียนตระหนักแล้วว่าตั้งราคาไว้แค่หนึ่งหยวนนั้นเป็นความผิดพลาด
มหันต์ กลายเป็นว่าราคาถูกจนไม่อยากจะกดขอรีฟันด์!
แต่จริงๆ แล้วเผยเชียนก็ไม่กล้าตั้งราคาแพงเกินไป เพราะเป็นเกมอินดี้ ถ้าตั้ง
ราคาไปร้อยหยวนก็เกรงว่าจะไม่ผ่านกระบวนการประเมินของ ESRO ระบบอาจ
เตือนว่าเป็นการละเมิดกฎเหมือนกัน!
เผยเชียนรู้สึกหมดหวังเมื่อได้เห็นเกมตนเองฮิตติดกระแสอย่างรวดเร็ว เขาทำ
ใจรับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ไหว

วันจันทร์
“พี่เชียน โดดเรียนคาบบ่ายอีกแล้วเหรอ”
หม่าหยางเก็บของเรียบร้อยแล้ว เขานึกสงสัยขณะมองเผยเชียนที่แม้จะตื่น
แล้วแต่ก็ยังนอนอยู่บนเตียงพลางครุ่นคิดถึงชีวิตเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก
เผยเชียนโบกมือปัด ไม่มีแรงแม้แต่จะพูดตอบ
“สุดๆ ไปเลย”
หม่าหยางถือหนังสือเดินออกจากห้องไป
ตอนนี้พวกเขาอยู่ปีหนึ่ง นักศึกษาส่วนใหญ่เริ่มโดดเรียนและนอนตื่นเที่ยงกัน
ตอนปีสองปีสาม
เผยเชียนเป็นคนที่กลับมาเกิดใหม่จากอนาคตสิบปีข้างหน้า เขารู้ว่าโดดเรียน
ไปก็ไม่ได้ส่งผลอะไร
อย่างไรเสีย เขาไม่ได้เรียนหมอหรือกฎหมายที่ถ้าขาดเรียนไปคาบเดียว
อาจจะฉิบหายวายวอดได้ สำหรับนักศึกษาคณะสังคมศาสตร์ อย่างเขา ต่อให้ขาด
เรียนทุกคาบสุดท้ายแล้วก็หาทางให้ผ่านได้อยู่ดี
เผยเชียนไม่มีอารมณ์จะไปเรียน…
พอกดรีเฟรชหน้าหลังบ้านของเครื่องมือพัฒนาเกมทุกวันแล้วเห็นตัวเลขพุ่ง
ขึ้นเรื่อยๆ เขาก็เริ่มตรึกตรองถึงชีวิต
หลังจากนอนเป็นศพอยู่ครึ่งชั่วโมง เผยเชียนก็รวบรวมความกล้ าที่จะเปิด
ระบบได้
พอสรุปบัญชีวันอาทิตย์เสร็จ กำไรจากทางแพลตฟอร์มเกมน่าจะโอนมาเข้า
บัญชีบริษัทตั้งแต่เช้าตรู่
ตอนนี้เงินทุนระบบคงอัปเดตเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน
เผยเชียนมองดูตัวเลขบนหน้าจอระบบอย่างหดหู่
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ: เผยเชียน>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1:1>
<วันปิดบัญชีครั้งต่อไป: อีก 7 วัน>
<เงินทุนระบบ: 51394.5 (↑1394.5)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 367>
“โห…”
เขากดปิดหน้าจอระบบ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตาย!
เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป!
ความจริงเผยเชียนเตรียมใจไว้แล้ วก่อนจะเปิดดูตัวเลข เพราะพอจะคำนวณ
ตัวเลขคร่าวๆ จากยอดดาวน์โหลดได้
หลังจากอาจารย์เฉียวปล่อยคลิปไป ยอดดาวน์โหลดก็พุ่งขึ้นทุกวัน
คลิ ป ของอาจารย์ เ ฉี ย วมี ก ารแชร์ ต ่ อ กั น อย่ า งกว้ า งขวางโดยแอ็ ก เคานต์
การตลาดหลายราย มีนักสร้างคอนเทนต์หลายคนแห่ตามมาปล่อยคลิปเกมโดด
เดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายเพื่อหวังสร้างกระแส
พอเกมฮิตติดกระแส ก็มีคนแชร์มากมายจนไม่สามารถหยุดความนิยมไว้ได้อีก
ต่อไป
เผยเชียนทำอะไรไม่ได้นอกจากเฝ้าดูยอดดาวน์โหลดที่เพิ่มขึ้นทุกวันทีละสิบ
ทีละร้อย ทีละพัน
ด้วยยอดดาวน์โหลดที่เพิ่มขึ้นถล่มทลาย เกมของเขาจึงไปโผล่อยู่ ในหน้า
แนะนำเกมหมวดอินดี้ หมวดจำลองการขับรถ และหมวดแข่งรถ
ทุกครั้งที่เผยเชียนเข้าไปดูระบบหลังบ้านก็จะได้รับการแจ้งเตือน
“ยินดีด้วย! เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายของท่านได้รับการแนะนำ
ในหมวด XXX โปรดอย่าอัปเดตตัวเกมของท่านภายในสัปดาห์นี้เพื่อป้องกันไม่ให้
มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นกับตัวเกม…”
เผยเชียนเห็นการแจ้งเตือนแบบนี้จนชินชา
ตอนนี้ในใจเหมือนได้ตายไปแล้ว!
เหลือเวลาอีกหนึ่งสัปดาห์ แต่เงินทุนระบบทะลุห้าหมื่นหยวนไปเรียบร้อย
หมายความว่าเงินที่จะแปลงเข้าความมั่งคั่งส่วนบุคคลของเขาจะอยู่ในอัตรา
100:1 ในวันปิดบัญชี
เกินมาหนึ่งพันหยวน เขาก็จะได้…สิบหยวน
เผยเชียนมองดูตัวเลขที่โชว์หราอยู่อย่างหมดเรี่ยวแรง


หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
ณ หอพัก
“…บ้าไปแล้ว! เกมกากๆ แบบนี้มันฮิตขึ้นมาได้ไงเนี่ย”
“ลบแม่งเลย!”
“ดูในอันดับ มีคนเล่นเกมนี้เกินสี่สิบชั่วโมงด้วย…ไอ้นั่นมันบ้ารึเปล่า!”
หม่าหยางนั่งเล่นเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายอยู่บนเตียงชั้นบน
เขาทนเล่นได้ไม่ถึงห้านาทีก็เลิก เสร็จแล้วก็มานั่งอึ้งว่าเกมแบบนี้มันฮิตขึ้นมาได้
อย่างไร
เผยเชียนตัวสั่นอยู่เตียงชั้นล่าง
“พี่เชียน! เล่นเกมกากที่ดังสุดๆ ตอนนี้ดูรึยัง ที่ชื่อโดดเดี่ยวเดียวดายอะไรสัก
อย่างอ่ะ” หม่าหย่างโผล่หัวมาถามจากด้านบน
“…ยัง” ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง เผยเชียนไม่เคยเล่นเกมนี้เลย
เขารู้ดีว่าเกมนี้สร้างขึ้นมากวนประสาทคนอื่น จะให้ไปเล่นเองก็คงแปลกๆ…
หม่าหยางตบหน้าขาตัวเอง “เกมไรก็ไม่รู้! อยากจะรู้จริงเชียวว่าไอ้คนจิตใจชั่ว
ช้าหน้าไหนมันสร้างเกมนี้ออกมา! เฮงซวยจริงๆ!”
เผยเชียน “…”
ไม่ได้สร้างมาให้พวงเอ็งเล่นโว้ย! อยากเล่นกันเองแล้วก็อย่ามาโทษกันสิ!
เผยเชียนไม่นึกไม่ฝันว่าเกมจะดังมาจนถึงมหาวิทยาลัยตัวเอง แถมยังดังมาถึง
หอพักตัวเองอีก…
ผ่านไปสัปดาห์เดียว จากการขยันสร้างกระแสของสื่อเกมและนักสร้างคอน
เทนต์ต่างๆ เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายก็ดังจนเผยเชียนต้องมานั่งตรึก
ตรองชีวิตเสียเอง
เขาโล่งใจมากที่ปี 2009 แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยังไม่มีกระแสเพราะอยู่ในช่วง
เติบโต ตอนนี้แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่ครองตลาดอยู่คือไวไวที่มีผู้ใช้แค่หลักหมื่น
ถ้าการสตรีมเกมในตอนนี้ดังเหมือนสิบปีข้างหน้า…
เผยเชียนไม่อยากนึกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
บทที่ 9 อัจฉริยะแห่งความไม่เก่ง!

วันจันทร์ วันปิดบัญชีของทางแพลตฟอร์มและระบบแปลงความมั่งคั่ง
วันนี้ควรจะเป็นวันที่เผยเชียนตั้งตาคอย แต่ตอนนี้กลับไม่เป็นแบบนั้นอีก
ต่อไปแถมเขายังอยากจะร้องไห้อีก
ห้าหมื่นหยวนที่ควรเป็นของเขาได้หายวับไปแล้ว!
แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
เผยเชียนไม่ได้กดเปิดระบบ แต่หน้าจอระบบเด้งขึ้นมาเองอัตโนมัติ น่าจะ
เพราะเป็นวันปิดบัญชี
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ: เผยเชียน>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1:1>
<ดำเนินการสรุปบัญชี…>
<เงินทุนระบบ: 125463.5 (↑75463.5)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 153>
<กำลังดำเนินการสรุปบัญชี…>
<กำลังแปลงค่าเงิน…>
<เงินทุนระบบ: 125463.5>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 907.6 (↑754.6)>
พอเห็นจำนวนเงิน เผยเชียนก็ล้มตัวลงบนเตียงไม่ต่างจากศพ เขานอนนิ่ง
เหมือนได้สูญเสียความหวังทั้งหมดไป
สองสัปดาห์ที่ผ่านมา เกมขายไปได้กว่าสอนแสนก๊อบปี้!
นี่คือภาพฝันของผู้พัฒนาเกมหลายคนที่จะเอาไว้โพนทะนาไปทั้งชีวิต!
แต่กลับเป็นฝันร้ายของเผยเชียน…
ข้อความใหม่บนหน้าจอยังเด้งขึ้นมาเรื่อยๆ
<วันปิดบัญชีครั้งต่อไป: อีก 30 วัน>
<ดำเนินการทบรวมเงินทุนระบบ จำนวนเป้าหมาย: 300,000>
<ทบรวม 174,536.5…>
<ดำเนินการทบรวมเงินทุนเสร็จสิ้น>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 907.6>
พอได้เห็นตัวเลขต่างๆ เผยเชียนก็สูญเสียความหวังไปทั้งหมด ไม่ต่างอะไรกับ
คนที่ตายทั้งเป็น
เหมือนเอาเกลือมาขัดแผล!
ทำให้แย่ยิ่งไปอีก!
เผยเชียนหมดหวังไปตั้งแต่เห็นเงินเจ็ดหมื่นหยวนกลายเป็นเจ็ดร้อยหยวน
หลังสรุปบัญชี
แต่ก็ได้แค่ปลอบตัวเองว่าเดี๋ยวค่อยเอาเงินที่ได้เพิ่มไปลงทุนรอบต่อไปให้
ขาดทุนยิ่งกว่าเดิม
เผยเชียนค้นพบว่าเงินทุนระบบมีจำนวนตายตัวหลังจากสรุปบัญชี
ถ้ามีจำนวนต่ำกว่าที่กำหนด ระบบจะทบขึ้นให้!
รอบแรก มูลค่าต่ำสุดของเงินทุนระบบคือห้าหมื่น รอบที่สองคือสามแสน
หมายความว่าถ้าเงินทุนระบบของเผยเชียนต่ำกว่าสามแสน จะหนึ่งหมื่นหรือสอง
แสนเก้าหมื่น ท้ายที่สุดก็จะทบไปเป็นสามแสน
ดังนั้น ไม่ว่าจะทำเงินได้หรือเสียเงินไปเท่าไหร่ก่อนวันสรุปบัญชี ก็ไม่มีผลกับ
เงินทุนระบบรอบต่อไป ยกเว้นว่าจะสามารถทำเงินได้เกินสามแสนด้วยเงินห้า
หมื่น
ตอนนี้เผยเชียนไม่สามารถคำนวณได้ว่าเสียเงินไปเท่าไหร่ และกำลังจมอยู่กับ
ความเจ็บใจ
“มองในแง่ดี ฉันได้เงินเพิ่มมาเจ็ดร้อยกว่า คงจะช่วยต่อชีวิตไปได้หน่อย…”
เผยเชียนน้ำลายเยิ้มเมื่อได้เห็นเงินทุนระบบจำนวนสามแสนหยวน
เสียดายที่เขาไม่สามารถใช้เงินจำนวนนี้ได้ตามใจชอบ
พอตรวจดูจำนวนเงินในบัญชีออนไลน์ เผยเชียนก็พบว่ามีเงินเพิ่มขึ้นมา
754.6 หยวน ตรงตามตัวเลขที่แสดงในระบบเป๊ะ
แต่กลับไม่มีรายการโอนเข้า ราวกับว่ายอดเงินในบัญชีธนาคารเปลี่ยนไปเอง
อัตโนมัติ
เผยเชียนพอจะรู้คร่าวๆ แล้วว่าระบบทำงานอย่างไร
พลังของระบบคือเปลี่ยนจำนวนเงินในบัญชีบริษัทและบัญชีส่วนตัวของเขา
โดยไม่ทำให้บุคคลหรือองค์กรอื่นสงสัย
เงินห้าหมื่นหยวนก้อนแรกที่ระบบจัดสรรให้นั้นเข้ าบัญชีของบริษัทเถิงต๋า
เน็ตเวิร์กเทคโนโลยีจำกัด เผยเชียนสามารถใช้เงินจำนวนนั้นในการประกอบธุรกิจ
ได้เพราะเป็นเจ้าของบริษัท
แต่ถ้ามีการละเมิดกฎเกิดขึ้น เช่นใช้เงินซื้ออาหาร เครื่องดื่ม หรือใช้จ่าย
ส่วนตัว ระบบจะยึดเงินคืน ระงับการแปลงความมั่งคั่งในรอบนั้น หรืออาจยกเลิก
การเชื่อมโยงกับเผยเชียนไปเลย!
ถึงระบบจะเป็นผู้ตัดสินใจเด็ดขาดเรื่องข้อละเมิด แต่ก็ยังประเมินตามบรรทัด
ฐานสังคมอยู่
ยกตัวอย่างเช่น เรื่องอาหารการกิน ระบบยอมให้ใช้จ่ายในส่วนของกิจกรรม
หรือประชุมบริษัท แต่ไม่อนุญาตให้ใช้จ่ายในการเลี้ยงข้าวเพื่อน
เมื่อเกมทำกำไรได้ เงินจะโอนจากทางแพลตฟอร์มไปยังบัญชีบริษัท เหมือน
บัญชีบริษัทอื่นๆ ทั่วไป
แตกต่างตรงที่เผยเชียนไม่สามารถใช้ได้ตามใจชอบ!
หลังจากระบบปิดบัญชีแล้ว ระบบจะเปลี่ยนจำนวนเงินในบัญชีตามอัตราการ
แปลงเงินทุนระบบเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคล
เงินจำนวนนี้ถึงจะเป็นเงินที่เผยเชียนสามารถใช้ได้ตามใจชอบโดยไม่มีข้อห้าม
จากระบบ!
“อีกหนึ่งเดือนถึงจะถึงวันปิดบัญชี”
“ครั้งนี้ฉันจะต้องหาทางผลาญเงินสามแสนไปให้หมดเกลี้ยง! จะไม่ใ ห้เหลือ
แม้แต่แดงเดียว!”
เผยเชียนลุกขึ้นจากเตียงและเริ่มค้น ‘ทำอย่างไรให้เสียเงิน’ ในอินเทอร์เน็ต
ผลลัพธ์ที่ปรากฏขึ้นมาล้วนเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับ ‘ทำอย่างไรไม่ให้เสียเงิน’
“เชียนตู้หน้าโง่!”
เผยเชียนเงยหน้าขึ้นฟ้า ความโกรธเกรี้ยวฉายชัดบนใบหน้า
“ตอนบ่ายไม่มีเรียน! เล่นเกมกัน!”
ใครสักคนตะโกนขึ้น ตามมาด้วยเสียงตอบรับกลับมาทีละคน
หม่าหยางโผล่หน้าจากเตียงชั้นบนอีกครั้ง “พี่เชียน เล่นด้วยกันมั้ย พี่ไม่ได้
เล่นกับเรานานแล้วนะ ขมวดคิ้วแบบนั้น…อกหักรักคุดมารึไง”
อะไรวะนั่น! อกหักบ้าอะไร!
นี่มันเรื่องสำคัญยิ่งกว่าอกหักอีก! เงินฉันเพิ่งปลิวหายไปห้าหมื่นหยวน!
เผยเชียนไม่รู้จะตอบหรืออธิบายอย่างไร
ระบบมีกฎห้ามเผยเชียนเปิดเผยหรือบอกใบ้ว่ามีระบบนี้อยู่ให้ผู้อื่นรู้ จริงๆ
แล้วเขาจะทำให้ใครสงสัยไม่ได้เลยว่ามีระบบแบบนี้อยู่
“ก็ได้ วันนี้เดี๋ยวเล่นด้วยสักตา” เผยเชียนเปิดโน้ตบุ๊กแล้ วกดเข้าเกม God
Rising
เขาลองค้นข้อมูลดูก่อนแล้ว God Rising นั้นคล้าย DOTA ถึงเขาจะเล่นเกมนี้
ไม่เก่งมาก แต่ก็ไม่ได้อ่อนจนเกินไป
จากข้อมูลในอนาคตที่เผยเชียนมี เขาน่าจะเล่นได้สักตาสองตาด้วยฝีมือระดับ
เทียบเท่ากับคนในหอพัก
หม่าหยางดีใจมาก “พี่เชียนเล่นด้วย! เราชนะไอ้พวกข้างห้องแน่!”
ไม่นานเสียงคลิกเมาส์และกดแป้นพิมพ์ก็ดังสนั่นลั่นห้อง
“สวย!”
“แจ่ม!”
“กล้า! กล้าเกิ๊น!”
“หม่าหยาง อยู่ไหนวะ”
“ไอ้หม่า ทำไมตอนออลไม่อยู่กับทีมวะ อย่ามัวแต่ฟาร์มครีปดิ แม่งเอ๊ย!”
การต่อสู้อันดุเดือดทำให้เผยเชียนลืมความเจ็บปวดที่ต้องเสียเงินห้าหมื่น
หยวนไปชั่วคราวเพราะมัวอินกับเกมอยู่
ถึงเผยเชียนจะไม่เคยเล่น God Rising แต่เพราะมีความรู้จากการที่เคยเล่น
เกมคล้ายๆ กันมาก่อนทำให้เขาสามารถเล่นได้ดีและแบกทีมได้
สามสิบนาทีต่อมา
“พ่ายแพ้!”
เผยเชียนมองดูป้อมตัวเองระเบิดคาหน้าจอ จากนั้นก็หันไปมองคะแนน KDA
(ฆ่า ตาย ช่วยเหลือ) ของตัวเอง
11-2-7
“อะไรวะเนี่ย…แพ้ได้ไงวะ…”
เผยเชียนแทบจะกระอักเลือด ตอนแรกเขาทำเกมมาได้ดี ฆ่าอีกทีม ไปได้ก็ตั้ง
เยอะ แต่ช่วงกลางเกมไปจนถึงท้ายเกมกลับเริ่มสู้ไม่ไหว จากนั้นก็โดนดันขึ้นป้อม
หลังจากแพ้ทีมไฟต์ไปรอบเดียว
เขาหันไปมองคะแนน KDA ของเพื่อนร่วมทีมทั้งสี่คน คะแนน 2-2-2 ของ
หม่าหยางช่างบาดตายิ่งนัก
น่าเสียดายที่เกม God Rising ยังไม่มีระบบเก็บข้อมูลการมี ส่วนร่วมในทีม
ไฟต์ ไม่อย่างนั้นก็จะได้เห็นคะแนนตรงนี้ของหม่าหยาง
เผยเชียนนึกถึงตอนทีมไฟต์ครั้งก่อนๆ
จริงๆ ด้วย…ที่ผ่านมาเป็นสี่ต่อห้าตลอดเลย…
ตอนที่อีกฝั่งรวมตัวมาสู้ หม่าหยางกลับหนีไปฟาร์มครีป
ตอนที่อีกฝ่ายกันบ้านอยู่ หม่าหยางกลับมัวแต่ไปตีครีปป่าฝั่งพวกเขาสบายใจ
เฉิบ
พออีกฝั่งหายไปโผล่อีกเลนแล้ว หม่าหยางก็เพิ่งรู้ตัวแล้วค่อยเตือนว่า ‘หาย!’
ก่อนจะฟาร์มครีปต่อ
เฮ้อ…
เหนื่อย!
หม่าหยางคอมเมนต์อย่างเสียดาย “โถ่ เสียดายจังที่แพ้”
จากนั้นเขาก็โผล่หัวมามองเผยเชียน “พี่เชียน อย่ามัวแต่ฟาร์ม พี่ต้องช่วย
แบกเกมดิ!”
เผยเชียนแทบกระอักเลือด
ไอ้บ้า แค่นี้ยังแบกไม่พออีกหรือ!
ให้แบกนี่คือให้เปิดโปรแกรมโกงแล้วตีตู้มเดียวระเบิดป้อมได้แบบนี้หรือ!
แต่เผยเชียนก็ไม่ได้เถียงอะไรกลับไปเพราะรู้ว่าหม่าหยางเป็นคนอย่างไร
ไม่ใช่ว่าหม่าหยางตั้งใจถ่วงคนอื่น เขาก็แค่เล่นกาก…
เผยเชียนจำได้ว่าตอนปีสี่ หม่าหยางเข้าชมรมทุกชมรมแถมยังช่วยอาจารย์ทำ
นู่นทำนี่เสมอ เรื่องเข้าเรียนก็ไม่เคยขาดแม้แต่ครั้งเดียว
แต่พอเรียนจบมา นอกจากจะไม่ได้รับโอกาสดีๆ แล้วยังหางานดีๆ ไม่ได้
เหมือนกัน ท้ายที่สุดก็กลับบ้านไปทำงานที่ครอบครัวหาให้
แน่นอนว่าทุกคนมีทางของตัวเอง และทางของหม่าหยางก็ไม่ได้แย่อะไร
แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นทางที่ดีนัก…
พอมาเล่นเกมก็ฝีมือธรรมดา
จะบอกว่าเขาเล่นเกมเก่งก็ไม่ได้ ทักษะการเล่นเกมของเขาพัฒนาช้ากว่าคน
อื่น เล่นผ่านไปหลายปีก็ไม่สามารถแบกทีมได้ด้วยตัวคนเดียว
แต่ก็ไม่ได้ถือว่ากากขนาดนั้น คะแนน KDA ของเขาก็กลางๆ แต่ก็บอกไม่ได้
อีกว่าช่วยทำเกมได้
นั่นเป็นระดับทักษะที่เขาไม่สามารถเพิ่มหรือลดได้
เขาเป็นคนแบบนั้น
พูดง่ายๆ คือเป็นคนไม่เก่งโดยกำเนิด
เผยเชียนอดคิดถึงคำพู ดอันโด่งดังของ Otto[1] ขึ้นมาไม่ได้ “พวกแรงก์
Silver ก็เหมือนมะเร็งร้าย” จะไปเถียงกับคนแบบนี้ไปทำไม
เดี๋ยวนะ
จู่ๆ เผยเชียนก็นึกอะไรออก
เขานึกได้ว่าหม่าหยางเป็นคนไม่เก่งโดยกำเนิด เป็นพวกมือไม่พายเอาเท้ารา
น้ำ เป็นคนที่ฉุดทั้งทีมลงได้!
ถ้าเป็นแบบนั้น นั่นก็เป็นความสามารถที่ฉันต้องการไม่ใช่หรือ!
……………………..
[1] นักสตรีมเกม League of legends ชาวจีน
บทที่ 10 พนักงานคนแรก!

เผยเชียนรู้สึกว่าอนาคตสว่างไสวขึ้นมาทันตา!
ก่อนหน้านี้เขามีเงินแค่ห้าหมื่นหยวน คงจะตลกไปหน่อยถ้ าจะไปหาจ้างคน
ด้วยเงินแค่นี้
แต่ตอนนี้เผยเชียนมีเงินทุนระบบถึงสามแสนหยวน!
คงไม่แปลกอะไรถ้าจะจ้างพนักงานหรอก ใช่ไหม
พอคิดถึงประสบการณ์อันขมขื่น เผยเชียนก็สรุปได้ว่าข้อผิดพลาดของเขาเกิด
จากไม่กี่อย่าง
อย่างแรกคือเขาโชคร้ายเกินไป!
ใครจะไปคิดว่าอัปโหลดมาสเตอร์ในหมวดเกมที่ดังนิดหน่อยจะบังเอิญมาเจอ
เกมเขาเข้า
ถ้าไม่ใช่เพราะอาจารย์เฉียว เขาคงขาดทุนสมหวัง
อีกอย่าง เผยเชียนก็เริ่มนึกสงสัยในความสามารถของตนเอง
หรือจะเป็นเพราะเขาฉลาดเกินไป เลยไปคิดหาทางเสียเงินแบบผิดๆ
มันจะมีคนจำพวกที่ล้มเหลวและขาดทุนทุกครั้งไม่ว่าจะพยายามหาเงินอย่าง
หนักหน่วงแค่ไหน
ขณะเดียวกัน ก็มีพวกที่คิดหาทางเสียเงินตลอดเวลาแต่ก็ทำไม่สำเร็จสักที!
เผยเชียนคิดว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มหลัง
ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องหาตัวช่วย
นั่นคือจ้างคน!
ขอแค่จ้างพวกห่วยมาทำงานเหล่านี้ให้ เขาก็คงจะได้เสียเงินอย่างง่ายดาย
คิดได้ดังนั้น เผยเชียนก็ไม่ได้หงุดหงิดหม่าหยางอีกแม้จะโดนบ่นไปเมื่อครู่
“หม่าหยางคือของขวัญจากสวรรค์!”
“ช่างเป็นอัจฉริยะด้านความห่วย! เขาคือพนักงานในฝันที่ฉันตามหา”
“ฉันควรจ้างเพื่อนคนอื่นด้วยอีกมั้ย จ้างเพิ่มอีกสักคนจะเป็นอะไร เอาจริงๆ
จ่ายเงินเดือนเยอะๆ จะได้ผลาญเงินได้มากกว่าเดิม”
“ไม่ได้! พวกที่เหลือดูท่าจะไว้ใจได้เกินไป!”
เผยเชียนอยากจะจ้างรูมเมตคนอื่นๆ ด้วย แต่ไม่นานก็ต้องล้มเลิกความคิดไป
มหาวิทยาลัยฮั่นตงเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ คนที่เข้าที่นี่ได้ล้วนไม่ใช่คนโง่
คนห่วยแบบหม่าหยางถือเป็นโชคฟ้าประทาน
ถ้าหาคนเพิ่ม พวกนั้นอาจทำงานดีขึ้นมาก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นเผยเชียนคงปวด
ใจน่าดู
หลังตัดสินใจได้แล้ว เผยเชียนก็เรียกหม่าหยางไปคุยส่วนตัวนอกห้อง
“มีอะไรเหรอพี่เชียน จะบอกกลยุทธ์ลับให้เหรอ” หม่าหยางมองเผยเชียนอ
ย่างมีความหวัง คิดว่าอีกฝ่ายเรียกออกมาคุยเรื่องกลยุทธ์การเล่นเกม
“ช่วงนี้ฉันสร้างเกมอยู่น่ะ อยากได้คนช่วย นายสนใจไหม” เผยเชียนเข้า
ประเด็น หม่าหยางไม่ใช่คนมีเล่ห์เหลี่ยมอะไร ไปเล่นแง่กับเขาจะเกิดผลเสีย
มากกว่า
หม่าหยางอึ้งไปสักพักก่อนจะส่ ายหัว “พี่กวนผมป่ะเนี้ย เทอมนี้งานหนักจะ
ตาย จะเอาเวลาไหนไปทำกัน”
เขาหยุดไปชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “อย่าบอกนะว่าพี่ไปหลงความสำเร็จของไอ้
เกมอินดี้บ้าบอนั่นเหมือนคนอื่น”
“เหตุผลหลักที่ทำให้เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายดังก็เพราะโชค
ช่วย! อีกอย่างสร้างเกมใช้เงินตั้งเยอะ! พี่จะไปหาเงินมาจากไหน”
เผยเชียนกระแอมกระไอ “ฉันจะไม่ปิดนายแล้วกัน จริงๆ แล้วฉันเป็นทายาท
คนที่สองของตระกูลร่ำรวย ที่บ้านให้เงินฉันมาสามแสน พอรึเปล่าล่ะ”
หม่าหยางอ้าปากค้าง ผ่านไปพักใหญ่ถึงพูดต่อได้ “พี่พูดจริงป่ะเนี่ย อย่าโกหก
กันดิ”
เขาไม่รู้มาก่อนว่าภูมิหลังครอบครัวของเผยเชียนเป็นอย่างไร แต่ก็รู้ว่าอีกฝ่าย
ไม่ใช่คนชอบแกล้งคนอื่นเอามัน ไม่มีเหตุผลจำเป็นอะไรที่เผยเชียนจะต้องมาเล่น
มุกโง่ๆ กับเขาแบบนี้
หม่าหยางเริ่มจริงจังมากขึ้น
“นอกจากเรื่องเงินแล้ว ปัญหาเรื่องอื่นล่ะ” หม่าหยางถาม
เผยเชียนถามกลับ “มีปัญหาอื่นนอกจากเรื่องเงินด้วยเหรอ”
หม่าหยางนิ่งไปชั่วขณะ “พี่รู้เรื่องงานภาพมั้ย รู้วิธีเขียนโค้ดรึเปล่า”
เผยเชียนส่ายหัว “ไม่อ่ะ เป็นปัญหาด้วยเหรอ ทรัพยากรพวกนี้เอาเงินไปซื้อ
ออนไลน์ก็ได้ จ้างมืออาชีพมาทำให้ก็ได้”
หม่าหยางอ้าปากค้าง ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี
คิดตื้นไปหรือเปล่า! ถึงจะรวยแค่ไหน แต่นั่นก็ไม่ใช่วิธีใช้เงิน!
เผยเชียนตบบ่าอีกฝ่าย “อย่าเป็นห่วงเรื่องอื่นเลย ที่ถามตอนนี้คือนายอยาก
มาช่วยมั้ย ถ้าสนใจเดี๋ยวให้ไปอยู่ทีมออกแบบ”
ใบหน้าหม่าหยางเต็มไปด้วยความลังเล “พี่เชียน เราก็สนิทกันดี ผมต้องช่วย
พี่แน่นอนอยู่แล้ว”
“แต่เราทั้งคู่ไม่มีใครรู้เรื่องการสร้างเกมเลย! ถึงเงินสามแสนจะได้มาจากที่
บ้าน แต่ผมว่าพี่น่าจะคิดเรื่องนี้ดูให้ดีอีกที อย่าเพิ่งตัดสินใจอะไรง่ายๆ แบบนี้”
“ผมกลัวว่าจะทำให้พี่ผิดหวังถ้าพาไปเสียเงินสามแสนทิ้งเปล่าๆ ผมคงช่วยพี่
ไม่ได้”
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก เขาไม่คิดเลยว่าจิตสำนึกของหม่าหยางจะกลายมา
เป็นอุปสรรค…
แต่พอมาคิดดูดีๆ ถึงหม่าหยางจะค่อนไปทางโง่ แต่ก็ไม่ใช่คนแย่อะไร ถือว่า
เป็นคนดีคนหนึ่งเลยละ
เผยเชียนเปิดเผยแหล่งที่มาที่แท้จริงของเงินไม่ได้ จึงบอกได้แค่ว่าตัวเองเป็น
ทายาทรุ่นที่สองของตระกูลร่ำรวยและได้เงินทุนมาจากครอบครัว แต่นั่นก็ดันไป
ทำให้หม่าหยางนึกลังเลขึ้นมาเพราะกลัวจะทำให้เขาขาดทุน
เนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่น เผยเชียนจึงต้องงัดความสำเร็จในอดีตมายืนยัน
“จริงๆ แล้วฉันสร้างเกมไปแล้วเกมหนึ่ง ทำเงินได้แล้วด้วย”
หม่าหยางอึ้งไป “เกมอะไรเหรอ”
“อะแฮ่ม” เผยเชียนกระแอมกระไอ “โดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย”
“พรืด!” หม่าหยางเกือบจะสำลักน้ำลาย
“พี่เนี่ยนะเป็นคนสร้างเกมกากนั่น!” หม่าหยางตื่นตะลึง
เขาเคยก่นด่ากับเผยเชียนไปก่อนหน้านี้ว่ามันเป็นเกมเฮงซวยที่คนจิตใจชั่วช้า
สร้างขึ้นมา! ใครจะไปรู้เล่าว่าได้ด่าเจ้าตัวไป…
เผยเชียนรู้สึกเหนื่อยใจ “ฉันสร้างขึ้นมาเองจริงๆ”
ช่างเป็นสถานการณ์น่ากระอักกระอ่วนใจ
หม่าหยางกะพริบตาแล้วยกนิ้วโป้ง “เยี่ยม! สุดยอดเลยพี่เชียน! ไม่รู้เลยว่าพี่มี
พรสวรรค์ในการออกแบบเกมขนาดนี้! พี่นี่โคตรอัจฉริยะเลยที่ทำเกมฮิตได้! มิน่า
ผมถึงรู้สึกคุ้นๆ ตอนเล่นเกมนั้น เป็นแบบนี้นี่เอง”
เผยเชียนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ไอ้หม่ามันช่างเปลี่ยนฝั่งเร็วฉิบหาย!
“พอๆ ไม่ต้องประจบแล้ว คำถามเดิม จะมาช่วยมั้ย ฉันจะให้เงินเดือนสาม
พันหยวนต่อเดือน จะได้กำไรหรือขาดทุน นายไม่ต้องมาช่วยหาร” เผยเชียนยื่น
ข้อเสนอ
ครั้งนี้ท่าทีของหม่าหยางเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขาพยักหน้ารัว “ช่วยครับ
ช่วย! ผมช่วยพี่แน่นอนพี่เชียน! พี่ก็รู้ว่าถึงผมจะไม่เก่ง แต่พี่ไว้ใจผมได้!”
พอได้รู้ว่าเผยเชียนสร้างเกมฮิต หม่าหยางก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เด็กเล่นขายของ
กลับกัน มันคือหนทางสว่างที่เขาแทบรอจะเข้าร่วมไม่ไหว!
เผยเชียนเน้นย้ำความจริงใจที่มีต่อหม่าหยาง “ใช่ ฉันอยากให้นายมาช่วย
เพราะนายเป็นคนที่ไว้ใจได้! อย่าไปบอกใครล่ะ ในรูมเมตทั้งหมด ฉั นคิดว่านาย
เก่งที่สุด เลยไม่ได้ไปคุยเรื่องนี้กับใครเลย”
หม่าหยางยิ้มกว้าง “ได้เลย ได้เลย!”
“โอเค งั้นก็ตามนี้” เผยเชียนไม่มีอะไรจะพูดต่อ “มีอะไรหลายอย่างที่ต้อง
เตรียมก่อน อะไรทำได้ก็ไปทำก่อนแล้วกัน ถ้ามีอะไรคืบหน้าเดี๋ยวฉันบอก”
หม่าหยางพยักหน้าอย่างตื่นเต้ น “โอเค ไม่ต้องห่วง! เดี๋ยวบ่ายนี้ผมไปร้าน
หนังสือ จะไปหาดูว่ามีหนังสือเฉพาะทางอะไรที่ผมเรียนรู้ได้! ไม่ต้องห่วง ผมไม่
เป็นตัวถ่วงแน่นอน!”
หม่าหยางกลับเข้าห้อง เก็บของ เตรียมตัวออกไปข้างนอก
“เอาจริงๆ นายไม่ต้องไปหาหนังสืออะไรอ่านก็ได้นะ…”
เผยเชียนตอบในใจ แต่ก็ทำได้แค่ยกมือให้ ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เขานึกสงสัยว่าตัวเองคิดถูกหรือเปล่าที่เลือกหม่าหยาง
เอาคนมีความรับผิดชอบและไว้ใจได้มาทำงานจะช่วยให้ทำได้ตามเป้าจริง
หรือ…
แต่พอคิดดูดีๆ จากที่รู้จักหม่าหยางมาหลายปี เผยเชียนรู้ว่าถึงผู้ชายคนนี้จะ
ไว้ใจได้ แต่ความสามารถของเขาก็มีจำกัด
ปล่อยให้หม่าหยางไปหาหนังสือเฉพาะทางอ่านคงไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อ
ภาพรวมหรอกมั้ง
บทที่ 11 เปลี่ยนวิธีคิด

หม่ า หยางเก็ บ ข้ า วของและมุ ่ ง หน้ า ไปร้ า นหนั ง สื อ ใกล้ ๆ เพื ่ อ หาหนั ง สื อ


เกี่ยวกับการออกแบบเกม
เผยเชียนไม่รู้ว่าหม่าหยางจะหาซื้อได้หรือเปล่า แต่ดูจากจำนวนร้านหนังสือที่
มีอยู่ อีกฝ่ายก็น่าจะได้หนังสือกลับมาบ้าง
จริงๆ แล้ว ตอนนี้มีแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อของออนไลน์เกิดขึ้นแล้ว ซึ่ง
รวมถึงเว็บไซต์ที่ขายหนังสือโดยเฉพาะด้วย
แต่ ค นส่ ว นใหญ่ ย ั ง ไม่ ค ุ ้ น เคยกั บ แพลตฟอร์ ม พวกนี ้ เ ท่ า ไหร่ เอาเข้ า จริ ง
นักศึกษาที่ล้าสมัยบางคนยังไม่สมัครบัญชีธนาคารออนไลน์ด้วยซ้ำ
หม่าหยางจัดอยู่ในกลุ่มพวกล้าสมัย ตัวเลือกแรกในการซื้อหนังสือคือไปที่ร้าน
หนังสือ เปิดอ่านบางช่วงดูก่อนแล้วค่อยตัดสินใจซื้อ
แน่นอนว่าอะไรแบบนี้จะเปลี่ยนไปจากการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในอีกไม่กี่
ปีข้างหน้า
เผยเชียนกลับไปที่เตียงและเปิดโน้ตบุ๊ก นั่งคิดว่าจะทำอะไรต่อไปดี
เที่ยงวัน หม่าหยางก็กลับมา
เขาขนหนังสือกลับมาประมาณแปดเล่ม มีเล่มหนึ่งหนาใกล้ๆ สองนิ้วมือ
หนังสือยาวประมาณยี่สิบเซนติเมตรนั้นชื่อว่า ภาพรวมการเขียนโปรแกรมขั้นสูง
นอกจากนั้นก็ยังมี คู่มือเอาตัวรอดในการเขียนโค้ด รวมเรื่องการจัดการ
โปรแกรม คู่มือการเขียนโค้ดฉบับสมบูรณ์ และคู่มือรักษาอาการปวดคอ
หม่าหยางรู้สึกว่าที่ซื้อมามีแต่เล่มดีๆ
เผยเชียนเปิดดูหนังสือที่หม่าหยางซื้อมา ตาจดจ้องอยู่กับคู่มือรักษาอาการ
ปวดคอ
เจ้านี่เตรียมการพร้อมเสร็จสรรพ!
คิดไปถึงขั้นว่าอาจจะทำงานหนักจนปวดคอ!
แต่ปัญหาหลักที่พวกโปรแกรมเมอร์พบไม่ใช่อาการปวดคอ แต่เป็นเพราะตาย
เพราะทำงานหนักต่างหาก!
อีกอย่าง มันก็ไม่ใช่ว่าแกจะเป็นโปรแกรมเมอร์สักหน่อย!
ก่อนหน้านี้ เมื่อได้เห็นหม่าหยางกระตือรือร้นกับงานนี้มาก เผยเชียนก็นึก
สงสัยว่าตัวเองเลือกคนมาทำงานผิดหรือเปล่า
แต่พอได้เห็นหนังสือที่หม่าหยางซื้อมา เขาก็มั่นใจ
ว่าหม่าหยางคือคนที่เหมาะที่สุดแน่นอน!
ดูจากความพยายามดั้นด้นไปตามร้านหนังสือ แต่ดันได้หนังสือแบบนี้กลับมา
จะบอกว่าหนังสือที่ซื้อมาไม่มีประโยชน์เลยก็ไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะยังมีความ
เกี่ยวข้องอยู่บ้าง
แต่จะบอกว่ามีประโยชน์ก็ไม่ได้เพราะ…มันไม่มี!
ถือเป็นการลงทุนไปโดยเปล่าประโยชน์ที่พบเห็นได้บ่อยๆ!
เผยเชียนตบบ่าหม่าหยาง “หม่าหยาง ที่เราทำอยู่คือออกแบบเกม ไม่ใช่เขียน
โปรแกรม”
“อีกอย่างนายรู้รึเปล่าว่าเกมสมัยนี้เขาใช้เครื่องมือพัฒนาเกมสร้างเอา”
“แถมเทคโนโลยี ก ็ พ ั ฒ นาเร็ ว มาก พวกวิ ธ ี ก ารในหนั ง สื อ พวกนี ้ ต กยุ ค ไป
หมดแล้ว เอามาใช้ไม่ได้หรอก”
หม่าหยางหน้าซีด “มิน่าล่ะเขาถึงเอามาลดราคา! เพราะขายไม่ออกนี่เอง!”
“ผมไปเดินวนหาทั่วร้านตั้งนาน แต่หาหนังสือเกี่ยวกับการออกแบบเกมไม่
เจอเลย ที่เจอก็มีแค่พวกนี้แหละ เห็นลดราคาเลยจัดมาหลายเล่ม”
“ทำไงดี เอาไปคืนก็ไม่ได้ด้วยเพราะเป็นหนังสือลดราคา!”
หม่าหยางลนลาน
แต่เผยเชียนกลับยิ้มให้ด้วยความโล่งใจ “ไม่เป็นไร ฉันเห็นความตั้งใจของนาย
ถ้าซื้อมาแล้วกลัวเสียเงินฟรีก็เปิดอ่านสักหน่อยก็ได้ อย่างน้อยก็น่าจะพอมี
ประโยชน์บ้างแหละ”
หม่าหยางสบายใจขึ้นเมื่อได้ยินแบบนั้น “พี่อยากอ่านด้วยมั้ย เดี๋ยวเราผลัด
กันอ่านก็ได้”
เผยเชียนหน้าเครียดขึ้นมา รีบบอกปัดทันที “ไม่ๆ ไม่เป็นไร!”
ใครจะไปอยากอ่านหนังสือพวกนี้กัน ใช้หนุนเป็นหมอนยังไม่ได้เลยเพราะแข็ง
เกินไป!
หม่าหยางนอนบนเตียง เปิดหนังสือเล่มหนาสุดอ่าน ซึ่งก็คือ ภาพรวมการ
เขียนโปรแกรมขั้นสูง
ผ่านไปห้านาที เสียงกรนก็ดังลั่นมาจากเตียงหม่าหยาง
เผยเชียนแสนสุขใจ
ใช่ ไว้ใจได้จริงๆ ด้วย!
ทัศนคติ เอาไปร้อยเต็ม!
ทักษะทำงานจริง เอาไปศูนย์คะแนน!
นี่คือนักออกแบบเกมที่เขาบากบั่นหามา
เสียดายที่เผยเชียนรู้จักแค่หม่าหยางคนเดียวที่มีความสามารถแบบนี้
ถ้ามีคนแบบหม่าหยางเพิ่มอีกสักหน่อย เผยเชียนคงจะเสียเงินสามแสนหยวน
ไปอย่างง่ายดายสบายใจ!

เผยเชียนเปิดเครื่องมือพัฒนาเกมของ ESRO เริ่มต้นพัฒนาโปรเจกต์ต่อไป ไม่
สนใจยอดดาวน์โหลดของเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายที่เพิ่มขึ้นมาอีก
หลายพัน
พวกเกมอินดี้มักจะฮิตมีกระแสเดี๋ยวเดียวแล้วก็หายไป
อีกทั้งเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายยังไม่มีการพัฒนาใดๆ ไม่น่าจะ
เล่นได้นาน
ในชาติก่อน เผยเชียนเคยเจอตัวอย่างคล้ายๆ กันนี้ที่ทั้งคุณภาพแย่ ออกแบบ
มาลวกๆ น่าเบื่อ มีการเล่นแค่รูปแบบเดียว แต่ก็ดังขึ้นมาด้วยเหตุผลบางประการ
แต่นั่นก็เป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้ยาก จากหลายร้อยเกม มีแค่ไม่กี่เกมที่เป็นแบบ
นั้น
เผยเชียนเองก็ไม่คิดไม่ฝันว่าตนจะพบเจออะไรแบบนี้!
พอผ่านไปสักระยะ เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายก็จะเริ่มหมด
กระแส ยอดดาวน์โหลดและรายได้ก็ลดลงไปตามปกติ
แต่กระแสจะหายไปไหมไม่ใช่เรื่องสำคัญ ความจริงที่เกมนี้สามารถหาเงินได้
ขนาดนี้ก็ทำให้เผยเชียนทุกข์ระทมมากพอแล้ว
หลังจากคิดถึงความขมขื่นในอดีต เผยเชียนก็ตัดสินใจเปลี่ยนวิธีคิด
รอบนี้ไม่ทำเกมอินดี้แล้ว! ต้องเปลี่ยน!
ตอนนี้เหล่าเกมเมอร์พอเห็นบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีก็จะคิดถึงเกม
โดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย
เผยเชียนมีอยู่สองตัวเลือกที่ต้องตัดสินใจหนัก
ถ้าสร้างเกมกากๆ ขึ้นมาอีกเกมก็อาจจะฮิตเหมือนเกมโดดเดี่ยวเดียวดาย
กลางทะเลทรายก็ได้ ถึงจะไม่ฮิตเท่า แค่ทำกำไรได้เล็กน้อยเผยเชียนก็ปวดใจอยู่ดี
หรือจะสร้างเกมอินดี้ที่ได้มาตรฐานออกมาดี…แต่พวกเกมเมอร์อาจคิดว่า
คุณภาพใช้ได้แล้วซื้อไปเล่นก็ได้
ถ้าเป็นแบบนั้นก็แย่แน่!
อีกอย่าง ให้ใช้สามแสนหยวนสร้างเกมอินดี้คงต้องลงแรงสักหน่อย
ต้องซื้อเทมเพลตกับงานภาพแพงขนาดไหนถึงจะใช้เงินสามแสนหยวนหมด
ถ้าซื้อของแพงๆ แบบนั้นมาอาจทำให้เกมดูดี ดึงดูดเกมเมอร์ให้แห่มาเล่น ทำ
กำไรบานอีกรอบ!
ดังนั้นหลังจากคิดหนักอยู่สักพัก เผยเชียนก็ตัดสินใจเลิกสนพวกเกมเมอร์ที่
ชอบเล่นเกมอินดี้เป็นชีวิตจิตใจและเปลี่ยนแนวเกม
เงินสามแสนนั้นไม่พอสร้างเกมใหญ่ๆ
ถึงเผยเชียนจะวางเป้าหมายไว้ว่าต้องเสียเงิน เขาก็ต้องผลิตตัวเกมออกมาให้
ได้มาตรฐานอยู่ดี
ถ้าเกมไม่ผ่านการประเมิน จะกลายเป็นว่าเขาเสียเงินสามแสนไปเปล่าๆ ไม่ได้
ตัวสินค้าขึ้นมา ระบบจะประเมินว่าเขาทำผิดกฎได้
ดังนั้นถ้าต้องใช้เงิน ก็ต้องสร้างเกมขึ้นมาให้ได้
เผยเชียนเลื่อนดูแพลตฟอร์มเกมก่อนจะวางเป้าหมายใหม่
เกมมือถือ!
จริงๆ ก็ไม่ค่อยมีทางเลือกอื่นแล้ว เหตุผลข้อแรกคือไม่มีเงินพอสร้างเกม
ฟอร์มใหญ่ ข้อสองคือในระยะสั้นๆ สร้างเกมอินดี้ขึ้นมาไม่ใช่เรื่องเหมาะ
เกมมือถือกับเกมอินดี้นั้นเจาะผู้เล่นคนละกลุ่ม
พวกคนเล่นเกมอินดี้อาจมาลองเล่นดูเพราะเห็นว่าเป็นเกมใหม่ของบริษัท
เถิงต๋า แต่พวกคนเล่นเกมมือถือไม่มีทางทำแบบนั้น
ขอแค่ทำเกมมือถือให้ห่วยแตกมากพอ เผยเชียนก็มั่นใจว่าจะไม่มีใครมาสนใจ
เล่น!
หลังจากกำหนดทิศทางได้แล้ว ก็ถึงเวลาศึกษาเกมในตลาด
เผยเชียนเข้าแพลตฟอร์มเกมทางการไปดูพวกเกมมือถือดังๆ ถึงกับลองโหลด
พวกเกมที่ฮิตที่สุดมาเล่นดูเอง
ถึงจะสังเกตเห็นจุดนี้มาก่อนแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่าเกมมือถือในจัก รวาล
คู่ขนานนี้จะพัฒนาไปไกลกว่าโลกเดิมของเขามาก
บทที่ 12 เกมการ์ด ฉันเลือกนาย!

ที่โลกเดิมของเขา สมาร์ตโฟนเพิ่งเริ่มเป็นที่นิยมและใช้กันทั่วไปในปี 2010 ถึง


2011 ท่ามกลางความนิยมนี้ เกมมือถือดังๆ อย่างพวกเกมการ์ดเริ่มผุดขึ้นมาในปี
2012
แต่ในโลกนี้มีสมาร์ตโฟนใช้กันตั้งแต่ปี 2008 และมีเกมการ์ดออกมาแล้ว
ปัจจุบัน ในปี 2009 นี้ เกมการ์ดเป็นอะไรที่ดาษดื่น
ตอนออกมาช่วงแรกๆ เกมการ์ดถือเป็นสิ่งใหม่และเป็นที่นิยมไปช่วงหนึ่ง
แต่พอมีเกมเลียนแบบปล่อยออกมาเยอะขึ้น เหล่าเกมเมอร์ก็เริ่มเบื่อ และ
การหาเงินง่ายๆ จากการทำเกมคล้ายๆ กันออกมาขายก็หายไป
ในโลกนี้ ต้นแบบของเกมการ์ดทั้งหลายคือเกมที่ชื่อว่า สามก๊กสุดคิวต์ เกมนี้
เป็นที่นิยมเพราะมีงานภาพเป็นตัวการ์ตูนน่ารักๆ มีรูปแบบการเล่นแบบเกมการ์ด
ดั้งเดิม และอีกหลายๆ อย่าง
ปี 2008 แฟรนไชส์สามก๊กยังไม่เป็นที่แพร่หลาย ชาวเกมเมอร์เลยให้ความ
สนใจ
พอมีเทรนด์สมาร์ตโฟนเข้ามา ตัวเกมก็ได้สร้างปาฏิหาริย์ ทำกำไรให้ทีม
ผู้พัฒนาได้เป็นกอบเป็นกำจนพวกคู่แข่งอิจฉาตาร้อนกันไปหมด
ในโลกนี้ เครื่องมือพัฒนาเกมพัฒนาไปไกลมาก พวกผู้พัฒนาอินดี้สามารถ
กระโดดเข้ามาเล่นในตลาดนี้ได้อย่างง่ายดายทำให้มีเกมเลียนแบบผุดขึ้นมาเป็น
ดอกเห็ด ส่งผลให้กระแสเกมการ์ดที่น่าจะไปต่อได้สักสามถึงห้าปีลดเหลือแค่ปี
เดียว
ตอนนี้ชาวเกมเมอร์มองว่าเกมการ์ดนั้นเป็นอะไรที่ซ้ำซากจำเจ
ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เผยเชียนต้องการ!
นอกจากนั้นแล้ว เขายังสังเกตเห็นข้อแตกต่างขนาดใหญ่ระหว่างเกมสามก๊ก
สุดคิวต์กับเกมการ์ดอืน่ ๆ ในโลกเดิมของเขา
เรื่องเพดานค่าใช้จ่ายนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ตัวเกมกำหนดราคาตายตัวไว้ที่ห้าหยวน ส่วนพวกของในเกมอื่นๆ สามารถซื้อ
ได้ในราคาเป็นมิตร ระบบชนิดที่ต้องเติมเงินสองพันหยวนเพื่อให้ได้การ์ดหายาก
นั้นไม่มีอยู่ในโลกนี้
การเติมเงินซื้อของในเกมเสียเต็มที่อยู่ที่ประมาณหนึ่งพันหยวน นอกจากนั้นก็
ไม่มีอะไรให้ซื้อแล้ว
ถึงกระนั้น เกมสามก๊กสุดคิวต์ก็ยังโดนเหล่าเกมเมอร์วิจารณ์ว่าเป็นเกมขูดรีด
นั่นก็เพราะสิ่งต่างๆ ในโลกนี้แตกต่างจากโลกเดิมของเผยเชียน
การละเมิดลิขสิทธิ์ไม่เป็นที่แพร่หลายในโลกนี้เพราะมีกฎหมายคุ้มครองอย่าง
ดี เหล่าผู้พัฒนาเกมรายย่อยจึงใช้ชีวิตได้ค่อนข้างราบรื่น
ทำให้การซื้อเกมครั้งเดียวและการเติมเงินเป็นรูปแบบการทำกำไรหลักที่เกม
เมอร์รู้จักและคุ้นชิน
ในส่วนของเกมสามก๊กสุดคิวต์ จะเห็นได้ชัดเจนว่าทีมผู้พัฒนาไม่กล้าขูดรีด
มากเกินไป จึงตั้งราคาขายที่ห้าหยวนและเพิ่มของในเกมให้ซื้อเล็กๆ น้อยๆ
ถึงกระนั้นก็ยังโดนถล่มเละ
หลังจากศึกษาตลาดเสร็จ เผยเชียนก็เริ่มคิดว่าจะทำอย่างไรให้เกมออกมา
ห่วยดี
วิธที ง่ี า่ ยทีส่ ดุ คือปล่อยเกมออกไปแข่งกับตลาด!
ถ้าในตลาดมีเกมที่ประสบความสำเร็จมากๆ และเป็นต้นตำรับของเกมหมวด
นี้แล้ว สิ่งที่เผยเชียนต้องทำก็แค่ปล่อยเกมเหมือนๆ กันออกไป รับรองเลยว่าต้อง
ฉิบหายแน่!
ในเมื่อเกมการ์ดอยู่ในช่วงขาลง ก็ต้องสร้างเกมการ์ดนั่นละ!
สามก๊กสุดคิ้วต์ดังมากใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะสร้างเกมด้วยธีมสามก๊ก
เหมือนกัน!
รูปแบบการเล่นก็เอาเหมือนๆ กัน เอาเงินก้อนหลักหมื่ นไปโยนซื้อเทมเพลต
สำหรับสร้างเกมการ์ดน่าจะเข้าท่า
แน่นอนว่าเรื่องงานภาพจะลอกมาโง่ๆ เลยไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะโดนเรื่อง
ลิขสิทธิ์เอา
เผยเชียนไม่ได้คิดจะลอกเลียนเรื่องงานภาพอยู่แล้ว เพราะเขาตั้งใจจะเอาเงิน
ไปถล่มกับทรัพยากรงานภาพ ไม่อย่างนั้นกับแค่ซื้อตัวเทมเพลตอย่างเดียวจะ
ผลาญเงินให้หมดสามแสนได้อย่างไร
จุดสำคัญอีกจุดคือเพดานค่าใช้จ่าย
เกมสามก๊กสุดคิวต์นั้นมีการควบคุมเรื่องเพดานค่าใช้จ่าย ส่วนเกมของเผย
เชียนนั้น ตั้งเพดานไว้สูงๆ ขูดรีดจนเกมเมอร์ต้องร่ำไห้ไปเลยดีไหม
ไม่! ไม่ได้!
เผยเชียนไม่ได้คิดแบบนั้น
เขารู้จักชาวเกมเมอร์ดี พวกนั้นมันเป็นนักเลงคีย์บอร์ด
ชาวเกมเมอร์อาจจะออกมาด่ากันยกใหญ่ว่าเกมหน้าเลือดอย่างนั้นอย่างนี้
และขู่จะเลิกเล่น
แต่พอปล่อยไอเทมราคาแพงหูฉี่ออกมา ถึงจะบ่นกันแต่พวกวาฬ[1]ก็ซื้ออยู่ดี
ถ้าเผยเชียนตั้งเพดานค่าใช้จ่ายไว้สูงมากๆ สักประมาณหลายหมื่นหยวนแล้ว
ดันไปเจอพวกวาฬเข้าจะทำอย่างไร
กำลังซื้อของวาฬแค่ตัวเดียวก็เท่ากับกับเกมเมอร์ธรรมดาหลายพันคนแล้ว ถ้า
เกมได้กำไรจากวาฬแค่ไม่กี่ตัวขึ้นมา เขาจะไม่กระอักเลือดตายเลยหรือ
ดังนั้น เขาต้องคิดมุมกลับปรับมุมมอง!
จะกันไม่ให้พวกวาฬมาทุ่มเงินได้ ก็ต้องตั้งเพดานค่าใช้จ่ายไว้ต่ำๆ!
เผยเชียนครุ่นคิดเรื่องนี้ ถ้าเพดานค่าใช้จ่ายของเกมสามก๊กสุดคิวต์อยู่ที่
ประมาณพันหยวน เขาก็ต้องลดลงมาจากนั้นเป็นสัก…ห้าร้อยหยวน!
ไม่เอา สักร้อยหยวน!
ไม่ ยังไม่พอ สามสิบหยวนพอ!
เขาตั้งใจจะไม่ให้พวกวาฬมีที่ให้เสียเงิน!
แต่แน่นอนว่าถ้าเป็นเกมการ์ด ก็ต้องมีการ์ดธรรมดากับการ์ดหายาก
วิธที ใ่ี ช้กนั คือต้องจ่ายเงินเพือ่ ปลดการ์ดหายาก จะได้สร้างรายได้ให้บริษทั ได้
เผยเชียนไม่ใช้วิธีนี้เพราะเขาอยากให้เกมขาดทุน ไม่ใช่ได้กำไร!
ของที่แพงที่สุดในเกมเอาเป็นบัตรสมาชิกถาวรราคาสามสิบหยวน! คนที่ซื้อจะ
ได้สิทธิ์สุ่มการ์ดเพิ่มรายวัน
นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีที่ให้เสียเงินอีก!
พวกแกอยากเสียเงินให้บริษัทเถิงต๋าหรือ ฝันไปเถอะ!
สำหรับสายฟรี ต่อให้ไม่ซื้อบัตรสามสิ บหยวนก็ได้สิทธิ์สุ่มการ์ดเหมือนกัน แค่
จำนวนครั้งน้อยกว่า
พอเป็นแบบนี้ พวกเกมเมอร์ก็จะไม่มีแรงจูงใจให้เสียเงิน!
ส่วนราคาเกม จริงๆ เผยเชียนอยากตั้งเป็นเกมฟรี แต่พอคิดไปคิดมาก็เปลี่ยน
ใจ
สมัยนี้มีเกมมือถือเล่นฟรีไม่ค่อยเยอะ ส่วนใหญ่จะราคาหนึ่งหยวน
ถ้าปล่อยเป็นเกมฟรีอาจจะไปดึงดูดใจให้คนเข้าแห่มาเล่นได้
ดังขึ้นมาอีกจะทำอย่างไร
ดังนั้น เผยเชียนจึงเลือกสวนเทรนด์และตั้งราคาไว้ที่สิบหยวน!
แพงกว่าสามก๊กสุดคิวต์อีก!
เนื่องจากเป็นราคาที่สูง สิบหยวนนี้จะช่วยกันพวกอยากเข้ามาเล่นไปได้ถึง
90%
ลองคิดดูสิ เกมมือถือที่สร้างจากเทมเพลต ไม่ได้เพิ่มอะไรใหม่ๆ ราคาแพงกว่า
เกมที่ฮิตที่สุดตั้งห้าหยวน ใครมันจะโง่มาซื้อ
แต่จะตั้งราคาให้สูงเกินไปก็ไม่ได้
แค่สิบหยวนน่าจะพอที่จะกันไม่ให้คนมาซื้อได้ ถ้าตั้งให้สูงกว่านี้อาจทำเงินได้
ต่อให้มีจำนวนผู้เล่นไม่มาก
ยิ่งได้ก็เท่ากับยิ่งเสีย ปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้!
เผยเชียนวางเป้าหมายได้เรียบร้อย
อย่างแรกเลย เกมนี้จะต้องมีระบบพื้นฐานที่สุด
ระบบที่เกมการ์ดอื่นๆ ไม่มีหรือ อย่าฝันว่าจะเจอในเกมนี้!
ระบบที่เกมการ์ดอื่นๆ มี เกมนี้ก็ไม่มีเหมือนกัน!
สรุปก็คือ ระบบการเล่นจะเหมือนเกมที่มีอยู่ในตลาดไปเสียทุกอย่าง แถมยัง
ไม่มีอะไรใหม่เหมือนกัน!
นอกจากนั้น เกมนี้ยังเป็นเกมที่ปล่อยมาสู้กับเกมสามก๊กสุดคิวต์!
ทั้งสองเกมใช้ธีมสามก๊กเหมือนกัน
เป็นเกมมือถือเหมือนกัน
ของพวกเขาเป็นของแท้ ของเผยเชียนเป็นของเลียนแบบ
ไม่มีทางทีค่ นจะเลือกเล่นเกมนี้แทนเกมสามก๊กสุดคิวต์!
สุดท้ายแล้ว เกมนี้ก็เป็นเกมที่มีแผนทำกำไรที่โง่เง่าสิ้นดี
เริ่มจากตั้งราคาสิบหยวนเพื่อกีดกันผู้เล่นทั่วไป
แล้วก็มีเพดานค่าใช้จ่ายอยู่ที่สามสิบหยวน กันไม่ให้พวกวาฬมาถล่มเงินได้!
“ฉันนี่มันอัจฉริยะขั้นเทพจริงๆ!”
“นีม่ ันเป็นแผนสุดยอดเยี่ยมกระเทียมดอง!”
เผยเชียนประทับใจในตัวเอง ออกแบบมาโง่ๆ แบบนี้จะไปทำเงินได้อย่างไร
ไม่มีทาง! ไม่มีทางทำเงินได้แน่!
……………………………..
[1] คำที่เหล่าเกมเมอร์ใช้เรียกคนที่ทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อซื้อไอเทมในเกม
บทที่ 13 ใช้เงิน!

พอตัดสินได้แล้ว เผยเชียนก็เข้าเว็บไซต์ทางการของ ESRO และค้นดูเทม


เพลตสำหรับสร้างเกมการ์ดบนมือถือ
ไม่นานเขาก็เทมเพลตตัวหนึ่ง
ไม่ใช่เทมเพลตของสามก๊กสุดคิวต์
เกมสามก๊กสุดคิวต์เป็นต้นตำรับของเกมการ์ดอื่นๆ และยังเป็นเกมที่ฮิตที่สุด
ในตลาด เปรียบเป็นเหมือนบ่อเงินบ่ อทอง ไม่มีทางที่บริษัทจะโง่เอาเทมเพลต
ตัวเองออกมาวางขาย
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัทอื่นจะไม่ทำ
มีหลายบริษัทที่กระโดดเข้ามาจับกระแสเกมการ์ด พวกเขาเขียนโค้ดเกมขึ้น
โดยหยิบระบบการเล่นของเกมสามก๊กสุดคิวต์มาเป็นแบบอย่าง
แต่ พ อบริ ษ ั ท เหล่ า นั ้น ทำเงิ น กั บ เกมของตั ว เองไม่ ไ ด้ ก็ ไ ม่ ม ี ท างเลือ กอื่ น
นอกจากปรับตัวเกมนิดหน่อยและเอาไปปล่อยบนเว็บไซต์รวมทรัพยากรเพื่อขาย
เป็นเทมเพลต เผื่อว่ายอดขายจะมาช่วยหักกลบลบหนี้ที่ขาดทุนไป
เทมเพลตที่เผยเชียนพบมาจากเกมเลียนแบบที่เจ๊งไม่เป็นท่า
“มาจากเกมเก๊งเหรอ พี่ชอบ!”
ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเผยเชียน
เขากดดูระบบการเล่น
ตั้งแต่ปี 2008 ที่เกมการ์ดบนมือถือได้รับความนิยม เกมสามก๊กสุดคิวต์ก็ผ่าน
การอัปเดตเพิ่มเติมระบบการเล่นมาหลายครั้ง
แต่เทมเพลตนี้เป็นของเก๋ากึ๊กดึกดำบรรพ์ มีแค่องค์ประกอบพื้นฐาน เช่น
ระบบเลเวล ระบบเล่นอัตโนมัติ อารีน่า และอื่นๆ
ส่วนรูปแบบการเล่นใหม่ๆ นั้นไม่มีเลยแม้แต่อย่างเดียว!
ตัวเกมทั้งหมดดูแย่มาก
ซึ่งก็ทำให้เผยเชียนรู้สึกพึงพอใจ!
นี่เป็นเทมเพลตเกมการ์ดในฝันของเขา! เป็นเทมเพลตที่ไม่มีรูปแบบอะไรที่จะ
ทำให้เกมสนุกและระบบการเล่นก็ไม่ได้โดดเด่น!
เขาดูราคา หนึ่งแสน!
“…ทำไมแค่แสนเดียวเอง”
ตอนนี้เขาไม่ค่อยพอใจกับราคาเท่าไหร่ เพราะมันถูกเกินไป!
ถ้าตั้งไว้สักแสนห้า ฉันก็จะซื้อ!
แต่พอคิดดูดีๆ เทมเพลตเกมขับรถก็ราคาแค่สองหมื่นเอง ถึงเทมเพลตเกม
การ์ดจะซับซ้อนและมีระบบการเล่นเยอะกว่า ราคาหนึ่งแสนก็ไม่ได้ถือว่าถูกเลย
เผยเชียนสังเกตเห็นว่ายอดดาวน์โหลดของเทมเพลตนี้น้อยกว่าของเทมเพลต
จำลองการขับรถที่ซื้อไปก่อนหน้าอยู่มาก
บ่งบอกได้ชัดเจนว่าเทมเพลตนี้แพงเกินเหตุและน่าจะใช้การไม่ค่อยได้
เผยเชียนไม่ลังเลอีกต่อไปและกดซื้อทันที!
ของราคาแพงเกินเหตุแบบนี้นี่ละที่เขาชอบนัก เพราะเป็นอะไรที่ทำให้เขา
ผลาญเงินได้โดยไม่ต้องกลัวทำผิดกฎระบบ
พอซื้อเทมเพลตเสร็จ เขาก็มีระบบการเล่นพื้นฐานแล้ว ต่อไปก็เพิ่มงานภาพ
เข้ามา
ต้องมีหน้าจอใช้งาน (UI) เอฟเฟ็กต์ตอนต่อสู้ แอนิเมชันประกอบการ์ด และ
อื่นๆ
นอกจากพวกนี้แล้ว เขาต้องซื้อเพลงประกอบ เสียงเอฟเฟ็กต์ และซื้ออุปกรณ์
สำหรับใช้บริการระบบคลาวด์ ทั้งหมดนี้คงต้องใช้เงินมากหน่อย
แต่ส่วนใหญ่ก็ต้องใช้ไปกับงานภาพ
เผยเชียนครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ เขาจะเอาเงินไปซื้อเพลงกับเสียงเอฟเฟ็กต์สักสาม
หมื่น กันไว้สักหนึ่งหมื่นสำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ส่วนที่เหลืออีกประมาณแสนหกก็
เอาไว้ซื้องานภาพ
หนึ่งแสนหกหมื่น ไม่ได้เป็นจำนวนที่เยอะหรือน้อย
เผยเชียนยังไม่ได้คิดว่าอยากได้งานภาพแนวไหน
เกมการ์ดเหมาะกับการเปลี่ยนการออกแบบ
สำหรับเกมการ์ดนั้น การออกแบบถือเป็นเรื่องสำคัญ
เพราะว่าการออกแบบนั้นสำคัญมาก เผยเชียนจึงต้องทำตรงนี้ให้เละ!
แต่จะตั้งใจทำให้ออกมาน่าเกลียดก็ไม่ได้
เพราะระบบมีกฎห้ามเขาจงใจซื้อสินค้าหรือบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน
ถ้าจ่ายไปแสนหกแล้วได้งานภาพที่มีมูลค่าจริงประมาณหกหมื่นมา ระบบจะ
ไม่ให้ผ่าน
เขาต้องซื้อของที่คุณภาพถึงเกณฑ์ ไม่สูงกว่าหรือต่ำกว่ามาตรฐานเกินไป
เผยเชียนต้องใช้สมองสักหน่อยแล้ว
เขาจะซื้องานภาพคุณภาพดีที่ชาวเกมเมอร์จะต้องเกลียดได้อย่างไร
ง่ายๆ! เขาก็แค่จ้างคนมาออกแบบให้ดูเข้าถึงยากจนเกมเมอร์รับไม่ไหว แค่
นั้นก็โอเคแล้วนี่
จุดสำคัญคือเขียนอธิบายงานภาพแบบที่ต้องการ
เผยเชียนไม่มั่นใจความสามารถของตนเองในส่วนนี้ จากประสบการณ์ความ
ล้ ม เหลวของเกมโดดเดี ่ ย วเดี ย วดายกลางทะเลทรายทำให้ เ ขาเริ ่ ม สงสั ย ใน
ความสามารถของตนเอง
เมื่อเป็นแบบนี้ก็ต้องเอาหม่าหยางเข้ามาช่วย!
เผยเชียนดาวน์โหลดแบบฟอร์มสากลที่ใช้ในการอธิบายงานภาพที่ต้องการ
ออกมา
ในแบบฟอร์มต้องกรอกข้อมูลขนาดงานภาพที่ต้องการ รวมถึงคำอธิบาย
คร่าวๆ
งานภาพหลักๆ มีอยู่สองประเภท ประเภทแรกคืองานออกแบบออริจินัล งาน
แบบนี้มีราคาสูงกว่าและต้องใช้ฝีมือมากกว่า เพราะนักวาดต้องวาดอย่างพิถีพิถัน
จึงต้องเขียนอธิบายงานภาพที่ต้องการอย่างละเอียด
งานอีกแบบคือพวก UI เอฟเฟ็กต์พิเศษ และอื่นๆ
งานจำพวกนี้เป็นงานภาพที่เหมือนๆ กันซึ่งมีในอินเทอร์เน็ต เอามาปรับนิดๆ
หน่อยก็ใช้งานได้
แต่เผยเชียนย่อมไม่อยากได้งานที่เอามาปรับก็ใช้ได้แบบนี้ ถ้าใช้งานพวกนี้เขา
จะเอาเงินไปผลาญได้อย่างไร
ดังนัน้ งานภาพทุกชิ้นจะต้องวาดขึ้นใหม่หมด!
เผยเชียนไล่รายการ UI เอฟเฟ็กต์พิเศษ และงานภาพอื่นๆ ที่ไม่ค่อยสำคัญ
มาก จากนั้นก็กรอกรายละเอียดคร่าวๆ ลงไปว่า…
ต้องออกมาเท่!
เข้ากับธีมสามก๊ก!
เขากรอกแต่อะไรที่กำกวมไป
ส่วนผลงานจะออกมาอย่างไรนั้น…
เผยเชียนไม่ได้สนใจ! นักวาดจะออกแบบมาอย่างไรก็ได้!
จากนั้นเผยเชียนก็เอาแบบฟอร์มให้หม่าหยาง
ตอนนั้นหม่าหยางตื่นแล้ว
แต่หลังจากนอนกอดหนังสือเล่มหนาไปสองนาทีก็ทำท่าจะหลับอีกครั้ง
พอเห็นเผยเชียนยื่นแบบฟอร์มให้ หม่าหยางก็ฟื้นคืนชีพอีกรอบ ก่อนจะโยน
หนังสือทิ้ง ยื่นหัวลงไปที่เตียงชั้นล่างแล้วกระซิบถาม “เริ่มงานแล้วเหรอ”
เผยเชียนพยักหน้า “เอาแบบฟอร์มไปกรอก ปลดปล่อยจินตนาการตัวเอง
ออกมาให้เต็มที่!”
หม่าหยางพยักหน้ารัว “จัดไป!”
ความมุ่งมั่นในการทำงานพุ่งพรวด!
หม่าหยางดูแบบฟอร์ม เป็นแบบฟอร์มให้ลงรายละเอียดงานภาพที่ต้องการ มี
ส่วนที่ต้องกรอกอยู่หลายส่วน แต่หลักๆ คือต้องอธิบายรูปแบบตัวละครออริจินัล
ที่ต้องการ
เผยเชียนเลือกธีมไปแล้ว ซึ่งก็คือสามก๊ก
ในสามก๊กมีตัวละครมากมาย เผยเชียนเลือกมาห้าสิบตัว สิบห้าตัวเป็นการ์ด
หายาก อีกยี่สิบห้าตัวเป็นการ์ดระดับสูง ส่วนอีกสิบตัวที่เหลือเป็นการ์ดทั่วไป
งานภาพออริจินัลมีมากมากหลายราคา ถูกสุดอยู่ที่ประมาณแปดร้อยหยวน
ต่อชิ้น แพงสุดอยู่ที่ห้าพันหยวนต่อชิ้น
ถ้าไปหาเด็กตามโรงเรียนศิลปะในเมืองอันดับสอง อันดับสาม อาจจะได้ชิ้นละ
ร้อยหยวน
ถ้าจ้างนักวาดชื่อดัง ราคาอาจสูงถืงชิ้นละแปดพันหยวน
จ่ายเท่าไหร่ก็ได้คุณภาพตามนั้น
เผยเชียนไม่จ้างนักวาดชื่อดังมาทำงานภาพให้แน่นอน ถึงจะทำให้เขาผลาญ
เงินไปได้เยอะก็เถอะ
เพราะมีโอกาสว่านักวาดชื่อดังจะสร้างกระแสให้เกมได้!
คิดตามนี้ ถ้าเขาจ่ายงานภาพไปชิ้นละห้าพันก็จะเสียเงินได้เยอะ แต่ถ้าพวก
เกมเมอร์ดันติดใจงานภาพออริจินัลของเขาขึ้นมาจะทำอย่างไร
ท้ายที่สุดแล้ว การออกแบบก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด ถ้างานภาพ
ออกมาสวยก็มีโอกาสทำเงินได้แม้เกมจะกากก็ตาม!
เผยเชียนจึงตัดสินใจซื้องานภาพออริจินัลราคาถูก!
ถ้าอยากเสียเงินเยอะๆ ก็แค่สั่งหลายๆ ชิ้น!
จากตัวละครทั้งหมดห้าสิบตัวเขาสามารถใส่ร่างแต่ละแบบที่แตกต่างกัน
หลังอัปเลเวลและดาวของตัวละคร
ก็จะมีตัวละครห้าสิบตัว แต่ละตัวมีร่างอัปเกรดสี่แบบตอนเลเวลอัป
ตัวละครแต่ละตัวกับร่างแปลงสี่ร่างราคาอยู่ที่สามพันหยวน รวมทั้งหมดก็เป็น
หนึ่งแสนห้าพัน เผยเชียนคำนวณมาอย่างดี
การ์ดเริ่มต้นไม่จำเป็นต้องมีตัวละครทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายตรงนี้ไปได้
แต่แน่นอนว่าต้องดูราคาจริงจากทางนักวาด ตัวเลขดังกล่าวเป็นแค่ตัวเลขที่
เผยเชียนคาดการณ์คร่าวๆ
หม่าหยางงงไปหมด ถ้าทุกอย่างกำหนดไว้แล้ว เขาจะมีหน้าที่ทำอะไร
หลังจากอ่านข้อความของเผยเชียนอย่างละเอียด เขาก็เข้าใจ
หน้าที่ของเขาคือเอาตัวละครดั้งเดิมมาออกแบบใหม่ทั้งหมด!
พูดอีกอย่างก็คือ เค้นเอาความคิดสร้างสรรค์ที่มีมาใช้ออกแบบตัวละครทั้งห้า
สิบตัวใหม่ให้ไม่เหลือเค้าเดิมจนไม่มีใครจำได้!
บทที่ 14 งานของหม่าหยาง

เผยเชียนวางแผนไว้เรียบร้อยแล้วว่าถ้าคิดจะสร้างเกมไปชนกับสามก๊กสุด
คิวต์ก็ต้องใช้ธีมสามก๊กเหมือนกัน
แต่ธีมสามก๊กเป็นแหล่งที่รวบรวมงานหลายๆ แบบเอาไว้ ไม่ได้เป็นธีมที่ดีหรือ
แย่เกินไป
ถ้าอยากให้คนเกลียดตัวละครสามก๊ก ทางที่ดีที่สุดคือปรับแก้ ใหม่ ทำลาย
ภาพเดิมของตัวละครไปให้หมด!
เมื่อทำแบบนี้ เหล่าเกมเมอร์ที่ชอบสามก๊กก็จะบ่นเรื่องการแก้ตัวละครใหม่
เสียเละ จากนั้นก็เลี่ยงเกมของเขา ทำให้เกมมีภาพพจน์แย่ๆ
งานปรับเปลี่ยนตัวละครอันแสนสำคัญนี้ต้องให้หม่าหยางรับผิดชอบ
เผยเชียนมั่นใจในความสามารถของหม่าหยางสุดๆ ขอแค่หม่าหยางตั้งใจ
ทำงานนี้ รับรองว่าต้องออกมาห่วยแน่!
พอเห็นชื่อตัวละคร หม่าหยางก็ขมวดคิ้ว
เขาโผล่หัวมากระซิบจากเตียงชั้นบน “พี่เชียน คือ…สามก๊กน่ะผมเคยดูแค่ซี
รีส์ในทีวี ในนี้มีตัวละครที่ผมไม่รู้จักเยอะมาก…”
เผยเชียนแสนสุขใจ แบบนั้นก็เยี่ยมไปเลยนี่นา
ถ้านายรู้จักตัวละครสามก๊กทะลุปรุโปร่ง ฉันคงไม่กล้าเอางานนี้ให้นายทำ
“อย่าคิดมาก ฉันเชื่อใจนาย เป้าหมายของเราคือฉีกจากอะไรเดิมๆ อยู่แล้ว
ใช้จินตนาการให้เต็มที่เลย ยิ่งฉีกออกไปได้เยอะยิ่งดี”
“แล้วก็ไม่ต้องกังวลว่าผลงานจะออกมายังไง เพราะเรื่องนี้มันก็ขึ้นอยู่กับนัก
วาดเหมือนกัน นายแค่บอกทิศทางเขาก็พอ”
“นายออกแบบได้เต็มที่เลยเพราะไม่ได้กำหนดตายตัวอยู่แล้ว ไม่มีใครมาจู้จี้
กับอะไรเล็กๆ น้อยๆ หรอก”
เผยเชียนพยายามโน้มน้าว
เขาไม่อยากให้หม่าหยางถอดใจพอเห็นว่าเป็นงานยากแล้วโยนกลับมาให้เขา
ทำ
ในที่สุดหม่าหยางก็พยักหน้า “ก็ได้ ผมจะพยายามเต็มที่แล้วกัน”
เผยเชียนยังกังวลอยู่เลยเสริมไปอีก “จำไว้ว่าเอาให้ฉีกสุดๆ ไปเลย! ยิ่งดูตลก
ยิ่งดี!”
หม่าหยางนั่งเกาแก้มอยู่บนเตียง
หลังจากง่วนอยู่สิบนาทีก็ไม่มีอะไรคืบหน้า
ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวเลยโผล่หัวไปถามอีก “พี่เชียน ผมควรไปหาซื้อสามก๊ก
มาอ่านก่อนมั้ย…”
เผยเชียนรีบห้ามทันที “ไม่! ไม่ต้องเลย! ความคิดสร้างสรรค์ของนายคือสิ่งที่
ฉันต้องการ เข้าใจไหม ตอนนี้นายไม่มีอิทธิพลเรื่องสามก๊กมาจำกัดกรอบความคิด
นายจะออกแบบฉีกแนวไปได้สุดๆ!”
“อย่ามัวกังวลว่าของดั้งเดิมเป็นยังไง! ใช้จินตนาการของนายให้เต็มที่ ปรับให้
ได้มากที่สุด!”
“โอเค” หม่าหยางตอบเสียงอ่อนก่อนจะหดหัวกลับไปคิดต่อ
ผ่านไปพักหนึ่ง เขาก็โผล่หัวมาถามอีกรอบ “พี่เชียน ผมออกแบบให้กวนอู
เป็นมังกรได้มั้ย จะโอเครึเปล่า”
เผยเชียนพยักหน้า “ได้ดิ!”
ผ่านไปสักพัก
“พี่เชียน ผมให้ม้าเฉียวเป็นเซ็นทอร์ได้มั้ย”
“เอาเลย!”
ผ่านไปอีกสักแป๊บ
“พี่เชียน ผมจะให้จิวฉองเป็นมังกรตัวเมีย ส่วนจูกัดเหลียงเป็นนักประดิษฐ์!
อุ๋ยซีเป็นหุ่นเชิดจักรกล เคาทูเป็นเสือ! โจผีเป็นสัตว์ประหลาดมีหนวด ลิบอง
เป็นโลลิต้านักฆ่ามังกร! เอาเป็นแบบนี้ได้มั้ยอ่ะ”
เผยเชียนตบหน้าขา “ได้! เอาแบบนี้เลย! ไอ้หม่า รู้ตัวรึเปล่าว่าแกมันอัจฉริยะ
จริงๆ ตัวอื่นๆ ก็เอาแบบนี้เลยนะ”
ตอนแรกหม่าหยางก็ไม่ค่อยมั่นใจกับงานของตัวเอง แต่พอได้ยินเผยเชียน
ยืนยันก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมา
เห็นหม่าหยางตั้งใจทำงาน เผยเชียนก็ปลื้มปริ่ม
เขาเลือกคนมาไม่ผิด!
ให้จิวฉองเป็นมังกรตัวเมียและให้ลิบองเป็นโลลิต้านักฆ่ามังกร
ดูสิว่าเจ้านี่มีพรสวรรค์ขนาดไหน!
เผยเชียนไม่มีทางคิดอะไรแบบนี้ออกด้วยตัวเองแน่!
พอหานักวาดราคาถูกมาช่วยวาดตามรายละเอียดที่ไม่ได้ดีมาตั้งแต่ต้น ก็ไม่มี
ทางเลยที่งานภาพออริจินัลที่ออกมาจะมีคนทนดูได้ไหว!
คิดดูสิว่าถ้าผู้เล่นสุ่มการ์ดได้แล้วพบว่าโจผีเป็นสัตว์ประหลาดมีหนวด…
สุ่มเจอลิบอง แม่ทัพสุดยิ่งใหญ่กลายเป็นโลลิต้านักฆ่ามังกร…
พวกแฟนสามก๊กคงจะเดือดกันใหญ่แน่
ดาราต่างประเทศคนหนึ่งได้บอกไว้ว่า “การสร้างหนังจากประวัติศาสตร์ไม่
ควรบิดเบือนข้อมูลไปมั่วซั่ว”
แต่ที่เขาทำอยู่คือทำไปมั่วซั่วสุดๆ! พอปล่อยเกมออกไป คนส่วนใหญ่จะต้อง
เกลียดชังเกมนี้ แฟนๆ สามก๊กจะต้องก่นด่าไม่หยุด!
วันคืนอันแสนขมขื่นของเผยเชียนหายวับไปเมื่อได้เห็นอนาคตอันสดใสอีก
ครั้ง!
เสียสามแสนเพื่อให้ได้สามแสน!
เผยเชียนสามารถวาดภาพชีวิตอันแสนสุขที่รอคอยเขาอยู่ได้!
ระหว่างที่รอหม่าหยางกรอกแบบฟอร์ม เผยเชียนก็ไปหานักวาดบนเว็บไซต์
เว็บไซต์รวมทรัพยากรของ ESRO รวบรวมทรัพยากรเกี่ยวกับเกมไว้มากมาย
รวมถึงมนุษย์ด้วย
มีทั้งนักออกแบบเกม นักวาด นักเขียนโปรแกรมมาให้บริการบนเว็บไซต์โดยที่
มีค่าใช้จ่ายในการจ้าง
ลูกค้าสามารถดูงานที่ผ่านมาของเหล่าฟรีแลนซ์ ถ้าชอบงานก็ติดต่อคุยเรื่อง
การจ้างงานได้
เช่น ต้องการงานภาพออริจินัลกี่ชิ้น
เผยเชียนคัดพวกนักวาดที่เชี่ยวชาญเรื่องงานออริจินัลออกมาแล้วเริ่มตัด
ตัวเลือกอย่างรวดเร็ว
เขาตัดพวกนักวาดชื่อดังทิ้งหมด
พวกนักวาดผลงานดีก็ตัดทิ้ง
เขามุ่งเป้าไปที่นักวาดหน้าใหม่ที่ขายงานภาพออริจินัลประมาณเจ็ดร้อยหยวน
ต่อชิ้น
หลังจากดูตัวอย่างงานของนักวาดหลายๆ คน เผยเชียนก็พบว่างานเหล่านั้น
คล้ายกันไปหมด
เว็บไซต์รวมทรัพยากรนี้มีการกรองคนในระดับหนึ่งเพื่อไม่ให้ใครก็ได้เข้ามา
ประกาศรับจ้าง
ทีมงานของ ERSO จะประเมินก่อน พวกนักวาดหน้าใหม่ที่สามารถประกาศ
หางานได้อย่างน้อยก็ต้องมีพื้นฐานด้านการวาดรูปที่ดี
เผยเชียนค้นดูเรื่อยๆ และตัดสินใจเลือกนักวาดหน้าใหม่ที่มีผลงานให้ดูไม่ค่อย
มากนัก
งานของนักวาดคนนี้เป็นภาพวาดสองมิติสไตล์น่ารักๆ ไม่ได้วาดไปในทาง
สมจริง
ดูแล้วรู้เลยว่าเขาต้องไม่เก่งด้านการวาดภาพสมจริงซึ่งเป็นสไตล์งานภาพที่
เผยเชียนอยากเอาไปใส่ในเกม!
“เอาคนนี้แหละ!”
เผยเชียนตัดสินใจทันที
แต่เผยเชียนจะจ้างนักวาดแค่คนเดียวไม่ได้เพราะเขาต้องการงานภาพหลาย
ชิ้น
การ์ดบางใบต้องมีงานภาพที่ออกแบบอย่างประณีตเหมือนโปสเตอร์ งาน
แบบนี้ต่อให้เป็นนักวาดที่มีประสบการณ์ก็ต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์
แต่ที่เผยเชียนต้องการนั้นเป็นแค่งานภาพสำหรับการ์ดบนจอมือถือ ดังนั้น
คุณภาพก็จะลดลงไปมาก แต่ถึงนักวาดจะเก่งและขยันหน่อยก็ยังต้องใช้เวลา
ประมาณสองวันอยู่ดี
หมายความว่า ถ้าตัดเรื่องคุณภาพออกไปก่อน นักวาดที่ทำงานไม่หยุดทั้ง
เดือนจะสร้างงานภาพออริจินัลออกมาได้มากสุดสิบห้าชิ้น
ถึงเผยเชียนจะบอกว่าตนต้องการงานภาพสองร้อยชิ้นก็ไม่ได้หมายความว่า
มันต้องเป็นงานภาพออริจินัลที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงสองร้อยชิ้น
มีตัวละครห้าสิบตัว แต่ละตัวมีงานภาพสี่แบบแยกตามดาวแต่ละขั้น
อย่างการ์ดหนึ่งดาวถึงสี่ดาวของจูกัดเหลียงก็จะมีรายละเอียดและเอฟเฟ็กต์
พิเศษเพิ่มเติมมาเล็กน้อย ไม่ได้ให้ออกแบบใหม่ทั้งหมด
ดังนั้น ตัวละครแต่ละตัวจะมีงานภาพออริจินัลสี่แบบ
เมื่อคำนวณเผื่อดู เผยเชียนต้องจ้างนักวาดประมาณเจ็ดคนเผื่อให้ได้งานภาพ
ตามเวลาที่วางไว้
เขาตัดสินใจต่อรองเรื่องราคากับนักวาดคนหนึ่งก่อนไปหาคนอื่นๆ
“สวัสดีครับ บริษัทของเรากำลังพัฒนาเกมการ์ดมือถือ ต้องการสั่งวาดงาน
ภาพออริจินัลจำนวนมาก ผมอยากคุยเรื่องราคาและตารางงาน ถ้าสนใจช่วยตอบ
กลับด้วยครับ”
เผยเชียนส่งข้อความให้นักวาดชื่อหร่วงกวางเจี่ยน เขารออยู่สองสามนาทีก็ไม่
มีการตอบกลับจึงสรุปว่าอีกฝ่ายน่าจะออฟไลน์อยู่
เผยเชียนไม่ได้รีบร้อนอะไรเพราะหม่าหยางน่าจะกรอกแบบฟอร์มเสร็จวัน
พรุ่งนี้
เขาหันไปดูเวลาและพบว่าค่ำแล้ว ท้องเริ่มร้องด้วย
“ไอ้หม่า ไปหาไรกินกันมั้ย”
เผยเชียนลงจากเตียง หันมองหม่าหยางบนเตียงชั้นบน
หม่ า หยางกำลั ง เค้ น จิ น ตนาการรั ว แป้ น พิ ม พ์ ร ั ง สรรค์ ผ ลงาน เขากรอก
แบบฟอร์มไปได้เยอะแล้ว
“…ไม่ต้องเครียดขนาดนั้นก็ได้ ไปหาไรกินกัน” เผยเชียนบอก
แม้จะกำลังจดจ่ออยู่กับงาน แต่หม่าหยางก็หิวเหมือนกันจึงลงจากเตียง
“โรงอาหารเหรอ” หม่าหยางถาม
เผยเชียนส่ายหน้าพร้อมตบอก “ไม่ ออกไปหาอะไรกินข้างนอกกัน! ฉันเลี้ยง
เอง!”
สิบนาทีต่อมา
พนักงานเสิร์ฟยกบะหมี่และข้าวผัดไข่มาวางตรงหน้าทั้งคู่
บทที่ 15 ต่อขอขึ้นราคา

“เถ้ า แก่ ขอบะหมี ่ เ นื ้ อ กั บ ข้ า วผั ด อี ก อย่ า งละหนึ ่ ง ! ขอเครื ่ อ งเคี ย งด้ ว ย!


แตงกวาแช่เย็นก็ได้!”
เผยเชียนทุ่มเงินเลี้ยงหม่าหยางที่กำลังสวาปามบะหมี่เนื้ออย่างสุขใจอยู่
ตรงหน้า “สุดยอดเลยพี่เชียน! พี่ไม่ได้โม้ แต่เป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลรวย
จริงๆ ด้วย! แต่…มีเงินขนาดนี้เราไปกินร้านข้างๆ ก็ได้นี่…”
เผยเชียนโบกมือปฏิเสธ “ไม่ได้ๆ ถึงร้านข้างๆ จะไม่ได้แพงมาก แต่มันไม่อิ่ม
ท้อง”
“จริงๆ เราก็ควรกินอะไรดีกว่านี้เพื่อฉลองการเริ่มงาน แต่ฉันเก็บเงินไว้สร้าง
เกมหมดเลยต้องใช้ประหยัดๆ หน่อย”
จริงๆ แล้วเป็นเพราะได้ความมั่งคั่งส่วนบุคคลมาน้อยต่างหาก ตอนนี้เขามีแค่
เจ็ดร้อยหยวน ไม่พอต่อการใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย
หม่าหยางพยักหน้าขณะกินบะหมี่ “เข้าใจเลย! ต้องทำแบบนั้นแหละ ตอนนี้
เรากำลังสร้างตัว เอาเงินไปใช้สิ้นเปลืองไม่ได้”
“เดี๋ยวเกมวางขายแล้วฉันพาแกไปกินบุฟเฟต์ปิ้งย่างหัวละห้าสิบหยวน!”
หม่าหยางพยักหน้ารัว “โอเคเลย!”
บุฟเฟต์ส่วนใหญ่ในช่วงเวลานี้จะอยู่ที่สามสิบหยวนต่อคน บุฟเฟต์หัวละห้า
สิบหยวนที่เผยเชียนบอกถือเป็นอะไรที่หรูมาก
แต่สิบปีต่อมา ราคาบุฟเฟต์ก็ขึ้นเป็นหนึ่งร้อยถึงสองร้อยหยวนต่อหัว เอามา
เทียบกับตอนนี้ไม่ได้
ถ้าเผยเชียนเสียเงินสามแสนหยวนเพื่อให้แปลงเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคลได้
เขาก็จะกินอะไรก็ได้ตามใจชอบ
“จริงด้วย เรื่องสัญญา” เผยเชียนตักข้าวผัดไข่ “เดี๋ยวกลับไปแล้วจะไปหา
แบบฟอร์มดู เซ็นสัญญาเป็นเด็กฝึกงานจ่ายค่าจ้างสามพันหยวนตอนสิ้นเดือนแล้ว
กัน”
หม่าหยางรีบตอบ “พี่เชียน ไม่ต้องทำให้เป็นทางการหรอก เงินไม่ใช่เรื่อง
สำคัญ ผมว่าไม่ต้องเซ็นสัญญาก็ได้”
เผยเชียนส่ายหัว “ไม่ได้ แกทำงานหนักให้ฉันก็ต้องได้เงิน เรากำลังทำธุรกิจ
กันอยู่ ก็ต้องทำให้มันถูกต้องตามกระบวนการ ต้องมีสัญญา”
“เอางั้นก็ได้ ตามใจพี่เลย” หม่าหยางไม่ได้ดึงดันต่อ ใครกันจะไม่อยากได้เงิน
ฟรีๆ
เขาแค่คิดว่าสามพันหยวนมันเยอะไปหน่อย รู้สึกกระดากใจถ้าจะรับมา
จริงๆ แล้วเผยเชียนอยากให้มากกว่านั้นด้วยซ้ำ แต่ระบบไม่ยินยอม!
ระบบมีกฎห้ามจ่ายเงินเดือนพนักงานสูงกว่ามาตรฐาน หลังจากลองทดสอบดู
เผยเชียนก็รู้ว่ามาตรฐานที่เหมาะสมต้องไม่เกินสองเท่าของราคาตลาด
ยกตัวอย่างกรณีของหม่าหยาง
ถ้าเขาไปช่วยงานบริษัทเกมอื่น เงินเดือนเด็กฝึกงานพื้ นฐานจะอยู่ที่หนึ่งพัน
ห้าร้อยหยวน
แน่นอนว่าอาจมีกรณีที่บางบริษัทใจดีหรือเด็กฝึกงานมีภาระรับผิดชอบเยอะก็
จะได้เงินเพิ่มขึ้น
แต่ก็ต้องดูความสามารถของหม่าหยางด้วย ดูแล้วน่าจะไปสร้างปัญหาให้
บริษัทมากกว่า…
ดังนั้นเผยเชียนเลยให้ค่าจ้างเด็กฝึกงานที่สามพันหยวนซึ่งเป็นราคาสูงสุดที่
ระบบยอมให้ผ่าน
ขณะกำลังกินบะหมี่อยู่ หม่าหยางก็ตบหน้าขาตัวเอง
“เอ้อ! พี่เชียน! ผมนึกอะไรดีๆ ออก! ผมเปลี่ยนแม่ทัพในสามก๊กเป็นผู้หญิงให้
หมดเลยได้มั้ย ฉีกแนวพอรึเปล่า”
เผยเชียนแทบสำลักข้าว
“ไม่ได้!”
เขาปฏิเสธเด็ดขาด
หม่าหยางงงไปหมด “ทำไมล่ะ ไหนพี่บอกให้ฉีกแนว”
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก
ทำไมไม่ได้น่ะหรือ
ก็เพราะดูเป็นไอเดียที่น่าจะประสบความสำเร็จไงล่ะ…
แนวคิดจับตัวละครสามก๊กมาเปลี่ยนเพศนั้นมีในมังงะและอนิเมะแล้ว แถมได้
กระแสตอบรับดี
แม้ว่าในปี 2009 เกมแนวภาพสองมิติจะยังไม่ค่อยมีกระแสเท่าไหร่ แต่ก็มี
สัญญาณว่ากำลังเป็นไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากเกมการ์ดหลายๆ เกมก็ออกแบบ
มาเป็นสไตล์การ์ตูน แปลว่ากระแสนี้ได้รับการยอมรับอยู่กลายๆ
ถ้าสลับเพศแล้วดันไปติดใจพวกเก็บตัวอยู่บ้านแล้วเกมดังขึ้นมาจะทำอย่างไร!
เผยเชียนไม่มีทางยอมให้เป็นแบบนั้นแน่
แต่แน่นอนว่าเผยเชียนไม่สามารถบอกความจริงในใจให้หม่าหยางรู้ได้
เขากระแอมกระไอก่อนจะอธิบายเหตุผล “ทำอย่างนั้นไม่ได้เพราะตัวละคร
แต่ละตัวจะขาดเอกลักษณ์!”
“อย่างถ้าม้าเฉียว เตียวหยุน กองซุนจ้านเป็นผู้หญิง…ตัวละครทุกตัวเป็น
ผูห้ ญิงหมดก็ไม่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเลยสิ!”
“ที่นายทำมาน่ะดีแล้ว ม้าเฉียวเป็นเซ็นทอร์ กวนอูเป็นมังกร ทำแบบนี้แล้ว
แยกง่ายว่าใครเป็นใคร!”
“เพราะงั้นอันปัจจุบันที่ทำมาน่ะดีแล้ว”
หม่าหยางพยักหน้า ในที่สุดก็เข้าใจ “อ๋อ แบบนี้นี่เอง เข้าใจแล้ว”
เผยเชียนถอนหายใจยาว เหมือนว่าการจ้างพนักงานจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่
ถึงจะเอาเงินไปจ่ายเป็นเงินเดือนเพิ่มได้ แต่กลยุทธ์ของเผยเชียนจะทำให้พวก
เขานึกสงสัยและตั้งคำถามได้ พอเป็นแบบนั้น เขาก็ต้องหาคำอธิบายที่มีเหตุผลมา
แก้ต่าง
ถ้าไม่ทำแบบนั้น พนักงานอาจสงสัยว่าเผยเชียนตั้งใจทำให้บ ริษัทขาดทุนหรือ
เปล่า ถ้ามีใครสงสัยขึ้นมาจะไปละเมิดกฎระบบเอาได้
“โชคดีที่หม่าหยางไม่ฉลาดเท่าไหร่”
“ต่อไปถ้าจะจ้างคนเพิ่มก็ต้องหาคนแบบเจ้านี่แหละ”
เผยเชียนโอดครวญกับตัวเองในใจ

กินข้าวเสร็จ ทั้งสองก็กลับหอพัก
หม่ า หยางปี น ขึ ้ น เตี ย งชั ้ น บนแล้ ว ทำงานกรอกแบบฟอร์ ม ต่ ออย่ า ง
กระตือรือร้น
ส่วนเผยเชียนเปิดโน้ตบุ๊กเข้าเว็บไซต์รวมทรัพยากร ข้อความที่ส่งไปมีการ
ตอบกลับแล้ว
หร่วนกวางเจี่ยน: “ต้องการกี่ชิ้น คร่าวๆ อยากได้งานแบบไหน”
เผยเชียนบอกรายละเอียดภาพรวมที่ต้องคร่าวๆ ไปซึ่งรวมถึงจำนวนการ์ด
สไตล์ภาพ และอื่นๆ
แบบฟอร์มที่มีข้อมูลละเอียดนั้นยังไม่เสร็จ เผยเชียนจึงทำได้แค่อธิบายไป
คร่าวๆ
“ไม่เอาภาพสไตล์การ์ตูน ที่เหลือตามใจคุณเลย”
“ตัวละครมีทั้งหมดห้าสิบตัว แต่ละตัวของานออริจินัลสี่แบบ รวมทั้งหมดสอง
ร้อยชิ้น”
“ตอนนี้กำลังทำข้อมูลแบบละเอียดอยู่ เสร็จแล้วจะส่งให้ทีหลัง”
ผ่านไปสามนาที เผยเชียนก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับ เขาคิดว่าหร่วนกวางเจี่ย
นต้องงงแน่
ตัวอย่างงานมีแต่ภาพสไตล์การ์ตูน แต่สิ่งที่บอกอย่างแรกคือไม่เอางานสไตล์
การ์ตูนเนี่ยนะ!
ผ่านไปครู่หนึ่ง หร่วนกวางเจี่ยนก็ตอบกลับ
“ได้ครับ ราคาเซ็ตละสองพันหยวน โอเคไหมครับ ราคาอาจสูงไปหน่อย
สำหรับนักวาดหน้าใหม่ แต่ไม่ต้องห่วง งานภาพของผมคุณภาพระดับท็อปแค่ไม่
ค่อยมีผลงานลงเท่าไหร่เพราะยังเรียนอยู”่
เซ็ตละสองพัน หมายความว่าภาพละห้าร้อยเองหรือ!
เผยเชียนไม่พอใจอย่างแรงเพราะมันถูกเกินไป!
ก็หมายความว่าจะใช้เงินได้ไม่หมดน่ะสิ!
เขาตั้งราคาไว้ว่าเซ็ตหนึ่งสักสามพันหยวน แต่ตอนนี้ได้ราคามาสองพันหยวน
แปลว่าจะประหยัดเงินไปห้าหมื่นหยวนสำหรับตัวละครห้าสิบตัว
ไม่ ไม่ได้!
“ผมคิดว่าเราต้องคุยกันเรื่องราคา” เผยเชียนตอบกลับ
หร่วนกวางเจี่ยน: “คุณให้เท่าไหร่ นั่นราคาสุดๆ ของผมแล้ว”
เผยเชียน: “ทางเราต้องการอะไรพิเศษหน่อย”
“เราอยากได้ ง านแบบที ่ ไ ม่ เ คยมี ใ ครทำมาก่ อ น อยากได้ ภ าพแบบที ่ มั น
แตกต่าง! เพราะงั้นงานก็จะยากขึ้นกว่าเดิมถูกไหม”
“อี ก อย่ า งเรื ่ อ งการออกแบบงานภาพเราไม่ ค ่ อ ยเก่ ง เท่ า ไหร่ เพราะงั้ น
รายละเอียดงานที่อยากได้จะดูกำกวม”
“ผมว่าคุณจะต้องทำงานหนักกว่าเดิม”
“ด้วยเหตุผลที่บอกไป ผมคิดว่าเซ็ตละสองพันไม่ค่อยแฟร์กับคุณ เซ็ตละสาม
พันน่าจะเหมาะกว่า!”
“ราคานั ้ น รวมออกแบบงานภาพออริ จ ิ น ั ล หลั ก และการปรั บ แก้ เ พิ ่ ม เติ ม
ภายหลัง ผมหวังว่าคุณจะวาดให้เราแบบพิถีพิถัน เอาแบบนี้เป็นไง”
หร่วนกวางเจี่ยนเงียบไปอีกครั้ง
ชัดเจนว่าเขาไม่เคยเจอลูกค้าขอต่อขึ้นราคาเหมือนเผยเชียน…
ลูกค้าคนนี้อยากให้เงินเพิ่มอีกหนึ่งพันหยวนต่อเซ็ต!
แต่การกระทำของเผยเชียนไม่ได้ขัดต่อกฎ ระบบจึงไม่ได้แจ้งเตือนอะไร
เพราะคำขอของเผยเชียนสมเหตุสมผล เงินที่เพิ่มเข้ามาก็เพราะปัญหาเรื่อง
ระบุรายละเอียดที่ต้องการไม่ชัดเจน ขอเพิ่มคุณภาพงาน รวมถึงการแก้งานใน
ภายหลัง
ไม่กี่นาที หร่วนกวางเจี่ยนก็ตอบกลับมา “โอเค รวมทั้งหมดห้าสิบเซ็ต สอง
ร้อยรูป ราคาหนึ่งแสนห้าพันหยวน รวมปรับแก้งานยี่สิบครั้ง ปรับแก้รายละเอียด
เล็กๆ น้อยๆ ห้าสิบครั้ง”
เผยเชียนยิ้มกว้าง
ฉันจ่ายเงินเพิ่มให้ปรับแก้งานได้ แต่ไม่จำเป็นต้องเอามาใช้ก็ได้!
อย่างไรเสีย ขอแค่งานออกมาน่าเกลียดก็พอแล้ว
ทั ้ ง สองตกลงกั น เรี ย บร้ อ ยและเตรี ย มเซ็ น สั ญ ญาดิ จ ิ ท ั ล บนเว็ บ ไซต์ ร วม
ทรัพยากร
จู่ๆ เผยเชียนก็นึกอะไรขึ้นได้ “คุณวาดได้กี่รูปในสามสัปดาห์ เดี๋ยวผมจะได้
แก้จำนวนแล้วเซ็นสัญญา”
ระบบกำหนดไม่ให้เผยเชียนมีสินค้าที่ไม่ได้วางจำหน่ายหนึ่งสัปดาห์ก่อนปิด
บัญชี
ถ้าเผยเชียนอยากปล่อยเกมก่อนปิดบัญชีหนึ่งสัปดาห์ หร่วนกวางเจี่ยนก็มี
เวลาแค่สามสัปดาห์ในการทำงาน
หร่วนกวางเจี่ยน: “ผมวาดทั้งหมดสองร้อยรูปเองไม่ได้แน่ แต่ผมเอางานไป
แบ่งให้รูมเมตช่วยทำได้ ไม่ต้องห่วง ผมจะคอยดูงานตลอด รับรองว่างานได้
คุณภาพ สไตล์ไปในทางเดียวกันแน่นอน”
เผยเชียนแสนสุขใจ “เอาแบบนั้นเลย! งั้นผมให้คุณทำทั้งหมดเลยนะ!”
หร่ ว นกวางเจี ่ย นยั ง เรี ย นอยู ่ ถึ ง ความสามารถเขาจะผ่ า นเกณฑ์ ข องทาง
เว็บไซต์ แต่รูมเมตอาจจะไม่ได้เก่งเหมือนเขาก็ได้!
ถือเป็นช่องโหว่เล็กๆ ในการใช้เงินลดคุณภาพงานอย่างถูกต้อง
ยอดไปเลย!
บทที่ 16 แบบฟอร์มที่ใช้งานอะไรไม่ได้

บ่ายวันต่อมา หม่าหยางเอาแบบฟอร์มที่ปรับแล้วให้เผยเชียน
เผยเชียนพอใจมากเมื่อได้อ่านสิ่งที่หม่าหยางกรอกลงไป
เพราะกรอกไปก็เหมือนไม่ได้กรอกนั่นเอง!
แม้เผยเชียนจะไม่เคยทำงานในอุตสาหกรรมเกมมาก่อน แต่แบบฟอร์มที่
นำมาใช้นั้นได้มาจากเว็บไซต์ทรัพยากร และด้านบนแบบฟอร์มก็มีคำอธิบาย
พื้นฐานเขียนไว้
คร่าวๆ ก็คือ ยิ่งเขียนอธิบายให้ละเอียดได้ยิ่งดี
คนออกแบบจะเสนอภาพในจินตนาการที่ไม่ค่อยชัดเจนให้นักวาดทำภาพที่
ละเอียดและใช้ได้จริงออกมา
กระบวนการนี้มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้ง่าย
ตัวอย่างเช่น คนออกแบบอาจจะอยากได้ ‘ตัวละครชายที่หล่อขั้นเทพ’ ซึ่ง
เป็นอะไรที่กำกวมและวัดประเมินได้ยาก
จะนิยามคำว่า ‘หล่อขั้นเทพ’ ว่าอย่างไร
นักวาดต้องออกแบบตัวละครที่หล่อขั้นเทพออกมา แต่จะตรงใจคนออกแบบ
ไหม ก็อาจจะไม่
อย่างไรเสีย เรื่องความสวยหล่อนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล
ดังนั้นคนออกแบบจะต้องกรอกแบบฟอร์มให้ละเอียดที่สุดเท่าที่ทำได้ จะดี
มากถ้าอธิบายลักษณะเสื้อผ้า หมวก อาวุธ ลักษณะเด่นต่างๆ และอื่นๆ ด้วย
ถ้ามีภาพคล้ายคลึงกันไว้ใช้อ้างอิงก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก
ในวงการเกมมีมุกตลกอยู่มุกหนึ่ง
คนออกแบบบอกโปรแกรมเมอร์ว่า “ฉันอยากได้ฟังก์ชันที่ทำ xxx ได้ คอนเซ
ปต์การออกแบบคือ xxx และควรจะมีเอฟเฟ็กต์แบบ xxx!”
โปรแกรมเมอร์ตอบกลับอย่างหงุดหงิด “บอกฟังก์ชันเกมที่อยากลอกมา
เดี๋ยวไปดูเอง”
คนออกแบบบอกโปรแกรมเมอร์ว่า “ฉันอยากได้ตัวละครหน้าตาเหมือน xxx
ตัวละครตัวนี้จะต้องเหมือน xxx มีนิสัยแบบ xxx ให้ความรู้สึกเหมือน xxx!”
โปรแกรมเมอร์ตอบกลับอย่างหงุดหงิด “บอกตัวละครที่อยากลอกมา เอารูป
มาให้ดูด้วย”
ไม่ใช่ว่าพวกเขาขี้เกียจ ประเด็นหลักคือจากตัวอักษรไปเป็นรูปนั้นมีข้อมูล
หายไปมากมาย
ดังนั้นเมื่อทำแบบฟอร์มคล้ายๆ กันนี้ การมีคำอธิบายและรูปประกอบอ้างอิง
ให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้นั้นเป็นเรื่องดี ถ้าทำแบบนี้ก็มั่นใจได้ว่านักวาดจะทำ
ผลงานออกมาได้ไม่ต่างจากภาพในหัวของคนออกแบบมากนัก
ทีนี้มาดูแบบฟอร์มของหม่าหยางกัน
เป็นอะไรที่แค่อ่านก็สนุกแล้ว!
ยกตัวอย่างเช่นกวนอู
“เขาเป็นมังกร มังกรร่างมนุษย์”
“ด้วยความที่เป็นเทพบู๊แห่งตระกูลมังกร เขาถื อเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในด้าน
การต่อสู”้
“เขาใช้ชีวิตเสี่ยงภัยอันตราย ความรู้ด้านการทำศึกและการสังหารแตกต่าง
จากคนทั่วไป”
แค่นั้น
ทีนี้ลองมาดูของม้าเฉียว
“เขาเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งม้าจึงถูกเรียกว่าเผ่าพันธุ์อื่น”
“ม้ า เฉี ย วแตกต่ า งจากเซ็ น ทอร์ ต ั ว อื ่ น และมี ล ั ก ษณะเฉพาะต่ า งๆ ของ
สายเลือดตระกูลมังกร เช่น มีเขามังกรบนหัว”
“เพราะมีสายเลือดตระกูลมังกร ม้าเฉียวจึงมีพละกำลังแข็งแกร่งเหมือน
ตระกูลมังกร”
ต่อไปของจูกัดเหลียง
“ตอนเด็กๆ จูกัดเหลียงได้รับการยกย่องเป็นนักประดิษฐ์ หมอ วิศวกรไฟฟ้า
และเครื่องยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคสามก๊ก”
“งานวิจัยของเขามีทั้งไฟฟ้าพลังงานมนุษย์ อาวุธพลังธรรมชาติ อุปกรณ์เหาะ
เหิน รถ หุ่นยนต์ และสิ่งนำสมัยอื่นๆ”
“ขณะเดี ย วกั น ก็ ย ั ง เป็ น ที ่ ร ู ้ จ ั ก ในฐานะนั ก กวี นั ก ปรั ช ญา นั ก แต่ ง เพลง
นักภาษาศาสตร์ และอื่นๆ อีกมากมาย”
คำอธิบายของจูกัดเหลียงยาวกว่าสองตัวละครก่อนหน้า เห็นได้ชัดว่าหม่าห
ยางคงจะเขียนเพลินไปเรื่อยเปื่อย
นอกจากนั้นยังมี มังกรสาวผู้พิทักษ์จิวฉอง ปักษาเพลิงกำพร้าบังทอง หญิง
พรหมจรรย์ผลึกน้ำแข็งชีซี หุ่นเชิดจักรกลอุ๋ยซี เจ้าแห่งแดนโลหิตกุยแก โลลิต้านัก
ล่ามังกรลิบอง มือธนูแห่งราตรีไทสูจู้ นักดาบเงาจิวยี่ และอีกมากมาย
โดยพื้นฐานแล้ว นอกจากชื่อและลักษณะบางอย่าง ตัวละครทั้งหมดนี้ก็ไม่มี
อะไรเหมือนในเรื่องสามก๊กเลย!
เนื้อหาที่กรอกลงไปก็ไม่น่าจะช่วยให้นักวาดเห็นภาพอะไรเหมือนกัน
จริงๆ แล้วหม่าหยางจะเขียนไปแค่กวนอูเป็นมังกรร่างมนุษย์ก็ได้ แต่เขาดัน
เขียนอะไรไร้สาระเพิ่มเติมเข้าไปให้อีก!
ทว่าแบบฟอร์มนี้ดันเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบสำหรับเผยเชียน!
เอาเข้าจริง เขาดีใจมากจนยกนิ้วให้ตัวเอง
หม่าหยางนี่ไว้ใจได้จริงๆ!
เผยเชียนไม่มีทางเขียนอะไรแบบนี้ได้ด้วยตนเองแน่!
เขาคิดถูกแล้วที่จ้างหม่าหยางมาเป็นพนักงาน!
เผยเชียนไม่เปลี่ยนอะไรในแบบฟอร์มเลยและส่งไปให้หร่วนกวางเจี่ยนทั้งอ
ย่างนั้น
ห้านาทีต่อมา หร่วนกวางเจี่ยนก็ตอบกลับ
“ในแบบฟอร์มไม่ขาดรายละเอียดเยอะไปหน่อยเหรอ”
“ถ้าเป็นแบบนี้ผมวาดยากนะ ไม่มีกรอบอะไรให้ใช้อ้างอิงได้เลย”
เผยเชียนเตรียมคำตอบไว้แล้วจึงตอบกลับไปในทันที “ไม่เป็นไร ออกแบบ
แล้ววาดตามใจชอบเลย! เอาจริงๆ ถ้าคุณคิดว่ารายละเอียดที่ส่งไปใช้ไม่ได้ คุณไม่
ต้องทำตามนั้นหมดก็ได้! ผมเชื่อการตัดสินใจที่เป็นมืออาชีพของคุณ!”
หร่วนกวางเจี่ยน: “…ไม่ดีกว่า เราเซ็นสัญญากันแล้ว มันต้องมีกรอบ ปล่อยไป
จะไม่ยุ่งยากเอาทีหลังเหรอถ้าไม่มีใครอยากรับผิดชอบตรงนี้”
เผยเชียนรีบตอบ “ผมพูดจริง! ผมเชื่อในความสามารถของคุณเต็มที่! ไม่ต้อง
ห่วง ไม่ว่างานจะออกมายังไง ผมจะไม่ขอให้คุณแก้งานซ้ำๆ แน่ ! คุณแคปหน้าจอ
ที่คุยกันไว้เป็นหลักฐานได้เลย หรือจะเพิ่มในสัญญาก็ได้ถ้าคุณคิดว่าควรทำ”
“ไม่ต้องหรอก…เอาตามนั้นก็ได้ เดี๋ยวลองดูแล้วกันว่าผมจะทำยังไงได้บ้าง”
หร่วนกวางเจี่ยนตอบ
เผยเชียนโล่งใจ
เขากลัวว่าหร่วนกวางเจี่ยนจะยืนกรานขอให้พวกเขาใส่รายละเอียดที่ชัดเจน
เพื่อจะได้ทำงานให้ออกมาดีๆ
สถานการณ์ตอนนี้ถือว่าได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายเพราะแต่ละฝ่ายก็ไม่ต้องแบก
รับปัญหาอะไรมาก
เผยเชียนเหลือเงินอยู่ส่วนหนึ่งซึ่งเขาไม่ได้อยากจะเก็บไว้ ชายหนุ่มเอาเงิน
ส่วนนี้ไปซื้อเพลง เสียงเอฟเฟ็กต์ งานภาพนอกเหนือจากตัวละคร อุปกรณ์บริการ
เช่าเซอร์เวอร์คลาวด์ และอื่นๆ
ทั้งหมดนี้ราคาไม่ได้มากอะไร เผยเชียนวางแผนมาอย่างดีทำให้มีเงินเหลือ
ประมาณหนึ่งหมื่นหยวนเผื่อไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน
ส่วนค่าโฆษณานั้น…เขาไม่ได้แบ่งเงินไว้ใช้ในส่วนนี้เลย!
เขาไม่คิดจะโฆษณาเกมเลยด้วยซ้ำ! จะดีมากถ้าไม่มีใครรู้จักเกมนี้!
เผยเชียนเห็นอนาคตอันสดใสขณะใช้จ่ายเงินไม่หยุดมือ

มหาวิทยาลัยการเงินแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้
หอพักแห่งหนึ่งของภาควิชาศิลปะ
หอพักแห่งนี้สภาพดูดีกว่ามหาวิทยาลัยฮั่นตงของเผยเชียนมาก
เตียงสองชั้นแต่ละหลังมีโต๊ะส่วนตัวอยู่ชั้ นล่าง นอกจากห้องจะดูดีและใหม่
เอี่ยมแล้วยังติดแอร์อีกด้วย
เว็บไซต์รวมทรัพยากรที่ ESRO ตั้งขึ้นทำให้นักศึกษาภาควิชาศิลปะสามารถ
รับงานเสริมผ่านช่องทางออนไลน์ระหว่างเรียนได้ ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของพวก
เขาดีขึ้นเล็กน้อย
ยิ่งไปกว่านั้น งานเหล่านี้ยังช่วยให้พวกเขาหางานได้หลังเรียนจบเหมือนกัน
หร่วนกวางเจี่ยนปล่อยเมาส์แล้วร้องตะโกน “ไอ้หวง ไอ้โจว! รีบไปเรียกคน
อื่นๆ มา! มีงานเข้าแล้ว!”
ไม่นานคนอื่นๆ อีกห้าคนในหอก็มารวมตัวกันที่ห้อง
“สามสัปดาห์ งานภาพออริจินัลห้าสิบเซ็ต แต่ละเซ็ตมีสี่รูป ได้สามพันหยวน!
คิดว่าไง ดีใช่มั้ยล่ะ”
หร่วนกวางเจี่ยนคือเด็กหนุ่มผมสั้น ผิวขาวซีด ดูกระฉับกระเฉง หน้าตาหล่อ
เหลา ดูไม่เหมือนนักวาดเลย
ผิดกับรูมเมตคนอื่นๆ ที่ปล่อยผมยาว บางคนมีรอยสัก พวกเขาดูมีเอกลักษณ์
เฉพาะตัว
ไอ้หวง ชายหนุ่มไว้หนวดสั้นมาถึงเป็นคนแรก “สี่รูปสามพันหยวนเหรอ แจ่ม
แมว! เอาด้วย! ราคานี้ให้วาดสไตล์การ์ตูนแบ๊วๆ ก็ทำ! ขอเอาเงินไปต่อชีวิตก่อน!”
หร่วนกวางเจี่ยนส่ายหัว “สไตล์การ์ตูนเหรอ รอบนี้ไม่ใช่ว่ะ! ลูกค้าบอกว่าเอา
สไตล์ไหนก็ได้ ขอไม่เป็นการ์ตูนแบ๊วๆ พอ!”
หวงนิ่งไป “อะไรนะ ไม่ใช่ว่าแกอัปโหลดแต่งานสไตล์การ์ตูนไว้เป็นผลงาน
หน้าเว็บเหรอ ลูกค้ามาคุยงานกับแกแต่ไม่เอางานสไตล์การ์ตูนเนี่ยนะ บ้าป่ะวะ”
“ไอ้โง่! เขาเรียกตาถึงโว้ย!” หร่วนกวางเจี่ยนกลอกตา “ฉันมีแต่ผลงานสไตล์
การ์ตูนเพราะเกมมือถือเดี๋ยวนี้มีแต่ตัวละครการ์ตูน ที่ผ่านมาก็ได้แต่งานวาดแนว
นี้ เลยไม่มีทางเลือกอื่น งานนี้ไม่เอาแนวการ์ตูนก็ดี ฉันจะได้ปล่อยของให้เต็มที่สัก
ที!”
“แกจะวาดสไตล์นั้นของแกเหรอวะ ข้าว่าไม่เหมาะว่ะ…” หวงลังเล “เอาเงิน
ลูกค้ามาแล้ววาดตามที่ตัวเองชอบ ข้าว่ามัน…”
“ลูกค้าบอกชัดเจนว่าเชื่อฝีมือและความเป็นมืออาชีพของฉัน เขาให้ฉัน
ออกแบบทั้งหมดตามใจชอบด้วย”
“อีกอย่าง ดูแบบฟอร์มสิ! ตรงกับความคิดฉันหมดเลย!”
บทที่ 17 นักวาดไฟแรง

ทุกคนหันมองจอคอมพิวเตอร์ขอหร่วนกวางเจี่ยนที่เปิดแบบฟอร์มของหม่าห
ยางไว้
“กวนอู…เป็นมังกร”
“ม้าเฉียว…เป็นเซ็นทอร์เหรอ”
“งั้นจูกัดเหลียงก็เป็นหมูดิ[1]” หวงคิดตาม
หร่วนกวางเจี่ยนมองตาขวาง “หมูบ้านเอ็งดิ! จูกัดเหลียงเป็นนักประดิษฐ์ชื่อ
ดังโว้ย!”
“…แย่กว่าหมูอีก” หวงแขวะ
เมื่อได้อ่านแบบฟอร์ม หวงก็รู้สึกเหมือนสติหลุดไป
นี่คือแบบฟอร์มหรือ
นอกจากปรับคำอธิบายของเหล่าบุคคลในประวัติศาสตร์ไปเสียสุดโต่งแล้วก็
ไม่ได้อธิบายอย่างอื่นอีก!
ณ จุดนี้ คงไม่มีทางขอภาพอ้างอิงเพิ่มได้ แต่กระทั่งภาพร่างคร่าวๆ ก็ยังไม่มี!
อีกทั้งยังปรับแต่งทุกรูปแบบด้วย!
มีทั้งกลายเป็นสัตว์ สลับเพศ หรือแม้แต่กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี
ผสมปนเปกันมั่วไปหมด!
“ลูกค้าคนนี้สติไม่ดีรึเปล่าเนี่ย”
“แบบฟอร์มก็กรอกอะไรไม่รู้มา…”
หวงอึ้งไป เขาไม่คิดว่าหร่วนกวางเจี่ยนจะรับงานนี้จริงๆ
เขาไม่กลัวว่าลูกค้าอาจไม่พอใจงานแล้วเกิดทะเลาะกันขึ้นมาเลยหรือ
พวกเขาต่างเป็นนักศึกษาภาควิชาศิลปะจนๆ อาจจะมีชีวิตความเป็นอยู่ดีกว่า
นักศึกษาภาคอื่ นๆ แต่ถ้ามีเรื่องกับลูกค้าแล้วต้องหาฝ่ายรับผิดชอบขึ้นมาก็จะ
กลายเป็นเรื่องยากที่จะจัดการได้
“กังวลอะไร ลูกค้าจ่ายผ่านเว็บรวมทรัพยากรมาแล้ว ” หร่วนกวางเจี่ยนเปิด
สถานะการจ่ายเงินของลูกค้าให้หวงดู
เว็ บ ไซต์ ร วมทรั พ ยากรทางการของ ERSO เป็ น เหมื อ นคนกลาง โดยมี
แพลตฟอร์มทำหน้าที่เป็นผู้การันตีให้เหล่าฟรีแลนซ์เริ่มงานได้ทันทีหลังจากลูกค้า
ส่งรายละเอียดงานให้แล้ว
ระหว่างนั้น ฝั่งลูกค้าจะต้องจ่ายเงินให้ทางเว็บไซต์ถือไว้ หลังจากส่งมอบงาน
เสร็จและลูกค้าพึงพอใจงานที่ได้ ทางแพลตฟอร์มก็จะส่งเงินให้ฟรีแลนซ์
ถ้าทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ ทางแพลตฟอร์มจะเข้ามาเป็นผู้ไกล่เกลี่ย
ถ้าถึงขั้นนั้นจริงๆ หร่วนกวางเจี่ยนมีประวัติการสนทนา ส่วนทางแพลตฟอร์ม
เองก็มีสำเนาแบบฟอร์มและรายละเอียดการว่าจ้าง ไม่ว่าอย่างไร หร่วนกวาง
เจี่ยนก็ถือไพ่เหนือกว่า
“กวางเจี่ยน ข้าว่างานมันไม่ค่อยเข้าท่า แกลองไปคุยกับลูกค้าอีกที ให้เขาส่ง
รายละเอียดเพิ่มเติมมาจะดีกว่าไหม…” หวงคิดว่าทุกสิ่งในตอนนี้ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ
นัก
หร่วนกวางเจี่ยนไม่พอใจ “ไอ้หวง แกบ้าไปแล้วเหรอ”
“แกอยากวาดตัวละครสไตล์การ์ตูนไปเรื่อยๆ เหรอ ไม่เบื่อบ้างรึไง”
“ตอนนี้ในตลาดมีแต่เกมภาพสไตล์การ์ ตูน ถึงเงินจะดี แต่ถามตัวเองหน่อย
เถอะว่าแกชอบงานไร้จิตวิญญาณแบบนั้นจริงๆ เหรอ!”
“ศักดิ์ศรีความเป็นศิลปินแกหายไปไหน”
“นี่คือโอกาสดีที่เปิดกว้างให้เราออกแบบสไตล์ภาพเอง ดูสิว่าเรามีอิสระใน
การออกแบบแค่ไหน!”
“ถ้าเราดังขึ้นมาเพราะงานออริจินัลชุดนี้ อนาคตเราต้องราบรื่นแน่นอน! ใคร
จะไปรู้ เราอาจจะมีเงินเช่าสตูดิโอเป็นของตัวเองหลังเรียนจบก็ได้”
“หรือแกอยากเป็นคนธรรมดาหลังเรียนจบ ไปเข้าบริษัทจ้างงานสักที่ ต้อง
ทำงานหนักวาดรูปสไตล์ที่ไม่ได้ชอบเลยสักนิด”
คนอื่นๆ มองตากัน เห็นได้ชัดว่าคำพูดของหร่วนกวางเจี่ยนได้จุดไฟให้ทุกคน
พวกเขาเป็นนักศึกษา ไม่ใช่นักวาดผู้มีประสบการณ์ที่ได้ก้าวสู่โลกการทำงาน
แล้ว
เรื่องด้านงานภาพ พวกเขาต่างมีแนวคิดเป็นของตนเอง กำลังอยู่ในช่วงที่มี
แรงบันดาลใจมากมาย
ใครกันจะอยากคอยวาดงานสมัยนิยมตามกรอบที่ลูกค้าวางไว้
ทุกคนต่างอยากวาดงานในแนวทางที่ตนเองชอบและทำได้ดีทั้งนั้น!
การได้เจอลูกค้าที่ไม่วางกรอบอะไรให้ถือเป็นโอกาสซึ่งหาได้ยากยิ่ง!
หวงเองก็ไฟลุกโชนขึ้นมาเหมือนกัน “โอเค งั้นแกตัดสินใจเลยกวางเจี่ยน
เดี๋ยวพวกเราช่วย แกคิดไว้รึยังว่าจะทำงานแบบไหน”
“ต้องอย่างนี้สิเพื่อน”
หร่วนกวางเจี่ยนแสนพึงพอใจ เขาเปิดภาพหนึ่งขึ้นมาบนจอคอมพิวเตอร์
“ฉันว่าจะวาดแนวนี้”
“ภาพสไตล์มหากาพย์หมึกสีน้ำมัน”
หวงบุ้ยปากเล็กน้อย
หร่วนกวางเจี่ยนเป็นคนคิดงานภาพสไตล์นี้จากแรงบันดาลใจที่แวบขึ้นมา
ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอคือมิโนทอร์ร่างสูงกำยำ เขาหักหนึ่งข้าง สวมชุด
เกราะสีดำที่เสียหายหนัก
เกราะไหล่เป็นหัวมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ดูน่าตื่นตา รอบตัวมีโซ่ล่ามไว้ มอง
แล้วให้ความรู้สึกเหมือนเป็นนักรบผู้ไม่ย่อท้อ
ชุดสีที่ใช้เป็นไปในโทนเข้ม พื้นหลังเป็นสีดำสนิท ฉากสนามรบให้ความรู้สึก
เศร้าและสิ้นหวัง
ถ้ า มองภาพอย่ า งผิ ว เผิ น จะรู ้ ส ึ ก ได้ ว ่ า คล้ า ยเหล่ า มิ โ นทอร์ ใ น Fantasy
World[2]
แต่ถ้าดูให้ละเอียดจะพบว่ามิโนทอร์ตัวนี้มีความแตกต่างจากพวกมิโนทอร์
ของฝั่งตะวันตก
หร่วนกวางเจี่ยนใส่รายละเอียดมากมายเพื่อเน้นความเป็นตะวันออกลงไปใน
ตัวมิโนทอร์ เช่น โครงหน้า รวมถึงอาวุธและชุดเกราะที่ ออกแบบตามความงาม
ของตะวันออก อย่างชุดคลุมออกศึกสีแดงและอื่นๆ
ที ่ ห ร่ ว นกวางเจี ่ ย นตั ้ ง ชื ่ อ ว่ า ภาพสไตล์ ม หากาพย์ ห มึ ก สี น ้ ำ มั น เพราะมี
องค์ประกอบสามอย่าง คือ ความเป็นมหากาพย์ งานภาพแบบหมึก และงานภาพ
แบบสีน้ำมัน
งานภาพนี้ไม่ได้ละเอียดจนเห็นทุกอณูรูขุมขนของตัวละคร ภาพมีความเลอะ
จากเทคนิคสีน้ำมันทำให้พื้นหลังดูพร่ามัว สร้างบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ให้งาน
ขณะเดียวกันก็มีเทคนิคหมึกเพิ่มเข้าไป ใส่ความเป็นจีนให้งาน
นอกจากนี้ตัวละครยังให้ความรู้สึกหดหู่ ซึ่งเป็นรากฐานของความเป็นมหา
กาพย์ สื่อว่ามิโนทอร์ได้ผ่านสงครามตัดสินชะตากรรมโลกระหว่างเทพและมารมา
ก่อน
หวงและรูมเมตคนอื่นๆ รู้เรื่องงานภาพสไตล์นี้อยู่ก่อนแล้ว
พวกเขาประทับใจฝีมือของหร่วนกวางเจี่ยนด้วยเหมือนกัน เพราะเทคนิคและ
การใส่เงารวมถึงรายละเอียดต่างๆ ของภาพเป็นสิ่งที่นักศึกษาภาควิชาศิลปะไม่
สามารถเทียบชั้นได้
แต่จะเอาไปเป็นภาพออริจินัลในเกมได้ไหม
ไม่มีใครรู้
ตอนนี้เกมมือถือดังๆ ต่างใช้งานภาพสไตล์การ์ตูน งานที่รับมาก่อนหน้าก็เป็น
งานภาพออริจินัลสไตล์การ์ตูนเหมือนกัน
ส่ ว นเกมที ่ ใ ช้ ภ าพสไตล์ ส มจริ ง นั ้ น มั ก จะต้ อ งการงานภาพออริ จ ิ น ั ล ที ่ มี
รายละเอียดเยอะๆ และสีสันสดใส
แม้งานสไตล์ของหร่วนกวางเจี่ยนจะน่าประทับใจ แต่คนที่มาเห็นอาจมองว่า
เป็นภาพที่ดูเศร้าสร้อย ทำให้รู้สึกหดหู่ระหว่างเล่นเกมได้
ด้วยเหตุนี้ หร่วนกวางเจี่ยนจึงไม่ได้เอางานนี้ลงเว็บไซต์รวมทรัพยากรเพราะ
กลัวว่าลูกค้าจะไม่เข้าใจ
หวงลังเลใจ “ขอถามสองข้อ ข้อแรก งานสไตล์นี้จะตรงใจลูกค้ารึเปล่า ข้อ
สอง แกเป็นคนเดียวที่เก่งงานสไตล์นี้ คนอื่นวาดไม่ได้…”
หร่วนกวางเจี่ยนเตรียมคำตอบไว้ก่อนแล้วจึงตอบไปอย่างมั่ นใจ “ฉันถึงบอก
ไงว่าแบบฟอร์มนี่ตรงกับความคิดฉันทุกอย่าง!”
“คอนเซปต์แรกเริ่มของฉันมาจากพวกตำนานเทพต่างๆ”
“ฉันอยากใส่ความเป็นมหากาพย์ลงไปในงานซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ
ที่สุดในงานสไตล์นี้! เทพฝ่ายธรรมะ มารฝ่ายอธรรม การจับสไตล์ที่แตกต่างกัน
โคตรๆ เป็นแนวทางทีด่ ีที่สุดในการสร้างแรงบันดาลใจ!”
“ก็คือยิ่งแปลงจากความเป็นมนุษย์ไปได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี!”
“พูดให้ชัดเจนคือ เกมสามก๊กส่วนใหญ่ไม่เหมาะกับงานสไตล์นี้เพราะสามก๊ก
มีตัวละครเป็นคน เราจะเอาไปสร้างให้เป็นแบบนั้นได้ยังไง”
“แต่แบบฟอร์มนี่พลิกภาพลักษณ์ของตัวละครไปหมด! โคตรเหมาะกับงาน
สไตล์นี้!”
“กวนอูเป็นมังกร ม้าเฉียวเป็นเซ็นทอร์เลือดผสม ส่วนเคาทูเป็นเสือ…”
“เหมาะกับสไตล์ฉันอย่างกับฟ้าประทานเลยใช่มั้ยล่ะ”
“แล้วก็พวกแกไม่ต้องกังวลเรื่องงานจะเป็นสไตล์เดียวกันรึเปล่า ฉันจะเป็นคน
ออกแบบกับร่างภาพให้ พวกแกเอาไปวาดรายละเอียดเพิ่ ม เสร็จแล้วฉันจะมาแก้
ให้เรียบร้อย ไม่ต้องห่วง มีฉันนำ งานต้องไปในทิศทางเดียวกันแน่!”
………………………
[1] ชื่อจูกัดเหลียงในภาษาจีน มีตัวอักษรคำว่าหมูอยู่ด้วย
[2] เกมแนว MMORPG สองมิติของค่าย Tencent
บทที่ 18 ภาพการ์ดเสร็จแล้ว!

หวงมองโจว “แกว่าไง”
โจวหยุดคิดสักพัก “ฉันว่าน่าจะได้”
คนอื่นๆ ก็พยักหน้ารับเหมือนกัน
หวงคิดต่อสักพัก “โอเค รับงาน! ไหนๆ ลูกค้าก็จ่ายเงินให้แล้ว เราลองใช้
โอกาสนี้ตรวจสอบตลาดดูก็ด”ี
“ถ้าคนไม่ชอบงานสไตล์นี้กัน คนเสียเงินก็คือลูกค้า เราก็จะได้รู้ว่างานสไตล์นี้
ไปต่อไม่รอด”
“ถ้างานสไตล์นี้เป็นที่นิยม เราก็อาจตั้งสตูดิโอเป็นของตัวเองได้ ถ้าเราดัง
อะไรก็เป็นไปได้หมด”
หร่วนกวางเจี่ยนพยักหน้า “คิดเหมือนฉันเลย!”
“ตอนนี้ก็เหมือนใช้งานลูกค้าสร้างชื่อเสียงให้เรา อีกอย่างลูกค้าก็จ่ายหนัก
ด้วย สามสัปดาห์นี้เรามาทำงานให้เต็มที่ สร้างมาตรฐานให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพื่อปิดงานได้อย่างงดงามกันเถอะ!”
“ถ้างานภาพออริจินัลชุดนี้ไ ด้ผลตอบรับดีมากๆ เราก็ไ ด้โ อกาสสร้างชื่อ
เหมือนกัน อนาคตของเราต้องสดใสแน่!”
ในที่สุด พวกเขาก็ตกลงกันได้และเริ่มทำงาน
หร่วนกวางเจีย่ นร่างคอนเซปต์งาน ส่วนหวงทำหน้าที่ร่างภาพคร่าวๆ คนอื่นๆ
ที่ไม่ค่อยเก่งและไม่ค่อยคุ้นเคยกับงานสไตล์นี้รับหน้าที่วาดรายละเอียดเพิ่มเติม
และลงสี
ตามกระบวนการทำงานปกติ หร่วนกวางเจี่ยนต้องส่งภาพร่างงานออริจินัลให้
เผยเชียนดูเมื่อร่างเสร็จ พอเผยเชียนยืนยันว่าตรงตามที่ต้องการค่อยเริ่มลง
รายละเอียดต่อ
แต่ในเมื่อเผยเชียนไม่ได้สนใจเรื่องนี้จึงข้ามขั้นตอนนี้ไปได้
ทั้งห้องเริ่มปั่นงานกันอย่างขยันขันแข็ง


หอพักนักศึกษา มหาวิทยาลัยฮั่นตง
พริบตาเดียว สองสัปดาห์ก็ผ่านไป
เผยเชียนตรวจสอบระบบ
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ: เผยเชียน>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1:1>
<วันปิดบัญชีครั้งต่อไป: อีก 16 วัน>
<หมายเหตุ: หากมีสินค้าที่ยังไม่ได้วางจำหน่ายในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนการ
สรุปบัญชี ระบบจะเลื่อนวันสรุปบัญชีออกไปและกำหนดวันขึ้นใหม่>
<เงินทุนระบบ: 8,792 (↓291,208)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 1607.6>
เผยเชียนใช้เงินทุนระบบไปแล้วสองแสนเก้าหมื่นหยวน เหลือเงินไม่ถึงหมื่น
หยวน
นอกจากซื้องานภาพ เพลง เสียงเอฟเฟ็กต์ประกอบ และอุปกรณ์บริการเช่า
เซอร์เวอร์คลาวด์แล้ว เผยเชียนยังซื้อเทมเพลตทักษะของเกมการ์ดมาด้วย
เขาไม่ได้ตั้งใจจะซื้อเทมเพลตนี้ แต่เผยเชียนก็ไม่รู้จะเก็บเงินทุนระบบที่เหลือ
ไว้ทำไม
อย่างไรเสีย เงินทุนระบบที่ไม่ได้ใช้ก็ไม่ได้แปลงเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคลอยู่
แล้ว เผยเชียนรับไม่ได้เพราะมันก็เหมือนกับเสียเงินทิ้งไปเฉยๆ
เขาใส่ระบบทักษะเข้าไปในเกมเรียบร้อย
ยกตัวอย่างเช่น ทักษะของกวนอูคือคมดาบจันทร์เสี้ยวมังกรเขียว ทักษะของ
จิวยี่คือแผดเผาผาแดง สร้างความเสียหายให้ศัตรูทั้งหมด ทักษะจิตโลหะของแฮ
หัวตุ้นทำให้ได้ค่าสถานะต้านทานเต็มที่กับลดความเสียหายในระยะเวลาหนึ่ง
และอื่นๆ
ทักษะเหล่านี้ก็คล้ายๆ ทักษะของเกมการ์ดอื่นๆ ส่วนใหญ่ลอกมาจากเกมสาม
ก๊กสุดคิวต์ ระบบทักษะล้วนคล้ายๆ กันและเทมเพลตทักษะนีก้ ไ็ ม่ได้ตา่ งอะไร
เผยเชียนใส่ทักษะให้เหล่าตัวละครในเกม ใช้ของต่างๆ ที่ซื้อมาไปไม่มากก็
น้อย
แน่นอนว่าระหว่างทำงาน เผยเชียนโยนงานที่ดูวุ่นวายไปให้หม่าหยางทำหมด
เอาเข้าจริง เผยเชียนไม่ได้คาดหวังว่าหม่าหยางจะใส่ทักษะให้ตัวละครได้
ถูกต้องทั้งหมด จะดีมากถ้ามีข้อผิดพลาดหรือบั๊กบ้าง
แต่กลายเป็นว่าหม่าหยางค่อนข้างรอบคอบ หลังจากเขาจัดการระบบทักษะ
เสร็จ เผยเชียนก็มาตรวจดูและแปลกใจที่ไม่พบปัญหาอะไร
ทว่าจุดนี้ไม่ใช้เป้าหมายหลักในการทำให้เกมขาดทุน เผยเชียนจึงไม่ได้ใส่ใจ
อะไรมากนัก
เงินที่เหลืออยู่แปดพันหยวนต้องจ่ายเป็นเงินเดือนให้หม่าหยางสามพันหยวน
ซึ่งจะจ่ายได้ตอนสิ้นเดือน
เผยเชียนคิดหาวิธีใช้เงินที่เหลืออยู่ห้าพันหยวน เขาควรจะไปหาซื้อของเพิ่ม
จากเว็บไซต์รวมทรัพยากร ชายหนุ่มต้องใช้เงินทุนระบบให้หมดไม่ให้เหลือแม้แต่
แดงเดียว
แล้วทำไมความมั่งคั่งส่วนบุคคลเขาจึงเพิ่มขึ้นน่ะหรือ…
เป็นเพราะครอบครัวเขาส่งเงินมาให้หนึ่งพันหยวน
เผยเชี ย นอดไม่ ไ ด้ ท ี ่ จ ะคร่ ำ ครวญถึ ง ความน่ า อายที ่ ต นเองมี ร ะบบคอย
ช่วยเหลือแต่ก็ยังต้องแบมือขอเงินพ่อแม่!
ช่างเป็นพระเอกที่น่าขายหน้าเสียจริง!
ตอนแรกเขาตั้งใจจะทำให้ตัวเองเสียเงินไปห้าหมื่นหยวน แต่กลายเป็นว่าหา
เงินมาได้เจ็ดหมื่นหยวนซึ่งแปลงมาเป็นเจ็ดร้อยหยวน
น้อยกว่าเงินที่พ่อแม่ให้เสียอีก
ช่างอัปยศอดสูนัก!
แต่ตอนนี้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้ว
สามแสนหยวน ขอแค่เกมไม่ประสบความสำเร็จ เงินจำนวนนี้ก็จะแปลงมา
เป็นความมั่งคั่งส่วนบุคถ้าได้มาจริงก็จะพูดได้แค่ว่ายอดเยี่ยมไปเลย!
พอคิดว่าเดี๋ยวก็จะได้เงินสามแสนหยวนมาครอง เผยเชียนก็สุขใจล้นอกจนคิด
อยากจะเข้าเรียน
ทุกอย่างเตรียมการไว้หมดแล้ว เหลือแค่ใส่งานภาพเข้าไปในเกม หลังจากนั้น
ก็ปล่อยเกมออกไปและรอคอยความล้มเหลวของเกมเพื่อความสำเร็จของตัวเขา!

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
หอพักนักศึกษา มหาวิทยาลัยการเงินแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้
หร่ ว นกวางเจี ่ ย นผู ้ ข อบตาดำคล้ ำ โยนปากกาลงบนโต๊ ะ “โอเค! เสร็ จ
หมดแล้ว!”
เขาหันไปมองคนอื่นๆ บางคนล้มพับอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ส่วนที่เหลือสลบ
เหมือดอยู่บนเตียง เขาเป็นคนเดียวที่ยังตื่นอยู่
ถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและถุงขนมวางเกลื่อนอยู่ใต้โต๊ะ บนโต๊ะมีขวดยาชู
กำลังหลายขวดกองสุม สภาพห้องตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากรังหมาป่า
“เฮ้อ เสร็จตามกำหนดพอดี”
หร่วนกวางเจี่ ยนรู้ สึ กเสี ย ดายที ่ไ ม่ มี ใ ครตื่ นมาร่ วมแบ่ ง ปันช่ว งเวลาแห่ ง
ประวัติศาสตร์นี้กับเขา
แต่จะให้ทำอย่างไร คนอื่นๆ ไม่ได้แข็งแกร่งเช่นเขาและไม่สามารถแบกรับ
งานหนักทั้งวันทั้งคืนภายใต้แรงกดดันมหาศาลได้
โชคดีที่งานเสร็จตามกำหนด
จริงๆ มันเสร็จเร็วกว่านี้ได้ แต่หร่วนกวางเจี่ยนคาดหวังกับงานออริจินัลชุดนี้
ไว้มาก เขาแก้แบบร่างตรงจุดที่ไม่พอใจไปหลายชิ้น ทำให้แม้ทุกคนจะทุ่มพลัง
เต็มที่ งานก็มาเสร็จวันกำหนดส่งพอดี
หร่วนกวางเจี่ยนแสนภาคภูมิใจขณะเลื่อนดูงานภาพออริจินัลอย่างรวดเร็ว
นี่คือศิลปะ!
เป็นผลงานชิ้นเอกอย่างจริงแท้!
ตัวละครแต่ละตัวถูกออกแบบมาอย่างดีให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและลักษณะ
นิสัยที่โดดเด่น เขาผสานรวมตัวตนในประวัติศาสตร์ รายละเอียดงานที่ได้มา และ
องค์ประกอบดั้งเดิมได้อย่างลงตัว
งานแต่ละชิ้นจะต้องทำให้ทุกคนทึ่ง!
แต่หร่วนกวางเจี่ยนก็ไม่สามารถการันตีได้ว่างานออริจินัลชุดนี้จะโด่งดัง
เพราะเรื่องความสวยงามนั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล
แม้แต่ผลงานดังระดับโลกต่างๆ ก็ยังมีคนคิดว่าไม่เห็นสวยอะไร
ยิ่งเป็นผลงานที่ลงในเกมก็ยิ่งแล้วใหญ่ ไม่ว่าจะวาดอย่างบรรจงหรือออกแบบ
ล้ำเลิศแค่ไหนก็ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าเหล่าเกมเมอร์จะยอมจ่ายเงินให้ กลับกัน
แล้ว บางคนอาจจะไม่ชอบด้วยซ้ำเพราะภาพออกไปในทางหม่นๆ
ทำไมพวกเกมระดับล่างชอบใส่ปีกสีทองเรืองแสงใหญ่ๆ เข้ามาด้ว ย เพราะ
หัวหน้าฝ่ายออกแบบชอบหรือ ไม่ใช่หรอก
เป็นเพราะสายวาฬชอบปีกใหญ่ๆ เรืองแสงสีทองพวกนี้และยอมทุ่มเงินซื้อ
ต่างหาก!
ทำให้ไม่ว่าจะเป็นบริษัทไหนก็คงไม่พอใจกับงานออริจินัลชุดนี้แน่
แต่บอสเผยแห่งบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีได้บอกไว้ชัดเจนว่าให้หร่วน
กวางเจี่ยนออกแบบได้ตามใจชอบ ดังนั้นงานชุดนี้จึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ถูก
ไหม
เมื่อสงบใจได้ หร่วนกวางเจี่ยนก็เข้าเว็บไซต์รวมทรัพยากรของ ERSO และส่ง
งานออริจินัลให้เผยเชียน
“งานห้าสิบเซ็ต เป็นภาพออริจินัลสองร้อยชิ้น ช่วยตรวจสอบด้วย”
เขาไม่ได้รับข้อความตอบกลับจึงคิดว่าเผยเชียนน่าจะออฟไลน์อยู่
หร่วนกวางเจี่ยนตรวจดูเวลา เห็นว่าฟ้าเริ่มสว่างแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมง
เช้า
เขาหยิบไส้กรอกแฮมขึ้นมาแกะซอง คลายความหิวไปได้เล็กน้อย ก่อนจะปีน
ขึ้นเตียงไปพักผ่อน
ในที่สุดพวกเขาก็ทำงานเสร็จ ตื่นมาตอนบ่ายค่อยไปกินอาหารดีๆ ฉลอง!
พอจัดการกับภาระที่แบกไว้ได้ หร่วนกวางเจี่ยนก็หลับปุ๋ยไป
บทที่ 19 งานออริจินัลคุณภาพอลังการ!

เผยเชียนตื่นขึ้นมาตอนบ่าย
สองสามวันที่ผ่านมา ไม่รู้ทำไมเขาถึงนอนหลับสบายมาก
หรือเป็นเพราะพลังของเงินกันนะ
พอคิดว่าจะได้เงินสามแสนหยวนมาใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายและหลุดพ้นจากความ
จน เผยเชียนก็รู้สึกสบายใจ
เขาเปิดโน้ตบุ๊กเข้าเว็บไซต์รวมทรัพยากรและเห็นแจ้งเตือนว่าหร่วนกวางเจี่ย
นส่งงานมาให้แล้ว
ถึงความเร็วในการดาวน์โหลดจะไม่ได้ช้าเท่าไหร่ แต่งานภาพออริจินัลเป็น
ไฟล์คุณภาพสูงจึงต้องใช้เวลาดาวน์โหลดสักพัก
“เสร็จทันจริงๆ ด้วย ขยันจริงๆ”
“อยากรู้จังว่าคุณภาพงานเป็นไง”
“ขอแค่อย่าออกมาสวยเกินไปก็พอ! ฉันตายแน่ถ้างานออกมาสวยเกิน!”
เหลืออีกไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์จะถึงวันปิดบัญชี เผยเชียนต้องปล่อยเกมออกไปให้
ได้เร็วที่สุด
ระบบระบุว่าเผยเชียนห้ามมีสินค้าที่ยังไม่วางจำหน่ายในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อน
ปิดบัญชี
พูดอีกอย่างก็คือ ระบบต้องการให้เผยเชียนผ่านกระบวนการทางธุรกิจเพื่อ
คำนวณกำไรขาดทุนหนึ่งสัปดาห์หลังปล่อยสินค้า
หากมีสินค้าที่ยังไม่วางจำหน่าย ระบบจะเลื่อนวันปิดบัญชีออกไป ซึ่งเผย
เชียนไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น
เขาเปิดงานภาพออริจินัลที่หร่วนกวางเจี่ยนส่งมาให้
พอเห็นภาพแรก เขาก็ตะลึงงันไป
“อะไรวะเนี่ย! ทำไมงานละเอียดแบบนี้”
“มันภาพละเจ็ดร้อยหยวนจริงๆ เหรอวะ!”
เผยเชียนคิดเมื่อได้เห็นงาน
ถึงจะไม่ค่อยรู้เรื่องงานภาพออริจินัล แต่เผยเชียนก็พอจะแยกงานที่ดีและแย่
ได้ สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือรายละเอียด
อย่างไรเสีย ในงานภาพออริจินัล นักวาดจะวาดแต่ละรายละเอียดอย่าง
ประณีต ยิ่งมีรายละเอียดเยอะเท่าไหร่ ก็แสดงว่านักวาดต้องลงแรงในงานชิ้นนั้น
มากเท่านั้น
ตามปกติแล้ว งานภาพออริจินัลที่เป็นระดับโปสเตอร์ราคาสูงถึงหลักหมื่น นัก
วาดต้องใช้เวลาทั้งสัปดาห์เพื่อวาด และใส่รายละเอียดเข้าไปเยอะมาก
ส่วนงานออริจินัลราคาไม่กี่ร้อยหยวนมักจะทำกันทีละมากๆ ในเวลาจำกัด ถึง
นักวาดจะอยากลงรายละเอียดแค่ไหนก็ไม่มีเวลาพอให้ทำ
ทว่ า งานออริ จ ิ น ั ล ที ่ ไ ด้ ม ากลั บ มี ร ายละเอี ย ดแน่ น กว่ า ที ่ เ ผยเชี ย นคิ ด ไว้
นอกจากนั้น สไตล์ภาพยังดูแหวกแนวมากด้วย!
งานภาพออริจินัลชิ้นนี้คือกวนอู เทพบู๊แห่งตระกูลมังกร หม่าหยางกรอก
รายละเอียดลงไปในแบบฟอร์มแค่ว่าอยากให้เป็นมังกร ไม่ได้ลงรายละเอียดอะไร
เพิ่มเติมจากนั้น
แต่งานชิ้นนี้กลับมีรายละเอียดมากมาย!
พื้นหลังเป็นรูปหน้าผาวาดด้วยหมึก มีเมฆและพืชพันธุ์สีเขียวล้อมรอบ ให้
ความรู้สึกเหมือนภาพเขียนของจีนที่เน้นพื้นที่สีขาว
จุดโฟกัสของภาพนี้อยู่ที่กวนอูผู้ถือดาบจันทร์เสี้ยว
เป็นการฉีกภาพเดิมไปมากเพราะตอนนี้เขากลายเป็นมังกรตามต้นตำรับ
ตำนานจีน ใบหน้า แขน และผิวหนังส่ว นอื่นๆ ที่เผยให้เห็นล้วนมีสีเขียว บนหัวมี
เขา ตรงตามภาพลักษณ์มังกร
แต่เสื้อผ้าที่สวมใส่บ่งบอกชัดเจนว่าเขาคือกวนอู
เขาสวมชุดคลุมสีเขียวกับเกราะอกซ้ายสีทองขลิบแดง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็น
องค์ประกอบที่เห็นได้ทั่วไปในภาพวาดกวนอู ซึ่งสื่อออกมาได้อย่างดีเยี่ยมในภาพ
ออริจินัลนี้
มองภาพออริจินัลปราดเดียวก็บอกได้ว่ามีเอกลักษณ์ความเป็นกวนอู แต่
ภาพลักษณ์นั้นเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ที่สำคัญที่สุดคือสไตล์ภาพมีความเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากงานออริจินัล
อื่นๆ ในตลาดจากการผสานเทคนิคภาพวาดแบบหมึกและภาพวาดสีน้ำมัน ดูแล้ว
โดดเด่นสะดุดตา
เผยเชียนดูภาพออริจินัลชิ้นอื่นๆ ในแง่คุณภาพหรือสไตล์ล้วนคล้ายคลึงชิ้น
แรกมาก
แต่แน่นอนว่าภาพรวมหลักๆ นั้นยึดตามรายละเอียดในแบบฟอร์มของหม่าห
ยาง ไม่ได้เป็นสัตว์ร้ายเหมือนกวนอู
มีทั้งอสูรร้าย ตัวประหลาด หรือแม้แต่ตัวละครมนุษย์ก็มีการพลิกโฉมแหวก
ออกไปจากเดิม…อย่างลิบองที่กลายเป็นโลลิต้านักล่ามังกร
หร่วนกวางเจี่ยนยึดรายละเอียดตามแบบฟอร์มของหม่าหยางเป็นหลัก ใส่
รายละเอียดของตัวละครเข้าไปจากนั้นก็ออกแบบสไตล์งานและภาพ สุดท้ายแล้ว
จากการที่ภาพออริจินัลมีสไตล์ที่คล้ายคลึงกัน เขาจึงเสริมรายละเอียดให้ตัวละคร
แต่ละตัวมีเอกลักษณ์แตกต่างกันอย่างชัดเจน
เผยเชียนอึ้งไป
เขาจ่ายเงินสามพันหยวนเพื่อซื้อภาพออริจินัลคุณภาพเซ็ตละสี่ภาพมาจริง
หรือ
ล้อกันเล่นหรืออย่างไร
นักวาดคนนี้ขาดทุนย่อยยับแล้ว!
หร่วนกวางเจี่ยนเป็นคนวาดจริงๆ หรือ
ถ้าวาดงานเทพขนาดนี้ได้ ทำไมถึงลงแค่ภาพสไตล์การ์ตูนในหน้าประวัติ
ผลงานบนเว็บไซต์รวมทรัพยากรเล่า
เผยเชียนแทบจะร้องไห้ ถึงตนจะเป็นคนได้กำไร แต่เขาไม่เห็นจะดีใจแม้แต่
นิดเดียว!
เดิมทีเขาตามหานักวาดที่เสนอราคาอยู่ที่เจ็ดร้อยหยวนต่อชิ้นเพื่อให้ได้งาน
ออริจินัลคุณภาพต่ำ และถึงกับเลือกคนที่ดูจะวาดอะไรอย่างอื่นไม่เป็น นอกจาก
ภาพสไตล์การ์ตูน!
แต่เหตุใดสวรรค์จึงส่งเขาไปเจอดาวรุ่งดวงใหม่ได้
คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่เผยเชียนรู้ดี
งานภาพสไตล์นี้อยู่ในระดับเทพ!
เพราะชาติก่อนของเขามีนักออกแบบงานภาพคนหนึ่งชื่อหยางฉีที่ชอบงาน
ภาพสไตล์นี้และมีแฟนๆ ตามอย่างเหนียวแน่น
ไม่รู้จักหยางฉีหรือ
เคยได้ยินเกมชื่อ Asura Online…ใช่ไหม หยางฉีเป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบ
งานภาพของเกมนี้
ใช่แล้ว งานภาพออริจินัลที่หร่วนกวางเจี่ยนส่งมาให้เผยเชี ยนนั้นมีความ
คล้ายคลึงกับงานภาพของเกม Asura Online!
แต่แน่นอนว่ารายละเอียดนั้นไม่มากเท่าเพราะหร่วนกวางเจี่ยนต้องเร่งงาน
ทว่าทั้งสไตล์ภาพและความรู้สึกของภาพนั้นเหมือนกันมาก!
ถ้าเผยเชียนรู้ว่าหร่วนกวางเจี่ยนจะผลิตงานภาพคุณภาพสูงแบบนี้ได้ เขาคง
ไม่จ้างให้หร่วนกวางเจี่ยนทำภาพแน่!
แต่…ตอนนี้จะทำอะไรได้อีก
เงิน…ก็จ่ายไปแล้ว
งาน…ก็ได้รับมาแล้ว
จะขอคืนงานแล้วฉีกสัญญา…ก็เป็นไปไม่ได้!
อีกอย่าง เผยเชียนจะต้องปล่อยเกมภายในสองวัน ไม่อย่างนั้นระบบจะเลื่อน
วันสรุปบัญชีออกไป
อาจเกิดอะไรขึ้นอีกก็ได้ถ้าต้องยืดเวลาออกไป
เผยเชียนไม่สามารถทนความเย้ายวนใจของเงินสามแสนได้ ทุกวันที่ต้องรอ
เพิ่มย่อมเป็นเวลาแสนทุกข์ระทม!
“ใจเย็นๆ”
“สถานการณ์ยังไม่ได้แย่ขนาดนั้น คิดในแง่ดีเข้าไว้”
“อย่างแรก เกม Asura Online ก็ไม่ใช่โปรเจ็กต์ที่ประสบความสำเร็จล้น
หลาม”
“อีกอย่างไม่มีใครรู้ว่างานสไตล์นี้จะเป็นที่นิยมของพวกเกมเมอร์ในโลกนี้หรือ
เปล่า”
“ถึงสไตล์งานนี้จะแปลกใหม่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเกมเมอร์จะชอบ”
“ตอนนี้สไตล์การ์ตูนกำลังเป็นกระแส ภาพออริจินัลพวกนี้น่าจะทำให้เกิด
กระแสตีกลับ…”
“ใช่…ใช่แน่ๆ ต้องเป็นแบบนั้นแน่”
หลังจากสงบใจได้ เผยเชียนก็รู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ได้แย่อย่างที่คิด
งานออริจินัลนี้อาจมีรายละเอียดเยอะและออกแบบมาได้แปลกใหม่จนทำให้
ทึ่งไปในแวบแรกที่เห็น แต่ตลาดจะต้องการงานแบบนี้จริงหรือ
อาจจะไม่!
เผยเชียนเห็นเกมดีๆ หลายเกมเจ๊งมาแล้ว เห็นได้ชัดว่าหลักการใช้ไม่ได้ผลกับ
การประเมินเทรนด์ตลาด
แล้วเทรนด์อะไรที่กำลังมาแรงที่สุดในหมวดเกมมือถือของโลกนี้
การ์ตูน!
สามก๊กสุดคิวต์โด่งดังเพราะงานสไตล์นี้และเป็นตัวแทนของแนวคิดเรื่องความ
สวยงามของเหล่าเกมเมอร์
งานภาพของหร่วนกวางเจี่ยนที่มีความเป็นมหากาพย์ ความมืดหม่น รวมถึง
ผสานงานหมึกและงานสีน้ำมันเข้าด้วยกันอาจจะไม่ถูกใจพวกเกมเมอร์ก็ได้!
นอกจากนี้งานภาพออริจินัลก็ไม่ใช่ความหวังเดียวของเผยเชียน
ตัวเกมของเขาสร้างจากเทมเพลตที่มีรูปแบบการเล่นแค่อย่างเดียว
นอกจากทรัพยากรภาพและเสียงแล้ว เขาก็ไม่ได้ลงแรงอะไรกับตัวระบบและ
ไม่ได้ใส่ฟีเจอร์น่าสนใจลงไป
อีกทั้งเขายังไม่ได้ตั้งใจจะโฆษณาเกมด้วย เผยเชียนตั้งใจจะปล่อยเกมลง
แพลตฟอร์มแล้วปล่อยให้มันตายไป
หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์โดยที่ไม่ได้สร้างรายได้อะไร เขาก็จะทำให้บริษัท
ขาดทุนได้สำเร็จ
ดังนั้นหลังจากไตร่ตรองดู เขาจึงทำได้แค่ใช้งานภาพเหล่านี้
เผยเชียนเปิดเครื่องมือพัฒนาเกมแล้วใส่งานภาพออริจินัลเข้าไปเป็นการ์ดใน
เกม จากนั้นก็ให้หม่าหยางช่วยตรวจสอบว่ามีบั๊กอะไรไหม
พอได้เห็นงานภาพออริจินัล หม่าหยางก็พูดขึ้นหลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ “สุด
ยอด!”
เขาตะลึงงันไปจริงๆ ไม่คิดว่าภาพที่ตนลงทุนลงแรงออกแบบจะออกมาสุด
ยอดขนาดนี้
เผยเชียนตอบอย่างไม่แยแส “หลักๆ เลยก็เป็นเพราะนายกรอกแบบฟอร์มได้
ดี สร้างแรงบันดาลใจให้นักวาดได้”
หม่าหยางยิ้มกว้าง “จริงเหรอ สุดยอดไปเลย! ไม่คิดเลยว่าผมจะเก่งด้านนี้!”
แค่คำชมเล็กน้อยจากเผยเชียนก็ทำให้หม่าหยางดีใจจนแทบจะลืมชื่อแซ่ของ
ตัวเองไป
เห็นแบบนั้นเผยเชียนก็พอใจมาก ถ้าหม่าหยางทำงานไปแบบนี้เรื่อยๆ ก็จะ
ช่วยโปรเจ็กต์ต่อไปได้มาก!
บทที่ 20 ประกาศออกเกมแม่ทัพผี!

“พี่เชียน เรียบร้อยแล้ว!”
“ผมตรวจดูสองครั้งไม่เจอบั๊กอะไร”
“เราปล่อยเกมได้เลยมั้ย”
หม่าหยางตื่นเต้นกว่าเผยเชียนเพราะนี่เป็นเกมแรกที่เขาร่วมสร้าง
ถึง…ทั้งหมดที่ทำจะมีแค่กรอกแบบฟอร์มก็เถอะ
การ ‘ตรวจหาบั๊ก’ ใช้เวลาประมาณสี่ชั่วโมง แต่เผยเชียนไม่อยากเสียเวลาไป
มากกว่านี้
เหตุผลหลักก็เพราะตัวเกมสร้างมาจากเทมเพลตซึ่งผ่านการตรวจสอบมาแล้ว
หลายครั้งและเป็นเวอร์ชันที่แทบไม่มีบั๊ก
เผยเชี ย นแก้ ก ารตั ้ ง ค่ า ทั ก ษะบางส่ ว นและเปลี ่ ย นคำอธิ บ ายในเกม
นอกจากนั้นแล้วก็ไม่ได้แก้อะไรอีกจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะไม่มีบั๊กร้ายแรงสักจุด
แน่นอนว่าถึงจะมีบั๊ก เผยเชียนก็แก้ด้วยตัวเองไม่ได้ ต้องไปจ้างคนผ่าน
ช่องทางออนไลน์มาช่วยแก้
“ปล่อยได้”
เผยเชียนต้องทำตามกระบวนการและส่งเกมเข้าไปตรวจประเมิน
แต่ก่อนจะทำแบบนั้น เขาต้องคิดชื่อเกมกับคำอธิบายเกม
เขาตัดสินใจใช้แนวคิดเดิม ชื่อกับคำอธิบายเกมจะต้องธรรมดามากจนชาว
เกมเมอร์ไม่สามารถทำความเข้าใจและเดาอะไรเกี่ยวกับตัวเกมได้
จะดีมากถ้าไม่มีคีย์เวิร์ดเด่นๆ ด้วยเหมือนกัน
ยกตัวอย่างเช่น จะต้องไม่มีคำว่า ‘สามก๊ก’ อยู่ในชื่อเกม!
ไม่อย่างนั้นเหล่าเกมเมอร์ที่ชอบเกมเกี่ยวกับสามก๊กจะพบเกมนี้โดยใช้คีย์
เวิร์ดดังกล่าวค้นหาแล้วโหลดไปลองเล่นได้
คิดได้แบบนั้น ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัวของเผยเชียนขณะกรอกชื่อและ
คำอธิบายเกม
ชื่อ: แม่ทัพผี
คำอธิบาย: เกมการ์ดธรรมดา ไม่มีอะไรใหม่
ราคา: สิบหยวน มีไอเทมให้ซื้อเพิ่มเติมในเกม
เขามั่นใจว่าเหล่าเกมเมอร์จะไม่สามารถเดาได้ว่าเป็นเกมแบบไหนถ้าอ่านแค่
ชื่อกับคำอธิบายเกม
ขณะเดียวกันราคาสิบหยวนก็เพียงพอที่จะเป็นกำแพงกั้นไม่ให้เกมเมอร์ที่พบ
เกมนี้โดยบังเอิญซื้อไปเล่นได้
เทียบกับเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย เกมที่ปล่อยรอบนี้มีขนาด
ใหญ่กว่าเพราะเป็นเกมมือถือที่มีเนื้อหาเยอะกว่า
เพราะเหตุนี้กระบวนการตรวจสอบจึงใช้เวลานานกว่าเดิมเล็กน้อยและน่าจะ
เสร็จเร็วที่สุดวันพรุ่งนี้
หลังจากตั้งค่าทุกอย่างเสร็จ ความกังวลใจเมื่อวานก็หายไปจากใจเผยเชียน
ถึงเกมจะมีภาพออริจินัลคุณภาพดีแล้วจะทำอะไรได้
เกมเมอร์จะเห็นภาพออริจินัลได้อย่างไรถ้าไม่รู้ว่ามีเกมนี้อยู่
คิดได้แบบนั้นก็รู้สึกสบายใจ เผยเชียนปิดหน้าจอหลังบ้านอย่างเริงร่า ตั้งหน้า
ตั้งตาคอยวันปิดบัญชีที่จะถึงในอีกหนึ่งสัปดาห์
เขาเห็นภาพอนาคตอันสดใสของตนเองที่จะได้ใช้จ่ายเงินมือเติบกินดื่มอาหาร
หรูหลังจากได้เงินสามแสนหยวน


บ่ายวันนั้น หร่วนกวางเจี่ยนตื่นเพราะหิว
คนอื่นๆ ก็ตื่นเหมือนกัน
หวงจัดห้อง เก็บกวาดถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและขยะต่างๆ ใส่ถุงขยะ เตรียม
จะเอาไปทิ้ง
“กวางเจี่ยน ตื่นแล้วเหรอ เป็นไง ส่งงานรึยัง ลูกค้าขอแก้อะไรมั้ย ” หวงถาม
ขณะเก็บห้อง
หร่วนกวางเจี่ยนลุกจากเตียง “ไม่เลย บอสเผยบอกว่าชอบมาก ไม่ต้องแก้
อะไรเลย”
“ชอบมากเลยเหรอ” หวงแปลกใจ “ลูกค้าฟ้าประทานจริงๆ ไม่ขอแก้เลยสัก
นิดเดียวจริงๆ เหรอ”
หร่วนกวางเจี่ยนพยักหน้า “ใช่ ถึงงานเราจะออกมาคุณภาพดี ไม่มีอะไรต้อง
แก้มาก แต่พวกลูกค้าห่วยๆ ก็ชอบ…เอ๊ะ มีบะหมี่เหลือสักถ้วยมั้ย”
“ไม่ เรากินกันหมดแล้ว เย็นนี้ออกไปหาอะไรกินเป็นการฉลองกันเถอะ” หวง
แนะนำ
หร่วนกวางเจี่ยนพยักหน้าเห็นพ้อง “ได้ ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เรา
ออกไปหาอะไรดีๆ กินกันก่อนค่อยแบ่งเงิน ช่วงที่ผ่านมาสาหัสกันทุกคน”
“โหย แกอ่ะหนักสุดเลย” หวงตอบขณะลากถุงขยะใบโตออกไปทิ้ง
หร่วนกวางเจี่ยนไม่คิดว่าเผยเชียนจะรับงานออริจินัลของตนไปโดยไม่ติติง
อะไร
ปกติแล้วถึงลูกค้าจะชอบงานขนาดไหนก็จะมีติอะไรเล็กๆ น้อยๆ กลับมา
จะบอกว่าเป็นความผิดของลูกค้าก็ไม่ได้เพราะมันเป็นปัญหาที่มีรากฐานมา
จากกระบวนการทำงาน
ส่วนใหญ่ลูกค้าจะไม่ได้มาเป็นบุคคล แต่เป็นกลุ่มหรือบริษัท
คนที่มาติดต่อกับพวกฟรีแลนซ์จะเป็นพนักงานคนหนึ่งของฝั่งลูกค้า
ถ้าฟรีแลนซ์ส่งงานไปแล้วคนที่รับผิดชอบรับมาเลยโดยไม่พบปัญหาอะไรจะ
ทำให้ไปอธิบายกับหัวหน้าได้ลำบาก
การที่พนักงานไม่พบปัญหาในตัวงานที่รับมาเลยสักจุดเดียวจะทำให้เขาดูเป็น
คนใช้การไม่ได้ เหมือนว่าไม่ได้ตั้งใจทำงาน
ทำให้ลูกค้ามักจะหาจุดติเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้ดูเหมือนว่าตัวเองก็ทำงานอยู่นะ
เอาเข้าจริงก็มีเหตุการณ์สุดหดหู่อย่าง…. “กลับไปใช้ร่างแรกกันเถอะ” ด้วย
หร่วนกวางเจี่ยนรู้สึกซึ้งใจที่รอบนี้ได้เจอลูกค้าฟ้าประทาน
ทั้งจ่ายเงินเลย ไม่ได้ขอลดราคา แต่ขอขึ้นราคาให้ด้วยซ้ำ!
แบบฟอร์มก็ไม่ได้ลงรายละเอียดมาก สามารถออกแบบได้ตามใจชอบ
งานก็รับไปอย่างยินดีโดยไม่ขอแก้ไขอะไร!
จนหร่วนกวางเจี่ยนรู้สึกตะขิดตะขวงใจอย่างไรก็ไม่รู้
แต่พอคิดว่าตนได้ลงแรงไปมากแค่ไหนเพื่อวาดงานออริจินัลคุณภาพสูงชุดนี้
ขึ้นมา หร่วนกวางเจี่ยนก็ไม่รู้สึกติดใจอะไรอีก
พูดได้แค่ว่าทำงานกับคนตรงไปตรงมาช่างเป็นประสบการณ์ที่ดีเยี่ยม!
หลังจากโหมงานหนักมาตลอดสามสัปดาห์ พอเงินโอนมาเรียบร้อยก็ถึงเวลา
แล้วที่เหล่ารูมเมตจะได้กินอะไรดีๆ
หร่วนกวางเจี่ยนพาพวกเขาไปภัตตาคารเล็กๆ ข้างมหาวิทยาลัยแล้วจองห้อง
ส่วนตัวพร้อมซื้อเบียร์จากร้านค้าข้างๆ มาอีกสองลัง
พวกเขาตั้งใจจะกินกันให้พุงกางและฉลองกันจนเมาหัวราน้ำ
“เออใช่ กวางเจี่ยน เกมที่เราวาดภาพออริจินัลให้นี่เป็นเกมแบบไหน แล้ว
ปล่อยเกมเมื่อไหร่อ่ะ” จู่ๆ หวงก็นึกคำถามสุดสำคัญขึ้นได้ระหว่างคีบกับกิน
เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่พวกเขาจะต้องอยากเห็นเกมที่ตัวเองร่วมงานด้วย
ปล่อยออกมาเร็วๆ
ถ้าดังขึ้นมาก็ยิ่งดี
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะปล่อยตอนไหน ไม่ได้ถาม แต่เกมพวกนี้น่าจะต้อง
ทดสอบกันหลายรอบกว่าจะปล่อยใช่มั้ยล่ะ น่าจะไม่ได้ปล่อยเร็วๆ นี้หรอก”
“เดี๋ยวเข้าไปเช็กให้”
หร่วนกวางเจี่ยนมีบัญชีผู้ใช้ของเว็บไซต์รวมทรัพยากร ERSO เขาสามารถ
ตรวจสอบบัญชีผู้ใช้ของเผยเชียนเพื่อดูข้อมูลบริษัทและเกมที่เคยวางจำหน่าย
“เฮ้ย! บริษัทนี้ทำเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย!”
หร่วนกวางเจี่ยนอึ้งไป
เขาเคยได้ยินเรื่องเกมสุดห่วยนี้ ถึงจะไม่ได้ลองเล่นเอง แต่ก็ได้ยินอะไรมา
มากมาย
จากนั้นเขาก็ไปดูเกมที่สอง
“ชื่อเกมแม่ทัพผี เป็นเกมการ์ดมือถือ กำลังอยู่ในขั้นตรวจสอบ! เกมนี้น่าจะ
เป็นเกมที่เราทำภาพออริจินัลให้”
“ก็หมายความว่าเราจะได้ลองเล่นเร็วๆ นี้ดิ”
“เดี๋ยวนะ ไม่เร็วไปหน่อยเหรอ…ฉันเพิ่งส่งภาพออริจินัลไปให้ตอนเช้า ตกบ่าย
มาส่งตรวจแล้วเหรอ ก็หมายความว่าเราน่าจะได้เล่นพรุ่งนี้เย็นน่ะสิ”
หร่วนกวางเจี่ยนตะลึงงันไปกับความเร็วปานสายฟ้าฟาดนี้
เกมส่วนใหญ่ต้องทดสอบกันหลายวันไปจนถึงเป็นสัปดาห์ไม่ใช่หรือ ถ้าเกมมี
บั๊กขึ้นมาจะทำอย่างไร
แต่เกมนี้กลับปล่อยออกมาภายในวันเดียวเสียนี่!
หวงเคี้ยวถั่วลิสง “ก็ปกตินี่ เขาอาจจะทดสอบทุกอย่างเสร็จตั้งนานแล้ว รอ
แค่ใส่งานภาพเข้าไปเพิ่มก็เสร็จ ไม่เห็นมีอะไรแปลก”
หร่วนกวางเจี่ยนพยักหน้า “เออ ก็จริง พรุ่งนี้เราค่อยโหลดมาลองเล่นดูแล้ว
กัน”
“มา! ค่อยคุยเรื่องเกมพรุ่งนี้! ตอนนี้ต้องชน!” หวงยกแก้วขึ้นชนแก้วกับทุกคน
อย่างร่าเริง ตั้งใจว่าจะซดกันจนเมาไม่รู้เรื่อง!
บทที่ 21 เกมนีเ้ หมือนจะมีปัญหา

บ่ายวันต่อมา หร่วนกวางเจี่ยนคลานลงจากเตียงด้วยอาการเมาค้างเล็กน้อย
โชคดีที่พวกเขาดื่มแค่เบียร์ หลังจากนอนตื่นก็หัวโล่ง
“เออใช่! เกม!”
หร่วนกวางเจี่ยนนึกขึ้นได้ ตอนนี้ตัวเกมน่าจะผ่านการตรวจสอบแล้ว!
เขารีบหยิบมือถือออกมาแล้วค้นหาเกมชื่อแม่ทัพผีในแพลตฟอร์มทางการ
งานภาพออริจินัลนี้เป็นงานที่เขาและรูมเมตอดหลับอดนอนปั่นกันมือเป็น
ระวิงทำให้รู้สึกรักงานนี้มากเหมือนเป็นลูกชาย จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาหวัง
อยากให้เกมนี้ดังกระฉ่อน
ถ้าเป็นแบบนั้น เขาก็จะเรียกตัวเองว่าเป็นนักออกแบบได้เต็มตัว
หลังจากนั้นไม่ว่าจะหางานหรือลงทุนอะไร ทุกสิ่งก็จะง่ายดายสำหรับเขาเมื่อ
มีงานออริจินัลชิ้นนี้อยู่ในหน้าประวัติผลงาน
ด้วยเหตุนี้แม้หร่วนกวางเจี่ยนจะเป็นแค่นักวาดที่รับงานมาอีกที เขากลับรู้สึก
เป็นกังวลใจยิ่งกว่าเผยเชียนเสียอีก!
“โอ้ เกมผ่านการตรวจสอบแล้ว! รีบไปดาวน์โหลดเร็ว! เสิร์ชว่าแม่ทัพผี!”
หร่วนกวางเจี่ยนตะโกนบอกเพื่อนที่เพิ่งตื่น พวกนั้นรีบหยิบมือถือขึ้นมาดาวน์
โหลดทันที
หลังจากเห็นหน้าจอข้อมูลเกม หร่วนกวางเจี่ยนก็ขมวดคิ้ว
ทำไมดูธรรมดาจัง
โดยเฉพาะคำอธิบายเกม! เหมือนคนที่รับผิดชอบทำแบบขอไปที ไม่ได้สนใจ
อะไรเลยสักนิด!
คำอธิบาย: เกมการ์ดธรรมดา ไม่มีอะไรใหม่
?!?!
คนสร้างเกลียดเกมตัวเองหรืออย่างไร!
อีกอย่าง เกมส่วนใหญ่จะใส่รูปโฆษณาหรือโปสเตอร์สวยๆ ไว้บนหน้าเพจเพื่อ
ดึงดูดผู้เล่น
บางเกม บริษัทเอางานภาพที่ดีที่สุดของเกมมาไว้บนหน้าเพจเพื่อล่อลวงผู้เล่น
ด้วยซ้ำ
แต่เกมแม่ทัพผีกลับไม่มีรูปโฆษณาเลยสักรูป!
ทำให้ยอดดาวน์โหลดตอนหร่วนกวางเจี่ยนค้นเจอเกมยังคงเป็นศูนย์ แม้แต่
เผยเชียนก็ยังไม่ได้ดาวน์โหลดเลย
“เขาคงยังไม่มีเวลาโฆษณาเพราะเกมเพิ่งผ่านการตรวจสอบ…ใช่ ต้องเป็น
แบบนั้นแน่”
หร่วนกวางเจี่ยนปลอบใจตัวเองขณะดาวน์โหลดแล้วกดเข้าเกม
เขาไม่ได้สนใจเงินสิบหยวนที่จ่ายไปเพื่อซื้อเกมสักนิด
เกมนี้เป็นเกมการ์ดดาษดื่นทั่วไปที่มีระบบการเล่นเหมือนเกมสามก๊กสุดคิวต์
ในเวอร์ชันเมื่อหกเดือนก่อน
แต่ก็ไม่ได้ถือเป็นเรื่องแย่อะไร
เกมมือถือจะมีระบบการเล่นที่ซับซ้อนเกินไปไม่ได้ ในยุคนี้ กระแสเกมจะไป
ในทางเกมมือถือที่เล่นสบายๆ มากกว่า
เกมเมอร์ส่วนใหญ่มีเวลาเล่นเกมในวันหนึ่งประมาณสามชั่วโมง
ดังนั้นเกมการ์ดมือถือส่วนใหญ่ในยุคนี้จึงใช้ระบบอัตโนมัติต่างๆ เช่น เล่นผ่าน
ด่าน กดข้ามด่าน มีพลังงานและจำนวนครั้งที่เข้าด่านได้ต่อวันเพื่อจำกัดเวลาที่
เกมเมอร์จะใช้เล่นเกม
การใส่ระบบอลังการงานสร้างเข้ามามากเกินไปไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเหล่าเกม
เมอร์
แต่สำหรับเกมสามก๊กสุดคิวต์ที่เปิดให้เล่นมาแล้วหนึ่งปีจะใช้วิธี ที่ผิดแปลก
ออกไป
แม้ระบบการเล่นใหม่จะดูเยอะกว่าตอนแรกและอาจทำให้เหล่าเกมเมอร์มอง
ว่ามันวุ่นวายเกินไป แต่เกมเมอร์เหล่านี้ก็อาจเบื่อเกมขึ้นมาได้ถ้าเกมยังเป็น
เหมือนเดิม ไม่มีอะไรแปลกใหม่
เมื่อเป็นแบบนั้น เกมสามก๊กสุดคิวต์จึงมีการอัปเดตทุกๆ สามเดือนเพื่อเพิ่ม
ทักษะและการ์ดใหม่ๆ ถึงการทำอย่างนี้จะทำให้เกมดูล้นเกินไป แต่พวกเขาก็ไม่มี
ทางเลือกอื่น
แต่ปัญหาเดียวกันนี้จะไม่เกิดขึ้นกับเกมเปิดใหม่อย่างเกมแม่ทัพผี
ถึงเกมนี้จะใช้ ‘ระบบการเล่นเก่า’ ของเกมสามก๊กสุดคิวต์ แต่ระบบนี้ก็เป็น
ระบบดั้งเดิมที่ผ่านการยอมรับจากตลาดและชาวเกมเมอร์ก็น่าจะเปิดรับระบบ
ที่ว่านี้กันแล้ว
ที่ต้องทำก็แค่เปลี่ยนภาพลักษณ์เพื่อเอาใจเหล่าเกมเมอร์
นอกจากนี้ เมื่อเกมนำรูปแบบการเล่นพื้นฐานมาใช้ เหล่าเกมเมอร์สายการ์ด
เกมก็จะทำความเข้าใจตัวเกมได้อย่างรวดเร็ว ไม่รู้สึกติดขัดหรือลำบากอะไร
ไม่นานหร่วนกวางเจี่ยนก็ได้การ์ดที่เหมาะกับผู้เล่นใหม่มา
พออ่านดูทักษะโดยรวมก็พบว่าทำได้ดีมาก!
ตอนที่ออกแบบงานภาพ หร่วนกวางเจี่ยนรู้อยู่แล้วว่าภาพที่เขาวาดจะไปเป็น
การ์ดในเกม จึงตั้งใจใส่เอกลักษณ์บางอย่างเข้าไปให้ตัวละครดูมีการเคลื่อนไหว
ยกตัวอย่างเช่น การ์ดกวนอู มังกรในการ์ดอยู่ในท่ากำลังจะฟันดาบใส่ศัตรู ถ้า
การ์ดสั่นก็จะดูได้อารมณ์มากขึ้น
ยิ่งมองหร่วนกวางเจี่ยนก็ยิ่งรู้สึกภูมิใจ
“สมแล้ว มีแค่ฉันนี่แหละที่ทำงานสุดยอดเยี่ยมแบบนี้ออกมาได้!”
ตอนแรกหร่วนกวางเจี่ยนกังวลว่างานภาพสไตล์นี้อาจดูแปลกและไม่เข้ากับ
เกม แต่ตอนนี้ก็พบว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย
นอกจากการ์ดจะเข้ากับตัวเกมได้ดีแล้ว ยังเพิ่มบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์
ให้เกมอีกด้วย
การ์ดสวยๆ เอฟเฟ็กต์หน้าจอดีๆ เพลงและเสียงเอฟเฟ็กต์ที่พอใช้ได้ทำให้ห
ร่วนกวางเจี่ยนสนุกไปกับเกม!
เขาเคยเล่นเกมการ์ดมือถือมากก่อนจึงใช้เวลาไม่นานก็เข้าใจตัวเกม
หรืออาจเป็นเพราะเขาเป็นคนออกแบบงานภาพจึงรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือน
พ่อ และยิ่งอินกับเกมเข้าไปใหญ่
หลายนาทีผ่านไป เขาก็ไปถึงจุดที่ให้สุ่มการ์ดฟรี
เกมการ์ดส่วนใหญ่จะใส่ระบบนี้เข้ามาเพื่อแจกการ์ดหายากล่อลวงให้ผู้เล่น
ยอมเล่นต่อไป
แน่นอนว่าการจะทำให้ผู้เล่นยอมจ่ายเงินให้เกม การ์ดที่สุ่มได้จะเป็นการ์ดสี
ม่วงธรรมดา สำหรับผู้เล่นใหม่อาจดูเป็นการ์ดเก่ง แต่จริงๆ แล้วใช้ประโยชน์อะไร
ไม่ค่อยได้ เล่นผ่านไปด่านหลังๆ ก็ไม่ค่อยได้ใช้ ไม่ต่างอะไรจากขยะ
หร่วนกวางเจี่ยนเข้าใจจุดนี้ดี
แต่เขาก็ต้องอึ้งไปหลังจากกดสุ่มสิบครั้ง
นี่เขาได้การ์ดสีส้มมาสองใบจริงๆ หรือ?!
หร่วนกวางเจี่ยนรู้เรื่องระดับของการ์ดในเกมเป็นอย่างดี เพราะในแบบฟอร์ม
ระบุไว้ชัดเจนว่าตัวละครบางส่วนจะใช้เป็นการ์ดระดับหายาก
ตอนนี้เขาสุ่มได้การ์ดมาสองใบคือกวนอูกับจูกัดเหลียง การ์ดสองใบนี้เป็น
การ์ดสุดหายาก เอาเข้าจริงมันเป็นการ์ดที่หายากที่สุดในเกมเลยทีเดียว!
หร่วนกวางเจี่ยนตะลึงงันไป
ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาคือเกมนี้น่าจะยังอยู่ในช่วงทดลองจึงตั้งค่าอัตราการ
สุ่มผิดทำให้มีโอกาสสูงที่จะสุ่มได้การ์ดสุดหายาก
แต่ผ่านไปไม่นาน เขาก็พบเรื่องที่แปลกที่สุด
หร่วนกวางใจอึ้งไปเมื่อพบว่าร้านค้าในเกมมีของให้ซื้อแค่อย่างเดียวซึ่งก็คือ
บัตรสมาชิกถาวร!
คนที่ไม่ได้ซื้อบัตรสมาชิกจะสุ่มสิบครั้งได้แค่รอบเดียวต่อวัน ส่วนคนที่ซื้อบัตร
สมาชิกจะสุ่มสิบครั้งได้สองรอบต่อวัน
นอกจากนั้นแล้ว หร่วนกวางเจี่ยนก็ไม่พบไอเทมอื่นๆ ให้ซื้อ หรือระบบใดๆ
ให้เสียเงินอีกเลย
พูดอีกอย่างก็คือ ถึงเกมจะมีของให้ซื้อแต่ผู้เล่นก็เสียเงินได้มากสุดแค่สามสิบ
หยวน! จะเสียเงินเพิ่มไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว!
“หรือ…จะเป็นเพราะเกมยังอยู่ในขั้นทดสอบ ระบบต่างๆ เลยยังใส่มาไม่
ครบ”
“แต่ก็ไม่น่าใช่ เกมเวอร์ชันนี้ผ่านการตรวจสอบของ ERSO มาแล้วไม่ใช่
เหรอ”
หร่วนกวางเจี่ยนรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ
ถ้าผู้พัฒนาเกมอยากอัปเดตตัวเกมหรือแก้บั๊กจะต้องส่งเข้าไปให้ ERSO
ตรวจสอบใหม่อีกครั้ง
นอกจากนี้ ในหนึ่งเดือนยังมีการจำกัดจำนวนครั้งที่จะส่งสิ่งต่างๆ เข้าไปให้
ERSO ตรวจสอบ เหล่าผู้พัฒนาจะส่งโน่นนี่เข้าไปเรื่อยๆ ไม่ได้เพื่อไม่ให้เป็นการ
เสียเวลาพนักงานของ ERSO
ปกติแล้วเกมที่ส่งเข้าไปตรวจสอบจะเป็นเกมเวอร์ชันจริง ไม่ควรมีปัญหาพื้นๆ
แบบนี้!
เพราะตัวเกมจะวางขายในแพลตฟอร์มทางการหลังจากผ่านการตรวจสอบให้
ผู้เล่นได้ซื้อ
เพื่อเป็นการรับผิดชอบต่อผู้เล่น ผู้พัฒนาเกมจึงไม่ควรเปลี่ยนเนื้อหาเกมไป
เรื่อยๆ เช่นกัน
หร่วนกวางเจี่ยนงงไปหมด
ในเมื่อสิ่งที่เจอไม่ใช่ปัญหาเล็กน้อย แสดงว่าผู้พัฒนาเกมต้องการให้เป็นแบบ
นี้!
เขาไม่คิดว่าเกมแม่ทัพผีจะเป็นเกมการ์ดมือถือที่คิดถึงผู้เล่นถึงขนาดนี้!
เป็นแบบนี้จะไม่ขาดทุนแย่เลยหรือ!
บทที่ 22 บอสเผยเป็นคนเที่ยงธรรม!

ไม่นานคนอื่นๆ ในห้องก็ถามคำถามคล้ายๆ กันออกมา


“ทำไมร้านในเกมมีของให้ซื้อแค่อย่างเดียว”
“เสียงเงินได้สูงสุดสามสิบหยวนเองเหรอ”
“ซื้อมาก็ได้สุ่มสิบครั้งเพิ่มแค่รอบเดียวต่อวันไม่ใช่เหรอ ไม่เห็นคุ้มเลย!”
“ไม่มีระบบ VIP เหรอ เกมสามก๊กสุดคิวต์มีตั้งแปดขั้นเลยนะ!”
ทุกคนหันไปมองหร่วนกวางเจี่ยน
แต่เขาเองก็ไม่รู้อะไรเลยเหมือนกัน
เขาตอบหลังครุ่นคิดสักพัก “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเป็นแบบนี้ เดี๋ยวลอง
ถามบอสเผยดู เขาอาจจะมีแนวความคิดบางอย่างหรือไม่มันก็อาจไม่ใช่เวอร์ชัน
สมบูรณ์ก็ได้”
หร่วนกวางเจี่ยนก็แปลกใจไม่ต่างกันขณะส่งข้อความไปหาเผยเชียนผ่าน
ระบบติดต่อสื่อสารของเว็บไซต์รวมทรัพยากร
“บอสเผย ผมไม่เห็นระบบเสียเงินหรือไอเทมอื่นๆ ให้ซื้อในเกมเลย หรือเกม
จะยังเป็นเวอร์ชันทดสอบอยู่ เดี๋ยวมันจะมีระบบเพิ่มเติมใส่มาในเวอร์ชันสมบูรณ์
ใช่ไหม”
ไม่นานเผยเชียนก็ตอบกลับ
“นี่เป็นเวอร์ชันสมบูรณ์แล้ว”
หร่วนกวางเจี่ยนอึ้งไป “แล้ว…ไอเทมทีใ่ ห้ซื้อในเกมล่ะ”
เผยเชียน: “ไอเทมให้ซื้อในเกมมีแค่บัตรสมาชิกถาวร เราไม่ได้คิดจะใส่ไอเทม
อะไรลงไปเพิ่มอีก”
หร่วนกวางเจี่ยน: “ทำไมล่ะ!”
เผยเชียน: “ทำไมเหรอ ก็ไม่ทำไม! กลยุทธ์การวางราคาของเกมเราคือตั้ง
ราคาคงที่ไว้ราคาเดียว ผู้เล่นเสียเงินตั้งสิบหยวนซื้อเกมเราไปแล้ว แล้วจะใส่ไอ
เทมในเกมให้ซื้อเพิ่มอีกได้ยังไงกัน”
“จริงๆ แล้วแผนเดิมไม่ได้จะใส่บัตรสมาชิกถาวรราคาสามสิบหยวนลงไปด้วย
ซ้ำ! แต่สุดท้ายก็ใส่ไปเพื่อเอาใจผู้เล่นบางกลุ่ม”
หร่วนกวางเจี่ยนงงไปหมด ไม่รู้จะตอบอะไรไปพักใหญ่
บอสเผยคิดถึงผู้เล่นมาก!
เพดานค่าใช้จ่ายเกมสามก๊กสุดคิวต์อยู่ที่ประมาณหนึ่งพันหยวน มีเพียงผู้เล่น
สายวาฬที่มีโอกาสได้การ์ดสุดหายาก ส่วนผู้เล่นทั่วไปต้องลำบากลำบนอยู่นาน
กว่าจะได้การ์ดสีม่วงมาสักใบ
แต่ผู้เล่นทุกคนในเกมแม่ทัพผีนั้นไม่มีใครเหนือไปกว่าใคร! ข้อแตกต่างเดียวมี
แค่บัตรสมาชิกถาวรราคาสามสิบหยวน!
ถ้าเป็นเกมสามก๊กสุดคิวต์ เงินแค่นี้ใช้สุ่มสิบครั้งยังไม่ได้เลย!
หร่วนกวางเจี่ยนรู้สึกผิดที่ใช้ความคิดของตัวเองไปตัดสินความใจกว้างของเผย
เชียน
เขาคิดว่าที่เกมไม่มีเพดานค่าใช้จ่ายเป็นเพราะตัวเกมยังไม่สมบูรณ์หรือไม่ก็
เพราะเหตุผลอื่นๆ
แต่พอได้ถามก็รู้ว่าเผยเชียนไม่ได้ตั้งใจจะตั้งเพดานค่าใช้จ่ายตั้งแต่แรก! เขา
อยากให้เกมนี้เป็นเกมการ์ดมือถือที่ผู้เล่นทุกคนเท่าเทียมกันที่สุด!
เขาอยากให้ผู้เล่นทั่วไปได้สนุกไปกับการสุ่มได้การ์ดหายากเช่นกัน!
หร่วนกวางเจี่ยนน้ำตาปริ่มเมื่อตระหนักว่าตนช่างหน้าเลือดเก็บเงินเผยเชียน
มาตั้งสามพันหยวนต่อเซ็ต
เขาควรจะลดราคาให้ผู้พัฒนาเกมแสนใจกว้างคนนี้!
ตอนนั้นเองหร่วนกวางเจี่ยนก็นึกคำถามออกอีกข้อจึงรีบถาม “บอสเผย มีอีก
เรื่อง เกมยังไม่ค่อยมีคนโหลดไปเล่นเลย เพราะยังไม่ได้เริ่มโฆษณารึเปล่า”
เผยเชียน: “โฆษณาเหรอ เหอะ ไม่มีการโฆษณาหรอก”
หร่วนกวางเจี่ยนตะลึงงัน “ทำไมล่ะ”
จะสร้างเกมมาทำไมถ้าไม่โฆษณา!
ขนาดภัตตาคารดีๆ ยังไม่กล้าไปตั้งอยู่สุดซอยเลย แล้วเกมเมอร์จะรู้ได้อย่างไร
ว่ามีเกมนี้อยู่ถ้าไม่โฆษณา
เผยเชียน: “เพราะผมไม่มีเงินแล้ว! ผมหมดไปสามแสนเพื่อทำเกมนี้ ทั้งซื้อ
เทมเพลต งานภาพ เพลง เสียงเอฟเฟ็กต์ อุปกรณ์เช่าบริการเซอร์เวอร์คลาวด์…
ไม่มีเงินเหลือสักแดง”
หร่วนกวางเจี่ยนซึ้งน้ำจนตาไหล
ชายผู้นี้จะจิตใจดีอะไรถึงเพียงนี้!
หร่วนกวางเจี่ยนนึกถึงตอนที่เผยเชียนใจกว้างกับเขาตอนคุยกันเรื่องราคางาน
ภาพ
ตอนแรกหร่วนกวางเจี่ยนเสนอราคาไปที่ สองพันหยวนต่อภาพหนึ่งเซ็ตสี่ภาพ
แต่เผยเชียนกลับบอกว่าสองพันหยวนน้อยเกินไปไม่คุ้มแรงที่ต้องออกแบบจึงยืน
กรานขึ้นราคาเป็นสามพันหยวนต่อเซ็ต
ตอนนั้นหร่วนกวางเจี่ยนคิดว่าบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีน่าจะเป็น
บริษัทที่รวยสุดๆ จนไม่สนใจเรื่องเงินแม้แต่นิด
แต่หลังจากได้รู้อะไรหลายๆ อย่างก็ตระหนักแล้วว่ามันไม่ได้เป็นเหมือนที่เขา
คิด!
บริษัทเถิงต๋าไม่ได้ร่ำรวยเลย! บริษัทมีเงินทุนรวมทั้งหมดแค่สามแสนหยวนซึ่ง
ทุ่มไปทั้งหมดกับการทำเกมจนไม่เหลือเงินสำหรับโฆษณา!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ถึงจะรู้สึกแปลกใจ แต่หร่วนกวางเจี่ยนก็เข้าใจเหตุผลได้
บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีปล่อยเกมออกมาก่อนหน้านี้หนึ่งเกม ซึ่งก็คือ
เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย ถึงจะมีกระแส แต่บริษัทจะได้กำไรอะไร
มากจากเกมราคาแค่หนึ่งหยวนกันเล่า
เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะขาดแคลนเงินทุนสำหรับการทำเกมที่สอง
ถึงเงินทุนจะมีจำกัด แต่บอสเผยก็ไม่คิดเอาเปรียบพวกเขาและเสนอราคาที่
ยอมรับได้อีกทั้งยังยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย…
เที่ยงธรรม! ชายผู้นี้เป็นคนเที่ยงธรรม!
หร่วนกวางเจี่ยนรู้สึกไม่ดีขึ้นมา บอสเผยน่าจะมีเงินเหลือสำหรับโฆษณาถ้า
เขาลดราคางานให้
แต่เขาก็รู้ว่าเสนอเรื่องนี้ ไปไม่ได้ เพราะดูจากนิสัยแล้วบอสเผยน่าจะไม่
ยอมรับเงินเขาแน่ นอกจากนี้เขายังเป็นบอสของบริษัท จะทำอะไรก็คงอยาก
รักษาหน้าตาตัวเองไว้บ้าง
คิดได้แบบนั้น ในใจของหร่วนกวางเจี่ยนก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมา
เกมที่คิดถึงผู้เล่นขนาดนี้จะต้องถูกฝังลืมเพราะไม่มีเงินสำหรับโฆษณา
ช่างบีบใจเสียจริง!
“พรรคพวก ฉันว่าเกมแม่ทัพผีต้องการความช่วยเหลือจากพวกเราแน่ะ”
หร่วนกวางเจี่ยนเสนอความคิดให้เหล่ารูมเมตฟัง
หวงและคนอื่นๆ ก็ตะลึงงันไม่ต่างกัน
“เกมนี้จะดีเกินไปแล้ว! ไม่คิดหาเงินทำกำไรเลยเหรอ”
“ไม่มีบริษัทไหนที่ทำเกมออกมาแล้วไม่ต้องการเงินหรอก ฉันว่าบอสเผยเป็น
คนมีคุณธรรม เขาไม่อยากขูดรีดเงินคนอื่นมากกว่า!”
“ใช่ ถ้าไม่อยากได้เงินคงปล่อยเป็นเกมฟรีไปแล้ว! ฉันว่าเขาน่าจะหวังพึ่ง
ราคาซื้อเกมสิบหยวนนี่แหละ!”
“ดูยากแฮะ ถึงเกมจะดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่โฆษณาก็เกิดยาก!”
“งั้นเราโฆษณาให้ดีมั้ย”
“ก็ได้ แต่เรามีกันแค่นี้…จะไปทำอะไรได้ ถ้ามีแอคใหญ่ๆ หรือ อัปโหลด
มาสเตอร์ดังๆ มาช่วยก็คงจะพอสร้างกระแสได้ แต่เราไม่รู้จักใครเลยไง!”
ทุกคนตกอยู่ในภวังค์ความคิด
หวงและคนอื่นๆ เชื่อตามที่หร่วนกวางเจี่ยนบอก พวกเขาคิดว่าเกมดีๆ อย่าง
เกมแม่ทัพผีไม่ควรถูกมองข้าม ไม่อย่างนั้นตลาดเกมมือถือในประเทศจะต้อง
สูญเสียเกมดีๆ ไปแน่!
แต่พวกเขาก็ไม่สามารถคิดหาวิธีอะไรได้มากมายไม่ว่าจะระดมสมองกันหนัก
ขนาดไหน
จะให้ไปโพสต์บนอินเทอร์เน็ตรัวๆ ว่า ‘เกมแม่ทัพผีเป็นเกมดี’ ก็ไม่ได้ เพราะ
เป็นวิธีที่ไม่มีประสิทธิภาพและอาจจะเหนื่อยฟรีเอาเปล่าๆ
ทันใดนั้นหร่วนกวางเจี่ยนก็ตบหน้าขาตัวเอง “คิดออกแล้ว! ฉันอยู่ในกลุ่มที่มี
พวกนักวาดดังๆ น่าจะไปขอให้เขาช่วยอะไรได้บ้าง”
หวงอึ้งไป “แกอยู่ในกลุ่มแบบนั้นด้วยเหรอ ทำไมข้าไม่เห็นรู้เรื่อง”
“เฮ้อ เรื่องมันยาว”
หร่วนกวางเจี่ยนเปิดคอมพิวเตอร์แล้วเริ่มอธิบาย “จำได้มั้ยว่าฉันเคยทำงาน
พาร์ตไทม์ในงานประกวดคอนเซ็ปต์อาร์ตปีก่อน ตอนนั้นฉันไปรู้จักกับอาจารย์
เฉินฉีก็เลยเอางานให้อาจารย์ดู อาจารย์ชอบงานฉัน บอกให้ฉันพัฒนางานต่อเลย
ชวนฉันเข้ากลุ่ม”
เขาหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ในกลุ่มมีแต่นักวาดยักษ์ใหญ่ในวงการเรา
ฉันอายไม่กล้าคุยอะไรเลยได้แต่สิงกลุ่มอยู่เงียบๆ มาตลอด”
บทที่ 23 แชตกลุ่ม

หวงนึกกังวล “จะช่วยได้จริงเหรอ ถึงอาจารย์เฉินฉีจะเป็นนักวาดชื่อดังใน


วงการ แต่เขาอาจจะลืมเรื่องเมื่อปีก่อนไปแล้วก็ได้ แกมั่นใจได้ยังไงว่าเขาจะจำแก
ได้”
“อีกอย่างพวกมือโปรในวงการนี้เขาตั้งราคาเงินค่าโฆษณาไว้แพงจัด ไม่มีทาง
ลดค่าตัวของตัวเองแน่ ถ้าเราไปขอให้พวกเขาช่วยโฆษณาเกมแม่ทัพผีฟรีๆ…”
หร่วนกวางเจี่ยนส่ายหน้า “ก็ไม่แน่หรอก จากที่ดูๆ มา มือโปรพวกนี้คุยง่าย
ถึงจะรับงานโฆษณาเยอะแต่ก็ช่วยโฆษณาให้กันเองบนเว่ยป๋อเป็นเรื่องปกติ”
“ที่สำคัญคือพวกเขาจะชอบงานเรารึเปล่า”
“ถ้าชอบก็คงมีใครสักคนช่วยโฆษณาแน่ แต่ถ้าไม่เราก็ทำอะไรไม่ได้”
หวงพยักหน้า “ก็ทำได้แค่ลองดู”
หร่วนกวางเจี่ยนเปิดแชตกลุ่ม หวงส่องดู มีแต่พวกคนเก่งเต็มกลุ่มจริงๆ ด้วย
เจ้าของกลุ่มชื่อเฉินฉี เขาสร้างชื่อให้ตัวเองได้สำเร็จในแวดวงนักวาดงานภาพ
ออริจินัลให้เกมในประเทศเมื่อสองสามปีก่อน นอกจากนี้ยังได้รับเชิญให้ไปเป็น
กรรมการในงานประกวดคอนเซ็ปต์อาร์ตสำหรับเกมมากมาย
ผู้ดูแลกลุ่มคนอื่นๆ ล้วนเป็นคนมีชื่อเสียงเหมือนกัน
บางคนดังในแวดวงแอนิเมชันในประเทศ
บางคนเชี่ยวชาญเรื่องการออกแบบคอนเซ็ปต์
นอกจากนี้ยังมีนักออกแบบเกม ผู้อำนวยการสร้าง นักเขียน และอื่นๆ
คนเหล่านี้เป็นคนในเครือข่ายของเฉินฉี ส่วนใหญ่เป็นนักวาด ที่เหลือเป็นคนที่
อยู่ในวงการเกม แอนิเมชัน และอื่นๆ
แค่ส่งข้อความไปในกลุ่มที่เต็มไปด้วยบรรดามือฉมัง หร่วนกวางเจี่ยนรู้สึก
กดดันมหาศาลแล้ว
เขาคิดมาเรียบร้อย ถ้าบอกไปโต้งๆ ว่าอยากให้ช่วยโฆษณาเกมให้ที น่าจะไม่
มีใครยอมทำให้ อีกทั้งยังดูไม่มีมารยาท
“สวัสดีครับทุกคน ผมเป็นนักศึกษาภาควิชาศิลปะปีสี่ ผมเพิ่งได้โอกาสทำงาน
ภาพออริจินัลชุดหนึ่ง เลยอยากขอความเห็นจากมือ อาชีพ ว่ามีจุ ดไหนที ่ ค วร
ปรับปรุงบ้างจะได้ไหมครับ”
หร่วนกวางเจี่ยนพิมพ์ไปอย่างสุภาพมากๆ
ถึงจะมั่นใจในความสามารถของตัวเอง แต่เขาก็เป็นแค่รุ่นน้องในวงการ จุด
ไหนที่ควรก็ต้องถ่อมตนเข้าไว้
กลุ่มแชตไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวเท่าไหร่และบรรดามืออาชีพล้วนให้ความ
ใส่ใจเวลาสนทนาหรือโฆษณามากกว่า
ทำให้ข้อความของหร่วนกวางเจี่ยนไม่ได้โดนดันขึ้นไปทันทีและโชว์หราอยู่ใน
กลุ่มไปสักพัก
สองนาทีผ่านไป คนชื่อ นักวาดหลิว ก็ตอบกลับ “ได้ ส่งมาเลย”
หร่วนกวางเจี่ยนส่งรูปงานบางส่วนที่เขาชอบเป็นพิเศษลงกลุ่ม “ขอบคุณที่ให้
ความช่วยเหลือ ท่านมืออาชีพ!”
นักวาดหลิว: “ไม่เป็นไร พวกเราอยู่วงการเดียวกัน ยิ่งมีปฏิสัมพันธ์กันเราก็ยิ่ง
พัฒนาขึ้น ฉันก็เพิ่งเข้าวงการมาก่อนได้สองสามปีเอง”
สองสามนาทีต่อมา
นักวาดหลิว: “!!!”
“…ฉันขอถอนคำพูด คุณต่างหากที่ เป็นมืออาชีพ! ดูการลงเงา สไตล์ภาพ
รายละเอียดพวกนี้สิ! คุณเป็นนักศึกษาปีสี่จริงๆ เหรอ”
ไม่นานพวกที่ซุ่มอ่านอยู่ก็ออกมาโต้ตอบเมื่อได้เห็นรูป
“พวกมือโปรมาอ้างว่าเป็นมือใหม่อีกแล้วเหรอ ฝีมือขนาดนี้มาบอกว่าตัวเอง
เป็นมือใหม่เนี่ยนะ ถ้านายเป็นมือใหม่แล้วฉันจะเป็นอะไร!”
“พื้นฐานแน่นมาก!”
“รูปแบบการนำเสนอเป็นเอกลักษณ์สุดๆ! มังกรนั่นคือกวนอูเหรอ ถึงสไตล์
งานจะฉีกแนวมาก แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาโดดเกินไป เป็นธรรมชาติมากๆ!”
“ให้ความรู้สึกเยี่ยมยอดมาก! ทั้งตัวละคร ทั้งพื้นหลัง ทุกอย่างดูอลังการสุดๆ
ไปเลย!”
“พวกมือใหม่นี่เป็นปีศาจกันหมดเหรอ!”
“ผมแนะนำเรื่องเทคนิคที่ใช้ในงานออริจินัลระดับนี้ไม่ได้เลย งานมันเทพ
เกินไป!”
“ดูแล้วให้ความรู้สึกเหมือนงานภาพของมืออาชีพต่างประเทศ! ขนาดงาน
ภาพของเกม Fantasy World ยังไม่สุดจัดเท่านี้เลย!”
“ก็ยังไม่ถือว่าสมบูรณ์แบบ ยังมีรายละเอียดบางจุดให้พั ฒนา…แต่คุณภาพก็
เหนืองานของฉันไปมาก…”
งานภาพไม่กี่ชิ้นที่ส่งเข้าไปทำให้ทั้งกลุ่มแตกตื่น!
เนื่องจากในกลุ่มมีแต่มืออาชีพจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะสังเกตเห็นจุดที่คน
ธรรมดาไม่สามารถมองออก
คนส่วนใหญ่มักดูแค่ว่างานไปคล้ายกับอะไร หรือมีจุดไหนที่ดีเป็นพิเศษ อย่าง
มากที่สุดก็จะพิจารณาจากมุมมองความชอบของตัวเอง
แต่เหล่ามืออาชีพจะเห็นถึงการลงเงา รายละเอียด และสไตล์งาน…
พู ด อี ก อย่ า งก็ ค ื อ คนทั ่ ว ไปไม่ ส ามารถมองความแตกต่ า งระหว่ า งงานที่
คล้ายกันสองชิ้นออก แต่มืออาชีพบอกระดับความสามารถของนักวาดได้ทันที
ตอนนี้งานที่หร่วนกวางเจี่ยนส่งเข้าไปในกลุ่มนั้นอยู่ในจุดสูงสุดจากการลง
ความเห็นของเหล่าผู้คร่ำหวอดในวงการ!
“ยอดเยี่ยม! จุดสำคัญคือการใช้จินตนาการ!”
“คนที่สร้างงานแบบนี้ขึ้นมาได้นอกจากจะฉีกกรอบตัวละครดั้งเดิมได้แ ล้วยัง
ต้องมีจินตนาการก้าวไกล นอกจากนี้ก็ต้องมีพื้นฐานทักษะที่ดีเยี่ยมบวกกับ
พรสวรรค์โดยกำเนิดถึงจะทำภาพในจินตนาการให้กลายมาเป็นของจริงได้”
“ถ้าเอางานภาพออริจินัลแบบนี้ไปสร้างเป็นเกมได้คงจะดีมาก!”
คนที่ส่งข้อความดังกล่าวมาไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเจ้าของกลุ่มแชตและนัก
ออกแบบคอนเซ็ปต์อาร์ตชื่อดังในแวดวงเกมภายในประเทศ เฉินฉี
เขาหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้น “คุณเข้ากลุ่มมาตอนไหนเหรอ ผมจำ
ไม่ได้…”
หร่วนกวางเจี่ยนบุ้ยปาก เฉินฉีจำเขาไม่ได้จริงๆ ด้วย
จะว่าไปเขาก็ถูกชวนเข้ากลุ่มโดยบังเอิญเมื่อปีก่อน แล้วก็ไม่ได้ส่งข้อความ
อะไรเข้าไปในกลุ่มเลยตั้งแต่ตอนนั้น หลังจากนั้นก็มีหลายคนเข้ากลุ่มมาเพิ่ม เฉิน
ฉีจึงลืมหร่วนกวางเจี่ยนไป
แต่นั่นก็ไม่สำคัญ สำหรับศิลปินแล้ว ต้องให้งานเป็นตัวชูโรงถึงจะถูก!
ทันทีที่ภาพเหล่านี้ส่งเข้าไปในกลุ่ม ทุกคนก็รู้จักนักวาดหน้าใหม่ผู้เปี่ยมไปด้วย
พรสวรรค์ หร่วนกวางเจี่ยน!
“ถ้าน้องเรียนจบแล้ว สนใจมาร่วมงานกับบริษัทพี่มั้ย พี่ให้เงินเดือนแพงแน่
แถมยังมีสวัสดิการดีกว่าที่อื่นๆ อีก!”
“มาร่วมงานกับเราดีกว่า! ทำงานกับเราน้องไปได้ไกลแน่เพราะเรามีโปรเจ็ กต์
เกมเยอะ โบนัสก็สูง!”
คนในกลุ่มเริ่มชักชวนให้เขาไปทำงานด้วย!
เป็นธรรมดาที่หร่วนกวางเจี่ยนจะรู้สึกดีใจ การที่งานตัวเองได้รับคำชมเชย
จากคนใหญ่คนโตในวงการถือเป็นเรื่องที่ควรภาคภูมิใจ!
จริงๆ แล้วก่อนจะทำงานนี้ เขาไม่ค่อยมั่นใจว่างานสไตล์ของตัวเองจะมีคน
ชอบหรือเด่นดังขึ้นมาได้หรือเปล่า
ในวงการคล้ายๆ กันก็ประสบปัญหานี้แบบเดียวกันนี้ ไม่มีใครรู้ว่าหนังสือหรือ
หนังจะดังหรือเปล่าก่อนหน้าที่จะปล่อยออกไป
ปัญหานี้ยิ่งหนักขึ้นสำหรับงานภาพออริจินัลที่ความสวยงามขึ้นอยู่กับมุมมอง
ของแต่ละคน
แต่ผลตอบรับจากบรรดามืออาชีพก็ทำให้ หร่วนกวางเจี่ยนมั่นใจในฝีมือของ
ตัวเอง!
แต่เขาก็ยังไม่ลืมเป้าหมายที่เข้ามาในแชตกลุ่ม
“จริงๆ แล้วงานพวกนี้ผมทำให้เกมชื่อแม่ทัพผี”
หร่วนกวางเจี่ยนพิมพ์ต่อ “แต่ตอนนี้เกมติดปัญหานิดหน่อย ผมเลยอยาก
ขอให้ทุกท่านช่วย”
เฉินฉี: “อะไรเหรอ”
หร่วนกวางเจี่ยน: “เฮ้อ เกมนี้บริษัทเล็กๆ สร้างขึ้นมาด้วยใจ แต่ไม่มีเงินทุน
มากพอ ที่มีก็ลงไปกับการทำเกมให้มีคุณภาพหมด สุดท้ายเลยไม่มีเงินเหลือ
สำหรับโฆษณา!”
“เพราะแบบนี้ผมเลยหวังว่ามืออาชีพทุกท่านในกลุ่มนี้จะช่วยโฆษณาเกมให้
แค่แชร์ลงเว่ยป๋อก็พอแล้วครับ!”
เฉินฉี: “แชร์ลงเว่ยป๋อก็พอเหรอ ได้สิ ง่ายจะตาย เกมชื่ออะไร บริษัทไหนเป็น
คนทำล่ะ”
หร่วนกวางเจี่ยน: “เกมชื่อแม่ทัพผี บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีเป็นคน
สร้างครับ”
“เถิงต๋าเหรอ เถิงต๋า…ทำไมคุ้นๆ ชื่อจัง” เฉินฉีนึกสงสัย
บทที่ 24 วงการนักวาดสั่นสะเทือน!

ครู่ต่อมา…
กลุ่มแชตแตก!
“เถิงต๋าคือบริษัทที่สร้างเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายไม่ใช่เหรอ!”
“!!!… เลิกสร้างเกมกากๆ แล้วหันมาสร้างเกมมือถือแทนเหรอ”
“ไม่อยากจะเชื่อว่ามีคนบอกว่าบริษัทนี้สร้างเกมด้วยใจ! ล้อกันเล่นรึเปล่า
เนี่ย”
ทุกคนไปค้นหาดูแล้วพบว่าเกมแม่ทัพผีนั้นสร้างโดยบริษัทเดียวกันกับที่สร้าง
เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย เกมกากๆ ที่มีกระแสอยู่ช่วงหนึ่ง!
บริษัทแบบนี้จะเอาอะไรมาสร้างเกมด้วยใจ
หร่วนกวางเจี่ยนรีบอธิบาย “จริงๆ นะครับ ถ้าไม่เชื่อ ลองไปโหลดเกมมาเล่น
ดูได้ เกมทำออกมายุติธรรมกับผู้เล่น ซื้อสิบหยวนเล่นได้ทุกอย่าง! ในเกมมีของให้
ซื้อแค่บัตรสมาชิกถาวรสามสิบหยวน มีบัตรแล้วจะสุ่มการ์ดได้เพิ่มสิบใบต่อวัน
นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีอะไรให้ซื้ออีก”
“จริงเหรอ”
เฉินฉีรู้สึกกังขา
เกมการ์ดมือถือที่ไม่มีของในเกมให้ซื้อหรือ
แล้วจะหาเงินอย่างไร
คิดว่าจะหาทุนคืนได้จากสิบหยวนที่ผู้เล่นแต่ละคนจ่ายหรือ
ทำแบบนั้นเกมก็ขาดทุนแน่ๆ สิ!
ทุกคนซื้อตัวเกมมาลองเล่นด้วยความคลางแคลงใจ
หลังจากลองเล่นดู พวกเขาก็พบว่ามันเป็นเกมที่คำนึงถึงผู้เล่นจริงๆ!
ถึงในเกมจะมีระบบร้านค้า แต่ก็มีแค่บัตรสมาชิกถาวรราคาสามสิบหยวนให้
ซื้อ!
เกมการ์ดส่วนใหญ่ต้องมีให้ซื้อพลังงาน จำนวนครั้งลงด่าน แพ็กสุ่มการ์ด และ
อื่นๆ แต่เกมแม่ทัพผีไม่มีเลย!
หมายความว่าเหล่าเกมเมอร์จะได้รับประสบการณ์การเล่นที่เหมือนกัน ไม่มี
ข้อแตกต่างระหว่างผู้เล่นสายฟรีและผู้เล่นสายวาฬ!
เพราะของในเกมที่ให้ซื้อมีแค่บัตรสมาชิกราคาสามสิบหยวน!
ราคานี้เท่ากับบัตรเติมเงินหนึ่งใบในเกม Fantasy World แต่ของเกมแม่ทัพผี
นั้นเป็นบัตรถาวร!
เฉินฉีอึ้งไป
เขาทำใจเชื่อไม่ลง!
ด้วยความที่เป็นนักออกแบบคอนเซ็ปต์อาร์ตชื่อดัง เขาจึงเคยทำงานร่วมกับ
บริษัทเกมยักษ์ใหญ่ในประเทศมาก่อนและเชี่ยวชาญแวดวงนี้
ถึงเขาจะรับผิดชอบในส่วนงานศิลป์ แต่ก็พอมีความรู้เรื่องการออกแบบเกม
เหมือนกัน
ไอเทมให้ซื้อเพิ่มในเกมเป็นตัวทำกำไรหลักของเกมการ์ด เพราะเป็นจุดให้ผู้
เล่นสายวาฬเติมเงินกันหลายร้อยหลายพัน แค่มีผู้เล่นสายวาฬหนึ่งคนก็เท่ากับมีผู้
เล่นปกติสองถึงสามร้อยคนแล้ว
รูปแบบการวางเพดานค่าใช้จ่ายตั้งต้นมาจากเกมสามก๊กสุดคิวต์ หลายๆ
บริษัทนึกอิจฉาระบบให้ซื้อไอเทมในเกมเพิ่มของเกมนี้
เป็นธรรมดาที่ชาวเกมเมอร์จะกล่าวหาว่าเกมนี้ขูดรีดผู้เล่น
แต่บริษัทเกมไหนกันที่จะไม่คิดหาเงินจากเกม
เฉินฉีไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีบริษัทที่ค ำนึงถึงผู้เล่นจนนอกจากจะใช้เงิน
ทั้งหมดไปกับการพัฒนาตัวเกมให้มีคุณภาพและไม่เหลือเงินไว้สำหรับค่าโฆษณา
ทางบริษัทยังตัดแหล่งรายได้ของตัวเองเพื่อให้ผู้เล่นทุกคนได้รับประสบการณ์การ
เล่นเท่าเทียมกันอีกด้วย!
จิตใจดีงามอะไรถึงเพียงนี้
ช่างอ่อนต่อโลก…แต่ก็มีคุณธรรมสูงส่งไม่แพ้กัน!
เฉิ น ฉี น ้ ำ ตาปริ ่ ม เขาจำได้ ว ่ า ตั ว เองเข้ า สู ่ ว งการในยุ ค รุ ่ ง เรื อ งของเกม
แบบสแตนด์อโลน เกมเมอร์อย่างเขายังคงจำจิตวิญญาณของตัวเองได้ดีและอยาก
สร้างเกมแบบสแตนด์อโลนที่คำนึงถึงผู้เล่น…
แต่ตอนนี้มีบริษัทที่มีจิตวิญญาณเช่นนี้หลงเหลืออยู่ไม่มาก
“ได้ๆ เดี๋ยวฉันช่วยแชร์ลงเว่ยป๋อตอนนี้เลย จะปล่อยให้เกมดีๆ แบบนี้ถูกฝัง
ลืมไม่ได้!” เฉินฉีตอบเป็นคนแรก
คนอื่นๆ ก็ตอบตกลงอย่างแข็งขัน
“ใช่ เกมนี้คิดถึงผู้เล่น! ฉันก็จะช่วยโฆษณาด้วย!”
“ผมมีผู้ติดตามบนเว่ยป๋อไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เดี๋ยวผมแชร์ลงกลุ่มอื่นแทน”
“คนที่จะโพสต์ลงเว่ยป๋อ อย่าลืมลงงานภาพออริจินัลไปด้วยนะ! นั่นตัวชูโรง
เกมเลย!”
แน่นอนว่ามีบางคนนึกสงสัย
ว่าเจ้านี่แค่โผล่มาขอให้พวกมืออาชีพโฆษณาให้ฟรีๆ หรือเปล่า
แต่คิดดูอีกทีก็ไม่น่าใช่แบบนั้น
ที่สำคัญเลยคืองานออริจินัลของหร่วนกวางเจี่ยนงดงามมากจนทำให้คนอื่น
อยากช่วย หากไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้เหล่ามืออาชีพคงไม่มีใครยอมช่วยโฆษณาให้
เขาแน่
นอกจากนี้ เกมนี้ยังคำนึงถึงใจผู้เล่นถึงขนาดตัดเรื่องไอเทมในเกมที่ต้องใช้เงิน
ซื้อออกไป
บริษัทนี้สร้างเกมด้วยใจ ไม่ยอมเสียเงินโฆษณาหรือขึ้นราคาเกม จะมีใครนึก
คลางแคลงใจไม่อยากช่วยอีกเล่า
จากสถานการณ์ปัจจุบัน เกมนี้มีโอกาสขาดทุนสูง การช่วยโพสต์โฆษณา
ธรรมดาอาจทำได้แค่ยื้อเวลาให้เกมคงอยู่ต่อไป ไม่นานเหล่ามืออาชีพในกลุ่มก็
โพสต์งานภาพของหร่วนกวางเจี่ยนลงเว่ยป๋อ
เฉินฉีเองก็โพสต์เหมือนกัน เขาใส่ข้อความที่เขียนเองลงไปด้วย
“งานนี้เป็นของเพื่อนในกลุ่ม ผมชอบสไตล์งานภาพออริจินัลนี้ที่มีการตีความ
ตัวละครดั้งเดิมของสามก๊กใหม่ ด้วยจินตนาการอันล้ำเลิศจึงทำให้งานภาพสไตล์
ของเขามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว”
“ปล. เหมือนว่าเขาจะทำภาพชุดนี้ให้เกมชื่อแม่ทัพผี”
เฉินฉีไม่ได้ขายตรงจนเกินไป ส่วนหนึ่งมาจากนิสัยของเขาที่ไม่ใช่คนพิมพ์
อะไรยืดยาว อีกส่วนหนึ่งก็เพราะเขาไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าเป็นการโพสต์เพราะ
ได้รับค่าโฆษณา
ถ้ายกยอมากเกินไปจะสร้างผลกระทบที่ไม่ดีได้
ข้อความที่เขาโพสต์ลงเว่ยป๋อทำให้รู้สึกเหมือนว่าเป็นการโพสต์ถึงงานของ
เพื่อนเฉยๆ
แน่นอนว่าแม้นักวาดเหล่านี้จะเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการ แต่พวกเขาก็ไม่ได้มี
ยอดผู้ติดตามสูงเท่าไหร่
ตัวอย่างเช่นเฉินฉี ถึงเขาจะออกแบบคอนเซ็ปต์อาร์ตให้เกมใหญ่ๆ ในประเทศ
หลายเกมและมีผลงานออริจินัลที่ได้รับการยอมรับเป็นวงกว้างจำนวนไม่น้อย แต่
ยอดผู้ติดตามในเว่ยป๋อของเขาอยู่ที่หลักแสนเท่านั้น
โพสต์คล้ายๆ กันนี้มักมียอดคอมเมนต์ทมากสุดประมาณไม่กี่ร้อย
แต่ไม่ใช่เพื่อนในเว่ยป๋อของเฉินฉีทุกคนจะเป็นนักวาดที่เชี่ยวชาญเรื่องงาน
ภาพออริจินัลสำหรับเกม
ในหมู่เพื่อนๆ ของเขามีทั้งที่เป็นมืออาชีพในอุตสาหกรรมแอนิเมชัน ผู้ผลิตชื่อ
ดังจากบริษัทเกมต่างๆ หรือแม้กระทั่งนักแสดงที่ไม่ค่อยดังมาก นักเขียน และ
อื่นๆ
การโฆษณาให้คนเหล่านี้รู้ย่อมสร้างผลกระทบได้บางส่วน
ไม่นานคอมเมนต์ในโพสต์บนเว่ยป๋อก็ล้นทะลักอย่างรวดเร็ว
“เอาตัวละครสามก๊กมาปรับเหรอ ล้ำมาก!”
“งานของนักวาดต่างประเทศเหรอ”
“นักวาดในบ้านเรานี่แหละ!”
“สุดยอด! แค่ดูก็รู้สึกยิ่งใหญ่สุดๆ!”
“เกมชื่อแม่ทัพผีเหรอ ทำไมไม่เคยได้ยินชื่อเลย”
“เกมมือถือเดี๋ยวนี้ใช้แต่ภาพสไตล์การ์ตูน โคตรเบื่อเลย! ใช้สไตล์แบบนี้แล้วดู
สดใหม่ดี!”
“ลองไปโหลดดูดีกว่า”
ผลตอบรับดีเกินคาด!
เอาเข้าจริงก็ถือเป็นเรื่องปกติเพราะเกมสามก๊กสุดคิวต์นั้นดังมาตลอดทั้งปี
แล้ว!
ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เกมสามก๊กสุดคิวต์ทำให้มีคนหันมาเล่นเกมการ์ดมือถือ
เยอะขึ้น ทำให้บรรดาเกมเมอร์สายมือถือต่างเลือกเล่นเกมการ์ดมือถือได้อย่าง
สบายใจ
แต่ขณะเดียวกัน พวกเขาก็เริ่มเบื่อเกมสไตล์สามก๊กสุดคิวต์เช่นกัน
โดยเฉพาะสไตล์ภาพแบบการ์ตูน หลังจากที่หลายบริษัทหันมาทำเกมที่ใช้
สไตล์ภาพคล้ายๆ กันนี้ออกมาจำนวนมาก เหล่าเกมเมอร์ก็เริ่มเบื่องานภาพสไตล์
การ์ตูนกันแล้ว
กลับกันเกมแม่ทัพผีนั้นแตกต่างออกไป แค่ภาพออริจินัลชุดนั้นก็เพียงพอที่จะ
ทำให้ชาวเกมเมอร์รู้ว่าเกมนี้ต่างจากเกมสามก๊กสุดคิวต์และดูท่าว่าจะเป็นเกมที่
น่าสนใจไม่เบา!
บทที่ 25 ยอดดาวน์โหลดนี่มนั อะไรกัน!

หม่าหยางกระสับกระส่าย
“พี่เชียน…เกมเรากากขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่เห็นมีกระแสอะไรเลย…”
“ปกติเกมใหม่ปล่อยวันแรกต้องมียอดโหลดสักหมื่นแล้ว ทำไมของเขายังหลัก
สิบอยู่เลย…”
หม่าหยางได้รับผลกระทบอย่างจัง
ตั้งแต่เกมวางขาย เขาก็กดรีเฟรชหน้าแพลตฟอร์มเกมทางการทุกหนึ่งนาที
เพื่อดูยอดดาวน์โหลดและรีวิวผู้เล่นของเกมแม่ทัพผี
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป…
สามชั่วโมง…
ห้าชั่วโมง…
ยอดดาวน์โหลดไม่ขยับไปไหนเลย!
นั่นเพราะเกมแม่ทัพผีได้ไปโผล่แค่ช่องเล็กๆ ของหน้าแนะนำ แถมชื่อเกมก็
ไม่ได้ดึงดูดอะไร ภาพโฆษณาก็ไม่มี ใครกันจะไปสนใจ
เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายนั้นอาจารย์เฉียวเป็นคนค้นเจอเพราะ
เขาเป็นอัปโหลดมาสเตอร์ที่เน้นวิจารณ์เกมแบบสแตนด์อโลนจึงต้องหาเกมใหม่ๆ
เป็นประจำอยู่แล้ว
อาจบอกได้ว่านั่นเป็นกรณีพิเศษ
ส่วนเกมเมอร์สายเกมมือถือส่วนใหญ่ไม่ค่อยมองหาเกมมือถือใหม่ๆ เล่น
เท่าไหร่ เว้นเสียแต่ว่าเกมนั้นจะเป็นเกมดังหรือมีกระแส
เกมมือถือใหม่อย่างเกมแม่ทัพผีมีโอกาสโดนกลบแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ถ้าไม่
มีแผนโฆษณาใดๆ
“อย่าคิดมาก เกมใหม่ก็เจอแบบนี้ หมดแหละ รอดูกันต่อไปแล้วกัน ” เผย
เชียนปลอบ
รอดูหรือ
ใช่เลย!
ถึงเบื้องหน้าเผยเชียนจะดูเป็นห่วงหม่าหยาง แต่ในใจกลับกำลังอิ่มเอม
เป็นเรื่องปกติที่ยอดดาวน์โหลดจะไม่กระเตื้องขึ้นเลย จะมีคนมาเล่นได้
อย่างไรถ้าไม่มีใครรู้จักเกมนี้
ไม่ต้องพูดถึงวันสองวัน ต่อให้ผ่านไปเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน เกมนี้ก็ยังคง
ไม่เป็นที่รู้จักอยู่ดี!
เผยเชียนได้แต่รอให้หนึ่งสัปดาห์นี้ผ่านไปให้เร็วที่สุด ท้ายที่สุดแล้ว เกมแม่ทัพ
ผีก็จะเลือนหายจากหน้าแนะนำไปพร้อมความนิยม เมื่อเป็นเช่นนั้น พอสรุปปิด
บัญชี เงินทุนระบบสามแสนหยวนก็จะแปลงมาเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคล
เยี่ยมที่สุด!
คำปลอบใจของเผยเชียนไม่ได้ช่วยอะไรเลยเพราะหม่าหยางยังคงห่อเหี่ยวอยู่
เหมือนเก่า
“เฮ้อ ขอรีดูยอดอีกรอบแล้วกัน สามชั่วโมงผ่านไปอาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง
บ้าง” หม่าหยางบอกพร้อมเปิดแพลตฟอร์มเกมทางการของ ERSO แล้วกดค้นหา
เกมแม่ทัพผี
พอกดเข้าไปถึงหน้าข้อมูลเกม หม่าหยางก็ตะลึงงัน
เขาขยี้ตา คิดว่าตัวเองอาจจะเห็นภาพหลอน
ก่อนหน้านี้ที่ตรวจดูอยู่หลายครั้ง ยอดดาวน์โหลดยังอยู่แค่หลักสิบ แต่ตอนนี้
กลับทะลุเกินสองพันไปแล้ว!
หม่าหยางคิดว่าตัวเองตาฝาด แต่พอดูคะแนนความนิยมและรีวิวจากผู้เล่น
เขาก็รู้ว่านี่เป็นเรื่องจริง
เหล่าเกมเมอร์เจอเกมนี้เข้าให้แล้ว!
สิ่งแรกที่หม่าหยางตรวจดูคือคะแนนความนิยมซึ่งสูงถึง 9.7!
ตอนแรกช่องรีวิวเกมแม่ทัพผีนั้นว่างเปล่า แต่ตอนนี้กลับมีรีวิวเพิ่มขึ้นมาเป็น
ร้อย!
“ทำไมเกมนี้ขายตั้งสิบหยวน แพงกว่าเกมสามก๊กสุดคิวต์อีก อะไรเนี่ย!”
“คอมเมนต์ข้างบนยังไม่ได้เล่นเกมนี้แน่เลย แค่สิบหยวนมาบ่นว่าแพง มันถูก
เกินไปด้วยซ้ำ!”
“ฉันลองเล่นแบบจริงจังดูแป๊บนึง รู้สึกว่าเป็นเกมการ์ดที่เป็นมิ ตรต่อผู้เล่น
มาก! ที่สำคัญเลยคือในเกมมีขายแค่บัตรสมาชิกถาวรใบเดียว ถ้าเอามารวมกัน
ราคารวมของเกมนี้ก็แค่สี่สิบหยวน!”
“จ่ายสี่สิบหยวนแล้วจะเล่นเท่าไหร่ก็ได้ ทุกคนเท่ากันหมด ไม่มีเติมเงินให้
ครบกำหนดหรือเปย์ซื้อของ เห็นแล้วขนลุกเลย! เกมนี้เป็นเกมมือถือจริงๆ เหรอ”
“เกมนี้คุณภาพดีมาก ในฐานะแฟนเกมการ์ดมือถือ ผมว่าเกมนี้แปลกไม่
เหมือนใคร!”
“ที่จับใจก็คือ ตัวละครในเกม! ฉันไม่เคยเห็นใครตีความตัวละครสามก๊ก
ออกมาได้มีเอกลักษณ์แบบนี้! ไม่อยากจะเชื่อเลย! ถึงจะดูตลก แต่ก็แปลกใหม่ดี!”
“งานภาพออริจินัลดีงามมาก! นี่ตั้งใจจะจ่ายเงินซื้อของในเกมเพิ่มเพราะงาน
ภาพเลยนะ! ห้ะ ไม่มีที่ให้เสียเงินเพิ่มในเกม งั้นขอรีวิวให้ห้าดาวแทนแล้วกัน!”
หม่าหยางตื่นเต้นจนมือสั่น หลังจากเปิดดูรีวิวทีละหน้า เขาไม่พบรีวิวแง่ลบ
เลยสักข้อความเดียว!
ที่ไม่มีรีวิวแง่ลบเลยไม่ได้เป็นเพราะงานภาพออริจินัลสวยและเกมขายในราคา
สมเหตุสมผลเพียงอย่างเดียว เหตุผลข้อที่สำคัญที่สุดคือผู้เล่นกลุ่มแรกมาเล่นเกม
นี้เพราะงานภาพออริจินัล!
หลังจากกลุ่มเฉินฉีโพสต์รูปลงเว่ยป๋อก็มีกระแสตอบรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง คน
ส่วนใหญ่เจอเกมนี้จากการค้นหาด้วยชื่อเกม
ถึงคนส่วนใหญ่จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อ ยที่เกมแม่ทัพผีไม่ใช่เกมแบบสแตนด์
อโลนหรือเกมออนไลน์ฟอร์มยักษ์ แต่ก็ไม่กล้ารีวิวเสียๆ หายๆ หลังจากได้เล่นเกม
ดู
นั่นเพราะเกมนี้คำนึงถึงใจผู้เล่นจริงๆ!
ทั้งงานภาพและเพลงประกอบล้วนคุณภาพดีหมด เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ได้เป็น
ปัญหาสำหรับเผยเชียน ความรู้สึกแรกที่ได้จากเกมคือความประทับใจ
พอมารวมกับการที่เกมนี้ไม่มีกำแพงค่าใช้จ่าย ผู้เล่นหลายคนก็ยิ่งชอบมากขึ้น
ไปอีก!
ทำให้เกมแม่ทัพผีเต็มไปด้วยรีวิวดีๆ หลังจากเกมเมอร์กลุ่มแรกเข้ามาเล่นเกม
นี้จากการบอกต่อกันมา!
หม่าหยางโผล่หัวออกมาจากเตียงชั้นบนแล้วพูดกับเผยเชียน
“พี่เชียน เราทำได้แล้ว! ยอดดาวน์โหลดกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีคนให้ห้าดาว
กันตรึม!”
“พรืด!”
เผยเชียนสำลักน้ำ จากนั้นก็ไอไปหนึ่งนาทีเต็ม
“ว่าไงนะ” เขาคิดว่าตัวเองหูฝาด
หม่าหยางย้ำอย่างตื่นเต้น “ตอนนี้ยอดดาวน์โหลดพุ่งขึ้นไปเกินสองพันแล้ว!
ทุกคนเขียนรีวิวดีๆ ให้เต็มเลย มีคนชมการออกแบบตัวละครของผมด้วย!”
เผยเชียนงงไปหมด
ยอดดาวน์โหลดทะลุเกินสองพันหรือ
เป็นไปได้อย่างไร เกมเมอร์พวกนี้ไปรู้จักเกมนี้จากไหนกัน
อีกอย่าง ทกคนรีวิวให้ห้าดาวกันหมดเลยหรือ
บ้าไปแล้ว! ตัวเกมใช้เทมเพลตเกมการ์ดมือถือที่ใช้กันทั่วไป ไม่มีรูปแบบการ
เล่นใหม่ๆ ทำไมถึงได้รีวิวห้าดาวมาได้
ถ้าเป็นเกมของคนอื่นๆ สิ่งแรกที่เผยเชียนคิดคือผู้พัฒนาเกมต้องจ้างคนมา
รีวิวกับกดให้คะแนนสูงๆ แน่!
แต่เขาเป็นเจ้าของเกมนี้!
เขารู้ดีว่าตัวเองไม่ได้ไปจ้างใครรีวิวเลย!
เผยเชียนใช้เงินไปหมดแล้ว จะเหลือเงินไปจ้างคนมารีวิวให้ได้อย่างไร
นอกจากนี้ถึงจะมีเงิน เผยเชียนก็ไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ สิ่งที่เขาต้องการที่สุด
คือให้เกมหายไปอย่างเงียบเชียบ ทำไมเขาจะต้องทำอะไรที่ทำให้เกมเป็นกระแส
ด้วย
หรือว่ามีบริษัทไหนจ้างคนมารีวิวเกมตัวเองแล้วดันพลาดมาลงที่เกมเขาแทน
แต่ก็ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น ใครกันจะทำพลาดขนาดไปกดรีวิวผิดเกมได้
หรือว่า…จะเกิดเหตุการณ์คล้ายกับเกมที่แล้ว!
เผยเชียนเข้าเว็บไซต์ทรัพยากรของ ERSO แล้วตรวจดูยอดดาวน์โหลดของ
เกมแม่ทัพผี
หม่าหยางไม่ได้โกหก ยอดพุ่งขึ้นมาจริงๆ ด้วย!
อีกทั้งรีวิวต่างๆ ที่ผู้เล่นทิ้งไว้ยังเหมือนเวลาไปจ้างรีวิวด้วย ทุกคนชมว่าเกม
แม่ทัพผีเป็นเกมที่คิดถึงใจผู้เล่น!
ยอดดาวน์โหลดยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว รวมทั้งยอดคนซื้อบัตรสมาชิก
ถาวรในเกม
เผยเชียนตะลึงงันไปขณะมองตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
โลกนี้มันบ้าไปแล้ว!
รอบนี้มีอะไรผิดพลาดอีกหรือ!
วิสัยทัศน์เริ่มมืดดำ เผยเชียนล้มตัวลงบนเตียง
บทที่ 26 มิตรภาพของคนดี!

“พี่เชียน!”
“พี่เชียน!”
เผยเชียนลืมตาตื่นเพราะหม่าหยางเรียกไม่หยุด
“เฮ้อ ผมรู้ว่าพี่ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดาที่ทุกอย่างไปได้ดีเพราะพี่ทุ่มเทกับเกม
นี้มาก แต่อย่าตื่นเต้นจนเกินไป มันไม่ดีกับร่างกาย”
“ทำใจร่มๆ! เราทำสำเร็จแล้ว!”
ความตื่นเต้นของหม่าหยางสื่อผ่านคำพูดออกมาหมด
เผยเชียนละเหี่ยใจ กลอกตามองบนอย่างหงุดหงิด
ดีใจหรือ
ตื่นเต้นหรือ
ฉันกำลังเศร้าอยู่ต่างหาก!
เผยเชียนฝืนยิ้มด้วยสีหน้าไม่สู้ดี “เย้ สำเร็จแล้ว…”
เขาไม่เข้าใจเลย มันไปผิดพลาดตรงไหนกัน
แม้จะเจ็บปวด หดหู่ และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับความพ่ายแพ้ แต่
เผยเชียนก็ต้องรู้ให้ได้ว่าเขาพลาดได้อย่างไร!
ทำไมเกมถึงดังขึ้นมาได้
หรือเป็นเพราะมีอัปโหลดมาสเตอร์ทำคลิปวิจารณ์เกมเขาอีก
แต่ประเด็นคือเกมที่เขาสร้างรอบนี้ไม่มีอะไรให้วิจารณ์เสียๆ หายๆ!
เขาค้นหาชื่อแม่ทัพผีบนเว็บไซต์เชียนตู้เพื่อหาข้อมูลที่พอจะบอกได้ว่าเกิด
อะไรขึ้น
ในช่องรีวิวไม่มีคนบอกว่า ‘ตามมาจากคลิปของ XX’ หรืออะไรคล้ายๆ กันนี้
เลย
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่” เผยเชียนสับสนไปหมด
จู่ๆ ก็มีคนมากมายรู้จักเกมของเขา!
เผยเชียนไม่ได้โฆษณาอะไรเลยด้วยซ้ำ
เป็นไปได้น้อยมากที่หม่าหยางจะเป็นคนโฆษณา ถึงจะอยากแค่ไหนก็ไม่ได้รู้
จากคนเยอะพอที่จะทำแบบนั้นได้
ที่เหลืออยู่ก็มีแค่คนบนเว็บไซต์ ERSO ที่เผยเชียนติดต่อตอนซื้อเทมเพลตและ
ทรัพยากรต่างๆ
“เดี๋ยวนะ เหมือนหลายๆ คนที่มารีวิวจะพูดถึงงานภาพออริจินัล!”
“ชัดเลยว่าพวกนี้มาเล่นเกมนี้เพราะงานภาพ!”
“แต่จะเห็นงานภาพได้ยังไงถ้าไม่โหลดเกมมาเล่น”
เมื่อคิดได้แบบนั้น เผยเชียนก็เปิดเว็บไซต์เว่ยป๋อแล้วค้นชื่อเกมแม่ทัพผี
ครั้งนี้เขาได้คำตอบ
นักวาดดังๆ หลายคนแชร์งานภาพออริจินัลของเกมแม่ทัพผีกันว่อน!
บางโพสต์แชร์เข้าไปในกลุ่มเกมและแอนิเมชัน แม้แต่แอคเค้าต์ชื่อดังด้าน
เทคโนโลยีก็แชร์ไปด้วย!
ยอดแชร์ถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของเว่ยป๋อเสียอีก
เพราะเหตุนี้ชื่อเกมแม่ทัพผีจึงไปขึ้นอยู่ในหมวดคำค้นหาที่กำลังมาแรง ถึงจะ
ไม่ได้อยู่บนสุดในรายชื่อ แต่ก็มีคนค้นหาคำนี้ไม่น้อยทีเดียว!
เผยเชียนอึ้งไป
ใครเป็นคนทำ
ใครกันที่จะมีอิทธิพลขนาดทำให้มืออาชีพในวงการมากมายออกมาช่วยกัน
โฆษณาเกมแม่ทัพผี
แม้แต่บริษัทโฆษณายังทำไม่ได้ขนาดนี้g]p!
ที่สำคัญคือศิลปินเหล่านี้ต่างเป็นคนมีชื่อเสียงในแวดวงของตนเอง เป็นกลุ่ม
คนที่มีอัตตาสูงถึงขนาดอาจไม่รับงานโฆษณาด้วยซ้ำ!
เมื่อตามไปที่ต้นโพสต์ เผยเชียนก็พบว่าเจ้าของโพสต์คือหร่วนกวางเจี่ยน!
บัญชีผู้ใช้ส่วนตัวของหร่วนกวางเจี่ยนมียอดผู้ติดตามแค่ไม่กี่ร้อยคน แต่กลับมี
ยอดแชร์ออกไปนับพันครั้ง ตอนนี้ก็ยังมีการแชร์อยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่มีทีท่าว่าจะ
หยุด!
ถึงเผยเชียนจะไม่เข้าใจว่าทำไมโพสต์ของบัญชีผู้ใช้ที่มียอดผู้ติดตามไม่กี่ร้อย
จะมีอิทธิพลถึงขนาดนี้ แต่ก็ชัดเจนว่าทุกอย่างนั้นเริ่มมาจากโพสต์โฆษณาของห
ร่วนกวางเจี่ยน
เขาตบหัวตัวเอง “ตายโหง! คราวนี้ต้นเหตุมาจากพวกของเราเอง!”
แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าหร่วนกวางเจี่ยนจะทุ่มเทช่วยเขาโฆษณาเกมไปทำไม
ไม่เห็นจะมีเหตุผลอะไรให้ทำอย่างนั้น
ไม่ใช่ว่าเราติดต่อคบค้ากับเพราะเงินหรือ ฉันจ่ายเงินซื้องานภาพออริจินัล พอ
ได้งานมาก็น่าจะจบแค่นั้น ทำไมนายต้องทุ่มเทช่วยโฆษณาเกมให้ด้วย ทำไมไม่
เอาเวลาไปทำอะไรอย่างอื่น
ฉันไม่ได้จ่ายเงินเพิ่มให้ช่วยโฆษณาด้วยซ้ำ!
เผยเชียนงงไปหมด
เขาตัดสินใจถามไปในเว็บไซต์ของ ERSO เพื่อสืบสาวเรื่องทั้งหมด
“คุณโฆษณาเกมแม่ทัพผีบนเว่ยป๋อให้เหรอ”
ไม่กี่นาที่ต่อมา หร่วนกวางเจี่ยนก็ตอบข้อความ
“ใช่ ผมให้เพื่อนนักวาดช่วยแชร์ให้นิดหน่อย ไม่คิดว่าจะไปไกลได้ขนาดนี้”
“บอสเผย ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกนะ ผมแค่รู้สึกเสียดายถ้าเกมดีๆ แบบนี้จะ
ถูกฝังลืม!”
“คุณยอมเสียเงินทั้งหมดสามแสนไปกับตัวเกมจนไม่มีเงินทำโฆษณา…บอกได้
เลยว่าผู้พัฒนาที่มีใจรักแบบคุณนี่หายากมาก!”
“เพื่อนนักวาดทุกคนของผมสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของคุณเลยช่วยแชร์กัน”
“อีกอย่างเกมแม่ทัพผีเป็นเกมที่คิดถึงผู้เล่นและเป็นเกมที่คุณภาพดีมาก แต่ก็
แน่นอนว่าที่ได้ผลตอบรับดีก็เป็นเพราะงานภาพผมสวยด้วย”
“ทุกอย่างมาผสมรวมกันทำให้เกมที่จริงใจและคุณภาพดีอย่างแม่ทัพผีย่อม
ต้องดังอยู่แล้ว! ผมไม่ได้ทำอะไรมากเลย!”
เผยเชียนตะลึงงันไปเมื่อได้อ่านข้อความที่หร่วนกวางเจี่ยนตอบกลับ
เอาเข้าจริงเขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าจะตอบกลับไปอย่างไรดี!
ผู้พัฒนาที่มีใจรักแบบฉันหายากหรือ
เกมแม่ทัพผีเป็นเกมที่คิดถึงผู้เล่น ย่อมต้องดังเป็นธรรมดาหรือ
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
มีใจรักหรือ ที่ฉันต้องการคือให้เกมขาดทุนต่างหาก!
ไม่ได้! แย่ที่สุด! ถ้าดังแบบนี้แล้วจะขาดทุนได้อย่างไร!
เผยเชียนอยากจะสาปส่งหร่วนกวางเจี่ยน
แกว่างมากหรืออย่างไร!
แกจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ได้เงินไปแล้วก็เอาไปใช้แสวงสุขเข้าตัวสิ เกมจะ
ดังไม่ดังก็ไม่ใช่เรื่องของแก!
แต่เผยเชียนก็ไม่สามารถส่งข้อความแบบนั้นออกไปได้ จึงได้แต่ลบสิ่งที่ตัวเอง
พิมพ์ทิ้งไป
ที่ต้องทำแบบนั้นก็เพราะเขาไม่สามารถบอกใบ้หรือชี้ให้เห็นว่ามีระบบนี้อยู่
และไม่สามารถทำสิ่งใดให้คนสงสัยถึงระบบได้
เผยเชียนจึงต้องตอบกลับไปอย่างเบิกบานใจเหมือนคนทั่วไป!
หร่วนกวางเจีย่ นรออยู่นานก็ไม่เห็นเผยเชียนตอบกลับ
เขามั่นใจว่าบอสเผยจะต้องกำลังดีใจจนพูดอะไรไม่ออกแน่
หร่วนกวางเจี่ยนพิมพ์ต่อ “บอสเผย คุณไม่ต้องพูดอะไรหรอก”
“ผมโฆษณาให้เอง ไม่ได้ตั้งจะบอกให้คุณรู้ด้วยซ้ำถ้าคุณไม่มาถาม”
“ไม่ต้องอายอะไรด้วย ถ้าเกมแม่ทัพผีดังก็จะมีใครหลายคนได้เห็นงานภาพ
ของผม และเป็นผลดีต่อการทำงานในอนาคตด้วย”
“ขอให้เฮงๆ นะครับบอสเผย! ผมเชื่อว่าคุณจะต้องทำเกมที่ดีกว่านี้ออกมาได้
แน่ หวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันอีก!”
เผยเชียนอึ้งไปเมื่อได้อ่านข้อความอันอบอุ่นของหร่วนกวางเจี่ยน
ทำงานร่วมกันอีกหรือ
ไม่! ไม่เอาแล้ว!
แกมันมืออาชีพแสร้งทำเป็นมือใหม่! ฉันจะขาดทุนได้อย่างไรถ้าทำงานกับแก
อีก
เมื่อไม่สามารถคร่ำครวญออกไปได้ เผยเชียนจึงได้แค่ตอบไปสั้นๆ
“ขอบคุณนะ”
ถึงมือจะพิมพ์ไปอย่างนั้น แต่ในใจกำลังกัดฟันแน่น
เมื่อเห็นเผยเชียนตอบกลับมาว่า ‘ขอบคุณ’ หร่วนกวางเจี่ยนก็ยิ้มอย่างสบาย
ใจ
การติดต่อคบค้าระหว่างคนดีด้วยกันนั้นใสสะอาดดุจน้ำบริสุทธิ์จริงๆ
ช่างดีเสียจริงที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับคนเยี่ยมยอดอย่างบอสเผย!
บทที่ 27 ล้มเหลวที่จะขาดทุน!

“ยินดีด้วย! เกมแม่ทัพผีของท่านได้รับการแนะนำในหมวดเกมมาแรงที่สุด
ประจำเดือน โปรดอย่าอัปเดตตัวเกมของท่านในเร็วๆ นี้เพื่อป้องกันไม่ใ ห้ มี
ข้อผิดพลาดเกิดขึ้นกับตัวเกม…”
เผยเชียนรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็นเมื่อเห็นข้อความ
อีกแล้ว! เป็นแบบนี้อีกแล้ว!
พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก แห่ตามกันมา!
ความจริงแล้ว ทั้งเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายและเกมแม่ทัพผีต่าง
ดังขึ้นมาได้เพราะการกระทำเล็กๆ ที่คาดไม่ถึง
เกมโดดเดี่ยวเดียวดายดังเพราะอาจารย์เฉียวทำคลิปวิจารณ์เกม ส่วนเกมแม่
ทัพผีก็มีกระแสเพราะหร่วนกวางเจี่ยนโพสต์งานภาพออริจินัลของตัวเองลงไปใน
กลุ่มนักวาด
ถ้ามีแค่นั้น เหตุการณ์คงไม่เลวร้ายขนาดนี้
ถึงอย่างไรคนที่ได้รับอิทธิพลจากการกระทำดังกล่าวก็เป็นแค่คนกลุ่มเล็กๆ
เท่านั้น
เกมคงจะโดนกลบหายไปพร้อมกระแสที่ซาลง
แต่เหตุผลที่ทำให้เผยเชียนต้องทุกข์ระทมถึงขั้นนี้เป็นเพราะระบบแนะนำ
อัตโนมัติของ ERSO
แพลตฟอร์มทางการของ ERSO จะเปรียบเทียบตัวเลขต่างๆ ระหว่างเกมที่
อัปโหลดในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน และเกมที่มีผลตอบรับมากกว่าก็จะได้ขึ้นหน้า
แนะนำ
ทั้งสองเกมที่เขาทำมาต่างโดนแบบนี้ การกระทำเล็กๆ ที่คาดไม่ถึงทำให้
ตัวเลขพุ่งขึ้นจนแพลตฟอร์มสังเกตเห็นแล้วดันขึ้นไปหน้าแนะนำ
และด้วยตัวเกมที่เป็นเอกลักษณ์ก็ทำให้ทั้งสองเกมดังระเบิดยิ่งขึ้นไปอีก
หลังจากได้ขึ้นหน้าแนะนำ…
แล้วสถานการณ์ก็เลยเถิดไปไกลจนควบคุมไม่ได้!
ตอนนี้เกมแม่ทัพผีได้ขึ้นแนะนำในหมวดที่สุดยอดมากๆ นั่นคือ หมวดเกมมา
แรงที่สุดประจำเดือน เพราะชื่อหมวดนี่เองจึงทำให้ยอดดาวน์โหลดพุ่งกระฉูด!
พอไปบวกกับคะแนนความนิยมที่สูงมากๆ ของเกมแม่ทัพผีและความเห็นดีๆ
มากมายในช่องรีวิว…
ก็บังเกิดเป็นผลลัพธ์เกินคาดฝัน!
เผยเชียนไม่กล้าตรวจดูตัวเลขจากส่วนหลังบ้านเพราะกลัวจะยิ่งหดหู่เข้าไป
ใหญ่
เอาเข้าจริงเขาอยากอ้อนวอนขอให้แพลตฟอร์มเลิกดันเกมขึ้นหน้าแนะนำ!
แต่ก็ทำแบบนั้นไม่ได้
ระบบแนะนำของแพลตฟอร์ ม คำนวณอั ต โนมั ต ิ โ ดยอ้ า งอิ ง ตามตั ว เลข
นอกจากนี้ถ้าเขาทำแบบนั้นจริงๆ จะเป็นการขัดต่อกฎและโดนระบบตักเตือนแน่
ตอนนั้นเองเผยเชียนก็เข้าใจความหมายของประโยคที่ว่า…
ชีวิตไม่มีอะไรสมหวังดั่งใจปอง!

เผยเชี ย นยื น อยู่ ค นเดี ย วบนดาดฟ้ า ของหอพั ก ในใจเต็ ม ไปด้ ว ยอารมณ์
มากมาย
เขาไม่อยากเตร็ดเตร่อยู่แถวหอพักเพราะใกล้ถึงเวลาสรุปบัญชีแล้ว จึงกลัวว่า
หม่าหยางจะมาได้ยินเสียงเขาสะอื้นไห้
หน้าจอระบบปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเผยเชียนอีกครั้ง ถึงเวลาสรุปบัญชีของ
ระบบแปลงความมั่งคั่งแล้ว
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ: เผยเชียน>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1:1>
<ดำเนินการสรุปบัญชี…>
<เงินทุนระบบ: 514,723.5 (↑214,723.5)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 224.6>
<กำลังดำเนินการสรุปบัญชี…>
<กำลังแปลงค่าเงิน…>
<เงินทุนระบบ: 514,723.5>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 2,371.8 (↑2,147.2)>
พอเห็นตัวเลข เผยเชียนก็คิดอยากฆ่าตัวตายขึ้นมาเล็กน้อย
เขาไม่คิดไม่ฝันว่าเกมการ์ดจะทำเงินได้มากขนาดนี้!
ในเงินห้าแสนหยวนก้อนนี้ ส่วนหนึ่งเป็นรายได้จากเกมโดดเดี่ยวเดียวดาย
กลางทะเลทรายซึ่งตัวเกมยังวางขายอยู่ และรายได้รวมจากราคาแค่หนึ่งหยวนก็
ถือว่าน่าประทับใจมาก
แต่มันก็เป็นแค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้น
รายได้ส่วนใหญ่มาจากเกมแม่ทัพผี!
เผยเชียนคิดคำนวณคร่าวๆ ด้วยทักษะคณิตศาสตร์เบื้องต้นที่มี
ภายในสัปดาห์เดีย ว เกมแม่ทัพ ผีทำกำไรสุ ทธิไ ด้ ป ระมาณห้าแสนหยวน
หมายความว่ายอดรายได้รวมทั้งหมดอยู่ที่ประมาณหนึ่งล้านหยวน
สัปดาห์ต่อมา รายได้ก็ต้องพุ่งขึ้นไปอีก เพราะบรรดาเกมเมอร์ยังทยอยเข้ามา
ประกอบกับความนิยมของเกมที่พุ่งสูงขึ้นไปอีก
ถึงตัวเกมจะไม่สามารถทำเงิน ได้เพิ่มในอนาคตเพราะไม่มีการวางเพดาน
ค่าใช้จ่าย แต่ตัวเกมก็ครองตลาดผู้เล่นขนาดใหญ่ได้ คงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสาม
เดือนกว่ากระแสจะซาลง!
ดูจากตัวเลขแล้ว มีความเป็นไปได้สูงที่เกมจะทำเงินได้มากกว่าห้าล้านหยวน
ต่อเดือน!
แม้จะเป็นยอดปกติทั่วไปของเกมมือถือ แต่ก็ถือว่ าทำกำไรได้สูงมากสำหรับ
บริษัทที่มีพนักงานน้อยกว่าสามสิบคน
ทว่ากรณีของเผยเชียนไม่ใช่อย่างนั้น เพราะเขาทำเกมด้วยตัวคนเดียวมา
ตั้งแต่ต้น!
หม่าหยางมีหน้าที่แค่ผลาญเงินของเขาสามพันหยวนต่อเดือนและช่วยกรอก
แบบฟอร์ม ส่วนเผยเชียนเป็นคนซื้อเทมเพลตและงานภาพทั้งหมดซึ่งมี มูลค่า
รวมถึงสามแสนหยวน
นอกจากจะคืนทุนได้ในสัปดาห์แรกแล้ว ยังทำกำไรได้อีกสองแสนหยวน!
ถึงตัวเลขจะไม่ได้สูงเกินเหตุ แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เผยเชียนรู้สึกสลดใจ!
ที่แย่ที่สุดคือเกมแม่ทัพผีจะทำเงินเพิ่มให้เผยเชียนได้เรื่อยๆ ในอนาคต!
อย่างเกมสามก๊กสุดคิวต์ก็ยงั ดังอยู่แม้จะเปิดให้บริการมาหนึ่งปีเต็ม…
หมายความอย่างไรน่ะหรือ
ก็หมายความว่าต่อจากนี้แม้เผยเชียนจะพยายามทำให้บริษัทขาดทุนอย่างไร
เขาก็ไม่สามารถเสียเงินไปหมดทั้งก้อนได้!
เดือนต่อๆ ไปจะมีเงินจำนวนคงที่ฝากเข้าเงินทุนระบบทุกเดือน แต่ระบบจะ
คิดยอดขาดทุนจากเงินทุนระบบตั้งต้น!
ยกตัวอย่างการปิดบัญชีรอบนี้ ระบบคำนวณยอดกำไรขาดทุนด้วยวิธีที่ง่าย
มากๆ นั่นคือเอายอดเงินทุนระบบวันปิดบัญชีมาเทียบกับยอดตั้งต้นสามแสน
หยวน ที่เกินจากนั้นก็เป็นกำไร กลับกันก็เป็นขาดทุน
ถ้าเผยเชียนมีเงินเข้าทุกเดือนมากกว่ายอดรวมของเงินทุนระบบตั้งต้น ระบบ
ก็จะตัดสินว่าเขาได้กำไรไปตลอด!
เฮงซวย! นี่มันเรื่องเฮงซวยที่สุด!
เผยเชียนนึกอยากตายขึ้นมาจริงๆ
“ช่างน่าเวทนาเสียจริง”
“หาเงินมาได้สองแสน แต่แปลงมาเหลือแค่สองพัน!”
“ที่แย่ไปกว่านั้นคือ ต่อไปฉันจะได้เงินมาโดยไม่ต้องทำอะไร แล้วก็ไม่มีทางทำ
ให้ตัวเองขาดทุนได้อีกอย่างนั้นหรือ”
“ไม่ ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่! ใจเย็นๆ!”
“ขอคิดก่อน มันไม่น่าจะแย่ขนาดนี้…”
เผยเชียนพยายามตั้งสติขณะที่ข้อความใหม่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอระบบ
<วันปิดบัญชีครั้งต่อไป: อีก 90 วัน>
<ดำเนินการทบรวมเงินทุนระบบ จำนวนเป้าหมาย: 500,000>
<ตรวจพบว่าเงินทุนระบบมีจำนวนเกิน 500,000 ยกเลิกการทบรวม>
<เงินทุนระบบ: 515,792.5>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 2,371.8 (↑2,147.2)>
“ไม่นะ…!”
“ตายโหงจริงๆ ด้วย!”
เป็นอย่างที่เผยเชียนคิดไว้ก่อนหน้านี้!
ระบบจะทบยอดเงินทุนระบบให้ทุกๆ รอบการปิดบัญชี
ยอดที่ทบเพิ่มให้และวันปิดบัญชีจะแตกต่างไปในแต่ละรอบ
เพราะยอดเงินทุนระบบจำกัดไว้ที่ห้าแสนหยวน และเงินทุนระบบที่เผยเชียน
มีในปัจจุบันนั้นเกินห้าแสนหยวน รอบนี้จึงไม่มีการทบยอดเพิ่มเติมให้
กลับกันถ้าเผยเชียนทำให้ตัวเองเสียเงินไปได้หมดสามแสน เขาก็จะได้เงินห้า
แสนก้อนใหม่มา…
เขาคิดอยากฆ่าตัวตายขึ้นมาทันใด
เงินสามแสนหยวนที่ควรจะได้กลายเป็นสองพัน!
ใครกันจะยอมรับได้
ขณะเดียวกันเงินทุนระบบก็เพิ่มขึ้นมาประมาณหนึ่งพันหยวนภายในไม่กี่นาที
ยอดนั้นเป็นรายได้จากเกมแม่ทัพผี
เผยเชียนรู้สึกสิ้นหวังและเริ่มสงสัยในความสามารถของตัวเอง
“หรือฉันควรเปลี่ยนแนวคิดดี ต่อไปคิดหาทางทำเงินแทนจะดีกว่ามั้ย”
“ไม่ มันสายเกินไปแล้ว…”
“อีกอย่างฉันอาจจะไม่ได้โชคดีแบบนี้อีกก็ได้”
ตอนนั้นเองความคิดที่ว่าตัวเองควรเปลี่ยนไปมุ่งหากำไรแทนก็หายวับไปจาก
หัว
เหตุผลที่เป็นแบบนั้นก็แสนเรียบง่าย เพราะรายได้มันน้อยมากและไม่น่าจะ
ทำได้เลย!
ทั้งเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายและเกมแม่ทัพผีล้วนได้โชคช่วยจึ ง
ดังระเบิดระเบ้อขึ้นมา!
ต่อไปเผยเชียนจะเฮงแบบนี้อีกไหมก็ยังไม่แน่ใจ!
ถ้าพยายามมุ่งหน้าสร้างกำไรอย่างถูกต้องแล้วดันกลายเป็นว่าได้กำไรมานิด
เดียว แต่ก็ไม่ถึงกับขาดทุน ถ้าเป็นแบบนั้นสถานการณ์จะไม่ชวนปวดหัวหรอก
หรือ
ประเด็นสำคัญคือต้องเดินตามแผนแรกต่อไป!
อัตราการแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 ต่อให้หามาได้หนึ่งล้านหยวนก็จะกลายเป็น
ว่าเขาได้เงินมาแค่หนึ่งหมื่นหยวน! ช่างเป็นอัตราที่เลวร้ายเสียเหลือเกิน!
บทที่ 28 จ้างพนักงานคือแผนที่ดี

“แทนที่จะมัวมาคิดเรื่องไร้สาระ ฉันควรคิดหาวิธีว่าจะใช้เงินก้อนนี้ไปยังไง…”
เผยเชียนยืนรับลมฤดูใบไม้ร่วงพลางครุ่นคิดหากลยุทธ์อยู่บนดาดฟ้าของ
หอพัก
“แค่เอาเงินไปซื้อทรัพยากรที่จำเป็นต้องใช้ในเกมมันช้าเกินไป!”
“รายจ่ า ยหลั ก ของบริ ษ ั ท มี อ ะไรบ้ า ง ค่ า เช่ า ค่ า ไฟ เครื ่ อ งใช้ ส ำนั ก งาน
เงินเดือนพนักงาน…”
“ถ้าต้องจ่ายทั้งหมดที่ว่ามา รายจ่ายต่อเดือนไม่พุ่งไปไกลเลยเหรอ”
“ใช่…เอาแบบนี้แหละ ไหนดูซิ”
เผยเชียนหยิบมือถือเข้าเครื่องคิดเลขแล้วคำนวณอย่างรวดเร็ว
“หาเงินได้ห้าแสนในสัปดาห์แรก…เดือนหน้าตัวเลขต้องพุ่งขึ้นอีกแน่ กะดูแล้ว
น่าจะหาเงินได้ทั้งหมดห้าล้านหยวน กำไรสุทธิอยู่ที่สองล้านห้าแสนหยวนต่อ
เดือน”
“ถึงตัวเลขจะตกลงในอีกสองเดือนถัดไป แต่ก็ไม่น่าจะตกฮวบทันที”
“วันปิดบัญชีคืออีกสามเดือน”
“ถ้าประเมินให้ต่ำสุด ยอดกำไรสุทธิน่าจะพุ่งไปแตะหกล้านหยวน…”
“แม่งเอ๊ย! ทำอะไรลงไปเนี่ย!”
“ถ้าปล่อยไปแบบนี้ กำไรที่แปลงมาเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคลจะเท่ากับหก
หมื่นหยวน แต่ถ้าเสียไปหมด เงินในความมั่งคั่งส่วนบุคคลของฉันก็จะเพิ่มมาห้า
แสนหยวน…”
“จิ๊! ต่างกันเกินไปแล้ว!”
“ก็หมายความว่า ฉันต้องเสียเงินให้ได้หกล้านภายในสามเดือน…”
“คิดสิ คิด! จะเอาเงินไปลงตรงไหนให้ได้มากที่สุดดี”
“ถึงจะเช่าออฟฟิศที่แพงที่สุด ราคาประมาณห้าหยวนต่อตารางเมตรต่อวัน
ถ้าพื้นที่กว้างสามพันเมตร ก็เท่ากับสี่แสนห้าหมื่นหยวนต่อเดือนเอง”
“จ้างพนักงานสามสิบคน คนละห้าพันหยวนต่อเดือน…ไม่สิ เงินเดือนเจ็ดพัน
หยวนไปเลย ก็จะเป็นสองแสนหนึ่งหมื่นหยวน”
“ทำไมเหมือนว่าฉันกำลังพยายามดับไฟด้วยน้ำแก้วเดียววะ…”
“คนอื่นๆ ชอบบอกว่าตั้งบริษัทต้องใช้เงินเยอะมาก แต่ทำไมฉันว่ามันถูกแสน
ถูก!”
“งั้นซื้อของที่แพงที่สุดมาเป็นของใช้สำนักงานดีไหม น่าจะช่วยผลาญเงินไป
ได้สักล้าน”
“ใช่…นี่เป็นทางที่เร็วที่สุดในการผลาญเงิน”
“แต่…ให้ไปหาที่ตั้งออฟฟิศ จ้างพนักงาน ซื้ออุปกรณ์ก็ดูยุ่งยากชะมัด! ไม่เคย
ทำมาก่อนสักอย่างเลยด้วย”
“ช่างเถอะ ค่อยๆ คิดแล้วกัน…”
แค่คิดว่าต้องไปจ้างคนและหาที่ตั้งออฟฟิศก็ทำให้เผยเชียนปวดหัวหนัก
เขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนในชาติที่แล้วเพราะไม่ถนัดและไม่ใช่สิ่งที่ชอบ
เรื่องพวกนี้มันยุ่งยากเกินไป!
แต่ก็ชัดเจนว่านี่คือหนทางที่เร็วที่สุดในการผลาญเงิน
เขาตัดสินใจพักเรื่องนี้ไปก่อนแล้วค่อยกลับมาคิดใหม่พรุ่งนี้

กลับมาที่หอพัก
“พี่เชียน เกมเราฮิตสุดๆ! เราออกไปหาอะไรกินฉลองกันดีมั้ย”
หม่าหยางแสนสุขสม
“โอย…”
เผยเชียนนึกขึ้นได้ว่าเขาสัญญากับหม่าหยางไว้ว่าจะพาไปกินบุฟเฟต์หัวละห้า
สิบหยวนฉลอง
“ได้ ไปกัน!”
ถึงจะชวดเงินสามแสนไป แต่อย่างน้อยก็ได้สองพันหยวนมาแทน…
คงจะไม่มากเกินไปถ้าจะเสียเงินฉลองร้อยหยวนจากรายได้ที่ได้มาสองพัน
หยวน…
แต่เผยเชียนก็ไม่ได้อารมณ์ดีขึ้นเลย…
ทางทิศใต้ของมหาวิทยาลัยมีร้านบุฟเฟต์หรูที่คิดราคาห้าสิบแปดหยวนต่อคน
สำหรับนักศึกษาในปี 2009 แล้วถือเป็นร้านที่หรูสุดๆ
เผยเชียนนั่งมองหม่าหยางด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ขณะที่อีกฝ่ายถือจานเค้กซ้อน
เป็นตั้งกลับมาพร้อมเครื่องดื่มแก้วใหญ่
เนื้อสำหรับปิ้งย่างมีจำกัดตามจำนวนคน แต่เค้ก ผัก และผลไม้สามารถหยิบ
ได้ไม่อั้น
เห็นได้ชัดว่าหม่าหยางเตรียมตัวมากินเต็มที่ กะจะเอาให้แน่นท้องตอนกลับไป
“พี่เชียน ทำไมเหมือนเครียดๆ เรื่องอะไรอยู่”
“จริงด้วยสิ เริ่มเห็นความเป็นทายาทตระกูลร่ำรวยของพี่แล้ว!”
“เกมนี้น่าจะทำเงินให้พี่ได้อย่างน้อยก็หลายหมื่น ทำไมถึงดูไม่สบอารมณ์แบบ
นี้ หรือพี่จะตั้งความหวังไว้สูงกว่านี”้
“อีกอย่างพี่ไม่สนใจอาหารอร่อยๆ พวกนี้เลย!”
หม่าหยางยัดอาหารเข้าปากระหว่างที่ถามจนพูดไม่ค่อยจะรู้เรื่อง
เผยเชียนมองอาหารทั้งหมดบนโต๊ะก่อนจะหยิบเนื้อมากินสองสามชิ้น แต่
กลับไม่ได้รสชาติอะไรเลย
ถึงชาติก่อนเขาจะเป็นแค่พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา แต่ก็เคยได้ไปกิน
บุฟเฟต์ราคาแพงที่ปักกิ่งมาบ้าง บุฟเฟต์ราคาไม่สูงมากพวกนี้จึงไม่ใช่เรื่องน่า
ตื่นเต้นอะไรสำหรับเขา
ที่สำคัญที่สุดคือเขากำลังอารมณ์ไม่ดีจึงกินอะไรเข้าไปก็ไม่ได้รส
เขาอยากเสียเงิน! วิธีไหนกันถึงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด!
ตอนนั้นเองเผยเชียนก็รู้สึกอิจฉาหม่าหยางขึ้นมา
เจ้านี่ไม่ได้รเู้ รื่องรู้ราวอะไรเกี่ยวกับเรื่องรายได้เลยสักนิด
หม่าหยางคิดว่าเผยเชียนได้เงินมาหลายหมื่ นเพราะไม่เข้าใจรูปแบบการทำ
เงินของตัวเกม
จริงๆ แล้วเผยเชียนหาเงินได้ห้าแสนหยวนภายในหนึ่งสัปดาห์!
แต่น่าเศร้าที่เขาไม่สามารถเอามาใช้ได้สักแดงเดียว…
“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก แค่สองสามวันมานี้ทำงานหนักไปน่ะ ต้องพักสักหน่อย”
“ยังไงซะการตั้งบริษัทก็เป็นเรื่องที่กินแรงมากๆ อยู่แล้ว”
เผยเชียนตอบไปอย่างเรียบง่าย
“พี่เชียน ผมต้องว่าพี่สักหน่อยแล้ว”
หม่าหยางยัดเค้กอีกก้อนเข้าปาก “ยังไงพี่เป็นเจ้าของบริษัท ทำไมไม่ดูแล
ร่างกายตัวเองมากๆ พี่จะแบกงานไว้คนเดียวไม่ได้ จ้างเลขามาสักคนแล้วโยนงาน
ทั้งหมดไปให้เขาทำแทนน่าจะดีว่ามั้ย”
“จ้างเลขาเหรอ” เผยเชียนนิ่งไปชั่วขณะ
หม่าหยางพยักหน้า “ใช่ จ้างเลขา ในทีวีก็มีให้เห็นตลอดไม่ใช่เหรอ เจ้านาย
จอมบงการที่วันๆ เอาแต่ขับรถหรูไปรับสาวๆ ไอ้เจ้านี่เนี่ยไม่ทำอะไรเลย โยนทุก
อย่างให้เลขาทำ ไม่เคยได้ยินที่เขาชอบพูดกันว่า…งานทุกอย่างเลขาเป็นคนทำ
เหรอ ไม่ต้อง…”
“โห ไอ้หม่า! แกมันอัจฉริยะ! ใช่ ฉันต้องจ้างเลขา! ต้องเป็นเลขามือโปรที่
ทำงานเก่งๆ!”
เผยเชียนได้แนวทางแล้ว!
แน่นอนว่าสิ่งที่เผยเชียนคิดอยู่นั้นแตกต่างจากที่หม่าหยางพูดโดยสิ้นเชิง
หม่าหยางคิดถึงพวกเจ้านายในภาพยนตร์ซีรีส์ที่มักมีเลขาคอยติดสอยห้อย
ตามเลยแนะนำไปแบบนั้น
แต่เผยเชียนกลับคิดถึงการโยนงานผลาญเงินทั้งหมดไปให้เลขาทำ ไม่ว่าจะ
เป็นหาพื้นที่เช่าออฟฟิศ จ้างพนักงานเพิ่ม และซื้ออุปกรณ์สำนักงานต่างๆ


บ่ายวันต่อมา
เผยเชียนนั่งจิบชารอผู้ให้คำปรึ กษาอยู่ในศูนย์บริการลูกค้าของบริษัทจัดหา
บุคลากรแอ็กซอนสาขาเมืองจิงโจว
มีผู้ให้คำปรึกษาในการจัดหาบุคลากรจำนวนมากในศูนย์ แต่เผยเชียนระบุไป
ว่าต้องการผู้ให้คำปรึกษาที่มีประสบการณ์มากที่สุดและต้องอยู่ในระดับผู้จัดการ
ภูมิภาคขึ้นไป!
ดังนั้นเขาจึงต้องรออยู่สักพักใหญ่
แต่เผยเชียนก็ไม่ได้รีบอะไร
เขาตัดสินใจมาก่อนแล้วว่าจะจ้างเลขา
เอาเข้าจริงเขามีตัวเลือกมากมายว่าจะหาเลขาสักคนมาอย่างไร
ตัวอย่างเช่น ประกาศรับสมัครตำแหน่งที่ว่าทางออนไลน์และจัดสัมภาษณ์
หรือหาคนในมหาวิทยาลัยเอาก็ได้
แต่ตัวเลือกเหล่านั้นก็ไม่ตรงตามที่เผยเชียนอยากได้
อย่างแรกก็ช้าไป ส่วนอีกอย่างก็ไม่ดีพอ!
จะยุ่งยากเกินไปถ้าเผยเชียนต้องมาสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังเป็น
เรื่องยากที่จะหาเลขามากความสามารถบนช่องทางออนไลน์ได้
คนที่เผยเชียนอยากได้ต้องเป็นคนที่คร่ำหวอดในวงการธุรกิจและสามารถ
พึ่งพาได้ ให้ดีที่สุดคือคนคนนั้นจะต้องเข้าใจทุกสิ่งที่เขาต้องการ สั่งแค่ครั้งเดียวก็
ต้องทำได้สำเร็จอย่างรวดเร็ว
หลังจากคิดถึงเรื่องนี้ เผยเชียนก็ตัดสินใจว่าบริษัทจัดหาบุคลากรน่าจะพึ่งพา
ได้มากที่สุด
แน่นอนว่าก็มีข้อเสียตรงที่ต้องเสียเงิน
แต่เงินที่เสียไปเป็นเงินทุนระบบ! ตรงตามที่เผยเชียนต้องการ!
เผยเชียนรอจนเบื่อจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาดูนั่นดูนี่บนอินเทอร์เน็ต
เขาบังเอิญไปเจอบทความรีวิวเกมบนเว็บไซต์หนึ่ง
มองอนาคตเกมมือถือผ่านเกมที่คำนึงถึงผู้เล่น เกมแม่ทัพผี!
บทที่ 29 เลขามากความสามารถ

เผยเชียนไม่คาดคิดว่าตนเองจะบังเอิญมาเจอรีวิวเกมแม่ทัพผีบนเว็บไซต์เข้า!
เขากดเข้าไปดูด้วยความสงสัย
“ไม่นานมานี้ เกมมือถือชื่อแม่ทัพผีจู่ๆ ก็ดังขึ้นมาเป็นพลุแตก ถึงทางผู้พัฒนา
เกมจะไม่ได้โฆษณาเกมเลย แต่ยอดดาวน์โหลดกลับเพิ่มขึ้นจนเกือบแตะแปดหมื่น
ในสัปดาห์แรก”
“อ้างอิงจากตัวเลข จำนวนผู้เล่นที่เล่นอยู่ในปัจจุบัน ระดับความพึงพอใจ
และอัตราการคงอยู่ข องเกมนี้นับว่าสูงกว่าเกมมือ ถือ อื่นๆ ที่วางขายในช่วง
เดียวกัน เรียกได้ว่านำโด่งไปไกลเสียจนไม่เห็นฝุ่น!”
“ที่ผ่านมามีผู้เชี่ยวชาญออกมาวิเคราะห์ว่าอุตสาหกรรมเกมการ์ดมือถือกำลัง
อยู่ในช่วงขาลงจนแม้แต่ต้นกำเนิดของเกมการ์ดอย่างเกมสามก๊กสุดคิวต์ก็ประสบ
ปัญหาจำนวนผู้เล่นที่ลดลงและกำไรที่ถดถอย และดูท่าจะไม่มีหนทางแก้ปัญหานี้
ได้”
“แต่เกมแม่ทัพผีกลับตอกกลับบทวิเคราะห์และพิสูจน์ให้เห็นว่าอุตสาหกรรม
เกมการ์ดมือถือยังสามารถเติบโตต่อไปได้อีก!”
“แล้วเกมนี้สามารถสวนกระแสและทำให้ผู้เล่นมากมายมองว่าเป็นเกมที่จะ
มาแทนที่เกมสามก๊กสุดคิวต์ในฐานะเกมการ์ดมือถือยุคต่อไปได้อย่างไร”
“ผมขอวิเคราะห์อย่างมืออาชีพเพื่อเจาะดูความลับเบื้องหลังความสำเร็จของ
เกมแม่ทัพผี!”
“เหตุผลแรกเลยคือเกมแม่ทัพผีไม่ได้ใช้งานภาพสไตล์การ์ตูนเหมือนเกมสาม
ก๊กสุดคิวต์ แต่เลือกทีจ่ ะพลิกโฉมตัวละครสามก๊กใหม่หมดเพือ่ ให้เหล่าเกมเมอร์ได้
สัมผัสถึงความสดใหม่”
“ชาวเกมเมอร์ส่วนใหญ่เบื่อตัวละครสไตล์การ์ตูนที่แสนซ้ำซากจำเจมานาน
แล้ว ภาพสไตล์มหากาพย์หมึกสีน้ำมันทำให้เกมเมอร์เห็นถึงสามก๊กในแง่มุมใหม่
และสร้างความตื่นตาตื่นใจได้ในแรกเห็น”
“เหตุผลที่สองคือรูปแบบการเล่นของเกมแม่ทัพผีนั้นเรียบง่ายมากๆ ตัวเกม
ไม่ได้ใส่องค์ประกอบอันแสนซั บซ้อนมาเหมือนเกมอื่นและรักษาหัวใจหลักและ
รากฐานรูปแบบการเล่นดั้งเดิมไว้ ทำให้ผู้เล่นสามารถเล่นได้สบายๆ!”
“เกมสามก๊กสุดคิวต์และเกมการ์ดมือถือใหญ่ๆ คอยเพิ่มอะไรใหม่ๆ เข้ามาจน
เกมที่เล่นง่ายๆ สบายๆ ในตอนแรกเริ่มกลายเป็นเกมที่สูบพลังชาวเกมเมอร์
สุดๆ!”
“ในขณะที่เกมแม่ทัพผีคงไว้แค่รูปแบบการเล่นพื้นฐาน ผู้เล่นจึงใช้เวลาแค่
หนึ่งถึงสองชั่วโมงต่อวันในการเล่นเกม ทำให้สามารถดึงดูดเกมเมอร์สายชิลจำน
วนมากเข้ามาเล่นได้เพราะไม่ต้องทุ่มเวลาเล่นเยอะเหมือนเกมอื่น!”
“เหตุผลที่สามคือเกมแม่ทัพผีเป็นเกมที่คำนึงถึงผู้เล่น!”
“นอกจากราคาเกมสิบหยวนแล้ว ไอเทมที่ให้ซื้อในเกมมีแค่บัตรสมาชิกถาวร
ราคาสามสิบหยวน หมายความว่าผู้เล่นทุกคนเท่าเทียมกันหมด ไม่ต้องเสียเงิน
เพิ่มก็สนุกไปกับเกมได้อย่างเต็มที่!”
“ทั้งสามเรื่องที่กล่าวไปคือปัจจั ยที่ทำให้เกมแม่ทัพผีประสบความสำเร็จและ
เป็นคำตอบว่าทำไมเกมนี้ถึงได้รับรีวิวดีๆ มากมาย!”
“ไม่แน่ว่าเกมแม่ทัพผีอาจกลายมาเป็นตัวผลักดันให้เกมการ์ดอื่นๆ มุ่งหน้าไป
ในทิศทางเดียวกัน ผมเชื่อว่าในอนาคตจะมีเกมการ์ดมือถือที่เล่นง่ายๆ สบายๆ
และยุติธรรมกับผู้เล่นแบบเกมแม่ทัพผีออกมาอีกมากมาย!”
ท้ายบทความมีชาวเน็ตมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างดุเดือด
“มืออาชีพมาก!”
“บทความโคตรดี!”
“ใช่ ผมเริ่มเล่นเกมแม่ทัพผีเพราะเป็นเกมที่ยุติธรรมกับผู้เล่น ไม่ต้องเสียเงิน
เพื่อให้ได้การ์ดหายาก!”
“แล้วผมก็ชอบสไตล์ของเกมมาก! แค่เก็บการ์ดกับความสำเร็จให้ครบก็เล่นได้
เป็นปีแล้ว!”
ความเห็นอื่นๆ ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
หลังจากอ่านบทความจบ เผยเชียนก็เริ่มนึกคลางแคลงใจ
นี่มันบ้าอะไรกัน
เกมแม่ทัพผีที่ฉันสร้างกับที่พวกนายเล่นมันเป็นเกมเดียวกันแน่หรือเปล่า!
ที่เปลี่ยนสไตล์ภาพก็เพราะกันพวกเกมเมอร์ที่ชอบสไตล์การ์ตูนไม่ให้มาเล่น!
เปลี่ยนรูปแบบการเล่นให้เรียบง่ายหรือ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย! ทั้งหมดเป็น
ระบบมาจากเทมเพลตที่ซื้อมา! ถึงอยากจะแก้ ฉันก็ใช้เครื่องมือพัฒนาเกมแก้ไม่
เป็น!
เกมคำนึงถึงผู้เล่นหรือ
นั่นเพราะฉันไม่อยากให้พวกวาฬมาขวางทางเสียเงินต่างหาก!
ทำไมเรื่องพวกนี้ถึงกลายเป็นข้อดีไปได้!
เผยเชียนอยากตายขึ้นมาจริงๆ
โลกนี้มันบ้าบอเกินไป ต้องมีอะไรผิดปกติแน่!
เผยเชียนวางโทรศัพท์ลงแล้วตรึกตรองถึงชีวิตอย่างเงียบเชียบ

“บอสเผย สวัสดีครับ! ขอโทษนะครับที่ให้รอนาน!”
ชายสวมสูทอายุสามสิบกว่าๆ เคาะประตูก่อนจะเข้ามาจับมือ ทักทายกับเผย
เชียน
“ผมเป็นผู้จัดการระดับภูมิภาคของบริษัทจัดหาบุคลากรแอ็กซอนประจำ
มณฑลฮั่นตง และเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านการจัดหาบุคลากรที่มีประสบการณ์ด้วย
ดีใจมากครับที่ได้ช่วยคุณ เรียกผมว่าลอว์เรนซ์ก็ได้ครับ”
ผู้ให้คำปรึกษาที่เพิ่งจะแนะนำตัวเองด้วยชื่อภาษาอังกฤษสุภาพกับเผยเชียน
มากเป็นพิเศษ เพราะชายหนุ่มบอกเจ้าหน้าที่ต้อนรับไปตั้งแต่ตอนเข้ามาว่าเป็น
เจ้าของบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีจำกัด
การรับบริการจากผู้ให้คำปรึกษาด้านการจัดหาบุคลากรระดับผู้จัดการอย่าง
เป็นส่วนตัวนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่เผยเชียนกลับไม่นึกลังเลใจอะไรเลย แค่นี้
ก็บอกได้แล้วว่าเขาใจป้ำขนาดไหน
ไม่มีทางที่บริษัทจัดหาบุคลากรจะเพิกเฉยลูกค้าแบบนี้ได้
แต่แน่นอนว่าความตั้งใจหลักของเผยเชียนคือใช้เงินของระบบ ไม่ได้เกี่ยวกับ
เงินของตัวเองเลย เขาจึงดูสบายๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก
“สวัสดีครับ ผู้จัดการลอว์เรนซ์ ผมตั้งใจมาที่นี่เพื่อหาเลขาให้ตัวเอง” เผยเชีย
นบอกจุดประสงค์ไปทันที
“ได้ครับ ขอทราบได้ไหมครับว่าคุณสมบัติที่อยากได้คร่าวๆ เป็นแบบไหน”
ผู้จัดการลอว์เรนซ์ยังคงยิ้มอย่างมืออาชีพ
“อืม…เอาคนที่แพงที่สุด” ใบหน้าเผยเชียนบ่งบอกชัดเจนว่าเขามีเงิน
เนื่องจากเงินเดือนพนักงานนั้นหักจากเงินทุนระบบ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เผย
เชียนจะอยากได้คนที่เงินเดือนสูงที่สุด ยิ่งจ่ายเงินเดือนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเสียเงิ น
ได้มากเท่านั้น!
ผู้จัดการลอว์เรนซ์อมยิ้ม “ได้ครับ คุณสมบัติแรกเอาแบบนี้ แต่ผมต้องขอ
ทราบข้อมูลเพิ่มเติม เช่น คุณอยากได้หัวหน้าเลขาที่เป็นเหมือนผู้ช่วยคอยจัดการ
ทุกอย่าง หรืออยากได้เป็นเด็กไฟแรง ตั้งใจทำงาน เพื่อเอาไปปั้นให้เก่งขึ้น”
เผยเชียนงงไปเล็กน้อย “แตกต่างกันด้วยเหรอครับ”
ผู้จัดการลอว์เรนซ์ยิ้มให้ก่อนจะอธิบาย “แตกต่างครับ”
“หัวหน้าเลขาที่คอยจัดการงานบริหารส่วนใหญ่จะเป็นสาวมากความสามารถ
แต่จะเน้นดูแลเรื่อ งยิบย่อ ยที่ประธานบริษัทไม่มีเวลามาดูเอง ก็คล้ายๆ กับ
ผู้จัดการส่วนตัวดาราน่ะครับ”
“เงินเดือนต่อปีของเลขาแบบนี้จะอยู่ที่หนึ่งแสนถึงสามแสนห้าหมื่นหยวน คน
ที่เก่งมากๆ จะอยู่ที่ประมาณสี่แสนหยวนครับ”
“ส่วนพวกเลขาเด็กไฟแรงส่วนใหญ่จะเป็นหนุ่มมากความสามารถที่ปั้นให้เป็น
เสาหลักของบริษัทได้ อนาคตอาจก้าวไปเป็นรองประธานบริษัทหรือผู้สืบทอด
ตำแหน่งประธานบริษัทก็ได้…”
“แต่จริงๆ คุณสมบัติพวกนี้ก็มีปนกันไปทั้งสองแบบแหละครับ ขึ้นอยู่กับว่า
คุณต้องการคนแบบไหนมากกว่า”
เผยเชียนไม่ลังเลใจแม้แต่นิด “เอาแบบแรกครับ”
ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีตอนนี้มีกันแค่สอง
คน คงจะบ้าเกินไปถ้าคิดหาทายาทมาสืบทอดตำแหน่งตอนนี้
อีกอย่างเผยเชียนไม่ได้อยากได้เลขาผู้ชาย!
ไม่เลยสักนิด!
ผู้จัดการลอว์เรนซ์พยักหน้า “ได้ครับ ช่วยรอสักครู่นะครับ ผมมีประวัติ
ส่วนตัวให้คุณเลือกดู”
ไม่นานประวัติส่วนตัวของเหล่าเลขาก็มาวางอยู่ตรงหน้าเผยเชียน
ทุกคนล้วนเป็นสาวสวยที่มีคุณสมบัติคล้ายๆ กัน
แต่ละคนต่างจบจากมหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้า
นอกจากจะคล่องภาษาอังกฤษแล้ว ยังพูดภาษาอื่นๆ ได้อีกสองสามภาษา
ด้านประวัติการทำงาน บางคนเคยรับตำแหน่งหัวหน้าเลขาในองค์กรชั้นแนว
หน้าภายในประเทศ
บางคนมีทักษะเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น การทำบัญชี ความรู้เรื่องกฎหมาย และอื่นๆ
ผู้จัดการลอว์เรนซ์เสริม “แต่ละคนเป็นหัวหน้าเลขาที่ฝีมือยอดเยี่ยมที่สุดใน
มณฑลฮั่นตง บริษัทเราเคยร่วมงานกับทุกคนมาก่อน เราการันตีได้ว่าไม่ว่าจะเป็น
ด้านการสื่อสาร การจัดการความสัมพันธ์ หรือด้านใด ทุกคนล้วนมีความชำนาญ
หมด”
หลังจากเปิดดูครบทั้งหมด เผยเชียนก็หยิบประวัติการทำงานซึ่งระบุเงินเดือน
ที่คาดหวังไว้สูงที่สุดขึ้นมา
บทที่ 30 ถูกจัง

“ซินไห่ลู่…เคยเป็นเลขาของรองประธานบริษัทในองค์กรชื่อดัง ทำไมถึง
ลาออกเหรอครับ เหมือนเธอจะไม่ได้บอกสาเหตุไว้ในประวัติการทำงาน”
ผู้จัดการลอว์เรนซ์ยิ้ม “สงสัยคุณจะไม่ค่อยได้ดูข่าวใช่ไหมครับ บอสเผย พอ
เริ่มกรึ่มๆ รองประธานก็ทำตัวไม่เหมาะสมใส่ซึ่งเธอก็ต่อต้าน เรื่องจบที่รอง
ประธานโดนไล่ออก ส่วนเลขาซินลาออกไปเองครับ”
“เรื่องนี้ทำให้ทางองค์กรได้รับผลกระทบหนัก จริงๆ ตอนนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียง
กันอย่างร้อนแรง”
เผยเชียนอึ้งไปเล็กน้อย “อย่างนี้ก็เหมือนว่าเธอเป็นวีรสตรีในหมู่ผู้หญิงน่ะสิ
ครับ”
ผู้จัดการลอว์เรนซ์พยักหน้า “จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ บางทีเธออาจจะเบื่อ
บริษัทใหญ่ อยากมาทำงานในบริษัทเล็ก…ไม่ใช่สิ บริษัทเปิดใหม่ก็ได้ ครับ ทั้งตาม
หลักการและในแง่การทำงาน เลขาซินคือตัวเลือกที่ดีที่สุด”
ที่ผู้จัดการลอว์เรนซ์บอกว่า ‘ในแง่การทำงาน’ ช่วยบอกได้ชัดเจนว่าเธออาจ
ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีถ้าพิจารณาจากแง่มุมอื่น…
เผยเชียนตัดสินใจทันที “โอเคครับ ผมเลือกคนนี้แหละ!”
“แต่ผมมีเรื่องจะขอร้อง”
ผู้จัดการลอว์เรนซ์พยักหน้าอีกครั้ง “บอกมาเลยครับ ถ้าไม่ได้เกินกว่าที่ทำได้
ผมว่าเราน่าจะคุยกันได้”
“เธอให้คำแนะนำผมได้เฉพาะตอนที่ผมขอเท่านั้น ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์
ไหน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอต้องเงียบ ไม่ถามอะไรมากเกินไป” เผยเชียนบอก
ผู้จัดการลอว์เรนซ์ยิ้ม “ได้แน่นอนครับ ถึงคุณไม่บอก แต่นั่นก็เป็นคุณสมบัติ
ความเป็นมืออาชีพอย่างหนึ่งของการเป็นเลขา”


สามวันต่อมา วันจันทร์
รถปอร์เช่ คาเยนน์ขับมาจอดอยู่หน้าทางเข้าตึกสำนักงานที่หรูที่สุดในเมืองจิง
โจว ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว
“ถึงแล้วค่ะ บอสเผย”
ซินไห่ลู่เปิดประตูรถให้เผยเชียนแล้วพาเขาเข้าตึกสำนักงานตรงหน้า
บริษัทจัดหาบุคลากรทำให้บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีได้พนักงานคนที่
สามมารับตำแหน่งเลขาประธานอย่างเป็นทางการ
ซินไห่ลู่คือผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจตามแบบฉบับ ทั้งหน้าตา
และกิริยาล้วนไร้ที่ติ แม้แต่เรื อนร่างที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตและกระโปรงก็
สมบูรณ์แบบ
ตรงตามที่เผยเชียนต้องการทุกอย่าง
การศึกษาสูง คล่องสามภาษา สวยสง่า พูดจามีมารยาท สามารถจัดการกับ
ผู้คนรอบตัวได้ดี มีความอดทน จัดการเรื่องธุรกิจได้ อีกทั้งยังไม่ทำเรื่องที่ไม่ควร
ถาม
ทั้งสองใช้เวลาร่วมกันแค่สองสามวัน แต่เผยเชียนก็รู้สึกได้เลยว่าเธอช่าง…
ไว้วางใจได้! ทำงานมีประสิทธิภาพ!
เผยเชียนไม่ลังเลใจและยื่นขอเสนอให้เงินเดือนเพิ่มสามสิบเปอร์เซ็นต์จาก
เงินเดือนตั้งตนที่ระบุไว้ กลายเป็นต้องจ่ายให้เธอสามหมื่นนิดๆ ต่อเดือน
ปี 2009 นี ้ เด็ ก จบใหม่ จ ากมหาวิ ท ยาลั ย ฮั ่ น ตงสู ้ ก ั น แทบตายเพื ่ อ ให้ ไ ด้
เงินเดือนสามพันหยวน
มีสองเหตุผลที่ทำให้เงินเดือนของเธอสูงแบบนี้
ข้อแรกคือ บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีของเผยเชียนเป็นบริษัทเปิดใหม่
เทียบกับประสบการณ์ทำงานก่อนหน้าของซินไห่ลู่แล้ว ที่นี่ไม่มีโอกาสให้ เติบโต
ได้มากเท่าไหร่ ทำให้เขาต้องยื่นเงินเดือนให้เธอไปสูงๆ
เนื่องจากเธอเป็นคนที่เก่งมากๆ อยู่แล้วทำให้เงินเดินตั้งต้นเธอสูงมากๆ พอ
ให้เพิ่มไปอีกสามสิบเปอร์เซ็นต์จึงทำให้ยิ่งดูเยอะเข้าไปใหญ่
ข้อที่สองคือ เผยเชียนตั้งใจจะผลาญเงินอย่างบ้าคลั่ง จึงเป็นธรรมดาที่ เขา
ต้องจ้างคนเงินเดือนสูงๆ เนื่องจากซินไห่ลู่เป็นคนมีความสามารถสูง ระบบจึง
ไม่ได้มองว่าการให้เงินเดือนเธอสูงกว่าตลาดเล็กน้อยเป็นการทำผิดกฎ
ถึงอย่างไรเผยเชียนก็จ้างคนอย่างหม่าหยางตั้งสามพันหยวนต่อเดือน…
รถปอร์เช่ คาเยนน์เช่ามาในนามบริษัท
ตอนแรกเผยเชียนตั้งใจจะซื้อรถในนามบริษัทแต่ระบบไม่อนุญาต
เขาสามารถซื้อรถได้ แต่ราคาของที่จะซื้อขึ้นอยู่กับเงินทุนปัจจุบันของบริษัท
เขาจึงไม่สามารถซื้ออะไรที่แพงเกินกว่าเหตุได้
เผยเชียนคิดว่าคงจะไม่ได้ประโยชน์อะไรที่จะซื้อรถถูกๆ มาใช้
สุดท้ายเขาจึงเช่ารถปอร์เช่ คาเยนน์มาใช้ส่งเสริมภาพลักษณ์ตัวเอง
ถึงค่าเช่ารถจะไม่ได้แพงอะไรมาก แต่ขอแค่ให้ได้ใช้เงินก็พอแล้ว
เผยเชียนจะไม่ยอมเสียโอกาสไปแม้แต่อย่างเดียว
เขามาที่ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวเพื่อเช่าพื้นที่สำหรับออฟฟิศ
ตึกนี้เป็นตึกสำนักงานที่หรูที่สุดในเมืองจิงโจว เผยเชียนกะไว้ว่าที่นี่น่าจะราคา
ห้าหยวนต่อตารางเมตร
ห้าหยวนต่อตารางเมตรต่อวัน
ในโลกคู่ขนานปี 2009 นี้ เมืองจินโจวซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลฮั่นตงถือ
เป็นเมืองระดับสอง
ถ้าเป็นที่ปักกิ่งในปี 2019 ราคาเมื่อครู่น่าจะต้องคูณไปอีกสามเท่า
สำหรับเมืองจิงโจวและตึกสำนักงานคล้า ยๆ กันนี้ ราคาจะอยู่ที่ประมาณสอง
ถึงสามหยวนต่อตารางเมตร
แต่ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวเป็นตึกสุดหรูที่ออกแบบมาอย่างประณีตจึงมีราคาสูง
กว่า
ถ้าเป็นบริษัทอื่นคงไม่ใช่เรื่องดีนัก
แต่สำหรับเผยเชียนแล้วถือเป็นข้อดีสุดๆ!
เขาชอบที่นี่เพราะมันแพง!
ซินไห่ลู่เข้าไปในห้องรับรองแล้วเดินไปหาพนักงาน พอมีเลขา เผยเชียนก็ไม่
ต้องทำอะไรด้วยตัวเอง
พนักงานในตึกสำนักงานนี้สวมสูทกับรองเท้าหนังกันทุกคน
แต่เผยเชียนกลับใส่เสื้อคลุมสบายๆ กับกางเกงขายาว
เขาไม่ได้รู้สึกกระอักกระอ่วนใจอะไรเลยเมื่อมาอยู่ในสถานที่หรูแบบนี้ แค่
รู้สึกหนาวนิดหน่อยเพราะอากาศเริ่มเย็น
ที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะเผยเชียนมั่นใจในตัวเองมาก แต่เป็นเพราะมีเลขา
ซินมาด้วยต่างหาก
ไม่ว่าจะอ้วน เตี้ย หรือขี้เหร่แค่ไหน ขอแค่มีสาวสวยสง่ามีราศีอยู่ข้างๆ ก็มอง
ออกแล้วว่ารวย
เผยเชียนไม่ได้อ้วน เตี้ย หรือขี้เหร่อะไร ถือว่าค่อนข้างหน้าตาหล่อ เหลาเลย
ทีเดียว
ทุกวันนี้ คนที่ขี้เหร่เกินไปไม่มีทางได้สิทธิ์กลับชาติมาเกิดใหม่
เพราะเดี๋ยวคนอ่านจะอ่านไม่สนุกเอา

ไม่นานผู้จัดการก็มายืนยิ้มอยู่หน้าเผยเชียน
“สวัสดีครับ บอสเผย ผมผู้จัดการจาง ถ้าต้องการอะไรบอกผมได้เลยนะครับ”
ผู้จัดการจางไม่รู้ว่าเผยเชียนเป็นใครมาจากไหน แต่พอเห็นว่าเลขาคือซินไห่ลู่
ก็รู้ได้ทันทีว่าชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป
เผยเชียนสวมชุดธรรมดาสุดๆ แถมยังดูเด็กมากๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะมองมุมไหน
เขาก็ดูเหมือนพนักงานกินเงินเดือนจนๆ คนหนึ่ง
แต่พอเห็นว่าเลขาเป็นซินไห่ลู่ เขาก็มองเผยเชียนเป็นทายาทตระกูลร่ำรวยที่
ไม่ค่อยสนใจเรื่องหยุมหยิมและน่าจะมีวิธีจัดการสิ่งต่างๆ ที่ยอดเยี่ยมเหนือใคร
บางทีนี่อาจเป็นสไตล์การแต่งตัวที่พวกทายาทตระกูลร่ำรวยชอบแต่งก็ได้
เป็นธรรมดาที่ผู้จัดการจางจะไม่กล้าเพิกเฉยเขา
“ผมอยากเช่าสักชั้นไว้เป็นออฟฟิศ” เผยเชียนบอกจุดประสงค์ไปทันที
“ได้เลยครับ! ถ้าบอสเผยอยากเช่าทั้งชั้น ไม่อยากเช่าร่วมกับบริษัทอื่น ชั้นสิบ
เจ็ดของเรายังว่างอยู่ วิวสวยมาก ผมขอพาขึ้นไปดูได้ไหมครับ ” ผู้จัดการจางถาม
หยั่งเชิง
เผยเชียนพยักหน้า “ได้ครับ นำไปเลย”
ผู้จัดการจางนำทางพวกเขามาถึงชั้นสิบเจ็ดของตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว
ทั้งชั้นเรียบร้อย สะอาดสะอ้าน ปราศจากฝุ่น
พูดอีกอย่างได้ว่าทั้งชั้นว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย
“อืม วิวสวยดี”
เผยเชี ย นเดิ น ไปตรงหน้ า ต่ า ง เห็ น ทิ ว ทั ศ น์ เ มื อ งอั น กว้ า งใหญ่ เขาเห็ น
แม้กระทั่งสวนสาธารณะและสถานที่ต่างๆ
เขาสามารถเชยชมภาพแบบนี้ไปพร้อมๆ กับผลาญเงิน ทำงานในที่แบบนี้คง
จะสบายจิตสบายใจน่าดู
เผยเชียนกวาดตามองรอบๆ
ทั้งชั้นกว้างขนาดยัดสนามบาสเข้ามาได้แปดสนาม กะคร่าวๆ น่าจะกว้าง
ประมาณสามพันตารางเมตร
“ถ้าเป็นบริษัทเปิดใหม่ ทางรัฐมีเงินสนับสนุนให้ ด้วยครับ ทางเราเก็บค่ามัด
จำแค่หนึ่งเดือน สามารถจ่ายค่าเช่าเดือนต่อเดือนได้ ตึกสำนักงานอื่นๆ ไม่ค่อยมี
ข้อเสนอแบบนี้นะครับ” ผู้จัดการจางอธิบายอย่างภาคภูมิใจ
ตึกสำนักงานส่วนใหญ่จะเก็บเงินมัดจำหนึ่งถึงสองเดือน ส่วนค่าเช่าจะเก็บ
ทุกๆ ไตรมาสหรือสองครั้งต่อปี ตึกสำนักงานที่เก็บเงินมัดจำแค่เดือนเดียว แถม
เก็บค่าเช่าเป็นรายเดือนนั้นควรค่าแก่การอวดจริงๆ และยังเป็นข้อได้เปรียบที่
เหนือกว่าคู่แข่งเจ้าอื่นๆ ด้วย
แต่แน่นอนว่าในข้อได้เปรียบก็มีข้อเสียเปรียบเช่นกัน
อย่างเช่นราคา
นอกจากนี้เผยเชียนยังมีคุณสมบัติเข้าข่ายนโยบายให้ เงินอุดหนุนบริษัทเปิด
ใหม่อีกต่างหาก
“ค่าเช่าเท่าไหร่ครับ” เผยเชียนถามขึ้นสบายๆ
ผู้จัดการจางยิ้ม “สี่หยวนครับ ผมรู้ว่าราคาอาจจะแพงไปหน่อยสำหรับตึกใน
เมืองจิงโจว แต่คุณได้สิทธิประโยชน์ตามที่บอก สมราคาที่จ่ายเลยครับ การเช่า
พื้นที่ของที่นี่ทำออฟฟิศจะช่วยให้บริษัทของคุณดู…”
“สี่หยวนเหรอ ถูกจัง” เผยเชียนขมวดคิ้ว
“ถ…ถูกเหรอครับ” ผู้จัดการจางอึ้งไป
บทที่ 31 จับจ่ายมือเติบ!

ผู้จัดการจางไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้ยินการตอบกลับแบบนี้ ที่ผ่านมาทุก
บริษัทที่คุยด้วยต่างพากันบ่นว่าแพงเพราะตึกสำนักงานส่วนใหญ่ราคาจะอยู่ที่สอง
ถึงสามหยวน ส่วนราคาของตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวนั้นสูงกว่าเกือบเท่าตัว
แต่บอสเผยกลับมองว่าถูก!
เขาพยายามจะใช้จิตวิทยาย้อนกลับหรือเปล่า
หรือว่าเรื่องเงินไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับเขา
เผยเชียนขมวดคิ้วขณะคิดคำนวณอย่างรวดเร็ว
ตอนแรกเขากะไว้ว่าราคาของที่นี่จะอยู่ที่ราวๆ ห้าหยวน
จากที่กะไว้ว่าราคาจะอยู่ที่ห้าหยวนต่อตารางเมตรต่อวัน พื้นที่สามพันตาราง
เมตรก็จะเท่ากับต้องจ่ายค่าเช่าสี่แสนห้าหมื่นหยวนทุกเดือน
เขาจะไปหาวิธีเสียเงินสี่แสนห้าหมื่นหยวนทุกๆ เดือนได้จากไหนอีก
แต่เอาเข้าจริงราคาดันน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้หนึ่งหยวน
เท่ากับว่าเขาเสียเงินได้น้อยลงเก้าหมื่นหยวนต่อเดือน!
น่าปวดหัวจริงๆ
แต่ก็ถือว่าอยู่ในเรตราคาที่รับได้
ที่เผยเชียนตื่นตระหนกก็เพราะเกมแม่ทัพผีทำเงินให้เขาทุกวัน!
เกมแม่ทัพผียังอยู่ในช่วงขาขึ้น ยิ่งทางแพลตฟอร์มดันไปหน้าแนะนำด้วยแล้ว
เกมก็ยิ่งดังขึ้นไปใหญ่ พอมีชาวเกมเมอร์แห่แหนมาเล่นเยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นเรื่อง
ธรรมดาที่รายได้ของเขาจะทวีคูณเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเสียเงินก้อนโตนี้ไปให้หมด
เผยเชียนต้องขยันให้มากกว่านี้!

“ผมขอเช่าทั้งชั้น เตรียมสัญญาได้เลยครับ” เผยเชียนว่าอย่างเด็ดขาด
ผู้จัดการจางนิ่งไปชั่วขณะก่อนจะผุดยิ้มกว้าง “ได้เลยครับ! ตามผมมาทางนี้
เลย”
ลูกค้าว่าง่ายแบบนี้หายากมาก!
พอเผยเชียนและซินไห่ลู่ไปถึงออฟฟิศของผู้จัดการจางก็จัดการเซ็นสัญญา
และโอนเงินเสร็จสรรพอย่างรวดเร็ว
จ่ายเงินมัดจำและค่าเช่าเดือนแรกไป เขาก็ใช้เงินไปเจ็ดแสนหยวนในพริบตา
เผยเชียนไม่ได้นึกเสียดายเลยสักนิด จริงๆ แล้วแอบดีใจอยู่ต่างหาก
เขารู้สึกดีเมื่อได้จ่ายเงิน!
ถ้าไม่ใช้เงินทุนระบบไปให้หมดแล้วจะเอาส่วนไหนมาแปลงเป็นความมั่งคั่ง
ส่วนบุคคลได้
ส่วนเรื่องสัญญา…เผยเชียนไม่ต้องกังวลอะไรเพราะเขามีเลขาซินช่วย
เผยเชียนไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการเงินและกฎหมายเพราะมีเธอคอยช่วยระวัง
“ยินดีต้อนรับสู่ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวนะครับ! ถ้าติดปัญหาอะไรติดต่อผมได้
ตลอด ผมจะช่วยจัดการให้เร็วที่สุด” ผู้จัดการจางพูดไปยิ้มไป
เผยเชียนตอบกลับตามมารยาทก่อนจะหยิบสัญญาเช่าจากผู้จัดการจางยื่นให้
เลขาซินเก็บไว้
จากนั้นเผยเชียนกับซินไห่ลู่ก็ออกจากออฟฟิศของผู้จัดการจางแล้วกลับไปชั้น
สิบเจ็ด

เผยเชียนเดินดูรอบออฟฟิศอันว่างเปล่าพลางวางแผนว่าจะจัดสรรพื้นที่
อย่างไรดี
นี่เป็นจุดสำคัญในการเสียเงิน!
“บรรยากาศการทำงานที่ดี นอกจากจะช่วยกระตุ้นให้พนักงานทำงานได้มี
ประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของบริษัทด้วย!”
“เลขาซิน จดตามที่ผมบอกแล้วเตรียมใบสั่งซื้อให้ที”
“โต๊ะกับเก้าอี้ทำงานต้องเอาอันแพงๆ! เอ่อ ไม่เอาแค่แพงอย่างเดียว ต้องดูดี
เรียบหรู ใช้วัสดุชั้นหนึ่ง! เอาให้ไม่เหมือนบริษัทอื่น!”
“คอมพิวเตอร์เอาสเป็กดีที่สุด คีย์บอร์ดกับเมาส์ก็เอาของที่ดีที่สุด! ทุกเครื่อง
เอามาสองหน้าจอ เราอยู่ในยุคแห่งโทรคมนาคม แถมยังเป็นบริษัทเกมด้วย
คอมพิวเตอร์คือปัจจัยหลักในการทำงานของเรา!”
“เราต้องมีต้นไม้ด้วย มองต้นไม้หลังจากทำงานเหนื่อยๆ ช่วยให้ผ่อนคลายได้
ดูแลต้นไม้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องจ้างคนสวนมืออาชีพมาช่วยดูด้วย”
“ผมว่าที่ตรงนั้นเหมาะทำเป็นยิมเล็กๆ ทำงานในแวดวงนี้เจ็บป่วยกันบ่อย
ออกกำลังบ้างจะช่วยให้พนักงานทำงานได้ดีขึ้น”
“ห้องรับรองแขก โซฟา โต๊ะกาแฟเอาของถูกๆ ไม่ได้ หาชุดเสิร์ฟชาหรูมาด้วย
ได้ยิ่งดี ซื้อใบชาดีๆ มาสักแปดแบบ ถ้าต้องคุยงาน จะเอาน้ำเปล่าไปเสิร์ฟแขก
ไม่ได้”
เผยเชียนประกาศอย่างมั่นใจ
เขาจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบเพราะใช้เงินทุนระบบจ่ายทั้งหมด
ของทุกชิ้นที่ใช้ในบริษัทจะต้องเป็นของคุณภาพดีที่สุด!
ของที่บริษัทไม่ใช้ก็ต้องเป็นของคุณภาพดีที่สุดเหมือนกัน!
เผยเชียนตรวจดูว่าระบบมีการตอบสนองอะไรหรือเปล่าระหว่างที่เขาพูด
แต่ก็ไม่มีการแจ้งเตือนอะไร ซึ่งก็หมายความว่าสิ่งที่เผยเชียนทำไม่ได้ขัดต่อ
กฎ!
ซินไห่ลู่จดที่เขาพูดลงสมุดเล่มเล็กที่ถืออยู่ในมืออย่างรวดเร็ว
“ได้ค่ะ บอสเผย ฉันจะรีบเตรียมทุกอย่างให้พร้อมตามที่บอสต้องการค่ะ”
“ขอทราบได้ไหมคะว่าตั้งงบไว้เท่าไหร่” ซินไห่ลู่ถาม
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ประมาณห้าแสนถึงแปดแสน พยายามทำให้ถึงแปด
แสนแล้วกัน”
ซินไห่ลู่พยักหน้า “รับทราบค่ะ”
เผยเชียนไม่กล้าทำอะไรเกินไปกว่านี้ ถึงจะอยากเพิ่มรายจ่าย แต่ก็ซื้อเกินที่
จำเป็นสำหรับบริษัทมากไม่ได้
ยกตัวอย่างเช่นคอมพิวเตอร์สำหรับใช้ในบริษัท
ปกติแล้วคอมพิวเตอร์ธรรมดาก็ใช้การได้
แต่เผยเชียนเลือกคอมพิวเตอร์สเป็กสูงเพราะต้องการเสียเงิน
ระบบไม่ได้สนใจที่เผยเชียนเลือกซื้อคอมพิวเตอร์สเป็กสูงทั่วไป แต่ถ้าเผย
เชียนเลือกซื้อซูเปอร์คอมพิวเตอร์ราคาเป็นแสนหรืออาจจะถึงล้าน ระบบก็จะแจ้ง
เตือนว่าเป็นการทำผิดกฎ
ดังนั้นเผยเชียนจึงไม่สามารถใช้เ งินอย่างไม่จำกัดได้ การตั้งรายจ่ายไว้ที่แปด
แสนก็แทบจะเฉียดๆ จุดที่ระบบกำหนดไว้ด้วยซ้ำ


วันถัดมา
“นี่คือรายการสั่งซื้อที่เตรียมไว้หลังจากที่คุยกันเมื่อวานค่ะ รบกวนช่วย
ตรวจสอบดูด้วย”
ซินไห่ลู่ยื่นเอกสารให้เผยเชียน
รายการสั่งซื้อมีทั้งโต๊ะทำงาน เก้าอี้ คอมพิวเตอร์ ต้นไม้ อุปกรณ์ออกกำลัง
กาย โซฟา โต๊ะกาแฟ ใบชา และอื่นๆ
ทุกอย่างที่เผยเชียนไล่ไปเมื่อวานอยู่ในรายการที่ว่าหมด
แค่มองดูคร่าวๆ เผยเชียนก็รู้สึกตกใจขึ้นมาเล็กน้อย
เพราะราคาของพวกมันแพงหูฉี่!
ดูแค่ราคาต้นไม้ก็บอกได้ว่าแพงขนาดไหน
บอนไซหลิวอรหันต์หนึ่งต้น ราคาเก้าร้อยแปดสิบแปดหยวน
แต่ก็ไม่ได้แพงถึงขนาดที่ว่าโดนหลอกขาย เผยเชียนเห็นได้จากรูปว่าตัดแต่ง
มาอย่างดี น่าจะได้ผู้เชี่ยวชาญดูแล เอาเข้าจริง ราคาเก้าร้อยแปดสิบแปดหยวน
อาจจะถือว่าคุ้มค่าเสียด้วยซ้ำ!
ต้นศุภโชคสิบต้น ต้นละหนึ่งร้อยแปดสิบแปดหยวน
ทำไมถึงซื้อมาสิบต้นน่ะหรือ ก็เพราะวางไว้เดี่ยวๆ ข้างหน้าต่างจะดูเหงาเกิน
เลยต้องซื้อมาหลายต้น
และสิบต้นก็หมายถึง ‘สิบเต็มสิบ’ ด้วย
ชุดเสิร์ฟชาเป็นเครื่องเงินทำมือราคาสองหมื่นสองพันหยวน อีกชุดเป็นแบบ
ถาดรองหินหมึกธรรมชาติราคาหนึ่งหมื่นสามพันหยวน ทั้งสองชุดเอาไว้ใช้สลับกัน
ใบชามีหลายแบบ ทุกแบบล้วนแพงหมด
เขาแสร้งทำเป็นไล่ดูทุกรายการอย่างจริงจังก่อนจะเปิดไปหน้าสุดท้าย
ราคารวมทั้งหมดเจ็ดแสนแปดหมื่นหยวน!
รายจ่ายส่วนใหญ่หมดไปกับโต๊ะทำงาน
พนั ก งานแต่ ล ะคนจะได้ โ ต๊ ะ ทำงานคุ ณ ภาพดี มี เ ก้ า อี ้ เ กมมิ่ งอย่ า งดี
คอมพิวเตอร์สเป็กสูง หน้าจอเกมมิ่งแบบคู่อย่างดี คีย์บอร์ดกลไก[1]…ราคา
รวมทั้งชุดอยู่ที่ประมาณสองหมื่นหยวน
โต๊ะทำงานสำหรับพนักงานสามสิบคนก็รวมเป็นหกแสนหยวน
รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ รายจ่ายทั้งหมดจึงอยู่ที่เจ็ดแสนแปดหมื่นหยวน
ระหว่างเปิดดูรายการสิ่งของแต่ละอย่าง เผยเชียนก็คิดขึ้นมาว่า
เจ็ดแสนแปดหมื่นเองหรือ ถูกจริงๆ
คนทำงานสามสิบตำแหน่งคือจำนวนที่เผยเชียนวางไว้หลังจากที่ครุ่นคิดแล้ว
ถึงเผยเชียนจะอยากเสียเงินแค่ไหน แต่เขาก็ต้องประกอบธุรกิจตามกฎของ
ระบบ หมายความว่าเขาไม่สามารถจ้างคนมาใช้เวลาไปเรื่อยเปื่อยกับการเล่นเกม
แทนที่จะทำงานได้
ไม่อย่างนั้นจะไปขัดกับกฎของระบบ
พอมีระบบคลาวด์ คนสามสิบคนถือว่าพอสำหรับการสร้างเกมขนาดใหญ่
คุณภาพสูงได้
โต๊ะทำงานแค่สามสิบตัวทำให้ออฟฟิศดูโล่ง
แต่เรื่องนี้ก็แก้ได้ง่ายๆ
เผยเชียนตั้งใจจะซื้อโต๊ะสนุกเกอร์ ทำห้องสันทนาการ ห้องดูหนัง ห้องครัว
มุมจิบกาแฟ มุมพักผ่อน และอื่นๆ
ส่วนที่เป็นออฟฟิศจริงๆ เป็นแค่ส่วนเล็กๆ
นอกจากนี้ โต๊ะทำงานแต่ละตัวยังตั้งห่างกันประมาณหนึ่งเพื่อให้ความเป็น
ส่วนตัวกับพนักงานแต่ละคน
โต๊ะที่จะซื้อเป็นตัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
พนักงานสามารถนำอะไรมาวางตกแต่งได้ตามใจชอบ จะซื้อของมาใส่เยอะ
แค่ไหนก็มีที่ให้เหลือเฟือ
ตามผังที่วางไว้นี้ โต๊ะทำงานสามสิบตัวก็พอจะเติมพื้นที่ให้เต็มได้พอดี
เผยเชียนมองซินไห่ลู่ด้วยแววตาชื่นชม ผู้หญิงคนนี้ช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน!
เป็นมืออาชีพจริงๆ!
ซิ น ไห่ ล ู ่ ย ิ ้ ม อย่ า งมื อ อาชี พ แล้ ว รายงาน “ของทั ้ ง หมดซื ้ อ ผ่ า นช่ อ งทางที่
เหมาะสมในราคาส่งที่ถูกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ค่ะ ทางบริษัทไม่ได้เสียเงินโดยไม่
จำเป็นแม้แต่หยวนเดียว”
เขามั่นใจในความสามารถของซินไห่ลู่
เนื่องจากของทั้งหมดซื้อผ่านช่องทางที่เหมาะสมและได้ราคาส่งที่ถูกที่สุด
ระบบจึงไม่มีเหตุผลอะไรมาเตือนเผยเชียน
เผยเชียนพึงพอใจในเลขาของตนเองมาก
เธอเข้าใจความต้องการของเขาทั้งหมดและยังทำงานได้มีประสิทธิ ภาพมาก
นอกจากหน้าอกโตแล้ว สมองก็โตเหมือนกัน ผู้หญิงคนนี้ไม่มีจุดให้ติเลย!
นี่คือความสุขที่ได้ทำงานกับคนเก่ง!
“เยี่ยมมาก ผมพอใจมาก จัดซื้อตามรายการนี้ได้เลย” เผยเชียนเอ่ยชมเต็มที่
“ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ผมจะอยู่ในห้องประชุมเล็ก สัมภาษณ์งานพนักงาน
ใหม่ ช่วยเตรียมข้อมูลที่จำเป็นให้เรียบร้อยด้วย”
ซินไห่ลู่ยิ้มพร้อมพยักหน้า “ได้ค่ะ เป็นหน้าที่ดิฉันอยู่แล้ว”
เผยเชียนรู้สึกว่าทุกอย่างกำลังไปได้สวย
จ้างพนักงานใหม่เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเพราะเป็นตัวชี้ชะตาว่าเป้าหมายของ
เขาจะสำเร็จหรือไม่!
เมื่อเห็นเผยเชียนกระตือรือร้น ซินไห่ลู่ก็เอ่ยเตือนเขาพร้อมรอยยิ้มนอบน้อม
“ดิฉันว่าบอสลืมเรื่องที่สำคัญมากไปอย่างหนึ่ง”
“ให้ดิฉันพาบอสไปเปลี่ยนลุคสักหน่อยดีไหมคะ”
……………………….
[1] Mechanical Keyboard คีย์บอร์ดที่โครงสร้างใต้ปุ่มเป็นกลไกสวิตช์แบบ
สปริง มีความแม่นยำในการตอบสนองสูง จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มเกมเมอร์
บทที่ 32 เสื้อผ้า

เผยเชียนนิ่งไปชั่วครู่ “เลขาซิน คุณนี่ช่างใส่ใจที่สุดเลย! ผมลืมเรื่องนี้ไปเลย


นะเนี่ย!”
ว่ากันตามทฤษฎีแล้ว เสื้อผ้าไม่น่าจะเป็นเรื่องสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมเกม
ส่วนอุตสาหกรรมธุรกิจการเงินและธุรกิจดั้งเดิมอื่นๆ เสื้อผ้าเป็นเรื่องที่สำคัญ
ที่สุดเวลามีการประชุมธุรกิจ
ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือนาฬิกาที่ใส่ ไปจนกระทั่งรถที่ขับ ทุกอย่างล้วนเป็น
เรื่องสำคัญมาก
บางคนเสียเงินไปเป็นหมื่นเพื่อตัดสูทตัวเดียวเพราะเป็นเรื่องจำเป็น
ถ้าไม่แต่งตัวให้ดูดี อาจจะเจรจาธุรกิจไม่สำเร็จเนื่องจากไม่สามารถสร้าง
ภาพลักษณ์ที่ดีตอนพบกันครั้งแรกได้
เช่นเดียวกัน เสื้อผ้าที่เหมาะสมดูดีก็เป็นมารยาทพื้นฐานเวลาหางานใน
อุตสาหกรรมธุรกิจดั้งเดิมต่างๆ
แต่ทุกอย่างแตกต่างออกไปในยุคอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเกม
เจ้าของบริษัทเกมยักษ์ใหญ่หลายคนใส่แค่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นไปทำงาน
แม้แต่โปรแกรมเมอร์ที่มาสมัครงานยังใส่แค่เสื้อยืดธรรมดาๆ หรือเสื้อเชิ้ตลาย
ตารางหมากรุก กางเกงยีน รองเท้าแตะ สะพายกระเป๋าเป้
ถึงอย่างไรในอุตสาหกรรมเกม ทักษะด้านเทคนิคก็สำคัญกว่าเสื้อผ้าที่ใส่ตอน
สัมภาษณ์งาน
เพราะมีวัฒนธรรมแบบนี้ ผู้มาสัมภาษณ์งานส่วนใหญ่จึงไม่ได้แต่งตัวดูดีเป็น
พิเศษสำหรับการสัมภาษณ์งาน เอาเข้าจริง คนที่สวมสูทผูกเนกไทมาอาจจะดู
แปลกแยกกว่าด้วยซ้ำ
ด้วยเหตุผลนี้ เผยเชียนจึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้
แต่พอเลขาซินเตือน เผยเชียนก็เปลี่ยนความคิด เขาต้องการเสื้อผ้าจริงๆ
เหตุผลข้อแรกคือ ค่าใช้จ่ายนี้จะใช้บัญชีของบริษัท ทำให้เขาสามารถผลาญ
เงินได้เพิ่ม!
เหตุผลข้อสองคือ เสื้อผ้าจะช่วยให้เผยเชียนทำงานได้ดีขึ้น
ตอนนี้เผยเชียนเป็นนักศึกษา และยังไม่ทันจะถึงวันเกิดครบอายุสิบแปดเลย
ถึ ง เขาจะมี ความทรงจำสิ บ ปีข ้า งหน้า อยู ่ใ นหัว แต่ ก ็ เ ป็ น เรื ่อ งยากที่ จ ะสร้าง
ภาพลักษณ์ความเป็นผู้ใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากได้
อายุของเขาเป็นตัวจำกัดทำให้ไม่ว่าจะแต่งกายอย่างไรก็ไม่สามารถแสดง
ภาพลักษณ์นักธุรกิจมืออาชีพได้
ดังนั้นเสื้อผ้าจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ตัวอย่างเช่น ในบางองค์กร หัวหน้าที่เป็นผู้ใหญ่สามารถเข้าหาคนอื่นได้อย่าง
ไร้กังวล ส่วนหัวหน้าที่เป็นคนหนุ่มสาวต้องตีหน้าขรึมไปตลอด
ทำไมน่ะหรือ
เพราะถ้าไม่แสดงสีหน้าอย่างนั้นก็ดูไม่น่าจะโน้มน้าวใจใครได้ และคงเป็นเรื่อง
ยากที่จะสั่งการเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชา
แล้วจะทำงานได้อย่างไรถ้าลูกน้องไม่นับถือ
เผยเชียนยังเป็นเด็กนักศึกษา ในขณะที่คนซึ่งจะมาสัมภาษณ์งานส่วนใหญ่
น่าจะเป็นผู้ที่เข้าสู่โลกการทำงานมาสักพักแล้ว และอายุอาจจะมากกว่าเขาหกถึง
เจ็ดปี
ถ้าเผยเชียนใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นราคาไม่กี่สิบหยวน ใครจะให้ความนับ
ถือกันเล่า
ถึงใจจริงแล้ว เผยเชียนจะอยากสร้างเกมกากๆ ขึ้นมา แต่เขาก็ต้องสร้างอย่าง
พิถีพิถันอยู่ดี!
อย่างน้อยตัวเกมก็ต้อ งผ่านกระบวนการประเมิน และอัปโหลดขึ้น ไปบน
แพลตฟอร์มให้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นระบบจะถือว่าเป็นการทำผิดกฎ
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น เผยเชียนจะต้องควบคุมพนักงานให้เชื่อฟังตนเอง
ให้ได้
หมายความว่าเขาจะต้องสร้างภาพลักษณ์ให้ตนเอง
ถึงจะสร้างภาพว่าเป็นนักออกแบบเกมหนุ่มผู้มากความสามารถไม่ได้ เขาก็
ต้องสร้างภาพลักษณ์ทายาทลำดับสองของตระกูลร่ำรวยผู้รักษาคำพูดของตัวเอง
ให้ได้
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องหาเสื้อผ้าราคาแพง
เพราะอย่างไร ตามทฤษฎีแล้ว ทายาทลำดับสองของตระกูลร่ำรวยก็ไม่น่าจะ
ใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นราคาไม่กี่สิบหยวนทุกวัน
ก็จริงที่อาจจะมีคนแปลกๆ แบบนี้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องปกติอยู่ดี
ซินไห่ลู่ยิ้มอย่างสุภาพ “ถ้าบอสคิดว่าจำเป็น ดิฉันจะพาบอสไปเลือกเสื้อผ้าที่
ห้างใกล้ๆ ค่ะ”
นั่นคือสิ่งที่เผยเชียนต้องการที่สุด


รถปอร์เช่ คาเยนน์จอดอยู่ในชั้นใต้ดินของห้างที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจิงโจว
เผยเชียนเปิดประตูลงจากรถ
“ทางนี้ค่ะ”
เลขาซินนำทางเผยเชียนที่กำลังเพลิดเพลินกับการถูกดูแลอย่างประธาน
บริษัท
ห้างนี้เป็นห้างที่ใหญ่และหรูที่สุดในเมืองจิงโจวซึ่งเผยเชียนไม่เคยมาเลยสัก
ครั้ง
แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้สำคัญอะไร เขามาที่นี่เพื่อหาเสื้อผ้าเท่านั้น เลขาซินเลือก
อะไรให้ก็ใส่อันนั้น
ผู้ชายกับผู้หญิงเวลาซื้อของนั้นแตกต่างกัน
การซื้อของสำหรับผู้หญิงคือเดินทุกชั้นแวะทุกที่ เพื่อดูว่ามีอะไรตรงใจตัวเอง
พวกผู้หญิงจะสนุกสนานกับขั้นตอนการซื้อของ
แต่การซื้อของสำหรับผู้ชายคือเดินตรงไปซื้อของที่อยากได้แล้วกลับทันที ไม่
แวะซื้ออะไรเพิ่มเติม พวกผู้ชายจะเพลิดเพลินใจกับสิ่งของที่ได้มา
เผยเชียนเป็นผู้ชายปกติทั่วไปจึงไม่ได้สนใจเรื่องการซื้อของ เขาอยากไปซื้อชุด
ให้เร็วที่สุดแล้วกลับออกไป
เลขาซินเข้าใจอีกฝ่ายดีจึงไม่ได้พาเดินทั่วห้าง แต่ตรงไปที่ร้านสูทสุดหรูทันที
“Jesse เป็นแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังจากอิตาลี ก่อตั้งมาแล้ วมากกว่าหนึ่งร้อยปี
ขึ้นชื่อเรื่องงานตัดเย็บที่เนี้ยบไร้ที่ติค่ะ”
“นี่เป็นช็อป Jesse ที่เดียวในฮั่นตง”
“ถ้าบอสไม่ชอบ เราไปดูสูทแพงๆ กว่านี้ก็ได้ค่ะ แต่จะใช้เวลาวัดตัวกับตัดเย็บ
นานกว่า”
ซินไห่ลู่อธิบายประวัติของร้านคร่าวๆ ให้เผยเชียนฟังก่อนจะเข้าไป
“ไม่เป็นไร เอาร้านนี้แหละ”
เผยเชียนตัดสินใจทันที
สำหรับเขาแล้ว สูทสั่งตัดก็เหมือนกันหมด
คนสัมภาษณ์งานสามารถแยกระหว่างสูทสั่งตัดกับสูททั่วไปได้ง่ายๆ สูทสั่งตัด
จะพอดีตัวและดูมีระดับกว่า ส่วนสูททั่วไปจะดูไม่พอดีและราคาถูก
คนสวมสูทสัง่ ตัดจะดูเหมือนนักธุรกิจจากวอลล์สตรีต ส่วนคนสวมสูททั่วไปจะ
ดูเหมือนพนักงานขายประกัน
แต่คงเป็นเรื่องยากที่จะแยกแยะระหว่างสูทสั่งตัดสองตัวได้
พูดง่ายๆ ก็คือ ถึงจะเสียเงินเพิ่มก็คงไม่ได้แตกต่างอะไรกันมาก
ดังนั้นสูทร้านนี้จึงตรงกับความต้องการของเผยเชียน ที่สำคัญเลยคือเรื่องเวลา
เผยเชียนไม่ชอบรอ
ถึงจะสวมเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นราคาไม่กี่สิบหยวน แต่เผยเชียนกลับเดินยืด
อกเข้าไปในร้าน ไม่รู้สึกขวยเขินแม้แต่น้อย
นั่นก็เพราะเหตุผลเดิม คือเขามีซินไห่ลู่อยู่ด้วย
“ถึงขนาดตัวบอสจะหาอะไรใส่ได้เยอะ แต่ดิฉันแนะนำสามชุดนี้ค่ะ”
ซินไห่ลู่ไม่ได้สนใจพนักงานร้านเพราะเธอคุ้นเคยกับร้านมากอยู่แล้ว
“สามชุดนี้ ชุดแรกจะเป็นทางการมากกว่า สามารถใส่ไปงานสำคัญต่างๆ เช่น
งานประชุมธุรกิจกับประธานบริษัทท่านอื่นๆ หรืองานรับรางวัล อีกสองชุดจะดู
สบายๆ เหมาะกับการใส่ในชีวิตประจำวันค่ะ”
พูดอีกอย่างก็คือ อีกสองชุดเหมาะกับการใส่ไปสัมภาษณ์งาน
เขาไม่ต้องใส่ชุดที่ดูเป็นทางการเกินไปเพื่อไปสัมภาษณ์ แต่ก็ต้องดูดีด้วย
รวมถึงการทำงานในทุกๆ วันด้วย เผยเชียนต้องทำให้พนักงานมองเขาเป็น
ทายาทลำดับสองของตระกูลร่ำรวยผู้รักษาคำพูดของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้จะช่ วยเขา
ในการทำงานได้
ระบบไม่ได้เตือนอะไร
เผยเชียนพยักหน้า “เอาตามนี้”
ซินไห่ลู่หันไปหาพนักงาน “เอาอย่างละสองชุด ลายกับเครื่องประดับต้อง
ต่างกัน วัดตัวได้เลยค่ะ เร่งมือหน่อยนะคะ”
อย่างละสองชุดหรือ
ทำดีมาก!
เผยเชียนเกือบจะโพล่งไปแบบนั้นแต่ต้องห้ามตัวเองไว้
ระบบไม่ได้แจ้งเตือนอะไร หมายความว่าไม่ได้ผิดกฎ!
พนักงานรีบวิ่งมาวัดตัวเผยเชียน
สูทที่นี่ไม่ได้สั่งตัดมือ ไม่อย่างนั้นแต่ละชุดคงใช้เวลาหลายสัปดาห์และเป็น
เรื่องยุ่งยากไม่น้อย
สูทที่ร้านมีหลายขนาด พอวัดตัวลูกค้าเสร็จ ทางร้านก็จะเลือกตัวที่พอดีที่สุด
มาให้
ทำแบบนีก้ ็จะสามารถส่งของได้เร็ว
ระหว่างที่พนักงานกำลังวัดตัวอยู่ เผยเชียนไม่กล้าหมุนตัวไปมาจึงเหลือบไป
มองป้ายราคาของเสื้อเชิ้ตตัวใกล้ๆ
หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า
ราคาอยู่ที่หลักหมื่น แถมเลขข้างหน้าไม่ใช่เลขหนึ่งด้วย
ถ้าซื้อชุดพวกนี้หกชุด…
โอ้โห…!
เผยเชียนรู้สึกว่าตัวเองคิดเลขช้าลง
ซินไห่ลู่ยิ้มออกมาเมื่อเผยเชียนวัดตัวเสร็จ “วันนี้บอสทำงานหนักแล้ว พัก
ก่อนไหมคะ เดี๋ยวดิฉันซื้อเสื้อผ้าที่ใช้ใส่ในชีวิตประจำวันให้ บอสจะได้ไม่ต้องเลือก
เอง”
ช่างเป็นความสัมพันธ์ที่ดีเหลือเกิน
ดูไว้ นี่คือความเป็นมืออาชีพ!
“เลขาซิน ผมฝากทุกอย่างด้วยนะ”
บทที่ 33 ฤๅษีผแู้ กร่งกล้า

รถปอร์เช่ คาเยนน์จอดอยู่ตรงประตูทิศใต้ของมหาวิทยาลัย
เผยเชียนกำลังจะเปิดประตูลงจากรถ
ซินไห่ลู่ยื่นมือเรียวส่งซองใส่การ์ดให้จากที่นั่งคนขับ
“ก่อนหน้านี้ บอสสั่งให้เช่าอพาร์ตเม้นต์สองห้องนอนใกล้มหาวิทยาลัยให้ นี่
คีย์การ์ดกับกุญแจค่ะ”
เผยเชียนไม่ได้รับมาทันที แต่รอดูการตอบสนองจากระบบก่อน
เยี่ยม! ไม่มีการตอบกลับ! แปลว่าไม่ผิดกฎ!
ถึงค่าเสื้อผ้าและค่าเช่าอพาร์ตเม้นต์จะดูไม่เกี่ยวกับการบริหารบริษัท แต่ก็
เกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ของเจ้าของบริษัท
จะยัดเสื้อผ้าทั้งหมดที่ซื้อมาไว้ในหอพักก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ
แล้วถ้าต้องทำงานล่วงเวลาหรือเดินทางไปติดต่อธุรกิจในอนาคตขึ้นมาล่ะ จะ
ทำอย่างไรถ้าหอพักปิดไฟแล้วหรือไม่อนุญาตให้เขาออกจากหอ
ดังนั้นจึงมีเหตุผลเหมาะสมให้เขาเช่าอพาร์ตเม้นต์
นอกจากนี้ ค่าเช่าก็ไม่ได้แพงมากเกินไป ถ้าเขาซื้อสูทราคาหลักหมื่นได้ เขาก็
ต้องจ่ายค่าเช่าอพาร์ตเม้นต์ได้เป็นธรรมดา
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในฮั่นตงปี 2009 ถึงจะเป็นอพาร์ตเม้นต์สองห้องนอน
ในย่านหรูก็ราคาไม่ถึงสองพันหยวน
ไม่เหมือนสิบปีข้างหน้าที่อพาร์ตเม้นต์ห้องนอนเดี่ยวในปักกิ่งราคานั้นอยู่
ราวๆ เจ็ดถึงแปดพันหยวนเลยทีเดียว
พอเห็นว่าระบบไม่ได้แจ้งเตือนอะไร เผยเชียนก็รับซองใส่คีย์การ์ดมาอย่างไร้
กังวล
เมื่อชายหนุ่มพลิกดูก็เจอกุญแจ คีย์การ์ด และโน้ตแผ่นเล็กเขียนอธิบายที่อยู่
ของอพาร์ตเม้นต์ด้วยลายมือบรรจงของซินไห่ลู่
ย่านพักอาศัยที่ว่าไม่ได้อยู่ห่างจากประตูทิศใต้ของมหาวิทยาลัยมากนัก ห่าง
กันแค่ประมาณไม่กี่สิบเมตรเท่านั้น
“งั้นก็ตามนี้นะคะ พักผ่อนให้สบาย เดี๋ยวดิฉันส่งเสื้อผ้าที่ซื้อใหม่ไปที่พักของ
บอสภายในสองสามวันนี้ค่ะ”
รถปอร์เช่ คาเยนน์จากไป
เผยเชียนรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก
การที่ระบบไม่ได้ห้ามปรามอะไรหมายความว่าเขากำลังทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่!
เผยเชียนเดินเข้าไปในย่านพักอาศัยสุดหรูใกล้มหาวิทยาลัยพลางตรวจดูคีย์
การ์ด
สมัยอยู่มหาวิทยาลัย เผยเชียนเคยได้แต่มองย่านนี้อยู่ไกลๆ ไม่เคยเข้ามาเลย
สักครั้ง
พอเดินตามที่อยู่ในโน้ต เขาก็เจออพาร์ตเม้นต์สองห้องนอนของตัวเอง
เขาตะลึงงันหลังจากเปิดประตูเข้าไป
ถึงจะเป็นอพาร์ตเม้นต์สองห้องนอน แต่ขนาดกลับใกล้เคียงอพาร์ตเม้นต์สาม
ห้องนอน กะดูคร่าวๆ น่าจะมีพื้นที่ประมาณหนึ่งร้อยสี่สิบตารางเมตร
ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ครบครัน
ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม และเครื่องอาบน้ำต่างๆ ก็เตรียมไว้พร้อมสรรพ
อพาร์ตเม้นต์นี้เป็นที่ที่แค่ลากกระเป๋าเข้ามาก็พร้อมอยู่ได้เลย
เอาเข้าจริง ไม่ต้องลากกระเป๋ามาก็อยู่ได้
ทันทีที่เผยเชียนนั่งลงบนโซฟา ก้นเขาก็รู้สึกไม่อยากลุกออกไปไหนอีกตลอด
ชีวิต
เมื่อเทียบกับที่นี่แล้ว หอพักนักศึกษาก็ไม่ต่างอะไรจากกรงนก!
ไม่สิ กรงนกยังดูดีและเย็นสบายกว่าด้วยซ้ำ!
หลังจากนั่งเหม่ออยู่บนโซฟาครู่หนึ่ง เผยเชียนก็เรียกสติตนเองกลับมาแล้ว
เริ่มทำงาน
เขาจะลุ่มหลงกับความสะดวกสบายนี้ไม่ได้! เขามีฝันที่ต้องทำ!
ยังมีเงินต้องผลาญ!
เผยเชียนเปิดหน้าต่างระบบขึ้นมาตรวจดูเงินทุนระบบ
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ: เผยเชียน>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1:1>
<เงินทุนระบบ: 271,145.5 (↓228,854.5)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 1,957.6>
รายได้สัปดาห์แรกของเขาอยู่ที่ประมาณห้าแสนกว่าหยวน ส่วนสัปดาห์ที่สอง
ได้มาเจ็ดแสนกว่าหยวน ถึงรายได้สัปดาห์ที่สามจะยังไม่เข้า แต่กะดูคร่าวๆ น่าจะ
อยู่ที่ประมาณเจ็ดถึงแปดแสนหยวน
จากข้อมูลนี้ ที่เผยเชียนคาดไว้ว่ารายได้รวมเดือนนี้จะอยู่ที่ห้าล้านหยวนนั้น
ค่อนข้างถูกต้อง เพียงแค่รายได้รวมจริงๆ นั้นน้อยกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย
เขาใช้เงินไปมากกว่าเจ็ดแสนหยวนเพื่อเช่าพื้นที่ทำเป็นสำนักงานและจะต้อง
เสียเงินเพิ่มอีกสามแสนกว่าหยวนต่อเดือนเป็นค่าเช่าด้วย
ค่าอุปกรณ์สำนักงานอยู่ที่ประมาณแปดแสนกว่าหยวน เขากะว่าจะจ่ายก้อน
นี้ทันทีที่รายได้ของสัปดาห์หน้าเข้า
ส่วนค่าเสื้อผ้า ค่าเช่ารถและอพาร์ตเม้นต์รวมกันอยู่ที่ประมาณหนึ่งแสนกว่าๆ
เป็นจำนวนเล็กน้อยที่เผยเชียนไม่ได้สนใจอะไรมาก
ถึงจะยังมีเงินทุนระบบเหลืออยู่ แต่ถ้าคำนวณจากเงินทุนระบบของรอบนี้ที่
ได้มาห้าแสนหยวน เขาก็ผลาญไปได้แล้วถึงสองแสนกว่าหยวน!
ถือเป็นผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง!
แต่แน่นอนว่ายังมีเรื่องที่เขาต้องจัดการอีก
ในเมื่อตอนนี้เผยเชียนเช่าพื้นที่ทำสำนักงานแล้ว ต่อไปก็ต้องจ้างพนักงาน
ไม่อย่างนั้นระบบจะต้องเตือนแน่ว่าทำไมถึงเช่าที่กว้างๆ มาปล่อยทิ้งไม่ทำอะไร
“ได้เวลาคิดว่าจะจ้างคนแบบไหนแล้ว”
“จ้างคนที่เก่งเกินไปก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะไปกระทบแผนที่วางไว้”
“จ้างคนที่ขี้เกียจเกินไปก็ไม่ได้อีกเพราะต้องสร้างเกม ไม่งั้นจะทำตามที่ระบบ
กำหนดไม่ได้”
“อืม…นี่เป็นงานด้านเทคนิค ฉันต้องคิดดีๆ”
ยิ่งเผยเชียนคิดเรื่องนี้มากเท่าไร เรื่องก็ดูยากขึ้นเท่านั้น
แต่เพื่อความสุขในตอนนี้และในอนาคต ถึงจะเป็นเรื่องยากก็ต้องลองทำดู
หลังจากครุ่นคิดไปมา ในที่สุดเผยเชียนก็สรุปได้อย่างหนึ่ง
นั่นก็คือ เขาต้องหาพนักงานเอาเองจะดีกว่าหาทางออนไลน์!
เพราะถ้าโพสต์ตำแหน่งงานลงช่องทางออนไลน์ คนที่คิดว่ามีคุณสมบัติตรง
ตามที่ระบุก็จะสมัครเข้ามา
คนแบบที่เผยเชียนอยากจ้างจะไม่กล้าสมัครตำแหน่งที่ว่า
พูดง่ายๆ ก็คือ คุณสมบัติที่กำหนดไว้ต่ำแล้วนั้นยังต่ำไม่พอ
จะโพสต์จ้างงานออนไลน์ต้องเขียนอธิบายดีๆ
ถ้าเผยเชียนลงโพสต์ไปว่าต้องการหาคนมานั่งเล่นไม่ทำอะไร ระบบต้องเตือน
เขาแน่
มี ‘คนที่ไว้ใจได้’ แบบหม่าหยางแค่คนเดียวนั้นไม่พอจริงๆ
แล้วเขาจะไปหาคนมีพรสวรรค์แบบหม่าหยางได้จากไหนอีก
หลังจากครุ่นคิดอย่างหนัก เผยเชียนก็นึกถึงคนคนหนึ่งขึ้นมา
ถ้าจ้างคนนี้มาทำงานได้ ทุกอย่างจะต้องสมบูรณ์แบบ!

หลังจากมองหาตามร้านอินเทอร์เน็ตใกล้มหาวิทยาลัยไปสามร้าน เผยเชียนก็
พบบุคคลที่เขาต้องการ
คนผู้นี้ไม่ได้อยู่ที่ไหนเป็นหลักเป็นแหล่ง แต่ก็สามารถตามตัวได้ตามร้าน
อินเทอร์เน็ตใกล้ๆ ถ้าไม่ได้อยู่สักร้านแสดงว่ากำลังอยู่ระหว่างเดินทางไปอีกร้าน
ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะนั่ งอยู่ร้านเดิมนานเกินไปจนเบื่อ เลยออกไปเปลี่ยน
บรรยากาศที่ร้านใหม่และใช้เวลาอยู่ที่นั่นสักสองสามสัปดาห์ค่อยย้ายที่อีก
บุคคลระดับเทพนี้มีชื่อว่าเปาซวี่ แต่ทุกคนที่ร้านอินเทอร์เน็ตชอบเรียกเขาว่า
เปาสู่
คำว่า ‘สายฟาร์มจนตับพัง’ เพิ่งจะมานิยมใช้กันช่วงสองสามปีหลังจากนี้
แต่กรณีของเปาซวี่ จะไปเรียกเขาว่าเป็นผู้เล่นสายฟาร์มจนตับพังก็จะเป็น
การดูถูกจนเกินไป
ควรเรียกเขาว่าเป็น ‘มหาสายฟาร์มจนตับระเบิด’ มากกว่า!
เปาซวี่ในตอนนี้ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักของใครหลายคน
แต่ไม่นานชื่อของเขาจะดังไปทั่วมหาวิทยาลัย
นั่นเพราะสองเหตุการณ์นี้
เหตุการณ์แรกคือเขาใช้เวลาตั้งแต่ช่วงปลายฤดูหนาวต้นฤดูใบไม้ผลิจนถึงฤดู
ร้อนตอนปีหนึ่งฟาร์มเลเวลกับไอเทมในเกมที่ร้านอินเทอร์เน็ต
ตอนที่อากาศร้อนจัดของช่วงฤดูร้อนมาถึงและทุกคนหันมาสวมเสื้อกล้าม
กางเกงขาสั้นกันแล้ว แต่เขายังใส่เสื้อสเวตเตอร์กับกางเกงวอร์ มขายาวอยู่เลย
แถมยังมีเสื้อโค้ตแขวนอยู่ตรงพนักเก้าอี้ด้วย
นั่นเป็นเพราะเขาไม่กลับหอพักเลยและไม่มีเวลาไปเปลี่ยนชุด
พอเหนื่อยก็เอนเบาะเก้าอี้นอน
พอตื่นก็ไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำแล้วกลับมาฟาร์มต่อ
วันเวลาของเขาเป็นไปอย่างนั้น ไม่ได้สนใจฤดูกาล
หลังเหตุการณ์นนั้ เขาก็ถูกเรียกว่า ‘น้องกางเกงวอร์ม’
เหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นช่วงปีสอง ทางมหาวิทยาลัยขอให้เขาดร็อปเรียน
เพราะขาดเรียนมากเกินไป
ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังนั่งฟาร์มเกมอยู่ร้านอินเทอร์เน็ต
ครอบครัวติดต่อเขาไม่ได้ จนคิดว่ามีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นและเขาตายไปแล้ว
เงินค่าใช้จ่ายมาจากการขายไอเทมในเกมและเปิดบริการพาฟาร์มเลเวลรวม
ถึงไอเทม เขาใช้ชีวิตแบบนั้นไปอีกสองสามปีที่ร้านอินเทอร์เน็ต
นี่คือความเทพของคนผู้นี้
แน่นอนว่าสำหรับคนส่วนใหญ่ เปาซวี่เป็นเหมือนคนป่วยติดอินเทอร์เน็ต
ระยะสุดท้ายที่ต้องช็อตไฟฟ้าเพื่อรักษา
แต่เผยเชียนกลับเห็นเป็นเรื่องดี
คนแบบนี้คือเกมเมอร์ขั้นเทพตัวจริง
คนแบบนี้รู้จักเกมส่วนใหญ่ในตลาดเป็นอย่างดี สามารถตอบคำถามเรื่องการ
ออกแบบเกมได้
จ้างเกมเมอร์ขั้นเทพแบบนี้ไว้เป็นพนักงานก็เป็นเรื่องที่เหมาะสมจริงไหม
แต่ก่อนอื่นหมอนั่นต้องจัดการกับตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก
นอกจากนี้เผยเชียนยังชื่นชมเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเปาซวี่ด้วย นั่นคือ
เขาเล่นเกมเก่งมาก แต่ไม่รู้เรื่องการออกแบบเกมเลยสักนิด!
เช่น ถ้าคนคนหนึ่งอยากเป็นเชฟเก่งๆ เขาก็ต้ องแยกแยะได้ว่าอะไรอร่อยไม่
อร่อย
แต่กลับกัน ต่อให้มีคนที่รับรู้รสชาติได้ดีและพิถีพิถันเรื่องรสชาติอาหารมาก
เขาผู้นั้นจะเป็นเชฟยอดฝีมือได้หรือเปล่า
ก็ไม่
เอาเข้าจริง ยิ่งเป็นคนเรื่องมากเรื่องอาหารเท่าไหร่ก็ยิ่งยากที่จะเป็นเชฟได้
คนที่สุดโต่งเกินไปนั้นไม่ใช่ว่าจะดี
จริงอยู่ที่ผู้พัฒนาเกมส่วนใหญ่มีใจรักเรื่องเกม แต่ถ้าคลั่งมากเกินไปก็ไม่ใช่
เรื่องดี
คนที่คลั่งเกมมากเกินไปอาจไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล และอาจ
เข้าใจเรื่องเกมผิดไปจากที่เกมเมอร์ส่วนใหญ่เป็น
ดังนั้นเผยเชียนจึงคิดว่าเปาซวี่เป็นคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
เหตุผลหนึ่งก็มาจากที่เปาซวี่เป็นคนคลั่งเกม ระบบไม่น่าห้ามอะไรถ้าจะจ้าง
คนที่เล่นแต่เกมจนเทพมาเป็นพนักงานแล้วให้เงินเดือนสูงๆ
อีกเหตุผลหนึ่งคือ เขาเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องการออกแบบเกม เป็นไปได้สูงที่จะติ
นั่นตินี่แล้วพาทุกอย่างเละเทะไปหมด
ช่างเป็นพนักงานที่เหมาะที่สุด!
แต่เผยเชียนก็ไม่มั่นใจว่าจะทำให้เปาซวี่ยอมมาทำงานด้วยได้หรือเปล่า
เพราะอย่างไร คนผู้นี้ก็เป็นคนที่ครอบครัวคิดว่าตายไปสองปีแล้ว
เป็นเรื่องยากมากที่จะคิดหาวิธียอมทำให้เขาออกจากร้านอินเทอร์เน็ตได้
บทที่ 34 จ้างงานออนไลน์

จากความทรงจำของตัวเอง เผยเชียนไปตามหาเปาซวี่ที่ร้านอินเทอร์เน็ต
ใกล้ๆ ประตูทิศตะวันตกของมหาวิทยาลัย
เอกลักษณ์ของเป้าหมายโดดเด่นชัดเจน
ตอนนี้เป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง ทุกคนใส่เสื้อแขนยาวกับกางเกงขายาว แต่เปา
ซวี่กลับสวมเสื้อสเวตเตอร์และพาดเสื้อโค้ตตัวหนาไว้บนพนักเก้าอี้
นั่นไม่ได้เป็นเพราะเขากลัวหนาว แต่เป็นเพราะเขาใส่ชุดนี้มาตั้งแต่หน้าหนาว
ที่ผ่านมาต่างหาก…
นอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใครทำแบบนี้ได้อีก
ตอนนี้เปาซวี่กำลังนั่งเหม่ออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์
บนหน้าจอ ตัวละครของเขานั่งเปื่อยไม่ทำอะไรอยู่บนเก้าอี้ที่ลอยอยู่เหนือ
เมืองหลัก
เมื่อเผยเชียนเดินเข้าไปใกล้ก็ได้กลิ่นหนังศีรษะมันเยิ้มจางๆ
กลิ่นไม่ได้รุนแรงมาก น่าจะเป็นเพราะผมของเปาซวี่บางจนแทบจะไม่เหลือ
อะไรบนหัวแล้ว
อืม ถ้าฉันทำให้เขายอมออกจากร้านอินเทอร์เน็ตได้ ฉันจะเอาเงินฟาดให้ไป
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ
“เปาซวี”่ เผยเชียนเอ่ยทัก
หลังจากนิ่งไปสิบวินาที เปาซวี่ก็หันหน้ามามอง ดวงตาที่ด้านใต้ดำคล้ำเป็นวง
ใหญ่กะพริบ “นายเรียกฉันเหรอ”
พอมั่นใจว่าถูกคน เผยเชียนก็นั่งลงข้างๆ เปาซวี่
“ฉันมีงานให้นายทำ สนใจมั้ย” เผยเชียนถาม
เปาซวี่หันกลับไปจ้องจอด้วยสายตาว่างเปล่า “ผู้จัดการร้านเน็ตเหรอ ไม่
สนอ่ะ”
“เปล่า ไม่ใช่ผู้จัดการร้านเน็ต นักออกแบบเกมเพื่อสร้างเกมของนายขึ้นมา
เองต่างหาก” เผยเชียนตอบ
เปาซวี่หันกลับมามองประเมินเผยเชียนช้าๆ
สุดท้ายเขาก็สรุปได้ว่าเผยเชียนเป็นแค่นักศึกษาธรรมดาคนหนึ่ง
“อย่ามาอำกันเล่น” เปาซวี่ไม่เชื่อคำของเผยเชียน
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก ในใจนึกสงสัยว่าสถานการณ์จะดีกว่านี้ไหมถ้าเขาใส่
ชุดอื่นมา
แต่สูทของเขายังไม่มาส่ง
เผยเชียนไม่อยากให้เรื่องยืดยาวมากจึงควักเงินห้าร้อยหยวนออกมาจาก
กระเป๋า
“ถ้านายอยากทำงานนี้ นี่เป็นเงินเดือนล่วงหน้า”
เปาซวี่มองแบงก์ร้อยหยวนสีแดงห้าใบด้วยดวงตาเป็นประกาย
เขาเริ่มเชื่อขึ้นมาเล็กน้อยว่าเผยเชียนพูดเรื่องจริง
ถ้าจะมาหลอก เผยเชียนต้องเป็นฝ่ายขอเงิน ทำไมเขาต้องเอาเงินมาให้ด้วย
แถมยังให้ตั้งห้าร้อยหยวน
ในปี 2009 นี้ สำหรับคนแบบเปาซวี่แล้ว เงินห้าร้อยหยวนถือเป็นเงินก้อน
ใหญ่ เพราะค่าใช้บริการร้านอินเทอร์เน็ตในช่วงปีนี้อยู่ที่สองถึงสามหยวนต่อ
ชั่วโมงเท่านั้น
“ไม่ใช่แค่นี้นะ บริษัทของเรามีคอมพิวเตอร์สเป็กสูงพ่วงด้วยหน้าจอคู่ นายจะ
เล่นเกมตอนไหนก็ได้ตามใจชอบ” เผยเชียนพูดเสริมอย่างมั่นใจ
เปาซวี่ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที
เขาไม่ต้องเสียเงินสักแดงเดียวแต่ได้เล่นเกมบนคอมพิวเตอร์สเป็กสูงตอนไหน
ก็ได้!
จะไม่สะดวกสบายกว่าร้านอินเทอร์เน็ตหรือ
ทำแบบนี้ก็เหมือนกับโยนปลาตัวเล็กให้แมวผู้หิวโซ!
“ไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม แล้วงานต้องทำอะไรบ้าง” เปาซวี่ถามอย่างงุนงง
“งานของนายก็คือการเล่นเกม! ตำแหน่งงานที่ฉั นจะจ้างนายคือผู้ทดสอบ
เกม!”
“นายต้องทดสอบเกมของบริษัทเราและบริษัทอื่นๆ ถ้าเจอปัญหาอะไร นายก็
มารายงานให้ฉันฟังให้ไวที่สุด”
“แน่นอนว่านายมีส่วนร่วมในขั้นตอนการออกแบบและเสนอความเห็นได้
ด้วย”
“ฉันคิดว่านายทำตำแหน่งนี้ได้ นายคิดว่าไง”
เผยเชียนผุดยิ้มเจ้าเล่ห์
เปาซวี่ย่นปาก ลำคอสั่นเล็กน้อย
นี่คือชีวิตที่เขาเฝ้าใฝ่ฝันถึงไม่ใช่หรือ
ได้เล่นเกมและทำเงินไปด้วย จะมีอะไรดีไปกว่านี้อีก
“ได้เลย…เอ่อ ได้ ฉันจะลองคิดดู ถ้าเป็นอย่างที่นายว่าจริง ฉัน…จะลองทำดูก็
ได้”
ตอนแรกเปาซวี่จะตอบไปว่า ‘ได้เลย’ แต่พอคิดดูอีกที เขาก็ยังสงสัยว่ากำลัง
โดนต้มอยู่หรือเปล่า
ทำให้เขาต้องเปิดทางรอดให้ตัวเอง เปาซวี่จะตัดสินใจอีกทีหลังจากเห็นที่
ทำงานแล้วจริงๆ
เผยเชียนมั่นใจว่าเขาทำให้เปาซวี่คล้อยตามได้สำเร็จ
ไม่มีเหตุผลอะไรให้อีกฝ่ายปฏิเสธข้อเสนอสุดดีเยี่ยมขนาดนี้
“โอเค งั้นที่นายต้องทำตอนนี้คือ…”
“เอาเงินห้าร้อยหยวนนี้ไปอาบน้ำ ตัดผม ซื้อเสื้อผ้าใหม่”
“บริษัทเราอยู่บนตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว ถ้านายไปสภาพนี้ ยามอาจไม่ให้นาย
เข้าเพราะคิดว่าเป็นคนเร่ร่อนก็ได้”
“นายน่าจะได้เริ่มงานภายในอีกสองวัน เดี๋ยวฉันโทรบอกแล้วกัน”
“เตรียมตัวไว้ให้พร้อมล่ะ”
เผยเชียนหันกลับแล้วเดินออกไปหลังจากเสร็จกิจ
เปาซวี่มองเงินห้าร้อยหยวนในมือ น้ำตาเริ่มปริ่ม
“ในที่สุด…ก็มีคนเห็นความสามารถของฉันสักที…!”
เขากำเงินห้าร้อยหยวนแน่นแล้วฟุบลงบนโต๊ะพร้อมสะอื้นไห้
แสงหน้าจอสะท้อนลงบนหัวที่เกือบล้านของเขาฉายเป็นแสงอบอุ่น
ทุกคนที่อยู่ใกล้ๆ นึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
หรือเขาจะได้ของหายากมา นั่นเป็นเหตุผลที่เขาดีใจขนาดนี้หรือเปล่านะ


เผยเชียนแสนสุขใจหลังจากจัดการเรื่องเปาซวี่เสร็จ
เขาได้คนที่ไว้ใจได้มาอีกคนแล้ว!
ได้หม่าหยางกับเปาซวี่มาก็เท่ากับได้มือซ้ายมือขวามาครบ ต่อไปอะไรๆ ก็จะ
ง่ายขึ้น
เผยเชียนไม่กลัวว่าเปาซวี่จะถอนตัวกลางคัน เพราะอีกฝ่ายไม่มีทางแสร้งทำ
หน้าตาตื่นเต้นที่เห็นเมื่อครู่ได้
เปาซวี่ไม่มีทางปฏิเสธข้อเสนอที่ดีแบบนี้หรอก
น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถหาคนมีความสามารถแบบเปาซวี่ได้อีก
เผยเชียนยังต้องจ้างคนผ่านช่องทางออนไลน์
เขาใช้เวลาห้านาทีพิมพ์คุณสมบัติที่ต้องการออกมาหลายข้อบนจอมือถือ
จากนั้นก็ส่งให้ซินไห่ลู่เอาไปโพสต์ประกาศลงบนโลกออนไลน์ตามที่เขาต้องการ
มีสามตำแหน่งที่เปิดรับ
ตำแหน่งแรกคือนักออกแบบเกม คุณสมบัติที่ต้องการคือมีใจรักเรื่องเกม คน
ที่สามารถใช้เครื่องมือพัฒนาเกมได้จะรับพิจารณาเป็นพิเศษ
ตำแหน่งที่สองคือนักออกแบบงานภาพ คุณสมบัติที่ต้องการคือต้องเชี่ยวชาญ
ด้านศิลปะระดับหนึ่งเพื่ อที่จะสามารถเข้าใจความต้องการของนักออกแบบเกม
และสื่อสารกับทีมภายนอกที่จ้างมาได้เป็นอย่างดี
ตำแหน่งที่สามคืองานบริหารจัดการทั่วไป คุณสมบัติที่ต้องการคือเป็นผู้หญิง
หน้าตาดีกิริยามารยาทงาม
เงินเดือนที่ให้สูงกว่ามาตรฐานและเงินเดือนที่จะได้จริงๆ สามารถตกลงกันได้
ภายหลัง
เขาไม่ได้เปิดรับตำแหน่งโปรแกรมเมอร์เพราะตัวเกมสามารถสร้างได้โดยใช้
แค่เครื่องมือพัฒนาเกมและเทมเพลตต่างๆ การใช้เครื่องมือพัฒนาเกมเป็นหน้าที่
หลักของนักออกแบบเกมและปัญหาอยู่ที่จะใช้งานอย่างไรแค่นั้น
สำหรับงานเฉพาะทางอื่นๆ พวกเขาสามารถขอความช่วยเหลือผ่ านเครื่องมือ
พัฒนาเกมได้ โดยจะมีโปรแกรมเมอร์ที่เชี่ยวชาญช่วยควบคุมจากระยะไกล ซึ่งก็
ต้องจ่ายเงินให้โปรแกรมเมอร์เหล่านี้ในอัตราค่าจ้างฟรีแลนซ์ จึงไม่จำเป็นต้องจ้าง
โปรแกรมเมอร์มาไว้ในบริษัท
ส่วนตำแหน่งนักออกแบบงานภาพมีหน้าที่ในการติดต่อสื่อสารด้วยเช่นกัน
ในเครื่องมือพัฒนาเกมมีทรัพยากรงานภาพมากมาย พวกเขาสามารถจ้างทีม
แยกมาทำงานภาพให้ได้โดยต้องมีคนทำหน้าที่ติดต่อสื่อสารตลอดกระบวนการ
คนที่ทำหน้าที่ติดต่อสื่อสารต้องเป็นคนที่เชี่ยวชาญด้านศิลปะ ไม่อย่างนั้นทั้ง
สองฝ่ายจะไม่เข้าใจกันและประสิทธิภาพการทำงานก็จะลดลง
ส่วนตำแหน่งบริหารจัดการนั้น…
คงจะไม่มากเกินไปใช่ไหมถ้าจะจ้างสาวสวยๆ สักสองสามคนมาเป็นพนักงาน
ต้อนรับเพราะไหนๆ ก็อุตส่าห์ลงทุนทำสำนักงานมาอลังการขนาดนี้แล้ว
ซินไห่ลู่ไม่ได้เป็นแค่เลขาของเผยเชียน เธอรับผิดชอบหลายเรื่องในบริษัทด้วย
เช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะจ้างพนักงานจัดการทั่วไปมาช่วยแบ่งเบา
งานยิบย่อยไปบ้าง
คุณสมบัติที่เผยเชียนระบุไปกำกวมมาก
ยกตัวอย่างเช่นตำแหน่งนักออกแบบเกม เขาบอกไปแค่ว่าต้องมีใจรักเรื่องเกม
และคนที่ใช้เครื่องมือพัฒนาเกมได้จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
แทบไม่มีข้อจำกัดอะไรเลย ใครๆ ก็สามารถสมัครตำแหน่งนี้ได้
ถ้าตั้งคุณสมบัติไว้สูงเกินไป คนที่มาสมัครก็จะเป็นพวกมืออาชีพในวงการซึ่ง
จะให้เป็นแบบนั้นต้องไม่ดีแน่
เขาต้องลดคุณสมบัติลงมาเพื่อที่จะได้พวกไม่เอาถ่านมาบ้าง
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ การเตรียมการทั้งหมดก็เกือบครบสมบูรณ์
พื้นที่สำนักงานก็ได้แล้ว อุปกรณ์สำนักงานต่างๆ ก็จะมาลงเร็วๆ นี้เหมือนกัน
เรื่องเสื้อผ้าก็จัดการแล้ว
คนข้างกายที่ไว้ใจได้ก็มีหม่าหยางกับเปาซวี่แล้ว
ซินไห่ลู่จัดการเรื่องต่างๆ ในบริษัทได้อย่างดีเยี่ยม
ขอแค่จัดการเรื่องจ้างพนักงานใหม่เสร็จ เขาก็สามารถเปิดบริษัทและเริ่ม
ปฏิบัติการผลาญเงินได้!
พอคิดถึงอนาคตอันสดใส เผยเชียนก็รู้สึกสุขใจจนล้นอก
บทที่ 35 สัมภาษณ์งาน

บ่ายวันอังคาร
หวงซื่อปั๋วมาถึงทางเข้าตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวและกำลังตะลึงงัน
บริษัทเกมเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีอยู่บนตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวจริงๆ!
เขารู้ว่าตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวเป็นตึกสำนักงานหรูและบริษัทที่มาตั้งสำนักงาน
ที่นี่ได้จะต้องมีเงิน
ยั ง ไม่ ท ั น ที ่ จ ะรวบรวมความกล้ า เพื ่ อ เข้ า ตึ ก เขาก็ เ ห็ น หนุ ่ ม สาวมาก
ความสามารถหลายคน
แต่ละคนสูงชะลูด สวมสูทดูดี ผู้ชายก็หล่อเหลา ผู้หญิงก็สวยสง่า
คนเหล่านี้คือพนักงานที่ทำงานในบริษัทจัดการลงทุนที่ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว
ดูจากระยะไกล ก็บอกได้ว่าคนพวกนี้จะต้องประสบความสำเร็จในอนาคต
อย่างแน่นอน
ความมั่นใจของหวงซื่อปั๋วเริ่มหดหายไปเล็กน้อยทันที
เขาอึ้งไปหมด!
ช่วงเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา เขาไปเจอประกาศรับสมัครงานของบริษัทเถิงต๋า
เน็ตเวิร์กเทคโนโลยีบนอินเทอร์เน็ตโดยบังเอิญ
เขารู้สึกว่าตัวเองมีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุจึงส่งประวัติส่วนตัวไป
ไม่นานก็ได้รับการตอบกลับจากเลขาสาวเสียงหวานบอกให้มาสัมภาษณ์งาน
วันอังคารตอนสิบโมงเช้าที่ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวชั้นสิบเจ็ด
นอกจากนี้เลขาสาวยังส่งอีเมลอธิบายรายละเอียดที่อยู่มาให้อย่างรวดเร็วอีก
ด้วย
หวงซื่อปั๋วตกตะลึงไปเมื่อได้ยินว่าให้ไปที่ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว นั่นมันตึกที่หรู
ที่สุดไม่ใช่หรือ
แต่ไม่ว่าจะค้นหาในอินเทอร์เน็ตอย่างไรก็หาเว็บไซต์ทางการของบริษัทเถิงต๋า
เน็ตเวิร์กเทคโนโลยีไม่เจอ
พอได้ค้นชื่อบริษัทดูก็ได้รู้ว่าเป็นบริษัทที่สร้างเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลาง
ทะเลทรายและเกมแม่ทัพผี!
หวงซื่อปั๋วรู้สึกละอายใจเล็กน้อยที่ตนได้เล่น ทั้งสองเกมแต่ไม่เคยรู้เลยว่า
บริษัทที่สร้างเกมนี้ตั้งอยู่ที่เมืองจิงโจว…
เขาไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับบริษัท แต่ก็คิดว่าเป็นข้อเสนอที่ดีเพราะบริษัทมีเกม
ที่ประสบความสำเร็จถึงสองเกมและตั้งอยู่ที่ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว
และต่อให้ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด แต่เขาก็มั่นใจว่ าถ้าบริษัทนี้ไม่แย่มากจริงๆ
อย่างไรเสียก็ต้องดีกว่าบริษัทปัจจุบันของเขาแน่นอน
แต่เขาก็กังวลว่าบริษัทจะรับตนเองเข้าทำงานหรือเปล่า
หวงซื่อปั๋วเพิ่งจะเปลี่ยนสายการทำงานกลางทางและเพิ่งเข้าอุตสาหกรรมนี้
มาได้ประมาณหกเดือน ตอนนี้ทำงานอยู่ตำแหน่งระดับล่างสุด ซึ่งก็คือนักวางแผน
จัดการ ได้เงินเดือนหนึ่งพันห้าร้อยหยวน
เพราะต้องทำงานล่วงเวลาทุกวัน หัวเขาจึงเริ่มล้านก่อนวัยอันควร
ทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจลองสมัครบริษัทนี้ดูหลังจากเห็นประกาศรับสมัครงาน
ถึงจะได้เงินเดือนเท่าเดิม แต่ถ้าได้ทำงานล่วงเวลาน้อยลง หวงซื่อปั๋วก็พอใจ
แล้ว
แต่เขาก็รู้ว่าประวัติส่วนตัวของตนเองไม่ได้โดดเด่นอะไร เป็นไปได้สูงว่าจะ
โดนมองข้าม
แม้จะเป็นในวงการเกมเล็กๆ ของเมืองจิงโจว เขาก็ถือว่าเป็นบุคลากรระดับ
ล่าง นักศึกษาจบใหม่ยังมีโอกาสได้งานมากกว่าด้วยซ้ำ
พอได้เห็นเหล่ามืออาชีพด้านการลงทุนสวมสูทเดินผ่านไปเมื่อครู่ เขาก็รู้สึก
ต้อยต่ำลงไปอีกเพราะตัวเองใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นมา
เขาเช็กเวลาและพบว่ามาเร็วกว่าที่นัดหมายเล็กน้อย
หวงซื่อปั๋วรีบออกจากบ้านแต่เช้าและขึ้นรถโดยสารสาธารณะเพราะกลัวว่า
จะมาสาย แต่เพราะรถไม่ติดจึงมาถึงก่อนเวลา
หลังจากตัดสินใจว่าไม่ควรรอด้านนอก หวงซื่อปั๋วก็รวบรวมความกล้าและ
เดินเข้าล็อบบี้สุดหรูไป
พออธิบายตรงโต๊ะต้อนรับว่ามาที่นี่ทำไม พนักงานก็ขอชื่อและทำคีย์การ์ด
ชั่วคราวให้
หวงซื่อปั๋วใจเต้นแรงระหว่างที่รอลิฟต์
เขากังวลหนักกว่าตอนสอบสมัยมัธยมปลายอีก
อาจเป็นเพราะเพดานของที่นี่สูงมากอีกทั้งการตกแต่งก็หรูหรา หวงซื่อปั๋วเลย
รู้สึกแปลกแยกและต่ำต้อย ความกล้าที่รวบรวมมาหล่นหายไปหมด
ติ๊ง
ประตูลิฟต์เปิด
ระหว่างเตรียมเข้าไปข้างใน หวงซื่อปั๋วก็ต้องตกตะลึงเมื่อสังเกตเห็นคนคุ้น
หน้า
คนคนนั้นคือหัวหน้าของเขาในบริษัทที่ทำอยู่ หัวหน้าฝ่ายวางแผนหลิว!
ช่วงบ่ายเมื่อวาน หวงซื่อปั๋วเพิ่งโทรหาหัวหน้าหลิวเพื่อขอลากิจและได้รับ
อนุญาต
แต่ทั้งสองกลับบังเอิญมาเจอกันที่นี่
ช่างเป็นสถานการณ์สุดกระอักกระอ่วน
ทั้งสองคนพูดอะไรไม่ออก
แต่ในเมื่อบังเอิญเห็นกันแล้ว จะแสร้งทำเป็นไม่เห็นอีกฝ่ายก็คงจะดูไม่เหมาะ
อีกอย่างทั้งสองคนรู้ดีว่าอีกฝ่ายมาทำอะไรที่นี่
ทั้งคู่มาเพื่อสัมภาษณ์งานเข้าบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี!
ดูจากท่าทีของหัวหน้าหลิว หวงซื่อปั๋วก็มั่นใจว่าอีกฝ่ายเพิ่งสัมภาษณ์เสร็จ
ทั้งคู่กำลังจะผ่านขั้นตอนเดียวกัน
หวงซื่อปั๋วไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเริ่มทักก่อน “พี่หลิว”
หัวหน้าหลิวหน้าตาไม่ส้ดู ี เห็นได้ชัดว่าเขากำลังอารมณ์ไม่ดี
เขาชอบบรรยากาศการทำงานของบริ ษ ั ท เถิ ง ต๋ า มาก แต่ ไ อ้ เ ด็ ก หนุ ่ ม ที่
สัมภาษณ์เขาดันบอกว่าให้กลับไปก่อนและรอการติดต่อกลับ!
นอกจากนี้ ระหว่างการสนทนา เด็กหนุ่มที่ท ำหน้าที่สัมภาษณ์ยังดูไม่ได้สนใจ
อะไร เหมือนว่ากำลังเหม่อลอยอยู่
มีความเป็นไปได้สูงว่าเขาจะไม่ผ่านการสัมภาษณ์
เพราะเหตุนี้ หัวหน้าหลิวจึงรู้สึกไม่พอใจ
คนที่มีความสามารถและประสบการณ์แบบฉันหายากมากนะในวงการเกม
ของเมืองจิงโจว แต่ไอ้เด็กที่สัมภาษณ์กลับดูถูกฉันอย่างนั้นหรือ
เจ้านั่นต้องเป็นพวกทายาทตระกูลร่ำรวยที่หาเรื่องสนุกทำไปวันๆ! บริษัท
แบบนี้อยู่ไม่นานเดี๋ยวก็เจ๊ง!
แน่นอนว่าในใจก็ยังแอบมีความรู้สึกขมขื่นอยู่
พอบังเอิญเจอหวงซื่อปั๋ว หัวหน้าหลิวก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดขึ้นอีก
ตลอดหกเดือนตั้งแต่ที่หวงซื่อปั๋วเข้าวงการเกมมา เขาเป็นลูกน้องของหัวหน้า
หลิวมาตลอด
และเขาก็ทำอะไรไม่ได้ดีเลยสักอย่าง
ทำให้หัวหน้าหลิวหงุดหงิดใจอยู่ตลอดเวลาและไม่ยอมให้หวงซื่อปั๋วกลับบ้าน
จนกว่าจะทำงานเสร็จ วันไหนอารมณ์ไม่ดี หัวหน้าหลิวก็เพิ่มงานให้หวงซื่อปั๋วอีก
แต่ไอ้ห่วยนี่กลับคิดจะหนีอย่างนั้นหรือ!
แถมยังเป็นที่เดียวกับเขาอีกด้วย!
เจ้านี่มันรู้สถานะตัวเองบ้างหรือเปล่า!
หัวหน้าหลิวอดขุ่นเคืองใจไม่ได้ “ที่นี่มีคนอยากเข้าเยอะมาก ไม่ใช่ที่ของแก
หรอก”
“ถ้ามีเวลาว่างขนาดมาสัมภาษณ์งานใหม่ก็แสดงว่างานแกมันน้อยไปสินะ
กลับไปแล้วไปรวบรวมข้อมูลให้ใหม่ด้วย”
หัวหน้าหลิวเบ้ปากแล้วเดินจากไป
“…”
หวงซื่อปั๋วรู้สึกเลวร้ายมาก
ที่นี่มีคนอยากเข้าเยอะเสียจนไม่ต้องการนักวางแผนผู้มากประสบการณ์แบบ
หัวหน้าหลิวเชียวหรือ
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่มีทางที่หน้าใหม่ในวงการอย่างเขาจะเข้าทำงานที่นี่ได้!
นอกจากนี้หัวหน้าหลิวยังเพิ่มงานให้เขาอีกหลังจากกลับไป
แต่หวงซื่อปั๋วก็ไปฟ้องเรื่องนี้ให้ประธานรู้ไม่ได้
ถ้าเกิดบ่นไปว่า… “บอสครับ หัวหน้าหลิวแอบไปสัมภาษณ์งานบริษัทอื่น!”
แล้วถ้าประธานดันถามกลับมาว่า… “รู้ได้ยังไง”
เขาก็ต้องตอบว่า… “ผมบังเอิญเจอตอนที่ไปสัมภาษณ์ที่เดียวกันครับ”
ให้เป็นแบบนั้นไม่ได้หรอก
ไม่อย่างนั้นทางเลือกเดียวที่มีคือลาออก
เขาแค่ต้องลาออกแล้วค่อยๆ หางานใหม่ เจียดเงินเก็บมาใช้ทีละนิดเอา
ถ้าไม่มีทางเลือกอื่นก็คงต้องทำแบบนี้
ความคิดทั้งหมดผุดขึ้นมาในหัวของหวงซื่อปั๋ว
ระหว่างที่กำลังครุ่นคิด ลิฟต์ก็มาถึงชั้นสิบเจ็ด
ทันทีที่ออกจากลิฟต์ หวงซื่อปั๋วก็เห็นป้ายบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี
พอมองเข้าไปด้านในชายหนุ่มก็อึ้งไป
ที่นี่โคตรหรู!
พนักงานต้อนรับสาวสวยรออยู่หลังโต๊ะต้อนรับตัวใหญ่
แถมทั้งคู่ยังเป็นฝาแฝด!
ถึงเมืองจิงโจวจะไม่ใช่เมืองขนาดใหญ่มาก แต่ก็ไม่ได้เป็นเมืองเล็กๆ การที่
บริษัทสามารถหาคู่แฝดมาทำงานตรงโต๊ะต้อนรับได้นับว่าไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย
แค่เห็นก็รู้ว่าบริษัทนีม้ ีอำนาจขนาดไหน!
หวงซื่อปั๋วเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ทั่วไปของคนที่ชอบคิดอะไรเกินกว่าเหตุ
ตอนที่เผยเชียนรับสมัครตำแหน่งนี้ เขาไม่ได้คิดอะไรมาก แค่อยากได้คนสวย
สักสองคนมาเป็นพนักงานต้อนรับเท่านั้น
แต่ ซ ิ น ไห่ ล ู ่ ไ ปค้ น หาคู ่ แ ฝดมาให้ จ ากไหนก็ ไ ม่ ร ู ้ และบอกว่ า จะช่ ว ยเสริ ม
ภาพลักษณ์ให้บริษัทได้
เผยเชียนแสนดีใจและให้เงินเดือนในอัตราที่สูงที่สุดของตำแหน่งบริหาร
จัดการในตลาดทันทีด้วยเงินเดือนห้าพันหยวนต่อคน!
ถึงจะดูเหมือนไม่ได้เยอะอะไรเท่าไหร่ แต่ในปี 2009 เงินเดือนทั่วไปของ
พนักงานต้อนรับในเมืองจิงโจวอยู่ที่ราวๆ สองพันหยวน ถึงจะเป็นคนสวยแค่ไหน
ได้มากสุดก็แค่สามพันหยวน
การที่เผยเชียนขึ้นให้เป็นห้าพันหยวนถือว่าใจกว้างมาก
แน่นอนว่าเขาให้ได้ถึงหมื่นหยวนต่อเดือนเลยด้วยซ้ำ จะได้ช่วยผลาญเงินได้
เร็วขึ้น
แต่ถ้าทำอย่างนั้นก็จะดูเกินพอดีมากไปหน่อย ถึงจะเป็นคู่แฝดสุดสวย แต่ได้
เงินเดือนตั้งหนึ่งหมื่นหยวนในตำแหน่งพนักงานต้อนรับก็คงไม่เข้าที
บทที่ 36 เงินเดือนที่คาดหวัง

แฝดสาวสร้างผลกระทบได้อย่างที่ตั้งใจไว้จริงๆ เพราะหวงซื่อปั๋วตะลึงงันไป
ทันทีที่ก้าวเข้ามาในบริษัท
บริษัทที่มีเงินจ้างพนักงานต้อนรับแบบนี้จะขัดสนเรื่องเงินหรือ
ไม่มีทาง!
น่าเสียดายที่บริษัทนี้ตั้งคุณสมบัติไว้สูงจนเขาไม่สามารถเข้าได้
ไม่อย่างนั้น ถ้าเขาไปบอกคนอื่นว่าทำงานบนตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว แถมมี
แฝดสาวสุดสวยเป็นพนักงานต้อนรับ ใครๆ ก็ต้องอิจฉาแน่!
หวงซื่อปั๋วมองโต๊ะทำงาน
เขาต้องอึ้งไปอีกครั้ง!
โต๊ะทุกตัวใหญ่มาก!
ทำไมโต๊ะแต่ละตัวตั้งห่างกันขนาดนั้น ที่นี่ไม่เสียค่าเช่าหรืออย่างไร
ที่ว่างระหว่างโต๊ะกว้างพอจะเล่นแบดมินตันได้ด้วยซ้ำ!
โต๊ะแต่ละตัวมีจอขนาดใหญ่คุณภาพสูงสองตัวตั้งอยู่ มองแค่แวบเดียวก็รู้ว่า
เป็นของแพง
ตรงหน้าต่างมีต้นไม้ตั้งเรียงราย แต่ละต้นดูแพงและได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
หวงซื่อปั๋วรู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับชาติมาเกิดในซีรีส์ที่มีตัวเอกเป็นไอดอล
วัยรุ่นไม่มีผิด
บริษัทที่เห็นในซีรีส์เป็นแบบนี้เลย
แต่ความเป็นจริงไม่เหมือนในซีรีส์
เขายังคงคร่ำครวญเสียดายในใจที่บริษัทนี้ตั้งคุณสมบัติไว้สูงเกินไปจนตัวเอง
เข้าไม่ได้
หวงซื่อปั๋วเดินไปที่โต๊ะต้อนรับพร้อมแจ้งชื่อ ไหนๆ ก็มาแล้วลองสัมภาษณ์ดู
แล้วกัน
“รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันไปแจ้งผู้สัมภาษณ์ก่อนค่ะ”
พนักงานต้อนรับตอบกลับพร้อมยิ้มกว้าง นอกจากการบริการจะสิบเต็มสิบ
แล้ว รอยยิ้มของเธอยังช่วยเยียวยาจิตใจได้ดีเหลือเกิน
“ตามดิฉันมาเลยค่ะ”
พนักงานต้อนรับยืนขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มเปล่งประกาย ก่อนจะนำทางหวงซื่อ
ปั๋วไป
เขาแปลกใจเมื่อพบว่าบริษัทไม่ค่อยมีอะไรเลย
ตอนแรกเขากังวลขึ้นมาว่าตัวเองจะโดนหลอกหรือเปล่า
แต่เมื่อเห็นการตกแต่งภายในของบริษัท เขาก็รู้ว่าคงไม่ใช่แบบนั้น
พวกต้มตุ๋นที่ไหนจะยอมทุ่มเงินตรงส่วนนี้กัน
พวกต้มตุ๋นต้องคิดถึงผลกำไรไม่ใช่หรือ ถ้าลงทุนซื้อของตกแต่งขนาดนี้แล้ว
จะต้องหลอกคนตั้งกี่คนกว่าจะคืนทุน!
ด้วยเหตุผลที่ว่า บริษัทนี้ต้องไม่ขัดสนเรื่องเงินแน่
นี่เป็นบริษัทใหม่ที่เปิดโดยคนรวย และน่าจะเปิดเพื่อต้อนรับกระแสเกม
คลาวด์
หวงซื่อปั๋วมั่นใจว่าตนรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของเรื่องราวทั้งหมดแล้ว
พอมาถึงห้องรับรองแขกเขาก็พบชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนโซฟา
เป็นชายสวมสูทหน้าตาดูดี
จู่ๆ ชายหนุ่มก็รู้สึกต่ำต้อยขึ้นมา
ชุดสูทของคนคนนี้ดูแพงกว่าชุทสูทของเหล่าพนักงานบริษัทจัดการลงทุนที่
เขาเจอด้านนอกอีก!
เอาเข้าจริงหวงซื่อปั๋วไม่สามารถประเมินราคาของสูทได้ แต่ก็มั่นใจว่าคงจะ
เกินกว่าที่เขาคาดคิดไว้ไปอีก
หวงซื่อปั๋วเคยไปลองสัมภาษณ์งานบริษัทเกมมาสองสามแห่งซึ่งทุกคนใส่ชุด
สบายๆ กันหมด
แม้แต่คนสัมภาษณ์ยังใส่แค่เสื้อกล้ามกับกางเกงบ๊อกเซอร์ ตอนไปถึงพวกเขา
ยังอยู่ที่โต๊ะทำงานอยู่เลย จากนั้นก็ค่อยเดินมาสัมภาษณ์งานที่ห้องประชุม
แต่ที่นี่ไม่ใช่แบบนั้น ดูแล้วคนสัมภาษณ์ไม่น่าจะใช่คนธรรมดาทั่วไป
หวงซื่อปั๋วรู้สกึ กังวลขึ้นมา
“หวงซื่อปั๋วใช่ไ หม เชิญนั่งก่อน ผมเผยเชียน เป็นประธานบริษ ัทเถิ ง ต๋า
เน็ตเวิร์กเทคโนโลยี”
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่อีกฝั่งลุกขึ้นยืนพร้อมยื่นมือมาจับทักทาย
พอเห็นความเป็นกันเองของอีกฝ่าย หวงซื่อปั๋วก็เสียงสั่น “ส…สวัสดีครับ บอส
เผย”
“ทำตัวสบายๆ เราแค่มาคุยกันสักเล็กน้อยเฉยๆ ดื่มชาสักหน่อยสิครับ ” เผย
เชียนเลื่อนถ้วยชาที่ทำจากเงินบริสุทธิ์ไปหาหวงซื่อปั๋ว
หวงซื่อปั๋วมองถ้วยชาเงินตรงหน้า ไม่สามารถเดาได้เลยว่าราคาเท่าไหร่
ถึ ง เขาจะไม่ เ คยเห็ น เผยเชี ย นมาก่ อ น แต่ น ั ่ น ก็ ไ ม่ ไ ด้ ท ำให้ เ ขาหยุ ด คิ ด
จินตนาการไปได้
เด็กหนุ่มมากความสามารถ!
ผู้สร้างเกมที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ถึงสองเกม!
ดูท่าทางสบายๆ ตอนดื่มชากับหยิบจับชุดชาสิ! มันไม่ใช่สิ่งที่จะแสร้งทำเอาได้
สักนิด!
คนคนนี้ต้องเป็นคนที่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องเงินแน่!
หวงซื่อปั๋วรู้สึกว่าในสายตาของบอสเผย ถ้วยชาเงินนี้ไม่ได้ต่างอะไรจากแก้ว
กระดาษเลย
นั่นทำให้หวงซื่อปั๋วรู้สึกกังวลขึ้นมาอีกครั้ง
“เล่าประสบการณ์การทำงานมาคร่าวๆ ให้ฟังหน่อยครับ ” เผยเชียนพูด
พร้อมยิ้มให้
หวงซื่อปั๋วรู้สึกได้ถึงใจที่เต้นถี่รัวและริมฝีปากที่เริ่มแห้งผาก
แต่เขาก็พยายามอย่างที่สุดเพื่อข่มความกังวลในใจแล้วเล่าประสบการณ์
ทำงานให้อีกฝ่ายฟังคร่าวๆ
ระหว่างที่กำลังอธิบาย เขาพูดตะกุกตะกักและพูดผิดไปสองสามเรื่อง ทำให้
ยิ่งกังวลใจเพิ่มขึ้นไปอีก
เผยเชียนจิบชาขณะฟังเขาอธิบาย รอยยิ้มบางผุดขึ้นบนใบหน้า คาดเดาไม่ได้
เลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่
หวงซื่อปั๋วรู้สึกหดหู่ใจ
ซวยแล้ว เขาต้องคิดว่าประสบการณ์ทำงานของฉันมันจิ๊บจ๊อยมากแน่!
บอสเผยต้องเยาะเย้ยฉันอยู่ในใจแน่เลย!
เขากำลังดูถูกว่าฉันไม่รู้สถานะตัวเอง ความสามารถแค่นี้แต่กลับใจกล้าหน้า
ด้านมาสัมภาษณ์งานที่นี่
ใบหน้าของเขาเริ่มขึ้นสี หวงซื่อปั๋วแนะนำตัวอย่างตะกุกตะกักไปจนจบ ในใจ
คิดอยากจะพุ่งหนีออกไปอย่างเดียว
“ยอดเยี่ยม!”
พอฟังหวงซื่อปั๋วแนะนำตัวเสร็จ เผยเชียนก็พยักหน้าพร้อมยิ้มออกมา
ยอดเยี่ยมอย่างนั้นหรือ
หวงซื่อปั๋วคิดว่าตัวเองหูฝาด
นี่พูดประชดหรือเปล่า
เขาทำงานกับบริษัทเก่ามาแค่หกเดือน แถมยังเป็นแค่ลูกน้องของหัวหน้าหลิว
ส่วนใหญ่ได้แต่ทำงานง่ายๆ ทั่วไป
ประสบการณ์ทำงานของเขาแทบไม่มีค่าอะไรเลยด้วยซ้ำ
แต่บอสเผยกลับบอกว่า ‘ยอดเยี่ยม’ อย่างนั้นหรือ
หมายความว่าอะไรกัน เขากำลังหัวเราะเยาะฉันอยู่หรือเปล่า
หวงซื่อปั๋วไม่รู้ว่าจะตอบอะไรกลับไปอยู่ครู่หนึ่ง
พอเห็นสีหน้าของหวงซื่อปั๋ว เผยเชียนก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเข้าใจผิดจึงรีบ
อธิบาย
“ผมจะบอกว่าความสามารถของคุณตรงกับที่บริษัทของเราต้องการ จะเริ่ม
งานได้เมื่อไหร่เหรอครับ”
“เอ่อ ผมเหรอ…เริ่มงานได้วันมะรืนนี้ครับ…”
หวงซื่อปั๋วบอกวันไปคร่าวๆ
ถึงอย่างไรคนไม่สำคัญอย่างเขาจะลาออกเมื่อไหร่ก็ได้โดยไม่ต้องห่วงว่า
จะต้องส่งงานต่อให้ใคร
“เยี่ยมเลย ถ้าอย่างนั้นเข้ามาทำงานวันมะรืนนี้ได้เลย ไปลาออกให้เรียบร้อย
นะครับ ทางนี้จะได้เซ็นสัญญาจ้างคุณได้”
“แล้วเรื่องเงินเดือนกับสวัสดิการ ได้คิดเรื่องนี้ไว้บ้างไหมครับ” เผยเชียนถาม
เงินเดือนกับสวัสดิการ…
ที่บริษัทเก่า หวงซื่อปั๋วได้เงินเดือนในอัตราต่ำสุดที่หนึ่งพันห้าร้อยหยวนต่อ
เดือน ไม่มีประกันชีวิตหรือเงินค่าเช่าให้
เงินจำนวนนี้พอให้เขาใช้ชีวิตไปได้ แต่ไม่มีเงินเก็บ
ถ้าได้ทำงานที่นี่ แค่สภาพแวดล้อมการทำงานก็คุ้มแล้ว!
ส่วนเรื่องเงินเดือน ได้เท่าเดิมก็ไม่ติดขัดอะไร
แต่พอคิดดูอีกที หวงซื่อปั๋วก็คิดว่าตนควรขอขึ้นเงินเดือนเพราะเปลี่ยนงานมา
ตอนนี้เขามีประสบการณ์ทำงานหกเดือนแล้ว คงจะไม่มากเกินไปถ้าจะขอขึ้น
เงินอีกสักสีร่ อ้ ยหยวน
ถ้าอย่างนั้น…ปัดขึ้นเป็นสองพันหยวนไปเลยจะได้ไหมนะ
แค่คิดถึงตัวเลขที่ว่า หวงซื่อปั๋วก็คิดว่าตัวเองขอมากเกินไป
แต่ไหนๆ ก็ยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดแล้ว เขาจึงลองถามออกไป
“เดือนละสองพันหยวน…ได้ไหมครับ ไม่ต้องห่วงนะครับบอสเผย ผมเป็นคน
รับผิดชอบมาก ไม่บ่นเรื่องต้องทำงานล่วงเวลาด้วย!”
เผยเชียนถอนหายใจเบาๆ พร้อมส่ายหน้า
หวงซื่อปั๋วใจตกไปอยู่ตาตุ่ม
อะไรกัน ฉันขอมากไปหรือ
เฮ้อ ก็ขอมากไปจริงๆ แหละ…
หวงซื่อปั๋วทำได้แค่รอเผยเชียนลดจำนวนเงินลง สำหรับเขาแล้ว ขอแค่ไม่น้อย
จนน่าเกลียดเกินไป เขาก็สามารถรับข้อเสนอนี้ได้
เผยเชียนส่ายนิ้วพร้อมตอบกลับ “ให้ผมคำนวณให้ดีกว่า”
หวงซื่อปั๋วกลืนน้ำลายแล้วพยักหน้ารอฟัง เขารู้ว่านี่เป็นกลยุทธ์ทั่วไปในการ
ปรับลดข้อเสนอ
เผยเชียนเรียบเรียงความคิด
“เช่าที่พักในจิงโจวอยู่ที่ประมาณหนึ่งพันหยวนต่อเดือน ไม่แพงไปใช่ไหม
ครับ”
“คุณต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่บ้างสักสองสามชุดต่อเดือน ก็เพิ่มไปอีกสามร้อยหยวน
ไม่เยอะไปใช่ไหมครับ”
“บิลค่านั่นค่านี่อีกล่ะ ค่าของใช้ประจำวัน บวกไปอีกสองร้อยหยวน ไม่แพงไป
ใช่ไหมครับ”
“ค่าเดินทางล่ะ เดือนละร้อยหยวน ค่อนข้างถูกนะ”
“ถ้าคุณมีแฟนอีกล่ะ ต้องซื้อเครื่องสำอางให้เธอบ้า ง จ่ายเพิ่มไปอีกเดือนละ
สามร้อยหยวน”
“คนหนุ่มสาวจะใช้เงินเดือนหมดก็ไม่ได้ ต้องมีเงินเก็บอีกสักประมาณห้าร้อย
หยวน”
“เห็นไหมครับ หักภาษีแล้วก็ตั้งสามพันกว่าหยวน”
“บริษัทของเราเข้าข่ายนโยบายของรัฐ ต้องจ่ายภาษี มีประกันชีวิต และ
ครอบคลุมค่าเช่าให้ลูกจ้าง ถ้าจะให้ครอบคลุมรายจ่ายทั้งหมดของคุณ คุณต้องหา
เงินให้ได้สามพันห้าร้อยหยวนก่อนหักภาษี!”
“อีกอย่างบริษัทของเรามีนโยบายให้เงินเดือนและสวัสดิการพนักงานดีกว่า
บริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมนี้ งั้นก็เพิ่มเข้าไปอีกห้าร้อยถึงจะฟังดูเข้าที”
“ถ้างั้นก็เป็นสี่พันหยวนต่อเดือน! คิดว่ายังไงครับ”
บทที่ 37 การจ้างงานเหมือนจะเป็นไปอย่างราบรื่น

เผยเชียนส่ายนิ้วและไล่เรียงทุกอย่างให้หวงซื่อปั๋วฟัง อีกฝ่ายอึ้งไปเมื่อได้ยิน
แบบนั้น
การต่อรองอัตราค่าจ้างแบบกลับตาลปัตรทำให้หวงซื่อปั๋วตะลึงงัน
สี่พันหยวนหรือ
นั่นมันสองเท่าจากที่คิดไว้เลยนะ
บอสเผยเป็นอะไรหรือเปล่า
หรือคนรวยเขาเป็นแบบนี้กัน
หวงซื่อปั๋วอ้าปากค้าง เขาเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะตอบกลับ “ก…ก็ได้ครับ”
เผยเชียนยิ้ม “ไม่ต้องห่วง พนักงานใหม่ได้เงินเดือนต่ำเป็นปกติ ขอแค่คุณ
ทำงานดี คุณก็มีโอกาสได้ขึ้นเงินเดือนทุกเดือน”
ขึ้นเงินเดือนหรือ!
หวงซื่อปั๋วคิดว่าตัวเองกำลังอยู่ในความฝัน
“โอเค ถ้างั้นก็ตามนี้แหละ!” เผยเชียนยืนขึ้น “อย่าลืมมาทำงานวันมะรืน
ยินดีต้อนรับสู่บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีครับ”

พนักงานต้อนรับพาหวงซื่อปั๋วกลับออกไป
เผยเชียนแสนสุขใจ เขาได้พนักงานสุดเหมาะสมมาอีกคนแล้ว!
เขามั่นใจตั้งแต่ตอนที่หวงซื่อปั๋วนั่งลงแล้ว ว่านี่แหละคือคนที่ตนต้องการ
คนที่ขยันแต่ไม่ค่อยฉลาด
นี่แหละพนักงานที่สมบูรณ์แบบ!
เงินเดือนสี่พันหยวนถือว่าเป็นอัตราที่เหมาะสม ระบบไม่สามารถหาจุดตำหนิ
ได้
ยกตัวอย่างเช่น หัวหน้าฝ่ายวางแผนหลิวที่สมัครเข้ามาสัมภาษณ์เมื่อครู่เป็น
คนซึ่งไม่ตรงกับคุณสมบัติที่เผยเชียนกำหนดไว้สักนิด
หลังจากครุ่นคิดดู เผยเชียนก็เขียนโน้ตอธิบายความคิดเห็นจากการสัมภาษณ์
ลงบนประวัติส่วนตัวของเหล่าผู้มาสัมภาษณ์
โน้ตที่เขียนไว้บนประวัติส่วนตัวของหัวหน้าหลิวคือ “มีประสบการณ์เยอะแต่
ความคิดล้าหลัง แนวคิดแบบดั้งเดิมของผู้สมัครขาดความคิดสร้างสรรค์ มองการ
สร้างเกมเหมือนงานอื่นทั่วไป ขาดใจรักเรื่องเกมและไม่สามารถรับผิดชอบเรื่อง
การสร้างเกมใหม่ได้ ไม่เหมาะรับเข้าทำงาน”
ส่วนนี่คือโน้ตที่เขียนไว้บนประวัติส่วนตัวของหวงซื่อปั๋ว “หน้าใหม่ที่คิดปฏิรูป
วงการเกม มีใจรักเรื่องเกม กระตือรือร้นและขยันมาก เพื่อให้ตอบรับกับค่าใช้จ่าย
เลยให้เงินเดือนเริ่มต้นที่สี่พันหยวน”
เผยเชียนรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากหลังจากเขียนอธิบายความคิดเห็นเสร็จ
ดูเหมือนว่าระบบจะไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้เลย!
ดูจากทิศทางในตอนนี้ ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลแล้ว!

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นาน วันศุกร์ก็มาถึงอีกครั้ง
เผยเชียนนอนแผ่อยู่บนโซฟาในห้องพักผ่อน รู้สึกแน่นท้องเพราะดื่มชาเยอะ
เกินไป แต่ฤทธิ์ชาก็ส่งผลดีเสียจนนอนกลางวันไม่ได้
เครื่องปรับอากาศเปิดที่อุณหภูมิแสนสบายขณะที่เผยเชียนกลิ้งไปมาในชุดสูท
หลักหมื่น
ตอนใส่สูทใหม่ๆ เผยเชียนคอยบอกตัวเองว่าเขากำลังใส่เงินหมื่นอยู่บนตัว
แต่ตอนนี้เผยเชียนกลับมองมันไม่ต่างจากชุดธรรมดาทั่วไป
นั่นเพราะทุกครั้งที่เขาใส่สูทไปสักพัก ซินไห่ลู่ก็จะแวะไปรับสูทที่อพาร์ตเม้นต์
ของเขาเพื่อส่งซัก ไม่ว่าสูทตัวนั้นเขาจะใส่หรือยังไม่ใส่ หรือจะใส่นานแค่ไหน พอ
ซักเสร็จแต่ละตัวก็เหมือนกันหมด
เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว เขาจะใส่อย่างไรก็ได้ตามใจ!
ถ้าขาดก็แค่ซื้อใหม่
เผยเชียนรู้สึกว่าตัวเองฟู่ฟ่ามาก
ตลอดช่วงที่ผ่านมา เขาไม่ได้กลับไปหอพักเลยและเริ่มคุ้นชินกับอพาร์ตเม้นต์
เผยเชียนนึกภาพตัวเองต้องอยู่อัดรวมกันเป็นปลากระป๋องกับชายห้าคนในหอพัก
แคบๆ ไม่ได้อีกต่อไป
รูมเมตคนอื่นๆ พอจะรู้ว่าช่วงนี้เขาทำงานหนักในธุรกิจของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้
สนใจอะไรมาก
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทุกคนง่วนอยู่กับการปั่นงานเพราะเป็นเด็กปีหนึ่ง ตอนนี้
พวกเขายังเต็มที่กับชีวิตในมหาวิทยาลัยและบรรดานักศึกษาสาวรอบตัวเลยไม่ได้
สนใจเรื่องเงินมากนัก
อีกอย่าง เผยเชียนก็ไม่ได้ไปโอ้อวดอะไรให้ฟัง พวกเขาเลยไม่คิดว่าเผยเชียน
จะทำอะไรได้สำเร็จ
ถึงอย่างไรในแต่ละปีจะมีเด็กสองสามคนที่จู่ๆ ก็ลาออกไปเริ่มธุรกิจของตัวเอง
แต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวังและกลับมาเรียนใหม่
การเริ่มต้นธุรกิจเป็นอะไรที่เสี่ยงมากแต่ผลที่ได้ก็คุ้มค่าไม่น้อย ถึงแม้คนส่วน
ใหญ่จะได้สัมผัสแต่ความเสี่ยงก็เถอะ
แม้แต่คนที่ทำงานมานานหลายปีและมีเส้นสายในวงการยังมีโอกาสเจ๊งได้ถ้า
เริ่มประกอบธุรกิจ ไม่ต้องพูดถึงนักศึกษาจนๆ ที่ไม่มีอะไรเลย
เป็นเรื่องธรรมดาที่เผยเชียนไม่คิดอยากพิสูจน์ตัวเองกับเหล่ารูมเมต
เขากำลังเสวยสุขกับชีวิต!
จริงอยู่ที่ลงท้ายแล้วคนส่วนใหญ่ที่เริ่มประกอบธุรกิจจะเจ๊งกันหมด แต่ถ้าฉัน
อยากเจ๊งตั้งแต่เริ่มล่ะ
ถ้าเป้าหมายในการทำธุรกิจของฉันคือทำให้เจ๊งล่ะ
เป้าหมายแบบนี้ไม่ได้ทำให้สำเร็จได้ง่ายกว่าหรือ
เห็นไหมล่ะ! แค่เปลี่ยนแนวคิด ความจริงอันแสนโหดร้ายก็จะกลายเป็ นสิ่งที่
แสนสุขสม!


ตลอดทั้งสัปดาห์ เผยเชียนรับพนักงาน ‘สุดยอดเยี่ยม’ มาได้เพิ่มอีก
ในหมู่พนักงานที่ว่าก็มีเปาซวี่กับหวงซื่อปั๋ว
คำนวณเร็วๆ ดู ตำแหน่งว่างทั้งสามสิบตำแหน่งก็เริ่มมีคนมาเติมเต็มอย่าง
รวดเร็วกว่าที่เผยเชียนคิดไว้
ตอนแรกเขาวางแผนว่าจะค่อยๆ รับสมัครทั้งสามสิบตำแหน่งไปตลอดทั้ง
เดือน แต่กระบวนการทั้งหมดกลับเป็นไปอย่างราบรื่นมาก
ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะบริษัทเกมในเมืองจิงโจวนั้นเลวร้ายมาก
แต่ก็ถือเป็นเรื่องปกติเหมือนกัน ยิ่งบริษัทตั้งอยู่ในที่เล็กๆ ก็ยิ่งไม่ดี
เมื อ งอย่ า งปั กกิ ่ ง เซี ่ ย งไฮ้ และกว่ า งโจว มี บ ริ ษ ั ท เกมเกลื่ อ นไปหมด ถ้ า
พนักงานไม่พอใจงานก็สามารถลาออกไปทำที่อื่นได้
ทำให้เหล่าเจ้านายไม่กล้าโขกสับพนักงานมากจนเกินไป
แต่สำหรับเมืองเล็กๆ อย่างจิงโจวนั้นแตกต่างออกไป
บริษัทเกมมีไม่มาก อีกทั้งพวกเจ้านายน่าจะรู้จักกัน มีไปพบปะดื่มสังสรรค์กัน
บ่อยๆ
ต่อให้มีใครไม่พอใจงานปัจจุบันแล้วอยากลาออก พวกเขาก็ต้องคิดเรื่องการ
หางานใหม่ให้ดีๆ
ที่ปักกิ่งกับเซี่ยงไฮ้สามารถหางานใหม่ได้แน่นอน ปัญหาอยู่ที่จะได้ตอนไหน
แค่นั้น
ต่อให้หาไม่ได้ก็แค่ลดมาตรฐานและเงินเดือนที่ต้องการลง แค่นั้นก็สามารถหา
งานดีๆ ได้ในเวลาไม่นานแล้ว
แต่ที่จิงโจวไม่ใช่แบบนั้น คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนบริษัทได้กี่ครั้งกันเชียว
อีกอย่างพวกเจ้านายก็รู้จักกัน ถ้าใครคนหนึ่งไม่พอใจ คนอื่นๆ ก็อาจไม่อยาก
รับเข้าทำงานด้วยเหมือนกัน
พอเป็นแบบนี้ พวกเจ้านายส่วนใหญ่ก็โขกสับพนักงานจนเละ หวงซื่อปั๋วคือ
ตัวอย่างที่ชัดเจน
ทำให้คนส่วนใหญ่ได้แต่เก็บความขุ่นเคืองไว้ในใจ
เมื่อเห็นบริษัทใหม่รับสมัครพนักงาน ต่อให้บริษัทจะดูไว้ใจไม่ได้ พวกเขาก็
พร้อมลองสมัคร
แต่ก็แน่นอนว่าเป็นเพราะเผยเชียนตั้งคุณสมบัติไว้ต่ำด้วย
สุดท้ายภายในสัปดาห์เ ดีย ว เขาก็เหลือ ตำแหน่งว่างแค่ หกตำแหน่ ง จาก
ทั้งหมดสามสิบตำแหน่งที่เปิดรับ
เรื่องวันเริ่มงาน เผยเชียนไม่ได้เคร่งอะไรมาก
ถ้าหาคนได้ไม่ทันและไม่สามารถเริ่มงานได้ ระบบก็ไม่น่าจะว่าอะไรได้
แต่ถ้าจ้างคนมาได้เพียงพอแล้วแต่ยังไม่เริ่มงานก็จะถือว่าผิดกฎ
ระหว่างที่กำลังคิดว่าจะเริ่มงานเมื่อไหร่ดี เขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง
รับรองแขก
“เข้ามาได้”
คนที่เคาะประตูก่อนเข้าในตอนนี้ก็น่าจะมีแค่เลขาซินกับหม่าหยาง
แล้วก็เป็นหม่าหยางที่เปิดประตูเข้ามาจริงๆ
“มาๆ ดื่มชาสักหน่อย” เผยเชียนที่นอนอย่างสบายใจเฉิบอยู่บนโซฟาผายมือ
ให้หม่าหยางดื่มชา
หม่าหยางหยิบถ้วยชาเงินขึ้นจิบอย่างระมัดระวัง เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอม
แสนผ่อนคลายของชาและรสชาติหวานละมุนที่หลงเหลืออยู่ในปาก ถึงชายหนุ่ม
จะไม่ได้รู้เรื่องชามากนัก แต่แค่จิบเดียวก็รู้ได้ว่าเป็นของแพง
นี่คือรสชาติของเงินทอง
“พี่เชียน! พี่ทำงานเก่งเกินไปแล้ว! ไม่กี่วันก็จัดการทุกอย่างได้!”
“แล้วเรื่องจ้างคนเป็นไงบ้าง” หม่าหยางถามอย่างเป็นห่วง
บทที่ 38 มีแต่คนเก่งมารวมกัน!

“ก็ไม่แย่ แกอยากดูประวัติพนักงานมั้ยล่ะ ” เผยเชียนโยนกองประวัติส่วนตัว


ของผู้สมัครลงบนโต๊ะกาแฟให้หม่าหยาง
“ผมเหรอ… ผมดูได้จริงเหรอ” หม่าหยางสนใจ
“เอาเลย ตามสบาย” เผยเชียนตอบ
ที่เผยเชียนให้หม่าหยางดูประวัติส่วนตัวผู้สมัครเพราะเขาหวังจะให้หม่าหยาง
ช่วยรับผิดชอบหน้าที่นี้ในอนาคต
เหตุผลหนึ่งก็เพราะหม่าหยางเป็นคนที่เผยเชียนไว้ใจที่สุด
อีกเหตุผลหนึ่งก็เพราะถ้าหม่าหยางแบ่งงานเขาไปบ้าง บริษัทน่าจะเจ๊งได้ไว
ขึ้น!
หม่าหยางดูประวัติส่วนตัวของผู้สมัครยี่สิบกว่าคน
เขาเปิดดูอีกรอบด้วยความงุนงง
เป็นเรื่องปกติที่เขาจะงง
ทุกคนที่เผยเชียนรับเข้ามาล้วนเป็นคนไม่เอาถ่าน! ทำได้แค่เขียนประวัติให้ดู
ดี!
ดูหวงซื่อปั๋วเป็นตัวอย่าง
เขาเข้ามาทำงานในวงการเกมได้ครึ่งปีและอยู่ในทีมพัฒนาแผนของบริษัทเก่า
พูดง่ายๆ คือ มีหน้าที่แค่รับผิดชอบดูกระบวนการทำงานและจัดข้อมูลหรือไม่ก็
เดินเอกสาร เอาเข้าจริง เขาไม่มีโอกาสได้เขียนแผนร่างด้วยตัวเองเลยด้วยซ้ำ
กลับกัน เขาแค่เอาแผนร่างที่นักออกแบบผู้มีประสบการณ์เขียนขึ้นมาตรวจดู
ถ้าเจอปัญหาอะไรก็แก้เองไม่ได้ ต้องไปปรึกษานักออกแบบที่ทำแผน
หม่าหยางเปิดดูประวัติทั้งหมดแล้วพบว่าไม่มีพนักงานคนไหนเคยทำตำแหน่ง
หัวหน้าฝ่ายออกแบบมาก่อน ทุกคนเคยทำแต่งานเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
เห็นแบบนี้ใครกันจะไม่งง
“พี่เชียน หัวหน้าฝ่ายออกแบบหายากขนาดนี้เ ลยเหรอ หรือ เราควรขึ้ น
เงินเดือนดี ไม่ก็จ้างบริษัทหาคนช่วยหาให้” หม่าหยางงุนงง
เขารู้ว่าพนักงานส่วนใหญ่ที่จ้างมาอย่างมากสุดก็เป็นได้แค่ผู้ช่วย และไม่เห็น
ใครสักคนที่น่าจะทำตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายออกแบบเกมได้เลย
เพราะแบบนี้เขาเลยคิดว่าปัญหาน่าจะอยู่ที่การหาคนมาทำตำแหน่งหัวหน้า
ฝ่ายออกแบบ และสงสัยว่าคงเป็นเพราะพวกเขาตั้งเงินเดือนไว้ต่ำเกินไป
เผยเชียนส่ายหน้ารัว “ไม่ มีหัวหน้าฝ่ายออกแบบมาสมัครหลายคน แต่ฉันปัด
ตกหมด”
หม่าหยางอึ้งไป “ไหงงั้น!”
“เพราะไม่ตรงกับที่เราต้องการเลยสักนิดไง!”
เผยเชียนลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปรอบๆ ช้าๆ เพื่อให้ดูเป็นคนเก่งกาจ
“อย่างแรกเลย พวกหัวหน้าฝ่ายออกแบบทุกคนมีปัญหาหนักเหมือนกันหมด
นั่นคือ…หัวล้าหลัง!”
“สมองพวกเขาคิดถึงแต่วิธีการเดิมๆ คิดอะไรใหม่ไม่ได้เลย!”
“อุตสาหกรรมเกมต้องการคนที่มีความคิดสร้างสรรค์เพื่อ ที่จะพัฒนาไป
ข้างหน้า ถ้าหัวหน้าฝ่ายออกแบบไม่มีความคิดสร้างสรรค์ เกมของเราจะดีได้
ยังไง”
“อีกอย่างพวกหัวหน้าฝ่ายออกแบบขอเงินเดือนสูงกันทุกคน! สูงมากถ้าเทียบ
กับที่เราให้!”
“ตอนนี้เงินเดือนตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายออกแบบอยู่ที่ประมาณแปดพันหยวน
เกือบสามเท่าของเงินเดือนพนักงานทั่วไป จะกลายเป็นภาระด้านการเงินของเรา
ได้”
“ก็ถูกที่หลักๆ เป็นเพราะเราให้เงินเดือนต่ำไป”
“ข้อสุดท้ายที่สำคัญที่สุดเลยคือ…พวกเขาไม่มีใจรักเรื่องเกมเลยสักนิด!”
“คนหนุ่มสาวอยู่ใ นช่วงที่ยังไฟแรงและพร้อ มสู้ไล่ตามความฝัน แต่พ วก
หัวหน้าฝ่ายออกแบบอายุสามสิบกว่าแล้ว สนใจแค่เรื่องการงานที่มั่นคง หลายคน
ยังฟาร์มเลเวลตัวละครในเกม Fantasy World ให้ตันไม่ได้เลย!”
“บอกฉันมาสิ ถ้านั่นไม่ใช่ไม่มีใจรักในการเล่นเกมแล้วมันคืออะไร!”
หม่าหยางตะลึงงันไป
“จริงอยู่ที่พวกเขาอาการหนักอยู่”
“แต่…ถ้าไม่มีพวกเขา แล้วใครจะเป็นคนนำเรื่องการออกแบบเกมล่ะ…”
หม่าหยางรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
เผยเชียนตบอก “ฉันไง!”
“เอ่อ…” หม่าหยางลังเล “พี่เชียน ผมเชื่อในความสามารถพี่นะ แต่พี่เป็น
เจ้าของบริษัท! ผมว่าพี่ต้องมีหัวหน้าฝ่ายออกแบบเก่งๆ มาช่วยงาน ไม่งั้นต้องเจอ
ปัญหาตอนวางขายเกมแน่…”
เผยเชียนส่ายหน้า
หาหัวหน้าฝ่ายออกแบบมาช่วยฉันอย่างนั้นหรือ
ทำแบบนั้นเขาก็มองข้อผิดพลาดในการออกแบบเกมของฉันออกหมดสิ
ให้เป็นแบบนั้นไม่ได้!
เผยเชียนทำหน้าจริงจัง “ฉันมีคนช่วยแล้ว คนที่ชื่อหวงซื่อปั๋วดูโอเคเลย”
“หวงซื่อปั๋วเหรอ”
หม่าหยางจำได้รางๆ ว่าเคยเห็นชื่อนี้ที่ไหนมาก่อน
แต่ก็นึกไม่ออกว่าเห็นมาจากไหน
จะว่าไปเขาต้องอ่านประวัติพวกไม่เอาถ่านตั้งยี่สิบกว่าคน จึงไม่ใช่เรื่องง่าย
เลยที่จะจำใครสักคนได้
เขาเปิดประวัติดูอีกรอบ ไม่นานก็เจอข้อมูลของหวงซื่อปั๋ว
“เขาเพิ่งเข้ามาทำงานในวงการเกมเมื่อครึ่งปีก่อน ได้แค่ช่วยทำแผน จะไหว
เหรอพี่”
เผยเชียนหน้านิ่ง “เขาเป็นคนมีพรสวรรค์ที่โดนมองข้าม อย่าไปสนตำแหน่ง
ให้ดูว่าเขาเคยทำอะไรมาบ้าง”
“หัวหน้าฝ่ายออกแบบคนก่อนโขกสับเขาสุดๆ เขามีหน้าที่รับผิดชอบจัดการ
ข้อมูลส่วนใหญ่ในเกมแล้วเอาเข้าเครื่องมือพัฒนาเกม”
“เขาเป็นคนจัดการชุดข้อมูลในเกมตั้งเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์”
“แล้วนี่มันงานออกแบบแผนตรงไหน เห็นชัดๆ ว่าเขาเป็นแค่ผู้ช่วยหัวหน้า
ฝ่ายออกแบบ!”
“เขาจัดการแผนร่างของหัวหน้าฝ่ายออกแบบในเครื่องมือพัฒนาเกม ต้อง
ทำงานล่วงเวลาบ่อยๆ วันนึงต้องทำงานมากกว่าสิบชั่วโมง”
“ลองคิดดูสิ คนส่วนใหญ่ทำงานได้แค่แปดชั่วโมง แต่เขาทำล่วงเวลาได้ถึงสิบ
หกชั่วโมง”
“ประสบการณ์การทำงานครึ่งปีของเขาก็เท่ากับหนึ่งปีของคนทั่วไปแล้ว!”
“แต่ที่สำคัญที่สุดคือใจรักในเรื่องเกมของเขา!”
“ความมีใจรักนี่แหละที่ผลักดันเขา! มันเป็นเชื้อเพลิงช่วยสร้างแรงบันดาลใจ
และความคิดสร้างสรรค์!”
“เชื่อความคิดฉันสิ เขาต้องทำให้ความคิดของฉันกลายเป็นจริงได้แน่”
หม่ า หยางเข้ า ใจในที ่ ส ุ ด “โห…เขาเป็ น คนมี ค วามสามารถจริ ง ๆ! เราให้
เงินเดือนเขาเท่าฐานเงินเดือนหัวหน้าฝ่ายออกแบบดีมั้ย ให้เดือนละสี่พันหยวนจะ
น้อยไปรึเปล่า”
เผยเชียนแทบหลุดขำ “ใช่ ฉันก็คิดเหมือนกัน แต่เราไม่ต้องรีบ ค่อยขึ้นเงินให้
หลังเห็นผลการทำงานก็ได้”
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากให้เงินเดือนแพงๆ แต่เป็นเพราะระบบไม่อนุญาตให้ทำ
ต่างหาก
หม่าหยางพยักหน้า “เอาตามนั้นแหละ พี่เป็นเจ้าของบริษัท ต้องดูเรื่อง
ค่าใช้จ่ายและหาทางประหยัดเงินให้บริษัท”
เผยเชียนที่กลั้นขำอยู่รีบพูดต่อ
“อี ก อย่ า งทุ ก คนที ่ ร ั บ มามี ค ุ ณ สมบั ต ิ พ ิ เ ศษหมด แต่ ล ะคนเป็ น คนมี
ความสามารถที่โดนบริษัทเก่ามองข้าม!”
“จริงๆ แล้วยังมีคนมีความสามารถอีกเยอะที่ยังไม่เข้าวงการการทำเกม ดู
อย่างเปาซวี่ส”ิ
“เขาเป็นเทพแห่งเกม!”
“อย่างเกม Fantasy World ทุกคนเล่นได้ทุกอาชีพ แต่เขาเทพกว่านั้น! เขา
เล่นได้ทุกอาชีพ ทุกเผ่า! แถมยังมีไอดีเลเวลตันอีกหกไอดี!”
“ระบบอะไรที่มีในเกม เขาเทพหมด! ขนทัพไปตบบอสคือเป็นเรื่องชิลๆ ไป
เลย!”
“ไม่ใช่แค่นั้นนะ เขาเก่งเกมหลายแบบมาก เป็นผู้เล่นตัวท็อปในเกมรถซิ่งเคร
ซี่คาร์ตด้วย!”
“เพราะงี้ฉันเลยให้เปาซวี่เป็นนักทดสอบเกมจะได้ทดสอบเกมอื่นๆ ของเรา”
“ถึงตอนนั้นไม่ว่าเราจะทำเกมแบบไหนออกมา เขาก็จะให้คำแนะนำเราได้
และพาเราไปในทิศทางที่ถูกต้องพร้อมๆ กับวิเคราะห์คู่แข่งด้วย”
“ที่สำคัญที่สุดคือ ฉันคิดว่าเขามีทักษะการจัดการคนด้วย ลองคิดดูสิ นำทั พ
คนสี่สิบคนไปตบบอสไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ”
“ถ้าคุมคนสี่สิบคนได้ เขาก็ต้องคุมพนักงานสามสิบคนได้เหมือนกัน”
“ให้เขารับผิดชอบดูความก้าวหน้าของโปรเจ็กต์เราถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด!”
บทที่ 39 หยุดสามวันฉลองเริ่มงาน

หม่าหยางประทับใจสุดๆ ตั้งแต่ได้ยินว่าเปาซวี่มีไอดีเลเวลตันหกไอดี
เขาเคยเล่นเกม Fantasy World มาก่อน แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังเป็นแค่มือใหม่
เปาซวี่เป็นคนมีความสามารถจริงๆ!
เป็นเกมเมอร์ฝีมือเทพ!
หม่าหยางดูเงินเดือนอีกครั้ง
“เราจ้างคนเทพๆ แบบนี้แค่สามพันต่อเดือนเองเหรอ ได้เงินน้อยกว่าผมอีก!
น้อยไปรึเปล่าเนี่ย ถ้าโดนดึงตัวไปจะทำไง” หม่าหยางเป็นกังวล
เผยเชียนกระแอมกระไอ “ไม่ต้องห่วง ฉันพูดจนเขาเชื่อฉันสุดๆ แล้ว”
เขากำลังนึกว่าตนจะสามารถผลาญเงินด้เพิ่มอีกเท่าไหร่ตอนขึ้นเงินเดือน
พนักงานทั้งบริษัท
ใช่ คงจะเยี่ยมยอดไปเลย
แม้เงินเดือนพนักงานสามถึงห้าพันหยวนต่อคนจะไม่ได้ดูเยอะมาก แต่พอ
นำมารวมกันก็ถือเป็นยอดต่อเดือนที่ค่อนข้างสูง
ทำให้หลายๆ บริษัทขี้เหนียวถึงขนาดต่อรองเงิ นเดือนเป็นหลักร้อยหยวน
และปรับเงินเดือนพนักงานเพิ่มทีละแค่หนึ่งถึงสองร้อยหยวน
พอได้ยินที่เผยเชียนอธิบาย หม่าหยางก็รู้สึกมั่นใจในตัวอีกฝ่ายมากขึ้น!
นอกจากจะจัดการเรื่องยากๆ อย่างการเปิดบริษัทและจ้างพนักงานได้แล้ว
เขายังทำเรื่องทั้งหมดนี้ได้ดีเยี่ยมอีกด้วย!
เผยเชี ย นสามารถขุ ด เพชรในตมขึ ้ น มาได้ แถมยั ง ต่ อ รองจ้ า งได้ ใ นราคา
สมเหตุสมผล!
ถ้านี่คือการสอบ เผยเชียนคงได้ร้อยคะแนนเต็ม!
“แล้วเราเริ่มงานกันเมื่อไหร่ด”ี หม่าหยางรอแทบไม่ไหว
เผยเชียนมองวันที่
“จะเสียเวลาคิดหาฤกษ์ดีๆ ทำไม เริ่มงานวันพรุ่งนี้กันเลย!”

หวงซื่อปั๋วรู้สึกว่าตัวเองกำลังฝันไปตั้งแต่ได้รับจ้างเข้าทำงาน
เขาไม่สามารถทำใจให้เชื่อได้ตอนที่เผยเชียนบอกว่าตนเองผ่านการสัมภาษณ์
ในใจนึกกลัวว่าหรือจะเจอบริษัทต้มตุ๋นเข้าแล้ว
แต่พอคิดถึงตอนที่เจอหัวหน้าที่ล็อบบี้ หวงซื่อปั๋วก็ มั่นใจว่าตนต้องโดน
หัวหน้าหลิวรังแกแน่ถ้ากลับไป
เขาจึงตัดสินใจยื่นใบลาออก
ไม่ได้มีการคัดค้านอะไรกับการลาออกของเขา เพราะอย่างไร หวงซื่อปั๋วก็เป็น
พนักงานระดับล่างที่รับผิดชอบงานยิบย่อย คนแบบเขาหาเด็กจบใหม่มาแทนได้
ทุกปี หัวหน้าหลิวไม่ได้กังวลว่าจะหาเด็กใหม่มาให้โขกสับไม่ได้
เอาเข้าจริง หัวหน้าหลิวไม่ได้ถามหวงซื่อปั๋วเลยด้วยซ้ำว่าลาออกไปไหน
ถึงหัวหน้าหลิวจะรู้ว่าหวงซื่อปั๋วไปสัมภาษณ์งานบริษัทเถิงต๋า แต่ก็ไม่คิดว่าอีก
ฝ่ายจะผ่านสัมภาษณ์
เพราะถ้าขนาดตนเองยังไม่ผ่านการสัมภาษณ์ แล้วคนไม่เอาถ่านอย่างหวงซื่อ
ปั๋วจะผ่านได้อย่างไร
ความคิดนั้นไม่เคยผ่านเข้ามาในหัวของหัวหน้าหลิวเลย
พอลาออกเสร็จเรียบร้อย หวงซื่อปั๋วก็เป็นพนักงานของบริษัทเถิงต๋าอย่างเป็น
ทางการ
แต่เขาก็เริ่มนึกสงสัยในชีวิตขึ้นมาหลังจากไปทำงานวันแรก
ตั้งแต่เริ่มงานตอนเก้าโมงเช้าและเลิกงานตอนห้าโมงเย็น…
เขาได้ทำอะไรบ้างตลอดทั้งวันนี้
ไม่ได้ทำอะไรเลย!
หลังจากทักทายกันเล็กน้อย เผยเชียนก็ให้หวงซื่อปั๋วไปทำงานง่ายๆ
ซึ่งก็คือเล่นเกม!
เล่นเกมแบบไหนได้บ้าง คำตอบคือได้หมด!
จะเล่นอย่างไร ก็ได้ทั้งนั้น!
หวงซื่อปั๋วไม่เคยเจอบริษัทแบบนี้มาก่อน
ที่บริษัทเก่าของเขา การเล่นเกมถือเป็นเรื่องต้องห้าม!
ห้ามเล่นเกมในเวลางาน!
เหตุผลก็ง่ายๆ นั่นคือบริษัทเกมไม่ใช่ที่สำหรับเล่นเกม แต่เป็นที่สำหรับสร้าง
เกม
การเล่นเกมจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง นี่คือเหตุผลที่บริษัทเกม
หลายบริษัทห้ามพนักงานเล่นเกม เอาเข้าจริง บางบริษัทถึงกับห้ามพนักงานเล่น
เกมของบริษัทตัวเองด้วยซ้ำ
แปลกใช่ไหมล่ะ
ถ้าไม่ได้เล่นเกมของตัวเองดูแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องปรับตรงไหน
แต่เรื่องแปลกๆ เหล่านี้กลับเป็นเรื่องธรรมดาของทุกที่
จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหวงซื่อปั๋วถึงรู้สึกกังวลตอนเริ่มงานกับบริษัทเถิงต๋า
นั่นเพราะมีใครไหมที่เคยเห็นพนักงานบริษัทเกมเลิกงานตอนห้าโมงเย็น
คนที่นั่งถัดจากเขาคือรุ่นพี่ชื่อเปาซวี่
ถึงจะไม่รู้ว่าเปาซวี่จริงๆ แล้วอายุเท่าไหร่ แต่ดูจากเส้นผมบนหัวที่เหลืออยู่
หวงซื่อปั๋วก็เดาว่าอีกฝ่ายน่าจะแก่กว่า
แน่นอนว่าถึงโต๊ะทำงานเขาจะอยู่ข้างเปาซวี่ แต่ทั้งสองก็เว้นระยะห่างจากกัน
ประมาณสามถึงสี่เมตร
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะบริษัทนั้นกว้างใหญ่เสียเหลือเกิน
ความกังวลในตอนแรกของหวงซื่อปั๋วกลายเป็นความละอายใจเมื่อได้เห็นไฟ
ในการทำงานของเปาซวี่
ช่างเป็นพนักงานที่มีความรับผิดชอบสุดๆ!
หัวหน้าสั่งให้เล่นเกม เขาก็อุทิศชีวิตเล่นเกมเต็มที่!
ก่อนหน้านี้หวงซื่อปั๋วเหลือบไปเห็นไอดีเกม Fantasy World ของเปาซวี่โดย
บังเอิญ
ไอดีของเขาเต็มไปด้วยตัวละครเลเวลตัน แถมยังมีอุปกรณ์สุดเทพใส่ทุกตัวอีก
ด้วย!
ไม่ใช่แค่นั้น ดูเหมือนว่าเปาซวี่จะไม่ได้มีแค่ไอดีเดียว
หวงซื่อปั๋วรู้สึกต่ำต้อยขึ้นมาทันที
เขารู้สึกว่าตนเองไม่ได้มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อการทำงาน
ทั้งๆ ที่เจ้านายสั่งให้เล่นเกม แต่เขากลับไม่สามารถทุ่มเททำตามคำสั่งได้เต็มที่
เป็นแบบนั้นได้อย่างไร
รุ่นพี่โต๊ะข้างๆ เพิ่งจะแสดงตัวอย่างให้เห็นว่าตนเองควรต้องทำตัวแบบไหน
ดังนั้นเขาจึงต้องเริ่มทุ่มพลังทั้งหมดไปกับการเล่นเกม
อีกอย่างเขาก็มีทั้งคอมพิวเตอร์สเป็กสูง หน้าจอคู่ พ่วงด้วยแป้นพิมพ์กลไก
และเมาส์สำหรับเล่นเกม…แบบนี้ ประสบการณ์การเล่นเกมคงจะตื่นตาเร้าใจน่าดู
ไม่ว่าจะเป็นเกมไหนก็สามารถปรับคุณภาพกราฟฟิกได้เต็มพิกัด
มีเพียงคำเดียวที่สามารถอธิบายความรู้สึกนี้ได้ นั่นก็คือยอดเยี่ยม!
พอห้าโมงเย็น หวงซื่อปั๋วก็ยังไม่รู้ตัวว่าถึงเวลาเลิกงานแล้วเพราะท้องฟ้าด้าน
นอกยังสว่างอยู่
ต้องรอให้เผยเชียนตะโกนบอกทุกคนให้เลิกงาน พวกเขาถึงจะทยอยกลับบ้าน
กัน
ที่ผ่านมาหวงซื่อปั๋วต้องอยู่ทำงานล่วงเวลาถึงเที่ยงคืน เขายังไม่ชินกับการที่
ร่างกายต้องปะทะแสงแดดร้อนแรงหลังจากเปลี่ยนมาเลิกงานตอนห้าโมงเย็น
เหมือนกับว่ามีอะไรขาดหายไป!
ตอนหลังเขาก็พ บว่า มี คนหนึ ่ง ในบริษ ัท ที ่ไ ด้ สิ ทธิ พ ิเ ศษให้อ ยู ่อ อฟฟิ ศ ต่ อ
หลังจากห้าโมงเย็น
คนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเปาซวี่
ทำให้หวงซื่อปั๋วยิ่งรู้สึกชื่นชมเปาซวี่มากขึ้นและตั้งมั่นอยากเป็นให้ได้แบบเขา
ต้องเป็นพนักงานที่ยอดเยี่ยมจริงๆ บอสเผยถึงให้ความสำคัญและให้สิทธิ์
ทำงานล่วงเวลา!
หวงซื่อปั๋วตั้งใจจะเรียนรู้จากเปาซวี่เพื่ อที่บอสเผยจะได้ให้ความสำคัญกับตน
บ้าง!
สองวันแรกที่มาทำงาน หวงซื่อปั๋วรู้สึกสับสนเล็กน้อย
แต่ไม่นานเขาก็พบแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองไปข้างหน้า
เขาใช้ เ วลาแค่ ส องวั น ก็ ส ามารถปรั บ ตั ว ให้ เ ข้ า กั บ บริ ษ ั ท ใหม่ ไ ด้ แ ละตั้ ง
ความหวังกับอนาคตต่อไป
ไม่รู้เพราะอะไร เขารู้สึกว่ าที่ผ่านมาตนเป็นคนไม่เอาถ่าน ไม่มีไฟทำอะไรสัก
อย่าง
แต่ขณะที่กำลังมองต้นไม้ตรงหน้าต่างและทิวทัศน์ด้านนอก เขาก็รู้สึกว่า
ตนเองสามารถสู้ต่อไปได้อีกห้าร้อยปี!

“ทุกคนหยุดทำงานก่อน ผมมีอะไรจะประกาศ”
เผยเชียนเดินมาโซนทำงานพร้อมประกาศอย่างร่าเริง
ทุกคนหันมองเขาพร้อมกัน
เขากระแอมกระไอให้คอโล่งแล้วพูดต่อ “หลังจากปรับตัวกันไปบ้าง ผมว่าทุก
คนอยู่ในโหมดพร้อมทำงานแล้ว ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องดี”
“ต่อไปเราจะเข้าสู่ช่วงพัฒนาเกมอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะต้องเครียดกันหนัก
แน่ๆ ผมหวังว่าทุกคนจะร่วมมือกันอย่างขยันขันแข็งเพื่อสร้างเกมดีๆ!”
“ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไป เราจะเริ่มทำงานกันอย่างเป็นทางการ!”
ทันทีที่เผยเชียนพูดจบประโยค ซินไห่ลู่ก็ปรบมือนำ
คนอื่นๆ อึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะปรบมือตาม
หวงซื่อปั๋วปรบมืออย่างกระตือรือร้นที่สุด
เขารอเวลานี้มานานแล้ว! ในที่สุดมันก็มาถึง!
พวกเขากำลังจะเข้าสู่ช่วงพัฒนาเกมที่หนักหน่วงที่สุด!
มาเลย 996[1]! มาซัดกันสักตั้ง!
หวงซื่อปั๋วเกลียด 996 มาก โดยเฉพาะที่พบเจอมาจากบริษัทก่อน
เขารู้สึกว่ามันเป็นวัฒนธรรมสุดเลวร้ายที่กดดันพนักงานมาก
แต่ที่บริษัทนี้มีทั้งสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยอดเยี่ยม เงินเดือนงาม แถมยัง
มีเจ้านายที่เล็งเห็นถึงความสามารถและความขยันของพนักงาน…
นั่นทำให้เขาผุดคิดขึ้นมาทันทีว่า 996 เป็นเรื่องที่รับได้!
ฉันทนได้!
เผยเชียนชูมือกำหมัดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง เสียงปรบมือเงียบลง
ทุกคนมองเขาอย่างคาดหวัง รอฟังคำสั่งต่อไป
“เอาละ เพื่อเป็นการฉลองที่เราจะเริ่มงานวันพรุ่งนี้ วันนี้พอแล้ว ทุกคนกลับ
บ้านได้!”
เผยเชียนเดินนำกลับออกไปก่อน!
เขาเดินไปได้สองก้าวก็หันกลับมา เหมือนว่าจะลืมพูดอะไรไป
“วันนี้วันศุกร์ พวกเราเลิกงานกันเร็ว สองวันถัดไปเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์
เสร็จแล้วก็วันจันทร์…เอ๊ะ วันจันทร์วันคนโสดนี่! เราต้องหยุดฉลองสักหน่อย!”
“หยุดสามวันนี้ ใครอยากทำอะไรก็ไป ใครมีคู่ก็ไปใช้เวลาด้วยกัน ใครยังไม่มีก็
ไปหา อยากทำอะไรก็ทำเลย!”
“อย่าให้ผมเห็นว่ามีใครมาทำงานนะ! ใครกล้าทำงานล่วงเวลาจะโดนตัด
เงินเดือน! ไปๆ! กลับบ้านได้แล้ว!”
หวงซื่อปั๋ว “???”
เขามองนาฬิกา
ตอนนี้เพิ่งจะบ่ายสามเอง
………………….
[1] ในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีของประเทศจีน มีวัฒนธรรมการทำงานที่หนัก
หนาสาหัส เรียกว่าการทำงานแบบ 996 ซึ่งมีที่มาจากการทำงานตั้งแต่ 9 โมงเช้า
จนถึง 3 ทุ่ม ระยะเวลา 6 วันต่อสัปดาห์
บทที่ 40 โปรเจ็กต์ใหม่

พอกลับถึงอพาร์ตเม้นต์ที่เช่าไว้ เผยเชียนก็เปลี่ยนไปใส่ชุดอยู่บ้าน นอน


เหยียดบนโซฟา สำราญใจไปกับแดดยามบ่าย
ย้อนกลับไปสมัยที่เขายังทำงานอยู่ เผยเชียนอยากมีประสบการณ์ที่ได้หยุด
ตอนไหนก็ได้ที่อยากหยุด และในที่สุดเขาก็ได้ทำ!
น่าเสียดายที่เขาทำแบบนี้บ่อยๆ ไม่ได้ เพราะระบบอาจถือว่าเป็นการทำผิด
กฎได้
เขาหยิบน้ำอัดลมออกจากตู้เย็นแล้วยกจิบสองครั้งพลางครุ่นคิดถึงแผนการใน
อนาคต
แผนการผลาญเงินในช่วงนี้เป็นไปอย่างราบรื่น
ไม่ว่าจะเป็นการเช่าพื้นที่ทำสำนั กงาน การจ้างพนักงาน หรือการซื้ออุปกรณ์
สำนักงาน กระบวนการทั้งหมดช่วยให้เขาผลาญเงินทุนระบบไปได้เยอะมาก
ไม่ใช่แค่นั้น เงินจำนวนนี้ยังเป็นรายจ่ายต่อเดือนที่เขาต้องจ่ายต่อไปเรื่อยๆ
ด้วย
เผยเชียนรู้สึกมั่นใจสุดๆ!
ด้านการผลาญเงินอย่างรวดเร็ว เขาทำสำเร็จตามเป้าหมาย
แต่บริษัทก็ต้องดำเนินกิจการไปตามปกติ เพราะระบบกำหนดไว้ว่าจะอู้งาน
เกินไปไม่ได้
ตอนนี้มีพนักงานเยอะขึ้น เผยเชียนต้องเจอปัญหาใหม่
เขาต้องตัดสินใจพาบริษัทเดินไปในทางที่ผิดเพื่อให้ขาดทุนโดยที่พนักงานต้อง
มองไม่ออกว่าเขาตั้งใจทำแบบนั้น!
“เริ่มยากขึ้นมาแล้วสิ…”
เผยเชียนครุ่นคิดเรื่องนี้
ประเด็นหลักคือต้องเลือกแนวเกมให้ถูก
เขาจะไม่ไปแตะเกมมือถืออีกแล้ว เพราะนั่นเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่!
หลังได้บทเรียนจากเกมแม่ทัพผี เผยเชียนก็รู้ว่าเกมมือถือเป็นกระแสที่มาจาก
ความก้าวหน้าในการพัฒนาสมาร์ตโฟนที่เร็วกว่าปกติ
ถึงจะสร้างเกมขยะขึ้นมาก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นที่นิยมจากกระแส
ดังกล่าว!
ถ้าเป็นแบบนั้น ก็ต้องสร้างเกมออนไลน์!
อาจบอกได้ว่า ตลาดเกมออนไลน์ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงขาลง
เกม MMORPG ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดคือเกม Fantasy World ซึ่งคล้ายเกม
World of Warcraft ในโลกเดิมของเขา
ถ้าอยากล่มจม สร้างเกมไปแข่งกับเกม Fantasy World น่าจะเป็นตัวเลือกที่
ดี
แต่เผยเชียนก็คิดว่ายังมีความเสี่ยงอยู่
ถ้าสร้างเกมแบบ JX Online 3 ได้ขึ้นมาจะไม่แย่เอาหรือ
ประเด็นหลักของเกมแนว MMORPG คือมีแนวการเล่นที่เหมือนกันมาก ต่อ
ให้มีเกมร้อยคะแนนเต็มอย่าง Fantasy World อยู่แล้ว ถึงจะสร้างเกมที่ได้แค่เก้า
สิบคะแนนออกมาก็ยังมีคนเล่นเหมือนเดิม
ดูแล้วเป็นแผนที่ไม่น่าจะเอาแน่เอานอนได้!
จะมีเกมอะไรที่สร้างออกมาแข่งแล้วมีโอกาสเจ๊งแน่นอน 99% ไหมนะ
หรือจะลองลอกเกม Gods Rising ดู
ไม่มีทาง!
ถ้าบังเอิญสร้างเกมแบบ League of Legends ขึ้นมาคงได้ฉิบหายแน่!
จริงๆ แล้วเผยเชียนเองก็ไม่แน่ใจว่าแนวเกมแบบไหนจะทำให้เขาเสียเงินได้
เขาทำได้แค่ตัดสินใจตามประสบการณ์จากชาติที่แล้วเท่านั้น
เขาต้องพยายามไม่ไปแตะเกมที่ประสบความสำเร็จในชีวิตชาติก่อน
หลังจากครุ่นคิดสักพัก เผยเชียนก็คิดแนวเกมดีๆ ออก
ในตลาดมีเกมแนวนี้ที่ประสบความสำเร็จมากๆ อยู่
ไม่ว่าพนักงานของเขาจะทุ่มเทสร้างเกมอย่างไร เผยเชียนก็มั่นใจว่าเกมของ
พวกเขาจะไม่มีทางเทียบชั้นเกมนั้นได้
ถึงจะมีเกมแนวเดียวกันที่ประสบความสำเร็จในชาติที่แล้ว แต่เหตุผลหลักที่
เกมนั้นประสบความสำเร็จได้เป็นเพราะสภาพแวดล้อม
แต่ในโลกคู่ขนานนี้สภาพแวดล้อมที่ว่าแตกต่างออกไปมาก!
เผยเชียนคิดว่านี่เป็นตัวเลือกที่ดีมาก!
แค่ใส่การปรับแต่งที่ทำให้เกมเจ๊งแน่นอนเข้าไปเล็กน้อย คราวนี้เขาต้องเสีย
เงินสำเร็จแน่!
ยิ่งเผยเชียนคิด ก็ยิ่งพบว่าเกมดังกล่าวเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ เขาลอง
พิจารณาหลายๆ แง่มุมดูแล้ว
ตอนนี้ปัญหามีแค่ต้องหลอกพวกพนักงาน (ไม่เอาถ่าน) นิดหน่อย
แน่นอนว่าถึงไม่ได้หลอกก็ไม่เป็นอะไร ถึงอย่างไรเขาก็เป็นเจ้านาย พนักงาน
ต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขาอยู่แล้ว นี่คืออำนาจที่เผยเชียนมี
แต่เผยเชียนเป็นคนมีเหตุผล
การบังคับพนักงานในสร้างเกมที่พวกเขาไม่ชอบมีความเสี่ยงด้วยกันสองอย่าง
อย่างแรกคือ คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ตั้งใจทำงาน ทำให้สร้างเป็นเกมออกมาไม่
สำเร็จ ถ้าพวกเขาสร้างเกมที่ไม่ผ่านการประเมินออกมาก็เท่ากับพวกเขาอู้งาน
และจะเป็นการผิดกฎของระบบได้
ความเสี่ยงอีกข้อคือ บรรดาพนักงานอาจจะสงสัยว่าเผยเชียนตั้งใจทำแผนให้
ล่ม ซึ่งก็จะผิดกฎของระบบอีก
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย เผยเชียนจึงอยากหลอกทุกคนเพื่อให้พวกเขา
ทำงานออกมาได้สำเร็จ นอกจากนี้ ทั้งหมดที่เขาต้องทำก็แค่บิดส่วนสำคัญใน
ขั้นตอนการวางแผนเพื่อให้กระบวนการทั้งหมดไปผิดทิศผิดทาง!

วันอังคาร
ห้องประชุม บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี
หวงซื่อปั๋วและคนอื่นๆ มองเผยเชียนด้วยความคาดหวัง
วันนี้เป็นวันที่สิบสองเดือนพฤศจิกายน เมื่อวานคือวันคนโสดที่ทุกคนโดนเผย
เชียนบังคับให้หยุดงาน
หวงซื่อปั๋วรู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ที่ได้หยุดยาวสามวัน!
แต่หลังจากได้หยุดงาน เขาก็ยิ่งเชื่อมั่นในความคิดหนึ่งมากขึ้น
บอสเผยเป็นเจ้านายแสนดี ฉันต้องทุ่มเททุกอย่างเพื่อบอส!
คนอื่นๆ ก็คิดแบบเดียวกัน
เจ้านายดีๆ แบบนี้แทบไม่มีอยู่บนโลกแล้ว!
ให้พนักงานหยุดงานวันคนโสดเพื่อที่คนมีคู่จะได้ไปใช้เวลาด้วยกัน ส่วนคนไร้
คู่ก็ได้ใช้โอกาสนี้หาคู่ ใครกันจะใจกว้างขนาดนี้
จะไปหาเจ้านายที่ให้สวัสดิการพนักงานดีขนาดนี้ได้จากไหนอีก
ด้วยเหตุนี้ หลังจากได้หยุดงานสามวัน ทุกคนก็กระปรี้กระเปร่า มีไฟทำงาน
กันถ้วนหน้า
ขนาดเปาซวี่เองก็มีไฟไม่ต่างกันจนหัวล้านของเขาส่องแสงสดใส
เผยเชียนกระแอมกระไอเบาๆ พร้อมมองทุกคนตรงหน้า “โปรเจ็กต์ต่อไปของ
เราเป็นเกมแนว FPS[1]”
ทุกคนนิ่งงันไปเมื่อได้ยินแบบนั้น
โดยเฉพาะหวงซื่อปั๋ว
เขารู้ว่าเกมก่อนหน้าของเผยเชียนที่ประสบความสำเร็จคือเกมแม่ทัพผีซึ่งเป็น
เกมการ์ดมือถือ
ตามทฤษฎีแล้ว โปรเจ็กต์ใหม่ควรจะเป็นเกมการ์ดมือถือเกมใหม่ที่มีขนาด
ใหญ่ขึ้น หรืออย่างน้อยก็เป็นเกมมือถืออีกเกม!
การที่จู่ๆ ก็เปลี่ยนแนวเลย แถมยังเปลี่ยนมาเป็นแนว FPS ถือเป็นการเปลี่ยน
ทิศทางครั้งใหญ่ที่บริษัทส่วนใหญ่ไม่ค่อยอยากทำ!
เพราะบริษัทจะต้องแบกรับความเสี่ยงหนักในการลองทำอะไรที่ไม่เคยทำมา
ก่อน
นอกจากนี้เทรนด์ในตลาดยังบ่งชี้ว่าเกมมือถือกำลังเติบโต มาทิ้งไปทำเกม
แนวอื่นแบบนี้ไม่น่าเสียดายแย่หรือ
เผยเชียนว่าต่อ เหมือนจะรู้ว่าหวงซื่อปั๋วอยากจะพูดอะไร “เราจะไม่ทำเกม
มือถือ”
“เป้าหมายของบริษัทเถิงต๋าคือเป็นผู้นำอุตสาหกรรมเกม เราจะไปหลงจม
จ่อมกับโปรเจ็กต์ไม่สำคัญอย่างเกมมือถือไม่ได้ พอได้เงินมาสักหน่อยก็วนอยู่แต่ใน
กรอบเดิมๆ งั้นเหรอ นั่นไม่ใช่อุดมการณ์ของบริษัทเถิงต๋า ไม่ใช่อุดมการณ์ของผม
ด้วย!”
“ที่เถิงต๋า ถ้าไม่ทำเต็มที่ก็กลับบ้านไป!”
เผยเชียนพูดด้วยความแน่วแน่ เขาดูเหมือนเศรษฐีผู้ดูแลจักรวรรดิของตนเอง
และกุมอำนาจควบคุมทุกอย่าง
หวงซื่อปั๋วตาสว่างทันใด เขาพยักหน้ารัว
เป็นแบบนี้นี่เอง!
พวกเขาอยู่กันคนละชั้น!
หวงซื่อปั๋วคิดแค่จะทำอะไรที่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยและพาบริษัทไปต่อได้
แต่วิสยั ทัศน์ของบอสเผยนั้นแตกต่างออกไป!
ถ้าไม่ทำเต็มที่ก็กลับบ้านไป…คำพูดนี้จุดไฟในตัวหวงซื่อปั๋ว!
ความคิดต่างกันโดยสิ้นเชิง!
ที่บริษัทเดิม พวกเขาหมดเวลาไปกับการคิดหาวิธีดูดเงินเหล่าเกมเมอร์ ช่าง
น่าขายหน้าจริงๆ!
เมื่อเทียบกับเถิงต๋า…บริษัททั้งสองไม่เหมือนกันเลย!
เผยเชียนมองปฏิกิริยาของทุกคนด้วยความพอใจ
“ต่อไปเป็นเรื่องของโปรเจ็กต์นี้ที่ผมคิดเอาไว้แล้ว โปรเจ็กต์นี้…หวงซื่อปั๋วกับ
เปาซวี่จะเป็นคนดูแล”
“เปาซวี่รับผิดชอบเรื่องการออกแบบคอนเซ็ปต์ ส่วนหวงซื่อปั๋วรับผิดชอบ
เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน”
เปาซวี่กับหวงซื่อปั๋วอึ้งไป คิดว่าตนเองหูฝาด
เวรแล้ว! ให้งานสำคัญแบบนี้เลยหรือ!
การออกแบบคอนเซ็ปต์ถือเป็นหัวใจหลักของเกม
ส่วนการดูแลแผนงาน คนที่รับผิดชอบจะต้องดูแลกระบวนการให้การพัฒนา
เกมเป็นไปอย่างราบรื่น
พูดง่ายๆ คือเผยเชียนเพิ่งจะมอบหมายงานที่สำคัญที่สุดสองตำแหน่งในทีม
ออกแบบไป!
เปาซวี่ไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องนี้แย่อะไร เพราะเขาไม่ได้รู้เรื่องโครงสร้างบริษัทเกม
มากนักและไม่รู้ด้วยว่าตำแหน่งที่ได้มานั้นสำคัญแค่ไหน
แต่หวงซื่อปั๋วกลับตะลึงงันไป
ดูแลแผนงานหรือ จู่ๆ ก็ได้เป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบอย่างนั้นหรือ
ตำแหน่งนี้ต้องใช้ประสบการณ์ทำงานห้าถึงหกปีเลยนะ!
………………………..
[1] First Person Shooting เกมยิงปืนมุมมองบุคคลที่หนึ่ง
บทที่ 41 เงื่อนไขสามข้อ

เผยเชียนพูดต่อ ไม่เปิดโอกาสให้ทั้งสองได้ตอบโต้อะไร
“ที่ผมต้องการจากการนี้มีอยู่สามอย่าง”
“อย่างแรกคือ ผมอยากให้เกมนี้มีโหมดเนื้อเรื่อง ไม่ใช่แค่ให้เกมเมอร์เข้าไปสู้
กันเฉยๆ เกมของเราจะต้องมีเนื้อหาที่ลึกซึ้ง!”
“อย่างที่สอง เราต้องนึกถึงความรู้สึกของผู้เล่นใหม่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ยิ่งเกมเล่นง่ายเท่าไหร่ยิ่งดี!”
“อย่างที่สาม เราต้องสร้างอาวุธระดับตำนาน ส่วนเรื่องราคา…ถ้าให้ใช้ได้
ถาวรต้องจ่ายแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน พวกคุณตั้งราคาสำหรับทดลองใช้
ชั่วคราวได้เลย”
ทุกคนตะลึงงันกันหมดในขณะที่เผยเชียนยิ้มย่องอยู่ในใจ
ทำลายเกมมันง่ายๆ แค่นี้แหละ!
เผยเชียนตัดสินใจจะสร้างเกม FPS มาพักใหญ่แล้ว
การส่งทีมที่ไม่มีประสบการณ์ไปสร้างเกม FPS ถือเป็นหลุมพรางแรก
เพราะเมื่อเทียบกับเกมอื่นๆ แล้ว การควบคุมของเกม FPS ถือเป็นเรื่องที่
สำคัญมาก!
เกมแนว FPS ที่ฮิตที่สุดในโลกคือ Counter Strike เป็นเกมที่นับได้ว่า
ออกแบบการควบคุมมาได้เต็มร้อยคะแนน
ถึงจะมีเกมอื่นในตลาดที่ทำคะแนนได้สูงถึงเก้าสิบเก้าคะแนนก็ยังเจ๊งอยู่ดี
เหตุผลก็เพราะความต่างหนึ่งคะแนนที่ว่าถือเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเกม
เมอร์ FPS สายฮาร์ดคอร์!
ถ้ามีเกม Counter Strike อยู่แล้ว ใครกันจะไปอยากเล่นเกมที่แย่กว่า
นี่เป็นจุดหนึ่งที่แตกต่างจากเกมมือถือและเกม MMORPG โดยสิ้นเชิง เกม
สองแนวที่ว่านี้สามารถแปลงโฉมให้ดูแตกต่างจากเกมอื่นได้ แค่เปลี่ยนอะไรสัก
เล็กน้อยก็ดูเหมือนเป็นเกมใหม่แล้ว
แต่สำหรับเกม FPS ไม่มีอะไรจะมาทดแทนความแตกต่างด้านการควบคุมได้!
การสร้างเกมไปสู้กับ Counter Strike ก็เท่ากับฆ่าตัวตายชัดๆ!
นอกจากนี้เงื่อนไขทั้งสามข้อของเผยเชียนยิ่งทำให้เกมเลวร้ายขึ้นไปอีก!
ถึงโหมดเนื้อเรื่องจะฟังดูดี แต่เอาเข้าจริงก็เกินความสามารถของทีมสร้างนี้
โหมดเนื้อเรื่องเป็นตัวอย่างของการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงแต่ได้ผลตอบแทน
ต่ำ เพราะผลลัพธ์ที่ได้กลับมาก็ไม่ได้น่าพอใจอะไร ถึงทีมสร้างจะทุ่มเททั้งเวลา
และแรงกายไปแค่ไหน เหล่าเกมเมอร์ก็อาจจะไม่ชอบก็ได้!
เมื่อต้องใช้ทรัพยากรอย่างเวลาและกำลังคนไปลงตรงโหมดเนื้อเรื่อง ส่วน
อื่นๆ ของเกมต้องได้รับผลกระทบแน่นอน
ส่วนเรื่องออกแบบเกมให้เล่นง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเอาใจผู้เล่นใหม่ก็จะ
ทำให้กลุ่มเป้าหมายหลักของเกมที่เป็นเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ขุ่นเคืองเอาได้!
ที่สำคัญที่สุดคือเงื่อนไขข้อที่สาม
อุปกรณ์ให้ซื้อในเกม!
นี่คือบทเรียนที่เผยเชียนได้มาจากเกมแม่ทัพผี
ในชาติก่อนของเขา เกมชื่อ Crossfire สามารถล้มเกม Counter Stike ได้แม้
จะมีระบบควบคุมที่ด้อยกว่า
แต่ในโลกนี้ไม่มีเกม Crossfire หรือเกมที่คล้ายๆ กัน
เพราะอะไรน่ะหรือ
เผยเชียนคิดว่าเพราะสภาพแวดล้อมของตลาดเกมในโลกนี้ทำให้ไม่สามารถมี
เกมที่คล้ายเกม Crossfire ได้!
หากมองอย่ า งผิ ว เผิ น จะเหมื อ นเผยเชี ย นกำลั ง สร้ า งเกมที ่ ค ล้ า ยๆ เกม
Crossfire ขึ้นมาตรงที่มีจุดให้ใช้เงินจริงซื้อของมากมายในเกม แต่ผลที่ได้จะ
แตกต่างไปเพราะสภาพแวดล้อมของโลกนี้ไม่เหมือนโลกเดิมของเขา!
ปี 2009 ในชาติก่อน เกมเล่นฟรีแต่ต้องเสียเงินซื้อของในเกมเพิ่มเป็ นที่นิยม
มาก
แต่ในโลกปัจจุบัน เทรนด์ตลาดโน้มเอียงไปในทางซื้อทีเดียวจบ ขนาดเกม
สามก๊กสุดคิวต์ยังโดนเหล่าเกมเมอร์วิจารณ์กันยกใหญ่ที่มีเพดานค่าใช้จ่ายในเกม
อยู่ที่หนึ่งพันหยวน
ตอนสร้างเกมแม่ทัพผี เผยเชียนทำพลาดตรงที่คำนึงถึงผู้เล่นมากเกินไป!
เพราะแบบนั้น ชาวเกมเมอร์เลยรักเกมของเขามากจนเอาไปบอกกันปากต่อปาก
เกิดเป็นผลลัพธ์ที่เขาไม่คิดฝันว่าจะได้พบ
เอาจริงๆ เผยเชียนนั่นแหละที่เป็นต้นตอของเรื่องทั้งหมดเพราะเขาตั้งใจขาย
ของต่ำกว่าราคา…
แต่ก็แน่นอนว่าเผยเชียนไม่มีเวลามาเป็นห่วงว่าจะเกิดปรากฏการณ์ลูกโซ่
อะไรขึ้น เป้าหมายหลักของเขาตอนนี้คือผลาญเงินไปกับเกมต่อไป
ทางที่ดีที่สุดอาจจะเป็นการตั้งเพดานค่าใช้จ่ายในเกมไว้สูงจัดจนเหล่าเกม
เมอร์ด่ากันยกใหญ่!
ลองคิดภาพตามสิ
เกม FPS ที่มีระบบควบคุมแย่กว่า Counter Strike คุณภาพก็ธรรมดาๆ ใช้
เงินส่วนใหญ่หมดไปกับการสร้างโหมดเนื้อเรื่องอันแสนไร้ประโยชน์ นอกจากนั้น
ปืนในเกมยังไม่สามารถเอามาใช้ได้ตามใจชอบ จะซื้อมาใช้ก็ต้องจ่ายแพงหูฉี่…
เกมนี้ไม่มีข้อดีเลยสักนิด!
ต้องเจ๊งอย่างแน่นอน!
ตอนนี้ที่เผยเชียนทำคือตั้งโจทย์พร้อมเงื่อนไขสามข้อให้หวงซื่อปั๋วและเปาซวี่
ทำให้สำเร็จ
ขอแค่จัดการตามเงื่อนไขสามข้ อนี้ครบ พวกเขาจะใส่อะไรเพิ่มเข้าไปในเกม
เผยเชียนก็ไม่ได้สนใจสักนิด!
เกม FPS ที่สร้างโดยทีมไร้ประสบการณ์ขออย่างมากก็แค่ให้ผ่านการประเมิน
เรื่องทำเงินได้คืออย่าหวัง!
หลังจากได้ยินเงื่อนไขของเผยเชียน หวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่ก็ตกอยู่ในภวังค์
ความคิด
หวงซื่อปั๋วตะลึงกับความอิสระที่ได้รับและความยากของงาน
ตอนแรกเขาคิดว่านักสร้างเกมผู้มีประสบการณ์อย่างบอสเผยจะช่วยจัดการ
ดูแลไปตลอดทั้งโปรเจ็กต์ แต่สุดท้ายที่เขาทำคือบอกทิศทางคร่าวๆ ให้ลูกน้องทำ
ตามเท่านั้น!
เกม FPS ที่มีโหมดเนื้อเรื่อง มีของให้ซื้อในเกม และเป็นมิตรกับผู้เล่นใหม่…
นี่มันอภิมหายากเลย!
แต่ ห วงซื ่ อ ปั ๋ ว ก็ ไ ม่ ไ ด้ ค ิ ด จะบอกปฏิ เ สธไปเลยทั น ที ก่ อ นประชุ ม เขาเพิ่ ง
ตัดสินใจจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อบอสเผย ไม่มีทางที่จะล้มเลิกความตั้งใจเอาง่ายๆ
ยิ่งยากเท่าไหร่ก็ต้องยิ่งทำ!
ถ้าไม่ทำ เขาจะตอบแทนความเชื่อใจและสวัสดิการสุดเลิศเลอที่บอสเผยให้
มาได้อย่างไร
เขาพยายามนึกถึงประสบการณ์การเล่นเกม FPS และคิดหาวิธีว่าจะทำ
ภารกิจที่เผยเชียนมอบหมายมาให้สำเร็จได้อย่างไร
“มีคำถามอะไรไหม” เผยเชียนถาม
หวงซื่อปั๋วอยากถาม แต่เผยเชียนก็พูดขัดขึ้นก่อน “ไม่มีคำถามเหรอ ดีมาก!”
เขากลืนคำถามลงคอ
ไม่เปิดโอกาสให้ได้ถามเลยโว้ย!
เผยเชียนมองไปรอบๆ
“โอเค ทีมออกแบบมีเวลาหนึ่งสัปดาห์ในการร่างแบบ เปาซวี่ คุณรับผิดชอบ
เรื ่ อ งออกแบบองค์ ป ระกอบต่ า งๆ และภาพรวมทั ้ ง หมด หวงซื ่ อ ปั ๋ ว ตั ้ ง ที ม
ออกแบบแล้วประชุมเรื่องร่างแบบกับจ่ายงาน”
“หม่าหยาง งานของแกคือไปเรียนรู้จากคนอื่นๆ พยายามช่วยทีมให้ได้มาก
ที่สุด”
“ถ้าพวกคุณเจอปัญหาอะไรให้แจ้งผมให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับเรื่อง
เงิน! ไม่ต้องกลัวผม!”
“จบการประชุมแค่นี้!”
เผยเชียนรู้สึกผ่อนคลายหลังประชุมเสร็จ
เป็นเจ้านายคนนี่รู้สึกแบบนี้เองหรือ
โยนงานทั้งหมดของตัวเองไปให้ลูกน้องทำ ไม่ต้องมานั่งห่วงอะไร การทำแบบ
นี้มันรู้สึกสุดยอดขนาดนี้เลยหรือ
แน่นอนว่าสำหรับเจ้านายส่วนใหญ่ ถึงจะกลายเป็นคนควบคุมงาน พวกเขาก็
ยังคอยถาม คอยตรวจดูความคืบหน้าของงาน
แต่เผยเชียนจะปล่อยไปตามสบายเท่าที่จะทำได้ จะไม่ถามอะไรทั้งนั้น!
เขาไม่ได้สนใจว่าเกมจะออกมาเป็นแบบไหน!
แน่นอนว่าเขายังต้องตามงานช่วงสำคัญเรื่อยๆ
ตัวอย่างเช่น จะร่างแบบออกมาตอนไหน จะทำตัวเกมเวอร์ชันทดสอบออกมา
ตอนไหน รวมถึงเรื่องกำหนดส่งตรวจประเมินและอื่นๆ
ถึงเกมจะออกมาต่ำกว่ามาตรฐานก็ไม่เป็นไร ขอแค่ผ่านการประเมินได้ก็พ อ
และจะมัวเสียเวลาไปเปล่าๆ ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นระบบจะถือว่าทำผิดกฎ
เป้าหมายของเผยเชียนคือปล่อยให้ลูกน้องกลุ่มนี้ใช้จ่ายทำอะไรก็ได้ตามใจ
ชอบ ขอแค่สร้างเกมเสร็จก็พอ!
บทที่ 42 ดีใจแต่ก็หนักใจ

ทุกคนทยอยออกจากห้องประชุม
หวงซื่อปั๋วรั้งเปาซวี่ไว้
“พี่เปา ผมต้องให้พี่ช่วยรีบคิดคอนเซ็ปต์ให้เร็วๆ เราต้องใช้เวลาอย่างน้อยห้า
วันในการร่างแบบ ถ้าพรุ่งนี้พี่ได้ไอเดียคร่าวๆ จะดีมากเลยครับ เราจะได้รีบคุยกัน
ให้เร็วที่สุด”
หวงซื่อปั๋วว่าอย่างสุภาพสุดๆ
นั่นก็เพราะเขาไม่รู้ว่าเปาซวี่เป็นใครมาจากไหน ภาพลักษณ์ของอีกฝ่ายในหัว
ของเขามาจากสิ่งที่เห็นสองสามอย่าง
อย่างแรกคือ เปาซวี่ดูแก่เพราะหัวเริ่มล้าน
อย่างที่สองคือ เขาเป็นเกมเมอร์มืออาชีพที่บอสเผยไว้วางใจและให้สิทธิ์
ทำงานล่วงเวลา
อย่างที่สาม เขามักจะเงียบอยู่เสมอเหมือนคิดอะไรอยู่ตลอด
จากข้อสังเกตเหล่านี้ หวงซื่อปั๋วจึงคิดว่าเปาซวี่ต้องแก่กว่าตัวเองแน่นอน
เปาซวี่พยักหน้า “ได้ครับ พี่หวง”
เปาซวี่เองก็ไม่รู้จักหวงซื่อปั๋วเท่าไหร่ แต่เพราะเขาเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง จึงคิด
ว่าหวงซื่อปั๋วน่าจะเป็นรุ่นพี่เพราะอีกฝ่ายทำงานในวงการมาตั้งแต่เรียนจบ
ทั้งสองคนคิดว่าอีกฝ่ายใช้คำว่า ‘พี่’ เพื่อให้ดูสุภาพ จึงไม่ได้คิดอะไรมาก
ใครจะไปคิดว่าอีกฝ่ายหมายความตามที่พูดจริงๆ
หวงซื่อปั๋วกลับไปที่โต๊ะทำงาน รู้สึกทั้งดีใจและหนักใจ
เขาดีใจเพราะได้เจอที่ทำงานที่มีเจ้านายและเพื่อนร่วมงานที่สุภาพและเป็น
มิตร เทียบกับสภาพแวดล้อ มอันแสนกดดันและเข้มงวดของที่ก่อ นแล้ว ที่นี่
แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง
ที่เขาหนักใจก็เพราะกลัวว่าตนเองจะเป็นภาระจากการที่ยังมีความสามารถไม่
เพียงพอ
เขาเปิดดูแบบร่างต่างๆ ทที่เคยรวบรวมไว้เพื่อเตรียมตัวล่วงหน้า
จะได้พร้อมทำแบบร่างทันทีที่เปาซวี่คิดคอนเซ็ปต์เสร็จ
ส่วนเปาซวี่ก็เริ่มออกแบบคอนเซ็ปต์อย่างรวดเร็ว
ประสบการณ์การเล่นเกม FPS ต่างๆ ผุดขึ้นในหัว สร้างแรงบันดาลใจให้เขา
สร้างเกมให้เป็นมิตรกับผู้เล่นใหม่อย่างนั้นหรือ ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แค่ปรับ
นิดหน่อยก็ทำได้แล้ว
ตัวอย่างเช่น เขาสามารถปรับพื้นที่ยิงโดนโดยเฉพาะส่วนหัวให้กว้างขึ้น เพื่อที่
ผู้เล่นใหม่จะสามารถยิงโดนหัวได้บ่อยขึ้น
หรือไม่ก็เพิ่มระยะซูมและความเร็วการยิงกระสุนของปืนไรเฟิล ผู้เล่นใหม่จะ
ได้เก่งเรื่องซุ่มยิงจากระยะไกลได้ไวขึ้น
ถึงเปาซวี่จะไม่ได้เก่งเกมแนว FPS ระดับมืออาชีพ แต่เขาก็ยังถือว่ามีฝีมือ
ดีกว่าคนทั่วไป
เขาสามารถปรับแต่งสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นโดยอ้างอิงจากทักษะการควบคุมของ
ตัวเองได้
ส่วนเรื่องอาวุธที่ให้ซื้อในเกมก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร ที่พวกเขาต้องทำก็แค่ตั้ง
ราคาไว้สูงๆ ก็พอ
สิ่งเดียวที่ยากสำหรับเปาซวี่คือเงื่อนไขข้อแรกของเผยเชียนที่อยากให้มีโหมด
เนื้อเรื่อง!
เขาคิดหนัก
ว่ากันตามตรง เขาไม่เข้าใจเงื่อนไขข้อนี้เลย
นั่นก็เพราะเกม FPS ในประเทศที่ดังๆ ส่วนใหญ่ไม่มีโหมดเนื้ อเรื่องเลย เกม
Counter Strike เองก็ไม่มี สิ่งที่ผู้เล่นต้องทำคือยิงกันเท่านั้น
ก็จริงที่เกม FPS แบบสแตนด์อโลนชื่อดังบางเกมของต่างประเทศมีโหมดเนื้อ
เรื่อง แต่เกมที่ว่าเหล่านั้นก็ผลิตโดยบริษัทใหญ่ๆ ไม่เหมือนบริษัทเถิงต๋า!
ทีมมีกันแค่สามสิบคน ให้สร้างโหมดเนื้อเรื่องเหมือนที่มีในเกม FPS ดังๆ ของ
ต่างประเทศถือเป็นเรื่องที่เกินความสามารถไปมาก
ถึงเปาซวี่จะเพิ่งเข้าสู่อุตสาหกรรมเกม แต่เขาก็ค่อนข้างมั่นใจในเรื่องเหล่านี้
เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากลองคิดหาทางอื่น
บริษัทที่มีพนักงานแค่สามสิบคนไม่มีทางสร้างโหมดเนื้อเรื่องเหมื อนเกม FPS
ดังๆ ของต่างประเทศได้
ถ้าคนธรรมดาแบบเขามองเรื่องนี้ออก และทำไมบอสเผยผู้แสนยอดเยี่ยมของ
พวกเขาจะมองไม่ออก
เขาต้องมองออกเหมือนกัน
ถ้าเขารู้อยู่แล้ว ทำไมยังบังคับให้มีเงื่อนไขข้อนี้อีก
นี่เป็นทั้งบททดสอบและคำใบ้!
บอสเผยกำลังทดสอบความสามารถของพวกเราและบอกใบ้ไปด้วยว่าเราไม่
ควรพัฒนาเกมไปในทางเดียวกับพวกเกม FPS ดังๆ ของต่างประเทศ!
ถ้าเป็นแบบนี้ เราจะเดินหน้าต่ออย่างไรดี…
เปาซวี่จมอยู่ในห้วงความคิด

ห้าโมงเย็น
เผยเชียนออกจากออฟฟิศอย่างสุขสำราญ
ความรู้สึกที่ได้เลิกงานเวลานี้ช่างยอดเยี่ยมเสียจริง!
แน่นอนว่าในฐานะเจ้าของบริษัท เผยเชียนไม่สามารถโดดงานไปเฉยๆ ได้
แต่ถ้าทำได้แบบนั้น เขาก็จะไม่ได้เพลิดเพลินกับความสุขในการรอเวลาเลิก
งานและความอิ่มเอมเมื่อช่วงเวลานั้นมาถึง
ก็ เ หมื อ นที ่ ท ายาทลำดั บ สองของตระกู ล อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ผ ู ้ เ ป็ น เจ้ า ของ
อพาร์ตเม้นต์กว่าสามสิบแห่ง แต่ก็ยังยืนกรานจะเก็บค่าเช่าเองทุกวันได้กล่าวไว้ว่า
“คนเราจะขี้เกียจไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นคนไร้ค่า”
เผยเชียนเองก็คิดเหมือนกัน ถึงระบบจะให้สิทธิพิเศษในการใช้ชีวิตอย่างสุข
สมตราบเท่าที่ผลาญเงินทุน ระบบไปได้เรื่อยๆ แต่เขาจะกลายเป็นคนไร้ค่าเพราะ
ลุ่มหลงในความสุขนี้ไม่ได้
ไปเรียนบ้างตามอารมณ์ เลือกเวลาเริ่มงานเลิกงานตามใจชอบ ให้ตัวเองได้มี
อะไรทำบ้าง จะได้ไม่กลายเป็นคนไร้ค่า
สัปดาห์ก่อน เผยเชียนต้องไล่ทุกคนกลับบ้านตอนห้าโมงเย็น โดยเฉพาะคนที่
เคยชินกับการทำงานล่วงเวลาอย่างหวงซื่อปั๋ว
นี่คือการปรับนิสัยผิดๆ ของพนักงาน!
แน่นอนว่าเปาซวี่เป็นข้อยกเว้น การปล่อยให้เขาเล่นเกมต่อในบริษัทช่วย
ผลาญเงินค่าไฟเพิ่ม
หลังจากพยายามอยู่หนึ่งสัปดาห์ เผยเชียนก็พบว่าพนักงานส่วนใหญ่เลิกนิสัย
ไม่ดีที่ว่าได้แล้ว
ก็ใครจะอยากทำงานล่วงเวลาโดยไม่จำเป็นกันล่ะ
พนักงานทุกคนเริ่มมีนิสัยเลิกงานตรงเวลาเหมือนเผยเชียน ซึ่งทำให้เขารู้สึก
พอใจมาก

ตอนแรกหวงซื่อปั๋วกำลังเก็บโต๊ะ แต่ก็นั่งลงทันทีเมื่อเห็นเผยเชียนกลับ
ออกไป
เขาตัดสินใจจะลองเสี่ยงดู!
หวงซื่อปั๋วเลือกไม่สนใจคำเตือนของบอสเผยที่บอกจะหักเงินเดือนถ้าอยู่
ทำงานล่วงเวลา!
เขาทำงานล่วงเวลาครั้งนี้โดยสมัครใจ
นั่นเพราะหวงซื่อปั๋วรู้สึกไม่สบายใจมากๆ เขารู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถไม่
พอที่จะเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน ทำให้อยากอยู่ทำงานล่วงเวลาเพื่อทบทวนสิ่ ง
ต่างๆ และเตรียมตัวให้พร้อม จะได้ไม่เป็นตัวถ่วงใคร!
ส่วนพนักงานคนอื่นๆ ส่วนใหญ่ต่างเลิกงานทันทีเมื่อถึงเวลา
ถึงอย่างไรตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่มีอะไรให้ทำ ทุกคนกำลังตั้งตารอแบบร่าง
คอนเซ็ปต์จากเปาซวี่
หวงซื่อปั๋วคิดหาข้อแก้ตัวถ้าจู่ๆ บอสเผยดันกลับเข้าออฟฟิศมา
แต่ไม่นานเขาก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลเลย บอสเผยไม่น่าจะเป็นคนที่มีเวลา
ว่างขนาดกลับเข้าออฟฟิศมาตรวจดูว่ามีใครทำงานล่วงเวลาหรือเปล่า
ผ่านไปสักพักก็เหลือแค่หวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่ในออฟฟิศอันกว้างขวาง
เปาซวี่หยิบมันฝรั่งทอดถุงใหญ่จากโซนขนมพร้อมกาแฟแก้วหนึ่ งจากโซนครัว
อย่างคล่องแคล่ว
ทั้งขนมและเครื่องดื่ม ทางบริษัทมีให้กินดื่มได้ไม่อั้น
ตอนแรกเปาซวี่ดีใจมากจนดื่มกาแฟกับน้ำอัดลมแทนน้ำเปล่า แต่พอดื่มแบบ
นั้นไปสักพักก็เริ่มเบื่อจึงกลับมาดื่มตามปกติที่ดื่ม
ถึงเขาจะแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นหวงซื่อปั๋วยังไม่กลับบ้าน แต่ก็ไม่ได้พูด
อะไร แค่เดินกลับไปที่โต๊ะเพื่อร่างคอนเซ็ปต์ลงบนกระดาษเปล่า

สองทุ่ม
เปาซวี่ลุกจากโต๊ะ เดินถือกระดาษแผ่นหนึ่งที่ดูเหมือนยั นต์เพราะเต็มไปด้วย
ภาพและสัญลักษณ์ต่างๆ ไปหาหวงซื่อปั๋ว
“พี่หวง ผมใกล้เสร็จแล้ว” เปาซวี่บอก
หวงซื่อปั๋วพยักหน้ารัว “อธิบายให้ผมฟังหน่อยครับพี่เปา”
เปาซวี่ลากเก้าอี้มาแล้วเริ่มอธิบายความคิดคร่าวๆ ให้หวงซื่อปั๋วฟัง
“จากเงื่อนไขทั้งสามข้อของบอสเผย สองในสามง่ายมาก ที่ยากอยู่ที่โหมดเนื้อ
เรื่อง”
“ผมว่าเราทำโหมดเนื้อเรื่องระดับเดียวกับเกม FPS ดังๆ ของต่างประเทศไม่
ไหว เรื่องตัวละคร ท่าทางการต่อสู้ กับฉากหลังก็ไม่มีทางสู้ได้”
หวงซื่อปั๋วพยักหน้า “ใช่ ผมก็คิดเหมือนกัน”
บทที่ 43 โจทย์ของบอสเผย

“เพราะงั้นผมเลยคิดว่ามัน น่าจะเป็นบททดสอบของบอสเผย เป็นหัวข้อที่


กำหนดให้ทำให้ได้”
“บอสเผยเก่งเรื่องการเสี่ยงดวงที่ลงทุนต่ำแต่ได้ผลตอบแทนสูง”
“เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายกับเกมแม่ทัพผีเองก็เป็นแบบนั้น!”
“เพราะงั ้ น เราต้ อ งสร้ า งผลลั พ ธ์ ท ี ่ ด ี ท ี ่ ส ุ ด โดยใช้ ท รั พ ยากรให้ น ้ อ ยที ่ สุ ด
เหมือนกัน!”
“ผมคิดเรื ่อ งนี้ ด ูห ลายๆ จุดแล้ว ตัวละคร ฉากหลัง กับคัต ซี น …เราต้ อ ง
ประหยัดกับตรงนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่อย่างนั้นโหมดเนื้อเรื่องก็จะไร้
ความหมาย เราต้องใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดตรงจุดที่จำเป็นที่สุด!”
เปาซวี่มั่นใจอย่างนั้น
หวงซื่อปั๋วยังคงพยักหน้าเห็นด้วย
เปาซวี่พูดต่อ “จริงๆ ถ้าเราเลือกที่จะใช้ทรัพยากรให้ประหยัดที่สุดเท่าที่ทำได้
เราก็เหลือตัวเลือกให้ทำไม่กี่อย่าง”
“อย่างแรกคือเรื่องการออกแบบตัวละคร ตัวเกมใช้มุมมองบุคคลที่หนึ่ง ทำ
แบบนี้เราก็จะลดทอนเรื่องการสร้างโมเดลตัวละครไป สร้างให้เห็นแค่แขนกับขาก็
พอ”
“แนวเกมใช้เป็นธีมซอมบี้ก็ได้ จะมีศัตรูสองแบบในเกม คือซอมบี้กับทหาร
รับจ้าง เราใช้เทมเพลตทั่วไปมาปรับเพิ่มได้จะได้มีศัตรูหลายรูปแบบ”
หวงซื่อปั๋วพยักหน้า “โอเค เข้าใจแล้วครับ เป็นความคิดที่ดีเลย แต่ผมว่าเนื้อ
เรื่องจะไม่ค่อยมีอะไรเลยนะถ้ามีแค่ซอมบี้กับทหารรับจ้าง เราต้องมีตัวละครเสริม
ด้วย”
“ผมคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว เราต้องการแค่ตัวเดียวพอ เอาเป็นเด็กผู้หญิง”
เปาซวี่มองกระดาษที่เหมือนยันต์ในมือ “เพื่อให้ประหยัดทรัพยากร ผมว่าจะ
สร้างให้เด็กผู้หญิงคนนี้พูดไม่ได้ เราจะได้ตัดเรื่องบทพูดกับค่าพากย์เสียงไป ทั้ง
เกมจะใช้แค่เสียงเอฟเฟกต์ต่อสู้ที่เห็นกันบ่อยๆ”
หวงซื่อปั๋วนิ่งไป “หืม ตัวละครเสริมตัวเดียวในเกมเป็นเด็กที่พูดไม่ได้เหรอ
ครับ แล้วเราจะดำเนินเรื่องยังไงล่ะ”
ตามความเข้าใจของหวงซื่อปั๋ว บทพูดของตัวละครเสริมถือเป็นองค์ประกอบ
สำคัญในการเพิ่มความเข้มข้นให้เนื้อเรื่องและแสดงให้เห็นถึงลักษณะนิสัยของตัว
ละคร
ถ้ามีตัวละครเสริมแค่ตัวเดียวในเรื่องแล้วยังพูดไม่ได้ ทั้งเกมก็เงียบเป็นเป่า
สากกันพอดี
เปาซวี่คิดถึงจุดนี้ “ใช่ครับ…เราไม่มีทางเลือก ถ้าปรับตามก็ต้องเป็นแบบนี้ ถ้า
จะให้เด็กพูดได้ เราต้องหามืออาชีพมาพากย์เสียง ไม่ใช่แค่นั้นนะ เราต้องหา
สำเนียงที่เหมาะกับภูมิหลังตัวละครด้วย ซึ่งก็ต้องวุ่นวายกันทีเดียว”
“อีกอย่างผมว่าเด็กพูดไม่ได้ก็ไม่กระทบเนื้อเรื่องเท่าไหร่ เราใช้จุดอื่นมาแทน
ก็ได้”
“อย่างเช่น ท่าทาง สีหน้า การเคลื่อนไหว”
“ถ้าเป็นตัวละครที่พูดไม่ได้ เด็กผู้หญิงนี่แหละที่เหมาะที่สุด”
“ที่ต้องมีเด็กคนนี้ในเกมมีอยู่สองเหตุผล”
“ข้อแรกคือเป็นตัวช่วยปรับอารมณ์ ทั้งเกมมีแค่ซอมบี้กับทหารรับจ้าง เด็ก
คนนี้จะเป็นเหมือนแสงไฟท่ามกลางความมืดสำหรับเหล่าเกมเมอร์ เด็กสาวจะมา
เป็นตัวปรับสมดุลอารมณ์ในเกม จะได้ไม่มีแค่เสียงยิงปืนกันปังๆๆ อย่างเดียว”
“ข้อสองคือ เด็กจะเป็นตัวช่วยแก้ปัญหาในเกม เกมแสตนด์อโลนดังๆ ของ
ต่างประเทศก็ใช้กลยุทธ์ที่คล้ายๆ กันคือให้ NPC ช่วยแก้ปัญหาในเกม เราอาจจะ
สร้างฉากให้ประตูหลักล็อกอยู่ ทางออกมีแค่ช่องระบายลมแคบๆ ด้านข้างเพื่อให้
เด็กคนนี้มุดเข้าไปช่วยตัวเอกเปิดประตู”
“ถ้าทำแบบนี้ ไม่ว่าจะในแง่อารมณ์หรือการเล่นเกม เด็กคนนี้จะเป็นตัวละคร
ที่สำคัญมากๆ สำหรับผู้เล่น”
หวงซื่อปั๋วพยักหน้า “โอเค ฟังดูดีเลยครับ! แต่ผมมีคำถามอีกข้อ แล้วเรื่องภูมิ
หลังของเนื้อเรื่องล่ะ เอาเป็นธีมวันโลกแตกเหรอครับ ธีมของโลกต้องเข้ากับซอม
บี้ เด็กผู้หญิง แล้วก็ทหารรับจ้าง ต้องสมเหตุสมผล ไม่ดูดึงดังเกินไปด้วย”
เปาซวี่ขีดเส้นใต้อะไรสักอย่างบนกระดาษยันต์ “ทีนี้ก็มาถึงจุดที่สอง เรื่อง
ฉากหลัง”
“สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือฉากจะต้องสร้างง่าย สมมติว่าถ้าเราจะสร้างเนื้อเรื่องยาว
สามชั่วโมง เกมสแตนด์อโลนของต่างประเทศส่วนใหญ่จะใส่ฉากหลังที่ต่างกันมา
สักสี่แบบ ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะทำให้ได้แบบนั้น”
“ผมคิดไว้ว่าเรื่องจะเกิดที่ฐานทัพใหญ่กลางทะเล ที่องค์กรชั่วร้ายใช้เป็นฐาน
ทดสอบไวรัสเพื่อทดลองดัดแปลงให้ทหารรับจ้างกลายเป็นนักรบที่ไม่มีวันเหน็ด
เหนื่อย”
“ถ้าวางเนื้อเรื่องไว้แบบนี้ เป้าหมายของตัวเอกก็คือต่อสู้หาทางออกจากฐาน
ตั้งแต่ชั้นล่างสุดไปจนถึงด้านบน ทีนี้ที่เราต้องสร้างก็แค่ฉากแนวฐานทัพลับ”
“เราปรับให้แต่ละชั้นแตกต่างกันได้หลายแบบ เช่น เปลี่ยนมอนสเตอร์ หรือ
ปรับฉากหลังนิดๆ หน่อยๆ ขอแค่สไตล์ยังเป็นฐานทัพลับก็พอ แค่ปรับนิดหน่อย
เราก็สร้างฉากหลายแบบได้ง่ายๆ”
“เช่น บางฉากอาจจะมีไวรัสแพร่ระบาด พื้นกับผนังผุกร่อน ไม่ก็เต็มไปด้วย
คราบเลือดกับเศษเนื้อ เราอาจจะให้บางฉากยังดูปกติ แค่ข้าวของกระจัดกระจาย
ก็พอ บางฉากอาจจะเสียหายหนักเพราะพวกทหารรับจ้างระเบิดทำลายศพ…”
“แค่ฉากหลังฉากเดียว เราก็สร้างฉากต่างๆ ได้เยอะแยะ แถมยังเหมาะจะ
เป็นฉากหลังของเกมด้วย”
หวงซื่อปั๋วลูบคาง “โอเค ดีเลยครับ! แต่ถ้าองค์กรชั่วร้ายตั้งอยู่กลางทะเลแล้ว
ทำไมถึงมีเด็กที่นั่นได้”
“ง่ายมากครับ ” เปาซวี่อธิบายต่อ “เด็กคนนี้มีภูมิต้านทานพิเศษเลยโดน
องค์กรจับมาทดลอง และเพราะการทดลองเลยทำให้พูดไม่ได้”
“เยี่ยมเลยครับ!”
หวงซื่อปั๋วตาเป็นประกาย “อีกอย่างเราขยายเรื่องราวเพิ่มออกไปได้อีก ผมว่า
เราเพิ่มให้เลือดของเด็กคนนี้ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บตัวเอกได้ด้วยก็ดี อย่างเช่น
ถ้าผู้เล่นโดนจับหรือโดนซอมบี้กัด เด็กจะใช้เข็มฉีดยาดูดเลือดตัวเองมาช่วยรักษา
ตัวเอก”
“ไอเดียดีเลยครับ!” เปาซวี่เองก็คิดว่าเป็นการแนะนำที่เข้าท่า
“ทำแบบนี้ เด็กคนนี้ก็จะยิ่งจำเป็นต่อผู้เล่น! ทุกครั้ งที่เด็กดูดเลือดตัวเอง
ออกมาก็จะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่นกับเด็กคนนี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไป
อีก แล้วยิ่งเด็กดูดเลือดตัวเองไปมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งอ่อนแอ เคลื่อนไหวช้าลง ถ้า
ไม่อยากให้เด็กทรมาน ผู้เล่นต้องพัฒนาฝีมือตัวเองให้จัดการศัตรูได้ดีขึ้น แบบนี้ ก็
จะช่วยให้ผู้เล่นอินกับเกมเรามากขึ้นด้วย!”
ทั้งสองวางเนื้อหาส่วนใหญ่ได้อย่างรวดเร็วหลังจากช่วยกันเสนอความคิดเห็น
ตัวเกมจะดำเนินเรื่องในฐานทัพลับกลางทะเล ตัวเอกเป็นทหารกองกำลัง
พิเศษจากฝั่งตะวันออกที่แฝงตัวเข้าไปสืบข้อมูล แต่ดันมีไวรัสระบาดตอนที่เขาไป
ถึงพอดี
เขาต้องต่อสู้ฝ่าไปชั้นบนสุดของฐานทัพเพื่อหลบหนีออกไป โดยใช้อาวุธที่ได้
จากศัตรูจัดการกองทัพซอมบี้และทหารรับจ้าง
ระหว่างการหลบหนี ตัวเอกบังเอิญไปเจอเด็กหญิงผู้เป็นใบ้และเป็นกุญแจ
สำคัญที่จะพาเขาเอาตัวรอดออกไปจากที่แห่งนี้ได้
เรื่องราวทั้งหมดมีตัวเอกและเด็กหญิงเป็นตัวดำเนินเรื่อง
ถึงจะไม่ใช่เรื่องราวที่สลับซับซ้อนอะไร แต่ก็ถือว่าเป็นเนื้อหาที่ไม่ธรรมดาเลย!
แม้เด็กหญิงจะเป็นแค่ตัวละครเสริม ขอแค่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน ตัวละครนี้ก็
จะสร้างความประทับใจให้ชาวเกมเมอร์ได้ดีกว่าใส่ตัวละครเสริมที่ไม่จำเป็นเข้ามา
หลายๆ ตัว!
หวงซื่อปั๋วพิมพ์สรุปลงคอมพิวเตอร์อย่างขยันขันแข็ง
พออ่านไฟล์งานดู เขาก็ตะลึงไป
ช่างเป็นแผนงานที่สมบูรณ์แบบจริงๆ!
นี่เป็นผลงานจากการวางคอนเซ็ปต์เพียงไม่กี่ชั่วโมงของเปาซวี่จริงๆ หรือ
นอกจากจะแก้ ป ั ญ หาเรื ่ อ งทรั พ ยากรในเกมที ่ ม ี จ ำกั ด แล้ ว เนื ้ อ เรื ่ อ งยั ง
สมเหตุสมผล ได้สัดส่วน และซาบซึ้งกินใจ!
หวงซื่อปั๋วยกนิ้วให้เปาซวี่ “พี่เปาโคตรเทพ!”
เปาซวี่ส่ายหน้า “ไม่เลยครับ ผมแค่จัดการตามโจทย์ที่บอสเผยให้มา บอ
สต้องคิดเรื่องนี้ได้ตั้งแต่ต้นเลยลองทดสอบพวกเราดูว่าจะเข้าใจความคิดของบอส
รึเปล่า”
บทที่ 44 ความหวังดีของบอสเผย!

ตอนแรกหวงซื่อปั๋วไม่ได้คิดแบบนั้น แต่พอได้ยินที่เปาซวี่พูด เขาก็เริ่มเห็น


ด้วยกับอีกฝ่าย
ถึงจุดนี้ทุกๆ อย่างดูจะลงล็อกกันเป็นอย่างดี ราวกับว่าเผยเชียนวางแผนให้
เป็นแบบนี้!
เขาตั้งเงื่อนไขไว้ว่าแม้จะเป็นเกมแนว FPS แต่ตัวเกมจะต้องมีโหมดเนื้อเรื่อง
และด้วยเงื่อนไขนี้ เปาซวี่ก็หาทางออกที่เหมาะสมที่สุดจนได้!
ไม่ใช่แค่เหมาะสม แต่เป็นทางออกที่ดีที่สุดเลยละ!
หรือนี่จะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ
ไม่มีทาง! บอสเผยสร้างเกมที่ประสบความสำเร็จมาก่อนถึงสองเกม อีกทั้งยัง
ตั้งเงื่อนไขไว้สามข้อก่อนเริ่มพัฒนาเกม ซึ่งหมายความว่าเขาตั้งใจให้ทุกอย่างไปใน
ทิศทางนี้ตั้งแต่แรกแล้ว!
บอสเผยช่างเป็นชายปริศนาผู้ควบคุมทุกอย่างไว้ในกำมือ…
หวงซื่อปั๋วขนลุกซู่ โลกของพวกนักออกแบบเก่งๆ เป็นแบบนี้เองหรือ
“เดี๋ยวก่อน ยังมีปัญหาอีกข้อครับ ” หวงซื่อปั๋วนึกขึ้นได้ “พี่จะจัดการกับ
เงื่อนไขอีกสองข้อของบอสเผยยังไงเหรอครับ ข้อแรกคือทำให้เกมเล่นง่าย เหมาะ
กับผู้เล่นใหม่ อีกข้อคือขายอาวุธระดับตำนาน ตั้งราคาขายถาวรที่แปดร้อยแปด
สิบแปดหยวน”
เปาซวี่มนั่ ใจมาก “ผมคิดสองเรื่องนี้มาแล้ว”
“เรื่องปรับลดความยากให้เหมาะกับผู้เล่นใหม่อยู่ที่การควบคุม แค่เราปรับ
เพิ่มระยะยิงโดนของผู้เล่น ความเร็วของกระสุน กับความเร็วการซูมก็พอแล้ว เรา
ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ เดี๋ยวค่อยปรับไประหว่างทาง”
“ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมต้องทำแบบนี้ ตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจความตั้งใจของบอส
เผยเหมือนกัน แต่เขาเป็นคนบอกให้ทำก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ผิด ก็ทำตามนั้นไป
แล้วกัน”
“ส่วนเรื่องอาวุธระดับตำนานน่าจะเป็นวิสัยทัศน์ของบอสเผย!”
“ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน คิดว่าน่าจะอยากขายอาวุธราคาแพง
เฉยๆ”
“แต่ผมก็ถามตัวเองว่าทำไมบอสเผยถึงตั้งเงื่อนไขธรรมดาแบบนี้ขึ้น มันต้องมี
เบื้องลึกเบื้องหลังในเงื่อนไขข้อนี้แน่!”
“ผ่านไปพักใหญ่ ในที่สุดผมก็เข้าใจ”
“อาวุธระดับตำนานราคาซื้อถาวรอยู่ที่แปดร้อยแปดสิบแปดหยวน…แล้ว
ราคาทดลองใช้ชั่วคราวล่ะ”
“ถ้ามีอาวุธระดับตำนาน หมายความว่าต้ องมีอาวุธระดับธรรมดา ระดับสูง
ระดับหายากด้วย”
“แล้วผู้เล่นจะไปหาอาวุธระดับต่างๆ นี้มาจากไหน ซื้อตั๋วใช้ถาวรเหมือนกัน
เหรอ ไม่ใช่แน่นอน!”
“บอสเผยบอกแค่ว่าให้ใส่ตั๋วถาวรราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนสำหรับใช้
อาวุธระดับตำนาน หมายความว่าอาวุธอื่นๆ ไม่ได้มีไว้ขาย!”
“พูดอีกอย่างก็คือ บอสเผยกำลังใบ้เราว่าอาวุธในเกมจะต้องมีระดับต่างๆ
เช่น ระดับธรรมดา ระดับสูง ระดับหายาก ระดับระดับตำนาน อะไรแบบนี้! อาวุธ
ทั้งหมดจะแบ่งเป็นสองแบบ คือแบบใช้ได้ถาวรกับแบบใช้ได้ชั่วคราว”
“นอกจากอาวุธระดับตำนานราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน เราสามารถ
ปล่อยให้ผู้เล่นหาอาวุธอื่นๆ ได้ด้วยวิธีการต่างๆ!”
“เช่น ถ้าผู้ผ่านด่านเนื้อเรื่องตามที่กำหนดจะได้มาชิ้นหนึ่ง!”
“ถ้าเล่นโหมดสู้กับผู้เล่นถึงจำนวนที่กำหนดก็ให้อีกหนึ่งชิ้น!”
“ถ้าล็อกอินตามจำนวนวันที่กำหนดก็ได้อีกชิ้น!”
“ผมว่า…บอสเผยน่าจะตั้งใจให้เป็นแบบนี้!”
หวงซื่อปั๋วเห็นภาพ “โห เข้าใจแล้วครับ! ผมก็สงสัยว่าทำไมบอสเผยตั้ง
เงื่อนไขอะไรก็ไม่รู้มาให้ จริงๆ แล้วเขาตั้งใจให้เป็นแบบนี้นี่เอง!”
เปาซวี่อธิบายต่อ “อีกอย่างระหว่างวางคอนเซ็ปต์เนื้อเรื่อง ผมมีสิ่งที่คิดๆ ไว้
แต่ไม่ได้ใช้ น่าจะเอามาสร้างเพิ่มเป็นรูปแบบการเล่นแบบพิเศษได้”
“เช่น ตอนแรกที่ผมออกแบบ ตัวเกมจะมีซอบบี้ที่พัฒนาหลายร่าง เราเอามา
ทำเป็นโหมดไบโอเคมิเคิลได้!”
“แล้วก็มีทหารรับจ้างบางส่วนในเกมที่โดนองค์กรชั่วร้ายดัดแปลงจนเป็นครึ่ง
ผีที่ล่องหนได้ เราเอามาทำเป็นโหมดผีล่องหนก็ได้!”
“เอาไปรวมกับโหมดเดธแมตช์ โหมดร่วมมือกัน โหมดปลดระเบิดที่คิดไว้ตอน
แรก ตัวเกมก็จะมีให้เล่นหลายโหมด!”
“อีกอย่างโหมดทั้งหมดที่ว่ามาไม่ต้องใช้ทรัพยากรงานภาพเยอะ ที่สำคัญเลย
คือ ทุกอย่างอยู่ในงบเขียนโปรแกรม การสร้างพวกนี้ขึ้นไม่ทำให้ตารางงานเรา
ล่าช้าด้วย เรายังทำทุกอย่างให้เสร็จได้ตามกำหนด!”
หวงซื่อปั๋วรัวมือพิมพ์บันทึกความคิดอันน่าตื่นตะลึงของเปาซวี่
เยี่ยมมาก มันเยี่ยมสุดๆ!
ตอนที่ได้โจทย์จากบอสเผย หวงซื่อปั๋วสับสนไปหมด ไม่รู้ว่าตนควรจะทำ
อย่างไรดี
ยิ่งได้ยินเงื่อนไขสามข้อที่บอสเผยให้มาก็ยิ่งหนักใจขึ้นไปอีก
แต่พอฟังที่เปาซวี่อธิบาย ทุกอย่างก็แจ่มแจ้งทันที!
บอสเผยไม่ได้พยายามตั้งโจทย์ยากๆ ให้ เขากำลังบอกใบ้อ้อมๆ ต่างหาก!
หวงซื่อปั๋วรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาทันที
บอสเผยรู้ว่าเปาซวี่กับหวงซื่อปั๋วมีความสามารถที่จำกัด เป็นเรื่องง่ายที่พวก
เขาจะวางแผนงานออกมาผิดๆ เพราะไม่รู้อะไรเลย
พอวางแผนสร้างเกมไปผิดทางก็เท่ากับฆ่าตัวตาย ยิ่งลงทุนเพิ่มเท่าไหร่ก็ยิ่ง
หลงทางไปไกลเท่านั้น
ดังนั้นบอสเผยจึงพยายามวางทางที่ถูกต้องผ่านเงื่อนไขทั้งสามข้อ!
“รู้แล้ว…จริงๆ แล้วบอสเผยเป็นห่วงพวกเรา…”
“บอสไม่อยากควบคุมโปรเจ็กต์นี้ด้วยตัวเองทั้งหมดเพราะไม่อย่างนั้นเราก็ไม่
มีทางพัฒนาตัวเองได้”
“บอสเลือกที่จะบอกใบ้เรากลายๆ เพื่อที่เราจะได้เค้นสมองวางแผนการ
ออกแบบและสร้างเกมที่ดีเยี่ยมออกมา…”
“บอสเผย…ช่างหวังดีกับพวกเราจริงๆ…”
หวงซื่อปั๋วน้ำตาปริ่ม
เขาตั้งมั่นที่จะเขียนแบบร่างให้ออกมาดีเยี่ยม เพื่อที่พ วกเขาจะได้สร้างเกมที่
สมบูรณ์แบบ ไม่ทำให้บอสเผยผิดหวัง!


วันพุธที่สิบสี่ เดือนพฤศจิกายน ช่วงบ่าย
สองวันที่ผ่านมาเผยเชียนต้องเข้าเรียนเลยไม่ได้เข้าออฟฟิศ
และเพราะต้องรอทีมออกแบบเขียนแบบร่างให้เสร็จ ถ้าไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่มี
อะไรให้ทำนัก
ถึงเผยเชียนจะอยู่ที่ออฟฟิศก็ไม่ได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน อาจจะ
ทำให้พนักงานอู้งานด้วยซ้ำ เขาจึงเลือกไม่เข้าออฟฟิศ
คาบเรียนวันนี้เป็นคาบของอาจารย์หนุ่มที่พูดว่า ‘ผมไม่ได้อยากเช็กชื่อ ผมแค่
อยากรู้จักทุกคน’ เผยเชียนจำได้ดีเพราะเคยหลงเชื่อใจชายคนนี้
ดังนั้นรอบนี้เขาจะไม่ทำพลาดเหมือนรอบก่อนอีก!
แต่เอาเข้าจริง คาบเรียนวันนี้น่าเบื่อมาก…
เผยเชียนหาวขณะหยิบโทรศัพท์ออกมาดูว่าเมื่อไหร่จะหมดคาบ
แต่เขากลับเห็นหวงซื่อปั๋วแท็กชื่อเขาในแชตกลุ่มของบริษัทแทน
“บอสเผย แบบร่างแรกใกล้เสร็จแล้วครับ บอสอยากเช็กดูภาพรวมก่อนไหม
ครับว่าพวกเราไปถูกทางหรือเปล่า”
เขาแนบไฟล์เอกสารมาด้วย
“สองวัน นี่ถือว่าเร็วหรือช้าเนี่ย ค่อนข้างเร็วเลยรึเปล่านะ ช่างเถอะ ลอง
เปิดดูดีกว่า”
เผยเชียนไม่รู้ว่าการเขียนแบบร่างควรใช้เวลาเท่าไหร่ สิ่งเดียวที่เขารู้คือจาก
ความเร็วนี้ แบบร่างน่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสัปดาห์นี้
ถึงอย่างไรหวงซื่อปั๋วก็เป็นพนักงานใหม่ที่เพิ่งเข้าบริษัท เลยยังไฟแรง ไม่คิดอู้
งาน
เฮ้อ ฉันหวังว่าพวกนายจะรู้เสียทีว่าอู้งานสักหน่อยก็ไม่เป็นอะไร…
เผยเชียนเปิดไฟล์ดู
“ลายตาชะมัด…”
เผยเชียนไม่เคยเขียน ไม่เคยเห็นแบบร่างมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็น
ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาคือ…มึนหัว!
เนื้อหามันเยอะเกินไป!
แบบร่างที่เห็นเป็นแบบร่างชุดใหญ่ มีหลายหน้า แต่ละหน้าอัดแน่นด้วย
ตัวอักษรนับหมื่นคำ ไล่เรียงเนื้อหาลงมายุบยับเต็มไปหมด!
แต่ละบรรทัดน่าจะสำคัญมาก ไม่ควรอาจข้ามสักคำ
ไม่ใช่แค่นั้น หวงซื่อปั๋วบอกมาว่านี่เป็นแบบร่างแรก แสดงว่ายังไม่ได้ปรับ
อะไร
บางจุดใช้คำฟุ่มเฟือยเกินไป ส่วนที่เหลือก็กระชับเกินไป อย่างไรก็ต้องปรับ
เพิ่มแน่นอน
หวงซื่อปั๋วอยากให้เผยเชียนช่วยดูแบบร่างเพื่อจะได้มั่นใจว่าภาพรวมทั้งหมด
ไปในทางที่ถูกต้อง จากนั้นค่อยปรับแก้เพิ่มเติม
ไม่อย่างนั้นถ้าเจอปัญหาขึ้นมาหลังปรับแก้ จะเสียเวลาไม่น้อยถ้าต้องแก้ทุก
อย่างใหม่ตั้งแต่ต้น
เผยเชียนงงไปหมด
ข้อมูลในเอกสารมีเยอะมาก อีกทั้งยังต้องตรวจดูทั้งหมดผ่านหน้าจอมือถือ
เล็กๆ…
แค่นี้ก็ทำให้เขาแทบคิดอยากฆ่าตัวตายขึ้นมา
เขาทำได้แค่อ่านผ่านๆ อย่างรวดเร็ว
เผยเชียนอยากตรวจดูแค่ว่าหวงซื่อปั๋วทำตามเงื่อนไขทั้งสามข้อได้หรือเปล่า!
หวงซื่อปั๋วเหมือนจะรู้ว่าเผยเชียนต้องการอะไร เขาไฮไลต์ส่วนที่ว่าไว้เป็น
พิเศษให้เผยเชียนเห็นได้ง่ายๆ
อย่างแรก โหมดเนื้อเรื่อง มี วางแผนไว้ว่าความยาวประมาณสี่ชั่วโมง ยาว
ทีเดียว
อย่างที่สอง ปรับระดับความยาก โอเค ตรงนี้ก็มีเหมือนกัน
อย่างที่สาม อาวุธระดับตำนาน พวกเขาทำตามที่เผยเชียนบอกไว้ คือตั้งราคา
สำหรับใช้ถาวรที่แปดร้อยแปดสิบแปดหยวน
“ไม่เลวเลย! มีครบตามที่บอกไป!”
เผยเชียนดีใจมาก
เขาตอบกลับทันที “ไม่เลว เอาตามนี้แหละ”
บทที่ 45 ค่าล่วงเวลา!

หวงซื่อปั๋วแสนดีใจเมื่อเห็นข้อความที่บอสเผยตอบกลับ
งานของพวกเขาได้รับการยอมรับจากบอสเผยแล้ว!
หมายความว่าทิศทางที่พวกเขาเลือกนั้นตรงกับสิ่งที่บอสเผยต้องการ บอส
เผยช่างเป็นคนที่วิสัยทัศน์กว้างไกลจริงๆ!
ภาพลักษณ์ของเผยเชียนในสายตาของหวงซื่อปั๋วดูสูงส่งขึ้นไปอีก
“บอสเผย มีอีกอย่างครับ เรื่องชื่อเกม”
“เปาซวี่อยากใช้ชื่อฐานทัพกลางทะเล ผมว่าชื่อนี้ดูแปลกๆ ไม่ค่อยดึงดูดใจ
แต่ผมก็ตั้งชื่อไม่เก่ง คิดชื่อดีๆ ไม่ออก…บอสเผยมีอะไรอยากแนะนำไหมครับ”
ฐานทัพกลางทะเลหรือ
ทำไมชื่อฟังดูคุ้นๆ จัง
เผยเชียนนึกขึ้นได้ทันใด “จริงด้วย! ชื่อเหมือนหนังในชาติก่อน[1]ที่เจ๊งไม่เป็น
ท่าเลย!”
เขาเลือกชื่อนี้ทันที “ฐานทัพกลางทะเลฟังดูดี! เอาชื่อนี้เลย!”
“จริงเหรอครับ บอสเผยไม่ลองคิดดูอีกทีเหรอครับ เรายังมีเวลาตัดสินใจเรื่อง
ชื่ออยู่”
“ไม่เป็นไร! ฐานทัพกลางทะเลแหละดีแล้ว! ผมชอบชื่อนี้!”
“โอเคครับบอสเผย งั้นเดี๋ยวผมไปจัดการเรื่องร่างแบบต่ อก่อนนะครับ” หวง
ซื่อปั๋วได้แต่ทำใจยอมรับ
เผยเชียนปลื้มปริ่ม
ชื่อฐานทัพกลางทะเลไม่ดีตรงไหน ออกจะสุดยอด!
ดูเป็นชื่อมงคลจะตาย!
น่าจะทำให้เราเสียเงินได้แน่นอน!
พวกนี้ไม่รู้หรอกว่าลงทุนไปสามร้อยล้านแต่ทำรายได้รวมได้แค่ร้อยมันเป็น
แบบไหน เขาเรียกว่าเจ๊งยับ!
ถ้าหนังเรื่องนั้นขาดทุนยับขนาดนั้น เกมของเราที่ชื่อคล้ายๆ กันก็น่าจะพา
ขาดทุนได้สักหลายล้านเหมือนกันใช่ไหม
ใช่! ช่างเป็นชื่อที่เหมาะกับเกมของเราจริงๆ!
เผยเชียนพอใจกับชื่อเกมมาก

บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี กลางดึก
ทุกคนในทีมออกแบบยังคงทำงานกันมือเป็นระวิง
หวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่ทำงานล่วงเวลาตลอดสองวันที่ผ่านมาเพื่อเร่งออกแบบ
ร่างให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นจะได้เข้าสู่ช่วงพัฒนาเกมอย่างเป็นทางกัน
เสียที
คนอื่นๆ ในทีมออกแบบได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่อื่น
พอร่ า งแบบเสร็ จ งานแต่ ล ะส่ ว นจะแยกย่ อ ยออกมาให้ ค นอื ่ น ๆ ในที ม
ออกแบบจัดการ จากนั้นหวงซื่อปั๋วจะเป็นคนสรุปงาน
งานที่ว่ารวมถึงทรัพยากรงานภาพอย่างโมเดลเกมและอาวุธ ต้องจัดการทุก
อย่าง
มีหลายอย่างต้องทำ
แต่หวงซื่อปั๋วก็ ไม่ได้ขอให้คนอื่นอยู่ทำงานล่วงเวลา ทุกคนสมัครใจอยู่ต่อ
กันเอง หวงซื่อปั๋วพยายามเกลี้ยกล่อมแล้วแต่ก็ไม่เป็นผล!
พอทำอะไรไม่ได้ เขาเลยเลือกที่จะปล่อยไปแบบนี้
คนอื่นๆ ก็มีทัศนคติในการทำงานเหมือนหวงซื่อปั๋ว
ทุกคนล้วนเป็นพนักงานระดับล่างในบริษัทเดิม ต้องทำงานแสนจำเจที่ไม่ได้
ใช้ทักษะเฉพาะทางอะไร แถมยังโดนรังแกอยู่ตลอด
แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อได้มาทำงานที่บริษัทเถิงต๋า
ทุกคนได้รับผิดชอบงานออกแบบย่อยๆ ของตัวเอง
บรรยากาศการทำงานเป็นกันเอง มีเจ้านายที่เข้าอกเข้าใจและเพื่อนร่วมงาน
ที่เป็นมิตร ทุกคนต่างพยายามเพื่อเป้าหมายเดียวกัน
ที่สำคัญที่สุดคือ เกมที่พวกเขากำลังสร้างไม่ใช่เกมจำพวกดูดเงินผู้เล่นจากไอ
เทมโง่ๆ ที่มีให้ซื้อในเกม แต่เป็นเกมที่มีระบบการเล่นที่ดีเยี่ยม!
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้พวกเขามีไฟในการทำงานและอยากอยู่ทำงานล่วงเวลากัน
หวงซื่อปั๋วได้แต่ปล่อยให้พวกเขาทำตามที่ใจอยาก
ถึงอย่างไรพวกเขาก็น่าจะทำงานล่วงเวลากันได้แค่สัปดาห์เดียว พอแบบร่าง
เสร็จ ภาระงานก็จะลดลง น่าจะไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง
เปาซวี่ใช้เวลาช่วงที่ผ่านมาลองเล่นเกม FPS หลายเกม โดยเฉพาะเกมดังๆ
จากบริษัทต่างประเทศ
การสร้างเนื้อเรื่องดีๆ ให้เกมฐานทัพกลางทะเลไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย
ถ้าจะให้ผู้เล่นอินกับเนื้อเรื่องผ่านเด็กหญิงผู้เป็นใบ้แค่คนเดียวก็ต้องมีการ
ออกแบบที่ดีเยี่ยม
“พี่หวง เนื้อเรื่องส่วนนี้ดีมากเลยครับ เดี๋ยวผมอัดแล้วส่งไปให้ดูว่าเอามาปรับ
ใช้กับของเราได้รึเปล่า” เปาซวี่ว่า
“โอเคครับพี่เปา ได้รับแล้ว”
หวงซื่อปั๋วเปิดวิดีโอที่เปาซวี่ส่งมาแล้วดูเนื้อเรื่องที่เล่าผ่านมุมมองบุคคลที่หนึ่ง
ทั้งสองทุ่มเทกับเนื้อเรื่องมาก เพราะเนื้อเรื่องก็เป็นหนึ่งในจุดสำคัญของเกม
พวกเขาต้องทำออกมาให้ดีเยี่ยม
วิดีโอที่เปาซวี่ส่งมาเนื้อหาดีเหมือนที่บอกเพราะอัดมาจากเกมชื่อดังของ
ต่างประเทศ พล็อตเรื่องน่าสนใจมากจนหวงซื่อปั๋วอินไปกับเรื่องราว
จนเขาไม่ทันสังเกตเห็นใบหน้าใหญ่กว่าปกติที่เพิ่งเดินผ่านทางเข้าเข้ามา


ก๊อก ก๊อก!
เสียงเคาะประตูอพาร์ตเม้นต์ของเผยเชียนดังขึ้น
“หืม ตอนค่ำขนาดนี้แล้วเนี่ยนะ”
เผยเชียนดูเวลา ตอนนี้ประมาณสองทุ่ม
มีสองคนที่รู้เรื่องอพาร์ตเม้นต์นี้ ซึ่งก็คือเลขาซินกับหม่าหยาง เลขาซินไม่
น่าจะมารบกวนเขาเวลานี้ ดังนั้นคนที่เคาะประตูน่าจะเป็นหม่าหยาง
แต่เขามาที่นี่ทำไมกัน
เผยเชียนเปิดประตูมาพบใบหน้าใหญ่ของหม่าหยางตามที่คิด
“พี่เชียน! ผมมีอะไรจะบอก! หวงซื่อปั๋วกับคนอื่นๆ แอบทำงานล่วงเวลา! พวก
เขาแอบใช้คอมพิวเตอร์ของบริษัทกันอยู่! ” หม่าหยางฟ้องราวกับไปเจอความลับ
ระดับโลกมา
เผยเชียนหน้าเครียดขึ้นทันที
หม่าหยางสนใจเรื่องที่พวกเขาแอบใช้คอมพิวเตอร์ของบริษัท ส่ วนเผยเชียน
สนใจเรื่องทำงานล่วงเวลา
พวกเขาคิดอะไรกันถึงอยู่ทำงานล่วงเวลา
หวงซื่อปั๋วนี่เป็นอะไรของเขา นิสัยเสียช่างแก้ยากเสียจริง!
ไม่ใช่ว่าสัปดาห์ก่อนฉันไล่ทุกคนกลับบ้านไปแล้วหรือ ทำไมพวกแกยังมา
ทำงานล่วงเวลากันอีกทั้งๆ ที่ย้ำแล้วว่าไม่ให้ทำ!
ไม่สนใจคำสั่งของเจ้านายเนี่ยนะ ไม่อยากจะเชื่อเลย!
“หวงซื่อปั๋วอยู่ล่วงเวลาทำอะไร เขียนแบบร่างเหรอ หรือออกแบบเกม” เผย
เชียนไม่พอใจ
“เอ่อ…” หม่าหยางพยายามนึกว่าเห็นอะไรบ้าง “เล่นเกม”
เผยเชียนอึ้งไป
เล่นเกมหรือ
ใบหน้าของเขาผ่อนคลายลงทันใด
เขารู้อยู่แล้วว่าเปาซวี่อยู่บริษัทต่ อหลังเลิกงานเพื่อเล่นเกมเพราะเป็นสิทธิ
พิเศษที่ให้ไป
แต่ทำไมหวงซื่อปั๋วถึงทำเหมือนกันได้ เลียนแบบเปาซวี่หรือ
สิ่งเดียวที่เผยเชียนห้ามคือการอยู่ล่วงเวลาเพื่อทำงาน แต่ถ้าอยู่ล่วงเวลาเพื่อ
เล่นเกมก็ไม่เป็นไร
คิดอย่างนั้นเขาก็เริงร่าขึ้นกว่าเดิม “แน่ใจนะว่าเห็นไม่ผิด หวงซื่อปั๋วเล่นเกม
อยู่จริงๆ เหรอ”
หม่าหยางพยักหน้า “ใช่! ไม่งั้นผมจะมาบอกพี่ทำไม แบบนี้ก็เท่ากับใช้
ทรัพยากรออฟฟิศสิ้นเปลืองใช่มั้ย พรุ่งนี้พี่จะลงโทษพวกเขารึเปล่า”
“หึๆ ไม่ต้องหรอก”
เผยเชียนโล่งใจ
ถ้าอยู่ล่วงเวลาเล่นเกมกันก็ไม่มีอะไรต้องห่วง
พวกเขาจะได้กินขนมกันเยอะขึ้น เปลืองไฟมากขึ้น ซึ่งก็จะผลาญเงินทุน
ระบบได้มากขึ้น!
เยี่ยมยอดไปเลยใช่ไหมล่ะ!
อีกอย่าง…เรื่องนี้น่าจะทำให้เขามีข้ออ้างในการใช้เงินทุนระบบเพิ่มด้วย
ระหว่างนั้นเผยเชียนนึกอะไรดีๆ ได้จากความคิดที่ผุดขึ้นในหัว
“ไอ้ ห ม่ า บริ ษ ั ท เราเป็ น บริ ษ ั ท เกม พนั ก งานเล่ น เกมเพื ่ อ เรี ย นรู ้ ห า
ประสบการณ์จากเกมดีๆ ของต่างประเทศ นั่นก็เป็นงานเหมือนกัน แกเข้าใจมั้ย ”
เผยเชียนอธิบายหน้าขรึม
หม่าหยางเหมือนจะไม่เข้าใจ “หา…คือหมายความว่าพี่จะปล่อยพวกเขาไป
เหรอ”
“ปล่อยไปเหรอ ไม่สิ! ไม่มีทาง!” เผยเชียนอธิบายต่ออย่างจริงจัง “พนักงาน
พวกนี้ทำงานล่วงเวลาให้บริษัทแลกกับสุขภาพของพวกเขา! เราจะปล่อยไปได้
ยังไง บริษัทเถิงต๋าเป็นบริษัทที่คิดถึงเรื่องสวัสดิการพนักงานเป็นหลักนะ!”
“กฎหมายระบุไว้ว่าต้องจ่ายเงินค่าล่วงเวลา บริษัทเถิงต๋าของเรายึดตาม
นโยบายประเทศ! ค่าล่วงเวลาวันธรรมดาอยู่ที่ชั่วโมงละ 1.5 เท่าของเงินเดือนราย
ชั่วโมง ส่วนวันหยุดอยู่ที่สองเท่า! จ่ายน้อยกว่านี้ไม่ได้!”
“ไอ้หม่า ฉันจะให้แกทำงานโคตรสำคัญ ไปจดมาว่าพวกนั้นทำงานล่วงเวลา
กันวันละกี่ชั่วโมง แล้วแจ้งค่าล่วงเวลาตามอัตรารายชั่ว โมงที่ว่า! อย่าลืมนะ จ่าย
น้อยกว่าที่กำหนดไม่ได้เลยสักหยวน!”
หม่าหยางพยักหน้า “ได้ๆ! รับทราบ! เดี๋ยวผมจัดการให้!”
พอส่งหม่าหยางกลับ เผยเชียนก็ระเบิดหัวเราะขึ้นมาทันที
ทำไมก่อนหน้านี้เขาลืมเรื่องค่าล่วงเวลาไปได้นะ
ถ้าทำแบบนี้ เขาก็ผลาญเงินทุนระบบต่อเดือนได้มากขึ้น
ฉันนี่มันอัจฉริยะจริงๆ!
…………………………..
[1] หมายถึงภาพยนตร์เรื่อง Shanghai Fortress ที่มีชื่อจีนว่า 上海堡
垒 ส่วนชื่อจีนของเกมที่เปาซวี่ตั้งคือ 海上堡垒 ซึ่งมีการสลับตัวอักษรกัน
บทที่ 46 เพิ่มทุนเป็นสองเท่า!

วันจันทร์ที่สิบแปด เดือนพฤศจิกายน
เผยเชียนเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยความกังวลครั้งใหม่
เขาเรียกระบบขึ้นมาตรวจดูเงินทุนระบบ
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ: เผยเชียน>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1:1>
<วันปิดบัญชีครั้งต่อไป: อีก 73 วัน>
<เงินทุนระบบ: 971,634.3 (↑471,634.3)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 1,322.8>
เผยเชียนรู้สึกว่าต้องทบทวนชีวิตใหม่ทุกครั้งที่เห็นความแตกต่างระหว่าง
เงินทุนระบบก้อนโตกับความมั่งคั่งส่วนบุคคลพันกว่าหยวนอันแสนน่าเวทนา
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้!
ครั้งสุดท้ายที่ตรวจดู เขาผลาญเงินทุนระบบไปได้จนเหลือประมาณสองหมื่น
หยวน
ทำไมมันเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ
รายได้รวมสองสัปดาห์อยู่ที่ประมาณเก้าแสนหยวน หลังจากนำไปรวมเป็น
เงินทุนระบบ เผยเชียนก็ไม่สามารถผลาญเงินได้เยอะแม้จะซื้อขนม เครื่องดื่ม กับ
อุปกรณ์สำนักงานต่างๆ ทั้งที่จำเป็นและไม่จำเป็น
เรื่องนี้ทำให้เขาปวดหัว
การผลาญเงินมันยากขนาดนี้เลยหรือ
เขาอยากเอาเกมแม่ทัพผีออกจากตลาด จะได้เลิกทำเงินเสียที!
แต่เขาก็ทำแบบนั้นไม่ได้เพราะจะถือว่าผิดกฎของระบบ เผยเชียนจึงทำได้แค่
ทนต่อไป
โชคดีที่ยังเหลือเวลาอีกสองเดือนจนกว่าจะถึงวันปิดบัญชีครั้งต่อไป ยังมีอีก
หลายทางให้เขาผลาญเงินได้ภายในสองเดือนนี้
ตอนสิ ้ น เดื อ นก็ ต ้ อ งจ่ า ยค่ า เช่ า อพาร์ ต เม้ น ต์ เงิ น เดื อ นพนั ก งาน และค่ า
ล่วงเวลา เงินก้อนนี้น่าจะไปตัดเงินทุนระบบได้เยอะเลยทีเดียว
นอกจากนั้น สัปดาห์นี้พวกเขาต้องจับจ่ายซื้อทรัพยากรครั้งใหญ่สำหรับการ
สร้างเกมฐานทัพกลางทะเล
ทรัพยากรที่ว่ามีทั้งงานภาพ ระบบเกม เสียงเอฟเฟ็กต์ และอื่นๆ ซึ่งทุกอย่าง
จะต้องสั่งทำหมด
เกมนี้เป็นเกมออนไลน์ ไม่เหมือนเกมแม่ทัพผีที่เป็นเกมมือถือ ดังนั้นพวกเขา
ต้องทำให้ได้ตามมาตรฐานของเกมออนไลน์!
เผยเชียนอยากตั้งมาตรฐานไว้สูงๆ เพื่อที่จะได้ผลาญเงินได้เยอะขึ้น!
เขานึกสงสัยว่าตามที่หวงซื่อปั๋วร่างแบบมา เขาจะต้องซื้อทรัพยากรเท่าไหร่
และจะเสียเงินไปมากขนาดไหน
แค่คิดเขาก็ตื่นเต้นแล้ว

“บอสเผย นี่คือรายการทรัพยากรที่เราต้องซื้อครับ รบกวนช่วยตรวจดูด้วย
ครับ”
หวงซื่อปั๋วส่งรายการยาวเหยียดให้เผยเชียน
เขารับมา จากนั้นก็ไล่สายตาอ่านคร่าวๆ แล้วดูตรงราคารวม
หกแสนเจ็ดหมื่นหยวน
เขาขมวดคิ้วทันที
หวงซื่อปั๋วกังวลไปหมดเมื่อเห็นอีกฝ่ายขมวดคิ้ว
บอสเผยคิดว่าเราสิ้นเปลืองเกินไปหรือเปล่านะ คงไม่เป็นแบบนั้นหรอกน่า
ฉันคำนวณค่าใช้จ่ายแบบรัดเข็มขัดที่สุดแล้วนะ!
เผยเชียนไม่ได้พูดอะไร หวงซื่อปั๋วจึงได้แค่รอ
เขาไม่พอใจมากกับตัวเลขที่เห็น
มันน้อยเกินไป!
เกมนี้เป็นเกมออนไลน์ แต่พวกเขาใช้เงินแค่ไม่ถึงเจ็ดแสนซื้อทรัพยากรและ
ระบบเกมแบบสั่งทำเนี่ยนะ นี่มันอะไรกัน ให้เศษเงินขอทานหรือ
ขี้ตืดกันเกินไปแล้ว!
เขาจะผลาญเงินทุนระบบได้อย่างไรถ้าใช้เงินกันประหยัดแบบนี้
เผยเชียนไม่ได้รีบร้อนตอบอะไรไป เขายังตรวจดูรายละเอียดราคาของต่างๆ
ไม่วางตา
เทมเพลตเกมยิงปืนพื้นฐาน (แบบปรับแต่งตามกำหนด) หนึ่งแสนสองหมื่น
หยวน
เทมเพลตฉากหลังแบบฐานทัพลับ ห้าหมื่นหยวน รวมเอฟเฟ็กต์สามแบบ
ของประกอบฉากที่เสียหายหลายระดับ และอื่นๆ ทั้งหมดเป็นหนึ่งแสนหยวน
โมเดลตั ว ละคร ซอมบี ้ และทหารรั บ จ้ า งแบบทั ่ ว ไป รวมรู ป แบบการ
เคลื่อนไหวกับปรับแต่งความสามารถเล็กน้อย แปดหมื่นหยวน
โมเดลเด็กหญิง รวมรูปแบบการเคลื่อนไหวแบบปรับแต่ง หกหมื่นหยวน
โมเดลปืนหลายแบบ รวมวิถีกระสุนและรูปแบบการยิง เก้าหมื่นหยวน
ระบบโหมดเกมหลายรูป แบบ รวมจ้างโปรแกรมเมอร์ห้าคนเป็นเวลาสอง
เดือน เจ็ดหมื่นหยวน
นอกจากนั้นแล้ว ค่าใช้จ่ายที่เหลือก็เป็นพวกเสียงเอฟเฟ็กต์ เสียงบทสนทนา
ตัวละครทั่วไป และอื่นๆ
ค่าเช่าบริการระบบคลาวด์ไม่ได้รวมอยู่ในรายการเพราะต้องพิจารณาจาก
ความนิยมของเกมภายหลัง
เผยเชียนงงไปหมด
นี่มนั อะไรกัน
เขารู้สึกว่าหกแสนเจ็ดหมื่นหยวนเป็นจำนวนที่น้อยเกินไป
แต่พอดูในรายการ แม้ราคาของต่างๆ จะถูกเล็กน้อยแต่ก็ดูสมเหตุสมผลดี
พวกเขาไม่ได้จงใจซื้อทรัพยากรราคาถูกเกินมาใช้ด้วยซ้ำ แต่ทำไมราคารวมถึง
ต่ำขนาดนี้
เป็นเรื่องปกติที่เผยเชียนจะงง
นั่นเพราะเขาไม่ได้รู้เรื่องเกมฐานทัพกลางทะเลเท่าที่ควร!
เปาซวี่และหวงซื่อปั๋วคิดหาวิธีประหยัดทรัพยากรให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เนื้อเรื่องออกแบบมาให้ใช้ฉากหลังฉากเดียว ตัวละครเสริมมีแค่ตัวเดี ย วคือ
เด็กหญิง พวกซอมบี้กับทหารรับจ้างก็ปรับแต่งจากเทพเพลตทั่วไป
ที่ราคารวมออกมาต่ำก็เพราะไม่ต้องใช้ของสั่งทำเยอะ!
เผยเชียนไม่มีทางเข้าใจเรื่องนี้ได้จากการดูรายการคร่าวๆ รอบเดียว ได้แต่
รู้สึกไม่พอใจที่จำนวนเงินที่จะเสียมันน้อยเกินไป
“เอากลับไปแก้ อย่างน้อยให้เพิ่มงบประมาณเป็นสองเท่า ” เผยเชียนยื่น
รายการกลับไปให้หวงซื่อปั๋ว
หวงซื่อปั๋วอึ้งไป
เพิ่มงบประมาณเป็นสองเท่าหรือ
“บอสเผยครับ แต่…”
เขาอยากจะพูดต่อ แต่สายตาของเผยเชียนเด็ดขาดมาก
ถ้าฉันบอกให้เพิ่ม ก็ไปเพิ่ม! ไม่มีแต่!
เขาน่าจะสื่อว่าอย่างนั้น
หวงซื่อปั๋วกลืนคำพูดลงคอแล้วเดินออกไปพร้อมรายการในมือ
เผยเชียนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เริ่มคิดคำนวณตัวเลข
หกแสนหยวนน้อยเกินไป
เพิ่มเป็นสองเท่าก็จะอยู่ที่หนึ่งล้านสองแสนหยวน จำนวนเท่านี้ดีกว่า
ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางผลาญเงินทุนระบบให้หมดได้!
เหลืออีกสองเดือนกว่าจะถึงวันปิดบัญชี ถึงรายได้จากเกมแม่ทัพผีจะเริ่มตก
แต่ก็ยังสร้างรายได้ให้เขาอย่างสม่ำเสมออยู่ดี
ถ้าไม่ใช้เงินเพิ่ม ปิดบัญชีรอบต่อไปเขาได้กินแกลบแน่!
เผยเชียนไม่ได้สนใจว่าหวงซื่อปั๋วจะเอาเงินไปซื้ออะไร
เจ้านั่นจะซื้ออะไรก็ได้ตามใจชอบ ขอแค่ไม่ผิดกฎของระบบก็พอ!

หวงซื่อปั๋วเดินกลับไปที่โต๊ะพร้อมกับความสับสนในใจ
เพิ่มงบเป็นสองเท่าหรือ
ตอนที่หาทรัพยากรบนอินเทอร์เน็ต เขาดูเรื่องราคาเป็นหลัก
ทรัพยากรส่วนใหญ่ที่เลือกมาเป็นของคุณภาพดีในราคาที่เอื้อมถึง
มีของที่คุณภาพดีกว่านี้ แต่เพราะราคาสูงกว่าเล็กน้อย หวงซื่อปั๋ วเลยไม่ได้
สนใจ
แต่ตอนนี้บอสเผยไม่พอใจกับจำนวนเงินที่เขาคำนวณไปให้!
“หรือบอสคิดว่าทรัพยากรที่เราหามาเป็นของคุณภาพต่ำ”
“อาจจะเป็นไปได้ บอสเผยเป็นคนชอบอะไรสมบูรณ์แบบ”
“ดูอย่างงานภาพเกมแม่ทัพผีสิ”
“โอเค ถ้ า เป็ น อย่ า งนั ้ น ก็ เ ปลี ่ ย นไปใช้ ท รั พ ยากรคุ ณ ภาพสู ง แล้ ว กั น !
เปลี่ยนเป็นของที่ดีสุดให้หมด!”
“เพื่อผู้เล่น เพื่อให้เป็นเกมที่สมบูรณ์แบบ…บอสเผยน่าจะต้องการแบบนี้”
หวงซื่อปั๋วเปิดเว็บไซต์รวมทรัพยากรแล้วแก้รายการสั่งซื้อใหม่หมด
ทรัพยากรทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นงานภาพหรื อระบบการเล่นที่หามาตอนแรก
เขาเปลี่ยนใหม่เป็นของคุณภาพดีที่สุด
พอได้เพิ่มงบประมาณเป็นสองเท่า หวงซื่อปั๋วก็มีจุดให้ใช้จ่ายเพิ่ม หลังจาก
เลือกของตามใจชอบ เขาก็ทำยอดได้ตามที่บอสเผยกำหนด
งบประมาณรวมอยู่ที่หนึ่งล้านสองแสนหกหมื่นหยวน อะไรที่ตอนแรกตัดทิ้งก็
เพิ่มกลับเข้ามา
หลังจากเร่งมือทำใหม่ ในที่สุดเขาก็แก้รายการสั่งซื้อเสร็จตอนประมาณบ่าย
สามโมง
หวงซื ่ อ ปั ๋ ว ถอนหายใจพร้ อ มโอดครวญขึ้ น “เฮ้ อ บอสเผยน่ า จะโอเคกับ
รายการนี้นะ”
เขาเอารายการสั่งซื้อที่ทำขึ้นใหม่ไปให้เผยเชียนตรวจอีกครั้ง
เผยเชียนรับเอกสารมา เขาไล่สายตาดูคร่าวๆ แล้วเช็กราคารวม
หนึ่งล้านสองแสนหกหมื่นหยวน!
พอได้จำนวนตามที่ต้องการแล้ว เผยเชียนก็ไม่ได้ใส่ใจตรวจดูด้วยซ้ำว่าซื้อ
อะไรไปบ้าง
“โอเค ทำได้ไม่เลว ไปหาเลขาซินนะ”
“แบ่งจ่ายเป็นสองงวด เอาของที่จำเป็นมาก่อน พวกของที่ยังไม่จำเป็นมาก
เอาไว้ซื้อสัปดาห์หน้า”
ถึงเผยเชียนจะอยากเสียเงินเร็วๆ แต่ก็ต้องรอรายได้สัปดาห์หน้า
เขาจึงตัดสินใจจ่ายเป็นสองงวด ไม่อย่างนั้นเงินทุนระบบจะมีไม่พอจ่าย
หวงซื่อปั๋วรับรายการสั่งซื้อที่ผ่านแล้วกลับมา
เผยเชียนเน้นย้ำ “แล้วถ้ามีตรงไหนที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มก็จัดการได้เลย! ห้ามลด
คุณภาพงานลง มีอะไรมาคุยกับผมได้เลย โอเคมั้ย”
หวงซื่อปั๋วพยักหน้าหนักแน่น “ได้ครับ บอสเผย! รับทราบครับ!”
บทที่ 47 ค่าล่วงเวลาที่ไม่มีอยู่จริง!

พวกเขาสรุปเนื้อหาเกมฐานทัพกลางทะเลกันอย่างรวดเร็ว
ภายในสัปดาห์เดียว แบบร่างสำหรับตัวเกมส่วนใหญ่เสร็จสมบูรณ์ตามที่ค าด
ไว้ หวงซื่อปั๋วรับผิดชอบคุมโปรเจ็กต์นี้ เมื่อไหร่ที่เขาเห็นส่วนไหนผิดไปจากคอน
เซ็ปต์ที่เปาซวี่วางเอาไว้ พวกเขาจะแก้ไขทันที
ขณะเดียวกัน ทีมออกแบบก็เริ่มสร้างเกมตัวต้นแบบโดยใช้เครื่องมือพัฒนา
เกม
เนื่องจากพวกเขาใช้เทมเพลตที่ใช้กันทั่วไป กระบวนการในช่วงเริ่มแรกจึง
เป็นไปอย่างราบรื่น แต่ก็ยังต้องปรับแต่งให้ตรงกับที่หวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่วางเอาไว้
ทีมงานภาพได้รับมอบหมายให้ติดต่อนักวาดบนเว็บไซต์รวมทรัพยากรเพื่อ
ประสานงานเรื่องทรัพยากรงานภาพตามที่กำหนด
พวกเขาเตรียมเทมเพลตซอมบี้และทหารรับจ้างที่ใช้กันทั่วไป รวมถึงภาพ
เด็กหญิงอย่างรวดเร็ว
ภาพของเด็ ก หญิ ง เป็ น จุ ด สำคั ญ ที ม งานภาพจากเถิ ง ต๋ า จึ ง ต้ อ งวิ ่ ง วุ่ น
ประสานงานกันไปมาระหว่างฝั่งนักวาดที่จ้างมาและฝั่งหวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่
เรื่องงานภาพเด็กหญิงมีคนรับผิดชอบแค่สามคน คนแรกคือนักออกแบบคอน
เซ็ปต์ซึ่งรับผิดชอบเรื่องงานภาพ อีกคนรับผิดชอบเรื่องโมเดลตัวละคร ส่วนคน
สุดท้ายรับผิดชอบเรื่องการเคลื่อนไหว แต่ละคนมีขอบเขตงานของตัวเอง
จากผังงานทั้งหมด เด็กหญิงเป็นตัวละครที่ลงทุนไปมากที่สุดในตัวเกม
ในเนื้อเรื่องบางส่วน การเคลื่อนไหวและสีหน้าของเด็กหญิงต้องสั่งทำพิเศษ
เห็นได้ชัดว่าทุ่มงบลงส่วนนี้ไม่อั้น
แต่ก็แน่นอนว่าทั้งหมดก็ต้องอยู่ในงบที่วางไว้
ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะเกมระดับ AAA[1] ของต่างประเทศมักจะมีตัวละคร
หลักหลายตัว แต่ละตัวสร้างขึ้นโดยใช้มาตรฐานเดียวกัน แต่เกมฐานทัพกลาง
ทะเลมีแค่เด็กหญิงเพียงตัวละครเดียว ทำให้ยังคุมงบประมาณได้
ถ้าพวกเขาไปเจองานภาพที่ดีกว่าเดิม หวงซื่อปั๋วก็จะไปรายงานเผยเชียน
ทันที
บอสเผยยกนิ้วโป้งให้ทุกครั้ง ซึ่งหมายความว่าให้ซื้อได้เลย!
ตอนแรกหวงซื่อปั๋วรู้สึกไม่สบายใจ เพราะสงสัยว่าการเพิ่มงบประมาณขึ้น
เรื่อยๆ แบบนี้จะดีจริงๆ หรือ
ถ้าเป็นที่บริษัทอื่นคงโดนเจ้านายด่ายับไปแล้ว!
จากเจ็ดแสนหยวนเป็นหนึ่งล้านสองแสนหยวน แล้วขยับไปเป็นหนึ่งล้านห้า
แสนหยวน…
ถ้าเป็นที่อื่น หวงซื่อปั๋วจะต้องโดนตราหน้าว่าเป็นคนที่วางแผนและคุมเรื่อง
งบประมาณได้ห่วยแตก
แต่ที่บริษัทเถิงต๋า นอกจากบอสเผยจะไม่ได้ดุด่าแล้ว ยังนึกพอใจเสียด้วยซ้ำ!
หวงซื่อปั๋วรู้สึกซาบซึ้งใจในความแตกต่างนี้!
ทำไมฉันถึงโง่แบบนี้ บอสเผยเชื่อใจฉันสุดๆ…
เขาทำไปทั้งหมดก็เพราะใจรัก ไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทน!
ถ้าทำเกมออกมาไม่ดี ฉันคงทำให้บอสต้องผิดหวังแน่!

พริบตาเดียวก็สิ้นเดือนแล้ว
วันนี้คือวันศุกร์ที่ 29 เดือนพฤศจิกายน
สำหรับหวงซื่อปั๋ว วันนี้ก็เหมือนวันธรรมดาทั่วไป
ตอนนี ้ งานของเขาเสร็ จ เกื อ บหมดแล้ ว การออกแบบก็ เ สร็ จ สมบู ร ณ์
รายละเอียดต่างๆ จัดทำกันอย่างถูกต้องเหมาะสม ทรัพยากรอื่นๆ ในเกมก็เริ่ม
สร้างกันแล้ว
ในฐานะหัวหน้าฝ่ายวางแผน หวงซื่อปั๋วไม่ต้องจัดการเรื่องต่างๆ อย่างการใช้
เครื่องมือพัฒนาเกมเอง เขามีลูกน้อยคอยจัดการในส่วนนี้ให้
หน้าที่ของเขาคือดูแลทุกคนในทีมออกแบบ และคอยตรวจดูว่างานแต่ละส่วน
มีความคืบหน้าหรือเปล่า
เทียบกับการร่างแบบแล้ว งานนี้ง่ายกว่ามาก ทำให้หวงซื่อปั๋วไม่ต้องทำงาน
ล่วงเวลาไปพักหนึ่ง
พอมีกำลังคนและกำลังทรัพย์ที่พอเพียง งานก็คืบหน้าไปตามกำหนด ไม่
จำเป็นต้องทำงานล่วงเวลา
หวงซื่อปั๋วไม่เคยรู้เลยว่าการทำงานจะรื่นเริงใจและผ่อนคลายได้ขนาดนี้
ติ๊ง!
โทรศัพท์เขาดัง
พอหยิบขึ้นมาดูก็เห็นข้อความแจ้งเตือนเงินเข้า!
“หา วันนี้วันที่ 29 ไม่ใช่เหรอ”
หวงซื่อปั๋วงงไปหมด
บริษัทส่วนใหญ่มักจะจ่ายเงินเดือนของเดือนนี้ในเดือนถัดไป
บริษัทที่จ่ายเงินเดือนทุกวันที่ 5 นั้นถือว่าดีมากๆ แล้ว
บริษัทที่แย่หน่อยมักจะออกเงินเดือนล่าช้าไปเป็นช่วงกลางเดือนหรือปลาย
เดือน ซึ่งก็เหมือนกับถือเงินเดือนพนักงานไว้ ถ้ามีการลาออกก็จะหักค่านู่นค่านี่ไป
ถือเป็นการกระทำอันแสนน่ารังเกียจ
ดังนั้นบริษัทที่จ่ายเงินเดือนก่อนวันที่ 5 ของทุกเดือนจึงถือว่าเป็นบริษัทที่ดี
ล้นเหลือ
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่หวงซื่อปั๋วพบบริษัทที่จ่ายเงินเดือนภายในเดือนนั้นเลย!
“มียอดโอนเข้าบัญชี XXX จำนวน 5,375.8 หยวน เวลา 11:09 วันที่ 29
เดือนพฤศจิกายน [ธนาคาร XX]”
หวงซื่อปั๋วตะลึงงันไป
เงินเดือนที่ได้มามีอะไรแปลกๆ
เขาจำได้ว่าตนเองเริ่มงานประมาณวันที่ 5 เดือนพฤศจิกายน ซึ่งทำงานมายัง
ไม่ครบเดือนเลย
ฐานเงินเดือนอยู่ที่สี่พันหยวนต่อเดือน หักภาษี ค่าประกันชีวิต ค่าเช่าที่พัก
แล้ว เงินเดือนเขาน่าจะต่ำกว่าสี่พันหยวนเล็กน้อย!
ทำไมยอดเข้ามากกว่าห้าพันหยวนได้!
ถึงจะยังงุนงง แต่หวงซื่อปั๋วก็รู้ว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะที่จะไปถามเรื่องเล็กน้อย
แบบนี้กับบอสเผย เขาจึงเลือกไปถามเลขาซินแทน
เมื่อพบเธอ เขาก็ถามข้อสงสัยทันที
ซิ น ไห่ ล ู ่ ย ิ ้ ม อย่ า งสุ ภ าพ “ค่ ะ ยอดถู ก ต้ อ งแล้ ว ค่ ะ เป็ น ยอดหลั ง รวมค่ า
ล่วงเวลา”
“ค่าล่วงเวลาเหรอครับ” หวงซื่อปั๋วยิ่งงงเข้าไปใหญ่
ซินไห่ลู่พยักหน้า “ใช่ค่ะ ไม่ใช่แค่คุณนะคะ ทุกคนในบริษัทได้ค่าล่วงเวลา
หมด คุณน่าจะทำงานล่วงเวลาให้บริษัทไปประมาณห้าสิบชั่วโมงใช่ไหมคะ พอ
คำนวณตามเรต 1.5 เท่าจากเงินเดือนรายชั่วโมง หักค่าประกันชีวิต ค่าเช่าที่พัก
และภาษี ยอดจะเท่าที่เข้าในบัญชีค่ะ”
หวงซือ่ ปั๋วอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก
ค่าล่วงเวลาที่ไม่เคยมีอยู่จริง!
แถมยังได้ชั่วโมงละ 1.5 เท่าอีก!
สำหรับบริษัทเกมแล้ว ไม่เคยมีการจ่ายเงินค่าล่วงเวลาเลย
ไม่ใช่แค่ตอนนี้ แม้แต่ในอนาคตอีกสิบปีข้างหน้า ค่าล่วงเวลายังเป็นอะไรที่พบ
ได้ยากมากในอุตสาหกรรมส่วนใหญ่
ไม่ใช่แค่นั้น
บริษัทส่วนใหญ่มักจะคำนวณค่าล่วงเวลาจากเงินค่าแรงรายชั่วโมงที่ต่ำที่สุด
เหมือนกับที่ใช้คำนวณเงินค่าประกันกับค่าเช่าที่พัก พวกเขามักมีทางให้หลบเลี่ยง
เสมอ!
แต่ที่บริษัทเถิงต๋าไม่ใช่แบบนั้น! พนักงานแต่ละคนได้ค่าล่วงเวลาตามอัตรา
ค่าแรงของตนเอง!
พูดง่ายๆ คือ พวกเขาได้ค่าล่วงเวลาเยอะขึ้น!
ดูหวงซื่อปั๋วเป็นตัวอย่าง ฐานเงินเดือนของเขาอยู่ที่เดือนละสี่พันหยวน
คำนวณจากเวลาทำงานยี่สิบวันต่อเดือน วันละแปดชั่วโมง เงินค่าแรงรายชั่วโมง
จะอยู่ที่ยี่สิบห้าหยวน ค่าล่วงเวลาของเขาจะอยู่ที่ 37.5 หยวนต่อชั่วโมง
หลังจากคำนวณจำนวนชั่วโมงที่ทำงานล่วงเวลาของหวงซื่อปั๋วเสร็จ ยอดรวม
ทั้งหมดจะเอาไปหักค่าประกันชีวิต ค่าเช่าที่พัก และภาษี และได้เป็นยอดที่โอน
เข้าบัญชีของเขา
เป็นการคำนวณค่าแรงอย่างตรงไปตรงมา!
หวงซื่อปั๋วไม่เคยเจอบริษัทที่จิตใจดีขนาดนี้มาก่อน ไม่สิ เขาไม่เคยได้ยินเลย
ด้วยซ้ำว่ามีบริษัทแบบนี้อยู่!
หลังจากกลับไปที่โต๊ะทำงาน หวงซื่อปั๋วใช้เวลาอยู่พักใหญ่ในการสงบจิตสงบ
ใจ
แสดงว่าบอสเผยรู้เรื่องทั้งหมด!
เขารู้ว่าพวกเราทำงานล่วงเวลากัน! ถึงจะขัดคำสั่งที่บอสเคยสั่งไว้ แต่บอสก็
ไม่ได้ว่าอะไรพวกเรา แถมยังให้ค่าล่วงเวลาเพิ่มจากเงินเดือนอีก!
หวงซื่อปั๋วรู้สึกอบอุ่นในหัวใจจนน้ำตาปริ่ม
เขาซาบซึ้งใจมาก!
บอสเผยคือบอสที่ดีที่สุดในโลก!

ด้านเผยเชียน เขาไม่ได้รู้เลยว่าเหล่าพนักงานซาบซึ้งใจแค่ไหนที่ได้ค่าล่วงเวลา
เขากำลังปวดหัวกับปัญหาของตัวเอง
ทำไมถึงผลาญเงินทุนระบบให้หมดเกลี้ยงไม่ได้สักทีนะ!
ที่เขาเลือกจ่ายเงินเดือนตอนสิ้นเดือนก็เพราะระบบจะสรุปบัญชีตอนต้นเดือน
หน้า
เผยเชี ย นต้ อ งจ่ า ยเงิ น เดื อ นให้ พ นั ก งานก่ อ นการสรุ ป บั ญ ชี แ ต่ ล ะครั้ ง
ไม่อย่างนั้น เขาจะมีเงินจำนวนมากเก็บไว้โดยไม่จำเป็น ซึ่งไม่ได้เอื้อกับ การผลาญ
เงินทุนระบบของเขาเลย!
…………………….
[1] เกมฟอร์มยักษ์ทุนหนา
บทที่ 48 ศึกษาดูงานพร้อมผลาญงบประมาณ

เดือนนี้ เผยเชียนพยายามอย่างสุดความสามารถในการผลาญเงิน
เขาแบ่งรายจ่ายค่าทรัพยากรงานภาพออกเป็นสองงวด งวดแรกจ่ายไปเมื่อ
สัปดาห์ก่อน ส่วนงวดที่สองจ่ายสัปดาห์นี้
ค่าเช่าพื้นที่สำนักงานก็จ่ายไปแล้ว
เงินเดือนและค่าล่วงเวลาของพนักงานก็จ่ายแล้วเช่นกัน
ยังมีรายจ่ายอื่นๆ อยู่อีก
เผยเชียนผลาญเงินทุนระบบเกือบทั้งหมดไปอย่างบ้าคลั่ง
แต่ทุกอย่างยังไม่จบ
เหลืออีกสองเดือนจนกว่าจะถึงวันสรุปบัญชีครั้งต่อไป
ตลอดสองเดือนที่ว่า เกมแม่ทัพผียังทำเงินเข้าเงินทุนระบบอย่างต่อเนื่อง
นอกจากรายจ่ายที่ต้องจ่ายทุกเดือนอย่างค่าเช่าพื้นที่สำนักงานและเงินเดือน
พนักงานแล้ว เผยเชียนต้องคิดหาทางเสียเงินอื่นเพิ่ม!
ชายหนุ่มรู้สึกกังวลเล็กน้อย
“การผลาญงบประมาณต้องใช้หัวคิดจริงๆ”
“ทำยังไงถึงจะผลาญงบได้ดีที่สุดกันนะ”
“อืม…สัมมนาเหรอ”
“ใช่แล้ว สัมมนา!”
จู่ๆ เผยเชียนก็นึกอะไรดีๆ ออก
คงจะไม่มีปัญหาอะไรถ้าจะใช้เงินทุนระบบจัดงานสัมมนาใช่ไหม
พวกเขาสามารถหาร้านอาหารหรูๆ กินกันสามสิบคน หัวละหนึ่งร้อยหยวน
แค่นี้ก็ผลาญเงินไปได้ทันทีหลายพันหยวนแล้ว!
ไม่สิ ไม่ได้
ไม่กี่พันหยวนมันน้อยเกินไป
เผยเชียนคิดเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่าตนคิดตื้นไป เขาควรให้เลขาซินช่วยจัดการเรื่อง
นี้
เขาเรียกซินไห่ลู่ให้มาหาที่ห้องทำงาน
“เราจะจั ด งานสั ม มนาให้ พ นั ก งานปลายเดื อ นนี ้ คุ ณ ช่ ว ยจั ด การเรื ่ อ ง
กำหนดการที” เผยเชียนสั่ง
“ได้ค่ะ ขอทราบรายละเอียดด้วยค่ะ”
เลขาซินเป็นคนฉลาด เธอไม่มีวันนึกคลางแคลงใจคำสั่งของเผยเชียน ที่เธอ
ทำมีแค่ขอรายละเอียดเพิ่มเติมว่าอยากได้แบบไหนเท่านั้น
เผยเชียนหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ผมกะว่าจะพาพนักงานไป…ใช่ ไปกว่างโจว! เรา
จะไปเที่ยวพร้อมศึกษาดูงาน! ไม่ไปกันนานหรอก ห้าวันน่าจะพอ”
ตอนแรกชายหนุ่มเลือกไม่ถูกว่าจะไปที่ไหน
ถ้าคิดจะไปต่างประเทศ พวกเขาก็ต้องขอวีซ่า แล้วก็จะเป็นเรื่องยุ่งยากเพราะ
พวกเขาไม่คุ้นเคยกับสถานที่ที่จะไป
ถ้าเป็นภายในประเทศ บริษัทเกมส่วนมากมักตั้งรวมกันอยู่ที่ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้
และกว่างโจว เผยเชียนคิดถึงจุดนี้และตัดสินใจได้ว่ากว่างโจวอยู่ไกลสุด ค่าตั๋ว
เครื่องบินไปกว่างโจวน่าจะแพงที่สุด!
ระบบไม่ได้แจ้งเตือนอะไร
เผยเชียนรู้สึกเบิกบานขึ้นมาในใจ เขาเริ่มอ่านระบบออกได้มากขึ้น!
ชายหนุ่มบอกว่าจะไปสัมมนาเพื่อศึกษาดูงาน ซึ่งฟังดูมีเหตุผล
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมต้องไปศึกษาดูงานจากบริษัทเกมหลายๆ บริษัทด้วย…อย่า
ถามเลยดี ก ว่ า ! คำตอบก็ ค ื อ ไปเรี ย นรู ้ ป ระสบการณ์ ข องบริ ษ ั ท เกมที ่ ป ระสบ
ความสำเร็จไง!
“ห้าวัน เราจะไปดูงานบริษัทละวัน เลขาซิน อย่าลืมประสานงานกับทางนู้น
ไว้ก่อนด้วย พอไปถึง เราจะได้เลี้ยงข้าวพวกนักออกแบบ ไม่ก็พวกประธานบริษัท
ด้วย ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
“จะดีมากถ้าได้บริษัทที่สร้างพวกเกมฟอร์มใหญ่ ได้บริษัทที่สร้างเกมแนว
FPS จะเป็นประโยชน์กับพวกเรามาก”
“เวลาที่เหลือจากนั้นก็ปล่อยอิสระให้ทุกคนได้ไปพักผ่อนหย่อนใจ เพลิดเพลิน
กับวัฒนธรรมและอาหาร พวกเขาจะได้ทำงานได้ดีขึ้น”
“ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าอาหาร ทางบริษัทจะออกให้หมด!”
“จัดการเรื่องกำหนดการมา แล้วก็รายงานงบประมาณคร่าวๆ ให้ผมทราบ
ด้วย”
เผยเชียนแจงรายละเอียดทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
“ได้ค่ะ บอสเผย เดี๋ยวดิฉันแจ้งรายละเอียดให้ทราบอีกทีนะคะ” เลขาซินเป็น
คนพึ่งพาได้เหมือนอย่างเคย
เผยเชียนไม่กล้าพาพนักงานไปหลายวัน เพราะกลัวว่าระบบจะเตือนเอาได้ถ้า
สนุกสนานกันมากเกินไป เพราะอย่างไร นี่ก็เป็นการศึกษาดูงาน ขณะเดียวกัน
เขาก็กังวลว่าจะไปกระทบการสร้างเกม ถ้าเผยเชียนปล่อยตัวเกมไม่ทันเวลาและ
ต้องเลื่อนวันสรุปบัญชีออกไปก็จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปมาก
เนื่องจากตารางงานเดือนหน้าไม่ได้ยุ่งอะไรมาก เผยเชียนจึงคิดว่าคงจะดีถ้า
ได้หยุดงานห้าวัน พาทุกคนไปสนุกสนานพร้อมกับผลาญเงินทุนระบบ
พวกเขาสามารถใช้โอกาสนี้ผลาญเงินได้หลายหมื่นหยวน!
ถึงจะเหมือนเอาน้ำหนึ่งแก้วไปดับไฟป่า แต่การผลาญเงินไปได้ขนาดนี้กับการ
จัดสัมมนาก็เป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว!

เลขาซินทำงานไวมาก ช่วงบ่ายกำหนดการสัมมนาก็เสร็จเรียบร้อย
เผยเชียนแสนดีใจเมื่อได้รับกำหนดการมา เขาตรวจดูราคา
“ไม่ถึงแสนห้าเหรอ!” เขาค่อนข้างตกใจ
จำนวนที่ว่ามันน้อยกว่าที่คาดเอาไว้
เลขาซินยิ้มอย่างสุภาพ “ทุกอย่างคำนวณตามราคามาตรฐานปัจจุบันค่ะ”
เผยเชียนดูข้อมูลทั้งหมดอย่างละเอียด
เลขาซินทำแผนสำหรับสามสิบคน เพราะอาจจะมีพนักงานบางคนไม่อยากไป
ไกลถึงกว่างโจว
เผยเชียนไม่บังคับคนพวกนี้ ถึงอย่างไรที่จัดก็เพราะอยากให้สนุกกัน ไม่ใช่สิ
อยากให้ได้ศึกษาดูงาน จึงแล้วแต่ความสมัครใจของทุกคน
ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับอยู่ที่ประมาณสองพันหยวนต่อคน
ค่าที่พักอยู่ที่คนละสามร้อยหยวน ห้องพักสองคนอยู่ที่หกร้อยหยวน
รวมกั บ ค่ า อาหาร ค่ า เดิ น ทาง และค่ า จิ ป าถะอื ่ น ๆ และงบพิ เ ศษสำหรั บ
พนักงาน (ในกรณีที่มีคนอยากไปเกินสามสิบคนจะมาใช้งบนี้) งบรวมทั้งหมดไม่ถึง
หนึ่งแสนห้าหมื่นหยวน
ถึงเผยเชียนจะลองคำนวณดู ตัวเลขก็ไม่เพิ่มขึ้นเลย
เราบินเฟิร์สคลาสได้ไหมนะ
พอคิดเช่นนั้น ระบบก็แจ้งเตือนทันที
ไม่ได้อยู่แล้ว!
ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นแค่การสัมมนาธรรมดา ให้พนักงานทุกคนบินเฟิร์สคลาสนั้น
ล้ำเส้นเกินไป ระบบจึงไม่อนุญาตให้ทำแบบนั้น
ขณะเดียวกัน ค่าที่พักหัวละสามร้อยหยวนนั้นก็พอเสียยิ่งกว่าพอ จะใจกล้า
หน้าด้านให้พนักงานพักแยกในห้องหรูๆ ห้องละคนคงไม่ได้แน่นอน
เผยเชียนดูกำหนดการทั้งหมด เขาไม่สามารถหาจุดให้เสียเงินเพิ่มได้เลย…
เห็นอย่างนั้นเขาก็รู้สึกห่อเหี่ยวใจ
พาพนักงานสามสิบกว่าคนไปกว่างโจวเสียเงินแค่หนึ่งแสนห้าหมื่นหยวนเอง
เหรอ
นี่มันน้อยกว่าที่เผยเชียนคาดไว้…
แน่นอนว่าที่ชายหนุ่มคิดว่าถูกนั้นเป็นเพราะเงินทุนระบบที่มีในปัจจุบัน
ถ้าเฉลี่ยออกมามันจะตกอยู่ประมาณคนละห้าพันหยวน
ถ้าเผยเชียนต้องเสียเงินตัวเองห้าพันหยวนไปกับการเที่ยวกว่างโจวแค่ไม่กี่วัน
เขาคงรู้สึกว่าแพงมาก!
“ช่างเถอะ หนึ่งแสนห้าหมื่นหยวนก็ได้ เอางบตามนี้แหละ ช่วยเตรียมทุก
อย่างไว้ให้ด้วย” เผยเชียนยื่นกำหนดการกลับไปให้เลขาซิน
เขาไม่กล้าทำอะไรล้ำเส้นเกินไป ถึงจะรู้สึกว่าจำนวนเงินที่จะเสียมันน้อยไป
แต่แค่ระบบไม่เตือน เขาก็รู้สึกซาบซึ้งใจมากพอแล้ว

เผยเชียนวางไว้ว่าจะไปสัมมนาช่วงปลายเดือนธันวาคม
ส่วนหนึ่งก็เพราะอากาศที่นี่จะเริ่มหนาวขึ้น จึงอยากไปหาอากาศอุ่นๆ ที่กว่าง
โจว
ขณะเดี ย วกั น ที ่ ก ว่ า งโจวก็ ม ี บ ริ ษ ั ท เกมมากมาย มี บ รรยากาศและ
สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี ซึ่งเหมาะมากที่จะใช้อ้างว่าไปเพื่อศึกษาดูงาน
แต่ก็แน่นอนว่า ชายหนุ่มจะต้องเตรียมทุกอย่างไว้ล่วงหน้ า เช่น จองตั๋ว
เครื่องบินและประสานงานกับบริษัทเกมที่นั่น
ถึงเผยเชียนจะไม่ได้อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร แต่เขาก็ต้องขอข้อมูล
ส่วนตัวพนักงานไปเพื่อจองตั๋วเครื่องบินและจัดการเรื่องอื่นๆ สุดท้ายข่าวคราว
เรื่องนี้ก็กระจายไปทั่วบริษัท
ภายในกลุ่มคนวงในของทีมออกแบบ หลายคนไม่สามารถข่มความตื่นเต้น
เอาไว้ได้จึงเริ่มพูดคุยกันถึงเรื่องนี้
“เราจะได้ไปดูงานที่กว่างโจวจริงๆ เหรอ”
“ฉันว่าจริง! ฉันได้ยินมาว่าเลขาซินเตรียมจองตั๋วเครื่องบินแล้ว!”
“สวัสดิการบริษ ัทนี้ นี่ ยอดไปเลย ไม่เคยเห็นเลยว่าบริษ ั ทเกมไหนจะพา
พนักงานไปดูงาน…”
“ใช่ ฉันก็ไม่เคยเห็น…”
“ผมว่าทริปแบบนี้ต้องเสียเงินเยอะแน่ ถ้าเป็นเงินตัวเอง ผมคงไม่ทำอะไร
แบบนี้!”
“เราจะไปดูงานบริษัทไหนบ้าง ฉันว่าต้องมีเทียนหัวสตูดิโอ”
“ผมก็ว่างั้น เทียนหัวสตูดิโอดังจะตาย แถมยังเชี่ยวชาญเรื่องเกม FPS เหมาะ
กับเรามาก”
“โห ฉันเคยฝันอยากไปสตูดิโอเทียนหัวสักครั้งตั้งแต่ก่อนเข้ามาทำงานใน
วงการนี้อีก”
“เดี๋ยวก็จะได้ไปแล้วนี่ไง เราจะได้เรียนรู้การทำงานของสตูดิโอระดับท็อป
ด้วย!”
ทีมออกแบบตื่นเต้นกันยกทีม
ส่วนพวกที่เหลืออย่างทีมงานภาพและทีมบริหารจัดการนั้นสนใจเรื่องอื่นกัน
พวกเขากำลังตัดสินใจว่าจะกินอะไร จะไปไหนบ้าง มองว่าเป็นการได้ไปเที่ยว
ฟรีๆ
ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ ถึงอย่างไรหลายๆ คนในทีมออกแบบก็เป็นเด็กเสพติด
อินเทอร์เน็ตที่ยกย่องสตูดิโอและบริษัทเกมมีชื่อเสียงภายในประเทศ
ส่วนคนอื่นๆ พวกเขาไม่ได้สนใจสตูดิโอเทียนหัวอะไรนั่นเท่าไหร่
แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนล้วนตื่นเต้นกับการที่บริษ ัทจะพาไปเที่ยวฟรีไ ม่
ต่างกัน!
บทที่ 49 เทียนหัวสตูดิโอ

กว่างโจว
เทียนหัวสตูดิโอ
“บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีเหรอ”
“พวกเขาอยากมาดูงานที่บริษัทเรางั้นเหรอ”
โจวมู่หยันตะลึงงันไป
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบว่ามีบริษัทเกมอยากศึกษาดูงานบริษัทเกมอื่น!
ปกติแล้วมีแค่นักศึกษามหาวิทยาลัยเท่านั้นที่มาศึกษาดูงานเก็บประสบการณ์
ไว้ใช้หลังเรียนจบ
ไม่มีบริษัทเกมไหนจัดกิจกรรมแบบนี้ให้พนักงาน!
อย่างน้อยก็ภายในประเทศ
นั่นก็เพราะบริษัทเกมภายในประเทศส่วนใหญ่เน้นหากำไร การศึกษาดูงาน
ระยะไกลมีค่าใช้จ่ายสูง!
ค่าตั๋วเครื่องบินสำหรับคนประมาณสามสิบคน ค่าโรงแรม รวมถึงรายจ่าย
อื่นๆ ไหนจะต้องหยุดงานช่วงที่ไปศึกษาดูงานอีก เอามารวมกันแล้วก็เสียหาย
หลายแสนเลยทีเดียว
นอกจากนี้ กิจกรรมแบบนี้ก็ไม่ได้เป็นประโยชน์กับบริษัทเท่าไหร่ เป็นการเสีย
เงินไปเปล่าๆ มากกว่า
ถึงจะบอกว่ามาศึกษาดูงาน คำถามคือมีอะไรให้ศึกษา
บริษัทไหนจะโง่ยอมให้ศึกษากัน…
ความคิดแรกที่ผุดขึ้นในหัวโจวมู่หยันคือบอกปฏิเสธไป
เขาเป็นโปรดิวเซอร์ประจำสตูดิโอเทียนหัว ค่อนข้างมีชื่อเสียงในวงการทีเดียว
ว่ากันตามตรงแล้ว เขามีชื่อเสียงในทางลบมากกว่า เนื่องจากมีหลายคนก่นด่า
สตูดิโอเทียนหัว โจวมู่หยันจึงโดนด่าไปด้วยเพราะเป็นโปรดิวเซอร์
โจวมู่หยันเป็นชื่อเล่นของเขา ไม่ใช่ชื่อจริง ทางภาคใต้ หลายๆ บริษัทมีการตั้ง
ชื่อเล่นเพราะเป็นกระแสนิยม สตูดิโอเทียนหัวเองก็ทำเหมือนกัน
ตอนนี้สตูดิโอเทียนหัวกำลังสร้างเกมออนไลน์แนว FPS เริ่มกระบวนการสร้าง
มามากกว่าหนึ่งปีแล้ว กำลังจะเปิดให้ทดลองเล่นเวอร์ชันเบต้า
ในช่วงวุ่นวายนี้ โจวมู่หยันไม่คิดที่จะต้อนรับเหล่าพนักงานของบริษัทเกมจาก
มณฑลชายขอบอย่างฮั่นตงแน่
“บอสโจว บริษัทนี้ดังมากค่ะ! พวกเขาเป็นผู้สร้างเกมแม่ทัพผี! ดิฉันว่าเราควร
แบ่งเวลาไปพบปะพูดคุยกับพวกเขา ถ้าบอสไม่มีเวลา เราให้พี่ซุนไปแทนก็ได้ค่ะ
ดิฉันว่าพาพวกเขาชมรอบบริษัทก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเรามากมาย” สาวฝ่าย
บริการจัดการที่ติดต่อกับซินไห่ลู่อธิบาย
“พวกเขาสร้างเกมแม่ทัพผีเหรอ!”
โจวมู่หยันนิ่งงันไป เขาคิดว่าที่หญิงสาวพูดมานั้นดูมีเหตุผล
อย่างที่เขาว่ากัน ยิ่งมีเพื่อนเยอะ ก็ยิ่งมีตัวเลือกในชีวิตเยอะขึ้น
ถึงพวกเขาจะเป็นคู่แข่งกัน การปฏิเสธน้ำใจอีกฝ่ายที่เดินทางมาไกลเพื่อ
พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันก็จะดูใจดำเกินไป
นอกจากนี้ โจวมู่หยันรู้จักเกมแม่ทัพผีที่เป็นเกมมือถือสุดฮิตในช่วงนี้ ชัดเจน
เลยว่าผู้สร้างเกมนี้ไม่ใช่คนโง่
บางทีอาจเป็นความคิดที่ดีที่จะทำความรู้จักกับคนแบบนี้เอาไว้
ถึงอย่างไรก็ใช้เวลาอย่างมากสุดแค่วั นเดียว พาพวกเขาเดินรอบๆ ออฟฟิศก็
ไม่ได้รบกวนงานอะไรด้วย
พอคิดแบบนั้น โจวมู่หยันก็พยักหน้า “โอเค ตอบตกลงไป ตกลงวันกับพวก
เขาก่อน เดี๋ยวผมจะเป็นคนไปทักทายพวกเขาเอง”
“ได้ค่ะ บอสโจว แล้วก็รายชื่อคัดเด็กใหม่ออกเสร็จเรียบร้อยแล้ว รบกวนช่วย
ตรวจดูด้วยค่ะ”
โจวมู่หยันไล่สายตามองรายชื่อ
“นอกจากหลินหวาน ไล่ที่เหลือออกให้หมดตามกระบวนการ”
“รับทราบค่ะ” หญิงสาวไม่ได้ถามอะไรต่อแล้วกลับออกไปพร้อมรายชื่อ
ระบบไล่พนักงานระดับล่างสุดออกเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในบริษัทเกม
หลายแห่ง โดยเฉพาะบริษัทที่จ้างคนส่วนใหญ่จากมหาวิทยาลัย
เทียนหัวสตูดิโอเองก็เป็นหนึ่งในนั้น พวกเขาจ้างเด็กจบใหม่และจัดประเมิน
งานหลังจากทำงานไปได้สองสามเดือน สิบห้าเปอร์เซ็นต์ของพนักงานระดับ
ล่างสุดจะโดนไล่ออก
พวกเด็กจบใหม่ที่โดยไล่ออกจะตกอยู่ในสถานการณ์สุดเลวร้าย
อย่ า งแรกเลยคื อ พวกเขาจะไม่ ไ ด้ อ ยู ่ ใ นสถานะเด็ ก จบใหม่ อ ี ก ต่ อ ไป ไม่
สามารถเข้าร่วมการรับสมัครนักศึกษามหาวิทยาลัยของบริษัทต่างๆ ได้ อย่างที่
สองคือ พวกเขาทำงานได้แค่ไม่กี่เดือนก็โดนไล่ออก ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อการ
หางานในอนาคต
พูดอีกอย่างก็คือ การตัดสินใจเดียวของโจวมู่หยันได้สร้างอุปสรรคหนักหนา
ในเส้นทางการทำงานให้กับเหล่าเด็กจบใหม่ที่โดนไล่ออก!
แต่โจวมู่หยันกลับไม่ได้มองว่าระบบนี้มีปัญหาอะไร ถึงจะรู้ดีว่าพวกเด็กจบ
ใหม่ที่โดนไล่ออกจะต้องก่นด่าสาปแช่งตนเองและครอบครัว เขาก็ไม่ได้สนใจ
สำหรับโจวมู่หยัน อุตสาหกรรมเกมนั้นมีเพียงผู้ที่เหมาะสมที่สุดเท่านั้นถึงจะ
อยู่รอด!
ไม่มีความเห็นอกเห็นใจใดๆ ในสภาพแวดล้อมอันแสนโหดร้ายนี้
แต่ก็แน่นอนว่ามีคนหนึ่งในรายชื่อที่ได้รับการยกเว้น ซึ่งก็คือหลินหวาน
หลินหวานเป็นเด็กสาวที่ก็เหมือนคนอื่นๆ เธอจบจากมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียง
ในปักกิ่งและมีคุณสมบัติสูงทีเดียว
ถ้าดูจากรายชื่อประเมินคัดออก หลินหวานอยู่ในกลุ่มสิบห้าเปอร์เซ็นต์ของ
พนักงานระดับล่าง
ความผิดพลาดของเธอก็เหมือนกับหนุ่มสาวคนอื่นๆ คือใสซื่อและมองโลกใน
แง่ดีจนเกินไป
เกมเป็นเพียงธุรกิจสำหรับโจวมู่หยัน
แต่สำหรับหลินหวานและหนุ่มสาวคนอื่นๆ พวกเขามองเกมเป็นงานศิลปะ
หรือไม่ก็ความฝันที่ต้องทำให้เป็นจริง เพราะแบบนี้ พวกเขาจึงทำสิ่งที่ตรงข้ามกับ
เกณฑ์ประเมินของระบบคัดออก
พูดอีกอย่างก็คือ เธอไม่ใช่คนแบบที่เทียนหัวสตูดิโอต้องการ
แต่มีอยู่เหตุผลหนึ่งที่ทำให้โจวมู่หยันไม่ได้คัดเธอออก
นอกเหนือจากเรื่องอื่นๆ แล้ว ภูมิหลังของเธอน่ากลัวจนเกินไป…
พ่อของหลินหวานคือประธานบริษัทเฉินฮว่าคอร์ปอเรชัน ตัวแทนจำหน่าย
อุปกรณ์อัจฉริยะและการติดต่อสื่อสารที่ใหญ่ที่สุด! โจวมู่หยันไม่กล้าทำอะไรผิดใจ
คนใหญ่คนโตแบบเขา
เอาเข้าจริง เขาอยากสร้างเส้นสายกับคนแบบพ่อของหลินหวานใจแทบขาด
แน่นอนว่าหลินหวานไม่รู้เลยว่าตัวตนของเธอถูกเปิดเผย เพราะเธอเข้าเทียน
หัวสตูดิโอผ่านการรับสมัครนักศึกษามหาวิทยาลัยตามปกติ
แต่ก็เห็นได้ชัดว่า หลินหวานประเมินความกังวลและเป็นห่วงของพ่อเธอต่ำ
ไป…
วั น ที ่ ส องหลั ง จากเธอเข้ า ทำงาน โจวมู ่ ห ยั น ได้ ร ั บ สายตรงจากประธาน
บริษัทเฉินฮว่าคอร์ปอเรชัน
คำขอของเขามีอยู่สองอย่าง
อย่างแรกคือ เขาหวังว่าโจวมู่หยันกับเทียนหัวสตูดิโอจะช่วยดูแลหลินหวาน
ไม่ให้เธอทำงานหนักเกินไปจนล้มป่วย
อย่างที่สองคือ เขาหวังให้โจวมู่หยันทำลายความฝันของหลินหวานในวงการ
อุตสาหกรรมเกมให้เร็วที่สุด เพื่อที่เธอจะได้ล้มเลิกความตั้งใจในสายงานนี้!
ถึงเขาจะพูดอย่างอ้อมค้อม แต่คนฉลาดอย่างโจวมู่หยันก็เข้าใจจุดประสงค์
ของอีกฝ่ายทันที
พ่อของหลินหวานไม่ได้อยากให้ลูกของตั วเองเข้ามาทำงานในวงการเกม แต่
เขาก็ไม่อยากต่อต้านเธออย่างเปิดเผย เพราะกลัวจะกระทบความสัมพันธ์ ทำให้
ต้องใช้วิธีอ้อมๆ เอา!
เมื่อเป็นแบบนี้ โจวมู่หยันก็ตอบตกลงทันที
อีกฝ่ายคือเฉินฮว่าคอร์ปอเรชัน! ถ้าเชื่อมสัมพันธ์ได้ก็จะเป็นประโยชน์กับ
เทียนหัวสตูดิโอในอนาคต!
ดังนั้นหลินหวานจึงเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ได้โดนคัดออกตามรายชื่อ
โจวมู่หยันคิดหาวิธีดับไฟรักในวงการเกมของเธอให้ได้เร็วที่สุดมาตั้งนานแล้ว
ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย
ขอแค่เขาแสดงความเป็นจริงของวงการนี้ให้เธอรับรู้ก็พอ
วงการเกม อย่างน้อยก็ภายในประเทศ คือโรงงานนรก
รายชื่อคัดคนออก ระบบ 996 ล้มเลิกความฝันและดับไฟรักในเกมเพื่อเงิน
เปลี่ยนงานศิลปะให้กลายเป็นเครื่องมือทำเงิน…
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในวงการอุตสาหกรรมเกมภายในประเทศ
แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีอยู่ทุกที่ ภายในประเทศยังมีนักออกแบบมาก
ความสามารถและสตูดิโอที่มีใจรักในเกมเหลืออยู่บ้าง
แต่ก็หายากแสนยาก
โจวมู่หยันเชื่อว่าหลังจากที่ตนแสดงความเป็นจริงของอุตสาหกรรมนี้ให้หลิน
หวานรับรู้ เธอจะผิดหวังและออกจากวงการนี้ไปเองอย่างแน่นอน!
บทที่ 50 กว่างโจว!

“เสี่ยวลู่ ระบบนี้ยังมีปัญหาบางอย่างอยู่ ไปปรับแก้ด้วยนะ ถ้าสงสัยเรื่องการ


ควบคุมให้ไปถามพี่เปา พี่เขาเก่งเรื่องนี้ ” หวงซื่อปั๋วแสดงความเห็นต่อแบบร่าง
อย่างใจเย็น
เสี่ยวลู่เป็นสมาชิกคนหนึ่งของทีมออกแบบ รับผิดชอบออกแบบระบบและ
โหมดผีในเกม
เขามีประสบการณ์น้อยกว่าหวงซื่อปั๋วอีก เพราะก่อนหน้านี้เป็นแค่เด็กฝึกงาน
ในบริษัทเกม แต่ก็ไม่ได้รับมอบหมายงานสำคัญอะไรสักอย่าง ได้ทำแค่กรอก
เอกสารและงานยิบย่อยเป็นบางครั้ง ถึงจะไม่ได้ถือว่าไม่มีประสบการณ์การ
ทำงานเลย แต่ก็บอกได้แค่ว่าพอถูๆ ไถๆ ไปเท่านั้น
บริ ษ ั ท ส่ ว นใหญ่ จ ะตั ด สิ น คนจากตำแหน่ ง และประสบการณ์ ก ารทำงาน
(ความสามารถ) ถึงจะมีระยะการทำงานเท่ากัน แต่จากประสบการณ์ที่ต่างกัน
หวงซื่อปั๋วจึงถือเป็นรุ่นพี่ในจุดนี้
“ได้ครับ พี่หวง! เดี๋ยวผมจัดการให้ตอนนี้เลย!”
เสี่ยวลู่เปิดเครื่องมือพัฒนาเกมแล้วปรับระบบตามที่หวงซื่อปั๋วบอก
เกมฐานทัพกลางทะเลได้เข้าสู่ขั้นตอนการสร้างแล้ว มีการใส่เทมเพลตและ
ระบบต่างๆ ที่ซื้อมาก่อนหน้านี้เข้าไปในเครื่องมือพัฒนาเกมเพื่อให้เหล่านัก
ออกแบบเริ่มสร้างเกม
เนื่องจากเครื่องมือพัฒนาเกมไม่ได้ใช้งานยากและทุกคนมีประสบการณ์มา
ก่อน กระบวนการทำงานจึงเป็นไปอย่างรวดเร็วกว่าตอนที่คนไร้ประสบการณ์
อย่างเผยเชียนรับผิดชอบเพียงคนเดียว
“ตั้งใจทำงาน อย่ามัวคิดถึงแต่ทริปไปกว่างโจว โฟกัสที่งานก่อน” หวงซื่อปั๋ว
ย้ำพอเห็นเสี่ยวลู่เหม่อ
เสี่ยวลู่เขินเล็กน้อย เขาลูบหลังศีรษะตนเอง “โห่ พี่หวง ผมไม่เคยไปกว่างโจว
มาก่อนเลยนะ แถมเราจะได้ ไปสตูดิโอมีชื่อเสียงอย่างเทียนหัวสตูดิโออีก! ผมก็
ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา แต่ไม่ต้องห่วงครับ ผมการันตีเลยว่างานได้คุณภาพตามที่
บอกแน่นอน”
หวงซื่อปั๋วพยักหน้า จากนั้นก็เดินกลับโต๊ะไปทำงานต่อ
จริงๆ แล้วเขาก็ไม่เคยไปกว่างโจวมาก่อนเหมือนกัน
ไม่ใช่แค่เขา คนส่วนใหญ่ในบริษัทก็ไม่เคยไปมาก่อน
ตั ๋ ว เครื ่ อ งบิ น จากจิ ง โจวไปกว่ า งโจวราคาประมาณสองถึ ง สามพั น หยวน
สำหรับคนส่วนใหญ่ ก่อนจะเข้าบริษัทเถิงต๋า พวกเขาแทบไม่มีเงินเลย แล้วจะเอา
เงินไหนไปซื้อตั๋วเครื่องบินได้…
พอได้ยินเรื่องศึกษาดูงาน หวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไร ไม่
เหมือนคนอื่นๆ ที่เฮกันยกใหญ่
เปาซวี่เป็นพวกเก็บตัว ไม่ค่อยชอบออกไปไหน เขาอยากเก็บเลเวลอยู่ออฟฟิศ
ตลอดเวลามากกว่า
ส่วนหวงซื่อปั๋ว เขาคิดแค่ว่าจะทำอย่างไรให้ไม่กระทบตารางงาน
หลังจากคำนวณตารางงานคร่าวๆ หวงซื่อปั๋วก็พบว่าการไปศึกษาดูงานครั้งนี้
ไม่ได้กระทบกับกระบวนการทำงานมากเท่าไหร่ เกมฐานทัพกลางทะเลน่าจะเสร็จ
สมบูรณ์ตามกำหนดการ พอรู้อย่างนั้น เขาก็สงบใจลงได้
สำหรับหวงซื่อปั๋วตอนนี้ สิ่งเดียวที่สำคัญสำหรับเขาก็คือกระบวนการสร้าง
เกม!
บอสเผยเป็นคนฉลาดที่ให้เขารับผิดชอบงานใหญ่และจ่ายตอบแทนมากโข
ขณะเดียวกันเขายังพาทุกคนไปศึกษาดูงานถึงกว่างโจวอีก ไม่มีทางใดเลยที่พวก
เขาจะตอบแทนความมีน้ำใจนี้ได้!
ถ้าหวงซื่อปั๋วไม่คุมให้การสร้างเกมเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ เขาจะต้องเศร้า
ที่ทำให้บอสเผยผิดหวัง!
แต่อย่างไรหวงซื่อปั๋วก็อยากจะไปดูงานที่เทียนหัวสตูดิโอด้วยเหมือนกัน
สตูดิโอที่ว่าเป็นสตูดิโอชื่อดังภายในประเทศ ก่อนจะก้าวเข้าสู่วงการ หวงซื่อ
ปั๋วตั้งสตูดิโอนี้ไว้เป็นเป้าหมายในสายอาชีพ!
หลังจากเริ่มทำงาน หวงซื่อปั๋วก็ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเทียนหัวสตูดิโอมาบ้าง
มีคนบอกว่าเทียนหัวสตูดิโอเคยให้โบนัสเท่ากับเงินเดือนห้าเดือน
บ้างก็บอกว่าเทียนหัวสตูดิโอให้เงินโบนัสต่อเดือนกับทีมออกแบบสูงกว่าฐาน
เงินเดือนพวกเขาเสียอีก
บางคนบอกว่าเทียนหัวสตูดิโอให้รถสปอร์ตตอนท้ายปีเป็นโบนัสใหญ่
หวงซื่อปั๋วไม่เคยเช็กข่าวลือนี้ แต่ก็ชัดเจนว่าเทียนหัวสตูดิโอเป็นที่ทำงานใน
ฝันของคนส่วนใหญ่ในวงการเกม
การได้ไปดูงานที่สถานที่แบบนี้จะเป็นประโยชน์ต่อหน้าที่การงานของเขาใน
อนาคตอย่างแน่นอน!


หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
วันศุกร์ที่ 27 เดือนพฤศจิกายน
กลุ่มพนักงานบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีเดินทางจากสนามบินมาถึง
โรงแรม พวกเขาขึ้นห้องไปเก็บกระเป๋า
มณฑลฮั่นตงเข้าหน้าหนาวแล้ว อากาศเย็นจัด แต่ที่กว่างโจวอุณหภูมิกลับสูง
กว่า แดดยามบ่ายสาดส่องอาบร่างทุกคนให้ความอบอุ่น
หวงซื่อปั๋วรู้สึกสับสนเล็กน้อย
บรรยากาศตอนนี้เหมือนวันหยุดพักร้อนไม่มีผิด!
สาวๆ ฝ่ายบริหารบางคนกำลังเช็กตารางการเที่ยวบนมือถือ วางแผนว่าวัน
พรุ่งนี้จะไปเที่ยวที่ไหน ไปเดินห้างไหน
คนจากทีมออกแบบบางส่วนกำลังหาซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ เพื่อซื้อเบียร์ขึ้น
ห้องไปนั่งก๊งพลางเล่นเกมการ์ดตอนดึกๆ
มียี่สิบเจ็ดคนที่เข้าร่วมการศึกษาดูงานครั้งนี้ เปาซวี่ไม่ได้มาด้วยเพราะไม่ได้
สนใจอะไรและอยากอยู่ออฟฟิศมากกว่า
ส่วนบอสเผย…
เขาไม่ได้มารวมกลุ่มกับเหล่าพนักงานและขึ้นห้องไปก่อนแล้ว เพราะอยากพัก
ให้หายเหนื่อยจากการนั่งเครื่อง
เลขาซินเป็นคนจัดการเรื่องการศึกษาดูงานครั้งนี้ เผยเชียนไม่ได้ยุ่งอะไรด้วย
เลย
หวงซื่อปั๋วกับเสี่ยวลู่พักห้องเดียวกัน หลังจากเก็บกระเป๋า หวงซื่อปั๋วก็หยิบ
โน้ตบุ๊กออกมาตรวจดูแบบร่างไปพร้อมกับปรับแต่งเนื้อเรื่องของเกม
ตอนนี้พวกเขาวางเค้าโครงเกมฐานทัพกลางทะเลเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่
เปาซวี่รู้สึกว่ายังมีบางจุดในเรื่องการควบคุมและรายละเอียดทั่วไปที่ สามารถ
ปรับปรุงเพิ่มได้
หวงซื่อปั๋วเป็นกังวลเหมือนกัน เพราะเขาอยากตั้งใจทำงานให้เกมออกมา
สมบูรณ์แบบ
ตัวเกมจะออกมายอดเยี่ยมได้จริงๆ ก็ต่อเมื่อผู้เล่นมืออาชีพอย่างเปาซวี่ไม่พบ
ปัญหาใดๆ!
“พี่หวง ผมออกไปหาคนอื่นๆ ก่อนนะ ถ้าพี่เหนื่อยก็พักก่อนได้ ” เสี่ยวลู่บอก
หวงซื่อปั๋วก่อนออกไปสนุกสนานกับคนอื่นๆ

ในห้องของเผยเชียน…
“พี่เชียน ผมเบื่อที่ต้องทำตัวแบบนี้…เราต้องทำเป็นห่างเหินกันเพราะเรื่อง
งาน…” หม่าหยางว่าอย่างเหนื่อยอ่อน
ตอนนี้คนเดียวในบริษัทที่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของเผยเชียนกับหม่าหยางมีแค่
เลขาซิน
ด้วยเหตุนี้ หม่าหยางจึงต้องทำตัวเหมือนเป็นคนอื่นคนไกลกับเผยเชียนเมื่อ
อยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ การต้องเรียกเผยเชียนว่าบอสเผยตลอดเวลาทำให้เขารู้สึก
เหนื่อย
พวกเขาเป็นพี่น้องนอนร่วมเตียงสองชั้น แต่ตอนนี้ต้องมาเว้นระยะห่างจาก
กัน…
“แกต้องเสียสละเพื่อบริษัท” เผยเชียนตบบ่าหม่าหยาง “ตอนนี้แกเป็นหูเป็น
ตาให้ฉันในบริษัท! แกต้องบอกฉันทันทีที่เจอปัญหาอะไร!”
ถ้าเผยเชียนเปิดเผยความสัมพันธ์ คนอื่นๆ อาจจะระแวงหม่าหยางเอาได้
ถึงตอนนั้นคงจะยากสำหรับเขาที่จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในบริษัท
เผยเชียนจะต้องมั่นใจว่าคุมสถานการณ์ทั้งหมดอยู่ ไม่อย่างนั้นจะซวยเอาถ้า
พวกเขาผลาญเงินไม่ได้ขึ้นมา!
ใบหน้าใหญ่ของหม่าหยางดูใหญ่ขึ้นไปอีก “พี่พูดเหมือนผมเป็นสายสืบ แต่
ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรหรอก ทุกคนกำลังตั้งใจทำงานตามแบบร่างกัน”
เผยเชียนพยักหน้า ดีมาก!
ก่อนหน้านี้เขาดูแบบร่างไปคร่าวๆ แล้ว ถึงจะไม่เข้าใจทั้งหมดดี แต่ก็รู้ว่ามี
ตามที่เขากำหนดครบสามข้อ
ขอแค่ไม่มีการปรับแต่งครั้งใหญ่กับแบบร่าง ก็มีโอกาสสูงที่เกมจะเจ๊ง เขาจึง
ไม่ได้กังวลอะไรมาก
“ใช่ แล้วก็ เหมือนทุกคนจะตื่นเต้นกันใหญ่ที่ได้ไปเทียนหัวสตูดิโอ พวกเขา
เจ๋งขนาดนั้นเลยเหรอ” หม่าหยางถาม
“ฉันจะไปรู้ได้ไง” เผยเชียนไม่ได้รู้เรื่องวงการนี้มากมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
แล้วก็ไม่รู้ว่าสตูดิโอที่ว่าเป็นอย่างไร
เขาแค่อยากมาที่กว่างโจวเพื่อผลาญเงิน ส่วนเทียนหัวสตูดิโอแค่บังเอิญเป็น
หนึ่งในสตูดิโอที่เลขาซินติดต่อไป
พนักงานคนอื่นๆ คิดว่าเผยเชียนตั้งใจวางแผนออกมาแบบนี้ ซึ่งห่างไกลจาก
ความจริงไปมาก เขาแทบไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าคนก่อตั้งเทียนหัวสตูดิโอคือใคร…
“ที่แรกที่เราจะไปวันพรุ่งนี้คือเทียนหัวสตูดิโอ อย่าลืมถามคำถามเยอะๆ จะ
ได้ไม่ดูแปลก เราต้องทำตัวให้เป็นมิตรเพราะเขาใจดีต้อนรับเรา” เผยเชียนย้ำ
ในฐานะประธานบริษัท เผยเชียนไม่จำเป็นต้องถามคำถามหรือทำตัวเป็น
กันเอง เพราะจะเป็นการลดภาพลักษณ์ตัวเองลง
ดังนั้นหม่าหยางจึงต้องเป็นคนทำหน้าที่นี้
หม่าหยางพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง พี่เชียน! ปล่อยเป็นหน้าที่ผมเอง!”
บทที่ 51 พื้นทีท่ ำงานแคบจัง!

กว่างโจว เทียนหาวสตูดิโอ
ด้านนอกของตึกสำนักงาน เสี่ยวลู่กับคนอื่นๆ กำลังตื่นตะลึง
ตึกสำนักงานทั้งเจ็ดชั้นเป็นของเทียนหัวสตูดิโอ! ยิ่งใหญ่จริงๆ!
ตรงทางเข้ า มี ป ้ า ยเที ย นหั ว สตู ด ิ โ อ รอบๆ ตึ ก เต็ ม ไปด้ ว ยต้ น ไม้ ใ บหญ้ า
บรรยากาศดูดีมาก
บริษัทเกมที่สามารถสร้างตึกเป็นของตัวเองได้ต้องไม่ขัดสนเรื่องเงินทองแน่!
สำหรับคนส่วนใหญ่ พวกเขาต่างนึกสงสัยว่าถ้าได้ทำงานในสถานที่แบบนี้จะ
เป็นอย่างไร
แต่เผยเชียนกลับนิ่งเฉย
เขามาที่นี่เพื่อผลาญเงิน การศึกษาดูงานเป็นแค่ข้ออ้าง อีกอย่างที่นี่ก็แค่มี
พื้นที่มากกว่า ไม่เห็นมีอะไรต้องอิจฉา
เมื่อพวกเผยเชียนมาถึงทางเข้า พวกเขาก็พบกับคนจากเทียนหัวสตูดิโอที่มา
รอต้อนรับ
“ยินดีต้อนรับครับเลขาซิน! ท่านนี้คือบอสเผยใช่ไหมครับ สวัสดีครับ! ผมเป็น
ฝ่ายประสานงานของเทียนหัวสตูดิโอชื่อซุนฉี!”
คนที่มารอต้อนรับอายุประมาณยี่สิบหกปี
เผยเชียนได้ยินมาว่าโจวมู่หยัน โปรดิวเซอร์ของเทียนหัวสตูดิโอจะมาพบพวก
เขาเช่นกัน แต่ด้วยสถานะของอีกฝ่าย พวกเผยเชียนยังไม่ถึงระดับที่เขาจะลงมา
ต้อนรับถึงทางเข้าด้วยตนเอง
ซุนฉีเดินนำทุกคนไปตามทางขณะแนะนำสิ่งต่างๆ ไปด้วย
“นี่คือป่าไผ่ตรงหน้าทางเข้าครับ เราสร้างไว้เพราะมีโปรเจ็กต์เกมสไตล์ย้อน
ยุค อ้อ ตรงนู้นมีกู่เจิงด้วยครับ บางทีก็จะมีสาวสวมชุดพื้นเมืองมาดีดด้วย”
“ตรงสุดทางด้านนู้นเป็นที่จอดรถ เพราะมีบางคนขับรถมาทำงาน”
“ถัดไปเป็นล็อบบี้หลัก เดี๋ยวผมพาทุกท่านไปที่พื้นที่รับรองเพื่อพบกับทีมคุม
โปรเจ็กต์นะครับ”
เผยเชียนตรวจดูรอบๆ
บริษัทใหญ่นี่ช่างหรูหราโอ่อ่าจริงๆ!
พวกเขาน่าจะเสียเงินไปเยอะเพื่อสร้างที่แห่งนี้ขึ้น
ถ้าสร้างตึกสำนักงานเป็นของตัวเอง พวกเขาก็สามารถปรับแต่งเพิ่มเติ มได้
ตลอด อย่างเช่น ปลูกป่าไผ่ หรือปรับเปลี่ยนรูปปั้น ทั้งหมดล้วนต้องใช้เงินมากโข
ทีนี้เขาก็ไม่ต้องห่วงเรื่องผลาญเงินอีก!
แต่ก็แน่นอนว่าต้องมีเงินสักสิบถึงยี่สิบล้านถึงจะสร้างตึกสำนักงานแบบนี้ได้
ตอนนี้เผยเชียนมีเงินไม่พอ
เงินทุนระบบที่ระบบให้มาอยู่ที่ห้าแสนหยวน ถึงเกมที่เผยเชียนสร้างมาจะทำ
เงินให้ได้เยอะเสียจนอยากอ้วก แต่ยอดรวมก็แค่ประมาณหลักล้าน
ถ้าเขาสามารถทำรายได้หลักสิบหรือร้อยล้านต่อปี เผยเชียนก็จะสามารถ
สร้างตึกสำนักงานได้ในอนาคต
แต่เขาก็หวังว่าคงจะไม่เป็นอย่างนั้น…
ชายหนุ่มอยากให้บริษัทเสียเงินหลักล้า นต่อปี มากกว่าได้เงินหลักสิบหรือ
หลักร้อยล้านต่อปี
ถ้าเสียเงินได้หลักล้านก็จะแปลงมาเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคลโดยคูณเพิ่มไป
อีกสิบเท่า แต่ถ้าดันทำเงินได้ละก็…
เลขาซินเคยไปเยี่ยมเยียนบริษัทหลายแห่งจึงไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรเช่นกัน
แต่คนอื่นๆ อย่าง หวงซื่อปั๋ว เสี่ยวลู่ และหม่าหยางต่างมองไปรอบๆ ด้วย
ดวงตาเป็นประกาย พวกเขาเป็นเหมือนพวกบ้านนอกที่เข้ากรุงเป็นครั้งแรก เห็น
อะไรก็น่าตื่นตาตื่นใจไปหมด
แต่ก็แน่นอน ถ้าว่ากันตามตรง สวัสดิการของบริษัทเถิงต๋านั้นดีกว่าเทียนหัว
สตูดิโอ
ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงานหรือสเป็กคอมพิวเตอร์ ไม่มีบริษัทไหนในประเทศหรือ
แม้แต่ต่างประเทศที่ทุ่มทุนเท่าบริษัทเถิงต๋า
แต่เพราะบริษัทนี้มีตึกสำนักงานเป็นของตัวเอง และมีพื้นที่กว้างกว่า จึงดู
ดีกว่าในสายตาของคนนอก!
ทุกคนรู้สึกภูมิใจเล็กน้อยเมื่อไปถึงโต๊ะต้อนรับ
พลิกกลับมาชนะ!
โต๊ะรับรองของบริษัทเถิงต๋ามีคู่ แฝดที่แค่หน้าตาก็ชนะพนักงานรับรองของ
เทียนหาวสตูดิโอขาดลอย เรื่องนี้พวกเขาชนะ!
ซุนฉีพาทุกคนไปที่ชั้นสี่เพื่อพบโจวมู่หยัน โปรดิวเซอร์ของเทียนหัวสตูดิโอ
เขาใส่สูทสบายๆ ซึ่งก็ถือเป็นชุดสุภาพในวงการเกมแล้ว
แต่พอเห็นกลุ่มคนที่ขึ้นมาหา สายตาเขาก็พุ่งไปทางเผยเชียนทันที
แม่ง สูทสั่งตัดเลยนะ!
โจวมู่หยันมองแค่แวบเดียวก็รู้ว่าสูทที่เผยเชียนใส่เป็นของราคาแพง น่าจะ
ราคาหลักหมื่นเป็นอย่างต่ำ!
เขากลายเป็นฝ่ายที่รู้สึกกดดันขึ้นมาแทน รู้สึกเหมือนว่าตัวเองแพ้ในแง่
ภาพลักษณ์…
ขณะเดี ย วกั น เขาก็ น ึ ก อิ จ ฉาที ่ อ ี ก ฝ่ า ยเป็ น ถึ ง บอสที ่ ส ร้ า งเกมประสบ
ความสำเร็จอย่างแม่ทัพผี ทั้งๆ ที่ยังดูอ่อนวัยเหมือนเด็กฝึกงาน!
หรือหมอนี่จะเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลร่ำรวย
ใช่ ต้องเป็นแบบนั้นแน่
ไม่มีทางที่คนธรรมดาจะมีปัญญาซื้อเสื้อผ้าแบบนี้
เจ้าของบริษัทเปิดใหม่ส่วนใหญ่จะขี้งก อีกอย่างเสื้อผ้าราคาแพงก็ไม่ได้จำเป็น
ในอุตสาหกรรมเกม
ทั้งสองทักทายกันตามมารยาท “ผมได้ยินเกี่ยวกับคุณมาเยอะเลยครับ”
แต่จริงๆ แล้วไม่มีใครรู้เรื่องของอีกฝ่ายเลย…
เผยเชียนไม่รู้ว่าเทียนหัวสตูดิโอผลิตเกมอะไรบ้าง โจวมู่หยันรู้ แค่ว่าเผยเชียน
เป็นคนสร้างเกมแม่ทัพผี นอกจากนั้นก็ไม่รู้อะไรเลย
เพราะทั้งสองไม่รู้จักกันจึงไม่ได้เอ่ยยกยออะไรอีกฝ่าย จากนั้นโจวมู่หยันก็พา
พวกเขาเดินชมรอบสตูดิโอ
“ตรงนี้เป็นบริเวณที่เราใช้อัดเสียง สตูดิโออยู่ถัดไป”
“แน่นอนว่าเราทำเพลงในเกมกับเสียงเอฟเฟ็กต์ทั้งหมดเองโดยเฉพาะ”
“ตรงนี้เป็นโซนทำงาน ตรงนั้นคือทีมงานภาพของเรา กำลังวาดภาพออริจินัล
กันอยู่”
“ส่วนตรงนี้คือจุดที่เราใช้อบรมเรื่องความรู้เกี่ยวกับการออกแบบเกม”
“นี่คือชุดคอสเพลย์ที่เซเลบริตี้ที่เราจ้างมาใส่ เสร็จแล้วก็เก็บเอาไว้ตรงนี้ตั้งแต่
ตอนนั้น”
“ผนังตรงนี้เป็นจุดแสดงสินค้าจากตัวเกมของเรา”
“ตรงนี้คือมุมพักผ่อน ส่วนตรงนู้นคือโรงอาหาร…”
โจวมู่หยันพาพวกเผยเชียนเดินรอบๆ ขณะเดียวกันก็แอบดูปฏิกิริยาของพวก
เขา
เทียนหัวสตูดิโอถือเป็นบริษัทเก่าแก่ในตลาดเกมภายในประเทศ รูปแบบการ
ทำงานของพวกเขาจะเป็นไปตามธรรมเนียมดั้งเดิม คือมีสตูดิโออัดเสียงและ
ทีมงานภาพเป็นของตัวเอง เกือบทุกส่วนในเกมสร้างเองหมด ไม่เหมือนบริษัท
เถิงต๋าที่ซื้อทรัพยากรงานภาพและเสียงจากเว็บไซต์รวมทรัพยากร
โจวมู่หยันแปลกใจเมื่อเห็นเสี่ยวลู่และคนอื่นๆ ที่ตื่นเต้นกันตอนอยู่หน้าตึก
ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไร…
ทำไมกลับกันล่ะ
ก่อนหน้านี้มีนักศึกษามาดูงานเหมือนกัน ถึงพวกเขาจะไม่แสดงอาการอะไร
ตอนอยู่ด้านนอก แต่พอเข้ามาด้านในก็ตื่นเต้นกันยกใหญ่
นั่นก็เพราะในบริษัทของเขามีมุมพักผ่อน โรงอาหาร ห้องครัว และห้อง
สั น ทนาการ ถื อ เป็ น สภาพแวดล้ อ มการทำงานที ่ น ่ า ตื ่ น ตาตื ่ น ใจ ทำให้ พ วก
นักศึกษาตื่นเต้นกันใหญ่เมื่อได้เห็นห้องต่างๆ และฝันอยากเข้ามาทำงานในบริษัท
ของเขา
แต่ทำไมพวกคนจากบริษัทเถิงต๋าถึงไม่ได้ดูตื่นเต้นอะไรเลย
ดูสิ นี่ห้องสันทนาการเลยนะ! มุมพักผ่อนก็มี!
ทีวีจอใหญ่นี่สวยใช่ไหมล่ะ โซฟาก็นั่งสบาย
ทำไมพวกนายไม่แสดงอาการอะไรกันเลยล่ะ!
โจวมู่หยันงงไปหมด
แต่เป็นเรื่องปกติที่พวกเผยเชียนจะไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไร
พอได้เห็นห้องสันทนาการกับมุมจิบกาแฟ หลายคนก็ผุดคิดขึ้นมาเหมือนกัน
หมด
แค่นี้เองหรือ
กล้าเรียกที่อุดอู้แบบนี้ว่าเป็นห้องสันทนาการหรือ มีแค่ทีวี จอเล็กๆ กับเกม
เครื่องเดียวเนี่ยนะ
มุมจิบกาแฟก็มีขนมแค่ไม่กี่ห่อ แถมมีป้ายติดไว้ด้วยว่าพนักงานคนหนึ่งกินได้
เท่าไหร่ พวกนายกล้าเรียกว่าเป็นมุมจิบกาแฟจริงๆ หรือ
โม้มาตั้งนาน แต่ทุกอย่างที่มีสู้ของบริษัทเถิงต๋าไม่ได้เลย!
แน่นอนว่าพวกเขาพูดออกไปแบบนั้นไม่ได้ ทำได้แค่รู้สึกผิดหวังอยู่ในใจ…
เป็นอะไรที่น่าผิดหวังสุดๆ!
นี่คือสภาพแวดล้อมการทำงานของบริษัทเกมชั้นแนวหน้าหรือ
ต่างกับที่บริษัทเถิงต๋าราวฟ้ากับเหว!
ถึงภายนอกจะดูดี แต่ข้างในกลับช่างน่าเวทนา!
พวกเขาดูเฉยเมย
หม่าหยางนึกคำสั่งของเผยเชียนขึ้นได้ เขาคิดว่าถึงเวลาให้พิสูจน์ตัวเองแล้ว
เขาจะให้สถานการณ์กระอักกระอ่วนไปมากกว่านี้ไม่ได้! หม่าหยางต้องถาม
คำถามแสดงความคิดเห็น!
คิดได้แบบนั้น เขาก็มองไปที่โซนทำงานซึ่งแน่นขนัดพร้อมถามออกไปอย่ างไม่
คิดอะไร “โห วันนี้วันเสาร์ไม่ใช่หรือครับ ทำไมมีคนอยู่ทำงานล่วงเวลาเยอะจัง”
โจวมู่หยันอึ้งไป
นั่นมันคำถามบ้าอะไร
ทุกบริษัทเกมในประเทศทำงานตามระบบ 996 หมด! ถ้าวันนี้ไม่ใช่วันทำงาน
แกคิดว่าฉันจะมาพาแกเดินชมสตูดิโอหรือ
คำถามของหม่าหยางฟังดูโง่เสียจนโจวมู่หยันไม่รู้จะตอบอย่างไร…
หวงซื่อปั๋วรีบตอบทันทีเพื่อแก้สถานการณ์ “อ๋อ ปกติก็ทำงานล่วงเวลากัน
แบบนี้แหละครับ”
หม่าหยางพยักหน้า “อ๋อ พวกเขาจะได้เงินล่วงเวลากันด้วยนี่เนอะ มีพนักงาน
ทำงานล่วงเวลาเยอะขนาดนี้ บริษัทก็ต้องจ่ายค่า ล่วงเวลาเยอะทุกเดือนเลยสิ
ครับ”
ค่าล่วงเวลาหรือ
โจวมู่หยันยิ่งอึ้งเข้าไปใหญ่
เขางงมากว่าไอ้หน้าใหญ่นี่มาจากไหนกัน!
ทำไมไอ้นี่ถึงพูดเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับวงการนี้เลย
บริษัทเกมไหนกันจะจ่ายเงินล่วงเวลา ระบบ 996 เป็นเรื่องปกติของทุก
บริษัท!
พอเห็ น สี ห น้ า แปลกๆ ของโจวมู ่ ห ยั น หวงซื ่ อ ปั ๋ ว และคนอื ่ น ๆ ก็ เ ข้ า ใจ
สถานการณ์ทันที
แต่หม่าหยางไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย เขาทำท่าเหมือนจะถามคำถามเพิ่มอีกด้วย
ซ้ำ
เผยเชียนดึงหม่าหยางออกมาทันที
ไอ้บ้า! ถามอะไรออกไปเนี่ย!
เราไม่ได้บินมาไกลเพื่อสร้างศัตรูนะ!
หม่าหยางยักไหล่ ไม่เข้าใจว่าทำไมเผยเชียนถึงดึงเขาออกมา
ฉันถามอะไรผิด ที่พูดไปก็เรื่องปกติไม่ใช่หรือ
โชคดีที่เขาไม่ได้โง่ขนาดที่จะถามอะไรต่อและเงียบไป
โจวมู่หยันพูดอะไรไม่ออก แต่เขาก็เป็นมืออาชีพพอที่จะมองข้ามเรื่องน่า
รำคาญนี้ไปและแนะนำสตูดิโอต่อ
แต่ความตื่นเต้นของพวกเผยเชียนก็เลือนหายไปแล้วตั้งแต่ได้เห็นความเป็น
จริง ท่าทีของทุกคนดูเฉยเมย
โจวมู่หยันไม่พอใจเรื่องนี้มาก ทุกคนควรจะตื่นเต้นและอิจฉาสิ
เขามั่นใจว่าสภาพแวดล้อมการทำงานของเทียนหัวสตูดิโอนั้นดีกว่าร้อยละเก้า
สิบของบริษัทเกมภายในประเทศ
เป็นเรื่องแปลกมากที่พวกเขาไม่นึกอิจฉา
เสี่ยวลู่มองโซนทำงานแล้วพึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว “โซนทำงานดูคับแคบ
จัง…”
บทที่ 52 เล่าเรื่องราวความสำเร็จ

แคบหรือ
พูดจริงดิ!
โจวมู่หยันมองโซนทำงานของสตูดิโอตัวเอง มันแคบตรงไหน ก็เหมือนๆ กับ
บริษัทส่วนใหญ่ไม่ใช่หรือ ทุกคนมีโต๊ะทำงานเป็นของตัวเองเหมือนบริษัทอื่น!
ไม่ใช่แค่นั้น เทียนหัวสตูดิโอมีตึกสำนักงานเป็นของตัวเองจึงมีพื้นที่มากกว่า
บริษัทอื่น!
พวกนี้คงจะตาบอดที่บอกว่าคับแคบ…
หวงซื่อปั๋วรู้ว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ เทียนหัวสตูดิโอ แต่เป็นเพราะบริษัทเถิงต๋า
กว้างเกินไปต่างหาก!
บริษัทไหนกันจะเป็นแบบบริษัทเถิงต๋า แม้แต่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ทำ
แบบนี้เลย!
แต่เพราะทุกคนทำงานในบริษัทเถิงต๋ามากันพักใหญ่จนชินกับสภาพแวดล้อม
การทำงานของบริ ษ ั ท เถิ ง ต๋ า ไปแล้ ว ทำให้ พ วกเขาหดหู ่ ใ จเมื ่ อ ได้ เ ห็ น
สภาพแวดล้อมการทำงานอันแตกต่างของเทียนหัวสตูดิโอ
สิ่งที่เห็นทำให้พวกเขาหมดความสนใจ ไม่ต่างกับคนที่อยู่บ้านหรูริมทะเลซึ่ง
ต้องมาทนฟังพนักงานขายโม้เรื่องอพาร์ตเม้นต์หรูสามห้องนอน…
พวกเขาต่างฝันสลาย!
ตอนแรกทุกคนตื่นเต้นมากที่จะได้ไปเทียนหัวสตูดิโอ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็น
ไม่รู้สึกอะไรไปแล้ว!
โซนทำงานคับแคบมาก
สเป็กคอมพิวเตอร์ก็ธรรมดา หน้าจอคู่ก็ไม่มี
วางขนมไว้สองสามห่อก็เรียกว่าเป็นมุมจิบกาแฟ
ห้องสันทนาการมีแค่ทีวีเครื่องเล็ก พวกเขาเป็นยาจกกันหรือ
ไม่ใช่แค่นั้น ทางสตูดิโอยังบังคับให้พนักงานทำงานตามระบบ 996 แถมยังไม่
จ่ายค่าล่วงเวลา!
ที่นี่คือบริษัทเกมชั้นแนวหน้าภายในประเทศจริงๆ หรือ ห่างชั้นกับบริษัท
เถิงต๋ามาก!
ความรู้สึกเหมือนบังเอิญเจอรักครั้งแรกของตัวเองอีกครั้งหลังจากแต่งงานไป
หลายปี แต่เธอกับอ้วนฉุ กลายเป็นยายแก่ไปแล้ว จากนั้นพวกเขาจึงตระหนักได้
ว่าภรรยาของตัวเองสวยกว่ามาก!
บอสเผยเป็นบอสที่ดีที่สุดในโลกจริงๆ ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ!
พวกเขาควรเลิกคิดอะไรไร้สาระและอุทิศชีวิตทำงานเพื่อบอสเผย!

โจวมู่หยันเริ่มรู้สึกกระอักกระอ่วนใจหลังจากคุยโวไปมาก เพราะอีกฝ่ายมอง
เขาราวกับกำลังเย้ยหยันอยู่ พานทำให้ไม่อยากโม้อะไรต่อ
“ไปต่อกันดีกว่าครับ ผมจัดสรรเวลาไว้เป็นช่วงพูดคุยกันเรื่องความสำเร็จที่
ผ่านมา ทุกคน เชิญทางนี้เลยครับ”
ทุกคนมาถึงห้องประชุมขนาดใหญ่ของเทียนหัวสตูดิโอ
กำหนดการวันนี้จัดเตรียมโดยเลขาซินและกลุ่มพนักงานของเทียนหัวสตูดิโอ
ช่วงแลกเปลี่ยนประสบการณ์อยู่ในกำหนดการที่ว่า
เลขาซินวางกำหนดการตามธรรมเนียมการศึกษาดูงานตามปกติ จะให้กลับ
ออกไปหลังจากชมบริษัทเสร็จคงไม่ดีเท่าไหร่เพราะเดินทางมาตั้งไกล
จุดประสงค์ที่มาก็เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นจะต้อง
แบ่งปันเรื่องราวความสำเร็จเพื่อทำให้การมาศึกษาดูงานครั้งนี้คุ้มค่า
เนื่องจากทางฝั่งบริษัทเถิงต๋าพาพนักงานมายี่สิบกว่าคน ฝั่งเทียนหัวสตูดิโอจึง
จั ด คนจำนวนเท่ า กั น ให้ เ ข้ า ร่ ว ม จากนั ้ น แต่ ล ะฝั ่ ง จะให้ ค นออกไปแบ่ ง ปั น
ประสบการณ์
คนแรกที่ออกไปพูดคือซุนฉีที่ออกมาต้อนรับในตอนแรก เขาเป็นหนึ่งในทีม
นักออกแบบหลักของเกม MMORPG ฟอร์มยักษ์ที่ผลิตโดยเทียนหัวสตูดิโอ
ซุนฉีเริ่มด้วยการกล่าวต้อนรับบอสเผยและคณะที่เดินทางมาไกล ซึ่งก็เรียก
เสียงปรบมือจากผู้ฟังได้ ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง
หลังจากนั้น เขาก็พ ูดถึงเรื่อ งราวความสำเร็จของตัว เองที ่ไ ด้ รั บผิ ด ชอบ
ออกแบบเกม MMORPG
เผยเชียนหยิบสมุดพกเล่มเล็กออกมาจดยุกยิก ขณะฟังอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ
พร้อมพยักหน้าไปด้วย
ไม่นานเขาก็ให้กำเนิดเต่าขึ้นมาตัวหนึ่ง
จากนั้นก็มีหนูกับเป็ดตามมา…
เขาไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง!
ที่ทำไปแบบนั้นก็เพราะเผยเชียนนั่งอยู่แถวหน้า จะหลับก็ไม่ได้
จริงๆ แล้วสิ่งที่ซุนฉีพูดไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไร หวงซื่อปั๋วและคนอื่นๆ เข้าใจ
กันหมด แต่ระหว่างที่พูดมีศัพท์เฉพาะทางกับคำย่อภาษาอังกฤษโผล่มามากมาย
สีหน้าและท่าทางของซุนฉีทำให้เผยเชียนรู้ว่าเกมที่เขาพูดถึงเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่มาก
แต่ก็ไม่ได้เข้าใจรายละเอียดเบื้องลึกอะไรเลย
ไม่นานซุนฉีก็พูดจบ เผยเชียนที่กำลังจะหลับสะดุ้งขึ้นมานำปรบมือ
ต่อไปเป็นฝั่งของบริษัทเถิงต๋า
อีกฝ่ายเล่าเรื่องราวความสำเร็จของตัวเองไปแล้ว ตามมารยาท บริษัทเถิงต๋าก็
ต้องเล่าบ้าง
หวงซื่อปั๋วเป็นตัวแทนออกไปเล่าเรื่องความสำเร็จของเกมแม่ทัพผี เกมฐาน
ทัพกลางทะเลยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ไม่มีใครรู้ว่าจะได้รับความนิยมหรือเปล่า ดังนั้น
จึงไม่เหมาะที่จะพูดถึงเกมนี้
ว่ากันตามตรง เผยเชียนควรเป็นคนออกไปเล่าเพราะเขาสร้างเกมแม่ทัพผี
ขึ้นมากับมือ
แต่เผยเชียนตอบปฏิเสธอย่างเด็ดขาด เหตุผลข้อแรกคือ เขาไม่อยากออกไป
พูดต่อหน้าคนอื่น ข้อสองคือ เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น เกมแม่ทัพผี
ถึงได้ประสบความสำเร็จแบบนี้…
เพราะเหตุนี้ พอเลขาซินแจ้งว่าจะมีช่วงแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เผยเชียนก็
โยนหน้าที่ออกไปพูดให้หวงซื่อปั๋วอย่างรวดเร็ว
เสียงปรบมือดังก้องห้องเมื่อหวงซื่อปั๋วขึ้นไปบนเวที
“ก่อนอื่นผมขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่าผมไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเกมแม่
ทัพผี เกมนี้บอสเผยสร้างขึ้นมาเองด้วยตัวคนเดียว แต่หลังจากที่ผมได้เข้ามา
ทำงานในบริษัทเถิงต๋า ผมก็พยายามศึ กษาเรื่องเกมแม่ทัพผี ผมมั่นใจว่าตัวผม
พอจะรู้เรื่องตัวเกมและแนวทางการออกแบบเกมของบอสเผยบ้าง”
“บอสเผย ถ้าผมอธิบายตรงไหนผิด ท้วงติงได้เลยนะครับ”
“ผมคิดว่ามีปัจจัยอยู่สามอย่างที่ทำให้เกมแม่ทัพผีประสบความสำเร็จ”
“อย่างแรกคือ คุณภาพเกมที่ยอดเยี่ยมและงานภาพที่ฉีกแนวเดิมๆ”
“จากที่ผมทราบมา บอสเผยใช้ทุนกว่าครึ่งไปกับทรัพยากรงานภาพ ไม่ใช่แค่
นั้นนะครับ บอสยังลองเสี่ยงจ้างนักวาดหน้าใหม่ด้วย! พองานภาพสไตล์มหา
กาพย์หมึกสีน้ำมันออกสู่สาธารณะ ชาวเกมเมอร์ก็ชมเชยกันยกใหญ่ ที่เป็นแบบนี้
ก็เพราะวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและรสนิยมด้านความงามอันเหนือชั้นของบอสเผย”
“บอสเผยไม่ได้ทำให้เกมแม่ทัพผีโด่งดังเพียงอย่างเดียว ยังทำให้งานภาพอัน
เป็นเอกลักษณ์ของหร่วนกวางเจี่ยนดังไปด้วย ถือว่าได้ประโยชน์กันทั้ง สอง
ฝ่าย…”
“อย่างที่สองคือ ราคาของให้ซื้อเพิ่มในเกมที่เป็นมิตร”
“ยอดสูงสุดที่ผู้เล่นจะจ่ายให้เกมแม่ทัพผีได้คือสี่สิบหยวน เทียบกับเกมการ์ด
มือถืออย่างเกมสามก๊กสุดคิวต์ที่เป็นเกมกอบโกยเงินจากผู้เล่นแล้ว รูปแบบการ
เล่นที่ยุติธรรมกับผู้เล่นทั้งหมดทำให้เหล่าเกมเมอร์ชื่นชมและเคารพในตัวเกม
ขณะเดียวกัน กลยุทธ์ตั้งราคาต่ำแต่เน้นยอดขายจำนวนมากก็ทำให้เกมขายดีเป็น
เทน้ำเทท่าจากการบอกปากต่อปาก…”
“อย่างที่สามคือ กลยุทธ์การตลาดแบบพิเศษ!”
“เนื่องจากเงินทุนทั้งหมดเทไปที่การพัฒนาตัวเกม เกมแม่ทัพผีจึงประสบ
ปัญหาขาดแคลนเงินทุนในการโฆษณา! บอสเผยคิดนอกกรอบและโฆษณาเกม
ผ่านเว่ยป๋อ สร้างกระแสฮือฮาในวงการนักวาด ก่อนที่จะดังไปถึงวงการเกม
กลายเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ยอดเยี่ยม…”
“ผมคิดว่าเราสามารถยกกลยุทธ์การตลาดนี้มาเป็นกรณีศึกษาได้เรื่อยๆ!”
หวงซื่อปั๋วเตรียมตัวมาอย่างดีจึงมั่นใจมาก
เขาไม่เคยถามเผยเชียนเรื่องเบื้องหลังการสร้างเกมแม่ทัพผีเลยสักครั้ง เขาค้น
ข้อมูลทุกอย่างด้วยตัวเองจากรีวิวบนอินเทอร์เน็ต เว่ยป๋อของหร่วนกวางเจี่ยน
และอื ่ น ๆ จากนั ้ น ก็ พ ยายามเอาข้ อ มู ล ที ่ ไ ด้ ม าวิ เ คราะห์ ร ่ ว มกั บ นิ ส ั ย และ
กระบวนการคิดของบอสเผย
ข้อมูลทั้งหมดที่เขาพูดไปได้มาจากวิธีนี้
ระหว่างที่หวงซื่อปั๋วอธิบาย เขาก็มองไปทางเผยเชียนเป็นพักๆ
บอสเผยยิ้มไป พยักหน้าไป!
ฉันเดาถูกจริงๆ ด้วย!
หวงซื่อปั๋วรู้สึกภูมิใจมาก ถึงเขาจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างเกมแม่ทัพผี แต่
การที่เขาสามารถเข้าใจกระบวนการคิดของบอสเผยตอนที่สร้างเกมนั้นถือเป็น
เรื่องที่ยอดเยี่ยม เพราะแปลว่าเขาสามารถคิดตามที่บอสเผยคิดได้นั่นเอง!
เผยเชียนบ่นอุบอยู่ในใจระหว่างที่กำลังพยักหน้า
พูดได้เยี่ยมจริงๆ เขาพูดเรื่องที่แม้แต่ฉันเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนั้นในหัวคิด
อะไรอยู่
ด้านล่างเวที ซุนฉี โจวมู่หยัน และพนักงานฝั่งเทียนหัวสตูดิโอคนอื่นๆ กำลัง
ฟังอย่างตั้งใจพร้อมจดโน้ตตามไปด้วย
โจวมู่หยันได้แต่คร่ำครวญในใจว่าชายหนุ่มผู้นี้เก่งจริงๆ!
ถึงบอสเผยจะยังเด็ก แต่ก็เป็นคนมีกึ๋น!
ทั้งทุ่มเงินทั้งหมดไปกับการพัฒนาเกม ไม่เหลือไว้เป็นค่าโฆษณาสักหยวน
เดียว ไหนจะใจกล้าจ้างนักวาดหน้าใหม่มาวาดงานภาพสไตล์ใหม่เพื่อฉีกแนวเกม
การ์ดที่มีอยู่ในตลาด…
นี่ไม่ใช่สิ่งที่นักออกแบบทั่วไปจะทำได้!
ใจกล้าจริงๆ! ไม่กลัวว่าจะขาดทุนเลยหรือ!
เป็นได้สูงมากว่าเด็กคนนี้จะเป็นทายาทลำดับสองของตระกูลร่ำรวยจริงๆ
ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะกล้าเสี่ยงโดยไม่สนใจอะไรแบบนี้…
นี่หรือคือสิ่งที่เรียกว่าหัวคิดต่างกัน คนเก่งสามารถจัดการเรื่องต่างๆ ได้อย่าง
ง่ายดาย…
โจวมู่หยันคิดเองเออเอง รู้สึกนับถือเผยเชียนมากขึ้น
ไม่นานหวงซื่อปั๋วก็พูดจบ เสียงปรบมือจากบรรดาผู้ชมดังกระหึ่ม!
เผยเชียนสัมผัสได้ถึงสายตาเคารพบูชาที่มองมา
เป็นสายตาชื่นชมยกย่องคนอัจฉริยะ!
บทที่ 53 รอยยิ้มของบอสเผย

โจวมู่หยันเป็นคนต่อไปที่ต้องขึ้นไปพูด
นี่คือช่วงสุดท้ ายของการแลกเปลี่ ยนประสบการณ์ โดยโจวมู่หยั นจะมา
แนะนำเกม FPS ที่พวกเขากำลังสร้างกันอยู่อย่างคร่าวๆ!
เลขาซินวางไว้ว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดในกำหนดการ
ถึงจะบอกว่าเป็นช่วงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แต่บริษัทเถิงต๋ากับเทียนหัวสตูดิโอก็
แตกต่างมาก เห็นได้ชัดเจนว่าใครเป็นฝ่ายเรียนรู้จากใคร
ในเมื่อเทียนหัวสตูดิโอกำลังผลิตเกมแนว FPS และเกมฐานทัพกลางทะเลเอง
ก็เป็นเกม FPS เหมือนกัน การได้เรียนรู้จากเทียนหัวสตูดิโอที่มีความรู้เกี่ยวกับ
เกม FPS มากกว่าจึงเป็นประโยชน์กับบริษัทเถิงต๋า!
หวงซื่อปั๋วและคนอื่นๆ ฟังกันอย่างตั้งใจ หวังว่าจะได้ข้อมูลเชิงลึกจากโจวมู่
หยันที่สามารถนำไปพัฒนาคุณภาพเกมฐานทัพกลางทะเลได้ในภายหลัง
โจวมู่หยันทั้งมีเสน่ห์และเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
“เกมที ่ เ รากำลั ง สร้ า งอยู ่ ต อนนี ้ เ ป็ น เกมแนว FPS ชื ่ อ กระสุ น เพชรฆาต
เป้าหมายของเราคือก้าวข้ามเกม Counter Strike!”
“องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของเกมแนว FPS คือเรื่องการควบคุม ผู้เล่นเกม
แนว FPS ส่วนใหญ่เป็นพวกผู้เล่นมืออาชีพ พวกเราศึกษามาแล้วพบว่าผู้เล่นส่วน
ใหญ่ของเกม Counter Strike ชอบใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกเล็งและฝึกยิง
จริงๆ แล้วพวกเขาใช้เวลาฝึกฝนกันหลายวัน เพื่อให้กล้ามเนื้อสามารถจดจำการ
เคลื่อนไหวเมาส์ได้!”
“สำหรับชาวเกมเมอร์ รายละเอียดเล็กน้อยทุกจุดสามารถใช้เป็นตัวตัดสินได้
ว่าจะเลือกเล่นเกมนี้ดีหรือเปล่า”
“ดังนั้นในเรื่องการควบคุม ผมบอกพวกคุณได้เลยว่าเกมกระสุนเพชรฆาตมี
การควบคุมคล้ายการควบคุมของเกม Counter Strike อย่างน้อย 90%! ถือเป็น
เป้าหมายที่ยากมากๆ ที่จะทำให้สำเร็จได้สำหรับเกม FPS ในประเทศ แต่เราก็
สามารถทำได้!”
“ขณะเดียวกันเราก็ทุ่มเทเรื่องงานภาพไปด้วย ทั้งปืนและเสื้อผ้า เรายึดแบบ
ตามกองกำลังพิเศษของต่างประเทศ เราถึงกับจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารมา
ช่วยดูงานของเรา เพื่อที่เกมเมอร์ที่คลั่งเรื่องการทหารจะได้ไม่เจอจุดให้ติ”
“ไม่ ใ ช่ แ ค่ น ั ้ น นะครั บ เราตั ้ ง ใจจะนำรู ป แบบการตั ้ ง เพดานราคาในเกม
MMORPG ของเรามาใส่ในเกมกระสุนเพชรฆาต โดยตัวเกมจะสามารถเล่นได้ฟรี
แต่ต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์ในเกม ตรงนี้จะเป็นจุดทำเงินของเกมแนว FPS!”
หลังจากได้ยินที่โจวมู่หยันอธิบาย สีหน้าของหวงซื่อปั๋วก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ซวยแล้ว
เกมฐานทัพกลางทะเลแย่แน่ๆ!
แนวคิดการออกแบบเกมฐานทัพกลางทะเลของเราตรงข้ามกับเกมกระสุน
เพชรฆาตหมดเลย!
เกมกระสุนเพชรฆาตเน้นพวกผู้เล่นมืออาชีพ ออกแบบการควบคุมตามเกม
Counter Strike เต็มที่! ไม่ใช่แค่นั้น เกมนี้ยังออกแบบปืนและเครื่องแต่งกายตาม
คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารอีกด้วย!
ถึ ง ทั ้ ง สองเกมจะเก็ บ เงิ น จากอุ ป กรณ์ ใ นเกมเหมื อ นกั น แต่ เ กมกระสุ น
เพชรฆาตถื อ ไพ่ เ หนื อ กว่ า ตรงที ่ ม ี ร ู ป แบบการวางเพดานราคามาจากเกม
MMORPG ของพวกเขา! เกมฐานทัพกลางทะเลไม่มีอะไรเป็นเกณฑ์เลย!
หมายความว่าอย่างไรน่ะหรือ
ก็หมายความว่าผู้เล่นมือ อาชีพ จากเกม Counter Strike จะมองว่าเกม
กระสุนเพชรฆาตน่าสนใจกว่า!
ถึงเกม Counter Strike จะดังมากๆ แต่ก็เป็นเกมเก่าและไม่ถือว่าเป็นเกม
ออนไลน์ ปัจจุบันหลายๆ บริษัทกำลังสร้างเกม FPS ให้ออกมาเป็นเกมออนไลน์
เต็มรูปแบบ เพื่อที่จะได้ดึงแฟนเกม Counter Strike มาเล่น
แต่คำตอบก็ช ัดเจน ถ้าพวกผู้เล่นเกม Counter Strike เห็นเกมกระสุน
เพชรฆาตกับเกมฐานทัพกลางทะเลพร้อมกัน พวกเขาต้องเลือกเล่นเกมกระสุน
เพชรฆาตแน่
ถ้าสองเกมนี้ออกมาชนกัน เกมฐานทัพกลางทะเลก็ตายตั้งแต่เริ่มเลยสิ
หวงซื่อปั๋วเริ่มขวัญเสีย ยิ่งได้ฟังข้อมูลก็ยิ่งคิดว่าเกมฐานทัพกลางทะเลต้องเจ๊ง
แน่!
พวกเขาควรทำอย่างไรดี
เขาหันไปมองเผยเชียนโดยไม่รู้ตัว
แต่เขากลับไม่เห็นบอสเผยเป็นกังวลอะไร บอสของเขากลับยิ้มกว้างขึ้น
เรื่อยๆ!
ทำไมกัน
หวงซื่อปั๋วงงว่าทำไมบอสเผยถึงอารมณ์ดีแบบนั้น หลังจากรู้ว่าเกมกระสุน
เพชรฆาตกับเกมฐานทัพกลางทะเลต่างกันมาก
หรือว่า…
ทันใดนั้นหวงซื่อปั๋วก็เข้าใจ
รอยยิ้มของบอสเผยเป็นรอยยิ้มแห่งความมั่นใจ
เห็นได้ชัดว่าบอสเผยมองว่าเกมกระสุนเพชรฆาตเป็นคู่แข่งสำคัญ เพราะเหตุ
นี้เขาจึงมาดูงานที่เทียนหัวสตูดิโอ เพื่อดูว่าเกมกระสุนเพชรฆาตในตอนนี้เป็น
อย่างไร
ถึงเกมกระสุนเพชรฆาตกับเกมฐานทัพกลางทะเลจะแตกต่างกัน แต่รอยยิ้ม
ของบอสเผยก็ตีความได้แค่อย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือเขามั่นใจว่าเกมกระสุน
เพชรฆาตต้องเจ๊งแน่! นี่คือเหตุผลที่ทำให้เขายิ้มอย่างมั่นใจ! เพราะเขามั่นใจว่า
เกมฐานทัพกลางทะเลจะต้องประสบความสำเร็จ!
หวงซื่อปั๋วได้แต่คิดในใจว่าบอสเผยช่างเป็นคนที่มีลับลบคมใน แต่ก็มองการณ์
ไกล!
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมบอสเผยถึงมั่นใจว่าเกมกระสุนเพชรฆาตน่าจะเจ๊ง และเกม
ฐานทัพกลางทะเลจะประสบความสำเร็จ…
ใครจะไปรู้ คนธรรมดาจะไปเข้าใจความคิดของคนมองการณ์ไ กลอย่างบอส
เผยได้อย่างไร
เมื่อเห็นอย่างนี้เขาก็คิดว่าความรู้ความเข้าใจเรื่องเกมของบอสเผยนั้นเหนือ
ชั้นกว่าโจวมู่หยัน เพราะอย่างนั้นบอสของเขาถึงยิ้มอย่างสบายใจ!
คิดได้แบบนั้นหวงซื่อปั๋วก็ใจเย็นลง ความกังวลก่อนหน้าปลิวหายไปหมด
ถ้าบอสเผยมั่นใจ เกมฐานทัพกลางทะเลจะต้องไม่เป็นไรแน่!

เผยเชียนแสนสุขใจเมื่อได้ฟังโจวมู่หยันอธิบาย
คนฉลาดนี่คิดเหมือนกันจริงๆ!
อิงตามความคิดของโจวมู่หยันแล้ว เกมฐานทัพกลางทะเลจะต้องเจ๊งแน่!
นอกจากนี้เกมกระสุนเพชรฆาตกับเกมฐานทัพกลางทะเลจะออกมาชนกัน
ผลลัพธ์คือ เกมฐานทัพกลางทะเลต้องโดนสอยร่วงแน่นอน!
เทียนหัวสตูดิโอมีทั้งกำลังคนและทรัพยากร พวกเขาเหนือชั้นกว่าบริษัท
เถิงต๋าหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพตัวเกมหรือเรื่องการตลาด
เมื่อมีคู่แข่งอย่างเกมกระสุนเพชรฆาต เกมฐานทัพกลางทะเลย่อมไม่มีโอกาส
ได้ผุดได้เกิดแน่!
นี่คือเหตุผลที่ทำให้เผยเชียนหลุดยิ้มสบายใจ ในที่สุดเขาก็วางใจได้หลังจาก
กังวลมานาน
ครั้งนี้เขาจะต้องได้เสียเงินสมใจ!
ไม่นานโจวมู่หยันก็พูดจบ
เผยเชียนจับมือกับอีกฝ่ายและขอบคุณกันตามมารยาท
“วันนี้ผมได้เรียนรู้อะไรเยอะเลยครับ ขอบคุณมากครับ” เผยเชียนว่าก่อน
โจวมู่หยันตอบกลับ “ไม่เลยครับ คุณเองก็เก่งมากๆ เลยทั้งที่ยังอายุแค่นี้ ทำ
เอาผมทึ่งไปเลย”
ต่อไปคือช่วงปล่อยตามอัธยาศัย ทุกคนสามารถเดินชมเทียนหัวสตูดิโอและ
พูดคุยกันได้ตามใจชอบ
กำหนดการวันนี้ไม่มีอะไรอีก
“บอสเผย ผมมีธุระต้องทำ ต้องขอตัวก่อนนะครับ ซุนฉี ดูแลบอสเผยด้วย”
โจวมู่หยันสั่งซุนฉีก่อนจะบอกลาเผยเชียน
พวกเขามาถึงร้านกาแฟในเทียนหัวสตูดิโอ แต่ละคนสั่งเครื่องดื่ม เตรียมตัว
กลับหลังจากพักผ่อนสักเล็กน้อย
ตอนนั ้ น เองหญิ ง สาวคนหนึ ่ ง ที ่ น ั ่ ง ฟั ง เงี ย บๆ มาตลอดช่ ว งแลกเปลี ่ ย น
ประสบการณ์ก็ปรี่เข้ามาหาเผยเชียน “สวัสดีค่ะบอสเผย หนูชื่อ หลินหวาน ขอ
ถามอะไรสักเล็กน้อยได้ไหมคะ”
เผยเชียนมองหญิงสาวชื่อหลินหวานด้วยความงุนงง
เธอเป็นคนหน้าตาสะสวย คิ้วคม ถึงจะไม่ได้แต่งหน้า แต่แก้มกลับเป็นสีชมพู
ระเรื่อ ดูน่ารักไม่หยอก
“ได้สิ” เผยเชียนพยักหน้า
หลินหวานลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามออกไป “บอสเผยคะ จุดประสงค์
หลักของการสร้างเกมคือเพื่อทำเงินหรือเปล่าคะ”
เผยเชียนอึ้งไป ทำไมจู่ๆ ก็ถามคำถามลึกซึ้งเลยล่ะเฮ้ย…!
จุดประสงค์หลักของการสร้างเกมคือเพื่อทำเงินหรือเปล่า
สำหรับคนส่วนใหญ่อาจจะเป็นแบบนั้น แต่สำหรับฉัน จุดประสงค์หลักคือ
การเสียเงิน…
แต่พูดแบบนั้นออกไปไม่ได้แน่นอน
เผยเชียนกระแอมกระไอ “ไม่ใช่แน่นอน! ผมคิดว่าจุดประสงค์หลักของการ
สร้างเกมควรเป็นการทำให้ผู้เล่นมีความสุขมากกว่า”
ดวงตากลมโตของหลินหวานเป็นประกายขึ้นมาทันใด
นั่นคือคำตอบที่เธออยากได้ยิน!
บทที่ 54 จดหมายลาออกของหลินหวาน

พอเห็นหลินหวานตาเป็นประกาย เผยเชียนก็ตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ
อะไรกันนี่ ฉันพูดอะไรออกไป
ทำไมเธอดูประทับใจขนาดนี้
หลินหวานสำรวมท่าที “บอสเผยคะ ที่บริษัทของบอสเผยไม่มีระบบคัดคน
ออกใช่ไหมคะ”
ระบบคัดพนักงานระดับล่างออกน่ะหรือ
เผยเชียนเคยได้ยินเรื่องระบบนี้มาก่อน แต่ก็ไม่ได้ใช้ระบบที่ว่า
คนที่เขาอยากให้ออกคือพวกขยันทำงาน! แล้วเขาจะไล่พวกขี้เกียจไปได้
อย่างไร
“ไม่มีครับ” เผยเชียนส่ายหน้า “สำหรับผม พนักงานทุกคนก็เป็นเหมือน
ครอบครัว ถึงบางครั้งจะพลาด เราก็ต้องพยายามเดินหน้าไปด้วยกัน จะมาไล่ใคร
ไปง่ายๆ ไม่ได้หรอก”
หลินหวานพยักหน้าก่อนจะหันไปหาหม่าหยาง
บอสเผยต้องพูดความจริงแน่ๆ เพราะไม่เห็นไล่คนแบบนี้ออกเลย!
เธอถามอีกครั้ง “เอ่อ พนักงานบริษัทบอสเผยทำงานล่วงเวลากันไหมคะ”
“โห คำถามยากเลย” เผยเชียนถอนหายใจ “ผมพยายามบอกให้พวกเขากลับ
บ้าน แต่บางคนก็เลือกอยู่ตอ่ กันเอง ผมเลยทำได้แค่จ่ายค่าล่วงเวลาให้พวกเขา”
“แล้วเกมอื่นล่ะคะบอสเผย บอสสร้างขึ้นมาเพื่อทำตามความฝันหรือเปล่า
คะ” สายตาของหลินหวานเป็นประกายยิ่งกว่าเก่า
เผยเชียนกระแอมกระไออย่างกระอักกระอ่วน จากนั้นก็ยิ้มพร้อมส่ายหัว “ก็
ไม่เชิง มันก็เพราะเงินด้วยเหมือนกัน…”
“ฮ่าๆ บอสเผยต้องพูดเล่นแน่! ถ้าทำเพื่อเงินจริงๆ บอสต้องขยายเพดาน
ค่าใช้จ่ายในเกมแม่ทัพผีไปสิบเท่าแล้ว! แต่บอสก็ไม่ทำ! หนูคิดว่าบอสเผยเป็นคน
ที่มีความฝันค่ะ”
หลินหวานเหมือนจะได้คำตอบให้กับตัวเองแล้ว “หนูเข้าใจแล้วค่ะบอสเผย
ขอบคุณนะคะที่สละเวลาช่วยตอบคำถามหนู”
เธอเดินจากไป ทิ้งให้เผยเชียนยืนเกาหัว
ผู้หญิงคนเมื่อกี้…เป็นใครกัน
เหมือนเธอจะอยู่ในช่วงแลกเปลี่ยนความคิดเมื่อครู่ด้วย
ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะเป็นพนักงานใหม่ของเทียนหัวสตูดิโอ…
เผยเชียนไม่ได้สนใจอะไรเธอมากนัก

พวกเผยเชียนใช้เวลาห้าวันเยี่ยมชมบริษัทเกมหลายแห่งในกว่างโจว
แต่ทุกที่ไม่สามารถเทียบชั้นเทียนหัวสตูดิโอได้เลย
ความกระตือรือร้นของเสี่ยวลู่และคนอื่นๆ ค่อยๆ แปรเปลี่ยนกลายเป็นความ
เบื่อหน่าย
พวกเขาควรจะได้เปิดโลกและเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ที่เมืองนี้ไม่ใช่หรือ
ทุกคนเคยคิดว่ากว่างโจวขึ้นชื่อเรื่องอุตสาหกรรมเกมภายในประเทศ และ
บริษัทเกมที่นี่จะต้องยอดเยี่ยมมากแน่ๆ แต่กลับไม่มีที่ไหนดีอย่างที่คิดเอาไว้เลย!
แต่ละที่ไม่ได้ดีไปกว่ากัน!
บริษัทที่ดีที่สุดจากทั้งหมดคือเทียนหัวสตูดิโอที่ไปมาวันแรก
ทุกคนคิดว่าสภาพแวดล้อมการทำงานในเทียนหัวสตูดิโอค่อนข้างแย่ แต่ก็
ได้มารู้ที่หลังว่าบริษัทเกมอื่นๆ นั้นแย่ยิ่งกว่า! ภาพลักษณ์บริษัทเกมในกว่างโจวดิ่ง
ลงเหวไปเรื่อยๆ
พอถึงวันที่ห้าก็ไม่มีใครอยากไปศึกษาดูงานที่บริษัทเกมอื่นๆ อีก
บางคนอยากไปซื้อของฝาก
บางคนอยากใช้โอกาสนี้กินอาหารท้องถิ่นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะกินได้
บางคนทนรอให้ถึงวันกลับไปบริษัทเถิงต๋าแทบไม่ไหวเพื่อที่จะได้ทุ่มเททำงาน
ให้บอสเผย…
สรุปแล้วการศึกษาดูงานครั้งนี้ให้ผลลัพธ์กลับกัน
พวกเขาควรจะได้มาเห็นโลกกว้าง แต่กลับกลายเป็นได้มาเปรียบเทียบว่า
บริษัทเกมไหนในกว่างโจวที่แย่ที่สุด
โดยเฉพาะเทียนหัวสตูดิโอที่ทำให้ภาพฝันของทุกคนแตกสลาย
กลับกันแล้ว พนักงานทุกคนได้บทเรียนอันล้ำค่าว่าบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์ก
เทคโนโลยีรักใคร่และดูแลตนเองดีแค่ไหน!
หวงซื่อปั๋วและคนอื่นๆ หิ้วกระเป๋าบินกลับฮั่นตง ไม่นึกเสียดายเลยที่ต้องจาก
ที่นี่ไป
ได้เวลากลับไปพัฒนาเกมฐานทัพกลางทะเล!


ณ เวลาเดียวกัน ที่เทียนหัวสตูดิโอ
“บอสโจว หนูตัดสินใจแล้วค่ะ หนูอยากลาออก” หลินหวานยื่นจดหมาย
ลาออกให้โจวมู่หยัน
โจวมู่หยันนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาแสนจะดีใจ
ในที่สุดก็รู้แล้วหรือว่าอุตสาหกรรมเกมมันห่วยแตกขนาดไหน เธอคิดจะ
กลับไปเสวยสุขกับมรดกครอบครัวตัวเองสินะ
แสดงว่าภารกิจที่บอสหลินให้มาก็เสร็จสิ้นแล้วสิ
“เธอจะเลิกทำงานในอุตสาหกรรมเกมหรือ” โจวมู่หยันถามอย่างคาดหวัง
หลินหวานส่ายหน้า “เปล่าค่ะ”
โจวมู่หยัน “???”
เธอลาออกจากที่นี่ แต่ไม่ได้จะเลิกทำงานในอุตสาหกรรมเกมหรอกหรือ
แสดงว่ากำลังดูถูกเทียนหัวสตูดิโออยู่สินะ
เดี๋ยวก่อน เราอุตส่าห์ไม่เฉดหัวเธอออก แต่เธอดันเป็นฝ่ายเดินหนีเราไปเนี่ย
นะ…!
โจวมู่หยันเดือดปุด
แน่นอนว่าแม้ในใจจะก่นด่าสาปแช่ง แต่เขาก็ยังคงยิ้มอยู่
“มีอะไรเหรอ เธอไม่ชอบอะไรที่นี่รึเปล่า” โจวมู่หยันฝืนยิ้มใจดี
ถ้าเป็นเด็กทดลองงานคนอื่น เขาคงจะปล่อยไป ไม่ถามอะไรสักคำ
แต่ไม่ใช่กับหลินหวาน เพราะพ่อเธอเป็นคนใหญ่คนโต…
โจวมู ่ ห ยั น รั บ หน้ า ที ่ ส ุ ด หนั ก หนาในการเผยภาพลั ก ษณ์ ท ี ่ แ ท้ จ ริ ง ของ
อุตสาหกรรมเกมให้หลินหวานเห็น เขาจะปล่อยเธอไปแบบนี้ไม่ได้
ถึงจะรั้งไว้ไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องรู้สาเหตุที่ออกและที่ใหม่ที่เธอจะไปสมัคร
ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่รู้จะตอบอะไรถ้าประธานบริษัทเฉินฮว่าคอร์ปอเรชันโทร
มาหา!
“ขอบคุณที่ดูแลหนูมาจนถึงตอนนี้นะคะบอสโจว แต่…หนูคิดว่าหนูคงไม่
สามารถตามความฝันเรื่องเกมได้ที่นี่ ” หลินหวานมองตาละห้อ ยออกไปนอก
หน้าต่าง “หนูอยากย้ายบริษัทค่ะ”
“ไปที่ไหน”
โจวมู่หยันร้อนรน
เทียนหัวสตูดิโอเป็นถึงบริษัทเกมชั้นนำภายในประเทศ
หรือเธอจะอยากออกไปทำงานกับบริษัทต่างประเทศ
ใช่ น่าจะเป็นแบบนั้น…
“หนูว่าจะไปสมัครบริษัทเถิงต๋า” สายตาของหลินหวานเปี่ยมไปด้วยความ
แน่วแน่ เหมือนว่าเธอได้ตัดสินใจเรื่องนี้มานานแล้ว
“เถิงต๋าเหรอ”
โจวมู่หยันไม่ได้นึกออกได้ทันทีว่าเป็นบริษัทอะไร…
ถึงเขาจะเพิ่งต้อนรับเผยเชียนและเหล่าพนักงานบริษัทเถิงต๋าไปเมื่อไม่กี่วัน
ก่อน แต่นั่นก็ไม่ใช่งานสำคัญอะไร หลังจากนั้นไม่นานเขาจึงลืมเรื่องนี้ไป
เขาตื่นตกใจเมื่อนึกได้ว่าเป็นบริษัทไหน
เถิงต๋า…คือบริษัทเปิดใหม่!
พวกเขาสร้างแต่เกมมือถือ! เทียบกับสตูดิโอเฉินฮว่าแล้วคนละชั้นกันเลย!
ฉันไม่ห้ามเธอหรอกถ้าเธออยากตามฝันในวงการเกมต่อ จริงๆ แล้วถ้าเธอจะ
ไปทำงานกับบริษัทต่างประเทศ ฉันก็ไม่ว่าอะไร แต่เธอจะไปทำอะไรที่บริษัทเปิด
ใหม่โง่ๆ นี่!
โจวมู่หยันกระแอมกระไอ “คิดดีแล้วรึยัง ที่นั่น…ไม่น่าจะมีสภาพแวดล้อมการ
ทำงานที่ดีเท่าเรา เดี๋ยวเธอจะผิดหวังเอานะ”
หลินหวานส่ายหน้า “หนูเชื่อในตัวบอสเผย หนูเห็นบางสิ่งที่แตกต่างในตัวเขา
เป็นคุณสมบัติบางอย่างที่แตกต่างจากคุณและนัก ออกแบบเกมคนอื่นๆ… เขา
เหมือนมีออร่าความยอดเยี่ยมแผ่ออกมาจากตัว! หนูเชื่อลางสังหรณ์ของตัวเอง
ค่ะ!”
โจวมู่หยันอ้าปากค้าง นึกสงสัยว่าเด็กคนนี้โดนเผยเชียนร่ายมนตร์ดำล่อลวง
เอาหรือเปล่า
ทั้งสองคนเพิ่งจะเจอกันเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่จู่ๆ เด็กคนนี้ก็เปลี่ยนฝั่งย้ายค่า ย
เอาดื้อๆ เลย!
ทว่าเมื่อเห็นสายตาแน่วแน่ของหลินหวาน เขาก็รู้ว่าพูดอะไรไปก็ไม่สามารถ
ทำให้เธอเปลี่ยนใจได้ อีกทั้งเขายังไม่กล้าห้ามเธอ
เขารู้ว่าถึงเบื้องหน้าเธอจะดูอ่อนหวาน แต่จริงๆ แล้วเป็นคนหัวรั้น
ประธานบริ ษ ั ท เฉิ น ฮว่ า คอร์ ป อเรชั น เป็ น ผู ้ ป ระกอบการยั ก ษ์ ใ หญ่
ภายในประเทศที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ ถ้าคนอย่างเขาไม่สามารถรับมือกับลูกสาว
ตัวเองได้ และต้องใช้วิธีอ้อมค้อมในการพาเธอกลับบ้านเพื่อไปรับช่วงต่อธุรกิจ
แล้วคนอย่างเขาจะไปต่อกรกับเธอได้อย่างไร
เขาครุ่นคิดเรื่องนี้สักพักแล้วก็ได้แต่ปล่อยเธอไปตามทางของตัวเอง
อย่างไรเธอก็คิดจะไปเข้าบริษัทเล็กๆ มีโอกาสที่เธอจะได้เห็นด้านมืดที่เลวร้าย
ยิ่งกว่าเดิมของอุตสาหกรรมนี้
ถึงตอนนั้นหลินหวานก็จะได้รู้ความจริงเกี่ยวกับวงการนี้แล้วกลับบ้านไปเสวย
สุขกับมรดกของตัวเอง ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
คิดได้แบบนั้นโจวมู่หยันก็รับจดหมายลาออกเอาไว้ “โอเค ขอให้วันหนึ่งเธอ
ตามฝันในวงการเกมได้สำเร็จนะ! เทียนหัวสตูดิโอยังอ้าแขนต้อนรับเธอกลับมา
เสมอ!”
“ขอบคุณค่ะบอสโจว!” หลินหวานกลับออกไปโดยไม่รู้สึกเสียดายแม้แต่น้อย
บทที่ 55 ภารกิจลุล่วง!

ปี 2010 ใกล้เข้ามาแล้วเมื่อพวกเขากลับถึงเมืองจิงโจว
กระบวนการทำงานทุกอย่างในบริษัทเป็นไปอย่างราบรื่น เงินเดือนและค่าเช่า
จ่ายตรงตามกำหนดด้วยเงินทุนระบบ ขอแค่เผยเชียนผลาญเงินทั้งหมดเพื่อให้เกม
เจ๊งได้ เขาก็จะทำเงินห้าแสนหยวนให้ตัวเองได้อย่างง่ายดาย
ตอนนี้มหาวิทยาลัยอยู่ในช่วงสัปดาห์สอบ เผยเชียนไม่อยากสอบตกสักวิชา
เขาจึงไม่ค่อยไปที่บริษัท
ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้สนใจว่าเกมจะออกมาหน้าตาแบบไหน ถ้าเจ๊งก็ถือว่าดี
ที่สุดแล้ว
วันพฤหัสบดีที่ 7 เดือนมกราคม
เผยเชียนสอบเสร็จไปอีกหนึ่งวิชาจากนั้นก็กลับอพาร์ตเม้นต์ที่เช่าไว้ เขาล้ม
ตัวลงนอนเหยียดบนโซฟาแสนนุ่มสบาย
วันปิดบัญชีระบบใกล้เข้ามาแล้ว เผยเชียนผลาญเงินได้ตามเป้า ในที่สุดเขาก็
สบายใจได้
เขาเรียกระบบขึ้นมาเช็กเงินทุนระบบ
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ: เผยเชียน>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1:1>
<วันปิดบัญชีครั้งต่อไป: อีก 25 วัน>
<เงินทุนระบบ: 138,754.5 (↓361,245.5)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 1,255>
เขาทำสำเร็จ!
เผยเชียนผลาญเงินไปได้เกือบหมด!
ชายหนุ่มปลาบปลื้มใจมากจนอยากจะร้องไห้ออกมา จากการพยายามอย่าง
หนักของเขา ในที่สุดกำไรส่วนใหญ่ก็กลายเป็นขาดทุนแล้ว!
ตอนนี้บริษ ัทเถิงต๋ามีรายจ่ายใหญ่ๆ อยู่หลายรายการ เช่น ค่าเช่าพื้นที่
สำนักงาน เงินเดือนพนักงาน เงินค่าล่วงเวลา ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายประจำวัน และค่า
จัดซื้อของต่างๆ นอกจากนี้เผยเชียนยังจัดกินเลี้ยงบริษัทเป็นครั้งคราวเพื่อผลาญ
เงินเล่นอีกด้วย
จากรายจ่ายเหล่านี้ ในที่สุดเขาก็สามารถใช้เงินส่วนใหญ่ที่ได้มาจากเกมแม่
ทัพผีไปได้ ไม่เหลือกำไรในเงินทุนระบบมากเหมือนเมื่อก่อน
เงินทุนระบบในปัจจุบันถือว่ากำลังขาดทุน เมื่อเทียบกับเงินก้อนห้าแสน
หยวนที่ได้มาในตอนแรก
ต่อจากนี้เผยเชียนต้องมั่นใจว่าจะทำสองอย่างนี้ได้สำเร็จ
เขาต้องอัปโหลดเกมฐานทัพกลางทะเลลงแพลตฟอร์มตามที่ระบบกำหนดไว้
ว่าห้ามมีสินค้าที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายภายในหนึ่งสัปดาห์ก่อนถึงวันสรุปบัญชี
จากนั้นเผยเชียนต้องใช้จ่ายเงินที่เหลือไปมั่วๆ เพื่อจะได้ผลาญยอดที่เหลือไป
ให้หมด!
แล้วเขาก็แค่รอให้ถึงวันสรุปบัญชี!
ส่วนเรื่องที่ว่าจะโฆษณาเกมฐานทัพกลางทะเลอย่างไร…
เผยเชี ย นไม่ ไ ด้ ต ั ้ ง ใจจะโฆษณาเกมนี ้ เ ลย เขาคิ ด ว่ า แค่ อ ั ป โหลดเกมขึ้ น
แพลตฟอร์มทางการได้ก็ถือว่าเสร็จงาน ถ้าไม่มีใครมาค้นเจอจะเป็นเรื่องที่ดีมาก!
ถ้าอยากขาดทุน พวกเขาก็ต้องพยายามกีดกันคนไม่ให้ค้นเจอเกมนี้
“ถ้าจะให้ปลอดภัย ฉันควรจัดงานเลี้ยงหลังพัฒนาเกมเสร็จจะได้ผลาญเงินที่
เหลือได้ ยิ่งเหลือน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี”
“ไหนๆ ทุกคนก็ทำงานหนักกัน ฉันว่าคงไม่เกินไปหรอกมั้งถ้าจะพาพนักงาน
ไปดูหนัง กินข้าว แล้วก็ร้องคาราโอเกะ”
คิดได้ดังนั้นเผยเชียนก็โทรหาเลขาซิน
“เลขาซิน เตรียมกำหนดการงานเลี้ยงเย็นวันศุกร์เพื่อฉลองทำเกมฐานทัพ
กลางทะเลเสร็จ เราจะเริ่มที่ไปดูหนัง จากนั้นก็ไปกินข้าว แล้วก็จบที่ร้องคาราโอ
เกะ จองที่ไหนได้ก็จองเลย!”
“ใช่ ผมไม่ได้บอกวันผิด เป็นวันศุกร์ตอนเย็น”
“เสาร์อาทิตย์มันวันหยุด เราจะเอาวันหยุดพนักงานมาจัด เลี้ยงได้ไง มันก็
เหมือนไปเอาเปรียบเขาสิ”
“ใช่ เอาเป็นวันศุกร์ตอนเย็นนี่แหละ”
“โอเค เสร็จแล้วส่งกำหนดการให้ผมดูด้วย ผมต้องการเหมือนเดิม ทุกอย่าง
จัดให้หรู โอเคนะ”
เผยเชียนออกคำสั่งไป ขณะที่เขากำลังจะวางสาย เลขาซินก็พูดขึ้น “ขอเวลา
สักครู่ค่ะบอสเผย ดิฉันมีอีกเรื่อง”
“บอสจำผู้หญิงที่มาคุยกับบอสตอนที่เราไปเทียนหัวสตูดิโอที่กว่างโจวได้ไหม
คะ คนที่ชื่อหลินหวาน”
หลินหวานหรือ
เผยเชียนจำชื่อได้รางๆ
“มีอะไรเหรอ”
“ตอนนี้เธออยู่จิงโจวค่ะ เห็นแจ้งมาว่าอยากทำงานกับบริษัทเรา เธอจริงจัง
มาก บอกว่าถึงไม่ได้เงินเดือนก็ไม่เป็นไร”
เผยเชียนอึ้งไป “หืม ตอนนี้เธออยู่ไหน”
“ที่ออฟฟิศค่ะ เพิ่งมาถึงได้ไม่นาน ดิฉันกำลังคุยกับเธออยู่”
ไม่ใช่ว่าเธอได้งานดีๆ ที่เทียนหัวสตูดิโอไปแล้วหรือ ทำไมถึงมาที่จิงโจวกัน
อยากทำงานกับบริษัทเรา ไม่ได้เงินเดือนก็ไม่เป็นไรอย่างนั้นหรือ
จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกันเล่า!
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้น “เลขาซิน คุณคิดว่าเธอเป็นยังไง”
ซินไห่ลู่เงียบไป จากนั้นก็ตอบอย่างจริงจัง “บอสเผย ดิฉันคิดว่าเธอน่าจะมา
จากครอบครัวที่ค่อนข้างมีอิทธิพล น่าจะเป็นทายาทตระกูลร่ำรวย ดิฉันเห็นเธอใช้
เสื้อผ้าและกระเป๋าของแบรนด์ดังๆ แค่ชุดที่ใส่ก็ราคาหลายหมื่นหยวนแล้วค่ะ”
“แต่เธอเป็นคนไม่ถือตัว นิสัยดีด้วยค่ะ ดิฉันกังวลแค่ว่าเธออาจจะไร้เดียงสา
และอ่อนต่อโลกเกินไป ไม่น่าจะเป็นพนักงานที่ดีได้ แต่ก็แน่นอนว่าบอสต้องเป็น
คนตัดสินใจว่าจะรับเธอเข้ามาหรือเปล่า”
ไร้เดียงสาและอ่อนต่อโลกหรือ
ก็เท่ากับว่าทำงานไม่ได้น่ะสิ
เยี่ยมไปเลย! ฉันต้องการพนักงานแบบนี้แหละ!
เผยเชียนคิดว่าหลินหวานมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่เขาต้องการ!
ทายาทตระกูลร่ำรวยผู้ใช้ชีวิตตามใจชอบไม่น่าจะทำงานได้ดี ยอดไปเลยนี่
“โอเค จ้างเธอเลย! เรื่องเงินเดือน…เริ่มที่เดือนละสี่พันหยวนแล้วค่อยขึ้นให้ที
หลัง เซ็นสัญญาจ้างเธอให้ผมด้วย! เรื่องงาน…ใช่ ช่วงนี้ไม่น่าจะมีงานอะไรมาก ยัง
ไม่ต้องมอบหมายให้เธอทำอะไร ปล่อยให้ทำตามใจชอบไปก่อน อ้อ แล้วก็ ให้เธอ
ไปงานเลี้ยงวันศุกร์ด้วยเลย!”
เผยเชียนสรุปคร่าวๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไรเท่าไหร่เพราะกำลังฝันหวานถึงเงินห้า
แสนหยวนที่กำลังจะได้มา

ณ บริษัท การพัฒนาเกมฐานทัพกลางทะเลมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว
เนื่องจากเปาซวี่ไม่ได้ไปกว่างโจวด้วย เขาจึงทุ่มเวลาไล่ดูเนื้อเรื่องเกมฐานทัพ
กลางทะเลและอัดจุดที่คิดว่าแปลกๆ เก็บไว้ให้หวงซื่อปั๋วปรับแก้
เขาไม่ได้มีความรู้เรื่องทฤษฎีการออกแบบเกมมากเท่าไหร่ ชายหนุ่มแค่เชื่อใน
สัญชาตญาณของตัวเอง
เอะใจตรงไหนก็อัดเก็บไว้ให้หวงซื่อปั๋ว
หวงซื ่ อ ปั ๋ ว เป็ น คนที ่ ต ้ อ งเค้ น สมองวิ เ คราะห์ ห าปั ญ หาแล้ ว ก็ ป รั บ แก้ ใ ห้
เหมาะสม
หวงซื่อปั๋วรู้ดีว่าเนื้อเรื่องเป็นจุดขายหลักของเกมฐานทัพกลางทะเลและเป็น
องค์ประกอบที่จะยกระดับตัวเกมได้ เขาจึงต้องพยายามทำมันออกมาให้สมบูรณ์
แบบ
แต่แน่นอนว่าองค์ประกอบอื่นๆ เช่น การควบคุม รูปแบบเกม การเคลื่อนไหว
และโหมดอื ่ น ๆ นอกเหนื อ จากโหมดเนื ้ อ เรื่ อ งก็ เ ป็ น สิ ่ ง จำเป็ น ในการสร้ า ง
ประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีด้วยเหมือนกัน
องค์ประกอบทั้งหมดผ่านสายตาของเปาซวี่มาหมดแล้ว เขาเป็นเกมเมอร์สาย
ฮาร์ดคอร์อยู่แล้ว ที่เขาทำก็แค่เปลี่ยนจากเล่นเกมคนอื่นๆ มาเล่นเกมที่ตัวเอง
สร้าง
ชายหนุ่มไม่ได้คิดว่านี่เป็นงานยากอะไร จริงๆ แล้วเขารู้สึกสนุกด้วยซ้ำ!
ตอนเล่นเกมอื่น เปาซวี่ไม่สามารถทำอะไรได้เวลาเจอจุดที่ไม่ชอบ
เพราะถึงเขาจะส่งความคิดเห็นไปในฐานะลูกค้า ก็จะเป็นการเสียเวลาไป
เปล่าๆ เพราะความเห็นของเขาไม่น่าจะส่งไปถึงทีมผู้พัฒนา ต่อให้ส่งไปถึงก็ไม่
น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง
แต่เกมฐานทัพกลางทะเลไม่ใช่แบบนั้น ถ้าเขาเจอจุดที่เป็นปัญหาก็สามารถ
แจ้งให้หวงซื่อปั๋วทราบ จากนั้นปัญหาก็จะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว!
การปรับแต่งที่สำคัญๆ ส่วนมากเสร็จไปตั้งแต่ตอนเริ่มโปรเจ็กต์แล้ว ที่เหลือก็
มีแค่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องปรับเพิ่ม เช่น วิธีกระสุน และฮิตบ็อกของตัว
ละคร ถึงเรื่องนี้จะสำคัญสำหรับตัวเกมมาก แต่ก็สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ จากการ
ปรับแต่งค่าต่างๆ
เส้นตายใกล้เข้ามา หวงซื่อปั๋วรู้สึกโล่งใจ
ภารกิจของเขาสำเร็จลุล่วงแล้ว!
การพัฒนาเกมฐานทัพกลางทะเลเสร็จตามกำหนด คุณภาพเป็นไปตามที่วาง
ไว้ เขาไม่ได้ทำให้เผยเชียนต้องผิดหวัง!
แต่หวงซื่อปั๋วไม่รู้ว่าจะทำการตลาดและโฆษณาเกมอย่างไร
แต่ก็ไม่ได้กังวลอะไรมากเพราะบอสเผยเป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้
แผนของบอสเผยจะมีข้อผิดพลาดได้อย่างไร
ชายผู้คิดวิธีโฆษณาเกมแม่ทัพผีบนเว่ยป๋อจะต้องคิดหาวิธีโฆษณาที่ยอดเยี่ยม
ได้แน่นอน!
บทที่ 56 ผลจากความเหน็ดเหนื่อยของบอสเผย

หลินหวานนั่งจิบชาที่เลขาซินเตรียมให้อยู่ในห้องรับรองแขก
เฮ้อ ชวนให้คิดถึงจริงๆ
รสชาติของที่บ้าน…
นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้จิบชาดีๆ แบบนี้ น่าจะประมาณครึ่งปีได้…
หลินหวานเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สี่ อีกครึ่งปีถึงจะเรียนจบ แต่เธอก็ฝึกงานใน
เทียนหัวสตูดิโอมาครึ่งปีแล้ว
เธอต้องทะเลาะกับพ่ออยู่หลายครั้งตอนตัดสินใจเข้าสู่อุตสาหกรรมระหว่างที่
เรียนอยู่ ทุกอย่างเริ่มคุกรุ่นรุนแรงขึ้นช่วงปิดเทอมหน้าร้อนตอนอยู่ปีสาม
เรื่องนี้ทำให้เธอตัดสินใจหนีออกจากบ้านโดยไม่บอกกล่าวและไปฝึกงานที่
เทียนหัวสตูดิโอ
หลังจากนั้นหลินหวานก็ต้องใช้ชีวิตอย่างมัธยัสถ์ แต่ก่อนเคยซื้อเสื้อผ้าและ
กระเป๋าแบรนด์เนมได้ง่ายๆ ตอนนี้ต้องเก็บหอมรอมริบเอา
เธอไม่ได้ลิ้มรสชาเหมือนของที่บ้านอีก
นี่เป็นครั้งแรกที่หลินหวานรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านหลังจากไม่ได้กลับมานาน
เธอรู้สึกสนใจบริษัทเถิงต๋ายิ่งขึ้นไปอีก!
หลินหวานเพิ่งมาเมืองจิงโจวเป็นครั้งแรก เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยหลังลงจาก
เครื่องบิน
เมืองจิงโจวเป็นเมืองระดับสอง จะให้เทียบกับเมืองระดับหนึ่งอย่างเมืองกว่าง
โจวก็ไม่ได้
แต่ ค วามผิ ด หวั ง ของเธอก็ ถ ู ก แทนที ่ ด ้ ว ยความตื ่ น เต้ น หลั ง จากเข้ า มาใน
ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว!
พอเห็นสภาพแวดล้อมการทำงานและทัศนคติของพนักงานทุกคน เธอก็คิดว่า
นี่แหละคือสิ่งที่เธอต้องการ!
ถ้าก่อนหน้านี้เธอเคยได้เห็นประกายแสงแห่งอุดมการณ์เรืองออกมาจากร่าง
ของเผยเชียน ตอนนี้เธอก็เหมือนกำลังอาบไล้แสงนั้นอยู่ในสถานที่แห่งนี้
เลขาซินเคาะประตู จากนั้นก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมสัญญาจ้าง
“ยิ น ดี ด ้ ว ยค่ ะ ! บอสเผยรั บ คุ ณ เข้ า ทำงาน! เซ็ น สั ญ ญาเสร็ จ คุ ณ ก็ ไ ด้ เ ป็ น
พนักงานบริษัทเถิงต๋าอย่างเป็นทางการค่ะ! เงินเดือนเริ่มที่สี่พันหยวน โอเคหรือ
เปล่าคะ”
หลินหวานรีบลุกขึ้นยืน “ไม่มีปัญหาค่ะ!”
เธอรับสัญญามาอ่านดูคร่าวๆ ก่อนจะเซ็นชื่อตัวเองลงไป
“แล้วงานของฉันคืออะไรคะ” หลินหวานถามอย่างคาดหวัง
เลขาซินคิดอยู่ครู่หนึ่ง “งานของคุณ… อืม มางานเลี้ยงพรุ่งนี้ตอนบ่ายสองนะ
คะ เราจะไปดูหนัง กินข้าว แล้วก็ร้องคาราโอเกะกันค่ะ!”
“คะ” หลินหวานงงไปหมด


วันศุกร์ตอนบ่าย
ในที่สุดเผยเชียนที่หายหน้าหายตาไปสอบปลายภาคก็โผล่มาที่ออฟฟิศอีกครั้ง
นั่นเพราะเกมฐานทัพกลางทะเลมีกำหนดการอัปโหลดขึ้นแพลตฟอร์มทางการ
ภายในสัปดาห์นี้
อีกสองสัปดาห์จะถึงวันสรุปบัญชี เผยเชียนเผื่อเวลาเอาไว้เผื่อติดปัญหาอะไร
ตอนที่ตัดสินใจทำโปรเจ็กต์นี้ เขากลัวว่ าเหล่าพนักงานที่แสนไม่ได้เรื่องของ
เขาจะทำงานช้าเกินไปจนเกมอาจเสร็จช้ากว่ากำหนด เขาจึงเลื่อนกำหนดการให้
เร็วขึ้นหนึ่งสัปดาห์เพื่อให้มีเวลาได้พักหายใจ
วันนี้เป็นวันเก็บเกี่ยวผลผลิตจากความเหนื่อยยากของเขาแล้ว
หลังจากเข้าไปในออฟฟิศ เขาก็เดินตรงไปหาหวงซื่อปั๋ว
“บอสเผย!” หวงซื่อปั๋วดูมีชีวิตชีวา หน้าตาดูดีขึ้น
การได้ทำงานที่บริษัทเถิงต๋ามาสองเดือนทำให้หวงซื่อปั๋วมีรายได้และเวลา
พักผ่อนมากขึ้น สภาพจิตใจเขาจึงดีขึ้นเช่นกัน
เพราะเหตุนี้เขาจึงไม่ได้ดูเซื่องซึมเหมือนแต่ก่อน ตอนนี้มีพลังงานล้นเหลือ!
หน้าหนาวมาถึงแล้ว หวงซื่อปั๋วเพิ่งซื้อเสื้อโค้ตใหม่ไปสองตัวเมื่อสัปดาห์ก่อน
ตอนนี้เขามีเงินเหลือใช้เยอะกว่าเดิม แถมยังทำงานที่ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว
หวงซื่อปั๋วจึงตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าดีๆ เพิ่ม เขาเสียเงินซื้อสูทลำลองไปพันกว่าหยวน
ทำให้ตอนนี้เขาดูคล้ายมืออาชีพผู้ประสบความสำเร็จขึ้นมาเล็กน้อย
“ขั้นตอนการสร้างเกมฐานทัพกลางทะเลเป็นไงบ้าง ต้องขยายเวลาเพิ่มอีก
หนึ่งสัปดาห์ไหม” เผยเชียนถาม
หวงซื่อปั๋วส่ายหน้ารัว “ไม่ต้องครับ! ไม่ต้องเป็นห่วงครับบอสเผย เราทดสอบ
เกมกั น หลายรอบและแก้ บ ั ๊ ก ทั ้ ง หมดที ่ พ บแล้ ว ตั ว เกมสามารถอั ป โหลดขึ้ น
แพลตฟอร์มได้เลยครับ!”
“อืม ทำได้ไม่เลว” เผยเชียนพยักหน้า แต่กลับดูไม่ได้ดีใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ความมั่นใจของหวงซื่อปั๋วทำให้เผยเชียนรู้สึกกังวล!
หรือว่าเกมจะออกมาคุณภาพดี!
แต่พอนึกถึงประสบการณ์ก่อนหน้าของหวงซื่อปั๋วและเปาซวี่ รวมถึงเงื่อนไข
สามข้อที่เขาให้ไป…
เขาก็รู้สึกว่าถึงเกมจะสร้างออกมาได้สำเร็จ แต่ก็ไม่มีทางที่จะทำเงินได้
“บอสอยากลองเล่นไหมครับ” หวงซื่อปั๋วถาม
“ไม่เป็นไร” เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ขอดูโหมดเนื้อเรื่องของเกมกับอาวุธ
ระดับตำนานหน่อย”
เผยเชียนมั่นใจว่ากว่าครึ่งหนึ่งของเกมฐานทัพกลางทะเลต้องออกมาไม่ได้
เรื่องและตัวเกมไม่น่าจะสนุก
ไม่เห็นจะเข้าท่าเลยถ้าจะให้เล่นขยะที่ตนเองสร้างมากับมือ
แต่เพื่อให้แน่ใจว่าเกมจะทำให้เขาขาดทุนได้จริงๆ เผยเชียนจึงตัดสินใจ
ตรวจดูคร่าวๆ ว่าเกมออกแบบตามที่เขาต้องการทุกอย่างหรือไม่
พวกเขาทุ่มเทสร้างโหมดเนื้อเรื่องกันหรือเปล่า
ในเกมมีไอเทมกิเลนเพลิงราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนไหม
เผยเชียนสนใจแค่สองเรื่องนี้
หวงซื่อปั๋วพยักหน้า “ได้ครับบอสเผย เดี๋ยวผมเอาให้ดูครับ”
เขาเปิดเกมฐานทัพกลางทะเลในคอมพิวเตอร์แล้วเริ่มแนะนำเกมให้เผยเชียน
ฟัง
“นี่คือโหมดเนื้อเรื่อง ผู้เล่นจะต้องไต่จากชั้นล่างสุดขึ้นไปชั้นบนของฐานทัพ
เนื้อเรื่องทั้งหมดยาวหกชั่วโมง แบ่งออกเป็นสามฉาก เป้าหมายหลักของเกมคือฆ่า
ซอมบี้ จัดการทหารรับจ้าง และแก้ปริศนาง่ายๆ ในเกม…”
“ส่วนนี้คือระบบตลาดครับ”
“นี่คืออาวุธระดับในตำนาน กิเลนเพลิงสีรุ้ง เป็นอาวุธที่เราจะเปิดขายในเดือน
ที่ปล่อยตัวเกมออกไป ตามที่บอสเผยกำหนดไว้ว่าราคาบัตรใช้อาวุธถาวรอยู่ที่
แปดร้อยแปดสิบแปดหยวน เราจึงกำลังพัฒนาอาวุธระดับตำนานเพิ่ม ตั้งใจไว้ว่า
จะปล่อยเซ็ตใหม่ทุกๆ สองถึงสามเดือนครับ”
เผยเชียนขมวดคิ้วฟังคำอธิบายของหวงซื่อปั๋วพร้อมพยักหน้าเป็นครั้งคราว
ที่ขมวดคิ้วก็เพราะได้เห็นเนื้อหาเกมฐานทัพกลางทะเล
มันค่อนข้างแตกต่างไปจากที่เขาคิดไว้!
ตอนแรกเขาคิดไว้ว่ากราฟิกของเกมจะเหมือนเกม Crossfire แต่กราฟิกที่ได้
กลับดูดี มีรายละเอียดกว่าเยอะ!
ทั้งตัวละคร ปืน ฉากหลัง หรือหน้าต่างใช้งานเกมล้วนใหม่หมด ถึงจะเทียบ
กับเกม AAA ชั้นนำของต่างประเทศไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ห่างชั้นกันขนาดนั้น
เผยเชียนนึกโกรธในตอนแรก อยากจะถามหวงซื่อ ปั๋ว ว่า ทำไมถึ งทำเกม
ออกมาดูดีแบบนี้
ไม่รู้หรือไงว่าเกมภาพสวยแบบนี้มันจะฆ่าเราได้
แต่เขาก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองนั่นแหละที่เป็นสาเหตุ…
อ้อ งั้นก็ไม่เป็นไร
ตอนนั้นหวงซื่อปั๋วนำรายการจัดซื้องบประมาณหกหมื่นหยวนมาให้ดู แต่เผย
เชียนบอกให้เขาเพิ่มงบไปเป็นสองเท่าโดยไม่ดูรายละเอียด
ได้ใช้เงินก็จริง
แต่คุณภาพของงานภาพก็เพิ่มขึ้นตามมาด้วย!
พอเห็นว่าภาพในเกมสวยแค่ไหน เขาก็รู้สึกกังวลใจขึ้นมาอีกครั้ง
ที่สำคัญที่สุดเลยคือเขาโกรธหวงซื่อปั๋วไม่ได้ เพราะตัวเองเป็นคนบอกให้อีก
ฝ่ายไปซื้อทรัพยากรดีๆ แบบนี้มา
แต่พอได้ยินที่หวงซื่อปั๋วอธิบายต่อ เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นหน่อย
โชคยังดีที่พวกเขาเสียเวลาไปกับการสร้างโหมดเนื้ อเรื่องอันแสนไม่ได้ความ
ฆ่าซอมบี้ จัดการทหารรับจ้างหรือ แค่ฟังก็น่าเบื่อแล้ว
พวกเขาสร้างกิเลนเพลิงราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนซึ่งเป็นอาวุธเดียวที่
มีขาย แถมราคาก็ไม่ได้ถูก
พวกเกมเมอร์น่าจะรุมด่ากันแน่ แต่เผยเชียนก็เตรียมใจไว้พร้อมแล้วตราบใด
ที่มันทำให้เขาขาดทุนได้!
อย่างหม่าหยางถ้าโดนด่าทุกวัน ก็ไม่น่าจะทำให้มันไม่กล้าขึ้นรถเมล์อีกอย่าง
เผยเชียนตรวจดูแล้วและพบว่าเทียนหัวสตูดิโอจะปล่อยเกมกระสุนเพชรฆาตวัน
เดียวกัน เขาจึงอยากปล่อยเกมฐานทัพกลางทะเลไปชนกับอีกเกมเพื่อที่เกมของ
ตัวเองจะได้เป็นฝ่ายแพ้!
ถ้ามีคู่แข่งที่แข็งแกร่งขนาดนั้น ถึงเกมฐานทัพกลางทะเลทำออกมาดีแล้วจะ
ได้อะไร
พวกเขาต้องโดนอีกฝ่ายขยี้เละแน่!
“บอสเผย ในเกมยังมีโหมดอื่นอยู่นะครับ ให้ผมเปิดให้ดูไหมครับ ” หวงซื่อปั๋ว
ถาม
เผยเชียนส่ายหน้า “ไม่เป็นไร! อัปโหลดขึ้นแพลตฟอร์มทางการเพื่อตรวจสอบ
เลย พวกนายทำงานหนักมาตลอดการสร้างเกมแล้ว เตรียมตัวไปสนุกกันตอน
บ่าย! เราจะไปดูหนังแล้วก็หาอะไรดีๆ กินกัน!”
บทที่ 57 งานเลี้ยงก็ตอ้ งกินดื่ม!

วันแรกในการทำงานของหลินหวานคืองานเลี้ยงต้อนรับใหญ่โต!
บ่ายสองของวันนั้น ทุกคนมารวมกันที่ออฟฟิศก่อนจะเคลื่อนพลไปที่โรงหนัง
ตามกำหนดการของเลขาซิน พวกเขาเช่าเหมาโรง IMAX ระดับ VIP ใช้เงินไป
สี่พันหยวนเพื่อชมหนังใหม่ล่าสุดที่ชื่ออวตาร
จากนั้นทุกคนก็ไปร้านห่านฟ้าซึ่งเป็นร้านบุฟเฟต์ที่แพงที่สุดในเมืองจิงโจว
ราคาบุฟเฟต์อยู่ที่หัวละสี่ร้อยยี่ สิบแปดหยวนบวกค่าเซอร์วิสชาร์จ 15% มื้อนี้ทำ
ให้เผยเชียนเสียเงินไปอีกหมื่นกว่าหยวน
หลังจากกินข้าวเสร็จ พวกเผยเชียนก็ไปต่อกันที่ร้านคาราโอเกะใกล้ๆ พวก
เขาจองห้องหรูราคาเริ่มต้นที่หกพันหยวน เผยเชียนง่วนอยู่ที่บาร์เพื่อผลาญเงิน
เพิ่มไปเป็นหลักหมื่น
ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่พอใจ
ยังผลาญเงินได้ไม่พอ!
เขารู้สึกว่าวันนี้ระบบไม่ค่อยเข้มงวดเรื่องการใช้จ่ายเงินทุนระบบมากนักเมื่อ
เทียบกับวันอื่นๆ
เหมือนว่าข้อจำกัดของระบบจะแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ ทุกครั้งที่ใช้
จ่ายเงินทุนระบบด้วยเหตุผลที่ต่างกันไป วงเงินสูงสุดที่ใช้ได้ก็จะแตกต่างกันไป
ด้วย
ยกตัวอย่างเช่นรอบที่แล้ว ตอนที่เผยเชียนใช้การศึกษาดูงานที่กว่างโจวเป็น
ข้ออ้าง เขาสามารถใช้เงินได้ตามอัตรารายจ่ายการออกเดินทางเพื่อธุรกิจ
ครั้งนี้ข้ออ้างคืองานฉลองการพัฒนาเกมฐานทัพกลางทะเล ทำให้มีตัวเลือก
สำหรับอาหารและกิจกรรมที่กว้างขึ้น
ถ้าเป็นงานเลี้ยงธรรมดาทั่วไป วงเงินสำหรับค่าบุฟเฟต์จะอยู่ที่ประมาณสอง
ร้อยหยวนต่อคน ถ้าเกินกว่านี้ระบบจะแจ้งเตือน
แต่ครั้งนี้เผยเชียนมีเหตุผลเหมาะสม ระบบจึงไม่ได้แจ้งเตือนอะไรตอนที่เลือก
กินบุฟเฟต์หัวละสี่ร้อยหยวน!
เผยเชียนจึงสรุปว่าเกณฑ์ของระบบนั้นแตกต่างไปตามสถานการณ์ ไม่ได้
กำหนดไว้ตายตัว
ซึ่งเป็นเรื่องดีเพราะนั่นก็หมายความว่า ต่อไปเผยเชียนจะมีอิสระในการ
เลือกใช้จ่ายเงินทุนระบบที่มากขึ้น
แต่ก็แน่นอนว่า เงินทุนระบบยังคงมีไว้ใช้สำหรับรายจ่ายของบริษัท ไม่ใช่
รายจ่ายส่วนตัว
ถึงจะพยายามผลาญเงินอย่างสุดกำลังแล้ว เผยเชียนก็ยังรู้สึกว่าไม่เพียงพอ
อย่างเช่นรายจ่ายวันนี้ พวกเขาใช้เงินไปรวมทั้งหมดไม่ถึงสามหมื่นหยวน ซึ่ง
ไม่ใช่ที่เขาคิดเอาไว้เลย!
แต่ก็ไม่เป็นไร เขายังมีเวลาให้ใช้จ่ายเงินอยู่ เพราะเหลืออีกตั้งหนึ่งสัปดาห์
กว่าจะถึงวันสรุปบัญชี
ถึงเผยเชียนจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับงานเลี้ยงวันนี้ แต่กับคนอื่นไม่ใช่แบบนั้น
โดยเฉพาะหม่าหยาง เปาซวี่ และหวงซื่อปั๋ว พวกเขาตื่นตาตื่นใจกับทุกอย่าง
ในงานเลี้ยง!
ตอนไปดูหนังก็ได้เช่าเหมาโรง IMAX ระดับ VIP เพื่อดูหนังเรื่องล่าสุดใน
ระบบสามมิติ! โคตรจะสุดยอด!
บุฟเฟต์อาหารเย็นที่ไปกินราคาหัวละสี่ร้อยหยวน มีอาหารให้เลือกกว่าห้า
ร้อยเมนู อาหารทะเลอีกสี่ร้อยเมนู ทั้งปลาทูน่าครีบน้ำเงิน กุ้งสแกมปีนิวซีแลนด์
ล็อบสเตอร์ออสเตรเลีย กุ้งเครฟิช… มีทุกอย่างที่อยากกิน!
ตอนหม่าหยางเห็นไอศกรีม Haagen Dazs ให้ตักกินได้ไม่อั้นก็คิดจะสวาปาม
ให้เต็มท้อง แต่ก็โดนเผยเชียนปรามไว้ก่อน
ไม่รู้หรือไงว่าควรกินอะไร
ดูไม่ออกหรือว่าอันไหนราคาแพงกว่า ถ้าดูไม่ออกก็ไปเปิดเชียนตู้ดู!
ทุกคนต่างวิ่งว่อนทั่วร้าน มัวเมาไปกับอาหารราคาแพง พอเห็นอาหารแปลก
ตาก็จะหยิบมากินทันที ไม่สนว่าจะดูน่ากินหรือเปล่า ขอแค่ดูแพงเป็นพอ
พนักงานส่วนใหญ่อายุอยู่ในช่วงยี่สิบต้นๆ กำลังเจริญอาหาร หลายๆ โต๊ะจึงมี
จานเปล่าตั้งซ้อนกันสูง
แต่เผยเชียนกลับนิ่งสงบ
แม้เขาจะไม่ค่อยได้มาร้านบุฟเฟต์หรูแบบนี้ตั้งแต่ชาติก่อน แถมอาหารก็ดูน่า
กินมาก แต่ที่เขาสนใจคือเงินห้าแสนหยวน
ถ้าเขาได้เงินห้าแสนหยวนมา จะเอาไปซื้ออะไรกินก็ได้ใช่ไหมล่ะ
อยากจะกินอาหารดีๆ ก็ไม่จำเป็นต้องรอให้ระบบอนุมัติหรือหาข้ออ้างอะไร!
เผยเชียนนั่งกินปลาทูน่าครีบน้ำเงินไปเรื่อยๆ ในหัวคิดแต่เรื่องเงินห้าแสน
หยวน

หลินหวานเองก็ไม่ได้สนใจอาหารเหมือนกัน
สำหรับเธอ อาหารเหล่านี้ไม่ใช่ของแปลกใหม่อะไร เธอกินมาจนเบื่อแล้ว
ที่เธอสนใจคือท่าทีของพนักงานและบอสเผย!
หลินหวานเห็นทุกคนกำลังมีความสุข
เป็นรอยยิ้มที่เธอไม่เคยเห็นบนใบหน้าของเพื่อนร่วมงานที่เทียนหัวสตูดิโอ!
หรือจะเป็นเพราะวันนี้พวกเขาได้กินอาหารดีๆ กัน
ไม่หรอก ไม่น่าจะใช่
นี่เป็นแค่บุฟเฟต์ราคาหัวละสี่ร้อยหยวน ไม่ใช่อะไรที่พิเศษมากมาย
ที่พวกเขาดูมีความสุขต้องเป็นเพราะรับรู้ได้ว่าบอสเผยเล็งเห็นความทุ่มเทของ
พวกเขา! บอสเผยเป็นคนอบอุ่น ทำให้ทุกคนสนุกไปกับการทำงาน!
ใครกันที่บอกว่าพนักงานกับเจ้านายจะต้องไม่ลงรอยกัน
ใครกันที่บอกว่าการทำงานต้องเป็นเรื่องทุกข์ระทม
กับบอสเผย ทุกอย่างไม่ใช่แบบนั้นเลย!
นี่มันงานเลี้ยงจริงๆ! หายากมากที่จะมีแบบนี้!
บริษัทอื่นๆ มักจะเลือกจัดงานเลี้ยงในวันหยุดเพื่อที่จะได้กินเวลาพักผ่อนของ
พนักงาน ไม่ใช่แ ค่นั้น งานเลี้ยงส่วนใหญ่จะเป็นการดื่มฉลองมากกว่าการสาน
สัมพันธ์ระหว่างคนในบริษัท เป็นเหมือนงานสังคมที่จำเป็นต้องเข้าร่วม
ถึงคนส่วนใหญ่จะไม่ได้ชอบ แต่ก็จำเป็นต้องไป
แต่ที่บริษัทเถิงต๋านั้นไม่เหมือนกัน
ช่วงน่ากระอัก กระอ่ วนใจอย่า งช่ ว งหั วหน้าออกไปพู ด กั บช่ ว งดื่ ม ละลาย
พฤติกรรมนั้น…ไม่มีเลย! ทุกคนต่างเพลิดเพลินใจไปกับอาหารของตนเอง!
นี่คืองานเลี้ยงที่แท้จริง!
ไม่ใช้แค่นั้น หลินหวานยังเห็นว่าเผยเชียนกินอาหารอย่างเฉื่อยชา เหมือนว่า
จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
หรือว่าเขากำลังคิดเรื่องเกมกับการบริหารบริษัทอยู่
ระหว่างที่ทุกคนกำลังสวาปามอาหารกันอย่างเมามัน เผยเชียนกลับดูเครียดๆ
เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ
เป็นเจ้านายคนก็ต้องแบกรับความรับผิดชอบแบบนี้แหละ! เจ้านายต้องกังวล
เรื่องอนาคต จะมีความสุขได้ก็ต่อเมื่อลูกน้องของตัวเองมีความสุข!
หลินหวานรู้สึกว่าตัวเองรู้จักเผยเชียนมากขึ้น

หลังจากกินข้าวเสร็จ ทุกคนก็ออกเดินทางไปร้านคาราโอเกะสุดหรูที่อยู่ใกล้ๆ
จากนั้นก็สังสรรค์กันครื้นเครงตลอดทั้งคืน
แน่นอนว่าเผยเชียนจัดแจงให้พนักงานผู้ชายจัดการจองรถให้พวกพนักงาน
หญิงบางคนที่ไม่อยากร้องเพลงหรืออยากกลับบ้านก่อน
ถึงอย่างไรค่าห้องก็เหมาจ่ายอยู่แล้ว ใครจะกลับก่อนก็ไม่ได้กระทบการผลาญ
เงินของเผยเชียน
เขามีหลักการง่ายๆ ขอแค่พวกนายไม่ห้ามฉันผลาญเงินทุนระบบ อยากจะทำ
อะไรกันก็เชิญ!
ในห้องมีบาร์เล็กๆ กับโซนเต้น ทุกคนสามารถดื่มได้ตามใจชอบ จะเป็น
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือน้ำอัดลมก็ได้ทั้งนั้น
ตอนเริ่มแรกทุกคนยังรู้สึกเกรงใจกันอยู่ แต่พอหม่าหยางร้องเพลงอ้ายฉิงไหม
ม่ายด้วยน้ำเสียงโหยหวน ทั้งห้องก็คึกกันขึ้นมาทันที!
ทุกคนเริม่ ปล่อยตัวปล่อยใจ จับไมค์ร้องเพลงกันอย่างบ้าคลั่ง
หลินหวานไม่ได้กลับก่อน เธอร้องเพลงไปสองสามเพลง เสียงหวานของเธอ
เป็นที่ชื่นชมของทุกคน
เธอพบว่าตัวเองเริ่มจะหลงรักคนบริษัทนี้เข้าแล้ว
พวกเขาเป็นเหมือนครอบครัวใหญ่ที่แสนน่ารัก ใช้ชีวิตกันอย่างสนุกสนานโดย
มีบอสเผยเป็นศูนย์กลาง!
บรรยากาศอันอบอุ่นนี้ทำให้หลินหวานมั่นใจว่าเธอเลือกถูกบริษัทแล้ว!
บริษัทเถิงต๋าตอบโจทย์ที่เธอตามหามาตลอด!
เผยเชียนซดเครื่องดื่มไปสองสามแก้วอย่างสุขใจ
ระหว่างที่กำลังสนุกสนาน เขาก็มองเห็นภาพระบบแปลงเงินทุนระบบห้าแสน
หยวนไปเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคล…


บ่ายวันต่อมา เผยเชียนตื่นขึ้นมาในอพาร์ตเม้นต์ เขาขยี้ตาช้าๆ
ถึงเมื่อคืนเขาจะดื่มไปมาก แต่ก็ไม่ได้เมาค้างหนักอะไรเพราะดื่มไวน์ราคาแพง
เขาเทน้ำใส่แก้วแล้วเปิดโน้ตบุ๊ก
โน้ตบุ๊กเครื่องนี้เป็นเครื่องใหม่ เครื่องเก่าโละทิ้งไปแล้ว ถึงจะเพิ่งใช้มาแค่หก
เดือนตั้งแต่เปิดเทอมก็ตาม
โน้ตบุ๊กเครื่องปัจจุบันของเผยเชียนเป็นตัวท็อปของแบรนด์ Alienware!
ถึงอย่างไรเขาก็ใช้เงินทุนระบบซื้ออยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องสนใจโน้ตบุ๊กแบบ
นั้นอีก
เขาเปิดเว็บไซต์ ESRO แล้วก็พบว่าเกมฐานทัพกลางทะเลยังไม่ผ่านการ
ประเมิน
เนื่องจากเป็นเกมขนาดใหญ่ กระบวนการประเมินจึงกินเวลานานขึ้น แม้จะ
ผ่านมายี่สิบชั่วโมงแล้ว แต่ตอนนี้ตัวเกมก็ยังในกระบวนการประเมิน
เผยเชียนปิดโน้ตบุ๊ก ไม่ได้สนใจอะไร
บริษัทอื่นๆ จะมัวกังวลว่าเมื่อไหร่เกมจะผ่านการประเมิน เพราะต้องทำ
แผนการตลาดต่อ
แต่เผยเชียนไม่ได้วางแผนการตลาดไว้!
เมื่อเป็นแบบนั้นก็ไม่จำเป็นต้องไปสนใจว่าเมื่อไหร่เกมจะผ่านการประเมิน
เรื่องนี้ไม่ได้สำคัญอะไรเลย!
บทที่ 58 จะไม่โฆษณาเลยหรือ

ช่วงบ่ายของวันจันทร์
งานเลี้ยงวันศุกร์ทำให้ทุกคนคึกกันยกใหญ่ พอได้พักผ่อนช่วงวันหยุดเสาร์
อาทิตย์เพิ่ม พวกเขาก็ผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยไปได้มาก
นอกจากเปาซวี่ที่เข้าออฟฟิศตลอดแล้วก็ไ ม่มีใ ครโผล่เข้ามา ทุกคนต่าง
เพลิดเพลินไปกับวันหยุดของตัวเอง
ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ไม่มีเหตุผลให้ทำงานล่วงเวลาเนื่องจากตัวเกมเสร็จสมบูรณ์
แล้ว!
ถึงจะได้ค่าล่วงเวลา แต่การได้ใช้เวลาไปอย่างเกียจคร้านช่วงวันหยุดเป็นอะไร
ที่น่าสนใจกว่า
วันจันทร์มาถึง หลายคนยังคงเบิกบานใจ
แต่หวงซื่อปั๋วกลับดูเคร่งเครียด
“พี่เห็นยอดดาวน์โหลดเกมฐานทัพกลางทะเลแล้วใช่ไหม” หวงซื่อปั๋วไปที่โต๊ะ
ของเปาซวี่ เขาเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังดูสถิติหลังบ้านของเกมฐานทัพกลางทะเลอยู่
เอาง่ายๆ เลยคือ ยอดเลวร้ายมาก!
ตัวเกมส่งเข้าตรวจประเมินเมื่อวันศุกร์ และผ่านการประเมินในวันเสาร์ แต่
ตอนนี้มียอดดาวน์โหลดแค่ไม่กี่ร้อยทั้งๆ ที่ผ่านวันอาทิตย์มาแล้ว
ยอดดาวน์โหลดมันน้อยเกินไป!
เกม FPS ไม่เหมือนเกมอื่น อาจมองได้ว่าเป็นเกมออนไลน์ที่เน้นการแข่งขัน
ถ้ามีฐานผู้เล่นเพียงพอถึงจะสามารถเล่นได้
แก่นของเกม FPS อยู่ที่การให้ผู้เล่นได้แข่งขันกัน แต่จะสร้างสภาพแวดล้อม
การแข่งขันได้อย่างไรถ้ามียอดดาวน์โหลดแค่ไม่กี่ร้อยกับผู้เล่นที่ออนไลน์อยู่ในเกม
แค่หยิบมือเดียว ระบบอาจจะสุ่มผู้เล่นที่ทักษะการเล่นแตกต่างกันมาเล่นด้วยกัน
หรือไม่ก็อาจจะมีจำนวนผู้เล่นไม่มากพอที่จะเปิดการแข่งขันได้ด้วยซ้ำ!
จะให้ผู้เล่นเหล่านี้ไปสู้กับบอตก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ทำแบบนั้นก็คงน่าขายหน้า
น่าดู!
แน่นอนว่าเกมฐานทัพกลางทะเลนั้นไม่เหมือนเกมกระสุนเพชรฆาตหรื อเกม
แนว FPS เกมอื่นๆ เพราะมีระบบเนื้อเรื่อง สามารถเล่นเป็นเกมสแตนด์อโลนได้
แต่โหมดเนื้อเรื่องก็ไม่สามารถทำให้ผู้เล่นเล่นเกมนี้ได้นาน ผ่านไปสักพักก็คง
เริ่มเบื่อกัน
นอกจากนี้ เหล่าเกมเมอร์ที่ชอบเกม Counter Strike จะชอบโหมด PvP[1]
มากกว่า ไม่น่าจะสนใจโหมดเนื้อเรื่อง
ทั้งหมดทั้งมวลคือสถานการณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่!
ยอดโหลดไม่กี่ร้อยของเกมฐานทัพกลางทะเลมาจากที่เกมเปิดให้ดาวน์โหลด
ฟรี ถ้าตั้งราคาขายแบบเกมสแตนด์อโลนน่าจะอยู่ที่สามสิบถึงห้าสิบหยวน ซึ่งจะ
ทำให้มียอดดาวน์โหลดน้อยกว่านี้อีก
ส่วนทำไมเกมฐานทัพกลางทะเลถึงเป็นเกมให้ดาวน์โหลดฟรีน่ะหรือ…
นั่นก็เพราะเผยเชียนได้บทเรียนจากเกมแม่ทัพผี
เนื่องจากเกมแม่ทัพผีเป็นเกมที่คำนึงถึงผู้เล่น ยอดผู้เล่นจึงเพิ่มสูงขึ้นอย่าง
รวดเร็วจนทำให้มีผู้เล่นใหม่เพิ่มขึ้นหลายแสนคนต่อเดือน!
เผยเชียนไม่ได้คิดว่าตัวเองจะได้เงินสิบหยวนจากผู้เล่นแต่ละคนมาแบบนี้…
ตอนแรกเขาตั ้ ง ราคาไว้ เ พื ่ อ กั น พวกผู ้ เ ล่ น ที ่ ช อบเล่ น เกมฟรี อ อกไป แต่
กลายเป็นว่าเขาดันทำเงินได้จากตรงนี้แม้จะเป็นจำนวนเงินที่ไม่ได้สูงมาก…
ประสบการณ์อันขมขื่นนี้ทำให้เผยเชียนตัดสินใจไม่ตั้งราคาเกมฐานทัพกลาง
ทะเล
เกมฐานทัพกลางทะเลเปิดให้ดาวน์โหลดและเล่นได้ฟรี ถึงจะเจอปัญหายอด
ดาวน์โหลดเพิ่มขึ้น แต่เผยเชียนก็จะไม่ได้เงินจากเหล่าผู้เล่นที่ไม่ได้จะจริงจังกับ
เกมนี้!
กลับกันแล้ว การตั้งราคาอาวุธระดับ ตำนานไว้สูงถึงแปดร้อยแปดสิบแปด
หยวนจะทำให้ได้กระแสแง่ลบ โดนเหล่าเกมเมอร์วิจารณ์หนักจนคนอื่นไม่กล้าเข้า
มาเล่น ขณะเดียวกันผู้เล่นส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถสู้ราคาอาวุธเหล่านี้ได้ไหว
แล้วทำไมเขาไม่ปล่อยให้เล่นเกมฟรีๆ ไปเลยน่ะหรือ…
ยังไม่ชัดเจนอีกหรือว่าเผยเชียนก็อยากให้เป็นแบบไหน
แต่ระบบไม่อนุญาต!
ถ้าเกมเปิดให้เล่นได้ฟรี ไม่มีของให้ซื้อในเกมหรือรายได้จากโฆษณา ก็จะดูไม่
เข้าท่าเพราะจะกลายเป็นว่าเผยเชียนเสียเงินสร้างสินค้ามาแจกฟรีๆ
จะถือเป็นการฉ้อโกงและละเมิดกฎของระบบ
ไม่อย่างนั้นเผยเชียนก็จะผลาญเงินได้อย่างง่ายดาย ขอแค่ เขาผลิตสินค้า
ขึ้นมาขายในราคาต่ำๆ เขาก็จะสามารถเสียเงินเท่าไหร่ก็ได้ตามที่ต้องการ
ระบบไม่มีทางเปิดช่องโหว่ที่ชัดเจนแบบนั้นให้เผยเชียนใช้ประโยชน์ได้
ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องมีรูปแบบการทำกำไรที่เหมาะสม ซึ่งคือการตั้งราคา
เกมหรือเพิ่มของให้ซื้อในเกม ระบบจะได้ไม่มองว่าเป็นการทำผิดกฎ
ตอนนี้เผยเชียนสามารถคุมสถานการณ์เกมฐานทัพกลางทะเลไว้ได้อยู่หมัด
เขาตั้งเกราะป้องกันไว้สามชั้น
ชั้นแรกคือ ไม่โฆษณาเกม ทำให้เกมไม่เป็นที่สนใจ
ชั้นที่สองคือ รูปแบบการทำกำไรของเกมนี้เลวร้ายมาก การตั้งราคาขายอาวุธ
ระดับตำนานไว้ที่แปดร้อยแปดสิบแปดหยวนจะส่งผลให้เกิดการวิจารณ์ตัวเกมใน
ด้านลบ
ชั้นที่สามคือ เกมฐานทัพกลางทะเลจะต้องประชันกับเกมที่เหนือชั้นกว่า ซึ่งก็
คือเกมกระสุนเพชรฆาต
ตอนนี้เกราะป้องกันชั้นแรกได้เปิดใช้งานแล้ว
หวงซื่อปั๋วและเปาซวี่กำลังกังวลเรื่องนี้
ทั้งคู่กำลังจับตาดูความก้าวหน้าของเกมฐานทัพกลางทะเลอย่างใจจดใจจ่อ
เหมือนกัน ถึงอย่างไรพวกเขาก็ลงแรงไปมากเพื่อสร้างเกมนี้ แถมยังแบกความเชื่อ
ใจของบอสเผยไว้ด้วย
ถ้าเกมเจ๊งขึ้นมา บอสเผยก็จะต้องผิดหวัง
พวกเขาจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้
หวงซื่อปั๋วลังเลใจว่าควรจะพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไปดีไหม
หลังจากคิดอยู่สักพัก เขาก็ตัดสินใจพูดออกไป
“พี่เปา พี่ว่าบอสเผยตั้งใจจะไม่โฆษณาเกมฐานทัพกลางทะเลรึเปล่า ต้องมี
เหตุผลอะไรสักอย่างว่าทำไมยอดโหลดเกมฐานทัพกลางทะเลถึงได้ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
แบบนี้ส”ิ
ถึงสิ่งที่เขาพูดออกไปจะดูเป็นการไม่เคารพบอสเผย แต่มันก็ฟังดูเข้าเค้า
ปัจจุบันปัจจัยสำคัญที่ตัดสินว่าเกมภายในประเทศจะประสบความสำเร็จหรือ
เปล่าอยู่ที่การทำการตลาด
เกมขยะหลายเกมใช้กลยุทธ์การตลาดล้างสมองเพื่อล่อลวงให้คนเข้ามาเล่น
เกม
แน่นอนว่าผู้เล่นเหล่านั้นจะเล่นต่อไหมก็เป็นอีกหนึ่งปัญหา
แต่ถึงอย่างนั้น ขอแค่พวกเขาทำการตลาดให้เหมาะสม พร้อมจ่ายเงินกับตรง
นี้ จะเป็นเกมขยะแค่ไหนก็ทำให้คนสนใจได้
แต่นี่เกมก็ปล่อยมาแล้วเป็นวันแต่กลับมียอดโหลดแค่ไม่กี่ร้อย ไม่เห็นจะ
สมเหตุสมผลเลย!
เปาซวี่มองหวงซื่อปั๋ว “พี่หวง อย่าสงสัยในตัวบอสเผย คนที่คิดกลยุทธ์การ
โฆษณาเกมแม่ทัพผีผ่านเว่ยป๋อจะต้องเชี่ยวชาญเรื่องนี้อยู่แล้ว ทำไมบอสจะไม่รู้
ความสำคัญของการทำการตลาดล่ะ”
หวงซื่อปั๋วเกาหัว
ที่ว่ามาก็ถูก
แต่ก็เห็นได้ชัดว่าไม่มีการโฆษณาเกมฐานทัพกลางทะเลเลย ยอดดาวน์โหลด
ถึงได้ดูน่าเวทนาแบบนี้
หวงซื่อปั๋วตั้งใจค้นดูด้วยซ้ำ นอกจากเกมฐานทัพกลางทะเลจะไม่ได้ปล่อยลง
แพลตฟอร์มเกมอื่นแล้ว ยังไม่มีการโฆษณาหรือทำการตลาดใดๆ เลย
หรือบอสเผยจะกำลังรอปล่อยท่าไม้ตาย
เหมือนเปาซวี่จะอ่านใจหวงซื่อปั๋วออก เขาพูดขึ้น “ผมว่าที่เราต้องทำคือเชื่อ
ในตัวบอสเผย ถ้าเขาไม่ได้บอกให้เรากังวลเรื่องการตลาด เราก็ไม่จำเป็นต้อง
กังวล”
“ใช่ พี่พูดถูก” หวงซื่อปั๋วเห็นด้วยกับความคิดของเปาซวี่
บอสเผยอัจฉริยะขนาดนั้น พวกเขาจะไปนึกกังวลอะไรได้
หวงซื่อปั๋วเดินจากไป
สิบนาทีต่อมา เขาก็กลับมาใหม่
“รอบนี้ไม่ใช่เรื่องการตลาด” หวงซื่อปั๋วอธิบาย “รอบนี้เรื่องเวอร์ชันต่อไป
ครับ”
“หืม อธิบายทีครับ พี่หวง” เปาซวี่พยักหน้า
หวงซื่อปั๋วหยุดไปครู่หนึ่ง “คือตอนนี้เกมฐานทัพกลางทะเลเวอร์ชันออฟฟิ
เชียลเสร็จสมบูรณ์แล้ว ตามตารางงานปกติ เราควรจะพัฒนาเวอร์ชันต่อไปได้
แล้ว”
“ครับๆ แล้วยังไงต่อ” เปาซวี่ไม่ค่อยแน่ใจว่าอีกฝ่ายพูดเรื่องอะไร
ตอนนี้เขาไม่ค่อยรู้เรื่องขั้นตอนการพัฒนาเกมเท่าไหร่ คงต้องช่วยงานตามที่
หวงซื่อปั๋ววางแผนไว้
………………………..
[1] Players vs Players เป็นโหมดแข่งขันกันเองระหว่างผู้เล่น
บทที่ 59 เราต้องการหนูทดลอง

ปกติแล้วทีมพัฒนาเกมจะต้องพัฒนาเนื้อหาเกมไปล่วงหน้าหนึ่งเวอร์ชันจาก
ของที่ปล่อยให้ผู้เล่นได้เล่น บางครั้งอาจจะเป็นสองเวอร์ชันด้วยซ้ำ
ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้เล่นได้เล่นเกมเวอร์ชัน 1.01 กลุ่มทดลองจะต้องได้เล่นเกม
เวอร์ชัน 1.02 ส่วนทีมพัฒนาจะต้องมีเวอร์ชัน 1.03 ในมือ และเวอร์ชัน 1.04
ควรจะมีการวางกำหนดการไว้แล้ว
แน่นอนว่านี่เป็นแผนสำหรับเกมที่มีการอัปเดตบ่อยๆ
ถึงจะเป็นเกมที่ไม่ได้อัปเดตบ่อย แต่ทีมพัฒนาก็ควรจะต้องพัฒนาเกมไป
ล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งเวอร์ชัน
เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะต้องเริ่มขั้นตอนพัฒนาเกมช่วงต่อไปหลังจากสร้าง
เกมเสร็จ ไม่อย่างนั้นทีมพัฒนาก็จะไม่มีอะไรทำ
หวงซื่อปั๋วจึงคิดว่าพวกเขาควรจะต้องวางแผนการพัฒนาเกมช่วงต่อไปจาก
ประสบการณ์ครัง้ ก่อน นี่คือส่วนหนึ่งของงานหัวหน้าฝ่ายวางแผน
ถ้าเริ่มทำงานตอนที่บอสเผยบอกว่าอยากเห็นเวอร์ชันต่อไป จะถือเป็นการ
ละเลยต่อหน้าที่ของตนเองสุดๆ
เปาซวี่ไม่ได้ติดขัดอะไรและตอบตกลงทันที
“แต่ปัญหาตอนนี้คือ…ผมไม่รู้ว่าแผนคืออะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราควรปรับอะไร
หรือไปทางไหนต่อ” หวงซื่อปั๋วบอกปัญหาของเขา
เวอร์ชันใหม่มีองค์ประกอบอยู่สองอย่าง การปรับแก้และการพัฒนาเพิ่มเติม
อันดับแรก พวกเขาต้องแก้บั๊กที่มีในเวอร์ชันเดิม รวมถึงปรับช่องโหว่ของเกม
และจุดที่ไม่สมเหตุสมผล จากนั้นก็ใส่รูปแบบการเล่น แผนที่ และเนื้อหาใหม่ๆ
เข้าไปเพื่อขยายและพัฒนาตัวเกม
แต่ตอนนี้ปัญหาที่หวงซื่อปั๋วพบคือเปาซวี่มองว่าเกมฐานทัพกลางทะเลอยู่ใน
จุดที่สมบูรณ์แบบแล้ว ไม่มีบั๊กหรือจุดไหนที่ต้องปรับแก้!
ส่วนเรื่องการพัฒนาเนื้อหาเกมเพิ่ม…
เอาจริงๆ ตอนนี้เนื้อหาเกมก็มีเพียงพอแล้ว
มีทั้งโหมดเนื้อเรื่อง โหมด PvP แล้วยังมีรูปแบบการเล่นอื่นๆ อีก ทั้งโหมดไบ
โอเคมิเคิล โหมดผี และโหมดกู้ระเบิด
ตอนนี้ไม่มีอะไรที่พวกเขาเพิ่มเข้าไปได้อีก
จะเกินไปหน่อยหรือเปล่าถ้าพวกเขาจะทุ่มเทสร้างโหมดการเล่นและแผนที่
ใหม่ขึ้นก่อนที่ผู้เล่นจะทันได้เบื่อเวอร์ชันปัจจุบัน
เปาซวี่เองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดีเพราะเรื่องนี้อยู่เกินขอบเขตความสามารถของ
เขา
ให้เล่นเกม เขาทำได้
แต่ให้วางแผนพัฒนาเกม เขาก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับพี่หวง พี่คิดว่าเราควรทำยังไงดี” เปาซวี่ถาม
หวงซื่อปั๋วคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ผมว่าเราควรให้พวกเกมเมอร์ที่เชี่ยวชาญเกมแนวนี้
มาทดสอบตัวเกมแล้วให้พวกเขาออกความเห็น”
“อย่าเข้าใจผิดนะครับพี่เปา ไม่ใช่ว่าแค่ความเห็นของพี่ไม่พอ แต่เพราะเรา
คลุกคลีกับตัวเกมโดยตรง ผมคิดว่าเราควรหาเกมเมอร์นอกบริษัทมาให้ได้เยอะ
ที่สุดเท่าที่ทำได้ ยิ่งกลุ่มตัวอย่างใหญ่ ข้อมูลที่ได้ก็จะแม่นยำมากขึ้น”
เปาซวี่ไม่ได้ติดขัดอะไร เขาพยักหน้า คิดว่าหวงซื่อปั๋วพูดถูก
ก่อนหน้านี้เขารับผิดชอบเรื่องสมดุลเกมและการควบคุม
เขาจะแจ้งหวงซื่อ ปั๋วว่าปืนกระบอกไหนต้อ งเปลี่ยนวิธีกระสุน หรือการ
เคลื่อนไหวจุดไหนดูแปลกๆ เพื่อที่จะได้ให้ทีมออกแบบปรับแก้
แต่เปาซวี่ก็เป็นแค่คนคนเดียว ไม่ว่าเขาจะเก่งกาจแค่ไหน เขาก็ให้ได้แค่
ความเห็นในมุมมองของตัวเอง
ตัวเกมมุ่งเป้าไปที่เกมเมอร์นับแสนคน ใครจะไปกล้าการันตีว่ามุมมองของ
ตัวเองจะตรงกับมุมมองของเกมเมอร์คนอื่นๆ
ดังนั้นหวงซื่อปั๋วจึงคิดว่าพวกเขาควรหาเกมเมอร์สักกลุ่มหนึ่งมาทดสอบเกม
ถ้าเจอปัญหาอะไร พวกเขาจะได้วางแผนเวอร์ชันต่อไปเพื่อพัฒนาตัวเกมให้ดี
ขึ้น
ทำแบบนี้ พวกเขาก็จะได้ทิศทางในเบื้องต้นเป็นข้อมูลให้หวงซื่อปั๋วใช้อ้างอิง
สำหรับการพัฒนาเกมในลำดับต่อไป
“ผมเห็นด้วย แต่จะไปหาใครกันล่ะ เราให้เขามาช่วยเล่นเกมฟรีๆ ไม่ได้ พวก
เขาจะยอมเหรอ เราต้องจ่ายเงินให้พวกเขารึเปล่า” เปาซวี่ถาม
“ใช่ครับ นั่นแหละคือปัญหา” หวงซื่อปั๋วขมวดคิ้ว “ผมขอคิดก่อนว่าเราจะหา
หนูทดลองได้ยังไง”

หลังจากกลับไปที่โต๊ะ หวงซื่อปั๋วก็เครียดขึ้นมาเล็กน้อย
ตอนนี้พวกเขาต้องการหนูทดลองสักเล็กน้อยมาทดสอบเกม ไม่สิ ต้องหาให้
ได้เยอะๆ
จริงๆ แล้วเกมทั่วไปส่วนใหญ่จะมีรอบทดสอบเกมสำหรับผู้เล่นก่อนปล่อยให้
เล่นจริง
หลายๆ ครั้งแม้แต่ทีมทดสอบเกมที่ดีที่สุดก็ไม่สู้เหล่าเกมเมอร์ที่ขุดหาบั๊กเจอ
กันเป็นว่าเล่น
แต่พอเครื่องมือพัฒนาเกมกลายเป็นเครื่องมือที่ใช้กันทั่วไป และกระบวนการ
ตรวจสอบของ ERSO รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม รอบทดสอบก็กลายเป็นสิ่งที่ไม่ค่อย
สำคัญไป อีกอย่างบอสเผยก็ไม่ได้สั่งให้จัดรอบทดสอบอะไร แต่สั่งให้หวงซื่อปั๋วส่ง
เกมไปตรวจสอบทันที
เพราะเหตุนี้เกมฐานทัพกลางทะเลจึงเปิดให้เล่นเลยทันที ไม่มีโอกาสให้ได้จัด
ทดสอบระบบ
ตอนนี้หวงซื่อปั๋วคิดว่าพวกเขาต้องหาหนูทดลองมาลองเล่นเกมเพื่อที่จะได้รับ
ฟังความเห็นของคนภายนอก แต่ปัญหาก็คือจะไปหาจากไหน
เขาไม่รู้จักใครเลย
ควรจะ…ไปขอคำแนะนำจากบอสเผยดีไหม
ไม่ได้
คงจะน่าขายหน้าสุดๆ ถ้าต้องไปถามเรื่องง่ายๆ กับบอสเผย!
หวงซื่อปั๋วย้ำกับตัวเองว่าตอนนี้เขาเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน!
บอสเผยไม่ได้มอบหมายหน้าที่สำคัญขนาดนี้เพราะอยากให้คอยถามทุก
ปัญหาเล็กน้อยเหมือนเป็ นเด็กประถมสักหน่อย! เขาอยากให้แกพึ่งพาตัวเอง ทำ
สิ่งที่ต้องทำให้ดี!
จะดีมากถ้าสามารถแก้ไขปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ได้โดยไม่ต้องไปรบกวนบอส
อีกอย่างบอสเผยก็อาจไม่รู้ว่าจะหาหนูทดลองได้อย่างไรเหมือนกัน ถึงเขาจะ
รู้จักคนมากมาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะออกไปหาหนูทดลองได้ด้ วยตัวเองใช่
ไหมล่ะ
หวงซื่อปั๋วห้ามตัวเองไม่ให้ไปขอความช่วยเหลือจากบอสเผย และหาทาง
จัดการเรื่องนี้เอาเอง
หลั ง จากค้ น หาวิ ธ ี บ นเว็ บ เชี ย นตู ้ เ สร็ จ หวงซื ่ อ ปั ๋ ว ก็ ส ่ ง ข้ อ ความไปหาที ม
ออกแบบเป็นการส่วนตัว
“ผมอยากหาเกมเมอร์มาทดสอบเกมของเรา…พวกคุณรู้จักใครบ้างไหม ถ้าได้
แฟนเกมแนว FPS จะดีมาก ลองไปคุยกับกลุ่มอื่นๆ ดูว่ามีใครหาหนูทดลองให้ได้
บ้าง”
“แน่นอนว่าเรามีของให้เป็นการตอบแทน อาจจะให้เป็นเงินไม่ได้ แต่เราให้
เป็นปืนรุ่นลิมิเต็ดในเกมแทนได้”
ถ้าใช้เงินก็สามารถหาคนมาทดสอบเกมได้ง่ายๆ
แต่บอสเผยจะรู้เรื่องนี้ถ้ามีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง
หวงซื่อปั๋วไม่อยากให้เรื่องแบบนี้ไปรบกวนบอสเผย แต่เขาก็ควักกระเป๋า
ตัวเองมาจ่ายไม่ได้เหมือนกัน ที่ทำได้ก็คือให้ของในเกม
ถึงจะไม่ได้น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับคนที่มาทดสอบเกมเท่าไหร่ แต่ก็ดีกว่าไม่มี
อะไรให้เลย
ไม่นานทุกคนก็ตอบข้อความกลับ
หลายๆ คนก็เหมือนหวงซื่อปั๋ว พวกเขาไม่มีเส้นสายหรือรู้จักใครที่เกี่ยวข้อง
เลย
เสี่ยวลู่บอกว่าลองไปเข้ากลุ่มแฟนเกม Counter Strike แล้วคุยกับคนในกลุ่ม
ดูก็ได้
แต่วิธีนี้ดูไม่น่าจะใช้การได้
ถ้าพวกเขาเข้ากลุ่มไปโฆษณาเกม FPS เกมอื่นโดยไม่ได้ให้สิ่งตอบแทนที่ดี
มากพอ ก็อาจจะโดนเจ้าของกลุ่มเตะออกมาได้
ตอนนั้นเองหลินหวานก็พูดขึ้น
“เอ่อ…หนูรู้จักพวกเจ้าของกลุ่มแฟนเกม FPS ดังๆ อยู่บ้าง พวกเขาน่าจะมี
กลุ่มของตัวเองอยู่หนึ่งหรือสองกลุ่ม มีคนในกลุ่มหลายพันคน”
หวงซื่อปั๋วรีบถาม “เธอไปล่อลวงพวกเขามาได้มั้ย เอ่อ ผมหมายความว่าไป
ขอให้เขามาช่วยเราได้ไหม”
เขารีบแก้คำพูดทันทีที่รู้ว่าตัวเองใช้คำพูดไม่เหมาะสมกับสาวน้อย
แต่หลินหวานก็ไม่ได้ติดใจอะไร “ได้ค่ะ หนูค่อนข้างสนิทกับพวกเขา ไม่น่าจะ
เป็นเรื่องยากอะไร”
หวงซื่อปั๋วสงสัย “เธอไปรู้จักกับพวกเจ้าของกลุ่มได้ไง”
ไม่เห็นจะสมเหตุสมผล
หลินหวานไม่ได้เป็นแฟนเดนตายของเกมแนว FPS และถึงจะเป็นแฟนเดน
ตายก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะไปรู้จักเจ้าของกลุ่มเยอะแยะขนาดนี้
เธออธิบาย “อ๋อ ตอนหนูฝึกงานที่เทียนหัวสตูดิโอ ทีมคุมโปรเจ็กต์กระสุน
เพชรฆาตอยากได้เกมเมอร์แนว FPS สายฮาร์ดคอร์มาทดสอบเกม หนูเป็นคน
รับผิดชอบติดต่อประสานงานหาเกมเมอร์ให้ค่ะ”
บทที่ 60 อาวุธระดับในตำนานราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน

หวงซื่อปั๋วรู้สึกดีใจและตะลึงงัน
เป็นแบบนี้นเี่ อง
เขาแทบจะลื ม ไปว่ า หลิ น หวานเคยช่ ว ยโปรเจ็ ก ต์ เ กม FPS ที ่ ช ื ่ อ กระสุ น
เพชรฆาตตอนเธอยังฝึกงานที่เทียนหัวสตูดิโอ!
ตอนนั้นหลินหวานเป็นแค่เด็กฝึกงาน ยังไม่มีประสบการณ์ทำงานมาก โจวมู่
หยันจึงแค่มอบหมายให้เธอติดต่อประสานงานหาเกมเมอร์สาย FPS มาทดสอบ
เกม
คนทดสอบเกมไม่จำเป็นต้องมาทำงานที่เทียนหัวสตูดิโอ พวกเขาแค่รอรับชุด
ทดสอบเกมอยู่ที่บ้าน จากนั้นก็เข้าไปเล่นได้เลย
หลังจากนั้นพวกเขาต้องอธิบายประสบการณ์เล่นเกมของตัวเองและส่งให้
หลินหวานจัดแจง หลินหวานจะส่งข้อมูลต่อให้ทีมคุมโปรเจ็กต์
ทีมคุมโปรเจ็กต์พัฒนาเกมกระสุนเพชรฆาตจากความคิดเห็นที่ได้รับ
เทียนหัวสตูดิโอทุนหนา จึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะจ่ายค่าตอบแทนให้คน
ทดสอบเกม ไม่เหมือนบริษัทเถิงต๋าที่หวงซื่อปั๋วพยายามหาคนมาทดสอบฟรีๆ
ระหว่างที่ประสานงาน หลินหวานได้คุยกับพวกเขาอยู่บ่อยครั้ง ไม่นานก็สนิท
กัน
พูดง่ายๆ ก็คือ คนที่บริษัทเถิงต๋าจะได้มาช่วยทดสอบเกมคือผลผลิตจากความ
ยากลำบากของเทียนหัวสตูดิโอ…
เมื่อได้ผลตอบแทนมาโดยไม่ต้องทำอะไร หวงซื่อปั๋วจึงพูดได้แค่คำเดียวว่า…
ยอดเยี่ยม!
“ช่วยติดต่อให้ด้วยครับ! ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากได้เกมเมอร์ที่ชอบเกมแนว
FPS มาทดสอบเยอะๆ ทุกคนจะได้ปืนอินทรีทะเลทรายที่เป็นไอเทมลิมิเต็ดในเกม
เป็นการตอบแทน”
“แล้วก็เราจะให้รางวัลพิเศษสำหรับคนที่ชวนคนมาทดสอบเกมเพิ่มได้ ถ้า
ชวนคนมาทดสอบได้หนึ่งร้อยคน เราจะมอบปืนระดับตำนานให้เป็นการตอบ
แทน!”
“หรือคุณอาจจะเลือกคนที่ผลงานดีมากๆ แล้วให้อาวุธระดับตำนานเป็นการ
ตอบแทนก็ได้”
หวงซือ่ ปั๋วค่อนข้างรอบคอบในเรื่องนี้
แม้จะไม่ได้ตอบแทนด้วยเงิน แต่ในฐานะหัวหน้าฝ่ายวางแผน เขามีอำนาจ
จัดการส่วนหลังบ้าน สามารถให้ปืนและของรางวัลผู้เล่นได้
แม้อาวุธระดับตำนานจะราคาสูงถึงแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน แต่สำหรับ
บริษัทเกมแล้ว มันก็เป็นแค่ข้อมูลในเกมเท่านั้น
“ถ้าใครสามารถหาคนมาทดสอบได้อีกร้อยคน หรือตรวจพบบั๊กที่ส่งผลต่อ
เกมมาก เราจะให้อาวุธระดับตำนานแบบถาวรเป็นการตอบแทน”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูจัดการให้!” หลินหวานตอบตกลงทันที
นี่คืองานแรกที่เธอได้รับหลังจากเริ่มทำงานในบริษัทเถิงต๋า แถมไม่ใช่งานที่
ยากอะไร
ดังนั้นเธอต้องทำให้ดีที่สุด!
หัวหน้ากลุ่มคนแรกมีชื่อเล่นออนไลน์ว่าง้าวที่แตกสลาย (เจ๋อจี่เฉินชา)
ชื่อจริงของเขาคือเฉินชา เป็นผู้เล่นเกมแนว FPS มืออาชีพ เขาค่อนข้างดังใน
กลุ่มผู้เล่น Counter Strike และเป็นเจ้าของกลุ่มเกม (หรือควรจะเรียกว่ากลุ่ม
แฟนคลับของเขามากกว่า)
กลุ่มของเขามีสมาชิกมากกว่าสองพันคน หลายๆ คนมีความเคลื่อนไหวใน
กลุ่มอยู่ตลอด
เทียนหัวสตูดิโอให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของเฉินชามาก เขาแนะนำให้
ปรับแก้ไปหลายจุด
แต่หลินหวานก็รู้จักเขาแค่เพียงชื่อ และสังหรณ์ใจว่าอีกฝ่ายมีเงินใช้จ่ายไม่
ขาดมือในชีวิตจริง แต่เธอไม่รู้รายละเอียดส่วนตัวอื่นๆ เช่นหน้าที่การงานของเขา
เลย
“พี่เฉิน เลิกซุ่มเงียบแล้วมาช่วยทดสอบเกมของหนูที! ” หลินหวานสนิท
กับเฉินชา เธอจึงไม่ได้เริ่มต้นด้วยการทักทายตามมารยาทและเข้าเรื่องทันที
ไม่นานอีกฝ่ายก็ตอบข้อความกลับ
“ไม่ใช่ว่าเกมกระสุนเพชรฆาตทดสอบเสร็จแล้วเตรียมปล่อยเหรอ หรือว่าเขา
มีจุดที่อยากให้ตรวจเพิ่มอีก” เฉินชาถาม
หลินหวานอธิบาย “ไม่ใช่เกมกระสุนเพชรฆาตค่ะ คนละเกม ใช่ หนูลืมบอก
หนูลาออกจากเทียนหัวสตูดิโอแล้วนะคะ”
“…ทำไมเธอถึงลาออกตอนที่เกมกำลังจะปล่อยเนี่ย ฉันได้ยินมาว่ าพวก
พนักงานในทีมทำโปรเจ็กต์จะได้เงินก้อนใหญ่หลังปล่อยเกม เธอไม่เสียดายเงิน
เหรอ”
“เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ หนูจะบอกอะไรให้…บริษัทใหม่ของหนูดีกว่าเทียนหัว
สตูดิโอหลายเท่า! เลิกนอกเรื่องกันดีกว่า พี่ช่วยหนูทดสอบเกมที! ” หลินหวานเร่ง
เร้า
“ได้ ราคารอบละห้าร้อยหยวนเท่าที่เทียนหัวสตูดิโอหรือเปล่า”
“อ๋อ เปล่าค่ะ ทดสอบเสร็จ เราจะให้ปืนอินทรีทะเลทรายที่เป็นของลิมิเต็ดใน
เกมเป็นการตอบแทน” หลินหวานตอบตรงๆ
อีกฝ่ายไม่ได้ตอบข้อความไปพักใหญ่
เฉินชางุนงงไปหมด
หมายความว่าอย่างไรกัน ต่างกันเกินไปหรือเปล่า
เธอจะให้ฉันทำงานให้ฟรีๆ หรือ
ตอนเฉินชาช่วยเทียนหัวสตูดิโอทดสอบเกม เขาจะหาจุดผิดพลาดได้กี่จุดใน
การทดสอบหนึ่งรอบนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ขอแค่เจอสักจุด ก็จะได้เงินห้าร้อยหยวน
เป็นการตอบแทน
เฉินชาเป็นผู้เล่นระดับเทพ สามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่างเรื่องการควบคุม
ในระดับที่ผู้เล่นทั่วไปไม่สามารถรับรู้ได้ ความคิดเห็นของเขาถือเป็นสิ่งที่ประเมิน
ค่าไม่ได้
เกมกระสุนเพชรฆาตมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้เล่นมืออาชีพ และเฉินชาก็ถือได้ว่า
เป็นตัวแทนของผู้เล่นกลุ่มนี้ จึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะได้ค่าตอบแทนมากหน่อย
แน่นอนว่าห้าร้อยหยวนถือว่าค่อนข้างแพง เขาพอจะเข้าใจได้ว่าบริษัทใหม่ไม่
น่าจะอยากจ่ายแพงขนาดนี้
แต่อย่างน้อยก็ควรจะให้เงินตอบแทนสักสี่ร้อยหยวนสิ สามร้อยหยวนก็ยังดี
จะให้ของตอบแทนเป็นปืนรุ่นลิมิเต็ดในเกมที่ชื่ออินทรีทะเลทรายเนี่ยนะ!
ล้อกันเล่นหรือเปล่า ใครจะไปอยากได้ปืนอินทรีทะเลทรายโง่ๆ กัน!
มันก็แค่ข้อมูลในเกมเท่านั้น!
ถึงเฉินชาจะหงุดหงิด แต่เขาก็ไม่ได้โวยวายอะไรเพราะสนิทกับหลินหวาน
“บริษัทใหม่ของเธอไม่ขี้เหนียวไปหน่อยเหรอ ไม่ยอมจ่ายเงินให้คนทดสอบ
แม้แต่หยวนเดียว พวกเขาตั้งใจจะหาคนมาทำงานให้ฟรีๆ งั้นเหรอ” เฉินชาพูด
อะไรไม่ออก
“ขี้เหนียวเหรอ ไม่เลยนะคะ! หนูเอาตัวเป็นประกันเลยว่าบริษัทนี้ไม่ได้ขี้
เหนียว นอกจากจะไม่ได้ขี้เหนียวแล้ว พวกเขายังใจกว้างมากๆ ด้วย!”
“เอ่อ…หนูรู้ว่าตอนนี้พี่อาจจะยังไม่เชื่อที่หนูพูด แต่หนูไม่ได้มาต้มตุ๋นพี่นะ!”
“เอาแบบนี้มั้ยคะ ถ้าพี่ทดสอบเกมให้หนูจริงจัง หนูจะลงชื่อให้พี่ได้ปืนระดับ
ตำนานแบบถาวรเพิ่มจากปืนลิมิเต็ดอินทรีทะเลทราย พี่คิดว่าไง” หลินหวาน
พยายามเต็มที่ในการโน้มน้าวใจอีกฝ่าย
เขาก็ยังไม่ได้รู้สึกสนใจอะไร “จะบ้าเหรอ ใครจะไปสนใจอาวุธในเกม อีก
อย่างอาวุธระดับตำนานแบบถาวรจะราคาเท่าไหร่กันเชียว เต็มที่ก็สองร้อยหยวน
ไม่ถึงเรทที่ฉันวางไว้ด้วยซ้ำ! บอกเลยนะว่าฉันไม่มีทางทำให้แน่นอนถ้าได้ต่ำกว่า
สามร้อยหยวน!”
“เท่าที่หนูรู้มา ราคาขายในเกมของอาวุธระดับตำนานแบบถาวรอยู่ที่แปด
ร้อยแปดสิบแปดหยวน…” หลินหวานคิดอยู่ครู่หนึง่ ก่อนจะตอบ
เฉินชา “?”
“??”
“เธอบอกว่าเท่าไหร่นะ”
“แปดร้อยแปดสิบแปด ในเกมใช้ค่าเงินหยวนหรือเปล่า”
หลินหวานตอบ “ก็หยวนสิ!”
เฉินชาเลื่อนหน้าเข้าไปจ้องจอคอมพิวเตอร์เพื่อเช็กดูให้ดีอีกครั้ง
ไม่มีจุดทศนิยมเลยจริงๆ ด้วย!
บ้าไปแล้ว! พวกนี้มันบ้ามาก!
ขายอาวุธระดับตำนานที่แปดร้อยแปดสิบแปดหยวนเนี่ยนะ!
ทำแบบนี้ก็เหมือนปล้นกันโต้งๆ!
ไอ้โง่ที่ไหนจะมาซื้ออาวุธราคาแพงหูฉี่แบบนี้!
ทำไมบริษัทที่สร้างเกมนี้ถึงได้ดูน่าเชื่อถือน้อยลงเรื่อยๆ กันนะ…
เฉินชาเงียบไปพักหนึ่ง
สองนาทีต่อมา เขาก็ตอบ “ส่งเกมมา เดี๋ยวขอดูก่อน บอกไว้ก่อนเลยนะ อย่า
มาหาว่าฉันใจดำ ถ้าเกมมันทุเรศเกินแล้วฉันไม่ทดสอบให้”
จริงๆ แล้วที่หลินหวานพูดมาไม่ได้ทำให้เขาสนใจอะไร
เขาแค่สงสัยว่าอาวุธระดับตำนานราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนหน้าตา
เป็นอย่างไร…
“เกมชื่อฐานทัพกลางทะเล พี่โหลดจากแพลตฟอร์มเกมทางการได้เลย” หลิน
หวานมั่นใจมาก “ไม่ต้องห่วง ถึง หนูจะยังไม่ได้ลองเล่นเอง แต่ก็มั่นใจว่าเกม
จะต้องประสบความสำเร็จมากแน่ เพราะคนที่สร้างเกมนี้เป็นคนนักออกแบบเกม
ที่มีพรสวรรค์และความทะเยอทะยาน!”
เฉินชา “…”
เขาไม่ค่อยเชื่อตรง ‘นักออกแบบเกมที่มีพรสวรรค์และความทะเยอทะยาน
มากที่สุดในประเทศ’ นี่ละ
แค่ได้ยินชื่อเกม ‘ฐานทัพกลางทะเล’ เขาก็พูดอะไรไม่ออกแล้ว
ทำไมชื่อเกมถึงฟังดูเป็นลางบอกเหตุว่าเกมนี้ต้องแย่มากแน่ๆ กันนะ…
บทที่ 61 นี่คือกิเลนเพลิง!

เฉินชาค้นชื่อเกมฐานทัพกลางทะเลในร้านค้าเกมของแพลตฟอร์มทางการ
ด้วยความสงสัยและคลางแคลงใจ จากนั้นก็กดดาวน์โหลดแล้วสมัครบัญชีสำหรับ
เล่นเกม
เขาแปลกใจเมื่อ ได้เห็นว่า ตัวเกมต้อ งการพื้น ที่เ ก็ บข้อ มู ลเท่าไหร่ เกมนี้
ต้ อ งการพื ้ น ที ่ ม ากกว่ า กระสุ น เพชรฆาต นอกจากนี ้ ย ั ง มี ข นาดใหญ่ ก ว่ า เกม
Counter Strike หลายเท่า
แต่เฉินชาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะมีเกมแย่ๆ มากมายในตลาดที่ใช้พื้นที่เก็บ
ข้อมูลเยอะ
มีเกมที่สร้างในประเทศเกมหนึ่งที่ปรับการตั้งค่าออกมาแย่เสียจนแม้แต่การ์ด
จอที่ดีที่สุดในตลาดก็ไม่สามารถแก้ปัญหากราฟิกคุณภาพห่วยแตกของเกมได้
กลายเป็น ‘ตำนานเทพตกสวรรค์’ ไป
ดังนั้นเกมที่ใช้พื้นที่เก็บข้อมูลเยอะๆ และต้องใช้สเป็กคอมสูงไม่ได้บ่งบอก
อะไรเลย สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือเนื้อหาของเกมต่างหาก
ไม่นานเฉินชาก็เข้าสู่เกม
ความเห็นแรกของเขาเมื่อเห็นเกมคือ…ก็ดูดีทีเดียว
กราฟิกของเกมดีกว่าที่คิดเอาไว้!
ตอนแรกเฉินชาคิดว่าเกมนี้น่าจะเป็นเกมกากๆ เขาไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ที่
ดาวน์โหลดมาก็เพราะอยากเห็นหน้าตาของอาวุธระดับตำนานราคาแปดร้อยแปด
สิบแปดหยวน
แต่ตัวเกมกลับสร้างความประทับใจแรกที่ค่อนข้างดีให้กับเขา!
ถึงจะไม่มีแอนิเมชันตอนเข้าเกม แต่หน้าจอล็อกอินและหน้าต่างผู้ใช้งานใน
เกมก็สวยงามเลยทีเดียว ไม่ได้ด้อยไปกว่าเกมกระสุนเพชรฆาตเลย
เฉินชากดเข้าร้านค้าในเกมเป็นอันดับแรก
สิ่งแรกที่ปรากฏให้เห็นคืออาวุธระดับตำนาน กิเลนเพลิงสีรุ้ง!
มองแวบแรกดูคล้ายปืน AK-47 แต่มีการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกไป
มาก ปืนทั้งกระบอกส่องแสงเป็นประกาย ลำกล้องปืนแต่งด้วยสีระยิบระยับลาก
ยาวไปจนถึงตัวปืน ดูแล้วเหมือนระลอกสายรุ้ง โดดเด่นสะดุดตาไม่น้อย ด้านล่าง
ของลำกล้องปืนมีมีดสั้นสีทองหน้าตาโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ในรายละเอียด
ร้านค้าระบุว่ามีดสั้นเล่มนี้มีชื่อว่า ‘มีดกิเลน’
ตรงจุดเชื่อมต่อระหว่างลำกล้องกับกระบอกปืนมีหัวกิเลนขนาดใหญ่ ประดับ
อยู่ ปากกิเลนอ้ากว้างราวกับจะกลืนกินลำกล้องและมีดสั้นเข้าไป ดวงตาของ
กิเลนมีสีแดงเลือด ขนบนร่างมีสีสันและลักษณะคล้ายเปลวเพลิงพลิ้วไหว เมื่อ
ขยับตัวปืน ดวงตาของกิเลนจะส่องประกายสีแดง ทำให้ดูเหมือนกิเลนกำลังจะตื่น
คืนชีวิต
เฉินชาตะลึงงันไป
แม่งโคตรจะเท่เลย
เขาเป็นผู้เล่นตัวท็อปของเกม Counter Strike และได้ทดสอบเกมกระสุน
เพชรฆาตมาก่อน
เกม Counter Strike และเกมกระสุ นเพชรฆาตต่ า งพยายามเลี ย นแบบ
รูปลักษณ์ของอาวุธในชีวิตจริง
อย่างปืน AK-47 ปรับแต่งอย่างมากก็แค่เปลี่ยนสี ไม่ได้เปลี่ยนรูปลักษณ์
พื้นฐานของปืนไปมากนัก
พวกเขากลัวว่าพวกคลั่งเกมแนวทหารจะด่าเอา
เทียบกันแล้ว การปรับแต่งแบบฉีกแนวของเกมฐานทัพ กลางทะเลนั ้ น ดู
น่าสนใจกว่า!
แน่นอนว่าถ้าพูดกันตามตรง ปืนกิเลนเพลิงกระบอกนี้ก็ดูเวอร์วังเกินไปหน่อย
ทั้งการออกแบบที่สุดโต่ง การปรับแต่งครั้งใหญ่ และเอฟเฟ็กต์พิเศษที่เพิ่มเข้า
มา…สิ่งเหล่านี้ทำให้เฉินชารู้สึกอึดอัดเมื่อได้เห็นในตอนแรก
เฉินชาเล่นเกมแนว FPS มาหลายปีจึงคุ้นเคยว่าปืน AK-47 หน้าตาเป็น
อย่างไร ทำให้เขารู้สึกไม่คุ้นชินเมื่อได้เห็นรูปลักษณ์ของปืนที่เปลี่ยนจากแนว
สมจริงไปเป็นแนวแฟนตาซี
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าปืนกระบอกนี้ช่างเท่จริงๆ!
ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าโคตรเท่!
เฉินชาจ้องเอฟเฟ็กต์พิเศษของปืนกิเลนเพลิงอยู่นาน ขนสีแดงบนหัวของ
กิเลนเพลิงพลิ้วไหวเหมือนเปลวเพลิง นอกจากนี้ยังมีเอฟเฟ็กต์ลมหายใจกับสีสัน
ระยิบระยับบนตัวปืนอีก…
พอเริ่มชินกับการออกแบบแนวแฟนตาซี ปืนก็ดูน่าหลงใหลเลยทีเดียว
ดูราคาสิ
กระบอกละแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนจริงๆ ด้วย!
เฉินชาได้แต่ร้องอุทานว่าโคตรเท่
เท่ขนาดที่ว่าคนออกแบบกล้าตั้งราคาสูงขนาดนี้ ช่างใจถึงจริงๆ!
ปกติแล้วราคาสินค้าในเกมจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเพื่อดูฐานราคาที่ผู้เล่นพร้อมจ่าย
ตัวอย่างเช่น เพดานค่าใช้จ่ายของเกมสามก๊กสุดคิวต์ในตอนแรกนั้นค่อนข้าง
ต่ำ ทำให้ผู้เล่นหลายคนใช้จ่ายเต็มขั้นตามเพดานค่าใช้จ่าย ต่อมาเกมสามก๊กสุด
คิวต์ก็เพิ่มไอเทมเข้าไปเพื่อให้ผู้เล่นเติมเงินซื้อ จากนั้นจำนวนระบบพรีเมี่ ยมและ
ไอเทมที่มีให้ซื้อก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
หายากมากที่จะมีเกมไหนตั้งขายไอเทมราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน
ตั้งแต่เปิดเกมเหมือนอย่างเกมฐานทัพกลางทะเล!
เฉินชาดูร้านค้าในเกมแล้วพบปัญหา
ในร้านไม่มีการแบ่งหน้าหรือแบ่งแถวไอเทมให้ซื้อในเกม!
นั่นก็เพราะทั้งร้านมีของขายอยู่แค่ชิ้นเดียว!
ปืนกระบอกนี้คือไอเทมชิ้นเดียวที่มีขายในเกมฐานทัพกลางทะเล
พูดอีกอย่างก็คือ นอกจากปืนกิเลนเพลิงราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนแล้ว
เกมฐานทัพกลางทะเลก็ไม่ได้ขายอะไรอีก!
แน่นอนว่าในเกมยังมีอาวุธอื่นๆ อีก อาวุธเหล่านั้นอยู่ในระบบ ‘อาวุธ’
ระบบอาวุธจะบอกข้อมูลโดยละเอียดของอาวุธแต่ละชิ้นและวิธีหา
อาวุธเหล่านี้สามารถหาได้จากหลายทาง บางชิ้นปลดล็อกเมื่อเล่นโหมดเนื้อ
เรื่องในเกมจบ บางชิ้นปลดล็อกจากความสำเร็จในเกม บางชิ้นต้องใช้เงิน ในเกม
ซื้อ
เงินในเกมได้มาจากการทำภารกิจรายวันและการเล่นโหมดแข่งขัน ถึงจะมี
จำนวนจำกัดว่าสามารถหาได้เท่าไหร่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะได้มา
เฉินชาแสนแปลกใจ นอกจากปืนกิเลนเพลิงแล้วก็ไม่มีอาวุธไหนที่ต้องเติมเงิน
ซื้ออีก
เขาเกาหัว รู้สึกสับสนกับระบบเก็บเงินของเกมนี้
ปืนกิเลนเพลิงนี่ขายได้จริงๆ หรือถึงตั้งราคาไว้ตั้งแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน
เขาตรวจดูคำอธิบายปืนกิเลนเพลิง
อาวุธเกมนี้แบ่งออกเป็นสี่ระดับ ระดับธรรมดา ระดับสูง ระดับหายาก และ
ระดับตำนาน
เทียบกับอาวุธระดับหายากที่เป็นอาวุธระดับต่ำกว่าแล้ว ข้อแตกต่างก็แค่
อาวุธระดับตำนานมีค่าพลังสูงกว่าระดับหายากเล็กน้อย
ถ้าไม่ดูเบื้องลึกจริงๆ เฉินชาก็แทบไม่เห็นข้อแตกต่างระหว่างค่าพลังของปืน
กิเลนเพลิงและปืน AK-47 ระดับหายากกระบอกอื่นๆ
อาวุธระดับอื่นๆ ก็เหมือนกัน อาวุธบางชนิดในแต่ละระดับมีค่าพลังที่เพิ่มขึ้น
เพียงเล็กน้อยจนแทบไม่สังเกตเห็น
นอกจากนั้น อาวุธระดับตำนานก็มีคุณสมบัติพิเศษบางอย่าง
ค่า XP ที่ผู้เล่นได้รับจะเพิ่มขึ้น 200% (ค่า XP คือค่าประสบการณ์ที่ส่งผลต่อ
เลเวลของผู้เล่น แต่เพิ่มเลเวลไปก็ไม่ได้อะไรมาก ตอนเลเวลอัพจะได้เงินในเกมมา
นิดหน่อย นอกจากนั้น เลเวลของผู้เล่นอาจจะส่งผลต่อการเข้าถึงระบบบางระบบ
ในเกม)
ผู้เล่นในห้องเดียวกันได้รับค่า XP เพิ่มขึ้น 50%
ผู้เล่นในห้องเดียวกันได้เงินในเกมเพิ่มขึ้น 30%
ตอนผู้เล่นตาย อาวุธที่หล่นจากตัวจะกลายเป็นปืน AK-47 ธรรมดา ถ้าผู้เล่น
เลือกโยนอาวุธเอง อาวุธที่หล่นพื้นจะยังเป็นปืนกิเลนเพลิง
ปืนกิเลนเพลิงโหลดกระสุนและเปลี่ยนอาวุธเร็วกว่า บรรจุกระสุนได้มากกว่า
นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีอะไรอีก!
ปืนกิเลนเพลิงมีข้อได้เปรียบมากกว่าแค่เล็กน้อย ไม่ได้เก่งกว่าอาวุธอื่นชัดเจน
เกมนี้เป็นเกมแนว FPS ถ้ายิงโดนหัวด้วยปืนกิเลนเพลิง ศัตรูจะตายทันที…
เหมือนกับปืน AK-47 ระดับธรรมดา ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย!
ถึงปืนกิเลนเพลิงจะโหลดกระสุนและเปลี่ยนอาวุธเร็วกว่า ความแตกต่างก็แค่
ไม่กี่เสี้ยววินาที
ความเสียหายที่ปืนกิเลนเพลิงทำได้อาจมากกว่าปืน AK-47 ระดับธรรมดา
เล็กน้อยเมื่อยิงผ่านกำแพงหรือยิงโดนขา
แม้จะมีข้อได้เปรียบเรื่องค่าพลังเมื่อเทียบกับอาวุธชิ้นอื่นๆ แต่เฉินชากลับรู้สึก
ว่ามันไม่ได้โกงถึงขนาดต้องเสียเงินแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนเพื่อซื้อ
เขารู้สึกงุนงง ไม่ค่อยเข้าใจเกมนี้…
ผู้พัฒนาดูเหมือนจะคำนึงถึงผู้เล่น แต่การตั้ง ราคาอาวุธที่แปดร้อยแปดสิบ
แปดหยวนนั้นไม่เห็นจะเป็นมิตรกับผู้เล่นเลยสักนิด
แต่จะมองว่าเกมนี้กากก็ไม่ได้เหมือนกัน นอกจากปืนกิเลนเพลิงราคาแปด
ร้อยแปดสิบแปดหยวนแล้ว ตัวเกมก็เปิดให้เล่นฟรีทุกอย่าง อีกทั้งปืนกิเลนเพลิง
ราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนก็ไม่ได้มีค่าพลังโกงจนเห็นได้ชัดขนาดนั้น
เฉิ น ชาคิ ด ว่ า คนที ่ อ อกแบบระบบเก็ บ เงิ น นี ้ ค วรจะได้ ข ึ ้ น หิ ้ ง มนุ ษ ย์ ท ี ่ มี
พฤติกรรมแปลกประหลาดที่สุด เพราะมัน…ช่างลึกล้ำเกินจะหยั่งถึงได้จริงๆ!
บทที่ 62 มีโหมดเนื้อเรื่องด้วยจริงๆ เหรอ

หลินหวานบอกว่าจะลงชื่อให้ของรางวัลเพิ่มเป็นปืนกิเลนเพลิงถ้าเขาทดสอบ
เกมให้อย่างจริงจัง
อย่างไรเสียราคาตลาดของปืนกิเลนเพลิงก็อยู่ที่แปดร้อยแปดสิบแปดหยวน…
แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เฉินชาก็ส่ายหน้า โยนความคิดนั้นไปจากหัว
ปืนกิเลนเพลิงนี่จะราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนได้อย่างไร มันก็แค่โค้ดใน
เกม ใครจะไปซื้อกัน
ถ้าไม่มีใครซื้อ ปืนนี่ก็ไร้ค่าสิ
ใช่ ตราบใดที่ไม่มีใครซื้อปืนกิเลนเพลิง เกมนี้ก็จะเป็นเกมที่ยุติธรรมกับผู้เล่น
ทุกคน
เฉินชาไม่เข้าใจเกมนี้ เกม FPS ที่เขาเคยเล่นอย่างเกม Counter Strike ไม่มี
ของให้ซื้อเพิ่มในเกม ทำกำไรจากการขายเกมอย่างเดียว เกม FPS อย่างเกม
กระสุนเพชรฆาตที่เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีก็มีระบบพรีเมี่ยมให้ผู้เล่นจ่ายเงินไต่
ระดับพรีเมี่ยมของตัวเอง
แต่เขาไม่เคยพบเห็นเกมแบบเกมฐานทัพกลางทะเลมาก่อน
เฉินชาออกจากหน้าร้านค้าในเกม จากนั้นก็เข้าไปดูระบบอื่นๆ ในเกมด้วย
ความสงสัย
“มีโหมดต่อสู้ในเกมเยอะมาก โหมดผีกับโหมดไบโอเคมิเคิลเหรอ ไม่เห็นเคย
ได้ยิน”
“อะไรกัน มีโหมดเนื้อเรื่องด้วย”
เฉินชาแสนแปลกใจเมื่อได้เห็นโหมดผีและโหมดไบโอเคมิเคิล แต่ก็ไม่ได้ตื่น
ตกใจกับโหมดพวกนั้นเท่าไหร่
ถึงอย่างไรเกมแนว FPS ก็มักจะพัฒนาโหมดต่อสู้ใหม่ๆ ออกมาอยู่แล้ว
แต่เฉินชาก็ต้องตะลึงงันไปเมื่อได้เห็นโหมดเนื้อเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นเกม Counter Strike หรือเกมแนว FPS เกมอื่นในประเทศ ไม่
เคยมีเกมไหนทำโหมดเนื้อเรื่องมาก่อน!
การวางพล็อตเนื้อเรื่องให้เกม FPS เป็นสิ่งที่ดูจะต้องลงทุนลงแรงมาก แต่ได้
ผลตอบแทนน้อย ผู้พัฒนาเกมในประเทศส่วนใหญ่จึงไม่สามารถทำได้!
เกมดังๆ บางเกมมีการวางพล็อตเนื้อเรื่อง แต่ก็มักจะเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ทุน
หนา เป็นเกมที่มีคอนเซ็ปต์แตกต่างจากเกม FPS ทั่วไป!
เที ย นหั ว สตู ด ิ โ อลงทุ น กั บ เกมกระสุ น เพชรฆาตไปเยอะมากเพื่ อให้
องค์ประกอบทุกอย่างของเกมออกมาสมบูรณ์แบบ แต่ก็ไม่ได้ใส่เนื้อเรื่องเข้าไป
เหตุผลหนึ่งก็เพราะโจวมู่หยันคิดว่าเป็นเรื่องไม่จำเป็น เหตุผลที่สองคือเขาไม่
มั่นใจว่าจะทำได้!
แล้วทำไมเกมฐานทัพกลางทะเลที่ไม่ได้ดังอะไรถึงกล้าใส่โหมดเนื้อเรื่องเข้ามา
ทั้งๆ ที่เทียนหัวสตูดิโอยังไม่กล้าใส่เข้าไปในเกมกระสุนเพชรฆาต
เรื่องนี้ทำให้เฉินชารู้สึกสนใจ
เขาไม่ได้ปิดเกมทันทีอย่างที่คิดไว้ และตัดสินใจลองเล่นโหมดเนื้อเรื่องดู
เฉินชาเตรียมตัวพบกับความน่าเบื่อหน่ายและความน่ารังเกียจของโหมดเนื้อ
เรื่อง


เข้าสู่โหมดเนื้อเรื่อง
หน้าจอว่างเปล่า
หน้าจอว่างเปล่าไปพักหนึ่ง
เฉินชาเกือบจะคิดว่าเป็นบั๊กในเกม แต่ไม่นานเสียงก็ดังขึ้นผ่านหูฟัง
“เขาตายแล้วเหรอ”
“ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่มีทางที่ เขาจะรอดได้หลังสัมผัส
ไวรัส G”
“โยนเขาทิ้งไว้ที่นี่แล้วกัน”
เสียงพากย์เป็นภาษาอังกฤษโดยเจ้าของภาษา โชคดีที่มีซับไตเติ้ลขึ้นบน
หน้าจอที่ยังคงว่างเปล่าอยู่
หน้าจอค่อยๆ มืดลง บ่งบอกว่าตัวเอกโดนโยนทิ้งไว้
หลังจากนั้น เสียงฝีเท้าก็ค่อยๆ เลือนหายไป
หน้าจอยังคงดำสนิท แต่แสงค่อยๆ ปรากฏขึ้นจากไกลๆ คล้ายวิสัยทัศน์ของ
คนธรรมดาเมื่อหลับตาตอนกลางวันซึ่งจะสัมผัสได้ถึงแสงที่ผ่านเปลือกตาเข้ามา
เสียงมากมายดังขึ้นในหูฟังของเฉินชา
มีทั้งเสียงหายใจถี่หนักและเสียงโอดครวญเบาๆ เสียงทั้งสองน่าจะมาจากตัว
เอก
มีเสียงดังกรอบแกรบที่น่าจะเกิดจากการคลานหรือเดินโขยกเขยก
เสียงพึมพำในลำคอดังขึ้น ฟังดูคล้ายเสียงกล่องขาด เสียงที่ว่าคือเสียงครวญ
ครางอันเป็นมาตรฐานของเหล่าซอมบี้ เสียงคำรามดังขึ้นเป็นพักๆ จากที่ไหนสัก
แห่ง ห่างไกลออกไป
ครู่ต่อมา วงรีสองวงก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เผยให้เห็นภาพเลือนรางภายใน
วง เป็นเหมือนวิสัยทัศน์ของตัวเอกตอนลืมตา
หลังจากกะพริบตาอยู่หลายครั้ง วิสัยทัศน์ของตัวเอกก็กลับมาเป็นปกติ ใน
ที่สุดเฉินชาก็เห็นภาพของเกมได้อย่างชัดเจน
สิ่งแรกที่เห็นหลังจากลืมตาคือมือข้างหนึ่ง เป็นมืออั นขาวซีด มีเส้นเลือดปูด
โปน มือที่ว่าคือมือของศพ!
เฉินชาและตัวเอกตกใจ
ตัวเอกพยายามลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล ตอนนั้นเองเขาก็ได้พบภาพที่น่า
สะพรึงกลัวยิ่งกว่าเก่า ที่ที่เขานอนอยู่เมื่อครู่ไม่ใช่เตียงอันนุ่มสบาย แต่เป็นกองศพ
ต่างหาก!
ศพแต่ละศพรูปลักษณ์แตกต่างกัน ศพบางศพมีสภาพเละเทะ น่าขยะแขยง
เสียจนอยากจะอ้วกเอาข้าวเย็นที่กินมาเมื่อวานออกมา บางศพยังมีสภาพค่อนข้าง
สมบูรณ์ ไม่มีแผลภายในร้ายแรงที่เห็นได้ชัดเจน จุดผิดปกติคือผิวที่ขาวซีดและ
เส้นเลือดที่ปูดออกมาจากผิวหนัง
ศพบางศพเริ่มเน่าเปื่อย เนื้อที่ผิดปกติเติบโตขึ้นบนศพ พวกมันกำลังกลาย
พันธุ์!
เลือดสดแห้งเหือดและจับตัวแข็ง ศพเหล่านี้เกาะติดกันแน่น ไม่น่าจะแยก
ออกจากกันได้
ในตอนนั้นตัวเอกก็กำลังจะกลายเป็นหนึ่งในพวกมัน!
ตัวเอกอยู่ขอบสุดของกองศพ เห็นได้ชัดว่าพวกคนที่แบกเขามาที่นี่ไม่อยาก
เข้าไปใกล้กองศพ จึงโยนเขาทิ้งไว้ตรงนี้
หลังจากขยับตัวสักพัก ตัวเอกก็หล่นจากกองศพไปตรงพื้น เขาหยุดพักอยู่ครู่
หนึ่งเพื่อฟื้นฟูพลัง ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนได้ในที่สุด
ตอนนั ้ น เองเฉิ น ชาก็ พ บว่ า เขาสามารถควบคุ ม ตั ว ละครเอกได้ พร้ อ มทั้ ง
สามารถควบคุมวิสัยทัศน์และการเคลื่อนไหวของตัวละครได้อย่างอิสระ
วิธีการเล่นปรากฏขึ้นบนจอ เฉินชาสามารถใช้เมาส์หันมองสิ่งต่างๆ ได้ และ
สามารถเคลื่อนไหวไปทิศทางต่างๆ ได้ด้วยปุ่ม W A S และ D
นี่คือการควบคุมพื้นทางของเกม FPS บนคอมพิวเตอร์ เนื่องจากผู้เล่นบางคน
อาจจะไม่เคยเล่นเกมแนวนี้มาก่อน เกมฐานทัพกลางทะเลจึงบอกวิธีเล่นไว้อย่าง
ละเอียด คล้ายกับเกมระดับ AAA ของต่างประเทศ
มุมมองบุคคลที่หนึ่งทำให้เฉินชาเหมือนเป็นตัวละครในเกม
แม้รอบตัวจะมีแต่ความมืดมิด เขาก็พอจะดูออกว่าตัวเอกอยู่ในตึกที่เหมือน
จะเป็นฐานทัพอะไรสักอย่าง
รอบๆ มีเก้าอี้ โต๊ะประชุมขนาดใหญ่ และคอมพิวเตอร์ทางการทหารจำนวน
หนึ่งวางอยู่กระจัดกระจาย ศพมากมายกองเต็มอยู่บนโต๊ะเก้าอี้
ตอนที่เฉินชามองไปที่ศพกองใหญ่ที่สุด เขาไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่เห็น
เหมือนแขนที่อยู่ใต้กองศพนั้นกระตุกเล็กน้อย
ภาพที่เห็นทำให้เฉินชารู้สึกอึดอัด เขาเริ่มมองหาทางออก
มีทางออกอยู่สามแห่ง แต่ละแห่งมีป้ายสีเขียวส่องแสงอยู่ด้านบน ป้ายป้าย
หนึ่งมีคำว่า ‘EXIT’ ปรากฏอยู่ แสงในห้องไม่ได้สว่างมาก ตัวเอกต้องพึ่งแสงจาก
ทางออกแต่ละแห่งเพื่อมองสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในห้อง
เฉินชาคุมตัวเอกให้เดินไปทางประตูที่ใกล้ที่สุด
ตัวเอกเดินไปอย่างเชื่องช้า วิสัยทัศน์ของเขาพร่ามัวเป็นพักๆ แขนขวาของตัว
เอกแกว่งไปมาตามการเคลื่อนไหว แต่มือซ้ายกลับกุมท้องเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าเขา
อาการไม่ค่อยดี
เขาพยายามเปิดประตูทางออกหลังไปถึง แต่ก็ไม่สำเร็จ เหมือนว่าประตูจะล็
อกเอาไว้ หรือไม่ก็มีอะไรขวางไว้จากอีกฝั่ง
ตัวเอกเดินไปที่ประตูแห่งที่สอง ประตูบานนี้มีเครื่องล็อกดิจิทัล ต้องใช้การ์ด
เพื่อเปิด
เฉินชาคุมตัวละครให้เดินไปที่อื่น ตัวเอกย่ำเท้าหนักเข้าไปใกล้กองศพอีกครั้ง
เพื่อไปยังประตูบานที่สามที่อยู่ห่างออกไปไกลที่สุด
มองจากไกลๆ ประตูดูเหมือนจะแง้มเอาไว้เล็กน้อย สามารถผ่านออกไปได้
บรรยากาศรอบตัวเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจและเสียงฝีเท้าของตัว
เอก
ในตอนนั้นเอง ศพศพหนึ่งจากกองศพตรงกลางห้องก็พุ่งมาจับขาขวาของเขา
ไว้ มันอ้าปากกว้างแล้วกัดเข้าที่ขาของตัวเอก!
ตัวเอกกรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด วิสัยทัศน์บนหน้าจอกลายเป็นสีแดง บ่ง
บอกว่าตัวเอกกำลังโดนโจมตี!
บทที่ 63 พล็อตเนื้อเรื่อง

เฉินชาทำตามคำแนะนำการเล่นบนหน้าจอ เขาเลื่อนเมาส์พร้อมกดคลิกซ้าย
เพื่อหลบหนีจากฝ่ามือของศพ
ตัวเอกกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดระหว่างที่พยายามหลบหนีอย่างสุดกำลัง
เขาเตะซอมบี้ออกแล้วกระทืบลงที่หัวจนแหลกละเอียด!
แน่นอนว่า วิสัยทัศน์ของตัวละครหันหลบไปด้านข้างในช่วงสำคัญเพื่อเลี่ยง
ภาพน่าสยดสยอง
ถึง ERSO จะมีระบบเรตติ้งเป็นของตัวเอง แต่ทั้งเปาซวี่และหวงซื่อปั๋วไม่
อยากให้เกมฐานทัพกลางทะเลจัดอยู่ในหมวดเกมที่ไม่เหมาะกับเยาวชน เพราะจะ
ทำให้จำนวนผู้เล่นลดลง
ตัวเกมมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเพื่อเลี่ยงไม่แสดงฉากแบบเมื่อครู่ชัดเจน
จนเกินไป
ตัวเอกล้มลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวด จากมุมมองบุคคลที่หนึ่ง เฉินชาเห็นว่า
มีแผลโชกเลือดอยู่ตรงขาขวาของตัวเอก เพราะโดนซอมบี้กัด กางเกงทรงคาร์โก้
ของตัวเอกขาดเป็นรู ผิวหนังตรงจุดที่มีรูขาดเป็นแผลเหวอะหวะ เลือดสดๆ ไหล
ย้อย
ตัวเอกพยายามยืนขึ้นอย่างยากลำบากแล้วมุ่งหน้าตรงไปยังทางออก
ในที่สุดเขาก็ถึงประตูแห่งสุดท้าย
ประตูตรงหน้าเปิดแง้มไว้ เห็นแสงสว่างลอดผ่านช่องที่แง้มเปิดอยู่ ด้านหลัง
ประตูเหมือนจะมีเสียงอะไรบางอย่างแว่วๆ
ตัวเอกผลักประตูเปิดด้วยสองมือ
ทันทีที่ประตูเปิดออก ซอมบี้ร่างโชกเลือดตัวหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่ตัวเอกจาก
ด้านหลังประตู มันผลักเขาล้มลงกับพื้น
“เวรแล้วๆๆๆ…!”
เฉินชากลัวขึ้นมาจับจิต ใบหน้าของซอมบี้เลื่อนเข้าหาตัวเอก บดบังวิสัยทัศน์
ทั้งหน้าจอ เผยให้เห็นคราบเลือดและเศษเนื้อที่ติดอยู่บนฟันของมันอย่างชัดเจน
ถึงใบหน้าของซอมบี้จะไม่ได้ออกแบบมาสมจริงและลงรายละเอียดมากนัก
แต่ก็ทำให้เฉินชาตื่นกลัวได้! เขาไม่คิดว่าจู่ๆ ซอมบี้จะโผล่ออกมาแบบนี้
ซอมบี้ตัวนี้แต่งกายด้วยชุดทหาร ร่างกายล่ำสันยังมีสภาพสมบูรณ์ดี ไม่
เหมือนซอมบี้ตัวก่อนที่สภาพอ่อนแอและไม่สมประกอบ
ซอมบี้ทหารรับจ้างผลักตัวเอกที่กำลังเจ็บปวดลงกับพื้นแล้วยื่นหน้าเข้าไปหา
“ฮื่อออ…” มันร้องคำรามจากในลำคอ เตรียมพร้อมจะกัดตัวเอกเข้าที่คอ!
ตัวเอกบีบคอซอมบี้ทหารรับจ้างไว้ด้วยมือขวา ขณะเอื้อมมือซ้ายไปทางเอว
ของซอมบี้
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้น ท่ามกลางวิสัยทัศน์ที่โชกไปด้วยเลือด เฉินชาเห็นตัวเอกผลัก
ซอมบี้ทหารรับจ้างออกจากตัวแล้วโยนศพของมันทิ้งไว้ข้างทาง
ที่เอวของซอมบี้ทหารรับจ้างมีปืนพกเหน็บอยู่ ตัวเอกคว้าปืนกระบอกนั้นมา
ยิงหัวมัน!
ภาพบนหน้าจอเริ่มพร่ามัวเพราะตัวเอกเสียเลือด เฉินชาจึงไม่เห็นฉากซอมบี้
หัวระเบิดเพราะโดนยิงเข้าที่หัว แต่วิสัยทัศน์อันพร่ามัวและเสียงพากย์ของตัวเอก
ก็เน้นย้ำความเข้มข้นของสถานการณ์เมื่อครู่เป็นอย่างดี!
เฉินชาหวาดกลัว
นี่มันบ้าไปแล้ว!
เกมระบุว่าเป็นเกมแนว FPS แต่เนื้อหากลับไปในทางเกมสยองขวัญ ฉากเมื่อ
กี้ทำคนกลัวจนตัวสั่นได้เลยนะ!
จริงๆ แล้ว การต่อสู้ทั้งสองครั้งเมื่อครู่เป็นแค่ฉากคัตซีน แค่กดคลิกเมาส์รัวๆ
ก็ผ่านได้แล้ว แต่ฉากที่ว่าก็ทำให้เฉินชาถึงกับเหงื่อตก
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะซอมบี้ที่กัดขากับซอมบี้ที่ซุ่มโจมตีจากด้านหลังประตูจู่ๆ
ก็โผล่มา เขายังไม่ทันตั้งตัวว่าจะเจอซอมบี้พวกนี้ ทำให้ตื่นตกใจไปยกใหญ่!
ถัดจากนั้นเป็นช่วงสอนการเล่นเหมือนเกมอื่นๆ
ระบบเริ่มสอนการควบคุมพื้นฐานอย่างการเล็งปืนพก การยิง การเปลี่ยน
กระสุน การนั่งย่อ ระบบควบคุมของเกมนี้ไม่ได้แตกต่างจากเกม FPS เกมอื่นๆ
เฉินชาเข้าใจการควบคุมได้อย่างรวดเร็ว
ระหว่างนั้น ตัวเอกในเนื้อเรื่องก็เดินไปเจอชุดปฐมพยาบาลในตู้เก็บของใน
ห้อง เขาจัดการพันแผลตรงท้องและขาขวา
เขาเจอคีย์การ์ดบนศพศพหนึ่งในห้องด้วย
หลังจากปฐมพยาบาลเบื้องต้นเสร็จ เนื้อเรื่องของเกมก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็น
ทางการ ตอนแรกตัวเอกเจอแต่พวกซอมบี้ที่ค่อนข้างอ่อนแอ เดินช้าอืดอาด เขา
สามารถเล็งยิงหัวพวกมันทีละตัวได้
แต่ช่วงแรกของเกมตัวเอกไม่ได้มีกระสุนมากนัก แถมซอมบี้ยังชอบโผล่มา
แบบไม่คาดคิด ถ้าไม่ตั้งใจเล่นจะโดนกัดหรือผลักลงกับพื้นได้
ถึงจะเล็งปืนแม่น แต่เฉินชาก็หวาดกลัวอยู่ตลอด
เกมไม่ได้บอกผู้เล่นตรงๆ ว่าตัวเอกเป็นใคร ต้องการอะไร แต่พอเริ่มเล่นเนื้อ
เรื่องไปได้สักพัก เฉินชาก็พอจะเดาอะไรได้บ้าง
ตอนนี้ตัวเอกอยู่ในฐานทัพลับอะไรสักแห่ง ด้วยสาเหตุบางอย่างทำให้มีไวรัส
ลึกลับแพร่ระบาดในที่แห่งนี้ มีคนจำนวนมากติดเชื้อไวรัสและกลายพันธุ์เป็นซอม
บี้
นอกจากตัวเอกจะโดนทหารรับจ้างในฐานทัพตามล่าแล้ว ยังโดนเหล่าซอมบี้
กัดเข้าอีก
ถึงตัวเอกจะพยายามพันแผลห้ามเลือดด้ว ยชุดปฐมพยาบาลที่เจอ แต่ก็ไม่
สามารถหยุดเชื้อไวรัสไม่ให้เติบโตได้ ตอนนี้ขึ้นอยู่กับเวลาแล้วว่าเขาจะกลายเป็น
ซอมบี้ตอนไหน
ตัวเอกไม่มีเพื่อน ไม่มีใครร่วมสู้ ไม่มีแม้แต่อุปกรณ์ให้ติดต่อโลกภายนอก เขา
ทำได้แค่ฝ่าฟันภัยอันตรายและตามหาไอเทมภายในฐานทัพนี้เพียงลำพัง เขาต้อง
สู้กับซอมบี้และทหารรับจ้างเพื่อเอาชีวิตรอด
ระหว่างทางผู้เล่นต้องเจออุปสรรคมากมายนับไม่ถ้วน
ด้านการต่อสู้ ผู้เล่นต้องใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกันในการรับมือเหล่าซอมบี้และ
ทหารรับจ้าง
ซอมบี้มีการรับรู้ทางเสียงที่ดีมาก ถ้ายิงปืนออกไปก็จะเป็นการเรียกความ
สนใจจากซอมบี้รอบๆ ถ้าผู้เล่นไม่แม่นปืนมากพอก็อาจตกที่นั่งลำบากได้เมื่อโดน
ซอมบี้ล้อม
นอกจากนั้นถึงผู้เล่นจะสังหารฝูงซอมบี้ได้ กระสุนก็ต้องหมดเป็นธรรมดาและ
ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถใช้อาวุธได้
ดังนั้นทางที่ดีที่สุดในการรับมือซอมบี้คือการต่อสู้ระยะประชิด ผู้เล่นต้องออก
ล่าซอมบี้เงียบๆ และเข้าสังหารพวกมันทีละตัว
แต่ทหารรับจ้างมักออกลาดตระเวนเป็นกลุ่มๆ ถ้ามีคนใดคนหนึ่งหายตัวไป
คนอื่นๆ ก็จะตื่นตัว ตะโกนบอกกันให้คอยระวังตัว
ดังนั้นการลอบสังหารจึงไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมในการรับมือทหารรับจ้าง ผู้เล่น
ควรใช้ปืนสู้กับพวกทหารรับจ้างและพยายามจบการต่อสู้ให้ได้ไวที่สุดเท่าที่จะทำ
ได้ พอจัดการพวกทหารรับจ้างเสร็จก็สามารถเติมกระสุนได้ และบางทีก็อาจจะได้
ปืนกระบอกใหม่มาด้วย
แน่นอนว่าบางครั้งผู้เล่นจะต้องรับมือทหารรับจ้างและซอมบี้พร้อมๆ กัน ที่ผู้
เล่นควรทำคือล่อซอมบี้และทหารรับจ้างให้ไปสู้กันเอง จากนั้นก็รอเก็บงานทีหลัง
ในบางสถานการณ์ ผู้เล่นสามารถใช้ไอเทมพิเศษในเกมได้ เช่น รัวปืนกลใส่จุด
ที่กำหนดเพื่อฆ่าล้างบางซอมบี้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว ผู้เล่นจะต้องคอยบริหารจัดการ
อาวุธและกระสุนที่มี กระสุนทุกนัดสำคัญมากในการเอาตัวรอด
ถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในเกมจะเกิดขึ้นในฐานทัพ แต่ฉากก็ออกแบบมาเหมือน
เป็นเขาวงกต
ประตูบางแห่งถูกกั้นไว้ ไม่สามารถผ่านได้ บางแห่งต้องใช้คีย์การ์ด บางแห่ง
ต้องใช้ไอเทมพิเศษในการทำลาย
พอเล่นผ่านไปเรื่อยๆ ศัตรูก็จะแข็งแกร่งขึ้นและมีหลากหลายมากขึ้น
ที่แย่คือบางครั้งตัวเอกจะค่อยๆ เสียสติ ซึ่งทำให้วิสัยทัศน์พร่ามัว ต้องใช้เวลา
สักพักถึงจะกลับเป็นปกติ เมื่ออยู่ในสภาวะดังกล่าว ตัวเอกจะมือสั่น ไม่สามารถ
เล็งปืนได้แม่นยำ การเคลื่อนไหวช้าลง บางทีอาจถึงกับไม่สามารถเดินเป็นเส้นตรง
ได้
ในที่สุดเฉินชาก็พบบอสรองตัวแรก
บอสตัวแรกของเกมคือซอมบี้กลายพัน ธุ์สุดแข็งแกร่ง มันตัวใหญ่กว่าซอมบี้
ทั่วๆ ไป และมีแถบเลือดที่ยาวกว่า
เนื่องจากเป็นแค่บอสรองตัวแรก เฉินชาจึงสามารถโค่นมันลงได้ด้วยอาวุธ
ต่างๆ ที่สะสมมาก่อนหน้า
หลังจากนั้นตัวเอกก็ล้มตัวลงกับพื้นจากความเหนื่อยล้า วิสัยทัศน์ของเขาเริ่ม
พร่ามัว
เขาทุ่มพลังที่มีไปหมด ไวรัสที่ได้รับมาเริ่มทำให้เขาสูญเสียสติสัมปชัญญะ
สุดท้ายตัวเอกก็หลับตาลง ภาพบนจอมืดดำไป
บทที่ 64 ไม่คิดเลยว่าเนื้อเรื่องจะยอดเยี่ยมขนาดนี้!

ผ่านไปสักพักตัวเอกก็ได้สติ
เขาพบว่าตัวเองยังอยู่ในห้องเดิม นอนอยู่ข้างกองศพของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์
แต่สภาพร่างกายของเขาดีขึ้นกว่าเดิมมาก อาการไม่พึงประสงค์จากไวรัสที่ได้
รับมาหายไปแล้ว
เด็กหญิงคนหนึ่งซ่อนตัวอยู่หลังตู้ เธอจ้องมายังตัวเอกด้วยความสงสัยและ
ระแวดระวัง
ตัวเอกพยายามสื่อสารกับเด็กหญิงด้วยภาษาต่างๆ เขาพบว่าเด็กหญิงเหมือน
จะเข้าใจภาษาจีน แต่ไม่สามารถตอบอะไรกลับมาได้ เธอชี้ที่ปากจากนั้นก็โบกมือ
“อ้าว เธอพูดไม่ได้นี่นา เด็กคนนี้เป็นตัวละครในเนื้อเรื่องรึเปล่านะ” เฉินชา
สงสัย
เนื้อเรื่องดำเนินต่อไป
ตัวเอกลุกยืนขึ้นแล้วเดินไปหาเด็กหญิงด้วยท่าทีเป็นมิตร พยายามจะสื่อสาร
กับเธอ หลังจากนั้นเขาก็พบว่าเด็กหญิงเป็นคนช่วยเขาไว้
เด็กหญิงหยิบเข็มฉีดยาพิเศษออกมาให้ตัวเอกดู เข็มที่ว่าน่าจะเป็นอุปกรณ์
พิเศษที่นักวิทยาศาสตร์ในฐานทัพพัฒนาขึ้น สามารถใช้ดูดเลือดและฉีดของเหลว
เข้าไปในร่างกายได้
ตัวเอกพบว่าเลือดของเด็กหญิงช่วยยับ ยั้งไวรัสและช่วยชีวิตเขาไว้ ทำให้เขา
ไม่ได้กลายพันธุ์เป็นซอมบี้!
เด็กหญิงพาตัวเอกไปยังห้องทดลองใกล้ๆ สภาพในห้องเละเทะไปหมด ดู
เหมือนว่าจะเกิดการต่อสู้ดุเดือดขึ้นที่นี่ ทั่วห้องคลุ้งไปด้วยกลิ่นฉุนจมูก หลังจาก
สวมหน้ า กากกั น แก๊ ส ที ่ ห ยิ บ มาจากศพทหารใกล้ ๆ ตั ว เอกจึ ง กล้ า เข้ า ไปใน
ห้องทดลอง
ตัวเอกรับรู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในที่แห่งนี้จากเอกสารในห้องทดลอง
รวมถึงสภาพของฐานทัพจ
ร่างกายของเด็กหญิงมีภูมิคุ้มกันไวรัส เลือดของเธอสามารถต้านเชื้อไวรัสได้
หลังจากเชื้อไวรัสแพร่ระบาดในฐานทัพ ทหารรับจ้างกลุ่มหนึ่งก็ได้รับมอบหมาย
ให้พาเด็กหญิงหนีออกจากห้องทดลอง
ทว่าพวกเขาโดนซอมบี้โจมตีระหว่างปฏิบัติภารกิจ ระหว่างที่กำลังต่อสู้กัน
อย่างดุเดือด กลุ่มทหารรับจ้างก็ปล่อยแก๊สพิษเพื่อจัดการเหล่าซอมบี้ โชคร้ายที่
ซอมบี้มีจำนวนมากเกินกว่าที่กลุ่มทหารรับจ้างจะรับมือได้ไหว พวกเขาจึงต้องจบ
ชีวิตลงในท้ายที่สุด
จากนั้นฝูงซอมบี้ที่รวมตัวอยู่ในฐานทัพตั้งแต่แรกและกลุ่มทหารรับจ้างที่
กลายพันธุ์เป็นซอมบี้ก็โดนแก๊สพิษปลิดชีวิต
อุปกรณ์ในห้องทดลองเสียหาย ไม่สามารถใช้งานได้ เด็กหญิงหลบหนีไปได้
ภูมิคุ้มกันในร่างกายเธอสามารถต้านไวรัสและแก๊สพิษได้ นอกจากนี้เลือดของเธอ
ยังใช้รักษาคนที่ติดเชื้อได้ด้วย
แต่การจะทำแบบนั้นได้ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะ ซึ่งก็คือเข็มฉีดยาแบบพิเศษที่
เด็กหญิงยื่นให้ดู เข็มที่ว่าใช้ได้เพียงครั้งเดียว และต้องโยนทิ้งหลังจากใช้เสร็จ
ด้วยเหตุนี้ตัวเอกจึงพาเด็กหญิงออกค้นหาทางหลบหนีจากฐานทัพแห่งนี้ไป
ด้วยกัน
ระหว่างนั้นเฉินชาพบอุปสรรคมากมายยิ่งกว่าเก่า
แผนที่เริ่มซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งเฉินชาต้องแก้ปริศนาง่ายๆ ก่อนถึงจะ
เดินหน้าต่อไปได้
สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ต่างๆ รับมือได้ยากยิ่งขึ้น ซอมบี้บางกลุ่มมีความสามารถ
พิเศษหลังจากกลายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น การเคลื่อนที่ที่รวดเร็ว หลอดเลือดที่เพิ่ม
จากเดิมหลายเท่าตัว และความสามารถในการล่องหนได้เล็กน้อย อาวุธของเหล่า
ทหารรับจ้างเองก็โหดขึ้น และจำนวนของคนเหล่านี้ก็เยอะขึ้น
นอกจากจะต้องรับมือศัตรูแล้ว เฉินชายังต้องคอยหาไอเทมต่างๆ ในแผนที่
และคำนวณกระสุนให้เพียงพอต่อการใช้งาน
นอกจากกระสุนกับเครื่องมือปฐมพยาบาลแล้ว ตัวเอกยังต้องตามหาเข็มฉีด
ยาแบบพิเศษด้วย
เลือดของเด็กหญิงไม่ได้ช่วยต้านไวรัสซอมบี้ได้ถาวร ถ้าตัวเอกโดนกัดอีกก็จะ
ได้รับเชื้อมาใหม่ เมื่อเป็นแบบนั้น เขาก็ต้องได้รับการถ่ายเลือดจากเด็กหญิง
ถ้าไม่มีเข็มฉีดยา เด็กหญิงก็ไม่สามารถถ่ายเลือดตัวเองให้ตัวเอกได้
นอกจากนั้นเฉินชายังต้องการเด็กหญิงเพื่อช่วยในส่วนอื่นๆ
ถึงเด็กหญิงจะไม่ได้มีทักษะการต่อสู้อะไรมาก แต่เธอก็สามารถช่วยเรื่องอื่นๆ
ได้ เช่ น ต้ อ งให้ เ ด็ ก หญิ ง ช่ ว ยตั ว เอกแก้ ป ริ ศ นาในบางจุ ด เพราะเธอตั ว เล็ ก
คล่องแคล่วว่องไว และมีภูมิต้านทานแก๊สพิษและเชื้อไวรัส เลือดของเธอช่วยแก้
สถานะผิดปกติที่เกิดจากเชื้อไวรัสและฟื้นฟูพลังของตัวเอกได้
ตอนที่ไม่ได้สู้ เด็กหญิงยังช่วยผู้เล่นหาไอเทมใช้งานที่ซ่อนอยู่ตามฉากได้ด้วย
เด็กหญิงสามารถสัมผัสได้ว่ามีซอมบี้อยู่ใกล้ๆ ถ้าจู่ๆ เด็กหญิงหาที่ซ่อน
ระหว่างทางแสดงว่าการต่อสู้ใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว
ระหว่างสู้ เฉินชารู้สึกว่าเด็กหญิงส่งผลต่อความรู้สึกของเขามาก
เขาจะรู้สึกภูมิใจมากเมื่อสามารถผ่านอุปสรรคไปพร้อมเด็กหญิงได้
ถ้าเด็กหญิงโดนซอมบี้ล้อม เขาจะเป็นกังวลใจมาก และอยากจะไปช่วยเธอให้
ได้ทันที
เฉินชาเศร้าใจมากเมื่อเห็นเด็กหญิงร่างกายอ่อนแอลงหลังจากถ่ายเลือดให้ตัว
เอก เขาจะโทษตัวเองที่โง่เง่าและหวังว่าจะไม่โดนกัดระหว่างสู้อีก

เฉินชาติดเกมนี้โดยไม่รู้ตัว
ว่ากันตามตรง เกมฐานทัพกลางทะเลไม่สามารถเทียบชั้นเกม AAA ของ
ต่างประเทศบางเกมได้ในหลายๆ จุด เช่น คุณภาพของตัวเกม (รวมถึงกราฟิก
โมเดลตัวละคร การเคลื่อนไหว และรายละเอียดอื่นๆ) และความซับซ้อนของเนื้อ
เรื่อง
ถึงอย่างนั้นเฉินชาก็ยังติดใจเกมนี้อยู่ดี เขารู้สึกว่าเกมนี้แตกต่างจากเกม AAA
ของต่างประเทศ
ตัวเอกเป็นชายชาวจีนจากกองกำลังพิเศษที่แฝงตัวเข้าไปในฐานทัพของ
องค์กรข้ามชาติเพื่อสืบหาความจริง ถึงจะพูดได้หลายภาษา แต่เขาก็มักพูดกับ
ตัวเองเป็นภาษาจีนบ่อยๆ ในช่วงพักและตอนที่สื่อสารกับเด็กหญิง ทำให้เฉินชา
รู้สึกเข้าถึงเกมมากๆ
เป็นปกติที่ผู้เล่นจะรู้สึกมีอารมณ์ร่วมกับตัวเกมเมื่อตัวเอกเป็นคนชาติเดียวกัน
อีกอย่างถ้าพูดกันอย่างไม่ลำเอียง เกมผลิตในประเทศแต่สามารถสร้างเนื้อเรื่องได้
ยอดเยี่ยมขนาดนี้ก็ถือว่าสุดยอดมากแล้ว!
แม้แต่เกม Counter Strike กับเกมกระสุนเพชฌฆาตยังไม่กล้าใส่เนื้ อเรื่อง
เข้ามาในเกมเลย!
ถึงโหมดเนื้อเรื่องของเกมฐานทัพกลางทะเลจะด้อยกว่าเกม AAA คลาสสิก
ของต่างประเทศบางเกมเพราะมีทรัพยากรไม่เพียงพอ แต่คุณภาพก็ไม่ได้ห่างชั้น
กันมาก อาจบอกได้ว่าคุณภาพดีเยี่ยมเลยถ้าเทียบกับเกมที่ผลิตในประเทศ ทีม
ผู้พัฒนาเกมนี้ควรได้คะแนนเต็มสิบให้สมกับที่ลงแรงไป!
นอกจากนี้ถึงเนื้อเรื่องเกมจะไม่ค่อยซับซ้อนก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะมันมี
องค์ประกอบสำคัญอยู่ครบถ้วน!
อุปสรรคในเกมออกแบบมาสมเหตุสมผล มีอาวุธกับศัตรูที่หลากหลาย และ
ความยากของเกมรวมถึงอุปสรรคก็อยู่ในระดับที่พอเหมาะ
องค์ประกอบที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเกมคือเด็กหญิง เธอเป็นตัวชูโรงตลอดทั้ง
เนื้อเรื่อง!
ถ้ า ไม่ ม ี เ ด็ ก หญิ ง ก็ ค งไม่ ส ามารถเรี ย กโหมดนี ้ ว ่ า โหมดเนื ้ อ เรื ่ อ งได้ ควร
เปลี่ยนไปเรียกว่า ‘โหมดไร้จุดสิ้นสุด ’ มากกว่า เพราะนอกจากนั้นแล้วก็มีแค่
อุปสรรคกับการประมือกับซอมบี้และทหารรับจ้าง ไหนล่ะเนื้อเรื่อง
แต่พอมีเด็กหญิงเพิ่มเข้ามา เนื้อเรื่องก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที!
เหมือนเป็นการเพิ่มจิตวิญญาณเข้าไปในการยิงปืนแสนน่าเบื่อหน่าย นั่นก็
เพราะผู้เล่นมีอารมณ์ร่วมไปกับเกมจริงๆ!
มีแค่เกมที่สอดประสานกับจิตใจของผู้เล่นเท่านั้นถึงจะถือว่าเป็น ‘เกมที่มีเนื้อ
เรือ่ ง’!
ช่วงท้ายของเกม ตัวเอกฝ่าฟันอุปสรรคขึ้นไปถึงชั้นบนสุดของฐานทัพกลาง
ทะเล เขาล้มบอสสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์และขึ้นเฮลิคอปเตอร์ออกจากที่แห่งนี้ไป
พอขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์ ตัวเอกก็กดปุ่มระบบ ควันระเบิดทรงเห็ดพุ่งขึ้นฟ้า
เหนือฐานทัพกลางทะเล การทดลองไวรัสชั่วร้าย สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์อันแสนน่า
สะพรึงกลัว ทหารรับจ้างกระหายเงิน และเหล่าผู้บริหารองค์กรข้ามชาติ…โดน
กลบฝังอยู่ใต้ทะเล
ขณะที่ตัวเอกกำลังขับเฮลิคอปเตอร์ กล้องก็โฟกัสไปที่เด็กหญิง
เธอหลับใหลอยู่เงียบๆ ใต้เสื้อคลุมของตัวเอก
ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่กำลังลับฟ้า เหนือ น่านน้ำปั่นป่วนจากแรงระเบิด ตัว
เอกบินจากไปพร้อมเด็กหญิง โหมดเนื้อเรื่องจบลง
รายชื่อผู้พัฒนาเกมปรากฏบนหน้าจอ เฉินชาแปลกใจเมื่อได้พบว่าทีมผู้ผลิตมี
กันทั้งหมดแค่หกสิบกว่าคน!
ในหกสิ บ กว่ า รายชื ่ อ นี ้ มี แ ค่ ป ระมาณยี ่ ส ิ บ กว่ า คนที ่ เ ป็ น ที ม ค้ น คว้ า และ
ออกแบบของบริษัทเถิงต๋า ที่เหลือเป็นพนักงานจากบริษัทนอกอื่นๆ ที่ทางเถิงต๋า
จ้างมา มีทั้งทีมออกแบบโมเดลตัวละคร ทีมออกแบบระบบเกม ทีมนักพากย์ นัก
แต่งเพลงกับเสียงประกอบ และอื่นๆ
ถึงอย่างนั้นเฉินชาก็ยังคงตื่นตะลึง เขาไม่คิดว่าคนจำนวนแค่นี้จะสามารถ
สร้างเนื้อเรื่องออกมาได้ตราตรึงใจขนาดนี้
จริงๆ แล้วถ้านึกย้อนดูดีๆ เนื้อเรื่องไม่ได้มีการทุ่มทรัพยากรลงไปมากเท่าไหร่
ตัวละครที่น่าจดจำมีแค่เด็กหญิงเท่านั้น
แต่เนื้อเรื่องของเกมฐานทัพกลางทะเลก็เป็นสิ่งที่ตราตรึงใจมาก แสดงให้เห็น
ว่าทีมผู้พัฒนามีความสามารถมากแค่ไหน!
เฉินชาอึ้งกิมกี่ ต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าจะหาย
ตอนแรกเขาคิดว่าบริษัทนี้จะต้องอับอายขายหน้ามากแน่ๆ ที่ทำโหมดเนื้อ
เรื่องออกมา เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่าบริษัทที่ว่าจะมีความสามารถมากขนาดนี้!
บทที่ 65 เป็นอะไรที่พิเศษจริงๆ...

นอกจากโหมดเนื้อเรื่องแล้ว เฉินชายังตื่นตะลึงกับองค์ประกอบอื่นๆ ในเกม


ฐานทัพกลางทะเลด้วย
ยกตัวอย่างเช่น การควบคุมระหว่างการต่อสู้!
เฉินชาเป็นผู้เล่นเกมแนว FPS มืออาชีพ มีทักษะการเล่นอันเยี่ยมยอด เขา
เชี่ยวชาญกลยุทธ์การยิงแบบเป็นชุดและการล็อกเป้าไล่ตามศัตรู
พูดง่ายๆ คือเขาเชี่ยวชาญด้านการยิงปืนมาก ทำให้ตั้งความหวังกับระบบ
ควบคุมของเกมแนว FPS ไว้สูง
ระบบการเล่นของเกมแนว FPS ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องการควบคุม
เฉินชาตื่นตะลึงไปเล็กน้อยตอนที่ลองเล่นเกมกระสุนเพชฌฆาตเพราะทีม
ออกแบบทำเกมออกมาได้สมบูรณ์แบบ เกมกระสุนเพชฌฆาตแทบจะทำระบบ
ควบคุมได้ทัดเทียมเกม Counter Strike
แต่ที่เกมกระสุนเพชฌฆาตทำหลักๆ คือเลียนแบบเกม Counter Strike
ที่พวกเขาทำถือเป็นเรื่องปกติมาก เกม Counter Strike ได้รับการพิสูจน์แล้ว
ว่าเป็นเกม FPS ที่เกือบจะสมบูรณ์แบบที่สุดในปัจจุบัน เทียบกับเกมอื่นๆ ใน
ตลาดภายในประเทศแล้ว แทบไม่มีเกมไหนโค่นล้มเกมนี้ได้
ถ้าทีมผู้พัฒนาพยายามเลียนแบบการควบคุมของเกม Counter Strike อย่าง
เต็มที่ก็ไม่มีทางเกิดข้อผิดพลาดได้
แต่นี่แหละคือปัญหา เพราะไม่ว่าพวกเขาจะพยายามเลียนแบบออกมาให้
เหมือนขนาดไหนก็ไม่มีทางโค่นเกมดั้งเดิมได้
เกมกระสุ น เพชฌฆาตพยายามเลี ย นแบบการควบคุ ม ของเกม Counter
Strike แต่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะก้าวไปอยู่ในตำแหน่งเดียวกับเกม
Counter Strike ได้เพราะยังมีสิ่งที่ขาดอยู่
ถึงเฉินชาจะให้คำแนะนำไปมากมายเพื่อยกระดับการเล่นของเกมกระสุน
เพชฌฆาต แต่เขาก็ไม่สามารถลงรายละเอียดได้ว่ามีจุดเล็กๆ ตรงไหนที่แตกต่าง
กันระหว่างทั้งสองเกม!
เป็นเรื่องยากที่จะวัดประเมินสิ่งที่เรียกว่า ‘สัญชาตญาณ’ ได้ บางครั้งคนเรา
อาจรู้ว่ามีปัญหาอยู่ แต่ก็บอกไม่ได้ว่าจะต้องปรับแก้อย่างไร
แต่เกมฐานทัพกลางทะเลกลับเลือกทางที่ต่างออกไป
เฉินชารู้ทันทีตั้งแต่ตอนเล่นโหมดเนื้อเรื่อง
การควบคุมของเกมนี้แตกต่างจากเกม Counter Strike มาก!
ตัวอย่างเช่น เกมฐานทัพกลางทะเลออกแบบการยิงปืนได้เสถียรกว่า รูปแบบ
แรงดีดของปืนเรียบง่ายกว่า สามารถยิงเข้าหัวได้ง่ายกว่ามาก และยังลดเวลาการ
เปลี่ยนปืนกับการเล็งเป้า
เฉินชารู้สึกพึงพอใจมากหลังจากได้เล่น!
เกม Counter Strike เป็นเกมแนว FPS ที่ต้องใช้สมาธิและทักษะการเล่นสูง
แต่เกมฐานทัพกลางทะเลลดทอนความยากในการเรียนรู้ระบบการเล่นของเกม
เพื่อให้เล่นได้ง่ายและสนุกขึ้น
ถ้าเฉินชาได้สัมผัสการควบคุมของเกมนี้จากโหมดต่อสู้ เขาอาจจะไม่ชอบเกม
นี้
การลดทอนความยากของเกมถือเป็นเรื่องแย่ สำหรับผู้เล่นแบบเขาที่ทุ่มเท
ฝึกปรือฝีมือการเล่นเกม Counter Strike มานานหลายปีจนเชี่ยวชาญ
แต่เฉินชาได้สัมผัสการเล่นจากโหมดเนื้อเรื่องก่อน การยิงที่ง่ายขึ้นทำให้เล่น
เนื้อเรื่องได้สนุกขึ้นมาก เฉินชารู้สึกว่าการเล่นเกมของเขาไม่มีอะไรติดขัดเลยและ
อยากเล่นต่ออีกเรื่อยๆ!
ถึงโหมดเนื้อเรื่องจะมีจำนวนกระสุนจำกัด เฉินชากลับรู้สึกสนุกสนานที่ได้สู้
กับกองทัพซอมบี้โดยใช้ฝีมือการยิงและการสับเปลี่ยนอาวุธ เหตุผลหลักที่เป็น
อย่างนั้นก็เพราะเกมฐานทัพกลางทะเลลดความยากของเกมลงไปมาก ทำให้เล่น
เกมได้อย่างสนุกสนาน!
หลังจากเล่นไปหลายชั่วโมงจนจบโหมดเนื้อเรื่อง เฉินชาก็พบว่าตัวเองเริ่มชิน
กับการควบคุมเกมที่ง่ายขึ้น
เขาเลิกเกลียดความง่ายของการควบคุมไปเลย!
การควบคุมของเกมนี้ทำให้เขารู้สึกว่าการสับเปลี่ยนปืนควรจะรวดเร็วและ
แรงดีดของปืนควรจะคุมง่ายแบบนี้!
นอกจากนั้นเฉินชายังรู้สึกว่าการต่อสู้หลายๆ จุดในโหมดเนื้อเรื่องเหมือนจะ
เป็นการเตรียมพร้อมผู้เล่นสำหรับโหมดต่อสู้อื่นๆ!
ตัวอย่างเช่น ในเนื้อเรื่องมีบอสตัวหนึ่งที่ล่องหนได้เป็นบางส่วน ซึ่งจะไปคล้าย
โหมดผีที่มีให้เลือกเล่นในโหมดการต่อสู้อื่นๆ
ซอมบี้ในเนื้อเรื่องก็เป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบการเล่นในโหมดไบโอเคมิเคิล
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเอกในโหมดเนื้อเรื่องยังสามารถใช้งานอาวุธระดับสูงได้หลัง
จัดการพวกทหารรับจ้างแล้ว
อาวุธเหล่านั้นสามารถนำมาใช้ในโหมดต่อสู้ได้จากการซื้อหรือด้วยวิธีการ
ต่างๆ ซึ่งก็หมายความว่าโหมดเนื้อเรื่องเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ใช้งานอาวุธระดับสูง
ก่อน!
โหมดเนื้อเรื่องกลายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เฉินชาย้ายจากเกม Counter
Strike มาเล่นเกมฐานทัพกลางทะเลได้อย่างราบรื่น!
เฉินชาดูเวลา เขาเริ่มเล่นโหมดเนื้อเรื่องในเกมฐานทัพกลางทะเลมาตั้ งแต่ช่วง
บ่าย ใช้เวลาไปห้าชั่วโมงถึงจะเล่นจบ
ถึงโหมดเนื้อเรื่องจะไม่ได้ยาวมากและถือว่าสั้นกว่าเกม AAA อื่นๆ ของ
ต่างประเทศ แต่ก็ทำให้ผู้เล่นรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปด้วยได้
เฉินชารีบเปิดกลุ่มแชตแล้วส่งลิงก์ดาวน์โหลดเกมฐานทัพกลางทะเลบน
แพลตฟอร์มเกมทางการลงกลุ่ม
“เกมนี้โคตรดี! รีบโหลดมาลองเล่นเร็ว!”
คนอื่นๆ ในกลุ่มแชตตะลึงงันไปเล็กน้อย ถือเป็นเรื่องแปลกที่เฉินชาดูตื่นเต้น
กับเกมที่เขาแนะนำ
เขาทำแบบนี้เพราะโดนจ้างมาหรือ
แต่ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่น่าจะตื่นเต้นขนาดนี้
ไม่ใช่ว่าเฉินชาไม่เคยรับเงินเพื่อโฆษณาเกมมาก่อน มีคนจ้างเขาอยู่บ่อยๆ แต่
ปกติเขาไม่ได้ตื่นเต้นกับการโฆษณาเกมขนาดนี้ ที่เขาทำก็แค่ส่งข้อความลงกลุ่ม
พอเป็นพิธีเฉยๆ
ตัวอย่างเช่น ตอนหาคนไปร่วมทดสอบเกมกระสุนเพชฌฆาต เขาก็บอกแค่ว่า
เป็นโอกาสดีในการหาเงิน ไม่ได้ยกยอเกมเลยสักนิด
เฉินชาเป็นคนมาตรฐานสูง เขาคิดว่าเกมกระสุนเพชฌฆาตเป็นเกมที่ดี แต่ก็
แค่นั้น เขาจึงแนะนำการทดสอบเกมในแง่งานหาเงิน ไม่ได้ชื่นชมยกยอตัวเกมเลย
ท่าทีของเฉินชารอบนี้ดูแปลกๆ ไป!
หรือว่า…
“พี่เฉิน พี่โดนแฮ็กรหัสเหรอ” คนหนึ่งในกลุ่มถาม
เฉินชาพูดอะไรไม่ออก
อะไรกัน โดนแฮ็กเหรอ คนอย่างเขาจะมาแนะนำเกมที่เป็นมิตรต่ อผู้เล่นไม่ได้
หรือยังไงกัน
“ฉันไม่โดนแฮ็ก! เกมมันดีจริงๆ พวกนายลองไปเล่นดู ยังไงเกมมันก็โหลดมา
เล่นได้ฟรี” เฉินชาอธิบายอย่างใจเย็น
“ดียังไงครับ ดีกว่าเกม Counter Strike มั้ย” คนหนึ่งถามขึ้น
เฉินชาหยุดคิดสักพักก่อนจะตอบกลับ “คือ… ฉันก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง เกม
มันดีมาก ถ้าเทียบกับเกม FPS ที่มีโหมดเนื้อเรื่อง เกมนี้ทำระบบการต่อสู้ได้ดีที่สุด
แต่ถ้าเทียบกับเกม FPS ที่มีโหมดต่อสู้ เกมนี้ทำเนื้อเรื่องออกมาได้ดีที่สุด ถึงไอ
เทมที่ให้ซื้อในเกมจะดูเว่อร์ไปหน่อย แต่ก็ออกแบบมาให้รู้สึกว่าไม่ได้แพง ราคา
เหมาะสมเลยทีเดียว…”
คนอื่นๆ ในกลุ่มงงกันยกใหญ่
“พรืด!”
“อะไรกันครับเนี่ย”
“พี่เฉินเมารึเปล่าวันนี้”
“โคตรขำเลย ระบบต่อสู้ดีสุดในหมู่เกมที่มีเนื้อเรื่อง แต่เนื้อเรื่องดีสุดในหมู่
เกมที่มีระบบต่อสู้!”
“โอเค ผมใกล้จะเลิกงานแล้ว กลับถึงบ้านเดี๋ยวลองเล่นดู!”
“มีใครอยากเล่นโหมดพิเศษในเกมด้วยกันมั้ย ฉันอยากลองโหมดไบโอเคมิ
เคิลกับโหมดผี มีใครอยากเล่นด้วยรึเปล่า” เฉินชาพิมพ์ข้อความลงกลุ่ม
ไม่ใช่ว่าเฉินชาอยากจะหาประโยชน์จากเพื่อนฝูง
ปัญหาหลักคือเกมฐานทัพกลางทะเลไม่ค่อยมีคนเล่น มีผู้เล่นออนไลน์พร้อม
กันในเกมมากสุดแค่หลักสิบ เขาหาคนเล่นโหมดพิเศษจากระบบจับคู่ในเกมไม่ได้
เลย!
เขาจึงทำได้แค่ชวนคนในกลุ่มแชตมาเล่น
ไม่นานคนในกลุ่มก็เริ่มคุยกันเรื่องเกมฐานทัพกลางทะเลอย่างออกรสออก
ชาติ
พวกเขาตกตะลึงกันยกใหญ่ว่านอกจากชื่ออันห่วยบรมแล้ว องค์ประกอบ
อื่นๆ ในเกมกลับออกแบบมาดีสุดๆ
บทที่ 66 ดูท่าไม่ดีเลย!

มีหัวหน้ากลุ่มคนอื่นๆ ที่มีประสบการณ์เท่าๆ กับเฉินชาอยู่อีกไม่น้อย


พอหลินหวานทักไปขอให้ทดสอบเกมให้ ส่วนใหญ่ก็บอกปฏิเสธทันที
จะให้ทดสอบเกมให้แต่ไม่จ่ายเงินจ้างเนี่ยนะ
คิดจะให้ทำให้ฟรีๆ อย่างนั้นหรือ
แต่เพื่อรักษาหน้าตัวเองไว้ หลายคนก็ตัดสินใจลองดาวน์โหลดมาเล่นดู
พอได้เริ่มก็หยุดเล่นไม่ได้!
เกมฐานทัพกลางทะเลมีระบบการเล่นแสนเรียบง่าย สำหรับผู้เล่นใหม่แล้ว
ระบบการเล่ น ที ่ เ รี ย บง่ า ยทำให้ เ ล่ น เกมได้ ส นุ ก ยิ ่ ง ขึ ้ น แต่ ส ำหรั บ พวกเก่ ง ๆ
โดยเฉพาะผู้เล่นเกม Counter Strike มืออาชีพ จะรู้สึกหงุดหงิดเพราะเหมือน
โดนดูถูกความสามารถ
แต่โหมดเนื้อเรื่องของเกมฐานทัพกลางทะเลก็ช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้!
พอพวกผู้เล่นกลุ่มนี้เข้าเกม พวกเขาก็หมกมุ่นอยู่กับโหมดเนื้อเรื่อง หลังจาก
เล่นไปได้ไม่กี่ชั่วโมงก็เริ่มคุ้นชินกับการควบคุมอันเป็นเอกลักษณ์และเล่นเข้ามือได้
ในที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น พอชินกับการควบคุมแบบนี้ หลายคนก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ ตอนที่
กลับไปเล่นเกม Counter Strike!
ทำไมต้องเสียเวลาขนาดนั้นถึงจะยิงได้
ทำไมคุมแรงดีดปืนยากขนาดนั้น
ตอบสนองโคตรช้า!
จู่ๆ พวกเขาก็รู้สึกรำคาญใจที่จะเล่นเกม Counter Strike!
เกม Counter Strike เป็นเกมเน้นการแข่งขันที่แสนยอดเยี่ยมทำให้ระบบ
การเล่นหลายๆ อย่างมีข้อจำกัด
ตัวอย่างเช่น ถ้าทำให้ยิงปืนได้เร็ว พวกผู้เล่นฝีมือดีก็จะเก่งเกินไป ซึ่งจะทำให้
เกมเสียสมดุลในระดับหนึ่ง ตรงนี้น่าจะเป็นสาเหตุที่ทีมผู้พัฒนาลดความเร็วการ
ยิงปืนลง
แต่เกมฐานทัพกลางทะเลไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้ ที่เกมนี้เน้นคือให้ผู้เล่นได้เล่น
เกมให้สนุกที่สุด!
สมดุลเกมหรือ
สร้างปืนกิเลนเพลิงมาแล้วจะมาคิดเรื่องสมดุลเกมอีกทำไมกัน
พวกผู้เล่นมืออาชีพดูจะปล่อยตัวปล่อยใจกันทันใด ประสบการณ์การเล่นเกม
ของพวกเขาเป็นไปอย่างราบรื่นมากทำให้การเล่นเกมนี้เป็นอะไรที่แสนจะเรียบ
ง่ายและผ่อนคลายสุดๆ!
สุดท้ายพอกลับไปเล่นเกม Counter Strike พวกเขาจึงรู้สึกไม่คุ้นมือเลย
เปลี่ยนจากความธรรมดามาเป็นความล้ำเลิศนั้นแสนง่ายดาย พอชินกับระบบ
การเล่นแสนเรียบง่าย จะให้กลับไปเล่นเกมที่มีการเล่นซับซ้ อนจึงเป็นเรื่องที่ยาก
ยิ่ง!
นอกจากนี้เกมฐานทัพกลางทะเลยังไม่ได้มีแค่โหมดเนื้อเรื่อง แต่ยังมีระบบ
ต่อสู้อีกหลายโหมด!
เทียบกับเกมกระสุนเพชฌฆาตแล้ว เกมฐานทัพกลางทะเลมีโหมดผีและ
โหมดไบโอเคมิเคิลซึ่งเป็นโหมดการเล่นรูปแบบใหม่ ทำให้ผู้เล่นได้เล่นอะไรที่สด
ใหม่!
แน่นอนว่าโหมดใหม่เหล่านี้เป็นโหมดที่เปาซวี่กับหวงซื่อปั๋วคิดขึ้นระหว่าง
สร้างโหมดเนื้อเรื่อง ความตั้งใจดั้งเดิมคืออยากใช้ทรัพยากรเหลือใช้จากโหมดเนื้อ
เรื่องให้เป็นประโยชน์ เช่น โมเดลซอมบี้กับทรัพยากรงานภาพหลายๆ ชิ้น ถ้า
พิจารณาจากแง่ของรูปแบบการเล่น โหมดเหล่านี้ยังไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่ มันยัง
ไม่สมดุลนักและต้องปรับปรุงเพิ่มอีกหลายจุด
แต่ที่สำคัญที่สุดคือไม่มีเกมไหนในตลาดที่มีโหมดเหมือนเกมนี้ จึงไม่มีคู่แข่งให้
เปรียบเทียบ!
ผู้เล่นหลายคนชอบโหมดผีกับโหมดไบโอเคมิเคิลมากกว่าโหมด PvP ปกติ แม้
จะไม่ค่อยยุติธรรมกับผู้เล่นทั้งสองฝั่งเท่าไหร่ ถึงทั้งสองโหมดจะไม่ค่อยสมดุล แต่
ก็เป็นโหมดไว้เล่นเอามันเฉยๆ ไม่ค่อยมีใครสนใจอะไรมาก กลับกันแล้ว ทั้งสอง
โหมดทำให้ทุกอย่างน่าตื่นเต้นมากขึ้นกว่าเดิม!
เพียงไม่กี่วัน ข่าวคราวเรื่องเกมฐานทัพกลางทะเลก็แพร่กระจายไปในกลุ่ม
เกม FPS หลายกลุ่มราวกับโรคระบาด


วันศุกร์
หลังจากสอบวิชาสุดท้ายเสร็จ ในที่สุดเผยเชียนก็มีเวลาพักผ่อน
เขาตั้งใจจะเข้าออฟฟิศเพื่อฟังข่าวสุดโหดร้ายว่าเกมฐานทัพกลางทะเลเจ๊งไม่
เป็นท่า
ช่วงที่เกมฐานทัพกลางทะเลวางขายไปได้สองสามวัน เผยเชียนกำลังคร่ำเคร่ง
กับการสอบวิชาเอกจนเหมือนได้หายตัวจากโลกไปแล้ว
ชายหนุ่มกลัวว่าหวงซื่อปั๋วจะมาเร่งเร้าให้ทำโฆษณาพอเห็นว่าเกมได้รั บ
กระแสตอบรับไม่ดี เขาจึงบอกเลขาซินเอาไว้ว่าให้ปฏิเสธทุกคนที่มาขอเข้าพบโดย
ให้เหตุผลว่าเขาไม่ว่าง!
เผยเชียนไม่ได้เปิดดูยอดดาวน์โหลดจากระบบหลังบ้านมาหนึ่งสัปดาห์เต็ม
เกมฐานทัพกลางทะเลน่าจะตายจากตลาดเกมไปแล้วใช่ไหมนะ
เผยเชียนรับผิดชอบเรื่องเงินทั้งหมดในบัญชีบริ ษัท เกมของเขาสภาพร่อแร่
แล้ว ไม่มีทางที่เขาจะจ่ายเงินทำโฆษณา
ถึงคนอื่นจะอยากโฆษณาเกมฐานทัพกลางทะเลแค่ไหนก็ไม่มีทางทำได้!
รอบก่อนเป็นเพราะเผยเชียนดวงซวยไปจ้างหร่วนกวางเจี่ยนมาทำภาพให้เกม
แม่ทัพผี ใครจะไปรู้กันว่าจะไปเจอเด็กหนุ่มมากความสามารถที่บังเอิญอยู่ในแวด
วงนักวาดผู้มีชื่อเสียงได้ง่ายดายขนาดนั้น
ครั้งนี้ไม่มีนักวาดแบบนั้นมาทำภาพให้เกมฐานทัพกลางทะเล!
นอกจากนี้การควบคุมของเกมยังแตกต่างจากเกม Counter Strike สุดๆ
แถมอาวุธในเกมยังราคาตั้งแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนอีก
เขามีเกราะป้องกันหลายชั้นที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเกมจะเจ๊งอย่างแน่นอน!
เผยเชียนตั้งใจรออยู่นานกว่าจะโผล่หัวเข้าออฟฟิศอีกครั้งเพราะกลัวตัวเองจะ
หลุดขำในขณะที่คนอื่นๆ กำลังเศร้าใจกับความล้มเหลวของตัวเอง
ตอนนี้ภารกิจทำเกมฐานทัพกลางทะเลให้เจ๊งน่าจะใกล้บรรลุเป้าหมายแล้ว
ในฐานะที่เป็นเจ้าของบริษัท เผยเชียนต้องพาเหล่าพนักงานไปเที่ยวปลอบใจ ต้อง
แสดงให้เห็นว่าเขารู้สึกเสียใจกับเกมฐานทัพกลางทะเลแค่ไหนและให้กำลังใจ
เหล่าพนักงานไม่ให้ย่อท้อหรือยอมแพ้ พวกเขาต้องตั้งสติให้ได้เพื่อเตรียมทำ
ภารกิจต่อไป
รายได้ของเกมแม่ทัพผีที่ยังคงพุ่งขึ้นสูงสามารถยื้อบริษัทไปได้สักพักหนึ่ง อีก
ทั้งเผยเชียนยังจะได้เงินทุนระบบเพิ่มอีกห้าแสนหยวนเพื่อใช้ในงวดต่อไป
เยี่ยม! สมบูรณ์แบบสุดๆ!
เขามาถึงด้านล่างของตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว
เผยเชียนนวดแก้มตัวเองและคอยห้ามมุมปากที่ผุดยิ้มอยู่เรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว
เขาเชิดหน้าขึ้นสี่สิบห้าองศา พยายามตีหน้าเศร้า จากนั้ นก็บังคับให้ตัวเองรักษาสี
หน้านี้เอาไว้
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่องดูตัวเอง ทักษะการแสดงของเขาน่าจะเอาอยู่
เผยเชียนเดินเข้าลิฟต์แล้วขึ้นไปที่ออฟฟิศ

ทันทีที่มาถึงออฟฟิศ เผยเชียนก็สัมผัสได้ว่าบรรยากาศดูแปลกๆ!
หวงซื่อปั๋วกำลังจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์พร้อมกดรีเฟรชหน้าจอรัวๆ เขานั่ง
แทบไม่ติดเก้าอี้
เสี่ยวลู่ดูกระสับกระส่าย เขาเกาหัวและสั่นขาไม่หยุดราวกับเป็นโรคสมาธิสั้น
เปาซวี่ไม่ได้เล่นเกมอยู่ เขากำลังนั่งจ้องต้นไม้ริมหน้าต่างและวิวด้านนอก เผย
เชียนเดาไม่ได้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่
จู่ๆ เผยเชียนก็รู้สึกผิดขึ้นมา
เขาทำให้ทุกคนผิดหวัง!
พวกเขาคือกลุ่มคนห่วยที่ไม่สามารถสร้างเกมดีๆ ขึ้นมาได้ นอกจากนั้นยังมัว
ไปกินไปเที่ยวจนไม่มีเวลาพัฒนาเกมมากพอ
แต่ทุกคนก็ให้ใจไปมากกับเกมที่สร้างมาด้วยกัน
พอเห็นว่าไม่มีคนสนใจเกมที่สร้างมากับมือจนเจ๊งไม่เป็นท่า ก็เป็นเรื่องปกติที่
พวกเขาจะรู้สึกแย่กัน
หวงซื่อปั๋วคงจะตะลึงงันไปเมื่อได้เห็นตัวเลขบนหน้าจอ
เสี่ยวลู่น่าจะสับสนจนไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปดี
ส่วนเปาซวี่คงจะกำลังนึกสงสัยการมีชีวิตอยู่ของตัวเอง
เผยเชียนถอนหายใจเบาๆ
ตอนนี้พวกเขาต้องการคำปลอบใจจากบอส เพราะอย่างไรเขาก็มีส่วนผิดถึง
เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่เกมออกมาเจ๊งไม่เป็นท่าแบบนี้
เผยเชียนรีบคิดว่าควรจะพูดอะไรออกไปดี
แต่ตอนนั้นเอง แฝดสาวตรงโต๊ะรับรองก็สังเกตเห็นเผยเชียน
“บอสเผยมาแล้วค่ะ!”
สองสาวเริ่มปรบมือ!
ทั้งออฟฟิศทำตามทันที เสียงปรบมือและโห่เชียร์ดังก้องจนเผยเชียนแทบจะ
หัวใจวาย
เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย
เผยเชียนเห็นทุกคนยิ้มกว้าง พวกเขาไม่ได้แสร้งทำกันด้วย รอยยิ้มพวกนั้นมา
จากใจจริง!
ภาพที่เห็นทำให้เผยเชียนรู้สึกไม่ดีขึ้นมา!
หวงซื่อปั๋วลุกขึ้นยืนแล้วพุ่งมาหาเผยเชียนพร้อมโค้งหัวให้
“บอสเผย ผมได้บทเรียนแล้วครับ! ก่อนหน้านี้ผมไม่รู้ว่าทำไมบอสถึงไม่ยอม
โฆษณาเกมฐานทัพกลางทะเล ผมถึงกับนึกสงสัยในการกระทำของบอส
“แต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม!
“จริงๆ แล้วบอสกำลังบอกผมว่าเกมที่ดีไม่จำเป็นต้องโฆษณา! แค่ผู้เล่นบอก
กันปากต่อปาก เกมของเราก็อยู่เหนือการแข่งขันของตลาดแล้ว!
“บอสเผย ผมชื่นชมในความมั่นใจของบอสมากๆ ครับ!”
หัวใจเผยเชียนตกไปอยู่ทตี่ าตุ่ม
เขาอยากจะกรีดร้องออกมา ชายหนุ่มพยายามเกร็งกล้ามเนื้อตีหน้าเคร่งขรึม
“เกมผม…ดังแล้วเหรอ” เผยเชียนถาม รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังดำดิ่งลงเหว
หวงซื่อปั๋วพยักหน้ารัว “ดังมากเลยครับ!”
“ผมกดรีเฟรชหน้าแพลตฟอร์มไม่หยุดเพราะแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง! ถึงเรา
จะไม่ได้โฆษณาอะไร แต่ไม่ว่าจะเป็นด้านความนิยม จำนวนผู้เล่นที่ออนไลน์ หรือ
ผลกำไร เราทิ้งห่างเกมกระสุนเพชฌฆาตจนแทบไม่เห็นฝุ่นเลยครับ!”
บทที่ 67 บอสเผย เปิดแชมเปญฉลองเลยครับ!

เผยเชียนสูดหายใจลึก พยายามตั้งสติ
มีอะไรแปลกๆ
ใจเย็นๆ ฉันต้องตั้งสติ!
ตอนนี้เผยเชียนเข้าใจแล้วว่าทำไมสามคนนั้นถึงแสดงท่าทางแบบที่เห็น
ที่หวงซื่อปั๋วจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์และคอยรีเฟรชหน้าจอก็เพราะยอด
ดาวน์โหลดนั้นมากเกินกว่ากรณีที่ดีที่สุดที่คิดไว้ในหัว เขาแทบไม่อยากจะเชื่อ
สายตาตัวเอง!
ที่เสี่ยวลู่อยู่ไม่สุขก็เพราะกำลังตื่นเต้น!
ส่วนเปาซวี่นั้นก็กำลังคิดถึงการมีอยู่ของตัวเองจริงๆ แต่ด้วยเหตุผลที่ตรงกัน
ข้ามกับที่เผยเชียนคิดไว้!
“บอสเผย แชมเปญค่ะ!”
ซินไห่ลู่ส่งยิ้มพร้อมยื่นขวดแชมเปญให้เผยเชียน
เผยเชียนเหลือบมองแชมเปญ ช่างเป็นแชมเปญที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเสีย
จริง จุดปิดขวดทำจากทองคำขาวสลักคำภาษาอังกฤษ แค่ประเมินดูคร่าวๆ ก็
น่าจะราคาไม่ต่ำกว่าห้าหลัก
เผยเชียนไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เปิดขวดแชมเปญนี้เลย
นั่นเพราะเขารู้ว่าเกมฐานทัพกลางทะเลทำเงินให้เขาได้มากกว่าแชมเปญหลัก
หมื่นนี่หลายร้อยเท่า
แต่ทุกคนกำลังมองมาที่เขา เผยเชียนจะเดินอารมณ์เสียออกไปเฉยๆ ไม่ได้
เขาจะทำให้คนอื่นคลางแคลงใจเรื่องระบบไม่ได้ และไม่อาจทำให้คนอื่นนึก
สงสัยถึงการมีอยู่ของระบบได้ด้วย
เผยเชียนสูดหายใจลึกแล้วรับขวดแชมเปญมา จากนั้นก็มีเสียงดัง ‘ป๊อก’
ตอนเปิดขวด
ของเหลวสีทองอ่อนพุ่งออกจากขวดพร้อมกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ บรรยากาศ
ในออฟฟิศคึกคักขึ้นมาทันที
ทุกคนส่งเสียงโห่เชียร์ สองสาวประจำโต๊ะรับรองโปรยกระดาษสีทองที่เตรียม
ไว้ระยิบระยับไปทั่วออฟฟิศ! เหล่าพนักงานเริ่มร้องเล่นเต้นระบำ เสี่ยวลู่อยากจะ
เอาเข่าสไลด์ไปกับพื้นแต่ก็โดนหวงซื่อปั๋วห้ามเอาไว้ก่อน
เผยเชียนพยายามฝืนยิ้มสุดกำลังขณะที่คนอื่นๆ ฉลองกันอย่างสนุกสนาน
“ทำได้ดีมากทุกคน ขอให้ตั้งใจทำงานแบบนี้ต่อไป!”
เขาฝืนยิ้มไว้อย่างนั้นขณะเดินเข้าห้องทำงานแล้วปิดประตู
หวงซื่อปั๋วมองแผ่นหลังของเผยเชียนแล้วได้แต่ถอนหายใจ “บอสเผยวางแผน
ไว้หมดแล้วจริงๆ ด้วย! บอสคิดไว้แล้วว่าทุกอย่างจะต้องเป็นแบบนี้เลยไม่ได้แปลก
ใจอะไร สำหรับบอสเผยแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาๆ!
“เฮ้อ เทียบกับบอสเผยแล้ว เราเหมือนเด็กน้อยที่ยังไม่เคยเห็นโลกกว้าง แค่
ความสำเร็จเล็กน้อยก็ตื่นเต้นกันยกใหญ่…
“เมื่อไหร่เราจะเป็นได้แบบบอสเผยนะ”
หวงซื่อปั๋วถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อยขณะกดรีเฟรชหน้าแพลตฟอร์ม
ยอดดาวน์โหลดเกมฐานทัพกลางทะเลพุ่งทะลุฟ้า!
แน่นอนหวงซื่อปั๋วคิดว่าผลลัพธ์ที่เห็นเป็นเรื่องปกติเพราะมีบอสเผยช่วยคุม
ทิศทางการทำเกมนี้ด้วยตัวเอง ผลลัพธ์ทั้งหมดย่อมออกมาเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ไม่
เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้น
หลังจากวิเคราะห์การออกแบบและความตั้งใจของบอสเผย หวงซื่อปั๋วกับ
เปาซวี่ก็คิดว่าเกมจะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน! แต่พวกเขานึกไม่ถึงว่าเกม
จะโด่งดังขนาดนี้ แม้แต่เกมกระสุนเพชฌฆาตของเทียนหัวสตูดิโอยังไม่สามารถ
เอาชนะได้!
ที่หวงซื่อปั๋วรู้สึกตื่นตะลึงยิ่งกว่าคือการที่บอสเผยคิดอะไรใหม่ๆ เสมอ!
บอสเผยแสดงเรื่องนี้ให้เห็นผ่านเกมแม่ทัพผีที่ได้กระแสตอบรับล้นหลามจาก
ตลาดโดยตั้งราคาไว้ต่ำมาก
ตอนนั้นบอสเผยใช้วิธีการทำตลาดสุดแปลกใหม่โดยใช้ประโยชน์จากวงการ
นักวาด ท้ายที่สุดเขาก็สามารถโฆษณาเกมให้เหล่านักวาดทั่วไปได้!
ครั้งนี้หวงซื่อปั๋วอยากเห็นว่าบอสเผยจะใช้วิธีการทำตลาดในทางที่ไม่เคยมี
ใครทำมาก่อนทำนองเดียวกับเกมก่อนหน้าเพื่อให้ได้ผลตอบรับยิ่งใหญ่ได้อย่างไร
เขาถึงกับนึกถึงกลยุทธ์การตลาดมากมายที่จะช่วยประหยัดงบได้
แต่พอมาดูดีๆ ก็พบว่าตัวเองคิดผิดหมด
บอสเผยไม่ได้ตั้งใจจะโฆษณาเกมนี้เลย! บอสรู้อยู่แล้วว่าเกมนี้จะโด่งดังได้โดย
ไม่ต้องทำการตลาด แค่ให้เหล่าเกมเมอร์บอกกันปากต่อ ปากก็สร้างกระแสให้เกม
ของพวกเขาได้แล้ว จากนั้นก็ใช้ประโยชน์จากการขึ้นแนะนำโดยอัตโนมัติบน
แพลตฟอร์มทางการก็พอ!
ช่างห้าวหาญและมั่นใจในตัวเองยิ่งนัก!
คนที่จะทำแบบนี้ได้จะต้องเป็นคนที่เคยประสบความสำเร็จมาก่อนและ
สามารถประเมินตลาดได้อย่างแม่นยำ!
แม้แต่ตอนที่บอสเผยเปิดแชมเปญฉลอง บอสก็ยังดูสุขุมและเต็มไปด้วยความ
มั่นใจ ราวกับว่าความสำเร็จครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับเขา
หวงซื่อปั๋วรู้สึกนับถือบอสเผยจริงๆ!


ในห้องทำงานของเผยเชียน…
เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ ไม่ลุกไปไหนอยู่สักพัก
เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ผิดแผนหมดเลยหรือ…
ทำไมล่ะ
ทำไมเกมถึงดังขึ้นมาได้ทั้งๆ ที่ไม่ได้โฆษณาล่ะ
มีกฎเกณฑ์อะไรในประเทศนี้บ้าง
มีมาตรฐานอะไรบ้างหรือเปล่า
มีอะไรสมเหตุสมผลบ้างไหม
ครั้งนี้หร่วนกวางเจี่ยนไม่ได้มาโฆษณาเกมให้นี่ แล้วมันไปผิดพลาดตรงไหนกัน
เผยเชียนพยายามสงบใจลงระหว่างที่เปิดคอมพิวเตอร์ค้น ข้อมูลว่าเกิดอะไร
ขึ้น
ถ้าไม่พบสาเหตุ เขาก็ตายตาไม่หลับ!
พอล็อกอินเข้าแพลตฟอร์มเกมทางการ เผยเชียนก็เห็นข้อมูลทั้งหมดของเกม
ฐานทัพกลางทะเล
เขาแทบหยุดสบถไม่ได้
เกมเพิ่งจะปล่อยไปเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ตอนนี้มีผู้เล่นที่ออนไลน์อยู่กว่าหนึ่ง
แสนคน!
ที่สำคัญคือนี่ไม่ใช่ยอดที่สูงที่สุด
ตอนนี้มีผู้เล่นออนไลน์อยู่แค่หนึ่งแสนคน แต่ไม่ใช่ว่าผู้เล่นที่เล่นเกมทั้งหมดมี
แค่หนึ่งแสนคน…แต่เป็นเพราะขนาดของเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ที่เช่ามาใช้กับเกมฐาน
ทัพกลางทะเลรองรับผู้เล่นได้แค่นี้ ยังมีผู้เล่นอีกมากมายที่กำลังต่อคิวรอเข้าเกม
อยู่…
ตามหลักการแล้ว เกมออนไลน์ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อเช่าเซิร์ฟเวอร์
คลาวด์มากนัก ถ้าไม่ได้มีจำนวนผู้เล่นมากเท่าเกม World of Warcraft หรือเกม
League of Legends
เกมมือถือทั่วไปเช่าเซิร์ฟเวอร์ที่พอสำหรับรองรับผู้เล่นออนไลน์พร้อมกัน
ประมาณสามพันคนก็เพียงพอแล้ว ซึ่งค่าเช่าก็จะอยู่ที่ไม่กี่ร้อยหยวน โดยราคาจะ
เพิ่มขึ้นตามขนาดที่ต้องการ ยิ่งมีผู้เล่นต้องรองรับมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องการขนาด
เซิร์ฟเวอร์เพิ่มขึ้นเท่านั้น ค่าเช่าก็จะเพิ่มสูงตามไปด้วย
สำหรับเกมการ์ดแบบเกมแม่ทัพผี ค่าเช่าเซิร์ฟเวอร์ไม่ได้แพงมากนัก
เกมฐานทัพกลางทะเลก็เหมือนกัน สำหรับเกมแนว FPS ที่มีโหมด PvP ผู้เล่น
ส่วนใหญ่จะชอบเล่นโหมดออฟไลน์โดยเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายเดียวกัน เนื่องจาก
โหมด PvP จะแบ่งผู้เล่นออกเป็นห้องย่อย ทำให้ไม่น่าจะมีผู้เล่นนับร้อยคนออก
ตะลุมบอนพร้อมๆ กันได้
พอแบ่งออกเป็นห้องย่อย เซิร์ฟเวอร์ก็ไม่ต้องทำงานหนักเหมือนเกมแนว
MMORPG ที่มีผู้เล่นหลายคนอยู่ในพื้นที่เดียวกันพร้อมๆ กัน
อีกอย่างเผยเชียนคิดเอาไว้ว่าเกมฐานทัพกลางทะเลต้องเจ๊งไม่เป็นท่า ทำให้
เขาไม่ได้เตรียมเซิร์ฟเวอร์ดีๆ ที่รองรับผู้เล่นได้เยอะๆ เอาไว้
ผ่านไปแค่ไม่กี่วัน เกมฐานทัพกลางทะเลกลับมียอดผู้เล่นที่ออนไลน์พร้อมกัน
ถึงหนึ่งแสนคน แถมยังมีผู้เล่นต่อคิวรอเข้าเกมอีกมากมาย!
ยิ่งไปกว่านั้น ภายในไม่กี่วันที่ว่าปืนกิเลนก็ขายไปได้แล้วมากกว่าหนึ่งพัน
กระบอก แค่ตรงนี้ก็ทำกำไรให้พวกเขาไปได้กว่าสี่แสนหยวนแล้ว!
เผยเชียนนั่งหมดอาลัยตายอยากบนเก้าอี้
ให้ผลาญเงินสี่แสนหยวนไม่ใช่เรื่องยากอะไร
แต่ปัญหาคือ ด้วยประสบการณ์จากเกมแม่ทัพผี นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น!
ยิ่งเกมฐานทัพกลางทะเลโด่งดังมากขึ้นเท่าไหร่ รายได้ในสัปดาห์ต่อไปย่อม
เกินกว่าสี่แสนหยวนอยู่แล้ว อีกอย่างยิ่ง มีคนเล่นเกมนี้มากขึ้น ปืนกิเลนเพลิงก็จะ
ขายได้มากขึ้น จากที่เขาคำนวณดู แค่เดือนนี้เดือนเดียวพวกเขาน่าจะทำเงินได้
มากกว่าสามล้านหยวน!
นี่เป็นผลจากการลดทอนราคาลงอย่างมาก
ด้วยกลยุทธ์การวางราคาของเผยเชียน เกมฐานทัพกลางทะเลจึงออกมาเป็น
เกมให้เล่นฟรี ไม่ต้องเสียเงิ นค่าดาวน์โหลดเลยสักหยวน นอกจากปืนกิเลนเพลิง
แล้วพวกเขาก็ไม่ได้ขายอะไรอีก!
พูดอีกอย่างก็คือ มีแค่พวกอวดรวยไม่กี่คนเท่านั้นที่จะซื้อปืนกิเลนเพลิง ผู้เล่น
ส่วนใหญ่ไม่น่าจะเสียเงินให้เกมนี้สักหยวน
ถ้าเผยเชียนวางเพดานราคาเหมือนเกมอื่น เขาคงสร้างแพ็กของและโปรโมชัน
ต่างๆ ซึ่งก็จะเพิ่มรายได้มากขึ้นสองถึงสามเท่า
ถึงเผยเชียนจะวางกลยุทธ์ราคามาอย่างแยบยลเพื่อหยุดผู้เล่นไม่ให้มาผลาญ
เงินในเกมของตัวเอง แต่เขาก็ยังทำเงินได้ถึงสี่แสนหยวนต่อสัปดาห์!
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
เผยเชียนแทบจะเป็นลม
บทที่ 68 รายงานวิเคราะห์!

หลังจากค้นหาข้อมูลบนโลกออนไลน์อยู่พักใหญ่…
เผยเชียนก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเกมฐานทัพกลางทะเลถึงโด่งดังขึ้นมาขนาดนี้
ได้!
เขาอ่านช่องคอมเมนต์และพบว่าชาวเกมเมอร์แบ่งออกเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่ม
ที่สนับสนุนเกมกับกลุ่มที่ต่อต้านเกม ทั้งสองฝั่งเถียงกันอย่างร้อนแรง
เรตติ้งของเกมฐานทัพกลางทะเลขึ้นเป็นตัวอักษร C มีหลายคนโหวตให้ห้า
ดาวและอีกหลายคนโหวตให้หนึ่งดาว เรตติ้งภาพรวมจึงอยู่ที่ 7.3
ถึงคนโหวตให้หนึ่งดาวจะมีไม่มาก แต่ก็เยอะกว่าคนโหวตให้สองดาว
คอมเมนต์ไม่ได้ดี แต่ก็ไม่ได้แย่เหมือนกัน
รีวิวจากเหล่าเกมเมอร์ผสมปนเปกันไป
เผยเชียนดูแพลตฟอร์มเกมทั้งหมด รวมถึงเว็บไซต์ และกระทู้ต่างๆ เพื่อหา
อ่านรีวิวเกมฐานทัพกลางทะเลเพิ่ม เขาเจอโพสต์ร้อนแรงสองสามโพสต์ที่ถกกัน
เรื่องเกมฐานทัพกลางทะเล เกม Counter Strike และเกมกระสุนเพชฌฆาต
สุดท้ายแล้วเผยเชียนก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่
“ไม่คิดเลยว่าเกมที่สร้างในประเทศจะทำโหมดเนื้อเรื่องออกมาได้ดีขนาดนี้
เอาไปเลยห้าดาว!”
“สี่ดาว! หักคะแนนตรงชื่อ เกมดีมากแต่เกือบไม่ดังเพราะชื่อ!”
“ฉากสุดท้ายตอนตัวเอกพาเด็กหญิงหนีไปพร้อมระเบิดฐานทัพกลางทะเลทิ้ง
ทำผมซึ้งจนร้องไห้! ซึ้งมากๆ! ผมโคตรอินกับตัวเอก มีเกมในประเทศไม่กี่เกมที่ทำ
ให้ผมรู้สึกอินได้แบบนี้!”
“โหมด PvP เกมนี้ใหม่มาก โหมดไบโอเคมิเคิลกับโหมดผีสร้างสรรค์มากๆ
สนุกมากด้วย! ฉันเล่นไม่ค่อยเก่ง ไปเล่นโหมด PvP คือโดนยำเละ แต่โหมดไบ
โอเคมิเคิลเล่นสนุกมากๆ!”
“พวกคนที่มาชมเกมนี้คือโดนบริษั ทที่ทำเกมจ้างมารีวิวรึเปล่า การควบคุม
กากฉิบหาย ทำไมยังกล้ามาชมกันอีก”
“การควบคุมกากเหรอ ล้อเล่นรึเปล่า แค่ไม่คุ้นมือก็บอกว่ากากเลยเหรอ ฉัน
ว่าเกมนี้สนุกกว่า Counter Strike ตั้งเยอะ ได้ยิงหัวหลายครั้งคือโคตรรู้สึกดี!”
“เกมกากนี่กล้าขายอาวุธแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนเลย ปืนอื่นก็แบ่งเป็น
หลายประเภท กล้ามาบอกว่าเกมนี้เป็นเกมเล่นแข่งขันได้ไง โคตรดูถูกเกมแนว
แข่งขันกันเองเลย!”
“ฉันว่าไม่มีใครเรียกเกมนี้ว่าเป็นเกมแนวแข่งขันนะ…ปืนกิเลนเพลิงก็มีพวก
อวดรวยซื้อแค่ไม่กี่คนเองไม่ใช่เหรอ เกมก็เล่นได้ฟรีทุกโหมด ขนาดตัวเกมยัง
ดาวน์โหลดได้ฟรีเลย! อีกอย่างปืนกิเลนเพลิงก็ช่วยอะไรไม่มาก ฉันว่าผู้พัฒนาใจดี
มากเลยนะ”
“ผมก็ว่างั้น ดูเกมกระสุนเพชฌฆาตสิ…”
“ฮ่าๆ เลิกพูดถึงเกมกระสุนเพชฌฆาตเถอะ เราคุยกันแค่เรื่องเกมฐานทัพ
กลางทะเลกับ Counter Strike พวกที่พูดถึงเกมกระสุนเพชฌฆาตคือพวกจ้าง
รีวิวหมดแหละ!”
“แม่งไรเนี่ย กล้าดียังไงมาบอกว่าเกมฐานทัพกลางทะเลของพวกแกดังกว่า
เกมกระสุนเพชฌฆาต ไม่อายปากบ้างเหรอ”
“ดังกว่าเหรอ เลิกป่วนเหอะ เกมนายมันเกมขยะ ใครๆ ก็อยากหนีมาเล่นเกม
ฐานทัพกลางทะเล พูดเรื่องดังกว่า…เกม Counter Strike ก็ดังกว่าเกมนาย
เหมือนกัน”

เผยเชียนเริ่มปวดหัว
เขาไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ!
เขาไล่ดูโพสต์ต่างๆ แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเกมฐานทัพกลางทะเลถึงโด่ง ดัง
ขึ้นมาได้ขนาดนี้!
ตอนเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายดัง เผยเชียนเจอคลิปของอาจารย์
เฉียว
ตอนเกมแม่ทัพผีดัง เผยเชียนก็เจอเว่ยป๋อของหร่วนกวางเจี่ยน
แต่พอเกมฐานทัพกลางทะเลดัง เผยเชียนกลับหาต้นตอไม่เจอ
แปลกจริงๆ
ตามหลักการแล้ว เกมจะดังได้จากการที่มีคนกลุ่มหนึ่ งช่วยกันโหมโฆษณา
พวกเขาต้องทำให้เกมเป็นกระแส แพลตฟอร์มเกมจะได้เอาเกมขึ้นหน้าแนะนำ
จากนั้นเกมก็จะค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้ปัญหาหลักคือเผยเชียนหาไม่เจอว่าต้นตอของคนกลุ่มนั้นมาจากไหน!
เผยเชียนไม่เข้าใจจริงๆ
แต่เขาต้องเข้าใจให้ได้
เขาต้องเข้าใจว่าเกมฐานทัพกลางทะเลไปพลาดตรงไหน!
อย่างที่คนเขาว่ากัน คนเราเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของตัวเอง ถ้ารู้ว่าเกมฐาน
ทัพกลางทะเลไปพลาดตรงไหนก็จะสามารถเลี่ยงข้อผิดพลาดเดียวกันไม่ให้เกิดขึ้น
อีกได้!
ใครจะยอมให้ตัวเองผิดพลาดเรื่องเดิมซ้ำสองครั้งกัน
เขาคิดเรื่องนี้อยู่พักใหญ่
รู้แล้ว!
ถึงฉันจะไม่รู้ว่าเกมพลาดตรงไหน แต่ฉันเป็นบอส! ทำไมต้องหาคำตอบเองล่ะ
ให้หวงซื่อปั๋ววิเคราะห์แล้วส่งรายงานมาก็ได้นี่!
แค่คิดถึงหวงซื่อปั๋ว เผยเชียนก็ตื่นเต้นขึ้นมา ถึงเขาจะไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นอย่าง
ชัดเจน แต่เจ้าหวงซื่อปั๋วต้องเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกมฐานทัพกลางทะเลดังขึ้นมา
แน่!
เนื้อเรื่องดีหรือ
โหมด PvP สดใหม่หรือ
เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นเพราะหวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่!
ฉันต้องให้หวงซื่อปั๋วทำรายงานวิเคราะห์ พอรู้ว่าใครเป็นต้นตอ ฉันจะได้ไป
จัดการทีหลัง!
เผยเชียนส่งข้อความหาหวงซื่อปั๋วในที่สุด

หวงซื่อปั๋วพยายามสงบใจหลังจากได้รู้ว่าเกมฐานทัพ กลางทะเลประสบ
ความสำเร็จครั้งใหญ่
เขาพบว่าจู่ๆ บอสเผยก็ส่งข้อความมาให้ “เขียนรายงานวิเคราะห์ว่าทำไมเกม
ฐานทัพกลางทะเลถึงประสบความสำเร็จมา เอาให้ครอบคลุ มทุกอย่างตั้งแต่การ
ออกแบบไปจนถึงการตลาด อย่าให้มีอะไรตกหล่น เสร็จแล้วส่งมาให้ผมโดยตรง”
หวงซื่อปั๋วชะงักไปชั่วครู่จากนั้นก็ตอบกลับทันที “ได้ครับ บอสเผย!”
ถึงจะมีงานมากมายประเดประดังเข้ามา แต่เขาก็ไม่นึกโกรธเลย กลับดีใจเสีย
ด้วยซ้ำ!
เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนักเรียนหัวกะทิที่ครูชอบมอบหมายงานให้ทำ
ทำไมบอสเผยถึงอยากได้รายงานวิเคราะห์กันนะ
เป็นเพราะบอสไม่รู้ว่าทำไมเกมฐานทัพกลางทะเลถึงประสบความสำเร็จเหรอ
บ้า ไม่มีทาง!
บอสเผยเป็นคนคุมทิศทางของเกมนี้
บอสเป็นคนตัดสินใจปล่อยเกมนี้ลงแพลตฟอร์มโดยไม่ทำการตลาด
ชัดเจนว่าบอสเข้าใจเกมนี้ดีกว่าคนอื่น!
แล้วทำไมบอสถึงอยากได้รายงานวิเคราะห์ด้วยล่ะ
เหตุผลก็ง่ายๆ บอสอยากให้พวกเขาได้ย่อยสิ่งที่เรียนรู้มา!
ก็เหมือนครูให้นักเรียนส่งรายงานปลายเทอมทบทวนหลังสอบเสร็จ โดยหวั ง
ว่าจะช่วยให้นักเรียนได้ซึมซับความรู้จากการสอบไปให้ได้มากที่สุดจะได้พัฒนา
ตัวเองต่อไป!
งานนี้แสดงให้เห็นว่าบอสเผยให้ความสำคัญกับเขาแค่ไหน!
ถ้าไม่ใช่อย่างนั้น จากพนักงานทั้งหมด ทำมถึงเลือกให้เขาเป็นคนทำกันล่ะ
หวงซื่อปั๋วตื่นเต้นมาก เขาเปิดไฟล์งานแล้วเริ่มจัด การกับข้อมูล จากนั้นก็
เขียนทุกอย่างที่รู้เกี่ยวกับการที่เกมฐานทัพกลางทะเลประสบความสำเร็จขึ้นมา
ได้!


สองสามชั่วโมงต่อมา เผยเชียนก็ได้รับรายงาน
เขาไล่สายตาดูอย่างรวดเร็ว
ในรายงาน หวงซื่อปั๋วเขียนอธิบายว่าทำไมเกมฐานทัพกลางทะเลถึงประสบ
ความสำเร็จ เช่น การลดความยากของเกมทำให้ผู้เล่นทั่วไปเข้ามาเล่นเกมเยอะ
ขึ้น โหมดเนื้อเรื่องอันยอดเยี่ยม และการที่ชาวเกมเมอร์ชื่นชอบเกมที่สร้างขึ้นใน
ประเทศก็ทำให้เกมได้รับกระแสตอบรับที่ดี
โหมด PvP ที่หลากหลาย…
ไม่เก็บเงินค่าดาวน์โหลดเกม ผู้เล่นสามารถดาวน์โหลดมาลองเล่นได้โดยไม่
ต้องคิดอะไร
ปืนกิเลนเพลิงราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนทำให้พวกอวดรวยอยากซื้อมา
ใช้ให้ดูเท่ ค่าพลังของปืนกิเลนไม่ได้เว่อร์เกิน อีกทั้งยังมีบัฟพิเศษให้ผู้เล่นคนอื่นๆ
ในห้องด้วย ทำให้ผู้เล่นทั่ วไปไม่ได้เกลียดชังอะไรปืนกิเลนเพลิง กลับชอบใจกัน
เสียด้วยซ้ำ
ปากของเผยเชียนบูดเบี้ยวเมื่อได้อ่านรายงานวิเคราะห์
นี่มันอะไรกัน…
แตกต่างจากที่ฉันคิดเอาไว้เลย…
รายงานนี้มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า
เหตุผลเหล่านี้ควรจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกมฐานทัพกลางทะเลเจ๊งสิ ทำไมถึง
กลายเป็นเหตุผลที่ทำให้เกมฐานทัพกลางทะเลดังขึ้นมาได้
เผยเชียนพยายามข่มใจไม่กัดลิ้นตัวเองตายขณะอ่าน
ช่วงครึ่งหลังเป็นบทวิเคราะห์ว่าเกมฐานทัพกลางทะเลทำการตลาดและ
โฆษณาอย่างไร
เขาต้องรู้ให้ได้ว่าใครกันคือคนร้าย!
บทที่ 69 เปล่าประโยชน์!

เผยเชียนไล่สายตาดูทุกคำในรายงานช่วงครึ่งหลัง
หลังจากอ่านจนจบ เขาก็กะพริบตาช้าลง จากนั้นก็มองออกไปนอกหน้าต่าง
แล้วหันกลับมาอ่านรายงานแต่ละหน้าอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากข้อมูลในรายงาน ทั้งหมด…เป็นความผิดของหลินหวาน!
หวงซื่อปั๋วเองก็มีเอี่ยวด้วยเหมือนกัน!
แต่ก็บอกได้ยากว่าจะโทษใครดี
หวงซื่อปั๋วไม่ได้วางแผนที่จะทำการตลาดหรือโฆษณาเกมฐานทัพกลางทะเล
เขาแค่คิดว่าพอเกมฐานทัพกลางทะเลปล่อยออกไปแล้ว จากนั้นก็ต้องรีบวางแผน
หาข้อมูลและพัฒนาเกมช่วงต่อไป เพราะเหตุนี้เขาจึงต้องหาหนูทดลองมาทดสอบ
เกมเพื่อรวบรวมความคิดเห็น
แต่สุดท้ายพอหาคนมาทดสอบเกมฐานทัพกลางทะเลได้ไม่มาก เขาก็เลยต้อง
ไปขอความช่วยเหลือจากคนในทีมออกแบบ
ส่วนหลินหวานนั้นบังเอิญเคยรับผิดชอบติดต่อประสานงานกับเหล่าเกมเมอร์
แนว FPS ที่มีชื่อเสียงตอนยังทำงานที่เทียนหัวสตูดิโอ!
เธอแนะนำให้เกมเมอร์กลุ่มนี้ลองเล่นเกมฐานทัพกลางทะเลดู และเนื่องจาก
เป็นเกมคุณภาพยอดเยี่ยม เกมฐานทัพกลางทะเลทรายจึงเป็นที่นิยมในกลุ่มเกม
เมอร์ดังกล่าว โดยเฉพาะโหมดเนื้อเรื่องที่ได้รับการชมเชยสุดๆ!
เฉินชาและคนอื่นๆ ชื่นชมเกมกันยกใหญ่จากที่ตอนแรกแทบไม่อยากลองเล่น
เพื่อให้ได้ปืนกิเลนเพลิงราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน พวกเขาจึงเริ่มแนะนำ
เกมนีใ้ ห้ผู้เล่นคนอื่นๆ!
ตอนแรกเฉินชาไม่ได้สนใจปืนกิเลนเพลิงเท่าไหร่ เขามองว่าปืนกิเลนเพลิงเป็น
ของไม่จำเป็น มีไว้ล่อพวกอวดรวยเท่านั้น เขาเป็นผู้เล่นมืออาชีพที่เล่นเกมเป็น
งานประจำ จึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้ปืนดังกล่าว
แต่พอได้มา เขาก็รู้ว่าตนคิดผิดมาตลอด!
ปืนกระบอกนี้พิเศษ ไม่ได้เทพที่มีค่าพลังโกง แต่มันเป็นเรื่องของหน้าตา!
ผู้เล่นในห้องหนึ่งมีหลายคน พอเขาหยิบปืนกิเลนเพลิงออกมา คนรอบข้างก็
เคารพยกย่องกันหมด!
นอกจากนั้นปืนกิเลนเพลิงยังช่วยให้คนอื่นๆ ได้รับค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้น
ทำให้คนที่มีปืนกิเลนเพลิงโด่งดังเป็นพิเศษ!
พอเฉินชาได้ปืนกิเลนเพลิงมา ไม่ว่าจะไปที่ไหน เขาก็จะเป็นจุดสนใจอยู่เสมอ
ความรู้สึกนี้…ค่อนข้างดีเลยทีเดียว!
คนอื่นๆ ต่างก็หาคนมาลองเล่นเกมกันยกใหญ่เพื่อที่จะได้ปืนกิเลนเพลิง เกม
ฐานทัพกลางทะเลกลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็วแม้จะไม่ได้วางแผนไว้ ไม่นาน
ข่าวเรื่องเกมฐานทัพกลางทะเลก็กระจายไปในกลุ่มเกม FPS หลายกลุ่ม ได้ผู้เล่น
มืออาชีพกลุ่มแรกมาไว้ในมือ!
หลังจากนั้นผู้เล่นเกมฐานทัพกลางทะเลก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลา
สั้นๆ ทำให้แพลตฟอร์มเอาเกมไปขึ้นหน้าแนะนำ
แต่แค่เหตุผลเหล่านี้ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เกมฐานทัพกลางทะเลดังได้
ขนาดนี้
เกมดันบังเอิญปล่อยพร้อมๆ กับเกมกระสุนเพชฌฆาตพอดี!
หลังจากปล่อยเกมไป พวกเขาก็ทุ่มเงินก้อนใหญ่โฆษณาเกมกระสุนเพชฌฆาต
ใช้กลยุทธ์การตลาดทุกรูปแบบ ส่งเกมไปให้อัปโหลดมาสเตอร์ท ำคลิปรีวิว ทำให้ผู้
เล่นทั่วไปหลายคนรู้จักเกมกระสุนเพชฌฆาต
เป็นธรรมดาที่พอมีผู้เล่นมาลองเล่นเกมกระสุนเพชฌฆาตดู ก็จะมีกลุ่มหนึ่ง
เล่นต่อ อีกกลุ่มไม่เล่น แต่ผู้เล่นหลายคนที่เคยลองเล่นเกมฐานทัพกลางทะเลมา
ก่อนจะคิดว่าเกมกระสุนเพชฌฆาตเป็นเกมขยะ!
ทำไมการควบคุมทุเรศแบบนี้!
ทำไมมีโหมด PvP แค่ไม่กี่แบบ!
ทำไมไม่มีโหมดเนื้อเรื่อง!
ต้องเสียเงินเยอะกว่าเกมฐานทัพกลางทะเล!
เสียเงินไปแพงแค่ไหนก็ไม่ได้อาวุธเท่ๆ แบบปืนกิเลนเพลิงมาใช้!
ภาพของเกมกระสุนเพชฌฆาตออกแนวสมจริง ปืนราคาแพงบางกระบอกก็
ไม่ได้ช่วยอะไรกับการเล่นเกมมากนัก แตกต่ างจากปืนกิเลนเพลิงที่เป็นปืนสุด
พิเศษ
ผู้เล่นหลายคนตั้งใจไปคอมเมนต์เย้ยเกมกระสุนเพชฌฆาต
“เกมขยะ เกมฐานทัพกลางทะเลเหนือกว่าหลายขุม!”
“ความรุ่งโรจน์ของเกมแนว FPS ที่ผลิตในประเทศงั้นเหรอ โทษทีนะ ประโยค
นี้น่าจะเหมาะกับเกมฐานทัพกลางทะเลมากกว่า!”
“เกมนี้มีจุดให้ เสียเงินเยอะมาก ภาพก็ดูอุบาทว์ ลองไปดูเกมฐานทัพกลาง
ทะเลบ้างนะ”
ความเห็ น คล้ า ยกั น นี ้ โ ชว์ ห ราอยู ่ เ ต็ ม หน้ า คอมเมนต์ ข องเกมกระสุ น
เพชฌฆาต…
บางคนแสดงความคิดเห็นจากใจจริง บางคนแค่มาป่วนเล่นเฉยๆ
เพราะถึงโลกนี้ก็ยังขาดอะไรอีกหลายอย่าง แต่ก็ยังมีพวกว่างงานที่ไม่มีอะไร
ทำ…
ตอนแรกยังไม่มีคอมเมนต์แบบนี้มากนัก
แต่พวกผู้เล่นเกมกระสุนเพชฌฆาตเห็นแบบนี้จะทำอย่างไรล่ะ อีกฝ่ายเปิดมา
ขนาดนี้ก็ต้องสู้กลับสิ! ทั้งสองฝั่งเปิดศึกกันซึ่งหน้า ทั้งกัด ทั้งแซะ ทั้งก่นด่า
สาปแช่งกันอย่างร้อนแรง…
สรุปแล้วก็คือ ยิ่งคนชมหรือด่าเกมมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้างความโกลาหล
และทำให้คนเข้ามาร่วมวงเยอะขึ้น!
หลายคนแค่จะเข้ามาส่องดูเฉยๆ แต่พอเห็นทั้งสองฝั่งเถียงกันยกใหญ่ก็ห้าม
ใจเข้าไปร่วมวงไม่ไหว…
เรื่องเลยยิ่งเลยเถิดไปกันใหญ่…
เกมเมอร์หลายคนที่เห็นโฆษณาและมาเล่นเกมกระสุนเพชฌฆาตก็ลองเล่น
เกมฐานทัพกลางทะเลดูด้วยความสงสัย ทันทีที่ได้เล่นก็พบว่าตนกลับไปเล่นอีก
เกมไม่ได้แล้ว
ทั้งสองเกมนั้นเทียบกันไม่ติด!
เนื้อเรื่องดีมาก การควบคุมดีมาก แถมเกมฐานทัพกลางทะเลยังเล่นได้ฟรี
เป็นมิตรกับผู้เล่นมากกว่าเกมกระสุนเพชฌฆาต!
เกมกระสุนเพชฌฆาตกลายเป็นเหมือนเกมเรียกแขก คนที่เห็นโฆษณาแล้ว
ตามมาเล่นกลับหนีไปเล่นเกมฐานทัพกลางทะเลกันหมด…
เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ยอดผู้เล่นของเกมฐานทัพกลางทะเลพุ่งทะลุฟ้า!
นอกแฟนเกมแนว FPS แล้ว ยังมีพวกคนที่ในชีวิตไม่เคยเล่นเกมแนว FPS
เลยเข้ามาลองเล่นด้วย!
ว่ากันตามตรง เกม Counter Strike ยังไม่ได้รับผลกระทบเท่าไหร่ ยังมีฐานผู้
เล่นมืออาชีพอยู่อย่างเหนียวแน่น
แต่แค่ผู้เล่นใหม่แห่เข้ามาเล่นก็ทำกำไรให้เกมฐานทัพกลางทะเลได้มากโข
แล้ว!
นี่ยังแค่เริ่มต้น
เกม Counter Strike เป็นเกมที่ดี แต่ อย่างไรก็เป็นเกมสแตนด์อโลน ไม่
สามารถออนไลน์เล่นกับเพื่อนได้
เกมฐานทัพกลางทะเลเป็นเกมออนไลน์ที่มีระบบการเล่นที่สนุกมาก ในระยะ
ยาวต้องดึงฐานผู้เล่นจากเกม Counter Strike มาได้แน่นอน!
นอกจากปืนกิเลนเพลิงแล้ว เกมฐานทัพกลางทะเลเป็นเกมเล่นได้ฟรี ถ้าเกม
ฐานทัพกลางทะเลดึงผู้เล่นมาจากเกมอื่นๆ ได้ คงจะไม่สามารถจินตนาการได้เลย
ว่าอนาคตเกมนี้จะประสบความสำเร็จแค่ไหน!

เผยเชียนนิ่งงันไป
โชคชะตากำลังเล่นตลกกับเขาอยู่หรือไร!
ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้!
เขาไม่คิดว่าหลินหวานที่ดูจะหยิบจับอะไรไม่เป็นจะทำอะไรแบบนี้ได้
แน่นอนว่าถ้าพูดกันตามตรง เธอก็ไม่ใช่คนผิดเสียทีเดียว เธอแค่รู้จักเจ้าของ
กลุ่มเกม FPS จากงานเก่า พวกเจ้าของกลุ่มก็ดันเป็นเกมเมอร์ที่มีชื่อเสียงใน
วงการเกม FPS
ยิ่งไปกว่านั้นคนพวกนี้รู้จักกันได้ก็เพราะเคยทดสอบเกมกระสุนเพชฌฆาต
ของเทียนหัวสตูดิโอ
สุดท้ายแล้วประกายไฟที่คนกลุ่มนี้จุดขึ้นก็เผาไหม้หญ้าแห้งอย่าเกมกระสุน
เพชฌฆาตจนลุกเป็นไฟลามทุ่ง!
เผยเชียนที่อยากจะหาเหตุผลที่ทำให้เขาล้มเหลวเริ่มสับสน
จะโทษใครดี
หวงซื่อปั๋วหรือเปาซวี่
แต่ทั้งสองก็สร้างเกมตามที่บอกไป…
หลินหวานหรือ
เธอก็แค่หาหนูทดลองมาช่วยทดสอบเกมตามที่หวงซื่อปั๋วขอให้ทำ…
เทียนหัวสตูดิโอกับเกมเพชฌฆาตก็มีส่วนในเรื่องนี้มาก
พวกเขาเป็นคนเกณฑ์เหล่าเกมเมอร์แนว FPS ตัวท็อปๆ มารวมกัน แถมกล
ยุทธ์การตลาดสุดบ้าคลั่งของพวกเขาก็ช่วยโฆษณาเกมฐานทัพกลางทะเลทางอ้อม
ไปด้วย
แต่ …เขาเป็ น คนตั ด สิ น ใจปล่ อ ยเกมฐานทั พ กลางทะเลพร้ อ มเกมกระสุ น
เพชฌฆาตเอง…
หรือ…จะต้องโทษตัวเอง
มีบางอย่างไม่ถูกต้อง…
เผยเชียนได้แต่นึกสงสัยในตัวเอง
เขารู้สึกว่ารางวัลอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่กลับโดนช่วงชิงไปในวินาทีสุดท้าย
หัวใจของเขาเย็นเฉียบ
สามเดือนที่ทำมาเปล่าประโยชน์!
“ใจเย็น!
“ฉันต้องกู้สถานการณ์ให้ตัวเอง!”
บทที่ 70 ขึ้นเงินเดือนให้ทุกคน!

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม…
ยอดกำไรที่เกมฐานทัพกลางทะเลทำได้โอนเข้าบัญชีมาเรื่อยๆ ตั้งแต่วันที่ 18
เฉลี่ยแล้วทำเงินได้สี่ถึงห้าแสนหยวนต่อสัปดาห์!
เหลืออีกสองวันจะถึงวันสรุปบัญชี
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา เผยเชียนพยายามผลาญเงินให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะ
ทำได้
เขาขยายขนาดเซิร์ฟเวอร์เกมแม่ทัพผีและเกมฐานทัพกลางทะเล พร้อมทั้ง
เลือกเซิร์ฟเวอร์แบบที่ดีที่สุดมาใช้กับทั้งสองเกม
นอกจากนั้นเผยเชียนยังจ้างทีมเจ้าหน้าที่บริการลูกค้ าที่ราคาสูงที่สุดมาด้วย
ทีมนี้ยืนหนึ่งเรื่องการให้บริการและการพูดอ้อมค้อม ถึงจะไม่ได้เสียเงินจ้างต่อ
เดือนมากนัก แต่อย่างน้อยก็ช่วยเพิ่มรายจ่ายให้บริษัทได้
ถึงอย่างนั้นเผยเชียนก็ยังไร้ซึ่งหนทาง!
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ: เผยเชียน>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1:1>
<วันปิดบัญชีครั้งต่อไป: อีก 2 วัน>
<เงินทุนระบบ: 1,124,355.3 (↑624,355.3)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 708.3>
เผยเชียนรู้สึกอยากจะฆ่าตัวตายจริงๆ
เขาไม่สามารถผลาญเงินทุนระบบเดิมที่เหลืออยู่เจ็ดถึงแปดหมื่นหยวนได้
สองสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าเผยเชียนจะใช้จ่ายเงินอย่างไร เงินทุนระบบก็ยังคง
เหลือหลักล้านตลอด!
แต่ก็ยังพอมีข่าวดี เกมแม่ทัพผีมีจำนวนผู้เล่นลดลงเรื่อยๆ รายได้ตกลงไปมาก
หลังผ่านไปสามเดือน สัปดาห์นี้ทำเงินได้แค่ประมาณสองแสนหยวนเท่านั้น
ข่าวร้ายคือเกมฐานทัพกลางทะเลเริ่มทำกำไรให้แทน แค่สัปดาห์นี้ก็ทำเงินไป
ได้กว่าสี่แสนหยวนแล้ว!
ข่าวร้ายยิ่งกว่าคือนี่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
เกมฐานทัพกลางทะเลไม่เหมือนเกมแม่ทัพผี ทั้งสองเกมแตกต่างกันมาก!
เกมแม่ทัพผีดังแค่ในหมู่เกมเมอร์สายเกมมือถือ อีกอย่างราคาที่ตั้งไว้ก็ต่ำมาก
ผู้เล่นส่วนใหญ่ซื้อได้แค่บัตรถาวรราคาสามสิบหยวน รายได้จึงไม่ได้ยั่งยืน
เกมฐานทัพกลางทะเลต่างออกไป
เกมฐานทัพกลางทะเลเป็นเกมแนว FPS ที่ประสบความสำเร็จ สามารถเจาะ
ฐานลูกค้าเป็นชาวเกมเมอร์กลุ่มใหญ่ได้!
นอกจากนั้นเกมยังเปิดให้เล่นฟรี ทำให้ชวนเพื่อนมาเล่นได้ง่าย
ปืนกิเลนเพลิงที่ขายในเกมราคาสูงมาก ถึงจะไม่ได้มีคนซื้อเยอะ แต่แค่มีคน
ซื้อคนเดียวก็เท่ากับมีคนมาซื้อเกมแม่ทัพผีแปดสิบแปดคนแล้ว
รายได้ที่เกมฐานทัพกลางทะเลทำได้น่าจะพุ่งขึ้นไปอีก
เผยเชียนคิดจะอัปเดตเกมแม่ทัพผีกับเกมฐานทัพกลางทะเล จะได้ผลาญเงิน
ก้อนใหญ่ซื้อทรัพยากรงานภาพมาใส่เกม เพื่อที่จะผลาญเงินเพิ่มได้อีก
แต่ถ้าจะอัปเดตตัวเกม เขาก็ต้องเพิ่มเพดานค่าใช้จ่ายด้วยเช่นกัน เพราะเป็น
กฎของระบบ
อีกอย่างในหนึ่งสัปดาห์ก่อนปิดบัญชีจะมีสินค้าที่ยังไม่วางจำหน่ายไม่ได้
ไม่อย่างนั้นวันปิดบัญชีจะเลื่อนออกไป
ถ้าอยากอัปเดตตัวเกมหรือทำอะไรคล้ายๆ กัน เขาต้องรอให้ถึงสัปดาห์หน้า
ก่อน
ระบบอนุญาตให้มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่ากินเลี้ยงฉลองหรือโบนัส แต่ก็มี
วงเงินจำกัด เขาต้องใช้จ่ายเงินอย่างสมเหตุสมผล!
พูดอีกอย่างก็คือ จะผลาญเงินอย่างไรในสองวัน
โคตรยากเลย!
แต่เผยเชียนก็ยังไม่หมดหวัง
เขาคิดเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว ตอนนี้มีอยู่สองทางเลือก
ทางแรกคือหยุดใช้จ่ายเงินทุนระบบแล้วรอให้ถึงวันสรุปบัญชี
ข้อดีคือเขาจะได้เงินประมาณหกพันหยวนเข้าความมั่งคั่งส่วนบุคคล
แต่ข้อเสียคือวงเงิน ที่ระบบจะทบเงินทุนระบบเพิ่มอยู่ที่ประมาณหนึ่งล้าน
หยวน ตอนนี้เขามีเงินทุนระบบเกินจำนวนนั้นแล้ว…
หมายความว่าระบบจะไม่ทบเงินเพิ่มให้เหมือนตอนสรุปบัญชีรอบที่แล้ว
อีกทางคือผลาญเงินทุนระบบให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยไม่ทำให้วันปิด
บัญชีเลื่อนออกไป
ข้อดีคือไม่ว่าเผยเชียนจะผลาญไปเท่าไหร่ ระบบจะทบเงินทุนระบบเพิ่มให้ ก็
สบายใจดี
ข้อเสียคือเผยเชียนจะได้เงินแปลงเข้าความมั่งคั่งส่วนบุคคลน้อยลง จากห้า
พันหยวนอาจจะเหลือแค่สองหรือสามพันหยวน
แต่ถ้าเขาสามารถผลาญเงินจนเหลือน้อยกว่าสี่แสนเก้าหมื่นสี่พันหยวนได้ เขา
ก็จะทำกำไรได้มากกว่าที่เป็นอยู่!
หลังจากคิดเรื่องนี้อยู่พักใหญ่ เผยเชียนก็ตัดสินใจได้
เขาจะเดินหน้าผลาญเงินต่อ!
ส่วนจะทำอย่างไรนั้น…
เขาต้องคิดหาวิธีใหม่ๆ!

พอเวลาผ่านไป เผยเชียนก็เข้าใจระบบมากขึ้นเรื่อยๆ
ตามกฎของระบบ เงินทุนระบบสามารถใช้ได้แค่การบริหารจัดการบริษัท
ส่วนความมั่งคั่งส่วนบุคคลสามารถใช้ได้ตามใจชอบ
แต่การใช้เงินทุนระบบก็ยังมีความยืดหยุ่นอยู่ เผยเชียนสามารถใช้ทำอะไรก็
ได้ตามที่ต้องการขอแค่เป็นไปตามกฎและขอบเขตที่กำหนด!
ตัวอย่างเช่น การกินอาหาร
ถ้าเผยเชียนซื้อข้าวให้ตัวเองกินหรือเลี้ยงข้าวเพื่อนจะใช้เงินทุนระบบไม่ได้
แต่ถ้าจัดงานเลี้ยงบริษัท เขาสามารถใช้เงินทุนระบบได้
ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถจัดงานเลี้ยงได้บ่อยๆ เผยเชียนไม่สามารถทำให้
อาหารทุกมื้อเป็นงานเลี้ยงบริษัทได้ และจะใช้เกินกว่าขอบเขตที่กำหนดก็ไม่ได้
เช่น ถ้าเพิ่งจัดงานเลี้ยงบริษัทไปเมื่อวาน วันนี้จะจัดอีกไม่ได้…เว้นเสียแต่จะมี
เหตุผลที่เข้าท่า
ก็เหมือนเหตุผลที่เผยเชียนเคยใช้อ้าง ไปศึกษาดูงาน ฉลองสร้างเกมใหม่เสร็จ
และอื่นๆ ที่ว่ามาคือเหตุผลที่ฟังขึ้น
ระบบทำงานในส่วนนี้ได้อย่างชาญฉลาด การตัดสินว่าการใช้เงินทุนระบบครั้ง
ไหนขัดหรือละเมิดต่อกฎหรือเปล่าจะดูเป็นกรณีไป
หลายๆ เรื่องไม่ได้ห้ามทำโดยเด็ดขาด ยังพอหาทางซิกแซกได้
เขาใช้จุดนี้ในการอ้างขอเช่าอพาร์ตเมนต์กับรถยนต์ รวมถึงซื้อสูทสุดหรูและ
โน้ตบุ๊กยี่ห้อ Alienware สเป็กเทพ เผยเชียนหาทางเปลี่ยนของที่ ตัวเองต้องการ
เป็นของที่จำเป็นสำหรับบริษัทได้
แน่นอนว่าก็ไม่สามารถอ้างแบบนี้ได้กับทุกอย่าง
คิดว่าเผยเชียนอยากซื้อรองเท้ากีฬาราคาหลายหมื่นหรือเปล่า อยากซื้อตั๋ว
คอนเสิร์ตศิลปินในดวงใจไหม อยากซื้อเครื่องประทินผิวราคาแพงบ้างหรือเปล่า
อยากได้รถหรูไหม อยากเปย์สาวๆ เนตไอดอลบ้างหรือเปล่า
เนื่องจากเขาไม่สามารถทำตามนั้นภายใต้ชื่อบริษัทได้ ระบบจึงไม่ยอมให้เอา
เงินทุนระบบออกมาใช้
ตอนนี้เผยเชียนมีเงินทุนระบบอยู่หนึ่งล้านหนึ่งแสนหยวน เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง
ก่อนจะตัดสินใจผลาญเงินให้ได้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้!
ตอนปิดบัญชีรอบทีแ่ ล้ว เผยเชียนทำอะไรไม่ได้เลยเพราะมีแค่ตัวคนเดียว
แต่ตอนนี้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม เพราะเขามีพนักงานอันเป็นที่รัก!
เผยเชียนวางแผนไว้อย่างละเอียด
พอแน่ใจดีแล้ว เขาก็เรียกเลขาซินให้มาหาที่ห้องทำงาน
“แก้ฐานเงินเดือนรึยัง” เผยเชียนถาม
ซินไห่ลู่พยักหน้าก่อนจะตอบ “ค่ะ บอสเผย ดิฉันแก้ทุกอย่างตามที่บอสบอก
เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“อันดับแรก ดิฉันปรับฐานเงินเดือนของพนักงานทุกคนตามตำแหน่ง หัวหน้า
งานจะได้เงินเดือนเพิ่มหกสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนคนอื่นๆ ได้เพิ่มสามสิบเปอร์เซ็นต์
“แล้วก็ดิฉันเพิ่มระบบโบนัสโปรเจ็กต์ด้วยค่ะ กำไรสิบห้าเปอร์เซ็นต์จากเกม
จะแบ่งให้พนักงานทุกคนที่มีส่วนร่วมในการผลิตเกมแต่ละเกมเป็นโบนัสโปรเจ็กต์
“เราเพิ่มสวัสดิการพนักงานด้วยค่ะ แต่ละเดือนพนักงานแต่ละคนจะได้บัตร
กำนัลสำหรับจับจ่ายซื้อของมูลค่าหนึ่งพันหยวน”
เผยเชียนพยักหน้าแล้วตอบกลับ “ดีมาก”
รายจ่ายทั้งหมดนี้ ตั้งแต่การปรับเงินเดือนไปจนถึงโบนัสโปรเจ็กต์เป็นวงเงิน
สูงสุดที่ระบบอนุญาตให้ใช้จ่าย
เผยเชียนอยากให้เงินพนักงานมากกว่านี้ แต่ระบบไม่ยอมให้ทำแบบนั้น นี่คือ
จำนวนที่ดีที่สุดที่ทำได้แล้ว
ก่อนจะปล่อยเกมฐานทัพกลางทะเล เผยเชียนก็คิดจะแบ่งโบนัสโปรเจ็กต์กับ
แจกบัตรกำนัลเหมือนกัน แต่เขาก็เพิ่มรายจ่ายที่ว่าไม่ได้
นั่นก็เพราะเผยเชียนเป็นคนทำเกมแม่ทัพผี เขาไม่สามารถแบ่งกำไรจากเกม
แม่ทัพผีให้พวกหวงซื่อปั๋วได้
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนตอนนั้น หวงซื่อปั๋ว เปาซวี่ และทีมออกแบบทุ่มเทแรงกาย
แรงใจร่วมกันสร้างเกมฐานทัพกลางทะเลขึ้นมา จึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่เผย
เชียนจะแจกจ่ายโบนัสให้พวกเขา!
อีกอย่างตอนนี้บริษัทก็ทำกำไรได้มากกว่าเดิม การแจกบัตรกำนัลให้พนักงาน
เป็นสวัสดิการถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม
เลขาซินถือสมุดพกเล่มเล็ก ไว้ในมือ เธอถามขึ้น “พนักงานน่าจะได้เงินเดือน
ภายในวันนี้นะคะ บอสมีอะไรเพิ่มเติมไหมคะ”
เผยเชียนแสนโล่งใจ จ่ายเงินเดือนเสร็จก็จะผลาญเงินทุนระบบไปได้กว่าสาม
แสนหยวน
มีโบนัสโปรเจ็กต์เพิ่มขึ้นมา พนักงานแต่ละคนน่าจะได้เงินเดือนกันประมาณ
หนึ่งหมื่นหยวน!
มีอะไรให้เขาจ่ายเพิ่มได้อีกนะ
บทที่ 71 งบพิเศษ

จู่ๆ เผยเชียนก็คิดอะไรขึ้นได้ “เดี๋ยว ผมคิดอะไรออกอีกอย่าง ผมจะให้งบ


ค่าใช้จ่ายพนักงานแต่ละคน พวกเขาสามารถเอาไปซื้ออุปกรณ์สำนักงานกับของ
จำเป็นได้ในแต่ละงวด จำนวนเงินก็… เอ่อ…”
“พนักงานทุกคนจะได้งบคนละสามพันห้าร้อยหยวนทุกๆ สามเดือน”
เผยเชียนไม่ได้คิดเรื่องนี้เอาไว้ก่อน เขากำลังทดสอบระบบ
ระบบไม่ยอมให้งบงวดหนึ่งสั้นกว่าสามเดือนหรือตั้งงบสูงกว่าสามพันห้าร้อย
หยวน
ซินไห่ลู่ดูมีปัญหาเล็กน้อย “บอสเผยคะ ตอนนี้เรามีงบประมาณให้พนักงาน
เบิกได้ไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นงบค่าแท็กซี่ล่วงเวลา ค่าเบี้ยเลี้ยง และอื่นๆ เราให้เบิก
ได้หมดทุกอย่าง งบสามพันห้าร้อยหยวนนี่เป็นงบในส่วนไหนเหรอคะ…”
เผยเชียนอธิบาย “งบนี้เป็นงบพิเศษ เงินส่วนนี้สามารถเอาไปซื้ออะไรก็ได้ที่
เกี่ยวกับการทำงาน
“อย่างเช่น เปาซวี่ชอบเกมใช่มั้ย เขาเอาเงินไปซื้อการ์ดหรืออุปกรณ์เพิ่มได้
“หรือพนักงานบางคนมีหูฟังดีๆ ใช้อยู่แล้ว แต่ถ้าเขาคิดว่าถ้าได้หูฟังที่ดีกว่านี้
จะทำให้ประเมินคุณภาพเสียงได้ดีขึ้นและเป็นประโยชน์ในการพัฒนาเกม เขาก็
สามารถเอางบตรงนี้ไปซื้อหูฟังเกมมิ่งได้”
ซินไห่ลู่พยักหน้าแล้วตอบ “เข้าใจแล้วค่ะ บอสเผย”
เผยเชียนเพิ่งจะรู้เรื่องนี้ได้ไม่นาน
ถึงบางอย่างจะสามารถนับว่าเป็นรายจ่ายได้ แต่ระบบก็ประเมินแต่ละอย่าง
แตกต่างกัน
งบประมาณที่ให้พนักงานเบิกได้ในปัจจุบันนั้นเป็นมาตรฐานเดียวกันสำหรับ
พนักงานทุกคน
ตั ว อย่ า งเช่ น ทุ ก คนสามารถเบิ ก เงิ น ค่ า แท็ ก ซี่ ไ ด้ เ ต็ ม จำนวนตอนทำงาน
ล่วงเวลา เป็นมาตรฐานเดียวกันหมด
อย่างคอมพิวเตอร์สำหรับทำงาน ทุกคนมีคีย์บอร์ดกลไก หน้าจอคู่ และอื่นๆ
พวกเขาล้วนมีอุปกรณ์กันครบครัน
แต่สำหรับคำขอกรณีพิเศษอื่นๆ ระบบจะไม่อนุมัติ
เช่น เปาซวี่อยากเติมเงินเกมเพื่อลองระบบบางอย่าง
ระบบไม่มีทางอนุมัติให้ใช้เงินแน่
หรือหวงซื่อปั๋วอยากได้แป้นพิมพ์กลไกราคาสองพันหยวน หรือไม่ก็หูฟังเกม
มิ่งราคาสามพันหยวนเพื่อจะได้รับรู้คุณภาพของเกมที่กำลังพัฒนาอยู่ได้มากขึ้น
ระบบจะยอมให้ซื้อไหม
คำตอบคือไม่
คำขอที่มากเกินพอดีแบบนี้ไม่มีทางได้รับการอนุมัติ
ระบบมีเกณฑ์ว่า ‘สิ่งที่จำเป็น’ สำหรับทุกคนในการทำงานคืออะไร
เกณฑ์สำหรับเจ้าของบริษัทนั้นสูงมาก จะซื้อสูทหรูสุดแพง ระบบก็อนุมัติ นี่
คือสิทธิพิเศษสำหรับเจ้าของระบบอย่างเผยเชียน
ข้อจำกัดคือ ในฐานะที่เป็นเจ้าของบริษัท เขาจึงไม่สามารถให้เงินเดือนตัวเอง
ได้
พนักงานคนอื่นๆ สามารถเบิกได้แค่ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นสำหรับการทำงาน
เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล ถ้าระบบอนุมัติให้เบิกค่า ‘เติมเงินเกม’ หรือ ‘หูฟัง
ไฮเทคเพื่อให้ประสบการณ์เล่นเกมที่ดีขึ้น ’ ได้ เผยเชียนคงผลาญเงินทุนระบบได้
ง่ายๆ ด้วยการบอกให้พนักงานทุกคนไปเล่นเกมผลิตในประเทศที่มีระบบให้ซื้อ
ของในเกมด้วยเงินจริง จากนั้นก็ให้พวกเขาผลาญเงินซื้อของในเกม
เป็นเรื่องปกติที่ระบบย่อมไม่ได้โง่
แต่เผยเชียนก็มีทางซิกแซกข้อจำกัดนี้
เขาตระหนักว่าระบบไม่อนุมัติ ‘ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ’ เกณฑ์ของระบบคือ
ห้ามตั้งงบไม่จำกัด ต้องมีการกำหนดงบไว้
ถ้าให้งบทุกคนตามที่กำหนด พวกเขาก็จะสามารถใช้จ่ายเงินทุนระบบในนาม
บริษัทได้อย่างเปิดเผย!
เผยเชียนนับนิ้วดู
ถ้าทำแบบนี้ เขาก็จะสามารถผลาญเงินได้เพิ่มประมาณสามถึงสี่หมื่นหยวน
ด้วย ‘งบพิเศษ’!
อี ก อย่ า งเงิ น ก้ อ นนี ้ ก ็ ไ ม่ ไ ด้ เ กี ่ ย วกั บ การสร้ า งเกม เป็ น สวั ส ดิ ก ารที ่ จ ั ด ให้
พนักงานตามกฎของบริษัท!
หมายความว่าวันสรุปบัญชีจะไม่ถูกเลื่อนออกไป!
เผยเชียนแสนสุขใจอยู่ภายใน ได้แต่ชมตัวเองว่าช่างอัจฉริยะเสียจริง!


ออฟฟิศ…
ช่วงนี้ทั้งออฟฟิศกำลังอยู่ในโหมดสุขสันต์สุดๆ
ทีมออกแบบแทบจะกดรีเฟรชดูตัวเลขสถิติเกมทุกวันเมื่อตระหนักว่าเกมฐาน
ทัพกลางทะเลโด่งดังแค่ไหน ตอนนี้มันนำเกมกระสุนเพชฌฆาตไปไกลแล้ว!
ถึงทุกคนจะไม่เห็นยอดตัวเลขที่แน่ชัดของเกมกระสุนเพชฌฆาต แต่ดูจาก
อั น ดั บ ในแพลตฟอร์ ม เกมทางการและการขึ ้ น หน้ า แนะนำแล้ ว เกมกระสุ น
เพชฌฆาตกำลังตกที่นงั่ ลำบาก
บอกได้เลยว่าสภาพแย่ลงทุกวัน!
ถึงระบบเก็บเงินของเกมกระสุนเพชฌฆาตจะดูสมเหตุสมผลกว่าเกมฐานทัพ
กลางทะเล แต่ก็ไม่ได้สร้างผลกระทบอะไรได้เลย
การที่เกมจะทำเงินได้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับระบบเก็บเงิน แต่อยู่ที่จำนวนผู้เล่น!
ถึงระบบเก็บเงินจะสมเหตุสมผลแค่ไหน แต่ถ้า ผู้เล่นหนีหายไปหมดแล้วจะมี
ประโยชน์อะไร
เกมฐานทัพกลางทะเลคุณภาพดีกว่าเกมกระสุนเพชฌฆาต เกมฐานทัพกลาง
ทะเลตัดทุกอย่างที่จะสร้างความกดดันให้ผู้เล่นออกไป จึงค่อยๆ ดึงผู้เล่นมาจาก
เกมกระสุนเพชฌฆาตได้!
ผู้เล่นใช้จ่ายน้อยลง เกมฐานทัพกลางทะเลกลับได้ประโยชน์มากขึ้น ฝั่งที่เสีย
ผลประโยชน์คือเกมกระสุนเพชฌฆาต
หวงซื่อปั๋วได้แต่ถอนหายใจ บอสเผยช่างมองการณ์ไกลและสุขุมลุ่มลึกจริงๆ!
บอสอาจจะคาดการณ์ไว้แล้วหลังจากศึกษาดูงานที่เทียนหัวสตูดิโอ
เขาตั้งใจปล่อยเกมฐานทัพกลางทะเลไปชนกับเกมกระสุนเพชฌฆาต เพื่อที่
อีกเกมจะได้ช่วยโฆษณาให้และเราก็จะได้โหนกระแสไปด้วย
ช่างเป็นแผนที่โหดเหี้ยมจริงๆ ถล่มเกมกระสุนเพชฌฆาตเสียราบคาบ!
จริงๆ แล้วทุกคนต่างสงสัยมากกว่าที่เทียนหัวสตูดิโอตอนนี้เป็นอย่างไร แต่ก็
ไม่มีใครกล้าถาม….
ถ้าไปถามไถ่ก็จะดูเหมือนโอ้อวด ซึ่งจะสร้างความเกลียดชังและทำให้อีกฝ่าย
คิดแค้นใจได้
แต่คิดดูอีกที ถึงจะไม่ถาม เทียนหัวสตูดิโอก็นึกเกลียดชังพวกเขาอยู่แล้ว
ช่างเถอะๆ เงินก็ได้แล้ว จะไปคิดเรื่องพวกนี้ทำไม
ระหว่างที่หวงซื่อปั๋วกำลังคิดเรื่องนี้ โทรศัพท์ของเขาก็สั่นเตือน
พอหันมองก็พบว่าเป็นข้อความแจ้งเงินเดือนเข้า!
“…อะไรเนี่ย ทำไมเยอะขนาดนี้”
เครื่องหมายคำถามขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนหัวของหวงซื่อปั๋ว!
เดือนนี้เขาไม่ได้ทำงานล่วงเวลา ไม่น่าจะได้ค่าล่วงเวลาเพิ่ม
ยิ่งเห็นตัวเลขชัดๆ เขาก็ตื่นกลัวเงินเดือนของตัวเอง!
ฐานเงินเดือนเขาอยู่ที่สี่พันหยวน พอขึ้นให้อีกหกสิบเปอร์เซ็นต์ก็กลายเป็นหก
พันสี่ร้อยหยวน!
ส่วนโบนัสโปรเจ็กต์สิบห้าเปอร์เซ็นต์จากยอดกำไรสองสัปดาห์ของเกมฐาน
ทัพกลางทะเลอยู่ที่หนึ่งแสนสามหมื่นหยวน เนื่องจากเขาเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน
จึงได้ส่วนแบ่งเยอะกว่าคนอื่นๆ เขาได้ไปประมาณแปดพันหยวน
ทำให้เงินเดือนเดือนนี้ของหวงซื่อปั๋วพุ่งไปถึงหนึ่งหมื่นห้าพันหยวน!
แน่นอนว่ายังต้องหักค่าเช่าที่พัก ค่าประกัน และภาษี
แต่ได้เงินเดือนมากกว่าหมื่นหยวนในปี 2010 ก็เป็นสิ่งที่สามารถเอาไปคุยโว
ได้แล้ว!
นอกจากนั้นเกมฐานทัพกลางทะเลยังโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ รายได้ของเกมก็พุ่ง
สูงขึ้น ทำให้โบนัสของหวงซื่อปั๋วเพิ่มขึ้นด้วย ถ้าเป็นแบบนี้เงินเดือนเดือนหน้าของ
เขาต้องเพิ่มขึ้นอีกแน่!
โปรเจ็กต์ที่เขารับผิดชอบออกมาดี บอสเผยก็ใจดีให้โบนัส
อะไรมันจะสุขสมได้ขนาดนี้!
แต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด
ซินไห่ลู่เดินเข้าออฟฟิศมาแล้วเริ่มแจกบัตรกำนัล
ทุกคนได้บัตรกำนัลสีทองที่มีโลโก้ห้างที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจิงโจว
หลังจากแจกให้ทุกคนเสร็จ ซินไห่ลู่ก็เดินไปตรงกลางโซนทำงาน ผุดยิ้มบางๆ
ก่อนจะพูดขึ้น
“อย่าทำบัตรกำนัลในมือหายกันนะคะ เพราะจะมีโควตาให้ใช้หนึ่งพันหยวน
ทุกเดือน พวกคุณสามารถไปที่ห้างแล้วซื้อของที่จำเป็นในชีวิตประจำวันได้
“และบอสเผยยังตั้ง ‘งบพิเศษ’ ขึ้นมาใหม่ด้วย เริ่มใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
“ทุกๆ สามเดือน บริษัทจะให้งบสามพันห้าร้อยหยวนไว้ใช้จ่ายตามรายการ
เหล่านี้ค่ะ…”
เลขาซินอธิบายว่า ‘งบพิเศษ’ คืออะไร มีข้อจำกัดอะไรบ้าง เช่น… จะเติมเกม
ก็สามารถใช้งบนี้ได้
เมื่อได้ยินที่เธอพูด ทุกคนก็ตะลึงงันไป โดยเฉพาะเปาซวี่ พวกเขางงไปหมด
มีอะไรดีๆ แบบนี้ด้วยหรือ
หมายความว่าตั้งแต่นี้ต่อไป เปาซวี่ก็ไม่ต้องใช้เงินตัวเองเติมเกมแล้วสิ
บทที่ 72 ทริปช้อปปิง้

ทุกคนรู้สึกกระดากใจกันเล็กน้อย!
บริษัทจัดคอมพิวเตอร์สเป็กสูง ให้ค่าล่วงเวลา โบนัสโปรเจ็กต์ ขนมนมเนย
รายจ่ายทั่วไปก็เบิกได้เต็มจำนวน
ตอนนี้ถ้าอยากเติมเกมก็สามารถเบิกได้อีกหรือ
ซินไห่ลู่เข้าใจความรู้สึกของทุกคน เธอยิ้มบางแล้วพูดต่อ “ไม่ต้องเกรงใจไป
ค่ะ บ่ายนี้ บอสจะพาทุกคนไปช้อปปิ้งฉลองความสำเร็จของเกมฐานทัพกลาง
ทะเล!
“เตรียมตัวให้พร้อมด้วยนะคะ เราจะออกเดินทางตอนบ่ายสามโมงตรง รถ
บัสจะรออยู่ชั้นล่าง”

เผยเชียนคิดเอาไว้แล้วว่าอาจมีบางคนเกรงใจไม่กล้าใช้งบพิเศษ
เขากลัวว่าพวกพนักงานจะไม่ยอมใช้งบพิเศษสามพันห้าร้อยหยวนนี่
ดังนั้นวันนี้เขาจึงวางแผนพาทุกคนไปห้าง เพื่อที่พวกพนักงานจะได้ใช้เงินใน
บัตรกำนัลและงบพิเศษให้หมด!
ถึงอย่างไรเผยเชียนก็ตั้งใจแล้วว่าจะผลาญเงิน พอถึงวันสรุปบัญชี ระบบก็จะ
ทบเงินทุนระบบให้เพิม่ ถ้าไม่รีบผลาญเงินก้อนนี้ไปคงจะเสียดายแย่!
เขาคำนวณดูคร่าวๆ
เงินทุนระบบตอนนี้อยู่ที่ประมาณหนึ่งล้านหนึ่งแสนหยวน
เงินเดือนและโบนัสเดือนนี้ยอดรวมทั้งหมดสี่แสนหยวน ส่วนบัตรกำนัลอยู่ที่
สามหมื่นหยวน ถ้าทุกคนใช้งบพิเศษหมด ก็จะผลาญไปได้อีกหนึ่งแสนหยวน
เผยเชียนจะซื้อของให้ตัวเองอีกสองสามอย่าง น่าจะผลาญเงินไปได้อีกหนึ่ง
แสนหยวน
ใช้จ่ายกันหนักหน่วงขนาดนี้ แผนผลาญเงินของเขาก็น่าจะมีหวัง!
โชคไม่ดีที่เขาจ่ายค่าเช่าอพาร์ตเมนต์และรายจ่ายอื่นๆ ไปตอนต้นเดือนแล้ว
จะจ่ายล่วงหน้าเดือนต่อไปก็ไม่ได้
เผยเชียนใจชื้นขึ้นเรื่อยๆ หลังจากคิดคำนวณ เขาตั้งใจจะช้อปแหลกลาญไป
พร้อมกับทุกคนที่ห้าง!
ทุกคนต้องใช้เงินสามพันห้าร้อยหยวนให้หมดเพื่อฉัน อย่าให้เหลือแม้แต่แดง
เดียว!

บ่ายสามโมง ทุกคนขึ้นรถบัสแล้วเดินทางไปที่ห้าง
หลังจากออกรถ เผยเชียนก็ปรบมือเบาๆ เพื่อเรียกความสนใจจากทุกคน
“เพื่อฉลองความสำเร็จของเกมฐานทัพกลางทะเลและความทุ่มเทของทุกคน
ผมตัดสินใจให้รางวัลทุกคนเป็นทริปช้อปปิ้ง!
“บัตรกำนัลพันหยวนต้องใช้ให้หมด งบพิเศษสามพันห้าร้อยหยวนก็ต้องใช้ให้
หมด ถ้าใช้ไม่หมดทุกคน ผมไม่ให้กลับ!
“ตามนี้ แยกย้ายได้”
ทุกคนเหลือบมองกันอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ร้องลั่นด้วยความดีใจ
“ได้ครับ!”
“ขอบคุณมากค่ะ บอสเผย!”
พวกพนักงานหนุ่มสาวรีบพุ่งไปที่เคาน์เตอร์
ทริปช้อปปิ้งที่บริษัทออกให้ช่างดีจนเหมือนฝัน ไม่มีใครเคยพบเจอบริษัทที่ใจ
ดีขนาดนี้มาก่อน!
ห้างที่พวกเขามาใหญ่มาก สามารถจับจ่ายซื้อของได้ตามที่ใจต้องการ!
นอกจากบัตรกำนัลกับงบพิเศษแล้ว พวกเขายังมีเงินเดือนให้ใช้อีก!
ทุกคนได้ปรับฐานเงินเดือน แถมยังมีโบนัสโปรเจ็กต์อีก พอมีเงินเยอะ ก็มี
อะไรอยากซื้อเยอะแยะไปหมด!
เผยเชียนเห็นว่าเหล่าพนักงานรวมตัวกันเป็นกลุ่มๆ ขณะทยอยเข้าห้างไป
พวกที่แจ้นเข้าไปเร็วที่สุดคือพวกขาช้อป กลุ่มนี้น่าจะใช้เงินหมดแน่นอน
พวกที่ลังเลใจเล็กน้อยแล้วเข้าทุกร้านที่เห็นน่าจะระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย
แต่ก็น่าจะใช้งบที่ได้ไปเกือบหมด
ส่วนกลุ่มสุดท้ายที่เดินเอ้อระเหยคือพวกที่ไม่ได้ชอบซื้อของเท่าไหร่…
เผยเชียนคิดว่าต้องจับตาดูกลุ่มนี้เป็นพิเศษ
คนกลุ่มนี้น่าจะใช้งบที่ได้ไปไม่หมด!
นิสัยเสียไม่ค่อยใช้เงินนี่ต้องแก้ให้หาย!
หวงซื่อปั๋ว เสี่ยวลู่ หลินหวาน และหม่าหยางจัดอยู่ในกลุ่มสุดท้ายที่ว่านี้ เผย
เชียนตัดสินใจจับตาดูสี่คนนี้
ตัดหลินหวานออก อีกสามหนุ่มที่เหลือเป็นพวกไม่รู้จะใช้เงินซื้ออะไรและไม่
ค่อยมีของที่อยากได้ ทำให้ไม่ค่อยมีแรงจูงใจอะไรให้จับจ่ายซื้อของ
ส่วนหลินหวาน…เธอไม่ได้ขาดอะไรในชีวิต ถ้าขาดอะไรก็คงซื้อไปตั้งนานแล้ว
ไม่รอมาจนถึงตอนนี้หรอก
สำหรับเธอแล้ว การจับตาดูเผยเชียนสำคัญกว่าการใช้เงิน!
หลินหวานคิดว่าเผยเชียนเป็นบอสที่วิเศษมาก!
นอกจากจะให้บัตรกำนัลและงบพิเศษแล้วยังพาทุกคนมาช้อปถึงห้างอีกด้วย
ช่างคิดถึงใจผู้อื่นจริงๆ!
หรือว่าเขาจะเป็นบอสในฝันของทุกคน ผู้ซึ่งทั้งอบอุ่น เข้าถึงง่าย และคิดถึงใจ
พนักงาน
พวกเขาเดินลอยชายอยู่ในห้างจนไปถึงช็อปพิเศษของเฉินฮว่าดิจิทัล
เฉิ น ฮว่ า คอร์ เ ปอเรชั น ที ่ เ ป็ น ตั ว แทนจำหน่ า ยอุ ป กรณ์ อ ั จ ฉริ ย ะและการ
ติดต่อสื่อสารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ถึงจะจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเทคโนโลยี
บ้าง แต่ธุรกิจหลักของเฉินฮว่าคอร์เปอเรชันคืออุปกรณ์ดิจิทัลอย่างคอมพิวเตอร์
มือถือ หูฟัง และอื่นๆ
เสี่ยวลู่หยิบมือถือรุ่นเรือธงตัวใหม่ล่าสุดขึ้นมาดู เขาหลงรักมือถือเครื่องในมือ
ทันที
เทียบกับมือถือรุ่นต่างๆ ในชาติก่อนแล้ว เผยเชียนคิดว่าในช่วงปีเดียวกัน
รูปลักษณ์ของมือถือเหล่านี้ดูดีเลยทีเดียว
ชาติก่อน สมาร์ตโฟนยังไม่เป็นที่แพร่หลายในปี 2009 และ 2010 แม้จะมีมือ
ถือหลายแบบในตลาด แต่ส่วนใหญ่เป็นแบบแป้นตัวเลข แบบมีแป้นพิมพ์จะมีเป็น
บางเครื่อง
ในโลกนี้ ยุคของสมาร์ตโฟนมาถึงเร็วกว่า มือถือส่วนใหญ่เป็นจอทัชสกรีน
โลกนี้น่าจะพัฒนาเร็วกว่าโลกในชาติก่อนของเขาประมาณสองถึง สามปี ตอนนี้
สภาพเหมือนช่วงยุคแรกๆ ของบริษัท Xiaomi
ตอนนี้เสี่ยวลู่ถือสมาร์ตโฟนของเฉินฮว่า รุ่น Shenhua G9 อยู่ในมือ เป็นไม่กี่
รุ่นในตลาดที่เน้นการเล่นเกมบนมือถือ ราคาอยู่ที่สามพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าหยวน
หลังจากลูบคลำอยู่นาน เสี่ยวลู่ก็วางมือถือลงเงียบๆ
เผยเชียนไม่พอใจที่เห็นอย่างนั้น
“อ้าว ทำไมวางล่ะ ไม่ชอบเหรอ” เผยเชียนถาม
เสี่ยวลู่รีบตอบ “เอ่อ ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ผมแค่คิดว่าเครื่องเก่าน่าจะใช้ได้ไป
อีกสักปี อีกอย่าง…เครื่องนี้ก็ราคาแรงไปหน่อยด้วย…”
“ราคาแรงไปหน่อยเหรอ ก็ใช้งบพิเศษสิ!” เผยเชียนบอก
“หา บอสเผย มือถือนี่รวมอยู่ในงบพิเศษด้วยเหรอครับ ” เสี่ยวลู่ตะลึงงันไป
เล็กน้อย “มือถือมันเกี่ยวกับการทำงานยังไง…”
เผยเชียนส่ายหน้า “ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะ อนาคตเราอาจจะย้ายไปพัฒนาเกม
มือถือก็ได้ ไม่แน่อาจจะทำเกมแม่ทัพผีเวอร์ชันใหม่งี้ ซื้อมือถือเกมมิ่งไว้ทดสอบ
เกมล่วงหน้าก็ไม่เห็นจะผิดตรงไหน”
“เอ่อ…” เสี่ยวลู่ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
“มีงบพิเศษอยู่สามพันห้า อีกสี่ร้อยเก้าสิบเก้าก็ใช้บัตรกำนัลเพิ่มเอาก็ได้นี่”
เสี่ยวลู่กะพริบตา “แต่…”
“ลังเลอะไร ไม่อยากได้เหรอ รุ่น G6 ที่ใช้มันของตั้งแต่สองปีก่อนแล้ว สภาพ
แทบจะไม่ไหวแล้วไม่ ใช่เหรอ ผมว่าถ้าใช้เครื่องนี้น่าจะทำให้ประสิทธิภาพการ
ทำงานลดลงนะ!
“ถ้าผมให้คุณไปทำอะไรแล้วมือถือแฮงก์ขึ้นมางานก็ไม่เดินสิ เปลี่ยนเถอะ
เพื่องาน!” เผยเชียนพูดอย่างจริงจัง
เสี่ยวลู่ได้แต่พยักหน้าแล้วตอบกลับ “โอเคครับ บอสเผย!”
เขาดูตื่นเต้นเล็กน้อยตอนถือมือถือ เครื่องใหม่แกะกล่องไปที่เคาน์เตอร์เพื่อ
จ่ายเงิน
“อย่าลืมนะ เอาบัตรเครดิตรูดสามพันห้าร้อย อีกสี่ร้อยเก้าสิบเก้าใช้บัตร
กำนัล เสร็จแล้วเอาใบเสร็จไปเบิกกับเลขาซิน!
“อย่าใช้เงินเดือนจ่ายนะ!”
พอเห็นเสี่ยวลู่เดินไปจ่ายเงิน เผยเชียนก็ยังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
เขาหันมาถามหวงซื่อปั๋ว “ผมว่าคุณก็น่าจะเปลี่ยนมือถือเหมือนกันนะ”
หวงซื่อปั๋วรีบโบกไม้โบกมือพร้อมตอบกลับ “ไม่ดีกว่าครับบอสเผย ผมเพิ่ง
เปลี่ยนมือถือไปเมื่อสองเดือนก่อน…”
“แต่เครื่องของคุณเป็นรุ่น Lite นี่ รุ่นนี้มันของขยะ คุณรู้รึเปล่า ” เผยเชียน
เหลือบมองก็รู้ทันทีวา่ เป็นรุ่นอะไร
“ไม่ดีกว่าครับบอสเผย ผมมีอย่างอื่นที่อยากซื้อ” หวงซื่อปั๋วปฏิเสธอีกครั้ง
เผยเชียนพยักหน้า ถ้าหวงซื่อปั๋วมีอย่างอื่นที่อยากซื้อ เขาก็ทำได้แค่รอดู
เขาหันไปมองหลินหวาน เธอยกมือถือรุ่น Shenhua M10 ในมือซ้ายให้ดู
มือถือรุ่นนี้คือมือถือรุ่นเรือธงตั วล่าสุด ตัวที่ถูกที่สุดก็ราคาเริ่มต้นที่ห้าพัน
หยวนแล้ว อีกอย่างมือถือของหลินหวานดูไม่ธรรมดา น่าจะเป็นรุ่นสเป็กสูง
หลินหวานพูดขึ้น “หนูมีทุกอย่างในช็อปนี้แล้วค่ะบอสเผย”
เผยเชียน “…”
เฮ้อ พวกทายาทรุ่นที่สองของตระกูลร่ำรวยนี่อยากได้อะไรก็ได้หมดเลย หลิน
หวานนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ!
บทที่ 73 พลิกกลับมาขาดทุน!

เผยเชียนหันมองรอบๆ ร้านอีกครั้งแล้วสังเกตเห็นโซนหูฟัง
“หม่าหยาง ผมจำได้ว่าคุณใช้หูฟังจากร้านแผงลอยข้างทางราคายี่สิบกว่า
หยวน” เผยเชียนมองหม่าหยาง
“จิ๊…บอสเผย ถึงจะเป็นของจากร้านแผงลอยแต่ก็ใช้ดีเลยนะครับ” หม่าหยาง
รีบตอบกลับเพราะไม่อยากเผยความสัมพันธ์ของพวกเขาให้คนอื่นรู้
“แล้วจะเหมาะกับการใช้งานเหรอ ของจากร้านแผงลอยคุณภาพไม่ถึงขั้น
หรอก นี่รุ่นใหม่ล่าสุด ราคาสองพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าหยวน ซื้อสิ ไม่ถึงหมื่น แค่นี้
ก็พอใช้งานแล้ว”
เผยเชียนรีบหยิบหูฟังให้หม่าหยาง
หม่าหยางตะลึงงันไปก่อนจะพูดขึ้น “เอ่อ บอสเผย แต่งานของผมไม่ค่อยต้อง
ใช้หูฟังนะครับ…”
ตอนนี้หม่าหยางรับผิดชอบงานจิปาถะในทีมออกแบบ ได้กรอกแบบฟอร์ม
เป็นบางครั้ง ใช้โปรแกรมตัดต่อ หรือไม่ก็ประสานงานเรื่องทรัพยากร งานของเขา
ไม่จำเป็นต้องใช้หูฟังจริงๆ
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “เตรียมไว้ทำงานต่อไปไง คุณอาจจะ
ต้องประสานงานกับทีมที่เราจ้างมากับดูเรื่องเพลงและเสียงเอฟเฟกต์ ถ้าไม่มีหูฟัง
ดีๆ พอเขาส่งเพลงกับเสียงเอฟเฟกต์มาให้ตรวจ คุณจะรู้ได้ไงว่าได้งานคุณภาพดี
หรือเปล่า”
หม่าหยางเกาหัว “แต่หูฟังที่มากับคอมพิวเตอร์ของบริษัทก็ดีพอแล้วนะครับ”
เผยเชียนทำหน้าจริงจังขึ้น “ก็นั่นของบริษัท คุณเอากลับบ้านได้ไหมล่ะ ถ้ามี
เหตุด่วนหลังเลิกงานต้องให้คุณช่วยประสานงานขึ้นมาจะทำไง”
หม่าหยางพูดอะไรไม่ออก
เหมือนกับว่า…ที่เผยเชียนพูดช่างฟังดูมีเหตุผล…
หม่าหยางยิ้มกว้างขณะวิ่งเอาหูฟังไปจ่ายเงิน
ก็เหมือนกรณีของเสี่ยวลู่ เขาอยากซื้ออยู่แล้ว แต่ไม่อยากใช้เงินตัวเองซื้อ จะ
ใช้งบพิเศษซื้อก็รู้สึกไม่ค่อยดี
แต่พอเผยเชียนเชียร์ให้ซื้อ พวกเขาก็ไม่มีข้ออ้างอื่นอีก
หม่าหยางถือหูฟังแสนสวยไว้ในมือ
เขาไม่ต้องเสียเงินตัวเองสักแดงเดียวเพราะบริษัทจ่ายให้ จะไปหาอะไรสุด
ประเสริฐแบบนี้ได้จากที่ไหนอีก
ไม่นานเสี่ยวลู่กับหม่าหยางก็จ่ายเงินเสร็จ
เสี่ยวลู่อดใจไม่ไหว เขารีบเปิดใช้งานมือถือเครื่องใหม่ทันที
คนอื่นๆ เดินเลือ กซื้อ ของในห้างต่อ ระหว่างนั้นเผยเชียนก็คอยจับตาดู
พนักงานทุกคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะใช้งบกันเต็มที่!
เขาบั ง คั บ ให้ ห วงซื ่ อ ปั ๋ ว ซื ้ อ แท็ บ เล็ ต เครื ่ อ งใหม่ โ ดยอ้ า งว่ า ‘เพื ่ อ เพิ่ ม
ประสิทธิภาพการทำงาน’ และยังเชียร์ให้พนักงานต้อนรับสาวสองคนซื้อชุดสวยๆ
โดยอ้างว่า ‘เพื่อเพิ่มภาพลักษณ์ของบริษัท’
ยังมีของอื่นๆ ที่สามารถใช้งบนี้ซื้อได้ เมื่อไหร่ที่เผยเชียนเห็นใครนึกลังเลใจ
แม้แต่นิดเดียว เขาจะปรี่เข้าไปหาข้ออ้างให้ซื้อทันที!
มีบางกรณีที่เผยเชียนไม่สามารถหาข้ออ้างได้ เช่น พนักงานชายคนหนึ่งอยาก
ซื้อกระเป๋าถือให้แฟน เขาบอกให้พนักงานคนนั้นเลือกของชิ้นอื่นเพื่อที่จะได้หา
ข้ออ้างให้
เผยเชียนค่อนข้างพอใจหลังจากเดินทั่วห้างหนึ่งรอบ
โอเค ทุกคนใช้เงินกันหมด!
หลังจากตรวจดูเงินทุนระบบที่ตอนแรกมีอยู่หนึ่งล้านหนึ่งแสนหยวนก็พบว่า
ตัวเองผลาญเงินทุนระบบไปได้ห้าแสนสามหมื่นหยวนผ่านแผนชั่วร้ายต่างๆ อย่าง
ขึ้นเงินเดือน ให้โบนัส และแจกบัตรกำนัล
ตอนนี้เหลือเงินอยู่ห้าแสนเจ็ดหมื่นหยวน
“โอเค ที่เหลือคงต้องพึ่งตัวเองแล้ว…”
เผยเชียนรู้ว่าเหล่าพนักงานทำหน้าที่ตัวเองเต็มที่แล้ว ที่เหลืออีกเจ็ดหมื่น
หยวนเขาต้องเป็นคนใช้เอง
หลั ง จากผลาญเงิ น เจ็ ด หมื ่ น หยวนก้ อ นนี ้ ไ ปได้ ทุ ก ๆ หยวนที ่ ผ ลาญได้
ต่อจากนั้นจะแปลงเข้าความมั่งคั่งส่วนบุคคลในอัตราหนึ่งต่อหนึ่ง!
นี่คือก้าวสุดท้ายของการเดินทางสุดยาวไกล เขาต้องทำให้สำเร็จ!
เผยเชียนเดินไปร้านสูทสุดหรู พยายามเลี่ยงร้าน Jesse ที่เคยซื้อก่อนหน้านี้
แต่ก็ต้องรีบกลับออกมาอย่างเงียบเชียบ
ระบบไม่อนุญาตให้เขาซื้อ…
น่าจะเป็นเพราะรอบก่อนเผยเชียนซื้อสูทไปหลายตัวแล้ว ระบบจึงคิดว่ าไม่มี
ความจำเป็นต้องซื้อเพิ่มอีก
จากนั้นเผยเชียนก็ไปที่ร้าน Rolex เพื่อซื้อนาฬิกาสักเรือน
ครั้งนี้ระบบไม่ได้ห้ามซื้อเสียทีเดียว
เผยเชียนเริ่มไล่จากเรือนที่แพงที่สุด ราคากว่าสองแสนหยวน แล้วค่อยๆ ไล่
ไปเรื่อยๆ ในที่สุดระบบก็ยอมให้เขาซื้อรุ่นเริ่มต้น ราคาประมาณสี่หมื่นหยวน!
ถึงจะเป็นยี่ห้อ Rolex เหมือนกัน แต่ก็ถือว่าถูกเกินไป…
เผยเชียนเจ็บใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่สี่หมื่นก็เงิน ยังไงก็ต้องซื้อ
อย่างที่มีคนเคยพูดไว้ว่า ‘ใส่ Rolex ก็ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น’ เผยเชีย
นมองว่าตัวเองเป็นบอส ต้องรับผิดชอบมากกว่าใครเพื่อน จึงเหมาะที่จะสวม
นาฬิกาเรือนละสองแสน
แต่ก็ชัดเจนว่าระบบไม่เห็นด้วยและคิดว่าเรือนละสี่หมื่นก็พอแล้ว
เผยเชียนแสนเจ็บใจ
เขาเลือกซื้อของต่อ
ในเมื่อเขาไม่สามารถซื้อนาฬิกาเรือนแพงๆ ได้ ก็หมายความว่าระบบคงไม่
อนุญาตให้เขาซื้อของอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับงานโดยตรง
ตัวอย่างเช่น น้ำหอมแพงๆ เครื่องประทินผิวสำหรับผู้ชาย และอื่นๆ
แต่เผยเชียนก็ไม่ได้กังวลอะไร การได้ผลาญเงินไปสี่หมื่นกว่าหยวนทำให้
ตอนนี้เขามีความมั่นใจมากขึ้น
เขาต้องทำให้เต็มที่ นี่คือโค้งสุดท้ายของการผลาญเงินแล้ว!
หลินหวาน หวงซื่อปั๋ว และคนอื่นๆ ใช้จ่ายครบวงเงินที่ให้ไปแล้ว ระหว่างที่
เดินตามบอสเผยและดูของตามทาง พวกเขาก็แอบสังเกตบอสเผยไปด้วย
โดยเฉพาะหลินหวาน เธอดูจะสนใจสิ่งที่บอสเผยซื้อไปเสียทุกอย่าง!
หลังจากเฝ้าสังเกตการณ์อยู่พักหนึ่ง หลินหวานก็ตระหนักว่าเธอเข้าใจบอส
เผยถูกมาโดยตลอด!
ชีวิตจริงบอสเผยเป็นคนมัธยัสถ์!
เธอเห็นชัดเจนว่ามีบางอย่างที่บอสเผยอยากซื้อ
ตัวอย่างเช่น น้ำหอมสุดหรูหราจากแบรนด์ที่ขึ้นต้นด้วยตัว G ราคาเกินพัน
หยวน บอสเผยดูท่าจะชอบน้ำหอมขวดนี้มาก
แต่หลังจากดูอยู่สักพัก เขาก็วางกลับที่เดิม!
ไหนจะชุดสูทสั่งตัดที่ลองอยู่พักใหญ่ ใส่แล้วดูดี ขนาดพอดีตั ว ราคาเกินหมื่น
หยวนมาแค่นิดหน่อย แต่กลับไม่ซื้อ!
ยังมีนาฬิกา Rolex อีก บอสเผยเริ่มไล่ดูจากเรือนละสองแสน แต่สุดท้ายก็ไป
เลือกรุ่นที่ถูกที่สุด ราคาแค่สี่หมื่นกว่าหยวน!
บอสเผยเป็นถึงเจ้าของบริษัทผู้ประสบความสำเร็จ แต่กลับใส่แค่นาฬิกา
Rolex รุ่นล่างๆ เนี่ยนะ
หลินหวานตะลึงงันไป
เผยเชียนเดินแวะเลือกของไปเรื่อยๆ
ถ้าระบบไม่อนุญาตให้ซื้อก็ทำได้แค่ตัดใจ
แต่ถ้าระบบอนุญาตเมื่อไหร่ก็คือเหมาหมด!
ถึงอย่างนั้นเผยเชียนก็ซื้อของมาได้ไม่มากเท่าไหร่
ระบบมีข้อห้ามเยอะเหลือเกิน!
ปากกาหัวแร้งแบรนด์หรูราคาเจ็ดพันกว่าหยวน เข็มขัดแบรนด์ G ราคาสาม
พันกว่าหยวน กระเป๋าหิ้วใส่เอกสารราคาสองหมื่นหยวน…
บางชิ้นเป็นของราคาแพงสุด บางอันเป็นของราคากลางๆ ทุกชิ้นซื้อตาม
ข้อจำกัดของระบบหมด เผยเชียนเลือกได้แต่ของที่แพงที่สุดที่ระบบยอมให้ซื้อ
หลังจากเดินช้อปสักพัก เผยเชียนก็ตระหนักว่าไม่มีอะไรให้ซื้อแล้ว
เขารู้สึกว่าตัวเองก็ซื้อของมาเยอะเหมือนกัน แต่กลับไม่ได้มีถุงในมือมากมาย
เลย
ราคารวมของของที่ซื้อทั้งหมดอยู่ที่เจ็ดหมื่นหยวน
เขาขาดทุนไปได้สามพันหยวน!
เผยเชียนแสนดีใจ
นี่คือก้าวสุดยิ่งใหญ่!
นี่คือผลลัพธ์จากการช้อปแหลกภายใต้หลักการที่ว่า ‘ไม่เอาอันที่ดีที่สุด เอา
อันที่แพงที่สุด’!
เงินที่ผลาญได้ต่อจากนี้จะแปลงเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคลโดยไม่ติดเงื่อนไข
ใดๆ!
เผยเชียนยิ้ม แต่พนักงานคนอื่นๆ กลับมองต่างออกไป
หลินหวานซาบซึ้งใจมาก
เกมฐานทัพกลางทะเลประสบความสำเร็จอย่ างล้นหลาม คำนวณดูคร่าวๆ
บอสเผยน่าจะมีรายได้มากกว่าสองล้านหยวนต่อเดือน
ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังใช้ชีวิตอย่างมัธยัสถ์!
บทที่ 74 ก้าวสุดยิ่งใหญ่!

หลินหวานเห็นบอสเผยเดินผ่านแบรนด์ขายของใช้ส่วนตัวหรูๆ หลายแบรนด์
แต่กลับไม่เดินเข้าไปดูเลย!
เขาไม่ได้ซื้อน้ำหอมราคาพันหยวนขวดเมื่อครู่ด้วย!
นอกจากนี้บอสเผยยังซื้อของที่จำเป็นกับการทำงานเท่านั้น แม้แต่กระเป๋า
สตางค์กับกระเป๋าใส่เอกสารยังใช้ของที่เหมาะสำหรับไปประชุมธุรกิจ!
รวมทั้งหมดแล้ว เขาใช้เงินไม่ถึงแสนหยวนเลยด้วยซ้ำ!
หลินหวานรู้สึกแปลกใจมาก บอสเผยช่างเป็นคนรู้จักยับยั้งห้ามใจตัวเอง
จริงๆ!
ลองคิดดูสิ ถ้าเป็นคนอื่นที่หาเงินได้สักสองล้าน ไม่สิ แค่ล้านเดียวก็พอ คนคน
นั้นคงจะผลาญเงินซื้อเสื้อผ้า กระเป๋าสตางค์และนาฬิการาคาชิ้นละหลายหมื่น
กลับกันบอสเผยใช้เงินไปไม่ถึงแสน แต่เขาก็ดูจะพอใจแล้ว!
น่านับถือจริงๆ!
พอนึกถึงที่บอสเผยใจกว้างเรื่องเงินเดือน สวัสดิการ และโบนัส ภาพที่เห็น
ตอนนี้ช่างแตกต่างกันสุดๆ!
หลินหวาน หวงซื่อปัว๋ และคนอื่นๆ พากันน้ำตารื้น
ช่างเป็นบอสที่แสนประเสริฐยิ่งนัก!
เผยเชียนไม่ได้สังเกตเห็นท่าทางของคนอื่นๆ เลย
เขาพยายามคิดหาทางผลาญเงินอยู่!
ตอนนี้เขาเข้าสู่ช่วงขาดทุนแล้ว ทุกๆ หยวนที่ใช้ต่อจากนี้จะกลายเป็นรายได้
ส่วนตัวของเขา!
แต่เขาก็เดินจนทั่วห้างและซื้อทุกอย่างที่ระบบอนุญาตให้ซื้อแล้ว
คนอื่นๆ ก็ซื้อของกันเกือบเสร็จหมดแล้วและมารออยู่ที่ชั้นแรก ในมือถือถุงช้
อปปิ้งจนเต็มมือ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
การซื้อของโดยมีคนจ่ายให้นี่รู้สึกดีจริงๆ!
แต่เผยเชียนยังไม่อยากกลับไปทั้งอย่างนี้
เขาอุตส่าห์ผลาญเงินจนขาดทุนแล้ว แต่ตอนนี้กลับขาดทุนแค่สามพันหยวน
จะมายอมแพ้เอาตรงนี้ไม่ได้!
เขาหันไปทางซินไห่ลู่ ดวงตาพลันฉายแสงวาบ
“ผมอยากซื้อของขวัญให้เพื่อนที่เป็นเจ้าของบริษัทเหมือนกัน มีอะไรแนะนำ
ไหม”
เขาบอกไปตรงๆ ไม่ได้ว่าซื้อให้ตัวเอง ไม่อย่างนั้นจะดูแปลกและอาจโดน
ระบบเตือนได้
คนอื่นจะสงสัยเอาได้ว่าถ้าซื้อให้ตัวเองก็ซื้อของที่อยากได้ไปสิ ทำไมต้องมา
ถามด้วย
แต่ถ้าเป็นของขวัญให้เพื่อน ทุกคนก็จะช่วยแนะนำของให้ เผยเชียนจะได้ใช้
โอกาสนี้เพื่อหาว่ามีของอะไรที่ยังไม่ได้ซื้ออีก
ซินไห่ลู่เริ่มแนะนำของที่ควรซื้อ คนอื่นๆ ก็ช่วยกันระดมความคิดด้วย
สูทราคาแพง น้ำหอม นาฬิกา ปากกาหัวแร้ง และอื่นๆ
เผยเชียนได้แต่ส่ายหน้า
ของส่วนใหญ่ที่ไล่ชื่อมา อันที่ซื้อได้เขาก็ซื้อมาหมดแล้ว ส่วนของอื่นๆ คือของ
ที่ระบบไม่อนุญาตให้ซื้อ!
หลังจากเสนอความคิดเห็นไปแล้วเหล่าพนักงานก็ไม่รู้จะแนะนำอะไรอีก พวก
เขาไม่รู้ว่ามีสิ่งใดที่ให้เป็นของขวัญได้อีก
ตอนนั้นเองหลินหวานก็พูดขึ้น “เอาเป็น…แว่นตาดีไหมคะ”
เผยเชียนตาเป็นประกาย “แว่นตาเหรอ”
หลินหวานพยักหน้าแล้วอธิบาย “ถ้าเพื่อนของบอสสายตาสั้นก็ซื้อแว่นให้เป็น
ของขวัญได้ แต่บอสต้องรู้ค่าสายตาของคนที่จะซื้อให้ก่อน ถ้าไม่รู้ค่าสายตาหรือไม่
รู้ว่าสายตาสั้นหรือเปล่า บอสซื้อแค่กรอบแว่นให้ก็ได้นะคะ”
“แว่นตาดีๆ สักอันจะช่วยเสริมภาพลักษณ์และทำให้ดูเป็นคนมีรสนิยมดีได้
ค่ะ”
เผยเชียนอยากชมหลินหวานมาก!
แว่นตา! ทำไมถึงคิดไม่ได้กันนะ
เผยเชียนไม่ได้สายตาสั้น ไม่จำเป็นต้องใส่แว่น เลยไม่ทันนึกถึงแว่นตา
แต่พอคิดดูดีๆ ซื้อแว่นตาให้ตัวเองสักอันก็ดูจะสมเหตุสมผล!
เขาหันไปหาเลขาซินพร้อมถามขึ้น “ร้านแว่นที่แพงที่สุดอยู่ตรงไหน”
ซินไห่ลู่คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “ช็อป Louis Vuitton ที่นี่มีแว่นขายค่ะ
น่าจะราคาพอสมควร แต่สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นแว่นกันแดด ดิฉันไม่แน่ใจว่าจะ
ตรงตามที่บอสอยากได้หรือเปล่า”
“พาผมไปที”
ทั้งคู่ขึ้นบันไดเลื่อนไป ไม่นานก็เดินไปถึงช็อป Louis Vuitton และเจอชั้น
วางขายแว่นตา
เผยเชียนหยิบมาดู พอเห็นราคาก็รู้สึกพึงพอใจมาก!
อันที่ถูกที่สุดราคาสองพันหยวน อันที่แพงที่สุดราคามากกว่าเก้าพันหยวน!
แว่นตาอันละเก้าพันหยวน เอาจริงๆ ราคาเกินที่เผยเชียนคิดเอาไว้มาก แต่ก็
ถือเป็นเรื่องดีสำหรับเขา!
พอเผยเชียนหยิบแว่นกันแดดอันละเก้าพันกว่าหยวนขึ้นมา ระบบก็ปฏิเสธ
ทันที
“…”
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก ระบบไม่ยอมให้เขาซื้อ
น่าเสียดายจริงๆ!
เขาลองหยิบอีกอันที่ราคาแปดพันกว่าหยวนขึ้นมา
ครั้งนี้ระบบไม่ได้แจ้งเตือนอะไร!
เผยเชียนแสนดีใจ หลังจากเทียบแว่นตาทั้งสองอันดู เขาก็ตระหนักว่าอันแรก
ดูเว่อร์เกินไปหน่อย เพราะขอบแว่นดูฉูดฉาด ไม่เหมาะกับการใส่ทำงาน
ส่วนอันที่สอง ถึงจะเป็นแว่นที่มีเลนส์กันแดดด้วย แต่ขอบแว่นบางที่ร้อยด้วย
ด้ายสีทอง บวกกับเลนส์ที่ดูเรียบหรูทำให้ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป
เผยเชียนหยิบมาสวม จากนั้นก็หันไปหาซินไห่ลู่พร้อมถามขึ้น “อันนี้เป็นไง”
ซินไห่ลู่พยักหน้าแล้วตอบกลับ “ดูมีระดับมากค่ะ บอสเผย”
เผยเชียนลิงโลดใจ
ไม่แปลกที่ระบบไม่แจ้งเตือนอะไร แว่นอันนี้เหมาะกับการใส่ทำงานและช่วย
ส่งเสริมภาพลักษณ์ของเขาจริงๆ!
ระบบต้องคิดว่าแว่ นอันนี้เหมาะสำหรับสวมตอนเจรจาธุรกิจเพราะจะช่วย
ส่งเสริมภาพลักษณ์ เหมือนสูทราคาแพงที่ระบบยอมให้ซื้อ
เผยเชียนหยิบแว่นสองอันที่การออกแบบต่างกันเล็กน้อยขึ้นมา ทั้งสองอัน
เป็นของที่แพงที่สุดที่ระบบยอมให้ซื้อ
“เอาสองอันนี้ครับ”
เผยเชียนอยากจะรูดการ์ดทันที
พนักงานสาวแสนฉงนปนดีใจ เธอรีบหยิบกล่องของขวัญหรูหราขึ้นมาแล้ว
จัดการห่อแว่นให้เผยเชียนอย่างดีหลังจากที่เขาจ่ายเงิน
พอห่ออันแรกเสร็จ เธอก็เริ่มลงมือห่ออีกอัน แต่เผยเชียนโบกมือบอกเป็นเชิง
ว่าไม่จำเป็นต้องห่ออันนี้
“ผมจะใส่เลย”
เผยเชียนถอดเลนส์กันแดดออกแล้วสวมแว่น
เขาหันไปมองกระจก
จริงด้วย เขาดูมีระดับและรสนิยมดีขึ้นมาจริงๆ
โอเค ใส่เลยแล้วกัน!
เสียเงินไปตั้งแปดพันกว่าหยวน จะวางทิ้งไว้ให้ฝุ่นเกาะเล่นก็น่าเสียดายใช่ไหม
ล่ะ
เผยเชียนรู้สึกพอใจหลังจากเช็กดูเงินทุนระบบ
เขาพยายามอย่างเต็มที่ และในที่สุดก็ทำให้ระบบขาดทุนไปได้สองหมื่นกว่า
หยวน!
ถือเป็นก้าวเล็กๆ ของเผยเชียน แต่ก็เป็นก้าวสุดยิ่งใหญ่ในการเอาชนะระบบ!
ทั้งคู่กลับไปที่ชั้นหนึ่ง
ทุกคนเห็นภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของบอสเผย
กรอบแว่นสุดหรูหราที่มีด้ายสีทองร้อยอยู่ด้านข้างช่วยยกระดับภาพลักษณ์
ของเขาขึ้นไปอีกขั้น!
“บอสเผยหล่อมากครับ!”
“บอสเผยซื้อให้ตัวเองด้วยเหรอคะ ดูดีมากเลยค่ะ!”
“ต้องแพงมากแน่ๆ เลย อย่างน้อยน่าจะเป็นพันใช่ไหมครับ”
เผยเชียนยิ้มบางให้เมื่อได้รับคำชมเชยจากเหล่าพนักงาน แต่ภายในใจไม่ได้
รู้สึกอะไรเลย
“แยกย้ายกันกลับได้ พวกคุณไปเบิกค่าแท็กซี่กันด้วยนะ วันหยุดนี้พักผ่อนกัน
ให้เต็มที่!”


วันที่ 31 ระบบเริ่มสรุปบัญชี!
หน้าจอปรากฏขึ้นตรงหน้าเผยเชียนอีกครั้ง
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ: เผยเชียน>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1:1>
<ดำเนินการสรุปบัญชี…>
<เงินทุนระบบ: 478,723.5 (↓21,276.5)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 608.3>
<กำลังดำเนินการสรุปบัญชี…>
<กำลังแปลงค่าเงิน…>
<เงินทุนระบบ: 478,723.5>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 21,884.8 (↑21,276.5)>
เผยเชียนปลาบปลื้มใจจนอยากจะร้องไห้
ในที่สุด!
หลังจากพยายามอย่างเต็มที เขาก็สามารถทำให้ตนเองขาดทุนได้สองหมื่น
กว่าหยวน!
นี่คือก้าวอันยิ่งใหญ่!
การขาดทุนเล็กๆ นี้ถือเป็นก้าวอันยิ่งใหญ่ในการมุ่งไปหาความสำเร็จ!
ครู่ต่อมาหน้าจอก็แสดงข้อมูลเพิ่มเติม
<วันปิดบัญชีครั้งต่อไป: อีก 90 วัน>
<ดำเนินการทบรวมเงินทุนระบบ จำนวนเป้าหมาย: 1,000,000>
<ทบเงินเพิ่ม 521,276.5…>
<ทบรวมเงินทุนระบบเสร็จสิ้น>
<เงินทุนระบบ: 1,000,000>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 21,884.8>
<ภารกิ จ พิ เ ศษประจำรอบ: บริ ษ ั ท จะต้ อ งตั ้ ง หน้ า ร้ า นใกล้ บ ริ เ วณที ่ ค น
พลุกพล่านหรือบริเวณมหาวิทยาลัย>
<รางวั ล ที ่ จ ะได้ ร ั บ เมื่ อ ปฏิ บ ั ต ิ ภ ารกิ จ พิ เ ศษสำเร็ จ : เพิ ่ ม เงิ น 10% หลั ง
ดำเนินการแปลงค่าเงิน>
เป็นตามที่เผยเชียนคิดเอาไว้ ครั้งนี้วงเงินทุนระบบเพิ่มขึ้นจากห้าแสนหยวน
เป็นหนึ่งล้านหยวน!
ถ้าก่อนหน้านี้เผยเชียนมีเงินทุนระบบเกินหนึ่งล้านหยวน ระบบก็จะไม่ทบเงิน
เพิ่มให้
เผยเชียนผลาญเงินไปได้กว่าสี่แสนเจ็ดหมื่นหยวน นอกจากจะได้เงินเข้า
กระเป๋าตัวเองสองหมื่นหยวนแล้ว ระบบยังทบเงินทุนระบบเพิ่มให้เป็นหนึ่งล้าน
หยวน ส้มหล่นสุดๆ!
นอกจากนั้นแล้วเผยเชียนยังพบว่าการสรุปบัญชีรอบนี้ต่างจากรอบก่อน
อย่างแรกเลยคือจำนวนเงินทุนที่ครั้งนี้เพิ่มขึ้นมาเป็นหนึ่งล้ านหยวน ทำให้
เผยเชียนไม่ต้องมานั่งนับเลขศูนย์[1]อีกต่อไป
อย่างที่สองคือระบบมอบหมายภารกิจพิเศษให้ ซึ่งก็คือบริษัทจะต้องตั้งหน้า
ร้านขึ้นมา ถ้าทำสำเร็จ จะได้เงินเพิ่มสิบเปอร์เซ็นต์จากยอดที่แปลงมาเป็นความ
มั่งคั่งส่วนบุคคล!
……………………..
[1] คำว่าหนึ่งล้านในต้นฉบับภาษาจีนใช้ว่า 100万 (万 = หมื่น) ต่างจาก
หนึ่งแสนที่ใช้ว่า 100,000
บทที่ 75 เริ่มใช้งานระบบคัดที่หนึ่งออก!

“เยี่ยม”
“ฉันรักระบบนี้!”
หลังจากเริ่มรู้จักระบบมากขึ้น เผยเชียนก็รู้สึกว่าตนเองรู้วิธีจัดการกับระบบ
แล้ว
ภารกิจพิเศษนี้ยากไหม
ถึงจะถือว่าค่อนข้างยาก แต่ก็ยังพอหาทางจัดการได้!
นอกจากนี้ถึงจะระบบจะไม่ได้ให้ภารกิจนี้มา เผยเชียนก็คิดจะทำแบบนี้มาพัก
ใหญ่แล้ว
เผยเชียนรู้ว่าในอีกสิบปีข้างหน้า สถานการณ์ของร้านค้าจะแย่ลงเรื่อยๆ!
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเหตุผลสองข้อ
ข้อแรกคือค่าเช่าที่แพงขึ้นทำให้รายจ่ายของผู้เช่าเพิ่มขึ้น
ข้อที่สองคือความก้าวหน้าของธุรกิจอีคอมเมิร์สและบริการเดลิเวอรี่ซึ่งเกิด
จากการที่ผู้คนชอบเลือกซื้อของอยู่บ้านมากกว่า
แต่ก่อนถ้ามีคนเปิดร้านอะไรสักอย่างแถวมหาวิทยาลัยจะกลายเป็นธุรกิจ
กำไรงาม
จะเป็นร้านขายของชำหรือร้านถ่ายเอกสารก็ทำกำไรได้
ถ้าเปิดเป็นร้านอินเทอร์เน็ตหรือร้านอาหารขึ้นชื่อยิ่งทำกำไรได้เยอะ
แต่ภายหลังสถานการณ์ของร้านค้าก็ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ จนต้องปิดตัวลง
เหตุผลที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะหลายๆ อย่างโดนแทนที่ด้วยแพลตฟอร์มธุรกรรม
ซื้อของออนไลน์!
แต่ก่อนพวกนักศึกษามหาวิทยาลัยต้อ งไปห้างหรือ ร้านขายของอุ ป กรณ์
อิเล็กทรอนิกส์เพื่อซื้อคอมพิวเตอร์ และโดนโก่งราคายับ
ทุกคนเลยหนีไปซื้อของจากเว็บโก่วตง[1]กันหมด ไม่มีใครอยากไปห้างขาย
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อีก
ส่วนพวกของใช้ในชีวิตประจำวัน บางคนยังไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่ แต่
บางคนก็เริ่มสั่งให้มาส่งถึงบ้าน
เรื่องอาหารการกิน ผู้คนหันมาใช้บริการเดลิเวอรี่เยอะขึ้นเรื่อยๆ มีไปร้านหรูๆ
บ้างในโอกาสสำคัญ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับร้านอาหารมากเท่าเดิม
พูดง่ายๆ คือ ทุกธุรกิจที่มีหน้าร้านมีสถานการณ์ที่ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ กลายเป็น
ธุรกิจที่ต้องพึงระวัง
นี่คือสิ่งที่เผยเชียนต้องการ!
แต่…จะตั้งร้านอะไรดีล่ะ
ระบบไม่ได้กำหนดว่าต้องทำอะไร จะเป็นร้านอะไรก็ได้ ขอแค่ตั้งในบริเวณที่มี
ผูค้ นพลุกพล่านหรือใกล้เขตมหาวิทยาลัย
จะเป็นร้านขายของชำ ร้านหนังสือ ร้านถ่ายเอกสารก็ได้ทั้งนั้น
เผยเชียนจมดิ่งในห้วงความคิด พยายามวิเคราะห์อัตราความสำเร็จของ
ภารกิจนี้
ถึงในอีกสิบปีข้างหน้า สถานการณ์ของพวกร้านค่าจะดำดิ่งลงเหว แต่เปิดร้าน
ตอนนี้จะช่วยให้เขาขาดทุนได้หรือ
ก็อาจจะไม่เป็นอย่างนั้น…
ตอนนี้คือปี 2010 ธุรกิจอีคอมเมิร์สและบริการเดลิเวอรี่ยังเพิ่งเริ่มต้น พวก
ร้านค้ายังทำกำไรได้!
ร้านหนังสือ มินิมาร์ต และร้านอินเทอร์เน็ตใกล้มหาวิทยาลัยยังเป็นที่นิยมอยู่
แม้แต่ร้านถ่ายเอกสารที่เปิดอยู่ตรงหัวมุมหรือเปิดที่ ทำเลไม่ดีก็ยังทำเงินได้
มากมาย
พวกนั ก ศึ ก ษาต้ อ งปริ น ต์ ว ิ จ ั ย กั บ งานต่ า งๆ ต้ อ งถ่ า ยเอกสารนั ่ น นี ่ จึ ง
จำเป็นต้องใช้บริการร้านถ่ายเอกสาร
แต่ในอีกสิบปีข้างหน้า ร้านค้าเหล่านี้ก็จะทำกำไรไม่ได้อีก
ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความเป็นไปได้สูงที่จะทำกำไรระยะสั้นได้
นอกจากนั้นแล้วเผยเชียนยังไม่รู้เลยว่าจะเปิดร้านอะไรดี
ถ้าลงทุนน้อยก็ผลาญเงินได้น้อย ถ้าโชคดีขึ้นมาก็อาจจะทำกำไรได้
ถ้าลงทุนเยอะ คุณภาพการบริการก็อาจจะออกมาดี เกิดกลายเป็นร้ายยอด
นิยมขึ้นมาจะทำอย่างไร
นี่เป็นงานเฉพาะทาง เขาต้องไตร่ตรองให้ละเอียดรอบคอบ!
แต่ก่อนที่จะเปิดร้าน เผยเชียนตั้งใจจะเริ่มต้นแผนที่วางไว้นานแล้ว ซึ่งก็คือ
‘ระบบคัดที่หนึ่งออก’
ตอนแรกเขาตั้งใจรับพวกไม่เอาถ่านเข้ามา แต่กลายเป็นว่าทุกคนที่จ้างมาดัน
มีศักยภาพกันหมด ทำเอาเขาต้องปวดหัวหนัก
โดยเฉพาะหวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่ ถ้าเขาปล่อยให้พวกนี้อยู่ในออฟฟิศต่อจะต้อง
เกิดปัญหาแน่!
ถ้าสองคนนี้ได้ทำงานต่อ ธุรกิจเกมของบริษัทเถิงต๋าน่าจะขาดทุนได้ยาก!
ส่วนหลินหวาน…ยังเก็บไว้ดูงานก่อนได้
ถึงอย่างไรที่เธอรู้จักกับเกมเมอร์กลุ่มนั้นก็เป็นเพราะเคยทำงานกับเทียนหัว
สตูดิโอมาก่อน
ถ้าเป็นโปรเจ็กต์อื่น ความสัมพันธ์นี้ก็อาจจะไม่ช่วยอะไร
ดังนั้นเผยเชียนจึงกำลังคิดหาทางจัดการเปาซวี่และหวงซื่อปั๋ว
จะไล่ออกทันทีก็ไม่ได้ จะลดตำแหน่งก็ไม่ได้อีก
ถ้าไม่มีหลักฐานหรือเหตุผลที่เหมาะสมก็ไม่มีทางที่ระบบจะอนุญาตให้ทำ
แบบนั้นได้
เผยเชียนจมอยู่ในห้วงความคิด

วันจันทร์ที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์…
ที่ออฟฟิศ…
“พี่หวง มาดูนี่เร็ว มีคนคุยเรื่องเกมของเรากันยกใหญ่เลย เหมือนบางคนจะ
เป็นคนในวงการเกมด้วยนะครับ ” เสี่ยวลู่กำลังดูนั่นนี่บนโลกอินเทอร์เน็ตแล้วไป
เจอเข้ากับข่าวใหญ่
หวงซื่อปั๋วพยักหน้าแล้วตอบกลับ “รู้แล้ว ฉันก็ตามอยู่เหมือนกัน”
เขาหันไปหาเปาซวี่พร้อมถาม “พี่เปา พี่คิดว่าไงเหรอครับ”
เปาซวี่หน้าเรียบเฉย “ไม่เห็นเกี่ยวกับเราเลยครับ”
หวงซื่อปั๋วคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็นึกเห็นด้วยว่าไม่ได้เกี่ยวกับพวกเขาเลย
มีใครหลายคนบนโลกออนไลน์กำลังถกกันเรื่องเกมฐานทัพกลางทะเลจริงๆ
เกมเป็นกระแสมาได้ครึ่งเดือนแล้วนับตั้งแต่ปล่อยเกมมา
เริ่มแรกมันเกิดจากผู้เล่นเกมฐานทัพกลางทะเลกับผู้เล่นเกมกระสุนเพชฌฆาต
ทะเลาะกัน พอคุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ คนก็เริ่มสนใจกันเยอะขึ้น…
ตอนแรกทุกคนเถียงกันว่าระหว่างเกมฐานทัพกลางทะเลกับเกมกระสุน
เพชฌฆาต เกมไหนดีกว่ากัน
จากนั้นเกมกระสุนเพชฌฆาตก็หายไปจากหัวข้อสนทนา…
ทุกคนหันมาถกกันว่าเกมฐานทัพกลางทะเลเป็นเกมที่ดีต่ออุตสาหกรรมเกม
หรือเป็นภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมเกมกันแน่
มีคนจำนวนไม่น้อยจากบริษัทเกมอื่นมาร่วมวงถกเถียงด้วย
ถ้าเปิดโพสต์ดูจะเห็นว่าทั้งสองฝ่ายต่างเถียงกันอย่างดุเดือด
“เกมฐานทัพกลางทะเลอาจจะทำให้เกิด ‘ยุคแห่งการตั้งเพดานค่าใช้จ่าย
ใหม่’ ขึ้นก็ได้!”
“ขายอาวุธถาวรในเกมราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน ไม่เคยมีเกมไหนทำ
มาก่อน! อีกอย่างเกมนี้เป็นเกม FPS แต่มาขายของเพิ่มค่าสถานะตัวละครเนี่ยนะ
บริษัทนี้มีใจรักและปรัชญาในการสร้างเกมหรือเปล่า”
“เกมอื่นขายของในเกมแค่สองสามร้อยหยวน พวกแกด่ากันกระหน่ำ แต่พอ
ขายแปดร้อยกว่าหยวนมานั่งอวยกันเนี่ยนะ”
“แถมเซิร์ฟเวอร์เกมนี้ห่วยแตกฉิบหาย แป๊บๆ ก็เต็มแล้วก็ค้าง! โคตรขยะ!”
“จ้างคนมาโปรโมตกี่คนเนี่ย เกมโคตรกากแถมยังขายของแพง กล้าดียังไงมา
เรียกตัวเองว่าเป็นความภาคภูมิใจและความรุ่งเรืองของเกมผลิตในประเทศ”
แต่ความเห็นเหล่านี้ก็โดนประณามทันที
“เกมขยะขายของแพงเหรอ ฮ่าๆ นายน่าจะยังไม่ได้เล่นเกมนี้แน่!”
“ใช่ๆ ผมเป็นคนโปรโมตเกมฐานทัพกลางทะเลเอง มีอะไรเปล่า”
“ผมอยากเสริมให้เห็นว่าเกมนี้ดีตรงไหน เกมนี้เปิดให้ซื้ออาวุธราคาแปดร้อย
แปดสิบแปดหยวนแค่อย่างเดียว ที่เหลือฟรีหมด! พวกคุณคงเคยซื้อไอเทมของ
เกมอื่น ไอเทมที่ให้เลือกซื้อมีหลายหน้าเลยใช่ไหมล่ะ เอามาเทียบกับเกมนี้ไม่ได้
หรอก”
“โหมดเนื้อเรื่องของเกมนี้เหมือนพวกเกม AAA ดังๆ เลย ทำออกมาดีมาก ซื้อ
เกม AAA สั ก เกมก็ ต ้ อ งเสี ย เงิ น ประมาณสองพัน หยวนแล้ ว ถ้ า เกมนี ้ ข ายสัก
ครึ่งหนึ่งหรือร้อยหยวนไม่ก็ห้าสิบหยวนก็ยังสมเหตุสมผล”
“แต่บริษัทนี้กลับให้เล่นฟรีทุกอย่าง! ให้เราเล่นโหมดเนื้อเรื่องได้ฟรี! ถ้าไม่
เรียกว่าเป็นเกมที่เป็นมิตรกับผู้เล่นแล้วจะเรียกว่าอะไรดี”
“ราคาอาวุธก็เหมือนเงินที่ทุกคนต้องจ่ายเพื่อเล่นเกมอื่นๆ นั่นแหละ แต่เกมนี้
ไปเก็บเงินกับพวกชอบอวดรวยแทน อีกอย่างพวกอวดรวยก็เต็มใจซื้ออาวุธนี้เอง
ถือว่าได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย”
“ส่วนเรื่องเซิร์ฟเวอร์ล่ม ขอโทษทีนะ เกมฐานทัพกลางทะเลเลิกเซิร์ฟล่มไป
นานแล้ว! บริษัทเกมน่าจะเช่าเซิร์ฟเวอร์ใหม่และขยายขนาดเซิร์ฟเวอร์แล้ว!”
“เฮ้อ บางคนนี่ก็มองอยู่แค่มุมเดียว บริษัทนี้เป็นผู้พัฒนาและให้บริการเกม
พวกเขาจะทำเพราะใจรักอย่างเดียวก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ พวกเขาก็พยายามเลี่ยงไม่ให้
คนต้องเสียเงินแล้ว เอาภาระตรงนี้ไปโยนให้พวกอวดรวยแทน ทำขนาดนี้ แล้วยัง
ไม่พอใจกันอีกเหรอ”

เกมฐานทัพกลางทะเลจะเป็นเกมที่ดีต่ออุตสาหกรรมเกมหรือเป็นภัยคุกคาม
ต่ออุตสาหกรรมเกมนั้นยังไม่ได้ข้อสรุป
ถึงอย่างนั้นขณะที่ผู้คนกำลังถกเถียงกัน กระแสของเกมก็ดังขึ้นเรื่อยๆ!
ประเด็นหลักที่ถกกันร้อนแรงคือเรื่องปืนกิเลนเพลิงราคาแปดร้อ ยแปดสิบ
แปดหยวน หลายคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องเกมแต่ได้ยินเรื่องปืนราคาแพงก็เริ่มสนใจ
เกมฐานทัพกลางทะเลขึ้นมา
ทำให้ยอดสถิติเกมฐานทัพกลางทะเลพุ่งขึ้นเรื่อยๆ!
ความจริงหวงซื่อปั๋วกังวลว่าสงครามบนโลกออนไลน์นี้จะส่งผลเสียต่อชื่อเสียง
ของเกมฐานทัพกลางทะเล
แต่ดูๆ แล้วนอกจากจะไม่ส่งผลเสียยังช่วยโปรโมตเกมอีก!
หวงซื่อปั๋วโล่งใจ เหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนของบอสเผย!
ตอนนั้นเองบอสเผยก็เดินเข้าออฟฟิศ
เขาสวมแว่นใหม่มาด้วยทำให้ดูสง่าและเคร่งขรึมยิ่งกว่าเดิม ราวกับว่าได้กุม
ชัยชนะมาไว้ในมือเรียบร้อยแล้ว หวงซื่อปั๋วประทับใจในตัวบอสเผยมาก
“ทุกคน ช่วยดูในกลุ่มแชตด้วยครับ ผมจะให้โหวตกัน
“เป็นการโหวตแบบไม่ระบุตัวตน ผมอยากให้ทุกคนช่วยประเมินว่าใครเป็น
พนักงานที่มีผลงานดีที่สุด”
เผยเชียนยิ้ม “ผมมีรางวัลพิเศษให้คนคนนั้น”
…………………………….
[1] นักเขียนล้อเลียนชื่อเว็บไซต์ JD Central ซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์สขนาด
ใหญ่ของประเทศจีน JD Central ภาษาจีนคือ京东 (จินตง) โลโก้เป็นรูปสุนัข
นักเขียนเลยเอามาตั้งชื่อใหม่ว่า 狗东 (โก่วตง) ซึ่งคำว่า 狗 (โก่ว) แปลว่า
สุนัข
บทที่ 76 งบตามฝัน!

พนักงานดีเด่นหรือ
รางวัลปริศนาหรือ
บอสเผยจะให้รางวัลตามผลงานอย่างนั้นหรือ
ทุกคนคลิกเมาส์เลือกคนที่คิดว่าทำผลงานได้ดีที่สุดทันที ไม่นานทุกคนก็โหวต
เสร็จ
เผยเชียนดูผลโหวต หวงซื่อปั๋วได้อันดับหนึ่งด้วยผลโหวตสิบสี่คะแนน เปาซวี่
ตามมาไม่ห่างที่สิบคะแนน
หลินหวานเองก็ได้ไปสามแต้ม ไม่รู้ใครโหวตให้
เผยเชียนหันมองเลขาซิน
ซินไห่ลู่หยิบถ้วยรางวัลที่เตรียมไว้ออกมาแล้วส่งให้เผยเชียน
เผยเชียนเดินไปหาหวงซื่อปั๋วพร้อมยื่นถ้วยรางวัลให้ “ยินดีด้วย!”
หวงซื่อปั๋วอึ้งไป เขานิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะรีบลุกขึ้นรับถ้วยรางวัล
ทุกคนในออฟฟิศปรบมือขึ้นพร้อมกันอย่างอบอุ่น!
พนักงานส่วนใหญ่คิดว่าหวงซื่อปั๋วเป็นพนักงานที่ดีที่สุด!
ใครกันที่เป็นคนผลักดันการผลิตเกมนี้มาโดยตลอด
ใครกันที่ทำงานหนักโดยไม่ปริปากบ่นสักคำ อยู่ทำงานล่วงเวลาตลอด
เกมฐานทัพกลางทะเลประสบความสำเร็จได้อย่างยิ่งใหญ่ก็เป็นผลงานจากทีม
ออกแบบเกม ซึ่งหวงซื่อปั๋วรับหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนของทีมออกแบบเกม
เขาลงแรงไปมากที่สุด!
แน่นอนมีบางคนคิดว่าความคิดสร้างสรรค์ของเปาซวี่เองก็สำคัญมากเช่นกัน
เขาจึงได้คะแนนโหวตไปถึงสิบคะแนน
แต่เรื่องความคิดสร้างสรรค์ก็ต้องยกความดีความชอบให้บอสเผยด้วย ถึง
อย่างไรบอสเผยก็เป็นคนตั้งเงื่อนไขสามข้อขึ้นมา ทำให้เปาซวี่ได้แนวความคิดใน
การสร้างเกม
เป็นเหมือนคำใบ้ที่ปูทางไปหาคำตอบ
นอกจากนี้หวงซื่อปั๋วยังง่วนอยู่กับการดูแลกระบวนการสร้างเกมอยู่ตลอด
เขาเป็นเสาหลักของทีม จึงได้คะแนนโหวตสูงที่สุดไป
หวงซื่อปั๋วถือถ้วยรางวัลไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง เขาซึ้งใจจนพูดอะไรไม่ออก
ถ้วยรางวัลดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ มองแค่แวบเดียวก็รู้ว่าเป็นของสั่งทำ
เพราะหน้าตาไม่เหมือนพวกของราคาสิบหยวนตามร้านข้างทาง!
จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องราคาหรอก
แต่เป็นเรื่องความภาคภูมิใจต่างหาก!
ตรงถ้วยรางวัลมีคำว่า ‘พนักงานดีเด่นคนแรกของบริษัทเถิงต๋ าเน็ตเวิร์ก
เทคโนโลยี’ สลักไว้ ถือเป็นคำชมเชยและการยอมรับในผลงานของเขาที่ยิ่งใหญ่
ที่สุด เงินมากเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทดแทนได้!
ระหว่างที่ทุกคนกำลังปรบมือกันอยู่ หวงซื่อปั๋วก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองควรพูด
อะไรบ้าง
เขากระแอมกระไอก่อนจะเอ่ยขึ้น “ขอบคุณบอสเผยมากครับที่คอยดูแลและ
เชื่อมั่นในตัวผม แล้วก็ขอบคุณทุกคนที่คอยช่วยเหลือและสนับสนุนผม!”
“สำหรับความสำเร็จของเกมฐานทัพทะเล ผมคิดว่าอันดับแรกมาจากบอส
เผยที่ช่วยแนะนำแนวทางที่ถูกต้องให้ พี่เปาและผมจึงสามารถพาทีมออกแบบเดิน
มาตามเส้นทางแห่งความสำเร็จนี้ได้
“อันดับที่สอง ต้องขอยกความดีความชอบให้พี่เปาที่ให้แรงบันดาลใจและมี
วิสัยทัศน์ก้าวไกล ถ้าไม่ได้พี่เปาช่วยออกแบบโหมดเนื้อเรื่องอันยอดเยี่ยมและ
โหมด PvP ที่แสนสนุกให้ เกมของเราคงไม่ประสบความสำเร็จล้นหลามขนาดนี้!
“การทำงานหนักของทุกๆ คนก็สำคัญไม่ต่างกัน ตลอดเวลาที่ ผ่านมา ทีม
ออกแบบต้องอยู่ทำงานล่วงเวลากับผม ต้องทำตามแผนไปทีละขั้น ทุกคนต่าง
คอยช่วยเหลือผมอย่างเต็มที่ ความสำเร็จนี้มาจากการที่เราร่วมใจกัน!
“ผมคิดว่าถ้วยรางวัลนี้ควรเป็นของทุกคนครับ”
หลังจากหวงซื่อปั๋วพูดจบ เสียงปรบมือก็ดังเกรียวกราวขึ้นอีกรอบ!
หลินหวานซาบซึ้งจนน้ำตาปริ่ม
ดูนี่สิ!
บริษัทที่คิดถึงพนักงานต้องเป็นแบบนี้สิ
ฉันเลือกไม่ผิดจริงๆ ที่มาทำงานที่บริษัทเถิงต๋า!
เสียงปรบมือเบาลง
เผยเชียนพูดต่อ “ต่อไป ผมจะประกาศรางวัลพิเศษสำหรับพนักงานดีเด่นของ
เรา หวงซื่อปั๋ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณจะไม่ได้ทำงานในทีมออกแบบอีก หัวหน้า
ฝ่ายวางแผนคนใหม่คือลู่หมิงเหลียง”
เสี่ยวลู่ตกใจ
หา
หวงซื่อปั๋วตะลึงงัน
หมายความว่าอย่างไรกัน
ฉันเพิ่งได้รางวัลพนักงานดีเด่นมาไม่ใช่หรือ
แล้วนี่มันอะไรกัน ทำไมฉันโดนปลดจากตำแหน่งล่ะ
คนอื่นๆ ก็ตกใจไม่ต่างกัน พวกเขาไม่รู้ว่าเผยเชียนตั้งใจจะทำอะไร
หวงซื่อปั๋วทำหน้าที่หัวหน้าฝ่ายวางแผนได้ดีมาก ผลงานก็มีให้เห็นชัดเจน
แล้วทำไมเขาถึงโดนปลดจากตำแหน่งแบบนี้ล่ะ
นอกจากเขาจะไม่ได้เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนแล้ว ยังโดนปลดออกจากทีม
ออกแบบเสียเดี๋ยวนั้นเลย
เผยเชียนยิ้มแล้วพูดต่อ “สำหรับพนักงานดีเด่น ผมวางแผนไว้ว่าจะให้งบตาม
ฝันมูลค่าหนึ่งล้านหยวน คุณสามารถเอางบนี้ไปใช้ทำตามฝันได้!”
“คุณยังเป็นพนักงานของบริษัทเถิงต๋าอยู่ แต่จะไม่ได้ทำงานในแผนกเกมอีก
ต่อไป คุณเลือกได้ว่าอุตสาหกรรมไหนที่คุณสนใจจะเอาเงินหนึ่งล้านนี้ไปลงทุน
จะสำเร็จหรือไม่ ไม่สำคัญ บริษัทจะจ่ายค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้เอง!”
หวงซื่อปั๋วที่กลัวจนใจตกไปอยู่ตาตุ่มอารมณ์พลิกกลับตาลปัตร!
เยี่ยม บอสเผยไม่ได้ไล่ฉันออก!
นอกจากนั้นยังให้งบตามฝันหนึ่งล้านหยวนให้ฉันเอาไปทำตามฝันอีก!
หวงซื่อปั๋วรู้สึกเหมือนกำลังฝันไป เขาแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้น!
ทุกคนจ้องไปที่เขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา
นี่คือรางวัลของพนักงานดีเด่นหรือ!
ดี…เกินไปหรือเปล่า
งบลงทุนหนึ่งล้านหยวน ให้อิสระในการบริหารเต็มที่ จะสำเร็จหรือไม่ บริษัท
ก็จะจ่ายค่าใช้จ่ายให้อยู่ดี!
น่าอิจฉา มันน่าอิจฉาเกินไปแล้ว!
หวงซื่อปั๋วมือสั่นจนแทบจะทำถ้วยรางวัลหลุดมือ
“บอสเผยครับ ผมคิดว่าผมมีความสามารถไม่พอที่จะรับผิดชอบเรื่องนี้…”
เผยเชียนส่ายหน้าเล็กน้อยเพื่อบอกให้หวงซื่อปั๋วหยุดพูด
“การที่คุณได้รางวัลพนักงานดีเด่นก็พิสูจน์แล้วว่าคุณมีความสามารถมากพอ
ในเมื่อผมเชื่อในความสามารถของคุณ คุณก็ควรเชื่อมั่นในตัวเองเหมือนกัน”
บอสเผยพูดอย่างจริงใจ
หวงซื่อปั๋วน้ำตารื้นปากสั่น ไม่มีคำพูดใดจะมาอธิบายความรู้สึกในตอนนี้ได้
เขาก้มหัวสุดตัว “ได้ครับ บอสเผย ผมจะพยายามอย่างเต็มที่!”
เผยเชียนดูโล่งอก นึกดีใจอยู่ภายใน
สำเร็จ!
กำจัดที่หนึ่งออกไปได้แล้ว!
นี่คือแผนที่เผยเชียนเค้นสมองคิดขึ้นมา
ความสำเร็จของเกมฐานทัพกลางทะเลได้พิสูจน์ให้เขาเห็นแล้วว่าพวกนี้ไม่ใช่
พวกไม่เอาถ่าน โดยเฉพาะหวงซื่อปั๋ว ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าตนเองเป็นเพชรในตมของ
วงการเกม!
เผยเชียนไม่มีเวลามัวมาคร่ำครวญว่าทำไมตนถึงโชคร้ายมาเจอเพชรในตม
ก้อนนี้ได้ แต่เรื่องสำคัญในตอนนี้คือหาทางกำจัดปัญหานี้ทิ้งเสีย
ไม่อย่างนั้นถ้าหวงซื่อปั๋วและเปาซวี่พัฒนาเกมทำเงินขึ้นมาได้อีกจะทำอย่างไร
ด้วยเหตุนี้เผยเชียนจึงจำเป็นต้องใช้แผนคัดที่หนึ่งออก!
แต่เผยเชียนก็ไล่หวงซื่อปั๋วออกหรือลดตำแหน่งเขาลงไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องไม่
สมเหตุสมผล อาจทำให้คนอื่นสงสัยและระบบคงไม่ยอมให้ทำแบบนั้นแน่
ดังนั้นเผยเชียนจึงคิดทางออกสุดสมบูรณ์แบบขึ้นมา
ทำไมไม่ไล่หวงซื่อปั๋วไปทำตำแหน่งอื่นล่ะ
หมอนี่อาจจะมีความสามารถด้านการสร้างเกม ซึ่งก็ไม่เป็นไร
ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ไม่ต้องให้จับเกมอีกสิ!
ไล่ให้ไปทำอุตสาหกรรมที่ไม่คุ้นเคย โยนเงินหนึ่งล้านให้เอาไปใช้อะไรก็ได้
ตามใจชอบ ซึ่งหวงซื่อปั๋วมีโอกาสเอาเงินไปละลายน้ำสูงมาก!
ขณะเดียวกัน พอไม่มีหวงซื่อปั๋วคุมงาน เกมใหม่ที่จะสร้างก็มีโอกาสเจ๊ง ส่วน
หวงซื่อปั๋วก็จะเอาเงินอีกหนึ่งล้านไปละลายแม่น้ำเพราะบริหารจัดการผิดพลาด นี่
มันเยี่ยมสุดๆ ไปเลยไม่ใช่เหรอ
โห ฉันนี่มันอัจฉริยะจริงๆ ที่คิดแผนแบบนี้ออกมาได้!
เผยเชียนชมตัวเอง
แต่พอคิดดูดีๆ…
เปาซวี่เองก็เป็นอีกปัญหา
ที ่ เ กมฐานทั พ กลางทะเลประสบความสำเร็ จ ได้ ก ็ เ ป็ น เพราะความคิ ด
สร้างสรรค์ของเปาซวี่ด้วย น่าจะเป็นผลพวงมาจากประสบการณ์การเล่นเกมของ
เขา
เผยเชียนมองเปาซวี่แล้วพูดขึ้น “เปาซวี่ได้คะแนนเป็นที่สองจากผลโหวต เขา
เองก็ทำอะไรมากมายให้บริษัท
“ได้ที่สองอาจจะฟังดูน่าเสียดาย แต่บริษัทไม่มีทางมองข้ามผลงานของคุณ
“สำหรับพนักงานดีเด่นลำดับสอง คุณจะได้รางวัลเป็นการหยุดงานหนึ่งเดือน
โดยยังได้รับเงินเดือน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปคุณไม่ต้องมาทำงาน คุณสามารถ
ไปเที่ยวชมโลกกว้างได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคต”
บทที่ 77 วางแผน!

เปาซวี่อึ้งไป เขาไม่ได้ดีใจเลย
“เอ่อ…บอสเผยครับ ผมไม่อยากได้วันหยุด ผมชอบมาบริษัท”
เขาหมายความตามที่พูดจริงๆ
ให้ออกไปเที่ยวหรือ จะไปไหน ไปทำอะไรล่ะ
ก็คงมีแค่รา้ นอินเทอร์เน็ต
แต่ร้านอินเทอร์เน็ตจะมาสู้บริษัทได้อย่างไร
ทุกคนเก่งหมดแถมยังคุยสนุก เขารักที่นี่มาก!
เผยเชียนกะเอาไว้แล้วว่าเปาซวี่จะต้องพูดแบบนี้จึงตีหน้าขรึม
“ผิดแล้วที่คิดแบบนี้!
“ก็เหมือนคำกล่าวที่ว่าอ่านหนังสือหมื่นเล่มมิสู้เดินทางหมื่นลี้ งานออกแบบ
เกมจะมาจากความรู้ในห้องแคบๆ ไม่ได้ ถ้าอยากประสบความสำเร็จในอนาคต
คุณต้องออกไปเปิดโลก!
“หนึ่งเดือนนี้ คุณห้ามไปร้านอินเทอร์เน็ต ผมจะให้เลขาซินร่างกำหนดการให้
คุณทำตาม คุณต้องไปเยี่ยมสถานที่สำคัญในประเทศแต่ละแห่ง จากนั้นก็ไปศึกษา
ดูงานจากพวกบริษัทเกมใหญ่ๆ ในประเทศ จะได้เอามาพัฒนาตัวเอง
“ประสบการณ์นี้จำเป็น สำหรับ การทำงานมาก คุณห้ ามปฏิเสธโอกาสนี้
เด็ดขาด เข้าใจไหม”
พอเห็นสีหน้าของบอสเผย เปาซวี่ก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อ เขาได้แต่พยักหน้าและ
ตอบรับ “โอเคครับ บอสเผย”
คนอื่นๆ อึ้งไปเมื่อได้ยินบทสนทนา
ช่างเป็นเจ้านายและลูกน้องที่ประเสริฐอะไรแบบนี้!
เจ้านายอยากให้ลูกน้องพักงาน แต่ลูกน้องกลับอยากทำงานล่วงเวลา!
โอ้ สวรรค์!
ต้องมีอะไรผิดปกติในโลกใบนี้แน่!
หลิ น หวานยิ ่ ง รู ้ ส ึ ก ซาบซึ ้ ง มากขึ ้ น อี ก เธออยากจะถ่ า ยรู ป เก็ บ ภาพความ
ประทับใจนี้ไว้
เพราะกลัวว่าพอไปเล่าให้คนอื่นฟังแล้วจะไม่มีใครเชื่อ!
แต่บริษัทแบบนี้ เจ้านายแบบนี้ พนักงานแบบนี้ มีอยู่จริงๆ!
พอกำจัดพนักงานดีเด่นสองคนออกไปได้ เผยเชียนก็รู้สึกสบายใจขึ้น
หวงซื่อปั๋วออกจากวงการเกมไปแล้วเพราะมีหน้าที่ใหม่ที่ได้รับมอบหมาย
ส่วนเปาซวี่ต้องออกไปชมโลกกว้างหนึ่งเดือน ไม่ได้มีส่วนร่วมในการออก
ความเห็นโปรเจ็กต์ใหม่
พอเปาซวี่กลับมาเดือนหน้า โปรเจ็กต์ใหม่ก็คงออกแบบเสร็จพอดีและเข้าช่วง
การพัฒนา ไม่ว่าเปาซวี่จะมีไอเดียดีแค่ไหน ถึงตอนนั้นก็ไม่มีประโยชน์แล้ว!
แน่นอนว่าเผยเชียนยังไม่ได้คิดว่าโปรเจ็กต์ต่อไปจะเป็นอะไร
แต่การกำจัดสองคนนี้ออกไปก่อนเป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้ว!
หลังจากให้รางวัลสองพนักงานดีเด่นเสร็จ เผยเชียนก็เรียกหม่าหยางไปที่ห้อง
ทำงานแล้วบอกให้ทุกคนแยกย้ายกลับโต๊ะได้
เสี่ยวลู่ หรือ ลู่หมิงเหลียง ไม่เคยตื่นเต้นกับหน้าที่การงานแบบนี้มาก่อน
รางวัลพนักงานดีเด่นจุดไฟในการทำงานให้ทุกคน!
บอสเผยพยายามจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่ารางวัลของการทำงานหนักคืออะไร
ขอแค่ตั้งใจทำงานจนได้เป็นพนักงานดีเด่น พวกเขาก็จะได้งบตามฝันมาทำฝัน
ตัวเองให้เป็นจริง!
ถึงพวกเขาจะไม่ได้เป็นที่หนึ่ง แต่ได้ที่สองก็ยังได้พักงานหนึ่งเดือนเต็มแบบได้
เงินเดือน!
ตัวอย่างนี้แค่ตัวอย่างเดียวก็จุดไฟทุกคนได้ดีกว่าอะไรทั้งปวงแล้ว!

ห้องทำงานของเผยเชียน…
หม่าหยางไม่ค่อยเห็นด้วยกับการตัดสินใจของเผยเชียน
“พี่เชียน ถึงพี่จะเป็นเจ้านายผม แต่เราก็สนิทกัน ผมว่าผมควรพูดตรงๆ กับพี่
ถึงผมจะไม่อยากพูดเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่ผมก็ต้องพูด!
“ผมว่าพี่ตัดสินใจผิดที่ให้ลู่หมิงเหลียงมาทำหน้าที่แทนหวงซื่อปั๋ว!
“ผมรู้สึกว่าลู่หมิงเหลียงไม่เห็นจะมีความสามารถอะไรเป็นพิเศษ ถ้าเขาเป็น
หัวหน้าฝ่ายวางแผนได้…ผมก็เป็นได้!
“ผมมีส่วนร่วมกับงานออกแบบเยอะมากรอบนี้ ถึงผมจะไม่เคยทำหน้าที่นี้มา
ก่อน อย่างน้อยผมก็รู้ว่าที่ผ่านมาเขาทำอะไรกันบ้าง!”
เผยเชียนนั่งไขว้ห่างบนเก้าอี้ก่อนจะยิ้มบางให้หม่าหยาง
“ใจเย็น เราก็สนิทกัน คิดว่าฉันจะไม่ฟังนายเหรอ
“ไอ้หม่า ถึงแกจะไม่ได้เป็นพนักงานดีเด่น แต่ฉันก็คิดว่าแกคือคนที่ฉันไว้ใจ
ได้มากที่สุด!
“ฉันไม่ได้ให้ตำแหน่งสำคัญกับแกก่อนหน้านี้ ก็เพราะว่าฉันมีตำแหน่งที่สำคัญ
กว่าให้แกช่วยจัดการ!
“นี่คือก้าวสำคัญที่จะทำให้บริษัทเถิงต๋ามีความหลากหลายมากขึ้น ฉันเตรียม
ภารกิจนี้ไว้ให้แก แกพร้อมมั้ย”
หม่าหยางตาเป็นประกาย
“จ…จริงเหรอพี่”
เผยเชียนหันหน้าจอคอมพิวเตอร์ไปทางหม่าหยาง แล้วชี้แผนที่เมืองจิงโจวบน
จอก่อนจะพูดขึ้น “มาดูตรงนี้
“ตรงนี้ ตรงนี้ แล้วก็ตรงนี้ เป็นย่านการค้าที่มีคนพลุกพล่านในเมืองจิงโจว อ่อ
แล้วก็รอบๆ มหา’ลัยก็ทำเลดีเหมือนกัน
“ฉั น กำลั ง หาที ่ ท ี ่ ท ำเลดี ท ี ่ ส ุ ด จากจุ ด ที ่ บ อกไป ว่ า จะเอามาเปิ ด เป็ น ร้ า น
อินเทอร์เน็ตสาขาใหญ่!
“ฉันยกเรื่องนีใ้ ห้แกรับผิดชอบ! แกคิดว่าไง”
หม่าหยางสับสน “พี่เชียน หน้าที่สำคัญที่พี่ว่าคือ…ผู้จัดการร้านอินเทอร์เน็ต
เหรอ”
เขาค่อนข้างผิดหวัง
เผยเชียนขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น “ผู้จัดการร้านอินเทอร์เน็ตอะไร ไม่ใช่ที่แกคิด
เลยโว้ย!”
“ตามแผนของฉันนะ ร้านเน็ตนี่ไม่ใช่ร้านธรรมดาทั่วไป ฉันวางแผนไว้ว่าจะ
เป็นศูนย์กลางความบันเทิงทั้งหมด ไม่ว่าจะร้านเน็ต ร้านเกม ร้านขายฮาร์ดแวร์
เปิดให้ดูหนัง อะไรแบบนี้!
“แกยังไม่เข้าใจความสำคัญของหน้าที่นี้
“ธุรกิจหลักของบริษัทเถิงต๋าอยู่ในอุตสาหกรรมเกมหมด แล้วเรายังขาดอะไร
ล่ะ ก็ขาดพื้นที่และแพลตฟอร์มในการติดต่อสื่อสารกับผู้เล่นยังไงล่ะ!
“เป้าหมายของบริษัทเถิงต๋าคือเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการเกม ความบันเทิง
ฮาร์ดแวร์ และแวดวงอื่นๆ! ศูนย์นี้จะเป็นส่วนสำคัญในการทำเป้าหมายนี้ให้
สำเร็จ!
“หน้าที่สำคัญแบบนี้ฉันไม่ไว้ใจให้คนอื่นทำ มีแค่แกเท่านั้นที่ฉันไว้ใจ!”
พอเห็นสีหน้าของเผยเชียน หม่าหยางก็มั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดเล่น!
เขาพูดจริง!
หม่าหยางมือสั่นเล็กน้อย เขาพูดตะกุกตะกัก “พี่เชียน ผม…ผม…”
เผยเชียนตบบ่าอีกฝ่ายก่อนจะขัดขึ้น “แกไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันเข้าใจ”
“แต่ผมเป็นเหมือนแม่ทัพที่ไม่มีกองทหาร ผมไม่มีอะไร…” หม่าหยางหน้าไม่สู้
ดี
“แกมีเงิน ยังจะอยากได้อะไรอีก ถ้าขาดคนเก่งๆ แกก็ไปจ้างเพิ่มได้! ไม่ต้อง
ห่วง ตอนนี้บริษัทเถิงต๋าแข็งแกร่งมากแล้ว เกมสองเกมที่เราสร้างทำเงินได้เยอะ
มาก ไม่ต้องห่วงเลย ไปให้สุด เอาที่แกชอบ ฉันจะสนับสนุนแกเอง แกยังจะกลั ว
อะไรอีก!” เผยเชียนพูดอย่างฮึกเหิม
“แล้ว…ผมมีงบเท่าไหร่” หม่าหยางถาม
“งบเหรอ ไม่จำกัด!” เผยเชียนโบกมือรัวก่อนจะพูดต่อ “อยากได้เท่าไหร่
บอกมาเลย! แต่ต้องบอกฉันล่วงหน้านะ เพราะฉันต้องโยกงบ”
หม่าหยางพยักหน้ารัว “ได้พี่! ผมจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ!”
“โอเค งั้นก็ไปเตรียมตัวซะ ไปร่างแผนคร่าวๆ ออกมาก่อน ย้ำอีกครั้งว่านี่คือ
โปรเจ็กต์ใหญ่ของบริษัทเถิงต๋า ถึงจะเป็นแค่หน้าร้านของเรา แต่จะทำเหมือน
ร้านเน็ตทั่วไปไม่ได้ เข้าใจไหม
“การตกแต่งภายในจะต้องได้มาตรฐานของบริษัท ห้ามตัดงบลงเด็ดขาด!”
เผยเชียนสั่งการอย่างจริงจัง
หม่าหยางตบอกแล้วตอบออกไป “ได้เลยพี่ วางใจผมได้เลย!”
เขาเปิดประตูออกไป
เผยเชียนมองแผ่นหลังของหม่าหยางที่จากไปพร้อมถอนหายใจ
สุดท้ายแล้วเขาก็วางใจใครไม่ได้
มีแต่ไอ้น้องคนนี้แหละที่ไว้ใจได้!
ที่เกมฐานทัพกลางทะเลทำกำไรได้ขนาดนั้นเป็นเพราะเผยเชียนหลงผิดไปเชื่อ
ใจหวงซือ่ ปั๋วกับเปาซวี่
ถ้าให้หม่าหยางรับผิดชอบโปรเจ็กต์นี้ตั้งแต่แรก เรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก!
ตอนนี้หวงซื่อปั๋วคงง่วนอยู่กับการใช้เงินหนึ่งล้านหยวนทำตามฝัน ส่วนเปาซวี่
ก็โดนบังคับให้หยุดงาน
โปรเจ็กต์เกมใหม่ก็โยนให้เสี่ยวลู่รับผิดชอบ ส่วนโปรเจ็กต์ร้านอินเทอร์เน็ตให้
หม่าหยางเป็นคนดูแล
รอบก่อนเผยเชียนทุ่มสุดตัวและทำให้ตัวเองขาดทุนไปได้สองหมื่นกว่าหยวน
ถึงจะได้เงินมาแล้ว แต่ความกระหายของเขายังไม่หมดไป!
ก่อนถึงวันสรุปบัญชีครั้งต่อไป ขอแค่เผยเชียนทำให้เงินทุนระบบอยู่ประมาณ
สองถึงสามแสนหยวนได้ เขาก็จะได้เงินเข้าบัญชีตัวเองเจ็ดถึงแปดแสนหยวน แค่
คิดก็ตื่นเต้นจะแย่แล้ว!
พอถึงตอนนั้น เขาก็จะซื้อทุกอย่างที่ต้องการได้โดยไม่มีระบบมาคอยสั่งห้าม!
บทที่ 78 ชื่อเกม ‘นักออกแบบเกม’!

วันพุธ…
ห้องประชุม…
ลู่หมิงเหลียงวิตกกังวลมาก เขาดูกระวนกระวายใจ
เพราะสองเสาหลักที่ไว้วางใจได้บนโต๊ะประชุมได้จากไปแล้ว!
เปาซวี่ไม่ได้มาทำงานตั้งแต่เมื่อวานเพราะได้ลาหยุดหนึ่งเดือนแบบได้รับ
เงินเดือน บอสเผยบังคับให้เขาไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวดั งๆ ในประเทศและ
ศึกษาดูงานจากบริษัทเกมยักษ์ใหญ่
หวงซื่อปั๋วหายหน้าหายตาไปเลย ไม่มีใครรู้ว่าเขาเอาเงินรางวัลหนึ่งล้าน
หยวนที่บอสเผยให้ไปทำอะไร
พอสองเสาหลักไม่ได้อยู่ช่วยทัพหน้าอีก ลู่หมิงเหลียงก็ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่าย
วางแผนแทน เขารู้สึกถึงความกดดันมหาศาลที่ต้องแบกรับ!
นอกจากนี้ หลังจากบอสเผยให้โจทย์ของโปรเจ็กต์ต่อไปในการประชุม ลู่หมิง
เหลียงก็ยิ่งกังวลหนักขึ้นอีก
บอสเผยแจ้งว่าในช่วงนี้จะยังไม่มีการอัปเดตเกมแม่ทัพผีและเกมฐานทัพกลาง
ทะเล ทุกคนจะต้องไปทุ่มกับการพัฒนาเกมใหม่แทน!
ลู่หมิงเหลียงคาดไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนีจ้ ึงนึกกังวลใจ
ตามหลักการแล้ว ถ้ามีเกมที่ประสบความสำเร็จอยู่ในมือสองเกม ตอนนี้ควร
จะเป็นช่วงที่พวกเขาต้องเร่งทำเงินจากสองเกมนี้
เช่น อัปเดตเวอร์ชันใหม่ เพิ่มการ์ดใหม่ หรือสร้างอาวุธระดับตำนานขึ้นมาอีก
ชิ้น…
ทำแบบนี้จะช่วยสร้างกำไรได้มหาศาล!
ลู่หมิงเหลียงสามารถใช้โอกาสนี้สะสางงานเดิมให้เสร็จและวางแผนงานใหม่
ทางที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเขาคือ อัปเดตเวอร์ชันใหม่ให้เกมแม่ทัพผีและเกม
ฐานทัพกลางทะเล จากนั้นก็ค่อยๆ ปรับตัวให้เข้ากับการทำงานในตำแหน่งใหม่
ก่อนที่จะเริ่มสร้างเกมต่อไป
แต่บอสเผยกลับไม่มีแผนจะอัปเดตเวอร์ชันใหม่ ให้กับทั้งสองเกม นอกจากนี้
ยังอยากเริ่มโปรเจ็กต์ใหม่ทันทีด้วย!
เรื่องนี้ทำให้ลู่หมิงเหลียงที่เพิ่งขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนได้สองวันหมาดๆ
รู้สึกสับสน ไม่รู้จะต้องทำอย่างไรดี
แน่นอน ลู่หมิงเหลียงมั่นใจว่าที่บอสเผยตัดสินใจแบบนี้ต้องมีเหตุผลอะไรแน่
บอสเผยเป็นคนที่ชอบมุ่งไปข้างหน้า เขาไม่เหมือนเจ้านายคนอื่นๆ ที่สนใจแค่
กำไรที่ทำได้
แทนที่จะพัฒนาเวอร์ชันใหม่ให้เกมแล้วรอรับเงินง่ายๆ บอสกลับเลือกเสี่ยง
ทำโปรเจ็กต์ใหม่ แสดงให้เห็นชัดเจนถึงความทะเยอทะยานและวิสัยทัศน์อัน
กว้างไกลของเขา!
“ผมมีไอเดียสำหรับเกมใหม่แล้ว ช่วยฟังด้วยนะครับ”
เผยเชียนนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ เรียกให้ทุกคนหันมาสนใจตัวเองด้วยท่าทางสุขุม
ทำให้ลู่หมิงเหลียงมั่นใจในความคิดของตนเองยิ่งขึ้น
แต่…
เผยเชียนตัดสินใจแบบนี้ด้วยเหตุผลตรงกันข้าม
ทำไมเขาถึงไม่อยากพัฒนาเวอร์ชันใหม่น่ะเหรอ
เพราะการปล่อยเวอร์ชันใหม่ของเกมที่ปล่อยออกไปแล้วนั้นต้องเก็บเงินจากผู้
เล่น
เขาต้องเก็บเงินจากการซื้อเนื้อหาเสริมของเกมเพิ่มหรือไม่ก็เก็บเงินจาก
บริการในเกม
ระบบไม่อนุญาตให้ปล่อยเวอร์ชันใหม่ไปแบบฟรีๆ
ปัญหาคือเกมแม่ทัพผีกับเกมฐานทัพกลางทะเลมีฐานผู้เล่นเยอะมาก แต่ละ
คนพร้อมเปย์เกมกันทั้งนั้น!
เมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าเขาปล่อยเวอร์ชันใหม่ไป น่าจะทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ
ในชั่วพริบตา…
ดังนั้นเผยเชียนจึงคิดว่าเริ่มโปรเจ็กต์ใหม่น่าจะปลอดภัยกว่า เพราะอย่างไร
การเริ่มโปรเจ็กต์ใหม่ก็น่าจะง่ายกว่าการเสียเวลาไปเปล่าๆ กับเกมที่ประสบ
ความสำเร็จแล้ว!
เกมใหม่หลายๆ เกมปล่อยออกไปก็เจ๊ง ถึงจะมีโปรดิวเซอร์เก่งๆ ช่วยดูแลก็ไม่
สามารถทำเงินได้
นอกจากนี้ เกมเก่าหลายเกมที่ยังอยู่รอดมาได้ก็ใกล้จะซี้แหงแก๋แล้ว
ดังนั้นเผยเชียนจึงตัดสินใจว่าจะเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น เขาได้บทเรียนจากรอบก่อน
แล้ว
ข้อผิดพลาดอันใหญ่หลวงที่สุดของเขาคืออะไร
คือการที่เขามั่นใจในตัวหวงซื่อปั๋วและเปาซวี่มากเกินไปยังไงล่ะ!
เผยเชียนคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าสองคู่หูนั่นจะเปลี่ยนเงื่อนไขสามข้อที่ให้ไปให้
กลายเป็นจุดขายของเกมได้!
ครั้งนี้เขาตั้งใจว่าจะคอยควบคุมดูแลโปรเจ็กต์ทั้งหมดให้มากขึ้น เขาจะให้มี
เกมแบบฐานทัพกลางทะเลผุดขึ้นมาอีกไม่ได้
เขาไม่กล้าปล่อยให้เสี่ยวลู่คิดอะไรเอง
ถ้าเกิด…เสี่ยวลู่แอบไปปรึกษาเปาซวี่หรือดันผุดไอเดียแจ่มๆ ขึ้นมาได้จะทำ
ยังไง!
ดังนั้นเผยเชียนจึงตั้งใจจะกุมบังเหียนเองในครั้งนี้
เขามองไปรอบๆ แล้วจึงเอ่ยขึ้นช้าๆ “ครั้งนี้ เราจะสร้างเกมที่จะกลายเป็น
ตำนาน!”
“ชื่อของเกมที่ว่าคือ…”
“นักออกแบบเกม!”
ทุกคนในห้องประชุมมองเผยเชียนไม่วางตา
ถึงจะไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็ฟังดูเจ๋งสุดๆ!
ฟังดูแจ่มไปเลย!
นี่คือเกมที่จะเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของบริษัทเถิงต๋าในวงการเกมใช่ไหม
นะ
แต่ได้ยินหัวข้อแล้ว ดูจะเหมาะสร้างเป็นสารคดีหรือทำบทสัมภาษณ์มากกว่า
จะเอามาใช้สร้างเกมได้จริงๆ หรือ
ดังนั้นทุกคนจึงรอฟังอย่างตั้งใจ
เผยเชียนดูมั่นอกมั่นใจมาก
“เกมนี้เรียบง่ายมาก จะเป็นเกมเกี่ยวกับชีวิตของโปรดิวเซอร์เกม เกมนี้ผู้เล่น
จะได้เลือกตัวเลือกต่างๆ แต่ละตัวเลือกจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน”
“ตั ว อย่ า งเช่ น ผู ้ เ ล่ น สามารถเลื อ กรู ป แบบเกม ระบบเก็ บ เงิ น กลยุ ท ธ์
การตลาด และอื่นๆ ได้ตามใจชอบ ขณะเดียวกันก็จะเจอเหตุการณ์สุ่มต่างๆ”
“สุดท้ายผู้เล่นก็จะได้สร้างเกมขึ้นมาขายออนไลน์เพื่อทำกำไร”
“นี่เป็นไอเดียวคร่าวๆ ใครมีอะไรสงสัยให้ถามได้เลย”
ไม่มีใครปริปากพูดอะไร ทุกคนดูจะแปลกใจกันเล็กน้อย
เผยเชียนยิ้มอย่างมั่นใจ
ตกใจใช่ไหมล่ะ
ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว!
เพราะเกมนี้ถือเป็นเป็นเกมแนวเฉพาะกลุ่มที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน แถม
เนื้อหาเกมก็ยังไม่น่าสนใจ ไม่มีทางสร้างอะไรน่าตื่นตาตื่นใจได้ อีกทั้งรูปแบบการ
เล่นก็ราบเรียบเสียเหลือเกิน!
อุตสาหกรรมเกมจริงๆ ช่างแสนขมขื่น ไม่มีอะไรน่าสนใจ ถ้าเอามาสร้างเป็น
เกมก็ไม่น่าจะเป็นเกมที่สนุกอย่างแน่นอน!
เกมแบบนี้ต้องเจ๊งแน่ๆ!
ถึงจะทำออกมาเป็นเกมแบบสแตนด์อโลนและดึงดูดผู้เล่นกลุ่มเล็กๆ ได้ แต่ก็
ไม่น่าจะดังขึ้นมาได้
ขณะเดียวกัน ถ้าผลาญเงินก้อนโตไปกับทรัพยากรงานภาพแล้วตั้งขายราคา
ต่ำๆ ก็ไม่มีทางที่เกมจะทำเงินจนคืนทุนได้!
แน่นอนว่าเผยเชียนคิดไว้แล้วว่าจะอ้างอย่างไรดี
ลู่หมิงเหลียงยกมือเป็นคนแรก
“บอสเผยครับ ผมเข้าใจไอเดียภาพรวมของเกมนี้แล้วครับ ผมอยากถามถึง
แนวทางนำเสนอกับการทำการตลาดเกมนี้ จะทำออกมาเป็นเกมสแตนด์อโล
นแบบ Interactive Fiction รึเปล่าครับ”
Interactive Fiction อธิบายง่ายๆ คือเกมที่ผู้เล่นได้พูดคุยกับตัวละครสมมติ
เกมแนวนี้สามารถสร้างขึ้นได้ง่ายๆ รองรับได้หลายแพลตฟอร์ม สิ่งที่ต้องทำก็
แค่สร้างฉากสองมิติกับตัวละครออริจินัลของเกมแล้วยัดบทสนทนาเข้าไปเยอะๆ
องค์ประกอบเหล่านี้คือภาพรวมทั้งหมดของเกมแล้ว
ตามความเข้ า ใจของลู่ ห มิ ง เหลี ย ง เกมนี ้ จ ะคล้ า ยๆ เกมที ่ ช ื ่ อ Chinese
Parents
แน่นอนว่า ลู่หมิงเหลียงไม่ได้รู้จักเกม Chinese Parents แต่เขาเคยเห็นเกม
แนว Interactive Fiction มาก่อน
เผยเชียนส่ายหน้า “ไม่ใช่”
เหมือนเกมแนว Interactive Fiction เหรอ ไม่ใช่แน่นอน!
สร้างเกมแนว Interactive Fiction ขึ้นมาสักเกมจะใช้เงินเท่าไหร่กันเชียว
แค่ภาพออริจินัลไม่กี่ภาพ จ้างนักพากย์ดังๆ สักสองสามคน รวมๆ แล้วน่าจะ
สักสองสามแสนหยวน แค่นี้ไม่พอหรอก!
ตอนนี้เกมฐานทัพกลางทะเลทำเงินได้สี่ถึงห้าแสนหยวนต่อสัปดาห์ ถ้าเขา
ลงทุนกับเกมใหม่ไปไม่มากจะเกิดอะไรขึ้น
ต้องกลายเป็นปัญหาแน่ๆ!
งบสำหรับเกมใหม่ที่เผยเชียนตั้งไว้นั้นอย่างน้อยต้องสองล้านหยวน เพื่อที่เขา
จะได้ขาดทุน!
ถ้าผลาญไปได้แค่ไม่กี่แสนก็ไม่สามารถหักกลบกับยอดเงินที่เกมแม่ทัพผีกับ
เกมฐานทัพกลางทะเลทำได้
“เราจะทำเป็นเกมสามมิติเต็มรูปแบบ ใช้การออกแบบโมเดลสามมิติที่ ดีที่สุด
ทั้งตัวละคร ทั้งฉาก ผมอยากให้ออกมาดีที่สุด!”
ลู่หมิงเหลียงอึ้งไป
เขาคิดไม่ออกเลยว่าจะออกมาเป็นแบบไหน!
แค่คิดก็รู้สึกแปลกๆ แล้ว!
“ทำทุกอย่างเป็นสามมิติ…ในเกมแนว Interactive Fiction เนี่ยนะครับ” ลู่
หมิงเหลียงถาม
“ทำไมยึดติดอยู่แค่เกมแนว Interactive Fiction ล่ะ”
เผยเชียนแทบพูดไม่ออก เขาส่ายหน้าแล้วพูดต่อ “ผมไม่อยากทำเกมรูปแบบ
Interactive Fiction มันล้าสมัยเกินไป!”
“เราจะทำให้เกมดูเป็นนามธรรมมากขึ้นโดยใช้เทคนิคและวิธีการที่ทันสมัย!”
บทที่ 79 เกมที่ด่าผู้เล่น!

เผยเชียนทำเหมือนว่าตัวเองไม่ชอบเกม Interactive Fiction เพราะว่ามัน


ล้าสมัย แต่จริงๆ ในใจนั้นคิดว่าความล้าสมัยนี่แหละคือความมั่นคง!
Interactive Fiction เป็นแนวเกมที่ล้าสมัยแต่ก็มั่นคงเพราะอยู่รอดมาได้นาน
เผยเชียนมีความทรงจำจากชาติก่อน เขารู้ว่าเกม Chinese Parents เป็น
เกมสแตนด์อโลนที่ทำออกมาในแนวเกมแบบ Interactive Fiction ซึ่งก็ถือว่า
ค่อนข้างประสบความสำเร็จเลยทีเดียว!
เผยเชียนไม่มีทางยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นกับเกมของเขาแน่
ดังนั้นเขาจึงตั้งใจจะไม่ทำเกมไปในแนว Interactive Fiction
เผยเชียนกระแอมกระไอแล้วพูดต่อ
“ไอเดียของผมคือเราควรทำผังงาน[TP1] แบบสามมิติ[TP2] “
“ใช่แล้ว เอาให้ซับซ้อนเหมือนใยแมงมุม”
“ช่องในผังงานเอาเป็นห้องแยก เส้นเชื่อมเอาเป็นระเบียง”
“ผู้เล่นจะเดินไปตามระเบียง ซึ่งเป็นขั้นตอนการเลือกทางที่จะไปในผังงาน
จากนั้นก็นำไปสู่ผลลัพธ์!”
“แต่ละห้องจะมีประตูเชื่อมกับระเบียง หมายความผู้เล่นจะมีตัวเลือกให้เลือก
หลากหลาย”
“เข้าใจที่ผมจะสื่อมั้ย”
ทุกคนพยักหน้า จากนั้นก็ส่ายหน้าพร้อมกัน
พวกเขาเหมือนจะเข้าใจ แต่ก็ไม่เข้าใจ!
คำอธิบายของเผยเชียนทำให้หลายๆ คนพอจะนึ กภาพรูปแบบการเล่นของ
เกมออก
การวาดผังงานด้วยโปรแกรมแบบ Visio ถือเป็นเรื่องปกติในการสร้างเกมและ
ในวงการอื่นๆ
ผังงานเป็นตัวใช้แสดงการจัดลำดับความคิดหรือลำดับขั้นตอนการทำงาน
ตัวอย่างเช่น การทำงานบางอย่างจะเริ่มจากเงื่อนไขบางประการ พอผ่าน
กระบวนการตัดสินใจต่างๆ ก็จะได้ผลลัพธ์ออกมา
ผังงานประกอบด้วยกล่องรูปทรงต่างๆ ที่อัดแน่นไปด้วยตัวอักษรมากมาย
กล่องแต่ละกล่องจะเชื่อมต่อกันด้วยลูกศร
เมื่อกล่องทั้งหมดที่ว่าเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบสามมิติ มันจะกลายเป็นห้อง
ขนาดเล็กใหญ่ ลูกศรเปลี่ยนเป็นระเบียง ผังงานทั้งหมดจะกลายเป็นเหมือนเขา
วงกตขนาดใหญ่
ตัวละครหลักจะต้องเดินผ่านเขาวงกตนี้ โดยประตูแต่ละบานคือตัวเลือก พอ
เดินไปถึงห้องสุดท้ายก็จะได้เห็นหนึ่งในบทสรุปของเกม
แต่ที่ทุกคนไม่เข้าใจคือ เกมนี้จะถือเป็นเกมแนวไหนกัน
พวกเขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน!
อย่าว่าแค่ในประเทศเลย ต่างประเทศก็ไม่มีใครทำเกมแบบนี้ออกมา!
จะไปรอดไหมนะ
ต่อให้พวกเขาใช้โมเดลสามมิติคุณภาพสูงกับฉากหลังอลังการหลากหลาย
แบบ แต่ถ้าเกมที่สร้างออกมาผู้เล่นทำได้แค่เดินต่อไปเรื่อยๆ ล่ะ
พวกเขารู้สึกว่า…มีบางอย่างแปลกๆ!
แต่ก็ไม่มีใครตั้งคำถามเผยเชียน
ไม่เข้าใจอย่างนั้นหรือ
ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว!
คนธรรมดาทั่วไปจะไปเข้าใจกระบวนการคิดของบอสเผยได้อย่างไร
มีแต่หวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่ที่สามารถเดาแผนงานและการออกแบบของเผย
เชียนได้คร่าวๆ สำหรับคนอื่นๆ ยังไปไม่ถึงระดับนั้น!
ลู่หมิงเหลียงรู้เรื่องนี้ดี เขาหยิบสมุดโน้ตเล่มเล็กออกมาจดบันทึกอย่างตั้งใจ
โชคดีที่บอสเผยลงรายละเอียดให้ชัดเจน เขาจึงไม่ต้องมานั่งเดาเอาเองมาก
เขาแค่ต้องทำตามที่บอสเผยบอกทุกอย่าง แค่นี้ก็ไม่มีอะไรผิดพลาดแล้ว!
หลินหวานยกมือขึ้นถาม “บอสเผยคะ หนูว่ารูปแบบมันจะออกมาเหมือน
นิยายมากกว่า! แต่ถ้าผู้เล่นต้องเดินวนไปมาไม่จบสิ้นแบบนี้จะไม่น่าเบื่อแย่เหรอ
คะ”
น่าเบื่อเหรอ
ยิ่งดีสิ!
นั่นแหละที่ฉันต้องการ!
แต่คำถามของหลินหวานก็ทำให้เผยเชียนสัมผัสได้ถึงอันตรายที่ซ่อนเร้นอยู่
หรือ…แค่นี้จะยังไม่พอ
ถ้าเกมน่าเบื่ออย่างเดียวอาจจะทำให้คนเลิกเล่นไม่ได้
ถ้าเกิดมีคนชอบเลือกตัวเลือกไปเรื่อยๆ ทนความน่าเบื่อได้ แล้วดันติดใจเกม
ขึ้นมาล่ะ
เผยเชียนคิดหนัก
“รู้แล้ว”
เผยเชียนนึกไอเดียดีๆ ขึ้นได้ “ใส่เสียงพากย์เข้าไปในเกมด้วยแล้วกัน!”
“เสียงพากย์เหรอคะ” หลินหวานกะพริบตา เธอไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
การใส่เสียงพากย์เข้าไปในเกมไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ส่วนใหญ่มักจะใส่แค่ใน
แอนิเมชันตอนเริ่มเกม
ถ้าใส่เสียงพากย์เข้าไประหว่างเล่นเกมด้วย จะทำให้ผู้เล่นไม่รู้สึกเข้าถึงตัวเกม
เผยเชียนหัวเราะ
ทำไมเขาถึงอยากเพิ่มเสียงพากย์เข้าไปน่ะเหรอ
ชายหนุ่มต้องการจะกันไม่ให้ผู้เล่นรู้สึกอินกับตัวเกมจะได้เล่นต่อไม่ได้!
ไม่ใช่แค่นั้น เขาตั้งใจจะใส่ประโยคด่าทอเข้าไปในบทสนทนา ให้เสียงพากย์
คอยเยาะเย้ยผู้เล่น เอาให้โกรธจนหัวร้อน!
พอโกรธที่โดนเย้ยหยันมาจะได้เข้าไปถล่มรีวิวแย่ๆ ไม่แนะนำให้คนอื่นมาเล่น
สร้างชื่อเสียงแง่ลบให้ตัวเกม เมื่อเป็นอย่างนั้น เกมก็น่าจะค่อยๆ หายไปเอง
ลองคิดดูสิ ทุกครั้งที่ผู้เล่นเลือกตัวเลือกก็จะมีเสียงด่าจากระบบ
เป็นเกมที่คอยด่าผู้เล่น!
โคตรฮาเลย!
ผู้เล่นที่หัวร้อนง่ายหน่อยน่าจะทุบเมาส์กันเลยทีเดียว
เผยเชียนกระแอมกระไอเบาๆ จากนั้นจึงเริ่มอธิบาย “เสียงพากย์เป็นวิธีสร้าง
ปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่น
“ถ้าผู้เล่นต้องวิ่งไปนั่นทีไปนี่ทีก็น่าจะเบื่ออย่างที่ว่า ผู้เล่นจะรู้สึกเหมือนเป็น
คนนอก เป็นแค่ผู้ชม อาจจะหมดความสนใจเอาได้ง่ายๆ”
“เราจะใช้เสียงพากย์เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่น ตัวอย่างเช่น ถ้าเลือก
ตัวเลือกผิด เสียงพากย์ A ก็จะดังขึ้น ถ้าเลือกถูก ก็จะไปเปิดเสียงพากย์ B
“ทำแบบนี้ ผู้เล่นจะได้การตอบรับจากตัวเลือกทุกข้อที่เลือกไป จะได้ไม่รู้สึก
เหงาหรือเบื่อ!”
หลินหวานถึงบางอ้อ เธอพยักหน้ารัว
สมกับเป็นบอสเผยจริงๆ ถึงคิดอะไรเทพๆ แบบนี้ได้!
นักออกแบบมือเทพต้องเป็นแบบไหนน่ะเหรอ
ก็ต้องแบบนี้แหละ!
หลินหวานนึกถึงตอนที่ทำงานในเทียนหัวสตูดโิ อ
ที่เทียนหัวสตูดิโอก็มีการประชุมแบบนี้อยู่บ่อยๆ เหมือนกัน มีการระดม
ความคิดเพื่อตัดสินใจรายละเอียดบางอย่างของเกมรวมถึงวิธีพัฒนาเกม
แต่บรรยากาศของที่นี่กลับต่างกันลิบลับ!
เพราะโจวมู่หยันมักจะถามแต่คำถามเดิมๆ ว่า “มีเกมไหนทำระบบการเล่น
แบบนี้ไปหรือยัง”
ถ้ า ตอบว่ า มีแ ล้ว โจวมู ่ ห ยั น ก็จ ะวิ เคราะห์ ด ู ว่ า รูป แบบการเล่ นนี้ ป ระสบ
ความสำเร็จหรือเปล่า ถ้าใช่ก็จะเอามาใช้
แต่ถ้าตอบว่ายังไม่มี หรือถ้ามีเกมอื่นเอาไปทำแล้วแต่ล้มเหลว ไอเดียนี้ก็จะ
โดนปัดตกไปทันที
ไม่ใช่เฉพาะแค่ที่นี่ บริษัทเกมส่วนใหญ่ในประเทศก็เป็นแบบเดียวกัน!
เพื่อเสถียรภาพของการทำงาน นักออกแบบเกมส่วนใหญ่ไม่กล้าลองผิดลอง
ถูกสักเท่าไหร่ แต่มักจะเรียนรู้จากกรณีก่อนๆ
ดังนั้นหลายๆ เกมจึงออกมาจากเบ้าเดียวกัน เหมือนกันไปเสียหมด
แต่วิธีทำงานของบอสเผยทำให้หลินหวานนึกชื่นชมเขาเอามากๆ
เขาไม่ได้สนใจว่าวิธีนี้เคยมีใครเอาไปทำแล้วประสบความสำเร็จหรือเปล่า แต่
กล้าที่จะลองอะไรใหม่ๆ!
สิ่งนี้ทำให้มาตรฐานของที่นี่สูงกว่าเทียนหัวสตูดิโอและโจวมู่หยัน!
หลินหวานมั่นใจแล้วว่าเผยเชียนเป็นนักออกแบบเกมขั้นเทพจริงๆ ไม่มีข้อ
กังขาอีก!
ส่วนลู่หมิงเหลียงจดบันทึกลงสมุดไม่หยุดมือ
เขารู้สึกว่ามันวิเศษมาก แต่ก็สับสนเล็กน้อย ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมเผยเชียนถึง
ตัดสินใจแบบนี้
แต่เขาก็รู้ตำแหน่งตัวเองในบริษัทดี จึงไม่กล้าเสนอความคิดเห็นอะไรออกไป
ตั้งใจจะทำตามทุกอย่างที่บอสเผยบอก
เผยเชียนพึงพอใจมากที่โน้มน้าวใจทุกคนได้สำเร็จ
ช่างรู้สึกดีจริงๆ!
โปรเจ็กต์นี้อยู่ในการควบคุมของเขาทุกอย่างแล้ว!
“ผมขอแบบร่างภายในสามวันกับแผนการทำงานทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้
งานภาพทั้งหมดต้องพร้อมภายในสองสัปดาห์ ติดขัดอะไรไหม” เผยเชียนมองไป
ทางลู่หมิงเหลียง
ลู่หมิงเหลียงรีบพยักหน้า “ไม่ต้องห่วงครับ บอสเผย ผมจัดการทั้งหมดให้
เอง!”
พูดจบ ลู่หมิงเหลียงที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเท่าไหร่ก็ถามต่อ “บอสเผยครับ
ถ้าทำงานไม่ทัน พวกผมอยู่ทำงานล่วงเวลาได้ไหมครับ”
การทำงานล่วงเวลาเป็นสิทธิพิเศษสำหรับพนักงานเก่งๆ เท่านั้น เขาไม่แน่ใจ
ว่าบอสเผยจะนับเขาเป็นพนักงานเก่งๆ หรือเปล่า
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าแล้วตอบ “ได้ แต่พวกคุณห้ามอยู่
เกินสามทุ่ม ถึงจะอายุยังน้อย แต่ก็ควรดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีๆ”
“ได้ครับ!” ลู่หมิงเหลียงแสนซาบซึ้งใจ
นอกจากบริษัทเถิงต๋าแล้ว จะมีบริษัทไหนใส่ใจพนักงานขนาดนี้อีก
ถ้าไม่ตั้งใจทำงานให้บอสเผยอย่างเต็มที่ เขายั งจะเรียกตัวเองว่าเป็นมนุษย์ได้
อีกหรือ
……………………………..
[TP1] or โฟลวชาร์ท?
[TP2] น่าจะแบบเปรียบเทียบโฟลวชาร์ทเป็นห้องๆ เส้นเชื่อมเป็นระเบียง ให้
แบบมีมิติมากขึ้นอะไรงี้
บทที่ 80 ก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์เหรอ

ห้องทำงานของเผยเชียน
“เป็นไงบ้าง ไอ้หม่า ตัดสินใจได้ยัง” เผยเชียนจิบชาระหว่างที่ถาม
“ยังเลยครับ!” หม่าหยางตอบออกไปตรงๆ
“พรืด!”
เผยเชียนเกือบสำลักชา
แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไร กลับดีใจด้วยซ้ำ
ดูเหมือนว่ารอบนี้ไอ้หม่าน่าจะช่วยทำให้อะไรๆ ง่ายขึ้นแฮะ
ถ้ามีทุกคนเป็นเหมือนไอ้หม่า ฉันคงได้เงินจากระบบมาหมดตั้งนานแล้ว!
“งานหลักของผมตอนนี้คือหาคนเหมาะๆ มาช่วยงาน” หม่าหยางจิบชา เขา
ทำท่าทางเหมือนวางแผนทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว
เผยเชียนกังวลขึ้นมาเล็กน้อย
เขามั่นใจในตัวหม่าหยาง แต่ไม่มั่นใจในผู้ช่วยของหม่าหยาง!
หม่าหยางเป็นพวกเชื่อคนง่าย ถ้าเกิดบังเอิญไปเจอคนตั้งใจทำงาน รู้เรื่องการ
บริหารร้านอินเทอร์เน็ตเป็นอย่างดี เขาคงจะเชื่อทุกอย่างที่อีกฝ่ายพูด…
ผลลัพธ์ต้องออกมาแย่แน่ๆ!
เผยเชียนต้องระวังตัวไว้ก่อน
“แกอยากได้ผู้ช่วยแบบไหนเหรอ”
“ผมเจอคนหนึ่งบนเว็บไป่ตู้เทียปา ผมพยายามเสนอเงินเดือนเยอะๆ ให้เขา
รับงานอยู”่ หม่าหยางตอบ
หืม อัจฉริยะจากเว็บไป่ตู้[TP1] เหรอ
ดีๆ
เผยเชียนโล่งอก
เว็บไป่ตู้เป็นแหล่งรวมเพชรในตมจริงๆ
ยิ่งปัจจุบันมีการใช้งานเว็บไป่ตู้กันอย่างกว้างขวาง ถึงจะมีทั้งคนเก่งไม่เก่ง
ปะปนกันไป แต่คนมีความสามารถก็มีอยูบ่ ้าง
ทว่าคนที่ปั้นประวัติตัวเองให้ดูดีนั้นมีอยู่เยอะเลยทีเดียว
หม่าหยางน่าจะมีโอกาสเจอพวกปั้นประวัติมากกว่า
“อธิบายให้ละเอียดกว่านี้ได้มั้ย” เผยเชียนจิบชาอย่างสำรวมท่าที
พอเห็นเผยเชียนเป็นห่วงเรื่องความคืบหน้า หม่าหยางก็ตื่นตัวขึ้นและรายงาน
อย่างจริงจัง
“ผมเจอเขาในห้องการ์ดจอ เป็นเจ้าของร้านเน็ตเล็กๆ เขาเก่งมากแล้วก็ดังใน
เว็บไป่ตู้มากๆ!”
“ผมคิดว่าถ้าจะเปิดร้านอินเทอร์เน็ต สิ่งที่จำเป็นที่สุดก็คือคอมพิวเตอร์ใช่มั้ย
ล่ะ รอบนี้ผมไปซื้อคอมพ์สำเร็จรูปของแบรนด์ดังๆ มาใช้ก็ไม่ได้ใช่รึเปล่า ถ้าอยาก
แตกต่าง ผมต้องประกอบคอมพ์ขึ้นมาเอง!”
“แต่ ผ มก็ ไ ม่ ร ู ้ ว ิ ธ ี ก็ เ ลยพยายามหาคนเก่ ง ๆ มาช่ ว ย เขารู ้ ว ิ ธ ี ป ระกอบ
คอมพิวเตอร์ รู้เรื่องฮาร์ดแวร์ดีกว่าผม ผมคิดถูกรึเปล่า”
เผยเชียนพยักหน้ารัว “ใช่ ไม่ผิดเลย! คิดดีแล้ว!”
เผยเชียนนึกกังวลเล็กน้อยในตอนแรก แต่พอได้ยินว่าผู้ช่วยของหม่าหยางเป็น
เจ้าของร้านอินเทอร์เน็ตก็โล่งใจขึ้นมา
ก็เหมือนที่มีคนเคยพูดเอาไว้
ถ้ามีงบสามพัน พอเข้าห้องการ์ดจอไปต้องได้เสียเงินมากกว่าที่ตั้งไว้แน่
แต่ถ้าเข้าห้องถู[1]ด้วยงบสามพัน พอกลับออกมาจะมีเงินเหลือพอขนาดเปิด
ร้านอินเทอร์เน็ตได้เลย
ห้องการ์จอกับห้องถูเป็นแหล่งรวมพลคนชอบประกอบคอมพิวเตอร์ที่ดังที่สุด
ในเว็บไป่ตู้ แต่ทั้งสองห้องแตกต่างกันมาก
ในห้องการ์ดจอ คนส่วนใหญ่จะโดนเป่าหูให้เสียเงินซื้อของรุ่นดีๆ แพงๆ แต่
ในห้องถูจะเน้นไปที่ของถูกคุณภาพดีเพื่อช่วยประหยัดงบ
ถ้าหม่าหยางไปหาคนเก่งๆ จากห้องถูมาได้ เผยเชียนคงจะกังวล
ทำไมน่ะหรือ
เพราะพวกคนเก่งๆ ในห้องถูประหยัดเงินเก่งยังไงล่ะ!
ถ้าพวกเขาประกอบคอมพิวเตอร์ด้วยงบไม่มากแล้วใช้กลยุทธ์แบบกำไรน้อย
แต่ให้บริการในปริมาณมาก ร้านอินเทอร์เน็ตร้านนี้อาจจะดังเป็นพลุแตกเลยก็ได้!
ถึงอย่างไรในปี 2010 นี้ ร้านอินเทอร์เน็ตราคาถูกยังเป็นที่นิยม นักศึกษาที่มี
เงินไม่มากไม่สามารถเล่นเกมที่ต้องใช้คอมพ์สเป็กสูงได้
ถ้ามีร้านอินเตอร์เน็ตราคาถูกแต่คอมพ์แรงผุดขึ้นมา ทั้งร้านคงจะเต็มไปด้วย
เหล่าคนที่พร้อมจะมากินนอนในร้าน
แต่ถ้าได้คนจากห้องการ์ดจอมา เรื่องราวก็จะแตกต่างออกไป!
คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในร้านน่าจะราคาเครื่องละสองสามหมื่นหยวนเห็นจะ
ได้ หึหึ
ต้องสวยมากแน่ๆ!
คราวนี้ได้ขาดทุนอย่างแน่นอน!
เผยเชียนแสนสุขใจ หม่าหยางไม่ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ ด้วย!
“ดีเลย แกต้องจ้างคนเก่งๆ แบบเขามาให้ได้!
“คุยกับเขาดีๆ เสนอเงินเดือนไปสูงๆ ถ้าอยากได้คนเทพๆ มาช่วยงาน แกให้
เขาต่ำกว่าเดือนละแปดพันหยวนไม่ได้ เข้าใจมั้ย”
เผยเชียนเติมเชื้อเพลิงให้กองไฟ
หม่าหยางดูเจ็บปวดเมื่อพูดขึ้น “พี่เชียน ผมจะพูดตรงๆ แล้วกัน… เงินเดือน
ผมตอนนี้แค่ห้าพันหยวนเอง…”
เผยเชียนให้เงินเดือนหม่าหยางด้วยเรตที่สูงที่สุดสำหรับตำแหน่งเด็กฝึกงาน
ซึ่งก็คือสี่พันหยวนต่อเดือน พอขึ้นเงินเดือนให้พนักงานทุกคนสามสิบเปอร์เซ็นต์
เงินเดินหม่าหยางจึงเลยห้าพันหยวนขึ้นไปนิดหน่อย
เผยเชียนหัวเราะแล้วพูด “ไม่ต้องห่วง คิดว่าฉันจะดูแลแกไม่ดีเหรอ ถ้างานนี้
สำเร็จ ฉันจะขึ้นเงินเดือนให้! มีโบนัสแถมด้วย!”
หม่าหยางลิงโลดใจ “โอเคเลยครับ! ไม่ต้องห่วง ผมจะทุ่มเทเต็มที่เพื่อสร้าง
ร้านเน็ตร้านนี้ออกมาให้ดีที่สุด!”
“บอกไปหลายครั้งแล้วไง ร้านนี้ไม่ได้เป็นแค่ ร้านเน็ต มันคือศูนย์รวมความ
บันเทิงที่รวมบริการต่างๆ อย่างบริการอินเทอร์เน็ต บริการเกม บริการขาย
ฮาร์ดแวร์ บริการดูหนัง และอย่างอื่นอีกเพียบ!” เผยเชียนแก้ความเข้าใจ
“ได้พี่ เข้าใจแล้ว ร้านอินเทอร์เน็ตศูนย์รวมความบันเทิงขนาดใหญ่! ” หม่าห
ยางดื่มชาจนหมด “งั้นผมไปทำงานต่อแล้วนะ!”
อืม ไปได้สวย
เผยเชียนพึงพอใจมาก
ฝั่งโปรเจ็กต์เกมใหม่ก็ราบรื่นดี
ส่วนฝั่งหม่าหยางกับผู้ช่วยจากห้องการ์ดจอก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ที่เหลือก็แค่ฝั่งหวงซื่อปั๋ว
รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลยแฮะ!
เผยเชียนตัดสินใจส่งข้อความไปถามไถ่หวงซื่อปั๋วว่าทำอะไรอยู่ พักหลังนี้อีก
ฝ่ายไม่ค่อยเข้างาน เขาเองก็ไม่รู้ว่าหวงซื่อปั๋วกำลังทำอะไร
น่าจะดีกว่าถ้าเขารู้ความคืบหน้าของหวงซื่อปั๋ว
“นายคิดเรื่องงบตามฝันรึยัง คิดไว้แล้วรึยังว่าจะลงทุนอุตสาหกรรมไหน”
ไม่นานหวงซื่อปั๋วก็ตอบกลับ
“ผมมีทิศทางคร่าวๆ แล้วครับ บอสเผย! ผมตั้งใจว่าจะทำธุรกิจเกี่ยวกับ
ภาพยนตร์! ผมฝันอยากเข้าวงการนี้มาตลอด แต่ก็ยากมากที่จะเข้าไปเป็นส่วน
หนึ่งได้ ผมเลยเลือกวงการเกมแทน ตอนนี้มีโอกาสแล้ว ผมจะไล่ตามความฝันของ
ผม!”
เผยเชียนดีใจจนเผลอตบหน้าขาตัวเอง
อุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่างนั้นหรือ
เยี่ยมไปเลย!
อุตสาหกรรมนี้ผลาญเงินได้เร็วมาก!
แต่…มีเงินแค่ล้านเดียวไปลงทุนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ จะไหวไหมนะ จะ
สร้างผลกระทบอะไรหรือเปล่า
เผยเชียนรู้สึกกังขา
“เงินทุนพอไหม ผมให้ทุนคุณเพิ่มได้นะ ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย”
พอมีโปรเจ็กต์ที่น่าจะช่วยผลาญเงินได้เข้ามาในมือ เผยเชียนจึ งรู้สึกอยาก
ลงทุนเพิ่ม
จริ ง ๆ แล้ ว เผยเชี ย นเคยคิ ด จะผั น ตั ว เข้ า ไปผลาญเงิ น ในอุ ต สาหกรรม
ภาพยนตร์ด้วยเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ทำตามแผนที่วางไว้
พอมีหวงซื่อปั๋วช่วยเปิดทางให้ เผยเชียนจึงไม่ต้องจัดการเรื่องนี้เอง
หวงซื่อปั๋วตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ไม่เป็นไรครับ ไม่ เป็นไร! บอสเผยให้งบ
ตามฝันผมมาตั้งล้านหยวนแล้ว ผมจะไปขอเพิ่มอีกได้ยังไง”
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมไม่ได้จะทำหนังฟอร์มยักษ์ที่ต้องใช้ทุนเยอะ ผมแค่จะทำ
ซีรีส์ตอนสั้นที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์และการตัดต่ออะไรมาก ใช้งบไม่มากครับ หนึ่ง
ล้านหยวนพอแน่นอน!”
ซีรีส์ตอนสั้นหรือ
เผยเชียนเริ่มกังวล “ซีรีส์ที่นายจะทำไม่ได้ชื่อ Unexpectedness[2] ใช่ไหม”
หวงซื่อปั๋วงงไป “Unexpectedness คืออะไรเหรอครับ”
เผยเชียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ถ้าไม่ใช่เรื่อง Unexpectedness ก็ปลอดภัยหายห่วง!
“มีบทรึยัง แล้วผู้กำกับล่ะ” เผยเชียนถามต่อ
หวงซื่อปั๋วพิมพ์ตอบ “ยังครับ! แต่ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมกำลังหาคนมาทำ
อยู่ ส่วนบท ถ้าเสร็จแล้วเดี๋ยวผมรีบส่งให้ดูนะครับ”
“โอเค”
เผยเชียนโล่งอก
ถ้าหวงซื่อปั๋วจะทำซีรีส์ตอนสั้น ขอแค่ไม่ใช่เรื่อง Unexpectedness ก็สบาย
ใจได้
ซีรีส์ตอนสั้นในยุคนี้ดังยาก ถึงมีกระแสแต่ก็ไม่น่าจะขายได้ ยังไงก็ต้องขาดทุน
แน่นอน
เหมือนว่าสถานการณ์ฝั่งหวงซื่อปั๋วก็เป็นไปอย่างราบรื่นเหมือนกัน!
…………………………….

[1] มาจากชื่อ CPU รุ่น ถูลาติง (图拉丁 (Pentium III Tualatin CPU))

[2] ซีรีส์จีนเรื่อง 万万没想到 เป็นซีรีส์ทุนต่ำขายขำ


[TP1] ใช้ว่าเว็บไป่ตู้คนไทยจะชินกว่ามั้ยคะ หรือจะเขียนเต็มๆ ไปเลย
บทที่ 81 ร่างแบบเสร็จแล้ว

วันจันทร์ที่ 8 เดือนกุมภาพันธ์
ใกล้จะหมดปีทางจันทรคติแล้ว เผยเชียนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของบรรยากาศ
‘งานเทศกาล’ จากทั่วทุกแห่ง
เผยเชียนจำช่วงปีใหม่ปี 2010 ไม่ค่อยได้ กระทั่งรายการชุนหว่าน[1] เขาก็ยัง
ลืมดู
โลกนี้แตกต่างจากโลกชาติก่อนของเขาเล็กน้อย รายการชุนหว่านของโลกนี้ก็
แตกต่างออกไปนิดหนึ่งเหมือนกัน
แน่นอนว่าถึงจะแตกต่างกันแค่ไหนก็ไม่สามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจน
หลังจากสัปดาห์สอบของมหาวิทยาลัยจบลง นักศึกษาทุกคนก็รีบกลับบ้าน
เกิดกันหมด ตอนนี้เป็นช่วงหน้าหนาว ใบไม้หลุดร่วงจากต้นไม้ลงบนทางเดินใน
มหาวิทยาลัย สร้างบรรยากาศอ้างว้างโดดเดี่ยว
เผยเชียนเดินเข้าไปในห้องทำงานแล้วนั่งลงตรงโต๊ะทำงาน
เขารับชาจากเลขาซินมาก่อนจะถอนหายใจ วันนี้ก็เป็นวัน แสนน่าเบื่อหน่าย
อีกวัน
ชายหนุ่มเรียกระบบขึ้นมาดู
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ: เผยเชียน>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1:1>
<เงินทุนระบบ: 1,780,000 (↑780,000)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 21,647.8>
“ฟู่…”
เผยเชียนเป่าชาให้เย็นลง สีหน้าของเขาดูราบเรียบ
ตามคาด!
ผ่านไปแค่สัปดาห์เดียว เงินทุนระบบที่เดิมมีอยู่หนึ่งล้านถ้วนก็กลายเป็นหนึ่ง
ล้านเจ็ดแสนแปดพันหยวน
หลังจากอัปเกรดเซิร์ฟเวอร์ของเกมฐานทัพกลางทะเล ยอดผู้เล่นก็เพิ่มขึ้น
ถล่มทลายอีกครั้ง ตัวเกมขึ้นแท่นเกมที่ได้คะแนนโหวตสูงที่สุดในแพลตฟอร์มเกม
ทางการ ขณะที่รายได้ของบริษัทก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ระหว่ า งที ่ เ ขาผลาญเงิ น อย่ า งว่ อ งไว รายได้ ก ็ เ พิ ่ ม เข้ า มาไม่ ห ยุ ด หย่ อ น
เหมือนกัน!
ถึงเขาจะจ่ายค่าเช่า เงินเดือน และรายจ่ายต่างๆ ไปมากมาย แต่ยอดเงินใน
บัญชีของบริษัทก็รังแต่จะเพิ่มขึ้น
โชคดีที่เผยเชียนวางแผนมาดีตอนสรุปบัญชีครั้งก่อน ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทาง
ขาดทุนได้ง่ายๆ แน่
ครั้งนี้แผนงานทั้งสามอย่างของเผยเชียนต้องใช้งบประมาณสูงมาก
หวงซื่อปั๋วได้งบไปหนึ่งล้านหยวน
หม่าหยางรับผิดชอบตั้งหน้าร้าน ตามการคาดการณ์อย่างเว่อร์ๆ ของเผย
เชียน เขาตั้งใจจะให้งบเริ่มต้นไปสองล้านหยวน
ส่วนการพัฒนาเกมนักออกแบบเกม เผยเชียนตั้งใจจะทุ่มเงินมากกว่าสองล้าน
หยวนในช่วงแรกของการพัฒนาและจะไม่ตั้งวงเงินค่าใช้จ่ายด้วย
ถ้าเงินยังไม่หมดก็จะทุ่มลงแต่ละโปรเจ็กต์เพิ่ม!
ส่วนรายจ่ายตอนนี้ รวมค่าเช่าพื้นที่สำนักงานกับเงินเดือนพนักงานอยู่ที่
ประมาณหนึ่งล้านหยวนต่อเดือน
ยอดทั้งหมดไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย เงินทุนระบบที่มีตอนนี้ไม่น่าจะเพียงพอ
ปัญหาคือ…รอบปิดบัญชีครั้งนี้คือหนึ่งไตรมาส
จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่ของเกมแม่ทัพผีกับเกมฐานทัพกลางทะเล
พวกเขาน่าจะทำเงินได้ง่ายๆ สามถึงสี่ล้านหยวนต่อเดือน!
ถ้าเผยเชียนอยากผลาญเงินทุนระบบให้เหลือน้อยกว่าหนึ่งล้านหยวนก่อนวัน
ปิดบัญชีรอบต่อไปเพื่อให้ขาดทุนอีกรอบ ก็อาจจะเป็นเรื่องยากหน่อย
เผยเชียนเริ่มคำนวณ ค่อนข้างน่าปวดหัวเลยทีเดียว
เขาผุดคิดว่าหรือจะแปลงยอดกำไรจากเงินทุนระบบแทนดี
แต่พอลองคำนวณอย่างละเอียดก็พบว่าวิธีนี้ไม่น่าจะใช้งานได้
เกมทั้งสองเกมของเขาทำกำไรได้มหาศาล ให้ทำยอดสักเกือบสิบล้านในสาม
เดือนก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
พอคำนวณจากอัตราแปลงกำไรที่ 100:1 ก็จะได้มาเกือบแสนหยวน ซึ่งดู ไม่
เลวเลย
ปัญหาคือ แล้วรายจ่ายล่ะ จะให้เขามาคอยประหยัดเงินก็ไม่ได้ใช่ไหม
ถึงเผยเชียนจะไม่ได้ทำอะไร บริษัทก็มีรายจ่ายเดือนละเกือบล้านอยู่แล้ว สาม
เดือนต่อมาก็จะเหลือกำไรประมาณห้าถึงหกล้าน พอคำนวณตามอัตราการแปลง
กำไรแล้วก็จะได้มาห้าถึงหกหมื่น
ถือเป็นจำนวนที่น้อยมาก ถ้าเขาทำให้บริษัทขาดทุนแค่เล็กน้อยก็ได้เงินเท่านี้
แล้วไม่ใช่หรือ
นอกจากนี้ถ้าเลือกทำกำไร เผยเชียนก็จะไม่กล้าใช้เงินทุนระบบ เมื่อเป็นแบบ
นั้น คุณภาพชีวิตและสภาพแวดล้อมการทำงานต้องตกต่ำลงแน่!
หลังจากคำนวณดู เผยเชียนก็ตระหนักว่าการแปลงกำไรและการแปลงส่วน
ขาดทุนมาเป็นความมั่นคั่งส่วนบุคคลนั้นยากง่ายไม่เท่ากัน และชายหนุ่มไม่ได้โง่!
ยังไงก็ต้องเลือกขาดทุนอยู่แล้ว!
ครั้งนี้เผยเชียนนึกอยากตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง ซึ่งก็คือขาดทุนให้ได้สักเจ็ดแสน
หยวนจากเงินทุนระบบหนึ่งล้านหยวน ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากอะไรใช่ไหมนะ
เขามีแผนป้องกันเตรียมไว้ตั้งสามแผน!
ระหว่างที่กำลังครุ่นคิด เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“เข้ามา”
ลู่หมิงเหลียงถือแบบร่างที่ปรินต์เรียบร้อยเปิดประตูเข้ามาในห้อง
“บอสเผย แบบร่างคร่าวๆ ของเกมนักออกแบบเกมเสร็จแล้วครับ รบกวน
ช่วยตรวจสอบด้วยครับ “
เผยเชียงตะลึงงันไป “เร็วมาก คุณทำงานล่วงเวลาเกินสามทุ่มรึเปล่า”
ลู่หมิงเหลียงรีบโบกมือปฏิเสธ “เปล่าครับ ช่วงนี้ผมรู้สึกหัวแล่นมาก ทำงานก็
ไว ผมไม่ได้ทำงานเกินเวลาที่บอสกำหนดเลยครับ!”
เผยเชียนเคร่งเรื่องการทำงานล่วงเวลาของพนักงานมาก
เขาหยิบแบบร่างมาดูอย่างละเอียด ก่อนจะถามลู่หมิงเหลียงเป็นพักๆ “ตรงนี้
คุณคิดเอาไว้ว่ายังไง”
ถ้ามีจุดไหนที่ไม่เข้าใจ เผยเชียนจะถามออกไปทันที
ลู่หมิงเหลียงตอบด้วยน้ำเสียงหวั่นเกรง เขาอธิบายความคิดของตัวเองให้เผย
เชียนฟังอย่างละเอียด ไม่มีตกหล่นตรงไหน
บอสเผยไม่เข้าใจเหรอ
ทำไมบอสถึงไม่เข้าใจ!
ลู่หมิงเหลียงมั่นใจว่าบอสเผยกำลังทดสอบเขาอยู่!
เขานึกถึงตอนที่หวงซื่อปั๋วยังอยู่
พอหวงซื่อปั๋วทำแบบร่างเกมฐานทัพกลางทะเลชุดแรกเสร็จก็ส่งให้บอสทันที
บอสเผยตรวจดูแล้วก็อนุมัติให้ผ่านอย่างรวดเร็ว
แต่คราวนี้บอสเผยกลับถามลงละเอียดยกใหญ่
หมายความว่าอย่างไรน่ะหรือ
ก็หมายความว่าแบบร่างของพี่หวงทำออกมาได้ดีมาก บอสเผยจึงวางใจ!
แบบร่างของฉันยังห่างชั้นจากมาตรฐานที่พี่หวงเคยทำไว้ บอสเผยกังวลว่าฉัน
จะไปไม่รอดเลยช่วยลงรายละเอียดและยิงคำถามเป็นชุด!
คิดได้แบบนั้น ลู่หมิงเหลียงก็รู้สึกละอายใจขึ้นมา
ฉันมันช่างไร้ประโยชน์จริงๆ บอสเผยต้องมาลำบากสอนงานให้!
เฮ้อ ต่อไปฉันต้องพยายามให้หนักขึ้น!

หลังจากอ่านแบบร่างตั้งแต่ต้นจนจบและถามคำถามชุดใหญ่ เผยเชียนก็รู้สึก
โล่งใจ
ที่เขายิงคำถามเป็นชุดก็เพราะแบบร่างมีรูปแบบที่ซับซ้อนมาก ต้องให้ลู่หมิง
เหลียงอธิบายให้ฟังหลายจุดกว่าจะเข้าใจ
อีกเหตุผลหนึ่งก็เพราะเผยเชียนต้องการมั่นใจว่าแบบร่างเป็นไปตามที่เขาคิด
เอาไว้ทุกอย่าง ไม่มีจุดไหนคลาดเคลื่อน!
เกมฐานทัพกลางทะเลเป็นบทเรียนที่แสนเจ็บปวดใจ ตอนนั้นเขาไม่รู้วิธีอ่าน
แบบร่างจึงพลาดรายละเอียดไปหลายอย่าง ตัวเกมก็เลยออกมาคลาดเคลื่ อนจาก
ที่วางแผนไว้ตอนแรก
แต่รอบนี้จะไม่เป็นแบบนั้นแล้ว!
รายละเอียดของเกมนักออกแบบเกมออกมาตรงตามที่เขาคิดไว้ตอนแรก
ฉากหลังของเกมคือบริษัทเกมแห่งหนึ่ง
มีโต๊ะคอมพิวเตอร์สำหรับทำงาน โปสเตอร์โปรโมตเกม ฟิกเกอร์ ต้นไม้ใบ
หญ้า และอุปกรณ์ของตกแต่งต่างๆ ในฉากหลังมีพนั กงานบริษัทเกมอยู่จำนวนไม่
น้อย
ผู้เล่นจะได้เล่นผ่านมุมมองบุคคลที่หนึ่งตั้งแต่เริ่มจนจบเกม
ทุกช่วงสำคัญในเกมจะมีห้องให้เลือก
ตัวอย่างเช่น ผู้เล่นต้องเลือกว่าจะสร้างเกมแนวไหน
ในห้องมีประตูให้เลือกหลายบาน แต่ละบานมีโปสเตอร์ที่แสดงถึงเกมแนวนั้น
แปะอยู่
ถ้าต้องการเลือกเกมแนวที่อยากทำ ผู้เล่นต้องเดินไปยังประตูที่เป็นตัวแทน
เกมนั้น
พอเดินผ่านระเบียงก็จะไปถึงห้องต่อไป
ห้องถัดมานี้ก็มีประตูให้เลือกอีกหลายบาน แต่ละบานคือรายละเอียดเฉพาะ
ของเกมที่จะสร้าง
ตัวอย่างเช่น ผู้เล่นเลือกสร้างเกมการ์ด
ในห้องก็มีให้เลือกว่าจะเป็นเกมที่ ‘ตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายสูง’ ‘ตั้งกำแพง
เพดานค่าใช้จ่ายต่ำ’ หรือแนวทางอื่นๆ ในการเก็บเงินผู้เล่น
จะโปรโมตเกมด้วยวิธี ‘จ้างคนดัง’ ‘โปรโมตผ่านช่องทางออฟไลน์’ ‘โปรโมต
ผ่านช่องทางออนไลน์’ หรือการโปรโมตรูปแบบอื่นๆ ก็ได้
เลือกตีมเกมได้ ไม่ว่าจะเป็น ‘อนิเมะ’ ‘สามก๊ก’ ‘ปกรณัม’ ‘คิดขึ้นเองใหม่’
หรือตีมอื่นๆ
เลื อ กสไตล์ ภ าพแบบ ‘ภาพสองมิ ติ ’ ‘ภาพแนวนอน’ ‘ภาพสามมิ ต ิ เ ต็ ม
รูปแบบ’ หรือแนวภาพแบบอื่นๆ
เลือกรูปแบบการดวลเป็นแบบ ‘Turn-Based’ ‘Real Time’ หรือรูปแบบ
อื่นๆ…
สรุปง่ายๆ คือผู้เล่นจะต้องเลือกตัวเลือกในแต่ละห้อง!
ฉากหลังของแต่ละห้องจะเปลี่ยนแปลงไปตามตัวเลือกที่เลือก
ตัวอย่างเช่นถ้าเลือกตีมเกม ‘อนิเมะ’ ‘สามก๊ก’ ‘ปกรณัม’ ‘คิดขึ้นเองใหม่’
หรือตีมอื่นๆ ฉากของห้องก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามนั้น
ตีม ‘อนิเมะ’ ก็จะมีตัวละครสไตล์อนิเมะโผล่มา
ตีม ‘สามก๊ก’ ก็จะมีตัวละครดั้งเดิมในยุคนั้น
ตีม ‘คิดขึ้นเองใหม่’ ก็จะเป็นภาพออริจินัลที่ทำขึ้นใหม่
ผู้เล่นจะได้เห็นภาพตัวเลือกที่เลือก อยากเลือกตัวเลือกไหนก็แค่เดินไปตรง
ประตูนั้น
พอเลือกตัวเลือกจนครบหมดทุกข้อก็จะไปถึงห้องสุดท้าย
ผู้เล่นอาจจะได้เห็นภาพนักข่าวจำนวนนับไม่ถ้วนมารอสัมภาษณ์ แสงแฟลช
จากกล้องถ่ายรูป และเสียงโห่เชียร์จากแฟนๆ
อาจจะได้เห็นออฟฟิศอันว่างเปล่า
หรือไม่ก็อาจจะเห็นจอโฆษณาขนาดยักษ์กลางเมืองและสวนสนุกหน้าตา
เหมือนรูปแบบเกมที่สร้างอยู่ไกลๆ
หรืออาจจะเห็นร้านขายเกมอันห่างไกลที่มีแผ่นเกมกองพะเนิน ไม่มีใครสนใจ
นี่คือเนื้อหาทั้งหมดของเกม
ผู้เล่นจะได้เลือกตัวเลือกต่างๆ เพื่อพัฒนาเกมของตัวเองขึ้นมา จากนั้นก็รอดู
ผลลัพธ์ตอนท้าย
ระหว่างเกมไม่มีระบบการเล่นอื่นๆ อีก ไม่มีปฏิสัมพันธ์ใดๆ ทำได้แค่เดินดู
เฉยๆ!
น่าเบื่อสุดๆ ใช่ไหมล่ะ!
นอกจากนี้ยังมีสิ่งน่าปวดหัวอยู่อีกอย่าง
นั่นก็คือเสียงพากย์ที่จะคอยตามด่าทอผู้เล่นไปตลอดทั้งเกม
……………………………

[1] รายการ 春节联欢晚会 เป็นรายการโชว์พิเศษในวันปีใหม่


บทที่ 82 ผู้ช่วยของหม่าหยาง

หลังจากผู้เล่นเข้าไปในห้อง พวกเขาจะได้ยินเสียงพากย์คอยให้คำแนะนำ
หลังจากเลือกตัวเลือกได้แล้วเดินผ่านไปตามระเบียง เสียงพากย์ก็จะเริ่มเย้ย
หยันตัวเลือกที่ผู้เล่นเลือก
ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้เล่นกำลังชั่งใจระหว่างตัวเลือก ‘ตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่าย
สูง’ กับ ‘ตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายต่ำ’ ก็จะได้ยินเสียงพากย์ดังขึ้นว่า

ดีมาก เมื่อกี้คุณเลือก ‘ขายของเพิ่มในเกม’ แทน ‘ขายตัวเกม’ เป็นช่องทาง
หากำไรหลัก
คุณเลือกตามคำแนะนำของฉัน
บอกเลยว่าตัดสินใจถูกแล้ว ขายของเพิ่มในเกมเป็นวิธีที่ดีในการหาเงิน ใคร
กันจะไม่เลือกข้อนี้
ทีนี้เจอปัญหาใหม่
ระหว่าง ‘ตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายสูง ’ กับ ‘ตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายต่ำ ’
จะเลือกอะไรดี
การตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายสูงคือการขายไอเทมในเกมแพงๆ เหมือน…ปืน
กิเลนเพลิงราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน
ส่วนการตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายต่ำคือการตั้งราคาไอเทมในเกมไว้ต่ำๆ เช่น
ไอเทมที่แพงที่สุดในเกมจะราคาประมาณสิบหยวน
ฉันขอแนะว่า… คุณควรเลือกตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายสูง
ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ แต่ถ้าเลือกข้อนี้จะได้กำไรมากกว่าใช่ไหมล่ะ
ถ้าคุณอยากตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายต่ำเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของเกม ทำไม
ไม่เลือก ‘ขายตัวเกม’ ไปตั้งแต่ต้นล่ะ
เพราะฉะนั้นคุณควรเลือก ‘ตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายสูง ’ นี่คือตัวเลือกที่
ถูกต้องที่สุด

หลังจากผู้เล่นเลือกตัวเลือกแล้วเดินเข้าประตูตามตัวเลือกไป เสียงพากย์ก็จะ
ดังขึ้นต่อตรงระเบียง แต่เสียงจะแตกต่างไปตามประตูที่เลือก

‘ตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายสูง’…
โอ้ๆๆ กะแล้วว่าคุณต้องเลือกข้อนี้
คุณเลือกเงินแทนความฝันใช่ไหม
ตอนเป็นผู้เล่น คุณเอาแต่ก่นด่าสาปแช่งพวกนักออกแบบเกมที่หิวกระหาย
เงินเกินควร แต่พอมาลองทำเกมเอง สิ่งเดียวที่คุณกลัวกลับกลายเป็นว่าราคาของ
ในเกมจะถูกเกินไป
ไม่เป็นไรๆ ไม่ต้องอธิบายอะไรหรอก ธรรมชาติมนุษย์ก็แบบนี้แหละ
ที่คุณทำก็เป็นเรื่องปกติในวงการเกมแหละ ไม่ต้องมองเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร
แต่คุณคิดบ้างหรือเปล่าว่าเกมอาจจะทำเงินไม่ได้ แถมยังได้กระแสด้านลบอีก
ฮ่าๆ ล้อเล่นน่า
พร้อมเป็นนักธุรกิจหน้าเลือดแล้วหรือยัง อย่าลืมเตรี ยมใจโดนด่าระหว่างนั่ง
นับเงินไว้ด้วยนะ

‘ตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายต่ำ’…
เลือกได้โง่มาก
ทำไมไม่ฟังฉัน
กะไว้แล้วว่าคุณต้องพยายามรักษาภาพลักษณ์ แต่รู้ไหมว่าต้องแลกกับกำไรที่
จะทำได้ไปมากเท่าไหร่
ยอดขาดทุนของคุณไม่คงที่ ยิ่งเกมดังแค่ไหน ก็เท่ากับว่าคุณขาดทุนมาก
เท่านั้น!
ลองคิดดูสิ คุณต้องเสียเงินหลายล้านเพราะการตัดสินใจโง่ๆ ครั้งเดียว…
เสียดายไหมล่ะ
เสียใจด้วยนะ แต่คุณเลือกไปแล้ว ถอยไม่ได้แล้วละ
ว่าไงนะ ไม่เสียดายเหรอ
โอเค เชิญหัวรั้นเชื่ออย่างนั้นต่อไปเถอะ ฉันมั่นใจว่าพอเห็นยอดเงินแล้ว คุณ
จะอยู่ไม่เป็นสุขแน่
ยังไงฉันก็ยังคิดว่าคุณเลือกได้โง่มากๆ
แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ครั้งต่อไปฉันจะแนะนำทางที่ถูกให้คุณเอง
ยังมีเวลาแก้ไขสถานการณ์อยู่ถ้าคุณเชื่อฟังที่ฉันบอก

ตามการออกแบบของเผยเชียน เสียงพากย์มีหน้าที่สองอย่าง
หน้าที่แรกคือเป็นเสียงพากย์สุดเข้มงวดที่ทำให้ผู้เล่นไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับ
เกม เสียงพากย์จะคอยย้ำเตือนอยู่ตลอดว่านี่เป็นแค่เกมเพื่อกันไม่ให้ผู้เล่นรู้สึก
เข้าถึงตัวเกม
อีกหน้าที่คือคอยยั่วยุกวนบาทาผู้เล่น!
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เยี่ยมไปเลย!
นอกจากนี้เสียงพากย์ยังคอยหลอกล่อให้ผู้เล่นเลือกทางที่ผิด
ถ้าเลือกตามที ่เสี ยงพากย์บอก ผู้เล่นจะได้พ บฉากจบที่ แ ย่ ที ่สุ ดของเกม
จากนั้นก็จะโดนเสียงพากย์เยาะเย้ยต่อ!
เสียงพากย์จะคอยเย้ยหยันว่าผู้เล่นเป็นบอสที่เชื่อคนง่าย โลเล ไม่มีจิตสำนึก
และใจรักในการสร้างเกม…
คำเย้ยหยันทั้งหมดแสนรุนแรงต่อจิตใจ!
มีใครเคยเห็นเกมที่ด่าผู้เล่นแบบนี้มากก่อนหรือเปล่า
เกมแบบนี้ต้องขาดทุนย่อยยับแน่!
เผยเชียนตรวจดูแบบร่างทั้งหมดอย่างละเอียดกับลู่หมิงเหลียง เขาคิดว่า
น่าจะกำจัดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นไปได้หมดแล้ว
“โอเค เราจะทำตามแบบร่างนี้
“ผมอยากให้ทุกอย่ างใช้ของที่คุณภาพดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นงานภาพ เพลง
เสียงเอฟเฟ็กต์ นักพากย์ ใช้งบกับทุกจุดให้เต็มที่ เข้าใจไหม” เผยเชียนสั่ง
ลู่หมิงเหลียงพยักหน้ารัวพร้อมตอบกลับ “ไม่ต้องห่วงครับบอสเผย ผมจะทำ
ตามที่บอสบอกทุกอย่าง!”
ลู่หมิงเหลียงเดินกลับออกไป
เผยเชียนยกภูเขาออกจากอกได้ เขานั่งจิบชาต่อ ไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดัง
ขึ้นอีก
“พี่เชียน คนที่ผมจะจ้างเพิ่งมาถึงออฟฟิศ พี่อยากเจอเขามั้ย ” หม่าหยางถาม
อย่างตื่นเต้น
“โอ้ โอเค เดี๋ยวฉันไปทักทาย!”
เผยเชียนลุกยืน เขาให้ความสำคัญกับงานของหม่าหยางมาก
ผู้ช่วยที่หม่าหยางหามาจะใช้ได้หรือเปล่า เขาต้องไปเช็กด้วยตัวเอง
ถ้าผู้ช่วยที่หามาฉลาดเกินไป เขาก็จะต้องหาข้ออ้างปฏิเสธไม่จ้างอีกฝ่าย!

จางหยวนยืนกังวลอยู่หน้าทางเข้าบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี
ทุกอย่างดูแปลกๆ ชอบกล
ปกติแล้วเขาเป็นนักร้องประจำที่บาร์และทำงานพาร์ตไทม์เป็นบาร์เทนเดอร์
แต่เพราะมีใจรักเรื่องการประกอบคอมพิวเตอร์ เขาจึงสิงอยู่ในห้องการ์ดจอเสีย
เป็นส่วนใหญ่จนได้ยศผู้จัดการห้องมา
สองวันก่อน จู่ๆ ก็มีคนบนเว็บไป่ตู้ทักมาชวนไปทำงานตำแหน่งผู้จัดการ
ความคิดแรกที่ผุดขึ้นในหัวคือไอ้คนนี้ต้องเป็นพวกมิจฉาชีพแน่!
บนโลกออนไลน์มีพวกเกรียนเยอะมาก ด้วยตำแหน่งผู้จัดการห้อง เขามีสิทธิ์
ในการบล็อกคนเหล่านั้นออกไปได้
ทำให้เป็นเรื่องปกติที่จะมีคนอยากกลั่นแกล้งเขาเป็นการแก้แค้น
เพราะอย่างนั้นจางหยวนเลยไม่ได้สนใจอะไรมาก
แต่วันต่อมา อีกฝ่ายก็ดูร้อนรนมากขึ้น บอกว่าเป็นงานเร่งด่วน อยากให้ไปหา
ถึงเมืองจิงโจว นอกจากนี้ยังบอกว่าจะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่า
เดินทาง ค่าที่พัก และค่าอาหาร มีเสริมด้วยว่าจะให้ค่าตอบแทนอีกสามพันหยวน
ถึงจางหยวนจะยังไม่ค่อยเชื่อใจคนคนนี้เท่าไหร่ แต่ค่าตอบแทนสามพันหยวน
ก็ช่างยั่วยวนเสียเหลือเกิน
เขานึกสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าคอมพิวเตอร์แบบไหนกันที่อีกฝ่ายอยากประกอบจน
ถึงกับยอมจ่ายค่าแรงให้สามพันหยวน
ด้วยเหตุนี้จางหยวนจึงยอมอนุมัติคำขอเป็นเพื่อน จากนั้นอีกฝ่ายก็ส่งอั่งเปา
ให้สองร้อยหยวนเพื่อแสดงความจริงใจ
จางหยวนตระหนักทันทีว่าเขาบังเอิญพบพวกมีเงินเข้าให้แล้ว
ถ้าเป็นมิจฉาชีพก็ไม่น่าจะส่งอั่งเปามาให้ก่อนแบบนี้
จากนั้นอีกฝ่ายก็ส่งที่อยู่ตึกสำนักงานแห่งหนึ่งในเมืองจิงโจวมาให้พร้อมค่า
เดินทางไปกลับ
นี่คือเหตุผลว่าทำไมวันนี้เขาจึงมาอยู่ที่เมืองจิงโจวได้
พอมาถึงก็มีคนที่เหมือนจะเป็นนักศึกษาออกมาต้อนรับ เขาชื่อหม่าหยาง
หม่าหยางดูอ่อนต่อโลก ไม่คิดอะไรมาก และดูจะหัวช้าอยู่หน่อยๆ
จางหยวนคิดว่าเจ้าเด็กนี่ไม่น่าจะเป็นคนจ่ายค่าตอบแทนสามพันหยวนให้เขา
แน่
แล้วก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ นักศึกษาที่ชื่อหม่าหยางเดินนำเขาเข้าบริษัทแล้ว
บอกเขาว่าเจ้าของบริษัทที่ชื่อบอสเผยอยากพบปะพูดคุยกับเขา
จางหยวนรู้สึกได้เปิดโลกมากขึ้นหลังจากเดินเข้ามาในบริษัท
มองปราดแค่รอบเดียวก็รู้ได้ว่าบริษัทนี้ร่ำรวย มีเงินทุนใช้ไม่ขัดสน!
พอมองไปตรงประตูก็เห็นป้ายบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี!
เขาเอาชื่อบริษัทไปค้นในเว็บเชียนตู้ดูก็พบว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทที่สร้างเกมแม่
ทัพผีกับเกมฐานทัพกลางทะเล
บริษัทเกม ดูท่าจะรวย ไม่น่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากลหรอก!
จางหยวนรู้สึกกังวลเล็กน้อย
ไม่นานผู้ช่วยสาวสวยหุ่นผอมเพรียวก็นำทางเขาไปยังห้องรับแขกและได้พบ
เจ้าของบริษัทที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
จางหยวนยิ่งกังวลเข้าไปใหญ่
หม่าหยางไม่ได้บอกจุดประสงค์ที่แท้จริงให้เขารู้ เพราะเผยเชียนเป็นคน
ตัดสินใจว่าจะจ้างหรือไม่จ้าง
ถ้าเผยเชียนคิดว่าชายคนนี้เหมาะกับงาน หม่าหยางก็จะไปคุยรายละเอียดกับ
จางหยวนต่อ
ด้วยเหตุนี้จางหยวนจึงรู้สึกสับสนไปหมด
เขาไม่รู้ว่าบอสใหญ่เห็นอะไรในตัวเขาและไม่รู้ว่าจะอยากจ้างให้ไปทำอะไร
จางหยวนเป็นแค่นักร้องประจำที่บาร์กับทำพาร์ตไทม์เป็นบาร์เทนเดอร์
อยากให้มาร้องเพลงให้ฟังเหรอ
หรือจะให้ชงเครื่องดื่มกับร้องเพลงไปพร้อมๆ กัน
อืม… ไม่น่าจะใช่สักอย่าง
หรือว่า…
บอสใหญ่จะอยากให้ช่วยประกอบคอมพิวเตอร์ให้
ใช่ น่าจะมีแค่เหตุผลนี้แหละ เพราะเขาก็คิดหาเหตุผลอื่นไม่ได้อีกแล้ว
บทที่ 83 เอามาห้าสิบเครื่องก่อน

“เข้ามาเลยครับ เชิญนั่งก่อน”
เผยเชียนเชิญจางหยวนนั่งตรงโซฟาตัวข้างๆ อย่างสุภาพ เลขาซินยกชามา
เสิร์ฟแล้วออกจากห้องไป
หม่าหยางเองก็ออกจากห้องรับแขกไปเช่นกัน ปล่อยให้เผยเชียนกับจางหยวน
คุยกันตามลำพัง
จางหยวนเหลือบดูสิ่งรอบกายด้วยหางตา
ทุกอย่างโคตรหรูเลย!
พอได้เห็นชุดของบอสกับการตกแต่งภายในบริษัท จางหยวนก็ตระหนักว่าเขา
ไม่สามารถประเมินราคาของทุกชิ้นที่เห็นได้เลย!
รู้สึกแค่ว่าทุกอย่างน่าจะแพงมากๆ!
เผยเชียนยิ้มอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเกร็งนะครับ ทำตัวตามสบาย ไม่ต้อง
เป็นทางการมากก็ได้ เชิญดื่มชาก่อนครับ”
จางหยวนพยายามเก็บอาการ แต่ท่านั่นอันอยู่ไ ม่สุขของตัวเองกลับทำลาย
ความพยายามนั้นไป
เผยเชียนครุ่นคิดว่าจะเปิดบทสนทนาอย่างไรดี
หม่าหยางเล่าให้เขาฟังว่าหนุ่มหน้าเหลี่ยมสุดกระฉับกระเฉงพูดติดสำเนียง
ทางตะวันออกเฉียงเหนือที่นั่งตรงข้ามคนนี้เชี่ยวชาญเรื่องอุปกรณ์ดิจิทัลและ
ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์มาก
นอกจากนั้นแล้วก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนคนนี้อีก
เผยเชียนต้องรู้ให้ได้ว่าอีกฝ่ายมีพรสวรรค์อื่นนอกเหนือจากความรู้เรื่องการ
ประกอบคอมพิวเตอร์ซ่อนอยู่หรือเปล่า สมมติว่าถ้าอีกฝ่ายดันเก่งเรื่องการตลาด
และรู้วิธีจัดการธุรกิจ เผยเชียนคงไม่มีวันรับเข้ามาทำงานแน่
ก่อนอื่นน่าจะต้องเริ่มด้วยเรื่องการประกอบคอมพิวเตอร์
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามออกไป “ถ้าจะประกอบคอมพ์ในฝันสัก
เครื่องให้สามารถเล่นเกมฟอร์มยักษ์ต่างๆ ในตลาดตอนนี้ได้ลื่นๆ คุณคิดว่าสเป็กที่
เหมาะสมจะต้องประมาณไหน ราคาเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสุด”
เขาหยุดคิดก่อนจะพูดเสริม “จุดประสงค์หลักคือให้เล่นเกมได้ลื่นๆ คุณจะ
เพิ่มลูกเล่นการตกแต่งภายนอกเสริมไปด้วยก็ได้ แต่อย่าให้เว่อร์เกินไปก็พอ”
คอมพิวเตอร์ประกอบปกติแล้วจะราคาประมาณหกถึงเจ็ดหมื่นหยวน
แต่ด้วยระบบที่ซับซ้อน คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานได้มากกว่าการเล่นเกมทั่วไป
อาจผิดกฎของระบบถ้าเอาไปใช้ในร้านอินเทอร์เน็ต
โซนทำงานที่เผยเชียนจัดให้พนักงานมีทั้งโต๊ะทำงานอย่างดี เก้าอี้เกมมิ่งสุด
แพง คอมพิวเตอร์สเป็กสูง หน้าจอคู่ที่มาพร้อมอัตราการรีเฟรชการแสดงผลสูง
รวมถึงคีย์บอร์ดกลไก… ทั้งชุดราคาประมาณสองหมื่นหยวน
ระบบไม่อนุญาตให้ใช้จ่ายสูงเกินกว่าที่กำหนดไว้ได้
จริงๆ แล้วเผยเชียนจะเอาคอมพิวเตอร์แบบเดียวกับที่ออฟฟิศใช้ไปลงที่ร้าน
อินเทอร์เน็ตก็ได้
แต่คอมพิวเตอร์สำหรับใช้ภายในออฟฟิศที่เลขาซินซื้อมาเป็นรุ่นสำหรับ
ทำงาน เหมาะกับการนำไปใช้ในสำนักงาน รูปลักษณ์ภายนอกของรุ่น นี้ค่อนข้าง
เรียบ ไม่เหมาะที่จะนำไปใช้งานในร้านอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังไม่ตรงกับ
รสนิยมของลูกค้าที่จะมาใช้บริการด้วย
ดังนั้นเผยเชียนจึงอยากฟังความคิดเห็นของจางหยวน

จางหยวนตระหนักแล้วว่าอีกฝ่ายอยากใจตนมาประกอบคอมพิวเตอร์ให้!
เหมือนว่าตำแหน่งผู้จัดการห้องการ์ดจอก็พอจะมีประโยชน์บ้าง
เขาคิดอยู่พักหนึ่ง ตั้งแต่ที่มองแวบแรกก็รู้แล้วว่าคนตรงหน้าไม่ติดขัดเรื่องเงิน
โน้ตบุ๊กเครื่องที่วางอยู่บนโต๊ะดูเหมือนจะเป็นโน้ตบุ๊กเกมมิ่งสเป็กสูงของ
Alienware ราคาในตลาดน่าจะมากกว่าหมื่นหยวน
หมายความว่า…
โน้ตบุ๊กเกมมิ่งเครื่องเดียวยังตอบสนองความต้องการของบอสไม่ได้ เขาอยาก
ได้คอมพิวเตอร์สเป็กสูงประกอบเองเพิ่มด้วย!
แต่บอสไม่รู้เรื่องการประกอบคอมพิวเตอร์มากนัก กลัวว่าจะโดนคนที่ร้าน
ขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลอกเอา
เลยมาเจอฉันในห้องการ์ดจอแล้วเสนอเงินสามพันหยวนให้มาช่วยประกอบ
คอมพ์ให้
ใช่ น่าจะเป็นแบบนี้แหละ
บอสน่าจะอยากให้ประกอบมาไว้เล่นเกมเป็นหลัก คงจะให้ความสำคัญเรื่อง
การใช้งานมากกว่าความหรูหรา
จางหยวนประมวลข้อมูลอย่างรวดเร็ว
คอมพ์ประกอบที่เหมาะที่สุดหรือ…ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เขาบอกได้ทันทีว่า
ต้องใช้อะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่
แต่ก็ยังติดอยู่เรื่องหนึ่ง
เขาไม่แน่ใจว่าจะต้องเอาอกเอาใจคนตรงหน้าหรือเปล่า
จางหยวนไม่คิดจะหลอกอีกฝ่าย
พอเตรียมรายการชิ้นส่วนให้ บอสคงจะหาคนมาตรวจอีกรอบ คงจะไม่ดี
สำหรับเขาเท่าไหร่ถ้าจะไปหลอกบอส
ดังนั้นเขาต้องประกอบคอมพิวเตอร์ระดับเทพโดยคุมราคาให้สมเหตุสมผล
เพื่อที่บอสจะได้ไม่รู้สึกเสียดายเงินสามพันหยวนที่จะให้เป็นค่าตอบแทน!
จางหยวนรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ถ้าจะรับค่าตอบแทนมาสามพันหยวนแลกกับ
แค่ประกอบคอมพิวเตอร์ให้
ก็อย่างที่มีคนเคยพูดไว้…ยิ่งมีเพื่อนเยอะ ก็ยิ่งมีตัวเลือกเยอะ
หลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน จางหยวนก็คิดว่าน่าจะแบ่งเงินหนึ่งพันหยวน
จากค่ า ตอบแทนสามพั น หยวนที ่ จ ะได้ ไ ปใช้ ซ ื ้ อ ชิ ้ น ส่ ว นสำหรั บ ประกอบ
คอมพิวเตอร์
ถือเป็นวิธีที่ดีในการสานสัมพันธ์กับบอส แถมยังได้เงินอีกสองพันหยวนเป็น
ค่าแรง
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เยี่ยมไปเลย!
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน จางหยวนก็เริ่มเสนอความเห็น
เขาเริ่มคุยเรื่องซีพียู การ์ดจอ ฮาร์ดแวร์แบบต่างๆ เคสคอมพิวเตอร์ รวมถึง
อุปกรณ์ตกแต่งเคส
ตัวอย่างเช่น ถ้าใส่พัดลมติดไฟเข้าไปก็น่าจะทำให้คอมพิวเตอร์ดูดียิ่งขึ้น ยิ่งใส่
ไฟ RGB เข้าไปก็ยิ่งทำให้ดูดีขึ้นไปอีก
การ์ดจอ แป้นพิมพ์ หูฟังเกมมิ่ง และของอื่นๆ ถือเป็นเรื่องกล้วยๆ สำหรับ
เขา!
ในที่สุดจางหยวนก็สรุปราคา
“ทั้งชุดน่าจะใช้เงินประมาณหนึ่งหมื่นห้าพันหยวนครับ”
ถึงจะบอกราคาไปหนึ่งหมื่นห้าพันหยวน แต่ราคาจริงๆ คือหนึ่งหมื่นหกพัน
หยวน ถ้าไปให้คนที่ร้านอิเล็กทรอนิกส์ประกอบคอมพ์ให้ ราคาก็น่าจะอยู่ที่ราวๆ
สองหมื่นหยวน
จางหยวนคิดเรื่องนี้แล้วตัดสินใจเอาเงินหนึ่งพันหยวนจากค่าแรงที่เผยเชียน
จะให้มาออกให้แทน เขาอยากตีสนิทเผยเชียนจึงสรุปราคาไปที่หนึ่งหมื่นห้าพัน
หยวน
เผยเชียนขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขาไม่ค่อยพอใจราคาที่อีกฝ่ายเสนอมา
ทำไมคอมพิวเตอร์ประกอบถึงถูกกกว่าคอมพิวเตอร์ชุดที่เขาใช้ในสำนักงาน
ล่ะ
จางหยวนใจตกไปอยู่ตาตุ่มเมื่อเห็นสีหน้าของบอสเผย
สีหน้าเขาเหมือนจะบอกว่า ‘แกกำลังดูถูกฉันอยู่เหรอ!’
บอสเผยเปิดฉากพูดตามที่เขาคิดไว้
“ผมขอให้คุณประกอบคอมพ์ในฝัน ที่คุณไล่ให้ผมฟังเมื่อกี้…จะว่าไงดี เอาให้
เหมาะกับคำว่า ‘ในฝัน’ มากกว่านี้อีกได้ไหม เข้าใจที่ผมจะสื่อไหมครับ”
จางหยวนลังเลใจอยู่สักพักก่อนจะพูดขึ้น “แต่บอสเผยครับ บอสบอกว่าเน้น
เรื่องการเล่นเกมเป็นหลัก ถ้าประกอบตามนี้ก็น่าจะเล่นเกมดังๆ ในตลาดตอนนี้ได้
หมดแน่นอน…”
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก
ที่พูดมา…ก็ถูกของมัน
ถ้าจะให้ปรับแต่งเพิ่มเติมอีกก็จะไม่ประหยัดงบ ประกอบคอมพ์ตามที่จาง
หยวนบอกมาก็ได้สเป็กเพียงพอเล่นเกมดังๆ ในตลาดแล้ว
จางหยวนเสนอคอมพิวเตอร์ประกอบคุณภาพดีที่สามารถเล่นเกมดังๆ ได้
อย่างลื่นไหลและยังได้ราคาที่สมเหตุสมผลด้วย
แต่เผยเชียนต้องการเพิ่มงบ
เขากระแอมกระไอสองทีก่อนจะพูดขึ้น “คุณพูดถูก แค่นี้ก็พอเล่นเกมส่วน
ใหญ่ในตลาดได้แล้ว แต่ลองคิดดูสิครับ ถ้าในอนาคตมีเกมใหม่ออกมาอีก แล้วต้อง
ใช้คอมพ์ที่สเป็กสูงขึ้นล่ะ
“คุณต้องมองให้ไกล ต้องมองว่าต่อไปในอนาคตจะเป็นยังไง เข้าใจใช่ไหม
ครับ
“งั้นเอาแบบนี้ไหม คุณเพิ่มเงินจากงบที่คุณบอกมาไปอีกหนึ่งหมื่นหยวน
โอเคไหมครับ”
“…” จางหยวนพยักหน้าแล้วตอบกลับ “อืม… โอเคครับ”
ยังไงก็เงินคุณอยู่ดี ผมไม่ออกเงินเพิ่มสักหยวน ทำไมจะไม่โอเคล่ะ
ขอแค่บอกมา จะให้ประกอบคอมพ์เครื่องละเก้าพันแปดร้อยล้านหยวนยังได้
เลย!
จางหยวนครุ่นคิดหาวิธียกระดับคอมพิวเตอร์ประกอบเครื่องนี้ไปอีกขั้นอย่าง
รวดเร็ว
ครั้งนี้เขาวางแผนประกอบคอมพิวเตอร์ราคาสองหมื่นห้าพันหยวน!
จางหยวนคิดว่าฟังก์ชันบางอย่างของคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่นี้ไม่ได้จำเป็น
อะไรเลย
คอมพิวเตอร์ที่เสนอสามารถเล่นทุกเกมในตลาดได้ลื่นปรื๊ด แม้จะปรับการตั้ง
ค่าคุณภาพกราฟฟิกไปที่ระดับสูงสุด อีกอย่างคอมพ์เครื่องนี้ก็น่าจะไม่ตกรุ่นไปอีก
สองปี!
นอกจากนี้วัสดุภายนอกก็ยังใช้ของคุณภาพดีที่สุด น่าจะช่วยเพิ่มความมันใน
การเล่นเกมไปได้อีกหลายเท่า!
แน่นอนถึงจางหยวนจะบอกเผยเชียนไปว่าใช้งบสองหมื่นห้าพันหยวน แต่
ราคาจริงๆ อยู่ที่สองหมื่นหกพันหยวน เขาอยากตีสนิทกับบอสเผยเลยตัดสินใจดึง
เงินพันหยวนจากค่าแรงสามพันหยวนที่จะได้มาโปะเพิ่ม
เผยเชียนพยักหน้าหลังจากได้ยินที่อีกฝ่ายบอก
ต้องแบบนี้สิ!
เนื่องจากเขาจะเอาไปตั้งในร้านอินเทอร์เน็ตก็เลยสามารถตั้งงบได้สูงโดยไม่
โดนระบบเตือน
“ดีเลยครับ” เผยเชียนพยักหน้า
จางหยวนดีใจมาก “บอสเผยชอบ ผมก็ดีใจครับ” เขาตอบ
จ่ายหนึ่งพันหยวนเพื่อตีสนิทบอสเผย คุ้มจริงๆ!
“งั้นเอามาสักห้าสิบเครื่องก่อนแล้วกันครับ ” เผยเชียนจิบชาแล้วพูดขึ้น
เรียบๆ
บทที่ 84 หาทำเลตั้งร้านอินเทอร์เน็ต!

“พรืด!”
จางหยวนเกือบหลุดพ่นชาออกจากปาก
ห้าสิบเครื่องเหรอ
ทำแบบนี้ไม่ถูกนะครับบอสเผย
คุณน่าจะบอกก่อนว่าอยากได้ห้าสิบเครื่อง!
ตอนแรกจะจ่ายเงินพันหยวนเพื่อตีสนิท ถ้าอยากได้ห้าสิบเครื่อง ฉันก็ต้อง
จ่ายตั้งห้าหมื่นหยวนสิ
ฉันเป็นแค่นักร้องในบาร์ จะไปหาเงินห้าหมื่นหยวนมาจากไหน…
จางหยวนอึ้งไป
“ไม่ได้นะครับบอสเผย บอสอยากได้กี่เครื่องเหรอครับ… คือผมรู้สึกไม่ค่อยดีที่
จะรับค่าแรงสามพันหยวนก็เลยว่าจะเอาเงินตรงนี้มาจ่ายให้พันหยวนเพื่อตีสนิท
บอส ถ้าบอสอยากได้ห้าสิบเครื่องก็คงคิดตามราคานี้ไม่ได้ครับ…”
เผยเชียนนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาคิดว่าอีกฝ่ายเป็นคนจริงใจเลยทีเดียว!
“ทำแบบนี้ไม่ถูกนะครับ คุณควรจะได้ค่าแรงสามพันหยวน ทำไมถึงจะคืนให้
ผมล่ะ ผมไม่เข้าใจคุณเลย
“แสดงว่าราคาจริงๆ คือสองหมื่นหกพันหยวนใช่ไหมครับ” เผยเชียนถาม
จางหยวนพยักหน้า รู้สึกละอายใจเล็กน้อย
เขาคิดจะปกปิดเรื่องที่อยากตีสนิทบอสเผยไว้ แต่สุดท้ายก็เผลอพูดออกมาจน
หมดเปลือก!
ดูสิว่าเป็นยังไง
แต่จางหยวนก็สงสัยอยู่เล็กน้อยว่าทำไมบอสเผยถึงต้องการคอมพิวเตอร์เยอะ
ขนาดนั้น
หรือเขาอยากจะเอาไปแทนคอมพิวเตอร์ในออฟฟิศกันนะ
ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น
เผยเชียนครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะพูดขึ้น “เอาอย่างนี้ไหมครับ คอมพ์แต่ละ
เครื่องราคาสองหมื่นหกพันหยวน ผมคงให้คุณประกอบทุกเครื่องให้ฟรีๆ ไม่ได้
หรอก นอกจากค่าแรงสามพันหยวนแล้ว ผมจะให้คุณอีกสองร้อยหยวนต่อคอมพ์
หนึ่งเครื่องที่คุณประกอบ!”
จางหยวนอยากจะพูดอะไรออกไปแต่ก็โดนเผยเชียนยกมือปรามเอาไว้ก่อน
“อย่าปฏิเสธเลยครับ ผมตัดสินใจแล้ว
“มาคุยกันเรื่องอื่นกันดีกว่า”
จางหยวนพยักหน้าก่อนจะพูดตอบ “ได้ครับ เอ่อ…บอสเผยครับ ผมขอถาม
เรื่องอื่นได้หรือเปล่าครับ ทำไมบอสต้องการคอมพ์เยอะขนาดนี้ หรือว่าบอส
จะ…”
“อ๋อ ผมกำลังจะเปิดร้านอิ นเทอร์เน็ตน่ะ หม่าหยางที่ไปรับคุณเป็นผู้จัดการ
คอยดูแลจัดการร้านนี้ ถ้าคุณมีคุณสมบัติตรงตามที่เราต้องการ คุณอยากจะ
ทำงานที่เมืองจิงโจวไหมครับ” เผยเชียนถาม
จางหยวนตาโต
เป็นแบบนี้นี่เอง บอสอยากจะลงทุนเปิดร้านอินเทอร์เน็ต!
บอสรวยขนาดนี้ สวัสดิการพนักงานน่าจะดีมากๆ แน่!
อีกอย่าง บอสเป็นคนชวนฉันมาทำงานเองหรือเปล่านะ
ถ้าบอสเป็นคนชวนฉันมาเอง ก็ไม่น่าจะชวนมาทำแค่ตำแหน่งพนักงานร้าน
อินเทอร์เน็ตธรรมดา อย่างน้อยก็น่าจะได้ทำตำแหน่งจัดการบริหาร!
ดูการใช้จ่ายเงินอย่างฟู่ฟ่าของเขาสิ…
สวัสดิการของพนักงานร้านอินเทอร์เน็ตต้องดีมากๆ แน่!
ตอนแรกจางหยวนใจเย็นลงได้แล้ว แต่พอได้ยินอย่างนั้นก็ตื่นเต้นขึ้นมาอีก
“ถ้าคุณสมบัติผมตรงตามที่บอสต้องการ ผมก็ยินดีร่วมงานด้วยครับ!”
เผยเชียนพยักหน้าแล้วถามออกไป “ถ้าอย่างนั้นเล่าประสบการณ์การทำงาน
ให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ”
จิ๊…!
จางหยวนสูดหายใจลึก เขาคิดว่าโอกาสครั้งนี้กำลังจะหลุดลอยไป
ที่บอสเผยอยากจ้างฉันน่าจะเป็นเพราะตำแหน่งผู้จัดการห้องการ์ดจอและ
ความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์กับฮาร์ดแวร์ของฉัน
ถ้าบอกไปว่าตอนนี้เป็นนักร้องที่บาร์กับทำพาร์ตไทม์เป็นบาร์เทนเดอร์…
บอสเผยจะยังอยากจ้างฉันไหมนะ
ทำยังไงดี โกหกดีไหม
ไม่ได้ บอสเผยเป็นคนรอบรู้และเชี่ยวชาญรอบด้าน เขาต้องมองออกแน่ว่าฉัน
โกหก
จางหยวนถกเถียงกับตัวเอง สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจบอกความจริงออกไป
“บอสเผยครับ ตอนนี้ผมทำงานเป็นนักร้องที่บาร์และทำพาร์ตไทม์เป็นบาร์
เทนเดอร์ แล้วก็เป็นผู้จัดการตัวเล็กๆ ของห้องการ์ดจอครับ…”
ยิ่งพูดจางหยวนก็ยิ่งรู้สึกอึดอัด
เขาคิดในใจว่าบอสเผยต้องผิดหวังแน่
แต่ชายหนุ่มไม่คาดคิดเลยว่าบอสเผยที่นั่งอยู่ตรงข้ามจะทำตาเป็นประกาย
ขึ้นมา!
“ดีเลย คุณมีพรสวรรค์หลายอย่าง!
“ถ้าอย่างนั้นผมก็ตั้งมินิบาร์ในร้านอินเทอร์เน็ตให้คุณชงเหล้าให้ได้ ผมจะให้
เงินเดือนคุณเป็นสองเท่า!
“ไม่สิ คุณเป็นนักร้องด้วยสามเท่าไปเลย!”
เผยเชียนดีใจมาก
ช่างเป็นคนที่เหมาะจริงๆ!
การชงเหล้ากับร้องเพลงไม่ได้เกี่ยวกับการบริหารร้านอินเทอร์เน็ตเลย
อีกอย่าง ถ้าเขาให้เงินเดือนสามเท่าจากการจ้างอีกฝ่ายให้มาเป็นทั้งผู้จัดการ
บาร์เทนเดอร์ และนักร้อง เขาก็จะผลาญเงินทุนระบบได้เพิ่มอีก!
ถ้าหมอนี่กับหม่าหยางทำงานด้วยกัน ทั้งสองต้องทำร้านนี้เจ๊งแน่!
จางหยวนคิดว่าตัวเองหูฝาด
บอสเผยโอเคมากๆ อย่างนั้นเหรอ
แถมยังจะให้เงินเดือนสามเท่าด้วย!
โอ้…
ถึงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูจากสีหน้าแสนสุขใจของบอสเผยก็บอกได้ว่า
เป็นเรื่องจริง
จางหยวนได้แต่นึกสงสัยว่าบอสเผยมองความสามารถคนออกจริงๆ เหรอ แค่
นี้ก็วัดความสามารถเขาได้แล้วเหรอ
เผยเชียนถามคำถามต่ออีกสองสามข้อ ยิ่งถามเขาก็ยิ่งรู้สึกพอใจ
“ดีเลย! รอเดี๋ยวนะครับ ขอผมไปหยิบสัญญาก่อน”
เผยเชียนเดินออกจากห้องรับแขกไปไม่นานก็กลับมาพร้อมเอกสารสัญญาใน
มือ
“หน้าที่หลักของคุณคือเป็นผู้จัดการร้านอินเทอร์เน็ต และทำพาร์ตไทม์เป็น
บาร์เทนเดอร์กับนักร้องไปด้วย ถือว่าคุณทำสามงาน เงินเดือนจะอยู่ที่หนึ่งหมื่นสี่
พันหยวนต่อเดือน”
“หม่าหยางจะเป็นคนคุมโดยตรงอีกที ถ้าเจอปัญหาอะไรก็ไปปรึกษาเขาได้
ถ้าเขาแก้ไม่ได้ให้มาหาผมคุณจะทำอะไรกับร้านอินเทอร์เน็ตนี้ก็ได้ตามใจชอบ ผม
จะคอยสนับสนุนคุณเอง
“โอเคครับ ถ้าไม่ติดปัญหาอะไรแล้วก็เซ็นตรงนี้ได้เลย”
จางหยวนงงไปหมด
หนึ่งหมื่นสี่พันหยวนเลยเหรอ
จางหยวนแทบไม่กล้าจะหยิบปากกาตรงหน้าขึ้นมา
ไม่อยากเชื่อว่าจะมีงานที่ได้เงินเดือนแบบนี้อยู่!
เมื่อเห็นจางหยวนลังเล เผยเชียนก็ถามคำถามเพิ่ม “เอ่อ…ติดสัญญากับที่อื่น
อยู่หรือเปล่าครับได้ลาออกจากงานเก่าแล้วหรือยัง”
จางหยวนส่ายหน้าก่อนจะตอบไป “งานที่บาร์ไม่ได้มีสัญญาอะไรครับ ผมไป
ช่วยงานที่นั่นเพราะเขาขาดคน”
“ดีเลยครับ งั้นก็เซ็นสัญญากันเลย
“หรืออยากได้เวลาคิดทบทวนก่อน ผมไม่ติดอะไรนะ คิดดูก่อนได้ตามสบาย
ถ้าตัดสินใจได้แล้วค่อยไปหาเลขาซิน”
เผยเชียนเปิดประตูเดินออกไป ทิ้งให้จางหยวนอยู่คนเดียวในห้องรับแขก
จางหยวนตรวจดูเอกสารสัญญาอย่างเร่งรีบ
เขาไม่เจอปัญหาอะไร สัญญานี้เป็นสัญญาจ้างงานทั่วไป!
ไม่ได้มีการเล่นแง่หรือเลี่ยงบาลี เงินเดือนระบุไว้ชัดเจนที่หนึ่งหมื่นสี่พัรหยวน!
จางหยวนมือสั่นระริกตอนที่เซ็นชื่อ
“ในที่สุดก็จะได้บอกลาความยากจน ฉันจะได้สร้างเนื้อสร้างตัวแล้ว!”

หลายนาทีต่อมา…
ในห้องรับแขก…
“พี่เชียน เป็นยังไงบ้าง ผมบอกแล้วว่าเขาเป็นคนระดับเทพ เขาดูท่าทางจะ
ไว้ใจได้ใช่ไหมล่ะ”
พอได้ยินว่าจางหยวนเซ็นสัญญากับทางบริษัทอย่างเป็นทางการแล้ว หม่าห
ยางก็ดีใจมาก เขารู้สึกว่าตัวเองช่างมองคนเก่งจริงๆ และเรื่องนี้ก็ทำให้เผยเชียน
ชื่นชมเขา
เผยเชียนตบบ่าหม่าหยางพร้อมเอ่ยชม “ดีมาก รอบนี้ทำได้ดีเยี่ยม!”
ตอนนั้นเองจางหยวนก็ตระหนักว่าเจ้าคนหน้าใหญ่ ที่นำทางเขาเข้ามาถึงจะดู
ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรแต่ก็ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป
เขาดูจะสนิทกับบอสเผยมาก!
ดีจริงๆ ที่พี่หม่ากับบอสเผยรับรู้ถึงตัวตนของเขา!
หม่าหยางเปิดบุ๊กโน้ตบุ๊กโชว์ข้อมูลบางอย่าง
“พี่เชียน ผมได้ทำเลที่ตั้งร้านอินเทอร์เน็ตแล้ว น่าจะเป็นแถวๆ นี้ ได้เป็นตึก
สองชั้น ตรงนี้คือรายละเอียด พี่ลองเช็กดูนะครับ”
เผยเชียนกับจางหยวนดูข้อมูลที่หม่าหยางเตรียมมา
ตึกที่ว่าไม่ได้อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยฮั่นตงและห่างจากย่านธุรกิจที่ดังที่สุดใน
เมืองจิงโจว
แถวนั้นถือเป็นย่านธุรกิจเล็กๆ มีห้างใกล้ๆ อยู่ห้างหนึ่ง แต่ก็ไม่ไ ด้มีคน
พลุกพล่านมากนัก แถมยังไม่ได้อยู่ติดห้างแต่อยู่ห่างออกไปอีกหนึ่งถนน
ทำเลที่ได้เกือบจะไม่ผ่าน “ข้อกำหนดของระบบที่ตั้งไว้”
ตึกที่หม่าหยางหามาเป็นตึกสองชั้นแยกเดี่ยวดูค่อนข้างใหม่ น่าจะเพิ่งสร้าง
เสร็จได้ปีหรือสองปี
มีกระจกติดผนังหลายบานมองเห็นด้านในที่ตกแต่งไว้อย่างดี ดูจากการ
ตกแต่งภายในร้านในรูปแล้วตึกนี้น่าจะเป็นภัตตาคาร แต่เหมือนธุรกิจกำลังจะเจ๊ง
เพราะบริหารจัดการแย่
หม่าหยางพูดขึ้น “พี่เชียน ผมตรวจดูที่นี่แล้ว บรรยากาศรอบๆ กับการ
ตกแต่งภายในค่อนข้างดีเลยทีเดียว ตึกก็ใหม่มากๆ”
“ตรงนี้เคยเป็นภัตตาคารระดับ สูงมาก่อน แต่ก็ต้องปิดเพราะเจ๊งเลยต้องเซ้ง
ต่อ ค่าเช่าถูกมาก! ผมว่าตรงนี้ดีมากๆ เลยแหละแถมยังเป็นตึกเดี่ยวอีก พี่คิดว่า
ไง”
เผยเชียนไม่ได้พูดอะไรออกไป
จางหยวนขมวดคิ้ว
ตึกนี่…ไม่เห็นจะเหมาะเลย!
ไอ้หน้าใหญ่นี่ไม่ได้รู้เลยเหรอว่าทำไมภัตตาคารถึงเจ๊ง
บทที่ 85 เมนูฝงั่ หนึ่งมีไวน์นอก อีกฝั่งหนึ่งมีอาหารง่ายๆ!

ถึงจางหยวนจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้ แต่เขาก็พอจะรู้ว่าอะไรเหมาะไม่
เหมาะ
ทำเลเป็นสิ่งสำคัญในการตั้งร้าน
พวกพื้นที่ที่เป็น ‘ทำเลทอง’ สามารถเรียกค่าเช่าได้หกถึงเจ็ดหยวนต่อตาราง
เมตรต่อวัน ทำไมน่ะเหรอ
ก็เพราะทำเลมันดียังไงล่ะ!
ถ้าทำเลดี สภาพแวดล้อมก็ดี คนก็พลุกพล่าน เปิดร้านอะไรก็มีกำไรแน่นอน
กลับกัน ถ้าทำเลไม่ดีก็จะไม่ค่อยมีคน ต่อให้ร้านดีแค่ไหนใครมันจะดั้นด้นมา
จนถึงที่กัน
ดังนั้นทำเลที่ดีที่สุดคือย่านธุรกิจดังๆ โดยเฉพาะพวกห้างใหญ่ๆ
ทำเลใกล้มหาวิทยาลัยก็ค่อนข้างดี
แต่ทำเลของหม่าหยางตั้งอยู่ในย่านธุรกิจธรรมดาทั่วไป แถมยังอยู่ห่างจาก
ห้างไปหนึ่งถนน รอบๆ เงียบเชียบ ไม่มีอะไรให้ดู คนก็ไม่มี!
ค่าเช่าสามจุดห้าหยวนต่อตารางเมตรต่อวันถือว่าไม่ได้แพงเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้
เรียกว่าคุ้ม!
ระหว่างที่กำลังคิด จางหยวนก็นึกลังเลว่าควรจะบอกความเห็นของตัวเอง
ออกไปดีไหม
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นเด็กใหม่ ถ้าพูดโพล่งออกไปคงจะดูไม่เหมาะสม
แต่ถ้าไม่ยอมพูดแล้วร้านเจ๊งขึ้นมา… ทีนี้จะโทษใครดี
จางหยวนคิดหนัก
“โอเค ก็ไม่เลวนะ เอาตรงนี้แหละ!” เผยเชียนตัดสินใจทันที
จางหยวน “…”
เขาไม่ต้องคิดอะไรต่ออีก
ในเมื่อบอสเผยตัดสินใจไปแล้ว ถ้าเขาไปติติงทำเลตรงนี้เข้าอาจเป็นการสร้าง
ปัญหาให้ตัวเองได้
จางหยวนได้แต่ปิดปากเงียบ
“มีผังของตึกนี้มั้ย” เผยเชียนถาม
“มีครับๆ!” หม่าหยางรีบคลิกเมาส์เปิดผังของตึก “นี่ครับ”
เผยเชียนมองดู ตึกนี้มีพื้นที่สามพันตารางเมตร ไม่ได้ถือว่าเล็กอะไร
จริงๆ แล้วขนาดเท่าๆ พื้นที่สำนักงานที่เช่าเปิดบริษัทเถิงต๋าเลยด้วยซ้ำ
แต่ตึกที่ว่าแบ่งออกเป็นสองชั้น กว้างชั้นละหนึ่งพันห้าร้อยตารางเมตร
“ผมจะอธิบายแผนคร่าวๆ ให้ฟังว่าจะทำอะไรกับที่ตรงนี้ พอทุกอย่างเสร็จ
เรียบร้อยแล้ว พวกคุณสองคนจะเป็นคนดูแล
“บริการอินเทอร์เน็ตจะเป็นแค่หนึ่งในบริการของร้านเรา ลงคอมพิวเตอร์แค่
ห้าสิบเครื่อง ถ้ามีลูกค้ามามากกว่าห้าสิบคนให้ต่อคิวรอ
“ราคาก็…ชั่วโมงละสิบหยวน แพงไปรึเปล่า
“ผมอยากได้บาร์ด้วย ขายทั้งเครื่องดื่มทั่วไปและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เอา
ตามที่บาร์ทั่วไปมี จางหยวน คุณชงเหล้าเป็นใช่ไหม ร้านไม่น่าจะมีลูกค้าเยอะ ถ้า
ไม่มีอะไรทำก็โชว์สกิลชงเหล้าให้พวกเขาแล้วกัน ไม่งั้นเดี๋ยวคุณจะเบื่อเอา
“เผื่อที่ข้างๆ บาร์ไว้รับแขกด้วย ตอนกลางวันอาจจะเป็นคาเฟ่ เปิดเพลงเบาๆ
ฟังสบายให้ลูกค้าเข้ามาดื่มชา เล่นบอร์ดเกม ตอนกลางคืนก็เปลี่ยนเป็นผับ จาง
หยวน คุณเป็นนักร้องนี่ ถ้าฟีลได้ก็เปิดเวทีโชว์สักสองสามเพลงเลยนะ
“แล้วก็เว้นที่ไว้วางหนังสือด้วย สั่งหนังสือออนไลน์ไม่ก็จากร้านหนังสือ ถ้า
ลูกค้าไม่มีอะไรทำระหว่างพักผ่อนหย่ อนใจตอนดื่มกาแฟ จะได้ไปหยิบหนังสือมา
อ่านให้ตัวเองฟีลกู๊ดขึ้นมา
“แล้วก็เสิร์ฟอาหารไปเลยสามมื้อ! แต่ก่อนตรงนี้ทำเป็นภัตตาคารนี่ น่าจะมี
เครื่องครัวอยู่ครบใช่มั้ย แต่ไม่ต้องใช้ของเก่าที่ติดมานะ ผมอยากได้ของใหม่หมด
“ไปค้นเน็ตหาเชฟมืออาชีพมาสักคน ไม่เอาเป็นอาหารฝรั่งเศส อาหารญี่ปุ่น
หรืออาหารอะไรหรูๆ นะ เอาเป็นอาหารง่ายๆ นี่แหละ! แบบไข่ผัดมะเขือเทศ หมู
เส้นผัดเปรี้ยวหวาน ผัดกะหล่ำอะไรงี้
“เมนูไม่ต้องมีเยอะมากนะ สักเดือนละสิบเมนูก็พอแล้ว ถ้าพวกคุณคิดว่าเมนู
เริ่มน่าเบื่อแล้วก็ค่อยเปลี่ยนเป็นเดือนๆ ไป
“ราคา…ตั้งให้แพงกว่าร้านอื่น เพราะเชฟของเราฝีมือดี! แต่ให้แพงเกินไปก็ไม่
ดี ตั้งราคาให้สูงกว่าสักสามสิบเปอร์เซ็นต์ก็พอ
“พื้นที่ชั้นสองเอาไว้ขายของ ขายพวกอุปกรณ์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เมาส์
แป้นพิมพ์ จอยเกม อะไรพวกนี้ เอาเป็นของแบรนด์นำเข้าด้วย! ผมไม่อยากได้
กำไรกับตรงนี้มาก ขอแค่คืนทุนได้ก็โอเคแล้ว
“ข้างๆ ทำเป็นโซนดูหนังขนาดย่อมแล้วกัน ทำเหมือนเป็นโรงหนังส่วนตัว มีที่
นั่งสักสิบที่น่าจะพอ
“เอ่อ คร่าวๆ ก็ประมาณนี้
“ถึงร้านเราจะเล็ก แต่ก็มีทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ ยอดเยี่ยมไปเลย!
หม่าหยางรีบจดตามยิกๆ
ส่วนจางหยวนตะลึงงันไปเมื่อได้ยินอย่างนั้น
ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหม
ที่ตรงนี้มีพื้นที่ใช้สอยแค่สามพันตารางเมตรเองนี่
ถ้าไม่บอกคงคิดว่าบอสเผยซื้อห้างทั้งห้างมาทำ!
ทุกอย่างจับฉ่ายไปหมด!
ที่สำคัญเลยคือจะเจาะลูกค้ากลุ่มไหนกัน
เป็นลูกค้าที่มาเล่นอินเทอร์เน็ต หรือกลุ่มที่มากินข้าว หรือกลุ่มที่มาดื่มกาแฟ
แถมสัดส่วนเงินลงทุนกับเงินที่น่าจะทำได้ก็ต่างกันสุดๆ!
โรงหนังส่วนตัวที่มีที่นั่งแค่สิบที่เหรอ แล้วลูกค้าคนอื่นล่ะ ให้ยืนดูงี้เหรอ
มีพื้นที่ตั้งสามพันตารางเมตร แต่ลงคอมพิวเตอร์แค่ห้าสิบเครื่องเนี่ยนะ
ไอเดียเปิดเป็นคาเฟ่ตอนกลางวันแล้วเปลี่ยนเป็นผับตอนกลางคืนก็ค่อนข้าง
แปลก…
แถมมีโซนหนังสือ ต้องซื้อหนังสือมาลงชุดใหญ่ด้วย
ถ้าลูกค้าตั้งใจมาเล่นอินเทอร์เน็ต ใครเขาจะไปอ่านหนังสือกัน
ถ้ามองแบบผิวเผินก็คงมองว่ายิ่งมีบริการเยอะก็ยิ่งดี แต่ความเป็นจริงไม่ใช่
แบบนั้น
อย่างที่มคี นว่าไว้ ยิ่งโลภมาก ลาภยิ่งหาย!
เด็กติดเน็ตสมัยนี้ไม่ค่อยมีเงิน น่าจะมาเพื่อเล่นเกมกันเฉยๆ คงไม่ได้อยากจะ
กินจะดื่มอะไร อย่างมากก็น่าจะเดินไปซื้อน้ำเปล่าสักขวดจากร้านค้าข้างนอก
พวกนี้ไม่มีใครซื้อเหล้าหรอก!
อีกอย่างถ้าตั้งราคาไว้ที่ชั่วโมงละสิบหยวน ก็น่าจะมีไม่กี่คนที่สู้ราคานี้ไหว
ทำเลร้านก็ไ ม่ค่อ ยมีคน ถึงจะมีคนแวะมาดื่มกาแฟก็ไ ม่น่าจะครอบคลุม
รายจ่ายต่อเดือนได้
ที่จะขายอาหารหากินได้ทั่วไปก็ช่างงี่เง่าเสียเหลือเกิน
ส่วนเรื่องผับ…
ผับทั่วไปต้องมีกิจกรรมหลายอย่าง! เช่น เลดีส์ไนต์ให้ผู้หญิงเข้าฟรี หรือไม่ก็มี
วงดนตรีสดเล่นเพลงเพราะๆ… พูดง่ายๆ คือต้องมีกลยุทธ์การตลาดถึงจะไปรอด!
ใช้ที่แค่ไม่กี่ร้อยตารางเมตรมาเปิดผับในที่ทำเลแย่แบบนี้จะไปทำอะไรดีๆ ได้
อีกอย่างถ้าลูกค้ามาดูเมนู ก็จะเห็นหน้าหนึ่งเป็นรายการไวน์นำเข้าราคาแพง
ส่วนอีกหน้าเป็นไข่ผัดมะเขือเทศกับหมูเส้นผัดเปรี้ยวหวาน
แม่งโคตรจะไม่เข้ากันเลย!
ยิ่งคิดจางหยวนก็รู้สึกว่าร้านนี้ไม่น่าจะไปรอด
เปิดได้สักเดือนสองเดือน… ก็น่าจะเจ๊ง!
เหมือนเผยเชียนจะรู้ว่าจางหยวนกำลังสับสน เขาจึงรีบพูดดักทำให้อีกฝ่ายพูด
อะไรไม่ออก
“ร้านนี้เป็นก้าวแรกของบริษัทเถิงต๋าในการการตั้งหน้าร้าน อย่าไปกังวลเรื่อง
การขาดทุนในระยะสั้น! ร้านนี้จะเป็นศูนย์กลางความบันเทิงที่ตอบโจทย์ทั้งด้าน
ความบันเทิง ไลฟ์สไตล์ทั่วไป เกม และแง่มุมอื่นๆ ในชีวิต การที่เราจะไม่ได้รับ
การยอมรับในระยะเวลาสั้นๆ ถือเป็นเรื่องปกติ เป้าหมายสำคัญคือค่อยๆ เปลี่ยน
มุมมองของคน!”
จางหยวนอ้าปากค้าง ไม่รู้จะพูดอะไร
โอเค ถ้าบอสไม่ได้กังวลเรื่องการขาดทุนระยะสั้น งั้นก็มาลงมือกันเลย
ยังไงฉันก็ได้เงินเดือนเดือนละเป็นหมื่นอยู่แล้ว…

หลังจากส่งหม่าหยางกับจางหยวนกลับ เผยเชียนก็รู้สึกโล่งใจ
เขาพอใจกับทำเลที่ตั้งร้านมาก
พอได้ยินว่าที่ตรงนี้เคยเปิดเป็นภัตตาคารก็ยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่!
ถ้ายัดอะไรจับฉ่ายเข้าไป ใส่สิ่งที่ดูเว่อร์วังแต่ไม่ได้มีประโยชน์ ผลาญเงินให้
เยอะกว่าที่จะหาได้ ไม่นาน ร้านต้องเจ๊งแน่ๆ!
ในเมื่อโปรเจ็กต์เกมและโปรเจ็กต์ตั้งหน้าร้านเป็นสองจุดสำคัญที่จะช่วยให้เขา
ขาดทุน ดังนั้นเผยเชียนจึงต้องจับตาดูทั้งสองโปรเจ็กต์นี้ไว้ให้ดี
ส่วนหวงซื่อปั๋ว ถ้าขาดทุนมาก็เสียไปแค่ล้านหยวน เผยเชียนไม่ได้สนใจตรงนี้
มากนัก
ถ้าเจ้านั่นไม่ทำเงินได้เยอะเกินไป เขาก็ไม่น่าจะต้องไปยุ่งอะไร
แค่ซีรีส์ตอนสั้น ถึงจะเป็นกระแส แต่จะทำเงินได้เท่าไหร่กันเชียว
ไม่เห็นมีอะไรให้ต้องกังวล!
บทที่ 86 จ้างตัวเองเหรอ

ตอนบ่าย หวงซื่อปั๋วเข้ามาที่บริษัท
ถึงเผยเชียนจะไม่ได้ถามถึงความคืบหน้า แต่หวงซื่อปั๋วก็รู้ว่าควรจะต้องทำ
อย่างไร
เขารู้ว่าตัวเองไม่สามารถใช้เงินหนึ่งล้านได้ตามใจชอบ ควรมาปรึกษาบอสเผย
ก่อนจะดีกว่า หวงซื่อปั๋วไม่อยากทำลายความเชื่อใจที่บอสเผยมีให้ตัวเอง!
หลังจากถามสารทุกข์สุขดิบทุกคนโดยเฉพาะเสี่ยวลู่เสร็จ หวงซื่อปั๋วก็พาเด็ก
หนุ่มนักศึกษาเข้าไปในห้องรับแขก
“บอสเผยครับ นี่ผู้กำกับที่ผมชวนมาทำงานด้วย เขาเป็นนักศึกษาปีสี่ เรียน
ด้านการกำกับที่มหาวิทยาลัยฮั่นตง ชื่อจูเสี่ยวเช่อครับ ” หวงซื่อปั๋วแนะนำอีกฝ่าย
อย่างอบอุ่น
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ บอสเผย!” จูเสี่ยวเช่อมีท่าทางกระตือรือร้นและมั่นใจใน
ตัวเองมาก ไม่ได้ดูตื่นเต้นหรือกังวลอะไรเลย
เผยเชียนดีใจมากพอได้ยินว่าอีกฝ่ายเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สี่
ถ้าผู้กำกับที่หามาเป็นพวกมืออาชีพ เขาคงจะต้องหาทางปฏิเสธ
นักศึกษาเนี่ยแหละดี ถึงจะเรียนการกำกับมา แต่ก็ยังห่างชั้นจากพวกมือ
อาชีพอยู่มาก!
การกำกับเป็นงานซับซ้อน
ผู้กำกับหลายคนต้องพิสูจน์ฝีมือจนอายุปาไปสามสิบสี่สิบกว่าจะดังได้และยัง
ถือว่าเป็นผู้กำกับ ‘เด็ก’ ในวงการ
แค่เด็กปีสี่…จะไปทำอะไรได้
“ผมได้ยินมาว่าพวกคุณจะถ่ายซีรีส์ตอนสั้นกัน คิดไว้รึยังว่าจะถ่ายแนวไหน”
เผยเชียนถามด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
หวงซื่อปั๋วพยักหน้า “คิดไว้แล้วครับ บอสเผย พวกผมอยากถ่ายบอส!”
เผยเชียนคิดว่าตัวเองหูฝาด
“ผมเหรอ
“ผมมีเรื่องราวอะไรให้ถ่ายด้วยเหรอ”
หวงซื่อปั๋วยิ้ม “นี่เป็นไอเดียของผมเอง ผมคิดว่าบอสเป็นคนที่จะกลายเป็น
ตำนานในอนาคต ทำให้เหมาะมากๆ ที่จะถ่าย!
“ผมก็ไม่รู้เรื่องเนื้อหาซีรีส์เหมือนกัน ผู้กำกับจูจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้ ผู้
กำกับจู ช่วยอธิบายไอเดียของคุณให้บอสเผยฟังด้วยครับ”
“ได้เลยครับ” ผู้กำกับจูรับช่วงต่อ “ผมได้ยินเรื่องราวของบอสจากพี่หวงแล้ว
คิดว่าบอสเป็นคนที่เหมาะมาก! ผมตั้งใจจะถ่ายชีวิตการทำงานของบอสครับ”
เผยเชียนงงเล็กน้อย “ระหว่างทำงาน…มีเรื่องอะไรน่าสนใจให้ถ่ายด้วยเหรอ”
เขาพยายามนึกว่างานของเขามีอะไรน่าสนใจหรือเปล่า
โดดงานนี่นับไหม
ถึงเกมจะใช้เวลาพัฒนาสองเดือนเต็ม แต่เขาก็แวะเข้าออฟฟิศแค่ไม่กี่ครั้ง
ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจให้ถ่ายเลย
ทำไมหวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อถึงอยากถ่ายฉันล่ะ
หรือว่า…จะพยายามประจบประแจง
อืม… น่าจะเป็นอย่างนั้นแหละ…
เผยเชียนไม่ได้ต่อต้านอะไร ใครๆ ก็ชอบให้คนมาประจบเอาใจทั้งนั้น
ขอแค่ได้ผลาญเงินก็พอ!
เนื้อหาที่จะถ่ายดูน่าเบื่อ ซึ่งก็หมายความว่าซีรีส์ตอนสั้นนี้ไม่น่าจะดังได้
โฆษณาไม่น่าเข้า เว็บไซต์ต่างๆ ก็ไม่น่าซื้อไปลง มีโอกาสเจ๊งสูงมาก
ฟังดูดีเลยทีเดียว
จูเสี่ยวเช่อรีบพูดขึ้น “บอสเผยไม่ต้องกังวลเรื่องเนื้อหานะครับ ศิลปะมาจาก
ชีวิตประจำวันของเรานี่แหละครับ แต่ก็มีอะไรมากกว่านั้นอีกอยู่ ตอนผมถ่ายทำ
จะใช้เทคนิคต่างๆ ให้เข้ากับอิมเมจของบอสนะครับ
“แน่นอนว่าจะต้องมีการวางเซ็ตติ้งหรือวางสไตล์เป็นพิเศษ ขึ้นอยู่กับแรง
บันดาลใจตอนถ่ายทำครับ”
จูเสี่ยวเช่อพ่นศัพท์เทคนิครัวๆ ฟังดูไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ก็เหมือนจะติดเป็นนิสัย
ตอนคุยเรื่องงาน
เผยเชียนขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขารู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาชอบกล เหมือนมีอะไรเกิดขึ้นซ้ำรอย
แต่ชายหนุ่มก็นึกไม่ออกว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น
เรื่องเนื้อหาซีรีส์ เขาไม่ได้มีความเห็นอะไรมากนัก ขอแค่ทำเงินไม่ได้ก็พอ
เผยเชียนกังวลเรื่องอื่นมากกว่า ถ้าถ่ายทำซีรีส์แบบนี้จะใช้เงินล้านหยวนหมด
เหรอ
ถ้าจะถ่ายชีวิตทำงานของเขาก็ต้องถ่ายที่ออฟฟิศ
ก็ประหยัด ไปได้ท ั้ ง ค่า เช่า ที่ ค่าอุปกรณ์ ป ระกอบฉาก ค่าเสื้อ ผ้า รวมถึ ง
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ถ้าต้นทุนต่ำแบบนี้ ถึงจะขาดทุนขึ้นมาก็เสียไม่มาก
ต้องเป็นปัญหาขึ้นมาแน่ถ้าใช้เงินหนึ่งล้านหยวนไม่หมด!
“ถ้าถ่ายทำตามนี้จะใช้เงินหนึ่งล้านหมดมั้ย พวกคุณไม่ต้องกังวลเรื่องงบมาก
นะ ถ้าไม่พอผมให้เพิ่มได้ ที่สำคัญเลยคือต้องถ่ายทำให้ออกมาดี เข้าใจมั้ย”
เผยเชียนทำเหมือนเป็นห่วงเรื่องซีรีส์
จูเสี่ยวเช่อยิ้มแล้วตอบออกไป “ไม่ต้องห่วงครับ บอสเผย! พี่หวงกับผมคุยกัน
แล้ว ตั้งใจไว้ว่าจะให้ค่าแรงบอสกับพนักงานคนอื่นๆ ที่มาช่วยถ่ายทำ ถึงบอสจะ
ไม่ได้ติดขัดเรื่องเงิน แต่พวกผมก็อยากให้เป็นการขอบคุณ
“ส่วนเรื่องค่าสถานที่ พวกผมก็จะจ่ายเหมือนกัน
“แล้วก็จะใช้เงินซื้ออุปกรณ์กับเป็นทุนใช้ตอนตัดต่อไฟนอล ส่วนเงินที่เหลือ
เราจะเอาไปลงตรงโฆษณา ผมคำนวณไว้แล้ว พองบที่ให้มาเลยครับ”
“ค่าแรงกับค่าสถานที่เหรอ”
จูเสี่ยวเช่อตอบ “ใช่ครับ บอสเผย เราตั้งใจจะให้ค่าแรงตามจำนวนต่อ แต่ละ
ตอนยาวหนึ่งนาที บอสเผยจะได้ค่าแรงตอนละหนึ่งพันหยวน ส่วนคนอื่นๆ จะได้
สองร้อยหยวนต่อตอน”
“บอสเป็นตัวละครหลัก ต้องออกหลายตอนเลย
“เราวางไว้ว่าจะมีสามซีซั่น ซีซั่นละสิบตอน กะไว้ว่าจะลงทุนน้อยๆ แต่ได้
ผลตอบแทนเร็ว รวมแล้วบอสจะได้ค่าแรงสามหมื่นหยวน
“ค่าสถานที่ห้าหมื่นหยวนจะพอมั้ยครับ
“ผมรู้ว่าจำนวนเงินมันไม่ได้มากอะไร บอสไม่ได้ต้องการเลย แต่ที่สำคัญคือ
พวกผมอยากให้เป็นการขอบคุณ พวกผมไม่อยากให้ทุกคนต้องมาเหนื่อยเพิ่ม
ฟรีๆ”
เผยเชียนตาลุกวาว
เดี๋ยวนะ
ให้ค่าแรงฉันเหรอ
ไม่น่าใช่นะ
เอาใหม่ๆ
ฉันให้เงินหวงซื่อปั๋วไปหนึ่งล้านให้เอาไปลงทุนอะไรก็ได้ตามใจชอบ
แล้วหวงซื่อปั๋วก็เอาเงินก้อนนี้มาจ้างฉันไปเป็นพระเอก บอกว่าอยากให้
ค่าตอบแทน…
เงินที่ฉันให้ไปเวียนกลับมาถึงตัวเอง ฉันกำลังจะใช้เงินตัวเองจ้างตัวเอง
ทำงาน…
บ้าไปแล้ว!
เอ๊ะ!
ไม่นะ เดี๋ยวก่อน
ฉันว่าไม่น่าใช่!
เผยเชียนนึกขึ้นได้ว่ามีอะไรแปลกๆ
เขาไม่ได้กำลังจะใช้เงินตัวเองจ้างตัวเอง
แต่กำลังจะแปลงเงินทุนระบบมาเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคลต่างหาก!
เงินหนึ่งล้านหยวนก้อนนี้ตอนแรกเป็นเงินทุนระบบ จากนั้นเขาก็ให้หวงซื่อปั๋ว
ไปในชื่อทุนในฝันเพื่อให้เอาไปลงทุนต่อ
ถ้าหวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อจ่ายค่าจ้างให้ฉันก็จะถือว่าเป็นความมั่งคั่งส่วน
บุคคล!
ระบบบอกไว้แค่ว่าในฐานะเจ้าของกิจการ ฉันไม่สามารถให้เงินเดือนตัวเอง
ด้วยเงินของบริษัทได้
แต่ระบบไม่ได้ห้ามคนอื่นให้!
อย่างตอนที่ครอบครัวเผยเชียนส่งเงินมาให้ ระบบก็ไม่ได้สนใจ!
ในเมื่อให้เงินหวงซื่อปั๋วไปก็เท่ากับว่าได้ใช้เงินทุนระบบไปแล้ว
อีกอย่างการที่เผยเชียนจะได้ค่าจ้างจากการเป็นนักแสดงซีรีส์ตอนสั้นก็เป็น
เรื่องที่สมเหตุสมผล เพราะเป็นการทำงานตามปกติ ระบบไม่ได้มีข้อห้ามตรงนี้!
เผยเชียนตื่นเต้นขึ้นมาทันที
ใครบอกว่าเขาไม่อยากได้ค่าแรง
ฉันอยากได้จะตายโว้ย!
เผยเชียนถามขึ้นในใจ “ระบบ ฉันรับเงินค่าจ้างได้มั้ย”
ข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอระบบ <เงินค่าจ้างใดๆ ที่เจ้าของระบบได้จาก
การทำงานถือเป็นรายได้โดยชอบธรรม ระบบจะไม่ริบเงินส่วนนี้ ห้ามแปลงเงินทุน
ระบบโดยมิชอบธรรม เงินค่าจ้างที่ได้จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานของตลาด>
คำตอบคือได้!
เผยเชียนโบกมือ “ไม่ต้องจ่ายค่าสถานที่หรอก เอาไปใช้จ่ายตรงอื่นดีกว่า
ส่วนเรื่องค่าแรง…ถ้าอยากให้ไว้เป็นการขอบคุณ ผมก็เต็มใจรับ”
“ถ้างั้น…ก็ดีเลยครับ” จูเสี่ยวเช่อดีใจมาก “ขอบคุณมากครับ บอสเผย!”
ค่าเช่าสถานที่ห้าหมื่นหยวนเหรอ
เผยเชียนไม่ได้สนใจเลยสักนิด
เพราะ…เงินก้อนนั้นไม่ได้เข้ากระเป๋าเขายังไงล่ะ!
ค่าเช่าตรงนี้จะเข้าบริษัท พอเข้าบัญชีปุ๊บก็จะกลายเป็นเงินทุนระบบ
เผยเชียนไม่สามารถเลี่ยงระบบไม่ให้รับเงินจำนวนนี้ได้เพราะถือเป็นรายได้
ของบริษัท
กลับกัน การที่เผยเชียนไปเป็นนักแสดงก็เท่ากับเป็นลูกจ้างของจูเสี่ยวเช่อ
เป็นข้อตกลงร่วมกับจูเสี่ยวเช่อและบริษัทสาขาของหวงซื่อปั๋ว
ถือเป็นรายได้แยกจากบริษัทเถิงต๋า ไม่ต้องนำเข้าบัญชีบริษัท อีกอย่างเหตุผล
ก็หนักแน่นเพียงพอ ระบบไม่น่าจะสนใจอะไร!
ก็เหมือนกับเผยเชียนตั้งใจไปเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารเพื่อหารายได้ ระบบ
ก็ไม่ได้สนใจเงินตรงนี้ มีข้อแม้คือห้ามสมรู้ร่วมคิดกับร้านอาหารเพื่อโกงระบบ
อะไรถือเป็นการโกงระบบบ้าง
ก็อย่างเช่น เผยเชียนวางแผนกับหม่าหยางไว้แล้วให้เงินหนึ่งร้านไปลงทุนเปิด
ร้านอาหาร จากนั้นหม่าหยางก็เอาเงินสามแสนมาจ้างเผยเชียนล้างจาน แบบนี้ถือ
ว่าเป็นการโกงระบบ
หนึ่ง เงินที่เผยเชียนได้รับจะต้องสอดคล้องกับงานที่ทำ
สอง เงินที่ได้มาจะต้องไม่เกี่ยวข้องกับเงินของทางบริษัทโดยตรง
แต่ถ้าได้ผ่านบริษัทสาขาและจากบุคคลที่สามก็จะไม่ติดปัญหาอะไร เพราะ
ถือว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้ องโดยตรงกับบัญชีบริษัท และงานที่ทำก็เหมาะสมกับ
ค่าแรงที่ได้รับ
ดังนั้นระบบจึงอนุญาตให้เผยเชียนรับเงินตรงส่วนนี้โดยถือว่าไม่ผิดกฎอะไร!
ก่อนหน้านี้ เผยเชียนต้องพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะแปลงเงินแค่สองหมื่น
หยวนเข้ากระเป๋า
แต่คราวนี้เขาจะได้เงินจากซีรีส์ตอนสั้นตอนละหนึ่งนาทีเหมาสามสิบตอนสาม
หมื่นหยวน โคตรจะสุดยอดไปเลย!
ทำไมก่อนหน้านี้ถึงคิดแผนแบบนี้ไม่ออกนะ
เผยเชียนแอบดีใจอยู่เงียบๆ แผนนี้ต้องสำเร็จแน่!
“โอเคครับ บอสเผย มาเซ็นสัญญากัน!”
จูเสี่ยวเช่อหยิบสัญญาออกมาจากกระเป๋านักเรียนก่อนจะยื่นให้เผยเชียน
“ถามให้มั่นใจก่อนอีกรอบ ซีรีส์ตอนสั้นที่พวกคุณจะถ่ายกันไม่ได้ชื่อเรื่อง
Unexpectedness ใช่มั้ย” เผยเชียนแกล้งถามออกไป
จูเสี่ยวเช่อรู้สึกงงนิดหน่อย “ไม่ครับ ไม่ใช่”
เผยเชียนโล่งอก
บทที่ 87 คำใบ้ของบอสเผย!

เผยเชี ยนสั ง เกตเห็ น ว่ า ในกระเป๋ า ของจู เ สี ่ ย วเช่ อ มี ส ั ญ ญาอยู ่ ห ลายฉบั บ


หลังจากนี้เขาน่าจะไปขอให้พนักงานในบริษัทที่อยากได้ค่าจ้างเซ็นสัญญาด้วย
เหมือนกัน
ชายหนุ่มอยากจะบอกอีกฝ่ายว่าอย่าทำอะไรให้มันยุ่งยากนักเลย
แต่พอนึกดูอีกทีก็รู้สึกว่าจูเสี่ยวเช่อทำถูกแล้วที่ทำทุกอย่างตามระเบียบแบบ
แผน
เนื่องจากได้เงินมาหนึ่งล้านหยวน หวงซื่อปั๋วจึงย่อมอยากให้รายจ่ายทุก
รายการมี เ อกสารชั ด เจน การให้ น ั ก แสดงทุ ก คนเซ็ น สั ญ ญาจึ ง เป็ น เรื ่ อ งที่
สมเหตุสมผล
เพียงแต่…
เผยเชียนไม่คิดว่าจูเสี่ยวเช่อจะเป็นคนเตรียมสัญญาทั้งหมด
บริษัทสาขาชื่อเฟยหวงสตูดิโอ
หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อเป็นคนช่วยกันคิดชื่อ เห็ นได้ชัดว่าส่วนหนึ่งมาจากแซ่
ของหวงซื่อปั๋วและอีกส่วนหนึ่งก็ตั้งให้สอดคล้องกับบริษัทเถิงต๋า[1]
เผยเชียนเกือบจะตบหน้าขาตัวเองพร้อมตะโกนออกไปว่า “แจ่มแมว!”
ชื่อนี่…
ช่างดีต่อใจจริงๆ!
เฟยหวงสตูดิโอเป็นบริษัทสาขาที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณเต็มจำนวน
จากบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี ตามปกติแล้วกำไรทั้งหมดของบริษัทสาขา
จะส่งให้บริษัทแม่ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการแบ่งกำไร ซึ่งเผย
เชียนก็ไม่ได้สนใจอะไร
เขาหวังให้บริษัทสาขาแห่งนี้ขาดทุนทุกเดือน!
เผยเชียนไล่ดูสัญญาแต่ละหน้าอย่างรวดเร็ว อย่างแรกที่เขาเห็นคือชื่อซีรีส์
ตอนสั้น!
‘ชีวิตประจำวันของบอสเผย’
ชายหนุ่มรู้สึกโล่งอก
เฮ้อ… ขอแค่ไม่ใช่เรื่อง Unexpectedness ก็ไม่น่าจะเป็นอะไร…
ในสัญญาไม่ได้เขียนอธิบายเนื้อหาบทซีรีส์ เพราะตอนนี้จูเซี่ยวเช่อกับหวงซื่อ
ปั๋วยังคิดไม่ออกว่าจะถ่ายอะไรอย่างไร เลยยังไม่ได้เขียนบท
สัญญาระบุเอาไว้ว่าผู้กำกับมีสิทธิ์ควบคุมและถือสิทธิ์ตัวงานโดยสมบูรณ์
นักแสดงจะต้องทำตามที่ผู้กำกับบอกโดยไม่มีข้อแม้
แน่นอนว่าผู้กำกับไม่สามารถขอให้ทำอะไรที่เกินกว่าเหตุได้
ค่าแรงกำหนดไว้ที่ตอนละหนึ่งพันหยวน มีสามซีซั่น ซีซั่นละสิบตอน
ส่วนสุดท้ายระบุเรื่องการบอกเลิกสัญญาไว้อย่างชัดเจน หากผู้กำกับหรือ
นักแสดงกระทำการใดผิดต่อสัญญาจะต้องจ่ายค่าปรับสามเท่าของค่าจ้าง
ค่าปรับการบอกเลิกสัญญาถือเป็นเรื่องปกติมากๆ นักแสดงทุกคนต้องทำตาม
เงื่อนไขนี้
เผยเชียนไม่ได้คิดอะไรมากเพราะไม่ได้ตั้งใจจะบอกเลิกสัญญา อีกทั้งซีรีส์ตอน
สั้นเรื่องนี้หนึ่งตอนยาวแค่หนึ่งนาที สามสิบตอนก็เป็นสามสิบนาที งานสบายแบบ
นี้ทำไมเขาจะต้องฉีกสัญญาด้วย
ชายหนุ่มเซ็นสัญญา
“โอเค พวกผมไม่รบกวนเวลางานของบอสเผยแล้วครับ เดี๋ยวขอตัวกลับไป
เขียนบทก่อน ถ้าพร้อมเปิดกล้องอย่างเป็นทางการแล้วจะกลับมารบกวนใหม่
ครับ!”
จูเสี่ยวเช่อและหวงซื่อปั๋วกลับออกจากห้องไป จากนั้นก็เอาสัญญาไปให้
พนักงานคนอื่นๆ เซ็นต่อ
หลายคนในบริ ษ ั ท อยากออกกล้ อ ง ถ้ า บทไหนหาคนไม่ ไ ด้ ก ็ ค ่ อ ยไปจ้ า ง
นักแสดงข้างนอกมา ทุกคนได้ค่าจ้างเท่ากัน และต้องเซ็นสัญญาฉบับเดียวกัน
เผยเชียนจิบชาอยู่ในห้องรับแขก เขารู้สึกว่าชีวิตของตัวเองกำลังไปได้สวย
ระบบดีกับฉันมาก!
ถ้ารับงานเสริมก็จะได้เงินมาทันทีสามหมื่นหยวน แถมระบบก็ไม่ได้ว่าอะไร!
แน่นอนว่าการกระทำของบอสเผยอาจถือเป็นการใช้ช่องโหว่ของระบบ แต่ถ้า
มองอีกมุมก็ถือได้ว่าระบบหยวนให้ชายหนุ่ม ไม่ได้เข้มงวดจนเกินไป!
ถึงเงินสามหมื่นหยวนจะไม่ได้ถือว่าเยอะอะไร แต่จุดสำคัญคือได้เร็ว!
สัปดาห์ที่แล้ว เผยเชียนต้องพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อแปลงเงิน ทุน
ระบบสองหมื่นหยวนมาเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคล เงินสามหมื่นหยวนก้อนนี้จึง
หอมหวานสำหรับเขายิ่งนัก!
อีกอย่างถ้าเป็นแบบนี้ เผยเชียนก็น่าจะใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้ได้อีก
สักวันหนึ่งเขาจะได้ค่าแรงก้อนโตไหมนะ
อืม… ต้องได้แน่ ขอแค่ไม่เกินจากมาตรฐานระบบ
เผยเชียนเริ่มฝันหวาน


หวงซื ่ อ ปั ๋ ว กั บ จู เ สี ่ ย วเช่ อ กลั บ ออกจากตึ ก เฉิ น ฮว่ า แกรนด์ ว ิ ว แล้ ว ไปยั ง
อพาร์ตเม้นต์ของหวงซื่อปั๋ว
ถึงจะได้เงินทุนมาหนึ่งล้านหยวน แต่หวงซื่อ ปั๋วก็อ ยากใช้จ่ายเงินอย่าง
รอบคอบ เขาไม่คิดจะทำตัวฟูฟ่าขนาดไปเช่าพื้นที่ทำออฟฟิศ
เขาตั้งใจจะตั้งคอมพิวเตอร์สองถึงสามตัวไว้ในห้องรับแขกของอพาร์ตเม้นต์
ตัวเองเพื่อตัดต่อและปล่อยคลิป หวงซื่อปั๋วสามารถจัดการเรื่องต่างๆ ในช่วง
เริ่มต้นได้
พอซีรีส์เริ่มมีกระแส มีคนดังเข้ามารีวิว ก็ถือว่ายังไม่สายที่ จะหาเช่าพื้นที่
สำนักงาน
“บอสเผยสนับสนุนเต็มที่แบบนี้ ผมว่าโปรเจ็กต์นี้ต้องไปได้สวยแน่ แต่…เรา
ต้องคิดเรื่องตัวบทแล้ว” จูเสี่ยวเช่อพูดขึ้น
หวงซื่อปั๋วพยักหน้า “อืม ต้องเริ่มได้แล้วละ”

ตอนแรกทั้งสองคนไม่ได้มีไอเดียอะไรเป็นพิเศษ แต่เพราะมีงบประมาณที่
จำกัด ไม่สามารถทำหนังฟอร์มใหญ่ได้ เลยตีวงลงมาทำได้แค่ซีรีส์ตอนสั้น
ซีรีส์ตอนสั้นมีตีมหลายแบบ แต่พวกเขาคิดตีมที่โดดเด่นไม่ออกเลย
ท้ายที่สุดหวงซื่อปั๋วก็ตบหัวตัวเองเมื่อคิดอะไรขึ้นได้
ถ่ายเรื่องบอสเผย!
เหมือนที่มีคนเคยพูดไว้ ศิลปะมาจากชีวิต แต่ก็มากกว่าชีวิต จะถ่ายซีรีส์ดีๆ ก็
ต้องถ่ายเรื่องชีวิตใครสักคน
หวงซื่อปั๋วจึงคิดถึงบอสเผย!
ความสำเร็จของบอสเผยถือเป็นตำนานอันแสนสวยงาม ถ้าเอามาทำเป็นซีรีส์
ตอนสั้น ถึงจะไม่ได้มีกระแสตอบรับมากมาย อย่างน้อยคนในเน็ตก็จะได้รู้ว่ามีคน
ยอดเยี่ยมแบบบอสเผยอยู่ในโลกด้วย!
หวงซื่อปั๋วเสนอไอเดียให้จูเสี่ยวเช่อฟัง อีกฝ่ายเห็นด้วยทันที
เขาคิดว่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจมาก!
ชีวิตประจำวันของโปรดิวเซอร์บริษัทเกมเป็นแบบไหน
ชีวิตของบอสใหญ่ที่หาเงินได้มากกว่าล้านหยวนต่อเดือนเป็นยังไง
แล้วถ้าบอสคนนี้ดูแลพนักงานเป็นอย่างดี เขาก็ถือเป็นบอสที่ดีสุดๆ ไปเลยสิ
คนดูต้องอยากดูแน่!
ดังนั้นทั้งสองคนเลยตัดสินใจตามติดชีวิตบอสเผย!
แต่พอเริ่มเขียนบท สองหนุ่มก็ได้แต่เกาหัวแกรกๆ
เหมือนที่จูเสี่ยวเช่อบอกไป การถ่ายซีรีส์ตอนสั้นต้องมีทักษะและเทคนิคที่
เหมาะสม
ถ้าถ่ายไปตรงๆ เรียบๆ ก็จะกลายเป็นเหมือนสารคดี ซึ่งน่าเบื่อมาก
อีกอย่างคนดูอาจจะมองว่าเป็นการขายตรงจากบริษัทเถิงต๋า ทีนี้ก็จะโดน
กระแสตีกลับ บริษัทเถิงต๋าอาจจะโดนวิพากษ์วิจารณ์เอาได้
จุดสำคัญที่สุดคือการหาจุดที่ทำให้ซีรีส์ตอนสั้นนี่ดูน่าสนใจ!
ทั้งสองคิ้วขมวดเป็นปม เค้นหัวคิดกันอย่างหนัก
สองชั่วโมงผ่านไป ทุกอย่างที่คิดมาล้วนใช้ไม่ได้สักอย่าง
ยังไม่ดีพอ!
ไม่ใช่นิยายโว้ย!
แบบนั้นไม่ได้
หวงซื่อปั๋วคิดหาไอเดียไม่หยุด
จู่ๆ เขาก็นึกอะไรขึ้นได้!
ก่อนหน้านี้ บอสเผยโทรมาถามเขาว่าซีรีส์ที่จะถ่ายชื่อ ‘XXXXX’ หรือเปล่า
เหมือนชื่อจะห้าพยางค์ แต่หวงซื่อปั๋วลืมไปแล้ว
ทำไมบอสเผยถึงตั้งใจโทรมาถามเรื่องนี้กันนะ
หรือว่า…บอสพยายามจะบอกใบ้อยู่
แต่บอสเผยตั้งใจจะบอกอะไรล่ะ…
หวงซื่อปั๋วเดินไปเดินมารอบห้องนั่งเล่น พยายามนึกชื่อเรื่องให้ออก
“นึกออกแล้ว บอสเผยถามถึงเรื่อง Unexpectedness!” หวงซื่อปั๋วตะโกน
ขึ้นด้วยความตื่นเต้น
จูเสี่ยวเช่อดูจะงงๆ “Unexpectedness เหรอครับ”
“ใช่ เรื่องนี้แหละที่บอสเผยพูดถึง!” หวงซื่อปั๋วย้ำ
จูเสี่ยวเช่อเกาคางที่ปราศจากเครา “แต่เราตั้งชื่อซีรีส์เราแล้วนะครับ”
“ไม่เป็นไร เราก็ใช้ชื่อปัจจุบันแหละ ประเด็นคือนี่แหละไอเดีย! เป็นไอเดีย ที่
สำคัญมาก!” หวงซื่อปั๋วเห็นแสงสว่างขึ้นมา!
จูเสี่ยวเช่อคิดอยู่พักหนึ่งก็นึกอะไรออก “เข้าใจแล้วครับ! ผมคิดอยู่ว่าตีมของ
เราเหมือนจะขาดอะไรไป ขาดความหักมุมนี่เอง!
“ถ้าถ่ายทำเรียบๆ ก็จะเป็นเหมือนสารคดี ไม่ได้ชูโรงจุดเด่นของซีรีส์ตอนสั้น
“ในหนึ่งนาทีนี้ ถ้าจะทำให้คนดูรู้สึกประทับใจได้ก็ต้องมีอะไรที่คาดไม่ถึง ต้อง
มีการหักมุม!
“ถ้าอย่างนั้นเราก็ได้ทิศทางคร่าวๆ แล้ว ต่อไปก็ต้องเกลาเพิ่ม! เราต้องเขียน
เรื่องย่อกับใส่เนื้อหาบางอย่างที่จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของบอสเผยพร้อมกับ
เตรียมใส่อะไรที่มันหักมุมเข้าไป!
“เราใส่มุกเสียดสีกับมุกตลกร้ายเข้าไปด้วยก็ได้!”
จู่ๆ ก็มีอะไรมาจุดประกายความคิดให้จูเสี่ยวเช่อ เขาคิดภาพรวมการถ่ายทำซี
รีส์ได้ทันที!
แถมยังเขียนบทของตอนแรกเสร็จแล้วด้วย!
…………………………
[1] มาจากเฟยหวงเถิงต๋า ที่หมายความว่า ‘รุ่งเรืองก้าวไกล’
บทที่ 88 เริ่มถ่าย ‘ชีวิตประจำวันของบอสเผย’ ได้!

บทซีรีส์ ‘ชีวิตประจำวันของบอสเผย’ ซีซั่น 1 ตอน 1


ผมมองนาฬิกา Rolex ไม่ได้จะดูเวลา แต่แค่จะโชว์ให้คุณรู้ว่าผมรวย
วันนี้จู่ๆ ก็อยากออกมาข้างนอก ผมอยากสร้างเกมใหม่ เกมที่จะดูดเงินผู้เล่น
ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ผมขาย Rolex ไปอย่างไม่คิดอะไร ได้เงินมาเป็นทุนสร้างเกมสองแสนหยวน
หนึ่งชั่วโมงต่อมา…ทุนลดลงเหลือสามในสี่หลังจากโยนงานไปให้เด็กฝึกงาน
คนใหม่ทำ
ผมดีใจเมื่อได้เห็นเว็ปไซต์ทรัพยากรกับรายการราคา ลูกน้องผมซื่อสัต ย์มาก
เพราะฉะนั้นทุนที่ให้เด็กฝึกงานไปเลยหดเหลือห้าหมื่นหยวน
พอได้ยินว่าจะต้องสร้างเกมด้วยเงินห้าหมื่นหยวน เขาก็ตกใจขึ้นมาทันที
จากนั ้ น ก็ เ ริ ่ ม รู ้ ส ึ ก คลางแคลงใจ ทุ ก ข์ ท รมาน… สุ ด ท้ า ยก็ ต ้ อ งยอมจำนนต่ อ
โชคชะตา ผมรู้สึกสนุกดีที่ได้เห็นสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ผมค่อนข้างดีใจ ในที่สุดตัวผมผู้ที่ได้ครอบครองอุตสาหกรรมเกมก็จะได้ลิ้มรส
ความพ่ายแพ้บ้างเสียที
แต่หารู้ไหมว่าเกมที่สร้างออกมาจะทำให้ชาวเกมเมอร์คลั่งไปกันหมด เจ้าเด็ก
ฝึกงานสร้างเกมขับรถยาวแปดชั่วโมงที่แสนน่าเบื่อออกมา แต่มันกลับดังขึ้น
เรื่อยๆ อย่างฉุดไม่อยู่ แค่สองสัปดาห์ยอดขายก็พุ่งทะลุไปถึงสองแสนหยวน
ผมพอใจมากก็เลยให้เจ้าเด็กฝึกงานหยุดงานแบบจ่ายค่าจ้างไปหนึ่งเดือน
เพื่อให้ไปสำรวจสิ่งต่างๆภายในประเทศ และหาแรงบันดาลใจไว้สร้างเกมต่อไปใน
อนาคต
เห็ น นั ก ออกแบบดาวรุ ่ ง ดวงใหม่ ถ ื อ กำเนิ ด ขึ ้ น ผมก็ ร ู ้ ส ึ ก สบายใจ ผมทำ
เป้าหมายเล็กๆ อันแสนจะไม่สำคัญสำเร็จอีกแล้ว
เฮ้อ ชีวิตของนักออกแบบเกมขั้นเทพนี่มันช่างเรียบง่าย…และน่าเบื่อจริงๆ

เหมือนมีลมมาปัดเป่าเมฆหมอกให้หายไปในพริบตาเดียว จูเสี่ยวเช่อเขียนบท
ของตอนแรกเสร็จเรียบร้อย แต่ก็ยังมีอะไรเหลือให้เขียนอีกมาก
“เป็นไงบ้างครับพี่หวง!”
หวงซื่อปั๋วอ่านจนจบ “ดี! มีทั้งเนื้อเรื่องทั้งการหักมุมแล้วก็มุกตลกร้าย บทนี้
ใช้ได้เลย!
“แถมยังอิงจากชีวิตจริงของบอสเผยด้วย!
“เราถ่ายที่ออฟฟิศได้เลย นักแสดงกับฉากก็มีพร้อมแล้ว อย่างมากก็น่าจะใช้
เวลาสักประมาณครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงเพื่อถ่ายทำหนึ่งตอน พอถ่า ยทำไปสัก
พักเราก็จะปล่อยได้หนึ่งตอนทุกๆ สองวัน ผมว่าพอยิ่งกว่าพอ”
“แต่ … ปั ญ หาคื อ …บอสเผยวางแผนไว้ แ ล้ ว ว่ า เกมจะต้ อ งออกมาประสบ
ความสำเร็จ ถ้าเราทำเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน มันจะเหมาะหรือเปล่า
“จะกระทบกับภาพลักษณ์ของบอสเผยมั้ย”
จูเสี่ยวเช่อส่ายหน้า “ไม่หรอกครับ ศิลปะมาจากชีวิตแต่ก็มากกว่าชีวิต!
ศิลปะคือสิ่งที่เราต้องปรับเสริมเพิ่มแต่ง ผมว่าบอสเผยไม่น่าจะว่าอะไรเพราะเป็น
คนใจดี”
หวงซื่อปั๋วคิด “อืม ก็จริง!”
ทั้งสองตื่นเต้นขึ้นมาทันที
จู เ สี ่ ย วเช่ อ เขี ย นบทตอนต่ อ ไปต่ อ มี ห ั น มาถามหวงซื ่ อ ปั ๋ ว เป็ น พั ก ๆ ถึ ง
รายละเอียดชีวิตการทำงานในแต่ละวันของบอสเผย รวมถึงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่
น่าสนใจระหว่างการพัฒนาเกม
หวงซื่อปั๋วเริ่มซื้ออุปกรณ์และหาโปรดิวเซอร์ คนตัดต่อ และอื่นๆ สำหรับ
ขั้นตอนหลังการถ่ายทำ
ถ้าคืบหน้าไปแบบนี้ ภายในสองถึงสามวันพวกเขาน่าจะได้เริ่มเปิดกล้องอย่าง
เป็นทางการ

วันที่ 9 กุมภาพันธ์…
อีกสามวันจะถึงเทศกาลตรุษจีน…
ช่วงนี้เผยเชียนค่อนข้างยุ่ง
แบบร่างสุดท้ายของเกมนักออกแบบเกมเสร็จสมบูรณ์แล้ว หลังช่วงตรุษจีนไป
น่าจะเริ่มขั้นตอนพัฒนาเกมได้อย่างเป็นทางการ
ด้านร้านอินเทอร์เน็ตก็เตรียมการในช่วงเริ่มแรกไปบ้างแล้ว หลังตรุษจีนไปจะ
เริ่มตกแต่งภายใน เขาวางแผนไว้ว่าจะปรับปรุงร้านให้เสร็จภายในหนึ่งเดือน พอ
เตรียมการทุกอย่างเสร็จก็จะได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ
ส่วนชื่อร้าน เผยเชียนคิดเอาไว้แล้ว
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู[1]!
เขาอยากให้พนักงานในร้านอู้งานกันทุกวันจะได้ขาดทุนเร็วๆ
ชื่อร้านนี้เต็มไปด้วยความหวังและความปรารถนาของเผยเชียน เหมือนชื่อ
ของบริษัทเถิงต๋า
เรื่องสุดท้ายที่เขาต้องจัดการคือ ถ่ายซีรีส์ตอนสั้นเรื่อง ‘ชีวิตประจำวันของ
บอสเผย’
ผู้กำกับจู่เสี่ยวเช่อแจ้งเผยเชียนว่าอยากจะถ่ายทำตอนแรกให้เสร็จภายใน
วันนี้ จะได้เอาไปปล่อยช่วงตรุษจีน
เพื่อแสดงความจริงใจ จู่เสี่ยวเช่อโอนเงินค่าแรงของทั้งสามซีซั่นเข้าบัญชีของ
เผยเชียนเรียบร้อยแล้ว ยอดสุทธิสามหมื่นหยวน!
ยอดความมั่งคั่งส่วนบุคคลของเผยเชียนที่เขาสามารถใช้จ่ายได้ตามใจชอบพุ่ง
ขึ้นไปอยู่ที่ห้าหมื่นหยวนแล้ว!
สำหรับบอสเผยที่ไม่เคยร่ำรวยมาก่อน ยอดเงินนี้ทำให้เขารู้สึกดีมากๆ!
ก็เหมือนคำพูดที่ว่า…เงินมา งานก็ไป
บอสเผยพร้อมออกหน้ากล้องแล้ว
ช่วงบ่าย จูเสี่ยวเช่อ หวงซื่อปั๋ว และลูกน้องอีกสองคนก็มาถึงตามเวลานัด
จากอุปกรณ์ที่เอามาทั้งหมด ของที่แพงที่สุดคือกล้อง DSLR ราคาห้าหมื่น
หยวน ส่วนขาตั้ง รีเฟล็กเตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆ รวมแล้วไม่ถึงหมื่นหยวน
เผยเชียนเริ่มไม่ค่อยพอใจเมื่อรู้ว่าหวงซื่อปั๋วใช้จ่ายเงินอย่างประหยัดสุดๆ
ไม่สมกับเป็นพนักงานของบริษัทเถิงต๋าเลย!
แต่จูเสี่ยวเช่อก็บอกมาว่าใช้เงินหนึ่งล้านหยวนหมดแน่นอน เผยเชียนเลยไม่มี
สิทธิ์ไปติติงอะไร
“บอสเผยครับ ตอนแรกไม่มีอะไรเลย เราอยากถ่ายแค่สองสามซีน บอสไม่
ต้องดูบทเลยก็ได้ครับเพราะไม่มีบทพูดเลย เราจะใส่เสียงบรรยายเข้าไปตอนตัด
ต่อ”
จู่เสี่ยวเช่อวางแผนทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว เขากลัวว่าถ้าให้บอสเผยมานั่งจำ
บทพูดอาจจะไปรบกวนเวลางานอันแสนสำคัญเอาได้ เลยตัดสินใจทำแบบนี้
“ซี น แรก ขอเป็ น บอสนอนบนโซฟาห้ อ งรั บ แขก แล้ ว เงยหน้ า ขึ ้ น มามอง
นาฬิกา Rolex นะครับ
“ซีนที่สอง ให้บอสหยิบนิตยสารเกม เปิดไปหน้าแนะนำเกม แล้วชี้นะครับ
“ซีนที่สาม ช่วยยิ้มน้อยๆ มองออกไปไกลๆ ทำเหมือนคิดอะไรอยู่นะครับ…”
เผยเชียนไม่ได้มีซีนต้องถ่ายเยอะเท่าไหร่ ถึงเขาจะได้เข้าฉากเยอะที่สุด แต่
ตอนหนึ่งยาวแค่หนึ่งนาที อย่างมากก็น่าจะได้ออกแค่ประมาณยี่สิบวินาที
เขาโพสท่าไปมาไม่กี่ครั้ง ไม่ถึงสิบนาทีก็ถ่ายเสร็จ
“ขอบคุณครับบอสเผย เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ! บอสกลับไปจัดการงานต่อได้
เลย”
จู่เสี่ยวเช่อเก็บอุปกรณ์แล้วแยกไปถ่ายคนอื่นในออฟฟิศต่อ
แค่นี้เองเหรอ
เผยเชียนตะลึงงันไป
ถ่ายอะไรไปกันแน่เนี่ย
ซีรีส์ตอนสั้นแบบนี้ ถ้าไม่มีเนื้อเรื่องชัดเจนจะไปรอดไหม
ซีรีส์เรื่องนี้ต้องเจ๊งยับแน่นอน!
เผยเชียนกลับไปที่ห้องทำงาน รู้สึกมั่นใจยิ่งกว่าเดิม จากการมองคนของเขา
หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อจะต้องไม่ทำให้เขาผิดหวังแน่นอน!
ถึงการผลาญเงินหนึ่งล้านหยวนจะช่วยอะไรเขาไม่ได้มาก แต่ก็ยัง พอช่วยได้
บ้าง เขาย่อมดีใจเป็นธรรมดา
เผยเชียนมองนาฬิกา Rolex ของตัวเองพลางคิดว่า สองคนนี้ช่างตระหนี่เสีย
จริง ขนาดของประกอบฉากยังใช้ของส่วนตัวของเขาเลย
เอ๊ะ
เดี๋ยวนะ…
เผยเชียนนึกอะไรขึ้นได้
นาฬิกา Rolex!
ทำไมฉันต้องมองนาฬิกา Rolex ในซีนแรกด้วย
บังเอิญหรือเปล่านะ ไม่สิ ยังมีอีก
ทำไมฉันต้องนอนบนโซฟาแล้วมองนาฬิกา Rolex ด้วย!
ทำไมฉันต้องเหม่อมองเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
ฉากพวกนี้…มันคุ้นๆ แปลกๆ
เผยเชียนรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี!
กำลังจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น!
เขารีบกระโดดลงจากเก้าอี้แล้วพุ่งออกจากห้องทำงาน
ระหว่างนั้นจูเสี่ยวเช่อกับหวงซื่อปั๋วเพิ่งจะปิดกอง กำลังเก็บขาตั้ง รีเฟล็ก
เตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆ เตรียมตัวกลับ
“ผู้กำกับจู! รอเดี๋ยว!” เผยเชียนรีบตะโกนเรียกจูเสี่ยวเช่อ
จูเสี่ยวเช่องง “ว่าไงครับบอสเผย มีอะไรเหรอครับ”
“คือ…ขอผมดูบทซีรีส์ได้มั้ยครับ” เผยเชียนทำเป็นถามออกไปอย่างไม่ได้ใส่ใจ
อะไรมาก
จูเสี่ยวเช่อพยักหน้าแล้วยื่นบทให้ “ได้เลย นี่ครับ”
เผยเชียนรับบทมา
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พวกผมขอตัวก่อนนะครับบอสเผย เดี๋ยวต้องเริ่มตัดต่อกัน
แล้ว”
ทุกคนบอกลาเผยเชียนแล้วกลับออกไป
เผยเชียนถือบทกลับห้องทำงาน บทสั้นมาก เขาอ่านแป๊บเดียวก็จบ หลังจาก
นั้นเขาก็ทรุดตัวลงกับเก้าอี้
“นี่…นี่มันอะไรกัน! แม่งยำรวมเรื่อง ‘ชีวิตอันแสนน่าเบื่อหน่ายของจูอี๋ตั้น[2]’
กับเรื่อง ‘Unexpectedness’ นี่หว่า!
“ตกลงกันแล้วว่าจะไม่ทำเหมือนเรื่อง Unexpectedness ไม่ใช่เหรอ”
……………………….
[1] 摸鱼 แปลว่าจับปลา, อู้งาน
[2] 朱一旦的枯燥生活 官方頻道 ซีรีส์ตลกร้ายตอนสั้นที่
ลงในช่อง YouTube
บทที่ 89 ทักษะการแสดงของบอสเผย

เผยเชียนเดินวนรอบห้องทำงานอย่างกระสับกระส่าย
แย่แล้ว แย่มากๆ!
เขารู้ว่า Unexpectedness กับ ชีวิตอันแสนน่าเบื่อหน่ายของจูอี๋ตั้นนั้นโด่ง
ดังในหมู่ซีรีส์ตอนสั้นมากๆ เพราะทั้งสองเรื่องประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม
ซีรีส์ตอนสั้นเรื่องชีวิตประจำวันของบอสเผยที่จูเสี่ยวเช่ออยากถ่ายทำนั้น
เหมือนเอาแก่นของสองเรื่องที่ว่ามารวมกัน ซึ่งน่าจะทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ ดังเป็นพลุ
แตกเหมือนกัน!
ทำไงดี
“ระบบ ฉันอยากถอนทุน! ฉันไม่อยากให้เงินลงทุนหนึ่งล้านหยวนกับหวงซื่อ
ปั๋วแล้ว ทำได้ไหม”
ข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอระบบ
<คุณต้องมีเหตุผลที่เหมาะสมในการถอนทุน มิเช่นนั้นจะถือว่าเป็นการละเมิด
กฎ>
เผยเชียน “…”
เหตุผลที่เหมาะสมเหรอ
ไม่มหี รอก!
จะบอกไปว่าขอถอนทุนเพราะคิดว่าโปรเจ็กต์นี้น่าจะทำกำไรได้มากก็ไม่ได้ใช่
ไหมล่ะ
มีเหตุผลอื่นอีกไหมนะ
บอกว่าหวงซื่อปั๋วรับเงินใต้โต๊ะหรือไม่ก็ไม่จริงจังกับการทำงานได้หรือเปล่า
หรือจะบอกว่าไม่ชอบจูเสี่ยวเช่อ เพราะเขาหน้าตาไม่ดีเกินไปดี
หรือบอกไปว่าไม่มีเหตุผล แค่ไม่อยากลงทุนแล้ว
ไม่เห็นจะเข้าท่าสักข้อ!
เผยเชียนครุ่นคิดอย่างหนัก
ไม่มีทางเลย!
ไม่มีทางไหนที่จะโน้มน้าวระบบได้เลย!
เขาต้องคิดหาวิธีอื่น
“ใจเย็นๆ ต้องมีทางอื่นอีกนอกจากขอถอนทุนสิ
“ฉันจะไม่ถ่ายซีรีส์เรื่องนี้แล้ว
“ฉันไม่เป็นพระเอกให้แล้ว! ไปหาคนอื่นมาแทนเลย!
“อย่างน้อยทำแบบนี้ก็น่าจะลดกำไรของโปรเจ็กต์นี้ลงได้…”
เผยเชียนตัดสินใจจะปฏิเสธงานนี้ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่างานยุ่งมาก!
จากนั้นจูเสี่ยวเช่อกับคนอื่นๆ ก็ต้องไปหานักแสดงใหม่มาแทน คงจะยากที่จะ
หานักแสดงที่เหมือนเขาได้ ถึงจะหาได้ การถ่ายทำก็ต้องล่าช้าจากการหาตัว
นักแสดง!
ถ้าเปลี่ยนตัวนักแสดง ซีรีส์อาจจะไม่เป็นกระแสก็ได้
เขาตัดสินใจจะปฏิเสธงาน
ถึงจะเสียดายค่าจ้างสามหมื่นหยวน แต่เขาจะทิ้งเงินก้อนโตจากการมามัว
เสียดายเงินเล็กน้อยไม่ได้!
ถ้าเขาทำให้บริษัทขาดทุนได้ในรอบสรุปบัญชีนี้ ก็น่าจะทำยอดขาดทุนได้สัก
หกถึงเจ็ดแสนหยวน ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็ไม่ต้องมาสนใจเงินแค่สามหมื่นหยวนนี่
ชายหนุ่มเตรียมจะโทรไปบอกปฏิเสธงานกับหวงซื่อปั๋ว
แต่พอหยิบโทรศัพท์ก็นึกปัญหาอีกอย่างขึ้นได้
เขาเซ็นสัญญาไปแล้ว!
ในสัญญาระบุว่าถ้าบอกเลิกสัญญาต้องเสียค่าชดเชยสามเท่า!
เท่ากับว่าต้องเสียเงินเก้าหมื่นหยวน!
เผยเชียนมือสั่นเมื่อตระหนักว่าเกิดเรื่องเข้าให้แล้ว
“ระบบ ฉันใช้เงินทุนระบบจ่ายค่าบอกเลิกสัญญาได้มั้ย”
<สัญญาเซ็นในนามของตัวเจ้าของเอง รายได้ทั้งหมดที่จะได้รับภายใต้สัญญา
จะเป็นของเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นเจ้าของจะต้องเป็นคนจ่ายค่าชดเชยที่
เกิดจากการบอกเลิกสัญญาเอง>
ตุ้บ!
เผยเชียนทำมือถือตกพื้น
เวรแล้ว!
ฉันจะไปหาเงินเก้าหมื่นหยวนจากไหนมาจ่ายค่าชดเชย!
จะถอนทุนก็ไม่ได้ จะไม่แสดงแล้วก็ไม่ได้อีก!
หัวใจของชายหนุ่มเย็นเยียบขึ้นมา
ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว! คงต้องแสดง!
หลังจากนั่งเหม่อลอยไปห้านาที เผยเชียนก็รวบรวมสติกลับมาได้อีกครั้ง
“ใจเย็นน่า คิดบวกเข้าไว้ ซีรีส์นี่ไม่น่าจะทำเงินได้มากมายอะไรหรอก…
“อืม ทำได้แค่คิดแบบนี้แหละ…”
เผยเชียนรู้สึกมึนไปหมด
เขาทำได้แค่ปลอบใจตัวเองว่าทุกอย่างคงไม่เลวร้ายอย่างที่คิด
ถึงซีรีส์ต้นทุนต่ำเรื่องนี้จะดังขึ้นมา มีโฆษณาติดต่อเข้ามาหลายเจ้า ยังไงก็ไม่
น่าจะได้กำไรคืนทุนหนึ่งล้านหยวนหรอก
ถึงจะคืนทุนได้ก็ไม่น่าจะได้กำไรมาก
พอถึงวันสรุปบัญชี ถ้าโปรเจ็กต์เกมและโปรเจ็กต์ ร้านอินเทอร์เน็ตขาดทุน
ขึ้นมา เผยเชียนก็ยังมีโอกาสที่จะทำยอดรวมติดลบได้!
“เฮ้อ โชคดีที่เตรียมตัวไว้พร้อม
“เกือบตกที่นั่งลำบากอีกแล้วมั้ยล่ะ
“เดี๋ยวต้องไปคุยกับลู่หมิงเหลียงอีกรอบ แล้วบอกให้ทำเสียงพากย์ให้กวน
ประสาทขึ้นอีก เจ้าเสียงนี่ต้องกวนบาทาผู้เล่นให้สุดๆ”


วันต่อมา…
จูเสี่ยวเช่อมาที่ออฟฟิศอีกครั้ง
“บอสเผยครับ! พวกเราตัดต่อตอนที่ถ่ายไปเมื่อวานใกล้เสร็จแล้ว กำลังคิดกัน
ว่าจะปล่อยวันไหนดี
“เรายังต้องคุยกับเว็บไซต์ที่จะอัปซีรีส์ล งว่าพอจะหาช่องทางโปรโมตดีๆ ให้
ได้มั้ย อาจจะต้องเสียเงินตรงนี้เพิ่ม เดี๋ยวพวกผมจะต่อรองเรื่องราคาดู
“แต่ไม่ต้องกังวลเลยนะครับ! ผมมีรุ่นพี่ทำงานอยู่เว็บฟานฉู น่าจะหาแหล่ง
โปรโมตดีๆ ได้!
“แล้วเราก็จะไม่ปล่อยให้กองของเราล่าช้า เดี๋ยวเราจะถ่ายตอนต่อไปวันนี้เลย
ผมว่าเราเร่งทำปีนี้เลยดีกว่า วันปีใหม่จะได้ปล่อยลงได้ ยิ่งลงเยอะก็ยิ่งเรียกความ
สนใจจากผู้ชมได้เยอะ
“บอสเผยครับ วันนี้ดูไม่ค่อยสบายเลย งานหนักเหรอครับ”
เผยเชียนหน้าดำคร่ำเครียด
แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะทำงานหนัก!
ช่วงนี้เขาไม่ค่อยได้เข้าเรียนเท่าไหร่ นอกจากนอนกลิ้ งบนโซฟาแล้วก็เอาขลุก
ตัวเล่นเกมท่องเว็บอยู่ในห้องทำงานทั้งวัน เขามีลูกน้องทำงานให้อยู่แล้ว ทำไม
ตัวเองจะต้องทำงานอะไรอีก
เขาแค่เหนื่อยใจ!
“ผมสบายดี เริ่มถ่ายกันเลยดีกว่า”
เผยเชียนพูดเสียงอิดโรย
เนื่องจากไม่สามารถถอนทุนหรือบอกเลิกสัญญาได้ เขาก็ต้องจำใจอดทนถ่ าย
ซีรีส์ทั้งสามสิบตอน
แน่นอนว่าเผยเชียนยังไม่ยอมแพ้
เขาพยายามหาทางเอาตัวรอดอย่างสุดกำลัง
ไม่นานพนักงานคนอื่นๆ ก็ยืนประจำที่ของตัวเอง
ตอนที่สองมีชื่อว่า ‘ให้โบนัสพนักงานดีเด่นรวดเดียวเก้าอย่าง’
เผยเชียนอ่านชื่อเสร็จก็ต้องตะลึงงันไป
บทรอบก่อนไม่ใช่เรื่องบังเอิญจริงๆ ด้วย!
ผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อไม่ใช่คนธรรมดา เด็กคนนี้มีพรสวรรค์มากๆ!
ถ้าไม่เกิดอะไรผิดพลาด เผยเชียนคิดว่าตอนนี้จะต้องทำยอดผู้ชมได้อย่างน้อย
หนึ่งล้านวิว
ถ้าทำได้ก็อยากจะเลิกถ่ายตอนนี้เลย!
เขาควรจะทำยังไงดี
เผยเชียนเริ่มตื่นตระหนก
ถ้าทำงานกันแบบนี้น่าจะลงซีรีส์ได้สองวันต่อหนึ่งตอน แล้วถ้าเป็นแบบนี้ไป
ตลอดทั้งสามซีซั่น เผยเชียนจะทำยังไงดี!
ไม่ได้ เขาต้องหาทางแก้สถานการณ์!
ทันใดนั้นเผยเชียนก็ตาลุกวาวหลังจากนึกอะไรดีๆ ขึ้นได้
ต้องทำตัวอู้งาน!
เขาต้องทำลายซีรีส์นี้ทิ้งด้วยการแสดงอันห่วยแตก!
พอคิดแผนการสุดบรรเจิดนี้ขึ้นได้ เผยเชียนก็อัญเชิญวิญญาณนักแสดงฝีมือ
ห่วยแตกมาประทับร่าง!
เขาพยายามนึกถึงทักษะการแสดงดีๆ
อย่างการเหลือบมอง เบ้ปาก ดึงหน้า หัวเราะ ร้องไห้ บิ๊วอารมณ์ตัวเอง และ
อื่นๆ…
อืม ฉันจะต้องแสดงซีซั่นนี้ให้ห่วยแตก!
ถึงจะสกัดไม่ให้ซีรีส์นี้ทำกำไรไม่ได้ แต่อย่างน้อยเผยเชียนก็ต้องพยายาม
ลดทอนกำไรของซีรีส์เรื่องนี้ลง
เผยเชียนพยายามผ่อนคลายใบหน้า เตรียมตัวทำให้ผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อผิดหวัง!
ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่นักแสดงมืออาชีพ ถึงจะแสดงห่วยแค่ไหน จูเสี่ยวเช่อก็ว่า
อะไรเขาไม่ได้
เริ่มปฏิบัติการได้!
จูเสี่ยวเช่อปรับกล้อง จากนั้นก็เริ่มถ่ายทำ
เขาแค่ต้องรอให้ถึงช่วงสำคัญที่สุดเพื่อจะได้แสดงฝีมือการแสดงที่ห่วยที่สุดใน
โลกให้ทุกคนได้ประจักษ์!
จูเสี่ยวเช่อไม่รู้ว่าเผยเชียนมีแผนการอะไร เขากำกับการแสดงต่อไปเรื่อยๆ
เหมือนที่ทำเมื่อวาน
“ดีครับ บอสเผย ขอหน้านิ่งๆ
“ขอหน้านิ่งๆ อีกรอบครับ
“ทำเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม เอาหน้านิ่งๆ นะครับ
“ทีนี้ทำเหมือนสงสัยนิดนึง แต่ยังหน้านิ่งอยู่
“ตบบ่าเขาแบบหน้านิ่งๆ
“ยื่นนามบัตรให้แบบหน้านิ่ง
“หน้านิ่ง…”
พวกเขาถ่ายทำไปอย่างนั้นตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่หยุดพัก
เผยเชียนรอคอยที่จะแสดงทักษะการแสดงไก่อ่อนของตัวเอง แต่เผลอแป๊บ
เดียวก็ถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว
หลังจากเก็บของเสร็จ จูเสี่ยวเช่อก็ยกนิ้วโป้งให้เผยเชียน
“บอสเผยแสดงดีมากๆ เลยครับ! แสดงได้เป็นตัวเองมาก!
“เทียบกับเมื่อวานแล้ว วันนี้แสดงดีขึ้นมากเลย!
“บอสตีหน้านิ่งเก่งมาก แต่ก็ยังแสดงอารมณ์ที่เอ่อล้นข้างในออกมาได้ ผม
ประทับใจจริงๆ!
“แสดงดียันรูขุมขน!
“ผมขอตัวก่อนนะครับบอสเผย พรุ่งนี้เราจะมาถ่ายทำอีกตอนก่อนตรุษจีน!
“บอสแสดงเก่งแบบนี้ ผมมั่นใจว่าซีรีส์ของเราต้องดังเป็นพลุแตกแน่!”
จูเสี่ยวเช่อกลับออกไปอย่างสุขใจ ก่อนจะกลับก็ไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณเผย
เชียน
ในห้องเหลือแค่เผยเชียนเพียงคนเดียว เขาได้แต่ยืนนิ่งเงียบ ครุ่นคิดว่าเกิด
อะไรขึ้น
ฉัน…ได้แสดงฝีมืออะไรออกไปด้วยเหรอ
ทำไมถึงรู้สึกเหมือน…มีอะไรแปลกๆ ชอบกล
บทที่ 90 คนนีแ้ หละเหมาะ!

เขาไม่สามารถกอบกู้สถานการณ์ให้ตัวเองได้
จูเสี่ยวเช่อกลับออกไปแล้ว ผ่านไปสักพักใหญ่ เผยเชียนถึงรู้ตัว เขาไม่ต้อง
แสดงอะไรเลยสักนิด!
ที่ต้องทำก็แค่โพสท่าสองสามท่าพร้อมทำหน้านิ่ง!
เรื่องราวจะเล่าผ่านเสียงพากย์ ซึ่งผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อจะเป็นคนดูแลเรื่อง
นั้นเอง
เผยเชียนเป็นพระเอกแค่ในนาม แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นแค่ตัวประกอบฉาก
ทักษะการแสดงที่ผู้กำกับต้องการจากเขามีแค่การทำหน้านิ่งเท่านั้น!
ชายหนุ่มเอามือก่ายหน้าผาก รู้สึกว่าสถานการณ์พลิกผันกลายเป็นเลวร้ายไป
แล้ว
จากเกราะป้องกันสามชั้นที่มี ดูเหมือนว่าเกราะชิ้นแรกจะพังไปแล้วครึ่งหนึ่ง
ตอนนี้ความหวังที่เหลืออยู่ของเขาคือเกมนักออกแบบเกมกับร้านอินเทอร์เน็ต
โมหยู!

ช่วงก่อนถึงตรุษจีน…
หม่าหยางส่งแผนปรับปรุงร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไปให้เผยเชียน
เผยเชียนตรวจดูแล้วพบว่าเป็นไปตามที่เขาบอกทุกประการ ไม่ได้ปรับแต่ง
ลดทอนอะไรเลย
มีทั้งโรงหนังส่วนตัวและทุกอย่างที่บอกไป!
ในสัญญาไม่ได้มีการต่อราคาด้วย ค่าเช่าต้องจ่ายทุกสามเดือน ค่ามัดจำกับค่า
เช่าสามเดือนแรกอยู่ที่หนึ่งล้านสองแสนหยวน ต้องจ่ายทั้งหมดรวดเดียว
ค่าปรับปรุงร้านอยู่ที่ประมาณสี่ถึงห้าแสนหยวน
เนื่องจากเป็นตึกเดี่ยว ผนังด้านนอกจึงเป็นกระจก ด้านในเดิมตกแต่งเป็น
ร้านอาหาร พวกเขาจึงไม่ต้องจัดการทุกอย่างตั้งแต่ต้นเพราะไม่ได้เป็นตึกเปล่าๆ
เพราะเหตุ น ี ้ ค ่ า ปรั บ ปรุ ง ร้ า นจึ ง ไม่ ไ ด้ แ พงมาก สิ ่ ง ที ่ ต้ อ งทำเป็ น หลั ก คื อ
ปรับเปลี่ยนการจัดวางโซนต่างๆ เช่น โซนร้านอินเทอร์เน็ตต้องแยกจากโซนคาเฟ่
และต้องตั้งบาร์เครื่องดื่ม
จากนั้นก็ต้องซื้ออุปกรณ์ต่างๆ
เขาต้องการคอมพิวเตอร์สเป็กสูงห้าสิบเครื่อง ราคาเครื่องละสองหมื่นหกพัน
หยวน รวมทั้งหมดเป็นหนึ่งล้านสามแสนหยวน
เมื่อรวมกับรายจ่ายอื่นๆ อย่างค่าโต๊ะ เก้าอี้ ป้ายร้าน โต๊ะรับรอง เงินเดือน
ผู้จัดการกับเชฟ ค่าใช้จ่ายรวมที่ต้องจ่ายไปก่อนในช่วงแรกอยู่ที่สามล้านกว่า
หยวน
เผยเชียนไม่ได้รู้สึกปวดใจอะไร กลับดีใจมากด้วยซ้ำ
ยิ่งจ่ายไปมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งขาดทุนไปมากเท่านั้น ถือว่าเป็นเรื่องดี!
อีกอย่างเงินจำนวนนี้ก็ไม่ได้ต้องจ่ายทีเดียวหมด
เขาต้องจ่ายค่าเช่ากับค่าปรับปรุงร้านก่อน พอผ่านช่วงตรุษจีนไปค่อยจ่ายค่า
ก่ อ สร้ า งปรั บ ปรุ ง พอปรั บ ปรุ ง ร้ า นเสร็ จ ก็ ค ่อ ยซื้ อ คอมพิว เตอร์ม าลงกั บ จ้าง
พนักงาน
ระหว่างนั้นเขาก็จะได้เงินจากทั้งสองเกมมาจ่ายรายจ่ายที่ไล่มาทั้งหมด
หม่าหยางเองก็ค่อนข้างไฟแรงเลยทีเดียว เขาอาสาไม่กลับบ้านช่วงตรุษจีน
เพราะอยากอยู่ดูแลการปรับปรุงร้าน
เผยเชียนต้องรีบห้ามเอาไว้
ถึงตัวเขาจะไม่ได้กลับบ้านช่วงตรุษจีน แต่พนักงานต้องได้กลับ!
เขารู้สึกโล่งใจเมื่อได้เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของหม่าหยาง
ยิ่งหม่าหยางจริงจังเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสสูงที่โปรเจ็กต์นี้จะล่ม!
น้องรักของเขาช่างไว้วางใจได้จริงๆ
อีกฝั่งหนึ่ง แบบร่างของเกมนักออกแบบเกมเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เผยเชียนตรวจดูแผนทั้งหมดอีกครั้ง โดยครั้งนี้เน้นเรื่องเสียงพากย์เป็นหลัก
เขายังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่หลังจากตรวจเสร็จ
ชายหนุ่มใช้เวลาสามชั่วโมงในการแก้บทพากย์ทั้งหมด เพื่อทำให้บทกวนบา
ทาขึ้นไปอีกสองระดับ
บทในบางช่วงทำให้เผยเชียนถึงกับรู้สึกแย่ที่เขียนไปอย่างนั้น
แรงมาก!
แรงสุดๆ!
แต่เพื่อให้บริ ษัทขาดทุน เผยเชียนต้องกัดฟันข่มความเป็นคนดีของตัวเอง
เอาไว้!
หลังจากแก้บทเสร็จ เขาก็ส่งกลับไปให้ลู่หมิงเหลียง ในที่สุดบทก็เสร็จสมบูรณ์
“ต่อไปก็ต้องไปหาทีมในเว็บรวมทรัพยากรมาทำงานภาพให้
“หานักวาดภาพออริจินัลและออกแบบคอนเซ็ปต์ที่แพงที่สุด เข้าใจไหม”
เผยเชียนสั่ง
ลู่หมิงเหลียงพยักหน้ารัว “โอเคครับ บอสเผย! ผมหาคนที่เหมาะสมที่สุดตาม
มาตรฐานของผม เหมือนที่พี่หวงเคยทำ!
“เอ่อ…แล้วผมต้องแจ้งบอสมั้ยครับถ้าหาคนได้แล้ว”
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกไป “ไม่ต้อง”
นักวาดที่แพงที่สุดไม่น่าจะมาตรฐานแย่ เผยเชียนเองก็ไม่ ค่อยรู้เรื่องงานภาพ
ออริจินัลเท่าไหร่ ให้ลู่หมิงเหลียงเลือกไปเลยคงไม่ต่างอะไรกับให้เขาช่วยดูอีกที
“โอเคครับ บอสเผย!”
ลู่หมิงเหลียงเดินออกจากห้องทำงานบอสเผยด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ
บอสเผยอยากได้งานภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด และบอสก็เชื่อใจให้ลูกน้อง
อย่างฉันเป็นคนจัดการ!
ช่างน่าตื้นตันใจจริงๆ!
ฉันต้องทำหน้าที่ที่บอสเผยมอบหมายมาให้ดีที่สุด!

งานภาพเป็นส่วนที่สำคัญมากๆ สำหรับเกม
สกินสวยๆ ช่วยสร้างความประทับใจให้ผู้เล่นได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มรายได้ให้
เกมด้วย
เผยเชียนรู้เรื่องนีด้ ี
แล้วทำไมเขาถึงยอมเสียเงินลงทุนกับงานภาพเยอะล่ะ ไม่ใช่ว่าจะขัดกับ
เป้าหมายที่อยากทำให้เกมขาดทุนเหรอ
ปัญหาคือเขาไม่มีทางเลือกอื่น!
ระบบตั้งข้อจำกัดไว้ เขาไม่สามารถซื้อสินค้าหรือบริการคุณภาพไม่ดีได้ ทุก
อย่างต้องคุ้มกับเงินที่เสียไป
เผยเชียนสามารถซื้อของที่ร าคาแพงกว่าราคาทั่วไปได้ แต่ก็ต้องมีเหตุผล
รองรับที่เหมาะสม
ถ้าซื้องานภาพคุณภาพธรรมดา เขาก็ไม่มีทางผลาญเงินทุนระบบได้หมด!
คำนวณดูสักเล็กน้อยก็จะรู้ว่าตอนสร้างเกมจะหมดเงินกับจุดไหนมากที่สุด
จุดที่ใช้เงินเยอะที่สุดก็คืองานภาพ!
ถ้าเผยเชียนไม่ยอมเอาเงินมาถมตรงจุ ดนี้ให้มากที่สุด ก็ไม่มีจุดไหนให้เอาเงิน
ไปลงอีก
ดังนั้นเผยเชียนจึงตัดสินใจว่าถ้าอยากผลาญเงินกับการสร้างเกมนี้เพิ่ม เขาก็
ต้องเพิ่มทุนในการทำงานภาพ
นอกจากนี้การซื้องานภาพถูกๆ ก็ไม่ได้การันตีว่างานจะออกมาห่วยเสมอไป
บทเรียนจากเกมแม่ทัพผียังคงตราตรึงอยู่ในใจ
ถ้าวางงบจ้างนักวาดไว้ต่ำๆ แล้วบังเอิญไปเจอมืออาชีพแสร้งทำเป็นหน้าใหม่
ในวงการแบบหร่วนกวางเจี่ยนขึ้นมาจะทำยังไง ก็ฉิบหายกันเลยน่ะสิ
นอกจากจะเสียเงินได้น้อยลงแล้ว คุณภาพของเกมยังดีขึ้นอีก
ทีนี้ตัวเขาก็จะได้ขาดทุนจริงๆ แทน!
ดังนั้นหลังจากพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดูแล้ว ชายหนุ่มจึงตัดสินใจได้ว่าลงทุนกับ
งานภาพเยอะๆ น่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด
อีกอย่างเกมนักออกแบบเกมก็ไม่น่าจะได้ใช้งานภาพอะไรมากมาย
เพื่อให้เกมขาดทุน ต้องอาศัยระบบการเล่นที่ไม่มีอะไรกับเสียงพากย์เป็นหลัก
เผยเชียนคิดว่าแค่ระบบการเล่นกับเสียงพากย์กวนบาทาผู้เล่น เกมก็น่าจะ
สมบูรณ์ตามที่ตั้งใจไว้แล้ว
มีงานภาพดีๆ ก็ไม่น่าจะสร้างปัญหาอะไร

พอกลับถึงโต๊ะ ลู่หมิงเหลียงก็เข้าเว็บไซต์รวมทรัพยากรแล้วเริ่มหานักวาด
ภาพออริจินัลและออกแบบคอนเซ็ปต์ที่เหมาะจะจ้าง
ลู่หมิงเหลียงคิดว่าการออกแบบคอนเซ็ปต์เป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับเกมนัก
ออกแบบเกม
นั่นเพราะเนื้อหาส่วนใหญ่ของเกมค่อนข้างนามธรรม
อย่างตอนที่ผู้เล่นต้องเลือกระหว่าง ‘ตั้งเพดานค่าใช้จ่ายไว้สูง’ กับ ‘ตั้งเพดาน
ค่าใช้จ่ายไว้ต่ำ’ ซึ่งแต่ละตัวเลือกจะนำไปสู่ห้องที่แตกต่างกัน และในห้องก็จะมี
องค์ประกอบต่างๆ ที่แตกต่างกันไปด้วย
ประโยคที่ว่า ‘ตั้งเพดานค่าใช้จ่ายไว้สูง ’ นั้นค่อนข้างนามธรรม การจะทำให้
เป็นรูปธรรมต้องใช้ภาพเงาคนโยนเงินว่อน ภาพพื้นเต็มไปด้วยเงินในเกม ภาพ
ความแตกต่างระหว่างผู้เล่นสายเปย์กับผู้เล่นสายฟรี และอื่นๆ
นั ก วาดต้ อ งใช้ ค วามคิ ด สร้ า งสรรค์ ใ นการแปลงความเป็ น นามธรรมให้
กลายเป็นรูปธรรม
พูดง่ายๆ คือ ถ้าใช้มาตรฐานดาษดื่นทั่วไป ก็คงแค่ได้งานมา
แต่ถ้าทำให้ดีมากๆ เกมก็จะออกมาเป็นงานศิลปะ
ดังนั้นลู่หมิงเหลียงจึงไม่อยากทำส่วนนี้ออกมาชุ่ยๆ เขาตั้งใจหานันักวาดภาพ
ออริจินัลและออกแบบคอนเซ็ปต์ที่ราคาแพงที่สุดและมีชื่อเสียงมากที่สุดบนเว็ป
ไซต์รวมทรัพยากร พยายามหาคนที่ประวัติการทำงานโดดเด่นที่สุด
“คนนี้…ไม่ค่อยเข้าท่า งานดี แต่สไตล์ดูเรียบไปหน่อย
“อันนี้…ดูสมจริงไป คนที่ไม่เหมาะมากๆ
“หืม อันนี้ดูไม่เลวเลย”
ลู่หมิงเหลียงไล่ดูนักวาดอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นก็เลื่อนไปเจอประวัติงานของ
นักวาดคนหนึ่ง
“ทำไม…ดูคุ้นๆ จัง”
ลู่หมิงเหลียงรู้สึกว่าสไตล์งานภาพของคนนี้ดูคุ้นตา งานก่อนๆ ดูดีมาก สไตล์
ภาพก็ล้ำเลิศสุดๆ ทุกอย่างน่าประทับใจมากๆ
เขาเลื่อนไปดูประวัติ
นักวาดคนนี้ชื่อหร่วนกวางเจี่ยน เคยทำภาพให้เกมแม่ทัพผีมาก่อน!
เขาถูกจัดให้เป็นนักวาดภาพออริจินัลและออกแบบคอนเซ็ปต์ราคาแพงที่สุด
ในเว็บไซต์รวมทรัพยากร!
“คนนี้เป็นคนที่ทำภาพให้เกมแม่ทัพผีนี่!
“เคยทำงานกับบอสเผยมาก่อน เชี่ยวชาญงานหลายสไตล์ คนนี้แหละเหมาะ
ที่สุด!”
บทที่ 91 รับงานอย่างไม่ลังเล

ลู่หมิงเหลียงตาลุกวาว คนนี้แหละคือนักวาดภาพออริจินัลและออกแบบคอน
เซ็ปต์ที่ดีที่สุดที่เขาตามหาอยู่
เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา บอสเผยกำชับมาว่าถ้าจำเป็นก็ต้องจ่าย
ประเด็นคือ…นักวาดคนนี้เป็นคนที่บอสเผยให้การยอมรับ!
เขาเป็นคนออกแบบงานภาพให้เกมแม่ทัพผี!
บอสเผยต้องดีใจมากแน่ถ้าเขาเลือกนักวาดคนนี้!
คิดได้ตามนี้ ลู่หมิงเหลียงก็รีบส่งข้อความไปหาหร่วนกวางเจี่ยนทันที

ตอนนั้นหร่วนกวางเจี่ยนเพิ่งจะกลับถึงบ้าน
เพื่อนนักศึกษาชั้นปีสี่คนอื่นๆ ของเขาต้องเริ่มหางานกันอย่างหนักหน่วง
ในช่วงตรุษจีน
แต่หร่วนกวางเจี่ยนต่างออกไป ตอนนี้บอสใหญ่หลายคนต้องการตัวเขา!
งานภาพของเกมแม่ทัพผีประสบความสำเร็จถล่มทลาย ทำให้ทุกคนในวงการ
นักวาดภายในประเทศรู้จักหร่วนกวางเจี่ยนกันหมด
เกมแม่ทัพผีเป็นเครื่องพิสูจน์ว่างานภาพสไตล์มหากาพย์หมึกสีน้ำมันของเขา
เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง และยังพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของเขาอีก
ด้วย!
บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งที่ผลิตเกมแนว MMORPG ต่างพากันติดต่อหาห
ร่วนกวางเจี่ยนเพราะอยากให้เขาช่วยคิดคอนเซ็ปต์ให้ตัวละครและฉากในเกม
บนเว็บไซต์รวมทรัพยากร นักออกแบบจำนวนมากก็หวังอยากร่วมงานกับห
ร่วนกวางเจี่ยนในการทำงานภาพให้กับเกม แต่ข้อเสนอต่างๆ กลับโดนหร่วนกวาง
เจี่ยนปัดทิ้งหมด
เขาวางแผนไว้แล้วว่าหลังเรียนจบจะตั้งสตูดิโอเป็นของตัวเองร่วมกับเพื่อน
จากมหาวิทยาลัยสองสามคน
เนื่องจากชายหนุ่มเริ่มต้นได้อย่างสวยงาม ในภายภาคหน้าเขาต้องพัฒนา
ยิ่งขึ้นไปอีกแน่นอน
หร่วนกวางเจี่ยนตั้ง ‘ราคา’ บนเว็บไซต์รวมทรัพยากรไว้สูงมาก เขาเป็นหนึ่ง
ในนักออกแบบคอนเซ็ปต์ชื่อดังที่มีคนต้องการตัวเยอะที่สุด เกมแม่ทัพผีทำให้เขา
โด่งดังเป็นพลุแตก!
ช่วงนี้หร่วนกวางเจี่ยนเลือกงานที่ไม่หนักมาก เขาอยากใช้ช่วงเวลาครึ่งปีในรั้ว
มหาวิทยาลัยที่เหลืออยู่เพื่อพักผ่อนและเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิต และชายหนุ่มก็
อยากใช้ช่วงเวลานี้เตรียมเปิดสตูดิโอหลังเรียนจบด้วย
จริงๆ วันนี้หร่วนกวางเจี่ยนตั้งใจจะกลับบ้านมาร่างภาพเรื่อยเปื่อยกับวาดรูป
โปรโมตเกมให้บริษัทแห่งหนึ่ง
แค่ภาพโปรโมตเกมภาพเดียว แต่เขาได้ค่าจ้างถึงหนึ่งแสนหยวน!
แน่นอนว่าการวาดภาพโปรโมตเกมจะต้องพิถีพิถันและใส่ใจรายละเอียด
มากๆ น่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ถึงครึ่งเดือนกว่าจะวาดเสร็จ
นี่คือเหตุผลว่าทำไมหร่วนกวางเจี่ยนถึงได้เงินค่าจ้างเยอะขนาดนี้
เดิมทีเขาไม่ได้มีแผนจะทำอะไรช่วงตรุษจีน หลังจากไตร่ตรองดูจึงตัดสินใจรับ
งานนี้มาทำ เนื่องจากเขาสามารถใช้ช่วงวันหยุดตรุษจีนค่อยๆ วาดได้ และเก็บเงิน
เข้ากระเป๋าหนึ่งแสนหยวนได้อย่างง่ายดาย
พอเปิดเว็บไซต์รวมทรัพยากรขึ้นดู ชายหนุ่มก็สังเกตเห็นว่ามีข้อความใหม่
สองสามข้อความ
เขาติดนิสัยที่ชอบเปิดอ่านข้อความเหล่านั้นแล้วกดปิดไป
งานที่เสนอเข้ามาส่วนใหญ่ไม่ค่อยน่าสนใจ เขาเลยไม่อยากรับ
ตอนนั้นเองหร่วนกวางเจี่ยนก็เหลือบไปเห็นข้อความหนึ่ง
เป็นข้อความจากบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี!
เขาย่อมจำบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีไ ด้อยู่แล้ว ก็เป็นบริษัทที่ผลิตเกม
แม่ทัพผียังไงล่ะ
ภาพจำของบอสเผยและจิตใจอันดีงามของบอสตอนสร้างเกมแม่ทัพผียังคง
ตราตรึงอยู่ในใจของชายหนุ่ม นอกจากบอสเผยจะไม่ได้เข้ามายุ่มย่ามกับงานแล้ว
ยังปล่อยให้เขาได้ทำตามใจชอบ แถมยังให้เงินมากกว่าที่เสนอไปอีก!
เขาจะปฏิเสธงานไหนก็ได้ แต่ไม่มีทางปฏิเสธงานจากบอสเผยแน่!
บอสเผยคือผู้มีพระคุณของเขา และชายหนุ่มก็รู้สึกขอบคุณบอสเผยมากๆ!
ถ้าไม่ใช่เพราะเกมแม่ทัพผี ตอนนี้หร่วนกวางเจี่ยนอาจกำลังก้มหน้าหางาน
อย่างเคร่งเครียดก็ได้!
อีกอย่างการร่วมงานกับบอสเผยนั้นมีแต่จะได้ประโยชน์ ถ้าเกมดังขึ้นมา คนก็
รู้จักนักวาดมากขึ้น เงินหรือสิ่งใดก็ไม่สามารถทดแทนได้!
หร่วนกวางเจี่ยนรีบตอบกลับ
ครั้งนี้คนที่ติดต่อมาไม่ใช่บอสเผย ไม่ใช่นักออกแบบที่ทำเกมฐานทัพกลาง
ทะเล แต่เป็นพนักงานใหม่ที่ชื่อลู่หมิงเหลียงที่เพิ่งได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าฝ่าย
วางแผน
ดูสิว่าอีกฝ่ายเติบโตเร็วแค่ไหน!
หลังจากคุยกับลู่หมิงเหลียงสักพัก หร่วนกวางเจี่ยนก็ได้รู้สถานการณ์ปัจจุบัน
ของบริษัทเถิงต๋า
พูดง่ายๆ ก็คือดีเสียยิ่งกว่าแต่ก่อนอีก!
ตอนที่เขาทำภาพให้เกมแม่ทัพผี บริษัทเถิงต๋ายังเป็นแค่บริษัทเล็กๆ ที่มีเผย
เชียนเป็นผู้พัฒนาเกมเพียงคนเดียว
ตอนนี้บริษัทเถิงต๋าตั้งบริษัทอย่างเป็นทางการแล้ว และหลังจากเกมฐานทัพ
กลางทะเลประสบความสำเร็จถล่มทลาย พวกเขาก็เดินหน้าทำโปรเจ็กต์ใหม่ต่อ
ลู่หมิงเหลียงอยากร่วมงานกับหร่วนกวางเจี่ยนในโปรเจ็กต์เกมนักออกแบบ
เกม
หร่วนกวางเจีย่ นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่ได้ตอบตกลงทันที
“ขอดูแบบร่างคร่าวๆ ก่อนได้ไหมครับ
“ไม่ใช่อะไรนะครับ
“ผมรับแน่นอนอยู่แล้วถ้าเป็นโปรเจ็กต์ของบอสเผย ผมไม่ได้พยายามจะ
ปฏิเสธ แค่กลัวว่าจะยากเกินความสามารถของผม งานที่ได้จะออกมาไม่ดีเอา
“เพราะงั้นช่วยส่งแบบร่างให้ผมดูห น่อยได้ไหมครับ ถ้าไหวผมทำให้แน่นอน
แต่ถ้าไม่ไหวผมจะแนะนำนักวาดคนอื่นในวงการที่เก่งและเหมาะกว่าให้”
ลู่หมิงเหลียงรีบส่งแบบร่าง
หร่วนกวางเจี่ยนไล่สายตาดูคร่าวๆ เขาได้แต่ยกนิ้วชื่นชม
บอสเผยนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ!
เป็นการออกแบบที่กล้าหาญและคิดนอกกรอบมาก!
ถึงหร่วนกวางเจี่ยนจะไม่ค่อยเข้าใจตัวเกมเท่าไหร่ แต่ก็สัมผัสได้ว่าเกมนี้
พยายามเหน็บแนมวงการเกมด้วยมุกตลกร้าย!
เกมนี้ไม่ใช่เกมง่ายๆ โง่ๆ
ถึงตัวเกมเหมือนจะกวนบาทาผู้เล่นอยู่ตลอด แต่จริงๆ แล้วต้องการพาผู้เล่น
ดำดิ่งเข้าสู่วงการเกม เพื่อที่จะได้เข้าถึงจิตใจนักออกแบบไปพร้อมกับแสดงให้เห็น
ถึงความเชื่อผิดๆ ที่มีต่อวงการเกม!
นี่ไม่ใช่เกมเล่นเอาสนุก แต่เป็นงานศิลปะ!
นอกจากนี้ยังเห็นได้ชัดว่าการทำงานภาพที่สื่อถึงแนวคิดนามธรรมของเกม
เป็นจุดที่สำคัญมาก!
ตรงกับจุดแข็งของหร่วนกวางเจีย่ นสุดๆ!
สมบูรณ์แบบไปเลย!
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หร่วนกวางเจี่ยนก็ตัดสินใจ
“โอเคครับ ผมรับงานนี้!
“ถ้าเป็นงานจากบอสเผย ผมทุ่มเทเต็มที่!
“ส่วนเรื่องเงิน ไม่ต้องให้ตามราคาตลาดก็ได้ครับ ผมยังจำตอนที่บอสเผยยืน
กรานขึ้นเงินให้ผมได้ขึ้นใจ ผมยังติดหนี้บุญคุณบอสอยู่ ต้องตอบแทนให้ได้!”
หร่วนกวางเจี่ยนรู้สึกมีไฟขึ้นมา!
การทำงานภาพให้บริษัทอื่น…ถือเป็นงานอย่างหนึ่ง
แต่การทำงานให้บอสคือการรังสรรค์งานศิลปะ!
ตีมครั้งนี้ดีมาก หร่วนกวางเจี่ยนอยากทุ่มกับงานครั้งนี้ให้เต็มที่!
ทั้งสองคนคุยกันอย่างถูกคอและตกลงกันว่าจะเริ่มงานกันอย่างเป็นทางการ
หลังตรุษจีน จากนั้นก็เริ่มวางแผนตารางงานการออกแบบคอนเซ็ปต์กัน!


วันที่ 12 กุมภาพันธ์…
อีกไม่นานก็จะถึงช่วงวันหยุดแล้ว บริษัททุกแห่งจัดการงานต่างๆ กันเสร็จ
เรียบร้อย วันหยุดยาวหนึ่งสัปดาห์กำลังจะมาถึง เผยเชียนเองก็เก็บกระเป๋าพร้อม
กลับบ้าน
ถึงเขาจะเกิดใหม่อีกครั้งพร้อมได้ระบบมา ดูอย่างไรก็เหมือนจะเป็นพระเอกที่
แสนสมบูรณ์แบบ แต่ก็ไม่ใช่เด็กกำพร้า
พ่อแม่ของเขายังแข็งแรงกันดี
เป็นเพราะพวกเขาเลี้ยงชายหนุ่มมาแบบปล่อยๆ เผยเชียนจึงไม่ได้สนิทกับ
ครอบครัวเท่าไหร่
หลังจากกลับมาเกิดใหม่ได้สองสามวัน เขาก็โทรไปหาที่บ้าน พอรู้ว่ายังอยู่กัน
สบายดีก็ไม่ได้ติดต่อไปอีก
ส่วนเรื่องเปิดบริษัท…
ชายหนุ่มยังไม่อยากบอกพวกเขาตอนนี้
เหตุผลมีอยู่สองข้อ
หนึ่งคือเผยเชียนต้องอธิบายให้ชัดเจนว่าได้เงินทุนห้าหมื่นหยวนในตอนแรก
มาจากไหน
เขาได้เงินใช้จ่ายแค่พันกว่าหยวน แทบจะไม่พอซื้อข้าวกินด้วยซ้ำ แล้วไฉนถึง
เก็บเงินห้าหมื่นหยวนมาเปิดบริษัทสร้างเกมได้
จะบอกว่าไปกู้หนี้นอกระบบมาก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ
สองคือ พ่อของเผยเชียน ตาแก่เผย เป็นคนที่หัวโบราณมาก ไม่ค่อยทันสมัย
เท่าไหร่
เลยมีอคติกับเกม!
ตาแก่เผยเคยบอกบนโต๊ะกินข้าวว่าเกมเป็นของอันตราย ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยว!
ถึงตอนนั้นจะเมาอยู่ แต่ตาแก่ก็น่าจะเชื่อตามนั้นจริงๆ
ตาแก่เผยเป็นตัวแทนของคนสูงวัยในยุคนี้ ถือเป็นเรื่องที่ปกติมาก ไม่อย่างนั้น
คงไม่มีกลุ่มคนที่พยายาม ‘ต่อสู้กับอาการติดอินเทอร์เน็ต’ หรอก
แน่นอนว่าตาแก่เผยแค่มีอคติกับเกมเฉยๆ ไม่ได้เป็นเหมือนพวกอาจารย์หรือ
ผู้เชี่ยวชาญที่ระดมทุนหาทางจัดการกับอาการติดอินเทอร์เน็ต
โดยรวมแล้วก็เป็นเพราะช่วงวัยที่ต่างกัน
ถึงอย่างนั้นถ้าเผยเชียนบอกครอบครัวของตัวเองไปว่าตอนนี้ตั้งบริษัทเกมเป็น
ของตัวเอง หาเงินได้ และยังขายปืนกิเลนแดงที่ราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน
อีก…
บ้านได้ระเบิดแน่
แค่คิดเผยเชียนก็รู้สึกสยองแล้ว
ยังไงการเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็นก็เป็นเรื่องที่ดีกว่า เขาไม่อยากทำอะไรให้เป็น
เรื่องใหญ่ในตอนนี้
ส่วนเรื่องตาแก่เผย เผยเชียนคงต้องค่อยๆ หาทางเปลี่ยนความคิดอีกฝ่าย
บทที่ 92 คำโกหกเล็กน้อย

ครอบครัวของเผยเชียนอาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ ไม่ได้ไกลจากเมืองจิงโจวมาก
นัก
หลั ง จากลงจากรถที ่ เ ช่ า มา เผยเชี ย นก็ ต รวจดู เ ครื ่ อ งแต่ ง กายตั ว เองว่ า
เรียบร้อยดีหรือเปล่า
พวกสู ท เข็ ม ขั ด หนั ง รองเท้ า หนั ง และของที ่ เ ขาใส่ เ ป็ น ประจำอยู ่ ที่
อพาร์ตเม้นต์หมด ไม่ได้เอาติดตัวมาด้วย
ยิ่งนาฬิกา Rolex เขายิ่งเอากลับมาไม่ได้เด็ดขาด
ในกระเป๋าของเขามีแค่ของใช้ในชีวิประจำวัน
โน้ตบุ๊ก Alienware ราคาหนึ่งหมื่นกว่าหยวนก็เอากลับบ้านมาด้วยไม่ได้
แน่นอน เผยเชียนจึงเอาโน้ตบุ๊กที่ใช้สมัยเข้าเรียนใหม่ๆ กลับมาด้วยแทน
ไม่ใช่ว่าเผยเชียนระมัดระวังตัวมากเกินไปหรอก ประเด็นคือพ่อแม่ของเขา
สายตาแหลมคมมากต่างหาก
มีใครคิดว่าจะซ่อนบางอย่างไม่ให้พ่อแม่รู้ได้ด้วยเหรอ
คนที่คิดแบบนั้นต้องเด็กและอ่อนต่อโลกมากแน่ๆ
เผยเชียนยังไม่อยากเถียงกับตาแก่เผยว่า ‘เกมส่งผลต่อสุขภาพจิตหรือเปล่า ’
ถ้าอีกฝ่ายรู้เรื่องเข้า
หลังจากตรวจสอบการแต่งกายและข้าวของเสร็จ เผยเชียนก็พบว่าทุกอย่าง
เรียบร้อยดี เขาเดินตรงไปยังอพาร์ตเม้นต์ จากนั้ นก็ไขกุญแจเปิดเข้าไปข้างใน
กลิ่นอาหารลอยมาแตะจมูกในทันใด
“กลับมาแล้วเหรอลูก” แม่ของเผยเชียนที่กำลังทำอาหารอยู่ในห้องครัวถาม
ขึ้นหลังจากได้ยินเสียงเปิดประตู จากนั้นก็หันกลับไปทำอาหารต่อ
“กลับมาแล้วเหรอไอ้หนุ่ม มาๆ มาชิมใบชาที่ลุงแกเอามาฝากสิ ” ตาแก่เผย
กำลังจัดวางชุดชาบนโต๊ะ
ช่างเป็นภาพอันแสนคุ้นเคย ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย เหมือนกับว่าได้
ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อนไม่มีผิด เผยเชียนสังเกตเห็นว่ารอบนี้พ่อแม่ของเขามีผม
หงอกเยอะขึ้น
“เดี๋ยวผมเอากระเป๋าไปเก็บก่อน รองเท้าแตะผมล่ะ”
“แม่เก็บไว้ให้อยู่นะ ตาแก่ ไปเอารองเท้ าในตู้ให้ลูกหน่อย! ฉันยุ่งอยู่ ” แม่
ตะโกนออกมาจากห้องครัว
ตาแก่เผยรีบลุกจากโซฟา “ตู้ไหน”
“ในห้องลูก ลิ้นชักล่างสุด!”
เผยเชียนเปลี่ยนมาใส่รองเท้าแตะสำหรับใส่ในบ้าน จัดแจงเก็บกระเป๋า
จากนั้นก็ทิ้งตัวลงบนโซฟา
นุ่มจัง!
ถึงโซฟาที่บ้านจะไม่ได้แพงมาก แต่กลับนั่งสบายกว่าโซฟาตัวละหลายหมื่น
หยวนในห้องรับแขกที่บริษัท! กลิ่นอาหารฝีมือแม่ก็หอมกว่าบุฟเฟต์ราคาหัวละ
ร้อยกว่าหยวนที่ไปกินมาตอนงานเลี้ยงอีก!
ส่วนใบชาของที่บ้าน…
พรืด รสชาติห่วยแตกชะมัด!
เผยเชียนเกือบจะสำลักออกมาหลังจากจิบชาพิเศษที่ตาแก่เผยบอกว่าลุง
เตรียมมาให้
ดืม่ ยากมาก!
เขาจิบชาดีๆ ที่ออฟฟิศทุกวัน ลิ้นก็เลยยกระดับขึ้นไปอีกขั้นทำให้ดื่มชาปกติ
ทั่วไปไม่ค่อยได้
“เป็นไง รสไม่เลวเลยใช่มั้ยล่ะ” ตาแก่เผยจิบชาพร้อมส่งยิ้มให้
“อืม ก็ไม่แย่” เผยเชียนแอบดันถ้วยชาออกห่างตัว ดูเหมือนว่าเขาจะต้องหา
โอกาสให้ตาแก่เผยได้ลองชาดีๆ ดูบ้าง จะเอาของบริษัทมาก็ไม่ได้เพราะเป็น
ทรัพย์สินของบริษัท มีไว้รับแขกเท่านั้น ห้ามเอามาใช้ส่วนตัว
แต่เผยเชียนก็ไม่ได้ยากจนเหมือนแต่ก่อนแล้ว เขาใช้ความมั่งคั่งส่วนบุคคลที่มี
อยู่หลายหมื่นหยวนซื้อชาดีๆ ให้ตาแก่เผยได้ ยิ่งเห็นสภาพบ้านของตัวเอง เผย
เชียนก็ยิ่งอยากเพิ่มความมั่งคั่งส่วนบุคคลให้ได้อีกเยอะๆ
ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ในอพาร์ตเม้นต์สองห้องนอน พื้นที่ประมาณร้อย
ตารางเมตร อพาร์ตเม้นต์หลังนี้เพิ่งซื้อมาได้ไม่นาน พ่อแม่ของเขาจึงยังต้องผ่อน
หนี้บ้านอยู่
ถึงแม่จะคอยปัดกวาดเช็ดถูทุกอย่างอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือ
เครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ทุกอย่างก็ค่อนข้างเก่า ครอบครัวของเขาจัดเป็นชนชั้นแรงงาน
ทั่วไป ถึงจะไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน แต่พ่อแม่ของเขาก็ต้องใช้จ่ายกันอย่างประหยัด
เผยเชียนมองทีวีที่บ้าน
“พ่อ เราเปลี่ยนทีวีกันดีมั้ย เครื่องนี้มันเล็ก”
ตาแก่เผยหรี่ตามอง “ทำไมต้องเปลี่ยน ของยังดีอยู่เลย! อีกอย่างปกติแม่แกก็
ไม่ได้ดูบ่อยอยู่แล้วด้วย”
“งั้นเครื่องซักผ้าล่ะ เปลี่ยนไปใช้แบบฝาหน้ามั้ย” เผยเชียนถามอีกรอบ
ตาแก่เผยส่ายหน้า “แบบฝาหน้าเหรอ แพงจะตายชัก อีกอย่างเครื่องนี้ยังดี
อยู่เลย ถ้าจะเปลี่ยนไปใช้เครื่องใหม่ จะเอาเครื่องเก่าไปไว้ไหน”
“พื้นห้องน้ำเราไม่ได้เรียบ เครื่องซักผ้าสั่นทีไรนึกว่าตึกจะถล่ม น่ารำคาญ
ออกพ่อ” เผยเชียนบอก “พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วง ผมจะซื้อเครื่องกับฐานรองให้เลย
ตอนใช้จะได้ไม่มีเสียง”
“ฐานรองเหรอ”
“เอาไว้ใช้ปรับความสูงของเครื่องซักผ้าน่ะพ่อ ถ้าเอาเครื่องซักผ้าตั้งบนพื้น
เรียบๆ มันก็จะไม่สั่นแรงๆ อีก” เผยเชียนอธิบาย
“งั้นฉันว่าเราซื้อฐานรองก็ได้ แต่ไม่ต้องใช้เงินแกหรอก เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน มีอะไร
แปลกๆ”
ตาแก่เผยคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามออกไป “ทำไมแกคิดจะซื้อเครื่องซักผ้า
ด้วยเงินตัวเอง ไปหาเงินมาจากไหน”
เผยเชียนกะเอาไว้แล้วว่าตาแก่เผยต้องถามแบบนี้จึงตอบออกไป “คืองี้พ่อ
ผมไปเป็นนักแสดงให้ซีรีส์เล็กๆ เรื่องหนึ่ง ผู้กำกับให้ค่าแรงมาสามหมื่นหยวน”
“เท่าไหร่นะ สามหมื่นหยวนเหรอ!” ตาแก่เผยพ่นลมออกทางปากก่อนจะพูด
ต่อ “แกอย่ามาโกหก! อย่างแกเนี่ยนะไปแสดงซีรีส์ แถมได้ค่าแรงอีกสามหมื่น ฉัน
ว่าแกต่างหากที่น่าจะเอาเงินสามหมื่นไปขอออกซีรีส์!”
“พ่อ ทำไมพูดงี้อ่ะ ลูกพ่อสมควรจะได้สามหมื่นหยวนสิ ” เผยเชียนตอบกลับ
หน้าบึ้ง
“แกอย่ามาพูด ฉันไม่เชื่อแกหรอก!” ถึงตาแก่เผยจะหน้ายิ้มแย้มแต่ก็ยัง
ปากแข็งอยู่ “เอาคลิปมาดูก่อน!”
“คลิปเหรอ ยังไม่ได้ปล่อยเลย ผมบอกป๊าก็เพราะอยากให้รู้ว่าตอนนี้หาเงินได้
เองแล้ว ไม่ต้องส่งเงินมาให้แล้วก็ได้” เผยเชียนบอก
ตาแก่เผยส่ายหน้า “พวกฉันจะยังส่งเงินให้แกเหมือนเดิม หาเงินได้มันก็ดี แต่
อย่าให้เรื่องเงินมากดดันตัวเองมาก เรื่องเรียนสำคัญที่สุด เข้าใจไหม”
ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่ แม่ก็ตะโกนออกมาจากในห้องครัว “กิน
ข้าว!”
เผยเชียนกับตาแก่เผยรีบไปล้างมือแล้วยกอาหารมาวางบนโต๊ะ
ปกติแล้วเผยเชียนไม่ค่อยดื่มบนโต๊ะอาหาร แต่วันนี้ยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ เขา
กระดกไป๋จิ่ว[1]ไปสองแก้วแกล้มกับเก๋ากี้ แถมยังดื่มมากกว่าปกติด้วย
ยังไงบ้านก็คือที่ที่ดีที่สุด!
ตาแก่เผยดื่มหนักกว่าปกติเล็กน้อย จากนั้นก็เริ่มสอนเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้บอส
เผยฟัง แถมยังโม้ให้แม่ของเผยเชียนฟังว่าลูกได้ถ่ายซีรีส์ด้วย ซึ่งน่าจะมาจาก
พันธุกรรมอันสุดยอดของเขาแน่ แม่กลอกตาใส่ก่อนจะพูดขึ้นว่าวันนี้ต้องมีใครสัก
คนได้ล้างจานให้แน่
กินข้าวเสร็จก็เกือบสามทุ่มแล้ว เผยเชียนอยากล้างจานให้ แต่ก็โดนตาแก่เผย
ไล่กลับเข้าห้อง อ้างว่าเดินทางมาเหนื่อย ไปพักผ่อนเถอะ
งานบ้านไว้ทำพรุ่งนี้ก็ไม่สาย
เผยเชียนไม่ได้เถียงอะไร จากนั้นก็เดินกลับเข้าห้องไปเล่นอินเทอร์เน็ต
เขามั่นใจว่าตัวเองไม่สามารถปิดเรื่องบริษัทกับพ่อแม่ไปได้ตลอด ไม่ช้าก็เร็ว
ความต้องแตกแน่
ก่อนจะเป็นอย่างนั้น เขาต้องเตรียมตัวให้พร้อม
เผยเชียนมีความมั่งคั่งส่วนบุคคลอยู่ห้าหมื่นกว่าหยวน ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่
ให้ครอบครัวไม่ใช่เรื่องเกินกำลังอะไร แต่เขาต้องอธิบายให้ได้ว่าได้เงินมาจากไหน
ถ้าบอกว่าหาเงินได้จากเกม ตาแก่เผยได้เปิดศึกกับเขาแน่ เผยเชียนคิดเรื่องนี้
แล้วตัดสินใจบอกตาแก่เผยให้รู้ว่ามีซีรีส์เป็นแหล่งรายได้ เขาอยากให้ตาแก่เผยรู้
ว่าตอนนี้เขาสามารถหาเงินได้ด้วยตัวเองแล้ว ตาแก่จะได้ไม่ต้องมาคอยจี้ถามว่า
เอาเงินมาจากไหน
หลังจากนั้นเผยเชียนจะค่อยๆ พยายามเปลี่ยนความคิดตาแก่…ให้เลิกมีอคติ
กับเกม เสร็จแล้วเขาค่อยบอกความจริงกับตาแก่ว่าตอนนี้มีบริษัทเกมเป็นของ
ตัวเอง
หลังจากท่องเน็ตไปได้สักพัก เผยเชียนก็รู้สึกหนักตา เขาเดินไปล้างหน้าแล้ว
หลับไปตั้งแต่ยังไม่ดึกมาก
………………………………..
[1] เหล้าขาวของจีน
บทที่ 93 เปลี่ยนความคิดตาแก่เผย!

ตรุษจีนไม่ได้มีอะไรหวือหวาเกิดขึ้น พวกเขาแวะไปเยี่ยมญาติกับรับญาติที่มา
เยี่ยมแค่นั้น ในวันที่สามของช่วงตรุษจีน เผยเชียนก็ได้พักผ่อนในที่สุด เขานั่งดูทีวี
บนโซฟา
“ซีรีส์ลูกปล่อยหรือยัง” แม่เผยเชียนยื่นแอปเปิ้ลที่ปอกเสร็จแล้วให้
เผยเชียนยื่นมือไปรับแอปเปิ้ลมากิน “โธ่ ไม่ใช่ว่าถ่ายเสร็จแล้วจะลงได้เลยสัก
หน่อย เขาต้องเอาไปตัดต่อ ไปแก้หลังถ่ายเสร็จด้วย วันนี้แม่ถามเป็นรอบที่แปด
แล้วนะ”
“ไปถามผู้กำกับดูซิ” แม่ของเผยเชียนสั่ง ไม่ยอมแพ้เพราะเป็นคนทำกับข้าว
กับปลาให้ครอบครัวกิน
เผยเชียนหงุดหงิด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากส่งข้อความไปถามหวงซื่อปั๋ว
ไม่นานหวงซื่อปั๋วก็ตอบกลับ “ลงไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับบอสเผย! เข้าเว็บ
ฟานฉูก็เจอเลย อยู่ในหมวด ‘คอมเมดี’้ ชื่อเรื่อง ชีวิตประจำวันของบอสเผย”
ปล่อยไปแล้วอย่างนั้นเหรอ
ทำงานกันเร็วจริงๆ!
เผยเชียนคว้าโน้ตบุ๊กมาพิมพ์เข้าเว็บฟานฉูแล้วตรงไปที่หมวด ‘คอมเมดี’้
ซีรีส์ได้ขึ้นหน้าแนะนำด้วย!
มันไม่ใช่ซีรีส์ที่ดูโดดเด่นเตะตะอะไรนัก แต่ก็ไม่ได้แย่
ก่อนหน้านี้จูเสี่ยวเช่อบอกว่ามีรุ่นพี่ทำงานให้เว็บฟานฉู เขาจะไปขอให้เอาซี
รีส์ขึ้นหน้าแนะนำให้ แล้วอีกฝ่ายก็ทำอย่างที่ว่าจริงๆ!
แน่นอนว่าไม่น่าจะฟรีหรอก คงต้องจ่ายเงินค่าโฆษณาไป
เผยเชียนกดเข้าไปดู หัวใจเขาตกไปอยู่ตาตุ่มทันใด
ซีรีส์อัพโหลดขึ้นเว็บเมื่อวาน แต่ตอนนี้มียอดคนดูถึงสองแสนวิวแล้ว!
ช่องใหม่แบบนี้เนี่ยนะ!
เผยเชียนอ่านคอมเม้นต์ด้านล่าง
ครื้นเครงกันจริงๆ!
เขาไล่ดูคร่าวๆ มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอุ่นหนาฝาคั่ง หน้าคอมเมนต์
ตอนนี้ปาไปสิบหน้าแล้ว!
จบสิ้น สิ่งที่เขากลัวได้กลายเป็นจริงไปแล้ว!
เผยเชียนพยายามสงบใจตัวเองเพื่อที่พ่อแม่ของเขาจะได้ไม่นึกสงสัยว่าเขา
เป็นอะไร จากนั้นก็ตีหน้านิ่ง เดินถือโน้ตบุ๊กไปยื่นให้ “นี่ไง”
พ่อแม่ของเขาวางโน๊ตบุ๊กลงบนโต๊ะกาแฟแล้วชะเง้อไปดู
“ชีวิตประจำวันของบอสเผยเหรอ” ตาแก่เผยมองเผยเชียนด้วยความสงสัย
“ฮ่าๆ มันเป็นชื่อซีรีส์นี้น่ะ ผมได้รับบทเป็นบอสของบริษัท” เผยเชียนอธิบาย
วีดีโอเริ่มเล่น
“ผมมองนาฬิกา Rolex ไม่ได้จะดูเวลา แต่แค่จะโชว์ให้คุณรู้ว่าผมรวย”
“วันนี้จู่ๆ ก็อยากออกมาข้างนอก ผมอยากสร้างเกมใหม่ เกมที่จะดูดเงินผู้
เล่นให้ได้มากทีส่ ุดเท่าทีจ่ ะทำได้”
เสียงเพลงประกอบอันแสนจืดชืดกับเสียงบรรยายไร้อารมณ์ส่งให้คลิปดู
น่าสนใจขึ้นไปอีก!
ในคลิป เผยเชียนแต่งกายด้วยชุดสูท ที่ข้อมือสวมนาฬิกา Rolex ชายหนุ่ม
นอนแผ่หราอยู่บนโซฟาในห้องรับแขกของออฟฟิศ บนโต๊ะกาแฟข้างๆ มีชุดชาสุด
หรูวางอยู่ ทุกอย่างดูเป็นธรรมชาติมาก
แม้แต่ใบหน้าราบเรียบของเผยเชียนก็ดูสมจริง!
ซีรีส์เรื่องชีวิตประจำวันของบอสเผยมีความคล้ายซีรีส์เรื่องชีวิตอันแสนน่าเบื่อ
หน่ายของจูอี๋ตั้น
ความประทับใจแรกของผู้ชมหลังจากได้ดูคลิปคือ ชีวิตของคนรวยช่างน่าเบื่อ
ไร้ความหมาย ขาดสีสัน และไม่ได้สบายเลยจริงๆ!
แต่ยิ่งดูก็ยิ่งอิน!
ซีรีส์สไตล์นี้มีจุดแข็งสองอย่าง
อย่างแรกคือมีความเป็นเอกลักษณ์ อย่างที่สองคือมีการเปรียบเปรย
ยิ่งดูมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเข้าถึงความหมายที่แฝงอยู่ในเรื่องได้ง่ายขึ้น ตั้งแต่มุม
กล้องไปจนถึงการไม่เปลี่ยนเพลงประกอบฉาก ไหนจะเสียงพายก์อันแสนน่า
เหนื่อยหน่าย ทุกอย่างน่าจดจำไปหมด!
ส่วนเรื่องการเปรียเปรย…
ถ้าไม่คิดเรื่องที่ผู้ชมจะตีความอะไรมากจนเกินไป ผู้กำกับได้ใส่ข้อความแฝงไป
หลายจุด มุกตลกร้ายแบบนี้ทำให้ซีรีส์ดูเหนือชั้น จากพวกซีรีส์ที่ใช้มุกตลกหยาบ
คาย!
เผยเชียนยืนดูจออยู่ด้านหลังพ่อกับแม่ เขาอดยิ้มไม่ได้
ทำไมฉันขึ้นกล้องจัง!
แสดงก็ดีมากๆ!
ดูสีหน้าสิ เป็นธรรมชาติมาก! หน้าก็ขึ้นกล้องสุดๆ!
มิน่า ผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อถึงไม่สั่ง ‘คัต’ เลยสักครั้ง! ไม่ใช่เพราะเกรงใจเจ้านาย
และคนออกทุนให้ แต่เพราะฉันแสดงดีเกินไปต่างหาก!
เผยเชียนรู้สึกภูมิใจกับตัวเองมาก
ในคลิปยาวหนึ่งนาทีนี้ เนื้อเรื่องมีการหักมุมไปมา แถมยังมีมุกตลกในบทพูด
อีกมากมาย พอดูจบก็อยากดูต่อ!
“แค่นี้เหรอ ฉันอยากดูอีก!”
“ซีรีส์สั้นไปไหมลูก”
ตาแก่เผยคิดว่าซีรีส์ตอนสั้นอย่างน้อยก็น่าจะยาวประมาณตอนละสิบนาที แต่
คลิปนี้ยิ่งกว่านั้น เพราะยาวแค่นาทีเดียว!
เผยเชียนอธิบาย “สั้นๆ แบบนี้กำลังมาแรง!”
แม่ของเขาเปิดคลิปเล่นซ้ำไปมา “ฉันว่าลูกฉันมีพรสวรรค์ด้านการแสดง
มากๆ! ดูสิว่าเขาเล่นเป็นเจ้านายคนเก่งแค่ไหน เล่นเป็นธรรมชาติมาก อย่างกับว่า
เป็นคนสร้างบริษัทนี้ขึ้นมาเองงั้นแหละ!”
ตาแก่เผยพยักหน้าเห็นด้วย “ไม่เลวเลย แต่ลูกเรายังเด็กอยู่ อายุน้อยแบบนี้
แสดงเป็นเจ้านายคนไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่ว่าไหม ทำไมผู้กำกับไม่แปะหนวดหรือ
อะไรสักอย่างให้นะ เสียงก็…”
เผยเชียนรีบขัด “ไม่ใช่เสียงผม”
ตาแก่เผยพยักหน้า “ฉันรู้ แต่เสียงไม่เห็นเหมือนบอสทั่วไปเลย”
แม่เผยเชียนมองตาแก่เผยด้วยสีหน้าไม่เห็นด้วย “พูดเหมือนเคยเจอพวกคน
ใหญ่คนโตมาก่อนงั้นแหละ”
ตาแก่เผยเงียบไป เขานิ่งไปประมาณห้าวินาทีก่อนจะพูดต่อ “เอ๊ะ คุณก็ไม่
เคยเจอเหมือนกันเถอะ”
“ไม่เคย แต่ฉันดูหนังมาเยอะกว่าคุณ! พวกบอสบริษัทในหนังก็แสดงแบบนี้
กันหมด ฉันแค่คิดว่าลูกเราแสดงเก่ง มันผิดตรงไหน” แม่เริ่มพูดจาไร้เหตุผล
“โอเคๆๆ… ยังไงเจ้าเด็กนี่ก็หาเงินจากการถ่ายหนังได้แล้ว โตแล้ว พึ่งพาได้
แล้ว ดีมากๆ” ตาแก่เผยพูดด้วยสีหน้าอบอุ่น
เห็นตาแก่เผยอารมณ์ดี เผยเชียนก็รีบใช้โอกาสนี้เปิดประเด็น “พ่อ เราถ่ายซี
รีส์เรื่องนี้เพื่อล้อเลียนวงการเกม!”
“ดูสิ บอสในเรื่องลงทุนค้นคว้าและพัฒนาเกมไปสองแสนหยวน แต่พอเงินส่ง
ต่อไปเรื่อยๆ ก็เริ่มลดลง พอเงินไปถึงมือคนที่ต้องทำงานก็เหลือแค่ห้าหมื่นหยวน
เราตั้งใจชี้ให้เห็นปัญหาเชิงโครงสร้างในบริษัทเกมหลายๆ บริษัท!
“พวกเขาสร้างเกมไม่ได้เรื่องขึ้นมาด้วยเงินแค่ห้าหมื่นหยวน แต่คนก็ยังซื้อไป
เล่นกัน ตรงนี้ล้อเกมส่วนใหญ่ในตลาด!
“พวกนี้เป็นมุกตลกร้าย ตั้งใจจะเสียดสีและชี้ให้เห็นปัญหา ผู้กำกับวางแผนไว้
แบบนี้ตั้งแต่ตน้ ”
สีหน้าของตาแก่เผยเปลี่ยนจากแข็งกร้าวไปเป็นสงสัย…จากนั้นก็กลายเป็น
เข้าใจ
“อ๋อ งี้นี่เอง”
เผยเชียนรู้สึกว่าทำให้ตาแก่เผยสนใจได้แล้ว เขาจึงพยายามเปลี่ยนความคิด
ตาแก่ “แล้วก็ พล็อตของเรื่องนี้ล้ำลึกมาก ผู้กำกับจูบอกว่าอยากสร้างตัวละครบอ
สคุมบริษัทเกมที่จิตใจดี เพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างบริษัทนี้กับบริษัทใน
วงการเกมทั่วไป!”
“โห แล้วเขาทำยังไงล่ะ” ตาแก่เริ่มสนใจ
ตาแก่เผยก็เหมือนคนสูงอายุทั่วไป จะไปโทษตาแก่ที่มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อเกมก็
ไม่ได้เสียทีเดียว เพราะหลักๆ แล้วมาจากการโฆษณา เกมถือเป็นกระแสใหม่ที่
กำลังมาแรง คนอย่างตาแก่เผยจะไปตามทันได้อย่างไร สิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับเกมล้วน
มาจากที่ได้ยินในทีวีกับมีบ้านอื่นมาเล่าให้ฟัง
เขาดูข่าวทุกวันและได้ยินข่าวเรื่องเด็กโดดเรียนไปร้านอินเทอร์เน็ตอยู่บ่อยๆ
จากนั้นเกรดก็ตก เงินที่พ่อแม่หามาอย่างยากลำบากก็ละลายหายทิ้งไปหรือไม่ก็
กลายไปเป็นค่าเงินในเกม
เมื่อเป็นแบบนี้ ตาแก่จึงมีอคติกับเกม
ดังนั้นพวกที่ต้องรับผิดชอบก็คือพวกเด็กโดดเรียนกับสื่อที่ชอบใส่ไฟ!
ตอนนี้เผยเชียนต้องพยายามอย่างหนักในการลบล้างทัศนคติของตาแก่เผยที่
มีต่อวงการเกม
“ผู้กำกับจูวางแผนเอาไว้แบบนั้น
“เขาอยากจะโชว์อีกด้านหนึ่งของบอสคนนี้ในบริษัทเกมนี้ บอสนักออกแบบ
เกมที่ดึงพลังงานด้านบวกออกมาจากตัวทุกคน คอยให้กำลังใจคนรอบตัวด้วยเกม
ของเขา
“อย่างเช่น มีเด็กนักเรียนคนหนึ่งถูกพวกนักเลงทำร้ายบาดเจ็บสาหัสระหว่าง
ที่กำลังพยายามจับโจรขโมยรถ โชคร้ายที่สุดท้ายเขาตาย นักออกแบบเกมเลย
สร้างรูปปั้นนักเรียนคนที่ตายไว้ในเกมเพื่อให้ผู้เล่นคนอื่นไม่ลืมเขา
“ไม่ใช่แค่นั้นนะ บอสคนนี้ยังแตกต่างจากบอสของบริษัทเกมอื่นๆ มาก เขา
ตั้งใจสร้างเกมที่คำนึงถึงผู้เล่นเป็นหลักโดยไม่พยายามล่อลวงให้ผู้เล่นเติมเงิน ไม่
สร้างความเกลียดชัง จุดประสงค์เดียวของเขาคือ ให้ผู้เล่นได้เล่นเกมอย่ างมี
ความสุข
“รู้มั้ยว่าสุดท้ายเป็นยังไง เกมของเขาดังเป็นพลุแตกเลยแหละ!”
ตาแก่เผยไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อน ตอนนี้เขาสนใจเรื่องนี้มากๆ “แก
เล่นเป็นบอสที่ว่านี่เหรอ”
เผยเชียนพยักหน้า “ใช่แล้ว!”
“ไม่เลวนี่” ตาแก่เผยพยักหน้าตาม
เผยเชียนพูดต่อ “จริงๆ แล้ววงการเกมในประเทศของเราตอนนี้มีแต่ความ
วุ่นวาย แต่เกมก็เป็นสื่อบันเทิงชนิดหนึ่ง ที่สำคัญที่สุดคือคนสร้างเกมเป็นคนแบบ
ไหน
“ถ้าคนสร้างเกมสนแต่จะทำกำไร เขาก็จะสร้างเกมที่ล่อลวงให้เด็กขโมยตังค์
พ่อแม่มาเติมเกม แต่กลับกัน ถ้าคนสร้ างเกมวางเป้าหมายไว้ว่าอยากให้ผู้เล่นได้
เล่นเกมอย่างสนุกล่ะ
“พวกคนทำงานก็สามารถเล่นเกมได้หลังจากเครียดกับงานมาทั้งวัน มันก็
เหมือนออกไปดูหนังหรืออ่านหนังสือแหละ เกมเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราได้ผ่อน
คลายจากความเครียด เป็นสิ่งที่ดีใช่มั้ยล่ะ
“เพราะแบบนี้เราเลยแก้ปัญหาด้วยวิธีเดียวกันหมดไม่ได้ เราต้องพยายามนำ
ทางทุกคนให้รู้สึกสนุกและผ่อนคลายไปกับการเล่นเกม โดยไม่ทำให้พวกเขาติด
เกม ผมคิดว่านี่คือทางที่ถูกต้อง
“นี่คือข้อความที่ผู้กำกับจูต้องการจะสื่อในซีรีส์นี้ เป็นเป้าหมายของตัวละคร
ของผมในเรื่องด้วย”
ตาแก่เผยพยักหน้าเห็นด้วยระหว่างที่ฟัง
คำพูดเหล่านี้ฟังดูดีมากตอนที่ผู้จัดการจูเป็นคนพูด!
เผยเชียนบอกได้ว่าตาแก่เผยลดอคติที่มีต่อเกมไปมากเลยทีเดียว!
“ผู้กำกับคนนี้ไม่เลวเลยนะ มีทิศทางที่ชัดเจนดี! เขาชื่ออะไรน่ะ”
เผยเชียนตอบ “จูเสี่ยวเช่อ”
“ผู้กำกับจูนี่อายุเท่าไหร่”
“กำลังเรียนมหา’ลัยปีสุดท้าย”
“ยังเด็กอยู่แต่เก่งมาก!” ตาแก่เผยดูจะชื่นชมในตัวจูเสี่ยวเช่อ “เก่งแล้วยังพูด
อะไรมีเหตุผลอีก ถ้าบริษัทเกมมีบอสแบบนี้จริงๆ ก็คงดีเนอะ”
เผยเชียนพยักหน้ารัว “แล้วใครว่าไม่มีล่ะ!”
แม่ยังดูคลิปในโน๊ตบุ๊กไม่หนีไปไหน “ลูกแสดงเก่งมาก แม่อยากดูอีก ลูกช่วย
เอาลงคอมพ์ที่บ้านให้หน่อยสิ”
ที่บ้านมีคอมพิวเตอร์เครื่องเก่าที่เผยเชียนซื้อไว้ตอนอยู่ชั้นมัธยม ซึ่งตอนนี้
ทำงานได้ช้ามากๆ
เผยเชียนเอาคลิปลงคอมพิวเตอร์ที่บ้าน แม่ของเขาเกาะขอบจอดูคลิปวนซ้ำ
ไปมา เสียงเพลงประกอบอันแสนน่าเบื่อดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
บทที่ 94 ชีวิตประจำวันของบอสเผยดังใหญ่แล้ว!

เผยเชียนเดินกลับห้อง รู้สึกว่าสิ่งที่ได้ทำไปถือเป็นก้าวเดินอันยิ่งใหญ่
เขาลดอคติที่ตาแก่เผยมีต่อเกมลงไปได้ประมาณหนึ่ง!
เผยเชียนรู้ว่าถ้าตัวเองเปิดอกคุยกับตาแก่เผยตรงๆ ทุกอย่างคงจะยากกว่านี้
แต่ตอนนี้เขาสามารถใช้ผู้กำกับจูออกโรงแทนให้ได้ เป็นมุมมองจากบุคคลที่
สาม ซึ่งตาแก่เผยจะยอมฟังง่ายขึ้น!
เห็นได้ชัดว่าตาแก่เผยเห็นด้วยกับมุมมองเหล่านี้
ถามว่าเลิกมีอคติกับเกมแล้วหรือยัง ก็ตอบได้เลยว่าไม่
แต่อย่างน้อยตาแก่เผยก็เห็นด้วยว่าบางเกมไม่ได้แย่ ก็เหมือนหนังเหมือน
นิยาย เกมควรจะเป็นสื่อเพื่อความบันเทิงอย่างหนึ่ง
นับเป็นหนึ่งก้าวที่ยิ่งใหญ่!
เผยเชียนนึกถึงแผนการในอนาคต ถ้าต่อไปเขาสร้างเกมดีๆ ได้ เขาจะลองให้
ตาแก่เผยเล่นดู พอตาแก่เล่นจนติด เขาก็จะบอกความจริงออกไป!
ถึงตอนนั้นตาแก่เผยต้องยอมรับเขาแน่!
เผยเชียนเชื่อว่าไม่มีใครหลีกหนีจากคำสาปติดเกมได้ ต่อให้ตอนแรกจะ
เกลียดนักเกลียดหนาก็ตาม!

ตอนนั้นเอง เผยเชียนก็ได้เลื่อนอ่านคอมเมนต์ดู
เว็บฟานฉูตอนนี้ยังไม่มีระบบคอมเมนต์วิ่งผ่านบนหน้าจอ
คิดว่าน่าจะอีกสักอย่างน้อยสองปี เว็บฟานฉูถึงจะเพิ่มระบบนี้เข้ามา
แต่ถึงจะใส่เพิ่มเข้ามาก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะเดี๋ยวจะมีเว็บไซต์ขึ้นมา
แทนที่ ส่วนเว็บฟานฉูก็จะตายหายไปอย่างรวดเร็ว
ถึงอย่างไรตอนนี้เว็บฟานฉูก็ยังเป็นเว็บให้บริการชมวิดีโอเจ้าใหญ่ที่มีคนสร้าง
คอนเท้นต์มาลงมากมาย
มีคนมาคอมเมนต์คลิปชีวิตประจำวันของบอสเผยไม่น้อย ถึงจะมีคอมเมนต์
แซะบ้างประปราย แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นคอมเมนต์ชมเชย!
“คิดว่าจะเป็นคลิปสั้นธรรมดาทั่วไป แต่พ อดูแล้วก็รู้เลยว่ามีความหมายแฝง
ลึกซึ้งซ่อนอยู่ ถึงจะดูตลกและไร้สาระ แต่ถ้ามองดีๆ ก็ค่อนข้างจริงเลยแหละ ขน
ลุกเลยเนี่ย…”
“เด็กคนนี้แสดงเก่งมาก แสดงเป็นพวกบ้านรวยได้เหมือนสุดๆ เป็นธรรมชาติ
มาก ฝีมือดีกว่านักแสดงวัยรุ่นคนอื่นๆ อีก!”
“ใช้มุกตลกร้ายมาเจาะปัญหาสัง คม คลิปนี้สะท้อนให้เห็นชีวิตได้ลึกซึ้งมาก
แถมยังจิกกัดล้อเลียนปัญหาในวงการอีก!”
“แสดงสีหน้าได้เป๊ะมาก ดูแล้วชวนให้คิดเลย โลกนี้มันสำหรับแค่พวกคนรวย
หรือเปล่านะ”
“บอสเผยแสดงดีมาก แสดงสีหน้าได้เยี่ยมสุดๆ ท่านอนขี้เกียจบนโซฟาทำให้
เชื่อเลยว่าเป็นบอสของบริษัท! เขาคือราชาแห่งวงการการแสดง ตกแฟนไปได้
เพียบ!”
“เม้นต์บน จัดการเม้นต์ปั่นไปหมดแล้วเหรอ ขยันมาก!”
“ถึงซีรีส์ตอนสั้นนี้จะดูไม่ได้ลงทุนเยอะ ดูจากภาพก็รู้ว่าใช้กล้อง DSLR ถ่าย
แต่ฉันว่าเนื้อหาค่อนข้างลึกซึ้งเลย มีอะไรให้ขบคิดเยอะ ดีกว่าซีรีส์อื่นที่เอาแต่ยัด
เอฟเฟ็กต์ใส่”
“ใครว่าลงทุนไม่เยอะ เสื้อผ้ากับของประกอบฉากก็ต้องใช้เงินมั้ย พวกเขา
ต้องเสียเงินซื้อสูทสั่งทำกับนาฬิกา Rolex ใช่มั้ยล่ะ ฉันซูมดูดีๆ แล้ว นาฬิกาของ
จริง ไม่ใช่ของก็อบเกรดเอ!”
“ฉันว่าพวกเขาน่าจะลงทุนไปทั้งหมดสองแสนหยวน แค่ซื้อนาฬิกาก็หมดไป
แล้วแสนแปด ฮ่าๆๆ”
“ในคลิปพูดถึงเรื่องสร้างเกมขับรถยาวแปดชั่วโมงด้วยเงินห้าหมื่นหยวน ใช่
เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายหรือเปล่า”
“หา เอามาจากเรื่องจริงเหรอ โคตรเจ๋งเลย!”
“ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงเหรอ”
“อย่าบอกนะ…ว่าเกมนั่นสร้างขึ้นมาแบบนี้จริงๆ!”
“ฮ่าๆๆ จะเป็นงั้นได้ไง คลิปนี่มันล้อเลียนให้เกินจริง เข้าใจมั้ย เกมโดดเดี่ยว
เดียวดายกลางทะเลอาจจะกาก แต่คนสร้างก็น่าจะตั้งใจคิดเลยแหละ!”
ชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นกันยกใหญ่ หลายคนพยายามเชื่อมโยงคลิปนี้กับ
บริษัทเถิงต๋า
แต่กลุ่มคนที่คิดอย่างนั้นก็ไม่มีหลักฐานมายืนยัน เลยไม่กล้าฟันธงอะไร
เผยเชียนปล่อยทุกเกมภายใต้ชื่อบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี ถ้าไม่ตั้งใจ
ไปค้นดูว่าใครเป็นเจ้าของบริษัทก็ไม่มีทางรู้ว่าคนคนนั้นคือเผยเชียน และยิ่งไม่มี
ทางรู้ได้แน่ว่าเขามาเป็นนักแสดงเรื่องนี้ด้วย
ถึงแม้ชาวเน็ตจะอยากค้นดูว่าเจ้าของบริษัทคือใครก็ทำได้ยาก เพราะต้องรอ
อีกสี่ปีกว่าเว็บไซต์แบบเว็บเทียนย่านฉา[1]จะถือกำเนิดขึ้นบนโลก
โลกนี้ยังอยู่ในปี 2010 ยังไม่มีเว็บไซต์แบบนั้น
ดังนั้นคนดูส่วนใหญ่จึงมองว่าเผยเชียนเป็นนักแสดงหนุ่มธรรมดาทั่วไป
มีบางคนเข้ามาคอมเมนต์ด่า
“โปรดักชันห่วยแตก! ดูไม่รู้เรื่องเลย!”
“ขำคนสร้าง ไม่รู้เรื่องห่าอะไรเลย! คิดว่าบอสทุกคนจะใส่ชุดสูทสั่งตัดกับ
นาฬิกา Rolex เหรอ! โคตรเหมารวมเลย บอสจริงๆ เขาใส่เสื้อยืดคอปกกับ
กางเกงขาสั้น ไม่ได้สนใจเรื่องการแต่งตัวอะไรหรอก”
“ใช่ๆ! กล้ามากที่บอกว่าใช้เงินแค่ห้าหมื่นหยวนก็สร้างเกมฮิตติดลมบนได้
เอาอะไรมาพูด ทำแบบนี้ไม่ได้ทำให้คลิปน่าสนใจเลย! เกมโดดเดี่ยวเดียวดาย
กลางทะเลทรายอาจจะไม่ได้ใช้ทุนสร้างเยอะ แต่ก็น่าจะใช้ทุนมากกว่าห้าหมื่น
หยวนแน่นอน!”
“ผมว่าน่าจะหาคนวัยกลางคนมาแสดงเป็นบอสเผยนะ บอสเผยคนนี้ก็แสดง
ดี แต่เด็กไปหน่อย ไม่ค่อยสมจริง!”
ถึงคอมเมนต์เหล่านี้จะมีไม่มาก แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่คิดแบบนี้
แต่เผยเชียนก็ไม่ได้สนใจอะไร
“โห แต่ละคนไม่ได้รู้อะไรเลย
“ห้าหมื่นหยวนสร้างเกมดังได้ ฉันก็ไม่เชื่อเหมือนกันแหละ แต่มันเกิดขึ้นแล้ว
ไง บอกไปใครจะเชื่อเนี่ย…”
เผยเชียนเฝ้าดูยอดวิวของคลิป
จากสถานการณ์ในตอนนี้บอกได้เลยว่าดูไม่ค่อยดีนัก!
เขายังหวังอยู่เล็กๆ ว่าผู้คนจะไม่ชอบซีรีส์นี้ ไม่ชอบความอวดรวยของตัว
ละคร
กลายเป็นว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้นไปเสียนี่!
ตอนนี้เผยเชียนทำได้แค่สวดมนต์ว่าผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อจะไม่รับโฆษณา!
ขอแค่ไม่มีรายได้จากการโฆษณา ยอดวิวจะเยอะแค่ไหนก็ไม่สำคัญ เพราะ
ไม่ได้ทำกำไรได้!

วันที่ห้าของช่วงตรุษจีน ชีวิตประจำวันของบอสเผยตอนที่สองออกอากาศ
วันที่เจ็ดของช่วงตรุษจีน เผยเชียนกลับไปทำงาน
เขาอยากเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร พ่อแม่ก็เอาแต่
ปฏิเสธ เผยเชียนจึงทำได้แค่ปล่อยไปก่อน
ตาแก่เผยมองว่าการที่ลูกตัวเองหาเงินได้เป็นเรื่องดี แต่ไหนๆ ก็เพิ่งหาเงินมา
ได้สามหมื่นหยวนก็น่าจะเก็บไว้ใช้ส่วนตัวจะดีกว่า ตาแก่จึงเอาแต่ปฏิเสธไม่รับเงิน
เผยเชียนทำได้แค่รอ
ถ้าเขาซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหม่ที่ช่วยหุงข้าวได้เข้าบ้าน พ่อแม่ของเขาจะต้อง
เห็นด้วยกับการเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างในบ้าน แม้ตอนแรกจะต่อต้านก็
ตาม!
ถึงเผยเชียนจะรอจนถึงช่วงวันหยุดฤดูหนาวแล้วค่อยกลับไปทำงานก็ได้ แต่ก็
ต้องมีคนคอยจับตาดูสถานการณ์ที่ออฟฟิศ
ชายหนุ่มไม่ได้กลัวว่าโปรเจ็กต์ต่างๆ ของบริษัทจะพังไม่เป็นท่าตอนที่ตัวเอง
ไม่อยู่ เขากลัวว่ามันจะไม่พังต่างหาก!
หลังจากตั้งใจทำงานอย่างหนักหน่วง ในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสผลจากหยาดเหงื่อ
ของเขาครั้งก่อนที่ทำขาดทุนได้สองหมื่นกว่าหยวน ครั้งนี้ถ้าตั้งใจพยายามอย่าง
หนัก เขาคิดว่าน่าจะทำให้บริษัทขาดทุนได้ง่ายๆ สักเจ็ดถึงแปดแสนหยวน
จากนั้นก็ค่อยบอกครอบครัวไปว่าซีรีส์ดังเป็นพลุแตก ได้เงินมาก้อนใหญ่ ถ้า
อ้างแบบนี้ เขาก็จะสามารถใช้เงินซื้อของเข้าบ้านได้โดยที่พ่อแม่ไม่ต่อต้าน
อืม เอาแบบนี้แหละ!

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ชีวิตประจำวันของบอสเผยตอนที่สามออกอากาศ
เผยเชียนเข้าเว็บไซต์ไปดูคลิปอีกครั้ง
โห ทั้งสามคลิปมียอดวิวเกือบห้าแสนแล้ว!
ยอดแฟนคลับพุ่งพรวดเป็นสองถึงสามร้อยคน!
ซีรีส์ได้ขึ้นแนะนำตรงจุดที่เด่นขึ้นเรื่อยๆ บนเว็บฟานฉู นอกจากนี้ยังมีโอกาส
ที่ซีรีส์นี้จะกระจายไปในเว่ยป๋อและแพลตฟอร์มอื่นๆ ด้วย
เผยเชียนปิดคลิปลงเงียบๆ
เขาพยายามสงบจิตสงบใจ
ไม่เป็นไรหรอก ไม่เป็นไร ก็แค่ซีรีส์ตอนสั้น…
ทุ่มเงินไปตั้งหนึ่งล้าน คงอีกนานกว่าจะได้เงินคืนทุน
ก็ไม่ได้แน่นอนว่าจะมีสปอนเซอร์เข้า ถึงมีก็ไม่น่าได้เงินเยอะแยะอะไร
เผยเชียนทำได้แค่ปลอบตัวเอง
ระหว่างที่กำลังครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ เขาก็ได้ยินเสียงทักทายจากด้านนอก
“ผู้กำกับจูมาแล้ว!”
“ผู้กำกับจู ซีรีส์ดังใหญ่แล้ว! เลี้ยงฉลองเลยมั้ย”
“ผู้กำกับจู เมื่อไหร่จะให้ผมเป็นตัวเด่นบ้าง”
มีหลายคนในออฟฟิศได้ร่วมแสดงซีรีส์ด้วย อย่างเสี่ยวลู่ก็ได้ออกหลายฉาก
เลย ตอนแรกของซีรีส์ เขาได้เล่นเป็นเด็กฝึกงานที่ต้องสร้างเกมด้วยเงินห้าหมื่น
หยวน
ถึงจะได้ค่าแรงจากการถ่ายซีรีส์ไม่มาก แต่พวกเขาก็ไฟแรงกันทุกคน!
เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะไม่ว่าผู้กำกับจูจะเสนอค่าแรงให้เท่าไหร่ก็ไม่มีทาง
เทียบกับเงินเดือนที่บอสเผยเสนอให้ได้!
ที่สำคัญที่สุดเลยคือพวกเขาได้หน้าจากซีรีส์นี้!
ใครกันจะไม่อยากมีชื่อเสียง
ดังนั้นพอจูเสี่ยวเช่อมาถึงออฟฟิศก็ได้รับการต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
พวกเขาอยากสนิทกับผู้กำกับจูเผื่อตอนหลังๆ จะได้ออกหลายฉาก หรือไม่ก็
ได้เล่นเป็นตัวเอกในซีรีส์พิเศษอย่าง ‘ชีวิตหนึ่งวันของเด็กฝึกงานของบอสเผย’
จูเสี่ยวเช่อถือกล้อง DSLR พลางให้คำมั่นสัญญากับผู้คนในออฟฟิศ
“ได้เลย! เดี๋ยวตอนหลังๆ ได้ออกหลายฉากแน่ครับ!
“เดี๋ยวพี่จะได้ซีรีส์พิเศษเป็นของตัวเองหลังจบเรื่องนี้!
“แต่ตอนนี้พี่ต้องเต็มที่กับงานนี้ก่อน ไม่งั้นบอสเผยไล่ผมออกแน่”
หลังจากชมทุกคนเสร็จ จูเสี่ยวเช่อก็เดินไปเคาะประตูห้องทำงานของบอสเผย
เบาๆ
………………………
[1] เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลบริษัทต่างๆ
บทที่ 95 คำแนะนำของบอสเผย ‘ไม่รับสปอนเซอร์’!

เผยเชียนรู้ว่าพวกเขาต้องถ่ายตอนต่อไปแล้ว
ทั้งสามตอนที่เตรียมไว้ก่อนตรุษจีนออกอากาศไปหมดแล้ว
ถ้าอยากปล่อยตอนสี่ในอีกสามวัน สองวันถัดจากนี้พวกเขาต้องรีบทำงานกัน
แต่สำหรับซีรีส์อย่างชีวิตประจำวันของบอสเผย ถ้ามีบทแล้ว การถ่ายทำ ตัด
ต่อ พากย์เสียง และอื่นๆ ก็ใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง เหมาะสำหรับโปรดักชันเร่งด่วน!
ดังนั้นเวลาจึงไม่ใช่ปัญหา พวกเขามีเวลาเหลือเฟือทีเดียว
เผยเชียนเองก็ไม่ทีทางเลือกอื่น ในเมื่อเซ็นสัญญาไปแล้ว และไม่มีปัญญาจ่าย
ค่าปรับ เขาจึงต้องถ่ายงานต่อตามสัญญา
เนื่องจากไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ เขาจึงทำได้แค่ประคองสถานการณ์ไปจะได้
เจ็บปวดน้อยลง
ไม่นานตอนที่สี่ก็ถ่ายทำเสร็จ
จูเสี่ยวเช่อดูกล้อง DSLR ในมือก่อนจะยกมือขึ้นพร้อมทำสัญลักษณ์ ‘โอเค’
“เยี่ยมเลยครับ! บอสเผยแสดงดีมากครับ!
“โปรดิวเซอร์เกมที่ไม่ได้อยากเป็นดาราดังไม่มีทางเป็นบอสที่ดีได้!
“จริงด้วย บอสเผยครับ พี่หวงให้ผมมาถามความเห็นบอสเรื่องการร่วมงาน
กับบริษัทอื่น…”
จูเสี่ยวเช่อมองไปทางห้องรับแขกข้างๆ
เผยเชียนเข้าใจทันทีว่าอีกฝ่ายอยากคุยกันแบบเป็นส่วนตัว
ถ้าเป็นเรื่องอื่นเขาคงโบกมือปัด บอกให้จูเสี่ยวเช่อกับหวงซื่อปั๋วเป็นคน
ตัดสินใจเอง
แต่พอได้ยินว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการร่วมงานกับบริษัทอื่น ชายหนุ่มก็ตื่นตัวขึ้น
ทันที
“ไปที่ห้องรับแขกกัน”
การร่วมงานกับบริษัทอื่น…ก็คือการรับสปอนเซอร์นั่นเอง
เผยเชียนกังวลเรื่องนี้มาก!
ถ้าหวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อไม่ได้ยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด เผยเชียนก็คงไม่กล้าถาม
ขึ้นมา
เพราะอย่างไรเผยเชียนก็ให้เงินทุนไปหนึ่งล้านหยวนพร้อมกับบอกว่าจะไม่ยุ่ง
อะไรเลย ตอนนี้ซีรีส์ก็ปล่อยไปหลายตอนแล้ว แถมความนิยมยังพุ่งพรวด ถ้าจู่ๆ
เข้าไปจุ้นจ้านก็คงไม่เหมาะ
จะกลายเป็นคนไม่รักษาคำพูดไป
ถ้าลูกน้องหมดความเชื่อใจ ก็ยากที่จะนำทีมได้อีก!
เนื่องจากตอนนี้จูเสี่ยวเช่อเป็นคนยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเอง เผยเชียนจึงมีโอกาส
ขึ้นมา
เผยเชียนฟังอย่างตั้งใจหลังจากเข้าไปในห้องรับแขก
จูเสี่ยวเช่อดูจะตื่นเต้นเล็กน้อย “บอสเผยครับ มีคนติดต่อลงโฆษณามาเจ้า
แรกเมื่อสองวันก่อน! อะแฮ่ม หมายความว่าเราเริ่มรับสปอนเซอร์ได้แล้ว!”
“…”
แย่แล้ว เร็วไปหน่อยนะเนี่ย!
เผยเชียนคิดว่าน่าจะมีสปอนเซอร์เข้าหลังจากผ่านไปสักสองหรือสามสัปดาห์
หรืออาจจะหนึ่งเดือน แต่ผ่านไปไม่กี่วันกลับมีคนติดต่อมาขอเป็นสปอนเซอร์แล้ว!
เผยเชียนพยายามตีหน้าขรึม “อืม เขาเสนอมาว่ายังไง”
จูเสี่ยวเช่อตอบ “เป็นโฆษณาเกี่ยวกับร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ครับ เขาอยาก
ให้ช่วยโฆษณาเสื้อยืดตัวใหม่ให้”
“ข้อตกลงคือให้ตัวประกอบใส่เสื้อ ตัวที่ว่าแล้วพูดโฆษณาเสื้อ ผ้าให้ หนึ่ง
ประโยค ผมว่าคนดูน่าจะเข้าใจตรงนี้ ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่อะไร”
เผยเชียนนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้น “เขาให้เท่าไหร่”
“ห้าพันหยวนครับ! ไม่ได้เยอะมาก แต่นี่ก็เพิ่งเริ่มต้นเองครับ เป็นแค่ก้าว
แรก” จูเสี่ยวเช่อตอบ
อะไรเนี่ย!
แค่สปอนเซอร์เจ้าแรกก็เสนอให้ห้าพันหยวนแล้วเหรอ
เผยเชียนอึ้งไป
ได้แพงขนาดนั้นเลยเหรอ
ถึงเผยเชียนจะไม่มั่นใจว่าสปอนเซอร์ของอัปโหลดมาสเตอร์เป็นอย่างไร แต่ก็
พอจะรู้บ้างคร่าวๆ ในปี 2010 คนส่วนใหญ่ดูถูกพวกทำคอนเท้นต์วิดีโอมาก ถึง
ขนาดมองว่าเสื่อมเสียเกียรติกันเลยทีเดียว
อัปโหลดมาสเตอร์ส่วนใหญ่มีงานประจำหลักกันอยู่แล้ว
เผยเชียนจำได้ว่าเคยเห็นวิดีโอของ Hawk Ao ในปี 2019 ที่พูดถึงตอน
ช่วงแรกๆ ที่ได้สปอนเซอร์ ในปี 2011 คลิปสั้นของเขามียอดคนดูแค่ประมาณ
หนึ่งแสนวิว เขาเริ่มได้สปอนเซอร์ตอนที่ทำงานร่วมกับ League of Legends
ตอนนั้น Hawk Ao ได้เงินจากสปอนเซอร์เท่าไหร่น่ะเหรอ
หนึ่งพันหยวน
ใช่ เกมก็ดัง บริษัทก็ใหญ่ แต่ได้แค่หนึ่งพันหยวน!
ถึงยอดคนดูคลิปชีวิตประจำวันของบอสเผยจะเฉลี่ยอยู่ที่ตอนละประมาณห้า
แสนวิว แต่ก็เพิ่งจะเป็นกระแสได้แค่ไม่กี่วัน! ใครจะไปรู้ว่าวันหนึ่งคนสร้างอาจ
หมดมุกและตัดจบเอาดื้อๆ
ดังนั้นห้าพันหยวนจึงถือว่าเป็นราคางาม ไม่ได้พูดเกินจริงเลย
แน่นอนว่านี่เป็นเรตราคาของอัปโหลดมาสเตอร์ทั่วไป ถ้ามีปัจจัยอื่นอย่าง
เรื่องลิขสิทธิ์และเนื้อหาเฉพาะก็จะใช้เรตราคาอื่น
เผยเชียนถอนหายใจ “ผมแนะนำว่า…ให้ปฏิเสธไปดีกว่า”
จูเสี่ยวเช่อแปลกใจ
เงินลงทุนก็ของบอสเผย
บอสควรจะดีใจมากกว่าคนอื่นที่สามารถหาเงินคืนทุนและทำกำไรได้สิ
“ผมไม่เข้าใจเท่าไหร่ครับ บอสเผยช่วยอธิบายได้ไหมครับ ” จูเสี่ยวเช่อถาม
อย่างสุภาพ
เพราะถึงจะเป็นคนเก่งกาจแค่ไหน เขาก็ยังเป็นแค่เด็กมหาวิทยาลัยปีสี่อยู่ดี
ไอรีนโนเวล
เขายังต้องฟังคำแนะนำของบอสเผย
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเริ่มต้นธุรกิจ
คือมองให้ไกลเข้าไว้
“จริงอยู่ที่ได้เงินจากสปอนเซอร์ห้าพันหยวนนั้นฟังดูดี
“แค่โฆษณาเพิ่มให้ตอนต่อไปนิดหน่อยก็ได้มาแล้วห้าพันหยวน จะไปหา
ข้อเสนอดีๆ แบบนี้ได้ที่ไหนอีก
“แต่คุณต้องคิดดูด้วยว่าการเพิ่มเสื้อยืดที่ว่าเข้าไปในคลิป เราต้องหาทางยัด
มันเข้าไปไม่ก็แก้บท ถ้าเป็นแบบนั้นแก่นหลักดั้งเดิมของตัวซีรีส์จะยังอยู่หรือเปล่า
“ทำแบบนี้ก็เหมือนขายวิญญาณของเราเอง”
สีหน้าของเผยเชียนดูเจ็บปวด เหมือนว่าเขาเห็นเหตุการณ์แบบที่พูดไปเกิดขึ้น
จริงๆ
“ต่อไปถ้าสปอนเซอร์ที่เข้าเป็นเครื่องสำอาง ครีมอาบน้ำ หรือยาสระผมล่ะ
ถ้าต้องทำซีรีส์ตามสปอนเซอร์ที่เข้า เราจะโชว์ผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของคุณได้
ยังไง
“โปรเจ็กต์ใหญ่ที่คุณปั้นมากับมือ…ถ้าพังเพราะเงินแค่ห้าพันหยวน เราจะไม่
เสียเยอะกว่าที่ได้มาเหรอ”
จูเสี่ยวเช่อตัวสั่น
แค่บอสเผยพูด มุมมองของเขาก็เปลี่ยนทันที!
จูเสี่ยวเช่อมัวสนใจเงินห้าพันหยวน
แต่บอสเผยสนเรื่องคุณค่าของตัวซีรีส์!
นี่…คือความแตกต่างระหว่างเจ้าของบริษัทกับนักศึกษาที่ไม่มีประสบการณ์
ชีวิตสินะ
เผยเชียนหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่ออย่างกระตือรือร้น “ผมไม่อยากให้ทั้ง
คุณและหวงซื่อปั๋วรู้สึกกดดัน!
“เงินแค่ล้านเดียวเอง ขาดทุนไปจะเป็นอะไร
“แค่ปัญหาเล็กน้อย!
“จะทำผลงานให้ออกมาดี คุณภาพต้องมาก่อนปริมาณ ต้องเลือกระหว่างจะ
ไปให้สุดทางหรือจะยอมทำลายชื่อเสียงตัวเอง จะให้กลายเป็นว่าเสียทั้งเงินและ
ชื่อเสียงไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นคือโง่มากๆ เข้าใจที่ผมพูดไหม”
จูเสี่ยวเช่อพยักหน้ารัว “โอเคครับบอสเผย ผมเข้าใจแล้ว!”
เผยเชียนจิบชาอย่างใจเย็นแล้วพูดต่อ “ถ้าอย่างนั้นเอาแบบนี้เป็นไง ถ้าพวก
คุณยอมฟังที่ผมพูด เราจะตั้งมาตรฐานหรือเรตราคาสำหรับการรับสปอนเซอร์
ของซีรีส์เรื่องนี้กัน
“ให้โฆษณาสินค้าโต้งๆ ดูยัดเยียดเกินไป เราไม่ควรทำแบบนั้น
“ถ้าจะทำ เราจะทำแค่คลิปคุณภาพเยี่ยมที่สามารถปรับแต่งได้เอง!
“โฆษณาหนึ่งครั้ง หนึ่งแสนหยวน! ราคานี้ไม่แพงเลย เพราะของคนอื่นๆ แค่
ยัดโฆษณาเข้าไปในคลิป แต่พวกคุณสามารถทำขึ้นมาใหม่ให้ดีๆ ไปเลยได้
“แต่ละคลิป ตั้งแต่ต้นจนจบ จะเป็นการพูดถึงสปอนเซอร์อย่างเดียวโดยยัง
รักษามาตรฐานคุณภาพของเราไว้
“ถ้าทำแบบนี้ เราก็จะมั่นใจได้ว่าคนดูจะดูคลิปได้อย่างสนุกสนาน รวมถึงยัง
มั่นใจได้ว่าจะโฆษณาสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รักษาชื่อเสียงของซีรีส์ไว้ได้
ด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัวเลย”
จูเสี่ยวเช่อดูกังวล “แต่บอสเผยครับ แบบนั้นมาตรฐานจะไม่สูงไปเหรอครับ
แค่จะหาสปอนเซอร์ก็ไม่ง่ายแล้ว ถ้าต้องทำคลิปที่พูดถึงสินค้าโดยที่ยังรักษา
คุณภาพอีกคง…”
เผยเชียนพยักหน้าเล็กน้อยขณะจิบชา เขามองจูเสี่ยวเช่อด้วยดวงตาที่เปี่ยม
ไปด้วยความมั่นใจ “ผมเชื่อมั่นในความสามารถของคุณ คุณก็ต้องเชื่อมั่นในตัวเอง
ด้วย”
จูเสี่ยวเช่ออ้าปาก แต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป
สีหน้าของบอสเผยได้อธิบายทุกอย่างแล้ว!
“โอเคครับบอสเผย ผมเข้าใจแล้ว!” จูเสี่ยวเช่อพยักหน้ารัว
บทที่ 96 พนักงานทุกคนของผมคือเพชรในตม

หลังจากให้จูเสี่ยวเช่อกลับออกไป เผยเชียนก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย
โชคดีที่ทุกคนเคารพบอสเผย!
ช่วงปีนี้ซีรีส์ตอนสั้นไม่ได้ทำกำไรมากมายนัก เพราะพวกเว็บไซต์ลงวิดีโอยัง
ไม่ได้ให้รางวัลพิเศษหรือโบนัสอะไรเรื่องยอดวิว
การจะทำกำไรจากซีรีส์ตอนสั้นได้มีทางหลักๆ อยู่แค่ไม่กี่ทาง
ทางหนึ่งคือร่วมงานกับบริษัทโฆษณา นำสินค้าใส่เข้าไปในคลิป ถือเป็นวิธี
ดั้งเดิมที่ใช้กันทั่วไปของพวกสินค้าด้านความงามและเกม
เฉียวเหลียงที่มีชื่อเสียงจากเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายก็ใช้วิธีนี้ใน
การหาเงิน
อีกวิธีคือเปิดเว็ปไซต์ทางการหรือหารายได้เสริมจากอะไรก็ตามที่ขายได้
วิธีนี้อาจช่วยหากำไรได้มากมายหรืออาจทำให้ล้มละลายก็ได้ ผู้เล่นมืออาชีพ
หลายคนที่เลิกรับสปอนเซอร์แล้วมักจะหันมาหารายได้จากช่องทางนี้แทน
แน่นอนว่ายังมีวิธีอื่นๆ อยู่อีก แต่ก็เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้เท่าไหร่ อัปโหลด
มาสเตอร์ทั่วไปไม่ควรใช้วิธีเหล่านี้
ก็เหมือนที่พวกนักเขียนออนไลน์หวังอยากให้ผู้คนเลิกอ่านเถื่อนแล้วหันมา
จ่ายเพื่ออ่านจากตัวเองโดยตรง ซึ่งจะช่วยหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำจากผลงาน
ลิขสิทธิ์…
แต่นั่นก็เป็นแค่ฝันลมๆ แล้งๆ ที่ใครๆ ก็นึกฝันกัน
อีกอย่างเผยเชียนก็เพิ่งจะกล่อมให้จูเสี่ยวเช่อเลิกรับสปอนเซอร์ราคาถูกได้
ทำแบบนี้ก็จะตัดรายได้ของซีรีส์เรื่องชีวิตประจำวันของบอสเผยไปได้ถึงเก้า
สิบเก้าเปอร์เซ็นต์!
เพราะคนที่จะมาจ้างต้องรวยแค่ไหนกันถึงจะยอมจ่ายหนึ่งแสนหยวนให้
อัปโหลดมาสเตอร์ทำคลิปคุณภาพที่ออกแบบให้โดยเฉพาะ
ไปซื้อพื้นที่โฆษณาจากเว็บโดยตรงไม่ดีกว่าหรือ
คิดได้อย่างนั้นเผยเชียนก็รู้สึกโล่งใจ

ใครคนหนึ่งเคาะประตู
“เข้ามาได้”
ลู่หมิงเหลียงเปิดประตูเข้ามาในห้อง
“มีอะไรเหรอ” เผยเชียนถาม
แบบร่างเกมนักออกแบบเกมเสร็จสมบูรณ์ไปตั้งแต่ก่อนตรุษจีนแล้ว และเผย
เชียนก็อนุมัติไปเรียบร้อย ไม่น่าจะมีอะไรที่ต้องเปลี่ยนแปลงมากนัก
เผยเชียนไม่ได้สนใจเรื่องงานภาพกับขั้นตอนการสร้างเพราะเขาเป็นบอส การ
ลงไปคอยควบคุมเรื่อ งเล็กน้อยจะทำให้เขาดูเหมือนไม่รู้จักจัดการเวลาและ
จัดลำดับความสำคัญของงาน
ตอนนี้มีแค่โปรเจ็กต์ชีวิตประจำวันของบอสเผยที่เขาต้องคอยจับตาดูและ
คอยคุ้มกันด้วยชีวิต!
“บอสเผย ผมมาคุยเรื่องเสียงพากย์ครับ
“เรื่องเสียงพากย์ ผมหาคนมีช ื่อ เสียงในประเทศได้สามสี่คน เราให้ลอง
ทดสอบอัดเสียงดูแล้ว บอสช่วยฟังแล้วเลือกให้ได้ไหมครับ ผมตัดสินใจไม่ถูก ” ลู่
หมิงเลี่ยงบอก
เสียงพากย์หรือ
อืม ฉันว่าฉันควรใส่ใจเรื่องเสียงพากย์สักหน่อย
เกมนักออกแบบเกม (ที่มีรูปแบบการเล่นแบบให้เลือกตอบตัวเลือกไปเรื่อยๆ)
มีความยาวประมาณแปดชั่วโมง ใช้เสียงพากย์ตั้งแต่เริ่มจนจบ นับรวมจำนวนคำ
ทั้งหมดในบทจะอยู่ที่ประมาณสี่ถึงห้าหมื่นคำ
เรตราคาการพากย์เสียงในตลาดนั้นถูกมาก
สำหรับบทประมาณห้าหมื่นคำ ราคาถูกที่สุดจะอยู่ที่สองถึงสามพันหยวน
ส่วนแพงที่สุดจะอยู่ที่หนึ่งหมื่นหยวน
เทียบกับทุนสร้างทั้งหมดของเกมนักออกแบบเกมแล้วถือเป็นเงินแค่เล็กน้อย
เผยเชียนไม่ได้กังวลเรื่องเงินอยู่แล้ว
เขากังวลว่าเสียงพากย์จะทำให้ผู้เล่นเลิกเล่นเกมไม่ได้
แน่นอนว่าถ้าพวกเขาไปหาคนเสียงเพี้ยนกับพูดไม่ชัดตามท้องถนนมาพากย์
เสียงให้ก็คงจะได้ผลลัพธ์ตามที่หวังไว้ แต่จะเป็นการละเมิดกฎแน่ๆ
เผยเชียนทำได้แค่เลือกคนที่ไม่ได้โดดเด่นมากจากนักพากย์ที่ผ่านการคัดเลือก
ถึงจะอยากได้คนธรรมดาๆ มาพากย์ แต่อย่างน้อยเขาก็ต้องหาคนที่ พูดจาได้
ชัดเจน ถ้าหาคนที่มีปัญหาด้านการพูดมา ระบบต้องจับได้แน่นอน
ลู่หมิงเหลียงติดต่อคนไปจำนวนหนึ่งจากเว็บไซต์รวมทรัพยากรให้มาพากย์
เสียงให้ เขาอัดเสียงตัวอย่างประโยคจากเกมไว้ให้เผยเชียนช่วยฟัง
เผยเชียนเปิดฟังทีละไฟล์
เสียงแรกเป็นเสียงหญิงสาวที่ดูมั่นใจในตัวเอง
เขาเปิดฟังไฟล์ต่อไปโดยไม่ลังเล
เสียงนี้ไม่ได้เด็ดขาด! คิดดูสิว่าพวกติดเกมไม่ออกจากบ้านจะตื่นเต้นแค่ไหนที่
ได้ยินเสียงนี้!
เสียงที่สองเป็นเสียงนุ่มๆ ของผู้หญิง ฟังแล้วชวนคล้อยตามและผ่อนคลาย
จิตใจ
อันนี้ก็ไม่ได้! เหมาะเอาไปทำคลิป ASMR[1] มากกว่า
เสียงทีส่ ามเป็นเสียงผู้ชายธรรมดาทั่วไป
เสียงที่สี่เป็นเสียงผู้ชายค่อนข้างแหลมสูง บาง ขึ้นจมูก และแหบห้าวเล็กน้อย
เผยเชียนลังเลระหว่างตัวเลือกที่สามกับสี่
เสียงที่สามเป็นเสียงดาษดื่นทั่วไป ไม่ได้โดดเด่น
แต่เขาพูดเสียดสีได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โทนเสียงเหมือนผู้ประกาศข่าวมากกว่า
ไม่น่าจะทำให้ผู้เล่นเลิกเล่นได้
เลือกเสียงที่สี่แล้วกัน!
เสียงนี้ไม่ได้ฟังลื่นหูเลย อาจจะฟังยากและไม่สบายหูสำหรับบางคน เหมือน
เสียงเล็บขูดกับกระดานดำ เหมาะมากที่จะทำให้ผู้เล่นเลิกเล่นเกม!
อีกอย่างเพราะอะไรก็ไม่รู้ แต่พอยิ่งฟัง เผยเชียนก็ยิ่งรู้สึกอยากกระทืบ
เจ้าของเสียง
ผู้เล่นจะต้องรู้สึกเหมือนกันแน่!
เนื่องจากเป้าหมายอันดับหนึ่งคือปั่นประสาทผู้เล่น ยิ่งเสียงยั่วยุกวนบาทา
เท่าไหร่ก็ยิ่งดี!
เผยเชียนทุบโต๊ะ “เอาเสียงนี้ ฟังดูมีเอกลักษณ์ดี”
ลู่หมิงเหลียงดูไฟล์เสียงที่บอสเผยฟังแล้วทำหน้าเหยเก
เผยเชียนงง
“ทำไมเหรอ
“หรือคนนี้เรียกค่าตอบแทนสูง
“หรือว่าเขายุ่งมาก
“เสนอให้เงินเพิ่มได้เลย!”
เผยเชียนเชื่อว่าปัญหาส่วนใหญ่ในโลกนี้ที่สามารถแก้ได้ด้วยเงินไม่นับว่าเป็น
ปัญหาอะไร!
โดยเฉพาะเรื่องการพากย์เสียง คนเหล่านี้ต้องทำงานหนัก แต่ค่าตอบแทน
กลับไม่ได้สูงมาก ให้เงินเพิ่มอีกไม่กี่พันจะเป็นอะไรไป
“ไม่ใช่แบบนั้นครับบอสเผย ไฟล์นี้คือไฟล์เสียงตัวอย่างที่ผมส่งให้นักพากย์
เพื่อจะได้เป็นไอเดียคร่าวๆ ว่าควรใช้โทนเสียงไหน ไฟล์นี้ผมเป็นคนอัดเสียงเอง…
“ผมน่าจะรวมไฟล์ทั้งหมดไว้ในโฟลเดอร์เดียวกันแล้วลืมแยกออก…” ลู่หมิง
เหลียงพูดพร้อมเกาหัว
เผยเชียนตะลึงงันไป
มาคิดดูดีๆ เสียงไฟล์สุดท้ายมีเสียงรบกวนในฉากหลังเป็นพักๆ ถึงเสียงฉาก
หลังจะค่อนข้างเงียบ แต่ก็ยังได้ยินเสียงรบกวนอย่างชัดเจน บ่งบอกได้ว่าอุปกรณ์
ที่ใช้อัดเป็นของคุณภาพไม่ค่อยดีนัก
เผยเชียนมองเสี่ยวลู่ “คุณ…เป็นคนอัดไฟล์นี้เหรอ เสียงไม่เห็นเหมือนคุณ
เลย!”
ลู ่ ห มิ ง เหลี ย งพยั ก หน้ า “ใช่ ค รั บ ผมดั ด เสี ย งตั ว เองตอนพากย์ พยายาม
เลียนแบบเสียงคนโรคจิต…
“อย่าเข้าใจผิดนะครับบอสเผย ช่วงนี้ผมดูหนังแนวอาชญากรรมฝั่งตะวันตก
มาบ้าง แต่นิสัยผมยังเหมือนเดิม! จิตยังปกติดี!
“บอสเผยครับ ช่วยเลือกอันอื่นเถอะครับ….”
เผยเชียนมองเสี่ยวลู่ตาเป็นประกาย
เยี่ยม! นี่มันเพชรในตม!
“ไม่ ผมอยากได้เสียงคุณ! ผมอยากได้เสียงแหบๆ โรคจิตๆ แบบนี้ นอกจาก
คุณแล้วก็ไม่มีคนอื่นทำได้!”
เผยเชียนยืนกราน “ผมจ่ายค่าพากย์เสียงให้คุณเต็มที่ ฝากจัดการเรื่องนี้ด้วย”
“แต่บอสเผยครับ เราไม่มีอุปกรณ์สำหรับอัดเสียง…” เสี่ยวลู่กังวลใจมากขึ้น
เรื่อยๆ
เผยเชียนโบกมือ “กังวลเรื่องแค่นี้เหรอ ไปเช่าสตูดิโออัดเสียงสิ แค่นี้ก็หมด
ปัญหาแล้ว ชั่วโมงละเท่าไหร่เอง อย่างมากก็น่าจะแค่สองสามร้อยหยวนใช่มั้ย
“เอาเป็นว่ามากสุดชั่วโมงละไม่เกินสามร้อยแล้วกัน ไปหาเช่าสตูดิโอดีๆ สัก
สามวัน สามวันเท่ากับเจ็ดสิบสองชั่วโมง ก็สองหมื่นหยวน ตอนอัดไม่ต้องให้คน
สอนพากย์เสียงมาช่วยพากย์ ให้ยืนข้างๆ และช่วยแนะนำก็พอ!
“ถ้าสามวันไม่พอก็เช่าเพิ่ม!
“ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เหนื่อยก็พัก หายเหนื่อยค่อยกลับไปพากย์ต่อ คุณภาพ
ต้องออกมาดี ส่วนคุณก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีด้วยเหมือนกัน
“โอเค เอาตามนี้ ไปให้เลขาซินจัดการที่เหลือ”
เผยเชียนทำหน้าเหมือนจะสื่อว่า ‘ไม่ต้องคุยเรื่องนี้อีกแล้ว’
ลู่หมิงเหลียงเกาหัว ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี
ควรจะขอบคุณบอสเผยที่เชื่อมั่นในความสามารถของเขาดีไหม หรือจะบอก
ไปว่านี่มันมากเกินกว่าที่เขาจะรับไหวดี
แต่พอเห็นสายตาแน่วแน่ของบอสเผย ลู่หมิงเหลียงก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่
พยักหน้าและทำตามที่บอสบอก
จบเรื่อง!
แค่นี้ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลเกี่ยวกับเกมนี้เท่าไหร่แล้ว
ตอนแรกเรื่องซีรีส์ตอนสั้นทำให้เผยเชียนคิดว่าทุกอย่างเริ่มไม่เข้าที่เข้าทาง
แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าทุกอย่างยังอยู่ในการควบคุมอยู่!
โปรเจ็กต์เกมนักออกแบบเกมและร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูดำเนินการสู่การ
ขาดทุนอย่างราบรื่น
ส่วนซีรีส์เรื่องชีวิตประจำวันของบอสเผย ถึงตอนแรกจะมีกระแสตอบรับถล่ม
ทลาย แต่เผยเชียนก็หยุดผู้กำกับจูไม่ให้รับ ‘สปอนเซอร์’ ยิบย่อยได้
สมบูรณ์แบบ!
แน่นอนว่าเผยเชียนจะประมาทไม่ได้
ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจ ทำไมพนักงานของเขาถึงทำให้หนักใจได้ขนาดนี้
ทำไมถึงเก่งกันล่ะ ตอนจ้างไม่เห็นว่าจะมีพรสวรรค์หรือความสามารถอะไร
เลยสักนิด
โชคดีที่ยังมีเจ้าน้องรัก
หม่าหยางยังคงเป็นที่น่าไว้วางใจและไม่มีความสามารถอะไรเลยสักอย่าง!
พูดถึงหม่าหยาง ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเริ่มตกแต่งภายในแล้ว
เจ้าของร้านเดิมตกแต่งร้านไว้ดีแล้ว การแปลงโฉมร้านให้กลายเป็นร้าน
อิ น เทอร์ เ น็ ต ก็ แ ค่ ป รั บ แต่ ง และวางโครงสร้ า งใหม่ ไม่ น ่ า จะใช้ เ วลานานมาก
ประมาณครึ่งเดือนก็น่าจะเสร็จ
คาดการณ์ไว้ว่าน่าจะเสร็จประมาณวันที่ 7 หรือ 8 มีนาคม
มีหม่าหยางช่วยดูให้ เผยเชียนก็พอวางใจได้
เขาตั้งใจจะเข้าไปดูหลังจากตกแต่งร้านเสร็จเรียบร้อย ขอแค่หม่าหยางกับ
จางหยวนไม่เพิ่มอะไรเว่อร์วังเข้ามา ร้านอินเทอร์เน็ตแห่งนี้จะต้องขาดทุนได้อย่าง
ราบรื่นแน่นอน!
………………………..
[1] Autonomous Sensory Meridian Response เป็นคลิปที่มีเนื้อหาที่
เน้นเสียงความละเอียดสูง เพื่อสร้างความผ่อนคลายหรือกระตุ้นอารมณ์ผู้ฟัง เช่น
เสียงกระซิบ เสียงทำอาหาร
บทที่ 97 ประชุมเรื่องจุดประสงค์ของบอสเผย

วันพุธที่ 24
ทีมออกแบบมีประชุมกัน
เผยเชียนตั้งใจไม่เข้าประชุมด้วยเพราะแบบร่างเสร็จสมบูรณ์แล้วและเริ่ม
กระบวนการสร้ า งเกมไปแล้ ว ด้ ว ย ในฐานะบอส เขาไม่ จ ำเป็ น ต้ อ งใส่ ใ จ
รายละเอียดเล็กน้อยและไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่
ช่วงนี้ลู่หมิงเหลียงแบกรับงานเกือบทุกอย่างไว้เอง
แม้หวงซื่อปั๋วที่ตายไปแล้ว เอ้ย ที่หายหัวไปเลยจะทำให้ทุกคนวุ่นวายกัน
เล็กน้อย แต่ทุกคนก็มีหน้าที่ข องตั วเองกันอยู่ แล้ วและโครงสร้า งภายในที ม
ออกแบบก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมาก พวกเขาจึงกลับคืนสู่สภาวะปกติอย่าง
รวดเร็ว
ลู่หมิงเหลียงเองก็เริ่มชินกับภาระงานในฐานะหัวหน้าฝ่ายวางแผนหลังจาก
ทำงานไปสักพัก นอกจากการที่เขาชอบทำอะไรเองคนเดียว ไม่ยอมแจกจ่ายงาน
ให้คนอื่นแล้ว ก็ไม่พบปัญหาอะไรเป็นพิเศษ
หลังจากทำตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวางแผนไปพักหนึ่ง ลู่หมิงเหลียงก็ตระหนักว่า
ตำแหน่งนี้ง่ายกว่าที่เขาคิดเอาไว้ในตอนแรก
ประสบการณ์จากเกมฐานทัพกลางทะเลทำให้ทีมออกแบบเติบโตขึ้นมาก ขอ
แค่ลู่หมิงเหลียงทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี คนอื่นๆ ในทีมก็จะทำหน้าที่ส่วนของ
ตัวเองได้อย่างราบรื่น
จู่ๆ ลู่หมิงเหลียงตื้นตันขึ้นมาเล็กน้อย
อย่างนั้นก็หมายความว่าคนอื่นๆ อีกมากมายก็สามารถทำตำแหน่งนี้ได้สิ แค่
พวกเขาไม่มีโอกาสได้ขึ้นมาทำตำแหน่งนี้ก็เท่านั้น
ตอนทำงานที่เก่า เขาได้ทำงานยิบย่อยทั้งวันยาวไปถึงโอที โดนสูบพลังราวกับ
เป็นทาสทุกวัน แต่ความสามารถกลับไม่พัฒนาไปไหนเพราะได้แต่ทำงานเดิมๆ
ซ้ำๆ
เพราะอย่างนั้นตอนที่ได้เลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน ลู่หมิงเหลียงจึง
กังวลว่าจะทำหน้าทีน่ ไ้ี ด้ไม่ดพี อ
แต่หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็ตระหนักว่างานนี้ไม่ได้ยากอย่างที่คิด!
พอมาคิดดูอีกที ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวางแผนที่บริษัทเก่าจะคัดเลือกจาก
ประสบการณ์และความอาวุโส แต่จริงๆ แล้วคุณสมบัติที่ว่าก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น
เป็นแค่เครื่องมือใช้คัดคนมากกว่า
หรือนี่จะเป็นวิธีคัดคนของบอสเผย
ลู่หมิงเหลียงได้แต่นึกเสียดายที่คนมีความสามารถก็มีอยู่มากมายแต่กลับโดน
มองข้ามกันหมด!
ผู้นำที่ดีควรพยายามเปิดโอกาสให้ลูกน้องได้แสดงความคิดความสามารถให้ได้
เห็น ผู้นำที่คิดแต่จะหาประโยชน์จากลูกน้องจะทำให้ลูกน้องกลายเป็นเครื่องจักร
ทำงานที่ไม่สามารถคิดอะไรเองได้ และบั่นทอนประสิทธิภาพการทำงานพวกเขา
ลงเรื่อยๆ!
คิดได้แบบนั้น ลู่หมิงเหลียงก็รู้สึกเคารพบอสเผยขึ้นมา
ลู่หมิงเหลียงกระแอมกระไอ “ประชุมวันนี้มีอยู่สองเรื่องครับ
“เรื่องแรกคือผมจะไม่เข้าออฟฟิศประมาณสองสามวันเพราะต้องพากย์เสียง
ให้เกมนักออกแบบเกม อย่าถามผมว่าทำไมได้พากย์ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน…”
จนถึงตอนนี้ ลู่หมิงเหลียงก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเผยเชียนถึงเลือกให้เขาพากย์
เสียง
จะมองมุมไหนก็มองได้แค่ว่าการตัดสินใจของบอสเผยควรจะได้รับรางวัล
พฤติกรรมสุดพิสดาร
แต่ในเมื่อบอสเผยเป็นคนตัดสินใจ ยังไงก็ต้องถูกต้องอย่างแน่นอน!
คนอื่นๆ ก็อึ้งไปเช่นกัน
นี่มันอะไรกันเนี่ย
หั ว หน้ า ฝ่ า ยวางแผนต้ อ งพั ก งานไปพากย์ เ สี ย งให้ เ กมระหว่ า ง
กระบวนการพัฒนาเกมเนี่ยนะ
ทั้งห้องนิ่งไปชั่วขณะ
ลู่หมิงเหลียงพูดต่อ “เรื่องที่สอง ผมหวังว่าทุกคนจะอ่านบทพากย์เพิ่มเติม
และทำงานที่ได้รับมอบหมายไปให้เสร็จ อย่าลืมประสานงานกับคุณหร่วนกวาง
เจี่ยนตามเวลาด้วย ถ้าเจอปัญหาอะไรที่แก้เองไม่ได้ให้โทรหาผม”
เขาสั่งงานที่จะต้องทำ
บทพากย์ไม่ได้มีเยอะมาก ถ้าทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น สามวันก็น่าจะเสร็จ
ถึงเขาจะไม่เข้าออฟฟิศแค่สามวัน แต่เวลาก็เป็นเรื่องสำคัญมาก ลู่หมิงเหลียง
กลัวว่าทีมจะอู้งานกันหรือไม่ก็เจอปัญหาที่แก้ไม่ได้ เขาจึงย้ำเรื่องงานอยู่หลาย
ครั้ง
หลังจากสั่งงานเสร็จ คนในทีมก็คุยเรื่องรายละเอียดงานกันตามสบาย
เนื่องจากแบบร่างลงรายละเอียดไว้ชัดเจนมาก ปัญหาไม่กี่อย่างที่พบจึงแก้ไข
เสร็จสิ้นได้อย่างรวดเร็ว
ลู่หมิงเหลียงเห็นหลินหวานถือบทอยู่ตลอด เอาแต่ดูตรงบทพายก์ของเกมนัก
ออกแบบเกม
เขาสงสัยเล็กน้อย
ดูบทพากย์…นั่นมันหน้าที่ฉันที่เป็นนักพากย์ไม่ใช่เหรอ
หลินหวานทำงานที่บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีมาได้ประมาณหนึ่งเดือน
แล้ว
เดือนนี้เธอได้รับผิดชอบงานเล็กๆ น้อยๆ เหมือนพนักงานคนอื่นๆ หลิ นหวาน
มีทัศนคติต่อการทำงานดีและเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมาก แต่งานที่เธอได้รับ
ไม่ได้ยากอะไร จึงไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่ในทีม
หลินหวานพลิกดูบทพากย์เกมนักออกแบบเกมซ้ำไปมาจนกระดาษยับยู่ยี่
“หนูว่า…หนูน่าจะเข้าใจจุดประสงค์ของบอสเผยแล้ว ” หลินหวานหันมองลู่
หมิงเหลียง
“หืม” ลู่หมิงเหลียงอึ้งไป “หมายถึงเข้าใจจุดประสงค์ที่มอบหมายให้ผมพากย์
เสียงน่ะเหรอ”
หลินหวานพยักหน้าแล้วตอบอย่างมั่นใจ “ใช่ค่ะ”
“บอกผมที” ลู่หมิงเหลียงดูสนใจมาก
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมบอสเผยถึงอยากให้ตนพากย์เสียงให้และกังวลว่าจะพา
เกมเจ๊งจากการที่ไม่มีความสามารถพอจะทำหน้าที่นี้ได้ดี
ดังนั้นเขาจึงกังวลมาก
แต่พอได้ยินที่หลินหวานพูดก็นึกขึ้นได้ว่าบอสเผยอาจจะมีจุดประสงค์เบื้องลึก
เบื้องหลัง
หลินหวานเปิดดูบทแล้วเริ่มวิเคราะห์
“หนูบอกเลยว่าจุดประสงค์ของบอสเผยนั้นลึกซึ้งมากจนเราไม่ทันสังเกตใน
ตอนแรก
“หนูต้องอ่านบทพากย์ที่บอสเผยแก้ซ้ำๆ อยู่หลายครั้งกับดูซีรีส์ชีวิตประจำวัน
ของบอสเผยถึงจะเข้าใจ
“หนูคิดว่าเกมนักออกแบบเกมมีความคล้ายคลึงกับซีรีส์ชีวิตประจำวันของ
บอสเผยตรงที่ใช้มุกตลกร้ายเพื่อเสียดสี!
“ดูบทพากย์สิคะ
“เสียงพากย์จะเป็นตัวโน้มน้าวการตัดสินใจของผู้เล่นตั้งแต่เริ่มเกม แต่ละครั้ง
เสียงพากย์จะแนะนำตัวเลือกที่ดูจะเหมาะสมที่สุดและทำกำไรได้มากที่สุด
“ตัวอย่างเช่น ตอนที่ต้องเลือกระหว่างเสียเงินเพิ่มในเกมกับซื้อเกมแล้วเล่นได้
จนจบ เสียงพากย์จะแนะนำให้ผู้เล่นเลือกเสียเงินเพิ่มในเกม
“ตอนต้องเลือกระหว่างตั้งเพดานค่าใช้จ่ายไว้ต่ำกับตั้งเพดานค่าใช้จ่ายไว้สูง
เสียงพากย์ก็จะบอกให้เลือกตั้งเพดานค่าใช้จ่ายไว้สูง
“พอต้องเลือกสไตล์ภาพ เสียงพากย์ก็จะแนะนำให้เลือกสไตล์อนิเมะที่เป็นที่
นิยมที่สุดในปัจจุบัน…
“ทุกครั้งตัวเลือกที่แนะนำจะฟังดูมีเหตุผล เพราะยังไงบริษัทเกมก็ต้องมั่นใจ
ว่าจะทำกำไรได้ เสียงพากย์เลยแนะนำตัวเลือกที่จะทำกำไรได้มากที่สุดเป็นส่วน
ใหญ่
“แล้วสุดท้ายจะออกมาเป็นยังไง”
“ถ้าผู้เล่นเลือกตามที่เสียงพากย์บอกทุกอย่างก็จะจบที่ชื่อเสียงโดนทำลาย
ย่อยยับ โดนเกมเมอร์สับเละ แถมยังเสียทุกอย่างที่มีไปหมดอีก!
“จากนั้นเสียงพากย์ก็จะเยาะเย้ยผู้เล่นว่าเป็นบอสที่เชื่อคนง่าย ตัดสินใจไม่
เด็ดขาด โดนล้อว่ายอมทำทุกอย่างตามที่มันบอก
“คิดว่าเสียงพากย์เป็นคนผิดหรือเปล่า ไม่เลยค่ะ มันแค่แนะนำทางที่ผิด แต่ผู้
เล่นต่างหากที่ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด จึงเป็นคนที่จะต้อง
รับผิดชอบกับความล้มเหลวนี้!
“เสียงพากย์จะเป็นตัวตอกย้ำความล้มเหลวให้เจ็บช้ำขึ้นอีกหลายเท่า! ผู้เล่น
จะรู้สึกแย่และเข้าถึงอารมณ์จริงๆ
“นั่นก็เพราะมันคือความจริง เป็นการเสียดสี!
“ทำไมถึงมีเกมแปลกๆ ที่คนเกลียดกันอยู่ในโลกล่ะ เหตุผลก็ง่ายๆ เพราะ
พวกบอสคนอื่นๆ ก็เลือกทำเหมือนที่ผู้เล่นเลือกไงล่ะคะ!
“เสียงพากย์เป็นเหมือนปีศาจในหัวใจที่เรียกว่า ‘ความโลภ’ ค่อยๆ นำทางผู้
เล่นไปในทางที่ผิด สุดท้ายก็ตกหลุมพรางสู่นรก!”
ลู่หมิงเหลียงพยักหน้ารัว
ฟังดูมีเหตุผลมาก!
“แต่ … ถึ ง ไม่ ท ำตามที ่ เ สี ย งพากย์ บ อก ทำไมผู ้ เ ล่ น ยั ง เจอความล้ ม เหลว
เหมือนเดิมล่ะ หรือนั่นก็เป็นการเสียดสีเหมือนกัน ” นักออกแบบคนหนึ่งในทีมยก
มือถาม
บทที่ 98 เปาซวี่กลับมาแล้ว!

หลินหวานยิ้มอย่างมั่นใจ “ถามถูกจุดเลยค่ะ
“หนูคิดว่าตรงนี้เป็นประเด็นหลักของเกมเลย!”
“ก็คือ…ถึงจะรู้ว่าผิดก็ไม่ได้หมายความจะทำให้ประสบความสำเร็จได้
“ถ้าคุณต่อต้านความโลภภายในใจได้ มีจิตใจมั่นคงแน่วแน่ เดินตามความ
ฝัน…คิดว่าจะสร้างเกมดีๆ ได้มั้ยคะ ก็ไม่
“หนึ่งในตอนจบคือโปรดิวเซอร์ทำตามความคิดตัวเองหมด ไม่คิดเรื่องการทำ
กำไรจากเกม สุดท้ายผู้เล่นส่วนใหญ่ก็เล่นเกมกันอย่างสนุกสนานแต่ไม่ยอมเสีย
เงินสักหยวน ถึงเกมจะได้คะแนนดี แต่โปรดิวเซอร์ก็ไม่สามารถหาทุนคืนได้ ถึงจะ
มีผู้เล่นบางส่วนช่วยสนับสนุน พวกเขาก็ไม่สามารถแบกรายจ่ายทั้งหมดได้และ
ต้องออกจากอุตสาหกรรมเกมไปตลอดกาล!
“เป็นการบอกเป็นนัยว่าอุตสาหกรรมเกมไม่ใช่ที่ที่จะประสบความสำเร็จได้
จากการมีใจรักอย่างเดียว
“ถึงคุณจะมีไฟและทำเกมด้วยใจก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ!
“ฟังดูโหดร้าย…แต่ก็เป็นสภาพความเป็นจริงของวงการเกมนะคะ”
หลินหวานมีอารมณ์ร่วมขึ้นมาเล็กน้อย “คิดๆ ดูแล้ว ตอนนั้นหนูก็เคยเป็น
เด็กใสซื่อ
“การจะสร้างทั้งชื่อเสียงและกำไรไม่ใช่งานง่ายๆ ที่เราประสบความสำเร็จมา
ได้เรื่อยๆ…ก็เป็นเพราะบอสเผยช่วยผลักดันเราไปข้างหน้า”
คำพูดของหลินหวานทำให้ทุกคนตะลึงงันไป
ใช่
การทำงานในบริษัทเถิงต๋าทำให้หลายคนสร้างภาพลวงหลอกตาตัวเองขึ้นมา
ถึงจะดูเหมือนว่าทุกอย่างประสบความสำเร็จตามที่ควรจะเป็น
แต่ดูสภาพบริษัทเกมอื่นๆ สิ ลองคิดถึงประสบการณ์งานก่อนๆ ของพวกเขา
เหตุผลที่พวกเขาไม่รู้สึกกดดันเลยก็เพราะมีคนแบกรับความกดดันทั้งหมดไว้
ให้แล้ว!
คนผู้นั้นก็คือบอสเผย!
ถ้าคิดดูดีๆ เกมทั้งเกม ตั้งแต่แนวคิ ดการออกแบบไปจนถึงเสียงพากย์ บอส
เผยเป็นคนแก้ให้อย่างละเอียด
คนอื่นๆ ก็แค่รับผิดชอบงานจัดการทั่วไป
ถ้าเกมไม่ประสบความสำเร็จ คนที่จะต้องรับผิดชอบความล้มเหลวนี้เป็นหลัก
ก็คือบอสเผย
แต่ถ้าเกมประสบความสำเร็จขึ้นมา ทุกคนก็จะได้ความดีความชอบกันหมด!
พอหันไปมองบอสคนอื่นๆ…
พวกเขาไม่ค่อยจะสนใจเรื่องงานและไม่ได้อธิบายอะไร ปล่อยให้ลูกน้องแบก
งานกันเอง
พอโปรเจ็กต์ล้มเหลวขึ้นมา สิ่งแรกที่ทำคือหาข้อผิดพลาดแล้วโยนความผิดให้
คนอื่น เพราะอย่างไรเจ้านายก็ไม่มีวันผิด
เทียบกันแล้วเห็นความแตกต่างชัดมากๆ!
หลินหวานพูดต่อ “ดังนั้นจึงชัดเจนมากว่าทำไมบอสเผยถึงให้พี่เป็นคนพากย์
เสียง
“หนึ่ง เสียงของพี่เหมาะกับการเอามาใช้เป็นเสียงพากย์
“สอง ข้อได้เปรียบที่สุดของพี่คือความรู้เรื่องเกม!
“ห้ามดูถูกจุดนี้เลยนะ เพราะเป็นจุดที่สำคัญมากสำหรับการเป็นนักพากย์!
“อาจมองได้ว่าเสียงพากย์คือความโลภและความต้ องการของนักออกแบบ
เกม มันจะล่อลวงพวกเขาไปในทางที่ผิด”
“เสียงพากย์ที่จะทำแบบนั้นได้แค่มีเนื้อเสียงที่เหมาะมันไม่พอค่ะ
“เพราะจะต้องเข้าใจหลุมพรางทั้งหลายในอุตสาหกรรมเกม
“ต้องมีความเข้าใจลึกซึ้งในอุตสาหกรรมนี้
“ต้องเข้าใจความโลภและความต้องการภายในใจที่สุด!
“นักพากย์ทั่วไปไม่มีทางเข้าถึงความรู้สึกนี้ได้!”
คำพูดเหล่านั้นเป็นเหมือนสายฟ้าผ่าลงกลางหัวลู่หมิงเหลียงเพื่อปลุกให้ตื่น
เป็นแบบนี้นี่เอง!
จุดประสงค์ที่แท้จริงที่บอสเผยมอบหมายงานนี้ให้เขาคือแบบนี้เองเหรอ!
เขารีบหยิบบทพากย์ขึ้นมาไล่สายตาดูอย่างรวดเร็ว
ใช่ จริงด้วย!
ไม่สงสัยเลยว่าทำไมบอสเผยถึงแก้บทเองอยู่หลายครั้ง
ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะอยากให้เข้าถึงความรู้สึกนี้นี่เอง!
เพราะแบบนี้ บอสถึงอยากได้เสียงที่เข้าถึงอารมณ์ที่ว่า!
ลู่หมิงเหลียงพยักหน้า
“เข้าใจแล้ว ฉันจะไม่ทำให้บอสเผยต้องผิดหวัง!”

หลังจบประชุม ลู่หมิงเหลียงออกจากบริษัทแล้วเดินทางไปที่สตูดิโอที่ดีที่สุด
ในเมืองจิงโจวเพื่ออัดเสียง
ส่วนหลินหวานเดินกลับไปที่โต๊ะ เธออ่านบทพากย์ต่อหลังจากทำงานเสร็จ
แล้ว
เธอค้นพบมุมมองใหม่ๆ ทุกครั้งที่อ่าน!
เกมนักออกแบบเกมมีฉากย่อยและฉากจบหลากหลาย การเล่นผ่านฉากย่อย
ต่างๆ ไปจนถึงฉากจบในแต่ละรอบทำให้รู้สึกเหมือนได้สัมผัสประสบการณ์ความ
เป็นความตายของบริษัทเกม
บ้างก็ได้ชื่อเสียงลือเลื่อง
บ้างก็ต้องออกจากอุตสาหกรรมไปพร้อมความเจ็บปวด
หลังจากลองปล่อยใจให้เข้าถึงความรู้สึก ของนักออกแบบเกม หลินหวานก็
ตระหนักได้ว่าความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเกมของเธอก่อนหน้านี้ช่าง
ตื้นเขินยิ่งนัก
เธอเคยคิดว่าเกมควรจะสร้างความสุขให้ผู้คน และบริษัทเกมก็ควรทำเช่นนั้น
แต่หลังจากได้ฝึกงานที่เทียนหัวสตูดิโอ เธอก็ได้รู้ว่าบริษัทเกมในประเทศนั้ น
ไม่ได้เป็นเหมือนที่เคยวาดฝันไว้
ขณะที่กำลังรู้สึกผิดหวัง บริษัทเถิงต๋าก็โผล่มา!
เธอจึงเลือกเดินตามรอยเท้าของบริษัทเถิงต๋าโดยไม่ลังเลใจ
แน่นอนว่าหลินหวานไม่ได้หลงเชื่อบริษัทเถิงต๋าโดยไม่ดูดำดูดีอะไรเลย ใน
ฐานะพนักงานธรรมดาทั่วไป เธอค่อยๆ ผสานตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงาน
และพยายามสร้างรูปแบบของตัวเองขึ้นมา
ก่อนที่จะเข้ามาทำงานในบริษัทเถิงต๋า เธอเห็นภูเขาเป็นภูเขา พอได้รู้เรื่อง
อุตสาหกรรมเกมมากขึ้นก็กลายเป็นว่ามองภูเขาไม่เป็นภูเขา แต่มาตอนนี้ที่เข้าใจ
ถึงแก่นแล้ว เธอก็มองภูเขาเป็นภูเขาอีกครั้ง[1]…
หลินหวานรู้สกึ ได้เรียนรู้อะไรมากมาย!
เธออาจจะไม่ได้เรียนรู้อะไรมากเท่านี้ถ้าได้ทำงานที่บริษัทในประเทศแห่งอื่น!
หมายความว่าเถิงต๋าเป็นบริษัทเกมในประเทศที่แปลกไม่เหมือนใคร ความ
แปลกที่ว่าไม่ใช่เงินเดือน แต่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของบริษัทต่างหาก!
ไม่ว่าหลินหวานจะตรึกตรองดูอย่างไร เธอก็รู้สึกอยู่ตลอดว่าบอสเผยมีออร่า
พิเศษบางอย่าง
แต่ก็ไม่เข้าใจว่าคืออะไร!
ทุกอย่างที่บอสเผยทำดูจะไม่สมเหตุสมผลในตอนแรก แต่พอได้รู้เหตุผลเบื้อง
ลึกเบื้องหลังก็จะเข้าใจว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจแบบนั้น
ที่สำคัญที่สุดเลยคือการที่บอสเผยไม่ได้ใส่ใจเรื่องเงิน ทำให้เขาดูเป็นคนใจบุญ
มากๆ
ถือเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก!
“ฉันเลือกถูกที่แล้ว
“ถ้าวันไหนฉันเข้าใจความคิดของบอสเผย ฉันก็จะเป็นนักออกแบบเกมชั้น
แนวหน้าได้!”
หลินหวานวางปณิธานในใจ


วันที่ 3 เดือนมีนาคม…
เปาซวี่ที่ดูเหน็ดเหนื่อ ยจากการเดิน ทางอย่างยาวนานมาปรากฏตัวหน้า
ทางเข้าบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี
“เหนื่อยเหลือเกิน”
ใบหน้าของเปาซวี่ดูคล้ำลงเล็กน้อย
สีหน้าของเขาบ่งบอกความรู้สึกเพียงอย่างเดียว ซึ่งก็คือ…
กลับมาแล้วโว้ย!
ต้องไปเที่ยวจนทั่วมาตั้งเดือนนึง!
เดิมทีเขาเป็นคนติดเกมที่ไม่ยอมลุกจากเก้าอี้แม้แต่นาทีเดียว แต่บอสเผยกลับ
บังคับให้เขาออกไปใช้เวลาข้างนอกหนึ่งเดือนเต็ม
กำหนดการในแต่ละวันแน่นเอี้ยด แถมเลขาซินก็ยังให้รายงานสถานที่อยู่
ตลอดเพื่อให้มั่นใจว่าเขาไปตามตารางที่วางไว้!
เขาต้องรายงานที่อยู่ในปัจจุบันทั้งตอนเช้าและตอนเย็นในทุกเมือ งที่ไ ป
รายงานเสร็จก็ตรงดิ่งกลับที่พัก เหนื่อยล้าเกินกว่าจะเปิดเกมเล่น
หนึ่งเดือนอันแสนทุกข์ระทมผ่านไป ในที่สุดการเดินทางก็จบลง
เปาซวี่เดินทางกลับบริษัทพร้อมกระเป๋าเป้และความคิดหนึ่งในหัว เขาคิดถึง
บริษัทแทบใจจะขาด!
ถ้าได้สิทธิ์หยุดงานแบบได้รับเงินเดือนอีก เขาจะต้องโยนสิทธิ์นั้นไปให้คนอื่น!
ใครอยากได้ก็เอาไป เขาไม่มีทางทำแบบนี้อีกแน่!
ทุกคนสังเกตเห็นเปาซวี่เดินเข้าบริษัทมา
“อ้าว พี่เปากลับมาแล้ว!”
“พี่เปา ดูดีขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย”
“ผอมลงแต่ดูสูงขึ้นนะครับ”
“ดูสดใสขึ้นเยอะเลย เหมือนผมจะขึ้นด้วยแฮะ!”
เปาซวี่อึ้งไป “จริงเหรอ”
เขาโยนกระเป๋าเป้ลงบนโต๊ะทำงานก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้เกมมิ่ง
สบายเหลือเกิน!
เขารู้สึกเหมือนสุขภาพของตัวเองดีขึ้นมากๆ
ตลอดหนึ ่ ง เดื อ นที ่ ผ ่ า นมา เปาซวี ่ ต ้ อ งออกไปข้ า งนอกทุ ก วั น เลยไม่ ไ ด้
สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในร่างกายของตัวเอง
พอคนอื่นทักหลังจากกลับมา เขาก็ตระหนักว่าร่างกายของตัวเองแข็งแรงและ
กระฉับกระเฉงขึ้นมาก
ก่อนหน้านี้เปาซวี่สิงอยู่ร้านอินเทอร์เน็ตทั้งวันทั้งคืน นอนไม่เป็นเวลา
ทั้งเวลากินข้าว เวลาพักผ่อน ตารางชีวิตประจำวัน…พังเละเทะทุกอย่าง
ถึงจะอายุยังน้อย แต่การใช้ชีวิตแบบพังๆ ก็ส่งผลต่อสุขภาพของเขา
พอมาทำงานที่บริษัทเถิงต๋า สุขภาพเขาก็ดีขึ้นเพราะต้องเริ่มงานและเลิกงาน
เป็นเวลา แต่ร่างกายก็ยังอ่อนแออยู่ดี
การเดินทางตลอดหนึ่งเดือนทำให้เขาได้เดิน เยอะและเจอแสงแดดบ่อย เวลา
งานและเวลาพักก็เข้าที่เข้าทาง กินอาหารอร่อยขึ้น สุขภาพก็ดีขึ้นมากโดยไม่รู้ตัว!
……………………
[1] 看山是山,看山不是山,看山还是山 (เห็นภูเขา
เป็ น ภู เ ขา เห็ น ภู เ ขาไม่ เ ป็ น ภู เ ขา ยั ง เห็ น ภู เ ขาเป็ น ภู เ ขา) เป็ น แนวคิ ด ของ
ปรมาจารย์นิกายเซนในสมัยราชวงศ์ซ่ง หมายถึงว่าตอนยังอ่อนต่อโลกมองอะไรก็
เห็นเป็นอย่างนั้น ต่อมามีประสบการณ์ขึ้นเริ่มมองโลกหลายแง่มุม เห็นข้อดี
ข้อเสียของสิ่งต่างๆ จึงต้องใช้เวลาในการไตร่ตรองตัดสินใจ สุดท้ายเป็นผู้เจนโลก
มีประสบการณ์จึงมองสิ่งต่างๆ ได้ทะลุถึงแก่นแท้
บทที่ 99 ไม่เหนื่อยเลยสักนิด ยินดีที่ได้ช่วย!

เปาซวี่มองไปทางห้องทำงานของบอสเผย “บอสเผยอยู่มั้ยครับ”
“ไม่ครับ ไม่ได้เข้าออฟฟิศมาสองวันแล้ว” ลู่หมิงเหลียงตอบ
ลู่หมิงเหลียงอัดเสียงพากย์สำหรับเกมเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เขาเริ่มอัดเสียงวันที่ 25 ทำงานอย่างต่อเนื่องจนเสร็จวันที่ 1 ถึงจะไม่ได้เร็ว
เท่าไหร่แต่ก็ทำงานเสร็จทันเวลา
เพราะอย่างไรลู่หมิงเหลียงก็ไม่ใช่นักพากย์มืออาชีพ ถึงจะมีครูสอนพากย์
เสียงอยู่ด้วย แต่เขาก็ต้องอัดเสียงประโยคเดิมซ้ำๆ อยู่หลายครั้งกว่าจะพอใจกับ
ผลงาน
พออัดเสียงเสร็จ เขาก็สามารถทุ่มพลังให้กับกระบวนการสร้างเกมได้เต็มที่
“พี่เปา ผมส่งแบบร่างเกมใหม่ไปให้ ช่วยเช็กดูได้ไหมครับว่าต้องแก้อะไรบ้าง”
ลู่หมิงเหลียงเคารพเปาซวี่มาก
เพราะเปาซวี่เป็นคนเสนอไอเดียหลายอย่างในการสร้างเกมฐานทัพกลาง
ทะเล ถ้าเป็นเรื่องวิเคราะห์จุดประสงค์ของบอสเผย ไม่มีใครสู้เปาซวี่ได้!
เปาซวี่เปิดแบบร่างดู
“บอสเผยตัดสินใจไปหมดแล้ว ผมไม่ควรตรวจอะไรเพิ่มอีก ถึงตรวจดูก็
อาจจะไม่เข้าใจ”
การปรับแต่งแบบร่างมั่วๆ เป็นเรื่องต้องห้ามในอุตสาหกรรมเกม
ทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเอง บ่อยครั้งที่พบว่าไม่มีอะไรถูกหรือผิดเสีย
ทีเดียว กุญแจสำคัญในการสร้างเกมที่ดีคือทำตามที่คนคนหนึ่งตัดสินใจเพื่อที่งาน
จะได้ไม่สะเปะสะปะ
เปาซวี่คิดว่าถ้าบอสเผยลงมาคุมโปรเจ็กต์เองก็ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาด
สิ่งที่เขาควรทำคือดูและเรียนรู้ ไม่มีทางที่เขาจะไปติติงอะไรได้
และนี่ก็เป็นไปตามที่เผยเชียนวางแผนไว้
เนื่องจากเกมอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาแล้ว เปาซวี่ไม่มีทางเข้ามาช่วยเหลือ
อะไรได้หลังจากกลับมา
ในเมื่อไม่มีอะไรที่ทำได้ เปาซวี่ก็น่าจะหมกมุ่นอยู่กับการเล่นเกม
เมื่อเป็นแบบนั้น โอกาสที่เกมจะประสบความสำเร็จก็จะลดทอนลงไปอีก
เป็นไปตามแผน!

แน่นอนว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเผยเชียน
เปาซวี่เปิดดูแบบร่างและดูทุกคนทำงาน เขารู้สึกว่าทีมไม่ได้ต้องการความ
ช่วยเหลือจากตนในการสร้างเกมใหม่
เขาจึงเปิดคอมพิวเตอร์เล่นเกมฐานทัพกลางทะเลแทน
เปาซวี่ห่างหายจากเกมมาเป็นเดือน!
ก็เหมือนคำพูดที่ว่า ยิ่งห่างเหินยิ่งถวิลหา
เปาซวี่รู้สึกว่าบริษัทคือสรวงสวรรค์ เขาไม่จำเป็นต้องหนีไปไหน!
ระหว่างที่กำลังเล่นเกมอยู่ เขาก็พบว่ามีบางอย่างแปลกไป
เหมือนการควบคุมของเกมจะไม่สมบูรณ์แบบนัก
เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เปาซวี่รู้สึกว่าการควบคุมของเกมฐานทัพกลางทะเล
เกือบจะสมบูรณ์แบบแล้ว
แต่พอกลับมาเล่นเกมใหม่หนึ่งเดือนให้หลัง เขาก็รู้สึกอีกแบบ
“ไหนๆ ก็ไม่มีอะไรทำ ฉันไปอัปเดตเกมแม่ทัพผีกับเกมฐานทัพกลางทะเล
ดีกว่า”

เปาซวี่หยิบสมุดที่วางอยู่ข้างๆ มาจดสิ่งที่ควรเปลี่ยนแปลงระหว่างเล่น
หลังปล่อยเกมแม่ทัพผีกับเกมฐานทัพกลางทะเลไป พวกเขาก็ ไม่ได้อัปเดต
อะไรอีก
ทำไมผู้เล่นไม่เห็นท้วงติงอะไรเลย
แน่สิว่าต้องมีคำท้วงติงเข้ามา!
แต่…เผยเชียนไม่เห็นสิ่งที่ผู้เล่นท้วงเข้ามาและทำเหมือนว่าไม่มีใครท้วง!
เกมแม่ทัพ ผีปล่อ ยออกไปสี่เดือ นแล้ว ส่วนเกมฐานทัพ กลางทะเลปล่อ ย
ออกไปแล้วหนึ่งเดือน
ผู้พัฒนาที่อัปเดตเกมบ่อยๆ จะปล่อยเวอร์ชันอัปเดตใหม่ทุกเดือน
ส่วนผู้พัฒนาที่อัปเดตเกมไม่ค่อยบ่อยนักจะปล่อยเวอร์ชันอัปเดตใหม่สาม
เดือนครั้ง ไม่เคยมีเกมที่ไม่อัปเดตเลยแบบนี้!
เกมก็ยังทำกำไรได้และมีกระแสอยู่ แต่กลับไม่มีอัปเดตใหม่มาสี่เดือนแล้ว
เผยเชียนไม่อยากอัปเดตเกมเวอร์ชันใหม่
เพราะทั้งสองเกมกระแสดีเกินไป!
ดูยอดขายบัตรถาวรเกมแม่ทัพผีกับยอดขายปืนกิเลนแดงในเกมฐานทัพกลาง
ทะเลสิ…
ตามข้อกำหนดของระบบ เขาต้องเพิ่มของที่ให้ซื้อได้ในเกมทุกการอัปเดต ไม่
สามารถเสียเงินอัปเดตตัวเกมโดยไม่หาช่องทางทำกำไร
เผยเชียนพิจารณาตัวเลือกที่มีและคิดว่าผู้เล่นน่าจะอยากเสียเงินซื้อไอเทม
ใหม่แน่ๆ!
ดังนั้นเขาจึงทำเป็นว่าไม่มีอะไรและหันไปง่วนกับการทำเกมใหม่แทน
การไม่อัปเดตตัวเกมจะทำให้กระแสเกมตก!
ทีมออกแบบทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อพัฒนาเกมนักออกแบบเกม พวกเขาจึง
ไม่มีเวลามาสนใจอีกสองเกมที่ยังเป็นไปอย่างราบรื่นอยู่
แต่…
เปาซวี่มีเวลาล้นมือ! ถึงจะช่วยพัฒนาเกมใหม่ไม่ได้ เขาก็ยังปรับปรุงเกมเก่า
อีกสองเกมได้
เปาซวี่เริ่มจากการปรับแต่งการควบคุมของเกมฐานทัพกลางทะเลอย่าง
ละเอียด
หลังจากนั้นเขาก็เปิดเกมแม่ทัพผี
ว่ากันตามตรง เกมแม่ทัพผีมีปญ
ั หาเยอะกว่าเกมฐานทัพกลางทะเล!
เกมฐานทัพกลางทะเลพัฒนาขึ้นโดยหวงซื่อปั๋วและทีมนักออกแบบ หลังจาก
ทดสอบเกมกันหลายครั้ง เกมก็อยู่ตัวขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนเกมแม่ทัพผี เผยเชียนแค่ใช้เทมเพลตที่มีอยู่แล้วมาสร้าง!
คำอธิบายส่วนใหญ่ในเกมละเอียดมาก หม่าหยางเป็นคนเขียนทั้งหมดขึ้ นเอง
อย่างตั้งใจ (แค่เอาจากหลายๆ ที่มายำรวมกัน)
แต่ด้านระบบการต่อสู้และระบบพื้นฐานบางอย่างยังไม่ค่อยสมบูรณ์ดีนัก
เพราะเทมเพลตที่เผยเชียนซื้อมาเป็นของโปรเจ็กต์ที่พังไม่เป็นท่า ถึงจะไม่ได้มีบั๊ก
เยอะ แต่ก็ต้องปรับปรุงเพิ่มอีกหลายจุด
แน่นอนว่าส่วนที่ไม่ค่อยสมบูรณ์เหล่านี้ไม่ได้ส่งผลต่อกระแสของเกมมากนัก
เพราะอย่างไรเกมนี้ก็เป็นแค่เกมมือถือ ผู้เล่นไม่ได้คาดหวังอะไรมากอยู่แล้ว
แค่เปิดเกมเล่นได้โดยไม่ติดขัดก็พอใจกันแล้ว
หลังจากเล่นเกมไปได้สักพัก เปาซวี่ก็สังเกตเห็นปัญหาเล็กๆ อีกหลายจุดที่
ควรปรับปรุง
เขาน่าจะใช้โอกาสนี้ปรับได้!
ไม่นานสมุดจดของเปาซวี่ก็เต็มไปด้วยรายการจุดที่ต้องปรับปรุง
เขาไม่ได้สร้างเนื้อหาเกมใหม่เพิ่ม ดังนั้นสิ่งที่เขาทำจึงไม่ถือว่าเป็นการสร้าง
เวอร์ชันใหม่ให้เกม เป็นแค่การปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบบางอย่าง
ในเกมเท่านั้น
เปาซวี่ดูสมุดจดของตัวเอง
“โอเค สามสี่วันก็น่าจะทำเสร็จหมดนี่”
“ไม่เหนื่อยเลยสักนิด ฉันยินดีที่ได้ช่วย!”

สามวันต่อมา…
ในห้องเกมแม่ทัพผีบนเว็บไป่ตู้เทียปา…
เว็บบอร์ดห้องนี้ดูกระจัดกระจายเล็กน้อยเมื่อเทียบกับห้องของเกมมือถือดัง
เกมอื่นๆ
เพราะทางบริษัทไม่ได้เข้ามาจัดการเว็บบอร์ดนี้!
ส่วนเกมสามก๊กสุดคิวต์ ทางบริษัทร่วมมือกับเว็บไป่ตู้เทียปาแต่งตั้งผู้จัดการ
ห้องและผู้ช่วยผู้จัดการห้องมาช่วยดูแล อีกทั้งยังมีพนักงานเข้ามาโพสต์เนื้อหา
ต่างๆ อยู่เป็นประจำ
แต่เกมแม่ทัพผีไม่ได้ทำแบบนั้นเลยสักอย่าง!
ห้องไม่มีการดูแลจัดการใดๆ
มีบางคนรับหน้าที่ช่วยจัดการเรื่องต่างๆ แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรมาก มีแค่ไล่ลบ
โพสต์ที่ผิดกฎกับพวกโฆษณา
แต่ในห้องนี้มีสมาชิกหลายคน เลยค่อนข้างครึกครื้น
หนึ่งถึงสองเดือนก่อนมีโพสต์มากมายบ่นเรื่องเกมแม่ทัพผีในเว็บบอร์ดและ
เริ่มเพิ่มขึ้นมากในช่วงนี้
“อัปเดตเวอร์ชันใหม่ไม่ได้เหรอ”
“ฉันเลิกเล่นเกมนี้ไปนานแล้วเพราะเก็บการ์ดหายากครบหมดแล้ว บอกทีว่า
มีคอนเทนต์อะไรให้เล่นอีก…”
“อิจฉาเกมสามก๊กสุดคิวต์ชะมัด เกมนั้นปล่อยอัปเดตใหม่ทุกๆ สองเดือน
แถมแพตช์ที่ปล่อยออกมายังทำมาให้พวกผู้เล่นที่ใกล้ตันกับตันแล้วด้วย…”
“หงุดหงิดฉิบหาย เกมอื่นมีเป้าหมายระยะยาวให้เก็บ มีของให้ซื้อ แต่เกมนี้
ตรงกันข้ามเลย อยากเปย์เงินก็ไม่ให้เปย์! แล้วจะให้ทำยังไง ไม่มีเป้าหมายอะไรให้
เล่นเกมนี้แล้ว!”
“ครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่ได้เห็นบริษัทที่ไม่กระตือรือร้นอะไรเลย เกมแม่ทัพผี
เป็นเกมอันดับต้นๆ น่าจะทำกำไรได้เยอะ ทำไมทีมพัฒนาถึงไม่ปล่อยอัปเดตอะไร
ออกมาเลยนะ”
“ไม่ต้องเพิ่มโหมดใหม่ก็ได้ แค่เพิ่มการ์ดใหม่หรือไม่ก็ปล่อยของมาให้ซื้อก็
พอ!”
ผู้เล่นที่ไม่ได้เล่นเกมแม่ทัพผีมานานอาจจะงงกันเมื่อเข้ามาอ่านเว็บบอร์ด
อาจสงสัยว่าตัวเองเข้าผิดเว็บหรือเปล่า
เป็นห้องเว็บบอร์ดของเกมมือถือจริงๆ เหรอ
ถ้าเป็นห้องเกมสามก๊กสุดคิวต์จะมีโพสต์วิจารณ์ทีมโปรดิวเซอร์ ทีมออกแบบ
เกม และทีมวางแผน
คอยแต่จะดูดเงิน!
เนื้อหาใหม่โคตรขูดรีด!
ถ้าวันไหนไม่เจอโพสต์แบบนี้ก็จะสงสัยกันว่าเว็บไป่ตู้เทียปาล่มหรือเปล่า
แต่ห้องเกมแม่ทัพผีกลับเป็นตรงกันข้าม!
ผู้เล่นได้แต่อ้อนวอนให้เกมแม่ทัพผีช่วยปล่อยของในเกมใหม่มาให้ซื้อเพิ่มเสีย
ที!
บางคนถึงกับถกกันอย่างจริงจังว่าไอเทมใหม่ที่ให้ซื้อในเกมควรเป็นอะไรดี
ที่เสนอกันเยอะที่สุดคือให้ขายแพ็คเกจการ์ดแม่ทัพใหม่
มีที่เสนอกันมาอีก บางคนเสนอให้มีกิจกรรมนับยอดเงินที่เติม เช่น ผู้เล่นจะ
ได้รางวัลพิเศษเมื่อเติมเงินเข้าเกม ยอดต่ำสุดของรางวัลอาจอยู่ที่หนึ่งหยวนและ
ยอดสูงสุดอยู่ที่ห้าสิบหยวน
ถึงเหล่าผู้เล่นจะอยากให้ทีมพัฒนาเกมเพิ่มจุดให้เสียเงินเข้าเกมขนาดไหน แต่
ทางทีมผู้พัฒนากลับไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้แค่กับเกมแม่ทัพ
ผีเท่านั้น!
ช่างเป็นเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดเสียจริง!
บทที่ 100 จดหมายเลือดจากผู้เล่นหนึ่งหมื่นคนอ้อนวอนขอให้โปรดิว
เซอร์หากำไร!

เกมฐานทัพกลางทะเลก็ไม่มีอัปเดตใหม่เช่นกัน
แต่เกมฐานทัพกลางทะเลมีปืนกิเลนเพลิงราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน
และเปิดมาได้แค่เดือนเดียว ดังนั้นผู้เล่นจึงยังไม่ได้บ่นอะไรสักเท่าไหร่
ส่วนผู้เล่นเกมแม่ทัพผีเอาแต่บอกว่าไม่เคยเห็นโปรดิวเซอร์เกมไหนใสซื่อ
บริสุทธิ์แบบนี้เลย!
โปรดิวเซอร์เกมอื่นๆ คงจะหาทางทำกำไรจากการล่อลวงลูกค้าอย่างสุดกำลัง
แต่บริษัทเถิงต๋ากลับทำตรงกันข้าม นอกจากไม่มีลับคมในแล้ว ยังพยายามจะ
ผลักไสไล่ส่งอีกต่างหาก!
“บริษัทเถิงต๋าคิดอะไรอยู่ ทำไมไม่ปล่อยไอเทมให้ซื้อเพิ่ม เกลียดเงินกัน
เหรอ”
“ซื้อบัตรถาวรไปแล้วก็ไม่มีอะไรให้ซื้ออีก!”
“บริษัทนี้ได้กำไรแล้วชิ่งเลยเหรอ”
“เคยได้ยินแต่เจ๊งแล้วชิ่งนะ ไม่เห็นจะมีบริษัทไหนได้กำไรแล้วชิ่ง!”
ผู้เล่นบางคนทนไม่ไหว ได้แต่หยุดเล่นไปชั่วคราว
ก็มันไม่มีอะไรให้เล่นแล้ว!
หลังจากซื้อบัตรสมาชิกถาวรมา ผู้เล่นก็มีโอกาสสุ่มการ์ดเพิ่มวั นละครั้ง ผ่าน
ไปสองเดือนก็สุ่มได้การ์ดหายากทุกใบที่มีในเกม จากนั้นก็จะไปอัปเกรดการ์ด
ผู้เล่นส่วนใหญ่เข้าเกมไปสุ่มการ์ด ปล่อยเล่นอัตโนมัติ จากนั้นก็ไม่มีอะไรให้
ทำในเกมอีก!
พอเวลาผ่านไป ผู้เล่นหลายคนก็หันไปเล่นเกมอื่นแทน
แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ลบเกมทิ้ง
เพราะเกมนี้เป็นเกมในตลาดที่คำนึงถึงผู้เล่นและมีกราฟิกสุดตราตรึง! ถ้ามีอัป
เดตใหม่เข้ามา พวกเขาก็จะรีบกลับไปเล่นเกมกันอย่างสนุกสนานอีกครั้ง
ให้ลบทิ้งเหรอ ใครจะทำอย่างนั้นได้
ตอนนั้นเองก็มีโพสต์ใหม่ปรากฎขึ้นในเว็บไป่ตู้เทียปา
“น้ำตาจะไหล! เกมแอบปล่อยอัปเดตลับ!”
ผู้เล่นรีบกดเข้าไปดูโพสต์
“วันนี้ฉันบังเอิญไปเจอว่ามีการแก้ไขปัญหาที่คนบ่นกันเรื่องท่าฟันต่อเนื่อง
ของกวนอูที่ทำดาเมจได้ต่ำเกินไปแล้ว! ท่า ‘ฟันต่อเนื่อง’ ของกวนอูถูกปรับใหม่
ให้ดีขึ้น ในที่สุดก็เอาการ์ดนี้กลับมาใช้ได้แล้ว!”
“แล้วก็โอกาสตีไกลของจูล่งที่ต่ำมากๆ ก็เหมือนจะแก้แล้วเหมือนกัน!”
หลังจากตรวจสอบดูอย่างละเอียด เหล่าผู้เล่นก็พบว่าเนื้อหาในโพสต์เป็นเรื่อง
จริง!
ปัญหายิบย่อนในเกมได้รับการแก้ไขหมดแล้ว!
ไม่มีอัปเดตหรือประกาศแจ้งอะไร ไม่มีใครรู้เลยว่ามีการแก้ไขปรับปรุง
เกมอื่นๆ เวลามีแก้บั๊กอะไรก็จะออกประกาศแจ้งเหมือนกลัวว่าผู้เล่นจะไม่รู้
ว่าทีมพัฒนาพยายามหนักแค่ไหน
แต่บริษัทเถิงต๋าไม่เหมือนกัน เหมือนบริษัทนี้จะไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เลย
เว็บไป่ตู้เทียปาลุกเป็นไฟ!
“เถิงต๋ายังไม่ทิ้งแม่ทัพผี!”
“บริษัทเกมอื่นปล่อยกิจกรรมเติมเงินไม่ก็กิจกรรมดูดเงินผู้เล่นเป็นอย่างแรก
แทนที่จะแก้บั๊กก่อน แต่เถิงต๋าทำคนละแบบ ไม่ได้เพิ่มกิจกรรมเติมเงินแต่ปรับแก้
ตัวเกมก่อน ร้องไห้แล้วเนี่ย!”
“แสดงว่าเราก็มีหวังว่าเกมจะปล่อยเวอร์ชันอัปเดตใหม่แล้วสิ”
“ผมนี่มีใจกลับมาเล่นเลย!”
“ทีมผู้พัฒนาจิตใจดีเหลือหลาย ซึ้งใจยิ่งนัก!”
“ขอแค่เถิงต๋าไม่ทิ้งเกมแม่ทัพผี เราก็ไม่หนีจากเกมนี้ไป!”
“มารวบรวม ‘จดหมายเลือด’ จากผู้เล่นหนึ่งหมื่นคนเพื่ออ้อนวอนขอให้ทีม
ผู้พัฒนาปล่อยไอเทมใหม่ให้ซื้อกันเถอะ! (1/10000)”
“ขอร้องละ หากำไรบ้างเถอะ! เรามีเงินเปย์!”


วันที่ 7 มีนาคม…
“อะไรนะ!
“ผู้เล่นเกมแม่ทพั ผีกระหน่ำโทรหาบริการลูกค้า ในเว็บบอร์ดมีแต่โพสต์ขอให้
มีไอเทมให้ซื้อในเกมเพิ่มเหรอ
“แน่ใจนะว่าพวกเขาขอไอเทมให้ซื้อในเกมเพิ่ม”
เผยเชียนนั่งจ้องหน้าจอมือถืออย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองอยู่ในรถ เขากำลังคุย
กับหลินหวานผ่านแชตส่วนตัว
วันนี้เขาอารมณ์ดีมากเพราะร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเพิ่งจะปรับปรุงเสร็จ
สมบูรณ์
เงินก้อนใหญ่ละลายหายไปกับการซื้อคอมพิวเตอร์ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องดื่ม
และอื่นๆ นอกจากนี้ยังจ้างพนักงานเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง
เมื่อคิดถึงอนาคตอันสดใสของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เขาก็อารมณ์ดีขึ้นมาเลย
สั่งให้เลขาซินขับรถพาไปดูร้าน
เพื่อที่เผยเชียนจะได้ตรวจงานของหม่าหยางกับจางหยวนและแก้จุดผิดได้
ทันเวลา
แต่พอขึ้นรถกลับได้รับข้อความจากหลินหวานผ่านแชตส่วนตัวแจ้งว่าผู้เล่น
เกมแม่ทัพผีกำลังวางแผนรวมรวบ ‘จดหมายเลือด’ จากผู้เล่นหนึ่งหมื่นคน!
ตอนนี้ช่องทางเดียวที่ผู้เล่นจะติดต่อสื่อสารกับทีมผู้พัฒนาได้คือผ่านช่อง
ทางการบริการลูกค้า
ก่อนหน้านี้ เพื่อที่จะผลาญเงิน เผยเชียนได้จ้างทีมเจ้าหน้าที่บริการลูกค้า
ราคาสูงที่เก่งเรื่องการพูดอ้อมค้อมมา
พูดง่ายๆ คือเผยเชียนไปจ้างบริษัทภายนอกที่ไม่ได้รู้เรื่องในทีมพัฒนาเกมเลย
มา ไม่ว่าผู้เล่นจะถามอะไร เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีทางตอบได้
ทางเดียวที่ทำได้คือทำให้ลูกค้าสงบด้วยประโยคที่ใช้กันซ้ำๆ
“ทางเราได้รับข้อเสนอของคุณแล้วและจะสะท้อนให้ทีมพัฒนาทราบค่ะคุณ
ลูกค้า”
“ขออภัยกับปัญหาที่คุณลูกค้าพบด้วยนะคะ ทางเราจะพยายามแก้ไขให้เร็ว
ที่สุดค่ะ”
พวกเขาตอบไปประมาณนี้
มีผู้เล่นไม่มากนักที่พยายามต่อสายหาฝ่ายบริการลูกค้า
ผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่ค่อยโทรหาฝ่ายบริการลูกค้าเวลาเจอปัญหาอะไรในตัวเกม
มีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่พยายามสะท้อนปัญหาอย่างเต็มที่
ปกติแล้วผู้เล่นจะโทรหาฝ่ายบริการลูกค้าเฉพาะตอนที่มีปัญหาเรื่องการเติม
เงิน
เกมแม่ทัพผีมีระบบเดียวที่เกี่ยวข้องกับการเติมเงินจริงซื้อ ซึ่งก็คือบัตรสมาชิก
ถาวร
ดังนั้นทีมเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าจึงไม่ค่อยยุ่งมากนัก
แต่สองสามวันที่ผ่านมานี้มีผู้เล่นถล่มโทรหาฝ่ายบริการลูกค้าอย่างไม่ทราบ
สาเหตุ!
เหล่าผู้เล่นขอกันเพียงอย่างเดียวคือให้ทีมผูพ้ ัฒนาเพิ่มของให้ซื้อเข้ามาในเกม!
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังโทรเข้ามากันไม่หยุด เหล่าผู้เล่นผลัดกันโทรเข้ามา
รัวๆ!
เรื่องนี้กลายเป็นหัวข้อที่ดังที่สุดในแพลตฟอร์มต่างๆ เช่นเว็บบอร์ดไป่ตู้เทีย
ปา มีผู้เล่นมากมายโพสต์ปั่นกันรัวๆ!
เผยเชียนงงไปหมด
ตอนแรกเขาคิดว่าเหล่าผู้เล่นจะขอให้อัปเดตเกมกับเพิ่มโหมดการเล่นใหม่
ก็เป็นเรื่องปกติเพราะเกมแม่ทัพผีไม่ได้ปล่อยอัปเดตใหม่มาสามสี่เดือนแล้ว
พวกผู้เล่นต่างเบื่อเนื้อหาเกมเดิมกันหมดแล้ว
แต่พวกเขากลับขอให้มีของให้ซื้อเพิ่มเนี่ยนะ
เผยเชียนรู้สึกงงเล็กน้อยจึงถามหลินหวาน “คุณรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมผู้
เล่นถึงขอให้มีของใหม่ให้ซื้อเพิ่ม ไม่เห็นจะสมเหตุสมผลเลย!”
หลินหวานตอบ “เหมือนว่าพวกผู้เล่นจะกลัวว่าเกมแม่ทัพผีจะเจ๊งเลยอยาก
ช่วยสนับสนุนเกมด้วยการจ่ายเงินช่วยค่ะ”
“จิ๊…!”
เผยเชียนสูดหายใจรับลมเย็น
พวกนี้…บ้าไปแล้วเหรอ
ตอนแรกเผยเชียนตั้งใจจะให้เกมแม่ทัพผีตายหายไปเองจากการไม่อัปเดตเกม
ขอแค่ผู้เล่นไม่ปั่นกระแสอะไรและปล่อยให้เกมแม่ทัพผีไม่อัปเดตเนื้อหาเกม
ใหม่ ยอดขายกับกระแสเกมก็จะตกไปเอง
พวกผู้เล่นร่วมมือกันดีมาก
พวกเขามารวมตัวกันเพราะเกมนี้ ถ้าไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ พวกเขาก็ไม่
น่าจะสามัคคีกันได้ขนาดนี้
แต่นี่มันเกิดอะไรขึ้น
เหมือนกับว่ามีเสียงปริศนาบางอย่างเรียกพวกเขาให้มารวมใจกัน!
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบกลับไป “บอกให้ฝ่ายบริการลูกค้าตอบไปว่า
ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงวางแผนเวอร์ชันใหม่! น่าจะปล่อยช่วง…อืม…ไม่พฤษภาก็
มิถุนา!”
“เอ๊ะ เราจะมีเวอร์ชันใหม่เหรอคะ ทำไมหนูไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลยล่ะคะ”
หลินหวานถาม
เผยเชียนตอบ “อย่าเข้าใจที่ผมพูดผิด ผมบอกว่ากำลังอยู่ในช่วงวางแผน!”
ถึงจะเป็นแค่แผนในหัว แต่ก็ถือว่าอยู่ในขั้นตอนวางแผนแล้วละ!
หลินหวานตอบ “…โอเคค่ะบอสเผย”
เผยเชียนรู้สึกว่าตัวเองดวงซวยมาก
พอเริ่มสร้างเกม ตัวเขาเองก็เจอแต่เรื่องฉิบหายวายวอด!
ทุกอย่างแม่งไม่ปกติ!
ตอนแรกเผยเชียนพยายามหาทางเอาตัวรอด แต่ผู้เล่นก็ไม่ได้โดนหลอกง่ายๆ
พวกเขาพากันสร้างความโกลาหล
ดังนั้นเผยเชียนจึงไม่สามารถแกล้งทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้อีก
บทที่ 101 ไม่ได้มองหาหนังสือแต่เป็นเสน่ห์

ถ้าผู้เล่นที่ออกมาโวยวายมีแค่คนเดียว เผยเชียนคงจะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่
รวมถึงไม่คิดจะทำอะไร
แต่จากสถานการณ์ในตอนนี้ ถ้าเขาไม่ทำอะไรสักอย่าง ผู้เล่นจะต้ องไม่ยอม
ปล่อยเขาไปแน่
ผู้เล่นจะต้องเดือดกันยกใหญ่และอาจตรวจสอบเกมแม่ทัพผีอย่างละเอียด…
ทีนี้เขาได้เกิดปัญหาใหญ่แน่!
ระบบมี ก ฎห้ า มไม่ ใ ห้ เ ปิ ด เผยหรื อ บอกใบ้ ก ารมี อ ยู ่ ข องระบบกั บ ผู ้ อื่ น
หมายความว่าเผยเชียนต้องคอยแอบทำเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลหรือเรื่องที่ขัดกับ
หลักการโดยไม่ให้ใครรู้ จะปล่อยให้มีคนสงสัยไม่ได้!
คงจะดูไม่สมเหตุสมผลถ้าเผยเชียนไม่ยอมอัปเดตเกมแม่ทัพผีที่สร้างกำไรให้
มากมาย
ถ้าไม่มีผู้เล่นมากมายขนาดนี้มาปั่นกระแสเกมแม่ทัพผี เผยเชียนก็คงจะเป็น
ไม่เป็นไร
แต่ถ้าเรื่องนี้เลยเถิดไปกันใหญ่จนคนทั้งในและนอกวงการเกิดสงสัย การไม่ทำ
อะไรเลยของเผยเชียนก็จะกลายเป็นการละเมิดกฎได้
เขาไม่จำเป็นต้องเสี่ยง
พอคิดอยู่สักพักก็ตัดสินใจว่าหลังจากเกมนักออกแบบเกมเสร็จสมบูรณ์ เขา
จะคิดเรื่องอัปเดตเกมแม่ทัพผี
อาจจะเพิ่มการ์ดออริจินัลเข้าไปสักสามสี่ใบกับซื้อเทมเพลตระบบใหม่มาลง
จากนั้นก็ตั้งราคาไว้ต่ำๆ ก็ถือว่าเสร็จสิ้น
ทีนี้ก็จะมีปัญหาตอนวันสรุปบัญชีครั้งต่อไป
แต่ยังไงพอถึงตอนนั้น เขาก็ต้องหาทางผลาญเงินใหม่เพิ่มอยู่ดี
ระหว่างที่กำลังคิด เขาก็มาถึงร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
ตรงประตูมีพนักงานกำลังติดตั้งป้ายหน้าร้าน
ด้านบนทางเข้าเป็นผนังกระจกที่มีโลโก้ร้านขนาดใหญ่ผิดปกติแปะอยู่
ตรงกลางโลโก้มีรูปปลาเค็มหน้าตาน่าเกลียด เหมือนไปเอาอิโมจิมาแปะใส่
รูปร่างของปลาดูบิดเบี้ยว หางดูเหมือนจะกลายร่างเป็นหางมังกรได้
ด้านบนปลาเค็มมีตัวอักษรแนวศิลปะรูปตัว M มันดูคล้ายครีบที่ยื่นมาเกาจุด
ที่คันและดูคล้ายมงกุฎตรงหัวด้วย
ด้านหลังโลโก้มีตัวอักษร Y ขนาดใหญ่ที่ยึดโลโก้ทั้งหมดไว้ด้วยกัน
เผยเชียนตั้งใจมองโลโก้
อืม ดูแปลกแต่ก็ไม่สวย ดูไม่สวยแต่ก็เป็นเอกลักษณ์…
หน้าร้านมีแค่โลโก้อันเบ้อเริ่ม ไม่มีภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษกำกับไว้เลย
เผยเชียนเดาว่าน่าจะเป็นฝีมือของหม่าหยาง
เจ้านั่นน่าจะเป็นคนติดต่อนักออกแบบและสั่งทำโลโก้นี้ เผยเชียนสงสัยว่า
หม่าหยางส่งคำอธิบายไปให้นักออกแบบอย่างไรถึงออกมาเป็นแบบนี้ได้
ที่หน้าร้านไม่มีคำอธิบายใดๆ แต่ก็ตรงกับที่เผยเชียนต้องการพอดี
ผู้คนที่เดินผ่านหน้าร้านจะไม่รู้ว่าร้านนี้เป็นร้านอะไร ไม่รู้ว่า ข้างในทำอะไร
กัน!
เผยเชียนเดินเข้าไปในร้านอินเทอร์เน็ตแล้วมองไปรอบๆ
การตกแต่งด้านในเกือบจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในร้านมีคนงานสองคนกำลัง
เก็บกวาดร้านอยู่
เขาซื้อโต๊ะ เก้าอี้ และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ มาเรียบร้อยแล้ว ข้างในร้านมีกล่อง
ขนาดต่างๆ วางกองอยู่ จางหยวนง่วนอยูใ่ นกองกล่อง กำลังประกอบคอมพิวเตอร์
เขามีผู้ช่วยสองคน เผยเชียนเดาว่าน่าจะเป็นพนักงานที่เพิ่งจ้างมาใหม่
“เป็นไง พี่เชียน ชอบมั้ยครับ!”
หม่าหยางเดินเข้ามาในร้านอย่างภาคภูมิใจ
เผยเชียนพยักหน้า “อืม ดูดีเลยนะ”
“มี อ ะไรที ่ อ ยากได้ ห รื อ อยากให้ ท ำเป็ นพิเ ศษมั ้ ย ครับ วางบาร์ ไ ว้ ต รงนั้น
โอเคมั้ย โต๊ะกับเก้าอี้วางโอเครึยัง ชั้นหนังสือมีเยอะมากเลยครับ พี่อยากให้เอา
หนังสือแบบไหนมาลงดี”
หม่าหยางเดินไปทั่วร้าน สามสิบเปอร์เซ็นต์คืออยากถามความเห็นจากเผย
เชียน แต่อีกเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์คืออยากโชว์งานให้ดู
เขาอยากแสดงให้เห็นว่าตนเองทำงานได้สมบูรณ์แบบแค่ไหน!
เผยเชียนตรวจสอบส่วนต่างๆ ในร้านอินเทอร์เน็ต ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขา
ต้องการหมด จริงๆ แล้วดูดีกว่าที่คิดเอาไว้อีก!
ไม่ ว ่ า จะเป็ น โซนคาเฟ่ ห รื อ โซนบาร์ สิ ่ ง ที ่ ใ กล้ ค อมพิ ว เตอร์ ม ากที ่ ส ุ ด คื อ
เคาน์เตอร์ที่ลูกค้าสามารถสั่งเครื่องดื่มต่างๆ ได้ อีกด้านหนึ่งเป็นเวทีขนาดเล็ก
ด้านบนเวทีมีไมโครโฟนจำนวนหนึ่งไว้สำหรับใช้ร้องเพลง
ตรงผนังมีชั้นหนังสือเรียงอยู่ ส่งให้ร้านดูมีรสนิยมขึ้นมาก
พอเห็นชั้นหนังสือ เผยเชียนก็คิดว่าควรจะเสนออะไรสักหน่อย
ตอนนี้ทุกชั้นยังว่างอยู่ หม่าหยางยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะซื้อหนังสือแนวไหนมา
เติมดี
ตัวเลือกมีทั้งหนังสือการ์ตูน นิยายขายดี นิยายคลาสสิก และอื่นๆ
เผยเชียนมองชั้นหนังสือแล้วนับดูว่าต้องซื้อหนังสือมาลงกี่เล่ม กะดูแล้วน่าจะ
ใช้อย่างน้อยหลายพันเล่ม
ถ้าจะทำเป็นร้านอินเทอร์เน็ตสไตล์ ญี่ปุ่นก็ต้องเอาหนังสือการ์ตูนมาลงโดยไม่
ต้องสงสัย
ไม่อย่างนั้นอย่างน้อยก็ต้องหานิยายบนเว็บดังๆ มาลง
แต่เผยเชียนไม่ทำอย่างนั้นแน่
ถ้าเขาเอาหนังสือการ์ตูนมาลง เดี๋ยวไปล่อพวกโอตาคุพร้อมเปย์เข้า!
อย่างที่เขาว่ากัน ‘ของสะสมของโอตาคุราคาอาจจะเทียบเท่าบ้านหนึ่งหลังใน
ปักกิ่ง’ อย่าได้ริอ่านดูถูกกำลังซื้อของคนพวกนี้ทีเดียวเชียว!
เอาหนังสือการ์ตูนกับฟิกเกอร์มาลงไม่ได้เด็ดขาด
เผยเชียนกระแอมกระไอพร้อมกับชี้ไปทางชั้นหนังสือ “ไอ้หม่า จำไว้นะ เรา
ไม่ได้มองหาหนังสือ แต่เป็น…”
หม่าหยางพูดขัด “ความเหงาเหรอ”
“ความเหงาบ้าอะไร เสน่ห์ต่างหาก! เรากำลังมองหาเสน่ห์! ” เผยเชียนพูด
อะไรไม่ออก
“อ๋อๆ เสน่ห์” หม่าหยางพยักหน้ารัว
“หนังสือการ์ตูนกับนิยายเหรอ…เอามาทำไม ไร้สาระ!
“ต้องเอาพวกหนังสือที่มีเสน่ห์…ซื้อมาเติมชั้นให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย”
เผยเชียนบอกหนทาง
“พี่เชียน ยกตัวอย่างชื่อหนังสือที่ควรซื้อให้สักหน่อยได้มั้ย” หม่าหยางถาม
เผยเชียนพยักหน้าพร้อมตอบ “ได้ ขอคิดก่อน
“ประวัติย่อของรถไถยูเครน คู่มือสำหรับคนขับรถไถขนาดเล็ก สร้างรถไถเพื่อ
บ้านเกิด เรื่องราวของนายสถานีรถไถและหัวหน้านักปฐพีวิทยา การใช้งานและ
การรักษารถไถเดินตาม…”
หม่าหยางอึ้งไป
“พี่เชียน คือ…พี่จะเอาหนังสือเกี่ยวกับรถไถมาทำไมเยอะแยะ”
เผยเชียนอธิบายอย่างจริงจัง “นี่แหละคือวิธีสร้างเสน่ห์ดึงดูดใจ! มีแต่คน
รสนิยมสูงเท่านั้นถึงจะเข้าถึงได้ แกเข้าใจมั้ย
“เออ ช่างเหอะ สำหรับแกคงยากที่จะเข้าใจ ไปเสิร์ชในเน็ตว่า ‘ชั้นหนังสือ
ของเด็กรสนิยมดี’ แล้วก็เลือกซื้อหนังสือที่นายไม่เข้าใจชื่อซะ!
“ไม่อย่างนั้นก็ไปร้านหนังสือเก่าแล้วเลือกเล่มที่สภาพเก่าๆ ขาดๆ ยิ่งเก่า
เท่าไหร่ยิ่งดี!”
“อ๋อ โอเค ได้เลยครับ!” หม่าหยางพยักหน้ารัว
ทั้งสองเปลี่ยนไปคุยเรื่องเชฟ
พวกเขายังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องเชฟ แต่ก็ได้รับใบสมัครจากเชฟดีๆ มากมาย
เพราะเสนอค่าจ้างไปค่อนข้างดี อีกอย่างดูจากสภาพที่นี่ก็ไม่น่าจะมีงานอะไรให้
ทำเยอะแยะ
“แกต้องเลือกเชฟแบบที่ฉันบอกก่อนหน้านี้ ฉันไม่อยากได้เชฟที่ทำอาหาร
ญี่ปุ่นกับอาหารฝรั่งเศสเป็น ฉันอยากได้เชฟที่ทำอาหารง่ายๆ ทั่วไปได้อร่อยๆ เข้า
ใจมั้ย”
เผยเชียนรู้สึกกังวลจึงสั่งหม่าหยางไปอีกรอบ
หม่าหยางตบอกตัวเอง “วางใจได้ครับ เดี๋ยวผมจัดการให้!”
เผยเชียนพยักหน้า “ดีมาก!”
เขาเดินดูรอบร้านอีกครั้งและรู้สึกพึงพอใจมาก
อนาคตดูสดใสเหลือเกิน มองแวบเดียวก็รู้ว่าจะต้องขาดทุนแน่!
เผยเชียนหันไปมองหม่าหยาง ในใจรู้สึกท่วมท้นเล็กน้อย “หม่าหยาง ถ้าไม่ใช่
แก ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว!”
หม่าหยางยิ้มกว้าง หน้าบานเป็นกระด้ง “โห ดูพี่พูดเข้า ผมไม่ได้เก่งอะไรเลย!
พี่เชียน ชมผมเยอะเดี๋ยวผมเหลิงนะพี่!”
“ไม่ต้องห่วง เหลิงไปเลย แกไม่ใช่คนถ่อมตัวอยู่แล้ว”
เผยเชียนเดินกลับไปที่โซนร้านอินเทอร์เน็ต
จางหยวนประกอบคอมพิวเตอร์เร็วมาก แต่ถึงจะทำงานมือเป็นระวิงมาพัก
ใหญ่ก็คืบหน้าไปได้แค่ครึ่งทาง
เผยเชียนเห็นคอมพ์เครื่องหนึ่งเปิดอยู่
โคตรแจ่มเลย!
บนโต๊ะคอมพิวเตอร์มีที่ว่างมากมาย เก้าอี้เกมมิ่งก็นั่งสบายมาก แป้นพิมพ์กับ
เมาส์ก็ไม่ใช่ของราคาถูก ดูเป็นของดีเลยทีเดียว
แหม ก็ลงทุนไปตั้งเยอะนี่
“อย่าลืมนะ โต๊ะทุกตัวจะต้องมีทิชชู่เปียกคุณภาพดีหนึ่งห่อ เอาไว้ให้ลูกค้า
เช็ดมือเช็ดหน้าก่อนเล่น เอาไว้เช็ดเมาส์ได้ด้วย ฉันไม่อยากให้เมาส์กับหูฟังสกปรก
“แต่ถ้าลูกค้าทำสกปรกก็ทำอะไรไม่ได้ ให้เอาอันใหม่มาเปลี่ยนเลย” เผย
เชียนพูดอย่างช่วยไม่ได้
หม่าหยางดูลังเล “จะได้เหรอพี่เชียน ลูกค้าจะยอมเช็ดมือก่อนเล่นกันเหรอ”
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะคิดได้ว่าก็ฟังดูมีเหตุผล จะหวังให้ลูกค้าเช็ดมือ
ด้วยทิชชู่เปียกกันเองได้อย่างไร
เป็นไปไม่ได้เลย
“งั้นเอาแบบนี้ ถ้าลูกค้าเดินมาที่โต๊ะคอมพ์ เราจะให้พนักงานเอาผ้าขนหนูไป
ให้ทันที เหมือนที่ร้านอาหารหรูๆ ทำกัน
“ผ้าขนหนูพวกนี้จะต้องสะอาดและผ่านความร้อนเพื่อฆ่าแบคทีเรีย หาคนมา
ดูแลเรื่องนี้ด้วย!”
หม่าหยางตาเบิกโพลง “จะไม่…หรูไปหน่อยเหรอครับ”
เผยเชียนส่ายหน้า “แกคิดว่าเราทำร้านอะไรกันอยู่ ที่นี่คือศูน ย์ความบันเทิง
ระดับสูง! ลูกค้าของเราคือพวกบ้านรวย เราต้องบริการอย่างดีเยี่ยม เข้าใจไหม”
เขานึกอะไรขึ้นได้เลยพูดต่อ “แล้วก็ออกกฎห้ามสูบบุหรี่ในร้านด้วย จะ
ตรงไหนก็สูบไม่ได้! ถ้าอยากสูบก็ต้องออกจากร้าน”
“หา”
หม่าหยางคิดว่าร้านนี้จะเหมือนร้านอินเทอร์เน็ตร้านอื่ นๆ ที่แบ่งเป็นโซน
สำหรับสูบบุหรี่และโซนห้ามสูบบุหรี่ เขากำลังจะขึ้นป้ายพอดีเลย
แต่เผยเชียนห้ามเอาไว้ก่อน
“แต่…”
เผยเชียนพูดขัด “ไม่มีแต่ เราต้องทำให้ที่นี่เป็นร้านบรรยากาศดี จะให้มีควัน
บุหรี่ได้ไง เออ ใช่ ไปติดตั้งระบบระบายอากาศด้วย พื้นที่แออัดแบบนี้ต้องทำให้มี
ลมหมุนเวียน
บทที่ 102 เปิดให้บริการเงียบๆ

หม่าหยางเกาหัว “ระบบระบายอากาศเหรอ คืออะไรอ่ะพี่”


“ไปเสิ ร ์ ช ในเชี ย นตู้ ” เผยเชี ย นไม่ ม ี เ วลามาอธิ บ ายเรื ่ อ งแบบนี ้ เขาเปิ ด
คอมพิวเตอร์แล้วกดดาวน์โหลดเกมฐานทัพกลางทะเล
ระบบระบายอากาศเกิดขึ้นค่อนข้างเร็ว ประมาณปี 2000 ยุโรปก็ตั้งข้อมูล
จำเพาะของระบบขึ้นมาแล้ว ระบบที่ว่าค่อยๆ เริ่มใช้งานในครัวเรือนและใน
บริษัทต่างๆ ก่อนจะขยายไปใช้งานในวงกว้าง
ในประเทศจีน ระบบระบายอากาศและเครื่องฟอกอากาศเริ่มมีกระแสขึ้นมา
หลังวิกฤติปัญหาหมอกควัน ผู้คนเริ่มรู้จักทั้งสองสิ่งนี้มากขึ้นในปี 2014
ระบบระบายอากาศในช่วงปีนี้ผลิตโดยบริษัทต่างประเทศ ราคาจึงแพงหูฉี่
แต่เผยเชียนก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องแย่อะไร กลับเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำ!
พอดาวน์โหลดเกมฐานทัพกลางทะเลเสร็จ เผยเชียนก็ลองเล่นดู
คอมพิวเตอร์เครื่องนี้สเป็กสูงมาก เล่นเกมได้ลื่นไหลดีเยี่ยม!
เขาปรับการตั้งค่าทุกอย่างไปที่ระดับสูงสุดหลังจากเข้าเกม เพื่อจะได้รับ
ประสบการณ์การเล่นเกมอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย!
คอมพิวเตอร์เครื่องนี้มีข้อดีมากมาย ไม่มีข้อเสียเลย
ถ้าเล่นเกมแพ้ขึ้นมา จะโทษว่าคอมพิวเตอร์ไม่ดีก็ไม่ได้!
พวกข้อแก้ตัวอย่างเมาส์กระตุก แป้นพิมพ์ไม่ตอบสนอง คอมพิวเตอร์ค้าง จอ
กะพริบ หรือหูฟังไม่ทำงาน…
เอามาใช้ไม่ได้เลยสักอย่าง
ถ้าเล่นเกมห่วยเองคงโทษคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ไม่ได้ ต้องโทษฝีมือการเล่นอัน
กากแสนกากของตัวเอง!
สำหรับบางคนแล้ว นี่อาจเป็นข้อเสียก็ได้
เผยเชียนเล่นโหมด PvP และแพ้ราบคาบไปสองเกม
จากนั้นก็หนีไปเล่นโหมดไบโอเคมิเคิลอีกสองเกม ซึ่งก็แพ้ราบคาบเช่นเคย
เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเล่นโหมดเนื้อเรื่อง
“คนหัวดีอย่างฉันเล่นเกมที่ต้องพึ่งความเร็วของการตอบสนองอย่างเดียว
ไม่ได้หรอก โหมดเนื้อเรื่องสิสนุกสุด”
เผยเชียนเล่นโหมดเนื้อเรื่องไปเรื่อยๆ ในใจรู้สึกท่วมท้น
ฉันสร้างเกมนี้ขึ้นมาจริงๆ เหรอ
สงสัยจริงว่าหวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่ผ่านอะไรกันมาบ้าง
เผยเชียนเล่นเกมต่อไปเรื่อยๆ จนจางหยวนเดินถือค็อกเทลมาเสิร์ฟ
ขนาดแก้วไม่ได้ใหญ่ แต่ของเหลวข้างในส่องแสงเป็นประกาย ด้านล่ างสุดสี
แดงเข้ม ส่วนด้านบนเป็นสีแดงลูกแอปเปิ้ล ทั้งสองสีโปร่งใส ตรงกลางที่สองสีมา
บรรจบเกิดการผสมกันของสี เห็นแล้วดูเท่ไม่หยอก
ความคิดแรกที่ผุดขึ้นในหัวคือช่างน่าพิศวงจริง!
หลังจากลองจิบดูก็พบว่ารสชาติก็พิเศษไม่แพ้กัน เป็นรสชาติที่ยากจะอธิบาย
แต่ก็ยากที่จะลืมได้
“แก้วนี้ชื่ออะไร” เผยเชียนถาม
จางหยวนตอบอย่างตรงไปตรงมา “บอสเผยครับ นี่คือค็อกเทลแสงเหนือ
ปกติจะเรืองแสงในที่มืด แต่สูตรนี้ปรับเล็กน้อยทำให้สีสันเป็นธรรมชาติมากขึ้น”
“ไม่เลวเลยนี่ ราคาเท่าไหร่เหรอ” เผยเชียนถาม
จางหยวนตอบ “แก้วละห้าสิบหยวนครับ”
เขากลัวว่าเผยเชียนจะคิดว่าราคาแพงไปเลยรีบอธิบายเพิ่ม “แก้วนี้ใส่กราป
ป้าเข้าไปด้วยครับ ขวดขนาดเจ็ดร้อยมิลลิลิตรก็สี่ร้อยหยวนแล้ว แก้วนี้ใส่ไปตั้ง
สามสิบมิลลิลิตร”
“มีแบบที่ถูกกว่านี้ด้วยครับ แต่จะไม่ผสมกราปป้า”
“อ๋อ” เผยเชียนพยักหน้าตอบ “แล้วแก้วถูกสุดในเมนูราคาเท่าไหร่”
จางหยวนนึกอยู่ครู่หนึ่ง “ถูกที่สุด…ยี่สิบห้าหยวนครับ เครื่องดื่มส่วนใหญ่ใน
บาร์ขายราคาประมาณนี้”
ไม่ได้ถือว่าถูกเลยในปี 2010
ราคาค็อกเทลหนึ่งแก้วก็เท่ากับค่าอาหารสองมื้อของนักศึกษาส่วนใหญ่แล้ว
อีกอย่างกลุ่มลูกค้าที่จะมาใช้งานร้านอินเทอร์เน็ตก็เป็นคนละกลุ่มกับที่จะมา
เที่ยวบาร์
“บอสเผยคิดว่าไงครับ ราคาโอเคหรือเปล่า ถ้าคิดว่าแพงไป เราลดราคาลงได้
นะครับ”
ลดเหรอ
หรือจะเพิ่ม
ถ้าลดราคาลงก็จะได้เงินจากการขายเครื่องดื่มต่อแก้วน้อยลง แต่ถ้าคนไป
บอกต่อกันว่าเครื่องดื่มร้านนี้ราคาถูกแล้วคนแห่มากินจะทำอย่างไร
ไม่ใช่จะกลายเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้น้อยแต่คืนทุนได้ไวเหรอ
เขาลดราคาลงไม่ได้!
ถึงตอนนี้ราคาเครื่องดื่มที่ตั้งไว้จะไม่ได้ถูก แต่หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง เผย
เชียนก็คิดว่ายังเพิ่มราคาขึ้นไปอีกได้!
เผยเชียนตัดสินใจ “เพิ่มราคาแก้วละสิบหยวน ลูกค้าของเราเป็นลู ก ค้ า
ระดับสูง ถ้าตั้งราคาไว้ต่ำเกินไปจะเหมือนไปดูถูกพวกเขา!”
“หา” จางหยวนอึ้งไป
“เอาตามนี้ เราจะเพิ่มราคาเครื่องดื่มทุกอย่างไปอีกสิบหยวน” เผยเชียนจิบ
ค็อกเทลอย่างสุขใจพลางกลับไปสนใจเกมต่อ
เป็นเรื่องปกติที่จางหยวนจะไม่ถามอะไรเพิ่มแล้วหันกลับไปทำงานต่อ
เผยเชียนเล่นเกมต่อด้วยความพึงพอใจ
ไม่ใช่บรรยากาศที่ทำให้เขารู้สึกพอใจ แต่เป็นเพราะราคาต่างหาก!
ตามที่คำนวณดู เล่นเกมที่นี่สองชั่วโมงกับสั่งค็อกเทลหนึ่งแก้วจะเสียเงินรวม
ทั้งหมดแปดสิบหยวน
ราคานี้ไปเล่นร้านอินเทอร์เน็ตทั่วไปได้ทั้งสัปดาห์!
ลูกค้าส่วนใหญ่จะต้องหนีไปร้านอื่นที่ถูกกว่าทันที
เผยเชียนรู้ว่าร้านอินเทอร์เน็ตระดับสูงแบบนี้จะเป็นที่นิยมในอีกหกถึงเจ็ดปี
ข้างหน้า
แต่นั่นก็ไม่สำคัญ ขอแค่ตอนนี้ยังไม่เป็นที่นิยมก็พอ
อีกอย่างหกถึงเจ็ดปีข้างหน้า ราคาค็อกเทลก็ไม่น่าจะอยู่ที่แก้วละหกสิบ
หยวน!
ต้องขาดทุนแน่! ต้องขาดทุนไปอีกสี่ถึงห้าปี
ยอดเยี่ยมจริงๆ!
เผยเชียนลุกขึ้นยืน เตรียมตัวจะกลับออกไป
ตอนนั้นเองหม่าหยางก็เดินเข้ามาถาม “พี่เชียน เราวางแผนไว้ว่าจะเปิดร้าน
วันมะรืน พี่ว่าเราควรจัดงานฉลองเปิดร้านหรือทำแคมเปญพิเศษมั้ย ผมคิดไว้ว่า
สามวันแรกจะลดราคาชั่วโมงเล่นเกมกับเครื่องดื่มลงครึ่งหนึ่ง พี่ว่าให้ส่วนลด
ประมาณนี้พอมั้ย”
ลดราคาชั่วโมงเล่นเกมลงครึ่งหนึ่งเหรอ
ลดราคาเครื่องดื่มลงครึ่งหนึ่งด้วย
โนๆๆๆ ไม่ได้เด็ดขาด!
ขืนทำแบบนั้น ไม่นานร้านได้ดังเป็นพลุแตกแน่ เขาจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นได้
ยังไง
เผยเชียนส่ายหน้ารัว “ไม่ได้ ไร้รสนิยม! ร้านเราเป็นร้านระดับสูง เข้าใจรึเปล่า
“เราจะเปิ ด ให้ บ ริ ก ารตามปกติ ไม่ ใ ช้ ว ิ ธ ี ด ึ ง ดู ด ลู ก ค้ า แบบนั ้ น เหล้ า ดี ไ ม่
จำเป็นต้องปรุงแต่งอะไรเพิ่ม ร้านเราบรรยากาศขั้นเทพแบบนี้ยังจะกลัวลูกค้าไม่
เข้ากันอีกเหรอ
“ทำไมต้องลดราคากับทำอะไรใหญ่โตด้วย อย่าทำให้ร้านเราเป็นเหมือน
ตลาดสดสิ!”
“โอเคครับ ไม่ทำก็ได้…” หม่าหยางไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลเท่าไหร่ แต่ก็รู้ดีว่าถ้า
ทำตามที่เผยเชียนพูดก็ไม่มีทางผิดพลาดแน่นอน
เผยเชียนเดินออกจากร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูด้วยความพึงพอใจ เขาพร้ อม
สำหรับวันเปิดให้บริการของร้านนี้แล้ว
ถ้าได้เห็นว่าไม่มีลูกค้าเลยตอนเปิดให้บริการ เขาก็จะได้โล่งใจจริงๆ เสียที!


วันที่ 9 มีนาคม…
วันเปิดให้บริการของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู!
ไม่มีแคมเปญเปิดตัว ไม่มีดอกไม้ ไม่มีประทัด ไม่มีป้าย ไม่มีอะไรทั้งนั้น!
ทุกอย่างเป็นไปอย่างปกติ
หน้าร้านไม่มีตัวอักษรจีนอะไร มีแค่โลโก้ขนาดใหญ่ ร้านดูดีมีระดับจริงๆ แต่ก็
ไม่ได้ช่วยประกาศให้คนอื่นรู้ว่าด้านในมีอินเทอร์เน็ตให้บริการ
โชคยังดีที่ร้านเป็นตึกผนังกระจกสองชั้น ทำให้ช่วงกลางวันสามารถมองทะลุ
เข้าไปเห็นโซนคาเฟ่และโซนสำหรับเล่นเกม
ถึงกระนั้นทุกอย่างก็เงียบเชียบเกินไป
จางหยวนรอแสดงฝีมือชงเหล้าอันน่าตื่นตาตื่นใจให้ลูกค้าดูอยู่ที่บาร์
รอไปได้ครึ่งวันก็เห็นแค่คนเดินผ่านหน้าร้าน อย่างมากก็มีแค่คนมองเข้ามา
อย่างสงสัย แต่ไม่มีใครเดินเข้ามาเลยสักคน
ลมหนาวด้านนอกร้านทำหน้าที่ไล่ลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม
เผยเชียนนั่งจิบกาแฟดูร้านอันว่างเปล่าอยู่ที่โซนคาเฟ่ มุมปากค่อยๆ ผุดยิ้ม
แต่เขาก็พยายามอดกลั้นไว้อย่างสุดกำลัง
หม่าหยางไม่ได้ใจเย็นเหมือนปกติ เขาเริ่มกระสับกระส่าย “พี่เชียน อย่าง
น้อยควรให้พวกเขาออกไปแจกใบปลิวดีไหม…”
‘พวกเขา’ ที่ว่าคือเหล่าผู้จัดการที่จ้างมา
จริงๆ ก็เป็นผู้จัดการแค่ชื่อ แต่หน้าที่ที่ต้องทำกว้างมาก พวกเขาต้องคอย
บริการเสิร์ฟน้ำและชาให้ลูกค้า
ก่อนหน้านี้เผยเชียนปฏิเสธแผนโปรโมตวันเปิดร้านของหม่าหยางทิ้งหมด
เขาให้เหตุผลไปว่าต้องรู้จักอดทน!
ร้านเราดูดีอยู่แล้ว ถ้าเราปล่อยแคมเปญเปิดตัวหรือเสนอโปรโมชันเหมือน
ธุรกิจบังเทิงอื่นๆ ก็ไร้ความหมายสิ!
สุดท้ายวันเปิดร้านก็เงียบเป็นเป่าสาก ไม่มีใครสนใจเลยสักคน
เผยเชียนจิบชาอย่างไม่ใส่ใจ “ทำไมต้องแจกใบปลิวด้วย ไม่เห็นจะมีระดับเลย
เราต้องให้ลูกค้าบังเอิญเข้าร้านมาเองจะได้เซอร์ไพร์สกัน!”
“ให้ลูกค้าบังเอิญเข้ามาเองเหรอพี่…”
หม่าหยางรู้สึกว่าวิธีนี้ดูจะแปลกๆ แต่ตอนนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องเถียงอย่างไร
ดี
บทที่ 103 เงียบเหงา!

พวกเขานั่งรออย่างนั้นไปอีกหนึ่งชั่วโมงจนเกือบเที่ยง
ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่หน้าร้าน เขามองเข้ามาในร้านอยู่พักใหญ่ก่อนจะเปิด
ประตูเดินเข้ามา
พนักงานที่รออยู่นานเข้าไปต้อนรับทันที
“ยินดีต้อนรับครับ! จะเล่นอินเทอร์เน็ตหรือดื่มกาแฟดีครับ”
เป็นคำถามที่แปลกประหลาด แต่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก็เป็นร้านที่รวม
ร้านอาหารและร้านอินเทอร์เน็ตไว้ด้วยกัน จะให้ถามว่าอย่างไรได้อีก
ชัดเจนว่าชายหนุ่มเห็นคอมพิวเตอร์สเป็กสูงผ่านกระจกเลยเดาว่าร้านนี้น่าจะ
เป็นร้านอินเทอร์เน็ต เขาจึงเลือกเดินเข้ามา
“เอ่อ…ชั่วโมงละเท่าไหร่เหรอครับ”
พนักงานตอบอย่างตรงไปตรงมา “สิบหยวนครับ”
ชายหนุ่มตกใจเล็กน้อย คิดว่าตนเองได้ยินผิดไป “เอ๊ะ หมายถึงโซนรวมนะ
ครับ ไม่ใช่ห้องส่วนตัว”
“ใช่ครับ โซนรวมชั่วโมงละสิบหยวน ร้านเราไม่มีบริการห้องส่วนตัว”
ชายหนุ่มดูจะอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก “มีโปรโมชันสมาชิกมั้ยครับ”
“มีครับ พอสมัครสมาชิกกับทางร้านจะได้ลดราคาเครื่องดื่มสิบเปอร์เซ็นต์ ”
พนักงานยื่นเมนูให้อย่างกระตือรือร้น
ชายหนุ่มดูแล้วถึงกับตัวสั่น
อะไรวะเนี่ย!
เมนูด้านหน้าเป็นค็อกเทลและเครื่องดื่มต่างๆ ค็อกเทลและเครื่องดื่มผสม
แอลกอฮอล์ทุกอย่างราคาอยู่ที่แก้วละสี่สิบถึงห้าสิบหยวน
เปิดไปหน้าหลังเป็นอาหารสามัญประจำบ้านทั่วไปอย่างมะเขือเทศผัดไข่ หมู
เส้นผัดเปรี้ยวหวาน และอื่นๆ ซึ่งราคาไม่ได้ถูกเลย!
ถึงจะได้ลดราคาสิบเปอร์เซ็นต์ก็จ่ายไม่ไหวเหมือนเดิม!
อี ก อย่ า งสมั ค รเป็ น สมาชิ ก ร้ า นอิ น เทอร์ เ น็ ต แต่ ไ ม่ ไ ด้ ส ่ ว นลดค่ า ชั ่ ว โมง
อินเตอร์เน็ต แต่ได้ลดค่าเครื่องดื่มแทนอ นี่มันร้านบ้าอะไรกัน
ชายหนุ่มกระแอมกระไอสองครั้ง “ขอโทษทีครับ บ้านผมไม่ได้รวย ผมไป
ดีกว่า”
เขาหันหลังเดินออกจากร้านไป
พนักงานเหลือบมองกัน ไม่รู้จะต้องทำอย่างไร
นี่มัน…
พวกเขาอยากจะรั้งชายหนุ่มเอาไว้
แต่บอสเผยสั่งให้บริการสบายๆ เหมือนสายลมฤดูใบไม้ผลิ!
ต้องทำตัวเหมือนสายลมฤดูใบไม้ผลิที่พัดผ่านแก้มไปเบาๆ ให้ลูกค้ารับรู้ถึง
การมีอยู่ แต่ก็ไม่ได้รบเร้ามากจนเกินไป
ดังนั้นเหล่าพนักงานจึงได้แต่อดทนไม่ทำอะไร
ไม่นานก็เที่ยง คนเริ่มพลุกพล่านมากขึ้น
มีบางคนเข้ามาถามราคา
แต่สุดท้ายลูกค้าสามสี่คนนั้นก็เป็นเหมือนชายหนุ่มคนก่อนหน้า พอได้ยิน
ราคาก็รีบหนีไปทันที
ลูกค้าคนหนึ่งถึงกับพึมพำกับตัวเองเบาๆ “นี่มันปล้นกันกลางวันแสกๆ
ชัดๆ!”
จางหยวนอยู่ตรงบาร์ เตรียมตัวโชว์ทักษะการชงเหล้า
แต่กลับไม่มใี ครเข้ามาสั่งเครื่องดื่มเลยสักคน เอาจริงๆ เข้ามาเล่นอินเทอร์เน็ต
ยังไม่มีเลย!
“พี่เชียน ปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ!”
หม่าหยางเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็เริ่มเป็นกังวล
แค่วันเปิดก็ดูไม่จืดแล้ว แบบนี้แย่แน่!
ยิ่งร้านเงียบเหงามากเท่าไหร่ ลูกค้าก็ยิ่งไม่อยากเข้า กลายเป็นวงจรสุด
โหดร้าย
เผยเชียนพยักหน้าอย่างจริงจัง
“อืม ปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้จริงๆ
“ใครก็ได้เขียนราคาไปแปะไว้ตรงประตูให้หน่อย!
“ทุกคนมีแต่เข้ามาถามราคา ให้เป็นแบบนี้ไม่ได้
“แปะราคาให้รู้ตรงประตูไปเลยจะได้ไม่ต้องเข้ามาถามแล้วชิ่ง เสียอารมณ์!
“ถ้าคิดว่าแพงก็ไม่ต้องเข้ามา จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปต้อนรับ แบบนี้ดีกว่า”
หม่าหยางและคนอื่นๆ อึ้งไป
ที่บอสเผยบอกว่า ‘ปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้’ หมายความว่าอย่างนี้หรอกเหรอ
ถ้าไม่ได้แปะป้ายไว้หน้าร้าน อย่างน้อยก็อาจมีคนเดินเข้า มาถามราคา เสร็จ
แล้วก็รู้สึกเกรงใจที่พนักงานจ้องเลยได้แต่จำใจอยู่ต่อ แบบนี้พวกเขาก็จะได้พวก
ลูกค้าหน้าบางบ้าง
แต่ถ้าแปะป้ายไว้ตรงหน้าประตูก็คงไม่มีใครเข้าร้านเลย!
ทำแบบนี้ก็เป็นการไล่ลูกค้าหน้าบางไปด้วยน่ะสิ
หม่าหยางลังเลเล็กน้อย
เผยเชียนเห็นหม่าหยางลังเลจึง รีบบอกหม่าหยางอีกครั้ง “รีบไปจัดการสิ
อะไรที่มันเป็นประโยชน์กับร้านทำไมต้องลังเลด้วย”
หม่าหยางลุกขึ้นอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักก่อนจะจัดแจงให้คนไปติดป้าย
เผยเชียนจิบกาแฟต่อ
ดูเหมือนว่ากาแฟธรรมดานี่จะหอมหวานกว่าปกตินะ!

ตอนบ่าย ในที่สุดลูกค้าก็เข้าร้าน
วัยรุ่นสองคนที่เหมือนจะเป็นทายาทตระกูลร่ำรวยเข้ามาเล่นอินเทอร์เน็ต
ด้วยกัน พวกเขาลังเลอยู่พักหนึ่งตอนที่เห็นราคา แต่หลังจากเถียงกันเสร็จ ทั้งสอง
ก็เดินเข้ามานั่งในโซนสำหรับเล่นอินเทอร์เน็ต
มีพนักงานบริษัทจำนวนหนึ่งเข้ามาสั่งกาแฟที่โซนคาเฟ่
เผยเชียนกะเอาไว้แล้วว่าน่าจะเป็นแบบนี้
ถึงร้านจะไม่ได้ตั้งอยู่ในย่านการค้า แต่ก็ไม่ได้ห่างจากย่านที่ว่ามากนัก อยู่ถัด
มาแค่ถนนเดียว
ในเมื่อมีคนเดินผ่านไปมาก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคนแวะเข้ามาสั่งกาแฟหรือหา
อะไรกิน
เพราะอย่างไรร้านของเขาก็เป็นร้านอินเทอร์เน็ตที่ต กแต่งมาอย่างดี ถึงจะตั้ง
ราคาไว้สูง แต่ก็ไม่ได้สูงขนาดที่จะไม่มีลูกค้าแม้แต่คนเดียว สถานการณ์ในฝันแบบ
นั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
แค่ลูกค้าไม่กี่คนคงยังรับได้อยู่
ขอแค่คุมจำนวนให้รายได้ไม่พอกับรายจ่ายก็พอแล้ว!
เผยเชียนดูร้านต่อจนดึก
มีคนเข้ามาสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ้าง ส่วนจางหยวนก็ได้ขึ้นเวทีไปร้องเพลง
สองสามเพลง บรรยากาศร้านไม่ได้แย่เลย
ไม่ได้เงียบเหงาเหมือนช่วงเช้า แต่ก็มีน้อยมากที่เข้ามาเล่นอินเทอร์เน็ต
เผยเชียนคำนวณดูคร่าวๆ รายรับเท่านี้ไม่พอจ่ายรายจ่ายสักอย่าง
เยี่ยมมาก!
ทุกอย่างเป็นไปตามที่วางแผนไว้!
เผยเชียนลุกยืน เตรียมตัวจะกลับ
หม่าหยางดูจะช็อกและหมดกำลังใจไปเล็กน้อย
ที่ร้านมีคอมพิวเตอร์สุดเทพ บรรยากาศร้านก็ดี แต่วันเปิดร้านกลับเป็นไป
อย่างเงียบเหงา!
หม่าหยางรู้สึกรับไม่ค่อยได้
เผยเชียนพยายามอย่างหนักไม่ให้หลุดยิ้มขณะปลอบอีกฝ่าย “เอาน่า นี่แค่วัน
แรก ไอ้หม่า แค่ต้องจำไว้ว่านี่เป็นธุรกิจระยะยาวของบริษัทเถิงต๋า!
“วันเดียวนี่ไม่ต้องพูดถึง จะขาดทุนไปสามเดือนหรือครึ่งปีก็ไม่เป็นไร! ทุก
อย่างจะดีขึ้น เข้าใจไหม”
หม่าหยางพยักหน้า แต่ก็ชัดเจนว่าเขาไม่ได้ใส่ใจที่เผยเชียนพูดมากนัก
เผยเชียนไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาตบบ่าหม่าหยางแล้วกลับออกไปอย่างชื่นบาน


วันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม…
ช่วงกลางคืน…
จางหยวนและหม่าหยางเดินขึ้นไปนั่งลงตรงโต๊ะตัวหนึ่งบนชั้นสอง สีหน้าพวก
เขาดูเคร่งเครียด
จางหยวนหยิบปากกาออกมาจดคำนวณเลข
“ค่าเช่าเดือนละสามแสนหนึ่งหมื่นห้าพันหยวน
“ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าวัตถุดิบและของใช้ตกอย่างต่ำเดือนละหมื่น
“เงินเดือนพนักงานเดือนละประมาณหกหมื่นหยวน
“แสดงว่าแค่เราเปิดร้านไปเฉยๆ ก็มีรายจ่ายอยู่ที่สี่แสนหยวนต่อเดือน!
“เรายังมีเงินลงทุนตั้งต้นค่าคอมพิวเตอร์ ค่าอุปกรณ์ ค่าตกแต่ง ค่านั่นค่านี่
รวมทั้งหมดสองล้านหยวน
“รายรับสามวันที่ผ่านมาเอาไปสู้ร้านกาแฟเล็กๆ พื้นที่ประมาณสิบกว่าตาราง
เมตรยังไม่ได้เลย ถ้าปล่อยไปแบบนี้…
“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องคืนทุน แค่เดือนเดียวก็ขาดทุนไปสามแสนหยวนแล้ว…”
ได้ฟังที่จางหยวนคำนวณ ใบหน้ายาวใหญ่ของหม่าหยางก็ซีดลง
นี่…เกินจริงไปหน่อยไหมนะ
แต่ถ้าดูจากสองสามวันที่ผ่านมา ตัวเลขดังกล่าวก็ฟังดูสมเหตุสมผล
ลูกค้าเข้าร้านน้อยเกินไป!
คอมพิวเตอร์หลายสิบเครื่องในร้าน ไม่ต้องให้ถึงกับเต็มทุกเครื่องหรอก อย่าง
มากแถวเดียวก็มีคนนั่งแค่หนึ่งคน!
แถมยังไม่ได้นั่งกันนานด้วย
ส่วนร้านกาแฟสถานการณ์ดีกว่าเล็กน้อย มีลูกค้าเข้าเยอะกว่า
แต่หลายคนก็สั่งกาแฟแค่แก้วเดียวแต่นั่งแช่ทั้งวัน ไม่ได้จ่ายเงินให้ร้านเยอะ
เท่าไหร่นัก
ช่วงดึกไม่ได้มีคนเข้ามาสั่งเหล้ากันเยอะอะไร ถึงจางหยวนจะขึ้นไปร้องเพลงก็
มีไม่กี่คนที่ตั้งใจฟังและปรบมือให้เสียงเปาะแปะ
น่าขายหน้าสุดๆ!
สองวันที่ผ่านมาทำให้จางหยวนกับหม่าหยางเป็นกังวลหนัก
ถ้าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูขาดทุนเดือนละสามแสนก็เท่ากับว่าผลาญเงินไป
เปล่าๆ ปลี้ๆ วันละหนึ่งหมื่นหยวน
นี่มันหลุมลึกไร้ที่สิ้นสุดชัดๆ!
ต้องใช้เงินเท่าไหร่กันถึงจะถมหลุมนี้ได้!
จางหยวนพูดขึ้น “น้องหม่า น้องสนิทกับบอสเผยนี่ ช่วยไปบอกสถานการณ์
ให้บอสฟังได้มั้ย เราปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เราต้องทำอะไรกันสักอย่าง”
หม่าหยางทำหน้ากลัดกลุ้ม “พี่เชียนบอกให้เราทนไปก่อนอีกสัปดาห์ค่อยคุย”
“หนึ่งสัปดาห์…”
จางหยวนมองปฏิทิน วันอาทิตย์หน้าคือวันที่ 21
รู้สึกเหมือนว่า…อีกยาวนานเหลือเกินกว่าจะถึง!
“เฮ้อ โอเค ถ้าบอสเผยว่างั้นก็ต้องรอดูกันไปก่อน
“ประเด็นคือบอสไม่ยอมให้เราแจกใบปลิว ไม่ให้ลดราคาด้วย คือ…” จาง
หยวนไม่เข้าใจเลย
เห็นกันชัดๆ ว่ายังมีช่องให้ทำกำไร!
ถ้าลดค่าใช้บริการต่อชั่วโมงกับราคาเครื่องดื่มลงมาหน่อยพร้อมเสนอโปรโม
ชันสมาชิก…
ก็น่าจะยังพอกู้สถานการณ์ได้!
แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ บอสเผยกลับไม่ยอมให้พวกเขาทำอย่างนั้น
จางหยวนคิดอะไรไม่ออกอีก
ถ้ายังติดปัญหาเรื่องราคา จะทำอะไรไปก็เปล่าประโยชน์!
“รอคุยกับบอสเผยอีกทีสัปดาห์หน้าแล้วกัน”
หม่าหยางไม่ได้คิดอะไรมาก เขาเป็นคนแน่วแน่ในสิ่งที่เชื่อ ถ้าบอสเผยเป็นคน
สั่ง เขาก็จะทำตามอย่างว่าง่าย ไม่มีทางทำอะไรเอง
“ตอนนี้ก็ทำได้แค่นี้”
จางหยวนกังวลเล็กน้อย เขาไม่มั่นใจว่าจะได้รับเงินเดือนเดือนละหนึ่งหมื่ น
หยวนไปอีกกี่เดือน
บทที่ 104 เพื่อนร่วมทุกข์ของหวงซื่อปั๋ว

“วันนี้เยี่ยมมากครับ! ปิดกองได้!”
ผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อสั่งปิดกองประจำวันนี้
เผยเชียนรู้สึกเฉยๆ กับการถ่ายทำ
เขาเริ่มชินแล้ว!
วันนี้ถ่ายทำกันกลางถนนด้านนอก แถมยังเอารถปอร์เช่ คาเยนน์ที่เผยเชียน
เช่าไว้มาเข้าฉากด้วย
ถ้าเอาแต่ถ่ายในออฟฟิศ คนดูจะเบื่อเอาถ้าไม่มีอะไรใหม่ๆ เลย
แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนธีมหรือฉากหลังอย่างไร แก่นเนื้อเรื่องก็ยังคงเหมือนเดิม
หลังจากคุยกับเผยเชียนรอบที่แล้ว จูเสี่ยวเช่อกับหวงซื่อปั๋วก็ทำตามความคิด
ของเผยเชียน พวกเขาไม่รับสปอนเซอร์ที่ให้โปรโมตสินค้าอย่างชัดเจนและหันไป
ทุ่มเทกับซีรีส์อย่างเต็มที่!
ถึงจะไม่ใช่ทุกตอนที่ออกมาเข้มข้นและสมบูรณ์แบบ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็
ยังรักษามาตรฐานไว้ได้
จนถึงปัจจุบัน พวกคลิปที่ดังมากๆ มียอดคนดูอยู่ที่หกถึงเจ็ดแสนวิว ส่วนคลิป
ที่ดังน้อยลงมา ยอดคนดูจะอยู่ที่ประมาณสี่ถึงห้าแสนวิว
สำหรับซีรีส์ตอนสั้นที่เพิ่งปล่อยไป เรื่องนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมาก!
หลังจากเก็บข้าวของเสร็จ ทุกคนก็พร้อมตรงกลับบ้าน
หวงซื่อปั๋วหันไปพูดกับทุกคน “กลับกันก่อนได้เลยนะครับ ผมมีธุระส่วนตัว
ต้องจัดการต่อ”
ไม่มีใครถามอะไร
หวงซื่อปั๋วโบกแท็กซี่ไปร้านกาแฟที่นัดเพื่อนเอาไว้
ผ่านไปสิบกว่านาที แท็กซี่ก็ไปถึงที่หมาย
ชายหนุ่มเดินลงจากรถ มองไปยังตึกที่คุ้นเคยแต่ก็ดูแปลกตาตรงหน้า แล้ว
รู้สึกราวกับถูกตัดขาดจากโลกนี้ไปพักใหญ่
ที่ชั้นสองของตึกมีคำสามคำติดเอาไว้ว่า ฉางหยางเกมส์
ที่นี่คือที่ทำงานเก่าของหวงซื่อปั๋ว
ก่อนหน้านี้หวงซื่อปั๋วทำงานเป็นพนักงานแถวล่างสุดของบริษัท คอยช่วย
จัดการงานยิบย่อยต่างๆ และช่วยวางแผนคร่าวๆ ต้องตรากตรำทนทุกข์ จึงเป็น
ปกติที่จะไม่มีเพื่อน
มีเพียงพนักงานแถวล่างสุดเหมือนกันที่เขาสนิทด้วย
นั่นเพราะพวกเขาก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ต้องทนทุกข์ร่วมกัน เลย
รู้สึกสนิทสนมเพราะต้องลงเรือลำเดียวกัน
หลังจากหวงซื่อปั๋วผ่านสัมภาษณ์และได้เข้าทำงานที่บริษัทเถิงต๋า ถึงจะยัง
ติดต่อกับเพื่อนคนนี้อยู่ แต่เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องงานมากนัก
ทำไมน่ะเหรอ
เหตุผลหนึ่งก็เพราะเขานึกสงสัยมาตลอดว่าตัวเองเข้ามาอยู่ในบริษัทต้มตุ๋น
หรือเปล่า เลยไม่กล้าบอกเพื่อนไป
แต่พอตระหนักว่าทางบริษัทดูแลพนักงานดีและเกมก็ประสบความสำเร็จถล่ม
ทลาย เขาก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อยที่จะพูดเรื่องงานเพราะจะดูเหมือนไปคุย
โว
หวงซือ่ ปั๋วกลัวว่าเพื่อนของเขาจะรับไม่ได้
หลั ง จากนั ้ น หวงซื ่ อ ปั ๋ ว ก็ ง ่ ว นอยู ่ ก ั บ การทำซี ร ี ส ์ ส่ ว นเพื ่ อ นก็ ต ้ อ งทำงาน
ล่วงเวลาอยู่ตลอดเลยไม่มีเวลามาเจอกัน
ในที่สุดพอผ่านช่วงตรุษจีน ทั้งสองก็หาเวลามาเจอกันได้
หวงซื่อปั๋วนั่งอยู่ในร้านกาแฟอยู่พักหนึ่ง ไม่นานเพื่อนของเขาก็มาถึงร้าน
คนคนนี้สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร รูปร่างไม่ค่อยดีเท่าไหร่จาก
การที่ต้องทำงานล่วงเวลาอย่างต่อเนื่อง แต่ถึงจะไม่ค่อยมีเวลา ก็ดูจะจัดการ
ตัวเองได้ค่อนข้างดี
ลักษณะพิเศษของเขาคือมีมื อขาวเรียวสวย บ่งบอกชัดเจนว่าตอนเด็กๆ ไม่
ค่อยได้ทำงานเยอะ
“อี้ฉวิน ทางนี้”
หวงซื่อปั๋วโบกมือเรียก
เพื่อนของเขาเห็นหวงซื่อปั๋วทันที จากนั้นก็เดินมานั่งลงตรงข้าม
ชื่อจริงๆ ของเขาคือหม่าตู๋เปียว แต่ไม่มีใครเรียกด้วยชื่อนั้น ทุกคนเรียกเขาว่า
หม่าอี้ฉวิน[1]
หม่าอี้ฉวินรับผิดชอบวางแผนเนื้อเรื่องที่ฉางหยางเกมส์
เขาเรียนจบสาขาภาษาจีนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ ที่บ้านล้วนมีแต่คนมี
การศึกษาดี
ชื ่ อ ของเขาได้ ม าจากปู ่ ท ี ่ เ ป็ น อาจารย์ ส อนวิ ช าวรรณกรรมคลาสสิ ก ที่
มหาวิทยาลัยชั้นนำ
แล้วด้วยเหตุผิดพลาดอะไร ทำไมถึงมาทำงานวางเนื้อเรื่องให้บ ริษัทเกมได้น่ะ
เหรอ
เรื่องมันยาว
หม่าอี้ฉวินก็เหมือนหวงซื่อปั๋ว ทั้งคู่เป็นพนักงานแถวล่างสุดของบริษัท แต่
หม่าอี้ฉวินมีชีวิตความเป็นอยู่ในบริษัทดีกว่าหวงซื่อปั๋วเล็กน้อย
ตำแหน่งของหวงซื่อปั๋วคือฝ่ายวางแผน ทุกอย่างที่หัวหน้าฝ่ายวางแผนหลิว
ต้องการ เขาจะผลักไปให้หวงซื่อปั๋วทำ โดยไม่สนว่าชายหนุ่มจะทำได้หรือไม่
ส่วนหม่าอี้ฉวินที่รับผิดชอบวางเนื้อเรื่องก็ต้องทำงานของฝ่ายวางแผนด้วย
เช่นกัน แต่เพราะรับผิดชอบเนื้อเรื่องเสียเยอะเลยไม่ค่อยได้งานจากฝ่ายวางแผน
เท่าไหร่
อีกอย่างงานเกี่ยวกับการวางเนื้อเรื่องเปิดโอกาสให้เขาค่อยๆ ทำอย่างไม่เร่ง
รีบได้
เช่นงานตั้งชื่อและเขียนคำอธิบายสามารถทำให้เสร็จได้ในสามถึงสี่ชั่วโมง แต่
หม่าอี้ฉวินใช้เวลาทำไปสองวันเต็มและส่งงานให้วันที่สาม แต่หัวหน้าหลิวก็ไม่ได้
รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ
เพราะอย่างไรการตั้งชื่อก็ต้องใช้หัวคิด หัวหน้าหลิวจึงไม่ได้กดดั นหม่าอี้ฉ
วินมากนัก
ด้วยเหตุนี้หวงซื่อปั๋วจึงทนไม่ไหวและลาออกมา
ส่วนหม่าอี้ฉวินยังลังเลและคิดดูก่อน เขาคิดดูก่อนอยู่หลายเดือน
“ซื่อปั๋ว ทำไมคล้ำลง” หม่าอี้ฉวินนั่งลงแล้วสังเกตเห็นว่าผิวของหวงซื่อปั๋ว
คล้ำลงเล็กน้อย
“จริงดิ น่าจะเพราะช่วงนี้ทำงานข้างนอกบ่อยเลยดำขึ้นมั้ง” หวงซื่อปั๋วยื่น
เมนูให้ “ฉันสั่งกาแฟมาแล้ว นายอยากกินอะไรก็สั่งเลย ฉันเลี้ยงเอง”
“ทำงานข้างนอกเหรอ”
หม่าอี้ฉวินหยิบเมนูขึ้นมาสั่งลาเต้โดยไม่ได้คิดอะไรมาก
พอได้ยินที่หวงซื่อปั๋วพูด เขาก็ตกใจเล็กน้อย
ไม่เห็นจะเคยได้ยินว่างานพัฒนาเกมต้องทำงานข้างนอกเลย…
“อ๋อ ฉันลืมบอกนาย ฉันไม่ได้ทำงานในวงการเกมแล้ว ตอนนี้หันมาทำซีรีส์
ตอนสั้นของตัวเอง นายเคยดูซีรีส์เรื่องชีวิตประจำวันของบอสเผยมั้ย เรื่องนั้น
แหละที่เรากำลังถ่ายกันอยู่” หวงซื่อปั๋วอธิบาย
หม่าอี้ฉวินเบิกตากว้าง
“พวกนายเป็นทีมสร้างซีรีส์เรื่องชีวิตประจำวันของบอสเผยเหรอ โห! ช่วงนี้ซี
รีส์นี่โคตรดังเลย ฉันดูทุกตอนเลยเว้ย! นายอยู่ฝ่ายไหน เขียนบทเหรอ หรือฝ่าย
ฉาก ทำไมไม่เป็นนักแสดงรับเชิญอะไรงี้ล่ะ”
หวงซื่อปั๋วหัวเราะ “ฉันแสดงไม่เก่ง ชั้นทำ…. ไม่ค่ อยอยากเจาะจงเท่าไหร่
เอาเป็นว่าต้องวิ่งไปนั่นไปนี่ น่าจะเป็นหุ้นส่วนแหละมั้ง”
“เจ๋งเลย เหมือนนายจะเจอวงการที่เหมาะกับตัวเองแล้วนะซื่อปั๋ว ดีใจด้วย”
หม่าอี้ฉวินรู้สึกดีใจกับหวงซื่อปั๋วจริงๆ
“ฉันว่านายก็ทำได้เหมือนกัน นิยายนาย…”
หม่าอี้ฉวินโบกไม้โบกมือแล้วพู ดขึ้นขัดหวงซื่อปั๋ว “โอ๊ย อย่าพูดถึงเรื่องนั้น
เลย”
เขาสังเกตดูหวงซื่อปั๋วอีกรอบแล้วพบว่านอกจากจะดูดีขึ้นแล้วยังมีชีวิตชีวา
ขึ้นมาก
“เหมือนสองสามเดือนที่ผ่านมานายจะได้ทำอะไรเยอะแยะเลยนะ นายดู
เปลี่ยนไปเยอะเลย เล่าซิทำอะไรมาบ้าง”
ไม่นานกาแฟก็มาเสิร์ฟ
หวงซื่อปัว๋ ยกกาแฟขึ้นจิบ “คุยเรื่องนายก่อนดีกว่า ที่บริษัทเป็นไงบ้าง”
“จะเป็นไงล่ะ ก็เหมือนเดิม หดหู่ใกล้เฉาตายแล้วเนี่ย ” หม่าอี้ฉวินดูจะรู้สึกไม่
ค่อยดี
พอได้เจอเพื่อนที่ร่วมทุกข์มาด้วยกัน หม่าอี้ฉวินก็เลิกข่มความรู้สึกแล้วเริ่มบ่น
ออกมา
“ช่วงที่ผ่านมาไม่รู้หัวหน้า หลิวเป็นบ้าอะไร เขายืนกรานจะให้ขายดาบที่จะ
เพิ่มเข้าเกมใหม่แปดร้อยแปดสิบแปดหยวน!
“ประเด็นคือดาบไม่ใช่ของหายากอะไร ถ้าเป็นของลิมิเต็ดมีแค่ชิ้นเดีว ฉันก็
โอเคด้วยแหละ แต่นี่มีเป็นร้อยแล้วจะขายตั้งแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน นายว่า
บ้าป้ะ
“สุดท้ายหัวหน้าหลิวก็ไม่ยอมลดแม้แต่หยวนเดียว จะขายที่แปดร้อยแปดสิบ
แปดหยวนให้ได้
“หลังจากนั้นเราก็รู้ว่าเขาหมกมุ่นกับเกมฐานทัพกลางทะเล คิดว่าถ้าปืนกิเลน
เพลิงขายราคานี้ได้ ดาบเราก็ต้องขายได้!
“สุดท้ายพอปล่อยอัปเดตไป ผู้เล่นก็รุมด่ากันตามคาด!
“บอสเรียกหัวหน้าหลิวไปด่าชุดใหญ่ ขนาดนั่งอยู่ที่ โต๊ะยังได้ยินเสียงดัง
ออกมาจากห้องประชุมเลย…”
………………………….
[1] ชื่อหม่าตู๋เปียว (马騳骉) มีแต่ตัวอักษรที่แปลว่าม้า คนอื่นๆ เลย
เรียกว่า 马一群 (หม่าอี้ฉวิน) ซึ่งแปลว่าม้าหนึ่งฝูงแทน
บทที่ 105 ช่วยเพื่อนด้วยการแนะนำ

“โห…”
หวงซื่อปั๋วเองก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย
เขาไม่คิดว่าเกมฐานทัพกลางทะเลจะทำให้หัวหน้าหลิวคลั่งขนาดนั้น
แต่พอคิดดูอีกที หัวหน้าหลิวก็น่าจะมีอาการแบบนั้นแหละ
ปืนกิเลนเพลิงตั้งราคาไว้แปดร้อยแปดสิบแปดหยวน นอกจากผู้เล่นจะไม่
ติดขัดอะไรแล้วยังเปิดใจยอมรับกันอีกด้วย ซึ่ง เรื่องนี้น่าจะทำให้นักออกแบบเกม
คนอื่นๆ เกิดความเชื่อผิดๆ คิดว่าตั้งราคาไอเทมหายากเท่านั้นได้!
หัวหน้าหลิวน่าจะรู้อยู่แล้วว่าผูเ้ ล่นต้องด่า แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ
เขาสนแค่ว่าดาบราคาแพงจะต้องทำเงินได้!
ถึงจะโดนผู้เล่นรุมด่า แต่บอสก็น่าจะขึ้นเงินเดือนไม่ก็เลื่อนขั้นให้เขา
แต่ดันกลายเป็นนอกจากจะโดนผู้เล่นรุมด่าแล้ว ดาบก็ขายไม่ค่อยออก โดย
บอสสับเละ ชื่อเสียงเกมตก ทำเงินไม่ได้อีก
“รอบนี้หัวหน้าหลิวโง่มาก
“ปืนกิเลนแดงของเกมฐานทัพกลางทะเลเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การวางราคาใน
ภาพรวม หัวหน้าหลิวเห็นตั้งราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนก็เกิดหิวเงิน ไม่ยอม
นึกถึงภาพรวมของกลยุทธ์การวางราคา สุดท้ายก็โดนด่าตามคาด”
หวงซื่อปั๋วอดด่าหัวหน้าหลิวด้วยไม่ได้
หัวหน้าหลิวเป็นหัวหน้าของเขาตอนทำงานที่ฉางหยางเกมส์
ตอนนั้นหวงซื่อปั๋วก็ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกที่มีต่อหัวหน้าหลิวอย่างไรดี
ถึงหัวหน้าหลิวจะยัดงานให้เขากองพะเนิน แต่หวงซื่อปั๋วก็คิดว่าตัวเองน่าจะ
เรียนรู้อะไรจากหัวหน้าหลิวได้
ตอนนี้เขาไม่คิดแบบนั้นอีกแล้ว
หัวหน้าฝ่ายวางแผนอย่างหัวหน้าหลิวทำงานในวงการนี้มาหลายปีแล้ว เด็ก
ใหม่ต่างพากันนับถือ
แต่เอาเข้าจริง
คนที่อยากประสบความสำเร็จจะใส่ใจตัวเอง ส่วนคนที่ใส่ใจกำไรแค่เล็กน้อย
ชีวิตจะล่มจม หัวหน้าหลิวแค่ขายไอเทมราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนตามคน
อื่น คนแบบนี้เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนได้อย่างไร
วิสัยทัศน์ของเขาไม่กว้างไกล ชีวิตก็ไม่น่าจะไปได้ไกลนัก
หม่าอี้ฉวินจิบกาแฟ คิดว่าที่หวงซือ่ ปั๋วพูดก็ถูก
“ซื่อปั๋ว นายว่าทำไมเกมฐานทัพกลางทะเลถึงขายปืนกิเลนเพลิงที่ราคาแปด
ร้อยแปดสิบแปดหยวนได้”
หวงซื่อปั๋วยิ้ม “นายถามถูกคนแล้ว”
“ทำไมเกมฐานทัพกลางทะเลถึงขายปืนกิเลนเพลิงที่ราคาแปดร้อยแปดสิบ
แปดหยวนได้น่ะเหรอ ก็เพราะมีช่องทางให้จ่ายเงินแค่ช่องทางเดียวไงล่ะ!
“เกมมีโหมดเนื้อเรื่อง ภาพกับรูปแบบการเล่นก็ทำออกมาดี ตามมาตรฐาน
ตลาด เกมแบบนี้น่าจะตั้งราคาได้อย่างต่ำที่ห้าสิบหยวนใช่มั้ยล่ะ
“แต่เกมฐานทัพกลางทะเลเล่นได้ฟรี มีแค่ปืนกิเลนเพลิงราคาแปดร้อยแปด
สิบแปดหยวนขาย! เป็นการยกประโยชน์ให้ผู้เล่น!
“ถ้าบอกผู้เล่นทั่วไปว่าเล่นเกมได้ฟรี 99.99% เลยนะ ผู้เล่นก็ต้องดีใจใช่ไหม
ล่ะ แล้วจะไม่รู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณเหรอ
“อีกอย่างปืนกิเลนเพลิงยังไม่เหมือนดาบที่หัวหน้าหลิวพยายามขายด้วย ดาบ
นั่นค่าพลังสูงจะตาย พวกอวดรวยซื้อไปก็ไล่ฆ่าคนได้เป็นสิบคนด้วยตัวคนเดียว ผู้
เล่นทั่วไปก็ไม่มีพื้นที่ให้เกิดกันพอดี
“แต่ค่าพลังของปืนกินเลนเพลิงไม่ได้สูงกว่าปืนอื่นๆ ในเกมเลย แถมยังช่วย
คูณเพิ่มค่าประสบการณ์กับค่าเงินให้ผู้เล่นคนอื่นอีก
“ถ้าพวกอวดรวยกับผู้เล่นทั่วไปคิดตรงกัน อาวุธนี่ก็จะไม่มีวันเสื่อมคุณค่า
รูปลักษณ์ก็สวย ถือไปไหนก็มีแต่คนยกย่องนับถือ ทำไมจะไม่ขายดีล่ะ!
“เพราะงั้นกลยุทธ์การวางราคาต้องมองที่ภาพรวมทั้งหมด ต้องประเมินองค์
รวมทั้งหมด การขายปืนกิเลนเพลิงที่ราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนไม่ใช่การขูด
รีดอย่างหน้าเลือด แต่เป็นการยกประโยชน์ให้ผู้เล่น!”
หม่าอี้ฉวินพยักหน้าเป็นครั้งคราวระหว่างที่ฟัง
“งี้นี่เอง! ก็ได้ยินมาเหมือนกันว่าเกมฐานทัพกลางทะเลตั้งราคาปืนไว้แปดร้อย
แปดสิบแปดหยวน ตอนแรกคิดว่ามีผู้เล่นสายเปย์เยอะเสียอีก
“เหตุผลจริงๆ คือแบบนี้นี่เอง เข้าใจแล้ว”
“เพื่อนหวง นายไม่ได้ทำงานในวงการเกมแล้วนี่ ทำไมถึงรู้เยอะจัง”
หวงซื่อปั๋วหยุดจิบชาครู่หนึ่ง
“เอ่อ…เรื่องมันยาว ฉันยังไม่ได้เล่าให้นายฟังเลย สองสามเดือนที่ผ่านมามัน
เหมือนฝัน ฉันไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี…
“จริงๆ แล้วฉันเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาเกมฐานทัพกลางทะเล ฉันเป็นหัวหน้าฝ่าย
วางแผน”
“หา” หม่าอี้ฉวินคิดว่าตัวเองหูฝาด
หัวหน้าฝ่ายวางแผนเกมฐานทัพกลางทะเลเหรอ
แบบนี้ก็เหมือนหวงซื่อปั๋วลากหัวหน้าหลิวมาตบหน้ากลางสี่แยกสิ
เกมฐานทัพกลางทะเลเป็นเกมระดับไหนน่ะเหรอ
ก็เป็นเกมที่ล้มสตูดิโอเทียนหัวได้ยังไงล่ะ!
นอกจากเกม Counter Strike ของต่างประเทศแล้ว ในหมู่เกม FPS ที่พัฒนา
ในประเทศ เกมฐานทัพกลางทะเลถือเป็นเกมอันดับหนึ่ง เป็นเกมที่ยอดเยี่ยม
มากๆ!
มี ค นประเมิ น ไว้ ว่ า จากยอดผู ้ เ ล่ นของเกมฐานทั พ กลางทะเลในปัจจุบัน
นอกจากขายปืนกิเลนเพลิงแล้ว ถ้าทางผู้พัฒนาเพิ่มจุดให้ใช้จ่ายเงินเข้าไปในเกม
รายได้ต่อเดือนน่าจะเพิ่มขึ้นสองถึงสามเท่า!
ถึงคนนอกจะไม่รู้รายได้ของเกมฐานทัพกลางทะเล แต่จากการคำนวณคร่าวๆ
น่าจะอยู่ที่หกถึงเจ็ดล้านหยวนต่อเดือน โดยกำไรอยู่ที่ประมาณสามล้านหยวน
นี่คือยอดกำไรของเกมที่เพิ่งจะเปิดให้บริการได้เดือนกว่าๆ
ดูจากระยะเวลาการให้บริการที่ยาวนานของเกมแนว FPS แล้ว ไม่ใช่เรื่อง
แปลกเลยที่รายได้ของเกมนี้จะพุ่งไปอยู่ที่สิบล้านหยวนต่อเดือน ถือเป็นบ่อเงินบ่อ
ทองที่เพิ่งผุดขึ้นมาเลยทีเดียว!
หัวหน้าฝ่ายวางแผนของเกมนี้จะต้องเป็นคนระดับไหนน่ะเหรอ
ถ้าเป็นบริษัทขนาดใหญ่ แม้แต่บอสของบริษัทก็คงต้องเคารพและทำตัวสุภาพ
กับคนผู้น!ี้
เพื่อนที่ร่วมทุกข์มาด้วยกันเมื่อไม่กี่เดือนก่อนกลายเป็นมืออาชีพในวงการใน
ชั่วพริบตา
หม่าอี้ฉวินทำใจเชื่อไม่ค่อยลง
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากเห็นหวงซื่อปั๋วได้ดี แต่ประเด็นคือเรื่องมันดูตลกเกินไป
หน่อย!
หวงซื่อปั๋วเองก็ไม่อยากปิดบังอีก เขาเริ่มเล่าตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์เข้าทำงาน
ในบริษัทเถิงต๋า ตอนบอสเผยบอกใบ้เป็นแนวทางในการสร้างเกมฐานทัพกลาง
ทะเล ไปจนถึงตอนที่เขาได้รับรางวัลพนักงานดีเด่นและได้เงินหนึ่งล้านหยวนมา
ลงทุนทำซีรีส์
หม่าอี้ฉวินได้ยินเรื่องทั้งหมดก็รู้สึกอ่อนแรง
มีเรื่องดีๆ แบบนี้เกิดขึ้นจริงในโลกด้วยเหรอ
ประวัติการทำงานของหวงซื่อปั๋วไม่น่าจะพาเขาเข้าไปในบริษัทเกมที่แสนมั่ง
คั่งแบบนี้ได้ เป็นเรื่องที่ดูเกินจริงไปหน่อย
แถมยังได้ขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนและยังสร้างเกมฐานทัพกลางทะเล
ขึ้นมาอีก
ไหนจะได้งบในฝันหนึ่งล้านหยวน…จะตลกเกินไปแล้ว!
“ฉันรู้ว่านายน่าจะตกใจพอได้ยิ นเรื่องทั้งหมด แต่…ทุกอย่างที่พูดไปคือเรื่อง
จริง”
หวงซื่อปั๋วดูจริงจังมาก
หม่าอี้ฉวินเงียบไปพักใหญ่
“เพื่อน นายช่วยแนะนำฉันให้บอสนายได้ไหม
“ฉันจะไปลาออกกับหัวหน้าหลิวพรุ่งนี้”
การลาออกทันทีถือเป็นความคิดที่หุนหันพลันแล่นที่สุดของหม่าอี้ฉวิน
แต่เห็นเพื่อนได้ดิบได้ดีในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา พอกลับมาเทียบกับตัวเองดู
แล้ว…
เขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป!
หวงซื่อปั๋วเล่าเรื่องบรรยากาศการทำงานในบริษัทเถิงต๋า สวัสดิการของบริษัท
และอื่นๆ อย่างละเอียด ทุกอย่างทำให้หม่าอี้ฉวินรู้สึกอิจฉา
“ได้สิ ฉันแนะนำนายได้ แต่…ฉันก็ไม่รู้ว่าบอสเผยมีเกณฑ์คัดคนยังไง
“จะผ่านสัมภาษณ์ไหมก็ขึ้นอยู่กับนายนะ”
หม่าอี้ฉวินรีบพยักหน้า “ไม่มีปัญหา ซื่อปั๋ว บอกหน่อย ตอนสัมภาษณ์เป็น
ยังไง ฉันต้องเตรียมอะไรบ้าง”
“เป็นยังไงน่ะเหรอ”
หวงซื่อปั๋วนึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น “เอาจริงๆ ฉันคิดว่าตัวเองทำได้ไม่ค่อย
ดีเท่าไหร่ ฉันแค่เอาประวัติส่วนตัวที่เขียนเล่าประสบการณ์การทำงานตามจริง
ไป”
“ตามจริงเหรอ” หม่าอี้ฉวินแปลกใจเล็กน้อย
ถ้าเขียนไปตามจริง ประวัติส่วนตัวจะดูแย่แค่ไหนกันนะ
หวงซื่อปั๋วได้เข้าทำงานด้วยประวัติส่วนตัวแบบนั้นน่ะหรือ
หวงซื่อปั๋วพยักหน้า “ใช่ ตามจริงเลย อีกอย่างฉันจะเล่าอะไรให้ฟัง หัวหน้า
หลิวก็ไปสัมภาษณ์เหมือนกัน เข้าไปก่อนฉันเลย แต่ตกสัมภาษณ์”
หม่าอี้ฉวิน “…”
เขางงไปหมด
หวงซื่อปั๋วคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกไป “เอาเท่าที่ฉันเข้าใจในตัวบอ
สเผยนะ บอสมี ว ิ ธ ี ด ู ค นที ่ ไ ม่ เ หมื อ นใคร สามารถมองสิ ่ ง ที ่ อ ยู ่ น อกเหนื อ จาก
ประสบการณ์ทำงานได้ มองเข้าไปถึงความสามารถที่ซ่อนอยู่ของทุกคน
“ฉันว่านายไม่ควรเสแสร้งหรือพูดอะไรเกินจริง ไม่ต้องเขียนประวัติส่วนตัวให้
ดูดี ทำแบบนี้น่าจะตรงใจบอสเผยมากกว่า
“แต่จะทำยังไง นายก็ตัดสินใจเอาเองนะ ฉันก็การันตีไม่ได้ว่าจะได้ผล”
หม่าอี้ฉวินรีบพยักหน้า “โอเค ไม่มีปัญหา เดี๋ยวกลับไปฉันจะเตรียมประวัติ
ส่วนตัวเลย!”
บทที่ 106 นี่มันชายผู้มากับดวง!

ช่วงเช้า วันที่ 16 มีนาคม…


ห้องรับแขก…
เผยเชียนมองชื่อบนประวัติส่วนตัวแล้วรู้สึกสับสนเล็กน้อย
เขาไม่คิดว่าจะมีคนใช้ชื่อแบบนี้
แต่ก็โอเค เขาพยายามออกเสียงชื่อให้ถูก
“หม่าตู๋เปียวใช่ไหมครับ ” เผยเชียนเงยหน้าขึ้นมามองนักวางเนื้อเรื่องที่หวง
ซื่อปั๋วแนะนำมา
หม่าอี้ฉวินพยักหน้า “ใช่ครับ บอสเผย เรียกผมว่า ‘หม่าอี้ฉวิน’ ก็ได้ คนอื่นๆ
เรียกกันแบบนั้นครับ”
“อืมๆ”
เผยเชียนเริ่มไล่สายตาดูประวัติส่วนตัวในขณะที่หม่าอี้ฉวินนั่งรออย่างใจจดใจ
จ่อ
จริงๆ แล้วเผยเชียนไม่ได้ตั้งใจจะรับใคร
ตอนนี้เขามีพนักงานเพียงพอสำหรับการวิเคราะห์และพัฒนาเกมนักออกแบบ
เกมแล้ว
ส่วนอนาคตจะจ้างคนเพิ่มหรือเปล่า จะค้นคว้าและพัฒนาสองเกมไปพร้อมๆ
กันไหม…
เผยเชียนยังไม่อยากคิดอะไรตอนนี้
แต่หวงซื่อปั๋วเป็นคนแนะนำหม่าอี้ฉวิน เผยเชียนเลยต้องมาสัมภาษณ์
ถ้าชายคนนี้มีประวัติส่วนตัวยอดเยี่ยม เขาคงต้องหาเหตุผลมาปฏิเสธไม่จ้าง
เผยเชียนไล่สายตาดูประวัติส่วนตัวอย่างรวดเร็ว
อืม ดูจากประสบการณ์ทำงานก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น
เขามีประสบการณ์ทำงานแค่ที่เดียวเหมือนหวงซื่อปั๋ว
ทั้งสองคนทำงานที่ฉางหยางเกมส์มาก่อน หวงซื่อปั๋วดูแลเรื่องการวางแผน
งาน ส่วนหม่าอี้ฉวินดูเรื่องการวางเนื้อเรื่อง ดูแล้วสองคนนี้น่าจะเป็นเพื่อนร่วม
ทุกข์กันมา
อีกฝ่ายมีประสบการณ์ทำงานไม่ถึงปี ซึ่งเผยเชียนก็ค่อนข้างพอใจในจุดนี้
รายละเอียดอื่นๆ บนประวัติส่วนตัวก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย
หม่าอี้ฉวินเขียนประสบการณ์ทำงานไปตามจริงอย่างที่หวงซื่อปั๋วแนะนำ
จริงๆ ก็ไม่มีเรื่องให้เขียนมากนัก ทำให้ประวัติส่วนตัวของเขาไม่ค่อยมีอะไร
หลังจากตรวจดูประวัติส่วนตัวเสร็จ เผยเชียนก็รู้สึกพึงพอใจ
จากสถานการณ์ในปัจจุบัน โต๊ะของหวงซื่อปั๋วช่วงนี้ก็ว่างอยู่ ถึงจะรับหม่ าอี้ฉ
วินเข้ามาก็ไม่น่ามีอะไรต่างไปจากเดิม ให้เจ้าเด็กอมมือนี่ได้เดินเล่นในออฟฟิศคง
ไม่ได้ส่งผลเสียอะไรกับเขา
แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เผยเชียนไม่ค่อยพอใจ
นั่นก็คือการศึกษาของอีกฝ่าย!
หวงซื่อปั๋วจบจากมหาวิทยาลัยธรรมดาทั่วไป แต่หม่าอี้ฉวินจบสาขาภาษาจีน
จากหนึ่งในมหาวิ ท ยาลั ยชั ้น นำสิ บอัน ดั บ ต้ นของประเทศ ถือ เป็นตั วเลื อ กที่
เหมาะสมมากสำหรับงานวางเนื้อเรื่อง
นอกจากนั้น การที่อีกฝ่ายเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยระดับนี้ได้ก็บ่งบอกชัดเจน
ว่าน่าจะฉลาดไม่เบา
พอเห็นว่าบอสเผยดูประวัติส่วนตัวของตัวเองเสร็จแล้ว หม่าอี้ฉวินก็หยิบ
เอกสารอีกปึกออกมา “บอสเผยครับ นี่คือเรื่องสั้น เรียงความ และนิยายที่ผมเคย
เขียน ลองดูได้นะครับ”
หืม
มีอะไรไม่ถูกต้อง!
เผยเชียนระแวดระวั งขึ้น มาทันที เขาหยิบปึกงานเขี ยนขึ้น มาอ่านอย่ า ง
รวดเร็ว ใบหน้าบ่งบอกอารมณ์อันสับสนปนเป
หม่าอี้ฉวินดูหวั่นๆ
เขากลัวว่าบอสเผยจะไม่รับ เขาเข้าทำงานเพราะไม่เห็นว่ามีความสามารถ
พิเศษอะไร จึงถ่ายเอกสารงานเขียนทั้งหมดที่เคยเขียนไว้ตอนเรียนมหาวิทยาลัย
และตอนที่ทำงานที่เก่า โดยหวังว่าจะได้คะแนนพิเศษจากบอสเผย
ตามหลักการแล้ว งานเขียนพวกนี้ถือเป็นสิ่งจำเป็นในการพิจารณาเลือกคน
มาทำตำแหน่งวางเนื้อเรื่อง
เผยเชียนเปิดอ่านงานเขียนที่อีกฝ่ายให้มา ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น
ดีจริงๆ ที่หม่าอี้ฉวินเอางานเขียนให้ดูก่อน
ไม่อย่างนั้นเผยเชียนคงจ้างเขาไปแล้ว!
พอได้อ่านงานเขียนเหล่านี้ดูคร่าวๆ เผยเชียนก็รู้ว่าชายคนนี้ไม่ได้เป็นเหมือน
ที่ประวัติส่วนตัวบอกเอาไว้
ทักษะการเขียนของเขาไม่ได้แย่เลย!
เขียนได้ไหลลื่นมาก เลือกศัพท์มาใช้ได้อย่างสวยงาม แถมยังแสดงให้เห็นว่ามี
ความเข้าใจอันลึกซึ้งในเรื่องวรรณกรรมคลาสสิก!
บทสรุปที่เขียนให้ฉางหยางเกมส์ก็ดีมากๆ
เท่าที่เผยเชียนรู้ ชายคนนี้มาจากตระกูลมีการศึกษา
แน่นอนว่าเขาไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมายขนาดนั้น
อย่างน้อยก็จากที่ได้อ่านงานเขียนเหล่านี้
เผยเชียนจ้างชายคนนี้ไม่ได้
เขาไม่อยากแบกรับความเสี่ยง
ชายคนนี้คุณสมบัติไม่ตรงตามที่บริษัทเถิงต๋าต้องการ!
เผยเชียคิดหาเหตุผลปฏิเสธไม่จ้างหม่าอี้ฉวิน
ให้เหตุผลไปว่าอะไรดีนะ
เผยเชี ยนไล่ ส ายตาดู ป ระวั ต ิ ส ่ ว นตั ว ของหม่ า อี ้ ฉ วิ น อย่ า งรวดเร็ ว อี ก ครั้ ง
พยายามหาจุดบกพร่อง
เขาพบว่าหม่าอี้ฉวินเข้าทำงานที่ฉางหยางเกมส์เดือนตุลาคมปีก่อน
ไม่ได้เข้าทำงานที่นั่นทันทีที่เรียนจบ
หม่าอี้ฉวินเว้นระยะหลังเรียนจบไปประมาณสามถึงสี่เดือน เอาเวลาไปทำ
อะไรกันนะ
หรือจะเปลี่ยนงานกลางทางเหมือนหวงซื่อปั๋ว
มีอะไรแอบซ่อนอยู่หรือเปล่า
ดูท่าจะเอามาใช้เป็นข้ออ้างได้ดีเลย
“คุณเข้าทำงานที่ฉางหยางเกมส์เดือนตุลาคมปีก่อน ก่อนหน้านั้นคุณทำงานที่
ไหนเหรอครับ” เผยเชียนถามอย่างเรียบง่าย
“อ๋อ เปล่าหรอกครับ หลังเรียนจบผมเขียนเว็บโนเวลอยู่พักหนึ่งเลยไม่ได้หา
งานทันที” หม่าอี้ฉวินตอบ
เขียนเว็บโนเวลเหรอ
ถือเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่!
หมอนี่ไม่ใช่เด็กหนุ่มผู้เก่งกาจและมากความสามารถนี่
“แล้วทำไมถึงเลิกเขียนเหรอครับ” เผยเชียนถาม
หม่าอี้ฉวินนึกลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกไป “คืองี้ครับบอสเผย
“จริงๆ แล้วผมเริ่มเขียนเว็บโนเวลตอนปีสี่ ช่วงแรกนิยายผมคือขยะเลย ไม่มี
คนแชร์ ไม่มีแม้แต่คนอ่าน ผมเลยเขียนๆ เลิกๆ
“ช่วงปีนั้น ในที่สุดงานผมก็เริ่มมีคนเข้ามาอ่านบ้าง ถึงจะไม่มีใครแชร์นิยาย
ผมผ่านช่องทางออนไลน์ แต่นักอ่านก็บอกกันปากต่อปาก จากนั้นผมก็เริ่มมีกลุ่ม
แฟนนักอ่านเป็นของตัวเอง ดูจากสถิติแล้ว ผมคิดว่าน่าจะได้กระแสตอบรับดีถ้า
เปิดให้เสียเงินอ่าน แต่สุดท้ายคนที่ยอมเสียเงินอ่านวันแรกมีแค่…สามสิบคน”
“…” เผยเชียนรู้สึกสงสาร “เรื่องนั้นอาจจะวางเนื้อเรื่องได้ไม่ดีเท่าไหร่ ทำไม
ไม่ลองเขียนอีกสักเรื่องล่ะ”
“ผมไม่ได้เขียนแค่เรื่องเดียวน่ะสิครับ ผมเขียนเพิ่มอีกสามเรื่อง ทุกเรื่องสถิติดี
มากก่อนเปิดให้เสียเงินอ่าน แต่พอเปิดให้เสียเงินอ่าน คนที่ยอมเสียเงินอ่านวัน
แรกมีไม่ถึงร้อยคน รวมๆ แล้วผมเขียนไปมากกว่าล้านคำ แต่ก็ไม่ได้อะไรกลับมา
เลย
“ผมไม่มีทางเลือกอื่น ผมจะอดตาย ก็เลยต้องไปหางานเป็นฝ่ายวางเนื้อ
เรื่อง” หม่าอี้ฉวินดูสิ้นหวัง
เผยเชียนสงสัยขึ้นมา “คุณ…ดันทุรังกับแนวที่เขียนไปหรือเปล่า หรือเนื้อเรื่อง
คุณไม่ดีตรงไหนทำไมถึงเป็นแบบนี้”
หม่าอี้ฉวินยิ้มอย่างขมขื่น “ไม่รู้สิครับ ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน”
“โอเค ผมรับคุณ!”
เผยเชียนตัดสินใจทันที
ทำอะไรก็พลาด นี่มันพนักงานแบบที่เขาต้องการไม่ใช่เหรอ
นายเปลี่ยนไปใช่แซ่หวง[1]เหมือนหวงซื่อปั๋วก็ได้นะ!
หม่าอี้ฉวินอึ้งไป เขาไม่คิดว่าบอสเผยจะจ้างตนเองง่ายๆ แบบนี้!
หรือบอสจะเห็นพรสวรรค์ของเราจริงๆ
หวงซื่อปั๋วบอกว่าบอสเผยเป็นคนสายตาแหลมคม แค่มองคนจากภายนอกก็
เห็นทะลุเข้าไปถึงความสามารถพิเศษข้างใน
บางทีคนคนนั้นอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความสามารถที่บอสเผยเห็นคืออะไร!
ดูเหมือนว่าตอนนี้จะเป็นอย่างนั้น!
เผยเชียนลุกขึ้นยืน “รีบไปลาออกจากที่เก่า แล้วกลับมาเซ็นสัญญากับเลขาซิ
นนะครับ
“เรื่องเงินเดือน ผมจะจ่ายคุณเดือนละห้าพันหยวน มีโอกาสขึ้นเงินเดือนให้
ภายหลัง”

เผยเชียนมองหม่าอี้ฉวินจากไปด้วยจิตใจชื่นบาน
หม่ า อี ้ ฉ วิ น เป็ น คนมี ค วามสามารถ ไม่ ค ่ อ ยตรงกั บ คุ ณ สมบั ต ิ ท ี ่ เ ผยเชี ย น
ต้องการเท่าไหร่
แต่การเขียนหนังสือแล้วดับถึงสามครั้งไม่ใช่เรื่องธรรมดา!
เขามากับดวงจริงๆ!
ตอนนี้เผยเชียนต้องการคนดวงซวยแบบนี้!
ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว ที่ผ่านมามีแต่เรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นกับเขาเต็มไปหมด ทำ
ให้เขาเริ่มเชื่อเรื่องดวงชะตา
เผยเชียนเริ่มสงสัยว่าตัวเองน่าจะโชคดีเกินไป
มีคำพูดหนึ่งที่คนพูดกันบ่อยๆ ในวงการ
ถ้าคนไหนโชคดีเกินไปจะไม่เรียกว่าโชคแต่เป็นดวง!
โชคส่งผลต่อความสำเร็จหรือความล้มเหลวในช่วงหนึ่ง
ไม่เหมือนดวง ดวงเป็นเหมือนออร่าที่นำพาความโชคดีเข้ามาหาตัวเองอย่าง
ต่อเนื่อง!
ดังนั้นเผยเชียนจึงคิดว่าถ้าจ้างคนแบบหม่าอี้ฉวินมาจะเป็นการถ่วงดุลความ
โชคดีของตัวเอง
ไม่อย่างนั้นถ้าทุกอย่างที่จับเป็นเงินเป็นทองไปหมดเขาคงได้กระอักเลือดแน่
ถึงจะดูเป็นเรื่องงมงาย ไม่มีหลักเหตุผล และไม่น่าเชื่อถือเกินไปหน่อย แต่
ลองทดสอบดูก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่
………………………….
[1] คำว่า 黄 (หวง) มีหลายความหมาย แปลว่า เจ๊ง ก็ได้
บทที่ 107 ห้ามให้เขาทำงาน!

เผยเชียนเดินไปที่โต๊ะทำงานของลู่หมิงเหลียง
เขาตั้งใจจะไปบอกเสี่ยวลู่ไว้ล่วงหน้า
เผยเชียนจ้างหม่าอี้ฉวินไว้เป็นเครื่องรางถ่วงดุลโชคตัวเอง
ถ้าลู่หมิงเหลียงเกิดเข้าใจผิด แล้วให้หม่าอี้ฉวินไปแก้เนื้อเรื่องทั้งหมดในเกม
จะกลายเป็นเรื่องอันตรายได้
ฝีมือการเขียนของหม่าอี้ฉวินค่อนข้างดีเลยทีเดียว เกิดไปแก้เนื้อเรื่องแล้วทำ
ให้เกมดังขึ้นมาจะทำยังไง
ดังนั้นเผยเชียนจึงต้องทำให้แน่ใจว่าหม่าอี้ฉวินจะไม่ได้ทำอะไรเลย
พอเห็นบอสเผยเดินมาหา ลู่หมิงเหลียงก็ตื่นตัวทันที เขารีบลุกขึ้นถาม “บอส
เผย มีอะไรเหรอครับ”
ช่วงนี้เผยเชียนไม่ค่อยได้เข้าออฟฟิศเท่าไหร่เพราะยุ่ง
เขาต้องถ่ายซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยและทำธุระข้างนอก
แถมยังเปิดเทอมแล้วด้วย เขาต้องเข้าเรียนบ้าง
ต้องไปเช็กร้านอินเทอร์เน็ตเป็นครั้งคราวด้วย ทุกครั้งที่เห็นความเสี่ยงที่จะทำ
ให้ร้านดังขึ้นมาได้ เขาจะรีบจัดการทันที
เผยเชียนจึงรู้สึกเหนื่อยล้า
พนักงานพวกนี้ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตเขาง่ายขึ้นเลย!
“ไม่มีอะไร ผมแค่จะมาบอกคุณว่าเราจ้างคนวางเนื้อเรื่องคนใหม่มา” เผย
เชียนพูดขึ้นอย่างไม่คิดอะไร
ลู่หมิงเหลียงตอบทันที “เข้าใจแล้วครับ บอสเผย! เดี๋ยวผมจะให้แก้เนื้อเรื่อง
ทั้งสามเกมทันที!”
“ไม่ใช่ๆๆ! ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น!” เผยเชียนส่ายหัวดิกๆ “ที่ผมจะ
บอกคือ…เขายังใหม่ ไม่ค่อยคุ้นเคยเรื่องเกมเท่าไหร่ เดือนนี้อย่าเพิ่งให้เขาทำอะไร
ให้เขาดูงานไปก่อน โอเคมั้ย
“อย่าให้เขามามีส่วนร่วมกับเกมนักออกแบบเกมเด็ดขาด ห้ามไม่ให้เขาแตะ
ต้องเนื้อเรื่องเลย!”
ลู่หมิงเหลียงอึ้งไป
หา
จ้างพนักงานใหม่มาแต่ห้ามไม่ให้เขาทำงาน
อยากให้ดูงานไปก่อน ให้ช่วยงานสักนิดก็ไม่ได้
อะไรเนี่ย…
ความคิดแรกที่ผุดขึ้นในหัวลู่หมิงเหลียงคือรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ
แต่พอคิดดูดีๆ ก็ฟังดูสมเหตุสมผล
ใครเป็นคนเขียนเนื้อเรื่องกับบทพากย์เกมนักออกแบบเกม
บอสเผยไง!
ถึงนักวางเนื้อเรื่องคนนี้จะมีประสบการณ์ แต่มาตรฐานก็คงเทียบบอสเผย
ไม่ได้
อีกอย่างเขาก็เป็นแค่มือใหม่ ให้ดูงานน่าจะเหมาะกว่า
ถ้าคิดตามนี้ก็สมเหตุสมผลดีที่บอสเผยจะให้เขาดูงานไปก่อนหนึ่งเดือน!
ลู่หมิงเหลียงรีบพยักหน้า “โอเคครับ บอสเผย! เข้าใจแล้วครับ! เดี๋ยวผมให้
เขาดูงานต่างๆ จะได้เข้าใจเป้าหมายการออกแบบเกมของบอส!”
เป้าหมายการออกแบบเกมของฉันเหรอ
เกมฉันมีเป้าหมายการออกแบบเกมด้วยเหรอ ไล่ให้คนเลิกเล่นแบบนี้น่ะเหรอ
เอาเหอะ จะอะไรก็ช่าง…
เผยเชียนขี้เกียจอธิบายอะไรให้มากความและหันกลับออกไป
แต่ก็ต้องรีบหันกลับมาทันที
เขาบังเอิญเห็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ของลู่หมิงเหลียงซึ่ง…เปิดงานภาพของเกม
นักออกแบบเกมเอาไว้!
มีทั้งภาพออริจินัลและโมเดลต่างๆ
เผยเชียนเหลือบไปเห็นร่างคอนเซ็ปต์ของภาพออริจินัลและรู้สึกคุ้นตา
แปลกจริง
ทำไมถึงรู้สึกคุ้นๆ นะ
เผยเชียนขมวดคิ้วถาม “ภาพออริจินัลพวกนี้…”
ลู่หมิงเหลียงตอบอย่างตื่นเต้น “โอ้ บอสเผยดูออกด้วยเหรอครับ ใช่ครับ ภาพ
พวกนี้ออกแบบโดยมืออาชีพอย่างคุณหร่วนกวางเจี่ยน! บอสเผยกับคุณหร่วน
กวางเจี่ยนนี่มีสายสัมพันธ์ระหว่างกันจริงๆ เห็นแค่แวบเดียวก็รู้เลย!”
เผยเชียน “???”
อะไรวะเนี่ย!
เขาหันไปจ้องลู่หมิงเหลียงอย่างทำใจเชื่อไม่ลง “ผม…บอกให้คุณไปจ้างนัก
วาดที่แพงที่สุดไม่ใช่เหรอ”
ลู่หมิงเหลียงพยักหน้า “ใช่ครับ คุณหร่วนคือนักวาดที่แพงที่สุดบนเว็บแล้ว
ครับ”
แม่งไรเนี่ย!
เผยเชียนแทบกระอักเลือด
ผ่านไปแค่ไม่กี่เดือน หร่วนกวางเจี่ยนก็เลื่อนขั้นจากนักวาดไร้ชื่อไปเป็นนัก
วาดที่แพงที่สุดแล้วเหรอ
ขนาดที่ดินยังราคาขึ้นไม่เร็วเท่านี้เลย!
ลู่หมิงเหลียงเห็นเผยเชียนทำหน้าตื่นก็คิ ดว่าบอสเผยน่าจะตกใจและดีใจ เขา
รีบพูดต่ออย่างตื่นเต้น “พอคุณหร่วนได้ยินว่าเป็นโปรเจ็กต์ของบอส เขาก็คิดราคา
กันเองให้ ดูจะดีใจมากๆ เลยครับ!
“บอสเผยไม่ต้องออกโรงเองก็ช่วยประหยัดงบทีมพัฒนาไปได้หลายหมื่น
หยวน บอสเป็นที่รู้จักกว้างขวางในวงการจริงๆ ครับ!”
เผยเชียนอึ้งไปสักพักก่อนจะถามออกไป “เรายังแก้ไขสัญญาได้ไหม”
ลู่หมิงเหลียงนิ่งไป “หา บอสเผย…อยากจ่ายเงินให้เพิ่มเหรอครับ ผมว่าน่าจะ
ยากเพราะทางเว็บไซต์ตอบรับสัญญาไปแล้ว ตอนนี้ก็ผ่านมาครึ่งทางแล้วด้วย
“ให้แก้สัญญาน่าจะยากมากครับ อีกอย่างคุณหร่วนก็ไม่น่าจะรับข้อเสนอด้วย
“บอสเผยครับ ถ้ารู้สึกไม่ดีก็ค่อยพาคุณหร่วนไปเลี้ยงข้าวส่วนตัวก็ได้ครับ ไม่
งั้นเราจะตกลงทำงานระยะยาวกับคุณหร่วนโดยใช้ราคาตลาดก็ได้นะครับ”
เผยเชียน “…กลับไปทำงานเถอะ”
ชายหนุ่มพูดอะไรไม่ออก
ตอนแรกเขาไม่ได้ตั้งความหวังอะไรกับงานภาพของเกมเลย
เขาแค่อยากผลาญเงินให้ได้เยอะๆ แต่ได้ภาพที่ไม่ได้สวยมาก!
ผลเป็นยังไงน่ะเหรอ
ไม่ได้ตามที่คิดไว้สักอย่าง!
นอกจากจะผลาญเงินไม่สำเร็จแล้ว หร่วนกวางเจี่ยนผู้ที่เป็นมืออาชีพแต่แสร้ง
เป็นมือใหม่ยังเป็นคนออกแบบงานภาพให้อีก
เผยเชียนปวดหัวขึ้นมาตุบๆ
นี่มันหมายความว่ายังไงกัน นักวาดบนเว็บรวมทรัพยากรก็มีตั้งมากมาย ทำไม
ฉันถึงยังโดนไอ้มืออาชีพคนนี้มาตามหลอกหลอนอีก
แกมาติดใจอะไรในตัวฉัน! เปลี่ยนคนได้ไหมเนี่ย!
เผยเชียนกลับไปที่ห้องทำงานแล้วทิ้งตัวลงบนเก้าอี้
เจ็บปวดเหลือเกิน!
“ช่างเถอะ แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ต้องมองโลกในแง่บวกเข้าไว้…
“ฉีกสัญญาไม่ได้ ทำได้แค่รอดูงาน
“ยังดีที่เกมนักออกแบบเกมไม่ได้เน้นเรื่องภาพ…”
เผยเชียนพยายามปลอบใจตัวเอง
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
เผยเชียนมองออกไปเห็นว่าเป็นหม่าหยาง
“มีอะไร อย่าบอกนะว่าเกิดอะไรขึ้นกับร้านอินเทอร์เน็ต!”
เผยเชียนตื่นตัวขึ้นมาทันที
หม่าหยางไม่น่าจะมาบอกข่าวดีหรอกน่า
ช่าง…น่าหดหู่เหลือเกิน!
อย่าให้สำนวน ‘เคราะห์ซ้ำกรรมซัด’ เป็นจริงสิ!
หม่ า หยางทำหน้ า จริ ง จั ง “พี ่ เ ชี ย น ผม…ผมว่ า ผมควรบอกพี ่ เ รื ่ อ งร้ า น
อินเทอร์เน็ตโมหยู
“จางหยวนลองคำนวณดูแล้ว ดูจากสภาพการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา
ร้านของเราน่าจะขาดทุนประมาณสามแสนหยวนต่อเดือน…
“พูดอีกอย่างคือรายได้ของร้านครอบคลุมได้แค่เงินเดือนพนักงานกับค่าน้ำค่า
ไฟฟ้า เราหาเงินจ่ายค่าเช่าที่เป็นรายจ่ายที่แพงที่สุดไม่ได้สักหยวน ไม่ต้องพูดถึง
ทุนที่ลงทุนไปกับร้าน…
“จางหยวนแนะนำเรื่องที่ผมคิดว่าควรพิจารณาดู คืองี้ครับ…”
หม่าหยางหยิบสมุดจดเล่มเล็กขึ้นมา ตั้งใจจะอธิบายให้เผยเชียนฟังว่าจาง
หยวนแนะนำอะไรมาบ้าง
กลยุทธ์มีแค่ลดราคากับจัดโปรโมชัน
เผยเชียนปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก เขารีบยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้หม่าหยาง
หยุดพูด
ขาดทุนสามแสนหยวนต่อเดือนเหรอ
เยี่ยมไปเลย!
เจ้าน้องรักนี่ไว้ใจได้จริงๆ!
เผยเชียนพยายามห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้มแล้วพูดออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฉัน
บอกแล้วไงว่าอย่ากังวลเรื่องนี้ นี่แหละคือสัญญาณว่าร้านกำลังไปถูกทางแล้ว!”
หม่าหยางอึ้งไป “หา เราขาดทุนสามแสนต่อเดือนนะ! จะถูกทางได้ไง”
เผยเชียนพยักหน้า “ใช่ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจะต้องมีภาพลักษณ์ดูดีมี
ระดับ!
“คิดดูสิ ถึงร้านจะมีลูกค้าไม่ค่อยเยอะ แต่ลูกค้าก็พอใจการบริการกันหมด
ไม่ใช่เหรอ”
หม่าหยางคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ก็ดู…ค่อนข้างพอใจกันนะครับ”
แหงสิ
คนที่คิดมากเรื่องราคาคงจะเดินหนีไปทันทีที่เห็นป้ายตรงประตู ไม่มีทางเข้า
มาใช้บริการหรอก
คนที่เห็นราคาบนป้ายแล้วยังเดินเข้าร้านคือพวกมีเงินพร้อมจ่าย
คนกลุ่มนี้ย่อมต้องพอใจร้านของพวกเขาเป็นธรรมดาเพราะร้านไม่ค่อยมีคน!
พวกเขาสามารถเลือกคอมสเป็กสูงที่ชอบได้จากที่มีทั้งหมดห้าสิบเครื่อง เลือก
ที ่ น ั ่ ง ในโซนคาเฟ่ ไ ด้ ต ามใจชอบ ส่ ว นใหญ่ พ นั ก งานมั ก จะมี เ ยอะกว่ า ลู ก ค้ า
กลายเป็นให้บริการแบบพิเศษตัวต่อตัวไป…
จะไม่พอใจกับการบริการได้ยังไง!
เผยเชียนพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ขาดทุนไปช่วงหนึ่งก็ไม่เป็นไรหรอก เรากำลัง
ใช้เงินซื้อคนให้โฆษณาร้านให้เรา!
“พอคนไปบอกกันปากต่อปาก แกว่าเราจะยังขาดลูกค้าอยู่มั้ย
“ถ้าเราลดราคาตอนนี้ เราก็จะเจาะลูกค้าได้ไม่ถูกกลุ่ม ทีนี้เราจะขึ้นราคาที
หลังยังไง
“เพราะงั้นเราต้องปล่อยไปแบบนี้แหละ ใจเย็นๆ อดทนหน่อย!”
เห็นสีหน้าแน่วแน่ของเผยเชียน หม่าหยางก็ได้แต่เกาหัว
ฟังดู…มีเหตุผลอยู่เหมือนกัน
“โอเคครับ… เอาตามที่พี่ว่าเลย…” หม่าหยางตอบเสียงอ่อน
บทที่ 108 งานของหม่าอี้ฉวิน

ยอดขาดทุนของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูทำให้เผยเชียนรู้สึกสบายใจขึ้นมาก
ซีรีส์เรื่องชีวิตประจำวันของบอสเผยกับเกมนักออกแบบเกมเหมือนจะทำเงิน
ได้
ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูอีก หัวใจเขาคงจะรับไม่ไหว
โชคดีที่หม่าหยางไม่ทำให้เขาผิดหวัง!
เผยเชียนค่อยสงบใจได้หน่อย
ตอนนี้เขากังวลเรื่องเกมนักออกแบบเกมมากกว่า
ร้านอินเทอร์เน็ตของเขาน่าจะขาดทุนสามแสนหยวนต่อเดือนซึ่งดูเหมือนจะ
เยอะ แต่เอาเข้าจริงแล้วไม่ได้ถือเป็นเงินก้อนโตอะไรเลย
ส่ ว นซี ร ี ส ์ ช ี ว ิ ต ประจำวั น ของบอสเผย…เผยเชี ย นได้ แ ต่ ห วั ง ว่ า จะไม่ มี
สปอนเซอร์เข้า
“ต่อไปฉันต้องจับตาดูเกมนักออกแบบเกม จะให้เกิดอะไรผิดพลาดอีกไม่ได้!
“ฉันต้องเอาบทเรียนจากเกมฐานทัพกลางทะเลมาใช้
“รอบก่อนฉันไม่ได้สนใจเกมฐานทัพกลางทะเลเท่าไหร่ เห็นแค่โหมดเนื้อเรื่อง
กับปืนกิเลนเพลิงแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนก็คิดว่าทุกอย่างโอเคแล้ว สุดท้ายดัน
ไม่โอเคเลยสักนิด!
“รอบนี้ฉันต้องเล่นเกมตั้งแต่ต้นจนจบ!”
ใครๆ ก็บอกว่าเงินหายาก
แต่สำหรับฉัน ทำไมการเสียเงินถึงได้ยากขนาดนี้กันนะ!

วันที่ 25 มีนาคม…
เกมนักออกแบบเกมเสร็จสมบูรณ์อย่างเป็นทางการ ตอนนี้อยู่ในกระบวนการ
ปรับปรุงและแก้ไขบั๊ก
เผยเชียนขอตัวเกมเวอร์ชันล่าสุดจากทีมพัฒนาเกมมาลงคอมพิวเตอร์ของ
ตัวเอง เขาตั้งใจจะลองเล่นเองตั้งแต่ต้น!
ถึงจะรู้ผลลัพธ์ของทุกตัวเลือกดี แต่เผยเชียนก็อยากลองสัมผัสเกมดูเอง
เกมวางแผนจะปล่อยวันที่ 1 เมษายน
ใช่ ปล่อยวันเมษาหน้าโง่นี่แหละ!
ถ้าเผยเชียนเจออะไรที่อาจทำให้เกมดังขึ้นมาได้ เขาก็ยังเหลือเวลาแก้อีก
เกือบสัปดาห์
ส่วนเรื่องโฆษณาเกม…
เผยเชียนเลิกพยายามแล้ว
ครัง้ นี้ไม่เหมือนสองครั้งก่อน ตอนนี้บริษัทเถิงต๋าเป็นที่รู้จักมากขึ้น
ความโด่งดังของเกมแม่ทัพผีและเกมฐานทัพกลางทะเลทำให้บริษัทเป็นที่รู้จัก
ไม่น้อย
ทุกเกมของบริษัทเถิงต๋าปล่อยให้เล่นผ่านแพลตฟอร์มทางการ ถ้าปล่อยเกม
นักออกแบบเกมไป ผู้เล่นจากเกมแม่ทัพผีและเกมฐานทั พกลางทะเลจะต้องมา
ลองเล่นแน่!
เมื่อเป็นแบบนี้ เขาจะโฆษณาเกมหรือไม่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อเกมนักออกแบบเกม
มากนัก
ประเด็นอยู่ที่ตัวเกม
เผยเชียนใส่เนื้อหายั่วยุผู้เล่นเข้าไปเยอะมากซึ่งเป็นจุดที่เขามั่นใจที่สุด!
เขาเริ่มเกมตั้งแต่ตอนแรกสุด
ใส่ใจรายละเอียดทุกตัวเลือก ทุกผลลัพธ์ เสียงพากย์ทุกประโยค
“…ลู่หมิงเหลียงก็พากย์ไม่ได้แย่นี่ ทำเสียงกวนโอ๊ยแบบนี้ได้ยังไงนะ
“น่าเบื่อ
“เดินไปเดินมาโคตรน่าเบื่อ
“เสียงพากย์ก็พูดกวนอยู่นั่นแหละ ออกไปกระทืบลู่หมิงเหลียงเลยดีมั้ยวะ…
“ต้องเดินไปอีกนานแค่ไหนเนี่ย…
“เดี๋ยวนะ…”
เผยเชียนรู้สึกขึ้นมาว่าเกมนักออกแบบเกมทำให้เขาอยากเลิกเล่นสุดๆ
ถึงหร่วนกวางเจี่ยนจะออกแบบงานภาพและวางคอนเซ็ปต์ให้เกมออกมามี
เอกลักษณ์มาก แต่เผยเชียนก็ยังรู้สึกว่าตัวเกมโคตรน่าเบื่อ
ทำไมน่ะหรือ
ก็เพราะตัวเลือกทุกข้อ บทพากย์ทุกบรรทัด เผยเชียนเป็นคนเขียนเองหมด!
เดินเข้าไปในห้องก็เจอตัวเลือกมากมาย
สำหรับผู้เล่น ประตูแต่ละบาน ตัวเลือกแต่ละข้อจะพาไปสู่ผลลัพธ์ที่พวกเขา
ไม่รู้
แต่เผยเชียนรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ถ้ารู้แล้วว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น เกมยังจะสนุกอยู่หรือ
ก็เหมือนดูหนังสืบสวนสอบสวนทั้งๆ ที่รู้ว่าฆาตกรคือใครและตอนจบเป็น
แบบไหน ความตื่นเต้นระหว่างทางก็ลดน้อยลง
เผยเชียนอดทนเล่นเกมจนจบ เล่นไปถึงตอนจบสองสามแบบก็ได้ข้อสรุป
โคตรน่าเบื่อ!
เกมนี้ไม่มีอะไรให้เล่นเลย ผู้เล่นทำได้แค่เดินเข้าห้องไปมา
ทุกครั้งที่เข้าห้องใหม่ก็จะได้พบฉากหลังที่เปลี่ยนไปและเสียงพากย์ที่คอยยั่วยุ
นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีอะไรอีก!
“อืม ไม่เลว รอบนี้ทำเกมได้ตามมาตรฐาน
“ต้องให้ฉันออกโรงทำเองถึงจะออกมาราบรื่น!”
เผยเชียนรู้สึกสบายใจ ดูแล้วเกมน่าจะไม่ต้องปรับแต่งอะไรเพิ่ม พร้อมปล่อย
ให้เล่นได้เลย ที่เหลือก็แค่คอยนับยอดขาดทุน!


ระหว่างนั้นทุกคนในบริษัทกำลังทำงานกันมือเป็นระวิง
หม่าอี้ฉวินที่เพิ่งจะเข้าบริษัทอย่างเป็นทางการได้รับมอบหมายงานแรก ซึ่งก็
คือให้เล่นเกมนักออกแบบเกม!
แต่ก็ให้เล่นเฉยๆ
ลู่หมิงเหลียงบอกให้หม่าอี้ฉวินดูและเรียนรู้ แต่ไม่ได้ให้เสนอความเห็นหรือ
คำแนะนำอะไร เรื่องช่วยปรับแต่งเกมยิ่งไม่ต้องพูดถึง
“บริษัทนี้…ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ”
หม่าอี้ฉวินถอนหายใจ
บรรยากาศในการทำงานดีมาก ทุกคนดูกลมเกลียวกัน เงินเดือนก็สูงกว่าราคา
ตลาด…
หม่าอี้ฉวินได้ฟังเรื่องเหล่านี้มาจากหวงซื่อปั๋วแล้วเลยไม่ได้แปลกใจอะไรนัก
ที่เขารู้สึกแปลกใจคือวิธีทำงานของบริษัทนี้!
เขายังจำวันเริ่มงานวันแรกที่ฉางหยางเกมส์ได้
เข้าไปนั่งตูดยังไม่ทันอุ่น หัวหน้าหลิวก็โยนเนื้อเรื่องกองพะเนินให้เขาจัดการ
ไม่บอกงาน ไม่สอนงาน
สั่งงานคลุมเครือ มาตรฐานก็ไม่ชัดเจน
นอกจากกำหนดส่งแล้ว ทุกอย่างก็โยนให้หม่าอี้ฉวินคิดเองหมด
รวมๆ แล้วมีแต่ทำงานล้วนๆ!
แต่ที่เถิงต๋าแตกต่างกันลิบลับ
พอมาถึงก็ไม่ได้ให้ทำอะไร มีแค่บอกให้ดูและเรียนรู้!
อยากทำงานเร็วๆ เหรอ
โทษที เป็นไปไม่ได้หรอก
“ที่นี่คือคนละชั้นเลย
“ที่ฉางหยางเกมส์ทำงานกันง่ายๆ ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีมากนัก ขนาดเด็กใหม่
อย่างฉันยังทำงานเป็นโคตรเร็ว พวกเขาจ้างพนักงานใหม่มาไว้ใช้งานยิบย่อย
เท่านั้น
“ที่เถิงต๋ามีมาตรฐานงานออกแบบสูง เด็กใหม่ทำได้แค่เรียนรู้งาน! แถมยัง
ต้องเรียนงานไปพักใหญ่เลย…
“เฮ้อ เหมือนกลับไปเรียนมัธยมอีกครั้งเลยแฮะ รู้สึกเครียดแถมกดดันสุดๆ”
หม่าอี้ฉวินรู้สึกนับถือบริษัทเถิงต๋า
หลังจากลองเล่นเกมนักออกแบบเกมดูก็รู้สึกว่าเป็นเกมที่มีเอกลักษณ์มาก
เขาไม่เคยพบเจอเกมแบบนี้มาก่อน!
ดูไม่เหมือนเกมทั่วไปในตลาดตอนนี้ ถ้าเอาเกมแบบนี้ไ ปเสนอที่ฉางหยาง
เกมส์ บอสคงจะสั่งพับโครงการทันที
ถ้าไม่มีใครเคยทำมาก่อนและดูเสี่ยงมาก บอสของทางฉางหยางเกมส์ไม่มีทาง
ลงทุนทำแน่!
แต่ที่เถิงต๋า การพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ดูจะเป็นเรื่องปกติ
มีบอสคอยคิดค้นและนำเสนออะไรใหม่ๆ พนักงานทุกคนก็ร่วมใจทำงานกัน
ได้อย่างไร้ที่ติ!
แนวคิดการทำงานแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะสร้างขึ้นมาได้ในเวลาสั้นๆ
ที่ฉางหยางเกมส์ หม่าอี้ฉวินได้ยินแต่ ‘มีใครเคยทำมาก่อนหรือยัง ’ ‘จะลอก
เกมไหน’ ‘วางกำแพงค่าใช้จ่ายไว้พอหรือเปล่า’ และอื่นๆ
ที่เถิงต๋า เขาไม่ได้ยินคำพูดแบบนี้เลย
ราวกับว่าทุกคนทำงานไปเพื่อเป้าหมายเดียวกัน
ถึงหม่าอี้ฉวินจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็รู้สึกว่าเป็นอะไรที่วิเศษสุดๆ!
เขารู้สึกว่ามีอะไรอีกมากมายให้เรียนรู้
“ไม่แปลกใจเลยที่ไม่มีใครมอบหมายงานให้ฉันทำ ฉันอ่อนเกินไป!
“ฉันต้องตั้งใจเรียนรู้และเข้าใจสิ่งต่างๆ ต้องตามบริ ษัทเถิงต๋าและความคิด
ของบอสเผยให้ทันให้ได้เร็วที่สุด!”
หม่าอี้ฉวินตั้งเป้าหมายเงียบๆ ในใจ
บทที่ 109 บอสเผย...ผู้โดดเดี่ยว

เปาซวี่อัปเดตเกมแม่ทัพผีและเกมฐานทัพกลางทะเลเสร็จแล้ว ในที่สุดเขาก็มี
เวลาให้ได้พักหายใจ
ลู่หมิงเหลียงรีบเอาเกมนักออกแบบเกมให้เปาซวี่ลองเล่น
นั่นเพราะเขาเป็นนักทดสอบเกมมือหนึ่งผู้มากประสบการณ์ของบริษัท อีกทั้ง
ยังเป็นคนที่เข้าใจความคิดของบอสเผยที่สุด!
ลู่หมิงเหลียงรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่จึงต้องการคนมีประสบการณ์มาช่วย
เสริมความมั่นใจ
เปาซวี่ทดสอบเกมอย่างจริงจัง
เขาไม่ได้เล่นให้ถึงฉากจบทุ กแบบเพราะจะเป็นการเสียเวลา จึงเล่นตาม
สัญชาตญาณไปจนถึงฉากจบสองถึงสามแบบ
“เป็นไงครับพี่เปา คิดเห็นยังไงบ้าง มีจุดที่ต้องปรับมั้ยครับ” ลู่หมิงเหลียงถาม
เปาซวี่ไม่ได้ตอบออกไปทันที
ผ่านไปครู่หนึ่ง เปาซวี่ก็พูดขึ้น “ทุกคนคิดว่ายังไงล่ะครับ”
‘ทุกคน’ ที่ว่าหมายถึงทุกคนในทีมพัฒนาเกมนักออกแบบเกม ซึ่งรวมถึงลู่
หมิงเหลียงด้วย
ลู่หมิงเหลียงนึกลังเลแต่ก็ตอบออกไปตามจริง “หลายๆ คนคิดว่าเกมน่าเบื่อ
ไปหน่อย นอกจากหลินหวานแล้ว คนอื่นๆ ก็รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในตัวเกมกันหมด
เลยครับ
“ถึงเกมนี้บอสเผยจะเป็นคนออกแบบเอง แต่ ผมคิดว่า…มันขาดแรงจูงใจให้ผู้
เล่นนึกอยากเล่นต่อไปเรื่อยๆ…”
ลู่หมิงเหลียงสับสนมาก
ส่วนหนึ่งก็เพราะรู้สึกอายที่ไม่รู้ว่าตัวเองควรทำยังไง
พอนึกถึงเกมก่อนหน้านี้ หวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่สร้างเกมฐานทัพกลางทะเล
ออกมาเป็นเกมฮิตได้ทันที!
แต่พอถึงตาตัวเองที่ต้องรับหน้า ที่ต่อจากหวงซื่อปั๋ว บอสเผยต้องลงมาช่วย
เขาปรับแก้ตัวเกมเอง…
ลู่หมิงเหลียงรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวถ่วง ไม่ค่อยมีคุณค่าอะไร
อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขากังวลมาก
เนื่องจากบอสเผยเป็นคนออกแบบรูปแบบการเล่น ส่วนคุณหร่วนเป็นคนทำ
ภาพให้ จากองค์ประกอบทั้งหมด ยังไงเกมนี้ก็ต้องดังเป็นพลุแตก
แต่พอได้ลองเล่นก็ไม่เห็นรู้สึกว่า ‘เกมนี้จะต้องดังเป็นพลุแตก’ เลย หลายคน
ในทีมออกแบบคิดว่าเกมค่อนข้างน่าเบื่อ!
ความรู้สึกสับสนปนเปในใจทำให้ลู่หมิงเหลียงหวั่นเกรงสุดๆ
จะให้เดินไปบอกบอสเผยตรงๆ ว่าอยากฟังความเห็นของบอสก็ไม่น่าจะ
เหมาะ จึงมาถามเอากับเปาซวี่
เปาซวี่คิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ผมว่าทุกคนกำลังมองในมุมของคนใน
“ทุกคนเห็นบทกันหมดแล้ว รู้ตัวเลือกและผลลัพธ์ทั้งหมดในเกม ก็เหมือนมี
คนมาบอกก่อนว่าเกมจะเป็นยังไงต่อ เลยไม่รู้สึกอะไรตอนเล่นจริง
“แต่ในมุมมองของคนนอกอย่างผม ผมคิดว่าเกมนี้มีความพิเศษและน่าสนใจ
มากๆ”
ลู่หมิงเหลียงอึ้งไป เขาไม่คิดว่าเปาซวี่จะชมเกมขนาดนี้
น่าสนใจเหรอ
พิเศษเหรอ
ถึงจะดูเหมือนเป็นคำธรรมดาๆ แต่คำเหล่านี้มันออกมาจากปากของใครกัน
ล่ะ
เปาซวี่คือใคร เขาคือเทพแห่งการพัฒนาเกม ผ่านเกมมามากมายจึ งมีความรู้
เชิงลึกในระดับที่เหนือชั้นกว่าผู้เล่นธรรมดาทั่วไป
อย่างการเพิ่มเด็กหญิงเข้าไปในเกมฐานทัพกลางทะเล
สำหรับผู้เล่นภายในประเทศหลายๆ คน นี่คือครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นอะไร
แบบนี้
แต่เปาซวี่ออกแบบมาได้แบบนี้ก็เพราะเคยเห็นและสัมผัสเกมต่างประเทศมา
มากมาย
นีค่ ือความแตกต่างของมุมมอง
ขนาดเปาซวี่ที่เคยเล่นเกมมาตั้งมากมายยังคิดว่าเกมนักออกแบบเกม ‘มี
ความพิเศษ’ เพราะฉะนั้นเกมนักออกแบบเกมก็ต้องเป็นเกมที่พิเศษจริงๆ!
แต่เปาซวี่ยังพูดไม่จบ
“แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเกมนี้จะทำเงินได้นะครับ” เปาซวี่ว่าต่ออย่างจริงจัง
“ผมคิดว่าบอสเผยกำลังลองพัฒนาเกมนอกกระแส บอสอาจจะกลายเป็น
เทพ ไม่งั้นก็เจ๊งไม่เป็นท่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าตลาดจะตอบสนองยังไง”
“ช่วยอธิบายเพิ่มได้ไหมครับพี่เปา” ลู่หมิงเหลียงฟังอย่างตั้งใจ
เปาซวี่จัดระเบียบความคิด
“ผมลองเดาความคิดของบอสเผยจากประสบการณ์ด้านเกมที่มีจำกัดของผม
“ผมคิดว่าบอสเผยน่าจะเป็นคนที่โดดเดี่ยวมาก”
ลู่หมิงเหลียงอึ้งไป “บอสเผยเป็นคนที่โดดเดี่ยวมากอย่างนั้นเหรอครับ ทำไม
พี่ถึงคิดแบบนั้น ผมว่า…บอสเผยเป็นคนที่ค่อนข้างร่าเริงแจ่มใสเลยนะครับ”
“คิดงั้นเหรอ” เปาซวี่ถามกลับ “จำตอนกินเลี้ยงบริษัทได้มั้ย บอสเผยเป็น
ยังไง”
ลู่หมิงเหลียงผงะไปเล็กน้อย
เขาพยายามนึกเหตุการณ์ในวันนั้น
งานกินเลี้ยงที่ว่าจัดเพื่อฉลองความสำเร็จของเกมฐานทัพกลางทะเล บอสเผย
พาทุกคนไปกินบุฟเฟต์หัวละสี่ร้อยหยวน
เพราะสนุกสนานกันมาก แถมอาหารก็อร่อย ลู่หมิงเหลียงจึงจำวันนั้นได้ขึ้นใจ
บอสเผยเป็นยังไงเหรอ เขาก็จำไม่ค่อยได้เหมือนกัน
เขาพยายามรื้อฟื้นความทรงจำ
“เหมือนว่า…บอสเผยจะนั่งเงียบอยู่ตลอด ไม่ได้กินดื่มอะไรเท่าไหร่ เหมือนมี
อะไรในหัวเยอะ คิดหลายเรื่องอยู่ตลอดเวลา…”
ลู่หมิงเหลียงหันมองเปาซวี่
เปาซวี่พยักหน้า “ใช่ การอยู่ในสถานที่และบรรยากาศแบบนั้น เราจะเห็นได้
ว่าคนคนหนึ่งรู้สึกยังไง
“ปกติตอนอยู่บริษัทบอสเผยจะทำตัวเป็นกันเองกับพวกเรา เพราะในฐานะ
ผู้นำ บอสเผยต้องคอยส่งเสริมและสนับสนุนให้เราอยู่ในสภาพจิตใจที่ดีที่สุด
“แต่ในงานเลี้ยง คนที่โดดเดี่ยวจริงๆ จะแสดงอารมณ์ที่แท้จริงออกมา!
“ลองคิดดูสิ ตอนนั้นเกมฐานทัพกลางทะเลก็เสร็จแล้ว เราอยู่ในจุดที่กำลังจะ
ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ของอร่อยก็วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า คิดดูยังไงก็
ไม่มีเหตุผลให้กังวลใจอะไรใช่มั้ยล่ะ
“แล้วทำไมบอสเผยถึงดูไม่มีความสุขน่ะเหรอ
“ก็เพราะในใจของเขามีแต่ความอ้างว้างโดดเดียวไงล่ะ!”
ลู่หมิงเหลียงกะพริบตาปริบๆ รู้สึกว่าที่เปาซวี่พูดดูสมเหตุสมผล
ดูจากสภาพอารมณ์และจิตใจตอนนั้น บอสเผยก็ดูไม่ค่อยมีความสุขจริงๆ!
เปาซวี่พูดต่อ “อีกอย่าง ตอนที่อัปเดตปรับปรุงเกมแม่ทั พผีกับเกมฐานทัพ
กลางทะเล ผมก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกคล้ายๆ กันนี้จากตัวเกม มันน่าจะฝังซ่อนอยู่
ลึกตั้งแต่ช่วงออกแบบเกมตอนต้นๆ แล้ว!
“อย่างเกมแม่ทัพผี ทำไมถึงตั้งราคาขายแค่สิบหยวนกับมีแค่บัตรถาวรสามสิบ
หยวนให้ซื้อ ผมว่ามันน่าจะเป็นการเสียดสีความไร้ซึ่งจิตวิญญาณในวงการเกม
“บอสเผยน่าจะคิดว่าเกมนี้ไม่ได้มีราคาสูงขนาดนั้น! เขาคิดว่าถ้าขายการ์ด
เพื่อเงินหลักร้อยหลักพันหยวนจะถือเป็นการขูดรีด!
“เกมแม่ทัพผีสร้างมาเพื่อชี้ประเด็นเรื่องการขูดรีด ให้ผู้เล่นตระหนักว่าเป็น
เรื่องตลกสิ้นดีที่ต้องเสียเงินมากมายเพื่อการ์ดเพียงใบเดียว
“ตั้งแต่เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย เกมแม่ทัพผี เกมฐานทัพกลาง
ทะเล…มาจนถึงเกมนักออกแบบเกม บอสเผยใช้วิธีอันเป็นเอกลักษณ์ในการเสียด
สีวงการเกมที่ไร้ซึ่งจิตวิญญาณและมุ่งแต่จะหากำไร
“แต่…เกมนักออกแบบเกมเสียดสีได้ตรง แรง และลึกซึ้งกว่าเกมก่อนๆ!
“ก็เลยออกมา…ไม่ค่อยน่าสนใจ”
ลู่หมิงเหลียงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที
อย่างนี้นี่เอง!
ถ้าเป็นแบบนี้ทุกอย่างก็เข้าล็อกหมด!
แต่ก็มีอยู่อย่างหนึ่งที่ลู่หมิงเหลียงยังไม่ค่อยเข้าใจ
“แต่ ถ ้ า เกมมั น ลึ ก ล้ ำ ขนาดนี ้ ทำไมพี ่ เ ปาถึ ง คิ ด ว่ า ตั ว เกมอาจจะประสบ
ความสำเร็จถล่มทลาย หรือไม่ก็เจ๊งไม่เป็นท่าล่ะครับ”
เปาซวี่มองไกลออกไปนอกหน้าต่าง “เกมที่เป็นตำนานก็เป็นแบบนี้หมดไม่ใช่
เหรอ
“ศิลปินที่แท้จริงน่ะ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าถึงและเข้าใจอะไรหรอก ความ
ล้มเหลวในวงการธุรกิจหรือการทำมาค้าขายถือเป็นเรื่องปกติมาก
“ถ้าเกมนักออกแบบเกมไม่ประสบความสำเร็จก็ไม่ได้ถือเป็นความล้มเหลว
ของบอสเผย มันก็แค่…พวกผู้เล่นในปัจจุบันยังไม่คู่ควรกับเกมดีๆ แบบนี้
“ไม่แน่ในอนาคต พวกเขาอาจจะเริ่มเข้าใจความลึกล้ำที่ซ่อนอยู่ในเกมนี้
“แต่ตอนนี้…ตลาดเกมอันแสนวุ่นวายจะเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ในเกมนี้
หรือเปล่า ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
บทที่ 110 วิธีโฆษณาของบอสเผย

หลังจากฟังที่เปาซวี่อธิบาย ลู่หมิงเหลียงก็รู้สึกตื้นตันและหนักใจ
ที่ตื้นตันใจก็เพราะรู้สึกเหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเกมที่ อาจพลิก
โฉมหน้าประวัติศาสตร์ของวงการเกมภายในประเทศ!
ส่วนที่รู้สึกหนักใจก็เพราะกังวลเรื่องอนาคตของตัวเกม
เกมที่ไม่ได้น่าสนใจสำหรับคนหมู่มาก และไม่ได้ตรงจริตชาวเกมเมอร์จะ
ประสบความสำเร็จได้อยู่เหรอ
ถ้าพลาดไปแม้แต่นิดเดียวอาจจะไม่ได้ทั้งกระแสตลาด แถมยังเสียชื่ อเสียง
บริษัทเถิงต๋าอีก เป็นการทดลองที่เสี่ยงสุดๆ!
“ไม่คิดเลยว่าบอสเผยจะเลือกใช้กลยุทธ์เสี่ยงตายแบบนี้โดยที่ไม่รู้สึกเครียด
อะไรเลย!
“ถ้าเกมขาดทุนขึ้นมาจะเข้าเนื้อ แถมเสียชื่อเสียงบริษัท!
“ถ้าเป็นผม ผมคงกังวลจนนอนไม่หลับ
“แต่บอสเผยกลับยังใจเย็นเหมือนเดิม ช่า งเป็นคนที่เกิดมาเพื่อทำการใหญ่
จริงๆ!”
ลู่หมิงเหลียงรู้สึกเคารพในตัวบอสเผยขึ้นมาก เขาเตรียมตัวกลับโต๊ะทำงานไป
ทดสอบเกมต่อ
“เออใช่ พวกพี่างแผนจะโฆษณาเกมกันยังไงเหรอครับ ” จู่ๆ เปาซวี่ก็นึกเรื่อง
นี้ขึ้นได้
เขาไม่ได้กังวลว่าเกมนักออกแบบเกมจะไม่มีกระแส แค่สงสัยเฉยๆ!
ครั้งนี้บอสเผยจะใช้วิธีพิเศษแบบไหนในการโฆษณาเกมของตัวเองกันนะ
น่าตื่นเต้นจริงๆ!
ลู่หมิงเหลียงนิ่งไปสักพัก “เอ่อ…เรื่องนี้ ผมยังไม่ได้ถามเลย เดี๋ยวผมไปถามดู
นะครับ”


ห้องทำงานของเผยเชียน…
ลู่หมิงเหลียงแอบเหลือบมองท่าทีของบอสเผย
บอสเผยไม่เห็นจะดูกังวลใจอะไรเลย!
บอสเลิกสนเรื่องความเป็นความตายแล้วเหรอ
หรือว่ามั่นใจในแผนการของตัวเองมากๆ
แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุผลไหน ลู่หมิงเหลียงก็รู้สึกประทับใจสุดๆ!
เผยเชียนกำลังครุ่นคิด
ลู่หมิงเหลียงมาถามว่าจะโฆษณาเกมนักออกแบบเกมยังไง
ตอนแรกเผยเชียนไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เท่าไหร่ ไม่ได้คิดจะโฆษณาเกมเลยด้วยซ้ำ
แต่พอคิดเรื่องนี้ให้ลึกขึ้นก็รู้สึกว่าตัวเองคิดผิดไป!
เขาต้องคิดเรื่องนี้ให้รอบคอบ จะมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระไม่ได้!
ตอนทำเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายกับเกมแม่ทัพผี บริษัทเถิงต๋า
ยังเป็นบริษัทเล็กๆ ที่คนไม่ค่อยรู้จัก ถ้าอยากจะขาดทุน การไม่โฆษณาถือเป็น
ความคิดที่ดีมากๆ
แต่ตอนนี้ไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว!
จากความนิยมของเกมแม่ทัพผีและเกมฐานทัพกลางทะเล ถึงเผยเชียนจะไม่
โฆษณาเกมนักออกแบบเกมมาก พวกผู้เล่นก็น่าจะรู้เรื่องเกมอยู่ดี
เขาซ่อนเกมนี้จากสายตาของเกมมอร์เหล่านั้นไม่ได้!
ในเมื่อเป็นแบบนั้น…
ก็โฆษณาไปเลยสิ
จะได้ผลาญเงินได้เพิ่ม!
แต่จะโฆษณายังไงก็ต้องมาคิดดูให้ดี
ถ้าใช้วิธีโฆษณาธรรมดาทั่วไป แล้วเกมเกิดดังขึ้นมาจะต้องแย่แน่ๆ!
ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือผลาญเงินทำโฆษณาที่จะไม่ได้ผลตอบรับดี
ถ้าทำโฆษณาที่สร้างผลตอบรับแย่ๆ จะเป็นการดีที่สุด
ตอนนี้วิธีโฆษณาที่เผยเชียนใช้ได้มีอยู่ไม่มาก
ซื้อสปอนเซอร์ ทำโฆษณา จ้างพรีเซนเตอร์…
เผยเชียนไม่มีทางใช้วิธีพวกนี้แน่
วิธเี หล่านีม้ โี อกาสสูงเกินไปทีจ่ ะช่วยให้เกมทำเงินได้!
วิธีโฆษณาที่ว่ามานี้เป็นวิธีที่ ใช้กันดาษดื่น ถึงผลลัพธ์จากการโฆษณาจะ
แตกต่างกันไป แต่งานภาพที่แปลกใหม่ของเกมนักออกแบบเกมก็น่าจะดึงดูด
ความสนใจของผู้คนได้ง่ายๆ
อย่างพวกโฆษณาหลอกลวงบนอินเทอร์เน็ตที่ไปขโมยคลิปของคนอื่นมาใช้…
หรือทุ่มเงินจ้างคนดังมาโปรโมตสินค้าด้วยวลีติดหูที่ฟังดูชวนอึดอัด ถึ งวิธี
โฆษณากากๆ พวกนี้จะใช้เงินเยอะ แต่ก็สร้างผลกระทบได้อย่างใหญ่หลวง
ไม่ก็พวกโฆษณาที่เป็นสัตว์ประหลาดขู่คำราม แค่ภาพง่ายๆ ถ่ายจากเกมเอา
มาตัดแปะโง่ๆ แต่ขอแค่มีคนเข้าเว็บที่ไปขึ้นโฆษณาไว้เยอะ จะเป็นเกมแบบไหนก็
ได้ผู้เล่นเพิ่มไปไม่น้อยแน่!
ถ้าทำโฆษณากากๆ แบบนั้นให้เกมนักออกแบบเกมแล้วดันทำให้เกมดังขึ้นมา
เผยเชียนได้ร้องไห้จริงๆ แน่
เขายอมเสี่ยงให้เป็นแบบนั้นไม่ได้
ดังนั้นเผยเชียนจึงไม่คิดจะใช้วิธีเหล่านี้ เพราะมีโอกาสสูงเกินไปที่จะช่วยให้
ทำเงินได้
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกไป “ไปหานักสร้างคอนเทนต์สักคนในเว็ บ
ลงวิดีโอมาช่วยโฆษณาเกมให้”
“นักสร้างคอนเทนต์เหรอครับ”
ลู่หมิงเหลียงงุนงง
เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย
ประเด็นคือเมื่อเทียบกับวิธีโฆษณาอื่นๆ แล้ว การจ้างนักสร้างคอนเทนต์หรือ
ซื้อสปอนเซอร์เป็นวิธีที่ใช้เงินน้อยที่สุด แต่ก็ได้ผลลัพธ์จากการโฆษณาน้อยที่สุด
เหมือนกัน ลู่หมิงเหลียงไม่คิดว่าบอสเผยจะคิดถึงวิธีนี้
ในปี 2010 นี้ นักสร้างคอนเทนต์ชื่อดังหลายๆ คนอย่างเฉียวเหลียงนั้นแทบ
หาเงินไม่พอยาไส้
ซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยมียอดคนดูรวมหลายล้านวิว แต่สุดท้ายก็มีแค่
สปอนเซอร์กากๆ ติดต่อเข้ามา ไม่มีใครคิดจะซื้อคลิป ‘คุณภาพเยี่ยมที่ปรับแต่ง
เนื้อหาได้’ เลยสักคน
ไม่ใช่ว่าผู้คนจะไม่รู้ว่าอะไรดังไม่ดัง แต่ประเด็นอยู่ที่ในตอนนี้นักสร้างคอน
เทนต์ไม่สามารถสร้างกระแสได้ดีเท่าวิธีโฆษณาอื่นๆ
ถ้ามีเงินก็สามารถซื้อโฆษณาจากเว็บลงคลิปได้โดยตรง
พอเหล่าเกมเมอร์กดดูคลิปเกี่ยวกับเกมก็จะเห็นโฆษณาโผล่ขึ้นมาเป็นอย่าง
แรก ต้องมีคนจำนวนไม่น้อยที่กดตัวโฆษณาทันที ทำแบบนี้น่าจะได้ผลลัพธ์ดีกว่า
ซื้อสปอนเซอร์ไม่ใช่เหรอ
ด้วยเหตุนี้ลหู่ มิงเหลียงจึงยังไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
แต่ไม่นานก็ถึงบางอ้อจึงพูดขึ้น “เข้าใจแล้วครับ! บอสเผยตั้งใจจะให้ไปจ้าง
หวงซื่อปั๋วกับผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อมาทำคลิปสั่งทำเพื่อโฆษณาเกมให้ จะได้ใช้ความ
นิยมของซีรีส์เรื่องชีวิตประจำวันของบอสเผยมาช่วยโฆษณาเกมนักออกแบบเกม
ใช่มั้ยครับ”
เผยเชียน “???”
ฉันบอกตอนไหนว่าให้ไปหาหวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อ!
อย่าตีความคำพูดฉันไปผิดๆ สิ!
ฉันไม่มีทางจ้างพวกจูเสี่ยวเช่อให้ทำคลิปสั่งทำให้หรอก ไม่มีทาง!
ทำแบบนั้นก็ทำเงินได้เยอะเลยสิ
เฟยหวงสตูดิโอเป็นบริษัทลูกของบริษัทเถิงต๋า ถ้าเผยเชียนจ้างพวกหวงซื่อปั๋ว
หนึ่งแสนหยวนเพื่อทำคลิปโฆษณาเกมนักออกแบบเกมให้ เงินหนึ่งแสนหยวนที่ให้
ไปก็จะกลายเป็นรายได้ของเฟยหวงสตูดิโอ ซึ่งส่วนหนึ่งของรายได้ก็จะกลับคืนสู่
บริษัทเถิงต๋า!
การเอาเงินจากกระเป๋าหนึ่งใส่ อีกกระเป๋าถือเป็นเรื่องที่คุ้มค่ามาก เผยเชียน
จะยอมให้ทำแบบนั้นได้ยังไง
อี ก อย่ า งจู เ สี ่ ย วเช่ อ ก็ เป็ น ผู ้ก ำกั บ อั จ ฉริ ย ะ เกมนั ก ออกแบบเกมกั บ ซี รีส์
ชีวิตประจำวันของบอสเผยมีธีมที่ช่วยส่งเสริมกัน ถ้าเกมดังขึ้นมาเพราะเหตุนี้ เผย
เชียนก็ขาดทุนสองต่อสิ
ถ้าซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยกับเกมนักออกแบบเกมดังขึ้นมาทั้งคู่ เผย
เชียนได้กระอักเลือดจริงๆ แน่!
คิดได้ดังนั้น เผยเชียนก็ส่ายหน้า
“ผมไม่ได้จะให้ไปจ้างพวกหวงซื่อปั๋ว ซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยอยู่
ในช่วงสร้างชื่อเสียง ผมไม่อยากให้การทำคลิปโฆษณาไปทำเสียแผนจนกระทบกับ
ชื่อเสียงได้”
“อ๋อ” ลู่หมิงเหลียงพยักหน้าพร้อมแอบตำหนิตัวเองในใจที่ไม่มองให้กว้างกว่า
นี้
บอสเผยพูดถูก ตอนนี้เฟยหวงสตูดิโอกำลังสร้างความนิยมและชื่อเสียงอยู่ ไม่
ควรเอาเรื่องสปอนเซอร์ไปยุ่มย่าม
แถมทั้งสองบริษัทก็สนิทชิดเชื้อกัน อาจจะมีคนเอาไปนินทาได้
“ถ้าอย่างนั้น…ให้ผมติดต่อคนที่เป็นที่รู้จักดีในตลาดไหมครับ อย่างพวกนัก
สร้างคอนเทนต์ที่มีฐานแฟนคลับอยู่เยอะ” ลู่หมิงเหลียงถาม
เผยเชียนคิดตาม
“เอาแบบนี้เป็นไง ผมจะเอารายชื่อให้คุณพรุ่งนี้พร้อมราคา แล้วคุณค่อยไป
จัดการต่อ”
ลู่หมิงเหลียงพยักหน้า “โอเคครับ บอสเผย”
แย่แล้ว บอสเผยยังไม่เชื่อในความสามารถของฉัน คอยช่วยเท่าที่จะช่วยได้
ฉันต้องพยายามให้มากกว่านี้!
ลู่หมิงเหลียงรู้สึกขายหน้าเล็กน้อย
บทที่ 111 บทอันเป็นเอกลักษณ์

วันถัดมา…
เผยเชียนส่งเอกสารไปให้ลู่หมิงเหลียง
“ทำตามนี้”
เผยเชียนเชื่อมั่นในความสามารถของลู่หมิงเหลียงเรื่องการทำตามคำสั่ง
ตั้งแต่เริ่มวิเคราะห์และพัฒนาเกมนักออกแบบเกม ลู่หมิงเหลียงทำตามที่เผย
เชียนบอกมาโดยตลอด ขนาดบอกให้พากย์เสียงยังทำตามเลย
เผยเชียนพอใจนิสัยนี้ของลู่หมิงเหลียงมาก
พนักงานที่ไม่สร้างปัญหาให้คือพนักงานที่ดี!
ลู่หมิงเหลียงเปิดเอกสารที่เผยเชียนส่งมาให้ เนื้อหาในเอกสารแบ่งออกเป็น
สามส่วน
มีรายชื่อนักสร้างคอนเทนต์ที่ควรจ้างมาทำโฆษณา บทโฆษณา และอัตรา
ค่าจ้าง
แต่ละส่วนอธิบายไว้ค่อนข้างละเอียด
ลู่หมิงเหลียงไล่ดูเอกสารทั้งหมด
“อ่านจบแล้วไม่เห็นจะเข้าใจเลยว่าบอสเผยตั้งใจจะทำอะไร!”
ลู่หมิงเหลียงเริ่มลนลาน ก่อนหน้านี้เขายังพอจะเดาได้คร่าวๆ ว่าบอสเผยคิด
จะทำอะไร แต่ตอนนี้กลับเดาอะไรไม่ออกเลยสักนิด!
แต่ละประโยคบนเอกสารเขียนไว้ชัดเจนมาก ทำไมพอเอามารวมๆ กันแล้วถึง
ได้เข้าใจยากขนาดนี้
เรื่องแรกคือนักสร้างคอนเทนต์ที่ควรจะจ้างมาทำโฆษณา
ลู่หมิงเหลียงอ่านรายละเอียดทั้งหมด มีรายชื่อนักสร้างคอนเทนต์จากหลายๆ
วงการรวมอยู่ครบ มีกระทั่งนักสร้างคอนเทนต์วงการความสวยความงาม!
แต่ในรายชื่อก็มีแต่คนธรรมดาทั่วไป ไม่มีนักสร้างคอนเทนต์ชื่อดังสักคน!
คนที่ดังที่สุดและเกี่ยวข้องกับวงการเกมน่าจะเป็นอาจารย์เฉียว หรือเฉียวเหลี
ยง นักสร้างคอนเทนต์ที่เคยทำคลิปฉอดเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย
แต่บอสเผยก็เตือนลู่หมิงเหลียงไว้อย่างเจาะจงว่าห้ามโฆษณาเกมในคลิป ‘สับ
เละเกมขยะ’’ แต่ให้ไปโฆษณาในคลิป ‘แนะนำเกมใหม่ประจำเดือน’ แทน
ดูเผินๆ ก็ดูจะเป็นคำเตือนที่สมเหตุสมผล
เพราะคลิปซีรีส์ ‘สับเละเกมขยะ’ พูดถึงแต่เกมกากๆ ถ้าส่งเกมไปโฆษณาใน
คลิปที่ว่ามีหวังได้กระแสตีกลับจากการโฆษณาแน่
เฉียวเหลียงตั้งใจสร้างคลิปซีรีส์แนะนำเกมใหม่ประจำเดือนเพื่อเอาไว้เปิดรับ
สปอนเซอร์
แต่ถ้ามานั่งดูกันว่าคลิปซีรีส์ไหนเป็นที่นิยมกว่ากันก็จะพบปัญหา
คลิ ป ซี ร ี ส ์ แ นะนำเกมใหม่ ป ระจำเดื อ นสร้ า งมาเพื ่ อ เปิ ด รั บ สปอนเซอร์
โดยเฉพาะ ยอดวิวของคลิปซีรีส์นี้มีไม่ถึงหนึ่งส่วนสิบของคลิปซีรีส์ ‘สับเละเกม
ขยะ’ ด้วยซ้ำ!
ในเมื่อคลิปซีรีส์ที่ว่าเป็นที่นิยมน้อยกว่า การส่งเกมไปโฆษณาในคลิปนี้จะได้
กระแสอะไร
นักสร้างคอนเทนต์คนอื่นๆ ในรายชื่อยิ่งดูไปกันใหญ่ มีทั้งจากวงการไลฟ์สไตล์
วงการความสวยความงาม และวงการวิทยาศาสตร์ ถึงนักสร้างคอนเทนต์ที่มาจาก
หลากหลายวงการกลุ่มนี้จะช่วยกันโฆษณาเกมอย่างเต็มที่ จะดึงดูดผู้เล่นให้มา
เล่นเกมนักออกแบบเกมได้จริงๆ กี่คนกันเชียว
เวลาทำโฆษณาต้องคำนึงถึงสัดส่วนของผู้ที่ตอบสนองต่อโฆษณาด้วย
คนที่ดูคลิปในหมวดเกมส่วนใหญ่เป็นพวกเกมเมอร์ พอเห็นมีแนะนำเกมอะไร
ดีๆ พวกเขาก็น่าจะไปลองดาวน์โหลดเกมมาเล่นดู ทุกๆ ยอดคนดูหนึ่งร้อยวิว ถ้า
มีคนลองเล่นเกมดูสักคนก็ถือเป็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจแล้ว
แต่ในวงการอื่นๆ อย่างวงการความสวยความงาม คนดูส่วนมากเป็นผู้หญิงที่
ชอบแต่งตัว ถึงพวกเธอจะรู้สึกว่าเกมดูสนุกดีก็คงไม่คิดดาวน์โหลดมาลองเล่น
หรอก ต่อให้ได้ยอดคนดูหนึ่งล้านวิวแล้วยังไงต่อ ถ้ามีแค่หนึ่งคนจากทุกๆ หนึ่ง
หมื่นคนลองเล่นเกมดูก็ไม่ต่างอะไรจากหายนะ!
ดังนั้นลู่หมิงเหลียงจึงรู้สึกสับสนและเหนื่อยอ่อนระหว่างไล่ดูรายชื่อนักสร้าง
คอนเทนต์
แต่เรื่องน่าสับสนและเหนื่อยใจยังมีอีก!
เรื่องที่สองคือวิธีการโฆษณา…
ปกติแล้วนักสร้างคอนเทนต์ที่ทำคลิปลงเว็บไซต์มักจะเป็นคนบุคลิกโดดเด่น
เช่น อาจจะชอบพ่นคำหยาบ หรืออาจชอบใช้สุภาษิต ไม่ก็เก่งเรื่องการคิดโครง
เรื่องหรือการใช้เอฟเฟ็กต์พิเศษ
ดังนั้นเวลาสปอนเซอร์ติดต่อให้ทำคลิปอะไร ส่วนใหญ่ก็จะเคารพวิถีการ
ทำงานของนักสร้างคอนเทนต์แต่ละคน โดยจะเตรียมให้แค่อุปกรณ์ประกอบฉาก
ที่จำเป็น แล้วปล่อยให้นักสร้างคอนเทนต์จัดการเนื้อหาคลิปกันเอง
แน่นอนว่าในฐานะที่เป็นฝ่ายรับผลประโยชน์ ถ้าอยากจะสร้างชื่อให้ตัวเอง
นักสร้างคอนเทนต์ก็ต้องทำให้สปอนเซอร์ทุกรายพึงพอใจ
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ทางสปอนเซอร์ก็ควรให้นักสร้างคอนเทนต์มีอิสระในการ
ทำคลิปของตัวเอง ถ้าทำแบบนี้ก็จะได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย
เอกสารที่บอสเผยส่งให้มีบทพูดที่จะต้องเอาไปใส่ในคลิปด้วย
ไม่ว่าจะเป็นนักสร้างคอนเทนต์ในวงการเกม วงการความสวยความงาม
วงการวิทยาศาสตร์ หรือวงการอิเล็กทรอนิกส์… ทุกคนจะต้องอัดคลิปตามบทนี้!
ถ้าแค่นี้ก็คงจะไม่มีอะไรมาก
แต่พอได้อ่านบท ลู่หมิงเหลียงก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา เขาไม่เคยเห็นบทพูดที่มีทั้ง
ภาษาอังกฤษและภาษาจีนปนกันไปมาแบบนี้มาก่อน แถมยังไร้รสนิยมสิ้นดี
ตัวอย่างเช่น
“โอ้ นี่คือ moment ของฉัน right?”
“เจ๋งเป้งสุดๆ ไปเลย!”
“แผลบ อึก แผลบ อึก แผลบ อึก… (เสียงสูดปากและกลืนน้ำลาย)”
“Awesome!”
“เปิดเกมมาภาพก็สวยสุดๆ! แค่งานภาพอย่างเดียว เกมก็น่าจะขายได้…สาม
พันหยวนเลยมั้ง”
“OK ฉันจะรีวิวในฐานะผู้เล่นธรรมดานะ จะไม่ glorify… จะไม่รีวิวเกินจริง”
“โอ้โห x14 (รัวๆ)”
ที่เหลือก็ไปในทางเดียวกันหมด
พออ่านบทจนจบทั้งหมด ลู่หมิงเหลียงยิ่งงงหนัก เขาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง
นี่ไอคิวของฉัน…ลดลงไปขนาดนี้เลยเหรอ
ทำไมถึงรู้สึกเหมือนว่าบทนี่ดูถูกนักสร้างคอนเทนต์สุดๆ
พูดภาษาอังกฤษปนภาษาจีนก็ว่าน่าหงุดหงิดแล้ว นี่ระบุขนาดว่าให้ทำเสียง
ประกอบแบบไหนด้วย ต้องพูดว่าโอ้โหสิบสี่ครั้ง ห้ามขาดห้ามเกินอีก
คิดว่านักสร้างคอนเทนต์ยังเสียยอดผู้ติดตามไปไม่เร็วพออย่างนั้นเหรอ
เรื่องสุดท้ายคือเรื่องอัตราค่าจ้าง
นักสร้างคอนเทนต์จะได้รับเงินค่าจ้างตามยอดผู้ติดตามที่มี แต่ในภาพรวม
ค่าจ้างที่บอสเผยเสนอให้ถือว่าเป็นราคาที่ดีมากๆ!
มีงบเพิ่มเติมไว้สำหรับเพิ่มราคาเสนออีก!
เห็นได้ชัดว่าเผยเชียนคิดไว้แล้วว่านักสร้างคอนเทนต์จะปฏิเสธสปอนเซอร์ที่
เรียกร้องเยอะ (หลักๆ มาจากเรื่องศักดิ์ศรี)
ตอนแรกจะปฏิเสธก็ไม่เป็นไร เพราะมีเงินให้เพิ่ม!
แน่นอนว่าไม่ได้ตั้งงบตรงนี้ไว้อย่างไม่จำกัด เรตสูงสุดที่เพิ่มได้คือสองเท่าจาก
ข้อเสนอแรกที่ยื่นไป
คงเป็นเรื่องยากที่นักสร้างคอนเทนต์เหล่านี้จะปฏิเสธเงินจำนวนนี้ เพราะเผย
เชียนเลือกมาแต่คนที่ไม่ได้ดังมาก แค่หาเงินให้พอยาไส้ก็ยากแล้ว คงไม่มีเหตุผล
อะไรให้ยังยึดมั่นในศักดิ์ศรีของตัวเองอยู่อีก
แต่สำหรับบริษัทเถิงต๋าแล้ว ดูเหมือนเรื่องนี้จะเสียประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย
นักสร้างคอนเทนต์ที่รับงานนี้คงจะโดนผู้ติดตามรุมด่า จากนั้นก็เลิกติดตาม
และเลิกแนะนำช่องให้คนอื่น ส่วนบริษัทเถิงต๋าเสียเงินก้อนโตไปแต่ไม่ได้ผลลัพธ์
ตามทีค่ วรจะเป็น เท่ากับว่าทางบริษัทขาดทุน…
แค่คิดดู ผลลัพธ์ก็ช่างน่าหดหู่เหลือเกิน
“ใจเย็นๆ
“บอสเผยน่าจะมีเหตุผลอะไรสักอย่าง
“ถ้าไม่เข้าใจก็อย่าทำอะไรเอง ทำตามที่บอกไว้ในเอกสารก็พอ”
ลู่หมิงเหลียงทำได้แค่เข้าเว็บไซต์ลงคลิปเพื่อติดต่อนักสร้างคอนเทนต์ตาม
รายชื่อของเผยเชียน


บ้านเช่าหลังหนึ่งในปักกิ่ง…
เฉียวเหลียงดูห่อเหี่ยวใจ เขากำลังสวาปามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากถ้วยในมือ
จากถ้วย ไม่ใช่กระป๋อง
เพราะเขาไม่มีปัญญาซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบกระป๋องแล้ว ซื้อได้แค่แบบ
ซอง
ช่วงนี้ธุรกิจแย่มาก!
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากทำงาน แต่ป ระเด็นคือไม่มีเกมดีๆ ให้พูดถึง ไม่มีทั้งเกมที่
สนุกๆ หรือเกมที่กากเป็นพิเศษเลย!
พูดง่ายๆ ก็คือ เขาไม่มีเกมดังๆ ให้เกาะกระแสและไม่สามารถปั่นกระแสขึ้น
เองได้
อีกทั้งช่วงนี้ยังไม่มีสปอนเซอร์เข้าเลย ทุกอย่างทำให้เฉียวเหลียงรู้สึกเหมือน
ติดอยู่ในหุบเหวลึก
เขาถึงกับคิดว่าจะหางานอื่นทำ
ดูอย่างซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยสิ!
เฉียวเหลียงทำหน้าบูดเบี้ยวด้วยความอิจฉา คลิปของซีรีส์นี้มียอดวิวสูง คน
สร้างน่าจะตอบรับสปอนเซอร์ไม่หยุดมือแน่
เขาเล่นอินเทอร์เน็ตไปเรื่อยระหว่างที่กำลังกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ตอนนั้นเองก็มีคนส่งข้อความส่วนตัวมาหาในเว็บฟานฉู
“สวัสดีครับ อาจารย์เฉียว ผมลู่หมิงเหลียง เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนของ
บริษัทเถิงต๋า อยากจะติดต่อมาคุยเรื่องร่วมงานกัน ตอนนี้สะดวกคุยไหมครับ”
เฉียวเหลียงไม่ได้อ่านข้อความอย่างละเอียด ตาของเขาจับจ้องอยู่ที่คำว่า
‘ร่วมงานกัน’
สะดวกไหมเหรอ
แน่นอนสิ! โคตรจะสะดวกเลย!
เขากำลังจะอดตายแล้ว ตอนนี้หวังพึ่งเงินจากลู่หมิงเหลียงเพื่อต่อชีวิต!
ตอนนี้ในหัวเฉียวเหลียงคิดแค่ว่า ‘ขอทานไม่มีสิทธิ์เลือก’ คิดถึงแค่ว่าจะหา
เงินต่อชีวิตให้ตัวเอง
ทั้งสองคนคุยกันบนเว็บอยู่พักหนึ่งก็สนิทกันอย่างรวดเร็ว
“เขาจะเสนอให้เท่าไหร่นะ ฉันควรขอไปเท่าไหร่ดี พันห้าร้อยหยวนจะเยอะ
ไปไหม”
เฉียวเหลียงลังเลใจ
แต่ชายที่ชื่อลู่หมิงเหลียงก็พิมพ์มาก่อน
“อาจารย์เฉียวครับ เป็นคลิปละสามพันหยวนจะโอเคไหมครับ”
บทที่ 112 บอสเผย...คงไม่ได้แค้นอะไรใช่ไหม

เฉียวเหลียงมองถ้วยบะหมี่ร้อนๆ ในมือจากนั้นก็หันมองตัวเลขบนหน้าจอ
เลขสามหนึ่งตัวกับเลขศูนย์สามตัว
“สามพันหยวน!
“เจ้าของบริษัทนี้เป็นเศรษฐีเหรอ!”
เฉียวเหลียงอึ้งไป ปกติเขาได้คลิปละแค่หนึ่งพันหยวน
บางครั้งก็ได้หนึ่งพันห้าร้อยถึงสองพัน หยวน แต่ส่วนใหญ่จะมีข้อแม้ที่ต้องทำ
ตามเยอะและมีมาไม่ค่อยบ่อยนัก
ลูกค้าใหญ่เสนอราคาให้สามพันหยวนเลยเหรอ
ถ้ารับงานนี้ก็น่าจะต่อชีวิตไปได้อย่างน้อยอีกครึ่งเดือน!
เฉียวเหลียงหายเหนื่อยอ่อนทันใด “ได้เลยครับ! ให้ทำคลิปแบบไหน ช่วย
อธิบายให้ฟังคร่าวๆ ได้ไหมครับ”
ขอแค่มีเงินก็ทำได้ทุกอย่าง
ลู่หมิงเหลียงส่งบทที่เผยเชียนเขียนไปให้เฉียวเหลียง
“อาจารย์เฉียวครับ ที่ส่งไปคือบทนะครับ มีข้อแม้แค่ต้องอ่านตามบทอย่าง
เคร่งครัด ช่วยเตรียมอุปกรณ์ที่ต้องใช้ด้วยนะครับ ถ้าโชว์หน้าได้จะดีมาก ถ้าไม่ได้
ก็ไม่เป็นไร แต่ห้ามแก้บทเด็ดขาด มี ข้อแม้แค่ข้อเดียว นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรอีก
เดี๋ยวผมจะส่งคลิปตัวเกมบางส่วนให้ทีหลัง”
เฉียวเหลียงกดดาวน์โหลดเอกสาร หลังจากอ่านจบก็คิดขึ้นว่า
นี่ล้อกันเล่นหรือตั้งใจจะกวนบาทากัน
แค่อ่านคร่าวๆ ก็อายจะแย่แล้ว จะให้อัดคลิปตามนี้จริงๆ เหรอ
แถมยังบอกว่าถ้าโชว์หน้าได้จะดีมากอีก
ตั้งใจจะทำให้ฉันขายหน้ารึยังไง
ฉากหน้าดูเหมือนเป็นงาน แต่จริงๆ คือตั้งใจจะทำลายอาชีพกันนี่หว่า!
เฉียวเหลียงตอบกลับทันที “ผมรับงานนี้ไม่ได้ ไปหาคนอื่นแทนเถอะครับ ถึง
ผมจะเป็นนักสร้างคอนเทนต์ตัวเล็กๆ แต่ผมก็มีศักดิ์ศรี!”
ลู่หมิงเหลียงเงียบไปครูห่ นึ่ง
“งั้นสี่พันหยวนเป็นไงครับ”
แม่งเอ๊ย…
เฉียวเหลียงรู้สึกหดหู่ขึ้นมา
ไอ้นี่รวยจริง แค่เงินที่เพิ่มให้ก็เท่ากับเรตปกติที่ได้รับจากบริษัทอื่นแล้ว…
แต่ให้ทำแบบนี้ก็ไม่ค่อยคุ้มเงินที่จะได้เท่าไหร่
“ขอผมลองเล่นเกมได้ไหมครับ” เฉียวเหลียงถาม
ลู่หมิงเหลียง “ต้องขอโทษด้วยครับ ตอนนี้เรากำลังทดสอบเกมกันอยู่ ไม่
สะดวกปล่อยให้ลองเล่น แต่เราส่งคลิปให้ไปตัดต่อเพิ่มเติมได้ครับ”
เฉียวเหลียงพูดอะไรไม่ออก
ทั้งบท ทั้งคลิปและภาพ บริษัทนี่เตรียมให้หมดแล้ว
ทุกอย่างดูง่ายดายมากๆ เขาไม่ต้องคิดบทเอง ไม่ต้องตัดต่อ ใส่เอฟเฟ็กต์อะไร
มากมาย ที่ต้องทำก็แค่กลั้นใจพูดตามบทและใส่คลิปจากเกมเข้าไป พอลงคลิปก็
ได้เงินเลยสี่พันหยวน
ทุกอย่างฟังดูดี ติดอยู่ที่ว่าลงคลิปไปแล้วกระแสตอบรับจะเป็นยังไง
อาจจะไม่ได้โดนด่าว่าลงคลิปหาเงินอย่างเดียว
แต่อาจโดนด่าว่าทำ ‘คลิปชุ่ยๆ’ เพื่อหาตังค์!
เฉียวเหลียงยังไม่ทันคิดได้ว่าจะตอบอะไรกลับไปดี ลู่หมิงเหลียงก็ส่งคลิปจาก
เกมมาให้
เป็นคลิปจากเกมนักออกแบบเกมที่ต้องการให้โฆษณา
คลิปที่ส่งมาเป็นเวอร์ชันที่ไม่มีเสียงพากย์
นักสร้างคอนเทนต์ต้องอัดเสียงพูดของตัวเองอยู่แล้ว จะให้มีสองเสียงพูด
พร้อมกันก็ไม่ได้ เผยเชียนจึงบอกให้ลู่หมิงเหลียงตัดเสียงพากย์ออกก่อนส่งไปเป็น
เนื้อหาไว้ทำคอนเทนต์
เฉียวเหลียงเปิดดูคลิปแรก เป็นคลิปตัวละครวิ่ง
คลิปที่สอง ก็ยังวิ่งอยู่
คลิปที่สามและสี่…
ก็มแี ต่วง่ิ กับวิง่ !
แต่ละคลิปแตกต่างกันแค่รายละเอียดในห้อง แต่ละรอบ ตัวละครจะเข้าประตู
คนละบาน เฉียวเหลียงไม่เข้าใจเลยว่าเกมต้องการจะสื่ออะไร
งานภาพทำออกมาได้ดี สวยงาม และมีเอกลักษณ์
แต่ในภาพรวมดูเป็นเกมกากๆ เกมหนึ่ง
เฉียวเหลียงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับไป “งั้นผมขอเอาไปลงคลิป ‘สับ
เละเกมขยะ’ ได้ไหมครับ”
เงินสี่พันหยวนช่างเย้ายวนใจ เป็นเงินก้อนใหญ่ที่เฉียวเหลียงไม่อยากจะทิ้งไป
เพราะความดื้อดึงของตัวเอง
แน่นอนว่าถ้าปล่อยงายชุ่ยๆ ไป คนดูได้เกลียดเขาเอาแน่
แต่ถ้าลงเป็นคลิปสับเละเกมกาก เขาก็พอจะกู้สถานการณ์ได้บ้าง
ถึงจะต้องอ่านตามบทลูกค้าไปตลอดทั้งคลิป และไม่สามารถแซะเกมได้
เหมือนคลิปก่อนๆ แต่ขอแค่เขาปล่อยเป็นคลิปสับเละเกมกาก คนดูก็น่าจะคิดว่า
เป็นการพูดประชดให้ดูตลก
ทำแบบนี้ก็จะไม่โดนผู้ติดตามเกลียดเอา!
แถมยังได้เงินอีก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
ลู่หมิงเหลียงตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ไม่ได้ครับ ขอโทษด้วย”
เฉียวเหลียงกะเอาไว้แล้วว่าอีกฝ่ายน่าจะตอบกลับมาแบบนี้เพราะลูกค้าไม่
เข้าใจที่เขาตั้งใจจะสื่อ พอได้ยินชื่อ ‘สับเละเกมขยะ’ ลูกค้าก็ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยว
ด้วยแล้ว ใครกันจะอยากให้เรียกเกมที่ตัวเองสร้างมาว่าเป็นเกมขยะ
แต่จริงๆ แล้ว ในมุมมองของเฉียวเหลียง คลิป ‘สับเละเกมขยะ’ เป็นคลิปที่
เขาเป็นตัวของตัวเองได้ ส่วนคลิป ‘แนะนำเกมใหม่ประจำเดือน’ เป็นแค่เครื่องมือ
ในการหาเงิน
ยอดวิวคลิป ‘สับเละเกมขยะ’ สูงกว่าคลิป ‘แนะนำเกมใหม่ประจำเดือน’ สิบ
เท่า ลูกค้าเจ้าดังๆ หลายคนปฏิเสธลงเกมในคลิป ‘สับเละเกมขยะ’ ก็เพราะชื่อ
แต่ไม่รู้ว่าคลิปนี้สร้างกระแสได้แค่ไหน
เฉียวเหลียงตัดสินใจยกตัวอย่างเพื่อชักจูงลูกค้ารายใหญ่รายนี้
“ผมเข้าใจครับว่ากังวล แต่วางใจได้ คลิป ‘สับเละเกมขยะ’ สร้างกระแสได้
ดีกว่าคลิป ‘แนะนำเกมใหม่ประจำเดือน’ สิบเท่า! ผมมั่นใจมากว่าจะดีกับเกมของ
คุณ”
“คุณอาจจะไม่เชื่อ งั้นผมขอยกตัวอย่างให้ฟัง”
“ไม่กี่เดือนก่อน ผมแซะเกมอินดี้สร้างในประเทศที่ชื่อโดดเดี่ยวเดียวดายกลาง
ทะเลทราย หลังจากปล่อยคลิปออกไป เกมที่ไม่เคยมีใครรู้จักก็ดังเป็นพลุแตก
สองสัปดาห์ก่อน ยอดดาวน์โหลดเพิ่งจะทะลุสองแสนไปเองครับ!
“ใช่ๆ เป็นเกมของบริษัทที่ชื่อ…สักครู่นะครับ ขอผมเช็กดูก่อน”
เขาทำวิดีโอแซะเกมออกมามากมาย ไม่มีทางจำชื่อบริษัทเล็กๆ ที่ปล่อยเกม
ออกมาแค่เกมเดียวได้
เฉียวเหลียงเปิดแพลตฟอร์มเกมทางการแล้วเจอเกมที่ว่าอย่างรวดเร็ว
เขาดูชื่อผู้พัฒนาเกม… บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี
“เอ๊ะ”
เฉียวเหลียงรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ
ลูกค้ารายนี้มาจากบริษัทอะไรนะ
เขาเลื่อนช่องแชตขึ้นไปดู
ไม่ใช่ว่าชื่อเถิงต๋าเหรอ!
เฉียวเหลียงดูเกมอื่นๆ ที่สร้างโดยบริษัทนี้ พอเห็นว่ามีเกมแม่ทัพผีกับเกมฐาน
ทัพกลางทะเลทราย
เขาก็ตะลึงงันไป
แน่นอนว่าเฉียวเหลียงย่อมต้องเคยได้ยินชื่อเกมแม่ทัพผีกับเกมฐานทัพกลาง
ทะเลทรายมาก่อน แต่เนื่องจากเขาพุ่งเป้าไปที่เกมสแตนด์อโลนเป็นหลัก จึงไม่ได้
ค้นอะไรเกี่ยวกับทั้งสองเกมมากเลยไม่รู้ว่าบริษัทไหนเป็นคนสร้าง
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าบริษัทเถิงต๋าเป็นคนสร้างทั้งสองเกม!
บริษัทเล็กๆ ที่สร้างเกมอินดี้เมื่อไม่กี่เดือนก่อนกลายมาเป็นลูกค้ารายใหญ่!
สถานการณ์แบบนี้มันแปลกๆ นะ!
เฉียวเหลียงรีบกดเรียกข้อความกลับ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะสายเกินไปแล้ว
เฉียวเหลียง: “…”
เด๋อ เด๋อสุดๆ!
เขารีบแก้ไขสถานการณ์
เฉียวเหลียงรีบพูดต่อ “ใช่ๆ เกมของบริษัทคุณไง! ผมไม่คิดเลยว่าจะได้รับ
เกียรติให้มาร่วมงานกับบริษัทของคุณ!
“ถ้าอย่างนั้น บริษัทของคุณก็น่าจะรู้ว่าคลิป ‘สับเละเกมขยะ’ สร้างกระแสได้
แค่ไหน ถ้าเอาเกมลงคลิปนี้รับรองได้ว่ากระแสตอบรับดีเยี่ยมแน่ๆ ครับ!”
ลู่หมิงเหลียบตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“คุณเคยร่วมงานกับบอสเผยมาก่อนเหรอครับ เยี่ยมเลย!
“เดี๋ยวผมขอถามความเห็นจากบอสเผยก่อนนะครับ”
บอสเผยเหรอ
น่าจะเป็นเจ้าของบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี
หรือว่าจะเป็น…ผู้สร้างเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย
อืม… น่าจะใช่!
ไม่กี่เดือนก่อน บริษัทเถิงต๋าเป็นบริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก เกมโดดเดี่ยว
เดียวดายกลางทะเลทรายเป็นเกมแรกของทางบริษัท คนที่สร้างเกมนี้ขึ้ นมา ถ้า
ไม่ใช่เจ้าของบริษัท ก็ต้องเป็นคนที่สำคัญมากๆ…
ไม่น่าจะเป็นใครได้นอกจากบอสเผย!
เป็นปัญหาแล้วสิทีนี้
บอสเผย…คงไม่ได้นึกแค้นใจอะไรใช่ไหม
ตอนนั้นฉันก็แซะเกมแรงเลยด้วยสิ!
เฉียวเหลียงเริ่มลนลาน
บทที่ 113 บอสเผยเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น

ตอนแซะเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย เฉียวเหลียงไม่ได้ตั้งใจจะ
โฆษณาเกมให้บริษัทเถิงต๋า เขาทำไปก็เพราะตัวเองล้วนๆ เป้าหมายหลักก็เพื่อ
สร้างกระแสให้ตัวเอง…
ถึงสุดท้ายจะกลายเป็นได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ทั้งเกมและเฉียวเหลียงต่างได้
กระแสกันทั้งคู่ แต่คลิปที่พูดถึงเกมก็เป็นคลิปแซะเกม ซึ่ งเขาด่าเสียยับ จะไม่ให้
คนสร้างเกมแค้นใจได้ยังไง
เขาได้แต่หวังว่าคนสร้างจะยังเมตตาตนเองบ้าง
ครู่เดียวลู่หมิงเหลียงก็ตอบกลับ
“บอสเผยดีใจมากครับ บอสบอกว่าต้องลงเป็นคลิปแนะนำเกมประจำเดือน
เท่านั้น ห้ามเปลี่ยนบท แล้วก็ห้ามทำออกมาให้คนดูสึกว่าเป็นการประชด ต้อง
แสดงให้สมบทบาท ให้ออกมาดูจริงใจ”
เฉียวเหลียงอึ้งไป
จบเห่แล้ว บอสเผยแค้นเขาจริงๆ ด้วย!
หมอนั่นอยากเห็นฉันทำตัวโง่ๆ!
ถึงคลิปแนะนำเกมประจำสัปดาห์จะทำขึ้นมาเพื่อรับสปอนเซอร์โดยเฉพาะ
และผู้ชมต่างรู้เรื่องนี้ดี แต่เขาก็แนะนำเกมไปชุ่ยๆ ไม่ได้ ไม่งั้นคนดูได้สาปแช่งกั น
แน่!
อีกอย่างคลิปนี้ทำขึ้นมาเพื่อรับสปอนเซอร์อยู่แล้ว ผู้ชมไม่มีทางคิดว่าเขา
พยายามประชดหรือเสียดสีอยู่แน่
แถมบอสเผยยังบอกให้เขาแสดงให้สมบทบาทและดูจริงใจอีก…
เฉียวเหลียงเดาได้เลยว่าหลังจากได้ดูคลิป ผู้ชมจะต้องพากันคิดว่าพอเป็น
เรื่องสปอนเซอร์ เขาก็ขายวิญญาณตัวเองอย่างหน้าไม่อาย ยอมทิ้งศักดิ์ศรีของ
ตัวเองไปหมด!
บอสเผยจงใจจะให้เป็นแบบนี้ใช่ไหม
นี่คือการแก้แค้น ทุกอย่างบ่งบอกไว้ชัดเจน!
เขารับงานนี้ไม่ได้ ถึงจะเสนอเงินแค่ไหนก็ไม่ได้!
เฉียวเหลียงพิมพ์ตอบทันที “ขอโทษนะครับ บอสลู่ ข้อแม้ของคุณเยอะเกินไป
ผมคิดว่าผมไม่น่าจะทำได้ รบกวนหาคนอื่นแทนนะครับ”
ลู่หมิงเหลียง “หกพันหยวนไปเลยครับ อาจารย์เฉียว!”
เฉียวเหลียง: “…”
ไม่ยอมแพ้อย่างนั้นเหรอ
คิดจะเพิ่มเงินไปเรื่อยๆ จนกว่าฉันจะยอมเหรอ
นี่ดูถูกฉันอยู่รึไง
นี่มันไม่ใช่เรื่องเงิน… แต่หกพันก็ฟังดูน่าสนใจ…
เฉียวเหลียงปวดใจจนเลือดไหลซิบๆ
นั่นเงินก้อนโตเลยนะ!
ถ้าใช้หกพันหยวนนี่อย่างประหยัดก็พออยู่ได้สองเดือน
ไม่ต้องทำงานเลยสองเดือนเต็ม เอาเวลาไปทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ ช่าง
น่าสนใจเหลือเกิน…
เขาเถียงกับตัวเองอยู่ในใจ
เฮ้อ ยังไงก็ทำไม่ได้ จะยอมเอาศักดิ์ศรีตัวเองไปแลกไม่ได้
เฉียวเหลียงคิดอยู่นานกว่าจะเริ่มพิมพ์
“คือมันไม่ใช่เรื่องเงินครับ”
เขาพิมพ์ไปได้แค่นั้นก็มีข้อความใหม่เด้งขึ้นมา
“อาจารย์เฉียวครับ ผมไปปรึกษาบอสเผยเรื่องนี้ บอสบอกว่ายอมจ่ายให้หนึ่ง
หมื่นหยวนเลย แต่นี่เต็มที่ แล้วนะครับ ผมรู้ว่าคุณเป็นนักสร้างคอนเทนต์ที่เป็น
ห่วงเรื่องชื่อเสียง ถ้าไม่อยากรับงาน พวกเราก็ไม่บังคับครับ”
เฉียวเหลียงมือสั่น เขาเผลอกดปุ่ม Enter
“คือมันไม่ใช่เรื่องเงินครับ”
ข้อความถูกส่งไปต่อจากข้อความด้านบนทันทีจนดูเหมือนเฉียวเหลียงกำลัง
ตอบปฏิเสธ
ลู่หมิงเหลียง “โอเคครับ ขอให้โชคดีกับหน้าที่การงานนะครับ เราไม่รบกวน
คุณแล้ว”
เฉียวเหลียงเริ่มลนลาน ฉิบหายแล้ว ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น! กลับมา
ก่อน!
เขารีบรัวนิ้วลงบนแป้นพิมพ์ พิมพ์เร็วที่สุดเท่าที่ชายช่วงวัยยี่สิบจะพิมพ์ได้
“คือมันไม่ใช่เรื่องเงินครับ
“บอสเผยเป็นเพื่อนเก่าของผม ผมต้องทำให้แน่นอนอยู่แล้ว!”
ข้อความถูกส่งไปเรียบร้อย
เฉียวเหลียงถอนหายใจยาว โชคยังดีที่ลู่หมิงเหลียงไม่นึกโกรธและพิมพ์ด่า
กลับมาเต็มที่
ลู่หมิงเหลียง “จริงเหรอครับ เยี่ยมเลย! เดี๋ยวผมส่งคลิปเกมให้เลยตอนนี้”
เฉียวเหลียงดาวน์โหลดคลิปเกมที่ส่งมาใหม่ ภายในไม่กี่นาที เขาทั้งโกรธ ทั้ง
กังวล ทั้งตกใจ ทั้งตื่นเต้น…
เหมือนว่าหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว
ลงคลิปแนะนำเกมประจำเดือนไปจะทำให้เสียชื่อเสียงไหมนะ
แต่ฉันก็แค่รับสปอนเซอร์ ไม่เห็นมีอะไรที่ต้องอาย!
คนดูต้องเข้าใจสิ ใช่ ต้องเป็นอย่างนั้นแน่!


“อาจารย์เฉียวรับงานไหม”
“รับแล้วครับ”
เผยเชียนฟังลู่หมิงเหลียงรายงานสถานการณ์ในห้องทำงานก่อนจะพยักหน้า
อย่างพึงพอใจ
ใครบอกให้แกมาทำฉันเสียเรื่องตอนนั้น!
ถ้าไม่มีแก ฉันก็ขาดทุนห้าหมื่นหยวนไปแล้ว ชีวิตคงจะแตกต่างจากตอนนี้
มาก!
เผยเชียนต้องให้เฉียวเหลียงลงคลิปเป็นคนแรก จะได้ดูว่าผลลัพธ์ออกมาเป็น
ยังไง
แน่นอนว่าเขาไม่ได้ทำแบบนี้เพราะตั้งใจจะแก้แค้นเพียงอย่างเดียว ส่วนหนึ่ง
เป็นเพราะกลัวว่าจะเกิดหายนะแบบตอนเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย
ขึ้นอีก
ถ้ายอมให้พูดถึงเกมในคลิปสับเละเกมขยะตามที่อาจารย์เฉียวแนะนำ แล้ว
เกมเกิดดังขึ้นมาเหมือนรอบก่อน เขาคงจะฆ่าตัวตายมันตรงนั้น
ดังนั้นจึงต้องพูดถึงเกมนี้ในคลิปแนะนำเกมใหม่ประจำเดือนที่มียอดคนดูน้อย
กว่า แถมคลิปยังเป็นคลิปที่บ่งบอกชัดเจนว่าเป็น ‘คลิปที่ทำเพื่อเงินล้วนๆ’ อีก
เพราะอย่างนั้นจะต้องไม่มีอะไรผิดพลาดแน่!
เผยเชียนอดยิ้มไม่ได้เมื่อคิดถึงความสุขอันแสนเรียบง่ายนี้ เขาเพิ่งจะผลาญ
เงินทุนระบบไปหนึ่งหมื่นหยวนได้อย่างง่ายดาย
แต่ เ ขาก็ ต ้ อ งสงวนท่ า ที เ มื ่ อ อยู ่ ต ่ อ หน้ า ลู ่ ห มิ ง เหลี ย ง จะให้ ต ั ว เองเสี ย
ภาพลักษณ์ไปไม่ได้
“แล้วอัปโหลดมาสเตอร์คนอื่นๆ ล่ะ” เผยเชียนถาม
ลู่หมิงเหลียงตอบตามตรง “บางคนถึงจะเสนอเพิ่มเงินให้ก็ปฏิเสธครับ แต่ก็มี
คนรับงานเยอะเลยทีเดียว น่าจะเกินครึ่งเลย
“พออ่านบทเสร็จ ส่วนใหญ่ก็ปฏิเสธเลยทันที แต่ผมบอกไปว่าคนอื่นๆ ก็ต้อง
พูดเหมือนกันเป๊ะ คุณไม่ใช่คนแรกที่ต้องพูด แล้วก็บอกไปด้วยว่าผ่านไปหนึ่งเดือน
ให้ลบคลิปได้ บวกกับเสนอเพิ่มเงินให้ ส่วนใหญ่ก็รับงานกันหมดเลยครับ”
เผยเชียนดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น
ถ้าจ่ายแพงก็ต้องยอมอ่านบทน่าขายหน้ากันอยู่แล้ว
อีกอย่างสำหรับนักสร้างคอนเทนต์คนอื่นๆ นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร อย่างมากก็
เป็นแค่ความทรงจำที่ไม่ดี
ถ้ามีอัปโหลดมาสเตอร์ลงคลิปเหมือนกันจำนวนหนึ่ง ก็จะกลายเป็นว่าแต่ละ
คนแค่พากย์เสียงลงคลิปไปใหม่ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย
คนที่ลงคลิปคนแรกคือคนที่ต้องรับกรรมหนักสุด เพราะคนดูยังไม่รู้ว่าจริงๆ
แล้วเรื่องราวเป็นยังไง จากนั้นก็จะพากันถล่มรุมด่ากันยกใหญ่
เผยเชียนตั้งใจจะให้อาจารย์เฉียวลงคลิปเป็นคนแรก
ทำไมน่ะเหรอ…
หึๆ บอสเผยเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นใช่ไหมล่ะ


ที่บ้านเช่า…
เฉียวเหลียงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโดนทรมานอยู่เงียบๆ ในที่สุดเขาก็อัดคลิป
เสร็จ
“ฉันทำอะไรลงไป…”
ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์มากมาย
มองในมุมหนึ่ง ตอนนี้ก็อัดคลิปเสร็จแล้ว เดี๋ยวจะได้เงินหนึ่งหมื่นหยวนมาใช้
ให้สมใจอยาก
แต่อีกมุมหนึ่งก็รู้สึกเจ็บปวด
การฝืนใจทำอะไรชุ่ยๆ นั้นยากกว่าที่คิด
ว่ากันตามตรง งานนี้เป็นงานง่ายๆ ที่ต้องทำก็มีแค่พูดตามบทแล้วเอาคลิป ที่
บริษัทเถิงต๋าส่งให้มาใส่ ทำวันสองวันก็เสร็จ
แต่เฉียวเหลียงต้องกล้ำกลืนฝืนทนอยู่ห้าวัน พอใกล้ถึงกำหนดส่งถึงได้บังคับ
ตัวเองให้ทำงานได้
เฉียวเหลียงฝึกทำเสียงสูดปากกับกลืนน้ำลายตามบทอยู่เจ็ดถึงแปดรอบกว่า
จะทำให้ออกมาเป็นธรรมชาติได้
เวลาทั้งหมดทุ่มไปกับคลิปนี!้
วันพรุ่งนี้คือวันที่ 1 เมษายน เป็นวันเมษาหน้าโง่
ตามแผนแล้ว เกมใหม่ของบริษัทเถิงต๋าจะปล่อยวันดังกล่าว เฉียวเหลียงเองก็
ต้องปล่อยคลิปในวันเดียวกัน
เขารู้สึกตื้นตันใจ ดูเหมือนบอสเผยจะยังมีเมตตาหลงเหลืออยู่บ้าง!
ถ้าลงคลิปวันเมษาหน้าโง่ คนดูก็จะคิดว่าเป็นมุก วันเมษาหน้าโง่ น่าจะช่วย
ลดทอนกระแสเกลียดชังลงไปได้บ้าง
แต่…
เนื่องจากเป็นวันเมษาหน้าโง่ คนดูคลิปก็น่าจะเยอะกว่าปกติ
“ช่างแม่ง ไม่สนอะไรแล้วโว้ย
“ฉันโดนจ้างมา อย่างน้อยลงคลิปเสร็จก็หนีหายไปเลยได้
“พอได้เงินหมื่นหยวนมา ฉันจะเล่นเกมแม่งทั้งวัน จะหายหน้าไปจากโลกนี้
จนกว่าเรื่องจะซา!”
บทที่ 114 อย่าแตะต้องเกมขยะนี่!

วันที่ 1 เมษายน วันเมษาหน้าโง่…


เกมนักออกแบบเกมวางขายอย่างเป็นทางการ ตั้งราคาไว้ที่ยี่สิบแปดหยวน!
ตอนนี้บริษัทเถิงต๋าค่อนข้างมีชื่อเสียงแล้ว แถมยังจ้างอัปโหลดมาสเตอร์
จำนวนไม่น้อยมาช่วยโฆษณาเกมด้วย ไม่ มีทางที่เหล่าเกมเมอร์จะไม่รู้จักเกมนี้
หลังจากปล่อยออกไป
เผยเชียนลังเลเรื่องราคาอยู่นาน
เขาตั้งราคาต่ำเกินไปไม่ได้เพราะจะเป็นเหมือนตอนเกมแม่ทัพผี
จะตั้งสูงเกินไปก็ไม่ได้อีกเพราะเดี๋ยวเป็นเหมือนเกมฐานทัพกลางทะเล
แล้วจะทำยังไงดีล่ะทีนี้
เขาตัดสินใจไม่ถูก
เผยเชียนคิดอยู่นานก่อนจะตัดสินใจตั้งราคาต่ำกว่ามาตรฐานเล็กน้อย
นั่นก็เพราะเกมนักออกแบบเกมเป็นเกมที่โดน ‘สปอย’ ได้!
ขอแค่พวกนักสร้างคอนเทนต์ลงคลิปเกม เหล่าคนดูก็จะโดน ‘สปอย’ เนื้อหา
เกมทั้งหมดผ่านคลิป ทำให้ไม่คิดอยากซื้อเกมมาลองเล่น
พูดอีกอย่างคือกลุ่มลูกค้าหลักที่จะซื้อเกมมีแต่พวกผู้เล่นสายฮาร์ดคอร์
เช่น พวกอัปโหลดมาสเตอร์ สตรีมเมอร์ เกมเมอร์ที่คลั่งเกมสแตนด์อโลนที่
สร้างโดยบริษัทในประเทศ และอื่นๆ
คนกลุ่มนี้ไม่ค่อยติดขัดเรื่องราคามากนัก จะราคาสามสิบหยวนหรือเก้าสิบ
หยวนก็ไม่ได้แตกต่างกัน ถ้าอยากเล่น พวกเขาก็ซื้อ
ส่วนพวกผู้เล่นที่ไม่ได้จริงจังอะไรมากและชอบเล่นเกมฟรี ต่อให้ราคาจะถูก
แค่ไหน ถ้าไม่ฟรีพวกเขาก็ไม่เล่น
ดังนั้นหลังจากพิจารณาทุกอย่างรวมกัน การตั้งราคาไว้ที่ยี่สิบแปดหยวนจึง
เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะเป็นราคาต่ำที่สุดที่ระบบยอมให้เผยเชียนตั้ง
พอแน่ใจแล้วว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร การตั้งราคาไว้ต่ำจะช่วยให้เผยเชียนทำ
เงินได้น้อยลง!
การตั้งราคาไว้เท่านี้อาจทำให้คนอื่นในบริษัทเป็นกังวลเพราะกลัวว่าจะไม่
สามารถคืนทุนได้ แต่เผยเชียนก็ปัดคำแนะนำทั้งหมดทิ้งและสรุปที่ราคาดังกล่าว
เผยเชียนอยากให้คำนิยามของเกมนี้คือ ทุนหนา ภาพสวย กระแสดี แต่
ยอดขายต่ำเตี้ยเรี่ยดิน!
จนถึงตอนนี้ จุดที่ลงทุนหนักที่สุดของเกมนักออกแบบเกมคืองานภาพ พวก
เขาทุ่มเงินไปกว่าสองล้านในการทำงานภาพ รวมกั บรายจ่ายอื่นๆ แล้ว ทุนที่ใช้
สร้างเกมนี้อยู่ที่ประมาณสามล้านหยวน
ถึงหร่วนกวางเจี่ยนจะลดราคาให้ แต่เขาก็รับผิดชอบแค่ออกแบบงานภาพ
บริษัทเถิงต๋ายังต้องจ้างคนมาทำแอนิเมชัน พื้นหลัง และโมเดลต่างๆ อยู่ดี
ถ้ารวมรายจ่ายทั้งหมดของเกม พวกเขาต้องขายเกมให้ได้อย่างน้อยสามแสน
ก๊อปปี้ถึงจะทำกำไรได้!
เผยเชียนค่อนข้างมั่นใจว่าพวกเขาไม่น่าจะขายได้เยอะขนาดนั้น
เขารู้ว่าจะต้องมีคนกลุ่มเล็กๆ ในหมู่ชาวเกมเมอร์ที่เป็นพวกมาโซคิสต์[ 1] แต่
ก็ไม่น่าจะมีพวกมาโซคิสต์มากถึงสามแสนคนหรอกใช่ไหม


เฉียวเหลียงลงคลิปเวลาเดียวกับที่เกมวางขาย
พอลงเสร็จ เขาก็ล็อกเอาต์ออกจากเว็บฟานฉู ปิดการแจ้งเตือนข้อความจาก
ผู้ติดตาม และตั้งมือถือเป็นโหมดเงียบ
ภายในชั่วอึดใจเดียว เขาก็เข้าสู่โหมดถือสันโดษ!
เขาส่งลิงก์วิดีโอไปให้ลู่หมิงเหลียง
ผ่านไปครู่เดียว พวกเขาก็โอนเงินให้
พอเงินเข้าบัญชี เฉียวเหลียงก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก
เยี่ยมไปเลย!
ตอนนี้เขาเข้าสู่โหมดถือสันโดษแล้ว จะเกิดความโกลาหลอะไรตามมา เฉียว
เหลียงก็ไม่ได้สนใจอีกเพราะได้เงินมาแล้ว สามารถงอมืองอเท้าไปได้อีกสองเดือน
ค่อยกลับสู่โลกภายนอกอีกครั้ง!
ถึงจะโดนรุมด่ายกใหญ่ แต่ทุกอย่างก็น่าจะซาลงหลังผ่านไปสองเดือน จากนั้น
ก็ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อาจารย์เฉียวยังเป็นคนดีคนเดิม

เฉียวเหลียงลงคลิปได้ไม่นาน บรรดาผู้ติดตามก็ได้รับการแจ้งเตือ นว่ามีคลิป
ใหม่
ด้วยเวลาแค่สิบนาที อารมณ์ของเหล่าผู้ติดตามก็ดิ่งลงเหวกันหมด พวกเขา
รู้สึกเจ็บปวดกันถ้วนหน้า!
ตอนแรกพอเห็นอาจารย์เฉียวอัปโหลดคลิปใหม่ พวกเขาก็พากันดีใจ
แต่พอเห็นว่าเป็นคลิป ‘เกมแนะนำประจำเดือน’ ความตื่นเต้นก็ลดทอนไป
ครึ่งหนึ่ง เพราะรู้ว่านี่คือคลิปที่ได้สปอนเซอร์มา ไม่น่าจะมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่
บางคนรู้สึกเบื่อๆ เลยกดเข้ามาดูคลิป
พอได้ดู ทัศนคติทั้งสาม[2]ของพวกเขาก็แตกเป็นเสี่ยงๆ!
ทั้งคลิปมีแค่คลิปจากตัวเกม ถึงภาพจะสวย แต่ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจให้พูดถึง
แต่เสียงและเนื้อหาที่บรรยายในคลิปนั้นบอกได้แค่ว่า ทรมานหูฉิบหาย!
“สวัสดี บิดาที่รักทุกท่าน ผมบิดาทูนหัวแห่งแชแนลเกมคนดีคนเดิมที่ทุกคน
รู้จักกันในนามอาจารย์เฉียว
“ก่อนจะเริ่มกัน ผมขอสงบใจลงก่อน แผลบๆๆ… อาห์…
“ทุกคนครับ เกมที่พวกท่านเห็นอยู่ตอนนี้ รู้ไหมใครเป็นผู้สร้าง
“เถิงต๋า! บริษัทเถิงต๋าเพิ่งจะปล่อยเกมใหม่ ผมขอเริ่มด้วยการให้ทุกท่านดู
ภาพบางส่วนจากเกมนี้ก่อน…
“ขอโทษนะครั บ ทุ ก คน ผมติ ด ๆ ขั ด ๆ ไปหน่ อ ย โอ้ โ ห Ladies and
gentleman, the very first time…
“ผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้มาหลายปีแล้ว ผมรอเกมนี้มานานแสนนาน ตอนตี
สามสิบเอ็ดนาที ทีมวิเคราะห์และพัฒนาของบริษัทเถิงต๋าก็ส่งคลิปเกมมาให้ผมดู
“เกมนี้ชื่อว่าเกมนักออกแบบเกม G~A~M~E, game, game designer!
“Awesome!”

ผู้ติดตามหลายคนของอาจารย์เฉียวอึ้งไป ปากอ้าหวอเป็นรูปตัว O ไปจนจบ
คลิป
คลิปไม่ได้ยาวมาก ความยาวแค่ประมาณสิบนาที
แต่สไตล์คลิปแตกต่างจากคลิปอื่นๆ ของอาจารย์เฉียวไปมาก เหมือนว่าทำ
โดยคนละคนกัน!
ที ่ ผ ่ า นมา ถึ ง คลิ ป ในซี ร ี ส ์ แ นะนำเกมประจำเดื อ นเป็ น คลิ ป ที ่ ท ำเพราะมี
สปอนเซอร์เข้าทั้งหมด แต่อาจารย์เฉียวก็ตั้งใจทำคลิปมาก
เขาเปิดคลิปให้เหมาะกับสไตล์ของแต่ละเกม
พูดจาฉะฉานและไหลลื่นตลอดทั้งคลิป
เพราะเป็นคลิปที่ได้สปอนเซอร์มา เขาจึงเน้นไปที่ข้อดีของเกมและพูดถึง
ข้อเสียแบบผ่านๆ แต่คลิปก็ยังมีเนื้อหาที่สนุกและน่าสนใจ
แล้วคลิปนี้มันอะไรกัน
จู่ๆ เขาก็พูดจีนคำอังกฤษคำ แถมยังใช้น้ำเสียงอันแสนระคายหูคนดู
เขาชมเกมไม่หยุดตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่พูดถึงข้อเสียเลย แถมที่พูดมาก็มีแต่น้ำ
เหมือนกับว่าจริงๆ แล้วหาข้อดีของเกมที่จะเอามาพูดไม่ได้เลย
ที่สำคัญที่สุดคือ ถึงจะดูจนจบ พวกเขาก็ไม่ได้สาระสำคัญอะไรเลย ที่พูดมามี
แต่น้ำ เสียเวลาสุดๆ!
นอกจากจะทำให้คนดูรู้สึกหงุดหงิดสุดๆ แล้ว คลิปนี้ก็ไม่มีประโยชน์อื่นอีก
หลังจากดูจบ ผู้ติดตามหลายคนก็ไม่อาจยอมรับความจริงอันโหดร้ายนี้ได้
“อาจารย์เฉียว ถ้าอาจารย์โดนลักพาตัวให้กะพริบตา! โอ้ ลืมไป อาจารย์ไม่
โชว์หน้านี่หว่า ช่างเหอะ”
“นี่มันอะไรกัน ถ้าทำประชดก็ดีไป แต่นี่คือโคตรแย่!”
“หนีไป หนีไป๊!”
“พวกอวยสมควรตาย”
“ไม่ควรกดเข้ามาดูตั้งแต่เห็นว่าเป็นคลิปแนะนำเกมใหม่ประจำสัปดาห์แล้ว”
“ต้องการจะสื่ออะไรเนี่ย หรือจะเป็นมุกวันเมษาหน้าโง่ ใช่ วันนี้วันที่ 1 เมษา
นี่ ต้องใช่แน่ๆ”
“ฟังจากน้ำเสียงแล้วไม่รู้เลยว่าพูดจริงหรือประชดอยู่…”
“ถ้าไม่รู้ว่าเขาประชดหรือทำตัวโง่ๆ อยู่ ก็ให้รู้เลยว่าเขากำลังทำตัวโง่ๆ อยู่!”
“นับดูแล้ว ในคลิปสิบนาที เจ้านี่พูดโอ้โหเกินสามสิบครั้ง โคตรน่าเบื่อเลย แก
มันขี้อวย!”
“โอ้โห awesome นี่มัน moment ของโผมมม!”
“ไม่อยากจะคิดเลยว่าอาจารย์เฉียวที่เล่นเกมมานับไม่ถ้วนจะได้เงินเท่าไหร่
ถึงยอมทำคลิปแบบนี้ขึ้นมา…”
“ฉันเริ่มคิดแล้วว่าเขาไม่น่าจะโดนจ้างมาหรอก ลูกค้าจะไม่เกลียดเอาเหรอที่
เขาอวยเกมขนาดนี้”
“ประเด็นคือ…เขาโฆษณาเกมให้เถิงต๋า! รอบก่อนก็เกมโดดเดี่ยวเดียวดาย
กลางทะเลทราย มารอบนี้กับเกมนักออกแบบเกมอีก… โคตรอึ้งเลย เถิงต๋ากับ
อาจารย์เฉียวมีเรื่องอะไรระหว่างกันรึเปล่านะ…”
“อัปโหลดมาสเตอร์สายด่าเกมยับแตกพ่ายให้กับเงินจากบริษัทเกมโฉดแล้ว
เหรอ ไม่อยากจะคิดเลยว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขา!”
“เหมือนเถิงต๋าจะปล่อยเกมใหม่วันนี้จ ริงๆ… ชื่อเกมนักออกแบบเกม ฉันว่า
เป็นไปได้ 99.99% ที่อาจารย์เฉียวจะโดนจ้างให้ทำคลิปนี้!”
“บริษัทเถิงต๋าจริงๆ เหรอ ใช่บริษัทเดียวกันกับที่สร้างเกมแม่ทัพผีกับเกมฐาน
ทัพกลางทะเลรึเปล่า ถ้างั้น…ทำไมกลยุทธ์การตลาดถึงห่วยขนาดนี้ หรืออาจารย์
เฉียวตั้งใจอวยเอง”
“ดูจบคือตัดสินใจเลยว่าจะไม่แตะเกมขยะนี่ แต่พอเห็นว่าเป็นเกมของเถิงต๋า
ก็อยากลองขึ้นมา ทำไงดี”
“อย่านะ! รู้ว่านั่นขี้แล้วทำไมยังจะกินอีก นายเกลียดตัวเองอะไรขนาดนั้น!”
“แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ อยากจะลองเล่นดูว่าเกมแบบไหนที่ทำให้ลูกฉัน
ออกมาอวยได้ขนาดนี้!”
………………………..
[1] masochist – กลุ่มคนที่มีรสนิยมชอบโดนกระทำทั้งทางร่างกาย วาจา
และจิตใจ

[2] 三观 (sān guān) ได้แก่ 世界观 (shì jiè guān) – ทัศนคติต่อ


โลก 人生观 (rén shēng guān) – ทัศนคติต่อชีวิต 价值观 (jià zhí
guān) – ทัศนคติต่อคุณค่า
บทที่ 115 อาจารย์เฉียวผู้ทุกข์ใจ

เหล่าผู้ติดตามของอาจารย์เฉียวพากันงงเป็นไก่ตาแตก พวกเขารับไม่ได้กับ
คลิปนี้!
แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำใจยอมรับ แถมพวกเขายังตามหาตัวอาจารย์
เฉียวไม่เจออีก
พวกเขาแท็กอาจารย์เฉียวในกลุ่มผู้ติดตามไม่ได้ ทักข้อความส่วนตัวไปก็ไม่
ตอบ คนที่มีมือเบอร์อาจารย์เฉียวลองโทรไปก็ต่อสายไม่ติด
ชัดเจนว่าเขาหนีเข้ากระดองไปแล้ว
บรรดาผู้ติดตามงงจนเริ่มโกรธ จากโกรธกลายเป็นผิดหวัง จากผิดหวังก็เริ่ม
กลับมาใจเย็นและเงียบไป…
การกระทำอันสุดจะประหลาดของอาจารย์เฉียวสมควรได้รับการยกย่อง เป็น
การสร้างสีสันให้วันเมษาหน้าโง่
แต่ทุกคนก็รู้ว่าเรื่องยังไม่จบแค่นี้!
นักสร้างคอนเทนต์หลายคนบนเว็บไซต์ลงวิดีโอต่างๆ เริ่มลงคลิปแนะนำเกม
นักออกแบบเกม!
คลิปเหล่านี้ค่อนข้างแย่ แต่ละคลิปมีจุดที่ต่างกัน แต่จุ ดต่างมีแค่ชื่อคลิป
เทคนิคการตัดต่อ ภาพและคลิปที่ใช้ รวมถึงเสียงพูดของนักสร้างคอนเทนต์แต่ละ
คน
ส่วนบทพูดในคลิปเหมือ นกันหมด เป็นการพูดผสมระหว่างภาษาจี น กั บ
ภาษาอังกฤษ แม้แต่เสียงสูดปากกับเสียงกลืนน้ำลายก็ยังเหมือนกันเด๊ะ!
เหล่าผู้ติดตามที่ได้ดูคลิปเหล่านี้สติแตกกระเจิงกันหมด
นี่มันอะไรกันวะเนี่ย!
ถึงจะเป็นนักสร้างคอนเทนต์ที่ค่อนข้างมีชื่อ แต่พวกเขามาจากวงการต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นเกม เพลง ไลฟ์สไตล์ ดิจิทัล เทคโนโลยี และวงการอื่นๆ ครอบคลุม
หมดทุกวงการ
ชื่อคลิปของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันเลย ดังนั้นจึงอาจมีคนบังเอิญกดเข้าไปดู
คลิปเหล่านี้ได้!
พอกดเข้ามาแล้วเห็นภาพเปิดอันคุ้นตา หัวใจก็หยุดเต้นทันทีเพราะรู้ว่า
จะต้องเจอกับอะไรต่อไป
พอนักสร้างคอนเทนต์แต่ละคนพูดเปิดคลิปตามแบบฉบับของตัวเองเสร็จก็
เริ่มเข้าบทโฆษณาทันที!
“เกมนี้ชื่อว่าเกมนักออกแบบเกม G~A~M~E, game, game designer!
“Awesome!”
หลังจากดูคลิปเนื้อหาเดิมต่อกันไปได้สองสามคลิป หลายคนก็เริ่มรู้สึกว่า
ตัวเองโดนล้างสมอง ในหัวมีแต่ ‘โอ้โห awesome แผลบๆ อึกๆ’…
นักสร้างคอนเทนต์ทุกคนเลือกที่จะหายตัวไปหรือไม่ก็แกล้งตายกันหมด
แหงสิ ปล่อยคลิปแบบนี้ออกไปยังไงก็ต้องโดนด่ายับ ใครมันจะกล้ามายืนหน้า
หนาหน้าทนโดนผู้ติดตามสาปส่ง
พวกเขาได้แต่ปล่อยให้ผู้ติดตามระบายความอัดอั้นในช่องคอมเมนต์แล้วรอให้
เรื่องซาลง จากนั้นก็จะโผล่หัวออกมาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แน่นอนว่าคลิปโฆษณาเกมโดนด่ายับตามที่เผยเชียนคิดไว้!
ทุกคลิปมียอดวิวน้อยจนน่าใจหาย ส่วนคอมเมนต์ก็ไม่น่าเปิดอ่าน มีหลายคน
กดเข้าไปอ่านคอมเมนต์ดูว่ามันแย่แค่ไหน แต่ไม่ได้กดเล่นคลิปดูเลยด้วยซ้ำ!

ที่ออฟฟิศ…
เผยเชียนเลื่อนดูคลิปโฆษณาและตรวจดูกระแสตอบรับจากคนดูกับยอดวิว
อืม ทุกอย่างเป็นไปตามแผน!
เขาทุ่มเงินก้อนโตจ้างนักสร้างคอนเทนต์มาจำนวนไม่น้อย แต่คลิ ปโฆษณา
เหล่านี้กลับไม่มีใครแยแส ยอดวิวก็ไม่กระเตื้องขึ้นเลยแม้แต่น้อย สร้างกระแส
ด้านบวกต่อสาธารณชนไม่ได้เลย
เยี่ยมจริงๆ!
การทำบทให้นักสร้างคอนเทนต์ทุกคนอ่านตามช่างเป็นความคิดที่ดีจริงๆ!
เผยเชียนรู้ว่านักสร้างคอนเทนต์ทุกคนในรายชื่อเป็นคนมีความสามารถ ถ้า
ปล่อยให้รังสรรค์ผลงานกันตามใจชอบแล้วเกิดซ้ำรอยเดิมเหมือนตอนเกมโดด
เดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายขึ้นมาจะทำยังไง
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจให้ทุกคนยึดบทเดียวกัน ชายหนุ่มไม่มีทางยอมให้นัก
สร้างคอนเทนต์เหล่านั้นทำให้ชาวเกมเมอร์รู้สึกสนใจเกมได้
เผยเชียนพึงพอใจมาก แผนของเขาสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว!
จากนี้มาดูกันว่าเหล่าเกมเมอร์จะคิดเห็นยังไง!

ที่บ้านเช่า…
เฉียวเหลียงนอนมองสายที่ไม่ได้รับนับสิบอยู่บนเตียง เขารู้หลงทางเล็กน้อย
เหมือนกับว่าชีวิตนี้ช่างไร้ความหมาย
เฮ้อ หาเงินแบบสกปรกนี่มันยากจริงๆ!
เขาไม่กล้าเปิดแพลตฟอร์มกลุ่มผู้ติดตามดูด้วยซ้ำ ขนาดใช้ส้นเท้าคิดยังรู้ว่า
สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไง
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองขาดทุนและยิ่งโกรธเกรี้ยวมากขึ้น
โอ๊ย เสียใจจริงๆ ที่เลือกแบบนี้!
เงินหนึ่งหมื่นหยวนถือเป็นข้อเสนอที่ดีมากๆ จนทำให้เขาตาบอด
เขาเคยคิดว่าได้เงินจากการทำคลิปให้สปอนเซอร์หนึ่งหมื่นหยวนจะทำให้มี
ความสุข แต่พอได้นอนนิ่งๆ บนเตียงอยู่พักใหญ่ก็ไม่เห็นจะรู้สึกแบบนั้นเลยสักนิด
ถึงจะเปิดเกมเล่นก็ไม่รู้สึกสนุก บะหมี่กึ่งสำเร็จรู ปก็ไม่ได้หอมหวนชวนกิน
เหมือนเดิม
หรือว่า…นี่จะเป็นความรู้สึกที่ติดค้างจากการรับทำงานชุ่ยๆ
หลังจากคิดอยู่นาน เฉียวเหลียงก็ลุกจากเตียงไปเปิดคอมพ์แล้วดาวน์โหลด
เกมนักออกแบบเกม
“วันนี้ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป!
“ชื่อเสียงของฉันในฐานะอาจารย์เฉียวพังทลายไปแล้ว อย่างน้อยก็ต้องรู้ให้ได้
ว่าใครคือฆาตกรใช่ไหมล่ะ”
เขาจ่ายเงินยี่สิบแปดหยวนเพื่อซื้อเกมนักออกแบบเกม
ถึงเขาจะได้ภาพและคลิปตัวอย่างเกมนักออกแบบเกมมา แต่บริษัทเถิงต๋าก็ไม่
เคยส่งตัวเกมเวอร์ชันทดลองมาให้
เผยเชียนไม่อยากส่งตัวเกมเวอร์ชันทดลองให้นักสร้างคอนเทนต์
เขาเขียนบทสำหรับอัดคลิปให้แล้ว แค่มีรูปกับคลิปประกอบนิดหน่อยก็ทำ
คลิปออกมาได้ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องส่งเกมเวอร์ชันทดลองไปให้
ถ้าส่งตัวเกมเวอร์ชันทดลองไปให้ อาจจะซวยได้หากเหล่านักสร้างคอนเทนต์
ใช้เทคนิคการตัดต่อระดับเทพทำให้เกมดูน่าเล่น!
ดังนั้นอาจารย์เฉียวจึงไม่รู้ว่าตัวเกมจริงๆ เป็นยังไง
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น อาจารย์เฉียวจึงกดเข้าเกมแล้วเริ่มเล่น


เนื่องจากเป็นการเข้าเกมครั้งแรก เกมจึงไม่ได้เริ่มจากหน้าจอเมนูแต่เป็นการ
เริ่มเกมทันที
น่าแปลกใจที่เสียงพากย์ดังขึ้นก่อนหน้าจอจะหายมืด
“นี่คือเรื่องราวของนักออกแบบเกม
“คุ ณ คื อ นั ก ออกแบบเกมหน้ า ใหม่ ไ ฟแรงที ่ อ ยากกอบกู ้ ว งการเกม
ภายในประเทศ
“หน้าที่ของคุณง่ายแสนง่าย เค้นสมองคิดไอเดียดีๆ สร้างเกมให้คนตะลึง ทำ
ให้คนในวงการอิจฉา สร้างเกมที่สื่อต่างๆ ชมไม่ หยุดปาก ทำยอดขายพุ่งทะลุฟ้า
เอาเงินที่หามาได้ไปพัฒนาเกมต่อ และทำวนซ้ำไปเรื่อยๆ
“ทำไปจนกว่าจะเป็นนักออกแบบเกมดาวรุ่ง ได้ทุนสร้างเกม ชนะรางวัลเกม
แห่งปีซ้ำๆ ได้ขึ้นปกนิตยสาร Time ทำให้บริษัทมีมูลค่าตลาดหลักพันล้าน ขึ้นไป
อยู่จุดสูงสุดของชีวิต
“โอเค เช็ดน้ำลายก่อนเถอะ
“ฝันนั้นยังไกลจากคุณมาก
“ตอนนี้คุณมีแค่เป้าหมายเดียวที่ต้องทำให้สำเร็จ คือสร้างเกมที่สามารถหยัด
ยืนในตลาดอันแสนโหดร้ายนี้ให้ได้”
ภาพบนหน้าจอเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามเสียงพากย์
เกมนี้ใช้มุมมองบุคคลที่หนึ่ง ระหว่างที่เสียงพากย์กำลังบรรยาย ผู้เล่นก็ได้เริ่ม
เดินไปตามระเบียง
พอถึงช่วง ‘สร้างเกมให้คนตะลึง ทำให้คนในวงการอิจฉา สร้างเกมที่สื่อต่างๆ
ชมไม่หยุดปาก ทำยอดขายพุ่งทะลุฟ้า ’ ตรงระเบียงก็ปรากฏภาพแฟนคลับโห่
เชียร์ ภาพนักออกเกมที่กำลังมองมาอย่างอิจฉาในงานประกาศรางวัล และภาพ
ข่าวรายงานยอดขาย
ภาพต่างๆ ดูเหมือนภาพวาด ไม่ก็เหมือนภาพในหนังสือสามมิติที่พลิกเปลี่ยน
หน้าไปมาตามที่เสียงพากย์บรรยาย
ระหว่างที่เดินไปตามระเบียง ผู้เล่นจะรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในนั้นจริงๆ
เดี๋ยวก็โดนห้อมล้อมด้วยแฟนๆ ผู้คลั่งรัก เดี๋ยวก็โดนนักข่าวรุมสัมภาษณ์
แต่เฉียวเหลียงก็ยังรู้สึกไม่ค่อยอินกับเกมเท่าไหร่
เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
จากข้อมูลเกมที่ได้รับมาตอนทำคลิปไม่ได้ระบุเรื่องเสียงพากย์เลย แถมตอน
นั้นก็ควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวละครในเกมไม่ได้ ทำให้รู้สึกงงๆ
แต่พอได้ลองสัมผัสเอง ก็รู้สึกแตกต่างออกไป!
มุมมองบุคคลที่หนึ่งและอิสระในการสำรวจทำให้ผู้เล่นรู้สึกอินไปกับเกมและ
รู้สึกเหมือนได้ผจญภัย ภาพในเกมก็ช่วยให้รู้สึกเหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งของเกมได้
ดีมากๆ
ส่วนเสียงพากย์ก็เป็นเอกลักษณ์ดี
เป็นเสียงผู้ชายที่ค่อนข้างพิเศษ เสียงออกแหลมและบางขึ้นจมูก ฟังดูแหบ
ห้าวเล็กน้อย
ถ้าตั้งใจฟังจะรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาแล้วอยากวิ่งไปทุบหัวคนพูด แต่เฉียวเหลียง
ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขาสามารถเมินเสียงพูดได้อย่างง่ายดายและหันไปสนใจ
สิ่งที่เสียงนั้นพูดแทน
การผสานรวมระหว่างการทำให้ผู้เล่นรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับเกมและรู้สึกห่าง
เหินกับเกมทำให้เกิดเป็นประสบการณ์การเล่นเกมที่แปลกใหม่
ผู้เล่นสามารถเข้ามาสัมผัสความหรรษา ความกราดเกรี้ยว ความทุกข์ และ
ความสุขของการเป็นนักออกแบบเกม ได้รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจจากเสียงเชียร์จากแฟนๆ
รู้สึกดีกับคำชมจากสื่อต่างๆ
แต่อีกด้านหนึ่งก็สัมผัสได้ถึงมุมมองแบบภววิสัย ความสงบ และความรู้สึก
เหมือนว่าเบื้องบนกำลังมองอยู่
ถือเป็นประสบการณ์การเล่นเกมที่หาได้ยากยิ่ง แม้เฉียวเหลียงจะเคยเล่น
เกมสแตนด์อโลนมามากมาย แต่นี่กลับเป็นครั้งแรกที่เขาได้เล่นเกมแบบนี้
“แปลกมาก ทำไมเกมนี้…ดูไม่ได้แย่เลย”
เฉียวเหลียงมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าบอสเผยตั้งใจทำแบบนี้เพื่อแก้แค้น เขายัง
คิดแค้นอยู่ในใจ!
ถ้าให้โฆษณาเกมนี้ดีๆ ก็สามารถทำคลิปคุณภาพดีออกมาได้อย่างไม่มีปัญหา
อะไร
แล้วทำไมบอสเผยถึงขอให้เขาทำคลิปแบบนั้นขึ้นมาล่ะ
ถ้าไม่ได้คิดแก้แค้นแล้วจะมีเหตุผลอะไรอีก!
เฉียวเหลียงเล่นเกมต่อด้วยความสงสัยสามสิบเปอร์เซ็นต์และความไม่พอใจ
อีกเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์
บทที่ 116 คลิปใหม่ ‘ผลงานเทพสร้าง’!

ผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ เฉียวเหลียงก็เล่นเกมจบไปหนึ่งรอบ
เห็นได้ชัดว่าเกมนี้อยากให้ผู้เล่นเล่นซ้ำหลายรอบ หลังจากเล่นจบหนึ่งรอบ ผู้
เล่นจะถูกส่งกลับไปทีห่ อ้ งแรกและเริม่ ต้นเกมใหม่อกี ครัง้
แตกต่างตรงที่เมื่อเริ่มเล่นรอบที่สอง ผู้เล่นจะมีเงินทุนเริ่มต้นตามการเล่นรอบ
ที่แล้ว
ในเกมบางประเภทอย่างแนว MMORPG ที่ต้องการทุนสร้างสูง ถ้าเพิ่งเริ่มเล่น
แล้วพยายามเลือกสร้างเกมแนวนี้จะมีโอกาสสำเร็จอยู่ที่ศูนย์ เพราะขาดเงินทุน
เว้นเสียแต่ว่าจะตอบตัวเลือกถูกทุกข้อ
แต่เมื่อเริ่มเล่นรอบที่สองพร้อมกับเงินทุนตั้งตน โอกาสสร้างเกมฟอร์มใหญ่
สำเร็จก็จะเพิ่มขึ้น
เฉียวเหลียงไม่ได้เริ่มเล่นรอบที่สองทันที เขาจมดิ่งอยู่ในภวังค์ความคิด
เกมนี้…ค่อนข้างพิเศษ!
เป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย
เฉียวเหลียงตะลึงไปตั้งแต่ตอนเริ่มเกม เกมนี้ผิดจากแนวคิดอันคุ้นชินของเขา
จนต้องโยนความรู้เกี่ยวกับเกมที่มีทิ้งไปหมด
เกมนี้ชื่อว่าเกมนักออกแบบเกม เนื้อหาเกมก็ตามชื่อเลย ผู้เล่นจะได้รับ
บทบาทเป็นนักออกแบบเกมและได้สร้างเกมที่จะโดนตลาดประเมินในตอนจบ
ตอนเริ่มเกมไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่นน่าสนใจจนเฉียวเหลียงคิดอยากจะเลิกเล่น
ถึงจะใช้ได้ทั้งเมาส์และจอยเกม แต่ผู้เล่นก็ทำได้แค่เดินไปเรื่อยๆ กับเปลี่ยน
มุมมอง ทั้งเกมมีแค่วิ่งไปรอบๆ ขนาดประตูยังเปิดให้อัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องกด
ปุ่มอะไรเพื่อเปิด ไม่ต้องหวังเลยว่าจะมีโหมดต่อสู้
หลังจากเข้าไปในห้องและเลือกประตูก็จะเข้าสู่ช่วงต่อไปของเกม
ถ้าไม่ใช่เพราะสไตล์ภาพที่โดดเด่นและฉากต่างๆ ในห้องที่ทำออกมาได้อย่าง
ดีเยี่ยม อาจารย์เฉียวคงจะเลิกเล่นไปตั้งแต่ช่วงแรกแล้ว
สิ่งหนึ่งที่น่าหงุดหงิดมากคือเสียงพากย์
ตอนแรกเฉียวเหลียงคิดว่าจะมีเสียงพากย์แค่ช่วงปูภูมิหลังของเกม แต่พอเล่น
ต่อไปก็พบว่าเสียงพากย์เป็นผีตามติด คอยส่งสัญญาณบอกการมีอยู่ของมันอยู่
ตลอด
กวนประสาทตลอด ไม่หุบปากเลยโว้ย!
ทุกครั้งที่เข้าไปในห้องแล้วต้องเลือกตัวเลือก เสียงพากย์ก็จะให้คำแนะนำด้วย
น้ำเสียงยั่วยุกวนบาทา
เช่น ตอนที่ต้องเลือกระหว่างตั้งเพดานค่าใช้จ่ายสูงกับตั้งเพดานค่าใช้จ่ายต่ำ
เสียงพากย์ก็จะพยายามอย่างเต็มที่ในการล่อลวงให้ผู้เล่นเลือกตั้งเพดานค่าใช้จ่าย
สูง
ที่แย่ที่สุดคือเสียงพากย์น่าจะเป็นผู้จัดการฝึกหัดมืออาชีพเพราะด่าเก่ง
เหลือเกิน!
ถ้าไม่เลือกตามที่เสียงพากย์แนะนำก็จะโดนด่า
ถ้าเลือกทำตามแล้วพลาดก็โดนด่าเหมือนเดิม
สรุปคือเสียงพากย์ทำหน้าที่ยัดเยียดความคิดผิดๆ ให้ จากนั้นก็โจมตีทำลาย
ความมั่นใจของผู้เล่น คำพูดคำจาแต่ละอย่างร้ายกาจเสียจนอยากจะวิ่งไปกระทืบ
มีหลายครั้งที่เฉียวเหลียงหงุดหงิดมากเสียจนอยากมุดจอไปลากตัวไอ้เสีย ง
พากย์เวรนี่ออกมาอัดให้น่วม
เฉียวเหลียงงงมากว่าจะมีเสียงพากย์ไปทำไม
มีไว้กวนประสาทผู้เล่นเหรอ ไม่เห็นจะเข้าท่าเลย!
สับสนปนหงุดหงิด สองอย่างนี้คือความประทับใจแรกหลังจากได้ลองเล่นเกม
แต่พอเล่นไปเรื่อยๆ อาจารย์เฉียวก็รู้ต่างออกไป
เขาพบว่าเจ้าเสียงพากย์สุดกวนนี่คือแก่นหลักที่ซ่อนอยู่ของเกม!
ถ้าตั้งใจไม่เลือกตามที่เสียงพากย์แนะนำ เสียงพากย์ก็จะมีการตอบสนอง
เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
เริ่มแรกเสียงพากย์จะดูเหมือนไม่ได้สนใจและแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไร
จากนั้นเสียงพากย์จะค่อยๆ ทำตัวน่าหงุดหงิดขึ้นเรื่อ ยๆ เริ่มบอกผู้เล่นว่าถ้า
ไม่ฟังจะเกิดอะไรขึ้น
จากนั้นก็จะทำตัวเกรี้ยวกราดขึ้น เริ่มใช้ถ้อยคำดุดันรุนแรง ปล่อยทุกอย่างที่มี
ใส่ไม่ยั้ง
หลังจากพ่นไฟใส่ไม่หยุดก็จะจบที่ระเบิดลง
สุดท้ายเสียงพากย์ก็จะเข้าสู่ช่วงยอมรับสภาพที่เกิดขึ้น แล้วบอกผู้เล่นว่าแก
มันไร้ประโยชน์พร้อมแสดงท่าทีประมาณว่า ‘ฉันจะจับตาดูแกเงียบๆ ว่าจะทำ
อะไรได้อีก’
เสียงพากย์จะตอบสนองแตกต่างกันไปในฉากจบแต่ละแบบ ซึ่งเป็นเรื่องที่
น่าสนใจมาก
ถ้าผู้เล่นทำตามที่แนะนำแล้วผลลัพธ์ออกมาไม่ดี เสียงพากย์ก็จะตอกย้ำอย่าง
เลือดเย็น มันจะด่าผู้เล่นว่าเป็นพวกหูเบาเชื่อคนง่าย ไม่มีความคิดเป็นของตนเอง
สมแล้วที่ไม่ประสบความสำเร็จ
ถ้าผู้เล่นไม่ทำตามที่แนะนำแล้วผลลัพธ์ออกมาไม่ดี เสียงพากย์ก็จะด่าซ้ำ
เหมือนเดิม โดยจะบอกว่าถ้าฟังตามที่พูดก็ไม่พลาดแบบนี้หรอก สมควรแล้ว
ถ้าผู้เล่นไม่ทำตามที่แนะนำแล้วผลลัพธ์ออกมาดี เสียงพากย์ก็จะยืนกรานว่า
ถ้าฟังตามที่มันแนะนำคงจะประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่กว่านี้ไปแล้ว!
ถึงจะยังพูดจาประชดประชันอยู่ แต่พอผู้เล่นประสบความสำเร็จ น้ำเสียงของ
เจ้าเสียงพากย์จะฟังดูขุ่นเคือง น่าสนใจเลยทีเดียว
เฉียวเหลียงเริ่มนึกสนใจคนพากย์เสียงและสงสัยว่าพากย์แบบนี้ได้ยังไง เขา
พากย์เสียงออกมาได้ดีมาก แถมยังรู้ความแตกต่างระหว่างอารมณ์แต่ละแบบด้วย!
ระหว่างที่โดนเสียงพากย์ด่าทออยู่ เฉียวเหลียงก็พบจุดที่น่าสนใจหลายจุด
ของเกมนี้
พอดูดีๆ สไตล์ภาพของเกมนี้ไม่ใช่แค่ ‘ดี’ แต่เป็น ‘ดีมากๆ’!
ภาพแต่ละฉากช่วยเสริมสร้างบรรยากาศให้เกมได้ดีมากๆ พอเอาไปรวมกับ
เพลงและเสียงประกอบที่ลงตัวก็ทำให้ฉากดูสมจริงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นห้องเล็ก
หรือห้องใหญ่
สไตล์ภาพที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้งานภาพของเกมโดดเด่นและมีระดับมาก
ตั้งแต่การเล่นรอบที่สองเป็นต้นไป พอได้ลองเลือกตัวเลือกแบบต่างๆ ดู เฉียว
เหลียงก็ไปถึงฉากจบแต่ละแบบ ซึ่งก็ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจสุดๆ!
รอบแรก เขาเลือกตั้งเพดานค่าใช้จ่ายสูงตามที่เสียงพากย์แนะนำ ทำให้เกมที่
ได้มีชื่อเสียงไปในทางลบ ถึงจะทำเงินได้ แต่เกมก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะอยู่รอดในตลาด
ได้นาน เสียงพากย์จึงใช้จุดนี้มาด่า
รอบที่สอง เฉียวเหลียงเอาใจผู้เล่นด้ วยการเลือกใช้วิธีที่เป็นมิตรและไม่แพง
สำหรับผู้เล่น สุดท้ายเกมก็ทำเงินได้ไม่พอเพราะผู้เล่นเสียเงินให้เกมน้อยเกินไป
ทำให้ไม่สามารถหาเงินทุนคืนได้ เลยโดนเสียงพากย์เยาะเย้ยเข้าอีกครั้ง
รอบที่สาม เฉียวเหลียงทำตามที่เสียงพากย์บอกทุกอย่าง ครั้งนี้แย่กว่าเก่า
และเสียงพากย์ก็ด่าเขาเละ
เฉียงเหลียงโกรธจัดจนแทบอยากจะปาจอยเกมทิ้ง
นี่มันบ้าอะไรกัน!
ทำไมทุกตัวเลือกถึงพาไปเจอตอนจบที่แย่หมดเลยล่ะ เกมนี้มันเล่นได้จริงหรือ
เปล่าเนี่ย
แต่หลังจากพบกับความล้มเหลวซ้ำๆ เฉียวเหลียงก็ได้เรียนรู้แก่นแท้ของเกม
ผู้เล่นได้รับบทบาทเป็นนักออกแบบเกม สิ่งที่เฉียวเหลียงได้สัมผัสก็คือชีวิต
ของนักออกแบบเกมจริงๆ ไม่ใช่เหรอ
เสียงพากย์ที่แสนน่ารำคาญก็เป็นเหมือนความโลภภายในใจ หรืออาจจะเป็น
พวกนักเลงคีย์บอร์ด ไม่ก็พวกคนนอก
มีบางครั้งที่เสียงพากย์แนะนำสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม แต่บางครั้งก็แนะนำสิ่งที่
ผิดมหันต์
ในฐานะนักออกแบบเกม ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะไม่เจอขวากหนามขวางทาง
ถ้าไม่มีความคิดเป็นของตัวเองก็ย่อมพบกับความล้มเหลว
ถ้าทำตามความคิดของตัวเอง ไม่ฟังคำแนะนำจากคนอื่น ก็จบที่ล้มเหลว
เช่นกัน
ความสำเร็จนั้นมาจากการฟังคำแนะนำ วิเคราะห์และไตร่ตรองอย่างละเอียด
รอบคอบ และตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดหลายครั้งหลายหนต่างหาก!
จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่นักออกแบบเกม… แต่โปรดิวเซอร์และผู้พัฒนาสื่อบันเทิง
เองก็เป็นเหมือนกันหมด
ผู้รังสรรค์ผลงานหลายคนต้องฟันฝ่าไปตามเส้นทางที่เลือกมาอย่างโดดเดี่ยว
และยากลำบาก แต่ความสำเร็จที่ปลายทางนั้นหอมหวานยิ่งนัก!
เฉียวเหลียงน้ำตารื้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
เพราะเขาเองก็เป็นนักสร้างคอนเทนต์
การทำคลิปและการสร้างเกมต่างก็เป็นผลผลิตที่เรียกว่าสื่อบันเทิง เป็นเรื่องที่
เหมือนกันในด้านแง่คิด!
เฉียวเหลียงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงประสบการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมา
เขาทุ่มเททั้งกายและใจสร้างคลิปขึ้นมาหนึ่งคลิป แต่กลับไม่มีใครสนใจ
เพื่อให้มีชีวิตรอดต่อไป เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรับสปอนเซอร์และโดน
ผู้ติดตามด่าจนไม่กล้าโผล่หน้าออกไปไหนอยู่หลายวัน
ทุกครั้งที่ผู้ติ ดตามส่งข้อความยาวเหยียดเข้าช่องแชตส่วนตัวเพื่อบอกว่า
ผิดหวังในตัวเขาแค่ไหน เฉียวเหลียงก็รู้สึกเศร้าใจไม่น้อย
แต่ไม่นานก็เริ่มชิน เพราะไม่มีอะไรที่ยั่งยืนไปตลอด เขาทำได้แค่ต้อนรับ
ผู้ติดตามกลุ่มใหม่ พยายามทำตัวให้ดีเหมือนเดิมกับผู้ติดตามกลุ่มเดิม ส่วนใครที่
เลิกติดตามไปแล้ว เฉียวเหลียงก็ได้แต่หวังให้คนเหล่านั้นพบเจอสิ่งดีๆ
ไม่แน่อาจเพราะบังเอิญเลือกถูกเกม คลิปเลยดังเป็นพลุแตก อาจดูเหมือนว่า
โชคช่วย แต่จริงๆ แล้วมาจากประสบการณ์การทำงานที่สั่งสมมาต่างหาก
เกมนักออกแบบเกมสะท้อนแง่คิดนี้ให้กับเขา
เขาตระหนักแล้วว่าผู้พัฒนาเกมนี้คืออัจฉริยะ!
เกมนี้เหมือนจะหยาบคาย โหดร้าย และน่ารังเกียจ แต่ก็เป็นการสะท้อนถึง
ชีวิตของผู้คนไม่ใช่เหรอ
ในชีวิตจริง ผู้พัฒนาเกมมากมายต้องตรากตรำลำบาก มีใครบ้างที่ไม่เคยโดน
หัวเราะเยาะเย้ยมาก่อนที่จะประสบความสำเร็จ
บางคนเหนื่อยจนหนีออกจากวงการไปเงียบๆ
บางคนมุ่งเดินต่อไปข้างหน้า ไม่ลืมเป้าหมายในตอนแรกเริ่ม
บางคนทิ้งอุดมการณ์ไป แล้วกลายไปเป็นตัวตนในแบบที่น่ารังเกียจที่สุดของ
ตัวเอง…
ทุกแง่คิดถูกนำเสนอในเกมนี้ มีแค่คนที่มีมุมมองลึกซึ้งเท่านั้นที่จะตระหนักถึง
เรื่องนี้!
เกมนี้ก็เหมือนชาคุณภาพสูงถ้วยหนึ่ง
ยกจิบครั้งแรกอาจจะขม
แต่พอผ่านไปสักพักก็จะได้รสหวาน
หลังจากได้ลิ้มรสชาตินี้ก็จะตระหนักว่ามันก็เหมือนกับชีวิตที่ผกผันอยู่ตลอด
ถึงชาจะหมดถ้วยไปแล้ว แต่รสชาติยังฝังอยู่มิรู้ลืม
เฉียวเหลียงนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ในใจอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกมากมาย
“สรุปแล้ว ฉันโทษบอสเผยไปผิดๆ…
“คนที่สร้างเกมแบบนี้ขึ้นมาจะเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นได้ยังไง
“ฉันต้องทำคลิปใหม่อีกคลิป!”
เฉียวเหลียงเปิดเว็บฟานฉูขึ้นมาอีกครั้ง
เขามองคลิปสองแถวที่แบ่งเป็นคลิปซีรีส์ ‘สับเละเกมกาก’ กับซีรีส์ ‘แนะนำ
เกมใหม่ประจำเดือน’
เฉียวเหลียงนึกลังเล ทั้งสองซีรีส์ไม่มีอันไหนเหมาะเลย
หลังจากครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ เขาก็สร้างซีรีส์ใหม่ขึ้นมา
“ผลงานเทพสร้าง!”
บทที่ 117 พลิกรีวิว

วันที่ 3 เมษายน…
บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี…
เปาซวี่ ลู่หมิงเหลียง และพนักงานคนอื่นๆ จับตาดูเกมนักออกแบบเกมอย่าง
ใกล้ชิด
บรรยากาศภายในออฟฟิศตึงเครียดมาก ทุกคนดูเคร่งเครียดกันสุดๆ
สามวันผ่านไป ไม่ว่าจะเป็นมุมไหน เกมนักออกแบบเกมก็เปิดตัวได้แย่สุดๆ!
นอกจากการโฆษณาช่วงแรกจะไม่ได้ผลตอบรับที่ดีแล้ว ยังทำให้ผู้เล่นหลาย
คนไม่อยากเล่นเกมอีกด้วย
ผู้เล่นกลุ่มแรกที่ได้ลองเล่นเกมไม่ได้รีวิวเกมไว้ดีนัก แต่ละคนมีความเห็นที่
ค่อนข้างแตกต่างกัน
เกมนักออกแบบเกมต่างจากเกมก่อนๆ จากความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของเกมแม่
ทัพผีและเกมฐานทัพกลางทะเล ทำให้เกมนักออกแบบเกมมีคนสนใจจำนวนไม่
น้อย
แต่ พ อเลื ่ อ นผ่ า นช่ อ งคอมเมนต์ ก ็ จ ะพบว่ า ผู ้ เ ล่ น หลายคนไม่ ไ ด้ ส นใจ
สาระสำคัญที่ซ่อนอยู่ในตัวเกม พอเล่นจบแบบผ่านๆ ไปหนึ่งรอบ หลายคนก็มา
คอมเมนต์รีวิวแย่ๆ ให้กับเกม!
“นี่มันเกมอะไรกันวะเนี่ย ไม่เห็นจะสนุกเลย ใช่ทีมเดียวกับที่สร้างเกมฐานทัพ
กลางทะเลจริงๆ เหรอ ทำไมคุณภาพตกขนาดนี้”
“มีดีแค่ภาพสวย ทั้งเกมมีอยู่โหมดเดียว น่าเบื่อมาก เสียงพากย์คือสุดๆ ตั้งใจ
ใส่มายั่วโมโหเราเหรอ”
“รู้สึกเหมือนโดนหักหลังเลย ไม่ใช่เกมแบบที่ฉันชอบ!”
“ไม่เข้าใจเกมเลย เหมือนเด็กประถมเป็นคนสร้าง”
“ทีมผู้พัฒนามั่นใจในตัวเองมากไปหรือผู้เล่นโอ๋กันมากไปนะ เห็นว่าเกมฐาน
ทัพกลางทะเลประสบความสำเร็จแล้วหลงคิดไปเองว่าผู้เล่นจะยอมจ่ายเงินให้ทุก
เกมที่พวกนายสร้างเหรอ”
และยังมีคอมเมนต์อื่นๆ ที่คล้ายกันอีกมากมาย
ที่ผู้เล่นส่วนใหญ่คิดแบบนั้นก็เพราะเล่นเกมไปแค่นิดหน่อย มีไม่กี่คนที่อดทน
เล่นจนเข้าใจแก่นสาระที่แท้จริงของเกม
เพราะเหตุนี้ รีวิวเกมนักออกแบบเกมจึงแตกออกเป็นสองฝั่ง มีคนจำนวนไม่
น้อยให้คะแนนหนึ่งดาวกับห้าดาว!
ลู่หมิงเหลียงรู้สึกเครียดมาก
เขาเพิ่งจะทำโปรเจ็กต์แรกล้มเหลวหลังจากได้ขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย
วางแผนแทนหวงซื่อปั๋วหรือเปล่า
จะให้ไปอธิบายเรื่องนี้กับคนในทีมและบอสได้ยังไง
ลู่หมิงเหลียงเหลือบมองเปาซวี่โดยไม่รู้ตัว แต่ท่าทีของอีกฝ่ายกลับทำให้เขา
เครียดยิ่งขึ้น
เปาซวี่ทำหน้าเหมือนกับจะบอกว่า ‘ฉันบอกนายแล้ว’!
ตอนที่ทั้งคู่คุยกัน เปาซวี่บอกเขาว่ามีความเป็นไปได้สองแบบ
ถ้าไม่กลายเป็นตำนานก็เจ๊งไม่เป็นท่า
เพราะเกมนี้ล้ำไปกว่าเกมในยุ คนี้มาก เกมนี้วางคอนเซ็ปต์ไว้ล้ำเกินไป แถม
แก่นสำคัญก็ซ่อนไว้ลึกเกินด้วย ผู้เล่นทั่วไปน่าจะหมดความอดทนก่อนจะเข้าใจว่า
จริงๆ แล้วเกมต้องการจะสื่ออะไร
ลู่หมิงเหลียงตื่นตระหนกกว่าเก่าเมื่อเห็นสีหน้าของเปาซวี่
“พี่เปา เป็นแบบนี้เราควรทำยังไงดี”
ลู่หมิงเหลียงหมดความมั่นใจไปแล้ว
เปาซวี่ถอนหายใจ “รอก่อน
“บอสเผยน่าจะกะเอาไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้
“ที่เราทำได้ตอนนี้คือปล่อยให้เป็นไปตามที่มันควรจะเป็น
“ถ้าไม่ได้ผลจริงๆ เราก็ต้องยอมรับผลลัพธ์ไปกับบอสเผย”


เฉียวเหลียงดูคลิปที่ตัวเองอัดอีกครั้งตั้งแต่ต้นจนจบ
เขาพอใจกับผลงานมาก!
เกมนี้สะท้อนข้อคิดให้เขา แถมเนื้อหาของเกมก็ล้ำลึก เฉียวเหลียงจึงมีแรง
บันดาลใจเหลือล้นในการทำคลิปนี้
เขาสละเวลานอนเพื่อทำคลิปนี้ให้เสร็จในสามวัน ตัดต่ออยู่หลายครั้งจน
ผลงานออกมาสมบูรณ์แบบ!
คลิปนี้จะเป็นคลิปแรกของซีรีส์ใหม่ที่ชื่อ ‘ผลงานเทพสร้าง’
เฉียวเหลียงรู้สึกได้ว่าซีรีส์นี้จะต้องดังมากแน่ๆ น่าจะดังกว่าซีรีส์สับเละเกม
ขยะเลยด้วยซ้ำ!
แต่ก่อนจะลงคลิป เขาติดปัญหาอยู่เรื่องเดียว
นั่นก็คือ…จะอธิบายเกี่ยวกับคลิปที่ลงไปก่อนหน้านี้ยังไงดี
ปล่อยคลิปพูดถึงเกมนักออกแบบเกมออกไปสองคลิป คนน่าจะนึกสงสัยกัน
แน่
คลิปก่อนหน้านี้ได้สปอนเซอร์มา แต่คลิปที่สองพูดถึงความรู้สึกจริงๆ ที่เขามี
ต่อเกม ซึ่งมีเนื้อหาค่อนข้างหนักเลยทีเดียว
ปัญหาอยู่ที่เหล่าผู้ติดตามจะเชื่อที่เขาพูดหรือเปล่า
เฉียวเหลียงเค้นสมองคิดหาทางแก้
เขามั่นใจว่าถ้าไม่แก้ปัญหานี้ ปล่อยคลิปที่สองออกไปก็ไร้ความหมาย ผู้เล่น
ส่วนใหญ่คงจะไม่ตั้งใจฟังสิ่งที่เขานำเสนอและรุมด่ากันยกใหญ่
แต่ถ้าแก้ไขปัญหานี้อย่างเหมาะสม เขาอาจจะลบมลทินจากคลิปแรกได้!
ทำแบบนี้ เขาก็จะได้ทั้งกำไรและชื่อเสียง เยี่ยมไปเลยใช่ไหมล่ะ
แล้วจะพลิกรีวิวได้ยังไง
หลังจากเค้นสมองคิดอยู่นาน จู่ๆ เขาก็ตบหน้าขาตัวเอง
ในที่สุดก็นึกอะไรดีๆ ออกแล้ว!
คลิปก่อนปล่อยวันเมษาหน้าโง่พอดี
เวลาพร้อม
เว็บฟานฉูคือสนามรบหลักของเขา เฉียวเหลียงมีผู้ติดตามที่เหนียวแน่นบน
เว็บไซต์นี้เยอะที่สุด และคนพวกนั้นก็ต่างรอฟังคำอธิบายจากเขาอยู่
สถานที่พร้อม
อีกทั้งเขาไม่ใช่คนเดียวที่ปล่อยคลิปนี้ออกไป มีนักสร้างคอนเทนต์อีกมากมาย
ที่ลงคลิปโดยใช้บทที่เหมือนกันทุกตัวอักษร!
คนก็พร้อม
เวลา สถานที่ คนพร้อมหมด ทีนี้ก็เหลือคำถามสำคัญอีกข้อเดียว
ทำไมบอสเผยจากบริษัทเถิงต๋าถึงลงทุนไปมากมายเพื่อผลประโยชน์แค่
เล็กน้อยกัน
หลังจากคิดอยู่นาน เฉียวเหลียงก็นึกความเป็นไปได้ข้อหนึ่งออก
นี่น่าจะเป็นการจัดฉากวันเมษาหน้าโง่แบบจัดเต็ม!
การจั ด ฉากเป็ น การแสดงสมั ย ใหม่ โดยมี ก ารวางแผนเหตุ ก ารณ์ แ ละ
พฤติกรรมอย่างละเอียด จากนั้นก็นำเสนอผ่านตัวนักแสดง สื่อสารกับผู้คน และ
ค่อยๆ ไล่เรียงไปจนถึงผลลัพธ์ในท้ายที่สุด
ตรงกับเหตุการณ์นี้ไม่มีผิด!
นักสร้างคอนเทนต์ทุกคนอัดคลิปตามบทเดียวกับที่บอสเผยเตรียมให้
พอปล่อยคลิปออกไปก็โดนผู้ติดตามด่ากันยกใหญ่ กลายเป็นกรณีศึกษาเรื่อง
การทำการตลาดที่ล้มเหลว
บอสเผยและเหล่านักสร้างคอนเทนต์คือนักแสดง!
การจัดฉากครั้งนี้สร้างกระแสได้ดีทีเดียว…
พอคิดแบบนี้ ทุกอย่างก็ดูจะเข้าเค้ามากขึ้น พฤติกรรมสุดประหลาดที่ทำไปก็
เป็นเรื่องสมเหตุสมผล!
แต่นี่ก็เป็นแค่การคาดเดา
เฉียวเหลียงต้องการหลักฐานเพิ่ม
เพื่อจะให้มั่นใจว่าที่คิดนั้นถู ก เขาเข้าเว็บฟานฉู เมินคอนเมนต์กับข้อความ
ส่วนตัวมากมายมหาศาล แล้วเริ่มหาหลักฐานสนับสนุนความคิดของตนเอง
เขาพบว่าหลังจากเกิดเรื่องขึ้นและเป็นกระแสลุกลามอยู่สามวัน ก็มี ‘ศัพท์
เฉียว’ หรือ ‘ภาษาเฉียว’ ที่กลายเป็นมีมว่อนอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นมา!
นอกจากนั้นยังมีคนจำนวนไม่น้อยพากันอัดคลิปล้อเลียนเพื่อส่งเข้าการ
ประกวดที่จัดขึ้นอย่างไม่เป็นทางการด้วย!
พวกเขาพูดจีนปนอังกฤษ ใช้คำอย่าง ‘wow’ และ ‘awesome’ รวมถึง
เลียนแบบโทนเสียนและทำเสียงประกอบต่างๆ…
ทุกอย่างกลายเป็นมีมหมดเลย!
ปรากฎการณ์ ‘ภาษาเฉียว’ เป็นที่พูดถึงในคลิปมากมายจากช่องต่างๆ
เหตุผลหนึ่งก็มาจากผลลัพธ์สุดเลวร้ายของเกมนักออกแบบเกม
อี ก เหตุ ผ ลมาจากความโด่ ง ดั ง ของ ‘ภาษาเฉี ย ว’ ที ่ เ ป็ น กระแสบนโลก
อินเทอร์เน็ต
เฉียวเหลียงมือสั่นด้วยความตื่นเต้น
เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ด้วย!
นี่คือการจัดฉากครั้งยิ่งใหญ่ แถมยังประสบความสำเร็จสุดๆ อีก!
บอสเผย ผมเดาความคิดบอสถูก!
เขาเปิดโปรแกรมตัดต่อวิดีโอขึ้นมาแล้วอัดเนื้อหาเพิ่มเติมเข้าไปในช่วงแรก
ของคลิปที่ตัดต่อไว้
หลังจากจัดการเสร็จเรียบร้อย ในที่สุดเฉียวเหลียงก็พอใจกับคลิปที่อัปโหลด
ขึ้นไป
“เยี่ยม คลิปนี้แหละที่เหมาะกับชื่อ ‘ผลงานเทพสร้าง’ ที่สุด!”
ถึงเฉียวเหลียงจะกำลังเผชิญกับวิกฤติครั้งใหญ่ที่สุดในสายอาชีพ แต่เขาก็
มั่นใจว่าหลังจากธูปไหม้ไปได้สามส่วนสี่ ไม่สิ หลังจากผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง ชื่อเสียง
ของเขาบนโลกอินเทอร์เน็ตจะต้องพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ!
บทที่ 118 นี่คอื การจัดฉาก!

คืนนั้น เวลาสองทุ่ม คลิปซีรีส์ใหม่แกะกล่องก็ผ่านกระบวนการตรวจสอบ


คลิปตอนแรกของซีรีส์ ‘ผลงานเทพสร้าง’ มีชื่อว่า ‘เกมนักออกแบบเกมและ
การจัดฉากครั้งใหญ่!’
บรรดาผู้ติดตามของอาจารย์เฉียวงงเป็นไก่ตาแตก
เกิดอะไรขึ้น
ไม่ใช่ว่าเขาแกล้งตายไปแล้วเหรอ
แกล้งตายได้สามวันก็กลับมาแก้ตัวอย่างนั้นเหรอ
แถมยังรับสปอนเซอร์รีวิวเกมเดิมอีก นี่ตั้งใจจะปั่นกระแสชัดๆ!
ช่วงนี้ ‘ภาษาเฉียว’ กำลังเป็นกระแสในเว็บไซต์วิดีโอหลายเว็บไซต์ ถึงนัก
สร้างคอนเทนต์คนอื่นๆ จะลงคลิปแบบเดียวกัน แต่อาจารย์เฉียวเป็นคนแรกที่ลง
คลิปนี้ ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นตัวตั้งตัวตีของความโกลาหลครั้งนี้
ถ้าลงคลิปในสถานการณ์แบบนี้ คนได้มาคอมเมนต์เกี่ยวกับมีมกันเต็มไปหมด
แน่
หรือว่าเขา…คิดว่าไม่มีอะไรจะเสียแล้วเลยไม่กลัวอะไร
ในเมื่อไม่มีทางกอบกู้ชื่อเสียงคืนมาได้ ก็เลยคิดจะเกาะกระแสด้านลบต่อเพื่อ
สร้างชื่ออย่างนั้นเหรอ หรือไม่ก็คิดจะเกาะกระแส ‘ภาษาเฉียว’ กอบโกยทำกำไร
ดูจากสถานการณ์ปัจจุบันของอาจารย์เฉียวแล้ว คงเป็นเรื่องยากที่ผู้ติดตาม
จะไม่คิดกันแบบนี้
ชาวเน็ตพร้อมด่ากันเต็มที่ตอนที่เปิดคลิปเข้าไปดูด้วยความกังวล บางคนก็
อยากจะเข้ามาดูความโกลาหลเฉยๆ
แต่ประโยคแรกของอาจารย์เฉียวก็ทำให้พวกเขาต้องเงียบปากไป
“สวัสดีครับทุกท่าน ผมอาจารย์เฉียวเอง
“ผมรู้ว่าทุกท่านอยากจะด่าผม แต่ก่อนอื่น ผมมีเรื่องน่าเศร้าอยากจะมา
ประกาศ
“สามวันก่อน วันที่ 1 เมษายน วันเมษาหน้าโง่ เราได้จัดฉากครั้งใหญ่และ
ประสบความสำเร็จอย่างคาดไม่ถึง แต่ผลลัพธ์จากการจัดฉากครั้งนี้น่าหดหู่
เหลือเกิน
“ใช่ครับ ธีมของการจัดฉากครั้งนี้คือ ในยุคดิจิทัล คอนเทนต์แบบไหนจะเป็น
กระแสได้ง่ายที่สุดระหว่างคลิปสั้นที่ตั้งใจทำออกมาให้ดูโง่กับเกมคุณภาพเยี่ยมที่มี
เนื้อหาสุดลึกซึ้งและทุ่มทุนสร้างไปหลักล้าน
“หลังจากการทดลองเสร็จสิ้น ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ต้องประกาศ
ผลลัพธ์ให้ทุกท่านทราบว่า
“คอนเทนต์แรกชนะครับ”
หลายคนอยากจะเปิดฉากด่ากราด แต่คำพูดเปิดคลิปก็ทำเอาต้องกลืนคำด่า
ลงคอ
มีเพียงความงุนงงที่เข้ามาแทนที่
ว่าไงนะ จัดฉากเหรอ
จัดฉากอะไร
พวกเขาดูคลิปต่อด้วยความงงงวย
อาจารย์เฉียวแนะนำเรื่องการจัดฉากต่อ
เขาอธิบายแนวคิดและคำจัดการความของการจัดฉาก รวมถึงแรงจูงใจของ
การจัดฉากที่เขาเพิ่งจะมีส่วนร่วมไป
ตามที่เขาอธิบาย การจัดฉากครั้งนี้บริษัทเถิงต๋าเป็นคนริเริ่ม มีจุดประสงค์ใน
การสำรวจหัวข้อที่ลึกซึ้งมาก
ในยุคดิจิทัล ผู้คนถูกยัดเยียดข้อมูลให้มากมาย เป็นยุคที่มีทั้งการล้นทะลัก
ของข้อมูลข่าวสารและการขาดข้อมูลข่าวสาร
การล้นทะลั กของข้อ มูลข่าวสารคือ การที่คนได้รับข้อ มูลข่าวสารจากสื่อ
ออนไลน์เป็นจำนวนมากในทุกๆ วัน อุบัติเหตุเล็กน้อยที่มุมหนึ่งของเมืองเล็ก
อาจจะเป็นข่าวดังขึ้นมาได้ในชั่วข้ามคืนอย่างไม่มีเหตุผล วันต่อมา ทุกคนใน
ประเทศก็รู้เรื่องอุบัติเหตุนี้แล้ว
การขาดข้อมูลข่าวสารคือการที่ข้อมูลที่มีแก่นสาระสำคัญจมหายไปกับข้อมูล
ขยะประโลมโลกจำนวนมากที่แสนจะจรรโลงใจและมาไวไปไว
ดังนั้นการจัดฉากครั้งนี้จึงมีเป้าหมายเพื่อทำการเปรียบเทียบในเรื่องนี้
อาจารย์เฉียวและนักสร้างคอนเทนต์คนอื่นๆ ต้องอัปโหลดคลิปของตัวเองขึ้น
เว็บไซต์ โดยเนื้อหาคลิปก็ไม่ ได้มีอะไรมาก แต่ทำออกมาในทางที่ค่อนข้างเว่อร์
และเน้นพูดอวยเกม คลิปของทุกคนมีความคล้ายคลึงกันมาก นอกจากนี้ยังใช้บท
แบบเดียวกัน
มีการใช้กลยุทธ์หลายอย่างเพื่อดึงความสนใจจากคนดู เช่น พูดจีนปนอังกฤษ
เพื่อแหย่คนดู และใช้วิธีพูดประหลาดๆ อื่นๆ
ตัวคลิปไม่มีแก่นสารหรื อสาระสำคัญใดๆ แต่เนื่องจากมีอัปโหลดมาสเตอร์
หลายคนอัปโหลดคลิปนี้ขึ้นพร้อมๆ กัน แถมเนื้อหายังตั้งใจทำมาดึงดูดความ
สนใจสุดๆ อีก ชาวเน็ตจึงเข้ามาโหนกระแสกันใหญ่ ก่อนจะกลายเป็นกระแสที่ไม่
เคยมีมาก่อนบนอินเทอร์เน็ต!
เรื่องนี้ยืนยันได้ด้วย ‘ภาษาเฉียว’ ที่ฮิตกันอย่างรวดเร็ว
คลิปที่ตั้งใจทำเนื้อหาออกมาโง่ๆ ดังเป็นพลุแตก กลายเป็นมีมดังเพราะ
เนื้อหามันโง่แสนโง่ หลายคนก็เข้ามาเกาะกระแสกันใหญ่
เรื่องนี้พิสูจน์ได้ว่า ในยุคนี้ หลายๆ เรื่องที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
นั้น จริงๆ แล้วมีคนแอบวางแผนมาแล้วเป็นอย่างดี!
ในทางกลับกัน เกมนักออกแบบที่บริษัทเถิงต๋าเพิ่งปล่อยออกมานั้นขายไม่
ค่อยออก
ตัวเกมมีเนื้อหาที่ลึกซึ้งมากซ่อนอยู่ ผู้เล่นต้องอดทนค้นให้เจอ
เนื้อเรื่องของเกมเปิดโปงสภาพของอุตสาหกรรมเกมในปัจจุบัน รวมถึงความ
โกลาหลในอุตสาหกรรมนี้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงพากย์ งานภาพ หรื อระบบการเล่น
ต่างกลั่นออกมาด้วยความจริงใจและความสร้างสรรค์
แต่สภาพของเกมที่มีเนื้อหาสุดลึกซึ้งนี่เป็นยังไงน่ะหรือ
ได้รีวิวผสมปนเป ผู้เล่นไม่ให้การยอมรับ!
ผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่ได้เล่นเกมไปไกลนัก แค่ห้านาทีก็เลิกเล่นกันแล้ว
การเปรียบเทียบระหว่างคลิปสั้นและเกมดังกล่าวคือเป้าหมายหลักของการ
จัดฉากครั้งนี้ ถือเป็นตลกร้ายในตัวเอง!
หลายคนอึ้งไปเมื่อดูคลิปมาจนถึงช่วงนี้
เรื่องเป็นแบบนี้เองเหรอ
พอมาคิดดูๆ ดี ก็ฟังดูค่อนข้างสมเหตุสมผล
บริษัทเกมไหนจะโง่ขนาดตั้งใจจ้างให้นักสร้างคอนเทนต์ม าโฆษณาเกมตัวเอง
ทุเรศๆ ทำแบบนี้จะไม่กระทบกับภาพลักษณ์ของบริษัทและสินค้าหรอกเหรอ
ถึงอาจารย์เฉียวจะไม่ได้เป็นคนมีจริยธรรมขนาดนั้น แต่ก็พูดได้ว่าเขาเป็นคน
ที่ทุ่มเทใจทั้งใจให้กับคลิปที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้อย่างเต็มที่ ทำไมจู่ๆ ถึงใช้วิธี
โง่ๆ แบบนี้ในการทำคลิปสปอนเซอร์กันล่ะ
ไม่ใช่ว่ามันผิดจากบุคลิกของเขา แต่ผิดจากเชาว์ปัญญาของเขาต่างหาก
นอกจากนี้ยังไม่ได้มีแค่อาจารย์เฉียว แต่มีนักสร้างคอนเทนต์อีกหลายคนที่ใช้
บทแบบเดียวกันในการทำคลิป จะอธิบายเรื่องนี้ยังไงดี
เป็นเพราะนักสร้างคอนเทนต์พวกนี้ลอกบทอาจารย์เฉียวไปดื้อๆ เหรอ
ไม่มีทาง!
มีเหตุผลเดียวที่อธิบายเรื่องนี้ได้ คือบริษัทเถิงต๋าส่งบทเดียวกันนี้ให้ทุกคน!
ทำไมลูกค้าเจ้าใหญ่ถึงอยากให้นักสร้างคอนเทนต์ที่จ้างมาใช้บทเดียวกันล่ะ
แถมบทยังเขียนออกมาห่วยแตกอีก
ให้นักสร้างคอนเทนต์ทำคลิปกันเองไม่ดีกว่าเหรอ
ไม่ก็เอาเงินก้อนนี้ไปทุ่มโฆษณาให้มันดีๆ ไปเลย
แต่บริษัทเถิงต๋ากลับเลือกใช้วิธีโง่ๆ นี้ในการโฆษณา สั่งให้นักสร้างคอนเทนต์
ทุกคนใช้บทเดียวกันเพื่อสร้างกระแสแบบตรงกันข้ามกับที่ควรจะเป็น!
ทำแบบนี้ดูไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด
คิดดูแล้ว คำอธิบายของอาจารย์เฉียวดูจะฟังเข้าเค้ามากที่สุด
นี่คือการจัดฉากครั้งใหญ่!
ผลลัพธ์ที่ตามมาคือเครื่องพิสูจน์
‘ภาษาเฉียว’ ดังเป็นพลุแตก แต่เกมนักออกแบบเกมเงียบเป็นป่าช้า
ที่นี้ก็พิสูจน์ได้แล้วไม่ใช่เหรอ ในยุคดิจิทัล พวกสื่อบันเทิงที่แฝงความหมาย
ลึกซึ้งถูกฝังลืม ในขณะที่ข้อมูลขยะกระจายว่อนทั่วโลกอินเทอร์เน็ต!
ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกว่าสมเหตุสมผลมาก
พวกเขาดูคลิปต่อ
เนื้อหาในคลิปเปลี่ยนไปพูดเรื่องเกมนักออกแบบเกม
เรื่องนี้ถือเป็นจุดแข็งของอาจารย์เฉียว
คลิปซีรีส์นี้ใช้ชื่อว่า ‘ผลงานเทพสร้าง’ มีสไตล์การรีวิวที่แตกต่างจากซีรีส์สับ
เละเกมกากและแนะนำเกมใหม่ประจำเดือน
อาจารย์เฉียววิเคราะห์ให้ฟังว่าทำไมเกมนักออกแบบเกมถึงควรได้รับยกย่อง
ให้เป็นผลงานขึ้นหิ้ง
“ผู้เล่นหลายคนคิดว่าองค์ประกอบหลักในการตัดสินว่าเกมไหนควรได้รับยก
ย่องให้เป็นผลงานขึ้นหิ้งคือ งานภาพ ระบบการเล่น เนื้อเรื่อง การควบคุม ความ
ยากง่ายในการเล่น และองค์ประกอบอื่นๆ
“แต่องค์ประกอบเหล่านี้ก็ทำได้แค่แยกแยะ ‘ผลงานดี’ ออกจาก ‘ผลงาน
ทั่วไป’ ไม่สามารถวัดได้ว่าเป็น ‘ผลงานขึ้นหิ้ง’ หรือเปล่า
“‘ผลงานขึ ้ น หิ ้ ง ’ จะต้ อ งสร้ า งอิ ม แพคให้ ก ั บ อุ ต สาหกรรมเกม ต้ อ งแฝง
ความหมายลึกซึ้ง สามารถทนรับการวิจารณ์ซ้ำๆ ได้ และต้องสะท้อนถึงจิต
วิญญาณของเรา!
“ผลงานที่ทำแบบนั้นไม่ได้ไม่นับว่าเป็นผลงานยอดเยี่ยม เรียกว่าเป็นผลงาน
ขึ้นหิ้งไม่ได้
“เกมนักออกแบบเกมคือผลงานขึ้นหิ้งที่ตรงตามมาตรฐานทุกอย่าง!”
บทที่ 119 สวรรค์กำหนดไว้แล้วว่าคนพูดจะต้องโดนเข้าใจผิด

อาจารย์เฉียววิเคราะห์แก่นสำคัญเบื้องลึกของเกมนักออกแบบเกม
เสียงพากย์คือตัวแทนของความโลภและความคิดเห็นของคนอื่นตามเส้นทาง
ที่กำลังมุ่งเดินไป
ตัวเกมทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนได้ ‘เข้าไปเป็นส่วนหนึ่ งในเกม’ ผ่านมุมมอง
บุคคลที่หนึ่งและฉากประกอบ ขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้เล่นรู้สึก ‘ห่างจากเกม’ ด้วย
เสียงพากย์ อารมณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นสิ่งที่ผู้เล่นควรพิจารณาให้ดี
ตัวเลือกที่ผู้เล่นพบแต่ละครั้งถอดแบบมาจากความคิดของนักออกแบบเกม
พอได้เล่นดูจะรู้ว่าเป็นนักออกแบบเกมนั้นลำบากแค่ไหน!
นอกจากนั้นแล้ว อาจารย์เฉียวยังยกระดับแก่นสำคัญของเกมขึ้นไปอีกขั้น
“ตอนที่ผมเล่นเกมนี้ ผมรู้สึกว่าเกมสะท้อนอะไรบางอย่างลึกเข้าไปในตัวผม
“ทำไมถึงเป็นแบบนั้นทั้งๆ ที่ผมก็ไม่ได้มีประสบการณ์ด้านการทำเกม
“พอคิดดูดีๆ ผมก็ตระหนักว่าการทำคลิปกับการสร้างเกมมีความคล้ายกัน
“เอาจริงๆ นักสร้างคอนเทนต์สื่อบันเทิงล้วนพบเจอสิ่งเดียวกัน
“ความโดดเดี่ยว
“เหมือนคำพูดหนึ่งที่ว่า สวรรค์กำหนดไว้แล้วว่าคนพูดจะต้องโดนเข้าใจผิด
“เนื้อหาเกมนักออกแบบเกมยกเรื่องนี้ขึ้นมานำเสนอ
“การจัดฉากนอกเกมเองก็เป็นการชี้ประเด็นเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน
“บางทีนี่อาจจะเป็นเป้าหมายในการสร้างเกมของบริษัทเถิงต๋า พวกเขา
อาจจะคาดการณ์เอาไว้แล้วว่ายอดขายจะต้องต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ไม่มีทางหาเงินคืนทุน
ได้
“แต่พวกเขาก็หวังว่าเป้าหมายหนึ่งจะสำเร็จ นั่นก็คือการตามหาความสงบใน
โลกอันแสนวุ่นวายใบนี้ พวกเขาอยากให้เราค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำ
“เรามาจากไหนแล้วจะไปไหนต่อ
“ในสังคมอันวุ่นวายนี้ เราควรจะใช้ชีวิตอย่างไรดี
“จริงๆ แล้วเรากำลังตามหาอะไรกันอยู่


หลังจากดูคลิปจบ เหล่าคนดูที่นั่งอยู่หน้าจอก็พากันตรึกตรองอย่างเงียบเชียบ
เรื่อง…เป็นแบบนี้นี่เอง
คำถามท้ายคลิปเป็นเหมือนค้อนขนาดใหญ่ทุบเข้าตรงกลางใจ
ตอนดูคลิปที่ปล่อยมาก่อนหน้านี้ของอาจารย์เฉียว หลายคนคิดว่าอาจารย์
เฉียวเป็นลิง ส่วนพวกเขาเป็นคนเฝ้าดูพฤติกรรม
แต่ตอนนี้ก็ได้รู้แล้วว่า จริงๆ แล้วกลับกัน ทุกอย่างกลับตาลปัตรหมด!
คนดูคือฝูงลิง ส่วนอาจารย์เฉียวคือคนปั่นหัวพวกเขา!
คลิปสปอนเซอร์โง่ๆ ปั่นหัวคนดูได้ แถมยังสร้างมีมใหม่ ‘ภาษาเฉียว’ ขึ้นอีก!
คนดูและชาวเน็ตได้มีส่วนร่วมในการจัดฉากครั้งนี้โดยไม่รู้ตัว ผลจากการ
ทดลองครั้งนี้ออกมาน่าผิดหวัง
ชาวเน็ตพากันตามกระแสอย่างไม่ลืมหูลืมตา!
ไม่นานยอดไลค์ของคลิปนี้ก็พุ่งพรวด ยอดคอมเมนต์เองก็เพิ่มขึ้นพรวดพราด!
เดิมที ‘ภาษาเฉียว’ ก็เป็นกระแสที่กำลังฮิตกันอยู่ตอนนี้ ชาวเน็ตหลายคน
อยากฝึกฝน ‘ภาษาเฉียว’ และตามเรื่องเด็ดจากคลิปใหม่ของอาจารย์เฉียว
คลิปนี้เลยมีคนเข้ามาดูกันมากมาย!
แต่พอคนดูได้รู้เรื่องราวที่แท้จริงเบื้องหลังคลิปที่เป็นกระแส ความคิดของ
พวกเขาก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ
เห็นได้จากคอมเมนต์ใต้คลิป
“อะไรเนี่ย จริงๆ แล้วเป็นการจัดฉากครั้งใหญ่เหรอ”
“บริษัทเกมสมัยนี้…หัวล้ำจริงๆ”
“ขอโทษทีนะลูกรัก พ่อเข้าใจลูกผิดไป เดี๋ ยวพ่อกดไลก์แล้วแชร์คลิปนี้ต่อให้
นะ!”
“อาจารย์เฉียวคือศิลปินร่วมสมัย!”
“สวรรค์กำหนดไว้แล้วว่าคนพูดจะต้องโดนเข้าใจผิด น้ำตาไหลเลย เป็นไงล่ะ
พวกนาย”
“ไม่คิดมาก่อนเลยว่าเกมนักออกแบบเกมจะแฝงข้อความไว้ลึกซึ้งขนาดนี้
เดี๋ยวต้องไปลองเล่นดูแล้ว!”
แน่นอนว่าก็มีคนบางส่วนที่คิดว่าอาจารย์เฉียวพยายามกู้ชื่อเสียงของตัวเอง
คืนมา แต่คอมเมนต์ดังกล่าวก็ถูกคอมเมนต์อื่นๆ ดันหายไปอย่างรวดเร็ว
นั่นก็เพราะคำอธิบายของอาจารย์เฉียวฟังดูสมเหตุสมผลและตรงกับความคิด
ของชาวเน็ตมากกว่า!
หลังปล่อยคลิป ผู้เล่นหลายคนที่เล่นเกมไปได้ครึ่งทางก็เลิก ตัดสินใจลอง
อดทนเล่นใหม่ดูอีกครั้ง
ส่วนคนที่ยังไม่เคยเล่นเกมนักออกแบบเกมเพราะตอนแรกไม่ชอบก็พากันซื้อ
มาลองเล่น เพราะอยากจะรู้ว่าเกมที่อาจารย์เฉียวให้ชื่อว่าเป็น ‘ผลงานขึ้นหิ้ง’
นั้นเป็นยังไง


ภัตตาคารห่านฟ้า…
บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีจัดกินเลี้ยงฉลอง!
การจัดงานกินเลี้ยงฉลองหลังพัฒนาและวางขายเกมเสร็จกลายเป็นธรรม
เนียมของบริษัทตั้งแต่ตอนทำเกมฐานทัพกลางทะเล
ส่วนเหตุผลที่เลือกร้านเดิมนั้น…
ก็เพราะว่าไม่มีตัวเลือกอื่น ในเมืองจิงโจว ร้านนี้เป็นร้านที่แพงที่สุด ใจจริงเผย
เชียนอยากจะบินไปกินอาหารหรูๆ กว่านี้ที่ปักกิ่ง แต่ระบบไม่อนุญาตให้ทำแบบ
นั้น
เขาจึงจำใจเลือกร้านนี้
เผยเชียนถือแก้วไวน์แดงเดินผ่านโต๊ะ ทุกคนดูไม่ค่อยร่าเริงกันเท่าไหร่
ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะยอดขายเกมนักออกแบบเกมแทบไม่กระดิก จะให้มี
อารมณ์ฉลองได้ยังไง
ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน
ครั้งก่อนพวกเขาจัดงานเลี้ยงกันทันทีหลังเปิดตัวเกมฐานทัพกลางทะเล ตอน
นั้นพวกเขาไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรกันมากจึงกินดื่มกันได้อย่างสำราญใจ
แต่ครั้งนี้ เกมนักออกแบบเกมวางขายไปได้แล้วสามวัน ทั้งยอดขายและ
กระแสของเกมต่างต่ำกว่าที่คิดไว้มาก
ดังนั้นคนอื่นๆ นอกจากเผยเชียนจึงไม่สามารถกินอาหารให้อร่อยได้
“วันนี้เรามาฉลองกันนะ ร่าเริงกันหน่อยสิ!
“ทำไมทำตัวห่อเหี่ยวกันแบบนี้ อาหารไม่อร่อยเหรอ
“ถ้าห่อเหี่ยวกันแบบนี้ก็สั่งอาหารแพงๆ มากินละกัน ขอโทษนะครับ ขอปลา
ทูน่าครีบน้ำเงินที่ละสามจาน!
“พนักงานที่รักทุกคน ทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีหน่อย พวกคุณเคยมากัน
แล้ว รู้ดีว่าอาหารราคาแพงแค่ไหน อย่าให้ผมเห็นใครนั่งกินแต่ไอศกรีมนะ!
“แล้วก็ นี่หม่าอี้ฉวิน สมาชิกใหม่ของเรา เป็นคนมีความสามารถและรอบรู้
มากๆ ฝากดูแลเขาให้ดีด้วย ได้ยินที่พูดไหมครับ!”
เผยเชี ย นร่ า เริ ง มากเหมื อ นเพิ ่ ง ได้ ย ิ น ข่ า วดี ม า เขาง่ ว นอยู ่ ก ั บ การทำให้
พนักงานสนุกสนาน
มีคนไม่ดื่มเหรอ
ไม่เป็นไร เผยเชียนจะยกแก้วขึ้นตอนไหนก็ได้ พนักงานไม่กล้าปฏิเสธการยก
แก้วชวนดื่มของบอสหรอก
แน่นอกว่าการยกแก้วชวนดื่มของเผยเชียนนั้นแตกต่างจากวัฒนธรรมการดื่ม
ทั่วไป
ตามวัฒนธรรมการดื่มปกติ การยกแก้วชวนดื่ม โดยเฉพาะตอนที่เจ้านาย
บังคับให้ลูกน้องดื่มนั้นก็เพื่อวางอำนาจเหนืออีกฝ่าย เป้าหมายคือทำให้พนักงาน
ดื่มหนักเกินไปจนรู้สกึ ไม่ไหวเพื่อสร้างความสัมพันธ์แบบกดขี่
แต่เผยเชียนไม่ได้ตั้งใจแบบนั้น
พวกเขาดื่มไวน์แดงกันซึ่งไม่น่าจะทำให้เมาง่ายขนาดนั้น แถมเผยเชียนก็ไม่ได้
กำหนดไว้ว่าแต่ละคนจะต้องดื่มกันเยอะแค่ไหน แค่พนักงานยกขึ้นจิบก็ถือว่าโอเค
แล้ว
เป้าหมายหลักของเขาคือกระตุ้นให้ทุกคนกินอาหารกันเยอะๆ
บรรยากาศตอนนี้หดหู่ไปหน่อย การจิบไวน์น่าจะช่วยทำให้ครึกครื้นและ
อยากอาหารมากขึ้น
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด หลังจากยกแก้วชวนดื่มไปสองสามรอบ บรรยากาศใน
งานก็ดีขึ้นทันตาเห็น!
เผยเชียนแสนสุขใจ เขาเองก็อยากกินอาหารอร่อยๆ ให้สมใจอยาก
เขาไม่ได้มีความสุขแบบนี้มานานแล้ว!
จนถึงตอนนี้ ทุกอย่างดูจะเป็นไปอย่างราบรื่น
ร้านอินเทอร์เน็ตขาดทุนเดือนละสามแสน ไม่น่าจะมีแววทำกำไรได้
ซีรีส์คลิปสั้นถึงจะดัง แต่ก็ปฏิเสธสปอนเซอร์รายเล็กหมด ยังไม่มีรายใหญ่มา
จ้างทำคลิปปรับเนื้อหาพิเศษ รายได้จึงยังเป็นศูนย์อยู่
กระแสเกมนักออกแบบเกมก็ดี ยอดขายก็เหมือนกัน ดูจากสถานการณ์ใน
ปัจจุบัน ไม่มีทางเลยที่เกมจะทำเงินคืนทุนได้!
ยิ่งคิดเผยเชียนก็ยิ่งรู้สึกว่าอาหารอร่อยขึ้น
สุขใจจริงๆ!
บทที่ 120 เว็บอ้ายลี่เต่านี่มันอะไร

ลู่หมิงเหลียงรู้สึกงงเล็กน้อยที่เห็นเผยเชียนกินดื่มอย่างสำราญใจ
“แปลกจัง วันนี้บอสเผยดูอารมณ์ดี ไม่เห็นเหมือนตอนกินเลี้ยงรอบที่แล้ว
เลย”
แปลกจริงๆ
ถ้าเป็นตามที่เปาซวี่บอก เผยเชียนน่าจะเป็นคนที่โดดเดี่ยวมาก
ไม่น่าจะทำตัวแบบนี้ได้
เปาซวี่ส่ายหัว “เข้าใจผิดแล้ว”
“หา พี่เปาหมายความว่าไงเหรอครับ” ลู่หมิงเหลียงรู้สึกงงมาก
เปาซวี่ถอนหายใจอ่อน “ตอนนี้คนที่ห้ามทำตัวหดหู่เลยคือบอสเผย
“คิดดูสิ กระแสกับยอดขายเกมนักออกแบบเกมออกมาไม่ได้ตามที่คาดไว้ ทุก
คนก็หดหู่กันหมด
“บอสเผยคือกำลังใจของเรา ถ้าบอสทำตัวหดหู่ไปด้วย งานเลี้ย งวันนี้จะ
เป็นไงล่ะ”
ลู่หมิงเหลียงถึงบางอ้อ
“อย่างนี้นี่เอง!
“บอสเผยพยายามทำให้ทุกคนหายหดหู่ด้วยการทำตัวร่าเริง!”
“ใช่แล้ว” เปาซวี่พูดต่อ “ผู้นำที่แท้จริงจะมีอิทธิพลต่อคนอื่น บอสต้องเป็น
คนมีพลังใจเยอะมากแน่ๆ!
“เวลาเจออุปสรรค ก็ต้องมองบวกที่สุด
“พอทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ก็ต้องคอยระแวดระวังที่สุด
“นอกจากจะต้องเป็นคนแรกที่ต้องคอยกังวลกับปัญหาแล้ว ยังเป็นคนสุดท้าย
ที่ได้ดื่มดำกับความสุข แต่บอสก็ต้องคอยมองบวกและให้กำลังใจคนอื่นอยู่เสมอ
เวลาเจอเรื่องโหดร้ายอะไร
“บอสเผยเป็นคนแบบนั้นแหละ บอสเป็นคนที่ยึดถือความเป็น จริง คอย
วางแผนอย่างละเอียดและทำให้มั่นใจว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผน แต่ก็เป็นคน
ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ คอยทำบางสิ่งบางอย่างโดยไม่สนว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็น
แบบไหน
“ดังนั้นเราจะทำให้บอสผิดหวังไม่ได้ เราต้องกลับมามองโลกในแง่บวกให้เร็ว
ที่สุด ผมเชื่อว่าบริษัทเถิงต๋าจะฟันฝ่ามรสุมนี้ไปได้ เดี๋ยวทุกอย่างก็พลิกกลับมาดี
เอง!
“อีกอย่างผมคิดว่าถ้าบอสเผยจะต้องมีแผนสำรอง
“บอสเผยยังไม่ยอมแพ้หรอกครับ ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าเราล้มเหลว!”
ประกายในตาของลู่หมิงเหลียงเริ่มปรากฎขึ้น “จริงด้วยครับ บอสเผยยังไม่
ยอมแพ้ แล้วเราจะไปบอกว่าเกมมันเจ๊งได้ยังไง
“เราต้องหาทางพลิกสถานการณ์ได้แน่ เราต้องเชื่อมั่นในตัวบอสเผย!”

อีกฝั่งหนึ่ง หวงซื่อปั๋ว จูเสี่ยวเช่อ และพนักงานคนอื่นๆ จากสตูดิโอเฟยหวง
กำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารกันอย่างเบิกบานใจ
หวงซื่อปั๋วดูจะกำลังนึกลังเลใจ
“บอกบอสเผยไปตอนนี้จะเหมาะมั้ย”
จูเสี่ยวเช่อคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับมาอย่างจริงจัง “ผมว่าตอนนี้เหมาะ
สุดๆ แล้ว ยอดขายเกมนักออกแบบเกมแทบไม่กระดิก ถึงบอสเผยจะไม่ได้แสดง
ท่าทีอะไร แต่ผมก็คิดว่าในใจต้องรู้สึกผิดหวังอยู่ไม่น้อยแน่
“ข่าวดีของเราจะช่วยให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกดีขึ้น บอสเผยจะได้สบายใจได้ ถึง
เกมจะพาเราขาดทุน แต่ก็ยังมีหวังที่เราจะฟื้นตัวเองกลับคืนมาได้”
“ยังเร็วไปที่จะบอกว่าเราจะฟื้นตัวเองคืนได้ ” หวงซื่อปั๋วส่ายหน้า “อีกฝ่าย
เป็นเว็บเพิ่งเปิดใหม่ เรื่องนี้เป็นแค่ข่าวดีธรรมดาๆ อย่าพูดเว่อร์ไปจะดีกว่า”
จูเสี่ยวเช่อคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกเห็นด้วยกับความเห็นของหวงซื่อปั๋ว “งั้น
เราแจ้งไปตามจริงก็ได้ครับ”
ทั้งสองถือแก้วไวน์เดินตรงไปหาเผยเชียน
“บอสเผยครับ ขอพวกผมชนแก้วด้วยครับ”
เผยเชียนกำลังอารมณ์ดี เขายกแก้วไวน์ชนกับทั้งคู่ ก่อนจะยกดื่มจนหมดแก้ว
หลังจากดื่ม ไวน์หมดแก้ว หวงซื่อปั๋วนึกลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น
“บอสเผยครับ ผมมีข่าวดีจะมาบอก”
หืม
ข่าวดีเหรอ
เผยเชียนตื่นตัวขึ้นทันที
อย่ามาทำให้เสียอารมณ์ในโอกาสดีๆ แบบนี้สิ!
เผยเชียนพยายามใจเย็น “ว่ามาเลยครับ”
“คืองี้ครับบอสเผย มีเว็บเพิ่งเปิดใหม่ติดต่อมาขอซื้อซีรีส์เราไปฉาย ถ้าเราเซ็น
สัญญาด้วย ซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยก็จะได้ฉายที่เว็บนั้นเว็บเดียว
“ถึงจะเป็นเว็บเพิ่งเปิดใหม่ แต่ตอนนี้กระแสก็ค่อนข้างดีเลย แล้วก็กำลังดัน
แผนให้ผลประโยชน์กับคนทำคลิปตามยอดวิวด้วยครับ
“ถ้าเราเซ็นสัญญามอบลิขสิทธิ์ จากการที่เราเป็นนักสร้างคอนเทนต์วิดีโอ
คุณภาพดี เราจะได้เงินค่อนข้างเยอะตามแผนกระตุ้นที่ว่า
“พูดง่ายๆ คือ เราจะดึงคนดูเข้าเว็บด้วยซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผย
จากนั้นทางเว็บจะจ่ายเงินให้ตามยอดวิวครับ!
“ตามที่บอสเคยบอก เราต้อ งปกป้อ งบริษ ัท รักษาชื่อ เสียงของเรา และ
ประเมินคุณค่าลิขสิทธิ์งานเราให้ดี เราจะยอมเสียสิ่งเหล่านี้เพื่อแลกกับเงินไม่ได้”
หวงซื่อปั๋วซ่อนความตื่นเต้นที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงไว้ไม่ได้
พวกเขาทำงานด้วยใจรักเพียงอย่างเดียวมานานแล้ว ในที่สุดก็พบโอกาสทำ
กำไร จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไงไหว
ถึงเงินที่ได้จะไม่ได้มากมายอะไรนัก แต่เงินก้อนนี้จะไม่ทำลายชื่อเสียงของซี
รีส์แน่ เพราะไม่ใช่การหาเงินผ่านสปอนเซอร์โง่ๆ ด้วยการยัดสินค้าเข้ามาโฆษณา
ผลประโยชน์ ท ี ่ ไ ด้ ก ็ เ หมื อ นกั บ รั บ ทำคลิ ป โฆษณาแบบปรั บ แต่ ง เนื ้ อ หาจาก
สปอนเซอร์รายใหญ่ตามที่บอสเผยอยากได้ แถมยังดีกว่าเห็นๆ!
เผยเชียนเงียบไปครู่หนึ่ง เขารู้สึกว่ามีเรื่องไม่ดีกำลังจะเกิดขึ้น
“เว็บเปิดใหม่เหรอ เว็บที่ว่า…ชื่อขึ้นต้นด้วย A ไม่ก็ B รึเปล่า”
ถ้าเป็นเว็บขึ้นต้นด้วย B[1] ต้องแย่แน่ๆ
หวงซื่อปั๋วอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับ “ไม่ใช่ทั้งคู่ครับ เป็นเว็บเล็กๆ ที่ชื่อ
อ้ายลี่เต่า บางคนเรียกกันว่าเว็บ I”
เผยเชียนงงหนัก
เว็บ I อ้ายลี่เต่าเหรอ
ไม่เห็นเคยได้ยิน
ขอแค่ไม่ใช่เว็บ A[2] กับเว็บ B ก็พอแล้ว
เผยเชียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขารู้ว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เว็บถู่โต้ว หรือเว็บฟานฉูในจักรวาลนี้ก็จะค่อยๆ
ตกกระแสไป
เว็บ B เรียกคนดูส่วนใหญ่จากเว็บเดิมได้ด้วยฟังก์ชันคอมเมนต์เลื่อนผ่าน
หน้าจอ ไม่มีโฆษณา และคอนเทนต์ออริจินัลคุณภาพดีเยี่ยม อีกทั้งยังมีเว็บลง
วิดีโออีกหลายเว็บที่ดึงฐานคนดูจากเว็บไซต์เก่าๆ ไปได้
แต่เว็บอ้ายลี่เต่านี่มันอะไร ไม่เห็นจะเคยได้ยิน
แค่ชื่อก็ฟังดูเหมือนต่อไปเว็บต้องเจ๊งแน่
น่าจะเป็นแค่เว็บที่ไม่ได้ดังอะไร ไม่นานก็หายไปจากโลกนี้
ถ้าเว็บมันจะเจ๊งละก็…
ต้องรีบเซ็นสัญญา ถ้าช้าอาจจะไม่มีโอกาสได้เซ็นอีก!
อีกทั้งตามข้อตกลงก็ไม่ได้บอกว่าจะจ่ายเงินให้ตรงๆ แต่เป็นการจ่ายเงินตาม
ยอดวิว ซึ่งก็ทำให้วางใจได้มากขึ้นไปอีก
เว็บเล็กๆ นี่ไม่น่าจะมีคนดูเยอะเท่าไหร่ ซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผย
จะต้องเสียยอดคนดูไปไม่น้อยถ้าย้ายไปลงเว็บใหม่ ทีนี้จะได้เงินจากยอดวิว
เท่าไหร่กันเชียว
นอกจากจะทำเงินไม่ได้ ความนิยมก็ตกอีก สัญญายังห้ามไม่ให้ไปลงเว็บไซต์
อื่นอีกด้วย นี่มันยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวชัดๆ!
เผยเชียนพยักหน้าทันที “เยี่ยมมาก!”
ถึงจะเป็นแค่คำชมง่ายๆ แต่หวงซื่อปั๋วก็ดีใจมาก
เพราะบอสเผยไม่ค่อยชมคนบ่อยนัก!
การได้รับคำชมจากบอสเผยทำให้เขาสุขใจยิ่งกว่าได้เงินสามหมื่นหยวนอีก
หวงซื่อปั๋วพยักหน้ารัว “วางใจได้ครับบอสเผย พวกเราจะตั้งใจทำงานให้หนัก
ขึ้น!”
เผยเชียนกินอาหารต่ออย่างเบิกบานใจ
วันนี้ได้ฟังข่าวดีตั้งสองข่าว!
ระหว่างที่กำลังเปรมปรีดิ์อยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงเฮดังขึ้นมาจากข้างตัว!
“สุดยอด!”
“เรื่องจริงเหรอ เรานี่มันไร้เทียมทานจริงๆ!”
“ฮ่าๆๆ แพลตฟอร์มเกมทางการขึ้นแนะนำเกมเรา แถมยังชมด้วย ได้โฆษณา
หน้าแรกแบบนี้ เกมเราต้องดังแน่ๆ!”
เผยเชียนเกือบทำปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่เพิ่งใช้ตะเกียบคีบขึ้นมาตกพื้น
เกิดอะไรขึ้น
เผยเชียนระแวงขึ้นมาทันใด!
ถึงเขาจะพยายามเปลี่ยนบรรยากาศงานให้ครื้นเครงขึ้น แต่หลายคนก็ยังนั่ง
อมทุกข์กันอยู่เลย
ดังนั้นเสียงเฮที่ได้ยินอยู่ตอนนี้จึงฟังดูแปลกๆ!
เขาได้ยินบทสนทนาแค่คร่าวๆ แต่ก็รู้สึกได้ถึงสัญญาอันตราย!
เผยเชียนกังวลขึ้นมาเล็กน้อย!
เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นเหรอ
……………………..
[1] หมายถึงเว็บไซต์ Bililbili ซึ่งเป็นเว็บไซต์รวมคลิปวีดีโอที่ได้รับความนิยม
เว็บหนึ่งของจีน
[2] หมายถึงเว็บไซต์ AcFun เว็บไซต์รวมคลิปวีดีโอที่ได้รับความนิยมพอๆ
กับเว็บไซต์ Bililbili
บทที่ 121 เป็นแผนของบอสใช่ไหมครับ

ลู่หมิงเหลียงวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา
“บอสเผย! มีข่าวดีครับ!”
“ผมเพิ่งรู้ว่าตอนนี้ยอดขายเกมของเรากำลังพุ่งกระฉูด กระแสก็เหมือนจะ
พลิกกลับมาดี!
“ผมไปค้นเพิ่มก็พบว่ามีคนเข้าใจความหมายที่แท้จริงของเกมนี้ที่บอสต้อง
การจะสื่อ รวมถึงกลยุทธ์การจัดฉากที่บอสใช้ในการโฆษณา!
“บอสเผยครับ กลยุทธ์การตลาดของบอสนี่สุดยอดจริงๆ ตอนแรกพวกเราไม่
รู้เลย แต่ทั้งหมดคือแผนของบอสใช่ไหมครับ!
“ในที่สุดชาวเกมเมอร์ก็เข้าใจเกมของเรา!
“ความพยายามของบอสไม่ได้สูญเปล่าแล้วครับ!!”
เผยเชียนไม่ได้พูดอะไรออกไป สีหน้าของเขายังดูงุนงง
นี่มันบ้าอะไรกัน
จากสุขกลายเป็นทุกข์แล้วเหรอ
ยอดขายพุ่ง กระแสกำลังมา
แม่งเอ๊ย เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย!
แล้วไอ้ ‘กลยุทธ์การจัดฉาก’ นี่มันอะไร!
โลกนี้มันบ้าอะไรเนี่ย!
เมื่อเห็นคนรอบข้างจ้องมาตาเป็นมัน เผยเชียนก็ได้แต่พยายามตีขรึมพร้อม
กับทำหน้าประมาณว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา “ใจเย็นๆ ค่อยๆ
พูด”
ลู่หมิงเหลียงยื่นโทรศัพท์ให้เผยเชียนอย่างตื่นเต้น “บอสเผย ดูนี่ครับ!”
เผยเชียนรับโทรศัพท์ของลู่หมิงเหลียงมาด้วยความสงสัย
หน้าจอเปิดคลิปจากเว็บฟานฉูไว้ ดูแล้วน่าจะดังไม่เบา คลิปนี้ชื่อว่า ผลงาน
เทพสร้างตอนที่หนึ่ง เกมนักออกแบบเกมกับการจัดฉากครั้งยิ่งใหญ่!
เขามองหาชื่อเจ้าของคลิปแล้วพบว่าคืออาจารย์เฉียว!
เผยเชียนหยิบหูฟังมาต่อเพื่อดูคลิปท่ามกลางเสียงโห่เชียร์และเสียงปรบมือ
จากเหล่าพนักงาน
อึ้ง
งง
ช็อก
เขาเริ่มคลางแคลงใจความหมายของชีวิตขึ้นมา…
เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นเนี่ย!
ตอนที่ได้ยินคำว่า ‘การจัดฉาก’ เผยเชียนก็แทบจะลมจับ พอฟังบทวิเคราะห์
เกมนักออกแบบเกมต่อ เขาก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก
เลื่อนลงไปอ่านช่องคอมเมนต์ก็ยิ่งรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก!
อาจารย์เฉียวผู้ที่ก่อนหน้านี้โดนสาปส่ง ตอนนี้กลับตาลปัตรกลายมาเป็น
นักแสดงจัดฉาก ชีวิตของเขาพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ!
ผู้คนไม่ได้เรียกคลิปสปอนเซอร์ของเขาว่าคลิปสปอนเซอร์อีกต่อไป ตอนนี้มัน
ได้ชื่อใหม่ว่า ‘งานศิลป์จัดจ้าง’!
หลังจากคลิปนี้ดังขึ้นมา คลิปสปอนเซอร์ก่อนหน้านี้ รวมถึงคลิปของนักสร้าง
คอนเทนต์คนอื่นๆ ก็ฮิตขึ้นมาด้วย
มีคนออกมาทำคลิปล้อเลียนเยอะขึ้น เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ ‘ภาษาเฉียว’ กระแส
ตกเลย แต่กลับฮิตขึ้นมายิ่งกว่าเดิม กลายเป็นกระแสร้อนแรงไปแล้ว!
ที่น่าเศร้าที่สุดคือเผยเชียนไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้ยังไง
ถึงจะลุกขึ้นมาพูดว่าไอ้ ‘การจัดฉาก’ ที่พูดกันเป็นเรื่องไร้สาระ จริงๆ เขาแค่
จะปั่นประสาทผู้เล่น…
ก็คงไม่มีใครเชื่อ!
นอกจากจะไม่เชื่อกันแล้ว อาจจะพากันคิดว่าเป็นการแสดงอีกแบบ ชาวเน็ต
ที่กำลังสนุกกันอยู่อาจจะตีกระแสขึ้นให้ดังกว่าเดิมจนกลายเป็นคำค้นหายอด
นิยม…
กลายเป็นความยุ่งเหยิงที่ควบคุมไม่ได้อีก!
เผยเชียนดูคลิปจนจบ มือของเขาสั่นเทิ้ม
นี่มัน…
ซวยหนัก!
ฉิบหายแล้ว!
ลู่หมิงเหลียงยืนอยู่ข้างๆ พอเห็นท่าทางของบอสเผยแล้ว เขาก็รู้สึกตื้นตันใจ
บอสเผยแบกรับอะไรไว้เยอะจริงๆ
พอเห็นว่ามีคนแบบอาจารย์เฉียวบนอินเทอร์เน็ตที่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองทำ ก็เป็น
ธรรมดาที่บอสจะซึ้งจนมือสั่น
ต่อจากนี้น่า จะได้ร่วมงานกับอาจารย์เฉียวในโปรเจ็กต์ต่อไปอีก ถือว่าได้
ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย!
ลู่หมิงเหลียงพูดต่อ “บอสเผยครับ ยังมีข่าวดีอีกเรื่องครับ
“เมื่อกี้แพลตฟอร์มทางการ ERSO ส่งบทความที่เขียนชมเกมนักออกแบบ
เกมโดยเฉพาะมาให้ แถมยังเอาเกมนักออกแบบเกมขึ้นหน้าแรกบนแพลตฟอร์ม
อีก!
“ทางแพลตฟอร์มเห็นความตั้งใจจริงในเกมของเรา พวกเขาจึงกระตุ้นให้เกม
ที่ผลิตในประเทศมีความสร้างสรรค์มากขึ้นและเลิกเลียนแบบเกมต่างประเทศ
“เกมนักออกแบบเกมได้รับคำชมยกใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นด้านระบบการเล่นหรือ
เนื้อหาของเกม พวกเขาเสนอว่าจะให้พื้นที่ดีๆ สำหรับโฆษณาเกมที่จะปล่อย
ออกมาในอนาคตด้วยครับ!
“แล้วก็ช่องรีวิวเกมดังๆ กับเกมเมอร์ชั้นแนวหน้าก็รีวิวเกมเราไว้ดีมาก
“บอสซ่อนแก่นสำคัญไว้ในเกมเยอะมาก ถึงพวกเราจะไม่รู้ แต่คนเหล่านี้รู้
ครับ!
“บอสเผยครับ เกมของเรากระแสพลิกกลับมาแล้ว!”
เผยเชียนทรุดตัวพิงเก้าอี้ นั่งคอตก ถอนหายใจยาว
ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็สงบสติอารมณ์ได้ จากนั้นก็ฝืนยิ้มแล้วกัดฟันพูดออกไป
“ดีจัง”
ลู่หมิงเหลียงอดตื้นตันใจไม่ได้
บอสเผยเป็นคนที่เกิดมาเพื่อทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่จริงๆ เรื่องน่าดีใจขนาดนี้ บอสก
ลับไม่แสดงความรู้สึกอะไรเลย ใช้เวลาแค่ครู่เดียวก็กลับมาใจเย็นเหมือนเดิม!
แต่บอสก็อดถอนหายใจยาวไม่ได้ ที่ทำตัวร่าเริงเมื่อกี้ล้วนเป็นการแสดง จริงๆ
แล้วบอสกังวลมาโดยตลอด ในที่สุดบอสก็วางใจได้เสียที!
“บอสเผยมีอะไรอยากจะพูดกับทุกคนไหมครับ” ลู่หมิงเหลียงถาม
เผยเชียนโบกมือปัด “ไม่จำเป็น นี่ก็แค่ความสำเร็จชั่วคราว อย่างผยองไป”
ลู่หมิงเหลียงพยักหน้ารัว “โอเคครับบอสเผย เข้าใจแล้วครับ!”
เขาเดินกลับไปดื่มฉลองกับคนอื่นๆ
บรรยากาศงานเลี ้ ย งดู ค รึ ก ครื ้ น ขึ ้ น กว่ า เดิ ม ที ม ออกแบบกิ น ดื ่ ม ฉลอง
ความสำเร็จกันอย่างครื้นเครง!
แต่หัวใจของเผยเชียนกลับเย็นเฉียบ เขาไม่รู้สึกอยากอาหารอีก ในหัวเต็มไป
ด้วยเครื่องหมายคำถาม
เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น
ฉันจ้างอาจารย์เฉียวให้ทำคลิปเดียว ทำไมทำมาสองคลิป
ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งเหรอ
หรือคิดจะแก้แค้นกัน
ต้องเป็นอย่างนั้นแน่!
แต่ก็ไม่เห็นจะสมเหตุสมผลเลย ฉันทำให้แกกลายเป็นผู้สร้าง ‘ภาษาเฉียว’
แกควรจะเกลียดฉันสิ ทำไมถึงมาทำดีกับฉัน แกจะมาโฆษณาเกมนักออกแบบเกม
ให้ฉันทำไม!
นี่มันการแก้แค้นแบบไหนกันวะเนี่ย!
แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าหงุดหงิดที่สุด
คลิ ป นี ้ ก ็ เ หมื อ นกั บ ราดน้ ำ มั น ลงบนกองเพลิ ง เรี ย กคนให้ ม าเล่ น เกมนั ก
ออกแบบเกมกันยกใหญ่!
แพลตฟอร์มทางการกับนักรีวิวเกมคนอื่นๆ ก็พากันชมเกมนักออกแบบเกมไม่
หยุด!
แพลตฟอร์มทางการนี่ตัวดีเลย ทำมาเขียนบทความแนะนำเกมนักออกแบบ
เกมโดยเฉพาะ แถมยังเอาเกมไปขึ้นโฆษณาไว้หน้าแรกอีก นัยหนึ่งมันคื อการส่ง
สั ญ ญาณบอกให้ บ ริ ษ ั ท เกมในประเทศเอาเกมนี ้ เ ป็ น แบบอย่ า ง เพราะทาง
แพลตฟอร์มจะสนับสนุนเกมที่ผลิตในประเทศแบบนี้เท่านั้น!
เผยเชียนชาไปทั้งตัว
ดูจากสถานการณ์ในปัจจุบัน เขาต้องพยายามหนักอีกรอบแล้ว!


วันที่ 14 เมษายน…
“โอเค ปิดกองได้!”
“ฝีมือการแสดงของบอสเผยนี่ดีขึ้นทุกวันเลย
“วันนี้เราถ่ายซีซั่นสามของชีวิตประจำวันของบอสเผยเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณทุกคนที่พยายามกันอย่างหนักครับ!”
เหล่าพนักงานในบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีปรบมือกันอย่างอบอุ่น
ตั้งแต่เริ่มถ่ายทำซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผย เฟยหวงสตูดิโอได้ผลิตซีรีส์
ออกมาสามสิบตอน สามซีซั่นแล้ว
ตอนแรกของซีซั่นที่หนึ่งกับตอนสุดท้ายของซีซั่นสามถ่ายที่บริษัทเถิงต๋า พูด
ได้ว่าเป็นตอนจบที่สมบูรณ์แบบ
ซีรีส์สองซีซั่นแรกปล่อยลงเว็บดังอย่างเว็บฟานฉู ซึ่งพวกเขาก็ได้ผลตอบรับดี
มาก
จนถึงปัจจุบัน ตอนสุด ท้ายของซีซั่นที่สองมียอดคนดูกว่าสองล้านวิว ซีรีส์
ชี ว ิ ต ประจำวั น ของบอสเผยสามารถเรี ย กตั ว เองได้ ว ่ า เป็ น ซี ร ี ส ์ ท ี ่ ฮ ิ ต ที ่ ส ุ ด บน
อินเทอร์เน็ต!
จากสถิติอันน่าประทับใจนี้ หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อจึงตัดสินใจเซ็นสัญญายก
ลิขสิทธิ์ลงซีรีส์ให้เว็บอ้ายลี่เต่า หลังจากนี้ทุกตอนของซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอส
เผยจะเปิดให้รับชมที่เว็บอ้ายลี่เต่าที่เดียวเท่านั้น
เพื่อให้มั่นใจว่าจะเปลี่ยนเว็บลงคลิปได้ทันเวลา หวงซื่อปั๋วและจูเสี่ยวเช่อจึง
เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายอย่าง
พวกเขาเร่งถ่ายทำซีซั่นสามให้ครบทุกตอน จะได้มีของเตรียมไว้
จากนั้นพวกเขาก็ประสานกับทีมโฆษณาของเว็บอ้ายลี่เต่ากับแพลตฟอร์ม
โฆษณาอื่นๆ เพื่อสื่อสารกับคนดูบนอินเทอร์เน็ตให้ย้ายไปดูซีรีส์ชีวิตประจำวัน
ของบอสเผยบนเว็บอ้ายลี่เต่า จะได้เพิ่มยอดวิวและเรียกกระแสให้ตัวซีรีส์ไปด้วย
ทำแบบนี้ก็จะมีคนเข้าเว็บอ้ายลี่เต่ามากขึ้น ทำเงินให้สตู ดิโอเฟยหวงได้
เพิ่มขึ้น ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย
เนื่องจากพวกเขาให้สิทธิ์เผยแพร่ซีรีส์และยอมให้ลงคลิปที่เว็บอ้ายลี่เต๋าเพียง
ที่เดียว ค่าตอบแทนที่ทางเว็บไซต์เสนอให้จึงค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
เพราะอย่ า งไรการเพิ ่ ม จำนวนคนเข้ า ใช้ ง านเว็ บ ไซต์ ใ นช่ว งแรกก็ ต ้ อ งใช้
ค่าใช้จ่ายสูงมาก
เผยเชียนไม่ได้ถามอะไรเรื่องนี้มาก เพราะเขามัวแต่หดหู่กับเรื่องเกมนัก
ออกแบบเกมอยู่!
สองสัปดาห์หลังวางขาย เกมนักออกแบบเกมขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ตอนนี้
ยอดขายพุ่งทะลุหนึ่งแสนก๊อปปี้ไปแล้ว!
ถือว่าไม่แย่เลย เพราะยอดขายในสัปดาห์แรกต่ำมาก เพิ่งจะมาพุ่งขึ้ นใน
สัปดาห์ที่สอง
บทที่ 122 นี่มันเว็บ B แบบจำแลงนี่หว่า!

ถ้าขายเกมนักออกแบบเกมได้สามแสนก็อปปี้ก็แสดงว่าเกมเริ่มทำกำไรได้แล้ว
ถ้ายอดขายพุ่งไปแตะสี่ถึงห้าแสนก๊อปปี้ก็จะได้ทุนที่ลงไปกับร้านอินเทอร์เน็ต
โมหยูและซีรีส์ตอนสั้นคืน!
สำหรับเผยเชียน เรื่องนี้ก็เหมือนจู่ๆ มีสายฟ้าผ่าลงหัว ถือเป็นข่าวร้ายสุดๆ!
ดังนั้นช่วงนี้เผยเชียนจึงต้องคอยจับตาดูยอดขายเกมนักออกแบบเกม เขาได้
แค่ภาวนาว่าเกมจะไม่ฮิตไปกว่านี้
จากสถานการณ์ในตอนนี้ ไม่มีอะไรที่เผยเชียนสามารถทำได้
ตัวเกมวางจำหน่ายไปแล้ว การไปแก้ไขให้เกมกลายเป็นขยะถือว่าเป็นการทำ
ผิดกฎระบบ
ถ้าจะเล่นแง่หรือสร้างเรื่องอะไรขึ้นอีก… ชาวเกมคงจะคิดว่าเป็นการแสดง
รูปแบบหนึ่ง
ตอนนี้เผยเชียนคิดแค่อย่างเดียว เขากำลังตกที่นั่งลำบาก!
ต้องยอมรับว่าถึงคลิปของอาจารย์เฉียวจะพูดไปมั่วๆ แต่อีกฝ่ายก็พูดถูกอยู่
หนึ่งอย่าง นั่นคือ ‘สวรรค์กำหนดไว้แล้วว่าคนพูดจะต้องโดนเข้าใจผิด’
เพราะเขาเป็นคนเสนอความคิดเลยโดยเข้าใจผิดอย่างมหันต์!
ชะตากรรมแบบนี้ทำให้เขาอยากกระอักเลือดสดๆ ออกมา
ส่ ว นคนอื ่ น ๆ ก็ ก ำลั ง เฉลิ ม ฉลองกั บ การปิ ด กองซี ซ ั ่ น สามของซี ร ี ส์
ชีวิตประจำวันของบอสเผย
“พี่หวง เสร็จแล้วจะไปทำอะไรต่อ จะทำซีซั่นสี่ต่อเลยรึเปล่า ” ลู่หมิงเหลียง
ถามอย่างคาดหวัง
เขาติดใจการได้แสดงเป็นเด็กฝึกงานในซีรีส์ เลยอยากจะแสดงอีกในซีซั่น
ต่อไป
หวงซื่อปั๋วยิ้ม “ยังไม่แน่ใจเลย แต่เงินที่ได้จ้างการเซ็นสัญญากับเว็บอ้ายลี่เต่า
ก็น่าจะพอคืนทุนสร้างของซีซั่นที่ผ่านมา อาจจะทำกำไรได้เลยด้วยซ้ำ
“ตอนนี้เรามีซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นผลงานที่ฮิต
ติดลมบน ทีนี้ก็มีอยู่สองทาง จะทำซีรีส์เรื่องนี้ต่อ หรือจะเดินไปในทิศทางใหม่
“แน่นอนว่าก่อนจะกลับไปทำงาน เราวางแผนว่าจะหยุดงานสักสองสัปดาห์
ช่วงที่ผ่านมาเราทำงานกันหนักมาก ทุกคนน่าจะเหนื่อยกัน”
ยิ่งได้ฟัง ผยเชียนก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ
เกิดอะไรขึ้น
เงินที่ได้จากการเซ็นสัญญากับเว็บอ้ายลี่เต่าก็น่าจะพอคืนทุนสร้างของซีซั่นที่
ผ่านมา อาจจะทำกำไรได้เลยด้วยซ้ำอย่างนั้นเหรอ
ประโยคเหล่านี้เป็นเหมือนสายฟ้าผ่าใส่อีกเปรี้ยง ทำเอาเผยเชียนนิ่งงันไป
ซีซั่นที่ผ่านมาใช้เงินลงทุนไปตั้งหนึ่งล้านหยวน!
สปอนเซอร์ก็ไม่ได้รับ ทำไมถึงทำเงินคืนทุนได้ ถึงเว็บเล็กๆ นี่จะมีแผนทำเงิน
ให้ แต่ก็ไม่น่าจะได้เงินมามากขนาดนี้ในเวลาสั้นๆ!
“พวกคุณไม่ได้รับสปอนเซอร์รายย่อยใช่ไหม” เผยเชียนถามขึ้นด้วยความ
ระแวง
หวงซื่อปั๋วยิ้ม “ไม่ได้รับครับ
“อย่างที่พวกผมบอกไป เว็บอ้ายลี่เต๋ามีแผนให้ผลประโยชน์กับนักสร้า งคอน
เทนต์ ไม่เหมือนเว็บฟานฉู”
“แผนที่ว่านี่… หนึ่งหมื่นวิวได้สักสิบห้าถึงสามสิบหยวนใช่ไหม” เผยเชียนรู้สึก
งงเข้าไปใหญ่
แผนให้ผลประโยชน์นั้นวางเป้าหมายไว้ที่ภาพรวมทั้งอินเทอร์เน็ต หมายความ
ว่าไม่สามารถตั้งราคาสูงเกินไปได้ ปกติแล้วทุกๆ หนึ่งหมื่นวิวจะได้เงินประมาณ
สิบห้าถึงสามสิบหยวน คลิปที่มียอดคนดูหนึ่งล้านวิวจะได้เงินประมาณสองพัน
หยวน
แน่นอนว่ามีบางเว็บที่ทำแผนอิงตามยอดวิวรวมของคลิป เช่น คลิปที่มียอด
คนดูหนึ่งล้านวิว สองล้านวิว และสามล้านวิวจะได้เรตเงินต่างกันไปในทุกๆ ยอด
หนึ่งหมื่นวิว แต่เงินที่ได้ก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้น
ซี ร ี ส ์ ช ี ว ิ ต ประจำวั น ของบอสเผยมี ซ ี ซ ั ่ น ละสิ บ ตอน อยากมากก็ น ่ า จะได้
ประมาณสามหมื่นถึงห้าหมื่นหยวน ไม่น่าจะทำเงินได้เยอะไปกว่านี้
ไม่ว่าเผยเชียนจะคำนวณดูยังไงก็คิดไม่ออกเลยว่าต้องทำแบบไหนถึงจะหา
เงินคืนทุนหนึ่งล้านหยวนได้!
หวงซื่อปั๋วยิ้มบางพร้อมส่ายหน้า จากนั้นก็อธิบายทุกอย่างให้เผยเชียนฟัง
อย่างละเอียด
“คืองี้ครับบอสเผย
“แผนนี้วางเป้าที่นักสร้างคอนเทนต์ทุกคน
“แต่พอพิจารณาแล้วว่าซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยมีกระแสบนโลก
ออนไลน์มากแค่ไหน เราก็เจรจากับทางเว็บอ้ายลี่เต่าเพื่อเปลี่ยนเงื่อนไขสัญญาให้
ดีขึ้น เราไม่ได้ใช้เงื่อนไขเดียวกับนักสร้างคอนเทนต์ทั่วไป
“เพื่อโฆษณาเว็บ ทางอ้ายลี่เต่าเสนอเงินก้อนใหญ่ให้เราแลกกับการซื้ อสิทธิ์
เผยแพร่ซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยแต่เพียงผู้เดียว นอกจากนี้ยังเสนอแบ่ง
รายได้มาค่อนข้างดีด้วย
“บอร์ดบริหารของอ้ายลี่เต่าคิดว่าซีรีส์สั้นเรื่องนี้เป็นต้นแบบของคอนเทนต์คลิ
ปในอนาคต น่าจะต่อยอดได้ดี เลยเลื่อนขั้นให้เราเป็นพิเศษจากระดับ B ไปเป็น
ระดับ A
“ตามกฎของทางเว็บ ถ้ามีบัญชีผู้ใช้งานคลิกเข้ามาดูคลิปของซีรีส์ระดับ A
หนึ่งตอน และดูคลิปเกินหกนาทีถึงจะนับว่าเป็นหนึ่งยอดวิวจริงๆ โดยหนึ่งยอดวิว
จะได้ 0.4 หยวน!
“แต่ก็แน่นอนว่าคลิปของเราสั้นมาก ยาวประมาณตอนละหนึ่งนาที เลยมีการ
ปรับลดเกณฑ์ลง ถ้ามีบัญชีผู้ใช้ง านคลิกเข้ามาดูคลิปของเราหนึ่งตอนและดูคลิป
เกินสามสิบวินาทีจะนับว่าเป็นหนึ่งยอดวิวจริงๆ แต่รายได้ก็ปรับลดลงเหมือนกัน
โดยหนึ่งยอดวิวจะได้ 0.2 หยวนครับ
“พูดง่ายๆ คือ ถ้าเรามั่นใจว่าทั้งสิบตอนของซีซั่นสามจะมียอดวิวเกินตอนละ
หนึ่งล้านวิว เราก็จะทำเงินได้สองล้านหยวน!
“ถึงจะหักค่าใช้จ่ายอื่นๆ กับภาษี เราก็ยังทำกำไรได้อยู่ดี!
“ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะแนวทางที่ถูกต้องจากบอสเผยครับ! เพราะเราปฏิเสธ
สปอนเซอร์ ร ายย่ อ ยที ่ ต ิ ด ต่ อ เข้ า มา ซี ร ี ส ์ ช ี ว ิ ต ประจำวั น ของบอสเผยเลยมี
ภาพลักษณ์เป็นซีรีส์ทรงคุณค่า เว็บอ้ายลี่เต่าเลยยอมเพิ่มระดับให้เราพร้อมกับ
เสนอแนวทางการแบ่งรายได้ที่ดีสุดๆ ให้ด้วย!
“ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของบอสครับ!”
เผยเชียนแอบสบถในใจ
วิวละ 0.2 หยวนเหรอ เท่ากับว่าสองหมื่นวิวก็ได้แล้วสองพันหยวนสิ
นี่มันเยอะกว่าแผนแบ่งผลประโยชน์ทั่วไปตั้งสิบเท่า!
เผยเชียนไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้
เว็บให้บริการชมวิดีโอชอบทุ่มเงินก้อนโตซื้อคอนเทนต์ลิขสิทธิ์และซีรีส์ดังๆ
หรือไม่ก็ซื้อลิขสิทธิ์ฉายรายการวาไรตี้ที่เป็นที่นิยมอยู่ แล้ว ขณะเดียวกันก็สามารถ
ขายรายการเหล่านี้ให้สมาชิกเป็นแบบแพ็กรวมเพื่อแข่งกับเว็บอื่น
คอนเทนต์ลิขสิทธิ์เป็นหัวเรือหลักของเว็บให้บริการชมวิดีโอ ส่วนใหญ่เว็บไซต์
เหล่านี้จะทุ่มเงินกับส่วนนี้ไปมากที่สุด
แต่เผยเชียนก็ไม่คิดว่าซีรีส์ธรรมดาๆ อย่างซีรีส์ชีวิตประจำวั นของบอสเผยจะ
ได้รับข้อเสนอแบบนี้!
ปกติแล้วทางเว็บไซต์จะพิจารณาว่าซีรีส์แต่ละเรื่องควรจัดอยู่ในระดับไหน ไล่
เรียงไปตั้งแต่ A B C จนถึง D โดยวัดจากเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ต้องเป็นซีรีส์ที่ดีมากๆ ถึง
จะได้อยู่ในระดับ A
นอกจากนี้ การจะได้พิจารณาระดับ ต้องมอบสิทธิ์ออกอากาศให้ทางเว็บไซต์
แต่เพียงผู้เดียว
ทำแบบนี้เว็บไซต์ก็จะไม่ต้องจ่ายเงินก้อนเดียวเพื่อซื้อสิทธิ์ออกอากาศ แต่จะ
แบ่งเงินให้ตามความนิยมของคลิป นี่คือวิธีแบ่งรายได้ที่ทำได้จริงและมีความเสี่ยง
น้อยที่สุดสำหรับทั้งเว็บไซต์และนักสร้างคอนเทนต์
เว็บอ้ายลี่เต่าตัดสินใจทุ่ มเงินหนักในช่วงนี้ บอร์ดบริหารต้อ งเลือ กซีรีส์
ชีวิตประจำวันของบอสเผยมาด้วยความบังเอิญ เรื่องถึงกลายมาเป็นแบบนี้!
“วันนี้ตอนสองทุ่ม ซีซั่นสามจะออกอากาศทางเว็บอ้ายลี่เต่า อย่าลืมกันนะ
ครับทุกคน ผมว่าน่าจะครึกครื้นแน่ ” หวงซื่อปั๋วประกาศด้วยน้ำเสียงที่แฝงแวว
ความมั่นใจในตัวเองเล็กน้อย
“ได้ๆ! เดี๋ยวตามไปดูแน่!”
“ผมจะยิงคอมเมนต์เป็นคนแรก!”
ทุกคนตื่นเต้นกันใหญ่
เผยเชียนเริ่มลนลาน เขารู้สึกว่าตัวเองก็ต้องเข้าไปเช็กดูเหมือนกัน
“ลิงก์เว็บชื่ออะไรเหรอ” เผยเชียนถาม
“อ๋อ อันนี้ครับ” หวงซื่อปั๋วกดพิมพ์โทรศัพท์ จากนั้นก็หันจอให้เผยเชียนดู
ภาษาอังกฤษยืดยาวฉายอยู่บนหน้าจอ
‘www.ilidilid.com’!
เผยเชียนอึ้งไป
นี่มัน…
นี่มันเว็บ Bilibili แบบจำแลงนี่หว่า!
บทที่ 123 บอสเผยผู้สิ้นหวัง

“เว็บนี้… ชื่อจีนชื่ออ้ายลี่เต่าเหรอ” เผยเชียนมองหวงซื่อปั๋ว พยายามปั้นหน้า


ให้ดูปกติ ไม่ได้แปลกใจอะไร
หวงซื่อปั๋วพยักหน้า “ใช่ครับ เอาตัวอักษรภาษาอังกฤษมาต่อกันจะเป็น ilid
ส่วนเว็บชื่ออ้ายลี่เต่า”
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก
ใช่จริงด้วย!
“บอสเผยครับ พวกผมขอตัวก่อนนะครับ ช่วงนี้เราต้องคิดเรื่องอนาคตของเฟ
ยหวงสตูดิโอดูให้ดีๆ
“หวังว่าซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยกับเกมนักออกแบบเกมจะทำรายได้
ถล่มทลายทั้งคู่นะครับ!”
หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อสาปแช่งเผยเชียนระหว่างเก็บอุปกรณ์กลับ
บรรยากาศในออฟฟิศเต็มไปด้วยความสุขและความสงบ!
เผยเชียนเดินกลับห้องทำงานด้วยความมึนงง เขานั่งลงหน้าโน้ตบุ๊กอย่างเงียบ
เชียบแล้วกดเข้าไปดูเว็บอ้ายลี่เต่า
หน้าเว็บปรากฏขึ้น
พอเห็นเว็บไซต์ที่คุ้นเคยตรงหน้า เผยเชียนก็ถึงบางอ้อ
นี่มันเว็บ B ของโลกนี้นี่หว่า!
เผยเชียนรีบค้นเว็บเชียนตู้ดูว่าเว็บไซต์นี้มีความเป็นมายัง ไง พอค้นดูเสร็จ
หัวใจของเขาก็ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม
เว็บอ้ายลี่เต่าเป็นเว็บแรกที่มีฟังก์ชันคอมเมนต์เลื่อนผ่านหน้าจอ ถึงจะเพิ่ง
เปิดได้ไม่นาน แต่กระแสดีเลยทีเดียว ตอนนี้กำลังสู้กับเว็บให้บริการวิดีโอดังๆ
อย่างเว็บฟานฉูอยู่!
นอกจากนั้นเว็บอ้ายลี่เต่ายังมีอะไรแตกต่ างไปจากเว็บ B ที่เผยเชียนรู้จัก นั่น
คือรวยมาก!
ถึงตอนนี้จะยังขาดทุนอยู่ แต่ก็เป็นบริษัทเอกเทศผู้ให้บริการด้านวิดีโอที่เฉินฮ
ว่าคอร์เปอเรชันและเชียนตู้ลงทุนร่วมกัน ทำให้มีเงินทุนพอสำหรับทุ่มซื้อซีรีส์
ดังๆ!
ที่แย่ไปกว่านั้นคือ ทางเชียนตู้ก็ร่วมลงทุนกับเว็บไซต์ นี้ด้วย ไม่ว่าจะค้นหา
อะไรบนเว็บเชียนตู้ เว็บอ้ายลี่เต่าจะปรากฏอยู่เป็นชื่อแรกๆ ในผลการค้นหาอยู่
เสมอ
“เว็บ B เวอร์ชันอัพเกรดเหรอ
“เว็บ B ผสมกับเว็บอ้ายฉีอี้
“จบแล้ว…”
เผยเชียนเอนหลังพิงเก้าอี้ ในใจรู้สึกแย่มากๆ
ตอนแรกเขาคิดว่าตอนสองทุ่มคืนนี้จะเป็นเวลาชี้ชะตาชีวิตของตนเอง แต่
ตอนนี้รู้แล้วว่าชะตากรรมของเขาถูกกำหนดเอาไว้แล้ว!
นี่คือผลเสียจากการไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม!
เผยเชียนระแวดระวังเว็บให้บริการวิดีโอในโลกนี้มาก โดยเฉพาะเว็บที่ขึ้นต้น
ด้วยตัว A และตัว B
แต่เผยเชียนคาดไม่ถึงเลยว่าเว็บ B ในโลกนี้จะเขียนกลับด้านจาก bilibili
กลายเป็น ilidilid!
พอเอาไปรวมกับชื่อจีนตลกๆ ของเว็บ เผยเชียนจึงหลงคิดว่าเป็นเว็บที่ไม่นาน
ก็น่าจะเจ๊งเลยไม่ได้สนใจอะไรมาก!
เป็นเรื่องที่น่าขายหน้าจริงๆ
หลังจากนั่งมึนอยู่นาน เผยเชียนที่รู้สึกสิ้น หวังเล็กน้อยก็เรียกหน้าจอระบบ
ขึ้นมา
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ: เผยเชียน>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1:1>
<เงินทุนระบบ: 710,000 (↓290,000)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 48,223.5>
<ภารกิ จ พิ เ ศษประจำรอบ: บริ ษ ั ท จะต้ อ งตั ้ ง หน้ า ร้ า นใกล้ บ ริ เ วณที ่ ค น
พลุกพล่านหรือบริเวณมหาวิทยาลัย [สำเร็จ]>
<รางวั ล ที ่ จ ะได้ ร ั บ เมื ่ อ ปฏิ บ ั ต ิ ภ ารกิ จ พิ เ ศษสำเร็ จ : เพิ ่ ม เงิ น 10% หลั ง
ดำเนินการแปลงค่าเงิน>
ตอนนี้เงินในระบบยังขาดทุนอยู่
แต่ก็เป็นแบบนี้ไปได้ไม่นานหรอก!
ตั้งแต่วันสรุปบัญชีรอบที่แล้วจนถึงตอนนี้ รายได้หลักของเผยเชียนยังมาจาก
เกมแม่ทัพผีและเกมฐานทัพกลางทะเล
เนื่องจากไม่ได้เพิ่มช่องทางการใช้จ่ายเงินใหม่ให้ รายได้จากเกมแม่ทัพผีจึง
เริ่มตกลง แต่ก็ยังมีรายได้เข้ากระเป๋าเดือนละหนึ่งล้าน โดยกำไรอยู่ที่หกถึงเจ็ด
แสนหยวน
ส่วนเกมฐานทัพกลางทะเลมี ยอดผู้เล่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รายได้ต่อเดือนอยู่
ในช่วงขาขึ้น ตอนนี้เกือบจะแตะเจ็ดล้านแล้ว ได้กำไรอยู่ที่ประมาณสามล้านห้า
แสนหยวน
ถึงจะขายแค่ปืนกิเลนเพลิง แต่ผู้เล่นเกมแนว FPS ในประเทศก็มีเยอะมาก!
ตอนนี้เกมฐานทัพกลางทะเลเป็นหนึ่งในเกมแนว FPS ที่ดีที่สุดภายในประเทศ
ดึงฐานผู้เล่นจากเกม Counter Strike มาได้เยอะมาก บริษัทเถิงต๋าต้องขยาย
ขนาดเซิฟเวอร์เพื่อรองรับผู้เล่นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รายได้ของเกมก็ไม่มีวี่แววว่าจะ
ตกลงเลย มีแต่จะเพิ่มขึ้น!
เกม FPS เป็นแนวเกมที่มีอายุยืนยาว
สองเดือนครึ่งที่ผ่านมา ทั้งสองเกมทำเงินให้ เผยเชียนได้แล้วกว่าเก้าล้าน
หยวน!
รวมกับเงินทุนระบบที่ได้มาตอนแรกก็เท่ากับว่าทะลุสิบล้านไปแล้ว
แต่พอมาดูที่รายจ่าย
เฟยหวงสตูดิโอ หนึ่งล้านหยวน
วิเคราะห์และพัฒนาเกมนักออกแบบเกม สามล้านหยวน
โฆษณาเกมและค่าสปอนเซอร์ สามแสนหยวน
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู สามล้านห้าแสนหยวน รวมค่าเช่าสามเดือน
ค่าเช่าพื้นที่สำนักงานตกเดือนละไม่ถึงสี่แสนหยวน ส่วนเงินเดือนพนักงาน
รวมอยู่ประมาณสองแสนหยวน รวมค่าใช้จ่ายยิบย่อยต่างๆ จะตกอยู่ที่เดือนละ
ประมาณแปดแสนหยวน หรือสองล้านหยวนสำหรับสองเดือนครึ่ง
รายจ่ายรวมทั้งหมดอยู่ที่เก้าล้านแปดแสนหยวน!
แน่นอนว่าเผยเชียนไม่ได้คำนวณจำนวนเงินออกมาเป๊ะๆ เพราะฝ่ายบัญชีของ
บริษัทเป็นคนจัดการเรื่องนี้อยู่แล้ว
เผยเชียนแค่ดูยอดเงินทุนระบบแล้ววางแผนว่าจะใช้จ่ายเงินยังไง
ตอนแรกเขาคุมเงินได้ดีมาก สามารถดันเงินทุนระบบลงไปต่ำกว่าแปดแสน
หยวนได้
ก่อนจะถึงวันสรุปบัญชีในเดือนนี้ ขอแค่เขาผลาญเงินให้ได้เยอะขึ้น ให้โบนัส
พนักงาน และออกไปช้อปแหลก ก็จะคุมเงินระบบให้อยู่ที่ประมาณหนึ่งแสน
หยวนได้ หมายความว่ารอบบัญชีหน้าเขาอาจได้รับรายได้เข้ากระเป๋าตัวเอง
มากกว่าแปดแสนหยวน!
แต่นั่นก็คำนวณจากการสมมติว่าเกมใหม่ ซีรีส์ และร้านอินเทอร์เน็ตไม่
สามารถทำเงินได้ หรือทำเงินได้น้อยมากๆ!
อย่างร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูที่ขาดทุนเดือนละสามแสนหยวน แบบนั้นถึงจะ
ตรงตามที่เผยเชียนต้องการ!
แต่ก็เกิดปัญหาขึ้น
ถึงซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยจะยังไม่ได้ปล่อยไป แต่ดูจากความนิยม
ในตอนนี้น่าจะทำเงินได้อย่างน้อยหนึ่งล้านหยวน
แน่นอนว่าเผยเชียนไม่ได้อยากได้เงินก้อนนี้ แต่อย่างน้อยเขาก็ต้องแบ่งกำไร
มาบ้าง ไม่อย่างนั้นระบบคงไม่ยอมแน่
ยอดขายเกมนักออกแบบเกมก็พุ่งขึ้นไม่หยุด ในครึ่งเดือนที่เหลือ อย่างน้อย
น่าจะขายได้ประมาณสองแสนก๊อปปี้!
รวมแล้วทั้งสองโปรเจ็กต์จะทำเงินได้กว่าสามล้านหยวน!
ถึงร้านอินเทอร์เน็ตจะยังขาดทุนอยู่ แต่มาเจอแหล่งรายได้จากหลายแห่งแบบ
นี้ก็ดูจะไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรนัก
ถ้าเผยเชียนไม่ทำอะไรตอนนี้ มองในแง่บวกหน่อยก็น่าจะทำกำไรได้ประมาณ
สองถึงสามล้านหยวน
แต่ถ้ามองให้แย่หน่อยก็น่าจะขึ้นไปแตะสี่ถึงห้าล้านหยวน
ถ้าได้กำไรสี่ล้านหยวนก็จะแปลงเข้าความมั่งคั่งส่วนบุคคลสี่หมื่นหยวน
ตอนนี้เขามีเงินไม่ถึงห้าหมื่นหยวน ก็ดูไม่แย่เท่าไหร่ ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
แต่ประเด็นอยู่ที่เอาไปเทียบกับอะไร!
ถ้าเขาทำให้ขาดทุนได้ก็จะได้เงินแปลงเข้าความมั่งคั่งส่วนบุคคลประมาณเจ็ด
ถึงแปดแสนหยวน แตกต่างกันถึงสิบเท่า!
เผยเชียนถอนหายใจด้วยความเศร้าสร้อย ตอนนี้ไม่มีอะไรที่เขาทำได้อีก ได้
แต่ปล่อยให้ชะตานำพาไป
ถ้ายอดออกมาเท่ารอบที่แล้ว เผยเชียนสามารถจัดงานช้อปแหลกและแจก
โบนัสได้
แต่ในสถานการณ์แบบนี้…
เขาต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป
เผยเชียนรู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย
ไม่ใช่ว่าฉันวางแผนป้องกันไว้สามชั้นเหรอ…
ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ได้ล่ะ…
บทที่ 124 น้อมรับข้อเสียของเกม!

เที่ยงวันที่ 15 เมษายน…
เผยเชียนนั่งอยู่ในห้องทำงาน จมดิ่งอยู่ในภวังค์ความคิด
เมื่อคืนตอนสองทุ่ม ซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยตอนที่สามได้ออกอากาศ
เฉพาะที่เว็บอ้ายลี่เต่า
ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ หน้าหลักของเว็บอ้ายลี่เต่าขึ้นแบนเนอร์โฆษณาซี
รีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยขนาดใหญ่ไว้ตรงจุดที่เด่นที่สุด
หลายคนเข้ามาใช้งานเพราะสามารถส่งคอมเมนต์วิ่งผ่านหน้าจอได้ คลิปสั้น
หนึ่งนาทีดูครึกครื้นขึ้นเมื่อมีคอมเมนต์วิ่งผ่านหน้าจอจำนวนมหาศาล ดึงดูดฐาน
คนดูจากเว็บเจ้าใหญ่อย่างเว็บฟานฉูได้ คนดูเหล่านี้ได้พบฟังก์ชันสุดพิเศษอันใหม่
ที่เรียกว่า ‘คอมเมนต์วิ่งผ่านบนหน้าจอ’!
เผยเชียนไม่ได้เข้าไปดูคลิปตอนออกอากาศ แต่รอจนผ่านไปหนึ่งวันค่อยเข้า
มาดูยอดวิวของคลิป
ตอนนี้ทะลุหกแสนไปเรียบร้อย!
ดูแล้วยอดวิวน่าจะพุ่งไปแตะหนึ่งล้าน
ถึงยอดวิวที่แสดงอาจจะไม่ใช่ยอดวิวจริงๆ แต่คำนวณดูยังไง อย่างน้อยก็
น่าจะได้เงินอย่างต่ำสองแสนหยวนจากแผนให้ผลประโยชน์ของเว็บอ้ายลี่เต่า
นอกจากนี้จากความนิยมของซีรีส์ คลิปต่อๆ ไปน่าจะมียอดวิวมากกว่าคลิป
ก่อนๆ
ทั้งสิบตอนของซีซั่นสามน่าจะทำเงินได้รวมกว่าสองล้านสามแสนหยวน
หมายความว่าเว็บอ้ายลี่เต่าทุ่มเงินกว่าสองล้านหยวนเพื่อซื้อสิทธิ์เผยแพร่ซีรีส์
ชีวิตประจำของบอสเผยซีซั่นสาม
ราคานี ้ ไ ม่ ไ ด้ ส ู ง อะไรมาก เที ย บกั บ ซี ร ี ส ์ แ ละรายการวาไรตี ้ ด ั ง ๆ ที ่ เ รี ย ก
ค่าลิขสิทธิ์หลักสิบล้านได้ง่ายๆ ยอดเท่านี้ไม่ถือว่าสูงอะไรเลย
แต่สำหรับเผยเชียนแล้ว ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้นได้
มันทำให้เขาล้มทั้งยืนได้เลยทีเดียว!
ซวยซ้ำซวยซ้อนมันเป็นแบบนี้นี่เอง
เสียงเคาะประตูดังขึ้น คนที่มาคือเลขาซิน
“บอสเผยคะ นี่เป็นแผนสวัสดิการของบริษัทที่เพิ่งปรับเปลี่ยนใหม่ ดิฉันอยาก
ให้บอสตรวจดูอีกครั้ง ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ดิฉันจะได้จัดการตามนี้ได้เลย”
เผยเชียนรับเอกสารมาดู
ในเอกสารคือรายละเอียดแผนสวัสดิการและผลประโยชน์อื่นๆ แบบใหม่ของ
บริษัทที่วางแผนไปเมื่อเดือนที่แล้ว
หลังพัฒนาเกมฐานทัพกลางทะเลเสร็จ เผยเชียนก็แนะนำให้มีการปรับเปลี่ยน
สวัสดิการในบริษัทหลายอย่าง เช่น ปรับฐานเงินเดือน ให้โบนัสโปรเจ็กต์ บัตร
กำนัลสำหรับช้อปปิ้ง รวมถึงงบพิเศษสำหรับซื้อของ
นอกจากนั้นแล้วเผยเชียนยังตัดสินใจเพิ่มสวัสดิการใหม่อีกหนึ่งอย่าง ซึ่งก็คือ
การตรวจสุขภาพพนักงาน!
เขาเลือกบริการตรวจสุขภาพคุณภาพสูงที่ต้องไปใช้บริการที่โรงพยาบาลที่ดี
ที่สุดในเมืองจิงโจว เป็นโรงพยาบาลระดับสามดาว บริการตรวจสุขภาพระดับสูงมี
สนนราคาอยู่ที่สามพันสองร้อยหยวนต่อคน
ตอนนี้บริษัทเถิงต๋า เฟยหวงสตูดิโอ และร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมีพนักงาน
รวมกันกว่าห้าสิบคน ค่าใช้จ่ายก็จะอยู่ที่หนึ่งแสนหกหมื่นหยวน!
นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการเดิม บัตรกำนัลสำหรับจับจ่ายซื้อของเพิ่มยอดให้เป็น
สามพันหยวน และยังมีสวัสดิการอื่นๆ ที่คิดขึ้นมาเป็นข้ออ้างผลาญเงิน รวมๆ
แล้วยอดอยู่ที่ประมาณห้าแสนหยวน
ตอนแรกนี่คือไพ่ตายสุดท้ายของเผยเชียนในการผลาญเงิน
ถ้าเขาทำให้เงินทุนระบบยอดต่ำกว่าเจ็ดแสนได้ บวกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตรงนี้
เข้าไปอีกห้าแสนหยวนก็สมบูรณ์แบบสุดๆ ไปเลยไม่ใช่เหรอ
แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว
ตามการคำนวณใหม่ของเผยเชียน ถึงจะผลาญเงินไปห้าแสนหยวน เงินทุน
ระบบก็ยังเป็นยอดบวกเหมือนเดิม!
คำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยนกำไร เงินก้อนนี้มีมูลค่าเท่ากับห้าพันหยวนเมื่อ
แปลงเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคล ถ้าใช้เงินตรงนี้ไปก็เท่ากับว่าเงินในกระเป๋าของ
เผยเชียนจะหายไปห้าพันหยวนด้วย
เผยเชียนไม่ได้คิดอะไรให้มากความ “จัดการตามนั้นได้เลย ส่งเอกสารมาให้
ผมดูรายละเอียดด้วย”
“โอเคค่ะบอสเผย” เลขาซินพลิกสมุดจดเล่มเล็กดูเนื้อหาการประชุม “มีอีก
เรื่องค่ะ นักข่าวหูจาก Playtime ติดต่อมาขอสัมภาษณ์ รายนี้เป็นรายที่สามของ
สัปดาห์นี้แล้วค่ะ ให้ดิฉันปฏิเสธไปเหมือนรอบที่แล้วไหมคะ”
เผยเชียนพยักหน้า “อืม ปฏิเสธไปเลย หลักการยังเหมือนเดิม ห้ ามแพร่ง
พรายนามสกุลและตัวตนของผม รวมถึงห้ามเปิดเผยรายละเอียดเงินเดือนและ
แผนสวัสดิการของบริษัทเราให้คนอื่นรู้ ช่วยย้ำเรื่องนี้กับทุกคนให้ผมด้วย”
“ได้ค่ะบอสเผย” เลขาซินกลับออกจากห้องไป
จนถึงปัจจุบัน สื่อเกมและผู้เล่นมองว่าบริษัทเถิงต๋าเป็นบริษัทสุดลึกลับ
หลายคนรู้ว่ามีบริษัทนี้อยู่ แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของบริษัท มีสวัสดิการยังไง
ข้างในเป็นแบบไหน ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง
ทำไมเผยเชียนถึงเก็บทุกอย่างไว้เป็นความลับน่ะเหรอ…
มีอยู่ด้วยกันสองเหตุผล
เหตุผลแรกคือ ถ้าแผนสวัสดิการหลุดออกไป ทุกคนก็จะรู้ว่าพนักงานของ
เถิงต๋าล่ำซำกันแค่ไหน ทีนี้เหล่าหัวกะทิในเมืองจิงโจวก็จะกรูกันเข้ามาสมัคร
ทำงานกับบริษัท อาจมีใครหลายคนย้ายเมืองมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะเลยด้วยซ้ำ!
ถ้าเหล่าหัวกะทิพวกนี้ยอมลดเงินเดือนเพื่อแลกกับการเข้าทำงานในบริษัท
เผยเชียนก็ต้องหาเหตุผลที่เหมาะสมมาปฏิเสธพวกเขา ถ้าเหตุผลไม่มีน้ำหนักพอ
ระบบก็จะไม่ยอมให้ปฏิเสธ กลายเป็นว่าเขาต้องจำใจจ้างพวกหัวกะทิเข้ามา
ทำงาน…
ตอนนี ้ ใ ช้ ร ะบบคั ด ที ่ ห นึ ่ ง ออกก็ ไ ม่ ไ ด้ ไ ล่ อ อกจริ ง ๆ ถ้ า จ้ า งคนเข้ า มาเพิ่ ม
สถานการณ์จะไม่ยิ่งแย่กว่าเดิมเหรอ
เหตุผลที่สองคือเผยเชียนยังไม่อยากให้ที่บ้านรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา อยาก
ปิดบังให้ได้นานกว่านี้
เขาไม่ได้อยากเด่นดัง เพราะคนดังมีแต่คนพูดถึง ถ้าดังขึ้นมาแล้วเป็นจุดสนใจ
ก็จะทำอะไรได้ลำบาก
ระบบมีกฎห้ามเปิดเผยหรือบอกใบ้ว่ามีระบบอยู่ให้ผู้อื่นรู้ เผยเชียนไม่อยาก
สร้างปัญหาเพิ่มให้ตัวเอง
ดังนั้นเขาจึงไม่อนุญาตให้สื่อเข้าสัมภาษณ์
สื่อหลายเจ้าติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์เพื่อขอสัมภาษณ์ แต่ก็โดนปฏิเสธไปทุก
ราย ครั้งนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น

เผยเชียนมองเอกสารเรื่องสวัสดิการมูลค่าห้าแสนหยวนตรงหน้า
“อย่าไปเครียดมาก คิดแค่ว่าเอาเงินตัวเองห้าพันหยวนมาเป็นสวัสดิการ
พนักงาน
“คิดดูแล้วก็ถือว่าใช้เงินคุ้มเหมือนกันนะ…
“เฮ้อ ฉันนี่เป็นบอสที่ดีจริงๆ”
ให้สวัสดิการพนักงานน้อยลงห้าแสนหยวนเพื่อที่ตัวเองจะได้เงินเข้าความมั่ง
คั่งส่วนบุคคลเพิม่ ห้าพันหยวน เผยเชียนไม่ใช่คนที่จะทำอะไรแบบนั้นได้
พนักงานทุกคนตั้งใจทำงานเพื่อเขา ถึงหวงซื่อปั๋ว เปาซวี่ และคนอื่นๆ จะ
ชอบทำลายแผนการที่วางไว้ แต่คนพวกนี้ก็เชื่อฟังเขามากๆ
อีกอย่างถ้ามองในมุมของพนักงานก็ถือว่าพวกเขาอุทิศตนเพื่อบริษัทสุดๆ!
แต่ถ้ามองในมุมของเผยเชียนจะถือว่าพวกเขาไม่ได้มีประโยชน์อะไร แถมยัง
มาทำลายแผนการเขาอีก…
“ช่างเถอะ ปล่อยไปตามบุญตามกรรม คงแผนสวัสดิการไว้เหมือนเดิม เพิ่ม
ส่วนที่ตกลงก่อนหน้านี้เข้าไป
“จะไปหักเงินพวกเขาก็ไม่ดี
“รอบนี้ไม่ขาดทุน รอบหน้าค่อยพยายามใหม่ก็ได้…”
เผยเชียนซึมเล็กน้อย
ปวดใจจริงๆ
เขาจะต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดในครั้งนี้
ต้องรู้ให้ได้ว่าอะไรทำให้เกมนักออกแบบเกมประสบความสำเร็จขึ้นมาได้!
หรือไม่ก็หาข้อเสียของเกมนักออกแบบเกม เผื่อจะเอาไปใช้ได้ในอนาคต
ผ่านมาสองสัปดาห์แล้วตั้งแต่วางขายเกมไป บนอินเทอร์เน็ตมีผู้เล่นหลายคน
และนักวิจารณ์เกมมืออาชีพออกมาวิเคราะห์เกมอย่างละเอียด
ครั้งนี้เผยเชียนไม่ต้องให้ทีมออกแบบสรุปผลการดำเนินงานมาให้ฟังอีก เขา
แค่ต้องเลื่อนดูที่คนคอมเมนต์กันบนอินเทอร์เน็ต จะได้พอรู้คร่าวๆ ว่าพลาด
ตรงไหน!
เขาเริ่มอ่านเว็บสื่อเกมเจ้าดังเป็นอันดับแรก
“เกมนักออกแบบเกมเป็นเกมเล่าเรื่องผ่านการมีปฏิสัมพันธ์กับตัวเกมที่
ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ก้าวข้ามวิธีการเล่าเรื่องของเกมแบบดั้งเดิมไปได้
โดยสมบูรณ์
“ในเกมนี้ ผู้เล่นจะได้รับบทบาทเป็นนักออกแบบเกมที่มีเป้าหมายในการก้าว
ข้ามขวากหนามต่างๆ และเลือกหนทางที่ดีที่สุดในการออกแบบเกม จะได้ก้าว
ขึ้นมาเป็นนักออกแบบมือหนึ่งหรือล้มละลายหายไปจากวงการเงียบๆ ผู้เล่นจะได้
เป็นคนตัดสินใจเอง
“ความสำเร็ จ ของเกมนี ้ ม าจากการที ่ เ กมเปิ ด โอกาสให้ ผ ู ้ เ ล่ น ได้ ส ั ม ผั ส
ประสบการณ์การต้องตัดสินใจอันสุดแสนยากลำบากและความรู้สึกสับสนภายใน
ใจ นี่แหละคือชีวิตจริงของนักออกแบบเกม!
“แต่ถ้ามีแค่นี้ เกมก็คงไม่ได้รับยกย่องให้เป็นเกมแนวจำลองสถานการณ์ที่สุด
แสนจะยอดเยี่ยม เทียบกับเกมแนวจำลองสถานการณ์เกมอื่นๆ แล้ว นอกจาก
งานภาพแล้วก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น
“สิ่งที่ทำให้เกมกลายเป็นผลงานขึ้นหิ้งคือเสียงพากย์ที่คอยติดตามผู้เล่นไป
ตลอดทั้งเกม สิ่งนี้แหละคือตัวชูโรงของเกมนี้!
“ผู้เล่นใหม่อาจจะคิดว่าเสียงพากย์นี้ช่างน่ารำคาญและหงุดหงิดใจทุกครั้งที่
โดนด่า แต่ถ้าได้นั่งคิดดูดีๆ ผู้เล่นก็จะตระหนักว่าเสียงพากย์นี่แหละที่ทำให้เกม
น่าสนใจ!
“เสียงพากย์ถือเป็นความโลภภายในใจนักออกแบบเกมทุกคน หรือไม่ก็เป็น
พวกคนรอบข้างที่คอยชี้นิ้วสั่ง สำหรับนักสร้างคอนเทนต์แล้ว ความยากไม่ได้อยู่ที่
การรังสรรค์ไอเดียขึ้นมา แต่อยู่ที่การตัดสินใจให้ถูก นักสร้างคอนเทนต์จะต้องยึด
มั่นในแนวทางของตัวเองและไม่หลงลืมอุดมการณ์ของตัวเองเมื่อต้องเผชิญกับคำ
วิจารณ์หรือคอมเมนต์ที่ไม่ได้มีประโยชน์อะไร ถ้าทำได้ก็จะประสบความสำเร็จใน
ท้ายที่สุด!”
“สรุปแล้ว เกมนี้มีเนื้อหาที่ดีมาก แฝงข้อความสะท้อนคิดไว้อย่างล้ำลึก มี
รู ป แบบการเล่ น เหมื อ นได้ อ ่ า นนวนิ ย าย เกมนี ้ ม ี ค วามเป็ น เอกลั ก ษณ์ ต รงที่
นอกจากจะสื่อให้เห็นถึงความลำบากที่นักออกแบบเกมต้องพบเจอแล้ว ยังแอบ
เผยให้เห็นเหตุผลที่แท้จริงของความวุ่นวายในอุตสาหกรรมเกม และส่งเสริมให้นัก
สร้างคอนเทนต์ทุกคนไม่หลงลืมอุดมการณ์ของตัวเองและเดินหน้าต่อไปไม่หยุด!”
คะแนนรวม: 9.0
บทสรุป: สะท้อนอุตสาหกรรมเกมผ่านมุกตลกร้าย นำเสนอประสบการณ์การ
เล่นและมีปฏิสัมพันธ์กับเกมแบบใหม่ให้กับผู้เล่น
จุดเด่น:
มุกตลกร้าย
ตอนจบหลายแบบ ทำให้ผู้เล่นอยากเล่นอีกเรื่อยๆ
เสียงพากย์สุดยอดเยี่ยม
เปิดโปงอุตสาหกรรมเกมและทำให้ผู้เล่นได้สะท้อนคิด
จุดด้อย:
ผู้เล่นถูกจำกัดการกระทำมากเกินไปในบางจุด แต่ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของ
ระบบการเล่น
บทที่ 125 ตรวจสุขภาพ

เผยเชียนปิดบทความอวยเกมสุดพลังไป
ยังมีหน้ามาบอกว่าจุดด้อยของเกมคือ ‘ส่วนหนึ่งของระบบการเล่น อีก
ถ้าเขียนรีวิวแบบนี้ คนก็คิดกันสิว่าพวกแกโดนฉันจ้างมา!
พวกแกเป็นนักรีวิวเกมมืออาชีพไม่ใช่เหรอ
ทำไมไม่หาข้อเสียเล็กๆ น้อยๆ มาติวะ!
เผยเชียนแสนเหนื่อยใจ
ช่างเถอะ ดูรีวิวจากผู้เล่นแทนดีกว่า
พวกผู้เล่นเรื่องมากกันจะตาย ต้องหาจุดด้อยของเกมได้เยอะแน่
เผยเชียนเปิดหน้ารีวิว จากผู้เล่นขึ้นมาอีกครั้ง แต่รีวิวหลังๆ กดให้ห้าดาวกัน
ทุกคน!
พวกที่รีวิวให้หนึ่งดาวถูกดันไปด้านล่างสุด
“สไตล์ ง านภาพโคตรสุ ด ยอด สามารถถ่ า ยทอดเรื ่ อ งนามธรรมต่ า งๆ ให้
ออกมาเป็นรูปธรรมได้ เปลี่ยนธีมน่าเบื่อให้มีชีวิตชีวาและดูน่าสนใจสุดๆ!”
“ตามมาจากคลิปอาจารย์เฉียว เป็นมุกตลกร้ายที่โคตรคลาสสิก”
“ต้องให้ห้าดาวแล้วมั้ย! พวกที่ไม่ให้ห้าดาวคือพวกที่ไม่เข้าใจเกม”
“เสียงพากย์ตลกโคตร ไม่อยากเล่นเกมนะ อยากจีบคนพากย์มากกว่า!”
“เอาจริงๆ ฉันไม่ได้เล่นเกมที่ทำให้รู้สึกมีอารมณ์ร่วมแบบนี้มานานมากแล้ว
เกมสมัยนี้สนใจแค่เรื่องดูดเงินจากผู้เล่น ไม่ก็เกาะกระแส เกมที่ลึกซึ้งและไม่สนใจ
กระแสแบบนี้ถือว่าหายากมาก!”
“เกมนี้ต้องให้เวลามันสักหน่อย ตอนแรกผมอยากเลิกเล่นมาก แต่พออดทน
เล่นไปถึงรอบที่สองก็รู้สึกว่าเกมน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ จนหยุดเล่นไม่ได้! ตอนนี้กำลัง
จะเริ่มเล่นรอบที่สิบแปดแล้ว!”
“ขายเกมนี้แค่ยี่สิบแปดหยวนคือโคตรใจดี ขายแค่นี้หาเงินคืนทุนได้จริงๆ
เหรอ เหมือนจะลงทุนไปเยอะเลยนะ! ฉันซื้อให้สามก๊อปปี้เลย ส่งให้เพื่อนไปสอง
หวังว่าเกมนี้จะไม่ขาดทุนนะ!”
หลังจากเลื่อนอ่านดูรีวิวจากผู้เล่น เผยเชียนก็จมอยู่ในห้วงความคิด
อยากได้ที่อยู่ไอ้คนที่มันซื้อเกมสามก๊อปปี้จริงๆ จะได้ส่งของดีเมืองจิงโจวไป
ให้
นี่มันบ้าอะไรกัน…
ฉันเค้นสมองหาทางทำให้พวกแกไม่อยากเล่นแทบตาย แต่ดันกลายเป็นจุด
ขายของเกมเฉยเลย
แถมยังมีคนบอกว่าอยากจีบคนพากย์อีก
ได้ จัดให้เลย เดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้ลู่หมิงเหลียงออกสื่อให้พวกแกได้ชื่นชมกัน!
เผยเชียนแทบลมจับ เขาอยากอ่านรีวิวเพื่อจะหาว่าจุดด้อยของเกมคืออะไร
เผื่อจะเอาไปใช้ต่อได้ หรือไม่ก็หาจุดเด่นที่จะได้ระวังในครั้งต่อไป
แต่… ทุกคนเหมือนจะชอบทุกอย่างในเกม
ภาพสวย ระบบการเล่นดี แม้แต่เสียงพากย์สุดกวนก็กลายเป็นจุดขาย!
ไม่เห็นจะได้เรียนรู้อะไรเลย!
นี่ฉันสร้างเกมที่สมบูรณ์แบบสุดๆ ขึ้นมาจริงๆ เหรอ
นี่มันตลกร้ายอะไรกัน!
เผยเชียนเอนตัวพิงเก้าอี้เหมือนปลาใกล้ตายที่ไม่มีวันได้ลงน้ำอีก


วันจันทร์ที่ 19 เมษายน
โรงพยาบาลระดับสามดาวในเมืองจิงโจว
พนักงานบริษัทเถิงต๋าได้ตรวจสุขภาพกันเรียบร้อย ตอนนี้กำลังนั่งกินข้าวเช้า
กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
หวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่นั่งกินซาลาเปากับน้ำเต้าหู้อยู่บนโต๊ะตัวหนึ่ง ทั้งคู่เริ่มคุย
เรื่องผลการตรวจสุขภาพ
“พี่เปา ผลตรวจเป็นยังไงบ้างครับ”
“ก็ดีครับ มีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหารนิดหน่อย หมอบอกว่าเกิดจากการที่
โต้รุ่งบ่อยกับกินอาหารไม่ตรงเวลา ของพี่หวงล่ะครับ”
“มีเรื่องไขมันพอกตับกับความดันเลือดสูงนิดหน่อยครับ แต่ไม่ได้เป็นปัญหา
ใหญ่อะไร”
“ได้ยินมาว่าเราต้องมาตรวจสุขภาพทุกๆ ครึ่งปีนี่ครับ ไม่มาก็ไม่ได้ด้วย…”
เปาซวี่ไม่รู้จะรู้สึกยังไงดี
ชีวิตของเขามีแค่สองอย่าง คือเกมกับเรื่องอื่นๆ
การตรวจสุขภาพถือเป็นเรื่องอื่นๆ ซึ่งกินเวลาเล่นเกม ทำให้อยากเลี่ยงให้ได้
มากที่สุด
โดยปกติแล้ว บริษัทส่วนใหญ่จะให้พนักงานไปตรวจสุขภาพตอนเริ่มงาน
บริษัทที่ดีขึ้นมาหน่อยอาจจะให้ตรวจสุขภาพทุกๆ ปี
แต่ที่เถิงต๋าให้สิทธิ์ตรวจสุขภาพปีละสองครั้ง ไม่มาก็ไม่ได้ เปาซวี่เลยรู้สึกปวด
ใจเล็กหน่อย
หวงซื่อปั๋วซดน้ำเต้าหู้ “อย่าไปคิดอย่างนั้นสิครับพี่เปา ตรวจสุขภาพเป็นเรื่อง
ดีสำหรับเรานะ ถ้าไม่ได้มาตรวจ ผมก็ไม่รู้เลยว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องไขมันพอกตับ
ต้องระวังเรื่องการกิน อี้ฉวิน ของนายเป็นไง”
หม่าอี้ฉวินที่นั่งอยู่ข้างๆ พูดขึ้น “ก็โอเคอยู่ มีเรื่องกระเพาะอาหารอักเสบนิด
หน่อย ติดเรื่องระบบย่อยอาหารเหมือนพี่เปาเลย”
หวงซื่อปั๋วพยักหน้า “ไม่แปลก ตอนทำงานที่ฉางหยางเกมส์ นายต้องทำงาน
ล่วงเวลาตลอด กินข้าวก็ไม่ค่อยตรงเวลา แถมยังกินแต่อาหารเดลิเวอรี ถือว่าปกติ
ที่จะมีปัญหาเรื่องนี้ ต่อไปเราต้องระวังเรื่องอาหารการกิน ต้องปรับให้ดีขึ้น”
หม่าอี้ฉวินถอนหายใจ “เถิงต๋านี่ดีจริงๆ สวัสดิการดีมาก ให้มาตรวจสุขภาพ
ด้วย บอสเผยเป็นบอสที่ดีชะมัด!”
หวงซื่อปั๋วยิ้มบาง “ก็เห็นๆ กันอยู่”
พอกินข้าวเสร็จ ทุกคนก็เตรียมตัวกลับ
ช่วงเช้าเป็นการตรวจสุขภาพ ส่วนช่วงบ่ายไม่ต้องเข้างาน ทุกคนสามารถ
เรียกแท็กซี่กลับบ้านและไปเบิกค่าเดินทางที่หลังได้
“เอ๊ะ เหมือนจะลืมร่มไว้ที่โรง’บาล ไปก่อนได้เลยนะ เดี๋ยวฉันกลับไปเอา
ก่อน”
หม่าอี้ฉวินนึกขึ้นได้ว่าลืมหยิบร่มที่วางไว้บนเก้าอี้ในโรงพยาบาลตอนตรวจ
สุขภาพ จึงเดินกลับเข้าไปในโรงพยาบาล
หลั ง จากหยิ บ ร่ ม แล้ ว กำลั ง จะกลั บ ออกไป ก็ ไ ด้ ย ิ น เสี ย งตะโกนเรี ย กจาก
ด้านหลัง “รอเดี๋ยวค่ะ!”
หม่าอี้ฉวินหันกลับไปมอง เขาเห็นสาวแว่นผมสั้นกำลังมองมาพร้อมวิ่งเข้ามา
หา
“สวัสดีค่ะ คุณเป็นพนักงานของบริษัทเถิงต๋าใช่ไหมคะ” หญิงสาวกระหืด
กระหอบจากการวิ่ง แต่เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทำเป็นประจำเวลาทำงาน เธอจึง
สามารถพูดออกมาได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ
หม่าอี้ฉวินพยักหน้าอย่างระแวดระวัง
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ! ฉันชื่อหูเยว่เป็นนักข่าวจาก Playtime สาขาเมืองจิงโจว
ตอนนี้กำลังเขียนข่าวเรื่องบริษัทเถิงต๋าอยู่ รบกวนขอสัมภาษณ์ได้ไหมคะ” หูเยว่
เอาผมทัดหู พยายามหายใจให้เป็นปกติ
หม่าอี้ฉวินอึ้งไป “ทำไมถึงรู้ว่าผมเป็นพนักงานของเถิงต๋า”
หูเยว่ยิ้ม “พอดีมีเพื่อนสมัยเรียนทำงานอยู่ที่โรง’บาลนี้น่ะค่ะ เพื่อนคนนั้น
บอกมาว่าพนักงานบริษัทเถิงต๋าจะมาตรวจสุขภาพวันนี้ ฉันเลยรีบมา”
Playtime เหรอ
หม่าอี้ฉวินรู้จักบริษัทนี้ มันเป็นบริษัทสื่อเกมที่ค่อนข้างดัง ข่าวและคลิปสั้นที่
ปล่อยออกมามีกระแสตอบรับดีทีเดียว
ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติทั่วไป หม่าอี้ฉวินคงจะตอบตกลงไปแล้ว
แต่สถานการณ์ที่เถิงต๋าไม่ปกติ
บอสเผยกำชับมาเป็นพิเศษว่าห้ามแพร่งพรายชื่อและข้อมูลส่วนตัวของบอส
ให้คนภายนอกรู้ รวมถึงห้ามพูดเรื่องเงินเดือนและสวัสดิการด้วย!
นักข่าวที่ชื่อหูเยว่เคยติดต่อบริษัทเถิงต๋าแล้ว แต่พอบอกว่าอยากขอสัมภาษณ์
ก็โดนปฏิเสธ
ถึงจะรู้ว่าบริษัทเถิงต๋าตั้งอยู่ที่ไหน แต่ในเมื่อทางบริษัทตอบปฏิเสธ จะให้บุก
เข้าไปก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ เพราะจะเป็นการเสียมารยาท
นักข่าวหลายคนโดนปฏิเสธเหมือนหูเยว่และล้มเลิกความตั้งใจกันไปหมดแล้ว
แต่หูเยว่ไม่ยอมแพ้ บังเอิญพอดีที่เพื่อนเธอซึ่งทำงานอยู่โรงพยาบาลแห่งนี้รู้ว่า
พนักงานของเถิงต๋าจะมาตรวจสุขภาพที่นี่ หูเยว่จึงรีบแจ้นมาแล้วเจอพนักงานคน
หนึ่ง
หม่าอี้ฉวินบอกปฏิเสธไปตามที่บอสเผยสั่งไว้
“โทษทีครับ พอดีที่บริษัทมีกฎห้ามแพร่งพรายเรื่องของบอส รวมถึงเรื่อง
เงินเดือนและสวัสดิการ รบกวนไปสัมภาษณ์คนอื่นแทนนะครับ”
พูดจบหม่าอี้ฉวินก็หันกลับออกไป
“รอก่อนค่ะ!” หูเยว่รีบตะโกนเรียก
เธอพยายามมาตั้งนานกว่าจะเจอพนักงานของเถิงต๋า ดังนั้นจะปล่อยให้
โอกาสนี้หลุดลอยไปไม่ได้!
บทที่ 126 วิสัยทัศน์อันกว้างไกลของบอสเผย

“ไม่ต้องพูดเรื่องบอสหรือเรื่องสวัสดิการก็ได้ค่ะ ตอบอ้อมๆ แทนก็ได้! ไม่ต้อง


ห่วงนะคะ การสัมภาษณ์นี้จะเก็บเป็นความลับ ฉันจะจดทุกอย่างเอง ไม่ใช้เครื่อง
บันทึกเสียงหรืออัดคลิปค่ะ”
หูเยว่ดูจะเตรียมตัวมาดีมาก เธอหยิบสมุ ดจดออกมาพร้อมเปิดให้ดูว่าใน
กระเป๋าทุกช่องไม่มีเครื่องบันทึกเสียง
หม่าอี้ฉวินผงะไปเล็กน้อย “เตรียมตัวมาพร้อมเกินไปรึเปล่าครับเนี่ย เถิงต๋า
เป็นแค่บริษัทเกมธรรมดา ทำไมต้องมาขอสัมภาษณ์ด้วยครับ”
“ไม่ใช่เลยค่ะ!” หูเยว่ตอบอย่างจริงจัง “การสัมภาษณ์ครั้งนี้ก็เพื่อพั ฒนา
อุตสาหกรรมเกมในประเทศให้รุ่งเรือง!”
หม่าอี้ฉวินไม่ค่อยเข้าใจ “เอ่อ หมายความว่ายังไงเหรอครับ”
ดวงตาของหูเยว่ฉายแสงวาบ “ถ้าเป็นแค่การสัมภาษณ์ธรรมดา ฉันคงเลิกตื๊อ
ไปนานแล้วค่ะ
“แต่บริษัทเถิงต๋าแตกต่างจากที่อื่น!
“ที่ฉันอยากสัมภาษณ์เถิงต๋าไม่ได้เป็นเพราะเรื่ องค่าจ้างที่ให้พนักงาน แต่
เพราะอยากจะพิสูจน์ให้อุตสาหกรรมเกมได้เห็นว่ามีบริษัทเกมที่มีจิตสำนึกดีแบบ
นี้อยู่จริงๆ!
“ที่ผ่านมา เหล่าผู้เล่นมองอุตสาหกรรมเกมในประเทศว่าเป็นวงการที่โหดร้าย
คอยคิ ด แต่ จ ะหาเงิ น จากการตั ้ ง เพดานค่ า ใช้ จ ่ า ยสู ง ๆ ขาดการใช้ ค วามคิ ด
สร้างสรรค์ และอื่นๆ ในฐานะสื่อวงการเกม ฉันรู้สึกหดหู่และรังเกียจสภาพวงการ
เกมที่เป็นอยู่มาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย!
“แต่พอบริษัทเถิงต๋าผุดขึ้นมา ฉันก็ได้พบบริษัทเกมอีกแบบ เป็นบริษัทเกมที่
ใส่ใจเรื่องคุณภาพของเกม มีความคิดสร้างสรรค์ที่บันเจิด ไม่สนใจเรื่องเงิน และ
มองเกมเป็นงานศิลป์ชิ้นหนึ่ง!
“ฉันเลยคิดว่าการทำงานภายในบริษัทเถิงต๋าต้องแตกต่างจากบริษัทอื่นแน่ๆ!
“ถ้ า ได้ ส ั ม ภาษณ์ ก ็ จ ะสร้ า งผลกระทบครั ้ ง ใหญ่ ใ ห้ อ ุ ต สาหกรรมเกม
ภายในประเทศ
“ฉั น อยากให้ บ ริ ษ ั ท เถิ ง ต๋ า เป็ น มาตรฐาน เป็ น แบบอย่ า งที ่ จ ะนำทาง
อุตสาหกรรมเกมในประเทศไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น ฉันอยากให้ผู้เล่นที่รักเกมที่ผลิตใน
ประเทศยังคงมีความหวังกับเกมผลิตในประเทศอยู่!”
หม่าอี้ฉวินเงียบไป
ตอนแรกหม่าอี้ฉวินตั้งใจจะตอบปฏิเสธอย่างไม่ลังเล ถ้าหูเยว่อยากจะขุดคุ้ย
ข่าวฉาวหรือหาเรื่องไปตีพาดหัวข่าวสร้างกระแส
แต่สิ่งที่หูเยว่พูดมาทำให้เขารู้สึกประทับใจมาก
ถ้าบริษัทเถิงต๋ากลายเป็นแบบอย่างและสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ขึ้นในอุตสาหกรรมเกมภายในประเทศได้ มันก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ
ถ้ามองแบบนี้ เขาก็ควรตอบตกลงให้สัมภาษณ์
แต่บอสเผยก็ย้ำไม่ให้เปิดเผยตัวตนของบอสและสวัสดิการทุกอย่างของบริษัท
เขาคิดไม่ตก
หม่าอี้ฉวินคิดอยู่พักหนึ่ง “งั้นทิ้งช่องทางการติดต่อไว้ได้ไหมครับ ให้เวลาผม
ได้คิดดูสักวันก่อน”
“ได้ค่ะ” หูเยว่รู้ว่าเธอไม่สามารถเร่งอีกฝ่ายได้ จึงยื่นช่องทางการติดต่อให้
หม่าอี้ฉวิน


ถึงจะเก็บไปคิดดูทั้งคืน หม่าอี้ฉวินก็ยังตัดสินใจไม่ได้
หลังจากคิดอยู่พักใหญ่ เขาก็ตัดสินใจว่าจะถามความเห็นจากเปาซวี่ดูตอนไป
ที่บริษัท
ถึงการสัมภาษณ์จะเก็บเป็นความลับ แต่ถ้าเรื่องนี้ทำให้บอสเผยไม่พอใจก็คง
ไม่ดีแน่ และเขาคงจะรู้สึกผิด
จะให้ไปถามบอสเผยตรงๆ ก็จะเป็นการเสียมารยาท
เปาซวีร่ ู้จักบอสเผยดีที่สุด ถามความเห็นจากเขาจึงเป็นเรื่องที่สมควรทำ
เช้าวันต่อมา หม่าอี้ฉวินเข้าไปอธิบายเรื่องราวให้เปาซวี่ฟัง
เปาซวี่คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับ “ผมว่าพี่ควรตอบตกลงเขาไป”
หม่าอี้ฉวินลังเลเล็กหน่อย “แต่บอสเผยย้ำมาว่าไม่ให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกั บ
บอสหรือข้อมูลเรื่องสวัสดิการของบริษัทไม่ใช่เหรอ”
เปาซวี่ส่ายหน้า “อย่าคิดตื้นๆ สิ พี่ต้องพยายามคิดถึงจุดประสงค์ที่แท้จริง
ของบอสเผย”
หม่าอี้ฉวินหูตั้ง “จุดประสงค์ที่แท้จริง…ของบอสเผยเหรอ”
เขามาถามถูกคนจริงๆ ด้วย!
มีแค่คนที่ฉลาดขั้นเทพแบบเปาซวี่เท่านั้นที่จ ะเข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของ
บอสเผย!
ถ้าทำตามที่เปาซวี่บอกก็ไม่ทางพลาดได้!
เปาซวี่จัดระเบียบความคิดและวิเคราะห์ออกมาเป็นฉากๆ “ที่บอสเผยไม่
อยากให้เปิดเผยตัวตนของบอส รวมถึงไม่ให้บอกคนอื่นเรื่องสวัสดิการของบริษัท
เอาจริงๆ ตอนแรกผมก็คิดว่าเป็นเรื่องแปลกและเข้าใจได้ยากมาก
“ใครกันจะไม่อยากมีชื่อเสียง
“แต่พอคิดดูดีๆ ผมก็เข้าใจ
“ทำไมบอสเผยถึงไม่อยากเปิดเผยตัวตนน่ะเหรอ
“เพราะบอสเผยไม่ชอบทำตัวเด่นไงล่ะ
“บอสเป็นนักออกแบบเกมที่มีเสน่ห์มาก ถ้าเปิดเผยตัวตนไป ชาวเกมเมอร์จะ
สนใจที่ตัวบอสมากกว่าเกม
“บอสเผยอยากให้คนสนใจเกมที่เขาสร้างมากกว่าสนใจตัวตนของบอส
“บอสไม่อยากให้ชาวเกมเมอร์กลายเป็นพวกคลั่งอวยคนดัง บอสอยากให้ทุก
คนมองข้ามมนต์เสน่ห์ของบอส และประเมินเกมของบอสตามความเป็นจริง!”
หม่าอี้ฉวินถึงบางอ้อ “เข้าใจแล้ว! ก็เหมือนที่นักเขียนคนหนึ่งเคยว่าไว้ ‘ถ้ากิน
ไข่แล้วรู้สึกว่าอร่อย ก็ไม่เห็นต้องรู้เลยว่าเป็นแม่ไก่ตัวไหนที่วางไข่’”
เปาซวี่พยักหน้า “ใช่ ตามนั้นเลย พี่อ ี้ฉวินนี่สมกับที่จบสาขาภาษาและ
วรรณกรรมจีนมา!”
หม่าอี้ฉวินดูขวยเขิน “พี่เปาก็พูดไป ผมแค่บังเอิญคิดขึ้นได้เฉยๆ เหมือนว่า
คนที่เก่งจริงๆ จะถ่อมตัวอยู่ตลอด ไม่ค่อยชอบทำตัวเด่น!
“แล้ว…ทำไมบอสเผยถึงไม่อยากให้เปิดเผยเรื่องเงินเดือนกับสวัสดิการของ
บริษัทล่ะ” หม่าอี้ฉวินถามต่อ
เปาซวี่ถอนหายใจ “ผมว่าที่บอสเผยทำแบบนี้ก็เพราะคิดถึงอุตสาหกรรมเกม
ในภาพรวม
“เรารู้กันดีว่าเรื่องเงินเดือนและสวัสดิการของเถิงต๋าไม่มีที่ไหนสู้ได้ บริษัทอื่น
นี่คือเทียบไม่ติด
“ถ้าเปิดเผยเรื่องนี้ไปจะเป็นยังไง
“ได้สะเทือนทั้งวงการเลยใช่ไหมล่ะ”
หม่าอี้ฉวินไม่ค่อยเข้าใจ “ถ้าเป็นอย่างนั้น พวกคนเก่งๆ จะแห่มาเถิงต๋าหมด
แบบนั้นก็ดีไม่ใช่เหรอ”
เปาซวี่ส่ายหน้า “พี่กำลังมองเรื่องนี้แค่ด้านเดียว
“ถ้าเถิงต๋าทำลายมาตรฐานอุตสาหกรรมเกมในประเทศและให้สวัสดิการดีๆ
แบบนี้ บริษัทอื่นๆ ก็เกลียดขี้หน้าเอาสิครับ
“เถิงต๋าอาจกลายเป็นเป้าได้ ถึงจะเป็นไปได้ยาก แต่เราก็ต้องระวังเรื่องนี้
“อีกอย่างถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ก็จะเป็น ผลเสียต่อบริษัทเล็กๆ ที่เพิ่ง
เปิดใหม่! ถึงสวัสดิการดีๆ จะเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ไม่ใช่ว่าบอสบริษัทอื่นจะดีเหมือน
บอสเผย!
“บริษัทที่ให้สวัสดิการพนักงานน้อยกว่าก็อาจจะไม่ใช่เพราะใจดำ แต่เพราะ
ต้อ งกระเสือกกระสน พวกเจ้าของบริษัทเปิดใหม่ต้องทำงานล่วงเวลาไปกับ
พนักงานอย่างเหน็ดเหนื่อย ตัวอย่างมีให้เห็นเยอะแยะ
“ถ้าเถิงต๋าแจ้งสวัสดิการของบริษัทในทุกคนรู้ แล้วบริษัทที่กำลังตั้งตัวได้ต้อง
เจ๊งขึ้นมา จะกลายเป็นเรื่องดีหรือเรื่องแย่ล่ะ!
“ต้องค่อยๆ เปลี่ยนสภาพและวัฒนธรรมของอุตสาหกรรมเกมไปทีละนิด ถ้า
จู่ๆ เถิงต๋าก็ตั้งมาตรฐานไว้สูงลิ่ว จะเกิดผลเสียตามมาได้”
หม่าอี้ฉวินเข้าใจที่อีกฝ่ายพูด “อ๋อ เข้าใจแล้ว ก็เหมือนเรื่องจื่อก้งไถ่ทาส!”
“?”
เปาซวี่งง คุยกับหัวกะทิด้านภาษาและวรรณกรรมจีนนี่เหนื่อยจริงๆ
บทที่ 127 มีข่าวดีมาบอก!

หม่าอี้ฉวินรีบอธิบาย “เรื่องในคัมภีร์หลุนอวี่น่ะ สั้นๆ คือ ถ้ าปรับมาตรฐาน


ทางจริยธรรมที่ทุกคนสามารถทำได้ให้สูงขึ้นจนคนส่วนใหญ่ทำตามไม่ได้ คน
ส่วนมากก็จะหมดกำลังใจในการทำเรื่องนั้นไป
“ถ้าเถิงต๋าวางมาตรฐานเงินเดือนและสวัสดิการไว้สูงก็จะส่งผลกระทบกับ
พนักงานในบริษัทอื่น อุตสาหกรรมเกมในภาพรวมก็จะค่อยๆ ได้รับผลกระทบ ทำ
ให้เกิดผลเสียได้!”
เปาซวี่พยักหน้า “ใช่แล้ว ถึงจะไม่เข้าใจเรื่องของพี่ แต่นั่นแหละที่ผมจะสื่อ
“ถ้าเรามองกันที่ภาพรวม อุตสาหกรรมเกมจะค่อยๆ พัฒนาตามอิทธิพลจาก
เถิงต๋า แต่ตอนนี้ยังเร็วไป ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป
“บอสเผยน่าจะคิดแบบนี้เหมือนกัน บอสไม่อยากทำตัวเด่น ถึง ได้คอยย้ำกับ
เราตลอด”
หม่าอี้ฉวินเข้าใจแจ่มแจ้ง
เป็นแบบนี้นี่เอง!
บอสเผยไม่ได้เก็บเนื้อเก็บตัวเพื่อตัวเองเท่านั้น จริงๆ แล้วบอสมองการณ์ไกล
บอสคำนึงถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมในภาพรวม!
“ถ้าอย่างนั้น… ผมตอบปฏิเสธไปดีกว่ามั้ย” หม่าอี้ฉวินถาม
เปาซวี่ “ไม่ พี่ควรรับสิ”
“หา” หม่าอี้ฉวินงง “ทำแบบนั้นจะไม่ตรงกันข้ามกับความตั้งใจของบอสเผย
เหรอ”
เปาซวี่ยิ้ม “ขอแค่พี่ไม่เปิดเผยตัวตนบอสกับบอกเรตค่าจ้างรวมถึงสวัสดิการ
ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรไม่ใช่เหรอ
“ผมว่าครั้งนี้เราจำเป็นต้องให้สัมภาษณ์ เพื่อที่จะได้บรรลุจุดประสงค์ของ
บอสเผยและทำให้เถิงต๋าเป็นที่รู้จัก!
“แต่เราก็ต้องคุมสถานการณ์ให้ดี
“พูดง่ายๆ คือห้ามเปิดเผยอะไรก็ตามที่อยู่ในสัญญาเรา ให้พูดเรื่องทัศนคติ
กับแนวคิดของเราแทน”
หม่าอี้ฉวินจ้องเปาซวี่ด้วยแววตางุนงง “แล้ว…ควรจะทำยังไง”
เปาซวี่ตอบ “บอสเผยบอกแค่ว่าห้ามเปิดเผยโครงสร้างเงินเดือนกับสวัสดิการ
ของพนักงาน แต่นอกจากสองเรื่องนี้ก็มีเรื่องอื่นให้พูดอีกเยอะแยะ!
“ถ้าเราเปิดเผยเรื่องๆ อื่นไป เราก็จะไม่ทำให้บอสเด่นตามที่บอสต้องการ
รวมถึงไม่สร้างกระแสให้คนมาสนใจเราด้วย แถมยังได้โฆษณาบริษัทอีก มีแต่คุ้ม
กับคุ้ม!
“ในฐานะบริษัทเกม เราควรทำให้พวกคนเก่งๆ สนใจด้วยการสร้างชื่อให้
ตัวเอง ผมคิดว่าบอสเผยคงไม่ติดขัดอะไรกับแผนนี”้
หม่าอี้ฉวินพยักหน้ารัว “เข้าใจแล้วพี่เปา! ผมจะตอบตกลงไปและจะทำดี
ทีส่ ุด!”


เผยเชียนเรียกหน้าจอระบบขึ้นมาดูในห้องทำงาน
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ: เผยเชียน>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1:1>
<เงินทุนระบบ: 2,130,000 (↑1,130,000)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 47,143.6>
<ภารกิ จ พิ เ ศษประจำรอบ: บริ ษ ั ท จะต้ อ งตั ้ ง หน้ า ร้ า นใกล้ บ ริ เ วณที ่ ค น
พลุกพล่านหรือบริเวณมหาวิทยาลัย [สำเร็จ]>
<รางวั ล ที ่ จ ะได้ ร ั บ เมื ่ อ ปฏิ บ ั ต ิ ภ ารกิ จ พิ เ ศษสำเร็ จ : เพิ ่ ม เงิ น 10% หลั ง
ดำเนินการแปลงค่าเงิน>
เผยเชียนอ่านข้อความบนหน้าจอแล้วถอนหายใจยาว
ถ้าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ในตอนแรก ตอนนี้เขาต้องขาดทุนมหาศาลแล้ว
เผยเชียนจัดแจงให้พนักงานทุกคนไปตรวจสุขภาพพร้อมเพิ่มสวัสดิการให้เพื่อ
ผลาญเงินให้ขาดทุนเพิ่มขึ้น
แต่จู่ๆ เกมนักออกแบบเกมดันทำเงินได้ เผยเชียนมีเงินเพิ่มขึ้นมาในบัญชีล้าน
กว่าหยวนโดยไม่ได้ตั้งตัว จากที่ขาดทุนอยู่กลายเป็นทำกำไรได้ในเวลาสั้นๆ!
แถมยังเหลืออีกหนึ่งสัปดาห์ก่อนถึงวันสรุปบัญชี เขากะเอาไว้ว่าน่าจะมีเงิน
เข้าอีกหนึ่งล้านกว่าหยวน
ว่าง่ายๆ คือเงินทุนระบบน่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสามล้านหยวน หลังจากหักเงิน
หนึ่งล้านหยวนก้อนแรกออก จะเหลือสองล้านหยวนที่นำมาแปลงตามอัตราการ
แปลงกำไร
“สามเดือน แปลงมาได้สองหมื่นกว่ าหยวน เท่ากับว่าหาเงินได้เฉลี่ยเดือนละ
ประมาณเจ็ดพันหยวน
“โอเค ก็ไม่ได้แย่” เผยเชียนได้แต่ปลอบใจตัวเอง
ถึงอัตราแปลงกำไรจะอยู่ที่ 100:1 แต่แปลงมาได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น…
ระหว่างที่กำลังครุ่นคิดอยู่ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
เขาหันมอง พบว่าเป็นหวงซื่อปั๋ว
“บอสเผยครับ
“ผมมีข่าวดีจะมาบอก!
“ชีวิตประจำวันของบอสเผยซีซั่นสามลงเว็บอ้ายลี่เต่าไปแล้วสามตอน แต่
ตอนยอดวิวทะลุหนึ่งล้านวิวไปแล้วครับ!
“ถึงจะไม่ดีเท่าสองซีซั่นแรก แต่ถ้ามองว่าซีซั่นนี้ขายลิขสิทธิ์ลงเว็บเดียวก็ถือ
ว่าตอนนี้กระแสดีเลยครับ!
“ตามข้อตกลง สัปดาห์ก่อนเว็บอ้ายลี่เต่าโอนเงินมาให้ห้าแสนสามหมื่นกว่า
หยวน เงินเพิ่งเข้าบัญชีมา หลังลงคลิปครบสิบตอน ผมว่ายอดน่าจะพุ่งขึ้นไปอีก
ประมาณสามถึงสี่เท่า!
“บอสเผยครับ เดี๋ยวผมจะโอนเงินเข้าบัญชีเถิงต๋า จะแบ่งยังไงดีครับ”
ใบหน้าของหวงซื่อปั๋วเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ
เขาแสดงสีหน้าภาคภูมิใจต่อหน้าบอสเผย!
ถึงจะยังหาเงินคืนทุนทำซีรีส์หนึ่งล้านหยวนไม่ได้ แต่ตอนนี้ก็ทำเงินไปได้แล้ว
ครึ่งล้าน อีกไม่นานน่าจะทำกำไรได้อย่างแน่นอน
ดังนั้นหวงซื่อปั๋วจึงทนรอไม่ไหวที่จะบอกข่าวดีนี้กับเผยเชียน
เขาอยากบอกบอสเผยว่างบในฝันหนึ่งล้านหยวนที่ใ ห้มานั้นไม่สูญ เปล่า
นอกจากจะทำซีรีส์ตอนสั้นยอดฮิตเรื่องชีวิตประจำวันของบอสเผยขึ้นมาได้แล้ว
ยังหากำไรได้ด้วย!
เผยเชียนพยักหน้า “ทำได้ดีมาก
“ไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน เราต้องจัดการเรื่องนี้อย่างเหมาะสม”
พอคิดว่าต้องหาทางผลาญเงินก้อนนี้เผยเชียนก็ปวดหัวขึ้นมา ตอนนี้มีรายได้
เพิ่มเข้ามาอีกทาง เหมือนบ้านหลังคารั่วที่โดนฝนตกใส่อยู่หลายวัน
แต่พอเห็นหวงซื่อปั๋วตื่นเต้นดีใจ เขาก็ทำหน้าบึ้งออกไปไม่ได้ ได้แต่พยายาม
ฝืนยิ้มให้กำลังใจ
เผยเชียนคิดคำนวณในใจอย่างรวดเร็ว
สัปดาห์ก่อนหลังจากลงตอนที่สาม พวกเขาทำเงินได้ห้าแสนสามหมื่นหยวน
สัปดาห์นี้จะปล่อยตอนที่สี่ ก็น่าจะได้เงินมาเพิ่มอีกประมาณเจ็ดแสนหยวน
อีกสามตอนจะลงหลังวันสรุปบัญชี เผยเชียนเลยยังไม่ได้สนใจอะไรมาก
พูดง่ายๆ คือ ก่อนวันสรุปบัญชี เฟยหวงสตูดิโอจะทำเงินได้ประมาณหนึ่งล้าน
สองแสนหยวน
เฟยหวงสตูดิโอเป็นบริษัทลูกของบริษัทเถิงต๋า เผยเชียนจึงมีอิสระในการ
จัดสรรเงิน ถ้าโอนรายได้ทั้งหมดเข้าบัญชีเถิงต๋าก็จะเพิ่มยอดเงินทุนระบบได้อีก
หนึ่งล้านหยวนก่อนวันสรุปบัญชี
หมายความว่า พอสรุปบัญชีเสร็จ เขาจะได้เงินแปลงเข้าความมั่งคั่งส่วน
บุคคลเพิ่มอีกหนึ่งหมื่นหยวน
แต่พอคิดดูอีกที จะมองแค่ระยะสั้นไม่ได้…
วันสรุปบัญชีรอบนี้จะจบที่เขาทำกำไรได้อย่างแน่นอน เพราะตอนนี้ทำอะไร
ไม่ได้แล้ว
แต่ครั้งต่อไปล่ะ
เผยเชียนอยากสรุปบทเรียนที่ได้เพื่อทำให้บริษัทขาดทุนในครั้งต่อไป!
ตอนนี้สามารถหาเงินให้ตัวเองเพิ่มได้หนึ่ง หมื่นหยวน แต่ก็หมายความว่ารอบ
หน้าจะมีเงินเข้าเงินทุนระบบหนึ่งล้านหยวนทุกเดือน จะไม่กลายเป็นภาระแย่
เหรอ
เขาจะทำเรื่องโง่ๆ แบบนั้นไม่ได้!
ถ้าเกิดในอนาคตตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถผลาญเงินได้แม้แต่หยวน
เดียว เขาคงต้องโทษตัวเองที่ตัดสินใจไปโง่ๆ ในครั้งนี้!
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“กำไรของเฟยหวงสตูดิโอจะแบ่งเป็นสี่ส่วน 50% แบ่งเป็นค่าดำเนินงานใน
แต่ละวันและงบสำหรับพัฒนาในอนาคต จูเสี่ยวเช่อกับคุณจะได้คนละ 10% ของ
กำไรในฐานะที่เป็นหัวเรือของบริษัท พนักงานหลักคนอื่นๆ ได้รวมกัน 10% ที่
เหลืออีก 20% โอนเข้าเถิงต๋า”
ระบบไม่ยอมให้บริษัทเถิงต๋าปฏิเสธไม่รับกำไรจากเฟยหวงสตูดิโอ ดังนั้นเผย
เชียนจึงตัดสินใจรับเงินในอัตราที่ต่ำที่สุดที่ระบบยินยอม ซึ่งก็คือ 20%
อีก 80% ต้องหาเหตุผลมากระจายเงินออก
หวงซื่อปั๋วอึ้ง
“บอสเผย แบบนี้ไม่เหมาะนะครับ! บอสทำแบบนี้ไม่ได้!”
บทที่ 128 คุณต้องก้าวออกคอมฟอร์ตโซน

หวงซื่อปั๋วรู้อยู่แล้วว่าบอสเผยเป็นคนใจดี แต่ก็ไม่คิดว่าจะใจดีขนาดนี้!
ผู้ก่อตั้งบริษัทสองคนได้คนละ 10% จากกำไรที่ทำได้ ส่วนพนักงานหลักคน
อื่นๆ ในบริษัทได้รวมกัน 10% ซึ่งหมายความว่าเงินที่ให้พนักงานของเฟยหวง
สตูดิโอนั้นเยอะกว่าที่บริษัทเถิงต๋าได้เสียอีก!
เผยเชียนยกมือขึ้นพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เอาตามนี้ แล้วพวกคุณก็ควร
ขึ้นเงินเดือนให้ตัวเองด้วย ห้ามให้ต่ำกว่าฐานเงินเดือนตัวเอง!”
เมื่อเห็นแววตามุ่งมั่นของบอสเผย หวงซื่อปั๋วก็ได้แต่ตอบไปว่า “โอเคครับ
บอสเผย”
“มีอะไรอีกรึเปล่า” เผยเชียนอยากจะไล่หวงซื่อปั๋วออกไปให้ไว
แกตลบหลังฉันสองรอบติดแล้ว แต่ฉันก็ยังต้องยิ้มให้แก น่าหงุดหงิดจริงๆ!
“อ๋อ มีอีกเรื่องครับบอสเผย พวกเรากำลังคุยกันเรื่องถ่ายซีรีส์ชีวิตประจำวัน
ของบอสซีซั่นสี่ บอสว่า…”
จุดประสงค์ของหวงซื่อปั๋วนั้นชัดเจนมาก เขาหวังว่าเผยเชียนจะร่วมแสดงต่อ!
แต่สัญญาที่เซ็นก่อนหน้านี้ครอบคลุมแค่สามซีซั่น
เผยเชียนตื่นตัวขึ้นทันที
ยังจะถ่ายซีซั่นสี่อีกเหรอ
ฝันไปเถอะ! ฉันไม่ถ่ายแล้วโว้ย!
จูเสี่ยวเช่อพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขามีความสามารถแค่ไหน ขนาดถ่ายไปแล้ว
สามซีซั่นยังมีไอเดียดีๆ เหลืออีกเพียบ คุ ณภาพก็ไม่ตกสักตอน ถ้าถ่ายซีซั่นสี่ต้อง
ทำกำไรได้แน่นอน!
คิดได้อย่างนั้น เผยเชียนก็ส่ายหัว
“ผมจะไม่ร่วมถ่ายด้วยแล้ว
“ผมตั้งใจว่าจะช่วยแค่สามซีซั่นแรก เพราะพวกคุณเพิ่งตั้งตัว
“ตอนนี้เฟยหวงสตูดิโอก็มั่นคงแล้ว ผมคงช่วยถ่ายไม่ได้อีก งานผมเยอะมาก”
เผยเชียนปฏิเสธด้วยเหตุผลที่ฟังขึ้นสุดๆ
หวงซื่อปั๋วรู้สึกซาบซึ้งใจมาก
ใช่ บอสเผยยุ่งมาก ต้องทำเกม ดูร้านอินเทอร์เน็ต แถมยังมาช่วยถ่ายคลิปอีก!
ที่บอสเผยมาช่วยก็เพราะเห็นว่าพวกเรากำลังก่อร่างสร้างตัว!
บอสรับเงินก้อนเล็กๆ นี้ไว้พอเป็นพิธีเฉยๆ สำหรับบอสเผยแล้ว เงินจำนวนนี้
เป็นเงินแค่เล็กน้อย แต่บอสก็ยอมถ่ายทั้งสามซีซั่นเพื่อพวกเขา ถึงกับทุ่มเทแสดง
ฝีมือการแสดงระดับเทพ ทำให้ซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยดังได้ขนาดนี้!
เพียงแค่นี้…ก็ตอบแทนบุญคุณได้ยากแล้ว!
แต่ระหว่างที่กำลังซาบซึ้งใจ หวงซื่อปั๋วก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา
“แต่ถ้าไม่มีบอสเผยมาร่วมแสดง ซีรีส์นี้ก็คงขาดจิตวิญญาณไป…” หวงซื่อปั๋ว
ดูกังวลใจมาก
ถ้าไม่มีบอสเผย เขาจะไปหาคนที่เหมาะกับบทได้จากไหนอีก
เผยเชียนส่ายหน้า
“คิดแบบนั้นไม่ถูก
“คุณต้องก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนของตัวเองบ้าง”
หวงซื่อปั๋วกะพริบตาปริบ “ก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนเหรอครับ”
เผยเชียนตบบ่าอีกฝ่ายเบาๆ “ถ้าถ่ายซีซั่นสี่ต่อ คุณก็ทำกำไรได้แน่นอน
“แต่อย่าลืมว่าเงินหนึ่งล้านที่ให้ไปคืออะไร
“มันคืองบตามฝัน!
“ความฝันของคุณจบลงแค่ตรงนี้เหรอ
“ความฝันของคุณคือการทำซีรีส์ตอนสั้นให้ได้ยอดวิวหนึ่งล้านวิวแค่นั้น เอง
เหรอ
“ก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนของตัวเอง นั่นแหละคือความหมายของงบตาม
ฝัน!
“อย่าหยุดฝัน ก้าวต่อไป!”
หวงซื่อปั๋วตะหนักได้ทันที “เข้าใจแล้วครับบอสเผย! ขอบคุณครับที่ช่วย
แนะนำ!”
หวงซื่อปั๋วเดินกลับออกไปด้วยความหวังเต็มเปี่ยม
เผยเชียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก เฮ้อ… รอดสักที
ถ้าถ่ายซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยซีซั่นสี่ต่อแล้วทำเงินได้มากกว่าสอง
ล้านหยวน เขาคงทำใจยอมรับไม่ได้แน่!
ตอนนี้เขาอยากให้หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อออกจากคอมฟอร์ตโซนของตัวเอง
และสร้างโปรเจ็กต์ที่ ปั้นใหม่ตั้งแต่ต้น!
ถ้าเป็นอย่างนั้น สองสามเดือนต่อจากนี้ พวกแกก็จะทำเงินไม่ได้ จะได้เลิก
สร้างปัญหาให้ฉันสักที…
เผยเชียนเอนตัวพิงเก้าอี้พร้อมถอนหายใจยาว
เป็นบอสคนนี่ยากจริงๆ…

ไม่นานหลังจากหวงซื่อปั๋วกลับออกไป เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีก
เลขาซินหอบเอกสารรายงานผลตรวจสุขภาพกองใหญ่ไว้ในมือ “บอสเผยคะ
ดิฉันได้รายงานผลตรวจสุขภาพมาแล้วค่ะ ตามที่บอสสั่งไว้ ดิฉันต้องส่งให้บอ
สตรวจดูก่อน”
“โอเค วางไว้บนโต๊ะได้เลยครับ”
เผยเชียนหยิบเอกสารชุดหนึ่งขึ้นมาไล่สายตาดู
โอ้… ยากจัง อ่านไม่เข้าใจเลย
“เลขาซิน ช่วยสรุปเรื่องผลตรวจสุขภาพให้ผมฟังที”
มีเลขาก็ดีแบบนี้แหละ ไม่เข้าใจอะไรก็ขอให้ทำแทนได้
เลขาซินเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี “ในภาพรวม ผลตรวจสุขภาพอยู่ในระดับดี
ค่ ะ พนั ก งานประมาณ 70% มี อ าการก้ ำกึ ่ง ระหว่า งสภาพที่ เรี ย กว่า สุข ภาพ
แข็งแรงกับสภาพที่เรียกว่าเจ็บป่วย ปัญหาสุขภาพที่พบมากที่สุดคือ ระบบย่อย
อาหาร ภาวะไขมันพอกตับระดับต่ำ ภาวะอ้วนเล็ก น้อย ความดันเลือดสูง และ
ภาวะไขมันในเลือดสูงค่ะ
“มีพนักงานจำนวนไม่มากที่มีปัญหาสุขภาพหนักกว่าคนอื่นๆ ต้องได้รับการ
รักษา
“โจวเผิงอาการแย่ที่สุด มีเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง ต้องได้รับการผ่าตัด แต่ไม่
ค่อยมีความเสี่ยงในการผ่าตัดค่ะ”
หืม การผ่าตัดเล็กเหรอ
เผยเชียนตาเป็นประกาย “ผ่าตัดต้องใช้เงินเท่าไหร่”
เลขาซินตอบ “ยังไม่แน่ใจค่ะ น่าจะอยู่ที่ประมาณสองหมื่นถึงสามหมื่นหยวน
ไม่ต้องกังวลนะคะบอสเผย พนักงานบริษัทเราส่วนมากอายุยังน้อย อายุโดย
เฉลี่ยต่ำกว่ายี่สิบเจ็ดปี ส่วนใหญ่สุขภาพแข็งแรง ปัญหาสุขภาพบางอย่างแค่ปรับ
พฤติกรรมเล็กน้อยก็แก้ได้แล้วค่ะ ไม่กระทบการทำงานแน่นอน”
เมื่อเห็นเผยเชียนคิดหนัก เลขาซินก็เข้าใจว่าเขาน่าจะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ
ของพนักงาน
เผยเชียนกำลังคิดหนักจริงๆ
ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงสุขภาพของพนักงาน
แต่เพราะเขาเจอแหล่งผลาญเงินแหล่งใหม่แล้วต่างหาก!
เผยเชียนไม่สามารถกู้สถานการณ์รอบนี้ได้ เพราะไม่รู้จะหาทางไหนมาผลาญ
เงินทุนระบบสองล้านหยวนให้หมดได้ในช่วงเวลาสั้นๆ โดยไม่ทำผิดกฎระบบ
แต่รอบต่อไปล่ะ
ในรอบต่อไป เผยเชียนมีบ่อเงินเยอะขึ้น ไม่ใช่แค่จากเกมแม่ทัพผีกับเกมฐาน
ทัพกลางทะเล แต่ยังมีเกมนักออกแบบเกมอีก กลายเป็นมีบ่อเงินสามบ่อคอยอัด
ฉีดเงินให้อย่างต่อเนื่อง!
ทำให้เผยเชียนต้องแบกรับภาระเยอะขึ้น
ถ้าอยากผลาญเงินก็คงต้องปวดหัวหนักกว่านี้แน่!
ดังนั้นเผยเชียนจึงต้องหาช่องทางใหม่ในการผลาญเงิน
เผยเชียนรู้ว่าทางที่รวดเร็วที่สุดในการผลาญเงินคือให้สวัสดิการพนักงาน ไม่มี
วิธีไหนดีกว่านี้อีกแล้ว
ก็เหมือนคำพูดที่ว่าคนเยอะกว่าย่อมเปรียบ ตอนนี้เถิงต๋ามีพนักงานกว่าห้าสิบ
คน ถ้าให้เงินพวกเขาคนละหนึ่งหมื่นหยวน ก็ผลาญเงินไปได้รวดเดียวห้าแสน
หยวน
ถ้ามีพนักงานสักห้าร้อยคน ก็ผลาญได้ห้าล้านหยวน
ดังนั้นถ้ารับพนักงานเพิ่ม เขาก็จะสามารถผลาญเงินเพิ่มไปกับสวัสดิการ
พนักงานและเพิ่มรายจ่ายรวมได้อีกหลายเท่า!
เช่น บัตรกำนัลสำหรับจับจ่ายซื้อของที่เขาให้พนักงานแต่ละคนโดยมีการ
จำกัดวงเงิน ถือเป็นความคิดที่ดี
ตอนนี้พอจัดให้พนักงานไปตรวจสุขภาพ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่คนละสามพันสอง
ร้อยหยวน เผยเชียนก็ค้นพบแหล่งผลาญเงินแหล่งใหม่!
เผยเชียนถามระบบในใจ “ค่าชดเชยเมื่อได้รับบาดเจ็บจากการทำงานมี
เงื่อนไขยังไงบ้าง”
แถวตัวอักษรปรากฏขึ้นบนหน้าจอ <ถ้ามีผู้ใดได้ รับบาดเจ็บระหว่างการ
ทำงานจะถื อ ว่าเป็น การบาดเจ็ บ จากการทำงาน เจ้ า ของระบบสามารถออก
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดหลังหักค่ารักษาพยาบาลที่เบิกจากประกันชีวิต หากได้รับ
บาดเจ็บจากการทำงานจนพิการ เจ้าของระบบสามารถจ่ายค่าชดเชยได้ตามที่
กฎหมายกำหนด>
เผยเชียนตาลุกวาว
คงเป็นไปไม่ได้ที่พนักงานของเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือพิการจากการ
ทำงาน
เผยเชียนทำบริษัทเกม ไม่ใช่บริษัทก่อสร้าง พนักงานทุกคนนั่งตากแอร์กด
แป้นพิมพ์อยู่ที่ออฟฟิศตลอดทั้งวัน จะไปพลาดอิท่าไหนถึงขั้นพิการได้
แต่ตามที่ระบบบอก การได้รับบาดเจ็บใดๆ ระหว่างการทำงานถือเป็นการ
บาดเจ็บจากการทำงาน!
ซึ่งก็มีทั้ง พังผืดกดทบเส้นประสาท ข้อต่อกระดูกสันหลังเอวเสื่อม หมอนรอง
กระดูกเคลื่อน โรคระบบทางเดินอาหาร…
ทั้งหมดนี้ถือเป็นการบาดเจ็บจากการทำงานไม่ใช่เหรอ
เผยเชียนดีใจมากที่สังเกตเห็นสิ่งดีๆ ที่ซ่อนอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายนี้!
ถือเป็นผลประโยชน์ที่คาดไม่ถึงจากการส่งพนักงานไปตรวจสุขภาพ!
ถ้าเขาสามารถทำให้ปัญหาสุขภาพเล็กน้อยเหล่านี้นับเป็นการบาดเจ็บจาก
การทำงานและเสียเงินไปกับพนักงานคนละหลายพันหยวนได้ ก็จะผลาญเงินได้
เพิ่มอีกสองถึงสามแสนหยวนเลยไม่ใช่เหรอ
แน่นอนว่าเงินจำนวนแค่นี้ถือเป็นส่วนเล็กน้อยมากในสถานการณ์ปัจจุบันของ
เผยเชียน มันแทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย
ถ้ายังมีเงินเหลืออยู่อีกสองล้านหยวน จะผลาญเงินสองถึงสามแสนหยวนไป
ทำไม
แต่นี่ก็ถือเป็นหนทางใหม่!
บทที่ 129 นี่คอื การบาดเจ็บจากการทำงาน!

ปัจจุบันเผยเชียนมีพนักงานประมาณห้าสิบคน น่าจะผลาญเงินได้ประมาณ
สองถึงสามแสนหยวน ถ้ามีพนักงานสักห้าร้อยคนก็ผลาญเงินได้สองถึงสามล้าน
หยวนเลยสิ
เรื่องสำคัญที่สุดตอนนี้คือทดสอบเกณฑ์ของระบบ เพื่อให้รู้ว่าเขาจะจ่าย
ค่าชดเชยให้พนักงานจากการบาดเจ็บจากการทำงานได้แค่ไหน
พอรู้เกณฑ์ข องระบบ เขาก็สามารถเริ่มหาพนักงานใหม่ไ ด้ จากนั้นก็จะ
วางแผนผลาญเงินก้อนโตได้
ก็เหมือนคำพูดที่ว่า ความพยายามในวันนี้จะทำให้เกิดผลดีในอนาคต!
“เรียกทุกคนมาประชุมที่ห้องประชุมตอนบ่ายสามโมง” เผยเชียนคิดอยู่ครู่
หนึ่งก็พูดต่อ “เรียหม่าหยางกับหวงซื่อปั๋วมาด้วย”
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูและเฟยหวงสตูดิโอเป็นของบริษัทเถิงต๋า พนักงานของ
ทั้งสองที่ควรจะได้สวัสดิการที่ดีเหมือนกัน
แต่จะเรียกทุกคนมาประชุมก็ดูไม่เหมาะ ให้แค่หม่าหยางกับหวงซื่อปั๋วมาก็
น่าจะพอ

บ่ายสามโมง ที่ห้องประชุม
ทุกคนดูงนุ งงกันเล็กน้อย ไม่มีใครรู้ว่าทำไมถึงโดนเรียกมาห้องประชุม
บอสเผยกำลังวางแผนโปรเจ็กต์ใหม่อยู่เหรอ แต่พอเห็นหวงซื่อปั๋วกับหม่าห
ยางมาประชุมด้วยก็คิดว่าไม่น่าใช่
ถ้าจะทำโปรเจ็กต์ใหม่คงไม่เรียกสองคนนี้มาหรอก
เลขาซินแจกผลตรวจสุขภาพให้พนักงานแต่ละคน
เผยเชียนนั่งรอให้ทุกคนได้ผลตรวจสุขภาพอยู่บนเก้าอี้
จริงๆ แล้วหลังตรวจสุขภาพเสร็จ หลายคนก็พอจะรู้คร่าวๆ แล้วว่าตนมี
ปัญหาสุขภาพอะไร ข้อมูลในผลตรวจสุขภาพแค่บอกรายละเอียดและตัวเลขต่างๆ
ที่ชัดเจนขึ้น
เผยเชียนมองไปรอบห้องด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ผมดูผลตรวจสุขภาพของทุกคนแล้ว
“ผลไม่ค่อยดีเลย
“พวกคุณไม่ใส่ใจสุขภาพของตัวเอง!
“ผมบอกไปแล้วว่าห้ามทำงานล่วงเวลา ทำไมถึงมีการเจ็บปวดที่เกิดจากการ
ทำงานได้!”
เผยเชียนดูทุกข์ใจจริงๆ
ทุกคนรู้สึกไม่ดีขึ้นมา
พวกเขาก้มมองผลตรวจสุขภาพของตัวเอง
ก็ไม่ได้มีปัญหาใหญ่อะไรนี่
ความดันเลือดสูงนิดหน่อย มีไขมันพอกตับเล็กน้อย น้ำหนักเกิดมาตรฐานมา
ไม่เยอะมาก บางคนมีปัญหาเรื่องพังผืดกดดับเส้นประสาทข้อมือ…
คนส่วนใหญ่ก็มีปัญหาเรื่องนี้กันหมดไม่ใช่เหรอ
ทำไมบอสเผยพูดเหมือนพวกเรากำลังจะตายล่ะ
ก็ยังแข็งแรงปึ๋งปั๋งกันดีนี่
เผยเชียนหันไปมองเปาซวี่ “เปาซวี่ คุณมีปัญหาเรื่องท้องไส้ใช่มั้ย ก็เพราะคุณ
ทำงานเกินเวลากับกินอาหารไม่เป็นเวลา! นี่เป็นการเจ็บป่วยจากการทำงาน ไป
รักษาซะ ค่ารักษาเกินจากที่ประกันครอบคลุมมาเท่าไหร่ ทางบริษัทจะจ่ายให้เอง!
“เลขาซิน ช่วยติดต่อโรงพยาบาลให้ด้วย เลือกแผนรักษาที่ดีที่สุดให้เขา!”
เลขาซินพยักหน้า “ได้ค่ะ บอสเผย”
เปาซวี่อึ้งไป
แผนรักษาที่ดีที่สุดเหรอ
ฉันแค่ท้องไส้ไม่ดี ถ้ากินเยอะไปอาหารจะไม่ย่อย ปัญหาแค่นี้ต้องใช้แผน
รักษาที่ดีที่สุดเลยเหรอ
แค่กินยาช่วยย่อยก็พอแล้วนี่
“ส่วนคนอื่นๆ อย่าง…หม่าอี้ฉวิน! คุณก็ท้องไส้ไม่ดีเหมือนกั นนี่ ไปรักษา
ด้วยกันเลย”
เผยเชียนหันไปมองหัวเถิกของเปาซวี่ “เกือบลืมเลย เปาซวี่ ผมคุณจะหมดหัว
อยู่แล้วเนี่ย! ต้องเป็นเพราะทำงานดึกมาตลอด นี่ก็การเจ็บป่วยจากการทำงาน!
ไปถามโรง’บาลดูว่ามีวิธีช่วยให้ผมขึ้นมั้ย!
“หวงซื่อปั๋ว คุณก็ต้องจัดการเรื่องไขมันพอกตับด้วย หน้าคุณมันมาก ดูไม่ดี
เลย ต้องเป็นเพราะเหนื่อยเกินไปแน่ๆ นี่ก็เป็นการเจ็บป่วยจากการทำงาน!
“ปัญหาเรื่องหน้าแบบนี้ทำลายภาพลักษณ์ของบริษัทได้ ไปจัดการบำรุงผิวซะ
บริษัทจ่ายให้เอง”
หวงซื่อปั๋วกำลังจะอธิบายว่าที่หน้ามันก็เพราะลืมล้างหน้าก่อนมาประชุม แต่
เผยเชียนก็หันไปหาคนอื่นก่อน
“เสี่ยวลู่ ผมดูผลตรวจคุณแล้ว คุณมีปัญหาเรื่องคออักเสบเรื้อรัง! ต้องเป็น
เพราะคุณทำงานหนักตอนอัดเสียงพากย์แน่! ไม่ต้องห่วง นี่ก็ถือเป็นการเจ็บป่วย
จากการทำงาน ต้องได้รับการรักษาที่ดีที่สุด ทางบริษัทจะจ่ายให้หมด!
“มีหลายคนมีปัญหาเรื่องพังผืดกดทับเส้นประสาทข้อมือด้วยนี่ เรื่องนี้อาจจะ
กระทบกับประสิทธิภาพการทำงานได้ ไปรักษาให้เร็วที่สุด!
“โจวเผิง อาการคุณหนักกว่าใครเพื่อนเลย คุณมีเนื้องอก ต้องผ่าตัด ไม่ต้อง
ห่วง บริษัทจะจ่ายส่วนที่ประกันไม่ครอบคลุมเอง ที่เป็นแบบนี้คงเพราะคุณทำงาน
หนักเกินไป ถือเป็นการเจ็บป่วยจากการทำงาน หยุดงานไปจัดการเรื่องนี้สักพัก
จะได้หายไวๆ โอเคมั้ย”
พอเผยเชียนพูดจบ ทุกคนก็หันมองโจวเผิง
“เสี่ยวโจว นายมีเนื้องอกเหรอ ทำไมไม่บอกล่ะ!”
“ใช่ๆ นายเก็บเรื่องใหญ่แบบนี้ไว้คนเดียวได้ไง”
“เสี่ยวโจว ไม่ต้องกังวลนะ พวกเราจะคอยเป็นกำลังใจให้!”
“จะเริ่มรักษาตอนไหนเหรอ ต้องนอนโรง’บาลมั้ย พวกเราจะไปเยี่ยมบ่อยๆ
นะ!”
เสี่ยวโจวทำตัวไม่ถูก ใบหน้าของเขาแดงเรื่อ “เอ่อ…จริงๆ มันก็เป็นเนื้องอก
ชนิดไม่ร้ายแรงน่ะครับ จะผ่าออกเร็วหรือช้าก็ไม่ได้แตกต่างอะไร ไม่ใช่เรื่องใหญ่
ขนาดนั้นครับ…
“อีกอย่าง เนื้องอกนี่น่าจะชื่อ Hamartoma ขนาดประมาณห้าเซนติเมตรเอง
ครับ ถ้าขนาดเล็กกว่าสี่เซนติเมตร โรงพยาบาลก็ไม่ได้สนใจอะไร…”
ทุกคนหันมองกันด้วยแววตางุนงง
เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงเหรอ
ถ้างั้นทำไมบอสเผยถึงจริงจังขนาดนี้ล่ะ นึกว่าเสี่ยวโจวกำลังจะตายซะอีก!
เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงไม่ต้องผ่าออกก็ได้ไม่ใช่เหรอ เพราะส่วนใหญ่ผ่าไปก็
ขึ้นใหม่
อีกอย่างอาการเจ็บป่วยทั้งหมดที่พูดมาก็เป็นเรื่องปกตินี่
ไม่เห็นต้องตีโพยตีพายเป็นเรื่องใหญ่เลย
พอเห็นทุกคนกำลังตั้งคำถามในใจ เผยเชียนก็เคาะโต๊ะด้วยสีหน้าจริงจัง
“อย่าคิดกันแบบนั้นสิครับ
“ร่างกายไม่ใช่แค่ของพวกคุณ พวกคุณเป็นพนักงาน ถือเป็นทรัพย์สินของ
บริษัท!
“ในฐานะพนักงานของเถิงต๋า สุขภาพของพวกคุณเป็นตัวกำหนดว่าบริษัท
ของเราจะเดินหน้าต่อได้หรือเปล่า
“ในเมื่อพวกคุณเซ็นต์สัญญาทำงานกับเราแล้ว ทางบริษั ทก็ต้องรับผิดชอบ
เรื่องสุขภาพของคุณ
“หม่ า หยางกั บ หวงซื ่ อ ปั ๋ ว ไปจั ด การดู แ ลเรื ่ อ งสุ ข ภาพพนั ก งานของร้ า น
อินเทอร์เน็ตโมหยูกับเฟยหวงสตูดิโอด้วย ใช้มาตรฐานเดียวกันกับที่ผมใช้ดูแล
คุณ”
สิ่งที่บอสเผยพูดฟังดูทรงพลังและเด็ดขาดมาก
ทุกคนตะลึงงันไป
พนักงานถือเป็นทรัพย์สินของบริษัท สุขภาพร่างกายไม่ใช่แค่เรื่องของพวก
เขา แต่เป็นเรื่องของบริษัทด้วย พวกเขาต้องมีสุขภาพที่ดีเพื่อที่จะทำงานได้อย่าง
มีประสิทธิภาพ
…ก็ฟังดูสมเหตุสมผล
แต่ตรรกะของบอสเผยดูประหลาด เหมือนมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
“แล้วก็”
เผยเชียนไล่มองพนักงานแต่ละคนในห้องก่อนจะพูดต่อ “ผมรู้สึกแย่มากที่ผล
ตรวจสุขภาพครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่ามีการเจ็บป่วยจากการทำงานมากมายขนาดนี้
“มันหมายความว่าผมมอบหมายงานให้พวกคุณแต่ละคนได้ไม่ดีพอ ดูแล
สุขภาพพวกคุณได้ไม่ดีพอ ผมต้องรับผิดชอบเรื่องนี้
“ผมจะแจ้งเรื่องสวัสดิการใหม่ของบริษัทเรา
“อันดับแรก เกี่ยวกับเรื่องการเจ็บป่วยจากการทำงาน ปัญหาสุขภาพทั้งหมด
จะถือเป็นการเจ็บป่วยจากการทำงาน ให้เบิกค่ารักษาจากประกันสุขภาพก่อน
ทางบริษัทจะรับผิดชอบส่วนที่ประกันไม่ครอบคลุมตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เกณฑ์
ที่ว่าจะแจ้งให้ทราบเป็นกรณีไป”
เผยเชียนไม่ได้บอกรายละเอียดทั้งหมดไปเพราะไม่รู้ว่าระบบยอมให้จ่าย
เท่าไหร่
ตัวอย่างเช่น ถ้ามีพนักงานเป็นมะเร็ง ต้องใช้เงินรักษาหลายแสนหยวน ก็อาจ
บอกได้ว่าเกิดจากความเหนื่อยล้าจากการทำงาน แต่จะให้จ่ายทั้งหมดเหมือนว่า
เป็นการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นจากการทำงานจริงๆ ก็คงไม่ได้ ระบบคงไม่อนุมัติแน่
ดังนั้นเผยเชียนจึงระบุเงื่อนไขเอาไว้ว่าให้พนักงานรายงานปัญหาสุขภาพที่พบ
ให้รู้ก่อน จากนั้นเผยเชียนค่อยแจ้งว่าจะช่วยจ่ายได้เท่าไหร่ (ตามเกณฑ์สูงสุดที่
ระบบยอมให้จ่าย)
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดเสริม “ร่างกายของพนักงานทุกคนถือเป็น
ทรัพย์สินของบริษัท ถ้ารู้ว่าตัวเองมีปัญหาสุขภาพอะไร ห้ามปิดบังเด็ดขาด เข้า
ใจมั้ย
“เลขาซิน ช่วยสมัครสมาชิกยิมหนึ่งปีให้พนักงานแต่ละคนด้วย ซื้อคอร์สเทรน
เดี่ยวแปดคอร์สให้พนักงานแต่ละคนทุกเดือน ทุกคนต้องเข้ายิมสัปดาห์ละสอง
ครั้ง!”
การสมัครสมาชิกยิมในเมืองจิงโจวหนึ่งปีราคาอยู่ที่ประมาณสองแสนหยวน
คอร์สเทรนเดี่ยวราคาคอร์สละสองร้อยหยวน แปดคอร์สราคารวมหนึ่งพันหกร้อย
หยวน ตกปีละสองหมื่นหยวน
แต่เผยเชียนไม่สามารถจ่ายเงินก้อนนี้รวดเดียวหมดได้ ระบบอนุญาตให้เขา
จ่ายค่าใช้จ่ายนี้ได้ทีละเดือนและสามารถซื้ อคอร์สเทรนเดี่ยวได้สูงสุดสิบคอร์สต่อ
เดือน
ถ้าคำนวณตามนี้ แสดงว่าเขาจะผลาญเงินไปกับยิมได้เดือนละประมาณสอง
แสนหยวน
“ยังมีปัญหาเรื่องอาหารการกินด้วย
“พนักงานหลายคนมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินอาหาร สาเหตุหลักมาจาก
อาหารที่กิน
“หม่าหยาง ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจ้างเชฟฝีมือดีมานี่ ไปจ้างเพิ่มอีกสองคน
เตรียมอาหารดีๆ มาส่งที่ออฟฟิศทุกเที่ยง บริษัทจะจ่ายค่าอาหารเอง!
“ทุกวัน เวลาเข้างาน ให้คิดไว้ว่าจะกินอะไรเป็นอาหารเที่ยง อย่าลืมให้
ความสำคัญเรื่องสารอาหารด้วย หม่าหยางกับจางหยวนจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่อง
นี”้
หม่าหยางพยักหน้าทันที “ได้ครับ บอสเผย”
ช่วงนี้หม่าหยางเศร้าใจมาก
เกมนักออกแบบเกมกับซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยสามารถทำเงินได้ แต่
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกลับขาดทุนเดือนละสามแสนหยวน จะไม่ให้เศร้าใจได้ยังไง
ไหว
เขารู้สึกว่าตัวเองช่างไร้ประโยชน์!
ตอนนี้มีโอกาสให้แสดงฝีมือแล้ว เขาต้องทำให้ออกมาดี
“แล้วก็เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าพนักงานทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง เราจะจ้างนัก
โภชนาการ! เลขาซิน ฝากจัดการเรื่องหาคนเหมาะๆ มาทำตำแหน่งนี้ด้วย”
เผยเชียนแจ้งพนักงานไปพร้อมๆ กับตรวจดูการตอบสนองจากระบบ
ระบบไม่ได้ปฏิเสธอะไร หมายความว่าสามารถจัดการตามนี้ได้ทุกอย่าง
หลั ง จากจั ด แจงตามที ่ บ อกไป เผยเชี ย นก็ พ บว่ า เขาจะผลาญเงิ น ไปอี ก
ประมาณห้าแสนหยวน!
แน่นอนว่าก็ยังห่างไกลจากเป้าหมายในการขาดทุน…
แต่เผยเชียนก็พร้อมรับผลที่จะเกิดขึ้น ถึงจะได้เงินแปลงเข้าความมั่งคั่งส่วน
บุคคลแค่ห้าพันหยวน แต่ก็ถือว่ามีความหมาย!
เขาได้พบหนทางใหม่ในการผลาญเงินผ่านระบบแล้ว
ตอนนี้มีพนักงานห้าสิบคน ผลาญเงินไปห้าแสนหยวน
ทั้งหมดที่ทำก็เพื่อสร้างรากฐานในการผลาญเงินให้ขาดทุนในอนาคต!
“โอเคครับ ทั้งหมดมีแค่นี้ แยกย้ายได้!”
เผยเชียนลุกเดินออกจากห้องประชุมไปด้วยความเบิกบานใจ
ถึงสัปดาห์นี้จะพ่ายแพ้ไม่เป็นท่า แต่อนาคตอันสดใสกำลังรออยู่ข้างหน้า!
พนักงานในห้องประชุมนิ่งเงียบไป
พวกเขารู้สึกตื้นตันใจมาก!
จะไปหาบอสที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพพนักงานเหนือสิ่งอื่นใดได้จากที่ไหน
อีก! เหลือเชื่อจริงๆ!
หลายคนรู้สึกเคารพเผยเชียนยิ่งกว่าเก่าระหว่างที่มองเขาเดินออกจากห้องไป
บอสเผยเป็นบอสที่ดีจริงๆ คอยเสียสละอยู่เงียบๆ ไม่เคยอวดอ้างความดีของ
ตัวเอง
บอสทำตัวไม่ เหมื อ นคนรวยคนอื่ นๆ ที่ช อบบอกว่าพนั ก งานเป็น เหมื อ น
ครอบครัว คอยทำการกุศล ทั้งหมดที่ทำไปก็เพื่อชื่อเสียงทั้งนั้น
แต่บอสเผยแตกต่างจากพวกนั้นราวฟ้ากับเหว ที่บอสทำไปทั้งหมดก็เพราะรัก
พนักงานมาก แถมยังไม่เอาเรื่องนี้ออกสื่อเลยสักนิด
นี่คือความใจดีของคนเป็นบอสเหรอ
ถ้าจะให้อธิบายความรู้สึกที่มีในใจก็คงจะบอกได้ว่า พวกเขารู้สึกเคารพจิตใจ
อันสูงส่งของคนผู้นี้อย่างสุดซึ้ง!
หม่าอี้ฉวินตัดสินใจได้แล้วว่าจะให้สัมภาษณ์กับหูเยว่ในวันพรุ่งนี้
ถึงจะบอกข้อมูลของบอสเผยและสวัสดิการทั้งหมดที่พนักงานของเถิงต๋าได้รับ
ไม่ได้ ก็ยังมีเรือ่ งอื่นอีกมากมายให้พูด
เขาจะตั้งใจให้สัมภาษณ์อย่างดีเพื่อที่จะทำให้สังคมได้รับรู้ถึงจิตวิญญาณของ
บริษัทเถิงต๋า!
บทที่ 130 การสัมภาษณ์!

วันที่ 20 เมษายน
หลังเลิกงาน หม่าอี้ฉวินแอบไปที่ร้านคาเฟ่เล็กๆ ข้างออฟฟิศเพื่อให้สัมภาษณ์
กับหูเยว่
หูเยว่หยิบสมุดจดที่เตรียมไว้ออกมา
ทั้งคู่ตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่าจะไม่มีการอัดคลิปหรือเปิดเผยชื่อและตัวตน
ของหม่าอี้ฉวิน
ถึงเป็นการจะลดทอนความน่าเชื่อถือของบทสัมภาษณ์ แต่แค่ได้สัมภาษณ์
พนักงานของเถิงต๋าและได้รู้ส่วนยอดภูเขาน้ำแข็งของบริษัทเกมหน้าใหม่บริษัทนี้
หูเยว่ก็พอใจมากแล้ว
หูเยว่รู้สึกประหม่าเล็กน้อย
หลังจากสงบใจลงได้ เธอก็ทวนคำถามสำคัญในหัวที่เค้นสมองคิดมาอย่าง
หนักเมื่อคืน
ทั้งสองตกลงรวมกันว่า หนึ่ง จะไม่เปิดเผยชื่อและตัวตนของเจ้าของบริษัท
สอง ห้ามหูเยว่ถามเรื่องเงินเดือนและสวัสดิการของพนักงาน
ดังนั้นหูเยว่จึงเตรียมคำถามที่เลีย่ งประเด็นดังกล่าวมาแทน
“ไม่ต้องกังวลนะคะ ฉันเป็นนักข่าวมืออาชีพ ไว้ใจความเป็นมืออาชีพของฉัน
ได้ค่ะ
“นักข่าวที่ดีจะต้องทำให้บทสนทนาเป็นไปอย่างลื่นไหล รู้สึกเป็นธรรมชาติ ไม่
ทำให้ผู้สัมภาษณ์รู้สึกติดขัดตรงไหน คุณแค่ให้ความร่วมมือกับฉันก็พอค่ะ”
หูเยว่ดูมั่นใจเต็มเปี่ยม
หม่าอี้ฉวินพยักหน้า
“เริ่มกันเลยนะคะ
“ก่อนอื่นอยากถามคุณว่าร่วมงานกับเถิงต๋ามานานแค่ไหน รับผิดชอบงาน
อะไรบ้าง
“ไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันจะไม่เอาตำแหน่งจริงๆ ไปลงในบทสัมภาษณ์แน่นอน
แค่อยากทำความเข้าใจคร่าวๆ ว่าคุณรับผิดชอบส่วนไหนในบริษัท จะได้ถาม
คำถามเกี่ยวกับงานที่ทำได้ง่ายขึ้น”
หูเยว่หยิบสมุดขึ้นมาเตรียมจดโน้ต
หม่าอี้ฉวินคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกไปตามจริง “ผมเข้าบริษัทเถิงต๋าเมื่อ
เดือนก่อน หน้าที่หลักคือเรียนรู้ครับ”
หูเหยว่ที่กำลังจดตามอยู่ชะงักไป
หน้าที่หลักคือ…เรียนรู้เหรอ
“อธิบายเพิ่มได้ไหมคะ”
หม่าอี้ฉวินพยักหน้า “บริษัทเถิงต๋าแตกต่างจากบริษัทเกมอื่นๆ ที่บริษัทเถิงต๋า
พวกเราออกแบบเกมกั น อย่ า งมี ค ุ ณ ภาพ พนั ก งานใหม่ ไ ม่ ม ี ส ิ ท ธิ ์ ท ำงานหรื อ
ช่วยงาน ทำได้แค่ดูและเรียนรู้! นอกจากนี้ช่วงเรียนรู้งานอาจจะขยายออกไปได้
อีก
“ผมรู้สึกกดดันทุกวัน เพราะต้องเรียนรู้กระบวนการคิดตั้งต้นของเกมที่บอส
เผยสร้าง รวมถึงวิธีการที่พวกรุ่นพี่ใช้วิเคราะห์กระบวนการคิดที่ว่า พูดถึงเรื่องนี้
แล้วผมก็รู้แย่ จนป่านนี้แล้วผมก็ยังไม่คืบหน้าไปไหนเลย
“ตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจแนวคิดของบอสเลยแม้แต่นิดเดียว ต้องคอยถามรุ่นพี่
ถึงจะเข้าใจความคิดของบอสเผย”
หูเยว่รู้สึกอึ้งมาก เธอรีบจดคำตอบลงสมุดอย่างรวดเร็ว
ขนาดพนักงานที่มีประสบการณ์ทำงานมาครึ่งปีจากบริษัทอื่น มาบริษัทนี้ยัง
ทำได้แค่เรียนรู้งาน มาตรฐานของบริษัทเถิงต๋าช่างน่ากลัวจริงๆ!
เจ้าของบริษัทนี้รับพนักงานแล้วจ่ายเงินให้มาเรียนรู้งานเฉยๆ ไม่ใช่ทุกบริษัท
จะทำแบบนี้ได้
มีเรื่องน่าสนใจเยอะๆ จริง นี่ขนาดเพิ่งเริ่มต้น!
ใจเย็นๆ ฉันคือนักข่าวมืออาชีพ!
หูเยว่สงบสติอารมณ์ก่อนจะเข้าหัวข้อถัดไป “มาคุยกันเรื่องเกมนักออกแบบ
เกมที่กำลังฮิตสุดๆ ในตอนนี้กันดีกว่าค่ะ เกมนี้ใช้กลยุทธ์การจัดฉากในการทำ
การตลาด ทางบริษัทวางแผนไว้แบบนี้ตั้งแต่แรกเลยหรือเปล่าคะ”
หม่าอี้ฉวินส่ายหน้า “เปล่าครับ จริงๆ แล้วพวกเราไม่รู้เรื่องเลยสักนิด ตอน
งานเลี้ยงบริษัท ทุกคนยังเป็นห่วงเรื่องความสำเร็จของเกมกันอยู่เลย
“บอสเผยตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะทำการตลาดโดยใช้การจัดฉากแล้วปิด
เรื่องนี้ไม่ให้คนในบริษัทรู้ ตอนที่ยอดขายต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ทุกคนกำลังเศร้าเสียใจกัน
จู่ๆ ยอดขายก็พุ่งกระฉูด พลิกกลับมาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่!
“พูดเรื่องนี้แล้วผมก็รู้สึกแย่อีก เราไม่ได้ช่วยอะไรเลย”
หูเหยว่ตาเป็นประกาย
บริษัทนี้ยอดเยี่ยมมาก บอสของบริษัทก็เป็นคนที่ยอดเยี่ยมสุดๆ!
“บอกเรื่องบอสเผยมากกว่านี้ได้มั้ยคะ” หูเยว่จดบันทึกลงสมุดยิกๆ
สีหน้าของหม่าอี้ฉวินเปี่ยมไปด้วยความเคารพอย่างสุดซึ้ง
“บอสเผยเป็นนักออกแบบมากความสามารถ บางครั้งบอสก็บอกแนวทางให้
สองสามอย่าง พอทำตามที่บอสวางแนวทางไว้ให้ก็สร้างเกมดีๆ ขึ้นมาได้ อย่าง
เกมฐานทัพกลางทะเล
“บางครั้งบอสก็ลงมาช่วยเอง บอกรายละเอียดเรียงเป็นแถวว่าต้อ งการ
อะไรบ้าง จากนั้นก็ปรับแก้ด้วยตัวเองจนออกมาเป็นเกมสุดยอดเยี่ยม นั่นคือตอน
ทำเกมนักออกแบบเกม
“นอกจากนั้น บอสเผยยังมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร คนเก่งๆ อยากจะมาร่วมงาน
กับบอสหมด
“นักวาดฝีมือดีอย่างคุณหร่วนกวางเจี่ยนกับนักสร้างคอนเทนต์ชั้นแนวหน้า
อย่างอาจารย์เฉียวก็เป็นคนที่บอสเผยรู้จักดี มิตรภาพของพวกเขาไม่มีเรื่อง
ความเห็นแก่ตัวเลย!
“บอสเผยเป็นอัจฉริยะผู้โดดเดี่ยว ความรู้ความเข้าใจของบอสล้ำยุคไปไกล
ทำให้คนอื่นๆ เข้าใจบอสผิดเสมอ แต่บอสเผยก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร คอยพัฒนาตัวเอง
ให้เหนือไปอีกขั้นอยู่ตลอด”
หูเยว่รัวมือจดตามให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ถึงหม่าอี้ฉวินจะชมบอสเผยเป็นการใหญ่จนคนอื่นอาจคิดได้ว่าเขากำลังเลีย
แข้งเลียขาบอสอยู่ แต่หูเยว่ไม่ได้มองว่าเป็นแบบนั้นเลย
เพราะการสัมภาษณ์ครั้งนี้จะถูกเก็บเป็นความลับ
ทั้งสองตกลงกันตั้งแต่แรกแล้วว่าหูเยว่จะไม่เปิดเผยตัวตนหรือตำแหน่งของ
หม่าอี้ฉวินในบทสัมภาษณ์
ถึงหม่าอี้ฉวินจะชมบอสเผยมากแค่ไหน อีกฝ่ายก็ไม่มีทางรู้ได้ว่าใครเป็นคน
ชม
จึงไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องทำแบบนี้
ดังนั้นทั้งหมดที่หม่าอี้ฉวินพูดมาจึงเป็นความคิดเห็นตามจริง!
หูเยว่อดรู้สึกตื้นตันใจขึ้นมาไม่ได้ เธอไม่ค่อยได้พบเจ้านายกับลูกน้องที่เข้ากัน
ได้ดีขนาดนี้สักเท่าไหร่
“คะแนนเต็มร้อย คุณจะให้บอสเผยเท่าไหร่” หูเยว่ถาม
หม่าอี้ฉวินตอบออกไปอย่างไม่ลังเล “สองร้อยคะแนน!
“บอสคนอื่นๆ ในโลกนี้อาจจะได้เก้าสิบคะแนนจากการให้ค่าล่วงเวลาสูงๆ
สวัสดิการดีๆ และอื่นๆ
“แต่บอสเผยต้องได้สองร้อยคะแนน!
“บอสใจดีกับพนักงานทุกคน ใส่ใจเรื่องสุขภาพ ไม่ขี้เหนียวเวลาต้องจ่ายเงิน
เพื่อพวกเราเลยสักนิด
“แต่จากที่รุ่นพี่ผมบอกมา บอสเผยเข้มงวดกับตัวเองมากๆ บางคนถึงกับบอก
ว่าบอสเป็นคนมัธยัสถ์!
“ผมบอกได้แค่ว่าก่อนที่ผมจะเข้าทำงานที่เถิงต๋า ถ้ามีคนบอกว่ามีเจ้านาย
แบบบอสเผยอยู่ ผมคงจะไม่เชื่อเขาแน่!
“แน่นอนว่าถ้ามีคนมาบอกผมตอนนี้ว่ามีคนแบบบอสเผยอยู่อีกคนบนโลก
ผมก็ไม่มีทางเชื่อเขาเหมือนกัน!”
หูเยว่จดคำตอบลงสมุดไม่หยุดมือ แค่ได้ฟังก็รู้สึกอิ่มเอิบจนแทบจะควบคุม
ความรู้สึกตัวเองไม่ได้
เหมือนว่าเธอกำลังโดนหม่าอี้ฉวินป้ายยา!
จากคำพูดของหม่าอี้ฉวิน หูเยว่สัมผัสได้ถึงความเคารพยกย่องที่พนักงานของ
เถิงต๋ามีต่อบอสเผย เธอสามารถจินตนาการภาพความยิ่งใหญ่ของบอสเผยได้
รางๆ…
หูเยว่ก้มมองที่ตัวเองจดลงสมุดแล้วรู้สึกพึงพอใจมากกับสิ่งที่ได้จากการ
สัมภาษณ์ในครั้งนี้
บทสัมภาษณ์นี้ต้องดังเป็นพลุแตกแน่หลังปล่อยออกไป!
“สุดท้าย ขอคุยเรื่องบอสเผยต่ออีกนิดนะคะ
“เกมนักออกแบบเกมทำให้หลายคนคิดว่าสร้างมาจากประสบการณ์ส่วนตัว
ของบอสเผย ในฐานะนักออกแบบเกม บอสเผยเคยเจอความล้มเหลวแบบนี้มา
ก่อนรึเปล่าคะ นี่เป็นสาเหตุที่เขาสามารถสอดแทรกแก่นสารและอารมณ์ที่ลึกซึ้ง
เข้าไปในเกมได้ใช่ไหมคะ”
บทที่ 131 ก้าวเข้าสู่บริษัทเถิงต๋าอันน่าพิศวง

หู เ ยว่ ค ิ ด ว่ า ไหนๆ ก็ ส ั ม ภาษณ์ ม าขนาดนี ้ แ ล้ ว ถึ ง เวลาที ่ เ ธอจะยกระดั บ


ความคิดและจินตนาการขึ้นไปอีกขั้น!
เส้นทางของนักออกแบบเกมมากความสามารถอย่างบอสเผยต้องไม่ได้โรยไว้
ด้วยกลีบกุหลาบแน่
ไม่อย่างนั้นจะสามารถบรรยายความยากลำบากของนักสร้างคอนเทนต์ในเกม
นักออกแบบเกมได้กินใจใครหลายคนขนาดนี้ได้ยังไง
แต่หม่าอี้ฉวินกลับยกมือเกาหัว “ผมไม่คิดอย่างนั้นนะ”
“เอ๋” หูเยว่อึ้งไป
หม่ า อี ้ ฉ วิ น พู ด ต่ อ “เท่ า ที ่ ผ มรู ้ ม า เหมื อ นว่ า บอสเผยจะไม่ เ คยเจอความ
ล้มเหลวมาก่อน ทุกอย่างราบรื่นมาโดยตลอด…
“เกมโดดเดี่ ยวเดียวดายกลางทะเลทราย แม่ทัพผี ฐานทัพกลางทะเล นัก
ออกแบบเกม… บอสเผยทำมาแค่สี่เกม ทุกเกมประสบความสำเร็จหมด
“ถ้าถามผมว่าบอสเผยทำเกมนี้ข ึ้นมาโดยสะท้อ นจากประสบการณ์ข อง
บอสหรือเปล่า ผมคงตอบว่าไม่ค่อยแน่ใจ แต่ผมมั่นใจว่านักออกแบบเกมและ
ผู้พัฒนาเกมคนอื่นๆ ต้องเคยเจอประสบการณ์ยากลำบากแบบนี้มาก่อน…
“แต่บอสเผยไม่เคย”
หูเยว่ “…”
นี่หรือคืออัจฉริยะ
ก็เหมือนบรรดานักปฏิวัติที่น่ายกย่องในอดีต ถึงจะมียศถาบรรดาศักดิ์และ
ชีวิตที่ราบรื่น แต่พวกเขาก็เข้าใจความเจ็บปวดของชนชั้นล่างในสังคม
ช่างเป็นคุณสมบัติที่ยิ่งใหญ่จริงๆ!
“คำถามสุดท้ายค่ะ…
“ซีรีส์ตอนสั้นเรื่องชีวิตประจำวันของบอสเผยที่กำลังดังอยู่ในอินเทอร์เน็ต
ตอนนี้ใช้เกมของบริษัทเถิงต๋าในซีรีส์ด้วย ขอถามได้ไหมคะว่าเถิงต๋ากับซีรีส์นี้ได้มี
การร่วมมืออะไรกันหรือเปล่า”
“หม่ า อี ้ ฉ วิ น พยั ก หน้ า “เอ่ อ ถ้ า คุ ณ ตรวจดู ก ็ น ่ า จะรู ้ ที ม สร้ า งซี ร ี ส์
ชีวิตประจำวันของบอสเผยคือเฟยหวงสตูดิโอ เฟยหวงสตูดิโอเป็นบริษัทลูกของ
เถิงต๋า”
หูเยว่ตาลุกวาว
“แบบนี้นี่เอง! หมายความว่าที่ซีรีส์เรื่องนี้ดังขึ้นมาได้ก็เพราะอ้างอิงจาก
ประสบการณ์ชีวิตของบอสสเผยใช่มั้ยคะ”
หม่าอี้ฉวินลังเลใจ “ขอโทษครับ ผมตอบคำถามนี้ไม่ได้เ พราะอาจจะเป็นการ
เปิดเผยข้อมูลของบอสเผย
“บอสเผยเป็นคนถ่อมตัวมาก บอสอยากให้เหล่าเกมเมอร์สนใจเกมที่บอสส
ร้างมากกว่า ไม่อยากให้มาตามที่ตัวบุคคลเหมือนพวกแฟนคลับดารา บอสอยาก
ให้พวกเขาตัดสินเกมตามจริง”
ถึงจะไม่ได้คำตอบตามที่ต้องการ แต่หูเยว่ก็ไม่ได้นึกไม่พอใจ เธอผุดยิ้มแทน
ด้วยซ้ำ
ถึงจะไม่ได้ข้อมูลสำคัญอะไร แต่ก็ถือเป็นการสัมภาษณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก!
มีแค่พนักงานเทพๆ กับบอสเทพๆ แบบนี้เท่านั้นถึงจะสร้างเกมเทพๆ ออกมา
ได้ จริงไหม

Playtime สาขาเมืองจิงโจว
ถึงจะเป็นสื่อเกมหัวใหญ่ที่ทั้งประเทศรู้จักกันดี แต่ Playtime สาขาเมืองจิง
โจวกลับเป็นออฟฟิศธรรมดาทั่วไป มีนักข่าวสามคน บรรณาธิการสองคน และ
หัวหน้าบรรณาธิการหนึง่ คนประจำอยู่
ขนาดออฟฟิศยังตั้งอยู่ในโคเวิร์กกิงสเปซ
บรรณาธิการอึ้งไปหลังจากอ่านร่างบทความของหูเยว่
“น้องหู เธอเป็นนักข่าวมืออาชีพไม่ใช่เหรอ ทำไมกล้าส่งงานแบบนี้…
“ไม่มีแหล่งที่มา ไม่มีรูป ไม่มีคลิป ไม่มีหลักฐานสนับสนุนอะไรเลย เปิดเผย
ข้อมูลคนให้สัมภาษณ์แม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้เลยเหรอ
“เราไม่ ใ ช่ ส ื ่ อ หั ว เล็ ก นะ งานนี ้ … ถึ ง ฉั น จะยอมให้ ผ ่ า น แต่ ห ั ว หน้ า กอง
บรรณาธิการคงไม่ให้ผ่านหรอก…”
บรรณาธิการนวดหัวตัวเอง
หูเยว่กำลังจะอ้าปากอธิบาย แต่พี่โจว หัวหน้ากองบรรณาธิการก็แจ้นเข้ามา
ก่อน
“น้องหู ร่างบทความเสร็จรึยัง”
บรรณาธิการรีบยื่นบทร่างให้หัวหน้ากองบรรณาธิการ “พี่โจว บทร่างนี่….”
เธอยังพูดไม่ทันจบ หัวหน้ากองบรรณาธิการก็ตบหน้าขา “เยี่ยม! ทำได้ดีมาก
น้องหู!”
บรรณาธิการ “…”
พี่โจวรีบอ่านบทความ “น้องหูเก่งเรื่องเกาะกระแสที่กำลังฮิตจริงๆ พี่ยกนิ้วให้
เลย!
“ชาวเกมเมอร์ในประเทศกำลังสงสัยเรื่องบริษัทเถิงต๋าอยู่ตอนนี้ ถึงบทความ
จะไม่มีหลักฐานรองรับ แต่พี่ก็เชื่อในจรรยาบรรณนักข่าวของน้องหู ว่าต้องมีความ
น่าเชื่อถือมาก!
“เราเล่นข่าวเรื่องนี้เป็นที่แรก แถมเรื่องนี้ก็กำลังเป็นกระแส ไม่แน่สาขาใหญ่
อาจจะหันมาสนใจสาขาเราก็ได้!
“เอาตามนี้เลย!”

สองวันต่อมา บทความใหม่ก็ปรากฏบนเว็บไซต์ทางการของ Playtime ไม่
นานสื่อดังหลายเจ้าก็พากันตีข่าวบทความนี้ออกไป
‘เปิดบริษัทเถิงต๋าอันน่าพิศวง: ยูโทเปียแห่งอุตสาหกรรมเกมภายในประเทศ’
บทความของหูเยว่ไม่ได้ใส่ชื่อหม่าอี้ฉวินลงไปแม้แต่จุดเดียว เธอไม่ได้บอกเลย
ด้วยซ้ำว่าได้สัมภาษณ์พนักงานของเถิงต๋า
เธอเริ่มบทความด้วยการพูดถึ งเกมนักออกแบบเกมและซีรีส์ชีวิตประจำวัน
ของบอสเผยที่กำลังเป็นกระแสอยู่ ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาที่ได้จากการสัมภาษณ์หม่า
อี้ฉวิน
“หลังจากความสำเร็จของเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย ชื่อของ
เถิงต๋าก็เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการเกมภายในประเทศ
“ภายในเวลาไม่ถึงปี บริษัท เถิงต๋าปล่อยเกมมาแล้วสี่เกม มีทั้งเกมสแตนด์
อโลน เกมการ์ด เกม FPS และเกมสแตนด์อโลนแบบเกมซ้อนเกม บริษัทเถิงต๋าใช้
พลังแห่งจินตนาการอันยิ่งใหญ่ไร้ขีดจำกัดและความคิดสร้างสรรค์สุดนอกกรอบ
ทำให้แพลตฟอร์มเกมมากมายเอ่ยชมไม่หยุดปาก และตอนนี้ถูกยกย่องให้เป็น
มาตรฐานของอุตสาหกรรมเกมภายในประเทศ!
“วันนี้ Playtime จะมาเปิดบริษัทเถิงต๋าสุดลึกลับให้ทุกคนได้แอบส่องบริษัท
หน้าใหม่ไฟแรงแห่งนี้กัน!”

“บริษัทเถิงต๋าเป็นบริษัทที่เข้มงวดกับพนักงานใหม่มาก นอกจากนี้ยังเด็ด
เดี่ยวมากในการจ้างพนักงานใหม่
“เป็นบริษัทที่กล้าคิดกล้าทำ เน้นให้ความสำคัญเรื่องการบ่มเพาะทักษะและ
ความรู้ความเข้าใจ
“ในฐานะผู ้ ก ่ อ ตั ้ ง บริ ษ ั ท เถิ ง ต๋ า และนั ก ออกแบบหลั ก บอสเผยจากซี ร ี ส์
ชีวิตประจำวันของบอสเผยมีพร้อมทั้งพรสวรรค์ด้านการออกแบบและความ
ช่ำชองในการทำการตลาด
“เป็นคนมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ส ามารถดึงดูดคนเก่งๆ ให้อยากเข้ามาร่วมงาน
ด้วย
“แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นอัจฉริยะที่แสนโดดเดี่ยว ความรู้ความเข้าใจของเขา
ก้าวผ่านยุคสมัยไปไกลจนทำให้ใครหลายคนเข้าใจเขาผิดอยู่เป็นประจำ
“เขาใจดีกับพนักงานมาก แต่กลับเข้มงวดกับตัวเอง
“บริษัทนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความฝั นมากมาย บริษัทเถิงต๋าเกมคือยูโทเปีย
แห่งอุตสาหกรรมเกมภายในประเทศ!”

หลังปล่อยบทความไปได้ไม่นาน สื่อหลายเจ้าก็พากันตีข่าวเรื่องนี้กันยกใหญ่!
ถือเป็นสิ่งที่แปลกมากเพราะบทความนี้ไม่มีความน่าเชื่อถือเลย
ไม่ที่แหล่งที่มา ไม่มีรูป ไม่มีหลักฐานประกอบเลยแม้แต่น้อย
เป็น ‘บทความโคมลอย’ ที่พบเห็นได้ทั่วไป
แต่สื่อหลายสำนักก็กระหน่ำตีข่าวเรื่องนี้กันอย่างบ้าคลั่ง ชาวเน็ตหลายคน
เริ่มออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้กันอย่างร้อนแรง!
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะข่าวเรื่องเถิงต๋าถือเป็นเรื่องที่ไม่ได้เห็นกันง่ายๆ!
ตั้งแต่ปล่อยเกมแม่ทัพผี และเกมฐานทัพกลางทะเลออกไป บริษัทเถิงต๋าก็ถือ
เป็นผู้พัฒนาเกมที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง แต่ก็มีม่านปริศนาบดบังบริษัทเอาไว้ไม่ให้ผู้
เล่นได้รู้ว่าบริษัทแห่งนี้เป็นยังไง
แม้แต่ในสายตาของคนในวงการ บริษัทที่ชื่อเถิงต๋านี้ก็ยังเต็มไปด้วยปริศนา
บริษัทเกมในจิงโจวหลายแห่งยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทแห่งนี้ด้วยซ้ำ
ถึงบทความนี้จะไม่มีรูปภาพเลยสักรูป มีแค่ตัวอักษร์ แต่ Playtime ก็เป็นสื่อ
เกมเจ้าดังภายในประเทศ ถือว่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง บทความนี้จึงดังเป็นพลุ
แตก!
“เลียขาเถิงต๋าไม่หยุด! รู้สึกเหมือนบอสลึกลับแห่งเถิงต๋านี่เ ป็นความหวังของ
วงการเกมภายในประเทศเลย หรือ Playtime จะเริ่มรับสปอนเซอร์บ้างแล้ว”
“ไม่น่าใช่ ถ้ารับสปอนเซอร์จริงทำไมถึงไม่มีรูปไม่มีอะไรเลยล่ะ เขียนกำกวม
แบบนี้ดูไม่เหมือนงานที่ได้สปอนเซอร์เลยว่ามั้ย”
“ทำไมพวกนายสนใจเรื่อ งนี ้กั น เราควรคุยกันเรื่อ งความน่ าเชื่อ ถื อ ของ
บทความนี้สิ มีคนใหญ่คนโตในวงการรู้มั้ยว่าเรื่องนี้จริงแค่ไหน”
“ฉันว่าตรง ‘ความรู้ความเข้าใจของเขาก้าวผ่านยุคสมัยไปไกล’ ดูเว่อร์ๆ ยังไง
ไม่รู้ ตรง ‘ใจดีกับพนักงานมาก แต่กลับเข้มงวดกับตัวเอง’ นี่ยิ่งไม่น่าเชื่อ!”
“แต่ถ้าบอกว่าเกมนักออกแบบเกมเป็นแกมที่ล้ำยุคไปไกลก็ไม่ผิดนี่”
“ผมเป็นพนักงานของเถิงต๋า ผมการันตีได้ว่าทุกอย่างเป็นเรื่องจริง”
“ฉันเป็นเจ้าของร้านเกี๊ยวตรงข้ามบริษัทเถิงต๋า พนักงานเถิงต๋ามากินเกี๊ยว
ร้านฉันทุกวัน บอกได้เลยว่าเรื่องจริง!”
“ฉันเป็นยามตึกข้างๆ ตึกบริษัทเถิงต๋า ยืนยันเหมือนกันว่าเรื่องจริง!”
“จะบอกอะไรให้ พวกนายเคยดูชีวิตประจำวันของบอสเผยใช่มั้ย คนที่แสดง
เป็นบอสเผยนั่นแหละคือบอสตัวจริงของเถิงต๋า!”
“ทำไมบอสเผยในซีรีส์ถึงได้แสดงดีขนาดนั้นล่ะ ก็เพราะเอาตัวจริงมาแสดง
ไง!”
“มั่วกันใหญ่แล้ว ไอ้ชาวเน็ตพวกนี้พูดไปมั่วซั่ว! ฉันไม่เชื่อหรอกว่าบอสของ
เถิงต๋าจะเด็กขนาดนี้”
“ใช่ๆ คิดว่าฉันโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ!”
“แต่ถ้าที่บทความพูดเป็นเรื่องจริง ฉันจะกลับไปดูชีวิตประจำวันของบอสเผย
อีกรอบ!”
“ฉันจะไปโฆษณาเกมนักออกแบบเกมในหน้าคลิปชีวิตประจำวั นของบอสเผย
ทุกคนอย่าลืมตามไปกดไลก์ด้วย!”
บทที่ 132 มือขวาตัวจริง!

ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
เผยเชียนนั่งอยู่ที่โซนคาเฟ่ กำลังจิบดรายมาร์ตินี่ที่จางหยวนเพิ่งชงให้ ถึงสี
หน้าจะดูปกติ แต่ดวงตาของเขากลับฉายแววเศร้าสร้อย
ในร้านอินเทอร์เน็ตอันว่างเปล่า บอสเผยเป็นเหมื อนหิ่งห้อยยามราตรี เขา
เด่นสะดุดตามาก
จางหยวนกับหม่าหยางกำลังกระซิบกระซาบคุยกันหลังเคาน์เตอร์
“ทำไงดี บอสเผยมาลงโทษเรารึเปล่า น้องหม่าสนิทกับบอสเผยนี่ หาทาง
จัดการเรื่องนี้ให้ที…”
หม่าหยางทำหน้าจริงจัง แววตาดูแน่วแน่
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมรับผิดชอบเรื่องนี้เอง!
“ถ้าพี่ไม่ได้ทำงานที่นี่ต่อ ยังไงซะผมก็สนิทกับพี่เชียน น่าจะหางานใหม่ให้พี่ได้
“แต่เอาจริงๆ เราก็ทำตัวน่าขายหน้าจริงๆ หวงซื่อปั๋วถ่ายซีรีส์ดังได้ ขนาดเกม
ที่ลู่หมิงเหลียงรับผิดชอบยังขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลย! มีแต่เราที่ขาดทุนไม่หยุด แย่
จริงๆ!”
จางหยวนโอดครวญ “น้องหม่า ไม่ใช่ว่าพี่จะปัดความรับผิดชอบนะ เราเสนอ
วิธีการไปตั้งเยอะแต่บอสเผยปัดตกหมดเลย”
หม่าหยางส่ายหน้า “อย่าคิดแบบนั้นสิพี่
“พี่เชียนน่าจะคิดถึงในระยะยาว ไอเดียลดราคากับจัดโปรโมชั่นของเรา
อาจจะทำลายภาพลักษณของร้านได้ พี่เชียนเลยไม่ยอมให้ทำ
“สุดท้ายแล้วเราก็มีความสามารถไม่มากพอที่จะคิดหาวิธีทำเงินให้ร้านตาม
ทิศทางที่พี่เชียนกำหนดให้
“ดูอย่างหวงซื่อปั๋วสิ ผมไม่เคยคิดเลยว่าเจ้านั่นเก่งกว่าผม แต่ครั้งนี้เจ้านั่นก็
ทำได้ดีจริงๆ
“พี่เชียนไม่ยอมให้รับสปอนเซอร์รายย่อยเพราะจะเสียภาพลักษณ์ เจ้าพวก
นั้นก็ถ่ายสองซีซั่นแรกด้วยใจรักล้วนๆ ไม่สนผลกำไร สุดท้ายเว็บอ้ายลี่เต่าก็มาขอ
ซื้อลิขสิทธิ์เผยแพร่ซีซั่นสาม จู่ๆ ก็พลิกกลับมาทำกำไรได้เฉย!
“นั่นแหละคือสิ่งที่เราขาดไป”
จางหยวนพยักหน้า “น้องหม่าพูดถูก ถ้าคิดแบบนี้ก็โทษใครไม่ได้นอกจากตัว
พี่เอง”
“เฮ้ย อย่าพูดแบบนั้นสิพี่ หลักๆ แล้วผมต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้” หม่าห
ยางส่ายหัว “พี่ช่วยผมเต็มที่ รับผิดชอบตั้งสามหน้าที่ บางครั้งก็ช่วยดูเรื่องการเงิน
ของร้านด้วย พี่ทำงานหนักมาก”
จางหยวนรู้สึกเศร้าใจ ดูเหมือนว่าวันคืนที่จะได้รับเงินเดือนรวดเดียวสาม
ตำแหน่งกำลังจะปิดฉากลงแล้ว
ร้านอินเทอร์เน็ตขาดทุนมาโดยตลอด บอสเผยต้องมาปรับโครงสร้างร้านแน่ๆ
พอถึงคราวจัดการเรื่องพนักงานและต้องหาคนผิด ในเมื่อหม่าหยางสนิทกับบอส
เผยอยู่แล้ว มันก็หมายความว่าคนที่ต้องรับผิดทุกอย่างต้องเป็นจางหยวน…
หม่าหยางกับจางหยวนรู้สึกหวั่นใจสุดๆ
ในที่สุดหม่าหยางก็ตัดสินใจเดินไปหาเผยเชียน

เผยเชียนจิบมาร์ตินี่พลางมองออกไปตรงถนนผ่านผนังกระจก
ในสายตาของเขามีหน้าจอระบบปรากฏอยู่
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ: เผยเชียน>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1:1>
<วันปิดบัญชีครั้งต่อไป: อีก 8 วัน>
<เงินทุนระบบ: 2,740,000 (↑1,740,000)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 46,857.6>
<ภารกิ จ พิ เ ศษประจำรอบ: บริ ษ ั ท จะต้ อ งตั ้ ง หน้ า ร้ า นใกล้ บ ริ เ วณที ่ ค น
พลุกพล่านหรือบริเวณมหาวิทยาลัย [สำเร็จ]>
<รางวั ล ที ่ จ ะได้ ร ั บ เมื ่ อ ปฏิ บ ั ต ิ ภ ารกิ จ พิ เ ศษสำเร็ จ : เพิ ่ ม เงิ น 10% หลั ง
ดำเนินการแปลงค่าเงิน>
ช่างน่าหดหู่!
เขาผลาญเงินไปทั้งหมดเท่าที่จะทำได้ ให้สวัสดิการพนักงานไปสุดๆ จนคิด
ทางอื่นไม่ออกแล้ว
พอเห็นเงินทุนระบบพุ่งขึ้นไม่หยุด เผยเชียนก็ได้แต่ยอมจำนนให้กับโชคชะตา
แต่ถ้ามองในแง่ดี ทุกครั้งที่เงินทุนระบบเพิ่มขึ้นก็เท่ากับความมั่งคั่งส่วนบุคคล
ของเขาเพิ่มขึ้นด้วยเหมือนกัน
ถึงจะใช้อัตราแปลงที่ 100:1 แต่เขาก็ทำให้ตัวเองขาดทุนไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้น
เป็นแบบนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว…
เผยเชียนทำได้แค่ปลอบใจตัวเอง
ระหว่างที่กำลังทุกข์ใจอยู่ หม่าหยางก็เดินเข้ามาหา
“พี่เชียน ผมรู้ว่าพี่คิดหนักเรื่องนี้ แต่พี่ให้ผมเป็นคนดูแลร้าน ที่ขาดทุนไป
ทั้งหมดผมต้องเป็นคนรับผิดชอบ! ผมยอมลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ แต่
จางหยวนเป็นคนมีความสามารถ พี่ต้องจ้างเขาต่อ!”
หม่าหยางดูแน่วแน่มาก เหมือนแม่ทัพยุคก่อนที่แพ้สงครามมาแล้วต้องการถูก
ลงโทษประหารชีวิต
เผยเชียนอึ้งไป
แกอยากรับผิดคนเดียวด้วยการลาออกเหรอ
ล้อกันเล่นรึเปล่า
ไม่ได้!
ความหวังเดียวของฉันคือแก!
เผยเชียนรีบวางแก้วแล้วดึงเก้าอี้ข้างตัวออกมา “ไอ้หม่า นั่งก่อน ทำไมจู่ๆ คิด
อยากลาออกล่ะ”
หม่าหยางดูอับอายมาก “พี่เชียน สถานการณ์ร้านตอนนี้ไม่ดีเลย ผมรู้ดีว่า
เป็นเพราะผม ถึงจะสนิทกัน แต่เราก็ไม่ควรทำลายร้านแบบนี้ ลงโทษผมเถอะ!”
เผยเชียนรีบยกมือบอกให้หม่าหยางหยุดพูด “ไอ้หม่า แกพูดอะไรของแก ฉัน
อยากจะชมแกด้วยซ้ำ! มีแกกับจางหยวนช่วยดูแลร้าน เทียบกับทุกคนแล้ว ฉัน
พอใจผลงานพวกแกมากที่สุด พวกแกไม่ทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ!
“ฉันบอกไปแล้วว่าถึงร้านจะขาดทุน แต่โปรเจ็กต์นี้จริงๆ แล้วสำคัญกว่าอีก
สองโปรเจ็กต์มาก!
“ฉันต้องหาเวลามาชมแกจริงๆ จังๆ แล้ว!”
หม่าหยางรู้สึกงงเล็กน้อย เขาตั้งใจมองสีหน้าของเผยเชียน ดูเหมือนว่าอีก
ฝ่ายจะไม่ได้พูดเล่น
เขาพูดจากใจจริง!
เผยเชียนกลัวว่าหม่าหยางจะเข้าใจผิดจึงรีบกวักมือเรียกจางหยวน
ทั้งคู่คือมือขวาของเขาที่ยังเหลืออยู่!
ตอนแรกเผยเชียนคิดว่าเปาซวี่กับหวงซื่อปั๋วจะไว้ใจได้ แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่า
เจ้าสองคนนั้นเอาแต่หักหลัง!
สุดท้ายก็เหลือแค่สองคนนี้ที่เชื่อถือได้!
เผยเชียนตั้งใจคิดอย่างถี่ถ้วน ตั้งแต่ได้ระบบมาและก่อตั้งเถิงต๋า เขาไม่เคย
ขาดทุนได้สำเร็จเลยสักครั้ง!
ความหวังเดียวตอนนี้คือร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูที่กำลังขาดทุนอยู่ด้ว ยฝีมือ
หม่าหยาง!
คนอื่นๆ ชอบเอาสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อไปมโนกันเอง
หวงซื่อปั๋วและเปาซวี่ตีความสิ่งที่เขาบอกไปผิดๆ แล้วสร้างเกมฐานทัพกลาง
ทะเลที่เป็นเหมือนเกม Cross Fire[1] ของโลกนี้ขึ้นมา จะให้เขาทำใจยอมรับได้
ยังไงไหว
แต่หม่าหยางไม่เหมือนสองคนนั้น เผยเชียนบอกอะไรไป หม่าหยางก็ทำตามที่
สั่งอย่างเคร่งครัด นี่คือสิ่งที่เขาต้องการที่สุด!
เผยเชียนมองหม่าหยางด้วยแววตาอบอุ่น
นี่คือเปลวไฟที่เขารักษาเอาไว้ได้!
จริงๆ เผยเชียนเริ่มหมดหวังกับการทำให้บริษัทขาดทุน แต่ร้านอินเทอร์เน็ต
โมหยูได้จุดประกายความหวังให้ตื่นขึ้นมาใหม่
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสามารถขาดทุนได้เดือนละสามแสนหยวนและทำเงิน
เพื่อคืนทุนสามล้านหยวนไม่ได้
ถ้ามีร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสักสิบสาขาล่ะ
ขอแค่เปิดร้านสาขาเพิ่มเรื่อยๆ เขาก็ขาดทุนได้เท่าที่ใจต้องการ
ดังนั้นเผยเชียนจึงมองหม่าหยางด้วยแววตาอันมุ่งมั่น
หม่าหยางกับจางหยวนเองก็รู้สึกได้เช่นกัน
แววตาของบอสเผย… ดูแปลกๆ
นอกจากจะไม่ดุด่าแล้ว ยังชื่นชมด้วยเหรอ
ทั้งคู่สับสนเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็สงบใจได้ในที่สุด
เผยเชียนหันมองหม่าหยางกับจางหยวน “พวกคุณทำได้ดีมาก ทำให้ได้แบบนี้
ไปเรื่อยๆ นะ
“เดือนหน้า ผมอยากเปิดร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาอื่นเพิ่มในเมืองจิงโจว
“เตรียมตัวให้พร้อม นี่เป็นแค่การซ้อมมือ การต่อสู้ที่แท้จริงกำลังจะเริ่ม
แล้ว!”
………………………..
[1] เกมยิงปืนที่เคยโด่งดังในจีน
บทที่ 133 กลยุทธ์ลวงศัตรูของบอสเผย!

หม่าหยางอึ้งไป น้ำตารื้นขอบตา
“พี่เชียน ขนาดนี้แล้วพี่ยังเชื่อใจผมอยู่อีก ผม…”
เผยเชียนตบบ่าหม่าหยางก่อนจะหันมองจางหยวนอีกครั้ง “จำไว้ว่าผมเชื่อมั่น
ในตัวคุณทั้งสองเสมอ ไม่มีวันเปลี่ยน!
“ขาดทุนเดือนละสามแสนแล้วมันยังไง เรื่องขี้ปะติ๋ว! ตอนนี้เถิงต๋ากลายเป็น
บริษัทใหญ่แล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเก็บเงินก้อนโตไว้เฉยๆ ต้องเอาไปใช้ให้
ประโยชน์สิ!
“ก็เหมือนที่ผมเคยบอกไป ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเป็นก้าวสำคัญของบริษัท
เถิงต๋า ผมคาดหวังกับโปรเจ็กต์นี้มากเลยมอบหมายให้คุณสองคนรับผิดชอบ
“พวกคุณไม่ต้องสนใจเรื่องกำไร ไม่ต้องลดราคาอะไรลง ที่พวกคุณต้องทำคือ
รักษาสภาพแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เข้าใจมั้ย
“หม่าหยาง ไม่ต้องคิดเรื่องขาดทุนสามแสนอีก ต่อให้ขาดทุนสามล้านหรือ
สามสิบล้านก็ไม่เป็นไร ขอแค่คุณทำตามที่ผมบอก จะขาดทุนแค่ไหนผมก็จะไม่ว่า
คุณ!
“ไม่ ต ้ อ งกัง วล มั ่ น ใจเข้าไว้ ย้ ำ อี ก ครั ้ง ว่า ไม่ว ่า จะขาดทุ นเท่ าไหร่ ผมจะ
รับผิดชอบเอง!”
เผยเชียนมองพนักงานที่ดูกระอักกระอ่วนใจในร้าน
“พวกคุณก็เหมือนกัน ผมไม่อยากให้พวกคุณเครียด ผมการันตีเลยว่าไม่ว่า
ร้านนี้จะขาดทุนแค่ไหน ผมจะไม่มีวันเลิกจ้างพวกคุณ!
“พนักงานทุกคนในร้านนี้จะได้ขึ้นเงินเดือนสามสิบเปอร์เซ็นต์ ผมหวังว่าทุก
คนจะให้บริการลูกค้าแต่ละคนด้วยใจรักอย่างเต็มที่!
“เดือนหน้าเราจะเปิดร้านสาขาใหม่ในเมืองจิงโจว พอถึงตอนนั้นทุกคนมีสิทธิ์
ได้ขึ้นเป็นผู้จัดการสาขาใหม่!”
คำพูดของเผยเชียนเปี่ยมไปด้วยความเร่าร้อนจนทุกคนรู้สึกฮึกเหิม
พนักงานหลายคนตาลุกวาว!
ขึ้นเงินเดือน!
นอกจากนี้ยังจะเปิดสาขาใหม่เร็วๆ นี้อีก แถมผู้จัดการสาขาจะคัดเลือกจาก
พนักงานปัจจุบัน!
บ้าไปแล้ว!
ตอนแรกทุกคนกลัวว่าบอสเผยจะเลิกล้มความตั้งใจเพราะร้านอินเทอร์เน็ต
ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง พวกเขากลัวว่าสักวันจะโดนไล่ออกจากงานดีๆ แบบนี้
แต่บอสเผยกลับไม่ได้ตั้งใจจะไล่ใครออก จริงๆ แล้วเขาจะพาทุกคนเดินหน้า
ไปด้วยกันต่างหาก!
ตอนนี้ในใจทุกคนคิดเหมือนกันว่าพวกตนต้องทุ่มเทเต็มที่เพื่อบอสเผย!
“โอเคครับ ผมขอตัวกลับก่อน
“ได้พวกคุณดูแลร้านให้ ผมก็วางใจ”
เผยเชียนตบแขนหม่าหยางแล้วเดินกลับออกไป
เมื่อเห็นเผยเชียนขึ้นรถคาเยนน์กลับออกไปพร้อมเลขาซิน หม่าหยางก็รู้สึก
เต็มตื้น “ผมคิดอะไรออกแล้ว ผมจะไม่ยอมแพ้หวงซื่อปั๋ว!”
จางหยวนเองก็คึกขึ้นมาเหมือนกัน “ใกล้จะมืดแล้ว คืนนี้เดี๋ยวขึ้นร้องเพลงสัก
หน่อย วันนี้จะพยายามเรียกลูกค้าให้มาซื้อเหล้าเพิ่มให้ได้!”


ในรถ
เผยเชียนรู้ดีว่าสิ่งที่เขาพูดไปจะเป็นการเพิ่มขวัญและกำลังใจให้พนักงานใน
ร้าน
แต่เขาก็ไม่กังวลอะไร
ร้านนี้บริหารผิดที่ผิดทางไปหลายจุด จะพยายามยังไงก็เปล่าประโยชน์!
หม่าหยางคึกขึ้นมาแล้วยังไง
เผยเชียนไม่กังวลเลยว่าเจ้านั่นจะทำอะไรได้
ถึงจางหยวนจะพยายามขายเหล้าเพิ่มและร้องเพลงอย่างสุดฝีมือแล้วจะ
เปลี่ยนอะไรได้
ถึงพนักงานคนอื่นๆ จะตั้งใจดูแลลูกค้าประหนึ่งราชาแล้วจะได้อะไรขึ้นมา
ทำเลและค่าบริการของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูถื อเป็นปัจจัยที่เพียงพอแล้วใน
การไล่ลูกค้าส่วนมาก
ถึงพนักงานจะพยายามหนักแค่ไหน ในเมื่อตั้งค่าบริการราคาแพงในทำเล
แบบนี้ พวกอวดรวยก็ไม่มีทางมาใช้บริการแน่ ส่วนคนทั่วไปที่จ่ายไม่ไหวก็ไม่มีทาง
มาอุดหนุน ถึงยังไงก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน
พอเผยเชียนเปิดสาขาใหม่ ยอดขาดทุนก็จะทบขึ้นเรื่อยๆ ทีนี้สถานการณ์ก็จะ
พลิกกลับมาดีได้ใช่มั้ยนะ

เผยเชียนกลับถึงออฟฟิศ
เขาคิดว่าตอนนี้ไม่มีอะไรที่น่าจะทำได้อีก เหลือแค่รอให้ถึงวันสรุปบัญชี
ระหว่างนี้พนักงานไม่ได้รับมอบหมายงานอะไร พวกเขาจะทำอะไรก็ได้ตาม
อัธยาศัย
แต่วันนี้พอเผยเชียนเข้าออฟฟิศมา เขาก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ
ทำไมดูคึกคักจัง!
รอบตัวลู่หมิงเหลียงมีคนยืนมุงอยู่ เผยเชียนไม่แน่ใจว่าพวกเขากำลังดูอะไร
แต่ทุกคนกำลังหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
เขาเห็นหวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อในกลุ่มด้วย
เจ้าสองคนนั้นมาทำอะไรที่นี่
เผยเชียนระแวดระวังตัวขึ้นมาทันที!
ไอ้คู่หูนั่นมันตัวซวย เห็นพวกมันทีไรต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นตลอด!
ฉันต้องจับตาดูให้แน่ใจว่าพลาดอะไรไปรึเปล่า
เกมนักออกแบบเกมกำลังเป็นกระแส
ซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยก็ไม่ต่างกัน
ฉันเพิ่งกลับมาจากร้านอินเทอร์เน็ต ที่นั่นกำลังขาดทุนอย่างงดงาม ไม่ได้มี
อะไรไม่ดีเกิดขึ้นใช่ไหม
บอสเผยอยู่ในจุดตกต่ำที่สุดแล้ว จะมีข่าวร้ายอะไรได้อีก
คนพวกนี้กำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่นะ
รู้สึกไม่ดีเลย…
“บอสเผยกลับมาแล้ว!”
ใครสักคนตะโกนขึ้น
หวงซื่อปั๋วเดินไปหาบอสเผยก่อนจะพูดอย่างตื่นเต้น “บอสเผยครับ ผมไม่รู้
เลยว่าบอสวางแผนทุกอย่างไว้ลึกล้ำขนาดนี้! ผมนับถือในตัวบอสสุดๆ!”
ลู่หมิงเหลียงถอนหายใจด้วยอารมณ์อันท่วมท้น “ใช่ๆ ใครจะไปคิดว่าสิ่งที่
บอสเผยพูดออกมาจะแฝงความหมายไว้ลึกซึ้งขนาดนี้!”
หม่าอี้ฉวิ นยกนิ้วโป้งขึ้น “วางแผนในกระโจม รบชนะไกลพันลี้ สำนวนนี้
เหมาะกับบอสเผยจริงๆ!”
เผยเชียนหัวตื้อไปหลังจากถูกรุมชมยกใหญ่
พูดเรื่องอะไรกัน ไม่เห็นจะเข้าใจเลย
เผยเชียนพยายามสำรวมท่าที “มีอะไรเหรอ”
เปาซวี่เดินมาหยุดอยู่หน้าเผยเชียน ใบหน้าของเขาที่ปกติไม่ค่อยแสดงอาการ
อะไร ตอนนี้กลับมองออกว่าเต็มไปด้วยความเคารพยกย่อง
“บอสเผยเคยบอกพวกผมว่าห้ามเปิดเผยตัวตนของบอส รวมถึงเงินเดือนและ
สวัสดิการของพนักงานบริษัทเรา
“ตอนแรกผมเข้าใจจุดประสงค์ของบอสแค่ผิวเผิน
“ผมคิ ด ว่ า บอสไม่ อ ยากให้ ส วั ส ดิ ก ารสุ ด ดี เ ลิ ศ ของบริ ษ ั ท เราส่ ง ผลลบต่ อ
อุตสาหกรรมเกมภายในประเทศ
“ตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามีจุดประสงค์ที่ลึกซึ้งกว่านั้นอีก!
“บอสเผย ดูบทความนี้สิครับ!”
เปาซวี่ยื่นโทรศัพท์ที่เปิดบทความชื่อ ‘เปิดบริษัทเถิงต๋าอันน่าพิศวง: ยูโทเปีย
แห่งอุตสาหกรรมเกมภายในประเทศ’ ให้เผยเชียนดู
เผยเชียนเลิกคิ้วสูงโดยไม่รู้ตัว
อะไรวะเนี่ย!
ใครเป็นคนทำ!
เผยเชียนถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากไล่สายตาอ่านบทความ
ยังดี ไม่เสียหายอะไรมาก!
ในบทความไม่ได้บอกชื่อจริงของเขาหรือสวัสดิการของบริษัทเถิงต๋า ไม่ได้ระบุ
ด้วยว่าผู้ให้สัมภาษณ์คือใคร จึงดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือนัก
แล้วบทความนี่มันมีอะไร
ทำไมทุกคนถึงตื่นเต้นกันขนาดนี้
พอเห็นว่าเผยเชียนอ่านบทความจบแล้ว เปาซวี่ก็อดใจไม่ไหวอีกต่อไป
เขาไม่ใช่คนชอบอวดภูมิ แต่วันนี้กลับรู้สึกอยากอวดสุดๆ!
มุมหนึ่งเปาซวี่อยากให้บอสเผยชื่นชมในตัวเขา
อีกมุมหนึ่งก็อยากให้ทุกคนได้รับรู้ถึงแผนการอันลึกซึ้งนี้!
“บอสเผยตั้งใจปิดบังตัวตนของตัวเองกับสวัสดิการของบริษัทเรา ถือเป็นกล
ยุทธ์ลวงศัตรูถึงล้ำลึกมาก!
“เกมนักออกแบบเกมเอา ‘กลยุทธ์การตลาดโดยการจัดฉาก’ มาใช้ในการ
สร้างชื่อเสียงภายในประเทศ
“ส่วนซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยเข้าไปปลุกกระแสในแวดวงคลิปสั้น
กลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างแพร่หลาย
“แต่ผมมองไม่ออกเลยว่าทั้งสองอย่างเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของบอส!
“เกมนักออกแบบเกมกับซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยเป็นเหมือนเปลวไฟ
สองดวง ที่บอสเผยต้องทำก็แค่โยนเชื้อเพลิงขึ้นไปเบาๆ ทีนี้เปลวไฟทั้งสองดวงก็
จะลุกโชติช่วง กลายเป็นไฟเปลวดวงใหญ่ที่ขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ!
“เปลวไฟที่ว่านี้…คือกลยุทธ์ลวงศัตรูของบอส!
“พอบทความนี้ถูกปล่อยออกมา ทั้งผู้เล่นและกลุ่มคนดูคลิปต่างหันมาให้
ความสนใจบริษัทของเรา!
“ถ้าเป็นบทความเล่าเรื่องจริงก็อาจปลุกกระแสไม่ได้ขนาดนี้
“แต่บทความสุดกำกวมนี้เรียกกระแสได้อย่างดีเยี่ยมจากข้อมูลจริงและปลอม
ที่เอามาปั่นรวมกัน ประเด็นนี้เลยเป็นที่สนใจอย่างแพร่หลายทันที!
“ ‘บริษัทเถิงต๋า’ ขึ้นเป็นหัวค้นหายอดนิยมบนเว่ยป๋อ มีชาวเน็ตมากมายตาม
ติดเรื่องนี้ บางส่วนเป็นผู้เล่นจากเกมของเรา ส่วนอีกส่วนตามมาจากซีรีส์!
“สองวันที่ผ่านมานี้ ความนิยมของเกมเราพุ่งกระฉูด ขนาดเกมโดดเดี่ยว
เดียวดายกลางทะเลทรายก็ยังกลับมามีกระแส!
“ซีรีส์ยิ่งดีอีก เฉลี่ยแล้ว แต่ละตอนมียอดวิวเพิ่มขึ้นสามถึงสี่แสนวิว มีหลาย
คนตั้งคำถามว่าบอสของเถิงต๋าเป็นเหมือนบอสเผยในซีรีส์รึเปล่า
“ผมว่าวันไหนบอสเผยออกมาเปิดเผยตัวตนต้องเป็นกระแสฮือฮายิ่งกว่านี้แน่!
“น่าตื่นเต้นจริงๆ!”
เผยเชียนตะลึงงันไปเมื่อเจอเข้ากับไอ้คนเลียขาเก่งคนนี้
หมายความว่ายังไงกัน
ตอนนี้ฉันก็ตกต่ำสุดๆ แล้ว นึกว่าจะไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว… แต่พวกแก
กลับขุดหลุมฝังศพไว้ให้เลยงั้นเหรอ!
บทที่ 134 พาร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมุ่งสู่ความสำเร็จ!

เผยเชียนไม่ได้เข้าใจสิ่งที่เปาซวี่พูดมาทั้งหมด แต่ก็มีเรื่องหนึ่งที่รู้สึกมั่นใจมาก
เกิดเรื่องบัดซบขึ้นอีกแล้ว!
เดิมทีเผยเชียนก็ทุกข์ระทมหนักอยู่แล้ว
ซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยทำเงินได้
เกมนักออกแบบเกมก็ทำเงินได้
ไม่มีทางเลยที่เขาจะผลาญเงินทุนระบบได้หมด
จะมีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกเหรอ
คำตอบคือ… มี!
บทความนี้ทำให้คนทั่วไปหันมาสนใจบริษัทเถิงต๋า เกมของพวกเขาจึงกลับมา
มีกระแสอีกรอบ!
เผยเชียนกลุ้มใจหนักกว่าเดิม
นี่มันอะไรกัน
ทำไมชีวิตมันพลิกผันได้ขนาดนี้…
แต่คิดดูดีๆ ก็ไม่ได้ดูเป็นข่าวร้ายอะไร
เพราะยังไง… ตอนนี้ก็ผลาญเงินระบบให้หมดไม่ได้อยู่ดี!
ในเมื่อหวังให้บริษัทขาดทุนไม่ได้แล้ว ยิ่งทำเงินได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะได้เงิน
แปลงเข้าความมัง่ คั่งส่วนบุคคลมากเท่านั้น ถ้ามองแบบนี้ก็ดูจะ…
ไม่แย่เท่าไหร่ ว่ามั้ย
เผยเชียนเริ่มคลางแคลงชีวิตของตัวเอง
“วันนี้เป็นวันดี พวกเราถ่ายรูปหมู่กันดีมั้ยครับ ” จูเสี่ยวเช่อยกกล้อง DSLR
ในมือขึ้นพร้อมตะโกนถาม
“ความคิดดี!”
“ใช่ๆ! มาถ่ายรูปหมู่กันเถอะ!”
“ทุกคน เข้ามาเร็ว ยืนดีๆ อย่าบังกัน!”
“บอสเผยต้องอยู่ตรงกลางนะคะ”
เหล่าพนักงานเริ่มตะโกนเรียกกันพร้อมดันเผยเชียนไปยืนอยู่ตรงกลาง
จูเสี่ยวเช่อนั่งยองลงกับพื้นแล้วปรับกล้อง DSLR “ยิ้มนะครับทุกคน หนึ่ง
สอง สาม! ทุกคนตะโกนพร้อมกันว่า ‘ยินดีกับความสำเร็จครั้งใหญ่!’”
“ยินดีกับความสำเร็จครั้งใหญ่!”
ทุกคนฉีกยิ้มกว้างพร้อมตะโกนขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน
เผยเชียนยืนอยู่กลางดงพนักงาน เขาฟังพนักงานร้องแสดงความยินดีด้วย
อารมณ์สับสน
เขาเศร้าใจที่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถทำให้บริษัทขาดทุนได้ใน
รอบปิดบัญชีนี้
แต่ก็ยังสามารถแปลงเงินก้อนโตมาเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคลได้ ถือเป็น
ความหวังเล็กๆ
ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าจะรู้สึกดีใจหรือเสียใจดี…
เผยเชียนทำตาเศร้าสร้อยพร้อมแย้มยิ้มบาง
แชะ!
แสงแฟลชสว่างวาบตอนที่จูเสี่ยวเช่อกดถ่ายรูปเก็บภาพตรงหน้าเข้าไปไว้ใน
กล้อง DSLR
เผยเชียนถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินกลับห้องทำงาน
เขาอยากให้เวลาตัวเองได้สงบจิตสงบใจก่อน จากนั้นค่อยคิดว่าทำไมโลกนี้ถึง
บ้าบอได้ขนาดนี้
พอจูเสี่ยวเช่อเอารูปลงคอมพิวเตอร์เสร็จ ทุกคนก็มามุงดูกัน
“ส่งมาให้ฉันด้วย”
“ผู้กำกับจูถ่ายรูปเก่งจริงๆ สมกับที่เป็นมืออาชีพ”
“เอ๊ะ ทำไมบอสเผยยิ้มแบบนั้นล่ะ”
“ซูมดูซ”ิ
“ซูมอีก”
ทุกคนชะโงกหน้าเข้าไปดูใกล้ๆ จอคอมพิวเตอร์
รูปบนจอถูกขยายอยู่หลายครั้ง แต่ด้วยความคมชัดของกล้อง DSLR ทำให้ทุก
คนเห็นสีหน้าของเผยเชียนได้อย่างชัดเจน
ดวงตาของเขาดูเศร้าเล็กน้อย
แต่มุมปากกลับผุดยิ้ม ไม่ได้เป็นรอยยิ้มที่มาจากการฝืน เป็นรอยยิ้มที่มาจาก
ใจจริง
จูเสี่ยวเช่อหันมองหวงซื่อปั๋ว เปาซวี่ และคนอื่นๆ
“รอยยิ้มของบอสเผย…
“หมายความว่ายังไงกันนะ”


ในห้องทำงาน
เผยเชียนไล่ดูนั่นดูนี่บนอินเทอร์เน็ต
ที่เปาซวี่พูดเป็นเรื่องจริง!
‘บริษัทเถิงต๋า’ กลายเป็นคำค้นยอดนิยมบนเว่ยป๋อ ชาวเน็ตกำลังถกเรื่องนี้
กันอย่างร้อนแรง บ้างก็พูดกันไปต่างๆ นานา
เพราะบทความไม่มีหลักฐานยืนยันจึงไม่มีใครรู้ว่าเนื้อหาในบทความนั้นจริง
เท็จแค่ไหน
บางคนออกมาเปิดเผยเรื่องจริง แต่ก็มีทั้งเรื่องจริงและเรื่องปลอมปะปนกันไป
ทำให้ไม่มีใครแยกได้ว่าอันไหนจริงอันไหนหลอกในเวลาสั้นๆ!
ที่เผยเชียนเก็บความลับมาได้ดีขนาดนี้เป็นเพราะชื่อเสียงและตัวตนของเขา
ในบริษัท
พนักงานของเถิงต๋าทุกคนเคารพเทิดทูนเขามาก พอเผยเชียนออกคำสั่งห้าม
ไม่ให้ใครเปิดเผยตัวตนของเขาและสวัสดิการของบริษัท ทุกคนก็ทำตามกันอย่าง
เคร่งครัด
ถึงหม่าอี้ฉวินจะแอบไปให้สัมภาษณ์เพื่อช่วยโฆษณาบริษัทเถิงต๋า เขาก็ทำ
ตามที่เผยเชียนสั่ง ไม่บอกให้คนอื่นๆ รู้ว่าตนเป็นพนักงานของเถิงต๋า!
ดังนั้นข่าวลือที่กระจายว่อนโลกอิ นเทอร์เน็ตในตอนนี้จึงมีทั้งข่าวจริงและข่าว
ปลอม ไม่มีใครชี้ชัดได้ว่าแหล่งข้อมูลมาจากไหน
บทสัมภาษณ์ระบุว่าอยากจะเปิดม่านที่บดบังบริษัทเถิงต๋าอันลึกลับออก แต่
สุดท้ายก็เปิดได้แค่ครึ่งเดียว ไม่มีใครได้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่อย่างชัดเจน!
แต่ความไม่แน่นอนและการที่ได้ เดาไปต่างๆ นานาก็ทำให้ผู้คนสนใจอยากรู้
กันมากขึ้น!
เกมนักออกแบบเกมและซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยสามารถนำมารวมกัน
เป็นภาพบริษัทเถิงต๋าแบบรางๆ ได้ พอเอาทั้งสองอย่างนี้มาเชื่อมกันก็เกิดเป็น
กระแสขึ้นมาอีกระลอก!
เผยเชียนเปิดแพลตฟอร์มเกมขึ้นมาดูสถิติเกมต่างๆ
ถึงผู้เล่นจะไม่ได้เพิ่มขึ้นพรวดพราด แต่ก็มีเพิ่มกันทั้งสี่เกม!
แม้แต่เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลยังมียอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นมากระจึ๋
งนึง
ส่วนซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยที่เผยแพร่ทางเว็บอ้ายลี่เต่าช่องทางเดียว
นั้น ทุกๆ ยอดวิวที่เพิ่มขึ้นจะกลายเป็นเม็ดเงินเข้ากระเป๋า
เผยเชียนกดปิดหน้าแพลตฟอร์มไป
เขาเริ่มสงสัยตัวเองมากกว่าครั้งไหนๆ
หรือตัวเขาจะมีพรสวรรค์มากเกินไป แตะจับอะไรก็กลายเป็นเงินเป็นทองไป
หมด แค่เข้าไปจุ้นจ้านด้วยนิดหน่อยก็พาทีมประสบความสำเร็จ
เป็นไปไม่ได้
เผยเชียนรู้ขีดจำกัดของตัวเองดี
แปลว่าความสำเร็จครั้งที่ผ่านมาเป็นเพราะโชคช่วยเหรอ
ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว
โชคถือเป็นปัจจัยหนึ่ง เช่น ถ้าอาจารย์เฉียวไม่บังเอิญมาเจอเกมโดดเดี่ยว
เดียวดายกลางทะเล เกมนี้ก็ไม่มีทางได้เกิดหรอก
แต่จะบอกเป็นเพราะโชคช่วยล้วนๆ ก็ไม่ถูกนัก
นอกจากโชคแล้วยังมีเหตุผลเบื้องลึกบางอย่างที่เผยเชียนมองข้ามไป
เขาไตร่ตรองดูอย่างละเอียด
ที่เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายประสบความสำเร็จได้เป็นเพราะเกม
มีเอกลักษณ์
ส่วนเกมแม่ทัพผี เกมฐานทัพกลางทะเล และเกมนักออกแบบเกม…
ล้วนเหมือนกันหมด!
ถึงความสำเร็จของทั้งสามเกมจะเกิดจากความบังเอิญ แต่จริงๆ ก็มีปัจจัยที่
ช่วยให้เกมประสบความสำเร็จได้ซ่อนอยู่
ส่วนหนึ่งก็เพราะเผยเชียนอยากสวนทางตลาดและรสนิยมของผู้เล่น เลยทำ
ให้เกมออกมาโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
อีกส่วนหนึ่งมาจากการที่เผยเชียนพยายามผลาญเงินให้ได้เยอะๆ ด้วยการทุ่ม
เงินก้อนใหญ่ซื้อทรัพยากรงานภาพคุณภาพดี ให้โบนัสและสวัสดิการดีๆ มากมาย
กับพนักงาน ทำให้พวกเขามีขวัญและกำลังใจในการทำงานสุดๆ
ด้วยเหตุนี้เกมคุณภาพดีจึงถือกำเนิดขึ้น!
เผยเชียนตบหัวตัวเอง
“…แสดงว่าทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง!
“ฉันทำแบบนี้ไม่ได้!
“โง่ชะมัด!
“จริงๆ แล้วต้องสร้างเกมตามกระแสสินะ
“ไม่สิ ทำแบบนั้นก็ไม่ถูกเหมือนกัน…”
เผยเชียนเลิกล้มความคิดนั้นทันที
มี ต ั ว อย่ า งมากมายของบริ ษ ั ท ที ่ ท ำเกมเลี ย นแบบเกมอื ่ น แล้ ว ประสบ
ความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ดูท่าว่าที่ชื่อบริษัทเขามีคำว่า ‘เถิง’ อยู่จะไม่ใช่เรื่องงม
งายแล้วล่ะ
“ไม่ ฉันต้องค่อยๆ คิดเรื่องนี้
“ระหว่างที่คิดอยู่ ต้องหยุดการค้นคว้าและพัฒนาเกมใหม่ไปก่อน จะยอม
เสี่ยงไปมากกว่านี้ไม่ได้
“ตอนนี้มีบ่อเงินอยู่สามบ่อแล้ว ถ้าขุดขึ้นอีกบ่อได้ฉิบหายกันพอดี”
เผยเชียนตัดสินใจระงับการพัฒนาเกมใหม่ไว้ก่อน
เดี๋ยวสัปดาห์หน้าให้ลู่หมิงเหลียงกับคนอื่นๆ จัดการเกมเก่าไปก่อน
ตามธรรมเนียน เดือนหน้าเขาต้องใช้ ‘ระบบคัดที่หนึ่งออก’ อีก
แต่เผยเชียนก็ไม่อยากกำจัดลู่หมิงเหลียงออก เท่าที่เห็นในตอนนี้ ลู่หมิงเหลี
ยงเป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งเขาทุกอย่าง ไม่ใส่นั่นใส่นี่เพิ่มเข้ามาเหมือนหวงซื่อปั๋วกับ
เปาซวี่
เผยเชียนพอใจในจุดนี้มาก
ความล้มเหลวของเกมนักออกแบบเกมเป็นความผิดของเขาเอง คงจะไม่
สมเหตุสมผลเท่าไหร่ถ้าจะไปโทษลู่หมิงเหลียง
ถึงเสียงพากย์ของลู่หมิงเหลียงจะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกมประสบความสำเร็จ
ขอแค่เผยเชียนไม่ปล่อยให้เขาพากย์เสียงลงเกมหน้าก็คงไม่มีปัญหาอะไร
เผยเชียนยังเชื่อใจลู่หมิงเหลียงอยู่ จึงไม่คิดจะกำจัดอีกฝ่ายออกไปง่ายๆ
ที่สำคัญที่สุดคือ ถ้าดันทำให้ลู่หมิงเหลียงกลายเป็นหวงซื่อปั๋วหมายเลขสอง
ขึ้นมา ชีวิตเขาได้จบเห่แน่!
ดั ง นั ้ น หลั ง จากคิ ด ดู อ ย่ า งถี ่ ถ ้ ว น เผยเชี ย นก็ ต ั ด สิ น ใจให้ ล ู ่ ห มิ ง เหลี ย งทำ
ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวางแผนต่อไปโดยรับผิดชอบแค่การอัปเดตตัวเกมปัจจุบัน
เผยเชียนจะตั้งราคาตัวอัปเดตไว้ต่ำๆ ถึงจะยังทำเงินได้ อย่างน้อยก็ต้อง
พยายามลดจำนวนลงให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
ถ้าอยากขาดทุนก็ต้องหาวิธีการอื่น
“ฉันต้องเปลี่ยนวิธีคิด
“พอเห็นแบบนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าฉันต้องทำอะไรเพื่อที่จะได้ขาดทุน
“ฉันต้องพาร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมุ่งสู่ความสำเร็จ
“ฉันจะเปิดสาขาใหม่ในจิงโจว!”
อีกหนึ่งสัปดาห์จะถึงวันสรุปบัญชีรอบนี้ แต่เผยเชียนคิดเผื่อไปถึงวันสรุปบัญชี
รอบหน้าแล้ว
ก็เหมือนทีมที่กำลังเป็นรองอยู่ในการแข่งขันแบบ BO5[1] สิ่งที่ทีมทำได้คือ
เริ่มคิดถึงการแข่งขันรอบต่อไป…
ตอนนี้สิ่งที่เผยเชียนทำแล้วประสบความสำเร็จมากที่สุดคือร้านอินเทอร์เน็ต
โมหยู!
ทุนสามล้านหยวนที่ลงไปตอนแรกก็ยังไม่ได้คืน แถมยังขาดทุนอีกเดือนละ
สามแสน นี่คือความพยายามที่ประสบความสำเร็จที่สุดของเผยเชียน!
ดังนั้นถ้าเปิดสาขาเพิ่ม…
ก็จะขาดทุนได้มากเท่าที่ใจต้องการเลยไม่ใช่เหรอ!
……………………….
[1] Best of 5 หรือ BO5 คือทีมใดชนะ 3 ใน 5 เกมก่อน การแข่งขันจะถือว่า
สิ้นสุด
บทที่ 135 ปล่อยอัปเดตใหม่!

วันที่ 30 เมษายน วันปิดบัญชี


หน้าจอระบบปรากฏให้เผยเชียนเห็นอัตโนมัติ
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ: เผยเชียน>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1:1>
<เริ่มสรุปบัญชี…>
<เงินทุนระบบ: 4,910,000 (↑3,910,000)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 44,896.2>
<ภารกิ จ พิ เ ศษประจำรอบ: บริ ษ ั ท จะต้ อ งตั ้ ง หน้ า ร้ า นใกล้ บ ริ เ วณที ่ ค น
พลุกพล่านหรือบริเวณมหาวิทยาลัย [สำเร็จ]>
<รางวั ล ที ่ จ ะได้ ร ั บ เมื ่ อ ปฏิ บ ั ต ิ ภ ารกิ จ พิ เ ศษสำเร็ จ : เพิ ่ ม เงิ น 10% หลั ง
ดำเนินการแปลงค่าเงิน>
<กำลังสรุปบัญชี…>
<กำลังแปลงค่าเงิน…>
<เงินทุนระบบ: 4,910,000>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 87,953.06 (↑39,142.6 x 110%)>
“คิดไม่ถึงเลยแฮะว่าจะได้เงินแปลงเข้ามาเกือบสี่หมื่น…”
เผยเชียนรู้สึกไม่เข้าใจโลกใบนี้
สัปดาห์ก่อนหน้าวันสรุปบัญชี บทความเรื่องเถิงต๋าทำให้เกมได้รับความนิยม
มากขึ้นกว่าเดิม ชาวเน็ตถกกันอย่างร้อนแรงทำให้บริษัทเถิงต๋าได้แฟนคลับหน้า
ใหม่เพิ่มขึ้นมาเพียบ
เป็นผลให้ยอดขายเกมของเถิงต๋าพุ่งกระฉูด ยอดวิวซีรีส์ชีวิตประจำวันของ
บอสเผยก็พุ่งขึ้นพรวดพราด!
ยอดปิดบัญชีของเงินทุนระบบมากกว่าที่เผยเชียนกะไว้สองล้านหนึ่งแสน
หยวน!
ความมั่งคั่งส่วนบุคคลของเขาพุ่งทะลุแปดหมื่นหยวน ทำลายสถิติใหม่
หน้าจอระบบแสดงผลต่อ
<วันปิดบัญชีครั้งต่อไป: อีก 60 วัน>
<ดำเนินการทบรวมเงินทุนระบบ จำนวนเป้าหมาย: 5,000,000>
<ทบเงินเพิ่ม 87,482…>
<ทบรวมเงินทุนระบบเสร็จสิ้น>
<เงินทุนระบบ: 5,000,000>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 87,953.06>
เผยเชียนยังรอประโยคต่อไป แต่หน้าจอก็หยุดอยู่แค่ตรงนั้น ผ่านไปสองสาม
วินาที หน้าจอก็หายไปอัตโนมัติ
“รอบนี้ไม่มีภารกิจพิเศษ แถมวันปิดบัญชีก็ร่นมาเร็วขึ้นอีก…
“แบบนี้ฉนั ก็ยิ่งเครียดสิ!”
เผยเชียนตั้งตาคอยภารกิจพิเศษมาโดยตลอด แต่เหมือนว่าภารกิจพิเศษจะ
เป็นแบบสุ่ม ซึ่งรอบนี้ไม่มีมาให้
กำหนดวันปิดบัญชีก็ร่นขึ้นจากสามเดือนเป็นสองเดือน
เงินทุนระบบตั้งต้นเพิ่มขึ้นจากหนึ่งล้านเป็นห้าล้าน เพราะเผยเชียนทำกำไร
ได้สี่ล้านเก้าแสนหนึ่งหมื่นหยวน ระบบจึงทบเพิ่มให้แค่แปดหมื่นกว่าหยวน เขา
รู้สึกปวดใจกับเรื่องนี้เล็กน้อย
ถ้ารอบก่อนเขาทำให้ขาดทุนได้หนึ่งล้านหยวน นอกจากจะได้เงินแปลงเข้า
ความมั่งคั่งส่วนบุคคลหนึ่งล้านหยวนแล้ว ยังได้เงินทบจากระบบอัตโนมัติให้เป็น
ห้าล้านหยวนอีกด้วย
เอามารวมๆ กันแล้วถือว่าเสียหายหลายล้านเลย!
เผยเชียนรู้สึกหดหู่ใจนิดหน่อย แต่ไม่นานก็ทำใจได้
เขาทำทุกอย่างที่ทำได้ในรอบก่อนแล้ว จากนั้นก็ปล่อ ยให้เป็นเรื่อ งของ
โชคชะตา สุดท้ายพอมาเห็นว่าบริษัทเริ่มทำกำไรได้อย่างรวดเร็วก็สายเกินไปเสีย
แล้ว
เผยเชียนไม่สามารถทุ่มเงินเข็นสินค้าใหม่ออกมาได้เพราะตอนนั้นเหลือเวลา
อีกไม่ถึงเดือนจะถึงวันปิดบัญชี เขาจะมีสินค้าที่ยังไม่ได้วางจำหน่ายค้างอยู่หนึ่ง
สัปดาห์ก่อนวันปิดบัญชีไม่ได้ ไม่อย่างนั้นวันปิดบัญชีจะเลื่อนออกไป และสูญเงิน
เพิ่มขึ้นอีก
ส่วนผลลัพธ์ครั้งนี้ ดูเหมือนว่าจะแปลงเงินเข้าความมั่งคั่งส่วนบุคคลได้สีห่ มื่น
หยวน ถือว่ายังพอรับได้
อย่างน้อยเผยเชียนก็อยู่ในระดับเดียวกับพนักงานออฟฟิศที่ได้เงินเดือนหนึ่ ง
หมื่นสามพันหยวนต่อเดือน
“มีเวลาแค่สองเดือน ต้องผลาญเงินตั้งเท่านี้ กดดันชะมัด
“แผนคือหยุดพัฒนาเกมใหม่ ให้พวกลู่หมิงเหลียงอัปเดตเกมใหม่แทน ส่วน
ร้านอินเทอร์เน็ตก็ต้องเปิดสาขาเพิ่ม
“อืม เดี๋ยวต้องคิดหาทางเพิ่มด้วย
“เวลาเป็นเรื่องสำคัญ งานนี้ไม่ง่ายเลย”
ถึงจะต้องจัดการกับเงินทุนระบบแค่ห้าล้านหยวน แต่ถ้าเผยเชียนอยากจะ
ขาดทุนให้ได้สำเร็จ เขาต้องนับกำไรที่โปรเจ็กต์ปัจจุบันทำได้เข้าไปด้วย
เกมแม่ทัพผีทำเงินได้หกแสนหยวน เกมฐานทัพกลางทะเลทำเงินได้สามล้าน
ห้าแสนหยวน เกมนักออกแบบเกมทำเงินได้หนึ่งล้านเจ็ดแสนหยวนต่อเดือน
นี่คือตัวเลขหลังจากบทความถูกปล่อยออกไป
ถึงเกมนักออกแบบเกมจะเป็นเกมใหม่ แต่ก็ไม่ได้มีผู้เล่นเยอะเท่าเกมฐานทัพ
กลางทะเล อีกทั้งยังเล่นกันไม่นานเท่า นอกจากนี้คนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะดูคนอื่น
แคสเกมมากกว่า ถึงเกมจะกระแสดี แต่กำไรเทียบกับเกมฐานทัพกลางทะเลไม่ได้
เลย
เผยเชียนมีโปรเจ็กต์ขาดทุนโปรเจ็กต์เดียวในมือคือร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู แต่
ก็ขาดทุนแค่สามแสนหยวนต่อเดือน
รวมค่าเช่าพื้นที่สำนักงาน เงินเดือน สวัสดิการ และรายจ่ายอื่นๆ อย่างมาก
ที่สุดก็ตกหนึ่งล้านหยวนต่อเดือน
ถ้าอิงตามนี้ก็เหมือนเผยเชียนเอาน้ำแก้วเดียวไปราดดับกองเพลิง!
ถ้าเผยเชียนไม่ทำอะไรเลย กำไรต่อเดือนที่ทำได้จะอยู่ที่สี่ล้านห้าแสนหยวน
แน่นอนว่านี่เป็นยอดที่กะเอาคร่าวๆ ยอดขายต่อเดือนของทั้งสามเกมอาจจะ
มีขึ้นๆ ลงๆ ส่วนรายจ่ายของบริษัทก็คำนวณตัวเลขที่ชัดเจนไม่ได้ สรุปได้แค่เป็น
ตัวเลขคร่าวๆ
สองเดือนนี้ เผยเชียนต้องผลาญกำไรส่วนของสองเดือนบวกกับเงินทุนระบบ
ที่มีอยู่ รวมแล้วยอดอยู่ที่สิบสี่ล้านหยวน
“สิบสี่ล้านหยวน เปิดร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาใหม่ใช้สามล้านหยวน งั้นก็
เปิดไปเลยสี่สาขา
“ทีนี้ก็จะมีร้านห้าสาขาช่วยผลาญเงิน ตัดเงินลงทุนตั้งต้นออก ก็จะขาดทุน
หนึ่งล้านห้าแสนหยวนต่อเดือน เยี่ยมมาก!
“เดี๋ยวนะ
“รอบนี้ต้องปล่อยอัปเดตใหม่ให้ผู้เล่นด้วย จะตั้งราคาเท่าไหร่ก็คงทำกำไรได้
เพิ่มอยู่ดี
“เหมือนว่าแค่เปิดสาขาเพิ่มจะไม่พอแฮะ ต้องคิดหาทางอื่นด้วย”
เผยเชียนคิดอยู่สามนาทีก็ยังคิดอะไรไม่ออก
“ช่างเถอะ เริ่มจากการเปิดสาขาร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก่อนแล้วกัน เสร็จแล้ว
ค่อยคิดหาวิธีผลาญเงินเพิ่ม”


บรรยากาศที่ออฟฟิศดีมาก
บางคนกำลังเล่นเกม บางคนกำลังหาว บ้างก็ดูซีรีส์ไปกินขนมไป บ้างก็กำลัง
หาที่เที่ยวบนอินเทอร์เน็ตอยู่
เผยเชี ย นไม่ เ คยสนใจว่ า พวกพนั ก งานจะใช้ เ วลางานทำเรื ่ อ งแบบนี ้ ถึ ง
ภายนอกเขาจะดูนิ่งเงียบ แต่ในใจนึกสนับสนุนเต็มที่
น่าเสียดายที่เวลาทำงาน ทุกคนดันทุ่มเทกันเต็มที่ ขวัญกำลังใจในการทำงาน
มาเต็มจนเผยเชียนปวดหัวหนัก
พรุ่งนี้คือวันแรกของช่วงวันหยุดวันแรงงานแห่งชาติ บริษัทเถิงต๋ามีนโยบาย
ให้พนักงานหยุดมากกว่าวันหยุดตามปกติที่กฎหมายกำหนด ไม่เคยหยุดน้อยกว่า
นอกจากนี้ พอประจวบเหมาะกับที่เพิ่งปล่อยเกมใหม่ไป พนักงานหลายคนตั้งใจ
จะไปเที่ยวช่วงวันหยุดกัน บางคนวางแผนไว้ว่าจะกลับบ้าน บางคนกะจะออกไป
เที่ยวเล่น
เผยเชียนเรียกทุกคนมาที่ห้องประชุมเพราะเขาวางแผนสำหรับช่วงหลัง
วันหยุดเอาไว้แล้ว
ไม่นานทุกคนก็มารวมตัวกัน
ถ้าเป็นบอสคนอื่นๆ สิ่งที่ควรทำเป็นอย่างแรกคือให้กำลังใจพนักงานทุกคน
กับโม้เรื่องความสำเร็จของเกมนักออกแบบเกม ต้องชมเชยพนักงานที่ตั้งใจทำงาน
อย่างหนักและสนับสนุนให้พวกเขาทำแบบนี้ต่อไปในโปรเจ็กต์หน้าๆ เพื่อให้
ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่อีกรอบ
แต่เผยเชียนไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย เพราะเขายังไม่หายเจ็บปวดใจกับเรื่องที่
เกิดขึ้น
ไม่มีใครคิดว่าแปลก เพราะบอสเผยไม่ใช่คนที่หลงระเริงกับความสำเร็จ!
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตัดสินใจพูดเรื่องระบบคัดที่หนึ่งออกก่อน
“เรื่องแรก ผมอยากพูดเรื่องการคัดเลือกพนักงานดีเด่น
“ตั ้ ง แต่ น ี ้ ต ่ อ ไป เราจะเลื อ กพนั ก งานดี เ ด่ น กั น ปี ล ะสองครั ้ ง คื อ วั น ที ่ 1
กุมภาพันธ์กับวันที่ 1 สิงหาคม คนที่ได้รับเลือกเป็นพนักงานดีเด่นจะได้รางวัลเป็น
งบตามฝันมูลค่าหนึ่งล้านหยวน ส่วนพนักงานดีเด่นอันดับสองจะได้หยุดงานหนึ่ง
เดือนโดยได้ค่าจ้างเต็มจำนวน”
หลังเลือกพนักงานดีเด่นรอบที่แล้วไป เผยเชียนก็ไม่ได้วางไว้ว่าจะเลือกคน
ต่อไปตอนไหน จริงๆ เขาตั้งใจไว้ว่าจะจัดบ่อยๆ เพราะจะได้ช่วยผลาญเงินเพิ่มได้
แต่เผยเชียนก็เปลี่ยนมาจัดปีละสองครั้งเพราะรู้แล้วว่าระบบคัดที่หนึ่งออก
ไม่ได้ดีเลิศอะไรเลย…
แถมลู่หมิงเหลียงก็เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนที่ดี เผยเชียนพอใจการทำงานของ
เขามาก ไม่อยากจะไล่ไปไหน
ตอนนี้เผยเชียนระมัดระวังเรื่องการโยกย้ายพนักงานมาก เพราะกลัวว่าจะไป
ค้นพบเพชรในตมเข้าอีก!
แต่เขาก็ละเลยระบบนี้ไม่ได้ จึงต้องปรับมาจัดปีละสองครั้ง
ไม่มีใครติดขัดอะไร
ทุกคนคิดว่าถ้าต้องเลือกพนักงานดีเด่นตอนนี้ก็คิดไม่ออกว่าจะเสนอชื่อใคร
เป็นพิเศษ ส่วนใหญ่คงจะโหวตให้ลู่หมิงเหลียง
ว่ากันตามจริง ลู่หมิงเหลียงก็ไม่เหมาะที่จะได้เป็นพนักงานดีเด่น เพราะตั้งแต่
เริ่มต้นพัฒนาเกมไปจนถึงตอนวางขาย บอสเผยเป็นคนดูแลเองทุกขั้นตอน
แม้แต่ลู่หมิงเหลียงเองก็คิดแบบนั้น
อีกอย่างบอสเผยก็ไม่ได้กำหนดไว้ด้วยว่าจะเลือกตอนไหน ทุกคนเลยยอมรับ
การตัดสินใจครั้งนี้
เหลือเวลาอีกสามเดือนจนกว่าจะถึงวันที่ 1 สิงหาคม หลายคนถูมือไปมาตั้งใจ
ว่าจะลองดูสักตั้ง!
ถึงจะไม่ได้เป็นพนักงานดีเด่นและได้งบตามฝันหนึ่งล้านหยวน ได้ที่สองก็ยังได้
หยุดงานหนึ่งเดือนแบบได้ค่าจ้าง ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องดีมากๆ เหมือนกัน!
มีแค่เปาซวี่ที่ขนลุกเกรียว เขาอยากขอบอสเผยให้ตัดตัวเองออกจากรายชื่อที่
จะเอาไปคัดเลือก
พอเห็ น ว่า ไม่ ม ีใ ครโต้ แ ย้ ง อะไร เผยเชี ย นก็ พ ู ด ต่ อ “เรื ่ อ งต่ อ ไปเป็น เรื่อ ง
แผนการทำงานในสองเดือนนี้
“ผมเห็นว่าผู้เล่นเกมต่างๆ ของเราอยากให้มีการอัปเดตเวอร์ชันใหม่มาก ผม
เลยตัดสินใจหยุดการพัฒนาเกมใหม่ชั่วคราว เราจะให้เวลาสองเดือนนี้ในการอัป
เดตเกมที่วางขายในปัจจุบันของเราตามที่ผู้เล่นขอมา
“นี่คือแผนคร่าวๆ
“เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายจะมีโหมดไม่จบสิ้นตัวใหม่ โหมดเล่น
หลายคน และแผนที่ใหม่ ปล่อยเป็น DLC[1] ราคาตัวละหนี่งหยวน
“เกมแม่ทัพผีจะปล่อยการ์ดแม่ทัพชุดใหม่ ราคาห้าหยวน
“เกมฐานทัพกลางทะเลทรายจะปล่อยอาวุธระดับตำนานชิ้นใหม่ ราคาแปด
ร้อยแปดสิบแปดหยวน จำกัดขายแค่ห้าร้อยกระบอกต่อเดือน
“เกมนักออกแบบเกมจะมีเสียงพากย์ชุดใหม่กับฉากใหม่ ราคาห้าหยวน”
ทุกคนหันมองกันอย่างงุนงง
ขายเท่านี้จะคืนทุนได้ไหมเนี่ย
หร่วนกวางเจี่ยนเป็นคนทำภาพให้เกมแม่ทัพผีกับเกมนักออกแบบเกม ถึงอีก
ฝ่ายจะสนิทกับบอส แต่เราก็ต้องจ่ายตามเรตราคาของเขาอยู่ดี!
เกมฐานทัพกลางทะเลยิ่งแล้วใหญ่ ให้ขายอาวุธในตำนานชิ้นใหม่แค่ห้าร้อย
กระบอกต่อเดือนเหรอ
เกมฐานทัพกลางทะเลมีผู้เ ล่นในปัจจุบันอยู่ประมาณสี่ถึงห้าแสนคน ขายแค่
ห้าร้อยกระบอกต่อเดือนก็ได้เงินแค่สองแสนหยวนต่อเดือนสิ
สีหน้าทุกคนเปลี่ยนจากตะลึงเป็นงุนงง ก่อนจะเปลี่ยนกลับมาเป็นชื่นชมยก
ย่องอีกครั้ง
มีแค่บอสเผยนี่แหละที่กล้าทำอะไรแบบนี้!
เผยเชียนไม่ได้แสดงอาการอะไรแม้ทุกคนจะจ้องมาอย่างชื่นชมเคารพ
ช่วยไม่ได้นี่ ระบบยอมให้ขาย DLC เกมนักออกแบบเกมกับเกมแม่ทัพผีได้
ต่ำสุดที่ห้าหยวน
ส่วนเกมฐานทัพกลางทะเลใช้ DLC หาเงินไม่ได้ ต้องขายแค่อาวุธระดับ
ตำนาน
อาวุธระดับตำนานตั้งราคาไว้ที่แปดร้อยแปดสิบแปดหยวน ระบบไม่ยอมให้
เปลี่ยนราคา เผยเชียนจึงใช้วิธีจำกัดจำนวนการขาย
ทำแบบนี้ก็จะขายได้แค่ห้าร้อยกระบอกต่อเดือน แค่นี้ก็ควบคุมรายรับได้แล้ว
ไม่ใช่เหรอ
……………………………
[1] Downloadable content – เนื้อหาเสริมของเกมที่ให้ดาวน์โหลดเพิ่ม
บทที่ 136 ไม่ตอ้ งพูดอะไรแล้ว เดี๋ยวฉันจัดการเอง!

ไม่นานแผนอัปเดตเกมต่างๆ ก็ถูกจัดสรรเสร็จสรรพ
สำหรับรายละเอียดการอัปเดตเกมแต่ละเกม เผยเชียนไม่ได้สนใจอะไรมาก
ปล่อยให้ลู่หมิงเหลียงเป็นคนจัดการ
เผยเชียนไม่ได้มองเรื่องนี้ในแง่ร้าย
เขารู้ว่าอัปเดตใหม่และ DLC ที่ปล่อยไปต้องทำเงินได้แน่นอน แต่ถึงจะทำเงิน
ได้ ก็ไม่ได้เป็นจำนวนที่เยอะขนาดนั้น
เนื่องจากสามารถคุมรายรับของเกมพวกนี้ได้ เผยเชียนเลยไม่ได้เครียดอะไร
มาก
ถ้าเกมพวกนี้ดันขาดทุนขึ้นมาคงจะเป็นเรื่องที่วิเศษสุดๆ!
หลังจากเปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตก็ดูดีมีความสุขขึ้น
ประชุมเสร็จ เผยเชียนเตรียมตัวไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เขาอยากสรุป
รายละเอียดเรื่องเปิดสาขาใหม่ให้เร็วที่สุด จะได้จัดเตรียมและปรับปรุงสถานที่
หลังช่วงวันหยุดวันแรงงานแห่งชาติ
ถ้าปรับปรุงร้านเสร็จภายในหนึ่งเดือน เดือนถัดไปก็จะเริ่มขาดทุนได้ ทันรอบ
ปิดบัญชีครั้งต่อไปพอดี เวลาเหมาะเหม็งมาก
ตอนที่เผยเชียนกำลังเดินออกจากห้องประชุม หม่าอี้ฉวินก็เข้ามาทัก
“บอสเผยครับ ขอผมคุยเป็นการส่วนตัวด้วยได้ไหมครับ”
เผยเชียนผงะไปเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้าตอบ “ได้ครับ เดี๋ยวไปคุยกันที่ห้อง
ทำงานผม”
เผยเชียนชอบหม่าอี้ฉวิน
ตัวนำโชคเป็นอะไรที่หายากมาก
จนถึงตอนนี้ หม่าอี้ฉวินขยันทำตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายมาโดยตลอด งาน
ที่ว่าคือเรียนรู้ปรัชญาการออกแบบเกมขั้นสูงของบอสเผย นอกจากนั้นแล้วก็ไม่ได้
ทำงานอะไรจริงๆ จังๆ เลยสักชิ้น
เผยเชียนพึงพอใจเป็นอย่างมาก
ถ้าพนักงานทุกคนเป็นเหมือนหม่าอี้ฉวิน เผยเชียนคงเครียดน้อยลง
“มีอะไรเหรอ” เผยเชียนนั่งลงตรงโต๊ะทำงานก่อนจะผายมือไปที่เก้าอี้ฝั่งตรง
ข้าม เชิญให้หม่าอี้ฉวินนั่งลงตาม
หม่าอี้ฉวินดูกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย หลังจากอึกอักอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้น
“บอสเผยครับ คือผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง ตอนนี้เขามีปัญหานิดหน่อย…”
เผยเชียนยิ้ม “คุณหมายถึงตัวเองเหรอ ไม่เป็นไร ถ้าเจอปัญหาอะไรก็บอกผม
ได้เลยตรงๆ เดี๋ยวผมให้คุณหยุดงานสามวันแบบจ่ายค่าจ้างให้ไปจัดการปัญหา
ก่อน เสร็จแล้วค่อยกลับมาทำงาน”
หม่ า อี ้ ฉ วิ น รี บ ส่ า ยหน้ า “ไม่ ใ ช่ อ ย่ า งนั ้ น ครั บ บอสเผยเข้ า ใจผิ ด แล้ ว ผม
หมายถึงเพื่อนผมจริงๆ
“ผมกับหวงซื่อปั๋วทำงานที่ฉางหยางเกมส์มาก่อน บอสน่าจะรู้เรื่องนี้
“พอหวงซื่อปั๋วลาออกก็ขาดพนักงานฝ่ายวางแผน ทางบริษัทเลยจ้างคนมา
แทนที่
“พนักงานคนที่ว่าเพิ่งจะโดนเลิกจ้าง เขาเลยมาถามผมว่าพอจะแนะนำงานให้
ได้มั้ย…”
หืม
เผยเชียนสนใจที่หม่าอี้ฉวินบอกว่า ‘โดนเลิกจ้าง’
ปกติแล้วคำนี้หมายความถึงโดนไล่ออก ไม่ได้ลาออกมาเอง
พนักงานคนนั้นไม่ได้ลาออก แต่โดนฉางหยางเกมส์ไล่ออกเหรอ
เผยเชียนนับนิ้ว
หวงซื่อปั๋วเข้าทำงานที่เถิงต๋าเดือนพฤศจิกายนปีก่อน เพิ่งจะผ่านมาได้แค่ครึ่ง
ปี
ถ้าคนคนนี้มาแทนหวงซื่อปั๋วก็น่าจะเข้ามาเป็นฝ่ายวางแผนที่ฉางหยางเกมส์
เดือนพฤศจิกายน
ทำงานได้ครึ่งปี…ก็โดนไล่ออกเลยเหรอ
เจ้าคนนี้ดูจะเข้าท่า!
เผยเชียนต้องจ้างคนเก่งๆ แบบนี้!
แต่พอคิดดูดีๆ ก็ตระหนักว่าควรจะถามเรื่องราวความเป็นมาให้ชัดเจน
อะไรคือเหตุผลหลักที่เขาโดนไล่ออกกันนะ
ถ้าเป็นเพราะทำงานไม่ได้มาตรฐาน เผยเชียนจะรับเข้าทำงานโดยไม่คิดอะไร
ให้มากความ
แต่ถ้าเป็นเพราะเปิดโปงความลับบริษัทหรือทำอะไรผิดกฎหมาย เขาก็คง
รับเข้าทำงานไม่ได้
ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมา เผยเชียนก็จะมีเอี่ยวไปด้วย เพราะระบบไม่อนุญาตให้ทำ
เรื่องผิดกฎหมายภายในบริษัท
“เพื่อนคุณ… ทำไมถึงโดนไล่ออกล่ะ” เผยเชียนถาม
“ไล่ออกเหรอ ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่ ” หม่าอี้ฉวินรีบส่ายหน้า “เขาโดนเลิกจ้าง
เพราะฉางหยางเกมส์กำลังจะล้มละลาย”
เผยเชียน “…”
ช่างน่าเศร้าใจจริงๆ
เผยเชียนรู้จักบริษัทฉางหยางเกมส์เพราะเป็นที่ทำงานเก่าของหวงซื่อปั๋ว อีก
อย่างเมืองจิงโจวก็ไม่ได้มีบริษัทเกมเยอะขนาดนั้น จางหยางเกมส์จึงถือเป็นบริษัท
ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงพอตัว
แต่เห็นว่าบริษัทก็ไปได้สวย ทำไมถึงล้มละลายได้
น่าอิจฉาจริงๆ!
“ฉางหยางเกมเหรอ… ทำไมถึงล้มละลายได้ล่ะ” เผยเชียนถามอย่างเป็นห่วง
เขาอยากรู้จริงๆ เพราะน่าจะเอามาใช้เป็นบทเรียนได้
หม่าอี้ฉวินรู้สึกตื้นตันใจ เพราะเขาก็ทำงานที่ฉางหยางเกมส์มาพักใหญ่ จะ
บอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยก็คงเป็นการโกหก
“เฮ้อ เรื่องมันยาวครับ
“จริงๆ ก็มีสัญญาณมาสักพักแล้วครับ ตอนเดือนตุลาคมปีก่อน พนักงาน
หลายคนในฉางหยางเกมส์เริ่มหางานใหม่กันแล้ว ขนาดหัวหน้าหลิว หัวหน้าฝ่าย
วางแผนของผมยังคิดจะย้ายงานเลย ตอนนั้นสถานการณ์แย่มากๆ ครับ”
เผยเชียนนึกย้อนกลับไปก็จำได้ว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ
เดือนพฤศจิกายนปีก่อน หัวหน้าหลิวมาสัมภาษณ์งานแทบจะพร้อมๆ กับหวง
ซื่อปั๋ว เพราะหัวหน้าหลิวมีประสบการณ์มากกว่า เผยเชียนจึงปัดเขาตกไป พอมา
คิดดูดีๆ ถ้าหัวหน้าฝ่ายวางแผนแอบหางานใหม่แบบนี้ สถานการณ์ในบริษัทก็
น่าจะแย่จริงๆ
หม่าอี้ฉวินพูดต่อ “ถึงตอนนั้นสถานการณ์ของบริษัทจะแย่มาก แต่ก็ยังเอาตัว
รอดมาได้เพราะเกมตัวหลักๆ ของเราทำเงินให้ได้เรื่อยๆ
“แต่ค่าใช้จ่ายก็เริ่มกองสุมขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกัน
“เท่าที่ผมรู้มา หัวหน้าหลิวคิดจะลาออกอยู่ตลอด แต่ก็หาโอกาสดีๆ ไม่ได้เลย
ต้องทนทำงานต่อ
“ทีนี้พอเห็นความสำเร็จของเกมฐานทัพกลางทะเลกับปืนกิเลนเพลิงที่ฮิตกัน
มากๆ แม้จะวางขายที่ราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน หัวหน้าหลิวก็ตัดสินใจจัด
กิจกรรมขายอาวุธราคาเดียวกัน
“ผมว่าหัวหน้าหลิวน่าจะคิดว่าบริษัทกำลังดิ่งลงเหว เลยอยากทุ่มสุดตัวดูสัก
ครั้ง
“สุดท้ายบอสก็เห็นด้วยกับแผนนี้ เพราะบริษัทกำลังขัดสนเรื่องเงิน ถ้ามี
รายได้พุ่งพรวดเข้ามาในระยะเวลาสั้นๆ ก็น่าจะเอาตัวรอดไปได้อีกพักหนึ่ง
“แต่ผลกลายเป็นโดนผู้เล่นถล่มเละ! นอกจากจะทำเงินไม่ได้แล้ว ชื่อเสียงของ
เกมก็ย่ำแย่ ผู้เล่นที่ยังเล่นอยู่ก็ทยอยเลิก รายได้เริ่มหดหายอย่างรวดเร็ว!
“คราวนี้บริษัทเอาตัวรอดไม่ได้อีก ตอนนี้แค่เงินเดือนยังไม่มีจ่ายเลยครับ
สัปดาห์ก่อนบอสเรียกทุกคนมาประชุมเพื่อแจ้งว่าเงินทุนของบริษัทไม่เหลือแล้ว
ให้ทุกคนรีบไปหางานใหม่
“เพราะแบบนี้เพื่อนก็เลยติดต่อผมมา”
เผยเชียนฟังอย่างตั้งใจ
นี่ฉันมีเอี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเหรอ
เผยเชียนไม่รู้เลยว่าเกมฐานทัพกลางทะเลเป็นสาเหตุทำให้ฉางหยางเกมส์ล่ม
จมเร็วขึ้น
จะบังเอิญเกินไปแล้ว
อีกอย่างอุตสาหกรรมเกมในเมืองจิงโจวนั้นเล็กมาก…
ตอนนี้เผยเชียนรู้สึกอิจฉาบอสของฉางหยางเกมส์มากๆ
ดูสิ ขาดทุนได้ตามที่ใจอยากเลย!
แถมยังขาดทุนย่อยยับจนล้มละลายเลยด้วย!
เดี๋ยวนะ
เผยเชียนปิ๊งไอเดียขึ้นมา
ไม่เห็นต้องอิจฉาเขาเลย!
ฉันซื้อกิจการเขามาก็ได้นี่!
มีอะไรให้ต้องอิจฉากัน จะดีแค่ไหนถ้าฉันได้เป็นบอสของฉางหยางเกมส์เอง!
ถ้าเข้าซื้อกิจการที่ขาดทุนย่อยยับอยู่แล้วก็เท่ากับว่าฉันเปลี่ยนมือมาขาดทุน
เองไม่ใช่เหรอ
นี่มันสมบัติล้ำค่า!
หม่าอี้ฉวินเห็นเผยเชียนไม่ได้ตอบตกลงทันทีก็รีบพูดเสริม “บอสเผยครับ ผม
รู้ว่ามาตรฐานการรับพนักงานใหม่ของเถิงต๋าสูงมาก ผมแค่อยากขอโอกาสให้
เพื่อนได้มาสัมภาษณ์ดูสักครั้ง”
เผยเชียนพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง เพื่อนคุณไม่ได้นั่งเตะฝุ่นแน่”
หม่าอี้ฉวินอึ้งไป ก่อนจะร้องออกมาด้วยความดีใจ “จริงเหรอครับ ขอบคุณ
ครับบอสเผย! ผมซึ้งใจมากๆ ครับ!”
บอสเผยจะสื่อว่าถ้าเพื่อนไม่ผ่านเกณฑ์ของเถิงต๋า บอสก็จะหางานอื่นให้ใช่
ไหม
ชายคนนี้ช่างประเสริฐเหลือเกิน!
หม่าอี้ฉวินไม่คิดว่าบอสเผยจะตอบตกลงง่ายขนาดนี้ ดูเหมือนว่าบอสจะ
ปฏิบัติกบั พนักงานเหมือนเพื่อน เป็นพี่เป็นน้อง!
เขาเดินกลับออกไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง
เผยเชียนดีใจมาก
เพื่อนของหม่าอี้ฉวินจะมีคุณสมบัติตามมาตรฐานของเถิงต๋าหรือเปล่าก็ไม่ใช่
เรื่องสำคัญอีกต่อไป
แค่ซื้อกิจการฉางหยางเกมส์มาก็จบเรื่องแล้วนี่
ถ้าเผยเชียนซื้อต่อกิจการแล้วปล่อยให้ดำเนินการไปตามเดิม ยอดขาดทุนของ
บริษัทฉางหยางเกมส์ก็จะกลายมาเป็นของเขา
จะไปหาอะไรดีๆ แบบนี้ได้ที่ไหนอีก!
บทที่ 137 เลือกผู้จัดการสาขา

เผยเชียนให้เลขาซินพาไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
ระหว่างทาง เผยเชียนก็พูดเรื่องฉางหยางเกมส์ขึ้นมา
“หลังวันหยุดยาว ช่วยเช็กสถานการณ์ที่ฉางหยางเกมส์แล้วมารายงานผม
อย่างละเอียด คุณบอกบอสทางนู้นไปก็ได้ว่าผมสนใจอยากซื้อกิจการต่อ”
เผยเชียนกลัวว่าบริษัทจะเจ๊งก่อนที่พวกเขาจะทันได้ไปตรวจสอบ ถ้าเป็นแบบ
นั้นเขาก็ต้องไปตามหาพนักงานกลับมาทีละคน คงยุ่งยากน่าดู
กระจกที่แตกย่อมมีรอยร้าวหลงเหลืออยู่ ถ้าจะเข้าซื้อกิจการ ก็ต้องเอามาให้
ได้ทั้งหมด!
เพราะเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจปล่อยข้อมูลให้บอสของฉางหยางเกมส์รู้ว่าตน
สนใจซื้อกิจการ อีกฝ่ายจะได้รู้สึกมีความหวังและไม่รีบร้อนปิดกิจการ
เลขาซินที่กำลังขับรถอยู่พยักหน้า “ได้ค่ะบอสเผย แต่เท่าที่ดิฉันรู้มา เห็นว่า
บริษัทนี้สภาพการณ์ไม่ค่อยดีเลยนะคะ”
เลขาซินพูดอย่างมีชั้นเชิง
“ผมไม่ ไ ด้ เ ป็ น ห่ ว งสถานการณ์ ใ นตอนนี ้ ผมสนใจศั ก ยภาพในอนาคต
มากกว่า” เผยเชียนตอบอย่างมั่นใจ
“โอเคค่ะ ดิฉันเชื่อในวิสัยทัศน์ของบอสเผย” เลขาซินตอบ “อยากให้ดิฉัน
ติดตามเรื่องนี้นานแค่ไหนคะ ยิ่งให้เวลาเยอะ ก็ยิ่งได้ข้อมูลเยอะค่ะ จะเป็น
ประโยชน์เวลาเราเจรจากับอีกฝ่าย”
เลขาซินหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “แล้วก็เหมือนตอนนี้บริษัทที่ว่าจะอยู่
ในช่วงขาดทุน เราสามารถชะลอการซื้อกิจการไปสักพัก จะได้ต่อรองราคาได้ง่ าย
ขึ้นค่ะ”
ต่อราคาเหรอ
ทำไมเราต้องต่อราคาด้วย ยิ่งแพงยิ่งดีสิ!
เผยเชียนรีบส่ายหน้า “เราไม่ควรชะลอเรื่องนี้ จัดการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำ
ได้
“วงการเกมแข่งขันกันดุเดือดมาก แทนที่จะชะลอเรื่องเพื่อลดราคา รีบซื้อ
กิจการมาแล้วลงทุนกับการดำเนินการของบริษัทจะไม่ดีกว่าเหรอ เราไม่ควรสนใจ
แค่เรื่องเล็กๆ ต้องมองในภาพรวม”
“โอเคค่ะ” เลขาซินถามต่อ “เราจะซื้อกิจการทั้งหมดเลยไหมคะ หรือจะ
จัดการยังไงดี…”
การเข้าซื้อกิจการทำได้หลายแบบ จะซื้อแค่กิจการ ไม่เอาพนักงานก็ได้ถ้า
สนใจแค่ลิขสิ ท ธิ์ เกมของบริษ ั ท หรือ อีกตัวเลือ กคือ ซื ้อ กิจ การทั ้ งหมดแต่ ไ ป
ปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายใน เช่น ไล่หัวหน้า เปลี่ยนฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล
และอื่นๆ
จะเข้าซื้อกิจการแบบไหน ขึ้นอยู่กับว่าเผยเชียนสนใจอะไรในตัวฉางหยาง
เกมส์ เลขาซินก็จะสามารถเจรจาเรื่องราคาได้ง่ายขึ้น
เผยเชียนไม่ได้สนใจพนักงานของฉางหยางเกมส์ ลิขสิท ธิ์เกมก็ไม่ได้สนใจ เขา
สนใจศักยภาพการขาดทุนของฉางหยางเกมส์ต่างหาก
ดังนั้นเผยเชียนจึงต้องซื้อกิจการฉางหยางทั้งหมดเพื่อที่จะได้รักษาสภาพ
ปัจจุบันไว้
เขารีบตอบ “ซื้อกิจการทั้งหมด ห้ามเปลี่ยนโครงสร้างภายในแม้แต่นิดเดียว”
“ได้ค่ะ บอสเผย เข้าใจแล้วค่ะ ” พอเข้าใจจุดประสงค์ของเจ้านาย เลขาซินก็
ไม่ได้ถามอะไรต่อ
การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ดูไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลเท่าไหร่
เพราะ…ฉางหยางเกมส์ไม่มีอะไรดีพอที่จะซื้อ
ถ้าเผยเชียนสนใจพนักงานเก่งๆ แค่ไปล่อมาเข้าเถิงต๋าก็พอแล้วนี่
ถ้าสนใจเกมไหน ก็ขอซื้อแค่ลิขสิทธิ์เกมนั้นมาก็พอ เท่านี้ ฉางหยางเกมส์ก็ดีใจ
จนน้ำตาไหลแล้วที่มีบริษัทอื่นมาขอซื้อลิขสิทธิ์เกม
แต่บอสเผยกลับคิดจะซื้อกิจการทั้งหมด
ไม่เห็นจะสมเหตุสมผลเลย
แต่เลขาซินก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ หน้าที่ของเธอคือทำตามที่เจ้านายสั่งอย่าง
เคร่งครัดและไม่ถามอะไรให้มากความถ้าไม่จำเป็นต้องรู้คำตอบจริงๆ
อีกอย่างบอสเผยน่าจะมีเหตุผลที่ทำแบบนี้ บอสน่าจะเห็นอะไรบางอย่างใน
ฉางหยางเกมส์
เนื่องจากเป็นช่วงวันแรงงานแห่งชาติ เมืองจิงโจวจึงค่อนข้างแน่นขนัด พวก
เขาใช้เวลาเดินทางไปถึงร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมากกว่าปกติ
เผยเชียนเดินลงจากรถแล้วตรงเข้าร้านไป
อืม โล่งเหมือนเดิม ค่อยโล่งอกหน่อย!
จนถึงตอนนี้ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูได้ลูกค้าประจำมานิดหน่อย เป็นพวกคน
ล่ำซำที่ไม่ได้สนใจเรื่องราคา พวกเขาชอบมาเล่นอินเทอร์เน็ตและจิบกาแฟที่ร้าน
บางคนมีพาเพื่อนมาสังสรรค์ด้วย
บางครั้งบางคราวก็จะมีกลุ่มเพื่อนมารวมตัวเล่นเกมด้วยกัน
ถึงอย่างไรที่ร้านก็บรรยากาศดี บริการก็ดี คนไม่ค่อยเยอะ
สำหรับลูกค้าผู้ล่ำซำพวกนี้ก็เหมือนจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อบรรยากาศดีๆ สำหรับ
เล่นเกม
ถึงอย่างนั้นร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก็ไม่สามารถหาเงินคืนทุนได้ เพราะลูกค้าล่ำ
ซำมีน้อยเกินไป!
ร้านตั้งอยู่ห่างจากย่านการค้าอันเงียบเหงาไปหนึ่งถนน ไม่มีป้ายใหญ่บอกทาง
ไปร้าน แถมทำเลที่ตั้งก็ไม่ใช่ย่านพักอาศัยระดับสูงอีก
ทำเลและราคาของร้านทำให้มีแค่ลูกค้าล่ำซำกลุ่มเล็กๆ เข้ามาใช้งานบ้าง เงิน
ที่ได้ไม่เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจเลย
แต่เผยเชียนก็ไม่ได้กังวลใจสักนิด
พอเห็นเผยเชียนเข้ามาในร้าน หม่าหยางกับจางหยวนก็รีบไปต้อนรับ
“บอสเผยมาเยี่ยมเหรอครับ รับเครื่องดื่มสักแก้วไหมครับ” จางหยวนถาม
เผยเชียนไล่สายตาดูเมนู “เอามาร์การิต้าแก้วนึง”
เผยเชียนมองไปรอบๆ ไม่เห็นลูกค้าทั้งโซนอินเทอร์เน็ตและโซนคาเฟ่ วันนี้
ร้านดูโล่งเหลือเกิน
“วันนี้ไม่มีลูกค้าเหรอ” เผยเชียนถามเสียงเรียบ
หม่าหยางถูมือด้วยความขายหน้า “ใช่ครับพี่เชียน ไม่รู้วันนี้มันวันอะไร สงสัย
เพราะใกล้ถึงวันหยุดแล้ว…”
วันก่อนๆ ยังพอมีลูกค้าเข้ามาเล่ นเกมบ้าง แต่ช่วงบ่ายวันนี้ไม่มีลูกค้าเข้าร้าน
เลยสักคน ไม่รู้ทำไม…
แต่เผยเชียนไม่ได้ใส่ใจอะไร จริงๆ แล้วเขานึกดีใจด้วยซ้ำ
“โอเค งั้นไปปิดประตู วันนี้เราปิดร้านเร็วหน่อย
“จางหยวน ทำเครื่องดื่มให้ทุกคนด้วย ลงบัญชีบริษัท
“บ่ายนี้ไม่ต้องทำงานแล้ว ทุกคนมานั่งก่อน”
เผยเชียนนั่งลงตรงโซนคาเฟ่พร้อมกวักมือเรียกทุกคน
พนักงานบางคนเดินปรี่เข้าไปนั่ง บางคนจัดข้าวของก่อน บางคนจัดโต๊ะจัด
เก้าอี้ จางหยวนเริ่มทำเครื่องดื่มให้ทุกคน
ไม่นานพนักงานทุกคนรวมเชฟทั้งสามคน (ตอนแรกมีคนเดียว แต่จ้างเพิ่มอีก
สองคนเพื่อทำอาหารให้ บ ริษ ัท เถิ ง ต๋ า ) ก็นั่งลงตรงโซนคาเฟ่ ตรงหน้ามี แ ก้ ว
ค็อกเทลวางอยู่
จางหยวนกับหม่าหยางนั่งด้านหน้า ข้างๆ กับเผยเชียน พวกเขาตั้งตาคอยฟัง
ว่าเผยเชียนจะพูดเรื่องอะไร
เผยเชียนกระแอมกระไอเบาๆ พยายามสร้างบรรยากาศ
“เดือนหน้าเราจะเปิดร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเพิ่มอีกสี่สาขา
“แต่เราจะทยอยเปิดทีละสาขา เพราะมีทุนไม่พอเปิดรวดเดียวทั้งหมด
“ใครอยากเป็นผู้จัดการสาขา ยกมือขึ้น”
พนักงานสี่คนตรงแถวหน้ารีบยกมือขึ้นทันที เชฟคนหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านหลังนึก
ลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ
จางหยวนเองก็ยกมือขึ้นด้วย
เผยเชียนโบกมือให้จางหยวนเอามือลง “เดี๋ยวคุณจะได้เลื่อนขั้นเป็นส่วนหนึ่ง
ของฝ่ายบริหารดูแลพวกผู้จัดการสาขา เพราะงั้นไม่ต้องยกมือ”
จางหยวนเอามือลงด้วยความดีใจ
อะไรเนี่ย จู่ๆ ก็ได้เลื่อนขั้นเหรอ!
เผยเชียนมองห้าคนที่ยกมือขึ้น “โอเค มีแค่ห้าคนนี้นะ จางหยวนจดชื่อไว้ให้
หน่อะ ห้าคนนี้จะได้เป็นผู้จัดการสาขาประจำร้านสาขาที่กำลังจะเปิด”
ผู้จัดการสาขาประจำร้านนี้คือหม่าหยาง แต่หลังจากเปิดสาขาเพิ่ม หม่าหยาง
กับจางหยวนก็ต้องได้เลื่อนขั้นขึ้นไปเป็นฝ่ายบริหาร ทำให้ตำแหน่งผู้จัดการสาขา
ประจำร้านนี้ว่าง
ดังนั้นเผยเชียนเลยรับผู้จัดการสาขาเพิ่มห้าคน
ทุกคนอึ้งไป
ง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ
พนักงานหลายคนที่ไม่ได้ยกมือถึงกับเหวอ
แม่งเอ๊ย รู้งี้ยกมือไปแล้ว!
พวกเขาลังเลเพราะกลัวจะทำหน้าที่ผู้จัดการสาขาได้ไม่ดีพอ ถ้าเกิดมีสอบ
คัดเลือก คงจะขายขี้หน้าน่าดูถ้าสอบไม่ผ่าน
แต่กลับไม่มีการสอบอะไรเลย!
คนที่งงที่สุดในกลุ่มคือเชฟที่ยกมือ
ตามหลักแล้ว เชฟไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลยกับการเป็นผู้จัดการสาขาร้าน
อินเทอร์เน็ต ถ้าต้องคัดเลือกคนที่เหมาะกับตำแหน่ง พวกพนักงานที่นั่งอยู่แถว
หน้าน่าจะมีโอกาสได้รับเลือกมากกว่า
แต่แค่ยกมือขึ้นงงๆ ก็ได้รับเลือกแล้วงั้นเหรอ!
ณ ขณะนั้น เขายังทำใจยอมรับชีวิตที่พลิกผันจากเชฟมาเป็นผู้จัดการสาขา
ไม่ได้
หม่าหยางกระตุกแขนเสื้อเผยเชียนแล้วเข้าไปกระซิบ “พี่เชียน ทำแบบนี้จะดี
เหรอ ทำไมไม่เปิดรับสมัครเอาล่ะ”
เผยเชียนส่ายหัว “คนพวกนี้คือคนที่แกจ้างมา ฉันไม่เชื่อใครนอกจากแก”
หม่าหยางยิ้มอย่างขวยเขิน “เอางั้นก็ได้”
บทที่ 138 ความปรารถนาอยากผลาญเงินพุ่งสูงขึ้นอีกครัง้

หลังจากเลือกผู้จัดการสาขาได้แล้ว เผยเชียนก็หันไปหาหม่าหยาง
“ไอ้หม่า จางหยวน พอเปิดร้านสาขาเพิ่ม สาขานี้จะกลายเป็นสาขาใหญ่ พวก
คุณไม่ต้องสนใจร้านนี้มาก
“จางหยวน เดี๋ยวคุณจะได้เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการเขตดูแลร้านอินเทอร์เน็ตโม
หยูทุกสาขาในเมืองจิงโจว
“หม่าหยาง คุณจะได้เป็นผู้จัดการกลางของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู หน้าที่
เหมือนเดิม คอยรายงานเรื่องต่างๆ กับผมโดยตรง
“ในหมู่ผู้จัดการสาขาที่ผมเพิ่งเลือกไป ให้พวกคุณเลือกคนที่ชอบที่สุดมาคน
หนึ่ง เขาจะมาเป็นผู้จัดการสาขานี้ ร้านนี้เป็นสาขาแรก มีความหมายมาก ตั้งแต่นี้
ต่อไปร้านนี้จะเป็นสาขาใหญ่
“ส่วนคนอื่นๆ ที่ไม่ได้รับเลือกเป็นผู้จัดการสาขาก็ไม่ต้องเสียใจไป ในอนาคต
ถ้ามีสาขาเปิดเพิ่ม เราจะเลือกผู้จัดการสาขาจากพนักงานเก่าที่ทำงานมานาน
“ตำแหน่งที่ว่างจากคนที่เลื่อนขั้นไปก็จ้างคนมาเติมให้เร็วที่สุด
“หม่าหยาง จางหยวน หลังหยุดยาว ผมให้เวลาคุณหนึ่งสัปดาห์ไปหาทำเลที่
เหมาะที่สุดมาสิบที่ เดี๋ยวเราจะเปิดสาขาใหม่สี่สาขาจากที่ที่เลือกมา
“เรื่องทำเล การปรับปรุงร้าน การตกแต่งภายใน… เอาให้เหมือนที่ทำที่ร้านนี้
ทุกอย่าง เข้าใจไหม”
หม่าหยางตบอก “วางใจได้เลยครับพี่เชียน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมเอง”
ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
บอสเผยไม่เคยสัญญาลมๆ แล้งๆ ทุกอย่างที่พูดมาเป็นเรื่องจริงหมด แถมเร็ว
มากด้วย!
บอสบางคนชอบสัญญาลอยๆ ทุกอย่างที่พูดจะเลื่อนออกไปเรื่อยๆ ไม่มีหยุด
แต่บอสเผยไม่เหมือนกัน ไม่กี่วันก่อน
บอสบอกว่าจะเปิดสาขาเพิ่ม แป๊บเดียวก็ประชุมแผนเลย!
พวกเขาเพิ่งจะทุ่มเงินลงทุนกับร้านนี้สามล้านหยวนไปได้ไม่ นาน เปิดสาขา
เพิ่มอีกสี่สาขาต้องใช้เงินอย่างต่ำสิบล้านหยวน แต่บอสเผยกลับไม่นึกลังเลใจอะไร
เลย บอสเกิดมาเพื่อทำการใหญ่จริงๆ!
พนักงานหลายคนรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ทำงานให้บอสแบบนี้
พอสั่งการทุกอย่างเสร็จ เผยเชียนก็สรุปรายละเอียดเพิ่มอีกเล็กน้อยก่อนจะ
กลับออกไปอย่างคลายกังวล


วันแรงงานแห่งชาติ…
บริษัทปิดทำการ เรื่องเรียนก็ไม่ได้มีงานอะไร เผยเชียนจึงตัดสินใจกลับบ้าน
แต่ก่อนจะกลับ เขาเดินถือบัตรเดบิตที่มีความมั่งคั่งส่วนบุคคลอยู่แปดหมื่น
กว่าหยวนไปยังร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใกล้ๆ
เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว ร้านจึงคับคั่งไปด้วยคน จนต้องเดินเบียดไหล่กันไป
มา
ช่วงปีนี้ การซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าจากช่องทางออนไลน์ยังไม่เป็นที่นิยม เพราะ
คลังสินค้าและระบบขนส่งยังจัดการกันได้ไม่ค่อยดี แถมบริการหลังการขายยังแย่
มากๆ ทำให้คนส่วนใหญ่เลือกมาซื้อของแพงๆ อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ร้านค้า
สองสามปีให้หลัง พออีคอมเมิร์ซเริ่มเฟื่องฟู พวกร้านค้าแบบนี้ก็ทยอยล้มหาย
ตายจาก
เผยเชียนเดินไปรอบๆ อย่างไร้จุดหมาย
“ซื้อของนี่น่าเบื่อจริงๆ
“ถ้าเลขาซินมาด้วยก็คงดี…”
เผยเชียนคิดถึงเลขาซิน ถ้ามีเธออยู่ด้วย เธอคงจะไล่รายชื่อสิ่งของที่เขา
ต้องการให้ ที่ต้องทำก็แค่รูดบัตร
แต่วันนี้เป็นวันหยุด เลขาซินไม่ได้เข้างาน อีกอย่างถ้าว่ากันตามตรง การซื้อ
เครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าบ้านของเขาก็ไม่ใช้งานของเลขาซิน คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไป
ขอให้เธอมาช่วยเรื่องนี้ได้ ไม่อย่างนั้นระบบอาจจะเตือนเอา
เผยเชียนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมาลำบากเดินซื้อของเอง
ทีวี
เครื่องซักผ้า
ตู้เย็น
แอร์
เผยเชียนแน่ใจมากว่าต้องเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าหมดบ้าน แต่ให้เลือกเอาเองก็
เป็นเรื่องยาก
เพราะทุกอย่างดูแย่ไปหมด…
แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้แตกต่างจากที่เผยเชียนจำได้ แต่เขาก็พอจะจำ
ได้คร่าวๆ ว่าแบรนด์ไหนดี แบรนด์ไหนไม่ดี
ที่ทำให้เผยเชียนปวดหัวคือ ถึงโทรศัพท์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์บนโลกนี้จะ
พัฒนาไปเร็วมาก แต่พวกเครื่องใช้ไฟฟ้ากลับไม่ได้ต่างไปจากที่เขาจำได้
เผยเชียนยืน ดูเครื่องใช้ไฟฟ้าปี 2010 จากมุมมองของคนที่มาจากปี 2019
เขาย่อมรู้สึกว่าไม่มีเครื่องไหนเหมาะเลยสักเครื่อง เอาเข้าจริงหลายๆ แบรนด์ดังที่
วางขายตอนนี้จะหายไปจากตลาดในอนาคต เผยเชียนรู้อยู่แล้วว่าแบรนด์ไหนจะ
เจ๊ง แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าของรุ่นที่ว่ากลับมีป้ายแปะแนะนำว่าเป็นของใหม่ล่าสุด
ตัวอย่างเช่นทีวี
ในยุคนี้ ทีวีจอสี่สิบนิ้วแบรนด์ต่างประเทศที่คุณภาพดีกว่าหน่อยมีราคาอยู่ที่
ประมาณห้าถึงหกพันหยวน เผยเชียน
มองว่ามันคือการปล้นกันกลางวันแสกๆ
เพราะเขาเคยชินกับการเห็นทีวีจอสี่สิบนิ้วธรรมดาๆ วางขายที่ราคาพันกว่า
หยวน เขาจึงไม่อยากซื้อในราคาที่แพงหูฉี่แบบนี้
เขาจะคิดแบบนั้นก็ไม่แปลก ก็เหมือนคำพูดที่ว่า ซื้อก่อนได้ใช้ก่อน แต่ซื้อที
หลังได้ของถูกกว่า อีกทั้งยังมีคำพูดที่ว่า คนที่รอจะไม่มีทางตกเป็นทาสการตลาด
ของแบบนี้ออกรุ่นใหม่เร็วจะตาย ยิ่งมองในมุมมองของคนจากเกือบสิบปี
ข้างหน้า ของพวกนี้เดี๋ยวเดียวก็ถูกแทนที่ แต่ถ้าซื้อเร็วก็ได้ใช้เร็ว
เผยเชียนคิดว่าถ้าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ให้พ่อแม่ อย่างน้อยเครื่องซักผ้าก็ไม่
สั่นตอนปั่นผ้าเหมือนมีแผ่นดินไหวอีก ซื้อของมาใส่ตู้เย็นได้เพิ่มขึ้น แถมจอทีวี
ใหญ่ขึ้นก็ช่วยให้ดูได้สบายตา ทุกอย่างที่ว่ามาคือสิ่งที่ต้องพบเจอในชีวิตประจำวัน
ยิ่งเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น
ชายหนุ่มเดินรอบร้านสองรอบก่อนตัดสินใจอย่างรวดเร็วว่าจะซื้ออะไรบ้าง
เขาเดินไปรูดบัตรจ่ายเงินทันที
ทีวีสี่สิบสองนิ้วราคาหกพันกว่าหยวน
ตู้เย็นสองประตูที่ถือว่าใหม่มากในยุคนี้ ราคาหมื่นกว่าหยวน
แอร์ราคาสองพันกว่าหยวน หน้าร้อนในเมืองจิงโจวนั้นร้อนมาก ถือเป็น
โอกาสเหมาะในการซื้อแอร์ เพราะอีกไม่กี่วันก็ได้ใช้แล้ว
เครื่องซักผ้าฝาหน้าราคาสามพันกว่าหยวน
นอกจากนี้ยังมีหม้อหุงข้าว เครื่องดูดฝุ่น และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ราคารวม
ประมาณสองพันหยวน
ทุกชิ้นที่เผยเชียนเลือกเป็นของแบรนด์คุณภาพดีจากทั้งในและนอกประเทศ
ฟังก์ชันครบครัน ราคาจึงแพงกว่าของทั่วไป
ราคาทั้งหมดรวมกันอยู่ที่เกือบๆ สามหมื่นหยวน
พอซื้อของเสร็จ เผยเชียนก็เดินดูข้าวของต่ออีกสักพักแล้วไปเจอเข้ากับ
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นนั้นมีมาตั้งแต่ปี 2010 แล้ว แต่ยุคนั้นไม่มีใครสนใจเพราะราคา
แพงเกิน แถมยังไม่มีแอปพลิเคชันใช้ควบคุม พูดสั้นๆ คือเป็นของไร้ประโยชน์ ใช้
งานได้ไม่คุ้มค่าเท่าสมัยหลัง
เผยเชียนมองดูหุ่นยนต์ดูดฝุ่นแล้วพบว่ารุ่นนี้เป็นของดีเลยทีเดียว ถึงจะ
กำหนดเส้นทางไม่ได้ แต่ ก็มีโหมดทำความสะอาดหลายแบบ ราคาอยู่ที่สามพัน
กว่าหยวน เขาตัดสินใจซื้อทันที
เขาคุยกับร้านเรื่องเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องเก่ามาแลกเป็นส่วนลด พอจัดการ
ทุกอย่างเสร็จก็ยืนมองรถบรรทุกขนของไปที่บ้าน
ร้านที่เขาไปซื้อของไม่ได้อยู่ห่างจากบ้านมาก เผยเชียนตามรถบรรทุกของร้าน
ไปจนถึงบ้าน
“ขนเข้ามาได้เลยครับ” เผยเชียนบอกพนักงานให้ขนของเข้าบ้าน
แม่ของเขาเดินออกมาจากครัวด้วยความงุนงง “หืม อะไรเนี่ย ลูกซื้อทั้งหมด
มาเหรอ”
เผยเชียนพยักหน้า “ใช่ พ่อล่ะ”
“ไปกินเลี้ยงกับลูกค้า กลับดึกๆ โน่น ” แม่ของเผยเชียนตกใจพอเห็นคนขน
เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นโตเข้าบ้าน “ลูกซื้อมากี่อย่างเนี่ย หมดเงินไปเท่าไหร่!”
“ไม่เยอะ ผมหมดเงินไปแค่สองหมื่นกว่าหยวน พอดีกับค่าจ้างที่ได้มา ผมคุย
กับร้านเรื่องเอาเครื่องเก่าไปแลก ที่ร้านมีโปรโมชันเอาของเก่าไปแลกแล้วให้
ส่วนลด แม่ไม่ต้องห่วง”
เผยเชียนรู้ว่าต้องรีบจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด อย่าให้แม่ได้มีโอกาสทำอะไร
เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหม่ทยอยขนเข้ามาในบ้านพร้อมกับเครื่องเก่าที่ถูกขนออกไป
“โห…”
แม่ของเขายืนมองทีวีเครื่องใหม่ ลองเปิดตู้ เย็นสองประตูเครื่องใหม่ แล้วเดิน
ไปสำรวจเครื่องซักผ้าเครื่องใหม่… แม่ของเผยเชียนพูดอะไรไม่ถูก
“แอร์มาวันพรุ่งนี้ เดี๋ยวเอาติดไว้ห้องพ่อแม่แหละ ถ้าวันไหนร้อนก็เปิดแอร์
ปรับอุณภูมิให้เหมาะก็พอแล้ว
“นี่หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เดี๋ยวผมสอนวิธีใช้ให้”
เผยเชียนเริ่มอธิบายวิธีใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ให้แม่ฟัง จากนั้นก็ถอดผ้าปูที่
นอนโยนใส่เครื่องซักผ้า
เครื่องซักผ้าฝาหน้าส่งเสียงทำงานเบาๆ เขาจัดพรมเช็ดเท้า ตอนนี้พื้นไม่สั่น
แล้ว
“อย่าบอกนะว่าเครื่องใหม่มันใช้ง่ายขนาดนี้เลย!” แม่เผยเชียนพูดเสียงตื่น
เผยเชียนพยักหน้า “ใช่ ใช้ง่ายไม่พอ ประหยัดน้ำด้วย ตู้เย็นก็ประหยัดไฟกว่า
เครื่องเก่า เปลี่ยนเครื่องใหม่แพงก็จริง แต่ก็ช่วยประหยัดค่าน้ำค่าไฟได้นะแม่”
แม่พยักหน้า “ก็จริง”
ไม่นานตู้เย็นก็อัดแน่นไปด้วยอาหาร เครื่องซักผ้ามีเสื้อผ้าอัดแน่น หุ่นยนต์ดูด
ฝุ่นวิ่งไปทั่วพื้น ทีวีฉายรายการโทรทัศน์อยู่
แม่ของเขาชอบเครื่องซักผ้าฝาหน้าเครื่องใหม่มาก แม่ไปขนเสื้อผ้าทั้งหมดที่
ต้องซักมากองรอ เหมือนจะอยากใช้ของให้คุ้ม
เผยเชียนนอนอยู่บนโซฟา หันมองตู้เย็นสองประตูที่ขนาดใหญ่ไปสำหรับบ้าน
หลังนี้ เขารู้สึกสะท้อนใจขึ้นมา
“ถ้าบ้านใหญ่กว่านี้ก็ดี…
“ต้องพยายามเต็มที่ให้บริษัทขาดทุนให้ได้…”


วันที่สี่ วันสุดท้ายของช่วงวันหยุดยาว…
เผยเชียนกลับถึงออฟฟิศ
ความมั่งคั่งส่วนบุคคลของเขาเหลืออยู่ประมาณห้าหมื่นหยวน ความรู้สึก
อยากผลาญเงินพุ่งสูงขึ้น
“วางแผนเรื่องอัปเดตเกมไว้รึยัง” เผยเชียนเดินไปถามลู่หมิงเหลียงที่โต๊ะ
ลูห่ มิงเหลียงพยักหน้าทันที “เสร็จเรียบร้อยแล้วครับบอสเผย!”
“หืม” เผยเชียนรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ “คุณมาทำงานช่วงวันหยุดยาว
เหรอ”
ลู่หมิงเหลียงนิ่งไป บอสเผยรู้ด้วยเหรอ
ก็ช่วยไม่ได้นี่!
จะบอกไปว่าไม่ได้มาทำงานก็ไม่ได้
เขาได้รับมอบหมายงานมาวันที่ 30 เมษายน วันที่ 1 ถึง 3 พฤษภาคมเป็น
วันหยุด วันนี้วันที่ 4 พฤษภาคม เป็นวันแรกที่ได้กลับมาทำงาน แต่เขาเตรียมแผน
เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ถ้าบอกว่าไม่ได้มาทำงาน ใครมันจะไปเชื่อ
ลู่หมิงเหลียงรีบอธิบาย “เปล่าครับ บอสเผย ช่วงวันหยุด ผมอยู่บ้านไม่มีอะไร
ทำเลยนั่งคิดเรื่องแผนอัปเดตเกม”
เผยเชียนยังตีหน้านิ่ง “ทำงานที่บ้านก็ถือเป็นการทำงานล่วงเวลา! เดี๋ยวผม
จ่ายค่าจ้างให้สามเท่าที่ต้องทำงานช่วงวันหยุดตามกฎ”
ลู่หมิงเหลียง “…โอเคครับบอสเผย”
เผยเชียนกลับหลังหันแล้วเดินไปที่ห้องประชุ ม “โอเค อย่าทำแบบนี้อีก ทุก
คน มาประชุมกันเรื่องแผนอัปเดตเกม”
หม่าอี้ฉวินนั่งเงียบอยู่มุมห้องเหมือนอย่างเคย ในมือถือสมุดเตรียมจดตาม
ลู่หมิงเริ่มแนะนำแผนอัปเดตเกมที่มีในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปตามที่เผย
เชียนบอกไว้ก่อนหน้านี้
เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายจะมีโหมดไม่จบสิ้นตัวใหม่ โหมดเล่น
หลายคน และแผนที่ใหม่ ปล่อยเป็น DLC ราคาตัวละหนึ่งหยวน
เกมแม่ทัพผีจะปล่อยการ์ดแม่ทัพชุดใหม่ ราคาห้าหยวน
เกมฐานทัพกลางทะเลจะปล่อยอาวุธระดับตำนานชิ้นใหม่ ราคาแปดร้อยแปด
สิบแปดหยวน จำกัดการขายแค่ห้าร้อยกระบอกต่อเดือน
เกมนักออกแบบเกมจะมีเสียงพากย์ชุดใหม่กับฉากใหม่ ราคาห้าหยวน”
แตกต่างกันแค่ลู่หมิงเหลียงบอกรายละเอียดเยอะกว่าที่เผยเชียนเคยบอก
อย่างเกมแม่ทัพผี ลู่หมิงเหลียงอธิบายว่าจะมีการ์ดแม่ทัพชุดใหม่ มีความสามารถ
แบบไหน ภาพรวมจะออกมาประมาณไหน
แผนที่เขาทำมามีรายละเอียดเยอะขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถคำนวณค่าใช้จ่าย
ทั้งหมดได้จากแผนอีกด้วย
บทที่ 139 ทำเลสาขาใหม่!

เผยเชียนค่อนข้างพอใจกับแผนอัปเดต
ลู่หมิงเหลียงมีคุณสมบัติสำคัญที่หวงซื่อปั๋วไม่มี นั่นคือเขาทำตามที่สั่งอย่าง
เคร่งครัด ไม่ปรับเปลี่ยนอะไรเอง
เผยเชียนบอกอะไรไป เขาก็ทำตามนั้นทุก อย่าง ไม่ได้พยายามสร้างความดี
ความชอบ แค่พยายามไม่ทำอะไรผิดพลาด
แต่ก็ถือเป็นปัญหาเหมือนกัน เพราะเขาไม่ค่อยทำอะไรเกินตัว
อย่างแผนนี้ก็ใช้เงินน้อยไป
ในเมื่อตอนนี้กำหนดราคาขายไปแล้ว เพราะงั้นยิ่งใช้เงินเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งดี!
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายเพิ่มแผนที่
ใหม่แค่สามแบบเอง น้อยเกินไป ทำเพิ่มอีกสิบฉาก
“เกมแม่ทัพผีเพิ่มการ์ดแม่ทัพใหม่แค่สิบใบเองเหรอ ไม่พอ ใส่ไปเลยห้าสิบใบ
“เกมนักออกแบบเกมเพิ่มฉากใหม่หนึ่งแบบ จะทำให้คุณภาพเท่าของเดิมได้
ยังไง
“ถ้าให้หร่วนกวางเจี่ยนทำภาพให้เกมแม่ทัพผีก็ไม่น่ามีเวลามาทำฉากเกมใหม่
อีก ไปหานักวาดเรตราคาเท่าหร่วนกวางเจี่ยนมาแล้วให้ทำงานเพิ่มสองเท่า งาน
ต้องออกมาสมบูรณ์แบบ ฉากแบบใหม่ต้องดีกว่าแบบเก่า!
“ส่วนเกมฐานทัพกลางทะเล… อืม…
“นอกจากอาวุธระดับตำนานแล้ว ใส่เนื้อเรื่องความยาวสองชั่วโมงเข้าไปเพิ่ม
เพิ่มฉากใหม่ เพิ่มบทตัวละครใหม่ไปอีกสาม อาวุธใหม่อีกสิบ
“เอาตามนี้ รีบไปเริ่มงานกัน เราต้องอัปเดตทุกเกมให้เสร็จก่อนวันที่ 18
มิถุนา”
ลู่หมิงเหลียงอึ้งไป
เขาวางแผนใส่เนื้อหาไปไม่เยอะมากเพราะกลัวว่า DLC จะขายได้ไม่ค่อยดี
และทำเงินคืนทุนไม่ได้!
ตามแผนของลู่หมิงเหลียง เขาวางขอบเขตไว้ว่าควรจะใส่ DLC เข้าไปเท่าไหร่
อย่างเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย ราคาเทมเพลตฉากอยู่ที่สอง
หมื่นหยวน ตอนแรกวางแผนไว้ว่าจะเพิ่มฉากใหม่แค่สามฉาก ถ้าตั้งราคาขาย
DLC ที่หนึ่งหยวนก็ต้องขายให้ได้หนึ่งแสนสองหมื่นก๊อปปี้ถึงจะคืนทุน
สุดท้ายเผยเชียนสั่งให้เพิ่มเป็นสิบฉาก ก็ต้องขายให้ได้สี่แสนก๊อปปี้ถึงจะได้ทุน
คืน…
จะบ้าเกินไปหรือเปล่า…
งานภาพเกมแม่ทัพผี หร่วนกวางเจี่ยนเป็นคนทำให้ ถึงหร่วนกวางเจี่ยนจะมี
เพื่อนช่วยงานเยอะ แต่ราคาที่ต้องจ่ายก็ไม่ใช่ถูกๆ
รอบก่ อ นการ์ ด แม่ ท ั พ หนึ ่ ง ใบมี ง านภาพสี ่ แ บบ ราคาอยู ่ ท ี ่ ส ามพั น หยวน
ตอนนี้หร่วนกวางเจี่ยนดังแล้ว ราคาย่อมสูงขึ้นเป็นธรรมดา แถมบอสเผยยังยืนยัน
ไม่รับส่วนลดจากหร่วนกวางเจี่ยน ให้จ่ายราคาตามจริง เท่ากับว่าต้องจ่ายห้าพัน
หยวนต่องานภาพหนึ่งชุด
มีการ์ดแม่ทัพใหม่ห้าสิบใบ ก็เป็นสองแสนห้าหมื่นหยวน
ราคาขายอยู่ที่ห้าหยวน ต้องขายให้ได้หนึ่งแสนก๊อปปี้ถึงจะคืนทุน
ส่วนเกมฐานทัพกลางทะเลทราย ต้องเพิ่มเนื้อเรื่องใหม่ ฉากใหม่ ตัวละคร
ใหม่ อาวุธใหม่ ทั้งหมดนี้คือเพิ่มให้ผู้เล่นไปฟรีๆ อย่างเดียวที่เก็บเงินได้คืออาวุธ
ระดับตำนาน แต่จำกัดจำนวนขายต่อเดือน!
“บอสเผยครับ คือ… เราอาจจะหาเงินคืนทุนไม่ได้…” ลู่หมิงเหลียงรีบคำนวณ
ในสมุดจดแล้วรูส้ ึกกังวลขึ้นมา
เผยเชียนยิ้มอย่างใจเย็น “ไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก
“อย่าลืมสิว่าเราต้องจริงใจกับผู้เล่น ถ้าเราจริงใจกับผู้เล่น ผู้เล่นจะตอบแทน
ความจริงใจของเราเอง
“อีกอย่างถ้าทำเงินคืนทุนไม่ได้จะเป็นไรไป ผู้เล่นให้เงินเรามาตั้งเยอะแล้ว
เราควรตอบแทนให้สมน้ำสมเนื้อ”
ลู่หมิงเหลียงกะพริบตาด้วยความตะลึงงัน เขารู้สึกว่าคำพูดของบอสเผยนั้น
ถูกต้องและสร้างแรงบันดาลใจมากๆ
แต่ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ ชอบกล
“โอเค เวลาเป็นเรื่องสำคัญ รีบแจกจ่ายงาน เราต้องเสร็จงานทุกอย่างก่อน
วันที่ 18 มิถุนา”
เผยเชียนวางเส้นตายไว้เ ป็น วัน ที่ 18 มิถ ุนายน เพราะเป็นวันทำงานวั น
สุดท้ายของสัปดาห์ก่อนวันปิดบัญชี
วันที่ 19 และ 20 เป็นวันหยุด ส่วนวันที่ 21 ถึง 23 อยากเว้นไว้เผื่อมีอะไร
ผิดพลาด
งานทุกอย่างต้องเสร็จก่อนวันที่ 24 และต้องอัปเดต DLC ให้ครบ ไม่อย่างนั้น
จะกระทบกับวันปิดบัญชี
เผยเชียนเดินออกจากห้องประชุมไปอย่างสบายใจหายห่วง ส่วนลู่หมิงเหลียง
ก็รีบกระจายงานให้ทุกคน
ถึงงานรอบนี้จะไม่ได้เยอะเท่ารอบก่อน เพราะงานส่วนใหญ่เป็นงานภาพ ขอ
แค่เร่งมือเพิ่มนิดหน่อยก็ทำทุกอย่างเสร็จตามกำหนดแน่นอน
ปัญหาอยู่ที่ต้องใช้เงินเยอะมาก

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคม
หม่าหยางกับจางหยวนมาหาเผยเชียนที่ออฟฟิศเพื่อแนะนำทำเลที่ไปหามา
หม่าหยางต่อโน้ตบุ๊กเข้ากับโปรเจ็กเตอร์ของออฟฟิศก่อนจะเปิดภาพทำเล
ต่างๆ
ทำเลดีๆ ส่วนใหญ่จางหยวนเป็นคนหามา ส่วนหม่าหยางแค่หาเพิ่มให้ครบ
จำนวน
เผยเชียนบอกให้หาทำเลมาทั้งหมดสิบแห่งสำหรับเปิดสาขาใหม่สี่สาขา ซึ่งทั้ง
คู่ก็หามาได้ครบ
ครั้งนี้จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดมาก
ทำไมโปรเจ็ ก ต์ อ ื ่ น ของบอสเผยถึ ง ประสบความสำเร็ จ หมด มี แ ค่ ร ้ า น
อินเทอร์เน็ตโมหยูที่ขาดทุนไม่หยุด
น่าขายหน้าจริงๆ!
แถมบอสเผยยังตั้งความหวังกับพวกเราไว้มาก รอบนี้เราต้องทุ่มเทเต็มที่เพื่อ
เปลี่ยนจากที่ขาดทุนอยู่ให้ทำกำไรให้ได้!
การเปิดสาขาใหม่ถือเป็นโอกาสที่เหมาะเหม็งมากๆ
จางหยวนมองว่าที่ร้านขาดทุนอย่างต่อเนื่องมีเหตุผลหลักๆ มาจากทำเล
ไม่มีย่านการค้าขนาดใหญ่ใกล้เคียง ไม่ มีตึกออฟฟิศสูงๆ ไม่ได้ใกล้ย่านที่พัก
อาศัยระดับสูง
ในเมื่อไม่มีลูกค้าระดับสูงในรัศมีห้ากิโลเมตร แล้วร้านอินเทอร์เน็ตระดับสูงจะ
ไปอยู่รอดได้ยังไง
จะหวังให้พวกคนรวยขับรถมาถึงที่เพื่อหาเครื่องดื่มดื่มก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ
เอาเข้าจริงถ้าเป็นบาร์ดีๆ ก็คงทำได้ แต่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไม่ใช่บาร์ มัน
เป็นร้านอินเทอร์เน็ต คาเฟ่ ร้านอาหาร และร้านหนังสือผสมรวมกัน
พอไม่มีจุดขายที่เด่นพอก็ไม่สามารถดึงดูดลูกค้านอกเขตพื้นที่ได้ ทำให้ทำเงิน
ไม่ได้
หลังจากคิดอยู่นาน จางหยวนก็ตัดสินใจว่าต้องตั้งใจหาทำเลเหมาะๆ โดย
จะต้องเป็นทำเลแถวย่านการค้าที่พลุกพล่าน!
“บอสเผยครับ ผมแนะนำสามที่นี้เป็นพิเศษ
“ตรงนี้ใกล้ประตูทิศใต้ของมหาวิทยาลัยฮั่นตง แถมยังใกล้หอพักชายกับย่าน
พักอาศัยระดับสูงด้วย
“ถึงจะมีร้านอินเทอร์เน็ตอยู่แล้วหลายร้าน แต่แถวนี้คนพลุกพล่าน ร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูบรรยากาศดี คอมพ์ก็สเป็กสู ง ต้องเรียกพวกนักศึกษาบ้านรวย
ที่ชอบที่บรรยากาศดีๆ และมีกำลังจ่ายได้แน่นอนครับ
“ตรงนี้เป็นร้านกาแฟมาก่อน เหมาะเอามาปรับเป็นโซนคาเฟ่ของเราพอดี
แถมพื้นที่ก็ไม่ได้คับแคบ ผมแนะนำที่ตรงนี้สุดๆ เลยครับ!”
เผยเชียนไม่ได้พูดอะไร เขารู้จักทำเลตรงนี้ดี เพราะเรียนที่มหาวิทยาลัยฮั่นตง
แถมอพาร์ตเมนต์ที่เลขาซินหาให้ก็อยู่ตรงข้าม
ร้านอินเทอร์เน็ตแถวนี้คนเต็มตลอดเหมือนที่จางหยวนบอก
แต่… เผยเชียนไม่เลือกที่ตรงนี้แน่นอน
ถ้าเลือกทำเลตรงนี้แล้วทำเงินได้จะไปโทษใครดี
พอเห็นเผยเชียนไม่ได้พูดอะไร จางหยวนก็แนะนำทำเลต่อไป
“ทำเลตรงนี้อ ยู่ชั้นล่างของห้างที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจิงโจว ข้อเสียคือค่าเช่า
ค่อนข้างแพง แต่ผมไปตรวจดูแล้ว ที่ห้างไม่ค่อยมีพื้นที่ให้พักผ่อนหย่อนใจ ลูกค้า
ผู้ชายที่พาภรรยาหรือแฟนมาช้อปปิ้งไม่มีที่ให้พักเวลาเหนื่อย น่าสงสารมากๆ
ครับ
“ถ้าเปิดร้านอินเทอร์เน็ตตรงนี้ พวกลูกค้า ผู้ชายที่พาภรรยามาช้อปปิ้งน่าจะ
เข้าร้านมาเล่นอินเทอร์เน็ตและจิบกาแฟตอนเหนื่อย ลูกค้ากลุ่มนี้กำลังซื้อน่าจะ
สูงพอตัวเลยครับ
“ดูจากจำนวนลูกค้าของห้างแล้ว ถึงค่าเช่าจะแพง แต่เราก็น่าจะทำเงินได้
แน่นอน!”
เผยเชียนก็ยังไม่ตอบสนองอะไร
จางหยวนเริ่มท้อ แต่ก็ทำได้แค่แนะนำทำเลอื่นไปเรื่อยๆ
ทำเลหลังๆ เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ
เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะเผยเชียนกำหนดไว้ว่าต้องเปิดสาขาใหม่ในเมืองจิง
โจวเท่านั้น แถมยังมีข้อจำกัดเยอะแยะอีก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จางหยวนจะหาร้าน
ที่พร้อมให้เซ้งได้
หลังจากแนะนำทำเลครบทุกที่ จางหยวนก็หันมองเผยเชียนอย่างกังวลใจ
บอสเผยไม่ได้พูดอะไรเลย หมายความว่ายังไงกันนะ
บอสไม่พอใจเหรอ
เผยเชียนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ทำได้ดี พวกคุณตั้งใจทำงานกันมาก”
จางหยวนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
บอสเผยไม่ได้ไม่ชอบ ค่อยโล่งอกหน่อย!
เผยเชียนมองหน้าจอก่อนจะเอ่ยชม “ผมว่าสี่ที่สุดท้ายที่คุณแนะนำมาไม่เลว
เลย”
สี่ที่สุดท้ายเหรอ
จางหยวนหันมองจอ ก่อนจะหันกลับมามองเผยเชียนอีกครั้ง เขาอึ้งไปพัก
ใหญ่
ที่พวกนี้… แค่ใส่มาให้ครบตามจำนวนที่บอกมาเฉยๆ เถอะ!
บทที่ 140 สำรวจฉางหยางเกมส์

จางหยวนพอใจกับทำเลสามแห่งแรกที่แนะนำไปที่สุด เขามั่นใจมากว่าทั้ง
สามแห่งจะทำกำไรให้ได้แน่
ทำเลแห่งที่สี่ถึงหกเป็นทำเลธรรมดา อาจจะพาขาดทุนได้ แต่ก็ไม่น่าจะหนัก
มาก
ส่วนสี่แห่งสุดท้ายเป็นทำเลที่แย่ยิ่งกว่าทำเลของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขา
หลัก เขาใส่มาเพิ่มเพื่อให้ครบสิบแห่ง
เพราะเผยเชียนสั่งให้พวกเขาหาทำเลมาสิบแห่ง
จางหยวนลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบออกไป “บอสเผยครับ ไม่ใช่ว่าทำเลสี่ที่นี้
ไม่ดีนะครับ แต่ผมว่าอาจจะไม่เหมาะเท่าทำเลสามที่แรก…”
เขาบอกไปตรงๆ ไม่ได้ว่าทำเลสี่ที่นี้มันห่วยแตก
ทั้งสี่ที่อยู่ในตัวเลือกที่เขากั บหม่าหยางส่งไป ถ้าบอกไปตรงๆ ว่าทำเลพวกนี้
ไม่ดีก็เท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายสิ
เกิดบอสเผยถามขึ้นมาว่าถ้าทำเลไม่ดีแล้วใส่มาทำไมแต่แรกจะซวยเอา
เพราะเขาก็ไม่รู้จะตอบไปยังไงดี
ดังนั้นจางหยวนจึงได้แต่พูดอ้อมๆ ให้บอสเผยรู้ว่าทำเลสามที่แรกนั้นดีกว่า
เผยเชียนลุกยืนก่อนจะเดินเข้าไปดูทำเลบนจอให้ละเอียด
“ผมว่าทำเลสี่ที่นี้ไม่เลวเลยนะ
“ผมคิดว่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูวางเอกลักษณ์ให้คนมองว่าเป็นร้านที่ดีแต่มา
ได้ไม่ง่าย ผมอยากให้ลูกค้ารู้สึกตื่นเต้นตอนหาร้านเราเจอเป็นครั้งแรก!
“เปิดร้านสาขาที่ย่านคนพลุกพล่านเหรอ
“ไม่ดีๆๆ วุ่นวายเกินไป ไม่เหมาะกับร้านของเรา
“ร้านเราต้องมีบรรยากาศสงบ ชวนผ่อนคลาย ซึ่งเป็นบรรยากาศที่เราวางไว้
ตั้งแต่แรก
“เรามีคอมพ์แค่ห้าสิบเครื่อง มีกฎห้ามสูบบุหรี่ มีหนังสือให้อ่าน ตอนดึกมีร้อง
เพลง แถมเพลงที่ร้องก็เป็นเพลงฟังสบายๆ ไม่ใช่เพลงร็อก… ทั้งหมดนี้ช่วยเสริม
บรรยากาศให้ร้านของเรา!
“ถ้าเราไปเปิดร้านในที่คนพลุกพล่านเหมือนคนอื่น ก็เสียบรรยากาศร้านหมด
ไม่ต่างอะไรกับตลาดสด ไร้รสนิยม แถมยังทำให้ภาพลักษณ์ของเถิงต๋าเสียหาย”
จางหยวนอึ้งไป
บอสเผยถึงกับพูดว่าจะเป็นการทำให้ภาพลักษณ์ของเถิงต๋าเสียหายเลยเหรอ
บอสเผย หน้าที่ที่บอสเผยมอบหมายให้ผมมันหนักหนาเกินจะรับไหวแล้ว!
เผยเชียนชี้ไปที่ทำเลทั้งสี่แห่ง “ทำเลพวกนี้ดีกว่าเยอะ เงียบสงบ เหมาะให้
ลูกค้ามานั่งปล่อยใจคิดทบทวนเรื่องชีวิตตัวเอง”
จางหยวนอึ้งหนักกว่าเก่า
ทำไมต้องให้ลูกค้ามานั่งคิดเรื่องชีวิตตัวเองด้วย
จริงๆ ควรจะให้ลูกค้ามาเสียเงินไม่ใช่เหรอ
เผยเชียนว่าต่อ “อีกอย่าง ที่สำคัญยิ่งกว่าคือทั้งสี่ทำเลนี้มีพื้นที่กว้างขวาง มีที่
พอให้ลูกค้าใช้สอย จุดนี้สำคัญมาก”
จางหยวนพูดอะไรไม่ออก
ทำเลสี่ที่นี้กว้างขวางเหรอ
ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่ที่ที่คนพลุกพล่าน ที่ดินก็ราคาถูก จึงเป็น
เรื่องปกติที่จะมีพื้นที่ใช้สอยเยอะกว่า…
จางหยวนกำลังจะอธิบายเพิ่ม แต่เผยเชียนก็เดินกลับไปนั่งที่เดิมก่อน “ทั้ง
สองคนทำได้ดีมาก เอาสี่ที่นี้แหละ”
จางหยวนกลืนคำพูดที่กำลังจะโพล่งออกมาลงคอไป
“พอกลับไปที่ร้านก็ให้ผู้จัดการสาขาเลือกกันเลยว่าใครชอบตรงไหน
“จัดการร้านที่ต้องปรับปรุงเยอะที่สุดก่อน ร้านไหนไม่ต้องปรับปรุงอะไรมาก
ค่อยจัดการทีหลัง ส่วนเรื่องเงินก็ให้ไปติดต่อเลขาซิน”
ทำเลทั้งสี่จุดตั้งอยู่ห่างไกลผู้คนยิ่งกว่าสาขาหลัก ค่าเช่าจึงถูกกว่าเป็นธรรมดา
ตอนนี้เผยเชีย นไม่ไ ด้ มีเ งิ นทุนในมือ มากนั ก จึงเปิดได้แ ค่ สองสาขาก่ อ น
จากนั้นก็รอรายได้จากเกมเพื่อนำมาเปิดอีกสองสาขา
แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้เร่งด่วนอะไร เพราะยังเหลือเวลาอีกตั้งสองเดือ น ขอแค่เปิด
ทุกสาขาให้ได้ก่อนถึงวันปิดบัญชีหนึ่งสัปดาห์ก็หายห่วง
จางหยวนมองหม่าหยางเหมือนจะถามอีกฝ่ายว่าอยากเกลี้ยกล่อมบอสเผยต่อ
ไหม
หม่าหยางพยักหน้าเหมือนเข้าใจที่เขาตั้งใจจะสื่อ ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่หน้า
เผยเชียน “โอเคครับ พี่เชียน เดี๋ยวเราจัดการเรื่องนี้ต่อ รับรองว่าจะต้องไม่มีอะไร
ผิดพลาด!”
จางหยวน “…”
แกคิดว่าฉันจะสื่อแบบนั้นเรอะ
แต่หม่าหยางก็พูดออกไปแล้ว จางหยวนจึงทำได้แค่เดินตามหม่าหยางออก
จากออฟฟิศไปด้วยความผิดหวัง
จางหยวนเดินกอดโน้ตบุ๊ก ในใจรู้สึกว้าวุ่น
เขาตั้งใจทำแผนนำเสนอครั้งนี้มาก ทั้งลงไปดูพื้นที่ และประเมินทำเลอย่าง
ละเอียด
บอกได้เลยว่าเขาประเมินทำเลสามแห่งแรกอยู่หลายครั้งจนมั่นใจว่าจะสร้าง
กำไรได้แน่!
ทำเลสี่แห่งสุดท้ายใส่มาให้ครบจำนวนเฉยๆ เขาไม่ได้สนใจตรงนี้มาก
สุดท้ายบอสเผยก็ไม่ได้สนใจทำเลทองของเขา หันไปเลือกทำเลสี่แห่งสุดท้าย
ซะงั้น
ช่าง… น่าโมโหจริงๆ
ถ้ า คนอื ่ น เป็ น คนตั ด สิ น ใจ จางหยวนคงจะด่ า แหลกไปแล้ ว ว่ า ไม่ ม ี ค วาม
น่าเชื่อถือเลยสักนิด
แน่นอนว่าจางหยวนก็ได้แค่บ่นในใจ ไม่กล้าลาออกหรอก ถ้าลาออกจะไปหา
เงินเดือนแบบนี้ได้ที่ไหนอีก
แต่คนที่ตัดสินใจคือบอสเผย จางหยวนจึงไม่กล้าบ่นอะไร ได้แต่คิดว่าตัวเอง
คงไม่ฉลาดพอที่จะเข้าใจความคิดของบอสเผย
คนอย่างบอสเผยจะไม่รู้วิธีเลือกทำเลเหรอ
บอสต้องรู้สิ ที่ไม่เลือกทำเลที่ทำกำไรได้แน่นอนก็คงมีเหตุผลบางอย่าง
จางหยวนซึมอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่นานก็สลัดความกลัดกลุ้มออกไปได้ระหว่างที่
กำลังเดินคุยกับหม่าหยวนเรื่องค่าเช่าและการเตรียมการเปิดร้านสาขาใหม่


เผยเชียนพอใจทำเลที่เลือกไปมาก
ถ้ารักษาสภาพนี้ไว้ได้ สาขาใหม่จะต้องขาดทุนยิ่งกว่าสาขาหลักแน่
ซึ่งก็สมเหตุสมผลมาก เพราะสาขาหลักจะต้องเป็นสาขาที่มีการดำเนินงานดี
ที่สุด ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้เป็นสาขาหลัก
หลังจากนั่งจิบชาอย่างสบายใจอยู่สักพัก เลขาซินก็เคาะประตูแล้วเดินเข้ามา
ในห้อง
“บอสเผยคะ ดิฉันได้ข้อมูลเบื้องต้นของฉางหยางเกมส์มาแล้ว จะตรวจดูไหม
คะ”
เผยเชียนตื่นตัวขึ้นทันที “จัดมา!”
ช่วงนี้เผยเชียนสนใจเรื่องนี้มากที่สุด
ถ้าซื้อฉางหยางเกมส์ได้ เขาก็จะมีแหล่งผลาญเงินที่ มั่นคงแหล่งที่สองต่อจาก
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในระยะยาว!
เลขาซินยื่นเอกสารให้เผยเชียน เขารับมาอ่าน ระหว่างนั้นเลขาซินก็เริ่ม
อธิบาย
“ฉางหยางเกมส์เป็นบริษัทเอกชนที่มีพนักงานทั้งหมดห้าสิบสองคน
“ตอนนี้ฉางหยางเกมส์มีเกมอยู่สองเกมค่ะ เกมแรกชื่อ นักพรตสะกดใจ เป็น
เกมจัดการบริหารทรัพยากรทั่วไป ส่วนอีกเกมชื่อเพลงรบโลหิต เป็นเกมสงคราม
เล่นผ่านเว็บไซต์ค่ะ”
แค่ได้ยินชื่อเกม เผยเชียนก็ได้แต่ถอนหายใจ
จะสร้างเกมกากๆ ได้ ความสามารถและพรสวรรค์ต้องถึง
ดูชื่อเกมสิ นักพรตสะกดใจ!
แค่ชื่อก็อุบาทว์แล้ว ถ้าเกมชื่อแบบนี้ขายได้ถล่มทลายคงจะตลกน่าดู!
ถึงชื่อจะห่วย แต่เขาก็อยากรู้ว่าเกมมีเนื้อหายังไง
“เกมนักพรตสะกดใจหยุดให้บริการไปแล้ว เพราะทำรายได้ไม่ถึงห้าหมื่น
หยวนติดต่อกันมานาน ส่วนเกมเพลงรบโลหิตคือแหล่งรายได้หลักของฉางหยาง
เกมส์ แต่เพราะกระแสโต้กลับจากการอัปเดตเกมทำให้รายได้ตกฮวบฮาบค่ะ”
เผยเชียนรู้เรื่องกระแสโต้กลับเพราะหม่าอี้ฉวินเล่าให้ฟัง
เกมเพลงรบโลหิตน่าจะเป็นเกมที่หัวหน้าหลิวขายดาบราคาแปดร้อยแปดสิบ
แปดหยวน ทำให้บริษัทโดนผู้เล่นด่าเสียลากเลือด
ไม่เลวเลย
เป็นตัวเลือกที่ดีในการเข้าซื้อ
เลขาซินพูดต่อ “จากการคำนวณคร่าวๆ ค่าเช่าของฉางหยางเกมส์น่าจะอยู่ที่
ประมาณหนึ่งแสนห้าหมื่นหยวนต่อเดือน เงินเดือนพนักงานรวมอยู่ที่สองแสน
หยวนต่อเดือน ตอนนี้แค่พยุงบริษัทให้ไปต่อได้ก็ยากมากๆ แล้ว เห็น มีข่าวลือว่า
เดือนนี้มีเงินไม่พอจ่ายค่าจ้างพนักงานด้วยค่ะ”
ถึงพวกเขาจะมีพนักงานมากกว่าเถิงต๋า แต่ก็มีตำแหน่งเยอะกว่า ค่าจ้างโดย
เฉลี่ยก็ต่ำกว่า ทำให้ค่าเช่าและค่าจ้างที่ต้องจ่ายพนักงานน้อยกว่าเถิงต๋ามาก
เผยเชียนไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขาค่อยปรับเอาหลังซื้อกิจการต่อได้
ขอแค่ไม่มีแววทำกำไรได้ก็พอแล้ว!
บทที่ 141 ซื้อต่อกิจการ!

เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามออกไป “นี่เป็นการซื้อต่อกิจการครั้งแรก
ของผม มีเรื่องอะไรที่ผมต้องระวังไหมครับ”
เลขาซินเปิดสมุดโน้ตดู “มีความเสี่ยงอีกหลายเรื่องค่ะ อย่างเช่น บริษัทแบบ
นี้มักจะมีปัญหาเรื่องทุนจดทะเบียน เราต้องตรวจดูก่อนว่ามีการแบ่งทุนโดยทุจริต
หรือการถอนทุนออกมาหรือเปล่า
“นอกจากนั้นเราต้องตรวจสอบสินทรัพย์และหนี้สินของบริษัท รวมถึงการถือ
หุ้นของเจ้าของกิจการ และอื่นๆ เพื่อคิดค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และการ
ด้อยค่าของทรัพย์สิน…
“แต่บริษัทนี้เป็นบริษัทเอกชนขนาดเล็ก เจ้าของกิจการคือตู้รุ่ยเจี๋ย เขากับ
หุ้นส่วนอีกคนถือหุ้นทั้งหมดของบริษัทไว้ แต่จริงๆ ตู้รุ่ยเจี๋ยเป็นคนดูแลการ
ดำเนินงานทั้งหมดของบริษัทค่ะ
“ดิฉันคิดว่าตอนนี้เขาน่าจะอยากขายกิจการใจจะขาด เพราะบริษัทมีมูลค่า
ทรัพย์สินลดลงและขาดทุนอย่างต่อเนื่องมาทุกเดือน ถ้ารออีกสักหน่อย เราน่าจะ
กดราคาลงได้อีก น่าจะซื้อต่อได้ในราคาไม่กี่แสน
“ถ้าอดทนสักหน่อย น่าจะซื้อได้ในราคาถูกๆ ค่ะ”
เผยเชียนอึ้งไปครู่หนึ่ง “ทำไมถูกจัง”
เขาผิดหวังเล็กน้อย
เผยเชียนคิดไว้ว่าอีกฝ่ายน่าจะขายสักล้านสองล้าน แต่แค่ไม่กี่แสนก็ซื้อได้แล้ว
เหรอ
เลขาซินพยักหน้า “ใช่ค่ะ บอสเผย บริษัทตั้งต้นด้วยเงินทุนจากตู้รุ่ยเจี๋ยกับ
หุ้นส่วนอีกคน งบลงทุนตอนแรกแค่หนึ่งล้านหยวน แต่เพราะโชคช่วยเลยทำเงิน
ได้จากเกมที่สร้าง บริษัทเลยเติบโตขึ้นจนมาอยู่จุดนี้
“ตู้รุ่ยเจี๋ยได้เงินจากตรงนั้นมาเยอะเลยค่ะ ถ้าขายปัญหาในมือตอนนี้ไปได้ก็
จะได้เงินอีกหลายแสน เขาอยากได้เงินใจจะขาด ไม่มีทางกล้าขึ้นราคาหรอกค่ะ
“ถ้าไม่มีใครซื้อกิจการ เขาก็อาจจะปล่อ ยทรัพย์สินบริษัทออกไปถูกๆ ได้ยิน
มาว่าตู้รุ่ยเจี๋ยวางแผนจะยกคอมพิวเตอร์ที่พนักงานใช้งานให้พนักงานไป แล้วไป
หักจากเงินเดือนพวกเขาทีหลัง”
เผยเชียน “…”
หัวดีฉิบหาย!
นอกจากจะไม่ ต ้ อ งขายคอมพิ ว เตอร์ ส ำนั ก งานเป็ น ของมื อ สองแล้ ว ยั ง
แก้ปัญหาเรื่องจ่ายเงินเดือนให้พนักงานล่าช้าได้อีก บอสตู้นี่อัจฉริยะจริงๆ!
เผยเชียนไม่คิดจะเพิ่มราคาซื้อ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการไปยัดเยียดเพิ่มราคา
ให้ดูไม่ใช่เรื่องปกติ ถ้าไปขอซื้อต่อในราคาหลักล้าน ทั้งๆ ที่ซื้อได้ในราคาหลักแสน
จะดูชัดเจนเกินไป คนอื่นจะสงสัยเอาได้
อีกส่วนหนึ่งก็เพราะต้องเอาเงินไปลงทุนเปิดสาขาร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเพิ่ม
เลยไม่มีทุนเหลือในมือให้ใช้จ่ายมากนัก
ซื้อตามราคามาตรฐานก็ไม่เป็นไร
เลขาซินอธิบายเรื่องสำคัญอื่นๆ ที่เขาต้องจัดการ เช่น ตรวจการเปลี่ยนมือ
หุ้นส่วนของบริษัท งบดุล รวบรวมสัญญาจ้างพนักงาน ข้อมูลเงินเดือน ประกัน
ชีวิต และเอกสารจดทะเบียนต่างๆ…
เผยเชียนไม่ได้กังวลเรื่องพวกนี้เลย
เขารับผิดชอบแค่เรื่องเงิน เรื่องอื่นๆ ต้องให้มืออาชีพมาจัดการอยู่แล้ว
เลขาซินปิดสมุดโน้ต “ทั้งหมดที่บอสควรทราบน่าจะมีเท่านี้ค่ะ บอสเผย
อยากจะเข้าไปตรวจประเมินแบบปิดบังตัวตนไหมคะ”
เผยเชียนตะลึงงันไป “ตรวจอะไรเหรอ”
“ถ้าบอสตกลงซื้อกิจการ บอสตู้น่าจะเตรียมการจัดแจงนั่นนี่ตอนที่บอสไป
ตรวจประเมินบริษัท ทำให้ไม่เห็นสภาพตามจริงของฉางหยางเกมส์ ” เลขาซินอธิ
บายต่อ “บอสสามารถปิดบังตัวตนไว้แล้วไปเดินสำรวจบรรยากาศการทำงานและ
สภาพการทำงานของพนักงานได้ค่ะ จะช่วยให้กดราคาลงไปได้อีกตอนเจรจากัน”
เผยเชียนเข้าใจที่เลขาซินต้องการจะสื่อ มันก็เหมือนกับคนใหญ่คนโตลงมา
ตรวจงานแบบไม่บอกล่วงหน้า
ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่าจะมีการตรวจประเมิน พวกเขาก็จะพยายามสร้างภาพไม่ให้คน
ที่มาตรวจรู้ได้ว่าสภาพจริงๆ เป็นยังไง
เผยเชียนส่ายหัว “ไม่จำเป็น สร้างภาพตบตาไปก็ไม่ได้สำคัญอะไร บางเรื่อง
มันซ่อนกันไม่ได้อยู่แล้ว”
บอสเผยดูมั่นใจมาก เหมือนว่าได้กุมบริษัทนี้ไว้ในมือแล้ว
เลขาซินไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ “เดี๋ยวดิฉันติดต่อให้ทางนู้นจัดการให้เราคุยกับบอ
สตู้นะคะ”
เผยเชียนพยักหน้า “ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี!”

เช้าวันต่อมา
เผยเชียนไปถึงฉางหยางเกมส์
ทันทีที่เขาเปิดประตูรถคาเยนน์ก็มีชายสวมแว่นวัยยี่สิบปลายๆ เข้ามาต้อนรับ
“บอสเผยใช่ไหมครับ สวัสดีครับ! ผมหวังเสี่ยวปิน หัวหน้ าฝ่ายวางแผนของ
ฉางหยางเกมส์ บอสตู้รออยู่ข้างบนแล้วครับ”
หวังเสี่ยวปินต้อนรับขับสู้สุดๆ
เผยเชียนงงเล็กน้อย “หัวหน้าฝ่ายวางแผนที่นี่ไม่ใช่หัวหน้าหลิวเหรอครับ”
ถึงจะไม่ได้รู้เรื่องฉางหยางเกมส์มากนัก แต่เขาก็มั่นใจมากว่าหัวหน้าฝ่าย
วางแผนคือหัวหน้าหลิวที่เคยเจอหน้า
เผยเชียนเคยเจอหัวหน้าหลิวตอนมาสัมภาษณ์ที่เถิงต๋าและได้ยินเรื่องเพิ่มจาก
หวงซื่อปั๋วกับหม่าอี้ฉวิน
เขารู้สึกเสียดายทุกครั้งที่ได้ฟังสิ่งที่หัวหน้าหลิวทำ
เผลอปล่อยอัจฉริยะหลุดมือไปตอนสัมภาษณ์ครั้งแรกซะแล้ว!
ถ้าจ้างหัวหน้าหลิว ป่านนี้เขาคงทำเกมเจ๊งไปหลายเกมแล้ว ไม่ต้องมาลำบาก
หาทางผลาญเงินแบบนี้หรอก
โชคดีที่ยังไหวตัวทัน ไม่ถลำลึกไปมากกว่านี้
เผยเชียนอยากได้พนักงานฉางหยางเกมส์ทั้งทีม ยิ่งหัวหน้าหลิวที่เป็นหัวหน้า
ฝ่ายวางแผนยิ่งเป็นสมาชิกคนสำคัญของทีม
แต่ทำไมหัวหน้าหลิวไม่ได้มาต้อนรับ แต่ส่งใครก็ไม่รู้มาแทน
หวังเสี่ยวปินกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย “ผมไม่คิดว่าบอสเผยจะรู้เรื่องบริษัท
เราเยอะขนาดนี้ เดี๋ยวผมเล่าให้ฟัง เชิญเข้ามาก่อนครับ”
เผยเชียนเดินตามหวังเสี่ยวปินเข้าไปในตึกสำนักงานด้วยความสงสัย จากนั้น
ก็ตรงขึ้นไปชั้นสองของบริษัท
พวกเขาเดินผ่านโซนทำงานเป็นอันดับแรก
เผยเชียนรู้สึกอึดอัดที่เห็นโต๊ะเรียงติดกันเป็นแถว
เขาเคยชินกับการจัดวางโต๊ะทำงานที่บริษัทเถิงต๋า พอมาเห็นบรรยากาศการ
ทำงานอันเบียดเสียดเยียดยัดแบบนี้เลยรู้สึกอึดอัด
บรรยากาศการทำงานในภาพรวมถือว่าดูดีพอสมควร พื้นสะอาดสะอ้าน โต๊ะ
เป็นระเบียบเรียบร้อย พนักงานทุ กคนกำลังรัวแป้นพิมพ์อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์
บางส่วนกำลังง่วนอยู่กับโปรแกรมพัฒนาเกม ทุกคนตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันอย่าง
จริงจัง
เผยเชียนรู้ดีว่าทั้งหมดนี้เป็นแค่การสร้างภาพชั่วคราวเพราะมีคนมาตรวจดู
ถ้าดูให้ดีๆ จะเห็นว่าพนักงานส่วนใหญ่ไม่ได้ทำงานอยู่ แต่กำลังแสร้งว่ากำลัง
ทำงาน
หลายคนเปิดหน้าจอเอกสารค้างไว้ แต่ผ่านไปเกือบครึ่งวันแล้วยังพิมพ์ไปได้
แค่ไม่กี่คำ ไม่รู้เลยว่าพวกเขากำลังคิดอะไรกันอยู่
เผยเชียนไม่ได้ไปจับผิดอะไร เลขาซินกับเขาเดินตามหวังเสี่ยวปินผ่านโซน
ทำงาน มุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของตู้รุ่ยเจี๋ย บอสของฉางหยางเกมส์
ตู้รุ่ยเจี๋ยรออยู่ตรงประตูห้องทำงาน
บอสตู้น่าจะอายุอยู่ในช่วงสามสิบ ผมบนหัวบาง แต่พุงไม่ได้โต ดูฉลาดและมี
ภาพลักษณ์ของนักธุรกิจวัยกลางคนผู้ประสบความสำเร็จ
“บอสเผย!
“เชิญเลยครับ ผมได้ยินมาว่าบอสเผยอายุยังน้อย ดูท่าข่าวลือจะเป็นเรื่องจริง
นะครับเนี่ย”
ตู้รุ่ยเจี๋ยเดินออกมารับเผยเชียนกับเลขาซินพร้อมเชิญเข้าไปในห้องทำงาน
ส่วนหวังเสี่ยวปินรีบแจ้นไปเตรียมชา
ปกติแล้วการชงชาเป็นหน้าที่ของเลขาไม่ก็ฝ่ายจัดการ แต่ฉางหยางเกมส์ไม่มี
พนักงานฝ่ายจัดการทั่วไป พนักงานคนอื่นๆ จึงต้องมาทำหน้าที่นี้แทน
จริงๆ แล้วนี่เป็นสภาพปกติของบริษัทเกมเล็กๆ บางแห่ง เพราะไม่มีเงินจ้าง
พนักงานฝ่ายจัดการ ถ้าบริษัทเติบโตไปได้ไม่มากนัก บริษัทเกมส่วนใหญ่จะเลือก
ตัดค่าใช้จ่ายหลายๆ อย่างออกไป
คนปกติไม่มีทางจ้างแฝดสาวสวยมาเป็นพนักงานต้อนรับก่อนจะสร้างเกม
เสร็จเหมือนที่เผยเชียนทำแน่
ไม่นานหวังเสี่ยวปินก็ยกชามาเสิร์ฟ
เผยเชียนปรายตามองแล้วคิดว่าน่าจะไม่ใช่ของคุณภาพดี เขายกชาขึ้นจิบ
ก่อนจะวางถ้วยลง
“นั่งก่อนสิเสี่ยวปิน เดี๋ยวคุณช่วยตอบคำถามบอสเผยเรื่องเกมของเราด้วย” ตู้
รุ่ยเจี๋ยชี้นิ้วบอกให้หวังเสี่ยวปินนั่งลงข้างๆ
ชัดเจนมากว่าบอสตู้รับผิดชอบแค่เรื่องเก็บเงิน ไม่ได้รู้เรื่องเกมของตัวเอง
เท่าไหร่
ตู้รุ่ยเจี๋ยได้ยินมาว่านอกจากบอสเผยจะเป็นเจ้าของบริษัทแล้ว ยังเป็นนัก
ออกแบบเกมผู้มากความสามารถด้วย เขากลัวว่าบอสเผยจะถามเรื่องเกี่ยวกับเกม
ที่เขาไม่รู้ จึงให้หวังเสี่ยวปินอยู่คอยช่วย
หวังเสี่ยวปินอดรู้สึกกังวลใจขึ้นมาไม่ได้ เมื่อนึกได้ว่าความหวังสุดท้ายของ
บริษัทอยู่ในมือของเขาแล้ว
บทที่ 142 จงเชื่อมือผูเ้ ชี่ยวชาญด้านการผลาญเงิน

“ผมได้ยินมานานว่าบอสเผยกับบริษัทเถิงต๋าเป็นม้ ามืดในเมืองจิงโจว ทุกเกม


ที่สร้างดังถล่มทลาย ได้ขึ้นเป็นคำค้นหายอดนิยมบนเว่ยป๋อ พวกเราอิจฉาสุดๆ
เลยครับ”
ตู้รุ่ยเจี๋ยจิบชา รู้สึกปลงตกอยู่ในใจ
เผยเชียนตอบกลับอย่างสุภาพ “จริงๆ ผมก็อิจฉาบอสตู้เหมือนกันครับ”
ตู้รุ่ยเจี๋ยนิ่งไปครู่หนึ่ง “อิจฉาเรื่องอะไรครับ”
“เอ่อ… ผมอิจฉาดวงคุณน่ะครับ ” จริงๆ เผยเชียนอยากจะตอบไปว่า ‘อิจฉา
ที่ขาดทุนเก่งขนาดนี้’ แต่ก็คิดขึ้นได้ว่าไม่เหมาะเลยที่จะพูดออกไปอย่างนั้นจึงรีบ
เปลี่ยนคำพูด
ตู้รุ่ยเจี๋ยหัวเราะเสียงดัง “บอสเผยเป็นคนตลกเหมือนกันนะครับ จะว่าไปผม
ก็โชคดีเลยทีเดียว
“ถ้าบริษัทอื่นเจอแบบนี้คงจะปิดบริษัทไปนานแล้ว ผมนี่โชคดีจริงๆ ที่บอส
เผยคิดอยากซื้อกิจการต่อ
“บอสเผย ขอบคุณมากนะครับที่คุณเข้ามาช่วยฉางหยางเกมส์ ผมจะไม่ปิดบัง
อะไร จะบอกทุกอย่างตามจริง
“เอาจริงๆ ที่การดำเนินการของบริษัทย่ำแย่ขนาดนี้ หลักๆ เป็นความผิดของ
ผมเอง ถ้าคุณช่วยฉางหยางเกมส์ให้พ้นจากสภาพอันเลวร้ายนี้และทำให้มัน
กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งได้ ผมก็อยากจะยกบริษัทให้คุณเลย
“แต่…
“เรื่องแรกเลยคือ ผมกับเพื่อนรักอีกคนร่วมกันก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมา เราทุ่ม
หยาดเหงื่อแรงกายไปมากมายกับมัน เรื่องที่สอง พนักงานทุกคนในบริษัทเป็น
เหมือนพี่เหมือนน้องสำหรับผม ผมหวังว่าจะสามารถหาที่ดีๆ ให้พวกเขาได้ไป
ต่อ…”
ตู้รุ่ยเจี๋ยยกชาขึ้นจิบระหว่างที่พูด
ถึงตู้รุ่ยเจี๋ยจะพูดฟังดูดี แต่เผยเชียนก็รู้ว่าอีกฝ่ายพยายามจะขึ้นราคา
ประเด็นจริงๆ ที่เขาจะสื่ออยู่หลังคำว่า ‘แต่’!
สรุปคือบอสตู้ตั้งใจจะเน้นว่าเขาทุ่มเทไปแค่ไหนในการเปิดบริษัทนี้ และ
พนักงานในบริษัทนั้นดีขนาดไหน เขาอยากจะชี้ให้เห็นว่ายังมีความหวังในการชุบ
ชีวิตเกมทั้งสองให้กลับมาเปิดบริการได้ใหม่ และทำกำไรให้ได้ขอแค่พยายามสัก
หน่อย
เผยเชียนนั่งฟังยิ้มๆ ไม่ได้พูดอะไร
ตู้รุ่ยเจี๋ยพล่ามอยู่สิบนาทีเต็ม เขาเล่าเรื่องสถานการณ์ของฉางหยางเกมส์ใน
ปัจจุบันและเสริมความเห็นส่วนตัวเข้าไปอีกยกใหญ่ ดูท่าจะเตรียมการมาดีเลย
ทีเดียว
เผยเชียนไม่ได้ตอบอะไร เขาไม่ได้สนใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเลยด้วยซ้ำ
อาจเพราะบอสตู้เห็นว่าเผยเชียนยังเด็กเลยพยายามคุย ข่มเพื่อต่อรองขึ้น
ราคาขาย
แต่อีกฝ่ายไม่รู้เลยว่าเผยเชียนไม่ได้ใส่ใจเรื่องราคาซื้อขาย แถมยังไม่ได้
รับผิดชอบเรื่องนี้อีก คนที่จัดการเรื่องนี้คือเลขาซิน
เลขาซินฟังอยู่เงียบๆ ด้านหลังเผยเชียนพลางจดข้อมูลลงสมุด เธอพร้อมตัด
ราคาทุกเมื่อขอแค่เผยเชียนสั่ง
“น่าจะประมาณนี้แหละครับบอสเผย ผมตีราคาให้แบบไม่เอากำไร ปัดเศษ
เอาราคากลมๆ ไปที่หนึ่งล้านหยวน โอเคไหมครับ”
บอสตู้ทำหน้าประมาณว่า ‘นี่ลดสุดแล้วนะ’
เผยเชียนไม่ได้ตอบอะไร แต่ถามคำถามออกไปแทน “จำได้ว่าหัวหน้าฝ่าย
วางแผนคนก่อนหน้านี้ชื่อหลิวนี่ครับ เขาอยู่ไหนเหรอครับตอนนี้”
ตู้รุ่ยเจี๋ยนิ่งไปก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ “อ๋อ หัวหน้าหลิวเหรอครับ เขาลาออกไป
แล้วเมื่อไม่กี่วันก่อน น่าจะหางานที่บริษัทอื่นได้แล้ว
“ไม่ต้องห่วงนะครับบอสเผย เสี่ยวปินทำตำแหน่งนักออกแบบระบบมานาน
ความสามารถล้นเหลือเลยครับ ตอนนี้ได้เลื่อนขั้นมาเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนแทน
หัวหน้าหลิวแล้ว! ไม่สิ อาจจะเก่งกว่าหัวหน้าหลิวเลยด้วยซ้ำ!”
ลาออกเหรอ
โธ่…
เผยเชียนกลุ้มใจ
หัวหน้าหลิวรูว้ ่าบริษัทกำลังจะเจ๊งเลยไปหางานเผื่อเอาไว้แล้ว
ก็จริงแหละ มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยสำหรับหัวหน้าหลิวที่มีประสบการณ์
ด้านวางแผนเกมและมีประวัติการทำงานอันหรูเลิศ
น่าเสียดายจริงๆ ที่บริษัทดีๆ แบบนี้กลับไม่สมประกอบก่อนที่เขาจะเข้าซื้อ
แต่เผยเชียนก็ไม่ได้สนใจอะไรนักและไม่คิดจะไปตามตัวหัวหน้าหลิวกลับมา
ด้วย
บริษัทนี้ขาดแค่หัวหน้าฝ่ายวางแผน แค่หาคนมาทำตรงนี้ก็ไปต่อได้
เผยเชียนหันมองหวังเสี่ยวปิน เขารู้สึกว่าเจ้านี่ไม่เหมาะจะเป็นหัวหน้าฝ่าย
วางแผน
จากที่บอสตู้พูด เขาเป็นนักออกแบบระบบของโปรเจ็กต์ก่อน จึงรู้และเข้าใจ
ในตัวโปรเจ็กต์เป็นอย่างดี ความสามารถก็เข้าขั้น
ฟังดูแล้วก็น่าจะเป็นเรื่องจริง
ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ควรให้เจ้านี่เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน เกิดเก่งกว่าหัวหน้าหลิว
ขึ้นมาจะทำยังไง
ก็ต้องหาคนอื่นมาเปลี่ยน
เผยเชียนครุ่นคิดอยู่ในใจ ใบหน้าไม่ได้แสดงอาการอะไร
“ขอลองเล่นเกมทั้งสองเกมที่บริษัทคุณทำได้ไหมครับ” เผยเชียนถาม
ตู้รุ่ยเจี๋ยพยักหน้า “ได้ครับ เสี่ยวปิน ไปเอาโน้ตบุ๊กมาเปิดเกมให้บอสเผยลอง
เล่น”
หวังเสี่ยวปินพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปหาโน้ตบุ๊กนอกห้องทำงาน
เผยเชียนเห็นว่าบนโต๊ะของตู้รุ่ยเจี๋ยก็มีโน้ตบุ๊กวางอยู่
แสดงว่าตู้รุ่ยเจี๋ยไม่เคยเล่นเกมที่บริษัทตัวเองทำเลย
เผยเชียนรู้สึกอิจฉาขึ้นมา
ดูสิ! บริษัทใหญ่ต้องเป็นแบบนี้แหละ บอสไม่ได้สนใจว่าบริษัทจะดำเนินการ
กันยังไง และปล่อยให้บริษัทขาดทุนด้วยตัวเอง
ย้อนกลับมาดูเถิงต๋า ฉันตรวจดูรายละเอียดทุกอย่างในเกม แต่ก็ดันสร้าง
ปัญหาให้ได้เหมือนเดิม
ไม่นานหวังเสี่ยวปินก็กลับมาพร้อมโน้ตบุ๊ก
ฉางหยางเกมส์ทำเกมออกมาสองเกม เกมแรกชื่อนักพรตสะกดใจ ส่วนอีกเกม
ชื่อเพลงรบโลหิต ทั้งสองเกมต้องเล่นผ่านเว็บบราวเซอร์ เกมแรกเป็นเกมแนว
บริหารทรัพยากร เกมที่สองเป็นเกม RPG เนื้อหาเกี่ยวกับการรบกันของสองชาติ
เผยเชียนเปิดเกมนักพรตสะกดใจขึ้นมาเล่นก่อน
อย่างแรกที่เห็นหลังจากสร้างบัญชีผู้ ใช้คือภาพวาบหวิว บนหน้าจอมีสาวสวย
นุ่งน้อยห่มน้อยชวนเลือดกำเดาไหลโชว์หราอยู่
ตู้รุ่ยเจี๋ยกับหวังเสี่ยวปินรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ ทั้งคู่รู้สึกเหมือนกำลังพา
ลูกสะใภ้หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ไปเจอญาติผู้ใหญ่
พวกเขาได้ยินมาว่านอกจากบอสเผยจะเป็นบอสของบริษัทแล้ว ยังเป็น นัก
ออกแบบเกมหลักของบริษัทเถิงต๋าด้วย
อย่างเกมฮิตล่าสุดอย่างเกมนักออกแบบเกมที่มีการวิเคราะห์และวิจารณ์
อุตสาหกรรมเกมในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นระบบการเล่น งานภาพ และแก่นสาร
หลักของเกมต่างอยู่ในระดับเดียวกับเกมของต่างประเทศ
ส่วนฉางหยางเกมส์เหมือนเพิ่งจะตั้งไข่
ระดับห่างไกลกันราวฟ้ากับเหว…
ถ้าบอสเผยได้เห็นเกมแล้วเกิดไม่ชอบใจ จนตัดสินใจไม่ซื้อบริษัทพวกเขา
ขึ้นมาจะทำยังไง
เผยเชียนสำรวจเกมอย่างรวดเร็วแล้วพบว่าเนื้อหาเกมก็เหมือนที่ชื่อเกมจะ
สื่อ…
เป็นแค่เกมบริหารทรัพยากรบนเว็บทั่วไปที่อัดแน่นไปด้วยสาวสวยมากหน้า
หลายตา เล่นไปสักพักก็จะปลดล็อกสาวสวยคนใหม่ได้เพิ่ม
ทุกองค์ประกอบของเกมนี้ถือว่าห่วยแตก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมปิดให้บริการ
ไป
เผยเชียนปิดเกมแรกแล้วเปิดเกมเพลงรบโลหิตขึ้นมาเงียบๆ
กราฟฟิกของเกมนี้ดีกว่าเกมเมื่อกี้ แต่ก็ยังถือว่าแย่อยู่ดี
เกมนี้เป็นเกมแนว ‘ไล่ฟันไม่ยั้ง’ ที่เห็นได้ทั่วไป ภาพสองมิติของเกมทำให้เผย
เชียนรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปอยู่ในยุคหิน
แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเกมนี้จะทำเงินให้ได้มากมายในช่วงสองเดือนแรกหลัง
ปล่อยเกม จนเพียงพอที่จะแบกรับค่าใช้จ่ายประมาณสามแสนหยวนต่อเดือนของ
ฉางหยางเกมส์ ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์สุดๆ
พอได้เห็นทั้งสองเกม เผยเชียนก็รู้สึกหน่วงๆ ขึ้นมาหน่อยๆ
เขารู้แล้วว่าทำไมตัวเองถึงไม่ขาดทุน
เป็นเพราะขาดความคิดสร้างสรรค์นี่เอง!
เพราะเขามีความทรงจำจากปี 2019 รสนิยมและสไตล์ความชอบได้ผ่านการ
บ่มเพาะมาจากงานขึ้นหิ้งหลายชิ้นในช่วงเวลานั้น
ถึงเขาจะอยากสร้างเกมกากๆ ขึ้นมาใจจะขาด สิ่งเดียวที่เขาคิดออกคือเกมที่
มีกำแพงค่าใช้จ่ายสูงๆ ในตลาด
แต่พวกเกมที่วางกำแพงค่าใช้จ่ายไว้สูงปรี๊ดในความทรงจำของเผยเชียนมีแต่
เกมที่เอาตัวรอดในตลาดอันดุเดือดมาได้ แถมยังทำกำไรได้อีกด้วย!
เพราะอย่างนั้นจินตนาการของเขาจึงถูกจำกัดไว้ ไม่สามารถคิดเกมที่กากกว่า
นั้นได้
แต่ตอนนี้เขารู้แล้ว
ว่ามันต้องเป็นเกมแบบเกมนักพรตสะกดใจและเกมเพลงรบโลหิต…
เล่นไปได้แค่สองนาทีก็รู้สึกเหมือนโดนถอดสมองออกมาเหยียบ
กะแล้วว่าต้องเชื่อมือผู้เชี่ยวชาญด้านการขาดทุน
การซื้อกิจการครั้งนี้ดูจะเป็นเรื่องดีเลยทีเดียว!
บทที่ 143 ตัดราคา

ตู้รุ่ยเจี่ยนั่งอยู่ตรงข้ามเผยเชียน พอเห็นเผยเชียนทำหน้าประมาณว่า ‘นี่มัน


อะไรกันวะเนี่ย’ ตอนเล่นเกม หัวใจเขาก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
เขาไม่เคยเล่นเกมของตัวเองเพราะรู้ว่ามันห่วยแค่ไหน
ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่เอาเกมห่วยแตกแบบนี้มาให้บอสเผยเล่น…
ถ้าบอสเผยไม่ชอบสองเกมนี้ก็อาจเอามาใช้เป็นข้ออ้างขอตัดราคาได้
ตู้รุ่ยเจี๋ยเตรียมใจไว้แล้ว
เผยเชียนปิดโน้ตบุ๊กแล้วยื่นคืนให้หวังเสี่ยวปิน “ก็ไม่แย่นะครับ”
ไม่แย่เหรอ
ตู้รุ่ยเจี๋ยรู้สึกเคารพเผยเชียนขึ้นหลายเท่าเพราะคิดว่าอีกฝ่ายกำลังพยายามไม่
ทำให้เขาขายขี้หน้า เกมขยะแบบนี้จะมาบอกว่า ‘ก็ไม่แย่’ ได้ยังไง จะใจดีเกินไป
แล้ว!
จริงๆ แล้วเผยเชียนรู้สึกว่าทั้งสองเกมไม่ได้แย่จริงๆ
เขาคิดว่าตัวเองไม่มีทางทำเกมขยะระดับนี้ขึ้นมาได้เองแน่
ไม่ว่าจะเป็นเกมแบบไหน ขอแค่ทำเงินไม่ได้ก็ถือว่าเป็นเกมที่ดีหมด!
หวังเสี่ยวปินถามขึ้นอัตโนมัติ “บอสเผยมีคำถามอะไรเกี่ยวกับทั้งสองเกมไหม
ครับ ถามผมได้นะครับ”
ตู้รุ่ยเจี๋ยโกรธจัดจนอยากจะลุกเตะหวังเสี่ยวปิน
แกพูดอะไรออกไป
ให้เรื่องนี้จบไปไวๆ ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ
นี่แกกำลังบังคับให้บอสเผยวิจารณ์เกมเราอยู่รึไง
เผยเชียนยิ้ม “ผมเข้าใจแนวทางการออกแบบของทั้งสองเกมดีครับ ไม่มี
คำถามอะไร”
จริงๆ แล้วเผยเชียนอยากจะถามออกไปว่าพวกเขาทำยังไงถึงสร้างเกมกากๆ
แบบนี้ขึ้นมาได้…
แต่พอคิดดูอีกทีก็คิดได้ว่าไม่ถามจะดีกว่า
หวังเสี่ยวปินรับโน้ตบุ๊กมาแล้วพยักหน้า “บอสเผยเป็นมืออาชีพจริงๆ ด้วย
ครับ แค่มองปราดเดียวก็เข้าใจเกมทะลุปรุโปร่ง ผมนี่แส่ไม่เข้าเรื่องจริงๆ”
ตู้รุ่ยเจี๋ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาอยากจะจบเรื่องนี้ไวๆ รีบเจรจาซื้อขายให้เสร็จๆ จะได้หอบเงินหนีไปให้
ไว
พอถึงตอนนั้น สภาพยุ่งเหยิงที่เขาต้องแบกรับ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้สำนักงาน
และคอมพิวเตอร์ที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหน่วง หรือเหล่าพนักงานที่ใช้การ
ไม่ได้เรื่อง เถิงต๋าจะเป็นคนแบกรับไว้แทน บอสเผยต้องมานั่งปวดหัวกับเรื่องพวก
นี้แทนเขา
เผยเชียนขยับหน้าเล็กน้อย ส่งสัญญาณให้ซินไห่ลู่เริ่มต่อรองราคาได้
ถึงเผยเชียนจะไม่ได้คิดอะไรมากถ้าต้องเสียเงินเพิ่มสามถึงสี่แสนหยวน แต่เขา
ก็คดิ ว่าถ้าจ่ายเงินจำนวนนีเ้ พิม่ ไปจะดูเป็นการเสียเปรียบ
แม้จะเป็นเงินทุนของระบบ แต่เขาก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ถ้าจะต้องจ่ายเงิน
ส่วนนี้ให้บอสตู้
เอาเงินส่วนนี้ไปเพิ่มสวัสดิการให้พนักงานยังจะดีซะกว่า
ดังนั้นเผยเชียนจึงเลือกตัดราคาตามที่เขาควรจะทำ เอาให้ได้ราคาต่ำที่สุดที่
บอสตู้ประเมินไว้
เลขาซินพลิกสมุดเล่มเล็ก “บอสตู้คะ เท่าที่ดิฉันรู้มา คุณจ่ายเงินเดือ น
พนักงานล่าช้ามาหนึ่งเดือนแล้ว หนึ่งในสองเกมก็ปิดให้บริ การไปเรียบร้อย ส่วน
อีกเกมกำลังขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ทั้งสองเกมไม่ถือว่าเป็นสินทรัพย์มูลค่า
สูงและเป็นผลงานที่ไม่มีคุณค่าอีกต่อไป เครื่องใช้สำนักงานและคอมพิวเตอร์ก็ซื้อ
มาได้สามปีแล้ว เดิมทีก็ไม่ใช่ของแพงอะไร ดูจากสภาพการใช้งานแล้วน่าจะเอา
ไปโยนทิ้งมากกว่า คุณก็น่าจะรู้นะคะว่าของพวกนี้ไม่เหมาะกับสภาพแวดล้อมการ
ทำงานของเถิงต๋า เพราะงั้นจึงไม่มีค่าอะไร…”
เลขาซินพูดรัวจนตู้รุ่ยเจี๋ยหน้าเริ่มเจื่อน
ไม่นะ ที่พล่ามไปพักใหญ่นั่นไม่มีประโยชน์เลยเหรอ
เขาคิดว่าบอสเผยยังเด็ก ไม่น่าจะมีประสบการณ์มาก แค่พูดข่มนิดหน่อยก็
น่าจะขูดรีดเงินได้เพิ่ม แต่ตอนนี้รู้ซึ้งแล้วว่าตัวเองเล่นผิดคนเข้าให้แล้ว
บอสเผยไม่ได้สนใจรายละเอียดการซื้อขายครั้งนี้เลย เลขาที่ยืนอยู่ข้างหลัง
ต่างหากที่เป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้…
เลขาคนนี้ดูจะมีประสบการณ์ล้นเหลือและเหนือชั้นกว่าตู้รุ่ยเจี๋ยในทุกๆ ด้าน
ถึงจะมองข้ามเรื่องอื่นๆ ไป แค่ตัวตนของเธออย่างเดียวก็อยู่คนละระดับกับตู้
รุ่ยเจี๋ยแล้ว
ตู้รุ่ยเจี๋ยเป็นแค่เจ้าของบริษัทเอกชน ไม่มีทางเทียบชั้นเลขาซินที่เคยทำงาน
กับองค์กรยักษ์ใหญ่มาก่อนได้ เขาพูดอะไรไม่ออกหลังจากได้ยินที่หญิงสาวรัวใส่
เลขาซินปิดสมุดจด “เมื่อพิจารณาทุกองค์ประกอบ เราขอเสนอซื้อที่ราคาห้า
แสนห้าหมื่นหยวนค่ะ”
ตู้รุ่ยเจี๋ยกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ราคานี้เขายังพอรับได้ แต่ก็ไม่ค่อยจะชอบใจ
เท่าไหร่
เผยเชียนยิ้ม “ไม่เป็นไรครับบอสตู้ ผมเพิ่มให้อีกห้าหมื่นหยวนจะได้เป็นหก
แสนหยวนเพื่อมิตรภาพของเรา”
ตู้รุ่ยเจี๋ยคิดอยูค่ รู่หนึ่ง
เขาอยากได้ราคาสูงกว่านี้ แต่คิดไปคิดมาก็สรุปได้ว่าไม่ควรต่อรองอะไรอีก
เลขาซินคำนวณทุกอย่างมาอย่างดี เขาไม่มีเหตุผลไหนจะเอาไปใช้อ้างต่อรอง
ราคาได้
ถ้าพูดอะไรไปแล้วบอสเผยไม่พอใจ ไม่ยอมซื้อกิจการขึ้นมา ได้ขาดทุนย่อยยับ
แน่
พอคิดได้อย่างนั้นเขาก็ยิ้มกว้าง “โอเคครับ บอสเผย ตกลงที่หกแสนนะครับ!
ที่ผมยอมก็เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของพนักงานอันเป็นที่รักของผม…”
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก ชายคนนี้มีดีแค่ปาก เอาแต่ขี้โม้ ไม่มีอะไรน่าเชื่อถือ
สักอย่าง
“ถ้าอย่างนั้นก็จัดการตามขั้นตอนกันเลยดีกว่าครับ” เผยเชียนหันมองเลขา
ซิน
ถึงจะตกลงกันเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังมีหลายเรื่องที่ต้องจัดการหลังจากนี้ พวก
เขาต้องตรวจสอบข้อมูลบริษัทอย่างละเอียดและเซ็นสัญญาซื้อขาย ไม่เหมือนซื้อ
ของกับร้านค้าที่แค่รูดบัตรก็เอาของออกมาได้เลย เพราะมีลำดับขั้นตอนที่ต้อง
จัดการ
แต่เผยเชียนก็ไม่ได้กังวลเรื่องนั้นเลย
“บอสเผยใจบุญมากครับ! คุณนี่เกิดมาเพื่อทำการใหญ่จริงๆ!”
ตู้รุ่ยเจี๋ยดีใจมาก ถึงราคาจะต่ำกว่าที่คาดไว้ แต่ห้าหมื่นหยวนที่บอสเผยเพิ่ม
ให้ก็ทำให้เขาพอใจชื้นขึ้นมาได้
ที่สำคัญคือเขาปัดปัญหาออกไปให้พ้นตัวได้แล้ว ตรงนี้แหละที่ทำให้เขามี
ความสุข
“ช่วยบอกพนักงานด้านนอกให้หยุดงานไปพักผ่อนสักพัก แจ้งพวกเขาให้
กลับมาทำงานหลังจากเสร็จเรื่องทุกอย่าง
“อืม… เอาเป็นวันจันทร์หน้า วันที่ 10 พฤษภาก็แล้วกัน”
เผยเชียนดูปฏิทิน วันนี้คือวันพุธ สี่วันน่าจะจัดการขั้นตอนส่วนใหญ่เสร็จแล้ว
เพราะนี่ก็ไม่ใช้การซื้อต่อกิจการมูลค่าหลายล้าน ฉางหยางเกมส์เป็นแค่บริษัท
เล็กๆ มีเรื่องให้ต้องจัดการไม่มาก เลขาซินน่าจะจัดการทุกอย่างได้ทันเวลา
ถือเป็นการดีที่จะให้พนักงานไปพักและทำตัวให้ชินกับวิถีการทำงานของ
เถิงต๋าก่อน
ต่อไปฉางหยางเกมส์จะเป็นบริษัทลูกของเถิงต๋า พวกเขาจะอยู่ภายใต้กฎและ
สวัสดิการของบริษัทแม่
หวังเสี่ยวปินนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า “โอเคครับบอสเผย! เดี๋ยวผมไป
แจ้งให้ทุกคนทราบทันทีครับ!”
เผยเชียนไม่ได้กลับออกไปทันที แต่นั่งฟังเลขาซินคุยกับบอสตู้เรื่ องขั้นตอน
ต่างๆ ในห้องทำงานต่อ
ผ่านไปสักพักก็ได้ยินเสียงคุยกันแว่วมาจากด้านนอกเมื่อเหล่าปลาตายได้
กลับมาเวียนว่ายอีกครั้ง

พอหวังเสี่ยวปินประกาศไปว่าทุกคนได้หยุดงานจนถึงวันจันทร์หน้า และมี
การเปลี่ยนเจ้าของบริษัท ทุกคนก็ฮือฮากันใหญ่
ตอนแรกฉางเหยางเกมส์กำลังจะเจ๊ง หลายคนไปหางานใหม่รอแล้ว
พนักงานที่มีประวัติการทำงานหรูๆ อย่างหัวหน้าหลิวได้งานใหม่ไ ปแล้ว
เรียบร้อย
แต่เมื่อวาน จู่ๆ ตู้รุ่ยเจี๋ยก็มาประกาศว่ามีบริษัทอื่นสนใจเข้าซื้อต่อบริษัท และ
สั่งให้ทุกคนเก็บกวาดสถานที่ จัดข้าวของให้เรียบร้อยเตรียมตัวรับบอสคนใหม่
ด้วยสภาพที่ดีที่สุด!
หลายคนตกใจมากเพราะทุกคนรู้ว่าฉางหยางเกมส์สภาพเลวร้ายสุดๆ คนสติดี
ที่ไหนจะอยากมาซื้อ
แต่พอถามเพิ่มก็ต้องตกใจยิ่งกว่าเดิมพอรู้ว่าเจ้าของใหม่คือบริษัทเถิงต๋า
เรื่องนี้… ไม่ต่างอะไรกับมีส้มหล่นจากฟ้า!
เถิงต๋าเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงล้นหลามในวงการเกม หลายคนอยากเข้าไป
ทำงานด้วยแต่ก็หาหนทางไม่ได้เลย
ถ้าเถิงต๋าเข้าซื้อกิจการ พวกเขาก็น่าจะเหมือนเป็น ‘ลูกเลี้ยง’ คงไม่ได้รับ
สวัสดิการเหมือน ‘ลูกแท้ๆ’ หรอก แต่ยังไงพวกเขาก็อยู่ภายใต้เถิงต๋า อนาคต
น่าจะสดใสกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้แน่นอน!
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าขั้ นตอนการเข้าซื้อต่อน่าจะกินเวลาสักหนึ่งถึงสอง
สัปดาห์ ไม่น่าจะได้หยุดพัก ต้องมาก้มหน้าทำงานเหมือนเดิม
พวกเขาไม่คิดเลยว่าทุกอย่างจะรวดเร็วขนาดนี้ ตอนนี้ผ่านการเจรจาขั้นต้นไป
แล้วเรียบร้อย แถมยังได้หยุดงานจนถึงวันจันทร์หน้าด้วย
เหล่าพนักงานของฉางหยางเกส์คิดเหมือนกันว่าชีวิตนี่มีขึ้นมีลงตลอดจริงๆ…
ไม่กี่วันก่อนยังเครียดกันเรื่องหางานใหม่อยู่เลย จู่ๆ ชีวิตพลิกผันได้มาเป็น
พนักงานของเถิงต๋า แถมได้หยุดงานตั้งสี่วันอีก!
ทุกคนรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังฝันอยู่!
บทที่ 144 วันหยุดของบอสเผย

เผยเชียนยุ่งมากช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
ตอนแรกเขาตั้งใจจะนอนให้เต็มอิ่มที่อพาร์ตเม้นต์แต่ก็นอนไม่หลับ พอ
หลับตาลงก็เห็นภาพร้านอินเทอร์เน็ตดังขึ้นมาและหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ทำ
เอาไม่ได้หลับไม่ได้นอน
เขาได้แต่โทรเรียกให้เลขาซินขับรถมารับ ต้องไปยืนยันให้เห็นด้วยตาของ
ตัวเอง
แน่นอนว่าเขาก็ได้ข้ออ้างในการจ่ายเงินค่าล่วงเวลาให้เลขาซิน
เขาไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักเป็นที่แรก หลังจากจิบกาแฟหนึ่ง
แก้วแล้วนั่งดูลาดเลาในร้านสักพัก เผยเชียนก็มั่นใจว่าที่นี่ไม่มีทางพลิกขึ้นมาทำ
กำไรได้ในเวลาสั้นๆ แน่
หลังจากนั้น เขาก็ไ ปเยี่ยมร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูอีกสองสาขาเพื่อดูว่าการ
ปรับปรุงร้านไปถึงไหนแล้ว
ทำเลของทั้งสองสาขาเลวร้ายกว่าสาขาหลัก มีข้อดีข้อเดียวคือ พื้นที่อั น
กว้างขวาง การตกแต่งภายในร้านสาขาทั้งสองแห่งไม่เหมือนสาขาหลัก โดยจะอิง
ตามสไตล์ที่เผยเชียนวางเอาไว้เป็นหลัก
การตกแต่งในภาพรวมใช้สไตล์มินิมอลลิสต์ ไม่ได้หรูหราอะไรมากนัก แต่โต๊ะ
เก้าอี้ เคาน์เตอร์บาร์ ชั้นหนังสือ และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ดูดีมีระดับมาก
ไม่ใช่ว่าเผยเชียนชอบของดูดีมีระดับแบบนี้ ที่เลือกของพวกนี้ก็เพราะมีราคา
แพง
ผู้จัดการทั้งสองคนของสองสาขาใหม่ดูขยันขันแข็งสุดๆ พวกเขากำลังยืนจ้อง
พนักงานปรับปรุงร้านกันอยู่ เผยเชียนเดินเข้าไปทักทายอย่างอบอุ่น เขาพูดกล่อม
ให้ผู้จัดการสาขาคนหนึ่งกลับบ้านไปก่อนได้ แต่อีกคนยืนกรานจะอยู่ต่อ เผยเชียน
จึงทำได้แค่จ่ายเงินค่าล่วงเวลาให้
พอได้เห็นการปรับปรุงร้าน เผยเชียนก็ยังไม่วางใจ เขาเดินดู รอบๆ ร้านอยู่สัก
พักก่อนจะสรุปได้ว่าทำเลตรงนี้เปล่าเปลี่ยวผู้คนยิ่งกว่าสาขาหลักอีก ไม่น่าจะมี
ลูกค้าเข้าร้านเยอะ
ระหว่างทางกลับบ้าน เผยเชียนรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีจึงแวะไปที่บริษัท เขาเห็น
ลู่หมิงเหลียงและคนในทีมออกแบบบางส่วนกำลังทำงานล่วงเวลากันอยู่
บอสเผยโกรธจัด
ที่เขายอมให้หวงซื่อปั๋วและคนอื่นๆ ทำงานล่วงเวลาในตอนแรกก็เพราะคิดว่า
หวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่จะเอาเวลานี้มาเล่นเกมกัน
แต่ก็มารู้ทีหลังว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ล่วงเวลาเพื่อเล่นเกม แต่กลับนั่งทำงานกัน
อย่างขะมักเขม้น!
ดังนั้นเผยเชียนจึงคิดว่าควรจะเข้มงวดเรื่องนี้ และสั่งห้ามไม่ให้ใครอยู่ใน
ออฟฟิศต่อหลังเวลางาน
รอบนี้เผยเชียนให้ทุกคนรวมถึงเปาซวี่กลับบ้าน โดยบอกเหตุผลไปว่าให้
กลับไปพักผ่อนเยอะๆ ห่วงเส้นผมบนหัวบ้าง
พอคิดถึงผลตรวจสุขภาพรอบก่อน เปาซวี่ก็ไม่มีข้ออ้างอะไรให้โต้แย้ง ได้แต่
เก็บของกลับบ้านไป
ตอนนี้เปาซวี่มีเงินมากกว่าเดิม จึงไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในร้านอินเทอร์เน็ตอีกต่อไป
เขาเช่าอพาร์ตเม้นต์และซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ ตอนนี้สามารถเล่นเกมที่บ้าน
ได้อย่างหนำใจ
พอเห็นเปาซวี่ยอมเก็บของกลับบ้านตามที่บอสเผยบอก คนอื่นๆ ก็ได้แต่เก็บ
ของกลับไปเงียบๆ ด้วย
ภาพที่เห็นชวนหดหู่ ใจมาก เหล่าพนักงานเดินกลับออกไปอย่างห่อเหี่ยวใจ
ใครมาเห็นแล้วไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรคงคิดว่าคนพวกนี้เพิ่งโดนไล่ออกมา
หลังจากไล่คนอื่นกลับบ้านไปหมด เผยเชียนก็นั่งลงบนเก้าอี้ใกล้ๆ ตัวหนึ่ง
เขารู้สึกเหนื่อยใจสุดๆ
พนักงานพวกนี้เอาแต่สร้างเรื่องให้ปวดหัวจริงๆ!
“หรือว่าต้องล็อกออฟฟิศให้ดี ไม่ก็ไปซื้อเครื่องล็อกดิจิทัลดีๆ ที่กำหนดเวลา
เข้าออกช่วงวันหยุดได้”
เผยเชียนหันมองเลขาซิน
ซินไห่ลู่ลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้น “ทำแบบนี้จะเป็นการลดทอน
กำลังใจในการทำงานของทุกคนหรือเปล่าคะ”
ลดทอนกำลังใจในการทำงานเหรอ
ถ้าเป็นแบบนี้ก็ดีเลยสิ
แค่ลดไม่พอ ถ้าทำลายให้มันย่อยยับไปได้ยิ่งดี
“เอาตามนี้ อย่าลืมไปดูที่ฝ่ายจัดการทั่วไปว่ามีเครื่องล็อกที่ว่ารึเปล่า ถ้าไม่มีก็
ไปซื้อมาใหม่
“อนุญาตให้เข้าออฟฟิศช่วงวันหยุดได้แค่บางคน ตอนนี้เอาแค่… ผม คุณ แล้ว
ก็สาวๆ บางคนจากฝ่ายจัดการทั่วไป”
งานฝ่ายจัดการทั่วไปไม่มีอะไรมาก เข้างานเก้าโมงเช้า เลิกงานห้าโมงเย็น
อาจจะมีเข้างานสายบ้างไม่กี่นาที แต่ไม่มีใครยอมเลิกงานสายแม้แต่นาทีเดียว
แน่นอนว่าวันหยุดไม่เคยเห็นหน้าสักคน
เผยเชียนมั่นใจมากว่าให้สิทธิ์ไปก็ไม่น่าจะเป็นอะไร
เลขาซินจดบันทึกลงสมุด
พอจดเสร็จ เผยเชียนก็คิดปัญหาอีกข้อออก
ถ้าเป็นแบบนี้จะจ่ายเงินค่าล่วงเวลายังไงล่ะ
ล็อกประตูไปก็จะไม่มีใครมาทำงานล่วงเวลา ซึ่งก็หมายความว่าเขาจะจ่ายเงิน
ค่าล่วงเวลาไม่ได้
ถึงค่าใช้จ่ายตรงนี้จะไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนการเอาจำนวน
เข้าสู้ ถือเป็นช่องทางสำคัญในการผลาญเงิน
ค่าล่วงเวลาต่อหัวไม่ได้มากอะไร แต่ถ้ามีพนักงานเยอะ ค่าใช้ตรงนี้ก็จะเยอะ
ตามไปด้วย
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เอาแบบนี้ไหมครับ ต่อไปให้ทุกคนแจ้งเวลาที่ทำงาน
ล่วงเวลามา เราจะจ่ายเงินค่าล่วงเวลาให้แม้จะทำงานที่บ้าน”
ซินไห่ลู่อึ้งไป “แล้วเราจะตรวจสอบยังไงล่ะคะว่าทุกคนทำงานจริงๆ”
ตรวจสอบเหรอ จะตรวจไปทำไม โกหกเวลาทำงานล่วงเวลากันมาฉันก็ไม่ได้
สนใจ
แน่นอนว่าเผยเชียนพูดอย่างนั้นออกไปไม่ได้
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกไป “ผมเชื่อว่าทุกคนมีวินัยกันหมด แต่ถ้า
ตรวจพบว่าใครโกหกเรื่องเวลาทำงานล่วงเวลาจะโดนหักเงินเดือน”
เขาตั้งบทลงโทษกันระบบเตือน
แต่เผยเชียนไม่มีทางไปตรวจดูว่าใครโกหกเรื่องเวลาทำงานงานล่วงเวลา
เห็นออฟฟิศปลอดคน เผยเชียนก็รู้สึกดีขึ้น เขาลุกยืน เตรียมกลับไปหลับให้
สบายใจทีบ่ ้าน
ตอนนั้นเองโทรศัพท์ก็ดังขึ้น หวงซื่อปั๋วเป็นคนโทรมา
เผยเชียนระแวงขึ้นมาทันใด
หลังถ่ายทำซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยเสร็จ หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อก็ห
ยุดงานไปครึ่งเดือน
คำนวณดูแล้วน่าจะกลับมาทำงานกันเร็วๆ นี้ ตอนนี้คงจะคิดโปรเจ็กต์ใหม่กัน
ได้แล้วว่าจะถ่ายอะไร
ถึ ง เผยเชี ย นจะพู ด ปลุ ก ใจหวงซื ่ อ ปั ๋ ว พร้ อ มกล่ อ มให้ เ ขาเลิ ก ทำซี ร ี ส์
ชีวิตประจำวันของบอสเผยและเลิกตั้งความหวังกับความสำเร็จของผลงานนี้ได้
แต่เผยเชียนก็ยังไม่รู้ว่าหวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อวางแผนจะถ่ายอะไร
ที่โทรมาก็น่าจะมาปรึกษาไม่ก็รายงานความคืบหน้า
เผยเชียนหวังว่าจะเป็นอย่างแรก
เขารับโทรศัพท์
“บอสเผยครับ ขอโทษนะครับที่โทรมารบกวนเวลานี้
“ผมอยากโทรมาแจ้งแผนงานของเฟยหวงสตูดิโอครับ
“คำพูดของบอสเผยตอนนั้นทำให้ผมตาสว่าง ตอนแรกผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อกับ
ผมวางแผนไว้ว่าจะทำคลิปสั้นต่อ จะถ่ายซีรีส์เรื่องใหม่โดยใช้ซีรีส์ชีวิตประจำวัน
ของบอสเผยเป็นแรงบันดาลใจ เราอยากนำเสนอเนื้อหาที่แปลกใหม่คล้ายๆ กัน
เราค้นเรื่องฮิตติดกระแสในตอนนี้แล้วไปเจอคนดังหลายคนในชีวิตประจำวันของ
เรา”
ยิ่งฟังเผยเชียนก็ยิ่งเป็นกังวล
อย่าบอกนะว่าจะออกมาเป็น Unexpectedness ไม่ก็ ข่าวร้อนกับเป่าโจว
จะอย่างไหนก็ฟังดูแย่สุดๆ
หวงซื่อปั๋วพูดต่อ “แต่คำพูดของบอสเผยวันนั้นทำให้ผมตาสว่าง ผมคิดว่าเรา
ควรจะออกจากคอมฟอร์ตโซนของตัวเองแล้ววิ่งตามความฝัน!
“ถึงซีรีส์ตอนสั้นจะทำเงิน ได้ไวและทำให้คนดูยิ้มได้ แต่ผมคิดว่าแค่นั้นยังไม่
พอ
“ผู้กำกับจูก็คิดเหมือนกัน หลังจากคุยกันเสร็จ พวกเราก็ตั้งใจจะทำสารคดี
จะทำเป็นสารคดีที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน
“แน่นอนว่าจากงบที่จำกัดของเราทำให้ถ่ายเป็นสารคดีฟอร์มยักษ์ไม่ได้ เรา
จะพิ จ ารณาเรื ่ อ งนี ้ ก ั น อย่ า งละเอี ย ด สิ ่ ง เดี ย วที ่ เ ราต้ อ งการคื อ ถ่ า ยสิ ่ ง ที ่ มี
ความหมายด้วยกล้องของเรา…”
เผยเชียนถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ก็ยังไม่ได้วางใจซะทีเดียว
ที่รู้สึกโล่งใจก็เพราะหวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อตัดสินใจไม่ทำคลิปสั้นต่อ ถือว่า
เป็นข่าวดี
ถ้าเป็นตามแผนเดิม พวกเขาน่าจะทำซีรีส์ตอนสั้นที่ฮิตไปทั่วอินเทอร์เน็ต
ขึ้นมาได้อีก เกิดดังเท่าเรื่อง Unexpectedness ไม่ก็ มารายงานครับบอส! ขึ้นมา
คงซวยหนัก
ตอนนี้หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อเปลี่ยนมาอยากทำสารคดี ซึ่งเป็นแนวที่มี
โอกาสทำกำไรได้น้อยมาก ถือเป็นข่าวดีสุดๆ
บทที่ 145 บอสคนใหม่ของฉางหยางเกมส์

ด้วยงบที่มีจำกัด เฟยหวงสตูดิโอจึงไม่สามารถทำสารคดีฟอร์มยักษ์ได้
สารคดีที่เผยเชียนคิดว่าประสบความสำเร็จอย่าง ‘A Bite of China’ ที่โด่ง
ดังไปทั่วประเทศใช้ทุนสร้างมหาศาล นอกจากจะไปถ่ายทำทั่วประเทศแล้ว
อุปกรณ์ที่ใช้ยังเป็นของแพงสุดๆ อีก
ตอนนี ้ ท ุ น ของเฟยหวงสตู ด ิ โ อคื อ ครึ ่ ง หนึ ่ ง ของกำไรที ่ ท ำได้ จ ากซี ร ี ส์
ชีวิตประจำวันของบอสเผย ซึ่งมีอยู่ประมาณล้านกว่าๆ จำนวนแค่นี้ไม่พอเป็นทุน
สร้างแน่
เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะถ่ายทำสารคดีแบบ A Bite of China ได้
แต่เผยเชียนก็ไม่ได้วางใจ
ถ้าเผยเชียนรู้ว่าเรื่องนี้คือปัญหา จูเสี่ยวเช่อก็น่าจะรู้เหมือนกัน
เขาต้องรู้แน่
จูเสี่ยวเช่อเป็นผู้กำกับมากความสามารถ ถ้าเขาอยากถ่ายสารคดีก็แสดงว่า
ต้องมองเห็นโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ
เผยเชียนโดนหลอกมาแล้วครั้งหนึ่ง เขาไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองโดนหลอกเป็น
ครั้งที่สองแน่ สารคดีนี่ต้องทำเงินได้ไม่มากก็น้อย
แต่ถ้าเทียบกับคลิปสั้น สารคดีทุนสร้างน้อยก็น่าจะทำเงินได้น้อยกว่ามาก
เพราะงั้นคงไม่เป็นไรหรอก
คิดได้อย่างนั้น เผยเชียนก็ตอบออกไป “โอเค ผมจะคอยหนุนหลังเอง”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเพราะไม่ได้ออกมาจากใจจริง
หวงซื่อปั๋วดีใจมาก “ขอบคุณมากครับบอสเผย!”
พอวางสายเสร็จ เผยเชียนก็ถามเรื่องฉางหยางเกมส์
เลขาซินรายงานสถานการณ์คร่าวๆ ตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เผย
เชียนจะได้พบพนักงานใหม่และมอบหมายงานให้พวกเขาวันจันทร์หน้า
เผยเชียนหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง “วันจันทร์เหรอ… ผมต้องไปที่นู่นด้วยเหรอ”
เลขาซินกระแอมกระไอสองหน “บอสต้องไปอยู่แล้วค่ะ บอสมีความสำคัญ
กับบริษัทมาก ดิฉันคิดว่าบอสเผยควรไปกล่าวอะไรสักเล็กน้อย ไม่อย่างนั้น
พนักงานที่ฉางหยางเกมส์จะทำอะไรกันตามใจชอบ ปล่อยไปอาจจะควบคุมไม่ได้
ขึ้นมา”
เผยเชียนคิดทบทวนที่เลขาซินพูดแล้วรู้สึกว่าฟังดูสมเหตุสมผลดี
เลขาซินบอกว่าเผยเชียนควรไปแสดงตัวให้พวกเขาไว้วางใจและชี้นำทาง
พนักงานทั้งหมดของฉางหยางเกมส์
ขณะเดียวกัน เขาก็นึกกังวลว่าพนักงานเหล่านี้จะสร้างปัญหาให้เขาหรือเปล่า
ปล่อยให้ทำงานกันตามอำเภอใจ พวกนั้นอาจจะทำให้บริษัทฟื้นกลับมาทำกำไรก็
ได้
ถึงจะซื้อต่อกิจการมาหลังจากไตร่ตรองอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว เขาก็คิดว่า
ฉางหยางเกมส์ในตอนนี้มีข้อแตกต่างจากฉางหยางเกมส์ในอดีต
อย่างหนึ่งคือหัวหน้าหลิวลาออกไปแล้ว หัวหน้าฝ่ายวางแผนในตอนนี้คือหวัง
เสี่ยวปิน
อีกอย่างคือตู้รุ่ยเจี๋ยไม่อยู่แล้ว
ทั้งสองคนถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการทำให้ฉางหยางเกมส์ขาดทุน
เผยเชียนกังวลใจเล็กน้อยที่ทั้งสองคนไม่อยู่แล้ว
เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดความผิดพลาดขึ้น เผยเชียนจึงตัดสินใจจะไปโชว์ตัวที่
บริษัท
เพราะนี่ก็น่าจะเป็นครั้งเดียวที่เขาจะไปที่นั่น เขาจะไม่โผล่หัวไปอีกเพื่อจะได้
มัน่ ใจว่าตนเองจะไม่ไปสร้างผลกระทบอะไรให้กับฉางหยางเกมส์
ดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นที่เถิงต๋า เผยเชียนก็ไ ม่มั่นใจในความสามารถด้านการ
ออกแบบเกมของตัวเองอีก เขาไม่อยากเสี่ยง
คงจะตลกร้ายน่าดูถ้าเผยเชียนเผลอพูดอะไรขึ้นมาแล้วทำให้เกิดความฉิบหาย
วายวอดเหมือนตอนเกมฐานทัพกลางทะเล
“โอเคครับ งั้นมารับผมตอนเช้าวันจันทร์ เดี๋ยวเราแวะไปฉางหยางเกมส์
ก่อน”
เผยเชียนถอนหายใจเงียบๆ อยู่ภายใน
เป็นบอสคนนี่เหนื่อยจริงๆ

เช้าวันจันทร์
ที่ฉางหยางเกมส์
ยังเหลืออีกสิบนาทีก่อนจะถึงเวลาเริ่มงานของฉางหยางเกมส์ แต่พนักงานก็
มารอกันพร้อมหน้าแล้ว
พวกเขาเฝ้าคอยกันอย่างใจจดใจจ่อ แต่ละคนนั่งหลังตรงจัดการเอกสารไม่ก็
ง่วนอยู่กับเครื่องมือพัฒนาเกม ส่วนตาแอบชำเลืองมองตรงประตูเป็นพักๆ
ฉางหยางเกมส์ได้บอสคนใหม่แล้ว!
ไม่มีใครรู้ว่าบอสเผยผู้แสนลึกลับเป็นคนแบบไหน พวกเขาจึงตื่นตัวกันมากใน
การทำงานวันแรก กลัวว่าจะเผลอทำอะไรผิดพลาด
ทุกคนรู้ดีว่าสภาพการดำเนินงานของฉางหยางเกมส์ก่อนหน้านี้เลวร้ายแค่
ไหน
ถ้าบอสเผยอยากใช้สิทธิ์ไล่คนที่มาทำงานสายออกคงจะซวยน่าดู
ดังนั้นทุกคนจึงตื่นตัวกันสุดๆ ไม่กล้าทำอะไรผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว
หวังเสี่ยวปินรู้สึกกดดันกว่าคนอื่น
เขาควรจะพาบริษั ทเดินไปข้างหน้าในฐานะที่เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน แต่
กลับไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเองเลย
หัวหน้าหลิวหางานใหม่ได้แล้ว เมื่อดูจากประสบการณ์ทำงานของแต่ละคนก็
เป็นเรื่องธรรมดาที่หวังเสี่ยวปินซึ่งเป็นนักออกแบบระบบจะได้ขึ้นมาทำตำแหน่งนี้
ถ้าเป็นคนอื่นคงจะโดนวิจารณ์เอาและตู้รุ่ยเจี๋ยก็ไม่ค่อยวางใจ
หวังเสี่ยวปินไม่ได้คิดเรื่องนี้มากนัก เพราะยังไงก็หนีจากตำแหน่งนี้ไม่ได้ใน
เมื่อบอสตู้เป็นคนเลือกเขาเอง อีกอย่างตอนนั้นฉางหยางเกมส์ก็กำลังจะเจ๊ง เขา
ไม่คิดว่าตัวเองจะได้เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนนานนัก
หวังเสี่ยวปินรู้ตัวดีว่าถึงตัวเองจะเก่งเรื่องทำตารางและคำนวณข้อมูลต่างๆ
แต่เขาไม่สามารถรับผิดชอบงานค้นคว้าและพัฒนาเกมทั้งโปรเจ็กต์ได้ รวมถึงไม่
สามารถวางแนวทางการพัฒนาเกมได้ด้วย
ดังนั้นหวังเสี่ยวปินจึงตัดสินใจจะบอกความจริงกับบอสเผยวันนี้ หวังว่าบอส
เผยจะให้นักออกแบบที่มีประสบการณ์จากเถิงต๋ามาเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนแทน
เขาจะได้ทำงานให้หัวหน้าฝ่ายวางแผนคนใหม่ได้อย่างสบายใจ
ตรงโต๊ะทางซ้ายมือด้านหลังหวัง เสี่ยวปิน ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังแอบตอบ
ข้อความในโทรศัพท์
ข้อความใหม่ของหม่าอี้ฉวินปรากฎขึ้นบนหน้าจอ “เป็นไงบ้างน้องเยว่ ฝ่าย
บุคคลของเถิงต๋าติดต่อไปรึยัง”
เยว่จือโจวตอบกลับ “ยังครับ”
หม่าอี้ฉวิน “ไหงงั้น ฉันจำได้ว่าตอนไปคุยกับบอสเผย บอสเผยบอกว่าจะช่วย
ให้นายไม่ต้องนั่งเตะฝุ่น หรือบอสจะยุ่งจนลืม”
เยว่จือโจว “บอสเผยซื้อฉางหยางเกมส์มาแล้ว พี่ไม่รู้เหรอ”
หม่าอี้ฉวิน “???”
หม่าอี้ฉวินไม่ได้ตอบกลับไปพักใหญ่ เห็นได้ชัดว่าเขาตกใจกับเรื่องที่ได้ยินมาก
บอสเผยตั้งใจจะทำอะไรกัน
เขาแค่อยากให้บอสเผยช่วยเพื่อนของเขา ที่บอสบอกว่ า ‘เพื่อนคุณไม่ได้นั่ง
เตะฝุ่นแน่’ หมายความว่าอย่างนี้เองเหรอ
บอสซื้อฉางหยางเกมส์มาเลยเนี่ยนะ!
หม่าอี้ฉวินและคนอื่นๆ ไม่รู้เรื่องนี้ เพราะเผยเชียนคิดว่ามันไม่เกี่ยวกับพวก
เขาจึงไม่ได้บอกอะไรไป
ข่าวนี้ทำเอาเขาตกใจสุดๆ
“หรือบอสเผยจะเห็นว่าหวงซื่อปั๋วกับฉันมีค วามสามารถ เลยคิดว่าพนักงาน
ของฉางหยางเกมส์จะเก่งเหมือนกันก็เลยเข้าซื้อกิจการมาเลย
“…คิดบ้าอะไรเนี่ย ไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก”
หม่าอี้ฉวินเพิ่งจะออกจากฉางหยางเกมส์มาได้ไม่นาน เขารู้ดีว่าบริษัทนั้นห่วย
แค่ไหน
ถ้าจะให้บรรยาย ก็บอกได้คำเดียวว่าห่วยบรม!
ทำไมบอสเผยถึงเข้าซื้อบริษัทที่กำลังจะเจ๊งกันนะ
เยว่จือโจวมองนาฬิกาแล้วพบว่าใกล้ถึงเวลาเริ่มงานแล้วจึงรีบพิมพ์บอกอีก
ฝ่าย “พี่หม่า ไว้ค่อยคุยกันนะครับ เดี๋ยวบอสเผยน่าจะมาแล้ว”
พอเก็บโทรศัพท์ไป เยว่จือโจวก็ทำเป็นจดจ่อกับงานบนคอมพิวเตอร์ตรงหน้า
ไม่นานเขาก็รู้สึกได้ว่าจู่ๆ บรรยากาศในโซนทำงานก็ตึงเครียดขึ้น
เขาเหลือบมองแล้วเห็นว่าบอสเผยมาถึงแล้ว!
แม้จะเคยเห็นบอสมาก่อน แต่เขาก็รู้สึกกดดันจากออร่าความมั่นใจของอีก
ฝ่าย
ถึงบอสเผยจะยังเด็ก แต่ก็มีออร่าพิเศษไม่เหมือนใครในทุกการเคลื่อนไหวที่
อธิบายไม่ได้
จะอธิบายออร่านี้ยังไงดี…
ออร่าความรวยล้นมือเหรอ
ความมั่นใจ
ความมีเมตตา
หรือความเป็นปัจเจกบุคคล
จะคำไหนก็ดูเหมาะหมดเลย
ว่าง่ายๆ คือออร่านี้ทำให้บอสเผยไม่เหมือนพวกไร้อารยธรรม เป็นขั้วตรงข้าม
ของบอสตู้
พอนึกถึงเกมฮิตที่บอสเผยสร้าง ก็รู้สึกเหมือนบอสกำลังเปล่งแสง ไม่สามารถ
มองตรงๆ ได้
“ผู้นำจริงๆ ต้องเป็นแบบนี้สินะ บอสตู้ก็เป็นแค่พวกเศรษฐีใหม่
“นักออกแบบมากความสามารถจริงๆ ต้องเป็นแบบนี้!”
เยว่จือโจวแอบคิดอยู่ในใจ
บทที่ 146 บอสเผยมอบกระบี่อาญาสิทธิ์

“ทุกคนอยู่กันครบใช่ไหมครับ มาประชุมกัน”
เผยเชียนเดินตรงไปที่ห้องประชุม
ทุกคนรีบลุกตามหวังเสี่ยวปินไปที่ห้องประชุม
พวกเขาทยอยนั่งลง แต่ละคนสีหน้าจริงจังมาก
เยว่จือโจวอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื้นตันใจ
ดูบรรยากาศนี่สิ!
ตอนประชุมกับหัวหน้าหลิว ทุกคนดูเหมือนจะตั้งใจฟัง แต่จริงๆ แล้วไม่มีใคร
สนใจเนื้อหาการประชุมเลย
เหล่าพนักงานแค่อยากจะเอาชีวิตรอดให้ผ่านไปวันๆ ทำงานตามที่ได้รับ
มอบหมายมาแค่นั้น ไม่สนอะไรอีก
เพราะทุกคนรู้ดีว่าในเมื่อสภาพมันเป็นแบบนี้ ตั้งใจทำงานหนักไปก็ไม่ได้อะไร
ขึ้นมา
แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว
น่าทึ่งจริงๆ ที่แค่บอสเผยเข้ามาเป็นบอสคนใหม่ ทุกคนก็ให้การยอมรับและ
ให้ความเคารพโดยที่ไม่ต้องพูดอะไร
เผยเชียนปรับท่านั่งอยู่นานเพราะรู้สึกว่าจะนั่งท่าไหนก็ไ ม่สบายก้นเอา
เสียเลย
บอกได้คำเดียวว่าฉางหยางเกมส์ขึ้งกมาก ทุกๆ อย่างตั้งแต่เก้าอี้ประจำโต๊ะ
ทำงานไปจนถึงเก้าอี้ในห้องประชุมล้วนเป็นของราคาถูกสุดๆ ไม่ว่าใครมานั่งก็ไม่มี
ทางรู้สึกสบายก้น
“ฉันตัดราคาตู้รุ่ยเจี๋ยไปได้สี่แสนหยวน เอาเงินส่วนนี้ไปขึ้นเงินเดือนพนักงาน
กับเปลี่ยนโต๊ะเก้าอี้ในออฟฟิศนี้ดีกว่า
“พอมีทุนเพิ่มค่อยมาปรับปรุงทุกอย่างที่นี่ ถือเป็นวิธีที่ดีในการผลาญเงินก่อน
วันปิดบัญชี”
เก้าอี้ที่นั่งไม่สบายก้นทำให้เผยเชียนรู้สึกอยากรีบสั่งงานให้เสร็จๆ แล้วกลับ
ออกไป
เผยเชียนก้มมองนาฬิกาโรเล็กซ์ ทำทีเหมือนว่ามีเวลาไม่มาก
จริงๆ แล้ววันนี้เขาไม่ได้มีธุระอะไรเลย ชายหนุ่มแค่อยากกลับไปนอนคืนให้
เต็มอิ่ม
“ผมมีเวลาไม่มาก เดี๋ยวจะสั่งอะไรไว้สักนิดหน่อย”
พอได้ยินคำว่า ‘สั่งอะไรไว้นิดหน่อย’ พวกเขาก็ดีดตัวนั่งหลังตรงแล้วคอยฟัง
สิ่งที่บอสเผยจะพูดต่ออย่างตั้งใจ
เพราะคำว่า ‘สั่งอะไรไว้นิดหน่อย’ ของหัวหน้านั้นมักจะกินเวลาหลายชั่วโมง
เผยเชียนหันมองรอบห้อง “คนไหนคือเยว่จือโจว”
เยว่จือโจวสะดุ้งโหยง
หมายความว่ายังไงกัน!
ทำไมเปิดมาบอสเผยก็เรียกฉันเลยล่ะ!
เยว่จือโจวรีบลุกยืน “ผมเองครับบอสเผย!”
เผยเชียนไม่ค่อยคุ้นชินกับพฤติกรรมนี้เท่าไหร่ เขารีบโบกมือให้เยว่จือโจวนั่ง
ลง “นั่งพูดก็ได้”
เขาหันไปหาหวังเสี่ยวปินที่เป็ นหัวหน้าฝ่ายวางแผนและนักออกแบบระบบ
“หวังเสี่ยวปิน งานออกแบบระบบเป็นงานสำคัญ จะให้คุณเป็นทั้งนักออกแบบ
ระบบกับหัวหน้าฝ่ายวางแผนก็จะลำบากเกินไป
“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เยว่จือโจวจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนของฉางหยาง
เกมส์ หวังเสี่ยวปิน คุณช่วยสนับสนุนเขาด้วยนะ”
เผยเชียนสังเกตสีหน้าของหวังเสี่ยวปินกับเยว่จือโจวระหว่างที่พูด
เยว่จือโจวดูจะงงเป็นไก่ตาแตก
ส่วนหวังเสี่ยวปินตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้ว…เหมือนจะแอบยิ้มเหรอ
ถึงรอยยิ้มจะเจือไปด้วยความกังวลใจเล็กน้อย แต่ก็เป็นรอยยิ้มที่ออกมาจาก
ใจจริง
หืม
สงสัยว่าแผนนี้จะมีจุดผิดพลาดแฮะ
เผยเชียนคิดว่าการปลดหวังเสี่ยวปินออกจะตำแหน่งจะทำให้อีกฝ่ายตกใจ
งงงวย และหมดกำลังใจ…
แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้นเลย ทำไมหวังเสี่ยวปินถึงดีใจล่ะ
ทำไมทำเหมือนว่าไม่มีการแข่งขันในบริษัทเลย
แย่จริงๆ
เผยเชียนหันมองท่าทีคนอื่นๆ พวกพนักงานรุ่นใหญ่พากันทำหน้าตาบูดเบี้ยว
ถือเป็นเรื่องปกติ เยว่จือโจวเพิ่งเข้ามาทำงานในบริษัทได้ไม่กี่เดือน ต้องให้คน
แบบหวงซื่อปั๋วขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนถึงจะถูก แต่เจ้านี่ไม่มีทั้งทักษะและ
ประสบการณ์ ใครจะไปยอมรับได้
พอโดนให้ออกจากตำแหน่ง หวังเสี่ยวปินก็รู้สึกดีใจเพราะคิดมาตลอดว่า
ตัวเองน่าจะรับผิดชอบไม่ไหว กลัวว่าจะทำออกมาได้ไม่ดี
แต่เอาเข้าจริงเขาก็ไม่คิดว่าเยว่จือโจวจะได้ขึ้นมาทำตำแหน่งนี้แทน นั่นคือ
เหตุผลว่าทำไมรอยยิ้มของเขาถึงแฝงด้วยความกังวลใจ
หวังเสี่ยวปินไม่ได้เป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง เลยไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่
แต่พนักงานเก่าแก่ไม่ได้คิดอย่างนั้น
ไอ้เด็กนี่มันขึ้นมาเป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบได้ยังไง ทำไมบอสไม่เลือกฉัน!
สีหน้าของแต่ละคนดูน่าสนใจไม่เบา
เผยเชียนพยักหน้าเงียบๆ ต้องมีท่าทีแบบนี้สิถึงจะถูก
ตีกัน!
ตีกัน!
ตีกัน!
เผยเชียนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
แต่พอคิดดูอีกที แค่นี้น่าจะไม่พอ
คนพวกนี้เป็นเพื่อนร่วมงานกัน เห็นหน้ากันทุกวัน แค่ความอิจฉาอย่างเดียว
ไม่น่าจะทำให้มีปัญหากันได้
แบบนี้ต้องจุดไฟเพิ่ม
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดเสริม “เยว่จือโจว ทุกๆ เดือนคุณมีสิทธิ์ไล่
คนออกหนึ่งคนโดยไม่ต้องมีเหตุผล แค่ส่งข้อความมาบอกผมก็พอว่าอยากจะไล่
ใครออก”
เยว่จือโจวงงหนักเข้าไปใหญ่
นี่มันกระบี่อาญาสิทธิ์ชัดๆ!
ไม่ใช้แค่ให้สิทธิ์มาฟ้อง แต่ไล่คนออกได้โดยไม่ต้องมีเหตุผล ขอแค่ส่งชื่อไปให้
บอสเผย คนที่ถูกส่งชื่อไปก็จะโดนให้ออกจากบริษัททันที
เผยเชียนหันมองพนักงานรุ่นใหญ่ที่ทำหน้าตาเหยเกยิ่งกว่าเก่า แต่ละคนสี
หน้าดูแย่มากๆ
ดี ต้องแบบนี้สิที่อยากเห็น
หัวหน้าฝ่ายวางแผนที่พวกเขาไม่ให้การยอมรับได้สิทธิ์ไล่พวกเขาออกโดยไม่
ต้องมีเหตุผล เขาต้องใช้อำนาจนี้ในการแก้แค้นพวกพนักงานรุ่นพี่ที่เคยกดขี่ข่ม
เหงเขาแน่ๆ เดี๋ยวต้องสั่งให้พวกนั้นมาผูกเชือกรองเท้าให้ ต้องใช้อำนาจเข้าขู่
แน่นอน
พอเวลาผ่านไป พนักงานก็จะแบ่งออกเป็นสองฝ่าย กลายเป็นเหลือเยว่จือโจว
ที่เป็นหัวหน้าคอยจัดการความยุ่งเหยิงอยู่คนเดียว…
อืม แผนนี้ดูดีทีเดียว!
เผยเชียนหันมองนาฬิกา ตอนนี้ไม่เหลือเวลาแล้ว
ถึงจะสนุกที่ได้ดูท่าทีทุกคน แต่ก็ถึงเวลาที่เขาต้องไปแล้ว ชายหนุ่มต้องรีบ
กลับบ้านให้ไว จะได้ไปนอนให้เต็มอิ่ม
“หลังจากนี้ ฉางหยางเกมส์จะใช้กลยุทธ์สองขั้นตอน
“ขั้นตอนแรกคือปรับแก้ตัวเกมที่มีในตอนนี้ เราจะเอาของที่ต้องเสียเงินซื้อ
ออกให้หมด เหลือไว้แค่อย่างเดี ยว ส่วนจะตัดอันไหนออก จะเก็บอันไหนไว้
เยว่จือโจวจะเป็นคนตัดสินใจ
“ขั้นตอนที่สอง ให้ทุกคนไปคิดแผนสำหรับเกมใหม่มา เขียนแบบร่างแล้วส่ง
ให้ผม ผมจะเลือกแบบร่างที่ดีที่สุดมาเป็นโปรเจ็กต์ใหม่ของฉางหยางเกมส์
“อืม… ขอให้โฟกัสที่ขั้นตอนแรกจนถึงสิ้นเดือนมิถุนา เดือนกรกฎาให้ทุกคน
ส่งแบบร่าง แล้วเราจะได้เริ่มโปรเจ็กต์ใหม่กัน”
เผยเชียนมองไปรอบห้อง “มีใครมีคำถามอะไรไหมครับ”
เยว่จือโจวรีบยกมือ
เผยเชียนทำเหมือนว่าไม่เห็นอะไรก่อนจะพยักหน้า “โอเค เลิกประชุมได้”
เผยเชียนลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปอย่างสง่าผ่าเผย
ทิ้งให้เยว่จือโจวยกมือค้างอยู่ในห้อง
ทุกคนงงกันถ้วนหน้า
ที่บอสเผยบอกว่า ‘สั่งอะไรไว้นิดหน่อย’ นี่คือนิดหน่อยจริงๆ ตามที่พูด
รวมๆ กันแล้วบอสพูดไม่ถึงสิบประโยคเลยด้วยซ้ำ…
เยว่จือโจวอยากบอกปฏิเสธตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวางแผน แต่บอสเผยเหมือน
จะรู้ทัน เลยออกจากห้องไปก่อน ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดอะไร
เขาหันมองพนักงานรุ่นพี่ รู้สึกได้เลยว่าตอนนี้พวกเขาพร้อมจะบีบคอตัวเอง
เสียเต็มแก่
บรรยากาศในฉางหยางเกมส์ ท ี ่ น ิ ่ ง ไหวเหมื อ นสายน้ ำ กลายเป็ น เปลวไฟ
ร้อนแรงที่ค่อยๆ ปะทุเดือดขึ้นเรื่อยๆ

เผยเชียนกลับออกจากฉางหยางเกมส์อย่างอารมณ์ดี
อืม ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไร!
ถึงหัวหน้าหลิวจะไปดีแล้ว แต่ให้คนที่เพิ่งเข้าวงการมาได้ไม่นานขึ้นเป็น
หัวหน้าฝ่ายวางแผนก็น่าจะได้ผลลัพธ์ไม่ต่างกัน
อีกอย่างกลยุทธ์สองขั้นตอนที่ตั้งขึ้นก็น่าจะช่วยให้บริษัทนี้ขาดทุนต่อไปได้อีก
พักหนึ่ง
ก่อนอื่นเพื่อกันไม่ให้เกมนักพรตสะกดใจกับเกมเพลงรบโลหิตฟื้นตัวกลับมา
ได้ เขาต้องตัดช่องทางทำเงินในเกมให้เหลือแค่อย่างเดียว ทำแบบนี้น่าจะการันตี
ได้ว่าทั้งสองเกมจะไม่มีทางทำเงินได้
จากนั้นก็ให้พวกเขาระดมสมองคิดเกมใหม่ขึ้นมาหนึ่งเกม แต่ละคนต้องส่ง
แบบร่างมาหนึ่งแผน
เผยเชียนกำลังคิดอยู่ว่าจะเลือกอันที่แย่ที่สุดหรือจะจับฉลากเอาดี
หลังจากคิดดูอย่างถี่ถ้วน เผยเชียนก็ตัดสินใจว่าจะจับฉลาก ปล่อยให้เป็น
เรื่องของโชคชะตา
เขาไม่เชื่อการตัดสินใจของตัวเองอีกแล้ว
พอตั้งเป้าหมายว่าจะสร้างเกมขยะขึ้นทีไร สุดท้ายก็ออกมาเป็นเกมฮิตติดลม
บนทุกทีจนเริม่ จะทนไม่ไหว
เขาได้บทเรียนจากเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายกับเกมนักออกแบบ
เกมมาพอแล้ว
ดังนั้นเผยเชียนจึงตัดสินใจว่าครั้งนี้จะจับฉลากเอา ผลออกมาเป็นอันไหนก็
เอาตามนั้น
แน่นอนว่าถ้าเลือกได้แผนที่ดูดีขึ้นมาก็จะจับฉลากใหม่
นอกเหนือจากนั้นแล้ว เผยเชียนก็จะไม่ก ลับไปที่ฉางหยางเกมส์อีก เพราะ
นอกจากจะลดอิทธิพลของตัวเขาที่มีต่อบริษัทลงได้ ยังทำให้บริษัทกลายเป็นบ้าน
ป่าเมืองเถื่อนได้อีก เขาอยากให้ที่นี่กลับไปใช้กฎความอยู่รอดในป่า
ทั้งบริษัทจะเกิดความแตกแยก เยว่จือโจวไม่สามารถสั่งการใครได้ ถือว่า
สมบูรณ์แบบ
บทที่ 147 ต้องเชื่อวิสัยทัศน์ของบอสเผย!

ฉางหยางเกมส์ โซนทำงาน
บรรยากาศค่อนข้างมาคุ
ทุกคนคิดว่าบอสคนใหม่จะทำให้พวกเขาเริ่มต้นใหม่อย่างสวยงาม พวกเขา
คาดหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับบอสเผย ได้คิดหาไอเดียใหม่ๆ และร่วมมือกันสร้าง
เกมแบบที่ไม่เคยมีใครเห็นออกมาถล่มตลาด…
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรแบบนั้นเลย
บอสเผยมาพบพวกเขา แต่พูดคุยด้วยไม่ถึงสิบประโยคก็กลับออกไป
หวังเสี่ยวปินที่มีประสบการณ์มากที่สุดโดนถอดออกจากตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย
วางแผน ส่วนคนที่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนแทน แถม
บอสยังให้สิทธิ์ไล่คนออกหนึ่งคนทุกเดือนโดยไม่ต้องมีเหตุผลด้วย
แผนดำเนินการในอนาคตยิ่งบ้าเข้าไปใหญ่
ขั้นตอนแรกถือถอดช่องทางการเก็บเงินผู้เล่นออกจากทั้งสองเกม เหลือไว้แค่
อย่างเดียว
ส่วนขั้นที่สองคือให้แต่ละคนคิดแผนสำหรับทำเกมใหม่มาคนละแผน
นอกจากนั้นแล้ว บอสเผยก็ไม่ได้ออกความเห็นหรือให้คำแนะนำอะไรเลย
หรือว่าบอสเผยจะลงมาทำงานเอง ดูทรงแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้
ดูจากที่บอสเผยมอบ ‘กระบี่อาญาสิทธิ์ ’ ให้เยว่จือโจวแล้ว คาดว่าบอสไม่
น่าจะกลับมาที่นี่อีกพักใหญ่ เยว่จือโจวน่าจะกลายเป็นตัวแทนของบอส
ตอนแรกทุกคนคิดว่าฉางหยางเกมส์จะฟื้นจากความตายขึ้นมามีชีวิตใหม่อีก
ครั้ง แต่บอสเผยกลับถีบพวกเขากลับเข้าโลงทันที แถมตอกตะปูปิดฝาโลงไม่ให้ได้
ผุดได้เกิดอีก
ไม่แปลกที่บรรยากาศตอนนี้จะมาคุสุดๆ!
แน่นอนทุกคนรู้ดีว่าเมื่อมีเถิงต๋าคอยหนุนหลังอยู่ ฉางหยางเกมส์ก็ไปน่าจะปิด
ตัวในเร็ววัน พวกเขายังอยู่ในสภาวะปลอดภัยดี
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่แบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน
หวังเสี่ยวปินหันมองเยว่จือโจวอย่างเป็นกังวล อีกฝ่ายกำลั งนั่งก้มหน้ากด
โทรศัพท์ ไม่รู้ว่าคุยกับใครอยู่
เจ้านั่นไม่น่าจะใช้สิทธิ์ไล่คนออกโดยไม่ต้องมีเหตุผลใช่ไหม
หวังเสี่ยวปินนึกกังวล
ตอนนี้เยว่จือโจวเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนแล้ว เขาต้องมอบหมายงานให้ทุก
คน นี่คือหน้าที่ของหัวหน้าฝ่ายวางแผน
ถ้าเยว่จือโจวไม่พูดอะไร ทุกคนก็จะนั่งหายใจทิ้งอยู่หน้าโต๊ะเฉยๆ
หวังเสี่ยวปินไม่มั่นใจเลยว่าเยว่จือโจวจะทำหน้าที่นี้ไหวไหม แต่อะไรจะเกิดก็
ต้องเกิด เขาทำได้แค่รอดูว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป
เยว่จือโจวส่งข้อความหาหม่าอี้ฉวิน
“พี่หม่า ผมมีอะไรจะบอก แต่ไม่รู้จะพูดยังไงดี…”
หม่าอี้ฉวินตอบกลับทันที “ว่ามา เราเป็นพี่น้องกัน มีปัญหาอะไร เราจะผ่าน
มันไปด้วยกัน”
หม่าอี้ฉวินไม่ได้รับมอบหมายงานอะไรเลยที่เถิงต๋า แม้แต่การวางเนื้อเรื่องเกม
ใหม่ เขาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำ ทุกวันเป็นไปอย่างน่าเบื่อเสียจนชวนปวดหัว
เพราะเหตุนี้เขาจึงตอบกลับข้อความเร็วมาก
เยว่จือโจวลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มพิมพ์ “บอสเผยเพิ่งเรียกประชุมไปแล้ว
ให้ผมขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนของฉางหยางเกมส์ครับ…”
หม่าอี้ฉวิน “?????????????????”
ข้อความที่ส่งกลับไปเป็นเครื่องหมายคำถามยาวเหยียด
เยว่จือโจวสัมผัสได้ถึงความงุนงงของหม่าอี้ฉวินผ่านหน้าจอ
หมายความว่ายังไงเนี่ย
หม่าอี้ฉวินไม่เข้าใจโลกนี้อีกต่อไป
ก่อนหน้านี้เขากับหวงซื่อปั๋วทำงานที่ฉางหยางเกมส์มาก่อน เป็นเพื่อนร่วม
ทุกข์ที่ทนลำบากมาด้วยก่อน
เผลอแวบเดียว หวงซื่อปั๋วก็หนีมาทำงานที่เถิงต๋าแล้วไต่เต้าขึ้นไปในสายงาน
อย่างรวดเร็ว จากพนักงานฝ่ายวางแผนกลายเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน
ต่อมาหม่าอี้ฉวินได้ทำงานที่ฉางหยางเกมส์ร่วมกับเยว่จือโจว ทั้งสองเป็น
เพื่อนร่วมทุกข์กันมาเหมือนกัน
เผลอแวบเดียวบอสเผยก็เข้าซื้อฉางหยางเกมส์ เยว่จือโจวไต่เต้าขึ้นมาเป็น
หัวหน้าฝ่ายวางแผนไปอีกคน!
มีแค่หม่าอี้ฉวินที่ยังต้องเรียนรู้แนวทางการออกแบบจากบอสเผยอยู่ทุกวัน
จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าภูมิใจให้อวดอ้างได้เลย
หม่าอี้ฉวินนึกสงสัยในตัวเองขึ้นมาสุดๆ
ทำไมล่ะ สองครั้งติดแล้วนะที่พนักงานฝ่ายวางแผนได้ ขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่าย
วางแผน
หรือว่าเพราะ… ฉันเป็นตัวนำโชคให้คนอื่น
เพื่อนร่วมทุกข์ที่ลำบากด้วยกันมาได้เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนหมดเลย
แล้วทำไมตัวนำโชคให้คนอื่นอย่างฉันไม่โชคดีเหมือนใครเขาบ้าง
พอเห็นหม่าอี้ฉวินไม่ตอบกลับมาพักใหญ่ เยว่จือโจวก็พิมพ์กลับไป “พี่หม่า
ตอนนี้ผมกดดันมาก ผมไม่เคยเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนมาก่อน พี่บอกบอสเผยให้
หาคนมาทำแทนผมที”
หม่าอี้ฉวินอิจฉาหนักมาก
ไอ้เวร จริงๆ แล้วกำลังมีความสุขใช่ไหมล่ะ จะมากไปแล้วนะ!
บอสเผยให้แกขึ้นมาเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน แต่แกไม่อยากเป็นเนี่ยนะ นี่
ตั้งใจจะกวนประสาทฉันเหรอ
“บาย” หม่าอี้ฉวินรีบปิดหน้าแชต
เยว่จือโจวรีบตอบ “กลับมาก่อน พี่หม่า! ผมคิดว่าผมความสามารถไม่ถึงจริงๆ
ผมเพิ่งจะเข้าวงการได้กี่เดือนกันเชียว ไม่รู้เรื่องอะไรเลยแบบนี้จะเป็นหัวหน้าฝ่าย
วางแผนได้ยังไง
“บอสเผยให้ผมแบกรับความผิดชอบใหญ่หลวง ถ้าผมพลาดขึ้นมาจะทำ
ยังไง”
หม่าอี้ฉวินอ่านข้อความที่เยว่จือโจวส่งมาแล้วคิดว่าเจ้านี่แค่ไม่อยากทำให้
บอสเผยต้องผิดหวัง
อืม ถือว่าพอสอนได้
หม่าอี้ฉวินคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตนเองก็เคยตกอยู่ในสถานการณ์
แบบนี้มาก่อน คนที่ผ่านการบ่มเพาะจากบอสเผยมาหลายเดือนย่อมสามารถบอก
ต่อความรู้และประสบการณ์ให้เจ้าหนูผู้ไร้ประสบการณ์คนนี้ได้แน่
“ไม่ต้องห่วงหรอก ทำๆ ไปเถอะ
“นายรู้จักหวงซื่อปั๋วมั้ย เขาเป็นคนที่ลาออกไปก่อนนายจะเข้ามา เป็นเพื่อน
สนิทฉันเอง
“ตอนนั้นเขาก็เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายวางแผนเหมือนนาย
“ทำงานเหมือนนายเป๊ะ
“หลังจากนั้นเขาก็ไปเข้า เถิงต๋า แล้วบอสเผยก็แต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าฝ่าย
วางแผนเหมือนกันกับนาย
“แล้วเป็นยังไงรู้มั้ย เกมฐานทัพกลางทะเลน่ะ หวงซื่อปั๋วเพื่อนฉันเป็นคน
สร้างเอง
“เพราะงั้นไม่ต้องกังวล ถ้าไม่เชื่อในตัวเองก็ให้เชื่อในวิสัยทัศน์ของบอสเผย!
“จนถึงตอนนี้บอสเผยเลื่อนขั้นให้ใครหลายคน ตอนแรกทุกคนไม่เข้าใจเลยว่า
ทำไมบอสเผยถึงทำแบบนี้ แต่ไม่นานก็รู้ว่าบอสเผยเป็นคนฉลาดไม่เหมือนใคร
และมีสายตาที่เฉียบแหลม บอสมองเห็นความสามารถในตัวผู้คนที่คนอื่นมองไม่
เห็น!
“นายไม่ต้องกังวลเลย ถ้าบอสเผยบอกว่านายทำได้ก็แสดงว่านายทำได้!”
พอได้อ่านที่หม่าอี้ฉวินตอบกลับมา เยว่จือโจวก็ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่
เป็นแบบนี้นี่เอง ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกอย่างนั้นเหรอ
แถมครั้งก่อนๆ ยังผ่านไปได้ด้วยดีอีก
แสดงว่าบอสเผยเห็นความสามารถบางอย่างในตัวฉันเหรอ
ทำไมฉันไม่เห็นจะรู้เลยว่ามี…
แต่ก็น่าจะเป็นเหมือนที่หม่าอี้ฉวินบอก บอสเผยไม่น่าจะเลื่อนขั้นให้ฉันโดยไม่
มีเหตุผล แถมยังให้อำนาจพิเศษมาอีก
ยิ่งคิดเยว่จือโจวก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้น
ถ้าบอสเผยให้อำนาจกับฉันขนาดนี้ แสดงว่าบอสต้องกำลังบอกเป็นนัยว่าให้
ฉันมั่นใจในตัวเอง และทำตามที่ใจต้องการ ถ้ามัว แต่นิ่งเฉยเพราะเกรงกลัวจะถือ
ว่าตัวเองเป็นพนักงานของเถิงต๋าได้ยังไง แบบนั้นบอสเผยก็ผิดหวังแย่
ตอนนี้ฉันเป็นพนักงานอันทรงเกียรติของเถิงต๋า!
คิดอย่างนั้น เยว่จือโจวก็สุขใจขึ้นมา
“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ พี่หม่า!”
เยว่จือโจวเปิดไฟล์เอกสารขึ้นมาก่อนจะรัวมือลงบนแป้นพิมพ์
หลายเดือนที่ผ่านมาตั้งแต่เข้ามาทำงานที่ฉางหยางเกมส์ เยว่จือโจวใช้เวลา
ว่างส่วนใหญ่ไปกับการด่าเกมสองเกมของบริษัท
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้าการทำเกมสองเกมนี้ออกมาถือเป็นการยื่นขี้ให้ผู้เล่น
เยว่จือโจวก็เหมือนต้องถือขี้ไว้กับตัวตลอดเวลา จะไม่ให้รู้สึกรังเกียจได้ยังไง!
ในสายตาของเยว่จือโจว หรือในสายตาของคนส่วนใหญ่ในฉางหยางเกมส์ ทั้ง
สองเกมมีข้อเสียมากมาย เล่นไปได้แค่ห้านาทีก็เจอปัญหาเพียบ
แต่ไม่มีใครคิดจะแก้ไข
นั่นก็เพราะทุกคนแค่มาทำงานไปวันๆ ถ้าหัวหน้าหลิวไม่ ได้สั่งให้ทำก็ไม่มีใคร
แส่ไปของานเพิ่มให้ตัวเอง
ส่วนเหตุผลที่หัวหน้าหลิวไม่ยอมแก้ปัญหานี้ก็ง่ายๆ นั่นก็เพราะบริษัทประสบ
ปัญหาเรื่องการจัดการรายได้
ตอนนั้นรายได้จากทั้งสองเกมมีพอแค่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายของบริษัท จะไป
เอาทุนจากไหนมาซื้อทรัพยากรงานภาพและแก้ไขตัวเกม
ไอเดียดีๆ มีอยู่มากมาย แต่การจะเอาไปปรับใส่ตัวเกมต้องใช้ทั้งเงินและเวลา!
ตอนนี้ไม่มีหัวหน้าหลิวคอยจับตาดูทุกย่างก้าวแล้ว เยว่จือโจวจึงสามารถทำ
สิ่งที่ตัวเองคิดว่าสมควรทำได้
บทที่ 148 ปัญหาที่ไม่เคยมีใครแก้!

เกมทั้งสองเกมทำขึ้นมานานแล้ว มีปัญหาสะสมมากมาย ไม่ รู้จะต้องเริ่มแก้ที่


ตรงไหนดี
โชคดีที่บอสเผยแนะนำจุดที่ดีมากในการเริ่มต้น นั่นก็คือช่องทางการจับจ่าย
ในเกม!
ตัดช่องทางเก็บเงินผู้เล่นออกหมด เหลือไว้แค่อย่างเดียว
ถือว่าเป็นงานที่ยากมาก เพราะทั้งสองเกมมีช่องทางเก็บเงินผู้เล่นเป็นสิบๆ
มีทั้งกิจกรรมสะสมยอดเติม เงิน มีไอเทมให้ซื้อ รวมถึงช่องทางอื่นๆ ให้ผู้เล่น
ใช้เงิน…
พูดได้ว่าตรงไหนสามารถเก็บเงินได้ พวกเขาทำหมด
การจะเอาช่ อ งทางเก็ บ เงิ น พวกนี ้ อ อกไม่ ไ ด้ ง ่ า ยเหมื อ นปิ ด ประตู
ห้างสรรพสินค้า
เพราะช่องทางเก็บเงินพวกนี้มีความเชื่อมโยงกับเกมทั้งเกม
เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคนที่เติ มเงินห้าร้อยหยวนจะชนะคนที่เติมเงินหนึ่งร้อย
หยวนได้ ส่วนคนที่เติมเงินหนึ่งร้อยหยวนก็สามารถจัดการคนที่เติมเงินแค่สามสิบ
หยวนได้ พวกเขาต้องวางแผนออกแบบระบบเกมมาให้เหมาะสมเพื่อให้การันตีได้
ว่าผู้เล่นจะเก่งขึ้นตามยอดการเติมเงิน
ความเก่งกาจที่เพิ่มขึ้นของผู้เล่นนั้นเชื่อมโยงกับระบบต่อสู้ภายในเกม ซึ่งจะ
ส่งผลกับสภาพแวดล้อมในเกมด้วย ก็เหมือนมีสัตว์กินเนื้อกับสัตว์กินพืชปะปนกัน
อยู่ในป่า
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าปัญหาอยู่ที่การออกแบบระบบ
เป็ น เหตุ ผ ลว่ า ทำไมนั ก ออกแบบระบบจึ ง ถื อ ว่ า เป็ น ตำแหน่ ง ที่ ส ู ง มาก
ภายในประเทศ เป็นรองแค่หัวหน้าฝ่ายออกแบบ การออกแบบระบบมักจะเป็น
ตัวกำหนดรูปแบบการเล่นของเกมที่มีการวางเพดานค่าใช้จ่าย
การเปลี่ยนช่องทางการเก็บเงินผู้เล่นก็เท่ากับเป็นการเปลี่ยนการออกแบบ
ระบบ หมายความว่าต้องหาทางแบ่งแยกผู้เล่นที่เติมเงินแต่ละระดับใหม่
การแบ่งแยกผู้เล่นที่ว่านี้ หากทำผิดพลาดจะทำให้ระบบที่วางไว้ล่มไม่เป็นท่า
ไม่มีใครจะแก้ได้อีก
ก็เหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นกับเกมเพลงรบโลหิต หลังจากโดนผู้เล่นด่าเปิง รายได้ก็
ตกลงฮวบฮาบ หัวหน้าหลิวตั้งราคาดาบไว้แพงเกินไป ปัญหาการวางระบบง่ายๆ
สร้างผลกระทบด้านลบให้เกมอย่างใหญ่หลวง
เยว่จือโจวคิดอยู่นานแล้วรู้สึกว่าเรื่องนี้เกินความสามารถของเขา
ถึงจะพอมีไอเดียอยู่บ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำให้เป็นจริงได้ยังไง
ด้วยเหตุนี้เยว่จือโจวจึงปรินต์เอกสารออกมาแล้วเดินไปปรึกษาหวังเสี่ยวปิน
หวังเสี่ยวปินเป็นนักวางระบบที่มีประสบการณ์ เขาขมวดคิ้วทันทีที่ได้ฟัง
ไอเดียของเยว่จือโจว
ให้แก้ตามนี้ไม่ได้ใช้เวลาน้อยๆ
ถ้าเป็นแต่ก่อน จะเป็นหัวหน้าหลิวหรือหวังเสี่ยวปิน ซึ่งเป็นนักวางแผนที่มี
ประสบการณ์ย่อมรู้อยู่แล้วว่าคงแก้ตามนี้ไม่ได้แน่ และปัดแผนของเยว่จือโจวตก
ไปทันที
แต่ตอนนี้เยว่จือโจวเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน ไม่มีใครปฏิเสธแผนของเขาได้…
แถมบอสเผยยังเป็นคนแนะนำให้ทำแบบนี้อีก!
ดังนั้นไม่ว่ายังไง พวกเขาก็ต้องคิดหาทางทำให้สำเร็จให้ได้!
หวังเสี่ยวปินบ่นอุบ “ผมคิดว่าให้แก้แบบตามนี้ดูจะบ้าเกินไปหน่อย แต่บอส
เผยเป็นคนบอกให้ทำ บอสคงจะมีเหตุผลบางอย่าง เดี๋ยวผมจะลองทำทุกวิถีทาง
ให้ออกมาสำเร็จแล้วกัน”
การตัดช่องทางการเก็บเงินผู้เล่นออกนั้นเท่ากับแก้เนื้อหาส่วนใหญ่ของเกม
เลยทีเดียว
กรณีนี้แตกต่างจากเกม FPS แบบเกมฐานทัพกลางทะเล
ถึงเกมฐานทัพกลางทะเลจะขายปืนกิเลนเพลิง แต่ตัวเกมก็เป็นเกมที่ต้อง
แข่งขันกับผู้เล่นคนอื่นๆ ถึงจะรวยแค่ไหนก็ไม่มีทางรับมือศัตรูสองคนที่มีฝีมือ
ทัดเทียมกันพร้อมกันได้
แต่ เ กมเพลงรบโลหิ ต เป็ น เกมเก่ า ที ่ ม ี ก ารวางเพดานค่ า ใช้ จ ่ า ย พวกวาฬ
สามารถสู้กับคนยี่สิบคนพร้อมกันได้สบายๆ ตัวเกมไม่มีความสมดุลเลย
เกมเพลงรบโลหิตมีแนวทางการสร้างมาจากรูปแบบการเล่นที่ไม่สมดุลนี้
จะตัดช่องทางการเก็บเงินทั้งหมดออกก็ต้องหาวิธีมาแบ่งแยกผู้เล่นออกจาก
กัน ถ้าตัวแปรไม่ใช่เงินก็ต้องเป็นเวลาไม่ก็ดวง
ถ้าเปลี่ยนไปใช้ตัวแปรเป็นเวลา พวกที่โหมเล่นเกมทั้งวันทั้งคืนคงจะยิ้มร่าแน่
แน่นอนว่าจะเปลี่ยนไปเป็นเกมที่ต้องซื้อการ์ดเติมเวลาเล่นก็ได้ แต่ก็จะไม่เข้า
กับแนวทางการออกแบบดั้งเดิมของเกมเพลงรบโลหิต การเปลี่ยนเกมไปเป็นให้
ซื้อเวลาเล่นเกมนั้นไม่ต่างอะไรกับการสร้างเกมขึ้นมาใหม่จากศูนย์ นอกจากจะทำ
ไม่ได้จริงแล้วยังไม่ตรงกับที่บอสเผยต้องการอีก
งัน้ เปลี่ยนไปใช้ตัวแปรเป็นดวงแทนเหรอ อย่างนั้นก็เข้าทางพวกดวงมหาเฮงสิ
ถ้าปรับแบบนั้นสไตล์ของเกมก็น่าจะเหมือนเดิม ยังมีความไม่สมดุลอยู่ ส่วน
ประสบการณ์การเล่นของผู้เล่นก็ไม่ได้ช่วยอะไร
เยว่จือโจวกับหวังเสี่ยวปินเค้นสมองคิดเรื่องนี้กันอย่างหนักหน่วง
เป็นปัญหาที่ไม่มีใครในอุตสาหกรรมเกมเคยแก้ได้
แน่นอนว่าก็ไม่มีใครคิดจะแก้ปัญหานี้เหมือนกัน เพราะการตัดช่องทางการ
เก็บเงินออกก็เท่ากับว่าผู้เล่นจะไม่ต้องเสียเงินให้เกมอีก ถ้ามีหัวหน้าฝ่ายวางแผน
คนไหนทำแบบนี้ บอสของเขาได้ตบหน้าหงายเอาแน่
เกมที่มีการวางเพดานค่าใช้จ่ายนั้นยังรุ่งอยู่และทำเงินได้มาก ใครจะไปว่างมา
คิดหาทางเปลี่ยนแปลงกัน
แต่ยิ่งเยว่จือโจวกับหวังเสี่ยวปินคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ทั้งคู่ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มี
ความหมายมากขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าพวกเขาหาทางจัดการปัญหานี้ได้ ถึงจะไม่สมบูรณ์ดีนั ก แต่ก็จะถือว่าเป็น
วิธีเดียวในประเทศนี้!
คำสั่งสั้นๆ ของบอสเผยแฝงไปด้วยแนวคิดอันลึกซึ้งจริงๆ!
เยว่จือโจวเสนอความคิดเห็นไปบ้าง แต่ก็โดนหวังเสี่ยวปินปัดตกหมดโดยว่า
กันตามการวางระบบ
แต่เยว่จือโจวก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร
สุดท้ายเขาก็ยกมือตบหัวตัวเอง
“พี่หวัง ผมคิดออกอีกวิธีแล้ว
“ถ้าเราให้ทุกคนได้ลอง ‘เล่น’ เป็นพวกวาฬดูล่ะ พี่คิดว่ายังไง”
หวังเสี่ยวปินนิ่งไปครู่หนึ่ง “เล่นเป็นพวกวาฬเหรอ หมายความว่ายังไง”
เยว่จือโจวหยิบกระดาษมาเขียนอย่างตื่นเต้น “จริงๆ แล้วปัญหาที่เรากำลัง
เจออยู่คือประสบการณ์การเล่นของผู้เล่น
“ประสบการณ์การเล่นที่ว่าแบ่งได้เป็นสามแบบ
“หนึ่งคือพวกวาฬ พวกนี้จะเติมเงินเยอะที่สุด มีพลังรบเยอะที่สุด ผู้เล่นกลุ่ม
นี้จะสนุกกับการได้ตะลุมบอนสู้หนึ่งต่อสิบ
“สองคื อ พวกนั ก จั ด การ พวกนี ้ ม ี เ วลาล้ น มื อ ขยั น เล่ น ตลอดเวลา มั ก
รับผิดชอบจัดการเรื่องกิลด์และคอยเรียกผู้เล่นใหม่ ผู้เล่นกลุ่มนี้จะสนุกกับการได้
สั่งการคนอื่น
“สามคือพวกผู้เล่นทั่วไป พวกนี้ไม่ได้ชอบสู้หนึ่งต่อสิบ ไม่ชอบดูแลจัดการใคร
แต่ผู้เล่นกลุ่มนี้สามารถเปลี่ยนเป็นผู้เล่นสองกลุ่มแรกได้ หรือไม่ก็เป็นลิ่วล้อชนะ
สงครามไปกับพวกวาฬ พวกเขาจะได้ลิ้มรสชัยชนะและได้รับรางวัลไปด้วย
“ประสบการณ์การเล่นทั้งสามแบบมี ‘เงิน’ และ ‘เวลา’ เป็นตัวแปรในการ
แบ่งแยก
“เราจะไม่เปลี่ยนเรื่อง ‘เวลา’ ดังนั้นผู้เล่นสายนักจัดการกับผู้เล่นทั่วไปจึงไม่
ต้องเปลี่ยนอะไร ที่ต้องเปลี่ยนคือผู้เล่นสายวาฬ ถ้าเราเอาช่องทางการเก็บงินออก
พวกเขาก็จะไม่มีที่ให้ใช้เงิน
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมเราไม่สุ่มเลือกผู้เล่นจำนวนหนึ่งระหว่างช่วงสงคราม
ให้มีพลังรบสูงๆ เพื่อให้ลิ้มรสประสบการณ์การเล่นเกมของพวกวาฬ ทำแบบนี้ก็
น่าจะแก้ปัญหาได้นะครับ”
หวังเสี่ยวปินยังงงอยู่หน่อยๆ
เยว่จือโจวอธิบายต่อ “ถ้าเราตัดช่องทางการเก็บเงินออก พลังรบของผู้เล่นก็
จะไม่ต่างกันมาก คนที่มีเวลาและดวงดีหน่อยก็จะเก่งกว่าผู้เล่นทั่วไป แต่ก็ไม่ได้
เก่งกว่ากันมากมายขนาดนั้น
“แต่ในช่วงสงคราม เราจะสุ่มเลือกให้ผู้เล่นบางส่วนกลายเป็นผู้เล่นสายวาฬ
ผู้เล่นพวกนี้จะมีพลังรบเทียบเท่ากับที่ผู้เล่นสายวาฬมี
“เพื่อที่จะการันตีได้ว่าผู้เล่นทุกคนมีสิทธิ์ได้สุ่มมาเป็นผู้เล่นสายวาฬ เราจะใส่
ระบบ ‘ผู้ถูกเลือก’ เข้าไปให้ผู้เล่นแต่ละคน โอกาสในการสุ่มโดนของทุกคนจะ
เริ่มต้นจากศูนย์แล้วเก็บสะสมขึ้นไปเรื่อยๆ จากการสุ่มของระบบ
“คนที่ไม่ได้รับเลือกรอบนี้ รอบต่อไปจะมีโอกาสได้รับเลือกสูง ขึ้น คนที่ได้รับ
เลือกไปแล้ว แต้มก็จะกลับไปเป็นศูนย์
“ส่วนวิธีเพิ่มแต้มจะขึ้นอยู่กับเวลาออนไลน์และการมีส่วนร่วมในเกม เราใช้
วิธีนี้มากระตุ้นให้ผู้เล่นเข้ามาออนไลน์ในเกมบ่อยขึ้นและมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ต่างๆ มากขึ้นได้
“ถ้าทำแบบนี้ แนวทางดั้งเดิมของเกมก็จะยังเหมื อนเดิม เพิ่มเติมคือผู้เล่น
หลายคนได้มีโอกาสสับเปลี่ยนกันสัมผัสประสบการณ์การเล่นของผู้เล่นสายวาฬ
ซึ่งก็จะตอบโจทย์ที่บอสเผยให้มาและตัดช่องทางการเก็บเงินออกไปได้เกือบหมด
“ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว!”
หวังเสี่ยวปินครุ่นคิด
แนวคิดของเยว่จือโจวสามารถทำให้เป็นจริงได้ในทางทฤษฎี
แต่ก็มีความเสี่ยงสูงและเป็นแนวคิดที่แหวกมากๆ ไม่ต่างจากการจุดไฟใส่
อุตสาหกรรมเกมในปัจจุบัน!
แต่ถ้าจะให้ตอบโจทย์บอสเผยเรื่องการตัดช่องทางการเก็บเงินออกโดยไม่
เปลี่ยนแนวทางและรูปแบบการเล่นดั้งเดิมของเกม… วิธีนี้ก็น่าจะเป็นทางออก
หวังเสี่ยวปินพนักหน้า “โอเค มาลองดูกัน ผมจะคิดโมเดลระบบให้ ส่วนคุณก็
ไปคิดเรื่องเงื่อนไขและกฎต่างๆ ให้ชัดเจนกว่านี้ อ้อ ทำไมไม่เรียกประชุมก่อนแล้ว
อธิบายแนวคิดนี้ให้ทุกคนฟังล่ะ”
เยว่จือโจวพยักหน้า เขาตั้งสติก่อนจะลุกยืนขึ้น
“ทุกคน ไปรวมกันที่ห้องประชุม เราจะคุยกันเรื่องการปรับปรุงตัวเกมของ
เรา”
ไม่รู้เพราะอะไร แต่ตอนนี้เยว่จือโจวรู้สึกมั่นใจสุดๆ
เหมือนกับว่าพริบตาเดียวเขาก็คุ้นชินกับการเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนแล้ว!
บทที่ 149 ปล่อยพวกเขาไป

อพาร์ตเม้นต์เช่า
เผยเชียนเพิ่งจะตื่นจากการงีบตอนกลางวัน เขาพลิกตัวไปหยิบโทรศัพท์มา
เช็กแล้วเห็นข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน
“บอสเผยครับ ขอโทษที่จู่ๆ ทักมารบกวนนะครับ พอดีพวกเรามีปัญ หา
อยากจะมาปรึกษา จากที่ เราถกกันมา ถ้าตัดช่องทางการเก็บเงินทุกอย่างออก
จากเกมจะทำให้พวกผู้เล่นสายวาฬไม่พอใจ ขอถามบอสได้ไหมครับว่าเราจะ
แก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไงดี”
เผยเชียนขยี้ตาพร้อมพึมพำเบาๆ “จากใครกันเนี่ย”
พออ่านดูดีๆ ก็รู้ว่าเยว่จือโจวที่เพิ่งได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนของ
ฉางหยางเกมส์เป็นคนส่งมา
เผยเชียนเพิ่งจะมอบ ‘กระบี่อาญาสิทธิ์ ’ ให้เยว่จือโจวไป ทำให้เอีกฝ่าย
สามารถรายงานเขาได้โดยตรงว่าอยากจะไล่ใครออก เผยเชียนต้องหาทางสนิทกับ
เยว่จือโจวไว้เพื่อที่จะได้จัดการอะไรๆ ได้ง่ายๆ
แต่แทนที่จะทักมาบอกว่าอยากไล่ใครออก เยว่จือโจวกลับทักมาถามเรื่องเกม
ซะงั้น
เผยเชียนอ่านคำถามดูอีกรอบ
คำถามคือ ถ้าตัดช่องทางการเก็บเงินทุกอย่างออกจากเกมจะทำให้พวกผู้เล่น
สายวาฬไม่พอใจได้ จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไงดี
เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เกมเพลงรบโลหิตเป็นเกมที่มีการวางเพดานค่าใช้จ่ายไว้
พวกผู้เล่นสายวาฬอาจจะทุ่มเงินหลายพันหลายหมื่นหยวนเพื่อให้ตัวเองเก่งกว่าผู้
เล่นคนอื่น
ถ้าตัดช่องทางการเก็บเงินออก พวกผู้เล่นสายวาฬก็ไม่สามารถไล่ฆ่าคนได้
อย่างเพลิดเพลินใจอีก ถ้าเป็นแบบนั้น พวกเขาจะไม่โกรธจัดจนทำเรื่องขอคืนเงิน
แล้วเลิกเล่นเกมไปเลยหรือ
แน่นอนว่าเผยเชียนไม่มีทางยอมให้พวกเขาทำเรื่องขอคืนเงินแน่
หนี้ทุกหนี้มีผู้ที่ต้องรับผิดชอบ เงินส่วนนี้ตู้รุ่ยเจี๋ยเป็นคนได้ไป พวกนายก็ต้อง
ไปเรียกเก็บกับเจ้านั่นสิ
ส่วนเรื่องเลิกเล่นเกม…
ไม่มีปัญหา เลิกไปได้เลย!
บอสเผยไม่ได้สนใจพวกคนที่อยากเปย์เงินให้เขาและบริษัท
เขายึดถือแนวทางเดิม อยากเปย์เถิงต๋าเหรอ ฝันไปเถอะ!
พวกผู้เล่นสายวาฬต้องทำตัวให้มันดีๆ ถ้าไม่เปลี่ยนกลับไปเป็นผู้เล่นสายฟรีก็
จงเลิกเล่นเกมไปซะ
ใช่ ต้องอย่างนั้นสิ!
เผยเชียนหยิบโทรศัพท์มาพิมพ์อย่างมึนๆ “ปล่อยพวกเขาไป”
เขาโยนโทรศัพท์ไว้ข้างหมอนแล้วกลับไปงีบต่อ

ที่ห้องประชุมของฉางหยางเกมส์ ทุกคนกำลังรอคำตอบจากบอสเผย
เยว่จือโจวนั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์อยู่ตรงหัวโต๊ะ รอคอยคำตอบจากบอสเผย
อย่างกังวลใจ
บอสเผยไม่ได้ตอบกลับทันที น่าจะงานยุ่งอยู่
ฉางหยางเกมส์เป็นแค่หนึ่งในธุรกิจของบอสเผย บอสน่าจะไม่ได้ใส่ใจกับ
บริษัทนี้มากนัก อาจจะอยู่ลำดับล่างๆ สุดเลยด้วยซ้ำ
ส่วนคนอื่นๆ ก็มีความเห็นแตกต่างกันไป
บางคนพอได้ยินแผนปรับปรุงเกมของเยว่จือโจวก็คิดว่าน่าสนใจดี ควรจะลอง
สักตั้ง
อีกส่วนหนึ่งยังคงไม่พอใจเยว่จือโจว แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไป
เพราะหวังเสี่ยวปินที่มีประสบการณ์มากในทีมออกแบบได้ตกลงทำตามแผน
ของเยว่จือโจวไปแล้ว ถึงคนอื่นจะอยากขัดก็ทำอะไรไม่ได้มาก แถมเยว่จือโจ
วยังสามารถติดต่อบอสเผยได้โดยตรง ถือเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวง
บางคนถึงขั้นสงสัยว่าที่เยว่จือโจวส่งข้อ ความไปถามบอสเผยตอนประชุม ก็
น่าจะเพราะอยากประกาศอำนาจของตัวเอง!
เขากำลังบอกทุกคนเป็นนัยว่าเขาสามารถติดต่อหาบอสเผยได้โดยตรงและให้
ทุกคนทำตัวดีๆ
ดังนั้นบรรยากาศในห้องประชุมจึงค่อนข้างตึงเครียด เยว่จือโจวที่เป็นบอสห
น้าใหม่จัดการทุกอย่างได้อยู่หมัด
ติ๊ง
เสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้น เยว่จือโจวรีบเปิดอ่านข้อความจากบอสเผย
ข้อความตอบกลับมาสั้นๆ แค่ ‘ปล่อยพวกเขาไป’
แค่นี้เองเหรอ
เยว่จือโจวผงะไปเล็กน้อย
หวังเสี่ยวปินที่นั่งอยู่ข้างเยว่จือโจวเอนตัวไปถามด้วยความสงสัย “บอสเผย
ตอบมารึยัง”
เยว่จือโจวหันหน้าจอโทรศัพท์ไปให้หวังเสี่ยวปินดู “บอสตอบมาแค่นี้ครับ
“พี่หวัง ลองอ่านดู…”
เยว่จือโจวรู้สึกสับสนเล็กน้อย
ตามหลักการแล้ว เขาควรเชื่อฟังตามที่บอสเผยบอก
แต่ถ้าเมินพวกผู้เล่นสายวาฬก็เท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายไม่ใช่เหรอ
เกมสงครามแบบเกมเพลงรบโลหิต ยอดเติมเงินของผู้เล่นสายวาฬอยู่ที่
ประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของยอดเติมเงินจากผู้เล่นทั้งหมด ถ้าเมินคนพวกนี้ไป
ก็เท่ากับโยนรายได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ทิ้ง
นี่ไม่ใช่การตัดเนื้อร้ายเพื่อให้มีชีวิตต่อได้ นี่มันคือการฆ่าตัวตายชัดๆ!
เพราะเรื่องนี้พวกเขาถึงคุยกันมาเนิ่นนานแต่ก็ไม่ได้ทางออกที่ดีที่สุดสักที
การตัดช่องทางการเก็บเงินออกไปจะทำให้พวกผู้เล่นสายวาฬหมดความสนใจ
ถ้าผู้เล่นสายวาฬไม่สนุกกับเกม รายได้ของเกมก็จะตกฮวบฮาบ
พูดอีกอย่างคือ ไม่ว่าจะมองมุมไหน วิธีของบอสเผยมีแต่จะทำให้เกมสูญเสีย
รายได้ เกมทั้งสองเกมที่กำลังดิ่งลงเหวยิ่งเจ๊งหนักเข้าไปใหญ่
ในเมื่อคิดหาหนทางไม่ออก เยว่จือโจวจึงตัดสินใจส่งข้อความไปปรึกษาบอส
เผย
สุดท้ายบอสเผยก็ตอบกลับมาแค่สั้นๆ
ทางออกก็คือ… ไม่ต้องไปสนใจ
ปล่อยพวกสายวาฬไปตามยถากรรม
ช่าง…
ใจกล้าจริงๆ!
หวังเสี่ยวปินขมวดคิ้วเป็นปม ดวงตาค่อยๆ เบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ
“บอสเผยเป็นคนใจกล้ามาก น่ายกย่องสุดๆ!
“คำพูดนี้แฝงแง่คิดเอาไว้!”
หวังเสี่ยวปินรู้สึกท่วมท้น
ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่เยว่จือโจวก็รู้สึกว่าน่าจะเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ทีเดียว
คนมีประสบการณ์นี่มีมุมมองต่างออกไปจริงๆ
เรื่องลึกซึ้งแบบนี้มีแค่คนมากประสบการณ์อย่า งหวังเสี่ยวปินเท่านั้นที่จะ
เข้าใจได้!
หวังเสี่ยวปินกระแอมกระไอก่อนจะหันไปพูดกับทุกคน “เราไม่ต้องคุยเรื่องนี้
กันแล้ว บอสเผยให้ทางแก้มาว่า ‘ให้ปล่อยพวกเขาไป’!
“หมายความว่าเราไม่ต้องกังวลว่าการปรับปรุงครั้งนี้จะส่งผลต่อผู้เล่นสาย
วาฬยังไง
“พอปล่อยเวอร์ชันใหม่ออกไป ค่าสถานะของผู้เล่นสายวาฬจะยังเหมือนเดิม
แต่จะไม่มีช่องทางการเก็บเงินอีกต่อไป เท่ากับว่าพวกเขาไม่สามารถเพิ่มพลัง
ตัวเองได้ด้วยการใช้เงิน
“ส่วนผู้เล่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเล่นจะได้เริ่มต้นที่จุดเดียวกัน และเล่นไปตาม
กฎเกณฑ์ของเวอร์ชันใหม่”
ทุกคนหันมองกันอย่างงุนงง
แค่นี้เหรอ
ไม่เห็นจะแก้ปัญหาตรงไหน
ถ้าผู้เล่นสายวาฬเลิกเล่นไป ก็จะไม่มียอดเติมเงิน จากนั้นจะเป็นยังไงต่อ
หวังเสี่ยวปินยิ้ม “บอสเผยช่วยเราแก้ปัญหานี้แล้ว
“การตัดช่องทางเก็บเงินออกจะทำให้ผู้เล่นสายวาฬหมดความสนใจ นั่นก็เป็น
เรื่องหนึ่ง เราพยายามหาทางออกกันดูแล้ว แต่ก็ไม่มีทางไหนที่จะแก้ปัญหานี้ได้
เลย!
“มันก็เหมือนเป็นการเปลี่ยนทุกอย่างใหม่หมด ถ้าเราตั้งใจจะแก้ตรงนี้ แล้ว
ทำไมยังต้องสนใจด้วยว่าผู้เล่นสายวาฬจะคิดยังไง มันไม่จำเป็นเลย
“จุดประสงค์ของบอสเผยชัดเจนมาก นั่นก็คือปล่อยให้เป็นเรื่องของพวกเขา!
“เราหาทางแก้กันมานาน แต่คำพูดของบอสเผยก็ช่วยคลายปมปัญหาได้อย่าง
รวดเร็ว นี่แหละคือความต่างชั้นของเรากับบอส!”
ทุกคนถึงบางอ้อ
เหมือนปมเชือกยุ่งเหยิงถูกเฉือนออกเป็นชิ้นๆ ปัญหาที่แก้ไม่ตกกลับแก้ได้
ง่ายๆ ด้วยคำพูดของบอสเผย!
แต่พูดน่ะมันง่าย ให้ทำสิยาก
ใครจะกล้าตัดรายได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ของตัวเองทิ้งกัน
คนอื่นไม่กล้า แต่บอสเผยกล้า!
พอคิดได้อย่างนี้ ทุกคนก็รู้สึกเคารพบอสเผยยิ่งขึ้นไปอีก
บอสสามารถตัดใจได้โดยไม่ลังเลเมื่อจำเป็น
คนที่เก่งจริงๆ ต้องทำได้แบบนี้แหละ!
เยว่จือโจวรู้สึกฮึกเหิม เขาตบลงบนโต๊ะ “โอเคครับ แก้ปัญหาสุดท้ายได้แล้ว…
เริ่มทำงานกันได้!
“เราจะใช้แนวคิดของบอสเผยชุบชีวิตเกมทั้งสองเกมของเรา!”
บทที่ 150 นักร้องประจำ

ช่วงค่ำ
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลัก
หม่าหยางกับจางหยวนนั่งจิบค็อกเทลอยู่ตรงหน้าต่างพลางมองลูกค้าจำนวน
หยิบมือเดินเข้าร้าน ภาพที่เห็นทำให้รู้สึกหดหู่ใจยังไงไม่รู้
ไม่ค่อยมีลูกค้าเข้าร้านเลย!
ตอนนี้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูอีกสองสาขาอยู่ในช่วงปรับปรุง น่าจะเปิดทำการ
ได้เร็วๆ นี้
ส่วนร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักก็ยังคงขาดทุนอย่างต่อเนื่อง
กิจการเริ่มอยู่ตัวแล้ว ลูกค้าประจำบางส่วนสนิทกับพนักงานที่ร้าน แต่ไม่ว่า
จะคำนวณยังไง ลูกค้าจำนวนหยิบมือนี้ก็ไม่สามารถช่วยให้ร้านไปรอดได้
หม่าหยางกับจางหยวน คนหนึ่งเป็นผู้จัดการกลางของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
ส่วนอีกคนเป็นผู้จัดการเขตดูแลร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูทุกสาขาในเมืองจิงโจว
จางหยวนยกค็อกเทลดื่มรวดเดียวหมดแก้ว “เดี๋ยวจะขึ้นไปร้องสักเพลงสอง
เพลงนะ”
หม่าหยางยื่นมือออกไปห้าม “ไม่ต้องก็ได้พี่ ร้องไปยังไงก็ไม่มีใครฟัง…”
นับรวมทั้งสองแล้ว มีคนทั้งหมดแปดคนที่กำลังนั่งดื่มอยู่
จางหยวนลุกขึ้นยืน “ไม่เป็นไร อยากร้องเพลงคลายเครียดสักหน่อย”
เขาขึ้นไปบนเวทีแล้วดีดกีตาร์เหมือนอย่างเคย ในหัวเริ่มคิดว่าวันนี้จะร้อง
เพลงอะไรดี
กลุ่มคนที่นั่งดื่มอยู่ด้านหน้าล้วนเป็นลูกค้าที่คุ้นหน้ากันดี พวกเขาไม่ได้แปลก
ใจอะไรที่เห็นจางหยวนขึ้นไปบนเวที
ร้านอินเทอร์เน็ตไหนไม่มีนักร้องประจำบ้าง ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกอะไร
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเพิ่งจะเปิดให้บริการได้ไม่นาน ทุกๆ คืนจางหยวนจะ
ขึ้นไปร้องเพลงอย่างเต็มที่ไม่มีขาด แต่ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร ถึงจะช่วยเพิ่ม
บรรยากาศให้ร้านได้ แต่ก็เพิ่มได้ไม่มาก
พอเวลาผ่านไป เขาก็เริ่มร้องเพลงน้อยลงเรื่อยๆ คืนนี้ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้
เขาอยากขึ้นเวที
จางหยวนไม่พูดพล่ามทำเพลง เขาปรับเครื่องสายก่อนจะเริ่มร้องเพลง
ชายหนุ่มไม่ได้ร้องเพราะปานนักร้อง แต่ก็ถือว่าเสียงใช้ได้ทีเดียว จะให้นักร้อง
ประจำบาร์ร้องเพลงไม่เพราะได้ยังไง
เสียงทุ้มแหบห้าวดังก้องไปทั่วร้าน
ที่ผ่านมาจางหยวนร้องแต่เพลงร็อกหนักหน่วง แต่เขาก็ตระหนักได้ว่าลูกค้าดู
จะไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมด้วยสักเท่าไหร่
ดังนั้นเขาเลยเปลี่ยนไปร้องเพลงช้าแทน
อย่างน้อยก็ไม่ทำให้บรรยากาศร้านดูอึดอัด
หม่าหยางจิบเครื่องดื่มเคล้าไปกับเพลงของจางหยวน ตาหันมองออกไปนอก
หน้าต่าง
ตอนนั้นเองเขาก็สังเกตเห็นเงาตะคุ่มๆ ยืนอยู่ด้านนอกผนังกระจก ดูเหมือน
เงานั่นจะกำลังลังเลใจอยู่ตรงประตู
ตอนนี้มืดมากแล้ว ไฟในร้านสว่างกว่าด้านนอก ทำให้คนด้านนอกมองเข้ามา
เห็นทุกอย่างในร้านได้อย่างชัดเจน แต่คนจากด้านในมองออกไปเห็นสภาพข้าง
นอกได้ไม่ค่อยชัดนัก
แต่หม่าหยางก็มั่นใจว่าเห็นคนยืนอยู่ด้านนอก และกำลังเดินไปเดินมาอยู่ตรง
ประตู
“ลูกค้าใหม่เหรอ
“ถ้ากำลังลังเลก็แปลว่ายังมีโอกาสอยู่!”
หม่าหยางตื่นเต้นขึ้นมาทันที
ถึงตอนนี้ชายหนุ่มจะเป็นผู้จั ดการกลางของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู แต่ใคร
บอกว่าเขาไม่มีสิทธิ์ไปพูดชวนลูกค้าให้ลองเข้ามาใช้บริการ
จะเป็นผู้จัดการหรือผู้จัดการกลางก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่
เขาเปิดประตูร้านพร้อมกล่าวต้อนรับอย่างอบอุ่น “คุณครับ ลองเข้ามาดูก่อน
ไหมครับ”
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงประตู ผงะไป ระหว่างที่กำลังเดินคิดวนไปวนมาอยู่หน้า
ประตู เขาไม่ได้สังเกตเลยว่าตอนนี้ประตูเปิดออกแล้ว แถมยังมีใบหน้าใหญ่ยาว
กำลังจ้องมองมาอยู่
เขาก้มหน้าลงอย่างเหนียบอาย “ผม… ผมไม่ได้มาเล่นอินเทอร์เน็ตครับ”
“ไม่เป็นไรครับ เข้ามาดื่มสักหน่อยก็ได้ ” หม่าหยางตอบกลับด้ว ยน้ำเสียง
อบอุ่น
หม่าหยางมองสำรวจชายหนุ่มตรงหน้า สภาพของเขาดูไม่ดีเท่าไหร่ ผมเผ้ายุ่ง
เหยิง เสื้อผ้าขาดยุ่ยดูกระเซอะกระเซิง
ชายหนุ่มเกาหัวที่มีสภาพยุ่งเหยิง “ผม… ผมอยากถามว่าที่นี่เปิดรับนักร้อง
ประจำไหมครับ”
หม่าหยาง “…”
เขาดูจะผิดหวัง
ที่ขาดไม่ใช่พนักงาน แต่เป็นลูกค้าต่างหาก!
ถ้าไม่มีลูกค้า จะร้องดีแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์
ชายหนุ่มรีบพูดเสริมเมื่อเห็นท่าทีที่แสดงออกมาบนใบหน้ายาวใหญ่ของ
หม่าหยาง “ผมว่าผมเก่งกว่าคนนั้น ก็เลยอยากลองมาสมัครดูน่ะครับ”
หม่าหยางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจได้ว่าก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร
ตอนนี้จางหยวนเป็นผู้จัดการเขตของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูในเมืองจิงโจว จะ
ให้ขึ้นไปร้องเพลงทุกวันก็ไม่น่าไหว
จ้างนักร้องประจำสักคนก็ดี
“ลองดูก็ได้ แล้วชื่ออะไร”
“เฉินเหล่ยครับ”
“โอเค เข้ามาก่อนสิ”
หม่าหยางพาเฉินเหล่ยเข้าไปนั่งในร้าน
ผ่านไปสักพักจางหยวนก็ร้องอีกเพลงจบแล้วลงจากเวที
หม่าหยางผายมือไปทางเวที “เอาเลย ไม่ต้องเครียดนะ”
หม่าหยางไม่ได้เก่งเรื่องดนตรี เขาแยกไม่ออกว่าอันไหนดีอันไหนแย่ คิดแค่ว่า
ถ้าร้องได้ไม่แย่มากก็จะจ้างมาร้องแทนจางหยวน
จางหยวนรินน้ำใส่แก้วก่อนจะหันไปเห็นว่ามีคนขึ้นไปแย่งที่บนเวทีแล้ว
ชายหนุ่มที่เขาไม่เคยเห็นหน้าค่าตากำลังปรับกีตาร์ เหมือนว่าเตรียมจะร้อง
เพลง
จางหยวนหันมองหม่าหยางด้วยความงุนงง “น้องหม่า นั่นใครน่ะ”
“เขาชื่อเฉินเหล่ยครับ มาสมัครเป็นนักร้องประจำ ถ้าร้องได้ดีก็ว่าจะจ้างมา
ขึ้นเวทีแทนพี่ พี่จะได้มีเวลาพักผ่อน”
หม่าหยางว่าต่ออย่างเป็นห่วง “งานพี่เยอะเกินไป ไหนๆ ก็จ้างคนมาชงเหล้า
แล้ว จ้างนักร้องประจำมาอีกสักคนก็น่าจะดี พี่จะได้มีเวลาให้กับเรื่องดูแลจัดการ
ร้าน”
จางหยวนอยากจะบอกออกไปว่าจริงๆ ก็ไม่มีอะไรให้ทำมากมายหรอก แต่พอ
ได้ยินหม่าหยางพูดอย่างนั้นก็อดซึ้งขึน้ มาไม่ได้
เอ๊ะ ไม่สิ เราไม่เคยจ้างนักร้องประจำเลยนี่นา
จางหยวนกำลังจะหันมาถาม แต่ตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงร้องแหบห้าว
เล็กน้อยดังก้องไปทั่วร้านอินเทอร์เน็ต
“สกุณากลางวสันต์ ลมโบกฤดูสารท อาทิตย์ลับแสงยามเมหันต์…”
จางหยวนอึ้งไป “นั่นเพลงเก่านี่”
เพลงนี้เป็นที่รู้จักกันดี แทบทุกคนในร้านเคยได้ยินมาก่อน
ตอนที่เฉินเหล่ยเริ่มร้อง เกือบทุกคนในร้านที่กำลังนั่งดื่มอยู่ก็หันไปทางเวที
ราวกับว่ามีธารใสสะอาดกำลังพวยพุ่งออกมาจากเวทีเข้าห้อมล้อมทุกคน
จางหยวนยังตะลึงอยู่ เขาอดไม่ได้ที่จะฮัมเพลงตาม
หม่าหยางดื่มต่อเงียบๆ แล้วหันไปกระซิบกับจางหยวน “ผมว่าเขาร้องไม่เก่ง
เท่าพี่”
จางหยวนเหลือบมองหม่าหยางอย่างไม่พอใจ “น้องหม่า… เขาร้องเก่งกว่าพี่
อีก”
“จริงเหรอ” หม่าหยางอึ้งไป “เสียงก็ไม่ได้สูงแล้วก็ไม่ได้ต่ำ เขาเก่งกว่า
ตรงไหนเหรอพี่”
จางหยวนรู้สึกเหมือนว่าพวกเขาคุยกันคนละภาษา แต่ก็นึกขึ้นได้ว่ายังไง
หม่าหยางก็เป็นหัวหน้า จึงได้แต่ยิ้ม
“นักร้องที่ดีจะทำให้คนฟังรู้สึกคล้อยตามได้ เพลงช้าร้องด้วยเสียงแบบนี้ฟัง
แล้วเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลย”
“ผมไม่เห็นรู้สึกแบบนั้นเลย”
“ถ้าไม่เชื่อก็หันไปดูลูกค้าสิ”
หม่าหยางหันไปมองลูกค้า
ก่อนหน้านี้ตอนที่จางหยวนขึ้นไปร้องเพลง ทุกคนสนใจแต่เครื่องดื่มตรงหน้า
และเอาแต่พูดคุยกัน ถึงหูจะฟังอยู่ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
แต่พอเฉินเหล่ยขึ้นไปร้อง ทุกคนดูจะมีอารมณ์ร่วมกันหมด
พวกเขาถือแก้วไว้ในมือแล้วร้องตาม ไม่มีใครคุ ยกัน บางคนเหม่อมองไปทาง
เวทีเหมือนว่าความทรงจำมากมายเกี่ยวกับเพลงนี้กำลังพรั่งพรูขึ้นมา
จางหยวนซาบซึ้งกับบทเพลงมาก “น้องหม่า ไปหาคนเสียงดีแบบนี้มาจาก
ไหน”
หม่าหยางเงียบไปครู่หนึ่ง “…เขามาของเขาเอง”
“บังเอิญจริงๆ”
“ก็ไม่เชิงนะพี่” หม่าหยางตอบ “เขาบอกว่าได้ยินเสียงพี่จากข้างนอก แล้วคิด
ว่าเสียงตัวเองดีกว่าเลยอยากลองมาสมัครดู จริงๆ แล้วต้องยกความดีความชอบ
ให้พี่เลย”
จางหยวน “…”
“น้องหม่า พี่เปลี่ยนใจแล้ว เราไม่จ้างเขาดีมั้ย”
“ไม่ด”ี
บทที่ 151 เปิดเซิฟเวอร์ทดสอบ

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม


ฉางหยางเกมส์
การปรับแก้ตัวเกมเวอร์ชันแรกเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่เยว่จือโจวยังไม่อยากส่ง
ข้อมูลและปล่อยตัวอัปเดตเกม
แค่คิดว่าเพียงคำสั่งเดียวของเขา ชะตากรรมของฉางหยางเกมส์จะเปลี่ยนไป
ในทิศทางใหม่ก็ทำให้มือของเขาสั่นเทิ้ม
หนึ่งสัปดาห์หลังการประชุม สิ่งที่ตอ้ งปรับแก้ก็ปรับเรียบร้อยหมดแล้ว
ตามคำสั่งของบอสเผย พวกเขาต้องตัดช่องทางการเก็บเงินผู้เล่นของเกม
นักพรตสะกดใจกับเกมเพลงรบโลหิตทั้งหมดออก เหลือไว้แค่อย่างเดียว
เกมนักพรตสะกดใจเป็นเกมแนวบริหารทรัพยากรที่ไม่มีการแข่งขันกันเอง
ระหว่างผู้เล่น จึงแก้ไขง่ายกว่า เยว่ จือโจวเลือกเก็บตั๋วเร่งความเร็วไว้เป็นช่อง
ทางการเก็บเงินผู้เล่น
เพราะเกมนี้น่าจะไปต่อได้ไม่นาน ไม่ถือว่าเป็นเกมหลักของบริษัทอีกต่อไป
เกมหลักของฉางหยางเกมส์คือเกมเพลงรบโลหิต
หลังจากไตร่ตรองอย่างละเอียด เยว่จือโจวและหวังเสี่ยวปินก็ตัดสินใจว่าจะ
เก็บยาเพิ่มพลังไว้เป็นช่องทางการเก็บเงินผู้เล่น
พวกเขาขึ้นราคายาเพิ่มพลัง แต่ละคนสามารถใช้ทองซื้อได้สูงสุดวันละหนึ่ง
ร้อยทอง หรือเท่ากับสิบหยวน
เพื่อที่จะทำตามเป้าหมายในการตัดช่องทางการเก็บเงินให้เหลือแค่อย่างเดียว
หวังเสี่ยวปินต้องแก้ตัวเกมทั้งระบบ ส่วนอื่นๆ ก็ต้องปรับ แก้ตามนี้ด้วยเช่นกัน
พวกเขาสร้างระบบใหม่ขึ้นมาทดแทน เช่น ‘ระบบผู้ถูกเลือก’ ที่เยว่จือโจวแนะนำ
หลังจากปรับแก้แล้ว ถึงภายนอกจะดูไม่ต่างจากเดิม แต่เนื้อหาข้างในนั้นต่าง
ไปอย่างสิ้นเชิง
หวังเสี่ยวปินนั่งลงข้างเยว่จือโจว “มีปัญหาตรงไหนรึเปล่า”
เยว่จือโจวส่ายหน้า “ไม่มีครับ ผมแค่..กังวลนิดหน่อย
“ครั ้ ง นี ้ เ ราปรั บ ปรุ ง ยกเครื ่ อ งใหม่ ห มด แถมยั ง ไม่ ม ี เ กมอื ่ น ที ่ ป ระสบ
ความสำเร็จอยู่แล้วไว้ดูเป็นแบบอย่าง เราทำตามไอเดียที่คิดขึ้นมาล้วนๆ…
“ผมไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง”
ก่อนหน้านี้ ถ้ามีใครนำเสนอไอเดีย อะไรในการประชุม หัวหน้าหลิวจะถาม
เสมอว่า ‘มีเกมไหนทำแบบนี้แล้วประสบความสำเร็จไหม’
ถ้าตอบว่าไม่ ส่วนใหญ่ไอเดียนั้นจะถูกปัดตก
เยว่จือโจวคุ้นชินกับแนวคิดแบบนี้ไปแล้ว ตอนนี้จึงรู้สึกสับสนมาก
“พี่หวัง พี่มีประสบการณ์เยอะ คิดว่ามันจะออกมาดีมั้ย”
หวังเสี่ยวปินถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เสี่ยวเยว่
ตอนนี้นายเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนนะ นายต้องตัดสินใจเรื่องต่างๆ เอง นายไปไล่
ถามคนอื่นไม่ได้แล้ว
“จะออกมาดี ห รื อ ไม่ ด ี ความสำเร็ จ ที ่ เ กิ ด ขึ ้ น ก็ เ ป็ น ของนาย แต่ ค วาม
รับผิดชอบก็เป็นของนายเหมือนกัน ในเมื่อเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนแล้วก็ต้อง
เตรียมใจไว้ให้พร้อม
“จำเกมนักออกแบบเกมได้มั้ย ความเห็นของคนอื่นก็เหมือนเสียงพากย์ในเกม
แหละ นอกจากกวนประสาทนายแล้วก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร”
เยว่จือโจวพยักหน้าพร้อมถอนหายใจเบาๆ “ก็จริงครับ”
เขาเล่นเกมนักออกแบบเกมบ่อยจนจำได้ขึ้นใจว่าถ้าตอบแบบนี้ไปจะได้ฉาก
จบแบบไหน
ในเกมเขาสามารถเลือกตัวเลือกที่ถูกต้องไปเรื่อยๆ ได้โดยไม่สนใจเสียงพากย์
แต่ถึงจะเข้าใจเรื่องนี้ดี แต่ในความเป็นจริง เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะเพิกเฉยต่อ
เสียงติชมได้ไหม
หวังเสี่ยวปินลุกยืนพร้อมพูดเสริม “เป็นเรื่องปกติที่นายจะรู้สึกสับสน จำไว้
แค่ว่านายแค่ทำงานส่วนของนายตามที่ได้รับมอบหมายจากบอสเผย”
เยว่จือโจวตาเป็นประกาย
ใช่ นี่เป็นสิ่งที่บอสเผยมอบหมายให้เขาทำ!
จะออกมาดีหรือไม่ แค่ทำตามที่บอสเผยบอกก็น่าจะพอแล้วใช่ไหม
คิดได้แบบนั้น เยว่จือโจวก็ไม่นึกลังเลใจอีก เขาตรวจดูเกมอย่างรวดเร็วอีก
ครั้ง จากนั้นก็ส่งข้อความเข้ากลุ่ม
“อัปเดตตัวเกมได้ครับ”

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
เกมเพลงรบโลหิตกลายเป็นห้องแชตคุยกันขนาดใหญ่
ผู้เล่นมากมายมารวมตัวอยู่ที่ลานกว้างของเมืองหลักในแต่ละเซิฟเวอร์เพื่อคุย
กันเรือ่ งอัปเดตตัวใหม่
ตั้งแต่เกมเพลงรบโลหิตเปิดให้บริการ มีการอัปเดตตัวเกมอยู่หลายหน แต่ละ
ครั้งจะมีประกาศแจ้งเกี่ยวกับการอัปเดต แต่ประกาศครั้งก่อนๆ ไม่เคยสร้างความ
สนใจให้ผู้เล่นได้เท่านี้มาก่อน
เหล่าผู้เล่นไม่ได้สนใจเก็บเลเวลหรือรบกัน ทุกคนมารวมตัวกันเพื่อถกเรื่องอัป
เดตครั้งใหม่
“มีใครอธิบายได้มั้ยว่าประกาศล่าสุดคืออะไร ตั้งแต่นี้ต่อไปในร้านค้าจะมีขาย
แค่ยาเพิ่มพลังเหรอ ของอื่นๆ… ไม่ขายแล้วเหรอ”
“เห็นบอกว่าของอื่นๆ จะแจกฟรี”
“แจกฟรีเหรอ… หรือว่าเกมจะปิดให้บริการแล้วเลยเอาใจผู้เล่นเป็นครั้ง
สุดท้าย”
“คนเลิกเล่นไปเยอะมากตั้งแต่วางขายดาบราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน
ฉันว่าเกมน่าจะปิดให้บริการเร็วๆ นี้แหละ อยู่เล่นไปจนถึงตอนนั้นแล้วกัน”
“ฉันว่ามันแปลกๆ ทำไมเลือกทำอะไรแบบนี้ต้องเหลือผู้เล่นอยู่โหรงเหรง จะ
แจกของเทพๆ ให้ฟรีเหรอ บ้าหรือเปล่า ตั้งใจจะไล่พวกสายวาฬรึไง”
“ถ้าอยากเปย์ก็ยังเปย์ได้นะ ก็ซื้อยาเพิ่งพลังวนไป ซื้อได้วันละสิบขวด ยิ่งซื้อ
ราคาก็ยิ่งแพงขึ้น ถ้าซื้อครบตามจำนวนที่กำหนดต่อวันก็เปย์ได้ร้อยทอง”
“เอ็งบ้าหรือเปล่า ร้อยทองมันแค่สิบหยวนเองนะ! อย่าว่าแต่สายวาฬเลย ผู้
เล่นจนๆ อย่างฉันก็ซื้อได้”
“ผมงงมากว่าบริษัทตั้งใจจะทำอะไร”
“หัวกิลด์ของฉันบอกว่าจะเติมเงินซื้อไอเทมให้หมดก่อนจะอัปเดต กลัวว่า
เดี๋ยวจะซื้อไม่ได้อีก!”
“สายไปแล้ว เขาแก้ตรงนั้นไปแล้ว ตอนนี้เติมเงินไม่ได้แล้ว”
“…อยากเติมก็เติมไม่ได้ อะไรวะนี่!”
“เห็นแล้วคิดถึงเกมแม่ทัพผีเลย”
“ผมมีคำถาม ถ้าเป็นตามนี้จริง พอเปิดเซิฟใหม่ เราจะต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น
กันหมดรึเปล่า ต้องเปย์สิบหยวนทุกวันเพื่ออัปพลังรบมั้ย”
“ถ้าอิงตามที่ประกาศก็ใช่”
“เดี๋ยวนะ แล้วตอนรบจะสู้กันยังไง ถ้าพลังรบเท่ากันหมดก็ต้องสู้กันที่จำนวน
แทนสิ”
“ไม่ใช่ เหมือนจะมีระบบ ‘ผู้ถูกเลือก’ ใส่เข้ามา พลังของผู้เล่นแต่ละฝั่งจะ
เฉลี่ยให้เท่ากันตามจำนวนคนเล่น เสร็จแล้วระบบก็จะสุ่มให้ผู้เล่นบางส่วนมีพลัง
รบสูงกว่าคนอื่นๆ ตามแต้มที่มี”
“แสดงว่าถ้าฉันถูกเลือก ฉันก็ไล่หวดคนอื่นๆ ได้สบายๆ สิ”
“อ้าว แล้วจะอยู่เซิฟเก่าไปทำไม ขาย แบบนี้ต้องขาย ขายแม่งให้หมด! ตรูจะ
ย้ายไปเซิฟใหม่!”
เหล่าผู้เล่นถกกันไม่หยุดตั้งแต่ออกประกาศไปจนถึงอัปเดตเสร็จสิ้น
เว็บบอร์ดเกมที่ปกติเงียบเหงากลับมีกระทู้ใหม่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ทุกคน
กำลังถกกันอย่างร้อนแรง!
เยว่จือโจวรู้ว่าเหล่าผู้เล่นไม่น่าจะเข้าใจการปรับปรุงเกมครั้งนี้ได้ไวนัก จึงเป็น
เรื่องปกติที่คนจะออกมาถกกันยกใหญ่
จริงๆ ก็ถือเป็นเรื่องดีที่มีคนมากมายแห่มาคุยกันเรื่องอัปเดตใหม่ ตอนแรก
เขากลัวว่าถึงจะมีอัปเดตใหม่ก็น่าจะเงียบเป็นเป่าสากอยู่ดี ถ้าเป็นแบบนั้นจริงคง
เศร้าน่าดู
เยว่จือโจวสมัครบัญชีใหม่เพื่อแฝงตัวเข้าไปดูกระแสตอบรับจากผู้เล่น
ถือว่าผิดคาดมากที่คนไม่ได้ต่อต้านกันอย่างรุนแรง!
เยว่จือโจวคิดว่าพวกผู้เล่นสายวาฬน่าจะสาปส่งกันยกใหญ่ แต่พอเข้าเกมไป
กลับพบว่าพวกความเห็นไม่ดีถูกปัดตกไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครเข้าไปตอบโต้
ทุกคนกำลังถกกันว่าอัปเดตครั้งนี้จะส่งผลต่อสงครามยังไง และถามกันว่าเซิฟ
เวอร์ใหม่จะเปิดให้บริการเมื่อไหร่
“ทุกคนอยากเล่นเซิฟเวอร์ใหม่มาก ตื่นเต้นกันขนาดเลยเหรอ”
เยว่จือโจวหันมองหวังเสี่ยวปิน “พี่หวัง เราเปิดเซิฟเวอร์ให้ผู้เล่นเข้ามา
ทดสอบกันไหมครับ”
บทที่ 152 วีรกรรมนักรบตัดข้อมือของบอสเผย!

หวังเสี่ยวปินนิ่งไป “เปิดเซิฟเวอร์ทดสอบเหรอ”
ให้ทำก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แต่ปัญหาคืออาจจะไม่มีผู้เล่น
เกมเพลงรบโลหิตกำลังจะเจ๊งอยู่รอมร่อ เงินจะโฆษณาก็ไม่มี ผู้เล่นใหม่ก็ไม่มี
แถมคะแนนรีวิวเกมก็ไม่ค่อยดีอีก
คนที ่ ยั ง เล่ น อยู ่ค ื อ พวกผู ้ เล่น เก่ า ที ่ เล่น มาตั ้ ง แต่ต อนเปิด เกม เรี ย กได้ว่า
จงรักภักดีมาก ทำยังไงก็ไม่มีทางเลิกเล่น
ผู้เล่นเหล่านี้มีตัวละครในเซิฟเวอร์เก่า พวกเขาทุ่มเงินและเวลาไปมากมายกับ
ตัวละครเหล่านี้ ถ้าเปิดเซิฟเวอร์ใหม่ขึ้นมา ใครจะเข้าไปเล่นกัน
ถึงอย่างนั้นหวังเสี่ยวปินก็ทำมือเป็นสัญลักษณ์โอเค “ได้เลย แป๊บเดียวเดี๋ยวก็
เสร็จ”
เกมจะเจ๊งอยู่แล้ว จะเปิดเซิฟเวอร์ใหม่หรือไม่เปิดก็ไม่ได้แตกต่างอะไร
เยว่จือโจวรีบสร้างตัวละครในเซิฟเวอร์ใหม่แล้วเข้าไปรออยู่เงียบๆ
ไม่กี่นาทีต่อมา แชแนลโลกในเซิฟเวอร์ใหม่ก็มีผู้เล่นแห่เข้ามากันอย่างคับคั่ง
“พวกเขาเปิดเซิฟใหม่จริงๆ ด้วย!”
“ม่ายยยย! อดส่งข้อความเป็นคนแรกเลย!”
“มีใครตั้งกิลด์รึยัง ++++”
“สหายทั้งหลาย โปรดอ่านข้อความข้า! กิลด์ของพวกข้าอยู่กันอย่างสันติสุข
ผูกสัมพันธ์กันด้วยเลือดเนื้อ และนำกลุ่มโดยฝูงวาฬ ไม่มีการรบครั้งไหนที่เรานำ
ชัยมาไม่ได้! พวกข้าอยากช่วยเหลือปู่ย่าตายายที่ล้มลุกคลุกคลาน พวกข้าอ้าแขน
ต้อนรับและจะคอยพาพวกท่านข้ามถนนเอง!”
“ข้อความเมื่อกี้นี้ก็อปวางของเก่าใช่มั้ย ตอนนี้ไม่มีวาฬแล้ว จะมานำกิลด์ได้
ยังไง”
“จะไม่มีสายวาฬได้ยังไง พวกวาฬในกิลด์ฉันออกโรงว่าใครเข้ากิลด์มาจะเปย์
ยาเพิ่มพลังให้สิบขวดทุกวัน!”
“สุดยอด! รับผมเข้าด่วนๆ เลย!”
แชแนลโลกเริ่มทยอยเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ จนเยว่จือโจวไม่สามารถตามทุก
แชแนลได้ไหว
“เกมของเรา… ยังมีผู้เล่นเหลือเยอะขนาดนี้เลยเหรอ”
เยว่จือโจวอึ้งไป เขาเปิดเซิฟเวอร์ใหม่ขึ้นมาเพื่อทดสอบกระแสหลังจากเห็น
ว่ามีหลายคนเรียกร้อง
แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะมีคนย้ายมาเล่นเซิฟเวอร์ใหม่เยอะขนาดนี้!
มากันทำไม นี่ทิ้งตัวละครเก่ากันหมดเลยเหรอ
เยว่จือโจวรู้สึกว่าเรื่องมันแปลกๆ เขาไม่ได้เห็นผู้เล่นคึกคักกันแบบนี้มานาน
แล้ว!
เกมเพลงรบโลหิตเปิดเซิฟเวอร์ใหม่อยู่บ่อยๆ เพราะการเปิดเซิฟเวอร์ใหม่ถือ
เป็นกลยุทธ์การตลาดของเกมที่มีการวางเพดานค่าใช้จ่าย
แต่พวกเขาไม่เคยเห็นผู้เล่นคึกคักกันขนาดนี้มาก่อน!
ระหว่างที่กำลังดูสถานการณ์ เยว่จือโจวคิดจะเข้ากิลด์เพื่อแฝงเข้าไปถามผู้
เล่นว่าคิดเห็นยังไงกับตัวเกมเวอร์ชันใหม่
ผ่านไปสักพักเกมก็กระตุก บนหน้าจอมีตัวหนังสือ ‘กำลังคำนวณทรัพยากร’
ปรากฏขึ้น ภาพในเกมแตกละเอียด
แต่ไม่นานเกมก็กลับมาลื่นเหมือนเดิม
เยว่จือโจวกำลังจะหันไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ได้ยินหวังเสี่ยวปินตะโกนขึ้น
ก่อน “โห เมื่อกี้คนเข้ามาเล่นเยอะมากจนล้น นี่แห่เข้าเซิฟเวอร์ใหม่จนเต็มเลย
เหรอ”
เยว่จือโจวรีบเปิดเช็กหลังบ้านดู
เซิฟเวอร์เก่าที่เปิดให้บริการอยู่โดนทิ้งร้าง ไม่มีผู้เล่นเลยสักคน ส่วนเซิฟเวอร์
ใหม่มีคนแห่เข้ามากันจนล้น!
ผู้เล่นใหม่ไม่สามารถเข้าเซิฟเวอร์ได้ ต้องทนรอให้เซิฟเวอร์ว่าง
เยว่จือโจวตะลึงงัน ตั้งแต่ทำงานที่ฉางหยางเกมส์มา เขาไม่เคยเห็นคนต้องรอ
ต่อคิวเพื่อเข้าเซิฟเวอร์เลย!
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าผู้เล่นที่แห่เข้าเซิฟเวอร์ใหม่จนล้นนั้นมาจากเซิฟเวอร์เก่า!
ก่อนหน้านี้ผู้เล่นกระจายกันไปตามเซิฟเวอร์ต่างๆ ที่มีมากกว่าสิบเซิฟเวอร์
ทำให้แต่ละเซิฟเวอร์ดูเงียบเหงา
แต่ตอนนี้ผู้เล่นที่ยังเล่นเกมอยู่แห่เข้ามาเล่นเซิฟเวอร์ใหม่พร้อมๆ กัน พอมา
อยู่รวมกันแบบนี้ก็ทำให้เกมดูคึกคักขึ้นมากทีเดียว
เยว่จือโจวรีบหันไปสั่ง “พี่หวัง รีบเปิดอีกเซิฟเร็วครับ!”
หวังเสี่ยวปินเลื่อนเมาส์อย่างรวดเร็ว “จัดให้เดี๋ยวนี้แหละ ถ้าเซิฟเวอร์ที่
สร้างใหม่ที่สุดเต็ม ระบบจะเปิดเซิฟเวอร์ใหม่อัตโนมัติ”
เขากระซิบกับตัวเอง “แปลกจัง พวกผู้เล่นตื่นเต้นกับเซิฟเวอร์ใหม่ขนาดนี้เลย
เหรอ ที่เราปรับปรุงตัวเกมไปมีผลจริงเหรอเนี่ย เร็วไปมั้ย”
ทุกคนในทีมออกแบบตื่นเต้นกันใหญ่ หลายคนไม่ได้เล่นเกมเพลงรบโลหิตมา
นาน พวกเขาพากับสมัครบัญชีผู้ใช้ใหม่เป็นครั้งแรก
“แยกย้ายกันไปสำรวจสถานการณ์แต่ละเซิฟเวอร์
“ถ้าเข้ากิลด์ใหญ่ๆ แล้วไปร่วมวงคุยกับผู้เล่นได้จะดีมาก เช็กดูว่าผู้เล่นสาย
วาฬกับผู้เล่นทั่วไปคิดเห็นยังไงกับการปรับปรุงตัวเกมใหม่!”
เยว่จือโจวตื่นเต้นมาก เขารีบสั่งให้ทุกคนในทีมออกแบบแฝงตัวเข้าไปในเซิฟ
เวอร์ใหม่เพื่อสังเกตกระแสตอบรับของผู้เล่นต่อเกมเวอร์ชันใหม่!
หัวหน้าหลิวไม่เคยทำอะไรแบบนีเ้ ลยตอนที่ยังเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน เพราะ
คิดว่าไม่มีประโยชน์
แค่ดูยอดสถิติต่างๆ ของเกมก็พอแล้ว ไม่เห็นจะต้องแฝงตัวเข้าไปฟังความ
คิดเห็นเลย
แต่เยว่จือโจวไม่ได้คิดแบบนั้น
เขาคิดมาตลอดว่าหัวหน้าฝ่ายวางแผนต้องลองเล่นเกมของตัวเอง แฝงตัวเข้า
ไปในหมู่ผู้เล่น ดูว่าแต่ละคนคิดเห็นยังไง
ถ้าหัวหน้าฝ่ายวางแผนไม่ชอบเกมของตัวเอง ใครหน้าไหนจะมาชอบ
หลังจากเล่นไปได้สักพักก็มีคนชวนเยว่จือโจวเข้ากิลด์ จากนั้นก็ชวนเข้าห้อง
แชต
พอเข้าห้องแชตไป เขาก็เจอข้อความเด้งเข้ามารัวๆ
“รีบไปหาคนจากแชแนลโลกเร็ว!”
“วันนี้ต้องเลเวลยี่สิบให้ได้ กิลด์เราต้องพร้อมรบให้เร็วที่สุด!”
“นายมีเพื่อนที่เลิกเล่นเกมไปแล้วมั้ย บอกให้รีบกลับมาเล่นเร็ว”
“เดี๋ยวฉันไปถามดูในกลุ่มเก่า จะพยายามหามาให้ได้สักสิบคน พวกนั้นเป็นผู้
เล่นเก่าหมดเลย!”
เยว่จือโจวเผลอละสายตาไปแป๊บเดียว ข้อความก็พุ่งทะลุร้อย เขาไม่มีเวลาไป
ตามไล่อ่านให้ครบทุกข้อความ
ที่ทำให้เยว่จือโจวแปลกใจกว่าเดิมคือ คนกลุ่มนี้คิดจะดึงเพื่อนๆ ที่เลิกเล่น
เกมไปนานแล้วให้กลับมาเล่น
เยว่จือโจวไม่เคยเห็นผู้เล่นไฟแรงขนาดนี้มาก่อนเลย ถึงจะเข้ามาทำงานใน
ฉางหยางเกมส์ช่วงเกมเพลงรบโลหิตกำลังมีกระแส แต่เขาก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบ
นี้มาก่อน!
เขาเปิดดูกระทู้ต่างๆ ในเว็บบอร์ด
ตอนหัวหน้าหลิวเปิดขายอาวุธราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน มีแต่กระทู้
ด่าเต็มไปหมด ผู้เล่นถล่มคอมเมนต์ตรงกระทู้ประกาศจากทางเกมจนมีหน้าคอม
เมนต์เป็นร้อยๆ หน้า พวกเขารุมด่ากันอยู่อย่างนั้นไปสองถึงสามสัปดาห์
หลังจากนั้นพอผู้เล่นเริ่มทยอยเลิกเล่นกันไปเรื่อยๆ เว็บบอร์ดก็ค่อยๆ ซบเซา
ลง แต่กระทู้ใหม่ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นกระทู้ตำหนิบริษัทแทบทั้งนั้น
แต่หลังจากปล่อยอัปเดตตัวเกมรอบนี้ออกไป เว็บบอร์ดก็ไม่เหมือนเดิมอีก!
ก่อนหน้านี้ทุกวันมีแต่กระทู้ด่าหัวหน้าฝ่ายวางแผน แต่ตอนนี้ไม่เห็นกระทู้
แบบนั้นอีก มีแค่กระทู้หากิลด์ เตรียมตัวสำหรับการรบ และแจ้งปัญหาอื่นๆ ที่พบ
ในเกม
เยว่จือโจวอ่านกระทู้ต่างๆ และบทสนทนาในกิลด์อย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง
เขาเริ่มครุ่นคิดว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ยังไง
“หรือว่า… จะเป็นการชุบชีวิตใหม่”
ในที่สุดเยว่จือโจวก็เข้าใจ
เกมนักรบโลหิตเป็นแม่น้ ำที่หยุดนิ่ง หัวหน้าหลิวกับตู้รุ่ยเจี๋ยพยายามทุกวิธี
ทางเพื่อที่จะทำให้เกมไปต่อได้ แต่ตัวเกมก็เกินเยียวยาแล้ว
ทั้งปัญหาระหว่างผู้เล่นกับทีมงานและปัญหาระหว่างผู้เล่นสายวาฬกับผู้เล่น
ทั่วไปทะลุจุดเดือดไปไกลจนหาทางแก้ไม่ได้
หลังจากนั้นด้วยเพดานค่าใช้จ่ายที่ตั้งไว้สูง พวกเขาจึงเสียผู้เล่นทั่วไปไปหลาย
กลุ่ม ผู้เล่นปัจจุบันที่เหลืออยู่ก็เล่นกิจกรรมกิลด์ในเกมไม่ได้ ถึงผู้เล่นสายวาฬจะ
เติมเยอะแค่ไหน ถ้าไม่มีใครเล่นก็ไม่มีความหมายอะไร
พอผู้เล่นทั่วไปเลิกเล่นไป ผู้เล่นสายวาฬก็เลิกตาม เหลือผู้เล่นเก่ากลุ่มเล็กๆ ที่
ยังเล่นอยู่ เกมก็ดิ่งลงเหวทุกวันๆ
แต่ตอนนี้ช่องทางการเก็บเงินผู้เล่นทั้งหมดถูกตัดทิ้ง เหลือไว้แค่ยาเพิ่มพลัง
การปรับปรุงตัวเกมครั้งนี้เปลี่ยนบรรยากาศในเกมจากหน้ามือเป็นหลังมือ!
สำหรับบผู้เล่นทั่วไป พอไม่ต้องเติมเงินซื้ออะไรมากมาย พวกเขาก็สามารถ
กลับมาเล่นได้อีก
ไอเทมที่เคยต้องใช้เงินจริงซื้อก่อนหน้านี้กลายมาเป็นของแจกฟรีหมด
พวกเขามีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นของผู้เล่นสายวาฬที่สามารถ
ต่อกรกับศัตรูหลายคนด้วยตัวคนเดียวได้ในเซิฟเวอร์ใหม่
ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก จึงเป็นเรื่องปกติที่ พวกเขาจะย้ายมาเล่นเซิฟเวอร์ใหม่
โดยไม่ลังเล!
แน่นอนว่าก็มีผู้เล่นสายวาฬจำนวนไม่น้อยที่เลิกเล่นเกมไป แต่บอสเผยก็บอก
มาแล้วว่าให้ปล่อยพวกเขาไป!
ยิ่งกว่านั้นผู้เล่นสายวาฬก็ไม่ได้เลิกเล่นกันหมด ยังมีบางกลุ่มที่ยังเล่นอยู่
ถึงรายได้จะตกลงไปเจ็ดสิบถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์แต่ผู้เล่นปัจจุบันก็ลืมไปแล้ว
ว่าเกมเคยมีปัญหาอะไร ตอนนี้พวกเขาสามารถเล่นเกมกันได้อย่างสนุกสนานอีก
ครั้ง!
เยว่จือโจวเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง
“บอสเผยรู้จริงๆ ด้วยว่าปัญหาของเกมเพลงรบโลหิตอยู่ตรงไหน บอสรู้ว่า
การนำเสนอรูปแบบการเล่นใหม่และการยกเครื่องงานภาพใหม่นั้ นเป็นเรื่องที่ไร้
ประโยชน์ ก็เลยบอกให้เราตัดช่องทางการเก็บเงินผู้เล่นออกให้หมด!
“นี่มัน… นักรบตัดข้อมือ!
“ยอมตัดยอดขายเพื่อรักษาชื่อเสียงของเกมไว้ นี่คือหนทางเดียวที่จะทำให้
เกมเพลงรบโลหิตไปต่อได้!”
ปัญหาที่ดูเหมือนจะแก้ไม่ตกในตอนแรกกลับแก้ได้อย่างง่ายดายด้ วยคำสั่ง
ง่ายๆ ของบอสเผย
เยว่จือโจวรู้สึกเคารพยกย่องบอสเผยอย่างสุดซึ้ง
เขารู้ดีว่านี่เป็นแค่ก้าวแรกเท่านั้น
การปรับปรุงครั้งนี้ช่วยรักษาชื่อเสียงของเกมเอาไว้ได้ แต่ก็ต้องแลกมากับการ
ที่เกมไม่สามารถทำเงินได้เยอะอีกต่อไป!
พอไม่มีผู้เล่นสายวาฬมาคอยเปย์ รายได้ก็หายไปถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์
รายได้ต่อเดือนของเกมเพลงรบโลหิตอยู่ที่สามถึงแสนหยวนก่อนปรับปรุงตัว
เกม ตอนนี้หลังจากปรับปรุงตัวเกมไป เยว่จือโจวก็ไม่แน่ใจว่าจะทำเงินได้ถึงแปด
หมื่นหยวนต่อเดือนหรือเปล่า
นอกจากนั้นพวกเขายังตัดสินใจไม่เพิ่มช่องทางการเก็บเงินใหม่ๆ เข้าไปในเกม
เพราะจะทำให้ผู้เล่นกลับมาสาปส่งตัวเกมอีกรอบได้ ทีนี้ผู้เล่นได้หายไปหมดแน่
แม้แต่บอสเผยก็คงช่วยกู้สถานการณ์ไม่ได้!
เยว่จือโจวรู้สึกเหมือนกำลังเปิดขายสินค้าลดราคากระหน่ำ ถึงจะเรียกกระแส
กลับมาได้ แต่จะให้ผลาญเงินไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่สามารถทำกำไรได้ในระยะยาวก็
ไม่ได้
“ช่างเถอะ อย่าเพิ่งคิดอะไรมากตอนนี้เลย
“คิดว่าบอสเผยจะไม่รู้เหรอว่าจะมีปัญหานี้
“ทุกอย่างน่าจะอยู่ในแผนของบอสเผยแล้ว เราแค่ต้องทำตามคำสั่งบอสอย่าง
เคร่งครัด แค่นั้นก็น่าจะพอ”
เยว่จือโจวรู้สึกมั่นใจในตัวเองและอนาคตของฉางหยางเกมส์อีกครั้ง!
บทที่ 153 ให้สว่ นแบ่งนักร้อง

ช่วงเย็น ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
จู่ๆ จากร้านอินเทอร์เน็ตอันแสนเงียบเหงาก็มีลูกค้าเข้ามาหนาตา
ลูกค้าวัยรุ่นเข้ามาใช้บริการเป็นกลุ่มสามถึงห้าคน มีหลายคนยืนสำรวจร้าน
อยู่ด้านนอกว่ามาถูกที่หรือเปล่า ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในร้าน
“แน่ใจนะว่าที่นี่ ป้ายอะไรก็ไม่เห็นมี”
“ใช่ ที่นี่แหละ”
“แล้วคอมพิวเตอร์ที่เรียงเป็นตับนี่มีไว้เพื่อ”
“ก็ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่บาร์ เขาให้เล่นเน็ตได้ด้วย”
“เล่นเน็ตเหรอ… ถ้างั้นไปร้านเน็ตแทนไม่ได้กว่าเหรอ ฉันมานี่เพื่อกินเหล้า
นะ”
“เหล้าก็มีขาย ค็อกเทลที่นี่ดีกว่าร้านอื่นอีก แต่เรามาที่นี่เพื่อฟังเพลง!”
“ร้องดีขนาดนั้นเลยเหรอ”
“นักร้องประจำร้านนี้ไม่เหมือนร้านอื่น เดี๋ยวได้ฟังก็เข้าใจเอง”
มีลูกค้าหนุ่มสาวเปิดประตูเข้าร้านมาอีกกลุ่ม
พนักงานรีบต้อนรับด้วยรอยยิ้มก่อนจะพาไปที่โต๊ะ หลังจากแจกผ้าขนหนู
เปียกให้ทุกคนเสร็จก็ถามอย่างสุภาพว่าจะรับเครื่องดื่มอะไรดี
คนที่ดูร่าเริงที่สุดในกลุ่มคือหญิงสาวแต่งตัวเก่ง หลังจากทุกคนสั่งเครื่องดื่ม
เสร็จ เธอก็เล่าให้คนอื่นๆ ฟังอย่างตื่นเต้นว่ามาเจอที่ดีๆ แบบนี้ได้ยังไง
“รู้มั้ยว่าฉันเจอที่นี่ได้ยังไง
“จริงๆ แล้วฉันเคยเดินผ่านร้านนี้ แต่พอดูเมนูก็รู้ว่าขายแพง แถมคนก็ไม่ค่อย
มีเลยไม่ได้เข้า
“แต่สัปดาห์ก่อนฉันบังเอิญเดินผ่านร้านนี้แล้วได้ยินเสียงคนร้องเพลง!
“ตอนนั้นเพิ่งเลิกงานมา ฉันยืนฟังอยู่หน้าร้านสักพักเลยตัดสินใจเดินเข้าร้าน
ไปสั่งเครื่องดื่มมาแก้วหนึ่ง แล้วก็นั่งฟังจนนักร้องลง!
“เขาร้องดีมาก ไม่ได้พยายามเชียร์แขก แค่ร้องไปเรื่อยๆ ฟังแล้วรู้สึกสบาย
แถมเครื่องดื่มกับบรรยากาศร้านก็ดีสุดๆ
“หลังจากนั้นฉันก็มาอีกหลายครั้ง ถึงจะแพงแต่บริการดีมาก พนักงานทุกคน
ดูแลลูกค้าดีสุดๆ ไม่ต้องตะโกนเรียก แค่เหลือบไปมอง เขาก็เดินตรงมาหาแล้ว
รู้สึกดีมากเลย!”
คนหนึ่งในกลุ่มพูดขัดขึ้น “จริงเหรอ พูดอย่างกับว่าพนักงานอ่านใจเราออก”
หญิงสาวปรายตามองอีกฝ่าย “ก็ไม่ได้ขนาดอ่านใจออกหรอกย่ะ แค่จะบอก
ว่าพนักงานใส่ใจในหน้าที่มากๆ คอยสอดส่องดูลูกค้าอยู่ตลอด แค่ขยับตัวหรือสี
หน้าเปลี่ยนนิดหน่อยก็ดูออกแล้ว พอรู้ว่าลูกค้าต้องการความช่วยเหลือก็จะพุ่งมา
หาทันที
“แถมพนักงานยังไม่มารบเร้ากวนใจ ไม่แนะนำเครื่องดื่ม ไม่ถามว่าอยาก
สมัครสมาชิกมั้ย สุภาพมากๆ ฉัน ติดใจจนมากระทั่งตอนกลางวัน มาจิบกาแฟ
อ่านหนังสือ รู้สึกดีมากเลยๆ
“ไม่ต้องห่วงน่า เดี๋ยวนักร้องก็ขึ้นแล้ว
“เขาชื่อเฉินเหล่ย ได้ยินว่าพักอยู่แถวๆ นี้แหละ พอเรียนจบชั้นมัธยมก็ไม่ได้
ไปเรียนต่อที่ไหน เก็บตัวอยู่บ้าน มุ่งมั่นกับเรื่องดนตรี
“ไม่รู้ว่าร้านนี้ไปหาคนเก่งๆ แบบนี้มาได้ยังไง
“หันไปดูเวที! มาแล้วๆ!”
เฉินเหล่ยถือกีตาร์เดินขึ้นเวที เสียงโห่เชียร์ดังกระหึ่มจากฝั่งคนดู มีหญิงสาว
คนหนึ่งตะโกนลั่น “เฉินเหล่ย ฉันรักเธอ!”
เฉินเหล่ยแก้มแดง ปรับไมโครโฟนและดีดกีตาร์สองสามที ทำเหมือนว่าไม่ได้
ยินทีห่ ญิงสาวพูด เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นจากด้านล่างเวที
ไม่มีการพูดคุยทักทายอะไร เฉินเหล่ยไม่สนใจที่จะทำความรู้จักกับผู้ชม
เพราะเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง
เขากระแอมกระไอก่อนจะเริ่มดีดกีตาร์แลh;เปล่งเสียงร้องใส่ไมโครโฟน
“ฟ้ามืดคล้อย ดวงจันทร์คือแววตาอันเหงาหงอย คอยมองเหล่าคนนอนไม่
หลับอยู่เงียบๆ…”
เสียงเสนาะหูดังก้องร้าน
ผู้ชมด้านล่างเวทีจิบค็อกเทล พลางดื่มด่ำกับบรรยากาศอย่างเงียบเชียบ
“เพราะมาก”
“ไม่เหมือนต้นฉบับเลย แต่ก็มีกลิ่นอายคล้ายๆ กัน”
“เฉินเหล่นเป็นแบบนี้แหละ จะร้องเพลงอะไร ก็ กลายเป็นสไตล์ตัวเองหมด
ฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลาย แต่ถ้าตั้งใจฟังดีๆ จะรู้สึกเศร้าขึ้นมาหน่อยๆ”
“ดีมากเลย”
ชายที่ดูมีอายุหน่อยยกเครื่องดื่มขึ้นจิบขณะมองออกไปยังบรรยากาศมืดสลัว
ด้านนอกผ่านผนังกระจก ไม่รู้ว่าแสงสลัวนั่นทำให้เขานึกถึงความทรงจำอะไร
ขึ้นมาได้
จู่ๆ เขาก็หันกลับมามองแก้วในมือด้วยแววตางุนงง
“มีอะไรเหรอ” เพื่อนผู้หญิงที่มาด้วยกันถาม
ชายคนนั้นยกเครื่องดื่มขึ้นจิบอีกรอบ
“เหล่านี่…ของแท้รึเปล่า”
หญิงสาวหัวเราะ “ถามบ้าอะไรเนี่ย ร้านนี้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
จะมาหลอกขายเหล้าปลอมให้เธอได้ไง”
เขาส่ายหัว “เธอไม่เข้าใจ สมัยนี้หลายๆ ร้านเอาเหล้าปลอมเทใส่ขวดเหล้า
ยี่ห้อแพงๆ ส่วนเหล้าแพงๆ เอาไปเทใส่ขวดเปล่าเก็บไว้ แล้วเอาเหล้าถูกๆ มา
กรอกใส่ขวดแพงๆ แทน พอเอามาชงเป็นค็อกเทล คนก็แยกกันไม่ค่อยออกแล้ว
“แต่นี่ก็ไม่ใช่เหล้าปลอมหรอก เป็นของราคาถูกลงมาหน่อย เหล้าปลอมกิน
แล้วจะปรี๊ดขึ้นหัว เข้าปากแล้วอาจถูกหามส่งโรง’บาลได้ แต่เหล้าราคาถูกลงมา
หน่อยจะให้รสชาติที่ต่างกันในปาก แต่สุดท้ายก็ลงท้องเหมือนกันหมด”
หญิงสาวหันไปมองอย่างไม่ค่อยจะเชื่อนัก “แยกออกด้วยเหรอ”
เขาหัวเราะ “แยกออกสิ จะเหล้าเกือบพันหยวนหรือหลักร้อยต้นๆ ถึงจะเป็น
เหล้าเหมือนกันแต่รสชาติย่อมแตกต่างกัน ไม่อย่างนั้นทำไมต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อ
กินของแพงด้วยล่ะ
“คนที่พอรู้เรื่องเหล้าจะแยกออก”
เขาเอียงแก้วไปมาเบาๆ ก่อนจะหันมองเฉินเหล่ยที่กำลังยืนร้องเพลงอยู่บน
เวที “ร้านนี้น่าสนใจดี เดี๋ยวไว้วันหลังชวนเพื่อนเก่ามาสังสรรค์กันที่นี่”

ตรงเคาน์เตอร์บาร์
หม่าหยางจิบเครื่องดื่มไปพร้อมๆ กับดูการแสดงของเฉินเหล่ย เขาอดรู้สึกตื้น
ตันใจขึ้นมาไม่ได้ “เหมือนว่า… เขาจะร้องเก่งกว่าพี่จริงๆ ด้วย”
จางหยวนตอบกลับอย่างถ่อมตัว “ใช่แล้ว น้องหม่าเพิ่งจะฟังออกเหรอ”
หม่าหยางส่ายหน้าอย่างซื่อตรง “ฟังไม่ออกหรอกพี่ แต่ตอนพี่ร้อง ไม่เห็นมี
คนมารอฟังเยอะขนาดนี้ ไม่มีคนสั่งเครื่องดื่มดื่มเยอะขนาดนี้ด้วย แต่ตอนนี้ทุกคน
ตั้งใจฟังกันสุดๆ…”
จางหยวน “…น้องหม่า เห็นแก่แก้วนี้ที่พี่ชงให้ หยุดพูดทำร้ายจิตใจกันสักที”
หม่ า หยางเลวมาก เฉิ น เหล่ ย เสี ย งฟ้ า ประทานขนาดนี ้ ทำไมยั ง เอามา
เปรียบเทียบกับเขาอยู่ได้
“แล้วจะจ่ายเงินเขายังไงดี”
หม่าหยางถามอย่างจริงใจ
สัปดาห์ก่อน หลังจากได้ยินเสียงร้องของจางหยวน เฉินเหล่ยก็รู้สึกมั่นอก
มั่นใจและขึ้นไปร้องเพลงบนเวที
พอร้องเสร็จผลลัพธ์ก็ชัดเจน หม่าหยางรีบขอให้เขาอยู่ร้องเพลงให้หนึ่ง
สัปดาห์
ถ้าครบหนึ่งสัปดาห์แล้วรู้สึกพอใจกับผลงานก็จะเซ็นสัญญาจ้าง ถ้าไม่ก็จะให้
เงินไปพันหยวนแล้วขอให้ไม่ต้องมาอีก
ตอนนี้ครบหนึ่งสัปดาห์แล้ ว หม่าหยางรู้สึกพอใจกับผลงานของเฉินเหล่ย
มากๆ
แต่ก็ติดปัญหาอยู่หนึ่งอย่าง นั่นก็คือเรื่องค่าจ้าง
“ปกตินักร้องประจำได้ค่าจ้างเท่าไหร่เหรอครับ ” หม่าหยางอยากรู้ว่าจะจ่าย
ค่าจ้างตามราคาตลาดได้ไหม
จางหยวนรู้เรื่องนี้ดี เพราะเขาเคยทำงานเป็นนักร้องประจำมาก่อ
“น้องหม่า ถ้าเป็นบาร์เล็กๆ จะจ่ายให้นักร้องประจำสามพันหยวนต่อเดือน
แต่ก็เป็นเรตสำหรับนักร้องที่ไม่ได้ดังมากนะ
“ค่าจ้างจะขึ้นอยู่กับระดับของบาร์ ความดังของนักร้อง และความใจป้ำของ
เจ้าของร้าน
“บางบาร์คนเยอะหน่อย ถ้าอยากดังนักร้องส่วนใหญ่ก็ยินดีไปร้องให้ฟรีๆ
กลับกัน ถ้าบาร์เล็กอยากจ้างนักร้องดังก็ต้องทุ่มเงินหน่อย
“ดูจากความสามารถของเฉินเหล่ยแล้ว ให้สักสี่ถึงห้าพันหยวนยังไม่ถือว่า
เยอะอะไร อาจจะจ่ายน้อยเกินไปด้วยซ้ำ”
สี่ถึงห้าพันหยวน…
หม่าหยางเริ่มลังเล
“โห… ไม่ใช่ว่าไม่อยากจ่ายนะ แต่ผมรู้สึกว่าสำหรับเฉินเหล่ยไม่น่าจะต้องจ่าย
แพงขนาดนี้
“ปัญหาหลักคือร้านเรายังขาดทุนอยู่
“พี่คิดว่ายังไง เสนอให้ฐานเงินเดือนไปหนึ่งพันห้าร้อย ส่วนที่เหลือเป็นเงิน
ส่วนแบ่งดีมั้ย”
จางหยวนนิ่งไป “ส่วนแบ่งเหรอ หมายความว่ายังไง”
หม่าหยางชี้ไปที่เครื่องดื่มบนเคาน์เตอร์บาร์ “เราจะให้ส่วนแบ่งเขาตาม
ยอดขายเครื่องดื่ม หลังจากนี้เราจะแจ้งลูกค้าว่าระหว่างที่เฉินเหล่ยร้อง กำไร
ครึ่งหนึ่งของยอดขายเครื่องดื่มจะเป็นของเขา”
จางหยวนสูดหายใจลึก “น้องหม่า ให้กำไรครึ่งหนึ่งจะมากไปมั้ย”
“ไม่เป็นไรหรอกพี่ เราขายเครื่องดื่มไม่ได้เยอะอยู่แล้ว…” หม่าหยางไม่ได้
สนใจอะไรมาก
จางหยวนพูดอะไรไม่ออกไปพักหนึ่ง “ก็จริง อีกอยากเราก็ขายเหล้าแท้ กำไร
ไม่ได้มากอยู่แล้ว
“คิดดูดีๆ ก็พอรับได้นะ…”
ถ้าพวกเขาดำเนินธุรกิจแบบบาร์ทั่วไป เครื่องดื่มจะเป็นแหล่งกำไรหลัก
บาร์ ผับ คาราโอเกะ และธุรกิจคล้ายๆ กันหลายๆ ร้านจะมีแอบย้อมแมวบ้าง
ยกตัวอย่างเช่น XO พวกเขาจะเก็บขวดเปล่าไว้ แล้วกรอกเหล้าราคาถูกใส่
เสร็จแล้วก็เอากลับมาขายใหม่ ถือเป็นเรื่องที่ปกติมาก
การขายเครื่องดื่มแบบนี้ช่วยการันตีได้ว่าจะทำกำไรให้ได้
แต่ตั้งแต่เปิดร้าน บอสเผยย้ำเสมอว่าเครื่องดื่มที่ขายที่ร้านอินเทอร์เน็ ตโมหยู
จะต้องเป็นของแท้ อย่าว่าแต่ของปลอมเลย เอาเหล้าถูกๆ มาผสมแม้แต่หยดเดียว
ก็ยังไม่ได้
มีอะไรก็ต้องขายอย่างนั้น
ดังนั้นถึงจะขายเครื่องดื่มได้และทางร้านก็มีการตั้งราคาเผื่อเป็นกำไรไว้ แต่
ยอดกำไรของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก็เทียบกับบาร์อื่นๆ ไม่ได้เลย
นอกจากนั้นดูจากจำนวนคนที่เข้าร้านในแต่ละวัน พวกเขาก็ไม่น่าจะขาย
เครื่องดื่มได้เยอะแยะอะไร
จางหยวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “แล้วแต่น้องหม่าเลย ถ้าอยากจ่ายค่าจ้างเป็นส่วน
แบ่งก็ได้ ไม่แน่อาจจะช่วยเพิ่มยอดขายเครื่องดื่มให้เราได้”
หม่าหยางตบเคาน์เตอร์ “โอเค งั้นเอาตามนี้ เดี๋ยวเฉินเหล่ยลงจากเวที
เมื่อไหร่ผมจะเข้าไปคุยเรื่องสัญญา”
“ถ้าจะเอาตามนี้ พี่มีอะไรจะแนะนำ” จางหยวนพูดขึ้นเมื่อนึกอะไรออก “เรา
ทำเมนูใหม่ดีมั้ย ข้างๆ ราคาเครื่องดื่มจะใส่วงเล็บค่าส่วนแบ่งที่ เฉินเหล่ยจะได้
เอาไว้
“อย่างค็อกเทลแสงเหนือ เราขายแก้วละหกสิบหยวน ต้นทุนอยู่ที่สามสิบ
หยวน รวมค่าสถานที่กับพนักงานก็ตกแก้วละสี่สิบหยวน กำไรอยู่ที่ยี่สิบหยวน ถ้า
ให้เฉินเหล่ยครึ่งหนึ่งก็คือสิบหยวน
“เราก็เพิ่ม (10) หลังเลข 60 ไว้ในเมนูทำแบบนี้ทุกคนก็จะรู้ว่าเงิ นที่จ่ายค่า
เครื่องดื่มไป สิบหยวนจะเข้ากระเป๋าเฉินเหล่ย”
หม่าหยางขมวดคิ้วด้วยความลังเล “ถ้าอย่างนั้นทุกคนก็รู้สิว่าเราได้กำไร
เท่าไหร่”
จางหยวนส่ายหน้า “น้องหม่า ถึงเราไม่เขียนบอกบนเมนู คนอื่นก็รู้อยู่ดี เปิด
หาบนเน็ตก็รู้ราคาแต่ละอย่างแล้ว
“คนส่วนใหญ่ที่มารู้อยู่แล้วว่าบาร์ได้กำไรเท่าไหร่ ถ้ารู้กันอย่างนี้อยู่แล้วก็ไม่มี
ใครสนใจเรื่องตัวเลขหรอก
หม่าหยางถึงบางอ้อ “อ๋อ ใช่ๆ! ผมว่าดี เอาตามที่พี่บอกเลย!”
บทที่ 154 จู่ๆ ก็เจ็บ!

หลังจากร้องเพลงไปชั่วโมงกว่าๆ เฉินเหล่ยก็ลงมาพัก
หม่าหยางรีบเรียกเขาไปอธิบายเรื่องค่าจ้างกับส่วนแบ่งเครื่องดื่ม
เฉินเหล่ยเกาหัวแล้วตอบออกไปอย่างไม่คิดอะไรมาก “ได้ครับ”
หม่าหยางรู้สึกกระดากใจเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรนะ ถ้าคิดว่าฐานเงินเดือนต่ำไป เดี๋ยวผมเพิ่มให้ก็ได้” หม่าหยางพูด
เฉินเหล่ยกะพริบตา “ถ้างั้น… เพิ่มอีกหน่อยก็ได้ครับ”
หม่าหยาง “…”
ซื่อเกินไปแล้ว!
หม่าหยางรู้สึกเหมือนโดนหักหลัง เขาคิดว่าเฉินเหล่นจะเกรงใจแล้วตอบ
กลับมาว่า ‘ไม่เป็นไรครับ’ เสร็จแล้วจะได้ปิดบทสนทนาได้อย่างราบรื่น
แต่เฉินเหล่ยดันตอบตกลงซะงั้น
หม่าหยางพูดไปแล้ว จะกลับคำตอนนี้ก็ไม่ได้
หม่าหยางลังเลอยู่พักหนึ่ง “โอเค งั้นเดี๋ยวเพิ่มฐานให้เป็นพันแปดร้อย ไม่รวม
ค่าส่วนแบ่งจากเครื่องดื่ม ตอนขึ้นร้องรอบหน้าต้องพูดกระตุ้นให้ผู้ชมซื้อเครื่องดื่ม
ด้วยล่ะ เข้าใจมั้ย”
เฉินเหล่ยดูอึดอัดใจ “พี่หม่า ผมไม่ค่อยอยากพูด งั้นผมรับเงินพันห้าเท่าเดิม
แต่อย่าให้ผมต้องคุยกับคนดูเลย”
หม่าหย่างอึ้งไป เจ้าเด็กนี่หน้าบางจริงๆ
“ช่างเถอะ งั้นก็ร้องเพลงไป เดี๋ยวฉันพูดเอง ฐานเงินเดือนพันแปดเท่าเดิม แต่
นายไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”
เฉินเหล่ยพยักหน้า ก่อนจะเดินไปพักดื่มน้ำ
หม่าหยางหันมองจางหยวน อีกฝ่ายเข้าใจทันทีว่าหมายความว่าอย่างไรจึง
เดินขึ้นไปบนเวที
“สวัสดีครับ สวัสดี
“สวัสดีครับทุกคน ขอผมแนะนำตัวนิดหนึ่ง ผมเป็นผู้จัดการร้านอินเทอร์เน็ต
โมหยู แซ่จาง”
ผู้ชมคนหนึ่งเอียงคอ “นายเป็นนักร้องประจำเมื่อสัปดาห์ก่อนนี่ พอมีเฉิน
เหล่ยมาแทนก็ได้เลื่อนขั้นเลยเหรอ”
จางหยวนเห็นว่าหลายคนไม่ได้สนใจเขาเท่าไหร่เลยรีบเข้าเรื่อง “ขอบคุณทุก
ท่านมากนะครับที่คอยอุดหนุนร้านเรา เรื่องที่ผมจะประกาศในวันนี้ ร้านของเรามี
ผลประโยชน์พิเศษให้นักร้องประจำ!
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ระหว่างที่เฉินเหล่ยร้องเพลง ตั้งแต่หนึ่งทุ่มถึงห้าทุ่ ม สี่
ชั่วโมงนี้ ส่วนหนึ่งของยอดขายเครื่องดื่มทั้งหมดจะถือเป็นค่าส่วนแบ่งของเฉิน
เหล่ย
“ส่วนรายละเอียด…
“เดี๋ยวอีกสองสามวันเราจะทำเมนูใหม่ โดยจะระบุยอดส่วนแบ่งของเฉินเหล่
ยลงไปอย่างชัดเจน
“ถ้าท่านไหนชอบนักร้องของเราก็สามารถสั่งเครื่องดื่มเพื่อสนับสนุนเขาได้
ขอบคุณครับทุกคน!”
จางหยวนรีบลงจากเวทีหลังพูดจบ ไม่มัวเสียเวลาพูดไปเรื่อยเปื่อย
ตรงกับคติของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู ซึ่งก็คือ พูดให้น้อย ทำให้มาก บริการ
สบายๆ เหมือนสายลมฤดูใบไม้ผลิ
ลูกค้าเริ่มพูดคุยกัน
“ให้ส่วนแบ่งนักร้องเหรอ”
“ใจดีจัง”
“ให้ส่วนแบ่งด้วยแฮะ! ถ้าฉันขึ้นไปร้องบ้างจะได้ด้วยไหม”
“ฮ่าๆ ถ้าแกร้องได้เพราะเหมือนเฉินเหล่ยก็มีสิทธิ์”
“ดีจัง ฉันสนับสนุน! ขออีกแก้วด้วยค่ะ!”
“ฉันด้วย”
“เอาด้วยๆ!”
พนักงานให้บริการมือเป็นระวิง นับว่าเป็นครั้งแรกตั้งแต่เปิดร้านอินเทอร์เน็ต
โมหยูมา!
หม่าหยางกับจางหยวนยิ้มให้กัน
เหมือนว่าจะได้ผลดีเลยนะเนี่ย!

กลางดึก
หลายคนเมากันแล้ว แต่ก็ไม่ยอมกลับ
ก่อนเฉินเหล่ยจะลงจากเวที เขาเอาแต่พูดขอบคุณทุกคน แล้วหนีลงไปซ่อน
ตัวอยู่ตรงโซนร้านอินเทอร์เน็ตอย่างขวยเขิน
หม่าหยาง จางหยวน และพนักงานอีกสองสามคนเดินไปส่งลูกค้าถึงประตู
“ขอบคุณที่อุดหนุนนะครับ”
“กลับบ้านดีๆ นะครับ”
“แวะมาอีกนะครับ!”
กว่าลูกค้าจะกลับบ้านหมดก็ปาไปสี่ทุ่มครึ่ง
“คำนวณให้หน่อยว่าเราขายเครื่องดื่มไปได้เท่าไหร่ ” หม่าหยางรีบแจ้นไปที่
แคชเชียร์
ไม่กี่นาทีต่อมา ความตื่นเต้นที่มีก็เลือนหายไป
“ขายเครื่องดื่มได้ตั้งเยอะ แต่… ได้กำไรแค่นี้เองเหรอ”
หม่าหยางผิดหวังมาก
เขานึกว่าจะเริ่มทำกำไรได้แล้ว แต่พอดูยอดขายก็รู้สึกเศร้าสร้อยขึ้นมา
คืนนี้พวกเขาขายเครื่องดื่มได้เยอะจริงๆ ยอดขายเพิ่มขึ้นแปดสิบเปอร์เซ็นต์
จากยอดเฉลี่ยของหลายวันก่อน
หมายความว่ามีลูกค้าหลายคนสั่งเครื่องดื่มเพิ่มหลังจากได้ยินว่าเงินส่วนหนึ่ง
จะเข้ากระเป๋าเฉินเหล่ย นอกจากนี้ยังมีคนสั่งเครื่องดื่มราคาแพงอีกด้วย
แต่หนทางทำกำไรก็ยังอยู่อีกไกลโข
จางหยวนอธิบายอย่างมีเหตุผล “เรื่องปกติน่ะน้องหม่า ถึงยอดขายจะเพิ่มขึ้น
แต่ลูกค้าเราไม่ได้เยอะ
“คิดดูสิ เรามีโต๊ะอยู่แค่นี้ ถึงลูกค้าจะเข้าเต็มร้านจนส่วนหนึ่งต้องยืน ถ้าขาย
ได้เกินร้อยแก้วก็ไม่น่าพอ เพราะก็ทำเงินได้ไม่กี่ร้อย อย่างมากก็คืนละพันหยวน
ถ้าหักส่วนแบ่งให้เฉินเหล่ย ร้านก็ได้เดือนละสองถึงสามหมื่นหยวนเอง”
“เดี๋ยวนะ” หม่าหยางขมวดคิ้ว “ก็หมายความว่าถ้าร้านได้สองถึงสามหมื่น
หยวน เฉินเหล่ยก็ได้ส่วนแบ่งเท่ากันเหรอพี่”
จางหยวนอึ้งไป “น้องหม่าพูดอะไรของน้อง ก็ต้องเป็นอย่างนั้นสิ น้องเป็นคน
บอกเองนะว่าจะให้เฉินเหล่ยห้าสิบเปอร์เซ็นต์…”
หม่าหยางแทบลมจับ “…โคตรเสียดายเลยพี่ เรายกเลิกที่จะแบ่งให้ครึ่งหนึ่ง
ดีมั้ย เปลี่ยนเป็นห้าเปอร์เซ็นต์ไม่ก็ หนึ่งเปอร์เซ็นต์แทน”
จางหยวนพูดขัด “น้องหม่า น้องจะเปลี่ยนคำพูดภายในวันเดียวกันไม่ได้ คิด
จะไล่เขาเหรอ น้องเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะแบ่งให้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์”
“ผมบอกไปอย่างนั้นก็จริง แต่ไม่รู้นี่ว่าจะเป็นเงินเยอะขนาดนี้… ” หม่าหยาง
เกาหัวอย่างปวดใจ
จางหยวนเงียบไปพักหนึ่ง
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหม่าหยางถึงใจป้ำ เขาไม่ได้คำนวณดูเลยด้วยซ้ำ!
แต่เห็นหม่าหยางคิดจะกลับคำพูด จางหยวนก็รีบปรามทันที
“น้องหม่า ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอก เราขาดทุนกันเดือนละสามแสน
หยวนอยู่แล้ว ถึงจะดึงส่วนแบ่งของเฉินเหล่ยมาก็ได้เพิ่มแค่สองถึงสามหมื่นหยวน
ในระยะยาวแล้วถือว่าไม่ได้อะไรเลย”
“ถ้าเราให้ส่วนแบ่งเฉินเหล่ยเยอะ ลูกค้าก็จะอุดหนุนเพิ่มเพื่อสนับสนุนเขา
ถ้าร้านดังขึ้นมาเมื่อไหร่ เดี๋ยวก็มีลูกค้าเข้ามาเพิ่ม ถึงตอนนั้นอะไรๆ ก็จะดีขึ้นเอง”
หม่าหยางขมวดคิ้ว “จะพออยู่เหรอ ตามที่พี่คำนวณ เราต้องขายเครื่องดื่มให้
ได้มากกว่าพันแก้วถึงจะหักกลบลบหนี้ไ ด้ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้เลย จากขนาดร้าน
ของเรา แค่สองร้อยคนยังจุไม่พอ พันคนนี่ไม่ต้องพูดถึง”
จางหยวนไม่รู้จะตอบยังไงดี “อืม ยังไงซะตอนนี้ยอดขายเครื่องดื่มก็เพิ่มขึ้น
แล้ว ลองดูสถานการณ์ต่อไปอีกหน่อยมั้ย รีบทำอะไรบุ่มบ่ามคงไม่ดี”
“ผมยังเคืองอยู่เลยเนี่ย” หม่าหยางนวดขมับเพราะรู้สึกปวดจนแทบหายใจไม่
ออก เขารู้สึกไม่พอใจกับเรื่องนี้มากๆ
“ไม่ ผมจะเจ็บปวดคนเดียวไม่ได้!
“ลูกค้าก็ต้องเจ็บปวดด้วยเหมือนกัน!”
จางหยวนอึ้งไป “แล้วจะทำให้ลูกค้ารู้สึกแบบนั้นได้ยังไง”
หม่าหยางหันมองกำแพงข้างเวที เขาชี้ไปยังที่ว่างตรงนั้น “ตั้งจอไว้ตรงนั้น
“ทุกครั้งที่มีคนสั่งเครื่องดื่ม รายละเอียดจะขึ้นบนจอว่าโต๊ะไหนสั่งอะไร เฉิน
เหล่ยได้เงินไปเท่าไหร่ ตบท้ายด้วยข้อความขอบคุณจากเฉินเหล่ย
“พอทำแบบนี้ ทุกครั้งที่มีคนสั่งเครื่องดื่ม ทุกคนก็จะเห็น
“เพิ่มบนจอไปอีกว่าเฉินเหล่ยจะได้เงินไปเท่าไหร่ในแต่ละคืน
“ผมเสียเงินไปเยอะ จะเจ็บปวดอยู่คนเดียวไม่ได้ ผมต้องให้ลูกค้าทุกคนได้รู้
ว่าผมให้เงินเขาไปเท่าไหร่!”
จางหยวนครุ่นคิดสักพัก “อาจจะได้ผลก็ได้นะ จอเล็กๆ ไม่น่าราคาแพง เดี๋ยว
พี่จัดการเอง พรุ่งนี้เช้าจัดให้เลย”
บทที่ 155 เซอร์ไพรส์พี่เชียน

ตอนเช้า
“ฮัดชิ้ว!”
เผยเชียนจามระหว่างกำลังนั่งตากแอร์อยู่ในห้องทำงาน
“แปลกจัง แอร์ตกใส่เยอะเกินไปเหรอ”
เผยเชียนห่อตัวด้วยผ้าห่มผืนเล็ก ชายหนุ่มกดปิดซีรีส์ที่กำลังดูอยู่ ตั้งใจว่าจะ
งีบบนเก้าอี้ทำงานสักหน่อย
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ลู่หมิงเหลียงยืนอยู่ด้านนอก
“บอสเผยครับ ผมมีเรื่องมารายงาน”
เผยเชียนพยักหน้า “ว่ามาครับ”
ลู่หมิงเหลียงเห็นเผยเชียนที่กำลังห่อตัวด้วยผ้าห่มดูง่วงเหงาหาวนอนก็รู้สึก
ตื่นตันใจ
บอสเผยดูจะไม่สบายแต่ก็ไม่ยอมกลับบ้านไปพักผ่อน บอสอยู่ทำงานต่อเคียง
ข้างพวกเรา!
ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จแค่ไหน ยังไงก็ต้องมีใจสู้อยู่เสมอ!
ลู่หมิงเหลียงกลัวว่าจะรบกวนการพักผ่อนของบอสเผยจึงรีบรายงาน
“อย่างแรกคือเรื่องอัปเดตใหม่ครับ
“ทุกอย่างเป็นไปตามแผน แต่ไม่รู้ทำไมพอออกประกาศเรื่องการขายอาวุธใน
ตำนานชิ้นใหม่ ผู้เล่นก็ออกมาต่อต้านกันยกใหญ่เลยครับ
“บอสเผย เราควรเพิ่มจำนวนขายต่อเดือนอีกสักหน่อยไหมครับ สัก… ห้าพัน
ชิ้น”
เผยเชียนส่ายหน้าอย่างแน่วแน่ “ไม่”
ห้าพันชิ้นต่อเดือนเหรอ
ล้อกันเล่นหรือเปล่า!
ห้าพันคูณแปดร้อยแปดสิบแปดได้เท่าไหร่ คำนวณเป็นไหม
เผยเชียนพูดหน้านิ่ง “ที่กำหนดไว้แบบนี้ก็เพราะให้มันเป็นจำนวนจำกัดไง ถ้า
ให้เข้าถึงกันได้ทั่วถึงจะเรียกว่าขายจำนวนจำกัดได้ยังไง
“ไม่ต้องสนใจที่ผู้เล่นออกมาต่อต้าน ห้าร้อยก็คือห้าร้อย ไม่ขายเพิ่มอีก”
เมื่อเห็นสีหน้ามุ่งมั่นของบอสเผย ลู่หมิงเหลียงก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากพยัก
หน้า “โอเคครับบอสเผย
“เรื่องที่สองคือเรื่องขอบเขตงานของหม่าอี้ฉวิน
“เขาแจ้งผมมาหลายครั้งว่าอยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาอัปเดตใหม่ในครั้งนี้
“ผมคิดเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง เกมแม่ทัพผีกับเกมนักออกแบบเกมต้องใช้คนที่เก่ง
เรื่องการวางโครงเรื่องแบบหม่าอี้ฉวินมาช่วยพัฒนาตัวอัปเดต
“ให้เขาลองทำดูจะได้ฝึกฝีมือดีไหมครับ”
เผยเชียนไม่ได้ตอบออกไปทันที
เขาคิดหาเหตุผลดีๆ มาปฏิเสธไม่ได้
แต่ถ้าไม่ปฏิเสธ เผยเชียนก็ไม่ค่อยมั่นใจให้หม่าอี้ฉวินรั บผิดชอบเรื่องโครง
เรื่องเกมเท่าไหร่
หม่าอี้ฉวินเก่งเรื่องนี้มาก โครงเรื่องที่วางให้ฉางหยางเกมส์นั้นดีมากๆ ถ้าดัน
ทำผลงานดีๆ ให้เกมแม่ทัพผีกับเกมนักออกแบบเกมขึ้นมา คงจะซวยแย่!
แต่เขาจะปฏิเสธยังไงดีล่ะ
หม่าอี้ฉวินเข้ามาทำงานตั้งแต่เดือนมีนาคม ผ่านมาสองเดือนแล้ว จะให้เรียนรู้
งานต่ออีกก็คงยาก
ถ้าไม่อยากให้หม่าอี้ฉวินมาวุ่นวายกับเนื้อเรื่องเกมก็ต้องหางานอื่นให้ทำ
ส่งไปทำคลิปกับหวงซื่อปั๋วเหรอ ก็ไม่ค่อยเข้าท่า ทักษะการเขียนของเขา
น่าจะเป็นประโยชน์กับการทำคลิปสั้นน่าดู
ส่งไปร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเหรอ ก็ไม่เลวเท่าไหร่ แต่เผยเชียนก็หาเหตุผล
เหมาะๆ มาใช้ส่งตัวหม่าอี้ฉวินไปที่นั่นไม่ได้
คิดอยู่พักใหญ่เผยเชียนก็ยังหาเหตุผลดีๆ ไม่ได้ จึงได้แต่พยักหน้า “ได้ เขา
เรียนรู้งานมานานพอแล้ว ลองให้ทำงานง่ายๆ ดู”
เผยเชียนตอบออกไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
ลู่หมิงเหลียงรีบพยักหน้า “โอเคครับบอสเผย บอสพักผ่อนต่อเถอะครับ เดี๋ยว
ผมไปจัดการงานต่อ”
เผยเชียนเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วห่อตัวด้วยผ้าห่มอีกรอบ แต่เขากลับรู้สึก
กระสับกระส่าย นอนไม่ได้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“แปลกจัง ทำไมถึงรู้สึกว่าอันตรายกำลังรุมเร้าเข้ามาจากทั่วทุกทิศ
“คงไม่ใช่ฉางหยางเกมส์หรอกนะ”
เผยเชียนไล่ทบทวนโปรเจ็กต์ต่างๆ ในหัว
ฝั่งเถิงต๋า อัปเดตใหม่น่าจะทำเงินได้ แต่ก็ยังอยู่ในการควบคุม ไม่ได้ถือเป็น
ประเด็นใหญ่โตอะไร
ฝั่งเฟยหวงสตูดิโอบอกมาว่าอยากทำสารคดี แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร
ใหม่
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูยังเป็นโปรเจ็กต์ละลายเงินเหมือนเดิม ร้านสองสาขา
เพิ่งจะปรับปรุงเสร็จ กำลังเตรียมเปิดให้บริการ ส่วนสาขาหลักเพิ่งแวะไปดูมาเมื่อ
สัปดาห์ก่อนก็ไม่เห็นมีอะไรสุ่มเสี่ยง
พอมาคิดดูดีๆ ก็เหมือนว่าฉางหยางเกมส์น่าจะมีความเสี่ยงสูงสุด!
เผยเชียนบอกให้พวกเขาตัดช่องทางการเก็บเงินผู้เล่นของทั้งสองเกมออกให้
หมด เหลือไว้แค่อย่างเดียว ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยง
การถอดช่องทางการเก็บเงินออกจะเป็นผลดีกับชื่อเสียงของเกม
แต่ชื่อเสียงกับรายได้เป็นสองเรื่องที่แยกกัน
เกมเพลงรบโลหิตเป็นเกมภาพห่วยที่ระบบการเล่นพอถูไถ จุดขายอย่างเดียว
คือพวกสายวาฬสามารถเปย์เงินมาไล่บ้าฆ่าคนได้ พูดอีกอย่าง จุดขายหลักของ
เกมคือ ‘การเปย์เพื่อแก้แค้น’
พอฆ่าคนได้ คนที่โดนฆ่าก็จะเปย์เงินเพื่อกลับไปฆ่าอีกฝ่าย ถือเป็นจุดขาย
หลักของเกมแนวนี้
เพราะเกมมี ‘การเปย์เพื่อแก้แค้น’ เป็นเครื่องมือจุดชนวนอารมณ์ด้านลบของ
ผู้เล่น ต่อให้ภาพและระบบการเล่นจะกากแค่ไหน คนก็ยังเล่นอยู่ดี
ถ้าเผยเชียนไม่แก้ตรงนี้ เกมอาจจะฟื้นคืนชีพกลับมาได้ ถึงโอกาสจะน้อยก็
เถอะ
แค่เยว่จือโจวทำการตลาดนิดหน่อยเพื่อเรียกผู้เล่นเก่ากลับมา เกมก็อาจจะ
กลับไปทำกำไรได้เหมือนเดิม ทีนี้เผยเชียนก็จะหาเรื่องขาดทุนกับตรงนี้ไม่ได้อีก
ดังนั้นเผยเชียนจึงตัดสินใจถอดช่องทางการเก็บเงินทุกอย่างออกจากเกม
เกมเพลงรบโลหิตไม่มีจุดขายอื่นอีก จะให้เอางานภาพกับระบบการเล่นเข้าสู้
ก็ไม่น่าจะดึงดูดผู้เล่นใหม่ได้ถ้าเทียบกับเกมอื่น
ต่อให้ทำให้เกมยุติธรรมกับผู้เล่นแล้วเรียกชื่อเสียงกลับมาได้ก็ไม่เห็นเป็นไร
ขอแค่ทำเงินไม่ได้ เผยเชียนก็พอใจแล้ว
แต่ถ้าเกมดึงดูดผู้เล่นใหม่ได้จากชื่อเสียงที่ดีขึ้น แล้วฐานผู้เล่นขยายจนสร้าง
กำไรได้เยอะขึ้นล่ะ
ก็เป็นไปได้ยาก มีโอกาสน้อยสุดๆ
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าฉางหยางเกมส์น่าจะเป็นโปรเจ็กต์ที่สุ่ม
เสี่ยงที่สุด เขาจึงตัดสินใจจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ
เขาเข้าไปดูเว็บไซต์หลักของเกมเพลงรบโลหิต
ดูเหมือนว่าความนิยมจะเพิ่มขึ้นมาหน่อยจริงๆ หลังจากชื่อเสียงดีขึ้น ผู้เล่น
เก่าส่วนหนึ่งก็กลับมาเล่น
แต่เผยเชียนก็ไม่ได้ลนลานอะไร เขารีบส่งข้อความไปหาเยว่จือโจว “ช่วยส่ง
ยอดเติมเงินจากหลังบ้านเกมเพลงรบโลหิตให้ผมด้วย”
ไม่กี่นาทีต่อมา เยว่จือโจวก็ส่งภาพถ่ายหน้าจอกลับไปให้ดู
เป็นภาพยอดเติมเงินของเกมเพลงรบโลหิต เผยเชียนดูคร่าวๆ แล้วพบว่าโดย
เฉลี่ย ยอดเติมเงินรายคนเพิ่มขึ้นมาก แต่ยอดรวมตกลงไปเจ็ดสิบถึงแปดสิบ
เปอร์เซ็นต์!
จากสถานการณ์ในตอนนี้ ยอดรายได้ต่อเดือนของเกมเพลงรบโลหิตน่าจะไม่
ถึงหนึ่งแสนหยวน
อืม ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนการ!
เกมจะรอดไม่รอดขึ้นอยู่กับรายได้ ดังนั้นบริษัทเกมทุกบริษัทจึงผลักดัน
กิจกรรมเติมเงิน โดยไม่สนว่าจะโดนผู้เล่นด่าแค่ไหน ขอแค่ทำกำไรได้ก็พอ
เกมมีชื่อเสียงดีแล้วจะทำอะไรได้ถ้าขาดทุนอย่างต่อเนื่อง
ถึงเกมเพลงรบโลหิตที่ปรับมาใหม่จะเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์ผู้เล่น แต่
ประเด็นอยู่ที่เอาเกมนี้ไปเทียบกับเกมไหนล่ะ!
เทียบกับเกมอื่นๆ ที่มีการวางเพดานค่าใช้จ่า ยสูงๆ ตอนนี้ผู้เล่นสายวาฬก็
หมดสนุกกับเกมไปแล้ว รายได้จากผู้เล่นสายวาฬหายไปก้อนโต
เทียบกับเกมที่เป็นมิตรกับผู้เล่นอย่างเกม Fantasy World งานภาพของเกม
เพลงรบโลหิตนั้นห่วยกว่า ไม่น่าจะเทียบชั้นได้
หมายความว่าเกมเพลงรบโลหิตสู้เกมทั้งสองแบบไม่ได้เลย ไม่สามารถแย่ ง
ฐานผู้เล่นมาได้
“ไม่เลว รักษาสภาพนี้ต่อไปเรื่อยๆ”
หลังจากตอบข้อความของเยว่จือโจว เผยเชียนก็รู้สึกสบายใจขึ้นจึงห่อตัวด้วย
ผ้าห่มแล้วผล็อยหลับไปอย่างมีความสุข
อีกสองวัน ร้านใหม่ทั้งสองสาขาจะเปิดให้บริการ เขาต้องไปตรวจสอบดูอีกที
เพื่อความสบายใจ

ฉางหยางเกมส์
เยว่จือโจวเห็นข้อความของบอสเผยก็รู้สึกอุ่นใจ
ถึงบอสเผยจะมีเรื่องให้ต้องจัดการมากมาย แต่บอสก็ยังเป็นห่วงฉางหยาง
เกมส์!
แม้รายได้ของเกมจะตกฮวบฮาบ แต่ก็ชัดเจนว่านี่คือส่วนหนึ่งในแผนของบอส
เผย ดังนั้นเขาต้องรักษาสภาพนี้ต่อไปเรื่อยๆ
หมายความว่าพวกเขาเดินมาถูกทาง!
เยว่จือโจวรู้สึกมีพลังขึ้นมา
นี่คือผลลัพธ์จากการมีบอสดีๆ เข้ามาคุมบริษัทใช่ไหมนะ


วันที่ 20 พฤษภาคม
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูทั้งสองสาขาเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ!
เผยเชียน หม่าหยาง และจางหยวน บอร์ดบริหารของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
เดินทางมาเปิดร้าน
แต่สถานการณ์ดูน่ากระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย
เพราะไม่มีลูกค้าเลย!
สถานการณ์แย่กว่าตอนเปิดร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักอีก
ทำเลของสองสาขานี้แย่กว่าสาขาหลัก เผยเชียนย้ำตลอดว่าห้ามจัดกิจกรรม
อะไรตอนเปิดทำการ ห้ามจุดพลุ ห้ามแจกใบปลิว ทำตัวให้เงียบได้เท่าไหร่ยิ่งดี
การเปิดร้านในทำเลรกร้างโดยไม่มีโปรโมชันหรือการโฆษณาอะไรย่อมทำให้
ไม่มีลูกค้าเป็นธรรมดา
เผยเชียนรู้สึกพอใจมาก เขานั่งอยู่ในโซนคาเฟ่อันเปล่าเปลี่ยว หันมองออกไป
ชมแสงพระอาทิตย์อันอบอุ่นด้านนอก
ผู้จัดการสาขาทั้งสองคนดูไม่ค่อยสบายใจ แต่พวกเขาทำงานที่สาขาหลักมา
ก่อน จึงชินกับบรรยากาศแบบนี้ ทั้งคู่รู้ว่าบอสเผยไม่มีทางตำหนิพวกเขา จึงไม่ได้
เครียดอะไรขนาดนั้น
แต่เหล่าพนักงานใหม่ไม่เคยเห็นภาพแบบนี้มาก่อน จึงไม่รู้ว่าจะต้องยืน
ตรงไหน วางมือยังไง พวกเขารู้สึกว่าบรรยากาศร้านน่าอึดอัดมากๆ
“ห้ามผมทำไม” หม่าหยางถามด้วยความงุนงง
เมื่อกี้หม่าหยางเห็นว่าร้านเงียบเหงา ทุกคนดูหดหู่ เลยตั้งใจจะไปบอกข่าวดี
เรื่องร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกับเผยเชียน
พอได้นักร้องดาวรุ่งอย่างเฉินเหล่ยมาร้องเพลงให้ที่ร้าน ยอดขายเครื่องดื่ม
โซนคาเฟ่ก็พุ่งขึ้นพรวดพราด แถมยังมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้
ชัด!
หม่าหยางคิดว่าควรจะนำวิธีการนี้มาใช้กับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูทั้งสองสาขา
แต่ก่อนที่จะได้พูดออกไป จางหยวนก็เข้ามาห้ามเอาไว้ก่อน
จางหยวนรู้ว่าหม่าหยางอยากจะพูดอะไร จึงกระซิบบอก “น้องหม่า ไม่ใช่ว่า
พี่ห้ามไม่ให้บอก แต่ตอนนี้ยังไม่เหมาะ อย่าเพิ่งรีบร้อน”
หม่าหยางงง “เอ๋ ทำไมล่ะ”
“น้องหม่า ยอดขายเครื่องดื่มเราเพิ่งจะเพิ่มขึ้นหมาดๆ ทำเงินได้แค่สองถึง
สามหมื่นต่อเดือน เทียบกับยอดขาดทุนสามแสนต่อเดือนแล้วถือว่าน้อยมาก!
“ถ้าบอกไปตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
“สมมติน้องหม่าไปบอกบอสเผย แล้วบอสถามกลับว่า ‘ไม่เลวเลยนี่ ทำเงินได้
เท่าไหร่ล่ะ’ แล้วน้องตอบกลับไปว่า ‘แฮ่ๆ ยังขาดทุนอยู่เลยพี่ ’ แบบนี้บอกบอส
เผยไปแล้วจะได้อะไรขึ้นมา!
“ถ้าเราเก็บเงียบไว้ก็จะไม่มีใครรู้ ไปบอกตอนนี้แล้วบอสเผยตั้งความหวังกับ
เราขึ้นมา บอสจะไม่ผิดหวังเอาทีหลังเหรอ
“พี่ว่าเรารอให้ร้านพลิกจากขาดทุนมาทำกำไรได้ก่อนแล้วค่อยบอกบอสเผย
อุบไว้เป็นเซอร์ไพรส์ไง ทำแบบนี้ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูของเราก็จะไต่เต้าขึ้นไป
อีกระดับ ตำแหน่งของเราในใจบอสก็จะเพิ่มสูงขึ้ น สร้างความประทับใจได้ดีกว่า
กันเยอะ!”
“ทำตามที่พี่บอกนะน้องหม่า”
หม่าหยางคิดอยู่หนึ่ง ที่ว่ามาก็ฟังดูมีเหตุผลดี
พวกเขายังห่างไกลจากการทำกำไรได้ ถ้าบอกข่าวดีเผยเชียนไปตอนนี้ก็ไม่
ค่อยได้อะไร รังแต่จะทำให้เขาดูเป็นคนอวดอ้างความดีความชอบของตัวเอง
กลายเป็นคนคุยโม้กับความสำเร็จขี้ปะติ๋ว
ให้เป็นแบบนั้นไม่ได้
หม่าหยางพยักหน้า “โอเค พี่พูดถูก ไว้ค่อยยกเรื่องนี้มาพูดที่หลัง เมื่อไหร่ที่
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูพลิกกลับมาทำกำไรได้ เราจะไปเซอร์ไพรส์พี่เชียนกัน!”
บทที่ 156 ความอับอายของเถิงต๋า!

วันที่ 21 พฤษภาคม
เผยเชียนได้รายงานผลประกอบการจากเยว่จือโจว ฉางหยางเกมส์ยังคง
ขาดทุนอยู่ ไม่เห็นแววพลิกกลับมาทำกำไรได้
ในรายงาน เยว่จือโจวระบุว่าผู้เล่นในปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยัง
แจกแจงยอดซื้อไอเทมในเกมมาอย่างละเอียด เห็นได้ชัดว่าเขามองจุดนี้เป็น
เครื่องบ่งชี้ความสำเร็จของตนเอง จึงรายงานตัวเลขพวกนี้มาให้บอสเผยทราบ
แน่นอนว่าที่เกิดผลลัพธ์แบบนี้ขึ้นได้เป็นเพราะแนวทางจากบอสเผย
เผยเชียนไม่ได้สนใจรายละเอียดที่ว่ามาสักนิด ชายหนุ่มสนแค่ยอดรายได้รวม
อืม ไม่กระเตื้องขึ้นเลย!
เผยเชียนคิดเอาไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้จึงตอบกลับไป “ทำได้ดี รักษาสภาพ
นี้ไว้”
เยว่จือโจวกลับไปทำงานอย่างชื่นบาน
เผยเชียนพอใจกับสภาพปัจจุบันของฉางหยางเกมส์มาก ชื่อเสียงของบริษัท
จะดีหรือแย่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ขอแค่รายได้ไม่กระเตื้องขึ้นก็ถือเป็นที่น่าพอใจแล้ว
เยว่จือโจวคิดว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของบอสเผย
แน่นอนว่าก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่สิ่งที่เผยเชียนกำลังทำอยู่กับสิ่งที่เยว่จือโจว
คิดว่าบอสเผยกำลังทำอยู่นั้นเป็นหนังคนละม้วนกันเลย
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
เผยเชียนหันมองแล้วพบว่าเป็นหวงซื่อปั๋ว
“หืม แปลกจริง”
ทั้งคู่ไม่ได้เจอกันนาน ความหงุดหงิดใจที่เผยเชียนมีต่อหวงซื่อปั๋วนั้นจาง
หายไปได้สักพักแล้ว
พอมาคิดดูอีกที เฟยหวงสตูดิโอก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังสักเท่าไหร่!
ถึงจะทำรายได้ได้สองล้านหยวน แต่พอแบ่งกำไรแล้ว ยอดจริงๆ ที่เถิงต๋าได้
อยู่ที่สี่แสนหยวนกว่าๆ แถมเงินค่าแรงที่ผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อให้มาก็ช่วยให้เผยเชียน
ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าบ้านได้
ดังนั้นเผยเชียนจึงหายโกรธไปนานแล้ว
หวงซื่อปั๋วเดินถือกระเช้าผลไม้เข้าห้องทำงาน “ผมผ่านมาแถวออฟฟิศพอดี
เลยตั้งใจจะมาลาบอสเผยน่ะครับ”
“อ้าว มาลาเหรอ” เผยเชียนอึ้งไป “คุณจะไปไหน”
หวงซื่อปั๋วยิ้ม “เราบอกไปสักพักแล้วนี่ครับว่าเฟยหวงสตูดิโอจะเริ่มถ่ายทำ
สารคดี ผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อกับผม รวมถึงพนักงานบางส่วนจะเดินทางไปเซี่ยงไฮ้
พวกเราจะไปถ่ายทำกันที่นู่น ผมอาจจะต้องอยู่นั่นจนถึงเดือนหน้า
“ก็เลยตัดสินใจจะมาลาบอสก่อนเดินทางครับ”
ไปเซี่ยงไฮ้เหรอ
เผยเชียนพยักหน้า “อืม เซี่ยงไฮ้นี่ดีเลย”
เขารู้ดีว่าการไปเซี่ยงไฮ้ต้องเสียเงินก้อนโตแน่!
ถ้ า ไม่ รวมคนตั ด ต่ อ เฟยหวงสตู ด ิ โ อมี พ นัก งานประมาณห้ า ถึ ง หกคน ถ้ า
พนักงานกลุ่มนี้ไปเซี่ยงไฮ้กันหมด ราคาตั๋วรถไฟไปกลับ รวมถึงค่าที่พักและค่า
ต่างๆ คงไม่ใช่ถูกๆ
เผยเชียนไม่ได้ให้ทุนเฟยหวงสตูดิโอเพิ่มอีก ครั้งนี้รายจ่ายทั้งหมดจะใช้กำไรที่
ได้จากซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยทุนทั้งหมดอยู่ที่ประมาณหนึ่งล้านหยวน
และเงินส่วนนี้จะต้องแบ่งไปใช้ซื้ออุปกรณ์ใหม่ด้วย
พวกเขาใช้กล้อง DSLR ตัวที่ใช้ถ่ายซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยถ่ายภาพ
พอร์ตเทรตได้ แต่การถ่ายสารคดีนั้นแตกต่างออกไป พวกเขาต้องใช้อุปกรณ์
หลายๆ อย่างในการถ่ายทำสารคดี ไม่อย่างนั้นงานจะออกมาดูไม่มืออาชีพ
คิดได้อย่างนั้น เผยเชียนก็ไม่ได้รู้สึกติดใจอะไร จริงๆ แอบรู้สึกสนใจเสียด้วย
ซ้ำ
ถึงจะเตรียมใจไว้แล้วว่าโปรเจ็กต์ใหม่ของหวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อจะทำเงินได้
แต่เขาก็อดถามคำถามขึ้นมาไม่ได้
ไม่ว่าจะมากหรือน้อย กำไรก็คือกำไร แต่จำนวนก็ยังแตกต่างกันมากอยู่ดี
ถ้าทำกำไรได้น้อย ก็ยังพอเอาโปรเจ็กต์อื่นมาถัวเฉลี่ยได้ แต่ถ้าทำกำไรได้มาก
เขาก็จะเสียผลประโยชน์
“อืม ระวังตัวกันด้วยล่ะ ” เผยเชียนทำทีเหมือนไม่ได้สนใจอะไรมากตอนที่
ถามออกไป “พวกคุณจำเป็นต้องไปที่เซี่ยงไฮ้เพื่อถ่ายทำสารคดีเรื่องนี้โดยเฉพาะ
เลยเหรอ”
หวงซื่อปั๋วยิ้มเจื่อนๆ “บอสเผย ผมบอกความจริงเลยแล้วกัน อย่าโกรธผมนะ
โปรเจ็กต์นี้มีโอกาสทำให้เงินที่เราหามาอย่างยากลำบากหายวับไปจนหมดเลย
ครับ”
หา
เสียเงินที่หามาอย่างยากลำบากไปจนหมดเหรอ
เผยเชียนดีดตัวนั่งหลังตรงทันที
พูดเรื่องนี้ขึ้นมาปุ๊บ หายเบื่อเลยอะ!
“เอ้า จิบชาก่อนสิ” เผยเชียนรีบรินชาใส่ถ้วยแล้วส่งให้หวงซื่อปั๋ว ท่าทีที่มีต่อ
อีกฝ่ายเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
หวงซื่อปั๋วไม่ได้สังเกตถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของเผยเชียน เขารับชามาจิบแล้ว
อธิบายโปรเจ็กต์ล่าสุดของเฟยหวงสตูดิโอให้ฟังคร่าวๆ
“บอสเผยครับ คำพูดของบอสกินใจผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อกับผมมาก เราตัดสิน ใจ
ว่าจะเลิกทำคลิปสั้นแล้วหันไปถ่ายทำสิ่งที่มีความหมายมากกว่านี้
“เราระดมความคิดกันยกใหญ่ แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนว่ามีอะไรขาดหายไป
“บางหัวข้อเป็นหัวข้อที่เราคิดว่าถนัด บางหัวข้อเราคิดว่าน่าจะทำกำไรได้ แต่
ก็ไม่มีหัวข้อไหนที่ตรงใจเราสักหัวข้อ
“ในที่สุดเราก็เจอหั วข้อที่ตรงใจพวกเรา เราจะทำสารคดีเกี่ยวกับนักกีฬาอี
สปอร์ตกันครับ!”
เผยเชียนรู้สึกสนใจมากๆ “สารคดีเกี่ยวกับนักกีฬาอีสปอร์ตเหรอ”
หวงซื ่ อ ปั ๋ ว ไม่ ไ ด้ โ กหก หั ว ข้ อ นี ้ น ่ า จะทำให้ พ วกเขาสู ญ เงิ น ที ่ ห ามาอย่ า ง
ยากลำบากไปหมดจริงๆ!
ปีนี้ปีอะไร 2010!
นักกีฬาอีสปอร์ตยุคนี้เป็นพวกไร้บ้าน ต้องนอนข้างถนน ดื่มน้ำก๊อกข้างทาง
กินแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ไม่เหมือนสิบปีให้หลังที่นักกีฬาพวกนี้ได้นั่งจิบไวน์ มีนางแบบสาวอยู่ข้างกาย
ขับรถเฟอร์รารี่ ทำเงินได้หลักสิบล้านต่อปี
อุตสาหกรรมนี้ยังมีเงินทุนไหลเวียนไม่มากนัก เกมถูกมองว่าเป็นภัยร้ายแรง
ต่อสังคม ไม่ว่าจะเล่นจริงจังเป็นอาชีพหรือเล่นเอาสนุกเฉยๆ ก็ไม่ได้มีความ
แตกต่างกัน ใครก็ตามที่เล่นเกมจะถูกมองว่ามัวแต่หมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่ไม่ควรทำ
ถ้าจะถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับผู้เล่นอีสปอร์ตก็พอทำได้ พอหาคนได้ แต่จะทำ
เงินได้ไหมก็เป็นอีกเรื่อง
ที่ซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยทำเงินได้ก็เพราะเว็บอ้ายลี่เต่าบังเอิญกำลัง
หาคอนเทนต์พรีเมี่ยมไปลงเว็บอยู่พอดี พวกเขาเลยจับพลัดจับผลูได้เซ็นสัญญาที่
ได้ส่วนแบ่งในอัตราพิเศษ
คลิปสั้นสามารถลงได้หลายตอน ทำให้ดึงคนเข้าเว็บได้เรื่ อยๆ แถมอีกฝ่ายยัง
ขอซื้อมาฉายเฉพาะที่เว็บของตัวเองแค่เว็บเดียว ด้วยชื่อเสียงของซีรีส์ที่สั่งสมมา
ทำให้สามารถต่อรองผลประโยชน์กับทางเว็บไซต์ได้
แต่สารคดีนั้นไม่เหมือนกัน
อย่างแรกคือ ผู้คนไม่ค่อยให้ความสนใจ
อย่างที่สองคือ ไม่สามารถลงตอนใหม่ๆ ได้ ดึงคนเข้าเว็บได้ ไม่ต่อเนื่อง เป็น
เรื่องธรรมดาที่เว็บไซต์ให้บริการวิดีโอจะไม่สนใจขอซื้อลิขสิทธิ์เผยแพร่ อย่างมาก
ก็อาจจะพอต่อรองขอผลประโยชน์ขั้นต่ำที่ยี่สิบถึงสามสิบหยวนต่อหนึ่งหมื่นวิวได้
อย่างที่สามคือ รับโฆษณาไม่ได้ หมายความว่าไม่สามารถขอสปอนเซอร์ได้
สารคดีเป็นสิ่งที่จริ งจังมาก เพราะเป็นเรื่องจริงจึงเป็นงานที่มีความหมาย
พวกเขาจะสัมภาษณ์นักกีฬาอีสปอร์ตครึ่งหนึ่งแล้วตัดเข้าโฆษณา “อยากชนะมั้ย
นั่งเก้าอี้เอ๋าเฟิงสิ” ไม่ได้
พูดได้ว่าสารคดีส่วนใหญ่ทำกำไรไม่ได้เลย มีแค่ไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่ทำได้
อย่าง A Bite of China
ตอนที่เผยเชียนได้ยินว่าหวงซื่อปั๋วสนใจอยากทำสารคดี เขาก็นึกกังวลว่าจะ
ทำสารคดีแบบ A Bite of China ขึ้นมาหรือเปล่า แต่ตอนนี้มั่นใจแล้วว่าไม่น่า
เป็นแบบนั้นได้
ซึ่งก็สมเหตุสมผล ถึงจูเสี่ยวเช่อมีความสามารถมาก แต่เขาก็ไม่ได้เดินทางมา
จากอนาคต
สร้างอะไรให้ดังเป็นพลุแตกได้ครั้งหนึ่งถือว่ามีความสามารถ
แต่ถ้าทำได้หลายครั้งคือโกง
พอคิดถึงจุดนี้เผยเชียนก็รู้สึกโล่งอก
ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องคุยเรื่องแผนการถ่ายทำสารคดีของพวกเขาแล้ว ขอแค่
ลงทุนไปมากแต่ได้ผลตอบแทนกลับมานิดเดียว เผยเชียนก็ถือว่าเป็นโปรเจ็กต์ที่ดี
แล้ว
สีหน้าของเผยเชียนดูอบอุ่นขึ้น “เสียเงินที่หามาไปจนหมดเหรอ ไม่ใช่ปัญหา
มีทุนจากผมสนับสนุน พวกคุณอยากทำอะไรก็ทำเลย!
“เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา จะมามัวนั่งกลัวไม่กล้าทำไม่ได้!”
หวงซื่อปั๋วจิบชา รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้า “กะแล้วว่าบอสเผยต้องสนับสนุน
เรา!
“ไม่ต้องห่วงนะครับบอสเผย เรารู้ว่ารอบนี้มีความเสี่ยงอะไรบ้าง เลยตั้งใจว่า
จะนั่งรถไฟสีเขียวไปเซี่ยงไฮ้ เราจะพยายามประหยัดงบค่าที่พักกับค่าอาหารให้
ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้…”
หวงซื่อปั๋วยังพูดไม่ทันจบ เผยเชียนก็หน้าคร่ำเครียดขึ้นมา
“หมายความว่ายังไง”
หวงซื ่ อ ปั ๋ ว นิ ่ ง ไป เขาแทบไม่ เ คยเห็ น บอสเผยโกรธ จึ ง ตอบออกไปอย่ า ง
ตะกุกตะกัก “เปล่าครับ เราพยายามคุมค่าใช้จ่ายกันเฉยๆ”
เผยเชียนมองหวงซื่อปั๋วอย่างผิดหวัง “คุมค่าใช้จ่ายเหรอ หวงซื่อปั๋ว อย่าลืม
ตัวตนของคุณสิ!”
หวงซื่อปั๋วอึ้งไป ถ้วยชาในมือสั่น
แทบไม่เคยเห็นบอสเผยโมโหแบบนี้ นี่ฉันพูดอะไรผิดเหรอ
เผยเชียนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เฟยหวงสตูดิโอเป็นบริษัทลูกของเถิงต๋า คุณ
และพนักงานทั้งหมดในเฟยหวงสตูดิโอคือพนักงานของเถิงต๋า! คุณวางแผนจะให้
พวกเขาขึ้นรถไฟสีเขียว ให้พวกเขาประหยัดค่าที่พักกับค่าอาหาร ถ้าพวกเขาไป
กินอะไรผิดสำแดงขึ้นมาจะทำยังไง
“ถึงพวกเขาจะสุขภาพแข็งแรง ท้องไส้รับอาหารพวกนั้นได้ไหว แต่ร่างกาย
พวกเขาน่าจะเหนื่อยจากการเดินทาง ถ้าไม่ได้กินดีอยู่ดีก็จะส่งผลกระทบต่อ
ประสิทธิภาพการทำงาน กระทบไปถึงการถ่ายทำ ถ้าโปรเจ็กต์ไม่ราบรื่นแล้วงาน
ออกมาแย่ ใครต้องเป็นคนรับผิดชอบ”
หวงซื่อปั๋วรู้สึกได้ว่าตัวเองมือสั่น “ก็…ก็คงเป็นผม
“เปล่า ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่… ” หวงซื่อปั๋วเข้าใจที่เผยเชียนจะสื่อ “บอสเผย ไม่
ต้องห่วงนะครับ ผมแค่พยายามจะลดค่าใช้จ่ายเฉยๆ ไม่ได้จะใช้งานพวกเขาเยี่ยง
ทาส ผมจะดูแลสุขภาพของพนักงานเป็นอย่างดี…”
เผยเชียนยังคงผิดหวังในตัวหวงซื่อปั๋ว “คุณคือความอับอายของเถิงต๋า! นี่คุณ
คิดอะไรอยู่เนี่ย”
หวงซื่อปั๋วพูดอะไรไม่ออก
เผยเชียนพูดต่ออย่างจริงจัง “ฟังผมนะ ขึ้นเครื่องบินแทน เวลาคือเงินเข้าใจ
มั้ย พอไปถึงก็ดูแลเรื่องอาหารกับ ที่พักตามมาตรฐานการเดินทางทั่วไป ถ้าไม่รู้ว่า
มาตรฐานคืออะไรให้ไปถามเลขาซิน
“พอถึงเซี่ยงไฮ้ก็ไม่ต้องลนหรือกังวลอะไร ถ้าถ่ายไม่เสร็จก็ขยายเวลาถ่ายทำ
ออกไป ค่อยๆ ถ่าย ขอแค่เสร็จก่อนวันที่ 18 มิถุนาก็พอแล้ว
“ถ้าขยายเวลาถ่ายทำออกไป อย่างมากก็มีแค่ค่าที่พักที่เพิ่มขึ้น จะใช้เงิน
เท่าไหร่กันเชียว ถ้าเงินไม่พอก็ค่อยขอผมเพิ่ม ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย
“จำไว้ว่าเฟยหวงสตูดิโอมีเถิงต๋าหนุนหลังอยู่ ถ้าเจอปัญหาอะไรก็แค่บอก!”
หวงซื่อปั๋วรีบพยักหน้า “ได้ครับ บอสเผย ผมจะทำตามที่บอสบอก”
เผยเชียนพยักหน้า สีหน้าดูผ่อนคลายลง เขาพูดต่ออย่างจริงจัง “คุณเองก็
เป็นพนักงานของเถิงต๋า อย่าให้ผมต้องมากังวลเรื่องเล็กน้อยแบบนี้
“นี่ถึงขนาดคิดจะขึ้นรถไฟสีเขียวไปเซี่ยงไฮ้เลยเหรอ เถิงต๋าไม่มีทางทน
พนักงานที่น่าอับอายอย่างคุณ!”
หวงซื่อปั๋วหน้าแดง เขารู้สึกอับอายไปจนถึง ก้นบึ้งของหัวใจ “ครับ บอสเผย
พูดถูก ต่อไปเฟยหวงสตูดิโอจะเดินตามเถิงต๋าทุกฝีเก้า เราจะทำทุกอย่างตาม
มาตรฐานของเถิงต๋า”
เผยเชียนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “อืม ต้องแบบนั้น จำไว้ว่าถ้าเจอปัญหา
อะไรให้แจ้งผมทันที!”
เขาเพิ่งจะรู้สึกพอใจหลังจากสั่งย้ำแบบนี้อยู่หลายรอบ
เจ้าหวงซื่อปั๋ว แกเพิ่งจะเจอโปรเจ็กต์สูญเงินมหาศาล กล้าดียังไงมาลด
ค่าใช้จ่าย!
ย้ำมาตั้งหลายรอบแต่ก็ยังตระหนี่กันอยู่เหมือนเดิม แกก็เคยเป็นพนักงานของ
เถิงต๋านี่!
เรื่องนี้ทำเผยเชียนเหนื่อยหน่ายสุดๆ
บทที่ 157 ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูของฉันหายไปไหน

หวงซื่อปั๋วกลับออกไป
เผยเชียนแบ่งผลไม้ที่หวงซื่อปั๋วให้มากับทุกคน จากนั้นก็หยิบแอปเปิ้ลลูกหนึ่ง
ไปล้างแล้วเดินกลับไปเคี้ยวกินที่ห้องทำงาน
พริบตาเดียวก็ผ่านไปเกือบหนึ่งเดือน ดูจากสถานการณ์ปัจจุบันแล้วน่าจะไม่มี
ปัญหาอะไร
ขอแค่ไม่บังเอิญทำกำไรขึ้นมาแบบงงๆ เขาก็น่าจะขาดทุนได้สักเล็กน้อยอย่าง
ไม่ยากเย็นอะไร
เผยเชียนเริ่มคิดว่าจะให้สวัสดิการอะไรกับพนักงานเพิ่มดี
ตอนนี้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกำลังเปิดสาขาเพิ่ม ทำให้เผยเชียนมีพนักงานใน
สังกัดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แค่เขาแจกจ่ายสวัสดิการให้พนักงานแต่ละคนก็ผลาญเงินไป
ได้ก้อนใหญ่แล้ว
โปรเจ็กต์ต่างๆ จะทำเงินได้หรือไม่นั้น เขาไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด แต่
เผยเชียนสามารถหาทางผลาญเงินอย่างเต็มที่ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ชายหนุ่มค้นหา ‘สวัสดิการพนักงาน’ บนเว็บเชียนตู้ระหว่างเคี้ยวกินแอปเปิ้ล
มีบริษัทหลายแห่งที่ให้ ‘สวัสดิการพนักงานอย่างล่ำซำ’ เด้งขึ้นมา เผยเชีย
นรีบคลิกเข้าไปดู ก่อนจะแค่นลมหายใจผ่านจมูก
แค่นี้เองเหรอ
ช่างเถอะ ถ้าไม่มีต้นแบบก็คงต้องพึ่งจินตนาการของตัวเอง
เขายังค้นหาต่อไปเรื่อยๆ
ระหว่างกำลังค้นหา ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงความง่วงที่เริ่มเข้าครอบงำ เขาปรับ
เก้าอี้เอนนอน กระชับผ้าห่ม จากนั้นก็ผล็อยหลับไป
ผ่านไปพักใหญ่
เผยเชียนตื่นขึ้นมาแล้วพบดวงอาทิตย์กำลังลาลับฟ้า
จู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่าตาข้างขวากำลังกระตุก
“หืม มีอะไรรึเปล่านะ”
เผยเชียนขยี้ตา แต่ตาก็ยังกระตุกอยู่
“ขวาร้าย ซ้ายดี
“ลางไม่ดีเลยแฮะ”
เผยเชียนรีบลุกยืน ก่อนจะเดินวนรอบห้องทำงานสองรอบ จากนั้นก็มอง
ออกไปยังวิวนอกหน้าต่าง
ไม่นานเปลือกตาข้างขวาก็หยุดกระตุก
“เฮ้อ ตกใจหมดเลย สงสัยจะเพราะดูซีรีส์เยอะเกินไป ตาเลยล้า”
เผยเชียนโยนแก่นแอปเปิ้ลลงถังขยะ จากนั้นก็นั่งลงบนเก้าอี้ เตรียมตัวดูซีรีส์
ต่อ
ทันใดนั้นเปลือกตาข้างซ้ายก็กระตุกอีกครั้ง!
ถึงจะขยี้ตาก็ไม่หายกระตุก!
“ขวาร้าย ซ้ายดี
“โอเค แสดงว่าจะโชคดี ก็ยังดีกว่าตาข้างขวากระตุกแหละเนอะ
“เอ๊ะ
“เดี๋ยวนะ มันแปลกๆ…
“ถ้าตาข้างซ้ายกระตุก แปลว่าโชคดี! แสดงว่าจะมีลาภลอย!”
เผยเชียนดีดตัวลุกขึ้นยืน ไม่สามารถนั่งได้อีกต่อไป
เขานึกขึ้นได้ว่าตอนนี้มีปัญหาแล้ว!
คนอื่นอาจจะคิดว่าตาข้างซ้ายกระตุกคือลางดี เพราะใครกันจะไม่อยากโชคดี
มีลาภหล่นใส่
แต่สำหรับเผยเชียน ไม่ว่าตากระตุกข้างไหนก็ไม่แตกต่างกันเลย!
เพราะถือเป็นลางร้ายทั้งคู่!
“แย่แล้ว ต้องเกิดปัญหาที่ไหนสักแห่งแน่
“ไม่ ก ี ่ ว ั น ก่ อ นก็ ร ู ้ ส ึ ก กระวนกระวาย ตอนนอนกลางวั น ก็ ฝ ั น ไปว่ า ร้ า น
อินเทอร์เน็ตโมหยูทำกำไรได้ วันนี้ตากระตุกสองข้างอีก ต้องเป็นลางร้ายแน่ๆ”
เผยเชียนยืดหลังตรง ก่อนจะเดินวนไปวนมารอบห้องทำงาน
“ฉันต้องหาให้เจอว่าปัญหาอยู่ตรงไหน…”
เผยเชียนคิดถึงโปรเจ็กต์ต่างๆ ในหัว สุดท้ายก็ไปหยุดอยู่ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโม
หยู
สองสาขาใหม่เพิ่งเปิดทำการ น่าจะยังทำเงินไม่ได้
แสดงว่าต้องเป็นสาขาหลัก!
เผยเชียนคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้แวะไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
มาหนึ่งสัปดาห์แล้ว
พอคิดได้อย่างนั้น เขาก็รีบเดินออกจากห้องทำงานไป
ตอนนี้เย็นแล้ว หลายคนกำลังเก็บข้าวของเตรียมกลับบ้าน
เผยเชียนรีบเรียกหาเลขาซิน “คืนนี้ไปส่งผมที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู”
“ได้ค่ะ บอสเผย” เลขาซินไม่ได้ตะขิดตะขวงใจอะไร เพราะเธอมั่นใจว่าจะได้
ค่าล่วงเวลาจากบอสเผยโดยไม่ต้องเตือน

ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลัก
ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่ม ลูกค้าหลายคนมารออยู่ที่หน้าทางเข้า
พนักงานจำนวนหนึ่งกำลังย้ายโต๊ะไปพื้นที่ว่างด้านนอกร้าน
ที่ตรงนี้เคยเป็นร้านอาหารมาก่อน จึงมีพื้นที่ด้านนอกกว้างขวางไว้เป็นที่จอด
รถ แต่พอเปลี่ยนมาเป็นร้านอินเทอร์เน็ต ที่จอดรถก็ไม่จำเป็นอีก พื้นที่ตรงนี้จึง
ปล่อยว่างมาจนถึงปัจจุบัน
แต่วันนี้พนักงานส่วนหนึ่งยกโต๊ะเก้าอี้สวยหรูมีร่มติดมาวางจนเต็มพื้นที่ที่ว่า
ตอนนี้เป็นช่วงเย็นของหน้าร้อน พื้นที่ตรงนี้ดูแล้วเหมือนเป็นเมืองเล็กๆ ริมหาด
สักเมืองในยุโรป
แน่นอนว่า ถ้าพิจารณาจากสภาพอากาศ เมืองจิงโจวนั้นเทียบยุโรปไม่ได้เลย
แต่ถ้าดูที่สไตล์อย่างเดียว ที่ตรงนี้ก็ไม่ได้ดูแย่อะไร
โซนบาร์ในร้านแทบจะแน่นขนัด มีผู้คนมากมายนั่งอยู่ด้านนอกร้าน
พวกเขาสามารถมองเห็นเวทีผ่านผนังกระจกได้ แถมหม่าหยางยังยกลำโพง
ออกมาตั้งด้านนอกเพื่อที่ลูกค้าจะได้ฟังเฉินเหล่ยร้องเพลง
พอเห็นลูกค้าทยอยเข้าร้านเรื่อยๆ ใบหน้ายาวใหญ่ของหม่าหยางก็ผุดยิ้ม
กว้าง
“เห็นมั้ย ทำแบบนี้ก็หมดปัญหาเรื่องที่นั่งไม่พอใช่มั้ ยล่ะ” หม่าหยางดูจะ
พอใจกับสภาพตรงหน้ามาก
จางหยวนยกนิ้วโป้งให้ “อืม ไอเดียดีสุดๆ เลยน้องหม่า!”
หลังจากแฟนคลับของเฉินเหล่ยทยอยหลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ ที่นั่งด้านในก็เต็ม
หมด หม่าหยางจึงผุดไอเดียทำที่นั่งด้านนอกเพิ่ม
ตอนนี้เป็นช่วงหน้าร้อน ร้านอาหารหลายๆ ร้านเพิ่มที่นั่งด้านนอกร้านกันเป็น
เรื่องปกติ
จริงๆ จางหยวนก็ผุดไอเดียนี้ขึ้นมาเหมือนกัน แต่ก็ถือว่าได้เอาใจหม่าหยาง
เขาเลยไม่ได้บ่นอะไร
หญิงสาวแต่งตัวทันสมัยเดินไปตรงเคาน์เตอร์บาร์ จากนั้นก็หยิบกระดาษโน้ต
ออกมาสองแผ่น “แสงเหนือสามแก้ว แก้วหนึ่งให้ฉัน อีกสองแก้วให้ เฉินเหล่ย
ส่วนโน้ต… อืม เขียนไปว่า ‘แฟนคลับคนนี้จะรักเฉินเหล่ยตลอดไป’!”
บาร์เทนเดอร์เริ่มชงค็อกเทลแสงเหนืออย่างช่ำชอง ครู่เดียวค็อกเทลแสง
เหนือหนึ่งแก้วก็ไปปรากฏในมือหญิงสาว
“อย่าลืมเอาค็อกเทลไปให้เฉินเหล่ยทันทีที่เขาขึ้นเวทีนะ” พอย้ำกับบาร์เทน
เดอร์อีกรอบเสร็จ หญิงสาวก็เดินกลับออกไป
หม่าหยางมองสิ่งที่เกิดขึ้น รอยยิ้มบนใบหน้าฉีกกว้างกว่าเดิม
จางหยวนเอ่ยชมหม่าหยางอีกรอบ “ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเราก็น่าจะ
ได้ไปบอกบอสเผยว่าเราพลิกจากขาดทุนมาทำกำไรได้แล้ว!”
หม่าหยางผยองใจ “ฮึม ผมต้องพิสูจน์ให้เห็นให้ได้ว่าผมเก่งกว่าหวงซื่อปั๋ว!”
ไอเดียนี้หม่าหยางกับจางหยวนไม่ได้เป็นคนคิด พวกเขาบังเอิญได้ไอเดียมา
จากการที่ลูกค้า ‘ให้ทิป’ เฉินเหล่ย
แผนแรกของหม่าหยางคือแบ่งกำไรครึ่งหนึ่งของเครื่องดื่มทุกแก้วที่ลูกค้าสั่ง
ให้เฉินเหล่ย
พอนำไอเดียไปปรับใช้ก็ฮิตกันยกใหญ่ในหมู่ลูกค้า ทุกคนสนับสนุนกันดีมาก!
แฟนคลับสาวหลายคนเริ่มใช้วิธีนี้จีบเฉินเหล่ย
มีแฟนคลับคนหนึ่งสั่งค็อกเทลเพิ่มเป็นแก้วที่สองแต่ดื่มไม่หมด เธอเลยถาม
บาร์เทนเดอร์ว่าไม่รับเครื่องดื่มแก้วที่สองแต่ให้ทิปเฉินเหล่ยโดยตรงเลยได้ไหม
บาร์เทนเดอร์ไม่กล้าตัดสินใจเลยไปถามผู้จัดการสาขา จากนั้นผู้จัดการสาขา
ก็มารายงานให้หม่าหยางกับจางหยวนทราบ
หม่าหยางรีบตอบไปทันทีว่า “ไม่มีปัญหา!”
ค็อกเทลหนึ่งแก้วราคาหกสิบ หยวน ถ้าลูกค้าไม่อยากดื่มแต่อยากให้ทิปเฉิน
เหล่ย ก็สามารถให้เงินเฉินเหล่ยสามสิบหยวน ส่วนอีกสามสิบหยวนเก็บเป็น
รายได้ของร้าน!
ทำแบบนี้แฟนๆ ก็สามารถแสดงน้ำจิตน้ำใจได้ เฉินเหล่ยกับร้านก็ไ ด้ผล
ประโยชน์ ถือว่าได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย
จึงเป็นที่มาของเหตุการณ์ในวันนี้
หลายคนสั่งเครื่องดื่มรวดเดียวสองแก้ว แก้วหนึ่งให้ตัวเอง อีกแก้วให้เฉิน
เหล่ย
หม่าหยางนั่งถือค็อกเทลอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ ในใจรู้สึกเบิกบานสุดๆ
จากสถานการณ์ในปัจจุบัน พวกเขาจะสามารถพลิกจากขาดทุนมาทำกำไรได้
ในเดือนหน้า
ก็เหมือนคำพูดที่ว่า ถ้าทุกอย่างไปได้ดี ทุกคนก็มีความสุข
ฉันให้เฉินเหล่ยเวียนไปร้องเพลงที่ร้านอีกสองสาขาได้
พอดึงดูดลูกค้าไปที่ร้านสาขาได้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไปกว่าครึ่ง!
หลังจากทำให้ราคาอินเทอร์เน็ตทั้งสามสาขาทำกำไรได้ ฉันจะไปบอกข่าวดีนี้
กับพี่เชียน พี่เชียนได้ตกใจใหญ่แน่!
จากนั้นในสายตาพี่เชียน หม่าหยางผู้นี้ก็จะมีตำแหน่งสูงกว่าหวงซื่อปั๋ว เปาซวี่
ลู่หมิงเหลียง และคนอื่นๆ!
ฉันอย่างพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าหม่าหยางผู้นี้เป็นพนักงานที่ทรงคุณค่าที่สุดใน
เถิงต๋า!
คิดได้อย่างนั้น หม่าหยางก็ผุดยิ้มอย่างชื่นบาน

ด้านนอกร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เผยเชียนอึ้งไปหลังเดินลงมาจากรถ
ฉันเป็นใคร
ที่นี่ที่ไหน
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูของฉันหายไปไหน
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูที่ใหญ่ๆ เงียบๆ ร้างผู้คนที่ฉันสร้างไว้ตรงนี้หายไปไหน!
ที่นั่งด้านนอกนี่มันอะไร!
ฝีมือใครกัน!
บทที่ 158 บอสเผยโกรธจัด

ตรงทางเข้าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมีคนมาอออยู่มากมาย หม่าหยางกับจาง
หยวนวุ่นกันอยู่ด้านในเลยไม่ทันสังเกตเห็นเผยเชียนที่ยืนอยู่ด้านนอก
เผยเชียนลากเลขาซินมาด้วยเพื่อแอบสังเกตการณ์
พนักงานคนหนึ่งสังเกตเห็นเผยเชียนและตั้งใจจะบอกหม่าหยาง แต่เผยเชียน
ก็รีบห้ามไว้โดยทำท่าจุ๊ปากใส่
พนักงานเห็นแบบนั้นก็เข้าใจความหมายทันที
“บอสเผยจะเซอร์ไพร์สบอสหม่าใช่มั้ยครับ โอเคเลยครับถ้างั้น!”
พนักงานทำเป็นไม่สังเกตเห็นเผยเชียนแล้วตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อ
เผยเชียนรู้สึกเหมือนหัวใจจะวายขณะเดินไปรอบๆ ร้านอย่างเงียบเชียบ
ทางเข้าร้านอัดแน่นไปด้วยโต๊ะติดร่มพร้อมเก้าอี้ ดูหรูหรามีระดับเลยทีเดียว
ชัดเจนมากว่าหม่าหยางจัดโต๊ะแบบนี้เพื่อให้ได้บรรยากาศเมืองเล็กๆ ในแถบ
ยุโรป
แต่เผยเชียนกลับมองแค่ว่าทำไมคนมาเยอะแยะขนาดนี้ นี่ใช่ร้านอินเทอร์เน็ต
โมหยูของฉันจริงๆ หรือเปล่า
เขารู้สึกเจ็บปวดใจเกินจะบรรยาย!
ชายหนุ่มตั้งใจจะเดินเข้าไปในร้าน แต่ก็ได้ยินเสียงกีตาร์ดังขึ้นจากด้านนอก
ร้านก่อน
นักร้องกำลังจะเริ่มร้องเพลง
ผู้คนด้านนอกร้านไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากมาย เพราะพวกเขาแค่ผ่านมาฟัง
เพลง ไม่ได้คลั่งนักร้องอะไรขนาดนั้น
แต่ด้านในร้านโดยเฉพาะตรงโซนบาร์ เสียงปรบมือและเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม
บรรยายกาศในร้านคึกคักสุดๆ!
ถ้าคนไม่รู้เรื่องอะไรเดินผ่านมาคงจะคิดว่าข้างในมีจัดคอนเสิร์ต
เผยเชียนกับเลขาซินเดินผ่านฝูงชนเข้าไปในร้านแล้วพบว่าที่นั่งตรงบาร์แทบ
จะไม่มีเหลือ มีหลายคนยืนอยู่รอบๆ
คนมากมายเดินมาตรงเคาน์เตอร์บาร์ เผยเชียนยืนมองพวกเขายื่นแบงก์สีแดง
[1]ให้บาร์เทนเดอร์ แต่รับเครื่องดื่มไปแค่แก้วเดียวโดยไม่รับเงินทอน
จากนั้นชายหนุ่มก็หันไปมองบนเวที
เฉินเหล่ยกำลังเล่นกีตาร์ร้องเพลงฟังสบายๆ ถึงใบหน้าจะขึ้นสีเพราะรู้สึกเขิน
อายฝูงชนอยู่เล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นเวทีมากเท่าไหร่นัก
ไม่แน่พอร้องๆ ไปก็อาจตกอยู่ในภวังค์แล้วลืมเรื่องตื่นเวทีไปหมด
ผนังด้านข้างมีจอสวยหรูตั้งอยู่ บนจอแสดงข้อมูลว่าโต๊ะไหน ลูกค้าคนไหนสั่ง
เครื่องดื่มอะไร ให้ทิปเฉินเหล่ยไปแล้วเท่าไหร่ โดยมีข้อความอวยพรขึ้นประกอบ
แถวข้อความชื่นชมอวยพรวิ่งผ่านหน้าจอไม่ หยุด ส่งผลให้บรรยากาศในร้าน
คึกคักขึ้นไปอีก
เผยเชียนเบ้ปาก
เขาไม่เคยเห็นเฉินเหล่ยมาก่อน แต่ดูแล้วก็พอจะเดาได้ว่าเป็นนักร้องประจำ
คนใหม่ของร้าน
แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน เผยเชียนรู้สึกไม่อยากยอมรับชายคนนี้เท่าไหร่
เขาเป็นคนฉลาด คิดอยู่ครู่หนึ่งก็พอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่
“ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูแสนดีงามกลายเป็นโมหยูไลฟ์สดไปแล้ว
“แบบนี้ซื้อเครื่องดื่มก็เหมือนกดให้ของขวัญเลยสิ
“ถ้าฉันมาช้าไปสักสองวัน ร้านจะไม่พลิกจากขาดทุนมาทำกำไรได้เลยเหรอ”
เผยเชียนทั้งตื่นตระหนกและกระวนกระวายใจพอเห็นตัวเลขปรากฏขึ้นบน
หน้าจอไม่หยุด เขาเห็นใครสักคนซื้อค็อกเทลให้นักร้องสิบแก้วรัวๆ ซึ่งเท่ากับทิป
ให้ห้าร้อยหยวน
เผยเชียนไม่ได้คิดว่าคนคนนี้ผลาญเงินไปอย่างโง่เง่า เพราะเขารู้ดีว่าพวกรวย
จัดทุ่มเงินให้สตรีมเมอร์หนักแค่ไหน จ่ายแค่นี้เทียบพวกนั้นไม่ได้เลยสักนิด
แถมเฉินเหล่ยก็ร้องเพลงเพราะสุดๆ สมเงินที่ทิปให้
เผยเชียนอยากจะเดินไปถามให้รู้แล้วรู้รอดว่าใครกันเป็นคนไปขุดนักร้องเสียง
เทพแบบนี้ขึ้นมา ใครนะใคร!
ถึงเผยเชียนจะรู้สึกอับจนหนทาง แต่ลึกๆ ก็แอบรู้สึกว่าตนเองยังโชคดีอยู่
หน่อยๆ
โชคดีที่ฉันรู้สึกหวั่นใจมาหลายวันว่ามีบางอย่างแปลกๆ แล้วขุดปัญหาเจอเร็ว
หน่อย
ถ้าลืมเรื่องนี้ไปแล้วทึกทักเอาเองว่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูน่าจะขาดทุนไปได้
เรื่อยๆ เดือนละสามแสน วันปิดบัญชีรอบหน้า ฉันได้กระอักเลือดตายแน่!
ประเด็นคือมีเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมไม่มีใครแจ้งฉันเลย!
ซินไห่ลู่มองไปรอบๆ ในใจรู้สึกชื่นชม
ไม่เลว สัปดาห์ก่อนยังโล่งสุดๆ อยู่เลย มาสัปดาห์นี้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
คึกคักได้ขนาดนี้เลยเหรอ
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ร้านรวงแถวนี้น่าจะพลอยได้ผลประโยชน์จากการ
ที่คนสัญจรไปมาด้วย กลายเป็นวงจรที่จะนำไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น!
นอกจากนี้ก็แปลกที่นักร้องแค่ร้องเพลง บรรยากาศในร้านไม่ได้คึกคักเหมือน
บาร์ทั่วไป แต่ทุกคนกลับใช้เงินกันอย่างหนักหน่วง ยอดขายเครื่องดื่มคืนนี้ต้องสูง
มากๆ แน่
ที่ผ่านมาบอสเผยไม่ได้สนใจเรื่องที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูขาดทุนเลย หรือบอ
สรู้อยู่แล้วว่าจะกลายเป็นแบบนี้
เลขาซินเดินตามหลังเผยเชียนไปเงียบๆ ไม่ได้ถามอะไร เพราะเรื่องแบบนี้
กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอไปแล้ว
เผยเชียนเดินเบียดเสียดผ่านฝูงชนไปหาหม่าหยางที่กำลังส่งเสียงดังอย่าง
สนุกสนาน

หม่าหยางกำลังคุยกับจางหยวนเรื่องแผนการในอนาคตของร้านอินเทอร์เน็ต
“ผมว่าสาขาหลักยังพัฒนาไปกว่านี้ได้อีก!
“เสียดายจัง ติดม่านไม่ได้แล้ว ตอนแรกว่าจะเรียกคนมาทำม่าน ถ้าทำให้คน
ด้านนอกได้บรรยากาศเหมือนคนข้างในก็คงดี…”
หม่าหยางรู้สึกมั่นใจในทักษะการทำธุรกิจที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนของ
ตัวเอง
จางหยวนฟังอย่างตั้งใจ ระหว่างนั้นก็สังเกตเห็นเผยเชียนที่หน้ามืดไปครึ่งหนึ่ง
จากแสงในร้านโผล่มาทางด้านหลังของหม่าหยาง
“บอสเผย! มาทำไมกันครับนี่” จางหยวนรีบร้องทัก
หม่าหยางอึ้งไปเมื่อหันไปเห็นเผยเชียนทำหน้าเคร่งเครียด
“อ้าว พี่เชียน
“เสียดายจังเลย ผมว่าจะเซอร์ไพร์สพี่ แต่พี่ดันมาซะก่อน”
เผยเชียนเบ้ปากเล็กน้อย ไอ้หม่านี่เองที่เป็นต้นตอเรื่องทั้งหมด!
“แกเพิ่มนั่นนี่เข้ามาขนาดนี้ ทำไมไม่บอกฉันเลย” เผยเชียนรู้สึกเหมือนโดน
คนที่มองว่าเป็นน้องรักหักหลัง จึงท้อใจไม่น้อย
หม่าหยางอึ้งไป “พี่เชียน ผมอยากบอกข่าวดีให้พี่ฟัง ไม่อยากบอกข่าวร้าย!
ผมคิดว่าตอนนี้มันยังไม่ดีขนาดนั้นเลยยังไม่อยากบอกพี่!”
เผยเชียน “…”
หมายความว่ายังไงที่บอกว่าอยากบอกแต่ข่าวดี ไม่อยากบอกข่าวร้าย!
ถ้าพนักงานทุกคนเป็นแบบแกหมด มีหวังฉันได้จบเห่แน่!
แต่เผยเชียนก็ด่าหม่าหยางไม่ได้ เพราะหม่าหยางตั้งใจดี อยากจะให้ร้านทำ
กำไรได้ ถ้าเขาด่าหม่าหยางว่าทำชื่อเสียงและบรรยากาศร้านที่วางไว้เสียหายก็คง
ดูไม่เหมาะ
หม่าหยางก็แค่พยายามใช้สมองที่มีช่วยคิดหาทางทำเงินให้เผยเชียน
แต่ทำไมเผยเชียนถึงรู้สึกปวดหัวตุบๆ…
หรือเป็นเพราะว่าลูกน้องที่ซื่อสัตย์ที่สุดกำลังจะหายไปด้วยเหมือนกัน
“ไหนๆ บอสเผยก็รู้แล้ว ยังไงช่วยแนะนำพวกผมได้มั้ยครับ บอสเห็นร้านแล้ว
มีอะไรอยากให้ผมปรับรึเปล่า” จางหยวนยิ้ม
เผยเชียนมุมปากกระตุกเล็กน้อย “ก็…ดูดีทีเดียว
“แต่…ก็มีเรื่องที่ต้องปรับอยู่
“หน้าจอนั่นดูเชยไปหน่อย ถึงพวกคุณจะตั้งใจดี อยากโชว์ให้ทุกคนเห็นว่าแต่
ละคนเปย์ไปเท่าไหร่ ได้แสดงคำอวยพรดีๆ ตามที่ทุกคนต้องการ
“แต่การที่จอกะพริบไม่หยุดแบบนี้มันทำลายบรรยากาศ การกระตุ้นให้ลูกค้า
ใช้เงินเยอะๆ ไม่ใช่สไตล์ร้านเราเลย
“เพราะอย่างนั้นผมคิดว่าควรจะเอาจอออก ลูกค้ามาดื่มกัน แค่นี้ก็ดีอยู่แล้ว
อย่าไปเทียบเลยว่าใครเสียเงินเยอะกว่าใคร”
เผยเชียนดูรู้ลึกรู้จริง
หม่าหยางหันมองจางหยวน จางหยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “จริง
ด้วย บอสเผยพูดถูก! ผมก็คิดว่าติดจอแล้วดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะจุด
ไหน
“พอคิดตามก็เห็นเหมือนที่บอสเผยพูดเลยครั บ มันไม่เข้ากับสไตล์ร้านเรา
จริงๆ ด้วย”
หม่าหยางดูลังเล “ถ้าอย่างนั้น…เราเอาลงกันเถอะ”
เผยเชียนรู้สึกโล่งใจนิดหน่อย ถ้าเอาจอออก ทุกคนก็คงเปย์แข่งกันน้อยลง…
ล่ะมั้ง
“แล้วก็ โต๊ะกับเก้าอี้ด้านนอกตั้งติดกันเกิน! ดูไม่ดีเลย ไปเอาออกหน่อย”
“อ่อ… ก็จริงครับ” หม่าหยางพยักหน้า รู้สึกว่าที่อีกฝ่ายพูดฟังดูค่อนข้างมี
เหตุผล
เผยเชียนพูดต่ออย่างจริงจัง “ไอ้หม่า ฉันซึ้งใจมากที่แกพยายามเต็มที่ให้ร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูทำกำไรได้
“แต่แกต้องจำไว้ด้วยว่ากำไรไม่ใช่เรื่องหลักของร้านนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการ
สร้างภาพลักษณ์ให้เถิงต๋า!”
“โอเคครับพี่เชียน ผมเข้าใจแล้ว!” หม่าหยางพยักหน้ารัว “วางใจได้เลยพี่
พวกเราจิตใจสื่อถึงกัน พี่ไม่ต้องพูด ผมก็รู้ว่าพี่ต้องการอะไร!”
เหอะๆ รู้บ้านแกสิ…
เผยเชียนแอบบ่นอยู่ในใจระหว่างเดินกลับออกไป
………….
[1] แบงก์ร้อยหยวน
บทที่ 159 ถอนฟืนใต้กระทะ

เผยเชียนเจ็บปวดกับสิ่งที่เห็นมาก
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจะทำกำไรได้นิดหน่อยก็ไม่เป็นไร
แต่ประเด็นคือไอ้กำไรนิดหน่อยนี้อาจจะทำให้ความพยายามรอบนี้ของเผย
เชียนสูญเปล่าได้!
รอบนี้ระบบให้เวลาสองเดือน ตอนนี้ผ่านไปแล้วหนึ่งเดือน
เผยเชียนคำนวณกำไรขาดทุ นดูคร่าวๆ นับรวมค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝันต่างๆ
น่าจะขาดทุนได้สักสองสามแสนตอนปิดบัญชี
และการที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูทุกสาขาต้องขาดทุนให้ได้หลักล้าน ก็เป็น
ส่วนสำคัญมากๆ ในแผนของเขา
ถ้าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเริ่มทำกำไรหรือหาเงินคืนทุนตั้งต้นได้ เผยเชียน
อาจจะมีรายได้ที่ไม่สามารถผลาญได้ทันวันปิดบัญชีเพิ่มมาอีกกว่าหนึ่งล้านหยวน!
ถึงหนึ่งล้านกว่าหยวนจะดูเหมือนไม่เยอะ แต่ก็อาจเปลี่ยนแผนขาดทุนที่วาง
ไว้ให้กลายเป็นทำกำไรได้ในพริบตา
แบบนั้นโปรเจ็กต์ต่างๆ ที่ทำมาก็ไร้ค่าทันทีสิ
ความตั้งใจแรกของเผยเชียนคือยำรวมทุกอย่างใส่ ‘ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู’ ที่
มีทั้งโซนบาร์ โซนหนังสือ โรงหนังขนาดย่อม ร้านอาหาร และอื่นๆ ทั้งหมดนี้อัด
รวมอยู่แน่นในร้านอินเทอร์เน็ต
เขาหวังให้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเป็นร้านที่ขาดทุนสุดๆ
แต่ก็ไม่คิดว่าโซนบาร์จะทำเงินให้ร้านได้เยอะกว่าโซนอินเทอร์เน็ตเพราะ
นักร้องประจำคนใหม่!
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเลยกลายมาเป็นบาร์โมหยู เป็นแบบนี้ไปได้ยังไงเนี่ย
ผิดจากที่เผยเชียนตั้งใจไว้หมดเลย!
จะทำยังไงดี
เอาโต๊ะเก้าอี้ด้านนอกออกให้หมดเหรอ
ยกเลิกการให้สว่ นแบ่งนักร้องจากยอดขายเหรอ
หรือเลิกจ้างนักร้องประจำคนนี้ไปเลยดี
ทำไม่ได้เลยเพราะไม่เหมาะสมสักวิธี ไม่มีเหตุผลใช้อ้างได้
เผยเชียนบอกหม่าหยางให้เอาจอออกและลดจำนวนโต๊ะด้านนอกลง ซึ่งก็
พอจะมีเหตุผลเพราะจะได้เหมาะสมกับสไตล์และภาพลักษณ์ของร้าน
แต่ถ้ารุกหนักกว่านีก้ ็จะดูไม่มีเหตุผล
ถ้าเอาโต๊ะออกหมดแล้วลูกค้าจะนั่งไหน
การให้ส่วนแบ่งยอดขายเครื่องดื่มช่วยทำรายได้ให้ร้าน แถมยังทำให้นักร้องมี
กำลังใจในการร้องเพลงอีก แล้วจะหาเหตุผลอะไรมายกเลิกล่ะ
การกระทำแบบนี้จะสร้างความสงสัย แล้วอาจโดนระบบเตือนเอาได้
อีกอย่างเรื่องพวกนั้นก็ไม่ใช่ต้นตอของปัญหา
ถ้าเผยเชียนอยากจะกอบกู้สถานการณ์ เขาต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด!
ถึงจะเอาโต๊ะออกกับยกเลิกส่วนแบ่งแล้วยังไง ทุกคนอยากมาฟังเฉินเหล่ยร้อง
เพลงกันทั้งนั้น!
ถ้าไม่มีที่ให้นั่ง พวกเขาก็ยังยืนฟังได้ ไม่ได้แก้ปัญหาอยู่ดี
ดังนั้นถ้าจะแก้ปัญหา เผยเชียนต้องหาทางจัดการเฉินเหล่ย!
“สงสัยจังว่าเจ้าเด็กนี่มีฝันอะไรที่ฉันจะช่วยเติมเต็มให้ได้รึเปล่า”

สี่ทุ่ม การแสดงจบ
เฉินเหล่ยโค้งให้ผู้ชมแล้วลงจากเวทีไป ผู้ชมยังคงปรบมือกันเกรียวกราวพร้อม
โห่เชียร์
หม่าหยาง จางหยวน และพนักงานคนอื่นๆ เดินไปส่งลูกค้า
เผยเชียนรีบดึงเฉินเหล่ยไปนั่งตรงที่เงียบๆ แถวโซนอินเทอร์เน็ต
เฉินเหล่ยไม่เคยเจอเผยเชียนมาก่อน แต่พอได้ยินอีกฝ่ายแนะนำตัวเอง เขาก็รู้
ว่าเผยเชียนคือ ‘บอสเผย’ ที่หม่าหยางพูดถึงบ่อยๆ จึงรู้สึกกดดันขึ้นมา
เผยเชียนถามคำถามเฉินเหล่ยเล็กน้อยและรู้ ว่าอีกฝ่ายไม่ได้เรียนต่อหลังจบ
ชั้นมัธยม เอาแต่เก็บตัวอยู่บ้าน จนถึงขั้นเป็นเด็กมีปัญหาหน่อยๆ
เฉินเหล่ยใช้เวลาที่บ้านหมกมุ่นอยู่กับเรื่องดนตรี วันหนึ่งบังเอิญเดินผ่านร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูแล้วได้ยินเสียงคนร้องเพลง เลยรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปขอ
สมัครเป็นนักร้องประจำ
ครอบครัวของเฉินเหล่ยมีความสุขมากพอรู้ว่าเขาหางานได้ พวกเขาบอกเฉิน
เหล่ยว่าให้ตั้งใจทำงานและเข้ากับเพื่อนร่วมงานให้ได้
“คุณอยู่จิงโจวมาตลอดชีวิต ไม่อยากออกไปเห็นโลกกว้างบ้างเหรอ
“ถ้าคุณอยากไล่ตามฝันในสายดนตรี ผมว่าคุณควรไปเซี่ยงไฮ้หรือไม่ก็ปักกิ่ง
ทัง้ สองที่เหมาะกับการทำตามฝันของคุณมากกว่า”
คำพูดของเผยเชียนเป็นดังมนต์สะกด
เฉินเหล่ยอึ้งไปพักหนึ่งก่อนจะตอบกลับ “อยากไปสิครับ! ผมฝันว่าอยากไป
เซี่ยงไฮ้กับปักกิ่งดูสักครั้ง!
“ผมเคยบอกคนอื่นๆ ว่าสักวันผมจะเป็นนักร้อง แต่ไม่มีใครเชื่อมั่นในตัวผม
ผมรู้ว่าจิงโจวเป็นเมืองเล็กเกินกว่าจะทำให้ฝันผมเป็นจริงได้
“แต่เซี่ยงไฮ้กับปักกิ่งไกลจากบ้านผมมาก ครอบครัวไม่ยอมให้ไปแน่ แถมผม
ยังได้ยินมาว่าที่ปักกิ่งกับเซี่ยงไฮ้ค่าครองชีพสูงมาก ผมกลัวผมไปอดตายที่นู่น”
เผยเชียนแอบดีใจอยู่ภายใน
ถ้านายมีฝัน เราก็คุยกันได้!
บอสเผยเก่งเรื่องช่วยคนไล่ตามฝันอยู่แล้ว!
เผยเชียนยิ้มพร้อมพยักหน้า “คุณดูถูกตัวเองเกินไปแล้ว
“คุณไม่รู้เลยว่าตัวเองร้องเพลงดีขนาดไหน! ฝีมือแบบคุณ แค่อ้าปากร้องก็
เป็นเหมือนอาวุธสังหารแล้ว รู้มั้ยว่ามีสาวๆอยากฟังคุณร้องเพลงเยอะขนาดไหน!
“เพราะงั้นคุณถึงไม่ควรดูถูกความสามารถตัวเอง ถ้าไปเมืองที่ใหญ่กว่านี้ คุณ
ก็มีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าเดิม พอคุณมีชื่อเสียงยิ่งใหญ่ก็กลับมาจิงโจว
แล้วตอกกลับเพื่อนที่เคยดูถูกคุณให้หน้าหงาย เอาให้อิจฉากันหมดทุกคนเลย!”
คำพูดของเผยเชียนได้ผลทันใจ เขาเห็นเฉินเหล่ยตาเป็นประกาย
‘เด็กแปลกแยก’ แบบเฉินเหล่ยที่ทั้งเป็นคนเก็บตัว หน้าตาไม่ได้โดดเด่น แถม
ยังไม่ได้เรียนต่อหลังจบชั้นมัธยมต้องแบกรับความกดดันมหาศาลจากทุกด้านใน
ชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของเขาเอง เพื่อนร่วมชั้น หรือครอบครัวของเพื่อนร่วม
ชั้น คนเหล่านี้มักจะยกเฉินเหล่ยว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง
ร้องเพลงดีแล้วยังไง เมืองระดับสองแบบเมืองจิงโจวไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสม
ในการแสดงความสามารถของเขา
เฉินเหล่ยย่อมเป็นคนที่อยากได้รับการยอมรับ
ดังนั้นพอได้ยินที่บอสเผยพูด เฉินเหล่ยก็รู้สึกคล้อยตามทันที
เขาอยากจะไปเมืองใหญ่ๆ เพื่อสำรวจโลกกว้าง แล้วลองเสี่ยงดวงดูสักตั้งด้วย
ความหวังว่าจะมีคนเห็นค่าความสามารถของตนเอง
ฟังจากที่บอสเผยพูดแล้ว เหมือนว่าบอสอยากจะให้ความช่วยเหลือ
สิ่งเดียวที่ฉุดเฉินเหล่ยไว้คือเงิน
เขาหาเงินได้มากมายจากส่วนแบ่งค่าเครื่องดื่ม แถมยังมีแฟนคลับอีกเพียบ
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจึงเป็นคอมฟอร์ตโซนของเฉินเหล่ย ทำให้ไม่อยากจะทิ้งที่
แห่งนี้ไป
ถ้าให้ไปปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้ นอกจากจะต้องเริ่มต้นใหม่ในสถานที่ไม่คุ้นเคย
แล้ว เฉินเหล่ยน่าจะไม่สามารถสู้ค่าที่พักและค่าครองชีพได้ไหว
เพราะเขาจะไม่มีรายได้อีก
ดังนั้นเผยเชียนต้องช่วยพังกำแพงที่ขวางเฉินเหล่ยไว้ เพื่อที่อีกฝ่ายจะได้ก้าว
เดินต่อไปอย่างไร้กังวล
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “ถ้าคุณอยากไปตามฝันด้านดนตรีที่
เมืองใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้ ผมช่วยคุณได้
“ตอนนี้เฟยหวงสตูดิโอ บริษัทลูกของเถิงต๋าประจำอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ผมย้ายคุณไป
ทำงานที่นั่นกับเฟยหวงสตูดิโอได้ คุณไม่ต้องทำอะไรเลย เดี๋ยวพวกเขาจะจัดการ
เรื่องที่พักกับอาหารการกินให้ งานก็ไม่ต้องทำ คุณทำตัวตามสบายและไล่ตาม
ความฝันได้ตามสะดวก แบบนี้เป็นไง”
ฝั่งหนึ่งเป็นชีวิตปัจจุบันที่ กำลังสนุกสนาน ส่วนอีกฝั่งเป็นสถานที่แปลกใหม่
อันห่างไกล
เฉินเหล่ยไม่ได้ลังเลใจอะไรนัก “บอสเผย ผม…ผมอยากไปครับ!”

วันต่อมา
ช่วงกลางคืน
คนยังดูคับคั่งเหมือนเดิม แต่ทุกคนจับสังเกตได้ว่าเฉินเหล่ยดูมีอะไรอยู่ในใจ
“ด้านนอกระเบียง บนถนนเก่า หญ้าเหยียดสูงแตะฟ้า…
“ขอถามเพื่อนเอ๋ย จากไปรอบนี้เมื่อไหร่เจ้าจะกลับ…”
เฉินเหล่ยร้องเพลงไปเรื่อยๆ เหมือนเคย ไม่ได้ปริปากพูดอะไร
แต่แฟนๆ รู้สึกได้ว่ามีอะไรแปลกๆ เมื่อได้ฟังเขาร้องเพลง
“แปลกจัง ทำไมเพลงคืนนี้มีแต่เพลงเกี่ยวกับการบอกลาล่ะ”
“ใช่มั้ย รู้สึกห่อเหี่ยวใจเลยเนี่ย…”
“เดีย๋ วฉันสั่งค็อกเทลแสงเหนืออีกสองแก้วเป็นทิปให้ดีกว่า”
“เออใช่ จอหายไหนวะแก”
“ไม่รู้สิ แต่ก็ไม่ได้กระทบอะไรกับฉันนะ ฉันตั้งใจมาเป็นกำลังใจให้เฉินเหล่ย
ไม่ได้มาแข่งกับใคร”
ทุกคนดื่มและพูดคุยกันตามปกติ แต่ไม่รู้ทำไมบรรยากาศวันนี้ถึงดูแปลกไปไม่
เหมือนเคย
บทที่ 160 ไม่เห็นต้องทำแบบนั้นเลย!

พอร้องอีกเพลงจบ เฉินเหล่ยก็ไม่ได้เริ่มเพลงถัดไปทันที เขากระแอมกระไอ


ผ่านไมค์ ก่อนจะกล่าวเรื่องน่าเศร้าใจออกไป
“วันนี้ผมมีอะไรจะบอกทุกคน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะไม่ขึ้นร้องเพลงที่นี่
อีกแล้ว”
ด้านล่างเวทีฮือฮากันยกใหญ่
“ไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดนะครับ ผมชอบที่นี่มาก แล้วก็ชอบร้องเพลงให้ทุกคน
ฟังมากด้วย บอสหม่า ผู้จัดการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก็อยากให้ผมอยู่ต่อ แถมทุก
คนยังคอยสนับสนุนผม ผมซึ้งใจมากๆ ครับ
“ที่ผมเลิกร้องเพลงที่นี่เป็นเพราะบอสใหญ่ของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู บอสบ
อกว่าชอบฟังผมร้องเพลงมาก อยากส่งผมไปไล่ตามความฝันด้านดนตรีที่เซี่ยงไฮ้
บอสจะสนับสนุนเรื่องที่พักกับอาหารการกินให้ด้วย
“ผมชอบร้องเพลงให้ทุกคนฟังมากๆ แต่ก็อยากคว้าโอกาสนี้ไว้เหมือนกัน ผม
อยากออกจากจิงโจวไปดูสิ่งต่างๆ ที่เซี่ยงไฮ้…
“เพราะนี่คือความฝันของผม…”
ระหว่างที่พูด เฉินเหล่ยน้ำตารื้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
“ถ้าอย่างนั้นนี่ก็เป็นข่าวดีสิ!”
“ถึงฉันจะทนดูคุณจากไปไม่ได้ แต่ฉันสนับสนุนการตัดสินใจไล่ตามความฝัน
ของคุณเต็มที่!”
“ถ้าไปไม่รอดที่เซี่ยงไฮ้ก็กลับมานะ! ที่นี่คือบ้านของน้องเสมอ!”
“เย้! เศร้าจัง… เดี๋ยวสั่งค็อกเทลแสงเหนือเป็นทิปให้อีกสิบแก้ว หวังว่าทุก
อย่างจะเป็นไปอย่างราบรื่นนะ…”
บรรยากาศด้านล่างเวทีอบอวลไปด้วยความโศกเศร้า
หลายคนสั่งเครื่องดื่มเลี้ยงส่งเฉินเหล่ยที่เคาน์เตอร์บาร์ สาวบางคนสะอื้นไห้
พร้อมหยิบทิชชู่มาซับน้ำตา
เผยเชียนยืนเงียบๆ อยู่ตรงมุมหนึ่ง ในใจรู้สึกสั่นไหวหน่อยๆ
ฉันมันวายร้ายจริงๆ…
ที่มุมเงียบๆ บนชั้นสอง หม่าหยางเสียใจหนักมากจนแทบจะร้องไห้ออกมา
“บ่อเงินบ่อทองของฉัน…”
จางหยวนยืนอยู่ข้างๆ เขายื่นทิชชู่ให้หม่าหยางพร้อมพู ดปลอบ “บอสหม่า
นั่นมันความฝันของเฉินเหล่ย เราควรจะสนับสนุนเขานะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสัก
หน่อย เราหานักร้องประจำคนใหม่ได้ตลอดแหละ…”
แต่หม่าหยางไม่ได้รู้สึกดีขึ้น ใบหน้าของเขาเหยเกเพราะความทุกข์ระทม
“ผม…ผมต้องสนับสนุนให้เฉินเหล่ยทำตามฝันอยู่แล้ว…
“แต่ก็อยากให้ร้านเราพลิกจากขาดทุนมาทำกำไรกับเขาได้สักที
“ช่างเถอะ ผมควรจะเคารพการตัดสินใจของเฉินเหล่ย…”
ถึงหม่าหยางจะฟังไม่ออกว่าแบบไหนคือเพราะหรือไม่เพราะ แต่จากการ
สังเกตอยู่หลายวัน เขาก็ตระหนักได้ว่าเฉินเหล่ยมีความสามารถมากกว่านักร้อง
ประจำคนอื่นๆ เป็นไปไม่ได้เลยที่เ ขาจะหานักร้องประจำคนใหม่ที่จะเรียกความ
นิยมได้เท่าเฉินเหล่ย
จริงๆ แล้วที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมีทีท่าเหมือนจะพลิกกลับมาทำกำไรได้ก็
เป็นเพราะเฉินเหล่ย เขาร้องเพลงเพราะ เรียกลูกค้าประจำให้ร้านได้เยอะมาก มี
คนมาซื้อเครื่องดื่มให้เขาทุกคืน ทำกำไรให้ร้านได้มากมาย
ถ้าไม่มีเฉินเหล่ย นักร้องคนอื่นๆ ดีสุดก็คงมีความสามารถประมาณจางหยวน
สถานการณ์ต่อจากนี้คงไม่ดีแบบเดิมแน่ๆ
เผยเชียนเดินขึ้นบันไดมาเงียบๆ เขายื่นทิชชู่ให้หม่าหยางหนึ่งแพ็ก “ไอ้หม่า
ไม่เป็นไรน่า เฉินเหล่ยมีความสามารถมาก จะให้มาติดแหง็กอยู่ที่ร้านเราก็เสียของ
แย่ ถ้าแกคิดว่าตัวเองเป็นคนพบความสามารถของเขา แกก็น่าจะอวยพรให้เขา
โชคดี”
หม่าหยางสั่งขี้มูก “พี่เชียน ผมไม่ได้เศร้าเรื่องนี้ ที่ผมเศร้าคือร้านเราเพิ่งจะ
ส่อแววทำเงินให้พี่ได้ แต่ตอนนี้โอกาสนั่นหายวับไปแล้ว ผมเสียดายแทนพี่…”
เผยเชียนรู้สึกซึ้งใจ ดูสิ ไอ้น้องคนนี้มันห่วงฉันขนาดนี้!
แต่การที่หม่าหยางมีความรับผิดชอบขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่
โชคดีที่เรื่องนี้น่าจะเกิดขึ้นจากความบังเอิญ หม่าหยางแค่ส้มหล่นบังเอิญไป
เจอเฉินเหล่ย ไม่อย่างนั้นคงไม่เกิดปัญหามากมายขนาดนี้หรอก
เพราะอย่างนั้น เขาก็ยังไว้ใจไอ้น้องคนนี้ได้อยู่!
เผยเชียนตบบ่าหม่าหยาง “ไอ้หม่า ฉันบอกแกไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่าถึงแกจะ
รับผิดชอบดูแลร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู แต่แกก็ไม่ต้องยึดติดกับเรื่องทำกำไรขนาด
นั้น! สิ่งสำคัญที่สุดคือแกช่วยรักษาโอกาสสร้างภาพลักษณ์ของเถิงต๋าเอาไว้ เข้าใจ
ที่ฉันพูดมั้ย
“ปะ ไปส่งเฉินเหล่ยกัน”
ที่ชั้นหนึ่งของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู การแสดงของเฉินเหล่ยกำลังจะจบลง
แต่ลูกค้าหลายคนยังไม่อยากกลับ เฉินเหล่ยจึงต้องร้องเพลงเพิ่มอีกสองสามเพลง
สุดท้ายเหล่าลูกค้าก็เดินไปส่งเฉินเหล่ยถึงตรงประตูร้าน ลูกค้าผู้หญิงหลาย
คนเครื่องสำอางหลุดเลอะเพราะร้องไห้ พวกเธอทำท่าราวกับว่าความตายกำลัง
จะพรากเขาไป
เผยเชียนพึมพำในใจ เมื่อไหร่ฉันจะมีโอกาสแบบนี้บ้าง…
หม่าหยางสะอื้นไห้ เขาเดินไปบอกลาเฉินเหล่ย พร้อมอวยพรขอให้ทุกอย่าง
ไปได้ดี
ตอนแรกเฉินเหล่ยแค่ตาแกงก่ำ แต่พอเห็นท่าทางของหม่าหยางก็เก็บงำ
ความรู้สึกไม่ได้อีกต่อไป เขารู้สึกขอบคุณหม่าหยางสุดๆ
เผยเชียนรู้สึกปวดใจนิดหน่อย เขารู้ว่าที่หม่าหยางร้องไห้เป็นเพราะเสียบ่อ
เงินบ่อทองไป ไม่ใช่เพราะรู้สึกรักใคร่เป็นห่วงเฉินเหล่ย
แต่เฉินเหล่ยไม่รู้เรื่องนี้ เขารู้สึกว่าบอสหม่าเป็นผู้มีพระคุณที่เขาไม่มีวันตอบ
แทนความเมตตาที่อีกฝ่ายมีให้ได้หมด
คนส่วนใหญ่แยกย้ายกันกลับบ้านประมาณห้าทุ่ม
เผยเชียนเรียกเฉินเหล่ยไปพบที่มุมหนึ่งแล้วให้เบอร์ติดต่อ
“พอไปถึงเซี่ยงไฮ้ให้ติดต่อคนนี้ไป เขาชื่อหวงซื่อปั๋ว เป็นผู้จัดการเฟยหวง
สตูดิโอ คุณไม่ต้องกังวลอะไร เดี๋ยวเขาจะจัดการทุกอย่างให้”
เผยเชียนบอกเรื่องนี้กับหวงซื่อปั๋วไว้แล้ว เขาจะเป็นคนดูแลเรื่องที่พักและ
อาหารการกินให้เฉินเหล่ยหลังจากไปถึงเซี่ยงไฮ้ เฉินเหล่ยสามารถใช้ชีวิตได้
ตามใจชอบ เผยเชียนคิดว่าอย่างมากเฉินเหล่ยก็น่าจะช่ วยได้แค่เรื่องร้องเพลง
ประกอบสารคดี ไม่น่าจะสร้างปัญหาอะไรให้อีก
อีกอย่างถึงสารคดีของหวงซื่อปั๋วจะทำกำไรได้เพราะเพลงประกอบ ยอดเงินที่
น่าจะทำได้ก็อยู่ในการคำนวณของเผยเชียนแล้ว การส่งเฉินเหล่ยไปเซี่ยงไฮ้ทำให้
เผยเชียนเจ็บตัวน้อยกว่าปล่อยให้เขาอยู่ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูต่อ
“ขอบคุณมากครับบอสเผยที่ช่วยจัดการเรื่องให้
“ผมจะไม่มีวันลืมบุญคุณของบอสเผยที่เล็งเห็นความสามารถของผมและช่วย
สนับสนุนผม ถ้ามีโอกาสผมจะต้องตอบแทนความมีเมตตาของบอสเผยให้ได้! ”
เฉินเหล่ยพูดขณะจับสองมือของเผยเชียนเอาไว้ ความซาบซึ้งใจที่เขามีนั้นมากล้น
เกินจะบรรยายได้
“ไม่ต้องหรอก” แววตาของเผยเชียนเปี่ยมไปด้วยความจริงใจ ชัดเจนมากว่า
คำที่พูดไปนั้นกลั่นออกมาจากเบื้องลึกของหัวใจ

ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู หม่าหยางยังคงห่อเหี่ยวใจ
เผยเชียนเดินไปหาหม่าหยาง “ไอ้หม่า แกควรจะดีใจสิที่เฉินเหล่ยได้ทำตาม
ฝัน เลิกเศร้าได้แล้ว
“อีกอย่างความพยายามครั้งนี้ของแกก็ไม่ได้สูญเปล่า!”
ความเศร้าเลือนหายไปจากใบหน้าใหญ่ยาวของหม่าหยางเล็กน้อย “ความ
พยายามของผม…ไม่ได้สูญเปล่าเหรอครับ”
เผยเชียนพยักหน้ารัว “ใช่ ไม่ได้สูญเปล่าเลย! แกสร้างแรงบันดาลใจครั้งใหญ่
ให้ฉัน!”
หม่าหยางสังเกตสีหน้าของเผยเชียนแล้วคิดว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดโกหก เขาลืม
ความเศร้าไปชั่วคราวก่อนตั้งใจฟัง
“ไอ้หม่า แกไม่รู้หรอกว่าไอเดียครั้งนี้ของแกมันดีขนาดไหน!
“เสียดายที่เวลาไม่เหมาะ
“ผู้ชมให้ของขวัญนักร้อง…ทำแบบนี้น่าจะรุ่งแน่ๆ แต่เวทีร้านอินเทอร์เน็ตโม
หยูเล็กเกินกว่าที่จะต่อยอดไอเดียนี้!
“การจำกัดไอเดียนี้ไว้แค่ในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูถือเป็นการเสียของและ
จำกัดความคิดของแก แกเข้าใจที่ฉันพูดหรือเปล่า”
หม่าหยางดูงงไปหมด “แล้วยังไงเหรอครับ”
เผยเชียนตบบ่าหม่าหยาง “ไอเดียดีๆ แบบนี้ควรจะเอาไปใช้บนแพลตฟอร์ม
ไลฟ์สตรีม! อีกประมาณสามถึงหกเดือน แกจะได้เป็น CEO ของแพลตฟอร์มไลฟ์
สตรีมโมหยู!
“ดังนั้นเชื่อเถอะว่าความพยายามของแกมีคุณค่า มันช่วยเถิงต๋าได้มากกว่าที่
แกคิด! เพราะงั้นตั้งใจแสดงความสามารถของแกต่อไปในที่ที่เหมาะกว่านี้เถอะ!”
หม่าหยางหายเศร้าเป็นปลิดทิ้ง มือของเขาสั่นรัวจากความรู้สึกมากมายที่อัด
แน่นอยู่ในใจ “พี่เชียน ผม…”
เผยเชียนจับมืออีกฝ่ายไว้ “ไอ้หม่า แกไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันเข้าใจความรู้สึก
ของแก! สั่งสมประสบการณ์ไว้ อีกไม่นานแกจะไปเฉิดฉายในเวทีที่ใหญ่กว่านี้!”
บทที่ 161 เติมไฟให้ไอ้หม่า

เผยเชี ย นถอนหายใจด้ ว ยความโล่ ง อกบนรถหลั ง กลั บ ออกจากร้ า น


อินเทอร์เน็ตโมหยู
เขาเกือบจะเอาตัวไม่รอด
มันช่างหนักหนาเหลือเกิน!
เผยเชียนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ถ้าเขามาเจอเรื่องนี้ช้าไปสักหนึ่ง
หรือสองสัปดาห์ สถานการณ์คงจะเกินควบคุมไปแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นขึ้นมา
ปัญหาจะไม่ได้อยู่ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูแค่อย่างเดียว แต่โปรเจ็กต์อื่นๆ ที่
อุตส่าห์ลงแรงไปก็คงสูญเปล่าไปด้วย!
“โชคยังดี ฉันจัดการทุกอย่างและกอบกู้สถานการณ์ได้ทันก่อนที่เรื่องจะ
เลวร้ายไปมากกว่านี้ นอกจากจะปลอบหม่าหยางสำเร็จ ยังจัดการกับความเสี่ยง
ทุกอย่างได้อีก เป็นกลยุทธ์การจัดการปัญหาที่เยี่ยมยอดสุดๆ
“ฉันนี่มันอัจฉริยะจริงๆ!”
เผยเชียนกังวลว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะสร้างแผลใจให้หม่าหยางจนไม่กล้าทำ
อะไร สุดท้ายเลยวาดฝันสวยหรูให้แทน
แน่นอนว่าที่เขาพูดไปไม่ใช่ความจริ งทั้งหมด แต่ ‘ภาพฝัน’ ที่เผยเชียนสร้าง
ให้หม่าหยางนั้นแตกต่างจากบอสคนอื่นๆ
ภาพฝันที่บอสคนอื่นสร้างขึ้นล้วนเป็นคำโกหกพกลม ส่วนของเผยเชียนนั้นไม่
เหมือนกัน เพราะเขาวางแผนจะทำตามที่สัญญาไป
การกระทำของหม่าหยางทำให้เผยเชียนนึกถึงอุตสาหกรรมไลฟ์สตรีมขึ้นมา
ได้
เผยเชียนมั่นใจว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ไลฟ์สตรีมจะกลายเป็นโอกาสลงทุนที่
คุ้มค่ามาก ไม่นานสงครามแพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมจะเกิดขึ้น วิถีชีวิตของผู้คนจะ
เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
แต่ใครบอกกันล่ะว่าโอกาสลงทุนครั้งนี้จะทำกำไรให้ได้แน่นอน
ถ้าใครเลือกลงทุนถูกจุด คนคนนั้นย่อมสร้างธุรกิจยักษ์ใหญ่ขึ้นมาได้ แต่ก็มี
โอกาสสูงที่จะโดนกลบฝังมิดในสงครามเม็ดเงิน สุดท้ายคนส่วนใหญ่ก็ต้องหนี
หายไปเงียบๆ
เพราะคนอื่นๆ ก็ไม่ได้ตาบอด ถ้ามีคนหนึ่งเห็นโอกาสลงทุน คนอื่นๆ ก็ย่อม
ต้องเห็นด้วยเช่นกัน
ในยุคอินเทอร์เน็ต อำนาจทางการเงินเป็นตัวกำหนดว่าจะสามารถคว้าโอกาส
ลงทุนมาเป็นของตัวเองได้หรือเปล่า
บริษัทหลายแห่งต้องสูญเงินหลักร้อยล้าน เผยเชียนถามตัวเองว่าพร้อมสูญ
เงินแบบนั้นหรือเปล่า คำตอบที่มีในใจคือพร้อม แต่ปัญหาใหญ่คือเถิงต๋าไม่มีเงิน
มากขนาดนั้น
ไม่ว่าจะยังไง สิ่งสำคัญที่สุดคือเขาต้องผลาญเงินให้ได้!
เผยเชียนรู้จักกรณีศึกษาหลายกรณีที่บริษัทสูญเงินอย่างต่อเนื่อง
เช่น จักรยาน ofo
บริการเรียกรถโดยสาร ตีตี ชูสิง
แอปส่งอาหารเหม่ยถวน
แพนด้าทีวี
JD โลจิสติกส์…
ธุรกิจเหล่านี้เป็นตัวอย่างชั้นยอดในการขาดทุนเลยไม่ใช่เหรอ
เผยเชียนคิดว่าขอแค่เขาเลือกทำตามกรณีศึกษาที่ไล่มาสักกรณี ก็น่าจะทำให้
ขาดทุนได้อย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็เอาเงินทุนระบบมาอุดรูรั่วนี้ ถ้าทำได้ก็คงยอด
เยี่ยมสุดๆ ไปเลย
เขาไม่ ไ ด้ ท ำตามแผนนี ้ ใ นตอนแรกเพราะต้ อ งหาเงิ น ให้ พ อก้ า วเข้ า ไปใน
อุตสาหกรรมที่กล่าวมาก่อน ตอนนั้นแม้แต่เงินเริ่มทำโปรเจ็กต์ที่ว่ามายังไม่มีเลย
เรื่องเงินที่จะใช้ดำเนินการยิ่งไม่ต้องพูดถึง
แต่ช่วงที่ผ่านมา เผยเชียนตระหนักว่าตนเองเริ่มขยับเข้าไปใกล้เป้าหมาย
ขาดทุนหลักสิบล้านทีละนิดแล้ว ดังนั้นจึงเป็ นเรื่องธรรมดาที่เขาจะต้องวางแผน
โปรเจ็กต์ที่จะช่วยทำเป้าหมายที่ว่าให้สำเร็จ
แน่นอนว่าชายหนุ่มยังต้องวางแผนกลยุทธ์ให้ละเอียดมากกว่านี้
เพราะระบบจะเลื่อนวันปิดบัญชีออกไปถ้ามีสินค้าที่ยังไม่ได้วางจำหน่าย
ถ้าเผยเชียนตัดสินใจก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมสักอย่างโดยไม่เ ตรียมการและใช้
เงินลงทุนดำเนินการไป เขาอาจจัดการโปรเจ็กต์ไม่ทันกำหนดปิดบัญชี ทำให้ไม่มี
เงินลงทุนต่อ เป็นแบบนั้นคงไม่ดีแน่
ถ้ า ขาดทุ น ได้ ส ำเร็ จ ในสองรอบการปิ ด บั ญ ชี น ี ้ เขาก็ จ ะยั ง ไม่ ก ้ า วเข้ า สู่
อุตสาหกรรมใหม่
เกิดทำกำไรขึ้นมาได้แบบไม่ทราบสาเหตุอีก…
ชีวิตของเผยเชียนคงกู่ไม่กลับแน่
จากตัวเลือกที่ว่ามา ไลฟ์สตรีมดูจะเป็นตัวเลือกที่ดี พอเห็นหม่าหยางห่อเหี่ยว
แบบนั้น เผยเชียนก็อยากปลอบใจ เลยตัดสินใจให้ตำแหน่ง CEO ประจำโมหยูทีวี
กับเจ้านั่นไป
แถมยังอ้างได้ว่าได้แนวคิดเรื่องโมหยูทีวีมาจากจอที่หม่าหยางติดไว้ที่ร้าน

วันที่ 3 มิถุนายน
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูอีกสองสาขาเปิดทำการแล้ว
เผยเชียนไปดูงานถึงที่ ในที่สุดก็โล่งใจได้พอเห็นทั้งสองสาขาไม่มีลูกค้าเข้าเลย
ด้วยตาของตัวเอง
หม่าหยางกับจางหยวนก็ตามติดไปด้วย แต่หม่าหยางดูจะงุนงงและท้อแท้อยู่
ไม่น้อย
เผยเชียนดึงจางหยวนปลีกตัวออกไปเงียบๆ
“ผมว่าหม่าหยางดูจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว”
จางหยวนตอบตามตรง “ไม่มีอะไรหรอกครับบอสเผย น้องหม่าแค่สูญเสีย
เป้าหมายไปชั่วคราว ก็เลยดูเศร้าเป็นช่วงๆ แต่ก็ไม่ได้กินน้อยลงเลย แอบกินเยอะ
ขึ้นกว่าเดิมด้วย”
เผยเชียนคิดในใจ นี่แหละไอ้หม่า จิตใจแข็งแกร่งจริงๆ ถึงจะเจอเหตุการณ์
ครั้งใหญ่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเรื่องการกินเลยสักนิด
“สาขาหลักเป็นยังไงบ้าง”
จางหยวนตอบ “ก็เรื่อยๆ ครับ
“พอเฉินเหล่ยออก เราก็หานักร้องประจำคนใหม่มาแทน มีคนให้ทิปบ้าง แต่
จำนวนลูกค้าลดลงเรื่อยๆ
“เรายังให้ส่วนแบ่งนักร้องอยู่ รายได้ดีขึ้นกว่าตอนแรก แต่จะให้พลิกจาก
ขาดทุนมาทำกำไร… ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะทำได้มั้ย”
เผยเชียนพยักหน้า โล่งใจได้สักที
ขอแค่ร้านพวกนี้ไม่พลิกกลับมาทำกำไรได้ก็สบายใจหายห่วง
แต่ทำไมรายได้ตอนนี้ถึงดีกว่าตอนเปิดร้านล่ะ หมายความว่าการให้ส่วนแบ่ง
นักร้องจากยอดขายเครื่องดื่มเป็นกลยุทธ์ที่ดี สามารถทำกำไรให้ได้ ดังนั้นยังถือว่า
เป็นภัยต่อความมั่งคงของเขา
เผยเชียนนึกอะไรขึ้นได้ตอนที่หันไปเห็นหน้าใหญ่ยาวของหม่าหยางที่กำลัง
ขมวดคิ้วอย่างทุกข์ระทม
มีวิธีจัดการเรื่องส่วนแบ่งเครื่องดื่ มของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไปพร้อมๆ กับ
หาอะไรให้หม่าหยางทำจะได้เลิกเศร้าไหมนะ
ชายหนุ่มปิ๊งไอเดียขึ้นมา
กรณีศึกษาบางกรณีต้องใช้เงินทุนหลักร้อยล้าน ตอนนี้เขายังเริ่มโปรเจ็กต์
เหล่านั้นไม่ได้ แต่บางโปรเจ็กต์ไม่ต้องใช้ทุนเริ่มต้นเยอะขนาดนั้น
อย่างเช่น…
บริการส่งอาหาร!
เผยเชียนนึกขึ้นได้ว่าผู้จัดการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขานี้เป็นเชฟ
ตอนคัดเลือกผู้จัดการสาขา นอกจากเด็กเสิร์ฟสี่คนแล้ว มีเชฟหนึ่งคนยกมือ
ด้วย ก็เลยได้เป็นผู้จัดการสาขาไปโดยปริยาย
คนนี้แหละเหมาะเลย!
“จางหยวน เรียกผู้จัดการสาขานี้มาหน่อ ย เรียกหม่าหยางให้ ด้วย ผมมี
ภารกิจใหม่ให้พวกคุณ”
ทั้งสี่คนมานั่งรวมกันที่โซนคาเฟ่
หม่าหยางกับจางหยวนชินกับเรื่องนี้แล้ว แต่ผู้จัดการสาขาใหม่ที่ก่อนหน้านี้
เคยเป็นเชฟยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับตำแหน่งใหม่ เขาดูประหม่าเล็กน้อย
“ให้ผมเรียกคุณว่าอะไรดี ผู้จัดการสาขา” เผยเชียนถาม
ชายหนุ่มไม่ได้สนใจจำชื่อผู้จัดการสาขา เพราะยังไงก็เป็นแค่ตัวประกอบเลย
ไม่ได้ใส่ใจอะไร
แต่ถ้ามองอีกมุมก็ถือเป็นเรื่องดี ถ้าเขารู้จักชื่อตัวประกอบคนไหนก็แสดงว่า
ตัวประกอบคนนั้นทำงานได้ดี ถือเป็นข่าวร้าย สำหรับเผยเชียน
ผู้จัดการสาขาที่เพิ่งเลื่อนขั้ นมาจากเชฟดูจะอยู่ในวัยสี่สิบ เขาไม่ได้ดูแย่
เหมือนชายวัยกลางคนส่วนใหญ่ เอาจริงๆ ชายคนนี้หุ่นดีและดูแลภาพลักษณ์
ตัวเองเป็นอย่างดีเลยทีเดียว
พอได้ยินเผยเชียนถาม ผู้จัดการสาขาก็รีบตอบ “ผมชื่อหลินชั่นหรงครับ”
เผยเชียนพยักหน้า จำได้แค่ว่าอีกฝ่ายแซ่หลิน
“ไอ้หม่า ฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้แกขาดเป้าหมาย
“ไม่ต้องห่วง เพราะฉันมีภารกิจสำคัญให้แกทำ!
“ถือเป็นการขยายธุรกิจร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูของเรา เป็นส่วนสำคัญมากใน
การสร้างอาณาจักรเถิงต๋า
“แกมั่นใจมั้ยว่าจะทำภารกิจนี้ได้”
เผยเชียนเห็นประกายความหวังปรากฏขึ้นในตาหม่าหยาง
หม่าหยางกระปรี้กระเปร่าขึ้นทันที “พี่เชียน จัดมาเลย! ผมแค่กลัวว่าจะไม่มี
พื้นที่ให้ได้แสดงความสามารถ!”
เผยเชียนพยักหน้า เป็นไปตามที่คาด แค่งานง่ายๆ ก็จุดไฟให้เจ้าหม่าหยางได้
แล้ว
“เรา…จะต่อยอดอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม!”
หม่าหยาง จางหยวน และหลินชั่นหรงหันมองหน้ากัน
ต่อยอดอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเหรอ
ก็จริงที่พวกเขาเริ่มต้นไปบ้างแล้วที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
เมนูของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู ด้านหนึ่งเป็นเครื่องดื่มตะวันตก ส่วนอีกด้าน
เป็นอาหารง่ายๆ
ก่อนหน้านี้ เชฟหลินทำหน้าที่จับปลา[1] เอ๊ย ทำอาหารให้ลูกค้าที่ ร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยู
แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้าร้านไม่ค่อยสั่งอาหาร เชฟหลินเลยได้แต่จับปลาไป
วันๆ
บอสเผยอยากจะต่อยอดอุตสาหกรรมนี้จริงๆ เหรอ
……………………

[1] เป็นการเล่นคำของผู้แต่ง ชื่อร้าน 摸鱼 (โมหยู) แปลตรงตัวได้ว่า จับ


ปลา แต่มีอีกความหมายหนึง่ คือ อู้งาน
บทที่ 162 บริการเดลิเวอรี่ที่เน้นหน้าตาเป็นหลัก!

ทุกคนงงกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะหลินชั่นหรง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความ


สับสน
คนอื่นอาจจะไม่รู้สถานการณ์ในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู แต่ตัวเขานั้นรู้ดี
ที่ร้านไม่มีอะไรให้ทำเลย!
วันหนึ่งได้ทำอาหารไม่ถึงสิบจานด้วยซ้ำ
แต่คิดดูดีๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูดูดีมีระดับขนาดนี้
ใครจะไปอยากสั่งอาหารบ้านๆ มากิน
สาวสวยโต๊ ะ หนึ ่ ง สั ่ ง ค็ อ กเทลแก้ ว สวย เธอจิ บ เครื ่ อ งดื ่ ม ในมื อ พลางชม
บรรยากาศด้านนอกหน้าต่าง ถ้าถ่ายเซลฟี่ก็ส่งลงวีแชตได้ทันที
ส่วนชายหนุ่มอีกโต๊ะกำลังสวาปามมะเขือเทศผัดไข่อยู่
ไม่เห็นจะเข้ากันเลยสักนิด!
ถ้ามีใครสั่งอาหาร กลิ่นก็จะตลบอบอวลไปถึงโซนคาเฟ่ ถ้าสายตาฆ่าคนได้
คนที่สั่งอาหารคงจะโดนสังหารไปร้อยครั้งแล้ว
ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครกล้าสั่งอาหาร เชฟหลินจึงได้แต่ยืนโง่ๆ ในครัวไปวันๆ
อย่างสุดจะเบื่อ
ผ่านไปสักพักสถานการณ์ก็ดีขึ้น
เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานทุกคนจะมีสุขภาพที่แข็งแรง เผยเชียนจึงสั่งอาหาร
เที่ยงจากร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไปให้พนักงานทุกคน เชฟหลินเลยยุ่งๆ บ้างช่วง
เที่ยง
แต่งานก็ยังสบายเหมือนเดิม เพราะร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมีเชฟอีกสองคน
งานแค่นี้ก็เหมือนวันหยุดพักร้อนถ้าเทียบกับร้านอาหารอื่นๆ
ดังนั้นจนถึงปัจจุบัน ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจึง
แทบจะไม่มีจุดยืน
นอกจากจะทำกำไรไม่ได้แล้ว ยังไม่มีคนสั่งอีก
ตอนนี้เหมือนจะเป็นโรงอาหารของพนักงานเถิงต๋าไปแล้วกลายๆ
แล้วแบบนี้จะต่อยอดยังไง ไม่กลัวเสียทุกอย่างที่มีไปเหรอ
เชฟหลินไม่เข้าใจว่าจะต่อยอดจากตรงนี้ได้ยังไง
สายตาทั้งสามคู่จับจ้องไปยังเผยเชียน ทุกคนรอฟังความคิดอันบรรเจิดของ
เขาอยู่
เผยเชียนกระแอมกระไอสองครั้งก่อนจะอธิบายอย่างจริงจัง “ก็เหมือนที่คน
เคยว่ากันว่า ธรรมชาติมนุษย์ต้องการอาหารและการสืบพันธุ์ อุตสาหกรรมอาหาร
และเครื่องดื่มผูกติดกับชีวิตประจำวันของพวกเรา ยังไงก็ไม่มีวันตกยุค จนถึงทุก
วั น นี ้ อาหารของร้ า นอิ น เทอร์ เ น็ ต โมหยู ช นะใจใครหลายคนด้ ว ยคุ ณ ค่ า ทาง
โภชนาการ ความอร่อย และความรู้สึกเหมือนได้กินข้าวที่บ้าน!
“ดังนั้นเราต้องเอาจุดแข็งนี้มาต่อยอด เราควรจะให้คนอื่นๆ ได้ลิ้มรสอาหาร
อันโอชะของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูได้ที่บ้านของตัวเอง!”
ไฟความมุ่งมั่นในตาของหม่าหยางค่อยๆ มอดหายไป เขามองเผยเชียนด้วย
แววตางุนงง “พี่เชียน ที่พี่พูดมาทั้งหมดคือแค่จะให้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเปิด
บริการเดลิเวอรี่เหรอ
“ทำไมพี่ต้องพูดให้งงด้วย บอกมาเลยว่าต่อไปร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจะมี
บริการเดลิเวอรี่ก็จบแล้ว…”
หืม เจ้านี่เข้าใจที่ฉันพูดดีเลยนี่ แผนก็คือเปิดเดลิเวอรี่นั่นแหละ…
แต่มันไม่ใช่บริการเดลิเวอรี่ธรรมดาน่ะสิ!
เผยเชียนตีหน้าเข้ม “ไอ้หม่า แกมองอย่างนั้นไม่ได้
“ก็เหมือนการร้องเพลงแหละ แกร้องแล้วเหมือนเพลงสวดศพ ส่วนเฉินเหล่ย
ร้องแล้วเหมือนบทเพลงจากสวรรค์ เห็นมั้ยว่ามันไม่เหมือนกัน
“ขอแค่มองไปให้ไกล ทุกอย่างก็สามารถกลายเป็นธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ได้
“คิดดูสิ ในอนาคตอาณาจักรเดลิเวอรี่ของเราจะครองเมืองจิงโจวและเมือง
ใหญ่อื่นๆ ในประเทศ เดลิเวอรี่ของเราจะทำให้วิถีชีวิตผู้คนเปลี่ยนไป เห็นมั้ยว่า
มันไม่ใช่แค่บริการเดลิเวอรี่
“หนทางหมื่นลี้ เริ่มต้นที่ก้าวแรก พวกเรากำลังจะเริ่มก้าวแรกที่ส ำคัญสุดๆ
กัน!”
พอได้ฟังที่เผยเชียนพูด อารมณ์ของหม่าหยาง จางหยวน และหลินชั่นหรงก็
เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่หยุด จากผิดหวังกลายเป็นเข้าใจ จากนั้นก็กลายเป็นคล้อย
ตาม
หลินชั่นหรงรู้สึกว้าวซ่า
ความแตกต่างในการมองโลกมันเป็นแบบนี้นี่เอง!
บอสเผยคิดจะตั้งอาณาจักรของตัวเองขึ้นมาจากบริการเดลิเวอรี่ง่ายๆ บอ
สมองว่าพอบริการเดลิเวอรี่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตทุกคน ก็จะเกิดความ
เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับวิถีชีวิตของผู้คน
ช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกลจริงๆ!
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบอสถึงเป็นประธานบริษัทได้ด้วยอายุเพียงเท่านี้ บอก
ได้คำเดียวว่าเพราะความสามารถล้วนๆ!
ความผิดหวังหายไปจากใจหม่าหยาง ไฟมุ่งมั่นของเขาลุกพรึบขึ้นมาอีกครั้ง
ด้วยคำพูดของเผยเชียน
“พี่เชียน แล้วเราต้องทำอะไรบ้างเหรอ”
“เปิดเว็บให้สั่งเดลิเวอรี่ดีมั้ยครับ เราไปติดต่อร้านค้าในจิงโจวแล้วก็สร้าง
แพลตฟอร์มส่งอาหารออนไลน์”
หม่าหยางกับจางหยวนระดมสมองคิดหาไอเดีย โดยมีหลินชั่นหรงช่วยแนะนำ
เสริม
เผยเชียนยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร
เป็นเรื่องปกติที่พวกหม่าหยางจะเสนอไอเดียแบบนั้น
ปี 2010 การใช้อินเทอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์เริ่มลดน้อยลง ส่วนการใช้
อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือเพิ่มสูงขึ้น
เท่าที่เผยเชียนจำได้ จำนวนผู้ใช้งานบริการอินเทอร์เน็ตมือถืออยู่ที่ 74.5%
สูงกว่าจำนวนผู้ใช้งานบริการอินเทอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์ที่คิดเป็น 70.6%
ตัวเลขนี้จะเกิดขึ้นในอีกสองปีข้างหน้า
ในจักรวาลนี้ อุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนพัฒนาไปเร็วกว่าในความทรงจำของ
เขา ยุคอินเทอร์เน็ตมือถือจึงมาเร็วกว่าปกติ
แต่ตอนนี้บริษัทใหญ่ยังไม่ลงมาจับบริการเดลิเวอรี่ เพราะยังง่วนอยู่กับโอกาส
ในการลงทุนธุรกิจอีกอย่าง ซึ่งก็คือ การรวมกลุ่มผู้ซื้อ
เริ่มตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2010 ผู้ประกอบการเห็นกระแสกลยุทธ์รวมกลุ่มผู้
ซื้อของบริษัท Groupon กำลังมาแรง ไม่นานก็เกิด ‘สงครามร้อยบริษัท ’ ขึ้น
ก่ อ นจะลามไปเป็ น ‘สงครามพั น บริ ษ ั ท ’ มี บ ริ ษ ั ท เป็ น สิ บ ๆ แห่ ง ผุ ด ขึ ้ น ใน
อุตสาหกรรมรวมกลุ่มผู้ซื้อทุกวันๆ
ด้วยสถานการณ์อันดุเดือดนี้ ธุรกิจเดลิเวอรี่จึงถูกมองข้าม สองปี ให้หลังธุรกิจ
นี้จึงรุ่งเรืองขึ้นมา กลายเป็นโอกาสลงทุนยอดนิยมใหม่ในสายตาผู้ประกอบการใน
ตลาด
ถึงอย่างนั้นตอนนี้ร้านอาหารหลายเจ้าก็มีบริการเดลิเวอรี่แล้ว แต่ส่วนใหญ่
ให้บริการผ่านการโทรติดต่อ ถือเป็นช่วงตั้งต้น ยังมีปัญหาอยู่หลายอย่าง เช่น
จัดส่งช้ากับส่งผิดออเดอร์
ด้วยเหตุนี้จึงมีคนคิดรวบรวมร้านต่างๆ มาไว้ในแพลตฟอร์มเดียวเพื่อให้ลูกค้า
สั่งอาหารผ่านช่องทางออนไลน์ โดยทางแพลตฟอร์มจะมีรายได้จากส่วนแบ่งใน
แต่ละคำสั่งซื้อ
แต่เผยเชียนไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรแบบนั้น
“พวกคุณใจร้อนกันเกินไปแล้ว
“มันก็เหมือนเราค่อยๆ ตักข้าวกินทีละคำนั่นแหละ เราควรจะค่อยๆ ทำตาม
แผนไปทีละขั้น ตอนนี้พฤติกรรมของผู้คนยังไม่ได้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน แถม
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก็ไม่ใช่แบรนด์อาหารและเครื่องดื่ม ยังไม่มีชื่อเสียงอะไร ถึง
จะทำเว็บขึ้นมาได้ แต่จะโฆษณายังไงล่ะ เราจะมั่นใจได้ ยังไงว่าเว็บจะประสบ
ผลสำเร็จตามที่เราหวังไว้
“อีกอย่าง ปัญหาใหญ่สุดๆ ของอุตสาหกรรมแบบนี้ไม่ใช่แค่เรื่องการโฆษณา
กับส่วนแบ่งตลาด แต่ยังรวมถึงการตรวจประเมินด้วย อาหารเป็นเรื่องสำคัญ ถ้ามี
ร้านข้างถนนห่วยๆ มาเข้าร่วมกับเรา แล้วมีเรื่องอาหารไม่สะอาดทำให้ลูกค้าป่ วย
จากอาหารเป็นพิษขึ้นมา เราก็ต้องรับผิดชอบในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มตัวกลาง
“ไอเดียการสร้างแพลตฟอร์มอาจจะดูง่าย แต่พวกคุณคิดเอาไว้รึเปล่าว่าจะ
แก้ไขปัญหาพวกนี้ยังไง”
คำถามของเผยเชียนทำให้พวกหม่าหยางพูดอะไรไม่ออก
ก็จริงที่ไอเดียนี้ดูจะห่างไกลและทำไม่ได้จริง
แต่…ถ้าเราไม่ทำแบบนี้ แล้วเราจะทำแบบไหนได้
ทั้งสามจ้องเผยเชียน
เผยเชียนยิ้ม “ง่ายมาก เราจะค่อยๆ จัดการไปทีละขั้น
“ก่อนอื่นเราต้องสร้างแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มให้ตัวเอง เราจะทำแอปสั่ง
อาหารง่ายๆ ขึ้นมา แต่สั่งอาหารได้แค่ร้านของเรา
“เชฟของเราฝีมือเยี่ยม วัตถุดิบก็สดสะอาด ตรงนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
“เราจะครองตลาดระดับสูง สร้างชื่อให้แบรนด์ แล้วขยายอิทธิพลจากเมืองจิง
โจวไปทั่วประเทศ!”
ทั้งสามหันมองหน้ากัน ดูเหมือนแผนนี้จะมีความเป็นไปได้มากกว่า!
ติดที่…
แผนดูยอดเยี่ยมก็จริง แต่มีบางอย่างทะแม่งๆ
“แล้วชื่อแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มเอาเป็นอะไรดีครับ” หม่าหยางถาม
เผยเชียนยิ้ม “โมหยูเดลิเวอรี่!”
หลินชั่นหรงดูจะสับสนไม่น้อย “แต่บอสเผยครับ ตอนนี้มีร้านให้บริการเดลิ
เวอรี่อยู่เพียบ ขนาดร้านไม่ได้ดังมากยังมีบริการเดลิเวอรี่เลย ถึงอาหารเราจะ
อร่อย แต่ทุกเมนูคืออาหารบ้านๆ ไม่น่าจะสู้กับของร้านอื่นไหว ไหนจะเรื่องการ
โฆษณากับราคา…”
ในฐานะเชฟ เขาสามารถชี้ให้เห็นปัญหาของแผนการได้อย่างรวดเร็ว
เผยเชียนผุดยิ้มอ่อน “ผมเลยบอกว่าเราจะเจาะตลาดระดับสูง
“ร้านอื่นๆ ใช้กล่องพลาสติกกับถุงพลาสติกเป็นบรรจุภัณฑ์ นอกจากจะไม่
สะอาดแล้วยังดูไม่ดีอีก เพราะอย่างนั้นคนเลยเลือกกินอาหารที่ร้านมากกว่าสั่งเด
ลิเวอรี่
“จริงๆ แล้ว อาหารข้างในก็เหมือนกันหมด แตกต่างกันตรงบรรจุภัณฑ์
“ลูกค้าสนใจเรื่องหน้าตาอาหารมากกว่ารสชาติ
“อาหารของเราทั้งหมดจะใช้เครื่องลายครามสั่งทำพิเศษเป็นบรรจุภัณฑ์
จัดส่งตรงถึงหน้าบ้านด้วยพนักงานเดลิเวอรี่ จากนั้นเราค่อยไปเก็บกลับตามเวลา
ที่ระบุ เราจะทำลายร้านอื่นด้วยเครื่องลายครามของเรา!”
เผยเชียนดูมั่นใจมากจนทำให้ตัวเองแทบจะคล้อยตาม
คำพูดของเขาทำให้หม่าหยางรู้สึกฮึกเหิม เปลวไฟในตาดูร้อนแรงยิ่งกว่าเดิม
แต่หลินชั่นหรงกับจางหยวนกลับหันมองกันด้วยแววตางุนงง
ทั้งคู่ไม่เข้าใจเลยสักนิด…
ทำแบบนี้จะได้ผลจริงๆ เหรอ
เป็นเพราะไอเดียของบอสเผยล้ำเกินไปหรือไอเดียของพวกเขาล้าหลังเกินไป
กันนะ
บทที่ 163 อัปเดตใหม่ อาวุธใหม่

เผยเชียนไม่ปล่อยให้ทั้งสามนึกลังเล ชายหนุ่มรีบสั่งงานพวกเขาทันที
“งั้นเชฟหลินรับผิดชอบเรื่องศึกษาหาข้อมูลแล้วเริ่มทำโปรเจ็กต์ทดลองที่
สาขานี้
“ส่วนเรื่องเมนู โซนให้บริการ เว็บหรือไม่ก็แอปที่ใช้สั่ง การโฆษณา…
“หม่าหยางกับจางหยวน พวกคุณรับผิดชอบเรื่องพวกนี้ เดี๋ยวค่อยส่งแผนร่าง
โครงการให้ผมดูทีหลัง ถ้าส่งแผนให้ได้ภายในสัปดาห์นี้จะดีมาก เดลิเวอรี่ของเรา
จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการสัปดาห์หน้า”
หม่าหยางตบอก “วางใจได้เลยพี่เชียน พี่ไว้ใจผมได้!”
ที่ร้านมีบริการคล้ายๆ กันนี้อยู่แล้ว เพราะร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูรับผิดชอบ
เรื่องอาหารของพนักงานเถิงต๋า ยังไงก็ต้องจัดส่งอาหารอยู่แล้ว
ตอนนี้แค่ต้องจัดการอะไรอีกหน่อยและจ้างพนักงานส่งอาหารเพิ่ม ก็สามารถ
เปิดบริการเดลิเวอรี่ในบริเวณใกล้เคียงได้แล้ว
แน่นอนว่า บริการส่งอาหารโมหยูเดลิเวอรี่จะเริ่มจากบริเวณใกล้เคียงร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูก่อน แล้วค่อยๆ ขยายพื้นที่ให้บริการออกไป
พวกเขาเปิดให้บริการในรัศมีสองกิโลเมตรจากร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู พอเปิด
สาขาเพิ่มก็สามารถทำตามเป้าหมายในการให้บริการครอบคลุมทั้งเมืองได้
ว่ากันตามตรง การทำธุรกิจแบบจับฉ่ายไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องทั้งในเชิงวิธีการและ
ในเชิงเศรษฐกิจ
แต่การทำธุรกิจแบบผิดวิธีการและผิดหลักเศรษฐกิจนี่แหละที่เผยเชียน
ต้องการ เพราะร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูคือช่องทางในการขาดทุนของเขา!
ถ้าเขาเปิดหน้าร้านให้บริการแค่อย่างเดียว เช่น เปิดเป็นร้านอินเทอร์เน็ต คา
เฟ่ ร้านอาหาร บาร์ หรือให้บริการเดลิเวอรี่…ก็พอมีโอกาสทำเงินได้จากเงินทุนที่
ลงไปก้อนใหญ่
แต่ระบบวางข้อจำกัดไว้หลายอย่าง เผยเชียนไม่สามารถทำธุรกิจที่คุณภาพไม่
ถึงเกณฑ์ได้ ดังนั้นไม่ว่าจะทุ่มเงินทุนไปเท่าไหร่ สินค้าและการให้บริการที่เขา
สร้างขึ้นก็จะอยู่ในมาตรฐานที่รับได้ ของจะถูกจะแพงแค่ไหน ยังไงก็มีกลุ่มลูกค้าที่
อยากซื้อ
การเปลี่ยนร้านอินเทอร์เน็ตให้เ ป็นร้านจับฉ่ายจะส่งผลกระทบต่อส่วนอื่นๆ
และฉุดรั้งกันลงเหว ซึ่งก็จะทำให้เผยเชียนขาดทุนได้ตามเป้าหมาย
ชายหนุ่มพอใจกับสภาพปัจจุบันของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมาก
จากการบริ ก ารทั ้ ง หมดของร้ า น เผยเชี ย นพอใจกั บ ยอดขายอาหารและ
เครื่องดื่มมากที่สุด จึงเป็นธรรมดาที่เขาอยากจะต่อยอดจุดนี้
จ้างเชฟเพิ่มไม่ได้ใช้เงินมากนัก แต่สถานการณ์จะต่างออกไป ถ้าจ้างพนักงาน
ส่งอาหาร พนักงานล้างจานที่รับผิดชอบทำความสะอาดและฆ่าเชื้อถ้วยชามต่างๆ
รวมถึงทีมวิเคราะห์และพัฒนาเว็บไซต์กับแอปพลิเคชัน
ต่อไปพอมีร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูหลายสาขามากขึ้น เขาก็จะขาดทุนเพิ่มขึ้น
อีกหลายเท่าตัว จะไปหาโอกาสดีๆ แบบนี้ได้ที่ไหนอีก
เผยเชียนมอบหมายหน้าที่สำคัญนี้ให้ไอ้หม่า ที่ทำแบบนี้ก็เพราะตั้งความหวัง
กับเจ้านี่ไว้มาก
ให้ไอ้หม่าได้มีอะไรทำ จะได้ไม่สวาปามอาหารเกินพอดีหลังจากเฉินเหล่ย
ลาออกไป ถ้าน้ำหนักขึ้นคงแย่น่าดู
หลังจากสั่งงานต่ออีกเล็กน้อย เผยเชียนก็รู้สึกสบายใจ เผยเชียนพบประกาย
ไฟอันตรายที่ปะทุขึ้นในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูและดับมันได้ทันเวลาก่อนที่จะปะทุ
ลุกลามเป็นไฟป่า เยี่ยมจริงๆ!

วันที่ 10 มิถุนายน
บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี
เผยเชียนติดตามความคืบหน้าอัปเดตใหม่ของเกมต่างๆ
เหลือเวลาอีกหนึ่งสัปดาห์นิดๆ จะถึงกำหนดปล่อยเวอร์ชันอัปเดต พวกเขา
ต้องเผื่อวันไว้สำหรับทดสอบด้วย ดังนั้นตอนนี้ระบบส่วนใหญ่จึงเสร็จสมบูรณ์
หมดแล้ว
งานภาพยังส่งมาไม่ครบ หร่วนกวางเจี่ยนเป็นคนทำงานภาพให้เกมแม่ทัพผี
งานคุณภาพดีต้องใช้เวลา ไม่สามารถเร่งได้
ขอแค่ส่งงานภาพทั้งหมดก่อนปล่อยอัปเดตวันที่ 18 มิถุนายนก็ไม่มีปัญหา
เพราะงานภาพไม่เหมือนงานระบบที่ต้องจั ดการโปรแกรม ไม่มีบั๊กที่จะส่งผล
ต่อการเล่นของผู้เล่น
เผยเชียนไล่ดูเนื้อหาใหม่ที่จะอัปเดตเพิ่มไปในเกมต่างๆ รวมถึงไอเทมใหม่ที่
จะวางขาย
เขารู้ว่าอัปเดตใหม่ของบางเกมอาจจะทำเงินให้ได้ แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่
คำนวณไว้ เลยไม่ได้กังวลเรื่องไอเทมใหม่ที่ให้ซื้อในเกมสักเท่าไหร่
อัปเดตเหล่านี้เพิ่มเนื้อหาใหม่ไปไม่น้อย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นส่วนของงานภาพ
เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายมีแผนที่ใหม่สิบแบบกับโหมดไม่จบสิ้น
เผยเชียนคิดว่าโหมดไม่จบสิ้นตัวใหม่ไม่น่าจะทำกำไรได้ ถึง DLC ตัวนี้จะตั้งราคา
ไว้แค่หนึ่งหยวนซึ่งเป็นราคาที่สมเหตุสมผลมาก แต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดว่าจะมีใคร
สนใจอยากซื้อ DLC ตัวนี้มาเพื่อเล่นเกมซ้ำๆ ในแผนที่ใหม่เยอะขนาดนั้น
เกมแม่ทัพผีมีการ์ดแม่ทัพใหม่ห้าสิบใบ ทั้งหมดอัดรวมอยู่ใน DLC ราคาห้า
หยวน เผยเชียนคิดว่าตัวนี้น่าจะทำรายได้ปานกลางค่อนไปทางสูง แต่ถ้าคำนวณ
จากเงินทุนสองแสนห้าหมื่นหยวนที่ใช้สร้างการ์ดแล้ว พวกเขาต้องขาย DLC ให้
ได้หนึ่งแสนชุดถึงจะทำเงินคืนทุนได้
เผยเชียนคำนวณไว้ว่าอย่างมากก็น่าจะคืนทุน ไม่น่ามีโอกาสทำกำไรได้
DLC เกมนักออกแบบเกมราคาห้าหยวน ตัวนี้น่าจะก้ำกึ่งระหว่างทำกำไรได้
กับไม่ได้
ปัญหาใหญ่คือเกมฐานทัพกลางทะเล
เกมฐานทัพกลางทะเลมีปล่อยเนื้อเรื่องใหม่ ฉากใหม่ ตัวละครใหม่ อาวุธใหม่
ทุกอย่างอัปเดตให้ฟรี มีแค่อาวุธในตำนานที่วางขายแบบจำกัดจำนวน
ทุกเดือนเกมจะวางขายอาวุธราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนแค่ห้าร้อยชิ้น
หมายความว่าเผยเชียนจะทำเงินได้มากสุดสองแสนหยวนต่อเดือน หลังหักภาษี
และส่วนแบ่งค่าบริการของทางแพลตฟอร์ม
แหล่งรายได้หลักของเกมฐานทัพกลางทะเลมาจากจำนวนผู้เล่นและยอดขาย
ที่เพิ่มขึ้นของปืนกิเลนเพลิง ตอนนี้มีผู้เล่นใหม่เข้ามาเล่นเกมหลายหมื่นคนต่อ
เดือน ถึงจะมีแค่ไม่กี่คนที่ซื้อปืนกิเลนเพลิง แต่กำไรที่ได้ก็ถือว่าสูงทีเดียว
ถ้าคำนวณตามนี้ เงินที่ได้จากการขายอาวุธในตำนานชิ้นใหม่ก็ไม่ได้สูงอะไร
นัก
ในหนึ่งเดือน รายได้สองแสนหยวนนั้นไม่พอคืนทุนค่าวิเคราะห์และพัฒนา
ด้วยซ้ำ แต่ที่ระบบไม่ถือว่าเป็นการทำผิดกฎก็เพราะอาวุธชิ้นใหม่นี้สามารถทำ
รายได้ได้ในระยะยาว
พอปล่อยอัปเดตนี้ออกไป จะมี รายได้จำนวนเท่าเดิมเข้าบริษัทไปอีกหลาย
เดือน ส่วนค่าวิเคราะห์และพัฒนาอัปเดตตัวใหม่เป็นรายจ่ายที่จ่ายไปรวดเดียว
หมด ถ้าพิจารณาจากการที่อัปเดตตัวใหม่จะเรียกกระแสจากผู้เล่นปัจจุบันให้เล่น
ต่อและเรียกผู้เล่นเก่าให้กลับมาเล่นได้ เมื่อมองในระยะยาวก็ไม่ถือว่าเป็นการ
ตั้งใจขาดทุน
ดังนั้นถึงจะมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าอาวุธในตำนานชิ้นใหม่ของเกมฐานทัพ
กลางทะเลจะทำให้ผู้เล่นเสียเงินให้เกมได้ แต่ถึงผู้เล่นจะอยากเสียเงินขนาดไหน
พวกเขาก็ต้องแย่งชิงกับผู้เล่นคนอื่น ยังไงซะเถิงต๋าก็จะทำเงินได้ไม่เกินสองแสน
กว่าหยวนต่อเดือนอยู่แล้ว เผยเชียนจึงไม่ได้กังวลใจอะไรเลย
ต่อจากปืนกิเลนเพลิง อาวุธในตำนานชิ้นใหม่ที่จะเข้าเกมฐานทัพกลางทะเล
คือปืนบาร์เร็ตมรณะ
เผยเชียนอดยิ้มออกมาไม่ได้พอได้เห็นความอลังการของปืนสไนเปอร์ตรงหน้า
แค่มองปืนกระบอกนี้ เขาก็พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมลู่หมิงเหลียงถึงเศร้าใจนัก
ลู่หมิงเหลียงเคยบอกมาว่าผู้เล่นประท้วงการจำกัดการขายอาวุธในตำนานชิ้น
ใหม่ของเกมฐานทัพกลางทะเลแค่ห้าร้อยชิ้นต่อเดือน เขาเสนอให้ปรับเพิ่มเป็นห้า
พันชิ้น แต่เผยเชียนก็ปัดข้อเสนอนั้นทิ้ง
เห็นได้ชัดว่าลู่หมิงเหลียงทุ่มเทกับปืนกระบอกนี้มาก ตั้งใจไว้ว่าจะใช้มั นทำ
เงินให้เผยเชียน
ด้วยความที่เป็นปืนสไนเปอร์ ปืนบาร์เร็ตมรณะจึงเหนือชั้นกว่าปืนกิเลนเพลิง
ทั้งด้านการออกแบบและการใช้งาน แต่เหนือกว่าแล้วจะทำไม
เผยเชียนไม่ได้สนใจเลยสักนิด ห้าร้อยก็คือห้าร้อย ถ้าขายเกินนี้ก็ฉิบหายกัน
หมดสิ!
ถ้าจำกัดจำนวนการขายก็ต้องไม่ได้กำไรแน่ๆ จริงไหม
เผยเชียนพอใจมากหลังจากตรวจเนื้อหาของอัปเดตทั้งหมด อย่างน้อยก็ยัง
ควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างในเถิงต๋าไว้ได้
ส่วนทางฉางหยางเกมส์ เกมเก่าของพวกเขาฟื้นกลับมามีกระแสอีกครั้ง แต่
เผยเชียนตัดช่องทางการทำเงินในเกมทิ้งหมดแล้ว คงยากมากที่ทั้งสองเกมจะหา
เงินคืนทุนได้ เผยเชียนคิดว่ารอบนี้น่าจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก่อนวันปิดบัญชี
ขอแค่ไม่ประมาทและตามดูสถิติรายได้บ่อยๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาแน่นอน
ถึงหวงซื่อปั๋วจะทำกำไรได้จากสารคดี เผยเชียนก็ ยังมีร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
อีกห้าสาขาที่จะขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ยอดขาดทุนตรงนี้ถือว่าเกินพอสำหรับการ
กลบกำไรที่จะเกิดขึ้น
นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายประจำวันกับสวัสดิการพนักงานอีก ถ้าทุ่มเงินไปได้
อีกก้อนละก็…
เผยเชียนคิดว่ารอบนี้น่าจะขาดทุนสักหนึ่งถึงสองล้านหยวนโดยไม่มีปัญหา
อะไร!
แน่นอนว่าเขาจะประมาทไม่ได้
ที่ผ่านมาทุกครั้งที่เผยเชียนคิดว่าตัวเองจะขาดทุน พนักงานของเขามักจะ
เซอร์ไพรส์เขาตลอด สิ่งที่คนพวกนั้นทำแต่ละครั้งมันเกินกว่าที่ใจเขาจะรับได้ไหว
รอบนี้เผยเชียนคอยระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เขาจะประมาทไม่ได้จนกว่ า
จะเริ่มสรุปบัญชี!
บทที่ 164 โชคดีจริงๆ ที่ได้เป็นพนักงานเถิงต๋า

ช่วงนี้หม่าอี้ฉวินอารมณ์ดีมาก
เขารู้สึกว่าในที่สุดตนเองก็ได้รับการยอมรับเป็นพนักงานของเถิงต๋าอย่างเป็น
ทางการ
หม่าอี้ฉวินศึกษาดูงานอยู่สองเดือนเต็ม กว่าจะได้รับโอกาสให้ทำงานสำคัญ
ดังนั้นเขาจึงให้ความสำคัญกับงานนี้มากๆ
เขาตั้งใจวางแนวเรื่องและเขียนเนื้อเรื่องๆ ต่างของอัปเดตใหม่ นอกจากนี้ยัง
ช่วยปรับปรุงรายละเอียดเกมแม่ทัพผีที่หม่าหยางเขียนไปส่งๆ ด้วย
แน่นอนว่าเขาไม่ได้เขียนไปมั่วซั่ว แต่เขียนตามสไตล์ของแต่ละเกม
อย่างเกมแม่ทัพผีที่อิงจากเรื่องสามก๊ก มีเนื้อหามากมายให้เขาเขียนเกี่ยวกับ
แม่ทัพแต่ละคนได้
แต่ถ้าเขียนประวัติไปตามจริงก็จะไม่เข้ากับสไตล์ของเกม
ระหว่างที่แก้งานในส่วนนี้ หม่าอี้ฉวินพบว่าถึงคำอธิบายเดิมของแม่ทัพแต่ละ
คนจะดูเรียบง่าย แต่แนวคิดการออกแบบที่แฝงอยู่นั้นชัดเจนมาก ตรงกับสไตล์
งานภาพสุดๆ!
เขารู้สึกยกย่องงานนี้ จึงไปถามดูว่าใครเป็นคนทำ
มารู้ที่หลังว่านักเขียนแรกเริ่มแซ่หม่าเหมือนกัน เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท
กับบอสเผย ตอนนี้ไต่เต้าไปไกล ได้ย้ายจากธุรกิจเกมไปแสดงความสามารถใน
ธุรกิจอื่น หม่าอี้ฉวินอิจฉาเล็กน้อยเมื่อได้ยินเรื่องนี้
ในที่สุดเขาก็ปรับงานให้ดีขึ้นโดยอ้างอิงจากแนวงานเดิม
นอกจากนี้หม่าอี้ฉวินยังตั้งใจเขียนบทบรรยายเกมฐานทัพกลางทะเลกับเกม
นักออกแบบเกมให้ออกมาดีที่สุด
เขาไม่กล้าปล่อ ยให้มีจุดผิดพลาดเกิดขึ้นแม้แต่จุดเดียว เพราะนอกจาก
หัวหน้าฝ่ายวางแผนลู่หมิงเหลียงแล้ว งานของเขาอาจได้รับการตรวจสอบจาก
บอสเผยผู้เป็นนักออกแบบเกมฝีมือเยี่ยม
ถ้างานของเขาไม่ได้มาตรฐาน ถึงคนอื่นจะมองไม่ออก แต่บอสเผยต้องมอง
ออกแน่ จะยอมเสี่ยงให้เป็นแบบนั้นไม่ได้
เขาไม่อยากเสียความไว้วางใจที่เพิ่งจะได้รับมาจากบอสเผยไปอย่างรวดเร็ว
พอทำงานทั้งหมดเสร็จ หม่าอี้ฉวินก็ถอนหายใจยาว
เขานึกถึงเพื่อนร่วมทุกข์ทั้งสองคน เฟยหวงสตูดิโอของหวงซื่อปั๋วกำลังไปได้ดี
ตอนนี้ย้ายไปถ่ายทำงานใหม่ที่เซี่ยงไฮ้แล้ว ส่วนเยว่จือโจวก็ได้เป็นหัวหน้าฝ่าย
วางแผนของฉางหยางเกมส์ที่เขาเคยทำงาน ภายใต้การแนะนำแนวทางจากบอส
เผย เยว่จือโจวสามารถชุบชีวิตเกมที่ตายไปแล้วขึ้นมาได้และสร้างชื่อให้กับเกมทั้ง
สองเกม หม่าอี้ฉวินรู้สึกประทับใจมากเมื่อคิดถึงเรื่องราวเหล่านี้
“ถ้ามองจากมุมนี้ บอสเผยถือเป็นผู้กอบกู้อุตสาหกรรมเกมของเมืองจิงโจว
เลยนะเนี่ย!”
ยิ่งคิดหม่าอี้ฉวินก็ยิ่งรู้สึกประทับใจ
ระหว่างที่กำลังเลื่อนดูคอมเมนต์บนอินเทอร์เน็ต เขาก็พบว่า DLC ของพวก
เขากลายเป็นกระแสร้อนแรงทั้งๆ ที่ยังไม่ได้วางจำหนาย
เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายที่มีโอกาสได้ตำแหน่งเกมกากที่สุดแห่ง
ปีกำลังจะปล่อย DLC กากๆ ตัวใหม่ที่มัดรวมแผนที่ใหม่สิบแบบไว้ในชุดเดียว
เรื่องนี้เป็นกระแสขนานใหญ่ ชาวเน็ตแชร์ต่อๆ กันอย่างร้อนแรง
เกมแม่ทัพผีเป็นเกมน้ำดีที่ไม่เคยอัปเดตมาเป็นหมื่นปี ทำให้มีคนตั้งหน้าตั้งตา
คอยอัปเดตใหม่กันเพียบ
กระแสตอบรับของเกมนักออกแบบเกมไม่ค่อยร้อนแรงเท่าไหร่ แต่ด้วยความ
ที่เป็นเกมเสียดสีความเป็นจริง ผู้เล่นหลายคนจึงเลือกซื้อเกมนี้มาสะสมไว้ในคลัง
เกมของตัวเอง ถ้ามี DLC ตัวใหม่ที่เพิ่มฉากใหม่กับเสียงพากย์ใหม่ พวกเขาย่อม
ต้องซื้อมาไว้เพื่อยกระดับคลังสะสมของตัวเองอย่างแน่นอน
เกมที่มีการพูดถึงเยอะที่สุดคือเกมฐานทัพกลางทะเล
ตอนนี้ยังไม่มีภาพอาวุธในตำนานชิ้นใหม่หลุดออกไป แต่ข่าวเรื่องการจำกัด
จำนวนขายแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว
ผู้เล่นหลายคนไม่เชื่อข่าวนี้ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง
บางคนสงสัยว่าอาวุธราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนจะขายได้ถึงห้าร้อยชิ้น
จริงๆ เหรอ พวกเขาตั้งคำถามว่าผู้พัฒนาเกมคิดว่าจะดูดเงินผู้เล่นได้ง่ายขนาดนั้น
เลยเหรอ จึงมองว่าการจำกัดจำนวนไม่ใช่เรื่องจำเป็นเลย
ผู้เล่นกลุ่มนี้ไม่ค่อยมีหัวคิดสักเท่าไหร่
บางคนอึ้งมากที่จำกัดจำนวนขายแค่ห้าร้อยชิ้น บริษัทไม่อยากได้เงินเยอะๆ
เหรอ จำนวนแค่นี้ไม่กี่นาทีก็ขายหมด!
แต่เพราะข่าวนี้มีรายละเอียดที่ชัดเจนมาก ผู้เล่นบางส่วนจึงปักใจเชื่อ พวก
เขาไม่ได้สนใจเนื้อหาใหม่ที่จะเพิ่มมาในอัปเดตเท่าไหร่ เพราะเอาแต่ตั้งตาคอยจะ
รีบจับจองอาวุธในตำนานชิ้นใหม่หลังมีการอัปเดต
พอเห็นเรื่องราวเป็นกระแสยกใหญ่ หม่าอี้ฉวินก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
รสชาติความสำเร็จมันเป็นแบบนี้นี่เอง!
ตอนยังทำงานที่ฉางหยางเกมส์ ผู้เล่นไม่ได้สนใจอัปเดตตัวใหม่ของเกมเลย
มีฟีดแบ็กกลับมาแค่นิดหน่อย และเป็นคำติเตียนเสียส่วนใหญ่
หันกลับมามองบริษัทเถิงต๋า
ผู้เล่นเอาแต่อ้อนวอนขออัปเดตตัวใหม่กัน ยังไม่ทันจะปล่อยเนื้อหาของอัป
เดตตัวใหม่ ผู้เล่นก็กำเงินกันไว้พร้อม
แตกต่างกันลิบลับ!
หม่าอี้ฉวินแทบอดใจรอดูไม่ไหวว่าหลังจากปล่อยอัปเดตออกไปจะเป็นยังไง
“ตืด…ตืด…”
เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะสั่น บนหน้าจอไม่ได้แจ้งว่าผู้โทรคือใคร มีแค่
หมายเลขโทรศัพท์ที่ปรากฏอยู่
หม่าอี้ฉวินมองดูแล้วรู้สึกคุ้นๆ กับเบอร์บนหน้าจอ เขานึกลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง
ก่อนจะกดตัดสายไป

พริบตาเดียวก็เที่ยงแล้ว
พนักงานส่งอาหารแต่งตัวดูดีสามคนมายืนรออยู่หน้าประตูบริษัท แต่ละคนมี
กล่องส่งอาหารเก็บอุณหภูมิกล่องใหญ่คนละใบ
“หืม เปลี่ยนเครื่องแบบคนส่งอาหารเหรอ” หม่าอี้ฉวินอึ้งไป
เมื่อวานพนักงานส่งอาหารยังแต่งตัวสบายๆ ไม่ได้ใช้กล่องส่งอาหารเก็บ
อุณหภูมิ
แต่วันนี้คนพวกนี้ดูแปลกใหม่ไม่เหมือนเดิม!
พนักงานส่งอาหารทั้งสามคนใส่เครื่องแบบสีน้ำเงินเหลือง เครื่องแบบของ
พวกเขาแตกต่างจากเครื่องแบบปกติที่เป็นของราคาถูก คุณภาพต่ำ เครื่องแบบ
ของทั้งสามใช้ผ้าคุณภาพดี ตัดเย็บอย่างประณีต ดูสวยทันสมัย
พนักงานส่งอาหารดูกระตือรือร้น พอมีเครื่องแบบกับกล่องส่งอาหารสั่งทำ
ใหม่ก็ยิ่งทำให้ดูเป็นมืออาชีพขึ้นไปอีก
จุดเด่นที่เห็นได้ชัดคือคำว่าโมหยูเดลิเวอรี่ขนาดใหญ่!
พนักงานคนอื่นๆ ลุกขึ้นเตรียมออกไปรับอาหาร พวกเขาตกใจเล็กน้อยเมื่อ
เห็นภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของพนักงานส่งอาหาร
แต่ยังไม่หมดแค่นั้น
เหล่ า พนั ก งานเดิ น ไปเตรี ย มกิ น อาหารเที ่ ย งที ่ โ ซนกิ น ข้ า ว พวกเขาเห็ น
พนักงานส่งอาหารสามคนหยิบถ้วยชามลายครามสีขาวออกมาจากกล่องเก็บ
อุณหภูมิ แต่ละใบมีฝาปิดไว้อย่างมิดชิด
อาหารแต่ละอย่างจัดเสิร์ฟมาในถ้วยชามลายคราม บางคนสั่งเป็นชุดข้าว
พร้อมกับ ซึ่งจัดใส่มาในกล่องอาหารแก้วใสสองชั้น แบ่งใส่ข้าวและกับเป็นส่วนๆ
อาหารสะท้อนแสงเป็นประกาย ดูน่ากินยิ่งขึ้น
พนักงานส่งอาหารหยิบตะเกียบกับช้อนสีทองสุดหรูที่หุ้มด้วยถุงกระดาษ
ปลอดเชื้อโรคออกมา แค่ดึงออกจากถุงก็พร้อมใช้งานทันที
พอทุกคนรับอาหารตามที่สั่งมาเรียบร้อย บางส่วนก็เดินไปรวมกลุ่มเปิด
อาหารกินด้วยกัน
“บริษัทเพิ่มมาตรฐานอาหารให้เราเหรอ”
“ไม่นะ อาหารก็เหมือนเดิม ที่เปลี่ยนคือถ้วยชามที่ใส่มาต่างหาก!”
“จริงเหรอ เชฟคนเดิมงั้นเหรอ ทำไมฉันว่าอาหารมันน่ากินขึ้นกว่าเดิมหลาย
เท่าเลย”
หม่าอี้ฉวินรับชุดอาหารของเขามา เป็นกล่องอาหารสองชั้น สัดส่วนของเนื้อ
กับผักเหมาะสมดี ไม่เหมือนพวกอาหารมันเยิ้มของร้านอาหารทั่วไป ถึง อาหาร
ของพวกเขาจะเป็นอาหารบ้านๆ แต่พอเสิร์ฟมาในกล่องอาหารแก้ว อาหารก็ดูน่า
กินยิ่งขึ้นไปอีกพอแสงตกกระทบใส่
ไม่นานพนักงานส่งอาหารก็จัดแจงอาหารทั้งหมดเสร็จ “กินให้อร่อยนะครับ
เสร็จแล้วนำภาชนะกลับมาใส่กล่องได้เลย เดี๋ยวจะมีคนมาเก็บกลับไปตอนเย็น
ครับ”
“เก็บกลับด้วยเหรอ”
“ใช่ครับ เพราะภาชนะของเราราคาสูง”
“ก็จริง ขอบคุณทั้งสามคนมากนะ!”
“ความเป็นอยู่กับสวัสดิการของบริษัทนี้ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ…”
ครู่เดียวกลิ่นอาหารก็อบอวลไปทั่วโซนกินข้าว
หม่าอี้ฉวินสวาปามอาหารของตัวเอง เขารู้สึกว่านี่เป็นมื้ออาหารที่อร่อยที่สุด
ตั้งแต่เคยกินมา
เทียบกับร้านอื่นๆ แล้ว เถียงไม่ได้เลยจริงๆ ว่า ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูใส่เกลือ
กับน้ำมันน้อยกว่า วัตถุดิบก็สดสะอาดกว่า
ถึงรสชาติอาหารจะจืดกว่าและอร่อยน้อยกว่า แต่ก็ดีต่อสุขภาพมากๆ
ก่อนหน้านี้อาหารแพ็กมาส่งด้วยกล่องธรรมดา ถึงจะรสชาติดี แต่หน้าตาดู
เหมือนอาหารราคาถูก เห็นแล้วรู้สึกเหมือนอาหารร้านริมถนนราคาสิบกว่าหยวน
การกินอาหารผ่านกล่องพลาสติกและตะเกียบไม้ใช้แล้วทิ้งไม่ได้สร้างความจรรโลง
ใจให้พวกเขาเลย
“ตอนแรกฉันว่าจะทำอาหารห่อมากินเอง แต่ไม่เอาแล้ว ทำเองยังไงก็ไม่มี
ทางดีเท่านี”้
“สารอาหารครบ ดีต่อสุขภาพ กินแล้วไม่ต้องห่วงเรื่องสุขภาพเลย แถมยัง
เป็นเมนูพื้นๆ ทั่วไป กินยังไงก็ไม่เบื่อ โชคดีจริงๆ ที่ได้เป็นลูกน้องบอสเผย! ไม่
น่าจะมีใครได้สวัสดิการดีเท่านี้อีก!”
“นายคิดว่าถ้าขายให้คนนอกจะราคาเท่าไหร่”
“ฉันว่าอย่างต่ำยี่สิบหยวน”
“ยี่สิบหยวนเอาเหรอ อย่าลืมนะว่าเขามาเก็บถ้วยชามกลับด้วย! ค่าแรงแพง
กว่าเดลิเวอรี่เจ้าอื่นสองเท่า ฉันว่าต้องสักสามสิบหยวน”
“แพงไปหน่ อ ยนะถ้ า สามสิ บ หยวน แบบนั ้ น ไม่ น ่ า จะมี ใ ครมาสั ่ ง กิ น ได้
บ่อยๆ…”
“พวกแกพูดอะไรน่ะ อาหารพวกนี้คือสวัสดิการของพนักงานภายในบริษัท
คิดว่าบอสเผยทำโรงทานเหรอ ทำไมบอสต้องขายของดีๆ แบบนี้ให้คนอื่นด้วย”
“แต่เห็นมีโลโก้โมหยูเดลิเวอรี่ด้วยนี่ ฉันว่าบอสต้องกำลังวางแผนทำแบรนด์
เดลิเวอรี่อยู่แน่ๆ!”
หลินหวานถืออาหารชุดไปกินอย่างสุขใจ
ปกติเธอได้กินแต่อาหารหรูๆ ได้ลองกินอาหารพื้นๆ ที่ตระเตรียมมาอย่าง
ประณีตแบบนี้ก็รู้สึกดีอยู่ไม่น้อย
เธอรู้สึกใจฟูระหว่างที่กิน
หกเดือนที่ผ่านมาที่เถิงต๋า หลินหวานรู้สึกประทับใจกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมา
โดยตลอด
บอสเผยดูแลพนักงานดีจริงๆ! ทำไมโลกนี้ถึงไม่ใจดีกับบอสที่แสนจะจิตใจดี
เลยนะ
หลินหวานตัดสินใจได้แล้ว เธอเลื่อนหาเบอร์โทรในมือถือ ตั้งใจว่าจะใช้พลังที่
เธอมีทำอะไรสักอย่าง
บทที่ 165 กดไลก์ให้บอสของเถิงต๋า!

ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
โซนคาเฟ่
ชายอายุอานามยังไม่แก่มากนักกำลังยกกาแฟจิบช้าๆ
ชายวัยกลางคนอายุอยู่ในช่วงวัยห้าสิบ เดินเข้ามาในโซนคาเฟ่ก่อนจะนั่งลง
ตรงข้ามชายคนแรก
“บอสหลิว” ชายคนแรกลุกยืนเป็นเชิงให้เกียรติอีกฝ่าย
“ขอโทษทีบอสหลี่ พอดีงานติดพันเลยมาสาย ว่าแต่ที่นี่หายากเหมือนกัน
นะเนี่ย” บอสหลิวที่อายุมากกว่านั่งลงตรงข้ามบอสหลี่ จากนั้นก็หยิบบุหรี่ขึ้นมา
จุดสูบตามความเคยชิน
หลี่สือยกมือปรามทันที “บอสหลิว ที่นี่ห้ามสูบบุหรี่ครับ”
บอสหลิวชะงัก “ห้ามสูบบุหรี่เหรอ”
เขาหันไปเห็นป้ายห้ามสูบบุหรี่ พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งมองมาพร้อมกับยิ้มเป็น
เชิงขอโทษ ที่นี่ห้ามสูบบุหรี่จริงๆ ด้วย
บอสหลิวไม่ได้คิดอะไรมาก เขาเก็บบุหรี่ไป
“บอสหลี ่ ที ่ น ี ่ เ หรอที ่ บ อกว่ า อยากจะลงทุ น ” บอสหลิ ว หั น มองไปรอบๆ
“ที่นี่…เหมือนคาเฟ่ธรรมดาทั่วไป”
เขาลังเล สายตาดูสับสนเล็กน้อย “แต่มีคอมพิวเตอร์เรียงเป็นแถวเลย คือ
ยังไงเหรอ”
หลี่สือจิบกาแฟพลางยิ้มบาง “บอสหลิวไม่เข้าใจ
“บอสของร้านนี้มองล้ำไปไกลกว่าเรามาก สำหรับผมแล้ว ไม่ว่าร้านนี้จะเป็น
แค่ร้านอินเทอร์เน็ต บาร์ หรือคาเฟ่เดี่ยวๆ ก็ล้วนมีเอกลักษณ์น่าสนใจหมด
“แย่หน่อยที่บอสร้านนี้ยัดรวมทุกอย่างมาไว้ที่เดียว เลยฉุดกันลงเหวหมด ทำ
ให้ร้านไม่มีลูกค้าเข้าเลยสักคน”
หลี่สือเล่าสิ่งที่ได้จากการสังเกตการณ์ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูในช่วงที่ผ่านมา
จากนั้นก็พูดถึงช่วงที่เฉินเหล่ยทำงานที่นี่
“ตั้งแต่นักร้องคนเก่าไป นักร้องคนใหม่ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่า ลูกค้าจึง
ค่อยๆ ลดลง ตอนนี้ร้านกลับไปโล่งเหมือนแต่ก่อนแล้ว
“แต่ผมก็ยังคิดเหมือ นเดิม อย่างน้อยการที่ร้านมุ่งเป้าไปที่ลูกค้าระดับสูงก็
น่าจะได้ผลดีในอนาคต”
พอฟังที่หลี่สือพูดจบ บอสหลิวก็พยักหน้าเล็กน้อย
“ก็คือคุณอยากลงทุนที่นี่ใช่มั้ย”
หลี่สือยกกาแฟขึ้นจิบด้วยท่าทางมั่นใจ “ใช่ครับ ผมเชื่อสัญชาตญาณนัก
ลงทุนของตัวเอง บอสหลิวทำงานในตลาดอสังหาริมทรัพย์นี่ครับ ผมว่าโมเดล
ธุรกิจมุ่งเป้าลูกค้าระดับสูงของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูน่าจะเป็นที่นิยมทีเดียวถ้า
เลือกทำเลเหมาะๆ ผมก็เลยเชิญบอสมาที่นี่เพื่อถามความเห็นนี่แหละครับ”
บอสหลิวคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ นานก็เข้าใจประเด็นหลักที่หลี่สือต้องการจะสื่อ
“ใช่ครับ ที่นี่จะทำกำไรได้หรือขาดทุนอยู่ก็ไม่ได้ต่างอะไร แต่การบริการระดับสูง
ของร้านนี้จะเพิ่มมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ภายในพื้นที่ ถือว่าไม่เลวเลย”
“คุยกับบอสของที่นี่รึยัง”
หลี่สือส่ายหัว “ยังครับ ผมรอเวลาเหมาะๆ อยู่
“ที่นี่เพิ่งจะเปิดมาได้สองถึงสามเดือน ผมคิดว่าบอสของที่นี่ไม่น่าจะขาด
เงินทุนอะไร อีกอย่างถ้าดูจากสิ่งที่ทำมาตลอด เขาน่าจะเป็นคนหัวรั้นอยู่พอตัว
ไม่น่าจะยอมฟังความเห็นของเราหรอก
“เท่าที่ผมรู้มา ถึงร้านนี้จะขาดทุนอย่างต่อเนื่อง แต่บอสก็เอาเงินมาลงไม่หยุด
เขาเพิ่งจะเปิดสาขาเพิ่มอีกสามสี่สาขาในจิงโจว คนหัวรั้นแบบนี้ไม่ได้เจอได้ง่ายๆ
“แต่ผมก็ไม่ได้รู้เรื่องเขาละเอียดหรอกครับ แค่เอาที่ได้เห็นกับได้ยินในช่วงที่
ผ่านมามาวิเคราะห์”
บอสหลิวพยักหน้าเห็นด้วยเบาๆ
น่าจะมีใครหลายคนห้ามไม่ใ ห้คนคนนี้ทุ่มเงินสามสี่ล้านหยวนสร้างร้าน
ประหลาดแบบนี้ขึ้นมา แต่ก็ยังเปิดร้านจนได้ ไม่ใช่แค่นั้น ทุกอย่างแสดงให้เห็นว่า
บอสของที่นี่ไม่ได้ติดขัดเรื่องเงิน แถมยังชอบทำอะไรตามอำเภอใจ
ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ทำอะไรแบบนี้หรอก
หลี่สือพูดต่อ “ถ้าผมไปคุยกับเขาตอนนี้คงจะโดนบอกปฏิเสธไม่ยอมให้ผม
ลงทุนแน่
“ผมต้องรอต่อไปเรื่อยๆ ต้องรอจนร้านดิ่งลงเหว ให้ทุกสาขาขาดทุนหมด พอ
เขาเริ่มหมดความมั่นใจ คิดจะเปลี่ยนวิธีการ…
“ผมก็จะยื่นข้อเสนอว่าจะช่วยลงทุนก้อนโต จากนั้นก็จะได้เป็นหุ้นส่วนของ
ร้านนี้
“ถึงตอนนั้นเราค่อยมาคุยกันเรื่องนี้ต่อนะครับบอสหลิว”
บอสหลิวหัวเราะ ไม่ได้ตอบตกลงหรือปฏิเสธ “วางแผนได้ดีเลยนี่บอสหลี่ แต่
ผมว่าเราต้องดูโมเดลธุรกิจนี้ไปอีกพักใหญ่
“บอสหลี่ อย่าเข้าใจผมผิดนะ ผมไม่ได้จะต่อต้านอะไร ผมแค่หัวโบราณหน่อย
ไม่ใช่นักลงทุน ไม่รู้วิธีมองอะไรไกลขนาดนั้น ถ้าบอสหลี่ทำสำเร็จ ผมก็พร้อม
เจรจาธุรกิจด้วย
“แต่ผมว่าคุณอาจจะทำไม่สำเร็จ ผมเกรงว่าจะได้ไปร่วมงานกับคนอื่นแทน”
หลี่สือยิ้มระหว่างที่ยกกาแฟจิบ “ไม่ต้องห่วงครับบอสหลิว ผมว่าบอสของที่นี่
ไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรมาปฏิเสธผมได้”


วันที่ 18 มิถุนายน
เกมของเถิงต๋ามีการอัปเดตใหม่พร้อมกันหมด!
ผู้เล่นที่รอคอยมาเนิ่นนานต่างตื่นเต้นกันยกใหญ่ ใครรอซื้อ DLC ก็ได้ซื้อ ใคร
รออาวุธในตำนานอยู่ก็รีบสอย ทุกคนเสียเงินซื้อพร้อมตะโกนว่า ‘เถิงต๋ารักผู้เล่น
สุดๆ’ ขณะเดียวกันก็ไปแซะเกมอื่นๆ ที่บังคับให้ผู้เล่นต้องเสียเงินเล่นเกม บน
อินเทอร์เน็ต
เผยเชียนไล่ดูเว็บบอร์ดไปพร้อมๆ กับจับตาดูยอดสถิติจากส่วนหลังบ้าน
ยอดขาย DLC พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาเริ่มลนลาน
โดยเฉพาะปืนบาเร็ตมรณะห้าร้อยกระบอกในเกมฐานทัพกลางทะเล เผย
เชียนคิดว่าน่าจะเวลาหนึ่งวันถึงจะขายหมด แต่ดูจากสถานการณ์แล้วไม่ถึงชั่วโมง
ก็คงขายหมดเกลี้ยง
เหล่าผู้เล่นเห็นปืนบาเร็ตมรณะที่วางขายอย่างจำกัดขายออกอย่างรวดเร็ว
หลายคนที่กำลังชั่งใจอยู่จึงตัดสินใจสอยทันที
ถึงยอดตัวเลขบนหน้าจอที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจะทำให้เผยเชียนใจเต้นระส่ำ
แต่จากการคิดคำนวณมาอย่างรอบคอบก็ทำให้เขารู้สึกสบายใจว่าทุกอย่างยัง
เป็นไปตามแผน
หลังจากยืนยันอยู่หลายครั้ง เผยเชียนก็เข้าใจกฎของระบบมากขึ้น
ถ้าอยากขาดทุน เขาไม่จำเป็นต้องทำให้บริษัทล้มละลาย หรือทำให้ธุรกิจของ
บริษัทดำเนินไปอย่างซบเซา
มีแค่สองอย่างที่ชายหนุ่มต้องทำก่อนถึงวันปิดบัญชี เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่ายอด
ขาดทุนจะแปลงเข้าความมั่งคั่งส่วนบุคคล
อย่างแรก ยอดเงินทุนระบบจะต้องต่ำกว่ายอดตั้งต้น
อย่างที่สอง ต้องไม่มีสินค้าที่ยังไม่ได้วางจำหน่ายในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนถึงวัน
ปิดบัญชี
ระบบจะทบยอดให้ทุกครั้งที่เริ่มรอบบัญชีใหม่ จะมีห้าหมื่นหยวนเหมือนตอน
แรกหรือห้าล้านหยวนเหมือนตอนนี้ ระบบก็จะทบยอดเงินทุนระบบให้ไม่มีขาด
ระบบให้เงินมาฟรีๆ ไม่มีเหตุผลอะไรที่เผยเชียนจะไม่รับ
ในรอบบัญชีนี้ เผยเชียนแค่ต้องมั่นใจว่ ายอดเงินทุนระบบจะต่ำกว่าห้าล้าน
หยวน เงินที่จะแปลงเข้าความมั่งคั่งส่วนบุคคลขึ้นอยู่กับยอดขาดทุนที่เขาทำได้
หลังปิดบัญชี เกมก็ทำเงินให้ต่อ ส่วนระบบก็จะทบเงินทุนระบบให้ บริษัทไม่มี
ทางขาดเงินทุน พวกเขาสามารถนำเงินไปพัฒนาหรือขยายส่วนที่มีความจำเป็นได้
โดยระบบจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ
นอกจากนั้นเงินทุนระบบจะต้องเอาไปใช้จ่ายกับพนักงานหรือการวิเคราะห์
และพัฒนาต่างๆ เผยเชียนไม่สามารถเอาเงินไปผลาญเล่นมั่วซั่วได้
ตอนนี้เผยเชียนไม่ได้กังวลว่าโปรเจ็กต์ไหนจะทำเงินได้ ตัวอย่างเช่น DLC
รอบนี้ เขายอมปล่อย DLC เพื่อตบตาคนอื่นๆ ต่อไป ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าจะทำ
กำไรได้ แต่เขาก็ตัดสินใจลงมือทำอยู่ดี
เรื่องนี้ไม่ได้สำคัญเลย ขอแค่โปรเจ็กต์อื่นขาดทุนและทำให้เงินทุนระบบมียอด
ต่ำกว่าห้าล้านหยวนก่อนวันปิดบัญชีได้ ก็ถือว่าขาดทุนในภาพรวมได้สำเร็จ ไม่
จำเป็นต้องผลาญเงินที่หามาอย่างยากลำบากไปจนหมด
ตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเผยเชียน แม้แต่โปรเจ็กต์ล่าสุดอย่างโมหยู
เดลิเวอรี ่ก ็เ สร็ จ สมบู ร ณ์ แ ล้ ว ถึงจะยังไม่ มี ใ ครใช้ ง าน แต่ก็ถ ือ ว่า เปิ ด ทำการ
เรียบร้อย ไม่นับว่าเป็นสินค้าหรือบริการที่ยังไม่เปิดดำเนินการ
ทุกอย่างเรียบร้อยดี เผยเชียนอารมณ์ชื่นมื่น พร้อมจะดูแล้วว่าผู้เล่นแห่ชมเขา
ยังไงบ้าง
เขาเปิดเว็บบอร์ดหนึ่งขึ้นมาดู
“เกมแม่ทัพผีอัปเดตสักที! ขอบคุณสวรรค์! แถมยังเพิ่มการ์ดแม่ทัพมาตั้ง
หลายใบ แบบนี้เล่นต่อไปได้อีกครึ่งปี!”
ชายหนุ่มเปิดดูอีกเว็บบอร์ด
“อัปเดตใหม่ของเกมนักออกแบบเกมเอาไปเลยห้า ดาว เสียงพากย์กับฉาก
ใหม่งานดีมากๆ!”
อีกอัน…
“เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายก็มีอัปเดตกับเขาด้วยเหรอ แถมขาย
แค่หนึ่งหยวน น้ำตาจะไหล! ถึงจะไม่ได้เล่นเกมแต่ก็จะช่วยซื้อแล้วกัน บอกเลยว่า
เถิงต๋าโคตรสุดยอด!”
และอันสุดท้าย
“วางแผนทุเรศฉิบหาย ไปตายไป!”
“แม่งเหอะ! เพิ่มอาวุธในตำนานโคตรเจ๋งเข้าเกมแต่ขายแค่ห้าร้อยชิ้น อุตส่าห์
แอบโดดงานไปเข้ า ร้ า นเน็ ต เพื ่ อ ซื ้ อ แต่ เ จอเด้ ง อั ด หน้ า ว่ า ของเดื อ นนี ้ ข าย
หมดแล้ว!!!”
“ใครซื้อปืนบาร์เร็ตมรณะทันก็ดีใจด้วยนะ!”
“หนึ่งไลก์ = บอสเถิงต๋าเตี้ยลงหนึ่งเซนติเมตร”
“ไอ้ฉิบหาย! เปิดขายเพิ่มเดี๋ยวนี้! รอให้ถึงเดือนหน้าไม่ได้หรอกโว้ย!”
เผยเชียนปิดเว็บบอร์ดเกมฐานทัพกลางทะเลไปเงียบๆ
แหะๆ เหมือนบรรยากาศตรงนี้จะต่างจากที่อื่นแฮะ
ไม่เป็นไร ด่าได้เลยเต็มที่ แค่พวกแกไม่ทุ่มเงินให้ฉันก่อนปิดบัญชี ฉันก็จะยัง
นับพวกแกเป็นพี่น้องอยู่!
บทที่ 166 แบนอาจารย์เฉียวได้ไหม

หลังจากเถิงต๋าปล่อยอัปเดตเกมไปก็เกิดกระแสร้อนแรงบนอินเทอร์เน็ต
ผู้เล่นเกมฐานทัพกลางทะเลรุมด่าบอสของเถิงต๋ากันยกใหญ่ เพราะอยากให้
เพิ่มจำนวนขายปืนบาร์เร็ตมรณะ ส่วนผู้เล่นอื่นๆ ต่างรู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งใจ
เป็นอย่างยิ่ง
สื่อหัวใหญ่ย่อมตีข่าวกระแสครั้งนี้เป็นธรรมดา สื่อรายย่อยบางส่วนก็เข้ามา
จับกระแสนี้ด้วย
ตัวอย่างเช่น อาจารย์เฉียว
หลังจากความสำเร็จของคลิปผลงานเทพสร้าง เฉียวเหลียงได้รับข้อเสนอจาก
เว็บอ้ายลี่เต่า จึงย้ายสำมะโนครัวจากเว็บฟานชูไปเว็บอ้ายลี่เต่าแทน
ถึงจะได้เซ็นสัญญาธรรมดาที่ได้ค่าตอบแทนประมาณสามสิบหยวนจากทุก
หนึ่งหมื่นวิว แต่ด้วยฐานแฟนคลับที่มีและการที่เว็บขึ้นแนะนำว่าเป็นอัปโหลด
มาสเตอร์ชื่อดังในหมวดเกม ก็ช่วยการันตีให้ได้ว่าทุกคลิปจะมียอดวิวหลักแสนขึ้น
พอเป็นแบบนี้อาจารย์เฉียวก็ไม่ต้องอยู่อย่างอดๆ อยากๆ อีกต่อไป ตอนนี้
รายได้ของเขาค่อนข้างมั่นคงเลยทีเดียว
ทุกเดือนเขาแค่ต้องลงคลิปสองคลิป คลิปหนึ่งต้องเป็นคลิปที่ได้ยอดวิวเยอะ
ส่วนอีกคลิปต้องเป็นคลิปที่สปอนเซอร์เข้า รวมๆ แล้วก็จะมียอดวิวรวมอยู่ที่
ประมาณหนึ่งล้านห้าแสนวิว ค่าส่วนแบ่งจากสัญญาและค่าสปอนเซอร์ตกอยู่ที่
ประมาณห้าถึงหกพันหยวนต่อเดือน เทียบกับก่อนหน้านี้แล้วถือว่าดีขึ้นหลายเท่า
แต่จนถึงปัจจุบัน คลิปผลงานเทพสร้างที่ทำให้อาจารย์เฉียวโด่งดังถึงทุกวันนี้
ก็ยังไม่ยอมปล่อยตอนที่สองสักที
แฟนๆ รบเร้าให้เขาออกตอนใหม่ทุกวัน แต่ก็ได้รับคำตอบมาว่า “ขอโทษครับ
มันไม่มีเกมอื่นในประเทศอีกแล้วที่เทียบชั้นกับเกมนักออกแบบเกมได้ ไม่ว่าจะ
เป็นด้านเนื้อหาหรือด้านคอนเซ็ปต์ ถ้ามีเกมแบบที่ว่าผมจะอัปคลิปนี้ทันที ผม
ปล่อยคลิปไม่ได้จริงๆ ถ้าไม่ มีเกมดีๆ ไม่งั้นจะกลายเป็นการทำลายชื่อเสียงของ
ตัวเอง”
คำพูดของเฉียวเหลียงเป็นความจริงแค่ประมาณสามสิบเปอร์เซ็นต์ อีกเจ็ดสิบ
เปอร์ เ ซ็ น ต์ ค ื อ ข้ อ อ้ า ง จริ ง ๆ แล้ ว ถ้ า อยากทำคลิ ป ตอนที ่ ส องก็ แ ค่ ไ ปหาเกม
ต่างประเทศหรือเกมคลาสสิกมาก็ปล่อยออกมาได้หลายคลิปแล้ว
แต่เขาสามารถหาเงินได้ห้าถึงหกพันหยวนต่อเดือนจากคลิปสับเละเกมกาก
แนะนำเกมใหม่ประจำเดือน และคลิปสัพเพเหระอื่นๆ จึงไม่มีแรงและเวลาจะไป
นั่งหาเกมมาทำคลิปผลงานเทพสร้าง
พอมีกระแส ‘DLC ที่ใจดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ’ ของเถิงต๋าออกมา อาจารย์
เฉียวก็อดตื่นเต้นไปด้วยไม่ได้ จึงปล่อยบทความใหม่ในคอลัมน์พิเศษของตัวเอง
“ผมเองก็เฝ้าคอยอัปเดตใหม่ของบริษัทเถิงต๋ามาตลอดเหมือนกัน
“ผมกะเอาไว้แล้วว่าเกมแม่ทัพผีกับเกมฐานทัพกลางทะเลจะต้องมีอัปเดต
ใหม่ แต่ไม่คิดเลยว่าเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายก็มีอัปเดตใหม่กับเขา
ด้วย!
“พูดถึงเกมนี้ หลายคนอาจจะยังมีความเข้าใจผิดๆ อยู่
“เกมนี้เป็นเกมแรกของเถิงต๋า ผมเคยวิจารณ์เกมนี้ในแง่ลบมาก่อน เพราะ
เกมดูทำขึ้นลวกๆ ในหลายองค์ประกอบ หลายคนอาจจะมองเจ้าเกมที่ทำขึ้นมา
ลวกๆ นี้ว่าเป็นจุดด่างพร้อยของบริษัทเถิงต๋า
“ผมเคยคิดว่าสาเหตุมาจากบริษัทเถิงต๋าเพิ่งเริ่มก่อตั้ง คงมี งบประมาณที่
จำกัด เกมเลยออกมาเป็นแบบนี้
“แต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว ผมคิดผิดไป คนที่คิดว่าเกมนี้เป็นเกมขยะก็คิดผิด
เหมือนกัน!
“ถ้าเถิงต๋าคิดว่าเกมนี้เป็นจุดด่างพร้อยจริงๆ คงไม่คิดจะอัปเดตหรอก น่าจะ
ปล่อยให้ตายจากไปเงียบๆ
“แต่บริษัทกลับไม่ทำแบบนั้น ทั้งๆ ที่รู้ว่า เกมนี้กระแสตก เหลือคนเล่นอยู่แค่
หยิบมือ แต่พวกเขากลับเลือกที่จะอัปเดตตัวเกม นอกจากจะเพิ่มฉากเข้าไปเป็น
สิบฉากแล้ว ยังใส่โหมดไม่จบสิ้นกับระบบเล่นหลายคนเข้ามาตามที่ผมเคยแนะนำ
ไปในคลิปด้วย!
“หมายความว่ายังไงน่ะเหรอ
“ก็หมายความว่าเถิงต๋าไม่ได้มองเกมนี้เป็นจุดด่า งพร้อยของบริษัท พวกเขา
ตั้งใจพัฒ นาเกมนี้ เหมือ นเกมอื ่น ๆ เถิงต๋าคืน ความสุข ให้ ผู ้เ ล่ นที่ คอยให้ ก าร
สนับสนุนอย่างจริงจังและจริงใจ
“ถึงพวกเขาจะรู้ดีว่า DLC ตัวนี้ไม่น่าจะทำเงินคืนทุนให้ได้ แต่พวกเขาก็ยัง
ปล่อยออกมาอย่างไม่นึกลังเล แถมยังตั้งราคาเป็นมิตรสุดๆ ถึงจะมี เนื้อหาเพิ่มขึ้น
ห้าเท่า แต่ก็ยังขายราคาเดิม คุ้มจนไม่รู้จะพูดยังไง!
“แสดงให้เห็นว่าเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่
เถิงต๋าตั้งใจสร้างขึ้นมา เป็นงานที่แฝงไปด้วยมุกตลกร้ายและการเสียดสีเหมือน
เกมนักออกแบบเกม น่าจะเป็นการใช้กลยุทธ์แบบเดียวกัน!
“คำแนะนำเกมกับข้อความสุดท้ายที่ปรากฏท่ามกลางหน้าจอสีดำแฝงไปด้วย
ความหมายสุดลึกซึ้ง!
“นอกจากนี้เถิงต๋ายังเป็นบริษัทที่ใส่ใจผู้เล่นมากๆ ขออวดสักหน่อยแล้วกัน
ครั บ ว่ า ทางบริ ษ ั ท ฟั ง คำแนะนำของผม ผมเองก็ ม ี อ ิ ท ธิ พ ลเหมื อ นกั น นะเนี่ ย
เคี้ยะๆๆ!”
บทความพิเศษของอาจารย์เฉี ยวมีคนกดไลก์กดแชร์เพียบ ได้กระแสชื่นชม
จากผู้เล่นขนานใหญ่!
“เขียนดีมาก! เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายแฝงข้อคิดไว้ตั้งแต่แรก
แล้ว!”
“โห นี่เถิงต๋าก็วางแผนไว้แล้วเหมือนกันเหรอ วางแผนดีสุดๆ!”
“ยิ่งอยากรู้เรื่องบอสของเถิงต๋ามากขึ้นเลย!”
“แบบนี้ถ้าเถิงต๋าปล่อยเกมอะไรมาก็ซื้อได้หมดเลย DLC ก็ซื้อได้แบบไม่ต้อง
คิดอะไรมาก ขนาดเกมกากๆ แบบนั้นยังอัปเดตให้ถึงจะต้องขาดทุน เราไม่ต้องคิด
มากอะไรแล้ว”

เผยเชียนอ่านบทความพิเศษของอาจารย์เฉียวในห้องทำงาน จากนั้นก็ครุ่นคิด
“ระบบ จ้างฆ่าคนนี่นับเป็นรายจ่ายมั้ย”
ชายหนุ่มแสนเศร้าใจเพราะระบบตอบปฏิเสธกลับมาพร้อมส่งสัญญาณเตือน
ต้องทำยังไงถึงจะทำให้ไอ้อาจารย์เฉียวหุบปากได้…
เจ้านี่ตามหลอกหลอนฉันไม่หยุดเลยเนี่ย!
ปล่อยเกมใหม่ไปทีไร แกต้องโผล่มาช่วยสร้างกระแสทุกครั้ง ทีนี้พ อคิดจะทำ
เกมใหม่ก็หลอนทุกที แค่นั้นยังไม่พอ แกยังช่วยสร้างกระแสให้ DLC ฉันอีกเหรอ
“สั่งแบนอาจารย์เฉียวไปเลยได้มั้ย… ไม่ได้สิ
“ไม่นะ ฉันต้องหาทางปิดปากเจ้านี่ให้ได้”
เผยเชียนปวดหัวตุบๆ
ความเกลียดชังอาจารย์เฉียวไม่ได้เกิดขึ้นภายในวันเดียว
มันเริ่มมาตั้งแต่คลิปวิจารณ์เกมของไอ้เวรนี่แล้ว คลิปที่ว่าทำให้เกมโดดเดี่ยว
เดียวดายกลางทะเลดังขึ้นมา และดับฝันในการผลาญเงินทุนบริษัทที่มีทั้งหมดห้า
หมื่นหยวนไปในพริบตา
เกมนักออกแบบเกมเกือบจะประสบความสำเร็จครั้งใหญ่แล้ว แถมยังสร้าง
มี ม ภาษาเฉี ย วได้ ด ้ ว ย เผยเชี ย นตั ้ ง ใจจะแก้ แ ค้ น แต่ อ าจารย์ เ ฉี ย วกั บ พลิ ก
สถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือ
ถึงการช่วยโฆษณา DLC ในครั้งนี้จะไม่ได้ทำให้เผยเชียนเจ็บตัวมากนัก อย่าง
มากก็แค่ได้ยอดขายเพิ่มขึ้น แต่ก็เหมือนคำพูดที่ว่า เกิดขึ้นครั้งสองครั้งถือเป็น
เรื่องธรรมดา แต่จะให้เกิดอีกซ้ำๆ ไม่ได้
นี่มันก็มากเกินไปแล้ว!
เผยเชียนรู้สึกว่าอาจารย์เฉียวน่าจะเข้ามาเป็นขวากหนามอีกในอนาคต เขา
ต้องหาทางจัดการปัญหานี้ให้เร็วที่สุด
แต่จะทำยังไงล่ะ…
ใช้ไม้แข็งก็ไม่ได้ ต้องใช้ไม้อ่อน
เอาเงินฟาดหัวแล้วห้ามไม่ให้พูดอะไรที่เกี่ยวข้องกับเถิงต๋าอีกดีไหม
ไม่ได้ ดูไม่มีเหตุผลเลย
ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป ทุกคนคงจะแห่มาชมกันยกใหญ่ว่าบอสเผยไม่สนใจทั้ง
เงินและชื่อเสียง
เผยเชียนยังคิดหาหนทางดีๆ ไม่ได้ จึงได้แต่โทรหาเลขาซิน
“หาคนมาสองคน ให้ไปตามเรื่องอาจารย์เฉียวที ผมอยากได้ข้อมูลของเขา
อย่างละเอียด”
ก็เหมือนสำนวนที่ว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง…
เผยเชียนตั้งใจจะศึกษาศัตรูคนนี้ที่ทำให้แผนการของเขาล้มเหลวครั้งแล้วครั้ง
เล่าอย่างละเอียด ชายหนุ่มอยากรู้ข้อมูลต่างๆ รวมถึงจุดอ่อน จากนั้นค่อยโจมตี
ตรงที่จะทำให้เจ็บหนักที่สุด
เรื่องคงจะง่ายมาก ถ้าอีกฝ่ายเป็นคนโลภที่ใช้เงินล่อก็ยอมจำนน
บทที่ 167 ปรับส่วนแบ่งรายได้!

วันที่ 20 มิถุนายน
มหาวิทยาลัยจะเริ่มปิดเทอมช่วงกลางเดือ นกรกฎาคม เนื่อ งจากใกล้ถึง
สัปดาห์สอบแล้ว เผยเชียนจึงต้องแบ่งเวลาไปสะสางงานของวิชาเรียน
ถึงการสอบจะไม่ได้ยากอะไรสำหรับเขา แต่เผยเชียนก็ยังต้องโต้รุ่งอยู่หลาย
คืนเพื่อเตรียมสอบวิชาที่ไม่อนุญาตให้เปิดหนังสือ
พูดถึงเรื่องนี้เผยเชียนรู้สึกประทับใจหม่าหยางมาก
หม่าหยางสามารถดูแลร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูและโมหยูเดลิเวอรี่ไปพร้อมๆ
กับตั้งใจเรียนในห้องได้ ถึงไม่น่าจะสอบได้คะแนนสูง แต่ก็น่า จะผ่านได้อย่าง
สบายๆ
บางครั ้ ง การสามารถจั ด การกั บ อะไรได้ ห ลายๆ อย่ า งพร้ อ มกั น ก็ ถ ื อ เป็ น
ความสามารถที่ยอดเยี่ยมเหมือนกัน
จนถึงตอนนี้ตัวตนของเผยเชียนยังเป็นความลับอยู่ ถึงจะไม่ค่อยได้กลับหอ
และไม่โผล่หน้าโผล่ตาไปให้ใครเห็นบ่อยนัก แต่นักศึกษาส่วนใหญ่ในมหาวิทยาลัย
ก็เป็นแบบนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
มีแค่หม่าหยางที่รู้เรื่องของเผยเชียน และเขาก็ปิดความลับนี้ไว้ได้เป็นอย่างดี
แม้เพื่อนร่วมชั้นจะไม่ได้ถามเรื่องนี้แบบเจาะจงอะไร
ทุกครั้งที่เผยเชียนไปมหาวิทยาลัย เขาต้องกลับไปเปลี่ยนชุดที่อพาร์ตเม้นท์
ก่อนเพื่อที่คนจะได้ไม่สงสัย
ส่วนหม่าหยางใส่เสื้อผ้าแพงขึ้นเรื่อยๆ ข้าวของที่ใช้ก็เป็นของทันสมัย เพื่อน
ร่วมชั้นส่วนใหญ่เข้าใจกันไปว่าครอบครัวของหม่าหยางบังเอิญมีเงินเป็นกอบเป็น
กำขึ้นมา
พอมีหม่าหยางช่วยดึงดูดความสนใจจากคนอื่นให้ เผยเชียนก็รู้สึกสบายใจที่
ได้เป็นแค่นักศึกษาธรรมดาคนหนึ่ง
เผยเชียนรู้ว่าคงไม่สามารถปิดบังเรื่องนี้จากเพื่อนร่วมชั้นกับครอบครัวไปได้
นานนัก แต่เขาก็ยังไม่อยากเปิดเผยตัวตนตอนนี้ อยากจะใช้เวลากับทุกคนใน
ฐานะคนธรรมดาไปก่อน
แต่เนื่องจากการสอบปลายภาคใกล้เข้ามาแล้ว เผยเชียนต้องทวนหนังสือไป
พร้อมกับจับตาดูบริษัท ลำบากลำบนหนักเลยทีเดียว
ห้องอ่านหนังสือ
เผยเชียนบังคับตัวเองให้สรุปเนื้อหาที่ถ่ายเอกสารมา มีแอบพักเช็กมือถือเป็น
พักๆ
ถึงจะไม่สามารถตามเรื่องราวบนอินเทอร์เน็ตได้ทันตลอดเวลา แต่เขาก็บอก
ให้ลู่หมิงเหลียงสรุปเรื่องราวต่างๆ และส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาให้ได้
“บอสเผยครับ Playtime ลงข่าวว่า DLC ที่ปล่อยไปทำให้คนชมว่าเราเป็น
บริษัทเกมภายในประเทศที่คิดถึงใจผู้เล่น ผลตอบรับเป็นไปในทางบวกครับ!”
เผยเชียนหยิบมือถือขึ้นมาดูแล้ววางลง
Playtime เป็นสื่อเจ้าแรกที่ทำข่าวเรื่องเถิงต๋า เผยเชียนกะเอาไว้แล้วว่าต้องมี
บทความที่หวังเกาะกระแสเถิงต๋าโผล่มา แต่ข่าวพวกนี้ก็ไม่ได้สร้างผลกระทบอะไร
ให้เขามาก
“บอสเผยครับ ข่าวเรื่อง DLC ตัวใหม่ของเราเป็นกระแสดังในเว่ยป๋อ มีผู้เล่น
พูดถึงเรื่องนี้กันเยอะแยะเลยครับ!”
นี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เหมือนกัน การได้ขึ้นเป็นคำค้นหายอดนิยมนั้นเกิดขึ้นได้ไว
มากและจบลงได้รวดเร็วมากเช่นกัน เผยเชียนไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะมันทำเงิน
ไม่ได้
“บอสเผยครับ ในตลาดมืด มีคนปล่อยขายแอคเค้าต์ที่มีปืนบาเร็ตมรณะกัน
ขั้นต่ำสองพันหยวนครับ…”
เป็นบ้าอะไรกัน นี่ก็จะสิ้นเดือนอยู่แล้ว เดี๋ยวเดือนหน้าก็มีวางขายใหม่อีกห้า
ร้อยชิ้น ทำไมไม่รู้จักรอกันเลย…
เออ ใช่ ก็พอจะเข้าใจได้แหละ เดือนหน้าคนส่วนใหญ่ก็ไม่น่าจะซื้อได้ทัน ถ้า
ซื้อตอนนี้ก็ได้ใช้ก่อนตั้งสิบวัน
เอาเลย ซื้อกันไปเลย ห้าร้อยก็คือห้าร้อย ฉันไม่มีทางขายเพิ่มแม้แต่ชิ้นเดียว
“บอสเผยครับ เว็บอ้ายลี่เต่าทำโซนพิเศษให้เกมเราด้วย!
“บอสเผยครับ มีโปรดิวเซอร์เ กมคนหนึ่งด่าเราลงเว่ยป๋อว่าเอาใจผู้เล่นมาก
เกินไป ทำลายกลไกตลาด ตอนนี้โดนทัวร์ลงใหญ่เลยครับ!
“บอสเผยครับ แพลตฟอร์มเกมทางการ ESRO ช่วยโฆษณาเกมให้เรา ตอนนี้
ได้ขึ้นหมวดแนะนำหน้าแรก พรุ่งนี้มะรืนนี้ยอดขาย DLC ของเราน่าจะพุ่งอีกรอบ
ครับ!”
เผยเชียนส่ายหัวรัวเมื่อได้อ่านข้อความ
แพลตฟอร์มเกมทางการสร้างปัญหาให้อีกแล้ว!
ตอนเอาเกมนักออกแบบเกมขึ้นแนะนำหน้าแรกยังพอทน แต่รอบนี้เอาทุก
เกมขึ้นโฆษณาหน้าแรกเลยเหรอ
ใจเย็นนะ ใจเย็น…
เผยเชียนสูดหายใจลึกสองสามครั้งเพื่อสงบสติอารมณ์
จากประสบการณ์รอบก่อน ถึงการได้ขึ้นแนะนำหน้าแรกจะสร้างผลกระทบ
ให้เขา แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่พอรับได้
เผยเชียนยังมีโอกาสผลาญเงินอยู่ อีกอย่างถ้าขึ้นแนะนำตอนนี้ รายได้สัปดาห์
หน้าก็ไม่น่าจะเพิ่มมากมายตอนที่ยอดขายเพิ่มขึ้นพรวดพราดในสัปดาห์ถัดไปก็
เลยวันปิดบัญชีไปแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
“บอสเผยครับ แพลตฟอร์มเกมทางการมองว่าตอนนี้บริษัทเราเป็นต้นแบบ
ของอุตสาหกรรมเกม พวกเขาตั้งใจจะช่วยสนับสนุนพวกเราอย่างเต็มที่ครับ!”
เผยเชียนอึ้งไป
ช่วยสนับสนุนเต็มที่เหรอ
แค่ขึ้นแนะนำให้หน้าแรกบ่อยๆ แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายก็ถือว่าช่วยเยอะแล้วนะ
จะมีสักกี่บริษัทกันเชียวที่ได้รับการดูแลแบบนี้
แล้วจะช่วยสนับสนุนเต็มที่ได้ยังไงอีก
“บอสเผยครับ แพลตฟอร์มเกมทางการเลื่อนขั้นให้เรา เพื่อส่งเสริมให้เรามี
ทุนสร้างเกมต่อไปเรื่อยๆ ทางแพลตฟอร์มตัดสินใจปรับสัดส่วนในตอนแรกที่วาง
ไว้ห้าสิบต่อห้าสิบ เป็นเจ็ดสิบต่อสามสิบ เราได้เจ็ดสิบครับ!
“สิทธิประโยชน์นี้มีไว้ให้บริษัทใหญ่ๆ ที่มีอิทธิพลสูง หรือไม่ก็บริษัทที่มี
ชื่อเสียงดี มีแค่บริษัทที่ถูกมองว่าเป็นต้นแบบเท่านั้นถึงจะได้สิท ธิ์พิเศษนี้ แสดงให้
เห็นว่าแพลตฟอร์มทางการให้คุณค่าเกมเราขนาดไหน
“ผมได้ยินมาว่าสิทธิ์ขั้นสูงสุดอยู่ที่เก้าสิบต่อสิบ เราได้เก้าสิบ พวกเราต้อง
ตั้งใจเต็มที่แล้วครับบอสเผย!”
เผยเชียนมือสั่นจนโทรศัพท์หล่นลงบนโต๊ะ
จบเห่!
จากแบ่งห้าสิบต่อห้าสิบเป็นเจ็ดสิบต่อสามสิบ หมายความว่าตั้งแต่นี้ต่อไป แค่
นั่งอยู่เฉยๆ ก็มีรายได้เพิ่มมาอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์เหรอ
เกมฐานทัพกลางทะเลทำเงินได้สามล้านห้าแสนหยวนต่อเดือน ถ้าได้เพิ่มอีก
ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ก็เท่ากับหนึ่งล้านสามแสนถึงหนึ่งล้านสี่แสนหยวน!
หมายความว่า ในอีกหนึ่งสัปดาห์ที่เหลือก่อนจะถึงวันปิดบัญชี รายได้ของเกม
จะเพิ่มมากขึ้นอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ เท่ากับได้เงินมาเพิ่มหกถึงเจ็ดแสนหยวนไม่รวม
ยอดขาย DLC!
ถ้ารวมยอดขาย DLC เข้าไปอีกก็…
เผยเชียนก่นด่าในใจ
เขาคำนวณรายได้ของเกมและยอดขาย DLC เอาไว้แล้ว ซึ่งตัวเลขที่ได้ก็ตามที่
กะเอาไว้ แต่แพลตฟอร์มเกมทางการดันแส่ไม่เข้าเรื่อง ทำแผนการของชายหนุ่ม
พังหมด!
ถ้าเป็นบริษัทอื่นคงจะฉลองกันยกใหญ่แล้ว แต่เผยเชียนกลับกระวนกระวาย
ใจ
ถ้าไม่จัดการเรื่องนี้ก็ไม่มีทางขาดทุนได้แน่!
เขาไม่สามารถทุ่มเงินลงทุนทำเกมใหม่ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนวันสรุปบัญชีได้
หวังพึ่งได้แค่การให้สวัสดิการพนักงานเพิ่มกับการผลาญเงินรูปแบบอื่นๆ แต่ก็ไม่
น่าจะช่วยผลาญเงินไปได้เยอะเท่าไหร่
ถ้าตอนปิดบัญชีมียอดกำไรหนึ่งถึงสองล้านหยวน เขาก็จะได้เงินแปลงเข้า
ความมั่งคั่งส่วนบุคคลแค่ไม่กี่หมื่น แต่ถ้าขาดทุนได้สักเล็กน้อยก็น่าจะได้เงิน
มากกว่านั้นแน่ แถมระบบยังทบส่วนที่ขาดทุนเพิ่มให้อีกต่างหาก
มันจะระทึกใจเกินไปแล้ว ผลที่ได้แตกต่างกับลิบลับเลย
เผยเชียนไม่สามารถนั่งนิ่งได้อีกต่อไป เขาเก็บหนังสือเดินกลับออกจากห้อง
อ่านหนังสือ
หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ ใครจะไปใจจดใจจ่อกับการทวนตำราได้!
แผนขาดทุนของเขาต้องเดินหน้าต่อไป!


เผยเชียนเดินเข้าออฟฟิศด้วยสีหน้ากระวนกระวายใจ เขาเรียกหาเลขาซิน
ก่อนจะพุ่งตรงไปที่ห้องทำงาน
ลู่หมิงเหลียง หม่าอี้ฉวิน และพนักงานคนอื่นๆ เห็นบอสเผยดูเครียดก็รู้สึก
เป็นห่วง
เถิงต๋าเพิ่งจะได้รับการยอมรับจากแพลตฟอร์มเกมทางการ และได้ปรับส่วน
แบ่งรายได้ใหม่ให้ดีต่อพวกเขามากขึ้น เป็นสิ่งที่ทุกบริษัทเกมใฝ่ฝัน บอกใครคน
นั้นก็คงอิจฉาตาร้อน
แต่บอสเผยกลับไม่ได้ทำตัวต่างจากเดิม เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น!
บอสดูรีบร้อนและกระวนกระวายใจ น่าจะเป็นห่วงเรื่องอื่นของบริษัท
สมกับที่เป็นผู้นำที่น่าเคารพยกย่อง!

ในห้องทำงาน
เผยเชียนเปิดดูไฟล์ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของบริษัทอย่างละเอียด
ค่าใช้จ่ายต่างๆ ของเถิงต๋าตอนนี้ซับซ้อนมาก มีทั้งค่าเช่า ค่าใช้สอยต่างๆ ทุน
วิเคราะห์และพัฒนา สวัสดิการบริษัท และอื่นๆ เผยเชียนปวดหัวหนักเมื่อได้ดู
ตารางตัวเลขยุ่งเหยิงพวกนี้
เขาทำได้แค่มองภาพรวม
ระหว่างที่กำลังไล่สายตาดู เผยเชียนก็นึกถึงจุดดีๆ ในการเริ่มแผนการออก
“บริษัทของเราไปได้ดีและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ได้เวลาขยายกิจการแล้ว
“เดี๋ยวให้ทุกแผนกทำแผนรับสมัครพนักงาน เดือนหน้าเราจะรับคนเพิ่มกัน
ฝ่ายบริการจัดการ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายการเงิน ขยายทุกฝ่ายเลย
“ไม่จำกัดจำนวนว่าต้องจ้างเพิ่มเท่าไหร่ อยากได้กี่คนก็รับสมัครได้ตามใจ
เลย”
บทที่ 168 ทำดีได้ดีจริงๆ!

เลขาซินพยักหน้าและจดตาม “ได้ค่ะบอสเผย ชั้นนี้ยังพอมีที่เหลืออยู่ น่าจะ


พอยัดโต๊ะทำงานเพิ่มได้…”
“ยัดโต๊ะเพิ่มเหรอ
“คิดแบบนั้นได้ยังไง!
“เราตั้งใจให้พนักงานได้ทำงานในที่กว้างๆ เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานที่
ดี ชั้นนี้คนเยอะเกินไปแล้ว แออัดมาก
“ไปคุยกับผู้จัดการตึกว่าเราเช่าเพิ่มอีกชั้น การตกแต่งกับข้าวของต่างๆ เอา
ให้เหมือนชั้นนี้ทุกอย่าง!”
เนื่องจากการเช่าพื้นที่สำนักงานถือเป็นรายจ่ายทั่วไป ไม่ถือว่าเป็นการเปิด
กิจการใหม่ จึงไม่กระทบวันปิดบัญชี
ถึงผังออฟฟิศของเถิงต๋าจะดูไม่สมเหตุสมผล จริงๆ ยังมีที่เหลืออีกมากมาย
แต่การจัดวางโต๊ะเก้าอี้ก็ทำให้พื้นที่ดูคับแคบ
การเช่าพื้นที่สำนักงานเพิ่มอีกชั้นในสถานการณ์นี้จึงไม่ถือเป็นการละเมิดกฎ
“อ้อ อีกเรื่อง รอบก่อนเราเซ็นสัญญาไว้หนึ่งปีใช่ไหม” เผยเชียนถาม
เลขาซินพยักหน้า “ใช่ค่ะ เซ็นไว้หนึ่งปี ผู้จัดการจางให้สิทธิพิเศษเราวางมัด
จำหนึ่งเดือนและจ่ายค่าเช่าเดือนต่อเดือน ทำให้เราใช้ทุนตั้งต้นน้อยลง”
เผยเชียนโบกมือ “รอบนี้ไปขอผู้จัดการจางเปลี่ยนสัญญา เราไม่ต้องวางมัดจำ
หนึ่งเดือนกับจ่ายค่าเช่าเดือนต่อเดือนแล้ว จะจ่ายเป็นรายไตรมาสแทน ตอนนี้
บริษัทเรามีเงินไหลเวียนอยู่ในระดับดี จ่ายค่าเช่าเดือนต่อเดือนมันยุ่งยาก
“ไปขอเช่าอีกชั้นแล้วก็แก้สัญญากับผู้จัดการจางเลยแล้วกัน”
เลขาซินถาม “บอสอยากตรวจสอบรายละเอียดสัญญาอีกรอบไหมคะ”
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่เป็นไร”
ตอนทำสัญญารอบก่อน เผยเชียนก็ไม่ได้ตรวจสอบอะไรมาก จะให้มาไล่อ่าน
ทุกบรรทัดก็ไม่ไหว เขาขอรู้แค่เรื่องราคาก็พอ ที่เหลือก็ให้เลขาซินเป็นคนจัดการ
รอบนี้เขาแค่ต้องการเปลี่ยนไปจ่ายค่าเช่าเป็นรายไตรมาสและเช่าเพิ่มอีกหนึ่ง
ชั้น กับเรื่องแค่นี้ เผยเชียนไม่จำเป็นต้องตรวจสอบสัญญาเองอีกรอบ
ถ้าจัดการตามนี้ก็จะเป็นสัญญาเช่าสามเดือนกับวางมัดจำหนึ่งเดือน เขาจะ
เสียเงินไปทันทีหนึ่งล้านแปดแสนหยวน
รวมค่าโต๊ะทำงาน เก้าอี้ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ ถ้าจัดให้เหมือนชั้น
นี้เป๊ะๆ ก็จะต้องเสียเงินอีกประมาณเจ็ดถึงแปดแสนหยวน
ค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณสองล้านห้าแสนหยวน
ยอดเยี่ยม!
เผยเชี ย นตั ้ ง ใจจะเช่ า อี ก ชั ้ น เพิ ่ ม อยู ่ แ ล้ ว แต่ ก ่ อ นหน้ า นี ้ พ ื ้ น ที ่ ใ ช้ ส อยใน
สำนักงานมีเพียงพอ ระบบจึงไม่อนุญาตให้เช่าเพิ่ม
พอบริษัทเติบโตขึ้น เกมก็มีเนื้อหามากขึ้น จำนวนพนักงานในบริษัทก็ต้อง
เพิ่มขึ้นตามเป็นธรรมดา ถึงพนักงานในชั้นนี้จะมีพื้นที่ส่วนตัวเหลือเพียงพอ แต่ก็
ถือว่าแออัดอยู่ดี เป็นเวลาเหมาะที่จะขยายขนาดออฟฟิศ
“อ้อ อย่าลืมเรื่องอาจารย์เฉียวด้วยล่ะ” เผยเชียนเตือน
เลขาซินพยักหน้า “กำลังตรวจสอบค่ะ”
“โอเค ถ้าอย่างนั้นก็ไปหาผู้จัดการจางเลย เราต้องรีบแก้สัญญาณและโอนเงิน
ค่าเช่าชั้นใหม่ไปให้เร็วที่สุด”
เผยเชียนต้องการให้เลขาซินช่วยเขาผลาญเงินให้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องกังวล
ใจมาก
“จัดการเรื่องสัญญาเสร็จแล้วกลับมาหาผมด้วย เดี๋ยวผมจะคุยเรื่องสวัสดิการ
พนักงานอันใหม่”
“ได้ค่ะบอสเผย” เลขาซินหันกลับออกไป
เผยเชียนคำนวณจำนวนพนักงานในปัจจุบันคร่าวๆ
เถิงต๋ามีพนักงานหกสิบเกือบเจ็ดสิบคน
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมีทั้งพนักงานเสิร์ฟ เชฟ บาร์เทนเดอร์ พนักงานส่ง
อาหาร และอื่นๆ รวมๆ แล้วแต่ละสาขามีพนักงานประมาณยี่สิบคน รวมทั้งหมด
ก็เกือบร้อยคน
เฟยหวงสตูดิโอมีพนักงานสิบกว่าคน
พนักงานภายใต้สังกัดเผยเชียนมีทั้งหมดเกือบสองร้อยคน
จำนวนนี้ไม่ได้นับรวมพนักงานของฉางหยางเกมส์
ตอนนี้ฉางหยางเกมส์กำลังกอบกู้ชื่อเสียงอยู่ แต่ด้านการเงินยังคงขาดทุน
หลังจากเข้าซื้อฉางหยางเกมส์ เผยเชียนไม่ได้ขึ้นเงินเดือนพนักงานของฉางห
ยางเกมส์ให้เท่าเถิงต๋า สวัสดิการที่ให้ก็ไม่ใช่แบบเดียวกัน
ฉางหยางเกมส์มีพนักงานประมาณห้าสิบคน แต่เสียค่าเช่ารายเดือนแค่หนึ่ง
แสนห้าหมื่นหยวน ส่วนเงินเดือนพนักงานรวมอยู่ที่ประมาณสองแสนหยวน ทั้ง
บรรยากาศการทำงานและฐานเงินเดือนต่ำกว่าเถิงต๋าไปมาก
เผยเชียนซื้อต่อกิจการมาอย่างเป็นทางการวันที่ 10 พฤษภาคม เพื่อที่จะ
รักษาสภาพขาดทุนของฉางหยางเกมส์ไว้ เขาไม่รีบร้อนทำนู่นทำนี่ ไม่ได้ขึ้น
เงินเดือนหรือให้สวัสดิการทันที
ผ่านไปสองเดือนกว่า ถึงฉางหยางเกมส์จะกู้ชื่อเสียงกลับมาได้ แต่ก็ยังขาดทุน
อยู่ เผยเชียนพอใจกับตรงนี้มาก
ดังนั้นเขาจึงคิดว่าตอนนี้น่าจะปล่อยให้พนักงานของฉางหยางเกมส์รับผิดชอบ
กันเองได้แล้ว
ถ้าเขาขึ้นเงินเดือนและให้สวัสดิการพนักงานฉางหยางเกมส์เท่าพนักงานของ
เถิงต๋า อาจจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้
ก็เหมือนสำนวนที่ว่า รางวัลกับการลงโทษต้องมีความชัดเจน
บริษัทเถิงต๋ามีผลประกอบการดีเยี่ยม การให้สวัสดิการพนักงานเพิ่มจึงเป็น
เรื่องทีเ่ หมาะสม
ฉางหยางเกมส์เป็นบริษัทที่เพิ่งเข้าซื้อกิจการมา เป็นเหมือนลูกเลี้ยงที่ยัง
ขาดทุนอยู่ ถ้าเผยเชียนให้สวัสดิการลูกเลี้ยงเท่าลูกในไส้ก็คงจะไม่ยุติธรรมเท่าไหร่
ดังนั้นสิ่งที่เขาทำได้คือค่อยๆ เปลี่ยนทีละนิด
พวกเขาทำตามที่บอสเผยสั่ง ทุ่มเทแก้ไขเกมกันอย่างเต็มที่จนสร้างชื่อกลับมา
ให้ฉางหยางเกมส์ได้ ถือเป็นความสำเร็จเล็กๆ ที่ควรค่าแก่การตกรางวัล
ปรับฐานเงินเดือนกับให้สวัสดิการเพิ่มสักเล็กน้อยคงจะไม่เกินกว่าเหตุ
ส่วนเรื่องออฟฟิศ โต๊ะเก้าอี้ทำงาน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ ก็น่าจะ
ปรับมาใช้ของแบบเดียวกับเถิงต๋าได้ เพราะจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ถือเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
ถ้าทำตามนี้ เผยเชียนก็จะผลาญเงินกับฉางหยางเกมส์ไปได้อีกล้านกว่าหยวน
แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังไม่พอ
เผยเชียนครุ่นคิดอีกครั้ง ลูกแท้ๆ เกือบสองร้อยคนของเขาน่าจะช่วยถมเพิ่ม
ได้
แต่ตรงไหนล่ะ
เสื้อผ้า อาหาร ที่พัก ค่าเดินทาง สองอย่างแรกจัดการไปแล้ว สองอย่างหลัง
น่าจะพอจัดการเพิ่มได้
ทางบริษัทสนับสนุนเรื่องค่าเดินทางอยู่แล้ว โดยให้เบิกค่าแท็กซี่ตอนทำงาน
ล่วงเวลาได้ แต่ยังไม่มีการสนับสนุนค่าเดินทางประจำวัน เผยเชียนจึงตัดสินใจให้
ค่าเดินทางเพิ่มคนละห้าร้อยหยวนต่ อเดือน รวมๆ แล้วน่าจะตกประมาณหนึ่ง
แสนหยวน
ค่าที่พักน่าจะเป็นจุดที่ผลาญเงินเพิ่มได้เยอะ เผยเชียนทดสอบระบบดูแล้ว
ตัดสินใจให้ค่าที่พักทุกคนเพิ่มเดือนละหนึ่งพันหยวน!
ผลาญเงินไปได้อีกสองแสน
ถึงจะเป็นจำนวนเล็กน้อย แต่ระบบไม่ยอมให้จ่ายเกินกว่านี้แล้ว
เผยเชียนอยากจะทุ่มเงินสร้างหอพักของบริษัทให้พนักงานอยู่ แต่ระบบมอง
ว่าการสร้างหอพักในตอนนี้ถือว่าสุรุ่ยสุร่ายเกินไป จึงไม่อนุมัติ
ชายหนุ่มจำใจยอมให้ค่าที่พักพนักงานคนละหนึ่งพันหยวนตามที่ระบบอนุมัติ
หลังจากตัดสินใจทุกอย่างเสร็จ เผยเชียนก็ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย
โชคยังดี ถ้าพยายามแบบนี้ต่อไปจนถึงวันปิดบัญชี รอบนี้น่าจะขาดทุนได้
ราวๆ หนึ่งล้านหยวน
ถึงจู่ๆ แพลตฟอร์มเกมทางการจะปรับส่วนแบ่งจากห้าสิบต่อห้าสิ บเป็น
สามสิบต่อเจ็ดสิบ ทำให้เผยเชียนต้องปวดหัว แต่หลังจากวางแผนดีๆ ก็พอจะกู้
สถานการณ์ได้
หรืออย่างน้อยก็ไม่น่าจะกระทบช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนจะถึงวันปิดบัญชีมากนัก
หลังปิดบัญชีรอบนี้น่าจะกระทบหนัก แต่ค่อยเก็บไว้คิดหาทางจัดการทีหลังก็
ได้ รอบบัญชีหน้าเผยเชียนน่าจะคิดหาทางสร้างโปรเจ็กต์ขาดทุนเพิ่มได้ เปิดร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูเพิ่มอีกสักสามสี่สาขา หรือซื้อต่อกิจการขาดทุนอีกสักสองสาม
แห่งก็น่าจะช่วยได้
หลังจากคิดทบทวนทุกอย่างเรียบร้อย เผยเชียนก็เอนพิงเก้าอี้ เขารู้สึกสบาย
ใจขึ้นมากทีเดียว
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น เลขาซินกลับมาแล้ว
“บอสเผยคะ ชั้นข้างบนเป็นของเราทั้งชั้นแล้วค่ะ ดิฉันเซ็นสัญญาและจัดการ
โอนเงินเรียบร้อยแล้ว” เลขาซินรายงาน
เผยเชียนพยักหน้า เลขาซินทำงานได้รวดเร็วจริงๆ
“ผมมีเรื่องสวัสดิการจะให้พนักงานเพิ่ม เป็นส่วนค่าที่พัก…”
เผยเชียนอธิบายความคิดคร่าวๆ ให้เลขาซินฟัง
เลขาซินยิ้ม “บอสเผยใจดีจริงๆ เลยนะคะ เป็นจริงตามสำนวนทำดีย่อมได้ดี
เลยค่ะ”
เผยเชียนงง
ทำดีย่อมได้ดีเหรอ
หมายความว่ายังไง
เลขาซินยิ้ม “เรื่องค่าเช่าค่ะ ดิฉันมีข่าวดีจะแจ้ง
“ผู้จัดการจางบอกว่าตั้งแต่เถิงต๋ามาเช่าตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว ก็สร้างชื่อเสียง
ด้วยการเป็นต้นแบบให้บริษัทอื่นๆ เขาดีใจมากที่ได้ ร่วมงานกับเราในช่วงครึ่งปีที่
ผ่านมา ก็เลยไม่เก็บค่ามัดจำและลดค่าเช่าให้จากสี่หยวนต่อตารางเมตรเหลือ 1.5
หยวนค่ะ
“แบบนี้เราก็จะประหยัดค่าเช่าไปได้อย่างน้อยสี่แสนหยวนต่อเดือน!
“เมื่อเวลาเป็นใจ ฟ้าดินก็จะสนับสนุนเราเอง ยินดีด้วยนะคะบอสเผย!”
เผยเชียน “???”
อย่ามาโกหกกันเพราะเห็นว่าฉันไม่ค่อยตั้งใจเรียนสิ ผู้จัดการจางจะมีอำนาจ
ตัดสินใจเรื่องใหญ่ขนาดนี้ได้ยังไง
บทที่ 169 มีไส้ศึก!

“คุณ…ต่อราคามาเหรอ” เผยเชียนถาม
เลขาซินยิ้ม “ดิฉันก็อยากทำอย่างนั้นนะคะบอสเผย แต่สุดท้ายดิฉันยังไม่ทัน
ได้พูดอะไรเลย ผู้จัดการจางก็ยกเรื่องนี้ขึ้นมาเอง”
เผยเชียนรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย
ก็น่าจะจริงแหละ ถึงเลขาซินจะเก่งแค่ไหนก็ไม่น่าจะขอลดราคาได้ขนาดนี้
เรื่องนี้ไม่น่าง่ายขนาดนั้น!
ผู้จัดการจางเป็นแค่ผู้จัดการตึก ไปได้รับอำนาจมาจากไหน ทำไมถึงลดค่าเช่า
กับไม่เก็บค่ามัดจำได้
ถ้าราคามาตรฐานคือสี่หยวน ลดเหลือ 3.5 หยวนน่าจะพอรับได้ สามหยวน
ถือว่าใจดีมากแล้ว แต่นี่กลับลดให้เหลือ 1.5 หยวนต่อตารางเมตรเลยเหรอ
อย่ามาล้อกันเล่นนะ
พริบตาเดียวก็ประหยัดไปหลายแสนต่อเดือน ถ้าผู้จัดการจางมีอำนาจขนาดนี้
ก็ไม่น่าจะได้เป็นแค่ผู้จัดการตึกสิ
ต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรแน่ๆ!
ถ้าเป็นคนอื่นคงจะดีใจกับข้อเสนอนี้
แต่เผยเชียนไม่ดีใจเลย
ถ้าลดนิดหน่อยก็คงไม่เป็นอะไรมาก เขายังพอหาทางจัดการได้ก่อนถึงวันปิด
บัญชี แต่นี่ลดไปเยอะเลยทีเดียว ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ซ่อนเร้นอยู่!
ครั้งนี้ลดค่าเช่า ครั้งต่อไปจะลดอะไรให้อีก
อาจจะมีเรื่องเลวร้ายกว่านี้เกิดขึ้นก็ได้!
ดังนั้นเผยเชียนจึงตั้งใจจะหาคนร้าย ถ้ารู้ว่าศัตรูคือใครก็จะสามารถจัดการกับ
ปัญหา เพื่อที่จะได้ตัดตัวแปรที่ไม่แน่นอนออกไปจากการคำนวณแผนขาดทุนรอบ
หน้า ไม่อย่างนั้นเขาอาจต้องทุกข์ระทมหนักถ้าก้าวพลาดไปแม้แต่ก้าวเดียว
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “พาผมไปหาผู้จัดการจางที”
เลขาซินพยักหน้า “ได้ค่ะ ดิฉันก็คิดว่าบอสเผยควรไปพบผู้จัดการจาง”
เลขาซินเองก็น่าจะคิดว่าเรื่องนี้มีอะไรแปลกๆ ควรจะตรวจสอบดู คนเก่งนี่คิด
เหมือนกันจริงๆ!
เผยเชียนดีใจที่เธอคิดเหมือนกัน
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผู้ช่วยฝ่ายจัดการยื่นกระเช้าผลไม้ให้เลขาซิน
เผยเชียน “?”
เลขาซินอธิบาย “ผู้จัดการจางอุตส่าห์ใจดีช่วยลดราคาให้เราตั้งเยอะ ดิฉันคิด
ว่าบอสเผยควรจะไปขอบคุณผู้จัดการจางด้วยตัวเองเลยให้คนเตรียมกระเช้าผลไม้
ไว้ค่ะ”
เผยเชียน “???”
นี่คิดว่าฉันอยากไปหาผู้จัดการจางเพราะเรื่องนี้เหรอ
ใครจะอยากไปขอบคุณกัน!
แต่เห็นเลขาซินถือกระเช้าผลไม้รอ เผยเชียนก็พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ลุกยืนขึ้น
“ไปกันเถอะ”
ทั้งสองตรงไปที่ห้องทำงานของผู้จัดการจาง
ประตูห้องเปิดแง้มไว้ ผู้จัดการจางกำลังง่วนอยู่กับงาน
เผยเชียนกำลังจะเคาะประตูเรียก แต่ผู้จัดการจางก็หันมาเห็นพอดีจึงรีบลุก
ยืนต้อนรับ “บอสเผย! ลมอะไรหอบมาครับเนี่ย เชิญเข้ามานั่งก่อนครับ!”
ชายหนุ่มผงะไปเล็กน้อย
มีเรื่องอะไรจริงๆ ด้วย!
ครั้งก่อนผู้จัดการจางไม่ได้มีท่าทีแบบนี้
ถึงตอนนั้นผู้จัดการจางจะสุภาพกับเขา แต่ก็ถือว่าเป็นมารยาทการให้บริการ
ตามหน้าที่ กับบอสคนอื่นๆ ในตึก เขาก็วางตัวแบบนี้
แต่ครั้งนี้ผู้จัดการจางดูเคารพเผยเชียนมากกว่าเดิม เหมือนกำลังคุยกับคนที่มี
ตำแหน่งสูงกว่า
เผยเชียนนั่งลงด้วยความสงสัย
“ผู้จัดการจางช่วยลดค่าเช่าให้เถิงต๋าเยอะมาก บอสเผยเลยอยากมาแสดง
ความขอบคุณค่ะ” ซินไห่ลู่ยิ้มพร้อมกับวางกระเช้าผลไม้ไว้บนโต๊ะ
เผยเชียนฝืนยิ้มออกไป “อ้อ… ใช่ครับ”
ผู้จัดการจางรีบตอบกลับอย่างสุภาพ “โธ่ บอสเผยไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย
ครับ! แค่เถิงต๋ามาเช่าตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวก็เป็นเกียรติมากแล้ว การดูแลผู้เช่าคือ
งานของผม ผมรับกระเช้าไว้ไม่ได้หรอกครับ จริงๆ ผมควรจะเป็นฝ่ายไปหาบอส
เผยเองมากกว่า”
เผยเชียน “…”
ทะแม่งๆ ชอบกล ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ!
เผยเชียนมั่นใจมากว่าเรื่องนี้ต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรสักอย่าง ซึ่งเป็น
เรื่องที่สำคัญมาก
ชายหนุ่มตัดสินใจถามออกไปตรงๆ
“ผู้จัดการจางครับ เราคุยกันตรงๆ เลยดีกว่า ที่ลดราคาให้เหลือ 1.5 หยวน
ต่อตารางเมตร คุณไม่ได้เป็นคนตัดสินใจใช่ไหมครับ
“ผมรู้สึกขอบคุณมากๆ อยากจะรู้ว่าจริงๆ ว่าใครเป็นคนช่วยเถิงต๋า เผื่อวัน
หนึ่งจะได้ตอบแทนบุญคุณได้”
น้ำเสียงของเขาฟังดูจริงใจ
“เอ่อ เรื่องนี้…” ผู้จัดการจางลังเลเล็กน้อย
แน่นอนว่าผู้จัดการตัวจ้อยอย่างเขาไม่สามารถตัดสินใจลดราคาให้ได้ขนาดนี้
เขาต้องได้รับการอนุมัติจากเบื้องบน
บอสเผยไม่ใช่คนโง่ ผู้จัดการจางรู้ว่าถ้าตอบออกไปว่าไม่มี อีกฝ่ายคงไม่ปล่อย
ผ่านแน่
อีกอย่างบอสเผยไม่ได้จะมาโวยวายหรือสร้างปัญหาอะไร แค่อยากรู้ว่าใคร
เป็นคนช่วยจะได้ตอบแทนบุญคุณได้ ไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องปิดบัง
แต่ปัญหาคือ ผู้จัดการจางเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนสั่งลงมา…
ผู้จัดการจางยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนใจ “ผมแค่ทำตามคำสั่งครับบอสเผย
อย่าเค้นอะไรจากผมเลย จริงๆ ผมก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเหมือนกัน นี่เป็นคำสั่ง
โดยตรงจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่า เรื่องที่ว่าใครเป็น
คนสั่งมา…ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ”
คำสั่งโดยตรงจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่าเหรอ
ไม่ใช่แล้ว มีบางอย่างไม่ถูกต้องสุดๆ!
ทำไมผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่าถึงรู้จักบริษัทเถิงต๋า
ได้ หรือว่าจะเคยเล่นเกมของเถิงต๋า
คิดบ้าอะไรของแก เป็นไปไม่ได้หรอก!
ดูจากสีหน้าของผู้จัดการจางแล้ว เขาคงจะไม่รู้ว่าใครเป็นคนสั่งลงมาจริงๆ
เผยเชียนได้แต่ยอมจำนน พวกเขาคุยกันต่ออีกเล็กน้อยก่อนจะกลับออกไป
ผู้จัดการจางย้ำอยู่หลายครั้งว่าถ้าบริษัทเถิงต๋าพบปัญหาอะไรในตึกเฉินฮว่า
แกรนด์วิวให้รีบแจ้งทันทีเพื่อที่เขาจะได้ไม่ตกที่นั่งลำบาก
พอกลับถึงห้องทำงาน เผยเชียนก็นั่งลงเงียบๆ หน้าโน้ตบุ๊ก ก่อนจะพิมพ์
ค้นหาในเว็บเชียนตู้เผื่อจะเจออะไร
บริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่าเป็นหนึ่งในบริษัทลูกของเฉินฮว่าคอร์เปอเรชัน
เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เฟื่องฟู เฉินฮว่าคอร์เปอเร
ชันจึงลงทุนทำโปรเจ็กต์อสังหาริมทรัพย์ด้วย ถึงจะไม่ได้ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งหรือ
สองของประเทศ ด้วยความแข็งแกร่งด้านการเงินของเฉินฮว่าคอร์เปอเรชัน ทำให้
บริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่าสามารถขึ้นไปเป็นบริษัทชั้นแนวหน้าของประเทศ
ได้
ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวเป็นหนึ่งในสินทรัพย์มากมายภายในเมืองจิงโจวของบ
ริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่า
ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่าคือหลินโจว ลูกชายคนที่สองของหลิน
เจิงหนานประธานเฉินฮว่าคอร์เปอเรชัน เขาเพิ่งจะเข้ามาควบคุมกิจการทั้งหมด
ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่าและผลักดันให้บริษัทพัฒนาไปในทางที่ตอบ
โจทย์คนรุ่นใหม่มากขึ้น
“หลินโจวเหรอ”
เผยเชียนรู้สึกคุ้นชื่อ พอเปิดรูปหลินโจวดูก็รู้สึกคุ้นหน้าอีก
“บริษัทเราก็มีทายาทตระกูลร่ำรวย…รู้สึกจะแซ่หลินเหมือนกันนี่นา”
เผยเชียนใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม
ล้อกันเล่นหรือเปล่า
เผยเชียนค้นหาชื่อหลินหวานในเว็บเชียนตู้ แต่ไม่เจออะไร
แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล!
เผยเชียนจำหลินหวานได้จากตอนที่มาสัมภาษณ์เข้าทำงาน เลขาซินบอกว่า
เธอใส่ เ สื ้ อ ผ้ า ราคาหลายหมื ่ น หยวน หลิ น หวานดู อ ่ อ นหวานและใสซื ่ อ ไม่ มี
ประสบการณ์การทำงาน ไม่ค่อยรู้จักโลกเท่าไหร่ ตอนนั้นเผยเชียนไม่ได้ติดขัด
เรื่องรับพนักงานเพิ่มเลยตกลงรับเธอเข้าทำงาน
หลังจากนั้นหลิ นหวานก็ใช้เส้นสายที่ได้จากตอนทำงานที่เทียนหัวสตูดิโอ
ติดต่อกับเกมเมอร์ชั้นแนวหน้าในฝั่งเกม FPS มาช่วยสร้างกระแสระลอกแรกให้
เกมฐานทัพกลางทะเล
แต่เผยเชียนไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ เพราะคิดว่าถ้าต้องทำ ใครๆ ก็ติดต่อเกมเมอร์
เหล่านี้ได้ เขาไม่ได้รู้สึกว่าหลินหวานเป็นคนพิเศษอะไรและมองว่าเธอเป็นแค่
ทายาทตระกูลร่ำรวยคนหนึ่ง
ตั้งแต่นั้นหลินหวานได้รับผิดชอบแค่งานง่ายๆ ในบริษัท เธอตั้งใจทำงานมาก
ไม่ได้ทำตัวโดดเด่นอะไร และเนื่องจากไม่ได้ทำอะไรโดดเด่น เผยเชียนจึงไม่ได้
สนใจเธอ
แต่ตอนนี้เขารู้ว่าตนเองได้ทำผิดพลาดอย่างมหันต์
ทายาทตระกูลร่ำรวยไม่ได้เหมือนกันหมด…
บางคนแค่รวยเฉยๆ แต่บางคนโทรกริ๊งเดียวก็ลดค่าเช่าให้เผยเชียนได้แล้ว
หลายแสน
เผยเชียนติดกับเข้าให้แล้ว
มีไส้ศึกอยู่ในบริษัท!
ไส้ศึกคนนี้ซ่อนตัวในบริษัทมานานหลายเดือนโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลย!
ทำยังไงดี จะจัดการเรื่องนี้ยังไงดี
เผยเชียนคิดอยู่นานแต่ก็คิดอะไรไม่ออก
มันยากเกินไป!
“ใจเย็นๆ ที่คิดอะไรไม่ออกก็เพราะไม่รู้เรื่องเธอเลย
“ต้องรู้จักศัตรูถึงจะรบชนะ หลินหวานไม่น่าจะเข้ามาทำงานที่นี่โดยไม่มี
เหตุผล
“ถ้ารู้ว่าเหตุผลคืออะไรก็น่าจะพอกล่อมให้เธอเปลี่ยนใจกลับไปเสวยสุขบน
กองเงินกองทองได้
“ถึงจะทำให้เธอออกจากบริษัทไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็น่าจะได้ข้อมูลที่เป็น
ประโยชน์…”
คิดได้ดังนั้น เผยเชียนก็ต่อสายหาโจวมู่หยันจากเทียนหัวสตูดิโอ
โจวมู่หยันจะต้องรู้อะไรแน่!
บทที่ 170 หลินหวาน + ฉางหยางเกมส์ = ?

“บอสเผย มีอะไรให้ช่วยเหรอครับ…”
เสียงโจวมู่หยันที่ดังผ่านโทรศัพท์ดูไม่มีชีวิตชีวา
ตั้งแต่ที่เจอกันครั้งล่าสุดตอนปลายปีก่อนที่กว่างโจว ทั้งสองก็ไม่ได้ติดต่อกัน
อีก
เหตุผลหลักก็เพราะเกมฐานทัพกลางทะเลประสบความสำเร็จแซงหน้าเกม
กระสุนเพชฌฆาตไปไกล ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองที่เปราะบางอยู่แล้วยิ่งแย่
ลงไปอีก
เกมฐานทัพกลางทะเลได้ขึ้นเป็นเกม FPS ผลิตภายในประเทศอันดับหนึ่ง มี
ฐานผู้เล่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เลิกแข่งกับเกม FPS ภายในประเทศด้วยกันไปนานแล้ว
และหันไปแข่งกับเกม Counter Strike แทน
ส่วนเกมกระสุนเพชฌฆาต หลังจากทุ่มโฆษณาครั้งใหญ่ตอนปล่อยเกมก็เป็นที่
นิ ย มน้ อ ยลงเรื ่ อ ยๆ ถึ ง จะยั ง ทำเงิ น และพอไปต่ อ ได้ แต่ ก ็ เ ห็ น ได้ ช ั ด ว่ า ผล
ประกอบการไม่ถึงเป้าที่โจวมู่หยันตั้งเอาไว้ในตอนแรก อีกทั้งยังโดนเกมฐานทัพ
กลางทะเลทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ
ทั้งสองเกมมีการออกแบบที่ แตกต่างกันมาก ตอนเถิงต๋าไปดูงานที่เทียนหัว
สตู ด ิ โ อ โจวมู ่ ห ยั น นำเสนอแนวคิด การออกแบบเกมกระสุ นเพชฌฆาตอย่าง
ภาคภูมิใจ
ตอนนั้นเขามั่นใจมาก
ส่วนเผยเชียนที่นั่งฟังอยู่ก็พยักหน้าและยิ้มไปด้วยตลอด สายตาดูชื่นชมไม่
น้อย
แต่โจวมู่หยันรู้แล้วว่าตอนนั้นบอสเผยแค่แสร้งทำ!
ตอนเปิดให้บริการเกมฐานทัพกลางทะเล โจวมู่หยันไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
แต่ความนิยมของเกมนั้นกลับพุ่งขึ้นไม่หยุดจนเขาเริ่มคิดว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล
พอสืบดูนิดหน่อยก็พบว่าเกมฐานทัพกลางทะเลแทบจะคลานตามเกมกระสุน
เพชฌฆาตมา ตอนเถิงต๋าไปดูงานที่เทียนหัวสตูดิโอ เกมฐานทัพกลางทะเลก็
พัฒนาไปได้สักพักแล้ว!
โจวมู่หยันรู้สึกชาไปถึงหัวใจ
บอสเผยรู้อยู่แล้วว่าเกมกระสุนเพชฌฆาตมีปัญหาตรงไหน แต่ก็พยักหน้าให้
ตลอด ทำเหมือนว่าไม่มีอะไร
แผนสูงจริงๆ!
ตั้งแต่นั้นมาเผยเชียนก็ไม่ได้ติดต่อโจวมู่หยั นไป เพราะกลัวอีกฝ่ายจะคิดว่า
ตัวเองอยากอวดความสำเร็จ
โจวมู่หยันเองก็ไม่ได้ติดต่อเผยเชียนไป เพราะไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย
เป็นเหตุให้ทั้งสองไม่ได้ติดต่อกันเลย
ที่โจวมู่หยันยอมรับสาย…
ก็เพราะไม่มีทางเลือกอื่น เขาต้องให้เกียรติบอสเผย
นั่นก็เพราะตอนนี้แพลตฟอร์เกมทางการกำลังอวยเถิงต๋าอยู่ เนื่องจากอยู่ใน
อุตสาหกรรมเดียวกัน โจวมู่หยันจึงไม่สามารถทำตัวไม่ดีกับบอสเผยได้
แต่ใจจริงเขาไม่ค่อยอยากคุยกับเผยเชียนเลย
เผยเชียนสัมผัสได้ว่าโจวมู่หยันยังคิดแค้นใจ เขากลัวว่าจะพูดอะไรไปกระทบ
จิตใจอีกฝ่าย จึงตัดสินใจเข้าเรื่องทันที
“บอสโจว ขอโทษที่โทรมารบกวนนะครับ พอดีมีเรื่องอยากถาม คุณรู้ไหม
ครับว่าหลินหวานเป็นใคร”
โจวมู่หยันอึ้งไปสักพัก
เขาต้องรู้อยู่แล้วว่าหลินหวานเป็นใคร พอเธอเข้ามาทำงานที่เทียนหัวสตูดิโอ
ได้สองวัน ก็มีสายตรงจากประธานเฉินฮว่าคอร์เปอเรชัน ถ้าจำไม่ผิด หลินหวาน
น่าจะเข้าไปทำงานที่เถิงต๋าได้หลายเดือนแล้ว
นี่บอสเผยยังไม่รู้อีกเหรอว่าหลินหวานเป็นใคร
ไม่เห็นจะเข้าท่าเลย
โจวมู่หยันงงเล็กน้อยจึงถามกลับ “บอสเผยไม่รู้เหรอครับ”
เผยเชียนสั่นสะท้านไปถึงขั้วหัวใจ
ถ้าโจวมู่หยันพูดมาแบบนี้ก็แสดงว่าหลินหวานไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ ด้วย!
เผยเชียนกระแอมกระไอเล็กน้อย “เอาตรงๆ เลยนะครับบอสโจว ตอนนี้ผม
เจอปัญหานิดหน่อย ถ้าคุณช่วยผมได้จะเป็นพระคุณมากครับ!”
โจวมู่หยันรีบตอบ “อย่าพูดแบบนั้นสิครับบอสเผย คุณมีคำถามอะไรก็ถามได้
เลยครับ ถ้าตอบได้ผมจะช่วยตอบ!”
เผยเชียนถาม “บอสโจวช่วยอธิบายเรื่องหลินหวานกับครอบครัวให้ฟังได้ไหม
ครับ แล้วก็เหตุผลที่เธอเข้ามาทำงานในอุตสาหกรรมเกม ขอแบบละเอียดนิดหนึ่ง
จะดีมากครับ”
โจวมู่หยันตกใจเล็กน้อย
บอสเผยไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ เหรอ แสดงว่าประธานเฉินฮว่าคอร์เปอเรชัน
ไม่ได้ติดต่อไปแน่เลย
มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
แต่โจวมู่หยันก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย เขาบอกทุกอย่างที่รู้เกี่ยวกับหลินหวาน
ให้เผยเชียนฟัง
หลินหวานเป็นลูกสาวคนสุดท้องของประธานเฉินฮว่าคอร์เปอเรชัน มีพี่สาว
หนึ่งคนกับพี่ชายสองคน เธอมีใจรักในอุตสาหกรรมเกมมาก วันหนึ่งก็บังเอิญไป
เจอเทียนหัวสตูดิโอเข้าตอนหางาน
หลินเจิงหนานไม่สนับสนุนให้หลินหวานทำงานในอุตสาหกรรมเกม แต่เพราะ
หลิ น หวานเป็ น คนหั ว รั ้ น และหลิ น เจิ ง หนานก็ ไ ม่ อ ยากทำอะไรให้ ก ระทบ
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับลูกสาว จึงติดต่อหาโจวมู่หยัน ขอให้ช่วยดับฝันใน
อุตสาหกรรมเกมของหลินหวานให้ เพื่อที่เธอจะได้กลับมาทำงานกับเฉินฮว่า คอร์
เปอเรชัน
“ประมาณนี้ครับบอสเผย เรื่องอื่นนอกจากนี้ก็ไม่รู้แล้ว” โจวมู่หยันตอบอย่าง
จริงใจ “ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมคุณไม่ได้รับการติดต่อไป…ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”
เผยเชี ย นเงี ย บไปครู ่ ห นึ ่ ง “แล้ ว หลิ น หวานกั บ หลิ น โจว พี ่ ช ายคนที ่ เ ป็ น
ประธานบริษัทเฉินฮว่าอสังหาริมทรัพย์นี่สนิทกันดีไหมครับ”
โจวมู่หยันตอบ “เห็นว่าตึงๆ กับแค่พ่อนะครับ กับหลินโจวก็ดูจะสนิทกันดี”
หัวใจของเผยเชียนเย็นเฉียบ
ทุกอย่างลงล็อกหมด!
หลินหวานต้องขอให้หลินโจวผู้เป็นพี่ชายลดค่าเช่าให้เถิงต๋าแน่ๆ ไม่น่าจะมี
คำอธิบายอื่นอีก
“แล้ว…บอสโจวครับ ผมควรทำยังไงให้ หลินหวานออกจากอุตสาหกรรมเกม
แล้วกลับไปทำงานกับครอบครัว” เผยเชียนถามตามตรง
โจวมู่หยันคิดสักพัก “เกรงว่าจะต้องทำให้เธอรู้สึกผิดหวังกับอุตสาหกรรมเกม
สุดๆ น่ะสิครับ”
เผยเชียนเงียบไป
ยากเกินไปไหมนั่น
นั่นมันตรงกันข้ามกับที่เผยเชียนกำลังทำอยู่เลย!
เผยเชียนอยากผลาญเงินให้ได้เยอะๆ เลยให้สวัสดิการพนักงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แต่นั่นอาจจะทำให้หลินหวานคิดว่าเถิงต๋าเป็นบริษัทที่ดี ไม่อยากลาออกไปไหน
จบเห่สิแบบนี้
ครั้งนี้ช่วยลดค่าเช่าให้ ใครจะไปรู้เล่าว่าครั้งหน้าทายาทตระกูลร่ำรวยคนนี้จะ
ช่วยอะไรอีก
“ขอบคุณมากครับบอสโจว เดี๋ยวไว้ผมจัดศึกษาดูงานแล้วจะไปขอบคุณถึง
กว่างโจวอีกรอบนะครับ”
เผยเชียนรู้สึกว่าบอสโจวตอบคำถามอย่างตั้งใจ ข้อมูลที่ได้มาเป็นประโยชน์
มากๆ
โจวมู่หยันพูดอะไรไม่ออก
ยังจะมาอีกเหรอ
นี่จะมาขยี้ศพฉันต่อรึไง
“บอสเผย ขอถามอะไรได้ไหมครับ หลินหวานไปทำอะไรเกินกว่าเหตุที่เถิง ต๋า
หรือเปล่า…”
เผยเชียนเงียบไป ไม่รู้ว่าควรจะตอบคำถามนี้ยังไงดี
โจวมู่หยันอุตส่าห์บอกทุกอย่างหมดเปลือก เขาถามคำถามกลับมาแค่คำถาม
เดียว ถ้าเผยเชียนเลี่ยงไม่ตอบ ตอบปัดๆ หรือโกหกไปก็จะดูไม่เหมาะสม
เผยเชียนเงียบไปครู่หนึ่ง “เธอ…ช่วยลดค่าเช่าจากสี่หยวนเหลือ 1.5 หยวนต่อ
ตารางเมตรครับ”
โจวมู่หยัน “???”

หลังจากวางสาย เผยเชียนก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังรับมือกับอะไรที่ไม่เคยคิดฝัน
ว่าจะได้เจอ
เขารีบเช็กสัญญาเช่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูทันที พอพบว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง
กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่าก็ค่อยหายใจได้ทั่วท้อง
ก็ยังดี
ทำเลร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูทั้งสามที่ห่างไกลผู้คนมากและทุกที่เป็นตึกเดี่ยว
บริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่าชอบซื้อทำเลในย่านที่มีคนพลุกพล่าน ส่วนใหญ่จะ
เป็นพื้นที่ในย่านพักอาศัยหรูๆ หรือไม่ก็ตึกสำนักงาน
ทำเลของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจึงรอดพ้นสายตาเฉินฮว่าคอร์เปอเรชัน
เพราะถ้าลดค่าเช่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูได้อีก เผยเชียนได้กระอักเลือดแน่
ปัญหาที่ต้องจัดการในตอนนี้คือหลินหวาน
เขาจะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ เธอเหมือนระเบิดเวลา
จะใช้ไม้แข็งไล่เธอออกไปก็ไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นคนอื่นคงจะสงสัย
ขนาดหลินเจิงหนาน พ่อของหลินหวานที่เป็นถึงประธานเฉินฮว่าคอร์เปอเร
ชันยังไม่สามารถจัดการเธอได้ เผยเชียนเองก็ไม่รู้จะทำยังไงกับเธอดี
ถ้าหลินหวานดื้อขึ้นมา เรื่องอาจจะแย่ไปกว่านี้
ทางออกเดียวที่โจวมู่หยันให้มาคือหาทางทำให้หลินหวานหมดความสนใจใน
อุตสาหกรรมเกม
ดูจากทัศนคติในการทำงานของหลินหวานที่เถิงต๋า เธอดูจะไม่ใช่พวกทายาท
ตระกูลรวยที่ไร้หัวคิด ไม่อย่างนั้นคงไม่ปิดบังตัวตนมาได้นานขนาดนี้โดยไม่มีใครรู้
เรื่องเธอเลย
คนจำพวกนี้เป็นคนแน่วแน่ในเส้นทางที่ตัวเองตัดสินใจ
ความล้มเหลวจากปัจจัยภายนอกไม่น่าจะพอดับความมุ่งมั่นของเธอได้ รังแต่
จะทำให้เธอฮึดสู้ใหม่อีกครั้ง
กลืนไม่เข้าคายไม่ออกสุดๆ…
เผยเชียนคิดอยู่นาน ในที่สุดก็มีความคิดหนึ่งแล่นเข้าหัว
เหมือนว่า…ขยะที่ซื้อมาอย่างฉางหยางเกมส์น่าจะเอามาใช้ประโยชน์ได้
จนถึงตอนนี้ฉางหยางเกมส์ยังคงรักษาสภาพก่อนเข้าซื้อกิจการเอาไว้ได้
นอกจากนี้ดูจากการดำเนินงานในปัจจุบันแล้ว น่าจะยังขาดทุนต่อไปเรื่อยๆ
ถ้ามอบหมายให้หลินหวานรับผิดชอบโปรเจ็กต์ที่พังแน่ๆ พอเกมเจ๊ง เธอก็
น่าจะเริ่มสงสัยในความสามารถของตัวเองและอุตสาหกรรมเกม
เมื่อเป็นแบบนั้น เผยเชียนก็จะสามารถผลาญเงินได้อย่างสุขใจ ส่วนหลิน
หวานก็จะกลับไปเสวยสุขกับมรดกของตัวเอง ถือเป็นเรื่องดีกับทั้งสองฝ่ายเลยนี่
นา
เผยเชียนคิดว่านี่เป็นไอเดียที่ดี
เรื่องบางเรื่องก็สามารถวางแผนให้เหมือนเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจได้!
บทที่ 171 ตอนนั้นไม่เหลียวแล มาเห็นค่าเอาตอนนี้...

ช่วงกลางคืน
ในงานกินเลี้ยงที่ภัตตาคารห่านฟ้า
สำหรับเผยเชียนแล้ว งานกินเลี้ยงกลายเป็นวิธีพื้นฐานในการผลาญเงินก้อน
โต ในขณะเดียวกันก็กลายเป็นธรรมเนียมสำหรับพนักงานที่จะมารวมตัวกันเพื่อ
กินอาหารหรูๆ หลังจากวิเคราะห์และพัฒนาเกมใหม่
ตอนนี ้ เ ผยเชี ย นมี พ นั ก งานในสั ง กั ด เกื อ บสองร้ อ ยคน เขาจึ ง จองเหมา
ภัตตาคารห่านฟ้า
เหล่าพนักงานที่มามีทั้งพนักงานใหม่จากร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูหลายๆ สาขา
รวมถึงพนักงานจากเฟยหวงสตูดิโอที่เพิ่งกลับมา
พนักงานจากฉางหยางเกมส์ยังไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งในตอนนี้
เผยเชียนวางแผนจะค่อยๆ ให้พนักงานของฉางหยางเกมส์เข้ามามีส่วนร่วม
มากขึ้นในรอบบัญชีหน้า จึงไม่ได้ชวนมางานเลี้ยงรอบนี้
แต่เขาก็ต้องหาทางผลาญเงินก้อนโต
เผยเชียนให้เยว่จือโจวกับหวังเสี่ยวปินจัดกินเลี้ยงกันเองโดยทางบริษัทจะดูแล
เรื ่ อ งค่ า ใช้ จ ่ า ยทั ้ ง หมดให้ พวกเขาจะได้ ไ ปกิ น เลี ้ ย งที ่ ร ้ า นอาหารเหมื อ นกั น
แตกต่างกันแค่วันและเวลา
เขาเริ่มรู้สึกว่าร้านบุฟเฟต์ที่แพงที่สุดในเมืองจิงโจวไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป
ถ้าบินไปกินอาหารดีๆ ที่ปักกิ่งได้ก็คงทำไปแล้ว แต่ระบบดันไม่อนุญาตให้ทำ
แบบนั้น
“ดูจากจำนวนพนักงานที่เพิ่มขึ้นแล้ว ภัตตาคารห่านฟ้าไม่น่าจะจุพนักงาน
ทั้งหมดทีเดียวไหว
“ต้องคิดหาทางอื่น
“…ชีวิตมีแต่เรื่องให้เครียดจริงๆ”
ระหว่างที่คนอื่นๆ กำลังสวาปามอาหาร เผยเชียนนั่งอยู่เงียบๆ คิดเรื่องการ
จัดงานกินเลี้ยงรอบหน้า
ภัตตาคารห่านฟ้าจุคนได้ไม่มากเพราะเป็นภัตตาคารระดับสูง ฐานลูกค้า
เป้าหมายคือพวกร่ำรวยและมีชื่อเสียงในเมืองจิงโจว โต๊ะเก้าอี้ใหญ่โตโอ่อ่า ภายใน
ตกแต่งอย่างหรูหรา ทำให้รองรับคนจำนวนมากไม่ได้
แค่ให้พนักงานเถิงต๋ามากินเลี้ยง เผยเชียนก็ต้องจองเหมาร้านแล้ว ถ้างาน
เลี้ยงครั้งหน้ามีพนักงานเพิ่มขึ้นอีก ที่นี่คงจะจุคนได้ไม่พอ
“ถ้างั้นรอบหน้าจะจัดแยก
“พาพนักงานหลักๆ จากทุกแผนกมาก่อน แล้วแต่ละแผนกค่อยแยกกันไปกิน
เลี้ยงอีกที
“ทำแบบนี้ก็จะผลาญเงินได้เพิ่มขึ้นด้วย เจ๋งเป้ง!
“เสียดายจังที่ไม่มีภัตตาคารราคาแพงกว่านี้ในจิงโจว
“เดี๋ยวนะ ฉันเปิดร้านที่หรูกว่าภัตตาคารห่านฟ้าได้นี่”
จู่ๆ เผยเชียนก็คิดอะไรดีๆ ออก
เขาเพิ่งก้าวขาเข้าสู่อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มด้วยร้านอินเทอร์เน็ตโม
หยูและโมหยูเดลิเวอรี่ ตอนนี้เหมือนจะเป็นการลองเชิงดู ที่ผ่านมาก็ดำเนินกิจการ
ไปได้ตามที่เผยเชียนคาดหวังไว้
ทั้งจัดหาอาหารดีๆ ให้พนักงานได้ แถมยังขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจทั้งสอง
อย่างช่วยผลาญเงินเผยเชียนไปได้เยอะเลยทีเดียว!
ตอนนี้ยังถือว่าประสบความสำเร็จอยู่!
แต่ปัญหาคือโมหยูเดลิเวอรี่ยังหรูไม่พอ
เป้าหมายหลักของโมหยูเดลิเวอรี่คือจัดเตรียมอาหารบ้านๆ ที่ดีต่อสุขภาพให้
พนักงาน ถึงจะราคาสูงกว่าร้านอื่นๆ เล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นเป็นเครื่องจักร
ผลาญเงินแบบที่เผยเชียนคิดไว้
เนื่องจากเมนูทั้งหมดเป็นอาหารพื้นๆ ระบบจึงตั้งข้อจำกัดในการวางราคา
เขาไม่สามารถตั้งราคาสูงๆ ได้ตามใจชอบ
ถึงไข่ผัดมะเขือเทศจะอร่อยแค่ไหนก็ขายแพงๆ ไม่ได้ เว้นแต่เชฟจะโกงค่า
วัตถุดิบ
แต่ตอนนี้เผยเชียนไม่มีเชฟแบบนั้น
การเปิดภัตตาคารระดับสูงจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้
หาทำเลร้างผู้คนเปิดภัตตาคาร จากนั้นก็เลือกแต่วัตถุดิบคุณภาพสูง ทีนี้ก็ตั้ง
ราคาสูงได้ตามที่ใจอยาก
ถึงพนักงานของเขาจะได้รับส่วนลด แต่ถ้าใช้วัตถุดิบแพงมากพอก็ไม่ใช่ปัญหา
อะไร
พวกเขาจะไปกินเลี้ยงที่ร้านก่อนวันปิดบัญชีแต่ละรอบ นอกเหนือจากนั้นเขา
ก็แค่ตอ้ งประคองธุรกิจให้ขาดทุนไปเรือ่ ยๆ ถือเป็นไอเดียทีด่ เี ลยทีเดียว
เมื่อคิดได้อย่างนั้น เผยเชียนก็พอจะรู้คร่าวๆ ว่าต้องทำอะไรบ้าง
ในรอบปิดบัญชีหน้า เกมต่างๆ น่าจะทำกำไรให้ได้เหมือนอย่างเคย แต่เผย
เชียนก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะเอาเงินไปผลาญยังไงดี เขาสามารถเอาเงินทั้งหมด
ไปทุ่มเปิดภัตตาคารระดับสูงได้ เท่าที่คิดดูมันน่าจะต้องใช้เงินเยอะกว่าเปิดร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูทั้งสามสาขาเสียอีก
แน่นอนว่าพวกมีเงินน่าจะชอบภัตตาคารระดับสูงแบบนี้ ยังไงก็น่าจะมีลูกค้า
เข้าร้านบ้าง
แต่จิงโจวเป็นเมืองระดับสอง มีคนรวยอยู่ไม่มากนัก ภัตตาคารน่าจะขาดทุน
โอกาสในการทำเงินมีน้อยมาก
เผยเชียนคิดอยู่นาน จากนั้นก็เหลื อบมองไปทางหลินหวานที่นั่งห่างออกไป
สองโต๊ะ
หลินหวานคิดว่าเผยเชียนยังไม่รูว้ ่าตัวตนที่แท้จริงของเธอคือใคร แต่เผยเชียน
รู้เรื่องทั้งหมดแล้วและหาทางจัดการเธอเอาไว้แล้วด้วย
แน่นอนว่าชายหนุ่มจะทำอะไรกระโตกกระตากไปไม่ได้ เดี๋ยวไก่จะตื่นเอา เขา
ต้องรอให้ถึงรอบบัญชีหน้าแล้วค่อยจัดการย้ายหลินหวานไปฉางหยางเกมส์ให้ไป
ทำเกมเจ๊งดูสักหน่อย แค่นี้ก็ปิดงานได้แล้ว
ตอนนี้หลินหวานกำลังพิมพ์ตอบข้อความในมือถือ
คู่สนทนาบนหน้าจอคือเฉินชา
“น้องหลินคนสวย ช่วยพี่ทีเถอะ…ช่วยหาทางจากวงในให้พี่ได้ปืนบาเร็ต
มรณะที! น้องดูแลเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ น่าจะพอมีที่เหลือให้คนในใช่มั้ย”
“ไม่ได้จริงๆ ค่ะ หนูก็อยากช่วยนะ แต่ทำอะไรไม่ได้จริงๆ ทำไมไม่ลองไปหา
ซื้อต่อดูล่ะ” หลินหวานตอบกลับอย่างรวดเร็ว “อย่าว่าแต่หนูเลย ขนาดพนักงาน
ฝีมือดีที่บอสเผยเชื่อใจอย่างเปาซวี่ยังต้องซื้อต่อปืนบาเร็ตมรณะจากคนอื่นเลย”
เฉินชา “…”
ตั้งแต่หลินหวานแนะนำเกมฐานทัพกลางทะเลให้ เฉินชาก็หันมาเล่นเกมนี้
อย่างจริงจัง
ตอนแรกเขาเล่นเกม Counter Strike บ่อยกว่า เพราะเกม Counter Strike
มีการแข่งขันสูงกว่า ทำให้สามารถเล่นได้ยาวๆ ส่วนเกมฐานทัพกลางทะเลเป็น
เกมแนว FPS ที่เป็นมิตรกับผู้เล่นใหม่ จึงด้อยกว่า Counter Strike ในหลายๆ
ด้าน
แต่เรื่องราวก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป
นั่นเพราะเกมฐานทัพกลางทะเลมีความนิยมพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ พอมีคนหันมา
เล่นเกมนี้เพิ่มขึ้น เฉินชาก็พลอยติดไปด้วย
เขาไม่คิดเลยว่าเกมที่ตัวเองด่าอย่างหนักหน่วงไปในตอนแรกจะขึ้นมาแทนที่
เกม Counter Strike ที่ยืนหนึ่งในใจไปได้…
ตอนที่ปืนบาเร็ตมรณะถูกปล่อยออกมา เฉินชาเองก็อยากจับจองเป็นเจ้าของ
เหมือนผู้เล่นคนอื่นๆ มีเกมเมอร์สาย FPS คนไหนไม่ชอบซุ่มยิงบ้างล่ะ
แต่ปืนดันจำกัดการขายที่ห้าร้อยชิ้น เฉินชาเลยชวดไป
ให้ไปซื้อต่อจากคนอื่นเหรอ ถึงจะเสนอราคาไปสักสองสามพันก็ไม่น่าซื้อได้
ปัญหาไม่ใช่เรื่องเงิน ปัญหาจริงๆ คือแอ็กเคานต์ของเฉินชามีปืนกิเลนแดงอยู่
แล้ว แถมยังมีปืนอื่นๆ อีกมากมายที่ทุ่มเทหามา จะให้ทิ้งไปง่ายๆ ได้ยังไงไหว
เฉินชาไม่ยอมแพ้ “แต่พี่เคยช่วยเถิงต๋านะ! พี่ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกม
ฐานทัพกลางทะเลดังขึ้นมาไม่ใช่เหรอ
“พี่เป็นหนึ่งในผู้เล่นชั้นแนวหน้า เป็นเกมเมอร์สาย FPS มืออาชีพ ในเกมผลิต
ในประเทศเกมอื่นๆ ก็มีใครหลายคนให้ความเคารพ แค่อาวุธชิ้นเดียวทำไมต้อง
ยุ่งยากขนาดนี้…”
หลินหวาน “เอ หนูจำได้ตอนหนูบอกว่าจะเอาปืนกิเลนเพลิงให้ พี่ดูถูกดู
แคลนมันเหลือเกิน ตอนนั้นบอกว่าก็เป็นแค่ข้อมูลในเกม คนบ้าหน้าไหนจะมาเสีย
เงินแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนซื้อ แบบนี้เรียกว่ายังไงนะคะ ตอนนั้นไม่เหลียวแล
มาเห็นค่าเอาตอนนี้รึเปล่า”
เฉินชา “แหะๆ พี่มันโง่เอง! เป็นคนโง่ที่อยากได้ปืนบาเร็ตมรณะสุดๆ ช่วยพี่ที
ขอร้องล่ะ!”
“แหะๆ” พอเห็นเฉินชาด้อยค่าตัวเอง หลินหวานก็รู้สึกกระดากใจ “ก็ได้ค่ะ
เห็นว่าพี่จริงใจดี เดี๋ยวหนูจะลองถามบอสเผยดูให้ แต่ไม่รับปากนะว่าจะได้รึ
เปล่า”
เฉินชา “ขอบคุณมากครับ!”
หลินหวานหันมองเผยเชียนที่เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ เธอเริ่มเป็นกังวล
ขึ้นมาว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้าแล้วหรือยัง
ว่ากันตามตรง ครั้งนี้เธอช่วยลดค่าเช่ามากเกินไปหน่อย
จากสี่หยวนเหลือ 1.5 หยวน บอสเผยอาจจะนึกสงสัยขึ้นมาก็ได้
ถ้าลดราคาไปไม่มากก็คงจะปิดบังตัวตนจากบอสเผยได้ แต่ก็ถือว่าไร้ค่า
สำหรับหลินหวาน เพราะมันไม่พอที่จะตอบแทนความรักใคร่ใส่ใจของบอสเผยที่มี
ต่อพนักงาน แถมจะดูเป็นการขี้เหนียวด้วย
หลินหวานไม่เคยมองว่าตัวเองเป็นคนขี้เหนียว
ตอนนี้หลินหวานไม่มั่นใจว่าเผยเชียนนึกสงสัยในตัวเธออยู่หรือเปล่า
ตามปกติถ้าสงสัยในตัวเธอก็ต้องมาถามเธอดูใช่ไหมนะ
แต่บอสเผยทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ได้แม้แต่จะสนใจเธอมากขึ้นเป็น
พิเศษ
“บอสเผยอาจจะยุ่งมาก ค่าเช่าก็แค่เรื่องเล็กๆ อาจจะไม่ทันสังเกตก็ได้
“ใช่ น่าจะเป็นแบบนั้นแหละ
“ถ้างั้นฉันก็ควรทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
หลินหวานไม่มีทางเปิดประเด็นเรื่องนี้กับเผยเชียนก่อน เธอทำดีโดยไม่หวัง
ผลตอบแทน อยากให้ทุกคนปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งมากกว่า
พอตัดสินใจได้ หลินหวานก็เดินไปหาเผยเชียน
ทั้งคู่มีอะไรแอบแฝงอยู่ในใจ แต่เบื้ องหน้ากลับยิ้มแฉ่ง พวกเขาแสร้งทำ
เหมือนไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ในใจ
บทที่ 172 สารคดีของหวงซื่อปั๋ว

“บอสเผยคะ บอสจำเฉินชาได้ไหมคะ พอดีเขาอยากได้ปืนบาเร็ตน่ะค่ะ ”


หลินหวานเปิดประเด็น
ปฏิกิริยาแรกของเผยเชียนคือตอบปฏิเสธทันที
ล้อกันเล่นหรือเปล่า ห้าร้อยก็คือห้าร้อย จะมายกเว้นให้ใครง่ายๆ ได้ยังไงกัน
ถ้าวันนี้ยอมยกเว้นให้หนึ่งชิ้น พรุ่งนี้อีกหนึ่งชิ้น มะรืนนี้ก็คงเปิดตลาดขายกัน
เป็นผักปลาพอดี ฉันไม่มีทางยอมให้เป็นแบบนั้นแน่
ขนาดตัวเองยังไม่ได้รับการยกเว้น ทำไมเขาต้องยอมยกเว้นให้คนอื่นเป็นกรณี
พิเศษง่ายๆ ด้วย!
แน่นอนว่าที่เผยเชียนไม่ให้สิทธิพิเศษนี้กับตัวเองก็เพราะเขาเล่นเกมแนว FPS
ได้กากมาก ถึงจะมีปืนบาเร็ตมรณะก็ไม่น่าจะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น
หลินหวานเหมือนเดาออกว่าเผยเชียนจะพูดอะไรจึงรีบพูดขัดก่อน “บอสเผย
คะ หนูรู้ดีว่ามาขอแบบนี้ดูไม่เหมาะเท่าไหร่ แต่หนูคิดว่าอย่างน้อยเราควรจะใส่ใจ
ผู้เล่นขาประจำของเรานะคะ
“ถ้าให้ปืนไม่ได้ เราให้อย่างอื่นแทนได้ไหมคะ
“พอเราจำกัดการขายที่ห้าร้อยชิ้นต่อเดือนก็ต้องมาวัดกันที่ความเร็ว พวก
พ่อค้าแม่ค้าขายไอดีใช้ช่องทางนี้ทำเงิน ผู้เล่นที่รักเกมเราจริงๆ ซื้ออาวุธไม่ได้ เป็น
แบบนี้พวกเขาก็คงปวดใจน่าดู”
เผยเชียนครุ่นคิดตามที่อีกฝ่ายพูดแล้วรู้สึกเห็นด้วย
เถิงต๋าจะทำเงินได้ไหมไม่สำคัญ แต่เขาจะยอมให้ผู้เล่นเจ็บปวดใจไม่ได้ เรื่อง
พ่อค้าแม่ค้าเข้ามาหาผลประโยชน์เอาง่ายๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เพราะยังไงผู้เล่นก็ไม่ได้รู้อีโหน่อีเหน่อะไรด้วย ส่วนพวกพ่ อค้าแม่ค้าก็จ้องแต่
จะขูดรีดทำกำไร
เผยเชียนครุ่นคิดถึงจุดนี้ “แก้ได้ง่ายๆ เราจะรีบสร้างระบบให้คะแนนแอ็ก
เคานต์ แต่ละแอ็กเคานต์จะได้คะแนนจากการพิจารณาจากหลายๆ องค์ประกอบ
“ตัวอย่างเช่น ผู้เล่นขาประจำอย่างเฉินชา พวกเขาสร้างชื่อให้เกมเรา ควรจะ
ได้สิทธิพิเศษตอบแทน
“ส่วนไอดีอื่นๆ จะพิจารณาว่ามีการทำอะไรที่ละเมิดตัวเกมหรือเปล่า เป็นผู้
เล่นความประพฤติดีไหม เล่นบ่อยแค่ไหน อะไรแบบนี้ เหมือนคะแนนความดี
ความชอบ
“คนที่มีคะแนนตรงนี้สูงๆ จะสามารถจองอาวุธในตำนานล่วงหน้าได้ พอจอง
เสร็จก็จะไปหักจากโควตาห้าร้อยชิ้น คะแนนยิ่งสูงก็ยิ่งได้สิทธิ์สั่งจองก่อน
“แน่นอนว่าคนที่คะแนนเท่ากันก็ต้องแย่งกันอยู่ดี
“พวกพ่อค้าแม่ค้าไม่ใช่คนเล่นเกมจริงจัง น่าจะมีสิทธิ์ได้ซื้อหลังสุดเลย ถึงจะ
มือเร็วแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์ ยังไงก็ไม่มีทางแย่งอาวุธในตำนานไปได้แน่”
หลินหวานตาเป็นประกาย “ไอเดียดีมากเลยค่ะ! บอสเผยนี่เก่งจริงๆ แป๊บ
เดียวก็คิดทางแก้ได้สมบูรณ์แบบสุดๆ! เดี๋ยวหนูจะไปบอกเรื่องนี้กับเฉินชา ให้เขา
อดทนรอไปก่อน”
ไม่เห็นจะต้องตื่นเต้นขนาดนั้นเลย
เผยเชียนอึ้งไป วิธีนี้เป็นวิธีแสนธรรมดาสามัญ
แต่พอคิดดูดีๆ การที่หลินหวานจะแสดงออกแบบนี้ก็ถือเป็นเรื่องปกติ แนวคิด
เรื่อ งเกมของหลายๆ คนยังล้าหลังอยู ่ เผยเชียนมีประสบการณ์จากหลายปี
ข้างหน้า จึงถือไพ่เหนือกว่าคนอื่น
แน่นอนว่าในหลายๆ สถานการณ์ การถือไพ่ที่เหนือกว่าใบนี้มีประโยชน์แค่
เรื่องเล็กน้อยแบบนี้แหละ จะให้เอาไปสร้างอาณาจักรยิ่งใหญ่แบบเฉิน ฮว่าคอร์
เปอเรชันจากประสบการณ์เล็กน้อยแค่นี้
เผยเชียนคิดว่าเป็นฝันที่เกินตัวไปมาก ไม่มีทางเป็นจริงไปได้
ตอนนี้สิ่งที่ทำได้ดีคือดูแลสิ่งต่างๆ ตรงหน้า
แถมยังช่วยจำกัดรายได้จากเกมต่างๆ ทำให้บริษัทขาดทุน กอบโกยเงินทุน
ระบบแปลงมาเป็นความมั่งคั่งส่วนบุคคล นี่คือเป้าหมายในระยะยาวของเขา
ระหว่างที่กำลังคิดเรื่องนี้อยู่ เขาก็ได้ยินเสียงโห่ต้อนรับดังมาจากที่ไกลๆ
“พี่หวงกลับมาแล้ว!”
“พี่หวง มาช้าจัง! เอาไปเลยสามแก้วเป็นบทลงโทษ!”
เผยเชียนอึ้งไป
เจ้านั่นกลับมาแล้ว หวงซื่อปั๋วกลับมาแล้ว!
ตามคำสั่งของเผยเชียน หวงซื่อปั๋วต้องถ่ายทำให้เสร็จก่อนวันที่ 18 มิถุนายน
ถ้าเสร็จหลังวันที่ 24 ระบบจะเลื่อนการปิดบัญชีออกไป ซึ่งเป็นเรื่องที่เผยเชียน
ยอมไม่ได้
เผยเชียนเดาว่าหวงซื่อปั๋วน่าจะถ่ายทำและตัดต่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขา
น่าจะวางแผนปล่อยสารคดีภายในวันสองวันนี้
รายได้ที่สารคดีของหวงซื่อปั๋วทำได้จะส่งผลกับแผนการในอนาคตของเขา
เผยเชียนเห็นหวงซื่อปั๋วยิ้มทักทายคนอื่นๆ อยู่ไกลๆ แต่ก็สังเกตเห็นแววความ
เหงาหงอยในดวงตาของอีกฝ่ายด้วย
หืม
เผยเชียนแอบรู้สึกดีขึ้นมา รอบนี้หวงซื่อปั๋วมีอะไรมาเซอร์ไพรส์หรือเปล่านะ
เขามองไปที่ด้านหลังหวงซื่อปั๋วแต่ไม่เห็นเฉินเหล่ย
เฉินเหล่ยไปเซี่ยงไฮ้ในฐานะพนักงานของเฟยหวงสตูดิโอ แต่จริงๆ แล้วเขา
ไม่ได้รับมอบหมายงานอะไร เป็นพนักงานแค่ในนาม
พอเฟยหวงสตูดิโอถ่ายทำสารคดีเสร็จก็ยกพวกกลับจิงโจวเพื่อตัดต่อ เลย
สามารถมาร่วมงานกินเลี้ยงได้ เฉินเหล่ยน่าจะมีธุระส่วนตัวเลยไม่ได้มาด้วย
หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อทักทายพนักงานคนอื่นๆ ก่อนจะเดินตรงมาหาเผย
เชียนที่โต๊ะ
“นั่งก่อนสิ”
เผยเชียนทักทายทั้งสองอย่างอบอุ่นแล้วชวนให้นั่งลงตรงข้าม
ทั้งคู่ตกใจมากที่มีโอกาสได้นั่งร่วมโต๊ะกับบอสเผย เพราะถือเป็นเรื่องที่ไม่ได้
เกิดขึ้นง่ายๆ
แต่หวงซื่อปั๋วกลับรู้สึกหนักใจ
ครั้งนี้เปลี่ยนไป!
ทำไมบอสเผยถึงทำตัวเย็นชาตอนที่เขาเซ็นสัญญากับเว็บอ้ายลี่เต่า แล้วได้เงิน
มาก้อนใหญ่ แต่ตอนนี้บอสกลับดูใจดี
หรือบอสเผยคิดว่ารอบนี้งานของเราออกมาไม่ค่อยดีเลยตั้งใจจะปลอบ
หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อเหลือบมองตากันเหมือนว่าทั้งคู่ก็คิดอย่างเดียวกัน
บอสเผยช่างเป็นบอสที่ใส่ใจพนักงานจริงๆ!
เผยเชียนไม่รู้เลยว่าในหัวของคนทั้งคู่ คิดกันเตลิดไปถึงไหน ดูจากสีหน้าของ
อีกฝ่าย เขาเดาว่าสารคดีของเฟยหวงสตูดิโอรอบนี้น่าจะออกมาไม่ค่อยดี
ถือเป็นข่าวดี!
ยังพอจะพึ่งพาได้ในยามวิกฤต!
ตอนที่เผยเชียนต้องเผชิญหน้ากับความกดดันมหาศาลในการหาทางผลาญ
เงิน หลินหวานกลับให้ส่วนลดค่าเช่าเขามา ทำให้ตกที่นั่งลำบากยิ่งกว่าเก่า
แต่ตอนนี้ถ้ารู้ว่าเฟยหวงสตูดิโอสูญเงินที่หามาอย่างยากลำบากไปหมด เผย
เชียนก็คงจะสบายใจขึ้นได้!
หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไหร่ ทั้งคู่กินอาหารคำสองคำ
แล้วหันหน้ามองกัน ไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหนดี
“เป็นอะไรกัน ถ่ายทำได้ไม่ค่อยดีเหรอ” เผยเชียนถามอย่างเป็นห่วง
หวงซื่อปั๋วหยิบมือถือออกมา “บอสเผยช่วยดูคลิปที่พวกผมตัดต่อหน่อยได้
ไหมครับ”
“ได้สิ”
เผยเชียนไม่ได้ถามอะไรต่อ เขารับมือถือมาดูคลิป
หวงซื่อปั๋วเคยเล่าให้เผยเชียนฟังคร่าวๆ ว่าจะทำสารคดีเกี่ยวกับนักกีฬาอี
สปอร์ต เขาบอกว่าจะสัมภาษณ์นักกีฬาเกม Counter Strike ชื่อดังในประเทศที่
ชื่อหลี่เจิงเหว่ย แต่ก็ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมากนัก
เขากดเปิดคลิป มีประโยคปรากฏขึ้นบนหน้าจอสีดำ
“ตอนนี้ผมฝึกซ้อมอย่างน้อยวันละสิบสี่ชั่วโมง
“ไม่ค่อยได้เจอเพื่อนกับครอบครัว วันหยุดก็ไม่ค่อยได้หยุด
“สำหรับใครหลายคนคงหนักเกินจะรับไหว
“แต่ถ้าคุณอยากเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตฝีมือดี คุณก็ต้องยอมทน
“ผมจำวันที่ตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางอาชีพนี้ได้ ตอนนั้นพ่อผมกำลังจะออกไป
ทำงาน พ่อกดล็อกประตูแล้วบอกว่าถ้าผมยังจะไล่ตามเส้นทางนี้ก็ไม่ต้องกลับมา
บ้านอีก
“พอพ่อออกจากบ้านไป ผมก็ถีบประตูแล้วหนีออกจากบ้าน จากนั้นก็เดินทาง
ไปเซี่ยงไฮ้ตัวคนเดียวเพื่อเริ่มงานในสายอาชีพนี้อย่างจริงจัง”
หลังจากนั้นก็เป็นภาพจากมุมสูง
ตอนแรกเป็นภาพเมืองสภาพอัตคัดในชนบท
จากนั้นก็มีภาพเมืองเซี่ยงไฮ้อันแสนยิ่งใหญ่เข้ามาแทนที่
ชื่อสารคดีปรากฏขึ้นบนจอ ‘จากดักแด้สู่ผีเสื้อ’
ตัวสารคดีไม่ได้ยาวมาก ประมาณสิบนาทีก็จบ แต่หวงซื่อปั๋วต้องใช้เวลาเดือน
กว่าในการถ่ายทำ
เผยเชียนดูคลิปอย่างตั้งใจ เขาพบว่ามันดีกว่าที่คิดเอาไว้อีก
โครงเรื่องวางออกมาได้สมบูรณ์แบบ มีการตามติดชีวิตหลี่เจิงเหว่ยตั้งแต่โดด
เรียนไปร้านอินเทอร์เน็ต หนีออกจากบ้านไปเริ่มเส้นทางอาชีพ สร้างชื่อเสียงให้
ตัวเอง ได้รับยกย่องเป็นผู้เล่นเกม Counter Strike ฝีมือดีที่สุดในประเทศจีน ไป
จนถึงช่วงตกต่ำที่ประสบอยู่ตอนนี้ แต่ละฉากมีบทสัมภาษณ์จากครอบครัว คน
ใกล้ตัว โค้ช และแฟนแทรกมาเป็นพักๆ เพลงประกอบก็เพราะเสนาะหู ตัดต่อได้
ลื่นไหล น่าจะเป็นสารคดีที่สื่อสารกับผู้ชมได้ดีทีเดียว
แม้แต่เผยเชียนยังรู้สึกตกใจเมื่อได้ดูสารคดีนี้
บทที่ 173 บอสเผยช่างมีเมตตา

เห็นได้ชัดว่าหวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่ อรู้ชัดเจนว่าตัวเองอยากจะถ่ายทำอะไร
ตัวสารคดีไม่ได้เน้นหนักที่ความรุ่งโรจน์และด้านดีๆ ของนักเล่นเกมมืออาชีพ แต่
ต้องการจะแสดงให้เห็นภาพชีวิตประจำวัน เพื่อให้ทุกคนเห็นด้านที่ต้องลำบากลำ
บนเมื่อพบเจอปัญหาด้วย
“ทำออกมาได้ดีมากๆ”
เผยเชียนพูดจากใจจริง
เขาเคยดูสารคดีดีๆ เกี่ยวกับอีสปอร์ตมาหลายเรื่อง งานของจูเสี่ยวเช่อถือเป็น
ผลงานที่ยอดเยี่ยม ทั้งด้านเนื้อหาและเทคนิคการถ่ายทำ
หวงซื่อปั๋วยิ้มด้วยความรู้สึกหดหู่เล็กน้อย “ผมค่อนข้างพอใจกับผลงาน
“แต่…ผมกลัวว่าอาจจะหาทุนคืนไม่ได้
“พวกผมเจอเว็บไซต์วิดีโอสองสามเว็บ แต่ให้ค่าตอบแทนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่
ถ้าเซ็นสัญญาด้วยแผนให้ค่าตอบแทนแบบธรรมดา ถึงจะมียอดวิวสามล้านวิว ก็
ได้เงินกลับมาแค่ไม่กี่พัน ไม่น่าจะได้เยอะอะไรมากมายเลยครับ”
เผยเชียนพยักหน้า
เห็นได้ชัดว่าสารคดีทำกำไรได้ไม่เยอะ ไม่เหมือนคลิปสั้น
คลิปสั้นมีแหล่งรายได้หลายแบบ จะขอสปอนเซอร์โดยการโฆษณาสินค้าให้ก็
ได้ เว็บไซต์หลายๆ เจ้าก็อยากได้คลิปสั้นมาลงเพื่อเพิ่มยอดคนเข้าใช้งานเว็บ
แต่สารคดีไม่เหมือนกัน
พวกหวงซื่อปั๋วต้องใช้อุปกรณ์ระดับสูงในการถ่ายทำ ต้องแวะไปถ่ายทำหลาย
ที่ ทั้งจิงโจว เซี่ยงไฮ้ ไหนจะบ้านเกิดของหลี่เจิงเหว่ยอีก เผยเชียนบอกให้พวกเขา
ใช้จ่ายเงินค่าที่พักและอาหารตามมาตรฐานของเถิงต๋า เงินจึงไหลออกอย่าง
รวดเร็วเหมือนสายน้ำ
สารคดีแบบนี้ปกติแล้วเว็บไซต์ทางการจะเป็นคนผลิตเองเพื่อโฆษณาเกมหรือ
การแข่งขัน ถึงจะทุ่มทุนทำสารคดีไปเยอะก็ยังสามารถหาเงินคืนจากช่องทางอื่น
ได้
แต่พวกหวงซื่อปั๋วทำสารคดีขึ้นมาเพราะความสนใจส่วนตัว จึงเป็นเรื่อง
ธรรมดาที่จะหาเงินคืนทุนไม่ได้
หวงซื่อปั๋วรู้ว่าครั้งนี้ลู่หมิงเหลียงเป็นคนดูแลเรื่องการพัฒนาอัปเดตใหม่และ
DLC ของเกมต่างๆ ซึ่งประสบความสำเร็จหมดทุกอย่าง ลู่หมิงเหลียงน่าจะก้าว
ข้ามเขาไปแล้วในฐานะหัวหน้าฝ่ายวางแผน
เฟยหวงสตูดิโอไม่มีผลงานอะไรเลย การมาร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้จึงทำให้เขา
รู้สึกอายอยู่หน่อยๆ
เผยเชียนยิ้ม “พวกคุณไม่สบายใจเรื่องนี้กันเหรอ”
หวงซื่อปั๋วอึ้งไปเล็กน้อย “บอสเผย…”
เผยเชียนยกแก้วขึ้นหมุน เสี ยงของเขาดูเรียบเฉย “ผมบอกพวกคุณไปแล้ว
ไม่ใช่เหรอ
“อย่ามัวคิดเล็กคิดน้อยเรื่องกำไรขาดทุน พวกคุณไม่ต้องสนเรื่องเงินเลย
“คลิปสั้นคราวก่อนก็เริ่มทำเพราะใจรัก ไม่ได้หวังทำกำไรไม่ใช่เหรอ ถึงจะ
ปฏิเสธสปอนเซอร์รายย่อยไปหมด แต่พวกคุณก็ไม่อดตาย สุดท้ายยังได้ช่องทาง
ทำกำไรงามๆ มาอีก
“สำหรับผมแล้ว เราจะทำเงินได้รึเปล่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ ที่ผมสนใจคือพวกคุณ
ได้ทำสิ่งที่สำคัญกับพวกคุณหรือเปล่า
“พวกคุณเตรียมใจไว้แล้วไม่ใช่เหรอว่าถ้าทำสารคดีก็ต้องขาดทุน
“ผลงานก็ออกมาตรงตามที่พวกคุณหวัง มีอะไรให้รู้สึกเศร้าอีก”
หวงซื่อปั๋วรู้สึกตื้นตันใจ “ขอบคุณครับ บอสเผย…”
ทั้งสองได้แต่ถอนหายใจด้วยความรู้สึกท่วมท้นอยู่ข้างใน ถ้าคำพูดนี้ออกจาก
ปากคนอื่น ทั้งสองคงจะคิดว่าเป็นคำโกหก
แต่ถ้ามาจากปากบอสเผยละก็ รับประกันได้เลยว่าจริงใจแน่นอน!
คุณสมบัตินี้ทำให้บอสเผยแตกต่างจากบอสคนอื่นๆ บอสใจดีกว่าคนทั่วไป
แถมยังมองการณ์ไกลสุดๆ!
เผยเชียนยิ้มบาง “อย่านึกคลางแคลงใจตัวเอง
“ทำสิ่งที่รักโดยไม่หวังผลตอบแทนจะเป็นไรไป ขอแค่สารคดีนี้ได้รับความ
สนใจและสื่อถึงผู้เล่น ก็ถือว่าเฟยหวงสตูดิโอมาถูกทางแล้ว!
“ไม่มีทุนถ่ายคลิปต่อไปก็ไม่ต้องห่วง บอกผมได้เลยว่าขาดเท่าไหร่!”
เผยเชียนดีใจกับอนาคตที่จู่ๆ ก็สดใส
หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อน่าจะใช้กำไรไปกับการถ่ายสารคดีหมดแล้ว ไม่น่าจะ
เหลือเงินมากนัก
เผยเชียนใช้โอกาสนี้เป็นข้ออ้างให้เงินพวกเขาไปใช้จ่ายเพิ่มได้!
แต่จะให้ได้ในรอบบัญชีถัดไป
“คือไม่ใช่แค่พวกผมไม่มีทุ นถ่ายครับบอสเผย” จูเสี่ยวเช่อถอนหายใจเบาๆ
“จริงๆ แล้วพวกผมเอาทุนทั้งหมดที่มีออกมาใช้จนหมด บวกเงินส่วนตัวเข้าไป
เพิ่มอีกก็ยังไม่พอ ตอนนี้ยังค้างค่าจ้างพนักงานอยู่หนึ่งเดือนครับ…”
“ดีมาก!” เผยเชียนพูดเสียงดัง
จูเสี่ยวเช่อตกใจ “?”
เผยเชียนกระแอมกระไอสองสามครั้ง “พวกคุณทำได้ดีมาก
“แสดงให้ เ ห็ น เลยว่ า พนั ก งานกั บ พวกคุ ณ ทั ้ ง สองมี ค วามเป็ น น้ ำ หนึ ่ ง ใจ
เดียวกัน!
“ขนาดตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก กลับไม่มีใครคิดลาออกเลยสักคน
เห็นได้ชัดเลยว่าเฟยหวงสตูดิโอเป็นทีมที่เติบโตแล้ว สามารถรับมือกับความท้า
ทายต่างๆ ได้!
“พวกคุณไม่ควรเอาเงินตัวเองออกก่อนเลย ไปคุยกับเลขาซินนะ ออกไป
เท่าไหร่ ขาดเหลืออะไรยังไง บริษัทจะช่วยจ่ายคืนให้
“ไม่สิ แค่นั้นน่าจะไม่พอ จ่ายเงินเดือนพนักงานล่าช้าไม่ใช่เรื่องดี เราจะจ่าย
เงินเดือนบวกดอกเบี้ยให้เพิ่ม ต้องดูแลพี่น้องที่ช่วยงานเรามาให้ดี!”
หวงซื่อปั๋วอึ้งไป “จะเหมาะเหรอครับบอสเผย ผมไม่เคยเห็นที่ไ หนจ่าย
เงินเดือนช้าแล้วบวกดอกเบี้ยให้มาก่อนเลย”
เผยเชียนโบกมือให้หวงซื่อปั๋วหยุดพูด
“หวงซื่อปั๋ว
“พวกคุณอยากถ่ายอะไร จะไปตะลุยลำบากกันที่ไหน ผมไม่ได้สนใจเลย
“แต่ผมไม่ยอมให้อะไรก็ตามมาทำลายภาพลักษณ์บริษัทเราได้!
“เราไม่ควรทำให้เหล่าพนักงานที่ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ร่วมกับเถิงต๋ามาต้อง
หมดกำลังใจ เข้าใจมั้ย”
วาจาของบอสเผยฟังดูเด็ดขาด
หวงซื่อปั๋วตื้นตันจนน้ำตารื้น
ช่างเป็นครอบครัวที่อบอุ่นจริงๆ!
ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน เจออุปสรรคอะไรมาจากโลกภายนอก พอได้หวนสู่
เถิงต๋าก็เหมือนได้กลับบ้าน ไม่ต้องมัวกังวลใจอะไร เพราะเถิงต๋ากับบอสเผยจะ
คอยช่วยหนุนหลังตลอด!
พอเห็นสีหน้าของบอสเผยและท่าทีที่ดูจะไม่ได้หัวเสียอะไรเรื่องที่พวกเขาใช้
เงินไปจนหมด หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อก็รู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก
เผยเชียนถาม “โปรเจ็กต์หน้าจะทำสารคดีต่อรึเปล่า”
หวงซื่อปั๋วส่ายหน้า “เรื่องนี้พวกผมยังไม่ได้ตัดสินใจเลยครับ
“พวกผมว่าจะลองปล่อยสารคดีเรื่องนี้ออกไปก่อน ดูว่าผลตอบรับเป็นยังไง
แล้วค่อยตัดสินใจ
“แต่พวกผมคงไม่ใช้ธีมนี้เป็นตัวตั้งอีก ไม่ใช่เพราะทำเงินไม่ได้ แต่พวกผมยังมี
อะไรหลายๆ อย่างที่อยากถ่าย
“ไม่แน่อาจจะหาธีมใหม่ครับ”
เผยเชียนพยักหน้า “อืม ก็ลองดู ถ้าขาดเงินก็แค่บอก”
หลังจากคุยกันต่ออีกพักใหญ่ เผยเชียนก็นึกอะไรขึ้นได้
“เออ จริงด้วย เฉินเหล่ยเป็นยังไงบ้าง”
ถึงจะส่งเฉินเหล่ยไปเซี่ยงไฮ้แล้ว แต่เผยเชียนก็ยังแอบกังวลอยู่หน่อยๆ
เฉินเหล่ยเป็นคนมีความสามารถ เผยเชียนกลัวว่าอีกฝ่ายจะสร้างเรื่องอะไร
เข้าเลยถามขึ้น
“ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ พวกผมช่วยเรื่องที่พักกับอาหารให้เขาตามที่บอสบ
อกมา แต่ระหว่างที่พวกผมง่วนอยู่กับการถ่ายทำ เขาก็ตะลอนไปทั่วเซี่ยงไฮ้ พวก
ผมก็เลยไม่ได้เจอเขาเท่าไหร่
“ตอนแรกพวกผมกะจะให้เขาร้องเพลงปิดสารคดีให้ แต่เราไม่มีทุนเหลือ
แถมยังหาเพลงเหมาะๆ ไม่ได้ เลยไม่ได้ไปขอให้ร้องให้”
หวงซื่อปั๋วสาธยายยืดยาว
เผยเชียนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วครู่ ก่อนจะกลับมาเต้นอย่างปกติอีกครั้ง
ตกใจหมดเลย!
โชคดีที่หวงซื่อปั๋วไม่ได้จ้างเฉินเหล่ยมาร้องเพลงปิดให้ ถ้าเฉินเหล่ยได้มาร้อง
ให้จริงๆ ต้องเป็นปัญหาแน่!
ถึงสารคดีจะทำเงินไม่ได้ แต่ธีมกับความตั้งใจในการถ่ายทำก็น่าจะดึงดูดผู้ชม
ได้กลุ่มใหญ่!
ถ้าเป็นอย่างนั้นและเฉินเหล่ยดังว่อนไปทั่วอินเทอร์เน็ตจนมีแมวมองเข้ามาคุย
ก็จะเป็นประโยชน์กับเฟยหวงสตูดิโอ…
เรื่องราวคงไปกันใหญ่แน่!
โชคดีที่ไม่เป็นแบบนั้น
แน่นอนว่าไม่ใช่เผยเชียนไม่อยากให้เฉินเหล่ยได้ดี เขาแค่อยากให้เฉินเหล่ย
ทนรออีกสักหน่อย ไม่ต้องมาดังในแวดวงนี้ จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อตัวเขา
แกจะไปดังที่ไหนตอนไหนก็ได้ แต่อย่าพาฉันดังไปด้วยเลย!
“แล้วตอนนี้ล่ะ” เผยเชียนถามต่อ
หวงซื่อปั๋วคิดอยู่ครู่หนึ่ง “น่าจะยังหางานอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ครับ ถ้าบอสเผยอยากรู้
อะไรเพิ่มเติมเดี๋ยวผมโทรถามให้”
เผยเชียนยกมือห้าม “ไม่ต้องหรอก ผมแค่ถามเฉยๆ”
ขอแค่เฉินเหล่ยไม่สร้างเรื่องอะไรที่ส่งผลกระทบกับรอบปิดบัญชีนี้ ทุกอย่างก็
ไปได้สวย
จูเสี่ยวเช่อถอนหายใจด้วยความตื้นตัน
บอสเผยใส่ใจพนักงานทุกคนจริงๆ!
เขาพอจะได้ยินเรื่องเฉินเหล่ยมาบ้าง
เฉินเหล่ยเป็นนักร้องประจำที่ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เป็นตัวทำกำไรได้ดีเลย
ทีเดียว
ถ้าเป็นบอสคนอื่นคงจะรั้งเฉินเหล่ยไว้เหมือนแม่ไก่ที่ออกไข่ทองคำ ไม่เปิด
โอกาสให้หนีไปไหน
แต่บอสเผยกลับทำตรงกันข้าม บอสไม่ได้รั้งเฉินเหล่ยไว้กับร้านอินเทอร์เน็ต
โมหยูและห้ามไม่ให้เขาไล่ตามความฝัน แต่บอสกลับออกทุนส่งเขาไปเซี่ยงไฮ้
เพื่อที่จะได้มีโอกาสมากขึ้นในเวทีที่ใหญ่ขึ้น!
บอสเผยไม่ได้ประโยชน์อะไรกับเรื่องนี้เลย บอสแค่นึกถึงใจคนอื่น
ขนาดตอนนี้ บอสเผยก็ยังเป็นห่วงเฉินเหล่ยที่อยู่ไกลถึงเซี่ยงไฮ้จากใจจริง!
บอสเผยช่างมีเมตตากับทุกคนจริงๆ
บทที่ 174 ใกล้ปิดบัญชีแล้ว ไม่มีสัญญาณอันตรายใดๆ

วันที่ 21 มิถุนายน สารคดีเรื่องจากดักแด้สู่ผีเสื้อของเฟยหวงสตูดิโอเปิดให้ดู


อย่างเป็นทางการบนเว็บอ้ายลี่เต่า!
เนื่องจากเป็นสารคดี สารคดีเรื่องจากดักแด้สู่ผีเสื้อจึงไม่ได้ขึ้นโฆษณาหน้าเว็บ
รวมถึงไม่ได้ส่วนแบ่งรายได้จากทางเว็บไซต์ด้วย
ถ้าอิงตามแผนการแบ่งรายได้มาตรฐานของเว็บอ้ายลี่เต่า ถึงจะได้ยอดวิวทะลุ
หนึ่งล้านวิว แต่ก็ได้รายได้เข้ากระเป๋าแค่ไม่กี่พัน เป็นจำนวนเงินแสนเล็กน้อย
ดังนั้นหวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อจึงล้มเลิกความคิดนี้ไป แล้วหันไปทำสิ่งที่ตัวเอง
สนใจโดยไม่มุ่งหวังผลกำไรแทน
เนื่องจากเฟยหวงสตูดิโอเคยปล่อยซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยจึงมีฐาน
แฟนคลับเยอะ พอปล่อยสารคดีออกไปก็ได้รับความสนใจในวงกว้าง
ในคลิป หลี่เจิงเหว่ยกำลังมองกล้องและเล่าถึงเส้นทางชีวิตหลายปีที่ผ่านมา
อย่างเหนื่อยอ่อน
“พอพ่อออกจากบ้านไป ผมก็ถีบประตูหนีออกจากบ้าน จากนั้ นก็เดินทางไป
เซี่ยงไฮ้ตัวคนเดียวเพื่อเริ่มงานในสายอาชีพนี้อย่างจริงจัง
“พอมาคิดดูอีกที ผมก็ไม่เสียใจนะที่เลือกทำแบบนี้ ผมคิดว่าตัวเองเกิดมาเพื่อ
แข่งขันบนโลกออนไลน์ ถ้าใช้ชีวิตตามแบบแผน จบมาหางานทำ แต่งงาน มีลูก
ผมคงจะต้องเสียใจไปชั่วชีวิต
“ผมไม่ใช่พวกทายาทตระกูลร่ำรวยที่คาบช้อนทองมาเกิด ไม่ได้โชคดีแบบนั้น
ผมเกิดในครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน แต่ถ้ามองอีกมุม ผมก็ไม่ได้โชคร้ายขนาด
นั้น เพราะผมเลือกทำสิ่งที่ตัวเองชอบและสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองจากสิ่งนั้นได้
“แต่ผมก็ไม่แนะนำให้เด็กๆ เดินตามรอยเท้าผมนะ
“หลังจากเริ่มต้นในสายงานนี้และไต่เต้าจนประสบความสำเร็จ มีหลายคน
ถามคำถามนี้กับผม
“คำตอบของผมยังคงเหมือนเดิม…
“ถ้าคุณตัดสินใจไปแล้วก็ไม่น่าจะมาถามผม แต่คุณจะถีบประตูออกไปใช้ชีวิต
แบบผม คุณจะเชื่อมั่นอย่างไม่นึกคลางแคลงใจว่านี่แหละคือฝันที่อยากทำ คุณจะ
สู้จนถึงที่สุด
“ถ้าอยากขอคำแนะนำจากผมก่อนตัดสินใจ ผมก็แนะนำให้คุณมั่นใจก่อนว่า
คุณไม่ได้กำลังกลัวการเรียนหนังสือเลยหนีออกมาเดินตามเส้นทางนี้แทน คุณ
เข้าใจจริงๆ รึเปล่าว่าการเลือกเป็นนักเล่นเกมมืออาชีพต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง”

ครู่เดียวคอมเมนต์จากคนดูก็หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย
“เมนต์แรก!”
“ว่าจะถามเลยว่าทำไมเฟยหวงสตูดิโอไม่ทำซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผย
ต่อ หันมาทำสารคดีนี่เอง!”
“สารคดีนี้ดูดีมีระดับมาก เหมือนของโปรดักชันใหญ่ๆ ทำเลย!”
“ทำเรื่องนักเล่นเกมมืออาชีพที่ฉันชอบที่สุดด้วย แบบนี้ต้องสนับสนุนแล้ว!”
“ไม่คิดเลยว่าอาชีพสายเกมเมอร์จะยากลำบากขนาดนี้ ต้องถีบประตูหนีออก
จากบ้านมาเป็นนักเล่นเกมมืออาชีพ โชคดีที่เขาสร้างชื่อให้ตัวเองจนครอบครัว
ยอมรับ”
“คำพูดของพี่หลี่จริงใจสุดๆ”
“สารคดีเรื่องนี้มีความหมายมาก ผมมีน้องไม่เอาถ่านคนหนึ่ง เกรดก็ไม่ดี โดด
เรียนมาเล่นเกมทุกวัน เอาแต่พูดว่าจะเป็ นนักเล่นเกมมืออาชีพ ผมว่าพี่หลี่พูดได้
ตรงมาก น้ อ งชายผมไม่ ไ ด้ จ ริ ง จั ง เรื ่ อ งเล่ น เกม ไม่ ไ ด้ ค ิ ด เลยว่ า ตั ว เองมี
ความสามารถด้านนี้หรือเปล่า แค่อยากหนีจากเรื่องการเรียนเฉยๆ”
“ใช่ สารคดีเรื่องนี้ไม่ได้พยายามสนับสนุนให้คนกัดฟันสู้ มีใจรักในเรื่องอี
สปอร์ต เนื้อหานี้มีคนทำบ่อยแล้วและปลูกฝังความเชื่อผิดๆ ให้เด็ก สิ่งที่ทำให้สาร
คดีเรื่องนี้เป็นสารคดีที่ดีมากๆ คือการนำเสนอให้เห็นถึงความยากลำบากของ
นักเล่นเกมมืออาชีพ สารคดีเรื่อ งนี้ต้อ งการจะบอกว่ามีหลายคนอยากเข้ าสู่
เส้นทางนี้แต่ก็ไปไม่รอด เป็นสารคดีที่มีเป้าหมายดีจริงๆ”
“ไม่คิดเลยว่าเฟยหวงสตูดิโอจะสร้างสารคดีที่บอกเล่าความเป็นจริงและมี
เนื้อหาดีขนาดนี้ขึ้นมาได้ ฉันสนับสนุนสุดๆ!”
คอมเมนต์จากชาวเน็ตเป็นไปในทางบวก!
สารคดีจากดักแด้สู่ผีเสื้อกลายเป็นประเด็นร้อนในแวดวงเกม นอกจากนี้ยังได้
ขึ้นโฆษณาหน้าแรกของเว็บอ้ายลี่เต่าและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ!


วันที่ 23 มิถุนายน
เผยเชียนนั่งอยู่ในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เขากดปิดสารคดีที่ฉายอยู่บนหน้าจอ
มือถือขณะจิบกาแฟ ในที่สุดชายหนุ่มก็โล่งใจได้สักที
“เฮ้อ…ราบรื่นกับเขาบ้างสักที
“สารคดีทำเงินไม่ได้จริงๆ ด้วย!”
สารคดีเรื่องจากดักแด้สู่ผีเสื้อลงเว็บไปได้สามวันแล้ว ในสามวันที่ผ่านมา เผย
เชียนพะว้าพะวังอยู่ตลอด
เขากลัวว่าจู่ๆ หวงซื่อปั๋วจะโทรมาบอกว่า “บอสเผยครับ สารคดีของเราทำ
เงินได้แล้ว!”
โชคดีที่ไม่เกิดเรื่องแบบนั้น
เผยเชียนเช็กดูให้มั่นใจอยู่หลายรอบ ถึงสารคดีเรื่องจากดักแด้สู่ผีเสื้อจะมี
ยอดวิวมากกว่าสองล้านวิวภายในเวลาแค่สามวัน และติดสามอันดับแรกของคลิป
ยอดนิยมประจำเว็บไซต์ แต่ก็ทำเงินได้ไม่มาก
ตามแผนส่วนแบ่งรายได้ของเว็บอ้ายลี่เต่า คลิปนี้น่าจะทำเงินให้ได้ไม่กี่พัน
หยวน น้อยเสียยิ่งกว่าน้อย
เป็นไปตามการคาดการณ์ของเผยเชียน
“ไม่เลวเลย ประสบการณ์ที่ผ่านมาช่วยไว้ได้จริงๆ
“แสดงว่าการเลือกถ่ายสารคดีแบบนี้ทำเงินให้ไม่ได้แน่นอน ถือเป็นตัวเลือกที่
ดี
“น่าจะลงทุนกับเฟยหวงสตูดิโอต่อได้”
เผยเชียนพบว่านอกจากร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เขาก็เจอแหล่งผลาญเงินใหม่
เข้าให้แล้ว
นั่นคือการทำคลิปเนื้อหาดีๆ แต่ทำกำไรให้ไม่ได้!
หลังจากล้มเหลวมาแล้วหลายครั้ง เผยเชียนก็ได้รู้ว่าการทำให้บริษัทขาดทุน
ไม่ได้ง่ายเหมือนที่เขาคิด
ระบบตั้งข้อห้ามมากมายเพื่อไม่ให้เผยเชียนหาช่องโหว่ผลาญเงินได้ เช่น
ระบบห้ามไม่ให้ผลิตสินค้าคุณภาพไม่สมบูรณ์ เกมที่ปล่อยออกมาต้องมีช่องทาง
ทำเงินและอื่นๆ
พูดง่ายๆ คือ สินค้าที่เผยเชียนปล่อยออกมาจะต้องมีคุณภาพ เขาจะปล่อย
ของห่วยๆ ออกมาแบบตั้งใจไม่ได้
แต่เผยเชียนก็ตระหนักได้อีกว่าระบบไม่ได้จำกัดว่าสินค้าที่มีคุณภาพจะต้อง
ทำเงินได้อย่างเดียว แต่นับรวมถึงสินค้าที่สร้างชื่อเสียงให้ด้วย
อย่างสารคดีเรื่องจากดักแด้สู่ผีเสื้อ ถึงโอกาสทำเงินจะต่ำมาก แต่ระบบก็
ไม่ได้ห้ามปรามอะไร
แถมตอนที่เผยเชียนเริ่มเปิดร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู ถึงจะมีโอกาสขาดทุนสูง
แต่ระบบก็ไม่ได้ห้ามเหมือนกัน
หมายความว่าชื่อ เสี ยงถือ เป็น เกณฑ์ ที่ส ำคัญ มากของระบบ ขอแค่สร้ า ง
ชื่อเสียงให้บริษัทได้ ระบบก็ถือว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ไม่ได้มองว่าเผยเชียน
ตั้งใจทำให้ตัวเองขาดทุน
ก่อนหน้านี้เผยเชียนพอจะจับไอเดียนี้ได้คร่าวๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก
เพราะการทำกำไรจากเกมกับคลิปนั้นแตกต่างกัน
สำหรับเกมแล้ว ยิ่งกระแสดีเท่าไหร่ก็ยิ่งขายดีเท่านั้น ยิ่งระบบกำหนดว่าตัว
เกมต้องมีช่องทางการทำเงินด้วยแล้ว โอกาสที่เกมกระแสดีจะขาดทุนจึงมีต่ำมาก
ถึงจะมีเกมที่คุณภาพดีมากแต่ทำกำไรได้น้อยอยู่บ้าง แต่ถ้าเทียบกับการทำ
คลิปแล้วถือว่าจำนวนแตกต่างกันมาก
การทำคลิปนั้นไม่เหมือนกัน ถึงจะมีกระแสและยอดวิวสูงก็ไม่ได้หมายความ
ว่าจะได้กำไรเยอะ ดูอย่างสารคดีรอบนี้
“เพราะงั้นแค่ปล่อยให้เฟยหวงสตูดิโอถ่ายอะไรแบบนี้เพิ่มอีก ฉันก็จะขาดทุน
ได้อย่างต่อเนื่อง!”
เผยเชียนค้นพบแนวทางใหม่ของเฟยหวงสตูดิโอ
ถ้าเจอหวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อรอบหน้า เขาต้องหาทางล่อให้พวกนั้นทำสาร
คดีต่อ ไม่หันไปจับอย่างอื่น ถ้าทำได้ก็จะมีแหล่งผลาญเงินที่มั่นคง แบบนั้นก็ยอด
เยี่ยมไปเลยไม่ใช่หรือไง!
แต่พวกหวงซื่อปั๋วไม่น่าจะถ่ายเรื่องอีสปอร์ตอีก พวกเขาน่าจะไปคุยกันว่า
ต่อไปจะทำเรื่องอะไรดี
หนึ่งสัปดาห์ก่อนวันปิดบัญชี ห้ามมีสินค้าที่ยังไม่วางจำหน่าย
พูดอีกอย่างคือ ตอนนี้เผยเชียนทำอะไรไม่ได้มาก เขาทำได้แค่หาทางผลาญ
เงินด้วยการจับจ่ายซื้อของ หรือไม่ก็เพิ่มสวัสดิการให้พนักงาน จากนั้นก็เฝ้า
ภาวนาว่าจะสถานการณ์จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่เปลี่ยนแปลง
เผยเชียนเช็กเงินทุนระบบ ตอนนี้ยังขาดทุนอยู่
“ทุกอย่างที่ทำได้ก็ทำไปเกือ บหมดแล้ว ปัญ หาตอนนี้คือจะรักษาสภาพ
ขาดทุนแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ได้ยังไง”
บทที่ 175 ใครมันสร้างปัญหาให้ฉัน!

เผยเชียนวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน
กระแสตอบรับ DLC ค่อนข้างดี ถึงเกมฐานทัพกลางทะเลจะโดนด่านิดหน่ อย
แต่ก็มีการปล่อยแพตช์ใหม่ไปอย่างรวดเร็วในช่วงวันสองวันที่ผ่านมา เพื่อสร้าง
ระบบให้คะแนนแอ็กเคานต์สำหรับใช้ซื้ออาวุธในตำนานล่วงหน้า
อาวุธในตำนานเปิดขายแค่ห้าร้อยชิ้นต่อเดือน ส่วนผู้เล่นจะถูกแบ่งเป็นสาม
ระดับคะแนน
การให้คะแนนจะนำเกณฑ์หลายๆ อย่างมาพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเวลา
ที่ใช้เล่นเกม ความประพฤติในเกม และเกณฑ์อื่นๆ เพื่อประเมินคะแนนและแบ่งผู้
เล่นออกเป็นสามระดับ
อาวุธในตำนานจะแบ่งขายสามล็อต
ผู้เล่นที่อยู่ในระดับสามจะมีสิทธิ์จองหนึ่งร้อยกระบอกแรกก่อน ผู้เล่นระดับ
สองจะได้จองล็อตที่สองอีกหนึ่งร้อยกระบอก ส่วนผู้ เล่นระดับหนึ่งจะได้จองสาม
ร้อยกระบอกที่เหลือ
ผู้เล่นที่อยู่ในระดับเดียวกันจะมีโอกาสในการจับจองอาวุธในตำนานแตกต่าง
กันเล็กน้อย คะแนนแค่นิดเดียวก็ช่วยเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของอาวุธใน
ตำนานได้มากขึ้น
สัดส่วนผู้เล่นในแต่ละระดับคือ 1:2:10 คะแนนยิ่งเยอะก็ยิ่งมีโ อกาสเป็น
เจ้าของอาวุธในตำนานสูง
ส่วนผู้เล่นใหม่ที่มีคะแนนน้อยก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสได้เป็น
เจ้าของอาวุธในตำนานเลย เพียงแค่โอกาสจะน้อยกว่าคนอื่นๆ
นอกจากนั้นแล้ว ตัวเกมยังมีคะแนนระดับ 0 ไว้สำหรับแอ็กเคานต์พ่อค้า
แม่ค้า เนื่องจากคนกลุ่มนี้ไม่ได้เข้ามาเล่นเกมจึงไม่มีสิทธิ์ซื้ออาวุธในตำนาน
หลังจากอัปเดตระบบให้คะแนน เหล่าพ่อค้าแม่ค้าก็มีผลกระทบต่อตัวเกม
น้อยลง
ถึงจะหยุดผู้เล่นไม่ให้ขายแอ็กเคานต์ไม่ได้ เพราะมีผู้เล่นหลายคนออกมา
ปล่อยขายแอ็กเคานต์คะแนนระดับสองระดับสามในราคาสูงลิ่ ว แต่ก็หยุดพ่อค้า
แม่ค้ามือไวไม่ให้หาผลประโยชน์จากตัวเกมได้
มูลค่าแอ็กเคานต์ในแพลตฟอร์มซื้อขายน่าจะเหวี่ยงไปมา แต่สักพักก็จะ
ค่อยๆ อยู่ตัว
กระแสตอบรับจากผู้เล่นเป็นไปในเชิงบวก ถึงหลายคนจะยังไม่พอใจกับการ
จำกัดจำนวนการขายอยู่ แต่ความไม่พอใจนั้นก็ค่อยๆ เลือนหายไป
เพราะถึงจะไม่ได้เพิ่มจำนวนหรือยกเลิกการจำกัดจำนวนขาย แต่ระบบให้
คะแนนที่เพิ่มเข้ามาใหม่ก็ทำให้มีความยุติธรรมมากขึ้น
ทางฝั่งฉางหยางเกมส์ก็ยังขาดทุนอย่างต่อเนื่อง
พวกเยว่จือโจวทำตามที่เผยเชียนสั่งเสร็จเรียบร้อย ถึงเกมจะกลับมามีกระแส
อีกครั้ง แต่พอไม่มีพวกวาฬช่วยอัดฉีดเงิน รายได้ของเกมก็ร่วงกราว เป็นไปไม่ได้
เลยที่จะทำกำไรได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมียอดขายเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นหลังเพิ่มนโยบายให้ส่วน
แบ่งกำไรกับนักร้อง แต่รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาก็ยังไม่เพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่าย
ทั้งหมด ทั้งห้าสาขายังขาดทุนอย่างต่อเนื่อง
เฟยหวงสตูดิโอใช้เงินทุนตั้งต้นและกำไรที่ได้มาไปจนหมด พวกเขาทุ่มเงินทำ
สารคดีจนเงินติดลบ เถิงต๋าต้องเข้าไปช่วยกลบหนี้ให้
กิจการโมหยูเดลิเวอรี่ย่ำแย่มาก เหมือนมีไว้เพื่อส่งอาหารให้พนักงานเถิงต๋า
เท่านั้น พอมีออเดอร์เข้ามาน้อย เชฟกับพนักงานส่งอาหารก็ได้แต่นั่งเตะฝุ่นไป
วันๆ ธุรกิจนี้ก็ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง
ยอดขาดทุนจากโปรเจ็กต์เหล่านี้ช่วยหักลบกับยอดกำไรจากเกมของเถิงต๋าได้
อย่างง่ายดาย
ถึงรอบบัญชีนี้จะมีระยะเวลาแค่สองเดือน แต่ก็ถือเป็นช่วงเวลาสุดหวาดเสียว
สำหรับเผยเชียน
ตอนแรกเฉินเหล่ยโผล่มา เกือบจะทำให้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูพลิกกลับมาทำ
กำไร โชคดีที่เผยเชียนไปเจอเข้าก่อนเลยกอบกู้สถานการณ์ได้ทัน
ต่อมาหลินหวานช่วยลดค่าเช่าให้เถิงต๋าไปได้มากโข เผยเชียนถึงกับเจ็บหนัก
โชคดีที่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่พอจะรับไหว
เขาหาตัวคนร้ายเจอแล้ว จึงช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาร้ายแรงขึ้นในอนาคต
ได้
เผยเชียนหยิบสมุดเล่มเล็กออกมาขีดเขียนคิดคำนวณอย่างจริงจัง
ถึงเงินทุนระบบจะยังอยู่ในสภาพขาดทุน แต่วันที่ 28 วันจันทร์สุดท้ายของ
เดือนก่อนถึงรอบปิดบัญชีจะมีรายได้อีกก้อนจากเกมของเถิงต๋าโอนเข้าบัญชี
เผยเชียนคำนวณไม่ได้แน่ชัดว่าเงินจะเข้ามาเท่าไหร่ เพราะไม่มีใครรู้ว่า
สัปดาห์ที่จะถึงนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นอีก
เขาทำได้แค่คำนวณตัวเลขคร่าวๆ จากข้อมูลสถิติบนแพลตฟอร์มเกม และ
พยายามหาทางเพิ่มค่าใช้จ่ายเพื่อที่จะทำให้บริษัทขาดทุนให้ได้มากที่สุด
ถึงสถานการณ์ปัจจุบันจะดูไม่ค่อยดีนัก แต่ใช่ว่าจะไม่มีหวังเลย

ที่มุมหนึ่งของร้านอินเทอร์เน็ต
หลี่สือนั่งจิบกาแฟไปพร้อมเฝ้าดูเผยเชียน
“ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเป็นของบริษัทเถิงต๋า บอสยังเด็กอยู่เลย
“คิดไม่ถึงเลยจริงๆ”
หลี่สือแวะมาที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูบ่อยๆ ในฐานะลูกค้าประจำ เขาเห็น
เผยเชียนแวะเวียนมาบ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จริงๆ แล้วคือบอสของร้าน
อินเทอร์เน็ตแห่งนี้
หลังจากขุดคุ้ยข้อมูลอยู่สองสามวัน หลี่สือก็พบว่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมี
ความเชื่อมโยงกับบริษัทเถิงต๋า นอกจากนี้ยังรู้ตัวตนของบอสใหญ่สุดลึกลับของ
เถิงต๋าได้จากท่าทีของหม่าหยางและจางหยวนเวลาพูดคุยกับเผยเชียน
หลี่สือกังวลอยู่หน่อยๆ ว่าเผยเชียนจะเป็นทายาทตระกูลร่ำรวยหรือมีภูมิหลัง
ที่ไม่ธรรมดาหรือเปล่า แต่พอตรวจสอบดูก็ไม่พบอะไร
จากข้อมูลที่ได้มา หลี่สือเดาว่าเผยเชียนน่าจะร่ำรวยจากการทำเกม พอไม่รู้
จะเอาเงินมาลงตรงไหนก็เลยเอามาทุ่มเปิดร้านอินเทอร์เน็ต
หลี่สือมั่นใจยิ่งขึ้น
พวกเด็กๆ มักจะมองข้ามอะไรไปง่ายๆ
บอสเผยอาจจะเป็นมืออาชีพด้านการสร้างเกม เก่งกาจในแวดวงนี้ แต่เขาไม่
น่าจะเก่งเรื่องการบริหารธุรกิจหน้าร้าน
แถมตอนนี้บอสเผยยังขีดๆ เขียนๆ อะไรลงสมุดอยู่ก็ไม่รู้ ดูไม่มืออาชีพเลย
ทำอะไรอยู่นะ
น่าจะกำลังคำนวณยอดขาดทุนของร้านอินเทอร์เน็ตอยู่
ดูจากสีหน้าที่เคร่งเครียดแล้ว เขาน่าจะไม่พอใจกับการที่ร้านอินเทอร์เน็ต
ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง แถมยังดูเหมือนจะคิดหาไอเดียดีๆ ไม่ออกด้วย
หรือเขาควรจะเข้าไปเจรจาธุรกิจกับบอสเผยดี
หลี่สือยกกาแฟขึ้นจิบพร้อมคิดเปลี่ยนแผนการเล็กน้อย
เขาอยากลงทุนกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมานานแล้ว แต่กลัวว่าบอสใหญ่ที่คุม
กิจการนี้อยู่จะปฏิเสธ เลยตัดสินใจรอให้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูขาดทุนให้มากกว่า
นีก้ ่อนค่อยเข้าไปยื่นข้อเสนอ
ตอนแรกหลี ่ ส ื อ ตั ้ ง ใจจะรออี ก สั ก สองสั ป ดาห์ ถ ึ ง หนึ ่ ง เดื อ น แต่ ด ู จ าก
สถานการณ์ปัจจุบันแล้ว เขาไม่น่าจะต้องรอนานขนาดนั้น
ไหนๆ บอสใหญ่ก็กำลังประสบปัญหาอยู่ ถือเป็นโอกาสเหมาะที่จะเข้าไปลอง
เชิงดู
รอต่อไปอาจจะเสียโอกาสทองนี้ไปได้
ถ้าจู่ๆ บอสใหญ่เกิดขายกิจการให้คนอื่นขึ้นมาก็ขาดทุนกันพอดี
คิดได้อย่างนั้น หลี่สือก็จัดปกคอเสื้อก่อนจะลุกออกไปโทรศัพท์
เนื่องจากเขาเป็นเจ้าของบริษัทด้านการลงทุน หลี่สือจึงเข้าหาเผยเชียนตรงๆ
ไม่ได้ เพราะจะดูเร่งรีบและขาดความเป็นมืออาชีพ
เขาตั้งใจจะสั่งให้ลูกน้องติดต่อไปหาร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก่อนว่าอยากเจรจา
ลงทุนด้วย จากนั้นค่อยหาโอกาสเหมาะๆ เข้าไปคุย ทำแบบนี้จะเหมาะสมและถูก
หลักการมากกว่า
จริงๆ แล้วโปรเจ็กต์ลงทุนส่วนใหญ่จะเข้ามาหาหลี่สือเอง
นายทุนจากหลากหลายบริษัทมักจะขนเอกสารข้อมูลตั้งใหญ่เข้ามาขอพบห
ลี่สือเพื่อขอให้เข้าร่วมลงทุนด้วย แต่ส่วนใหญ่หลี่สือก็แค่อ่านคร่าวๆ แล้วปัดตักไป
เก็บไว้แค่ไม่กี่โปรเจ็กต์ที่สนใจจริงๆ
ธุรกิจแบบร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูถือเป็นข้อยกเว้น
หลี่สือจุดบุหรี่สูบเงียบๆ ด้านนอกร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูขณะรอฟังข่าวดีจาก
ลูกน้อง

เผยเชียนมองลายมือหวัดๆ ของตัวเองที่เขียนคำนวณดูคร่าวๆ ดูเหมือนว่าเขา
น่าจะทำให้บริษัทขาดทุนได้สองถึงสามแสนหยวน
จะเป็นตามนี้ได้ต้องไม่มีใครสร้างเรื่องในวินาทีสุดท้าย
ถ้ามีรายได้ไม่คาดฝันเข้าบัญชีมา สถานการณ์คงจะเลวร้ายมากๆ
หลังจากคำนวณดู เผยเชียนก็พ อจะหายใจได้ทั่ว ท้อ ง ที่ยุ่งมือ เป็น ระวิ ง
ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ได้เปล่าประโยชน์ เขาเห็นชัยชนะอยู่ไม่ไกล!
ระหว่างที่กำลังผ่อนคลายจิตใจ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เผยเชียนหยิบขึ้นมาดู พบว่าเลขาซินเป็นคนโทรมา
“บอสเผยคะ บริษัทลงทุนฟู่หุยติดต่อมา บอกว่าอยากจะร่วมลงทุน…”
เผยเชียน “ปฏิเสธไป”
เลขาซิน “ทางนู้นไม่ได้จะลงทุนกับบริษัทเถิงต๋า แต่อยากร่วมลงทุนร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูค่ะ บริษัทลงทุนฟู่หุยถือว่าเป็นบริษัทเงินทุนที่ดี…”
เผยเชียน “ปฏิเสธไป”
เลขาซิน “ได้ค่ะ”
เผยเชียนวางสายทันที
จะร่วมลงทุนร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเหรอ
บ้ารึเปล่า ฉันมีธุรกิจที่ขาดทุนได้เรื่ อยๆ อยู่แค่อย่างเดียว ถ้าแกเข้ามาลงทุน
ด้วยก็เท่ากับมาป่วนกันน่ะสิ
จริงๆ เลย ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ ใครมันคิดจะสร้างปัญหาให้ฉันกัน!

หลี่สื่อสูบบุหรี่อยู่ตรงประตูร้านอินเทอร์เน็ต เขารอลูกน้องติดต่อกลับมาด้วย
ความผ่อนคลายสบายใจ
ตามปกติอีกฝ่ายจะต้องตอบตกลงอย่างยินดี พอจัดแจงเวลาเจรจาพูดคุยกัน
ได้ หลี่สือก็จะใช้ประสบการณ์การลงทุนที่สั่งสมมาเป็นเวลานานโน้มน้าวอีกฝ่าย
ให้รับเงินทุนจากเขาเพิ่ม…
บุหรี่ยังไม่ทันหมดมวน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“บอสหลี่คะ อีกฝ่ายตอบปฏิเสธค่ะ”
หลี่สือไปไม่ถูก จู่ๆ ก็พูดอะไรไม่ออก
ไม่คิดจะให้โอกาสฉันได้เข้าไปเจรจาเลยเหรอ
ทำไมหักดิบกันแบบนี้
สูบบุหรี่ยังไม่หมดมวนเลย!
ไม่ใช่แล้ว ปกติมันไม่ควรจะเป็นแบบนี้สิ!
บทที่ 176 เกือบหลุดขำ

หลี่สือสูบบุหรี่เงียบๆ จนหมดมวนอยู่หน้าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
พอได้ยินที่ลูกน้องรายงาน หลี่สือก็เริ่มตั้งคำถามกับการตัดสินใจของตัวเอง
ถึงบริษัทลงทุนฟู่หุยจะไม่ใช่บริษัทลงทุนชั้นแนวหน้าของประเทศ แต่ในเมือง
แบบจิงโจว อย่างน้อยทุกคนก็น่าจะต้องคุ้นชื่อสิ
นี่เขาอุตส่าห์ติดต่อไปหาก่อน แต่บอสเผยกลับไม่สนใจไยดี แถมยังปฏิเสธ
อย่างรวดเร็วอีก
ไม่เห็นจะสมเหตุสมผลเลย
เพราะยังไงในแวดวงนี้ การลงทุนแบบนี้ก็ถือเป็นเรื่องปกติ
ถ้ามีนายทุนติดต่อเข้ามา บริษัทที่เป็นเป้าหมายส่วนใหญ่มักจะลองเจรจา
ดูก่อนว่าข้อตกลงเป็นยังไง
ถ้าไม่พอใจก็ปฏิเสธไป อย่างมากทั้งสองฝ่ายก็แค่แยกทางกันไป อาจจะมี
โอกาสได้ร่วมงานกันใหม่ในอนาคต ไม่มีฝั่งไหนเสียประโยชน์จากการเจรจาดูก่อน
การตอบปฏิเสธทันควันแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่แปลกมาก
หลี่สือเป็นนักลงทุนมากประสบการณ์ เรื่องแค่นี้ไม่ทำให้ถอดใจหรอก เขาปัด
กลิ่นบุหรี่ออกจากตัว ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
หลี่สือเห็นว่าเผยเชียนเลือกขีดเขียนลงสมุดแล้ว แต่ยังดูเคร่งเครียดเหมือนว่า
กำลังคิดอะไรอยู่
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเชื่อใจลูกน้องของตัวเอง หลี่สืออาจจะนึกสงสัยว่าบอสเผย
ได้รับการติดต่อยื่นข้อเสนอจริงๆ หรือเปล่า
“แปลกมาก เขาไม่สนใจข้อเสนอของฉันเลย
“หรือว่าฉันจะตัดสินใจพลาดไป
“ถึงบอสเผยจะกำลังตกที่นั่งลำบากจากการที่ร้านขาดทุนอย่างต่อเนื่อง เขาก็
ยังหัวรั้นคิดว่าจะพลิกกลับมาทำกำไรได้อย่างนั้นเหรอ
“ทั้งๆ ที่ฉันให้เงินทุนก้อนโตพร้อมโอกาสในการร่วมทำงานร่วมกันได้แท้ๆ
หรือบอสเผยจะคิดว่าการมีอำนาจควบคุมทุกอย่างเองทั้งหมดเป็นเรื่องที่สำคัญ
กว่า
“ไม่ว่าจะยังไง เขาก็ดูเป็นคนที่ชอบควบคุมจัดการทุกอย่างเองทั้งหมด ไม่
ชอบให้ใครเข้ามาก้าวก่าย
“เด็กหนอเด็ก หวังจะทำกำไรด้ว ยตัวเอง ผู้ประกอบการไม่ควรจะมีทัศนคติ
แบบนี”้
ไม่ว่าจะพิจารณาดูจากด้านไหน หลี่สือก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมบอสเผยถึง
ปฏิเสธข้อเสนอของเขาอย่างไม่ไยดีแบบนี้
ประเด็นคือบอสเผยปฏิเสธทันควัน ไม่ยอมฟังรายละเอียดอะไรเลย
หลี่สือคิดได้แค่ว่าบอสเผยเป็นคนหุนหันพลันแล่นและหัวรั้นมาก เขาชอบ
ควบคุมทุกอย่างเองทั้งหมด ไม่ยอมให้ใครมาก้าวก่าย
แต่ในอีกมุมหนึ่งก็มองได้ว่าบอสเผยยังคงเชื่อมั่นว่าร้านของเขากำลังเดินไป
ในทางที่ถูกต้อง คิดว่าในอนาคตต้องทำเงินได้แน่ จึงไม่อยากแบ่งกำไรกับคนอื่น
หลี่สือสามารถเดินไปคุยกับเผยเชียนตรงๆ ได้ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ทำ
เขาเป็นถึงเจ้าของบริษัทลงทุน จะให้ทำแบบนั้นได้ยังไง
ถ้าเดินเข้าไปยื่นนามบัตรขอเจรจา แล้วบอสเผยปฏิเสธกลับมาอีกก็น่าขาย
หน้าแย่
อีกอย่าง ถ้าดูจากสิ่งที่เกิดขึ้น ก็มีโอกาสสูงที่อีกฝ่ายจะตอบปฏิเสธกลับมาอีก
“เฮ้อ เจ้าเด็กนี่ ไม่มีใครปฏิเสธข้อเสนอลงทุนจากฉันได้ แกเองก็เหมือนกัน
“ถึงจะยื่นข้อเสนอเหมือนกัน ก็มีบางบริษัทปฏิเสธ บางบริษัทตอบตกลงอย่าง
ดีใจ ส่วนบางบริษัทก็ต้องช่วยเข็นเพิ่มสักหน่อย…”
หลี่สือเฝ้าดูเผยเชียนอยู่เงียบๆ รอยยิ้มแห่งความมั่นใจปรากฏขึ้นบนใบหน้า


วันที่ 24 มิถุนายน
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลัก
แท็กซี่จอดส่งตรงประตูร้าน หม่าหยางลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในร้าน
“บอสหม่า สอบเสร็จแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้าง” จางหยวนเห็นหม่าหยางก็ถาม
ไถ่อย่างอบอุ่น
หม่าหยางเดินไปนั่งเหยียดแขนเหยียดขา ใบหน้าใหญ่ยาวดูมโหฬารกว่าเดิม
ตอนที่เขาหาว “ไม่ใช่วิชาสำคัญอะไร น่าจะผ่านแหละครับ
“นี่ผมเอางานให้พี่เชียนลอกด้วย อย่างน้อยก็ได้สิบคะแนน ผมว่าเดือนสอง
เดือนนี้ พี่เขาไม่น่าจะสนใจเรื่องยอดขาดทุนของร้านอินเทอร์เน็ตกับโมหยูเดลิเวอ
รี่หรอก”
จางหยวนรู้สึกประทับใจ
นี่แหละที่เรียกว่า ‘อะไรๆ ก็ง่ายถ้าเป็นคนใกล้ชิด’
ก่อนหน้านี้ จางหยวนไม่เข้าใจว่าทำไมคนอย่างหม่าหยางถึงได้รับตำแหน่ง
สำคัญอย่างตำแหน่งผู้จัดการกลางของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู แต่ตอนนี้เขาเข้าใจ
แล้ว
ทั้งยังคิดว่าเป็นเรื่องปกติและเหมาะสมดี
คนอื่นอาจจะมองว่าหม่าหยางได้ตำแหน่งสำคัญมาเพราะมี เส้นสาย แต่
สำหรับจางหยวนแล้ว เขารู้สึกสบายใจที่ได้ทำงานกับบอสแบบหม่าหยาง
อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องห่วงว่าจะโดนบอสเผยดุด่าหรือตั้งคำถามอะไร!
พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งเดินมาเสิร์ฟเครื่องดื่มเย็น หม่าหยางยกดื่มพร้อมถอน
หายใจ “ว่าแล้วก็ตั้งใจทำงานกันเถอะ
“เราหวังกันไว้ ว่าธุรกิจเดลิเวอรี่จะช่วยพลิกให้เราทำกำไรได้ แต่มันกลับ
ขาดทุนไปด้วยซะงั้น…”
จางหยวนได้ยินที่หม่าหยางพูดแล้วก็รู้สึกเป็นกังวล “ใช่ สองวันก่อนบอสเผย
หยิบสมุดขึ้นมาเขียน ดูเครียดมาก ไม่รู้ว่าเขียนอะไรอยู่”
หม่าหยางยังทำใจไม่ได้ตั้งแต่เฉินเหล่ยโดนส่งตัวไปที่อื่น
เผยเชียนอยากหาอะไรให้หม่าหยางทำแก้ขัด จึงมอบหมายให้เขารับผิดชอบ
งานสำคัญอย่างโมหยูเดลิเวอรี่
ตอนแรกหม่าหยางไฟแรงมาก เขาจ้างพนักงานส่งอาหาร ซื้อจานชาม หาคน
มาทำแอปพลิเคชันให้ สุดท้ายก็มาพบว่าไม่ค่อยมีคนใช้บริการเลย
เขาจ้างพนักงานมานั่งเล่นอีกหนึ่งชุด เพิ่มรายจ่ายเข้าไปอีกหนึ่งก้อน
จริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าโมหยูเดลิเวอรี่จะไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเลย ลูกค้าบางกลุ่ม
ชอบบริการนี้มาก แต่การจะหาเงินมากลบทุนตั้งต้นได้ก็เป็นเรื่องที่ยากไม่น้อย
ปัญหามีอยู่หลายอย่าง
บอสเผยไม่ชอบวิธีการโฆษณาอย่างการแจกใบปลิว ทำให้มีคนรู้จักโมหยูเดลิ
เวอรี่แค่หยิบมือ
แอปโมหยูเดลิเวอรี่ให้สั่งอาหารจากร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเท่านั้น ไม่ได้
ร่วมมือกับร้านอาหารอื่นๆ จึงไม่สามารถดึงดูดลูกค้าทั่วไปได้
เมนูทั้งหมดเป็นอาหารบ้านๆ หากินได้ทั่วไป แต่ดันราคาแพงกว่าปกติ
สรุปคือพอขาดการโฆษณาและตัวธุรกิจไม่ตอบโจทย์ลูกค้าทั่วไป โมหยูเดลิ
เวอรี่จึงไม่ได้ให้บริการเต็มประสิทธิภาพ พนักงานหลายคนก็ไม่มีอะไรให้ทำ
ปกติแล้วพนักงานส่งของหนึ่งคนสามารถส่งอาหารได้หลายที่ในคราวเดียว
ส่วนพนักงานเก็บจานก็สามารถไปตามเก็บจานจากหลายๆ ที่ได้เหมือนกัน แต่พอ
ไม่ค่อยมีลูกค้า พนักงานส่งของกับพนักงานเก็บจานก็ทำได้แค่ส่งของและเก็บจาน
แค่บ้านเดียวในแต่ละรอบ
ถึงจานชามที่ใช้จะเป็นของดี แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีของชำรุดหรือหาย เผย
เชียนสั่งไว้ว่าถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็ไม่ต้องไปไล่เอาผิดกับลูกค้า ยกเว้นจะเกิ ด
กรณีซ้ำเดิมบ่อยๆ
พวกเขายังไม่เจอลูกค้าแบบที่ว่า แต่หม่าหยางก็อดปวดใจไม่ได้ที่เห็นจานชาม
พังเสียหายกลับมาเป็นครั้งคราว
ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่มีทางทำเงินได้แน่
ทั้งสองนั่งเศร้าใจกันเงียบๆ
หม่าหยางดื่มเครื่อ งดื่มจนหมดแล้วหันมองไปรอบร้าน ก่อนจะขมวดคิ้ว
“แปลกจัง ทำไมผมรู้สึกว่าวันนี้มีลูกค้าน้อยกว่าทุกวัน”
จางหยวนผงะไป “หืม จริงเหรอ”
เขาไม่ทันสังเกต เพราะช่วงกลางวัน ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก็ไม่ค่อยมีลูกค้า
เข้าอยู่แล้ว ปกติจะมีลูกค้าประมาณสิบคนมานั่งเล่นอินเทอร์เน็ต ส่วนที่มานั่งจิบ
กาแฟในโซนคาเฟ่ก็มีจำนวนเท่าๆ กัน
ตอนนี้เป็นช่วงเช้าของวันธรรมดาจึงเป็นเรื่องปกติที่จะไม่ค่อยมีลูกค้า
แต่พอหม่าหยางบอกมาอย่างนั้น จางหยวนก็ตระหนักว่าวันนี้มีลูกค้าน้อยกว่า
ทุกวันจริงๆ!
โซนร้านอินเทอร์เน็ตมีลูกค้านั่งอยู่แค่สองคน ส่วนโซนคาเฟ่มีอยู่คนเดียว
“อาจจะบังเอิญแหละมั้ง” จางหยวนพูด
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังนั่งสงสัย พนักงานโมหยูเดลิเวอรี่คนหนึ่งก็เปิดประตูถือ
ใบปลิววิ่งเข้ามา
“บอสหม่า บอสจาง แย่แล้วครับ!
“ดูใบปลิวพวกนี้สิครับ!”
หม่าหยางกับจางหยวนรับใบปลิวมาดูด้วยความงุนงง
สถานการณ์ของโมหยูเดลิเวอรี่ในตอนนี้ ไม่ได้เลวร้ายมาก ยังพอมีลูกค้าใช้
บริการอยู่บ้าง เหมือนว่าพนักงานส่งของคนนี้จะไปเจออะไรเข้าระหว่างทางไปส่ง
ของ
เขาหยิบใบปลิวมาหลายใบ มีทั้งใบปลิวร้านอินเทอร์เน็ต คาเฟ่ และบาร์ บาง
อันมีหยิบมาซ้ำ พนักงานคนนี้น่าจะรีบมากเลยหยิบติดมือมาเกิน
หม่าหยางกับจางหยวนกระจายใบปลิวลงบนโต๊ะแล้วตรวจดูทีละใบ
ร้านอินเทอร์เน็ตมีโปรโมชันสะสมยอดกับลดราคาชั่วคราว!
คาเฟ่กับบาร์จัดโปรโมชันลดราคาเครื่องดื่ม ซื้อแก้วที่สองลดครึ่งราคา และ
อื่นๆ
หม่าหยางไม่เข้าใจ “แล้วเกี่ยวอะไรกับเราเนี่ย”
พนักงานส่งอาหารยังหายใจหอบอยู่หน่อยๆ “บอสหม่า ร้าน…ร้านพวกนี้อยู่
ใกล้ๆ ร้านเราเลยครับ!”
จางหยวนขมวดคิ้วเมื่อสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างแปลกๆ!
พออ่านดูให้ละเอียดอีกทีก็พบว่าร้านเหล่านี้ตั้งอยู่แถวๆ ร้านอินเทอร์เน็ตโม
หยูสาขาหลัก ไม่ได้ไกลกันมาก
หม่าหยางหน้ายู่เมื่อรู้ว่าปัญหาร้ายแรงแค่ไหน “ร้านพวกนี้…กำลังโจมตีเรา
เหรอ”
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้า “ไม่น่าใช่ เราไม่เคยไปสร้างศัตรูที่ไหน
ไม่ได้ขายตัดราคาใคร ทำไมพวกเขาต้องทำแบบนี้กับเราด้วยล่ะ”
หม่าหยางงุนงง ถ้าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกิจการรุ่งเรืองจนไปแย่งลูกค้าร้าน
อื่นก็คงจะพอเข้าใจได้
ประเด็นคือกิจการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูย่ำแย่มาก ไม่เห็นจะต้องมาทำแบบ
นี้กับร้านเขาเลย
จางหยวนหน้าเคร่งเครียด “ก็พูดยากนะ
“ถึงร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจะขาดทุน แต่ตราบใดที่ร้านยังเปิดทำการอยู่ ยังไง
ก็ต้องมีคู่แข่ง ไม่แน่พวกนั้นอาจจะตั้งใจโจมตีตอนที่เรากำลังตกที่นั่งลำบาก และ
จะไม่ยอมหยุดจนกว่าเราจะเจ๊ง
“อีกอย่างร้านอินเทอร์เน็ต บาร์ คาเฟ่พวกนี้จัดโปรโมชันพร้อมกันหมด
เหมือนกำลังร่วมมือกันอยู่…น่าจะมีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่ๆ!”
สายตาของหม่าหยางดูเคียดแค้นเหมือนกำลังมองศัตรูอยู่ “เราควรทำยังไงดี
พี่”
จางหยวนคิ้วขมวดเป็นปม เขาคิดอยู่ครู่ใหญ่
“ยากเหมือนกันนะ ดูท่าศัตรูจะเตรียมตัวมาดี!
“หลายร้านเริ่มตัดราคา ร้านอินเทอร์เน็ต บาร์ คาเฟ่จัดโปรโมชันลดราคา
แถมยังแจกใบปลิวกันยกใหญ่
“ถ้าเดาไม่ผิด หัวมุมถนนใกล้ๆ ร้านเราคงโดนพวกนั้นคุมหมดเลย
“พอเป็นแบบนี้ พวกลูกค้าที่จะมาร้านเราก็จะเห็นใบปลิวกับโปรโมชันของ
ร้านพวกนั้น
“แถวนี้ก็ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านอยู่แล้ว ถ้าลูกค้าบางส่วนโดนดึงตัวไป เราก็
ซวยยิ่งกว่าเก่า”
หม่าหยางถึงบางอ้อ เขาพูดขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยว “มิน่าวันนี้ถึงไม่ค่อยมี
ลูกค้า!”
จางหยวนพูดต่อ “ไม่ใช่แค่นั้นนะ!
“พี่ว่าศัตรูทำการบ้านมาดี ใช้วิธีโจมตีจุดอ่อนเรา!
“ตามแผนของบอสเผย ร้านเราตั้งมาเป็นร้านระดับสูง ราคาก็สูงกว่าชาวบ้าน
เขาอยู่แล้ว
“พวกนั้นตัดราคาตัวเองให้เราต้องลดราคาลงมาสู้ เราเลยตกที่นั่งลำบาก
“ถ้าเราไม่ลดราคาก็จะเสียเปรียบ เอาเรื่องนี้ไปสู้ไม่ได้
“ตัวอย่างเช่น ราคาตั้งต้นของเราวางไว้สูงกว่าร้านอื่นสี่สิบเปอร์เซ็นต์ แต่
บรรยากาศร้านกับการให้บริการของเราดีกว่า ลูกค้าบางส่วนก็พอใจที่จะเพิ่มเงิน
อีกนิดหน่อยเพื่อให้ได้รับการบริการที่ดีกว่า
“แต่ถ้าศัตรูยอมทิ้งเงินกดราคาลงอีก ก็จะกลายเป็นว่าร้านเราแพงกว่าร้าน
อื่นหกสิบเปอร์เซ็นต์หรืออาจจะมากกว่านั้น ทีนี้คิดว่าลูกค้าจะยอมเสียเงินเยอะๆ
เพื่อให้ได้รับการบริการกับบรรยากาศที่ดีกว่ารึเปล่าล่ะ”
หม่าหยางขมวดคิ้ว “ถ้าอย่างนั้นเราควรลดราคาไปสู้ด้วยดีมั้ย”
จางหยวนส่ายหน้า “ไม่ได้ ร้านเราวางตัวเป็นร้านระดับสูง ถ้าลดราคาลงก็จะ
ส่งผลเสียต่อชื่อเสียง อีกอย่างตอนนี้เราก็ขาดทุนอยู่แล้ว ถ้าจะให้ทุ่มเงินสู้อีกจะ
เอาอะไรไปชนะได้
“แล้วก็อย่าลืมสิว่าเราเคยคุยเรื่องขอลดราคากับบอสเผยไปแล้ว”
หม่าหยางพูดอะไรไม่ออก
ก่อนหน้านี้ ตอนที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเริ่มขาดทุนใหม่ๆ จางหยวนเคย
เสนอกลยุทธ์ลดราคาไปแล้ว แต่โดนบอสเผยปฏิเสธอย่างไม่ไยดี
ถึงจะไปถามอีกรอบ ผลลัพธ์ก็น่าจะเป็นเหมือนเดิม
แต่ถ้าลดราคาสู้ไม่ได้ ตอนนี้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูโดนล้อมไว้ หมด ขอแค่ร้าน
พวกนั้นคอยดักโฆษณาอยู่ตรงมุมถนนทางเข้าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู ลูกค้าส่วน
ใหญ่ก็น่าจะโดนดึงตัวไปหมด
ถึงจะมีพวกมีเงินบางส่วนที่ยังจงรักภักดีกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูอยู่ แต่
ลูกค้ากลุ่มที่ไม่ได้สนใจเรื่องราคาก็มีไม่มาก ส่วนใหญ่มักจะคำนึงถึงราคาเป็นหลัก
จางหยวนหน้าเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ “รายงานให้บอสเผยรู้ดีกว่า เราตัดสินใจ
กันเองไม่ได้!”

เผยเชียนกำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่ในอพาร์ตเม้นต์
ตอนนั้นเอง มือถือก็ดัง
ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นจากฝันหวานอย่างไม่สบอารมณ์
แต่พอเห็นว่าคนที่โทรมาคือหม่าหยางที่ยอมให้เขาลอกการบ้าน เขาก็ยกโทษ
ให้
“มีอะไร ไอ้หม่า”
หม่าหยางรีบอธิบายวิกฤตครั้งใหญ่ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกำลังประสบอยู่ให้
เผยเชียนฟัง
“คร่าวๆ ก็ประมาณนี้แหละพี่เชียน
“ผมกับจางหยวนวิเคราะห์สถานการณ์ดูแล้วพบว่าไม่ง่ายเลย ต้องมีคนอยู่
เบื้องหลังเรื่องนี้แน่!
“ทำไงดีพี่”
น้ำเสียงของหม่าหยางฟังดูเป็นกังวลหนัก
เผยเชียนหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
มีเรื่องดีๆ แบบนี้ด้วยเหรอ
ชายหนุ่มเกือบหลุดขำ ตอนนี้เขากำลังเครียดกับเรื่องวันปิดบัญชีที่จะถึงว่าจะ
ทำให้บริษัทขาดทุนได้ไหม
สุดท้ายก็มีคนเอาหมอนมาถวายให้ถึงที่ตอนที่อยากนอน
ตอนนี้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักขาดทุนเดือนละประมาณสามแสน
หยวน โดยยอดนี้คำนวณจากการที่มียอดขายเครื่องดื่มกับลูกค้าที่มาใช้บริการ
อินเทอร์เน็ตระดับหนึ่ง
ถึงเฉินเหล่ยจะไม่ได้ทำงานที่ร้านแล้ว แต่ผลกระทบที่เขาสร้างไว้ยังคงอยู่
แฟนๆ ของเขาบางส่วนยังมาสังสรรค์ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูอยู่บ้าง ทำให้ร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูขาดทุนน้อยลงกว่าตอนแรกๆ
ตอนนี้ร้านรวงบริเวณนั้นพากันกดราคาแย่งลูกค้าไปจากร้านอินเทอร์เน็ตโม
หยู หมายความว่ารายได้ของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก็จะน้อยลงไปอีกในช่วงก่อน
จะถึงวันปิดบัญชี!
ถ้าร้านพวกนี้ยังกดราคาอยู่อย่างนี้ก็หมายความว่าในรอบปิดบัญชีหน้า รายได้
ของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจะร่วงกราว แบบนั้นก็…
เยี่ยมไปเลยนี่!
เหลืออีกหนึ่งสัปดาห์จะถึงวันปิดบัญชี ดูเหมือนว่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกำลัง
ตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤต รายได้น่าจะหายไปเจ็ดหมื่นถึงแปดหมื่นหยวน
อย่าดูถูกจำนวนเงินแค่นี้ ถ้ารายได้หายไปเจ็ดหมื่นถึงแปดหมื่นหยวนก็อาจทำ
ให้เปลี่ยนจากกำไรเป็นขาดทุนได้ง่ายๆ สร้างความแตกต่างได้อย่างใหญ่ หลวงเลย
ทีเดียว!
เผยเชียนพยายามสงบใจ เขาจะปล่อยให้ตัวเองหลุดขำออกไปไม่ได้
หม่าหยางเห็นว่าเผยเชียนเงียบไปจึงคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเครียดมาก “ทำไงดีพี่
เชียน”
เผยเชียนนวดริมฝีปากตัวเองให้เลิกยิ้มแล้วพยายามทำเสียงให้ฟังดูนิ่งที่สุด
“ไม่ต้องห่วง ครั้งนี้ให้รอดูไปก่อน
“แกไม่ต้องทำอะไรเลย ฉันคิดแผนเอาไว้แล้ว!”
บทที่ 177 แกโดนหลอกแล้ว

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน ช่วงเย็น


เสียงร้องเพลงดังก้องร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู แต่ที่นั่งด้านล่างเวทีกลับว่างเปล่า
มีลูกค้านั่งดื่มอยู่แค่สองสามคนเท่านั้น
นักร้องร้องเพลงอย่างไร้ชีวิตชีวา เหล่าผู้ชมด้านล่างเวทีแทบจะผล็อยหลับ
ใบหน้าหม่าหยางเต็มไปด้วยความกังวล
ทำยังไงดี!
พอการแข่งขันจากร้านรวงรอบๆ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูทวีความรุนแรงขึ้น
ลูกค้าก็เข้าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูน้อยลงเรื่อยๆ
ถึงร้านของพวกเขาจะมีนักร้องประจำ แต่บาร์อื่นมีอะไรมากกว่านั้น แถมยังมี
ส่วนลดให้กับเครื่องดื่มทุกอย่างในเมนูอีก!
บาร์พวกนั้นมีลูกค้าแน่นร้าน ลูกค้าประจำของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูหลาย
คนเปลี่ยนไปใช้บริการร้านพวกนั้นแทน
เพราะคนส่วนใหญ่ก็ไปบาร์เพื่อสั งสรรค์และเข้าสังคมอยู่แล้ว มีแค่ไม่กี่คนที่
อยากนั่งดื่มในร้านร้างผู้คน แถมราคาก็ไม่ได้ถูก
นักร้องประจำคนใหม่ของร้านร้องเพลงเพราะ แต่ก็ยังห่างชั้นกับมาตรฐานที่
เฉินเหล่ยทำเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถดึงดูดลูกค้าได้มากนัก
ยิ่งลูกค้าเข้าร้านน้อย นักร้องก็หมดกำลังใจ พอไม่มีกำลังใจก็ร้องเพลงได้ไม่ดี
เหมือนเดิม กลายเป็นวังวน
“พี่เชียนบอกว่าไม่ต้องทำอะไร
“แต่ก็ยังรู้สึกไม่ดีอยู่ดี…”
หม่าหยางนั่งดื่มอยู่คนเดียวอย่างปวดใจ
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูยังคงขาดทุนอย่างต่อเนื่อง กิจการโมหยูเดลิเวอรี่เองก็
ไม่ดีขึ้นเลย พอเคราะห์ซ้ำกรรมซัด หม่าหยางก็เริ่มคลางแคลงใจในความสามารถ
ของตัวเอง
หลี่สือนั่งจิบเครื่องดื่มอยู่ตรงมุมหนึ่งในโซนอินเทอร์เน็ต เขาอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้
คนพวกนี้อ่อนประสบการณ์เกินกว่าจะสู้กับฉันจริงๆ
บริษัทลงทุนฟู่หุยลงทุนกั บธุรกิจมากมายในเมืองจิงโจว ถือว่ามีอิทธิพลไม่
น้อยทีเดียว
แค่พวกเขาเจียดเงินนิดหน่อยให้ร้านในละแวกเดียวกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
จัดโปรโมชัน เท่านี้ลูกค้าก็จะเข้าร้านพวกนั้นเยอะขึ้น ในขณะที่ร้านอินเทอร์เน็ต
โมหยูโดนแย่งลูกค้าไป ทีนี้บริษัทลงทุนฟู่หุยก็จะทำอะไรๆ ได้ง่ายขึ้น
ถือว่าได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่ายสำหรับหลี่สือและร้านในละแวกเดียวกับร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยู
หลี่สือแอบสังเกตการณ์ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมาพักใหญ่ทำให้พอจะเข้าใจ
แนวทางของร้านนี้
เจ้าของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูคือบอสเผยที่อายุยังน้อย เป็นคนที่ทั้งดื้อและ
หัวแข็ง หลี่สือคิดว่าเขาน่าจะเป็นคนที่ไม่ยอมรับฟังคำแนะนำจากคนอื่น จึงต้อง
ค่อยๆ หาทางจัดการอีกฝ่ายให้อยู่หมัด
จางหยวนเป็นผู้จัดการเขต แต่จริงๆ แล้วหมอนี่ไม่ได้ใกล้ชิดกับบอสเผย ที่เขา
รับผิดชอบส่วนใหญ่มีแค่เรื่องดูแลกิจการต่างๆ ของร้าน
กุญแจสำคัญคือเจ้าหน้าใหญ่
คนที่ชื่อหม่าหยางดูค่อนข้างสนิทกับบอสเผย แถมยังไม่ค่อยฉลาดนัก คน
แบบนี้มักจะโดนปั่นหัวเอาง่ายๆ
หลี่สือต้องจัดการเจ้าหน้าใหญ่ก่อน พอเจ้านั่นติดกับก็ค่อยๆ ใช้เป็นเครื่องมือ
โน้มน้าวบอสเผย จากนั้นภารกิจก็จะสำเร็จลุล่วง
ตอนนี้บอกได้ยากว่าบอสเผยมีท่าทียังไง เพราะเขาไม่ได้มาที่ร้านอินเทอร์เน็ต
โมหยูสองวันแล้ว แต่ดูจากท่าทีของเจ้าหน้าใหญ่ หลี่สือเดาว่าบอสเผยก็น่าจะ
กำลังเครียดอยู่ไม่น้อย
หลี่สือคำนวณทุกอย่างไว้ดีมาก เขาพิจารณาความเป็นไปได้ทั้งหมดและ
หาทางจบภารกิจนี้ให้ได้เร็วที่สุด
เพราะจะให้ผลาญเงินเยอะเกินไปก็ค งไม่ได้ ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อบีบบังคับบอส
เผยเท่านั้น
พอทุกคนในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเริ่มไม่แน่ใจว่าร้านจะทำกำไรได้หรือเปล่า
เขาก็จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือตอนที่คนเหล่านั้นกำลังตกที่นั่งลำบาก…
จากนั้นก็จะเป็นโอกาสดีในการเริ่มลงทุน
หลี่สือเดินถือแก้วไปนั่งตรงข้ามหม่าหยาง
หม่าหยางที่กำลังกลุ้มใจอยู่สะดุ้งโหยงเมื่อหลี่สือผู้ซึ่งค่อนข้างมีอายุนั่งลง
ตรงหน้า
อะไรกันเนี่ย
เขาต้องการอะไร โต๊ะฉันไม่มีสาวสวยสักคน
หรือว่า…พวกผู้ชายรวยๆ จะมีงานอดิเรกแปลกๆ
หม่าหยางไม่รู้จะพูดอะไร เขาแอบเลื่อนแก้วเข้าใกล้ตัวเองให้ออกห่างจากห
ลีส่ ือ
หลี่สือไม่รู้ว่าหม่าหยางคิดเตลิดไปไกลถึงไหน เขาคิดแค่ว่าอีกฝ่ายระแวดระวัง
ตัวตามปกติ
“บอสหม่าใช่ไหมครับ ขอผมแนะนำตัวสักหน่อย ผมชื่อหลี่สือ เป็น CEO ของ
บริษัทลงทุนฟู่หุยครับ”
หลี่สือยื่นนามบัตรให้หม่าหยาง “จริงๆ ผมเป็นลูกค้าประจำของร้านนี้ ไม่
ทราบว่าบอสหม่าสนใจคุยเรื่องร่วมงานกับทางผมไหมครับ”
หม่าหยางเห็นว่าหลี่สือไม่ได้คิดมิดีมิร้ายกับตัวเองจึงค่อยๆ เลื่อนมือไปรับ
นามบัตรมาอ่านภายใต้แสงไฟสลัว
หลี่สือ “…”
เขาตระหนักว่าบอสหม่าเหมือนจะไม่รู้จักบริษัทลงทุนฟู่หุย…
หลี่สือเริ่มหงุดหงิด
แบบนี้มันไม่ใช่แล้ว
ไม่รู้เหรอว่าบริษัทลงทุนฟู่หุยมีชื่อเสียงแค่ไหนในแวดวงการลงทุนในเมืองจิง
โจว
ดูจากใบหน้างุนงงของหม่าหยางแล้วก็ชัดเจนว่า เขาไม่ได้รู้เลยว่าบริษัทลงทุน
ฟู่หุยสามารถช่วยอะไรร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูได้บ้าง
โชคดีที่หลี่สือมีประสบการณ์ล้นเหลือ ในเมื่อหม่าหยางไม่รู้อะไรเลยเขาก็เข้า
ประเด็นได้เลยตรงๆ
การโกหกคนโง่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยคือสิ่งที่ง่ายที่สุด
หลี่สือจิบเครื่องดื่ม ก่อนจะสวมบทนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จ เขาอธิบาย
แผนร่วมลงทุนให้หม่าหยางฟังด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ก็หนักแน่น
สรุปง่ายๆ คือ บริษัทลงทุนฟู่หุยจะเข้ามาลงทุนกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูและ
ใช้ประสบการณ์อันล้นเหลือช่วยชี้นำแนวทางการดำเนินกิจการของร้าน ทุกคนจะ
ได้เงินไปด้วยกัน จากนั้นก็จะขยายธุรกิจร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไปทั่วประเทศ…
หลี่สือวาดภาพฝันอันสวยงามขึ้นมาอย่างง่ายดาย
หม่าหยางตาเป็นประกาย เขารู้สึกคล้อยตามสุดๆ!
หลี่สือเป็นนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จ ดูจากการแต่งตัวและวิธีพูดจา
หม่าหยางก็รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นแตกต่างจากคนอื่นๆ เขาพูดโน้มน้าวได้ดีกว่าพวก
พนักงานขายที่พยายามจะขายประกันด้วยกลยุทธ์การโน้มน้าวที่ใช้กันอย่าง
ดาษดื่น
นอกจากนี้แต่ละคำที่ออกจากปากอีกฝ่ายยังเหมือนยาที่ช่วยเยียวยาจิตใจที่
บอบช้ำของหม่าหยางอย่างตรงจุด ซึ่งก็คือการช่วยจัดการปัญหาร้านอินเทอร์เน็ต
โมหยูทำกำไรไม่ได้!
จางหยวนไม่สามารถหาทางแก้ทุกปัญหาที่ร้า นอินเทอร์เน็ตโมหยูประสบอยู่
ได้ เผยเชียนเองก็ทำตัวมีลับลมคมใน ทำให้หม่าหยางรู้สึกหลงทางและสับสน
หลี่สือเสนอกลยุทธ์ทำกำไรให้ร้านสองสามอย่างเพื่อล่อลวงหม่าหยาง
เขาสังเกตดูจากท่าทีของอีกฝ่ายก็รู้ได้ว่าแผนการสำเร็จลุล่วงแล้ว
“ทุกอย่างไปได้สวยเกินคาด”
หลังจากนั้นเขาก็แค่รอเงียบๆ ให้ปลากินเหยื่อ
หม่าหยางดูตื่นเต้นมากหลังจากหลี่สือพูดจบ หลี่สือพอจะบอกได้ว่าอีกฝ่าย
สนใจแผนที่เขาเสนอไปไม่น้อย
แต่หม่าหยางก็ไม่ได้ตอบตกลงทันที
“บอสหลี่แนะนำได้ดีมากเลยครับ แต่…ผมต้องไปคุยกับบอสผมดูก่อน”
หม่าหยางยังไม่ลืมว่าเผยเชียนมีอำนาจเด็ดขาดกับทุกอย่างในร้าน
หลี่สือรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ เขายิ้ม “ได้ครับ”
ถึงจุดนี้หลี่สือไม่ควรพูดอะไรต่ออีก
เขามั่นใจว่าหม่าหยางติดกับเรียบร้อยแล้ว ที่ต้องทำตอนนี้คือรอให้เจ้าหน้า
ใหญ่ไปเป่าปี่ ไม่ใช่สิ ไปเป่าหูบอสเผย เขามั่นใจว่าแผนนี้น่าจะได้ผลดีเลยทีเดียว
หลี่สือไม่ได้กังวลว่าเผยเชียนจะนึกสงสัยในตัวเขา เพราะเขารู้ดีว่าวิธีที่ใช้มีทั้ง
ไม้อ่อนและไม้แข็ง

“พี่เชียน เรื่องก็ประมาณนี้แหละ! ถ้าเรารับข้อเสนอของบริษัทลงทุนฟู่หุย
ร้านเราก็จะพลิกกลับมาทำกำไรได้ใช่ไหมล่ะ”
หม่าหยางเล่าเรื่องราวผ่านโทรศัพท์อย่างตื่นเต้น
เผยเชียนยิ้มอ่อน
เจ้าหม่าหยางนี่โดนล่อลวงง่ายจริงๆ
แต่เผยเชียนก็ไม่ได้โกรธ สำหรับเขาแล้ว นี่คือข้อดีของการมีหม่าหยางเป็น
พนักงาน
ดูจากสถานการณ์แล้ว หม่าหยางน่าจะโดนบอสหลี่ จากบริษัทลงทุนฟู่หุยล้าง
สมองมา แต่เรื่องนี้ไม่ได้สำคัญอะไร เผยเชียนสามารถดึงสติเจ้านี่กลับมาได้ง่ายๆ
“ไอ้หม่า แกโดนหลอกแล้ว”
หม่าหยางที่อยู่ในสายอึ้งไป
เผยเชียนแสยะยิ้ม “จริงๆ แล้วไม่กี่วันก่อน บริษัทลงทุนฟู่หุยเพิ่งจะติดต่อ
เลขาซินมา พวกเขายื่นข้อเสนอร่วมลงทุนกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู แต่ฉันปฏิเสธ
ไป”
หม่าหยางไม่เข้าใจ “ทำไมถึงปฏิเสธล่ะพี่เชียน พวกเขาจะให้เงินลงทุนเรา
ก้อนโต ทุกคนได้เงินกันถ้วนหน้า มันไม่ดีตรงไหนเหรอพี่”
เผยเชียนอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้
เห็นได้ชัดว่าที่บอสหลี่มาคุยกับหม่าหยางเพราะคิดว่าเจ้านี่มันหลอกง่าย
สุดท้ายอีกฝ่ายก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะลงทุนกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
บทที่ 178 แผนซ้อนแผน

เผยเชี ย นไม่ ม ั ่ น ใจว่ า ร้ า นอื ่ น ๆ ในละแวกจั ด โปรโมชั น เพื ่ อ โจมตี ร ้ า น


อินเทอร์เน็ตโมหยูหรือเปล่า เพราะเขาไม่มีหลักฐานชัดเจน
ไม่แน่ร้านพวกนั้นอาจจะบังเอิญจัดโปรโมชันขึ้นมาพร้อมๆ กันก็ได้
แถมเผยเชียนก็ยังไม่แน่ใจว่าบอสหลี่เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไหม เพราะ
เขาก็ไม่มีหลักฐานเหมือนกัน
แต่ที่เขามั่นใจคือบอสหลี่ใช้ประโยชน์จากโอกาสครั้งนี้
เรื่องนี้ดูจะเป็นปัญหาที่ต้องรีบจัดการ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร
จะบอกว่าบอสหลี่ไม่ฉลาดก็ไม่ได้ เพราะแผนที่อีกฝ่ายใช้มีทั้งไม้อ่อนและไม้
แข็ง
ในทางหนึ่ง บอสหลี่ไม่มีทางยอมรับตรงๆ ว่ากำลังโจมตีร้านอินเทอร์เน็ตโม
หยูอยู่ แต่เข้ามายื่นข้อเสนอให้ดูเหมือนว่าได้ประโยชน์กัน ทุกฝ่ายโดยพยายามไม่
สร้างความเกลียดชัง นี่คือไม้อ่อน
ขณะเดียวกันบอสหลี่ก็กำลังบอกเผยเชียนเป็นนัยว่าถ้ายังดื้อด้านอยู่แบบนี้
เขาก็จะสู้ให้ตายกันไปข้าง โดยจะลดราคาทุกอย่างลงให้เผยเชียนเสียลูกค้า
ทั้งหมด เพื่อไม่ให้เจ็บหนักไปมากกว่านี้ สุดท้ายเผยเชียนก็ต้องยอมแพ้ นี่คือไม้
แข็ง
ถ้าคนอื่นมาตกอยู่ในสถานการณ์นี้ เมื่อถูกต้อนจนจนมุม พวกเขาก็ต้อง
ยอมรับข้อเสนอ
แต่เผยเชียนไม่เหมือนคนอื่น
อุตส่าห์ทุ่มเงินเพื่อทำให้ฉันขาดทุนเลยเหรอ ขอบใจมากเว้ย!
ตอนแรกเผยเชียนตั้งใจจะปฏิเสธ แต่พอคิดดูอีกทีก็พบว่าตัวเองคิดไม่ถูก
บอสหลี่ชอบช่วยเหลือคนอื่นขนาดนี้ เผยเชียนควรจะร่วมมือด้วยสักหน่อย
ถ้าปฏิเสธไปตรงๆ อีกครั้ง ไม่ช้าบอสหลี่ก็อาจจะเลิกล้มความตั้งใจ เพราะ
อย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นถึงเจ้าของบริษัทลงทุน มีงานให้ทำล้นมือ คงไม่ว่างมาตามตื๊อ
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
พอบอสหลี่เลิกสนใจเรื่องนี้ ร้านในละแวกเดียวกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก็จะ
หยุดทุ่มเงิน จากนั้นลูกค้าก็จะกลับมาใช้บริการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเหมือน
อย่างเคย
ทีนี้เผยเชียนก็จะขาดทุนมากมายไม่ได้อีก!
เขายิ้มเมื่อผุดคิดแผนการขึ้นได้ในหัว
“ไอ้หม่า แกคิดว่าบอสหลี่ทำแบบนี้เพื่อเราจริงๆ เหรอ แกคิดว่าเขาใจบุญ
ขนาดนั้นเลย
“ลองคิดดูดีๆ ร้านอื่นๆ รอบๆ ร้านเราจัดโปรโมชันพร้อมกันหมด แกมั่นใจ
เหรอว่าเรื่องนี้ไม่มีคนอยู่เบื้องหลัง”
เผยเชียนพูดให้หม่าหยางตาสว่าง
จริงๆ ก็ไม่ได้ถือว่าทำให้อีกฝ่ายตาสว่างจริงๆ หรอก หม่าหยางโดนหลอกง่าย
ถ้ามีคนมาปั่นหัวเจ้านี่มากกว่าหนึ่งคน คนที่เข้ามาปั่นหัวหม่าหยางเป็นคนสุดท้าย
จะได้เปรียบที่สุด
เผยเชียนปั่นต่อให้เรื่องฟังดูแย่กว่าเดิม เขาใส่สีตีไข่ให้การแบ่งขายหุ้นส่วน
กิจการฟังดูอันตรายสุดๆ จนดึงสติหม่าหยางกลับมาได้ตามที่คิดไว้
“ฉิบหาย! บอสหลี่คิดร้ายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!
“ผมจะปฏิเสธเขาเดี๋ยวนี้เลย!”
เผยเชียนพูดขึ้น “ไม่ต้องหรอก ถ้าเขาแค้นขึ้นมาแล้วเล่นเราอ่วมกว่านี้คงเป็น
ปัญหาแน่
“บอกเขาไปว่าฉันกำลังเครียดเรื่องที่ร้านขาดทุน ไม่อยากรับข้อเสนอแต่ก็ยัง
ลังเลอยู่ ตอนนี้กำลังตัดสินใจ ถ้าร้านยังขาดทุนอยู่อย่างนี้ ฉันอาจจะเปลี่ยนใจก็
ได้…”
หม่าหยางสับสน “พี่เชียน พี่อยากให้เราขาดทุนต่อไปเรื่อยๆ เหรอ มันไม่ดี
กับเราเลยนะ ผมว่าเราไม่น่าจะรับไหว”
เผยเชียนยิ้ม “ถ้าเราขาดทุน อีกฝ่ายก็ไม่น่าจะต่างกัน
“ร้านพวกนั้นก็กำลังขาดทุนเหมือนเรา อย่างมากก็แค่เจ๊งไปด้วยกันทั้งหมด มี
อะไรให้ต้องกลัว
“อีกอย่างถ้าพวกนั้นยังทุ่มเงินต่อไปเรื่อยๆ ก็อาจเรียกลูกค้ามาเพิ่มได้ คนที่
อาศัยอยู่จุดอื่นในเมืองจิงโจวอาจจะเข้ามาลองใช้บริการ
“ในระยะยาวจะเป็นผลดีกับกิจการแถบนี้ เราก็จะไม่ขาดทุนอีก”
หม่าหยางถึงบางอ้อ “อย่างนี้นี่เอง! ผมเข้าใจแล้วพี่เชียน!”
“ดี ถ้างั้นก็ไปบอกบอสหลี่ตามที่ฉันบอก…”
เผยเชียนวางสายไป ก่อนจะผุดยิ้มขึ้น
บอสหลี่ คุณคงภูมิใจมากที่ล่อลวงหม่าหยางได้
แต่คุณคิดผิดแล้วละ เพราะใครๆ ก็หลอกเจ้านี่ได้หมดแหละ…
คุณมาโกหกเจ้านี่ ผมก็แค่โกหกทับให้มันกลับข้าง
เผยเชียนล่อลวงหม่าหยางด้วยเรื่องจริงปนเรื่องโกหก เรื่องที่ว่าจะช่วยให้
กิจการในละแวกนี้ดีขึ้นนั้นเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ
สภาพธุรกิจเกิดจากองค์ประกอบหลายอย่าง แค่หลายๆ ร้านจัดโปรโมชัน
พร้อมกันจะไปทำให้ธุรกิจดีขึ้นได้ยังไง แค่คิดก็รู้แล้วว่าเป็นไปไม่ได้
แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะโกหกหม่าหยาง
ขอแค่ เ ขาล่ อ ให้ บ อสหลี ่ ท ุ ่ ม เงิ น จั ด โปรโมชั น ให้ ร ้ า นพวกนี ้ ต ่ อ ไป ร้ า น
อินเทอร์เน็ตโมหยูก็จะขาดทุนไปได้เรื่อยๆ เผยเชียนจะทิ้งโอกาสงามๆ นี้ไปได้
ยังไง

หลังจากวางสาย หม่าหยางก็นวดใบหน้าใหญ่ยาวเพื่อเตรียมตัวเองให้พร้อม
แค่คิดว่าตัวเองโดนบอสหลี่หลอกก็รู้สึกเดือดดาลขึ้นมาแล้ว
โชคดีที่พี่เชียนฉลาดเป็นกรด ไม่งั้นฉันคงพลาดท่าหลงเชื่อ!
ถึงหม่าหยางจะแสดงไม่เก่ง แต่พอนึกถึงแผนการทุบหม้อข้าวของบอสหลี่ก็
ทำให้เขารู้สึกอยากแก้แค้น
เขาจะเปลี่ยนความแค้นที่มีเป็นทักษะการแสดง!
หม่าหยางเดินกลับไปที่โต๊ะพร้อมแสร้งทำหน้ายิ้ม
“บอสหลี่ ผมเพิ่งวางสายจากบอสเผย ได้คุยกันเรื่องนี้นิดหน่อยครับ
“บอสเผยกังวลเรื่องที่ร้านขาดทุนอยู่จริงๆ ครับ แต่บอสไม่อยากให้คนนอก
เข้ามามีส่วนร่วมในบริษัทง่ายๆ บอสบอกว่าขอเวลาอีกหนึ่งเดือน ถ้าถึงตอนนั้นยัง
ไม่มีอะไรดีขึ้นก็คงต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง”
หลี่สือพยักหน้าเบาๆ
เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด
จากการคำนวณของเขา บอสเผยเป็นคนหัวรั้น ถ้าลูกน้องไปพูดด้วยนิดหน่อย
แล้วเปลี่ยนใจเขาได้คงจะแปลกน่าดู
หนึ่งเดือน…
เขาต้องเอาเงินไปละลายกับแผนนี้อีกหนึ่งเดือน เจ็บเหมือนกัน แต่ก็ยังพอ
จัดการได้
หลี่สือแสนปวดใจ แต่ไม่สามารถแสดงออกทางสีหน้าได้ เพราะเหมือนหม่าห
ยางจะยังไม่รู้ว่าเขาเป็นคนอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่ร้านต่างๆ ในแถบนี้พร้อมใจ
กันจัดโปรโมชันขึ้นมา
บอสเผยอาจจะมองออก แต่คงไม่ได้บอกหม่าหยางเรื่องนี้ เพราะเขาไม่มี
หลักฐานพิสูจน์ บอสเผยน่าจะไม่อยากพูดอะไรออกไปโดยที่ไม่มีหลักฐาน
ขอแค่สุดท้ายหลี่สือสามารถซื้อกิจการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมาได้ จะใช้เงิน
ไปมากเท่าไหร่ก็ไม่สำคัญ ยังไงก็สามารถหาคืนได้อยู่แล้ว
คิดได้อย่างนั้น หลี่สือก็ผุดยิ้ม
“ได้ครับ ผมไม่รีบอะไร บอสหม่าก็ไม่ต้องไปเร่งเร้าบอสเผยเหมือนกันนะครับ
ค่อยๆ ตะล่อมไป เดี๋ยวบอสเผยก็เปลี่ยนใจ
“แต่…
“ผมกังวลเรื่องพวกคุณทั้งหมด พวกคุณอาจจะขาดทุนมหาศาลได้ในหนึ่ง
เดือน ถ้าเกิดเอาตัวรอดไม่ได้นานขนาดนั้นจะทำยังไง
“บอสหม่า ผมว่าสัปดาห์หน้าคุณต้องลองไปคุยดูอีกรอบ ไม่แน่บอสเผย
อาจจะเปลี่ยนใจก็ได้”
“โอเคครับ” หม่าหยางพยักหน้าแล้วหันไปทางบาร์เทนเดอร์ “เอามาร์การิต้า
มาอีกแก้ว ผมเลี้ยงเองครับบอสหลี่!”


บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี
ช่ ว งนี ้ เ ผยเชี ย นไม่ ค ่ อ ยได้ เ ข้ า ออฟฟิ ศ เพราะยุ ่ ง กั บ การสอบและร้ า น
อินเทอร์เน็ตโมหยู วันนี้เขาอารมณ์ดีเลยตัดสินใจแวะเข้ามา
วันปิดบัญชีใกล้เข้ามาถึงเรื่อยๆ เผยเชียนรู้สึกว่าการดูแลจัดการโปรเจ็กต์
ต่างๆ พร้อมกันนั้นยากพอดู
โชคดี ท ี ่ DLC ของเกมในเครื อ เถิ ง ต๋ า ปล่ อ ยให้ ด าวน์ โ หลดเรี ย บร้ อ ยแล้ ว
นอกจากอัตราส่วนแบ่งที่แพลตฟอร์มเกมทางการปรับให้ใหม่ ก็ไม่มีรายรับอื่นที่
ไม่ได้อยู่ในการคาดการณ์อีก เผยเชียนคิดว่าตรงนี้น่าจะวางใจได้แล้ว
ชายหนุ่มแสนสุขใจเมื่อนึกถึงสถานการณ์ปัจจุบันของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
เขาเดินไปเดินมาในห้องทำงานอย่างเบิกบานใจ
ในโซนทำงาน ลู่หมิงเหลียงกับเปาซวี่กำลังกระซิบกระซาบคุยกัน
“ช่วงนี้บอสเผยไม่ค่อยเข้าออฟฟิศเลย หรือว่าบอสจะยุ่ง”
“ผมได้ยินมาว่าสถานการณ์ของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ บอส
น่าจะต้องไปช่วยตรงนั้น”
“ดูจากสีหน้าบอสเผยแล้ว ผมว่าน่าจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร”
“ก็ไม่แน่ คุณก็รู้นิสัยบอสเผยนี่ บอสไม่ค่อยแสดงออกทางสีหน้า ปัญหา
อาจจะหนักมากก็ได้ บอสเผยแค่ไม่แสดงออกให้เรารู้เฉยๆ”
“ถ้างั้น…เราควรรายงานเรื่องเกมฐานทัพกลางทะเลให้บอสรู้ไหม หรือเราไม่
ควรจะไปรบกวนบอส”
เปาซวี่คิดอยู่ครู่หนึ่ง “เทียบกับเรื่องร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูแล้ว เรื่องนี้ไม่ได้
เร่งด่วนอะไรมาก รออีกสักสองสามวันค่อยรายงานก็ได้ครับ
“อีกอย่างบอสน่าจะรู้อยู่แล้วว่าราคาไอดีในแพลตฟอร์มซื้อขายจะพุ่งขึ้น ที่
เกมมียอดเติมเงินกับยอดผู้เล่นเพิ่มขึ้นก็ถือเป็นเรื่องดี ผมว่าเราไม่จำเป็นต้อง
รายงานอะไรขนาดนั้น”
ลู่หมิงเหลียงพยักหน้า “ก็จริง เดี๋ยวเรารอให้บอสว่างค่อยไปรายงานทีหลังก็
ได้”
บทที่ 179 ตามล้างตามเช็ดไม่หยุดหย่อน

เผยเชียนนั่งดูข้อมูลหลังบ้านเกมในเครือเถิงต๋าอยู่ในห้องทำงาน
“เจ้าพวกนี้มีแต่เอาข่าวร้ายมาให้ ไว้ใจไม่ได้สักคน!
“สุดท้ายฉันก็ต้องมาจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง”
ชายหนุ่มแสนหงุดหงิดใจ
พนักงานบริษัทอื่นๆ มีแต่จะรีบคาบข่าวดีมาให้ แต่พนักงานของเขากลับทำ
ตรงกันข้าม พอมีข่าวดีทีไร เขาจะได้รู้เป็นคนสุดท้ายทุกที
เผยเชียนเคยเจอปัญหาแบบนี้มาก่อน น่าจะเพราะเถิงต๋ามีโครงสร้างองค์กร
แบบแนวราบมาตั้งแต่ต้น ไม่ได้มีระบบเจ้านายลูกน้อง แถมหวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่
ยังจัดการเรื่องต่างๆ กันเองจนไม่มีช่องให้เขาได้ทำอะไร
ทุกครั้งที่เจอปัญหา พนักงานของเขาจะหาทางแก้ไขกันเองเพราะไม่อยาก
รบกวนเขา ถึงจะจัดการแก้ปัญหาได้สำเร็จก็จะคิดกันไปเองว่ าเขาวางแผนเอาไว้
แล้ว ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร คนพวกนี้ส่วนใหญ่ไม่มีทางเอาความดีความชอบ
เข้าตัวเอง
เรื่องนี้ทำให้เผยเชียนปวดใจ ทุกครั้งที่ธุรกิจของเขาทำเงินได้ เขามักจะเป็น
คนสุดท้ายที่รู้ทุกที สร้างความลำบากใจให้ชายหนุ่มสุดๆ
ประเด็นคือเขาไม่สามารถแสดงออกไปว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะจะส่งผล
ต่อภาพลักษณ์และจุดยืนของเขา กลายเป็นทำอะไรได้ไม่สะดวก!
เผยเชียนคิดว่าจะให้เกิดข้อผิดพลาดเดิมขึ้นอีกไม่ได้
เหลืออีกไม่กี่วันจะถึงวันปิดบัญชี เขาต้องจับตาดูข้อมูลรายได้ต่างๆ ของ
ตัวเองอยู่ตลอด ชายหนุ่มจะไม่ยอมให้มีอะไรผิดพลาดอีก
ที่เผยเชียนตั้งใจมาออฟฟิศวันนี้ก็เพราะเรื่องนี้
หลังจากเปิดหน้าแพลตฟอร์มขึ้นมา ชายหนุ่มก็รีบกดดูข้อมูลเกมในเครือ
เถิงต๋า
รายได้จากเกมต่างๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามที่คาด เพราะเถิงต๋าเพิ่งปล่อย DLC
ตัวใหม่บวกกับทางแพลตฟอร์มทางการยังขึ้นแนะนำเกมในเครือเถิงต๋าไว้หน้าแรก
จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่รายได้จะไม่เพิ่ม
เผยเชียนรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยเมื่อเห็นแถบตัวเลขพุ่งขึ้นเรื่อยๆ แต่พอดู
อย่างละเอียดอีกทีก็พบว่ารายได้ส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นมายังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้
…แต่ก็มีอยู่จุดหนึ่งที่ดูจะเพิ่มเยอะกว่าชาวบ้านเขาแปลกๆ
เกมฐานทัพกลางทะเล!
เผยเชียนสังเกตเห็นได้ทันทีว่ารายได้ของเกมนี้สูงกว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้
มาก!
ถึงจะพิจารณาจากการที่แพลตฟอร์มขึ้นแนะนำให้ อัตราส่วนแบ่งที่เปลี่ยนไป
และความนิยมของเกมหลังปล่อย DLC ก็ยังถือว่าเป็นยอดที่สูงมากอยู่ดี!
เผยเชียนเริ่มว้าวุ่นและไม่สบายใจเล็กน้อย
มีเรื่องใหญ่แบบนี้เกิดขึ้น
ทำไมไม่มีใครมารายงานเลยสักคน!
ลู่หมิงเหลียงกับเปาซวี่คิดอะไรกันอยู่ เห็นยอดขนาดนี้แต่กลับไม่รีบแจ้นมา
รายงานเนี่ยนะ รออะไรกันอยู่วะ
โชคดีที่ฉันเข้าออฟฟิศมาเช็กดูสถานการณ์ ไม่อย่างนั้นคงโดนเล่นแน่!
เผยเชียนค่อนข้างโกรธ แต่ก็ดีใจที่เจอเข้าก่อน
โชคดีที่ไหวตัวทันก่อนจะสายเกินไป ยังพอหาทางกอบกู้สถานการณ์ได้อยู่!
ปัญหาหลักคือการหาต้นตอว่าทำไมเกมถึงมีรายได้เพิ่มขึ้นขนาดนี้
ถ้ารายได้ที่เพิ่มขึ้นเกิดจากความบังเอิญและไม่น่าจะเป็นอย่างนี้นานนัก เผย
เชียนก็จะไม่ใส่ใจอะไรมาก เขาสามารถผลาญเงินกับตรงอื่นเพิ่มได้
แต่ถ้าเป็นปัจจัยที่จะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นในระยะยาวและมีโอกาสจะพุ่ งสูงขึ้น
ไปอีก เผยเชียนก็ต้องใส่ใจกับเรื่องนี้และหาทางจัดการอย่างเด็ดขาด
ชายหนุ่มเข้าเว็บบอร์ดเกมฐานทัพกลางทะเลเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมจากกระทู้
พูดคุยกันล่าสุด
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าหลี่เจิงเหว่ยจะกลายเป็นคนทรยศและร่วมก่อกบฏกับเขา
ด้วย เฮ้อ! หรือว่ายิ่งเวลาผ่านไป เกม Counter Strike ก็ยิ่งน่าเบื่อมากขึ้น”
“ฉันว่านายคิดเยอะเกินไป พี่หลี่อาจจะแค่รับสปอนเซอร์มาก็ได้”
“พี่หลี่บอกในกลุ่มแฟนคลับว่าพี่เขาไม่ได้รับสปอนเซอร์ หลักๆ คือเพราะสาร
คดีของเฟยหวงสตูดิโอทำออกมาได้ดีมาก พี่เขาเลยอยากใช้ชื่อเสียงช่วยโฆษณา
เกมให้เถิงต๋าเป็นการตอบแทน”
“ผมว่าไม่เห็นจะมีปัญหาตรงไหนเลย เกมฐานทัพกลางทะเลเป็นเกมผลิตใน
ประเทศที่เป็นมิตรกับผู้เล่นมาก พี่เขาช่วยโฆษณาแหละดีแล้ว”
“ฉันเริ่มเล่นเพราะพี่หลี่โฆษณา เกมนี้ดีจริงๆ”
“ถ้าว่ากันเรื่องการแข่งขันกับเรื่องการควบคุม เกม Counter Strike ทำ
ออกมาได้ดีจริงๆ แต่ยังไงก็เป็นเกมเก่า ระบบเล่นออนไลน์ทำได้แย่มาก รูปแบบ
การเล่นก็ไม่ค่อยหลากหลาย พอเปลี่ยนมาเล่นเกมฐานทัพกลางทะเลก็พบว่า
ระบบเล่นออนไลน์ทำได้ดีจริงๆ ขอบคุณพี่หลี่ที่แนะนำเกมนี้ให้!”

เผยเชียนเอามือก่ายหน้าผาก เขาพูดอะไรไม่ออก
จะกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ยังไง!
สารคดีจากดักแด้สู่ผีเสื้อของเฟยหวงสตูดิโอยังทำกำไรให้ไม่ได้สักหยวน การ
ที่มันจะทำกำไรให้ได้ถือเป็นเรื่องยาก ขนาดหวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อยังล้มเลิก
ความตั้งใจแล้วหันไปเตรียมตัวทำคลิปใหม่แล้วเลย
ดังนั้นเผยเชียนเลยไม่ได้สนใจว่าสารคดีเรื่องนี้จะสร้างผลกระทบอะไรให้
ไม่ได้คิดสักนิดว่าเกมฐานทัพกลางทะเลจะได้รับผลกระทบจากสารคดีเรื่องนี้!
เอาเข้าจริงแม้แต่ทางเฟยหวงสตูโอเองก็ไม่น่าจะคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้
ตอนนี้เกม FPS เป็นแนวเกมที่กำลังได้รับความนิยมในแวดวงเกม ทุกคน
รู้จักหลี่เจิงเหว่ยในนาม ‘เกมเมอร์สาย FPS อันดับหนึ่งของประเทศ’ เขาจึงมี
อิทธิพลมากทีเดียวในหมู่แฟนๆ เส้นทางการไต่เต้าไปเป็นนักเล่นเกมมืออาชีพของ
เขาเต็มไปด้วยขวากหนาม จึงมีเรื่องราวมากมายให้ถ่ายทำ
เป็นเหตุให้เฟยหวงสตูดิโอเลือกชีวิตของเขามาถ่ายทำสารคดี
หลังถ่ายสารคดีเสร็จ หลี่เจิงเหว่ยรู้สึกขอบคุณเฟยหวงสตูดิโอมาก เพราะตัว
สารคดีสร้างกระแสด้านบวกให้สังคม ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของหลี่เจิงเหว่ย
รวมถึงช่วยทำให้เส้นทางสายอาชีพของเขาเป็นไปในทิศทางบวก
ระหว่างการถ่ายทำ หลี่เจิงเหว่ยได้คุยเล่นกับหวงซื่อปั๋วแล้วพบว่าอีกฝ่ายเป็น
หัวหน้าฝ่ายวางแผนของเกมฐานทัพกลางทะเล
ดังนั้นหลังจากถ่ายทำสารคดีเสร็จ หลี่เจิงเหว่ยจึงช่วยโฆษณาเกมฐานทัพ
กลางทะเลเต็มที่!
เผยเชียนไม่ได้ใส่ใจกลุ่มเกมเมอร์สาย FPS เลยไม่รู้ว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
หลี่เจิงเหว่ยมีอิทธิพลในหมู่ผู้เล่นเกม Counter Strike มาก พอเขาออกมา
โฆษณาเกมฐานทัพกลางทะเล ผู้เล่นกลุ่มใหญ่ก็แห่แหนไปลองเล่นทันที!
เรื่องนี้ทำให้ผู้เล่นเกม Counter Strike หลายคนตัดสินใจย้ายเกม กลายเป็น
กระแสต่อกันไปเป็นทอดๆ
เพราะแพลตฟอร์มเกมช่วยขึ้นแนะนำเกมให้ บวกกับยอดขายอาวุธในตำนาน
ที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำให้เผยเชียนไม่ได้มองว่ารายได้ของเกมดูแปลกอะไร
เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยจนถึงปัจจุบัน
เผยเชียนเอามือก่ายหน้าผาก “…ฉิบหาย”
ถึงจะพบต้นตอของปัญหา แต่ชายหนุ่มก็ทำอะไรไม่ได้
เพราะมัน…สายไปแล้ว!
ถึงหลี่เจิงเหว่ยจะมีอิทธิพลในหมู่เกมเมอร์สาย FPS แต่การช่วยโฆษณาของ
เขาอย่างมากก็สร้างกระแสให้กับเกมได้พักหนึ่ง
ตอนนี้ผ่านมาได้สักพัก กระแสเกมฐานทัพกลางทะเลค่อยๆ หายไป ผู้เล่น
ส่วนใหญ่แห่แหนมาเล่นเกมกันหมดแล้ว เขาจะไปทำอะไรได้
“มีเรื่องให้จัดการเยอะเกินไป ต้องตามล้างตามเช็ดกันไม่หยุดหย่อน…
“ใจเย็น
“ถ้ามองอีกมุมก็ไม่ได้ถือเป็นเรื่องแย่
“ครั้งนี้แค่เรื่องบังเอิญ เดี๋ยวกระแสที่หลี่เจิงเหว่ยสร้างให้ก็หายไปเอง
“ขอแค่เรื่องนี้ไม่ส่งผลต่อรายได้ของเกมฐานทัพกลางทะเลในระยะยาวก็พอ
“เฮ้อ… ถือว่าจบเรื่องไปแล้ว อย่างน้อยตอนนี้ก็วางใจไปได้ก่อน”
ในเวลาแค่หนึ่งชั่วโมง เผยเชียนอารมณ์เหวี่ยงไปมาไม่หยุดหย่อน แต่โชคดีที่
ยังไม่เกิดเรื่องแย่อะไร
ตามการคำนวณของเผยเชียน น่าจะมีผู้เล่นใหม่ทยอยเข้ามาเล่นเกมเพิ่มไป
อีกสักสองสามวัน ถ้าเขาเพิ่มรายจ่ายกับสวัสดิการพนักงานขึ้น อีกก็ไม่น่าจะส่งผล
กับการสรุปบัญชี
หลังจากตรวจสอบย้ำดูให้มั่นใจว่ารายได้ของเกมอื่นๆ อยู่ในสภาวะปกติ มีแค่
เกมฐานทัพกลางทะเลที่รายได้เพิ่มขึ้นเกินหน้าเกินตาชาวบ้าน เผยเชียนก็โล่งใจ
ขึ้นมาได้นิดหน่อย ก่อนจะเตรียมตัวกลับออกไป
ในโซนทำงาน ลู่หมิงเหลียงกับเปาซวี่หันมาสบตากัน
“บอสเผยกำลังจะออกจากห้องทำงาน เราเข้าไปรายงานบอสมั้ย”
“ผมว่าไม่จำเป็น”
“…แต่ผมว่ารายงานไว้ก่อนดีกว่า”
ถึงเปาซวี่จะบอกว่าไม่จำเป็น แต่ลู่หมิงเหลียงคิดว่าพวกเขาควรรายงานเรื่องนี้
ให้บอสเผยรู้ จึงลุกขึ้นยืน
“บอสเผย เรามีเรื่องรายงานครับ ตอนนี้ยอดผู้เล่นและยอดการเติมเงินเกม
ฐานทัพกลางทะเลพุ่งขึ้นสูงมาก ส่วน…”
เผยเชียนยิ้มให้พร้อมพยักหน้า “ผมรู้เรื่องนี้แล้ว”
“อ้อ โอเคครับบอสเผย”
ลู่หมิงเหลียงนั่งลงเงียบๆ พลางคิดว่าการกระทำของเขานั้นไม่จำเป็นจริงๆ
เสียด้วย
บอสเผยจะพลาดข้อมูลง่ายๆ นี้ไปได้ยังไง เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เขาคิดเยอะไป
จริงๆ
ก่อนเผยเชียนจะกลับออกไป เขาหันมองลู่หมิงเหลียงพร้อมพยักหน้าเล็กน้อย
ดีมาก!
ตัดสินใจถูกจริงๆ ที่เลือกนายมาเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน วางใจได้กว่าหวงซื่อ
ปั๋วกับเปาซวี่อีก!
ถึงจะมารายงานช้าไปหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ควรค่าแก่การยกย่อง
ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวางแผนของนายไม่หลุดลอยไปไหนแน่!
บทที่ 180 บอสเผย รีบเปิดทีวีเลยครับ

วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน ช่วงกลางคืน


ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
หลี่สือนั่งดื่มอย่างเบิกบานใจอยู่ตรงที่นั่งริมหน้าต่าง
เผยเชียนกำลังนั่งเล่นมือถืออยู่อีกมุมหนึ่ง
ถึงจะรู้จักอีกฝ่าย แต่ทั้งสองต่างมีอะไรอยู่ในใจจึงแสร้งทำเป็นจำอีกฝ่ายไม่ได้
เผยเชียนไม่คิดทำอะไรบุ่มบ่าม ขอแค่เขาแสดงตบตาหลี่สือต่อไปได้เรื่อยๆ
ทุกอย่างก็จะราบรื่น
หลายวันที่ผ่านมา ร้านในละแวกเดียวกันจัดโปรโมชันลดราคาอย่างต่อเนื่อง
ทำให้ถนนที่ตั้งร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมีคนพลุกพล่านมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ปกติย่านการค้าเล็กๆ ที่อยู่ในละแวกเดียวกันจะไม่ค่อยมีคน แต่ช่วงนี้กลับมี
รถสัญจรไปมาขวักไขว่
หลายคนได้ยินว่าร้านค้าแถวนี้จัดโปรโมชันยกใหญ่จึงแห่แหนกันมา บางส่ว น
ไม่ได้อยากออกจากบ้านด้วยซ้ำแต่ก็แวะมาด้วย
เพราะเหตุนี้บรรยากาศในละแวกนี้จึงคึกคักขึ้น ร้านค้าต่างๆ มีลูกค้าแน่นร้าน
คนเดินสัญจรไปมาหนาตา แต่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกลับร้างผู้คน แตกต่างจาก
ร้านอื่นๆ ราวฟ้ากับเหว
มีหลายคนคิดว่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเองก็จัดโปรโมชันเหมือนกัน แต่พอเข้า
ร้านไปแล้วพบว่าราคาสูงกว่าร้านอื่นหลายเท่าก็รีบหนีออกไปกันหมด
เผยเชียนงงเล็กน้อย ฉันก็ติดราคาไว้ตรงประตูแล้วนี่ ทำไมมีคนเดินเข้ามา
ถามราคาเยอะแยะขนาดนี้
หลังจากคิดเรื่องนี้อยู่สักพักก็พอจะเดาได้ว่าคนพวกนี้น่าจะเหมารวมกันไป
เอง พอเห็ น ว่ า ร้ า นข้ า งๆ จั ด โปรโมชั น กั น หมด เลยคิ ด กั น เอาเองว่ า ร้ า น
อินเทอร์เน็ตโมหยูน่าจะลืมติดโฆษณาโปรโมชันร้านตัวเองจึงเดินเข้ามาถามดู
เผยเชียนบอกให้หม่าหยางไปติดป้ายหน้าร้านตัวโตๆ ว่า ‘ไม่มีส่วนลด!’
หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเดินเข้ามาถามราคาอีก
สถานการณ์ของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูตอนนี้คือ ‘คนอื่นสนุกกันหมด ส่วนฉัน
นั่งเหงา’
ซึ่งก็เป็นความตั้งใจของเผยเชียน
หลังจากมั่นใจแล้วว่าเกมในเครือเถิงต๋าน่าจะไม่มีปัญหาอะไรอีก เผยเชียนก็
เลือกมาที่ร้านเวลาไม่มีอะไรให้ทำ
ทุกครั้งที่บังเอิญเจอหลี่สือ เผยเชียนจะแสร้งทำเหมือนว่ากำลังสับสนและ
กังวลใจมาก
ขอแค่ล่อหลี่สือให้จัดโปรโมชันกับร้านต่างๆ ต่อไป ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก็จะ
ไม่มีลูกค้าเข้า ทำให้เขามีโอกาสขาดทุนในรอบบัญชีนี้สูงขึ้น!

หลี่สือนั่งจิบเครื่องดื่มไปพร้อมๆ กับแอบสังเกตท่าทีของเผยเชียนอยู่เงียบๆ
ช่วงก่อนหน้านี้เผยเชียนไม่ได้มาที่ร้านบ่อยนัก เขาจึงไม่มีโอกาสได้สังเกตอีก
ฝ่าย
ตอนนี้หลี่สือจึงจดจ่ออยู่กับการเฝ้ามองเผยเชียน
“ได้เป็นบอสทั้งๆ ที่ยังเด็กอยู่แสดงว่าไม่ใช่คนธรรมดา
“ถึงจะเห็นได้ชัดว่าในใจนึกกังวลอยู่ แต่ก็ยังนิ่งและสุขุม เผยให้เห็นอารมณ์ที่
แท้จริงแค่เสี้ยวเดียว สามารถจัดการกับอารมณ์ได้ขนาดนี้ถือว่ายอดเยี่ยมและ
เหนือชั้นกว่าคนทั่วไป
“ไม่เลวเลย ยิ่งทำให้ฉันอยากลงทุนด้วยไปอีก”
ความคิดของหลี่สือเปลี่ยนไปเล็กน้อย
หลักๆ แล้วการลงทุนสำหรับเขาคือการลงทุนในผู้คน
ไม่ว่าจะบริษัทไหนก็ต้องได้เจอโอกาสการลงทุนหมด
เมื่อมีโอกาสนั้นลอยเข้ามาหา บริษัทส่วนใหญ่มักจะล้มหายตายจาก มีน้อย
มากที่เหลือรอดไปได้
กุญแจหลักคือเจ้าของบริษัท
หลี่สือมีเงินมากมายในมือ แต่การมีเงินไม่ได้หมายความว่าเขาต้องลงมือทำ
เอง
เขาไม่เก่งเรื่องดูแลบริหารร้านอินเทอร์เน็ต ถึงจะช่วยเรื่องเงินทุนและเส้นสาย
ได้ แต่การบริหารจัดการต่างๆ ภายในร้านก็ต้องยกให้คนที่เชี่ยวชาญด้านนี้ดูแล
หลี่สือตระหนักเรื่องนี้ดี นอกจากจะชอบโมเดลธุรกิจของร้านอินเทอร์เน็ตโม
หยูแล้ว เขายังมั่นใจในตัวเผยเชียนในฐานะผู้นำอีกด้วย
ดังนั้นเขาจึงรู้สึกอยากลงทุนกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู มาก ไม่คิดทำธุรกิจ
ลอกเลียนแบบขึ้นมา
การจะลอกธุรกิจร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูนั้นต้องลงทุน ลงแรง ลงเงิน แถมยัง
ต้องหาผู้จัดการอีก เป็นอะไรที่ไม่คุ้มค่าใช้จ่าย
สำหรับนักลงทุนอย่างหลี่สือ เขาไม่มีทางถกแขนเสื้อลงไปลุยงานเองแน่นอน
อีกอย่างเขายังมั่นใจด้วยว่าตนเองได้ชัยชนะมาไว้ในกำมือแล้ว
หลี่สือยกเครื่องดื่มขึ้นจิบ
“ทำไมถึงรู้สึกไม่สบายใจแบบนี้นะ
“ฉันมองข้ามอะไรไปรึเปล่า”
หลี่สือครุ่นคิดยกใหญ่ เขายังมีบางเรื่องที่ติดค้างอยู่ในใจ
“ว่ากันตามตรง บอสเผยประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังเด็ก น่าจะเป็นคนมาก
ความสามารถ
“แต่ทำไมเขาถึงไม่ได้นึกสงสัยในตัวฉันเลย ไม่เห็นแสดงท่าทีอะไรเลยสักนิด
“ดูไม่สมเหตุสมผลเลย
“บอสเผยไม่ได้หาทางจัดการเรื่องโดนร้านอื่นแย่งลูกค้า ไม่ได้สั่งให้ร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูปรับเปลี่ยนอะไร
“ไม่ลดราคา ไม่จัดโปรโมชัน แถมยังขึ้นป้ายว่า ‘ไม่มีส่วนลด’ ตรงหน้าประตู
เพื่อกันไม่ให้ลูกค้าเข้ามาถามเรื่องราคาอีก
“เขามั่นใจในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมากเกินไปรึเปล่า
“หรือจะยอมแพ้ไปแล้ว
“ไม่ก็…มีแผนอะไรบางอย่างซ่อนอยู่”
หลี่สือคิดอยู่ครู่ใหญ่ ในที่สุดก็ส่ายหน้า
“เฮ้อ ฉันคงคิดเยอะไป สถานการณ์แบบนี้เป็นใครก็คงทำอะไรไม่ถูก
“จะลดราคาก็ไม่ได้เพราะจะกระทบกับภาพลักษณ์ของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
และส่งผลในระยะยาว สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกสุดๆ
“หรือว่าเขาจะตั้งใจให้เป็นแบบนี้
“ไม่ๆๆ ไม่เห็นจะสมเหตุสมผลตรงไหนเลย
“ถึงร้านอื่นจะขาดทุนกัน แต่อย่างน้อยก็ยังได้สร้างชื่อ แต่ร้านอินเทอร์เน็ตโม
หยูมีแต่ขาดทุนอย่างเดียว
“เว้นแต่ว่าเขาจะมีแผนการอะไรที่ฉันหยั่งไม่ถึง…
“ช่างเถอะ ฉันคงคิดมากไปเอง อีกฝ่ายก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่งจะไปทำอะไรได้”
คิดได้อย่างนั้น หลี่สือก็หัวเราะออกมา
เนื่องจากเผยเชียนไม่ได้ทำอะไรตามหลักเหตุผล หลี่สือจึงเดาทางไม่ออกและ
ประเมินอีกฝ่ายสูงเกินไป
หลี่สือคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาเข้าวงการลงทุนมานานหลายปีแล้ว มีอะไรบ้างที่ยัง
ไม่เคยเห็นอีก
ถึงบอสเผยจะเป็นอัจฉริยะ แต่ก็ยังขาดประสบการณ์อีกมากโข ไม่เห็นจะต้อง
ประเมินอีกฝ่ายสูงขนาดนั้นเลย
พอดื่มเครื่องดื่มหมดแก้ว หลี่สือก็พร้อมกลับออกจากร้าน
ตอนนี้คือคืนวันอาทิตย์ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูร้างผู้คนเหมือนอย่างเคย
ผลลัพธ์ก็เห็นๆ กันอยู่ ไม่จำเป็นต้องจับตาดูอีกต่อไป
เดี๋ยวไปพักผ่อนรอสักสองสามวัน ไม่แน่อาจจะได้เปิดแชมเปญฉลองเร็วๆ นี้ ก็
ได้
ตอนนั้นเองโทรศัพท์เผยเชียนก็ดังขึ้น
หลี่สือที่กำลังจะลุกยืนชะงักไป
ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าคงไม่ได้ยินรหัสลับอะไรจากบทสนทนานี้ แต่แอบฟังไว้ก็ไม่
เสียหาย
เผยเชียนเองก็แปลกใจเล็กน้อย ดึกขนาดนี้ใครกันนะที่โทรมา
เขาหยิบมือถือขึ้นมาดูแล้วพบว่าเป็นหวงซื่อปั๋ว
พอนึกถึงสารคดีจากดักแด้สู่ผีเสื้อของหวงซื่อปั๋ว เขาก็อดปวดใจขึ้นมาไม่ได้
เผยเชียนอยากจะกดตัดสาย แต่พอลองคิดๆ ดู หวงซื่อปั๋วทำให้บริษัทขาดทุนได้
สำเร็จแถมยังพ่วงหนี้มาให้ด้วย ถือว่ารอบนี้ทำได้ดีทีเดียว
ชายหนุ่มกดรับสาย
“บอสเผย!
“มีทีวีอยู่ใกล้ๆ มั้ยครับ บอสรีบเปิดไปช่องเซี่ยงไฮ้ทีวีด่วนเลย!”
เผยเชียนงง “ทำไมเหรอ”
หวงซื่อปั๋ว “ไม่ต้องถามดีกว่าครับ พอเปิดไปช่องเซี่ยงไฮ้ทีวีบอสก็จะรู้เอง! ผม
ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าไว้ก่อนเลยครับ!”
บทที่ 181 บอสหลี่ อย่าเพิ่งไป! เข้าใจผิดแล้ว!

มือของเผยเชียนข้างที่ถือโทรศัพท์อยู่สั่นระริก
หมายความว่ายังไงกันที่บอกว่า ‘ยินดีด้วย’!
เผยเชียนเก็บมือถือแล้วรีบเดินขึ้นไปชั้นสอง
บนชั้นสองมีโรงหนังส่วนตัวขนาดย่อมอยู่ หลายคนมักจะขึ้นมาดูซีรีส์ตรงนี้
หลี่สือเองก็กังวลใจไปด้วย
เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันนะ
ดูจากสีหน้าและท่าทางของเผยเชียน หลี่สือเดาว่าสายเมื่อครู่น่าจะเป็นเรื่อง
จริงจังมากๆ
หลังจากเผยเชียนเดินขึ้นไปด้านบนได้ห้านาที หลี่สือก็ลุกจากที่นั่งแล้วทำ
เป็นไปเดินเตร็ดเตร่เล่นบนชั้นสอง
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมีทั้งหมดสองชั้น มีโซนคาเฟ่และโซนอินเทอร์เน็ตทั้ง
สองชั้น บนชั้นสองมีลูกค้าอยู่สองสามคน จึงไม่มีใครสนใจอะไรมากที่หลี่สือเดิน
ขึ้นมา
โรงหนังส่วนตัวมีไว้ฉายหนัง แต่ตอนนี้ไม่มีใครใช้งานอยู่ เผยเชียนจึงกด
เปลี่ยนไปช่องเซี่ยงไฮ้ทีวี
พอภาพปรากฏขึ้น เผยเชียนก็ตะลึงงันไป
บนจอขนาดใหญ่ฉายภาพเฉินเหล่ยอยู่!
เขายืนอยู่หน้าไมโครโฟน กำลังดีดกีตาร์และร้องเพลงอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ
“ในคืนอันเงียบงัน ฉันเดินไปตามทาง
“ใต้แสงสลัว เธอรอฉันอยู่
“ในเมืองอันแสนวุ่นวาย มีแค่เธอที่เข้าใจความทุกข์ของฉัน
“ไม่ว่าจะห่างไกลกันสักเท่าไร ฉันไม่มีทางลืมเธอและเครื่องดื่มเมาใจ…”
เสียงดนตรีแสนซาบซึ้งกินใจ พอผสานเข้ากับเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของเฉิน
เหล่ยก็ยิ่งส่งให้บทเพลงสื่อความหมายได้ชัดเจนขึ้นไปอีก
เพลงช้าเพลงนี้ฟังแล้ว สื่อถึงชีวิตและความเป็นมนุษย์ แต่ก็แฝงไปด้วยกลิ่น
อายความเศร้าสร้อย เป็นบทเพลงที่เมื่อได้ฟังแล้วจะไม่มีวันลืม
ตืด!
เมนเทอร์คนหนึ่งกดปุ่มตรงหน้า
ตืด!
ตืด! ตืด!
เฉินเหล่ยเพิ่งจะร้องไปได้แค่ไม่กี่ประโยค แต่พอเข้าท่อนฮุค เมนเทอร์ทุกคนก็
กดหันมากันหมด!
เผยเชียนเพ่งมองชื่อรายการ
The Voice of China!
เผยเชียน “???”
ชายหนุ่มตะลึงงันไประหว่างดูรายการที่กำลังฉายอยู่บนจอใหญ่ เขาเริ่มนึก
คลางแคลงใจความทรงจำของตัวเอง
นี่มันเรื่องอะไรกัน
ถ้าจำไม่ผิด The Voice of China เริ่มฉายปี 2012 นี่ แล้วก็ไม่ได้ฉายทาง
ช่องเซี่ยงไฮ้ทีวีด้วย
หรือจะเกิดเรื่องบ้าแบบเว็บอ้ายลี่เต่าขึ้นอีก
เผยเชียนเข้าใจทันที ไม่แปลกเลยที่หวงซื่อปั๋วจะโทรมา!
หวงซื่อปั๋วรู้ว่าเฉินเหล่ยเป็นนักร้องที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูปั้นมา แถมบอส
เผยยังสั่งให้ดูแลอีกฝ่ายเป็นอย่างดี จึงชัดเจนมากว่าความสัมพันธ์ของพวกเขานั้น
ไม่ธรรมดา
ตอนนี้เฉินเหล่ยกำลังออกรายการระดับชาติ หวงซื่อปั๋วต้องโทรมาแจ้งเผย
เชียนอยู่แล้ว

หลี่สือนั่งลงตรงมุมหนึ่งของชั้นสอง เขาแสร้งทำเป็นมองออกไปดูวิวนอก
หน้าต่าง แต่จริงๆ แล้วกำลังจดจ่ออยู่กับจอ
พอเห็นเฉินเหล่ย เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ตกใจไปเองแฮะ สงสัยจะคิดมากไป
“เฉินเหล่ยเคยเป็นนักร้องประจำที่นี่ สนิทกับคนในร้านมาก จึงไม่แปลกอะไร
ที่บอสเผยจะรีบขึ้นมาเปิดรายการดูเพื่อให้กำลังใจในฐานะเพื่อน
“เดี๋ยวนะ…
“เรื่องมันแปลกๆ!”
จู่ๆ หลี่สือก็ตระหนักถึงปัญหาร้ายแรงขึ้นได้ เขาใจเย็นไม่ได้อีกต่อไปแล้ว!

เฉินเหล่ยร้องเพลงจบไปแล้ว แต่เสียงโห่เชียร์และเสียงปรบมือยังดังกึกก้อง
อยู่
“สวัสดีครับเมนเทอร์ทุกคน ผมเฉินเหล่ยมาจากจิงโจว”
หลังจากถามคำถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวคร่าวๆ กับเฉินเหล่ยเสร็จ เมนเทอร์
คนหนึ่งก็เข้าประเด็นทันที “เห็นว่าเพลงชื่อว่ารอคอยเป็นเพลงรัก
“พอได้ฟังคุณร้องเมื่อกี้ ดิฉันอยากบอกเลยว่าเนื้อเพลงแต่งมาได้ดีจริงๆ! เป็น
เนื้อเพลงที่แต่งออกมาจากเรื่องราวของตัวเอง
“ในคืนอันเงียบงัน มีแค่เธอที่เข้าใจความทุกข์ของฉัน ไม่ว่าจะห่างไกลกันสัก
เท่าไร ฉันไม่มีทางลืมเธอ เครื่องดื่มเมาใจ…
“เพลงนี้แต่งให้แฟนรึเปล่าคะ เธอกำลังรอคุณอยู่ที่ไหนสักแห่งใช่มั้ย”
เฉินเหล่ยยิ้มอย่างขวยเขิน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คุ้นชินกับการแสดงต่อหน้าคน
เยอะๆ จึงรู้สึกประหม่ามาก
“เปล่าครับ
“ผมแต่งเนื้อเพลงนี้ให้กับสถานที่แห่งหนึ่ง เป็ นร้านอินเทอร์เน็ตที่ทำให้ผม
รู้สึกเหมือนบ้าน
“จริงๆ แล้วผมเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง พอเรียนจบมัธยมก็หา
งานไม่ได้เลย แล้ววันหนึ่งบังเอิญเดินผ่านร้านอินเทอร์เน็ตแห่งหนึ่งเข้า…”
หลี่สือที่นั่งอยู่มุมหนึ่งของชั้นสองมือสั่นระริก
เขาเหลือบมองเผยเชียนที่ กำลังจดจ่ออยู่กับจอขนาดใหญ่ตรงหน้า แผ่นหลัง
ของอีกฝ่ายทำให้หลี่สือรู้สึกเหมือนมีภูเขาขนาดยักษ์กดทับตัวเองอยู่!
“หรือว่า…เขาตั้งใจจะให้ฉันรู้เรื่องนี้”
หลี่สือรู้สึกชาไปถึงขั้วหัวใจ
บนหน้าจอ เฉินเหล่ยกำลังเล่าเรื่องราวของเขาและร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูอยู่
“หลังจากนั้นพอได้แรงสนับสนุนจากบอสเผย ผมก็มีความกล้าที่จะออกมาไล่
ตามความฝันที่เซี่ยงไฮ้
“ได้ยินมาว่าหลังจากผมออกมา ร้านก็เสียรายได้ไปเยอะมาก แต่บอสเผยกลับ
ไม่ติดต่อผมมาเลย บอสน่าจะไม่อยากให้ข่าวร้ ายเรื่องนี้กระทบการเดินตามความ
ฝันของผม
“ผมเลยแต่งเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นการระลึกถึงช่วงเวลาที่ไม่มีทางลืมได้ลงใน
ชีวิตนี้
“ผมอยากขอบคุณบอสเผย บอสหม่า และทุกคนในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
สำหรับโอกาสในการมายืนบนเวที The Voice of China ในวันนี้
“ขอบคุ ณ ทุ ก คนที ่ ใ ห้ โ อกาสผมเดิ น ตามความฝั น สำหรั บ ผมแล้ ว ร้ า น
อินเทอร์เน็ตโมหยูจะเป็นบ้านของผมเสมอ”
เหล่าเมนเทอร์ปรบมือขึ้นพร้อมกัน
“สุดยอดมากๆ เลยค่ะ นึกว่าจะเป็นเรื่องรัก ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเรื่องราว
เกี่ยวกับการไล่ตามความฝัน”
“พูดได้ดีมากครับ กินใจผมมากๆ ทำให้ผมนึกถึงช่วงเวลาที่เ ลวร้ายที่สุดใน
ชีวิต ก็มีสิ่งเล็กๆ ที่คล้ายกันนี้แหละที่ช่วยปลอบประโลมผม…”
“ไม่ต้องห่วงนะเฉินเหล่ย บอกเลยว่าตอนนี้คุณดังแล้ว! มาเข้าทีมผมสิ ปีหน้า
ผมมีทัวร์คอนเสิร์ตมากกว่ายี่สิบแห่งทั่วประเทศ”
“เดี๋ยวๆๆ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาแย่งตัวเขานะ อดใจกันหน่อยครับ! เฉินเหล่ย
ตอนนี้เมนเทอร์หันมาพร้อมกันสี่คน คุณได้ผ่านเข้ารอบต่อไป คุณวางแผนไว้ว่า
ยังไงครับ”
เฉินเหล่ยตอบออกไปโดยไม่ลังเลใจ “ผมอยากกลับไปจิงโจวเพื่อไปร้องเพลง
ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสักหน่อย
“ผมอยากไปบอกพวกเขาถึงที่ว่าผมคิดถึงพวกเขาแค่ไหน”
รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าเฉินเหล่ย
ปี๊บ! เผยเชียนกดปิด
ทันทีที่หน้าจอดับไป หลี่สือก็รู้สึกหนักอึ้งในใจ เหมือนกับว่าหัวใจเขาร่วงหล่น
ลงพื้นแล้วแตกเป็นเสี่ยงๆ
ท่ามกลางความมืด แผ่นหลังของเผยเชียนดูเหมือนอสุรกายน่าสะพรึงกลัวที่
พร้อมจะเขมือบเขาได้ทุกเมื่อ!
ทุกการเคลื่อนไหวของเผยเชียนเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในสายตาของหลี่สือ!
ถึงบอสเผยจะไม่ได้หันหลังกลับมา แต่หลี่สือก็พอจะเดาได้ว่าใบหน้าอีกฝ่าย
น่าจะเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ ราวกับจะสื่อว่า “ตัดสินผู้แพ้ผู้ชนะไปแล้ว ต้องดู
อะไรต่อด้วยเหรอ”
ใช่ หลี่สือไม่จำเป็นต้องดูต่อจนจบรายการ
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเผยเชียนไม่ได้ขึ้นมาดูเฉินเหล่ยร้องเพลง ทั้งหมดนี้คือการ
แสดงที่จัดขึ้นมาเพื่อตัวเขาเองโดยเฉพาะ!
ไม่ต้องพูดถึงเลยว่า The Voice of China ดังแค่ไหน เดี๋ยวเพลง ‘รอคอย’
ของเฉินเหล่ยต้องดังว่อนไปทั่วอินเทอร์เน็ตแน่
นอกจากนี้ เรื่องราวระหว่างเฉินเหล่ยกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูที่เล่าตอน
สุดท้ายก็น่าจะเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นมาเหมือนกัน!
เฉินเหล่ยบอกว่าจะกลับมาจิงโจวเพื่อร้องเพลงที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสัก
หน่อย ถึงจะโง่แค่ไหนก็ต้องเดาได้ว่าจะเกิดอะไรต่อไป
หลี่สือลุกยืนอย่างทุลักทุเล ก่อนจะเดินตรงไปหาเผยเชียน ในใจของเขาเต็ม
ไปด้วยความขมขื่น
เขาคิดว่าเผยเชียนแพ้หมดท่าแล้วและกำลังรอให้ถึงเวลาที่อีกฝ่ายจะยอมรับ
ความพ่ายแพ้ของตัวเองอยู่ แต่ตอนนี้หลี่สือรู้แล้วว่าตัวเองคิดผิดไป
“บอสเผยครับ ผมยกย่องคุณมาก
“แผนการของคุณลึกล้ำนัก คุณไม่ได้ทำอะไรมากมายเลย แต่พอคุณลงมือ สิ่ง
ที่คุณทำกลับเหนือความคาดหมายของผมไปอีก
“ผมไม่คิดเลยว่าผลจะออกมาแบบนี้ ผมประเมินคุณต่ำไปจริงๆ
“ครั้งนี้คุณชนะ ผมหวังว่าเราจะมีโอกาสได้ร่วมงานกันอีกในอนาคต”
หลี่สือส่ายหน้า ก่อนจะหันหลังเดินลงบันไดไป
ทุกอย่างพังทลายไปหมดแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะทำตัวหลบๆ ซ่อนๆ
อีก ตั้งแต่นี้ไปเขาคงหาโอกาสลงทุนกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไม่ได้แล้ว
แน่นอนว่าการทำธุรกิจก็เหมือนการสู้รบ เป็นเรื่องปกติที่จะมีผู้ชนะและผู้แพ้
หลี่สือเป็นนักธุรกิจมากประสบการณ์ เขาไม่ใช่พวกขี้แพ้ชวนตี ไม่มีเหตุผล
อะไรให้ต้องคร่ำครวญ จริงๆ แล้วเขากลับรู้สึกเคารพยกย่องเผยเชียนมากขึ้นไป
อีก ชายผู้นี้คือคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อสำหรับเขา
เผยเชียนยังคงตกตะลึงและปวดใจสุดๆ ตอนที่รวบรวมสติได้ หลี่สือก็ออก
จากร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไปแล้ว
ชายหนุ่มตะลึงงันไป
ฉิบหาย อย่าเพิ่งไป!
เข้าใจผิด! คุณเข้าใจผิดแล้ว!
บทที่ 182 เป็นแบบนี้ได้ยังไง

ตรงหน้าของเขา จอยังมืดดำอยู่
หลี่สือเดินจากไปไกลแล้ว
เผยเชียนรู้สึกเหมือนโดนโลกนี้ทอดทิ้ง
ใครๆ ก็รู้ว่าจะเกิดอะไรต่อไป
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจะดังเป็นพลุแตก!
รายการทีวีแบบนี้มีอิทธิพลสุดๆ ก็เหมือนเวลารายการอาหารแนะนำอะไร
อร่อยๆ ไม่นานก็จะมีร้านสาขาเปิดขายทั่วทั้งประเทศ
แน่นอนว่ามันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เพราะโมเดลธุรกิจของร้านอินเทอร์เน็ตโม
หยูแตกต่างจากร้านอาหาร
ร้านอาหารจะไปเปิดที่ไหนก็ขายอาหารอย่างเดิม จะเข้าร้านสาขาไหนก็ได้กิน
อาหารอย่างเดียวกัน แต่เฉินเหล่ยพูดถึงร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลัก
แฟนคลับของเฉินเหล่ยจะแห่มาที่ร้านเพื่อให้ได้ใกล้ชิดเขา เหล่าแฟนๆ จะ
แวะมาเยี่ยมชม ‘ร้านอินเทอร์เน็ตเล็กๆ’ แห่งนี้ที่เฉินเหล่ยเคยทำงาน แต่ไม่ได้นึก
สนใจร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาอื่น
ก็เหมือนเรื่องราวของ The Beatles พวกเขาเริ่มจากการเป็นนักร้องประจำที่
บาร์เล็กๆ แห่งหนึ่ง บาร์แห่งนั้นกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมาจนถึง
ปัจจุบัน แต่บาร์อื่นๆ ในละแวกใกล้เคียงกลับไม่ค่อยมีคนเข้า
สำหรับแฟนๆ ที่ชอบตามดารานักร้องที่ตัวเองชื่นชอบ แค่ร้านอินเทอร์เน็ตโม
หยูสาขาหลักก็เพียงพอแล้วสำหรับการเดินทางมา ‘แสวงบุญ’ ไม่จำเป็นต้องไป
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาอื่นอีก
ดังนั้นสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่เผยเชียนจะเผชิญคือร้านสาขาหลักมีรายได้
เพิ่มขึ้นกระฉูด
ส่วนร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาอื่นๆ จะไม่เจอปัญหาอะไรในช่วงนี้
แต่การที่สาขาหลักจะทำรายได้มากขึ้นก็ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับเผยเชียนแล้ว!
นั่นเพราะสัปดาห์นี้ยังไม่หมด ถ้าเฉินเหล่ยกลับมาร้องเพลงที่ร้านสาขาหลัก
ใครจะรู้ว่าสามวันที่เหลือ นี้ พวกเขาจะทำเงินจากการขายเครื่อ งดื่ มได้ ม าก
เท่าไหร่!
เผยเชียนอยากจะปฏิเสธเฉินเหล่ย แต่ก็นึกเหตุผลที่เหมาะสมไม่ออก
คิดไปคิดมาแขนขาของเขาก็เริ่มอ่อนแรง ในใจรู้สึกแย่สุดๆ
เผยเชียนนั่งอยู่นานกว่าจะลุกยืนขึ้น
หลี่สือออกจากร้านไปแล้ว ร้านค้าในละแวกเดียวกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูคง
จะเลิกจัดโปรโมชันแย่งลูกค้าจากพวกเขา เพราะแน่นอนว่าตอนนี้ต่อให้พยายาม
แค่ไหนก็คงไม่มีทางแย่งลูกค้ามาได้สักคน
ช่วงที่มาร้านในละแวกเดียวกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูพากันจัดโปรโมชันเพิ่ม
ความนิยมให้ร้านตัวเอง แต่พอเฉินเหล่ยดังขึ้นมา ลูกค้าที่พวกเขาหามาได้ต้องหัน
ไปสนใจร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกันหมดแน่
เผยเชียนพยายามผลักไสไล่ส่งเฉินเหล่ยออกไปอย่างสุดกำลังเพราะอีกฝ่ายทำ
เงินให้ร้านได้ แต่ตอนนี้เจ้านั่นกำลังจะกลับมาทำให้สถานการณ์แย่ยิ่งกว่าเก่า!
ชายหนุ่มแสนเหนื่อยล้าและทุกข์ระทม เขาอยากกลับขึ้นเตียงอันอบอุ่น
จากนั้นก็ซุกตัวเข้าผ้าห่มแล้วหลับไป
ตอนเดินมาถึงบันได เขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านล่าง
หม่าหยางรีบวิ่งแจ้นตามหาเขาอย่างตื่นเต้น “พี่เชียน! พี่เชียนอยู่ข้างบนรึ
เปล่า”
เผยเชียนตอบออกไปอย่างเหนื่อยอ่อน “มีอะไร”
“ลูกค้า! ลูกค้าเต็มไปหมดเลยพี่! ” ใบหน้าใหญ่ยาวของหม่าหยางเต็มไปด้วย
ความตืน่ เต้นดีใจ
เผยเชียนมองลงไปด้านล่างแล้วสังเกตเห็นลูกค้าทยอยมายืนอออยู่หน้าร้าน
เต็มไปหมด คนมากมายเบียดเสียดเข้ามาในส่วนกลางของชั้นแรก แต่ละคนรีบ
หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปกันยกใหญ่
บางคนรีบพุ่งไปจับจองที่นั่งก่อน บางคนพอเห็นที่นั่งไม่เหลือแล้วก็ได้แต่เขย่ง
เท้าถ่ายรูปนักร้องบนเวที อีกกลุ่มหนึ่งรีบวิ่งขึ้นไปหาที่นั่งบนชั้นสอง
เผยเชียนกับหม่าหยางแทบจะถูกกลืนหายเข้าไปในฝูงชน ทั้งสองเบียดตัวฝ่า
คลื่นมนุษย์ลงมาชั้นล่างแล้วหนีออกไปทางประตูหลังร้านที่ใช้ได้เฉพาะพนักงาน
เท่านั้น
พอออกไปได้ก็เห็นคนมากมายบนถนนกำลังพุ่งมาทางร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
หลังจากสังเกตดูให้ดีอีกที เขาก็เข้าใจ
คนที่มานั่งบาร์แถวนี้กับคนที่อาศัยในละแวกนี้ต่างวิ่งแจ้นมาที่ร้านกันหมด!
เนื่องจากบาร์แถวนี้จัดโปรโมชันพร้อมให้ส่วนลด ช่วงกลางคืนจึงมีคนแห่แหน
มากันมากมาย ระหว่างที่กำลังสังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน พวกเขาก็รู้เรื่องเฉิน
เหล่ยกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเข้า!
ข่าวแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว และเพราะอยู่ไม่ห่างมากเท่าไหร่ คนพวกนี้
เลยตัดสินใจลองไปที่ร้านดู
ส่วนเรื่องราคามหาโหดของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู…
ไม่มีใครบ่นถึงอีก ขอแค่เข้าไปถ่ายรูปมาอวดเพื่อนได้ จะเสียงเงินเป็นหมื่น
เพื่อเครื่องดื่มแก้วเดียวก็ยังไหว
เผยเชียนน้ำตาปริ่มเมื่อเห็นฝูงชนแห่มาร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
ร้านอินเทอร์เน็ตอันแสนยอดเยี่ยมของฉันได้จากไปแล้ว!
ปวดใจเหลือเกิน!
“วูฮ้ !ู้ ”
เผยเชียนตกใจ เกิดอะไรขึ้น ฉันยังไม่ทันได้ร้องไห้เลย
เขาหันไปดูแล้วเห็นว่าหม่าหยางเป็นคนร้องตะโกน
“พี่เชียน ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ส่งเฉินเหล่ยไปเซี่ยงไฮ้ พี่เชื่อมาตลอดใช่มั้ย
ว่าเจ้านั่นจะดังได้
“ผมเข้าใจพี่ผิดไป วู้ฮู้…”
ตอนแรกเผยเชียนรู้สึกอยากจะร้องไห้ แต่พอเห็นหม่าหยางร้องโหวกเหวก
เหมือนฮิปโป ก็หมดอารมณ์ทันที
ชายหนุ่มมองเข้าไปในร้านอย่างเศร้าสร้อย “จางหยวนล่ะ”
หม่าหยางปาดน้ำตา “รับแขกอยู่กับผู้จัดการสาขาข้างในครับ ตอนนี้คนเยอะ
มาก พวกผมเลยคุยกันว่าจะเปิดร้านตลอดทั้งคืน!”
เผยเชียน “…ไม่ต้องหรอก ดูแลสุขภาพตัวเองดีกว่า”
หม่าหยางตบอก “ไม่ต้องห่วงครับพี่เชียน พวกเราสามคนจะผลัดกันไปพัก
ถ้ายุ่งมากจริงๆ ก็จะไปขอยืมตัวพนักงานจากบาร์แถวๆ นี้ เดี๋ยวพวกผมจ่ายเงิน
ค่าล่วงเวลาสามเท่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร!
“พี่อุตส่าห์ทุ่มเทปั้นร้านให้ดัง พวกผมจะปล่อยให้ความพยายามของพี่สูญ
เปล่าได้ยังไง
“ความจริงผมกับจางหยวนก็เป็นฝ่ายบริหารร้าน แต่ไม่เคยแบ่งเบาภาระพี่ได้
เลย แค่นี้ก็รู้สึกผิดมากๆ แล้ว
“แต่ครั้งนี้ไม่ต้องห่วงเลยพี่ ให้พวกผมจัดการเอง!”
ริมฝีปากเผยเชียนกระตุกเล็กน้อย “…งั้นก็ขอบใจมาก”
หม่าหยางปาดน้ำตาออกจากใบหน้าใหญ่ยาวก่อนจะยิ้มกว้าง “ไม่เป็นไรเลย
พี่! พวกเราไม่ต้องพูดอะไรกันมาก เพราะเราแค่มองตาก็รู้ใจกันแล้ว”
เผยเชียน “…”
ทำอะไรไม่ได้แล้ว
ยังเหลืออีกสามวัน จะเปิดร้านทั้งคืนหรือไม่ก็ไม่ได้ต่างกัน
“โอเคครับพี่เชียน ผมขอตัวกลับไปทำงานก่อน พี่ทำงานหนักมากช่วงนี้
กลับไปพักผ่อนเถอะ!”
หม่าหยางเดินกลับเข้าไปในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูผ่านประตูพนักงาน เผยเชีย
นมองแผ่นหลังอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกเหงาหงอยอย่างบอกไม่ถูก


วันถัดมา
วันจันทร์
เผยเชียนลืมตาตื่น ตอนนี้เที่ยงแล้ว
หลังจากว้าวุ่นใจอยู่นาน เขาก็ตัดสินใจเรียกระบบขึ้นมา
เมื่อคืนร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเปิดทำการจนถึงเช้า เผยเชียนไม่รู้ว่าพวกเขา
ขายเครื่องดื่มไปได้เท่าไหร่ แต่ก็น่าจะเช็กได้จากเงินทุนระบบ
เที่ยงคืนของวันนี้ รายได้จากเกมที่ทำได้ในสัปดาห์ก่อนก็จะโอนเข้าบัญชีด้วย
ก่อนเข้านอน เงินทุนระบบยังขึ้นขาดทุนอยู่ประมาณสองล้านหนึ่งแสนหยวน
เผยเชียนเค้นหัวหาทางผลาญเงินอย่างหนัก
ตามแผนเดิมของเขา ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไม่ควรจะทำกำไรได้ ส่วนรายได้
จากเกม เขาคาดไว้ว่าน่าจะมีเพิ่มขึ้นมาอย่างมากประมาณหนึ่งล้านหกแสนถึง
หนึ่งล้านแปดแสนหยวน
เกมแม่ทัพผีกับเกมนักออกแบบเกมทำรายได้ได้ประมาณหกถึงเจ็ดแสนหยวน
ต่อเดือน เกมฐานทัพกลางทะเลทำรายได้ได้ประมาณสามล้านห้าแสนหยวนต่อ
เดือน หมายความว่าสัปดาห์นี้น่าจะมีรายได้เพิ่มมาประมาณหนึ่งล้านสองแสน
หยวน
นับรวมจากที่แพลตฟอร์มทางการเปลี่ยนอัตราส่วนแบ่งรายได้กับยอดรายได้
ของ DLC เผยเชียนกะเอาไว้ว่าสัปดาห์ก่อนน่าจะทำเงินได้ประมาณหนึ่งล้านแปด
แสนหยวนเป็นอย่างมาก
ถึงร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจะเปิดให้บริการตลอดทั้งคืน แต่ชายหนุ่มก็คิดว่า
น่าจะทำเงินได้อย่างมากประมาณหนึ่งแสนหยวน ไม่น่าจะเกินไปกว่านี้
บางบาร์ทำเงินได้หลายแสนจากการให้ลูกค้าจองโต๊ะส่วนตัวและให้บริการ
เป็นพิเศษ แต่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไม่มีบริการแบบนั้น อย่างมากลูกค้าก็ทำได้แค่
ซื้อเครื่องดื่มกับเล่นอินเทอร์เน็ต
ปัญหาจริงๆ อยู่ที่ว่าสองวันจากนี้สถานการณ์จะเป็นยังไง ถ้าเฉินเหล่ยกลับมา
ที่ร้าน ลูกค้าหลายคนก็น่าจะเริ่มให้ทิปกัน
แต่ตอนนี้เผยเชียนมีพนักงานในสังกัดเยอะขึ้น การเอาเงินไปผลาญกับเหล่า
พนักงานไม่ใช่เรื่องยากอะไร น่าจะละลายเงินไปได้หลายแสนและกลับมาขาดทุน
ได้
ดังนั้นเผยเชียนจึงคิดว่าตัวเองยังโชคดีอยู่ น่าจะขาดทุนได้สักสามถึงสี่แสน
หยวน
ก็ยังพอรับได้
หน้าจอปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเผยเชียน
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ : เผยเชียน>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100 : 1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1 : 1>
<วันปิดบัญชีครั้งต่อไป : อีก 2 วัน>
<เงินทุนระบบ : 6,270,000 (↑1,270,000)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล : 45,691.4>
“แม่งอะไรวะเนี่ย!”
เผยเชียนแทบกระอักเลือด
“รายได้เพิ่มจากที่คิดไว้มาตั้งหนึ่งล้านห้าแสนได้ไงวะ!
“ต้องมีปัญหาอะไรสักอย่าง!”
เผยเชียนใกล้จะกระอักเลือดออกมา เขารีบโดดลงจากเตียงแล้ววิ่งไปเปิด
โน้ตบุ๊กเพื่อเช็กรายได้เกมในเครือเถิงต๋า
รายได้จากเกมแม่ทัพผีกับเกมนัก ออกแบบเกมสูงกว่าที่เผยเชียนคาดไว้ แต่ก็
ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับไหว
ส่วนเกมฐานทัพกลางทะเลทำเงินได้สูงกว่ากรณีเลวร้ายที่สุดที่เผยเชียนคิดไว้
ถึงหนึ่งล้านหยวน!
จากข้อมูลเดือนนี้เกมฐานทัพกลางทะเลทำเงินได้กว่าสิบล้านหยวน หักออก
สามสิบเปอร์เซ็นต์กับหักภาษีก็ยังมียอดรวมมากกว่าสองล้านในสัปดาห์นี้
เผยเชียนไม่ได้คำนวณไว้ว่าเกมฐานทัพกลางทะเลจะทำเงินได้เยอะขนาดนี้!
เขารู้สึกแขนขาอ่อนแรง
เกิดอะไรขึ้นกันวะเนี่ย
เขาเช็กดูแล้วไม่ใช่เหรอว่าเกมฐานทัพกลางทะเลไม่ได้มีปัญหาอะไร
หลายวันที่ผ่านมาเขามัวแต่ไปสนใจร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู ชายหนุ่มไม่
คาดคิดเลยว่าเกมฐานทัพกลางทะเลที่มองข้ามไปจะส่งผลร้ายแรงต่อแผนการของ
เขาได้ขนาดนี้!
“สัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับเกมฐานทัพกลางทะเลวะ!
“หลี่เจิงเหว่ยโฆษณาเกมฐานทัพกลางทะเลให้ แต่ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบได้
ขนาดนี้
“แถมปืนบาเร็ตมรณะห้าร้อยกระบอกของเดือนหน้าก็ยังไม่ได้ขาย! แต่ดัน
ขายปืนกินเลนเพลิงได้หนึ่งหมื่นชิ้นภายในสัปดาห์เดียว!
“นี่มันเรื่องบ้าอะไร ไม่เห็นจะสมเหตุสมผลเลยสักนิด!
“ฉันมองข้ามอะไรไป!”
บทที่ 183 หมดหนทาง

เผยเชียนตะลึงงันไป
รายได้ของเกมฐานทัพกลางทะเลแตกต่างจากที่เขาคิดเอาไว้มาก ต้องมีอะไร
ไม่ชอบมาพากลสักอย่าง
ถึงจะมีผู้เล่นกลุ่มใหม่เข้ามาเล่นมากมาย แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่พวกเขาจะ
ซื้อปืนกิเลนเพลิงกันอย่างบ้าคลั่งขนาดนี้ มันต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรแน่ๆ!
เผยเชียนตรวจสอบข้อมูลเกมทั้งหมดอย่างละเอียด นอกจากจะมียอดเติมเงิน
เพิ่มขึ้นแล้ว ยอดผู้เล่นก็เพิ่มขึ้นมากเหมือนกัน เวลาเฉลี่ยที่ผู้เล่นเข้ามาเล่นเกมก็
สูงขึ้นด้วย!
พูดง่ายๆ ว่าผู้เล่นเกมฐานทัพกลางทะเลพากันเล่นเกมไม่หลับไม่นอน
แปลกมาก
ตามหลักแล้ว DLC ที่เผยเชียนเพิ่มเข้าไปไม่ได้มีเนื้อหาให้ผู้ต้องทุ่มเวลาเล่น
เยอะขนาดนั้น โหมดเนื้อเรื่องค่อยๆ เล่นไม่กี่วันก็เล่นจบได้ โหมด PVP ก็ยัง
เหมือนเดิม ไม่ได้เพิ่มรางวัลให้ผู้เล่นที่ออนไลน์ในเกมนานๆ
แต่เวลาเฉลี่ยที่ผู้เล่นออนไลน์ในเกมกลับสูงขึ้น!
พวกผู้เล่นพากันโหมเล่นเกมเพราะรู้สึกชอบเกมเหรอ
เป็นไปไม่ได้
แต่ข้อมูลเกมไม่โกหก เผยเชียนคิดว่าที่รายได้พุ่งขึ้นน่าจะเป็นเพราะเหตุนี้!
เผยเชียนค้นหาดูในเว็บเชียนตู้ว่าทำไมผู้เล่นถึงโหมเล่นเกมฐานทัพกลางทะเล
มากขึ้น
ในที่สุดเขาก็เจอคำตอบในกระทู้หนึ่ง
“เคยได้ยินเรื่องซื้อขายหุ้นกับอสังหาริมทรัพย์นะ แต่นี่ครั้งแรกเลยที่ได้ยิน
เรื่องซื้อขายไอดี โคตรเจ๋ง!
“ตอนที่เกมฐานทัพกลางทะเลปล่อยอัปเดตใหม่ ฉันก็ด่าเหมือนกันว่าทำไม
จำกัดการขายปืนบาเร็ตมรณะที่โคตรสวยแค่ห้าร้อยชิ้น บริษัทบ้าไปแล้วรึเปล่า
ทำไมไม่ใช้โอกาสนี้เก็บเกี่ยวเงิน
“แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ เถิงต๋าวางแผนไว้ล้ำลึกมาก!
“เมื่อวานจู่ๆ เพื่อนฉันที่ไม่เคยเล่นเกมแนว FPS มาก่อนเข้ามาถามฉันว่าเล่น
เกมฐานทัพกลางทะเลอยู่หรือเปล่า อยากจะเพิ่มมาเล่นโหมไบโอเคมิเคิลด้วย
“ตอนนั้นฉันก็งงๆ เขาไม่เคยเล่นเกม FPS มาก่อน ทำไมจู่ๆ ถึงอยากเข้ามา
เล่นก็ไม่รู้
“พอถามดูก็ได้คำตอบ เขาตั้งใจจะหาเงิน!
“คนขายไอดีที่มีปืนบาเร็ตมรณะตั้งขายกันสองสามพันหยวนแต่ก็ยังขายหมด
เกลี้ยง! เพราะมันมีขายจำกัดแค่ห้าร้อยชิ้นต่อเดือน หลายคนอยากได้มาใช้เอง
ไม่อย่างนั้นก็รอปั่นราคา ถ้าพวกวาฬอยากได้ก็ต้องจ่ายเพิ่ม!
“พวกพ่อค้าแม่ค้าดีใจกันยกใหญ่ ทุ่มเงินซื้อไอดีมารอปั่นราคา เพราะยังไง
เดือนหน้าก็เปิดขายเพิ่มแค่ห้าร้อยกระบอก ยังไงก็ได้กำไร!
“สุดท้ายออฟฟิเชียลก็ปล่อยแพลตแก้ออกมา หลังจากนั้นทุกคนต้องแย่งปืน
บาเร็ตมรณะกันโดยใช้ระบบคะแนน! ยิ่งแต้มสูงก็จะมีโอกาสในการจับจองปืนบา
เร็ตมรณะมากขึ้น
“แถมไม่ใช่ว่าผู้เล่นทั่วไปจะไม่มีโอกาสเลย ขอแค่เป็นผู้เล่นจริงๆ ไม่ใช่พ่อค้า
แม่ค้าที่สร้างรหัสมาไว้กดปืนบาเร็ตมรณะ ยังไงก็มีโอกาสได้อาวุธตำนานไปครอง!
“ยิ่งแต้มสูง ก็ยิ่งมีโอกาสได้เป็นเจ้าของมากขึ้น!
“ถึงจะฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่นี่คืออภิปรัชญารูปแบบหนึ่ง!
“ทุกคนเริ่มคิดหาวิธีเพิ่มแต้มให้ตัวเอง ทั้งเล่นเกมให้มากขึ้น เล่นโหมดเนื้อ
เรื่อง ไต่แรงก์ บางคนไปเจอมาว่าการเติมเงินเข้าไอดีก็ช่วยเพิ่มแต้มด้วยเหมือนกัน
พวกผู้เล่นที่มีตังค์หน่อยเลยพากันกัดฟันซื้อปืนกิเลนเพลิง!
“เพราะยังไงก็เป็นของดี ถือในเกมแล้วดูเท่ แถมยังช่ วยเพิ่มโอกาสได้ปืนบา
เร็ตมรณะอีก…
“มีผู้เล่นคนหนึ่งได้ปืนบาเร็ตมรณะมา วันก่อนเอาไปขายได้มากกว่าสามพัน
หยวน แถมยังมีคนเอาไอดีแต้มระดับสามออกมาขายเพราะไม่มีเวลาเล่น แล้วมี
วาฬมาซื้อไอดีนี้ไปด้วยราคาหนึ่งหมื่นห้าพันหยวน!
“ตอนนี้ไอดีแต้มระดับสองกับสามขายได้ราคากว่าปืนบาเร็ตมรณะอีก เพราะ
ยังไงเดี๋ยวในอนาคตก็มีปืนในตำนานเพิ่มเข้ามาอีก ไอดีพวกนี้ก็เหมือนบ่อเงินบ่อ
ทอง!
“ฉันล่อซื้อเพื่อนในหอเดียวกันมาเล่นได้สามคน แล้วบอกให้พวกเขาเข้าไป
เล่นเกมอย่างน้อยวันละสองตาให้ไอดีไม่ร้าง ถ้าเดือนหน้าซื้อปืนบาเร็ตมรณะได้ก็
รวยกันยกแก๊ง!”

เผยเชียนตะลึงงันไปหลังจากอ่านกระทู้จนจบ
เขารู้แล้วว่าปัญหาอยู่ที่ตรงไหน
“…ฉันคิดตื้นเกินไป
“นึกว่าจำกัดการขายแล้วเกมจะทำรายได้ได้น้อยลง…”
ในที่สุดชายหนุ่มก็เข้าใจถึงปัญหาของการจำกัดจำนวนการขายแค่ห้าร้อยชิ้น!
อาวุธชิ้นนี้ได้รับความนิยมมาก การจำกัดการขายแค่ห้าร้อยชิ้นต่อเดือนทำให้
อาวุธมีราคามากขึ้น ผู้เล่นที่ซื้อได้สามารถเอาไปปล่อยขาย ทำกำไรได้หนึ่งถึงสอง
พันหยวน!
แอ็กเคานต์แต้มระดับสามที่มีปืน กิเลนเพลิงกับปืนบาเร็ตมรณะคงจะราคาสูง
เกินต้าน
เหล่าผู้เล่นไม่สามารถทนต่อแรงยั่วยุนี้ได้
อีกอย่างเกมฐานทัพกลางทะเลก็เป็นเกมเล่นฟรี มีเนื้อหาจัดเต็ม หลายคน
อยากลองเล่นอยู่แล้ว พอมีเรื่องนี้เข้ามาเลยตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ตอนแรกพวกผู้เล่นก็ไม่ได้จริงจังกันขนาดนี้เพราะมีพวกพ่อค้าแม่ค้ารอแย่งซื้อ
อาวุธ แต่เผยเชียนทนเรื่องพ่อค้าแม่ค้าไม่ได้ จึงสร้างระบบคะแนนขึ้นมาเพื่อให้ผู้
เล่นทั่วไปมีโอกาสได้เป็นเจ้าของปืนบาเร็ตมรณะ!
เพราะเหตุนี้เหล่าผู้เล่นเลยมีกำลังใจในการเล่นมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า พอ
ได้แพลตฟอร์มทางการกับคนแบบหลี่ เจิงเหว่ยและอาจารย์เฉียวช่วยโฆษณาให้
อย่างเต็มที่…
รายได้สัปดาห์นี้จึงพุ่งกระฉูด!
นอกจากนี้รายได้น่าจะไม่ได้เพิ่มขึ้นแค่สัปดาห์เดียว เกมฐานทัพกลางทะเล
น่าจะทำรายได้ให้อย่างมหาศาลไปอีกหนึ่งถึงสองเดือน
เผยเชียนนึกถึงเรื่องเฉินเหล่ยจะกลับมาร้องเพลงที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสอง
สามวัน
เขายอมจำนนให้กับความจริงอันโหดร้าย
รอบบัญชีนี้ชายหนุ่มไม่สามารถทำให้ตัวเองขาดทุนได้
เผยเชียนนั่งหมดแรงอยู่บนเก้าอี้ รู้สึกอยากฆ่าตัวตาย
คิดดูดีๆ คราวนี้จะโทษใครได้
เขาโทษใครไม่ได้เลย…
ชายหนุ่มเป็นคนบอกให้เฉินเหล่ยไปเซี่ยงไฮ้เอง
คนที่ตัดสินใจขายปืนบาเร็ตมรณะก็คือเขา
แถมคนที่สร้างระบบคะแนนขึ้นมาเพื่อให้ผู้เล่นทั่วไปสามารถซื้อปืนบาเร็ต
มรณะได้ก็คือเขาอีก
ปัญหาอยู่ที่ว่าเผยเชียนไม่ไ ด้บอกหลินหวานให้ช ัดเจนว่าควรจะคำนวณ
คะแนนอย่างไรและผู้เล่นจะเพิ่มคะแนนให้ตัวเองได้อย่างไร
หลินหวานบอกลู่หมิงเหลียงให้จัดการเรื่องนี้เอง ลู่หมิงเหลียงเลยเพิ่มยอดการ
เติมเงินเข้าไปเป็นวิธีเพิ่มแต้ม
ถือเป็นการกระทำที่ปกติ เพราะคงจะไม่สมเหตุสมผลเลยถ้าพวกวาฬซื้อปืน
กิเลนเพลิงราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนไปแล้วไม่ได้แต้มเพิ่ม
เพราะงั้นจึงเกิดปัญหาขึ้น
ผู้เล่นหลายคนที่ไม่ได้อยากซื้อปืนกิเลนเพลิงก็ตัดสินใจซื้อเพื่อที่จะมีโอกาสได้
ปืนบาเร็ตมรณะ…
พอใช้เงินเพิ่มแต้มได้ ก็มีโอกาสซื้อปืนบาเร็ตมรณะรอบเดือนต่อไปสูงขึ้น
ทำให้หลายคนทุ่มเงินซื้อปืนกิเลนเพลิงในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน รายได้
ของเกมฐานทัพกลางทะเลจึงพุ่งขึ้นพรวดพราด!
เป็นดังคำพูดที่ว่า ‘พลาดครั้งเดียวเสียใจไปชั่วชีวิต’…
ที่เผยเชียนเจ็บใจที่สุดคือเขาไม่สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดนี้ได้
ถ้าจะยกเลิกการจำกัดจำนวนการขายปืนบาเร็ตมรณะตอนนี้ พวกผู้เล่นได้รุม
สาปส่งแน่
แถมยังเอาระบบคะแนนออกไม่ได้อีก ถ้าโดนเหล่าผู้เล่นรุมด่า เผยเชียนกับ
คนในเถิงต๋าได้ฉิบหายแน่นอน
ดังนั้นเขาจึงทำอะไรกับเกมฐานทัพกลางทะเลไม่ได้อีก
ไม่นะ!
เผยเชียนแสนทุกข์ทรมานใจ
เขาอยากดื่มคลายความทุกข์ที่มี
“ช่างเถอะ เดี๋ยวไปดื่มที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสักสองสามแก้วแล้วกัน
“ยังไงตอนนี้…ฉันก็ทำให้ตัวเองขาดทุนไม่ได้แล้วนี่”
บทที่ 184 จะไม่ยอมอยู่ร่วมโลกกับตระกูลหลิน

ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลัก…
ทางเข้ามีฝูงชนมายืนออกันเบียดเสียดขนาดที่น้ำยังไหลผ่านไปไม่ได้
เฉินเหล่ยกำลังดีดกีตาร์ร้องเพลงอยู่บนเวที
ถึงจะเป็นช่วงกลางวัน แต่ผู้ชมก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พวกเขาฟังเพลง
กันเงียบๆ ไม่ปรบมือหรือโห่เชียร์ รอให้เฉินเหล่ยร้องจนจบเพลงก่อนค่อยกรี๊ด
กร๊าด
หลายคนเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์เรื่อยๆ พวกเขาหยิบแบงก์สีแดงออกมาเป็น
ฟ่อนแต่รับเครื่องดื่มกลับไปแค่แก้วเดียว ส่วนที่เหลือนั้นเป็นทิปให้เฉินเหล่ย
บาร์เทนเดอร์ พนักงานเสิร์ฟ รวมถึงหม่าหยางและจางหยวนต่างยุ่งกันจนลืม
เวลา
ขนาดตอนนอนยังไม่เคยฝันว่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจะดังได้ขนาดนี้!
โชคดีที่พวกเขาเรียกพนักงานจากร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาอื่นมาช่วยตั้งแต่
คืนก่อน ไม่อย่างนั้นคงจัดการกันไม่ไหว
หม่ า หยางรู ้ ส ึ ก ท่ ว มท้ น ต้ อ งขอบคุ ณ พี ่ เ ชี ย นที ่ เ ปิ ด สาขาอื ่ น เพิ ่ ม ไว้ ก ่ อ น
ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้จะไปหาคนมาช่วยจากที่ไหน
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาอื่นๆ ก็มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มเหมือนกัน แต่
ก็เทียบสาขาหลักไม่ได้เลย เพราะทุกคนล้วนมาเพื่อพบเฉินเหล่น
ตอนนี้ร้านสาขาหลักกลายเป็นร้านสาขาหลักจริงๆ แล้ว!
บนชั้นสอง สาวขายาวคนหนึ่งนั่งอยู่ริมหน้าต่าง เธอกำลังโพสต์ท่าทางเพื่อ
ถ่ายรูป
ในมือของเธอถือหนังสือที่หยิบมาจากชั้นเล่มหนึ่ง สายตากำลังจับจ้องไปที่
ตัวหนังสือท่ามกลางแสงจ้า มองแล้วดูสง่างามมากทีเดียว
แต่ปกหนังสือในมือกลับเป็นภาษารัสเซียกลับหัว แถมยังแปลได้ว่า ‘วิธีใช้งาน
และดูแลรักษารถไถเดินตาม’
บางคนสั่งเครื่องดื่มมานั่งฟังเฉินเหล่ยร้องเพลง
แต่คนแถวหน้าเวทีอัดแน่นจนไม่มีที่ให้แทรก หลายคนเลยเดินไปทางโซน
อินเทอร์เน็ตเพื่อสำรวจร้านอันลึกลับแห่งนี้
โซนอินเทอร์ดูสะอาดสบายตา มีชั้นหนังสือที่อัดแน่นจนเต็มเรียงรายอยู่รอบๆ
โรงหนังส่วนตัวดูดีมีระดับ ส่วนพนักงานก็แสนสุภาพ
ทุกคนเพิ่งจะตระหนักว่าร้านนี้คุณภาพดีมาก!
ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง พอได้ยินว่าเฉินเหล่ยจะ
มาที่ร้านก็รีบตรงปรี่มาทันที
พวกเขาเคยเดินผ่านร้าน แต่ไม่เคยเข้าไปลองใช้บริการเพราะราคาแพงหูฉี่
แต่พอมาดูดีๆ ราคาก็ไม่ได้แพงอะไรขนาดนั้น!
บรรยากาศร้านดี พนักงานก็ให้บริการดี นอกจากนั้นอุปกรณ์ในร้านก็เหนือ
ชั้นกว่าร้านอินเทอร์เน็ตร้านอื่น
จริงๆ ก็มีร้านอินเทอร์เน็ตคุณภาพสูงร้านอื่นในละแวกนี้ แต่ทุกร้านพยายาม
ประหยัดงบค่าอุปกรณ์ให้ไ ด้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่อย่างนั้นงบลงทุนจะบาน
ปลาย ร้านอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่เลยคุมงบประมาณตรงนี้เพื่อที่จะหาทุนคืนได้ไวๆ
แต่อุปกรณ์ในร้านนี้กลับเป็นของดีไร้ที่ติ หลายคนที่อยากได้คอมพิวเตอร์ดีๆ
ไว้ใช้งานยังไม่กล้าหาของคุณภาพขนาดนี้มาใช้เลย
คอมพิวเตอร์ร้านนี้ให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่เยี่ยมยอดสุดๆ!
เครื่องดื่มกับบรรยากาศร้านยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทุกอย่างคุณภาพชั้นเลิศ
แถมร้านยังไม่ขึ้นราคาค่าบริการอีกด้วย!
พวกเขาใช้ราคาเดิมตั้งแต่ก่อนเฉินเหล่ยเข้ามาทำงาน
จะใจดีอะไรขนาดนี้!
ถ้าเจ้าของเป็นคนอื่นคงจะออกตั๋วเก็บเงิ นค่าเข้าร้านเพื่อมาดูเฉินเหล่ยแสดง
ไม่อย่างนั้นก็คงขึ้นราคาค่าเครื่องดื่มและค่าบริการอื่นๆ
วิธเี หล่านีค้ อื กลยุทธ์ทำกำไรทีพ่ บเห็นได้ทว่ั ไป
แต่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูนั้นแตกต่างออกไป ถึงเฉินเหล่ยจะมาที่ร้าน แต่
ราคาทุกอย่างยังเหมือนเดิม
ลูกค้าหลายคนรู้สึกซาบซึ้งใจมาก มีไม่กี่ร้านที่จะจริงใจกับลูกค้าแบบนี้!
พวกเราผิดเองที่มองว่าร้านนี้แพงเกินไป!
นอกจากนั้นแล้ว ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป เหล่าแฟนตัวยงของเฉินเหล่ยน่าจะบิน
มาจากต่างเมือง ร้านคงจะคับคั่งไปด้วยผู้คนยิ่งกว่าตอนนี้อีก!

พอเผยเชียนมาถึงหน้าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลัก เขาก็คิดขึ้นได้ว่าไม่
น่ามาที่นี่เลย
เขารู้สึกแย่มาก จึงอยากจะมาดื่มให้หายเศร้า
แต่สุดท้ายก็มาพบว่าไม่มีที่แม้แต่จะให้เหยียบเข้าร้าน!
ทั้งสองชั้นของร้านแน่นขนัด นอกจากโซนบาร์แล้ว โซนอินเทอร์เน็ตก็ไม่เหลือ
ที่นั่ง ด้านหลังคอมแต่ละเครื่องมีคนยืนอยู่อีกสามถึงสี่คน
เผยเชียนอยากจะเข้าไปในร้าน แต่คนหลายร้อยคนข้างนอกก็อยากเข้าไป
เหมือนกัน แถมคนด้านในก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะออกจากร้านเลย
หลายคนยืนอยู่หน้าร้านเพื่อฟังเฉินเหล่ยร้องเพลง พวกเขาชูมือโบกเงินเรียก
พนักงานที่เดินผ่านไปมาเพื่อสั่งเครื่องดื่มให้ตัวเองหนึ่งแก้ว แล้วยกเงินส่วนที่
เหลือเป็นทิปให้เฉินเหล่ย
แม้แต่ร้านรวงข้างๆ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก็แน่นเอี้ยด หลายคนขึ้นไปชั้นสอง
ของร้านบอร์ดเกมตรงข้ามร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเพื่อจะได้ชมการแสดงจาก
ด้านบน
โชคดีที่ถนนที่ตั้งร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไม่ใช้ถนนสายหลัก จึงมีรถผ่านมาน้อย
ไม่อย่างนั้นรถน่าจะติดสุดๆ
เผยเชียนแสนปวดใจ
นี่คือร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูที่ฉันสร้างมาจริงๆ เหรอ
ก่อนหน้าเคยดีกว่ านี้ ทั้งเงียบและสงบ จะมาดื่มตอนไหนก็ไ ด้ อยากนั่ ง
ตรงไหนก็นั่ง ทั้งร้านมีไว้ให้ฉันใช้บริการ แถมยังขาดทุ นให้ได้เรื่อยๆ อีก ดีแสนดี
สุดๆ!
แต่ตอนนี้แม้แต่ที่จะให้ก้าวขาเข้าร้านยังไม่มี…
“ช่างเถอะ ไปที่อื่นก็ได้”
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ต้องมาที่ร้านสาขาหลักอีกแล้ว
โชคดีที่ยังมีเหลืออีกหลายสาขา
ระหว่างที่เผยเชียนกำลังจะหันหลังกลับ พนักงานคนหนึ่ งที่ต้อนรับลูกค้าอยู่
ด้านนอกก็สังเกตเห็นเขา เลยรีบวิ่งเข้าไปหา
“บอสเผยมาด้วยเหรอครับ เข้ามาก่อนครับ พวกผมจองที่ไว้ให้แล้ว!”
เผยเชียนชะงัก “จองที่ไว้ให้ด้วยเหรอ”
พนักงานพยักหน้า “ใช่ครับ เฉินเหล่ยรอบอสอยู่ เข้ามาก่อนครับ!”
พนักงานหลายคนรีบเข้าไปต้อนรับเผยเชี ยน พวกเขาพาชายหนุ่มเข้าร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูผ่านทางเข้าพนักงาน
ข้างเคาน์เตอร์บาร์มีที่ว่างเหลืออยู่ที่หนึ่ง พวกเขาน่าจะเก็บที่ตรงนี้ไว้ให้เผย
เชียนโดยเฉพาะ
หม่าหยางดูเหนื่อยอ่อน แต่ก็พยายามตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อ “พี่เชียนมาแล้ว
เหรอ นั่งก่อนพี่! เดี๋ยวผมให้คนเอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ!”
เฉินเหล่ยนมองเผยเชียนจากเวที เขายิ้มและพยักหน้าให้ ก่อนจะหันไปร้อง
เพลงต่อ
“ในคืนอันเงียบงัน ฉันเดินไปตามทาง
“ใต้แสงสลัว เธอรอฉันอยู่
“ในเมืองอันแสนวุ่นวาย มีแค่เธอที่เข้าใจความทุกข์ของฉัน
“ไม่ว่าจะห่างไกลกันสักเท่าไร ฉันไม่มีทางลืมเธอและเครื่องดื่มเมาใจ…”
เพลงรอคอยที่โด่งดังจากรายการ The Voice of China และได้ขึ้นชาร์ต
เพลงดังก้องไปทั่วร้าน
เฉินเหล่ยกำลังร้องเพลงนี้สดๆ
ทุกคนในร้านรู้สึกเชื่อมโยงถึงเพลงสุดๆ
ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงแถวหน้าเรียกพนักงานมากระซิบคุยด้วย เขาแต่งตัว
ธรรมดาแต่กลับดูมีเสน่ห์
ไม่นานเฉินเหล่ยก็ร้องเพลงจบ
พนักงานคนเมื่อครู่ขึ้นไปบนเวที “ทุกคนครับ ผมมีข่าวดีจะมาบอก ค่าใช้จ่าย
ทุกอย่างตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงตอนกลางคืน คุณหลินจะเป็นคนออกให้ทั้งหมด
ครับ!”
เผยเชียนแทบสำลักเครื่องดื่มที่กำลังจิบอยู่
ผู้คนส่งเสียงโห่เชียร์ เผยเชียนหันไปมองชายคนนั้น เขารู้สึกคุ้นหน้าอีกฝ่าย
อย่างบอกไม่ถูก
คุณหลินหันมามองทางเผยเชียน เขายิ้มและพยักหน้าให้
เผยเชียน “…”
ชายคนนี ้ ห น้ า ตาคล้ ายๆ หลิ น โจวที ่ เ ผยเชี ย นเคยเห็ นในรู ป หลิ น โจวคือ
ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉินฮว่า แต่ชายคนนี้ดูเด็กกว่า…
เผยเชียนเอะใจขึ้นมา
ถ้าจำไม่ผิด เขาน่าจะชื่อหลินฉาง ประธานบริษัทสื่อบันเทิงเฉินฮว่า ลูกชาย
คนที่สามของหลินเจิงหนาน
เผยเชียนยกแก้วขึ้นดื่มเงียบๆ
หลินฉางแปลกใจ
บอสเผยไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ ด้วย
ถ้ามีคนออกเงินให้ ทุกคนน่าจะใช้จ่ายกันอย่างบ้าคลั่ง คืนนี้เขาอาจจะต้อง
จ่ายบิลหลายแสนหยวน
สำหรับหลินฉางแล้ว เงินจำนวนนี้เล็กน้อยมาก ถือว่าเป็นของขวัญทักทาย
บอสเผย
อีกอย่างเขาก็ชอบเสียงร้องของเฉินเหล่ยมากๆ
ที่ทำให้เขาแปลกใจคือท่าทีของบอสเผย
อีกฝ่ายไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งใจอะไรเลย แถมยังดูระแวดระวังตัวเขาอีก
บอสเผยไม่ได้สนใจกำไรที่จะทำได้ ขนาดอยู่ต่อหน้าความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่
ของตั ว เองยั ง นิ ่ ง ได้ ข นาดนี ้ เขาน่ า จะตกใจที ่ จ ู ่ ๆ ก็ ไ ด้ ข องขวั ญ คงจะคอย
ระมัดระวังความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้อยู่ตลอด
“เหมือนที่น้องหวานบอกเลย เป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ” หลินฉางเอ่ยชมในใจ
เผยเชียนกระแทกแก้วลงบนโต๊ะ ในใจคิดแค่อย่างเดียว
ฉันจะไม่ยอมอยู่ร่วมโลกกับตระกูลหลิน!!!
“…”
แต่พอคิดดูอีกทีก็รู้สึกแปลกๆ
ตอนนี้เขาขาดทุนไม่ได้อีกแล้ว แต่ถ้าหาเงินได้เพิ่ม ก็ยิ่งได้เงินแปลงเข้าความ
มั่งคั่งส่วนบุคคลเพิ่ม
ถ้าคิดอย่างนี้ก็ต้องรู้สึกขอบคุณหลินฉางที่อาจจะช่วยให้เขาได้เงินเข้าความมั่ง
คั่งส่วนบุคคลเพิ่มอีกหลายพันหยวน
ทั้งๆ ที่ควรจะดีใจ แต่เขากลับไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิด…
เผยเชียนแสนทุกข์ระทม
บทที่ 185 ไอ้ระบบชาติชั่ว

วันที่ 30 มิถุนายน วันปิดบัญชี


เผยเชียนยกโค้กซดอึกใหญ่ แม้แต่เครื่องดื่มแห่งความสุขของชาวเสพติด
น้ำตาลยังทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นไม่ได้
สามวันที่ผ่านมา ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเป็นที่นิยมยิ่งกว่าที่ชายหนุ่มคิดไว้
แฟนๆ ของเฉินเหล่ยบินมาจากทุกส่วนในประเทศเพื่อมาซื้อเครื่องดื่มแจกทิปให้
เขาอย่าง บ้าคลั่ง
เมื่อหมดหวังที่จะทำให้ตัวเองขาดทุน เผยเชียนก็ได้แต่กลับไปเก็บตัวเงียบใน
อพาร์ตเม้นต์อยู่สองวัน
ช่วงสองวันที่ผ่านมา เผยเชียนจมอยู่กับคำถามหนึ่ง
เขาไปพลาดตรงไหนกัน
เหมือนว่าสิ่งที่เขาสร้างมาจะพังทลายไปในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทุกครั้ง…
ตั้งแต่ได้ไอ้ระบบแสนโกงนี่มา เขาทำให้ตัวเองขาดทุนได้แค่ครั้งเดียว แถมยัง
ขาดทุนแค่สองหมื่นหยวน
แต่แทนที่จะขาดทุนสักเท่านั้น เขากลับทำกำไรได้สองล้านหยวนแทน
ทุกอย่างตรงกันข้ามกับที่เผยเชียนคิดไว้หมด
ตอนแรกชายหนุ่มคิดว่าถ้ามีระบบนี้ เขาก็จะสามารถทำให้ตัวเองขาดทุนแล้ว
กลายเป็นคนรวยได้ แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว เงินทุนระบบพุ่งขึ้นไม่หยุด
ส่วนความมั่งคั่งส่วนบุคคลยังเท่าเดิม จนถึงตอนนี้เขาไม่เคยมียอดเงินในความมั่ง
คั่งส่วนบุคคลเกินหนึ่งแสนเลย
“แปลกจริงๆ ตามหลักการแล้ว ฉันไม่ควรจนแบบนี้สิ
“แล้วทำไมฉันถึงจนได้ขนาดนี้…”
เผยเชียนเริ่มตั้งคำถามกับชีวิตของตัวเอง
เขาเดินถูกทางมาโดยตลอด
ตอนต้นสัปดาห์ ชายหนุ่มไม่ได้คิดเลยว่าตัวเองจะทำเงินได้เยอะขนาดนี้
ที่เกมฐานทัพกลางทะเลดังขึ้นมาอีกรอบกับสถานการณ์อันแสนปวดใจของ
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูนั้นอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขา
ถ้ารู้ว่ารอบนี้จะทำให้ตัวเองขาดทุนไม่ได้ ชายหนุ่มคงคิดหาวิธีได้เงินเพิ่มไป
แล้ว แต่เขาทำนายอนาคตไม่ได้ไง!
อีกอย่างหนึ่งแสนหยวนกับสองหมื่นหยวนก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากสำหรับ
เขาในตอนนี้
เผยเชียนสามารถใช้เงินทุนระบบซื้อของที่มีความเกี่ยวข้องกับงานได้ แต่สิ่งที่
เขาอยากซื้อจริงๆ นั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับงาน ชายหนุ่มแค่อยากใช้เงินเที่ยว
เล่นและซื้อของเข้าบ้านตัวเอง
ขาดทุนได้หกถึงเจ็ดแสนหยวนย่อมดีกว่าทำกำไรได้เดือนละหนึ่งแสนหยวน
อยู่แล้ว
ตอนนี้ระบบให้เงินทุนระบบตั้งต้นมาที่ห้าล้านหยวน รอบหน้ายอดน่าจะ
เพิ่มขึ้นอีก ตามหลักการแล้ว ถ้ามีเงินเยอะขนาดนี้ก็ไม่น่าจะยากอะไรที่จะขาดทุน
สักหกถึงเจ็ดแสนหยวน
แต่เขากลับทำไม่ได้ น่าเจ็บใจสุดๆ!
“หรือว่าฉันต้องหันไปพึ่งอัตราแปลงกำไร 100 : 1 แทน แต่โคตรน้อยเลย
“ไม่ได้ ฉันจะไม่ยอมแพ้!”
เผยเชียนกำลังเถียงกับตัวเองในใจตอนที่หน้าจอระบบปรากฏขึ้น
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ : เผยเชียน>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100 : 1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1 : 1>
<เริ่มสรุปบัญชี...>
<เงินทุนระบบ : 7,360,000 (↑2,360,000)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล : 45,256.4>
<ภารกิจพิเศษประจำสัปดาห์ : บริษัทจะต้องตั้งหน้าร้านใกล้บริเวณที่คน
พลุกพล่านหรือบริเวณมหาวิทยาลัย [สำเร็จ]>
<รางวั ล ที ่ จ ะได้ ร ั บ เมื ่ อ ปฏิ บ ั ต ิ ภ ารกิ จ พิ เ ศษสำเร็ จ : เพิ ่ ม เงิ น 10% หลั ง
ดำเนินการแปลงค่าเงิน>
<กำลังสรุปบัญชี...>
<กำลังแปลงค่าเงิน...>
<เงินทุนระบบ : 7,360,000>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล : 71,299.78 (↑23,675.8 x 110%)>
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก
ตั้งใจทำงานอย่างหนักมาสองเดือนเต็ม แต่ได้เงินแปลงเข้ามาแค่สองหมื่นกว่า
หยวน แย่กว่ารอบก่อนอีก…
ปวดใจชะมัด!
พอเห็นยอดความมั่งคั่งส่วนบุคคลอันแสนเศร้า เผยเชียนก็คิดอะไรไม่ออกอีก
“พักสักหน่อยดีกว่า ฉันควรจะนอนเปื่อยไปสักหนึ่งสัปดาห์
“เกมในเครือเถิงต๋าทำเงินได้เรื่อยๆ เกมฐานทัพกลางทะเลนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
รายได้เดือนนี้พุ่งไปแปดหลัก คำนวณจากอัตราแบ่งกำไรใหม่ที่แพลตฟอร์ม
ทางการให้มาแล้ว เราน่าจะทำเงินได้เดือนละเจ็ดถึงแปดล้านหยวน
“แม้แต่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักก็ทำเงินได้กับเขาแล้ว ถึงสาขาอื่นๆ
จะยังขาดทุนอยู่ แต่ก็ไม่ได้ขาดทุนมากเท่าเมื่อก่อน
“จากที่คำนวณดู ถ้าฉันไม่ทำอะไรเลย หรือไม่ก็ลงทุนกับโปรเจ็กต์ทุนต่ำที่ได้
ผลตอบแทนต่ำ ถึงจะมีรายจ่ายเท่าเดิม แต่ฉันก็น่าจะได้กำไรห้าถึงหกล้านหยวน
ต่อเดือน”
เผยเชียนไม่คิดจะตัดค่าใช้จ่าย เขาไม่มีทางลดสวัสดิการพนักงานเพื่อให้
ตัวเองรวยขึ้น
เหตุผลก็เพราะคงจะขายหน้าน่าดู แถมยังไม่น่าจะส่งผลอะไรขนาดนั้น
ลดสวัสดิการพนักงานลงสี่แสนหยวนก็เพิ่มเงินให้เขาได้แค่สี่พัน เขาจะยังถือ
ว่าเป็นมนุษย์อยู่ไหมถ้าเลือกทำอย่างนั้น
แถมต่อให้ยังคงค่าใช้จ่ายไว้เท่านี้ เขาก็ยังทำกำไรได้
“คิดดูสิว่าถ้ารอบบัญชีหน้าให้เวลามาสองเดือน ถ้าทำกำไรได้เดือนละห้าล้าน
วันปิดบัญชีก็จะได้กำไรสิบล้าน แบบนั้นก็ดีกว่าตั้งหน้าตั้งตาหาทางทำให้ตัวเอง
ขาดทุนแต่สุดท้ายได้เงินมาแค่สองหมื่นหยวนรึเปล่า”
จู่ๆ เผยเชียนก็คิดขึ้นได้ว่าการทำตัวขี้เกียจไปวันๆ คือตัวเลือกที่ดีเลิศ!
ระหว่างที่กำลังคิด ข้อความใหม่ก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอระบบ
<วันปิดบัญชีครั้งต่อไป : อีก 120 วัน>
<ดำเนินการทบรวมเงินทุนระบบ จำนวนเป้าหมาย : 8,000,000>
<ทบเงินเพิ่ม 63,457.6…>
<ทบรวมเงินทุนระบบเสร็จสิ้น>
<เงินทุนระบบ : 8,000,000>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล : 71,299.78>
<ภารกิ จ พิ เ ศษประจำรอบ : การดำเนิ น ธุ ร กิ จ มี ท ั ้ ง กำไรและขาดทุ น ดู
เหมือนว่าเจ้าของระบบจะหลงระเริงกับกำไรที่ตัวเองทำได้อยู่ ซึ่งไม่ใช่ทัศนคติที่
นักธุรกิจควรจะมี ขอแนะนำให้เจ้าของระบบทำให้ตัวเองขาดทุนให้ได้ในรอบปิด
บัญชีครั้งต่อไป>
<รางวัลที่จะได้รับเมื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษสำเร็จ : เปลี่ยนแปลงกฎระบบ>
เผยเชียนที่เพิ่งคิดว่าจะทำตัวขี้เกียจสักหนึ่งสัปดาห์อึ้งไป
เขาอ่านรายละเอียดภารกิจพิเศษประจำรอบดูอีกครั้งแล้วก็อดด่าขึ้นมาไม่ได้
“ไอ้ระบบชาติชั่ว!”
แม่งเอ๊ย กล้าดียังไงมาบอกว่า ‘ดูเหมือนว่าเจ้าของระบบจะหลงระเริงกับ
กำไรที่ตัวเองทำได้อยู่’
อะไรคือหลงระเริง ฉันหาทางขาดทุนมาตลอด แกจะมาโทษว่าฉันไม่ยอม
ขาดทุนเลยไม่ได้!
แต่ระบบไม่ได้คิดเหมือนเขา
สองรอบบัญชีที่ผ่านมา เผยเชียนทำกำไรได้สองครั้งติด
ดูจากทั้งห้ารอบบัญชีก็จะเป็น กำไร กำไร ขาดทุน กำไร กำไร
ถ้าไม่ได้ดูวิธีการแล้วดูแค่ผลลัพธ์ก็คงจะคิดว่าเผยเชีย นซึ่งเป็นเจ้าของระบบ
ทำกำไรได้มาโดยตลอด
ในใจเผยเชียนเต็มไปด้วยคำด่า
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือรางวัลที่จะได้รับเมื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษสำเร็จ
‘เปลี่ยนแปลงกฎระบบ’!
ระบบไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะเปลี่ยนอะไร แต่แค่นี้ก็ทำให้เผยเชียนรู้สึกว่าต้อง
เป็นรางวัลที่ดีมากๆ และคุ้มค่ากับความพยายามแน่
จนถึงปัจจุบัน ระบบแปลงเงินเข้าความมั่งคั่งส่วนบุคคลให้เผยเชียนแค่ตอน
วันสรุปบัญชี
แต่รางวัล ‘เปลี่ยนแปลงกฎระบบ’ ทำให้เขาจินตนาการไปไกล
อาจจะมีอะไรเพิ่มมาเป็นพิเศษ
หรือไม่ก็เปลี่ยนอัตราแปลงกำไรขาดทุน!
เผยเชียนรู้ว่ารางวัลนี้อาจจะเป็นหลุ มพราง แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะลองกระโดด
ลงไป!
เขาอาจจะได้อะไรที่เปล่าประโยชน์เป็นรางวัลตอนทำภารกิจเสร็จ แต่ถ้าเกิด
ได้อะไรดีๆ ขึ้นมาล่ะ
เผยเชียนไม่สามารถมองข้ามรางวัล ‘เปลี่ยนแปลงกฎระบบ’ เพื่อแลกกับเงิน
แค่หมื่นหยวนได้ เพราะถือเป็นเรื่องที่โง่มาก
หลังจากด่าระบบอยู่พักใหญ่ เผยเชียนก็ใจเย็นลง
“ไอ้ระบบหน้าโง่ ถือว่าแกจริงใจกับฉันมาตลอด ครั้งนี้ฉันจะยอมเชื่อแกก็ได้”
ไหนๆ ก็ปิดบัญชีไปแล้ว ตอนนี้ก็ได้ภารกิจพิเศษใหม่มา คงต้องทิ้งเรื่องราวน่า
ปวดใจไว้ข้างหลัง
เผยเชียนรวบรวมสติคิดหาวิธีทำให้ตัวเองขาดทุนเพื่อที่จะได้ทำภารกิจพิเศษ
ให้สำเร็จ
ข่าวดีคือรอบบัญชีนี้ยาวกว่าเดิม รอบก่อนให้เวลาแค่สองเดือน แต่รอบนี้ให้
เวลาถึงสี่เดือน
ในสี่เดือนนี้เผยเชียนน่าจะพอทำอะไรสักอย่างได้ เขาสามารถทำสิ่งที่ไม่มีเวลา
ทำในรอบบัญชีก่อนได้
บทที่ 186 คิดหาวิธีอนื่ ในการหารายได้

หลังจากนึกถึงเรื่องราวอันน่าเจ็บปวดใจที่ผ่านมา เผยเชียนก็ตัดสินใจว่าจะ
เก็บมันไว้เป็นบทเรียนและเดินหน้าต่อ
เผยเชียนต้องตั้งใจหาทางทำให้ตัวเองขาดทุนในรอบบัญชีนี้เพื่อที่จะได้รางวัล
‘เปลี่ยนแปลงกฎระบบ’
ชายหนุ่มเติบโตขึ้นมากจากบทเรียนที่ผ่านมา
ครั้งนี้เขาได้บทเรียนแล้วและจะไม่ยอมผิดพลาดเรื่องเดิมอีก!
อย่างแรกคือ เขาจะฝากความหวังทั้งหมดไว้กับการแปลงเงินมาเป็นความมั่ง
คั่งส่วนบุคคลไม่ได้!
ก่อนหน้านี้เผยเชียนดูถูกรายได้หมื่นสองหมื่นหยวน เขาคิดว่าแค่ขาดทุนนิด
หน่อยก็ได้มารวดเดียวหลายแสนแล้ว วิธีคิดแบบนี้ถือว่าผิดมหันต์
สองรอบบัญชีที่ผ่านมา เขาทำเงินได้แค่สามหมื่นกับสองหมื่นกว่าหยวน เฉลี่ย
แล้วตกเดือนละหมื่นกว่าหยวน
น้อยจนน่าใจหาย!
เผยเชียนตัดสินคิดหาวิธีอื่นในการหารายได้
เขาได้เงินมาทันทีสามหมื่นกว่าหยวนตอนถ่ายซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผย
แค่นี้ก็ไว้วางใจได้กว่าระบบแล้วไม่ใช่เหรอ
ชัดเจนว่าเขาจะหวังพึ่งแค่งานหลักไม่ได้ ต้องหางานอื่นเพิ่มด้วย
ส่วนจะทำอะไรได้บ้าง เผยเชียนยังไม่ได้คิดอย่างละเอี ยด แต่ก็พอจะมีไอเดีย
คร่าวๆ แล้ว
สรุปคือ ขอแค่ระบบอนุญาต เขาจะยอมใช้แรงงานเพื่อแลกกับค่าแรง แต่ก็จะ
ไม่ทำอะไรเกินเลยไปไกลนัก
เขาต้องทดสอบระบบดูก่อนเพื่อให้มั่นใจว่าจะใช้แผนการนี้ได้
อย่างที่สอง เขาต้องรู้ให้ได้ว่าจะต้องทำยังไงถือจะขาดทุนได้อย่างถูกต้อง
ตอนนี้เผยเชียนพอจะรู้แล้วว่าระบบทำงานยังไง
ระบบมีข้อจำกัดเยอะมาก ทั้งห้ามผลิตสินค้าด้อยคุณภาพ ห้ามขายของ
คุณภาพต่ำในราคาแพงเกินควร ห้ามขายของคุณภาพสูงในราคาต่ำเกินไป ว่า
ง่ายๆ คือ สินค้าทุกชิ้นห้ามตั้งราคาสูงหรือต่ำเกินไป ต้องตั้งราคาที่เหมาะสม
ข้อจำกัดนี้ทำให้เผยเชียนไม่สามารถจงใจทำให้ตัวเองขาดทุนได้
ถ้าลงทุนน้อย ก็ขายสินค้าได้แค่ราคาต่ำๆ มีแค่คนที่มีเงินไม่มากที่จะสนใจ
ถ้าทุ่มทุนเยอะ ก็ต้องขายราคาแพงๆ พอเริ่มมีกระแส พวกมีเงินก็จะแห่มาซื้อ
ดังนั้นเผยเชียนจึงไม่สามารถทำอะไรที่ขัดต่อหลักศีลธรรม เพราะระบบไม่
อนุญาตให้ทำ
แต่เผยเชียนค้นพบว่าระบบประเมินคุณภาพของสินค้าจากในแง่ของ ‘รายได้’
และ ‘ชื่อเสียง’
หมายความว่าเขาสามารถผลาญเงินสร้างชื่อให้บริษัทได้
ถ้าอยากทำเงินได้น้อยๆ ก็ต้องพยายามสร้างชื่อเอา
เขาค้นพบเรื่องนี้จากสารคดีจากดักแด้สู่ผีเสื้อ!
ขอแค่ได้กระแสตอบรับอย่างกว้างขวาง ต่อให้สารคดีทำเงินไม่ได้ ระบบก็ไม่
ว่าอะไร
แน่นอนว่าสารคดีเรื่องนั้นทำให้หลี่เจิงเหว่ยช่วยโฆษณาเกมฐานทัพกลางทะเล
ส่งผลให้ยอดผู้เล่นเพิ่มสูงขึ้น ถือเป็นข้อเสียเล็กๆ
แต่ข้อเสียนี้ก็เทียบไม่ได้เลยกับผลประโยชน์ที่ได้ การถ่ายสารคดียังถือเป็น
ไอเดียที่ดีอยู่
แถมไม่ใช่แค่สารคดีที่ใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ได้ เขาปรับใช้มันกับการสร้าง
เกมได้ด้วย
ถ้าทุ่มเงินก้อนโตสร้างเกมดีๆ ที่ทุกคนชมกันยกใหญ่แต่ทำกำไรไม่ได้เลย
ขึ้นมา…
แบบนั้นก็เยี่ยมยอดไปเลยไม่ใช่เหรอ
เผยเชียนคิดว่าสิ่งนี้ควรจะเป็นเป้าหมายต่อไปของเถิงต๋า
รอบบัญชีก่อน บริษัทเถิงต๋าทำแค่ปล่อย DLC ใหม่ให้เกมทั้งหมดในเครือ ถ้า
เถิงต๋าไม่สร้างเกมใหม่แล้วปล่อยทุกคนเอ้อระเหยไปวันๆ คงจะไม่ใช่เรื่องดี
โชคดีที่ถึงแม้ก่อนหน้านี้เผยเชียนจะสับสน แต่ตอนนี้เขาค้นพบหนทางใหม่
แล้ว
ถ้าทำได้สำเร็จ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะผลาญเงินหลักล้าน!
ส่วนฉางหยางเกมส์…
ตอนนี้ยังขาดทุนอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าแผนของเผยเชียนกำลังไปได้
สวย เขายังไม่ต้องยุ่งอะไรกับฝั่งนั้นมากมาย
ถ้าในอนาคตเผยเชียนเจอขุมทรัพย์ที่บริหารงานขาดทุนอีก ก็สามารถซื้อต่อ
กิจการเพิ่มได้
นอกจากนั้นแล้ว เขายังอยากก้าวสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วย
โมหยูเดลิเวอรี่เป็นการทดลองที่ให้ผลค่อนข้างดี แต่ยังขาดทุนได้ไม่มากพอ
ส่วนร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู…
ว่ากันตามตรง ที่ร้านสาขาหลักดังขึ้นมาได้เป็นเพราะเฉินเหล่ยทำอะไรเกิน
คาดคิด จนถึงตอนนี้เผยเชียนก็ยังยอมรับความจริงเรื่องนี้ไม่ได้
แต่ก็มีแค่ร้านสาขาหลักเท่านั้นที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ส่วนสาขาอื่นๆ ยัง
ขาดทุนอยู่นิดหน่อย
ดังนั้นการเปิดหน้าร้านจึงเป็นไอเดียที่น่าจะทำได้จริง มีปัญหาบ้างเล็กๆ
น้อยๆ ในการบริหารจัดการและเผยเชียนแค่โชคไม่ดีเท่านั้น
เขายังยืดแนวทางนี้ต่อได้
นอกจากวางแผนเปิดภัตตาคารระดับสูงเพื่อผลาญเงินแล้ว เผยเชียนยังสนใจ
ธุรกิจคลังจัดส่งสินค้าและโลจิสติกส์
ถ้าเขาขาดทุนได้เหมือนที่เว็บ JD Central ขาดทุนอยู่หลายปี เผยเชียนก็
สามารถนอนหลับฝันหวานได้เลย
นอกจากนั้นแล้ว ธุรกิจนี้ยังใช้กำลังคนเป็นหลัก ถ้าเพิ่มสวัสดิการให้พนักงาน
แต่ละคน เขาก็ยิ่งผลาญเงินได้เยอะขึ้น

เผยเชียนจัดระเบียบความคิดตัวเอง เขาคิดว่าการทำให้ตัวเองขาดทุนในรอบ
บัญชีนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากอะไร!
อยากแรกที่ต้องทำคือหางานเสริม!
เขารู้แล้วว่าตนเองไม่สามารถหวังพึ่งเงินจากระบบเพียงอย่างเดียวได้ ระบบ
ไม่มีทางห้ามเขาอยู่แล้วถ้าเกิดไม่ทำอะไรเกินควรหรือทำเรื่องที่ขัดต่อกฎของ
ระบบ
ส่วนจะหักค่าแรงจากเงินทุนระบบได้เท่าไหร่นั้น…
คงต้องถามระบบดู
เผยเชียนตั้งคำถามขึ้นในใจ “ถ้าฉันลงทุนเปิดบริษัทแล้วทำงานแลกค่าแรง
เอง ฉันจะให้เงินตัวเองได้เท่าไหร่”
<ขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำงานของเจ้าของระบบและจำนวนชั่วโมง
การทำงาน>
เผยเชียน “…”
ฟังดูไม่ค่อยดีเลยแฮะ
ชายหนุ่ม…ไม่มีทักษะการทำงานอะไรเลย
ถึงเขาจะรู้สึกว่าการเป็นเจ้านายคนเป็นเรื่องง่าย แต่ถ้าต้องลงไปทำงานใน
ตำแหน่งนั้นจริงๆ แล้ว เขาคงรับผิดชอบไม่ไหวแน่
ก็เหมือนกับเผยเชียนลาออกจากตำแหน่งปัจจุบันแล้วไปสมัครงานใหม่ เงิน
ค่าแรงสูงสุดที่เรียกจากระบบได้จะเป็นไปตามตำแหน่งใหม่ที่ได้
แถมเขายังต้องทำงานตามชั่วโมงทำงานปกติเพื่อที่จะได้รับเงินค่าแรง
เช่น ถ้าไปล้างจานในร้านอาหาร เผยเชียนก็น่าจะได้เงินอย่างมากสักสองสาม
พันหยวนต่อเดือน แลกกับการทำงานแปดชั่วโมงต่อวัน
“ไม่ได้สิ!
“ฉันไม่มีทักษะอะไรเลยถึงได้หวังพึ่งระบบนี่ไง!”
ชัดเจนว่าระบบไม่ได้สนใจเรื่องนี้
เผยเชียนครุ่นคิด เหมือนจะมีช่องโหว่บางอย่าง
งานทั่วไปมีการกำหนดรายละเอียดการทำงานไว้อย่างชัดเจน เช่น พนักงาน
ล้างจาน พนักงานเสิร์ฟ และอื่นๆ อีกทั้งยังมีฐานเงินเดือนตายตัว
แต่ถ้าเป็นงานที่ค่อนข้างซับซ้อนและเป็นนามธรรมล่ะ
อย่าง…นักแสดง
นั ก แสดงภาพยนตร์ ก ั บ นั ก แสดงในโรงละครได้ ค ่ า แรงต่ า งกั น ลิ บ ลั บ ถึ ง
นักแสดงสองคนจะอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน แต่ถ้าโดนจ้างไปถ่ายหนังคนละเรื่อง
เงินที่ได้ก็แตกต่างกันมากอยู่ดี
ระบบคำนวณเรื่องนี้ยังไงนะ
หน้าจอระบบปรากฏขึ้น <ในตอนนี้เจ้าของระบบสามารถหาเงินได้มากสุดวัน
ละหนึ่งพันห้าร้อยหยวน โดยเงินค่าจ้างจะเพิ่มขึ้นตามทักษะการแสดง ชื่อเสีย ง
และองค์ประกอบเชิงบวกอื่นๆ>
<ถ้าบริษัทที่ว่าจ้างเจ้าของระบบไม่มีความเกี่ยวข้องกับเงินทุนระบบและหาก
ไม่มีประเด็นที่น่าสงสัย ทางระบบก็ไม่มีข้อห้ามใดๆ>
เผยเชียนงง
ระบบก็คำนวณให้ต่างกันด้วยเหรอ
แต่พอคิดดูดีๆ เผยเชียนก็เข้าใจ
ระบบตั้งกฎนี้ขึ้นมาเพื่อกันไม่ให้เขาใช้ประโยชน์จากเงินทุนระบบเพื่อตนเอง
เช่น ถ้าเผยเชียนซื้อบริษัทภาพยนตร์แล้วจ่ายเงินหนึ่งล้านหยวนจ้างตัวเอง
ถ่ายหนัง ระบบจะไม่อนุญาตให้ทำ เพราะถือเป็นการใช้เงินทุนระบบไปในทางมิ
ชอบ
ถ้าจะใช้เงินตัวเองลงทุน เขาจ้างตัวเองได้มากสุดวันละหนึ่งพันห้าร้อยหยวน
ตอนถ่ า ยซี รี ส ์ ช ี ว ิ ต ประจำวั น ของบอสเผย เขาได้ ค ่ า แรงตกวั น หนึ ่ ง พั น หยวน
เนื่องจากวงเงินไม่เกินที่กำหนด ระบบจึงไม่ได้ห้ามอะไร
ถ้าคำนวณตามนี้ ถ่ายงานเดือนละสิบวัน ก็หาเงินได้เดือนละหนึ่งหมื่นห้าพัน
หยวน
ถื อ ว่ า เยอะที เ ดี ย วถ้ า วั ด จากรายได้ ท ี ่ เ ผยเชี ย นหาได้ ต อนนี ้ แต่ … ก็ ไ ม่ ไ ด้
เยอะแยะอะไรขนาดนั้น
ถ้ามีบริษัทอื่นมาจ้างเผยเชียนไปถ่ายงาน บริษัทที่มาจ้างจะให้เงินเยอะ
เท่าไหร่ระบบก็ไม่ได้สนใจ
เพราะไม่ได้ถือเป็นการใช้เงินทุนระบบไปในทางมิชอบ
บทที่ 187 การทดลองเล็กๆ ของบอสเผย

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเผยเชียนจะทำตามใจชอบได้
ถ้าเป็นบริษัทที่ไม่มีความเชื่อมโยงกับเงินทุนระบบเลย ก็จะไม่ค่อยรู้จักเผย
เชียน แล้วคงไม่มีทางจ่ายค่าจ้างให้ราคาแพงแน่
เผยเชียนเองก็ไม่สามารถแอบตกลงกับอีกฝ่ายได้ เพราะระบบไม่อนุญาตให้
ทำอะไรที่จะทำให้คนอื่นสงสัยถึงการมีอยู่ของระบบ
หมายความว่าอีกฝ่ายจะต้องเต็มใจให้ค่าจ้างเผยเชียนสูงๆ เอง
ถ้าเป็นตามนี้ ระบบก็ไม่ได้สนใจว่าเผยเชียนจะได้รับค่าจ้างสูงแค่ไหน
แต่ก็เป็นไปได้ยาก
“ระบบวางกฎไว้เข้มมาก ปิดช่องทางการหากินทุกทางเลย”
เผยเชียนมีไอเดียคร่าวๆ แล้วในหัว แต่เขาต้องการการร่วมมือจากใครสักคน
ถึงจะสามารถจัดการตามแผนนี้ได้
ตอนนั้นเองมือถือของชายหนุ่มก็ดังขึ้น หม่าหยางเป็นคนโทรมา
“พี่เชียน! บอสหลินบอกว่ามีเรื่องอยากคุยกับพี่ พี่มาที่ร้านได้มั้ย”


ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
หลินฉางกับเผยเชียนไม่ได้ไปเจอกันที่ร้านสาขาหลัก เพราะที่ นั่นคนเยอะ
วุ่นวาย
หม่าหยางจึงแนะนำให้ไปที่ร้านสาขาแทน
เผยเชียนไปถึงที่ร้านสาขาแล้วเปิดประตูเข้าไปข้างใน
มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเฉินเหล่ย
พอเฉินเหล่ยมีชื่อเสียงขึ้นมาจากรายการ The Voice of China เรื่องราวของ
เขากับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก็กลายเป็นกระแสพูดถึงกันยกใหญ่ในหมู่คนดู ทำให้
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกลายเป็นร้านดังขึ้นมา
แฟนคลับส่วนใหญ่ของเฉินเหล่ยแห่ไปร้านสาขาหลัก เพราะเป็นที่ที่เฉินเหล่ย
เคยทำงาน
ส่วนร้านสาขาย่อยก็พลอยได้ประโยชน์ไปด้วยจากการที่ร้านมีชื่อเสียงขึ้นมา
หลายคนเคยคิดว่าราคาค่าบริการของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูแพงมาก แต่
ตอนนี้ก็ยอมจ่ายเพื่อให้ได้เข้าไปใช้บริการ
แน่นอนว่าด้วยทำเลอันย่ำแย่ของร้านสาขาเหล่านี้ ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่มีแค่
เหล่าคนมีกำลังซื้อภายในพื้นที่ บรรดาร้านสาขาจึงยังก่ำกึ่งระหว่างกำไรกับ
ขาดทุน
เผยเชียนนั่งลงตรงข้ามหลินฉาง
ถึงคนตรงหน้าจะทุ่มเงินให้ร้านเขาทีเดียวหลายแสนหยวน แต่เผยเชียนก็
ไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งอะไร เพราะหลังแปลงผลกำไร เขาก็ได้มาแค่ไม่กี่พันหยวน
เห็นได้ชัดว่าหลินฉางไม่ได้ใส่ใจเงินที่จ่ายไปเลย
“บอสเผย ดีใจที่ได้พบกันอีกครั้งนะครับ
“บอสช่วยดูแลน้องสาวผมมาตลอด ที่เหมาร้านไปครั้งก่อนถือเป็นแค่การ
ตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ จากผม” หลินฉางยิ้ม
พอพูดถึงเรื่องนี้เผยเชียนก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
แกโยนเงินมาหลายแสนก็จริง แต่มันไม่ได้เข้ากระเป๋าฉันเลยโว้ย
เผยเชียนยิ้มบาง “บอสหลินพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะครับ คุณทุ่มเหมาร้านตั้ง
หลายแสนต่อหน้าทุกคน จะบอกว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ยังไงอยู่”
หลินฉางนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะ “ก็จริงครับ”
หลังจากคุยเล่นกันเล็กน้อย ทั้งสองคนก็สนิทกันมากขึ้น
หลินฉางถอนหายใจ “น้องสาวผมดื้อที่สุดในหมู่พี่น้อง ขนาดพ่อผมยังจัดการ
ไม่ได้เลย ผมตกใจมากตอนที่ได้ยินว่าพอเข้าบริษัทคุณแล้วก็ทำตัวดี ไม่ถือตัว ผม
เลยบินมาจิงโจวด้วยตัวเองเพื่อจะได้รู้ว่าบอสเผยเป็นใครกันแน่”
เผยเชียน “…”
ทำตัวดี ไม่ถือตัวเหรอ
เล่นฉันซะอ่วมต่างหาก!
เผยเชียนอยากจะด่าออกไปใจแทบขาด แต่ก็ทำได้แค่ยกกาแฟขึ้นจิบเงียบๆ
ไม่ตอบโต้อะไร ปล่อยให้บทสนทนาไหลไปเรื่อยๆ
“เหมือนว่าพ่อของคุณจะไม่อยากให้น้องคุณทำงานในอุตสาหกรรมเกมนะ
ครับ”
เผยเชียนพูดขึ้นเรียบๆ เพื่อลองหยั่งเชิง
เขาไม่รู้ว่าหลินฉางคิดเหมือนกันกับพ่อของหลินหวานหรือเปล่า และไม่รู้ว่า
สถานการณ์ในตระกูลหลินเป็นยังไง
ถ้าลองถามหยั่งเชิงไปแบบนี้ เขาก็จะได้รู้สถานการณ์ในครอบครัวของอีกฝ่าย
รวมถึงความคิดของหลินฉางด้วย
เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไง ตอนที่เขาส่งหลินหวานไปอีกที่ก็จะได้ไม่เกิดปัญหา
หลินฉางดูจะทำตัวไม่ถูก “ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะรู้สึกยังไงดี
“ถ้าให้พูดตรงๆ ที่น้องหวานกำลังทำอยู่ถือว่าไม่มีประโยชน์ ถ้าจะรับช่วง
กิจการต่อก็ลงทุนตั้งบริษัทเกมของตัวเองขึ้นมาก็ได้
“แต่น้องค่อนข้างหัวแข็ง ยืนกรานว่าจะเป็นนักออกแบบเกม
“ถ้าว่ากันตามเหตุผล ผมก็เห็นด้วยกับพ่อผมนะ แต่ถ้ามองเรื่องความรู้สึก ผม
ก็เข้าใจว่าทำไมน้องหวานถึงเลือกแบบนี้
“เพราะ… ผมก็เคยฝันอยากเป็นนักร้องนำของวงดนตรีสักวง มาคิดๆ ดูแล้วก็
เสียดายเหมือนกันที่ไม่ยอมดื้อบ้าง”
เผยเชียนเบ้ปาก
โอเค พี่น้องสี่คนนี้เก่งหลายด้าน สนใจหลายอย่างสินะ
ฟังจากที่หลินฉางพูดแล้ว เขาอยากจะไล่ตามความฝัน แต่โดนพ่อบังคับให้ทิ้ง
ความฝันในการเป็นนักร้องแล้วหันมารับช่วงต่อกิจการครอบครัว เลยได้ขึ้นเป็น
ประธานบริษัทสื่อบันเทิงเฉินฮว่า
หลินฉางยกกาแฟขึ้นดื่ม “จริงๆ ผมมองว่าให้น้องหวานได้ฝึกฝีมือ สั่งสม
ประสบการณ์ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
“น้องยังเด็กอยู่ ยังมีเวลาให้เสีย พอสั่งสมประสบการณ์ได้เยอะๆ ในอนาคตก็
จะกลายเป็นคนที่เหมาะสมมากในการรับช่วงกิจการต่อจากครอบครัว
“เพราะอย่างนั้นผมก็หวังว่าบอสเผยจะช่วยดูแลหลินหวาน
“ผมขอโทษจริงๆ ครับที่ต้องรบกวนคุณแบบนี้ บอสเผย เอาแบบนี้เป็นไงครับ
เถิงต๋าเป็นบริษัทเกม และผมเองก็ชอบเกมฐานทัพกลางทะเลมาก
“เดี๋ยวผมช่วยซื้อปืนกิเลนเพลิงห้าร้อยชิ้นเป็นการตอบแทน”
เผยเชียนอึ้งไป
ปืนกิเลนเพลิงห้าร้อยชิ้นเหรอ
สี่แสนเลยนะนั่น!
แกเอาเงินสี่แสนให้ฉันเลยไม่ได้เหรอ ทำไมต้องไปซื้อไอ้ปืนหน้าโง่นั่นด้วย
ชัดเจนว่าหลินฉางคิดว่าการซื้อปืนกิเลนเพลิงก็ไม่ต่างอะไรกั บการเอาเงินให้
เผยเชียน แถมทำแบบนี้ยังช่วยเพิ่มรายได้ให้เกมด้วย ถือเป็นเรื่องที่ดี
แต่จริงๆ ถือเป็นเรื่องเสียหายใหญ่หลวงสำหรับเผยเชียน ถ้าได้เงินมาสี่แสน
แบ่งตามอัตรา 70 : 30 แล้วเอาไปแปลงตามอัตราแปลงกำไร สุดท้ายก็จะได้มา
อย่างมากแค่สองพันกว่าหยวน
“ไม่ต้องหรอกครับ”
เผยเชียนรักษาท่าทีนิ่งสงบขณะเอ่ยพูดช้าๆ “ถ้าบอสหลินอยากตอบแทน ผม
มีอะไรจะเสนอ
“ผมว่าจะเจียดเงินเล็กน้อยไปทดลองอะไรสักหน่อย ถ้าบอสหลินช่วยตรงนี้
แทน ผมก็ไม่ขัด”
หลินฉางนิ่งไป ก่อนจะแสดงท่าทีสนใจ
“เงินเล็กน้อยเหรอครับ ไม่มีปัญหา
“บอสเผยต้องการเท่าไหร่ครับ”
“สองแสนหยวนครับ” เผยเชียนตอบเสียงนิ่ง “หนึ่งแสนเป็นค่าแรงผม ส่วน
อีกหนึ่งแสนเป็นค่าใช้จ่าย ผมอยากถ่ายซีรีส์ตอนสั้นยี่สิบตอน
“แต่บอสหลินต้องเตรียมใจไว้เลยนะครับว่าอาจจะไม่ได้เงินกลับมาสักหยวน
เดียว”
หลินฉางคิดคำนวณในใจ “บอสเผยได้ค่าแรงตกตอนละห้าพันหยวนเองนี่ครับ
น้อยไป ผมให้เลยตอนละหมื่นหยวน!”
ตอนแรกเขาตั้งใจเอาไว้ว่าจะซื้อปืนกิเลนเพลิงสักสี่แสนหยวน แต่ถ้าเผยเชียน
มีไอเดียอื่น หลินฉางก็อยากจะสนับสนุนตามที่อีกฝ่ายต้องการ
หลินฉางมองท่าทีสงบนิ่งของเผยเชียนแล้วเข้าใจขึ้นมา
“สำหรับบอสเผยแล้ว เงินสี่แสนถือเป็นเงินแค่เล็กน้อย
“เขาตั้งใจจะเอาเงินสี่แสนหยวนไปทดลองอะไรสักอย่าง พอเห็นฉันพูดเรื่อง
เงินขึ้นมา เลยคิดว่าให้ไปจ่ายตรงส่วนนี้แทนจะดีกว่า
“ดีเลย ถือว่าฉันได้ช่วยเขาไปด้วย แถมความสัมพันธ์ของเราก็แน่นแฟ้นขึ้น
ไม่เลวทีเดียว”
หลินฉางดีใจมาก เขาคิดว่าบอสเผยไม่ทำกับเขาเหมือนเป็นคนอื่นคนไกล!
ก็เหมือนเพื่อนรักสองคน คนหนึ่งถามอีกคนว่าอยากได้อะไรเป็นของขวัญวัน
เกิด เจ้าของวันเกิดตอบมาว่า ‘ตอนนี้มีเกมที่อยากได้ ราคาสองร้อยกว่าหยวน ซื้อ
เกมนั้นเป็นของขวัญให้ก็ได้’ ซึ่งก็ไม่ต่างกับกรณีของเขา
ในมุมมองของหลินฉาง เงินสี่แสนหยวนก็เหมือนของขวัญสำหรับมิตรภาพที่ดี
แถมยังเป็นสินน้ำใจตอบแทนที่อีกฝ่ายช่วยดูแลหลินหวานให้ด้วย
เผยเชียนอึ้งไปเล็กน้อย ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปทันที
ระบบไม่เตือนเหรอ
ฉันกำลังจะได้เงินสองแสนมาง่ายๆ
แล้วที่ผ่านมาจะทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อแปลงเงินเล็กน้อยเข้ากระเป๋าทำไม
กัน
บทที่ 188 พวก ‘เด็กเก่งๆ’

หลังจากส่งหลินฉางกลับ เผยเชียนก็ได้รับแจ้งยอดเงินเข้าอย่างรวดเร็ว
ยอดเงินทั้งหมดสามแสนหยวนโอนเข้าความมั่งคั่งส่วนบุคคลของเผยเชียน
เห็นได้ชัดว่าระบบไม่ได้สนใจหากคนอื่นให้เงินเผยเชียน ขอแค่ได้เงินมาอย่าง
สมเหตุสมผลและคนอื่นไม่ได้สงสัยถึงการมีอยู่ของระบบก็พอ
แต่เผยเชียนใช้เงินก้อนนี้หมดไม่ได้ ต้องแบ่งไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ และยัง
ขี้เหนียวกับเรื่องนี้ไม่ได้ด้วย
พูดง่ายๆ คือ ชายหนุ่มต้องทำผลงานออกมาเพื่อไม่ ให้หลินฉางนึกสงสัยในตัว
เขา
เผยเชียนเอาเงินไปใช้จ่ายปรนเปรอตัวเองทั้งหมดไม่ได้ ถ้าหลินฉางไม่เห็น
อะไรเป็นชิ้นเป็นอันออกมา คงจะดูแปลกๆ
เป็นไปได้ว่าหลินฉางอาจไม่ได้สนใจว่าเผยเชียนจะเอาเงินสามแสนหยวนนี้ไป
ทำอะไร แต่ไม่แน่เขาอาจจะสนใจก็ได้ เป็นเรื่องที่บอกได้ยาก
ถ้าหลินฉางถามอะไรขึ้นมา เผยเชียนก็ต้องมีคำตอบที่สมเหตุสมผล ถึงโอกาส
จะเป็นไปได้น้อย แต่เขาก็ต้องระวังตัวไว้ก่อน
ดังนั้นเผยเชียนจึงแบ่งเงินสองแสนหยวนไว้เป็นค่าแรง แล้วเหลือหนึ่งแสน
หยวนไว้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ เขาต้องลงมือผลิตผลงานสักอย่างออกมา
โปรเจ็กต์ต้องพังไม่เป็นท่าแน่ แต่ก็ไม่ได้สำคัญอะไร หลินฉางพร้อมจะทิ้งเงิน
สามแสนก้อนนี้อยู่แล้ว
เผยเชียนแค่ต้องทำเป็นว่าไม่ได้ต้องการเงินก้อนนี้ แค่จะเอามาทดลองอะไรดู
เฉยๆ ขอแค่หลินฉางไม่นึกสงสัย ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เขามองเงินสามแสนหยวนในบัญชี จากนั้นก็หันมองความมั่ งคั่งส่วนบุคคลที่
เพิ่มขึ้นมาเป็นสามหมื่นเจ็ดพันกว่าหยวนแล้วก็รู้สึกเศร้าใจขึ้นมา
ชายหนุ่มทุ่มเทกับบริษัทและสร้างรายได้ถึงสิบล้านหยวน แต่แปลงมาเป็นเงิน
ให้ตัวเองใช้ได้แค่หลักหมื่น กลับกันแค่รับงานนอกเพิ่มเล็กน้อย เขาก็ได้เงินมา
ง่ายๆ สองแสนหยวน
พอรู้แบบนี้ก็ไม่ค่อยมีเหตุผลอะไรให้เผยเชียนแปลงกำไรมาเป็นความมั่งคั่ง
ส่วนบุคคล

วันที่ 1 กรกฎาคม
เผยเชียนเปิดโน้ตบุ๊กเพื่อเช็กเกรดของตัวเอง
โอเค คาบเส้นทุกวิชา…
“เหมือนติดเชื้อไอ้หม่ามาเลยแฮะ
“แต่ช่างเถอะ ฉันต้องคิดหาวิธีผลาญเงินเพิ่ม ไม่มีพลังไปคิดเรื่องเรียนหรอก
แค่คาบเส้นก็พอแล้ว”
เผยเชียนปลอบตัวเอง
เขาเรียนคณะสายศิลป์ ข้อสอบส่วนใหญ่เน้นให้ท่องจำเนื้อหา เขาจึงสามารถ
สอบผ่านได้แม้จะทุ่มอ่านหนังสือเอาตอนใกล้สอบ
เผยเชียนไม่อยากลาออก
ไม่ใช่เพราะเขาอยากได้ใบปริญญา สำหรับเขาแล้ว ใบปริญญาคือของไร้
ประโยชน์ แต่เหตุผลหลักคือ…ถ้าลาออก เขาก็ไม่มีอะไรทำ
ทุกวันนี้ชายหนุ่มเข้าเรียนตามที่ต้องเข้า ตอนไหนขี้เกียจก็กลับไปนอนเล่นที่
อพาร์ตเม้นต์ไม่ก็เล่นเกม มีแค่ช่วงใกล้ถึงวันปิดบัญชีที่จะต้องคอยจับตาดูบริษัท
อย่างใกล้ชิดและพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองขาดทุน
ถ้ า ลาออกเขาก็ ค งหมกตั ว อยู ่ ใ นอพาร์ เ มนต์ ท ั ้ ง วั น ชี ว ิ ต ไม่ ไ ด้ ม ี อ ะไร
เปลี่ยนแปลงเท่าไหร่
นอกจากนี้เผยเชียนก็ไม่ได้อยากเปิดเผยตัวตนของตัวเอง
ตอนนี้คนรอบตัวหลายๆ คน รวมถึงเพื่อนร่วมชั้นรู้ว่าเขาเป็นพระเอกซีรีส์
ชีวิตประจำวันของบอสเผย พวกเขามองว่าเผยเชี ยนเป็นเนตไอดอล แต่ไม่มีใครรู้
ว่าเขาคือบอสของเถิงต๋า
เผยเชียนมีเรื่องที่ต้องกังวลหลักๆ อยู่สามอย่าง
อย่างแรกคือ กังวลเรื่องครอบครัว
อย่ า งที ่ ส องคื อ กลั ว ว่ า ถ้ า เพื ่ อ นร่ ว มชั ้ น รู ้ ว ่ า เขาเป็ น เจ้ า ของบริ ษั ท
ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาอาจจะเปลี่ยนไป ต้องมีคนเข้าหาเพื่ อของานหรือไม่
ก็ยืมเงินไม่ขาดสาย คงจะน่ารำคาญใจแย่
อย่างที่สามคือ ถึงชายหนุ่มจะเป็นเจ้าของบริษัท แต่จำนวนเงินในความมั่งคั่ง
ส่วนบุคคลที่ใช้ได้จริงๆ มีไม่มาก เผยเชียนกลัวว่าจะมีกลุ่มคนที่เกลียดชังพวกมี
เงินหรือพวกหัวรุนแรงมาคอยจับตาดูเขาแล้วหาโอกาสสร้างเรื่อง
เผยเชียนเปิดเผยการมีอยู่ของระบบไม่ได้ ดังนั้นจึงอยากเลี่ยงปัญหาที่ไม่
จำเป็น เขาอยากปิดบังตัวตนจากคนอื่นๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อลด
ความเสี่ยง
ช่วงนี้เขาใช้ชีวิตอย่างสงบสุข จึงยังไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตของตัวเอง
ในตอนนี้
แน่นอนว่าถ้าผลาญเงินได้หลักล้านบ้างก็คงจะดี
ใกล้ปิดเทอมแล้ว เพื่อนร่วมชั้นส่วนใหญ่ที่สอบเสร็จและเช็กเกรดครบทุกวิชา
แล้วต่างพากันกลับบ้าน แต่สำหรับเผยเชียน เขาเพิ่งจะเริ่มต้นช่วงเวลาแห่งการ
ผลาญเงินรอบใหม่
เผยเชียนเตรียมไล่โปรเจ็กต์ที่มีในตอนนี้ เขาอยากวิเคราะห์งบกำไรขาดทุน
เพื่อหาหนทางผลาญเงินให้ได้มากกว่านี้
ชายหนุ่มสร้างตารางขึ้นมาบนเว็บไซต์แล้วพิมพ์กรอกข้อมูลลงไปสองประโยค
จากนั้นก็ค้นหาข้อมูลเพิ่ม สุดท้ายเขาก็เข้าเว็บอ้ายลี่เต่าไปดูรายการต่างๆ ด้วย
ความเคยชิน
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปโดยไม่รู้ตัว
“เอ๊ะ เมื่อกี้ว่าจะทำอะไรนะ” เผยเชียนนึกขึ้นมาได้
ตอนนั้นเองมือถือของเขาก็ดังขึ้น พอหันไปดูชื่อสายโทรเข้า ชายหนุ่มก็นึก
ลังเล
“เอ่อ… อาจารย์จางเหรอ”
สายโทรเข้ามาจากจางเหว่ย อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยของเขา
เผยเชียนรู้สึกงงเล็กน้อยว่าทำไมจางเหว่ยถึงโทรมาหา
เขาไม่ได้มีตำแหน่งอะไรในมหาวิทยาลัย แถมเกรดแค่ นี้ก็ไม่น่าจะได้รับทุน
หรือรางวัลอะไร เรื่องอื่นๆ ก็ไม่น่ามี
จางเหว่ยทักขึ้นอย่างนิ่มนวล “เผยเชียน ผมได้ยินมาว่าคุณได้ไปเล่นซีรีส์ตอน
สั้น ได้ร่วมงานกับบริษัทด้วย เห็นว่าทำได้ดีเลยนี่”
เผยเชียนถึงบางอ้อ อ๋อ เรื่องเฟยหวงสตูดิโอนี่เอง
เพื่อนร่วมชั้นรู้ว่าเขาเล่นซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยและไม่ค่อยอยู่ที่
หอพัก
พวกเขาจึงคิดกันว่าเผยเชียนน่าจะยุ่งอยู่กับโปรเจ็กต์นี้ แล้วเรื่องนี้ก็ไปถึงหู
จางเหว่ย
เผยเชียนยอมรับทันที “ใช่ครับ มีอะไรรึเปล่าครับอาจารย์จาง”
“ดีมากๆ ผมไม่ค่อยเห็นหน้าคุณเลย ที่แท้ก็ยุ่งกับงานนี่เอง แต่ก็ยังทำเกรดได้
ดี เยี่ยมจริงๆ!”
เอาอะไรมาเกรดดี!
ฉันแค่คาบเส้น…
เผยเชียนรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ จางเหว่ยถึงได้ชมเกินจริงแบบนี้
ถือเป็นเรื่องปกติ อาจารย์ในมหาวิทยาลัยไม่ค่อยสนใจเรื่องเกรดของนักศึกษา
แต่สนใจเรื่องอัตราการจ้างงานมากกว่า
นักศึกษาแบบเผยเชียนน่าจะสามารถหางานได้ทันทีหลังเรียนจบ ไม่มีปัญหา
เรื่องอัตราการจ้างงาน ในฐานะอาจารย์มหาวิทยาลัยแล้ว จางเหว่ยไม่ต้องกังวล
เรื่องเผยเชียนเลย
จางเหว่ยน่าจะมีเป้าหมายบางอย่างถึงชมเผยเชียนแบบนี้
“เรื่องมันเป็นอย่างนี้ คือตอนนี้ใกล้จะเข้าช่วงจบการศึกษาแล้ว เด็กปีสุดท้าย
ที่เก่งๆ บางคนยังหางานไม่ได้เลย คุณพอจะแนะนำเด็กพวกนี้ให้บริษัทที่คุณ
ทำงานอยู่ได้มั้ย”
เด็กเก่งๆ เหรอ มาถามผิดคนแล้ว
เผยเชียนโยนหน้าที่ไปทางอื่นตามสัญชาตญาณ “ทำไมไม่ให้พวกเขาเข้า
ระบบหางานของมหา’ลัยล่ะครับ”
จางเหว่ยกระแอมกระไอ “ระบบหางานของมหา’ลัยเหรอ… ผมว่าน่าจะไม่มี
งานที่เหมาะกับพวกเขาแหละ เลยเป็นปัญหามาจนถึงตอนนี้”
เผยเชียนเข้าใจทันที
อ๋อ พวกนี้หางานไม่ได้นี่เอง!
เห็นได้ชัดว่าการเรียกนักศึกษาเหล่านี้ว่าเป็น ‘เด็กเก่ง’ คือการพูดให้ดูดี เผย
เชียนเกือบจะเข้าใจจางเหว่ยผิดไป
จริ ง ๆ แล้ ว เด็ ก พวกนี ้ ค ื อ พวกที ่ ห างานไม่ ไ ด้ แ ม้ จ ะผ่ า นระบบหางานของ
มหาวิทยาลัยมาแล้ว
มหาวิทยาลัยฮั่นตงเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดัง มีอัตราการจ้างงานสูงถึง 90% แต่
ก็ย่อมมีนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่หางานไม่ได้หลังเรียนจบ
แถมตัวเลข 90% ก็พูดเกินจริง เพราะทุกปีจะมี ‘ช่วงที่ลำบากที่สุดของเด็ก
จบใหม่’ เป็นเรื่องยากมากที่จะหางานที่พอใจได้ นักศึกษาส่วนใหญ่จึงลองเข้าไป
ทำงานชั่วคราว สองสามเดือนก็ลาออกมา
คนที่ทำงานกับที่บ้านก็คือว่ามีการจ้างงาน
สำหรับทางมหาวิทยาลัยแล้ว โดยเฉพาะกับตัวอาจารย์อย่างจางเหว่ย การ
เพิ่มอัตราการจ้างงานเป็นเรื่องที่ยากมาก อาจพูดได้ว่าอัตราการจ้างงานก็เหมือน
ใบเกรดของมหาวิทยาลัยและตัวอาจารย์เอง พวกเขาต้องคอยคิดหาทางเพิ่มยอด
อยู่ตลอดเวลา
นอกจากจะส่งเสริมให้นักศึกษาเข้าร่วมระบบหางานของทางมหาวิทยาลัย
แล้ว เหล่าอาจารย์ยังติดต่อไปยังบริษัทหลายๆ แห่ง แค่หางานให้เด็กจบใหม่ได้ก็
ถือเป็นชัยชนะสำหรับพวกเขา
ชัดเจนว่าจางเหว่ยรู้ว่าเผยเชียนรู้จักมักจี่กับคนในบริษัทเฟยหวงสตูดิโอ
เลยอยากลองเสี่ยงดวงดูเผื่อจะหางานให้เด็กที่ยังเหลืออยู่พวกนี้ได้ อย่างน้อยเขา
ก็อยากจะให้เด็กสักคนสองคนเข้าไปทำงานที่บริษัทนี้ ถึงโอกาสจะไม่ได้สูง แต่ก็
ยังถือว่าพอเป็นไปได้
เผยเชียนรู้สึกดีใจ ถ้าอย่างนั้นก็มาหาถูกคนแล้ว!
มหาวิทยาลัยฮั่นตงเป็นมหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้า คนที่เข้ามาเรียนที่นี่ได้ย่อม
ไม่ใช่คนหัวทึบ แต่คนที่จางเหว่ยกำลังหางานให้คือพวกที่โดนบริษัทอื่นๆ ปฏิเสธ
มา!
ช่วงเดือนกรกฎาคมถือช่วงจบการศึกษา พวกคนที่จะเรียนต่อต่างกำลังดื่มด่ำ
ใจกับช่วงปิดเทอม พวกที่หางานได้ก็ทยอยเริ่มงานกันแล้ว หรือไม่ก็ใกล้ที่จะเริ่ม
งาน ส่วนคนที่จะขอสอบแก้ก็ติดต่ออาจารย์ประจำวิชากันหมดแล้ว
ตอนนี ้ ร ายชื ่ อ ในมื อ ของจางเหว่ ย คื อ กลุ ่ ม คนที ่ ต ้ อ งการหางานและผ่ า น
สัมภาษณ์มานักต่อนัก แต่ก็ยังหางานไม่ได้
ก็ตรงกับที่เผยเชียนต้องการเลยไม่ใช่เหรอ
เผยเชียนรีบตอบ “ได้เลยครับอาจารย์ เดี๋ยวผมจัดการให้ อาจารย์ส่งรายชื่อ
มาให้ผมได้เลย ผมจะให้พวกเขาไปสัมภาษณ์ที่บริษัท”
จางเหว่ยไม่นึกว่าเผยเชียนจะตอบตกลงเร็วขนาดนี้ “อ๋อ ได้เลย”
หลังจากคุยกันต่ออีกเล็กน้อย เผยเชียนก็วางสาย
ไม่นานจางเหว่ยก็ส่งประวัติของนักศึกษากลุ่มที่ว่ามาให้
บทที่ 189 เกมใหม่ทำเกี่ยวกับอะไรดี

เผยเชียนเปิดเช็กอีเมล อืม มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง รวมแล้วยี่สิบกว่าคนเพราะ


ทุกคนเรียนเอกประวัติศาสตร์ ผู้หญิงเลยมากกว่าผู้ชาย
ประวัติของหลายคนโล่งโจ้ง ไม่ค่อยได้รับรางวัลอะไร จุดแข็งก็ไม่ค่อยมี
ส่วนเรื่องหน้าตา ถ้าพูดรักษาน้ำใจหน่อยก็คงต้องบอกว่าหน้าตาธรรมดา
ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะบริษัทส่วนใหญ่ย่อมอยากจ้างสาวๆ สวยๆ อยู่แล้ว
ถึงจะไม่ได้มีทักษะอะไรมาก แต่อย่างน้อยก็มองแล้วดีต่อใจ
คนเหล่านี้คือพวกเด็กไม่มีใครเอาประจำเดือนกรกฎาคม จุดเด่นของเด็กกลุ่ม
นี้มีดังนี้
เกรดแย่ เรียนต่อปริญญาโทไม่ได้
ไม่มีเส้นสาย ไม่มีใครหางานให้ได้
ไม่เคยทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยหรือทำงานพาร์ตไทม์มาก่อน แถมหางาน
เองก็หาไม่ได้
รวมๆ แล้วคือคุณสมบัติสมบูรณ์แบบ!
อืม รอบนี้น่าจะได้พวกใช้การไม่ได้มาเยอะเลย
เผยเชียนพอใจมาก หลังจากไล่ดูประวัติของแต่ละคน เขาก็ตัดสินใจรับทุกคน
เข้าทำงาน!
ก็เหมือนคำพูดที่ว่า โลกนี้ไม่มีสิ่งไร้ค่า มีแค่สิ่งที่อยู่ผิดที่ผิดทางเท่านั้น
สำหรับเผยเชียนแล้ว คนเหล่านี้เหมาะมากกับคำนิยามที่ว่าพวกเขาแค่อยู่ผิด
ที่ผิดทาง!
“แต่ก็ต้องคิดว่าจะให้ทำงานอะไรดี”
เผยเชียนเริ่มไตร่ตรองตำแหน่งที่มีในตอนนี้
ส่งไปอยู่แผนกเกมดีไหม
น่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ตอนนี้โครงสร้างในแผนกเกมค่อนข้างลงตัวแล้ว การทำงานก็เป็นไปอย่าง
ราบรื่น
อย่างมากคนพวกนี้ก็น่าจะได้ทำแค่งานยิบย่อยในแผนก ถึงฝีมือจะห่วยแค่
ไหนก็ไม่น่าสร้างปัญหาให้กับได้
จะจั บ โยนไปเป็ น ฝ่ า ยบริ ห ารในแผนกเกมก็ ไ ม่ ไ ด้ อ ี ก เพราะจะดู ไ ม่
สมเหตุสมผล อาจทำให้คนอื่นสงสัยได้
ส่งไปร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูดีไหม
งานส่วนใหญ่ในร้านเป็นงานใช้แรงงาน น่าจะเป็นได้แค่พนักงานเสิร์ฟไม่ก็
พนักงานส่งของ คนพวกนี้เป็นรุ่นพี่มหาวิทยาลัยของเขา ให้ไปเก็บโต๊ะกับเสิร์ฟ
อาหารคงจะดูไม่เหมาะเท่าไหร่
แถมใครๆ ก็ทำงานประเภทนี้ได้ พวกเขาจะไม่ได้แสดงความสามารถที่แท้จริง
“ฉันต้องตั้งบริษัทใหม่ให้คนพวกนี้”
เผยเชียนตาเป็นประกายเมื่อผุดนึกไอเดียดีๆ ขึ้นได้
เขาจะตั้งบริษัทใหม่แล้วรับคนกลุ่มนี้เข้ามาเป็นพนักงาน พวกเขาจะได้แสดง
ความสามารถกันอย่างเต็มที่ ยอดเยี่ยมกระเทียมดองไปเลย!
แน่นอนว่าประธานของบริษัทใหม่ต้องเป็นคนของเขา
เหตุผลหนึ่งก็คือประธานบริษัทต้องห้ามแอบกินเล็กกินน้อยหรือแอบเลี่ยง
ภาษี ถึงคนกลุ่มนี้จะเป็นรุ่นพี่ของเขา แต่ยังไงก็คือคนแปลกหน้า เผยเชียนไว้ใจ
พวกเขาไม่ได้
อีกเหตุผลหนึ่งก็คือการให้พวกเขาได้นั่งตำแหน่งบริหารเลยนั้นไม่เหมาะสม
คนอื่นๆ อาจจะคลางแคลงใจได้
เผยเชี ยนเริ ่ม ตามหาผู้ โ ชคดี ใ นบริ ษ ั ท เขาจะให้ผ ู ้โ ชคดีค นนี ้ ร ับ ตำแหน่ง
ประธานบริษัทแห่งใหม่ แล้วส่งคนไปทำงานตำแหน่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเงิน
หรือบริหารงานทั่วไป จากนั้นค่อยรับพนักงานกลุ่มนี้เข้ามาถึงจะดูเหมาะสม
หลังจากนั้นก็เปิดกิจการและเริ่มขาดทุนได้ ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบมาก
เผยเชียนคิดอยู่สองสามนาทีก็ผุดความคิดขึ้นได้อีกอย่าง
ฉันมีภัยเสี่ยงลับที่ต้องจัดการอยู่นี่นา
ดี จัดการรวดเดียวไปเลยแล้วกัน!
หม่าอี้ฉวินรับตำแหน่งเขียนเนื้อเรื่องและแผนงานให้บริษัทเถิงต๋า
ตอนแรกเผยเชียนรับอีกฝ่ายเข้ามาเป็นตัวนำโชคเพื่อถ่วงดุลดวงชะตาของ
ตัวเอง
แต่เขาก็หาเหตุผลอื่นให้หม่าอี้ฉวินอยู่ว่างๆ ไม่ได้ เลยต้องจำใจปล่อยให้เจ้า
นั่นรับผิดชอบเนื้อเรื่องเกมต่างๆ
สุดท้ายหม่าอี้ฉวินก็ช่วยยกระดับเนื้อเรื่องและเสริมงานเขียนของเกมให้ดูดี
ยิ่งขึ้น
เผยเชียนต้องหาทางไล่คนแบบนี้ไปให้พ้นทาง!
ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว
ส่วนจะทำยังไงนั้น…
เผยเชียนคิดเอาไว้นานแล้ว
นั่นก็คือ สร้างเว็บไซต์ลงนิยายยังไงล่ะ!
เหตุผลแรกคือ นี่เป็นความฝันของหม่าอี้ฉวิน การช่วยผลักดันให้พนักงานทำ
ตามฝันได้สำเร็จคือเป้าหมายของบอสเผย
เหตุผลที่สองคือ หม่าอี้ฉวินล้มเหลวอยู่หลายครั้งตอนที่พยายามแต่งนิยายลง
เว็บ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาไม่มีความสามารถด้านนี้ เผยเชียนน่าจะวางใจได้ถ้า
ให้เขาดูแลบริษัท
เหตุผลสุดท้ายคือ อุตสาหกรรมนิยายออนไลน์ทำให้เผยเชียนขาดทุนได้ง่าย
มาก
ตอนนี้ในโลกนี้มีเว็บไซต์สำหรับนิยายออนไลน์ที่เติบโตไปไกลแล้วชื่อเว็บอู๋
เซียนจงเหวิน ซึ่งเป็นเว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมเกือบทุกอย่าง มีหลายบริษัท
พยายามเข้าสู่ตลาดนี้ แต่ก็มีไม่กี่เจ้าที่ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่เจ๊งกันแทบทุก
ราย
เผยเชียนสามารถทำเหมือนว่ากำลังลองลงทุนในตลาดใหม่ อัดฉีดเงินทุนก้อน
โตให้เหล่านักเขียนกับบรรณาธิการ เมื่อมีหม่าอี้ฉวินนั่งแท่นเป็นประธาน บริษัท
ต้องขาดทุนอย่างแน่นอน!
จริงๆ แล้วพอคิดดูอีกที เขาน่าจะทำเว็บลงนิยายไปตั้งนานแล้ว
วงเงินในการลงทุนธุรกิจแบบนี้นั้นกว้างมาก มีทุนแค่ล้านหยวนก็ทำได้ ถ้ามี
ร้อยล้านหยวนก็มีหนทางอีกแบบ
เขาสามารถจัดหาทรัพยากรต่างๆ ในการทำเว็บไซต์ในราคาสูงได้ ทุ่มทุนทำ
ช่องทางการตลาด ซื้อลิขสิทธิ์ และอื่นๆ อีกมากมาย เรื่องพวกนี้จะทำให้ใช้เงินทุน
สูงมาก
แต่ถ้าจะสร้างเว็บธรรมดาทั่วไปก็แค่จ้างบรรณาธิการมาหนึ่งกลุ่มกับซื้อบท
นิ ย ายกากๆ ราคาถู ก มา เขาสามารถแบ่ ง เงิ นไปเป็น ค่า แรงแล้ วเจี ย ดเงินอี ก
เล็กน้อยเป็นค่าเช่าเซิฟเวอร์คลาวด์กับจดชื่อโดเมน รวมๆ แล้ว ทุนหนึ่งล้านหยวน
ก็น่าจะเพียงพอต่อการทำเว็บไซต์แบบนี้
เผยเชียนคิดอยู่พักหนึ่งแล้วตัดสินใจลองให้เงินหม่าอี้ฉวินไปลงทุนดูสักล้าน
หยวน ถ้าเจ้านั่นทำให้บริษัทขาดทุนได้ก็ค่อยอัดเงินลงทุนเพิ่ม
คิดได้แบบนี้เผยเชียนก็อารมณ์ดีขึ้นสุดๆ


เผยเชียนเข้าออฟฟิศช่วงบ่าย
สิ่งแรกที่เขาทำคือมอบหมายงานให้แผนกทำเกม
หลังจากปล่อย DLC ไป แผนกเกมก็มีเวลาได้พักผ่อนหย่อนใจกันพักหนึ่ง
ตอนนี้เริ่มรอบบัญชีใหม่แล้ว เผยเชียนต้องหางานให้พวกเขาทำ
เนื่องจากระบบมีข้อห้ามไม่ให้พนักงานว่างงานหรืออู้งานจนเกินไป พวกเขา
ต้องปล่อยผลงานใหม่ออกมาบ้าง
ทุกคนพากันตั้งตาคอยแผนงานใหม่สำหรับเกมต่อไป
แต่รอบนี้เผยเชียนไม่ได้เรียกให้ทุกคนมาเข้าประชุม ตอนนี้ที่ออฟฟิศมีคน
เยอะเกินไป ห้องประชุมไม่สามารถจุคนได้หมด
มีแค่ลู่หมิงเหลียง เปาซวี่ และสมาชิกหลักคนอื่นๆ ที่เขาเรียกมาประชุม
ครั้งนี้เผยเชียนวางแผนไว้ว่าจะบอกแนวคิดคร่าวๆ ที่มีในหัวให้พวกเขาฟัง
จากนั้นก็ให้แนวทางการพัฒนาเกมที่เฉพาะเจาะจงขึ้นมา แล้วปล่อยให้พวกเขา
จัดการรายละเอียดอื่นๆ ที่เหลือกันเอาเอง
ปัญหาหลักคือ เผยเชียนไม่สามารถระบุรายละเอียดทั้งหมดได้ แม้จะอยาก
ทำแค่ไหน เขาก็ไม่มีความสามารถพอที่จะคิดรายละเอียดพวกนี้ออกมาได้…
ไม่นานทุกคนก็มาพร้อมกันที่ห้องประชุม
หลินหวานได้มาประชุมด้วย เธอถือสมุดเล่มเล็กไว้เตรียมจดรายละเอียดต่างๆ
หม่าอี้ฉวินเองก็เดินตามเข้าห้องประชุมมา เขาไม่ได้ถือสมุดติดมือมาด้วย แต่
สีหน้าดูจริงจังมาก
เผยเชียนแอบคิดในใจ “ประชุมเสร็จ ฉันจะจัดการกับพวกแกสองคน!”
เขาคิดอยู่นานว่าเกมใหม่จะทำแนวไหนดี ตอนนี้เขาพอจะมีไอเดียคร่าวๆ
แล้วว่าอยากให้ออกมาแบบไหน
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ชายหนุ่มจะไม่ยอมให้มีข้อผิดพลาดอะไรเกิดขึ้น
อีก
ด้วยกฎของระบบ เผยเชียนไม่สามารถสร้างเกมกากๆ ขึ้นมาแล้วขายราคา
แพงได้ ถึงจะมีอิสระในการกำหนดราคาตามขอบเขตที่วางไว้ แต่เขาก็ต้องตั้งราคา
ให้สอดคล้องกับเงินที่ลงทุนไป
ขณะเดียวกัน จากความสำเร็จของเกมก่อนๆ ทำให้ชาวเกมเมอร์จับตาดูเกมที่
บริษัทเถิงต๋าผลิต
เกมใหม่นี้น่าจะมีกระแสตั้งแต่ยังไม่ได้ปล่อย เผยเชียนหวังให้เป็นเหมือนตอน
เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายกับเกมแม่ทัพผีไม่ได้ เขาจะไม่โฆษณาเกม
แล้วหวังให้ไม่มีใครหาเกมเจอไม่ได้อีกต่อไป
เมื่อเป็นแบบนี้ เขาก็ต้องสร้างเกมที่จะเป็นกระแสในวงกว้าง ต้องทุ่มเงินทุน
ก้อนโตสร้างเกมที่คนจะไม่อยากซื้อแม้จะมีกระแสเป็นที่รู้จักกันทั่ว!
เผยเชียนรู้จักหลายเกมที่เข้าข่ายนี้
เกมสไตล์ Souls (1) กับเกมแพลตฟอร์มสองมิติ (2) คือตัวอย่างที่ดี
เผยเชียนไม่คิดจะสร้างเกมแพลตฟอร์มสองมิติเพราะใช้เงินลงทุนไม่มาก ซึ่ง
หมายความว่าจะขาดทุนได้น้อย
ถ้าอยากจะสร้างเกมขึ้นมาสักเกมก็ต้องเป็นโปรดักชันใหญ่ อัดเงินลงทุนกับ
ทรัพยากรงานภาพเยอะๆ
เขารู้ดีว่าเกมสไตล์ Souls ของมิยาซากิ ฮิเดทากะนั้นประสบความสำเร็จมาก
ทำยอดขายได้ถล่มทลาย ไม่ใช่เกมที่จะขาดทุนได้เลย
แต่ถ้าจะจับประเด็นนี้ก็ต้องดูกันที่หลายๆ องค์ประกอบ
เกมทุกแนวมีทั้งเกมที่ดังและไม่ดัง ประเด็นหลักอยู่ที่รายละเอียดของเกม
ผู้พัฒนาเกมหลายคนอยากทำเกมสไตล์ Souls แต่มีกี่คนกันที่ทำได้สำเร็จ
สุดท้ายก็เจ๊งกันไปทีละราย แสดงให้เห็นชัดเจนว่ามีแค่มิยาซากิ ฮิเดทากะที่มี
ของจริงๆ
เผยเชียนไม่คิดว่าตัวเองมีความสามารถเหมือมิยาซากิ ฮิเดทากะ
อีกอย่างถึงจะพยายามดั้นด้นทำเกมแนว Souls ที่สมบูรณ์แบบออกมา ก็ไม่
น่าจะทำได้ เพราะเขาไม่ได้มีทุนสร้างเยอะขนาดนั้น
คำนวณจากเงินทุนระบบแปดล้านหยวนกับรายได้จากเกมต่างๆ รวมถึ ง
รายได้ ยิบย่อยอื่นๆ และหักค่าใช้จ่ายออกแล้ว…
เผยเชียนคิดว่าอย่างมากน่าจะมีทุนสำหรับสร้างเกมนี้ประมาณยี่สิบล้าน
หยวน
เงินแค่นี้ไม่พอสำหรับการสร้างเกมระดับ AAA ขึ้นมาได้
จำนวนคนในทีมค้นคว้าและพัฒนาน่าจะมีเพียงพอ เพราะเกม Metro 2033
ใช้ทีมสร้างแค่สามสิบคน เผยเชียนมีคนในทีมค้นคว้าและพัฒนาประมาณหกสิบ
ถึง เจ็ดสิบคน แถมยังวางแผนจะรับคนเพิ่มด้วยหลังจากนี้
แต่ถ้าพิจารณาจากการที่มีเวลาแค่สี่เดือนให้ค้นคว้าและพัฒนาเกมใหม่ขึ้นมา
พนักงานที่มีน่าจะต้องยุ่งกันมือเป็นระวิง ต้องหาทางอัดเนื้อหาเกมเข้าไปและ
ปล่อยเกมให้ทันเวลา
หมายความว่าพวกเขาสร้างได้แค่เกมที่เร่งยัดเนื้อหาออกมา ตัวเกมที่ปล่อย
ออกมาจะถูกลดเนื้อหาลงไปมาก
ถือเป็นการเพิ่มโอกาสเจ๊งให้เกมขึ้นไปอีก!
(1) เกมที่มีต้นแบบจากเกมตระกูล Dark Souls ขึ้นชื่อด้านความยากจนผู้เล่น
หัวร้อน ปาจอยทิ้งมานักต่อนัก ตัวอย่างเกมแนวนี้เช่น Dark Souls, Nioh,
Sekiro, etc.
(2) เกมแนวตะลุยด่าน ส่วนมากจะเน้นให้กระโดดผ่านฉากไปเรื่อยๆ เช่น
Mario, Mega Man, Kirby, etc.
บทที่ 190 กลับใจคือฟากฝั่ง

นอกจากนี้แล้ว ยังมีประเด็นเรื่องสภาพการณ์ด้วย
เกมสไตล์ Souls ไม่ได้ประสบความสำเร็จตั้งแต่แรกเริ่ม ต้องผ่านช่วงที่
ยอดขายตกต่ำมาก่อน
ตั้งแต่เกมแรกสุดอย่างเกม Demon’s Souls ไล่ไปเกม Dark Souls เกม
Bloodborne เกม Dark Souls 3 ไปจนถึงเกม Sekiro ความยากของเกมค่อยๆ
ลดลงเรื่อยๆ
ถึงจะยังรักษาแก่นความเป็นเกมสไตล์ Souls อยู่ แต่ผู้พัฒนาเกมก็ลดความ
ยากของเกมลงเพื่อเพิ่มยอดขาย
แสดงให้เห็นว่ายิ่งเกมยากเท่าไหร่ ยอดขายก็น้อยลงเท่านั้น
แถมความสำเร็จของเกมสไตล์ Souls ยังขึ้นอยู่กับภูมิภาคด้วย
เกม Demon’s Souls พัฒนาไปในทิศทางตรงกันข้ามจากที่ค่ายเกมต้องการ
ระหว่างค้นคว้าและพัฒนาเกม มิยาซากิ ฮิเดทากะไม่ได้ทำตามแนวทางที่วาง
เอาไว้และสร้างเกมในแบบของตัวเองขึ้นมา
ตอนที่ฝ่ายบริหารมารู้เรื่องเข้า เกม Demon’s Souls ก็พัฒนาเกือบจะ
สมบูรณ์แล้ว พวกเขาโกรธจัด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ปล่อยเลยตามเลย
ตอนแรกค่ายเกมไม่คิดว่าเกมนี้จะประสบความสำเร็จ ถ้าทาเคชิ ไคจิ ที่เป็น
หัวหน้าโปรเจ็กต์ไม่ค้านหัวชนฝา เกมก็คงไม่ได้ปล่อยออกมา
ช่วงแรกที่เกมปล่อย นิตยสารเกมชื่อดังอย่าง Famitsu ให้คะแนนเกมนี้แค่
ยี่สิบเก้าคะแนน จากคะแนนเต็มสี่สิบคะแนน
เกมไม่ประสบความสำเร็จเลยภายในประเทศ มิยาซากิ ฮิเดทากะพยายามใช้
เส้นสายที่มีอย่างเต็มที่ติดต่อไปยังค่ายเกมในสหรัฐอเมริกาและในยุโรป สุดท้าย
ตัวเกมก็ดังเป็นพลุแตกขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด!
เหตุผลหลักที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเกมสไตล์ Souls ตรงรสนิยมเกมเมอร์ฝั่ง
ตะวันตกที่ชอบเกมสแตนด์อโลน
ในประเทศจีน เกมสไตล์ Souls เริ่มมีกระแสในช่วงสิบห้าปีมานี้เอง
ตอนนี้สภาพการณ์ของอุตสาหกรรมเกมตรงตามที่เผยเชียนจำได้ เกมยาก
บรมแบบนี้เป็นที่ชื่นชอบของเกมเมอร์กลุ่มเล็กๆ ไม่ได้โด่งดังอะไรมาก
เมื่อเป็นแบบนี้ เผยเชียนก็น่าจะแก้ปัญหาได้ด้วยการสร้างเกมสไตล์ Souls ที่
ยากจนต้องร้องขอชีวิตขึ้นมาแล้ววางขายในประเทศจีน
นอกจากนั้น เพื่อกันไม่ให้ผู้เล่นฝั่งตะวันตกมาพบเกมนี้เข้า เขาต้องหยิบ
วัฒนธรรมหัวเซี่ย[1]มาใช้เป็นแนวทางในการทำเกมเพื่อสร้างความแตกต่างทาง
วัฒนธรรม ทำให้ผู้เล่นฝั่งตะวันตกเข้าไม่ถึงตัวเกมแม้จะพยายามลองเล่นดูแล้วก็
ตาม!
เผยเชียนอดรู้สึกภูมิใจในตัวเองขึ้นมาไม่ได้ ความคิดสร้างสรรค์ของคนเรานั้น
ไม่มีขีดจำกัดจริงๆ
ถ้าไม่ต้องพยายามหาทางทำให้บริษัทขาดทุนอย่างสุดกำลัง เขาก็คงไม่รู้เลยว่า
ตัวเองมีความคิดสร้างสรรค์ขนาดนี้!

เผยเชียนอธิบายแนวทางของเกมใหม่ให้ทุกคนฟังอย่างละเอียด ก่อนจะสรุป
ข้อกำหนดออกมาห้าข้อ
ข้อแรก ตัวเกมจะใช้วัฒนธรรมหัวเซี่ยเป็นตีม ใส่ปริศนาคำทายภาษาจีนเข้ า
ไปเยอะๆ และต้องเป็นภาษาจีนโบราณ
ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ไปโด่งดังในหมู่ผู้เล่นฝั่งตะวันตก
การจะแก้ปริศนาแต่ละอย่างได้ จะต้องเข้าใจภาษาจีนโบราณอย่างลึกซึ้ง ซึ่ง
จะทำให้ผู้เล่นฝั่งตะวันตกไม่คิดอยากเล่น!
นอกจากนั้นแล้ว ตัวเกมยังขายแค่ในประเทศ การไม่แปลเกมเป็นภาษาอื่นไม่
ถือว่าขัดต่อกฎของระบบ
ข้อสอง เกมจะต้องยากมากๆ
เผยเชียนให้เปาซวี่กับลู่หมิงเหลียงเค้นสมองคิดหาวิธีการที่จะทำให้ผู้เล่นเล่น
เกมไม่ผ่าน
เรื่องที่พวกเขาต้องให้ความสำคัญมากที่สุดคือทำให้ผู้เล่นยอมจำนนต่อความ
พ่ายแพ้
ข้อสาม เกมจะต้องออกมาเป็นเกมแอ็กชันฟอร์มยักษ์
ต้องมีตัวละคร การเคลื่อ นไหว และฉากหลายแบบ โดยเอาทุนไปลงกั บ
ทรัพยากรงานภาพอย่างเต็มที่!
พวกเขาต้องหาทางใช้เงินให้ได้เยอะที่สุด!
แน่นอนว่า การอัดทุนเพิ่มนั้นเป็นสไตล์การลงทุนที่เถิงต๋าใช้กับเกมที่ผ่านๆ
มา จริงๆ แล้วเผยเชียนตั้งทุนไว้ในใจที่ยี่สิบล้านหยวน
เขาอยากจะตั้งให้สูงกว่านี้ แต่ระบบไม่อนุญาต
ทุนแค่นี้เทียบกับทุนค้นคว้าและพัฒนาโปรเจ็กต์ใหญ่ๆ ของต่างประเทศซึ่ง
เริ่มตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงร้อยล้านไม่ได้เลยสักนิด แต่ถ้าเทียบกับโปรเจ็กต์
ภายในประเทศแล้ว โปรเจ็กต์นี้นับเป็นโปรเจ็กต์ที่ใหญ่เลยทีเดียว
ข้อสี่ เกมนี้จะเปิดให้ผู้เล่นรีฟันด์ได้นานที่สุด
ตามที ่ แ พลตฟอร์ ม เกมทางการกำหนดไว้ เกมที ่ ซ ื ้ อ จากแพลตฟอร์ มเกม
ทางการสามารถรีฟันด์ได้ภายในสามชั่วโมง โดยขยายเวลาให้นานขึ้นได้ แต่ลด
เวลาให้สั้นลงไม่ได้
เอาเข้าจริงบริษัทเกมส่วนใหญ่ต่างอยากลดระยะเวลาการรีฟั นด์ลง หรือไม่ก็
ตัดออกไปเลย ไม่มีใครอยากยืดเวลารีฟันด์หรอก
แต่เผยเชียนตั้งใจจะยืดเวลารีฟันด์ออกไปให้สูงที่สุดเท่าที่ทางแพลตฟอร์มเกม
ทางการอนุญาต ซึ่งก็คือห้าชั่วโมง!
เกมเล็กๆ หลายเกมมีความยาวอยู่ที่สามถึงสี่ชั่วโมง การยืดเวลารีฟันด์ออกไป
เป็นห้าชั่วโมงเป็นเรื่องบ้ามาก เพราะไม่ต่างอะไรกับการเปิดให้เล่นเกมฟรีๆ
สำหรับเผยเชียนแล้ว สามชั่วโมงไม่ได้ถือว่านานเลย ผู้เล่นบางคนอาจหมด
เวลาสามชั่วโมงไปโดยไม่รู้ตัวกับการสู้กับ Champion Gundyr ในเกม Dark
Souls 3 ถึงตอนนั้นก็หมดช่วงรีฟันด์แล้ว
เผยเชียนตัดสินใจยืดระยะเวลาการรี ฟันด์ออกไปเป็นห้าชั่วโมง และใส่ระบบ
เตือนผู้เล่นตอนสิบนาทีก่อนครบห้าชั่วโมงด้วย โดยจะขึ้นแจ้งเตือนที่มุมขวาบน
ของเกม
ทำแบบนี้ก็มั่นใจได้ว่าผู้เล่นจะไม่เล่นเพลินจนลืมขอรีฟันด์
ข้อห้า ชื่อของเกม
เพื่อไม่ให้ชื่อเกมทำให้ผู้เล่นรู้สึกสนใจตัวเกมและลวงให้ผู้เล่นที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่
เข้ามาเล่น เผยเชียนจึงตัดสินใจตั้งชื่อให้ชัดเจนไปเลย
เกมนี้จะใช้ชื่อว่ากลับใจคือฟากฝั่ง[2] ถือเป็นคำเตือนอย่างจริงใจจากเผย
เชียนถึงผู้เล่น
หลังจากได้ฟังข้อกำหนดทั้งห้าข้อของเผยเชียน เปาซวี่ก็รู้สึกสับสน
ที่เผยเชียนจำได้ เกม Demon’s Souls ปล่อยออกมาในปี 2009 โลกที่เขา
อยู่ตอนนี้ เกม Demon’s Souls ยังไม่ถือกำเนิดขึ้นมา ดังนั้นแม้แต่เกมเมอร์มาก
ประสบการณ์ที่เล่นเกมมานักต่อนักอย่างเปาซวี่ก็ไม่น่าจะรู้จักเกมซาดิสม์แบบนี้
แน่นอนว่ามีเกมฮาร์ดคอร์จำนวนหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องความยาก แต่เปาซวี่ก็ไม่
เคยเห็นเกมไหนที่วางเป้าหมายให้ผู้เล่นไม่สามารถเล่นผ่านได้แบบที่เผยเชียนบ
อก…
ข้อกำหนดอื่นๆ ยังพอเข้าใจได้ มีแค่เรื่องความยากที่ลู่หมิงเหลียงกับเปาซวี่ไม่
เข้าใจ
“บอสเผยครับ อธิบายเรื่องความยากเพิ่มได้มั้ยครับ เช่น บอสวางไว้ว่าจะให้ผู้
เล่นประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ไม่สามารถผ่านบอสด่านสุดท้ายได้เหรอครับ ” เปาซวี่
ถาม
เผยเชียนอยากจะตอบออกไปว่า “99.9999%!”
แต่ในสายตาของเขามีข้อความปรากฏขึ้น
[คำเตือน! การสร้างเกมที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่สามารถเล่นจบได้ถื อว่าผิดกฎ
ระบบ ระดับความยากสูงสุดของเกมจะต้องอ้างอิงจากตัวเจ้าของระบบว่าสามารถ
เล่นผ่านได้หรือไม่]
รอยยิ้มเลือนหายไปจากใบหน้าของเผยเชียน
ไอ้ระบบเฮงซวย!
ฉันต้องเล่นเกมให้ผ่านเหรอ แต่ฉันเล่นเกมไม่เก่งโว้ย!
ขนาดเกมฐานทัพกลางทะเลยังเล่นไม่รอดเลย ถ้ากำหนดว่าฉันต้ องเล่นเกมนี้
ให้ผ่านก็เท่ากับว่าห้ามฉันสร้างเกมแบบนี้น่ะสิ!
แต่ เ ผยเชี ย นก็ ไ ม่ ไ ด้ ต ื ่ น ตระหนก เพราะเขารู ้ อ ะไรค่ อ นข้ า งเยอะ ปั ญ หา
เล็กน้อยแบบนี้แก้ไขง่ายนิดเดียว
ฉันต้องเล่นเกมนี้ให้ผ่านอย่างนั้นเหรอ
ง่ายนิดเดียว ก็แค่ต้องซ่อนอะไรสักอย่างไว้ในเกม…
ฉันจะซ่อนอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดไว้ในเกม ผู้เล่นที่จะปลดล็อกอาวุธนี้ได้ต้อง
ผ่านเนื้อเรื่องลับที่ซับซ้อนสุดๆ โดยต้องเล่นเกมในลำดับผิดแปลกมากๆ ถึงจะได้
อาวุธมาใช้
หลังจากนั้น ด้วยอาวุธอันแข็งแกร่ง ความรู้ความเข้าใจในเกมสไตล์ Souls
รวมถึงข้อมูลด่านและแผนที่ทั้งหมด เผยเชียนน่า จะต้องใช้เวลาประมาณสองถึง
สามสัปดาห์ถึงจะเล่นเกมนี้ผ่าน เท่านี้ก็แก้ปัญหาได้แล้ว
เพื่อให้เกมขาดทุน ฉันต้องพยายามเต็มที่!
พอคิดตามนี้ ระบบก็เลิกขึ้นเตือน หมายความว่าสามารถทำแบบนี้ได้
เผยเชียนยิ้มบางแล้วตอบคำถามของเปาซวี่ “ตามการออกแบบแล้ว เราจะไม่
ทอดทิ้งผู้เล่นแม้แต่คนเดียว แต่ในทางทฤษฎี ผู้เล่นส่วนใหญ่ที่จะเล่นเกมผ่านได้
ต้องมีฝีมือในระดับหนึ่ง”
ที่เขาตั้งใจจะสื่อคือ ถ้าเหล่าผู้เล่นล้มเลิกความตั้งใจที่จะเอาชนะ ก็มาโทษ
เผยเชียนไม่ได้
“ออกแบบเกมให้ยากที่สุดเท่าที่จะนึกออก เดี๋ยวผมแก้ตอนสุดท้ายเอง”
พอถึงตอนนั้น เขาค่อยเพิ่มอาวุธพิเศษเข้าไปในเกม แล้วทำเกมออกมาให้ยาก
ที่สุดเท่าที่จะสามารถใช้อาวุธสุดยอดนี้ผ่านได้ จากนั้นก็จะไม่โดนระบบเตือน
ถ้าผู้เล่นไม่มีอาวุธนี้ก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น พอสามารถกดรีฟันด์เกมได้โดยไม่
ติดเงื่อนไขอะไรภายในห้าชั่วโมงหลังซื้อ คนส่วนใหญ่จะต้องกดรีฟันด์แน่!
ลู่หมิงเหลียงถาม “บอสเผยครับ ชื่อเกมคือกลับใจคือฟากฝั่ง ใช้วัฒนธรรม
หัวเซี่ยเป็นตีม…แล้วโลกในเกมมีกำหนดอะไรเป็นพิเศษมั้ยครับ”
เผยเชียนยิ้ม “พวกคุณตัดสินใจรายละเอียดยิบย่อยกันได้เลย”
[1] วัฒนธรรมจีนโบราณก่อนราชวงศ์ฮั่น

[2] มาจากสำนวนที่ว่า 苦海无边, 回头是岸 น.นพรัตน์แปลเป็น


ไทยไว้ว่า ทะเลทุกข์ไร้ขอบเขต กลับใจคือฟากฝั่ง
บทที่ 191 เว็บจงเตี่ยนจงเหวิน

เผยเชียนไม่ได้พยายามทำตัวนอบน้อม ประเด็นคือเขาคิดเรื่องรายละเอียด
โลกในเกมไม่ออก
ไม่ใช่แค่เรื่องโลกในเกม แต่รายละเอียดอื่นๆ ภายในเกมก็ไม่สามารถออกแบบ
ได้
เขาต้องรอให้มีแบบร่างออกมาก่อน ค่อยปรับแก้เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิด
ปัญหาอะไร
หม่าอี้ฉวินฟังอย่างตั้งใจ
หลังจากได้รับหน้าที่เขียนบทให้เกมต่างๆ นี่คือครั้งแรกที่เขาได้มีส่วนร่วมใน
ขั้นตอนค้นคว้าและพัฒนาตั้งแต่ต้น แถมดูเหมือนบอสเผยจะวางมาตรฐานเกมนี้
ไว้สูง ฟังดูท้าทายมาก
เขาจะไม่ทำให้บอสเผยผิดหวัง!
บอสเผยวางแนวทางภาพรวมและตั้งเงื่อนไขไว้อย่างชัดเจน ทุกคนทยอยออก
จากห้องประชุม
ตอนนั้นเองเผยเชียนก็บอกให้หม่าอี้ฉวินอยู่ต่อ
หม่าอี้ฉวินอดรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้
บอสเผยขอให้ฉันอยู่ต่อ บอสต้องอย่างคุยเรื่องพล็อตเนื้อเรื่องแน่เลย!
ดีเหมือนกัน ตั้งแต่เข้าเถิงต๋ามา ฉันก็พยายามทำความเข้าใจจุดประสงค์ที่
แท้จริงของบอสเผยมาตลอด ได้คุยกับบอสเผยตรงๆ แบบนี้น่าจะทำให้ฉันเข้าใจ
อะไรมากขึ้น
ไม่รู้ว่าบอสเผยวางตีมโลกของเกมกลับใจคือฟากฝั่งไว้ยังไง ถ้าได้คำใบ้ อะไร
สักเล็กน้อยก็น่าจะดี…
หม่าอี้ฉวินคิดไปไกล
เผยเชียนมองหม่าอี้ฉวินพร้อมผุดยิ้ม “ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป คุณจะไม่ใช้
พนักงานของบริษัทเถิงต๋าอีกต่อไป”
หม่าอี้ฉวินตะลึงงัน
หมายความว่ายังไง
ฉันก็ไม่ได้ทำงานแย่นี่ ทำไมถึงไล่ฉันออกล่ะ
ไม่ใช่แล้ว ลู่หมิงเหลียงกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ก็บอกว่างานของฉันดีมาก
ฉันทำอะไรพลาดเหรอ ทำไมบอสเผยถึงไม่พอใจฉัน
หรืองานเขียนของฉันออกมาแย่ บอสเผยเลยผิดหวัง ไม่น่าใช่ พวกผู้เล่นก็
ชอบกันนี่
เผยเชียนยิ้มแล้วพูดต่อ “ผมจะให้คุณรับผิดชอบงานสำคัญ เถิงต๋าจะเปิดเว็บ
โนเวล ผมรู้ว่าการเขียนเว็บโนเวลคืองานอดิเรกและความฝันของคุณ ผมเลยอยาก
ให้คุณรับผิดชอบดูแลเว็บไซต์นี้”
หม่าอี้ฉวินอึ้งหนักเข้าไปใหญ่ เขางงเป็นไก่ตาแตก
ความสุขเข้ามาหาโดยไม่ทันตั้งตัวจนหม่าอี้ฉวินไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไง!
ตอนแรกนึกว่าจะโดนไล่ออก ทำเอากลัวจนตัวสั่น
แต่ ต อนนี ้ ท ุ ก อย่ า งชั ด เจนแล้ ว เขาไม่ ไ ด้ โ ดนไล่ อ อก แต่ โ ดนย้ า ยไปที ่ อื่ น
ต่างหาก
จากวงการเกมสู่วงการเว็บโนเวล!
หม่าอี้ฉวินรู้สึกสับสนเล็กน้อย
ไม่คิดเลยว่า…จะได้กลับมาทำงานเกี่ยวกับเว็บโนเวลอีก
เขาคิดมาตลอดว่าตัวเองมีพรสวรรค์ด้านการเขียน เนื่องจากเติบโตมาใน
ครอบครัวนักวิชาการ ทำให้ได้รับการบ่มเพาะมาอย่างดีและมีพื้นฐานทางภาษาที่
แข็งแรง
ตอนเรียนมหาวิทยาลัย หม่าอี้ฉวินเริ่มลองจับงานเขียนดูและมีฐานแฟนคลับ
ที่ชื่นชอบผลงานของเขาจำนวนหนึ่ง
หม่าอี้ฉวินรักการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อ่าน เขาชอบความรู้สึกที่มีคนชื่นชอบและ
ให้ค่าผลงานของตัวเอง
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังเรียนจบก็สร้างผลกระทบยิ่งใหญ่ให้ชายหนุ่ม ไม่ใช่เรื่อง
ง่ายเลยที่จะสร้างฐานผู้อ่านจากศูนย์ได้ สุดท้ายก็มีคนซื้อนิยายของเขาอ่านไม่ถึง
ร้อยคน ทำเอาต้องอดข้าวจนเกือบตาย
สุดท้ายเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น ต้องทิ้งบัญชีผู้ใช้เว็บอู๋เซียนจงเหวิน แล้วเข้า
ทำงานในฉางหยางเกมส์จนได้เริ่มเขียนเนื้อเรื่องให้เกมต่างๆ
จนถึงตอนนี้ เขาไม่ได้แตะนิยายออนไลน์มาเป็นปีแล้ว
ถึงจะยังตามนิยายดังๆ อยู่บ้าง แต่ชายหนุ่มก็วางมือจากการเขียนไปนานแล้ว
หม่าอี้ฉวินถามเสียงสั่น “บอสจะให้ผมเป็นคนดูแลเหรอครับ แล้วตอนนี้
บริษัทนั้นเป็นยังไงเหรอ…”
เผยเชียนยิ้ม “ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงก่อตั้ง แต่ไม่ต้องห่วง เลขาซินจะจัดการเรื่อง
พนักงานฝ่ายการเงินและฝ่ายจัดการเอง คุณดูแลแค่เรื่องการให้บริการเว็บไซต์
“ออฟฟิศของคุณจะอยู่ชั้นบน ส่วนเรื่องพนักงาน… เราจ้างเด็กสายศิลป์จบ
ใหม่จากมหา’ลัยฮั่นตงมา ในวงการนิยายออนไลน์ บอกไม่ได้หรอกว่าใครเหมาะ
กับงานมั้ย คุณให้งานพวกเขาตามที่เห็นสมควรได้เลย ให้พวกเขาทำตำแหน่งที่
คุณคิดว่าเหมาะ”
สิ่งที่เผยเชียนพูดเป็นความจริง คนเหล่านี้เป็นเด็กจบใหม่จริงๆ เขาไม่รู้เลย
ด้วยซ้ำว่าพวกนั้นอ่านนิยายออนไลน์หรือเปล่า
แต่หม่าอี้ฉวินคิดต่างออกไป
ทำไมจู่ๆ บอสเผยถึงคิดจะสร้างเว็บโนเวลขึ้นมาล่ะ
ต้องไม่ใช่แค่ทำตามกระแสตลาดแน่ บอสต้องมีเหตุผลสำคัญกว่านั้นถึงเลือก
ทำแบบนี้!
จนถึงตอนนี้เถิงต๋าขยายกิ จการออกไปหลายทิศทาง เฟยหวงสตูดิโอกับร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูดูจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยในเบื้องหน้า แต่จริงๆ แล้วล้วน
เป็นตัวหมากสำคัญในเกมหมากรุกทั้งนั้น!
ถ้ า มองว่ า เฟยหวงสตู ด ิ โ อคื อ การลงทุ น ในอุ ต สาหกรรมภาพยนตร์ ร้ า น
อินเทอร์เน็ตโมหยูคือการลงทุนกับกิจการหน้าร้ าน แถมยังวางแผนจะทำเว็บโน
เวลเพิ่มอีก…
ก็น่าจะคิดว่านี่คือการปูทางไปสู่การสร้าง IP[1]!
ถ้าสามารถสร้างIP ดีๆ ขึ้นมา เฟยหวงสตูดิโอก็จะถ่ายทำเรื่องนี้ได้ บริษัท
เถิงต๋าสามารถสร้างเกมจาก IP นี้ได้ การมองการณ์ไกลและสร้าง IP ขึ้นมาก่อนจะ
มีประโยชน์มากๆ ในอนาคต!
ถึงจะเพิ่งเริ่มต้นทำเว็บไซต์ แต่เขาก็มีทั้งกลยุทธ์อันชาญฉลาดของบอสเผย
และกำลังทุนของเถิงต๋า…
ถ้าหม่าอี้ฉวินทำพลาดขึ้นมาคงจะไม่มีหน้าไปเจอใคร!
การที่บอสเผยมอบหมายให้เขารับตำแหน่งก้าวสำคัญของแผนการโดยไม่
ลังเลใจทำให้หม่าอี้ฉวินรู้สึกซาบซึ้งมาก
แต่นอกจากซาบซึ้งแล้ว เขายังรู้สึกไม่แน่ใจในความสามารถของตัวเองด้วย
“บอสเผยก็รู้เรื่องผมนี่ครับ ผมกลัวว่าผมจะทำไม่ได้
“แค่นิยายดีๆ สักเรื่องยังเขียนขึ้นมาไม่ได้ ถ้าให้ไปดูแลคนอื่น ผมกลัวว่าจะ
พาพวกเขาเดินไปผิดทาง ผลลัพธ์ที่ตามมาคงเกินกว่าที่ผมจะรับได้ไหว ผมกลัว
ว่า…”
เผยเชียนยิ้ม
พาเดินไปผิดทางเหรอ
ต้องแบบนั้นแหละ คิดว่าทำไมฉันถึงให้แกดูแลเว็บนี้ล่ะ
เผยเชียนรู้ว่าถ้าสร้างเว็บไซต์เสร็จ เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากหาซื้อต้นฉบับ
กากๆ และจ้างนักเขียนประจำมามั่วๆ ทั้งหมดที่เขาทำได้มีแค่นี้
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ทำให้ชายหนุ่มต้องเป็นกังวล ด้วยดวงอภิมหาดีอันน่าพิศวง
ของตัวเอง เขาอาจบังเอิญไปจ้างนักเขียนดีๆ เข้า ถ้าลงผลงานให้ซื้ออ่านไป แล้ว
เว็บดันดังขึ้นมา เผยเชียนจะซวยเอา
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เขาต้องหาทางกันไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
หม่าอี้ฉวินคือมาตรการป้องกันชั้นยอดสำหรับเผยเชียน
ความผิดพลาดซ้ำๆ ของหม่าอี้ฉวินแสดงให้เห็นว่าเขามีปัญหาใหญ่บางอย่าง
เรื่องความเข้าใจแนวทางการเขียนนิยายออนไลน์ เขาทำผลงานซึ่งตรงข้ามกับที่
นักอ่านส่วนใหญ่ต้องการ แม้แต่นักอ่านกลุ่มเล็กๆ ก็ยังทำให้พอใจไม่ได้
ส่วนเหล่ารุ่นพี่มหาวิทยาลัยของเผยเชียน ถึงจะเคยอ่านนิยายออนไลน์มา
ก่อน แต่พวกเขาก็ไม่รู้เลยว่ากระบวนการรังสรรค์ผลงานนั้นเป็นยังไง
ถ้ามีของกันจริงๆ ก็คงเขียนนิยายออนไลน์ไปนานแล้ว ไม่ว่างงานมาจนถึง
ปัจจุบันหรอก
หม่าอี้ฉวินมีแนวทางและความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง แต่ต้องมารับหน้าที่ดูแล
บรรณาธิการ ตรวจบทนิยาย ให้คำแนะนำ และอื่นๆ ซึ่งต้องออกมาไม่ได้เรื่อง
แน่ๆ!
จากนั้นก็จะมีแต่บทนิยายแย่ๆ นักเขียนประจำที่จ้างมามีแต่คนฝีมือไม่ได้เรื่อง
ไม่มีผลงานดีๆ บนเว็บไซต์ให้นักอ่าน เป็นแบบนี้วนเวียนไปเป็นวงจรอุบาทว์…
อืม ฟังดูดีเลย
เอาจริงๆ เผยเชียนดูจะคิดอะไรเกินเบอร์ไปหน่อย
แผนมันจะสำเร็จได้ง่ายๆ ขนาดนั้นเลยเหรอ
ถ้าตั้งใจจะสร้างเว็บโนเวลจริงจัง เผยเชียนสามารถจ้างบรรณาธิการผู้คร่ำ
หวอดในวงการและทุ่มเงินจ้างนักเขียนเจ๋งๆ ได้ ถึงอย่างนั้นก็ยังมีโอกาสเจ๊งสูง
มากอยู่ดี
อุตสาหกรรมนี้ไม่ใช่อะไรที่ทำกำไรได้ง่ายๆ
ในเมื่อตอนจบจะออกมาเหมือนกัน เขาจึงเลือกเปิดโอกาสให้หม่าอี้ฉวินได้ทำ
ตามฝัน
เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ การเปิดโอกาสให้พนักงานได้ทำตามฝันต่างหากคือ
เป้าหมายในชีวิตของบอสเผย!
[1] IP (Intellectual Property) ทรัพย์สินทางปัญญา
บทที่ 192 เกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรด

เผยเชียนตบบ่าหม่าอี้ฉวินเบาๆ
“ผมคิดว่าที่งานของคุณไม่ได้รับความนิยมบนเว็บอู๋เซียนจงเหวินก็เพราะ
บรรณาธิการมองข้ามความสามารถของคุณ ทักษะการเขียนของคุณล้ำสมัยเกินไป
ไม่แปลกหรอกที่นักอ่านจะเข้าไม่ถึง”
หม่าอี้ฉวินถามขึ้นทันที “บอสเผยอ่านนิยายของผมแล้วเหรอครับ”
“เปล่า” เผยเชียนส่ายหน้าตอบ “แต่ผมเห็นความสามารถผ่านแววตาของคุณ
“ถ้าอยากให้เว็บของเราประสบความสำเร็จ เราจะเดินตามรอยเว็บอู๋เซียนจง
เหวินไม่ได้ ไม่อย่างนั้นถึงเราจะทำออกมาดีแค่ไหน ก็จะเป็นแค่เว็บลอกเลียนแบบ
เว็บ อู๋เซียนจงเหวิน แล้วแบบนี้เราจะพัฒนาต่อไปได้ยังไง”
หม่าอี้ฉวินเริ่มเข้าใจ
ที่บอสเผยพูดมาก็ถูก
หม่าอี้ฉวินไม่ได้คิดว่าตัวเองถูกกลบฝังความสามารถ เพราะวงการนี้มีการ
แข่งขันสูงอยู่แล้ว
ถ้าบรรณาธิการเข้าไม่ถึงงานของเขา ก็พอจะบอกได้ว่าเขาน่าจะโดนมองข้าม
ความสามารถไปพักหนึ่ง แต่จะเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ถ้านักอ่านเข้าไม่ถึงงานของ
เขา
หม่าอี้ฉวินคิดมาตลอดว่าที่งานของตัวเองไม่ประสบความสำเร็จเป็นเพราะ
เหตุผลหลัง ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเอง
แต่บอสเผยพูดถูกสุดๆ
ถ้าจะให้เว็บประสบความสำเร็จ พวกเขาจะเดินตามรอยเว็บอู๋เซียนจงเหวิน
ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นนักอ่านก็จะเลือกใช้งานเว็บอู๋เซียนจงเหวินมากกว่าเว็บของพวก
เขา จะมาเข้าเว็บที่ทำตามกระแสลอกเลียนแบบชาวบ้านทำไม
ดังนั้นถ้าอยากจะก้าวไปข้างหน้าก็ต้องคิดอะไรใหม่ๆ ขึ้นมา
ชัดเจนมากว่าบอสเผยเป็นคนมองการณ์ไกล บอสตั้งความหวังกับเขาไว้สูง
มาก!
บอสเผยอยากสร้างเว็บที่ก้าวข้ามเว็บอู๋เซียนจงเหวิน ไม่ได้อยากได้เว็บที่
ประสบความสำเร็จแค่เล็กน้อย!
หม่าอี้ฉวินพยักหน้ารัว “โอเคครับบอสเผย ผมจะพยายามเต็มที่ให้เว็บออกมา
ดีที่สุด!
“จริงด้วยครับบอสเผย เว็บของเราจะใช้ชื่อว่าอะไรเหรอครับ”
เผยเชียนยิ้ม “จงเตี่ยนจงเหวิน”
แปลได้ว่าเว็บไซต์นี้จะกลายเป็นสุสานของเหล่างานเขียน
แต่หม่าอี้ฉวินรู้สึกเคารพยกย่องอีกฝ่ายมากขึ้นทันที
บอสเผยตั้งใจจะให้เว็บไซต์นี้เป็นจุดหมายปลายทางของงานเขียนออนไลน์
ทั้งหมดเหรอ
บอสอยากให้นักเขียนทุกคนมาลงงานที่เว็บไซต์นี้อย่างนั้นสินะ
บอสเผยคิดชื่อได้สุดยอดและเหมาะสมตลอดเลย
“คุณไปได้แล้ว ถ้าติดปัญหาอะไรให้รายงานผมทันที”

หลังจากจัดการกับหม่าอี้ฉวินเสร็จ เขาก็หันไปจัดการเรื่องฉางหยางเกมส์ต่อ
เขาเริ่มจากการตรวจดูข้อมูลสถิติเกมเพลงรบโลหิตที่เยว่จือโจวส่งมาให้ ซึ่งมี
ยอดที่ดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
อืม ราบรื่นดี
อาจบอกได้ว่าเกมให้บริการไปได้อย่างราบรื่น เพราะพวกเขาปรับให้เกมเป็น
มิตรกับผู้เล่นมาก ผู้เล่นเก่าก็กลับมาติดเกมกันอีกครั้ง เขาคิดว่าเกมน่าจะมียอดผู้
เล่นเท่านี้ไปอย่างน้อยอีกสองสามเดือน
แต่รายได้กลับต่ำเตี่ยเรี่ยดินมาก
พวกเขาตัดช่องทางการทำเงินออกเกือบหมด ทำให้เหล่าผู้เล่นสายวาฬไม่รู้
จะเปย์เงินยังไง กราฟิกเกมก็ล้าสมัยมาก ประกอบกับที่ฉางหยางเกมส์ไม่ยอมเสีย
เงินทำการตลาดแม้แต่หยวนเดียว ทำให้ไม่มีผู้เล่นใหม่เข้ามาเล่น ถึงผู้เล่นเก่าจะ
ยังรักเกมกันอย่างเหนียวแน่น แต่ยอดเติมเงินของพวกเขาก็ไม่ได้มากอะไรเลย
ตอนนี้เกมเพลงรบโลหิตปรับแก้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ในเมื่อตัวเกมเวอร์ชันใหม่
ลงตัวแล้ว เผยเชียนก็ต้องหางานใหม่ให้พวกเขาทำ
ถ้าปล่อยให้ว่างงานไปเรื่อยๆ อาจจะโดนระบบเตือนเอาได้
เผยเชียนวางแผนเอาไว้เสร็จสรรพแล้ว
ก่อนหน้านี้เขาวางกลยุทธ์สองขั้นไว้สำหรับฉางหยางเกมส์ ขั้นแรกคือตัด
ช่องทางการทำเงินทั้งหมดออก เหลือไว้แค่อย่างเดียว ส่วนขั้นที่สองคือผลิตเกม
ใหม่
ทุกคนได้รับมอบหมายให้คิดแผนสำหรับเกมใหม่และเขียนแบบร่างส่งมาให้
เขา เผยเชียนจะตรวจดูแบบร่างทั้งหมดแล้วเลือกหนึ่งแผนมาเป็นโปรเจ็กต์ใหม่
ของฉางหยางเกมส์ จากนั้นก็เริ่มค้นคว้าและพัฒนาเกม
ระหว่างช่วงปิดบัญชี พนักงานฉางหยางเกมส์กำลังง่วนอยู่กับการเขียนแบบ
ร่าง ตอนนี้น่าจะเสร็จกันหมดแล้ว
ถึงเวลาที่เผยเชียนจะเลือกมาสักแผนเพื่อเริ่มขั้นตอนค้นคว้าและพัฒนาเกม
หมายความว่าบริษัทเถิงต๋ากับฉางหยางเกมส์จะมุ่งหน้ากันไปคนละทาง
ฝั่งเถิงต๋า เผยเชียนยังคอยควบคุมทุกอย่าง เขาอยากวางทิศทางไว้ให้แน่นอน
เพื่อกันไม่ให้มีอะไรผิดพลาด จึงอยากควบคุมให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนมากที่สุด
เท่าที่จะทำได้
แต่ฝั่งฉางหยางเกมส์ เผยเชียนอยากคงสภาพเดิมไว้ให้ได้มากที่สุด เขาไม่
อยากเข้าไปแทรกแซงอะไรถ้าไม่จำเป็น
ในมุมมองของเผยเชียน การดำเนินงานของฉางหยางเกมส์ดูค่อนข้างจะ
ประสบความสำเร็จกับตัวเขาเองมากกว่า เขาจึงอยากคงสภาพนี้เอาไว้
เผยเชียนเจอเว็บสุ่มตัวเลข เขาตั้งหมายเลขให้แบบร่างแต่ละไฟล์ จากนั้นก็
กดสุ่มเลข
“หก”
เผยเชียนเปิดไฟล์หมายเลขหกขึ้นมาแล้วอ่านดูเนื้อหาด้านใน
ไฟล์ยาวสี่หน้า จริงๆ แล้วไฟล์นี้จะต้องเขียนอธิบายทิศทางของเกม แต่กลับ
เขียนมาไม่ครบสมบูรณ์
ถ้าเทียบกับแบบร่างตัวสมบูรณ์ แบบร่างนี้เขียนครอบคลุมเนื้อหาแค่ยี่สิบ
เปอร์เซ็นต์
ในเอกสารเขียนอธิบายรูปแบบการเล่ นไว้แค่สองบรรทัด แถมยังไม่ได้บอก
รายละเอียดทิศทางการออกแบบเกมที่ชัดเจน
“…อืม ทัศนคติการทำงานใช้ได้ แต่แบบร่างนี้ยังเอาไปใช้ไม่ได้”
ดูเผินๆ แบบร่างนี้ตรงตามคุณสมบัติ ‘เกมกาก’ แบบที่เผยเชียนต้องการ แต่
ปัญหาอยู่ที่มันขาดรายละเอียดมากเกินไป
เขาไม่สามารถเติมรายละเอียดที่ขาดไปเองได้
ถ้าเลือกทำเกมนี้ก็ต้องแจกแบบร่างให้ทุกคนในออฟฟิศ พอคนอื่นๆ เห็นว่า
รายละเอียดมีน้อยก็จะพากันยัดนั่นนี่เข้ามา ตอนเกมเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาก็น่าจะ
จำแทบไม่ได้อีก
เพราะอย่างนั้นเขาจึงใช้แบบร่างนี้ไม่ได้
เผยเชียนนึกภาพไม่ออกว่าท้ายที่สุดแล้วตััวเกมจะออกมาเป็นยังไง มันดูเสี่ยง
เกินไปสำหรับเขา
ทางที ่ ด ี ท ี ่ ส ุ ด คื อ หาแบบร่ า งที ่ บ อกภาพรวมของเกมไว้ ช ั ด เจนแต่ ต ั ว เกม
ออกแบบมาไม่โดดเด่น
ชายหนุ่มตัดหมายเลขหกทิ้งไปแล้วเริ่มสุ่มใหม่
“สิบสาม”
เผยเชียนเปิดไฟล์หมายเลขสิบสามดูแล้วพบว่าเป็นแบบร่างเกมสแตนด์อโลน
ที่ดูดีทีเดียว แถมยังบอกรายละเอียดคอนเซ็ปต์ต่างๆ ไว้หลายระดับ
พอเช็กดูดีๆ ก็พบว่าหวังเสี่ยวปินเป็นคนเขียน
“ไม่ ค ิ ด เลยว่ า นั ก ออกแบบระบบอย่ า งนายจะฝั น อยากปฏิ ว ั ต ิ ว งการเกม
ภายในประเทศ
“อืม…จริงๆ ฉันก็พอจะให้เงินนายไปใช้ทำตามฝันได้อยู่หรอก
“แต่ปัญหาคือแผนของนายออกแบบมาตามแบบแผนเกินไป ถ้าใช้แผนนี้ก็ไม่
น่าจะขาดทุนได้”
เผยเชียนเลื่อนดูเอกสารแล้วตัดสินใจเก็บเอาไว้ก่อน
ถึงจะเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวที่จะให้ฉางหยางเกมส์ผลิตเกมสแตนด์อโลนออกมา
แต่เผยเชียนก็ยังมีเรือ่ งกังวลอยู่สองอย่าง
อย่างแรกคือเกมสแตนด์อโลนมีความเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำ งบลงทุนก็มีวงเงินที่
วางไว้เฉพาะ ถึงเกมจะไม่ดังแต่ก็น่าจะพอขายได้บ้าง คงจะขาดทุนแค่นิดหน่อย
ถ้าทำดีขึ้นมาหน่อยก็น่าจะพอหาเงินคืนทุนได้
อย่างที่สองคือแผนของหวังเสี่ยวปินค่อนข้างครบ ไม่ค่ อยมีความเสี่ยงอะไร
พูดได้ว่าเป็นแผนที่ค่ายเกมต่างประเทศใช้พัฒนาเกมสแตนด์อโลนกัน
เผยเชียนมีความรู้ล้ำไปไกลกว่าปัจจุบัน มองปราดเดียวเขาก็รู้ว่าถึงแผนนี้จะ
ไม่ได้ดีเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น
สำหรับเขาแล้ว ถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่ามาตรฐานมานิดนึง
“เดี๋ยวลองสุ่มดูอีกสักอัน ถ้าอีกอันดีกว่าก็ใช้อันนั้น ถ้าไม่รอด ค่อยมาทำฝัน
หวังเสี่ยวปินให้เป็นจริง”
ตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะสุ่มแค่ครั้งเดียว แต่ก็เปลี่ยนใจสุ่มเพิ่มอีกหน่อย
เพราะครั้งล่าสุดที่เขาตัดสินใจไม่ทำอะไร หวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่ก็สร้างเกมฐาน
ทัพกลางทะเลขึ้นมา จนถึงตอนนี้เขายังผลาญรายได้ที่เกมนั้นทำให้ไม่หมดสักที
“รอบนี้เลขสอง”
“หืม ภาคต่อเกมเพลงรบโลหิต เขียนโดยเยว่จือโจว”
เผยเชียนเปิดแบบร่างแล้วไล่ดูอย่างละเอียด
“รูปแบบการเล่นไม่ได้ต่างจากเดิมมาก มีเพิ่มรายละเอียดเข้ามานิดหน่อยเพื่อ
ต่อยอดเนื้อเรื่อง ช่องทางการเก็บเงินผู้เล่นก็ใช้เหมือนภาคแรก
“อืม ก็ไม่แย่นี่”
เผยเชียนคิดว่าแผนของเยว่จือโจวกับหวังเสี่ยวปินใช้ได้เลยทีเดียว แต่ทั้งสอง
แผนก็มีปัญหาของตัวเอง
แบบร่างหมายเลขหกออกแบบมาได้แย่มาก มันแย่และมีร ายละเอียดน้อย
เกินไปจนเผยเชียนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
เขากลัวว่าทีมงานฉางหยางเกมส์จะเพิ่มนั่นนี่เข้าไปจนเกมดีขึ้น
ส่วนแผนของเยว่จือโจวกับหวังเสี่ยวปินนั้นค่อนข้างสมบูรณ์ หมายความว่ามี
โอกาสน้อยมากที่ฉางหยางเกมส์จะทำอะไรผิดไปจากแผนได้ในภายหลัง
“เอาแผนของเยว่จือโจวแล้วกัน
“แผนของหวังเสี่ยวปินก็ถือว่าดี แต่นิ่งเกินไปหน่อย ไม่ค่อยมีความเสี่ยง ถ้า
นายฝันให้ใหญ่กว่านี้ ฉันอาจจะเลือกแผนของนายไปแล้ว”
สุดท้ายเผยเชียนก็เลือกแบบร่างของเยว่จือโจว แต่เยว่จือโจวไม่ได้ตั้งชื่อเกม
ภาคต่อนี้
เผยเชียนรัวมือลงบนคีย์บอร์ดเพื่อพิมพ์ชื่อเกม
เกมเพลงรบโลหิต เวอร์ชันอัปเกรด!
อืม ไหนๆ ก็จะทำออกมาให้กากแล้ว ชื่อก็ตั้งให้กากๆ ไปด้วยแล้วกัน
เผยเชียนคิดกลยุทธ์การตลาดไว้ให้เกมนี้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งต้องไปไม่รอดแน่
เขาต้องผลาญเงินให้ได้เยอะๆ และทำให้เกมโดนด่ามากที่สุดเท่าที่จะทำได้!
หลังจากปรับแก้เสร็จ เผยเชียนก็ส่งแบบร่างกลับไปให้เยว่จือโจว
“เราจะใช้แผนนี้กัน”
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พิมพ์เพิ่มเติม “บอกหวังเสี่ยวปินด้วยว่าแผนของ
เขาทำได้ดีเลย แต่ยังทำตามแบบแผนไปหน่อย ระหว่างค้นคว้าและพัฒนาเกมนี้
ให้เขาไปปรับแก้แบบร่างใหม่ เพราะยังพอมีโอกาสจะเอาไปใช้ได้ในอนาคต
บทที่ 193 เลือกระหว่างสองแผน

ที่ฉางหยางเกมส์
เยว่จือโจวแสนอึดอัดใจระหว่างรอคำตอบจากบอสเผยที่ใช้เวลาเนิ่นนาน
ในที่สุดเขาก็ได้รับการตอบกลับจากบอสเผย เยว่จือโจวงงหนักเมื่อได้อ่าน
ข้อความจากอีกฝ่าย
“พี่หวัง มาดูนี่เร็วครับ!”
หวังเสี่ยวปินไม่มีงานอะไรต้องทำ พอได้ยินเยว่จือโจวเรียกก็หยุดอะไรที่ทำอยู่
แล้วเดินไปที่โต๊ะเยว่จือโจว
“พี่หวัง บอสเผยส่งแผนโปรเจ็กต์เกมใหม่ให้เราแล้ว บอสเลือก…แบบร่างของ
ผม” เยว่จือโจวชี้ไปที่ไฟล์ชื่อเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดบนหน้าจอ
หวังเสี่ยวปินเผยอปากเล็กน้อยด้วยความตกใจ “นายตั้งชื่อนั้นไปเหรอ”
เยว่จือโจวตอบ “ไม่ใช่ครับ…บอสเผยแก้กลับมาให้ ผมตั้งไปว่าเกมเพลงรบ
โลหิต 2”
จิ๊…!
หวังเสี่ยวปินสูดหายใจลึก
ชื่อเกมฟังดูเหมือนเกมกากๆ ราคาถูก!
ทำไมบอสเผยถึงตั้งชื่อแบบนี้ล่ะ มันช่าง…
ยากเกินจะเข้าใจ!
“บอสเผยแก้อะไรอีกรึเปล่า” หวังเสี่ยวปินถาม
เยว่จือโจวอ้ำอึ้ง “ผมตรวจดูอย่างละเอียดรอบหนึ่งแล้ว บอสไม่ได้แก้อะไร
เลยแม้แต่คำเดียว มีแก้แค่ชื่อครับ…”
หวังเสี่ยวปิน “…”
ในใจของเขาอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกมากมาย
หวังเสี่ยวปินรู้ดีว่าเหตุผลหลักที่เยว่จือโจวอยากทำภาคต่อเกมเพลงรบโลหิต
เป็นเพราะรู้สึกไม่พอใจ
เยว่จือโจวทำระบบผู้ถูกเลือกขึ้นมาและปรับแก้รูปแบบการทำกำไรของเกม
เพลงรบโลหิตตามที่บอสเผยบอก เขารู้สึกภูมิใจมากกับผลงานนี้
ตอนนี้เกมเพลงรบโลหิตรักษาฐานผู้เล่นไว้ได้ประมาณหนึ่ง ผู้เล่นเก่าหลายคน
กลับมาเล่นเกมอีกครั้ง ชื่อเสียงเกมพลิกกลับตาลปัตร
มีปัญหาอยู่ข้อเดียวก็คือเกมทำเงินไม่ได้เลย!
เยว่จือโจวห่วงเรื่องนี้มาก
สำหรับเขาแล้ว เกมที่ทำเงินไม่ได้คือเกมที่ล้มเหลว ถึงจะกระแสดีแค่ไหนก็
ตาม
เขาไตร่ตรองอย่างหนักว่าทำไมเกมถึงทำเงินไม่ได้เลย
เหตุผลหลักมาจากภาพกราฟิกคุณภาพต่ำที่แสนล้าสมัยของเกมเพลงรบโลหิต
แถมฉางหยางเกมส์ก็ไม่มีเงินพอจะโฆษณาเกมอีก ทำให้ไม่มีผู้เล่นใหม่เข้ามาเล่น
เกม
หลังจากตัดช่องทางการทำเงินทั้งหมดออกเหลือไว้แค่อย่างเดียว พวกเขาก็
พบว่าแค่กลุ่มผู้เล่นเก่าจำนวนเท่านี้ไม่สามารถทำรายได้ให้บริษัทได้อย่างมั่นคง
เพราะเหตุนี้เยว่จือโจวจึงรู้สึกไม่พอใจ เขาอยากให้ผู้เล่นได้สัมผัสระบบผู้ถูก
เลือกกันเยอะๆ ถ้าพัฒนาภาคต่อขึ้นมาก็น่าจะพลิกจากขาดทุนมาทำกำไรได้
แต่หวังเสี่ยวปินไม่เห็นด้วยกับทิศทางนี้
ที่ผ่านมาพวกเขาทำแต่เกมที่ดูดเงินผู้เล่นเยอะๆ เพื่อเอาตัวรอด
ตอนนี้เถิงต๋าซื้อต่อกิจการพวกเขาไปแล้ว ในเมื่อมีบอสเผยช่วยหนุนหลัง
ทรัพยากรมีพร้อม ทำไมยังต้องมามัวกินขี้อยู่อีก
เกมเพลงรบโลหิตไม่ใช่ IP ที่ดีขนาดนั้น เป็นเกมระดับล่างที่มีระบบเก็บเงินผู้
เล่น ทำไมเยว่จือโจวถึงยังยึดติดกับเกมนี้อยู่อีก
ด้วยเหตุนี้หวังเสี่ยวปินจึงเขียนแบบร่างเกมสแตนด์อโลนส่งไปด้วยความหวัง
ว่าบอสเผยจะเลือกแบบร่างของเขา ในที่สุดฝันสี่ปีของเขาก็จะเป็นจริง เขาจะได้
ทำเกมสแตนด์อโลนคุณภาพเยี่ยมสักที
หวังเสี่ยวปินมั่นใจแบบร่างที่ส่งไปมาก
นั่นก็เพราะเขามีประสบการณ์ที่สุดในฉางหยางเกมส์ แบบร่างเกมสแตนด์อโล
นของเขาน่าจะตรงใจบอสเผย
หวั ง เสี ่ ย วปิ น มองว่ า บอสเผยเป็ น นั ก ออกแบบเกมมากความสามารถที่
วางเป้าหมายไว้ว่าจะกอบกู้อุตสาหกรรมเกม และยังมองว่าบอสเผยเป็นนักธุรกิจ
สุดเก่งกาจที่ไม่สนใจผลงานคุณภาพต่ำ ไม่โหยหาแต่เงินทอง
ไม่อย่างนั้นทำไมบอสต้องตัดช่องทางการทำเงินออกจากเกมเพลงรบโลหิต
เกือบหมดล่ะ
แต่ตอนนี้บอสเผยตัดสินใจแล้ว
บอสเลือกแผนของเยว่จือโจว ไม่ใช่ของเขา แถมยังไม่ได้แก้แบบร่างของ
เยว่จือโจวแม้แต่คำเดียว มีแก้แค่ชื่อเกม
หวังเสี่ยวปินรู้สึกสับสน งุนงง และผิดหวัง
“จริงด้วยสิครับ พี่หวัง
“บอสเผยบอกมาด้วยว่าแผนพี่ทำได้ดีเลย แต่ยังทำตามแบบแผนไปหน่อย
ระหว่างค้นคว้าและพัฒนาเกมนี้ ให้พี่ไปปรับแก้แบบร่างใหม่ เพราะพอมีโอกาส
จะเอาไปใช้ได้ในอนาคต”
เยว่จือโจวแจ้งตามที่เผยเชียนบอกมาไม่ตกหล่นสักคำ
หวังเสี่ยวปินเข้าใจทันที
อ๋อ เป็นแบบนี้นี่เอง!
บอสเผยยอมรับแบบร่างของฉัน แต่แค่คิดว่ามันยังตามแบบแผนไปหน่อย ยัง
ไม่ใช่เกมสแตนด์อโลนที่ดีพอ!
หวังเสี่ยวปินรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา
ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมบอสเผยถึงเลือกแบบร่างของเยว่จือโจว
แบบร่างของเยว่จือโจวถือว่าดีเมื่อเทียบกับเกมที่มีระบบเก็บเงินผู้เล่น
แต่แบบร่างของหวังเสี่ยวปินนั้นถือว่าธรรมดาและน่าเบื่อเมื่อเทียบกับเกมส
แตนด์อโลนอื่นๆ
บอสเผยมีเกณฑ์ประเมินเกมแต่ละแบบต่างกัน และแบบร่างของเยว่จือโจวก็
มีไอเดียทีด่ ีกว่า บอสเผยย่อมต้องเลือกแผนของเจ้านั่นอยู่แล้ว
“บอสเผยบอกว่าแผนของฉันมันยังตามแบบแผนเกินไป
“ใช่ เป็นอย่างนั้นจริงๆ ด้วย
“ฉันให้ความสำคัญเรื่องความเสถียรเกินไปและใช้การออกแบบที่เห็นได้ทั่วไป
พอมาดูดีๆ ก็ดูล้าสมัยจริงๆ
“อุตสาหกรรมนี้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วตลอดเวลา เกมที่ฉันออกแบบอาจจะดู
ทันสมัย แต่ผ่านไปไม่กี่เดือน หลังจากค้นคว้าและพัฒนาเสร็จ ก็ตกยุคแล้ว
“บอสเผยพูดถูก มันตามแบบแผนไปจริงๆ
“สมแล้วที่เป็นบอสเผย ดูปราดเดียวก็รู้แล้วว่าต้นตอของปัญหาคืออะไร!
“ดูเหมือนว่าฉันต้องพยายามให้มากขึ้นกว่านี้แล้ว”
อารมณ์มากมายที่คุกรุ่นอยู่ในใจหวังเสี่ยวปินมอดหายไป
ในเมื่อเป็นแบบนี้ เขาก็ต้องร่วมมือกับเยว่จือโจวอย่างเต็มที่ พวกเขาก็ต้อง
สร้างเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดออกมาให้สำเร็จ จากนั้นเกมหน้าค่อยทำ
เกมสแตนด์อโลนแบบที่เขาต้องการ
ระยะเวลาสามถึงสี่เดือนนี้เหมาะกับการเค้นสมองแก้แผนใหม่หมดเพื่อให้ตรง
ใจบอสเผย!
เยว่จือโจวไล่ดูไฟล์แบบร่างอีกรอบ
บอสเผยไม่ได้แก้อะไรเลยสักคำจริงๆ ด้วย!
“พี่หวัง เอาไงดีครับ เราทำตามแผนนี้ได้เลยไหม”
เยว่จือโจวรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
ขณะนั ้ น ความศรั ท ธาอั น แรงกล้ า ของหวั ง เสี ่ ย วปิ น ที ่ ม ี ต ่ อ บอสเผยอยู ่ ใ น
จุดสูงสุด เขาจึงพยักหน้าทันที “ก็แน่สิ! ถ้าบอสเผยตัดสินใจแล้ว เราจะมัวมาลังเล
อะไรอีก ทำตามนี้ได้เลย!
“ทำตามแผนของนายมีข้อดีตรงที่เราสามารถร่นระยะเวลาค้นคว้าและพัฒนา
เกมไปได้เยอะเลย
“เราจะพัฒนาเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดกัน โห ชื่อมันดูกระดากปาก
ชะมัด เราพุ่งเป้าไปที่การยกระดับคุณภาพของภาพให้เป็นแบบ HD ได้
“เรื่องระบบการเล่นและฟังก์ชันต่างๆ ก็ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรมาก อย่างมากเรา
ก็แค่ปรับปรุงอะไรเพิ่มเติมนิดหน่อย
“แบบนี้เราก็จะไปลงแรงกับเรื่องทรัพยากรงานภาพได้เต็มที่
“นายชอบบอกว่าเกมเพลงรบโลหิตในตอนนี้ดีแล้ว ขาดแค่กราฟิกสวยๆ ไม่ใช่
เหรอ ก็จริงตามนั้นแหละ นี่คือโอกาสที่เราจะได้จับมันยกเครื่องใหม่!
“ฉันว่าบอสเผยก็น่าจะตั้งใจอย่างนั้น”
เยว่จือโจวพยักหน้า “ใช่เลยครับ เดี๋ยวผมจัดการแบบร่างแล้วจะเตรียม
รายการทรัพยากรงานภาพที่จำเป็นนะครับ!”
หลังจากจัดการกับแบบร่างเสร็จ สิ่งแรกที่เยว่จือโจวทำคือเตรียมรายการ
ทรัพยากรงานภาพ
จนถึงตอนนี้ ฉางหยางเกมส์ยังขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง เงินทั้งหมดถูกส่งเข้า
เถิงต๋า แถมบริษัทไม่มีเงินพอจ่ายค่าดำเนินการ ค่าเช่า เงินเดือน และค่าใช้จ่าย
ต่างๆ ต้องขอเงินจากทางเถิงต๋า
ครั้งนี้พวกเขาต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในการผลิตเกมใหม่ จึงไม่มีทางเลือกอื่น
นอกจากเขียนรายงานแจ้งของบจากบอสเผย
“ผมกลัวจังครับ ผมอยากได้งบสักสองล้ าน แต่ไม่รู้ว่าบอสเผยจะอนุมัติมั้ย ”
เยว่จือโจวรู้สึกกังวล
หวังเสี่ยวปินเงียบไปครู่หนึ่ง “ลองดูแล้วกัน บอสเผยต้องยอมทุ่มเงินเพื่อให้
เกมออกมาดีแน่ ถ้าบอสไม่อนุมัติ เราค่อยหาทางลดงบลงทีหลังเอาก็ได้”
บทที่ 194 แผนในสมุด

ที่บริษัทเถิงต๋า
เผยเชียนเปิดสมุดเล่มเล็กของตัวเองดู ยังเหลืออีกสองคนที่เขาต้องจัดการ
จริงๆ แล้วชื่อแรกในสมุดเล่มเล็กของเผยเชียนไม่ใช่หลินหวาน เพราะหลิน
หวานแค่ ช ่ ว ยเขาประหยั ด เงิ น ค่ า เช่ า ไปได้ เ จ็ ด แสนหยวน เงิ น จำนวนแค่ นี้
เดี๋ยวเดียวก็ใช้หมด
แถมยังมีสองแสนที่หลินฉางให้มาอีก เขาคงต้องจัดการกับหลิ นหวานอย่าง
ปรานี
ชื่อแรกในสมุดของเขาคือเฉียวเหลียง!
สัปดาห์ก่อนๆ ตอนที่เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายมีอัปเดตใหม่
อาจารย์เฉียวก็เขียนชมเถิงต๋าอีก ทำเอาเผยเชียนแทบจะไปจ้างคนมาฆ่าเจ้านั่น
ทิ้ง
อาจารย์เฉียวตามหลอกหลอนเขาเหมือนวิญญาณอาฆาตตั้งแต่เถิงต๋าปล่อย
เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายไปจนถึง DLC ของเกมนักออกแบบเกม
หลังจากให้คนไปตามเรื่องอาจารย์เฉียวให้ เผยเชียนก็ยังคิดหาวิธีจัดการอีก
ฝ่ายไม่ได้
เฉียวเหลียงอาศัยอยู่ที่ปักกิ่ง แต่เขาไม่ใช่คนปักกิ่ง แค่ย้ายไปทำงานที่นั่น
เขาน่าจะใช้ชีวิตมาอย่างอดสู จนกระทั่งได้ เซ็นสัญญากับเว็บอ้ายลี่เต่า ชีวิต
เลยอู้ฟู่ขึ้นมาเพราะได้เงินส่วนแบ่งจากเว็บและมีสปอนเซอร์เข้า ตอนนี้สามารถ
ปฏิเสธสปอนเซอร์รายย่อยได้ด้วย
ตั้งแต่อาจารย์เ ฉี ยวแนะนำเกมนักออกแบบเกมในคลิ ปผลงานเทพสร้ า ง
อาจารย์เฉียวก็ได้สร้างรูปแบบ ‘การโฆษณาอย่างสร้างสรรค์’ ขึ้นมา หลังจากนั้น
ก็มีสปอนเซอร์เรียงแถวเข้ามาไม่หยุด
ถื อ ว่ า แปลกมาก อั ป โหลดมาสเตอร์ ค นอื ่ น ๆ มั ก จะโดนด่ า เวลารั บ งาน
สปอนเซอร์ แต่พอเป็นอาจารย์เฉียว กลับมีแต่คอมเมนต์ ‘งานดี’ ไม่ก็ ‘สุดยอด’
แล่นเต็มหน้าจอ!
อัปโหลดมาสเตอร์คนอื่นเห็นแบบนั้นก็รู้สึกอิจฉาตาร้อน
แต่อาจารย์เฉียวถือเป็นกรณีพิเศษ คงไม่มีใครทำได้แบบนี้อีกแล้ว
ด้วยเหตุนี้อาจารย์เฉียวจึงรู้สึกขอบคุณบริษัทเถิงต๋าสุดๆ เพราะก่อนหน้านี้
เขาเป็นแค่อัปโหลดมาสเตอร์ที่มีชื่อเสียงไม่มาก แต่ตอนนี้กลายเป็นอัปโหลด
มาสเตอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในหมวดเกมบนเว็บอ้ายลี่เต่า ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเถิงต๋า
ช่วยแบก
ถ้าเถิงต๋าปล่อยเกมใหม่ออกไป อาจารย์เฉียวต้องรีบพุ่งมารีวิวแน่
ตอนแรกเผยเชียนอยากจะเอาเงินฟาดหัวอาจารย์เฉียว ซึ่งก็สามารถทำได้ แต่
ติดตรงปัญหาที่จะตามมาหลังจากนั้น
ก็จริงที่อาจารย์เฉียวต้องการเงิน แต่ถ้าซื้อตัวมาแล้วจะให้เขาทำอะไรดีล่ะ
จะให้อัดคลิปด่าเกมเถิงต๋าเหรอ
ก็คงจะไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ อีกอย่างเผยเชียนกลัวว่าไม่ว่าอาจารย์เฉียวจะ
พยายามด่าเกมของเขาแค่ไหน คนดูก็คงพากันคิดว่าเป็นการจัดฉากขนานใหญ่อีก
ขอให้อาจารย์เฉียวเลิกทำคลิปเกี่ยวกับเกมของเถิงต๋าเหรอ
ถ้าเขาจ่ายเงินด้วยเหตุผลนี้โดยเฉพาะ อาจารย์เฉียวอาจจะนึกสงสัยเป้าหมาย
ที่แท้จริงของเผยเชียนที่ต้องการปิดบังการมีอยู่ของระบบ
เพราะฉะนั้นเผยเชียนจึงไม่รู้จะต้องตัดสินใจยังไง
จ้างอาจารย์เฉียวทำคลิปชมเถิงต๋า พวกเขาก็จะได้กระแส
แต่ถ้าจ้างอาจารย์เฉียวทำคลิปด่าเถิงต๋า พวกเขาก็จะได้กระแสอีกนั่นแหละ
นี่มันหายนะ
เผยเชียนรู้ว่าตัวเองสามารถใช้เงินฟาดหัวอาจารย์เฉียวไม่ให้ลุกมาทำคลิปอีก
ได้ แต่ถึงอาจารย์เฉียวจะนอนสบายบนกองเงินกองทองอยู่เฉยๆ เผยเชียนก็ไม่ได้
รู้สึกดีขึ้นเลย
ตรงนี้แหละที่เจ็บปวดสุดๆ
แต่ยังไงเขาก็ต้องแก้แค้น!
“พอปล่อยเกมใหม่ออกไป ฉันจะใช้เงินทุนที่เหลือจ้างอาจารย์เฉียวมาเล่นเกม
ให้ผ่านครบร้อยรอบ ต้องทำแบบนี้ถึงจะรู้สึกสาแก่ใจ!”
เผยเชียนเลื่อนสายตาลงมาดูชื่อบรรทัดที่สองในสมุด ซึ่งเป็นชื่อของหลิน
หวาน
ก่อนหน้านี้เขาตัดสินใจไว้แล้ว ว่าจะส่งหลินหวานไปฉางหยางเกมส์ ตอนนี้
แหละคือเวลาที่เหมาะเหม็ง
โครงสร้างการทำงานของฉางหยางเกมส์ค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว มีทั้งความคิด
สร้างสรรค์ของเยว่จือโจวและประสบการณ์การวางแผนของหวังเสี่ยวปิน ตอนนี้
พวกเขาไม่ได้ขาดคน
แต่จริงๆ แล้ว หวังเสี่ยวปินเป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบระบบ เขาต้องทำหลาย
หน้าที่ ซึ่งดูไม่ค่อยเหมาะสมในโครงสร้างการทำงานปัจจุบัน
จุดประสงค์หลักในการย้ายหลินหวานไปก็เพื่อให้เธอได้สัมผัสประสบการณ์
อันแสนขมขื่นของการเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน ขณะเดียวกันก็เป็นการส่งต่อจิต
วิญญาณของเถิงต๋าไปสู่ฉางหยางเกมส์ด้วย
ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือ ฉางหยางเกมส์เจ๊ง แม้หลินหวานจะอดตาหลับขับตานอน
ทำงานอย่างหนัก เผยเชียนอยากให้เธอสูญเสียความหวังในอุตสาหกรรมเกมและ
กลับบ้านไปรับช่วงต่อกิจการของครอบครัว
ผลลัพธ์กลางๆ คือ หลินหวานทำอะไรไม่สำเร็จเลย ถึงจะตั้งใจทำงานอย่าง
หนัก แต่ฉางหยางเกมส์ก็ยังขาดทุนอยู่ อีกอย่างหลินหวานจะให้ส่วนลดค่าเช่าเขา
แบบปุบปับไม่ได้อีก แค่นี้ก็พอจะทำให้ใจชื้นได้
ผลลัพธ์ที่แย่ที ่สุ ด คือ หลินหวานพาฉางหยางเกมส์โ ด่ ง ดังขึ้น มาได้อ ย่ า ง
มหัศจรรย์ กลายเป็นช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้เธอแทน
แต่เผยเชียนคิดว่าคงไม่น่าจะเป็นแบบนั้นได้
คิดได้อย่างนั้นเผยเชียนก็เรียกหลินหวานให้มาหาที่ห้องทำงาน ก่อนจะ
อธิบายแผนการคร่าวๆ ให้ฟัง
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหลินหวานจะส่ายหัวปฏิเสธทันควัน
“หนูไม่ไปค่ะ”
เผยเชียนไม่ค่อยเข้าใจ ทำไมถึงแน่วแน่ขนาดนี้นะ
คนอื่นเวลารู้ว่าตัวเองได้เลื่อนขั้น ส่วนใหญ่จะซาบซึ้งกันจนน้ำตาปริ่ม แต่
หลินหวานกลับไม่รู้สึกอะไรเลย แถมยังตอบปฏิเสธเด็ดขาดอีก
หลินหวานตอบกลับอย่างจริงจัง “ขอบคุณสำหรับข้อเสนอนะคะบอสเผย
“แต่หนูยังมีความสามารถไม่พอที่จะรับตำแหน่งนั้น
“หนูอยากทำงานที่เถิงต๋า ไปก่อน อย่างน้อยก็จนกว่าเกมกลับใจคือฟากฝั่ง
ออกวางขาย หนูอยากสั่งสมประสบการณ์ก่อน”
เผยเชียนอึ้งไป
สมกับเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลร่ำรวย เซ็งชะมัด!
หลินหวานไม่ได้สนใจเรื่องการเลื่อนขั้นเลย
เพราะกลับไปขอเงินที่บ้านมาตั้งบริษัทเองน่าจะเร็วกว่า
ที่หลินหวานต้องการคือความรู้และประสบการณ์ในการสร้างเกมชั้นแนวหน้า
เธออยากสัมผัสประสบการณ์ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับเพื่อนๆ ในบริษัท
ตอนนี้เธอก็มีความสุขกับการทำงานที่เถิงต๋าอยู่แล้ว จึงไม่อยากย้ายไปที่อื่น
เผยเชียนไม่คิดเลยว่าระบบคัดที่หนึ่งออกจะส่งผลเสียแบบนี้!
หรือนี่จะเป็นพลังพิเศษของพวกทายาทรุ่นที่สองของตระกูลร่ำรวย
แต่เผยเชียนก็ไม่ยอมจำนนกับแค่ปัญหาเล็กน้อยแบบนี้ สมองของเขาแล่นไม่
หยุด ไม่นานชายหนุ่มก็คิดอะไรออก
“คนในบริษัทเราชอบดูถูกความสามารถของตัวเองจริงๆ
“แต่ก็เป็นเรื่องปกติแหละ พอได้ทำงานกับเพื่อนร่วมงานเก่งๆ คุณก็จะคิดว่า
ตัวเองไม่เก่งพอ
“แต่เชื่อผมเถอะ คุณน่ะเก่งพอที่จะรับตำแหน่งนี้”
เผยเชียนหยุดพูดแล้วมองหน้าหลินหวานด้วยสีหน้าหดหู่ “ตำแหน่งนี้ที่ฉางห
ยางเกมส์มีความสำคัญมาก ไม่มีใครที่จะทำได้นอกจากคุณ”
หลินหวานเริ่มลังเล “จริงเหรอคะ”
พอได้ยินประโยค ‘ไม่มีใครที่จะทำได้นอกจากคุณ’ หลินหวานก็เริม่ รู้สึกสนใจ
ขึ้นมา
เผยเชียนลุกยืนแล้วเดินไปสองสามก้าวพร้อมอธิบาย “ฉางหยางเกมส์ขาดทุน
มาตลอด ตอนนี้เถิงต๋าซื้อกิจการมาแล้ว เป็นเรื่องปกติที่เราต้องเริ่มเปลี่ยนแปลง
จากภายใน
“แต่เราจะเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เพราะ
เราเปลี่ยนบริษัทภายในชั่วข้ามคืนไม่ได้
“คุณจะได้รับหน้าที่สำคัญสองอย่าง
“อย่างแรกคือ เป็นตัวกลางสื่อสารระหว่างเถิงต๋ากับฉางหยางเกมส์ คนดูแลที่
นั่นคือเยว่จือโจว เขาเป็นคนขี้ระแวง คุณต้องเป็นคนตัดสินใจแทนตอนที่เขาไม่
กล้าพอ จากนั้นคุณก็รายงานการตัดสินใจให้ผมทราบ ผมกลัวว่าพวกเขาจะไม่
กล้าใช้จ่ายเงินกัน!
“อย่างที่สองคือ คุณจะเป็นคนที่กุมจิตวิญญาณของเถิงต๋า ผมอยากให้คุณ
คอยใส่จิตวิญญาณของเถิงต๋าเข้าไปในฉางหยางเกมส์ จะเป็นกิจกรรมกินเลี้ยงสาน
สัมพันธ์หรือขึ้นเงินเดือนกับสวัสดิการของพนักงานก็ได้ ผมอยากให้คุณค่อยๆ
พัฒนาบริษัทโดยมีเถิงต๋าเป็นแบบอย่าง
“ถ้าทำสำเร็จก็แสดงว่าคุณมีความสามารถพอที่จะรับผิดชอบโปรเจ็กต์ด้วยตัว
คนเดียว จากนั้นคุณก็จะทำฝันของตัวเองให้เป็นจริงได้ไม่ยาก
“เพราะฉะนั้นตำแหน่งนี้ถือว่าท้าทายมากๆ สำหรับคุณ คุณคิดจะหนีความ
ท้าทายนี้ไปเหรอ”
หลินหวานรีบส่ายหน้า “ไม่ค่ะ!”
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “แล้ว…ในอนาคต หนูยังกลับมาที่เถิงต๋าได้อยู่มั้ยคะ”
เผยเชียนยิ้มบาง “ได้แน่นอนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะยังไงเถิงต๋าก็คือบ้านของคุณ เรา
จะปล่อยโต๊ะคุณว่างไว้ ถ้าอยากกลับมาเมื่อไหร่ก็กลับมาได้เลย”
หลินหวานคิดอยู่ครู่หนึง่ ก่อนจะพยักหน้า “โอเคค่ะ หนูจะรับหน้าที่นี้!”
บทที่ 195 แผนใหม่

หลังจากส่งหลินหวานกลับไป เผยเชียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หึ โดนฉันเล่นแล้วละสาวน้อย
เผยเชียนรู้จุดอ่อนของหลินหวาน เธอยึดติดกับการมุ่งเรียนรู้และพัฒนา
ตัวเอง ขอแค่ทำให้รู้สึกว่าหน้าที่นี้จะช่วยให้เธอเติบโตขึ้นได้ เธอก็จะตกลงเอง ถึง
จะไม่ได้ ให้เงิน เธอก็คงยอมทำอยู่ดี
สรุปแล้วการส่งหลินหวานไปฉางหยางเกมส์จะช่วยให้เธอได้รับประสบการณ์
สุดเลวร้าย
แถมเผยเชียนก็บอกใบ้เธอไปสมควรแล้วด้วย
เขากลัวว่าเมื่อผ่านไปสักพักหลินหวานจะคิดว่าตัวเองขาดแคลนเงินทุนแล้ว
ไปขอเงินพี่ชาย
ดั ง นั ้ น เผยเชี ย นจึ ง บอกเป็ น นั ย ว่ า นี ่ ค ื อ การทดสอบทั ก ษะของเธอ ว่ า จะ
สามารถรับผิดชอบโปรเจ็กต์ด้วยตัวคนเดียวได้หรือเปล่า
เมื่อบอกแบบนี้ หลินหวานก็จะไม่หันไปพึ่งครอบครัวเพื่อเป็นการพิสูจน์
ความสามารถของตัวเอง ซึ่งจะช่วยลดทอนโอกาสสำเร็จของเธอลง
ช่างเป็นแผนที่สมบูรณ์แบบจริงๆ!
เผยเชียนปิดสมุดเล่มเล็ก เขาจัดการความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ในตอนนี้ไปได้เกือบ
หมดแล้ว ที่ต้องทำก็แค่วางแผนให้กับทั้งสองบริษัท
แต่นี่ก็เป็นแค่ก้าวย่างแรกในหนทางไกลนับหมื่นลี้ เพราะตอนนี้ธุรกิจของเขา
เติบโตมากขึ้น จึงมีหลายส่วนที่ต้องดูแล
เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถผลาญเงินทั้งหมดให้ตัวเองขาดทุนได้ก่อนวันปิด
บัญชี เผยเชียนจะต้องพยายามอย่างหนัก
ชายหนุ่มตัดสินใจไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเพื่อตรวจดูสถานการณ์


ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหมิงหยุนวิลล่า
กิจการของสาขานี้เลวร้ายที่สุดจากทุกสาขา
จางหยวนกับหม่าหยางรอเผยเชียนอยู่หน้าร้าน
หลังจากเดินเข้าไปในร้าน เผยเชียนก็มองไปรอบๆ
อืม ช่างเป็นบรรยากาศที่คุ้นเคย
ในร้านมีลูกค้าแค่หยิบมือ คอมพิวเตอร์ว่างเป็นแถบ โซนคาเฟ่ก็ร้างผู้คน
บาร์เทนเดอร์ยืนสัปหงกอยู่ในร้าน พนักงานเสิร์ฟมีจำนวนมากกว่าลูกค้าซะ
อีก
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูต้องเป็นแบบนี้สิ!
ตั้งแต่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักเป็นกระแสขึ้นมา เผยเชี ยนก็เลิกไปที่
นั่นอีก
ถึงเฉินเหล่ยจะกลับไปเซี่ยงไฮ้แล้ว แต่ชื่อเสียงที่สร้างให้ร้านยังคงอยู่ ร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักคับคั่งไปด้วยผู้คนเป็นประจำทุกวัน จากที่ขาดทุนอยู่
ก็พลิกมาทำกำไรได้แล้ว
พูดได้ว่าเฉินเหล่ยทำให้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักดังไปตลอดกาล
ด้วยเหตุนี้เผยเชียนจึงไม่อยากไปที่ร้านอันน่าเศร้าแห่งนั้น
เขานั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่ง พนักงานยกกาแฟมาเสิร์ฟ ยักษ์ใหญ่แห่งแฟรนไชส์โม
หยูกำลังจิบกาแฟคุยกัน
หม่าหยางกับจางหยวนแอบเหลือบมองตากัน พวกเขาเข้าใจอีกฝ่ายโดยไม่
ต้องพูดอะไร
ที่บอสเผยเลือกมาร้านนี้ต้องมีเหตุผลบางอย่าง
ก่อนหน้านี้พวกเขามักจะไปเจอกันที่ร้านสาขาหลัก ทำไมรอบนี้ถึงเปลี่ยนมา
เป็นสาขาหมิงหยุนวิลล่าที่แสนจะรกร้างกันล่ะ
ต้องเป็นการบอกใบ้อะไรพวกเขาแน่!
ตั้งแต่ร้านสาขาหลักโด่งดังขึ้นมา พวกเขาก็ไม่ต้องสนใจอะไรที่นั่นมากนัก
ตอนนี้สาขาหมิงหยุนวิลล่ากิจการย่ำแย่ที่สุดเนื่องจากขาดทุนหนักสุดในทุก
สาขา เป้าหมายต่อไปคงจะเป็นการพลิกร้านนี้ให้กลับมาทำกำไรได้
ที่บอสเผยเลือกมานัดเจอที่นี่ก็ชี้ให้เห็นปัญหาได้อย่างชัดเจน
ทั้งสองเข้าใจจุดประสงค์ของบอสเผยดี นั่นก็คือพวกเขาต้องทำให้สาขาหมิง
หยุนวิลล่าประสบความสำเร็จให้ได้เป็นสาขาต่อไป!
หม่าหยางดูกระปรี้กระเปร่ามาก ดูเหมือนจะน้ำหนักขึ้นมานิดหน่อย
พอร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักพลิกจากขาดทุนมาทำกำไรได้ เขาก็รู้สึก
เหมือนตัวเองเป็นคนละคนเมื่ออยู่ต่อหน้าเผยเชียน ขนาดท่าเดินยังดูมั่นใจมากขึ้น
ครั้งนี้เขามั่นใจในแผนการของตัวเองมาก
“พี่เชียน ผมมีข่าวดีเรื่องร้านสาขาหลักจะมาบอก”
เปลือกตาข้างซ้ายของเผยเชียนกระตุกรัว เขาพยายามรักษาท่าที “ว่ามา”
หม่าหยางดูตื่นเต้นมาก “ตั้งแต่เฉินเหล่ยมาร้องเพลงที่ร้านสาขาหลัก รายได้
จากยอดขายเครื่องดื่มก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เราหาเงินคืนที่ขาดทุนได้แล้วและ
พลิกกลับมาทำกำไรแทนครับ!
“นอกจากนั้นเรายังได้นักร้องฝีมือดีมาประจำที่ร้านด้วย พอได้ยินข่าวเรื่อง
เฉินเหล่ย นักร้องในเมืองจิงโจวก็พากั นแห่มาที่ร้านสาขาหลัก คุณภาพนักร้องเรา
เลยพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดด!”
เผยเชียนรู้สึกปวดใจระหว่างที่ได้ฟัง
เขากะเอาไว้แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้ แต่ก็อดรู้สึกปวดใจขึ้นมาไม่ได้อยู่ดี
เฉินเหล่ยมีชื่อเสียงมากขึ้นและเรียกลูกค้ามาที่ร้านสาขาหลักได้มากมาย
ตอนนี้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขนาดย่อมไป
แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักร้องเก่งๆ จะเข้ามาสมัครเป็นนักร้องที่ร้าน
ถึงเฉินเหล่ยจะไม่อยู่ แต่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักก็ยังรักษายอดขาย
เครื่องดื่มไว้ได้เป็นอย่างดี!
ในอนาคตอีกยาวนานข้างหน้า นักร้ องของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลัก
จะต้องเป็นพวกที่ฝีมือดีที่สุดในเมืองจิงโจว ไม่แน่อาจจะเก่งที่สุดในมณฑลฮั่นตง
เลยด้วยซ้ำ กลายเป็นร้านดังระเบิดระเบ้อ!
โชคดีที่เกิดขึ้นกับแค่ร้านสาขาหลัก ร้านอื่นๆ ไม่ได้มีลูกค้าเยอะขนาดนั้น
หม่าหยางพูดต่อ “พี่เชียน ผมคิดว่าเราควรจะเอาโมเดลนี้มาใช้!
“จริงๆ แล้วเราเปลี่ยนร้านอินเทอร์เน็ตให้กลายเป็นบาร์เต็มตัวไปเลยน่าจะดี
จะได้เพิ่มยอดขายเครื่องดื่มได้…”
เผยเชียนส่ายหน้า “ไม่ได้สิไอ้หม่า แกมองสั้นเกินไป”
หม่าหยางเงียบไป
ส่วนจางหยวนนั่งยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร
เห็นไหม บอกแล้วว่าบอสเผยไม่ยอมหรอก!
จางหยวนอดชื่นชมหม่าหยางไม่ได้
จนถึงตอนนี้บอสหม่าก็ยังไม่เข้าใจจุดประสงค์ของบอสเผยสักที ทักษะในการ
ทำความเข้าใจของเขามันช่างเกินจะบรรยายได้จริงๆ
ถึงอย่างนั้นบอสเผยก็ไม่หมดหวังกับเขาสักที ความสัมพันธ์ของทั้งสองช่าง
แน่นแฟ้นจริงๆ!
หรือน้องหม่าจะเคยกระโดดรับลูกกระสุนแทนบอสเผยมาก่อน
ก็เห็นชัดเจนกันอยู่แล้วว่าบอสเผยอยากทำธุรกิจควบหลายหย่าง ไม่ได้อยาก
ทำธุรกิจโดดๆ อย่างเดียว
การเปลี่ยนร้านอินเทอร์เน็ตเป็นบาร์เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายเครื่องดื่มเป็นการ
มองในระยะสั้น ไม่แปลกที่บอสเผยจะไม่เห็นด้วย!
จางหยวนเดาว่าบอสเผยน่าจะมีแผนให้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาอื่นๆ
เกาะกระแสร้านสาขาหลักดังไปด้วยกัน จากนั้นโมเดลร้านอินเทอร์เน็ตรูปแบบ
ใหม่นี้ก็จะดังไปทั่วเมืองจิงโจวและขยายไปยังเมืองอื่นๆ
เขาอดรู้สึกดีใจขึ้นมาไม่ได้
จางหยวนคิดว่าตัวเองพัฒนาขึ้นมากตั้งแต่ได้ทำงานกับบอสเผย!
ตอนแรกเขาไม่เข้าใจจุดประสงค์ของบอสเผยเลย พอเวลาผ่านไปก็เริ่มจะ
เข้าใจบ้าง มาตอนนี้เขาสามารถเดาได้ว่าบอสเผยจะทำอะไรต่อไป บางครั้งก็เดา
แผนการบางส่วนได้ด้วยซ้ำ…
หมายความว่าวิสัยทัศน์ของเขากว้างขึ้น ในที่สุดก็เริ่มมีวิธีคิดใกล้เคียงกับบอส
เผยแล้ว!
เผยเชียนจิบกาแฟแล้วถามขึ้นเสียงเรียบ “โมหยูเดลิเวอรี่เป็นยังไงบ้าง”
หม่าหยางรีบตอบ “โมหยูเดลิเวอรี่ได้รับการตอบรับดีมากครับ! คนที่ได้ลอง
ชิมอาหารก็พากันชมกลับมา พวกเขาบอกว่าอาหารดีต่อสุขภาพมาก ไม่ต้องกังวล
เรื่องความสะอาด… อ๋อ แล้วก็มีชมพนักงานส่งอาหารด้วยครับ
“…แต่ก็อีกไกลกว่าจะทำกำไรได้”
ไม่ใช่แค่ไกล แต่ไกลมากๆๆ ต่างหาก
จางหยวนแอบเช็กโมเดลธุรกิจนี้มาแล้ว ผลจากการวิเคราะห์ของเขาพบว่า
เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะทำกำไรได้ในระยะเวลาสั้นๆ
เว้นแต่จะขยายกิจการออกไปให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นในอนาคต ถ้าทำแบบ
นี้ก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากกำลังคนที่มีให้ไปส่งอาหาร เก็บถ้วยชาม ทำความ
สะอาด และอื่นๆ ได้มากขึ้น
เผยเชียนพยักหน้า เขาดูพอใจกับการรายงานความคืบหน้านี้มาก
จางหยวนทนไม่ได้ จึงเริ่มวิเคราะห์สถานการณ์อีก
“แปลกจริงๆ บอสเผยไม่ถามเลยว่าสาขาอื่นเป็นยังไงบ้าง ถามถึงแค่โมหยูเด
ลิเวอรี่
“หรือว่าเป้าหมายต่อไปคือธุรกิจเดลิเวอรี่ บอสอยากให้โมหยูเดลิเวอรี่เกาะ
กระแสร้านสาขาหลักเพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นเหรอ”
ระหว่างที่จางหยวนกำลังจ้องมาอย่างสงสัย เผยเชียนก็ประกาศแผนต่อไป
ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
“ต่อไปเราจะก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์
“เราจะตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา ชื่อว่านี่เฟิงโลจิสติกส์!”
บทที่ 196 ดีต่อสังคมด้วย

จางหยวนกับหม่าหยางเหลือบมองตากัน
หม่าหยางเบ้ปาก “พี่เชียน ยังไม่ต้องไปถึงเรื่องอื่น เอาเรื่องชื่อก่อน ชื่อมันดู
ความหมายลบๆ ยังไงไม่รู้[1]…เหมือนจะสื่อว่าเราจัดส่งโคตรช้าอะไรอย่างนี้”
เผยเชียนส่ายหน้า “ไอ้หม่า แกมันจะไปรู้อะไร ลมต้านน่ะเหมาะกับบิน
เครื่องบิน รู้รึเปล่า ชื่อของเราจะสื่อว่าเราพร้อมที่จะเหินฟ้าต่างหาก!”
จางหยวนกะพริบตาถี่แต่กไ็ ม่ได้พูดอะไรออกไป
เขาไม่เข้าใจความคิดของบอสเผยเลยสักนิด!
ตอนแรกจางหยวนพยายามจะเดาเป้าหมายต่อไปของบอสเผย
จะพัฒนาสาขาอื่นรึเปล่านะ
หรือจะไปจัดการโมหยูเดลิเวอรี่แทน
สุดท้ายกลับไม่ใช่ทั้งสองอย่าง บอสเผยดันวางแผนจะขยายธุรกิจให้ใหญ่ขึ้น
ทั้งสองมองเผยเชียนอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
เผยเชียนกระแอมกระไอ “ฉันรู้ แผนนี้ฟังดูใหญ่เกินไป จากเงินทุนที่เรามีอยู่
ตอนนี้อาจจะยังถือว่าไกลเกินเอื้อม
“แต่ฉันก็ไม่ได้จะเร่งสร้างบริษัทโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ครอบคลุมทั้งประเทศ
สักหน่อย ไม่ได้คิดจะให้บริการข้ามเมืองด้วยซ้ำ
“เราจะให้บริการแค่ในเมืองจิงโจว โดยจะมุ่งจัดการกับปัญหา ‘กิโลเมตร
สุดท้าย’!”
ตอนนี้มีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมากมายบนโลกนี้ ปัญหาคือแพลตฟอร์ม
เหล่านี้ยังไม่ได้รับความนิยมเมื่อเทียบกับภายหลังจากนี้
เป็นเรื่องปกติที่บริการขนส่งและโลจิสติกส์จะเริ่มให้บริการทั่วทั้งประเทศ
แถมยังพัฒนาไปได้ดีเลยทีเดียว
แต่บริการขนส่งหลายๆ เจ้าก็ยังล้าหลังอยู่ มีส่งพัสดุไม่ตรงเวลา ทำพัสดุหาย
และชอบปล่อยพัสดุไว้ที่จุดบริการปลายทาง ปล่อยให้ลูกค้าไปรับกันเองเป็นเรื่อง
ปกติ
พูดง่ายๆ คือ มีไม่กี่บริษัทที่ส่งพัสดุถึงหน้าบ้านลูกค้า
โดยปัญหาที่ว่านี้เรียกว่า ปัญหา ‘กิโลเมตรสุดท้าย’
แม้แต่ในสิบปีให้หลัง ปัญหานี้ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข นอกจากบริษัทดีๆ อย่าง
SF Express กับ JD Central แล้ว บริษัทขนส่งหลายๆ เจ้ายังปล่อยพัสดุไว้ที่จุด
บริการปลายทางเหมือนเดิม
มีการก่อตั้งบริษัท Hive Box บริษัทไช่เหนี่ยว และบริษัทอื่นๆ ขึ้นมาเพื่อ
แก้ไขปัญหานี้ แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับให้บริการได้แย่มาก
ต้นตอของปัญหาอยู่ที่เงินทุน
การส่งพัสดุจากคลังสินค้าไปถึงหน้าบ้านลูกค้านั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ทำให้หลาย
บริษัทเลือกที่จะผลักค่าใช้จ่ายตรงนี้ไปให้ลูกค้า
เผยเชียนคิดง่ายๆ ว่า ที่คนอื่นๆ ไม่ยอมเหนื่อยกับตรงนี้ก็เพราะไม่ได้กำไร
แต่ฉันไม่สน!
เพราะยังไงเขาก็ต้องทำให้ตัวเองขาดทุนอยู่แล้ว การยอมเหนื่อยทำตรงนี้แทน
คนอื ่ น จะช่ ว ยให้ เ ขาขาดทุ น ได้ แ น่ น อน ยิ ่ ง ไปกว่ า นั ้ น เขายั ง ช่ ว ยให้ ล ู ก ค้ า
สะดวกสบายขึ้นด้วย ทำไมเขาจะไม่อยากช่วยคนอื่นล่ะ
“ฉันวางแผนไว้แล้ว เราจะเปิดจุดบริการนี่เฟิงในเมืองจิงโจวร้อยจุด โดยจะ
ให้บริการครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในเมืองจิงโจว
“จากนั้นเราจะติดต่อบริษัทขนส่งเจ้าอื่นๆ ให้พนักงานของพวกเขามาส่งพัสดุ
ไว้ที่จุดบริการของเรา แล้วพนักงานของเราจะเป็นคนเอาพัสดุไปส่งถึง หน้าบ้าน
ลูกค้า”
พูดง่ายๆ คือ พวกเขาคือจุดบริการไช่เหนี่ยวที่ส่งพัสดุถึงหน้าบ้านลูกค้า
แต่ปัญหาอยู่ที่จุดบริการไช่เหนี่ยวบางสาขาสามารถทำกำไรได้
จุดบริการไช่เหนี่ยวใช้เงินลงทุนตั้งต้นแค่แห่งละสองถึงสามหมื่นหยวน ที่ต้อง
ทำก็แค่เช่าสถานที่ภายในพื้นที่ให้บริการ ค่าเช่าแต่ละเดือนอยู่ที่ประมาณพันสอง
พันหยวน (อิงตามราคาตลาดการเช่าพื้นที่ในเมืองจิงโจว) จากนั้นก็ต้องการเงินอีก
หนึ่งหมื่นหยวนไว้ใช้ซื้อชั้นวางของ เคาน์เตอร์ คอมพิวเตอร์ ตู้เก็บของ และ
ตกแต่งภายใน เสร็จแล้วก็พร้อมเปิดให้บริการ
ต้องมีการเจรจาหาค่าจ้างที่เหมาะสมกับพนักงานส่งของ ซึ่งจะได้เงินชิ้นละ
ประมาณสองถึงสี่เหมา ถ้าส่งพัสดุได้สองถึงสามร้อยชิ้นต่อวัน รายได้ต่อเดือนจะ
อยู่ที่ประมาณสามพันหยวน
ปกติแล้วจุดบริการไช่เหนี่ยวมีพนักงานประจำแค่สองคน โดยช่องทางอื่นใน
การหารายได้ก็มีขายของ ให้บริการโฆษณา ส่งของ และอื่นๆ
สรุปแล้วจุดบริการไช่เหนี่ยวนั้นสามารถทำกำไรได้ จึงมีหลายคนเริ่มลงทุน
เปิดจุดบริการไช่เหนี่ยว
แต่จุดบริการนี่เฟิงของเผยเชียนนั้นไม่เหมือนกัน เนื่องจากพวกเขามุ่งเป้าไปที่
การส่งของถึงหน้าประตูบ้านลูกค้า
เหตุผลหนึ่งก็เพราะต้องเสียเงินจ้างพนักงานส่งของแพงขึ้น ถ้าต้องส่งพัสดุ
สองถึงสามร้อยชิ้นต่อวัน พวกเขาก็ต้องจ้างพนักงานส่งของถึกๆ สักคนสองคน ซึ่ง
เผยเชียนก็ต้องจ่ายเงินเดือนให้พวกเขา
อีกเหตุผลหนึ่งคือ ลูกค้าไม่ต้องมารับสินค้าที่จุดบริการ พอลูกค้าไม่ต้องมาที่
ร้าน รายได้จากการขายของและรับโฆษณาก็จะน้อยลง
พวกเขาต้องจ้างคนอย่างน้อยสามคน แบ่งเป็นผู้จัดการหนึ่งคนและพนักงาน
ส่งของอีกสองคน พื้นที่ที่มีคนอาศัยอยู่เยอะอาจต้องจ้างพนักงานส่งของสามคน
ถ้าให้เงินเดือนพนักงานส่งของเดือนละสามพันหยวน (เงินเดือนตั้งต้น+ค่าคอมมิช
ชัน) ก็จะต้องจ่ายอย่างต่ำเดือนละเก้าพันหยวน
เอาไปรวมกับค่าเช่าอีกสองพันหยวน เขาจะมีค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่หนึ่งหมื่น
หนึ่งพันหยวน ถ้าคำนวณว่าจะหาเงินได้ประมาณสองถึงสามพันหยวน พวกเขาก็
จะขาดทุนเจ็ดถึงแปดพันหยวนต่อเดือน
ถ้าเผยเชียนเปิดจุดบริการสักร้อยแห่งก็จะต้องใช้ทุนตั้งต้นประมาณสามล้าน
หยวน ยอดขาดทุนรวมต่อเดือนจะอยู่ที่เจ็ดถึงแปดแสนหยวน
แถมนี่ยังแค่เริ่มต้น พอเผยเชียนขยายกิจการออกไป เขาก็ต้องจ้างพนักงาน
เพิ่ม หมายความว่าก็จะยิ่งขาดทุนมากขึ้น
ที่เยี่ยมที่สุดคือเขาสามารถคุมยอดขาดทุนในธุรกิจนี้ได้!
ตัวอย่างเช่น ถ้าเผยเชียนคำนวณดูแล้วพบว่าต้องผลาญเงินทุนระบบอีกหนึ่ง
ล้านหยวนให้ได้ภายในหนึ่งเดือนก่อนวันปิดบัญชี เขาสามารถเปิดจุดบริการนี่เฟิง
ขึ้นมาทันทียี่สิบแห่ง ขอแค่เปิดจุดบริการก่อนวันปิดบัญชีหนึ่งสัปดาห์ เงินก็ได้
ผลาญ แถมยังไม่ทำให้วันปิดบัญชีล่าช้าออกไปด้วย
จุดบริการนี่เฟิงไม่เหมือนร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเพราะใช้เวลาไม่มากในการ
เปิดและปิดกิจการในแต่ละแห่ง ก็เหมือนคำพูดที่ว่า เรือยิ่งเล็ก ยิ่งกลับลำได้เร็ว
ธุรกิจนี้จะทำให้เผยเชียนผลาญเงินได้ง่ายขึ้น
เผยเชียนวางแผนไว้หมดแล้ว เขาจะเปิดจุดบริการนี่เฟิงใกล้ๆ บริษัทเถิงต๋า
เฟยหวงสตูดิโอ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูและบ้านของเขาเป็นอันดับแรก
จากนั้นไม่ว่าเขาและครอบครัวจะซื้ออะไรผ่านช่องทางออนไลน์ พวกเขาก็ไม่
จำเป็นต้องไปรับพัสดุที่จุดบริการอีก พัสดุทุกชิ้นจะจัดส่งตรงมาถึงหน้าบ้าน
เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เขาจึงเลือกเปิดบริการแถวบ้าน
ก่อน
นอกจากจะช่วยผลาญเงินได้แล้ว ยังถือเป็นการทำดีอีกด้วย ยอดเยี่ยมจริงๆ!
หลังจากได้ฟังเผยเชียนอธิบาย จางหยวนก็ได้แต่ยอมรับความพ่ายแพ้
เป็นเรื่องยากจริงๆ ที่จะเดาความคิดบอสเผยได้!
ดูแล้วนีน่ ่าจะเป็นแผนการระยะยาว
ถึงเผยเชียนจะไม่ได้บอกอะไรละเอียดนัก แต่จางหยวนก็พอเดาได้ว่าเขา
น่าจะไปในทิศทางนี้
ถ้าแก้ปัญหา ‘กิโลเมตรสุดท้าย’ ได้ ก็จะสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้นี่เฟิง
โลจิสติกส์
ในระยะสั้นอาจขาดทุน แต่ถ้ามองในระยะยาวล่ะ
พอคนเริ่มคุ้นชินกับการใช้บริการนี่เฟิงโลจิสติกส์ พวกเขาก็จะเลือกนี่เฟิงโลจิ
สติกส์เวลาต้องการส่งพัสดุ
ในอนาคตนี่เฟิงโลจิสติกส์จะก้าวขึ้นไปเป็นบริการขนส่งระหว่างเมืองและ
ระหว่างมณฑล
แต่แผนนี้กินระยะเวลานานมาก นานจนคนส่วนใหญ่อาจคาดไม่ถึง!
ไม่แน่ในหลายปีให้หลัง นี่เฟิงโลจิสติกส์อาจจะยั งขาดทุนอยู่ แต่ถ้าประสบ
ความสำเร็จขึ้นมาเมื่อไหร่ก็จะส่งผลกระทบกับทุกแง่มุมในชีวิตของทุกคน
จางหยวนอดรู้สึกยกย่องเผยเชียนไม่ได้
นี่สิคือการเริ่มกิจการที่แท้จริง!

[1] ชื่อร้านนี่เฟิง (逆风) ที่เผยเชียนตั้งแปลว่าลมต้าน ซึ่งสวนทางกับ


ประโยค 一路顺风 (ความหมายตรงตัวคือ เดินตามลม) ที่แปลว่าเดินทาง
โดยสวัสดิภาพ
บทที่ 197 เกมนี้ช่างกากเกินคำบรรยาย...

“นี่ฉันเพิ่งเล่นอะไรไปเนี่ย…”
หลินหวานปิดโน้ตบุ๊กแล้วเริ่มครุ่นคิด
เกมชื่อเพลงรบโลหิต เป็นเกมที่เปลี่ยนมาตรฐานเกมของหลินหวานไปเลย
มีเกมกากแบบนี้ในโลกด้วยเหรอ!
ถึงจะอัปเดตมาแล้วแต่ก็เปลี่ยนแค่ระบบการเล่นกับการออกแบบบางอย่าง
ถึงจะอัปเดตยังไง เกมเพลงรบโลหิตก็ยังเป็นแค่เกมเล่นผ่านเว็บเบราว์เซอร์
ตั้งแต่เริ่มเล่นเกม เธอพบเหตุผลมากมายให้หยุดเล่นเกมนี้
กราฟิกเกมห่ว ยแตก มีแต่งานภาพจากชาติที่แล้ว ตัวละครในเกมแต่งกาย
ด้วยชุดเกราะดาดๆ ไร้รสนิยม เอฟเฟ็กต์สีทองที่ห่อหุ้มตัวก็ดูเว่อร์เกินเหตุ แต่ละ
ตัวมีปีกหลากสีติดอยู่กลางหลังอีก
ฉากหลังก็ดูมั่วซั่ว โดยเฉพาะในเมืองหลักที่ผู้เล่นมารวมตัวกัน แต่ละคนใส่ชุด
เกราะหลากสีสัน บนหัวตัวละครมีข้อมูลยุ่บยั่บ ทั้งไอดี ชื่อกิลด์ ชื่อตัวละคร และ
อื่นๆ ทำให้หน้าจอดูมั่วซั่วไปหมดจากข้อมูลต่างๆ ที่ไม่ได้จำเป็นนัก
ตัวเกมอนุญาตให้กรองผู้เล่นคนอื่นได้ ทำให้ตอนเริ่มเกมสามารถหาตัวละคร
ของตัวเองเจอได้ง่ายๆ
แต่ถ้าใช้ระบบนี้ก็จะพบความจริงอันแสนโหดร้าย เพราะฉากดูร้าง ไม่มี
ชีวิตชีวา ยิ่งฉากที่ไม่ค่อยสวยยิ่งเห็นชัด
เพลงประกอบเกมทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนอดีตไปสิบปี เพลงไม่ได้แย่ แต่ก็
ไม่ได้ทำให้ผู้เล่นรู้สึกอินกับเกม
ที่สำคัญที่สุดเลยคือ เกมต้องเล่นผ่านเว็บ
หมายความว่าทรัพยากรงานภาพต้องมีการดาวน์โหลดใหม่ตลอด
ทุกครั้งที่เข้าแผนที่ที่มีฉากใหม่ หน้าจอก็จะเด้งแถบดาวน์โหลดขึ้นมาก่อน
เพราะต้องดาวน์โหลดทรัพยากรใหม่ บนแถบหน้าจอเขียนกำกับไว้ว่า ‘กำลัง
ดาวน์โหลดทรัพยากร’
ตัวละครผู้เล่นจะมืดไป พอผ่านไปสักพักฉากหลังถึงจะปรากฏขึ้นมา
เวลาอยู่ในแผนที่ที่มีการเปลี่ยนฉากบ่อยๆ ผู้ เล่นจะต้องรอโหลดรัวๆ จนรู้สึก
เหมือนเกมค้าง
ระบบการเล่นยิ่งไม่มีอะไรเลย ผู้เล่นทุกคนแค่ต้องฆ่ามอนสเตอร์ ปั่นเลเวล
ทำภารกิจ ถ้าจะให้นิยามเกมก็คงเป็น ‘ล้าสมัยและน่าเบื่อ’
หลินหวานย่นจมูกตลอดห้านาทีที่ลองเล่นเกม ระหว่างเล่นเธอคิดเพียงอย่าง
เดียว
เกมชั้นต่ำ!
ถึงเอาเงินมาจ้าง เธอก็ไม่ยอมเล่น
หลินหวานเริ่มรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเอง
เธอเชื่อบอสเผยสุดใจ ถึงยอมรับหน้าที่นี้โดยไม่คิดอะไรมาก
หลินหวานพอจะรู้สถานการณ์ของฉางหยางเกมส์มาบ้างว่าเป็นบริษัทเจ้าของ
เกมที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ
แต่เธอก็ไม่คิดว่าเกมมันจะแย่ขนาดนี้
ในมุมมองของหลินหวาน เกมนี้สถานการณ์ย่ำแย่กว่าเกมกระสุนเพชฌฆาต
ของเทียนหัวสตูดิโอหลายเท่า
หลังจากได้ลองเล่นเกมเพลงรบโลหิตดู เธอก็พบว่ามันไม่ได้แค่แย่ แต่ยัง
ล้าสมัยมาก!
เกมนี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้ย้อนอดีตไปสิบปี
พอได้เล่นไปสักพัก นอกจากจะรู้สึกอึดอัดแล้ว เธอยังเริ่มคลางแคลงการ
ตัดสินใจของบอสเผยขึ้นมา
ทำไม…บอสเผยถึงซื้อบริษัทนี้มานะ
จะมองมุมไหน บริษัทนี้ก็ไม่ควรจะยังมีชีวิตรอดอยู่ในตลาด!
บริษัทควรตายหายไปได้แล้ว คนที่สร้างเกมนี้ก็ควรลาออกไปทำงานที่อื่น ถ้า
ไม่มีบริษัทไหนรับก็ควรเปลี่ยนสายงานไปเลย
ดู จ ากผลงานแล้ ว หลิ น หวานคิ ด ว่ า คนที ่ ส ร้ า งเกมนี ้ ไ ม่ ค วรทำงานใน
อุตสาหกรรมเกมต่อ!
แต่บอสเผยดันซื้อกิจการต่อซะงั้น แถมว่ากันว่าบอสปั้นพนักงานและแนะนำ
ให้ปรับเปลี่ยนอะไรในบริษัทใหม่ด้วยตัวเองอีก
เกมที่หลินหวานเพิ่งเล่นไปคือเกมที่บอสเผยปรับแล้ว แต่ดูยังไงก็ชัดเจนมา
กว่าเกมนี้ไม่มีทางทำกำไรได้
หลินหวานเอนหลังพิงเก้าอี้ เธอไม่อยากย้ายไปที่น่นู แล้ว
ถ้าได้ค้นคว้าและพัฒนาเกมกลับใจคือฟากฝั่งที่เถิงต๋าต่อจะดีแค่ไหนกันนะ
มี บ อสเผยอยู ่ ช ่ ว ยดู แ ลบริ ษ ั ท ยั ง ไงเกมก็ ต ้ อ งออกมาเป็ น ที ่ น ิ ย มชมชอบ
ยอดขายคงพุ่งเฉียดฟ้า ในฐานะหนึ่งในทีมผู้พัฒนา หลินหวานคงจะรู้สึกภูมิใจไป
ด้วย
แต่ตอนนี้เธอกลับถูกย้ายไปฉางหยางเกมส์เพื่อพัฒนาเกมเพลงรบโลหิต
กลายเป็นหนังคนละม้วนไปแล้ว!
เธอไม่ได้คิดแล้วว่าตัวเองจะทำเกมออกมาได้สำเร็จหรือเปล่า เพราะถึงจะ
คลอดเกมออกมาได้ ยังไงก็คงโดนชาวเกมเมอร์รุมด่าเละอยู่ดี!
หลินหวานคงอับอายมากแน่ถ้าต้องบอกเพื่อนๆ ว่าเธอเป็นคนรับผิดชอบเกม
นี้
แต่พอนึกได้ว่าบอสเผยเป็นคนจัดแจงเรื่องนี้ด้ว ยตัวเอง เธอก็คิดว่ามันน่าจะมี
อะไรที่ลึกซึ้งกว่านี้ซ่อนอยู่
เพราะตอนที่คุยกัน บอสเผยดูจะตั้งความหวังกับเธอไว้มาก นอกจากจะรับ
หน้าที่เป็น ‘ตัวกลางสื่อสาร’ แล้ว เธอยังรับบทบาทเป็น ‘ผู้นำพาจิตวิญญาณของ
เถิงต๋า’ ด้วย
ถ้ายอมแพ้เอาตอนนี้ เธอคงจะไม่มีวันเข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของบอส
เผย…
การจั ด แจงย้ า ยเธอไปที ่ อ ื ่ น ในครั ้ ง นี ้ น ่ า จะเป็ น กุ ญ แจสำคั ญ ที ่ ท ำให้ เ ธอ
แข็งแกร่งขึ้น
หลินหวานครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจได้
ยังไงบอสเผยก็ยังเก็บโต๊ะทำงานของเธอที่เถิงต๋าไว้ให้อยู่ อยากจะกลับมา
ตอนไหนก็ได้เสมอ เธอจึงควรเลือกท้าทายตัวเองที่ฉางหยางเกมส์ เพราะนี่คือ
โอกาสที่ไม่ได้มาง่ายๆ


ฉางหยางเกมส์
ในห้องประชุม
เยว่จือโจว หวังเสี่ยวปิน และคนอื่นๆ แอบมองหลินหวานที่นั่งอยู่โต๊ะฝั่งตรง
ข้ามด้วยแววตาหวาดหวั่น
หลินหวานที่เพิ่งมาถึงฉางหยางเกมส์ถือสมุดเล่มเล็กเข้ามาพร้อมทำตัวเป็น
เด็กใหม่เพื่อเรียนรู้งาน
แต่สำหรับคนอื่นๆ แล้ว สมุดในมือเธอทำให้ทุกคนรู้สึกกดดันหนัก
พวกเขารู้สึกอึดอัดและหวั่นเกรงหัวหน้าคนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาจากเถิงต๋า
ประเด็นคือพวกเขาไม่รู้ว่าบอสเผยกำลังคิดอะไรอยู่
บอสเชื่อมั่นในฉางหยางเกมส์หรือเปล่า
จะตอบว่าไม่ก็ไม่ได้ เพราะบอสปล่อยให้ฉางหยางเกมส์วางแผนและพัฒนา
เกมใหม่ขึ้นมาเอง หัวหน้าฝ่ายวางแผนคนใหม่ก็เป็นเด็กใหม่ในฉางหยางเกมส์เอง
โครงสร้างการทำงานในบริษัทก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร
แต่จะตอบว่าใช่ก็ไม่ได้อีก ไม่อย่างนั้นทำไมถึงต้องส่งคนจากเถิงต๋าเข้ามาตอน
ที่กำลังจะสร้างเกมใหม่ด้วยล่ะ
ตามที่บอสเผยบอกมา หลินหวานจะมารับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการผลิต
หลักๆ แล้วก็เหมือนเป็นผู้พัฒนา
แต่ก็ไม่ใช่ตำแหน่งที่ต้องเข้ามาดูแลจัดการงานตลอด เป็นเหมือนคนช่วยให้
คำแนะนำมากกว่า
ฉางหยางเกมส์ตอนนี้มีตำแหน่งหลักอยู่สามตำแหน่ง เยว่จือโจวรับผิดชอบ
เรื่องการพัฒนาและวางแผนทั่วไปของเกม หวังเสี่ยวปินรับผิดชอบเรื่องออกแบบ
และจัดการระบบ ส่วนหลินหวานเป็นคนที่มีอำนาจเด็ดขาดในการตัดสินใจเรื่อง
สำคัญๆ ภายในบริษัท
ที่ผ่านมาเยว่จือโจวกับหวังเสี่ยวปินรับผิดชอบเรื่องการวางแผนพัฒนาเกมใน
บริษัท และรายงานสิ่งต่างๆ ให้บอสเผยทราบโดยตรง
แต่ตอนนี้มีหลินหวานเข้ามาแทรกกลางระหว่างเยว่จือโจวกับบอสเผยใน
ฐานะผู้อำนวยการผลิต
หลายคนคิดกันไปว่าบอสเผยหมดความเชื่อใจในตัวเยว่จือโจวแล้ว เพราะ
ตั้งแต่ขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนก็ยังไม่สามารถพลิกมาทำกำไรได้ หรือที่บอสเผย
ส่งคนจากเถิงต๋ามาฉางหยางเกมส์ก็เพราะเหตุผลนี้
ทุกคนในฉางหยางเกมส์ตกอยู่ในความงุนงง
ตอนแรกเยว่จือโจวกับหวังเสี่ยวปินคิดจะส่งงานให้หลินหวานจัดการต่อ แต่
หลินหวานกลับเอาแต่หลบเลี่ยงพวกเขา
เธอพูดน้อยมากต่อหน้าคนอื่นๆ พูดแต่เรื่องที่จำเป็นพอเป็นพิธีให้ทุกคนรู้สึก
เครียดน้อยลง จากนั้นก็หลบมุมไปนั่งฟังเงียบๆ
การประชุมเป็นไปตามปกติ เยว่จือโจวเริ่มอธิบายแนวทางการออกแบบเกม
เพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดให้ทุกคนฟัง
ระหว่างที่กำลังหลบมุมฟังอย่างตั้งใจ หลินหวานก็จดบันทึกลงสมุดไปด้วย
จากนั้นก็มีคำถามเกิดขึ้นในใจ นั่นอะไรน่ะ
แล้วไอ้นั่นมันอะไร
บทที่ 198 เพิ่มงบ

เป็นเรื่องปกติที่หลินหวานจะไม่เข้าใจ เพราะตอนอยู่ที่เทียนหัวสตูดิโอ เธอได้


ช่วยทำเกมกระสุนเพชฌฆาต พอย้ายมาที่เถิงต๋า ก็ได้ไปช่วยทำเกมฐานทัพกลาง
ทะเล ทั้งสองเกมเป็นเกมออนไลน์แบบไคลแอนต์[1]
เกมเพลงรบโลหิตเป็นเกมเล่นผ่านเว็บไซต์ พูดได้ว่าเป็นเกมคนละประเภทกับ
เกมที่เธอเคยรับผิดชอบเลยทีเดียว
เกมเล่นบนเว็บไซต์มีหลักการออกแบบที่เฉพาะตัว ระบบการเล่นของเกม
รูปแบบนี้ก็ไม่ค่อยมีให้เห็นในเกมไคลแอนต์
นอกจากหลินหวานจะไม่เคยค้นคว้าและพัฒนาเกมเล่นผ่านเว็บไซต์แล้ว เธอ
ยังไม่เคยเล่นเกมประเภทนี้ด้วยเพราะไม่ได้สนใจ
ในการประชุมนำโดยเยว่จือโจว พวกเขาใช้คำศัพท์เฉพาะเกี่ยวกับการพัฒนา
เกมเล่นผ่านเว็บไซต์และตัวย่อ ภาษาอังกฤษ ตอนอธิบายระบบการเล่นก็ใ ช้
คำศัพท์กับ ตัวย่อที่มีแต่คนที่ คุ้นเคยกับกระบวนการผลิตเกมประเภทนี้ที่จะ
เข้าใจ
ด้วยเหตุนี้ถึงทุกคนจะพูดภาษาจีน แต่หลินหวานก็เข้าใจเนื้อหาการประชุม
แค่สามสิบถึงสี่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น
พูดง่ายๆ คือเธอฟังออกทุกคำ แต่ไม่เข้าใจความหมายเลยสักนิด
หลินหวานได้แต่จดบันทึกตามเงียบๆ ไม่ถามหรือพยักหน้าเลยแม้แต่น้อย
เธอไม่ยอมพยักหน้าเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเขากำลังพูดอยู่และไม่อยากแสร้ง
ทำเหมือนว่าตัวเองเข้าใจ ส่วนที่ไม่ยอมถามอะไรไปก็เพราะกลัวว่าจะดูโง่และทำ
ให้ บอสเผยต้องอับอายขายขี้หน้า
เยว่จือโจวกับหวังเสี่ยวปินแอบเหลือบมองหลินหวานเป็นพักๆ
พวกเขาเห็นแค่สีหน้าเคร่งเครียดของหลินหวานกับการที่เธอรัวมือจดลงสมุด
ไม่หยุด ทั้งคู่ไม่สามารถอ่านสีหน้าของเธอได้ จึงไม่รู้เลยว่าเธอคิดเห็นยังไง
ถึงอีกฝ่ายจะดูเด็ก แต่พวกเขาก็ไม่คิดดูถูกเธอ เพราะยังไงคนที่บอสเผยจ้าง
มาก็มักไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปอยู่แล้ว
ถ้าบอสเผยให้การยอมรับขนาดนี้ แสดงว่าเธอน่าจะเป็นคนที่มีพรสวรรค์
มากๆ หรือไม่ก็มีศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ ไม่ว่าจะยังไง พวกเขาก็ไม่ควรไปทำอะไร
ให้เธอเคืองโกรธ
เยว่จือโจวหยุดพูดเป็นช่วงๆ เพื่อให้หลินหวานได้แสดงความคิดเห็น
ถึงบอสเผยจะไม่ได้แก้แบบร่างเลย แต่ใครจะไปรู้ว่าผู้ อำนวยการผลิตจะมี
ข้อแนะนำอะไรดีๆ หรือเปล่า
แต่หลินหวานกลับนั่งเงียบแล้วจดบันทึกการประชุมต่อ ไม่ปริปากพูดอะไร
แม้แต่คำเดียว
เยว่จือโจวเริ่มกังขาสิ่งที่ตัวเองทำ
ทำไมบอสเผยกับผู้อำนวยการผลิตถึงไม่มีข้อแนะนำอะไรเลยล่ะ
แบบร่างของฉันสมบูรณ์แบบจริงๆ เหรอ
ไม่น่าใช่
หรือว่าฉันจะประเมินความสามารถตัวเองต่ำเกินไปมาตลอด

ในที่สุดพวกเขาก็คุยกันเรื่องแบบร่างเสร็จ เยว่จือโจวอธิบายตารางงานของ
โปรเจ็กต์นี้ต่อพร้อมไล่รายการทรัพยากรงานภาพที่จำเป็นสำหรับเกม เขาตั้งงบไว้
ที่ประมาณสองล้านหยวนเพื่อใช้ในการทำทรัพยากรงานภาพต่างๆ
จากนั้นเยว่จือโจวก็หันมองหลินหวาน
ผู้อำนวยการผลิตน่าจะมีข้อคิดเห็นบ้างแหละ
ไม่อย่างนั้นจะมาที่นี่ทำไม
หลินหวานสัมผัสได้ว่าทุกคนมองมาเป็นตาเดียว จึงเริม่ ลนลานอยู่ในใจ
ทำยังไงดี ขนาดนั่งฟังพวกเขาคุยกันมาทั้งวันยังไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด!
ถึงจะเข้าใจสักนิดสักหน่อย ก็ไม่มีอะไรให้พูดถึงเหมือนเดิม สิ่งที่เข้าใจมีแต่
เรื่องพื้นฐาน ถ้ายกเรื่องนี้มาพูดฉันก็ดูโง่สิ
โชคดีที่หลินหวานไม่ได้แสดงอาการลนลานออกไป เธอสามารถยกประเด็นที่
คิดว่าบอสเผยน่าจะไม่ชอบใจขึ้นมาพูดได้
“ประเด็นอื่นๆ หนูไม่ติดอะไรเป็นพิเศษค่ะ
“มีปัญหาเดียวคือเรื่องงบประมาณ เท่าที่หนูรู้จักบอสเผย หนูคิดว่าบอสไม่
น่าจะอนุมัติ”
เยว่จือโจวเริ่มเป็นกังวล งบเท่านี้ไม่ผ่านจริงๆ ด้วย!
ตั้งงบสองล้านหยวนให้เกมเล่นบนเว็บดูเว่อร์เกินไปจริงๆ แหละ
ค่าใช้จ่ายในการค้นคว้าและพัฒนาเกมเล่ นบนเว็บนั้นไม่ได้มากอะไร งบส่วน
ใหญ่จะไปลงกับการทำการตลาด เช่น ซื้อแบนเนอร์โฆษณาบนเว็บเพจที่จ่ายเงิน
ตามจำนวนการคลิก จ้างคนดัง และอื่นๆ
ซึ่งจะเลือกจากกลุ่มผู้เล่นเป้าหมายของเกมเล่นบนเว็บ
เกมเล่นผ่านเว็บส่วนใหญ่จะพุ่งเป้าไปที่พนักงานออฟฟิศและผู้เล่นสายวาฬ
คนกลุ่มนี้ไม่ได้คาดหวังอะไรเรื่องกราฟิก ส่วนใหญ่มักจะแอบเล่นกันตอนทำงาน
ไม่ต้องการเล่นเกมซับซ้อนเกินไปจนต้องเสียเวลามานั่งคิด
คนกลุ่มนี้สนเรื่องการเติมเงินไปไล่ฆ่าคนอื่นด้วยการคลิกเมาส์มากกว่า
นอกจากนั้นแล้วคนกลุ่มนี้ยังมีกำลังซื้อสูง ดังนั้นจึงควรแบ่งงบค้นคว้ าและ
พัฒนามาเป็นงบทำการตลาดมากกว่า เพื่อที่จะได้เพิ่มรายได้ให้ได้มากที่สุด
แต่พอเยว่จือโจวคำนวณงบดูแล้ว ก็ตัดสินใจว่าจะไม่ทำตามแบบแผน
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้บอสเผยอนุมัติได้ เกมนี้มีคำว่า ‘เวอร์ชันอัปเกรด’ ติด
สอยห้อยท้ายมา เขาจะปล่อยให้กราฟิกเกมนี้แย่เหมือนเกมเล่นบนเว็บเกมอื่นๆ
ไม่ได้
งานภาพต้องเอาเป็นคุณภาพ HD แน่นอนอยู่แล้ว ส่วนระบบการเล่นก็ต้อง
พัฒนาให้สมบูรณ์แบบที่สุด
พอเอาองค์ประกอบเล็กน้อยเหล่านี้มารวมกันก็ต้องการงบประมาณถึงสอง
ล้านหยวน เยว่จือโจวคุยกับหวังเสี่ยวปินก่อนหน้านี้แล้วและอีกฝ่ายก็เห็นด้วยกับ
งบประมาณนี้
แต่กลับยังเยอะไปอยู่อีกเหรอ
เยว่จือโจวหันมองหลินหวานอย่างเกรงกลัว เขาคิดว่าอย่างมากน่าจะลด
งบประมาณลงไปได้สักสามถึงสี่แสนหยวน ให้ลดไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว!
หลินหวานพูดต่อ “หนูว่า…บอสเผยน่าจะอนุมั ติโปรเจ็กต์นี้ถ้าวางงบไว้อย่าง
น้อยสี่ล้านหยวน
“ไม่สิ เพิ่มเป็นห้าล้านหยวนไปเลย บอสเผยจะได้ไม่ต้องแก้กลับมา ถ้าวางไว้
เท่านี้ก็ไม่ต้องแก้อะไรอีกแน่นอนค่ะ”
ทุกครั้งที่ประเมินงบประมาณใหม่ พวกเขาต้องแก้รายการทรัพยากรและ
แผนงานต่างๆ ต้องเปลี่ยนนักวาดกับแผนงานใหม่หมด
การเพิ่มงบประมาณจากสองล้านขึ้นไปเป็นสามถึงสี่ล้านหยวนนั้นเท่ากับ
เกือบหนึ่งเท่าจากเดิม ซึ่งก็หมายความว่าต้องแก้แผนใหม่หมดตั้งแต่ต้น เพราะ
ต้องเปลี่ยนอะไรเยอะมาก ไม่ใช่แค่หานักวาดใหม่เท่านั้น
ดังนั้นหลินหวานจึงช่วยบอกให้พวกเขาตั้งงบสูงไปเลยตั้งแต่ต้น จะได้ ไม่ต้อง
เสียเวลาทำงบไปแล้วโดนบอสเผยส่งกลับมาให้แก้
ทุกคนอึ้งไป
เยว่จือโจวเกือบจะคิดว่าตัวเองหูฝาด
สองล้านหยวนน้อยไป ให้เพิ่มเป็นห้าล้านหยวนอย่างนั้นเหรอ
มากกว่างบเดิมเกือบสองเท่าเลยนะ
แต่พอเห็นสีหน้าจริงจังของหลินหวาน เขาก็ตระหนักว่าเธอไม่ได้พูดเล่น เป็น
ข้อแนะนำจริงๆ
เยว่จือโจวกับหวังเสี่ยวปินหันมองกัน ก่อนที่เยว่จือโจวจะถามขึ้นอย่างไม่
แน่ใจ “ห้าล้านหยวนดูเยอะไปหน่อยนะครับ…
“จริงๆ แล้วเราไม่ต้องการเงินเยอะขนาดนั้น แค่สองล้านหยวนก็พอ พอ
ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทุกอย่างจริงๆ”
หลินหวานส่ายหน้า “สำหรับคุณอาจจะพอ แต่สำหรับบอสเผยถือว่า ยัง
ห่ า งไกลจากคำว่ า พออยู ่ ม ากเลยค่ ะ คุ ณ ไม่ ร ู ้ ห รอกว่ า บอสเผยเป็ น คนลง
รายละเอียดมากขนาดไหน แต่เชื่อหนูแล้วเพิ่มงบเป็นห้าล้านเถอะค่ะ”
หลินหวานได้แต่ยิ้มเมื่อเห็นเยว่จือโจวก้มหน้าแก้แบบร่างด้วยความงุนงง
“ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมบอสเผยถึงส่งฉันมาที่นี่!
“นอกจากมาเรียนรู้เรื่องการออกแบบและพัฒนาเกมรูปแบบนี้แล้ว ฉันยังมี
หน้าที่พาจิตวิญญาณของเถิงต๋ามาสู่บริษัทนี้ด้วย!
“เยว่จือโจวระมัดระวังเรื่องการตั้งงบประมาณเหมือนลู่หมิงเหลียงเลย
“บอสเผยยุ่งมาก มีเรื่องต้องจัดการเยอะแยะ คงไม่มีเวลามาจัดการนิสัยแย่ๆ
แบบนี้ด้วยตัวเอง ก็เลยส่งฉันมาแทน ส่วนหนึ่งเป็นโอกาสให้ฉันได้ฝึกฝีมือ อีกส่วน
ก็ให้ฉันจัดการนิสัยแย่ๆ ของคนพวกนี้แทน!
“ดังนั้นฉันต้องเน้นเปลี่ยนวิธีคิดของพวกเขาให้ใช้วิธีคิดแบบเถิงต๋า
“บอสเผยไม่ได้โกหกฉัน งานนี้สำคัญมากจริงๆ ด้วย”
เยว่จือโจวรีบแก้งบโดยที่คิ้วขมวดเป็นปม
“แต่…ถ้าเพิ่มงบเป็นห้าล้าน เราจะเจอปัญหาอีกอย่างนะครับ
“ที่พวกเรากำลังพัฒนาเป็นแค่เกมเล่นบนเว็บ ถึงเราจะใช้ทรัพยากรคุณภาพ
HD กับจ้างนักวาดฝีมือดีมาช่วยออกแบบคอนเซ็ปต์ เราก็ไม่น่าจะใช้เงินหมดนี่
ได้…
“แถมตอนนี ้ เ รายั ง ใช้ ซ อฟต์ แ วร์ พ ั ฒ นาเกมสองมิ ต ิ ข องแพลตฟอร์ ม เกม
ทางการอยู่ ซึ่งไม่ได้สนับสนุนกราฟิกคุณภาพ HD ได้ดีขนาดนั้น ผลลัพธ์ที่ออกมา
อาจจะไม่ได้แตกต่างอะไรกันมาก
“พูดง่ายๆ คือ…ถึงจ่ายแพงขึ้นแต่คุณภาพก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม”
หลินหวานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “งั้นเปลี่ยนซอฟต์แวร์ที่ใช้พัฒนาเกมมาเป็น
ภาพสามมิติแทน”
เยว่จือโจวอึ้งไป “ถ้าเปลี่ยนไปเป็นภาพแบบสามมิติ… เราก็ทำเป็นเกมเล่นบน
เว็บไม่ได้อีก เพราะต้องโหลดทรัพยากรงานภาพหนักมาก ความเร็วในยุคปัจจุบัน
จะโหลดทรัพยากรพวกนี้ได้ช้ามากๆ”
เกมเล่นบนเว็บต้องพร้อมเปิดขึ้นเล่นได้ เลย ทรัพยากรงานภาพทั้งหมดต้อง
โหลดเสร็จทันที
ความเร็วอินเทอร์เน็ตจำกัดอะไรหลายๆ อย่าง พวกเขาไม่สามารถใช้ไฟล์ภาพ
ขนาดใหญ่เกินไปได้เพราะจะทำให้เกมดาวน์โหลดช้า ถ้าผู้เล่นเดินเข้าไปในจุด
หนึ่งแล้วฉากหลังไม่ปรากฏขึ้นสักทีคงจะแปลกน่าดู
นี่เป็นเหตุผลที่หลินหวานเจอคำว่า ‘กำลังดาวน์โหลดทรัพยากร’ เด้งขึ้นมา
บ่อยๆ ตอนเล่นเกมเพลงรบโลหิต
หลังจากคุยกันอยู่นานก็ยังหาทางแก้ปัญหาไม่ได้สักที
หลินหวานรู้ว่าบอสเผยต้องไม่อนุมัติแน่ถ้าตั้งงบไปแค่สองล้านหยวน แต่การ
ทำเกมเล่นบนเว็บไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากมายขนาดนั้น ถึงจะเพิ่มงบเป็นห้า ล้าน
หยวน แต่ก็ไม่มีจุดให้ใช้จ่ายเงินเพิ่มอยู่ดี
เว้นเสียแต่จะพัฒนาเกมใหม่เป็นเกมแบบไคลแอนต์แทนเกมแบบเล่นบนเว็บ
ให้ผู้เล่นดาวน์โหลดเนื้อหาทั้งหมดมาติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ก่อนเพื่อเล่น
แต่ถ้าทำตามนี้…
ก็จะเป็นการเปลี่ยนรูปแบบเกมไปเลย เท่ากับเปลี่ยนแบบร่างที่ทำมาทั้งหมด
ไม่ใช่เหรอ
หวังเสี่ยวปินกระแอมกระไอ “อะแฮ่ม ผมว่าเราลองทำเป็นเกมแบบมินิไคล
แอนต์ได้ถ้าอยากใช้ทรัพยากรงานภาพแบบ HD กับทำกราฟิกเป็นแบบสามมิติ
“เกมแบบมินิไคลแอนต์คือแบบนี้ครับ
“เทียบกับเกมแบบไคลแอนต์แล้ว ผู้เล่นต้องดาวน์โหลดข้อมูลเกมน้อยกว่า
ไม่ต้องใช้สเป็กคอมพิวเตอร์สูงมาก แต่ถ้าเอาไปเทียบกับเกมแบบเล่นบนเว็บแล้ว
กราฟิกจะดูดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
“แน่นอนว่าก็มีโอกาสที่จะไปไม่รอด เราต้องรับความเสี่ยงสูงมาก”
[1] เกมไคลแอนต์คือเกมที่ต้องดาวน์โหลดและติดตั้งเกมลงเครื่องเพื่อเล่น
บทที่ 199 ผู้อำนวยการหลินไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วย

ถึงหลินหวานจะแยกความแตกต่างระหว่างเกมเล่นบนเว็บกับเกมไคลแอนต์
ไม่ค่อยออก แต่เธอก็พอจะเข้าใจความเสี่ยงในการเลือกทำแบบนั้น
เกมไคลแอนต์กับเกมเล่นบนเว็บแต่งต่างกันโดยสิ้นเชิง
หมายความว่ารูปแบบการเล่นพื้นฐาน แก่นของเกม และกลุ่มเป้าหมายก็
แตกต่างกันมากด้วย
มีแต่คนโง่เท่านั้นที่คิดว่าการเปลี่ยนจากเกมเล่นบนเว็บมาเป็นเกมไคลแอนต์
เป็นเรื่องง่ายๆ
การเปลี่ยนจากระดับสูงมาระดับต่ำทำได้ง่ายกว่า เช่นเปลี่ยนจากเกมไคล
แอนต์มาเป็นเกมเล่นบนเว็บ หรือเปลี่ยนจากเกมเล่นบนเว็บมาเป็นเกมมือถือ
แต่ก็ยังต้องจัดการกับตัวเกมอยู่ดี
ถ้าจะทำกลับกันโดยปรับจากเกมเล่นบนเว็บมาเป็นเกมไคลแอนต์ พวกเขา
ต้องปรับอะไรหลายอย่างมาก ไม่ต่างอะไรกับการพัฒนาเกมขึ้นใหม่ตั้งแต่ต้นเลย
แต่ฉางหยางเกมส์ยืนยันกันแล้วว่าจะค้นคว้าและพัฒนาเกมเพลงรบโลหิต
เวอร์ชันอัปเกรด แบบร่างก็เสร็จหมดแล้ว แถมบอสเผยยังเป็นคนตัดสินใจอีกด้วย
คงจะไปแก้อะไรตามใจชอบไม่ได้
หมายความว่าถ้าอยากเพิ่มงบ การปรับเกมเป็นเกมมินิไคลแอนต์คือทางออก
เดียวที่พวกเขาทำได้
เหมือนที่หวังเสี่ยวปินบอก การปรับเกมเป็นแบบมินิไคลแอนต์มีความเสี่ยงสูง
มาก
เทียบกับเกมไคลแอนต์แล้ว เกมมินิไคลแอนต์ให้ผู้เล่นดาวน์โหลดข้อมูลน้อย
กว่า แต่จะได้ภาพที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับเกมเล่นผ่านเว็บ ถ้ามองอย่างผิวเผินก็ดูจะ
เป็นทางออกที่ตอบโจทย์ทั้งสองฝ่าย
แต่ถ้ามองอีกมุม ก็มองได้ว่าเป็นข้อด้อยกับทั้งสองฝ่าย
สำหรับผู้เล่นฝั่งเกมไคลแอนต์ กราฟิกของเกมใหม่จะดูแย่กว่าเกมไคลแอนต์
ปกติทั่วไป
สำหรับผู้เล่นฝั่งเกมเล่นผ่านเว็บอาจจะรู้สึกยุ่งยากที่ต้องโหลดข้อมูลก่อน การ
ที่ไม่สามารถเข้าเล่นเกมได้ทันทีอาจจะทำให้พวกเขาไม่ชอบใจเอาได้
มีโอกาสที่ผู้เล่นทั้งสองฝั่งจะไม่ชอบเกมและทำให้เกมเจ๊งไม่เป็นท่าได้
ทุกคนหันมองหลินหวาน
ในฐานะผู้อำนวยการผลิต เธอต้องเป็นคนตัดสินใจ
หลินหวานรู้สึกลนลานอยู่ภายใน
ตอนทำงานที่เถิงต๋า เธอได้รับผิดชอบงานเป็นอย่างๆ ไป ไม่เคยต้องตัดสินใจ
เรื่องสำคัญแบบนี้มาก่อน
การตัดสินใจครั้งนี้จะส่งผลต่อการทำงานของทุกคนในสองสามเดือนข้างหน้า
แถมยังเกี่ยวข้องกับเงินอีกหลายล้านด้วย
ถ้าออกมาประสบความสำเร็จก็ดีไป
แต่ถ้าออกมาเจ๊งไม่เป็นท่า ทุกคนก็จะทำงานไปอย่างสูญเปล่า เงินทุนก็เสีย
ทิ้งไปโดยไม่ได้อะไรกลับมา
การต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญขนาดนี้ทำให้หลินหวานรู้สึกกดดันสุดๆ
ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาคือ เธออยากจะขอตัวออกไปปรึกษาบอสเผย
แต่พอคิดดูดีๆ อีกที เธอก็ตัดสินใจไม่ทำแบบนั้น
บอสเผยให้เธอมาดูแลฉางหยางเกมส์ก็เพราะเชื่อมั่นในตัวเธอมาก!
ถ้ามีเรื่องเล็กน้อยอะไรก็ต้องไปปรึกษาบอสเผยทุกครั้ง เธอก็ไม่ต่างอะไรกับ
โทรศัพท์มือถือ เธอจะทำให้บอสเผยผิดหวังไม่ได้
หลินหวานจมดิ่งสู่ภวังค์ความคิด
“ถ้าเป็นบอสเผย บอสจะทำยังไงนะ”
“ฟู ่ … ใจเย็ น ๆ บอสเผยมั ก จะตั ด สิ น ใจทำอะไรที ่ ค าดไม่ ถ ึ ง ตลอด แต่ ถ้ า
วิเคราะห์ดูดีๆ ก็จะรู้ว่าการตัดสินใจของบอสนั้นสมเหตุสมผลมาก
“บอสเผยจะลดงบลงมั้ย ไม่มีทาง
“แล้วบอสเผยจะสนใจรึเปล่าว่าผู้เล่นจะชอบเกมมินิไคลแอนต์มั้ย ฉันก็ว่าไม่
“บอสเผยน่าจะเป็นคนตัดสินใจให้ผู้เล่นเอง บอสไม่น่าจะสนใจว่าผู้เล่นจะ
ชอบหรือไม่ชอบ
“ถ้าอย่างนั้น…ก็ชัดเจนแล้วว่าบอสเผยจะทำยังไง”
หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก หลินหวานก็ตอบอย่างแน่วแน่ “เราจะทำเกมมินิ
ไคลแอนต์กันค่ะ ที่ออกแบบมาแล้วใช้อันนั้นเลยไม่ต้องแก้อะไร เราแค่จะยก
เครื่องงานภาพจากสองมิติไปเป็นสามมิต”ิ
หลินหวานดูค่อนข้างมั่นใจ
ความมั่นใจนี้ไม่ได้มาจากตัวเธอเอง แต่มาจากการคาดเดาอย่างแม่นยำว่า
บอสเผยจะทำยังไง
นี่แหละคือพลังของพนักงานเถิงต๋า!


หลังการประชุม
เยว่จือโจวเดินกลับไปที่โต๊ะแล้วเริ่มแก้งบประมาณในแบบร่าง
ถึงการเพิ่มงบประมาณจากเดิมไปกว่าเท่าตัวจะเป็นเรื่องดี แต่เยว่จือโจวก็
ต้องมาลำบากแก้แบบร่างใหม่
แต่ก็เป็นความลำบากเพื่อสิ่งที่ดี
ระหว่างกำลังง่วนกับงานอยู่ หน้าจอมือถือก็สว่างวาบขึ้น เขาเหลือบตาดูแล้ว
พบว่าบอสเผยส่งข้อความมาหา
“เป็นยังไงบ้าง”
เยว่จือโจวตื่นตัวขึ้นทันที สุดยอดเลย บอสเผยเป็นคนถามความคืบหน้ามา
ก่อน!
เขายังกังวลกับการตัดสินใจของหลินหวาน
การตัดสินใจเพิ่มงบประมาณและเปลี่ยนรูปแบบเกมจากเกมเล่นบนเว็บไป
เป็นเกมมินิไคลแอนต์ถือเป็นการกระทำที่ค่อนข้างเสี่ยง ถ้ายังไม่ได้รับการอนุมัติ
จากบอสเผย เยว่จือโจวก็สงบใจไม่ได้
แต่เขาก็รายงานเรื่องนี้ให้บอสเผยทราบไม่ได้อีก เพราะจะดูเหมือนเป็นคนขี้
ฟ้อง
โชคดีที่บอสเผยถามไถ่ความคืบหน้ามาก่อน
เยว่จือโจวรีบอธิบายข้อสรุปจากการประชุม โดยเน้นเรื่องการเพิ่มงบประมาณ
กับการเปลี่ยนรูปแบบเกมไปเป็นแบบมินิไคลแอนต์เป็นหลัก
เขาตั้งใจไว้ว่าถ้าบอสเผยถามอะไร เขาจะเป็นคนตอบเอง
สองนาทีต่อมา บอสเผยก็ตอบกลับมา
“ดีมาก จัดการตามนั้นเลย ถ้าเจอปัญหาอะไรที่แก้ไม่ได้อีกให้ไปปรึกษา
ผู้อำนวยการหลิน”
บอสเผยไม่ ต ิ ด ใจอะไรเลย แถมยั ง เห็ น ดี เ ห็ น งามกั บ การตั ด สิ น ใจของ
ผู้อำนวยการหลินสุดๆ
เยว่จือโจวอดรู้สึกยำเกรงขึ้นมาไม่ได้ สมแล้วที่เป็นผู้อำนวยการที่ส่งมาจาก
เถิงต๋า เธอทำงานได้สมชื่อจริงๆ
ตอนแรกระหว่างการประชุม เยว่จือโจวรู้สึกกังขาในตัวหลินหวาน
ที่เป็นอย่างนั้น ก็เพราะหลินหวานแนะนำให้ปรับตัวเกมโดยไม่ถามอะไร
เกี่ยวกับแบบร่างเลย ทำให้เยว่จือโจวรู้สึกว่าเธอดูเป็นคนไม่รอบคอบ
แต่พอบอสเผยยืนยันตามหลินหวาน ความกังขาที่มีในใจก็จางหายไป
บอสเผยจะตัดสินใจพลาดได้เหรอ
อีกอย่างบอสเผยยังอนุมัติงบห้าล้านหยวนอย่างไม่ลังเลเหมือนที่ ผู้อำนวยการ
หลินบอก เขาไม่นึกกังขาเรื่องความเสี่ยงจากการปรับเกมเป็นรูปแบบมินิไคล
แอนต์เลย
ดูเหมือนว่าผู้อำนวยการหลินจะเข้าใจความคิดบอสเผยมากกว่าพวกเขาหลาย
เท่า!
แบบนี้บอสเผยที่งานยุ่งอยู่ตลอดเวลาก็ไม่ต้องแบกฉางหยางเกมส์ให้เหนื่อย
อีกต่อไปแล้วสิ


เผยเชียนวางมือถือลงอย่างอารมณ์ดี
หลินหวานทำได้ดีกว่าที่เขาคิดไว้อีก
เผยเชียนกลัวว่าหลินหวานจะไม่กล้าทำอะไรในฉางหยางเกมส์ เป็นเหมือนแม่
ทัพที่ไร้กองพล
ถ้าเป็นแบบนั้นหลินหวานก็จะไม่ได้เจอกับความผิดหวังจากการตัดสินใจของ
ตัวเอง เธออาจโทษคนอื่นแทนที่จะยอมกลับไปรับช่วงต่อกิจการครอบครัวแต่โดย
ดี
แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว หลินหวานทำหน้าที่ตัวเองได้ดีมาก!
เธอตัดสินใจได้ตรงกับที่เผยเชียนคิดโดยไม่ต้องปรึกษาเขาเลย!
นอกจากจะใช้เงินมากขึ้นแล้ว เธอยังตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบเกมจากเกมเล่น
ผ่านเว็บที่ไม่ค่อยมีความเสี่ยงไปเป็นเกมแบบมินิไคลแอนต์
เผยเชียนรู้จักเกมมินิไคลแอนต์และรู้ว่าเกมรูปแบบนี้ไม่มีทางขึ้นมาแทนเกม
เล่นผ่านเว็บได้
ไม่ได้เป็นรูปแบบเกมที่ทันสมัย แถมยังไม่ได้ล้ำสมัยอะไรด้วย
มีเกมเล่นผ่านเว็บหลายเกมที่ทำรูปแบบมินิไคลแอนต์ออกมา แต่ก็เป็นเหมือน
ของเสริ ม เติ ม แต่ ง เพิ ่ ม แถมเกมมิ น ิ ไ คลแอนต์ ส ่ ว นใหญ่ย ั ง จำกั ด ขนาดไฟล์ที่
ประมาณ 50 MB ไม่ค่อยทำใหญ่เกินไปกว่านี้
ดูจากทิศทางของฉางหยางเกมส์ในตอนนี้ นอกจากจะทำให้เกมต้องการสเป็ก
เครื่องที่สูงขึ้นแล้ว ยังจะทำให้ข้อมูลที่ต้องดาวน์โหลดมีขนาดใหญ่ขึ้นอีก อย่าง
น้อยน่าจะเพิ่มไปเป็นประมาณ 200 ถึง 300 MB
ผู้เล่นหลายคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ที่ออฟฟิศไม่ก็คอมพิวเตอร์เก่าๆ เล่นได้หน้า
สั่นกันแน่!
เอาตรงๆ คือ เกมนี้จะไม่ตอบโจทย์ทั้งผู้เล่นฝั่งไคลแอนต์และผู้เล่นฝั่งเกมเล่น
ผ่านเว็บ นอกจากนั้นยังต้องเสียเงินในการพัฒนาเพิ่มขึ้นอีก เยี่ยมยอดจริงๆ
เกมเล่นผ่านเว็บแบบนี้น่าจะใช้ทุนประมาณห้าล้านหยวน ดูจากสถานการณ์
แล้วเขาอาจต้องจ่ายเงินทำการตลาดอีกสองถึงสามล้านหยวน เกมนี้น่าจะพัฒนา
เสร็จก่อนเกมกลับใจคือฟากฝั่ง
ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็จะปล่อยเกมออกไปได้เร็วขึ้นหนึ่งเดือนและเริ่มขาดทุน
เร็วขึ้น ดูท่าจะไปได้สวยเลยทีเดียว!
บทที่ 200 เอาใจพนักงานประจำ

ระหว่างที่กำลังครุ่นคิดอยู่ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
เผยเชียนเงยหน้าขึ้นมองแล้วพบว่าเป็นหม่าอี้ฉวิน
ตั้งแต่เริ่มเตรียมการสร้างเว็บจงเตี่ยนจงเหวิน หม่าอี้ฉวินก็ยุ่งมือเป็นระวิง
ถึงจะจัดการเรื่องพนักงานฝ่ายจัดการ ฝ่ ายการเงิน และฝ่ายกฎหมาย รวมถึง
วางโครงสร้างบริษ ัทเสร็จเรียบร้อยแล้ว หม่าอี้ฉวินก็ยังต้อ งตัดสินเรื่องการ
ให้บริการเว็บไซต์อยู่
เขาซื ้ อ เทมเพลตเว็ บ ไซต์ ก ั บ แพลตฟอร์ ม สำหรั บ นั ก เขี ย นผ่ า นเว็ บ รวม
ทรัพยากรตามที่เผยเชียนแนะนำ รวมถึงเสียเงินสามแสนหยวนซื้อชื่อโดเมน
‘www.zhongdian.com’ ไปแล้วด้วย
เนื่องจากโลกนี้ยังไม่มีเว็บ Qidian เจ้าของโดเมนชื่อ ‘zhongidan’ จึงไม่
สามารถตั้งราคาขายได้แพงมากนัก แถมตอนนี้ยังอยู่ในปี 2010 ชื่อโดเมนไม่ได้มี
ราคาแพงขนาดนั้น พูดได้ว่าพวกเขาซื้อมาในราคาดีเลยทีเดียว
นอกจากนั้นแล้วพวกเขายังจ้างพนักงานมาไว้สำหรับดูแลเว็บไซต์และเช่าเซิฟ
เวอร์คลาวด์แล้วด้วย พร้อมทั้งยื่นเอกสารขออนุญาตกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
หลังจากจัดการเรื่องเหล่านี้และเสียเงินไปหลายแสนหยวน การเตรียมการขั้น
แรกก็เสร็จเรียบร้อย
ต่อจากนั้นก็ถึงเวลาทำงานของหม่าอี้ฉวิน
อันดับแรกเขาต้องเรียกประชุมพนักงานและมอบหมายงานให้แต่ละคน
พนักงานเหล่านี้คือเหล่ารุ่นพี่จากมหาวิทยาลัยของเผยเชียนที่จางเหว่ย
แนะนำมา แต่ละคนจบจากคณะสายศิลป์ ซึ่งก็หมายความว่าพวกเขาพอจะมี
ความรู้เรื่องภาษากันบ้าง
หลังจากได้พบทุกคนครั้งแรก หม่าอี้ฉวินรู้สึกว่าแต่ละคนดูเอ๋อๆ กัน ส่วนใหญ่
ค่อนข้างเนิร์ดเลยทีเดียว
ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ เพราะคนพวกนี้ไม่มีใครหางานได้เลย
ถ้าเป็นคนมีความสามารถจริงๆ หลังเรียนจบก็คงไม่ว่างงานมาจนถึงตอนนี้
หรอก
โชคดีที่แต่ละคนทัศนคติดี หม่าอี้ฉวินเลยไม่กังวลอะไรมาก
เขารู้ดีว่าไม่ใช่เรื่องเหมาะที่จะมาตัดสินว่าใครเหมาะกับการทำงานในวงการ
เว็บโนเวล ตอนอยู่มหาวิทยาลัยจะเรียนเก่งไหมไม่ใช่เรื่องสำคัญ ใครๆ ก็สามารถ
เข้ามาเริ่มงานในวงการนี้ได้จากศูนย์
ถือเป็นเรื่องดีและไม่ดีในเวลาเดียวกัน
อย่างน้อยสำหรับหม่าอี้ฉวินแล้ว คนกลุ่มนี้ก็ถื อ ว่ายังพอผ่านคุณสมบัติ
พื้นฐาน
หม่าอี้ฉวินเริ่มแจกจ่ายงานให้แต่ละคน
สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อเปิดเว็บไซต์คืออัดนิยายเข้าไปให้เยอะๆ
เว็บโนเวลจะต้องเต็มไปด้วยนิยาย ไม่อย่างนั้นก็เหมือนชั้นหนังสือเปล่าๆ
ดังนั้นพวกเขาจึงต้องรีบจ้างนักเขียนให้เร็วที่สุด
เว็บโนเวลที่ทุนหนาหน่อยจะจ้างพวกนักเขียนดาวรุ่ง อาจจ้างกลุ่มใหญ่เลย
ด้วยซ้ำ ต้องใช้ทุนหลายล้านหยวน
แต่เผยเชียนไม่เลือกทำแบบนั้น
ถึงการทำแบบนั้นจะช่วยให้เขาผลาญเงินได้เยอะขึ้น แต่ก็จะไปลดโอกาสที่
เว็บจะเจ๊งลง นักเขียนเหล่านี้ก็เหมือนพระเจ้าแห่งวงการเขียน ถ้าจ้างมาน่าจะ
เรียกคนเข้าเว็บได้มากมายแน่นอน
เขาต้องเลือกระหว่างการทุ่มเงินจ้างนักเขียนดาวรุ่งกับการเพิ่มโอกาสเจ๊งของ
เว็บ หลังจากคิดดูสักพัก เผยเชียนก็ตัดสินใจได้ว่าอย่างหลังน่าจะทำให้เขาเสียเงิน
ได้มากกว่า
พวกนักเขียนดาวรุ่งนั้นดังได้เพราะฝีมือล้วนๆ การจะหวังความล้มเหลวจาก
พวกระดับเทพเป็นไปได้ยากมาก
นักเขียนที่มีฝันแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จย่อมเลือกเดินตามฝันตัวเองในเว็บ
ที่ดังอยู่แล้วอย่างเว็บอู๋เซียนจงเหวิน ทุกคนต่างหวังว่าสักวันนิยายของตัวเองจะดัง
ได้
พวกเขาไม่มีทางมาเขียนงานให้เว็บเล็กๆ ที่อนาคตสุดจะริบหรี่เพื่อเงินไม่กี่
ร้อยหยวนหรอก
หลังจากคิดอยู่นาน เผยเชียนก็ตัดสินใจไม่จ้างพวกนักเขียนดาวรุ่งแล้วหันไป
จับพวกนักเขียนดาวร่วงแทน ทำแบบนี้น่าจะมีโอกาสขาดทุนแน่นอนกว่า
หน้าที่ช่วงแรกของหม่าอี้ฉวินคือฝึกอบรมพนักงานและคัดกรองต้นฉบับ
คนกลุ่มนี้ไม่ค่อยรู้เรื่องเว็บโนเวล พวกที่เคยอ่านมาบ้างก็ไม่เคยลงลึกถึง
เนื้อหาอะไรขนาดนั้น
หม่าอี้ฉวินต้องสอนหลังการพื้นฐานอย่างการเขียนพล็อตที่ดี จังหวะการ
เดินเรื่อง และการวางตีม
พนักงานเหล่านี้จะขึ้นเป็นบรรณาธิการได้หลังจากผ่านการฝึกของหม่าอี้ฉวิน
จากนั้นพวกเขาก็จะได้ช่วยหม่าอี้ฉวินเลือกต้นฉบับ ให้คำแนะนำนักเขียน และ
อื่นๆ
ตอนนี้หม่าอี้ฉวินน่าจะมารายงานความคืบหน้าให้เผยเชียนทราบ
“บอสเผยครับ ความคืบหน้าตอนนี้…”
เขาอธิบายสิ่งที่ทำเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อ “ตอนนี้เราติด
ปัญหาใหญ่ๆ อยู่สองอย่างครับ
“เรื่องแรก บรรณาธิการของเราความสามารถต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ค่อยรู้เรื่อง
เว็บโนเวล
“พวกเขาเลือกต้นฉบับจากสไตล์การเขียนของนักเขียน ต้นฉบับส่วนใหญ่ที่
เลือกมาไม่เหมาะกับการเอามาทำเป็นเว็บโนเวล
“ผมคิดว่ายากที่จะแก้ได้ในเวลาสั้นๆ ต้องใช้เวลาสอนเพิ่ม
“เรื่องที่สอง ต้นฉบับส่วนใหญ่ที่เราได้รับมามีแต่ของคุณภาพต่ำ ของดีๆ นี่
อย่าเพิ่งถามหาเลยครับ เว็บอู๋เซียนจงเหวินไม่น่าจะให้ต้นฉบับพวกนี้ผ่าน เรื่อง
เอาลงเว็บยิ่งไม่ต้องพูดถึง
“ต้นฉบับบางส่วนค่อนข้างดีเลย แต่ถึงจะส่งไปเว็บอู๋เซียนจงเหวินก็น่าจะมี
คนซื้ออ่านอย่างมากแค่ประมาณห้าร้อยคน
“ห้าร้อยนี่ไม่ได้กดต่ำจนเกินจริงนะครับ ผมพูดจากการประเมินตามจริง”
หม่าอี้ฉวินเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี เพราะเขาก็เคยเขียนเว็บโนเวลเหมือนกันและมี
คนซื้องานเขาอ่านแค่สามสิบคน จึงรู้สึกไม่ค่อยดีที่จะไปดูถูกคนอื่นว่างานมีคนซื้อ
อ่านแค่ห้าร้อยคน
แต่เขาก็ต้องพูดตามจริง ถ้างานของนักเขียนฝีมือดีที่สุดบนเว็บมีคนซื้ออ่านแค่
ห้าร้อยคน เว็บก็ไม่น่าไปรอด
เพราะที่นักเขียนดังกล่าวมียอดคนซื้ออ่านห้าร้อยคนได้ก็เป็นเพราะเว็บอู๋
เซียนจงเหวินมีฐานนักอ่านเยอะอยู่แล้ว ถ้าเอามาลงที่เว็บจงเตี่ยนจงเหวิน จำนวน
น่าจะลดลงไปอีกสิบเท่า
ปัญหาทั้งสองข้อของหม่าอี้ฉวินไม่ใช่เรื่องขัดกัน สรุปสั้นๆ คือ นักเขียนฝีมือ
ไม่ดี บรรณาธิการก็ไม่ได้เรื่อง เป็นไปไม่ได้เลยว่าต้นฉบับที่รับมาจะไปรอดได้
เว็บยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ หม่าอี้ฉวินยังไล่ดูตามเว็บบอร์ดต่างๆ
เพื่อติดต่อนักเขียนที่ไม่ค่อยมีฝีมือ เว็บไซต์จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้หลังจาก
มีจำนวนนิยายลงเว็บมากพอ
หลังจากได้ฟังหม่าอี้ฉวินอธิบาย สีหน้าของเผยเชียนก็ยังนิ่งอยู่ ราวกับจะสื่อ
ว่า ‘ทุกอย่างยังอยู่ในการควบคุม’
“มีต้นฉบับมั้ย ขอผมดูหน่อย”
หม่าอี้ฉวินหยิบแฟลชไดร์ฟออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้เผยเชียน
ในแฟลชไดรฟ์มีต้นฉบับทั้งหมดที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว เขาเซ็นสัญญากับ
นักเขียนไปบางส่วน แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาด้วย
เผยเชียนสุ่มเปิดต้นฉบับขึ้นมาอ่านหลายชิ้น
พออ่านจบก็คิดได้อย่างเดียวคือ ห่วยแตก!
ต้นฉบับส่วนใหญ่ทำให้เขารู้สึกไม่อยากอ่านต่อหลังจากได้อ่านบทแรกไป
ผ่านๆ
ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องพล็อตกับการเดินเรื่อง หลายคนดูจะมีปัญหากับการแต่ง
ประโยคง่ายๆ มีทั้งใช้คำผิดความหมาย ใช้คำเชื่อ มผิด และแต่งประโยคผิด
โครงสร้าง ตรรกะในสามตอนแรกวิบัติมาก ตีมเรื่องก็ไม่ชัด
สรุปคือมีปัญหาทุกเรื่อง
เผยเชียนไล่ดูต้นฉบับของนักเขียนที่หม่าอี้ฉวินเซ็นสัญญาด้วยแล้วรู้สึกว่าเป็น
การเลือกคนที่ดีที่สุดจากกลุ่มคนห่วย ถ้าเอางานพวกนี้ไปลงเว็บอื่นก็ไม่น่ารอด
เหมือนกัน
ถึงหม่าอี้ฉวินจะมียอดคนซื้องานอ่านแค่สามสิบคน แต่เขาก็เข้าใจเรื่องเว็บโน
เวลดีเลยทีเดียว
เผยเชียนกะเอาไว้แล้ว ถึงหม่าอี้ฉวินจะมียอดคนซื้องานอ่านไม่มาก แต่
ผลงานที่เขาเอาลงเว็บก็ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ถึงขนาดมีแฟนคลับของตัวเอง
หม่าอี้ฉวินสังเกตสีหน้าของเผยเชียนระหว่างกำลังไล่ดูต้นฉบั บแล้วรู้สึกยก
ย่องอีกฝ่ายขึ้นมา
บอสเผยมีความอดทนสูงมาก ไม่น่าเชื่อเลยว่าบอสจะทนอ่านงานพวกนี้ได้
หลังจากสุ่มอ่านต้นฉบับไปบางส่วน เผยเชียนก็รู้สึกโล่งใจ
ถ้าต้นฉบับทั้งหมดที่พวกเขารับมีมาตรฐานประมาณนี้ เขาคงจะแปลกใจมาก
ถ้าเว็บประสบความสำเร็จขึ้นมาได้!
ไม่เลวเลย ทำดีแบบนี้ต่อไปนะ!
เผยเชียนถอดแฟลชไดร์ฟคืนให้หม่าอี้ฉวินอย่างใจเย็น
“ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรมาก
“ส่วนปัญหาที่คุณบอกมาทั้งสองอย่าง…
“ถึงบรรณาธิการของเราจะยังฝีมือต่ำกว่ามาตรฐานก็ไม่เป็นไร ลดเกณฑ์ลงมา
หน่อย เพราะตอนนี้เราพยายามหางานมาลงเว็บให้ได้ตามเป้าอยู่ นักเขียนพวกนี้
แค่เขียนงานให้ได้ตามสัญญาเพื่อที่จะได้เงิน เราไม่ต้องไปเข้มงวดกับพวกเขา
มาก”
หม่าอี้ฉวินลังเล “แต่…บอสตั้งค่าแรงนักเขียนประจำไว้ที่หนึ่งพันหยวน
“เว็บอู๋เซียนจงเหวินให้ค่าแรงนักเขียนประจำแค่ห้าร้อยหยวนเองนะครับ มี
เว็บไซต์เล็กๆ เจ้าอื่นที่ให้หนึ่งพันเหมือนกันอยู่ แต่ก็ต้องลงนิยายให้ได้วันละหนึ่ง
หมื่นคำ
“เรตของเราคือค่าแรงหนึ่งพันหยวนต้องลงนิยายวันละสามพันคำ
“ถ้าเราลดเกณฑ์ลงก็เหมือนให้เงินพวกเขาฟรีๆ เหมือนเอาเงินไปสูญทิ้งทุก
เดือนเลยครับ”
เผยเชียนส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ถ้าเรามีนักเขียนสักห้าร้อยคนก็แค่ต้องจ่าย
เงินเดือนละห้าแสนหยวน ถือว่าไม่ได้เยอะอะไรเลย
“เว็บเราเพิ่งเปิดใหม่ ถ้าเราไม่จ่ายให้นักเขียนประจำแพงหน่อย ใครจะอยาก
มาเขียนลงเว็บเรา
“อีกอย่างสำหรับมือใหม่แล้ว การลงนิยายให้ได้สามพันคำต่อเดือนไม่ใช่เรื่อง
ง่ายๆ เลยนะ
“ไม่ต้องห่วง รับต้นฉบับเพิ่มไปก่อน เดี๋ยวสักวันก็มีนักเขียนฝีมือดีโผล่มา”
หม่าอี้ฉวินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วคิดว่าที่บอสเผยพูดมาก็มีเหตุผล
แต่โอกาสที่จะเป็นจริงแบบที่ว่านั้นน้อยมาก…
หม่าอี้ฉวินคิดต่ออยู่พักหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้น “บอสเผยครับ มีปัญหาอีกเรื่อง
พนักงานส่วนใหญ่ของเราไม่ค่อยมีงานทำ
“เนื่องจากมีนักเขียนส่งต้นฉบับมาน้อย เลยไม่ค่อยมีงานให้ตรวจ ถึงจะแบ่ง
เวลาไปให้คำแนะนำนักเขียน แต่ก็มีช่วงที่ไม่มีอะไรทำเยอะเลยครับ”
เผยเชียนโบกมือ “เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาเลย
“ถ้าพวกเขาไม่มีอะไรทำก็บอกให้ไปหางานอดิเรกทำ
“อย่างเช่นคุณ ถ้าคุณไม่มีอะไรทำก็ไปแต่งนิยายเล่นสักเรื่องสองเรื่อง คุณ
น่าจะชอบนะ”
เผยเชียนลุกยืนแล้วตบบ่าหม่าอี้ฉวิน
“อี้ฉวิน อย่ากดดันตัวเองมากไป
“ที่เถิงต๋า เราเน้นเรื่องการทำงานอย่างมีความสุข ถ้ามีงานก็จัดการทำซะ แต่
ถ้า ไม่มีอะไรทำแล้วก็ไปทำสิ่งที่ตัวเองชอบ ถ้างานยุ่งเกินไปก็จ้างคนมาเพิ่มไม่ใช่
เรื่องยากอะไรเลย
“ไม่ต้องรีบร้อนอะไรมาก ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป”
หม่าอี้ฉวินพยักหน้า “โอเคครับบอสเผย ผมเข้าใจแล้ว!”
ตอนแรกหม่าอี้ฉวินรู้สึกกังวลที่บอสเผยให้ตัวเองรับตำแหน่งสำคัญแบบนี้แต่
กลับไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย ยิ่งใช้เงินไปมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกหวั่นใจมาก
ขึ้นเท่านั้น
แต่พอเห็นท่าทีสบายๆ ของบอสเผย หม่าอี้ฉวินก็รู้สึกโล่งใจ
การมีผู้นำดีๆ ให้เดินตามนี่รู้สึกปลอดภัยจริงๆ!
บทที่ 201 หม่าอี้ฉวินควบสองงาน

หม่าอี้ฉวินกลับออกจากห้องทำงานบอสเผย เขารู้สึกสับสนน้อยลงจากเดิม
เขากลับไปที่ชั้นบน เดินผ่านแผนกบรรณาธิการ เห็นเหล่าบรรณาธิการรุ่น
ใหม่กำลังแก้ต้นฉบับกันอย่างจริงจัง
เด็กจบใหม่เหล่านี้ให้ความสำคัญกับงานนี้มาก
ในเมืองระดับสองอย่างจิงโจว อุตสาหกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีนำสมัยยังไม่
ค่อยพัฒนาไปไกลมากนัก ธุรกิจที่เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตก็มีไม่มาก งานหลักๆ จะ
อยู่ในอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมมากกว่า
งานในอุตสาหกรรมดั้งเดิมเหล่านี้ขึ้นชื่อเรื่องการจับเด็กจบใหม่มาทรมาน
ธรรมเนียมปฏิบัติ ระบบลำดับชั้น เนื้อหางานน่าเบื่อ… เด็กจบใหม่ส่วนใหญ่
ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการทำงานในอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมได้
ตอนแรกเด็กจบใหม่เหล่านี้รู้สึกสับสนกับเส้นทางในอนาคตของตัวเอง
ไม่มีใครเขียนรับรองให้เรียนต่อชั้นปริญญาโท สอบเข้าก็ไม่ผ่าน แถมยังหา
งานที่ตัวเองสนใจไม่ได้อีก
บริษัทในอุตสาหกรรมดั้งเดิมต่างดูถูกพวกเขา พวกเขาจึงดูถูกงานคร่ำครึ
เหล่านั้นกลับ ทั้งสองฝั่งเกลียดขี้หน้ากัน
พวกเขาเห็นเพื่อนรุ่นเดียวกันใช้ชีวิตอย่างสบายใจหลั งจากหางานได้และยื่น
เรียนต่อผ่าน บางคนได้เงินเดือนตั้งต้นสูงมากจนเป็นที่อิจฉาของใครหลายคน
กลับกันแล้ว พวกเขาไม่ได้รับการตอบรับเลย ไปสัมภาษณ์กี่ครั้งก็โดนปฏิเสธ
กลับมา พวกเขารู้สึกเหมือนโยนเรซูเม่ลงทะเลลึก ใครจะรู้กันว่าพวกเขารู้สึก
กดดัน แค่ไหน
ตอนแรกบางคนตั้งใจจะลองสอบใหม่ บางคนตั้งใจจะกลับบ้านเกิด ไม่มีใคร
คิดเลยว่าเหตุการณ์จะพลิกผันแบบนี้!
บั ง เอิ ญ มี เ ว็ บ ไซต์ เ ปิ ด ใหม่ แ ละมาจ้ า งพวกเขาทุ ก คน แถมยั ง ได้ ท ำงาน
บรรณาธิการที่ค่อนข้างตรงสายที่จบมา ถือว่าโชคดีกันสุดๆ!
ช่วงแรกบางคนไม่ชอบงานนี้และแอบดูถูกเว็บโนเวลด้วยซ้ำ แต่พอได้คุยกับ
เพื่อนเกี่ยวกับงานที่แต่ละคนทำอยู่ พวกเขาก็ตระหนักว่างานของตัวเองนั้นดี
มากๆ!
เงินเดือนที่ได้ถือว่าสูงทีเดียวถ้าเทียบกับงานอื่นในเมืองจิงโจว
ด้านเนื้อหางาน ถึงการตรวจต้นฉบับจะเยอะและน่าเบื่อไปบ้าง แต่ก็น่าสนใจ
กว่าการเป็นพนักงานจัดการทั่วไปในออฟฟิศอื่นๆ
นอกจากนั้น บอสของพวกเขาก็ยังหนุ่มและคุยง่าย บรรยากาศการทำงาน
เป็นไปอย่างปรองดอง ปราศจากความเครียด ทุกคนชอบงานใหม่ของตัวเองกัน
อย่ า งรวดเร็ ว และเริ ่ม ตั ้ ง ใจทำงานเพื่ อ เปลี่ ย นสถานะจากเด็ก จบใหม่ ไ ปเป็น
คนทำงาน
ตอนที่หม่าอี้ฉวินเดินเข้าออฟฟิศ ชายร่างเล็กคนหนึ่ งก็รีบลุกยืนขึ้นทันที “พี่
หม่า พวกผมตรวจต้นฉบับวันนี้หมดแล้วครับ”
หม่าอี้ฉวินพยักหน้า “ดีมาก อยากทำอะไรก็เชิญตามสบายเลย เดี๋ยวสักพัก
จะเรียกทุกคนมาประชุมนะ”
ชายหนุ่มที่ลุกขึ้นยืนชื่อจูซิงอัน เป็นคนที่สดใสร่าเริงที่สุดให้กลุ่มเด็กจบใหม่ที่
รับเข้ามา ไม่เอ๋อเหมือนคนอื่นๆ และฉลาดกว่าเยอะเลยทีเดียว เขาเป็นหนึ่งใน
บรรณาธิการไม่กี่คนที่หม่าอี้ฉวินพอใจในผลงาน
จูซิงอันจบมาด้วยเกรดที่แย่มาก ขนาดตอนกำลังจะจบปีสี่ยังติดเอฟถึงสามตัว
จึงต้องจบช้ากว่าคนอื่น
แม้ข้อสอบคณะสายศิลป์จะไม่ได้ยากมาก แต่เขาก็สอบตกถึงสามวิชาก่อน
หน้าที่จะเรียนจบ เห็นได้ชัดเลยว่าเจ้าเด็กคนนี้เกลียดการเรียนแค่ไหน
การยื่นจบล่าช้าทำให้จูซิงอันจะได้ใบปริญญาตอนปลายปี แต่หม่าอี้ฉวินก็
ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก สำหรับเขาแล้ว เกรดไม่ใช่ตัวชี้วัดสำคัญว่าคนคนหนึ่งจะ
เก่งเรื่องการตรวจแก้งานหรือเปล่า มันไม่ได้มีความเชื่อมโยงกันขนาดนั้น
ตอนเรียนมหาวิทยาลัย จูซิงอันชอบอ่านเว็บโนเวลและเล่นเกมมาก เขามี
ความสนใจหลากหลาย ทำให้เรียนรู้งานบรรณาธิการได้เร็วกว่าคนอื่นๆ
หม่าอี้ฉวินตั้งใจว่าพอผลงานของจูซิงอันเป็นที่น่าพอใจเมื่อไหร่จะเลื่อนขั้นให้
เป็นหัวหน้าฝ่ายบรรณาธิการหมวดนิยายยอดนิยม จะได้แบ่งเบาภาระของเขาไป
ได้บ้าง
หลังจากกลับไปถึงโต๊ะทำงานและจัดแจงอะไรเล็กน้อย หม่าอี้ฉวินก็เรียก
เหล่าเด็กปั้นที่มีโอกาสจะได้เป็นหัวหน้าฝ่ายบรรณาธิการในอนาคตมาเข้าประชุม
เพื่อที่จะได้แจ้งคำสั่งจากบอสเผย
ต่อไปพวกเขาจะลดเกณฑ์การรับต้นฉบับลง โดยจะดึงนั กเขียนให้เข้ามา
ทำงานรับเงินเดือนประจำ เป้าหมายของพวกเขาคือหานิยายมาลงเว็บให้ได้ตาม
เป้า
หลังจากนั้นหม่าอี้ฉวินก็พูดถึงปัญหาเรื่องที่พวกเขาไม่ค่อยมีงานให้ทำ
คนที่เรียนรู้งานด้านเว็บโนเวลไวๆ อย่างจูซิงอันสามารถเริ่มทำงานเป็น
บรรณาธิการได้เลยถ้าจำเป็น นอกจากนี้ เนื่องจากตอนนี้มีต้นฉบับส่งเข้ามาไม่
มาก งานคัดเลือกต้นฉบับจึงทำเสร็จได้ไว
ถ้ามีช่วงว่างจากการทำงาน พวกเขาสามารถศึกษาวิเคราะห์งานเขียนบน
เว็บอู๋เซียนจงเหวินได้
หม่าอี้ฉวินเลื่อนสายตามองหน้าทุกคนพร้อมพูดขึ้น “ถ้ารู้สึกว่าไม่มีงานอะไร
ให้ทำแล้วนอกจากอ่านเว็บโนเวลดังๆ พวกคุณจะลองเริ่มเขียนงานก็ได้
“พวกคุณทุกคนจะมาเป็นบรรณาธิการกัน แต่ไม่แน่บางคนอาจจะเขียนเว็บ
โนเวลขายดีขึ้นมาก็ได้ พวกคุณต้องมีความฝัน
“อีกอย่างตอนนี้เรามีต้นฉบับส่งเข้ามาให้ตรวจไม่เยอะเท่าไหร่ คุณภาพ
ต้นฉบับที่ส่งเข้ามาก็ไม่ได้ดีอะไรมาก ผมคิดว่าเราน่าจะขึ้นแนะนำงานเขียนของ
พวกคุณบนเว็บของเราได้ ลองดูกันสักหน่อยก็ไม่เสียหายนะ”
ที่หม่าอี้ฉวินพูดมาไม่มีอะไรผิด แต่ก็ฟังดูไม่ค่อยเข้าท่านัก
เพราะถ้าไม่มีใครเข้าเว็บ ขึ้นแนะนำงานของพวกเขาไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา..
หม่าอี้ฉวินหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ถ้าไม่มีอะไรทำกันจริงๆ ผมมีงานให้
ทำ ไปคิดพล็อตกับตีมสำหรับเกมกลับใจคือฟากฝั่งมา”
ตอนแรกการคิดตีมสำหรับเกมกลับใจคือฟากฝั่งเป็นหน้าที่ของหม่าอี้ฉวินซึ่ง
เป็นฝ่ายออกแบบพล็อต
แต่ชีวิตกลับพลิกผันได้เลื่อนขั้นแบบงงๆ ตามหลักแล้วหม่าอี้ฉวินต้องส่งงาน
ให้คนอื่นทำต่อ
ลู่หมิงเหลียงรู้เรื่องก็อึ้งไป พร้อมกับบอกว่า ‘ถ้าพี่หม่าไม่ทำ แล้วใครจะทำได้
ล่ะ’
คนเดียวที่เหมาะกับหน้าที่นี้คือบอสเผย แต่บอสเผยงานยุ่งมาก จะไปขอให้
ช่วยคิดพล็อตได้ยังไง
หม่าอี้ฉวินครุ่นคิดเรื่อ งนี้แล้วตัดสินใจว่าไม่น่าจะใช่เรื่อ งใหญ่อะไร เขา
สามารถเขียนตีมให้เกมไปด้วยได้
ดังนั้นหม่าอี้ฉวินจึงรับงานสองอย่าง ต้องคิดตีมให้เกมกลับใจคือฟากฝั่งไป
พร้อมทำเว็บจงเตี่ยนตงเหวิน
ตอนนี้การเตรียมการขั้นต้นสำหรับการเปิดเว็บไซต์ค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว แถม
บอสเผยยังช่วยสนับสนุนเต็มที่อีกด้วย หม่าอี้ฉวินเลยเครียดน้อยลง
ตอนนั้นเองหม่าอี้ฉวินก็นึกขึ้นได้ว่าเขายังมีน้องๆ อยู่ ไม่ต้องสู้เพียงคนเดียว
พวกเขาสามารถคิดพล็อตเกมกลับใจคือฟากฝั่งไปด้วยกันได้!
ตอนว่างจากการทำงาน คนกว่ายี่สิบคนตรงนี้สามารถช่วยกัน คิดพล็อตเกม
กลับใจคือฟากฝั่งได้ คนที่จบเอกภาษาจีนมาอย่างจูซิงอันพอมีพื้นฐานเรื่อ ง
ภาษาจีนโบราณอยู่
ตามที่บอสเผยกำหนดมา เกมกลับใจคือฟากฝั่งจะเต็มไปด้วยปริศนาคำทาย
ภาษาจีนโบราณ หม่าอี้ฉวินสามารถคิดทั้งหมดเองได้ แต่ถ้าต้องทำคนเดียว
คุณภาพย่อมต้องตกลงอย่างแน่นอน
ในเมื่อตอนนี้มีคนช่วยงานเยอะขนาดนี้ เขาก็สามารถแบ่งงานไปให้คนอื่นทำ
ได้ แต่แบบนี้ก็เท่ากับพวกเขากลายเป็นทีมออกแบบพล็อตไปเลยน่ะสิ
หม่าอี้ฉวินอธิบายทิศทางการออกแบบตีมเกมกลับใจคือฟากฝั่งให้ทุกคนฟัง
คร่าวๆ
การออกแบบเบื้องต้นของตีมเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีการนำความเป็นจีนโบราณ
ศาสนาพุทธ ลัทธิเต๋า และตำนานโบราณมาใช้เป็นองค์ประกอบ พวกเขาจะไม่
เน้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ แต่จะเอาทุกอย่างมาผสมรวมกันให้ลงตัว
ถึงจะสามารถยกศาสนาพุทธมาเป็นตีมหลักเพียงอย่างเดียวและหยิบความ
เป็นสันสกฤตมาเป็นต้นแบบทรัพยากรงานภาพได้ แต่หลั งจากพูดคุยปรึกษากัน
หม่าอี้ฉวินกับลู่หมิงเหลียงก็ลงความเห็นว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่
แม้การหยิบศาสนาพุทธมาเป็นตีมหลักจะทำให้ตัวเกมดูมีสไตล์ แต่ก็ไม่
สามารถนำเสนอความเป็นจีนโบราณได้ชัดเจนนัก
พูดอีกอย่างคือ ประเด็นหลักของเกมจะโดนกลบเอาได้
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาของชาติอื่น ไม่ค่อยสื่อถึงความเป็นจีนแบบดั้งเดิม
เท่าไหร่
ทำให้หม่าอี้ฉวินกับลู่หมิงเหลียงตัดสินใจจะเอาองค์ประกอบศาสนาพุทธ ลัทธิ
เต๋ า และตำนานโบราณมาผสมรวมกั น ให้ อ อกมาเป็ น สไตล์ จ ี น โบราณที ่ มี
เอกลักษณ์
ส่วนการนำองค์ประกอบหลายๆ อย่างมารวมกันจะดูมั่วเกินไปหรือเปล่านั้น…
พวกเขาไม่ห่วงเรื่องนี้เลย เพราะคุณหร่วนกวางเจี่ยนจะเป็นคนออกแบบงาน
ภาพให้
หม่าอี้ฉวินมั่นใจมากว่าด้วยการวาดสไตล์มหากาพย์หมึกสีน้ำมัน งานภาพ
ของพวกเขาต้องออกมาสวยมากแน่ๆ
บทที่ 202 เขียนพล็อตเกมกลับใจคือฟากฝั่งไปด้วยกัน

เนื้อเรื่องเกมกลับใจคือฟากฝั่งควรจะเกิดขึ้นในช่วงหนึ่งของยุคจีนโบราณ
หมู่บ้านแห่งหนึ่งที่เคยสงบสุขถูกทำลายลงหลังจากผู้คนสูญเสียจิตวิญญาณ
เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นผีเร่ร่อน
คนเหล่านี้ค่อยๆ สูญเสียความทรงจำและสติสัมปชัญญะ พวกเขาเดินเร่ร่อน
คอยโจมตีวิญญาณสมบูรณ์ของมนุษย์ขณะมุ่งหน้าไปยังสถานที่ห่างไกลสักแห่ง
กลุ่มผู้โชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่เรียกเส้นทางสู่สถานที่ห่างไกลนี้ว่า ‘เส้นทางสู่
ยมโลก’
ตามคำบอกเล่าของผู้อาวุโสของหมู่บ้าน เหล่าคนตายจะถูกยมทูตขาวดำพา
ตัวไปยมโลกเพื่อให้พญายมตัดสินโทษว่าจะให้กลับมาเกิดใหม่เป็นมนุษย์อีกครั้ง
เข้าสู่สังสารวัฏทั้งหก หรือลงนรกสิบแปดขุม
แต่ ไ ม่ ร ู ้ ท ำไมจู ่ ๆ ยมทู ต ขาวดำก็ เ ลิ ก มารั บ ตั ว คนตาย ไม่ ว ่ า จะตายตาม
ธรรมชาติหรือโดนฆ่าตาย ทุกคนต่างติดอยู่บนเส้นทางสู่ยมโลก ไม่สามารถลงไป
ยมโลกได้
ผีเร่ร่อนเหล่านี้สัมผัสถึงเสียงเพรียกสู่ยมโลกได้ตามสัญชาตญาณ แต่ก็ไม่มีตน
ไหนหาเส้นทางไปสู่ยมโลกที่ถูกต้องได้เสียที พอเวลาผ่านไปเหล่าผีเร่ร่อนก็เริ่ม
เหี้ยมโหดมากขึ้น
ด้วยเหตุนี้โลกมนุษย์จึงค่อยๆ กลายเป็นนรก
ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นมนุษย์ธรรมดาที่กำลังเผชิญหน้ากับความตาย ดวง
วิญญาณของตัวเองเริ่มไม่สมบูรณ์แล้ว แต่เขากลับได้ยินเสียงเพรียกลึกลับบางเบา
ที่ไม่อาจต้านทานได้จากอะไรสักแห่งในสถานที่ห่างไกล
เพื่อกันไม่ให้ตัวเองกลายเป็นผีเร่ร่อน ตัวเอกจึงออกเดินทางเพื่อตามหาความ
จริง เขาก้าวเข้าสู่เส้นทางสู่ยมโลกและเข้าไปในยมโลกด้วยร่างกายมนุษย์
การดำเนินเรื่องแบ่งได้เป็นช่วงๆ ดังนี้
เริ่มต้นที่หมู่บ้านมนุษย์เล็กๆ แห่งหนึ่ง
เมืองที่เต็มไปด้วยผีเร่ร่อน
ประตูสู่ยมโลกที่ตั้งอยู่บนพื้นที่สุดอันตราย
เส้นทางสู่ยมโลกที่เต็มไปด้วยผีเร่ร่อนแสนชั่วร้าย
แม่น้ำสามสายเชื่อมยมโลกที่มีดอกปี่อั้นสีแดงบานอยู่ทั่ว
สายธารลืมชาติและสะพานลืมภพที่อยู่ปลายเส้นทางสู่ยมโลก
หอทอดอดีตและหินสามชาติข้างสะพานลืมภพ
ตำหนักพญายมอันยิ่งใหญ่
สังสารวัฏทั้งหกที่แสนสับสนอลหม่าน
และส่วนลึกสุดของยมโลก…
นอกจากนั้นบอสในเกมจะใช้ตัวละครในตำนานของจีน มีทั้งยายเมิ่งโผที่
สะพานลืมภพ สี่ผู้พิพากษาแห่งยมโลก ลู่จือเต้า ผู้พิพากษาแห่งการไต่สวน จงขุย
ผู้พิพากษาลงทัณฑ์ความชั่ว เหว่ยเจิง ผู้พิพากษาตอบคุณความดี ชุยเจวี๋ย ผู้
พิพากษาตัดสินกฎ (แต่ละตัวละครมีตีมสีประจำตัวเป็นม่วง เขียว ฟ้ า และส้ม
ตามลำดับ) และอ๋องแห่งนรกทั้งสิบขุม
บอสเผยระบุมาว่าทุกครั้งที่ผู้เล่นตาย มอนสเตอร์ทุกตัวจะถูกรีเซ็ตใหม่ โดย
จะมีพระพุทธรูปตั้งอยู่เป็นจุดๆ เพื่อนำทางผู้เล่น
ระหว่างการเดินทาง ผู้เล่นจะได้พบวัดสภาพทรุดโทรม พระพุทธรูป วัดเทพ
แห่งพื้นดิน รวมถึงรูปปั้นเทพแห่งพื้นดิน
พระพุทธเจ้าจะไม่มาปรากฏตัวในเกม แต่จะใส่พระพุทธรูปสภาพชำรุดเข้ามา
แทน เพื่อบอกเป็นนัยว่านี่คือยุคแห่งการเสื่อมโทรมของพุทธศาสนา
พระพุทธรูปจะเป็นจุดเซฟให้ผู้เล่นสามารถฟื้นฟูค่าสถานะและรีเซ็ตมอน
สเตอร์รอบๆ ส่วนรูปปั้นเทพแห่งพื้นดินจะใช้สะสมวิญญาณผีเ ร่ร่อนเพื่อพัฒนา
ความสามารถของตัวละคร
เนื ้ อ หาเกมไม่ ไ ด้ ม ี อ ะไรมากนั ก ด้ ว ยงบที ่ จ ำกั ด ตั ว เกมน่ า จะมี ค วามยาว
ประมาณสิบสองถึงสิบสามชั่วโมง ถ้าผู้เล่นคุ้นเคยกับระบบการต่อสู้และสามารถ
เล่นผ่านไปได้เรือ่ ยๆ
แต่ถ้าเป็นผู้เล่นใหม่ก็อาจต้องใช้เวลานานกว่านั้นถึงจะเล่นจบได้ อาจต้องเล่น
อยู่หลายสิบชั่วโมงหรือชั่วกาลนาน
เกมไม่ได้ดำเนินเป็นเส้นตรง บางช่วงผู้เล่นต้องเดินกลับกลางทางเพื่อไปสู่จุด
ต่อไป
ตัวอย่างเช่น ตอนเริ่มเกมผู้เล่นต้องเดินทางไปยังเมืองที่เต็มไปด้วยผีเร่ร่อน
หลังจากจัดการเหล่าภูตผีที่นั่นแล้ว ผู้เล่นก็จะได้เสริมพลังขั้ นแรก หลังจากนั้นก็
ต้องตามเก็บไอเทมพิเศษต่างๆ เพื่อใช้ในการกำจัดผี (เช่น ลูกประคำ เครื่องราง
และอื่นๆ) จากนั้นก็ต้องเดินทางกลับไปที่หมู่บ้านแรกเพื่อสังหารชายชราใกล้
สิ้นลม แล้วเดินตามวิญญาณของเขาไปยังเส้นทางสู่ยมโลก
ถ้าผู้เล่นไม่ไปที่เมืองก่อน แต่รีบสังหารชายชราแล้วตามดวงวิญญาณไปยัง
เส้นทางสู่ยมโลก การเดินทางของผู้เล่นก็จะเป็นไปอย่างยากลำบาก
เมื่อไปถึงตำหนักพญายม ผู้เล่นจะได้พบตัวเลือกหลายรูปแบบ
ผู้เล่นสามารถเลือกสำรวจตำหนักพญายม สังหารเหล่าผู้พิพากษาและพญา
ยม จากนั้นก็กลายเป็นวิญญาณชั่วร้ายที่แท้จริงเองได้
หรือเลือกเข้าสู่สังสารวัฏทั้งหกอันแสนวุ่นวายแล้วกลับไปเกิดเป็นมนุษย์ใน
โลกใหม่
ไม่ก็เลือกท่องลงไปที่ชั้นลึกสุดของยมโลกแล้วสังหารผู้ปกครองสุดบ้าคลั่ง ถ้า
เลือกทำแบบนี้ พวกเขาจะสามารถสังเวยตัวเองเพื่อสะกดเหล่าวิญญาณอันทุกข์
ระทมได้
มีฉากจบสามถึงห้าแบบ แตกต่างไปตามตัวเลือกที่ผู้เล่นเลือกระหว่างเล่นเกม
คำใบ้ชี้ทางให้ผู้เล่นเลือกตัวเลือกแต่ละอย่างจะซ่อนอยู่ในเนื้อเรื่องของเกม
ผู้เล่นสามารถคุยกับ NPC ในเกมได้ สามารถฆ่าบอสหรือผีเร่ร่อนเพื่อเข้าถึง
ความทรงจำของวิญญาณเหล่านั้น จากนั้นก็จะได้ฟังเรื่องราวเศษเสี้ยวความทรง
จำของวิญญาณ
คำใบ้บางส่วนหาได้จากไอเทมหรือฉากสำคัญๆ เช่น หินสามชาติ
ฉากอย่างหินสามชาติสามารถเอากลับมาใช้ซ้ำได้ โดยตัวเลือกต่างๆ ที่ผู้เล่น
เลือกจะส่งผลให้คำใบ้ที่ได้จากหินสามชาติปรากฏออกมาต่างกัน ซึ่งจะส่งผลต่อ
เหตุการณ์หลักต่างๆ ในเนื้อเรื่อง
แน่นอนว่าถ้าผู้เล่นเลือกเส้นทางที่ต่างกัน ระหว่างทางก็จะได้เจอมอนสเตอร์
ที่ต่างกันด้วย การนำฉากมาใช้ซ้ำๆ ถือเป็นการใช้เงินได้อย่างคุ้มค่า
คำใบ้เหล่านี้คือเครื่องมือหลักที่เผยเชียนใช้กีดกันผู้เล่นต่างชาติจากการลอง
เข้ามาเล่นเกมนี้
เผยเชียนไม่ได้บอกให้เขียนเนื้อเรื่องเกมในรูป แบบบทกลอน เพราะจะทำให้
เกมยากเกินไป
แค่ ใ ช้ ภ าษาจี น โบราณเขี ย นออกมาให้ ก ำกวมและเข้ า ใจยาก คนที ่ ผ ่ า น
การศึกษาภาคบังคับเก้าปีมาก็น่าจะพอเดาความหมายของคำใบ้ได้
ไม่ใช่ว่าเผยเชียนไม่ชอบบทกลอน แต่ถ้าสั่งไปแบบนั้น ลู่หมิงเหลียงกับคน
อื่นๆ ก็ไม่น่าจะทำให้เขาได้

ทั้งหมดนีค้ ือโครงร่างการออกแบบแรกของเกม
ในช่วงแรกของการค้นคว้าและพัฒนาเกม พวกเขาต้องตัดสินใจเลือกฉาก
บอส และการดำเนินเรื่อง เพื่อที่จะได้เตรียมงาน (เช่น เขียนแบบร่างทรัพยากร
งานภาพ) ได้อย่างราบรื่น
รายละเอียดส่วนใหญ่สามารถจัดการให้สมบูรณ์แบบได้ในขั้นค้นคว้าและ
พัฒนาเกม บางส่วนก็แก้ไขได้ระหว่างทาง
หม่าอี้ฉวินอธิบายตีมเกมให้ทุกคนฟังพร้อมแจกจ่ายงาน
เที ยบกั น แล้ ว ทุ ก คนดู จ ะสนใจเรื ่ อ งการคิ ด พล็ อ ตเกมกลั บ ใจคื อ ฟากฝั่ ง
มากกว่าการตรวจต้นฉบับ
จนถึงตอนนี้คุณภาพต้นฉบับที่ส่งมาเว็บจงเตี่ยนจงเหวินถือว่าไม่ได้ดีเลย
ถ้ามีอะไรที่น่าสนใจ เดินเรื่องฉับไว แปลกใหม่ เข้าถึงง่าย ทุกคนคงจะรู้สึก
ตื่นเต้นกับการทำงานมากกว่านี้
แต่มันไม่มีเลยนี่สิ
พูดอีกอย่างคือ ถึงจะเสียเวลาตรวจต้นฉบับแค่ไหน พวกเขาก็ไม่มีทางเจองาน
ดีๆ ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ดังได้
ส่ ว นงานช่ ว ยเหลื อ นั ก เขี ย นก็ ย ิ ่ ง แล้ ว ใหญ่ ตอนนี ้ พ วกเขารู ้ เ รื ่ อ งงาน
บรรณาธิการแค่นิดเดียว ถ้าไปช่วยนักเขียนแล้วสร้างปัญหาขึ้นมาจะทำยังไง
การช่วยคิดพล็อตให้เกมกลับใจคือฟากฝั่งนั้นถือเป็นงานคนละชั้น
เพราะเป็นเกมใหม่ของเถิงต๋า!
ลงทุนหลักสิบล้าน!
แถมบอสเผยยังคุมงานเองอีกด้วย!
ดูยังไงเกมนี้ก็น่าจะดังมากๆ ถึงจะสร้างกำไรได้ไม่มากเท่าเกมฐานทัพกลาง
ทะเล แต่อย่างน้อยก็น่าจะกระแสไม่ต่างจากเกมนักออกแบบเกม
ถ้าได้มีส่วนร่วมในการค้นคว้าและพัฒนาเกมนี้ หรือแค่ได้ช่วยเขียนพล็อต แต่
ก็เอาไปอวดคนอื่นได้แล้ว!
หลังจากได้ฟังหม่าอี้ฉวินอธิบาย จูอันซิงก็ตาลุกวาว
“พี่หม่า ผมอยากช่วย!
“เราเอาเนื้อหาที่เราเขียนขึ้นเว็บได้มั้ยครับ ถือเป็นนิยายออฟฟิเชียลของเกม
ก็ได้
“เราแบ่ ง งานกั น ได้ แต่ ล ะคนรั บ ผิ ด ชอบพล็ อ ตแต่ ล ะส่ ว น รวมถึ ง เรื ่ อ ง
เหตุการณ์ในอดีตต่างๆ กับภูมิหลังของบอสและ NPC ทุกตัวในเกม ถือเป็นส่วน
เสริมจากเกม
“ถึงสุดท้ายอาจจะใช้งานไม่ได้ แต่ก็ยังดีกว่านั่งหายใจทิ้งไปวันๆ นะครับ”
หม่าอี้ฉวินคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเห็นด้วยกับที่อีกฝ่ายว่ามา
เพราะยังไงพวกเขาก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ถึงจะให้ไปแต่งนิยาย หลายคนก็ไม่รู้
จะเขียนเรื่องเกี่ยวกับอะไร
ถ้าเป็นแบบนั้น ให้ทุกคนเขียนพล็อตเกมกลับใจคือฟากฝั่งส่งมา แล้วค่อย
เลือกงานดีๆ เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในเกมน่าจะดีกว่า
หม่าอี้ฉวินพยักหน้า “เอาแบบนั้นก็ได้ ระหว่างที่ตรวจต้นฉบับก็คิดพล็อตเกม
กลับใจคือฟากฝั่งไปด้วย
“ต่อไปเราจะประชุมกันทุกสัปดาห์เพื่อคุย เรื่องการออกแบบพล็อต แล้วฉัน
จะส่งเรื่องให้ทีมทำโปรเจ็กต์ต่อ”
บทที่ 203 เขาตั้งใจจะทำอะไรกับหมิงหยุนวิลล่ากันนะ

วันที่ 13 กรกฎาคม ช่วงเช้า


ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลัก
หลี่สือนั่งจิบกาแฟเงียบๆ อยู่ที่มุมหนึ่ง
“ร้านนี้คึกคักขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย แต่…ฉันก็ยังชอบแบบก่อนมากว่า”
หลี่สือถอนหายใจเบาๆ เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองกับบอสเผยคิดเหมือนกันในจุดนี้
รอบก่อนเขาเจรจาธุรกิจกับบอสเผยไม่สำเร็จ หลี่สือรู้สึกหงุดหงิดใจมากจึงไม่
ได้มาที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกว่าสัปดาห์ แต่เขาก็ยังไม่ท้อ ยังคงมีหวังว่าใน
อนาคตจะเจรจาได้สำเร็จ
อีกอย่างตอนที่ไม่มีอะไรทำ เขาก็มานั่งจิบกาแฟที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจน
ติดเป็นนิสัยไปแล้ว
ดังนั้นวันนี้หลี่สือจึงมาที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เขาอยากมาดูว่าตอนนี้ร้าน
เป็นยังไงบ้าง
สิ่งแรกที่เขาสังเกตเห็นคือลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
เขารู้ว่าช่วงดึกน่าจะมีลูกค้าเยอะกว่านี้ เลยเลือกมาช่วงเช้าวันอังคารแทน
หลี่สือไม่คิดว่าช่วงเช้าวันทำงานจะมีลูกค้าเยอะขนาดนี้
บางคนมานั่งจิบกาแฟอ่านหนังสืออยู่โซนคาเฟ่ บ้างก็มาถ่ายรูป บ้างก็มาเล่น
อินเทอร์เน็ต
ดูเหมือนว่ากิจการร้านกำลังไปได้สวย
ช่วงเช้าก็พอทำเงินได้ ส่วนช่วงกลางคืนก็ได้กำไรจากส่วนแบ่งทิปนักร้อง
หลี่สือคิดว่าตอนนี้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักน่าจะพลิกมาทำกำไรได้
แล้ว ส่วนจะได้มากเท่าไหร่นั้นบอกได้ยาก แต่ก็มั่นใจว่าต้องทำกำไรได้แน่
ส่วนตัวแล้วยังไงเขาก็ยังชอบร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูแบบเมื่อก่อนมากกว่า
เพราะแสนจะเงียบ ไม่มีใครมารบกวน
แน่นอนว่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูตอนนี้ก็ไม่ได้มีลูกค้าเยอะขนาดทำให้รู้สึกอึด
อัดเมื่อเข้ามาในร้าน แต่ก็ไม่ได้สงบสุขเหมือนเมื่อก่อน
หลี่สือยกกาแฟขึ้นจิบ ในใจรู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป
บอสเผยไม่ได้มาที่ร้าน ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติ
แต่เจ้าคนหน้ายาวใหญ่กับผู้จัดการเขตที่คอยตามหลังต้อยๆ หายไปไหนกัน
หลี่สือมักจะมาที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักบ่อยๆ ทุกครั้งจะเจอสองคน
นี้ เหมือนว่าทั้งคู่กินนอนอยู่ที่ร้าน
แต่วนั นี้กลับไม่เห็นสักคน
“แปลกจัง
“ร้านก็กำลังไปได้สวย พวกเขาควรต้องอยู่ดูแลร้านไม่ใช่เหรอ”
สองสามวันที่ผ่านมา หลี่สือคอยจับตาดูการเปลี่ยนแปลงร้านอินเทอร์เน็ตโม
หยูมาตลอด
ร้ า นสาขาหลั ก ดั ง ขึ ้ น มาได้ เ พราะเฉิ น เหล่ ย ตอนนี ้ เ ป็ น กระแสไปทั ่ ว ทั้ ง
อินเทอร์เน็ต หลายคนมาเพื่อเช็กอินแล้วลองใช้บริการ ลูกค้าจึงไหลเวียนเข้าร้าน
มากขึ้น
แต่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาอื่นไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก ถึงจะมีลูกค้า
และมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่สภาพกิจการก็ยังแตกต่างจากร้านสาขาหลักราวฟ้ากับ
เหว
ถือว่าสมเหตุสมผลถ้าจะเดาว่าร้านสาขาน่าจะลดยอดขาดทุนไปได้บ้าง แต่ก็
ยังไม่สามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้
สองคนนั้นควรอยู่เฝ้าสาขาหลักแล้วเอาบทเรียนที่ได้ไปใช้กับสาขาอื่นๆ สิ
แต่ทำไมไม่อยู่กันทั้งสองคนเลย
หลี่สือชูมือขึ้นเล็กน้อย พนักงานที่อยู่ข้างๆ สังเกตเห็นก็รีบเดินมาหาที่โต๊ะ
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ” พนักงานถามพร้อมรอยยิ้ม
หลี่สือเป็นลูกค้าประจำของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เขาเสียเงินให้ร้านนี้ไปมาก
ทีเดียว พนักงานจึงจำลูกค้ารายใหญ่คนนี้ได้และพยายามให้บริการอย่างไม่ขาด
ตกบกพร่อง
หลี่สือทำทีเหมือนว่าไม่ได้สนใจอะไรมากนักขณะที่ถามออกไป “บอสหม่าไม่
มาเหรอครับวันนี”้
พนักงานตอบพร้อมรอยยิ้ม “ใช่ครับ บอสหม่าไม่ได้มาที่ร้านสักพักแล้ว น่าจะ
หนึ่งสัปดาห์ได้แล้วมั้งครับ”
หลี่สือชะงักไป
หนึ่งสัปดาห์เหรอ
ก็เท่ากับว่าตั้งแต่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูดังขึ้นมาแล้วมีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาไม่
ขาดสาย จนกระทั่งการไหลเวียนเข้าออกของลูกค้าเริ่มคงที่ เจ้ าหน้ายาวก็ไม่ได้มา
ที่ร้านเลย
ตามหลักการแล้ว ในเมื่อร้านสาขาหลักมีผู้จัดการสาขาอยู่ เจ้าหน้ายาวก็
น่าจะนั่งกอดอกสบายใจเฉิบได้
แต่เจ้านั่นอยู่ในทีมบริหาร มีตำแหน่งสูงกว่าผู้จัดการสาขา ถ้าไม่ได้อยู่ที่สาขา
นี้ ก็น่าจะอยู่ที่สาขาอื่น
พวกนั้นไปทำอะไรกันนะ
ดูมีอะไรไม่ชอบมาพากล
หลี่สือยิ้มให้พนักงาน “ไม่มีอะไรครับ ผมแค่ถามดูเฉยๆ”

สองชั่วโมงต่อมา
หลี่สือเหลือบมองข้อความที่ลูกน้องส่งมาทางมือถือ
“บอสหลี่ ผมเจอเขาอยู่ที่หมิงหยุนวิลล่าครับ”
เขาตกใจเมื่อได้อ่านข้อความ
แต่หลังจากครุ่นคิดสักพักก็เข้าใจ
ชัดเจนว่าเจ้าหน้ายาวกับเพื่อนหันไปสนใจสาขาอื่นแทน หลังจากที่สาขาหลัก
ไปได้สวย!
ถึงหลี่สือจะดูถูกว่าเจ้าหม่าหยางหน้ายาวเป็นคนไม่ฉลาด แต่เขาก็ไม่กล้า
ประมาทอีกฝ่าย
เพราะทุกการเคลื่อนไหวของหม่าหยางนั้นมีบอสเผยอยู่เบื้องหลัง!
จากสิ่งที่เกิดขึ้นรอบก่อน หลี่สือก็ไม่กล้าดูถูกบอสเผยที่ทั้งเด็กและอ่อน
ประสบการณ์กว่าอีก
เขารู้ว่าถึงบอสเผยจะดูเป็นเด็กและทำอะไรไม่สมเหตุสมผล แต่ก็เป็นคนที่มี
วิสัยทัศน์กว้างไกลและชัดเจน แถมยังมีแผนสำรองเตรียมไว้เสมอ!
รอบก่อนหลี่สือเสียหายครั้งใหญ่เพราะประเมินบอสเผยต่ำเกินไป
เขาลูบคางเบาๆ ครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งก่อน
“รอบก่อนบอสเผยน่าจะรู้แผนการของฉันตั้งแต่แรก
“เขาน่าจะเป็นคนให้เจ้าหน้ายาวบอกข้อมูลผิดๆ กับฉัน
“ถึงเจ้าหน้ายาวจะโง่แต่ก็ซื่อสัต ย์ต่อบอสเผยสุดๆ” ฉันผิดเองที่เริ่มแผนการ
จากจุดนี้
ก็ไม่แปลก ถ้าเจ้าหน้ายาวไม่ซื่อสัตย์กับบอสเผย คงไม่มีทางได้ตำแหน่งสูง
ขนาดนี้หรอก
“จะให้เกิดข้อผิดพลาดแบบนี้ขึ้นอีกไม่ได้
“เจ้าหน้ายาวน่าจะไม่เข้าร้านสาขาหลักอีก น่าจะไปสิงอยู่ที่สาขาหมิงหยุน
แทน มีโอกาสสูงที่บอสเผยจะวางแผนการใหม่ในเขตนี้!”
หลี่สือไม่ได้คิดเอาแต่จะได้อย่างเดียวแล้ว เขาไม่คิดจะซื้อต่อกิจการร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูแล้วด้วยซ้ำ
เขารู้ว่ากิจการร้านกำลังไปได้สวย ชื่อเสียงกับคุณภาพก็สูงขึ้น การที่เขาจะ
เข้าไปลงทุนด้วยตอนนี้นั้นยากมาก
หลี่สือสนใจร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูน้อยลง แต่ยังคงสนใจในตัวบอสเผยอยู่
เหมือนเดิม
หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นรอบก่อน หลี่สือก็ยกย่องบอสเผยมากขึ้น ถึงขั้นยกให้
เป็นนักลงทุนชั้นแนวหน้าในเมืองจิงโจว
มีคนเจ๋งๆ อยู่ใกล้ตัวแบบนี้ ก็เป็นธรรมดาที่เขาจะต้องคอยจับตาดูทุกย่างก้าว
ถ้าโอกาสการลงทุนวิ่งเข้ามาเองล่ะ
เข้าอีหรอบเดิมอีกครั้ง ตอนนี้ที่หลี่สือกำลังค้นหาข้อมูลร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
สาขาหมิงหยุนวิลล่า ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะร่วมลงทุนหรือซื้อต่อกิจการ แต่เป็น
เพราะเขาอยากรู้ว่าแผนต่อไปของบอสเผยคืออะไร
เขาเปิดแผนที่ในมือถือดูคร่าวๆ
จากนั้นคิ้วก็ขมวดกันเป็นปม
หลี่สือไม่เข้าใจว่าทำเลตรงนี้มีดียังไง
‘หมิงหยุนวิลล่า ’ เป็นย่านที่พักอาศัยระดับสูงบริเวณรอบนอกเมืองจิงโจว
บ้านในละแวกนี้จะแยกเดี่ยวเป็นหลังๆ
แต่ปัญหาอยู่ที่ผังของย่านนี้
หมิงหยุนวิลล่าตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองจิงโจว ติดกับภูเขาและ
แม่น้ำ บรรยากาศถือว่าดีเลยทีเดียว
แต่พื้นที่แบบนี้ก็ติดปัญหาใหญ่อยู่สองอย่าง
อย่างแรกคือสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เหมาะใช้
เป็นบ้านพักตากอากาศมาอาศัยอยู่สักสองสามวันมากกว่าที่จะเป็นที่พักถาวร
เพราะจะใช้ชีวิตได้ลำบากมาก
อย่างที่สองคือกลยุทธ์ของผู้พัฒนานั้นมีปัญหา พวกเขาสร้างแต่วิลล่าระดับสูง
ราคาเฉลี่ยของวิลล่าในละแวกนี้สูงกว่าวิลล่าละแวกอื่นในเมืองจิงโจว แถมยังทำ
การตลาดได้ไม่ดีทำให้ที่นี่ไม่ค่อยมีชื่อเท่าไหร่
ด้วยเหตุนแี้ ม้จะสร้างเสร็จไปเกือบครบปีแล้ว แต่ก็ยังมีผู้อยู่อาศัยไม่ค่อยเยอะ
หลี่สือยิ่งงงหนักกับทำเลที่ตั้งร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
แทนที่จะไปตั้งใกล้ๆ หมิงหยุนวิลล่า พวกเขาดันเลือกตั้งห่างจากหมิงหยุนวิล
ล่าและมหาวิทยาลัยฮั่นตงเจียวต้าวิทยาเขตตะวันออก
จากสถานที่ทั้งสองแห่งไปร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูถือว่าไกลมากทีเดียว
บทที่ 204 มีคนติดสินบนเพื่อสืบข้อมูลด้วยเหรอ

ถ้าหลี่สือเลือกได้ เขาจะเปิดร้านสาขาหน้ามหาวิทยาลัยฮั่นตงเจียวต้าวิทยา
เขตตะวันออก ไม่ก็ใกล้ๆ หมิงหยุนวิลล่า ไม่มีทางไปเปิดในทำเลประหลาดที่ตั้งอยู่
กึ่งกลางระหว่างทั้งสองแห่งหรอก
จากการค้นหาข้อมูลเบื้องต้น เขาพบว่ากิจการของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
สาขา หมิงหยุนวิลล่าแย่กว่าทุกสาขา
เป็นผลโดยตรงมาจากทำเลที่ตั้งของสาขา
หลี่สือจึงรู้สึกงงมาก
การที่เจ้าหน้ายาวไปประจำที่สาขาหมิงหยุนวิลล่าแสดงให้เห็นว่าบอสเผยมอง
สาขานี้เป็นส่วนสำคัญในแผนการของเขา
แต่ไม่ว่าจะมองยังไง สาขานี้ก็ดูไม่มีความเป็นไปได้ที่จะทำกำไรให้ได้มากนัก
ถ้าหลี่สือเป็นบอส เขาจะปิดสาขานี้ไปตั้งแต่แรกๆ เพื่อตัดการขาดทุน
เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกสงสัยสุดๆ
หลังจากคิดอยู่นาน หลี่สือก็ออกจากร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักแล้ว
เตรียมตัวขับรถไปที่สาขาหมิงหยุนวิลล่าเพื่อหาข้อมูลเพิ่ม


ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหมิงหยุนวิลล่า
พื้นที่ด้านนอกโล่งกว้าง เพราะตั้งอยู่บริเวณนอกตัวเมืองจิงโจว รอบข้างจึง
ไม่ได้แออัดนัก
หลี่สือจอดรถไว้ด้านนอก ก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน
ถึ ง การตกแต่ ง ของร้ า นทั ้ ง สองสาขาจะแตกต่ า งกั น แต่ ส ไตล์ โ ดยรวมนั้ น
เหมือนกัน ทุกอย่างจึงดูคุ้นตาไปหมดสำหรับหลี่สือ
แถมสาขานี้ยังคนน้อยกว่าสาขาหลักอีก ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ สำหรับเขา!
หลี่สือเดินไปนั่งในโซนคาเฟ่แล้วสั่งชาดำหนึ่งแก้ว
บรรยากาศสงบเงียบแบบนี้ทำให้เขารู้สึกสบายใจ
แต่หลี่สือก็ยังไม่ลืมว่ามาที่นี่ทำไม เขามองไปรอบๆ ชั้นล่างของร้านแล้วเจอ
ตัวหม่าหยางกับจางหยวน
ทั้งสองกำลังเล่นเกมอย่างสนุกสนานอยู่ในโซนอินเทอร์เน็ต พวกเขาใส่หูฟัง ดู
จดจ่อกับหน้าจอสุดๆ
หม่าหยางดูตั้งใจเล่นมาก
แต่จางหยวนกลับดูหงุดหงิดใจ
ใครๆ ก็คงพอจะเดาออกว่ามันทรมานแค่ไหนที่ต้องเล่นเกมกับบอสฝีมือกาก
แต่ไม่ได้รู้ตัวเลย!
แต่ในสายตาของคนนอกอย่างหลี่สือ ทั้งคู่ดูจะกำลังสนุกสนานกันอยู่
“พวกเขาย้ายมาจัดการสาขานี้กันจริงๆ ด้วย
“แต่… ทำไมล่ะ
“เพราะสาขานี้กิจการแย่ที่สุด เลยอยากเปลี่ยนให้พลิกกลับมาทำกำไรเหรอ
“ไม่ ฉันว่าไม่ใช่แค่นี้หรอก
“บอสเผยเป็นคนวิสัยทัศน์กว้างไกล ไม่น่าจะมายึดติดกับยอดขายทุนของ
สาขาเดียว
“ต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่
“ฉันว่าอาจจะมีแผนเบื้องลึกอะไรสักอย่างที่สาขานี้”
หลี่สือคอยระวังไม่ให้ตัวเองมองข้ามอะไรไป
ก่อนหน้านี้เขาคาดไม่ถึงว่าเผยเชียนจะใช้นักร้องคนเดียวมาพลิกสถานการณ์
แค่ครั้งเดียวก็เอาเสียเข็ดหลาบ หลี่สือรู้แล้วว่าเบื้องหลังทุกแผนการที่ดู
เหมือนไม่มีอะไรนั้น มีจุดประสงค์ล้ำลึกของบอสเผยซ่อนอยู่
ครั้งนี้ก็ไม่น่าจะต่างกัน
หลี่สือไม่อยากให้หม่าหยางเห็นว่าเขามา หลังจากเหตุการณ์ครั้งก่อน เขาก็
เข้าใจแล้วว่าเจ้าหน้ายาวสนิทกับเผยเชียนมาก คงจะหวังพึ่งเจ้านี่ไม่ได้อีก
แต่…
พนักงานระดับล่างคนอื่นๆ นั้นไม่เหมือนกัน
หลี่สือไล่สายตาดูพนักงานหลายคน
ร้านสาขานี้เงียบเหงามาก พนักงานดูไร้ชีวิตชีวา เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลัง
พยายามรักษามาตรฐานความเป็นมืออาชีพไว้ตามที่ได้รับอบรมมา
หลี่สือเดาว่าพนักงานพวกนี้น่าจะได้รับค่าจ้างไม่มากนัก
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูอาจจะดูแลพนักงานดีกว่ามาตรฐานตลาด แต่ยังไง
พนักงานเหล่านี้ก็ทำงานใช้แรงงาน ไม่น่าจะได้รับค่าจ้างสูง
ถ้าเป็นแบบนั้น หลี่สือก็สามารถติดสินบนพวกเขาเพื่อให้รู้สถานการณ์ร้าน
สาขาหมิงหยุนวิลล่ามากขึ้นได้
คิดได้แบบนั้นหลี่สือก็จดชื่อพนักงานไปหลายคน เขายกเครื่องดื่มขึ้นจิบต่ออีก
เล็กน้อย ก่อนจะลุกไปจ่ายเงินแล้วกลับออกไป
ติดสินบนพนักงานสักสองสามคนอาจจะดูไม่มากนัก แต่ก็จะทำให้หลี่สือได้สิ่ง
สำคัญมากมาไว้ในมือ นั่นก็คือข้อมูล
เสียเงินไปยังไงก็คุ้ม ถ้าพนักงานเหล่านี้คอยอัปเดตข้อมูลของสาขานี้ให้เขา
อย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะได้คาดเดาว่าบอสเผยตั้งใจจะทำอะไรต่อไป!
ถ้าจะให้ปลอดภัย ติดสินบนพนักงานแค่คนเดียวจะลดความเสี่ยงที่ความลับ
จะแตกได้
แต่หลี่สือกลัวว่าพนักงานที่ติดสินบนอาจให้ข้อมูลลวง
ถ้าติดสินบนพนักงานสักสองสามคน อย่างน้อยก็ยังเอาข้อมูลมาเช็กกันดูได้
ทำแบบนี้จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ได้มา
แน่นอนว่าความเสี่ยงที่แผนการจะโดนเปิดโปงก็เพิ่มขึ้น แต่หลี่สือไม่ได้กังวล
อะไรขนาดนั้น
เขาจะให้ลูกน้องเป็นคนติดต่อพนักงานพวกนี้ไป เผยเชียนจะได้สืบสาวไปถึง
บริษัทลงทุนฟู่หุยไม่ได้
ถ้ามีใครไปรายงานให้เผยเชียนรู้ หลี่สือก็ไม่ได้เสียหายอะไร
สิ่งเดียวที่เขากังวลคือพนักงานเหล่านี้อาจร่วมมือ กันให้ข้อมูลปลอม แต่พวก
เขาก็ต้องซื่อสัตย์ต่อบอสเผยมากๆ ถึงจะทำแบบนั้น แถมยังไม่น่าจะทนต่อเงินอัน
หอมหวานได้
ใช่ไหมล่ะ
ดังนั้นหลี่สือจึงค่อนข้างมั่นใจในแผนการนี้ เขามั่นใจในพลังแห่งเงินตรา

วันต่อมา
เผยเชียนบังเอิญไม่มีอะไรทำช่วงบ่ายจึงคิดจะไปเดินเล่นในร้านอินเทอร์เน็ต
โมหยูสาขาหมิงหยุนวิลล่า
จะได้ไปถามหม่าหยางกับคนอื่นๆ เรื่องความคืบหน้าแผนเปิดจุดบริการนี่เฟิง
ด้วย
การเตรียมการขั้นแรกของจุดบริการนี่เฟิงไม่น่าจะยุ่งยากอะไรมาก หลักๆ ก็
แค่เช่าที่ ตกแต่งภายใน ซื้อชั้นวางของกับอุปกรณ์สำนักงาน จ้างพนักงานส่งของ
ติดต่อบริษัทขนส่งสินค้าและเจรจาเรื่องการร่วมมือกัน
หม่าหยางกับจางหยวนเป็นคนรับผิดชอบเรื่องพวกนี้
เพราะร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกับโมหยูเดลิเวอรี่ยังขาดทุนอยู่เรื่อยๆ เผยเชีย
นพอใจมากจึงวางใจให้สองคนนั้นรับผิดชอบเรื่องนี้
พอกิจการนี่เฟิงโลจิสติกส์ขยายออกไปจนหม่าหยางกับจางหยวนดูแลไม่ไหว
ถึงตอนนั้นเผยเชียนค่อยพิจารณาส่งต่อกิจการนี้ให้คนอื่นบริหารต่อ
พอเห็นบอสเผยเดินเข้ามา พนักงานในร้านก็รู้สึกประหม่ากันขึ้นมาเล็กน้อย
ทุกคนรู้ว่ากิจการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหมิงหยุนวิลล่านั้นแย่ที่สุดจาก
ทุกสาขา เรียกได้ว่าอยู่ล่างที่สุด!
พวกเขากลัวว่าสาขานี้จะปิดให้บริการกะทันหันแล้วต้องเสียงานไป
สถานการณ์ก่อนหน้านี้ดีกว่าปัจจุบัน ทุกสาขาขาดทุนเหมือนกันหมด สาขาห
มิงหยุนเงียบเหงามาก บอสเผยแทบจะไม่ได้แวะเข้ามาเลย
แต่พอร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักเริ่มทำกำไรได้ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
จู่ๆ บอสเผยก็หันมาสนใจสาขาหมิงหยุนวิลล่าแทน!
แล้วเหมือนว่าหม่าหยางที่เป็นผู้จัดการทั่วไปกับจางหยวนที่เป็นผู้จัดการเขตก็
จะมาประจำอยู่ที่สาขานี้ด้วย แถมบอสเผยยังเริ่มแวะมาบ่อยขึ้น ทำให้พนักงาน
ทุกคนรู้สึกกดดันและกังวลใจหนักขึ้นเรื่อยๆ
ชัดเจนว่าผู้บริหารระดับสูงสังเกตเห็นว่ากิจการสาขาหมิงหยุนวิลล่าแย่ที่สุด
พวกเขาคิดว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น
ถึงตอนนี้ทุกอย่างจะดูปกติสุขดี แต่ใครจะรู้เล่าว่าพายุจะโหมเข้ามาตอนไหน
พนักงานทุกคนเข้าใจสถานการณ์ดี ถึงจะได้เงินเดือนสูงและสวัสดิการดี แต่
ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะได้ทำงานที่นี่ไปอีกนานแค่ไหน
ดังนั้นบางคนจึงเริ่มหาแผนสำรองเตรียมไว้
ถึงจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี แต่คนเราก็เห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น พวกเขาต้อง
นึกถึงตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก
“พี่เชียนมา!”
หม่าหยางกับจางหยวนต้อนรับเผยเชียนอย่างอบอุ่นแล้วพาไปนั่งที่โต๊ะ
พนักงานสองสามคนยืนอยู่ข้างๆ รอฟังคำสั่ง
เผยเชียนจิบกาแฟจากนั้นก็หันไปพูดกับหม่าหยาง “เดือนนี้ขึ้นเงินเดือนให้
พนักงานเราอีกพันหยวน”
หม่าหยางอึ้งไป พนักงานอีกหลายคนเองก็อาการไม่ต่างกัน
เผยเชียนอธิบาย “เป็นเครื่องกระตุ้นไง! กิจการสาขาหมิงหยุนวิลล่าไม่ค่อยดี
เท่าไหร่ เดี๋ยวจะต้องให้ทุกคนทำงานหนักกัน
“ไม่ต้องเครียดเรื่องสภาพกิจการในตอนนี้ สบายใจได้ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
ของเราไม่มีทางทอดทิ้งเหล่าพี่น้องที่ร่วมงานกันมาแน่!”
เผยเชียนไม่ได้คิดอะไรมากเรื่องนี้ เขาแค่อยากเสียเงินเพิ่มก็เท่านั้น
เนื่องจากมีเหตุผลมารองรับและจำนวนเงินก็ไม่ได้มากมายนัก ระบบจึงไม่ได้
ห้ามอะไร
อีกอย่างสาขาหมิงหยุนวิลล่าก็ขาดทุนอย่ างต่อเนื่อง ไม่มีทีท่าว่ากิจการจะดี
ขึ้นเลย เผยเชียนมองว่านี่แหละคือมาตรฐานธุรกิจในฝันของเขา เทียบกับสาขา
หลักในตอนนี้แล้ว เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะต้องหาช่องทางเสียเงินเพื่อเพิ่ม
ค่าใช้จ่าย
พูดจบเผยเชียนก็สังเกตเห็นว่าพนักงานสามสี่คนทำหน้าตาแปลกๆ กัน
พวกเขาดูดีใจแต่ก็ดูลังเลใจอะไรบางอย่าง
ในที่สุดพนักงานคนหนึ่งก็รวบรวมความกล้าได้ “บอสเผยครับ ผมมีเรื่องต้อง
บอกบอส! มีคนพยายามติดสินบนให้ผมคอยส่งข่าวข้อมูลสาขานี้ให้พวกเขาครับ!”
พนักงานอีกคนพยักหน้า “ผมด้วย!”
ยังมีพนักงานอีกคนที่สีหน้าดูลังเล เห็นได้ชัดว่ากำลังรู้สึกผิด
จริงๆ แล้วพวกเขาไม่จำเป็นต้องเปิดเผยเรื่องนี้ให้เผยเชียนรู้ก็ได้ เพราะพวก
เขาเป็นแค่พนักงานระดับล่างในร้าน ไม่ได้สนิทอะไรกับเผยเชียน ถึงบอกไปก็ไม่
น่าจะได้ประโยชน์อะไร
แต่พอบอสเผยเพิ่มเงินให้ทุกคนหนึ่งพันหยวนเป็นกำลังใจในการทำงาน
เหล่าพนักงานก็รู้สึกซาบซึ้งกันถ้วนหน้า
พวกเขาคิ ด ถึ ง สวั ส ดิ ก ารและการดู แ ลพนั ก งานเป็ น อย่ า งดี ข องร้ า น
อินเทอร์เน็ต โมหยูแล้วได้สติขึ้นมา
ถึงอีกฝ่ายจะเสนอเงินให้มากกว่า แต่ก็มีคนตัดสินใจแน่วแน่!
เผยเชียนนิ่งไป
เขารู้สึกตกใจเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะมีคนมาติดสินบนพนักงาน แต่เป็นเพราะ
เขาไม่คิดว่าจะมีใครเอาเงินมาทุ่มกับข้อมูลไร้ค่าพวกนี้
กิจการสาขาหมิงหยุนวิลล่าเลวร้ายมาก จะมาสืบข้อมูลไปทำไมกัน
ถ้ามีเงินล้นมือแล้วไม่รู้จะเอาไปทำอะไร
ก็เอามาให้ฉันนี่!
เผยเชียนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสบายๆ “เขาจ้างพวกคุณเท่าไหร่”
พนักงานคนหนึ่งในกลุ่มลังเลใจอยู่ ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบออกไป “ข้อมูลทั่วไป
ให้ห้าร้อยหยวน ข้อมูลสำคัญให้สามพันหยวนครับ”
หลี่สือมองว่าพนักงานเหล่านี้ไม่น่าจะทนต่อแรงยั่วยุของจำนวนเงินขนาดนี้ได้
แต่เขาประเมินสวัสดิการอันเยี่ยมยอดที่พนักงานในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูได้รับต่ำ
ไป
เผยเชียนเริ่มด่าในใจ
ทำไมเรื่องดีๆ แบบนี้ไม่เกิดกับฉันบ้างวะ
แค่ส่งข้อมูลร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหมิงหยุนวิลล่าให้เนี่ยนะ
ข้อมูลง่อยๆ ได้สามพันหยวนเลยเหรอ ฉันให้ข้อมูลได้เพียบจนแกล้มละลาย
ได้เลย เชื่อไหมล่ะ
บทที่ 205 บอสเผยปล่อยข้อมูล

พนักงานคนหนึ่งรวบรวมความกล้า “ไม่ต้องห่วงนะครับบอสเผย พวกเราไม่มี


วันทรยศร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูแน่! เดี๋ยวผมจะไปปฏิเสธเขา!”
พนักงานอีกคนพยักหน้า “ใช่ครับ! บอสเผยดูแลพวกเราดีมาก ขอแค่บอสไม่
ทิ้งพวกเราไป พวกเราก็ไม่มีทางยอมขายข้อมูลร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไม่ว่าจะ
สาขาไหน!”
เห็นสีหน้าแน่วแน่ของคนพวกนี้แล้ว เผยเชียนก็ได้แต่แอบด่าอยูใ่ นใจ
ไม่เอาแบบนั้นโว้ย!
พวกแกอยากขายก็ขายเลย นั่นสิที่ฉันต้องการ!
อีกฝ่ายจะมาล้วงข้อมูลสาขาหมิงหยุนวิลล่าไปเพื่ออะไร ก็เพื่อหาทางจ้ องเล่น
งานเราใช่ไหมล่ะ
เป็นแบบนั้นได้ก็ดี จะได้ช่วยให้สาขาหมิงหยุนวิลล่าขาดทุนมากขึ้น เยี่ยมไป
เลยไม่ใช่รึไง
ถ้าเป็นแบบนั้น พนักงานก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนเผยเชียนเองก็จะเสียเงิน
มากขึ้น ถือว่าได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
เผยเชียนโบกมือ “ไม่ต้อง ขายข้อมูลไปเลย ไม่ต้องเกรงใจอีกฝ่าย ลองต่อรอง
ดูว่าขอมากกว่าสามพันได้มั้ยด้วย”
เหล่าพนักงานงงกันใหญ่
อะไรกัน นี่บอสเผยอนุญาตให้พวกเขาขายข้อมูลอย่างนั้นเหรอ
พนักงานคนหนึ่งครุ่นคิดอยู่สักพักก็เข้าใจ “ผมเข้าใจแล้ว! บอสเผยคิดจะตลบ
หลัง! บอสตั้งใจจะให้พวกเขาขายข้อมูลปลอม นำทางพวกเขาไปผิดๆ ใช่ไหม
ครับ”
เผยเชียนยิ้มแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ข้อมูลปลอมเหรอ
ไม่เอาข้อมูลปลอมสิ เอาข้อมูลจริงๆ นี่แหละ ขายข้อมูลเกี่ยวกับสาขานี้กันให้
เต็มที่เลย
เผยเชียนหยิบมือถือขึ้นมากดบันทึกเสียงโดยยังรักษาสีหน้าแบบเดิมอยู่
“พอดีเลย ผมตั้งใจจะมาบอกพวกคุณเกี่ ยวกับแผนการในอนาคตของร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยู
“อีกเดือนสองเดือนข้างหน้า จากกิจการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูทั้งหมด เราจะ
ให้ ค วามสำคั ญ กั บ สาขาหมิ ง หยุ น วิ ล ล่ า เป็ น หลั ก โดยจะมุ ่ ง เน้ น ไปที ่ ธ ุ ร กิ จ
อินเทอร์เน็ตอย่างเต็มที่
“ถึงกิจการร้านสาขาหลักกำลังไปได้สวยมาก แต่ที่อู้ฟู่ จริงๆ ก็แค่ธุรกิจบาร์
ไม่ใช่ธุรกิจอินเทอร์เน็ต”
เขาหันไปหาหม่าหยาง “ไอ้หม่า แกอยากเปลี่ยนร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูให้
เป็นบาร์เต็มตัวมาตลอดไม่ใช่เหรอ ฉันไม่เคยเห็นด้วยกับเรื่องนี้เลย
“ถึงร้านอินเทอร์เน็ตระดับสูงจะยังไม่เป็นที่นิยมในตอนนี้ แต่ในอนาคตจะ
เป็นธุรกิจที่รุ่งเรืองมากๆ!
“ฉันคาดการณ์เอาไว้ว่าอีกไม่เกินหนึ่งปี ร้านอินเทอร์เน็ตระดับสูงจะขึ้นมา
แทนที่ร้านอินเทอร์เน็ตแบบเดิม แล้วจะกลายเป็นกระแสหลักในตลาด”
คำพูดของเผยเชียนเป็นเรื่องจริงครึ่งหนึ่ง เรื่องโกหกครึ่งหนึ่ง
ร้านอินเทอร์เน็ตราคาถูกจะเปลี่ยนมาเป็นร้านอินเทอร์เน็ตระดับสูงในอนาคต
เพื่อให้ยังยืนเป็นกระแสหลักและแข่งขันในตลาดได้อยู่ แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
ไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ในอีกหนึ่งถึงสองปีข้างหน้า
เท่าที่เผยเชียนจำได้ ร้านอินเทอร์เน็ตระดับสูงจะเริ่มเป็นที่นิยมในปี 2012
และประมาณปี 2014 ถึง 2015 ร้านเหล่านี้จะเริ่มขยายจากเมืองระดับหนึ่งไปสู่
เมืองระดับสอง มันจะค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้นและกลายเป็นที่นิยมของคนส่วนใหญ่
ดังนั้นเผยเชียนจึงมองว่าเขาน่าจะขาดทุนต่อไปได้อีกอย่างน้อยสองปี
เรื่องอนาคตค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้เขาสามารถขาดทุนได้อีกอย่างน้อยสองปี
ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีแล้ว
เผยเชียนพูดต่อ “สิ่งที่เกิดขึ้นกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักนั้นเป็น
ความโชคดีโดยบังเอิญ จริงๆ แล้ว ผมไม่ได้วางแผนไว้ว่าจะเป็นแบบนี้เลย”
เรื่องนี้เป็นความจริง 100%
“ด้วยความสำเร็จอย่างคาดไม่ถึงของสาขาหลักทำให้มีลูกค้าเข้าร้านไม่ขาด
สาย เราไม่สามารถทดสอบโมเดลร้านอินเทอร์เน็ตที่ร้านสาขาหลักได้อีก
“ผมเลยเลือกมาทดสอบโมเดลร้านอินเทอร์เน็ตที่สาขาหมิงหยุนวิลล่าแทน
ตอนนี้กิจการสาขานี้ดูเหมือนจะแย่ที่สุด
“เป้ า หมายของเราคื อ เจาะกลุ ่ ม ลู ก ค้ า จากย่ า นพั ก อาศั ย ระดั บ สู ง และ
มหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่รอบๆ เราจะแสดงศักยภาพของร้านอินเทอร์เน็ตระดับสูง
ของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูที่นี่
“ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในตัวผม ต่อไปหมิงหยุนวิลล่าจะกลายเป็นย่านการค้า
หลักของเมืองจิงโจว จุดนี้จะกลายเป็นสถานที่ที่คนระดับสูงใช้พักผ่อนหย่อนใจ!”
หลังจากได้ฟังที่เผยเชียนพูด พนักงานก็หันมองหน้ากัน
บอสเผยพูดจริงหรือโกหกเนี่ย
ถ้าจะให้เอาไปบอกคู่แข่งก็ต้องเป็นเรื่องโกหกสิ
แต่ทำไมฟังดูไม่เห็นเหมือนเป็นเรื่องโกหกเลยล่ะ
ฟังดูเหมือนพูดเรื่องจริงเลย!
แถมยังตรงกับสิ่งที่บอสเผยกำลังทำอยู่ช่วงนี้อีก
พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งยกมือขึ้นอย่างอ่อนแรงแล้วถามออกไป “เอ่อ บอสเผย
ครับ พวกเราควรทำยังไงกันดี”
เผยเชียนยิ้มบาง “ดูแลลูกค้าเราให้ดีและรอคอยกันอย่างอดทน”

หลังจบการประชุม เผยเชียนก็ส่งคลิปเสียงที่บันทึกไว้ให้หม่าหยาง
“ส่งให้พนักงานสักคนที”
เผยเชียนกลัวว่าพวกพนักงานจะทำบางส่วนที่เขาพูดตกหล่นไป เลยตั้งใจ
อัดเสียงทุกอย่างไว้เป็นอย่างดี
ถ้ามีคลิปเสียงก็จะเพิ่มความน่าเชื่อถือขึ้นได้อีก
แน่นอนว่าแม้เผยเชียนจะลงทุนถึงขนาดนี้ อีกฝ่ายก็อาจจะยังระแวงและไม่
ปักใจเชื่อ
แต่ไม่ว่าอีกฝ่ายจะปักใจเชื่อหรือไม่ เผยเชียนก็ได้ประโยชน์อยู่แล้ว ไม่มีทางที่
เขาจะเสียประโยชน์กับเรื่องนี้เลย

คืนนั้น
หลี่สือรวบรวมข้อมูลที่ลูกน้องได้มาจากพนักงานสามคน ข้อมูลพวกนี้มี
กระทั่งคลิปเสียง
เขารู้สึกแปลกใจกับคลิปเสียงที่ได้มา
หลี่สือดีใจมาก เขาสั่งให้ลูกน้องให้เงินพนักงานที่ส่งคลิปเสีย งมาเพิ่มอีกห้า
ร้อยหยวน
ข้อมูลและคลิปเสียงตรงกัน เนื้อหาของข้อมูลทั้งหมดเป็นไปในทางเดียวกัน
เนื่องจากข้อมูลที่ได้เป็นการบอกต่อมาอีกที หลี่สือจึงกลัวว่าจะมีอะไรขาดตก
บกพร่อง
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือคลิปเสียงที่บันทึกคำพูดจริงๆ ของเผยเชียนไว้
หลี่สือเข้าห้องอ่านหนังสือไปนั่งจิบชาฟังคลิปเสียง
“สิ ่ ง ที ่ บ อสเผยพู ด สามารถสรุ ป ได้ ส องประเด็ น ประเด็ น แรกคื อ ร้ า น
อินเทอร์เน็ตระดับสูงจะกลายเป็นโมเดลกระแสหลักในอนาคต ตอนนี้ยังต้อง
จัดการอะไรอีกหลายอย่ าง ประเด็นที่สองคือหมิงหยุนวิลล่าจะกลายเป็นย่าน
การค้าหลักแห่งต่อไปของเมืองจิงโจวที่คนระดับสูงมารวมตัวกัน…
“ฉันเห็นด้วยกับประเด็นแรก ร้านอินเทอร์เน็ตระดับสูงน่าจะขึ้นมาเป็นโมเดล
กระแสหลั ก ในอนาคตจริ ง ๆ มาตรฐานชี ว ิ ต ของผู ้ ค นจะสู ง ขึ ้ น ทุ ก คนจะมี
คอมพิวเตอร์ใช้งานส่วนตัว เหตุผลที่คนจะเข้ามาใช้งานร้านอินเทอร์เน็ตจะไม่ใช่
เพราะเป็ น สิ ่ ง จำเป็ น สำหรั บ เล่ น เกม แต่ ม ั น จะกลายเป็ น สื ่ อ กลางในการมี
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างการเล่นเกมกับเพื่อนๆ ความต้องการด้านสภาพแวดล้อมย่อม
ต้องสูงขึ้นเป็นธรรมดา
“ประเด็นที่สองยังต้องถกกันอยู่
“เป็นที่รู้ดีกันว่าหมิงหยุนวิลล่าไม่ประสบความสำเร็จในฐานะย่านพักอาศัย
ระดับสูง มหาวิทยาลัยฮั่นตงเจียวต้าวิทยาเขตตะวันออกก็ห่างชั้นกับมหาวิทยาลัย
ฮั่นตงเจียวต้าวิทยาเขตหลักราวฟ้ากับเหว นักศึกษาที่เข้าเรียนที่นั่นจึงยังมีจำนวน
ไม่มาก
“บอสเผยคิดจะทำให้สาขานี้ประสบความสำเร็จจากลูกค้าสองกลุ่มนี้เท่านั้น
เหรอ ดูจะมองโลกในแง่ดีเกินไปหน่อยนะ
“อีกอย่างร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขานี้ก็ตั้งอยู่ห่างจากทั้งสองจุด ห่างออกมา
เกือบสองกิโลเมตร ต้องใช้เวลาเดินทางอย่างน้อยยี่สิบถึงสามสิบนาที
“ถือเป็นระยะที่ดูอึดอัดใจยังไงไม่รู้ จะเดินไปก็ไกลเกิน จะนั่งรถเมล์ไปก็ไม่
สะดวก การเดินทางทั้งสองแบบดูไม่เข้าท่าเลย นักศึกษาวิทยาลัยเขตตะวันออก
น่าจะใช้บริการร้านอินเทอร์เน็ตหน้ามหา’ลัยกันมากกว่า พวกคนรวยที่หมิงหยุน
วิลล่าก็ไม่น่าจะถ่อมาไกลเพื่อจิบกาแฟโง่ๆ แก้วเดียวหรอก…
“หรื อ เขาคิ ด จะดึ ง ลู ก ค้ า ทั ้ ง สองกลุ ่ ม ฝั น ไกลเกิ น ไปรึ เ ปล่ า นะ ถ้ า เป็ น
ร้านอาหารระดับสูงคนอาจยอมเดินทางไกลเพื่อไปใช้บริการ แต่ร้านอินเทอร์เน็ต
ไม่ได้ดึงดูดลูกค้าได้ขนาดนั้น
“แต่ถ้าพิจารณาจากทักษะการวางกลยุทธ์ของบอสเผย ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นไป
ไม่ได้เลยซะทีเดียว…”
ตั้งแต่เผยเชียนทำให้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักโด่งดังขึ้นมาได้ด้วย
นักร้องเพียงคนเดียว หลี่สือก็รู้สึกชื่นชมทักษะการตลาดของอีกฝ่าย
ในคลิปเสียงที่บอสเผยบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญน่าจะเป็นการถ่อมตัว
เรื่องบังเอิญดีๆ แบบนี้จะเกิดขึ้นได้ยังไง
ดังนั้นหลี่สือจึงเชื่อสิ่งที่เผยเชียนพูดมาแค่ 80%
เขาแอบนึกสงสัยด้วยว่าข้อมูลนี้เป็นข้อมูลปลอมหรือเปล่า
แต่พอคิดดูอีกทีก็ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น
บทที่ 206 ความไม่จริงเป็นความจริง ความจริงเป็นความไม่จริง

พนักงานทั้งสามคนที่จ้างมาไม่มีทางรวมหัวกันให้ข้อมูลปลอม แถมไม่มีใคร
รายงานเรื่องนี้ให้บอสเผยรู้ด้วย
โอกาสที่พวกเขาจะทำแบบนั้นต่ำมาก
เพราะยังไงพนักงานพวกนี้ก็ไม่ได้สนิทกับบอสเผย เป็นพนักงานลำดับล่างสุด
ไม่มีทางซื่อสัตย์ขนาดนั้น
ที่สำคัญคือ จากที่หลี่สือวิเคราะห์พฤติกรรมของบอสเผย ข้อมูลนี้น่าจะเป็น
ความจริง
ช่วงนี้บอสเผยทำอะไรบ้างล่ะ
เขาเลิกไปที่ร้านสาขาหลัก แต่แวะมาที่ร้านสาขาหมิงหยุนวิลล่าอยู่เรื่อยๆ!
นอกจากนั้นหม่าหยางกับจางหยวนยังไปประจำอยู่ที่สาขาหมิงหยุนวิลล่าอีก
ทั้งหมดนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าบอสเผยหันมาให้ความสำคัญกับสาขานี้แทน
บอสเผยมีธุรกิจในมือมากมาย น่าจะยุ่งมาก ถ้าไม่ได้มีแผนอะไรก็ไม่น่าจะ
เสียเวลามาที่สาขานี้
หรือทั้งหมดที่ทำไปเพื่อปล่อยข้อมูลลวงปั่นหัวหลี่สือล้วนๆ
จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง บอสเผยไม่มามัวทำเรื่องไร้สาระหรอก
ดังนั้นโดยรวมแล้ว ข้อมูลนี้น่าจะเป็นความจริง บอสเผยตั้งใจจะใช้ร้านสาขา
หมิงหยุนวิลล่าเป็นเครื่องมือสำหรับแผนพัฒนาร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู แถมยังมี
แผนสำรองเตรียมเอาไว้ด้วย อีกฝ่ายดูมั่นใจมากว่าจะทำให้ย่านการค้านี้มีชื่อเสียง
ขึ้นมาได้!
คิดได้แบบนั้นหลี่สือก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
เพราะยังไงเมืองจิงโจวก็เป็นเมืองระดับสอง โอกาสลงทุนดีๆ มีไม่มากนัก
ก่อนหน้านี้หลี่สือทุ่มเงินจ้างร้านค้าจัดโปรโมชัน ตั้งใจว่าจะขัดขวางกิจการ
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เขาตั้งใจจะสร้างโอกาสลงทุนให้ได้ไวๆ แต่สุดท้ายแผนก็
ล่ม ไม่เป็นท่า
โชคดีที่เขาไม่ได้เสียเงินไปมากมายเพราะไม่ได้ทำแบบนั้นนานนัก พอร้าน
สาขาหลักดังขึ้นมา หลี่สือก็เลิกทุ่มเงิน
อีกอย่างตั้งแต่ร้านสาขาหลักมีชื่อเสียงขึ้นมา ลูกค้าก็แวะเวียนมาละแวกนั้น
เยอะขึ้น ร้านรวงแถวนั้นต่างก็พลอยได้กำไรไปด้วย
ครั้งนี้หลี่สือไม่ได้หวังจะลงทุนกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูอีก เพราะรู้ว่าหวังสูง
เกินไป
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอยากเอาข้อมูลที่มีในมือไปใช้สักทาง
ตัวอย่างเช่น เขาอยากใช้โอกาสนี้พัฒนาอะไรสักอย่างที่หมิงหยุนวิลล่า!
ตอนที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักดังขึ้นมา ร้านในละแวกก็พลอยได้
ผลประโยชน์ไปด้วย ร้านกาแฟ บาร์ และร้านอินเทอร์เน็ตในพื้นที่มีลูกค้าเข้ามาใช้
บริการมากขึ้น ค่าเช่าร้านดังๆ ของย่านนั้นก็พุ่งขึ้นไปด้วยเหมือนกัน
ถ้าพิจารณาจากจุดนี้ หลี่สือก็คิดได้ว่าที่บอสเผยบอกว่าจะเปลี่ยนพื้ นที่
บริเวณหมิงหยุนวิลล่าให้กลายเป็นย่านการค้าก็ไม่น่าจะเป็นแค่คำคุยโว
ถ้าเป็นแบบนั้น ทำไมไม่ลงทุนอะไรสักอย่างแถวหมิงหยุนวิลล่าล่ะ
เช่น ลงทุนในร้านอาหาร ร้านกาแฟ บาร์ ร้านอินเทอร์เน็ต หรือคาเฟ่บอร์ด
เกมในละแวกนั้น…
เขาสามารถเปิดร้านไว้สักร้านสองร้าน แล้วรอให้กิจการในพื้นที่ดีขึ้น ร้านที่
เปิดไว้ก็จะทำเงินได้
ถ้าไม่อยากบริหารร้านเองจะขายกิจการต่อเมื่อมีโอกาสเหมาะๆ ก็ยังได้ คงมี
คนอยากซื้อกิจการต่อแน่ เขาน่าจะทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ!
ยิ่งคิดหลี่สือก็ยิ่งสุขใจ นี่แหละคือเหตุผลที่เขาอยากได้ข้อมูล!
ถึงบอสเผยจะยังเด็กอยู่ แต่ก็มีสายตาเฉียบคมเรื่องธุรกิจ แถมยังมีพรสวรรค์
ด้านการตลาดที่ไม่เหมือนใคร การเดินตามเขาถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง!
ส่วนจะลงทุนเท่าไหร่นั้น…
หลี่สือคิดอยู่พักหนึ่ง ลงทุนเยอะก็ได้เยอะ ลงทุนน้อยก็ได้น้อย
แต่ในฐานะนักลงทุน เขารู้ว่าจะเอาไข่ทุกใบมาใส่ตะกร้าใบเดียวไม่ได้
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจลงทุนในร้านอินเทอร์เน็ตระดับสูง ร้านกาแฟ คาเฟ่
บอร์ดเกม และร้านคล้ายๆ กันนี้อย่างละแห่ง
ทำเลก็ต้องเลือกให้ดี ร้านอินเทอร์เน็ตระดับสูงกับคาเฟ่บอร์ดเกมจะตั้งใกล้ๆ
มหาวิทยาลัย เพราะกลุ่มลูกค้าหลักคือนักศึกษา แถมยังน่าจะดึงลูกค้า ร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูมาได้ด้วย
แน่นอนว่าหลี่สือจะไม่ลงไปบริหารร้านเหล่านี้เอง เขาจะใช้เส้นสายที่มี
อาจจะกล่อมให้เจ้าของกิจการร้านอินเทอร์เน็ตที่ลงทุนด้วยไปเปิดสาขาเพิ่มแถว
นั้น โดยจะเปิดร้านตามโมเดลธุรกิจที่ทันสมัยที่สุด
ทั้งหมดที่หลี่สือต้องทำก็แค่ให้เงินทุน
เนื่องจากมั่นใจแล้วว่าตัวเองไม่มีทางลงทุนในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูได้ เขาจึง
ต้องหาช่องทางอื่นในการลงทุน
จากนั้นที่ต้องทำก็แค่ทำตามสิ่งที่บอสเผยกำลังทำ ยังไงก็ต้องได้เงินเป็นกอบ
เป็นกำแน่!


เผยเชียนไม่มั่นใจว่าใครเป็นคนซื้อข้อมูลร้านสาขาหมิงหยุนวิลล่า แต่สำหรับ
เขาแล้ว คนคนนั้นจะเป็นใครก็ไม่สำคัญ
ข้อมูลที่เผยเชียนปล่อยออกไปเป็นข้อมูลลวง แต่กลับดูจริงยิ่งกว่าข้อมูลจริง
จุดประสงค์ของเขานั้นเรียบง่ายมาก
เขาอยากวาดภาพฝันว่าร้านสาขาหมิงหยุนวิลล่าและพื้นที่โดยรอบจะมี
ชื่อเสียงขึ้นมา เพื่อที่คนจะได้อยากเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น
ถ้ามีร้านอินเทอร์เน็ต ร้านอาหาร และร้านกาแฟมาเปิดเพิ่มในละแวกนี้ คนก็
จะเข้ามาใช้บริการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูน้อยลง
สาขาหมิงหยุนวิลล่าขาดทุนมาอย่างต่อเนื่องเพราะมีลูกค้าเข้าร้านน้อย ที่หมิง
หยุนวิลล่ามีคนอาศัยอยู่น้อย นักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮั่นตงเจียวต้าวิทยาเขต
ตะวันออกก็ไม่ได้เยอะ แถมร้านยังตั้งห่างออกมาไกลอีก
แค่นี้สภาพก็น่าเวทนาอยู่แล้ว ถ้ามีร้านมาเปิดเพิ่มในละแวกนี้อีก ลูกค้าก็จะ
เข้าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูน้อยลง กลายเป็นน่าเวทนายิ่งกว่าเก่า!
ส่วนผู้โชคร้ายคนนั้นจะเป็นใคร…
ก็บอกได้แค่ว่าจงติดกับไปซะ ใครบอกให้แกคิดชั่วอยากมาล้วงข้อมูลร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูกันล่ะ
แถมอีกฝ่ายก็ ไ ม่ไ ด้ มาซื้อ ข้อ มู ลจากเผยเชี ยน เขาไม่ไ ด้เงินเลยสั ก หยวน
เดียวกับเรื่องนี้ เพราะงั้นต้องจดชื่อลงสมุดไว้เตรียมแก้แค้น!
เผยเชียนมองว่าในระยะสั้นน่าจะยังไม่เห็นผลอะไร เพราะต้องใช้เวลาอย่าง
น้อยหนึ่งเดือนในการเปิดกิจการ
ดังนั้นเผยเชียนจึงเลือกที่จะไม่สนใจเรื่องนี้และหันไปจัดการเรื่องอื่น
การเตรียมการสำหรับจุดบริการนี่เฟิงเกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว พวกเขาสรุป
ตำแหน่งเปิดจุดบริการในหลายๆ ที่เรียบร้อย ส่วนใหญ่อยู่ในย่านพักอาศัยต่างๆ
พวกเขาไม่สามารถเปิดให้บริการครอบคลุมทั้งเมืองจิงโจวได้ แต่ก็ถือว่า
ครอบคลุมพื้นที่สำคัญๆ ไว้ครบถ้วน
ช่วงนี้จุดบริการนี่เฟิงอยู่ในขั้นตอนการจ้างคน ซื้อชั้นวางของ ตกแต่งภายใน
และอื่นๆ ถ้าทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่ น เผยเชียนน่าจะได้เห็นสาขาแรกในอีก
ประมาณหนึ่งสัปดาห์
นอกจากนั้นยังมีอีกเรื่องภัตตาคารระดับสูงที่เผยเชียนเคยคิดๆ ไว้ก่อนหน้านี้
ด้วย
ภัตตาคารห่านฟ้าไม่ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเผยเชียนแล้ว เขาต้อง
ทุ่มเงินก้อนใหญ่เปิดภัตตาคารขึ้นมาให้ตอบโจทย์ตัวเองโดยเฉพาะ
ช่วงนี้เผยเชียนกำลังพิจารณาเรื่องทำเลเหมาะๆ และรายละเอียดอื่นๆ
แค่เรื่องทำเลก็ทำเอาเผยเชียนต้องปวดหัวหนักแล้ว
ตอนแรกเขาอยากจะเปิดภัตตาคารในย่านการค้าที่คนไม่ค่อยพลุกพล่าน แต่
อีกใจหนึ่งก็คิดว่าคงไม่เหมาะสักเท่าไหร่
นั่นก็เพราะตอนนี้เว็บไซต์รีวิวถือกำเนิดขึ้น มาแล้ว ผู้คนใช้อินเทอร์เน็ตกัน
อย่างแพร่หลาย คงยากที่จะซ่อนภัตตาคารราคาแพงหูฉี่ไปได้นานๆ
เผยเชียนทำภัตตาคารระดับสูงเป็นโรงอาหารภายในที่ให้แค่พนักงานตัวเองใช้
บริการไม่ได้ เพราะระบบไม่ยอมให้ทำแบบนั้น
ภัตตาคารระดับสูงจะต้องเปิดให้ทุกคนในเมืองจิงโจวเข้ามาใช้บริการได้
แน่นอนว่าลูกค้าทั่วไปไม่น่าจะจ่ายไหว แต่ถ้ามีพวกกระเป๋าหนักอยากมาใช้
บริการ เผยเชียนก็ไม่สามารถไล่ตะเพิดพวกเขาออกไปได้
เขามีหลายตัวเลือกในเมืองจิงโจว เช่น เขตกวงหมิงกับเขตหลินเฉิง แต่ถ้ามี
คนมาเจอภัตตาคารนี้เข้า พวกไฮโซจะกลายเป็นฐานลูกค้าหลัก
เพราะตอนนี้มีภัตตาคารระดับสูงแค่ที่เดียวในจิงโจว ผู้คนคงไม่คิดอะไรมาก
ถ้านานๆ ครั้งจะต้องเดินทางไปไกลๆ เพื่อกินอาหารหรูๆ
แน่นอนว่าเขาก็ไม่น่าจะทำกำไรได้ แต่ก็คงขาดทุนได้น้อยลง
ดังนั้นหลังจากคิดๆ ดูแล้ว เผยเชียนจึงตัดสินใจจะเปิดภัตตาคารให้ห่างจากใจ
กลางเมืองให้มากที่สุด ยิ่งทำเลร้างผู้คนมากเท่าไหร่ยิ่งดี
เขาอยากดึงดูดลูกค้าให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้!
หลังจากไล่ดูสักพัก เขาก็พบทำเลเหมาะเหม็งที่เคยเห็นมาก่อน
ทำเลนั้นก็คือย่านที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหมิงหยุนวิลล่าตั้งอยู่นั่นเอง
บทที่ 207 เว็บไซต์เล็กๆ แบบนี้ต้องเป็นสแกมแน่เลย

พอมาคิดๆ ดูแล้วก็สมเหตุสมผลดี
ตอนที่เผยเชียนหาทำเลเหมาะๆ เปิดร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาต่างๆ เขาก็
มองหาทำเลรกร้างปลอดผู้คน โดยเฟ้นหาแต่ทำเลแย่ๆ ในเมืองจิงโจว
สาขาหมิงหยุนวิลล่าขาดทุนมากที่สุดจากทุกสาขา แสดงให้เห็นว่าทำเลนี้คือ
จุดที่แย่ที่สุดจากทำเลทั้งหมด
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ระหว่างเลือกหาทำเลเปิดภัตตาคารระดับสูง เผย
เชียนจะตัดตัวเลือกออกจนเหลือแค่ทำเลตรงนี้อีกครั้ง
ดูแล้วน่าจะเป็นไอเดียที่ดี
ทำเหมือน ‘วัดเก่าอำพรางกลางภูเขา[1]’ ดีกว่า
แถวหมิงหยุนวิลล่ามีร้านรวงอยู่บ้าง แต่เนื่องจากลูกค้าในละแวกนี้มีน้อยมาก
หลายๆ ร้านจึงทยอยปิดตัวกันไปทีละร้าน
ตอนนั้นเผยเชียนเลือกร้านแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากหมิงหยุนวิลล่าที่สุดมาเปิด
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาใหม่
ตอนนี้เขาสามารถใช้ประโยชน์จากร้านอื่นๆ ที่เหลือได้ เผยเชียนตั้งใจจะ
เลือกทำเลที่ลึกลับกว่าเดิม จะดีมากถ้าได้พื้นที่กว้างๆ จะได้เอามาปรับปรุงทำเป็น
ภัตตาคารระดับสูง
เขาจะไม่แพร่งพรายข้อมูลของภัตตาคารนี้ลงเว็บไซต์รีวิว พนักงานในสังกัด
จะได้มาดื่มด่ำกับอาหารที่ร้านนี้ แต่นอกจากนั้นแล้วก็ปล่อยให้เงียบเหงาไปวันๆ
สมบูรณ์แบบสุดๆ
เผยเชียนตั้งใจจะไม่ทำเป็นภัตตาคารแบบบุฟเฟต์ เพราะวงเงินที่ใช้ได้มีจำกัด
ไม่สามารถผลาญเงินได้ไวนัก
เขาทำเมนูราคาแพงหูฉี่ขึ้นมาได้ พอมากินเลี้ยงกับพนักงานก็สั่งแต่เมนูแพงๆ
จะได้ผลาญเงินได้ไวๆ
วัตถุดิบก็เลือกใช้แต่ของที่ดีและสดที่สุด พูดง่ายๆ คือเขาจะเลือกใช้วัตถุดิบที่
ดีที่สุดในเมืองจิงโจว
ถ้ามีลูกค้าเข้าร้านน้อยและวัตถุดิบเสียทิ้งหมดล่ะ
ระบบคงไม่ปล่อยผ่านเรื่องนี้แน่
ไม่อย่างนั้นเผยเชียนก็สามารถกว้านซื้อวัตถุดิบมาเยอะๆ แล้วปล่อยทิ้งให้เสีย
ได้ แต่กฎของระบบไม่อนุญาตให้ทำแบบนั้น
แน่นอนว่าเผยเชียนมีแผนสำหรับเรื่องนี้เตรียมไว้แล้ว
วัตถุดิบทั่วไปสามารถซื้อได้เลย เพราะเอามาทำเป็นอาหารให้พนักงานไว้กิน
กันเองภายในบริษัทได้ ไม่น่าจะเหลือทิ้งมาก ระบบไม่น่าจะว่าอะไร
ส่วนวัตถุดิบชั้นเลิศอย่างล็อบสเตอร์ออสเตรเลีย เนื้อโกเบ เห็ดทรัฟเฟิลสีขาว
ล็อบสเตอร์สีฟ้า และอื่นๆ สามารถใช้ระบบสั่งจองล่วงหน้าได้ โดยจะต้องจอง
วันที่จะเข้ามากินและวัตถุดิบที่ต้องการ
สำหรับเผยเชียน ถือว่าไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร เพราะเขามักจะวางแผนไว้
คร่าวๆ ว่าจะไปกินเลี้ยงกันตอนไหน พอนึกอยากจะเลี้ยงพนักงาน เขาก็ สามารถ
แจ้งภัตตาคารล่วงหน้าให้เตรียมวัตถุดิบชั้นเลิศไว้ให้
สำหรับลูกค้าที่มาก็จะพบว่าภัตตาคารไม่มีวัตถุดิบชั้นเลิศเลย ทุกอย่างต้องสั่ง
จองไว้ก่อนล่วงหน้า…
ทำให้พวกเขาไม่อยากมาใช้บริการอีก
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!
พอเปิดภัตตาคาร เขาจะจ้างเชฟชื่อดังจากปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ แค่เงินเดือนที่
ต้องจ่ายก็ช่วยผลาญเงินไปได้ก้อนโตแล้ว
เงินก็ได้ผลาญ อาหารอร่อยก็ได้กิน สมบูรณ์แบบไปเลยไม่ใช่เหรอ
คิดได้แบบนั้น เผยเชียนก็ตัดสินใจจะไปเดินดูรอบๆ วันมะรืน เขาจะหาทำเล
ที่ปลอดผู้คนและมีขนาดกว้างสำหรับเปิดภัตตาคาร
พื้นที่จะต้องกว้างพอรองรับพนักงานทั้งหมดของเขา


วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม
หม่าอี้ฉวินเดินเข้าบริษัทจงเตี่ยนจงเหวินแล้วเริ่มทำงานตามปกติ
มีต้นฉบับที่ต้องอ่านไม่มาก รวมกับที่ได้รับมาวันเสาร์อาทิตย์แล้วก็ยังน้อยอยู่
ดี ใช้เวลาไม่นานเขาก็อ่านต้นฉบับทั้งหมดเสร็จ
จากนั้นก็เริ่มเขียนพล็อตเกมกลับใจคือฟากฝั่งต่อ จู่ๆ หม่าอี้ฉวินก็รู้สึกเบื่อ
ขึ้นมาเลยพักงานไว้ก่อน
เขาเปิดกระทู้เว็บโนเวล
ระหว่างไล่ดูกระทู้ร้อนแรงหน้าแรกก็พบว่ามีหลายคนเข้ามาถกเรื่องเว็บจง
เตี่ยนจงเหวิน
ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะหม่าอี้ฉวินปล่อยข่ าวเรื่องเว็บจงเตี่ยนจงเหวินกำลัง
เปิดรับต้นฉบับจำนวนมากในหลายช่องทาง รวมถึงช่องทางเว็บบอร์ดด้วย จึงเป็น
เรื่องปกติที่จะมีนักเขียนมากมายเข้ามาถกกันเรื่องนี้
แต่จากคอมเมนต์ที่ไล่อ่านดูหม่าอี้ฉวินกลับพบว่าเว็บไซต์ของเขาไม่ได้รับ
กระแสตอบรับที่ดีเท่าไหร่นัก
“ช่วงนี้มีเว็บเปิดใหม่ด้วยแหละ ชื่อเว็บจงเตี่ยนจงเหวิน เห็นคนบอกให้ค่าแรง
ไม่แย่เลย กำหนดให้เขียนแค่สามพันคำต่อวันก็ได้เดือนละพันหยวนแล้ว ได้เยอะ
กว่าเว็บอู๋เซียนจงเหวินอีก ลองสมัครดูดีไหม มีใครแนะนำได้บ้าง”
“เว็บเล็กๆ แบบนี้ไม่แนะนำนะ”
“มีคนลองสมัครดูแล้ว เห็นบอกว่าคนเข้าดูเว็บน้อยมาก แถมทางเว็บยังไม่ดึง
ตัวนักเขียนดังๆ หรือหาคนเข้าเว็บจากช่องทางอื่นเลย คงต้องเตรียมใจรับค่าจ้าง
เรตมาตรฐานไปพักใหญ่…”
“โห แย่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“แย่ขนาดนั้นเลยแหละ มีคนไปคุยกับบรรณาธิการของทางเว็บด้วย ฉันว่า
เว็บนี้ไม่มีสิทธิประโยชน์อะไรให้เลยนอกจากค่าจ้างรายเดือนที่สูงกว่ามาตรฐาน
ถ้าฝันอยากเป็นนักเขียนชื่อดังก็เอางานไปลงเว็บอู๋เซียนจงเหวินดีกว่า ถึงจะเขียน
งานดี แต่ถ้าลงเว็บเล็กก็ไม่มีใครมาซื้ออ่านหรอก”
“ถ้างานไม่ดีกับไม่อยากได้ยอดซื้ออ่านก็ควรไปลงงานเว็บเล็กใช่มั้ย”
คอมเมนต์เหล่านี้มาจากผู้ใช้งานเว็บบอร์ด หม่าอี้ฉวินไล่อ่านคอมเมนต์ดูแล้ว
พบว่าบางคอมเมนต์มาจากบรรณาธิการกับนักเขียนจากเว็บอื่น
หม่าอี้ฉวินตามเว็บบอร์ดนี้มานานจนจำเลขผู้ใช้งานของแต่ละคนได้
“ทุกคน อย่าลงงานเว็บนั้น! ต้องเป็นสแกมแน่ๆ!”
“เว็บนี้ไม่ยอมโฆษณาเลย ไม่เปิดช่องทางให้คนเข้าถึงด้วย ไม่แปลกหรอกที่
จะไม่มีนักอ่านเลยสักคน งานในเว็บก็มีแต่ขยะ ปล่อยไปก็จะกลายเป็นวงจร
อุบาทว์ ถ้าลงงานเว็บอู๋เซียนจงเหวินนะ ถึงจะได้ฐานค่าแรงน้อยกว่า แต่ก็ยังมี
โอกาสได้เงินจากนักอ่านที่มาเสียเงินซื้ออ่าน!”
“ใช่ๆ ไม่รู้เว็บนี้เปิดมาฟอกเงินรึเปล่า ไม่อย่างนั้นเจ้าของเว็บก็น่าจะคิดตื้นๆ
ว่าถ้าให้ค่าแรงสูงๆ แล้วจะดึงนักเขียนเก่งๆ เข้าเว็บตัวเองได้ ตลกดี”
“คิดเหมือนกัน เอาเงินไปซื้อต้นฉบับแพงๆ ยังดีกว่า อย่างน้อยหน้าแรกก็พอ
มีอะไรให้อ่านได้บ้าง”
“ฉันเลยมาเตือนนักเขียนหน้าใหม่ให้เลี่ยงเว็ บนี้ไง ต้องเป็นสแกมแน่ๆ! ถ้าจะ
เขียนเว็บโนเวลก็ไปเว็บใหญ่ๆ ดีกว่า ถ้าเว็บนี้ปิดขึ้นมา ค่าแรงรายเดือนก็ไม่ได้ ได้
แต่นั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่า”


หม่าอี้ฉวินถอนหายใจเงียบๆ เมื่อได้อ่านคอมเมนต์เหล่านั้น
ถึงอยากจะโต้แย้งแค่ไหน แต่คอมเมนต์เหล่านั้นก็มีเหตุผล
หม่าอี้ฉวินเชื่อมั่นในตัวบอสเผยหมดใจ เขามั่นใจว่าบอสเผยจะทำให้เว็บโด่ง
ดังขึ้นมาได้
แต่คนนอกมองว่าเว็บจงเตี่ยนจงเหวินดูไม่น่าเชื่อถือสุดๆ
ถึงเหล่าบรรณาธิการกับนักเขียนจากเว็บไซต์คู่แข่งจะพยายามพูดให้ดูแย่ แต่
ก็ปฏิเสธเลยไม่ได้วา่ ส่วนใหญ่ที่พวกเขาว่ามาก็เป็นเรื่องจริง
เว็บของเขาไม่ซื้อตัวนักเขียนดีๆ เข้ามา ไม่รับหุ้นส่วน ไม่โฆษณาเรียกนักอ่าน
เข้าเว็บ ถ้ามีแค่ค่าแรงอย่างเดียวคงดึงนักเขียนดีๆ มาไม่ได้
หม่าอี้ฉวินปิดเว็บบอร์ดไปเงียบๆ แล้วกลับไปทำงาน
เว็บไซต์เปิดให้บริการเรียบร้อย นักเขียนที่ต้นฉบับได้รับการคัดเลือกทยอยลง
นิยายตอนใหม่กันแล้ว หลายๆ อย่างในเว็บเข้าที่เข้าทาง รวมถึงจุดแนะนำในหน้า
แรกของเว็บด้วย อย่างน้อยภายนอกก็ดูดีเลยทีเดียว
ตัวเว็บทำออกมาได้สวยงาม เพราะลงเงินไปมาก
แต่ถ้าไล่ดูนิยายที่ขึ้นแนะนำหน้าแรกของเว็บก็จะพบความจริง
ไม่มีเรื่องไหนดีพอจะทนอ่านได้เลย!
ชื่อนิยายมีแต่คำจำพวก เทพ สามีคลั่ง ทหารโหด และอะไรคล้ายๆ กันนี้
นิยายที่มีผู้หญิงเป็นกลุ่มเป้าหมายก็มีแต่อะไรแบบ ‘ภรรยาดื้อ อย่าโกรธเลยนะคะ
ท่านประธาน’ หรือไม่ก็ ‘ประธานหน้ากากกับภรรยาตัวเล็ก’
ชื่อนิยายเป็นชื่อที่ใช้กันดาษดื่น เนื้อหาข้างในยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ เป็นพล็อตที่ใช้
ซ้ำกันบ่อยมาก ถ้าเอาไปลงให้เว็บอู๋เซียนจงเหวินต้องไปไม่รอดแน่
ที่แย่ที่สุดคือเรื่องพวกนี้เป็นงานที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้ว เลยได้ขึ้นแนะนำ
หน้าแรก ส่วนเรื่องอื่นๆ คุณภาพต่ำตมกว่านี้อีก
หม่าอี้ฉวินส่ายหน้าพร้อมถอนหายใจ ก็เหมือนที่บอสเผยบอกนั่นแหละ ของ
แบบนี้มันเร่งกันไม่ได้
เขาควรจะไปสนใจเรื่องการเขียนพล็อตเกมกลับใจคือฟากฝั่งมากกว่า
เพราะยังไงก็ไม่มีอะไรที่ทำได้ เอาแรงไปลงกับการเขียนพล็อตออกมาให้ดี
เยี่ยมน่าจะดีกว่า
บรรณาธิการหลายคนก็ตื่นเต้นกับการเขียนพล็อ ตเกมกลับใจคือฟากฝั่ง
เหมือนกัน พวกเขามาถกกันบ่อยๆ พอติดปัญหาตรงไหนก็รีบมาคุยกันเพื่อหาทาง
ออก
นิยายตอนใหม่ทยอยส่งเข้ามาช้ามาก แทบจะไม่ทันมาตรฐานที่วางเอาไว้
แต่ก็ไม่มีใครคิดอะไร เพราะค่าแรงกับสวัสดิการที่ได้จากบอสเผยนั้นดีอยู่แล้ว
ไม่จำเป็นต้องทำงานหนักเพื่อให้ได้เงินเพิ่มขึ้น
สำหรับหม่าอี้ฉวินแล้วถือเป็นเรื่องดี อย่างน้อยก็จะได้มีเวลาไปทุ่มเทกับการ
เขียนพล็อต
ก็เหมือนสำนวนช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม แม้การทำงานช้าไม่ได้การันตีว่างานจะ
ออกมาดี แต่ถ้ารีบร้อนเกินไปงานย่อมเสี่ยงที่จะมีจุดบกพร่องแน่นอน
พล็อตเกมกลับใจคือฟากฝั่งเน้นที่คุณภาพ ไม่ใช่จำนวนคำ ยิ่งเขียนออกมาได้
ประณีตเท่าไหร่ยิ่งดี
[1] ภาพเขียนชื่อดังของจีนที่ไม่ได้วาดวัดใส่เข้าไปตามชื่อ
บทที่ 208 ไอ้หมอนี่มันใคร ทำไมถึงทำให้เดือดร้อนทัง้ ตัวเองและคนอื่น

ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหมิงหยุนวิลล่า
เผยเชียนกับหม่าหยางและจางหยวนไปสำรวจทำเลสำหรับเปิดภัตตาคาร
ระดับสูงด้วยกัน
จริงๆ พวกเขาเคยมาสำรวจทำเลแถวนี้ดูแล้วครั้งหนึ่ง จึงพอจะเข้าใจสภาพ
ธุรกิจในละแวกนี้บ้าง
โดยรวมแล้วทำเลที่ได้เงียบเหงาและปลอดผู้คนมาก เผยเชียนพอใจสุดๆ
แผนเดิมของหมิงหยุนวิลล่าคืออยากให้มีร้านในละแวกใกล้เคียงเยอะๆ แต่พอ
วิลล่าไม่ดังประกอบกับคนเข้ามาพักอาศัยน้อย จำนวนลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการ
ร้านต่างๆ ก็น้อยตาม ไม่มีร้านไหนหาเงินคืนทุนได้ ต้องทยอยปิดตัวไปตามๆ กัน
ตอนนี้ค่าเช่าที่หลายๆ ร้านถูกมาก พูดง่ายๆ คือสามารถเช่าที่ได้ในราคาเจ็ด
สิบเปอร์เซ็นต์ของราคาเฉลี่ยในตลาด
สองสามวันก่อน เผยเชียนเลือกทำเลที่ชอบมาสองสามแห่ง ทุกที่อยู่ห่างจาก
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
ร้านพวกนี้มีจุดที่เหมือนกันอยู่หลายอย่าง อย่างแรกคือใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอย
กว้างมาก ตรงกับความต้องการของเผยเชียนที่อยากได้ภัตตาคารกว้างๆ อย่างที่
สองคืออยู่ท่ามกลางร้านที่เจ๊งไปหลายๆ ร้าน บรรยากาศเงียบเหงา ปราศจาก
ผู้คน วันธรรมดาไม่น่าจะมีลูกค้าเข้า อย่างที่สามคือการเดินทางไม่ค่อยสะดวกนัก
ใกล้ๆ ร้านมีที่จอดรถเยอะมาก แต่ลูกค้าต้องเดินจากที่จอดรถไกลพอสมควร
กว่าจะถึงภัตตาคาร
ดังนั้นเผยเชียนจึงตัดสินใจมาดูทำเลเป็นครั้งสุดท้ายด้วยตัวเองในวันนี้พอ
ตัดสินใจเลือกทำเลได้แล้ว ก็เซ็นสัญญาแล้วเริ่มปรับปรุงร้านได้เลย
ถ้าทุกอย่างไปได้สวย เขาอาจจะพาพนักงานมากินเลี้ยงที่ภัตตาคารเดือนหน้า
ได้
จางหยวนเดินตามหลังบอสเผยกับหม่าหยางเงียบๆ เขารู้สึกเศร้าใจที่ตัวเอง
เดาความคิดบอสเผยได้ยากขึ้นเรื่อยๆ
ทำเลที่บอสเลือกมาสำหรับเปิดภัตตาคารนั้นแปลกมาก
จางหยวนแอบดีใจตอนที่ได้ยินว่าบอสเผยจะเปิดภัตตาคารระดับสูง เขาคิดว่า
ในที่สุดตัวเองก็เดาทางบอสเผยได้แล้วว่าต่อไปจะทำอะไร
โมหยูเดลิเวอรี่ครอบคลุมมื้ออาหารทั่วไป ส่วนภัตตาคารระดับสูงจะตอบ
โจทย์คนที่อยากลิ้มรสอาหารชั้นเลิศ ธุรกิจทั้งสองอย่างเกื้อหนุนกันได้อย่าง
สมบูรณ์แบบ!
จางหยวนคิดว่าภัตตาคารระดับสูงน่าจะเปิดที่ใจกลางเมือง ทำเลตรงนั้น
น่าจะทำให้ร้านเป็นที่รู้จักและมีคนเข้าไม่ขาดสาย!
แต่บอสเผยทำให้เขางงเป็นไก่ตาแตก
บอสเลือกทำเลแถวร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหมิงหยุนวิลล่า ทั้งๆ ที่สาขานี้
กิจการเลวร้ายที่สุดจากทุกสาขาเนี่ยนะ
หมิงหยุนวิลล่าตั้งอยู่เขตตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองจิงโจว เป็นทำเลที่เงียบ
เหงาปลอดผู้คนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ถ้าบอสเผยเปิดภัตตาคารที่ใจกลางเมืองก็จะดึงลูกค้าจากทั้งเมืองจิงโจวได้
เพราะคนที่อาศัยอยู่นอกเมืองใช้เวลาขับรถแค่ประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ถึงใจกลาง
เมืองแล้ว
แน่นอนว่าเวลาที่บอกไปนั้นไม่นับรวมตอนรถติด
แต่ถ้าเปิดร้านที่เขตตะวันออกเฉียงใต้ ของเมือง คนที่อาศัยอยู่เขตเหนือกับ
เขตตะวันออกก็ต้องถ่อข้ามเมืองไปที่ร้านถ้าอยากกิน ใช้เวลาเดินทางอย่างต่ำ
ประมาณหนึ่งถึงสองชั่วโมง
กินเสร็จก็ต้องขับรถฝ่านรกรถติดช่วงเย็นกลับบ้านอีกสองชั่วโมง…
แค่คิดก็ขนลุกแล้ว…
แถมสภาพธุรกิจในละแวกก็ไม่ได้ดี ไม่มีสถานบันเทิ ง ใครมันจะถ่อมาไกลเพื่อ
แค่มากินข้าวกัน
มองยังไงแผนนี้ก็ดูบ้ามากๆ
แต่บอสเผยเคยอธิบายเหตุผลที่เลือกทำเลตรงนี้ไปแล้ว บอสคาดการณ์ว่าหมิง
หยุนวิลล่าจะกลายเป็นย่านการค้าแห่งต่อไปของเมืองจิงโจว เลยชิงลงมือล่วงหน้า
ก่อน
จุดนี้บอสเผยกำลังวางแผนต่างๆ ให้สอดคล้องกัน
แต่ไม่ว่าจางหยวนจะวิเคราะห์ยังไง ทำเลตรงนี้ก็ดูไม่เหมือนย่านการค้าเลยสัก
นิด เพราะมันทั้งเงียบเหงาและไร้ผู้คน…
ทั้งสามเดินดูที่ไปเรื่อยๆ
ตอนนั้นเองจางหยวนก็ตาเป็นประกาย
เขาสังเกตเห็นร้านหนึ่งกำลังปรับปรุงอยู่!
เป็นร้านสองชั้นที่ดูดีทีเดียว
จางหยวนจำได้ว่าครั้งก่อนที่มา ร้านนั้นปิดให้บริการไปแล้ว แถมยังดูเหมือน
ถูกปล่อยทิ้งร้างมาได้สักพัก
มีคนเพิ่งมาซื้อต่อกิจการร้านนี้เหรอ
จางหยวนเดินไปแถวหน้าร้านแล้วถามอะไรคนงานแถวนั้นเล็กน้อย
จากนั้นเขาก็ได้รู้ว่าตรงนี้จะเปิดเป็นร้านกาแฟ!
ดูแล้วเจ้าของร้านนี้น่าจะหวังดึงลูกค้ากระเป๋าหนักที่อาศัยอยู่ในหมิงหยุนวิล
ล่า!
เห็นได้ชัดว่าร้านกาแฟร้านนี้น่าจะแย่งลูกค้าไปจากร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูและ
ยอดขายจะต้องกระทบแน่ เพราะร้านนี้อยู่ใกล้หมิงหยุนวิลล่ามากกว่า เดินมา
ประมาณสิบนาทีก็ถึงแล้ว
จู่ๆ แถวนี้ก็ดูเงียบเหงาน้อยลงกว่าเดิม!
เผยเชียนเดินต่อไปเรื่อยๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
พวกเขาไปถึงทำเลแรกที่เลือกไว้
ตอนแรกเผยเชียนเลือกทำเลตรงนี้เพราะอยู่ท่ามกลางร้านมากมายที่ปิด
กิจการไป เป็นทำเลร้างผู้คน เหมาะสำหรับใช้เป็นจุดซ่อนตัวของภัตตาคาร
ระดับสูงของเขา
แต่ตรงถนนถัดไปมีร้านใหญ่ร้านหนึ่งกำลังปรับปรุงอยู่!
จางหยวนเดินไปคุยกับคนงานอีกครั้งแล้วพบว่ามีคนกำลังจะมาเปิดบาร์ตรงนี้
ดูจากขนาดร้านและการตกแต่งภายในอันแสนหรูหราแล้ ว บาร์นี้น่าจะไม่ใช่บาร์
กระจอกๆ!
จางหยวนอดเหลือบมองบอสเผยด้วยความเคารพยกย่องไม่ได้
บอสเผยช่างมีสายตาเฉียบคมเรื่องการทำธุรกิจจริงๆ!
ไม่กี่วันก่อน บอสเพิ่งจะบอกไปว่าสภาพธุรกิจในย่านนี้จะพัฒนาไปอย่าง
รวดเร็ว และกลายเป็นย่านการค้าแห่งต่อไปของเมืองจิงโจว ตอนนี้ มีคนเข้ามา
ลงทุนเปิดธุรกิจในย่านนี้แล้วจริงๆ!
ถึงบริเวณนี้จะยังดูเงียบเหงาไร้คนสัญจร แต่พอสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
เปิดให้บริการ ย่านนี้คงจะคึกคักขึ้นแน่นอน!
พอเปิดภัตตาคารระดับสูงตรงนี้ ลูกค้าก็จะมีที่สำหรับกินข้าว จากนั้นก็ไปดื่ม
ต่อที่บาร์ใกล้ๆ จู่ๆ ย่านนี้ก็ดูน่าสนใจขึ้นมา!
บอสเผยช่างสายตาเฉียบคมจริงๆ ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของบอสหมด
เลย!
ระหว่างนั้นมุมปากของเผยเชียนก็กระตุกเล็กน้อย
ใครวะ!
ฉันใช้เวลาตั้งนานกว่าจะหาที่ร้างคนแบบนี้ได้ แกบังอาจมาสร้างปัญหาให้ฉัน
ได้ไง!
ทำเลร้างคนขนาดนี้ แกยังจะมาลงทุนอีกเหรอ เปิ ดทั้งร้านกาแฟ ทั้งบาร์ ไม่
กลัวขาดทุนรึไง!
ถึงฉันจะขาดทุน แต่ก็ยังมีระบบช่วยหักกลบลบหนี้ให้ แต่แกไม่มีนี่
แกมันบ้าไปแล้ว ที่มาทำให้ทั้งตัวเองและคนอื่นต้องเดือดร้อนแบบนี้!
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก เขาแค่อยากหาที่เงียบๆ ที่จะทำให้ตัวเองขาดทุน
แล้วทำไมถึงมีคนแส่มาร่วมวงด้วยล่ะ
ที่สำคัญที่สุดคือหมอนั่นเปิดทั้งบาร์และร้านกาแฟ พอเปิดร้านอย่างเป็น
ทางการก็จะดึงดูดคนจากหมิงหยุนวิลล่ามาได้
ถ้าฉันเปิดภัตตาคารระดับสูงตรงนี้ ต้องมีคนเจอเข้าแน่!
เกิดมีคนเมาเดินว่อนไปทั่วก็จะบังเอิญเจอร้านฉันได้
แล้วจู่ๆ ทำเลตรงนี้ก็จะมีคนหลั่งไหลเข้ามา!
ไอ้บ้าหน้าไหนมันว่างถึงขนาดมาลงทุนกับทำเลแบบนี้กัน…
เผยเชียนนึกอะไรขึ้นได้ เขาถึงบางอ้อทันที
อ๋อ ต้องเป็นคนที่ซื้อข้อมูลร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไปแน่!
เจ้านั่นเชื่อข้อมูลปลอมของฉัน!
น่าจะคิดว่ารอบๆ หมิงหยุนวิลล่าจะดังขึ้นมา ก็เลยเลือกมาลงทุนแถวนี้ จะได้
ทำเงินได้ในอนาคต
เผยเชียนรู้สึกขมขื่น แกจัดการอะไรเร็วเกินไปแล้ว…
ฉันเพิ่งจะปล่อยข้อมูลปลอมไปได้ไม่นาน แต่แกดันติดกับทันทีเลยเนี่ยนะ แก
จะเชื่อฉันมากเกินไปรึเปล่า…
สีหน้างุนงงของเผยเชียนเปลี่ยนเป็นยินดีปรีดาทันที
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี!
แกทุ่มเงินตัวเองเปิดร้านแย่งลูกค้าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไปเป็นของตัวเอง
แกกำลังทำร้ายตัวเองเพื่อช่วยเหลือฉัน!
ถึงจะไม่ดีต่อภัตตาคารระดับสูงของฉัน เพราะจะเพิ่มโอกาสให้คนรู้จักร้าน
มากขึ้นแต่ก็ไม่เป็นไร ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องทำเลเปิดร้าน เดี๋ยวเลือกที่อื่นแทน
ก็ได้!
เผยเชียนตัดสินใจทิ้งทำเลนี้แล้วเดินต่อไปอีก
หม่าหยางเดินตาม ส่วนจางหยวนยืนงง เขาหันมองบาร์ที่กำลังปรับปรุงอยู่
สลับกับบอสเผยที่กำลังเดินจากไป จู่ๆ เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำตัวยังไง
หลังจากนั้นเขาก็รีบตามหลังบอสเผยไป
อะไรกันเนี่ย
แถวนี้มีร้านเปิดใหม่ตั้งเยอะแยะ เหมาะใช้เป็นทำเลเปิดภัตตาคารเลยไม่ใช่
เหรอ ทำไมไม่เลือกตรงนี้ล่ะ
ทำไมบอสเผยเดินหนีไปไม่หันมองเลย
ในหัวของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรออกมา เขาเลือกที่
จะเดินตามหลังบอสเผยไปเงียบๆ แทน
บทที่ 209 ก็...ไม่ได้แพงเลยนี่

เผยเชียนเดินมองไปรอบๆ พลางครุ่นคิดอย่างหนัก
หลายร้านในละแวกนี้กำลังปรับปรุงใหม่ หมายความว่าถ้าเปิดภัตตาคาร
ระดับสูงที่นี่ก็มีโอกาสสูงที่คนอื่นจะมาเจอ
ดังนั้นทำเลทั้งหมดที่เลือกไว้ก่อนหน้านี้จึงกลายเป็นใช้ไม่ได้สักที่
เผยเชียนเดินไปเรื่อยๆ จนถึงบริเวณใกล้ๆ ย่านพักอาศัยหมิงหยุนวิลล่าโดยไม่
รู้ตัว
พอเห็นวิลล่าที่ตั้งอยู่ห่างออกไปบนเนินเขา ชายหนุ่มก็เริ่มครุ่นคิด
หมิงหยุนวิลล่าตั้งอยู่ที่เขาไร้ชื่อ (หรือก็แค่กองหินกองทราย) นอกเมืองจิงโจว
วิลล่าส่วนมากจะอยู่ตรงตีนเขา มีบางส่วนที่ตั้งเหนือขึ้นไปเกือบครึ่งเขา วิลล่า
เหล่านี้มีชื่อเรียกว่า ‘วิลล่ายอดเขา’
เท่าที่เผยเชียนรู้มา หมิงหยุนวิลล่าขายวิ ลล่าออกไปได้ไม่มาก โดยเฉพาะหลัง
ที่อยู่ไกลขึ้นไปบนยอดเขา
ที่เป็นอย่างนั้นหลักๆ มาจากสองเหตุผล
เหตุผลแรกคือวิลล่าเหล่านี้ไม่มีมูลค่าด้านการลงทุน ราคาของมันสูงเกินไปมี
ไม่กี่คนที่จ่ายไหว
หมิงหยุนวิลล่าถือว่าอยู่เขตนอกเมืองจิงโจว คนที่จะซื้อวิลล่าที่นี่ ส่วนใหญ่มัก
มีอสังหาริมทรัพย์ในเมืองที่ราคาเท่าๆ กันอยู่แล้ว แถมคนส่วนใหญ่ยังไม่อยาก
อาศัยอยู่นอกเมืองด้วย
ถ้าจะซื้อวิลล่าไว้เป็นบ้านพักตากอากาศเผื่อนานๆ ทีแวะมาพัก อัตราความ
คุ้มค่าต่อราคาก็ถือว่าต่ำมาก
ดังนั้นวิลล่าพวกนี้จึงสูญเสียมูลค่าไปอย่างง่ายดายหลังจากซื้อไป เว้นเสียแต่
ว่าจะมีเศรษฐีที่มีเงินมากจนไม่รู้จะเอาไปทำอะไรมาซื้อเล่นๆ ส่วนคนทั่วไปไม่มี
ใครคิดจะซื้อวิลล่าที่นี่
เหตุผลที่สองคือวิลล่ายอดเขาของหมิงหยุนวิลล่าสร้างโดยอ้างอิงมาตรฐานวิล
ล่ายอดเขาของต่างประเทศ ทุกหลังถูกออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังที่ลงมาดูงาน
ด้วยตัวเอง ดังนั้นราคาจึงแพงกว่าวิลล่าบริเวณตีนเขามาก
ด้านบนมีกระทั่งสระน้ำไร้ขอบ รอบบริเวณจัดตกแต่งอย่างหรูหรา
หลังจากประกาศขาย หลายคนมองว่าไม่รู้จะซื้อไปทำไม
ส่วนหนึ่งเพราะแพงเกินไป อีกส่วนมาจากการที่พวกไฮโซที่คิดจะซื้อวิลล่านั้น
มักอยากออกแบบวิลล่าตามใจตัวเอง บางคนไม่ชอบงานออกแบบนี้และยืนกราน
จะให้ทำทุกอย่างแบบที่ตัวเองต้องการ
แบบวิลล่าของพวกไฮโซอธิ บายได้ย ากมาก บางคนอยากให้ สร้า งโดยอิ ง
สถาปัตยกรรมแบบบาโรก มีโต๊ะหินอ่อนแบบสมัยก่อนที่นั่งได้แปดคน บางคน
อยากได้วิลล่าสไตล์ฝรั่งเศสแต่งด้วยเครื่องเรือนไม้สีแดง บางคนอยากได้วิลล่า
สไตล์เมดิเตอร์เรเนียนที่มีรูปปั้นสิงโตประดับอยู่หน้าทางเข้า บางคนอยากได้เป็น
วิลล่าแนวคอตเทจมีสระปลาคาร์ฟ บางคนอยากได้วิลล่าสไตล์จีนผสมสไตล์
สถาปัตยกรรมฟื้นฟูคลาสสิกของทางยุโรป
ทีไ่ ล่มาทั้งหมดถือว่าเป็นแบบพื้นฐาน
พอซื้อวิลล่ามา สิ่งแรกที่พวกไฮโซทำคือทุบนั่นเปลี่ยนนี่ จากนั้นก็จ้างคนมา
ช่วยแปลงวิลล่าให้เป็นบ้านแบบที่ต้องการ แถมยังยืนกรานจะต่อเติมส่วนที่ไม่
สามารถทำได้เพิ่มเข้าไปอีก
ไม่ใช่ว่าไฮโซทุกคนจะมีรสนิยมดี แต่พวกเขาล้วนมีวิลล่า แบบที่อยากได้ในใจ
แตกต่างกันไป
ด้วยเหตุนี้วิลล่ายอดเขาที่หมิงหยุนวิลล่าจึงตกอยู่สถานการณ์กลืนไม่เข้าคาย
ไม่ออก
แต่ละหลังถูกออกแบบและปรับปรุงให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อที่จะขายได้
ราคาแพงๆ แต่พวกไฮโซกลับไม่ซื้อ
ถ้าซื้อวิลล่าที่นี่ไป พวกเขาก็ต้องมาแก้ทุกอย่างใหม่ ต้องใช้เงินล้านถึงสองล้าน
หยวน แทนที่จะทำแบบนั้น สู้ไปซื้อหลังที่ใกล้สมบูรณ์น่าจะดีกว่า
ถ้าคิดตามนี้อัตราคุณภาพต่อราคาจึงเท่ากับศูนย์
ดังนั้นวิลล่ายอดเขาจึงมียอดขายแย่ที่สุดในหมิงหยุนวิลล่า เรียกได้ว่าเป็นที่สุด
ของความล้มเหลว
ที่แย่ที่สุดคือ มีที่ดินผืนหนึ่งในบริเวณวิลล่ายอดเขาที่กำหนดไว้ว่าจะใช้เพื่อ
การพาณิชย์และที่อยู่อาศัย ดังนั้นจึงมีพื้นที่ส่วนเล็กๆ ในวิลล่าที่เอาไว้ใช้ในเชิง
พาณิชย์ได้ ตามแผนเดิมวิลล่ากึ่งพาณิชย์นี้จะตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
แยกตัวออกจากส่วนที่เป็นวิลล่าเพื่อการพักอาศัยล้วนๆ สภาพจึงดูย่ำแย่เข้าไปอีก
แต่เผยเชียนกลับคิดว่าทำเลตรงนั้นไม่เลวเลย
ถ้าตั้งภัตตาคารตรงนั้น คนอื่นๆ ก็น่าจะหาเจอได้ยากกว่าเดิม
เทียบกับทำเลที่เลือกไว้ก่อนหน้านี้ ทำเลตรงนั้นน่าจะดีกว่า!
ในทางปฏิบัติวิลล่ากึ่งพาณิชย์สามารถใช้ในเชิงพาณิชย์อย่างเดียวได้ ขอแค่
ติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงและปรับให้ถูกสุขลักษณะตามที่กฎหมายกำหนด
เนื่องจากเผยเชียนจะเปิดภัตตาคารระดับสูง เขาจึงต้องทำให้ได้ตามมาตรฐาน
นี้
นอกจากนั้นเขายังต้องให้ความสำคัญเรื่องผลกระทบต่อผู้อาศัยในละแวก
เดียวกันด้วย
ภัตตาคารอาจสร้างมลภาวะทางเสียง ก่อให้เกิดความไม่ส ะดวก เกิดปัญหา
เรื่องการจัดการที่จอดรถ และอื่นๆ ที่อาจกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้อาศัย
แต่เรื่องนี้น่าจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร
นั่นก็เพราะวิลล่ากึ่งพาณิชย์ตั้งแยกออกมาจากวิลล่าเพื่อการอาศัยโดยเฉพาะ
แถมวิลล่ายอดเขายังตั้งอยู่โดดๆ ไม่ได้ติดกับหลังอื่น
ตามแผนโครงการ วิลล่ากึ่งพาณิชย์มีทางเข้าออกส่วนตัว ทำให้ง่ายต่อการขับ
รถเข้าออก
อีกทั้งภัตตาคารก็ไม่น่าจะมีลูกค้ามากนัก อยากมากก็แค่ตอนเผยเชียนพา
พนักงานมากินเลี้ยง พวกเขามาเพื่อกินอย่างเดียวไม่ได้ทำกิจกรรมอื่น เช่น การ
ร้องเพลง พอสองทุ่มก็แยกย้าย เพื่อที่จะได้ไม่รบกวนผู้อาศัยในละแวก
เทียบกันกับทำเลที่เลือกไว้ก่อนหน้า ทำเลตรงนั้นตั้งอยู่ลึกกว่า น่าจะหาเจอ
ยากยิ่งกว่าเก่า!
ใครจะไปคิดเล่าว่าจะมีภัตตาคารซ่อนตัวอยู่ในเขตวิลล่ากัน
เผยเชียนดีใจมาก ดูสิ นี่แหละโชคดีในโชคร้าย!
ฉันต้องทิ้งทำเลที่เลือกไว้ แต่ก็บังเอิญไปเจอทำเลใหม่ที่ดีกว่าเดิม!
คำถามคือจะเช่าได้ไหมและราคาจะเท่าไหร่ ถ้าเช่าไม่ได้ ซื้อเลยได้รึเปล่านะ
ตามกฎของระบบ เผยเชียนไม่สามารถซื้อและลงทุนในสินทรัพย์ขนาดใหญ่ได้
แต่เขาแค่จะใช้เงินทุนระบบเพื่อซื้อวิลล่ากึ่งพาณิชย์มาเปิดเป็นภัตตาคาร
ระดับสูงภายใต้ชื่อบริษัท ไม่ได้คิดจะกว้านซื้อหรือเอาไปลงทุนเก็งกำไร เพราะงั้น
ก็ไม่น่ามีปัญหาใช่ไหม
คิดอย่างนั้นเผยเชียนก็พาหม่าหยางกับจางหยวนเข้าไปในหมิงหยุนวิลล่า
จางหยวนงงยิ่งกว่าเดิม
บอสเผยคิดจะทำอะไร
บอสเห็นวิลล่าในหมิงหยุนวิลล่าแล้วเกิดอยากซื้อไว้เป็นของตัวเองเหรอ
ดูจากรายได้ของบอสแล้ว จะซื้อสักหลังก็ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงอะไร
จางหยวนไม่ได้คิดอะไรมากนักระหว่างที่เดินตามหลังเผยเชียนไป

พอไปถึงสำนักงานขาย เผยเชียนก็อธิบายจุดประสงค์ที่มา พนักงานสาวตรง
โต๊ะรับรองโทรศัพท์หาใครสักคน จากนั้นก็ยกชามาเสิร์ฟทั้งสาม ประมาณครึ่ง
ชั่วโมงต่อมา ผู้จัดการชุยก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา
ระหว่างทางผู้จัดการชุยนึกสงสัยว่าทำไมวันนี้ลูกค้าถึงเข้ามาหาถึงสำนักงาน
ขายเอง ถือเป็นเรื่องที่แปลกมาก
แปลกเหมือนมีคนเดินเข้าไปซื้อประกันที่บริษัทเอง
หมิงหยุนวิลล่าเปิดขายวิลล่ามาเกือบปีแล้ว เศรษฐีที่สนใจพากัน จับจองวิลล่า
เป็นของตัวเองไปนานแล้ว ทำไมยังมีคนรอจนถึงตอนนี้อีก
แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ถือเป็นเรื่องดีที่ลูกค้าเข้ามาหาเอง ถึงจะไม่ได้ตั้งใจมาซื้อ แค่
อยากเข้ามาดู ผู้จัดการชุยก็ต้องไปต้อนรับ
หลังจากทักทายผู้จัดการชุย เผยเชียนก็เข้าเรื่องทันที
“ผู้จัดการชุย ผมเช่าวิลล่ายอดเขาได้รึเปล่าครับ”
ผู้จัดการชุยที่เพิ่งจะนั่งลงแทบสำลักชาที่ยกขึ้นจิบตอนได้ยินคำถาม
ชายหนุ่มตรงหน้าสวมสูทสั่งทำ ดูแล้วไม่น่าจะจนอะไร แต่กลับมาขอเช่า
ไม่ได้จะซื้อเนี่ยนะ
ตามกฎแล้ว ถ้าเจ้าของโครงการถือเป็นเจ้าของวิลล่า สามารถปล่อยเช่าได้
แต่ใครจะเช่าไหว
ถ้าปล่อยเช่าตามราคาตลาดก็จะตกอยู่ที่ประมาณสองถึงสามหมื่นหยวนต่อ
เดือน ใครมันจะว่างขนาดมาเช่าวิลล่าในละแวกปลอดผู้คนแบบนี้ ที่แถวนี้ไม่
เหมาะจะพักอาศัยเลย
อีกอย่างถึงจะมีคนคิดอยากเช่า เจ้าของโครงการก็ไม่อยากปล่อยอยู่ดี
วิลล่าในโครงการตกแต่งเป็นเอกลักษณ์ สระน้ำและเครื่องเรือนต่างๆ ได้รับ
การดูแลเป็นอย่างดี พวกเขาเข้าไปทำความสะอาดและซ่อมแซมอยู่เป็นพักๆ เผื่อ
ว่าจะมีไฮโซคนไหนสนใจ จะได้ปล่อยขายได้เลย
นอกจากปัญหาเรื่องการรักษาสภาพวิลล่าแล้ว ถึงจะปล่อยเช่าไป เจ้าของ
โครงการก็ได้เงินแค่เดือนละสองถึงสามหมื่นหยวน ซึ่งพวกเขาไม่ได้สนใจเลย
ผู้จัดการชุยดูลำบากใจ “ขอโทษจริงๆ ครับ เราปล่อยขายอย่างเดียว ไม่ได้
ปล่อยเช่า”
เผยเชียนพยักหน้า เขากะเอาไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ “งั้นเหรอครับ เสียดาย
จัง
“ถ้างั้นก็คงต้องซื้อ”
เขาพูดให้ระบบได้ยิน ดูสิ ฉันพยายามประหยัดเงินบริษัทแล้วนะ ฉันเจอวิลล่า
ที่เหมาะจะเอามาทำเป็นภัตตาคารระดับสูง แต่เจ้าของปล่อยขายอย่างเดียว ไม่
ยอม ให้เช่า!
ผู้จัดการชุยตะลึงงันไป
ที่บอกว่า เสียดายจัง ถ้างั้นก็คงต้องซื้อ นี่หมายความว่ายังไงกัน
ทำไมฟังดูไม่เต็มใจเลย
เผยเชียนยกชาขึ้นจิบแล้วถามเรื่องราคา
ผู้จัดการชุยรีบตอบ “ถ้าสนใจวิลล่ายอดเขาของเรา พื้นที่ใช้สอยประมาณหก
ร้อยตารางเมตร มีลิฟต์ส่วนตัว สระว่ายน้ำ สวน พร้อมบริการดูแล ราคาอยู่ที่
ตารางเมตรละหนึ่งหมื่นสองพันหยวน รวมแล้วตกประมาณหกล้านสามแสน
หยวนครับ”
เผยเชียนเงียบไปครู่หนึ่ง “ก็…ไม่ได้แพงเลยนี”่
บทที่ 210 ทำเลภัตตาคารเหรอ เลือกไปแล้วไง

ผู้จัดการชุยอ้าปากค้างเล็กน้อย ดูเหมือนจะพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
ก็ไม่ได้แพงเหรอ
ถ้าไม่ได้แพง ทำไมถึงขายไม่ออกมานานขนาดนี้ล่ะ!
จริงๆ แล้วราคาวิลล่าที่นี่สูงกว่าวิลล่าหลายแห่งในเมืองจิงโจว จุดขายของที่นี่
อยู่ที่การออกแบบ การตกแต่งอย่างประณีต และการที่เป็นวิลล่าหลังเดี่ยวตั้งบน
เนินเขา
ที่เผยเชียนคิดว่าไม่แพงเพราะเขาเผลอไปเทียบกับราคาในความทรงจำ
แค่เจ็ดล้านหยวนก็ซื้อวิลล่าหลังโตขนาดนี้ได้แล้วเหรอ ถือว่าไม่แพงเลย!
ถ้าไปซื้อวิลล่าหลังขนาดนี้ที่ปักกิ่ง เซียงไฮ้ หรือกวางโจวในอีกสิบปีข้างหน้า
ราคาอาจพุ่งไปแตะหลักสิบถึงร้อยหยวนเลยทีเดียว
นอกจากนั้นเผยเชียนยังได้รับการอนุมัติแล้วว่าสามารถใช้เงินทุนระบบซื้อวิล
ล่าได้!
แต่วิลล่าที่ซื้อมาจะถือเป็นทรัพย์สินของบริษัท เอาไปทำเป็นภัตตาคารได้ แต่
ใช้เป็นที่พักอาศัยไม่ได้
พูดอีกอย่างคือ เขาจะต้องใช้วิลล่าที่ซื้อมาในการประกอบธุรกิจและแสวงหา
ประโยชน์ในฐานะทรัพยากรอย่างหนึ่ง
นอกจากนั้นแล้ว การใช้เงินทุนบริษัทซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้น เขาจะต้อง
จ่ายเงินมากกว่าการซื้อในนามของตัวเอง เพราะต้องจ่ายภาษีโรงเรือนและไม่ได้
ส่วนลดเงินกู้ ถ้าจะขายในภายหลังก็ต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าแสตมป์อากร และ
ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมต่างๆ ทำให้การขายสินทรัพย์แบบนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก
แต่เรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้สำคัญสำหรับเผยเชียน แค่ระบบอนุญาตให้ เขาใช้เงินทุน
ระบบซื้อวิลล่ามาทำเป็นภัตตาคารก็ถือเป็นเรื่องน่าแปลกใจมากแล้ว!
เผยเชียนเหลือบมองจำนวนเงินทุนระบบที่เหลืออยู่
หลังสรุปบัญชี เงินทุนระบบมีตั้งต้นแปดล้านหยวน ตอนนี้ผ่านมาสามสัปดาห์
แล้ว แค่รายได้จากเกมฐานทัพกลางทะเลก็ปาไปหกล้านกว่าหยวนแล้ว
ตอนต้นเดือน ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมีรายได้ก้อนโตจากยอดขายเครื่องดื่ม
ค่าเช่าต้องจ่ายทุกสามเดือน ตอนนี้จึงไม่ได้อยู่ในสภาพขาดทุน รายได้ทั้งหมดของ
ร้านโอนเข้าระบบโดยตรง
เผยเชียนเอาเงินไปทุ่มลงทุนกับโปรเจ็กต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บจงเตี่ยนจงเห
วิน ฉางหยางเกมส์ และจุดบริการนี่เฟิง ตอนนี้จึงเหลือเงินทุนระบบอยู่ประมาณ
แปดล้านกว่าหยวน
พอเพียงสำหรับการซื้อวิลล่า แต่เขาก็ต้องกันเงินไว้ให้เถิงต๋ากับฉางหยาง
เกมส์ด้วย
งบสร้างเกมกลับใจคือฟากฝั่งอยู่ที่ยี่สิบล้านหยวน ใช้เวลาสามเดือนในการทำ
ดูจากรายได้จากเกมอื่นๆ แล้ว เผยเชียนคิดว่าน่าจะมีงบพอสำหรับสร้างเกม
แต่ถ้าซื้อวิลล่าไปหกล้านหยวนก็จะเหลือเงินไม่พอ
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องทำอาวุธในตำนานมาขายเพิ่มใน
เกมฐานทัพกลางทะเล!
อาวุธในตำนานราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน คำนวณอัตราส่วนแบ่งกำไร
70 : 30 พวกเขาต้องขายหนึ่งหมื่นชิ้นเพื่อให้ได้เงินหกล้านหยวน
ถ้างั้นเขาจะทำอาวุธลิมิเต็ด จำกัดจำนวนขายแค่หนึ่งหมื่นชิ้น พอขายหมดก็
จะได้เงินมาคืนที่ใช้จ่ายในส่วนนี้ไป
คิดได้แบบนั้น เผยเชียนก็ส่งข้อความไปบอกเลขาซินให้มาจัดการเรื่องต่างๆ
ให้
จากนั้นก็บอกให้ผู้จัดการชุยช่วยพาไปดูวิลล่า

หมิงหยุนวิลล่ามีวิลล่ายอดเขาอยู่แปดหลัง แต่ละหลังตั้งแยกห่างกันไกล
พอสมควร มั่นใจได้ว่าบรรยากาศรอบๆ จะเงียบสงบ
เผยเชียนจงใจเลือกดูวิลล่าที่อยู่ชิดเขตตะวันตกเฉียงเหนือที่สุด หลักๆ เพราะ
กลัวว่าตอนพาพนักงานมากินเลี้ยง รถที่สัญจรเข้าออกจะไปรบกวนผู้พักอาศัยคน
อื่นๆ
พวกเขาจะเข้าภัตตาคารจากฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ กินเสร็จก็กลับออกไป
เลย น่าจะสะดวกกว่า
วิลล่าหลังนี้มีพื้นที่ใช้สอยประมาณห้าร้อยแปดสิบตารางเมตร มีสามชั้น หก
ห้องนอน สามห้องนั่งเล่น สามห้องน้ำ เพดานห้องนั่งเล่นสูงเจ็ดเมตร ตกแต่ง
ภายในและลงเฟอร์นิเจอร์ครบเรียบร้อย
แน่นอนว่าเผยเชียนไม่ได้ต้องการเฟอร์นิเจอร์ เพราะเขาตั้งใจจะทำที่นี่เป็น
ภัตตาคาร การตกแต่งภายในส่วนใหญ่คงไว้แบบเดิมได้ แต่ต้องเปลี่ยนแผนผังห้อง
ต่างๆ รวมถึงห้องครัว ห้องน้ำ และอื่นๆ ด้วย
สระน้ำไร้ขอบกับวิวจากด้านบนเนินเขาให้บรรยากาศที่ดีเลยทีเดียว
เผยเชียนเดินไปรอบๆ ในใจรู้สึกท่วมท้น
เป็นคนรวยนี่มันดีจริงๆ!
ถ้ารอบบัญชีหน้าขาดทุนได้สักเจ็ดล้านหยวน ฉันจะซื้อวิลล่าแบบนี้อีกหลังไว้
อยู่เอง!
คนเรามีความฝันได้ และทุกความฝันมีโอกาสเป็นจริงได้
ผู้จัดการชุยพยายามขายตรงวิลล่าหลังนี้อย่างเต็มที่
เขาเป็นคนขายเก่งอยู่แล้ว แถมวิลล่าก็ออกแบบมาเป็นอย่างดี นอกจากเรื่อง
ราคาแล้ว ทุกอย่างดีสุดๆ ใครได้มาดูก็ต้องหลงเสน่ห์
หม่าหยางกับจางหยวนเดินตามเผยเชียนไปรอบๆ วิลล่า
ทั้งสองคิดเหมือนเผยเชียนเป๊ะ
เป็นคนรวยนีม่ ันดีจริงๆ!
หลังจากเดินชมจนทั่ว จางหยวนก็หันไปพูดกับเผยเชียน “บอสเผยอยู่ดูวิลล่า
ต่อกับบอสหม่าก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมไปหาทำเลเปิดภัตตาคารต่อ”
เผยเชียนหันไปหาอีกฝ่าย “ภัตตาคารเหรอ ได้ทำเลแล้ว ที่นี่ไง”
จางหยวนอึ้งไป
ที่นี่เหรอ
ที่ตรงนี้มีคนสัญจรผ่านไปมาน้อยมาก ทำไมบอสเผยถึงคิดจะเปิดภัตตาคาร
ระดับสูงในที่ร้างผู้คนแบบนี้
เผยเชียนไม่ได้สนใจอาการตกใจของจางหยวน เขาหันไปพูดกับผู้จัดการชุย
“ผู้จัดการชุย ผมอยากซื้อวิลล่ายอดเขากึ่งพาณิชย์มาทำเป็นภัตตาคารส่วนตัว ไม่
น่าจะมีปัญหาอะไรใช่ไหมครับ”
ผู้จัดการชุยอึ้งไป “อยากซื้อวิลล่ากึ่งพาณิชย์เหรอครับ เอ่อ… ได้อยู่แล้วครับ!
“วิลล่าแบบที่ว่าสามารถใช้พักอาศัยหรือใช้ในเชิงพาณิชย์ก็ได้ เดี๋ยวผมแจ้ง
เจ้าของโครงการเรื่องนี้ให้ครับ”
ผู้จัดการชุยรู้สึกแปลกใจ เขาไม่คิดว่าบอสเผยจะอยากซื้อวิลล่ากึ่งพาณิชย์
วิลล่ากึ่งพาณิชย์นั้นขายยากที่สุด เพราะตั้งอยู่ในละแวกที่ไม่ค่อยมีคนสัญจร
ผ่านไปมา มันตั้งแยกออกมาจากวิลล่าสำหรับพักอาศัยและตั้งอยู่ในเขตที่ร้างผู้คน
มากๆ ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง เทียบกับวิลล่ากึ่งพาณิชย์แล้ว เลือกอาศัยอยู่ที่วิล
ล่าแบบพักอาศัยจะดีกว่า
แน่นอนว่าการเปิดภัตตาคารตรงนี้ก็อาจมีปัญหาได้ เช่น เรื่องการจราจรและ
การจัดระเบียบผู้คน
วิลล่ากึ่งพาณิชย์ตั้งแยกห่างจากที่อื่น มีทางให้รถเข้าออกส่วนตัว ดังนั้นจึงไม่
น่าจะสร้างปัญหาให้ผู้พักอาศัยในวิลล่าอื่น
อีกอย่างเผยเชียนก็วางแผนเอาไว้แล้วว่าจะให้บริการภัตตาคารแบบสั่งจอง
ล่วงหน้าและแบบสมัครสมาชิก พวกเขาจะคุมจำนวนคนอย่างเข้มงวดไม่ให้ไป
รบกวนผู้พักอาศัยอื่น โดยจะพยายามระมัดระวังให้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต
ของผู้อื่นให้น้อยที่สุด
ส่วนเรื่องการเปิดภัตตาคารในที่ปลอดผู้คนแบบนี้จะทำกำไรได้หรือไม่นั้น…
ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
เพราะสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเจ้าของโครงการหมิงหยุนวิลล่าคือการขายวิลล่า
และรับเงินมา บอสเผยจะขาดทุนหรือเปล่าไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาจะต้องกังวล
เพราะไม่ได้ส่งผลกระทบถึงตัวเอง ยังไงพวกเขาก็เป็นฝ่ายที่ได้ประโยชน์
และสำหรับเผยเชียน การขาดทุนคือสิ่งที่เขาต้องการ
ถ้าระหว่างทางเจอปัญหาอะไร เขาก็สามารถใช้เงินแก้ปัญหาได้ ยังไงเงินที่ใช้
ก็เป็นเงินทุนระบบ ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว!

ไม่นานเลขาซินก็มาถึง
เห็นได้ชัดว่าเธอเองก็แปลกใจอยู่ไม่น้อย
ทำไมจู่ๆ บอสเผยถึงอยากซื้อบ้านขึ้นมา แถมยังเลือกซื้อวิลล่ายอดเขาที่มี
อัตราคุณภาพต่อราคาอยู่ ในระดับต่ำ ตั้งอยู่นอกเมือง อีกทั้งยังซื้อเป็นวิลล่ากึ่ง
พาณิชย์ในนามบริษัทด้วย
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก แต่เลขาซินก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย เธอทำงาน
ตามที่เผยเชียนสั่ง ต่อรองราคา เซ็นสัญญา และจัดการเรื่องต่างๆ เรียบร้อย
เผยเชียนจิบชาอย่างสบายใจ จากนั้นก็ส่งข้อความไปหาลู่หมิงเหลียง
“แบ่งเวลาไปสร้างอาวุธในตำนานชิ้นใหม่สำหรับเกมฐานทัพกลางทะเลที
ขายจำนวนจำกัดที่หนึ่งหมื่นชิ้น ครบจำนวนแล้วจะไม่วางขายอีก อาวุธชิ้นนี้จะ
เป็นอาวุธลิมิเต็ด”
เขาจะไม่หาเงินให้ได้เกินกว่าที่ต้องการ
เผยเชียนไม่มีวันฆ่าห่านทองคำของตัวเอง
เกมฐานทัพกลางทะเลกำลังไปได้สวย ที่มีคนเข้ามาเล่นเกมเพิ่มขึ้นมากมายก็
เป็นเพราะมีอาวุธหายากและมีมูลค่าทางการตลาด
ถ้าไม่จำกัดการขายปืนบาร์เร็ตมรณะก็จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสภาพ
การเงินของเกม
ดังนั้นหลังจากคิดๆ ดู เผยเชียนก็ตัดสินใจว่าการจะทำให้เกมฐานทัพกลาง
ทะเลทำเงินต่อไปได้เรื่อยๆ อย่างเป็นระบบ เขาจะขายอาวุธแค่สามประเภท
ประเภทแรกคือปืนบาร์เร็ตมรณะที่จำกัดการขายแค่ห้าร้อยชิ้นต่อเดือน เดือน
ถัดไปก็เปิดขายใหม่ ทำแบบนี้จะช่วยรักษามูลค่าของสินค้าและคนส่วนใหญ่ก็
สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้
ประเภทที่สองคืออาวุธในตำนานที่กำลัง จะทำขึ้นใหม่ เขาจะขายรวดเดียว
หนึ่งหมื่นชิ้นแล้วไม่วางขายอีก ปล่อยให้มูลค่าค่อยๆ เพิ่มขึ้น
ส่วนอาวุธในตำนานแบบปืนกิเลนเพลิงที่เปิดวางขายตลอดนั้น เผยเชียนยังไม่
คิดที่จะปล่อยอาวุธแบบนี้ออกมาเพิ่ม
ไม่อย่างนั้นรายได้ของเกมจะพุ่งขึ้นมา ไม่สามารถลดลงไปอยู่ในระดับเดิมได้
อีก แถมยังจะทำให้ผู้เล่นใช้จ่ายเงินเกินกว่าปกติอีกด้วย
ขอแค่ขายอาวุธในตำนานชิ้นใหม่ได้ครบหนึ่งหมื่นชิ้นเพื่อหาเงินที่ใช้ซื้อวิลล่า
ไปคืน ก็จะไม่กระทบกับเงินทุนหมุนเวียน การค้นคว้าและพัฒนาเกม รวมถึงโปร
เจ็กต์อื่นๆ
เผยเชียนจะซื้อสดเลย จะได้ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องกู้เงิน กระบวนการต่างๆ ก็จะ
ไวขึ้น ใช้เวลาอย่างมากประมาณสามถึงห้าวัน
เผยเชียนคิดคำนวณในหัว เรื่องการจัดการ การวางแผน และการปรับปรุง
ร้านน่าจะเสร็จสมบูรณ์ช่วงต้นเดือนหน้า
ทันช่วงวันที่ 1 สิงหาคมที่จะเลือกพนักงานดีเด่นพอดี เขาจะใช้เรื่องนี้เป็น
ข้ออ้างพาพนักงานมากินเลี้ยงและเฉดหัวพนักงานผู้โชคดีออกไปอย่างสุขใจ
แต่ก็ถือว่าน่าแปลกไม่น้อยที่ระบบยอมให้เผยเชียนใช้เงินทุนระบบซื้อวิลล่ามา
ทำเป็นภัตตาคาร
เป็นเพราะเผยเชียนเช่าที่ตรงนี้ไม่ได้เหรอ
หรือเพราะตอนนี้มีเงินทุนระบบพอให้ทำอย่างนั้น
ถึงจะทำได้แค่เปลี่ยนวิลล่าเป็นภัตตาคาร ไม่สามารถใช้อยู่อาศัยได้ แต่ระบบ
ก็ดูจะผ่อนปรนเรื่องกฎให้นิดหน่อย ถือเป็นเรื่องดี!
บทที่ 211 บอสเผยเย้ยฟ้าท้าดิน

วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม
ที่ฉางหยางเกมส์
หลินหวานกล้ำกลืนฝืนใจทนเล่นเกมเพลงรบโลหิตมาได้สองสัปดาห์
ตอนแรกเธอรู้สึกดูแคลนและไม่เข้าใจตัวเกมเลย แต่ตอนนี้เธอค้นพบแล้วว่า
เกมแบบนี้ก็มีความหมายในแบบฉบับของมัน
เกมเพลงรบโลหิตแบบดั้งเดิมเป็นเกมตามแบบฉบับที่วางให้ผู้เล่นใช้จ่ายเงิน
ซื้อของในเกม พวกวาฬสามารถจ่ายเงินเพื่อสัมผัส ประสบการณ์การเล่นที่ดีกว่า
ส่วน ผู้เล่นทั่วไปก็ร่วมเล่นกับวาฬในฐานะสหายร่วมรบหรือกระสอบทราย
รองรับการกระทืบได้
พูดอีกอย่างคือ คนมีเงินก็ใช้พลังแห่งเงินอวดเบ่ง ส่วนพวกไม่มีเงินก็ไปหา
เกาะคนอื่นเอา
เกมแนวสงครามที่มีระบบให้ผู้เล่นเสียเงินแบบเกมเพลงรบโลหิตจะมีแต่
พลังงานด้านลบ ปัญหาหนักที่สุดคือความไม่ยุติธรรมและการยุยงให้เกลียดชังกัน
สองปัญหานี้เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เกมแนวสงครามที่มีระบบให้ผู้เล่นเสียเงิน
คล้ายๆ กันโดนวิจารณ์ในแง่ลบ
เกมแนวนี้ผู้เล่นจะไม่เสมอภาคกันเพราะพลังรบที่มีจะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่
ทุ่มไปกับเกม ยิ่งรวยก็ยิ่งแข็งแกร่ง
ผู้เล่นจะถูกแบ่งออกเป็นระดับต่างๆ ยิ่งเติมเงินเยอะก็ยิ่งได้ประสบการณ์การ
เล่นที่แตกต่างกว่า
ถ้าเติมหนักก็สามารถฆ่าผู้เล่นสี่คนพร้อมกันด้วยตัวคนเดียวได้ ทำให้ผู้เล่นคน
อื่นต้องหวาดผวา
ความไม่เสมอภาคนี้จะทำให้เกิดความรู้สึกด้านลบในหมู่ผู้เล่น เหมือนคำพูด
ที่ว่า ‘ไม่ต้องกังวลว่าจะแบ่งให้น้อยหรือมาก แต่ควรจะแบ่งให้เท่าเทียมกัน’
นอกจากนั้นแล้ว เกมแนวนี้ยังสร้างความเกลียดชังในหมู่ผู้เล่นได้ง่ายมาก
เพราะผู้พัฒนาเกมส่วนใหญ่จะออกแบบตัวเกมให้มีการแข่งขันในหมู่ผู้เล่นสูงเพื่อ
บีบบังคับให้เติมเงินเยอะๆ
ยกตัวอย่างเช่น ตอนทำสงคราม
ถ้าสามารถยึดครองเมืองได้ ผู้เล่นคนนั้นก็จะได้ขึ้นเป็นราชา มีประกาศแจ้งผู้
เล่นทุกคนในเซิฟเวอร์ และผู้เล่นทุกคนในเมืองก็จะได้รับรางวัล เรียกได้ว่าเป็น
โอกาสสุดยอดในการอวดเบ่งความเก่งของตัวเองให้คนอื่นรู้
ผู้เล่นหลายคนอยากขึ้นเป็นราชา ทีนี้ก็ต้องวัดกันว่าใครเติมเงินเยอะกว่า
นายเติมหนึ่งหมื่น ฉันเติมสามหมื่น นายเติมห้าหมื่น ฉันเติมหนึ่งแสน…
ความคิดอยากเอาชนะนี้จะกลายเป็นวงจรอุบาทว์ วาฬสองตัวจะแข่งกันเติม
เงินซื้อข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตรงตามที่ผู้พัฒนาเกมต้องการ
ทุกๆ อัปเดตจะมีอุปกรณ์เพิ่มเข้ามา ไม่ว่าก่อนหน้านี้เหล่าวาฬจะเติมไปเยอะ
เท่าไหร่ พวกเขาก็ต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นถ้าไม่อยากโดนแซงหน้า
ผ่านไปปีสองปี ผู้เล่นที่เติมเงินไปมากมายก็จะมองย้อนกลับไป แล้วตระหนัก
ว่าเงินที่เสียไปนั้นได้เพียงความว่างเปล่ามาเท่านั้น
แต่ถ้ามองจากอีกมุม ทำไมเกมแบบนี้ถึงเป็นที่นิยมได้ล่ะ
นั่นก็เพราะในเกมมีโลกที่มีชีวิตชีวาและอัดแน่นไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
จริ ง ๆ แล้ ว เกมออนไลน์ แ นว MMORPG สมั ย ก่ อ นก็ ใ ช้ ก ลวิ ธ ี เ ดี ย วกั น
ตัวอย่างเช่น เกม Fantasy World เองก็มีระบบกิลด์ สมาชิกในกิลด์มีหัวหน้ากิลด์
ผู้จัดการกิลด์ หัวหน้าทีมผู้ช่วย ผู้บัญชาการ และอื่นๆ โดยผู้เล่นจะได้รับบทบาทที่
ต่างกัน
เกมสงครามที่มีระบบเก็บเงินผู้เล่นแบบเกมเพลงรบโลหิตทำให้ผู้เล่นรู้ สึกอิน
กับบทบาทที่ตัวเองได้รับ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์นั้นเป็นเรื่องซับซ้อน
แบ่งได้หลายระดับ
จุดเดียวที่แตกต่างกันคือ ผู้เล่นเกม Fantasy World นั้นรู้สึกภาคภูมิใจกับ
เวลาที่ทุ่มเทศึกษากลไกเกม ส่วนผู้เล่นเกมแนวสงครามที่มีระบบเก็บเงินจะรู้สึก
ภาคภูมิใจกับจำนวนเงินที่เติมเข้าเกม
ตอนนี้เกมเพลงรบโลหิตปรับใหม่ โดยตัดช่องทางการเก็บเงินผู้เล่นออกจน
เกือบหมด ทำให้เกิดความรู้สึกแง่ลบในหมู่ผู้เล่นน้อยลง กลับไปใช้รูปแบบเกม
MMORPG ดั้งเดิมเหมือนเกม Fantasy World
ขณะเดียวกันความสัมพันธ์อันซับซ้อนของมนุษย์ในเกมเพลงรบโลหิตก็ไม่ได้
หายไปไหน ผู้เล่นทุกคนได้รับบทบาทที่ต่างกัน ทำให้เกิดสังคมเกมที่เป็นไปด้วย
ความสงบขึ้นในเกม
ระบบ ‘ผู้ถูกเลือก’ คือตัวอย่างที่ดี ผู้เล่นแต่ละคนมีโอกาสได้รับบทบาท
สำคัญ ประสบการณ์นี้เป็นสิ่งที่หาไม่ได้จากเกมอื่น
เมื่อได้รับเลือกเป็น ‘ผู้ถูกเลือก’ ความสามารถของผู้เล่นจะเพิ่มขึ้นแซงหน้าผู้
เล่นคนอื่นๆ ทำให้ได้สัมผัสประสบการณ์แบบเกมแนว Hack and Slash[1]
เกมแนว Hack and Slash เองก็ให้ความรู้สึกเดียวกันได้ แต่ศัตรูที่ผู้เล่นต่อสู้
ด้วยไม่ใช่ผู้เล่นจริง เป็นแค่ AI กลับกันในเกมเพลงรบโลหิต ผู้เล่นจะได้สู้กับผู้ เล่น
ด้วยกัน ตัวละครแต่ละตัวบังคับโดยผู้เล่นจริงๆ
ผู้เล่นคนหนึ่งสามารถกลายเป็นพระเอกผู้ไร้เทียมทานนำทัพตีจุดสำคัญใน
สนามรบ แสดงความเก่งกาจต่อหน้าผู้เล่นนับร้อย เป็นเรื่องยากที่เกมแนวอื่นจะ
ทำให้ผู้เล่นรู้สึกถึงความสำเร็จแบบนี้ได้
ดังนั้นอัปเดตใหม่ของเกมเพลงรบโลหิตจึงพยายามรักษาประสบการณ์การ
เล่นแบบเกมแนวสงครามที่มีระบบเติมเงินเอาไว้ และตัดองค์ประกอบที่จะทำให้
เกิดความรู้สึกแง่ลบในหมู่ผู้เล่นออก
หลินหวานเพิ่งจะเข้าใจจุดนี้หลังจากเล่นเกมเพลงรบโลหิตและคุยกับผู้เล่นคน
อื่นๆ ในเกมทุกวันตั้งแต่ย้ายมา
“เข้าใจแล้ว เป็นฉันเองที่คิดตื้นไป ไม่รู้เลยว่าเกมจะมีอะไรเยอะขนาดนี้
“ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมพวกวาฬถึงชอบทุ่มเงินกับเกมแนวนี้มากกว่าเกม
แนว Fantasy World
“ฉันเข้าใจจุดประสงค์ของบอสเผยแล้ว
“ที่บอสถึงซื้อฉางหยางเกมส์ที่ขาดทุนหนักขนาดนี้มา
“ก็เพราะตั้งใจจะลองทำอะไรเสี่ยงๆ กับเกมเพลงรบโลหิต บอสอยากทดลอง
อะไรที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน!
“บอสเผยอยากให้ผู้เล่นเลิกเป็นทาสของเงิน อยากปรับเปลี่ยนทัศนคติผู้เล่น
และแสดงให้พวกเขาเห็นว่าทุกคนก็สามารถสัมผัสประสบการณ์เดียวกับพวกวาฬ
ได้โดยไม่ต้องเสียเงิน…
“ช่าง…เป็นจุดมุ่งหมายที่สูงส่งจริงๆ!
“เรียกได้ว่าเป็นการเย้ยฟ้าท้าดิน!”
หลินหวานต้องมองบอสเผยใหม่อีกครั้ง
เกมที่มีระบบเก็บเงินผู้เล่นนั้นจะหาเงินจากการขายประสบการณ์การเล่นที่
ทำให้รู้สึกโดดเด่นเกินหน้าคนอื่นให้กับพวกวาฬในราคาแพง
ไม่ว่าจะเป็นปีกสีทองวิบวับหรือตำแหน่งราชาในเกมแนวสงคราม ของพวกนี้
สร้างขึ้นมาเพื่อผู้เล่นสายวาฬโดยเฉพาะ ส่วนผู้เล่นสายวาฬเองก็ไม่ได้คิดมากที่จะ
จ่ายเงินซื้อ
ด้วยวิธีนี้บริษัทเกมก็มีรายได้ ส่วนผู้เล่นสายวาฬก็ได้สัมผัสประสบการณ์การ
เล่นที่เหนือชั้นกว่าคนอื่น คนที่ลำบากก็คือผู้เล่นที่ต้องมารับบทเป็นกระสอบทราย
ให้วาฬกระทืบ
ตอนนี้บอสเผยเลือกที่จะไม่ทำกำไรด้วยวิธีนั้น บอสอยากแบ่งประสบการณ์ที่
ผู้เล่นสายวาฬได้สัมผัสให้ผู้เล่นทั่วไปได้เข้าถึงด้วยกฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นมา
ถือเป็นการเย้ยฟ้าท้าดินเลยใช่ไหมล่ะ
หลินหวานรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังรับผิดชอบอยู่นั้นหนักอึ้งยิ่งกว่าเดิม
บอสเผยทุ่มเงินก้อนโตสร้างเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดขึ้นมาเพื่อกลบ
ข้อเสียเพียงจุดเดียวของเกม ซึ่งก็คือเรื่องกราฟิก หลังจากตัวเกมเสร็จสมบูรณ์
ด้วยความสามารถทางการตลาดที่แข็งแกร่งของเถิ งต๋า เกมนี้จะค่อยๆ เปลี่ยน
ตลาดเกมที่มีระบบเก็บเงินผู้เล่นภายในประเทศไป!
แน่นอนว่าอาจจะฟังดูเกินจริงไปหน่อย เกมที่มีระบบเก็บเงินไม่มีทางหายไป
ไหน ตราบใดที่เหล่าวาฬยอมจ่าย เกมก็ยังอยู่ในตลาดต่อไปได้
แค่เกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชั่นอัปเกรดสามารถเปลี่ยนตลาดเกมและทัศ นคติผู้
เล่นไปได้สักเล็กน้อย ก็ถือว่าสร้างผลกระทบได้มากแล้ว!
ผู้พัฒนาเกมบางส่วนชอบเลียแข้งเลียขาผู้เล่นสายวาฬ โดยเอาเกมที่มีระบบ
เก็บเงินผู้เล่นมาใช้หาประโยชน์ให้ตัวเอง แต่ผู้พัฒนาเกมอีกส่วนกลับอยากสร้าง
ชื่อเสียงให้ตัวเองด้วยการพัฒนาเกมสแตนด์อโลนขึ้นมาอย่างจริงจัง
บอสเผยน่าจะเป็นคนเดียวในวงการที่ประสบความสำเร็จกับเกมสแตนด์อโลน
แล้ว แต่ก็ยังตั้งใจจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับสถานการณ์อันแสนยุ่งเหยิงพวกนี้อยู่
บอสยอมทิ้งกำไรก้อนโตเพียงเพราะอยากเปลี่ยนทัศนคติผู้เล่นให้เลิกเป็นทาสของ
เงิน
ช่างเป็นเป้าหมายที่สูงส่งจริงๆ!
[1] เกมแนวไล่ดะฟันศัตรู เช่น Diablo, Devil May Cry, God of War
บทที่ 212 นี่คอื อัปเดตใหม่ทพี่ วกสูบ่เคยเห็นมาก่อน

หลินหวานเล่นเกมต่อไปอย่างจริงจัง
ถึงเธอจะไม่สามารถทำใจให้ชอบเกมแนวนี้ได้ แต่เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของหน้า
ประวัติศาสตร์ที่เกมรูปแบบใหม่จะถือกำเนิดขึ้น หลินหวานจึงพยายามทำตัวให้
เป็นมืออาชีพ
ในฐานะนักออกแบบ เธอต้องเล่นเกมต่อไปเรื่อยๆ แม้จะไม่ใช่เกมแนวที่ชอบ
ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อให้เข้าใจตัวเกมอย่างทะลุปรุโปร่ง!
“อ้าว ฉันได้เป็นผู้ถูกเลือกนี่!”
ตัวละครของหลินหวานในหน้าจอเรืองแสงและขยายขนาดขึ้นสองถึงสามเท่า
พอยืนอยู่ท่ามกลางผู้เล่นคนอื่นๆ แล้วดูเหมือนยักษ์ผู้น่าเกรงขาม
ถ้าได้รับเลือกเป็นผู้ถูกเลือกจะเป็นแบบนี้ ตัวละครของหลินหวานมีพลังรบ
เพิ่มขึ้นสามเท่าทันที!
หลินหวานตั้งใจ ‘ทำงานหนัก’ โดยวิ่งปรี่เข้าสนามรบไปไล่ฆ่าฝูงชน
ครึ่งชั่วโมงต่อมาสงครามก็จบลง
เยว่จือโจวเคาะประตูห้องเบาๆ เขามีเรื่องจะมาปรึกษาหลินหวาน
เขามาหาก่อนแล้วรอบหนึ่ง แต่พอเห็นหลินหวานตั้งใจเล่นเกมอยู่ก็คิดว่าคง
ไม่เหมาะถ้าจะเข้าไปกวน เขารอให้สงครามจบก่อนจึงกลับมาหาอีกครั้ง
“ผู้อำนวยการหลิน ผมขอปรึกษาเรื่องโฆษณาหน่อยครับ
“ยังเหลืออีกประมาณหนึ่งเดือนก่อนจะถึงกำหนดปล่อยเกม แต่ผมคิดว่าเรา
ควรเตรียมเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้า”
จากประสบการณ์ค้นคว้าและพัฒนาเกมรอบก่อน เยว่จือโจวกับหวังเสี่ยว
ปินคิดว่าพวกเขาต้องวางแผนการตลาด
หลินหวานนิ่งไป “เอ๋ ตอนนี้เลยเหรอคะ”
ที่ผ่านมาการโฆษณาของเถิงต๋าเกมจะแสดงผลลัพธ์ให้เห็นหลังจากปล่อยเกม
ออกไป จากนั้นเกมของพวกเขาก็จะโด่งดังขึ้นมาทันที
หลินหวานคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรมนี้
แต่พอคิดดูอีกที เธออาจจะไม่รู้เรือ่ งอะไรกับเขาเลยก็ได้
เห็นได้ชัดว่าบอสเผยเตรียมการโฆษณาแบบจัดฉากสำหรับเกมนักออกแบบ
เกมไว้ ล ่ ว งหน้ า ถึ ง ผลลั พ ธ์ จ ะมาปรากฏหลั ง ปล่ อ ยเกมไปได้ ส ั ก พั ก แต่ ก าร
เตรียมการน่าจะมีมาก่อนแล้ว
คิดได้อย่างนั้น หลินหวานก็พยักหน้า “ได้ค่ะ คิดว่าเราควรทำยังไงดีคะ เอา
จากประสบการณ์ของคุณ”
เยว่จือโจวคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ที่ผ่านมา วิธีที่ดีที่สุดในการโฆษณาของเราคือซื้อ
พื้นที่บนเว็บทั่วไปและเว็บลงคลิปเพื่อโปรโมตเกม พอคนคลิกโฆษณาก็จะเด้งหน้า
เกมขึ้นมาครับ…”
หลินหวานขมวดคิว้ โดยไม่รู้ตัว
ไม่มีระดับเลยสักนิด
หลินหวานเกลียดพวกโฆษณาหลอกลวงน่ารำคาญตามเว็บมาก คราวนี้จะ
เป็นบริษัทเธอเองที่ใช้วิธีแบบนั้นเหรอ
ไม่ได้!
เยว่จือโจวพูดเสริม “แต่ปัญหาตอนนี้คือเกมเราใช้รูปแบบมินิไคลแอนต์
“ถึงจะให้เด้งหน้าต่างขึ้นมา ผู้เล่นก็ต้องไปโหลดข้อมูลก่อนถึงจะเล่นเกมได้
ซึ่งจะไปกระทบกับเรตจำนวนยอดดาวน์โหลดจริงเทียบกับจำนวนคนที่เข้ามาดู
เว็บทั้งหมด
“เรื่องนี้เป็นปัญหาร้ายแรงมาก ถ้ายอดตรงนี้ต่ำ เราจะดึงผู้เล่นมาได้น้อยลง…
อาจจะไม่สามารถหาเงินคนทุนค่าโฆษณาได้”
หลินหวานพูดอะไรไม่ออก
เขากำลังบอกว่าโฆษณาชั้นต่ำน่ารำคาญใจแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้ผลเหรอ
หลินหวานคิดอยู่ครู่หนึง่ “เดี๋ยวหนูไปขอคำแนะนำจากบอสเผยดูนะคะ”
เยว่จือโจวดูตื่นเต้น “เยี่ยมเลยครับ”
เผยเชียนสั่งเยว่จือโจวไว้ว่าถ้ามีคำถามอะไรเกี่ยวกับขั้นตอนการพัฒนาเกม ก็
ให้ไปถามผู้อำนวยการหลิน
เยว่จือโจวกับหวังเสี่ยวปินเชื่อฟังตามนั้น พอเจอปัญหาเล็กน้อยในขั้นตอน
การค้นคว้าและพัฒนาเกม พวกเขาจะคุยกันก่อน จากนั้นค่อยให้หลินหวาน
ตัดสินใจ
แต่ถ้าไม่มีใครตัดสินใจได้ พวกเขาก็ต้องไปปรึกษาบอสเผย
ตอนนี้ไม่มีใ ครคิ ดไอเดียโฆษณาเกมดีๆ ออก ดังนั้นจึงไม่ม ีท างเลือ กอื่ น
นอกจากปรึกษาบอสเผย
หลินหวานรู้สึกไม่ค่อยดีที่ส่งข้อความไปถามเผยเชียนเรื่องแผนโฆษณาเกม
เพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรด
ถ้าบอสเผยคิดแผนโฆษณาดีๆ ไม่ได้เหมือนกันล่ะ
เพราะตอนนี้เกมไม่ได้ใช้รูปแบบเดิมแล้ว พวกเขาเปลี่ยนจากเกมเล่นบนเว็บ
มาเป็นเกมมินิไคลแอนต์ วิธีโฆษณาเดิมๆ ไม่น่าจะใช้ได้ผล
บอสเผยเองก็อาจต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะคิดแผนให้ได้แล้วตอบกลับมา
แต่ไม่กี่นาที่ต่อมา หลินหวานก็ได้ข้อความตอบกลับจากเผยเชียน
“เดี๋ยวผมส่งแผนให้”
ห้านาทีต่อมา เผยเชียนก็ส่งไฟล์เอกสารให้หลินหวาน
หลินหวานเปิดเอกสารอ่านไปพร้อมๆ กับเยว่จือโจว
แผนการโฆษณาที่บอสเผยแนะนำมานั้นเรียบง่ายมาก นั่นคือการทุ่มโฆษณา!
พวกเขาจะใช้วิธีโฆษณาเดิมๆ ที่ใช้กัน ไม่ว่าจะเป็นการแปะโฆษณาไว้ตามเว็บ
ทั่วไปและเว็บลงคลิปต่างๆ
ดูไม่ต่างจากแผนโฆษณาแบบเดิมเลย
แต่แผนที่บอสเผยส่งมามีคำสั่งที่เฉพาะเจาะจงด้วย พวกเขาต้องทุ่มเงินจ้าง
ดารามาแต่งคอสเพลย์อัดคลิปโฆษณาให้ โดยดาราที่ว่าจะต้องเป็นชาวฮ่องกงและ
ต้องอ่านตามบทโฆษณาที่ส่งไปให้!
“สวัสดีทุกคน! XXX เองนะ ฉันแสดงละครมาแล้วหลายเรื่อง แต่เรื่องเกมต้อง
ยกให้เพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดเท่านั้น เกมนี้ยุติธรรมสุดๆ พวกคุณจะได้
สัมผัสความรู้สึกของพวกผู้เล่นสายวาฬ เกมนี้ดีมาก สหายทุกคนมาร่วมรบไป
ด้วยกันเถอะ!”
“XXX ชอบเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดมาก! เล่นเพลินสุดๆ ถ้าพลาด
บอกเลยว่าต้องรอไปอีกร้อยยี่สิบปีถึงจะมีเกมแบบนี้อีก!
“นี่คืออัปเดตใหม่ที่พวกคุณไม่เคยเห็นมาก่อน แป๊บเดียว พวกคุณจะรักเกมนี้
เหมือนฉัน!”

ที่เหลือก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน
หลินหวานกับเยว่จือโจวหันมองหน้ากันด้วยความงุนงง
พวกเขาปิดไฟล์แล้วเปิดขึ้นใหม่อีกรอบ เพราะคิดว่าเปิดผิดอัน
เยว่จือโจวรู้สึกผิดหวังมาก
บอสเผยส่งแผนมาให้เร็วขนาดนี้ แสดงว่าต้องเตรียมเอาไว้แล้ว
บอสน่าจะคิดแผนโฆษณานี้เอาไว้สักพักแล้ว
แต่ทำไมบอสถึงเลือกใช้วิธีแบบนี้ล่ะ
บทนี่…ห่วยแตกมาก!
แบบนี้ทุกคนจะไม่รุมด่าเอาเหรอ
เยว่จือโจวคิดว่าเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดไม่ใช่เกมที่หวังแต่จะเอา
เงินผู้เล่นอีกแล้ว เรี ยกได้ว่าเป็นเกมที่เป็นมิตรกับผู้เล่น เพราะพวกเขายกเครื่อง
เปลี่ยนทุกอย่างใหม่หมด!
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมต้องทำโฆษณาออกไปให้ตัวเองดูแย่ด้วยล่ะ
ถ้ายังทำเกมแบบที่จ้องจะเก็บเงินผู้เล่น วิธีโฆษณาแบบนี้น่าจะใช้ได้ดี
เพราะกลุ่มผู้เล่นหลักของเกมเล่นบนเว็บคือพวกวาฬกับพวกเจ้าพ่อเหมือง
ถ่านหินที่ชอบดูหนังฮ่องกง บทโฆษณาขายเกมกันโต้งๆ แบบนี้น่าจะทำให้พวก
เขาสนใจได้
แต่กลุ่มเป้าหมายของเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดไม่ใช่พวกวาฬ!
แถมวิธีโฆษณาแบบนี้ยังตกยุคไปแล้ว ถึงจะเอาไปเทียบกับ มาตรฐานโฆษณา
ทั่วไปของเกมเล่นบนเว็บก็ยังดูชั้นต่ำอยู่ดี…
จบเห่แล้ว ไม่รู้เลยว่าบอสเผยคิดอะไรอยู่!
เยว่จือโจวมองหลินหวานด้วยแววตาสงสัย
หลินหวานคิดหนักอยู่เหมือนกัน เห็นได้ชัดว่าเธอเองก็เกลียดบทโฆษณานี้ไม่
ต่างจากเยว่จือโจว
แต่เธอเข้าใจบอสเผยมากกว่าอีกฝ่าย
ทุกอย่างที่ดูไม่สมเหตุสมผลมักจะมีอะไรลึกล้ำแอบแฝงอยู่เสมอ!
ผ่านไปครู่ใหญ่ หลินหวานก็พยักหน้าเบาๆ “เข้าใจแล้วค่ะ
“เป้าหมายจริงๆ ของบอสเผยคือให้ผู้เล่นเลิกเป็นทาสของเงินและเปลี่ยน
ทัศนคติผู้เล่น!
“หมายความว่าโฆษณานี้ตั้งใจดึงกลุ่มผู้เล่นที่ชอบเล่นเกมแนวเสียเงินเพื่อให้
เก่งมาเยอะๆ เพื่อที่จะได้เปลี่ยนทัศนคติการใช้จ่ายเงินผ่านเกมนี้!
“ถ้าผู้เล่นพวกนั้นไม่มาเล่นเกมนี้ เราจะไปเปลี่ยนทัศนคติพวกเขาได้ยังไง”
เยว่จือโจวงง
“ต้อง…ขนาดนี้เลยเหรอ นี่เป็นวิธีสามัญในการโฆษณาเกมเล่นบนเว็บเลยนะ
ครับ”
“ถ้ามองผิวเผินอาจจะดูเป็นแบบนั้น แต่ความจริงแล้วมีเหตุผลที่ล้ำลึกซ่อน
อยู่มากมาย” หลินหวานส่ายหน้า “บอสเผยวางแผนไว้แล้วค่ะ เราแค่ต้องรอดูว่า
จะเป็นยังไง”
บทที่ 213 เหมือนที่บอสเผยคิดไว้

เผยเชี ยนรออยู ่ ส ั ก พั ก หลิ น หวานไม่ ไ ด้ ถ ามอะไรกลั บ มา หมายความว่ า


แก้ปัญหาได้แล้ว
จริงๆ แล้วเผยเชียนรู้ดีว่าแผนโฆษณาที่ส่งไปเป็นวิธีโฆษณาเกมเล่นบนเว็บ
แบบดั้งเดิมที่ดีที่สุด
บอกไม่ได้ว่ามีอัตราความคุ้มค่าต่อราคาดีที่สุดหรือเปล่า แต่ก็ได้ผลพอสมควร
สำหรับเกมเล่นบนเว็บ วิธีโฆษณาที่มีอัต ราความคุ้มค่าต่อราคาดีที่สุดคือการ
ลอกงานเกมอื่นหรือทำคลิปตลกๆ แปลกๆ ออกมา เพื่อให้ได้ยอดคลิกมากที่สุด
เท่าที่จะ ทำได้
ยกตัวอย่างเช่น คลิป ‘ฉันอาบน้ำมาโดยตลอด น้องสาวโสโครกของฉันอยู่
ไหน’ [1]
แต่การทำแบบนั้นถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ถ้าไปลอกงานคนอื่นจะต้องโดน
ฟ้องร้องกลับมาแน่นอน
เผยเชี ย นไม่ ย อมทำเรื ่ อ งผิ ด กฎหมายแน่ ดั ง นั ้ น เขาจึ ง ไม่ ม ี ท างเลื อ กอื่ น
นอกจากจ้างดารา
เกมเล่นบนเว็บแบบดั้งเดิมมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นผู้เล่นวัยกลางคนที่ร่ำรวย
และประสบความสำเร็จในชีวิต เช่น เจ้าของบริษัท เจ้าของเหมืองถ่านหิน และ
อื่นๆ
คนกลุ่มนี้ชื่นชอบดาราชาวฮ่องกง ไม่ได้คาดหวังเรื่องคุณภาพกราฟิกของเกม
แถมยังมีเงินล้นมือ สิ่งที่พวกเขาชอบคือการมีลิ่วล้อติดตามในเกม
ดังนั้นการทำโฆษณาโดยมีคนกลุ่มนี้เป็นเป้าหมายหลักน่าจะเป็นเรื่องที่ดี
เขาเลือกจ้างดาราฮ่องกงจะช่วยสร้างความเป็นมิตรและดึงดูดกลุ่มคนดู
เป้าหมาย ขณะเดียวกันเนื้อหาในคลิปก็พูดถึงข้อดีของเกมให้คนดูได้เห็นตรงๆ
เช่น สามารถได้เงินจากการขายไอเทม ซื้อขายกันได้อย่างอิสระ มีการทำ
สงคราม และอื่นๆ จุดเด่นเหล่านี้เป็นที่นิยมของกลุ่มผู้เล่นเกมเล่นบนเว็บ
ถ้ า จะให้ บ อกข้ อ ดี ข องโฆษณานี ้ ม าสามข้ อ ก็ ค งจะเป็ น เรี ย บง่ า ย ได้
ประสิทธิภาพ และล้างสมองคนดูได้เป็นอย่างดี คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไปแน่นอน
ในเมื่อฟังดูดี แล้วทำไมเผยเชียนถึงยังเลือกทำโฆษณาแบบนี้ล่ะ
เหตุผลก็ง่ายๆ นั่นคือกลุ่มเป้าหมายเป็นคนละกลุ่ม ทำโฆษณาไปก็เสียเปล่า!
วิธีโฆษณาแบบนี้ใช้ดึงผู้เล่นที่ ชอบเล่นเกมบนเว็บ ผู้เล่นทั่วไปจะรู้สึกยี้กับ
โฆษณาแบบนี้
เป็นหลักการเดียวกับการตั้งชื่อเกมว่า ‘เกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรด’
แบบนี้ถึงเผยเชียนจะใช้เงินทำโฆษณาที่สามารถดึงดูดคนได้เป็นอย่างดี แต่คน
ที่สนใจก็จะมีแค่กลุ่มผู้เล่นที่ชอบเล่นเกมบนเว็บแบบดั้งเดิม
คนกลุ่มนี้ไม่ได้สนใจเรื่องคุณภาพกราฟิก พวกเขาสนแต่จะใช้เงินฆ่าคนให้ได้
เยอะที่สุด และเอาเงินฟาดหัวให้มีลิ่วล้อติดสอยห้อยตามเยอะๆ เพื่อที่จะได้รู้สึก
เป็นพระจันทร์ลอยเด่นเป็นสง่าท่ามกลางหมู่ดาว
แล้วเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดเป็นเกมแบบไหนน่ะเหรอ
เกมนี้แทบจะไม่มีช่องทางให้เสียเงิน ซื้อได้แค่ยาเพิ่มพลัง มีแค่ผู้เล่นที่โชคดี
เท่านั้นที่ได้เป็นผถูกลือกและได้ไล่ฆ่าผู้เล่นคนอื่นๆ
รูปแบบเกมก็เปลี่ยนใหม่ จากเกมเล่นบนเว็บไปเป็นเกมมินไคลแอนต์เพื่อเพิ่ม
คุณภาพกราฟิก
พูดง่ายๆ คือคนกลุ่มนี้จะต้องดาวน์โหลดตัวมินิไคลแอนต์เพื่อ ใช้สำหรับเล่น
เกม ไม่สามารถเล่นผ่านเว็บเบราว์เซอร์ตอนไหนก็ได้ที่ใจอยาก คอมพิวเตอร์
สำนักงานไม่น่าจะลงเกมนี้ได้ แถมพวกเขาก็อาจไม่รับรู้ถึงคุณภาพกราฟิกที่
เปลี่ยนไปด้วยซ้ำ
พอรู้ว่าไม่ใช่เกมแบบที่ตามหาอยู่ พวกเขาก็จะสบถด่าแล้วหนีไปหาเกมใหม่
แบบนี้เกมจะยังประสบความสำเร็จได้อยู่เหรอ
เขาจะทุ่มเงินก้อนโตจ้างดารามาถ่ายคลิปและซื้อพื้นที่โฆษณาจากหลายๆ
เว็บไซต์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากการโฆษณาจะออกมาแย่มาก ไม่สามารถสร้างฐานผู้
เล่นได้…
ยังไงก็ต้องขาดทุนแน่นอน!
แล้วเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดสร้างมาเพื่อลูกค้ากลุ่มไหน
กลุ่มผู้เล่นเป้าหมายน่าจะเป็นนักศึกษาและวัยทำงานที่ไม่ได้รวยมาก เป็นผู้
เล่นทั่วไปที่ชอบเล่นเกมบนเว็บแต่เติมเงินได้ไม่เยอะนัก หรือไม่ก็ผู้เล่นฝั่งเกมไคล
แอนต์และเกมมือถือ
แต่ปัญหาคือ กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่จะตั้งแง่กับชื่อเกมและวิธีโฆษณา
พวกเขาจะเป็นเหมือนเผยเชียน ถึงจะเห็นโฆษณาจนท่องบทถอยหลังได้ แต่ก็
ไม่มีวันลองเล่นเกมนี้เด็ดขาด
ดังนั้นทั้งตัวเกมและวิธีโฆษณาจึงไม่ได้มีปัญหาอะไร
เพียงแค่ตัวเกมกับโฆษณาวางเป้าหมายเป็นผู้เล่นคนละกลุ่ม จุดนี้แหละที่เป็น
ปัญหาจริงๆ!
นอกจากนั้นพวกเขายังลงทุนกับเกมนี้ไปมาก ทุ่มเงินค้นคว้าและพัฒนาเกมไป
ทั้งหมดเจ็ดถึงแปดล้านหยวน ด้วยจำนวนผู้เล่นและช่องทางการทำเงินที่จำกัด ถึง
จะมีคนหลงมาลองเล่นเกม ยังไงพวกเขาก็ไม่น่าจะหาเงินคืนทุนได้
เผยเชียนถอนหายใจยาว ดูเหมือนตอนนี้จะวางใจเรื่องฉางหยางเกมส์ได้แล้ว
เรื่องต่อไปที่ต้องจัดการคือเกมกลับใจคือฟากฝั่ง
สองวันก่อนเผยเชียนไปเจอเว็บโนเวลออฟฟิเชียลของเกมกลับใจคือฟากฝั่ง
บนเว็บจงเตี่ยนจงเหวิน ทำเอาเขาตกใจเล็กน้อย
หลังจากเจออะไรมามากมาย เผยเชียนก็กลายเป็นคนขี้ระแวงสุดๆ เจอเรื่อง
เล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ยอมปล่อยผ่านเลย
ดังนั้นเว็บโนเวลออฟฟิเชียลของเกมกลับใจคือฟากฝั่งจึงไม่อาจหลุดรอด
สายตาเขาไปได้
แต่หลังจากได้อ่านคอมเมนต์นักอ่าน เผยเชียนก็โล่งใจมากขึ้น
เว็บจงเตี่ยนจงเหวินกำลังพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ถึงจะดึงนักเขียนมาได้
จำนวนมากจากการวางเรตค่าจ้างสูงๆ ล่อใจ แต่นิยายที่ลงบนเว็บกลับมีแต่ของ
คุณภาพแย่ ยอดคนสมัครบัญชีผู้ใช้งานจึงต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
จนถึงตอนนี้ เว็บจงเตี่ยนจงเหวินมียอดคนเข้าชมเว็บไซต์แค่สองร้อยคนต่อวัน
ยอดนี้รวมคนที่คลิกเข้ามาดูด้วยความสงสัยและปิดเว็บไปอย่างรวดเร็วแล้ว
ถึงอย่างนั้นนิยายออฟฟิเชียลของเกมกลับใจคือฟากฝั่งก็ยังมียอดคนอ่าน
หลายร้อยคน
นั่นก็เพราะนิยายเรื่องนี้ได้ขึ้นแนะนำที่หน้าโฮมเพจของเว็บไซต์ แถมยังอยู่ใน
จุดเด่นสะดุดตา คนส่วนใหญ่ที่คลิกเข้าเว็บมาจะเห็นได้ทันที
แต่คอมเมนต์กลับเป็นไปในเชิงลบ
“เขียนอะไรเนี่ย โคตรงง”
“อ่านไปได้สามตอนยังไม่รู้เลยว่าตัวเอกคือใคร”
“อธิบายแค่เรื่องโลกหมดเลยนี่ อ่านแล้วปวดหัวฉิบหาย”
“นิยายแบบนี้เนี่ยนะที่ได้ขึ้นแนะนำหน้าโฮมเพจ เว็บห่าอะไรเนี่ย”
“กลับใจคือฟากฝั่งเหรอ ชื่อห่วยแตกโคตร! ไม่รู้เรื่องเลยสักนิด!”
“ฉันคิดว่าน่าจะเป็นงานจากคนใน มีนิยายหลายเรื่องที่เขียนดีกว่านี้ แต่ไม่
เห็นได้ขึ้นแนะนำเด่นเท่านี้”
“ถ้าคนในแต่งเอง ก็รู้เลยว่าเว็บนี้แม่งไม่มีอนาคตแน่นอน!”
เกมกลับใจคือฟากฝั่งยังอยู่ในขั้นตอนค้นคว้าและพัฒนา ยังไม่มีข่าวคราว
เกี่ยวกับเกมปล่อยออกมา จึงไม่ได้อธิบายไว้ในเว็บจงเตี่ยนจงเหวินว่าเป็นนิยาย
จากเกมกลับใจคือฟากฝั่ง ทำให้ไม่สามารถเกาะกระแสเถิงต๋าดังได้
หม่าอี้ฉวินกับจูซิงอันตั้งใจเขียนนิยายออฟฟิเชียลขึ้นมาจากความสนุกส่วนตัว
ขณะเดียวกันก็เป็นการเช็กกระแสตอบรับจากผู้เล่นในอนาคตด้วย
ติ่งเถิงต๋าอาจจะชมการออกแบบโดยไม่คิดอะไรมาก หม่าอี้ฉวินกับจูซิงอัน
อาจจะเหลิงกับคำชมจนเผลอไม่มองงานของตัวเองตามความเป็นจริง ซึ่งอาจ
ส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงการเขียนพล็อต
คอมเมนต์จากนักอ่านเขียนออกมาตามความเป็นจริง…
เผยเชียนอ่านสองบทแรกแล้วพบว่าที่นักอ่านด่าไม่ผิดเลย
จูซิงอันกับหม่าอี้ฉวินสมควรโดนด่าจริงๆ…
จูซิงอันเป็นคนเขียนเรื่องนี้ คนอื่นๆ แค่ช่วยออกไอเดียเท่านั้น
เนื่องจากหม่าอี้ฉวินต้องดูแลเว็บไซต์จึงไม่มีเวลาเขียนเอง อีกทั้งเขายังรู้สึกว่า
ตั ว เองได้ ร ั บ อิ ท ธิ พ ลจากเว็ บ โนเวลมาก จนอาจเขี ย นนอกเรื ่ อ งไปไกล จึ ง
มอบหมายงานนี้ให้จูซิงอันเป็นคนทำ
ส่วนจูซิงอันเองก็ ไม่มีพื้นฐานเรื่องการเขียนเว็บโนเวลเลย ระหว่างที่เขียน
อธิ บ ายโลกของเกมในนิ ย ายออฟฟิ เ ชี ย ล เขาจึ ง เขี ย นไหลไปตามพล็ อ ตเกม
ต่างประเทศ เช่น นิยายออฟฟิเชียลของเกม AAA จากต่างประเทศ นิยายชุดออฟ
ฟิเชียล และอื่นๆ
ทุกอย่างดูงุนงงชวนสับสนมาก
จะใช้งานเขียนของเขาเป็นพล็อตเกมก็คงได้ แต่อัปขึ้นเว็บให้อ่านเป็นนิยาย
ออนไลน์นี่ไม่ไหวจริงๆ
การที่นิยายออฟฟิเชียลเรื่องนี้ได้ขึ้นแนะนำในหน้าโฮมเพจของเว็บจงเตี่ยนจง
เหวินทำให้นักอ่านหลายคนรู้สึกแขยงใจ
นักอ่านใหม่หลายคนกดคลิกนิยายที่โชว์ในหน้าโฮมเพจเป็นอันดับแรกหลัง
เข้าเว็บ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นนิยายคุณภาพดีที่สุดในเว็บ
พอได้อ่านก็จะรู้ว่ามาตรฐานเว็บนี้เป็นยังไง
แน่นอนว่าพวกเขาเลือกจากไปอย่างไม่หวนกลับ
เผยเชียนจับตาดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่เงียบๆ ในใจอดยินดีปรีดาขึ้นมาไม่ได้
เยี่ยมเลย เว็บจงเตี่ยนจงเหวินไม่ทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ!
หม่าอี้ฉวินที่นิยายเรื่องแรกมียอดซื้ออ่านสามสิบคนได้ทำงานกับพวกเด็กห่วย
ที่ไม่มีความรู้เรื่องเว็บโนเวลเลยสักนิด ตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปตามที่เผยเชียน
คาดการณ์เอาไว้!
เผยเชียนเลือกปล่อยนิยายออฟฟิเชียลเกมกลับใจคือฟากฝั่งที่ลงเว็บจงเตี่ยน
จงเหวินไว้อย่างนั้น เพราะยังไงนิยายเรื่ องนี้ก็ไม่น่าจะมีคนสนใจมากนัก อาจเป็น
ตัวไล่นักอ่านออกจากเว็บด้วยซ้ำ
เก็บไว้แบบนี้แหละดีแล้ว!
[1] คลิปโฆษณาที่กลายเป็นมีมดังของจีน โดยคำในคลิปจริงๆ พูดว่า ‘ฉันเฝ้า
ตามหามาโดยตลอด โลกของฉันกับคุณอยู่ที่ไหน’ แต่ประโยคทั้งสองออกเสียง
คล้ายกันมาก มีคนฟังผิดบ่อยจนถูกนำมาใช้เป็นมีม
บทที่ 214 บอสเผยกับคุณหร่วนเข้าใจกันและกันดี

ระหว่างที่เผยเชียนกำลังครุ่นคิด เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
เขาเงยหน้าขึ้นเห็นว่าเป็นลู่หมิงเหลียง
“บอสเผยครับ พวกผมทำแบบร่างคอนเซปต์เสร็จแล้ว บอสอยากตรวจดูก่อน
ไหมครับ”
ก่อนหน้านั้นลู่หมิงเหลียงบอกให้หร่วนกวางเจี่ยนส่งแบบร่างคอนเซปต์เกม
กลับใจคือฟากฝั่งทั้งหมดมาให้ดู ไม่ว่าจะเป็นฉาก ตัวละคร มอนสเตอร์ อาวุธ
อุปกรณ์ สวมใส่ และอื่นๆ
หร่วนกวางเจี่ยนทำทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวไม่ได้ แต่ตอนนี้เขามีสตูดิโอเป็น
ของตัวเองแล้ว
หลังเรียนจบหร่วนกวางเจี่ยนก็ใช้ชื่อเสียงและเส้นสายที่มีเปิดสตูดิโอเล็กๆข้าง
มหาวิทยาลัย
สตูดิโอของเขาชื่อกวงหวนสตูดิโอ งานภาพเกมแม่ทัพผี เกมนักออกแบบ
รวมถึงงานออกแบบคอนเซปต์อื่นๆ ทำให้สตูดิโอมีชื่อในวงการ
หร่วนกวางเจี่ยนชวนรูมเมตตอนเรียนมหาวิทยาลัยมาทำงานที่สตูดิโอของ
ตัวเอง ตอนนี้กิจการของพวกเขาอยู่ในช่วงรุ่งเรืองและเพิ่งจะจ้างพนักงานกลุ่ม
ใหม่ไป ก่อนหน้านี้พวกเขารับได้แต่งานเล็กๆ ตอนนี้สามารถรับงานที่ใหญ่ขึ้นได้
แล้ว
พอมีชื่อเสียงมากขึ้น บริษัทเกมหลายต่อหลายแห่งก็ติดต่อพวกเขาผ่านเว็บ
รวมทรัพยากรเข้ามา จนบางครั้งต้องให้ลูกค้าต่อคิว
ลูกค้าที่อยากให้หร่วนกวางเจี่ยนวาดงานให้โดยเฉพาะจะต้องจ่ายเงินเพิ่มและ
ต้องรอคิวนาน
แต่หร่วนกวางเจี่ยนก็ยังจงรักภักดีกับเถิงต๋า
ไม่ว่าจะขออะไรมา พวกเขาก็จัดให้ได้ต ามที่ต้องการ ขอแค่ไม่กระทบกับโปร
เจ็กต์ที่หร่วนกวางเจี่ยนกำลังทำอยู่!
พอกำหนดพล็อต โครงสร้างโลก และทรัพยากรงานภาพของเกมกลับใจคือ
ฟากฝั่งได้แล้ว ลู่หมิงเหลียงก็รีบติดต่อกวงหวนสตูดิโอขอให้หร่วนกวางเจี่ยนช่วย
ออกแบบคอนเซปต์ให้
ตอนนี้แบบร่างคอนเซปต์ชุดแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เผยเชียนตรวจแบบร่างไปพร้อมลู่หมิงเหลียง แบบร่างชุดแรกที่ส่งมาเป็นคอน
เซปต์ฉาก
ประตู ส ู ่ ย มโลกตั ้ ง อยู ่ บ นเทื อ กเขาทอดยาว ขนาบข้ า งด้ ว ยภู เ ขารู ป ทรง
ประหลาด ด้านหน้ามีหุบเหวลึกลิบตาซึ่งเนืองแน่นไปด้วยวิญญาณชั่วร้าย
หมอกจางสีฟ้ากระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณประตู ตัวอักษรจีนโบราณน่าเกรงขาม
แต่ก็แฝงไปด้วยความพรั่นพรึงที่จารึกไว้บนประตูทำให้เผยเชียนรู้สึกเสียวสันหลัง
ด้านหลังประตูคือเส้นทางสู่ยมโลกที่ทอดยาวไปไกลสุดขอบฟ้า วิญญาณชั่ว
ร้ายมากมายเดินร่อนเร่อยู่ตามทาง พวกมันเดินกันสับสนอลหม่าน ดูไม่เหนื่อย
หน่ายเลยสักนิด
เส้นทางสู่ยมโลกแวดล้อมไปด้วยหมอกสีเขียวลอยวนไปมา บางครั้งบางคราก็
มีมือเหี่ยวแห้งตกสะเก็ดพุ่งพรวดออกมาจากหมอก หมายจะลากคนบนเส้นทางสู่
ยมโลกไป
หลังข้ามสายธารลืมชาติด้วยสะพานลืมภพ ผู้เล่นจะได้พบฝูงวิญญาณชั่วร้าย
มีโคมนำวิญญาณห้อยลงมาจากฟ้า ผีเร่ร่อนเดินผ่านหน้าไปที่ละตน บางตนเดิน
หายลับเข้าไปในหมอก ไม่ก็กระโดดลงสายธารลืมชาติแล้วหายวับไปตลอดกาล
นอกจากนั้นแล้วก็มีภาพสิ่งของต่างๆ และภาพร่างของมอนสเตอร์
มีทั้งภาพวัดสภาพผุพัง พระพุทธรูป วัดเทพแห่งพื้นดิน ผีชั่วร้ายทั่วไป อาวุธ
สภาพไม่สมบูรณ์ ธงนำวิญญาณ และอื่นๆ
มอนสเตอร์ในเกมมียายเมิ่งโผที่สะพานลืมภพกับสี่ผู้พิพากษาแห่งยมโลก
ถึงเกมอื่นๆ จะใช้ตัวละครเดียวกันเป็นมอนสเตอร์ แต่หร่วนกวางเจี่ยนออก
แบบมอนสเตอร์เหล่านี้ใหม่หมดโดยใช้สไตล์งานอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ทำ
ให้มอนสเตอร์ออกมาดูมืดหม่นเลยทีเดียว
หลังจากดูแบบร่างทั้งหมด เผยเชียนก็รู้สึกเศร้าใจขึ้นมา
“หร่วนกวางเจี่ยนนี่ฝีมือไม่ตกเลย”
ความหมายจริงๆ ของประโยคนี้คือ บ้าจริง แกทำงานห่วยออกมาบ้างไม่ได้รึ
ไง!
ที่สำคัญที่สุดคือ ตั้งแต่เกมแม่ทัพผี เกมนักออกแบบเกม มาจนถึงเกมกลับใจ
คือฟากฝั่ง งานของเจ้านั่นดูดีมีระดับขึ้นเรื่อยๆ น่าหงุดหงิดจริงๆ!
เห็นได้ชัดว่าแบบร่างคอนเซปต์เกมกลับใจคือฟากฝั่งนั้นเสร็จเร็วกว่างานครั้ง
ก่อน แถมงานที่ได้ก็ดูดีสุดๆ
เทียบกับเกมนักออกแบบเกมแล้ว เนื้อหาเกมกลับใจคือฟากฝั่งเหมาะกับงาน
ภาพสไตล์มหากาพย์หมึกสีน้ำมันของหร่วนกวางเจี่ยนมากกว่า นี่เป็นหนึ่งใน
เหตุผลว่าทำไมงานครั้งนี้ถึงดูดีกว่าเดิม
ลู่หมิงเหลียงเห็นด้วยกับที่เผยเชียนพูด เขาพยักหน้าแล้วเอ่ยชม “ใช่ครับ สม
แล้วที่เป็นมืออาชีพ ฝีมือไม่เคยตกจริงๆ! ส่งงานให้คุณหร่วนทำนี่สบายใจหายห่วง
สุดๆ!”
เผยเชียน “…”
เขาอยากจะตัดขาดจากหร่วนกวางเจี่ยน ไม่อยากร่วมงานด้วยอีก
แต่ก็ไม่มีเหตุผลให้ทำแบบนั้น!
เจ้านั่นฝีมอื ดีมาก แถมยังให้ส่วนลดอีก สไตล์งานก็เหมาะกับเกม เผยเชียนจะ
ไปหาเหตุผลไหนมาปฏิเสธไม่ร่วมงานกับอีกฝ่าย
โชคดีที่เกมกลับใจคือฟากฝั่งไม่ใช่เกมที่ขายงานภาพเพียงอย่างเดียว เขายัง
สามารถไล่ตะเพิดผู้เล่นด้วยระบบเกมได้ อีกอย่างการร่วมงานกับหร่วนกวางเจี่ยน
ทำให้เผยเชียนผลาญเงินได้เยอะขึ้น คิดได้อย่างนั้น ชายหนุ่มก็ได้แต่กัดฟันกล้ำ
กลืนฝืนใจร่วมงานกับอีกฝ่าย
“ดีแล้ว เอาตามนี้แหละ”
เผยเชียนดูแบบร่างอยู่พักใหญ่ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร แบบร่างคอนเซปต์ทำ
ออกมาได้ดีมาก ไม่มีจุดไหนต้องแก้
เขาเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องคอนเซปต์งานภาพมากนัก เลยได้แต่ปล่อยให้หร่วน
กวางเจี่ยนทำไป
ลู่หมิงเหลียงรู้สึกใจฟูเมื่อได้ยินที่เผยเชียนพูด “บอสเผยกับคุณหร่วนนี่เหมือน
ใจสื่อถึงกัน รู้ใจกันสุดๆ
“คุณหร่วนบอกว่าจะหยุดงานสักสองสามวันหลังจัดการโปรเจ็กต์นี้เสร็จ เห็น
ว่าจะมาที่จิงโจวแล้วมาเยี่ยมเราถึงออฟฟิศ เขาตั้งใจจะแวะมาหาบอสเผย
“บอสกับคุณหร่วนรู้จักกันมานานแต่ไม่เคยเจอหน้ากันสักครั้ง บอสเผยก็
น่าจะอยากเจอคุณหร่วนเหมือนกันใช่ไหมครับ”
มุมปากของเผยเชียนกระตุก
คิดเหมือนกันก็บ้าแล้ว!
ไม่เห็นจะอยากเจอหมอนั่นเลยสักนิด!
ชื่อแรกในสมุดบัญชีหนังหมาคืออาจารย์เฉียว ส่วนชื่อที่สองรองลงมาก็ไอ้นี่
แหละ!
ที่สำคัญที่สุดเลยคือ ตั้งแต่ทำเกมแม่ทัพผีด้วยกัน ความสัมพันธ์ของหร่วน
กวางเจี่ยนกับเผยเชียนก็ไม่ใช่ความสัมพันธ์เชิงธุรกิจล้วนๆ อีกต่อไป
ดูเหมือนว่าหร่วนกวางเจี่ยนจะมองเผยเชียนเป็นพี่น้อง ถึงจะอยู่กันคนละ
วงการ คนหนึ่งทำงานในแวดวงเกม อีกคนออกแบบคอนเซปต์งานภาพ แต่ด้วย
ความที่คิดอะไรเหมือนกันนี่เองที่ช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างวงการ
เผยเชียนเบ้ปากอีกครั้ง “เอ่อ ถ้าเขามาเมื่อไหร่ ผมจะ ‘ต้อนรับ’ เป็นอย่างดี
เลย”


ทั้งสองเกมคืบหน้าตามแผน
ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ เหมือนว่าจะไม่มีปัญหาร้ายแรงอะไรให้เผยเชียนเข้า
ไปแก้
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ยังมีอีกหลายเรื่องที่เขาต้องจัดการ
เผลอแป๊บเดียวก็จะเข้าช่วงสิ้นเดือนแล้ว ยังเหลือเรื่องด่วนอีกสามเรื่องที่ต้อง
จัดการ
เรื่องแรก ตามแผนที่เผยเชียนวางไว้ วันที่ 1 สิงหาคมเขาต้องเลือกพนักงาน
ผลงานดีเด่น
เขาพอจะมีไอเดียคร่าวๆ แล้วว่ารอบนี้จะตัดสินยังไง
พนั ก งานผลงานดี เ ด่ น จะคั ด เลื อ กจากคะแนนโหวต เผยเชี ย นไม่ ค ิ ด จะ
แทรกแซงเรื่องนี้ เพราะเขาไม่เชื่อการตัดสินใจของตัวเอง
พนักงานทุกคนคือผู้ตัดสินเรื่องนี้ได้ดีที่สุด พนักงานดีเด่นที่พวกเขาเลือกมา
จะต้องเป็นคนที่ทุกคนมองว่ามีความสำคัญต่อบริษัทมาก เผยเชียนจะไม่เก็บคน
คนนั้นเอาไว้แน่นอน
ต่อให้จะรักและมั่นใจในตัวพนักงานคนนั้นแค่ไหน เขาก็ต้องกำจัดคนคนนั้น
ทิ้งไป!
เรื่องที่สองคือ ภัตตาคารระดับสูงกับนี่เฟิงโลจิสติกส์
ตอนนี้ทั้งสองธุรกิจยังอยู่ในช่วงเตรียมเปิดกิจการ แต่ก็ใกล้ได้เวลาตัดสินใจ
แล้วว่าจะให้ใครเป็นคนรับผิดชอบ
เผยเชียนจำได้ว่าผู้จัดการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาย่อยคนหนึ่งเป็นเชฟ
หมอนั่นน่าจะเหมาะมาดูแลภัตตาคารระดับสูง
เพราะเชฟคนนั้นทำอะไรไม่สำเร็จเลยหลังจากขึ้นเป็นผู้จัดการสาขา เห็นได้
ชัดว่าเขาไม่มีความสามารถ ถ้าเผยเชียนให้เขาดูแลภัตตาคารระดับสูง เบื้องหน้า
จะดูเหมือนว่าเลือกคนรับผิดชอบได้ตรงกับงาน แต่จริงๆ แล้วใช้การไม่ได้เลย
ต่างหาก
ส่วนนี่เฟิงโลจิสติกส์…
เผยเชียนว่าจะถามพนักงานดีเด่นรอบนี้ว่าสนใจอยากดูแลนี่เฟิงโลจิสติกส์
หรือเปล่า
ถ้าไม่สนใจ เขาก็จะให้งบตามฝันหนึ่งล้านหยวนกับพนักงานคนนั้นไปไล่ตาม
ความฝันของตัวเอง แต่ถ้าสนใจ เผยเชียนก็จะให้พนักงานคนนั้นดูแลกิจการนี่เฟิง
โลจิสติกส์
เรื่องที่สาม เผยเชียนต้องเอาเงินที่ได้จากหลินฉางไปสร้างผลงานสักอย่าง
บทที่ 215 นักรีวิวสายฮาร์ดคอร์ วาโอ่ว

เขาได้ค่าแรงมาสองแสนหยวนกับอีกหนึ่งแสนหยวนไว้สำหรับเป็นค่าใช้จ่าย
สำหรับหลินฉางแล้ว เงินก้อนนี้ไม่ได้ถือว่าเยอะอะไรเลย แต่เผยเชียนก็ต้องเอา
เงินก้อนนี้ไปทำอะไรสักอย่าง
เผยเชียนรู้ดีว่าโปรเจ็กต์นี้จะต้องเจ๊งแน่นอน แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ขอแค่
แสดงให้หลินฉางเห็นว่าเขาไม่ได้ต้องการเงินขนาดนั้น แค่จะเอาไปใช้ทดลองอะไร
ขำๆ อีกฝ่ายก็จะไม่นึกสงสัยในตัวเขา แค่นี้ก็จัดการเรื่องนี้ได้เรียบร้อย
หลินฉางให้เงินเขามาเป็นค่าแรง แต่เผยเชียนไม่ได้คิดจะทำคลิปสั้นหรือหนัง
สั้นออกมา
เหตุผลก็ง่ายๆ เขามีทุนไม่พอ
เงินที่ได้มาเป็นค่าแรงของเขา งบค่าใช้จ่ายจริงๆ มีแค่หนึ่งแสนหยวน ซึ่งไม่
น่าจะพอจ้างผู้กำกับ นักแสดงเสริม และทีมงาน ค่าอุปกรณ์ถ่ายทำนี่ยิ่งไม่ต้องพูด
ถึง
เฟยหวงสตูดิโอมีอุปกรณ์พร้อม แต่เผยเชียนไม่อยากให้เฟยหวงสตูดิโอเข้ามา
มีส่วนร่วมกับเรื่องนี้
เพราะพวกหวงซื่อปั๋วอาจจะสงสัยได้ว่าทำไมเขาถึงอยากถ่ายหนังสั้นขึ้นมา
ถ้าเป็นแบบนั้นเขาคงหาคำตอบดีๆ ไม่ได้
ดังนั้นเผยเชียนจึงตัดสินใจทำทุกอย่างด้วยตัวเอง และจะพยายามอย่างเต็มที่
ไม่ให้คนอื่นๆ นอกจากหลินฉางรู้เรื่องนี้
เขาจะใช้มือถือตัวเองถ่าย เผยเชียนไม่ได้เก่งเรื่องการตัดต่อขนาดนั้น จึงตั้งใจ
ว่าจะตัดฉากที่ไม่จำเป็นออกแล้วเอาส่วนที่เหลือมาต่อๆ กัน
เผยเชียนจะพยายามถ่ายทุกอย่างให้เสร็จในรวดเดียว ไม่ว่าผลงานจะออกมา
ดีหรือแย่ พอตัดต่อเสร็จเขาจะเอาลงเว็บอ้ายลี่เต่า
ส่วนจะมีคนดูหรือเปล่านั้น…
ถ้าไม่มีเลยก็คงจะดี
นอกจากนี้เผยเชียนยังไม่คิดจะโชว์หน้าตัวเองในคลิป เขาจะใส่หน้ากากปิด
หน้าหรือไม่ก็เปิดเผยแค่บางส่วน เผื่อถ้าเกิดคลิปดังขึ้นมา พนักงานจะได้จำเขา
ไม่ได้
เป้าหมายในการถ่ายคลิปคือเพื่อให้ได้ค่าจ้างสองแสนหยวน
ถ้าหลินฉางถามมาว่าเอาเงินสามแสนไปทำอะไร อย่างน้อยเผยเชียนก็ยังเอา
คลิปที่ทำให้อีกฝ่ายดูได้ ว่าตัวเองเอาเงินไปผลิตผลงานจริงๆ
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมผลงานไม่ประสบความสำเร็จ…
เรื่องนี้เขาเองก็ทำอะไรไม่ได้ สี่เท้ ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ผลงานของ
เผยเชียนอาจจะล้ำลึกเกินไปจนคนอื่นเข้าไม่ถึง ดังนั้นจะมาโทษว่าเป็นความผิด
ของเขาก็ไม่ได้
หลินฉางไม่น่าจะสนใจและสงสัยอะไรมาก
คิดได้แบบนั้น เผยเชียนก็เก็บข้าวของแล้วหยิบกล่องของที่มาส่งวันนี้ จากนั้น
ก็กลับออกจากออฟฟิศมุ่งหน้าไปยังอพาร์ตเม้นต์
คืนนี้เขาจะถ่ายคลิปตอนแรก!
ถึงจะไม่มีกำหนดส่งงาน แต่เผยเชียนต้องทำคลิปยี่สิบตอน ถ้าเริ่มวันนี้แล้ว
ถ่ า ยสั ป ดาห์ ล ะสองตอนก็ต ้ อ งใช้เ วลาเกื อ บสามเดื อ นถึ ง จะถ่ า ยครบทั ้ งหมด
หมายความว่ายิ่งเริ่มไวเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
ถ้าเสร็จไวก็จะได้ใช้เงินสองแสนหยวนได้อย่างสบายใจ!

เผยเชียนตั้งมือถือแล้ววางกล่องลงบนโต๊ะ
กล่องที่ว่าคือมือถือจากต่างประเทศที่เพิ่งปล่อยออกมาเมื่อเดือนก่อน ชื่อรุ่น
Pineapple 4 ราคาสี่พันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าหยวน อยู่ในงบที่วางเอาไว้ห้าพัน
หยวนพอดี
มือถือผลิตในประเทศรุ่นที่เป็นที่นิยมที่สุดตอนนี้คือรุ่นเรือธงประจำปีของ
เฉินฮว่า แต่ก็ยังถือว่าเป็นรุ่นรองอยู่ดี โทรศัพท์ยี่ห้อ Pineapple เท่านั้นที่ถือว่า
เป็นรุ่นที่ดีที่สุด ในความทรงจำของเผยเชียน มือถือยี่ห้อนี้คุณภาพเกือบจะ
เทียบเท่ายี่ห้อ Apple อาจจะด้อยกว่าเล็กน้อยเท่านั้น
สรุปคือมือถือรุ่นนี้ขายดีและเป็นที่นิยมมาก เหมาะจะนำมาใช้ถ่ายคลิปตอน
แรกของเขา
เผยเชียนคิดเรื่องนี้เอาไว้ก่อนแล้ว จริงๆ เขาจะถ่ายคลิปอะไรไม่ใช่เรื่องสำคัญ
จะประสบความสำเร็จไหมก็ไม่สำคัญอีก สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำให้หลินฉางคิดว่า
นี่เป็นโปรเจ็กต์ส่วนตัวของบอสเผย
ก่อนหน้านี้เผยเชียนบอกหลินฉางว่าอาจจะเอาเงินก้อนนี้ไปทดลองอะไรดู
หมายความว่าการทดลองครั้งนี้จะต้องแปลกใหม่
เขาต้องทำผลงานออกมาในรูปแบบของตัวเอง!
เผยเชียนเคยเล่นเป็น ‘บอสเผย’ ถึงจะเล่นเป็นตัวเองแต่เขาก็ต้องเล่นตามบท
จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะได้ค่าตอบแทน
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน
เผยเชียนตั้งใจจะสวมบทบาทเป็นนักรีวิวอุปกรณ์ดิจิทัล ‘มืออาชีพ’
ก่อนอื่นเขาหยิบกระดาษขึ้นมาหนึ่งแผน จากนั้นก็เขียนแผนคร่าวๆ ของคลิป
ตอนนี้ เสร็จแล้วก็เริ่มถ่ายทำ
เผยเชียนหยิบกระดาษขึ้นมาอีกแผ่นแล้วเขียนลงไปว่า ‘นักรีวิวสายฮาร์ด
คอร์’ เพื่อเอาไว้ใช้ปิดบังใบหน้า
เขาหยิบแว่นที่ซื้อมาด้วยเงินของตัวเองขึ้นมาแล้วติดกระดาษแผ่นนั้นลงไป
เพื่อทำเป็นหน้ากาก
จากนั้นเผยเชียนก็เปลี่ยนไปใส่ชุดที่ดูธรรมดาหน่อย หลัง จากครุ่นคิดอยู่สอง
สามนาที เขาก็เริ่มเขียนแผนสำหรับคลิป
“รีวิวสายฮาร์ดคอร์
“รีวิวไม่อิสระวันที่ 1
“รีวิวสายฮาร์ดคอร์เป็นนักรีวิวไม่อิสระ ผลงานรีวิวจะขึ้นอยู่กับว่าโดนจ้างมา
แพงแค่ไหน ของที่เอามารีวิวอาจจะเป็นของที่มีคนจ้างให้มารีวิว โปรดปิดคลิปนี้
ไป ถ้าใครสนใจอยากร่วมงาน กรุณาติดต่อผมเป็นการส่วนตัว”
เขาจะทำฉากเปิดคลิปให้ขึ้นเป็นข้อความล้วน คนส่วนใหญ่จะได้รู้สึกไม่อยาก
ดูต่อ
พอเตรียมตัวเสร็จ เขาก็กดเปิดกล้องแล้วเริ่มอัดคลิป
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการรีวิวของที่เที่ยงธรรมและเป็นมืออาชีพที่สุดใน
ประเทศ ผมวาโอ่ว เป็นนักรีวิวอุปกรณ์ดิจิทัลมืออาชีพ
“ของที่จะเอามารีวิววันนี้คือโทรศัพท์รุ่น Pineapple 4 เรามาค่อยๆ เปิด
กล่องดูกันเถอะ”
เผยเชียนพยายามใช้โทนเสียงไร้อารมณ์เพื่อที่คนอื่นจะได้จำเสียงเขาไม่ได้
จากนั้นเขาก็หยิบคัตเตอร์ขึ้นมากรีดกล่องจนเป็นรูแล้วล้วงมือเข้าไปหยิบ
โทรศัพท์ออกมา
เขาฉีกพลาสติกหุ้มออกอย่างรุนแรงแล้วจงใจขยำเป็นก้อนจากนั้นก็โยนทิ้งไป
ด้านข้าง เผยเชียนปิดกล่องที่ยังมีสายชาร์จ หัวเสียบ และกองคู่มือที่ไม่มีใครอ่าน
จากนั้นก็โยนไปไว้ข้างๆ เหมือนกัน
“อันดับแรก เราจะมาทดสอบการกันน้ำ”
เขาเตรียมถังเล็กๆ ใส่น้ำไว้ข้างๆ แล้ว เผยเชียนกดเปิดมือถือ Pineapple
แล้วโยนลงถัง
ผ่านไปสักพักเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ดูเหมือนว่าจะกันน้ำได้เป็นอย่างดี ไม่
มีน้ำซึมเข้าไปสักหยด
“ต่อไปเราจะมาทดสอบการกันกระแทก”
เขาถือมื อตัวเองด้วยมือซ้าย ส่วนมือขวาถือ Pineapple 4 จากนั้นก็เริ่ม
ทดสอบด้วยการปล่อย Pineapple 4 ตกลงพื้นจากมุมและความสูงต่างๆ
เริ่มจากปล่อยให้มุมตกกระแทกพื้น แล้วเปลี่ยนเป็นให้ด้านหลังกระแทกพื้น
จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นปล่อยหน้าจอลงพื้น เขาทำแบบนั้นซ้ำๆ โดยเปลี่ยนความสูง
ไปเรื่อยๆ จากหนึ่งเมตร เป็นสองเมตร และสามเมตร
เสร็จแล้วเขาก็ซูมกล้องเข้าไปใกล้ๆ มือถือ
หลังจากปล่อยมือถือให้ร่วงลงพื้นจากความสูงสามเมตร ทั้งเครื่องก็เต็มไป
ด้วยรอยร้าว ถึงจะยังเปิดเครื่องใช้งานได้ แต่หน้าจอก็แหลกละเอียด มุมเครื่องบิ่น
เป็นรอย ตัวเครื่องด้านหลังถลอก
“ต่อไปเป็นการทดสอบการกันรอย”
เผยเชียนหยิบคัตเตอร์บนโต๊ะมาจิ้มตัวเครื่องด้านหลังซ้ำ
เขาเริ่มจิ้มเบาๆ ตัวเครื่องไม่ปรากฏรอยขีดข่วน แต่พอจิ้มแรงขึ้น รอยขีดข่วน
ก็ปรากฏให้เห็นชัดเจน แถมยังเริ่มเป็นรอยลึกขึ้นเรื่อยๆ
“ต่อไปเป็นการถอดประกอบตัวเครื่อง
“ทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่าการถอดประกอบมือถือคือวิธีที่ดีที่สุดที่จะตรวจดูว่า
ของข้างในดีจริงรึเปล่า เรามาแกะเครื่องกันอย่างมืออาชีพสุดๆ กันเถอะ”
เผยเชียนหยิบไขควงแล้วแทงลงไปที่รอยลึกด้านหลังตัวเครื่อง จากนั้นก็แงะ
กรอบเครื่องออก เขาถอดแบตเตอรี่ กล้อง และแผงวงจรด้านในออกมาได้สำเร็จ
พอถอดส่วนประกอบต่างๆ ด้านในออกมาได้ มือถือเครื่องนี้ก็ไม่หลงเหลือเค้า
เดิมอีกต่อไป
“โอเค นี ่ ค ื อ ส่ ว นประกอบด้ า นในของ Pineapple 4 ดู อ ุ ป กรณ์ ก ั บ งาน
ประกอบสิครับ ผมมั่นใจว่าทุกคนน่าจะรู้จักแต่ละส่วนกันดีอยู่แล้ว เพราะงั้นผม
จะไม่อธิบายให้ฟัง
“ต่อไปมาประกอบเครื่องคืนกัน”
เผยเชียนไม่ได้ทำขั้นตอนนี้ เขากะว่าจะเล่นคลิปย้อนหลังอีกรอบแทน
สุดท้ายเขาก็อัดช่วงสรุปคลิป
“นี่ก็เป็นรีวิวมือถือ Pineapple 4 ทางบริษัท Pineapple อย่าลืมโอนเงินค่า
รีวิวเข้าบัญชีผมด้วย
“รายการรีวิวสายฮาร์ดคอร์ขอลาไปก่อน เจอกันใหม่คลิปหน้า!”
พอถ่ายทุกอย่างเสร็จ เผยเชียนก็ดาวน์โหลดโปรแกรมตัดต่อมามั่วๆ จากนั้นก็
ตัดคลิปออกเล็กน้อย เพิ่มช่วงเปิดคลิป และใส่คลิปตอนแยกเครื่องแบบกรอกลับ
ลงไป
เผยเชียนกดเรนเดอร์คลิปแล้วตรวจเนื้อหาดูอีกรอบ
คลิปออกมาแย่มากๆ และเผยเชียนก็พอใจมากเหมือนกัน
เผยเชียนเข้าเว็บอ้ายลี่เต่าแล้วสมัครบัญชีใหม่ด้วยชื่อ ‘รีวิวสายฮาร์ดคอร์ ’
จากนั้นก็อัปโหลดคลิปตัวเอง
“โอเค เสร็จเรียบร้อย!”
เขาถอดหน้ากากเก็บไว้เพื่อใช้ในการถ่ายทำครั้งหน้า
ยังเหลืออีกสิบเก้าตอนที่ต้องถ่ายทำ แต่ละตอนจะเป็นการแกะกล่องรีวิว
อุปกรณ์ดิจิทัลแบบคลิปแรกเป๊ะๆ การถ่ายทำทั้งยี่สิบตอนน่าจะไม่ใช่เรื่องยาก
อะไร เสร็จจากนั้นเขาก็จะได้ใช้เงินสองแสนหยวนอย่างสบายใจหายห่วง!
บทที่ 216 วิธีคำนวณสินทรัพย์ถาวร

เช้ า วั น ต่ อ มา เผยเชี ย นตื ่ น นอนแล้ว ก็ เ ปิ ด หลัง บ้ า นของเว็บ อ้ า ยลี่ เ ต่ามา


ตรวจสอบยอดสถิติต่างๆ
มียอดวิวและคอมเมนต์แล่นผ่านคลิปจำนวนหนึ่ง แต่รวมๆ แล้วไม่ได้เยอะ
มาก ถือว่าคลิปยังไม่ได้ดังอะไร
คอมเมนต์ส่วนใหญ่เป็นคอมเมนต์จำพวก ‘แม่เจ้า’ ‘พวกอวดรวย’ ‘เงินเยอะ
เหลือเกิน’ ‘มีเงินมาก ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร เลยเอามาผลาญเล่น’ และอื่นๆ
แอ็กเคานต์ของเผยเชียนเพิ่งเปิดใหม่ หลังจากลงคลิปในหมวดดิจิทัลไป ทาง
แพลตฟอร์มก็ไม่ได้เอาไปขึ้นหน้าแนะนำ คนติดตามช่องก็ไม่มี จึงได้ยอดวิว
เล็กน้อยจากคนที่หลงเข้ามาดู ทั้งคืนแทบจะไม่มีคนกดเข้ามาดูเลยด้วยซ้ำ
เผยเชียนไม่ได้สนใจอะไร เขาไม่ได้หวังอยากได้ยอดวิวเยอะๆ อยู่แล้ว
ถ้ามีคนกดให้ทิปหรือได้เข้าร่วมแผนแบ่งกำไรกับทางแพลตฟอร์ม เขาก็จะคิด่
ว่าได้เงินค่าขนมเพิ่มเล็กๆ น้อยๆ ถือเป็นเรื่องดีเหมือนกัน
เผยเชียนกินขนมดูคลิปไปเรือ่ ย จู่ๆ หน้าจอระบบก็มาปรากฏขึ้นตรงหน้า
<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>
<เจ้าของ : เผยเชียน>
<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100 : 1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1 : 1>
<วันปิดบัญชีครั้งต่อไป : อีก 93 วัน>
<เงินทุนระบบ : 2,430,000 (↓5,570,000)>
<สินทรัพย์ถาวร : วิลล่ากึ่งพาณิชย์ในหมิงหยุนวิลล่า (6,620,000)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล : 357,412.5>
<ภารกิ จ พิ เ ศษประจำรอบ : การดำเนิ น ธุ ร กิ จ มี ท ั ้ ง กำไรและขาดทุ น ดู
เหมือนว่าเจ้าของระบบจะหลงระเริงกับกำไรที่ตัวเองทำได้อยู่ ซึ่งไม่ใช่ทัศนคติที่
นักธุรกิจควรจะมี ขอแนะนำให้เจ้าของระบบทำให้ตัวเองขาดทุนให้ ได้ในรอบปิด
บัญชีครั้งต่อไป>
<รางวัลที่จะได้รับเมื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษสำเร็จ : เปลี่ยนแปลงกฎระบบ>
<คำใบ้พิเศษ : >
<10% ของราคาสินทรัพย์ถาวรของบริษัทที่ระบบประเมินจะนับรวมเป็น
เงินทุนระบบ ทำให้มีผลกับการสรุปบัญชี>
<เริ่มคำนวณเงินทุนระบบใหม่...>
<เงินทุนระบบ : 2,430,000+620,000 (↓4,950,000)>
<สินทรัพย์ถาวร : วิลล่ากึ่งพาณิชย์ในหมิงหยุนวิลล่า (6,620,000)>
<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล : 357,412.5>
มันฝรั่งทอดที่เผยเชียนเพิ่งโยนเข้าปากหยุดกลางอากาศ
หมายความว่ายังไงกัน!
เขาอ่านเนื้อหาบนหน้าจอระบบอย่างละเอียด พอเห็นบรรทั ดที่พูดถึงเรื่อง
‘สินทรัพย์ถาวร’ ก็พอจะเข้าใจเรื่องราวคร่าวๆ
ก่อนหน้านี้ทรัพยากรที่แพงที่สุดในครอบครองมาจากการเช่าทั้งหมด ไม่ว่าจะ
เป็นตึกสำนักงานหรือรถ ดังนั้นช่อง ‘สินทรัพย์ถาวร’ จึงไม่เคยปรากฏในหน้าจอ
ระบบ
แน่นอนว่าโต๊ะ เก้าอี้ เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์สำนักงานต่างๆ ที่ซื้อเข้าบริษัท
รวมถึงร้านอินเทอร์เน็ตก็นับเป็นสินทรัพย์ของบริษัทแต่ไม่ได้ทำให้ช่อง ‘สินทรัพย์
ถาวร’ ปรากฏขึ้นมาในระบบ
น่าจะเป็นเพราะระบบมองว่าข้าวของพวกนี้มีราคาต่ำเกินไป
แต่พอเผยเชียนซื้อวิลล่าราคาหกล้านหยวน ระบบก็เพิกเฉยไม่ได้อีก
ตามกฎของระบบแล้ว สินทรัพย์ถาวรในหมวดสินค้าโภคภัณฑ์จะถูกประเมิน
ราคาโดยระบบ ยอดสิบเปอร์เซ็นต์จากราคาที่ประเมินจะนับรวมเข้าไปในเงินทุน
ระบบและมีผลต่อการสรุปบัญชี
เผยเชียนทุ่มเงินก้อนโตซื้อวิลล่า ยอดเงินในบัญชีบริษัทตอนนี้อยู่ที่สองล้านสี่
แสนสามหมื่นหยวน ขณะที่เงินทุนระบบตั้งต้นอยู่ที่แปดล้านหยวน ตามการ
คำนวณเดิม เขาจะมียอดขาดทุนอยู่ที่ห้าล้านห้าแสนเจ็ดหมื่นหยวน
แต่ตามการคำนวณด้วยวิธีใหม่ ถ้ารวมยอดสิบเปอร์เซ็นต์จากราคาประเมินวิล
ล่ า (6,220,000 หยวน) เขาจะขาดทุ น แค่ 8,000,000 - 2,430,000 +
(6,220,000×10%) = 4,950,000 หยวน!
ยอดเงินทุนระบบปรับใหม่คือ 2,430,000+620,000 ยอด 2,430,000 คือเงิน
ในบัญชีบริษัทที่เขาสามารถใช้จ่ายได้ ส่วน 620,000 คือยอดสิบเปอร์เซ็นต์ของ
ราคาประเมินวิลล่า ถึงจะนับรวมเป็นยอดตัวเลขที่ไม่สามารถใช้จ่ายได้ แต่ก็ถือ
เป็นส่วนหนึ่งของเงินทุนระบบที่จะมีผลกับการสรุปบัญชี
เผยเชียนเกาหัว เขาไม่แน่ใจว่านี่เป็นเรื่องดีสำหรับเขาหรือเปล่า
เห็นได้ชัดว่ากฎที่ระบบตั้งขึ้นมานี้จะลดข้อจำกัดในการซื้อสินค้าโภคภัณฑ์มา
เป็นสินทรัพย์ถาวร
ถ้าสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทนี้ไม่นับเป็นส่วนหนึ่งของเงินทุนระบบ เผยเชียน
จะสามารถซื้ออะไรก็ได้ตามที่ต้องการ ขอแค่มีเงินทุนพอ เขาก็สามารถกว้านซื้อ
อสังหาริมทรัพย์เท่าที่ใจอยากเพื่อให้ตัวเองขาดทุนได้
(แน่ น อนว่ า ก็ ต ้ อ งมี เ หตุ ผ ลที ่ เ หมาะสมในการซื ้ อ เขาไม่ ส ามารถซื้ อ
อสังหาริมทรัพย์เพื่อใช้หมุนเงินหรืออยู่อาศัยได้ ต้องนำมาใช้เป็นทรัพยากรในการ
ประกอบธุรกิจเหมือนที่ทำอยู่ตอนนี้)
ตัวอย่างเช่น ถ้ามีเงินทุนระบบเหลืออยู่สิบล้านหยวน เผยเชียนสามารถเอาไป
ซื้อวิลล่าราคาเจ็ดล้านหยวนอีกหลัง (หาเหตุผลสักอย่างอ้างระบบ) เขาก็จะเหลือ
เงินอยู่สามล้าน จากเงินทุนระบบตั้งต้นแปดล้านหยวนก็จะกลายเป็นขาดทุนได้
ง่ายๆ ห้าล้านหยวน
แบบนี้ก็จะขาดทุนได้ง่ายขึ้น
ดังนั้นสินทรัพย์ถาวรจึงต้องนับรวมเป็นเงินทุนระบบด้วย
แต่ถ้านับรวมยอดจริงของสินทรัพย์ถาวรก็จะเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นอีก
เงินทุนระบบตั้งต้นอยู่ที่แปดล้านหยวน ถ้าเผยเชียนซื้อวิลล่าราคาสิบล้าน
หยวน ยอดสิบล้านก็จะนับรวมเป็นเงินทุนระบบ ทีนี้ก็จะเป็นเรื่องยากสำหรับเขา
ที่จะผลาญเงินตั้งต้นแปดล้านหยวน เว้นแต่จะขายอสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อมาทิ้ง
ดังนั้นระบบจึงเลือกใช้วิธีการนี้
สินค้าโภคภัณฑ์ที่เป็นสินทรัพย์ถาวรจะนับเป็นเงินทุนระบบในอัตราสิบ
เปอร์เซ็นต์ ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้เผยเชียนสามารถซื้อสินทรัพย์ถาวรได้ตอนที่อยากทำ
ให้ตัวเองขาดทุน ในทางกลับกัน เผยเชียนก็ไม่สามารถกว้านซื้อ สินทรัพย์ถาวร
เพื่อให้ตัวเองขาดทุนได้ง่ายๆ
“อืม…ถ้ามองในแง่ร้ายก็ถือว่าระบบปิดช่องทางหากินไปอีกช่อง ระบบคิดไป
ไกลกว่าฉันตลอดเลย…
“แต่ถ้ามองในแง่บวก ถ้าระบบไม่บอกเรื่องนี้ให้รู้ ฉันก็ไม่มีทางคิดไอเดียนี้
ออกง่ายๆแน่…”
เผยเชียนคิดขึ้นได้ว่าถึงการซื้อสินทรัพย์ถาวรจะส่งผลกระทบกับการสรุป
บัญชี แต่ก็ถือเป็นหนทางที่ดีในการผลาญเงิน
สมมติว่าเผยเชียนมีเงินทุนระบบเหลืออยู่สิบล้านหยวน เขาสามารถเอาเงิน
ก้อนนี้ไปซื้อวิลล่าหรือร้านค้าสักที่ได้ ถ้าใช้เงินซื้อไปห้าล้าน ยอดเงินในระบบก็จะ
เหลือตามนี้
10 ล้าน - 5 ล้าน + (5 ล้าน x 10%) = 5.5 ล้าน
ถ้าคิดตามนี้ ระบบจะสรุปว่าเขาขาดทุน 8 ล้าน - 5.5 ล้าน = 2.5 ล้าน!
แน่นอนว่าการทำแบบนี้ก็มีความเสี่ยง ถ้าเผยเชียนมีสินทรัพย์ถาวรเยอะ เกิด
ราคาประเมินสินทรัพย์ถาวรสักอย่างพุ่งขึ้นมา เงินทุนระบบของเขาก็จะพุ่งพรวด
ตาม
ถ้าจู่ๆ มูลค่าวิลล่าของเผยเชียนพุ่งพรวดไปเป็นสามสิบล้านหยวน ยอดเงินทุน
ระบบก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกสามล้านหยวนตามอัตราประเมินสิบเปอร์เซ็นต์
10 ล้าน - 5 ล้าน + (30 ล้าน x 10%) = 8 ล้าน
เขาจะกลายเป็นไม่ขาดทุนแทน!
ซ้ำร้ายกว่านั้นถ้าเผยเชียนมีสินทรัพย์ถาวรเยอะเกินไป ยอดประเมินแค่สิบ
เปอร์เซ็นต์ก็อาจจะรวมกันแล้วเกินเงินตั้งต้นที่ระบบให้มาได้ ถ้าเป็นแบบนั้น ต่อ
ให้เผยเชียนใช้เงินในบัญชีบริษัทจนหมด เขาก็ยังทำให้ตัวเองขาดทุนไม่ได้อยู่ดี
ทางออกเดียวคือราคาสินทรัพย์ตกลงหรือไม่ก็ขายสินทรัพย์ทั้งหมดทิ้งแล้ว
เอาเงินมาใช้ให้หมด
เพราะยังไง…
โอกาสและความเสี่ยงก็เป็นของคู่กัน
หลังจากคิดคำนวณดู เผยเชียนก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา
“อะไรกันเนี่ย จะหาทางขาดทุนทำไมต้องคิดหนักขนาดนี้ด้วย ทำไมกฎมัน
ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ เลย…”
เผยเชียนตัดสินใจเลิกคิดเรือ่ งนี้
ในอนาคตถ้าเขามีเงินทุนระบบสักยี่สิบสามสิบล้าน เขาจะแบ่งเงินสักล้านสอง
ล้านไปซื้อร้านค้าสักที่ เงินทุนระบบก็จะเพิ่มมาแค่ไม่กี่แสน ถือเป็นเรื่องที่ดีเลย
ทีเดียว
ตอนนี้เขามีเงินทุนระบบไม่มาก ถ้าซื้ออสังหาริมทรัพย์เยอะเกินไปอาจจะ
ส่งผลเสียได้ ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป
ถ้าอยากรอบคอบหน่อย เขาก็ควรจะใช้เงินตอนนาทีสุดท้าย
รอบบัญชีนี้ แค่ซื้อวิลล่ากึ่งพาณิชย์มาเปิดเป็นภัตตาคารระดับสูงก็น่าจะเพียง
พอที่จะทำให้ตัวเองขาดทุนแล้ว
ในเมื่อระบบแจ้งเตือนขึ้นมาแบบนี้ ก็แสดงว่าวิลล่าที่ซื้อไปผ่านกระบวนการ
ต่างๆ ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว
เผยเชียนโทรบอกให้เลขาซินพาเขาไปร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหมิงหยุน
วิลล่า
เขาอยากสรุปเรื่องการตกแต่งภายในของภัตตาคารระดับสูง และตรวจดูว่า
สภาพธุรกิจในละแวกนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดขึ้นหรือเปล่า
บทที่ 217 ร้านของเรามีหลายสไตล์

ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหมิงหยุนวิลล่า
ระหว่างทางเผยเชียนคอยมองร้านรวงในละแวกที่ก่อนหน้านี้กำลังปรับปรุง
อยู่ ร้านที่ว่ามีทั้งร้านอินเทอร์เน็ต ร้านกาแฟ บาร์ คาเฟ่บอร์ดเกม และอื่นๆ
ทำเลของร้านพวกนี้ค่อนข้างดีพอสมควร เช่น ร้านอินเทอร์เน็ตตั้งอยู่หน้า
ทางเข้ามหาวิทยาลัยฮั่นตงเจียวต้าวิทยาเขตตะวันออก
เทียบกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูที่ต้องเสียเวลาเดินไปร้านประมาณยี่สิบนาที
แล้ว ร้านใหม่ที่อยู่ตรงหน้ามหาวิทยาลัยนั้นใกล้กว่ามาก เป็นธรรมดาที่ร้านนี้จะ
เป็นที่นิยมในหมู่นักศึกษามากกว่า
เผยเชียนเช็กดูการตกแต่งภายในกับแผนผังร้านนี้แล้วพบว่าลอกสไตล์ร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูมาชัดๆ
เฟอร์ น ิ เ จอร์ แ ละอุ ป กรณ์ ต ่ า งๆ ในร้ า นเป็ น ของใหม่ ห มด ไม่ ว ่ า จะเป็ น
คอมพิวเตอร์ คีย์บอร์ด เมาส์ โต๊ะ เก้าอี้ ในร้านมีเคาน์เตอร์บาร์ขายกาแฟและ
เครื่องดื่มต่างๆ ด้วย
แต่ร้านก็ไม่ได้ตกแต่งหรูหราเท่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู แถมยังดูแคบกว่า
คอมพิวเตอร์ที่ให้ใช้บริการมีหลายเครื่อง แต่สเป็กไม่น่าจะสูงเท่าคอมพิวเตอร์ของ
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
จางหยวนเป็นคนประกอบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
สามารถใช้เล่นเกม AAA ทุกเกมในตลาดได้แม้จะเปิดกราฟิกระดับสูงสุด เพราะ
เป็นคอมพ์ที่สเป็กสูงมาก
แต่ว่ากันตามตรงแล้ว คอมพ์สเป็กสูงแบบนั้นถือว่าค่อนข้างเกินความจำเป็น
เทียบกันแล้ว คอมพิวเตอร์ของร้านอินเทอร์เน็ตเปิดใหม่ประกอบมาได้คุ้มค่า
กว่า สามารถใช้เล่นเกมกระแสหลักในตลาดได้ลื่นๆ แถมราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ
ครึ่งหนึ่งของคอมพิวเตอร์ของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู แม้จะใช้วัสดุประกอบและ
จัดแต่งออกมาได้คล้ายคลึงกัน แต่ราคาของทั้งสองเครื่องกลับแตกต่างกันมาก
ถ้ า เอาไปเที ย บกั บ คอมพิ ว เตอร์ ใ นร้ า นอิ น เทอร์ เ น็ ต ทั ่ ว ไป จะถื อ ว่ า
คอมพิวเตอร์กับบรรยากาศของที่นี่ดีกว่าพอสมควร
มีพนักงานแจกใบปลิวอยู่ตรงทางม้าลายใกล้ๆ ร้าน ดูแล้วน่าจะเป็นนักศึกษา
ถ้ามีร้านมาเปิดแย่งลูกค้าแบบนี้ ก็เป็นไปได้สูงที่จะทำให้ลูกค้าที่เดิมคิดจะไป
ใช้บริการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเปลี่ยนใจ
เพราะหลายๆ คนไม่ได้อยากได้คอมพิวเตอร์หรือบรรยากาศร้านที่ดีขนาดนั้ น
พวกเขาไม่มีทางถ่อไปตั้งไกลเพียงเพื่อเหตุผลนั้นแน่ๆ
สถานการณ์ของคาเฟ่บอร์ดเกม บาร์ และร้านกาแฟก็คล้ายๆ กัน
ถึงลูกค้าจะไม่ได้เยอะมาก แต่ทำเลของแต่ละร้านดีกว่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
หมด น่าจะแย่งลูกค้าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไปได้แน่ๆ
เผยเชียนดีใจมาก
ดีเลย ถึงเผยเชียนจะไม่รู้ว่าใครเป็นคนช่วย แต่เขาก็จะจดจำบุญคุณครั้งนี้
เอาไว้และหาโอกาสตอบแทนคนผู้นั้นให้ได้ในอนาคต!
ดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากละแวกนี้ไม่ค่อยมีคนสัญจรผ่านไปมา
ร้านเหล่านี้น่าจะยังทำกำไรไม่ได้ ยอดขาดทุนของแต่ละร้านก็คงจะแตกต่างกัน
ออกไป
ร้านอินเทอร์เน็ตน่าจะมีรายได้เยอะที่สุด คาเฟ่บอร์ดเกมก็น่าจะไล่ๆ กันมา
ส่วนบาร์กับร้านกาแฟ… เผยเชียนคิดว่ากิจการน่าจะไม่ดีเท่าไหร่
คนที่มาเปิดร้านเหล่านี้เพื่อช่วยเผยเชียนให้ขาดทุนต้องเป็นคนใจบุญสุนทาน
มากแน่ๆ!
ว่าแล้วเผยเชียนก็นึกถึงบอสหลี่ที่เคยช่วยแย่งลูกค้าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
สาขาหลักขึ้นมา
หรือว่าคนคนนั้นจะเป็นบอสหลี่
จากเรื่องเข้าใจผิดครั้งก่อน บอสหลี่น่าจะยังแค้นฉันอยู่ ทำไมถึงเปลี่ยนมา
เป็นพันธมิตรได้ล่ะ
เผยเชียนรู้สึกอบอุ่นในใจ ดูสิ ฉันไม่ได้มีแค่ศัตรูนะ!
คนแบบอาจารย์เฉียวกับหร่วนกวางเจี่ยนถือเป็นศัตรูของเผยเชียน แต่บอสห
ลี่ไม่เหมือนกัน เพราะเขาคือมิตรแท้!
เผยเชียนตั้งใจจะตรวจสอบเรื่องนี้ดู เพราะอยากรู้ว่าบอสหลี่เป็นคนปิดทอง
หลังพระจริงหรือเปล่า ถ้าเป็นเขาจริงๆ เผยเชียนจะต้องหาทางตอบแทนบุญคุณ
ให้เหมาะสม!หลังจากสำรวจจนรอบ เผยเชียน จางหยวน เลขาซิน และหลินชั่น
หรงก็มุ่งหน้าไปที่หมิงหยุนวิลล่าเพื่อตรวจสอบสถานการณ์
หลินชั่นหรงเป็นเชฟที่กลายมาเป็นผู้จัดการสาขา ช่วงนี้ผันตัวมารับผิดชอบโม
หยูเดลิเวอรี่ด้วย แต่ยังสร้างผลงานอะไรไม่ได้ ทำกิจการขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง
เผยเชียนเล็งเห็นความสามารถนี้ จึงเลือกเขามาเป็นผู้จัดการสาขาประจำ
ภัตตาคารแห่งใหม่
ก่อนจะมาที่นี่ หลินชั่นหรงได้เตรียมการเบื้องต้นตามที่บอสเผยสั่งเรียบร้อย
แล้ว
โต๊ะ เก้าอี้ และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ของวิลล่า ทางนิติบุคคลเข้ามาขนออกไป
หมดแล้ว ตอนนี้วิลล่าทั้งหลังดูโล่งสุดๆ
ครั้งก่อนที่มา เผยเชียนเดินชมจนทั่วและพอจะมีไอเดียคร่าวๆ แล้ว
ที่เขาต้องทำก็แค่บอกไอเดียที่ต้องการคร่าวๆ แล้วปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญจัดการ
รายละเอียดต่างๆ อย่างการตกแต่งและรูปแบบโต๊ะกับเครื่องครัวที่ควรใช้งาน
ห้องนั่งเล่นสูงเจ็ดเมตร กินพื้นที่สองชั้น ดูโอ่โถงโอ่อ่า
เผยเชียนเดินนำหม่าหยางกับจางหยวนเข้าไปในห้องนั่งเล่นแล้วเริ่มอธิบาย
“ทำตู้เก็บไวน์ตรงนี้แล้วซื้อไวน์แพงมาใส่ โต๊ะเก้าอี้ใช้ของคุณภาพชั้นหนึ่ง
เท่านั้น แต่ละโต๊ะตั้งห่างกัน ตรงนี้เอาสักเจ็ดถึงแปดโต๊ะก็พอ แต่ละโต๊ะจัดเก้าอี้ไม่
เกินสี่ตัว ห้ามจัดเกินนี้เด็ดขาด
“ด้านนอกซื้อโต๊ะ เก้าอี้ กับร่มมาวางในสวนได้ วันไหนอากาศดีจะได้ให้ลูกค้า
ออกมานั่งกินลมชมวิวข้างนอก
“การตกแต่งภายในเอาเป็นห้าสไตล์ สไตล์มินิมอล สไตล์จีน สไตล์ญี่ปุ่น สไตล์
ยุโรป แล้วก็สไตล์ธรรมชาติ แต่ละสไตล์ต้องแสดงให้เห็นผ่านเครื่องตกแต่ง ผ้า
คลุมโต๊ะ ไฟประดับ และจานชาม
“เราจะตกแต่งร้านตามอาหารที่ลูกค้าสั่ง โดยเฉพาะในห้องส่วนตัวเพราะ
บรรยากาศเหมาะสุด เดี๋ยวติดหน้าต่างบนเพดานเพิ่มเข้าไปด้วย เฟอร์นิเจอร์กับ
ของตกแต่งต้องเตรียมมาให้ครบทุกสไตล์ จะได้จัดตกแต่งได้อย่างประณีต
“นอกจากจะแต่งให้เข้ากับประเภทอาหารแล้ว ไฟประดับกับของตกแต่ง
ต่างๆ ก็เอาให้ดูอบอุ่น ร้านนี้เอาไว้ต้อนรับพนักงานของเราเป็นหลัก เพราะงั้นไม่
ต้องแต่งให้เป็นทางการมาก
“อาหารส่วนใหญ่ของร้านต้องสั่งจองล่วงหน้า เช่น ถ้าลูกค้าจองอาหาร
ตะวันตกมา เราก็ต้องตกแต่งห้องให้เป็นสไตล์ยุโรป ถ้าลูกค้าสั่งอาหารญี่ปุ่นก็
ตกแต่งแบบญี่ปุ่น
“อาหารที่เสิร์ฟมีสองแบบ แบบแรกใช้วัตถุดิบธรรมดา สามารถสั่งได้ตลอด
พนักงานเราจะได้กินอาหารประเภทนี้ อีกแบบจะใช้วัตถุดิบพรีเมี่ยม เช่น ชิราโกะ
ปลาปักเป้า วานิลลาตาฮิติ ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน พาร์ม่าแฮม อย่าลืมติดต่อคนส่ง
วัตถุดิบไว้ด้วย จองเสร็จแล้วลูกค้าต้องจ่ายมัดจำก่อนมากินอาหารที่ร้าน”
เผยเชียนพาหลินชั่นหรงเดินชมรอบๆ ไปพร้อมอธิบายสิ่งที่ต้องการ
เป้าหมายหลักของเขามีอยู่สองอย่าง
อย่างแรก จุดประสงค์หลักของร้านคือให้บริการพนักงาน ร้านต้องออกแบบ
มาให้อบอุ่นและมีระดับที่สุด เผยเชียนไม่ได้ตั้งใจจะรับลูกค้าเยอะมากนัก จำนวน
ลูกค้าสูงสุดที่วางเอาไว้อยู่ที่ประมาณเจ็ดสิบถึงแปดสิบคน
ห้องโถงจุคนได้ประมาณยี่สิบคน ห้องส่วนตัวแต่ละห้องจุได้หกถึงเจ็ดคน ถ้า
อากาศดีก็เปิดโต๊ะตรงระเบียงกับสวนเพิ่มได้
เผยเชียนไม่คิดจะพาพนักงานมาพร้อมกันหมดรวดเดียว ตอนนี้เขามีพนักงาน
ในสังกัดมากกว่าสองร้อยคน วิลล่าหลังนี้ไม่สามารถจุคนได้ขนาดนั้น ต้องแบ่งมา
กินเลี้ยงเป็นกลุ่มๆ
เขาสามารถพาพนักงานหลักประมาณเจ็ดสิบถึงแปดสิบคนมากินเลี้ยงด้วยกัน
ได้ จากนั้นก็ให้หัวหน้าแต่ละแผนกพาลูกน้องมาทีหลัง เพราะยังไงจุดประสงค์
หลักในการกินเลี้ยงก็คือการผลาญเงิน จะมากินด้วยกันหรือไม่ก็ไม่ได้ต่างอะไร
อย่างที่สอง เขาอยากผลาญเงินให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
การจัดเตรียมเฟอร์นิเจอร์ จานชาม ไฟประดับ เครื่องตกแต่งแต่ละสไตล์ช่วย
ผลาญเงิ น ได้ ก ้ อ นโตที เ ดี ย ว ทำให้ ค ่ า แรงคนงานเพิ ่ ม สู ง ขึ ้ น ตามไปด้ ว ย และ
เนื่องจากเขามีเหตุผลที่สมเหตุสมผล ระบบจึงไม่ได้ห้ามอะไรในจุดนี้
เพราะทั้งหมดที่ทำไปก็เพื่อให้ลูกค้าได้ประสบการณ์การรับประทานอาหารที่
ดีที่สุด ถึงจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นและดูเป็นการตัดสินใจที่ไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ก็
ตาม
นอกจากนั้นเผยเชียนไม่ได้สนใจว่าลูกค้าคนอื่นจะคิดยังไง ภัตตาคารนี้สร้าง
มาเพื่อพาพนักงานมากินเลี้ยงและผลาญเงิน ดังนั้นยิ่งร้านไม่เป็นที่รู้จักก็ยิ่งดี
จะดีมากถ้าไม่มีใครรู้จักร้านเลย ถ้าเป็นแบบนั้นภัตตาคารก็จะขาดทุนได้อย่าง
ต่อเนื่อง เป็นไปตามที่เผยเชียนต้องการ
หลังจากอธิบายการตกแต่งภัตตาคารส่วนต่างๆ ครบหมดแล้ว เผยเชียนก็หัน
มองหลินชั่นหรง “นี่เป็นแนวทางคร่าวๆ มีคำถามอะไรไหม”
หลินชั่นหรงดูลังเลใจเล็กน้อย “บอสเผยครับ ผมเห็นด้วยกับทุกอย่างเลย แต่
เราจำเป็นต้องเตรียมการตกแต่งไว้หลายสไตล์ขนาดนั้นด้วยเหรอครับ”
บทที่ 218 ตัดหมิงเหลียงออกทัง้ น้ำตา

นี่เป็นครั้งแรกที่หลินชั่นหรงได้ยินว่าภัตตาคารแห่งเดียวจะต้องเตรียมจาน
ชามและโต๊ะเก้าอี้ไว้หลากหลายสไตล์…
มีที่ว่างมากพอเก็บข้าวของทั้งหมด ที่จอดรถชั้นใต้ ดินมีที่เหลือกว้างขวางให้
เก็บโต๊ะเก้าอี้ แต่ประเด็นคือพวกเขาจะต้องจัดแต่งร้านใหม่ทุกครั้งหลังลูกค้าใช้
บริการ…
แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว
เผยเชียนส่ายหน้า “จำเป็นสิ!
“ร้านเราเป็นภัตตาคารระดับสูง นอกจากจะใช้วัตถุดิบชั้นเลิศกับฝีมือเยี่ยม
ยอดรังสรรค์อาหารสุดพิเศษออกมาแล้ว บรรยากาศในร้านก็ต้องจัดให้หรูเลิศไม่
แพ้กัน
“ขนาดนักปราชญ์สมัยก่อนยังมีแก้วหลายแบบไว้ดื่มเหล้าแต่ละชนิดเลย แถม
วิธีดื่มก็ยุ่งยากซับซ้อน แต่ที่ทำไปก็ไม่ใช่แค่ทำพอเป็นพิธี แต่แก้วแต่ละแบบจะ
ช่วยให้ลิ้มรสเหล้าได้ดียิ่งขึ้น ทำให้สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่พิเศษกว่าปกติ!
“ภัตตาคารอื่นมีอาหารแค่แบบเดียวทำให้จัดบริการได้แค่สไตล์เดียว
“แต่ภัตตาคารของเรามีอาหารทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นตะวันตก จีน ญี่ปุ่น
ฝรั่งเศส เราต้องเตรียมการตกแต่งภายในไว้หลากหลายรูปแบบเพื่อให้ลูกค้าได้รับ
ประสบการณ์การกินอาหารที่ดีที่สุด เราต้องจัด การทุกอย่างให้เต็มที่ ทั้งการ
ตกแต่ง โต๊ะ จานชาม ไปจนถึงบรรยากาศภายในร้าน!
“รายละเอี ย ดพวกนี ้ แ หละที ่ จ ะเป็ น ตั ว กำหนดว่ า ร้ า นเราจะประสบ
ความสำเร็จได้รึเปล่า เข้าใจไหม”
หลินชั่นหรงอ้าปากเล็กน้อยด้วยความอึ้ง
ก็…
ฟังดูมีเหตุผล แต่ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ
บรรยากาศในร้านถือเป็นเรื่องสำคัญก็จริง แต่มันจำเป็นจะต้องเปลี่ยนสไตล์
การตกแต่งกับจานชามที่ใช้อยู่ตลอดด้วยเหรอ
หรือว่า… บอสเผยไม่อยากทำอะไรอยู่ในกรอบเดิมๆ เขาอาจอยากทำอะไรที่
สมบูรณ์แบบกว่านี้
การจัดเตรียมบรรยากาศสำหรับการกินอาหารที่ดีเยี่ยมจะช่วยให้ลูกค้าได้รับ
ประสบการณ์การใช้บริการชั้นยอด
ใช่ ต้องเป็นแบบนั้นแน่!
หลินชั่นหรงพยักหน้ารัว “โอเคครับ บอสเผย ผมเข้าใจแล้ว!
“กลับถึงบ้าน ผมจะไปค้นข้อมูลเรื่องพวกนี้เพิ่มกับจัดอบรมพนักงานอย่าง
เป็นระบบให้พวกเขาเสิร์ฟอาหารได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นจีน ตะวันตก หรือ
ญี่ปุ่น โดยไม่มีข้อผิดพลาด เราจะทำทุกอย่างให้ออกมาสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่
บรรยากาศในร้ า นและการให้ บ ริ ก ารไปจนถึ ง วิ ธ ี ก ารเฉพาะในการดื ่ ม ด่ ำ กั บ
อาหาร!”
“เอ่อ…”
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออกไปชั่วครู่
จริงๆ เขาไม่ได้จะเข้มงวดอะไรขนาดนั้น เพราะลูกค้าที่มาภัตตาคารก็มีแค่
เหล่าพนักงานในสังกัด เพราะอย่างนั้น การบริการจึงไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบก็
ได้
สุดท้ายหลินชั่นหรงก็เข้าใจผิดไปเต็มๆ เขาเองก็พูดอะไรไม่ได้เพราะจะดู
แปลกๆ
หลินชั่นหรงนึกเรื่องหนึ่งออก “บอสเผยครับ ภัตตาคารเราจะใช้ชื่อว่าอะไร
เหรอครับ”
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามกลับ “เราต้องตั้งชื่อภัตตาคารด้วยเหรอ”
หลินชั่นหรง “…”
ถามอะไรล่ะนั่น ก็ต้องตั้งอยู่แล้วสิ!
ไม่อย่างนั้นลูกค้าจะไปแนะนำเพื่อนยังไง เวลาคุยกันคงแปลกน่าดู
“แก เมื่อวานฉันไปกินภัตตาคารโคตรเด็ดมา!”
“จริงเหรอ ร้านชื่ออะไร”
“ไม่มีชื่อ!”
โคตรพิลึกเลย…
ถ้าอยากโฆษณาร้านในเว็บรีวิวร้านอาหาร ยังไงก็ต้องมีชื่อร้าน!
แถมภัตตาคารนี้ยังตั้งอยู่ในวิลล่า
คนสัญจรไปมาก็ไม่ค่อยมี ถ้าไม่แขวนป้ายไว้ด้านนอกก็คงไม่มีใครรู้ว่านี่คือ
ร้านอาหาร อาจจะคิดไปว่าเป็นบ้านใครสักคนแทน!
เผยเชียนส่ายหน้าอย่างมั่นใจ “ชื่อไม่จำเป็นต้องมีหรอก
“อาหารจะสร้างชื่อให้เราเอง
“ถ้าอาหารดีจริงลูกค้าก็มาเอง ถึงจะไม่โฆษณาอะไร เดี๋ยวร้านก็ดังได้เอง”
หลินชั่นหรงอ้าปากค้าง “แต่เราต้องมีชื่อร้านไว้ไปจดทะเบียนนะครับบอส
เผย”
“โอ้” เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “งั้นคุณตั้งได้เลย ยังไงคุณก็เป็นผู้จัดการสาขา
“ตั้งได้แล้วก็จดทะเบียนด้วยชื่อนั้นแหละ แต่ไม่ต้องขึ้นป้ายด้านนอกนะ เรา
จะใช้อาหารมัดใจลูกค้า!
“จัดแจงทุกอย่างดีๆ ล่ะ เดี๋ยวผมจะพาพนักงานเถิงต๋ามากินเลี้ยงที่ร้านวัน
เปิดกิจการ!”
หลินชั่นหรงหนักใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าตัวเองต้องเป็นคนคิดชื่อร้าน แต่พอ
เห็นสายตาไว้วางใจของบอสเผย เขาก็พยักหน้า
“ได้ครับบอสเผย! ผมจะพยายามเต็มที่!”

พอกลับถึงอพาร์ตเม้นต์ เผยเชียนก็เปิดเว็บอ้ายลี่เต่าเข้าไปดูคลิปที่ตัวเองลง
เอาไว้
ยอดวิวยังน้อยอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้กระเตื้องขึ้นจากตอนเช้าเลย
ถือเป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่โปรโมตก็ไม่ได้ยอดวิว พอไม่มียอดวิวก็ไม่มียอดไลก์กับ
ไม่ได้ทิป ปล่อยไปสักพักเดี๋ยวก็จมหายไปเอง
อัปโหลดมาสเตอร์ที่เน้นคอนเทนต์ไม่ได้ดังได้ในวันสองวัน ต้องค่อยๆ สั่งสม
ชื่อเสียงจากคอนเทนต์คุณภาพที่อัปโหลดให้ผู้ชมดูอย่างต่อเนื่อง
เผยเชียนสั่งมือถือเรือธงตัวใหม่ของเฉินฮว่ามาไว้เป็นเหยื่อทารุณกรรมในคลิป
ต่อไป
แต่ดูจากความเร็วของการส่งสินค้าในยุคนี้แล้ว น่าจะต้องรออีกสองถึงสามวัน
กว่าพัสดุจะมาถึง
“เฮ้อ คิดถึงเว็บ JD Central จัง…
“ได้แต่หวังให้นี่เฟิงโลจิสติกส์รีบเปิดให้บริการเร็วๆ จะได้สัมผัสประสบการณ์
สั่งของตอนเช้าได้ของตอนเย็นอีกครั้ง”
เผยเชียนหาว เขาซุกตัวใต้ผ้าห่มแล้วงีบหลับไป


วันที่ 1 สิงหาคม
เผยเชียนมาถึงออฟฟิศในตอนเช้าด้วยอารมณ์เบิกบาน
วันนี้คือวันเลือกพนักงานดีเด่นครั้งที่สองของปี
พนักงานทุกคนรู้เรื่องนี้ดีและต่างตื่นเต้นไม่ก็เป็นกังวลกันยกใหญ่
มีแค่เปาซวี่ที่ดูทุกข์ใจ เขาไม่ได้สนใจเรื่องการคัดเลือกนี้เลย ในใจถึงกับแอบ
ภาวนาไม่ให้ตัวเองได้ที่สอง!
เปาซวี่พยายามออกหน้าให้น้อยลงในช่วงที่ผ่านมา แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้…ใน
การโหวตครั้งนี้
“โอเค อย่ามัวรีรอ เริ่มโหวตกันได้เลย”
เผยเชียนขี้เกียจพูดอะไรให้มากความ ไม่ว่าสองผู้โชคดีจะเป็นใคร ที่เขาต้อง
ทำก็ แ ค่ จ ั ด งบตามฝั น หนึ ่ ง ล้ า นหยวนกั บ ให้ ห ยุ ด งานหนึ ่ ง เดื อ นเต็ ม แบบจ่ า ย
เงินเดือน
เขาอยากเก็บลู่หมิงเหลียงไว้เป็นพิเศษ จึงได้แต่ภาวนาไม่ให้ทุกคนโหวตลู่หมิง
เหลียง
เพราะเมื่อเทียบกับหวงซื่อปั๋วและเปาซวี่แล้ว เผยเชียนพอใจกับการทำงาน
ของลู่หมิงเหลียงมากกว่า อีกฝ่ายทั้งเชื่อฟังและไม่คิดอะไรเองไปไกล ถ้าหัวหน้า
ฝ่ายวางแผนเป็นคนอื่น เผยเชียนก็ไม่มั่นใจว่าคนที่มารับช่วงต่อนั้นจะทำงานได้
ตรงใจเขาเท่าลู่หมิงเหลียงหรือเปล่า
เหล่าพนักงานคลิกเมาส์กดโหวต พนักงานบางคนไม่ได้เข้าบริษัท แต่ก็ยัง
สามารถโหวตออนไลน์ได้
ไม่นานการโหวตก็เสร็จสิ้น
เผยเชียนใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มเมื่อได้เห็นผลโหวต
ฉิบหาย ที่หนึ่งคือลู่หมิงเหลียงจริงๆ ด้วย!
นี่เป็นสถานการณ์ที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้นที่สุด
เผยเชียนลังเลใจหนักมาก เพราะเป็นเรื่องยากที่จะหาหัวหน้าฝ่ายวางแผนที่
เชื่อฟังทุกอย่างตามที่บอก ถ้าหัวหน้าฝ่ายวางแผนคนใหม่เป็นเหมือนหวงซื่อปั๋ว
และทำเงินให้เขาได้เป็นกอบเป็นกำขึ้นมาคงจบเห่แน่
แต่กฎก็ต้องเป็นกฎ ถึงจะรักลู่หมิงเหลียงแค่ไหน เผยเชียนก็ไม่สามารถแหก
กฎเพื่อเก็บอีกฝ่ายไว้ได้
เผยเชียนจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง จากนั้นก็ยื่นถ้วยรางวัลให้ลู่หมิงเหลียง
“ยินดีด้วย!”
ลู่หมิงเหลียงอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นยืน
เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะได้รับรางวัลนี้!
ลู่หมิงเหลียงหันมองเปาซวี่ เขาคิดว่าเปาซวี่มีประสบการณ์และเหมาะกับ
รางวัลนี้มากกว่าตัวเอง
เผยเชียนเดาได้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่จึงส่ายหน้าเบาๆ “ผลโหวตนี้มาจากทุก
คน คุณคู่ควรกับรางวัลนี้”
หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง ลู่หมิงเหลียงก็รับรางวัลมาจากมือของเผยเชียน
ถ้วยรางวัลที่รับมาไม่ได้ใหญ่เลย แต่กลับรู้สึกหนักมาก!
พี่หวงก็รู้สึกแบบนี้หรือเปล่านะตอนที่ได้รับถ้วยรางวัลพนักงานดีเด่น
ลู่หมิงเหลียงคิดว่าสิ่งที่ตัวเองถืออยู่ไม่ได้เป็นแค่ถ้วยรางวัล แต่ยังเป็นตัวแทน
ความไว้วางใจของบอสเผยที่มีต่อเขาและภาระอันหนักอึ้งที่เขาต้องแบกรับไว้!
คำพูดมากมายแล่นเข้าหัวลู่หมิงเหลียง แต่เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหนดี
เผยเชียนเลื่อนสายตาดูชื่ออันดับสอง
เปาซวี่
ถือเป็นเรื่องเหนือการควบคุมของเขา เพราะลู่หมิงเหลียงเป็นตัวตั้งตัวตีใน
การพัฒนาเกมนักออกแบบเกม แถมยังรับผิดชอบพัฒนา DLC ของเกมนี้และเกม
อื่นๆ ถึงเปาซวี่จะมีส่วนช่วยอยู่มาก แต่ลู่หมิงเหลียงก็เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน
และเป็นคนที่พนักงานคนอื่นๆ เห็นหน้าบ่อยกว่า
ถึงเปาซวี่จะไม่ได้โผล่หน้าให้ใครเห็นมากนัก แต่เขาก็เป็นส่วนหนึ่งในการ
ทดสอบและปรับปรุงรายละเอียดต่างๆ ของเกม ดังนั้นจึงมีคนโหวตให้เขาเป็น
พนักงานดีเด่นจำนวนมากจนได้ที่สองไปครอง
สถานการณ์แสนกระอักกระอ่วนใจกลับมาอีกครั้ง
เผยเชียนหันมองเปาซวี่แล้วยิ้มให้อย่างสงสาร
ฉันไม่ได้เพ่งเล็งอะไรนายเลยนะ
ทุกคนเลือกนายเอง…
บทที่ 219 พนักงานของฉันมีความสามารถกันทุกคน แต่ชอบถ่อมตัวกัน
เกินไป

พอเปาซวี่เห็นว่าเผยเชียนหันมองตัวเองด้วยสีหน้าลังเลใจ เขาก็ตื่นตระหนก
ขึ้นมาทันที
ไอ้ฉิบหาย อย่าบอกนะว่าเป็นฉันอีกแล้ว
ช่วงหยุดงานหนึ่งเดือนเต็มแบบได้รับเงินเดือนรอบก่อน เปาซวี่แทบกระอัก
เลือดตายเมื่อต้องตะลอนไปทั่วประเทศ พอกลับมาก็รู้สึกเหมือนได้เที่ยวในส่วน
ของปีนี้ไปเต็มที่แล้ว
ผ่านมาได้ไม่กี่เดือน เรื่องสยองแบบคราวนั้นจะเกิดขึ้นอีกรอบอย่างนั้นเหรอ
เปาซวี่รีบพูดขึ้น “บอสเผย ผมขอถอนตัวจากโอกาสนี้ด้วยความสมัครใจ!
ยกรางวัลนี้ให้คนอื่นที่อยากได้มากกว่าผมเถอะครับ!”
เผยเชียนส่ายหัว “แล้วจะโหวตไปเพื่ออะไรถ้าจะโยนรางวัลให้กันไปมาแบบนี้
ผลออกมายังไงก็ต้องยึดตามนั้น เปลี่ยนแปลงไม่ได้
“ผมให้เวลาคุณเก็บกระเป๋าสองวัน”
เปาซวี่แสนลำบากใจ “บอสเผย ผมไปทุกที่ที่น่าสนใจในประเทศมาหมดแล้ว!
เก็บมาหมดทุกที่ ผมมีรูปกับประวัติการเดินทางในแอปยืนยัน ไม่มีที่ไหนให้ผมไป
ได้อีกแล้ว!”
เผยเชียนยิ้มอ่อน “คุณไปทุกที่ที่น่าสนใจในประเทศมาหมดแล้วงั้นสินะ
“งั้นพรุ่งนี้ไปจัดการเรื่องวีซ่า ไปเปิดหูเปิดตานอกประเทศแทน ระหว่างเก็บ
เกี่ยวเรี่องวัฒนธรรมกับสิ่งแปลกตาต่างๆ คุณก็ใช้โอกาสนี้เ รียนรู้เรื่องการพัฒนา
เกมจากประเทศที่พัฒนาแล้วทางฝั่งตะวันตกมาด้วย”
เปาซวี่อยากจะพูดบางอย่างออกไป แต่เผยเชียนก็ขัดขึ้นก่อน “เอาตามนี้
พรุ่งนี้ไปจัดการเรื่องวีซ่าซะ”
เปาซวี่ “…”
อะไรวะเนี่ย!
เปาซวี่แสนทุกข์ใจ เขาไม่อยากไปจากที่นี่!
บอสเผย ผมยอมทำงานล่วงเวลาแทนก็ได้!
แต่สีหน้าของบอสเผยนั้นบ่งบอกชัดเจนว่าบอสตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ไม่
สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก
กฎเรื่องการคัดเลือกพนักงานดีเด่นนั้นตั้งเอาไว้นานแล้ว เขาได้แต่ยอมจำนน
ต่อโชคชะตา
เปาซวี่คิดในใจว่ากลับมาเมื่อไหร่ เขาจะบอกทุกคนให้ชัดเจนว่ าไม่ต้องโหวต
เขาเป็นพนักงานดีเด่นอีก!
ฉั น ไม่ ส นทั ้ ง งบตามฝั น หนึ ่ ง ล้ า นหยวนกั บ หยุ ด งานหนึ ่ ง เดื อ นแบบได้ รั บ
เงินเดือน ช่วยโหวตกันดีๆ หน่อย ไปโหวตคนที่เขาอยากได้นู่น!
แต่ตอนนี้สายไปแล้ว เขาทำได้แค่เก็บความคิดนี้ไว้บอกคนอื่นหลังจบช่วงหยุด
งาน
เผยเชียนหันมองลู่หมิงเหลียงอีกรอบ “พูดอะไรสักหน่อยสิ”
ถ้าคนอื่นได้รับรางวัลพนักงานดีเด่น เผยเชียนคงจะรู้สึกยินดีจากใจจริง
อาจจะหัวเราะให้กับความโชคร้ายของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ
แต่คนที่ได้รับรางวัลพนักงานดีเด่นดันเป็นลู่หมิงเหลียง ทำให้เผยเชียนใจหาย
อยู่หน่อยๆ
เขาจึงรู้สึกสองจิตสองใจ
ลู่หมิงเหลียงถือถ้วยรางวัลไว้ในมือพร้อมพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “ผมไม่คู่ควรกับ
รางวัลนี้เลย ผลงานที่ผ่านมาเป็นเพราะบอสเผยช่วยชี้ทางภาพรวมให้ดำเนินไปสู่
ความสำเร็จ ผมแค่ทำตามคำสั่งบอสเผยอย่างเคร่งครัดก็เท่านั้น
“ผมคิดว่าสำหรับใครก็ตามที่จะได้ขึ้นมารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ ายวางแผน ขอ
แค่ทำตามแนวทางและกลยุทธ์ของบอสเผยตั้งแต่ต้นไปจนจบ คุณก็จะประสบ
ความสำเร็จได้!
“ผมหวังว่าเถิงต๋าจะเติบโตยิ่งขึ้นไปอีก ขอบคุณทุกคนมากครับ!”
เสียงปรบมือดังก้องออฟฟิศ เผยเชียนปรบมือตามทุกคนอย่างจริงใจ
ดูเขาสิ พูดได้ดีจริงๆ!
ถึงเผยเชียนจะไม่ได้เห็นด้วยกับคำพูดทั้งหมดของลู่หมิงเหลียง แต่ก็มีอยู่
ประโยคหนึ่งที่ตรงใจเขามากๆ
ใครก็ตามที่จะได้ขึ้นมารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวางแผนควรจะฟังที่บอสเผยบ
อกอย่างเคร่งครัด
นี่แหละที่เผยเชียนต้องการ!
สิ่งที่เขากังวลที่สุดคืออะไรน่ะเหรอ
เขากลัวว่าพนักงานจะไม่เชื่อฟังคำสั่ง!
พวกเขาพยายามอ่านใจเขาและสร้างองค์ประกอบใหม่ๆ ใส่เกมโดยที่ไม่ถาม
ไถ่ก่อน สุดท้ายเกมที่ออกมาจึงผิดจากที่เผยเชียนคิดไว้ไปหมด!
เทียบกับลู่หมิงเหลียงแล้ว ถึงจะน่าเสียดายที่เกมออกมาประสบความสำเร็จ
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือทัศนคติของเขาดีกว่าหวงซื่อปั๋วและเปาซวี่หลายเท่า!
เสี่ยวลู่เป็นพนักงานที่ดีจริงๆ
เขาต้องตกรางวัลให้ซะแล้ว!
เผยเชียนยิ้มพร้อมกับถามออกไป “คิดไว้รึยังว่าจะเอาทุนตามฝันหนึ่งล้าน
หยวนไปทำอะไร”
ลู่หมิงเหลียงดูลังเลเล็กน้อย “เอ่อ… แผนของผมเป็นแบบนี้ครับบอสเผย
“กระบวนการค้นคว้าและพัฒนาเกมกลับใจคือฟากฝั่งกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยว
หัวต่อ ผมว่าจะอยู่ทำต่อให้จบช่วงนี้ก่อน
“อีกอย่างผมยังไม่ค่อยแน่ใจว่าตัวเองอยากทำอะไร ผมว่าผมไม่มีทักษะและ
ความสามารถด้านอื่นนอกเหนือจากทักษะที่ใช้ในวงการเกม
“เพราะงั้นผมว่าเราเก็บเรื่องนี้ไว้คุยกันทีหลังได้ไหมครับ บอสเก็บเงินไว้ก่อน
แล้วเราค่อยมาคุยกันตอนผมคิดออกว่าตัวเองอยากจะทำอะไร”
เผยเชียนขมวดคิ้ว
เก็บเรื่องนี้ไว้ก่อนเหรอ ไม่ได้สิ!
ฉันเตรียมเงินเอาไว้แล้ว นายจะไม่ใช้ได้ยังไง
อีกอย่างกฎก็ต้องเป็นกฎ จะให้มาแหกกฎในการคัดเลือกพนักงานดีเด่นครั้งที่
สองได้ยังไง แบบนี้ต่อไปจะคุมอะไรได้ ธรรมเนียมการคัดเลือกพนักงานดีเด่นอัน
แสนดีเยี่ยมนี้จะไปต่อได้ยังไง
ถึงลู่หมิงเหลียงจะเป็นลูกน้องที่ไว้ใจได้ แต่ถ้าหยวนให้ คนอื่นๆ ก็จะหมด
ความเชื่อใจ ฉันก็จะคุมทีมได้ลำบาก! ฉันไม่มีทางเป็นคนแรกที่แหกกฎนี้หรอก!
เผยเชียนส่ายหน้าทันที “ไม่ได้
“ถ้าตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออก ผมมีงานอื่นให้คุณทำ คุณไปเป็น CEO ที่นี่เฟิง
โลจิสติกส์แทน”
ลู่หมิงเหลียงอึ้งไป “หา แต่ผมไม่รู้เรื่องโลจิสติกส์เลยนะครับบอสเผย”
เผยเชียนยิ้มบาง ไม่รู้เรื่องเลยเหรอ ก็ยิ่งดีสิ!
“ก็เหมือนคำพูดที่ว่า ลองดูสักหน่อยเดี๋ยวก็จับทางได้เอง ประสบการณ์การ
ทำงานที่เถิงต๋าพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคุณมีความสามารถด้านการจัดการ คุณไปลอง
ดูก่อน ถ้าไม่ใช่ทางก็ค่อยเอาทุนตามฝันหนึ่งล้านหยวนไปเริ่มธุรกิจแวดวงอื่น
แทน”
ลู่หมิงเหลียงยังลังเลใจอยู่เล็กน้อย
แต่พอเห็นแววตามุ่งมั่นของบอสเผย เขาก็รู้ว่ามีโอกาสน้อยมากที่ตัวเองจะได้
ทำงานที่เถิงต๋าต่อ
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงต้องลองไปทำงานที่นี่เฟิงโลจิสติกส์ดูสักตั้ง!
ลู่หมิงเหลียงนิสัยต่างจากหวงซื่อปั๋ว หวงซื่อปั๋วเป็นคนที่มีไอเดียมากมายและ
ชอบลองงานสายอื่นอยู่เสมอ เขาเข้าใจดีว่าตัวเองต้องการอะไร พอได้ทุนตามฝัน
ไปก็ตั้งเฟยหวงสตูดิโอขึ้นมาทันที
ส่วนลู่หมิงเหลียงนั้นไม่ค่อยสนใจงานสายอื่น เป็นคนทำงานตามหน้าที่ ไม่
ค่อยลองอะไรใหม่ๆ
แค่ดูจากเกมที่รับผิดชอบก็บอกความแตกต่างของสองคนนี้ได้ หวงซื่อปั๋วกับ
เปาซวี่มักใส่ไอเดียของตัวเองเข้าไปในเกม ส่วนลู่หมิงเหลียงจะทำตามคำสั่งของ
บอสอย่างเคร่งครัด
ลู่หมิงเหลียงคิดเรื่องนี้อยู่สักพัก ถึงจะไม่ได้สนใจเรื่องโลจิสติกส์เลย แต่เขาก็
เชื่อมั่นว่าตัวเองน่าจะมีความสามารถในการบริหารจัดการอะไรก็ตามที่บอสเผย
เป็นคนลงทุน
แล้วถ้ามองด้านความก้าวหน้าในสายอาชีพ ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวางแผนนั้น
มีโอกาสพัฒนาได้น้อยกว่าตำแหน่ง CEO ในบริษัทโลจิสติกส์ขนาดใหญ่
ดังนั้นลู่หมิงเหลียงจึงไม่ปฏิเสธโอกาสนี้และยอมรับตำแหน่งไป
ยังไงบอสเผยก็บอกว่าถ้าไม่ใช่ทางก็ยังเอาทุนตามฝันหนึ่งล้านหยวนไปทำ
อะไรที่ตัวเองชอบได้
หลังจากจัดการกับพนักงานดีเด่นทั้งสองคนเสร็จ ปัญหาใหม่ก็บังเกิด
ตอนนี้ไม่มีหัวหน้าฝ่ายวางแผนแล้ว เผยเชียนต้องหาคนมารับตำแหน่งนี้แทน
ไม่อย่างนั้นกระบวนการทำงานในบริษัทต้องติดขัดแน่
แต่ปัญหาคือพนักงานที่เขาคุ้นเคยดีในเถิงต๋าล้วนมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบกัน
อยู่แล้ว
หวงซื่อปั๋ว เปาซวี่ ลู่หมิงเหลียง หลินหวาน เผยเชียนมอบหน้าที่ให้พวกเขาไป
หมดแล้ว
เผยเชียนจำหน้าพนักงานที่เหลือได้แค่ไม่กี่คน แต่ก็ไม่ได้รู้จักมักจี่อะไรมากนัก
พนักงานส่วนใหญ่ทำงานในตำแหน่งปฏิบัติการ จึงไม่ต้องมารายงานเรื่อง
ต่างๆ กับเผยเชียนโดยตรง ทำให้เขาไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักคนเหล่านี้เท่าไหร่
แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เพราะเขายังมีผลการคัดเลือกพนักงานดีเด่นอยู่
ในมือ มีทั้งชื่อและคะแนนโหวตซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการใช้เลือกคน
ถ้าจะเลือกจากคนที่ได้คะแนนต่ำสุดก็คงจะเกินไป เพราะมีหลายคนที่ไม่ได้
คะแนนโหวตเลยสักคะแนนเดียว คงจะแปลกน่าดูถ้าคนเหล่านี้ได้รับเลือก
เผยเชียนเลือกคนหนึ่งมามั่วๆ จากสิบอันดับแรกที่มีคะแนนโหวตอยู่ใ น
ระดับกลางๆ
“หลี่หย่าต๋า ผมเลือกคุณ!”
พนักงานหญิงสวมแว่นกรอบหนาที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะมุมห้องเงยหน้าขึ้นด้วยความ
งุนงง
เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมบอสเผยถึงเลือกเธอมาเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน เธอ
อึ้งจนไม่รู้จะต้องทำตัวยังไงดี
เผยเชียนพอใจกับหัวหน้าฝ่ายวางแผนคนใหม่มาก
เขาสะดุดตากับชื่อของเธอจากรายชื่อพนักงานที่ยาวเป็นพืด
ชื่อเฮงดี!
ชื่อจีนของเธอคือหลี่หย่าต๋า แสดงว่าถ้าเขียนแบบตะวันตกก็จะเป็นหย่าต๋าหลี่
หย่าต๋าหลี่ออกเสียงคล้ายอาตาริ บริษัทชื่อดังที่เคยเป็นผู้นำวงการเกม เผย
เชียนวางเป้าหมายสูงสุดไว้ว่าจะเป็นแบบพวกเขาให้ได้
หลี่หย่าต๋าหันมองรอบๆ แล้วเห็นบอสเผยส่งยิ้มให้
เธอชะงั ก ไปครู ่ ห นึ ่ ง ก่ อ นจะรี บ ลุ ก ยื น ขึ ้ น “บะ บอสเผยคะ! ดิ ฉ ั น มี
ประสบการณ์ไม่มากพอ…”
เผยเชียนดูไม่ค่อยพอใจนัก
อีกแล้วเหรอ!
ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าเธอขาดประสบการณ์
ถ้าเธอมีประสบการณ์มากพอ ฉันคงไม่เลือกเธอหรอก!
ทุกครั้งที่เลื่อนขั้นใครสักคนขึ้นมาเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน พวกเขามักจะใช้
ข้ออ้างนี้ปฏิเสธไม่รับตำแหน่ง
เผยเชียนเริ่มหน้าบึ้ง
หลี่หย่าต๋าเห็นสีหน้าไม่พอใจของบอสเผยก็รู้ทันทีว่าตัวเองทำพลาดแล้ว
หัวหน้าฝ่ายวางแผนคนก่อนๆ ก็ได้เลื่อนขั้นขึ้นมาเหมือนเธอ แถมทุกคนก็ทำ
หน้าที่นี้ได้เป็นอย่างดี
จะให้มาล่มที่เธอได้ยังไง
แบบนั้นบอสเผยก็ต้องผิดหวังสิ!
หลี่หย่าต๋ารีบพูดต่อ “แต่ดิฉันจะทุ่มเทเต็มที่กับการพัฒนาเกมกลับใจคือฟาก
ฝั่งค่ะ!”
เผยเชียนพยักหน้าด้วยความพอใจ
ต้องแบบนี้สิ
ขอแค่ทัศนคติผ่าน ฉันก็ไม่โทษเธอหรอกถ้าเกมออกมาล้มเหลวเพราะเธอขาด
ความสามารถ
บทที่ 220 คนอวดรวยทุบ Shenhua N7 ด้วยความโกรธ เพราะว่า...

หลังจากจัดการเรื่องพนักงานดีเด่นเสร็จ เผยเชียนก็กลับมาที่อพาร์ตเม้นต์
พร้อมหยิบพัสดุที่เพิ่งมาส่งติดมือมาด้วย
รอบนี้เผยเชียนซื้อมือถือมาสองเครื่อง
มือถือเครื่องแรกคือ Shenhua N7 เป็นมือถือรุ่นเรือธงตัวล่าสุดของเฉินฮว่า
ราคาสี่พันหนึ่งร้อยเก้าสิบเก้าหยวน กลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือกลุ่มคนทำงาน
อีกเครื่องเป็นมือถือรุ่นเรือธงตัวล่าสุดจากบริษัทต่างประเทศที่ชื่อ MSC ชื่อ
รุ่น B90 วางขายที่ราคาสี่พันหกร้อยหยวน
อุตสาหกรรมหลายๆ อย่างในโลกนี้แตกต่างจากในความทรงจำของเผยเชียน
เล็กน้อย ช่วงปีนี้บริษัทมือถือในประเทศยังอยู่ในช่วงกำลังพัฒนา ไม่สามารถสู้กับ
บริษัทมือถือของต่างประเทศได้ แต่ในโลกนี้ มือถือของเฉินฮว่ากลับพัฒนาไป
อย่างรวดเร็ว
ถึ ง คุ ณ ภาพในภาพรวมของมื อ ถื อ รุ ่ น เรื อ ธงของพวกเขาจะยั ง สู ้ ม ื อ ถื อ
Pineapple ไม่ได้ แต่ก็วางขายในราคาประมาณสี่พันซึ่งถือว่าสมเหตุสมผล มือถือ
ของพวกเขาพัฒนาไปไกลกว่าบริษัทมือถือในประเทศที่เผยเชียนจำได้สามถึงสี่ปี
แน่นอนว่าถ้าดูจากการพัฒนาของโทรศัพท์และเกมมือถือในโลกนี้ ผลงาน
ของเฉินฮว่าก็ไม่ได้ทำให้เผยเชียนแปลกใจมากนัก
แต่นั่นก็เป็นแค่ประเด็นรอง
ประเด็นหลักคือ Shenhua N7 กำลังจะกลายเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายในวันนี้
มือถือของ MSC จะเก็บไว้ใช้ในคลิปต่อไป
เผยเชียนถ่ายคลิปตัวเองปู้ยี่ปู้ยำมือถือด้วยขั้นตอนต่างๆ เหมือนคลิปก่อน
เขาจุ่มมือถือลงน้ำ ปล่อยตกลงพื้น ทุบจนแหลก แล้วเพิ่มคลิปแบบกรอก
ลับ…
ชายหนุ่มทำทุกวิถีทางให้มือถือเครื่องนี้ใช้การไม่ได้อีก
หลังจากเสร็จตามขั้นตอนที่วางไว้ เขาก็ตัดต่อคลิปแบบง่ ายๆ จากนั้นก็กด
เรนเดอร์แล้วอัปโหลดคลิปเวอร์ชันสมบูรณ์
“โอเค เสร็จเรียบร้อย!”
เผยเชียนบิดขี้เกียจ
ช่างเป็นงานที่เหนื่อยจริงๆ
เขาค่อนข้างแปลกใจที่ Shenhua N7 กันกระแทกได้ดีเลยทีเดียว กรอบหลัง
มีความทนทานกว่าของ Pineapple เผยเชียนต้องใช้แรงงัดฝาหลังอยู่นานกว่าจะ
เปิดออกได้
แต่ก็เหมือนคำพูดที่ว่าความดันทุรังทำให้เกิดปาฏิหาริย์ ไม่มีมือถือเครื่องไหน
ในโลกที่เผยเชียนเปิดไม่ออก
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ เผยเชียนคิดว่าการถ่ายทำครั้งนี้ใช้เวลาน้อย
กว่าที่กะเอาไว้ ทำให้พอมีเวลาเหลือสำหรับทำอย่างอื่น
“อืม…ก็ดีนะ ถ้างั้นถ่ายมือถือรุ่นเรือธงของ MSC ไปด้วยเลย
“เสร็ จ แล้ ว ก็ พ ั ก เรื ่ อ งมื อ ถื อ ไว้ จากนั ้ น ก็ ห ั น ไปถ่ า ยอุ ป กรณ์ ด ิ จ ิ ท ั ล อื ่ น ๆ
อย่างเช่น หูฟัง กล้อง โน้ตบุ๊ก ของพวกนี้น่าเอามาถ่ายหมดเลย”
เผยเชียนหาวระหว่างเปิดกระป๋องโคล่าดื่มให้ตัวเองตื่น จากนั้นก็ถ่ายทำรีวิว
สายฮาร์ดคอร์ตอนทีส่ ามต่อ
คงจะไม่เหมาะถ้าเขาลงคลิปรวดเดียวสองตอน เผยเชียนอยากดูกระแสตอบ
รับจากคลิปที่เพิ่งลงไปก่อน ถ้ากระแสตอบรับดี เขาก็ลงคลิป MSC วันพรุ่งนี้หรือ
มะรืนนี้ได้เลย


หลังจาก ‘รีวิวสายฮาร์ดคอร์ EP.2 : Shenhua N7’ ลงเว็บอ้ายลี่เต่า เหล่า
คนดูที่กดติดตามช่องของเผยเชียนไว้ก็ได้รับการแจ้งเตือนทันที
ถึงช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์จะไม่ได้มีผู้ติดตามมากนัก แต่คนที่ดูคลิปตอนแรกก็
กดติดตามช่องของเขากันหลายคน พอคลิปตอนสองลงเว็บปุ๊บ คอมเมนต์ก็ทยอย
เข้ามาปั๊บ
“โห ตอนสองมาอย่างไว!”
“รอบที่แล้ว Pineapple 4 รอบนี้ Shenhua N7 เลยเหรอ ยอดวิวสองคลิป
รวมกันยังไม่ถึงห้าพันเลย แต่ค่าถ่ายทำสองคลิปปาไปเป็นหมื่นแล้ว!”
“Pineapple 4 เกือบห้าพันหยวน Shenhua N7 สี่พันหนึ่งร้อยเก้าสิบเก้า
หยวน รวมแล้วประมาณเก้าพัน! บอกได้คำเดียวว่าแม่งโคตรไม่เข้าใจชีวิตพวกคน
รวยเลย!”
“คลิปนี้ไปดูดมาจากที่อื่นรึเปล่า”
“ไม่ได้ดูดมา เว็บอื่นไม่มีช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์เลย เว็บอ้ายลี่เต่าน่าจะเป็น
เว็บเดียวที่มีคลิปพวกนี้”
“ไอ้นี่มันคนอวดรวยตัวจริงเสียงจริง!”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ไลก์ ทิป แชร์เท่านั้น ฉันต้องสนับสนุนคลิปนี้เพราะแค่
ค่าใช้จ่ายในการทำคลิปก็สูงลิ่วแล้ว!”
หลายคนกดแชร์คลิปนี้ออกไป
คนดูจากคลิปก่อนทำให้ยอดวิวคลิปนี้เพิ่มขึ้น
นอกจากนั้นช่วงนี้ยังไม่มีงานเปิดตัวสินค้าชิ้นใหม่ ทำให้หมวดดิจิทัลค่อนข้าง
เงียบเหงา ไม่มีคอนเทนต์อะไรให้เสพ
พอคลิปนี้โผล่มาช่วงนี้ ก็ย่อมได้ยอดวิวเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา
อีกอย่างคีย์เวิร์ดในชื่อคลิปมีทั้งฮาร์ดคอร์ รีวิว และ Shenhua N7 ถ้าใครใช้
คำเหล่านี้ค้นหา คลิปนี้ก็จะเด้งขึ้นมาในหน้าผลลัพธ์การค้นหา

ช่วงเย็น
เซินเจิ้น
หูเซียวเพิ่งจะตบตีกับชาวเน็ตปากกล้าคนหนึ่งในเว็บบอร์ดเสร็ จ ตอนนี้กำลัง
อยู่ในช่วงสงบสติอารมณ์ตัวเอง
ในฐานะเจ้าของช่องเสี่ยวหู รีวิว หูเซียวใช้ชีวิตอย่างสุขสบายจากรายได้ที่ได้
จากคลิป คนดูสมัยนี้หลอกง่าย สามารถหาเงินจากเหล่าผู้ติดตามได้ง่ายมาก
บริษัทต่างประเทศก็ใจป้ำมากเวลาให้ค่าจ้าง
หูเซียวเกลียดเฉินฮว่าเข้าไส้และมีหน้าที่คอยแซะเฉินฮว่า แต่ช่วงนี้มือถือของ
เฉินฮว่าเป็นที่นิยมมากขึ้น ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
เขาเพิ่งจะตบตีกับชาวเน็ตปากกล้าในเว็บบอร์ดไป แล้วจบบทสนทนาด้วย
การด่าโคตรเหง้าของกันและกัน
หูเซียวเปิดหน้าคลิปหมวดดิจิทัลในเว็บอ้ายลี่เต่า ความตั้งใจแรกของเขาคือ
จะมาเลื่อนหาดูว่ามีคลิปอะไรใหม่ๆ บ้างหรือเปล่า
“หืม รีวิวสายฮาร์ดคอร์ EP.2 : Shenhua N7 เหรอ
“ไม่เห็นรู้จักมาก่อน ช่องใหม่เหรอเนี่ย”
หูเซียวกดเปิดคลิปด้วยความสงสัย
คลิปไม่ได้ยาวมาก แค่ประมาณสิบนาทีเท่านั้น ถึงเนื้อหาส่วนใหญ่จะมาจาก
การถ่ายทำรวดเดียว แต่เขาก็มองออกว่ามีการตัดต่อง่ายๆ ในบางส่วนของคลิป
เนื้อหาคลิปทำให้หูเซียวแทบหลุดหัวเราะเสียงดัง
รีวิวบ้าอะไรเนี่ย
ก็แค่เอาเครื่องมาทดสอบแบบรุนแรงชัดๆ!
ทั้งจุ่มน้ำ ขว้างลงพื้น เอามีดมาแทง…
ช่วงชำแหละเครื่องตอนท้ายยิ่งตลก หมอนี่ใช้ไขควงปากแบนแงะฝาหลังมือ
ถือออก วิธีรื้อตัวเครื่องก็เป็นวิธีตามแบบฉบับ ‘ดันทุรังจนเกิดปาฏิหาริย์ ’ แถม
ไม่ได้สนใจว่าจะมีสายอะไรเชื่อมกับตัวเครื่องด้านหลังไว้ หรือมีส่วนไหนเชื่อม
ติดกันหรือเปล่า ก็แค่แงะส่วนต่างๆ ออกมาให้หมด
เห็นเลยว่าใช้แรงเยอะจนเส้นเลือดที่มือปูด
พอไม่มีอะไรเหลือให้ชำแหละ มือถือก็อยู่ในสภาพเละตุ้มเป๊ะ เหมือนรถที่ถูก
ชนไม่มีผิด
ที่ตลกที่สุดคือตอนที่เจ้าของคลิปบอกว่าจะประกอบมือถือกลับ แต่ที่เขาทำ
จริงๆ คือเล่นคลิปช่วงที่ชำแหละย้อนหลังก็เท่านั้น
“เยี่ยมมาก!
“รู้สึกดีจริงๆ ที่ได้เห็นคนทุบมือถือของเฉินฮว่า ต้องแชร์คลิปนี้แล้ว!
“ฉันก็อยากทุบบ้าง เสียดายที่ไม่มีเงิน”
หลังจากตบตีกับชาวเน็ตที่เป็นติ่งมือถือของเฉินฮว่าเสร็จ หูเซียวก็ยังหงุดหงิด
อยู่เล็กน้อย พอได้เห็นคลิปมือถือเฉินฮว่าโดนเอามาปู้ยี่ปู้ยำก็ทำให้รู้สึกอารมณ์ดี
ขึ้นมาก
ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว จังหวะนี้ต้องแชร์!
หูเซียวมีบัญชีเว่ยป๋อสำหรับช่องเสี่ยวหูรีวิว แต่ช่องของเขาบนเว็บอ้ายลี่เต่ามี
ยอดคนติดตามประมาณสามถึงสี่แสนคน
ถึงยอดผู้ติดตามจะไม่ได้มากนัก แต่ทุกคนก็กระตือรือร้นกันมาก แถมหูเซียว
ยังรู้จักกับทีมหน้าม้ามืออาชีพ ทำให้เขามี อิทธิพลในโลกอินเทอร์เน็ตมากเลย
ทีเดียว
ตอนที ่ ก ดแชร์ ค ลิ ป ออกไป เขาใส่ แ คปชั น ไปด้ ว ยว่ า ‘คนอวดรวยทุ บ
Shenhua N7 ด้วยความโกรธ เพราะว่า…’
เขาแทบหลุดขำกับแคปชันของตัวเอง
คนที่ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรอาจจะคิดว่าเจ้าคนรวยในคลิปทุบ Shenhua N7
เพราะโกรธและไม่พอใจในคุณภาพของเครื่อง
คงไม่เหมาะถ้าจะทำแบบนั้น หูเซียวจึงไม่ได้ทำอะไรเกินควรนัก เพียงแค่ใส่
แคปชันที่ทำให้คนรู้สึกสงสัย แค่นี้คงไม่ถึงขั้นทำให้ชาวเน็ตเกลียดชังจนมารุมด่า
เขาได้
ถ้ามีคนมาหาเรื่องจริงๆ เขาก็แก้ได้ด้วยการ ‘แหย่’ พวกเขาไปว่า ถ้าพวกคุณ
จริงจังขนาดนี้ก็แสดงว่ าพวกคุณใจเปราะบางมาก จนอยากจะปั่นกระแสเรื่อง
เล็กๆ ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติ
นี่คือกลยุทธ์ขั้นสูงสุดในการปั่นกระแสให้คนเกลียด ซึ่งหูเซียวเชี่ยวชาญเป็น
อย่างดี
หลังจากแชร์คลิปเสร็จ หูเซียวก็เกิดคำถามขึ้นในใจ
ทีมสร้างช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์เป็นคนแบบไหนกันนะ
ปกติแล้วนักรีวิวแบบหูเซียวจะทำคลิปเพื่อให้ได้เงินและมือถือมาใช้ฟรีๆ
แต่เห็นได้ชัดว่าช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์ไม่ได้รับสปอนเซอร์มา
ถ้าเฉินฮว่าจะจ้างคนมาโฆษณามือถือของตัวเองจริงๆ ก็คงจะกำหนดเนื้อหาที่
อยากได้บ้าง ไม่น่าปล่อยให้หมอนี่ทุบมือถือตัวเองเละขนาดนี้หรอก
อีกอย่างทุ ก คนในวงการนี้ ร ู้ ดี ว่ าเฉิ น ฮว่าไม่จ้ า งนัก รีว ิ ว หูเซียวไม่ เ คยได้
สปอนเซอร์จากเฉินฮว่า ทำให้ความรักในสินค้ากลายเป็นความเกลียดชัง จน
กลายเป็นแอนตี้แฟนตัวยงของเฉินฮว่าไป
หรือว่า…ช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์จะใช้เงินเพื่อสร้างกระแสให้ตัวเอง
ตอนก่อนทดสอบ หน้าจอมือถือก็เปิดไว้ ตอนจุ่มน้ำเสร็จก็มีการเปิดเครื่อง
ใหม่ อีกรอบ เห็นได้ชัดว่าหมอนี่ใช้เครื่องจริง ไม่ใช่เครื่องโมเดล
เอามือถือจริงๆ มาทุบทุกตอนเนี่ยนะ
หูเซียวไม่เข้าใจชีวิตของพวกคนอวดรวยเลยจริงๆ…
เขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากเท่าไหร่ พอสบายใจแล้วก็เดินร้องเพลงเข้าไปอาบน้ำ
บทที่ 221 ตอบแทนน้ำใจด้วยความเกลียดชัง

เช้าวันต่อมา
เผยเชียนตื่นนอนตามปกติแล้วหันดูนาฬิกา พบว่าตอนนี้สิบโมงเช้าแล้ว
หลังจากล้างหน้าล้างตาแล้วทำอาหารอย่างง่ายๆ เสร็จ เขาก็กินมื้อสายไป
พร้อมๆ กับเลื่อนดูมือถือว่ามีแจ้งเตือนอะไรหรือเปล่า
ชายหนุ่มพบว่าช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์มีการแจ้งเตือนยาวเป็นพืด!
เผยเชียนอึ้งไป พอค้นดูให้ละเอียดก็พบว่าคลิปตอนที่สองกลายเป็นประเด็น
ร้อนแรงในหมวดดิจิทัล ยอดวิว ยอดคอมเมนต์บนคลิป และคอมเมนต์ใต้คลิป
สูงขึ้นกว่าครั้งก่อนมาก
“อะไรเนี่ย เมื่อคืนยังเป็นคลิปที่ไม่มีคนรู้จักอยู่เลยไม่ใช่เหรอ
“เกิดอะไรขึ้น”
เผยเชียนงุนงงเล็กน้อย
สิ่งแรกที่เขาทำคือสบถออกมา ถ้าคลิปนี้ดังขึ้นมาอีกคงจะเป็นปัญหาแน่!
แต่คิดดูอีกที คลิปนี้ฉันใช้เงินตัวเองนี่นา ไม่ใช่เงินทุนระบบ
เงินส่วนแบ่งที่ได้จากทางเว็บจะเข้ากระเป๋าฉัน ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องดี
ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง!
ยิ่งคลิปดังเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งได้เงินเยอะเท่านั้น!
เผยเชียนอารมณ์ดีขึ้นทันตาขณะเลื่อนดูช่องคอมเมนต์
“มีคนโดนจ้างให้มาโจมตีมือถือของเฉินฮว่าด้วยเหรอ”
“ช่องนี้ก็เหมือนช่องเสี่ยวหูรีวิว พวกอวยต่างชาติ”
“เฮ้ ย จริ ง ๆ แล้ ว มื อ ถื อ ผลิ ต ในประเทศคุ ณ ภาพก็ ย ั ง ไม่ ค ่ อ ยดี เ ท่ า ไหร่ ดู
ตัวเครื่องสิ แตะนิดแตะหน่อยก็พังแล้ว”
“การออกแบบก็แปลกๆ ยังไงไม่รู้ ใช้ของถูกๆ งานประกอบแย่”
“จะวัดกันเรื่องคุณภาพเหรอ ไปดูคลิปแรกของช่องนี้นะ มือถือ Pineapple
พังเร็วกว่านี้อีกเหอะ…”
“ทุกคนได้ดูคลิปนั้นรึยัง ช่องนี้ไม่ได้โจมตีมือถือของเฉินฮว่า มือถือของ
Pineapple โดนมาก่อนแล้ว”
“เราโดนปั่นรึเปล่า ฉันว่าช่องนี้ไม่ได้โจมตีมือถือของเฉินฮว่าเลยนะ ก็เป็นการ
รีวิวแบบฮาร์ดคอร์ตามปกติ”
เผยเชียนรู้สึกงงอยู่ไม่นอ้ ยเมื่อได้อ่านคอมเมนต์ต่างๆ
เกิดอะไรขึ้น ทำไมคนถึงมาเถียงกันเรื่องนี้
คลิปของเขาตอนนี้มีกระแสพอสมควร แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่กระแสความนิยม
ทั่วไป แต่เป็นกระแสที่เกิดจากการปลุกปั่นและถกเถียงกันบนโลกออนไลน์
บางคนโจมตีมือถือของเฉินฮว่า บางส่วนก็พยายามปกป้อง ที่ เหลือมามุงดูคน
ตีกัน ทำให้ช่องคอมเมนต์ของคลิปนี้ลุกเป็นไฟ
เผยเชียนไม่ได้อวยมือถือยี่ห้อไหนเป็นพิเศษและไม่ได้สนใจคนตีกันบนโลก
ออนไลน์ด้วย แต่พอเปิดดูคอมเมนต์หน้าถัดไป เขาก็ได้รู้ว่าใครกันที่เป็นต้นตอของ
เรื่องนี้
อัปโหลดมาสเตอร์ชื่อดังที่แชร์คลิปนี้ไปเป็นเจ้าของช่อง ‘เสี่ยวหูรีวิว’ พอช่อง
นี้แชร์ออกไปด้วยแคปชันปั่น หลายคนเลยเข้าใจจุดประสงค์ของคลิปนี้ผิดไปแล้ว
เข้ามาด่าโดยที่ไม่ได้ดูคลิปก่อน เผยเชียนเลยซวยกลายเป็นผู้รับเคราะห์ไป
เขาเปิดดูหน้าเพจหลักของอัปโหลดมาสเตอร์คนที่ว่า ดูแล้วก็เหมือนช่องรีวิว
ของทั่วไป แต่มีปา้ ยชื่อสปอนเซอร์ขึ้นละลานตาเลยทีเดียว
“ปั่นกระแสได้เก่งจริงๆ
“อืม ต้องจำและเรียนรู้เอาไว้
“ไม่แน่อนาคตอาจจะเอามาใช้ได้”
เผยเชี ยนจำชื ่ อ ช่ อ งนี ้ ไ ว้ ใ นหั ว ช่ อ งที ่ เ ชี ่ ย วชาญการใช้ ก ลยุ ท ธ์ แ บบนี ้ คื อ
ผู้เชี่ยวชาญด้านทำทุกอย่างเพื่อเงิน ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์กับเผยเชียนใน
อนาคต
เผยเชียนไม่ได้สนใจเรื่องวิธีการ ถึงจะสร้างชื่อในทางไม่ดีแต่ก็ทำให้ดังได้!
อยากด่าฉันแค่ไหนก็เชิญตามสบาย ฉันไม่มานั่งอ่านคอมเมนต์หรอก เอาเวลา
ไปทำคลิปต่อตามแผนเดี๋ยวช่องก็ค่อยๆ ดังขึ้นเอง
เชิญตบตีกันได้ตามสบาย ฉันไม่สนใจหรอก
ถึงสุดท้ายจะไม่มีใครชม แต่ยังไงก็ได้เงินส่วนแบ่งจากยอดวิวอยู่ดี แม้จะไม่
มาก อย่างน้อยก็พอเป็นค่าขนมได้
เพราะยังไงบอสหลินก็เป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ ยังไงเขาก็มีแต่ได้
“เยี่ยมเลย ระหว่างที่ยังเป็นกระแสอยู่ก็รีบปล่อยคลิป MSC เลยแล้วกัน
“เรือธงสามรุ่น รับรองกระแสมาแรงแน่!”


อีกด้านหนึ่ง หูเซียวกำลังสั่งการให้เพื่อนพ้องและเหล่าแฟนคลับตอบโต้กับอีก
ฝั่งอยู่
เขาไม่มีทางเอามือตัวเองลงไปเปื้อนเพราะจะทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย
แต่ยังไงก็ต้องเติมน้ำมันเข้าไปในกองไฟนี้
“ไม่รู้ทำไมทุกคนถึงคอมเมนต์เถียงกันดุเดือดขนาดนี้
“ผมแชร์คลิปนี้หวังให้ดูกันสนุกๆ แต่ทำไมถึงกลายเป็นประเด็นได้ พวกคุณมี
ปัญหาอะไรรึเปล่า
“อีกอย่างผมแค่คิดว่าคลิปนี้น่าสนใจดี การแยกส่วนตัวเครื่องรุนแรงแบบนี้ทำ
ให้เราเห็นอะไรหลายๆ อย่าง เช่น ความแข็งแรงของเครื่อง คุณภาพอุปกรณ์
ภายใน งานประกอบ และอื่นๆ
“จริงๆ แล้วคลิปนี้ทำให้เราเห็นว่ามือถือของเฉินฮว่าก็ไม่ได้คุณภาพแย่ แค่ถ้า
เทียบกับแบรนด์ใหญ่ๆ ของต่างประเทศอย่าง MSC แล้ว ยังมีจุดที่ปรับปรุงเพิ่มได้
อีก
“อย่างกรอบหลังของเครื่อง ถึงจะพูดไม่ได้ว่าใช้ของถูก แต่ก็ชัดเจนว่าไม่ได้ใส่
ใจตรงนี้มากนัก แตะนิดหน่อยก็เปิดออกได้แล้ว ถ้าเป็นมือถือของ MSC น่าจะไม่
มีปัญหานี้
“ทั้งรายละเอียดการจัดวางอุปกรณ์ด้านในและการเลือกใช้วัสดุต่างๆ เราต้อง
ยอมรับว่ายังต้องพัฒนาอีกมาก การที่มือถือของเฉินฮว่าราคาถูกกว่ามือถือเรือธง
ของแบรนด์ต่างประเทศก็มีเหตุผลในตัวมัน…”
หลังจากเตรียมข้อความปั่นเสร็จ หูเซียวก็รู้สึกสบายอกสบายใจขึ้นมา
การสร้างเรื่องนี่มันสนุกจริงๆ!
พอโพสต์ข้อความลงไป หูเซียวก็ไปผ่อนคลายในห้องนั่งเล่น กินผลไม้ไปพลาง
รอดูว่าทุกคนจะตอบกลับมายังไง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หูเซียวกลับไปที่คอมพิวเตอร์เพื่อเปิดดูคอมเมนต์
เขาเริ่มขมวดคิ้วเมื่อได้ไล่อ่านดูเพราะรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ
“ฮ่าๆๆ ร่วมมือกันดีเกินไปรึเปล่า”
“เพิ่งโพสต์ได้แป๊บเดียวก็โดนตอกหน้ากลับแล้วเหรอ”
“มือถือรุ่นเรือธงของ MSC แย่กว่าเฉินฮว่าอีก แตะนิดเดียวก็พังแล้ว”
“ฉันขำจนท้องแข็ง ช่องนั้นทำคลิปทั้งสามรุ่นไว้แล้ว แค่ยังไม่ได้ปล่อย คาดไม่
ถึงเลยจริงๆ!”
พอเห็นคอมเมนต์เยาะเย้ยเหล่านี้ หูเซียวก็อึ้งไปเล็กน้อย
นี่มันอะไรกัน
เขารีบเปิดช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์ดูแล้วพบว่าไม่กี่นาทีหลังจากเขาโพสต์
ข้อความไปก็มีคลิปใหม่ลง!
รีวิวสายฮาร์ดคอร์ EP.3 : MSC-B90
เนื้อหาคลิปนี้ก็เหมือนคลิปก่อนๆ มีจุ่มน้ำ ปล่อยลงพื้น ทุบกรอบหลัง แยก
ส่วนตัวเครื่อง…
หูเซียวคาดไม่ถึงเลยว่างานประกอบของ MSCB90 จะเทียบกับมือถือของ
เฉินฮว่าไม่ได้!
ตอนเริ่มทดสอบการกันน้ำ เครื่อง MSCB90 เปิดอยู่แล้วถูกเอาจุ่มน้ำพักหนึ่ง
หลังจากเอากลับขึ้นมา ถึ งภายนอกจะดูปกติดี แต่ตอนใช้งานกลับได้ยินเสียง
แปลกๆ แถมการสัมผัสก็ตอบสนองไม่ดีเหมือนเดิม มีปัญหาอย่างเห็นได้ชัด!
ถึงอัปโหลดมาสเตอร์คนนี้จะไม่ได้เน้นย้ำจุดนี้ แต่ผู้ชมก็เห็นกันจะๆ ตา
จากนั้นก็เป็นการทดสอบปล่อยเครื่องลงพื้นและทุบกรอบหลัง MSCB90
สภาพแย่กว่ามือถือรุ่นเรือธงของเฉินฮว่าอีก หลังจากแยกส่วนตัวเครื่องออกก็
พบว่างานประกอบด้านในดูยุ่งเหยิงมาก
แน่ น อนว่ า ความยุ ่ ง เหยิ ง นี ้ ก ็ ส ามารถอธิ บ ายได้ ว ่ า เป็ น งานประกอบของ
โครงสร้างที่ซับซ้อนและประณีต
แต่ประเด็นคือ กรอบหลังของ MSC นั้นแทบจะเทียบกับของเฉินฮว่าไม่ได้เลย
กรอบหลังของเฉินฮว่าแตกหลังจากโดนทุบอยู่สามสี่ที แต่ของ MSC แค่ทุบทีเดียว
ก็แตกเอาง่ายๆ แล้ว!
ความทนทานของกรอบหลังขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ ยิ่งแข็งแรงเท่าไหร่ก็ยิ่งช่วย
ปกป้องมือถือได้ดี หูเซียวเพิ่งจะบอกไปว่ากรอบหลังของเฉินฮว่าคุณภาพแย่ ยัง
ห่างชั้นกับแบรนด์ใหญ่ของต่างประเทศอย่าง MSC อยู่มาก สุดท้ายก็โดนตอก
หน้ากลับมาอย่างรวดเร็ว
หูเซียวยังอึ้งอยู่ ถึงเขาจะเป็นนักรีวิวเหมือนกัน แต่มือถือทั้งสองรุ่นก็เพิ่งออก
วางขาย นักรีวิวทั่วไปก็จะประเมินสเป็กของมือถือแต่ละรุ่นเหมือนกัน ถึงจะต้อง
แยกส่วนตัวเครื่อง แต่พวกเขาจะบรรจงปล่อยความร้อนใส่กรอบหลังแล้วค่อยๆ
แงะกาวเชื่อมออกจากกัน ไม่มีใครใช้วิธีป่าเถื่อนแบบนี้ทดสอบดูว่ากรอบหลังของ
ใครทนทานกว่ากันหรอก
หูเซียวเพิ่งจะวิจารณ์มือถือของเฉินฮว่าไป ไม่ได้คิดว่าอัปโหลดมาสเตอร์คนนี้
จะอัปคลิปใหม่เร็วขนาดนี้
แต่ก็ชัดเจนว่าอีกฝ่ายไม่ได้จงใจโจมตีเขา
หลังจากหูเซียวโพสต์ข้อความลงเว่ยป๋อ สองนาทีต่อมาอีกฝ่ายก็ลงคลิป เห็น
ได้ชัดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ!
หูเซียวแทบจะกระอักเลือด บ้าจริง ทำไมเจ้าของช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์ต้อง
ตอบแทนน้ำใจเขาด้วยความเกลียดชังล่ะ!
บทที่ 222 เปิดทำการจุดให้บริการนี่เฟิง

วันที่ 3 สิงหาคม
เผยเชียนพาลู่หมิงเหลียงไปจุดบริการนี่เฟิงใกล้หมิงหยุนวิลล่า
ผ่านมาสามสัปดาห์แล้วหลังจากที่เผยเชียนวางแนวคิดเรื่องจุดให้บริการนี่เฟิง
ไว้เมื่อเดือนก่อน ตอนนี้จุดให้บริการนี่เฟิงเปิดทำการไปแล้วหลายสาขา
การเตรียมการช่วงแรกนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก จุดให้บริการนี่เฟิงทั้ง
ร้อยสาขาต้องหาผู้จัดการสาขา พนักงานส่งของ ซื้อชั้นเก็บของ อุปกรณ์สำนักงาน
ติดต่อบริษัทให้บริการขนส่งต่างๆ และสั่งทำโปรแกรมสำหรับจัดส่งและจัดการ
สินค้า
ในที่สุดจุดให้บริการนี่เฟิงเกือบทั้งหมดก็เปิดทำการแล้ว
เผยเชียนจริงจังกับเรื่องนี้มาก เพราะการสร้างเกมเป็นการลงทุนที่มีความ
เสี่ยงว่าจะทำกำไรให้ได้ค่อนข้างสูง
ถ้าอยากผลาญเงินก็ต้องหวังพึ่งนี่เฟิงโลจิสติกส์
อุตสาหกรรมเน้นการใช้แรงงานถือเป็นอุตสาหกรรมขาลงในสายตาของเผย
เชียน โมหยูเดลิเวอรี่เองก็ขาดทุนอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เปิดให้บริการ ถือว่า
ประสบความสำเร็จมาก
แน่นอนว่านั่นไม่ได้เป็นเพราะโมหยูเดลิเวอรี่ไม่มีลูกค้า มีคนสั่งอาหารเพิ่ มขึ้น
แถมลูกค้าประจำก็มีเพิ่มมากขึ้น
แต่ด้วยค่าแรงที่ค่อนข้างสูงและยังมีกรณีบรรจุภัณฑ์ชำรุดสูญหาย การจะทำ
กำไรได้ต้องมีลูกค้าจำนวนมากมากลบค่าเสียหายตรงนี้
นอกจากนั้นชื่อเสียงของโมหยูเดลิเวอรี่ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่การจะขยายกิจการ
ออกไปต้องใช้แรงงานเพิ่มขึ้น กำไรเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย แต่ก็ต้องลงทุนเพิ่ ม
เหมือนกัน
ดังนั้นจนถึงตอนนี้ โมหยูเดลิเวอรี่ก็ยังขาดทุนอยู่เรื่อยๆ และรักษาสภาพนั้น
ไว้ได้เป็นอย่างดี
จากความสำเร็จนี้ เผยเชียนจึงตั้งความหวังกับนี่เฟิงโลจิสติกส์ไว้ค่อนข้างมาก
วั น นี ้ เ ผยเชี ย นพาลู ่ ห มิ ง เหลี ย งมาทำความคุ้ น เคยกั บ ขั ้ น ตอนการทำงาน
เพื่อที่จะส่งต่องานให้อีกฝ่ายดูแลเร็วที่สุด
นี ่ เ ฟิ ง โลจิ ส ติ ก ส์ ห นึ ่ ง ร้ อ ยสาขาแรกต้ อ งใช้ พ นั ก งานอย่ า งต่ ำ สามคน
ประกอบด้วยผู้จัดการสาขาหนึ่งคน (เพื่อประจำที่จุดบริการคอยรับพัสดุจาก
บริษัทอื่น ดูแลการรับและส่งสินค้า ดูแลลูกค้า และทำการตลาด) และพนักงานส่ง
สินค้าอีกสองคน เงินเดือนของพนักงานสามคนจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งหมื่นหยวน
จุดบริการนี่เฟิงจะได้รับส่วนแบ่งจากบริษัทส่งสินค้าที่เข้ามามีส่วนร่วม รายได้
จากส่วนนี้พอแค่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของจุดบริการ โดยจุดบริการทั้ง
หนึ่งร้อยสาขาจะทำให้เผยเชียนขาดทุนได้เดือนละอย่างน้อยหนึ่งล้านหยวน
ส่วนเรื่องทำเลที่ตั้งจุดบริการนี่เฟิง…
แต่ละแห่งตั้งอยู่ในละแวกพักอาศัยที่มีคนอยู่จำนวนมากและย่านการค้าที่มี
คนพลุกพล่านของเมืองจิงโจว
เผยเชียนมองว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะ ถ้าอยากให้บริการคน
หมู่มากก็ย่อมต้องเปิดให้บริการในที่ที่มีคนพลุกพล่าน ยิ่งส่งของได้เยอะเท่าไหร่
เขาก็ยิ่งขาดทุนได้เพิ่มขึ้นเท่านั้น
แน่นอนว่าเผยเชียนก็มีจุดประสงค์ซ่อนเร้นอยู่ด้วย เขาเปิดจุดบริการนี่เฟิง
ใกล้ๆ บ้านพ่อแม่และมหาวิทยาลัยฮั่นตง
ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนพนักงานส่งของก็สามารถไปส่งได้ถึงที่ โดยที่เขาไม่ต้อง
เดินทางไปรับเอง
ส่วนที่ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวและร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู บริษัทส่งของสามารถ
ไปส่งได้ถึงที่อยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเปิดจุดบริการนี่เฟิงแถวนั้น
พอทั้งสองมาถึงจุดบริการนี่เฟิงสาขาหมิงหยุนวิลล่า เผยเชียนก็มองไปที่หน้ า
ร้านเป็นอันดับแรก จุดบริการนี่เฟิงแห่งนี้ตั้งอยู่ด้านหลังร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู ถือ
เป็นทำเลที่ดีเลยทีเดียว
ข้างๆ เป็นร้านปรับปรุงใหม่และจะเปิดให้บริการเป็นบาร์ และคาเฟ่บอร์ดเกม
ถึงทำเลตรงนี้จะร้างผู้คน แต่หลังจากร้านทั้งสามเปิดก็คงจะคึกคักขึ้นมาเลย
ทีเดียว
ส่วนเหตุผลหลักที่เลือกทำเลตรงนี้ก็เพราะจุดบริการนี่เฟิงไม่ใช่ร้านธรรมดา
ทั่วไป ว่ากันตามตรงคือจุดบริการเหล่านี้เป็นเหมือนโกดังสินค้า ต่อให้ทำเลดีแค่
ไหนก็ไม่ได้ช่วยทำเงินได้เพิ่ม มีแต่ต้องเสียค่าเช่ามากขึ้น
ลู่หมิงเหลียงเดินตามเผยเชียนไปที่หน้าจุดบริการนี่เ ฟิง ความรู้สึกแรกที่ผุด
ขึ้นมาคือความตื่นตะลึง
ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว!
ตอนที่ลู่หมิงเหลียงได้ยินว่าตัวเองต้องมารับผิดชอบธุรกิจโลจิสติกส์ สิ่งแรกที่
เขาคิดคือการส่งพัสดุ
เขาเห็นว่าบริษัทส่งพัสดุหลายๆ แห่งไม่ค่อยเป็นมืออาชีพ ป้ายหน้าจุดบริการ
ก็ทำขึ้นลวกๆ บางที่ไม่ขึ้นป้ายด้วยซ้ำ
ด้านในของจุดบริการพวกนี้เละเทะมาก ข้าวของกระจัดกระจายเต็มไปหมด
ไม่มีใครคอยดูแลรักษาความสะอาด ปล่อยให้ฝุ่นเกาะพื้นหนาเตอะ
พนักงานส่งของก็ใส่ชุดทำงานสกปรกๆ แถมยังชอบโยนข้าวของใส่รถส่งของ
และส่งพัสดุแค่จุดใกล้ๆ
จุดบริการของบริษัทอื่นจะสภาพประมาณนี้
แต่จุดบริการนี่เฟิงต่างจากพวกนั้นลิบลับ
ร้านที่เช่ามาทำดูดีมาก ด้านหน้ามีป้ายสั่งทำอย่างดีเขียนว่า ‘Upwind
Station’ แถมตัวร้านยังดูดีกว่าบาร์ที่จะเปิดข้างๆ อีก
จริงๆ บาร์ข้างๆ นั้นดูหรูหราและสะดุดตามากกว่า ส่วนจุดบริการนี่เฟิงเป็น
แบบเรียบหรูดูดี ไม่ได้เด่นสะดุดตา แต่ก็ดูดีในแบบของตัวเอง
พนักงานส่งของในเครื่องแบบสองคนกับผู้จัดการสาขายืนรอต้อนรับอยู่หน้า
จุดให้บริการ
ข้างๆ มีรถสำหรับส่งของราคาประมาณสามพันหยวนจอดอยู่สองคั น เป็น
ส่วนหนึ่งของการลงทุนเริ่มแรก รถทั้งสองสั่งทำพิเศษ มีโลโก้นี่เฟิงโลจิสติกส์ติด
อยู่ด้วย
มองผ่านกระจกเข้าไปจะเห็นด้านในของจุดบริการนี่เฟิงได้อย่างชัดเจน
ด้านหน้ามีเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่และคอมพิวเตอร์สำนักงานเครื่องสวยตั้งอยู่ จุดนี้
เป็นบริเวณทำงานตามปกติของผู้จัดการสาขา
บนเคาน์เตอร์มีอุปกรณ์สำนักงานทั่วไปและเครื่องอ่านบาร์โค้ดแบบพิเศษ พอ
ยิงบาร์โค้ดปุ๊บก็จะสามารถลงบันทึกรับส่งสินค้าได้อย่างง่ายดาย
ถัดเข้าไปในร้านมีแถวชั้นวางของจัดเรียงแยกเป็นหมวดหมู่
พัสดุแต่ละขนาดจะถูกกำหนดที่เก็บตามหมวดหมู่โดยอัตโนมัติเพื่อ ให้ง่ายต่อ
การเข้าถึง สำหรับพัสดุขนาดใหญ่ก็มีที่จัดเก็บแยกไว้ต่างหากอีกด้วย
หลังจากสำรวจทั้งร้าน ลู่หมิงเหลียงก็คิดได้เพียงอย่างเดียว
ไฮโซมาก มาตรฐานเมืองนอกชัดๆ!
แตกต่างจากบริษัทส่งพัสดุที่อื่นๆ ลิบลับ
ผู้จัดการสาขารายงานเรื่องการเตรียมการที่เสร็จเรียบร้อยแล้วและการดำเนิน
กิจการในปัจจุบันของจุดบริการให้ลู่หมิงเหลียงกับเผยเชียนฟัง
จุดบริการเปิดให้บริการแปดชั่วโมงตามเวลาปกติ ตั้งแต่แปดโมงเช้าจนถึงห้า
โมงเย็น ถ้ามีทำงานเกินจากนั้นก็จะต้องจ่ายค่าล่วงเวลาเพิ่ม
อีกทั้งยังมีเงินพิเศษเพิ่มตามจำนวนพัสดุที่ส่ง คะแนนจากลูกค้า และอื่นๆ
หน้าที่ประจำวันของพนักงานส่งของสองคนคือจัดส่งของจากจุดบริการ ถ้า
ว่างจากนั้นก็ต้องเก็บกวาดจัดแจงข้าวของให้เรียบร้อย
งานของผู้จัดการสาขาจะซับซ้อนกว่าหน่อย นอกจากงานทั่วไปอย่างการจัด
คลังพัสดุและรับพัสดุแล้ว ต้องรับผิดชอบคำนวณเลขพัสดุ ติดต่อกับบริษัทส่งพัสดุ
เจ้าอื่นๆ และโฆษณาจุดบริการภายในพื้นที่ครอบคลุมการให้บริการ
แน่นอนว่าเผยเชียนไม่ได้เข้มงวดกับเรื่องหน้าที่รับผิดชอบมากนัก ถ้าผู้จัดการ
สาขาคนไหนอู้งาน เขาก็ไม่ได้สนใจ
ผู้จัดการสาขากับพนักงานส่งของทั้งสองดูกระตือรือร้นมาก
ทั้งสามเคยทำงานกับบริษัทส่งพัสดุที่อื่นๆ มาก่อน แต่ย้ายมาทำกับนี่เฟิงโลจิ
สติกส์เพราะเงินเดือนเริ่มต้นสูงกว่าที่เก่า
แถมบรรยากาศการทำงานก็ดีกว่า
นี่เฟิงโลจิสติกส์ไม่เหมือนบริษัทส่งของอื่นๆ ที่ให้พวกเขารับผิดชอบส่งของทั่ว
ทั้งเมือง ที่นี่พวกเขารับผิดชอบแค่พื้นที่เล็กๆ งานจึงค่อนข้างเบากว่า
หลังจากสำรวจดูจนรอบ เผยเชียนกับลู่หมิงเหลียงก็กลับไปที่ร้านอินเทอร์เน็ต
โมหยูแล้วสั่งกาแฟดื่มกัน
“จากนี้ไปฝากคุณดูแลนี่เฟิงโลจิสติกส์ด้วย ถ้าเจอปัญหาอะไรให้ติดต่อผม
โดยตรง แต่พวกปัญหายิบย่อยคุณจัดการได้เลย
“คุณเก็บทุนตามฝันหนึ่งล้านหยวนไว้ก่อนได้ ถ้ารู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับ
นี่เฟิงโลจิสติกส์ก็ค่อยลองไปทำอย่างอื่นดู
“ส่วนเรื่องเงินทุน ถ้ารู้สึกว่ายังขาดก็บอกได้เลย อยากได้เท่าไหร่ผมจัดให้ได้”
บทที่ 223 เป้าหมายใหม่ของเฟยหวงสตูดิโอ

เผยเชียนดีใจมากที่ได้ส่งต่องานนี้
แน่นอนว่าเขาต้องพูดอะไรอีกสักหน่อยเพื่อไม่ให้ลู่หมิงเหลียง พนักงานที่เขา
ไว้ใจที่สุดเข้าใจนี่เฟิงโลจิสติกส์ผิดไป
“นี่เฟิงโลจิสติกส์เป็นแผนระยะยาวของผม ตอนนี้อาจจะขาดทุนไปช่วงหนึ่ง
“แต่คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ต่อจากนี้จะขาดทุนแค่ไหน จะอีกกี่เดือนหรือกี่ปีก็
ไม่ใช่ปัญหา
“จำไว้ว่าการทำเงินเป็นเป้าหมายสุดท้ายของนี่เฟิงโลจิสติกส์ที่อาจจะต้องทน
รอไปอีกนาน”
ลู่หมิงเหลียงตะลึงงันไปเมื่อได้ยินที่เผยเชียนพูด
การทำเงินคือเป้าหมายสุดท้ายเหรอ แล้วเป้าหมายก่อนหน้านั้นล่ะ
ลู่หมิงเหลียงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง “บอสเผยจะบอกว่าเป้าหมายตอนนี้คือขยาย
ฐานลูกค้า ส่วนการดำเนินการในระยะแรกจะต้องทุ่มเงินเพื่อขยายกิจการเหรอ
ครับ”
เผยเชียนยกกาแฟขึ้นจิบ “นั่นก็เป็นเป้าหมายหนึ่ง เป้าหมายอื่นนอกจากนั้นก็
มีอีกเยอะ
“เช่น ทำให้ชีวิตของทุกคนสะดวกสบายขึ้น”
ลู่หมิงเหลียงอึ้งไป เขาไม่ได้คิดถึงจุดนี้เลย
เผยเชียนพูดต่ออย่างจริงจัง “ธุรกิจขนส่งพัสดุตอนนี้เกือบทุกเจ้ามุ่งแต่จะเอา
กำไร การบริการจัดส่งจริงๆ ทำได้แย่มาก จุดประสงค์หลักของนี่เฟิงโลจิสติกส์คือ
ให้บริการจัดส่งพัสดุที่ดีที่สุด
“ถ้าเจ้าอื่นไม่อยากส่งพัสดุถึงหน้าประตูบ้านลูกค้า เราจะเป็นคนทำเอง
“ถ้าเจ้าอื่นไม่ยอมแกะกล่องทิ้ง เราก็จะทำเอง
“บริษัทอื่นอาจจะไม่สนคำติติงจากลูกค้า แต่ถ้ามีคำติเตียนเข้ามา เราจะ
พิจารณาจากทัง้ มุมมองของพนักงานและลูกค้าเพือ่ หาทางออกทีเ่ หมาะสมทีส่ ดุ
“สรุปคือสิ่งที่เราต้องการไม่ใช่แค่ฐานลูกค้ากับกำไร แต่เราต้องการชื่อเสียงที่
ดีด้วย ชื่อเสียงนี่แหละคือเรื่องสำคัญที่เราต้องใส่ใจ!
“ผมมอบหมายให้คุณสร้างชื่อเสียงให้นี่เฟิงโลจิสติกส์ให้ได้มากที่สุด ต้องการ
เงินเพิ่มแค่ไหนผมจัดให้ได้เพื่อชื่อเสียงที่ดีของบริษัทเรา
“จำไว้ว่าคุณคือพนักงานของเถิงต๋า อย่างกเวลาใช้เงิน เข้าใจไหม”
ลู่หมิงเหลียงพยักหน้ารัว “เข้าใจครับ บอสเผย!”
พอได้ยินที่บอสเผยพูด ลู่หมิงเหลียงก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิมว่าตัวเองเลือก
ถูกทางแล้ว
การทุ่มเทแรงกายแรงใจไปกับธุรกิจที่จะทำให้ชีวิตผู้คนสะดวกสบายมากขึ้น
ถึงแม้จะทำกำไรไม่ได้ก็ถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและมีความหมายมากๆ!
เมื่อเห็นท่าทีของลู่หมิงเหลียง เผยเชียนก็สุขใจ
เลือกคนมาไม่ผิดจริงๆ ด้วย!
เผยเชียนชอบใจมากที่ลู่หมิงเหลียงฟังตามที่เขาบอกอย่างเคร่งครัด เขาอยาก
ได้อะไร ลู่หมิงเหลียงก็จะจัดให้ตามนั้นโดยไม่ตัดสินใจอะไรเอาเอง
ตอนนี้ลู่หมิงเหลียงโดนเผยเชียนฝังหัวให้ ‘ทุ่มเงินเพื่อสร้างชื่อเสียง’ ดังนั้น นี่
เฟิงโลจิสติกส์จึงไม่จำเป็นต้องทำกำไรได้ไปอีกนาน
ให้ลู่หมิงเหลียงอยู่ที่เถิงต๋าอาจจะยังเสี่ยงเพราะไม่มีจุดไหนที่จะขาดทุนได้ แต่
ถ้าจับมาไว้ที่นี่เฟิงโลจิสติกส์ก็จะกลายเป็นหนังคนละม้วน!
ขอแค่ลู่หมิงเหลียงทำทุกอย่างตามที่เผยเชียนต้องการ ยังไงก็ต้องขาดทุน
แน่นอน!


หลังจากคุยกับลู่หมิงเหลียงเสร็จ เผยเชียนก็อยู่เล่นเกมต่อที่ร้านอินเทอร์เน็ต
โมหยูสักพัก
เขารู้สึกว่าช่วงนี้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหมิงหยุนวิลล่ามีลูกค้าเข้าร้าน
น้อยลง ลูกค้าบางส่วนหนีไปใช้บริการร้านที่เพิ่งเปิดใหม่จริงๆ ด้วย
ลูกค้าที่มาใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ร้านมีจำนวนน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย
ระหว่างที่เผยเชียนกำลังเล่นเกมอยู่ หม่าหยางก็เดินมาหา
“แย่แล้วพี่เชียน!
“มีร้านอินเทอร์เน็ตแบรนด์ใหม่เพิ่งเปิดให้บริการในเมืองจิงโจว ชื่อร้าน
อินเทอร์เน็ตซิงเล่อ เป็นแบรนด์ที่ทำร้านอินเทอร์เน็ตระดับสูงเหมือนกัน
“แถมพวกเขายังมีบริษัทลงทุนฟู่หุยคอยหนุนหลัง ดูท่าไม่ดีเลย!”
เผยเชียนนิ่งไป “เหมือนฉันจะเห็นร้านอินเทอร์เน็ตเพิ่งเปิดใหม่แถวนี้…”
หม่าหยางพูดต่อด้วยความกังวล “ร้านนั้นก็คือร้านสาขาของซิงเล่อนั่นแหละ!
“ผมไปรู้มาว่าบรรยากาศร้านอินเทอร์เน็ตซิงเล่อไม่ดีเท่าเรา สเป็กคอมพ์ก็ดี
ไม่เท่า แต่ราคาพวกเขาถูกกว่าและกำลังเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ!
“ผมไปแอบส่องมา มีลูกค้าเยอะกว่าเราจริงๆ นะพี่!”
รูปแบบร้านอินเทอร์เน็ตซิงเล่อเหมือนร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเวอร์ชันถูกลง
ถึงสเป็กคอมพิวเตอร์จะต่ำกว่า บรรยากาศไม่ดีเท่าแถมยังแคบกว่า แต่สิ่งเหล่านี้ก็
ช่วยลดต้นทุนได้ ทำให้ตั้งราคาได้ถูกกว่า
ทำแบบนี้ลูกค้าที่มักจะใช้บริการร้านอินเทอร์เน็ตทั่วไปก็จะอยากลองใช้
บริการร้านของพวกเขาดู โดยที่ไม่โดนกำแพงราคากีดกัน
แถมร้านอินเทอร์เน็ตแบรนด์นี้ยังมีบริษัทลงทุนฟูหุ่ยหนุนหลังอีก
เห็นได้ชัดว่าบอสหลี่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
เผยเชี ย นรู ้ ว ่ า บอสหลี ่ ไ ม่ น ่ า จะยอมแพ้ ง ่ า ยๆ และคอยจั บ ตาดู ต นเองอยู่
ไม่อย่างนั้นบอสหลี่จะมาลงทุนเปิดร้านอินเทอร์เน็ต บาร์ คาเฟ่บอร์ดเกมในทำเล
ร้างผู้คนแบบนี้ทำไม
เผยเชียนรู้สึกตื้นตันใจจนแทบจะร้องไห้
บอสหลี่คือรักแท้ของเขาจริงๆ!
บอสหลี่พยายามเต็มที่เพื่อช่วยเขามาโดยตลอด ช่างเป็นคนดีจริงๆ!
“ทำยังไงดีพี่เชียน เราจะปล่อยให้เป็นแบบตอนนั้นเหรอ” หม่าหยางถาม
อย่างเป็นกังวล
ก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์คล้ายกัน เป้าหมายที่โดนโจมตีในตอนนั้นคือร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลัก
ครั้งนี้ศัตรูคือร้านอินเทอร์เน็ตแบรนด์ใหม่ เป้าหมายคือร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
ทุกสาขา!
รอบก่อนพวกเขาพลิกสถานการณ์ได้เพราะเฉินเหล่ย ไพ่ตายที่เผยเชียนแอบ
ซ่อนเอาไว้มานาน
ครั้งนี้พวกเขาจะพึ่งใครอีก เพราะอาจไม่มีเฉินเหล่ยหมายเลขสองแล้ว
เผยเชียนพยายามห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้มอย่างสุดความสามารถ “ไม่ต้องห่วง ฉัน
มีทางอยู่แล้ว”
ปลอบใจหม่าหยางเสร็จ เผยเชียนที่กำลังอารมณ์ดีก็ตัดสินใจกลับบ้านไป
พักผ่อน
มือถือของเขาดังขึ้น หวงซื่อปั๋วเป็นคนโทรมา
เผยเชียนตะลึงงันไปเล็กน้อยแล้วเริ่มระแวดระวังตัว
ทำไมจู่ๆ ถึงโทรมาล่ะ!
ตั้งแต่ปิดกล้องสารคดีเรื่องดักแด้สู่ผีเสื้อไป เฟยหวงสตูดิโอก็ยังอยู่ในช่วงงงๆ
กันอยู่
สารคดีที่ทำขึ้นมาขาดทุนยับ ถึงบอสเผยจะไม่ได้ว่าอะไร แต่หวงซื่อปั๋วกับจู
เสี่ยวเช่อต่างก็รู้สึกว่าตัวเองต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ พวกเขาไม่กล้าที่จะเริ่มถ่ายสาร
คดีตามความสนใจของตัวเองเหมือนคราวก่อนอีกแล้ว
ตอนนี้ระบบยังไม่ถือว่าเป็นการ ‘อู้งานจนเกินควร’ เผยเชียนจึงไม่ได้ไปยุ่ง
อะไรกับพวกเขา
ที่โทรมาก็น่าจะเพราะตัดสินใจเรื่องแผนงานต่อไปได้แล้ว
เผยเชียนปรับอารมณ์ก่อนจะรับโทรศัพท์
เสียงหวงซื่อปั๋วดูตื่นเต้นมาก “บอสเผยครับ พวกเราตัดสินใจเรื่องเป้าหมาย
ใหม่ของเฟยหวงสตูดิโอได้แล้ว เราตั้งใจจะรวมความเป็นคลิปสั้นกับการรีวิว
อุปกรณ์ดิจิทัลเข้าด้วยกันเป็นคลิปตอนสั้นชุดใหม่เกี่ยวกับการรีวิวของ!”
เผยเชียน “???”
เขาไม่ค่อยเข้าใจที่อีกฝ่ายพูด
รวมความเป็นคลิปสั้นกับการรีวิวอุปกรณ์ดิจิทัลเข้าด้วยกันเหรอ ใครเป็นคน
คิดเนี่ย
เผยเชียนถามออกไปด้วยความสงสัย “ทำไมถึงตัดสินใจทำตามนี้ล่ะ”
หวงซื่อปั๋วอธิบายอย่างตื่นเต้น “ช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์ในเว็บอ้ายลี่เต่าทำให้
พวกเราเกิดแรงบันดาลใจครับ!
“จริงๆ แล้วคลิปรีวิวอุปกรณ์ดิจิทัลกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ก่อนหน้านี้เราไม่ทำ
คลิปแนวนี้เพราะกลัวว่าจะสู้กับช่องรีวิวมืออาชีพไม่ไหว
“แต่พอดูคลิปช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์ พวกเราก็ได้แรงบันดาลใจ ถ้าทำคลิป
คล้ายๆ ช่องนั้นก็ไม่จำเป็นต้องมีความรู้หรือความเชี่ยวชาญเรื่องอุปกรณ์ดิจิทัล
มากมายอะไร!
“เราจะใช้คลิปสั้นเป็นตัวแนะนำสินค้าในมุมมองของลูกค้าทั่วไป ทำแบบนี้จะ
เข้าถึงได้ง่ายกว่าและดูน่าสนใจ
“แถมยังหากำไรได้ง่ายด้วย ไม่ขาดทุนเยอะเหมือนรอบก่อนแน่ครับ
“อีกอย่างสตูดิโอเราก็เริ่มจากการทำคลิปสั้น เรามีแต้มต่อตรงนี้จากฐานคนดู
เก่าที่มี!”
เผยเชียนตะลึงงันไป
ทำไมฉันไปมีเอี่ยวอีกแล้วล่ะ
ฉันทำช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์ด้วยเหตุผลอื่น ไม่ได้จะมาเป็นแรงบันดาลใจให้
พวกแกโว้ย!
บทที่ 224 ครัวส่วนตัวหมิงหยุน

เผยเชียนรู้สึกหน้ามืดหน่อยๆ
ฉันทำช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์ไว้หลอกหลินฉาง ทำไมจู่ๆ ถึงกลายเป็นแรง
บันดาลใจ ให้เฟยหวงสตูดิโอไปได้!
หวงซื่อปั๋วไม่ทันสังเกตว่าบอสเผยกำลังตกใจอยู่ ขณะที่เล่าไอเดียซึ่งพรั่งพรู
ขึ้นมาในหัวของเขากับจูเสี่ยวเช่อหลังได้ดูคลิปของช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์
การทำรีวิวอุปกรณ์ดิจิทัลกำลังมาแรงในปัจจุบัน
ในอนาคตใกล้ๆ นี้ เมื่อการบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และอุปกรณ์
ดิจิทัลต่างถูกพัฒนาไปไกล ผู้บริโภคทั่วไปจะเริ่มหันมาสนใจรีวิวสินค้าจำพวกนี้
การทำรีวิวประเภทนี้จะช่วยดึงดูดความสนใจจากแฟนๆ และอาจทำให้ได้
สปอนเซอร์จากบริษัทต่างๆ ขอแค่รักษาสมดุลเอาไว้ได้ ก็จะได้ทั้งยอดวิวและผล
กำไร
แรงบันดาลใจที่ทีมหวงซื่อปั๋วได้จากช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์คือรูปแบบการรีวิว
ตอนนี้คลิปรีวิวในประเทศส่วนใหญ่เน้นเนื้อหาที่จริงจัง โดยการรีวิวและ
ทดสอบสินค้าจะใช้วิธีซับซ้อนและให้ข้อมูลล้นจนตาลาย เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึง
ความเป็นมืออาชีพ
ก่อนหน้านี้พวกหวงซื่อปั๋วก็สนใจคลิปแนวนี้อยู่เหมือนกัน
แต่เพราะเฟยหวงสตูดิโอขาดผู้เชี่ ยวชาญในแวดวงนี้ พวกเขาเลยไม่คิดจะทำ
คลิปรีวิวสินค้าเพราะกลัวว่าจะสู้รีวิวสำนักอื่นไม่ได้
แต่พอได้ดูคลิปของช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์ หวงซื่อปั๋วก็ตระหนักเรื่องหนึ่งได้
ถึงจะไม่ได้เชี่ยวชาญขนาดนั้นก็ไม่เป็นไรนี่!
ช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์มีวิธีรีวิวในแบบของตัวเอง ขณะที่คนอื่นๆ รีวิวสินค้า
กันอย่างจริงจังตามสเป็กและนำเสนอข้อมูลต่างๆ ประกอบ แต่รีวิวสายฮาร์ดคอร์
ใช้วิธีแหวกแนวกว่าในการบอกรายละเอียดต่างๆ ของสินค้า
ตัวอย่างเช่น ทดสอบการกันน้ำ ทดสอบว่าจะทนแรงกระแทกได้แค่ไ หน
โครงสร้างภายในเป็นยังไง…
ถึงจะไม่มีวิธีการที่เป็นมื ออาชีพเลยสักอย่าง แต่คนดูกลับชอบคลิปของรีวิว
สายฮาร์ดคอร์มาก แถมยอดวิวยังสูงกว่ารีวิวของพวกมืออาชีพอีก
หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อตระหนักว่ารีวิวที่เป็นอาชีพอาจไม่ใช่รีวิวที่ดีที่สุด!
แน่นอนว่าการรีวิวให้เป็นอาชีพก็ไม่ได้ไม่ดีอะไร เพราะยิ่งคลิปเป็นมืออาชีพ
เท่าไหร่ เนื้อหาในคลิปก็จะโดนติติงได้ยากขึ้น คนดูเองก็ประทับใจ
แต่ถ้าเน้นความเป็นมืออาชีพมากเกินไป ก็อาจจะดึงดูดคนดูทั่วไปได้ไม่นาน
และอาจทำให้คนดูงงมากกว่าที่จะเข้าใจ
หลายคนไม่ได้สนใจพวกข้อมูลหรือตัวเลขอะไรมากนัก ต่อให้รู้ไปก็ยากที่จะ
ทำความเข้าใจได้ว่ามันหมายถึงอะไร
ตรงกันข้ามพวกเขาดูจะยอมรับรีวิวที่เน้นแสดงความคิดเห็นหรือการนำไปใช้
จริงมากกว่า
ช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์ใช้วิธีนำเสนอแบบตรงๆ มีการเอามีดมาแทงกรอบหลัง
ให้ดู ยิ่งทนได้มากก็ยิ่งแปลว่ามือถือเครื่องนี้ดี
ถือเป็นวิธีนำเสนอแบบตรงๆ ที่เหมาะจะแสดงให้เห็นถึงความทนทานของมือ
ถือมากกว่ายัดข้อมูลเชิงเทคนิคเข้าไปขนานใหญ่
ดังนั้นหลังจากที่หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อรวบรวมข้อมูลเสร็จ พวกเขาจึง
ตัดสินใจว่าทิศทางใหม่ของเฟยหวงสตูดิโอจะเป็นการรวมความเป็นคลิปสั้นเข้ากับ
การรีวิวอุปกรณ์ดิจิทัล!
มีสองเหตุผลหลักที่ทำให้ตัดสินใจแบบนี้
เหตุผลแรกคือ การถ่ายทำสารคดีของเฟยหวงสตูดิโอขาดทุนสูงจนบอสต้อง
ยื่นมือเข้ามาช่วย พนักงานของเฟยหวงสตูดิโอต่างรู้สึกหดหู่ใจที่ทำให้บอสเผย
ผิดหวัง
ดังนั้นหวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อจึงตัดสินใจว่าจะต้องเริ่มหาทางสร้างรายได้
การทำรีวิวอุปกรณ์ดิจิทัลเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างรายได้ การรับ
สปอนเซอร์เป็นครั้งคราวโดยไม่ให้ข้อมูลผิดๆ หรือหลอกลวงคนดู และให้ผู้ชมได้
ร่วมชิงโชคด้วยน่าจะเป็นวิธีการที่ดี
เหตุผลที่สองคือ คลิปสั้นคือจุดแข็งของสตูดิโอเฟยหวง ซีรีส์ชีวิตประจำวัน
ของบอสเผยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อได้พิสูจน์ฝีมือให้
เห็นแล้วว่าสามารถรังสรรค์คลิปสั้นดีๆ ออกมาได้เรื่อยๆ
เทียบกับที่อื่นแล้ว คลิปสั้นของเฟยหวงสตูดิโอมีความเป็นมือ อาชีพและ
น่าสนใจมากกว่า ถือเป็นจุดแข็งหลัก
หวงซื่อปั๋วอธิบายแผนการในอนาคตของเฟยหวงสตูดิโอให้เผยเชียนฟังอย่าง
ตื่นเต้น
เผยเชียนรู้สึกได้ถึงใจที่เริ่มชาหลังจากฟังที่หวงซื่อปั๋วเล่า
ไอ้ฉิบหาย แผนนี้ไม่ได้แน่!
เผยเชียนไม่คิดเลยว่าคลิปรีวิวที่ทำออกมาเล่นๆ จะสร้างแรงบันดาลใจให้พวก
หวงซื่อปั๋วได้
ใครมันจะไปรู้วะว่าจะเป็นแบบนี้
แต่เผยเชียนก็พยายามทำใจเย็นและคิดทบทวนเรื่องนี้ เขาคิดว่าตอนนี้เรื่องยัง
ไม่ได้แย่ขนาดนั้น
อุปกรณ์ดิจิทัลในโลกนี้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ส่วนช่องทำรีวิวก็มีให้เห็น
เกลื่อน ถึงจะยังอยู่ในช่วงกำลังพัฒนา แต่คลิปพวกนี้ก็ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ เหมือน
ดอกเห็ด ทำให้เกิดการแข่งขันสูง
เพราะถ้าพวกหวงซื่อปั๋วเห็นว่าการรีวิวอุปกรณ์ดิจิทัลมีแววรุ่ง คนอื่นๆ ก็
น่าจะคิดเหมือนกัน
ผู้คนสามารถเริ่มทำรีวิวอุปกรณ์ดิจิทัลได้ง่ายๆ
แม้แต่ผู้บริโภคทั่วไปก็สามารถซื้ออุปกรณ์ดิจิทัลมาสักอย่าง ลองเล่นดูสักแป๊บ
อ่านสเป็กดูสักหน่อย จากนั้นก็เล่าประสบการณ์การใช้งานจริงก็ทำคลิปได้แล้ว
หนึ่งคลิป
แถมคู่แข่งของพวกหวงซื่อปั๋วเองก็น่าจะมีประสบการณ์สูงและผ่านการทำ
คลิปรีวิวมาแล้วมากมาย
ถ้าคิดตามนี้ ถึงเฟยหวงสตูดิโอจะสามารถสร้างชื่อให้ตัวเองได้ แต่จะเป็น
กระแสไปได้นานไหมก็ไม่รู้
นอกจากนั้นแล้ว การที่เฟยหวงสตูดิโอเลือกทำรีวิวอุปกรณ์ดิจิทัลออกมาเป็น
คลิปตอนสั้นก็น่าจะดีกว่าปล่อยให้พวกเขาไปทำอย่างอื่นที่ทำเงินได้ง่ายกว่า เช่น
ทำซีรีส์ตอนสั้นแบบชีวิตประจำวันของบอสเผยขึ้นมาอีกเรื่อง
สรุปแล้ววงการรีวิวอุปกรณ์ดิจิทัลถือเป็นวงการที่กว้างขวางและล้ำลึก
อีกอย่างยังไงเผยเชียนก็ยังมีเครื่องมือผลาญเงินอย่างนี่เฟิงโลจิสติกส์อยู่ ถึงเฟ
ยหวงสตูดิโอจะทำเงินได้สักเล็กน้อยก็ไม่น่าจะกระทบกับยอดขาดทุนในภาพรวม
คิดได้อย่างนั้นเผยเชียนก็พยักหน้า “โอเค ผมสนับสนุนพวกคุณ
“แต่ ใ ห้ จ ำไว้ ว ่ า พวกคุ ณ ต้ อ งรั ก ษาชื ่ อ เสี ย งของเฟยหวงสตู ด ิ โ อ ถ้ า หา
สปอนเซอร์ดีๆ ไม่ได้ก็ไม่ต้องฝืนทำ เข้าใจมั้ย”
“วางใจได้ ค รั บ บอสเผย พวกผมเข้ า ใจดี ! ” หวงซื ่ อ ปั ๋ ว วางสายไปอย่ า งมี
ความสุข


วันที่ 7 สิงหาคม
ลู่หมิงเหลียงรายงานการตัดสินใจครั้งใหญ่ในฐานะ CEO ของนี่เฟิงโลจิสติกส์
ให้เผยเชียนฟัง นั่นคือเขาเปลี่ยนเวลาการออกไปส่งพัสดุของพนักงานส่งของ
ประจำจุดบริการนี่เฟิง
พิจารณาจากฐานลูกค้าส่วนใหญ่ที่อยู่ในวัยทำงานและไม่น่าจะอยู่บ้านกันสัก
เท่าไหร่ พนักงานส่งพัสดุแต่ ละคนจะได้กะในการออกไปส่งพัสดุแยกกัน คนหนึ่ง
รับผิดชอบกะเช้า ตั้งแต่หกโมงเช้าถึงบ่ายสาม ส่วนอีกคนรับผิดชอบกะเย็น ตั้งแต่
บ่ายสองจนถึงห้าทุ่ม
เนื่องจากกะดึกน่าจะเหนื่อยกว่าจึงมีการเพิ่มค่าแรงให้
พนักงานส่งของทั้งสองคนสามารถสับเปลี่ยนกะกันได้เรื่อยๆ เพื่อกันไม่ ให้
เกิดผลเสียต่อสุขภาพจากการทำงานกะดึกเป็นเวลานาน
ทำแบบนี้กลุ่มลูกค้าวัยทำงานก็จะสามารถเลือกเวลาส่งของได้ว่าจะเอาช่วง
เช้าตรู่หรือตอนดึก ซึ่งจะดีกว่าเวลาส่งของแบบเก่า
นอกจากนั้นหลินชั่นหรงเองก็รายงานให้เผยเชียนรู้ว่าได้เตรียมการสำหรับ
เปิดภัตตาคารระดับสูงเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เผยเชียนพอใจกับประสิทธิภาพการทำงานของพวกเขามาก
หลินชั่นหรงจดทะเบียนภัตตาคารด้วยชื่อครัวส่วนตัวหมิงหยุน เนื่องจาก
ภัตตาคารตั้งอยู่ในหมิงหยุนวิลล่าและให้บริการในลักษณะร้านที่ต้อนรับแขกแบบ
เน้นความเป็นส่วนตัว
เผยเชียนคิดว่าเป็นชื่อที่ดีทีเดียว และเนื่องจากเขาไม่ได้ตั้งใจจะขึ้นป้ายอะไร
อยู่แล้วจึงไม่ได้สนใจเรื่องชื่อเลย
เขาแค่อยากไปกินอาหารที่ร้านเร็วๆ!
หลังจากเลือกพนักงานดีเด่นไปเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม เผยเชียนก็ได้เหตุผลพา
พนักงานไปกินเลี้ยงในรอบนี้
เป็นการกินเลี้ยงแสดงความยินดีและอำลาพนักงานดีเด่น
เปาซวี่ฝืนใจไปจัดการเรื่องวีซ่าจนเสร็จเรียบร้อย พร้อมที่จะเดินทางท่องเที่ยว
ต่างประเทศโดยที่ทางบริษัทออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ ส่วนลู่หมิงเหลียงก็เริ่ม
ทำงานที่นี่เฟิงโลจิสติกส์แล้วเหมือนกัน
งานเลี้ยงครั้งนี้ถือเป็นการอวยพรทั้งคู่ และยังเป็นการสื่อว่าเถิงต๋ากำลังจะ
ก้าวไปสู่ยุคที่สามหลังจากยุคที่หวงซื่อปั๋วเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน ตามด้วยยุคของ
ลู่หมิงเหลียง


ครัวส่วนตัวหมิงหยุน
หลินหวานยืนอยู่หน้าร้าน เธอมองเข้าไปด้านในด้วยความสงสัย
เธอไม่คิดว่าจะมีภัตตาคารส่วนตัวระดับสูงแบบนี้อยู่ท่ามกลางวิลล่าร้างผู้คน!
ด้านนอกไม่มีอะไรเตะตาเป็นพิเศษ ก็เป็นวิลล่าทั่วไปในหมิงหยุนวิลล่า การ
ตกแต่งอาจหรูหรากว่าวิลล่าหลังอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร
ถึงจะบอกว่าเป็นภัตตาคารส่วนตัว แต่กลับไม่มีป้ายหน้าร้านเลย ลูกค้าคนอื่น
ก็เหมือนจะไม่มีด้วย
พอเดินเข้าไปด้านในก็พบกับห้องโถงสูงเจ็ดเมตรที่มีโต๊ะยาววางจานชามเรียง
ไว้อย่างหรูหรา ให้ความรู้สึกเหมือนงานเลี้ยงในวังของประเทศแถบยุโรปไม่มีผิด
พนักงานเสิร์ฟมารยาทเป๊ะเดินยกอาหารจานหรูมาวางบนโต๊ะ
พนักงานห้าสิบเจ็ดคนมาที่ค รัวส่วนตัวหมิงหยุน ในกลุ่มมีทั้งพนักงานหลัก
จากเถิงต๋าและบริษัทลูกอย่างฉางหยางเกมส์ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู นี่เฟิงโลจิ
สติกส์ และเฟยหวงสตูดิโอ
พูดง่ายๆ คือ คนที่บอสเผยเชิญมาในครั้งนี้มีแต่เหล่าคนมากความสามารถที่
บอสตั้งความหวังไว้!
หลินหวานเป็นผู้อำนวยการของฉางหยางเกมส์ จึงเป็นธรรมดาที่จะติดโผ
รายชื่อ
วิลล่าหลังนี้มีสามชั้น ห้องที่กว้างที่สุดคือห้องนั่งเล่นชั้นแรก โต๊ะยาวสามารถ
นั่งได้กว่ายี่สิบคน ด้วยเพดานที่สูงถึงเจ็ดเมตรจึงทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดคับแคบเลย
โต๊ะยาวตัวนี้สั่งทำพิเศษ เหมือนว่าจะเก็บไว้ใช้ในโอกาสสำคัญแบบนี้ ปกติ
แล้วห้องโถงจะตั้งเป็นโต๊ะเล็ก
ห้องอื่นๆ ถูกปรับเป็นห้องส่วนตัว ทุกคนสามารถเลือกนั่งในห้องโถงหรือใน
ห้องส่วนตัวได้ตามใจชอบ
เผยเชียนแค่อยากให้ทุกคนกินเยอะๆ จะได้ช่วยผลาญเงินได้เยอะๆ เลยไม่ได้
สนว่าใครจะต้องนั่งตรงไหน
ทุกคนรู้จักกันอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตองอะไรมากมาย แค่หาที่นั่งแล้ว
เริ่มกินกันได้เลย
บางคนไม่ได้เจอกันมานานเพราะเรื่องงาน เช่น หวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่ ทั้งสอง
จึงใช้โอกาสนี้ถามสารทุกข์สุกดิบกันและกัน
หวงซื่อปั๋วเล่าเรื่องแผนคลิปสั้นรีวิวอุปกรณ์ดิจิทั ลให้เปาซวี่ฟัง ส่วนเปาซวี่ก็
ปรับทุกข์เรื่องที่จะได้ไปเที่ยวฟรีอีกแล้ว
“กินกันให้เต็มที่เลยนะทุกคน ไม่ต้องเกรงใจ ใครไม่ยอมกินให้อิ่มวันนี้แสดง
ว่ามีปัญหาเรื่องทัศนคติการทำงาน!”
เผยเชียนมองอาหารจานหรูที่ถูกยกออกมาจากห้องครัวจานแล้วจานเล่าด้วย
ความเบิกบานใจ
อาหารจานหรูเหล่านี้ใช้สูตรจากเชฟชื่อดัง เมนูอย่าง ‘ซุปหางจระเข้’ ‘หอย
เป๋าฮื้อ’ และอื่นๆ ก็ปาไปจานละสี่ถึงห้าพันหยวนแล้ว
คาเวียร์เกรดดีที่ทุกคนกินราคาจานละสองพันหยวน พนักงานมีทั้งหมดห้าสิบ
เจ็ดคน ผลาญเงินไปรวดเดียวเป็นแสน
แน่นอนว่าการที่เผยเชียนพาพนักงานมากินเลี้ยงที่นี่ก็เหมือนเอาอัฐยายซื้อ
ขนมยาย แต่ยังไงเขาก็ต้องเสียค่าวัตถุดิบอยู่ดี
วัตถุดิบชั้นเลิศเหล่านี้จัดหามาจากทั่วประเทศ บางอย่างต้องนำเข้าจาก
ต่างประเทศด้วยระบบจัดส่งพิเศษ ซึ่งเผยเชียนต้องเป็นคนจ่าย
นอกจากนั้นเขายังต้องจ่ายค่าจ้างเชฟมือหนึ่งและพนักงานเสิ ร์ฟมาตรฐาน
บริการสูง ค่าใช้จ่ายตรงนี้รวมกับค่าใช้จ่ายทั่วไปของภัตตาคาร เผยเชียนก็เป็นคน
ออก
ดังนั้นถึงจะพามากินเลี้ยงที่ภัตตาคารของตัวเอง เขาก็ยังต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก
นิดหน่อยอยู่ดี
ภัตตาคารห่านฟ้าที่เคยไปก่อนหน้านี้เทียบกับที่นี่ไม่ติดเลย
เผยเชียนคำนวณปริมาณการกินของทุกคนดูแล้ว แค่ค่าวัตถุดิบอย่างเดียวก็
ตกหัวละสี่ถึงห้าพันหยวนแล้ว รวมทั้งหมดน่าจะอยู่ที่ประมาณสามแสนหยวน
ถึงจำนวนเงินจะดูไม่มาก แต่ก็เหมือนสำนวนเก็บเล็กผสมน้อย ถ้ามัวแต่นั่งอยู่
เฉยๆ ก็คงไม่ได้เสียเงิน
ขอแค่ทุกคนกินกันให้เต็มที่แบบนี้ไปตลอด สักวันพวกเขาก็จะทำให้เผยเชียน
ถังแตกได้!
ตอนแรกหลินหวานคิดว่านี่เป็นแค่งานเลี้ยงธรรมดาทั่วไป แต่พอได้ลองชิม
อาหาร เธอก็ตระหนักได้ทันทีว่าตัวเองคิดผิด!
ก่อนหน้านี้งานกินเลี้ยงจะจัดที่ภัตตาคารห่านฟ้า ซึ่งเป็นร้านบุฟเฟต์อาหาร
หรูที่ดีที่สุดในเมืองจิงโจว จึงมีอาหารบางเมนูที่ราคาแพงหน่อย
แต่ค่าใช้บริการอยู่ที่หัวละสี่ร้อยหยวน
หลินหวานคิดว่าอาหารที่นั่นก็ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ดีเลิศ ถือว่าพอผ่านมาตรฐาน
แต่อาหารที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนคุณภาพดีกว่าของภัตตาคารห่านฟ้าหลาย
เท่า!
แม้แต่หลินหวานเองยังไม่ค่อยได้กินอาหารจานหรูแบบนี้บ่อยนัก!
นอกจากนั้นเธอยังถูกใจการตกแต่งและบรรยากาศในร้านมาก
โต๊ะ จานชาม การตกแต่งดูดีมีระดับและเข้ากับอาหารที่เสิร์ฟ ช่วยยกระดับ
ประสบการณ์การลิ้มรสอาหารไปอีกขั้น
พนักงานเสิร์ฟทุกคนมารยาทดี ใส่ใจ ไม่ค่อยมารบกวน
พอถามคำถามอะไรไป พวกเขาก็จะตอบกลับอย่างคล่องแคล่ว เห็ นได้ชัดว่า
ได้รับการอบรมมาอย่างดี
สรุปแล้วที่นี่เหนือกว่าภัตตาคารห่านฟ้าทุกๆ ด้าน!
“ในจิงโจวมีภัตตาคารแบบนี้ด้วยเหรอ ไม่เห็นรู้มาก่อนเลย” หลินหวานนึก
สงสัย
เลขาซินที่นั่งจิบไวน์อยู่ข้างๆ ช่วยคลายข้อสงสัย “ภัตตาคารนี้บอสเผยเพิ่ง
เปิดค่ะ ไม่ใช่แค่ในจิงโจวนะคะ แต่ภัตตาคารแบบนี้ แม้แต่ในปักกิ่งกับเซี่ยงไฮ้ก็
น่าจะหายาก”
บทที่ 225 ทัศนคติของบอสเผย

“บอสเผยเป็นคนเปิดภัตตาคารนี้เหรอคะ” หลินหวานถามด้วยความตกใจ
เลขาซินพยักหน้า “ใช่ค่ะ เราเป็นลูกค้ากลุ่มแรกของครัวส่วนตัวหมิงหยุน”
เธอชี้ไปที่จานอาหารบนโต๊ะ หน้าตาของมันไม่ได้ดูโดดเด่นนัก คนธรรมดา
ทั่วไปอาจจะเดาไม่ถูกว่าจานนี้แพงแค่ไหน
“อาหารประมาณเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของที่นี่ต้องนำเข้า หากินในจิงโจวไม่ได้
ต้องส่งตรงด้วยระบบจัดส่งพิเศษ ถ้าจะจัดงานเลี้ยงแบบนี้ต้องเตรียมการล่วงหน้า
อย่างน้อยสองถึงสามวันเลยค่ะ”
หลินหวานครุ่นคิดเรื่องนี้ “บอสเผยตั้งใจจะใช้ที่นี่เป็นที่รับรองระดับสูง
สำหรับหุ้นส่วนธุรกิจเหรอคะ”
ตอนนี้เถิงต๋ากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ยังไงก็เลี่ยงการพูดคุยเจรจากับเจ้าของ
บริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ ไม่ได้
หลินหวานรู้สึกว่าภัตตาคารทั่วไปน่าจะไม่ได้มาตรฐานตามที่บอสเผยต้องการ
แล้ว บอสเลยตัดสินใจเปิดภัตตาคารของตัวเองขึ้นมา
เลขาซินส่ายหน้า “ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ดูเหมือนบอสเผยจะไม่มีแผน
จัดงานเลี้ยงรับรองลูกค้า แต่งานกินเลี้ยงของบริษัทจะจัดที่นี่ทั้งหมดค่ะ”
หลินหวานอึ้งไป
หรือว่าภัตตาคารส่วนตัวนี้จะมีไว้เพื่อกินเลี้ยงภายในบริษัท
เธอมองว่าภัตตาคารนี้น่าจะเป็นภัตตาคารที่ดีที่สุดในเมืองจิงโจว นอกจาก
อาหารจะอร่อยแล้ว บรรยากาศและการบริการก็ไร้ที่ติ เหมาะสำหรับใช้เป็น
สถานที่จัดงานเลี้ยงส่วนตัวรับรองลูกค้ารายใหญ่หรือเจ้าของบริษัทต่างๆ
ใช้ภัตตาคารระดับนี้เป็นที่จัดงานเลี้ยงภายในบริษัทเนี่ยนะ
หรูเกินไปแล้ว!
อีกอย่างงานเลี้ยงทุกครั้งบอสเผยเป็นคนออกเงินเองหมด จินตนาการไม่ได้
เลยว่าบอสเผยหมดเงินไปกับสวัสดิการพนักงานเท่าไหร่
แต่ปกติบอสเผยก็เป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว
หลินหวานรู้สึกตื้นตันใจขึ้นมา บอสเผยช่างเป็นคนที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ของ
ตัวเองจริงๆ
ถึงจะดูแลพนักงานเป็นอย่างดี เกินกว่ามาตรฐานของบริษัทหลายๆ แห่ง แต่
บอสก็ยังไม่พอใจ อยากจะพัฒนาสวัสดิการขึ้นไปอีกอยู่ตลอด!
ตอนนั้นเองหลินหวานก็เกิดความรู้สึกอันแรงกล้า อยากจะช่วงแบ่งเบาภาระ
บอสเผย
หลินหวานรู้ว่าการเป็นเจ้านายคนมันเหนื่อยขนาดไหน
แน่นอนว่าเจ้านายแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนคาบช้อนเงินช้อนทองมา
เกิด กินอยู่สบายตั้งแต่ยังเด็ก ทุกการตัดสินใจจะมีมืออาชีพคอยให้คำแนะนำ
สถานะครอบครัวและเส้นสายที่มีทำให้มีเงินทุนใช้จ่ายและโอกาสลงทุนล้นเหลือ
เจ้านายประเภทนี้ไม่ได้เหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด
แต่บอสเผยไม่ใช่เจ้านายประเภทนี้ บอสเป็นคนธรรมดาที่สร้างบริษัทมาจาก
ศูนย์
บริษัทเปิดใหม่อย่างเถิงต๋ามีความกดดันเรื่องการหารายได้สูง ถึงจะจัดการได้
ง่ายกว่าด้วยขนาดของบริษัท แต่ความสามารถในการแบกรับความเสี่ยงก็ถือว่า
ด้อยกว่า หากเกิดข้อผิดพลาดอะไร บริษัทอาจจะเจ๊งเอาได้
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เจ้าของบริษัทประเภทที่ว่าจึงมักจะระมัดระวังเรื่อง
การใช้จ่ายเงินและคอยคิดหาทางลดต้นทุนอยู่ตลอด
แน่นอนว่าการลดต้นทุนเป็นการกระทำที่ถูกต้อง แต่เจ้าของบริษัทหลายคน
กลับเลือกใช้เหตุผลนี้เป็นข้ออ้างในการกดขี่ พนักงานจนเกินเลยไปถึงขั้นใช้ช่อง
โหว่ทางกฎหมาย ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดมหันต์
เทียบกับคนเหล่านี้แล้ว บอสเผยถือได้ว่าเป็นต้นแบบ!
หลินหวานอยากช่วยบอสเผยมาก ตอนนั้นเธอเลยโทรหาหลินโจวผู้เป็นพี่ชาย
เพื่อขอลดค่าเช่าตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว
แต่หลินหวานก็คิดหาทางอื่นที่จะช่วยบอสเผยไม่ออกอีก
เนื่องจากเถิงต๋ายังเป็นบริษ ัทขนาดเล็ก โปรเจ็กต์หลายๆ อย่างจึงไม่ได้
เกี่ยวข้องหรือมีการร่วมมือกับเฉินฮว่าคอร์เปอเรชัน
อีกอย่างตอนที่บอสเผยส่งเธอไปฉางหยางเกมส์ บอสบอกว่าอยากให้เธอใช้
ความสามารถของตัวเองในการจัดการเรื่องต่างๆ อย่าเอาแต่พึ่งพาครอบครัว
ดังนั้นหลินหวานจึงคิดอยู่นานแล้วเลือกที่จะล้มเลิกความตั้งใจเรื่องนี้ไป
“รอให้ถึงโอกาสเหมาะๆ ค่อยช่วยบอสอีกดีกว่า
“หรือไม่ก็…ฉันอาจจะช่วยบอสเผยได้ด้วยความสามารถของตัวเอง!”
หลินหวานตัดสินใจได้แล้ว

งานเลี้ยงเป็นไปอย่างคึกคัก
หม่าอี้ฉวิน ลู่หมิงเหลียง เปาซวี่ หลี่หย่าต๋า และคนอื่นๆ กำลังคุยกันเรื่องเกม
กลับใจคือฟากฝั่ง
เปาซวี่จะได้ออกเดินทางทันทีหลังจากวีซ่าได้รับการอนุมัติ เขาจึงใช้โอกาสนี้
อธิบายสิ่งที่ตัวเองรู้เกี่ยวกับเกมกลับใจคือฟากฝั่งให้พวกหลี่หย่าต๋าฟัง
โชคดีที่รางวัลเที่ยวฟรีมีระยะเวลาแค่หนึ่งเดือน พอเปาซวี่กลับมาตอนกลาง
เดือนกันยายนก็ยังทันช่วงพัฒนาเกมขั้นสุดท้ายอยู่
ลู่หมิงเหลียงส่งต่องานต่างๆ ให้หลี่หย่าต๋าและอธิบายจุดสำคัญในฐานะ
หัวหน้าฝ่ายวางแผน
จูซิงอันเองก็อยู่ในวงสนทนาด้วย ในฐานะที่เป็นนักเขียนเว็บโนเวลของเกม
กลับใจคือฟากฝั่งและหัวหน้าบรรณาธิการเว็บจงเตี่ยนจงเหวิน เขาได้ร่วมพูดคุย
เรื่องพล็อตเนื้อเรื่องอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะนั่งฟังลู่หมิงเหลียง หม่าอี้ฉวิน และคน
อื่นๆ คุยกันเรื่องกระบวนการพัฒนาเกมอย่างตั้งใจมากกว่า

เผยเชียนถือแก้วเดินไปรอบๆ ด้วยความพึงพอใจ
ทุกคนกินกันเต็มที่มาก เยี่ยมจริงๆ!
เสียดายที่จัดงานเลี้ยงบ่อยๆ ไม่ได้เพราะกฎของระบบ
เหมือนอย่างทุกครั้ง งานเลี้ยงหรูหราแบบนี้จะต้องมีเหตุผลที่เหมาะสมในการ
จัด จึงไม่สามารถจัดได้บ่อยๆ
แต่เผยเชียนก็รู้สึกว่างานเลี้ยงครั้งนี้มาตรฐานสูงกว่าครั้งก่อนๆ
หมายความว่าเมื่อเถิงต๋าเติบโตขึ้นและมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น ขอบเขตค่าใช้จ่ายที่
ระบบกำหนดไว้ก็จะเพิ่มตามไปด้วย
“ซื้อรถเพิ่มสักคันสองคันได้มั้ยนะ
“จะเกินไปมั้ยถ้าจะเช่าที่จอดรถในตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว แล้วซื้อรถสักสอง
สามคันไว้ใช้งานในบริษัทพร้อมกับจ้างคนขับรถด้วย”
เผยเชียนทดสอบระบบดูแล้วพบว่ากฎไม่ได้เข้มงวดเหมือนแต่ก่อน
การซื้อรถมีข้อจำกัดบ้าง เช่น การซื้อรถสปอร์ตจะต้องมีเหตุ ผลที่เหมาะสม
รองรับ ส่วนสปอร์ตหรูเวอร์ชันลิมิเต็ดคืออย่าได้หวัง
เขาสามารถซื้อได้แค่พวกรถที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ โดยมีข้อจำกัดเรื่องราคาและ
จำนวนด้วย
ตอนนี้เขาซื้อรถได้ไม่เกินหกคัน ราคารวมห้ามเกินสี่ล้านหยวน
รถที่ราคาเกินหนึ่งล้านหยวนจะมีสถานะเหมือนวิลล่าที่หมิงหยุน นั่นคือระบบ
จะนับเป็นสินทรัพย์ถาวรที่จะมีผลต่อการสรุปบัญชี
กลับกันรถที่ราคาต่ำกว่าหนึ่งล้านหยวนจะไม่นับเป็นสินทรัพย์ถาวร ซึ่งถือ
เป็นข่าวดีทีเดียว
เผยเชียนตั้งใจจะซื้อรถเจ็ดที่นั่งหนึ่งคันกับรถทั่วไปอีกสองคัน เขาจะไม่ซื้อคัน
ที่แพงมาก โดยจะเลือกราคาที่อยู่ในช่วงสามถึงสี่แสนหยวน
เขาวางแผนไว้ว่าจะใช้เงินกับตรงนี้สักหนึ่งล้านหยวน
เผยเชียนสามารถซื้อรถได้อีกสามคัน ราคารวมประมาณสามล้าน แต่เขาตั้งใจ
จะเก็บเรื่องนี้ไว้ก่อน รอให้ถึงช่วงวันปิดบัญชี ถ้าต้องผลาญเงิ นขึ้นมากะทันหัน
เขาก็สามารถซื้อรถคันละเก้าแสนสามคันและผลาญเงินได้เกือบสามล้านทันที
เผยเชียนครุ่นคิดเรื่องนี้ระหว่างไล่กระตุ้นให้ทุกคนกินกันให้อิ่มหนำสำราญ
สำหรับพนักงานที่มาจากธุรกิจซึ่งกำลังขาดทุนอย่างต่อเนื่อง เผยเชียนก็ไม่ลืม
ที่จะเข้าไปให้กำลังใจ โดยบอกพวกเขาว่าทำกำไรไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ให้คิดถึงเรื่อง
ชื่อเสียงบริษัทก่อน
หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อชนแก้วกับเผยเชียนเสร็จก็นั่งกินกันต่อ จูเสี่ยวเช่อ
รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
“แปลกจังครับ บอสเผยดูห่างเหินกับเราไม่เหมือนครั้งก่อน”
ตอนสารคดี ข าดทุ น รอบก่ อ น เผยเชี ย นปลอบใจทั ้ ง สองอย่ า งอบอุ ่ น ให้
ความรู้สึกเหมือนคุยกับญาติสนิท
แต่วันนี้บอสเผยแค่ทักทายพวกเขาเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปคุยกับคนอื่นต่อ
หวงซื่อปั๋วไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เท่าไหร่ เขาเคี้ยวล็อบสเตอร์แล้วยิ้มออกมาอย่าง
มั่นใจ “แสดงว่าเราเลือกเดินถูกทางแล้ว”
จูเสี่ยวเช่ออึ้งไป “หมายความว่ายังไงครับ”
“ไม่เห็นเหรอว่าบอสเผยจะใส่ใจคนที่ไปได้ไม่สวยหรือไม่ก็พวกที่กำลังขาดทุน
หนัก” หวงซื่อปั๋วอธิบาย
จูเสี่ยวเช่อคิดดูแล้วก็พบว่าจริงอย่างที่อีกฝ่ายพูด
ตอนบอสเผยคุยกับพนักงานของจงเตี่ยนจงเหวินกับนี่เฟิงโลจิสติกส์ บอสคุย
อยู่นาน แถมยังคุยอย่างออกรสออกชาติ
กลับกันบอสไม่ได้สนใจพวกที่ทำงานกับธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างเฟ
ยหวงสตูดิโอกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู บอสมาคุยด้วยนิดหน่อยแล้วก็ไป
หวงซื่อปั๋วผุดยิ้ม “บอสเผยเป็นแบบนี้มาตลอด บอสจะใส่ใจคนที่กำลังเจอ
ปัญหาติดขัดอยู่ เพื่อให้พวกเขาสบายใจ
“ส่วนธุรกิจที่กิจการราบรื่น มีแววประสบความสำเร็จแน่นอน บอสเผยจะไม่
ค่อยใส่ใจเท่าไหร่
“หมายความว่าพวกเรามาถูกทางแล้ว!
“บอสเผยอนุมัติแผนเราแล้ว ยังจะต้องกังวลอะไรอีก ขอแค่พวกเราทำเต็มที่
ยังไงก็ต้องสร้างชื่อได้แน่!”
จูเสี่ยวเช่อคิดตามแล้วพยักหน้า “อ๋อ เป็นแบบนี้นี่เอง!”
บทที่ 226 เจอบอสหลี่อีกครั้ง

หลังจบงานเลี้ยง ทุกคนก็กลับออกจากครัวส่วนตัวหมิงหยุนแล้วกล่าวลากัน
และกัน
แววตาของเปาซวี่เต็มไปด้วยความกังวลใจ เขารู้สึกหดหู่ที่จะต้องไปเที่ยว
ตะลอนคนเดียวเป็นเวลาหนึ่งเดือน
หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
วันพรุ่งนี้พวกเขาต้องกลับไปทำงานหนักกันเหมือนเดิม
เผยเชียนรู้สึกไม่สบายใจเมื่อได้เห็นเหล่าหัวหน้าโปรเจ็กต์ต่างๆ ทั้งที่ไปได้สวย
และไม่สวย ต่างดูฮึกเหิมขึ้นหลังจบงานเลี้ยง
ตัวอย่างเช่นหม่าอี้ฉวินที่คุมเว็บจงเตี่ยนจงเหวิน ทางเว็บยังขาดทุนอย่าง
ต่อเนื่อง แต่หลังจากบอสเผยเข้าไปปลอบใจ เขาก็กลับมามีแรงใจอีกครั้ง ก็เข้าใจ
ได้ว่าทำไมถึงดูฮึกเหิม
แต่ทำไมหวงซื่อปั๋วก็คึกขึ้นมากับคนอื่นด้วยล่ะ
เผยเชียนไม่ค่อยเข้าใจ ฉันไม่ได้คุยอะไรกับพวกนั้นด้วยซ้ำ
หรือจะเป็นเพราะพลังอาหารหรู
ไม่นานพนักงานก็ทยอยกลับออกไปกันหมด
เผยเชียนหันมองนาฬิกา ตอนนี้สองทุ่มแล้วเขาคุมเวลางานเลี้ยงได้ค่อนข้างดี
ทีเดียว
พนักงานในครัวส่วนตัวหมิงหยุนกำลังเก็บกวาดทำความสะอาดร้าน ดูยุ่งกัน
ใหญ่
แต่ก็แค่ตอนนี้แหละ เพราะครัวส่วนตัวหมิงหยุนน่าจะไม่มีลูกค้าเข้าร้านไปอีก
นาน
ภัตตาคารแห่งนี้ตั้งอยู่ในทำเลลึกลับห่างไกลผู้คน คนทั่วไปน่าจะหาร้านเจอ
ได้ยาก ถึงจะบังเอิญมาเจอเข้าก็ไม่น่าจะสู้ราคาไหว
แน่นอนว่าเผยเชียนคงเก็บข่าวเรื่องนี้ไว้ได้ไม่นานนัก เพราะเขามีพนักงานใน
สังกัดเยอะ พวกที่ได้ลิ้มรสอาหารดีๆ คืนนี้น่าจะกลับไปอวดให้ครอบครัวกับ
เพื่อนๆ ฟัง
แต่ถึงจะอวดยังไง ภัตตาคารนี้ก็ตั้งอยู่ไกลแถมยังแพงด้วย คนส่วนใหญ่ไม่
น่าจะเอื้อมถึง
ถึงข่าวจะกระจายไปจนทำให้พวกไฮโซแวะมาที่ร้านก็ไม่เป็นไร ขอแค่รักษา
จำนวนลูกค้าให้น้อยๆ ได้ ครัวส่วนตัวหมิงหยุนก็จะขาดทุนไปได้เรื่อยๆ
แน่นอนเผยเชียนยังไม่ลืมว่าเป้าหมายหลักของครัวส่วนตัวหมิงหยุนคือการ
ผลาญเงินให้ได้เยอะๆ และเลี้ยงอาหารดีๆ ให้พนักงาน
ดังนั้นเผยเชียนจึงจองภัตตาคารไว้ล่วงหน้าสำหรับงานเลี้ยงครั้งต่อไป
ตามกฎปัจจุบันของระบบ เขาสามารถจัดงานเลี้ยงพนักงานได้หนึ่งครั้งทุกๆ
สองเดือน
ดูเหมือนว่าจำนวนครั้งและมาตรฐานการจัดงานเลี้ยงจะขึ้นอยู่กับขนาดของ
บริษัทและสภาพการเงิน
แน่นอนว่าเขาก็ต้องมีเหตุผลที่เหมาะสมในการจัดงานเลี้ยงให้พนักงาน
สำหรับเผยเชียน ตอนนี้เขาสามารถหาเหตุผลได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นฉลอง
การวางขายเกม ฉลองผลงานดี เ ด่ น ของแผนกต่ า งๆ ตั ้ ง แผนกใหม่ ต้ อ นรั บ
พนักงาน และอื่นๆ
ดังนั้นเผยเชียนจึงจองครัวส่วนตัวหมิงหยุนไว้สำหรับงานเลี้ยงฉลองในอนาคต
ตามโควตาหนึ่งครั้งต่อสองเดือนของระบบ
เขาเลือกวันที่ 20 ของทุกเดือนเลขคี่เป็นวันจัดงานเลี้ยง ซึ่งใกล้กับช่วงปลาย
เดือน จะได้ช่วยเพิ่มโอกาสในการผลาญเงินให้กับเผยเชียน
นอกจากนั้นเผยเชียนยังจองห้องส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดไว้ทุกวันอาทิตย์แรกและ
วันอาทิตย์ที่สามของแต่ละเดือน เผื่อไว้รับรองแขกถ้าต้องเจรจาธุรกิจ
การจองเหล่านี้ถูกจัดให้มีความสำคัญที่สุด ไม่สามารถจองทับได้จนกว่าเผย
เชียนจะยกเลิก
ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อกันการจองซ้อน ถ้าพวกไฮโซเกิดจองครัวส่วนตัวหมิงหยุน
ติดต่อกันสองสามสัปดาห์แล้วเผยเชียนที่เป็นเจ้าของภัตตาคารไม่สามารถจองร้าน
ได้ก็คงจะแปลกน่าดู
ถึงเผยเชียนจะไม่คิดว่าครั วส่วนตัวหมิงหยุนจะเป็นที่นิยม แต่เขาก็ต้องระวัง
ตัวและเตรียมการเผื่อไว้
นอกจากนั้นเขายังสามารถจองร้านตอนไหนก็ได้ถ้าเกิดต้องรับรองลูกค้าเพื่อ
เจรจาธุรกิจกะทันหัน ถ้ามีที่ว่างในร้านและมีเวลาเตรียมวัตถุดิบล่วงหน้าสองถึง
สามวัน
หลินชั่นหรงเดินอยู่ข้างเผยเชียน “เป็นยังไงบ้างครับบอสเผย อาหารถูกปาก
ไหมครับ”
เผยเชียนพยักหน้า “อร่อยมาก ผมพอใจมาก!”
เอาเข้าจริงเขาเองก็บอกไม่ได้ว่าอาหารวันนี้ดีแค่ไหน เพราะเขาไม่เคยกิน
อาหารแบบนี้ที่ร้านไหนมาก่อน จึงไม่มีอะไรให้เปรียบเทียบ
แต่พอเห็นสีหน้าของหลินหวานกับเลขาซิน เขาก็พอจะเดาได้ว่าอาหารน่าจะ
ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว
สิ่งที่เผยเชียนต้องการจากหลินชั่นหรงนั้นเรียบง่ายมาก ขอแค่เขาเป็นเชฟที่ดี
และเสิร์ฟอาหารดีๆ ตอนพวกเขามากินเลี้ยง เผยเชียนก็พอใจแล้ว
จะดีมากถ้าเชฟหลินไม่รู้เรื่องการจัดโปรโมชัน การโฆษณาร้าน และอื่นๆ
“ตอนนี้ทุกอย่างไปได้สวย รักษาสภาพนี้ไว้
“จำไว้ว่าเป้าหมายหลักคือให้ลูกค้าได้สัมผัสอาหารและการบริการที่ดี เรื่อง
อื่นไม่ต้องเป็นห่วง
“ทำเหมือนตอนคุณทำงานที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเลย”
เผยเชียนตัดสินใจบอกใบ้ไป เพราะตอนหลินชั่นหรงเป็นผู้ จัดการสาขาร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยู เขาทำอะไรไม่สำเร็จเลย เผยเชียนหวังให้อีกฝ่ายเป็นแบบนั้น
ไปเรื่อยๆ
หลินชั่นหรงคิดว่าเผยเชียนให้คำแนะนำตามปกติ ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง เขาจึง
พยักหน้าอย่างตื่นเต้น “ได้ครับบอสเผย ผมจะพยายามเต็มที่เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้า
ของเราจะได้รับประสบการณ์การใช้บริการที่ดีที่สุด!”
หลังจากกินดื่มกันเต็มที่ เผยเชียนกับหม่าหยางก็เดินออกจากครัวส่วนตัวหมิง
หยุนแล้วมุ่งหน้าไปร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูที่อยู่ใกล้ๆ
บรรยากาศรอบๆ เงียบมาก อากาศไม่ได้หนาวเกินไป เหมาะกับการเดินย่อย
อาหาร
ระหว่างทางทั้งสองเดินผ่านจุดบริการนี่เฟิงและบาร์ในละแวกนั้น
ตอนที่เดินผ่านหน้าทางเข้าบาร์ คู่หนุ่มสาวโผล่มาลากตัวพวกเขาเข้าไปด้าน
ใน ทั้งสองดูคึกมาก
เผยเชียนกับหม่าหยางพยายามปฏิเสธสองคนนั้นเต็มที่แล้วหนีออกมา
พวกเขาเพิ่งออกมาจากครัวส่วนตัวหมิงหยุน ในท้องอัดแน่นไปด้วยอาหาร
และไวน์เลิศรส ทำไมจะต้องมากินเหล้าราคาถูกในที่แบบนี้ด้วย
เผยเชียนอยากไปนั่งเล่นที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูแล้วกลับไปนอนฝันหวานที่
บ้าน เขาไม่ได้สนใจที่ที่คนเยอะเสียงดังวุ่นวายแบบนี้
แต่ระหว่างนั้นเผยเชียนก็แอบส่องด้านในร้านไปด้วย สถานการณ์ดูไม่สู้ดี
เท่าไหร่ ถึงจะมีโปรโมชันเปิดร้าน แต่ก็ไม่มีลูกค้าเลยสักคน
นักร้องประจำพยายามร้องเพลงสุดพลังเพื่อสร้างบรรยากาศ แต่ก็ดูจะทำได้
ไม่สำเร็จ
ไม่แปลกเลยว่าทำไมเหล่าพนักงานถึงออกมาเรียกลูกค้าอยู่หน้าร้าน
เผยเชียนรู้สึกสงสารบอสหลี่ขึ้นมา
ตั้งแต่รู้เรื่องแบรนด์ร้านอินเทอร์เน็ตที่ยอมให้บริษั ทลงทุนฟู่หุยร่วมลงทุนด้วย
เผยเชียนก็คิดว่าบอสหลี่น่าจะอยู่เบื้องหลังร้านรวงที่มาเปิดในละแวกนี้
เผยเชียนซาบซึ้งที่บอสหลี่ยอมทุกข์เพื่อประโยชน์ของคนอื่น แต่ถ้าปล่อยให้
เป็นแบบนี้ต่อไป บอสหลี่น่าจะขาดทุนหนัก
ทำไมบอสหลี่ถึงได้ติดอกติดใจฉันนักนะ

พอถึงหน้าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เผยเชียนกับหม่าหยางก็เปิดประตูเข้าไป
ด้านใน
เผยเชียนชะงักไปเมื่อสังเกตเห็นใครคุ้นๆ นั่งดื่มอยู่ที่มุมหนึ่ง
นั่นบอสหลี่หรือเปล่า
บังเอิญจัง!
ผมเพิ่งนึกถึงคุณไปตอนที่เดินผ่านหน้าบาร์คุณ
หลี่สือเห็นเผยเชียนแล้วก็ชะงักไปเหมือนกัน
เผยเชียนไม่ได้มาที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหมิงหยุนวิลล่ามาพักใหญ่
หลี่สือแค่มาจิบไวน์นิดหน่อย ไม่ได้คิดว่าเผยเชียนจะมาร้านวันนี้
พอบังเอิญมาเจอกันแบบนี้ก็ดูกระอักกระอ่วนอยู่หน่อยๆ
แต่เผยเชียนดูจะไม่ได้รู้สึกอะไร ยังไงบอสหลี่ก็เป็นกัลยาณมิตรไม่กี่คนที่เขามี!
เผยเชียนนั่งลงตรงข้ามหลี่สือแล้วส่งยิ้มให้ “บอสหลี่ มาสอดแนมศัตรูถึงนี่เลย
เหรอครับ”
เขาพูดเล่นๆ แต่ดูเหมือนหลี่สือจะเข้าใจผิดไป
หลี่สือคิดในใจ “บอสเผยรู้จริงๆ ด้วยว่าฉันอยู่เบื้องหลังร้านอินเทอร์เน็ตซิ
งเล่อและร้านอื่นๆ ในละแวกนี้…
“แต่ก็ไม่แปลก เพราะยังไงอีกฝ่ายก็คือบอสเผย…”
จากเรื่องที่เกิดขึ้นกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลัก หลี่สือก็เข้าใจเผยเชียน
มากขึ้น จึงไม่กล้าประเมินอีกฝ่ายต่ำไปอีก
พอบอสเผยพูดออกมาตรงๆ แบบนี้ หลี่สือก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก
เพราะหลี่สือเป็นคนลงทุนในร้านอินเทอร์เน็ตซิงเล่อและร้านอื่นๆ ในละแวก
หมิงหยุนวิลล่า เห็นได้ชัดว่าเป้าหมายของเขาก็คือร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
หลี่สือมั่นใจว่าเผยเชียนยังไม่มีหลักฐานได้แต่สันนิษฐานเอา แต่ทั้งสองเป็นคน
ฉลาด จึงไม่มีเหตุผลอะไรให้ปฏิเสธและแกล้งโง่
หลี่สือยิ้มตอบ “ไม่ต้องสนใจผมหรอกครับบอสเผย ผมก็ทำธุรกิจตามปกติ
แหละ
“อีกอย่างผมไม่ได้คิดจะโจมตีร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูของคุณด้วย ผมแค่ชื่นชม
วิสัยทัศน์ของคุณและอยากหาเงินให้ตัวเอง”
บทที่ 227 เชิญจางจู่ถิงมาจิงโจว

พอได้ยินหลี่สือพูด เผยเชียนก็เข้าใจทันที
คนที่ติดสินบนพนักงานร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูคือบอสหลี่
ข้อมูลปลอมของเผยเชียนทำให้หลี่สือติดกับ
ครั้งนี้หลี่สือไม่ได้มากดดันเพื่อขอร่วมลงทุนกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู แต่
กำลังวางเดิมพันว่าการลงทุนของเผยเชียนจะประสบความสำเร็จ แล้วเขาก็จะ
พลอยได้กำไรไปด้วย
หลังจากร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักโด่งดังขึ้นมาก็มีลูกค้าแวะเวียนไป
ละแวกนั้นเยอะขึ้น ถึงร้านต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียงจะมีลูกค้าไม่เยอะเท่าร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยู แต่พวกเขาก็ยังได้กำไรจากเรื่องนี้อยู่ดี
แม้แต่บอสหลี่ก็ยังได้กำไรไปด้วย ถึงจะไม่มากนัก
หากคิดว่าบอสหลี่จะหาเงินได้มากกว่ านี้ถ้าไปลงทุนในพื้นที่อื่น ก็เท่ากับว่า
เขาขาดทุนที่เลือกทำแบบนี้
ถึงบอสหลี่จะลงทุนกับร้านต่างๆ ในละแวกด้วยการช่วยจัดโปรโมชัน แต่ก็
ไม่ได้ทุ่มไปเยอะเท่าไหร่ ค่าจัดโปรโมชันไม่ได้สูงมาก บอสหลี่ที่ตั้งความหวังไว้สูง
จึงไม่ได้พอใจนัก
ครั้งนี้ก็ไม่ได้ต่างกันมาก
แถวหมิงหยุนวิลล่ามีคนสัญจรผ่านไปมาน้อยมาก ทำให้ไม่มีใครอยากเช่าร้าน
ในละแวกนี้ หมายความว่าบอสหลี่ก็ไม่ต้องเสียเงินลงทุนสูง
ถ้าหมิงหยุนวิลล่าเป็นที่นิยมขึ้นมาเหมือนที่บอสเผยบอก ร้านพวกนี้ก็จะ
กลายเป็นบ่อเงินบ่อทอง ใครมาจับก็ได้กำไรหมด ถึงจะขายต่อทันทีก็ยังได้กำไร
พอถึงตอนนั้นกำไรที่บอสหลี่ทำได้ก็ไม่น่าจะเรียกว่าน้อยอีก
แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับว่าหมิงหยุนวิลล่าจะเป็นที่นิยมหรือเปล่า
เผยเชียนอดรู้สึกทึ่งขึ้นมาไม่ได้
บอสหลี่ หลักการของคุณสมบูรณ์แบบมาก แผนการต่างๆ ก็ไร้ที่ติ แต่…คุณ
พลาดจุดสำคัญไปอย่างหนึ่ง…
แต่ผมก็โทษบอสหลี่ไม่ได้หรอก ใครจะไปคิดกันเล่าว่าในโลกนี้จะมีระบบที่
เปลี่ยนยอดขาดทุนให้กลายเป็นกำไรได้
เผยเชียนรู้สึกสงสารขึ้นมาหน่อยๆ
ถ้าเป็นคนอื่น เผยเชียนคงจะไม่ใจดีด้วย
แต่บอสหลี่ผู้ไฟแรงเคยโดนเผยเชียนตลบหลังมาแล้วครั้งหนึ่ง
จะจับแกะมาฝืนไถขนได้ยังไง เกิดขนเกลี้ยงตัวก็แย่เลย
ดังนั้นเผยเชียนจึงตั้งใจจะบอกใบ้บอสหลี่ว่าไม่ควรลงทุนในละแวกนี้เยอะ
เกินไป
จนถึงตอนนี้บอสหลี่ลงทุนกับแบรนด์ร้านอินเทอร์เน็ต บาร์ คาเฟ่ และคาเฟ่
บอร์ดเกม ซึ่งช่วยเผยเชียนได้มากทีเดียว
ถ้าบอสหลี่วางแผนจะทุ่มเงินลงทุนเพิ่มล่ะ
จริงๆ เผยเชียนก็เริ่มเป็นห่วง ถ้าเขาไถขนบอสหลี่จนเกลี้ยง ความสัมพันธ์
ของพวกเขาก็อาจพัฒนาต่อไปไม่ได้ในอนาคต
ถ้าช่วยลดยอดขาดทุนที่จะเกิดขึ้นกับบอสหลี่ได้สักนิดหน่อยก็ถือว่าเขาใจบุญ
มากแล้ว
คิดได้แบบนั้น เผยเชียนก็ตัดสินใจบอกใบ้บอสหลี่สักเล็กน้อย
เขายกค็อกเทลขึ้นจิบแล้ว พูดด้วยน้ำเสียงจริงใจที่สุด “บอสหลี่ ผมจะบอก
ความจริงกับคุณ
“ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักดังขึ้นมาได้รอบที่แล้วเป็นเพราะโชคช่วย
ด้วยส่วนหนึ่ง แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้สาขาหมิงหยุนวิลล่าประสบ
ความสำเร็จได้เหมือนสาขาหลัก
“โอกาสที่ละแวกนี้จะเป็นที่นิยมได้มีไม่มาก ผมแค่อยากลองดูเฉยๆ…”
เผยเชียนบอกใบ้ไปมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
หลี่สือยิ้มเหมือนจะสื่อว่า ‘ผมเข้าใจดี’ “บอสเผยถ่อมตัวเกินไปแล้วครับ
“คุณชอบพูดว่าสำเร็จได้เพราะโชคช่วย ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ คนธรรมดาจะเอา
แต่รอให้โชคช่วย ส่วนคนเก่งจะสร้างโชคให้กับตัวเอง ผมมองว่าบอสเผยเป็นคนที่
สร้างโชคให้ตัวเองได้จริงๆ
“เท่าที่ผมรู้มา บอสเผยลงทุนในละแวกนี้ไปเยอะทีเดียว
“นอกจากร้ า นอิ น เทอร์ เ น็ ต แล้ ว ก็ ย ั ง มี จ ุ ด บริ ก ารนี ่ เ ฟิ ง แถมก่ อ นหน้ า นี้
บอสหม่าเองก็เคยสำรวจสภาพธุรกิจในละแวกนี้ไปรอบหนึ่ง
“ถ้าคิดว่าทำเลตรงนี้ไปไม่รอด คุณคงไม่ดั้นด้นทำมาขนาดนี้
“ผมเข้าใจว่าคุณหวังดี แต่คุณประเมินผมต่ำไป
“การลงทุนมีความเสี่ยง ผมอยู่ในแวดวงการลงทุนมานานและเข้าใจเรื่องนี้ดี”
โอเค ที่พูดไปไม่มีประโยชน์เลย
เผยเชียนได้แต่รู้สึกเศร้าอยู่ในใจ โอเค ถ้าบอสหลี่รู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ผมก็
จะไม่พูดอะไรอีก ได้แต่ขอให้คุณโชคดีก็แล้วกัน
โชคดีที่บอสหลี่ไม่รู้ว่าเผยเชียนซื้อวิลล่าใกล้ๆ กันนี้มาเปิดเป็นภัตตาคาร
ส่วนตัว ไม่อย่างนั้นเขาคงยึดมั่นในความคิดของตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมแน่
เผยเชียนยกมือเรียกพนักงานใกล้ๆ “ถ้าบอสหลี่มาอีก ไม่ต้องเก็บเงินค่า
เครื่องดื่มนะ”
บอสหลี่ช่วยผมมามาก แต่ผมไม่เคยได้ตอบแทนบุญคุณเลย ที่ทำได้ก็แค่เลี้ยง
เครื่องดื่มคุณ
หลี่สือรู้สึกอบอุ่นหัวใจ
จริงๆ เขาก็ไม่ได้คิดมากเรื่องจ่ายเงินค่าเครื่องดื่ม แต่การที่เผยเชียนไม่เก็บเงิน
เขาก็แสดงให้เห็นถึงความจริงใจที่มีให้!
มิตรภาพนี้ประเมินค่าไม่ได้เลย
หลี่สือเอ่ยชมเผยเชียนในใจ ถึงบอสเผยจะยังเด็ก แต่หัวใสเรื่องการงานมาก
หลี่สือยกแก้วขึ้น “ขอบคุณครับบอสเผย หวังว่าในอนาคตเราจะได้กำไรงาม
กันทั้งคู่!”
เผยเชียนยกแก้วขึ้นชน เขายิ้มรับคำสาปแช่งของบอสหลี่พร้อมพยายามข่มใจ
ไม่ให้ด่ากลับ


วันที่ 11 สิงหาคม
ฉางหยางเกมส์
“ผู้อำนวยการหลินครับ เรา…จะเลือกคนนี้เหรอครับ ” เยว่จือโจวถามด้วย
ความไม่แน่ใจ
“ใช่ค่ะ เอาคนนี้แหละ” หลินหวานตอบกลับอย่างลังเล แต่เธอก็ไม่มีตัวเลือก
อื่นแล้ว
พอได้แผนโฆษณาจากบอสเผยมา ฉางหยางเกมส์ก็ดำเนินงานต่อตามแผนที่
ได้ พวกเขาติดต่อดาราชาวฮ่องกงไปหลายคน ไม่ว่าจะดังหรือเคยดังก็ติดต่อไป
หมด
แต่ก็เจรจาเรื่องราคาได้ยาก
ดาราฮ่องกงที่ดังหน่อยเรียกราคาอย่างต่ำห้ าล้านหยวนต่อปี ที่ถูกลงมาจะอยู่
ที่สองถึงสามล้านหยวน
ทุนสร้างเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดอยู่ที่ประมาณห้าล้านหยวนเอง
บอสเผยวางงบสำหรับทำการตลาดไว้ที่ประมาณสามล้านหยวน ตอนแรก
เยว่จือโจวกับหวังเสี่ยวปินคิดว่าพวกเขาคงจะใช้เงินก้อนนี้ไม่หมดแน่ๆ ต่อให้ทุ่ม
กันสุดๆ แล้วก็ตาม แต่พอได้ติดต่อว่าจ้างดาราฮ่องกงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ พวกเขา
ก็ตระหนักว่าตัวเองยังขาดประสบการณ์อีกมาก…
พวกเขาเคยทำโฆษณาเกมเพลงรบโลหิตมาก่อน แต่ไม่ได้จ้างดารา ค่าโฆษณา
เต็มที่อยู่ที่หลักแสน
พอเอาจำนวนมาเทียบกัน เยว่จือโจวก็รู้สึกว่าครั้งนี้พวกเขาใช้เงินเยอะเกินไป!
หลินหวานเองก็ไม่พอใจกับราคาที่ดาราเรียกมา
เธอคิดว่าความคุ้มค่าต่อราคานั้นอยู่ในระดับต่ำ
ถึงการโฆษณาเกมจะส่งผลต่อยอดขายเกม แต่ตอนยังทำงานที่เถิงต๋า เธอได้
เห็นเกมที่ดังขึ้นมาโดยไม่เสียเงินค่าทำการตลาดเลยสักหยวนเดียว
ทุ่มเงินหลายล้านเพื่อจ้างดาราฮ่องกงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์จะได้ผลดีขนาดนั้น
เลยเหรอ
หลินหวานจึงคิดว่าการทำแบบนี้มันไม่คุ้มเอาเสียเลย
แต่แผนโฆษณาของบอสเผยมาอยู่ตรงหน้าแล้ว ยังไงก็ต้องจ้างดาราสักคน
ทั้งสามตัดตัวเลือกออกจนเหลือดาราคนหนึ่งที่มีความคุ้มค่าต่อราคาผ่าน
เกณฑ์
ปีนี้จางจู่ถิงอายุสี่สิบเอ็ดแล้ว ถึงตอนนี้จะไม่ค่อยดังและผลงานในช่วงหลังไม่
ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ตอนวัยรุ่นก็มีชื่อเสียงมาก เขาเล่นซีรีส์มาแล้วหลายเรื่อ ง
ค่อนข้างมีอิทธิพลกับกลุ่มวัยกลางคน
เขาเรียกราคาค่าพรีเซ็นเตอร์ที่ประมาณสองล้านหยวน หลินหวานยังคิดว่า
แพงเกินไป แต่ก็ถือว่าถูกกว่าที่ดาราคนอื่นๆ เรียกมา
ถ้าเลือกคนนี้ พวกเขาก็จะมีเงินเหลือสำหรับซื้อพื้นที่โฆษณาบนเว็บไซต์ต่างๆ
ทุกคนในฉางหยางเกมส์พิจารณาดูแล้วก็ลงความเห็นเลือกเขา!
สิ่งต่อไปที่ต้องทำคือเชิญจางจู่ถิงมาจิงโจวเพื่อเซ็นสัญญาและถ่ายโฆษณา
จริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องถ่ายที่จิงโจว แต่ทุกคนคิดว่าในเมื่อทุ่มเงินจ้างไปเยอะ
มากก็ควรใช้โอกาสนี้ดูการทำงานของเขา
ถึงจะเป็นดาราที่เคยดัง อย่างน้อยก็สามารถถ่ายรูปขอลายเซ็นไปอวดเพื่อน
ได้
“งั้นสรุปตามนี้ เราจะเชิญจางจู่ถิงมาจิงโจว!”
บทที่ 228 ถ้ายกมือถือขึ้นมาถ่ายรูป รสชาติจะเปลี่ยนไป

“แล้ว…จางจู่ถิงนี่เป็นใคร”
หลังจากได้อ่านข้อความของหลินหวาน เผยเชียนก็ได้แต่งุนงง
ไม่เห็นเคยได้ยินชื่อมาก่อน
พอเอาชื่อไปค้นดูในเว็บเชียนตู้ก็ได้รู้ว่าจางจู่ถิงเป็นดาราชาวฮ่องกงที่กระแส
ตกไปแล้ว
หลินหวานส่งข้อความมาอีก “บอสเผยคะ เราพิจารณาดาราฮ่องกงอยู่หลาย
คน บางคนเรียกราคาสูงมาก เกินห้าล้านหยวน หนูคิดว่าความคุ้มค่าต่อราคาไม่ได้
ดีขนาดนั้น เลยเลือกเป็นจางจู่ถิง ถึงตอนนี้เขาจะไม่ได้ดังมากเหมือนเมื่อก่อน แต่
ก็เรียกราคามาแค่ประมาณสองล้านเองค่ะ”
เผยเชียนไม่พอใจขึ้นมา
สอนไปแล้วหลายครั้งไม่ใช่เหรอ มาช่วยประหยัดทำไมแค่สองสามล้าน
ห้าล้านก็จ้างไปเลยเซ่!
แต่พอคิดดูอีกทีเขาก็เลือกที่จะปล่อยไป เพราะยิ่งราคาสูงดาราคนนั้นก็ยิ่งดัง
น่าจะมีแฟนๆ ติดตามเยอะ ถ้าพวกนั้นเรียกผู้เล่นใหม่ให้เกมได้เยอะ เผยเชียนก็
จะขาดทุนได้น้อยลง ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็จะเป็นฝ่ายเสียประโยชน์
สองล้านก็สองล้าน เดี๋ยวค่อยผลาญเงินเพิ่มด้วยวิธีอื่น
หลินหวานส่งข้อความมาถามต่อ “บอสเผยคะ จางจู่ถิงจะมาถึงจิงโจววัน
มะรืน บอสจะมาดูการถ่ายโฆษณาไหมคะ”
เผยเชียนตอบกลับทันที “เดี๋ยวผมไปดูด้วย เห็นว่าเขาเป็นนักแสดงมืออาชีพ
เคยได้รับฉายาราชาภาพยนตร์ ผมอยากเห็นการแสดงของเขาใกล้ๆ
“เอ้อ แล้วเตรียมการต้อนรับไว้รึยัง”
หลินหวาน “ไม่ต้องห่วงค่ะบอสเผย ทุกอย่างเตรียมไว้พร้อมหมดแล้ว มีรถ
ส่วนตัวไว้สำหรับจางจู่ถิงกับผู้ จัดการ ที่พักจองเป็นโรงแรมห้าดาว เราดูแลเขาดี
แน่นอนค่ะ”
“เรื่องอาหารล่ะ” เผยเชียนถาม
หลินหวาน “เอ่อ…ว่าจะให้กินที่โรงแรมค่ะ ตอนถ่ายทำมีเตรียมอาหารอย่างดี
ไว้ให้”
“น้อยไป แขกเดินทางมาตั้งไกล ถึงจะเป็นความสัมพันธ์ทางการงานธรรมดา
พวกเราก็ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด เอางี้ เดี๋ยวผมให้เบอร์ติดต่อผู้จัดการหลินที่ดูแล
ครัวส่วนตัวหมิงหยุน โทรไปจองเลย พอจางจู่ถิงมาถึงก็พาไปกินเลี้ยงต้อนรับที่
ครัวส่วนตัวหมิงหยุน แล้วค่อยคุยเรื่องการถ่ายทำ”
สำหรับเผยเชียนแล้ว การต้อนรับแขกคือเหตุผลที่ดีในการไปใช้บริการครัว
ส่วนตัวหมิงหยุน คงจะไม่เกินควรไปใช่ไหม
แน่นอนว่าถ้าเขาพาแขกทุกคนไปครัวส่วนตัวหมิงหยุนก็อาจทำให้เกิดความ
เสี่ยงได้ เช่น… คนอื่นอาจรู้ว่าภัตตาคารนี้ดีแค่ไหน
แต่เผยเชียนก็มีวิธีลดความเสี่ยงนี้เตรียมเอาไว้อยู่แล้ว
หลินหวาน “เอ่อ ได้ค่ะบอสเผย หนูไม่ได้คิดเรื่องนี้ไว้ให้ดี เดี๋ยวหนูจองร้าน
เลยค่ะ!”


วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม
จางจู่ถิงลงจากเครื่องบินแล้วเหยียบบนพื้นดินเมืองจิงโจวเป็นครั้งแรก
เมืองระดับสองอย่างจิงโจวไม่ได้มีชื่อเสียงมากมาย ยังมีอีกหลายเรื่องที่จาง
จู่ถิงไม่รู้เกี่ยวกับเมืองจิงโจว
แต่ในเมื่อเดินทางมาที่นี่จะทำเงินให้เขาได้สองล้านหยวน จางจู่ถิงจึงไม่ได้คิด
มากอะไร
จางจู่ถิงอายุเกินสี่สิบแล้ว ถึงตอนหนุ่มจะเคยเป็นพรีเซ็นเตอร์รูปหล่อ แต่ก็ไม่
สามารถต้านทานเวลาที่ไหลผ่านได้ ตอนนี้เขาให้ความสำคัญกับเรื่องทักษะการ
แสดง และพัฒนาตัวเองไปเป็นนักแสดงวัยกลางคนมืออาชีพ
เนื่องจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นักแสดง
หลายคนได้รับความนิยมน้อยลงเรื่อยๆ กลายเป็นดาราเคยดังไปอย่างหลีกเลี่ยง
ไม่ได้
จางจู่ถิงจึงปฏิเสธโอกาสทำเงินนี้ได้ยาก
เทียบกับพวกดาราดังและไอดอลหน้าใหม่ที่มีคนตามเป็นพรวนหลังออกจาก
บ้านแล้ว จางจู่ถิงไม่ได้มีคนสนใจมากมายขนาดนั้น ครั้งนี้เขาพาผู้ช่วยมาแค่คน
เดียว
เพราะอีกฝ่ายแจ้งมาว่าการถ่ายทำใช้เวลาแค่วันเดียว เขามาถึงจิงโจววันที่ 14
จากนั้นก็พักหนึ่งคืนแล้วค่อยถ่ายทำช่วงเช้าวันถัดไป เสร็จจากนั้นก็บินกลับช่วง
บ่าย
จางจู่ถิงไม่ได้ตั้งความหวังอะไรกับการมาจิงโจวในครั้งนี้
บริษัทเกมในจิงโจวจะใหญ่โตแค่ไหนกันเชียว
โฆษณาครั้งนี้ไม่น่าจะมีอะไรมาก
“เชิญขึ้นรถเลยค่ะคุณจาง บอสเผยเตรียมมื้ออาหารต้อนรับคุณไว้แล้วค่ะ”
หลินหวานยืนยิ้มอยู่ข้างรถ

ครัวส่วนตัวหมิงหยุน
จางจู่ถิงงงมากหลังลงจากรถ
นี่มันอะไรกัน ที่นี่ที่ไหน
ตรงหน้าเขาคือวิลล่าธรรมดาหลังหนึ่ง ถึงจะใหญ่และตกแต่งอย่างหรูหรา แต่
จางจู่ถิงก็เห็นว่าวิลล่าหลังอื่นๆ แถบนี้ก็เป็นแบบนี้ ไม่ได้น่าแปลกใจอะไรที่
เจ้าของบริษัทเกมจะมีเงินซื้อวิลล่าหน้าตาประมาณนี้ได้
แต่คำถามคือ ทำไมบอสเผยถึงพาเขามาที่นี่
ทำไมต้องเชิญมาบ้านตัวเองแบบนี้ด้วย
จางจู่ถิงมีคำถามมากมายในหัวตอนที่หลินหวานเดินนำเขาไปห้องส่วนตัวที่วิว
ดีที่สุด
ห้องส่วนตัวที่ว่าอยู่บนชั้นสามของวิลล่า มีหน้าต่างบานใหญ่ที่มองออกไปเห็น
ดวงอาทิตย์ตก
ดวงอาทิ ต ย์ ก ำลั ง คล้ อ ยจากฟ้ า แสงอาทิ ต ย์ ส ี ท องต้ อ งกั บ สระน้ ำ ไร้ ข อบ
ด้านข้างวิลล่าสะท้อนเป็นแสงสีทองจางๆ
ภูเขารอบๆ มีต้นไม้ปกคลุมหนาแน่น หมิงหยุนวิลล่าเร้นกายอยู่ใต้ร่มเงาต้นไม้
ทำให้รู้สึกเหมือนทุกอย่างดูเล็กลงจากความเป็นจริง
ตรงกลางห้องส่วนตัวมีโต๊ะยาวตัวหนึ่งตั้งอยู่ ไม่ใช่แบบที่นั่งได้สิบคน แต่
รองรับได้แค่สี่คนเท่านั้น
ภายในห้องตกแต่งมาเป็นอย่างดี ทุกอย่างดูเข้ากันหมด ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ
เก้าอี้ ของประดับ ผ้าเช็ดปาก ดอกไม้บนโต๊ะ
ทุกอย่างจัดแจงอย่างตั้งใจโดยพนักงานครัวส่วนตัวหมิ งหยุนหลังจากได้รับ
ยืนยันการจอง
จางจู ่ ถ ิ ง ถึ ง บางอ้ อ นี ่ ไ ม่ ใ ช่ ว ิ ล ล่ า ธรรมดา แต่ เ ป็ น ภั ต ตาคารระดั บ สู ง ที ่ มี
เอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
เผยเชียนยืนขึ้นจับมือต้อนรับจางจู่ถิง “อุตส่าห์เดินทางมาตั้งไกลเลยนะครับ
คุณจาง ยินดีต้อนรับครับ! จิงโจวเป็นเมืองเล็ก ไม่มีสถานที่พิเศษอะไร ผมเลยต้อง
เชิญคุณจางมากินอะไรง่ายๆ ที่นี่แทน เชิญนั่งก่อนครับ”
จางจู่ถิงตอบกลับอย่างเป็นกันเองก่อนจะนั่งลงพร้อมผู้ช่วย
เผยเชียน หลินหวาน จางจูถิง และผู้ช่วยนั่งลงที่โต๊ะ พนักงานเดินเข้าออก
ห้องเพื่อเสิร์ฟอาหารตามเวลาและเมนูที่วางเอาไว้
เผยเชียนอยากพาคนมามากกว่านี้จะได้ช่วยกันกินเยอะๆ แต่การพาคนมา
เยอะจะวุ่นวายเกินไป อาจทำให้จางจู่ถิงรู้สึกอึดอัดได้
ดังนั้นหลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง เผยเชียนก็ตัดสินใจลดจำนวนคนลง เพื่อให้จาง
จู่ถิงดื่มด่ำกับอาหารได้อย่างไม่กดดัน
พวกเขาคุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ระหว่างรับประทานอาหาร
เผยเชียนไม่รู้อะไรเกี่ยวกับจางจู่ถิงเลย ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายเคยเล่นหนัง
เรื่องอะไรบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร จางจู่ถิงเองก็ไม่รู้ว่าเผยเชียนทำเกมอะไร
ทั้งคู่ใช้โอกาสนี้เล่าความสำเร็จในสายงานของตัวเองโดยไม่อวดอ้างจนเกินควร
โชคดีที่หลินหวานทำการบ้ านมา เธอยกความสำเร็จช่วงหนุ่มของจางจู่ถิง
ขึ้นมาพูด ทำให้อีกฝ่ายอารมณ์ดีขึ้นมากทีเดียว
หลังจากกินไปได้สองสามคำ จางจู่ถิงก็ตระหนักว่าอาหารที่เสิร์ฟนั้นพิเศษ
มาก
เขาถูกเชิญไปงานเลี้ยงและได้กินอาหารดีๆ มากมาย ไม่ว่าจะจากเพื่อนหรือ
คนร่วมงาน
แต่เขาได้กินอาหารเลิศรสแบบนี้ไม่บ่อย!
แน่นอนว่าที่อ าหารรสชาติดีขนาดนี้ไม่ไ ด้เกิดจากการปรุงรส แต่มาจาก
วัตถุดิบ มีแค่วัตถุดิบชั้นเลิศเท่านั้นที่จะให้ผลลัพธ์แบบนี้ได้
ยิ่งกินจางจู่ถิงก็ยิ่งทึ่ง เขาไม่คิดว่าจะมีภัตตาคารลึกลับแบบนี้อยู่ในเมืองอย่าง
จิงโจว
บอสเผยเลี้ยงอาหารหรูขนาดนี้ ช่างจิตใจงามจริงๆ!
จางจู่ถิงไม่ใช่พวกดาราหยิ่งยโส เขามีชื่อเสียงจากนิสัยที่เป็นมิตรและเข้าถึง
ง่าย เขากินอาหารพลางพูดคุยกับเผยเชียนอย่างสนุกสนาน
อาหารเรียกน้ำย่อยปริมาณน้อยแต่รสชาติไม่น้อยตาม พอกินเสร็จพนักงาน
เสิร์ฟก็รีบเก็บจานแล้วเสิร์ฟอาหารจานต่อไป
ถึงทุกอย่างจะอร่อยดี แต่เขาก็ยังไม่หนำใจ
ไม่นานมื้อหลักก็มาเสิร์ฟ!
หลังจากได้ลิ้มรสอาหารเรียกน้ำย่อยไป พนักงานก็ยกล็อปสเตอร์ตัวใหญ่มา
เสิร์ฟ ดูจากขนาดหัวแล้ว จางจู่ถิงเดาว่าน่าจะหนักอย่างน้อยห้ากิโลกรัม แค่ค่า
วัตถุดิบของจานนี้ก็ปาไปหกถึงเจ็ดพันหยวนแล้ว!
จางจู่ถิงไม่ได้แสดงอาการอะไร เขาเคยเห็นอะไรมามากมาย แต่เห็นได้ชัดว่า
ผู้ช่วยของเขาไม่เคยเจออะไรหรูหราขนาดนี้มาก่อน ดวงตาของผู้ช่วยจับจ้องไปที่
อาหาร ดูท่าทางอยากหยิบมือถือออกมาถ่ายรูปใจจะขาด แต่คิดว่าคงจะไม่เหมาะ
เผยเชียนยิ้มบางพร้อมพูดขึ้น “ตั้งใจดื่มด่ำกับรสชาติอาหารเถอะครับ มันจะ
ช่วยให้สัมผัสถึงรสชาติของวัตถุดิบทุกอย่างได้ ถ้ายกมือถือขึ้นมาถ่ายรูป รสชาติ
จะเปลี่ยนไป”
บทที่ 229 ซาหวาดดีครับทู้กโคน ผมจ๋าจูถี

ผู้ช่วยที่กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบมือถือรีบชักมือกลับทันที
บรรยากาศในร้านดีมาก อาหารก็ทำออกมาดูดี ช่างทรมานเหลือเกินที่ไม่
สามารถถ่ายรูปไปอวดเพื่อนได้!
ถ้าถ่ายรูปเก็บไว้ไม่ได้ แล้วจะเอาประสบการณ์กินอาหารหรูนี้ไปอวดคนอื่นได้
ยังไง
ปวดใจจริงๆ
แต่ที่บอสเผยพูดก็ฟังดูมีเหตุผล
อาหารดีๆ ไม่ควรรับรู้ด้วยลิ้นเพียงอย่างเดียวแต่ต้องใช้ใจและจิตวิญ ญาณ
ด้วย
ถ้าเอาแต่คิดว่าจะอวดคนอื่นยังไงระหว่างกินก็จะไม่ได้สนใจถึงรสชาติอาหาร
รสชาติที่สัมผัสได้จะแย่กว่าความเป็นจริง
ก็เหมือนกั บ การชื่น ชมงานศิ ล ปะ บางคนต้อ งจดจ่อ อยู ่ กั บ มั น ถึงจะเข้ า
ใจความงามของงานชิ้นนั้นได้
แต่ก็มีบางส่วนที่ยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปไม่หยุด สิ่งที่พวกเขาคิดมีแค่เรื่องแสง
กับมุมกล้อง จึงเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะละเลยความงามของงานศิลปะ ณ ตอน
นั้นไป
จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงควรตั้งใจลิ้มรสอาหาร
ถ้ามัวคิดเรื่องถ่ายรูป อาจจะทำให้พะวงจนไม่สามารถเข้าถึงรสชาติอ าหาร
ทั้งหมดในจานได้
ถ้าคิดตามนี้ก็ถูกตามที่บอสเผยพูด!
ผู้ช่วยเก็บโทรศัพท์ไปเงียบๆ และเลิกคิดเรื่องถ่ายรูป
พนักงานจัดการล็อบสเตอร์ตัวใหญ่อย่างช่ำชอง เขาใช้กรรไกรตัดขาออกแล้ว
ตักเนื้อด้านในออกมา จากนั้นก็ควักไข่สีทองด้านในเปลือกมาบรรจงวางไว้บนเนื้อ
แล้วจัดแบ่งให้ทุกคนบนโต๊ะที่รอลิ้มรสอยู่
เขาจัดแบ่งแต่ส่วนที่ดีที่สุดของล็อบสเตอร์ให้ ส่วนอื่นๆ ที่เหลืออย่างก้ามจะ
ยกกลับไปที่ครัว
จากนั้นเชฟจะจัดการเอาเนื้อออกมาจากส่วนต่างๆ แล้วรังสรรค์เป็นจาน
อาหารออกไปเสิร์ฟอีกรอบ
เผยเชียนยกมือขึ้น “เชิญเลยครับคุณจาง”
จางจู่ถิงกับผู้ช่วยมองเนื้อหอมฉ่ำและไข่ตรงหน้า ความอยากอาหารของพวก
เขาพุ่งขึ้นสูงทันที
ผู้ช่วยของจางจู่ถิงรู้สึกว่าการเดินทางมาจิงโจวครั้งนี้คุ้มค่ามาก!
จางจู่ถิงได้ค่าจ้างสองล้านหยวนในการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้เกม แต่ผู้ช่วยไม่ได้
สักหยวน
ตอนแรกเขาคิดว่าการมาจิงโจวครั้งนี้ คงไม่มีอะไรพิเศษ น่าจะมาทำงาน
ธรรมดาทั่วไป จึงไม่ได้คาดหวังอะไรมาก
ใครจะคิดเล่าว่าจะมีโอกาสได้มากินอาหารชั้นเลิศที่นี่!
ตัดเรื่องอื่นออก แค่นั่งเครื่องมากินล็อบสเตอร์ก็คุ้มค่ามากแล้ว!
จางจู่ถิงกินล็อบสเตอร์ด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ รู้สึกว่าบอสเผยช่างเอาใจใส่
จริงๆ!
ถึงพรุ่งนี้จะไม่ได้ถ่ายทำอะไรมาก แต่เขาบอกกับตัวเองว่าจะต้องจริงจังกับ
งาน เขาต้องดึงทักษะการแสดงของตัวเองออกมาใช้เกินร้อยเปอร์เซ็นต์เพื่อที่จะ
ทำให้โฆษณานี้ออกมาสมบูรณ์แบบ!

เช้าวันต่อมา ที่สตูดิโอ
จางจู่ถิงแต่งตัวเต็มยศ ดูองอาจมาก
เขาสวมเกราะศึกสีเ งินแดง ตรงไหล่มีหัวมังกรสีทองประดับอยู่ ชุดเกราะ
ออกแบบมาอย่างดี ได้บทบาทความเป็นตัวละครมาก
ชุดนี้สั่งทำพิเศษเพื่อเขาโดยออกแบบตามชุดระดับสูงในเกมเพลงรบโลหิต
เวอร์ชันอัปเกรด
นอกจากนั้นเขายังมีกระบี่สีทองสะท้อนแสงที่ยาวเกือบเท่าขนาดตัวคนด้วย
แน่นอนว่าชุดเกราะกับกระบี่ไม่ได้ทำจากทองจริงๆ จึงไม่หนักมาก ถึงจางจู่ถิง
จะเต้นไปรอบๆ ก็ไม่น่าจะเหนื่อย
จางจู่ถิงเห็นสารรูปตัวเองแล้วก็รู้สึกห่อเหี่ยว
ฉันเป็นใคร
ตอนนี้อยู่ไหน
กำลังทำอะไรอยู่
หลังจากมื้ออาหารเมื่อคืน จางจู่ถิงก็ตัดสินใจจะดึงทักษะการแสดงเกินร้อย
เปอร์เซ็นต์มาใช้ในการถ่ายทำครั้งนี้เพื่อตอบแทนล็อบสเตอร์ของบอสเผย
แต่พอมาถึงสตูดิโอ เขาก็พบว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้
นี่มันอะไรกันเนี่ย
ทำไมชุดกับพร็อบถึงได้เว่อร์ชะมัด
จางจู่ถิงเคยถ่ายงานย้อนยุคมากก่อน แต่ก็ไม่เคยเห็นชุดเกราะกับอาวุธที่เว่อร์
ขนาดนี้
ดาบในมือที่ถืออยู่ทำให้เขารู้สึกเหมือนมีเลข ‘-1’ ปรากฏขึ้นบนหัวเรื่อยๆ บ่ง
บอกค่าสติปัญญาที่ลดลง
เขาหันมองบอสเผยด้วยแววตาสงสัย แต่บอสเผยกลับชูนิ้วโป้งให้ ดูเหมือนอีก
ฝ่ายจะพอใจกับเซ็ตติ้งนี้
“นี่บทค่ะ ลองอ่านดูนะคะ บทง่ายมากๆ มีไม่กี่ประโยคเอง” สตาฟคนหนึ่ง
ยื่นบทให้เขา
บทยาวแค่หนึ่งหน้ากระดาษ แถมยังใช้ฟ้อนต์ขนาดใหญ่เหมือนกลัวว่าจาง
จู่ถิงจะอ่านไม่ถนัด
จางจู่ถิงมั่นใจมาก
การจำบทถือเป็นของกล้วยๆ
เขาไม่ใช่พวกมือสมัครเล่นที่ตะโกนหนึ่งสองสามสี่แล้วค่อยมาพากย์เสียงใส่ที
หลัง จางจู่ถิงมั่นใจมากว่าอ่านแค่สองสามรอบก็น่าจะจำบทได้
ถึงจะต้องให้คนไปพากย์เสียงใส่ที่หลังเพราะสำเนียงฮ่องกง แต่อย่างน้อยเขา
ก็สามารถขยับปากให้ตรงกับคำพูดได้
เขาอ่านบทดู
“สวัสดีครับทุกคน! ผมจางจู่ถิงเอง ผมเล่นหนังมาหลายเรื่อง แต่เรื่องเกมต้อง
ยกให้เพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดเท่านั้น เกมนี้ยุติธรรมสุดๆ พวกคุณจะได้
สัมผัสความรู้สึกของพวกผู้เล่นสายวาฬ เกมนี้ดีมากสหายทุกคนมาร่วมรบไป
ด้วยกันเถอะ!” จางจู่ถิงชอบเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดมาก! เล่นเพลิน
สุดๆ ถ้าพลาดบอกเลยว่าต้องรอไปอีกร้อยยี่สิบปีถึงจะมีเกมแบบนี้อีก!
“นี่คืออัปเดตใหม่ที่พวกคุณไม่เคยเห็นมาก่อน แค่แป๊บเดียวพวกคุณจะรักเกม
นี้เหมือนผม!”
บทมีแค่นี้ นับรวมดูแล้วไม่กี่ประโยค ใช้กระดาษแค่หน้าเดียวก็พอ
จางจู่ถิงดูงงงวย
ไหนล่ะพล็อต
ฉันเป็นถึงราชาภาพยนตร์ ถึงจะผ่านยุครุ่งเรืองมาแล้ว แต่ก็ฝึกฝีมือมาตลอด
ทักษะการแสดงของฉันดีขึ้นมาก!
อุตส่าห์เตรียมตัวมาปล่อยของเต็มที่ แล้วนี่…มันอะไรกัน
บทนี่มันอะไร นี่มันบทของพวกโฆษณาง่อยๆ ไม่ใช่เหรอ!
แล้วฉันจะได้โชว์ทักษะอะไรกับบทแบบนี้ล่ะ
บทแค่นี้ อย่าว่าแต่ค่าจ้างสองล้านหยวนเลย แค่ชุดกับพร็อบแพงๆ พวกนี้ก็
เสียของฉิบหายแล้ว!
จางจู่ถิงหันมองเผยเชียนอีกรอบ แต่กลับได้รับท่าทางให้กำลังใจกลับมา
เขาสูดหายใจลึก ก่อนจะไล่สายตาจำบททั้งหมดทันที
เผยเชียนที่ยืนอยู่ข้างผู้กำกับพูดขึ้น “ไม่ต้องห่วง ถ่ายไปเลย ผมเชื่ อมั่นใน
ความเป็นมืออาชีพของคุณจาง!”
ชายหนุ่มไม่ได้สนใจว่าฝีมือการแสดงของจางจู่ถิงจะเป็นยังไง เขาแค่ต้องการ
ให้จางจู่ถิงพูดบทพวกนั้นต่อหน้ากล้อง
พอได้ยินคำว่าแอคชัน จางจู่ถิงก็สวมบทบาททันที
ต้องยอมรับจางจู่ถิงเป็นนักแสดงมืออาชีพจริงๆ ฝีมือการแสดงของเขาไม่
ธรรมดาเลย
อารมณ์มาเต็ม สีหน้าดูมุ่งมั่น เขาพูดอย่างแข็งขัน “ซาหวัดดีครับ ทู้กคน! ผม
จ๋าจูถี ผมเล่นหนังมาหล้ายเรื่อง…”
เผยเชียนแทบหลุดขำตอนที่ได้ยินสำเนียงของจางจู่ถิง
แบบนี้แหละใช่เลย!
แต่สิ่งเดียวที่ไม่ตรงกับบทคืออารมณ์ที่จางจู่ถิงใส่เข้าไปในการถ่ายโฆษณา
เขาแสดงทักษะการแสดงอันยอดเยี่ยมในฐานะราชาภาพยนตร์ แม้จะติดสำเนียง
ฮ่องกง แต่โฆษณาที่ออกมาดูดีทีเดียว ไม่ได้ห่วยเหมือนที่วางเอาไว้
ตอนจางเจียฮุย ถ่ายโฆษณา เขาดูเหนื่อยอ่อนและจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ทำให้โด่งดังขึ้นมาจากฉากตอนแนะนำตัวด้วยสำเนียงฮ่องกง
แต่เมื่อคืนจางจู่ถิงได้กินล็อบสเตอร์และได้นอนเต็มอิ่มจึงมีพลังเต็มเปี่ยม แถม
ยังรู้สึกซึ้งใจที่บอสเผยดูแลเป็นอย่างดี เลยแสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
ตอนนี้ทุกอย่างดีหมด ติดอยู่แค่เรื่องเดียว
“นี่คืออัปเด๊ตใหม่ที่พวกคูนไม่เคยเหนมาก้อน แพร่บเดียว พวกคูนจะร้าคเกม
นี้เหมือนผม!”
เขาพูดประโยคสุดท้าย พอผู้กำกับก็สั่งคัต จางจู่ถิงก็หันมองเผยเชียนอีกรอบ
บอสเผยยกนิ้วโป้งชมจางจู่ถิง
จางจู่ถิงรู้สึกกังวลใจว่าที่ทำไปนั้นดีพอหรือเปล่า
เขารู้สึกอึดอัดใจมากที่ต้องพูดบทที่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะความเป็นมืออาชีพกับ
ประสบการณ์การแสดงที่สั่งสมมาหลายปี เขาคงไม่สามารถพูดตามนั้นได้
บอสเผยพอใจกับการแสดงเมื่อกี้จริงๆ เหรอ
ไม่มีทาง ยังไงก็ต้องมีจุดที่ต้องปรับปรุง!
แล้วก็จริงตามนั้น เพราะสตาฟยังไม่ได้แยกย้าย เผยเชียนเดินมาหาจางจู่ถิง
เพื่อแนะนำอะไรเล็กๆ น้อยๆ
“คุณจางแสดงได้ดีแล้วครับ!
“แต่… มีจุดที่ต้องปรับนิดหน่อย คือเราไม่ได้ถ่ายหนังจริงจังขนาดนั้นครับ
เป็นแค่โฆษณาตัวหนึ่ง
“ในโฆษณานี้คุณรับบทเป็นเกมเมอร์ ถ้าแสดงออกมาสบายๆ หน่อยจะเข้าถึง
คนดูได้มากกว่า
“ปล่อยตัวสบายๆ ครับ ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้น ปล่อยหัวให้ว่าง แล้วพูดบท
ออกมาสบายๆ”
ตอนที่เผยเชียนเดินเข้ามาหา จางจู่ถิงคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะมาแนะนำเรื่องการ
แสดงของเขา หรือไม่ก็เปลี่ยนบทใหม่
แต่บอสเผยกลับบอกให้จริงจังน้อยลง
ให้ปล่อยตัวสบายๆ แทน
จางจู่ถิงไม่ค่อ ยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ใ นเมื่อบอสเผยขอมาแบบนี้ เขาก็ต้อง
พยายามให้เต็มที่
การถ่ายทำเริ่มขึ้นอีกครั้ง
“ซาหวัดดีครับ ทู้กคน! ผมจ๋าจูถี ผมเล่นหนังมาหล้ายเรื่อง…”
รอบนี้จางจู่ถิงแสดงได้ ‘ถูกต้อง’ มากขึ้น เขาลดความจริงจังลงตามที่บอก ดู
แล้วขัดหูขัดตากว่าเดิม
เผยเชียนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
ใช่ ต้องแบบนี้แหละ!
ถึงจะไม่ได้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบตามที่คิดเพราะทักษะการแสดงของจางจู่ถิง
ดีเกินไป แต่แค่ถ่ายโฆษณาตามนี้ได้ เผยเชียนก็พอใจมากแล้ว
พอพูดจนจบบท ผู้กำกับก็สั่งคัต
จางจู่ถิงดูไ ม่สบายใจ เขารู้สึกว่าการแสดงรอบนี้น่าจะขัดหูขัดตาคนอื่น
มากกว่ารอบก่อน เอาจริงๆ น่าจะแย่มากๆ เลยแหละ!
ในฐานะราชาภาพยนตร์ จางจู่ถิงไม่เคยรู้สึกถึงการที่ไม่สามารถควบคุมฝีมือ
การแสดงของตัวเองได้มานานแล้ว
ตอนที่แสดงเมื่อครู่ เขารู้สึกเหมือนเป็นมือสมัครเล่นที่ไม่รู้เรื่องการแสดงเลย
แม้แต่นิดเดียว
“บอสเป่ย ขอโทษทีครับ ผมเล้นม่ายดีเลย ขอผมต้างสติ้ก่อนแล้วเดี๋ ยวเลา
ถ่ายใหม่อี้กรอบ”
จางจู่ถิงตั้งใจจะพักสักหน่อยเพื่อให้มีเวลาทวนบทซ้ำๆ จนรู้ว่าจะพูดออกมา
ยังไงให้ดีที่สุด
แต่เผยเชียนกลับส่ายหน้ารัว “ไม่ต้องแล้วครับ! ทำได้ดีมากเลย ไม่ต้องถ่าย
แล้วครับ!
“คุณจางกลับไปพักที่โรงแรมได้เลย เดี๋ยวตอนบ่ายผมให้คนไปส่งที่สนามบิน
“ยินดีมากเลยครับที่ได้ร่วมงานกัน!”
จางจู่ถิงอึ้งไป
ถ่ายเสร็จแล้วอย่างนั้นเหรอ
เขาหันมองนาฬิกา จางจู่ถิงมาถึงสตูดิโอตอนเก้าโมงเช้า ใช้เวลาแต่งหน้าไป
ครึ่งชั่วโมง แต่งตัวสิบนาที อ่านบทสองรอบก่อนถ่ายทำอีกสิบนาที
ยังไม่ทันจะสิบโมงเช้าเลย แต่พวกเขาปิดกองแล้ว
จางจู่ถิงดูไม่สบายใจ “เดี๋ยวก่อนครับบอสเผย! เมื่อกี้ผมเล่นได้ไม่ดีเลย อาจจะ
ส่งผลเสียกับโฆษณา เราน่าจะถ่ายต่อจนกว่าจะออกมาสมบูรณ์แบบ…
“แล้วก้อผมพุ้ดจีนกลางด้ายม่ายชัด คูนต้องหาโคนมาพากย์เสียงส่ายแทน
ด้วย…”
เผยเชียนยิ้ม “ไม่ต้องห่วงครับ เราจะตัดต่องานที่ได้กั บหาคนมาพากย์เสียง
ตามเห็นสมควร”
ความหมายจริงๆ คือ ถ้าไม่จำเป็น เราจะไม่ตัดต่อหรือหาคนมาพากย์เสียง
จางจู่ถิงไม่ทันเอะใจความหมายที่แท้จริงของประโยคนั้น เขาโล่งใจเมื่อได้ยิน
บอสเผยพูดว่า ‘จะหาคนมาพากย์เสียง’
แต่เขาก็ยังสองจิตสองใจกับการแสดงของตัวเอง
ในเมื ่ อ นายจ้ า งอย่ า งบอสเผยพอใจกั บ งานและสตาฟก็ เ ก็ บ ข้ า วของกั น
หมดแล้ว จะให้จางจู่ถิงยืนกรานว่าจะถ่ายให้ได้ก็กระไรอยู่
อีกอย่างถึงจะถ่ายใหม่อีกครั้ง เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะถ่ายทอดบทออกมาได้ดีหรือ
เปล่า…
จางจู่ถิงจึงได้แต่กลับออกไปอย่างกังวลใจ
ไม่ใช่ว่าเขาเสียใจที่แสดงได้ไม่ดี แต่รู้สึกเศร้าที่ตอบแทนล็อบสเตอร์ที่บอสเผย
อุตส่าห์เลี้ยงเมื่อคืนได้ไม่เต็มที่
“ขอบคุณมากครับสำหรับวันนี้ เชิญไปพักผ่อนที่โรงแรมก่อน พวกเรายินดี
ต้อนรับคุณกลับมาที่จิงโจวทุกเมื่อครับ!”
เผยเชียนเดินไปส่งจางจู่ถิงอย่างเบิกบานใจ ตอนนี้เขาอารมณ์ดีมาก
โฆษณาถ่ายเสร็จแล้ว หมายความว่าเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดจะได้
เปิดฉากขาดทุนสักที!
โฆษณาตัวนี้จะทำให้พวกที่ไม่ชอบเกมเล่นบนเว็บอยู่แล้วรู้สึกไม่อยากเล่นมาก
กว่าเดิม
พวกวาฬก็จะไม่อยากเล่นเพราะแทบไม่มีช่องทางให้ใช้เงินจริงในเกมเลย
ถือเป็นกลยุทธ์สองชั้น ยังไงก็ต้องได้ผลแน่นอน!
บทที่ 230 หนทางใหม่ในการแจกจ่ายโบนัส

หลังส่งจางจู่ถิงกลับ เหล่าพนักงานของฉางหยางเกมส์ก็ง่วนอยู่กับการตัดต่อ
ฟุตเทจให้ออกมาเป็นโฆษณา
รูปแบบและขนาดของโฆษณาบนเว็บทั่วไป เว็บลงวิดีโอ และช่องทางอื่นๆ
นั้นไม่เหมือนกัน เช่น บางเว็บไซต์ให้พื้นที่โฆษณาแบบแนวนอน บางเว็บเป็น
หน้าต่าง ป๊อปอัป บางเว็บอนุญาตให้ใช้วิดีโอความยาวไม่กี่วินาที
ดังนั้นฟุตเทจที่ได้จึงต้องเอาไปปรับแต่งเป็นหลายรูปแบบ
ถ้าต้องตัดวิดีโอสิบกว่าวินาทีให้เหลือแค่ไม่กี่วินาที พวกเขาก็ต้องเลือกช่วงที่
สำคัญที่สุดในฟุตเทจมาใช้
พอถึงขั้นตอนการตัดต่อ พวกเขาถึงค่อยตระหนักว่าบอสเผยเป็นคนมอง
การณ์ไกลขนาดไหน
งานที่พวกเขาถ่ายมาสามารถปรับเป็นโฆษณาบนเว็บไซต์ได้ง่ายๆ!
บทของจางจู่ถิงเป็นประโยคสั้นๆ ไม่ได้มีเนื้อหาอะไรมาก ถึงจะจับมาตัดและ
ยัดใส่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความหมายเดิมที่ต้องการจะสื่อ ทำให้คนตัดต่อ
จัดการฟุตเทจได้หลายรูปแบบ
ถ้าเกิดผู้เล่นเบื่อโฆษณาเดิมๆ พวกเขาก็ตัดต่อทำเป็นโฆษณาใหม่ได้
“บอสเผยครับ สำเนียงจางจู่ถิงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ฟังดูขัดๆ เราหานักพากย์มือ
อาชีพมาพากย์เสียงทับดีไหมครับ น่าจะไม่แพงมาก” เยว่จือโจวแนะนำ
เผยเชียนส่ายหัวทันที “ไม่ ปล่อยไปแบบนั้นแหละ! คุณต้องเชื่อฝีมือการ
แสดงและการถ่ายทอดบทของราชาภาพยนตร์สิ อีกอย่างความเป็นธรรมชาติของ
โฆษณานี้จะช่วยให้เข้าถึงคนดูได้ง่ายขึ้น ถ้าเอาคนมาพากย์เสียงทับ โฆษณาเราจะ
สูญเสียจิตวิญญาณเดิมไป เข้าใจรึเปล่า”
“เอ่อ…” เยว่จือโจวคิดว่าที่บอสเผยพูดมาฟังดูแปลกๆ
แต่พอคิดดูดีๆ ตัววิดีโอก็ขัดหูขัดตาอยู่แล้ว ทำไมจะต้องไปพากย์เสียงเพิ่ม
ด้วย
ผู้อำนวยการหลินเดาว่าบอสเผยตั้งใจเลือกดาราฮ่องกงตกยุ คมาถ่ายโฆษณา
แบบนี้เพื่อดึงดูดเกมเมอร์สายเกมเล่นผ่านเว็บ
ถ้าเป็นแบบนั้นโฆษณาตัวนี้ก็ไม่จำเป็นต้องออกมามีระดับ ทำค่อนไปทาง
ห่วยๆ น่าจะเหมาะสมกว่า
คิดได้แบบนั้นเยว่จือโจวก็ไม่ต่อความยาวสาวความยืด แล้วหันไปเตรียมสื่อ
การตลาดอย่างว่าง่าย เขาพร้อมปล่อยโฆษณาทันทีที่ตัวเกมพัฒนาเสร็จ
จนถึงตอนนี้พวกเขาใช้เวลาไปแล้วหนึ่งเดือนครึ่งในการค้นคว้าและพัฒนาเกม
เพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรด
ถึงจะต้องทำเกมใหม่ขึ้นมาจากศูนย์ แต่ส่วนใหญ่ก็เอารูปแบบการเล่นของ
เกมเพลงรบโลหิตมาปรับใช้ เรื่องงานภาพก็วางไว้ชัดเจนแล้ว ที่ต้องทำก็แค่
ปรับปรุงบางส่วนเพิ่มให้ดีขึ้น
ภาระงานส่วนใหญ่จะไปอยู่ที่เรื่องงานภาพ เนื่องจากพวกเขาจ้างบริษัทอื่นให้
จัดการเรื่องนี้ให้ งานภาพจึงเสร็จสมบูรณ์อย่างรวดเร็ว
ตามการคาดการณ์ข องพวกเขา ตัวเกมน่าจะเสร็จ สมบู ร ณ์ช ่ว งต้ นเดื อ น
กันยายน เร็วกว่าแผนงานเล็กน้อย
เนื่องจากการพัฒนาเกมเสร็จสิ้นไวกว่ากำหนด พวกเขาจึงสามารถใช้เวลาที่
เหลือไปกับการทดสอบและจดจ่อกับเรื่องการปรับปรุงตัวเกม เพื่อที่จะได้ทำเกม
ให้ออกมาเหนือกว่าคู่แข่ง…
สั้นๆ คือมีข้อดีมากมายในเรื่องนี้
ตอนนี้การเตรียมการสำหรับโฆษณาเสร็จสมบูรณ์แล้ว เยว่จือโจววางแผนจะ
หันไปทุ่มเทกับการพัฒนาตัวเกมต่อเพื่อที่จะได้ปล่อยเกมออกมาให้ผู้เล่นได้ลอง
เล่นไวๆ


อีกด้านหนึ่ง เผยเชียนเองก็ยุ่งอยู่เหมือนกัน
เขาต้องแบ่งเวลาไปดูแลการพัฒนาเกมของเถิงต๋าและจับตาดูงานของเฟยหวง
สตูดิโอ
การค้นคว้าและพัฒนาเกมกลับใจคือฟากฝั่งรุดหน้าไปอย่างราบรื่น ตอนนี้ตัว
เกมพัฒนาไปแล้วเกือบหกสิบเปอร์เซ็นต์ พิจารณาจากความเร็วในการทำงาน
เกมน่าจะพร้อมวางจำหน่ายช่วงกลางเดือนตุลาคม นับรวมเวลาสำหรับทดสอบ
ปรับปรุง และแก้ไขให้สมบูรณ์แล้ว
เผยเชียนบอกให้หลี่หย่าต๋าทำตัวเดโม่ออกมาให้ไวที่สุดเพราะเขาอยากลอง
เล่นดูก่อน
ส่วนหนึ่งก็เพราะอยากตรวจดูว่าเกมยากอย่างที่คิดเอาไว้หรือเปล่า อีกส่วนก็
เพราะอยากลองหาจุดที่คนอื่นไม่น่าจะหาเจอไว้แอบใส่ ‘อาวุธลับของบอสเผย’
เข้าไปในเกม
ระบบกำหนดเอาไว้ว่าเผยเชียนจะต้องเล่นเกมให้ผ่านด้วยฝีมือของตัวเอง
เอาจริ ง ๆ ฝี ม ื อ ของเผยเชี ย นก็ ไ ม่ ไ ด้ ถ ื อ ว่ า กากมาก แต่ ก ็ ไ ม่ ใ ช่ ร ะดั บ เทพ
เหมือนกัน
เขาเป็นผู้เล่นธรรมดาทั่วไป ถ้าจับไปเล่นกับพวกผู้เล่นฝีมือกากๆ เขาก็พอจะ
แบกทีมได้อยู่
ที่ระบบออกกฎแบบนี้ก็เพื่อกันไม่ให้เผยเชียนใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ตรงนี้
ตัวอย่างเช่น เผยเชียนอาจจะทำให้มอนสเตอร์ในด่านแรกเก่งกว่าผู้เล่นช่วง
ต้นเกมหลายเท่า มอนสเตอร์ตัวนั้นจะมีพลังโจมตี จำนวนครั้งในการโจมตี และ
ความเร็วในการเคลื่อนที่สูงกว่าผู้เล่นมากๆ ไม่ว่าจะฝีมือดีแค่ไหนก็ต้องแพ้ราบ
คาบในไม่กี่วินาที มีแค่เกมเมอร์ระดับเทพจุติที่อาจจะผ่านด่านแรกไปได้อย่าง
ทุลักทุเล
ถ้าทำแบบนี้ก็เท่ากับเป็นการจงใจกีดกันผู้เล่น ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
ระบบตั้งกฎข้อนี้มาเพื่อให้ผู้เล่นฝีมือกลางๆ ค่อนไปทางสูงที่เข้าใจตัวเกม
พอประมาณ (เผยเชียนเข้าใจตัวเกมเป็นอย่างดี) สามารถเล่นผ่านได้หลังจากลอง
อยู่หลายครั้ง
ถ้าทำแบบนี้ แม้ว่าเกมจะยากแต่ผู้เล่นส่วนใหญ่ก็ยังพอมีหวังที่จะเล่นผ่านได้
แต่ด้วยความฉลาดของเผยเชียน เขาก็คิดหาทางแก้ไขปัญหาข้อนี้ได้
เผยเชียนมีจุดสังเกตสามข้อ
ข้อแรก ระบบกำหนดไว้ว่าเผยเชียนต้องเล่นเกมให้ผ่าน แต่ ไม่ได้กำหนดว่า
ต้องใช้เวลาเท่าไหร่!
ถึงจะต้องลองเป็นร้อยรอบ หรือเล่นตั้งแต่ได้เดโม่ไปจนถึงตอนออกวางขาย
ถ้าเล่นผ่านก็เท่ากับผ่าน
ข้อสอง ระบบไม่ได้กำหนดวิธีการที่ใช้
เขาสามารถซ่อนอาวุธสุดเทพไว้จุดไหนสักแห่งในเกมที่คนอื่นไม่คาดคิด ถ้า
โค่นมอนสเตอร์ลงง่ายๆ ด้วยอาวุธนั้น ก็นับว่าเป็นการเล่นผ่านเหมือนกัน
ข้อสุดท้าย ระบบไม่ได้กำหนดว่าเผยเชียนต้องจบเกมยังไง
เขาทำตอนจบของเกมไว้หลายแบบ มีอยู่แบบหนึ่งที่ผู้เล่นต้องเล่นเนื้อเรื่อง
ผ่านแค่ประมาณสามสิบเปอร์เซ็นต์ ถึงเขาจะใช้ทางที่สั้นที่สุดในการจบเกมแต่ก็
เท่ากับว่าเล่นผ่านเหมือนกัน
ดังนั้นเผยเชียนจึงเตรียมการไว้พร้อมสรรพ เขารอเล่นเดโม่เกมกลับใจคือฟาก
ฝั่งเพื่อที่จะได้หาที่ซ่อนอาวุธลับและเริ่มฝึกซ้อม
เดโม่น่าจะใช้เวลาทำสองสามวัน ถึงตอนนั้นเผยเชียนก็น่าจะเริ่มยุ่ง
ถึงจะฟังดูยากลำบาก แต่เหมือนคำพูดที่ว่า ‘ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ’ ถ้าอยาก
ขาดทุน เขาก็ต้องขยันหน่อย
เผยเชียนลงทุนกับเกมกลับใจคือฟากฝั่งไปเกือบยี่สิบล้านหยวน เขาจะไม่ยอม
ให้เงินก้อนนี้สูญเปล่าแน่!


นอกจากเรื ่ อ งที ่ ว ่ า มาแล้ ว เผยเชี ย นยั ง คิ ด จะปรั บ ปรุ ง อะไรในบริ ษ ั ท สั ก
เล็กน้อย
ตอนนี้บริษัทเถิงต๋ามีนโยบายให้โบนัสโปรเจ็กต์ โดยกำไรสิบห้าเปอร์เซ็นต์ที่
แต่ละเกมทำได้จะถูกแจกจ่ายให้พนักงานเป็นโบนัส
เฟยหวงสตูดิโอก็มีนโยบายคล้ายกัน พนักงานในบริษัทจะได้โบนัสสามสิบ
เปอร์เซ็นต์ของกำไร
ความตั้งใจเดิมของเผยเชียนที่ตั้งระบบนี้ขึ้นมาก็เพื่อลดรายได้ให้ได้มากที่สุด
จะได้ไม่ต้องคิดหาวิธีผลาญเงินทุนระบบให้ปวดหัว
แต่หลังจากไตร่ตรองอยู่พักใหญ่ เขาก็พบปัญหาใหญ่ของระบบนี้!
ถ้าได้โบนัสโปรเจ็กต์เยอะ พนักงานก็ยิ่งมีกำลังใจทำกำไรให้ได้เยอะขึ้น!
ดูเฟยหวงสตูดิโอเป็นตัวอย่าง พวกเขาได้เงินไม่มากจากงานรอบที่แล้ว ทำให้
หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อได้แค่เงินเดือนตามฐานที่วางไว้ ไม่ได้โบนัสเลยสักหยวน
ถึงเผยเชียนจะวางฐานเงินเดือนไว้สูงและผลงานที่ปล่อยไปก็ได้กระแสตอบ
รับดีมาก แต่เงินที่ได้กลับเท่าเดิม
เป็นสาเหตุให้พวกเขาตัดสินใจเอาคลิปสั้นมาผสมโรงกับการรีวิวสินค้าเพื่อ
เพิ่มโอกาสที่สปอนเซอร์จะเข้ามาจ้าง เผยเชียนได้แต่สงสัยว่าเรื่องนี้มีความ
เกี่ยวข้องกับเงินเดือนของพวกเขารึเปล่า
แน่นอนว่าแรงจูงใจส่วนหนึ่งก็มาจากการที่พวกเขาไม่อยากทำให้บอสเผยต้อง
ผิดหวัง พวกเขาอยากให้เฟยหวงสตูดิโอทำเงินได้เพื่อที่บอสเผยจะได้ไม่ต้องเข้ามา
ช่วยเหลือ
แต่แรงจูงใจอีกส่วนก็มาจากการที่อยากหารายได้เพิ่มให้ตัวเอง
ด้วยเหตุนี้เผยเชียนจึงรู้สึกว่าระบบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
การให้โบนัสแบบนี้ก็เหมือนการดื่มยาพิษดับกระหาย!
ถึงจะช่วยให้เผยเชียนผลาญเงินได้ในระยะสั้น แต่ก็ทำให้พนักงานมีแรงจูงใจ
ในการหาเงินเพิ่มให้บริษัท แรงจูงใจในการหาเงินเพิ่มนี้ถือเป็นภัยต่อเผยเชียน!
ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนแปลงระบบ!
แน่นอนว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะตัดโบนัสออกเลย คงจะดูโหดร้ายเกินไป
อีกอย่างถ้าเขาไม่แจกโบนัสพนักงานก็จะเป็นปัญหากับตัวเองอีก เพราะต้อง
ปวดหัวคิดหาวิธีผลาญเงินตรงนี้
เผยเชียนต้องหาทางออกดีๆ เพื่อจัดการปัญหานี้
เขาต้องแจกโบนัสโดยที่ไม่สร้างแรงจูงใจให้พนักงานอยากทำกำไรให้บริษัท
หลังจากครุ่นคิดสักพัก เผยเชียนก็นึกไอเดียดีๆ ออก
ถ้าจะให้โบนัสพนักงานเท่าเดิมหรืออาจจะเพิ่มขึ้นนิดหน่อย เขาต้องเปลี่ยน
เกณฑ์ให้โบนัสจากกำไรไปเป็นชื่อเสียง!
พูดง่ายๆ คือ ก่อนหน้านี้เขาให้โบนัสตามยอดกำไรของแต่ละโปรเจ็กต์ ตอนนี้
เขาจะเปลี่ยนมาให้โบนัสตามชื่อเสียงของโปรเจ็กต์แทน
ยิ่งชื่อเสียงของโปรเจ็กต์ดีมากเท่าไหร่ โบนัสที่พนักงานจะได้รับก็ยิ่งสูงขึ้น
แม้แต่โปรเจ็กต์แบบสารคดีจากดักแด้สู่ผีเสื้อที่ขาดทุนหนัก พนักงานก็ยังได้รับ
โบนัสเนื่องจากชื่อเสียงของโปรเจ็กต์ดี
เผยเชียนสามารถตั้งระบบให้คะแนนชื่อเสียงโปรเจ็กต์ได้ โดยแบ่งเป็นเกรด S
A B และ C อิงตามผลดำเนินงานของแต่ละโปรเจ็กต์ เขาจะให้คะแนนโปรเจ็กต์
ต่างๆ ตามชื่อเสียง พนักงานที่ดูแต่ละโปรเจ็กต์จะได้รับโบนัสต่างกันไปตามเกรด
ที่ได้
โบนัสที่ได้จะแตกต่างไปตามรูปแบบของโปรเจ็กต์ด้วย
เช่น โปรเจ็กต์เกมทำเงินได้ในระยะยาว ดังนั้นระยะเวลาการได้รับโบนัสก็จะ
นานตามไปด้วย กลับกั นโปรเจ็กต์คลิปจะเป็นกระแสที่สุดในช่วงสามเดือนแรก
หลังปล่อย โบนัสที่ได้ก็จะให้ไปเลยทีเดียว
ทำแบบนี้พนักงานก็จะใส่ใจเรื่องชื่อเสียงของโปรเจ็กต์มากกว่ากำไร
เผยเชียนจะสามารถส่งเสริมให้ทุกคนทำโปรเจ็กต์ที่สร้างชื่อเสียงได้ดีแต่ทำ
กำไรไม่ได้ เมื่อเป็นแบบนั้นเผยเชียนก็จะไม่ได้กำไร ส่วนพนักงานจะได้โบนัสก้อน
ใหญ่ แบบนี้ก็เยี่ยมไปเลย
แน่นอนว่ายังไงก็คงมีโปรเจ็กต์ที่ทั้งทำกำไรได้และทำชื่อเสียงดี
แต่ก็คงมีจำนวนน้อย
ส่วนมากชื่อเสียงจะสวนทางกับกำไร เป็นเรื่องยากที่พนักงานจะทำสำเร็จทั้ง
สองอย่าง
ดังนั้นเผยเชียนจึงตัดสินใจจะคิดเรื่องการใช้งานจริงของระบบนี้เพิ่ม เพื่อที่จะ
ได้กำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ และปรับใช้ระบบนี้ก่อนวางขายเกม
พอปรับใช้ระบบนี้และทำให้พนักงานยึดตามได้ ก็จะเกิดผลกระทบกับหลายๆ
ส่วนและเป็นผลดีกับอนาคตในระยะยาว
แค่คิดภาพพนักงานจดจ่ออยู่กับชื่อเสียงของโปรเจ็กต์จนลืมเรื่องทำกำไร ก็ทำ
ให้เผยเชียนรู้สึกว่าบริษัทของเขายกระดับขึ้นไปมากทีเดียว!
บทที่ 231 สุดยอดหน้าม้า

นอกจากนั้นแล้วยังมีเรื่องโปรเจ็กต์ใหม่ของเฟยหวงสตูดิโออีก
หลังจากตั้งระบบ ‘ให้โบนัสตามชื่อเสียง’ โปรเจ็กต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโปร
เจ็กต์เกมหรือโปรเจ็กต์คลิปสั้นของเฟยหวงสตูดิโอย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลงเรื่อง
ทิศทางการดำเนินงานแน่
แต่ ใ นอนาคตอั น ใกล้ น ี ้ เฟยหวงสตู ด ิ โ อน่ า จะมี โ อกาสสปอนเซอร์ เ ข้ า มา
ค่อนข้างมาก
ดังนั้นเผยเชียนจึงคิ ดว่านี่จะเป็นการ ‘ช่วย’ เฟยหวงสตูดิโอให้พวกเขารู้
ข้อเสียของการรับสปอนเซอร์และผลตอบรับจากคนดู ทีนี้เขาก็จะมีเหตุผลในการ
เปลี่ยนรูปแบบการดำเนินการจากมุ่งหวังผลกำไรไปเป็นมุ่งสร้างชื่อเสียง
เหมือนดังคำพูดที่ว่า จะเห็นสายรุ้งได้อย่างไรถ้าไม่อดทนให้พายุฝนผ่านไป
ดอกไม้ไม่ได้บานในเรือนกระจกได้ง่ายๆ
อะแฮ่มๆ โอเค จริงๆ เผยเชียนแค่อยากรับสปอนเซอร์ให้น้อยลงเพราะเหลือ
อีกแค่สองเดือนจะถึงวันปิดบัญชีแล้ว เผยเชียนจะยอมให้เกิดอะไรผิดพลาดไม่ได้
ถ้าอยากได้รางวัลพิเศษจากระบบ
ส่วนจะทำยังไงนั้น…
เผยเชียนล็อกอินเข้าเว็บอ้ายลี่เต่าแล้วส่งข้อความส่วนตัวไปหาอัปโหลด
มาสเตอร์ที่ชื่อเสี่ยวหูรีวิว
หลังจากเหตุการณ์ครั้งก่อน เผยเชียนก็พอจะรู้ว่าคนที่ทำช่องเสี่ยวหูรีวิวนั้น
ไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นการหาสปอนเซอร์หรือถล่มสินค้าเจ้าอื่น เสี่ยวหูรีวิวก็
จัดการได้หมด
เผยเชียนไม่เชื่อว่าอัปโหลดมาสเตอร์ที่มีอิทธิพลขนาดนี้จะไม่มีหน้าม้า เขาจึง
จำชื่ออัปโหลดมาสเตอร์คนนี้ไว้เผื่อเกิดเหตุการณ์แบบตอนนี้
เขาส่งข้อความไปหาโดยใช้บัญชีรีวิวสายฮาร์ดคอร์ของเว็บอ้ายลี่เต่า เผยเชียน
ทำแชตบอตเผื่อเอาไว้ด้วยเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครรู้ว่าตัวเองเป็นเจ้าของบัญชีนี้
ไม่นานเสี่ยวหูรีวิวก็ตอบข้อความส่วนตัวกลับ จากนั้นทั้งสองก็ติดต่อกัน
หูเซียวไม่คิดว่าอัปโหลดมาสเตอร์ช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์จะเป็นคนติดต่อเขา
มา
ถึงหูเซียวจะโดนช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์เล่นงานซะอ่วมจากเหตุการณ์ครั้งก่อน
แต่เขาก็รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องบังเอิ ญ ช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์ไม่ได้ตั้งใจปล่อย
คลิปตอนสามมาโจมตีเขา
ดังนั้นหูเซียวจึงไม่ได้คิดแค้นใจและอยากจะสานสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่จึงกด
เพิ่มเพื่อนบัญชีรองของเผยเชียน
ก็เหมือนที่โบราณกล่าวไว้ว่าเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ หูเซียวกับช่องรีวิว
สิ น ค้ า มื อ อาชี พ อื่ น ๆ ไม่ ไ ด้ ม ี ค วามสั ม พั น ธ์ ท ี ่ ด ี ต ่ อ กั น นั ก พวกเขาแยกกั น รั บ
สปอนเซอร์ บางทีก็บังเอิญต้องแย่งกันเอง
แต่หูเซียวมองว่ารีวิวสายฮาร์ดคอร์เป็นอัปโหลดมาสเตอร์หน้าใหม่ ถึงจะมี
แฟนคลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ยังไงก็เป็นแค่แมลงตัวจ้อย
อีกอย่างแนวทางของช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์ก็ไม่ได้เป็นพิษภัยกับเสี่ยวหูรีวิว
อาจจะช่วยส่งเสริมกันด้วยซ้ำ
ช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์เหมือนจะไม่ได้สนใจสปอนเซอร์และไม่ได้ดูขาดแคลน
เงิน ทุกคลิปมีแต่เอามือถือเครื่องละสี่ห้าพันมาทุบเล่น ช่องรีวิวทั่วไปที่ไหนจะทำ
แบบนี้
แต่ยังไงก็ไม่ควรเมินหรือดูถูกช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์
นอกจากนั้นหูเซียวยังตัดความน่าจะเป็นที่ช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์จะติดต่อเข้า
มาขอจ้างหน้าม้าไม่ได้ด้วยเหมือนกัน
เขามีช่องทางติดต่อหน้าม้ากลุ่มใหญ่ อีกทั้งยังคอยช่วยอัปโหลดมาสเตอร์บน
เว็บอ้ายลี่เต่าติดต่อหน้าม้าเหล่านี้อยู่บ่อยๆ เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับยิ่งใหญ่อะไรใน
วงการ ไม่แน่อาจจะมีคนแนะนำให้ช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์ติดต่อมาหาเขาก็ได้
ไม่นานคำขอเป็นเพื่อนก็ได้รับการอนุมัติ
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงพิมพ์ถาม “ผมอยากสู้กับคู่แข่ง ช่วยผมได้ไหม
ครับ”
หูเซียวไม่พูดอะไรมากมาย เขาส่งรายการราคาให้อีกฝ่ายทันที
เผยเชียนไล่สายตาดูอย่างรวดเร็ว
โห เยอะอะไรขนาดนี้!
ผู้ติดตามระดับต้น : 1,000 คน 10 หยวน 5,000 คน 40 หยวน 10,000 คน
70 หยวน ยอดผู้ติดตามอยู่ถาวร ไม่หาย
ผู้ติดตามระดับกลาง : 1,000 คน 12 หยวน…บางส่วนมีข้อมูลกับรูปโปรไฟล์
ผู้ติดตามระดับสูง : 400 คน 10 หยวน…บัญชีจริง อยู่ถาวร
ผู้ติดตามระดับพรีเมี่ยม : 300 คน 10 หยวน…มียอดผู้ติดตามสองหลัก ไม่ติด
บล็อก
ไลก์ แชร์ คอมเมนต์ :
แชร์ด่วน 100 แชร์ 2 หยวน
แชร์พรีเมี่ยม 100 แชร์ 13 หยวน…100 แชร์ 1000 หยวน
คอมเมนต์เน้นยอด คอมเมนต์พรีเมี่ ยม ไลก์เน้นยอด ไลก์พรีเมี่ยม และอื่นๆ
อีกมากมาย
สรุปแล้วคือมีหลายระดับสามารถเพิ่มเติมได้ตามความต้องการ
นอกจากนั้นแล้วยังมีแบบแพ็คเกจให้เลือก เช่น ถ้าซื้อผู้ติดตามเป็นแพ็คเกจ
จะได้ผู้ติดตามหลายรูปแบบ ทำให้ยอดผู้ติดตามที่เพิ่มขึ้นมาดูน่าเชื่อถือ
รายการเหล่านี้คือราคาสำหรับเว่ยป๋อ มีราคาแยกสำหรับเว็บอ้ายลี่เต่าด้วย
มีทั้งยอดวิว คอมเมนต์ไหลบนหน้าจอ คอมเมนต์ปกติ เพิ่มยอดผู้ติดตาม และ
อื่นๆ โดยมีการไล่ราคาไว้อย่างชัดเจน
แต่ราคาสำหรับเว็บอ้ายลี่เต่านั้นสูงกว่าเว่ยป๋อ น่าจะเป็นเพราะขั้นตอนการ
สมัครสมาชิกเว็บอ้ายลี่เ ต่าเข้มงวดกว่า อีกทั้งยังเป็นเว็บใหม่ที่ตลาดหน้าม้ายัง
เติบโตไม่มากนัก
พิจารณาจากราคาแล้ว เผยเชียนก็ตระหนักว่าการจ้างหน้าม้านั้นถูกกว่าที่เขา
คิดเอาไว้อีก
ดูแล้วใช้เงินหลักร้อยไม่เกินพันซื้อแพ็คเกจก็น่าจะเพิ่มยอดคอมเมนต์ได้แล้ว
หลายร้อย แถมยังเพิ่มยอดไลก์ของคอมเมนต์ที่เลือกได้ด้วย
แน่นอนว่าเผยเชียนไม่ได้ตั้งใจจะซื้อคอมเมนต์เพื่อทำอะไรแย่ๆ อย่างโจมตี
สินค้าอื่น กลั่นแกล้งคนอื่น หรือปั่นกระแสให้คนเข้าใจผิด
เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรแบบนั้นเลย
“ผมขอซื้อคอมเมนต์กับไลก์เป็นแพ็คเกจ”
เผยเชียนไม่ทุ่มเงินจัดเต็มแบบครั้งอื่นๆ เพราะระบบไม่อนุญาต
ถ้าไม่มีเหตุผลที่เหมาะสม เผยเชียนก็ไม่สามารถใช้เงินบริษัทจ่ายหูเซียวได้
ต้องใช้เงินตัวเองเท่านั้น
โชคดีที่ตอนนี้เผยเชียนไม่ได้จนขนาดนั้น จ่ายเงินสักพันซื้อคอมเมนต์กับไลก์
ไม่ใช่เรื่องที่เกินความสามารถของเขา
ถ้าเงินหนึ่งพันนี้จะทำให้เฟยหวงสตูดิโอมีสปอนเซอร์เข้าน้อยลงและลดรายได้
ลงได้สักล้านสองล้านก็ถือว่าคุ้มแล้ว!
เผยเชียนรู้ดีว่าแผนนี้โอกาสสำเร็จไม่ได้สูงมาก แต่ลองทดสอบดูสักพันหยวนก็
ไม่เสียหายอะไร
หูเซียวอ่านข้อความดู ได้ลูกค้าจริงๆ ด้วย!
“ไม่ต้องห่วง หน้าม้าของผมเทรนมาดี ฝีมือสุดยอดกันทั้งนั้น ภารกิจคุณ
สำเร็จแน่นอน! คุณจะเพิ่มยอดคอมเมนต์ให้ช่องคุณรึเปล่า”
เผยเชียน : “ไม่ครับ ผมจะเพิ่มให้อีกช่องหนึ่ง ลองค้นหาช่องชื่อเฟยหวง
สตูดิโอดู เร็วๆ นี้พวกเขาจะลงคลิปรีวิวสินค้า พอถึงตอนนั้นช่วยไปคอมเมนต์ ใต้
คลิปนั้นนะครับ ขอเนื้อหาประมาณว่า ‘ฉันก็เคยใช้ สะดวกมาก แนะนำสุดๆ’”
หูเซียวตอบกลับด้วยอิโมจิรูปรถไฟฟ้า ชายแก่ และมือถือ
จากนั้นเขาก็ส่งอิโมจิหน้าสงสัยไปเพิ่ม
หมายความว่ายังไงกัน
เขาเพิ่งเคยเห็นคนจ้างหน้าม้าแบบนี้!
ถ้าเนื้อหาคอมเมนต์เป็นแบบนี้เหมือนกันหมดก็เหมือนว่าช่องนั้นจ้างหน้า
ม้าน่ะสิ มีแค่คนโง่เท่านั้นแหละที่ดูไม่ออก
แต่หูเซียวเป็นคนฉลาดเลยเข้าใจได้ทันที
โห จ้างหน้าม้าไปโจมตีคู่แข่งแทนเหรอ!
ดูเหมือนว่าช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์จะไม่ใช่แค่แมลงตัวจ้อย ฝีมือไม่เบาเลย!
โลกอินเทอร์เน็ตเปลี่ยนไปเยอะ มาตรฐานบริการหน้าม้าสูงขึ้นกว่าเดิม
ก่อนหน้านี้ชาวเน็ตโดนหลอกได้ง่าย แต่ตอนนี้ไม่ใช่อย่างนั้น ทุกคนรู้เรื่องหน้า
ม้า การจะทำให้หน้าม้าดูน่าเชื่อถือนั้นต้องใช้บัญชีจริงเข้าไปผสมโรงด้วย
แน่นอนว่าวิธีนี้เหมาะสำหรับใช้ปั่นคอมเมนต์ให้สินค้าของตัวเอง
นอกจากนั้นหน้าม้ายังใช้เป็นกลยุทธ์ที่เหนือชั้นกว่านั้นได้อีก นั่นก็คือเอาไปใช้
กับคู่แข่งแทน!
ถ้าปั่นให้คู่แข่งมีแต่คอมเมนต์ง่อยๆ ไม่ได้มาตรฐาน ชาวเน็ตก็จะคิดว่าคู่แข่ง
เป็นคนจ้างหน้าม้ามาปั่นกระแสให้ตัวเอง
ทำได้ไม่เลวเลย!
หูเซียวอ่านดูข้อความแล้วก็ได้ข้อมูลใหม่
เฟยหวงสตูดิโอจะทำคลิปรีวิวสินค้าเหรอ
หูเซียวรู้จักเฟยหวงสตูดิโอ เพราะซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยลงแค่ที่เว็บ
อ้ายลี่เต่าและขึ้นโฆษณาหน้าหลักอยู่นาน
แต่ผ่านไปสักพัก เฟยหวงสตูดิโอก็ไม่ได้ทำซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยต่อ
แล้วหันไปทำสารคดีแทน ช่วงนี้ยังไม่ได้ปล่อยผลงานใหม่ออกมา
กำลังเตรียมคอนเทนต์ใหม่อยู่อย่างนั้นเหรอ
แถมยังจะทำคลิปรีวิวสินค้าด้วย
หูเซียวรู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย
เฟยหวงสตูดิโอเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว เหมือนจะมีทุนหนา ถ้าหันมาทำคลิปรีวิว
สินค้าน่าจะแย่งลูกค้าจากรีวิวเสี่ยวหูไปได้แน่ๆ
ถึงจะไม่รู้ว่าช่องรีวิวสายฮาร์ด คอร์ไปได้ข่าวนี้มาจากไหน แต่ดูแล้วน่าจะเป็น
ข้อมูลที่เชื่อถือได้
มีคนมาจ้างหน้าม้าไปเล่นงานคู่แข่งตัวเองให้แบบนี้ หูเซียวย่อมต้องยอมรับ
ข้อเสนออย่างเต็มใจ!
หูเซียวรู้สึกอยากใช้เงินตัวเองจ้างหน้าม้าเพิ่มให้อีกแรง
แต่พอคิดดูอีกที เขาก็มองว่ายังไม่จำเป็นขนาดนั้น เพราะเฟยหวงสตูดิโอยัง
ไม่ได้ลงคลิปรีวิวสินค้าจึงยังไม่ได้เป็นภัยกับธุรกิจของเขา ยังไม่ต้องเร่งรีบอะไร
ขนาดนั้น
ตอนติดต่อหน้าม้า เขาสามารถใช้เส้นสายขอเพิ่ม จำนวนคอมเมนต์ได้อีก
นิดหน่อย น่าจะสร้างความกดดันให้คู่แข่งพอสมควร
“จัดให้!”
หูเซียวตกปากรับคำทันที
บทที่ 232 หนึ่งวันของนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่

ไม่นานหูเซียวก็จัดแจงทุกอย่างเสร็จ
พอเฟยหวงสตูดิโอลงคลิปใหม่ หน้าม้าจะไปถล่มคอมเมนต์และไลก์ทันที
ถ้าเป็นอัปโหลดมาสเตอร์หน้าใหม่ การกระทำแบบนี้จะมองออกได้ง่ายมาก
เพราะอัปโหลดมาสเตอร์หน้าใหม่ย่อมไม่ได้มีแฟนเยอะแยะอะไร
เฟยหวงสตูดิโอมีฐานคนติดตามเยอะ คอมเมนต์ของเหล่าหน้าม้าอาจจะไม่
เด่นมาก
แต่นั่นก็ไม่สำคัญ ขอแค่ทันทีหลังคลิปปล่อยมีคอมเมนต์ ‘ฉันก็เคยใช้ สะดวก
มาก แนะนำสุดๆ!’ ผุดขึ้นมาเป็นสิบ คนอื่นๆ ก็น่าจะสงสัยกัน
หูเซียวอยากจะจับตาดูเรื่องนี้ จึงเฝ้าติดตามช่องเฟยหวงสตูดิโอ เขากดรีเฟรช
เป็นพักๆ เพื่อดูว่ามีอะไรอัปเดตหรือเปล่า
ในที่สุดเฟยหวงก็ปล่อยคลิปใหม่ในวันถัดมา!
“สุดจัด ข้อมูลช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์เชื่อถือได้จริงๆ ด้วย
“รู้ความเคลื่อนไหวของเฟยหวงสตูดิโอชัดเจนขนาดนี้ ฝีมือการหาข้อมูลนี่
ไม่ธรรมดาจริงๆ”
หูเซียวเริ่มเชื่อมั่นมากขึ้นว่าไม่ควรดูถูกช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์
เขาอ่ า นดู แ ล้ ว พบว่ า ชื ่ อ คลิ ป คื อ หนึ ่ ง วั น ของนั ก ประดิ ษ ฐ์ ผ ู ้ ย ิ ่ ง ใหญ่ ตรง
คำอธิบายคลิปติดแท็กคำว่ารีวิวอยู่ด้วย
“เป็นคลิปรีวิวของจริงๆ ด้วย!”
หลังจากมั่นใจแล้วว่าเป็นคลิปรีวิวของ หูเซียวก็ส่งข้อความเข้ากลุ่มแชต บอก
ให้เหล่าหน้าม้าเริ่มปฏิบัติการได้!
เนื้อหาคอมเมนต์เหมือนกันหมด ทุกคนคัดลอกข้อความ ‘ฉันก็เคยใช้ สะดวก
มาก แนะนำสุดๆ!’ ไปวาง
คอมเมนต์ที่ว่าผุดขึ้นมาเรื่อยๆ
เนื่องจากเฟยหวงสตูดิโอมีฐานแฟนเยอะอยู่แล้ว จึงมีคอมเมนต์ของแฟน
ทั่วไปปนอยู่ด้วย ตัวอย่างเช่น
“ฝันไปรึเปล่า”
“กลับมาแล้วเหรอ”
“เมื่อไหร่จะทำชีวิตประจำวันของบอสเผยซีซั่นใหม่!”
“เมนต์แรก!”
มีคอมเมนต์ประมาณนีโ้ ผล่มาด้วย
แต่คอมเมนต์ของเหล่าหน้าม้าก็ยังมีมากกว่าอยู่ดี แถมเหล่าหน้าม้ายังปั่นยอด
ไลก์ให้คอมเมนต์หน้าม้าด้วยกันเองอีก ทำให้คอมเมนต์ยอดนิยมเป็นคอมเมนต์
ของเหล่าหน้าม้าหมด!
หูเซียวเห็นผลงานของกองทัพหน้าม้าแล้วก็อดรู้สึกภูมิใจไม่ได้
มีแฟนคลับเยอะแล้วไง เจอกองทัพหน้าม้าเข้าไปก็จม!
การรัวคอมเมนต์แบบนี้สร้างผลกระทบค่อนข้างมาก
คลิปรีวิวสินค้าไม่ได้หวังพึ่งเงินส่วนแบ่งรายได้จากเว็บอ้ายลี่เต่าเพียงอย่าง
เดียว แต่ยังได้เงินจากผู้สนับสนุนที่รู้จักกันในนามสปอนเซอร์
ถ้าคลิปมีคอมเมนต์หน้าม้าโผล่ขึ้นมารวดเดียวพร้อมกันจะส่งผลต่อการได้รับ
สปอนเซอร์
ในมุมมองของแฟนทั่วไป ถ้าคลิปรีวิวไหนมีคอมเมนต์หน้าม้า พวกเขาจะรู้สึก
ไม่ดีกับคลิปนั้น บางคนอาจจะเลิกติดตามช่องไปเลย
ส่วนสปอนเซอร์ก็จะให้ความสำคัญมากว่าช่องรีวิวมีคอมเมนต์หน้าม้าหรือ
เปล่ า เพราะจะทำให้ ป ระเมิ น ยอด การตอบรั บ ตามจริ ง ไม่ ไ ด้ ถ้ า ตกลงเป็ น
สปอนเซอร์ให้ช่องเหล่านี้ก็จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของสินค้าตัวเอง
ความกังวลใจเหล่านี้จะสร้างผลกระทบในทางลบ
แน่นอนว่าคอมเมนต์หน้าม้าจำนวนแค่นี้ไม่น่าจะสร้างผลกระทบรุนแรงให้เฟ
ยหวงสตูดิโอ
แต่จะเป็นปัญหากวนใจที่แก้ไม่ตกสำหรับพวกเขา
หูเซียวตั้งใจจะรอสักพักแล้วค่อยเข้าไปดูกระแสตอบรับของคลิป
จากการคาดการณ์ของเขา มีความเป็นไปได้สองแบบ
แบบแรกคือคอมเมนต์หน้าม้าเด่นจนคนดูหันมารุมด่าเต็มช่องคอมเมนต์
หูเซียวอยากให้เป็นแบบนี้
แบบที่สองคือเฟยหวงสตูดิโอมาเจอคอมเมนต์หน้าม้าพวกนี้ก่อนแล้วรีบลบทิ้ง
แต่ถึงจะลบยังไงก็ต้องมีคนเห็นคอมเมนต์หน้าม้านี้อยู่แล้ว แถมคอมเมนต์
หน้าม้าพวกนี้ยังโพสต์เร็วมาก เฟยหวงสตูดิโออาจจะโดนด่าว่าจงใจลบคอมเมนต์
แทน

สองชั่วโมงต่อมา
“น่าจะได้เวลาแล้ว ไหนขอดูผลลัพธ์หน่อยซิ!”
หู เ ซี ย วเข้ า ไปดู ช ่ อ งคอมเมนต์ ใ ต้ ค ลิ ป หนึ ่ ง วั น ของนั ก ประดิ ษ ฐ์ ผ ู ้ ย ิ ่ ง ใหญ่
หลังจากเลื่อนดูสักพัก เขาก็ต้องงงเป็นไก่ตาแตก
นี่มันอะไรกัน
ทำไมไม่มีใครคอมเมนต์ด่าสักคนเลยล่ะ
แถมยังมีคนคอมเมนต์ว่า ‘ฉันก็เคยใช้ สะดวกมาก แนะนำสุดๆ!’ เพิ่มอีก
หูเซียวงงไปหมด
หน้าม้ายังทำงานอยู่อีกเหรอ
ไม่น่าใช่ พวกหน้าม้าทำงานตามที่จ้าง ไม่น่าจะปั่นเพิ่มให้เองแบบนี้หรอก
เกิดอะไรขึ้นกันแน่
ด้วยความงุนงงและสับสนกับเรื่องที่เกิ ดขึ้น หูเซียวเลยกดดูคลิปเพื่อหาข้อมูล
ให้คลายข้อสงสัย


เด็กหนุ่มท่าทางแก่นเซี้ยวคนหนึ่งปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
“ผมชื่ออ้ายตี๋ซุน ชื่อภาษาอังกฤษคือเอดิสัน เป็นนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่
“นี่คือสิ่งประดิษฐ์ล่าสุดของผม เครื่องซักล้างมือถือ”
เครื่องซักล้างที่เด็กหนุ่มบนหน้าจอถืออยู่ในมือคือวัตถุรูปร่างเหมือนขวดที่มี
หัวเป็นแปรงเล็กๆ มอเตอร์ แบตเตอรี่ และที่เก็บน้ำ
“ด้านในมีมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงที่จะทำให้หัวแปรงด้านบนหมุนติ้วไป
พร้อมกับฉีดน้ำใส่คราบสกปรกในปริมาณที่พอเหมาะ
“ทีนี้คุณก็แค่ป้ายน้ำยาซักผ้าไปบนคราบสกปรก เสร็จแล้วก็ใช้เครื่องซักล้าง
มือถือกดไปตรงคราบซ้ำๆ แค่นี้ก็สามารถทำความสะอาดเสื้อผ้าได้ทุกที่ ทุกเวลา
ไม่ต้องห่วงว่าจะทำเสื้อผ้าตัวเองเลอะอีก!
“ผมตั้งใจจะจดลิขสิทธิ์สิ่งประดิษฐ์นี้ทันที จากนั้นก็จะรีบผลิตออกมา น่าจะ
ได้รีวิวดีๆ มากมาย ยอดขายพุ่งพรวด เอาบริษัทเข้าตลาดหุ้น กลายเป็นบริษัท
ยักษ์ใหญ่ และก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิต!”
ภาพตัดเข้าฉากร้านอาหาร
สาวสวยคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามเอดิสัน ทั้งสองกำลังกินอาหารกันอยู่
“วันนี้ผมมีนัดกินข้าวกับสาวสวย ผมจะใช้โอกาสนี้โชว์สิ่งประดิษฐ์ของผมให้
เธอดู รับรองเธอต้องรักและหลงผมจนยอมทำตามทุกอย่างที่ผมพูด!”
เอดิสันจงใจสั่นมือที่ถือแก้วอยู่จนไวน์กระเด็นใส่กระโปรงของสาวสวย
“ว้าย!” สาวสวยรีบหยิบผ้าเช็ดปาก หมายจะเช็ดคราบออกจากกระโปรง
“คนสวย เดี๋ยวผมช่วยเอง!”
อ้ายตี๋ซุนรีบหยิบเครื่องซักล้างมือถือออกมาแล้วจัดการเปิดเครื่อง
เครื่องซักล้างมือถือสั่นรัวพร้อมฉีดน้ำออกมาเพิ่ม
เหตุการณ์ทั้งหมดหยุดชั่วขณะ ก่อนภาพจะจับไปที่สีหน้าของทุกคนในร้าน
สาวสวยชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมา “ฮัลโหล 110 ใช่มั้ยคะ”
ภาพตัดไปที่ร้านปิ้งย่างเสียบไม้ข้างทาง
อ้ายตี๋ซุนร้องไห้กับเพื่อน ในมือถือเนื้อย่าง
เพื่อนๆ พยายามปลอบใจเขาอย่างสุดความสามารถ “อย่าเศร้าไปเลย อ้ายตี๋
สาวคนนั้นแค่เข้าใจนายผิด เธอต้องยอมยกโทษให้นายแน่!”
ระหว่างกำลังกินเนื้อเสียบไม้กัน ชิ้นเนื้อมันเยิ้มก็หล่นใส่แขนเสื้อของเพื่อนคน
หนึ่ง
อ้ายตี๋ซุนตาโตทันที “อย่าขยับ! ฉันจัดการเอง!”
เขาหยิบเครื่องซักล้างอัตโนมัติออกมาจากกระเป๋าอีกครั้งแล้วจ่อเครื่องใส่
คราบมันเยิ้มตรงแขนเสื้อเพื่อน
เพื่อนของเขาร้องตะโกน “อ้ายตี๋! นั่นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ของนายเหรอ เครื่องซัก
ล้างมือถือใช่มั้ย เร็วเข้า ช่วยฉันจัดการคราบสกปรกที!”
อ้ายตี๋ซุนกดเปิดเครื่องทันทีพร้อมโพสท่าสุดเท่
ผ่านไปครู่หนึ่ง อ้ายตี๋ซุนก็นึกอะไรขึ้นได้ “เอ่อ…มีใครพกน้ำยาซักผ้าติดตัวมา
ด้วยมั้ย”
เพื่อนๆ “?”
อ้ายตี๋ซุน “คราบจัดการยากแบบนี้ต้องใช้น้ำยาซักผ้าช่วย มีใครพกติดตัวมั้ย
“สบู่ก็ได้”
เพื่อนๆ “?”
ผ่านไปหลายฉาก
อ้ายตี๋ซุนนั่งอยู่บนโซฟาที่บ้าน
“ผมชื่ออ้ายตี๋ซุน ชื่อภาษาอังกฤษคือเอดิสัน เป็นนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่
“ผมสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงโลกได้ แต่กลับไม่มีใครเข้าใจผม
“ถ้ า คุ ณ สนใจสิ ่ ง ประดิ ษ ฐ์ ข องผมให้ ต ิ ด ต่ อ ผมมาเลย เราจะได้ ร ี บ ผลิ ต
สินค้าออกมา น่าจะได้รีวิวดีๆ มากมาย ยอดขายพุ่งพรวด เอาบริษัทเข้าตลาดหุ้น
กลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ และก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิต!”


หูเซียวอ่านคอมเมนต์วิ่งผ่านคลิปกับช่องคอมเมนต์ด้านล่าง
“คลิปซีรีส์ใหม่ของเฟยหวงสตูดิโอเหรอ โคตรฮา!”
“ฮ่าๆๆ ยังฮาเหมือนเดิม!”
“ใครมันติดแท็ก ‘รีวิว’ ในคำอธิบายคลิปวะ ปั่นฉิบหาย!”
“เครื่องซักล้างอัตโนมัติดูมีประโยชน์มากๆ ซื้อได้ที่ไหน”
“กดติดตามแล้ว ขอแค่นายไม่สร้างสิ่งประดิษฐ์ที่มีประโยชน์ออกมา ฉันจะ
ติดตามไปตลอด!”
“ฉันก็เคยใช้ สะดวกมาก แนะนำสุดๆ!”
“ฉันก็เคยใช้ สะดวกมาก แนะนำสุดๆ! +1”
ไม่ว่าจะเป็นคอมเมนต์วิ่งผ่านคลิปหรือคอมเมนต์ด้านล่าง ข้อความเดิมๆ ก็
ปรากฏขึ้นไม่หยุด มีคนทำตามกันเยอะแยะทีเดียว
หูเซียวส่ายหัวด้วยความตะลึงงัน
เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย
คอมเมนต์หน้าม้าของฉันหายไปไหน
กองทัพหน้าม้าที่ฉันจ้างมาล่ะ
ทำไมคอมเมนต์หน้าม้าถึงปนกับคอมเมนต์ของแฟนทั่วไปได้ คอมเมนต์หน้า
ม้าปั่นกระแสไม่ได้เลยเหรอ
ถึงจะคิดซ้ำไปซ้ำมา หูเซียวก็ยังหาคำตอบไม่ได้ เขาส่งข้อความไปหาช่องรีวิว
สายฮาร์ดคอร์ด้วยความงุนงง “น้องเป็นใครกันแน่…”
บทที่ 233 เดาผิดแต่คิดถูก

พอเห็นข้อความของหูเซี่ยว เผยเชียนก็นิ่งเงียบไป
ช่างเป็นคำถามจี้ใจจริงๆ…
เขาไม่คิดว่าเฟยหวงสตูดิโอจะทำคลิปแบบนี้ออกมา
ตอนแรก เผยเชียนคิดว่าอย่างมากเฟยหวงสตูดิโอก็น่าจะทำคลิปรีวิวสินค้า
คล้ายๆ กับคลิปช่อง TESTV ที่เน้นรีวิวสินค้าแต่มีแทรกฉากตลกเล็กๆ น้อยๆ เพิ่ม
เข้าไป เพื่อให้ตรงกับเป้าหมายการรวมคลิปรีวิวสินค้าเข้ากับคลิปซีรีส์สั้นที่วาง
เอาไว้
แต่เผยเชียนคิดผิด!
เฟยหวงสตู ดิ โ อใช้ ค ลิ ป ซี ร ี ส ์ ส ั ้ น เป็ น เนื ้ อ หาหลั ก ของคลิ ป แล้ ว ลดทอน
องค์ประกอบด้านการรีวิวสินค้าลงจนคนดูแทบจะไม่รู้ว่านี่เป็นคลิปรีวิวสินค้าเลย
ด้วยซ้ำ
พอทำแบบนี้ ไม่ว่าสินค้าจะดีหรือแย่ คนดูก็ไม่รู้สึกเบื่อหน่าย
แม้แต่คอมเมนต์หน้าม้า ‘ฉันก็เคยใช้ สะดวกมาก แนะนำสุดๆ’ ยังถูกตีความ
กันไปผิดๆ!
ต่อไปในอนาคต ถึงเฟยหวงสตูดิโอจะรับสปอนเซอร์โดยใช้คลิปซีรีส์แนวนี้ ขอ
แค่เนื้อหาคลิปไม่แย่มาก คนดูก็ไม่น่าจะต่อต้านอะไร เมื่อเป็นแบบนี้เฟยหวง
สตูดิโอก็จะรับสปอนเซอร์ได้อย่างเต็มที่!
แน่นอนว่าก็ยังมีจุดด้อยอยู่
ประเภทสินค้าที่รับสปอนเซอร์ได้มีไม่มาก
อย่างเครื่องซักล้างมือถือก็ชัดเจนว่าเป็นพวกสินค้าด้อยคุณภาพ
ถ้าหยิบพวกมือถือ กล้องถ่ายรูป คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ มา
ถ่าย พวกเขาก็ไม่น่าจะทำคลิปออกมาได้น่าสนใจขนาดนี้
พูดง่ายๆ คือ คลิปซีรีส์หนึ่งวันของนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่น่าจะเน้นแค่พวก
สินค้าด้อยคุณภาพ สินค้าทั่วไปไม่น่าจะเอามารีวิวได้!
ข้อจำกัดนี้จะทำให้พวกเขาหาสปอนเซอร์ได้ยากขึ้น
ดูเหมือนว่าหวงซื่อปั๋วจะยึดมั่นในคำพูดของเผยเชียนสุดๆ เขาให้ความสำคัญ
เรื่องคุณภาพของงานกับชื่อเสียงของบริษัทมากกว่าเรื่องอื่น
เผยเชียนรู้สึกเวียนหัวขึ้นมาหน่อยๆ
ถึงเงินหนึ่งพันหยวนที่ควักกระเป๋าตัวเองจ่ายจะไม่ได้ถือว่ามากมายอะไร แต่ก็
คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ผลลัพธ์ตรงกันข้ามกับที่คิดเอาไว้ขนาดนี้…
นอกจากคอมเมนต์ ห น้ า ม้ า จะไม่ ไ ด้ ส ร้ า งกระแสความเกลี ย ดชั ง แล้ ว ยั ง
กลายเป็นตัวช่วยสร้างกระแสแง่บวกให้เฟยหวงสตูดิโอแทน เอาเข้าจริงไม่มีใครรู้
เลยด้วยซ้ำว่าหน้าม้าพวกนี้ช่วยทำให้ช่องคอมเมนต์คึกคักขึ้นกว่าเดิม
เงินหนึ่งพันหยวนถูกใช้ไปเงียบๆ โดยไม่ได้สร้างผลกระทบอะไรเลย เงินก้อน
นี้ของเผยเชียนหายวับไปกับตา
เผยเชียนมองคำถามจี้ใจของหูเซี่ยวแล้วเงียบไปพักหนึ่ง
แกกล้าถามฉันแบบนี้เหรอ
ฉันก็อยากถามแกกลับเหมือนกัน!
หน้าม้าของแกมันห่วยแตก! เอาเงินฉันคืนมา!
แต่พอคิดดูดีๆ ก็นึกขึ้นได้ว่า ตัวเองนั่นแหละเป็นคนบอกให้หน้าม้าคอมเมนต์
ด้วยข้อความเดียวกันหมด
เออ งั้นไม่เป็นไรก็ได้

หู เ ซี ่ ยวเห็ น ช่ อ งรี ว ิ ว สายฮาร์ ด คอร์ ไ ม่ ต อบข้ อ ความมาพั ก ใหญ่ ก ็ เ ริ ่ ม รู ้ สึก
คลางแคลงใจมากขึ้น
ตอนแรกเขาคิดว่าช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์แค่อยากจ้างหน้าม้าไปโจมตีคู่แข่ง
แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วก็ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น
เฟยหวงสตูดิโอกับช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์น่าจะร่วมมือกันแน่เลย
ช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์เจาะจงมาว่าอยากจ้างหน้าม้าไปโจมตีคู่แข่ง แต่ทำไม
ถึงจงใจให้ถล่มคอมเมนต์ด้วยข้อความง่ายๆ แบบนั้นล่ะ
อีกอย่างทำไมเฟยหวงสตูดิโอถึงปล่อยคลิปออกมาหลังจากช่องรีวิวสายฮาร์ด
คอร์มาจ้างหน้าม้าไปได้ไม่กี่วัน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เงียบหายไปหนึ่งเดือนเต็ม!
คลิปแบบนี้ประกอบกับคอมเมนต์แบบนี้ เรียกกระแสได้ดีสุดๆ ไปเลยไม่ใช่
เหรอ
หรือจะเป็นเรื่องบังเอิญ
ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่โอกาสน่ะต่ำมาก!
อะไรมันจะบังเอิญเกิดเรื่องสนับสนุนกันและกันจนทำให้ค ลิปเป็นกระแส
ขึ้นมาแบบนี้… หูเซี่ยวไม่เชื่อหรอกว่าจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ
เพราะงั้นสิ่งที่น่าจะเป็นได้ที่สุดก็คือ…
ทุกอย่างถูกเตรียมการไว้หมดแล้ว!
เฟยหวงสตูดิโอกับช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์รู้จักกัน ไม่แน่อาจจะมาจากบริษัท
เดียวกัน แล้วตั้งใจจ้างหน้าม้าหนึ่งพันหยวนมาช่วยสร้างกระแสให้คลิปนี้!
พอลองคิดดูดีๆ เฟยหวงสตูดิโอก็ไม่ได้ปล่อยผลงานมาตั้งนาน ความนิยมคง
จะตกลงไปมาก!
แค่ใช้เงินพันหยวนจ้างหน้าม้าก็สามารถสร้างกระแสให้คลิปซีรีส์ใหม่ได้ขนาด
นี้เลย
ช่างเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ชาญฉลาดจริงๆ!
ถ้าเอาไปรวมกับการที่ช่องเล็กๆ อย่า งรีวิวสายฮาร์ดคอร์ดังขึ้นมาจากแค่ทำ
คลิปนั่งทุบมือถือ…
ยิ่งคิดหูเซี่ยวก็ยิ่งรู้สึกว่าเจ้าของช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป
ถึงจะพยายามไม่ทำตัวให้เป็นจุดเด่น แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็แสดงให้เห็นชัดเจน
ว่าคนคนนี้สามารถสร้างกระแสขนานใหญ่ได้!
ถ้าอย่างนั้นทั้งหมดนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนการใหญ่น่ะสิ
ยิ่งคิดหูเซี่ยวก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
เขามองข้อความที่ส่งไป
“น้องเป็นใครกันแน่…”
ช่างเป็นข้อความที่ส่งไปโดยไม่คิด ดูค่อนข้างก้าวร้าวและหยาบคาย!

เผยเชียนยังคิดไม่ออกว่าจะตอบกลับไปยังไงดี
ถึงจะอยากขอเงินขึ้น แต่ครั้งนี้เขาก็โทษว่าเป็นความผิดของพวกหน้าม้าไม่ได้
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มพิมพ์ “เข้าใจผิดแล้วครับ ผมไม่คิดว่า…”
พิมพ์ไปได้แค่ครึ่งเดียว เผยเชียนก็เห็นว่าหูเซี่ยวกดลบข้อความที่ส่งมา!
หูเซี่ยวส่งข้อความใหม่มา “กลยุทธ์การตลาดของน้อ งนี่สุดยอดจริงๆ! พี่
ประทับใจมาก”
เผยเชียน “???”
เผยเชียนรู้สึกเหมือนจะเป็นลมอีกรอบ หมายความว่ายังไงกัน
อีกฝ่ายต้องการจะสื่ออะไรกันแน่
เขาอยากจะตอบข้อความกลับไป แต่เสียง ‘ติ๊ง’ แจ้งเตือนเงินเข้าก็ดังขึ้นก่อน
หนึ่งพันหยวน
หูเซี่ยว “เราอยู่วงการเดียวกัน รอบนี้พี่ไม่คิดเงินน้อง ถือว่าพี่อยากสนิทกับ
น้องแล้วกัน ต่อไปถ้ามีอะไรที่พี่ช่วยได้ก็บอกมาเลย เราเป็นพี่น้องกัน คุยกันได้ทุก
อย่าง!”
เผยเชียน “???”
ถึงจะยังงุนงงอยู่มาก แต่เขาก็ดีใจที่ได้เงินหนึ่งพันหยวนคืน
เจ้าของช่องเสี่ยวหูรีวิวนี่เป็นคนน่าสนใจเลยทีเดียว!
ถ้าอยากจ้างหน้าม้าอีกก็คงจะมาจ้างหมอนี่นี่แหละ
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับไป “ยินดีที่ได้ร่วมงานกันครับ ครั้ง
หน้าก็รบกวนด้วยนะครับ”
หูเซี่ยวรีบตอบ “ได้เลย!”
เขารู้สึกดีใจมาก เจ้าของช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่ม เติม
ตอบกลับมาแค่ว่า ‘ยินดีที่ได้ร่วมงานกัน’ แสดงว่าเขาคิดถูก!
ช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์วางแผนทุกอย่างไว้หมดแล้ว!
หมายความว่าเฟยหวงสตูดิโอกับช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์มีสายสัมพันธ์แน่น
แฟ้น อาจอยู่ภายใต้บริษัทเดียวกัน
นี่เป็นข้อมูลที่สำคัญมาก…
หูเซี่ยวเริ่มเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน
เพราะในวงการรีวิวอุปกรณ์ดิจิทัลไม่ได้มีคนมากมายนัก ถึงวงการนี้จะกำลัง
เติบโต แต่ก็ไม่ได้โตไวขนาดนั้น
ถ้ามีคนหน้าใหม่เข้ามาในวงการก็ต้องจับตาดูให้ดี เพราะอาจเข้ามาแย่ง
โอกาสทำเงินได้
โชคยังดี ดูแล้วเฟยหวงสตูดิโอกับช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์ไม่ ได้ตั้งใจจะเจาะ
ตลาดเดียวกันกับเสี่ยวหูรีวิว
หูเซี่ยวนอนไม่หลับ เขารู้สึกว่าวงการที่เขาหากินมาอย่างสุขสบายกำลังจะพบ
การเปลี่ยนแปลงที่คาดเดาไม่ได้


เผยเชียนไม่รู้เลยว่าหูเซี่ยวกำลังพบเจอกับความกดดันขนาดไหน ไม่รู้ด้วยซ้ำ
ว่าหูเซี่ยวได้บทสรุปที่ถูกต้องจากการคาดเดาผิดๆ ของตัวเขาเอง
เขากำลังคิดถึงเรื่องอื่นอยู่
ดูท่าทางคงจะสร้างความลำบากให้เฟยหวงสตูดิโอไม่ได้แล้ว
รูปแบบคลิปของเฟยหวงสตูดิโอในตอนนี้โจมตีได้ยาก แต่ก็รับสปอนเซอร์ได้
ยากเหมือนกัน
ดังนั้นเผยเชียนจึงตั้งใจจะปล่อยเรื่องนี้ไปก่อน
นอกจากทำช่องรีวิวสายฮาร์ ดคอร์แล้ว เขายังต้องดูเรื่องการพัฒนาเกมกลับ
ใจคือฟากฝั่งด้วย
ตัวเดโม่ของเกมกลับใจคือฟากฝั่งน่าจะเสร็จภายในวันสองวันนี้ เผยเชียน
ตั้งใจจะลองเล่นดูจะได้รู้ว่าเกมยากประมาณไหน แล้วค่อยหาทางใส่อาวุธพิเศษ
เข้าไป
ถ้าเขาต้องเล่นเกมอย่างทุกข์ทรมาน ก็มั่นใจได้เลยว่าหลั งจากวางขายเกม
กลับใจคือฟากฝั่ง ต้องมีผู้เล่นจำนวนมากที่ถอดใจไม่เล่นต่อแน่
“เฮ้อ เหนื่อยชะมัด”
เผยเชียนอดคิดขึ้นมาไม่ได้ว่าการเป็นบอสนี่ช่างลำบากจริงๆ!
บทที่ 234 ถึงเวลาบอสเผยแสดงฝีมือ

วันพุธที่ 18 สิงหาคม
เดโม่เกมกลับใจคือฟากฝั่งเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ตัวเดโม่คือ ‘ตัวทดลอง’ ‘ตัวสาธิต’ และ ‘ตัวทดสอบ’ ของเกม เรียกว่าเป็น
ตัวเกมเวอร์ชันแรกสุดก็ได้
สำหรั บ เกมแบบเกมกลั บ ใจคื อ ฟากฝั ่ ง ขอแค่ ท ำโมเดลตั ว ละคร การ
เคลื่อนไหว ระบบต่อสู้ และอื่นๆ เสร็จคร่าวๆ แล้วเพิ่มฉากไปนิดหน่อยก็ ทำเกม
เวอร์ชันแรกออกมาได้แล้ว
ปกติแล้วการปรับปรุงตัวเกมเวอร์ชันแรกจะทำไปพร้อมๆ กับการรังสรรค์
ทรัพยากรงานภาพเพิ่มเติม ระหว่างทำฉากและมอนสเตอร์ใหม่เพิ่ม ก็จะปรับปรุง
การเคลื่อนไหวของตัวละคร ระบบต่อสู้ และรายละเอียดอื่นๆ ไปด้วย ทำแบบนี้
กระบวนการพัฒนาตัวเกมจะรุดหน้าไปได้เร็วขึ้น
ห้องทำงานของบอสเผย
หลี่หย่าต๋าปรับแต่งตัวเกมในคอมพิวเตอร์ของบอสเผย พอมั่นใจว่าการตั้งค่า
ระบบต่างๆ ถูกต้องและแก้ไขทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็พร้อมให้บอสเผยลอง
ทดสอบตัวเกม
เผยเชียนยืนมองหลี่หย่าต๋าปรับตัวเกมอยู่ข้างๆ
การผลิตเกมแอคชันมีเกณฑ์ที่สูงมาก
ทำไมเกมแอคชันผลิตในประเทศถึงดูกากจนทนเล่นแทบไม่ได้ แต่เกม AAA
ของต่างประเทศกลับทำให้ผู้เล่นรู้สึกเล่นได้เพลินๆ ไม่ติดขัด
คำตอบคือ รายละเอียด
ตัวอย่างเช่น ถ้าตัวละครถือมีดสั้น ดาบยาว ค้อนยักษ์ หรืออาวุธประเภทอื่นๆ
ท่าทางและการเคลื่อนไหวจะแตกต่างกันออกไป ดังนั้นจึงต้องใส่ใจเรื่องการ
เคลื่อนไหวในแต่ละเฟรม
แน่นอนว่าสามารถใช้การจัดการการเคลื ่อ นไหวเข้ามาช่วยได้ แต่ก็ต้อ ง
ปรับแต่งเพิ่มเติมด้วย
ถ้ามีเฟรมไหนหาย ติดขัด ช้าหรือเร็วเกินไป ผู้เล่นจะรู้สึกเล่นได้ไม่ลื่นไหล
นอกจากนั้นแล้ว การโจมตีศัตรูด้วยอาวุธที่ ต่างกันจะทำให้ศัตรูตอบสนอง
ต่างกันออกไป และต้องคำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดกับพื้นที่รอบๆ ด้วย
เช่น การโจมตีศัตรูด้วยมีดสั้นกับค้อนยักษ์จะได้ผลลัพธ์และการตอบสนอง
จากศัตรูที่แตกต่างกันออกไป
ถ้าใช้ค้อนยักษ์ทุบแล้วมอนสเตอร์ไม่ชะงัก ผู้เล่นจะรู้สึกว่าผลลัพธ์จากการ
โจมตีนั้น ‘แย่’ และ ‘ไม่สมจริง’
ดังนั้นการปรับแต่งให้ผลลัพธ์มีความเหมาะสมจึงเป็นงานด้านเทคนิคที่ต้องใช้
ความพยายามสูง
แต่ปัญหาเหล่านี้ก็แก้ได้ด้วยเงิน
เกมกลับใจคือฟากฝั่งใช้เทมเพลตการเคลื่อนไหวที่ดีที่สุด งานภาพสามมิติก็
เอาของที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ทรัพยากรมาปรับแต่งเพิ่มเติม ดังนั้นการเคลื่อนไหวใน
เกมจึงลื่นไหลและดีกว่าเกมผลิตในประเทศเกมอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด
พูดง่ายๆ คือ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเงิน
การปรับแต่งท่าทางการเคลื่อนไหวต่างๆ เป็นงานด้านเทคนิค หลี่หย่าต๋าจึง
ไม่ได้เข้าไปยุ่งเรื่องนี้ แต่ถ้าเป็นเรื่องการปรับแต่งการตั้งค่าและการออกแบบ
ระบบ เธอจะเป็นคนจัดการ
เช่น มอนสเตอร์จะเสียเลือดเท่าไหร่ถ้าผู้เล่นใช้อาวุธชนิดต่างๆ โจมตี ต้อง
โจมตีกี่ครั้งถึงจะฆ่ามอนสเตอร์ได้ การโจมตีแบบต่างๆ จะทำให้เกิดการตอบสนอง
แบบไหน การโจมตีแต่ละครั้งทำให้เสียเลือดเท่าไหร่ สร้างความเสียหายแค่ไหน
สิ่งเหล่านี้อยู่ในการออกแบบระบบ
ถึงเกม AAA รูปแบบคล้ายๆ กันจะมีการใช้ UI ต่างๆ มาแสดงค่าพลังชีวิต แต่
สิ่งเหล่านี้ก็มีการออกแบบระบบที่จำเพาะเจาะจงอยู่เบื้องหลัง ข้อมูลต่างๆ จะถูก
ซ่อนเอาไว้ด้วยการออกแบบระบบ
หลี่หย่าต๋าตรวจการตั้งค่าและการออกแบบระบบต่างๆ รอบสุดท้าย จากนั้น
ก็ยืนขึ้นแล้วเตรียมจะให้บอสเผยลองเล่นดู
เผยเชียนขัดขึ้น “เดี๋ยว ปรับการตั้งค่าให้ค่าสถานะมอนสเตอร์สูงขึ้นอีก”
หลี่หย่าต๋าอึ้งไป “เพิ่มอีกเหรอคะ ตอนนี้ก็สูงมากแล้วนะคะ”
เผยเชียนพยักหน้า “เอาขึ้นอีก เพิ่มเป็นสองเท่า ไม่สิ สามเท่าไปเลย”
หลี่หย่าต๋า “?”
ก่อนหน้านี้บอสเผยบอกไว้ว่าเกมกลับใจคือฟากฝั่งจะเป็นเกมที่ยากมากๆ ทุก
คนในทีมต้องพยายามคิดหาวิธีทำให้ผู้เล่นเล่นเกมไม่ผ่านอย่างเต็มที่
ภารกิจหลักของทีมคือทำให้ผู้เล่นไม่อยากเล่นต่อ
ลู่หมิงเหลียงทำตามคำสั่งของบอสเผยอย่างเคร่งครัด เปาซวี่เองก็คอยให้
คำแนะนำดีๆ เพิ่มเติม
แต่บอสเผยกลับยังไม่พอใจงั้นเหรอ
เผยเชียนไม่ได้อธิบายอะไรมาก เขารู้ดีว่าถึงลู่หมิงเหลียงจะทำตามที่บอกทุก
อย่าง แต่พวกเขาก็ยังขาดความคิดสร้างสรรค์
การเพิ่มพลังโจมตีมอนสเตอร์ในเกมคือสิ่งที่ถูกต้อง
หลี่หย่าต๋าขยับแว่นแล้วปรับพลังโจมตีมอนสเตอร์เพิ่มไปอีกสามเท่าตามที่เผย
เชียนสั่ง
แบบนี้โอกาสผิดพลาดที่ต่ำอยู่แล้วก็ต่ำลงไปกว่าเดิมอีก
หลังจากปรับการตั้งค่าเสร็จ หลี่หย่าต๋าก็ยืนขึ้นแล้วยื่นจอยให้บอสเผย ก่อน
จะหลบไปยืนอยู่ข้างๆเธออยากเห็นมากว่าบอสเผยจะเล่นเกมเป็นยังไง!
บอสเผยมั่นใจมากตอนที่สั่งให้ปรับพลังโจมตีของมอนสเตอร์เพิ่มสามเท่า
หรือบอสจะคิดว่าความยากแค่นี้ไม่ท้าทาย
ไม่แน่ บอสเผยอาจจะเล่นเกมเทพมากเหมือนเปาซวี่ ถึงได้อยากเล่นระดับ
ยากๆ มากกว่า
หลี่หย่าต๋าดันแว่นตาให้เข้าที่แล้วตั้งใจดูเต็มที่
เผยเชียนหยิบจอยเกม นั่งลงบนเก้าอี้ แล้วเริ่มเล่นเกม
ฉากแรกคื อ หมู ่ บ ้ า นเล็ ก ๆ ที ่ เ คยสงบสุ ข มาก่ อ น แต่ ห ลายคนสู ญ เสี ย จิ ต
วิญญาณไปแล้วกลายเป็นผีเร่ร่อน
เสื้อผ้าของคนเหล่านี้ขาดวิ่น ใบหน้าอึมครึม ในมือถืออาวุธสุดประหลาด มีทั้ง
ปังตอ จอบ เคียว คันฉาย และอุปกรณ์ทำไร่อื่นๆ บ้างมือเปล่า บางส่วนถือหิน
มอนสเตอร์กระจายตัวอยู่ทั่วหมู่บ้าน พฤติกรรมของพวกมันสุดแปลก
พวกที่ถือขวานกำลังสับขวานลงบนตอไม้ แต่กลับไม่มีท่อนไม้สำหรับทำฟืน
วางอยู่ พวกมันได้แต่เหวี่ยงขวานขึ้นลงไปมา
บางส่วนนั่งอยู่ตรงมุม หันหน้าเข้ากำแพง พูดพึมพำฟังไม่ได้ศัพท์
บ้างก็เดินเข้าหากำแพงบ้าน แม้จะสูญเสียสตินึกคิดไปแล้ว แต่พวกมันก็ยัง
เดินเข้าหาเส้นทางสู่ยมโลกตามสัญชาตญาณโดยไม่รู้ว่ามีกำแพงกั้นอยู่
บางตั ว ร่ อ นไปมาในหมู ่ บ ้ า นอย่ า งไร้ จ ุ ด หมาย พอเห็ น คนที ่ ย ั ง มี ส ติ ค รบ
สมประกอบก็กรีดร้องแล้วพุ่งเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง…
ตัวเอกเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาสวมชุดขาดวิ่น ในมือถือสิ่งที่ไม่น่าใช้เป็นอาวุธ
อยู่
ในสวนหลังบ้านที่ตัวเอกปรากฏตัวมีอาวุธพื้นฐานอย่าง ปังตอ ขวาน ท่อนไม้
คันฉาย และอื่นๆ อยู่ ตลอดการเล่นเกม ผู้เล่นจะได้อาวุธต่างๆ เพิ่ม ทุกชิ้น
สามารถใช้ได้ตามต้องการขอแค่ผู้เล่นมีค่าสถานะสูงพอ
เผยเชียนเลือกปังตอที่เหมาะสำหรับผู้เล่นใหม่ แล้ววิ่งเข้าหามอนสเตอร์ตัว
แรกที่เจอ
มอนสเตอร์ตัวจ้อยที่ถือคันฉายอยู่สัมผัสได้ถึงเผยเชียนที่เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้
มันแทงคันฉายเข้าใส่ก่อนที่เผยเชียนจะทันได้ฟันปังตอ!
เผยเชียนจิ๊ปากเมื่อเห็นหลอดเลือดลดลงไปมากกว่าครึ่ง
เขารีบกดปุ่มหลบตอนที่มอนสเตอร์แทงคันฉายซ้ำ เผยเชียนโดนโจมตีเข้าไป
จังๆ อีกครั้งจนเลือดหมดหลอด
“ฮ่าๆๆ…”
มอนสเตอร์หัวเราะชั่วร้ายก่อนจะหันเดินจากไป
เหลือทิ้งไว้แค่หน้าจอมืดสนิท
เผยเชียน “…”
หลี่หย่าต๋า “…”
ช่างเป็นสถานการณ์ชวนกระอักกระอ่วนใจจริงๆ
บทที่ 235 อาวุธพิเศษของบอสเผย

หลี่หย่าต๋าคิดว่าบอสเผยจะแสดงฝีมือสุดเทพจัดการกับมอนสเตอร์ เธอไม่คิด
เลยว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้
เธอเห็นบอสเผยบอกให้เพิ่มพลังโจมตีของมอนสเตอร์ด้วยความมั่นใจ! เห็น
บอสเผยคว้าอาวุธอย่างมั่นใจ แล้วพุ่งเข้าหามอนสเตอร์อย่างมั่นใจ! แล้วก็เห็น
บอสเผยแพ้หมดรูป…
ทุกอย่างเหมือนวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว มอนสเตอร์แทงเข้าใส่ร่างของเผย
เชียนอย่างแม่นยำขณะที่เขาพยายามจะหลบ
บอสมั่นใจขนาดนั้น แต่กลับโดนมอนสเตอร์ลูกกระจ๊อกฆ่าเนี่ยนะ
เผยเชียนยิ้ม
ทำได้ไม่เลว ไม่ผิดหวังเลย!
นี่แหละที่ฉันต้องการ!
ถ้าจะบังคับให้ผู้เล่นเลิกเล่นก็ต้องทำแบบนี้แหละ!
หลี่หย่าต๋าตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นรอยยิ้มของบอสเผย
บอสเผยคุมอารมณ์ได้ดีกว่าคนทั่วไปจริงๆ!
ผู้เล่นทั่วไปคงจะหัวร้อนกันน่าดูถ้าโดนมอนสเตอร์ลูกกระจ๊อกโจมตีสองครั้ง
แล้วตาย แต่บอสเผยกลับยิ้มร่า
หรือว่าบอสเผยกำลังจะสำแดงความสามารถที่แท้จริงให้ดู!
ไม่นานตัวละครของเผยเชียนก็ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง
เขายกปังตอแล้วพุ่งใส่ผีชาวบ้านที่ถือคันฉายอีกครั้ง
ห้าวินาทีต่อมา จอดำก็กลับมาอีกรอบ
“ฮ่าๆๆ”
เสียงหัวเราะชั่วร้ายของผีชาวบ้านฟังดูตอกย้ำจิตใจยิ่งกว่าเดิม
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเปิดส่วนแก้ไขตัวเกมขึ้นมาแล้วถามขึ้น “อัน
ไหนคือค่าความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์”
หลี่หย่าต๋ารีบชี้ “อันนี้ค่ะ ถ้าบอสอยากปรับค่าสถานะมอนสเตอร์ก็ใส่ตัวเลข
ลงไปได้เลย แต่ถ้าจะปรับให้เท่ากันทุกตัว ต้องไปที่…”
เผยเชียนเปิดไปที่การตั้งค่าสถานะมอนสเตอร์ทุกตัวตามที่หลี่หย่าต๋าบอก
“ฉันคิดเยอะเกินไปจริงๆ ด้วย บอสเผยน่าจะอยากลดพลังโจมตีของมอน
สเตอร์ลง” หลี่หย่าต๋าถอนหายใจเงียบๆ
เธอเกือบจะคิดไปแล้วว่าบอสเผยเป็นเกมเมอร์ฝีมือเทพ
แต่เผยเชียนกลับกดปรับตัวเลขเพิ่มไป 1.3 เท่าจากเดิม
เขาพยักหน้าหลังจากปรับเสร็จ
อืม ต้องแบบนี้แหละ!
ก่อนหน้านี้โดนไปดอกเดียวเลือดก็หายไปประมาณหกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว ถ้า
ปรับแบบนี้น่าจะกลายเป็นประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นต์
ไหนๆ ก็โดนแค่สองเฉาะตาย ปรับเพิ่มเป็นแบบนี้ก็ไม่น่าจะต่างอะไรมาก
หลี่หย่าต๋ารู้สึกเหมือนจะเป็นลม ถึงจะสวมแว่นหนา แต่เธอก็ดูไม่ออกเลยว่า
บอสเผยต้องการจะทำอะไร
“โอเค ผมอยากลองเล่นเกมจริงจังแล้ว คุณไปทำงานต่อได้” เผยเชียนบอก
หลี่หย่าต๋าพยักหน้า “โอเคค่ะบอสเผย ถ้าติดปัญหาอะไรเรียกดิฉันได้เลยนะ
คะ”
หลังจากหลี่หย่าต๋ากลับออกไป เผยเชียนก็เริ่มเกมใหม่อีกรอบ
“เจ๋งเป้ง ลองความยากระดับนี้แหละ!”
ไม่ใช่ว่าเผยเชียนประเมินความสามารถของตัวเองสูงไป
แต่ถ้าเขาไม่เข้มงวดกับตัวเอง แล้วจะไล่ผู้เล่นให้เลิกเล่นเกมได้ยังไง
ดังนั้นการเดินทางอันแสนทรหดของเผยเชียนจึงเริ่มต้นขึ้น
หลังจากตายที่หมู่บ้านอยู่หลายสิบหน เผยเชียนก็เริ่มจับจังหวะได้
ถึงเผยเชียนจะบอกให้ทำเกมออกมาให้ยากๆ จนผู้เล่นอยากเลิกเล่น แต่เขาก็
พบว่าพวกเกมยากบรมแบบนี้ถึงจะพัฒนามาต่างกันแต่ก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน
ลู่หมิงเหลียงกับเปาซวี่วางรากฐานไว้ให้ ส่วนหลี่หย่าต๋าเอามาทำต่อให้
สมบูรณ์ เล่นแล้วได้กลิ่นอายความเป็น Dark Soul มาก!
ทั้งหมดไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ แต่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
เกณฑ์แบ่งว่าเกมจะยากหรือง่ายสามารถแยกย่อยได้เป็นมิติต่างๆ ดังนี้
หนึ่ง การออกแบบระบบ
การเพิ่มระดับความยากของเกมสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการปรับค่าพลัง
โจมตีของมอนสเตอร์ ถ้าผู้เล่นโดนฆ่าง่ายๆ ก็ถือว่าผ่าน
แต่ถ้าปรับค่าให้สูงมากจนเกินไป เผยเชียนเองก็อาจจะเล่นไม่ผ่าน กลายเป็น
เกมที่ไม่สามารถเล่นผ่านได้ ซึ่งจะถือเป็นเกมที่ไม่สมบูรณ์ ทุกคนจะคิดว่าตัวเกมมี
บั๊กหรือไม่ก็ทำไม่เสร็จดี
ดังนั้นการปรับแต่งการออกแบบระบบจึงทำได้จำกัด ไม่สามารถทำอะไรเกิน
กว่าเหตุได้
สอง การควบคุมการเคลื่อนไหว
เช่น ผู้เล่นต้องกดปุ่มต่างๆ ตามที่กำหนดให้ตรงจังหวะเพื่อใช้ท่าพิเศษจัดการ
ศัตรู
สาม ความเร็วการตอบสนอง
มอนสเตอร์จะออกท่าโจมตีเร็วมากๆ ถ้าผู้เล่นตอบสนองไม่ทันก็จะโดนฆ่า
สี่ จุดแข็งและจุดอ่อน
เช่น ค่าสถานะบางอย่างช่วยให้โจมตีแรงขึ้นหรือฆ่าศัตรูบางประเภทได้
ห้า เหตุการณ์ไม่คาดคิด
ตัวอย่างเช่น ผู้เล่นกำลังเดินไปตามหน้าผาแล้วจู่ๆ มอนสเตอร์ก็กระโดดมา
ผลักตกเหว
ระดับความยากของเกมส่วนใหญ่จะพิจารณาจากห้าองค์ประกอบนี้
แต่ เ ผยเชี ย นต้ อ งทำให้ ม ั ่ น ใจว่ า ตั ว เขาเองจะเล่ น เกมผ่ า นได้ ดั ง นั ้ น การ
ออกแบบระบบ การควบคุมการเคลื่อนไหว และความเร็วการตอบสนองจะต้อง
อยู่ในขอบเขตที่ผู้เล่นทั่วไปสามารถเล่นได้
ถ้าเขาสนใจแต่เรื่องการออกแบบระบบ แล้วตั้งค่าให้บอสมีพลังชีวิตหนึ่งล้าน
หน่วยส่วนผู้เล่นโจมตีเข้าที่ละหนึ่งหน่วยก็อาจทำให้คนเลิกเล่นเกมนี้ได้ แต่ตัวเผย
เชียนเองก็ไม่น่าจะมีความอดทนสูงถึงขนาดนั้น
ในทางเดียวกัน ถ้าการโจมตีกับท่าพิเศษกดได้ยากและมีเวลาให้ตอบสนองสั้น
เกินไป ถึงจะผลักไสไล่ส่งผู้เล่นได้ แต่เผยเชียนก็ไม่น่าไปรอดเหมือนกัน
ดังนั้นระดับความยากในสามองค์ประกอบนี้จะต้องตั้งค่าให้อยู่ในขอบเขตที่
เผยเชียนรับได้ ซึ่งก็คือขอบเขตสำหรับคนทั่วไปนั่นเอง
ถ้าอยากจะปรับให้เกมยากขึ้น เขาต้ องไปจัดการกับส่วนจุดแข็งจุดอ่อนหรือ
เหตุการณ์ไม่คาดคิดแทน
ตัวอย่างเช่น มอนสเตอร์บางตัวจะโดนอาวุธพิเศษโจมตีแรงกว่า หรือบางตัว
สามารถซ่อนตัวในเงาได้ ต้องใช้ไอเทมพิเศษหรือไม่ก็อาวุธระยะไกลช่วย
เผยเชียนสามารถใช้ความรู้ความเข้าใจในตัวเกม (แอบดูแผนการออกแบบ
ทั้งหมด) ช่วยเรื่องพวกนี้ได้
ส่วนสามองค์ประกอบแรก เขาสามารถปรับให้อยู่ในระดับที่ผู้เล่นทั่วไปพอจะ
รับได้ไหวเท่านั้น
ดังนั้นหลังจากปรับตรงนั้นเพิ่มตรงนี้ เกมก็เริ่มมีความเป็นเกมสไตล์ Souls
มากขึ้น
เผยเชียนไม่ใช่แฟนเกมสไตล์ Souls เขาเป็นผู้เล่นจำพวกที่เลิกเล่น เกม
หลังจากสู้กับบอสไปแค่สามสี่ตัว
แต่พวกมอนสเตอร์ง่อยๆ ตอนต้นเกมก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับเขา
หลังจากโดนชาวบ้านถือคันฉายยำเละอยู่สองสามรอบ เผยเชียนก็เริ่มจับทาง
ได้ และเอาชนะผีชาวบ้านตัวนั้นและมอนสเตอร์ตัวอื่นๆ ได้ด้วยความสามารถของ
ตัวเอง
เรื่องต่อไปคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
นั่นก็คือการแอบใส่อาวุธพิเศษให้ตัวเอง
เผยเชียนเปิดหน้าปรับแต่งเกม สิ่งที่เขาจะทำนั้นเรียบง่ายมาก
ชายหนุ่มจะสุ่มเลือกโมเดลอาวุธจากทรัพยากรงานภาพแล้วเพิ่มเข้าไปใน
รายการอาวุธ
จากนั้นก็จะก๊อบปี้ข้อมูลอาวุธไปปรับค่าสถานะต่างๆ เพิ่ม เช่น พลังโจมตี
และความเร็ว
เขาจะออกแบบภารกิจพิเศษเพื่อเพิ่มเงื่อนไขในการได้รับอาวุธ
สรุปสั้นๆ คือ เผยเชียนจะซ่อนอาวุธชิ้นนี้ไว้ในที่ที่คนคาดไม่ถึง
เขาไล่ดูรายการอาวุธในเกมซึ่งมีมากมายหลายประเภท แต่ละชิ้ นมีค่าสถานะ
ซับซ้อน
แต่เขาต้องคิดให้ลึกซึ้งเรื่องอาวุธที่จะเอามาปรับแต่ง
ถ้าเลือกอาวุธโจมตีระยะไกลก็จะช่วยลดความยากของเกมไปได้มาก
แต่ปัญหาคือ เกมนี้เป็นเกมแอคชันจึงไม่ค่อยมีอาวุธระยะไกลมากนัก มีแค่ธนู
หน้าไม้ อะไรพวกนี้ ก็เหมือนกับเกมตระกูล Dark Soul อาวุธพวกนี้ไม่สามารถ
เอามาใช้เป็นอาวุธหลักได้ ต้องใช้เป็นอาวุธรองเท่านั้น

ที่ตั้งค่าไว้แบบนี้ก็เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างอาวุธระยะประชิดกับอาวุธ
ระยะไกล เกมประเภทนี้ ถ้ามีอาวุธระยะไกลที่มีระยะการโจมตีไกลมาก สร้าง
ความเสียหายได้สูง แถมยังสามารถใช้ได้เรื่อยๆ อาวุธระยะประชิดก็จะด้อยค่าไป
ถือเป็นการทำลายความสนุกของเกม
ดังนั้นตามแผนเดิมของลู่หมิงเหลียงกับเปาซวี่ ไม่ว่าจะเป็นธนูหรือหน้าไม้
อาวุธเหล่านี้จะสร้างความเสียหายได้ต่ำมากแถมยังเว้นช่วงระหว่างการโจมตีแต่
ละครั้งนาน เอาไว้ใช้ล่อศัตรูเท่านั้น
ถ้าเขาสร้างปืนไรเฟิลหรือปืนกล แล้วปรับค่าสถานะให้สามารถยิงโป้งเดียว
เป่าหัวมอนสเตอร์ทุกตัวกระจุยได้ ระบบคงไม่ยอมแน่
ดังนั้นถึงจะตั้งใจแอบใส่อาวุธลับเข้ามาในเกม แต่เผยเชียนก็ทำอะไรเกินพอดี
ไม่ได้อยู่ดี
บทที่ 236 “ผู่ต”ู้

เผยเชียนพิจารณาดูอาวุธทุกประเภท
ถึงจะต้องปรับค่าสถานะของอาวุธ แต่เผยเชียนก็พยายามคงค่าสถานะดั้งเดิม
ไว้ให้มากที่สุด หลังจากปรับแล้ว อาวุธชิ้นนั้นจะต้องมีความสามารถเฉพาะตัวตรง
ตามรูปลักษณ์
ไม่อย่างนั้นเกมจะดูไม่เรียบร้อย
เผยเชียนเลือกดูอาวุธทุกชิ้น
ตอนแรกเขาตั้งใจจะเลือกอาวุธมือเดียว แต่หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถึงอาวุธมือ
เดียวจะใช้งานได้ดี แต่ก็ปรับพลังโจมตีเพิ่มมากเกินไปไม่ได้ แถมระยะโจมตีก็ใกล้
ถือเป็นเรื่องอันตราย
สุดท้ายเผยเชียนก็เลือกดูพวกอาวุธขนาดยาวแทน เขาสังเกตเห็นไม้เท้าซึ่ง
เป็นอาวุธที่ไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่
เขาตรวจดูรหัสของอาวุธชิ้นนี้แล้วพบว่าเป็นไอเทมทั่วไปที่พบได้ในซากวัด
หลังออกจากหมู่บ้านเริ่มต้นแล้วมุ่งหน้าไปยังเมืองถัดไปจะมีซากวัดตั้งอยู่
ข้างๆ เมืองที่ว่า ในซากวัดมีพระแก่สุดบ้าคลั่งอยู่ จัดว่าเป็นมินิบอสตัวหนึ่งได้
เมื่อจัดการกับพระคลั่งได้ไม้เท้าจะดรอปมา ในซากวัดยั งมีกล่องสมบัติที่มี
ประคำชำรุดอยู่ด้วย
ประคำชำรุดเป็นอาวุธพิเศษในช่วงต้นเกม ใช้ควบคุมมอนสเตอร์และชุบชีวิต
ได้เมื่อผ่านไประยะหนึ่ง ถือเป็นอาวุธช่วงต้นเกมที่มีความสำคัญพอสมควร
นอกจากนั้นแล้ว ค่าสถานะของไม้เท้าก็ไม่ได้สูงมาก เรียกได้ว่าเป็นอาวุธ
ธรรมดาทั่วไปทีใ่ ส่มาในช่วงต้นเกม
ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติ ในเกมมีอาวุธหลายสิบแบบ บางอันใช้งานได้ดี บางอันก็
กาก เป็นเรื่องยากที่จะทำให้สมดุลกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
ไม้เท้าชิ้นนี้จัดอยู่ในอาวุธจำพวกกากที่ใส่ๆ มาให้ดูมีอาวุธหลายแบบเท่านั้น
“ฉันเลือกนาย!”
ถ้าเลือกอาวุธที่ดูไม่เก่งและไม่เป็นที่นิยม เผยเชียนก็ไม่ต้องปรับแก้อะไรมาก
เพื่อกันไม่ให้คนอื่นหาเจอได้ง่ายๆ
เขาไม่ได้ปรับค่าสถานะของไม้เท้า แต่สร้างอาวุธชิ้นใหม่ขึ้นมาโดยก๊อบปี้
ข้อมูลของไม้เท้าชิ้นนั้น จากนั้นก็ปรับการโจมตีพื้นฐานและค่าสถานะต่างๆ ให้ไม้
เท้าที่ทำขึ้นใหม่
จากนั้นเขาก็ดูท่าการโจมตีของไม้เท้าต่อ
ทุกท่าเป็นไปตามที่คิด ท่าโจมตีปกติคือการกวาดไม้เท้าในแนวนอนที่ทั้งช้า
และอุ้ยอ้าย แต่ท่ากระโดดโจมตีกับท่าพุ่งโจมตีเป็นการฟาดไม้เท้าที่เร็วขึ้น
เผยเชียนจัดแจงวิธีการให้ได้ไม้เท้ามาครอบครอง
เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ยุ่งยากมากนัก ถ้ าสร้างฉากใหม่หรือภารกิจใหม่ที่
ซับซ้อนเกินไป เขาก็ต้องสร้างพล็อตเนื้อเรื่องเพิ่มขึ้นมาใหม่ ซึ่งต้องให้ทั้งทีมเข้า
มาช่วย
ด้วยเหตุนี้เผยเชียนจึงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจซ่อนอาวุธนี้ไว้ในระบบที่มี
อยู่แล้ว
ตามการตั้งค่าปกติ ซากวัดนี้คือฉากเสริมใกล้เมือง ผู้เล่นจะเลือกเข้าไปสู้
หรือไม่เข้าก็ได้ พระคลั่งมีพลังอยู่ในระดับกึ่งกลางระหว่างมอนสเตอร์ระดับสูงกับ
มินิบอส
ถ้าโค่นพระคลั่งได้ก็จะดรอปไม้เท้า ส่วนประคำชำรุดสามารถหาได้จากกล่อง
สมบัติ
เผยเชียนแอบแก้ค่าสถานะของพระคลั่ง
เขาลดความสามารถด้านการต่อสู้ของพระคลั่งลงไปมากจนอ่อนแอกว่ามอน
สเตอร์ลูกกระจ๊อกอีก
การปรับแบบนี้ถือ ว่าสมเหตุสมผล เพราะพระคลั่งอายุค่อ นข้างมาก ให้
แข็งแกร่งเทียบเท่ามินิบอสคงจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ ควรจะอ่อนแอหน่อย
คนที่เล่นมาถึงจุดนี้ได้จะต้องผ่านสมรภูมิสุดโหดที่หมู่บ้า นเริ่มต้นและเมือง
ข้างๆ ก่อน คนกลุ่มนี้น่าจะระแวง NPC แบบพระคลั่งและคอยระมัดระวังตัว
แน่นอนว่าถึงผู้เล่นจะไม่ได้ทำอะไร พระคลั่งก็อยู่ในโหมดมุ่งร้ายอยู่แล้ว และ
จะโจมตีผู้เล่นก่อน
ถ้าล้มพระคลั่งได้ ก็จะได้รับไม้เท้ากับประคำตามปกติ
เนื่องจากประคำมีประโยชน์มาก ส่วนไม้เท้าก็เป็นอาวุธพิเศษ ผู้เล่นส่วนใหญ่
ต้องจัดการพระคลั่งแน่ ไม่น่าจะสนใจทำอย่างอื่น
เผยเชียนตั้งใจเพิ่มระบบพิเศษให้พระคลั่ง ถ้าผู้เล่นถูกพระคลั่งฆ่ารวมกันหก
ครั้ง เมื่อเกิดใหม่รอบที่เจ็ดแล้วกลับมาที่ซากวัดอีกรอบ พระคลั่งจะกลายเป็น
NPC ที่เป็นมิตรกับผูเ้ ล่นและไม่โจมตีก่อนอีก
การใส่ระบบนี้มีเหตุผลรองรับอยู่ พอผู้เล่นตายซ้ำๆ พระคลั่งก็จะค่อยๆ ได้สติ
กลับมาทีละนิดจากดวงวิญญาณที่แตกดับ
แน่นอนว่าผู้เล่นยังฆ่าพระคลั่งได้เหมือนเดิม หลังจากฆ่าได้ ก็จะได้รางวัล
ตามปกติ
แต่ถ้าผู้เล่นเลือกคุย พระคลั่งจะพูดถึงยุคแห่งความเสื่อมโทรมของพุทธ
ศาสนาที่กำลังคืบคลานเข้ามาและพระธรรมที่กำลังจะถูกกำจัดไป ถึงจะไร้ซึ่ง
หนทางแต่พลังแห่งธรรมยังคงอยู่ ตราบใดที่ตัวเอกสามารถเข้าสู่สังสารวัฏทั้งหก
ได้ก็จะถูกปลดเปลื้องจากความทุกข์ทั้งปวง
ตอนนั้นเองร่างของพระคลั่งก็จะส่องแสงแห่งธรรม ประคำในกล่ องสมบัติกับ
ไม้เท้าในมือจะแปรเปลี่ยนเป็นอาวุธชิ้นใหม่นามว่า ‘ผู่ตู้’ ซึ่งก็คืออาวุธที่เผยเชียน
ก๊อบปี้มาเสริมพลังนั่นเอง
‘ผู่ตู้’ แทบไม่แตกต่างจากไม้เท้าปกติ มีแค่ส่วนหัวเท่านั้นที่เปล่งประกายสี
ทองจากแสงแห่งธรรม
หลังได้อาวุธชิ้นนี้มา นอกจากผู้เล่นจะได้พลังโจมตีเพิ่มขึ้นมากแล้ว ยัง
สามารถไปที่สะพานลืมภพจากเส้นทางสู่ยมโลก ข้ามหินสามชาติเข้าสู่สังสารวัฏ
ทั้งหก และหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้เลย
ตามการตั้งค่าของเกม สังสารวัฏทั้งหกเป็นฉากจบปลอม
ตอนเริ่มเกมจะมีชายแก่ที่หมู่บ้าน ผู้เล่นต้องฆ่าชายแก่และตามดวงวิญญาณ
ไปจนถึงเส้นทางสู่ยมโลก แต่หลังจากได้เบาะแสเพิ่มเติมก็จะรู้ว่าชายแก่คนนี้
แท้จริงแล้วคือตัวผู้เล่นหลังกลับชาติมาเกิด
จากการตั ้ ง ค่ า นี ้ ตอนที ่ ผ ู ้ เ ล่ น เริ ่ ม เกมครั ้ ง ที ่ ส อง ชายแก่ จ ะสวมชุ ด
เครื่องประดับ และอาวุธที่ผู้เล่นใช้ในการเล่นรอบแรก แตกต่างตรงที่สภาพของ
ทุกอย่างนั้นแย่กว่า
ดังนั้นถ้าผู้เล่นถือผู่ตู้ อาวุธของชายแก่ก็จะเป็นผู่ตู้ด้วย แค่ไม่มีค่าสถานะและ
ความสามารถพิเศษโดดเด่นอะไร เป็นแค่ไม้เท้าธรรมดา
นอกจากนั้นผู่ตู้ยังเอาไว้ใช้ผ่านสังสารวัฏทั้งหกได้เท่านั้น ถ้าผู้เล่นเอาไปสู้กับ
พวกบอสในช่วงท้ายเกม ไม้เท้าจะเสื่อมพลังกลายเป็นอาวุธธรรมดาไป
ในการเล่นรอบที่สอง อาวุธชิ้นนี้จะไม่สามารถอัปเกรดได้
เป้าหมายของเผยเชียนคือรีบเล่นให้จบเกมสักหนึ่งแบบ จึงต้องการอาวุธมาใช้
จัดการจุดประสงค์นี้เท่านั้น
เขาไม่ใช่พวกชอบเสพความทุกข์ทรมาน เลยไม่อยากเล่นหลายรอบให้พบฉาก
จบหลายๆ แบบ
เผยเชียนใช้เวลาช่วงบ่ายง่วนอยู่กับการปรับแต่งต่างๆ
การปรับแต่งไม่ได้ซับซ้อนอะไร สามารถใช้เครื่องมือพัฒนาเกมแก้ไขได้ไม่ยาก
แต่เผยเชียนก็ร้างมือจากการใช้เครื่องมือนี้ไปนานจึงต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่
หลังจากปรับแต่งเสร็จเรียบร้อย เผยเชียนก็ตรวจดูผลงานคร่าวๆ
เขาไม่ต้องตรวจดูรายละเอียดลงลึก ถ้ามีบั๊กอะไร เดี๋ยวคนอื่นก็ช่วยแก้เอง
แหละ
เผยเชียนยืนยันการเปลี่ยนแปลงแล้วเดินไปหาหลี่หย่าต๋า
“ผมแก้เนื้อหาเกมนิดหน่อย ไม่ได้กระทบกับเกมมาก คุณไม่ต้องใส่ใจอะไร
แล้วก็ไม่ต้องแจ้งคนอื่นเรื่องนี้ด้วย”
ทีมออกแบบต้องตรวจเจอการปรับแก้นี้แน่นอน หลี่หย่าต๋าที่เป็นหัวหน้าทีม
ออกแบบก็ไม่น่าโง่จนไม่สังเกตเห็นว่ามีอาวุธใหม่เพิ่มขึ้นมา
ไหนๆ พวกเขาก็ต้องตรวจเจออยู่แล้ว เผยเชียนจึงตัดสินใจบอกหลี่หย่าต๋าไป
ตรงๆ
อีกอย่างนี่เป็นคำสั่งของบอส ทีมออกแบบย่อมต้องช่วยบอสเผยเก็บความลับ
เรื่องนี้อยู่แล้ว
บทที่ 237 สิ่งไร้เหตุผลย่อมมีความหมายลึกซึ้งซ่อนอยู่!

บอสเผยแก้เนื้อหาเกมไปนิดหน่อยเหรอ
หลี่หย่าต๋าอึ้งไปเล็กน้อย
เท่าที่เธอรู้มา บอสเผยไม่ค่อยแก้เนื้อหาเกมเอง
ถ้าอยากแก้ตรงไหน บอสจะบอกลู่หมิงเหลียงโดยตรง เสร็จแล้วลู่หมิงเหลียง
ก็จะจัดการให้ตามที่ขอมา
ทำไมรอบนี้บอสเผยแก้ไขตัวเกมเองล่ะ
บอสไม่เชื่อใจฉันเหรอ
หลี่หย่าต๋าคิดอยู่พักใหญ่ก็ยังไม่เข้าใจ ถ้าบอสเผยไม่เชื่อใจฉัน แล้วทำไมถึงให้
ฉันมาเป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบล่ะ
เธอเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานด้วยความงุนงง แล้วตรวจดูเนื้อหาเกมที่ถูกแก้ไข
เนื้อหาถูกเปลี่ยนไปไม่มาก ส่วนปรับแก้ก็เน้นที่อาวุธชิ้นหนึ่งเป็นหลัก
อาวุธที่ว่าคือไม้เท้าธรรมดาๆ ที่เอามาเสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มเอฟเฟ็กต์
แสงเข้าไป สิ่งที่เพิ่มมานอกจากนั้นก็มีภารกิจพิเศษและวิธีได้อาวุธอัปเกรดนี้
หลี่หย่าต๋าตรวจดูอาวุธที่ชื่อผู่ตู้
ดูจากค่าสถานะแล้ว อาวุธชิ้นนี้แข็งแกร่งมากในช่วงต้นเกม สามารถใช้จัดการ
ศัตรูได้ง่ายๆ
แต่ความเร็วการโจมตียังเท่าเดิม และท่าการโจมตีก็ยังเป็นการกวาดไม้เท้า
อย่างอุ้ยอ้ายเหมือนเดิม
แน่นอนว่าในขั้นตอนการออกแบบ อาวุธชิ้นนี้ก็เหมือนอาวุธถือสองมือชิ้น
อื่นๆ คือมีท่ากระโดดโจมตีและจะโจมตีได้ไวขึ้นหลังจากกดท่าต่างๆ หมายความ
ว่าถ้าผู้เล่นฝีมือดีได้อาวุธชิ้นนี้ไปก็จะทำให้การต่อสู้ในช่วงแรกของเกมง่ายขึ้นมาก
ขณะเดียวกัน อาวุธชิ้นนี้ก็มีข้อจำกัดร้ายแรงอยู่หนึ่งอย่าง ถ้าเอาไปใช้ในเนื้อ
เรื่องช่วงหลังฉากจบสังสารวัฏทั้งหก พลังโจมตีจะไม่ได้เหนือชั้นกว่าอาวุธชิ้นอื่นๆ
แถมตอนเริ่มเล่นเกมครั้งที่สอง ความสามารถพิเศษที่ติดมากับอาวุธก็จะหายไป
ด้วย
หลี่หย่าต๋ารู้สึกสับสนเล็กน้อย
ทำไมบอสเผยถึงสร้างอาวุธชิ้นนี้ขึ้นมาเป็นพิเศษ
หรือบอสจะเล่นไม่ผ่าน เลยใส่ตัวช่วยเข้ามาให้ตัวเอง
อืม ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่
ถ้าบอสคิดว่าเกมยากเกินไปก็ลดระดับความยากได้เลยนี่ อีกอย่างบอสเป็นนัก
ออกแบบเกม ไม่เห็นจำเป็นต้องเล่นเกมให้จบเลย
ดังนั้นเหตุผลนี้จึงตกไป ต้องเป็นเหตุผลอื่นสิ
หรือว่าการทำแบบนี้จะมีเหตุผลลึกซึ้งบางอย่างซ่อนอยู่
หลี่หย่าต๋าไตร่ตรองให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ระดับความยากของตัวเกมในตอนนี้ถือว่า
โหดสำหรับผู้เล่นทั่วไปมาก พวกมอนสเตอร์ลูกกระจ๊อกช่วงต้นเกมซัดผู้เล่นแค่
สองครั้งก็ส่งไปเกิดใหม่ได้แล้ว หมายความว่าผู้เล่นจะต้องพยายามเลี่ยงไม่ให้โดน
โจมตีเลย
ถึงเล่นไปสักพักจะมีไอเทมช่วยฟื้นฟูพลังชีวิต แต่ถ้าเทียบกับความเร็วในการ
เสียเลือดของผู้เล่นแล้ว ไอเทมพวกนี้ยังจัดว่าไม่ดีพอเท่าไหร่
สุดท้ายแล้วผู้เล่นก็ต้องมีฝีมือที่เก่งกาจมากพอ
ถ้าอย่างนั้นบอสเผยสร้างอาวุธชิ้นนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยผู้เล่นมือใหม่เหรอ อย่าง
น้อยถ้าได้อาวุธนี้ไป ผู้เล่นที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ก็สามารถเล่นเกมไปจนถึงฉาก
จบฉากหนึ่งได้
หรือว่านี่คือสัญลักษณ์แสดงความเมตตาปรานีของบอสเผย
ก็เป็นไปได้
แล้วทำไม…ถึงซ่อนไว้ลึกลับซับซ้อนขนาดนี้
หลี่หย่าต๋าสังเกตเห็นว่าบอสเผยปรับลดค่าสถานะของพระคลั่งที่ดรอปอาวุธ
ชิ้นนี้ลง ตอนนี้พระคลั่งอ่อนแอกว่ามอนสเตอร์ลูกกระจ๊อกเสียอีก
พระคลั่งประจำอยู่ห่างตัวเมืองออกไป คนที่เล่นไปจนถึงจุดที่ว่านี้จะต้องผ่า น
ความหฤโหดและฆ่ามอนสเตอร์ไปมากมาย จึงไม่เห็นจำเป็นต้องแวะฆ่าพระคลั่ง
ถึงจะบังเอิญโดนฆ่าตาย ก็ไม่น่าจะตายซ้ำตายซ้อนถึงหกครั้ง
เว้นเสียแต่ว่าจะตั้งใจตายเอง คิดไม่ออกเลยว่าคนแบบไหนกันจะยอมไปให้
พระคลั่งฆ่าถึงหกครั้ง
อีกอย่างถ้าฆ่าพระคลั่งตามปกติก็จะได้ไม้เท้าธรรมดากับลูกประคำ ได้ทั้ง
สะสมอาวุธเพิ่มและได้ไอเทมช่วงต้นเกมที่แข็งแกร่งมาก รางวัลนี้น่าจะดึงดูดใจผู้
เล่นได้มากกว่า
สรุปแล้วผู่ตู้นั้นซ่อนไว้ลึกลับซับซ้อนมาก ผู้เล่น 99.99% ไม่น่าจะหาเจอ!
ถ้าบอสเผยใส่เข้ามาเพราะปรานี ทำไมถึงต้องซ่อนไว้ในที่ที่หาเจอไม่ได้ง่า ยๆ
แบบนี้
หลี่หย่าต๋าคิดหนัก
พี่เปาซวี่บอกเอาไว้ว่า สิ่งไร้เหตุผลย่อมมีความหมายลึกซึ้งซ่อนอยู่
สิ่งไร้เหตุผลในตอนนี้ก็คือเจ้าอาวุธชิ้นนี้!
“ทำไมต้องตายถึงหกครั้ง แล้วพอครั้งที่เจ็ดจู่ๆ พระคลั่งก็เกิดเป็นมิตรกับผู้
เล่นขึ้นมาล่ะ
“จำนวนพวกนี้ซ่อนความหมายอะไรไว้นะ”
หลี่หย่าต๋าค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมบนเว็บเชียนตู้
ถึงจะเจอผลลัพธ์มากมายจนหลี่หย่าต๋าไม่รู้ว่าบอสเผยอ้างอิงอันไหน แต่เธอก็
พอจะเดาได้ว่าจำนวนที่ว่ามีความหมายอะไรซ่อนอยู่
แน่นอนว่าเรื่องพระพุทธศาสนาเชิงลึกนั้นเป็นเรื่องล้ำลึกเกินกว่าที่หลี่หย่าต๋า
จะเข้าใจ เว็บเชียนตู้ก็ไม่มีข้อมูล ผู้เล่นทั่วไปเองก็ไม่น่าจะเข้าใจเหมือนกัน
ความหมายเฉพาะบางอย่างต้องไม่ล้ำลึกมาก เพื่อที่ผู้เล่นทั่วไปจะได้เข้าใจได้
เลข ‘เจ็ ด ’ กั บ ‘เก้ า ’ เป็ น ตั ว เลขที ่ ค ่ อ นข้ า งสำคั ญ ในพระพุ ท ธศาสนา
ตั ว อย่ า งเช่ น เลข ‘เก้ า ’ ใน ‘เก้ า ชั ้ น บั ว ของพระอมิ ต ายุ ส ะ’ นั ้ น บ่ ง บอกถึ ง
ความสำเร็จ
เลข ‘เจ็ด’ มีหลายความหมาย โดยสื่อถึงความสำเร็จเช่นกัน แต่บางคนมอง
ว่าเลขนี้หมายถึงความสำเร็จเล็กน้อย
นอกจากการตีความเหล่านี้แล้ว ตอนที่พระพุทธเจ้าถือประสูติก็ เดินได้เลย
ทันทีเจ็ดก้าว หกก้าวแรกคือสัญลักษณ์แทนสังสารวัฏทั้งหก ส่วนก้าวที่เจ็ดคือ
สัญลักษณ์แทนการตรัสรู้ ดังนั้น เลข ‘เจ็ด’ จึงสื่อถึงเรื่องการหลุดพ้นได้ด้วย
“ตายเจ็ดครั้งคือบรรลุผลเหรอ ไม่น่าจะใช่
“จริงๆ ผู้เล่นตายแค่หกครั้ง
“ถ้าอย่างนั้น… การตายทั้งหกครั้ งก็สื่อถึงสังสารวัฏทั้งหก ส่วนครั้งที่เจ็ดคือ
การบรรลุผล
“มิน่าล่ะอาวุธนี้ถึงใช้ได้แค่ถึงฉากจบสังสารวัฏทั้งหก”
หลังจากวิเคราะห์ดูหลายๆ อย่าง หลี่หย่าต๋าก็สรุปได้ว่านี่น่าจะเป็นคำอธิบาย
ที่ดีที่สุด
การตายหกครั ้ ง สื ่อ ถึง สั ง สารวัฏ ทั้ ง หก ซึ ่ ง ก็ ห มายความว่า ผู้ เล่น ได้เข้าสู่
สังสารวัฏทั้งหกแล้ว พอเจอพระคลั่งรอบที่เจ็ดและได้รับผู่ตู้มาก็เท่ากับว่าได้
บรรลุผล
นอกจากจะสามารถข้ามเส้นทางสู่ยมโลกไปเจอบอสแห่งสังสารวัฏทั้งหกได้
ทันทีแล้ว อาวุธชิ้นนี้ยังสร้างขึ้นมาเพื่อล้มบอสตัวนี้โดยเฉพาะ
ผู้เล่นน่าจะมีการตอบสนองสองแบบเมื่อได้รับอาวุธชิ้นนี้
แบบแรกคือดีใจมากที่ได้ผู่ตู้มาและหวังพึ่งพลังโจมตีของอาวุธชิ้นนี้โค่นศัตรูลง
ง่ายๆ และเข้าสู่ฉากจบสังสารวัฏทั้งหก
แบบที่สองคือเลือกไม่ใช้ผู่ตู้และใช้ความสามารถของตัวเองมุ่งสู่ฉากจบแบบ
อื่นๆ
เพราะอย่างไรเกมก็ตั้งค่าไว้ว่าสังสารวัฏทั้งหกเป็นฉากจบปลอมที่ตัวเอกคิดว่า
ตัวเองหลุดพ้นจากโลกอันสิ้นหวังไปได้ แต่แท้จริงแล้วแค่กลับชาติมาเกิดใหม่อีก
ครั้ง
การใช้ผู่ตู้เพื่อไปถึงฉากจบนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนถูกดูแคลน
ถ้าใช้ผู่ตู้ก็เท่ากับผู้เล่นเลือกหนี ไม่ยอมเผชิญหน้าความท้าทาย คิดแต่จะ
หาทางเอาตัวรอด
การไม่ใช้ผู่ตู้และหยิบอาวุธธรรมดาไปเผชิญหน้ากับศัตรูสุดโหด และการต่อสู้
แสนท้าทายจะทำให้เป็นอิสระจากความทุกข์ทรมานได้อย่างแท้จริง!
คิดได้อย่างนั้นหลี่หย่าต๋าก็อยากจะเอ่ยชม
พอมาคิดดูดีๆ ตัวเกมตามเดิมก็ไม่ได้ มีอะไรไม่ดี แค่ขาดความลึกซึ้งไปนิด
หน่อย
เดิมพระคลั่งในซากวัดเป็นแค่ฉากรอง ผู้เล่นจะฆ่าพระคลั่งหรือไม่ก็ไม่ได้
ส่งผลกระทบกับเนื้อเรื่องช่วงหลัง
ฉากจบสังสารวัฏทั้งหกก็ไม่ได้แตกต่างจากฉากจบอื่นๆ เท่าไหร่
แต่พอบอสเผยปรับตัวเกม ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด
การเพิ่มอาวุธสุดเทพอย่างผู่ตู้เข้ามาทำให้ผู้เล่นต้องคิดหนักกับสองตัวเลือกจะ
เลือกความสบายและหลอกตัวเองด้วยฉากจบปลอม หรือจะยอมเผชิญหน้ากับ
ความลำบากและฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อค้นหาความจริงของโลกใบนี้
ผู้เล่นจะเข้าใจฉากจบแต่ละแบบในเกมได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทำให้รู้สึกอินและ
ประทับใจกับตัวเกมมากขึ้น!
บทที่ 238 ฉันจะไม่ยอมทรมานคนเดียว

“สมกับเป็นบอสเผยจริงๆ
“นี่แหละคือตัวชูโรงของเกม!”
หลี่หย่าต๋ารู้สึกประทับใจมาก เธอคิดว่าตัวเองยังมีเรื่องที่ต้องเรียนรู้อีก
มากมาย
แน่นอนว่าปัญหาเดียวคือเจ้าตัวชูโรงที่ว่ามันค้นเจอไม่ได้ง่ายๆ
เธอคิดว่าโอกาสที่ผู้เล่นจะค้นพบเรื่องนี้แทบจะเป็นศูนย์
“ทำไมบอสเผยถึงซ่อนไว้ลึกลับขนาดนี้
“เพราะการตายหกครั้งสื่อถึงสังสารวัฏทั้งหก ส่วนครั้งที่เจ็ดคือการบรรลุผล
เหรอ
“ไม่น่าใช่ บอสเผยลดค่าสถานะทุกอย่างของพระคลั่ง มีโอกาสน้อยมากที่ผู้
เล่นจะโดนพระคลั่งฆ่าตาย”
ถ้าเป็นการตั้งค่าแบบเดิม พระคลั่งจะมีพลังเทียบเท่ามินิบอส ผู้เล่นหลายคน
อาจจะตายซ้ำๆ จนครบหกรอบได้อย่างรวดเร็ว
จากนั้นก็จะค้นพบอาวุธชิ้นนี้
แต่ตอนนี้ค่าสถานะของพระคลั่งถูกลดลง ถึงผู้เล่นจะแขนด้วนข้างหนึ่งก็
น่าจะตายอย่างมากแค่ครั้งสองครั้งเท่านั้น เพราะผู้เล่นที่แขนด้วนก็ไม่น่าจะล้ม
มอนสเตอร์ลูกกระจ๊อกตอนต้นเกมได้ ไม่น่าจะอยู่รอดมาเจอพระคลั่ง
“ออกแบบมาสุดยอดขนาดนี้ ถือว่าเป็นตัวชูโรงของเกมก็ว่าได้… แต่บอสกลับ
ไม่อยากให้ผู้เล่นส่วนใหญ่ค้นพบ
“บอสเผยช่างเป็นคนที่ไม่เหมือนใครจริงๆ”
หลี่หย่าต๋าอดรู้สึกทึ่งขึ้นมาไม่ได้
ต้องยอมรับเลยว่าบอสเผยไม่ใช่นักออกแบบเกมธรรมดาทั่วไป
นักออกแบบเกมคนอื่นๆ จะพยายามเอาอกเอาใจผู้เล่น แต่บอสเผยไม่ได้
สนใจเลยว่าจะโดนผู้เล่นด่าหรือเปล่า
แน่นอนว่าไม่ได้หมายความว่าการเอาใจผู้เล่นคือเรื่องผิดและการทรมานผู้เล่น
คือเรื่องถูก หลี่หย่าต๋าแค่คิดว่าบอสเผยมีวิธีการออกแบบเกมที่เป็นเอกลักษณ์
และไม่ได้หวังว่าผู้เล่นจะเข้าใจสิ่งที่ตัวเองคิด
เห็นได้ชัดจากเกมนักออกแบบเกม
ถึงจะมีผู้เล่นมากมายวิเคราะห์ความหมายเบื้องลึกของเกม แต่บอสเผยก็ไม่
เคยออกมาอธิบายอย่างเป็นทางการเลยสักครั้ง
ก็เหมือนสำนวนที่ว่า ‘นักอ่านพันคนตีความพันแบบ’ นักเขียนบางคนเชื่อว่า
เมื่อผลงานเสร็จสมบูรณ์แล้ว มันก็จะกลายเป็นของนักอ่าน จึงไม่ได้มีการตีความ
แบบของนักเขียนแค่อย่างเดียว
ชัดเจนว่าบอสเผยเองก็ใช้กระบวนการคิดนี้กับเกมต่างๆ ที่สร้างมา
ถึงบอสเผยจะปรับแก้เกมกลับใจคือฟากฝั่งมาอย่างสมบูรณ์แบบ แต่บอสก็ไม่
หวังอยากให้ผู้เล่นมาค้นเจอ
พูดอีกอย่างคือ ในสายตาของบอสเผย ถึงจะไม่มีใครค้นพบสิ่งที่บอสปรับแก้
และต้องใช้เวลาแรมเดือนแรมปีกว่าจะมีคนค้นเจอ บอสก็ไม่ได้สนใจ!
ไม่แน่บอสเผยอาจจะหวังให้ไม่มีใครค้นเจอก็ได้
มิน่าบอสถึงย้ำไม่ให้ประกาศเรื่องการปรับแก้นี้ให้คนอื่นรู้
นี่แหละคือความเหนือชั้นของบอสเผย!
หลี่หย่าต๋ารู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ส่วนที่วิเศษของเกมอาจถูกซ่อนไว้ตลอดกาล
ถ้าเป็นแบบนั้นคงปวดใจน่าดู
แต่เธอก็เข้าใจความรู้สึกของบอสเผย จึงคิดว่าตัวเองไม่ควรจะแพร่งพราย
ข้อมูลนี้ออกไป
ถึงจะรู้สึกสองจิ ตสองใจ แต่หลังจากคิ ดวนซ้ ำอยู่ หลายหน หลี่หย่าต๋ า ก็
ตัดสินใจเชื่อฟังตามที่บอสเผยบอก
“สิ่งที่ฉันทำได้ในตอนนี้คือปรับให้รายละเอียดต่างๆ ในเกมออกมาสมบูรณ์
แบบที่สุด และจัดการกับจุดบกพร่องที่บอสเผยไม่ทันแก้
“ถ้ามีผู้เล่นค้นพบส่วนนี้เข้าจริงๆ จะได้เล่นต่อได้โดยไม่เจอบั๊ก ฉันจะต้องทำ
ให้ผู้โชคดีคนนั้นได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด!”
หลี่หย่าต๋าที่มีไฟในการทำงานลุกโชนดันแว่นหนาเตอะให้เข้าที่
เธอเหมือนจะเข้าใจแล้วว่าทำไมหัวหน้าฝ่ายวางแผนทุกคนที่บอสเผยแต่งตั้งดู
เปี่ยมไปด้วยพลังอันเหลือล้น
นั่นก็เพราะว่าบอสเผยช่วยสร้างขวัญกำลังใจให้ลูกน้องอยากก้าวเดินไป
ข้างหน้านั่นเอง!
ระหว่างนั้น เผยเชียน บอสผู้ช่วยสร้างขวัญกำลังใจให้ลูกน้องอยากก้าวเดินไป
ข้างหน้ากำลังจ้องเขม็งไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยความเดือดดาล
โคตรหัวร้อนเลย!
ถึงเผยเชียนจะใส่อาวุธพิเศษเข้ามาในเกมแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ทรงพลังขนาดนั้น
หลังจากปรับค่าสถานะ เผยเชียนรู้สึกว่าผู่ตู้ให้ความรู้สึกเหมือนดาบจันทร์
เสี้ยวใน Dark Souls 1 ถึงท่าโจมตีปกติจะใช้การได้ยากแถมยังอุ้ยอ้าย แต่ก็ใช้
ฟาดใส่เป้าหมายได้ดีทีเดียว
นอกจากจะมีระยะการโจมตีที่ค่อนข้างไกลแล้ว ความเสียหายที่ทำได้ก็สูง ถือ
ว่าเป็นอาวุธที่สมบูรณ์แบบทีเดียว
ระหว่างสู้กับมอนสเตอร์ ขอแค่ผู้ เล่นตั้งใจหลบการโจมตีของมอนสเตอร์และ
หาโอกาสสวนกลับหรือไม่ก็ถอยหนีซ้ำไปมา ก็สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ส่วนใหญ่ได้
แล้ว
อีกอย่างความเสียหายที่ผู่ตู้ทำได้สูงกว่าดาบจันทร์เสี้ยว ทำให้ระดับความยาก
ของเกมลดลงไปมาก
ปัญหาคือ… ถึงจะสร้างความเสียหายได้มากขึ้นด้วยอาวุธชิ้น นี้ แต่มอนสเตอร์
เองก็ทำได้เหมือนกัน
สุดท้ายเผยเชียนก็ต้องทนทุกข์ทรมานเหมือนเดิม
“ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ได้…”
เผยเชียนหงุดหงิดมาก
ไม่ได้การแล้ว ฉันจะไม่ยอมทรมานคนเดียว!
เผยเชียนหัวร้อนขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างคิดถึงชื่อหนึ่งในบัญชีดำ
พอคิดได้ดังนั้น เขาก็หยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความหาเลขาซิน
“ติ ด ต่ อ หาอาจารย์ เ ฉี ย วแล้ ว ถามดู ว ่ า อยากทดสอบเกมใหม่ ข องเราไหม
จัดการเซ็นสัญญาให้มาเป็นนักทดสอบเกมมืออาชีพระหว่างขั้นตอนการพัฒนา
เกม เขาต้องเล่นเกมแปดชั่วโมงต่อวัน ค่าแรงได้วันละห้าร้อยหยวน
“แล้วก็… เขาต้องเล่นเกมนี้วันละแปดชั่วโมงไปจนถึงวันวางขายเกม ถ้าทำ
ตามสัญญาไม่ได้…จะไม่ได้เงินสักหยวนเดียว”
เลขาซินรีบจัดแจงให้ตามที่สั่งทันที
พอคิดว่าอาจารย์เฉียวน่าจะรีบพุ่งมาทนทุกข์ด้วยกันอย่างชื่นบาน เผยเชียนก็
รู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย
ทำไมเผยเชียนถึงมั่นใจว่าอาจารย์เฉียวจะยอมเซ็นสัญญาแน่นอนน่ะเหรอ
ก็เพราะเขาสืบข้อมูลมาก่อนแล้ว
หลังจากอาจารย์เฉียวย้ายไปเว็บอ้ายลี่เต่า สถานะทางการเงินของเขาก็ดีขึ้น
มาก แต่ถ้ามีโอกาสได้เงินเพิ่มก็ไม่น่าจะปฏิเสธ
มีอยู่สามอย่างที่เผยเชียนใช้ล่ออาจารย์เฉียว
อย่างแรกคือ เงิน ถ้าทำงานเดือนละยี่สิบวันก็จะได้ค่าจ้างหนึ่งหมื่นหยวน
อย่างที่สองคือ อาจารย์เฉียวจะได้ทดลองเกมใหม่ของเถิงต๋าก่อนใครเพื่อน ถ้า
อยากทำคลิ ป เกี ่ ย วกั บ เกมนี ้ ห รื อ อยากอวดแฟนๆ เขาก็ จ ะนำหน้ า อั ป โหลด
มาสเตอร์คนอื่นๆ
อย่างที่สามคือ อาจารย์เฉียวจะมีโอกาสได้เห็นบริษัทเถิงต๋าและบอสเผย
แค่เล่นเกมก็ได้เงินแล้ว จะไปหาอะไรดีๆ แบบนี้ได้ที่ไหนอีก
ดังนั้นอาจารย์เฉียวต้องยอมเซ็นสัญญาแน่
หลังจากเล่นเกมต่อสักพัก เผยเชียนก็โยนจอยลงบนโต๊ะ วันนี้เขาทุกข์ทรมาน
มามากพอแล้ว
ถึงจะคืบหน้าไปได้ไม่มาก แต่เขาก็ได้อาวุธพิเศษมาไว้ในมือแล้ว ขอแค่เล่น
เกมต่อไปเรื่อยๆ ยังไงก็ไปถึงฉากจบสังสารวัฏทั้งหกได้ แค่ต้องใช้เวลาหน่อย
ยังเหลือเวลาอีกพักใหญ่ก่อนจะวางขายเกมอย่างเป็นทางการ เขาจึงไม่ต้อง
รีบร้อนอะไรมาก
เผยเชียนหยิบกล่องพัสดุที่เพิ่งมาส่งวันนี้แล้วเตรียมตัวกลับบ้าน
พอเดินไปถึงประตูบริษัท เลขาซินก็ส่งข้อความมาหา
“บอสเผยคะ อาจารย์เฉียวตกลงเซ็นสัญญาด้วยเรียบร้อยแล้วค่ะ เขาบอกว่า
จะมาที่บริษัทวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ เดี๋ยวดิฉันจะจัดการเรื่องที่พัก อาหาร และค่า
เดินทางเองค่ะ”
เผยเชียนแสนสุขใจที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น
ดูเหมือนว่าอาจารย์เฉียวจะตอบรับข้อตกลงทันทีหลังจากเลขาซินพูดจบโดย
ไม่ไตร่ตรองอะไรมาก
เผยเชียนรีบตอบกลับ “โอเค เราจะรับผิดชอบเรื่องที่พักกับมื้ออาหารทั้งหมด
จัดการให้เต็มที่ทุกอย่าง”
อาจารย์เฉียวอุตส่าห์จะดั้นด้นมาทนทุกข์ทรมานและฟันฝ่าบททดสอบจิตใจ
เผยเชียนย่อมต้องดูแลทุกอย่างเพื่อชดเชยให้อีกฝ่าย
เลขาซินส่งข้อความมาอีกครั้ง “อีกเรื่องหนึ่งค่ะบอสเผย จางจู่ถิงโพสต์เว่ยป๋อ
ขอบคุณพวกเรา ดิฉันให้คนไปตอบกลับด้วยบัญชีออฟฟิเชียลของเราแล้วค่ะ
“บอสอยากยืนยันบัญชีเว่ยป๋อของบอสให้เป็นบัญชีทางการไหมคะ”
เผยเชียนมีบัญชีส่วนตัว แต่เอาไว้ใช้ตามคำค้นหายอดนิยมกับส่องสาวเป็น
ครั้งคราว เนื่องจากไม่ใช่บัญชีทางการจึงไม่มีใครรู้ว่าเป็นบัญชีของเขา
เถิงต๋ามีบัญชีทางการของบริษัท แต่ฝ่ายธุรการเป็นคนสร้างและดูแล ตอนนี้
ยังไม่ค่อยดังเท่าไหร่
เผยเชียนปฏิเสธเด็ดขาด “ไม่ต้อง”
เขาไม่อยากเป็นคนดังในเว่ยป๋อ ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลยสักนิด
เผยเชียนเก็บมือถือแล้วเตรียมกลับบ้านไปพักผ่อน
พอเดินไปได้สองก้าว เขาก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา
เขาหยิบมือถือออกมาอีกครั้ง จากนั้นก็เข้าแอปเว่ยป๋อแล้วค้นชื่อจางจู่ถิงจน
เจอโพสต์ล่าสุด
“ไม่กี่วันมานี้ ผมมีโอกาสได้ไปจิงโจวเพราะเรื่องงาน ครั้งนี้ผมได้ร่วมงานกับ
บริษัทเกมแห่ง หนึ่ง อีกไม่นานทุกคนน่าจะได้เห็นผลงานกันบนอินเทอร์เน็ต
นอกจากนั้นแล้ว ผมยังได้ไปที่ภัตตาคารส่วนตัวแห่งหนึ่งและได้ลิ้มรสอาหารที่
อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาช่วงนี้ ผมแนะนำที่นี่สุดๆ! ถ้าใครมีโอกาสได้ไปจิงโจว
ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!”
บทที่ 239 โชคดีทผี่ ู้ช่วยผมจำที่ตั้งภัตตาคารได้

เผยเชียน “???”
จางจู่ถิง ฉันอุตส่าห์ดูแลนายเป็นอย่างดี ทำไมถึงตอบแทนกันแบบนี้!
เผยเชียนรีบส่องคอมเมนต์ใต้โพสต์จางจู่ถิงเพื่อยืนยันความร้ายแรงของ
สถานการณ์
ถ้าเป็นไปในทางบวกต้องแย่แน่ๆ
ในโพสต์ของจางจู่ถิงมีคีย์เวิร์ดอย่าง ‘จิงโจว’ กับ ‘ภัตตาคารส่วนตัว’ ต้อง
ซวยแน่ถ้าเกิดมีคนสนใจขึ้นมาแล้วไปไล่ถามหาที่ตั้งร้าน
ถึงตอนนี้จางจู่ถิงจะกระแสตกแล้ว แต่ก็ยังมีแฟนคลับเดนตายอยู่ เกิดมีแฟน
คลับที่บังเอิญอยู่จิงโจวอยากมาลองชิม ‘มื้ออาหารเดียวกับจางจู่ถิ ง’ ขึ้นมา
ภัตตาคารของเผยเชียนได้เป็นที่รู้จักแน่
แม้จางจู่ถิงจะไม่ได้ดังเท่าเมื่อก่อน แต่ข้อความที่เขาโพสต์ลงเว่ยป๋อเมื่อสอง
วันก่อนก็มียอดคอมเมนต์สูงถึงห้าร้อยกว่าคอมเมนต์
เผยเชียนรีบส่องคอมเมนต์
“สปอนเซอร์เข้าเหรอ ดีๆ”
“ฮ่าๆๆ ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ ถ้ารู้ว่าคุณอยู่จิงโจว ผมคงไปหาแล้ว!”
“เสียดายจัง อดเจอไอดอลคนโปรดเลย”
“บริษัทเกมเหรอ บริษัทเกมไหนกันนะที่สายตาเฉียบแหลม เล็งเห็นเพชรแท้
อย่างลุงจาง”
“ลุงจางช่วยโปรโมตภัตตาคารเหรอ ไม่ต้องห่วง ส่งที่ตั้งร้านมาเลยเดี๋ยวเราไป
ช่วยใช้บริการเอง”
“ภัตตาคารส่วนตัวนี้ตั้งอยู่ไหนเหรอ”
“ภัตตาคารนี่ไม่มืออาชีพเลย ให้ลุงจางช่วยโปรโมต แต่ไม่มีรูปสวยๆ เลยสัก
รูป ใครจะไปใช้บริการกัน”
คอมเมนต์อื่นๆ เป็นไปในทางเดียวกัน
เผยเชียนรู้สึกโล่งอกขึ้นมานิดหน่อย
เห็นได้ชัดว่าแฟนคลับส่วนใหญ่สนใจเรื่องที่จางจู่ถิง ‘ได้ร่วมงานกับบริษัทเกม
แห่งหนึ่ง’ และพยายามเดากันว่าเป็นบริษัทไหน ร่วมงานกันยังไง
มีแค่ส่วนน้อยที่สนใจข้อความครึ่งหลัง
ประเด็นคือในโพสต์ไม่มีรูปอะไรเลย
สำหรับอาหาร รูปภาพจะช่วยโน้มน้าวใจได้มาก ถึงจะอธิบายด้วยตัวอักษรได้
ดีขนาดไหนก็ไม่สามารถดึงดูดความสนใจได้มากนัก
แน่นอนว่า ถ้ามีนักเขียนที่สามารถใช้คำพูดบรรยายให้คนอ่านรู้สึกน้ำลายสอก็
เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
จางจู่ถิงไม่ใช่นักเขียนฝีมือดีแบบนั้น
ดังนั้นถึงจะมีคนถามหาที่ตั้งร้านกันบ้างประปราย แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ให้ความ
สนใจ
จางจู่ถิงเลือกตอบคอมเมนต์ที่ได้รับความนิยมมากหน่อย
“ตอนนี้ยังเปิดเผยเรื่องงานไม่ได้ครับ เดี๋ยวผมอัปเดตให้ทุกคนทราบเร็วๆ นี้
“รอบนี้เป็นทริปเร่งด่วน เดี๋ยวผมจะหาโอกาสไปเยี่ยมเพื่อนๆ ที่จิงโจวอีก!
“ผมไม่ได้โดนจ้างให้โฆษณา อาหารที่นี่อร่อยจริงๆ
“ผมไม่แน่ใจเรื่องที่ตั้งเพราะอีกฝ่ายส่งรถมารับ จำได้แค่ ว่าตั้งอยู่ในวิลล่าที่ไม่
ค่อยมีคน เงียบสงบแล้วก็บรรยากาศดีมาก”
“รู ป ก็ ไ ม่ ไ ด้ ถ ่ า ยมา ทางภั ต ตาคารห้ า มถ่ า ยรู ป เพราะจะเป็ น การทำลาย
ประสบการณ์การลิ้มรสอาหาร ทำให้พลาดรายละเอียดบางอย่างไป ใครที่อาศัย
อยู่ จิงโจวลองไปชิมกันได้นะครับ! โอ๊ะ แต่ราคาอาจจะแพงหน่อยนะ”
ถ้าจางจู่ถิงไม่ไปคอมเมนต์ตอบ เรื่องก็คงจะเงียบไปเอง แต่พอไปตอบกลับ
แบบนั้น เหล่าแฟนคลับก็งุนงงกันไปตามๆ กัน
ที่ตั้งก็ไม่รู้
รูปก็ไม่มี
ราคาก็ไม่ทราบ!
รู้แค่ว่าตั้งอยู่ในวิลล่าเงียบเหงาที่ไม่ค่อยมีคน
แต่วิลล่าแบบนั้นก็มีอยู่หลายแห่งในจิงโจว!
เมื อ งจิ ง โจวมี ย ่ า นหรู อ ยู ่ เ จ็ ด แปดย่ า น แต่ ล ะย่ า นมี ว ิ ล ล่ า อยู ่ ห กเจ็ ด แห่ ง
นอกจากย่านหรูพวกนี้แล้วก็ยังมีวิลล่าแห่งอื่นๆ กระจายอยู่ทั่วเมือง
ถึงจะมีเบาะแสอย่าง ‘ไม่ค่อยมีคน’ ‘เงียบสงบ’ และ ‘บรรยากาศดีมาก’ ก็
ยังมีอีกยี่สิบสามสิบแห่งที่เข้าเค้า
แถมแต่ละแห่งยังมีวิลล่าอีกหลายหลัง จะไปรู้ได้ยังไงว่าภัตตาคารส่วนตัวนี้
ซ่อนอยู่ที่ไหน
ไม่มีทั้งรูปทั้งข้อมูลเพิ่มเติมแล้วจะหาเจอได้ยังไง
จะให้ไปไล่เคาะประตูแล้วถามว่า ‘สวัสดีครับ ใช่ภัตตาคารส่วนตัวรึเปล่าครับ’
ก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ
ให้ทำแบบนั้นคงจะแปลกพิลึก
แน่นอนว่า ถ้าทุกคนรู้ว่าเป็นวิลล่ากึ่งพาณิชย์ก็จะช่วยตัดตัวเลือกออกไปได้
อีก แต่ปัญหาคือจางจู่ถิงไม่รู้เรื่องนี้ แฟนคลับจึงไม่ได้ข้อมูลในส่วนนี้เพิ่ม
จางจู่ถิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภัตตาคารส่วนตัวแห่งนี้ชื่ออะไร
ถึงแฟนๆ จะกระหน่ำถาม ในเมื่อจางจู่ถิงเองก็ไม่รู้ แล้วจะไปหาคำตอบมา
จากไหน
พอได้อ่านคอมเมนต์ทั้งหมด เผยเชียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
โอเค ทุกอย่างยังโอเค ฉันตื่นตระหนกไปเอง!
เผยเชียนคิดถูกที่ไม่เปิดเผยที่ตั้งร้านและไม่ยอมให้จางจู่ถิงถ่ายรูป
จางจู่ถิงเป็นดาราผู้ผ่านโลกมาเยอะ จึงไม่ใช่คนที่อยากจะถ่ายรูปไปอวดว่าได้
กินอาหารหรู และไม่ได้สนใจเรื่องที่ตั้งของร้าน
เผยเชียนรู้สึกซึ้งใจมากที่จางจู่ถิงไม่สร้างความเดือดร้อนให้เขา!
ดูเหมือนว่าครัวส่วนตัวหมิงหยุนจะไม่ได้กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงว่าจะมีใคร
มาเจอเข้า
ตอนที่เขากำลังจะเก็บมือถือใส่กระเป๋า เสียง ‘ติ๊ง’ ก็ดังขึ้นแจ้งเตือนว่าจาง
จู่ถิงเพิ่งจะโพสต์เว่ยป๋อ

“ผมเจอที่ตั้งร้านแล้ว! ผมไปถามผู้ช่วยมา โชคดีที่เขาจดที่ตั้งร้านไว้! ที่อยู่


หมิงหยุนวิลล่า เมืองจิงโจว”
“อุก!”
เผยเชียนแทบจะกระอักเลือดออกมา
ฉิบหายแล้ว โดนเจ้าผู้ช่วยเล่นเข้าแล้วไหมล่ะ!
จางจู่ถิงจำที่ตั้งร้านไม่ได้ แต่ผู้ช่วยของเขาดันจำได้!
มาคิดดูดีๆ แล้ว ผู้ช่วยคนนั้นพอเห็นอาหารจานหรู โดยเฉพาะล็อบสเตอร์
ยักษ์ก็ตาลุกวาว เห็นได้ชัดว่าเขาจะไม่มีวันลืมมื้ออาหารนี้
ตอนนั้นเผยเชียนไม่ได้คิดอะไรมาก ทำแค่ห้ามผู้ช่วยถ่ายรูปเฉยๆ
แต่เขาดันจดที่ตั้งภัตตาคารไปด้วย เผยเชียนไม่ทันสังเกตเรื่องนี้!
ไม่นานคอมเมนต์ใต้โพสต์ก็ผุดขึ้นเรื่อยๆ
“หมิงหยุนวิลล่าเหรอ เป็นที่ที่ไม่ค่อยมีคนจริงๆ ด้วย ขอบคุณที่แนะนำนะลุง
จาง เดี๋ยวพรุ่งนี้จะลองขับรถไปแวะดู”
“โห อย่างไกล ขับรถไปอย่างต่ำชั่วโมงหนึ่ง”
“อร่อยจนลุงจางออกปากชมเองเลยเหรอเนี่ย ใครก็ได้ไปลองชิมดูหน่อยสิ ถ้า
เด็ดจริงจะบินไปลองถึงจิงโจว จะได้แวะไปเที่ยวด้วย มีใครมีที่เที่ยวเด็ดๆ ในจิง
โจวแนะนำมั้ย”
เผยเชียนตัวแข็งทื่อเมื่อเลื่อนดูคอมเมนต์
โพสต์ที่แล้วไม่เป็นไร เพราะคนส่วนใหญ่สนใจแค่เรื่องจางจู่ถิงรับงาน
แต่โพสต์นี้คือความฉิบหาย บอกที่ตั้งครัวส่วนตัวหมิงหยุนชัดเจนเลยทีเดียว
โคตรชัดเลยเนี่ย!
คนได้แห่มากันตรึมแน่!
เผยเชียนเกาหัว
จะจัดการกับคนพวกนี้ยังไงดี
ทำเรื่องไม่ดีเพื่อไล่ตะเพิดไปก็ไม่ได้
“ใจเย็น มันไม่น่าจะแย่ขนาดนั้น
“ถึงจะมีคนแวะมาสักนิดสักหน่อยก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา ร้านเราแพงมาก คน
ส่วนใหญ่ไม่น่าจะจ่ายไหว
“โพสต์ก่อนหน้านี้ของจางจู่ถิงมีคนกดไลก์แค่ประมาณสี่พันคน แฟนคลับของ
เขากระจายอยู่ทั่วประเทศ ถึงจะมีสักกลุ่มหนึ่งแวะมาที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนจริงๆ
ก็น่าจะแค่หลักสิบ บางคนอาจจะไม่มีปัญญาจ่ายค่าอาหารเลยด้วยซ้ำ
“อืม ครัวส่วนตัวหมิงหยุนขาดทุนสูงทุกเดือน ถึงจะมีลูกค้าแห่มาช่วงหนึ่ง แต่
ในระยะยาวก็ไม่น่าจะหาเงินคืนส่วนที่ขาดทุนไปได้”
เผยเชียนตื่นตระหนกเล็กน้อยในตอนแรก แต่พอสงบใจลงได้ เขาก็รู้สึกว่า
เรื่องไม่ได้แย่มากอย่างที่คิด
เพราะครัวส่วนตัวหมิงหยุนยังมีปราการป้องกันอีกหลายชั้น ร้านตั้งอยู่ในที่
ร้างและห่างไกลผู้คน แต่ละเมนูราคาแพงหูฉี่ ส่วนใหญ่ใช้วัตถุดิบหายากที่ต้องสั่ง
จองล่วงหน้า
ปราการเหล่านี้จะช่วยขับไล่ลูกค้าได้แน่
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เผยเชียนก็ไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไร
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะต่อสายหาเชฟหลิน
บทที่ 240 ไม่มีคำอธิบาย

อีกฝ่ายกดรับสายแทบจะทันที หลินชั่นหรงคงไม่คาดคิดว่าบอสเผยจะโทรมา
หา น้ำเสียงของเขาฟังดูกระสับกระส่าย “บอสเผย! มีอะไรให้ช่วยเหรอครับ”
เผยเชียนตอบเสียงเรียบ “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ผมแค่อยากถามว่าช่วงนี้มี
ลูกค้ามาที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนเยอะมั้ย”
หลินชั่นหรงไม่ได้ตอบทันที เขารู้สึกอับอายมาก
อย่าถามเลยว่าเยอะไหม ถามว่ามีสักคนไหมน่าจะดีกว่า…
ตั้งแต่วันเปิดกิจการ ครัวส่วนตัวหมิงหยุนก็ให้บริการแค่ตอนจัดงานเลี้ยง
บริษัทเถิงต๋ากับตอนต้อนรับจางจู่ถิง นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีลูกค้าเลยสักคน
ซึ่งก็ไม่แปลก พวกเขาไม่ได้โฆษณาร้านให้เป็นที่รู้จัก จึงไม่มีลูกค้ามาที่ร้านเลย
พนักงานบางคนเล่าเรื่องครัวส่วนตัวหมิงหยุนให้เพื่อนฟัง แต่ร้านตั้งอยู่ไกลใน
โซนปลอดผู้คน พอไม่มีคนนำทางก็เป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะหาร้านเจอ คนส่วน
ใหญ่ ไม่อยากขับหาร้านเอง ส่วนพนักงานเถิงต๋าก็เพิ่งกินเลี้ยงที่นี่ไป จึงไม่มีใคร
อยากแวะมากินอีกรอบโดยควักเงินตัวเองจ่าย
ดังนั้นช่วงที่ผ่านมาจึงไม่มีลูกค้าเลยสักคน
ถึงจะดูเหมือนทำงานได้ไม่ดี แต่พอคิดสักพัก หลินชั่นหรงก็ตัดสินใจบอกบอส
เผยไปตรงๆ จะให้โกหกก็คงไม่เหมาะ
บอสเผยเป็นคนสายตาเฉียบแหลม ถ้าโกหกบอสไปต้องจบไม่สวยแน่
“ที่ผ่านมาไม่มีลูกค้าเลยสักคนครับบอสเผย ผมต้องไปทบทวนเรื่องนี้ดูอีกที่
เราน่าจะโปรโมตร้านได้ไม่ดีเท่าที่ควร เดี๋ยวผมจะไปเน้นเรื่องโปรโมตร้าน…”
หลินชั่นหรงยอมรับผิด
พอเผยเชี ย นได้ ย ิ น ที ่ อ ี ก ฝ่ า ยพู ด เขาก็ ร ี บ ขั ด ทั น ที “เปล่ า ๆๆ ผมไม่ ไ ด้
หมายความว่าอย่างนั้น
“คุณทำได้ดีแล้ว หน้าที่หลักของคุณคือเสิร์ฟอาหารและให้บริการที่ดีสุด
คุณไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องโปรโมตร้านเลย
“ผมแค่จะโทรมาย้ำบางเรื่องกับคุณอีกรอบ
“เดี๋ยวจะมีลูกค้ามาใช้บริการครัวส่วนตัวหมิงหยุน คุณต้องแจ้งให้พนักงานให้
ความสำคัญเรื่องพวกนี้
“หนึ่ง ห้ามให้ลูกค้าถ่ายรูป
“สอง ห้ามอธิบายอะไรเกินควร
“สาม ห้ามยกเว้นให้ใคร
“เข้าใจมั้ย”
หลินชั่นหรง “เอ่อ…”
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
เผยเชียนอธิบายเพิ่มเล็กน้อย ที่บอกว่า ‘ห้ามอธิบายอะไรเกินควร’ หมายถึง
ถ้ามีลูกค้าถามว่าทำไมวัตถุดิบถึงขาดเยอะจัง หรือทำไมทุกอย่างต้องสั่งจอง
ล่วงหน้า
พนั ก งานควรตอบแค่ ว ่ า “วั ต ถุ ด ิ บ ของเราล้ ำ ค่ า มาก ต้ อ งนำเข้ า จาก
ต่างประเทศ” ก็พอ ไม่ต้องสาธยายว่าล้ำค่ายังไง นำเข้าจากประเทศไหน
ลูกค้าอาจจะถามว่าทำไมอาหารถึงแพงกว่าที่อื่น
ถ้าถามมาแบบนั้น พนักงานก็ตอบแค่ว่า “เราใช้วัตถุดิบที่ดีกว่าและให้การ
บริการกับประสบการณ์การกินอาหารที่เหนือชั้นกว่า ” ก็พอ ไม่ต้องสาธยายว่า
วัตถุดิบดีกว่ายังไง หรือการให้บริการกับประสบการณ์ที่ได้แต่งต่างกันยังไง
สรุปแล้วคือไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ
ส่วนที่บอกว่า ‘ห้ามยกเว้นให้ใคร’ เผยเชียนหมายถึงตอนที่มีเจ้าของบริษัท
อื่นมาใช้บริการ ถึงจะกระเป๋าหนาพร้อมจ่ายแค่ไหนก็ต้องจองล่วงหน้าเหมือนคน
อื่นๆ และพนักงานก็ห้ามอธิบายอะไรให้พวกเขาฟังมากกว่าลูกค้าคนอื่นๆ
แน่นอนว่าเขาไม่ได้กำลังจะบอกให้พนักงานบริการลูกค้าแย่ๆ
พวกเขาต้องให้บริการลูกค้าตามมาตรฐานของร้าน แค่ไม่ต้องสาธยายเรื่องไม่
จำเป็นก็เท่านั้น
“เข้าใจรึเปล่า” เผยเชียนถามอีกครั้ง
หลินชั่นหรงตอบ “เอ่อ…เข้าใจแล้วครับบอสเผย ผมจะทำตามที่บอสสั่งอย่าง
เคร่งครัด”
หลินชั่นหรงไม่ได้ถามอะไรเพิ่ม เผยเชียนพอใจมาก
เขาสั่งงานเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย และย้ำให้หลินชั่นหรงโทรหาเขาให้เร็วที่สุดถ้า
มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นก็วางสายไป ถึงหลินชั่นหรงจะไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม แต่
เขาก็นิ่งคิดอยู่นานหลังจากวางสายแล้ว
บอสเผยตั้งใจจะทำอะไรกันนะ
หรือว่าจะเป็นกลยุทธ์ ‘ขายโดยไม่ต้องอธิบาย’
ถึงลูกค้าจะถามก็ห้ามอธิบายอะไรเยอะเกินไปเหรอ
อารมณ์แบบว่า ‘กินเสร็จแล้วก็ไป จะถามอะไรให้มากมาย’
แน่นอนว่าพวกเขาจะใช้ทัศนคติแบบนั้นไม่ได้ บอสเผยสั่งให้พนักงานบริการ
ลูกค้าให้ได้มาตรฐาน แต่ให้ระวังอย่าตอบคำถามอะไรมากเกินความจำเป็น
แตกต่างจากสิ่งที่หลินชั่นหรงคุ้นเคย
เขารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง!
ผู้คนต้องสื่อสารกันเพื่อไม่ให้เข้าใจกันผิด ถ้าลูกค้าไม่พอใจอะไร พนักงานก็
ต้องอธิบายอย่างเต็มที่ให้ลูกค้าเข้าใจเหตุผล ถ้าให้ยิ้มเฉยๆ ไม่พูดไม่จา ลูกค้า
อาจจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่
แต่… บอสเผยก็สั่งมาอย่างชัดเจน มีถามย้ำด้วยว่าเข้าใจหรือเปล่า เห็นได้ชัด
ว่าเรื่องนี้สำคัญมาก
“ช่างเถอะ บอสเผยน่าจะมีเหตุผลอะไรสักอย่าง ไม่ต้องคิดมากหรอก
“แค่ทำตามที่บอสบอกก็พอ
“เดี๋ยวนะ ทำไมบอสเผยถึงรู้ล่ะว่าเดี๋ยวจะมีลูกค้าเข้า
“อ๋อ บอสเผยน่าจะคิดหาวิธีโปรโมตร้านได้แล้ว มิน่าล่ะถึงบอกฉันว่าไม่ต้อง
ห่วงเรื่องนี้”
ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจความคิดของบอสเผยเท่าไหร่ แต่หลินชั่นหรงก็มั่นใจว่า
บอสเผยกุมทุกอย่างไว้ในมือ เหมือนว่าบอสได้เตรียมการทุกอย่างไว้สำหรับ
อนาคตแล้ว
มีผู้นำดีนี่ยอดเยีย่ มไปเลย!
หลิ น ชั ่ น หรงรู ้ ส ึ ก สบายใจ เขาพร้ อ มนำสิ ่ ง ที ่ บ อสเผยสั ่ ง มาไปบอกเหล่ า
พนักงาน
เผยเชียนกลับมาถึงอพาร์ตเมนต์ในตอนเย็น
เขาเก็บกล้องลงจากโต๊ะ จากนั้นก็ตัดต่อคลิปที่ถ่ายมาเล็กน้อยก่อนจะเอาลง
เว็บ
ช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์มีคนติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงจำนวนผู้ติดตามจะค่อยๆ
ทยอยเพิ่มขึ้น แต่สถานการณ์ในตอนนี้ก็ผิดจากที่เผยเชียนคิดเอาไว้
แต่ยังไงก็ถือว่าเขาบรรลุเป้าหมาย!
ถึงหลินฉางจะยังจำเผยเชียนได้ ก็ไม่มาว่าเผยเชียนไม่ได้ว่าหลังจากได้เงินไป
แล้ ว ไม่ ยอมทำอะไรเผยเชี ย นอ่ า นคอมเมนต์ แ ล่ น ผ่ า นบนคลิ ป ของตอนก่ อ น
จากนั้นก็เริ่มวางแผนสำหรับอนาคต
สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากที่สุดคือเกมทั้งสองเกม
เกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดพัฒนาเร็วกว่าที่คาดเอาไว้ แม้แต่โฆษณาก็
ถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ช่วงต้นเดือนหน้า ซึ่งก็คืออีกสิบวันต่อจากนี้ พวกเขา
น่าจะปล่อยโฆษณาเกมออกไปและเริ่มเปิดให้ทดสอบ
เกมกลับใจคือฟากฝั่งยังต้องพัฒนาอีกอย่างน้อยหนึ่งเดือน
เขาต้องจับตาดูครัวส่วนตัวหมิงหยุนด้วย จะยอมให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกไม่ได้
ส่วนเว็บจงเตี่ยนจงเหวิน นี่เฟิงโลจิสติกส์ เฟยหวงสตูดิโอ ไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวล
ใจสำหรับเขาในตอนนี้ สองธุรกิจแรกยังขาดทุนอย่างสม่ำเสมอ ส่วนกิจการเฟ
ยหวงสตูดิโอก็เป็นไปตามปกติไม่ว่าเขาจะเข้าไปยุ่งหรือเปล่า
โชคดีที่เขาขยายธุรกิจออกไปหลายอย่าง ตอนนี้ผลาญเงินได้เร็วขึ้นยิ่งกว่าเดิม

จุดบริการนี่เฟิงทุกสาขากำลังเดินไปถูกทาง โดยเฉพาะบริเวณที่เผยเชียนต้อง
แวะไปบ่อยๆ ตอนนี้พัสดุส่งตรงถึงหน้าบ้านแล้ว
แน่นอนว่ายังมีบางคนที่ไม่อยากให้พนักงานมาส่งของถึงหน้าบ้าน คนกลุ่มนี้
ยืนกรานจะไปรับพัสดุด้วยตัวเอง ซึ่งก็ไม่เป็นไร จุดบริการนี่เฟิงให้บริการพื้นที่
ขนาดเล็ก ลูกค้าสามารถโทรมาบอกให้ไม่ต้องไปส่งของที่บ้านได้ จากนั้นก็นัดเวลา
เข้ามารับพัสดุด้วยตัวเอง
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อ นจะตระหนักได้ว่าการขาดทุนรอบนี้ต้องพึ่ง
นี่เฟิงโลจิสติกส์ ถึงกิจการธุรกิจอื่นๆ จะดูราบรื่นดี แต่ก็ไม่รู้ว่าจะบังเอิญมีเคราะห์
ร้ายเข้ามาตอนไหน
ถ้าเขารักษาสภาพกิจการนี่เฟิงโลจิสติกส์ไว้ได้แบบนี้ ถึงจะมีเรื่องอะไรไม่ดี
เกิดขึ้นกับธุรกิจอื่นๆ เผยเชียนก็แค่ต้องเปิดจุดบริการนี่เฟิงและจ้างพนักงานเพิ่ม
เพื่อคุมยอดกำไร
บทที่ 241 เปลือยเท้าต้อนรับ

วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม
เฉียวเหลียงเหยียบแผ่นดินจิงโจวเป็นครั้งแรกด้วยจิตใจอันเบิกบาน
อากาศที่นี่ใกล้เคียงกับที่ปักกิ่ง ทั้งสองเมืองร้อนจัด แต่วันนี้มีเมฆมากและลม
พัดเบาๆ ทำให้รู้สึกเย็นกว่าสองวันที่ผ่านมา
เฉียวเหลียงพบคนที่มารอรับอย่างรวดเร็ว ก่อนจะขึ้นรถมุ่งหน้าไปยังโรงแรม
ที่จองไว้
คนที่มารับเขาคือชายหนุ่มแซ่ซุน เป็นหนึ่งในพนักงานขับรถที่เถิงต๋าจ้างมา ดู
เป็นคนฉลาดเฉลียว มารยาทก็ดี แถมยังสุภาพมากๆ
เฉียวเหลียงนั่งสบายอยู่บนเบาะหลังอันกว้างขวางของรถ
รถมุ่งหน้าไปเรื่อยๆ เห็นได้ชัดว่าเสี่ยวซุนมีประสบการณ์ด้านการขับรถอยู่พอ
ตัว
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉียวเหลียงได้สัมผัสประสบการณ์มีโชเฟอร์ขับรถให้ เขารู้สึก
ประทับใจเถิงต๋ามากขึ้น
เฉียวเหลียงหันมองออกนอกหน้าต่าง รู้สึกตื่นตากับสิ่งที่ได้เห็น “สุดยอด”
นี่คือการเดินทางมาจิงโจวครั้งแรกของเฉียวเหลียง เขาไม่ได้คาดหวังอะไรมาก
แต่พอมาถึงก็พบว่าเป็นเมืองที่เจริญกว่าที่คิดไว้
เฉียวเหลียงอาศัยอยู่ที่ปักกิ่งมานาน แต่จริงๆ เป็นคนที่อื่น เขาต้องใช้ชีวิต
อย่ า งปากกั ด ตี น ถี บ ถึ ง ปั ก กิ ่ ง จะเจริ ญ มาก แต่ เ ขากลั บ ไม่ ม ี โ อกาสได้ ส ั ม ผั ส
ประสบการณ์ดีๆ เลย

ชีวิตส่วนใหญ่หมดไปกับการดูซีรีส์ มีไปคอนเสิร์ตบ้างถ้ามีโอกาส นอกจากนั้น


แล้ว ปักกิ่งก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเมืองระดับสอง เอาเข้าจริงเขารู้สึกสงบใจกว่าเมื่อ
มาถึงจิงโจว
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงโรงแรม
“อาจารย์เฉียว เดี๋ยวผมจัดการเรื่องเช็กอินให้ก่อน แล้วคุณค่อยขึ้นไปเก็บของ
นะครับ เสร็จแล้วผมจะไปจอดรถ แล้วอีกสิบนาทีเรามาเจอกันที่หน้าทางเข้า
บริษัทอยู่ใกล้ๆ เดินไปสามนาทีก็ถึง” เสี่ยวซุนพูดอย่างสุภาพมาก
ใช้เวลาไม่นานก็จัดการทุกอย่างเรียบร้อย
เฉียวเหลียงไม่ต้องจ่ายเงินค่าที่พักเลยสักหยวน เพราะเถิงต๋าออกให้หมด
เขาขึ้นไปชั้นหกของโรงแรมแล้วพบว่าเถิงต๋าจองห้องสวีทไว้ให้
ด้านนอกเป็นห้องรับแขกเล็กๆ มีโต๊ะกาแฟ โซฟา และโต๊ะทำงาน บนโต๊ะ
กาแฟมีถาดผลไม้จัดวางไว้ ข้างๆ มีตู้เก็บกาแฟ เครื่องทำกาแฟ และแคปซูลกาแฟ
ตั้งอยู่ นอกจากนี้ยังมีตู้เย็นเครื่องเล็กด้วย
ด้านในเป็นห้องนอนโอ่อ่าติดหน้าต่างเต็มบาน ห้องน้ำก็กว้างขวาง แถมยังมี
อ่างอาบน้ำด้วย
“บอสเผยแห่งเถิงต๋าใจป้ำจริงๆ!
“ดูเหมือนว่าฉันจะมีชื่อเสียงอยู่พอตัว ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้รับการดูแลดีขนาด
นีห้ รอก”
เฉียวเหลียงภูมิใจมาก
ว่ากันตามตรง เฉียวเหลียงเองก็ไม่คิดว่าเถิงต๋าจะเชิญตัวเองมาทดสอบเกมที่
ยังไม่ได้วางขาย
คลิปของเขามีอิทธิพลไม่เบา เฉียวเหลียงจับตาดูเถิงต๋ามาตั้งแต่เกมโดดเดี่ยว
เดียวดายกลางทะเลทราย แต่บริษัทอย่างเถิงต๋าก็ไม่จำเป็นต้องดูแลอัปโหลด
มาสเตอร์ตัวจ้อยอย่างเขาดีขนาดนี้
บอสเผยจริงใจกับเขามากจนทำให้เฉียวเหลียงรู้สึกซาบซึ้งสุดๆ
นอกจากจะจ่ายค่าจ้างราคางามแล้ว ยังให้โชเฟอร์ประจำตัวกับที่พักหรูหรา
แบบนี้อีก
ความประทับใจของเฉียวเหลียงที่มีต่อเถิงต๋าและบอสเผยทวีคูณมากขึ้น
“ใครจะไปคิดเล่าว่าบริษัทที่ สร้างเกมสุดห่วยอย่างเกมโดดเดี่ยวเดียวดาย
กลางทะเลทรายจะเปลี่ยนแปลงไปได้ในเวลาไม่ถึงปี แถมยังเติบโตขึ้นมาขนาดนี้
“ชีวิตคนเรานี่มีแต่เรื่องคาดเดาไม่ได้จริงๆ”
เฉียวเหลียงเก็บกระเป๋า กินผลไม้ และพักผ่อนบนโซฟา
เขาไม่ได้พกสัมภาระมาเยอะ นอกจากโน้ตบุ๊กส่วนตัวกับอุป กรณ์ดิจิทัลอื่นๆ
แล้ว ก็มีแค่เสื้อผ้าที่เตรียมเอามาซักใส่ซ้ำเรื่อยๆ
ที่โรงแรมมีบริการซักรีด เขาเอาเสื้อผ้าที่ใส่แล้วไปหย่อนตะกร้าไว้ได้ จากนั้น
รูมเซอร์วิสก็จะมาเก็บไปแล้วเอากลับมาคืนหลังจากซักรีดเสร็จเรียบร้อย
ก่อนเดินทาง เฉียวเหลียงกังวลเรื่องมาตรฐานที่ พักของที่นี่ เขาห่วงเรื่องซัก
เสื้อผ้า แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วก็ไม่มีอะไรให้กังวล เขานั่งสบายบนโซฟา
เสียดายที่วันนี้เป็นวันฟ้าครึ้ม ไม่ค่อยมีแสงแดด ไม่อย่างนั้นคงจะรู้สึกได้ถึงความ
อบอุ่นของแสงอาทิตย์บนโซฟา ทำให้ยิ่งสบายกายขึ้น
แต่อากาศอึมครึมก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของเฉียวเหลียง หลังจาก
พักผ่อนครู่หนึ่ง เขาก็เดินลงไปที่โถงกว้างด้านล่าง จากนั้นเสี่ยวซุนก็นำทางเขาไป
ที่บริษัทเถิงเต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี
เขาตื่นเต้นมากเมื่อคิดว่าจะได้เจอบอสเผยตัวเป็นๆ
เฉียวเหลียงคิดมาตลอดว่าตัวเองกับบอสเผยเข้าใจซึ่งกันและกันดี มีแค่คน
แบบเขาที่จะเข้าใจความหมายอันลึกซึ้งที่แฝงอยู่ในเกมนักออกแบบเกมและกล
ยุทธ์การ จัดฉากเพื่อโฆษณาเกม
ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ก็ไม่รู้ว่าคนอื่นจะเข้าใจความตั้งใจของบอสเผยผิดไปขนาด
ไหน
บอสเผยจะคิดเหมือนกันไหมนะ
ก็เหมือนคำพูดที่ว่า เป็นเรื่องยากที่จะหาใครที่รู้ใจตัวเองได้ถ่องแท้ บอสเผย
ชอบสร้างเกมที่แฝงไปด้วยความหมายอันลึกซึ้ง เฉียวเหลียงคิดว่าน่าจะเป็นเรื่อง
ยากที่อีกฝ่ายจะหาคนที่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองพยายามจะสื่อ
นี่คงเป็นเหตุผลที่บอสเผยเชิญเขามาจากปักกิ่งที่อยู่ห่างกันไกล เพื่อมา
ทดสอบเกมใหม่เป็นคนแรก
เฉียวเหลียงจินตนาการไปต่างๆ นานาระหว่างเดินตามเสี่ยวซุนเข้าออฟฟิศ
เถิงต๋า
ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาคือ ‘กว้างมาก!’
สภาพแวดล้อมการทำงานที่นี่แปลกมาก ดูจากโต๊ะทำงานของพนักงานที่ตั้ง
ห่างกันก็รู้ได้เลยว่าบริษัทนี้ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แถมบรรยากาศในออฟฟิศยังดู
กระปรี้กระเปร่าและเป็นอิสระ ไม่เหี่ยวเฉาเหมือนบริษัทอื่นๆ
ถึงเฉียวเหลียงจะเคยไปมาแค่ไม่กี่บริษัท แต่เขาก็เคยพยายามหางานหลังจบ
มหาวิทยาลัย และได้เห็นคลิปบรรยากาศภายในออฟฟิศของบริษัทหลายๆ ที่
บรรยากาศการทำงานในบริษัทส่วนใหญ่ดูน่าเบื่อและเคร่งเครียดมาก
แต่ที่นี่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
พนักงานทุกคนดูผ่อนคลาย แต่ละคนทำงานพลางจิบกาแฟและกินขนม แต่
ทุกคนก็ดูจริงจังกับการทำงาน เหมือนมีพลังงานบางอย่างคอยกระตุ้น
ตอนแรกเฉียวเหลียงสงสัยว่าเป็นการสร้างภาพหรือเปล่า
แต่พอคิดดูดีๆ ก็ตระหนักว่าตัวเองอวดดีเกินไป
ฉันเป็นแค่อัปโหลดมาสเตอร์ตัวจ้อย ไม่ใช่ผู้บริหารหรือสื่อมีชื่อเสียง ทำไมอีก
ฝ่ายต้องสร้างภาพต่อหน้าฉันด้วย
อีกอย่างทุกคนก็ผ่อนคลายมากๆ ดูไม่เหมือนว่ากำลังแสร้งทำอยู่เลย
เฉียวเหลียงรู้สึกสนใจในตัวบอสเผยมากขึ้น
การที ่ บ ริ ษ ั ท ดำเนิ น งานได้ ด ี ข นาดนี ้ แ สดงให้ เ ห็ น ว่ า บอสเผยไม่ ใ ช่ แ ค่ นั ก
ออกแบบฝีมือเยี่ยม แต่ยังเป็นผู้บริหารที่เก่งกาจด้วย
จริงๆ แล้วเขาเป็นใครกันแน่
เสี่ยวซุนเดินไปหยุดอยู่หน้าห้องทำงานของบอสเผย ก่อนจะเคาะประตูเบาๆ
“บอสเผย อาจารย์เฉียวมาถึงแล้วครับ”
เผยเชียนกำลังเล่นเกมกลับใจคือฟากฝั่งอยู่ ตอนนี้กำลังหัวร้อนมากๆ
จริงๆ แล้วถ้าเขาเล่นเกมกลับใจคือฟากฝั่งอยู่ก็ไม่มีช่วงไหนที่ไม่รู้สึกหัวร้อน
เลย
ทุกครั้งที่รู้สึกทรมาน เผยเชียนก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะสร้างเกมบ้านี่ขึ้นมา
ทำไม จากนั้นก็เปิดบัญชีดำดูว่ามีใครที่ต้องแก้แค้นบ้าง
พอได้ยินว่าอาจารย์เฉียวมาถึงแล้ว เขาก็รีบโยนจอยลงบนโต๊ะแล้วลุกยืนขึ้น
มาแล้ว!
ถ้ามาช้ากว่านี้คงทนไม่ไหวแน่!
เฉียวเหลียงที่รออยู่ด้านนอกได้ยินเสียง ‘ตุ้บ’ ดังมาจากในออฟฟิศ เขาสงสัย
ว่าเป็นเสียงอะไรหล่นหรือเปล่า
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าเฉียวเหลียง
บอสเผยเห็นฉันเป็นคนสำคัญ!
โจโฉเปลือยเท้าต้อนรับเขาฮิว เพราะตอนเขาฮิวมาหา โจโฉรีบวิ่งไปต้อนรับ
จนลืมใส่รองเท้า
เหมือนสถานการณ์ตอนนี้ไม่มีผิด
ไม่รู้ว่าบอสเผยกำลังทำอะไรอยู่ แต่ฟังจากเสียงแล้วเหมือนจะรีบโยนอะไรลง
โต๊ะเพื่อมาต้อนรับ แสดงให้เห็นเลยว่าเขาให้ความสำคัญกับฉันมากๆ!
เฉียวเหลียงเริ่มรู้สึกเขินอายขึ้นมาเล็กน้อย
ทำไมบอสเผยถึงใส่ใจฉันขนาดนี้กันนะ ช่างน่าอับอายจริงๆ
บทที่ 242 คลายความกังวลให้อาจารย์เฉียว

เผยเชียนเข้าไปจับมือเฉียวเหลียงทันที “อาจารย์เฉียว ผมได้ยินเรื่องคุณบ่อย


มากๆ”
เฉียวเหลียงรู้สึกปลื้มใจที่ อีกฝ่ายดูกระตือรือร้น เขารีบโค้งหัวให้เล็กน้อย
“ยินดีที่ได้พบครับบอสเผย”
เผยเชียนมองประเมินอีกฝ่ายแล้วพบว่าศัตรูคู่แค้นดูดีทีเดียว คิ้วหนา ตาโต
เครื่องหน้าหล่อเหลา ติดที่ดูเอื่อยเฉื่อยและท้วมนิดหน่อย
สภาพเขาเหมือนเด็กติดเกม แต่ไม่เหมือนเปาซวี่ เปาซวี่ทั้งหั วล้านและผอม
แห้ง ส่วนอาจารย์เฉียวผมยังดก หุ่นอวบนิดหน่อย ดูค่อนข้างอ่อนแอ
เฉียวเหลียงตกใจที่เผยเชียนดูเด็กมาก เขากะไว้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายน่าจะอายุ
ยังน้อย แต่ไม่คิดว่าจะเด็กขนาดนั้น
ไม่ว่าจะมองมุมไหน เขาก็ดูเด็กกว่าฉัน…
บอสเผยเป็นเจ้าของบริษัทตั้งแต่อายุยังน้อย แถมยังเพิ่งหาจุดยืนเล็กๆ ใน
วงการเกมได้ ถึงจะยังไม่ได้สร้างผลงานยิ่งใหญ่อะไร แต่เฉียวเหลียงก็อดรู้สึกอิจฉา
และเวทนาตัวเองขึ้นมาไม่ได้
เผยเชียนเดินนำเฉียวเหลียงเข้าห้องรับแขก รินชาให้ จากนั้นก็คุยกันเล็กน้อย
“บอสเผย ผมพักมาพอแล้ว เรามาคุยเรื่องงานกันดีกว่าครับ” เฉียวเหลียงเอ่ย
ถึงเรื่องงานขึ้นมาก่อน
จริงๆ แล้วเขาไม่ต้องรีบร้อนอะไรขนาดนี้ รอคุยเรื่องงานหลังกินข้าวเที่ยงก็ได้

แต่บอสเผยดูแลเขาดีมาก ทั้งจัดโชเฟอร์ส่วนตัวให้ ที่พักก็หรูหรา ได้คะแนน


เต็ ม สิ บ ทุ ก อย่ า ง เฉี ย วเหลี ย งจึ ง ต้ อ งการแสดงให้ อ ี ก ฝ่ า ยเห็ น ว่ า เขาเองก็
กระตือรือร้นอยากทำงาน
เผยเชียนพยักหน้า “ได้ครับ”
ปลางับเบ็ดเองขนาดนี้ ดีจริงๆ
เผยเชียนกะจะให้อาจารย์เฉียวได้มีเวลาพักอีกสักหน่อย จะได้เตรียมพร้อม
ทั้งกายและใจเพื่อรับมือกับความทรมาน แต่ในเมื่ออาจารย์เฉียวพูดขึ้ นมาเอง
ขนาดนี้ เขาก็ได้แต่ทำตามที่อีกฝ่ายต้องการ
เผยเชียนเตรียมสัญญาเอาไว้แล้ว “เซ็นสัญญากันก่อนครับ”
เฉียวเหลียงไล่สายตาอ่านสัญญาอย่างรวดเร็ว เนื้อหาในสัญญาคือสิ่งที่พวก
เขาตกลงกันก่อนหน้านี้ เขาต้องเล่นเกมแปดชั่วโมงต่อวัน อัตราค่าแรงวันละห้า
ร้อยหยวน
ถ้าพักวันเสาร์อาทิตย์ก็จะได้เงินประมาณหนึ่งหมื่นหยวนต่อเดือน ถ้าไม่พักจะ
ได้ค่าล่วงเวลา หมายความว่าจะหาเงินต่อเดือนได้เพิ่มอีก
ถึงจะตกลงเงื่อนไขต่างๆ มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก
เฉียวเหลียงไม่มั่นใจว่าในสัญญาจะมีเล่ห์เหลี่ยมหรือคำขอยากๆ อะไรหรือเปล่า
แต่พอได้เห็นสัญญาก็มั่นใจได้ว่าไม่มีอะไรแบบนั้น เขาแค่ต้องเล่นเกมแปด
ชั่วโมงต่อวันเพื่อเงินห้าร้อยหยวนเท่านั้น!
เฉียวเหลียงรู้สึกทึ่งมาก บอสเผยนี่ใจป้ำจริงๆ!
ในช่วงปีนี้ ค่าแรงหนึ่งหมื่นหยวนต่อเดือนถือว่าสูงมาก

แน่นอนว่าถ้าเฉียวเหลียงเกิดมุ่งมั่นและรับสปอนเซอร์ไม่หยุดหย่อน ก็น่าจะ
หาเงินได้หนึ่งหมื่นหยวนต่อเดือน
แต่ก็ต้องเหนื่อยสายตัวแทบขาด
เขาต้องอดหลับอดนอนตัดต่อคลิปและเขียนบทอย่างจริงจัง แถมยังต้องดวงดี
มีลูกค้าจ่ายหนักถึงจะหาเงินได้มากขนาดนั้น
เทียบกันแล้วงานนี้สบายกว่ามาก เขาไม่ต้องทำอะไรเลย แค่เล่นเกมกลับใจ
คือฟากฝั่งให้ครบแปดชั่วโมงทุกวัน
เฉียวเหลียงอ่านสัญญาซ้ำสองครั้งก่อนเซ็นชื่ออย่างเบิกบานใจ
“โอเค ตามผมมาทางนี้เลยครับ”
เผยเชี ย นกั บ เฉี ย วเหลี ย งคุ ย เล่ น กั น ระหว่ า งเดิ น ออกจากออฟฟิ ศ เถิ ง ต๋ า
จากนั้นเสี่ยวซุนก็ขับรถพาทั้งสองไปร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูที่ใกล้ที่สุด
เผยเชียนไม่ได้ตั้งใจจะให้เฉียวเหลียงเล่นเกมที่ออฟฟิศเพราะหลี่หย่าต๋ากับ
พนักงานคนอื่นๆ รู้เรื่องเกมกันหมด ไม่ว่าจะเป็นอาวุธไหนดีที่สุด เส้นทางไหนง่าย
สุด วิธีได้ผู่ตู้ และอื่นๆ
ถ้าให้เล่นเกมที่ออฟฟิศ เฉียวเหลียงก็จะสามารถถามคนอื่นๆ ได้ถ้าเอาแต่ตาย
ไม่หยุด พอได้เคล็ดลับต่างๆ มา เกมก็จะง่ายขึ้น
เผยเชียนอยากให้เฉียวเหลียงได้รับประสบการณ์เหมือนผู้เล่นทั่วไป เขาต้อง
เล่นเกมกลับใจคือฟากฝั่งด้วยความรู้และพื้นฐานต่างๆ เริ่มต้นที่ศู นย์ การที่เขาจะ
ได้รับประสบการณ์การเล่นแบบนั้นได้จะต้องกำจัดความเสี่ยงทั้งหมดออกไป
เฉียวเหลียงกินดื่ม ที่ ร้านอินเทอร์ เน็ตโมหยูไ ด้ ตามใจชอบ ได้เล่นเกมใน
คอมพิวเตอร์สเป็กสูง มีกาแฟและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่อั้น อาจารย์เฉียวไม่
จำเป็นต้องกังวลเรื่องอะไรทั้งนั้น
ไม่นานทั้งสองก็มาถึงร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เป็นร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขา
มหาวิทยาลัยฮั่นตง เดินสิบนาทีก็ถึงตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว
ถึงจะชื่อสาขามหาวิทยาลัยฮั่นตง แต่จริงๆ แล้วไม่ได้ใกล้กับมหาวิทยาลัยฮั่ง
ตงขนาดนั้น ต้องเดินไปประมาณสิบห้านาที
ในตอนแรกที่หาทำเลมาเปิดร้านอินเทอร์เน็ต พวกเขาพยายามเลี่ยงทำเลใกล้
มหาวิทยาลัย
แต่ย่านนี้เป็นละแวกคนพลุกพล่าน ยอดหมุนเวียนไม่ได้ต่ำ หลังจากเรื่อง
เฉินเหล่ย ยอดธุรกิจก็เพิ่มสูงขึ้น ตอนนี้ขาดทุนไม่มาก กิจการเป็นที่สองรองจาก
ร้านสาขาหลัก
ด้วยสาเหตุนี้เผยเชียนจึงเมินสาขานี้และไม่ค่อยแวะเวียนมาสักเท่าไหร่
ครั้งนี้เขาแวะมาที่นี่เพื่อนำทางอาจารย์เฉียว ต่อไปถ้าช่วงไหนอารมณ์ไม่ดี
เผยเชียนก็จะแวะมาดูอาจารย์เฉียวเล่นเกม ทำแบบนี้ต้องอารมณ์ดีขึ้นแน่นอน
เผยเชี ย นแนะนำอาจารย์ เ ฉี ย วกั บ ผู ้ จ ั ด การสาขาร้ า นอิ น เทอร์ เ น็ ต โมหยู
จากนั้นก็ขึ้นไปชั้นสอง ต่อจากนี้ไปตรงนี้จะเป็นโต๊ะทำงานของอาจารย์เฉียว
คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ลงเกมกลับใจคือฟากฝั่งเวอร์ชันเบต้าไว้แล้ว เวอร์ชันนี้
จะอัปเดตไปพร้อมๆ กับกระบวนการค้นคว้าและพัฒนาเกม นอกจากนี้ยังมีระบบ
เก็บข้อมูลง่ายๆ ด้วย ในแต่ละวันมันจะบันทึกระยะเวลาการเล่นเกมของอาจารย์
เฉียวว่าครบแปดชั่วโมงหรือเปล่า

ถ้าเล่นไม่ครบในหนึ่งวัน เขาสามารถเก็บเวลาเพิ่มในวันถัดไปได้ แต่ถ้าทำ


ไม่ได้ก็จะโดนหักเงิน
แต่มีเรื่องหนึ่งที่ต้องระวัง ตอนนี้เกมกลับใจคือฟากฝั่งยังอยู่ระหว่างการ
พัฒนา เขาไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเกมได้ หมายความว่าอาจารย์เฉียวจะอัดคลิป
หรือคุยกับแฟนๆ เรื่องเกมนี้ไม่ได้
ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเองก็ไม่ค่อยมีลูกค้า แถมโต๊ะอาจารย์เฉียวก็อยู่ในมุม
ปลอดผู้คน มั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีใครมากวนเขาตอนเล่นเกม
ไม่นานทุกอย่างก็จัดแจงเสร็จเรียบร้อย
“ผู้จัดการสาขาจะเป็นคนจัดการเรื่องอาหารกับเครื่องดื่มในแต่ละวันให้ร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูยึดตามมาตรฐานความสะอาด คุณมั่นใจได้เลยว่าอาหารกับ
เครื่องดื่มของเราสะอาดและปลอดภัย
“พยายามทำตัวให้ชินกับสิ่งต่างๆ ไว้นะครับ เรามีงานเลี้ยงต้อนรับคุณคืนนี้
เดี๋ยวถึงเวลาแล้วจะมีคนมารับ
“ถ้าติดปัญหาอะไรให้บอกผู้จัดการสาขาได้เลย”
เผยเชียนช่วยคลายความกังวลใจให้อาจารย์เฉียว
เฉียวเหลียงประทับใจมาก “โอเคครับ!”
“ลองเล่นดูได้เลยนะครับ ผมต้องขอตัวก่อน ถ้ามีคำถามอะไรติดต่อผมได้
เลย”
เผยเชียนไม่ได้จะอยู่ดูอาจารย์เฉียวทรมาน เขาเลือกกลับออกไปก่อน
ก็เหมือนสำนวนที่ว่า ‘เห็นชีวิตไม่คิดอยากฆ่า ไม่กล้ากินเนื้อเมื่อได้ยินเสียง
เชือด’ เผยเชียนรู้สึกสงสารขึ้นมา เฮ้อ ฉันนี่จิตใจดีจริงๆ
“บอสเผยใจดีมาก เตรียมการทุกอย่างให้พร้อมเลย แถมคืนนี้ยังจัดงานเลี้ยง
ต้อนรับอีก รู้สึกไฮโซสุดๆ!”
เฉียวเหลียงเปิดเกมด้วยความตื่นเต้น ทริปจิงโจวครั้งนี้สมบูรณ์แบบทุกอย่าง
เฮ้อ ถ้ามีสาวสักคน ทุกอย่างคงจะดียิ่งขึ้นกว่านี้อีก
แน่นอนเฉียวเหลียงรู้ดีว่าเป็นฝันลมๆ แล้งๆ
แต่สาวก็ไม่สนุกเท่าเกมหรอก
ไม่รู้ว่าการดูแลที่ดีเยี่ยมของบอสเผยส่งผลอะไรกับเฉียวเหลียงหรือเปล่า แต่
พอเปิดเกมขึ้นมา เขาก็รู้สึกชอบไปซะทุกอย่าง
“ทุกเกมของบอสเผยคุณภาพดีเยี่ยมจริงๆ!
“ดูโมเดลตัวละครสิ โคตรละเอียด!
“ดูทรงผม มีเอกลักษณ์มาก!
“ดูการเคลื่อนไหวสิ ลื่นไหลชะมัด!
“ดูมอนสเตอร์ลูกกระจ๊อกพวกนี้…
“เชี่ย เจ็บจัง มอนสเตอร์ลูกกระจ๊อกจริงมั้ยเนี่ย
“…เดี๋ยว ตายได้ไง”
เฉียวเหลียงมองจอดำสนิทด้วยความงุนงง
เกิดอะไรขึ้น!

เขาแค่เดินไปจิ้มชาวบ้านชุดขาดวิ่นที่ถือคันฉายในมือ จากนั้นชาวบ้านก็หัน
มาแทงเขาคืนสองทีตาย!
“ฉัน…เปิดการตั้งค่าอะไรผิดรึเปล่า”
เฉียวเหลียงเกาหัว นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความงุนงง
ตอนเที่ยง ที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุน
“โห มีล็อบสเตอร์ด้วยเหรอ เอามาตัวหนึ่ง”
ชายหนุ่มแต่งตัวมีระดับนั่งอยู่ในห้องส่วนตัว เขาชี้นิ้วไปที่ล็อบสเตอร์บนเมนู
พร้อมเอ่ยสั่งออเดอร์พนักงาน
“ขอโทษด้วยครับ เมนูนี้คุณลูกค้าต้องสั่งจองล่วงหน้าก่อน” พนักงานตอบ
อย่างสุภาพ แต่ก็ยังปฏิบัติตามคำสั่งของบอสเผยที่ว่า ‘ห้ามอธิบายอะไรเกินพอดี’
อย่างเคร่งครัด
แน่นอนว่าระหว่างที่ตอบไปอย่างนั้น เขาก็รู้สึกผิดอยู่ในใจ
เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มตรงหน้าไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน จากประสบการณ์การ
บริการที่ผ่านมา พนักงานเสิร์ฟพอจะเดาได้ว่าลูกค้าคนนี้น่าจะเป็นคนอารมณ์ไม่
คงเส้นคงวา
ลูกค้าคนที่ว่าดูอายุไม่มาก น่าจะราวๆ ยี่สิบสี่ถึงยี่สิบห้าปี เขาสวมเสื้อเชิ้ต
สีฉูดฉาด ปักด้วยด้ายสีแดง เขียว และเหลืองเป็นลวดลาย ดูแล้วเหมือนแมลง
เต่าทอง แต่พนักงานเสิร์ฟก็พอจะเดาได้ว่าเสื้อตัวนี้น่าจะราคาหลักหมื่น
นอกจากนั้นแล้วลูกค้ายังสวมเงินใส่ทอง สร้อยทองที่ใส่ดูแพงและหนักมาก
ไม่เหมือนสร้อยแบบที่จะลอยในอ่าง
ที่เด่นที่สุดคือสปอนบ๊อบทำด้วยทองล้วนที่ห้อยอยู่ตรงสร้อยทอง บ่งบอกได้ดี
ถึงนิสัยยากจะรับมือและความอารมณ์ร้อนที่เกิดจากการคาบช้อนทองมาเกิด
จากประสบการณ์ของพนักงานแล้ว ลูกค้าประเภทนี้รับมือได้ยากที่สุด ถ้า
บอสเผย ไม่สั่งไว้ก่อน เขาจะยิ้มให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้และอธิบายให้ลูกค้า
ฟังว่าล็อบสเตอร์นั้นนำเข้ายากเย็นขนาดไหน จะได้ช่วยลดโอกาสที่ลูกค้า จะไม่
พอใจและก่อความวุ่นวายได้
แต่เขาต้องอธิบายให้น้อยที่สุดตามที่บอสเผยสั่ง
ชายหนุ่มไม่ได้ดูโกรธเคือง เขาพยักหน้า “โอ้ ล็อบสเตอร์ไม่ได้หาง่ายๆ แหละ
พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมต้องจองล่วงหน้า
“เอาเป็นหอยเม่นแทน”
พนักงานยิ้มแล้วขอโทษขอโพยอีกครั้ง “ขอโทษครับ เมนูนี้ ก็ต้องสั่งจอง
ล่วงหน้าเหมือนกัน”
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว
ถึงจะไม่ได้พูดอะไรก็ดูออกว่ากำลังไม่พอใจอยู่
“งั้นน่าจะมีทูน่าครีบน้ำเงินใช่มั้ย”
“ขอโทษครับ เมนูนี้ก็ต้องสั่งจองล่วงหน้าเหมือนกัน”
ชายหนุ่มหันมองพนักงานเสิร์ฟด้วยความงุนงงเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือ
จะโกรธดี
พนักงานเสิร์ฟชี้ประโยคเล็กๆ ด้านบนเมนู “เมนูเหล่านี้ต้องใช้วัตถุดิบราคา
แพงจึงต้องสั่งจองล่วงหน้า ขออภัยในความไม่สะดวกครับ”
ชายหนุ่มมองตามที่ชี้แล้วเห็นประโยคแจ้งว่าทุกอย่างต้องสั่งจองล่วงหน้าอยู่
ทุกหน้าในเมนู ถึงตัวหนังสือจะไม่ได้เล็ก แต่ก็ไม่ได้เด่นมากนัก ทำให้เขาไม่ทัน
สังเกต
“ไม่เป็นไร งั้นที่ร้านมีอะไรพร้อมเสิร์ฟบ้าง”
ชายหนุ่มขี้เกียจเปิดเมนูหาจึงถามพนักงานไปตรงๆ
พนักงานพลิกผ่านเมนูเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์ไปที่หน้าสุดท้าย แต่ละเมนูใน
หน้านี้ไม่ได้มีประโยคแจ้งว่าต้องสั่งจองล่วงหน้า
“มีตามนี้ครับ”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วระหว่างอ่านหน้าสุดท้ายของเมนู
บางเมนูดูซับซ้อน เช่น พีระมิดหมูสามชั้นตุ๋นกับปลาสิงโต เมนูธรรมดาก็
อย่างเช่น สลัดผัด กุ้งผัดชาหลงจิ่ง และอื่นๆ
ที่เหมือนกั นคือ ราคาแพงหูฉี่ ราคาของแต่ล ะเมนูนั ้น แพงกว่าภั ต ตาคาร
ระดับสูงอื่นๆ อยู่นิดหน่อย
ตัวอย่างเช่น พีระมิดหมูสามชั้นตุ๋นราคาอยู่ที่สองร้อยเจ็ดสิบหยวน ชายหนุ่ม
จำได้ว่าเคยกินเมนูนี้ที่หางโจว ราคาอยู่ที่ประมาณสองร้อยสี่สิบหยวน แน่นอนว่า
ถ้าเทียบกับเมนูหรูที่อยู่หน้าแรกๆ ของเมนูแล้ว เมนูเหล่านี้ราคาถูกกว่ามาก
ชายหนุ่มอึ้งไปเล็กน้อย
ราคาไม่ใช่ปัญหา
ปัญหาหลักคือทุกเมนูที่เขาอยากลองต้องสั่งจองล่วงหน้าหมด
นี่เขาถ่อมาตั้งไกลเพื่อกินเมนูธรรมดาๆ แบบนี้เหรอ
บทที่ 243 ความสุขมาจากการเปรียบเทียบ

เขามาจิงโจวเพื่อจัดการธุระส่วนตัวและบังเอิญเห็นโพสต์บนเว่ยป๋อของจาง
จู่ถิง บอกว่ามีครัวส่วนตัวดีๆ ในเมืองนี้ เลยตัดสินใจมาลองชิมดู
เขารู้สึกไม่ค่อยพอใจกับสถานการณ์ในตอนนี้เท่าไหร่
“จองล่ ว งหน้ า สำหรั บ คื น นี ้ ไ ด้ ม ั ้ ย ” ชายหนุ ่ ม พยายามทำใจเย็ น อย่ า งสุด
ความสามารถ
พนักงานเสิร์ฟเอ่ยขอโทษ “ขอโทษครับ คืนนี้มีคนจองไว้แล้ว คำนวณเวลา
นำเข้าวัตถุดิบแล้ว คุณลูกค้าสามารถจองเป็นคืนวันพรุ่งนี้หรือวันมะรืนนี้ได้ครับ”
ชายหนุ่มพูดอะไรไม่ออก เขาหันมองพนักงานสลับกับเมนูอาหาร พยายาม
ข่มกลั้นอารมณ์อยากด่าทอ สุดท้ายเขาก็สั่งกับข้าวสองจานกับซุปหนึ่งถ้วย
“เอาแค่นี้ก่อน” ชายหนุ่มยื่นเมนูคืน
“ได้ครับ กรุณารอสักครู่” พนักงานรับออเดอร์กับเมนูคืน จากนั้นก็เดินออก
จากห้องไป
ชายหนุ่มหยิบมือถือขึ้นมา ตั้งใจจะค้นดูว่ามีรีวิวร้านนี้หรือเปล่า แต่กลับค้น
ไม่เจออะไร แม้แต่ที่ตั้งร้านบนแผนที่ในมือถือของเขายังไม่มีเลย
นอกจากนั้นป้ายเล็กๆ บนโต๊ะที่เขียนเลขโต๊ะเอาไว้ยังมีคำเตือนแจ้งไว้ว่า
‘เพื่อให้ลิ้มรสชาติอาหารได้อย่างเต็มที่ โปรดงดเว้นการถ่ายรูป!’
ชายหนุ่มคิดถึงเมนูหรูที่ต้องสั่งจองล่วงหน้า เมนูที่ไม่ต้องจองล่วงหน้าเป็นเมนู
ธรรมดาที่มีเสิร์ฟในร้านอาหารทั่วไป แถมยังตั้งราคาแพงกว่าที่อื่นอีก
“…นี่ฉันโดนหลอกมารึเปล่าเนี่ย”
ยิ่งคิดชายหนุ่มก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจ ภัตตาคารแห่งนี้ดูมีอะไรแปลกๆ
เขาชื่อเซวียเจ๋อปิน เป็นลูกชายคนเดียวของเซวียหยวนชิ่งผู้เป็นเจ้าของ
โรงงานถ่านหิน ว่าง่ายๆ คือเป็นทายาทลำดับสองของตระกูลร่ำรวย เขาชอบทำ
ตัวโดดเด่นสะดุดตาเหมือนพ่อ ไม่เคยเขินอายที่จะบอกให้โลกรู้ว่าตัวเองบ้านรวย
เซวียเจ๋อปินรวยมาก จึงไม่แปลกที่เขาจะเคยไปภัตตาคารส่วนตัวมาหลายที่
และรู้ว่าภัตตาคารส่วนตัวระดับสูงหลายแห่งมักมีกฎแปลกๆ
แต่น้อยครั้งมากที่จะเจอร้านที่มีกฎเยอะแยะเหมือนร้านนี้
ที่ทำให้เขาไม่พอใจคือท่าทีของพนักงานที่มักจะตอบอะไรไม่ได้ประโยชน์ด้วย
น้ำเสียงสุภาพ ซึ่งไม่ได้ต่างอะไรกับการนิ่งเงียบอยู่เฉยๆ
ถ้าภัตตาคารไม่ได้ตกแต่งอย่างหรูหราและจางจู่ถิงเป็นคนแนะนำเต็มที่ เขาคง
จะตบโต๊ะลุกออกจากร้านไปนานแล้ว
จริงๆ แล้วที่เซวียเจ๋อปินมาที่ร้านก็เพราะเซวียหยวนชิ่ง พ่อของเขาเป็นแฟน
คลับของจางจู่ถิง เขาเคยเลี้ยงข้าวจางจู่ถิงอยู่หลายครั้ง ก็เลยได้ติดตามเว่ยป๋อ
ของจางจู่ถิงและได้รู้เรื่องภัตตาคารแห่งนี้เข้า
ไม่อย่างนั้นคงไม่มีวันหาร้านนี้เจอหรอก
“รออีกหน่อยแล้วกัน ถ้าอาหารไม่อร่อย ฉันจะด่าร้านนี้ลงเว่ยป๋อ”
เซวียเจ๋อปินยึดมั่นในหลักการไม่ใส่ร้ายคนดี เลยตัดสินใจรอชิมอาหารดูก่อน
ถ้าอาหารสองจานที่สั่งไปรสชาติพอใช้ได้ เขาจะจองร้านวันพรุ่งนี้ไม่ก็วัน
มะรืนเพื่อลองชิมบรรดาอาหารหรูดู
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา อาหารที่เซวียเจ๋อปินสั่งไปก็มาเสิร์ฟ เขาสั่งกุ้งผัด
ชาหลงจิ่ง พีระมิดหมูสามชั้นตุ๋น และซุปเต้าหู้ดอกเก๊กฮวย
ปริมาณอาหารในจานน้อยมาก แต่ราคากลับแพงหูฉี่
“เสิร์ฟอาหารไม่ช้าเท่าไหร่”
เซวียเจ๋อปินรู้ว่าพีระมิดหมูสามชั้นตุ๋นใช้เวลาเตรียมการค่อนข้ างนาน นอก
จากเชฟจะต้องหั่นหมูให้สวยงามแล้ว ยังต้องเอาไปตุ๋นอีก สามสิบนาทีถือว่าเป็น
ระยะเวลาเตรียมการที่เร็วเลยทีเดียว
นอกจากนั้นระหว่างที่กำลังรออาหารก็มีอาหารเรียกน้ำย่อยเบาๆ มาเสิร์ฟ
รสชาติค่อนข้างดีจนทำให้เขาคลายความหงุดหงิดระหว่างรอไปได้นิดหน่อย
“เดี๋ยวจะได้รู้ว่าร้านนี้เป็นพวกลวงโลกรึเปล่า”
เซวียเจ๋อปินมองอาหารสองจานที่พนักงานยกมาเสิร์ฟ
เขาตั้งใจสั่งพีระมิดหมูสามชั้นตุ๋นกับซุปเต้าหู้ดอกเก๊กฮวยเพราะรู้ว่าทั้งสอง
เมนูเป็นตัววัดทักษะการใช้มีดและฝีมือของเชฟได้ดีมาก
“หืม ไม่เลวเลยนี่”
แค่มองอาหารทั้งสองเมนูก็ทำให้ตาลุกวาวได้!
การทำพีระมิดหมูสามชั้นตุ๋น เชฟต้องบรรจงตัดหมูทั้งชิ้นเป็นแผ่นบางๆ จาก
นอกเข้าใน ห้ามให้ขาดและต้องหนาเท่ากันพอดีพอได้เนื้อหมูเป็นแผ่นยาวแล้วก็
ม้วนเป็นสี่เหลี่ยมแล้วเอาเข้าแม่พิมพ์พิเศษเพื่อเรียงเป็นรูปพีระมิด
ส่วนซุปเต้าหู้ดอกเก๊กฮวยต้องหั่นเต้าหู้อ่อนยวบเป็นเส้นตรงบางราวเส้นไหม
และต้องหั่นให้แต่ละเส้นหนาเท่ากันพอดี แถมยังห้ามทำขาดแม้แต่เส้นเดียว
หลังจากนั้นก็เอาไปต้มในน้ำแล้วจัดเรียงให้เป็นทรงดอกเก๊กฮวย
เซวียเจ๋อปินสั่งสองเมนูนี้เพราะอยากจะรู้ว่าภัตตาคารนี้ดีจริง ไม่ใช่ร้านลวง
โลก
เขาสั่งกุ้งผัดชาหลงจิ่งมาเผื่อกรณีที่พีระมิดหมูสามชั้นตุ๋นกับซุปเต้าหู้ดอก
เก๊กฮวยออกมาไม่ได้เรื่อง อย่างน้อยจะได้มีอาหารบ้านๆ ไว้สำรอง
แต่เขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าพีระมิดหมูสามชั้นตุ๋นกับซุปเต้าหู้ ดอกเก๊กฮวย
ออกมาดีกว่าที่คิด!
สองเมนูนี้เป็นตัววัดทักษะการใช้มีดของเชฟ มีแค่เชฟมือหนึ่งที่ฝึกฝนทักษะ
การใช้มีดมาเป็นสิบๆ ปีถึงจะทำออกมาได้สมบูรณ์แบบขนาดนี้
นอกจากนั้นแล้ว อาหารทั้งสองจานยังไม่มีขอบเขตตายตัว ตัวอย่างเช่น ยิ่ง
หั่นเนื้อ ได้บางเท่าไหร่ พีระมิดหมูสามชั้นตุ๋นก็จะมีจำนวนชั้นมากขึ้น ปกติแล้ว
พีระมิดหมู สามชั้นตุ๋นที่ผ่านเกณฑ์จะต้องมีเก้าชั้น แต่จานตรงหน้าเซวียเจ๋อปิน
มีทั้งหมด สิบเจ็ดชั้น แค่หน้าตาก็กินขาดพีระมิดหมูสามชั้นตุ๋นที่เซวีย
เจ๋อปินเคยเห็นมาแล้ว
เซวียเจ๋อปินอดใจไม่ไหว จึงหยิบตะเกียบคีบกุ้งผัดมาลองชิม
ตัวกุ้งนุ่มมากและได้กลิ่นชาหลงจิ่ง ถึงจะราคาจานละเกือบสามร้อย แต่เซวีย
เจ๋ อ ปิ น ก็ ค ิ ด ว่ า อาหารออกมาคุ ้ ม ค่ า มาก เพราะเขาเคยกิ น เมนู น ี ้ ค รั ้ ง หนึ ่ ง ที่
ร้านอาหารจีนชื่อดังในเมืองหวงโจว รสชาติเหมือนจานนี้มาก!
เขาลองชิมพีระมิดหมูสามชั้นตุ๋นกับซุปเต้า หู้ดอกเก๊กฮวยต่อ รสชาติไม่ทำให้
ผิดหวังเลย สมบูรณ์แบบทั้งสองจาน!
ผสานเข้ากับบรรยากาศอันอบอุ่นชวนสบายใจแล้ว เซวียเจ๋อปินก็รู้สึกว่า
ตัวเองมองร้านนี้ผิดไปในตอนแรก
การจะทำอาหารออกมาได้แบบนี้ต้องจ้างเชฟมือหนึ่งผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหาร
หางโจวมาไกลหลายพันลี้ เชฟในจิงโจวไม่มีทางทำออกมาได้สมบูรณ์แบบขนาดนี้
ที่สำคัญไปกว่านั้น อาหารในเมนูไม่ได้มีแค่อาหารขึ้นชื่อเมืองหางโจว แต่ยังมี
เมนูอื่นๆ อีกหลายแบบ
หมายความว่าจ้างเชฟมือหนึ่งคนเดียวนั้นไม่พอ
ถ้าเงินไม่มากพอก็ไ ม่สามารถดึง ตั วเชฟมาได้ เพราะเชฟฝีมือ ดีทำงานที่
ร้านอาหารชั้นสู งในเมืองของตัวเองก็น่าจะได้ค่าแรงสูงพอตัวอยู่แล้ว และเชฟ
เหล่านี้ก็น่าจะมองหาร้านที่ใกล้บ้านตัวเองมากกว่า ใครจะยอมถ่อมาทำงานไกล
ถึงจิงโจวกัน
ถ้าจ้างเชฟหลายคนแบบนี้ รายจ่ายต้องสูงมากแน่ๆ
แบบนี้จะหาเงินได้พอกลบรายจ่ายเหรอ
ตอนแรกเซวียเจ๋อปินคิดว่าแต่ละเมนูตั้ง ราคาแพงเกินไป แต่พอได้ลองชิมก็รู้
ว่าไม่ได้ตั้งแพงเกินไปเลย ถือว่าค่อนข้างถูกด้วยซ้ำ
เจ้าของภัตตาคารนี้หาเงินคืนทุนได้มั้ยเนี่ย
ปัญหาหลักคือร้านนี้ตั้งอยู่ในที่ห่างไกลผู้คน เรื่องโฆษณาร้านนี่ไม่ต้องพูดถึง
แค่ป้ายหน้าร้านยังไม่มีเลย จนถึงตอนนี้ เซวียเจ๋อปินยังไม่รู้เลยว่าร้านนี้ชื่ออะไร
จวนจะเที่ยงแล้ว แต่ในภัตตาคารใหญ่โตแบบนี้ เซวียเจ๋อปินกลับเป็นลูกค้า
เพียงคนเดียว
ร้านนี้กำลังขาดทุนอยู่หรือเปล่านะ
เซวียเจ๋อปินมองจานอาหารสลับกับพนักงานที่กำลังยืนยิ้มให้อยู่ข้างๆ จากนั้น
ก็มองไปรอบๆ เห็นบรรยากาศด้านนอก โต๊ะ เก้าอี้ จานชามหรูหราคุณภาพดี…
“หรือว่า…ร้านนี้จะแอบทำอะไรผิดกฎหมายอยู่ด้วย”
เซวียเจ๋อปินระแวงขึ้นมาทันที
แต่พอคิดดูอีกทีก็ไม่น่าจะใช่
ภัตตาคารแห่งนี้ไม่ได้มีแค่เปลือก ถึงจะไม่มีลูกค้า แต่อาหารที่ขายก็เหมาะสม
กับราคา แม้จะแพงไปหน่อยแต่ก็ถือว่าสมเหตุสมผล
พิจารณาดูหลายๆ มุม ร้านนี้เหมือนจะแค่ไม่ได้เป็นที่รู้จัก ไม่ได้มีจุดไหนน่า
สงสัย
“เดี๋ยวพรุ่งนี้มาลองชิมดูว่าอาหารจองล่วงหน้าจะเป็นยังไง
“ถ้ารักษามาตรฐานไว้ได้…ก็เท่ากับว่าฉันเจอเพชรในตมเข้าแล้วจริงๆ”

ในห้องครัวของครัวส่วนตัวหมิงหยุน
หลินชั่นหรงมองพนักงานอย่างเป็นกังวล “เป็นไงบ้าง ลูกค้าชอบอาหาร
เรามั้ย”
พนักงานพยักหน้า “ลูกค้าดูค่อนข้างพอใจกับอาหารของเรานะครับ”
หลินชั่นหรงถอนหายใจยาว
ค่อยยังชั่ว!
ที่ผ่านมาไม่มีลูกค้าเข้าร้านเลยสักคน แต่วัน ก่อนเริ่มมีลูกค้ามาบ้างประปราย
ประมาณเจ็ดถึงแปดคน
แต่บางส่วนเห็นราคาอาหารก็เตลิดกันไปหมด บางคนพอรู้ว่าอาหารจานหรู
ต้องสั่งจองก่อนก็กลับออกจากร้านไป
มีแค่ประมาณสองสามคนที่อยู่ลองชิมอาหาร แต่เมนูที่สั่งเป็นเมนูบ้านๆ
ทั่วไป ถึงจะเห็นชัดเจนว่าพวกเขาพอใจกับอาหารมาก แต่หลินชั่นหรงก็คิดว่า
ลูกค้าเหล่านี้ ไม่น่าจะกลับมาใช้บริการอีกในเร็วๆ นี้
อาหารของร้านนี้แพงเกินกว่าที่พวกเขาจะจ่ายไหว
เห็นได้ชัดจากอาหารที่พวกเขาสั่ง เมนูที่ถูกที่สุดราคาประมาณห้าสิบถึงหกสิบ
หยวน ถึงจะสั่งแค่อาหารบ้านๆ แต่ราคาต่อหัวที่ต้องจ่ายก็ตกเกือบร้อยหยวน
เงินจำนวนนี้สามารถซื้ออาหารกินได้หลายอย่างในจิงโจว
ดังนั้นแม้เชฟจะฝีมือดี วัตถุดิบที่ใช้ก็ของชั้นยอด รสชาติอาหารอร่อยกว่า
ร้านอื่นๆ แต่ราคาก็แพงเกินกว่าที่คนธรรมดาจะเข้าถึงได้
แต่วันนี้พอเห็นเซวียเจ๋อปินเข้าร้านมา หลินชั่นหรงก็คอยจับตาดูอีกฝ่าย
ชัดเจนมากว่าคนคนนี้รวย
เซวียเจ๋อปินช่วยยืนยันเรื่องนี้ให้มั่นใจอีกที เขายอมจ่ายสามร้อยหยวนสั่งกุ้ง
ผัด ชาหลงจิ่งและสองร้อยหกสิบหยวนสั่งพีระมิดหมูสามชั้นตุ๋น แค่นี้ก็ปาไปหก
ร้อยเกือบเจ็ดร้อยหยวนแล้ว
ถ้าลูกค้ามีเงินกลับออกจากร้านไปด้วยความพึงพอใจในอาหารที่เสิร์ฟ ครัว
ส่วนตัว หมิงหยุนก็น่าจะมีโอกาสดังขึ้นมาได้!
เพราะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของครัวส่วนตัวหมิงหยุนไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็น
พวกไฮโซ ความคิดเห็นของพวกไฮโซจึงสำคัญมาก
พอได้ยินว่าลูกค้าพอใจ หลินชั่นหรงก็ได้แต่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ตอนนี้เขาเป็นผู้จัดการสาขาของร้านนี้ จึงไม่จำเป็นต้องลงมือทำอาหารเอง
แต่เชฟฝีมือดีในครัวก็ผ่านการสัมภาษณ์ คัดสรร และจ้างมา (ด้วยเงินของบอส
เผย) โดยหลินชั่นหรง พอมั่นใจว่าลูกค้าพอใจในอาหาร หลินชั่นหรงก็รู้สึกภูมิใจไม่
น้อย
“ผู้จัดการครับ ลูกค้าเช็กบิลเสร็จแล้วจองมื้อค่ำวันพรุ่งนี้ด้วยครับ!” พนักงาน
วิ่งมาบอกข่าวดีอย่างตื่นเต้น
“เยี่ยมเลย!”
ในที่สุดหลินชั่นหรงก็คลายความกังวลที่มีอยู่ในใจได้สักที
ก่อนหน้านี้ถึงบอสเผยจะบอกเขาว่าไม่จำเป็นต้องโฆษณาร้าน แต่หลินชั่นหรง
ก็ยังรู้สึกพะวักพะวนอยู่ดี แต่ช่วงนี้มีลูกค้าเข้าร้านประปราย แถมยังมีไฮโซมาลอง
ชิมอาหารด้วย เห็นได้ชัดว่าที่ผ่านมามีการจัดการเรื่องโฆษณาอยู่!
ทุกอย่างอยู่ในแผนของบอสเผยหมดจริงๆ ด้วย
ต่อไปถ้าทำตามคำสั่งบอสเผยอย่างเคร่งครัด รวมถึงทำอาหารและให้บริการ
อย่างเต็มที่ สักวันครัวส่วนตัวหมิงหยุนต้องดังได้แน่!
บรรดาเชฟและพนักงานครัวส่วนตัวหมิงหยุนต่างเปี่ยมไปด้วยความหวัง
“ฮัดชิ่ว!”
เผยเชียนจาม เขายกมือถูจมูกแล้ววางจอยเกมลง
ตอนนี้เกือบห้าโมงเย็นแล้ว
คืนนี้เขาต้องเลี้ยงต้องรับเฉียวเหลียงที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุน พร้อมทั้งปลอบ
ประโลมจิตวิญญาณที่แตกสลายของอีกฝ่าย
หลังจากทรมานมาทั้งวัน เผยเชียนก็อยากรู้ว่าตอนนี้อาจารย์เฉียวเป็นยังไง
บ้าง
เขาไปถึงร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
เผยเชียนเดินขึ้นชั้นสองไปอย่างเงียบเชียบและสังเกตการณ์เฉียวเหลียงที่นั่ง
อยู่ตรงมุมร้าน
เฉียวเหลียงที่หน้าซีดเซียวกำลังจับจ้องไปที่หน้าจออย่างตั้งอกตั้งใจ มือสอง
ข้างจับจอยเกมไว้แน่น มีเอนตัวไปมาเป็นพักๆ อย่างกับว่ากำลังเล่นเกมที่ตรวจจับ
การเคลื่อนไหวอยู่
จู่ๆ ร่างของเขาก็สั่นเทิ้มแล้วนิ่งไป
หน้าจอกลายเป็นสีเทา
สีหน้าตื่นตะลึงของเฉียวเหลียงเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยความหงุดหงิด จากความ
หงุดหงิดกลายเป็นความท้อแท้ จากความท้อแท้กลายเป็นความว่างเปล่า
เขาวางจอยลงบนโต๊ะและเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยมองเพดาน ท่าทีเหมือนกับว่า
กำลังตั้งคำถามถึงจุดประสงค์ของการมีชีวิตต่อไป
พอเห็นอาการของเฉียวเหลียง เผยเชียนก็รู้สึกดีขึ้นมาก ริมฝีปากของเขาผุด
ยิ้มขึ้นมา
ไม่เสียเงินเปล่า!
คิดถูกจริงๆ ที่เชิญอาจารย์เฉียวมาจิงโจว!
ตอนแรกเผยเชียนรู้สึกกังวล เพราะตัวเองไม่ใช่เกมเมอร์สายมาโซคิสต์ จึงไม่รู้
ว่าจะทนเล่นเกมกลับใจคือฟากฝั่งไหวหรือเปล่า
ถ้าสุดท้ายเล่นเกมไม่ผ่าน เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากลดความยากของ
เกมลงแล้วเลื่อนเวลาวางขายออกไป แบบนั้นคงเป็นปัญหาแน่
แต่ตอนนี้เผยเชียนมีแรงจูงใจให้อดทนเล่นต่อแล้ว แรงจูงใจที่ว่าก็คืออาจารย์
เฉียว!
ไม่ว่าจะทรมานมากเท่าไหร่ แค่ได้เห็นอาจารย์เฉียวทรมานยิ่งกว่าก็ทำให้
เผยเชียนมีแรงใจสู้ต่อ!
ยังไงซะเผยเชียนก็มีผู่ตู้ช่วย แต่อาจารย์เฉียวต้องฟันฝ่าอุปสรรคนับไม่ถ้วน
ด้วยอาวุธธรรมดา
ก็เหมือนคำพูดที่ว่า ความสุขเกิดได้จากการเปรียบเทียบ!
ตอนนี้เผยเชียนรู้สึกสุขใจมากกว่าครั้งไหนๆ!
บทที่ 244 อาจารย์เฉียวหายสงสัย

เผยเชียนแสร้งทำตัวปกติขณะเดินเข้าไปหาเฉียวเหลียง เขายิ้มแล้วถาม
ออกไป “เป็นไงบ้างครับ”
เฉียวเหลียงกำลังหมกมุ่นอยู่กั บเกมเลยไม่ไ ด้ตอบคำถามเผยเชีย นทั น ที
หลังจากเหม่อมองอีกฝ่ายอยู่สักพัก เขาก็ลุกขึ้นยืน “เอ่อ…ก็…”
อาจารย์เฉียวผู้ผ่านเกมสุด แหวกแนวมามากมายและทำคลิปรีวิวเกมออกมา
หลากหลายคลิป ไม่รู้ว่าจะต้องตอบออกไปยังไงดี
เป็นไงบ้างเหรอ
ที่ติดใจสุดๆ คือความยากของเกมนี้ต้องตั้งค่ามาผิดแน่ๆ!
นักออกแบบเกมน่าจะตั้งค่าให้มอนสเตอร์มีพลังโจมตีมากเกินไป อาจจะเผลอ
ใส่ศูนย์เกิน แต่นอกนั้นก็โอเคหมด
แต่พอเห็นเผยเชียนยิ้มให้อย่างอบอุ่น อาจารย์เฉียวก็ตอบออกไปอย่างนั้น
ไม่ได้
ตอนนี้บอสเผยคือนักออกแบบเกมชื่อดัง ไม่มีทางจะทำเรื่องผิดพลาดโง่ๆ
แบบนั้นได้
ขนาดนักออกแบบระบบหน้าใหม่ยังไม่ค่อยทำพลาดในเรื่องง่ายๆ อย่างใส่
เลขศู น ย์ ม าเกิ น เพราะการจะเป็ น นั ก ออกแบบระบบได้ ต้ อ งมี ค วามรู ้ เ รื ่ อ ง
คณิตศาสตร์พื้นฐาน
ไม่เหมือนนักวางพล็อตที่แค่เขียนประโยคสวยๆ สักสองสามประโยคก็ได้งาน
แล้ว
ดังนั้นหลังจากลังเลใจอยู่พักหนึ่ง อาจารย์เฉียวก็ยังคิดหาคำตอบเหมาะๆ
ไม่ได้
เขาเริ่มรู้สึกละอายใจขึ้นมาเล็กน้อย
เฉียวเหลียงนะเฉียวเหลียง ทำไมถึงมาเอ๋อช่วงสำคัญแบบนี้ได้!
บอสเผยอุตส่าห์เชิญฉันมาตั้งไกล ที่พักอาหารก็จัดหาให้อย่างดี เพราะมองว่า
ฉันเป็นเกมเมอร์มืออาชีพ เขาคงอยากจะรู้ว่าฉันคิดเห็นยังไง
แต่ถึงจะเล่นเกมไปตั้งหลายชั่วโมง ฉันก็ยังอธิบายความรู้สึกหลังจากเล่นไม่ได้
เลยสักประโยค บอสเผยต้องผิดหวังแน่!
เฉียวเหลียงเริ่มรู้สึกขายหน้าขึ้นมาเล็กน้อย
แต่เผยเชียนไม่ได้คิดอะไรมาก เขาหัวเราะ “ไปกินมื้อเย็นกันดีกว่าครับ คืนนี้
เราจัดงานเลี้ยงต้อนรับให้ยกใหญ่เลย!”
เผยเชียนไม่ได้โกรธเคืองเลยสักนิด เขาพอใจกับท่าทีของเฉียวเหลียงมาก
หมายความว่าอีกฝ่ายเบลอไปเลยหลังจากได้เล่นเกมกลับใจคือฟากฝั่ง และ
นั่นแหละคือสิ่งที่เผยเชียนอยากเห็น
ยังไงซะอาจารย์เฉียวก็ถือว่าเป็นเกมเมอร์ฝีมือดีในหมู่เกมเมอร์
ครั้งก่อนก็เล่นเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายได้จนจบ เป็นคนความ
พยายามสูงจริงๆ!
แน่นอนว่าที่เล่นได้จนจบส่วนหนึ่งก็เพราะต้องหาเงินเลี้ยงปากท้อง แต่ก็ดูถูก
ความอดทนและความสามารถในการจัดการกับความเครียดของอาจารย์เฉียว
ไม่ได้เลยจริงๆ
ตอนนี้อาจารย์เฉียวโดนเกมทรมานจนสมองเบลอ ถือว่ามาได้ถูกทางแล้ว
หรือเปล่านะ
พอเห็นท่าทีของอาจารย์เฉียว เผยเชียนก็พอจะจินตนาการออกว่าเกมเมอร์
ทั่วไปจะมีทีท่ายังไง เขารู้สึกโล่งใจกับอนาคตของเกมกลับใจคือฟากฝั่งมากขึ้น
ครัวส่วนตัวหมิงหยุน
เผยเชียนเดินนำเฉียวเหลียงไปห้องส่วนตัวที่กว้างที่สุดในร้าน
การตกแต่งต่างๆ แตกต่างจากตอนกลางวัน ตอนนี้ทั้งห้องจัดแต่งตามเมนูที่
ร้านจะเสิร์ฟในค่ำคืนนี้ แม้แต่โต๊ะอาหารและจานชามก็ยังจัดให้เข้ากับการตกแต่ง
ด้วย
คืนนี้มีแค่เผยเชียนกับเฉียวเหลียง ไม่มีคนอื่นอีก
พนักงานคนอื่นๆ กำลังง่วนอยู่กับการดูแลกิจการมุ่งขาดทุนของบอสเผย มี
แค่เผยเชียนเท่านั้นที่ไม่มีอะไรทำ เลยตัดสินใจพาเฉียวเหลียงมาเลี้ยงมื้อค่ำเป็น
การส่วนตัว ขณะเดียวกันก็เป็นการแสดงให้อีกฝ่ายเห็นถึงความเอาใจใส่
นอกจากนั้นแล้ว นี่ก็ไม่ใช่งานรับรองที่เป็นทางการอะไรมาก ถ้ามีคนมากกว่า
นี้อาจจะทำให้อึดอัดได้
บรรยากาศร้านดีมาก การบริการก็ยอดเยี่ยม
แม้แต่อาหารเรียกน้ำย่อยกับของว่างกินเล่นก่อนมื้อหลักก็อร่อยกว่าอาหาร
จานหลักของหลายๆ ร้านแล้ว
เฉียวเหลียงกินของว่างกับอาหารเรียกน้ำย่อยพลางพูดคุยกับเผยเชียน แต่ไม่รู้
ทำไมเขาถึงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกถูกคุกคาม
บอสเผยดีกับฉันเกินไปหรือเปล่านะ
ก็เหมือนคำพูดที่ว่า ถ้ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลแสดงว่าเจอมารผจญ ฉันเป็นแค่
อัปโหลดมาสเตอร์ธรรมดา ทำไมบอสเผยต้องดูแลฉันดีขนาดนี้ด้วย
แอบวางแผนอะไรไว้หรือเปล่า
เฉียวเหลียงรู้สึกว่ารอยยิ้มของบอสเผยมีอะไรแอบแฝงอยู่ มันไม่ใช่รอยยิ้ม
ธรรมดาทั่วไป
“เล่นเกมไปถึงไหนแล้วครับ” เผยเชียนยิ้มระหว่างคีบอาหารเรียกน้ำย่อยเข้า
ปาก
เฉียวเหลียงตอบตามตรง “ไปถึงเมืองแล้วครับ”
โห เล่นผ่านหมู่บ้านเริ่มต้นแล้วเหรอ
ไม่เลวเลย คืบหน้าไปได้เร็วมาก
ดูเหมือนว่าอาจารย์เฉียวจะหัวไวและมีฝีมือเลยทีเดียว
เกมโหดๆ แบบนี้มักจะยากตอนแรกเริ่ม ถ้าอดทนเล่นไปสักพักก็จะเล่นได้
ราบรื่นขึ้น
สิ่งสำคัญเลยคือต้องเปลี่ยนวิธีคิด
ถ้าไม่เปลี่ยนวิธีคิดก็จะติดอยู่ที่หมู่บ้านเริ่มต้นไปตลอด
เกมกลับใจคือฟากฝั่งคล้ายเกมสไตล์ Souls เกมอื่นๆ ถูกออกแบบมาให้
มอนสเตอร์ทุกตัวเกิดใหม่หลังตายไป ถ้าเป็นพวกใจร้อนคิดแต่จะรีบเล่นให้ผ่าน
พยายามกี่ครั้งก็จะติดอยู่แค่ที่จุดเริ่มต้น แต่ถ้าพยายามจับทางเกมแล้วค่อยๆ เล่น
ไปอย่างระมัดระวัง ก็จะสามารถเล่นผ่านไปได้เร็วขึ้น
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉียวเหลียงได้เล่นเกมแบบนี้ จึงไม่แปลกที่เขาจะรุดหน้าไปได้
ช้าในช่วงเริ่มแรก
แต่แค่คิดว่าเฉียวเหลียงต้องทรมานอยู่หมู่บ้านเริ่มต้นถึงแปดชั่วโมง เผยเชียน
ก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ เขาพยายามห้ามตัวเองไม่ให้หัวเราะออกมา
“คิดว่าส่วนไหนยากที่สุดในเกมเหรอครับ” เผยเชียนถามต่อ
เขาต้องปรับส่วนที่อาจารย์เฉียวคิดว่ายากที่สุดเพิ่มขึ้นไปอีก
แล้วก็ต้องปรับส่วนที่อาจารย์เฉียวคิดว่าง่ายเพิ่มขึ้นด้วย
เฉียวเหลียงตอบโดยไม่คิด “พลังโจมตีของมอนสเตอร์สูงเกินไปครับ”
“มีอย่างอื่นอีกมั้ยครับ” เผยเชียนไม่สนใจคำตอบนั้น
“อย่างอื่น…” เฉียวเหลียงครุ่นคิด แปดชั่วโมงแห่งความทุกข์ระทมปรากฏขึ้น
ในสายตา
มีทั้งตอนที่เขาหัวร้อนกับมอนสเตอร์ลู กกระจ๊อก ตอนโดนมอนสเตอร์รุม
ตอนเดินไปตามทางแล้วจู่ๆ เจอมอนสเตอร์ล้อม ตอนเดินผ่านหน้าผาแล้วโดน
มอนสเตอร์โผล่มาผลักตกลงไป…
การเดินทางแปดชั่วโมงเต็มไปด้วยน้ำตาและหยดเลือด!
เฉียวเหลียงรู้สึกเหมือนเป็นปลาบนเขียงที่กำลังโดนคนเชือด!
ไม่สิ โดนมอนสเตอร์เชือดต่างหาก!
ได้ฟังเฉียวเหลียงโอดครวญ เผยเชียนก็ได้แต่พยายามตีหน้าขรึม แต่ไม่ว่าจะ
พยายามยังไง เขาก็เห็นแค่สี่คำบนหน้าเฉียวเหลียง นั่นก็คือ ขอโหดกว่านี้!
เผยเชียนแสนเบิกบานใจเมื่อได้ ฟังอาจารย์เฉียวอธิบายประสบการณ์แสน
ทุกข์ทรมานของตัวเอง
ทุ่มเงินทำเกมไปตั้งมากมายเพื่ออะไร
ก็เพื่อแค่นี้แหละ!
เฉียวเหลียงไม่ทันสังเกตสีหน้าแอบแฝงของบอสเผย เขามัวแต่จดจ่ออยู่กับ
การบรรยายความเจ็บปวดที่ผ่านมาและไม่สามารถหยุดตัวเองได้สักที
“ที่โหดสุดคือมอนสเตอร์ในหมู่บ้านที่เหมือนยามเฝ้าตอนกลางคืน มันมากัน
สองตัว ตัวหนึ่งถือฆ้อง อีกตัวถือไม้ตี มอนสเตอร์ทุกตัวจะตื่นเวลามันเดินผ่าน
ต้องรอนานมากกว่าพวกมันจะกลับไปนอน ผมตั้งใจจะลอบฆ่ามัน แต่มันมีโคมไฟ
แล้วตาก็ดีมาก แทงผมครั้งเดียวเลือดหมดหลอดเลย ทุกครั้งที่คิดจะหนี พวกมัน
จะใช้อาวุธลับ ผมเลย…”
“พรืด” เผยเชียนทนไม่ไหว หลุดหัวเราะออกมา
อาจารย์เฉียวอึ้งไป “มีอะไรเหรอครับบอสเผย”
เผยเชียนทำตัวไม่ถูก ฉิบหาย ดันทนไม่ไหว!
อาจารย์เฉียวจดจ่อกับการบรรยายมาก เขาเก็บหมดทุกรายละเอียด จนเผย
เชียนนึกภาพยามถือโคมไฟฟาดเฉียวเหลียงตอนเจอหน้าได้ พอนึกตามแบบนั้น
เผยเชียนก็ตีหน้าขรึมได้ยาก โชคดีที่อาหารมาเสิร์ฟพอดี
“ผมดีใจที่อาหารมาเสิร์ฟน่ะครับ เอ้า เต็มที่เลยครับอาจารย์เฉียว”
เผยเชียนรีบผลักจานซูช ิหอยเม่นที่พ นักงานเพิ่งจะวางลงบนโต๊ะ ไปทาง
อาจารย์เฉียว แล้วผายมือเชิญให้อีกฝ่ายกิน
เฉียวเหลียงรู้สึกไม่ชอบมาพากลหนักขึ้น
ท่าทีของบอสเผยดูแปลกๆ
ทำไมเขาดูมีความสุข
เหมือนจะพอใจมากที่ได้ยินว่าฉันโดนฆ่าเป็นผักปลาในเกมจนอดหัวเราะ
ออกมาไม่ได้
หรือบอสเผยจะเชิญฉันมาถึงที่นี่เพื่อดูฉันทรมาน
อาหารหรูบนโต๊ะนี่เพื่อจะปลอบใจฉันงั้นเหรอ
เฉียวเหลียงอดรู้สึกสงสัยขึ้นมาไม่ได้
ถึงฉันจะเป็นแค่อัปโหลดมาสเตอร์ธรรมดาและเซ็นสัญญาเอาเงินแกมาแล้ว
แต่ฉันก็เป็นคนมีหัวจิตหัวใจ มีศักดิ์ศรีเป็นของตัวเอง!
ถ้าเป็นตามที่ฉันคิด ถึงจะเซ็นสัญญาไปแล้ว ฉันก็จะต่อต้านอย่างสุดกำลังจะ
แฉพฤติกรรมไร้ยางอายของแกลงอินเทอร์เน็ตเลย!
เฉียวเหลียงคิดในใจระหว่างคีบซูชิหอยเม่นเข้าปาก
“เอ๋ อร่อยจัง!”
หอยเม่นสดๆ เย็นๆ กับข้าวซูชิหอมอุ่นเป็นรสชาติอันแตกต่างที่ละลายในปาก
รู้สึกเหมือนรสจูบอันดื่มด่ำ ต่อมรับรสของเฉียวเหลียงถูกซัดกระหน่ำด้วยรสชาติ
มากมาย
เขาเคยกินอาหารญี่ปุ่นที่ปักกิ่ง เห็นได้ชัดเลยว่านี่ไม่ใช่หอยเม่นธรรมดา!
หอยเม่นธรรมดาราคาค่อนข้างถูก แต่หอยเม่นเกรดดีอาจจะราคาสูงถึงหลัก
พัน
เป็ น เหตุ ใ ห้ ต อนที ่ เ ซวี ย เจ๋ อ ปิ น มาร้ า นตอนกลางวั น และถามหาหอยเม่ น
พนักงานจึงตอบไปว่าต้องสั่งจองล่วงหน้า ครัวส่วนตัวหมิงหยุนไม่ได้เสิร์ฟหอยเม่น
ธรรมดาทั่วไป
ว่ากันตามตรง ตอนนั้นในครัวก็มีหอยเม่นอยู่ แต่เผยเชียนจองล่วงหน้าไว้
สำหรับเลี้ยงเฉียวเหลียง จึงเอาไปเสิร์ฟเซวียเจ๋อปินไม่ได้
พอเห็นอาหารจานหรูบนโต๊ะ ความสงสัยที่มีในใจก็ละลายหายไปทันที
บอสเผยมองว่าฉันสำคัญเลยเลี้ยงอาหารดีๆ แบบนี้ ไม่มีทางที่จะเชิญฉันมา
เพื่อดูฉันทรมานหรอก
ถ้าต้องทนทรมานเล่นเกมแล้วได้กินอาหารดีขนาดนี้ ก็บอกเลยว่า…โหดกว่านี้
ก็ไหว!
เฉียวเหลียงตั้งมั่นในใจระหว่างดื่มด่ำกับอาหาร
“บอสเผยดีกับฉันขนาดนี้ ฉันต้องเล่นเกมอย่างจริงจังจนกว่าจะผ่าน จากนั้น
ก็ช่วยบอสเผยโฆษณาเกมนี้!”
“ขอบคุณที่เลี้ยงครับบอสเผย!” เฉียวเหลียงอยากจะกินต่อ แต่ท้องแน่นจน
ยัดเพิ่มไม่ไหวแล้ว
เขาสุขใจมากที่ได้กินอาหารหรูหรามากมาย!
อาจารย์เฉียวรู้สึกว่าแค่อาหารมื้อนี้ก็คุ้มค่ากับการเดินทางมาถึงจิงโจวแล้ว!
เผยเชียนไม่รู้เลยว่าอาจารย์เฉียวอารมณ์พลิกจากหน้ามื้อเป็นหลังมือระหว่าง
มื้ออาหาร เขาบอกให้เสี่ยวซุนไปส่งอาจารย์เฉียวที่โรงแรมแล้วค่อยกลับมารับ
ตัวเอง
พอส่งเฉียวเหลียงเสร็จ เผยเชียนก็หันไปคุยกับหลินชั่นหรง เขาอยากจะถาม
ถึงสถานการณ์ร้านในปัจจุบัน
มีโต๊ะเก้าอี้ตั้งอยู่ในสวนของวิลล่า ลมเย็นสบายยามค่ำคืนทำให้รู้สึกสดชื่น
“ช่วงนี้มีลูกค้าบ้างมั้ย”
ตั้งแต่จางจู่ถิงโพสต์เรื่องร้านลงเว่ยป๋อ เผยเชียนก็รู้สึกกระวนกระวายใจ ไม่รู้
ทำไมเขาถึงรู้สึกวางใจเรื่องครัวส่วนตัวหมิงหยุนไม่ได้
หลินชั่นหรงเข้าใจทันที
ตอนแรกไม่มีลูกค้ามาร้านเลย ช่วงนี้เริ่มมีมาบ้างประปราย ชัดเจนว่ามีการ
โฆษณาครัวส่วนตัวหมิงหยุน แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่รู้จักร้าน
บอสเผยน่าจะถามเรื่องจำนวนลูกค้าเพื่อประเมินประสิทธิภาพการโฆษณา
แล้วฉันจะตอบยังไงดีนะ
ตามหลักการแล้ว ถ้าจะประเมินประสิทธิภาพการโฆษณา หลินชั่นหรงต้อง
รายงานไปในด้านบวก แต่บอสเผยอาจจะคิดว่าเขาให้ข้อมูลผิดๆ ก็ได้
เพราะสองวันที่ผ่านมามีลูกค้าเข้าไม่ถึงสิบคน แถมส่วนใหญ่เห็นเมนูก็หนีกัน
ไปหมดแล้ว มีแค่สองสามคนที่อยู่สั่งอาหารกิน
ลูกค้าที่จะกลับมากินอีกรอบมีแค่ชายหนุ่มชื่อเซวียเจ๋อปินที่มาเมื่อ ตอน
กลางวัน
แค่จำนวนลูกค้าก็บอกให้ดูดีไม่ได้แล้ว!
เห็นหลินชั่นหรงลังเลใจ มุมปากของเผยเชียนก็ผุดยิ้ม
ดีๆ หลินชั่นหรงดูลังเลที่จะรายงานสถานการณ์ ถือว่าเป็นข่าวดีมาก!
แสดงว่าโพสต์เว่ยป๋อของจางจู่ถิงไม่ได้ช่วยเรียกลูกค้ามากนัก ไม่ได้มีลูกค้า
เพิ่มขึ้นพรวดพราดขนาดนั้น
บทที่ 245 มีร้านที่นักรีวิวยังหาไม่เจอด้วยเหรอ

“ไม่เป็นไร บอกมาตามตรงเถอะ สองวันที่ผ่านมามีลูกค้าเข้าร้านกี่คน มีสั่ง


อาหารกี่คน แล้วมีจองร้านล่วงหน้าบ้างมั้ย” เผยเชียนยิงคำถามอย่างใจเย็น
หลินชั่นหรงตอบตามตรง “สองวันที่ผ่านมามีลูกค้ารวมทั้งหมดแปดคนครับ
มีสามคนที่สั่งอาหารกิน มีจองร้านล่วงหน้าคืนพรุ่งนี้แค่คนเดียวครับ”
“หืม… หืมมม”
เผยเชียนพอใจกับสองจำนวนแรกมาก
แค่นี้ถือว่าเล็กน้อยจนไม่ต้องใส่ใจ
เดี๋ยวอีกสองสามวัน จางจู่ถิงก็จะโพสต์อะไรลงเว่ยป๋ออีก โพสต์เรื่องร้านจะ
ถูกดันลงไป จากนั้นก็จะไม่มีลูกค้ามาเพิ่มแล้ว
แต่กลับมีลูกค้าคนหนึ่งจองร้านล่วงหน้าคืนพรุ่งนี้ซะได้
พวกไฮโซนี่เยอะจริงๆ
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามออกไป “เขาจองอะไรไปบ้าง”
หลินชั่นหรงไล่รายการอาหารที่เซวียเจ๋อปินสั่งให้เผยเชียนฟัง มีทั้งสเต็ก
โทมาฮอว์ก คาเวียร์ เห็ดมัตสึทาเกะ เขาสั่งไม่เยอะ ปริมาณประมาณสองถึงสาม
คนกิน แต่ทั้งหมดรวมกันแล้วราคาเกือบหนึ่งหมื่นหยวน
แถมลูกค้าคนนี้ยังจ่ายมัดจำไว้ล่วงหน้าแล้วยี่สิบเปอร์เซ็นต์
เผยเชียนเงียบไป
เขาไม่เข้าใจโลกของพวกคนรวยเลย
ถึงเผยเชียนจะสวาปามอาหารพวกนี้และพาพนักงานมากินกันอย่างสำราญใจ
แต่นั่นก็เพราะเขาพยายามจะผลาญเงินให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้!
ถ้าเขาผลาญเงินจนขาดทุนได้ ระบบก็จะให้เงินกลับ แถมยั งเติมเงินทุนระบบ
ที่ใช้ไปด้วย เผยเชียนจึงใช้จ่ายมือเติบได้ไม่ต้องยั้ง
แต่ถ้าให้เผยเชียนใช้เงินตัวเองจ่ายค่าอาหารพวกนี้ แค่อาหารพื้นๆ ราคาสาม
สี่ร้อยหยวนก็ถือว่าแพงมากแล้ว!
แต่ลูกค้าคนนี้กลับสั่งอาหารราคารวมทะลุหมื่น
ตอนแรกเผยเชียนยังมองโลกในแง่ดีอยู่ จนถึงตอนนี้จำนวนลูกค้าที่แวะมา
ครัวส่วนตัวหมิงหยุนเป็นแค่เลขหลักเดียว ถือว่าเป็นสถานการณ์ในอุดมคติ
แต่ใครจะไปคิดว่าจะมีพวกไฮโซอยู่ในลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย
เผยเชียนตะลึงงันไปพักหนึ่ง
เมื่อเห็นบอสเผยนิ่งเงียบ หลินชั่นหรงก็งุนงงเล็กน้อย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิด
อะไรอยู่
เรื่องนี้น่าจะเป็นข่าวดีสิ แต่ทำไมบอสเผยถึงไม่ยิ้มเลยล่ะ
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้น “สำเนียงเขาเป็นยังไง”
หลินชั่นหรงคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เขาพูดจีนกลาง แต่ติดสำเนียงอยู่หน่อยๆ ครับ
ไม่น่าจะใช่คนจิงโจว น่าจะมาจากผิงเฉิง”
เจ้าของเหมืองถ่านหินเหรอ
นั่นคือความคิดแรกที่ผุดขึ้นในหัวเผยเชียน

แต่เขาก็พยายามมองในแง่ดี อีกฝ่ายไม่ใช่คนจิงโจว คงจะแวะมาทำธุระที่นี่


ไม่น่าจะอยู่นานนัก
ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีเลย
ถึงจะเป็นพวกไฮโซ แต่ก็มาที่นี่ไม่ได้บ่อยนัก อย่างมากก็คงพาแขกมาเลี้ยง
และจองร้านแค่ตอนมาทำธุระที่นี่
ถ้าคิดแบบนี้ ก็ไม่น่าจะ…ทำเงินให้ครัวส่วนตัวหมิงหยุนได้มากมายนักหรอก
คิดได้แบบนี้เผยเชียนก็โล่งใจขึ้นนิดหน่อย เขารู้สึกว่าช่วงนี้ตัวเองระแวงและ
มองทุกคนเป็นศัตรูเกินไปหน่อย
พอเปิดภัตตาคารส่วนตัว เขาก็พาพนักงานมากินเลี้ยงที่นี่ แบบนั้นจะไปหวัง
ไม่ให้มีใครหาร้านเจอได้ยังไง
ยังไงเรื่องการมีพวกไฮโซแวะมากินบ้างก็อยู่ในแผนเขาอยู่แล้วบ้างแต่ในระยะ
ยาว ภัตตาคารนี้ก็ยังจะขาดทุนเหมือนเดิม
ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรขนาดนั้น
พอได้ยินว่าลูกค้ากระเป๋าหนักคนนั้นไม่ใช่คนจิงโจว เผยเชียนก็สบายใจขึ้น
เยอะ
ทั้งสองคุยกันเรื่องการให้บริการร้านจนเสี่ยวซุนขับรถกลับมาถึง
“คร่าวๆ ประมาณนี้ก่อน อย่าลืมเรื่องการให้บริการที่ผมบอกไป ถึงลูกค้าจะ
รวยมากก็ห้ามฝ่าฝืนกฎเด็ดขาด บอกให้พนักงานดูแลเหมือนลูกค้าธรรมดาทั่วไป
“แล้วก็ห้ามป่าวประกาศชื่อร้านด้วย”
เผยเชียนสั่งเพิ่มนิดหน่อยก่อนจะขึ้นรถไป
พอส่งบอสเผยกลับแล้ว หลินชั่นหรงก็พยายามถอดความหมายแฝงจากสิ่งที่
บอสพูด
“บอสเผยพยายามบอกเราว่าเวลาเจอลูกค้ารวยมากก็ไม่ต้องเกร็ง เพราะ
เดี๋ยวในอนาคตจะมีแต่พวกคนรวยมาใช้บริการครัวส่วนตัวหมิงหยุนรึเปล่านะ
“ถ้าเราฝ่าฝืนกฎกับลูกค้าไฮโซคนหนึ่ง พอมีพวกคนรวยมาที่ร้านอีก กฎที่ตั้ง
ไว้ก็จะไม่มีประโยชน์
“อืม มีเหตุผล!
“บอสเผยเป็นคนมองการณ์ไกล บอสตั้งกฎไว้เผื่อธุรกิจครัวส่วนตัวหมิงหยุน
เติบโตขึ้นในอนาคต เตรียมการทุกอย่างไว้พร้อมจริงๆ
“บอสเผยย้ำกับฉันด้วยว่าอย่าพอใจกับอะไรง่ายๆ แค่มีลูกค้าคนรวยมาใช้
บริการแค่คนเดียวก็ตื่นเต้นขนาดนั้นไปได้ ฉันเป็นผู้จัดการสาขา ต้องใจเย็นกว่า
ใคร
“ถ้ามีไฮโซมาที่ร้านอีก ฉันก็ต้องสำรวมท่าที
“ฉันจะถ่ายทอดความตั้งใจของบอสเผยให้พนักงานได้รับรู้ตามนี้”
หลินชั่นหรงมองเห็นอนาคตอันสดใสของครัวส่ วนตัวหมิงหยุน เขาเดินกลับ
เข้าร้านอย่างเบิกบานใจเพื่อไปบอกข่าวดีกับคนอื่นๆ
วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม
ครัวส่วนตัวหมิงหยุนกำลังเตรียมการสำหรับมื้อเย็น
เฉียวเหลียงวางแผนจะเดินเล่นรอบๆ จิงโจวในช่วงเช้า แล้วค่อยไปทำงาน
ล่วงเวลาเล่นเกมกลับใจคือฟากฝั่งในช่วงบ่าย
บอสเผยดีกับฉันมาก ต้องตั้งใจทำงานให้เต็มที่
ที่ฉางหยางเกมส์ การค้นคว้าและพัฒนาเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรด
เสร็จสมบูรณ์แล้ว ตอนนี้ใกล้จะทดสอบครั้งสุดท้ายแล้ว จากนั้นก็สามารถโปรโมต
และเปิดให้เล่นได้อย่างเป็นทางการ
วันนี้เป็นวันเสาร์ บอสเผยสั่งเอาไว้ว่าไม่ให้พวกเขาทำงานล่วงเวลาช่วง
วันหยุดเสาร์อาทิตย์
ในฐานะผู้อำนวยการสร้าง หลินหวานพยายามบอกให้ทุกคนกลับบ้านแล้ว
แต่วันปล่อยตัวเกมที่ใกล้เข้ามาทำให้หวังเสี่ยวปินกับเยว่จือโจวอยู่ไม่สุขที่บ้าน จึง
ยืนกรานขอทำงานล่วงเวลา หลินหวานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมให้พวกเขา
เข้ามาทำงาน
แน่นอนว่าหลินหวานเองก็อยู่ไม่สุขเหมือนกัน
พอคิดว่าเกมที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจพัฒนาขึ้นมาจะเปิดให้ผู้เล่นได้สัมผัสอย่าง
เป็นทางการในอีกไม่กี่สัปดาห์ ทุกคนก็รู้สึกตื่นเต้นและหวั่นใจ
สุดท้ายพวกเขาก็คุมขนาดมินิไคลแอนต์ของเกมเพลงรบโลหิตไว้ที่ 370 เมกะ
ไบต์ ถือว่าเกินความคาดหมายที่ทุกคนวางไว้ในตอนแรก
เกมเพลงรบโลหิตเดิมเป็นเกมที่สามารถเล่นผ่านเว็บตอนไหนก็ได้
มินิไคลแอนต์สำหรับเกมเล่นบนเว็บมักจะคุมขนาดไม่ให้ใหญ่เกิน 5 เมกะไบต์
มีไม่กี่เกมที่มีขนาดมินิไคลแอนต์อยู่ที่ประมาณ 30 ถึง 50 เมกะไบต์
ถ้าขนาดใหญ่กว่านั้นจะไม่ถือว่าเป็นมินิไคลแอนต์ เพราะถ้าเอาเกมเล่นบน
เว็บเป็นมาตรฐาน การดาวน์โหลดข้อมูลขนาด 370 เมกะไบต์จะกินเวลานาน
เกินไป แบบนั้นผู้เล่นย้ายไปเล่นเกมฝั่งไคลแอนต์น่าจะเหมาะกว่า
ผู้เล่นสายเกมเล่นบนเว็บส่วนใหญ่ทนการดาวน์โหลดข้อมูลขนาด 370 เมกะ
ไบต์ไม่ได้
แต่หลินหวานไม่มีทางแก้ที่ดีกว่านี้ เนื่องจากพวกเขาตกลงกันไว้แล้วว่า เกม
เพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดจะเปลี่ยนจากภาพสองมิติมาเป็นสามมิติ ทรัพยากร
งานภาพต่างๆ ทำใหม่หมด ไม่ว่าจะพยายามบีบอัดหรือปรับไฟล์ยังไงก็ไม่สามารถ
ลดขนาดให้เล็กลงกว่านี้ได้
พวกเขาทุ่มเทเต็มที่ในการบีบอัดและปรับไฟล์จนทำให้เกมเหลือแค่ขนาด
370 เมกะไบต์
ถือว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก แต่ก็ทำออกมาแบบนี้แล้ว ไม่มีทางให้ถอยกลับอีก
พวกเขาต้องมองในแง่ดีเข้าไว้ ไม่แน่คุณภาพงานภาพและระบบการเล่นที่
ยุติธรรม อาจเปลี่ยนความชอบของเกมเมอร์สายเกมเล่นบนเว็บไปก็ได้
นอกจากนี้บอสเผยยังช่วยออกแบบโฆษณาให้ด้วยตัวเอง
หลินหวานไม่รู้ว่าผลจะเป็นยังไง แต่เธอก็เชื่อมั่นว่าบอสเผยได้วางแผนทุก
อย่างไว้หมดแล้ว
หวังเสี่ยวปินเคาะประตูเบาๆ “ผู้อำนวยการหลิน เราเตรียมการโปรโมตเสร็จ
เรียบร้อยแล้วครับ
“ตอนนี้วางแผนจะปล่อยโฆษณาลงเว็บไซต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บโนเวล เว็บ
วิดีโอ เว็บเกม เว็บการ์ตูน เว็บรวบรวมลิงก์ และอื่นๆ
“ตามที่เราตกลงกัน เราจะไม่ใช่โฆษณาแบบหน้าต่างป๊อปอัปกับโฆษณาแบบ
ที่ขึ้นค้างบนหน้าจอ หน้าสมัครและดาวน์โหลดเกมจะเด้งขึ้นมาหลังจากคลิกที่ตัว
โฆษณา”
ถึงจะเป็นวิธีโฆษณาที่ใช้กันทั่วไป แต่หลินหวานก็ยืนกรานไม่ใช้โฆษณา
จำพวกที่สร้างความหงุดหงิดใจ
จริงๆ แล้วยังมีรูปแบบการโฆษณาที่น่าหงุดหงิดอีกมากมาย เช่น จู่ๆ หน้าต่าง
โฆษณาก็เด้งขึ้นมาเอง หรือไม่ก็มีหน้าต่างโฆษณาที่ ขึ้นค้างอยู่ตรงมุมขวาล่างของ
เว็บ โฆษณาพวกนี้พบเห็นได้ทั่วไป หลายๆ อันทำลายประสบการณ์การเล่นเกม
ของ ชาวเน็ต
แต่ก็ต้องยอมรับว่าหน้าต่างโฆษณาที่เด้งขึ้นมาอย่างไร้ยางอายพวกนี้แหละที่
มีประสิทธิภาพที่สุด
การเลือกไม่ใช้รูปแบบการโฆษณาแบบนี้จะทำให้ได้ประสิทธิภ าพน้อยลง
ขณะเดี ยวกั น ก็ ไ ม่ ไ ด้ ช ่ ว ยสร้ า งกระแสให้ ก ั บ เกมเพราะชาวเน็ ต อาจจะไม่ ทั น
สังเกตเห็นโฆษณาด้วยซ้ำ
หลินหวานคุยกับทุกคนแล้วตัดสินใจเลี่ยงโฆษณารูปแบบที่ว่า
เพราะฉางหยางเกมส์ไม่เหมือนเดิมแล้ว ต้องทำให้เห็นว่าพวกเขาแตกต่างจาก
เหล่าบริษัทผู้พัฒนาเกมเล่นผ่านเว็บที่ไร้ซึ่งบรรทัดฐาน
ได้ยินที่หวังเสี่ยวปินรายงาน หลินหวานก็รู้สึกพอใจ “ขอบคุณค่ะ งานต่อไป
ของเราคือทุ่มเทกับตัวเกมให้เต็มที่ การเปลี่ยนความชอบของชาวเกมเมอร์อาจจะ
เป็นเรื่องยาก แต่เราก็ต้องพยายามให้เต็มที่”
หวังเสี่ยวปินพยักหน้า เขาเห็นด้วยกับที่หลินหวานพูดสุดๆ
ถึงผู้อำนวยการหลินจะไม่ได้ลงมาคุมขั้นตอนการค้นคว้าและพัฒนาเกมในทุก
รายละเอียด แต่พลังงานด้านบวกและกำลังใจที่ได้จากเธอนั้นคล้ายกับบอสเผย
ซึ่งถือเป็นอะไรที่แปลกมาก
“เตรียมการทุกอย่างให้เรียบร้อย สัปดาห์หน้าเราจะทดสอบเกมครั้งสุดท้าย
และจะเชิญผู้เล่นเก่ามาลองตัวเกมเพื่อถามความเห็น

“สัปดาห์ถัดจากนั้น เราจะเปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการ จากนั้นก็จะทุ่มเรื่อง


โฆษณาเกมอย่างเต็มที่!”
ตอนเย็น ที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุน
“เห็นมั้ย บอกแล้วว่าร้านนี้อย่างหรูแต่แกก็ไม่ยอมเชื่อ ทีนี้เชื่อได้รึยัง นักรีวิว
ของแกน่ะมันกาก!”
เซวียเจ๋อปินนั่งขัดสมาธิยิ้มกริ่ม เขาภูมิใจในตัวเองมาก
โชคดีจริงๆ ที่เมื่อวานจองไว้!
ทันทีที่เดินเข้ามาในร้าน เซวียเจ๋อปินก็สัมผัสได้ถึงความแตกต่าง
การตกแต่ง โต๊ะ จานชาม ทุกอย่างในห้องส่วนตัวเปลี่ยนใหม่จากเดิม!
เที่ยงเมื่อวานเซวียเจ๋อปินเลือกห้องส่วนตัวห้องนี้เพราะตอนนั้นครัวส่วนตัว
หมิงหยุนไม่ค่อยมีคน แต่เพราะเขาไม่ได้จองเอาไว้ การตกแต่งในห้องส่วนตัวจึง
เป็นแบบธรรมดาทั่วไป ถึงบรรยากาศโดยรวมจะดี แต่ก็ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไร
วันนี้ทุกอย่างต่างออกไป เซวียเจ๋อปินจองห้องส่วนตัวไว้ล่วงหน้า การตกแต่ง
โต๊ะ จานชามจึงถูกจัดเตรียมตามอาหารที่สั่ง ทุกอย่างใช้สไตล์เดียวกัน ไม่ว่าจะ
เป็น ผ้าคลุมโต๊ะหรือการตกแต่งบนโต๊ะ เห็นได้ชัดว่าภัตตาคารนี้พิถีพิถันเรื่อง
การจัดตกแต่งมากทีเดียว
แค่เดินเข้ามาก็ตาลุกวาวแล้ว!
ชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามเซวียเจ๋อปินดูอายุเยอะกว่าเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ถึง
สามสิบปี
เขาเป็นขั้วตรงข้ามกับเซวียเจ๋อปินที่ให้ลุคเหมือนเศรษฐีใหม่ ชายหนุ่มคนนี้
สวมสูท ดูภูมิฐาน มองแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนที่ประสบความสำเร็จใน
แวดวงธุรกิจ
ชายหนุ่มกำลังลิ้มรสอาหารพลางมองแอปพลิเคชันรีวิวในมือถืออย่างงงๆ
“เมืองจิงโจวมีภัตตาคารส่วนตัวคุณภาพเยี่ยมขนาดนี้แต่ไม่มีนักรีวิวคนไหน
หาเจอเลยเหรอ แล้วนายหาเจอได้ไงเนี่ย”
แผนที่ในแอปรีวิวระบุว่าตำแหน่งตรงนี้เป็นที่ว่าง ไม่ควรจะมีร้านอะไรอยู่ที่นี่
เซวียเจ๋อปินยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “จะสนใจเรื่องนั้นไปทำไม แกแพ้ที่พนันไว้
จ่ายมื้อนี้เลยนะเว้ย!”
ชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามชื่อหวังเผิง เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งฉวนหมินรีวิว
ในฐานะหนึ่งในผู้ชนะการแข่งขันระหว่างเว็บไซต์อันแสนดุเดือด ฉวนหมินรีวิว
เติบโตอย่างรวดเร็วและขยายจากเมืองระดับหนึ่งไปเมืองระดับสองและระดับสาม
เมืองจิงโจวเป็นหนึ่งในเมืองเป้าหมายของการขยายธุรกิจครั้งนี้
เพื่อให้ขยายตลาดออกไปได้รวดเร็วและครอบคลุมธุรกิจต่างๆ ได้มากขึ้น
หวังเผิงแนะนำให้มีนักรีวิวในทุกเมือง หน้าที่ของนักรีวิวเหล่านี้คือไปตามหาร้านที่
ยังไม่มีใครรู้จัก และโน้มน้าวให้มาเป็นพาร์ตเนอร์กับฉวนหมินรีวิว
นักรีวิวทำผลงานได้ดีมาก ฉวนหมินรีวิวเติบโตอย่างรวดเร็วในเมืองจิงโจว
ตอนนี้หลายๆ ร้านเข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับฉวนหมินรีวิวแล้ว
โดยเฉพาะพวกภัตตาคารระดับสูงที่เสิร์ฟอาหารหรูๆ หลังจากเจรจากับ
เจ้าของร้านเหล่านี้สำเร็จ นักรีวิวก็จะได้ค่าคอมมิ ชชันก้อนโต ด้วยเหตุนี้นักรีวิว
ของฉวนหมิน รีวิวจึงตั้งใจหาร้านแบบที่ว่าอย่างเต็มที่
ถึงเจ้าของร้านจะไม่ตกลงเป็นพาร์ตเนอร์ด้วย ฉวนหมินรีวิวก็จะระบุตำแหน่ง
ร้านบนเว็บไซต์อยู่ดี แผนที่ในแอปไม่ควรจะระบุว่าเป็นที่ว่างแบบนี้
ด้วยเหตุนี้หวังเผิงจึงไม่เชื่อที่เซวียเจ๋อปินบอกและรู้สึกขุ่นเคืองอยู่หน่อยๆ
เขาไม่คิดว่านักรีวิวประจำจิงโจวของฉวนหมินรีวิวจะหาภัตตาคารระดับสูงที่
โดดเด่นทุกด้านแบบนี้ไม่พบ
พนักงานเสิร์ฟยืนยิ้มอยู่ด้านข้าง รอว่าลูกค้าจะต้องการความช่วยเหลืออะไร
หรือเปล่า
หวังเผิงถามขึ้น “ร้านนี้เปิดมานานเท่าไหร่แล้วครับ”
พนักงานคนหนึ่งยิ้มแล้วตอบออกไป “ครึ่งเดือนกว่าๆ ครับ”
หวังเผิงงงหนักกว่าเดิม
เขาไม่เข้าใจเรื่องนี้เลย ฉวนหมินรีวิวมีนักรีวิวในเมืองจิงโจวมากมาย ทุกวัน
พวกเขาจะออกไปตามหาร้านที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก แต่ร้านนี้กลับซ่อนตัวจากผู้คนมา
ได้กว่าครึ่งเดือน นักรีวิวเองก็หาไม่เจอ แต่เซวียเจ๋อปินกลับหาเจอ
บ้ามาก
หวังเผิงถาม “ร้านนี้ชื่ออะไรเหรอครับ”
เขาตั้งใจจะไปคุยกับเจ้าของร้านและเจรจาให้มาเป็นพาร์ตเนอร์กับฉวนหมินรี
วิว
พนักงานยิ้มแล้วตอบ “ร้านเราไม่มีชื่อครับคุณลูกค้า
“ทางเราหวังให้คุณลูกค้าจำบรรยากาศดีๆ การบริการที่ใส่ใจ และอาหารอัน
โดดเด่นของเรา แทนที่จะไปจำชื่อร้านที่ไม่ได้สำคัญอะไร”
บทที่ 246 ร้านก็ไม่ได้ใหญ่ ทำไมกฎเยอะจัง

“ไม่มีชื่อเหรอ”
“เอ่อ…”
หวังเผิงหันไปมองเซวียเจ๋อปิน แล้วพบว่าอีกฝ่ายกำลังยิ้มเหมือนพนักงาน
เสิร์ฟแต่ไม่ได้พูดอะไร
เขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังโดนดูถูก คนพวกนี้กำลังทำเหมือนว่าเขาเป็น
บ้านนอกเพิ่งเข้ากรุง ไม่ประสีประสาอะไร
“ไม่ได้สิ ถ้าไม่มีชื่อจะจดทะเบียนร้านได้ยังไง คุณตั้งใจจะปิดบังชื่อร้านไม่ให้
ลูกค้ารู้เพราะเป็นกลยุทธ์อะไรสักอย่างรึเปล่า”
หวังเผิงรู้สึกขับข้องใจมาก
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งฉวนหมินรีวิว เขาเคยไปภัตตาคารมาหลายแห่ง
เห็นอะไรแปลกๆ มาก็เยอะ
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบเจออะไรแปลกพิกลขนาดนี้
ปกติแล้วแม้แต่ครัวส่วนตัวเล็กๆ ก็ยังมีชื่อร้ าน บางร้านเอาเลขที่บ้านมาตั้ง
เป็นชื่อ อย่าง ‘ครัวเลข 45’ หรือ ‘ภัตตาคารหมายเลข 78’
ถึงทางร้านจะพยายามทำตัวไม่โดดเด่นยังไง อย่างน้อยก็ต้องมีชื่อ ไม่อย่างนั้น
ลูกค้าก็จะไม่รู้ว่าต้องบอกคนอื่นยังไงว่าไปกินร้านไหนมา มีแต่จะทำให้เกิดปัญหา
โดยใช่เหตุ
นอกจากนั้นแล้วการไม่มีชื่อร้านจะกีดกันไม่ให้ร้านมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก
เว้นเสียแต่ว่าเจ้าของร้านไม่ได้สนใจเรื่องชื่อเสียงและมั่นใจในร้านของตัวเองมาก
ถึงได้ทำแบบนี้
เซวียเจ๋อปินเห็นแววตางุนงงของหวังเผิงก็รู้สึกเบิกบานใจ เขารู้สึกว่าตอนนี้
ตัวเองเหนือกว่าอีกฝ่าย
“เลิกคิดมากแล้วกินสักที เดี๋ยวอาหารเย็นหมด” เซวียเจ๋อปินเร่ง
หวังเผิงพยักหน้า เขาเก็บคำถามต่างๆ ไว้ในใจแล้วหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป
พนักงานกำลังจะห้ามหวังเผิง แต่เซวียเจ๋อปินพูดขึ้นก่อน
เขาชี้ไปที่ป้ายบนโต๊ะ “ห้ามถ่ายรูปโว้ย”
หวังเผิง “?”
ร้านก็ไม่ได้ใหญ่ ทำไมกฎเยอะจัง!
หวังเผิงเคยได้ยินเรื่องร้านที่ห้ามถ่ายรูปมาบ้าง แต่ก็มีน้อยมาก ส่วนใหญ่จะ
เป็นร้านที่อยู่ต่างประเทศ
ถือว่าผิดมนุษย์มนามากที่ร้านในประเทศจะห้ามลูกค้าไม่ให้ถ่ายรูป ตอนนี้การ
ถ่ายรูปแทบจะกลายเป็นธรรมเนียมก่อนกินอาหารแล้ว ถ้าไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป
แล้วจะเอาไปอวดคนอื่นยังไง
เสียเงินกินอาหารตั้งแพงแต่กลับไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปไปอวดคนอื่น แบบนั้นก็
เท่ากับว่าไม่เคยมาที่ร้านนี้เลยสิ
แน่นอนว่ากฎแบบ ‘ห้ามถ่ายรูป’ ไม่สามารถบังคับใช้ได้จริงขนาดนั้น ถ้า
ลูกค้า ดึงดันจะเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูป พนักงานก็วิ่งเข้ามาคว้ามือถือลูกค้าไปเขวี้
ยงทิ้งไม่ได้
พวกเขาทำได้แค่เตือนอย่างสุภาพ ถ้าลูกค้าดื้อดึงก็ทำอะไรไม่ได้
แต่การที่มีพนักงานคอยเดินมาย้ำระหว่างดื่มด่ำกับอาหารถือเป็นการทำลาย
บรรยากาศ พนักงานส่วนใหญ่คงไม่เลือกทำอะไรโง่ๆ แบบนั้น
อีกอย่างถ้าลูกค้าถ่ายรูปอาหารได้ออกมาดูน่ากินก็จะช่วยเรียกลูกค้ามาให้
ร้านเพิ่มได้ เท่ากับเป็นการโฆษณาร้านฟรีๆ ทำไมทางร้านถึงจะไม่อยากให้ทำ
แบบนั้นด้วย
ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ถือว่าแปลกมากที่ร้านอาหารไม่ยอมให้ลูกค้าถ่ายรูป
หวังเผิงแสนงุนงง “หมายความว่ายังไง อาหารจัดมาสวยงามขนาดนี้แต่ห้าม
ถ่ายรูปเนี่ยนะ เสียของมากเลย”
เขามองอาหารตรงหน้า ทุกจานจัดวางออกมาได้สวยงามและมีสีสัน หวังเผิง
รู้สึกปวดใจมากที่ถ่ายรูปไปอวดคนอื่นไม่ได้
เซวียเจ๋อปินยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม ท่าทีงุนงงของหวังเผิงทำให้ชายหนุ่มรู้สึ กว่า
ตัวเองเหนือกว่าอีกฝ่ายมาก เขาตัดสินใจอธิบายแทนพนักงาน
“ร้านนี้พิเศษตรงนี้แหละ
“เจ้าของร้านคิดว่าการถ่ายรูปจะทำให้ลิ้มรสอาหารได้ไม่เต็มที่
“ถ้ามัวคิดหาแสงกับมุมกล้องดีๆ ก็จะไม่ใส่ใจดื่มด่ำกับกลิ่นและรสชาติของ
อาหารตรงหน้า จนพลาดรายละเอียดหลายๆ อย่างไป
“เก็บมือถือไปจะช่วยให้ใส่ใจกับการสนทนากับเพื่อนๆ และการลิ้มรสอาหาร
แสนอร่อย ช่วยให้มีเวลาได้ผ่อนคลายจริงๆ
“เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ฉันรู้ว่าแกงานยุ่ง แต่แค่อาหารมื้อเดียว
ไม่รบกวนเวลางานแกขนาดนั้นหรอก เก็บมือถือลงเถอะ”
หวังเผิงยังรู้สึกเสียดาย แต่เซวียเจ๋อปินก็อธิบายให้ฟังแล้ว ถ้ายังดึงดันจะ
ถ่ายรูปก็คงไม่ดี เขาจึงเก็บมือถือไปแล้วเริ่มจัดการกับอาหารตรงหน้า
สเต็กโทมาฮอว์ก เห็ดมัตสึทาเกะ คาเวียร์…ล้วนไม่ได้ราคาถูกๆ อาหารมื้อนี้
ราคากว่าหมื่นหยวน
เซวียเจ๋อปินไม่ได้สั่งอาหารที่แพงที่สุดในเมนู เพราะตั้งใจจะเช็กดูว่าเมนูที่ต้อง
จองนั้นมีจริงไม่ได้หลอก
หวังเผิงลองชิมอาหารทีละจาน ใส่ใจกับการลิ้มรสชาตินุ่มละมุน
“วัตถุดิบไม่ธรรมดาจริงๆ”
ในฐานะผู้จัดการเว็บไซต์รีวิว หวังเผิงเคยชิมอาหารจานหรูมามากมายเพราะ
เป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน
รสชาติอาหารขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ใช้ ฝีมือของเชฟ บรรยากาศภายในร้าน และ
อารมณ์ของผู้กิน ในองค์ประกอบเหล่านี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือวัตถุดิบที่ใช้
หลังจากลองอาหารทุกจาน หวังเผิงก็บอกได้ว่าวัตถุดิบที่ใช้เป็นของเกรดดี
คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปทุกหยวน
แน่นอนว่าวัตถุดิบเหล่านี้ไม่ใช่ที่สุดของที่สุด เพราะวัตถุดิบล้ำค่าต่างสัญชาติมี
วางขายแค่ ใ นเมื อ งต้ น กำเนิ ด เท่ า นั ้ น วั ต ถุ ด ิ บ ล้ ำ ค่ า แบบที ่ ว ่ า มี จ ำนวนจำกั ด
สามารถส่งออกไปพื้นที่ข้างเคียงได้ไม่มาก จึงไม่มีทางที่จะส่งมาที่จีนได้
แต่ก็ชัดเจนว่าภัตตาคารไม่มีชื่อแห่งนี้ใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุดที่สามารถหาได้
ภายในประเทศจีน
เซวียเจ๋อปินสังเกตสีหน้าหวังเผิง “รสชาติเป็นไง”
ในฐานะทายาทตระกูลร่ำรวย เซวียเจ๋อปินเคยกินอาหารดีๆ มามากมายจึง
สามารถแยกความแตกต่างระหว่างอาหารคุณภาพดีกับอาหารคุณภาพแย่ได้ แต่
เขาก็ไม่ใช่มืออาชีพ ฝีมือยังต่างชั้นกับหวังเผิงอยู่มาก
หวังเผิงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ไม่เลวเลย คิดว่าดีกว่าร้านที่เราไปกินมา
รอบที่แล้วอีก
“อย่างคาเวียร์ คาเวียร์สามสิบเปอร์เซ็นต์ในโลกผลิตในประเทศเรา จาก
ร้านอาหารสามดาวมิชลินยี่สิบหกแห่งในปารีส มียี่สิบเอ็ดร้านที่เสิร์ฟคาเวียร์
คุณภาพพรีเมี่ยมที่ผลิตในจีน
“คาเวี ย ร์ จ ากการฟาร์ ม ของประเทศเราคุ ณ ภาพเที ย บเท่ า คาเวี ย ร์ ต าม
ธรรมชาติ
“ฉันเคยไปชิมร้านที่ปักกิ่งกับเซี่ยงไฮ้ วัตถุดิบที่ใช้เป็นของแบบเดียวกัน
“แต่ไม่รู้ทำไมคาเวียร์ที่นี่ถึงรสชาติดีกว่า
“หรือจะเป็นผลทางจิตวิทยาจากบรรยากาศร้านและจานชามที่ใช้”
เซวียเจ๋อปินคิดถึงเรื่องการตกแต่งภายในห้องส่ว นตัวที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
พูดขึ้น “จะว่าไปพวกเขาตกแต่งห้องนี้ใหม่ด้วย ทั้งการตกแต่ง โต๊ะ จานชาม ทุก
อย่าง ไม่เหมือนรอบก่อนที่ฉันมาเลย”
เขาหันไปถามพนักงานที่ยืนอยู่ข้างๆ “ทำไมถึงต้องเปลี่ยนการตกแต่งด้วย
เหรอครับ”
พนักงานยิ้ม “บอสของเราคิดว่าบรรยากาศร้านเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อ
ประสบการณ์การกินอาหารครับ

“ในอดีตตอนที่มนุษย์เรียนรู้ที่จะดื่มไวน์ พวกเขาใช้แก้วหลายแบบในการดื่ม
ไวน์แต่ละชนิด วิธีการดื่มก็ซับซ้อน มีรายละเอียดหลายขั้นตอน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่
ธรรมเนียมปฏิบัติ แต่ถ้าดื่มไวน์ด้วยแก้วที่ถูกแบบจะช่วยดึงคุณลักษณะเฉพาะ
ของไวน์ แต่ละชนิดออกมาได้ และยังช่วยสร้างบรรยากาศสุดพิเศษอีกด้วย
ครับ”
หวังเผิงพูดอะไรไม่ออก เขาพยักหน้า “พิถีพิถันมาก”
ถ้าได้ยินที่อื่น หวังเผิงคงจะแดกดันไปแล้ว เขาคิดว่ามันเว่อร์เกินไป
เปลี่ยนการตกแต่ง โต๊ะ จานชามในห้องให้เข้ากับอาหารที่เสิร์ฟนั้นไม่ใช่เรื่อง
สำคัญอะไรเลย ถ้าอาหารออกมาแย่ ทุกอย่างก็ไร้ประโยชน์
แต่ถ้ามีวัตถุดิบคุณภาพดีกับเชฟฝีมือเยี่ยมล่ะ
ร้านนี้ใช้ว ัต ถุ ด ิบ เลอค่า เชฟก็เป็นตัว ท็อ ปในวงการ เทียบกั บภั ต ตาคาร
ระดับสูง ที่อื่นแล้วไม่ได้ด้อยกว่าเลย…แต่ก็ไม่ได้เหนือชั้นกว่าขนาดนั้น
ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้ติดตราตรึงก็คือรายละเอียดยิบย่อย
รายละเอียดที่ว่าคือบรรยากาศสุดพิเศษ การบริการอย่างดีเยี่ยม จานชามที่
เหมาะสม และอื่นๆ
นอกจากนั้นแล้ว ลูกค้ายังไม่สามารถถ่ายรูปได้ ทุกคนต้องให้ความสำคัญกับ
อาหารตรงหน้า ทำให้รู้สึกว่าอาหารที่นี่อร่อยกว่าที่อื่น
หมายความว่าถึงภัตตาคารสองแห่งเสิร์ฟอาหารที่เหมือนกันทุกอย่าง แต่
ลูกค้าก็จะรู้สึกต่างกัน!
“มื้อนี้เท่าไหร่” หวังเผิงถาม
เซวียเจ๋อปินยิ้ม “หมื่นสามพันหยวน”
หวังเผิงรู้สึกอิ่มเอมใจ “ก็คุ้มนะ”
ระหว่างที่กำลังเดินออกจากครัวส่วนตัวหมิงหยุน หวังเผิงรู้สึกไม่อยากให้
ประสบการณ์นี้จบลง
ถึงวันนี้จะโดนเซวียเจ๋อปิน ‘แทง’ เข้าให้ และต้องเสียเงินไปกว่าหมื่นหยวน
กับอาหารมื้อเดียว เขาก็ยังคิดว่าคุ้มค่ามากอยู่ดี
ถ้าเซวียเจ๋อปินไม่แนะนำมา หวังเผิงก็ไม่มีทางรู้ว่ามีภัตตาคารระดับสูงแบบนี้
ในจิงโจวด้วย
ไม่ใช่แค่เรื่องอาหารอร่อยเท่านั้น
ภัตตาคารนี้แอบซ่อนตัวจากสายตาฝูงชน ภายในร้านตกแต่งได้อย่างมีระดับ
การบริการก็เป็นที่น่าประทับใจ แถมยังมีกฎห้ามถ่ายรูปอีก เห็นได้ชัดว่าเป็น
ภัตตาคารทีเ่ หนือชั้นมาก
ร้านนี้เหมาะสำหรับใช้เลี้ยงรับรองเวลาเจรจาธุรกิจ
ถึงจะแพง แต่ก็ได้ความมีระดับ คู่ค้าทางธุรกิจจะต้องชอบใจในรสชาติของ
อาหาร และรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นคนสำคัญมาก ถือว่าคุ้มสุดๆ!
นอกจากนั้นแล้ว หวังเผิงดูราคาในใบเสร็จแล้วคิดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
อาหารหรูราคาแพงอยู่แล้ว ไหนจะค่าใช้จ่ายในการจ้างเชฟยอดฝีมือ สถาน
ที่สุดหรู โต๊ะและจานชามสุดพิเศษ พนักงานเสิร์ฟ…
ตั้งราคาแค่เท่านี้ถือว่าใจดีมาก!
หวังเผิงเสียดายที่ไม่ได้ช่องทางการติดต่อเจ้าของร้าน
ตอนเช็กบิล ผู้จัดการสาขาแซ่หลินเดินเข้ามาถามความคิดเห็น อย่างสุภาพว่า
มีอะไรที่ร้านควรปรับปรุงเพิ่มเติมหรือเปล่า
หวังเผิงใช้โอกาสนั้นขอช่องทางการติดต่อเจ้าของร้าน เผื่อจะขอให้อีกฝ่ายมา
เป็นพาร์ตเนอร์กับฉวนหมินรีวิว
แต่ผู้จัดการหลินปฏิเสธ
ว่ากันตามตรงแล้ว ผู้จัดการหลินไม่ได้เป็นคนปฏิเสธเอง แต่ปฏิเสธแทน
เจ้าของร้าน เขาให้เบอร์ติดต่อของตัวเองมา แต่ไม่ได้ให้ของเจ้าของร้าน
ผู้จัดการหลินปฏิเสธคำเชิญเป็นพาร์ตเนอร์กับฉวนหมินรีวิวแทนเจ้าของร้าน
ขนาดชื่อร้านยังไม่ยอมปริปากบอก
หวังเผิงคิดว่าถ้าตื๊อเกินไปจะดูไม่เหมาะ เพราะดูจากที่ตั้งและกลยุทธ์ของร้าน
แล้ว หวังเผิงพอจะเดาได้ว่าเจ้าของร้านไม่ชอบทำตัวเด่น ซึ่งตอบคำถามว่าทำไม
ถึงไม่ยอมให้ช่องทางการติดต่อของตัวเอง
ดังนั้นหวังเผิงจึงรับมาแค่ช่องทางการติดต่อของผู้จัดการหลิน เผื่อไว้ในโอกาส
ที่ต้องพาแขกมากินเลี้ยง จะได้ติดต่อเข้ามาจองได้เลย
เขาแค่เสียดายที่ติดต่อให้ร้านนี้เป็นพาร์ตเนอร์กับฉวนหมินรีวิวไม่ได้
แต่… ถ้าไม่ได้เป็นพาร์ตเนอร์กัน หมายความว่าฉวนหมินรีวิวจะเอาร้านขึ้น
เว็บไม่ได้งั้นเหรอ
เปล่าเลย
ฉวนหมินรีวิวมีฟังก์ชัน ‘เพิ่มร้าน’ ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มข้อมูลร้านที่เคยไปใช้
บริการด้วยตัวเองได้
แน่นอนว่าเว็บไซต์กำหนดไว้ว่าต้องใส่ชื่อร้านด้วย เขาจึงต้องให้พนักงานช่วย
จัดการให้
หวังเผิงบันทึกที่ตั้งร้านแล้วโทรไปหาเจ้าหน้าที่เทคนิค “โลเคชันที่ส่งไปเป็น
ที่ตั้งภัตตาคารระดับสูง เอาขึ้นเว็บให้ด้วย เดี๋ยวผมจะเขียนรีวิวด้วยตัวเองทีหลัง
“ชื่อไม่ต้องใส่ ปล่อยว่างไว้”
บทที่ 247 ให้ดอกกุหลาบไป แต่กลิ่นยังติดมือ

พนักงานฉวนหมินรีวิวทำงานรวดเร็วมาก สองนาทีต่อมา พอหวังเผิงเปิดเข้า


ไปดูในแอปใหม่ก็พบว่ามีร้านไม่ระบุชื่อปรากฏขึ้นตรงที่ตั้งภัตตาคารนี้
แต่รายละเอียดอื่นๆ ว่างเปล่า ไม่มีข้อมูลอะไรเลย
หน้าข้อมูลของร้านอื่นๆ ในฉวนหมินรีวิวทำออกมาได้ดีมาก มีรูป ชื่อร้าน
คะแนน บทรีวิว ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย ตำแหน่งที่ตั้ง และอื่นๆ
แต่ร้านนี้เป็นแค่หน้าเปล่าๆ ไม่มีอะไร
หวังเผิงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มกรอกข้อมูลลงไป
ชื่อปล่อยว่างไว้เหมือนเดิม
ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย ดูจากมื้อนี้ก็จะเป็น มากกว่าห้าพันหยวน
เรื่องคะแนนค่อนข้างเป็นปัญหา
หวังเผิงอยากให้ 4.8 คะแนน แต่พอค้นดูร้านอื่นๆ ในเมืองจิงโจวที่ได้ 4.8
คะแนนแล้วก็พบว่าไม่มีร้านไหนสู้ภัตตาคารไร้ชื่อแห่งนี้ได้เลย
ทั้งรสชาติ บรรยากาศ และการบริการ จะให้แค่ 4.8 คะแนนก็คงไม่เหมาะ
ต้องให้คะแนนเต็ม!
หวังเผิงให้คะแนนห้าเต็มห้าในทุกเกณฑ์
รูปไม่มีเพราะร้านไม่ให้ถ่าย
หวังเผิงถ่ายรูปหน้าร้านมาได้ แต่ดูแล้วก็เป็นแค่วิลล่าธรรมดา ไม่สามารถบอก
ความสุดยอดข้างในได้ เขาคิดว่าลงรูปหน้าร้านไปก็ไม่ได้อะไรเลยตัดสินใจไม่ลง
จากนั้น หวังเผิงก็เขียนรีวิวอย่างจริงจัง
“ในภาพรวม ภัตตาคารนี้คือที่สุดในจิงโจวตอนนี้ ไม่มีร้านไหนเทียบได้ ผมสั่ง
อาหารไปสามสี่อย่าง วัตถุดิบที่ใช้เป็นของที่ดีที่สุดที่สามารถหาได้ในประเทศ และ
ต้องจองล่วงหน้าวันถึงสองวัน อาหารรสชาติดีเยี่ยม น่าจะจ้างเชฟมาจากหลายที่
ถึงมีเมนูอาหารหลากหลายขนาดนี้
“บรรยากาศร้านเงียบสงบมาก การตกแต่งต่างๆ อิงตามประเภทอาหารที่
เสิร์ฟ มีความพิถีพิถันมาก
“การบริการดีเยี่ยม ไม่ต้องบอกอะไรเลย พนักงานจัดการดูแลให้ทุกอย่าง แต่
กลับไม่รสู้ ึกรำคาญหรือเป็นการรบกวนเลย แปลกมาก
“ร้านนี้มีกฎห้ามถ่ายรูปโดยเด็ดขาด แต่ก็ช่วยให้ดื่มด่ำกับอาหารตรงหน้าได้
เอร็ดอร่อยมากขึ้น
“สรุปสั้นๆ คืออิจฉาเพื่อนๆ ที่อยู่จิงโจวมาก”
หวังเผิงไม่ได้รีวิวเว่อร์เกินไป เขาเขียนจากประสบการณ์ตามจริง
แต่เขาโพสต์รีวิวด้วยบัญชีทางการที่มีสัญลักษณ์ตัววีสีแดง ของตัวเอง จึงมี
ความน่าเชื่อถือกว่ารีวิวของคนทั่วไป
คืนนั้น
หลังจากหวังเผิงโพสต์รีวิวไปก็ได้ไลก์และคอมเมนต์กลับมามากมาย
เนื่องจากเป็นผู้ร่วมก่อตั้งฉวนหมินรีวิว บัญชีที่ใช้รี วิวของหวังเผิงจึงเป็นบัญชี
ทางการที่มีตัววีสีแดง และพนักงานฉวนหมินรีวิวเองก็กดสนับสนุนบัญชีเขาด้วย
ถ้ามีสองบัญชีรีวิวร้านอาหารเดียวกัน รีวิวของหวังเผิงจะได้รับความนิยมกว่า
ขณะเดียวกันหวังเผิงเองก็เป็นคนน่าเกรงขามและมีความรับผิดชอบ เขาจะ
รีวิวทุกร้านที่เคยไปอย่างจริงจังเสมอ
ดังนั้นบัญชีของหวังเผิงจึงมีผู้ติดตามหลักหมื่น หลังจากโพสต์รีวิวไป ผู้ติดตาม
ก็เห็นทันที
แต่พอเห็นหน้ารายละเอียดร้าน ชาวเน็ตก็ต้องงุนงงไปตามๆ กัน
ไม่มีรูป ไม่มีชื่อ!
ตรงชื่อร้านเว้นว่างไว้ หน้ารายละเอียดก็ดูจะเพิ่งสร้างขึ้นอย่างเร่งด่วน
เลื่อนต่อลงมาพบกับคะแนนห้าเต็มห้า ส่วนค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยทำให้ทุกคนตื่น
ตะลึง
“ทางเว็บรีวิวเองเลยเหรอ”
“เว็บแนะนำเองขนาดนี้ ฉันว่าเดี๋ยวต้องดังเป็นพลุแตกแน่”
“จำได้ว่าเกณฑ์ให้คะแนนของบอสหวังโหดมาก แต่นี่ได้คะแนนเต็มเลยเหรอ
หรือทางเว็บพยายามจะโปรโมตร้าน”
“ใครกันที่จ้างบอสเผยให้ช่วยโปรโมตได้ ต้องเงินหนามากแน่ๆ!”
“ทำไมร้านไม่มีชื่อล่ะ หรือว่าเป็นบั๊กระบบ”
“มีแค่บอสหวังที่รีวิว ไม่มีรูปเลย”
“ตกคนละห้ า พั น หยวนเหรอ สู ้ ร าคาไม่ ไ หวหรอก! บอสหวั ง รวยนี ่ เ นอะ
ชาวบ้านอย่างเราก็ได้แค่มองตาปริบๆ…”
“มาตรฐานภัตตาคารระดับสูงของเมืองจิงโจวยังห่างชั้นกับภัตตาคารในปักกิ่ง
กับเซี่ยงไฮ้ จ่ายขนาดนั้นจะคุ้มจริงๆ เหรอ”
ทุกคนเริ่มฮือฮา
ถึงจะสู้ราคาไม่ไหว แต่พวกเขาก็มามุงคุยกันได้
ชาวจิงโจวหลายคนอึ้งกันใหญ่ มีภัตตาคารระดับสูงแบบนี้ในจิงโจวตั้งแต่
เมื่อไหร่ ทำไมไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อน
เหล่าไฮโซจากที่ต่างๆ ก็เริ่มสนใจภัตตาคารนี้ ถ้าหวังเผิงให้คะแนนห้าเต็มห้า
ร้านนี้ก็น่าจะคุณภาพใช้ได้เลย ถ้ามีโอกาสไปจิงโจวครั้งหน้าต้องหาเวลาไปลิ้มลอง
แน่นอน
แฟนตัวยงหลายคนต่างเข้ามาคอมเมนต์ใต้โพสต์รีวิวของหวังเผิง ส่วนหวังเผิง
เองก็คอยตอบคอมเมนต์อย่างกระตือรืนร้น
“ผมรู้ว่ารีวิวที่ดีต้องมีรูปอย่างน้อยสามรูป แต่ร้านนี้ห้ามถ่ายรูป ผมเลยไม่มี
รูป มาฝาก”
“แพงจริงครับ แต่วัตถุดิบ ฝีมือเชฟ บรรยากาศร้าน และการบริการทำให้รู้สึก
คุ ้ ม ค่ า มาก ถ้ า คุ ณ อยากลองกิ น อาหารหรู ๆ ก็ ล องไปร้ า นนี ้ ด ู ค รั บ รั บ รอง
ประสบการณ์ที่ได้ไม่ผิดหวังแน่นอน”
“เมนูแนะนำเหรอครับ ตอบยากจัง ผมได้ลองแค่ไม่กี่เมนู แต่เด็ดทุกจานเลย
ผมว่าเมนูอื่นๆ ก็น่าจะเด็ดไม่แพ้กัน เพราะร้านนี้ให้ความสำคัญกับคุณภาพที่สุด”
“ไม่ได้โดนจ้างมาครับ จริงๆ เจ้าของร้านเป็นคนที่ไม่ค่อยอยากเป็นจุดเด่น
ผมอยากติดต่อให้มาเป็นพาร์ตเนอร์แต่ก็โดนปฏิเสธ ผมแค่คิดว่า ในฐานะที่เป็น
สมาชิกคนหนึ่งของฉวนหมินรีวิว ผมมีหน้าที่ต้องแนะนำร้านดีๆ แบบนี้ให้ทุกคน
นี่คือภารกิจของพวกเราฉวนหมินรีวิว”
หลังจากเลือกตอบคอมเมนต์ของแฟนคลับตัวยงบางส่วน หวังเผิงก็วางมือถือ
ลงด้วยความพึงพอใจ
ภารกิจของฉวนหมินรีวิวตั้งแต่ก่อตั้งคือการรวบรวมข้อมูลมาเผยแพร่สู่
สาธารณะ ให้บริการสาธารณชน และเขียนรีวิวร้านอาหารและภัตตาคารอย่าง
ซื่อสัตย์เพื่อให้ ทุกคนได้รู้จักร้านดีๆ และเปิดโปงร้านแย่ๆ
ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งฉวนหมินรีวิว หวังเผิงรู้สึกว่าเขาทำภารกิจนี้ได้สำเร็จ
ลุล่วง
เหมือนสำนวนที่ว่า ให้ดอกกุหลาบไป แต่กลิ่นยังติดมือ
การช่วยโฆษณาภัตตาคารไร้ชื่อน่าจะทำให้เจ้าของร้านดีใจ ไม่แน่อาจจะ
อยากมาร่วมงานกับฉวนหมินรีวิวทีหลังก็ได้
หวังเผิงแสนเบิกบานใจ
วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม
เผยเชียนโยนจอยเกมทิ้งพลางนวดไหล่ตัวเอง
เหนื่อยชะมัดยาด!
เผยเชียนทรมานมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ ถึงจะเริ่มชินกับเกมแล้ว แต่สำหรับคน
ที่ไม่ได้มีความสุขกับการต้องทนทุกข์ทรมานอย่างเผยเชียน มันไม่ได้รื่นรมย์เลยสัก
นิด
“ถ้าไม่ใช่เพื่อเป้าหมายในการขาดทุน ฉันคงไม่ทุ่มเทขนาดนี้…”
เผยเชียนมองตัวละครบนหน้าจอ ในมือของตัวละครถือผู่ตู้อยู่ ตอนนี้เขาไปถึง
ทางเข้าสังสารวัฏทั้งหกแล้ว แต่ก็ยังมีการต่อสู้สุดโหดอีกมากมายที่ต้องฟันฝ่า
โชคดีว่าถ้าคืบหน้าไปเรื่อยๆ อย่างนี้ เผยเชียนก็น่าจะเล่นถึงฉากจบได้ ก่อน
วางขายเกมอย่างเป็นทางการ
“ไปดูอาจารย์เฉียวสักหน่อยดีกว่าว่าเป็นยังไงบ้าง”
เผยเชียนปิดคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็ลุกยืนขึ้น เตรียมพร้อมมุ่งหน้าไปร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยู
สุดสัปดาห์ก่อน หลังจากกินมื้อค่ำกับอาจารย์เฉียวที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุน
เผยเชียนก็ไม่ได้ไปที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนอีก
สำหรับเรื่องการจัดงานเลี้ยง เผยเชียนสามารถเลี้ยงต้อนรับแขกได้สัปดาห์ละ
ครั้ง ไม่สามารถไปซ้ำได้บ่อยๆ เพราะระบบไม่อนุญาต
เผยเชียนจึงคิดว่านี่ก็ผ่านมาสัปดาห์หนึ่งแล้ว เขาน่าจะหาเหตุผลในช่วง
วันหยุดที่จะถึงนี้ไปกินอาหารที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนอีก
ส่วนเหตุผลครั้งนี้นั้น..
ง่ายมาก เขาขอความเห็นอาจารย์เฉียวเรื่องการปรับปรุงตัวเกมได้ ซึ่งจะถือว่า
เป็นประโยชน์กับเถิงต๋า และเป็นเหตุผลที่เหมาะสมในการไปกินอาหารที่ครัว
ส่วนตัว หมิงหยุน

ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขามหาวิทยาลัยฮั่นตง
เฉียวเหลียงกดหยุดเกมแล้วเอนหลังพิงเก้าอี้ เขาสั่งค็อกเทลมาสองแก้ว
ตอนนี้รู้สึกเพลิดเพลินใจมาก
หลังจากเล่นเกมมาได้หนึ่งสัปดาห์ เขาก็พบว่าตัวเองเริ่มคุ้นชินกับเกมแล้ว!
ตอนเริ่มต้นนั้นสาหัสมาก แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นเพราะระดับความยากของมอน
สเตอร์แค่อย่างเดียว แต่มีความยากเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับระบบการเล่นเกม
ใหม่รวมอยู่ด้วย
ถ้ า ผู ้ เ ล่ น ไม่ ป รั บ ตั ว ให้ เ ข้ า กั บ ระบบการเล่ น ก็ จ ะพบว่ า เกมยากมาก แต่
หลังจากปรับตัวได้ พวกเขาจะรู้สึกว่าเกมยากน้อยลงมาหน่อย
เกม RPG ทั่วไปจะเป็นมิตรกับผู้เล่นมาก ไม่มีการลงโทษถ้าผู้เล่นพลาด ทำให้
หลายคนเคยชินกับอะไรแบบนี้ พวกเขาคิดว่าแค่ให้มอนสเตอร์ตีสักครั้งสองครั้ง
ไม่น่าจะเป็นอะไร
แต่เกมกลับใจคือฟากฝั่งบังคับให้ผู้เล่นตั้งใจเล่นเต็มที่แม้จะสู้กับมอนสเตอร์
ลูกกระจ๊อก ต้องคอยจดจำรูปแบบการโจมตีและความเร็วของมอนสเตอร์ด้วย
หลังจากเปลี่ยนวิธีคิดได้แล้ว เฉียวเหลียงก็พบว่าเกมไม่ได้ยากขนาดนั้น เขา
คิดว่าเกมแบบนี้น่าเล่นกว่าเกมอื่นๆ อีก
“เฮ้อ ก่อนหน้านี้ฉันเข้าใจบอสเผยผิดไปจริงๆ
“เกมกลับใจคือฟากฝั่งเป็นเกมสำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ที่แท้จริง ในเกม
เต็มไปด้วยองค์ประกอบใหม่ๆ มากมาย ไม่ได้ตั้งใจสร้างมาทรมานผู้เล่น!
“ถ้าตั้งใจจะทรมานผู้เล่นจริงๆ ก็น่าจะปรับการออกแบบเกมให้ยากและโหด
กว่านี้ บอสเผยมีวิธีเป็นหมื่นๆ ที่จะทำให้เล่นเกมไม่ผ่าน แต่บอสก็ไม่ทำแบบนั้น
และ เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้พยายามพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ
“ก่อนหน้านี้ฉันสงสัยในตัวบอสเผยไปได้ยังไงนะ แย่จริงๆ!”
เฉียวเหลียงรู้สึกว่าเกมน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ช่วงแรกเขาคิดว่าการเล่นเกมนี้
คือความทรมานอย่างหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับมองว่าเป็นความท้าทาย แถมยังรู้สึก
เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นในทุกวัน!
นอกจากนั้นเขายังคิดว่าชีวิตที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูนั้นสงบสุขมากๆ!
คอมพิ ว เตอร์ ท ี ่ น ี ่ ด ี ก ว่ า คอมพิ ว เตอร์ ท ี ่ บ ้ า นเขา นอกจากสเป็ ก จะดี แ ล้ ว
คีย์บอร์ด เมาส์ หูฟัง และจอยล้วนเป็นของดีหมด
สำหรับเกมกลับใจคือฟากฝั่งที่ผู้เล่นสามารถโดนสังหารได้ในชั่วเสี้ยววินาที
เฟรมเรตที่สูงและการเชื่อมต่อ ที่ไม่มีดีเลย์เป็นสิ่งสำคัญมาก พอมีคอมพิวเตอร์ที่
เล่นเกมได้ลื่นๆ แบบนี้ เขาก็แทบหยุดเล่นเกมไม่ได้
นอกจากนั้นร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูยังมีกาแฟกับค็อกเทลให้สั่ง อาหารในแต่
ละวันก็เป็นอาหารพื้นๆ ที่เปี่ยมไปด้วยสารอาหาร ดีต่อสุขภาพ และอร่อยถูกปาก
แตกต่างจากอาหารมันเยิ้มของร้านอื่นๆ ลิบลับ
เฉียวเหลียงใช้ชีวิตอย่างสุขสบายที่ร้าน เขารู้สึกว่าร้านนี้คือแดนสวรรค์ของ
เหล่าเด็กติดเกม!
ข้อเสียอย่างเดียวคือราคาสูงไปหน่อย
แต่ถ้าพิจารณาจากบรรยากาศภายในร้าน ราคาเท่านี้ก็ถือว่าสมเหตุสมผล
บทที่ 248 รับฟังความเห็นของอาจารย์เฉียว

เผยเชียนเดินขึ้นไปชั้นสองของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเงียบๆ เขาอยากเห็นว่า
ตอนนี้อาจารย์เฉียวสภาพเป็นยังไง
การได้เห็นอาจารย์เฉียวทุกข์ทรมานคือความสนุกอย่างหนึ่งในชีวิตอันแสน
มืดมนของเผยเชียน และเป็นกำลังใจให้เขาเล่นเกมกลับใจคือฟากฝั่งต่อไปได้
แต่เผยเชียนก็ต้องผิดหวัง
อาจารย์เฉียวไม่ได้กำลังจ้องหน้าจอด้วยความตื่นตะลึงเหมือนครั้งก่อน แต่
กำลังเอนหลังดื่มค็อกเทลอย่างสบายจิตสบายใจ
หน้าจอคอมพิวเตอร์ฉายภาพหมอกหนาสีเหลือง เผยเชียนจำได้ทันทีว่าเป็น
ฉากเส้นทางสู่ยมโลก อาจารย์เฉียวกำลังจะถึงสายธารลืมชาติและสะพานลืมภพ
“เชี่ยไรเนี่ย…
“เล่นคืบหน้าช้ากว่าฉันนิดเดียวเองเหรอ
“ไม่สิ…เล่นเร็วกว่าฉันอีก!”
เผยเชียนอึ้งไป
ตอนนี้เผยเชียนกำลังมุ่งหน้าสู่ทางเข้าสังสารวัฏทั้งหก ตามการออกแบบเกม
หลังจากผ่านสายธารลืมชาติและสะพานลืมภพก็จะเข้าสู่หอทอดอดีตและหินสาม
ชาติ ต่อจากหินสามชาติจะมุ่งสู่ตำหนักพญายมและสังสารวัฏทั้งหก
แต่เผยเชียนมีผู่ตู้เลยสามารถใช้ทางลัดข้ามสะพานลืมภพ หินสามชาติ และ
อื่นๆ เข้าสู่เส้นทางสู่ยมโลกและไปถึงสังสารวัฏทั้งหกได้เลย
ถ้าดูจากตรงนี้ อาจารย์เฉียวก็เล่นเกมคืบหน้าไปได้เร็วกว่าเผยเชียน
“ไม่นะ ต้องไม่ใช่แบบนี้สิ…”
เผยเชียนรู้สึกเหมือนจะเป็นลม เขาตระหนักว่าตัวเองประเมินความสามารถ
ในการทนทุกข์ทรมานและทักษะการเล่นเกมของอาจารย์เฉียวต่ำเกินไป!
เนื่องจากเป็นอัปโหลดมาสเตอร์ ฝีมือการเล่นเกมของอาจารย์เฉียวก็ไม่น่าจะ
เทพมาก คลิปที่ผ่านๆ มาของอาจารย์เฉียวเป็นการอธิบายตัวเกม เผยเชียนจึงคิด
ว่าอาจารย์เฉียวน่าจะต้องทรมานใจเมื่อได้เล่นเกมกลับใจคือฟากฝั่ง
แต่ตอนนี้เผยเชียนรู้แล้วว่าตัวเองประเมินฝีมืออาจารย์เฉียวต่ำเกินไป…
พอมาคิดดูดีๆ แล้ว ในฐานะผู้เล่นที่สามารถทนขับรถไปเรื่อยๆ ได้แปดชั่วโมง
ดังนั้นถึงจะตายอนาถแค่ไหนในเกมกลับใจคือฟากฝั่ง ยังไงก็น่าจะสนุกกว่าขับรถ
โง่ๆ ไปตามทางอยู่ดี
ดูจากสีหน้าของอาจารย์เฉียวแล้ว เขาน่าจะเรียนรู้วิธีการหาความบันเทิงใน
ความขมขื่นแล้วเรียบร้อย เพราะดูจะสนุกสนานกับเกมเหลือเกิน…
เผยเชียนหงุดหงิดขึ้นมานิดหน่อย
อาจารย์เฉียวไม่ทรมานกับการเล่นเกมอีกต่อไป เผยเชียวสูญเสียกำลังใจและ
ความสุขในชีวิตไปแล้ว!
แล้วฉันจะไปต่อได้ยังไง
แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาหลัก
ปัญหาจริงๆ คือถ้าอาจารย์เฉียวเล่นผ่านมาได้ขนาดนี้ด้วยความเพียรพยายาม
ก็แสดงว่าเกมยังยากไม่พอสิ
ถ้ายังยากไม่พอก็ทำให้ผู้เล่นเลิกเล่นไม่ได้ ยอดขายเกมก็จะไม่ตก เกมอาจทำ
เงินได้แทน
แย่แน่ถ้าเป็นแบบนั้น!
เห็นสีหน้าของอาจารย์เฉียว เผยเชียนก็คิดถึงกรณีเลวร้ายที่สุดขึ้นมาทันที
ไม่นะ ปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้!
เผยเชียนเก่งเรื่องการแก้ปัญหา ตอนนี้รู้แล้วว่าสถานการณ์กำลังวิกฤต จะให้
นั่งเฉยๆ ไม่ทำอะไรได้ยังไง
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็นึกไอเดียออก
เฉียวเหลียงที่กำลังจิบค็อกเทลและคิดว่าจะเล่นเกมต่อไปยังไงดีหันมาเห็น
บอสเผย
“บอสเผย!”
เฉียวเหลียงยิ้มกว้าง
หลังจาก ‘คลายประเด็นเข้าใจผิด ’ ไป เขาก็มองบอสเผยเหมือนญาติสนิท
และ รักใคร่อีกฝ่ายยิ่งกว่าเดิม
เผยเชียนยิ้มตอบพลางลากเก้าอี้เข้ามาหาตัว ถึงตอนนี้จะไม่ได้รู้สึกดีกับ
อาจารย์เฉียวอีกแล้ว แต่เขาก็ต้องฝืนยิ้มออกไปอย่างสุดความสามารถ
เพราะยังต้องเค้นเอาผลประโยชน์จากอาจารย์เฉียวเพิ่มให้ได้
เฉียวเหลียงมาจิงโจวได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว ถ้าไม่นับวันเสาร์อาทิตย์ อีกฝ่ายก็
เล่นเกมไปแล้วประมาณสี่สิบชั่วโมง

เกมกลับใจคือฟากฝั่งไม่ได้มีเนื้อหาหลากหลายเหมือนเกมตระกูล Souls จาก


การคาดการณ์คร่าวๆ ผู้เล่นที่มีฝีมือหน่อยน่าจะเล่นเนื้อเรื่องหลักจบได้ในสามสิบ
ชั่วโมง
ถ้าเป็นผู้เล่นสายเก็บทุกอย่างครบและอยากจะเก็บฉากจบทุกแบบ เอาให้
ครบทุกรายละเอียดจริงๆ เวลาที่ใช้ในการเล่นก็อาจจะยืดออกไปเป็นประมาณห้า
สิบถึงหกสิบชั่วโมง
ถ้าเป็นผู้เล่นมือใหม่…น่าจะต้องใช้เวลานานแสนนาน
เนื่องจากช่วงแรกอาจารย์เฉียวยังไม่คุ้นชินกับเกมจึงตายและหลงทางอยู่
หลายครั้ง เขาเองก็เป็นผู้เล่นสายเก็บทุกอย่างครบ จึงเพิ่งเล่นถึงตรงนี้แม้จะเล่น
ไปแล้วกว่าสี่สิบชั่วโมง ตอนนี้เขาเล่นผ่านไปประมาณหกสิบเปอร์เซ็นต์ของเกม
แต่ความเข้าใจในตัวเกมของเขาตอนนี้น่าจะลึกซึ้งมากขึ้น
“เป็นไงบ้าง” เผยเชียนถามพร้อมยิ้มให้
เฉียวเหลียงตื่นเต้นมาก
บอสเผยถามคำถามเดียวกันกับรอบก่อนเลย!
เขาจำได้ขึ้นใจว่าครั้งก่อนที่บอสเผยมาหาที่ร้านก็ถามคำถามนี้ แต่ตอนนั้นเขา
คิดว่ามีบางอย่างแปลกๆ กับระดับความยากของเกม
แต่ตอนนี้เฉียวเหลียงเข้ าใจแล้วว่าไม่มีอะไรผิดพลาด บอสเผยตั้งใจทำเกม
ออกมาให้ยากแบบนี้แหละ!
ช่วงที่ผ่านมาเฉียวเหลียงเริ่มเข้าใจความสนุกอันเป็นเอกลักษณ์ของเกมสุด
หฤโหดแบบนี้ จึงมีคำตอบที่ต่างออกไปจากเดิม
“สนุกมากเลยครับ! นานแล้วที่ผมไม่ได้เล่นเกมที่ท้าทายแบบนี้ ” เฉียวเหลียง
ตื่นเต้นมาก
ดูท่าไม่ดีจริงๆ ด้วย…
ที่เผยเชียนกังวลนั้นถูกต้อง เขาพยายามตีหน้านิ่งอย่างสุดความสามารถแล้ว
ถามต่อ “แล้วเรื่องความยากของเกมล่ะ คุณจะให้คะแนนความยากแต่ละด่านใน
เกมเท่าไหร่ มอนสเตอร์ลูกกระจ๊อกกับอาวุธด้วย คุณให้คะแนนเท่าไหร่”
เฉียวเหลียงดีใจมาก ดูเหมือนว่า บอสเผยจะให้ความสำคัญกับความเห็นฉัน
เขาถามเสียละเอียดเชียว!
เนื่องจากเป็นคำถามที่เกี่ยวกับเกมโดยตรง เฉียวเหลียงจึงกระตือรือร้นที่จะ
ตอบมาก
“เรื่องความยากของเกม ผมคิดว่าหมู่บ้านกับเมือ งตอนเริ่มต้นยากที ่สุด
ต่อจากนั้นก็ง่ายขึ้น น่าจะเพราะหลังออกจากเมืองแล้ว ผมเริ่มจับทางเกมได้ เลย
รู้สึกว่าไม่ยากเหมือนตอนแรก…
“ส่วนเรื่องอาวุธ ปังตอคืออาวุธที่ดีที่สุดในช่วงแรก เพราะโจมตีได้รวดเร็ว
ว่องไว ดาเมจที่ทำได้ก็สูง สามารถใช้ได้ตั้งแต่ช่วงต้นไปจนถึงกลางเกม ส่วนดาบ
จันทร์เสี้ยว ท่าฟันแนวตั้ งมีป ระโยชน์ มาก ใช้ฆ ่ามอนสเตอร์ไ ด้เ กื อ บเก้ า สิ บ
เปอร์เซ็นต์จากที่มีทั้งหมด…”
เฉียวเหลียงไม่ได้นึกสงสัยอะไร เขาอธิบายความเข้าใจในตัวเกมไปตามตรง
เผยเชียนจดตามเงียบๆ
เขาไม่ค่อยรู้เรื่องอาวุธเท่าไหร่ แต่ถ้าอาจารย์เฉียวบอกว่าดีก็น่าจะเป็นอย่าง
นั้น

เฉียวเหลียงไม่ใช่ผู้เล่นที่เก่งกาจเรื่องการฆ่าฟัน แต่ความอดทนที่มีนั้นสูงกว่า
ผู้เล่นร้อยละเก้าสิบเก้า ความรู้เรื่องเกมเหนือชั้นกว่าผู้เล่นเกือบร้อยละเจ็ดสิบ
ส่วนเรื่องทักษะการควบคุมถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ
ถ้าอย่างนั้นอาจารย์เฉียวก็ถือเป็นผู้เล่นระดับธรรมดาสิ
เฉียวเหลียงพูดสิ่งต่างๆ ที่อยากพูดและให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมา เขา
รู้สึกอิ่มเอมใจมากกว่าครั้งไหนๆ
ที่ผ่านมาเขาทำได้แค่อัดคลิปวิจารณ์เกมและเสวนากับแฟนๆ ผู้พัฒนาเกมไม่
เคยสนใจเขาเลย
แต่ตอนนี้ผู้พัฒนาเกมกำลังนั่งอยู่ตรงหน้าและฟังคำแนะนำของเขาอย่างตั้งใจ
เพราะฉะนั้นต้องแสดงฝีมือให้เต็มที่!
“อืม…ประมาณนี้ครับ สรุปสั้นๆ คือเกมยากพอตัวแล้ว แต่ถ้ารู้จักใช้อาวุธ ให้
ถูกชนิดก็สามารถสู้ผ่านได้ง่ายๆ ครับ!”
เฉียวเหลียงรู้สึกว่ายังมีอะไรให้พูดอีกเยอะมาก
เผยเชียนพยักหน้า “โอเค แนะนำได้ดีมากเลยครับ เดี๋ยวผมจะไปปรับแก้ตัว
เกมตามที่คุณแนะนำ!”
เห็นสีหน้าของบอสเผย เฉียวเหลียงก็รู้สึกตื้นตันใจ
แต่เฉียวเหลียงก็ไม่รู้ว่าที่บอสเผยพูดนั้นจริงจังแค่ไหน เพราะเวลาเกมเมอร์
โทรไปเสนอความคิดเห็นกับฝ่ายบริการลูกค้า มักจะได้การตอบกลับที่เจอได้ทั่วไป
อย่าง ‘ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ เราจะส่งความเห็นของคุณให้กับทีมผู้พัฒนา
นะคะ’ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าทีมผู้พัฒนาได้รับฟังความเห็นบ้างหรือเปล่า

ดังนั้นเฉียวเหลียงจึงไม่ได้จริงจังกับเรื่องนี้มาก เขาแค่คิดว่าทัศนคติของบอส
เผยนั้นน่าชื่นชม
นักออกแบบเกมผู้ประสบความสำเร็จมานั่งฟังความเห็นของเขาอย่างตั้งใจ
ไม่แปลกเลยที่บอสเผยจะประสบความสำเร็จขนาดนี้!
กลั บ ถึ ง บริ ษ ั ท เผยเชี ย นก็ ร ั ว มื อ พิ ม พ์ ค ำแนะนำของอาจารย์ เ ฉี ย วลง
คอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว
อาจารย์เฉียวคิดว่าหมู่บ้านกับเมืองตอนเริ่มต้นยากที่สุด
จริงๆ แล้วตามการออกแบบคือความยากในเกมจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่พวกลู่
หมิ ง เหลี ย งก็ ล ื ม ไปว่ า ผู ้ เ ล่ น เองก็ ส ามารถทนกั บ ความโหดได้ ม ากขึ ้ น เรื ่ อ ยๆ
เหมือนกัน
เนื่องจากผู้เล่นเพิ่งจะเจอกับมอนสเตอร์ในหมู่บ้านและเมืองตอนเริ่มต้นเป็น
ครั้งแรก ทุกอย่างจึงดูเป็นเรื่องยาก แต่พอเริ่มคุ้นชินกับตัวเกม ความยากที่เพิ่มขึ้น
เรื่อยๆ ก็ไม่ได้ส่งผลต่อผู้เล่นมากนัก
ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเพิ่มความยากช่วงหลังๆ ขึ้นอีก!
ส่วนอาวุธ อาจารย์เฉียวบอกว่าชอบปังตอเหรอ งั้นเอาออก!
ท่าฟันแนวตั้งของดาบจันทร์เสี้ยวใช้ดีเหรอ งั้นลดพลังลง!
อะไรก็ตามที่อาจารย์เฉียวคิดว่ามีประโยชน์กับเกม ผู้เล่นใหม่ก็น่าจะคิดแบบ
นั้นเหมือนกัน เพราะงั้นต้องปรับให้หมด
เผยเชียนตั้งใจจะจัดการให้เด็ดขาด
ถึงยังไงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่กระทบกับตัวเอง เพราะเขามีอาวุธพิเศษ
เผยเชียนทำรายการสิ่งต่างๆ แล้วส่งให้หลี่หย่าต๋า
“ปรับตามนี้ด้วย” เผยเชียนสั่งสั้นๆ
หลี่หย่าต๋ารับรายการมาดูแล้วพบว่าบอสเผยลงลึกถึงรายละเอียดมาก
เช่น ระบุชัดเจนว่าให้ลดพลังท่าฟันแนวตั้งของดาบจันทร์เสี้ยว ทุกอย่างดู
เฉพาะเจาะจงสุดๆ
“ได้ค่ะบอสเผย ดิฉันจะปรับแก้ทันทีค่ะ!”
หลี่หย่าต๋าถอนหายใจ บอสเผยพยายามทำให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบ
จริงๆ
ตอนที่ไปรายงานความคืบหน้าให้บอสเผยฟัง เธอเห็นบอสใช้ผู่ตู้ตลอด หลี่
หย่าต๋าไม่รู้ว่าบอสเผยเอาเวลาไหนไปลองใช้อาวุธอื่นๆ
เห็นได้ชัดว่าที่ทุกวันนี้บอสเผยประสบความสำเร็ จได้ก็เพราะคอยทำงานหนัก
อยู่เบื้องหลังโดยไม่มีใครรู้
หลี่หย่าต๋าถือรายการในมือ ในหัวจดจ่ออยู่กับคำสั่งของบอสเผย
เผยเชียนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้รู้สึกสงสารอาจารย์เฉียวขึ้นมาเล็กน้อย
ถึงจะพยายามเพิ่มความยากให้ตัวเกม แต่การลดพลังอาวุธที่อาจารย์เฉียว
โปรดปรานลงหมดก็ดูจะเกินไปหน่อย
ถ้าอย่างนั้นต้องเลี้ยงข้าวอีกมื้อเป็นการขอโทษ!
อาจารย์เฉียวช่วยเรื่องพัฒนาเกมกลับใจคือฟากฝั่งได้มากทีเดียว เพื่อเป็นการ
ขอบคุณ เชิญเขาไปกินอาหารอร่อยๆ ที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนก็ไม่น่าจะมากเกินไป
หรอกมั้ง
คิดได้อย่างนั้น เผยเชียนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเชฟหลิน
“จองมื้อค่ำพรุ่งนี้ให้ที”
หลินชั่นหรงที่อยู่ปลายสายผงะไป “เอ่อ มีคนจองไปแล้วครับบอสเผย”
“หา”
เผยเชียนตกใจเล็กน้อย
มีลูกค้ากลับมาใช้บริการด้วยเหรอ
“ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องเอาห้องใหญ่สุด เอาห้องเล็กก็ได้”
หลินชั่นหรงกระแอมกระไอ “ทุกโต๊ะมีคนจองไปหมดแล้วครับบอสเผย”
“???”
เผยเชียนรู้สึกเหมือนจะเป็นลม เขาสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีตอนที่ถามออกไป
“แล้ววันมะรืนล่ะ”
หลินชั่นหรงตอบตามตรง “อย่าว่าแต่วันมะรืนเลยครับบอสเผย ร้านเราคน
จองเต็มไปถึงสัปดาห์หน้าๆ เลย…”
เผยเชียนช็อก
อะไรวะ!
ฉันไม่ได้ไปที่ร้านแค่สัปดาห์เดียว เกิดอะไรขึ้นกับครัวส่วนตัวหมิงหยุนกันแน่
บทที่ 249 คะแนน TPDb

เผยเชียนรู้สึกละม้ายคล้ายจะเป็นลม
ฉันเป็นเจ้าของร้าน แต่ดันจองร้านตัวเองไม่ได้เนี่ยนะ
หลินชั่นหรงช่วยเตือนความจำ “ไม่ต้องห่วงนะครับบอสเผย ผมจองเหมาร้าน
ไว้ทุกวันที่ 20 ของเดือนคี่ตามที่บอส
บอก และห้องส่วนตัวขนาดใหญ่สุดก็เตรียมไว้ให้บอสทุกวันอาทิตย์ที่หนึ่งและ
สามของเดือน
“เพราะอย่างนั้นวันอาทิตย์หน้า วันที่ 5 กันยา บอสมากินที่ร้านได้เลยครับ”
เผยเชียน “...”
เขาจองครัวส่วนตัวหมิงหยุนล่วงหน้าทุกวันที่ 20 ของเดือนคี่ไว้สำหรับจัดงาน
กินเลี้ยงบริษัท และจองห้องส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดไว้ทุกวันอาทิตย์ที่หนึ่งและสามของ
แต่ละเดือนเผื่อต้องเลี้ยงรับรองลูกค้า
พอมาคิดดูอีกทีก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยพอ เขาควรจองร้านไว้ให้ตัวเองเพิ่มอีกวัน
สองวัน
ที่สำคัญคือ เขาไม่คิดเลยว่าครัวส่วนตัวหมิงหยุนจะกลายเป็นแบบนี้ได้...
เผยเชียนคิดว่าถึงครัวส่วนตัวหมิงหยุนจะมีลูกค้าประจำอยู่ประปราย แต่ที่
ร้านก็มีห้องส่วนตัวเยอะและเสิร์ฟอาหารแค่ สองครั้งคือตอนเที่ยงและตอนเย็น
ดังนั้นก็น่าจะมีห้องเหลือให้จองบ้าง
แต่ความเป็นจริงที่ต้องเผชิญก็ทำให้เหมือนโดนตบหน้าเข้าอย่างจัง!
ข้อมูลร้านหลุดออกไปได้ยังไงวะ!
หรือว่าหลินหวานจะสร้างเรื่องให้อีกแล้ว
เผยเชียนครุ่นคิด พนักงานที่รักส่วนใหญ่เขาเป็นคนจ้างและปั้นมากับมือ ไม่มี
ใครมาจากตระกูลร่ำรวย จึงไม่น่าจะทำอะไรแบบนี้ได้
คนที่ทำเรื่องแบบนี้ได้มีแค่หลินหวานเท่านั้น
แต่เฉินฮว่าคอร์เปอเรชันก็ไม่ได้มีอิทธิพลในจิงโจวมากขนาดนั้น ธุรกิจส่วน
ใหญ่ของพวกเขาอยู่ในเมืองเซินเจิ้น จะไปเรียกคนเยอะแยะมาใช้บริการครัว
ส่วนตัวหมิงหยุนได้ยังไง
หรือว่า...เขาจะมีศัตรูอื่นอีก
เผยเชียนเงียบไปครู่ใหญ่ เพราะยังทำใจกับปัญหาหนักอึ้งที่เพิ่งจะซัดเข้าหน้า
จังๆ ไม่ได้ เขาเอาแต่ครุ่นคิดว่าตัวเองทำอะไรพลาดไป
พอเห็นบอสเผยเงียบไปพักใหญ่ หลินชั่นหรงก็คิดว่าบอสน่ าจะกำลังดีใจมาก
ที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนโด่งดังขึ้นมาได้ขนาดนี้ จึงตั้งใจจะประจบสอพลอต่อ
ไม่สิ ไม่ได้ประจบสักหน่อย ที่จะพูดคือความจริง ไม่มีคำไหนเลยที่เป็นเรื่อง
โกหก
“บอสเผยครับ ที่บอสบอกให้พวกเราทุ่มเทกับเรื่องการให้บริการ ไม่ต้องสนใจ
เรื่องการโฆษณา ถือเป็นการมองการณ์ไกลมากๆ เลยครับ! เป็นการกระทำที่
ถูกต้องสุดๆ!
“บอสเข้าใจบรรดาไฮโซในจิงโจวจริงๆ ทั้งนิสัยและความคิด ทุกอย่างที่บอส
ทำถูกต้องหมดเลย ผมประทับใจมากๆ ครับ”
เผยเชียน “???”
แกพูดอะไรของแก ไม่เห็นจะเข้าใจเลยสักนิด
เผยเชียนรู้ว่าหลินชั่นหรงกำลังเลียแข้งเลีย ขาตัวเองอยู่ เขาไม่สนใจเรื่องแบบ
นี้เลย เอาเข้าจริงนึกเกลียดด้วยซ้ำไป
มาเลียขากันแบบนี้ก็ไม่ต่างจากเอาเกลือมาถูแผลหรอก!
แต่จะไม่ฟังก็ไม่ได้ เพราะต้องหาเบาะแสจากการเลียขาของหลินชั่นหรง จะ
ได้รู้ว่าตัวเองไปพลาดตรงไหนกับครัวส่วนตัวหมิงหยุน!
หลินชั่นหรงไม่รู้เลยว่าบอสเผยรู้สึกยังไงอยู่ เขาจึงพูดต่ออย่างสุขใจ
“พอมาคิดดูดีๆ ผมรู้เรื่องแวดวงคนรวยน้อยมาก จิงโจวไม่ได้มีคนรวยเยอะ
ขนาดนั้น ส่วนใหญ่รู้ว่าร้านเราเจาะจงวางพวกเขาไว้เป็นกลุ่มเป้าหมาย เพราะงั้น
การที่บอสตัดสินใจไม่โฆษณาร้านจึงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
“เพราะข้อมูลจะกระจายได้เร็วมากในแวดวงเล็กๆ!
“ลูกค้าที่ชื่อเซวียเจ๋อปินเห็นโพสต์เว่ยป๋อของจางจู่ถิงเลยลองมาชิมอาหาร
ร้านเราดู จากนั้นก็ไปชวนหวังเผิงมาลองด้วย บอสหวังเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งฉวนหมิ
นรีวิว ก็เลยไปรีวิวร้านของเราลงในฉวนหมินรีวิว ครัวส่วนตัวหมิงหยุนของเราเลย
มีลูกค้าไหลมาเทมา!
“ผมไม่คิดเลยว่าร้านของเราที่ไม่มีใครรู้จักเลยจะดังขึ้นมาได้ง่ายๆ แบบนี้
“แน่นอนว่าเป็นเพราะกลยุทธ์ที่บอสวางไว้
“ครัวส่วนตัวหมิงหยุนไม่มีชื่อร้าน บอสหวังเลยไม่ได้ลงชื่อร้านในฉวนหมินรี
วิว ตรงนี้จึงกลายเป็นจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของร้าน ทำให้คนถกกัน
เรื่องร้านเราอย่างดุเดือดเลยครับ!
“แถมการที่เราไม่มีชื่อร้านยังทำให้ร้านเราถูกค้นเจอได้ง่ายขึ้น เพราะพอมีคน
ค้นหาแบบไม่ใส่ชื่อร้าน ร้านเราก็จะเด้งขึ้นมาทันที!
“ที่สำคัญที่สุดเลยคือกฎที่บอสตั้งไว้ อย่างห้ามถ่ายรูป ให้เปลี่ยนการจัดโต๊ะ
และจานชามตามอาหารที่เสิร์ฟ ให้พนักงานบริการอย่างใส่ใจแต่ก็ไม่ทำให้อึดอัด...
ทุกอย่างที่ว่ามาตอบโจทย์ลูกค้าสุดๆ เลยครับ ทำให้แวดวงคนรวยชมร้านเราไม่
หยุดปากเลย!
“พอร้านเราเป็นกระแสในหมู่คนรวย มันก็ส่งผลกับลูกค้าทั่วไปด้วย ถึงอาหาร
ร้านเราจะราคาสูง แต่ลูกค้าทั่วไปส่วนใหญ่ที่ได้มาลองก็คิดว่าคุ้มกับทุกหยวนที่
จ่ายไป ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะกลุ่มคนรวยต่างชมร้านเรา!”
หลินชั่นหรงชมกลยุทธ์ที่ทำให้ครัวส่วนตัวหมิงหยุนประสบความสำเร็จไม่หยุด
เขาไม่ได้ตั้งใจจะประจบประแจง แต่แค่พูดอธิบายความประทับใจออกมาอย่าง
จริงใจ
เขาอยู่ในเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้น ตอนแรกเขาไม่เข้าใจการกระทำของบอสเผย
เลย และไม่คิดด้วยว่าครัวส่วนตัวหมิงหยุนจะประสบความสำเร็จได้
แต่ตอนนี้สิ่งที่เคยคลางแคลงใจก็กระจ่างแจ้งหมดแล้ว กลยุทธ์ที่บอสเผยวาง
ไว้ได้ผลจริงๆ!
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก คำพูดของหลินชั่นหรงแล่นเข้าหูซ้ายแล้วทะลุออกหู
ขวา เขาจำข้อมูลอะไรไม่ได้มาก แต่มีอยู่สองชื่อที่จำได้ขึ้นใจ
คนแรกชื่อเซวียเจ๋อปิน อีกคนชื่อหวังเผิง ไอ้สองคนนี้แหละคือตัวต้นเหตุ!
เซวี ยเจ๋ อ ปิ น มาลองชิ ม อาหารหลั ง จากเห็ น โพสต์ บ นเว่ ย ป๋ อ ของจางจู่ถิ ง
แปลว่าจางจู่ถิงก็มีเอี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย!
ตอนนี้เผยเชียนคิดแค่ว่า ต้องระวังภัยจากทุกด้าน!
ศัตรูเยอะเกินไป เหมือนโดนล้อมไว้ทุกทาง
เผยเชียนถอนหายใจเงียบๆ โว้ย ต้องลงบัญชีดำเพิ่มอีกสามชื่อแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นวันอาทิตย์หน้าจองห้องส่วนตัวให้ผมหน่อย จัดอาหารมาแบบ
รอบที่แล้ว”
ชายหนุ่มพูดออกไปอย่างอ่อนแรง
...
...
หลังจากวางสายไป เผยเชียนก็รู้สึกเครียดหนัก เขาอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก
ดูจากความนิยมของครัวส่วนตัวหมิงหยุนในตอนนี้แล้วน่าจะทำเงินได้แน่นอน
แต่ก็คงไม่มากมายเท่าไหร่
แม้ด้านในครัวส่วนตัวหมิงหยุนจะกว้างขวาง แต่ก็มีที่นั่งจำกัด ถึงจะมีลูกค้า
เต็มร้านทั้งตอนเที่ยงและตอนเย็นก็ไม่น่าจะรับลูกค้าได้มากนัก
ค่าใช้จ่ายในแต่ละวันของครัวส่วนตัวหมิงหยุนสูงลิ่ว เผยเชียนจ้างเชฟมือหนึ่ง
มาสองถึงสามคน แถมยังมีเหล่าพนักงานเสิร์ฟที่ผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดี
รวมถึงพนักงานขนโต๊ะและตกแต่งภายในด้วย แค่ค่าแรงพนักงานก็แพงโขแล้ว
ถึงอาหารที่ร้านจะราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ไม่ได้แพงเว่อร์วัง หวังเผิงจึงคิดว่าคุ้ม
เงินที่จ่ายไป
ดังนั้นแม้ครัวส่วนตัวหมิงหยุนจะทำเงินได้ แต่ก็ไม่น่าจะหาเงินคืนทุนตั้งต้นได้
ในเวลาสั้นๆ
ถือว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่
เผยเชียนซื้อวิลล่ากึ่งพาณิชย์มาในราคาหกล้านหยวน โดยระบบบันทึกเป็น
สินทรัพย์คงที่มูลค่าสิบเปอร์เซ็นต์ซึ่งเท่ากับหกแสนหยวน
หมายความว่าตราบใดที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนยังทำเงินได้ไม่ถึงห้าแสนสี่หมื่น
หยวนก็ยังถือว่าคุ้มค่าสำหรับเผยเชียน
แต่...ก็ขึ้นอยู่กับเวลาว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นปัญหาสำหรับเขาขึ้นมาเมื่อไหร่
เผยเชียนรู้สึกกดดัน ตอนนี้จะเข้าเดือนกันยายนแล้ว ซึ่งถือว่าผ่านมาครึ่งทาง
ของรอบบัญชีนี้ เหลือเวลาอีกไม่มากก่อนที่วันปิดบัญชีจะมาถึง
มีสองเรื่องเร่งด่วนที่เขาต้องรีบจัดการ
เรื่องแรกคือการเปิดให้บริการเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดแล้วปล่อยให้
เจ๊ง เพื่อที่จะได้ช่วยบรรเทาทุกข์ไปหน่อย
เรื่องที่สองคือเริ่มวางระบบให้โบนัสตามชื่อเสียงที่คิดเอาไว้ก่อนหน้านี้
ตั้งแต่คิด ‘ระบบให้โบนัสตามชื่อเสียง’ ได้ เผยเชียนก็วางกฎเกณฑ์ต่างๆ ไว้
เกือบครบถ้วนแล้ว
ฐานโบนัสจะอิงตามเงินลงทุนช่วงแรกของโปรเจ็กต์
เกณฑ์การให้โบนัสจะคำนวณจากชื่อเสียงของแต่ละโปรเจ็กต์ ถ้าทำได้ตาม
เป้า ทุกคนที่มีส่วนร่วมในโปรเจ็กต์ก็จะได้โบนัสตามตำแหน่งและภาระรับผิดชอบ
ส่วนสำคัญที่สุดของระบบนี้คือการกำหนดเกณฑ์ชื่อเสียงของโปรเจ็กต์
คะแนนตามเว็บต่างๆ สามารถปั่นได้ง่าย จึงไม่ค่อยตรงกับความเป็นจริง
เท่าไหร่
ยกตัวอย่างเช่นเกม เว็บไซต์รีวิวบางเจ้าอาจให้คะแนนสูง บางเจ้าอาจให้
คะแนนต่ำ แล้วแบบนี้จะใช้อะไรเป็นมาตรฐานล่ะ
คะแนนจากชาวเน็ตก็เชื่อถือไม่ค่อยได้ เพราะอาจมีหน้าม้ามาปั่นคะแนน
แล้วถ้าเป็นคะแนนที่ได้จากสื่อเจ้าใหญ่ ความคิดเห็นของเกมเมอร์ และฟี
ดแบ็กภายในบริษัทล่ะ...
แต่องค์ประกอบสุดท้ายก็ไม่ต่างจากว่าเขาเป็นคนให้คะแนนเองเลยนี่นา
ดังนั้นหลังจากครุ่นคิดดู เผยเชียนก็รู้สึกได้ว่าถ้าจะใช้ระบบนี้ก็ต้องมีระบบ
การให้คะแนนภายในที่สมบูรณ์แบบ
สรุปแล้วการจะทำให้คะแนนมีความน่าเชื่อถือต้องใช้ปัจจัยสองอย่าง
อย่างแรกคือต้องกรองคะแนนจากหน้าม้ากับพวกปั่นคะแนนออก อย่างที่สอง
คื อ ต้ อ งวั ด คะแนนในภาพรวมกว้ า งๆ ในวงการรี ว ิ ว หนั ง และเกมมี ส ิ ่ ง หนึ ่ ง ที่
คล้ายกัน คือยิ่งกลุ่มเป้าหมายเล็ก ก็จะยิ่งได้คะแนนสูง
ถ้ามีกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง เหล่าแฟนเดนตายก็จะทุ่มให้คะแนนกัน
เต็มที่ อีกทั้งก่อนที่หนังจะดัง กลุ่มคนที่ไม่สนใจก็จะไม่ดูและไม่ให้คะแนน ทำให้
คะแนนเฟ้อ
พอคนมาดูหนังเยอะขึ้น คะแนนก็ย่อมตกลงเป็นธรรมดา
ดังนั้นหลังจากพิจารณาองค์ประกอบต่างๆ เผยเชียนก็ตัดสินใจสร้างระบบให้
คะแนนชื่อเสียงภายในเถิงต๋าขึ้นมา เขาคิดชื่อภาษาอังกฤษไว้ด้วย ซึ่งก็คือ TPDb
ย่อมาจาก Tengda Project Database
ฐานข้อมูลนี้จะบันทึกโปรเจ็กต์ทั้งหมดของเถิงต๋า และประเมินคะแนนองค์
รวมตามองค์ประกอบดังต่อไปนี้
การประเมินจากพนักงานระดับสูงของเถิงต๋า
การประเมินจากพนักงานทั่วไปของเถิงต๋า
การประเมินภาพรวมของสื่อเจ้าดังต่างๆ
การประเมินจากลูกค้า
และการประเมินจากชาวเน็ต
แต่ละแบบมีน้ำหนักต่างกันไป
การประเมินจากพนักงานระดับสูงของเถิงต๋าจะมีน้ำหนักมากกว่าของชาวเน็ต
ทั่วไป การประเมินของพนักงานทุกคนต้องใช้ชื่อสกุลจริง และมีแค่ฝ่ายบริหาร
ระดับสูงไม่กี่คน (เช่นเผยเชียน) ที่สามารถดูการประเมินเหล่านี้ได้
ถึงเผยเชียนจะจัดการไม่ให้พนักงานประเมินมามั่วๆ หรือให้คะแนนเพื่อน
ตัวเองเป็นพิเศษไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อยทุกคนก็น่าจะใส่ใจกับการ
ประเมิน เพราะมีการบันทึกและสามารถตรวจสอบได้ว่ามาจากใคร
ถ้าพวกเขาให้คะแนนโปรเจ็กต์ตัวเองสูงๆ เพื่อที่จะได้โบนัสมากขึ้น หรือจงใจ
ให้คะแนนโปรเจ็กต์คนอื่นๆ ต่ำ เผยเชียนก็จะได้พิจารณาดูจุดนี้ด้วย
คะแนนจากลูกค้าและคะแนนจากชาวเน็ตมีน้ำหนักไม่เท่ากัน สำหรับผู้เล่นที่
ซื้อเกมและพวกที่ไม่ได้ซื้อเกม คะแนนจากผู้เล่นที่ซื้อเกมจะมีน้ำหนักมากกว่า
เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ว่าจะใช้ระบบไหน ก็จะมีคนบางส่วนที่คิดว่าคะแนนไม่
ถูกต้อง
ถึงการให้โบนัสเยอะๆ กับโปรเจ็กต์ที่ขาดทุนจะช่วยให้เขาขาดทุนเพิ่มขึ้น แต่
พนักงานของโปรเจ็กต์อื่นจะนึกสงสัยและมองว่าไม่เป็นธรรมเอาได้
ดังนั้นเผยเชียนจึงคิดฐานข้อมูลการให้คะแนน TPDb ขึ้นมา เนื่องจากเป็น
ระบบที่เป็นธรรมและคำนวณคะแนนจากองค์รวม มีการวางเกณฑ์การให้โบนัส
ตามคะแนนในฐานข้อมูลและทุนตั้งต้นของแต่ละโปรเจ็กต์ ทุกคนก็น่าจะสนใจกัน
ขณะเดียวกันแต่ละโปรเจ็กต์ก็จะมีวิธีการให้โบนัสแตกต่างกันไป
ยิ่งเป็นโปรเจ็กต์ระยะยาว ก็จะยิ่งได้โบนัสบ่อยขึ้น
ยกตัวอย่างเช่นนี่เฟิงโลจิสติกส์ เนื่องจากเผยเชียนตั้งใจจะให้โปรเจ็กต์นี้เป็น
โปรเจ็กต์ยาวตลอดชีวิต เขาก็อาจให้โบนัสเป็นรายไตรมาส
ส่วนเกมกลับใจคือฟากฝั่งซึ่งเป็นเกมที่ต้องซื้อมาเล่น เขาจะให้โบนัสสองถึง
สามครั้ง พอมี DLC ใหม่ออกมา ก็สามารถให้โบนัสได้ตามกระแสชื่อเสียงของ
DLC นั้นๆ
แน่นอนว่าเผยเชียนก็ต้องจัดการให้ทุกโปรเจ็กต์ของเขามีความเท่าเทียมกัน
หมด ถึงจะรักโปรเจ็กต์จุดให้บริการนี่เฟิงที่ผลาญเงินในระยะยาวได้มากกว่า แต่ก็
ไม่ควรแสดงออกชัดเจนเกินไป
หลังจากสรุปทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เผยเชียนก็ส่งแผนงานให้เลขาซินด้วย
ความพึงพอใจ
“ตั้งแต่เดือนหน้าโบนัสของทุกโปรเจ็กต์จะอิงตามเกณฑ์นี้”
บทที่ 250 แก้บั๊กความเร็วท่าฟันแนวตั้งของดาบจันทร์เสี้ยว

ถ้าจะสร้างคะแนน TPDb ก็ต้องมีเว็บไซต์


เนื่องจากชั้นบนยังพอมีพื้นที่เหลือ เผยเชียนจึงตัดสินใจจ้างคนมาดูแลเรื่อง
เว็บไซต์ให้ โดยออฟฟิศของพนักงานกลุ่มนี้จะอยู่ถัดจากออฟฟิศของเว็บจงเตี่ย
นจงเหวิน
เว็บ TPDb จะบันทึกโปรเจ็กต์ทุกอย่างของเถิงต๋า ไม่ว่าจะเป็นเกมทั้งหมดที่
เคยสร้างมา ผลงานของเฟยหวงสตูดิโอ กิจการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูทุกสาขา
เว็บไซต์จงเตี่ยนจงเหวิน จุดบริการนี่เฟิง และอื่นๆ
เว็บไซต์แบ่งหมวดหมู่ง่ายๆ เป็นหมวดเกม ภาพยนตร์ ไลฟ์สไตล์ หน้าร้าน
และอื่นๆ เพื่อให้ง่ายต่อการคัดกรองและค้นหา
ถ้าในอนาคตเถิงต๋าเริ่มธุรกิจในอุตสาหกรรมใหม่ จำนวนหมวดหมู่ในเว็บก็จะ
เพิ่มขึ้นด้วย
บนเว็บไม่ได้บอกรายละเอียดแต่ละโปรเจ็กต์มากนัก แต่ละโปรเจ็กต์จะมีหน้า
โปรไฟล์ง่ายๆ ที่บอกข้อมูลพื้นฐานทั่วไป
จุดหลักของเว็บไซต์นี้คือคะแนนและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
คะแนนแบ่งเป็นคะแนนจากภายใน คะแนนจากสื่อ คะแนนจากลูกค้า และ
คะแนนจากชาวเน็ต
คะแนนสรุปจะคำนวณจากคะแนนทั้งสี่ส่วนโดยมีเกณฑ์น้ำหนักแตกต่างกัน
ไป
เว็บไซต์นี้เปิดให้สมัครสมาชิกเพื่อใช้งานได้ แต่พนักงานของเถิงต๋ามีสิทธิ์
พิเศษในการเข้าถึงหน้า ‘คะแนนภายใน’ เพื่อดูคะแนนที่พนักงานคนอื่นให้
ผู้ใช้งานทั่วไปจะดูได้แค่คะแนนรวมของพนักงานเถิงต๋า ไม่สามารถเข้าถึงหน้า
แบบเดียวกับพนักงานได้
คะแนนจากสื่อจะคำนวณจากคะแนนที่สื่อเจ้าดังๆ ให้ รวมถึงบทความรีวิว
อื่นๆ
ลูกค้ากับชาวเน็ตจะมีหน้าให้คะแนนแยกกัน มีแค่คนที่แสดงหลักฐานการซื้อ
หรือใช้งานบริการของเถิงต๋าเท่านั้นที่จะเข้าถึงหน้าให้คะแนนสำหรับลูกค้าได้
ชาวเน็ตทั่วไปจะถูกจำกัดไม่ให้เข้าถึงหน้านี้
ส่วนการให้คะแนนที่จำเพาะเจาะจง TPDb จะมีระบบที่ซับซ้อนมากขึ้น ทุก
บัญชีผู้ใช้งานจะมีน้ำหนักการให้คะแนนต่างกันไป และมีแค่พนักงานตำแหน่งสู ง
ของเถิงต๋าเท่านั้นที่เข้าดูได้
พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจะส่งผลต่อน้ำหนักการให้คะแนนของบัญชีนั้นๆ
เช่น ถ้าบัญชี Big V โดนจ้างมาให้คะแนน 1 เต็ม 5 กับโปรเจ็กต์ที่มีคะแนน
เฉลี่ยอยู่ที่ 4 เต็ม 5 หรือมีคนที่ให้คะแนน 5 เต็ม 5 กับโปรเจ็กต์ที่มีคะแนนเฉลี่ย
อยู่ที่ 2 เต็ม 5 ในอนาคตบัญชีเหล่านี้จะมีน้ำหนักการเอาคะแนนมาพิจารณา
ต่ำลง
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่การไม่ยอมรับความเห็นต่าง เพราะการที่แต่ละคนจะตัดสิน
ว่าอะไรดีหรือไม่ดีนั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล อาจจะมีบางคนไม่เห็นด้วยที่
คนอื่นให้คะแนน 5 เต็ม 5 และยกย่องโปรเจ็กต์นั้นให้ เป็นผลงานขึ้นหิ้ง จึงอยาก
ให้คะแนนแค่ 1 เต็ม 5
แต่พฤติกรรมแบบนี้ก็ถือว่าขัดต่อเป้าหมายและหลักการเรื่องความยุติธรรม
ของระบบประเมินคะแนน ซึ่งจะส่งผลต่อการให้คะแนนในอนาคตของบัญชีนี้
ขณะเดียวกันถ้ามีใครสมัครบัญชีใหม่เข้ามาใช้งานเรื่อยๆ จาก IP Address
เดียวกัน น้ำหนักการให้คะแนนของบัญชีเหล่านี้ก็จะต่ำลงด้วย
สรุปแล้วเผยเชียนอยากกำจัดคะแนนความคิดเห็นส่วนตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะ
ทำได้ เพื่อให้คะแนนของแต่ละโปรเจ็กต์ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุด
ตอนนี้เผยเชียนมอบหมายให้พวกหม่าอี้ฉวินจัดการเรื่องการเปิดเว็บไซต์ไป
ก่อน เนื่องจากเว็บจงเตี่ยนจงเหวินเข้าที่เข้าทางแล้ว และพวกหม่าอี้ฉวินก็ไม่ได้ยุ่ง
เหมือนก่อนหน้านี้
หลังจากเตรียมการเรื่องเว็บไซต์ TPDb เสร็จเรียบร้อย เขาค่อยหาคนมา
จัดการเรื่องนี้ต่อ
...
...
วันที่ 1 กันยายน
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
เฉียวเหลียงจิบกาแฟที่พนักงานยกมาเสิร์ฟ เขารู้สึกว่าชีวิตตอนนี้สบายขึ้น
กว่าแต่ก่อน
แฟนๆ ส่งข้อความมาให้เขาเป็นกระบุง แต่เขาไม่มีเวลามานั่งอ่านทั้งหมด
ช่วงที่ผ่านมาเฉียวเหลียงไม่ได้สนใจแฟนๆ เท่าไหร่ เพราะกำลังสู้อย่างเอาเป็น
เอาตายอยู่ในเกมกลับใจคือฟากฝั่ง เขาต้องเล่นเกมวันละแปดชั่วโมง จึงรู้สึก
กดดันบ้างนิดหน่อย
แถมเขายังไม่สามารถแพร่งพรายข้อมูลเกมกลับใจคือฟากฝั่งได้ เพราะใน
สัญญาระบุไว้ว่าให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ
แต่ช่วงนี้เฉียวเหลียงเริ่มจับทางเกมได้แล้ว จึงคืบหน้าไปได้ไวกว่าเดิม และไม่
รู้สึกกดดันเหมือนแต่ก่อน
หลังจากพักและไล่อ่านข้อความจากแฟนคลับคร่าวๆ เฉียวเหลียงก็กดเข้าเกม
กลับใจคือฟากฝั่งอีกครั้ง เขาเตรียมจะไปฆ่าบอสยายเมิ่งโผที่ติดแหง็กมาพักใหญ่
หลังจากเข้าเกม ข้อความแจ้งเตือนก็เด้งขึ้นมาเป็นอันดับแรก
“โอ้ อัปเดตใหม่อีกแล้ว”
เฉียวเหลียงชินกับเรื่องนี้แล้ว เนื่องจากเกมตัวที่เขาเล่นเป็นเวอร์ชันเบต้า ทีม
พัฒนาเกมกลับใจคือฟากฝั่งมีการปรับแก้ตัวเกมอยู่ตลอด จึงมีอัปเดตใหม่แทบทุก
วัน
อัปเดตมีทั้งขนาดใหญ่และเล็ก ไฟล์ของอัปเดตขนาดเล็กใหญ่แค่ประมาณไม่กี่
ร้อยกิโลไบต์ มักเป็นการปรับแก้การตั้งค่าบางอย่าง ส่วนไฟล์ของอัปเดตขนาด
ใหญ่มีขนาดหลายร้อยเมกะไบต์ มักจะเป็นการอัปเดตฉากต่างๆ ของเกม
ขนาดไฟล์ของอัปเดตรอบนี้ไม่ได้ใหญ่ และเนื่องจากอินเทอร์เน็ตเร็วมาก จึง
ดาวน์โหลดเสร็จภายในไม่กี่นาที
“บอสเผยจะแก้อะไรเพิ่มจากที่คุยกันรอบก่อนบ้างนะ”
เฉียวเหลียงแอบคาดหวังเล็กน้อย
สัปดาห์ก่อนบอสเผยมาถามความเห็นเขาเกี่ยวกับเรื่องเกม และเฉียวเหลียงก็
ได้อธิบายความเห็นไปอย่างละเอียด
ระดับความยากของหมู่บ้านและเมืองตอนเริ่มเกมนั้นสูงเกินไป เนื่องจากผู้
เล่นเพิ่งเริ่มเล่นเกมเป็นครั้งแรก ยังไม่ค่ อยคุ้นชินกับตัวเกม จุดนี้อาจทำให้ผู้เล่น
เลิกเล่นเกมเอาได้ง่ายๆ แต่ถ้าเล่นต่อไปเรื่อยๆ ก็จะรู้สึกง่ายขึ้น
ที่เฉียวเหลียงตั้งใจจะบอกคือ ให้ลดระดับความยากในช่วงต้นเกมและคง
ระดับความยากของช่วงหลังไว้
เรื่องอาวุธ เขาคิดว่าปังตอใช้งานได้ดีมาก เป็นอาวุธที่มีความคล่องแคล่วสูง
ในช่วงต้นถึงกลางเกม นอกจากจะมีความเร็วในการโจมตีสูงแล้ว ยังสร้างความ
เสียหายได้เยอะด้วย ส่วนท่าฟันแนวตั้งของดาบจันทร์เสี้ยวเองก็ใช้การได้ดีมากๆ
เฉียวเหลียงตั้งใจจะบอกว่าการใช้งานของอาวุธอื่นๆ ค่อนข้างติดขัด น่าจะ
ปรับปรุงเพิ่ม
อัปเดตครั้งที่ผ่านๆ มา เฉียวเหลียงหวังว่าทีมออกแบบจะปรับแก้ตามที่เขา
คอมเมนต์ไป แต่ก็ต้องผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า
ไม่แน่ว่าการปรับแก้สมดุลในเกมอาจต้องใช้เวลา ไม่สามารถเร่งให้เสร็จได้ไวๆ
ในที่สุดช่วงเวลาที่เฉียวเหลียงรอคอยก็มาถึง
หลังจากอัปเดตเกมเสร็จเรียบร้อย เฉียวเหลียงก็เข้ าไปหน้ารายละเอียด
การอัปเดต เขาพบว่ามีการปรับแก้สมดุลหลายๆ อย่างในเกม!
“บอสเผยเป็นนักออกแบบเกมที่ฟังความเห็นของผู้เล่นจริงๆ!”
เฉียวเหลียงรู้สึกปลาบปลื้ม
เขากดเข้าไปอ่านรายละเอียดการปรับแก้ต่างๆ เพราะอยากเห็นว่าอาวุธอื่นๆ
มีการปรับให้ดีขึ้นหรือเปล่า จะได้เอาไปสู้กับบอสเมิ่งโผ
“ปรับพลังโจมตีของมอนสเตอร์ในเขตหินสามชาติ เขตสายธารลืมชาติ และ
อื่นๆ เพิ่มขึ้น รวมถึงเพิ่มรูปแบบการโจมตี...
“ลดความเสียหายที่ปังตอทำได้หลังตีบวกเพิ่มเลเวล โดยเพิ่มพลังการโจมตี
ท่าชาร์จโจมตีขึ้นเล็กน้อยเป็นการทดแทน...
“แก้บั๊กความเร็วการโจมตีท่าฟันแนวตั้งของดาบจันทร์เสี้ยว...”
มีการปรับแก้คล้ายๆ กันนี้อีกหลายอย่าง แต่ส่วนใหญ่เป็นการเนิร์ฟ !
อาวุธที่อาจารย์เฉียวคิดว่าดีโดนเนิร์ฟหมด
ความเสียหายที่ทำได้เพิ่มขึ้นตามการตีบวกของปังตอก็โดนเนิร์ฟ แบบนี้ผู้เล่น
ก็ไม่สามารถเอาปังตอไปไล่ฟันโง่ๆ เพื่อผ่านช่วงต้นเกมไปถึงกลางเกมได้
แน่นอนว่าอาวุธชิ้นนี้ยังใช้งานได้อยู่เพราะท่าชาร์จโจมตีได้บัฟความแรงเพิ่ม
แต่ท่านี้ใช้เวลาชาร์จนานมาก ทำให้ข้อได้เปรียบเรื่องความคล่องแคล่วหายไป
ต้องพึ่งทักษะของผู้เล่นมากขึ้น
ดาบจันทร์เสี้ยวเองก็โดนไปด้วย พอแก้บั๊กที่ทำให้ฟันโจมตีแนวตั้งได้อย่าง
รวดเร็วไปแล้ว เขาก็ไม่สามารถใช้ท่านี้ใส่มอนสเตอร์รัวๆ ได้ ต้องพัฒนาฝีมือการ
เล่นของตัวเองขึ้นไปอีก
แน่นอนว่าจริงๆ แล้วจุดนี้เป็นบั๊กหรือเปล่า มีแค่เผยเชียนเท่านั้นที่รู้
เฉียวเหลียงตะลึงงันไป เขาไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
“อาวุธทุกชิ้นที่ฉันคิดว่าดี...โดนเนิร์ฟหมดเลย
“แล้ววันนี้ฉันจะฆ่าเมิ่งโผได้ยังไง แค่มอนสเตอร์ลูกกระจ๊อกก็ไม่รู้จะฆ่าได้มั้ย
ด้วยซ้ำ!”
เฉียวเหลียงนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ เหม่อมองไปที่ปังตอซึ่งอุตส่าห์ตีบวกมากับดาบ
จันทร์เสี้ยว
เขารู้สึกเหมือนตัวเองกลับไปนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง!
กาแฟไม่ได้ส่งกลิ่นหอมอีกต่อไป
ฉันเป็นใคร ที่นี่ที่ไหน ฉันกำลังทำอะไรอยู่
เฉียวเหลียงรู้สึกสับสนไปหมด...
บทที่ 251 บอสเผยถูกบ้างซักที

ช่วงสองสามวันที่ผ่านเผยเชียนยุ่งมาก
เขาหมดวันหยุดช่วงปิดเทอมฤดูร้อนไปกับเรื่องบริษัท ตอนนี้ใกล้จะเปิดเทอม
แล้ว ในที่สุดเผยเชียนก็หาเวลากลับไปเยี่ยมที่บ้านได้สองวัน
เผยเชียนต้องตอบคำถามมากมาย เช่น แม่ของเขาถามว่าทำไมถึงไม่ได้เล่นซี
รีส์ใหม่เรื่อง ‘หนึ่งวันของนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่’ ของเฟยหวงสตูดิโอ เผยเชียน
ตอบกลับไปว่ารอบนี้ทำงานเป็นเบื้องหลัง
คราวนี้เผยเชียนไม่ได้ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่เข้าบ้าน เพราะที่จำเป็นต้องซื้อก็
ซื้อไปหมดแล้ว เป้าหมายต่อไปคือหาบ้านใหม่ที่ใหญ่ขึ้น
แต่เงินในความมั่งคั่งส่วนบุคคลของเขายังไม่พอ ทำได้แค่รอให้รอบปิดบัญชีนี้
จบด้วยการขาดทุน
ดังนั้นหลังจากมาเยี่ยมบ้านสองวัน เผยเชียนจึงรีบกลับไปทำงานและตั้งมั่น
อยู่กับเรื่องงานอย่างใจจดใจจ่อ
พอกลับมาที่ออฟฟิศ เขาก็พบว่าหลี่หย่าต๋าทำงานได้ดีมาก อัปเดตใหม่ของ
เกมกลับใจคือฟากฝั่งจัดการเรื่องบั๊กและอาวุธที่เก่งเกินไปเรียบร้อย
เผยเชียนไม่ได้รับผลกระทบอะไร เพราะผู่ตู้ไม่ได้โดนเนิร์ฟ
แถมทางที่เผยเชียนเลือกก็มุ่งตรงจากเส้นทางสู่ยมโลกไปสังสารวัฏทั้งหกได้
เลย ความยากที่เพิ่มขึ้นในสายธารลืมชาติ หินสามชาติ และอื่นๆ ไม่ได้ส่งผลอะไร
กับเขา
หลังจากหัวร้อนกับเกมมาได้สักพัก เผยเชียนก็ตัดสินใจพักดูคลิปบนเว็บ
พอเข้าไปในเว็บก็เจอเข้ากับคนคุ้นหน้า
เผยเชียนตะลึงงันไป อ้าว นั่นจางจู่ถิงนี่
เขาหันมองวันที่ก็นึกขึ้นได้ อ๋อ ใช่ๆ วันนี้เป็นวันปล่อยโฆษณาเกมเพลงรบ
โลหิตเวอร์ชันอัปเกรดนี่นา
ตัวโฆษณาเชื่อมกับเว็บเกมและเผยแพร่ตามเว็บไซต์ดังๆ
เผยเชียนที่กำลังท้อแท้ใจจากการเล่นเกมกระตือรือร้นขึ้นมาทันที เขาไม่ได้
กดเข้าไปดูรายการตามที่ตั้งใจไว้ แต่หันไปตรวจสอบว่าตอนนี้เกมเพลงรบโลหิต
เวอร์ชันอัปเกรดเป็นยังไงบ้างแทน
ครัวส่วนตัวหมิงหยุนก็ฉิบหายไปแล้ว เหลือแค่เกมนี้แหละที่จะช่วยกอบกู้
สถานการณ์ได้!
เผยเชียนเปิดเว็บไซต์ดังๆ ขึ้นมาหลายเว็บ ทั้งเว็บลงคลิป เว็บเกม และเว็บ
อื่นๆ ทุกเว็บที่เข้าไปดูมีโฆษณาเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดทั้งนั้น
ในเว็บวิดีโอ คลิปเกี่ยวกับเกมส่วนใหญ่จะขึ้นโฆษณาของจางจู่ถิงด้วยประโยค
เด็ดอย่าง “ผมจ๋าจูถี ซาหายทู้กโคน มาแร็ปไปด้วยกาน!”
เป็นไปได้ยากมากที่ชาวเน็ตจะไม่รู้จักเกมของพวกเขาจากโฆษณาที่ปล่อยไป
ทั่วโลกอินเทอร์เน็ตแบบนี้
เผยเชียนรีบเข้าเว็บอ้ายลี่เต่าแล้วค้นคำว่า ‘จ๋าจูถี’ เขาเจอเพลย์ลิสต์รวม
โฆษณาต่างๆ ของจางจู่ถิง จึงกดเข้าไปดูคอมเมนต์บนหน้าจอและช่องคอมเมนต์
ด้านล่าง
เพลย์ลิสต์นี้ชื่อว่า หมดแล้วศักดิ์ศรี โฆษณาเกมเล่นบนเว็บของจางจู่ถิง: ผมจ๋า
จูถี
คอมเมนต์บนหน้าจอและช่องคอมเมนต์ข ้างล่างแสดงให้เห็นว่าชาวเน็ต
คิดเห็นอย่างไร
“ในฐานะแฟนอาจารย์จาง ฉันผิดหวังมาก อาจารย์จางขาดแคลนเงินถึงกับ
ยอมถ่ายโฆษณาแบบนี้เลยเหรอ...”
“โฆษณาเกมเว็บกากๆ อีกละ อี๋!”
“จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ อย่างน้อยโฆษณานี้ก็ไม่ได้เด้ง มาบังจอ
หมด แล้วก็ไม่ได้ล่อลวงคนด้วยการให้เงินหรืออะไรแบบนั้นด้วย ถือเป็นโฆษณา
เกมเล่นบนเว็บที่ดีตัวหนึ่งที่เคยเห็นมาเลย แต่ก็อยากถามอาจารย์จางเหมือนกัน
ว่าทำไมถึงยอมทำลายชื่อเสียงที่สั่งสมมาทั้งชีวิตแบบนี้...”
“กรี๊ด เสียงจริงๆ ของจางจู่ถิงเป็นแบบนี้เองเหรอ ดูแต่หนังที่พากย์เสียงทับ
มาตลอด ไม่คิดเลยว่าเสียงจริงๆ จะน่าขนลุกแบบนี้”
“แอบอ้างเอาอาจารย์จางมาใช้รึเปล่าเนี่ย”
“จางจู่ถิงโพสต์บนเว่ยป๋อของตัวเองว่าได้ร่วมงานกับบริษัทเกม โฆษณานี้
น่าจะของจริงแหละ”
“พวกนายคิ ด ในแง่ บ วกหน่ อ ยสิ โฆษณาเกมเล่ น บนเว็ บ ส่ ว นใหญ่ ม ี แ ต่
หลอกลวง คนละเรื่องกับเกมจริงเลย แต่โฆษณาตัวนี้ทำออกมาดีมาก ถึงกับเชิญ
ดารามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ชุดกับฉากเอามาจากในเกม ประโยคพูดก็เข้ากับเกม
น่าจะเป็นโฆษณาเกมเล่นบนเว็บที่ดีที่สุดของปีนี้แล้ว”
“ผมจ๋าจูถี ซาหายทู้กโคน มาแร็ปไปด้วยกาน”
ชาวเน็ตไม่ได้ฮือฮาอะไรมากนัก
ทุกคนผ่านและเห็นอะไรมาเยอะ
ตอนนี้เกมเล่นบนเว็บอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ถือว่าเป็นช่วงรุ่งเรืองสุดท้าย
ของเกมแนวนี้ และเป็นช่วงที่บริษัทต่างๆ จะทำเงินได้มากที่สุด
โฆษณาเกมเล่นบนเว็บก็เปลี่ยนไปในช่วงนี้ด้วย
ตอนช่วงยุคมืดของเก็บเล่นบนเว็บ โฆษณาส่วนใหญ่มักจะขโมยงานของคน
อื่นมาใช้โดยไม่สนว่าจะผิดลิขสิทธิ์หรือเปล่า วิธีที่ใช้โฆษณาก็แสนไร้ยางอาย ชอบ
ใช้รูปแบบที่เด้งขึ้นมาบังจอหมด
แต่ พ อวงการเกมเล่ น บนเว็ บ เริ ่ ม มี ก ารร่ ว มมื อ กั น และวางมาตรฐานใหม่
หลายๆ บริษัทก็เริ่มดึงดารามาช่วยเป็น
พรีเซ็นเตอร์
ดังนั้นชาวเน็ตทั่วไปจึงมองว่าโฆษณาเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดนั้น
คุณภาพดีกว่าโฆษณาทั่วไปที่พบเห็นได้ดาษดื่น
กลุ่มคนที่ไม่พอใจกับโฆษณาตัวนี้คือแฟนคลับของจางจู่ถิง พวกเขามองว่า
โฆษณาเกมเล่นบนเว็บตัวนี้ด้อยค่าจางจู่ถิง เป็นการทำให้ดาราที่พวกเขาชอบ
ขายหน้า
เผยเชียนเปิดเว่ยป๋อของจางจู่ถิงดู
โพสต์ล่าสุดบนเว่ยป๋อของจางจู่ถิงเป็นโพสต์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่ลงไว้หลาย
วันก่อน เนื้อหาไม่มีอะไรมาก “#พิทักษ์สิ่งแวดล้อม #ช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อม เริ่ม
ที่ตัวเรา มาก้าวไปด้วยกัน!”
คอมเมนต์ใต้โพสต์นี้ก็ปกติทั่วไป มีแฟนคลับบางคนคอมเมนต์ชมประมาณว่า
‘ไอดอลฉันดีที่หนึ่ง’
แต่พอมีคอมเมนต์ใหม่เพิ่มขึ้นมา สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป
“พี่จู่ถิง ทำไมต้องลดตัวไปถ่ายโฆษณาเกมเล่นบนเว็บด้วย โลกของฉันแตก
เป็นเสี่ยงๆ แล้ว”
“พี่ต้องไปดู! คนล้อสำเนียงพี่กันเต็มเลย!”
“ฉันเสียใจมาก พี่จู่ถิงที่รักษาภาพลั กษณ์ของตัวเองเป็นอย่างดีมาตลอด หลง
ผิดไปถ่ายโฆษณาเกมเล่นบนเว็บเพื่อเศษเงินสกปรก!”
“โฆษณานี้เหรอที่พี่บอกว่าได้ไปร่วมงานกับบริษัทเกม...เป็นบริษัทเกมเล่นบน
เว็บเนี่ยนะ...”
สถานการณ์บนเว่ยป๋อของจางจู่ถิงไม่ค่อยสู้ดีนัก
ดูเหมือนว่าแฟนคลับหลายคนจะรู้สึกไม่ค่อยดีกั บเกมเล่นบนเว็บและโฆษณา
ที่เกี่ยวข้องกับเกมเล่นบนเว็บ พวกเขาต่างคิดว่าการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้เกมเล่น
บนเว็บเป็นการหาเงินที่ไร้ยางอายและด้อยค่าตัวเอง ดังนั้นจึงไม่คิดจะเล่นเกมนี้
และยังแสดงความไม่พอใจลงบนเว่ยป๋อของจางจู่ถิงด้วย
จางจู่ถิงยังไม่ได้ตอบอะไรกลับและไม่กล้าโพสต์อะไรเพิ่ม
เผยเชียนรู้ว่าจางจู่ถิงเป็นคนที่ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับแฟนๆ และคอยเช็กเว่
ยป๋อของตัวเองอยู่ตลอด เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยังไม่เห็นคอมเมนต์เหล่านี้
จางจู่ถิงต้องเห็นแล้วแน่ๆ แต่ยังไม่รู้ว่าจะตอบกลับยังไงดี
ฝั่งหนึ่งก็แฟนคลับ อีกฝั่งหนึ่งก็คนจ้างงาน เขาไม่สามารถทำร้ายจิตใจใครได้
ไม่ว่าจะฝั่งไหน
แถมบอสเผยยังเลี้ยงต้อนรับเขาเป็นอย่างดี
ก็เหมือนคำพูดที่ว่า รับของคนอื่นมาก็ต้องเกรงใจ เขาเพิ่งจะเสียแฟนคลับไป
ไม่มาก จะให้คิดแค้นใจบอสเผยเรื่องนี้ก็คงจะไม่ดี
เนื่องจากไม่สามารถระบายความอั ดอั้นตันใจออกมาได้ จางจู่ถิงจึงได้แต่หด
หัวอยู่เงียบๆ ไปก่อน
เผยเชียนดูกระแสตอบรับโฆษณาซึ่งเหมือนจะเป็นไปตามที่คาดไว้
เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเพราะไม่สามารถสร้างกระแสแง่ลบได้เท่าที่คิดไว้
แต่โฆษณาก็เพิ่งปล่อยไปได้ไม่นาน จึงยังสร้างความเกลียดชังในหมู่ชาวเน็ ต
ไม่ได้มาก
ยุคนี้ยังไม่มีมือปล่อยมีม แถมโฆษณาตัวนี้ก็ไม่ได้ล้างสมองคนดูอะไรขนาดนั้น
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนจะไม่ได้ต่อต้านอะไรมาก
จุดสำคัญอยู่ที่ข้อมูลสถิติตัวเกม
เผยเชียนเปิดหน้าหลังบ้านของฉางหยางเกมส์แล้วเข้าไปดูข้อมูลเกมเพลงรบ
โลหิตเวอร์ชันอัปเกรด ในนั้ นมีทั้งจำนวนคนสมัคร ยอดการกลับมาเล่น รายได้
เฉลี่ย และอื่นๆ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าโฆษณาตัวนี้ได้ผลดีทีเดียว เพราะดึงผู้เล่นสายเกมเล่นบนเว็บ
มาได้จำนวนหนึ่ง
ถึงโฆษณาจะดูโง่เง่าจนคนทั่วไปไม่นึกอยากเล่น แต่ก็ดึงความสนใจเกมเมอร์ที่
ชอบเกมเล่นบนเว็บได้ไม่น้อย
โฆษณาเกมเล่นบนเว็บมีกระบวนการที่สมบูรณ์มาก เพราะมีการเก็บข้อมูล
ทุกๆ ขั้นตอน
มีคนคลิกกี่คนตอนโฆษณาเด้งขึ้นมา
มีคนดาวน์โหลดมินิไคลแอนต์กี่คนหลังคลิกโฆษณา
มีคนสร้างบัญชีแล้วเข้าเกมกี่คน
มีคนเล่นเกินหนึ่งชั่วโมงหลังเริ่มเกมกี่คน
ถ้าเล่นไปแล้วเมื่อวาน วันถัดไปมีกลับมาเล่นกี่คน
มีคนเติมเงินกี่คน เติมสูงสุดเท่าไหร่
ข้อมูลทุกอย่างแม่นยำมาก สามารถเอาไปวิเคราะห์ได้หลายอย่าง
ก็เหมือนคำพูดที่ว่า ‘ข้อมูลไม่เคยโกหก’ ถ้าความคิดเห็นกับข้อมูลที่แสดงไม่
ตรงกัน และข้อมูลถูกต้องก็แสดงว่าคนนั้นคิดผิด
เผยเชียนกระตุกยิ้มเมื่อเห็นข้อมูลตรงหน้า
เป็นไปตามที่คิดไว้เลย!
บทที่ 252 เกมนี้ดูไม่น่าจะไปรอด

ข้อมูลอื่นๆ อยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่มีปัญหาหนักอยู่สองส่วน


พวกเขาเสียผู้เล่นไปหลายคนระหว่างช่วงหลังจากคลิกโฆษณาและสมัครบัญชี
เกม เมื่อเทียบกับเกมเล่นบนเว็บทั่วไปแล้วอัตราในส่วนนี้สูงกว่าหกถึงเจ็ดเท่า
นอกจากนั้นก็มีผู้เล่นหลายคนเสียเงินซื้อของในเกม แต่รายได้ในภาพรวมต่ำ
มาก
เหตุผลก็แสนจะเรียบง่าย
ปัญหาแรกเกิดจากตัวมินิไคลแอนต์มีขนาดใหญ่เกินไป เกมเมอร์สายเกมเล่น
บนเว็บไม่ชินกับการต้องดาวน์โหลดมินิไคลแอนต์ขนาด 370 เมกะไบต์ ทำให้
หลายคนไม่คิดจะลองโหลดมาเล่นดูและเลิกล้มความตั้งใจที่จะเล่นทันที
ผู้เล่นส่วนใหญ่ซื้อของในเกมเพราะรูปแบบการเก็บเงินนั้นออกแบบมาให้เป็น
มิตรกับผู้เล่น ไอเทมที่วางขายในเกมมีแค่ยาเพิ่มพลัง
แต่ถึงจะมีคนซื้อเยอะก็เท่านั้น เพราะตัวเกมวางเพดานค่าใช้จ่ายไว้ต่ำมาก ไม่
มีช่องให้สายวาฬเปย์เงินเลย ทำให้รายได้ของเกมต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
เผยเชียนคาดการณ์ไว้ถูกต้องทุกอย่าง โฆษณาเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัป
เกรดทำออกมาได้ดีมาก แต่เจาะกลุ่มคนดูผิดประเภท
คนส่วนใหญ่ที่สนใจโฆษณาคือเกมเมอร์สายเกมเล่นบนเว็บ แต่การที่ต้อง
ดาวน์โหลดมินิไคลแอนต์ขนาด 370 เมกะไบต์ทำให้พวกเขาไม่คิดจะลองเล่น การ
ไม่มีช่องทางเปย์เงินก็ทำให้ผู้เล่นสายวาฬไม่อยากเล่น
ผู้เล่นที่ชอบเกมที่เป็นมิตรกับผู้เล่นส่วนใหญ่จะเล่นเกมไคลแอนต์กันมากกว่า
ถึงจะไม่ติดใจอะไรถ้าต้องดาวน์โหลดมินิไคลแอนต์ขนาด 370 เมกะไบต์ แต่
พวกเขาก็มีอคติกับเกมเล่นบนเว็บ โฆษณาตัวนี้ทำให้พวกเขาไม่อยากลองเล่นและ
พยายามหนีห่างจากเกมนี้ให้ได้มากที่สุด
ทำยังไงก็ไม่น่าจะกอบกู้สถานการณ์ได้อีก
พอเห็นสถิติต่างๆ เผยเชียนก็เอนหลังพิงเก้าอี้ รู้สึกสบายใจสุดๆ
ต้องแบบนี้สิ!
ทุกอย่างมันต้องเป็นแบบนี้แหละ!
ในที่สุดก็มีอะไรที่เป็นไปตามที่คิดไว้สักที!
เผยเชียนไม่เคยรู้สึกพึงพอใจเท่านี้มาก่อน
ช่วงที่ผ่านมาเผยเชียนทุกข์ระทมกับครัวส่วนตัวหมิงหยุนที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นมาจน
ทำให้เครียดหนัก แต่พอเห็นสถานการณ์ของเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรด
ในตอนนี้แล้ว เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาได้บ้าง
เพราะตามรูปแบบของเกมเล่นบนเว็บทั่วไป ถ้าเปิดตัวมาได้แย่แบบนี้ก็ไม่
น่าจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้
เกมเล่นบนเว็บส่วนใหญ่จะทำเงินได้เร็ว บริษัทเกมจึงพยายามจ้างดารามา
เป็นพรีเซ็นเตอร์และปล่อยโฆษณาออกมาเยอะๆ เพื่อสร้างกระแสให้เกม ไม่กี่วัน
เกมก็จะดังไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ต ดึงเกมเมอร์มากมายให้มาสมัครลองเล่นเกมได้
แต่กระแสก็จะหมดไปในไม่ช้า รายได้จะพุ่งขึ้นสูงและตกลงอย่างรวดเร็ว
จากนั้นบริษัทเกมก็จะเปิดเซิฟเวอร์ใหม่เพื่อสูบเงินจากผู้เล่นให้ได้มากที่สุด
ดังนั้นเกมเล่นบนเว็บที่เปิดตัวมาดีก็อาจตายกลางทางได้
เพราะฉะนั้นเกมเล่นบนเว็บที่เปิดตัวมาไม่ดีก็ไม่น่าจะไปได้ตลอดรอดฝั่ง
สถิติเปิดตัววันแรกของเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดนั้นแย่มาก โอกาสที่
จะพลิกสถานการณ์กลับมาได้แทบไม่มี
เกมเมอร์สายเกมเล่นบนเว็บส่วนใหญ่ไม่เข้ามาเล่นเกมเพราะมินิไคลแอนต์มี
ขนาดใหญ่ถึง 370 เมกะไบต์ ปัญหานี้จะไปแก้ได้ยังไง
พวกเขาไม่มีทางตัดมินิไคลแอนต์ขนาด 370 เมกะไบต์ออกแล้วทำเกมใหม่ให้
ตอบโจทย์ผู้เล่นได้ ไม่อย่างนั้นก็เท่ากับว่าความพยายามที่ผ่านมาต้องสูญเปล่า
ดังนั้นไม่ว่าจะมองยังไง เผยเชียนก็รู้สึกพอใจกับสถานการณ์ของเกมเพลงรบ
โลหิตเวอร์ชันอัปเกรดมาก
แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้ยังวางใจอะไรไม่ได้
มีหลายครั้งที่แผนในตอนแรกไปได้ดีแต่ก็ดันตายกลางทาง เกมเพลงรบโลหิต
เวอร์ชันอัปเกรดเพิ่งจะปล่อยออกมาแค่วันเดียว เขาจะคิดในแง่ดีเกินไปไม่ได้
เผยเชียนต้องเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจนกว่าจะวางใจได้จริงๆ
...
...
ขณะเดียวกัน ที่ฉางหยางเกมส์
ทุกคนรู้สึกท้อแท้ เรียกได้ว่ากำลังอยู่ในสถานการณ์สุดห่อเหี่ยวใจ
เผยเชียนดูข้อมูลสถิติได้ เยว่จือโจว หวังเสี่ยวปิน และหลินหวานเองก็ดูได้
เช่นกัน แน่นอนว่าทั้งสามเห็นปัญหาเหมือนที่เผยเชียนเห็น
แต่ก็ไม่มีทางแก้ไขอะไรได้!
เยว่จือโจวกับหวังเสี่ยวปินนั่งขมวดคิ้วอยู่ที่โต๊ะทำงาน ไม่ปริปากพูดอะไรสัก
คำ
มินิไคลแอนต์ขนาด 370 เมกะไบต์เป็นแผนการออกแบบที่ทุกคนเห็นพ้อง
ต้องกัน แม้แต่บอสเผยเองก็เห็นดีเห็นงามด้วย
แต่ตอนนี้พวกเขาก็โดนความเป็นจริงซัดหน้าเข้าอย่างจัง มินิไคลแอนต์ที่ใหญ่
ขนาดนี้ไม่มีทางเจาะกลุ่มเกมเมอร์สายเกมเล่นบนเว็บได้ คนพวกนั้นไม่ยอมรับ
อะไรแบบนี้!
ผู้เล่นเก่าจากเกมเพลงรบโลหิตอาจจะพอทำใจรับเรื่องนี้ได้เพราะรู้สึกดีกับ
เกมเพลงรบโลหิตภาคก่อน แถมตัวมินิไคลแอนต์ขนาด 370 เมกะไบต์ก็ทำให้ภาพ
สวยขึ้นและเล่นเกมได้ไหลลื่นขึ้น ได้ประสบการณ์การเล่นที่ดียิ่งขึ้นไปอีก
แต่ก็มีคนเลิกเล่นเกมเพลงรบโลหิตไปเยอะ ผู้เล่นเก่าจะเหลือสักเท่าไหร่กัน
เชียว
อย่าว่าแต่จะหาเงินคืนทุนค่าค้นคว้าและพัฒนาเกมเลย รายได้น้อยนิดที่ทำได้
นั้นไม่น่าจะพอครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่อเดือนของบริษัทด้วยซ้ำ
พวกเขาอับจนหนทาง
หวังเสี่ยวปินรู้ดีว่าตอนนี้สถานการณ์เลวร้ายแค่ไหน ถ้าปัญหามาจากจุดอื่นก็
น่าจะพอหาทางแก้ไขได้
เช่น ถ้ายอดการกลับมาเล่นต่ำ ผู้เล่นเลิกเล่นเกมไปตั้งแต่วันแรก ก็สามารถให้
รางวัลผู้เล่นถ้ากลับมาล็อกอินวัน ถัดไปได้ แบบนี้จะทำให้ยอดการกลับมาเล่น
เพิ่มขึ้น
แต่ปัญหาที่พวกเขากำลังเจออยู่นั้นไม่มีทางแก้!
หลายคนไม่ยอมเล่นเกมแม้จะคลิกโฆษณาเข้ามาแล้ว สาเหตุมาจากมินิไคล
แอนต์ที่มีขนาดใหญ่เกินไป ปัญหาแบบนี้จะแก้ได้ยังไง
หวังเสี่ยวปินกับเยว่จือโจวหันมองหน้ากัน ทั้งสองรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่
เราจะนั่งรออยู่เฉยๆ ไม่ได้ ต้องหาทางแก้
บอสเผยดูแลเรามาอย่างดี เวลานี้พวกเขาควรจะช่วยระดมความคิดหาทางแก้
เพื่อทำให้บอสสบายใจ
เยว่จือโจวคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะแนะนำออกไป “เอาแบบนี้มั้ ยครับพี่หวัง เรา
จะแตกไฟล์มินิไคลแอนต์ให้เล็กลงอีก ทำเป็นมินิไคลแอนต์ขนาด 5 เมกะไบต์
ครอบคลุมแค่ช่วงแรกของเกม ผู้เล่นจะได้ลองเข้ามาเล่นเกมเราหลังจากคลิก
โฆษณา
“พอเล่นไปได้สักสิบนาที เราก็ขึ้นหน้าจอให้ผู้เล่นดาวน์โหลดเกมส่วนที่เหลือ
เพิ่ม ไม่งั้นก็ตั้งให้ดาวน์ โหลดตัวเกมส่วนที่เหลือระหว่างที่กำลังเล่นช่วงแรกของ
เกมอยู่ก็ได้
“แบบนี้จะดีกว่ามั้ยครับ”
นี่คือทางออกเดียวที่เยว่จือโจวคิดออก
หวังเสี่ยวปินส่ายหน้า “ไอเดียดีนะ แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้
“เราออกแบบเกมมาให้ผู้เล่นไปที่เมืองหลังจากเริ่มเกมมาได้แป๊บนึง จะได้เจอ
กั บ ฉากและบรรยากาศสวยๆ เพื ่ อ สร้ า งความประทั บ ใจแรกต่ อ ตั ว เกม ตั ว
ทรัพยากรหลักๆ อยู่ในช่วงแรกของเกมหมดเลย
“ตัวทรัพยากรที่ต้องใส่ไปในมินิไคลแอนต์เพื่อเล่นช่วงแรกของเกมมันเยอะ
มาก แถมตัวละคร มอนสเตอร์ เมืองก็เป็นสามมิติหมด ใช้ทรัพยากรเยอะมาก
ระบบการเล่นต่างๆ ก็ต้องใส่ไปในตัวมินิไคลแอนต์ด้วยใช่มั้ยล่ะ
“สรุปแล้วตัวมินิไคลแอนต์ตั้งต้นจะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 70 ถึง 80 เมกะ
ไบต์ ไม่มีทางลดให้เหลือ 5 เมกะไบต์ได้
“ถึง 70 เมกะไบต์จะเล็กกว่า 370 เมกะไบต์อยู่พอสมควร แต่เกมเมอร์สาย
เกมเล่นบนเว็บก็ยังเปิดเล่นเกมทันทีไม่ได้เหมือนเดิม ต้องรอโหลดทรัพยากรสัก
พัก แบบนี้พวกเขาก็รู้สึกไม่ต่างจากเดิมหรอก
“ถ้าหาทางที่ดีกว่านี้ไม่ได้จะลองวิธีนี้ดูก็ได้ แต่...ฉันว่าไม่น่าจะเป็นวิธีที่ดี
เท่าไหร่”
เยว่จือโจวไม่รู้จะพูดอะไรอีก
ต้นตอของปัญหานี้มาจากการที่ไม่มีใครคิดว่าตัวมินิไคลแอนต์จะทำให้เกม
เมอร์สายเกมเล่นบนเว็บรู้สึกต่อต้านขนาดนี้!
ตอนนั้นทุกคนมัวแต่ให้ความสำคัญกับการแปลงภาพสองมิติไปเป็นสามมิติ
และทำให้ภาพมัวๆ คมชัดยิ่งขึ้น ไม่แน่ว่าตอนช่วงต้นของการพัฒนาเกมเพลงรบ
โลหิตเวอร์ชันอัปเกรด พวกเขาอาจจะคาดหวังอะไรมากเกินไปก็ได้
ดังนั้นตอนที่ออกแบบการเล่นในช่วงแรกไปจนถึงการออกแบบฉากหลัง จึงไม่
มีใครคิดเรื่องขนาดของมินิไคลแอนต์เลย
ตอนนี้ถ้าจะแบ่งมินิไคลแอนต์ออกเป็นสองส่วนก็ต้องปรับแก้ตัวเกมกันยก
ใหญ่ ถึงจะยอมเหนื่อยแก้ก็ไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้อยู่ดี
เยว่จือโจวรู้สึกท้อ ปัญหานี้ดูท่าจะไม่มีทางแก้เลย!
แต่บอสเผยก็เห็นด้วยกับแผนการนี้มาตั้งแต่ต้น
หรือบอสเผยจะคาดการณ์ผิดพลาดเหมือนกัน
บอสเผยไม่คิดว่ามินิไคลแอนต์จะออกมาล้มเหลวเหรอ
เยว่จือโจวยึดมั่นในแนวคิดการออกแบบของบอสเผยมาก จึงทำใจยอมรับได้
ยากว่าบอสเผยจะคาดการณ์ผิดพลาด
หวังเสี่ยวปินถอนหายใจก่อนจะปลอบตัวเอง “คิดในแง่ดี ถึงเกมจะไปไม่รอด
ก็ไม่ได้ส่งผลกับโบนัสที่จะได้
“ตั้งแต่เดือนนี้ไป โบนัสของเราจะคำนวณจากชื่อเสียงของเกม ถึงเกมเพลง
รบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดจะทำกำไรไม่ได้ แต่ชื่อเสียงก็ไปในทางบวก
“พวกเราน่าจะได้โบนัสเยอะเลยแหละถ้าคำนวณจากทุนสร้างเกม”
เยว่จือโจวส่ายหน้า “ก็จริง แต่ถึงเกมจะชื่อเสียงดียังไง ถ้าทำกำไรไม่ได้ เราก็
ไม่น่าจะไปสู้หน้าใครเขาได้
“อีกอย่างคะแนน TPDb ไม่ได้แค่คำนวณจากการประเมินภายในและการ
ประเมินจากผู้เล่น แต่นับการประเมินของชาวเน็ตด้วย หลายคนที่ไม่ได้เล่นเกม
อาจจะให้คะแนนเราต่ำเพราะแค่ดูโฆษณา มีโอกาสสูงมากเลยที่จะเป็นแบบนั้น
“ถ้าชาวเน็ตให้คะแนนไม่ดีก็จะฉุดคะแนน TPDb ในภาพรวมลง
“ไม่แน่ว่าสุดท้ายแล้ว นอกจากทำกำไรไม่ได้ ชื่อเสียงก็อาจจะไม่ดีด้วย”
หวังเสี่ยวปินเงียบอยู่นานก่อนจะพึมพำขึ้น “ฉิบหาย... อาจจะเป็นแบบนั้นก็
ได้...”
บทที่ 253 ผู้อำนวยการหลินสุดดื้อดึงกับบอสเผยที่แสนจะเบิกบานใจ

จบเห่!
หลังจากได้ยินที่เยว่จือโจวพูด หวังเสี่ยวปินก็เลิกคิดเรื่องได้โบนัสไปเลย
ถ้าให้แค่ผู้เล่นเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดเป็นคนให้คะแนน ชื่อเสียง
ของเกมก็น่าจะออกมาดี เพราะตัวเกมเป็นมิตรกับผู้เล่น
แต่คะแนน TPDb นับคะแนนจากสื่อกับชาวเน็ตทั่วไปด้วย คนพวกนี้ไม่ต้อง
เข้ามาเล่นเกมก็สามารถให้คะแนนได้เลยโดยอิงจากโฆษณา ‘ผมจ๋าจูถี’ คงจะ
แปลกน่าดูถ้าพวกเขาให้คะแนนสูง
เกมแรกที่ฉางหยางเกมส์ทำหลังจากบอสเผยซื้อกิจการต่อเจ๊งไม่เป็นท่า ทำให้
ทุกคนรู้สึกละอายใจในตัวเอง
พวกเราคือมะเร็งระยะสุดท้ายจริงๆ ใช่ไหม
ทุกเกมที่บอสเผยสร้างประสบความสำเร็จหมด เปรี้ยงปร้างทั้งยอดขายและ
ชื่อเสียง นักออกแบบเกมมือทองอย่างบอสเผยจะทำให้ฉางหยางเกมส์กลับมา
รุ่งเรืองไม่ได้จริงๆ เหรอ
คงจะยากถ้าจะให้ทำใจยอมรับเรื่องนี้
“ทุกคนไปที่ห้องประชุมด้วยค่ะ หนูมีอะไรจะพูดด้วยนิดหน่อย”
หลินหวานเองก็ผิดหวังไม่แพ้กัน เธอดูสถิติเกมแล้วและรู้ดีว่าสถานการณ์
ตอนนี้เลวร้ายแค่ไหน
แต่เธอแตกต่างจากคนอื่น หลินหวานไม่ได้ท้อแท้จนถึงขั้นหมดหวัง เธอยังใจ
เย็นได้อยู่ เหมือนกับว่าเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้แล้ว
ทุกคนนั่งประจำที่ในห้องประชุม
หลินหวานมองไปรอบๆ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างจริงใจ “ทุกคนน่าจะได้เห็นสถิติ
การปล่อยเกมวันแรกของเกมเราแล้ว ซึ่งดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
ทุกคนนิ่งเงียบ
จริงๆ แล้วทุกคนเคยชินกับสถานการณ์แบบนี้อยู่แล้ว ตอนยังทำงานกับ
เจ้านายเก่าอย่างตู้รุ่ยเจี๋ย เขาก็มักจะเรียกประชุมตอนที่สถิติเกมออกมาไม่ดี เพื่อ
หาคนโบ้ยความผิดแล้วค่อยพูดให้กำลังใจ
ถ้าปัญหามาจากตัวเกมเองก็จะส่อแววเจ๊งตั้งแต่ตอนปล่อย ซึ่งก็หมายความว่า
มีจุดผิดพลาดอยู่สักที่ และตัวบอสเองก็มีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วย
ปัญหาของเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดมาจากการที่พวกเขาตัดสินใจ
พลาดไปทำตัวมินิไคลแอนต์ขึ้นมา
หวังเสี่ยวปินเป็นคนแรกที่ออกไอเดียทำเกมเป็นมินิไคลแอนต์ แต่ทุกคนก็เห็น
ดีเห็นงามด้วยกับไอเดียนี้ แถมผู้อำนวยการหลินกับบอสเผยก็ยังเห็นด้วยอีก
แบบนี้ผู้อำนวยการหลินจะโบ้ยคนอื่นได้ยังไง
ดังนั้นทุกคนจึงคิดว่าหลินหวานไม่น่าจะมัวโบ้ยคนอื่น แต่จะรีบข้ามไปพูดให้
กำลังใจแทน
ดูจากสถานการณ์ของเกมในตอนนี้แล้ว ทุกคนคิดว่าตัวเองน่าจะต้องอยู่
ทำงานล่วงเวลาเพื่อหาทางกอบกู้สถานการณ์
ถ้าเจ้านายเก่าอย่างตู้รุ่ยเจี๋ยกับหัวหน้าหลิวที่เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนคนเก่า
ยังอยู่ พวกเขาน่าจะสั่งให้ทุกคนทำงานหนักด้วยระบบ 996 เพื่อแก้ไขตัวเกมให้ได้
เร็วที่สุด
แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ค่าล่วงเวลาเพิ่ม เพราะบริษัทส่อแววจะเจ๊งอยู่ รอมร่อ
จะยอมถวายตัวเพื่อบริษัทไหมไม่สำคัญ แต่จะมาขอค่าล่วงเวลาคงเป็นไปไม่ได้
แน่ๆ
พนักงานเก่าถอนหายใจกันเงียบๆ
ตั้งแต่บอสเผยซื้อต่อกิจการบริษัทนี้มาก็ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง
ภายในเลย ถ้ากิจการบริษัทไปได้ไม่ดี พวกเขาก็ต้องกลับไปยืนอยู่ในจุดเดิมอีก
ทุกคนรู้สึกหดหู่มากขณะเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมกับการทำงานล่วงเวลา
แต่หลินหวานกลับไม่ได้พูดในสิ่งที่ทุกคนคิด “นี่ไม่ใช่ความผิดของพวกคุณเลย
นะคะ อย่าโทษตัวเองเลย”
ทุกคนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
ผู้อำนวยการหลินไม่พยายามโบ้ยคนอื่นเหรอ
ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่เกมไปได้ไม่สวย ยังไงก็ต้องมีคนรับผิดชอบ ต้องมีสักคน
ตัดสินใจว่าจะทำยังไงต่อ
พวกเขาเงยหน้าขึ้นตั้งใจฟัง
หลินหวานพูดต่อ “ทุกคนลองคิดดูนะคะ บอสเผยไม่เคยทำเกมเล่นบนเว็บมา
ก่อน บอสเชี่ยวชาญเรื่องการทำเกมแสตนด์อโลนคุณภาพสูง แต่ทำไมบอสถึงซื้อ
ต่อกิจการฉางหยางเกมส์ทั้งๆ ที่อยู่ในสภาพขาดทุนล่ะ แถมยังยืนกรานให้พัฒนา
เกมเพลงรบโลหิตที่มีระบบเก็บเงินผู้เล่นต่อด้วย
“บอสพยายามลองอะไรเสี่ยงๆ กับเกมเพลงรบโลหิต บอสกำลังทดสอบเรื่อง
ที่ไม่มีใครเคยคิดจะทำอยู่ค่ะ!
“บอสเผยอยากให้เกมเมอร์ทุกคนเลิกเป็นทาสของเงิน บอสพยายามเปลี่ยน
รสนิยมของผู้เล่น เพื่อให้ผู้เล่นทุกคนสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมสุดพิเศษที่
ทัดเทียมกับผู้เล่นสายวาฬแม้จะไม่ได้เติมเงิน
“ตั้งแต่กระบวนการพัฒนาเกมไปจนถึงการโฆษณา บอสเผยกำลังมุ่งหน้าไป
หาเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง
“เราควรจะเตรียมตัวเตรียมใจให้ดีว่าการกระทำที่ยิ่งใหญ่นี้อาจจะล้มเหลวได้
“หนูเชื่อว่าบอสเผยเองก็เตรียมใจไว้แล้วเหมือนกัน”
ช่วงแรกๆ ที่ย้ายมาฉางหยางเกมส์ หลินหวานเองก็ไม่เข้าใจประเด็นนี้ แต่พอ
เวลาผ่านไปเธอก็เริ่มเข้าใจ
บอสเผยจ้างจางจู่ถิงมาถ่ายโฆษณาเพื่อดึงดูดเกมเมอร์สายเกมเล่นบนเว็บ
ทำเกมเป็นแบบมินิไคลแอนต์ สร้างระบบผู้ถูกเลือก ตัดช่องทางการเก็บเงินผู้
เล่นออก ทั้งหมดก็เพื่อแก้นิสัยทุ่มเงินกับเกมเล่นบนเว็บ
ถือเป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่ มาก แต่ก็ขัดกับธรรมชาติของเกมเมอร์สายเกม
เล่นบนเว็บ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เกมจะไม่ประสบความสำเร็จ
การตายอย่างวีรบุรุษไม่ใช่เรื่องน่าอาย!
สีหน้าของหลินหวานเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น “ดังนั้นอย่าท้อใจที่เกมไม่
ประสบความสำเร็จเลยค่ะ เราเองก็ไม่ได้ทำเกมเล่นบนเว็บที่ มุ่งทำเงินอยู่แล้ว สิ่ง
ที่เราสร้างขึ้นมาเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จหรือ
ล้มเหลว พวกเราต่างก็เป็นวีรบุรุษ!”
ทุกคนรู้สึกดีขึ้นมากหลังจากได้ฟังที่หลินหวานพูด
ไม่มีหรอกผู้แพ้ มีแต่วีรบุรุษสุดองอาจ!
สมแล้วที่ผู้อำนวยการหลินทำงานร่วมกับบอสเผยมานาน เธอมองปัญหาต่าง
ออกไป
เทียบกับเจ้านายเก่าอย่างตู้รุ่ยเจี๋ยแล้ว หลินหวานดีกว่าหลายเท่า
เยว่จือโจวรู้สึกดีขึ้นมาก ความหดหู่และท้อแท้ที่รู้สึกอยู่คลายไปกว่าครึ่ง
แต่ถึงจะพอมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง เขาก็ต้องทำสิ่งที่ควรทำ
เกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดทำเงินไม่ได้ ปัญหานี้ต้องได้รับการแก้ไข
มีทางออกอยู่สองทาง ทางแรกคือเอาข้อจำกัดต่างๆ ออกให้หมดแล้วปล่อย
ให้ผู้เล่นสายวาฬได้เปย์เงินกันตามใจชอบ ทางที่สองคือหาผู้เล่นเพิ่ม ถ้ามีจำนวนผู้
เล่นมากพอและทุกคนช่วยกันซื้อยาเพิ่มพลังทุกวัน เกมนี้ก็จะทำกำไรได้
ทางออกแรกนั้นเป็นไปไม่ได้ พวกเขาทุ่มเทกันมาถึงตรงนี้ จะให้ยอมแพ้เมื่อ
เจอความล้มเหลวก็คงไม่ได้
หมายความว่าพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหาผู้เล่นเพิ่ม
บรรยากาศในห้องประชุมดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ทุกคนเริ่มพูดสิ่งที่คิด บางคน
เสนอให้เปลี่ยนรูปแบบมินิไคลแอนต์ บางส่วนคุยเรื่องการแก้โครงสร้างตัวเกม ทุก
คนดูตื่นเต้นกันมาก
หลินหวานฟังคำแนะนำทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ในที่สุดเธอก็ส่ายหน้า “ไม่ได้สักวิธีเลยค่ะ แผนปัจจุบันของเราดีที่สุดแล้ว เรา
ควรมุ่งหน้าตามนี้ต่อ”
ทุกคนหันมองหน้ากันด้วยความงุนงง
ดื้อดึงเกินไปหรือเปล่า
ถ้าอิงตามการวิเคราะห์เมื่อครู่ของผู้อำนวยการหลิน จะคิดอย่างนี้ก็คงไม่ผิด
นัก
บอสเผยเป็นคนตัดสินใจทำเกมแบบมินิไคลแอนต์ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพ
เกม การย่อขนาดมินิไคลแอนต์ลงจะทำให้เกมไม่ได้คุณภาพตามที่วางไว้ แถมยัง
ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ อาจจะช่วยอะไรไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
ซึ่งก็จริง แต่พวกเขาจะเปลี่ยนอะไรไม่ได้เลยเหรอ
จากสถานการณ์ของเกมในปัจจุบัน ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ก็ไม่มีหวังที่
จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลยน่ะสิ
หลินหวานยังคงแน่วแน่ “เราจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรค่ะ ตอนนี้ไม่ต้องกังวล
นะคะทุกคน พักผ่อนกันให้เต็มที่ เดี๋ยวเราดูสถานการณ์ไปก่อนสักสัปดาห์หนึ่ง ถ้า
ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้วสถิติยังเป็นแบบนี้อยู่ เราค่อยมาคิดหาทางกันค่ะ”
เยว่จือโจวกับหวังเสี่ยวปินหันมองหน้ากัน พวกเขารู้ว่าผู้อำนวยการหลิน
ตัดสินใจไปแล้ว
ในเมื่อเป็นแบบนี้ พวกเขาก็พูดอะไรไม่ได้อีก หลังจบการประชุม ทุกคนก็
กลับไปทำงานและอดทนรอให้ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์
ถ้าผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้วสถานการณ์ดีขึ้นก็ไม่ต้องทำอะไร
แต่ถ้าไม่ดีขึ้น...คงจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
พอกลับถึงห้องทำงาน หลินหวานก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา
ถึงเธอจะให้กำลังใจทุกคนระหว่างการประชุมและแสดงออกให้พวกเขาเห็น
ถึงความแน่วแน่ได้สำเร็จ แต่จริงๆ แล้วเธอเองก็ไม่ค่อยมั่นใจเรื่องอนาคตของเกม
สักเท่าไหร่
“เดี๋ยวต้องหาเวลาไปพบบอสเผยเพื่อขอคำแนะนำแล้ว”
...
...
วันศุกร์ที่ 3 กันยายน
เผยเชียนเปิดดูเว็บไซต์ TPDb อยู่ในห้องทำงาน
เว็บไซต์สร้างขึ้นจากเทมเพลตสำเร็จรูปที่ซื้อมา ทำให้ปล่อยเวอร์ชันแรก
ออกมาได้เร็ว
ถึงจะยังอยู่ในช่วงทดสอบ แต่ก็ถือว่าเว็บ TPDb ทำออกมาได้ดีและใช้งานได้
เกือบจะสมบูรณ์ เผยเชียนคาดว่าน่าจะพร้อมใช้งานแล้ว
เขาให้พนักงานมืออาชีพไปติดต่อขอความร่วมมือจากเว็บไซต์อื่นๆ ตอนนี้มี
บางส่วนที่ตอบตกลงมาแล้ว
ในการขอคะแนนจากสื่ออื่นๆ พวกเขาต้องติดต่อขอความร่วมมือไปยังสื่อ
ต่างๆ ส่วนคะแนนจากผู้เล่น พวกเขาใช้คะแนนจากแพลตฟอร์มทางการ ERSO
ได้ ขณะเดียวกันก็จะใส่ลิงก์เว็บ TPDb เข้าไปในหน้ารายละเอียดของเกมด้วย
เพื่อที่ผู้เล่นจะได้ให้คะแนนแต่ละเกมได้เมื่อคลิกเข้าลิงก์จากหน้ารายละเอียดเกม
การพัฒนาองค์ประกอบเหล่านี้ต้องใช้เวลา ไม่สามารถทำทุกอย่างให้เสร็จใน
วันเดียวได้
ตอนนี้เว็บ TPDb ยังมีคนเข้าใช้งานไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นพนักงานของเถิงต๋า
มีผู้เล่นจากเกมต่างๆ เข้ามาใช้งานไม่กี่คน
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะยังไม่ค่อยมีคนรู้ว่ามีเว็บไซต์นี้อยู่ และไม่ได้มีการพูดถึงใน
หมู่ชาวเน็ตมากนัก
เผยเชียนกำลังตรวจดูคะแนนเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดอยู่
เกมนี้ได้คะแนนรวมที่ 7.2 คะแนนสูงสุดและต่ำสุดมาจากผู้เล่นและชาวเน็ต
ทั่วไป โดยผู้เล่นให้คะแนนที่ 9.1 ส่วนชาวเน็ตให้คะแนนแค่ 4.3
แสดงให้เห็นว่าผู้เล่นที่เสียเงินให้เกมพอใจในตัวเกมมาก
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่กดคะแนนเพราะโฆษณาของจางจู่ถิง
คนกลุ่มนี้ยังไม่เคยลองเล่นเกม อาจจะบังเอิญไปเห็นลิงก์ เว็บ TPDb จาก
แพล็ตฟอร์มทางการ และเข้ามาถล่มรีวิวแย่ๆ โดยให้แค่หนึ่งคะแนน
คะแนนจากคนกลุ่มนี้มีน้ำหนักไม่มากนัก ตอนนี้มีคนเข้ามาให้คะแนนไม่gpvt
เท่าไหร่ ดังนั้นคะแนนในช่วงนี้จึงน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ
ตามเกณฑ์ที่วางไว้ เกมที่ได้คะแนน 6.0 ถึง 7.0 จะได้เกรด C โบนัสของโปร
เจ็กต์อยู่ที่ 1% ของเงินลงทุนทั้งหมด ถ้าเกมได้คะแนนต่ำกว่า 6.0 จะไม่ได้รับ
โบนัส
เนื่องจากเกมนี้ได้คะแนนรวมที่ 7.2 จึงจัดอยู่ในเกรด B โบนัสของโปรเจ็กต์
อยู่ที่ 5% ของเงินลงทุนทั้งหมด
ถ้าได้คะแนนมากกว่า 8.0 จะจัดอยู่ในเกรด A โบนัสที่ได้อยู่ที่ 10% ของเงิน
ลงทุนทั้งหมด และถ้าได้คะแนนมากกว่า 9.0 จะจัดอยู่ในเกรด S โบนัสที่ได้อยู่ที่
15%
เถิงต๋าลงทุนกับเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดไปประมาณแปดล้านหยวน
โบนัส 5 % เท่ากับสี่แสนหยวน เฉลี่ยแล้วแต่ละคนจะได้เงินคนละเกือบหมื่น
หยวน
เผยเชียนรูส้ ึกไม่ค่อยดีกับโบนัสแค่นี้
ทุกคนทำงานหนักเพื่อผลาญเงินแปดล้านหยวนให้ฉัน แต่ฉันกลับให้โบนัส
พวกเขาได้แค่สี่แสนหยวน ไม่เห็นจะสมน้ำสมเนื้อเลย
แต่กฎ TPDb ก็ตั้งไปแล้ว เขาไม่สามารถหาทางซิกแซกได้
“ถ้าเกมได้คะแนนมากกว่า 8.0 ฉันก็จะผลาญเงินได้อีกสี่แสนหยวน”
เผยเชียนรู้ดีว่าคงจะไปโทษพนักงานฉางหยางเกมส์ไม่ได้ที่ทำคะแนนได้น้อย
เกมนี้ทำออกมาด้วยใจ ควรจะได้คะแนนสูงกว่านี้ แต่ชาวเน็ตเกลียดโฆษณาเกม
ถึงจะไม่เคยเล่นเกม พวกเขาก็ยังรู้สึกเคืองใจจนแวะมารีวิวแย่ๆ ทำให้ได้คะแนน
น้อย
แต่เผยเชียนไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ตอนนี้เพราะยังเหลือเวลาอีกมาก
เว็บ TPDb ยังมีผู้ใช้งานไม่มาก ทำให้คะแนนยังมีความผันผวนสูง ไม่แน่
ปล่อยไปสักพัก คะแนนรีวิวเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดจากชาวเน็ตอาจจะ
เพิ่มขึ้นก็ได้
...
หลินหวานเคาะประตูห้องทำงานบอสเผยด้วยความหวั่นใจ
ถึงบอสเผยจะเห็นด้วยกับแนวคิดและแนวทางการออกแบบเกม แต่หลิน
หวานก็ไม่มั่นใจว่าสถานการณ์ในตอนนี้จะเป็นยังไง
เธออาจจะดูมั่นใจมากต่อหน้าคนที่ฉางหยางเกมส์ แต่พอมายืนอยู่หน้าห้อง
ทำงานบอสเผยก็รู้สึกใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ขึ้นมา
“เชิญ”
หลินหวานสงบสติอารมณ์ จากนั้นก็เอื้อมไปเปิดประตูแล้วเข้าไปในห้อง
เธออยากจะรายงานการตัดสินใจของตัวเองให้บอสเผยฟัง โดยหวังว่าบอสจะ
สนับสนุนการตัดสินใจนี้
แน่นอนว่าตัวเกมทำเงินได้น้อยมากตั้งแต่เปิดให้เล่น ในฐานะผู้อำนวยการ
หลินหวานเตรียมตัวโดนด่าและตอบคำถามต่างๆ ที่บอสจะถาม
แต่พอเห็นหลินหวาน บอสเผยก็ยิ้มกว้างทันที เป็นรอยยิ้มแห่งความปรีดา
จากก้นบึ้งของหัวใจ เหมือนว่ากำลังต้อนรับการมาเยือนของวีรบุรุษ!
บทที่ 254 ถึงเวลาที่ใช่ เดี๋ยวทุกอย่างก็เปลี่ยนเอง

พอเห็นท่าทางดีใจของบอสเผย หลินหวานก็ลืมไปเลยว่ามาที่นี่ทำไม
ทำไมจู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าเกมของตัวเองประสบความสำเร็จจนต้องจัดฉลองอย่าง
ยิ่งใหญ่ล่ะ
ทั้งสองไปที่ห้องรับแขก เผยเชียนผายมือให้หลินหวานนั่งลงบนโซฟา จากนั้น
ก็จัดแจงเสิร์ฟชาให้ด้วยตัวเอง
วีรบุรุษต้องได้รับการดูแลดีๆ แบบนี้!
เผยเชียนค่อนข้างพอใจกับสถานการณ์ในปัจจุบันของเกมเพลงรบโลหิต
เวอร์ชันอัปเกรด
ทุ่มเงินไปแปดล้านหยวนแล้วขาดทุนได้สำเร็จ
หลินหวานคงจะรู้สึกแย่ทีเดียวกับความล้มเหลวนี้ ถ้าทนรับแรงกดดันไม่ไหว
เดี๋ยวก็คงแจ้นกลับบ้านไปสานต่อธุรกิจครอบครัวเอง
ถือเป็นเรื่องดีทั้งคู่!
การซื้อกิจการฉางหยางเกมส์คือตัวเลือกที่ถูกต้องจริงๆ
แต่ก็น่าเสียดายที่เกมได้คะแนน TPDb ต่ำ ถ้าทำคะแนนได้เกิน 8.0 เขาจะได้
จ่ายโบนัสเพิ่มอีกสี่แสนหยวน
จะดูถูกเงินจำนวนแค่นี้ไม่ได้ ถ้าเกิดสุดท้ายเขาดันต้องผลาญเงินอีกสี่แสน
หยวนถึงจะขาดทุนขึ้นมาล่ะ
หลินหวานกับฉางหยางเกมส์ทำหน้าที่ได้ดีมาก เผยเชียนรู้สึกพอใจสุดๆ
พอเห็นบอสเผยเสิร์ฟชาให้ด้วยตัวเอง หลินหวานก็รู้สึกว่าบอสดูแลเธอดีมาก
เธอรับถ้วยชามาจิบ ในหัวลืมไปแล้วว่าทำไมถึงมาที่นี่
อ๋อ ใช่ ฉันมารายงานสถานการณ์ให้บอสเผยฟังนี่นา
หลินหวานอธิบายปัญหาที่ฉางหยางเกมส์กำลังเผชิญอยู่คร่าวๆ
“บอสเผยคะ หนูมาหาบอสเพราะปัญหาสองเรื่องค่ะ
“เรื่องแรก ชาวเน็ตโจมตีโฆษณาของจางจู่ถิงหนักมาก นอกจากโฆษณาจะ
ส่งผลเสียกับชื่อเสียงของเกมในสายตาชาวเน็ตทั่วไปแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อคุณ
จางจู่ถิงด้วยค่ะ
“เมื่อวานเขาติดต่อพนักงานของเรามาโดยตรง และขอบินมาถ่ายทำโฆษณา
ใหม่
“แถมยังเสนอให้ทางเราไม่ต้องจ่ายเงินให้ด้วยค่ะ
“หนูรู้ว่าโฆษณาตัวนี้ออกแบบมาเพื่อดึงดูผู้เล่นสายเกมเล่นบนเว็บ แต่มันก็
กระทบกับชื่อเสียงของคุณจางจู่ถิง เราให้เขาบินมาถ่ายโฆษณาใหม่ให้ดีขึ้นได้มั้ย
คะ”
ถ่ายโฆษณาใหม่เหรอ
ไม่มีทาง!
เผยเชียนส่ายหัวโดยไม่คิด “ไม่ต้องหรอก
“ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณจาง แต่การถ่ายโฆษณาใหม่ไม่ช่วยแก้ปัญหา
“โฆษณาปล่อยออกไปแล้ว ทุกคนมีภาพจำในหัวไปแล้ว เราไม่มีทางล้าง
สมองทุกคนและลบภาพจำนั้นทิ้งได้
“อีกอย่างกระแสของโฆษณาก็ทำให้คุณจางมีแฟนคลับหน้าใหม่เพิ่มขึ้น ถ้าจะ
มีคนเกลียดบ้างก็ไม่แปลก”
หลินหวานยังรู้สึกไม่ค่อยดี “แต่มีคนไปพิมพ์ล้อบนเว่ยป๋อของเขาว่า ‘ผมจ๋าจู
ถี’ เยอะเลยนะคะ คุณจางรู้สึกไม่ดีกับเรื่องนี้เท่าไหร่”
เผยเชี ยนยิ ้ ม “ทำไมตอนนี ้ ค ุ ณ จางถึ ง ไม่ ด ั ง เหมื อ นเมื ่ อ ก่ อ นล่ ะ ก็ เ พราะ
พยายามวางตัวให้ดูดีมากเกินไป ไม่รู้ว่าวัยรุ่นสมัยนี้ชอบอะไรกัน
“คุณจางยังพยายามสร้างชื่อให้ตัวเองด้วยวิธีการเดิมๆ ที่ทุกคนล้อกันไปอย่าง
นั้นก็เพราะรักเขาต่างหาก คุณจางไม่เข้าใจจุดนี้เลยรึไง”
หลินหวานดูงุนงง “หือ”
ที่บอสเผยพูดก็มีเหตุผล
แต่อีกฝ่ายไม่ชอบที่เป็นแบบนี้น่ะสิ!
เผยเชียนพูดต่อ “ลองกลับไปพูดเปลี่ยนความคิดคุณจางดูนะ ช่วยเปลี่ยน
มุมมองเขาหน่อย ผมว่าที่ชาวเน็ตล้อกันอย่างนั้นก็น่ารักดีออก
“ฟังดูเท่ดี วัยรุ่นน่าจะชอบกัน
“ถ้าคุณไม่เชื่อก็ลองไปเช็กเว่ยป๋อของจางจู่ถิงดูว่ามีแฟนคลับตามเพิ่มรึเปล่า
ผมว่าคุณจางดังขึ้นมากเลยทีเดียว”
หลินหวานหยิบมือถือออกมาดูด้วยความงุนงง “เหมือนว่า...เขาจะมีแฟนคลับ
เพิ่มขึ้นนะคะ
“หนูจะลองกลับไปคุยกับคุณจางดูอีกที...”
ถึงหลินหวานจะยังติดใจอยู่บ้างหลังจากได้ฟังเหตุผลของเผยเชียน แต่ปัญหา
แรกก็ได้รับการแก้ไขแล้ว
“เรื่องที่สองคือสถิติเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดค่ะ บอสเห็นแล้วใช่มั้ย
คะ...
“ถึงสถิติจะดูไม่ค่อยดีนัก แต่หนูก็คิดว่ายังเร็วไปถ้าจะบอกว่าเกมของเรา
ล้มเหลว หนูว่าจะดูสถิติไปก่อนสักหนึ่งสัปดาห์ ถ้าอะไรๆ ยังไม่ดีขึ้น พวกหนูจะ
พยายามหาทางแก้ค่ะ”
หือ ดูสถานการณ์หนึ่งสัปดาห์แล้วค่อยแก้เหรอ
จะไปแก้ทำไม สถานการณ์ตอนนี้กด็ แี ล้วนี่
อย่าริอ่านแก้ไขอะไรแม้แต่น้อยเชียวนะ!
สีหน้าของเผยเชียนดูจริงจังขึ้นตอนตอบออกไป “ล้มเหลวเหรอ ทำไมถึงว่า
อย่างนั้นล่ะ
“คะแนนจากผู้เล่นบนเว็บ TPDb ได้ตั้ง 9.2 ถือว่าสูงมาก!
“ผมไปเช็กดูมาสองสามกระทู้ ก็เห็นผู้เล่นเก่าบอกว่าพอใจกับเกมในตอนนี้
มากๆ
“ตอนนี้เถิงต๋าใช้ระบบประเมินชื่อเสียงเป็นตัวกำหนดความสำเร็จ เกมนี้ไม่ได้
ถือว่าล้มเหลวเลย เรียกได้ว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จด้วยซ้ำ แถมยังทำตาม
เป้าหมายทุกอย่างได้ครบถ้วนสมบูรณ์
“ถึงตอนนี้จะยังทำกำไรไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร คุณต้องมองให้ไกลกว่านี้
“ขอแค่เกมเราชื่อเสียงดี เดี๋ยวสักวันก็จะมีกำไรเอง”
หลินหวานสองจิตสองใจ “เอ่อ...
“ก็จริงค่ะ แต่...ชาวเน็ตให้คะแนนเราต่ำมาก แค่ 4.3 เองนะคะ”
เผยเชียนยกชาขึ้นจิบก่อนจะผุดยิ้ม “ก็แค่คนที่เห็นเกมผ่านๆ แล้วเข้ามารีวิว
“คนพวกนี้ไม่เคยเล่นเกมมาก่อน คะแนนที่ให้ก็อิงจากโฆษณาล้วนๆ ไม่เห็น
จะต้องไปสนใจอะไรมาก
“ที่ได้คะแนนจากชาวเน็ตแค่ 4.3 เป็นเพราะเว็บ TPDb ยังมีผู้ใช้งานไม่มาก
หลายคนยังเข้าใจเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดผิดๆ คะแนนตอนนี้เลยยังไม่
ถูกต้องนัก
“เราต้องมั่นใจว่าเกมของเราจะไม่จมหายไปไหน ในเมื่อผู้เล่นจริงยืนยันกัน
แบบนี้ เราก็ต้องสู้ต่อไป เดี๋ยวก็ถึงฝั่งฝันได้สักวันเอง!”
หลินหวานพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร
หืม บอสเผยมองเรื่องนี้ในแง่บวกมากกว่าที่ฉันคิดไว้อีก
หลินหวานรู้สึกไม่ดีกับคะแนนชาวเน็ต แต่ดูเหมือนว่าบอสเผยจะไม่ได้มอง
เป็นเรื่องใหญ่อะไร
เผยเชียนยิ้ม “ผมบอกไปหลายครั้งแล้วนะว่าให้มองไปให้ไกลกว่านี้
“เกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดคือเกมที่ทุกคนทุ่มเทแรงกายแรงใจสร้าง
มันขึ้นมา ถ้าเราทุกคนคิดว่ามันคือเกมที่ดี แล้วทำไมถึงต้องกังวลเรื่องที่ตอนนี้
กำลังขาดทุนด้วย
“อย่าร้อนใจจนเสียความเป็นตัวเอง ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรหรอก ปล่อยไว้แบบนี้
แหละ”
หลินหวานพยักหน้า บอสเผยมองทุกอย่างขาดจริงๆ!
ขนาดบอสเผยยังมองว่าไม่จำเป็นต้องแก้ไขอะไรกับตัวเกม ก็แสดงว่าไม่มี
อะไรที่ต้องแก้
แต่...ให้นั่งรออยู่เฉยๆ แบบนี้จะดีจริงๆ เหรอ
เราควรทำอะไรที่พอจะทำได้หรือเปล่า
หลินหวานคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกไป “เดี๋ยวหนูให้ทีมปรับแก้อะไร
เล็กน้อยๆ ให้ดีขึ้นก่อน เราจะคงตัวเกมไว้แบบนี้ แค่แก้บั๊กต่างๆ เฉยๆ ค่ะ”
เผยเชียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “อืม ดีเลย”
ขอแค่ไม่ปรับแก้อะไรใหญ่โตและคงทุกอย่างไว้แบบนี้ ฉันก็โอเคหมด
“แล้ว... บอสเผยมองว่าเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดควรจะเกิดการ
เปลี่ยนแปลงตอนไหนเหรอคะ” หลินหวานถาม
สถานการณ์จะเปลี่ยนไปตอนไหนน่ะเหรอ
คำถามยากจัง ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
ถ้ า ให้ ฉ ั น เป็ น คนตั ด สิ น ใจก็ ค งเลื อ กให้ เ ป็ น แบบนี ้ ต ่ อ ไปเรื ่ อ ยๆ ไม่ ม ี วั น
เปลี่ยนแปลง...
แต่พอเห็นสายตาคาดหวังของหลินหวาน เผยเชียนก็ได้แต่พูดให้กำลังใจเธอ
ไป
“ขึ้นอยู่กับโชคชะตา พอถึงเวลาที่ใช่ เดี๋ยวทุกอย่างก็เปลี่ยนเอง”
...
...
หลังจากให้หลินหวานกลับไป เผยเชียนก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
ทุกอย่างเกือบจะสมบูรณ์แล้ว!
ความล้มเหลวของครัวส่ วนตัวหมิงหยุนเมื่อไม่นานมานี้ทำให้เขาเป็นกังวล
หนัก ตอนนี้พอได้ฟังข่าวดีจากฉางหยางเกมส์ เผยเชียนก็โล่งใจได้สักที
หลินหวานจะเป็นคนไปเกลี้ยกล่อมจางจู่ถิง ยังไงซะพวกเขาก็จ่ายค่าจ้างไป
แล้วและดูแลจางจู่ถิงเป็นอย่างดี แถมยังทำให้มีชื่อเสียงมากขึ้นอีก จะมาโอดโอย
ว่าเผยเชียนดูแลไม่ดีก็คงไม่ได้
จางจู่ถิงโดนด่าแค่นิดหน่อยเองนี่ ไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร
ถ้าไม่สบายใจขนาดนั้น ครั้งหน้าเขาไปหาดาราฮ่องกงคนอื่นมาถ่ายโฆษณา
แทนก็ได้ เดี๋ยวจะเอาให้ดังกว่า ‘ผมจ๋าจูถี’ เลย
อย่างมากเขาก็อาจชวนจางจู่ถิงมาจิงโจวเพื่อเลี้ยงอาหารดีๆ สักมื้อ
แต่เผยเชียนก็รู้สึกหดหู่ใจขึ้นมาพอคิดว่า ต่อไปนี้ถ้าจะไปกินที่ครัวส่วนตัวหมิง
หยุนเขาต้องจองก่อนล่วงหน้า จะไปตอนไหนก็ได้ตามใจชอบไม่ได้อีก
“เออ ใช่ ต้องโทรหาหลินชั่นหรง!”
เผยเชียนนึกปัญหาร้ายแรงออก
สถานการณ์ที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนเคยดีกว่านี้ แม้จะมีคนจองร้านบ้าง แต่ก็ยัง
มีที่ว่างเหลือเฟือ
ถึงครัวส่วนตัวหมิงหยุนจะโดนจองเต็มจนถึงสัปดาห์หน้า แต่เผยเชียนก็ยัง
จองคิวหลังจากนั้นได้อยู่
เผยเชียนโทรหาหลินชั่นหรงเพื่อจองร้าน
ก่อนหน้านี้เขาจองร้านไว้แค่ทุกวันที่ยี่สิบของเดือนคี่ กับจองห้องส่วนตัวใหญ่
สุดไว้ทุกวันอาทิตย์ที่หนึ่งและสามของเดือน
ตอนนี้เขาจะจองเหมาร้านทุกวันที่ยี่สิบของทุกเดือน และจองห้องส่วนตัว
ใหญ่สุดไว้ทุกวันอาทิตย์ที่หนึ่งและสามกับทุกวันเสาร์ที่สองและสี่ของแต่ละเดือน
พูดง่ายๆ คือเขาจองร้านเพิ่มจากเดิมเป็นเท่าตัว
เผยเชียนอยากจะจองไว้มากกว่านี้ แต่เขาก็ต้องมีเหตุผลที่เหมาะสมสำหรับ
การจัดงานกินเลี้ยงแต่ละครั้ง
เต็มที่ที่เขาทำได้คือจองห้องส่วนตัวไว้สัปดาห์ละครั้งและจองเหมาะร้านเดือน
ละครั้ง
พอจัดการเรื่องจองร้านเสร็จ เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาจะพาอาจารย์เฉียวไปเลี้ยงข้าววันเสาร์ที่จะถึงนี้เพื่อปลอบใจอีกฝ่าย
ส่วนวันที่ 20 ของเดือนจะพาพนักงานฉางหยางเกมส์ไปกินเลี้ยงเพื่อตอบ
แทนที่ทุกคนทุ่มเทกันอย่างหนัก
ตอนนี้พอไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องฉางหยางเกมส์แล้ว เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้น เผย
เชียนหยิบจอยขึ้นมา เตรียมพร้อมกับการระทมทุกข์ในเกมกลับใจคือฟากฝั่ง
ตอนนั้นเองหน้าจอมือถือของเขาก็สว่างวาบขึ้น หลินฉางเป็นคนส่งข้อความ
มา
“บอสเผยคือเจ้าของช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์ใช่มั้ยครับ”
เผยเชียนอึ้งไป
โห ทำไมรู้เรื่องนี้เร็วจัง
ไม่คิดเลยว่าหลินฉางที่ยุ่ งขนาดนั้นจะมาสนใจช่องเล็กๆ อย่างช่องรีวิวสาย
ฮาร์ดคอร์
เผยเชียนกะจะบอกหลินฉางตอนถ่ายคลิปครบหมดทั้งยี่สิบตอนแล้ว เขาไม่
คิดว่าหลินฉางจะมาเจอเข้าเร็วขนาดนี้
ตั้งแต่เริ่มลงคลิปภายใต้ช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์เมื่อเดือนก่อน ตอนนี้เขาลง
คลิปไปทั้งหมดสิบเอ็ดตอน มาได้ครึ่งทางจากที่กำหนดไว้แล้ว
ตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะถ่ายคลิปขำๆ ไปให้ครบยี่สิบตอน หลังจากนั้นจะได้
เอาเงินสองแสนหยวนไปใช้ได้อย่างสบายใจ
แต่ผลลัพธ์กลับดีกว่าที่คิดเอาไว้มาก ช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์มีผู้ติดตามเยอะ
ทีเดียว ตอนนี้มียอดรวมกว่าหกแสนคนแล้ว
คลิปรีวิวโทรศัพท์มือถือสามคลิปแรกดังมาก สาวกมือถือทั้งสามรุ่นมาถกเถียง
ในช่องคอมเมนต์กันยกใหญ่ จนถึงตอนนี้คลิปทั้งสามก็ยังมีกระแสอยู่
แน่นอนว่าช่องที่มีผู้ติดตามหกแสนคนถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ของเว็บอ้ายลี่
เต่า เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงในเว็บแค่ประมาณหนึ่ง
เผยเชียนจึงไม่คิดว่าหลินฉางจะมาเจอคลิปของเขาเข้า
หรือว่าบอสหลินก็ชอบมาไถเว็บอ้ายลี่เต่าเล่นตอนที่ไม่มีอะไรทำเหมือนกัน
ถ้าคนอื่นเข้ามาดูคลิปช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์ก็คงจะไม่รู้ว่าเป็นเผยเชียน
ส่วนหนึ่งก็เพราะเผยเชียนไม่ได้เปิดเผยหน้าตา แถมยังปรับเสียงเพิ่มอีกนิด
หน่อย อีกส่วนเป็นเพราะคงไม่มีใครคิดว่าบอสเผยจะมาถ่ายคลิปเล่นแบบนี้
แต่หลินฉางนั้นต่างออกไป
เขาเป็นคนให้ทุนสร้างคลิปพวกนี้และรู้ว่าบอสเผยกำลังทดลองเรื่องทำนองนี้
อยู่ เมื่อดูจากรูปร่างและน้ำเสียงของคนในคลิป ก็คงจะพอเดาได้ว่าเป็นเผยเชียน
เผยเชียนไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องนี้ จุดประสงค์ของการทำคลิปนี้ก็เพื่อให้
หลินฉางเห็น ดังนั้นเขาจึงยืนยันไปทันที
“ผมเองครับ”
บทที่ 255 เปลี่ยนเกมเล่นบนเว็บเป็นเกมมือถือ!

หลินฉางตอบกลับอย่างรวดเร็ว “สุดยอดไปเลยครับบอสเผย! ตอนนั้นผมคิด


ว่าบอสจะเอาเงินไปทดลองอะไรเล่นๆ ไม่คิดว่าจะทำช่องเกี่ยวกับดิจิทัลที่มียอด
ผู้ติดตามกว่าหกแสนคนได้ภายในสองเดือนด้วยตัวคนเดียว!
“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ได้เชี่ยวชาญแค่เรื่องเกมนะครับ เรื่องมีเดียเองก็เก่งกาจ
ไม่แพ้กัน”
เผยเชียนแอบขำในใจ
ตอนแรกเขาก็ตั้งใจจะเอาเงินก้อนนี้ไปผลาญเล่นนั่นแหละ ไม่ได้คิดเหมือนกัน
ว่าช่องจะเติบโตเร็วขนาดนี้
เผยเชียนไม่ได้ตอบอะไร แต่ข้อความถัดไปของหลินฉางก็ปรากฏขึ้นมาทันที
หลินฉาง “แล้วก็ พี่สาวผมฝากมาขอบคุณคุณด้วยครับ”
เผยเชียน “?”
เขานึกทบทวนข้อมูลที่เคยอ่านก่อนหน้านี้ด้วยความเร็วแสง หลินฉางมีพี่สาว
ชื่อหลินหยู ตอนนี้เธอคุมธุรกิจมือถือของเฉินฮว่าคอร์เปอเรชัน
เธอเองก็เป็นเจ้าของบริษัทเหมือนกัน
เผยเชียนงง หลินหยูดูแลกิจการด้านมือถือ เรียกได้ว่าเป็นส่วนสำคัญของกลุ่ม
ธุรกิจหลัก แล้วเขาไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอได้ยังไง
หลินฉาง “บอสเผยจำสามคลิปแรกของช่องคุณได้มั้ยครับ
“เฉินฮว่าใช้วัสดุที่แข็งแรงผลิตมือถือมาตลอด แต่พวกเกรียนกับหน้าม้ามักจะ
ทำให้มือถือของเฉินฮว่าดูแย่
“ถึงจะมีหลายช่องที่รีวิวมือถือของเฉินฮว่า แต่ผลที่ออกมาก็มักจะอยู่ใน
ระดับกลางๆ คนที่ชอบอยู่แล้วก็ตามต่อ ส่วนคนที่เกลียดมายังไงก็เกลียดอยู่อย่าง
นั้น พวกคนที่มีอคติกับมือถือของเฉินฮว่าชอบคิดว่าเฉินฮว่าเป็นคนจ้างให้ช่อง
ต่างๆ ออกมารีวิวดีๆ แบบนี้
“แต่ช่องรีวิวสายฮาร์ดคอร์ของบอสเผยต่างออกไป การทดสอบแบบรุนแรง
ของคุณทำให้เห็นว่ามือถือของเฉินฮว่าแข็งแรงแค่ไหน มันไม่ได้ด้อยไปกว่ามือถือ
ของต่างประเทศเลย!
“ถึงคุณจะทุบมือถือเฉินฮว่าทิ้ง แต่ก็ทำให้เกิดกระแสในแง่บวก ผมไปเจอ
คลิปที่แชร์มาในช่องทางออฟฟิเชียลของเฉินฮว่า ดูไปดูมาก็คิดว่าคนในคลิปดูคุ้นๆ
แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าน่าจะเป็นบอสเผย
“ผมเอาเรื่องนี้ไปบอกพี่สาว พี่สาวผมดีใจมาก เลยฝากมาขอบคุณที่ทำคลิ ปนี้
ออกมา”
เผยเชียน “...”
เรื่องเป็นแบบนี้นี่เอง
ไม่คิดเลยว่าแค่มาทุบมือถือเล่นๆ จะทำให้เกิดผลกระทบซับซ้อนอะไรแบบนี้
ขึ้นได้
“เอาเข้าจริงก็เป็นเพราะเฉินฮว่าผลิตมือถือออกมาดีแหละครับ ผมไม่ได้คิด
อะไรมากเลยตอนทุบเครื่อง”
เผยเชียนตอบ “ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ ยั งไงคนให้ทุนทำช่องรีวิวสาย
ฮาร์ดคอร์ก็คือบอสหลิน”
เขาพอจะเดาได้ว่าหลินหยูน่าจะให้อะไรเป็นการตอบแทน แต่ก็ไม่คิดจะรับไว้
ส่วนหนึ่งก็เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรเลย ให้รับเงินมาเฉยๆ คงจะรู้สึกไม่ดี
อีกอย่างถ้าครั้งนี้เขาทำให้บริษัทขาดทุนได้ เงินแค่หลักหมื่นก็ถือเป็นจำนวน
เล็กน้อยสำหรับเผยเชียน
ยังไงเขาก็มีระบบติดตัวอยู่ จึงไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือเรื่องการเงิน
จากคนอื่น
เผยเชียนเป็นคนมีศักดิ์ศรี
หลินฉาง “ถ่อมตัวเกินไปแล้วครับ จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ยังไงบอสเผยก็ช่วย
เราได้มาก พวกเราต้องตอบแทน
“พี่สาวผมวางแผนไว้ว่า ถ้าเฉินฮว่าปล่อยสินค้าใหม่มา จะส่งให้บอสเผย
เครื่องหนึ่งทันที
“ไม่สิ ส่งให้สองเลย เครื่องหนึ่งไว้ใช้ อีกเครื่องไว้ทุบ
“แล้วก็มีเงินตอบแทนให้อีกหนึ่งแสนหยวน เดี๋ยวผมโอนเข้าบัญชีที่โอนไป
รอบก่อนนะครับ
“แถมบอสเผยก็ช่วยดูแลน้องหวานมาตลอดด้วย”
เป็นไปตามที่เขาคิดไว้จริงๆ
พอได้ยินคำว่าหนึ่งแสนหยวน ใจของเขาก็สั่นไหว แต่เผยเชียนก็รีบตั้งสติทันที
เขาจะรับเงินมาก็ได้ แต่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น
เผยเชียนตอบกลับ “บอสหลินใจดีเกินไปแล้วครับ หลินหวานเองก็ต้อง
ทำงานหนัก ผมไม่ได้ดูแลเธอเป็นพิเศษเลย ทุกอย่างที่ สำเร็จได้เป็นผลมาจาก
ความทุ่มเทของเธอเอง
“คุณเอาเงินก้อนนี้ไปให้หลินหวานดีกว่าครับ เพราะเธอทุ่มเทกับงานและช่วย
ผมได้มากทีเดียว”
เผยเชียนพยายามหาทางโยนเงินหนึ่งแสนหยวนที่หลินหยูเตรียมไว้ให้เขาไป
ให้หลินหวาน
หลินหวานทำผลงานออกมาได้ดีจริงๆ เธอทำให้เขาขาดทุนได้แปดล้านหยวน
เงินหนึ่งแสนหยวนก้อนนี้ควรจะให้กับคนในตระกูลหลินด้วยกัน
หลังจากนั้นสักพัก หลินฉางก็ตอบกลับมา “บอสเผยรู้ว่าพี่สาวผมกับน้อง
หวานไม่ค่อยลงรอยกัน เลยตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ช่วยให้ทั้งสองคืนดีกันใช่มั้ยครับ”
เผยเชียน “?”
อะไรเนี่ย คิดเยอะเกินไปแล้ว! ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรแบบนั้น!
หลินฉางคิดเองเออเองต่อ “บอสเผยคิดถึงใจคนอื่นมากๆ เลยครับ
“ผมใช้โอกาสนี้ช่วยให้พี่สาวน้องสาวคืนดีกันได้
“ถ้าอย่างนั้นผมจะไม่ปฏิเสธความตั้งใจดีของคุณ เราเป็นหนี้บุญคุณคุณ ถ้า
บอสเผยมีอะไรให้ช่วยในอนาคต บอกพวกเราได้เลยนะครับ”
เผยเชียน “...ได้ครับ”
ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็รู้สึกว่าตัวเองเข้าไปมีเอี่ยวกับเรื่อง
ที่เก็บซ่อนไว้เสียแล้ว
แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เรื่องของตระกูลหลิน คนในตระกูลก็ต้องจัดการ
กันเอง
เผยเชียนสนใจแค่เรื่องทำให้ตัวเองขาดทุนเท่านั้น
หลินฉางกับเผยเชียนคุยกันต่ออีกเล็กน้อยก่อนจะจบบทสนทนาไป
เผยเชียนนึกถึงเรื่องที่หลินฉางบอกมา เขารู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ แต่ก็
บอกไม่ได้ชัดเจนว่าคืออะไร
“หลินหยูกับหลินหวานไม่ลงรอยกันเหรอ แต่หลินหวานก็ดูจะสนิทกับพี่ชาย
อีกสองคนดี แสดงว่าหลินหยูน่าจะนิสัยคล้ายๆ พ่อของพวกเขา
“หลินหยูน่าจะอยากให้หลินหวานเลิกสานฝันในอุตสาหกรรมเกมแล้วกลับไป
ทำธุรกิจของที่บ้าน
“ก็หมายความว่า...หลินหยูกับฉันเป็นพวกเดียวกัน ในอนาคตอาจจะได้
ร่วมมือกันก็ได้
“อืม ถือว่ารอบนี้ได้ช่วยโดยที่ไม่ต้องทำอะไรมาก”
เผยเชียนไม่ได้คิดอะไรต่อให้มากความ เขากลับไปทนทรมานกับเกมกลับใจ
คือฟากฝั่งต่อ
...
...
ฉางหยางเกมส์
หลินหวานกำลังอ่านกระทู้ในเว็บบอร์ดหนึ่ง
ผู้เล่นเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดคิดเห็นต่างกัน ฝั่งหนึ่งอวยกันไม่ลืมหู
ลืมตา อีกฝั่งก็ด่ากันหูดับตับไหม้ มีบางส่วนเสนอให้ปรับแก้นู่นนี่นั่นเพิ่มเติม
แต่ผู้เล่นเก่าส่วนใหญ่ก็ดูจะสนับสนุนเกมใหม่กันสุดๆ
มีผู้เล่นหลายคนเสนอไอเดียต่างๆ แต่ถึงจะนั่งอ่านไปครึ่ งวัน หลินหวานก็ไม่
เจออะไรดีๆ ที่น่าจะใช้การได้
เธอถอนหายใจเบาๆ
ถึงผู้เล่นจะแนะนำอะไรเข้ามาหลายอย่าง แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถทำได้จริง
แทนที่จะเสียเวลากับคำแนะนำที่ใช้การไม่ได้เหล่านี้ สู้เอาเวลาไปคิดเรื่องที่
บอสเผยบอกมาจะดีกว่า เธออยากเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของบอส
“บอสเผยบอกว่าพอถึงเวลาที่ใช่ เดี๋ยวทุกอย่างก็เปลี่ยนเอง
“แล้วเวลาที่ใช่ของเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดคือเมื่อไหร่ล่ะ
“เวลาที่ใช่คือตอนไหน
“แล้วถ้าเวลานั้นไม่มาล่ะ ฉันจะต้องทำยังไง จะปล่อยให้เกมขาดทุนแบบนี้ไป
เรื่อยๆ ได้เหรอ”
หลินหวานปวดหัวจากความคิดมากมายที่ตีกันอยู่ภายใน
ถึงบอสเผยจะชี้ทางให้ แต่เส้นทางนั้นกลับดูไม่ชัดเจน เธอไม่รู้ว่าควรจะเริ่มทำ
อะไรดี
ในฐานะผู้อำนวยการ เธอรู้สึกได้ถึงภาระอันใหญ่หลวงที่แบกอยู่บนบ่า
ระหว่างที่กำลังเคร่งเครียดอยู่ มือถือของเธอก็ดังขึ้น
หลินฉางเป็นคนโทรมา
“อ้าว พี่ มีอะไรเหรอ”
หลินหวานหงุดหงิดเล็กน้อยที่โดนขัดจังหวะตอนกำลังใช้ความคิด
หลินฉางยิ้ม “ไม่มีอะไร พี่สาวเราตั้งใจจะให้เงินบอสเผยหนึ่งแสนหยวนเป็น
การขอบคุณ แต่บอสเผยบอกให้โอนมาให้เธอแทน ยังใช้บัญชีเดิมใช่มั้ย เดี๋ยวโอน
ให้เลยตอนนี้”
หลินหวานขมวดคิว้ แล้วบอกปฏิเสธไปทันที “ไม่เอา!
“หนูหาเงินใช้จ่ายเองได้ ไม่ต้องการเงินพี่หลินหยูหรอก
“พี่บอกว่าเงินก้อนนี้จะให้บอสเผยเป็นการขอบคุณนี่ แล้วทำไมต้องโอนให้
หนูด้วย”
หลินฉางรีบอธิบาย “บอสเผยมองว่าเธอตั้งใจทำงานเป็นอย่างดีและช่วย
บริษัทได้มาก ก็เลยบอกให้โอนเงินมาให้เธอแทน อย่าปฏิเสธน้ำใจบอสเผยสิ
“อีกอย่างจะปล่อยให้พี่หลินหยูกับเธอทำสงครามเย็นกันต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้
ก็ไม่ได้ บอสเผยให้ฉันโอนเงินมาให้เธอก็เพราะอยากให้พวกเธอคืนดีกันนี่แหละ”
หลินหวานไม่พอใจหนักขึ้น “พี่คิดเยอะเกินไปแล้ว บอสเผยแค่ไม่ได้สนใจเงิน
แสนหยวนนี่ พี่หลินหยูนี่เกินไปจริงๆ ขนาดจะขอบคุณคนอื่นยังใช้วิธีนี้
“เอาเป็นว่าหนูไม่ได้ขาดแคลนเงิน พี่เก็บไว้เถอะ”
หลินฉางอึ้งไป “ถ้าไม่อยากได้เงินก็เอาไปทำอย่างอื่นก็ได้ ฉันเพิ่งไปกินข้าว
กับพี่สาวเรามาเมื่อไม่กี่วันก่อน รู้สึกได้เลยว่าพี่หลินหยูเป็นห่วงเธอ เลิกดื้อได้
แล้ว”
หลินหวานเงียบไปครู่หนึ่ง “หนูรู้ แต่หนูไม่ได้ต้องการอะไร ที่นี่ดูแลหนูดีมาก
แค่เงินเดือนกับโบนัสก็พอใช้จ่ายได้เหลือเฟือแล้ว ขอบคุณค่ะ ฝากขอบคุณพี่
หลินหยูด้วย”
“ใจเย็นๆ” หลินฉางคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับไป “เธอทำงานที่บริษัท
เกมนี่ ถ้าจำไม่ผิด เหมือนธุรกิจมือถือของพี่หลินหยูจะยกเครื่องร้านค้าแอปพลิเค
ชันของตัวเองใหม่ มีเกมไหนของเถิงต๋าที่อยากจะเอาลงร้านแอปนี้มั้ย จะได้เอา
ขึ้นหน้าแนะนำเพื่อขอบคุณบอสเผย”
หลินหวานส่ายหน้า “ไม่มีคะ่ เกมมือถือของเรามีแค่เกมแม่ทำผี ฐานผู้เล่นก็มี
เยอะแล้ว ไม่น่าจะช่วยโปรโมตให้ดังไปกว่านี้ได้หรอก”
หลินฉาง “ไม่จำเป็นต้องเป็นเกมมือถือนี่ เธอทำเกมอื่นๆ ให้เป็นเวอร์ชันมือ
ถือก็ได้ ยังไงเราก็มีหน้าแนะนำเป็นของตัวเอง ถ้าไม่ใช้ก็น่าเสียดาย
“เห็นว่าช่วงนี้เกมมือถือกำลังมาแรง มือถือเฉินฮว่าคนใช้เยอะพอสมควร
หน้าแนะนำในร้านน่าจะช่วยอะไรได้เยอะเลยแหละ”
หืม
ทำเกมอื่นให้เป็นเวอร์ชันมือถือเหรอ
ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัวของหลินหวาน เธอเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้
บอสเผยบอกไว้ว่ายังไงนะ
ถ้าถึงเวลาที่ใช่ เกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดก็จะดังได้เอง
บอสนี่พูดถูกสุดๆ
ที่สถิติเกมแย่ขนาดนี้ก็เพราะมินิไคลแอนต์ยังไม่เป็นที่นิยม
ในอุตสาหกรรมเกมตอนนี้ แม้แต่เกมเล่นบนเว็บก็เริ่มเสื่อมความนิยมลง การ
จะนำเสนอเกมเล่นบนเว็บรูปแบบใหม่ที่แตกต่างจากปัจจุบันเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้
แต่กระแสเกมมือถือกำลังมาและตอนนี้ก็เฟื่องฟูมาก!
เวลาที่ใช่คืออะไร
ก็คือเวลาของเกมมือถือยังไงล่ะ!
เกมเมอร์สายเกมเล่นบนเว็บทำใจยอมรับมินิไคลแอนต์ขนาด 370 เมกะไบต์
ของเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดไม่ได้ แต่ถ้าเป็นเกมเมอร์สายเกมมือถือล่ะ
พวกเขาน่าจะไม่ติดปัญหานี้!
เกมมือถือก็มีขนาดประมาณ 200 ถึง 300 เมกะไบต์อยู่แล้ว พวกเขาไม่เห็น
จะไม่พอใจอะไร แถมยังชอบกันซะด้วยซ้ำ
การปรั บ เกมเพลงรบโลหิ ต เวอร์ ช ั น อั ป เกรดไปเป็ น เกมมื อ ถื อ น่ า จะช่ ว ย
แก้ปัญหาเรื่องมินิไคลแอนต์ได้
หลินหวานตื่นเต้นขึ้นมาทันทีจึงรีบตอบออกไป “ขอบคุณมากค่ะพี่ หนูเข้าใจ
แล้วว่าที่บอสเผยพูดหมายความว่ายังไง”
หลินฉาง “หือ”
“จองหน้าแนะนำกับพี่หลินหยูไว้ให้หนูหน่อย! เดี๋ยวหนูไปถามก่อนว่าต้องใช้
เวลาเท่าไหร่ถึงจะทำเกมเวอร์ชันมือถือออกมาได้!”
หลินหวานวางสายแล้วไปประชุมกับทุกคนอย่างรวดเร็ว
...
...
ห้องประชุมฉางหยางเกมส์
พอทุกคนมาถึง หลินหวานก็เข้ าเรื่องเลยทันที “ถ้าเปลี่ยนเกมไปเป็นเกมมือ
ถือต้องใช้เวลาเท่าไหร่เหรอคะ”
ทุกคนงงกันหมด ไม่รู้ว่าจะต้องตอบกลับไปยังไงดี
เปลี่ยนเป็นเกมมือถือเหรอ
ทำไมต้องเปลี่ยนเป็นเกมมือถือด้วยล่ะ
ไม่มีใครในบริษัทมีประสบการณ์ในการค้นคว้าและพัฒนาเกมมือถือมาก่อน...
ทุกคนหันมองหน้ากันด้วยความสับสน ต่างไม่เข้าใจว่าทำไมหลินหวานถึงถาม
แบบนี้
สุดท้ายหวังเสี่ยวปินก็พูดขึ้น
“ถ้าจะเปลี่ยนเป็นเกมมือถือ...ก็ไม่ยากมากครับ
“จริงๆ แล้วในอุตสาหกรรมของเรามีเกมเล่นบนเว็บที่ปรับไปเป็นเกมมือถือ
อยู่บ้าง เกมเล่นบนเว็บไม่ได้ใช้ทรัพยากรเครื่องสูง ส่วนเกมมือถือเองก็เหมือนกัน
เราสามารถพอร์ตไปเป็นเกมมือถือได้ไม่ยาก
“อีกอย่างตัวมินิไคลแอนต์ของเรามีขนาด 370 เมกะไบต์ อยู่ในเกณฑ์ที่
เหมาะสมสำหรับเกมมือถือ เราไม่ต้องบีบย่อทรัพยากรอะไร พอร์ตไปได้ง่ายๆ
เลย
“ปัญหาเดียวคือระบบที่ต่างกันระหว่างเกมเล่นบนเว็บกับเกมมือถือ เกมเล่น
บนเว็บจะใช้เมาส์กับคีย์บอร์ดในการเล่น แต่เกมมือถือจะเป็นระบบทัชสกรีน เรา
ต้องปรับระบบการเล่นกับหน้าจอผู้ใช้งาน
“นอกจากนั้นพวกเราไม่มีใครมีประสบการณ์ทำเกมมือถือมาก่อน ถ้ าจะ
เปลี่ยนเกมไปเป็นเกมมือถือ เราต้องลองเล่นเกมมือถือดังๆ เพื่อเรียนรู้ก่อน
“เรื่องต้องใช้เวลาเท่าไหร่... ผมคิดว่าถ้าทุกคนทุ่มเทกันเต็มที่ น่าจะเสร็จได้
เร็วที่สุดภายในสองสัปดาห์ ถ้าช้าหน่อยก็ประมาณหนึ่งเดือน”
หลินหวานพยักหน้า เธอพอใจกับคำตอบมาก
น่าจะทัน!
หลินหวานกระแอมกระไอ “ทุกคนคะ หนูมีไอเดีย
“หนูไปคุยกับบอสเผยมา บอสบอกว่าเกมของเราตอนนี้ดีแล้ว ไม่ต้องปรับแก้
อะไร แค่ต้องรอให้ถึงเวลาที่ใช่เท่านั้น
“แล้วเวลาที่ใช่คือตอนไหนล่ะ เกมเล่นบนเว็บอยู่ในช่วงขาลง ส่วนเกมมือถือ
กำลังมา นี่แหละคือเวลาที่ใช่!
“บอสเผยพยายามบอกใบ้ให้เราคอยตามกระแส ถ้าเราตามกระแสเกมมือถือ
ที่กำลังมาได้ทัน เกมเราก็จะดังไปด้วยใช่มั้ยล่ะคะ
“แถมเรายังทำเกมออกมาเป็นสองเวอร์ชันได้ด้วย
“พอทำเกมเวอร์ชันมือถือเสร็จ ผู้เล่นก็จะเล่นเกมบนมือถือหรือบนเว็บก็ได้ถา้
โหลดตัวมินิไคลแอนต์มา ถ้าจับผู้เล่นได้ทั้งสองแพลตฟอร์มก็จะเป็นประโยชน์กับ
เรามาก!”
ทุกคนเริ่มเข้าใจมากขึ้นระหว่างที่หลินหวานอธิบายถึงอนาคตอันสดใส
ฟังดูเข้าท่าเลย!
ไม่มีใครคิดถึงแนวทางนี้มาก่อนเพราะมัวแต่จำกัดตัวเองอยู่กับสิ่งที่คุ้นเคย
ทุกคนทำเกมเล่นบนเว็บมาตั้งแต่แรก จึงไม่มีใครคิดจะเปลี่ยนเกมเล่นบนเว็บ
ไปเป็นเกมมือถือ
เกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดเป็นเกมคุณภาพยอดเยี่ยม ติดปัญหาเดียว
คือเกมเมอร์สายเกมเล่นบนเว็บไม่ยอมดาวน์โหลดตัวมินิไคลแอนต์
ถ้าอย่างนั้นก็เลิกสนใจเกมเมอร์สายเกมเล่นบนเว็บแล้วไปจับเกมเมอร์สาย
เกมมือถือแทนสิ!
พวกเขาไม่ได้ประโยชน์อะไรในสนามเกมเล่นบนเว็บ แต่ถ้าลงสนามเกมมือถือ
ก็น่าจะได้ประโยชน์มากทีเดียว!
ถ้าเวอร์ชันมือถือดังขึ้นมา พวกเขาก็สามารถดันตัวมินิไคลแอนต์ให้เข้าถึงเกม
เมอร์สายเกมเล่นบนเว็บได้ การที่เกมสามารถเล่นได้ทั้งสองแพลตฟอร์มถือเป็นจุด
ขาย
แผนนี้เหมาะมาก!
เยว่จือโจวพยักหน้ารัว “ผมว่าเราควรลองดู! ทำเกมเวอร์ชันมือถือฟังดูเป็นไป
ได้กว่าปรับแก้ตัวมินิไคลแอนต์ น่าจะไปได้สวย”
หวังเสี่ยวปินพยักหน้า “ใช่ เหมาะมาก เราไม่เคยทำเกมมือถือมาก่อน แต่เกม
มือถือเรียบง่ายกว่าเกมเล่นบนเว็บมาก ขอแค่ค้นคว้าสักหน่อย ก็น่าจะแปลง
ระบบเกมให้เข้ากับเกมมือถือได้ไม่ยาก”
หลินหวานดีใจมาก “งั้นเอาตามนี้นะคะ เราจะเปลี่ยนเกมเพลงรบโลหิต
เวอร์ชันอัปเกรดจากเกมเล่นบนเว็บไปเป็นเกมมือถือกัน!”
บทที่ 256 ทฤษฎีสัมพัทธภาพของบอสเผย

วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขามหาวิทยาลัยฮั่นตง
เฉียวเหลียงมองบอสเผยพร้อมกับยิ้มแห้ง เขารู้สึกลังเลใจอยู่เล็กน้อยว่าควร
จะบอกออกไปดีไหม
เผยเชียนยิ้ม “บอกมาตรงๆ เลยครับ ผมเป็นนักออกแบบเกมที่ช อบฟั ง
ความเห็นคนอื่น”
ริมฝีปากของเฉียวเหลียงกระตุกขณะคิดในใจ อืม ไม่เถียงเรื่องนี้หรอก
หลังจากที่ครั้งก่อนเขาได้บอกความคิดเห็นไปตรงๆ เกมก็มีการอัปเดตอย่าง
รวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์มาจากสิ่งที่เขาบอกไป
แต่ปัญหาเดียวก็คือ การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดมันตรงกันข้ามกับ ที่เขาได้
แนะนำไป!
เฉียวเหลียงอยากให้เผยเชียนเสริมพลังพวกอาวุธที่ไม่ค่อยเด่น แต่เผยเชียนก
ลับไปลดความสามารถของอาวุธเด่นๆ แทน
เฉียวเหลียงอยากให้เผยเชียนลดความยากของเกมในช่วงต้น แต่เผยเชียนก
ลับไปเพิ่มความยากของช่วงกลางถึงช่วงท้ายเกมแทน
บอสเผยพูดถูก บอสเป็นนักออกแบบเกมที่ชอบฟังความเห็นของคนอื่นจริงๆ
แต่พอได้ความเห็นไปแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปรับตามที่ได้รับคำแนะนำ...
สามวันที่ผ่านมา เฉียวเหลียงต้องพบกับความทุกข์ระทม
เกมกลับใจคือฟากฝั่งที่ปรับความสมดุลตัวเกมมาใหม่ทำให้เขากลับมาเล่น
เกมอย่างยากลำบากอีกครั้ง พออาวุธที่ใช้จนชินมือไม่ได้ทรงพลังเหมือนอย่างเคย
เขาก็ต้องไปลองใช้อาวุธชิ้นอื่น
นอกจากนั้นแล้วพอปรับความยากของเกมช่วงหลังขึ้น เฉียวเหลียงก็ติดอยู่จุด
หนึ่งในเกมอยู่พักใหญ่ แม้แต่ฉากที่เขาเคยฆ่ามอนสเตอร์ได้ง่ายๆ ก็กลายเป็นยาก
ขึ้นมาก ถ้าไม่ตั้งสติให้ดีอาจจะเสียท่าเอาได้
สรุปแล้วประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีขึ้นมากกลับกลายเป็นแย่ลงไปกว่าเดิม
หลายเท่า!
แต่หลังจากไตร่ตรองดูให้ดีอีกที เฉียวเหลียงก็รู้สึกว่าจะโทษว่าเป็นความผิด
ของบอสเผยคนเดียวก็ไม่ถูกนัก เพราะครั้งก่อนเขาบอกไปไม่ละเอียดเอง
เฉียวเหลียงบอกแค่ว่าปังตอกับดาบจันทร์ เสี้ยวใช้ดีมาก ไม่ได้บอกไปให้
ชัดเจนว่าอยากให้ปรับพลังอาวุธอื่นๆ เพิ่มขึ้น
บอสเผยน่าจะเข้าใจผิด
ดังนั้นเฉียวเหลียงจึงตัดสินใจว่ารอบนี้จะบอกบอสเผยไปตรงๆ!
“บอสเผยครับ ในฐานะคนทดสอบเกม ผมควรจะให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุง
เกมให้ดีขึ้นใช่มั้ยครับ” เฉียวเหลียงถามลองเชิง
เผยเชียนยิ้มพร้อมพยักหน้า “ใช่ครับ”
“โอเคเลยครับ!”
เฉียวเหลียงพยายามคิดหาคำพูดที่เหมาะสม “ผมรู้สึกว่าตัวเกมปรับสมดุลมา
ได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่...”
“หืม ทำไมถึงว่าอย่างนั้นล่ะครับ” เผยเชียนถาม “หลังจากปรับไปรอบก่อน
สมดุลเกมก็ยังไม่ดีขึ้นเหรอครับ”
เอ๊ะ
เฉียวเหลียงไม่รู้จะตอบอะไรไปชั่วครู่
ถ้ามองเรื่องอาวุธ สมดุลตรงนี้ก็ดีขึ้นจริงๆ ก่อนหน้านี้ปังตอกับดาบจันทร์
เสี้ยวแข็งแกร่งเกินไปจนอาวุธอื่นๆ เทียบไม่ได้
ตอนนี้ปังตอกับดาบจันทร์เสี้ยวกากเท่าอาวุธอื่นๆ แล้ว ถือว่าปรับสมดุลให้
เท่ากันแล้ว
“เอ่อ สมดุลเกมดีขึ้นครับ แต่...อาวุธที่เคยใช้ดีมันแย่ลง ซึ่งมัน...” เฉียวเหลียง
รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
เผยเชียนยิ้ม “เนิร์ฟอาวุธเด่นๆ ลงถ้าเทียบกันแล้วก็เท่ากับเป็นการเสริมพลัง
ให้อาวุธอื่น คุณน่าจะรู้จักทฤษฎีสัมพัทธภาพใช่มั้ยครับ นั่นแหละที่ผมเอามาใช้”
เฉียวเหลียง “?”
อะไรคือทฤษฎีสัมพัทธภาพวะ!
เผยเชียนพูดต่อ “ตอนนี้เกมกลับใจคือฟากฝั่งมีอาวุธหลายสิบชิ้น อาวุธหลาย
ชิ้นทำออกมาได้สมดุลดีแล้ว
“ถ้าไปปรับให้ดีขึ้นอีก ผมก็ต้องจัดการกับอาวุธหลายสิบชิ้นที่เหลือด้วย พอ
ปรับไปแล้ว อาวุธบางชิ้นอาจจะเก่งเกินไปกลายเป็นวงจรอุบาทว์
“อาวุธที่เด่นๆ มีแค่สองสามชิ้น ถ้าผมเนิร์ฟอาวุธพวกนี้ลง เมื่อเอามาเทียบ
กันแล้วก็เท่ากับว่าอาวุธหลายสิบชิ้นที่เหลือถูกปรับให้ดีขึ้น
“อีกอย่างการทำแบบนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่าสมดุลของอาวุธส่วนใหญ่จะไม่ได้
รับผลกระทบ เป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุด”
เฉียวเหลียง “??”
ก็ฟังดูมีเหตุผล...กับผีสิ!
เฉียวเหลียงรีบตอบกลับ “บอสเผยปรับสมดุลเกมแบบนี้ไม่ได้นะครับ! บอส
เนิร์ฟอะไรที่มันใช้ดีอยู่แล้วไม่ได้ ก็เหมือนที่คนพูดกันว่า ถ้าทุกอย่างโดนเนิร์ฟลง
หมดและไม่บัฟอะไรเพิ่ม เกมดีๆ ก็โดนผู้เล่นเทได้ เราจะเนิร์ฟอะไรลงโดยไม่คิด
ไม่ได้นะครับ!”
“ใครบอกว่าผมเนิร์ฟอย่างเดียว ผมปรับให้ตัวเกมยากขึ้นด้วย มอนสเตอร์ลิ่ว
ล้อก็ตีแรงขึ้นนี่ครับ” เผยเชียนแก้จุดที่อาจารย์เฉียวพูดผิดทันที
เฉียวเหลียง “...แต่ที่เพิ่มคือความยากของเกมหมดเลยนี่ครับ!”
เผยเชียนยิ้มอ่อน “ใช่ครับ ที่ปรับเพิ่มคือความยากของเกมทั้งหมดเลย
“ไม่ดีเหรอครับ”
เฉียวเหลียงอึ้งไป
ก็แหงน่ะสิ!
ฉันเล่นเกมนี้อยู่ทุกวันยังผ่านไปไหนไม่ได้ แค่มอนสเตอร์ลูกกระจ๊อกก็ทำเอา
ปวดกบาลแล้ว พอหาทางเล่นเกมได้ง่ายขึ้น ทุกอย่างก็โดนเนิร์ฟลงหมดในสองวัน
ทีนี้ฉันก็ต้องไปหาทางอื่นอีก
จะให้เป็นเรื่องดีได้ยังไง
เผยเชียนไม่รอให้อีกฝ่ายคัดค้านอะไรต่อ เขาตัดบททันที “อาจารย์เฉียวลอง
คิดดูนะครับ ว่าการที่เกมยากมากแบบนี้เป็นเรื่องไม่ดีสำหรับผู้เล่นมืออาชีพแบบ
คุณรึเปล่า
“ความยากของเกมก็เหมือนเพดาน ถ้าคุณกับผู้เล่นอื่นๆ สามารถทะลุเพดาน
นี้ไปได้ ก็บอกไม่ได้ว่าใครเก่งกว่าใคร
“แต่ถ้าเพดานมันสูงขึ้น ก็จะบอกได้ง่ายขึ้น
“การเพิ่มความยากของเกมจะทำให้เกมเมอร์มืออาชีพอย่างคุณมีพื้นที่ได้โชว์
ฝีมือและความสามารถที่ผู้เล่นทั่วไปทำไม่ได้
“มันคือเรื่องไม่ดีจริงๆ เหรอครับ”
เฉียวเหลียงอึ้งไปเมื่อได้ฟังคำชมจากบอสเผย
นี่บอสเผยคิดว่าฉันเป็นเกมเมอร์มืออาชีพเหรอ
ช่างน่าขายหน้าจริงๆ!
เฉียวเหลียงหุบยิ้มไม่ลง “โอ๊ย ไม่หรอกครับ ผมก็แค่ขยันกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ
แล้วก็จริงจังกว่านิดหน่อย...”
เผยเชียนยิ้ม “อาจารย์เฉียวถ่อมตัวเกินไปแล้วครับ คนฝีมือดีอย่างคุณคู่ควร
กับความท้าทายระดับนี้แหละ
“จะให้ผมลดความยากลงเหรอ นั่นเท่ากับเป็นการดูถูกคนอย่างคุณเลยนะ
ครับ! การเพิ่มความยากทำให้เกมยังมีความท้าทายอยู่ เป็นการแสดงความจริงใจ
ต่อเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์!”
เฉียวเหลียงมองหน้าจอสลับกับสีหน้าอันแสนจริงจังของบอสเผย เขารู้สึกดี
ขึ้นมาทันที
เข้าใจแล้ว
เหตุผลที่บอสเผยเจาะจงขอให้ฉันมาลองเล่นเกมยากๆ แบบนี้
ก็เพราะบอสเชื่อใจในสัญชาตญาณด้านการเล่นเกมและความอดทนของฉัน!
พอคิดตามนี้ เฉียวเหลียงก็ไม่รู้สึกคัดค้านการเนิร์ฟปังตอและดาบจันทร์เสี้ยว
อีกต่อไป
ในฐานะเกมเมอร์มืออาชีพ เขาต้องเชี่ยวชาญอาวุธทั้งหมดให้ได้ ถ้าเอาแต่ใช้
อาวุธสองอย่างที่ตัวเองถนัดก็เท่ากับเป็นการทำให้บอสเผยผิดหวัง!
หลังจากจัดการกับอารมณ์ตัวเองได้แล้ว เฉียวเหลียงก็รู้สึกว่าเกมไม่ได้เลวร้าย
ขนาดนั้น
แต่เฉียวเหลียงยังมีความคิดอีกหนึ่งอย่าง เขาอดทนเล่นมาจนถึงตอนนี้ก็
เพราะมีบอสเผยคอยให้กำลังใจ!
แต่ผู้เล่นอื่นจะไม่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษแบบนี้
นี่คือข้อผิดพลาดในการออกแบบที่ร้ายแรงมาก!
เฉียวเหลียงรีบชี้ให้เห็นประเด็นปัญหา “บอสเผยครับ ผมมีข้อแนะนำใหม่
“ถึงเกมนี้จะเป็นเกมที่ดี แต่ผมคิดว่าช่วงแรกของเกมนั้นยากเกินไปสำหรั บผู้
เล่น! ผมอดทนเล่นมาจนถึงตอนนี้ก็เพราะมีบอสเผยคอยให้กำลังใจ จนค่อยๆ
รู้สึกสนุกกับการเล่นเกมนี้
“เพราะฉะนั้นผมคิดว่าต้องหาทางแก้ในจุดนี้”
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ง่ายมาก เดี๋ยวผมให้ทีมงานปรับแก้เลยทันที”
เฉียวเหลียงรู้สึกประทับใจมาก
สมแล้วที่เป็นบอสเผย แค่ไม่กี่วินาทีก็คิดทางแก้ได้แล้ว
“ผมจะเพิ่มส่วนหนึ่งเข้าไปในเกม” เผยเชียนตอบ “ตอนเริ่มเกม ผู้เล่นจะได้
เขียนข้อความให้กำลังใจตัวเองระหว่างเล่น ทุกครั้งที่ผู้เล่นตาย ข้อความนี้จะเด้ง
ขึ้นมาบนหน้าจอเพื่อบอกให้ผู้เล่นสู้ต่อไป”
หืม
ข้อความให้กำลังใจเหรอ
เฉียวเหลียงรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ แต่ก็บอกไม่ได้ว่าคืออะไร
เผยเชียนมองนาฬิกาข้อมือ “โอเค นี่ก็เย็นแล้ว ขอบคุณที่ทำงานหนักมา
ตลอดนะครับ ไปกินข้าวกันเถอะ!”
“โอเคเลยครับ!”
เฉียวเหลียงอยากจะหาคำตอบเรื่อง ‘ข้อความให้กำลังใจ’ ต่อ แต่พอได้ยิน
บอสเผยชวนไปกินข้าว เขาก็ลืมเรื่องนั้นไปทันที
บอสเผยเลี้ยงข้าวอีกแล้ว!
บอสเผยดีกับฉันจริงๆ เฮ้อ แบบนี้ยังไงก็ตอบแทนบุญคุณได้ไม่หมด! เฉียวเหลี
ยงคิดในใจ
...
...
ทั้งสองลงจากรถตรงหน้าทางเข้าครัวส่วนตัวหมิงหยุน
พอเห็นอาจารย์เฉียวมองอาหารตาเป็นประกาย เผยเชียนก็อดขำในใจไม่ได้
อาจารย์เฉียวโดนปั่นหัวไม่หยุดเลย ฉันนี่มันวายร้ายจริงๆ
แต่พอมองไปรอบๆ ครัวส่วนตัวหมิงหยุน เผยเชียนก็หมดอารมณ์ทันที
นี่เป็นครั้งแรกที่เผยเชียนมาที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนหลังจากที่จู่ๆ ร้านก็ดัง
ขึ้นมา
เรื่องมันยาวมาก
เผยเชียนซื้อวิลล่ากึ่งพาณิชย์ที่ตั้งแยกจากวิลล่าสำหรับพักอาศัยหลังอื่นๆ วิล
ล่าหลังนี้มีทางเข้าและพื้นที่สำหรับจอดรถส่วนตัว
เดิมทีนี่คือเหตุผลที่ทำให้วิลล่าหลังนี้ขายไม่ออก
แต่ตอนนี้โซนวิลล่ากึ่งพาณิชย์ในละแวกเดียวกันกับหมิงหยุนวิลล่ากลับเต็มไป
ด้วยรถหรู เป็นรถที่ไม่ค่อยพบเห็นได้บ่อยนักในเมืองจิงโจว
นอกจากนั้นยังมีแท็กซี่เทียวเข้าเทียวออกด้วย
ตอนนี ้ ล ู ก ค้ า ครั ว ส่ ว นตั ว หมิ ง หยุ น ไม่ ไ ด้ ม ี แ ค่ เ จ้ า ของบริ ษ ั ท ใหญ่ ๆ แล้ ว
พนักงานบริษัททั่วไปก็แวะมากินด้วย ลูกค้ากลุ่มนี้จะถ่อมาถึงร้านในวันอาทิตย์
เพื่อลิ้มรสอาหารและสัมผัสการบริการดีๆ
ถึงจะมีลูกค้าไม่มากนัก แต่ก็ถือว่าแตกต่างจากแต่ก่อนมาก
ครั้งก่อนที่อาจารย์เฉียวมา ครัวส่วนตัวหมิงหยุนไม่มีลูกค้าเลย ทั้งร้านดูร้าง
ผู้คน ที่เดินไปมาก็มีแต่พนักงาน
ครั้งนี้นอกจากด้านนอกร้านจะมีรถหรูจอดอยู่หลายคันแล้ว ด้านในยังเต็ มไป
ด้วยลูกค้าอีก
ตรงโถงหลักมีโต๊ะอยู่ประมาณสี่ถึงห้าตัวซึ่งตอนนี้เต็มหมดแล้ว
ลูกค้าต่างคุยกันเบาๆ ระหว่างดื่มด่ำกับอาหาร
ไม่มีใครหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป บรรยากาศทั้งร้านเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
แน่นอนว่าเนื่องจากครัวส่วนตัวหมิงหยุนมีที่นั่งจำกัด ถึงโต๊ะจะเต็ มทุกตัว แต่
โถงหลักก็ยังดูกว้างขวาง ไม่เหมือนพวกร้านดังๆ ที่มีทั้งลูกค้าอัดแน่นอยู่ในร้าน
และคิวยาวเหยียดด้านนอก
เผยเชียนรู้สึกปวดใจกับภาพที่เห็น
ในสายตาของเผยเชียน ลูกค้าเหล่านี้คือตัวปัญหา พวกเขาไม่ได้มาให้เงิน แต่
มาขโมยเงินไปจากเขาต่างหาก!
เฉียวเหลียงที่เดินตามหลังเผยเชียนมารู้สึกผิด
ครั้งก่อนที่มาเขาเห็นว่าร้านร้างผู้คนมาก เลยคิดไปว่าบอสเผยเปิดร้านนี้ไว้
เพื่อใช้กินดื่มเป็นการส่วนตัว
ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่แบบนั้น ในร้านมีลูกค้ามากมาย
ดูจะดังขึ้นกว่าแต่ก่อน น่าจะทำเงินได้เยอะเลย
ถึงอาหารที่ร้านจะอร่อยมากอยู่แล้ว แต่บอสเผยไปทำยังไงให้ร้านนี้ดังขึ้นมา
ได้ภายในเวลาแค่สองสัปดาห์กันนะ
เฉียวเหลียงรู้สึกทึ่งอยู่ในใจ ดูเหมือนว่าบอสเผยจะไม่ได้เชี่ยวชาญแค่เรื่องทำ
เกม แต่ยังเป็นอัจฉริยะด้านการทำธุรกิจอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมไหน
เขาก็ปั้นได้หมด!
บทที่ 257 คุณจะเป็นมิตรรักของหมิงหยุนวิลล่าตลอดไป!

หลังมื้อเย็น
เผยเชียนให้คนขับรถไปส่งอาจารย์เฉียวเหมือนครั้งที่แล้ว แต่ตัวเขายังนั่งอยู่
ในห้องส่วนตัว กำลังรอคุยกับหลินชั่นหรง
เผยเชียนรู้สึกเครียดเล็กน้อยที่ต้องคุยเรื่องนี้
ครัวส่วนตัวหมิงหยุนดังขึ้นมาก ตอนนี้สายไปแล้วที่เขาจะแก้ไขอะไรได้ เผย
เชียนทำได้แค่สั่งการหลินชั่นหรงเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปกว่านี้
หลังจากเคลียร์จานอาหารบนโต๊ะเรียบร้อย หลินชั่นหรงก็นั่งลงตรงข้ามเผย
เชียน ใบหน้าของเขาแต้มไปด้วยรอยยิ้ม
ช่วงที่ผ่านมาหลินชั่นหรงยุ่งมาก
ตั้งแต่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนดังขึ้นมา ร้านก็ถูกจองเต็มยาวไปถึงสองสัปดาห์
หน้า ทั้งมื้อเที่ยงและมื้อเย็น
ก่อนหน้านี้เขาได้แต่นั่งแกร่ว แต่ตอนนี้กลับต้องทำงานเหนื่อยสายตัวแทบ
ขาด
เขาต้องสั่งวัตถุดิบทุกวันตามรายการอาหารที่จองไว้ และเตรียมจานชามกับ
การตกแต่งภายในให้เข้ากับลูกค้าแต่ละกลุ่ม แถมยังต้องคุยกับพนักงานให้มั่นใจ
ว่าพวกเขารู้วิธีจัดการกับสถานการณ์เฉพาะหน้าต่างๆ...
โชคดีที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนมีเชฟหลายคน ส่วนพนักงานก็ผ่านการอบรมมา
อย่างดี เขาจึงไม่ต้องลำบากมากนัก
ถึ ง จะยุ ่ ง แต่ ห ลิ น ชั ่ น หรงก็ ม ี ค วามสุ ข มาก เขารู ้ ส ึ ก ว่ า ในที ่ ส ุ ด ก็ ไ ด้ แ สดง
ความสามารถจริงๆ ของตัวเองบ้างสักที
บอสเผยอุตส่าห์ไว้ใจให้ดูแลร้านดีๆ ขนาดนี้ ย่อมเป็นธรรมดาที่เขาจะต้องไม่
ทำให้บอสผิดหวัง ต้อ งทำให้ร้านประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นไปอีก ได้ข ึ้นเป็น
ภัตตาคารอันดับหนึ่งในเมืองจิงโจว!
ถึงจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นมาก แต่ด้วยที่นั่งภายในร้านที่มีจำกัดจึงทำให้ดูแล
ให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง
ในจุดนี้หลินชั่นหรงรู้สึกทึ่งกับวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของบอสเผยมาก
ก่อนหน้านี้ตอนที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนยังเงียบเชียบปราศจากลูกค้า บอ
สเผยบอกให้เขาใส่ใจเรื่องการให้บริหารร้านมากกว่าการโฆษณา
ภายในเวลาสองสัปดาห์ร้านก็ดังขึ้นมาเป็นพลุแตก!
โชคดีที่หลินชั่นหรงเชื่อฟังคำสั่งเป็นอย่างดี เขาทุ่มแรงกายและแรงใจไปกับ
คุณภาพอาหารและการบริการ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์การใช้
บริการที่ยอดเยี่ยม จุดนี้เองที่ทำให้ครัวส่วนตัวหมิงหยุนรักษาชื่อ เสียงและ
มาตรฐานระดับสูงไว้ได้
ครั้งนี้บอสเผยน่าจะมีคำแนะนำอะไรดีๆ ให้อีก
เผยเชียนจิบชาแล้วพูดขึ้นอย่างไม่ได้ใส่ใจ “ผมมีเรื่องจะพูดไม่มาก แค่ อยาก
สั่งอะไรเพิ่มเติมนิดหน่อย
“เรื่องวัตถุดิบ ห้ามใช้ของคุณภาพต่ำเด็ดขาด อย่าไปคิดว่าลูกค้าไม่รู้แล้วลด
คุณภาพวัตถุดิบลง ลูกค้าทุกคนต้องได้รับการดูแลเหมือนเป็นนักวิจารณ์อาหาร
“จำนวนที่นั่งให้ยึดตามนี้ ห้ามเปลี่ยนแปลงอะไร
“ห้ามเพิ่มกฎขึ้นมาเอง อย่างกฎห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามา กำหนด
ราคาขั้นต่ำในการจองห้องส่วนตัว หรือเก็บค่าทำความสะอาดและฆ่าเชื้อจานชาม
เพิ่ม
“ผมเคยบอกเรื่องพวกนี้ไปแล้ว แต่อยากจะย้ำให้ฟังอีกครั้ง
“อย่างที่คุณรู้ ทุกโปรเจ็กต์ของบริษัทรวมถึงครัวส่วนตัวหมิงหยุนจะใช้ระบบ
ให้โบนัสตามชื่อเสียงของโปรเจ็กต์”
เผยเชียนคิดว่าควรย้ำเรื่องพวกนี้อีกครั้ง
ถ้าหลินชั่นหรงเกิดมีไอเดียอะไรขึ้นมา เช่น อยากจะเพิ่มที่นั่ง ออกกฎห้ามนำ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าร้าน หรือกำหนดราคาขั้นต่ำในการใช้บริการห้องส่วนตัว
ขึ้นมา จะทำให้ร้านได้กำไรเพิ่มขึ้น
อีกเดือนกว่าๆ จะถึงวันปิดบัญชี แค่นี้ครัวส่วนตัวหมิงหยุนก็เป็นภาระให้เผย
เชียนแล้ว จะปล่อยให้สถานการณ์แย่ลงไปกว่านี้ไม่ได้!
ถ้าคราวนี้ขาดทุนไม่ได้ เผยเชียนคงได้กระอักเลือดจริงๆ แน่
หลินชั่นหรงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ได้ครับบอสเผย ผมรู้ว่าบอสกลัวว่าผมจะ
คิดเล็กคิดน้อยเรื่องต้นทุน จนกระทบกับชื่อเสียงของครัวส่วนตัวหมิงหยุน
“ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะจำทุกอย่างที่บอสบอกให้ขึ้นใจ ผมจะคำนึงถึง
ความคิดเห็นของลูกค้าเป็นอันดับแรก!”
เผยเชียนพยักหน้า “...โอเค”
ถึงหลินชั่นหรงจะไม่รู้ความหมายจริงๆ ที่แฝงอยู่ในคำพูดของเผยเชียน แต่
ผลลัพธ์ที่ได้ก็เหมือนกัน...
ในเมื่อสถานการณ์ของครัวส่วนตัวหมิงหยุนเป็นแบบนี้แล้ว เผยเชียนก็ไม่มีวิธี
ดีๆ ในการกอบกู้มันอีก ขอแค่ไม่เลวร้ายไปกว่านี้เขาก็พอใจมากแล้ว
“เท่านี้แหละ ผมไม่กวนคุณแล้ว เดี๋ยวผมไปร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูต่อ”
เผยเชียนออกจากครัวส่วนตัวหมิงหยุนไป
ฟ้าเริ่มมืดแล้ว เผยเชียนหันไปมองครัวส่วนตัวหมิงหยุนแล้วรู้สึกเศร้าใจขึ้นมา
โดยไม่ทราบสาเหตุ
ปวดใจจริงๆ!
เผยเชียนถอนหายใจเงียบๆ เขาเตรียมตัวออกจากหมิงหยุนวิลล่า มุ่งหน้าไป
ยังร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเพื่อดื่มกาแฟสักแก้ว
ตอนนี้มีแค่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูอันเงียบสงบเท่านั้นที่จะช่วยเยียวยาจิตใจ
ให้เขาได้
พอออกเดินไปได้สองก้าวก็มีเสียงใครสักคนร้องทัก “บอสเผยรึเปล่าครับ”
เผยเชียนหยุดเดินแล้วหันไปมอง คนที่ร้องทักคือผู้จัดการชุยที่ไม่ได้เจอหน้า
มาพักใหญ่
เขาเป็นผู้จัดการที่ดูแลเรื่องการซื้อขายภายในหมิงหยุนวิลล่า ตอนที่เผยเชียน
ซื้อวิลล่า ผู้จัดการชุยเป็นคนพาเขามาดูสถานที่
ผู้จัดการชุยดีใจมากที่ได้เจอเผยเชียน “บังเอิญจังเลยครับบอสเผย ในที่สุดก็
ได้เจอกันสักที! ผมคิดอยู่ว่าอยากจะไปขอบคุณบอสเผยเป็นการส่วนตัว!”
เผยเชียนงง “ขอบคุณผมเหรอ”
ผูจ้ ัดการชุยหัวเราะ “ใช่ครับ ต้องขอบคุณสุดๆ เลย!
“ดูสโลแกนโฆษณาของหมิงหยุนวิลล่าสิครับ”
ผู้จัดการชุยแตะมือถือสองสามครั้งเพื่อเปิดไฟล์ PDF ภาพโฆษณาตัวใหม่
ของหมิงหยุนวิลล่า
เผยเชียนรับมือถือมาดูแล้วก็ต้องอึ้งไป
ก่อนหน้านี้ตอนซื้อวิลล่า เขาเคยเห็นโฆษณาของหมิงหยุนวิลล่ามาก่อน
ตัวโฆษณามีแค่ภาพวิลล่า พื้นที่รอบๆ และสโลแกน
ตัวอย่างเช่น ‘บรรยากาศธรรมชาติอันสวยสดงดงาม’
‘วิลล่ากลางหุบเขารายล้อมด้วยแม่น้ำ’
‘ใหม่ไม่ซ้ำใครกับวิลล่ากลางหุบเขา’
‘อาศัยอยู่ท่ามกลางสายลมและแสงแดด เชยชมทิวทัศน์สุดประทับใจ’ และ
อื่นๆ
รวมๆ แล้วเผยเชียนคิดว่าเป็นโฆษณาที่ชวนเชื่อ อวยวิลล่าของตัวเองสุดๆ จึง
ไม่ได้สนใจอะไรมาก
แต่โฆษณาใหม่ในมือถือของผู้จัดการชุยแตกต่างจากเดิมลิบลับ!
‘หมิงหยุนวิลล่า ย่านธุรกิจใหม่ในจิงโจว’
‘หลีกหนีจากความวุ่นวาย แต่ยังใกล้ชิดความเจริญ’
‘ภัตตาคารไร้ชื่ออยู่ใกล้แค่หลังบ้านของคุณ’
‘ลิ้มรสอาหารประจำถิ่น กระทบไหล่คนดังประจำจิงโจว’...
แถมรูปที่ใช้ก็ต่างจากเดิมอีก!
นอกจากรูปวิลล่าและบรรยากาศรอบๆ แล้ว ยังมีรูปครัวส่วนตัวหมิงหยุนกับ
ย่านการค้าใกล้ๆ ด้วย!
รูปหนึ่งคือ ‘ย่านธุรกิจใหม่ในจิงโจว’
เป็นรูปร้านรวงในละแวกหมิงหยุนวิลล่า เช่น ร้านอินเทอร์เน็ต คาเฟ่บอร์ด
เกม ร้านกาแฟ และอื่นๆ บรรยากาศดูคึกคักเลยทีเดียว
อีกรูปคือ ‘ภัตตาคารห้าดาวที่โด่งดังในอินเทอร์เน็ต ภัตตาคารไร้ชื่ออยู่ที่นี่!’
ในรูปมีหน้าข้อมูลหมิงหยุนวิลล่าในฉวนหมินรีวิว รวมถึงรูปด้านในครัว
ส่วนตัวหมิงหยุน
อีกรูปหนึ่งคือ ‘เป็นเพื่อนบ้านกับคนดังเมืองจิงโจว’
ภาพนี้เป็นบรรดารถหรูที่จอดอยู่ใกล้ๆ ครัวส่วนตัวหมิงหยุน มีรูปกลุ่มนัก
ธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จด้วย
เผยเชียนรู้สึกเวียนหัวขึ้นมา
เกิดอะไรขึ้นเนี่ย!
เพราะฟ้าที่เริ่มมืด ผู้จัดการชุยจึงไม่เห็นว่าบอสเผยหน้าซีดลง เขาพูดต่ออย่าง
ตื่นเต้น “บอสเผยครับ โฆษณาพวกนี้ส่งไปหมดแล้ว อีกสักสัปดาห์สองสัปดาห์
น่าจะได้เห็นผลลัพธ์กัน!
“รอบนี้บอสของพวกเราทุ่มหมดหน้าตัก เราซื้อพื้นที่โฆษณาบนหนังสือพิมพ์
ทีวี ป้ายตามตึก นิตยสาร บริการขนส่ง สาธารณะ รวมถึงป้ายโฆษณาใหญ่ๆ ใน
เมืองจิงโจว!”
เผยเชียนรู้สึกอยากจะเป็นลม
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
ซื้อพื้นที่โฆษณาอะไรเยอะแยะขนาดนี้
เดี๋ยวนะ ไม่ใช่ว่าพวกนายขายวิลล่าแถบนี้ไม่ได้หรอกเหรอ
ฉันอุตส่าห์ศึกษามาอย่างดีก่อนซื้อที่นี่ ไหนบอกว่าวิลล่าพวกนี้ไม่มีความคุ้มค่า
แก่การลงทุนแถมราคาก็แพงเกินไปไง
ทำไมจู่ๆ มาโหมโฆษณากันแบบนี้ล่ะ
แล้วอยากจะโฆษณาอะไรกันก็ตามใจเลย แต่อย่าลากร้านฉันเข้าไปมีเอี่ยว
ด้วยสิ!
เผยเชียนเริ่มหวั่นใจขึ้นมา “ทุ่มเงินโฆษณากันเยอะเลยนะครับ ไม่กลัวเสียเงิน
ฟรีเหรอ...”
ผู้จัดการชุยหัวเราะ “บอสเผยก็ว่าไปนั่น บอสน่าจะรู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับว่า
เราจะเสียเงินฟรีจริงรึเปล่า
“เอาจริงๆ ตอนบอสมาขอซื้อวิลล่า ผมไม่ได้คิดอะไรมาก นึกว่าบอสจะซื้อมา
ไว้เป็นบ้านพักตากอากาศเฉยๆ
“แต่ก็ได้มารู้ทีหลังว่าบอสคืออัจฉริยะจริงๆ!”
ผู้จัดการชุยยกนิ้วโป้งให้
“ภัตตาคารไร้ชื่อของบอสกลายเป็นภัตตาคารที่ดังที่สุดในเมืองจิงโจว! ผมได้
ยินมาว่าร้านถูกจองเต็มไปอีกสองสัปดาห์ ตอนนี้จองโต๊ะได้ยากมาก!
“ชาวจิงโจวหลายคนที่อยากมากินอาหารที่ร้านกันสักครั้งต้องจองล่วงหน้ากัน
หมดเลย!
“แต่มีเจ้าของบริษัทหลายคนรู้สึกว่าถ้าจะพาแขกมาเลี้ยงข้าวไกลถึงที่ นี่ก็จะ
ลำบากไปหน่อย ต้องพาแขกถ่อมาตั้งไกลเพื่อกินข้าวกันมื้อเดียว เสร็จแล้วก็ต้อง
นั่งรถกลับกันอีก
“เพราะอย่างนั้นบางส่วนเลยแวะมาดูวิลล่า พวกเขาอยากซื้อวิลล่าเก็บไว้สัก
หลังเพื่อต้อนรับแขกและอยู่อาศัยเป็นครั้งคราวด้วยเลย
“แน่ น อนว่ า นั ่ น ก็ ไ ม่ ใ ช่ เ หตุ ผ ลเดี ย วในการซื ้ อ พวกเขาหวั ง เรื ่ อ งมู ล ค่ า
อสังหาริมทรัพย์ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย!
“ช่วงนี้แวดวงนักลงทุนเมืองจิงโจวพูดคุยกันว่า ละแวกนี้จะกลายเป็นย่าน
การค้าแห่งใหม่ในเมืองจิงโจว!
“หลายคนได้ยินข่าวลือ ร้านรวงที่ปิดบริการไปก็มีคนเข้ามาเช่าหรือไม่ก็ซื้อต่อ
กันยกใหญ่!
“เรียกได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดีมาก พอทั้งเมืองจิงโจวหันมาสนใจละแวกนี้ ราคา
วิลล่าของเราก็พุ่งขึ้น
“บอสของเราตัดสินใจขึ้นราคาวิลล่าที่ยังถือครองอยู่ ตอนนี้ขายถูกๆ ไม่ได้
แล้วครับ!
“วิลล่าของบอสเผยเองก็น่าจะราคาขึ้นเหมือนกัน จากหกล้านน่าจะพุ่งไปเป็น
สิบล้านได้ง่ายๆ!”
เผยเชียนขาอ่อนแรง แทบจะทรุดลงไปกับพื้น
พุ่งขึ้นไปเป็นสิบล้าน
แบบนั้นฉันก็ฉิบหายน่ะสิ!
เผยเชียนแทบจะกระอักเลือดออกมา ใครกันที่ไปโพนทะนาว่าที่ นี่จะเป็นย่าน
การค้าใหม่ของจิงโจว ไอ้นั่นมันเป็นใคร
ไหนล่ะไอ้ร้านที่ว่า ร้านพวกนั้นมันมาจากการที่ฉันไปหลอกบอสหลี่ไม่ใช่เหรอ
เดี๋ยวนะ บอสหลี่เหรอ...
เผยเชียนนึกถึงปัญหาหนึ่งขึ้นได้ หลี่สื่อคือเจ้าของบริษัทลงทุนฟู่หุย เป็นคนที่
ค่อนข้างมีอิทธิพลในแวดวงการลงทุนในเมืองจิงโจว
ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาลงทุนเปิดร้านรวงในละแวกหมิงหยุนวิลล่าอย่างบ้าคลั่ง
บอสหลี่น่าจะจับตาดูความสำเร็จของครัวส่วนตัวหมิงหยุนอยู่!
หมายความว่าบอสหลี่จะต้องคิดว่าเผยเชียนเป็นคนหนุนหลังครัวส่วนตัวหมิง
หยุน และคิดว่าภัตตาคารของเขาคือกุญแจสำคัญในการทำให้หมิงหยุนวิลล่าเป็น
ที่นิยม!
ตามนิสัยของบอสหลี่แล้ว เขาต้องไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือและมุ่งลงทุนใน
ละแวกนี้ต่อแน่ๆ...
เผยเชียนรู้สึกไม่สบายใจมากๆ
เขาคิดว่าความสำเร็จของครัวส่วนตัวหมิงหยุนคือข่าวร้ายที่สุดแล้ว แต่ดู
เหมือนว่าจะไม่ใช่อย่างนั้น
ถ้ า ละแวกนี ้ เ ป็ น ที ่ น ิ ย มขึ ้ น มาก็ จ ะส่ ง ผลต่ อ ร้ า นอื ่ น ๆ ในบริ เ วณและร้ า น
อินเทอร์เน็ตโมหยู
แถมมูลค่าของวิลล่าก็จะพุ่งสูงขึ้นไปอีก!
นี่มันคือ ‘เคราะห์ซ้ำกรรมซัด’ ที่เขาพูดกันใช่มั้ย...
เผยเชียนยื่นมือถือคืนให้ผู้จัดการชุยโดยไม่พูดอะไร เขายังคงตะลึงงันกับสิ่งที่
เกิดขึ้น
ผู้จัดการชุยไม่รู้ว่าบอสเผยกำลังช็อกกับเรื่องที่ได้ยิน เขาคิดว่าทุกอย่างน่าจะ
อยู่ในการคาดการณ์ของบอสเผยอยู่แล้ว อีกฝ่ายจึงไม่ได้แสดงท่าทีอะไร
“บอสเผย บอสเราบอกว่าอยากมาพบคุณเป็นการส่วนตัวเพื่อขอบคุณ
“เรื่องโฆษณา เราจะโปรโมตหมิงหยุนวิลล่าไปพร้อมๆ กับภั ตตาคารไร้ชื่อ
เพื่อให้คนรู้จักร้านของคุณมากขึ้น
“นอกจากนั้นแล้ว เราจะไม่เก็บค่าส่วนกลางกับค่าทำความสะอาดถาวร และ
ลดค่าสาธารณูปโภคให้ครึ่งหนึ่ง
“เราให้ที่จอดรถคุณเพิ่มโดยไม่คิดค่าบริการด้วย
“แล้วก็เราจะจ้างทีมดูแลสวนมาดูแลสวนหลังวิลล่าคุณให้ด้วย จะมีคนเข้ามา
จัดการเรื่องสวนให้เรื่อยๆ
“ทั้งหมดมันอาจจะเป็นเงินเล็กน้อยสำหรับคุณ แต่นี่คือสิ่งที่เราทำให้ได้เพื่อ
เป็นการขอบคุณ
“สรุปแล้วบอสเผยคือเจ้าของวิลล่าที่ยอดเยี่ยมที่สุดในหมิงหยุนวิลล่า คุณจะ
เป็นมิตรรักของหมิงหยุนวิลล่าตลอดไป!”
บทที่ 258 หรือนี่จะเป็นความผิดของฉันเอง

หลังจากบอกลาผู้จัดการชุย เผยเชียนก็กลับออกจากหมิงหยุนวิลล่าไปพร้อม
ความงุนงง จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
เรื่องที่ประเดประดังเข้ามาทำให้เขารู้สึกสับสน ตอนนี้ทั้งหมดที่เ ขาอยากทำ
คือนั่งดื่มค็อกเทลที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู ปล่อยให้บรรยากาศอันสงบเงียบที่ร้าน
พาใจให้สงบ
ระหว่างเดินไปร้าน เขาก็เริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจพิกล
นี่ก็ดึกแล้ว ทำไมยังมีคนเดินไปเดินมาเยอะขนาดนี้อีกล่ะ
หมิงหยุนวิลล่าไม่ค่อยมีคนสัญจรไปมา ขนาดวันอาทิตย์ถนนยังแทบว่างเปล่า
แต่วันนี้คนกลับดูหนาตาเป็นพิเศษ!
ผู้คนเดินกันเป็นกลุ่มสองถึงสามคน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา มีบ้างที่น่าจะเป็น
วัยทำงาน ข้างถนนก็มีรถจอดอยู่หลายคันเลยทีเดียว!
พอหันมองร้านที่สองข้างทาง เผยเชียนก็รู้สึกว่าตัวเองตัดขาดจากโลกนี้ไป
นาน
ร้านพวกนี้มาเปิดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ก่อนหน้านี้ไม่นานถนนเส้นนี้มีแค่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู ร้านอื่นๆ ไม่มีลูกค้า
เข้าเลยหรือไม่ก็ปิดกิจการกันไปหมด
เผยเชียนตั้งใจจะเปิดจุดบริการนี่เฟิงแถวนี้ด้วยซ้ำ เพราะมีทำเลเหมาะๆ
หลายแห่งที่น่าจะพาขาดทุนได้
จากตัวเลือกทั้งหมดที่มี เขาสามารถเลือกร้านที่ใหญ่ที่สุดแลทำเลดีที่สุดได้
เพราะตอนนั้นยังไม่มีใครต้องการร้านพวกนี้ ทุกร้านถูกปล่อยว่าง พร้อมให้
เข้าซื้อ
แต่ตอนนี้แม้แต่ร้านที่ทำเลไม่ค่อยดีก็โดนจับจองไปแล้ว!
แถมยังมีร้านมากมายหลายประเภทอีก!
มีทั้งบาร์ คาเฟ่บอร์ดเกมส์ และอื่นๆ ร้านที่บอสหลี่เป็นคนเปิดดูคึกคักมาก
มีเสียงดังมาจากทางเข้าบาร์แห่งหนึ่งเป็นพิเศษ หนุ่มสาวหลายคนกำลังแย่ง
กันเข้าบาร์จนเผยเชียนสัมผัสได้ถึงไอร้อนจากร่างกายพวกเขาที่แผ่พุ่งออกมา
หลายร้านขายขนมที่กำลังดังในโลกออนไลน์ เช่น ขนมปังคลุกฝุ่น เค้กโรลหมู
หยอง เค้กชั้นทุเรียน และอื่นๆ ซึ่งดูแล้วน่าจะขายดีกันทีเดียว
ร้านที่ขายอาหารดั้งเดิมก็มี ไม่ว่าจะเป็นซาลาเปาทอดน้ำ เกี๊ยว น้ำเต้าหู้
ปาท่องโก๋
นอกจากนั้นก็มีร้านชานมไข่มุก ร้านเครื่องดื่ม ร้านสะดวกซื้อ และอื่นๆ
ที ่ เ ผยเชี ย นทำใจยอมรั บ ได้ ย ากที ่ ส ุ ด คื อ มี ร ้ า นหนึ ่ ง ที ่ ต ั ้ ง อยู ่ ใ นจุ ด ซึ ่ ง คน
พลุกพล่านที่สุดตั้งชื่อว่า ‘ครัวไร้ชื่อ’ แถมยังมีลูกค้าแน่นร้านอีก!
เผยเชียนแทบจะกระอักเลือด
ทำบ้าอะไรน่ะ
นี่มันของปลอม!
พวกมันตั้งใจหลอกลูกค้าที่เดินทางมาไกล!
แต่พวกเขาก็ไม่ผิดอะไรที่ตั้งชื่อร้านแบบนี้ จริงๆ แล้วร้านของเผยเชียนชื่อ
‘ครัวส่วนตัวหมิงหยุน’ แต่ในเว็บฉวนหมินรีวิวไม่ขึ้นชื่อ การตั้งชื่อร้านว่า ‘ครัวไร้
ชื่อ’ จึงไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์อะไร
เผยเชียนโกรธมาก เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าฉวนหมินรีวิวเพื่อแฉร้านนี้
แล้วก็พบว่าร้านนี้ได้คะแนนอยู่ที่ 4.3
เขาเลื่อนลงมาอ่านคอมเมนต์
“ร้านนี้พยายามเกาะคนอื่นดัง แต่อาหารก็โอเคอยู่”
“ร้านไม่มีชื่อก็ดีนะ แต่เต็มตลอด เลยต้องมาลองร้านนี้แทน”
“ต้องบอกเลยว่าภัตตาคารนิรนามทำให้อาหารและเครื่องดื่มแถวนี้ขายดิบ
ขายดีไปด้วย คนแถวนี้รีบเกาะกระแสจนแถบนี้เหมือนจะกลายเป็นฟู้ดสตรีตของ
จิงโจวไปแล้ว”
“ไม่แนะนำร้านนี้ ไปร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูดีกว่า อาหารที่นู่นเฮลตี้มาก ถ้าไม่
อิ่มก็ไปซื้อขนมร้านใกล้ๆ กินต่อได้ ขนมปังคลุกฝุ่นกับไอศกรีมเมฆดำคือแนะนำ
สุดๆ”
“ใช่ๆ ร้านนี้ก็แค่ร้านธรรมดาทั่วไป ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูอาหารอร่อยกว่า”
เผยเชียน “???”
เขากะจะมาแฉร้านที่เกาะคนอื่นดังอย่างน่าไม่อาย แต่พอเลื่อนอ่านคอมเมนต์
จากชาวเน็ตก็พบปัญหาใหญ่อีกข้อหนึ่งเข้า
ใครเป็นคนทำ
ใครมันบังอาจมาโปรโมตร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
เผยเชียนรีบกดดูหน้าข้อมูลร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูในฉวนหมินรีวิว คะแนน
ของร้านทำให้เขาชาไปครึ่งซีก
4.8!
เขาเลื่อนลงมาดูคอมเมนต์
“คอมพ์ แ รงเน็ ต เร็ ว มาตรฐานเดี ย วกั บ ร้ า นสาขาหลั ก เลย แฟรนไชส์
อินเทอร์เน็ตโมหยูนี่ไว้ใจได้เรื่องคุณภาพจริงๆ!”
“ฉันเพิ่งมาเป็นครั้งแรก ไม่คิดเลยว่าจะมีร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูอยู่ที่นี่ ชอบ
มากเลย ค็อกเทลอร่อย นักร้องประจำก็ใช้ได้ บรรยากาศร้านนี่ไม่ต้องพูดถึง
เหมาะเล่นเน็ตมาก พอใจสุดๆ”
“ร้านนี้เป็นร้านสาขา ในร้านห้ามสูบบุหรี่ บรรยากาศดี อาหารอร่อย ร้านอิน
เทอรเน็ตซิงเล่อที่กำลังมาแรงช่วงนี้ ถึงจะดูดีแต่เทียบกันแล้วแย่กว่าที่นี่”
เผยเชียนเลื่อนดูคอมเมนต์ ในใจรู้สึกสังหรณ์ไม่ดีหนักขึ้นเรื่อยๆ
มีบางอย่างผิดปกติ!
เผยเชียนรีบเดินผ่านร้านต่างๆ ที่เคยร้างผู้คนแต่ตอนนี้กลับคึกคัก ในที่สุดเขา
ก็มาถึงหน้าทางเข้าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
พอเห็นสถานการณ์ด้านในร้าน เผยเชียนก็อึ้งไป
โซนอินเทอร์เน็ตมีคนนั่งอยู่เกือบเต็ม มีที่ว่างเหลืออยู่แค่สองสามที่
โซนบาร์มีคนแน่นขนัดไม่ต่างกัน นักร้องประจำกำลังร้องเพลงช้าฟังสบาย
ลูกค้าบางส่วนเดินไปสั่งเครื่องดื่มและให้ทิปพนักงานเป็นครั้งคราว
เผยเชียนยืนอยู่หน้าประตู พูดอะไรไม่ออก
พนักงานตรงประตูจำเผยเชียนได้ทันที เขารีบวิ่งออกมาต้อนรับ “บอสเผยมา
ด้วยเหรอครับ! เชิญเข้ามาก่อนครับ!”
ช่วงที่ผ่านมาเผยเชียนยุ่งมากเลยไม่ได้แวะมาร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเดือนกว่า
แล้ว
ถึงจะแวะมาครัวส่วนตัวหมิงหยุนบ่อยๆ แต่คนขับรถก็พาขับตรงไปที่ร้านเลย
ไม่ได้ขับผ่านร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
ใครมันจะคิดว่าถนนเส้นนี้จะกลายเป็นแบบนี้ไปได้!
ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายก็รู้ได้ว่าบอสหลี่คือต้นเหตุ
เผยเชียนไม่ได้มองหาบอสหลี่เป็นอันดับแรก แต่เป็นหม่าหยาง
ไอ้หม่าอยู่ไหน
ฉันไว้ใจให้แกดูแลร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู แล้วนี่แกทำอะไรลงไป
แกนั่งบอร์ดบริหารร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เป็นมือขวาที่ฉันไว้ใจที่สุด หน้าที่
ของแกคือช่วยแบ่งเบาภาระฉันไม่ใช่เหรอ
เผยเชียนมองไปรอบๆ ร้านแล้วก็เจอหม่าหยางกับจางหยวนนั่งอยู่ตรงมุมหนึ่ง
หม่าหยางกำลังยกแก้วค็อกเทลจิบสบายใจเฉิบ พร้อมกับนั่งฟังเพลงอย่าง
เพลิดเพลินใจ
ความโกรธในใจเผยเชียนลุกโชนยิ่งขึ้นขณะมองสองคนตรงหน้า กล้าดียังไงมา
นั่งสบายใจกันแบบนี้!
พนักงานเดินไปหาหม่าหยางทันที “บอสหม่าครับ บอสเผยมา”
หม่าหยางหันมามอง รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าใหญ่ยาวของเขา “พี่เชียน มา
ด้วยเหรอ มาๆ นั่งก่อนพี่!
“ช่วงนี้กิจการร้านดีขึ้นมากเลยพี่ จู่ๆ ก็มีลูกค้าเข้า เป็นเพราะเปิดเทอมรึเปล่า
ผมคิดอยู่ว่าจะบอกข่าวดีให้พี่ฟังตอนเจอกันที่มหา’ลัย แต่พี่ดันมาเจอเอง”
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก
ไอ้หม่านะไอ้หม่า ฉันเชื่อใจแกที่สุด ทำไมแกถึงทำพังเละไม่เป็นท่าแบบนี้
“ทำไมถึงไม่บอกฉันว่าจู่ๆ ร้านเราก็มีลูกค้าเพิ่มขึ้น” เผยเชียนไม่พอใจมาก
หม่าหยางนิ่งไป “อ้าว พี่เชียนไม่ได้วางแผนไว้หมดแล้วเหรอ
“ตอนประชุมครั้งก่อน พี่บอกว่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหมิงหยุนวิลล่า
เป็นศูนย์กลางของแผนในอนาคต พี่จะเปิดจุดบริการนี่เฟิงที่นี่ แถมยังซื้อวิลล่า
เปิดครัวส่วนตัว ไม่ใช่ว่าที่พี่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อทำให้ สภาพธุรกิจในละแวกนี้ดีขึ้น
เหรอ”
ระหว่างที่ฟังเพลงกันอย่างสบายใจ จางหยวนก็พูดเสริม “ใช่ครับ ไม่ใช่ว่าบอ
สวางแผนทั้งหมดนี่ไว้แล้วเหรอ
“ผมนึกว่าบอสตั้งใจหลอกบอสหลี่ให้มาที่นี่เพื่อขาดทุนล้วนๆ แต่ตอนนี้ผมรู้
แล้วว่าตัวเองคิดตื้นไป
“นอกจากบอสหลี่จะมาลงทุนในละแวกนี้แล้ว ยังชวนคนในแวดวงการลงทุน
ให้มาลงทุนด้วย ภัตตาคารนิรนามทำให้แถวนี้เป็นที่รู้จักจนคนเรียกกันว่าเป็น
‘ย่ า นการค้ า เมื อ งจิ ง โจว’ กั บ ‘สตรี ต ฟู ้ ด เมื อ งจิ ง โจว’ แห่ ง ใหม่ ทำให้ ร ้ า น
อินเทอร์เน็ตโมหยูได้ผลพลอยได้ไปด้วย!
“ก่อนหน้านี้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูขาดทุนมาตลอด ไม่ใช่เพราะร้านไม่ดี แต่
เป็นเพราะคนสัญจรผ่านไปมาน้อย ตอนนี้ต้นตอของปัญหาได้รับการแก้ไขแล้ว
สาขาหมิงหยุนวิลล่าเลยดีขึ้นกว่าที่อื่นๆ”
เผยเชียนไม่รู้จะพูดอะไรขณะมองสีหน้าตื่นเต้นของคนทั้งสอง
เขาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองอย่างจริงจัง
อะไรกัน หรือว่าปัญหาก็คือตัวฉันเอง
เผยเชียนพูดไปจริงๆ ว่าสาขาหมิงหยุนจะเป็นเป้าหมายหลักในการขยาย
กิจการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู แล้วก็เป็นเขาเองที่ล่อลวงบอสหลี่ให้มาลงทุนที่นี่
แต่จุดประสงค์จริงๆ ของเขาไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดเลย!
ถ้ามองในมุมของหม่าหยางกับจางหยวน มันก็สมเหตุสมผลที่จะไม่รายงาน
เรื่องนี้ให้เผยเชียนรู้
ทุกคนรู้ว่าเถิงต๋ามีกิจการหลายอย่างและบอสเผยก็ยุ่งมาก ถ้าไม่ใช่เรื่อง
เร่งด่วนอะไรก็ไม่จำเป็นต้องไปแจ้ง
ทำไมร้านรวงในละแวกหมิงหยุนวิลล่าถึงขายดิบขายดีขึ้นมาล่ะ
ก็เพราะครัวส่วนตัวหมิงหยุนดังเป็นพลุแตก
ก็เพราะบอสหลี่และบริษัทลงทุนฟู่หุยเข้ามาลงทุนในพื้นที่
ก็เพราะบอสเผยซื้อวิลล่าในหมิงหยุนวิลล่า และหมิงหยุนวิลล่าก็ใช้โอกาสนี้ใน
การโปรโมตตัวเอง
ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะบอสเผยหมด
ดังนั้นก็หมายความว่าบอสเผยคาดการณ์เอาไว้แล้ ว ว่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
สาขาหมิงหยุนจะประสบความสำเร็จ
ในเมื่อบอสเผยคาดการณ์เรื่องนี้เอาไว้แล้ว ทำไมหม่าหยางกับจางหยวนต้อง
รายงานเรื่องเล็กน้อยอย่างการที่มีลูกค้าเข้าร้านมากขึ้นด้วย
“บอสเผย ค็อกเทลครับ”
พนักงานมาเสิร์ฟค็อกเทลแสงเหนือซึ่งเป็นเครื่องดื่มทีเ่ ผยเชียนโปรดปราน
เผยเชียนยกค็อกเทลขึ้นจิบอย่างเงียบเชียบ ขณะปล่อยใจให้ลอยออกไปจาก
ตรงนี้
ดูเหมือนว่าไอ้หม่าจะยังไว้ใจได้เหมือนอย่างเคย เจ้านั่นไม่ได้ทำอะไรเลย
ตั้งแต่ต้นจนจบ
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเหมือนจะเป็นความผิดของเผยเชียนเอง
เผยเชียนทั้งหงุดหงิดและโล่งใจในเวลาเดียวกัน
เขาหงุดหงิดเพราะกิจการอย่างหนึ่งของเขาส่งผลกระทบต่ออีกอย่าง ครัว
ส่วนตัวหมิงหยุนทำให้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเป็นที่นิยมขึ้นมา นอกจากจะทำกำไร
ได้แล้ว มูลค่าของตัววิลล่าก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
แต่เผยเชียนก็ยังดีใจที่หม่าหยางยังเชื่อถือได้อยู่
ทุกอย่างทีเ่ กิดขึ้นต้องโทษตัวเขาเอง
เผยเชียนจิบค็อกเทลเงียบๆ ในใจเต็มไปด้วยความทุกข์
โอเค ถ้างั้นก็โทษตัวฉันเองนี่แหละ
หม่าหยางไม่รู้ว่าเผยเชียนกำลังตั้งคำถามกับตัวเองอยู่ จึงถามขึ้นด้วยน้ำเสียง
ตื่นเต้น “พี่เชียน แผนรบของสาขาหมิงหยุนวิลล่าเสร็จสมบูรณ์แล้วใช่มั้ย”
แผนรบเหรอ
เผยเชียนนิ่งไปก่อนจะพยักหน้า “ใช่”
นอกจากจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ยังได้ผลลัพธ์เกินจากที่คาดไปไกล
โคตรจะไกลแสนไกลเลย!
หม่าหยางยิ้มดีใจก่อนจะพูดต่อ “พี่เชียน บอกแล้วไงว่าผมไม่ได้นั่งเป็นบอร์ด
บริหารง่อยๆ ผมช่วยแบ่งเบาภาระพี่ได้!
“ตอนนี้สาขาหมิงหยุนวิลล่าที่เคยขาดทุนมากที่สุดกลายเป็นที่นิยมขึ้นมา ผม
ว่าเราควรขยายกิจการ! เราต้องตีดาบตอนที่ยังร้อน ต้องเปิดร้านอินเทอร์เน็ตโม
หยูในจิงโจวเพิ่มเพื่อที่จะได้แย่งส่วนแบ่งตลาด”
หม่าหยางลดเสียงลง “บอสหลี่ลงทุนกับร้านอินเทอร์เน็ตซิงเล่อ ตอนนี้กำลัง
เปิดสาขากันรัวๆ เลย
“พี่เชียน ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเป็นที่แรกที่ใช้โมเดลร้านอินเทอร์เน็ตระดับสูง
อย่าให้เขาชนะเรานะพี่”
เผยเชียนนิ่งไประหว่างที่จ้องหม่าหยาง
ขยายกิจการเหรอ
แค่สองสาขาทำกำไรได้ก็ปวดหัวแย่แล้ว ยังจะสร้างปัญหาให้ฉันเพิ่มอีกเหรอ
รอบบัญชีนี้ฉันจะขาดทุนได้มั้ยวะเนี่ย
หืม
เดี๋ยวนะ
เผยเชียนนึกปัญหาอย่างหนึ่งออก
ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว!
ถ้าอย่างนั้นฉันก็ต้องปรับกลยุทธ์ตามสิ
บทที่ 259 ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเข้าสูข่ ั้นสอง!

เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมองจางหยวน “สภาพการเงินของร้านเรา
ตอนนี้เป็นยังไง”
จางหยวนรีบตอบอย่างภาคภูมิใจ “กำลังไปได้สวยเลยครับ!
“ร้านสาขาหลักมีรายได้ประมาณเจ็ดแสนหยวนต่อเดือน หลังหักค่าใช้จ่าย
แล้วจะได้กำไรประมาณสองถึงสามแสนหยวนต่อเดือน
“สาขาอื่นๆ แย่กว่านิดหน่อย แต่ก็ถือว่าถัวเฉลี่ยกันได้
“สาขาหมิงหยุนวิลล่าขาดทุนเยอะที่สุดในบรรดาสาขาทั้งหมด แต่ช่วงนี้มี
รายได้เพิ่มขึ้น ผมว่าเราน่าจะพลิกกลับมาทำกำไรได้เร็วๆ นี้”
ได้ยินอย่างนั้นเผยเชียนก็รู้สึกปวดใจ
แต่นั่นก็ช่วยยืนยันความคิดของเขา
เผยเชียนถามต่อ “ตอนนี้รายได้หลักของร้านมาจากการขายเครื่องดื่มใช่มั้ย”
จางหยวนพยักหน้า “ใช่ครับ รายได้หลักของร้านมาจากการขายเครื่องดื่ม
แอลกอฮอล์ กาแฟ และทิปนักร้องประจำ รายได้หลักอีกแหล่งคือค่าใช้บริการ
อินเทอร์เน็ต แต่ถึงจะมีคนมาเล่นอินเทอร์เน็ตร้านเราเยอะขึ้น ในภาพรวมก็ไม่ได้
ถือว่ามากมายอะไร”
เผยเชียนพอจะเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆ
“เราต้องขยายสาขา เราจะเปิดสาขาใหม่ในทำเลที่มีค่าเช่าแพงที่สุด!”
คำแนะนำให้ขยายสาขาของหม่าหยางทำให้เผยเชียนนึกอะไรขึ้นได้
เผยเชียนไม่คิดจะเอาเงินไปผลาญกับโปรเจ็กต์ล้มเหลวอย่างร้านอินเทอร์เน็ต
โมหยูอีก
ตอนนี ้ ท ั ้ ง สาขาหลั ก และสาขาหมิ ง หยุ น วิ ล ล่ า กลายเป็ น ที ่ น ิ ย ม ร้ า น
อินเทอร์เน็ตโมหยูได้คะแนนดีบนเว็บฉวนหมินรีวิว เรียกได้ว่ากลายเป็นร้านที่ดัง
มากๆ ในจิงโจว
พอลูกค้าเริ่มติดใจแบรนด์คุณภาพสูงพวกเขาก็จะจำไปตลอด พอมีสาขาใหม่
เปิด คนก็จะเข้าไปใช้บริการ
ดังนั้นการเปิดสาขาใหม่จึงเป็นผลเสียกับเผยเชียน
ทำไมต้องเปิดสาขาใหม่ด้วยถ้าทำให้ขาดทุนไม่ได้
แต่หลังจากคิดสักพัก เผยเชียนก็นึกปัญหาอีกข้อออก
จากกิจการทั้งหมด นี่เฟิงโลจิสติกส์น่าจะช่วยผลาญเงินได้ดีที่สุด
แต่หม่าหยางเป็นผู้บริหารร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู ในเมื่อร้านอินเทอร์เน็ตโม
หยูกำลังไปได้สวยและเริ่มทำกำไรได้ ทำไมถึงจะหยุดอยู่แค่นี้ล่ะ
เผยเชียนจะอธิบายเรื่องนี้กับหม่าหยางยังไง
แน่นอนว่าเผยเชียนไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกับใคร เขาเลือกไม่สนใจร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูก็ได้ถ้าอยากทำ เพราะการปล่อยให้มีกำไรเข้าเดือนละไม่กี่แสน
ก็ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไรสำหรับเขา
แต่ถ้าเกิดคนนึกสงสัยกันขึ้นมาล่ะ
เพราะมันจะดูแปลกๆ
ดังนั้นเผยเชียนจึงผุดคิดขึ้นได้อีกไอเดียหนึ่ง
การทำกำไรไม่ใช่ปัญหาในตอนนี้ ยังเหลืออีกเดือนกว่าๆ ก่อนจะถึงวันสรุป
บัญชี เขายังผลาญเงินกับนี่เฟิงโลจิสติกส์และการเปิดร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขา
ใหม่ได้
ตอนนี้มีสาขาที่ทำกำไรได้บ้างก็ไม่เป็นไร ขอแค่สาขาใหม่ทำกำไรไม่ได้ก็ถือว่า
โอเค
ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูทั้งสองสาขาทำกำไรได้ก็เพราะเหตุผลหลักๆ สองข้อ
ข้อแรกคือ รายได้ส่วนใหญ่มาจากยอดขายเครื่องดื่มและทิปนักร้องประจำ
ตอนนี้ลูกค้าหลายคนมองว่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเป็นร้านกาแฟหรือไม่ก็บาร์
ไม่ได้มองว่าเป็นร้านที่เอาไว้เล่นอินเทอร์เน็ต
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออกกับเรื่องนี้
ความตั้งใจเดิมของเขาคือจับทุกอย่างมายัดรวมกัน เพื่อทำให้ทุกคนงงว่าร้าน
อินเทอร์เน็ตโมหยูคือร้านอะไรกันแน่ จะได้ลดโอกาสที่ร้านจะดังขึ้นมา
เขาไม่ได้คิดเลยว่าโซนบาร์กับโซนกาแฟจะขายดีกว่าโซนอินเทอร์เน็ต!
เหมือนคำที่ว่า คนคํานวณ มิสู้ฟ้าลิขิต
ข้อสองคือ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาอื่นๆ ต่างอยู่ในพื้นที่ห่างไกลผู้คน ค่า
เช่าจึงถูก
เผยเชียนเลือกทำเลเหล่านี้เพื่อซ่อนร้านไว้ในที่ที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน ด้วย
ความหวังที่ว่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจะไม่กลายเป็นที่รู้จั กและพวกไฮโซจะไม่ติด
ใจ เพื่อให้มั่นใจว่าจะหาเงินได้ไม่พอกลบรายจ่ายประจำวัน
แต่สถานการณ์ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว
ในเมื่อร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเป็นที่รู้จักไปแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปตั้ง
ร้านในทำเลห่างไกลผู้คนอีก ไปหาทำเลในแหล่งคนพลุกพล่านที่ค่าเช่าแพงๆ
ดีกว่า!
เผยเชียนคิดว่าถ้าเขาแก้ปัญหาสองข้อนี้ได้ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก็จะกลับมา
ขาดทุนเหมือนเดิม
เพราะฉะนั้นคนเราต้องหัดมองมุมกลับปรับมุมมอง
นักร้องประจำทำเงินได้เหรอ งั้นตัดออก!
ค่าเช่าถูกไปเหรอ งั้นหาทำเลแพงๆ!
เผยเชียนคิดเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหาทางออกที่สมบูรณ์แบบได้
“ถ้าอย่างนั้นเราก็เข้าสู่ขั้นที่สองของแผนร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกันเลย” เผย
เชียนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
หม่าหยางกับจางหยวนตื่นเต้นขึ้นมาทันที ทั้งสองฟังเผยเชียนอย่างตั้งใจ
ขั้นที่สอง!
ดูเหมือนว่าความพยายามอย่างหนักของเรากับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจ ะ
ส่งผลแล้ว บอสเผยยอมรับพวกเราแล้ว!
เผยเชี ย นพู ด ต่ อ “พอเข้ า สู ่ ข ั ้ น ที ่ ส อง เราจะเน้ น สร้ า งชื ่ อ เสี ย งให้ ร ้ า น
อินเทอร์เน็ตโมหยู ขณะเดียวกันเราก็จะเน้นหนักไปที่แก่นหลักที่แท้จริงของ
กิจการนี้ ซึ่งก็คือร้านอินเทอร์เน็ต”
หม่าหยางงุนงง
จางหยวนเองก็ตะลึงงันไป
ที่บอกว่าจะเน้นแก่นหลักที่แท้จริงของกิจการมันหมายความว่ายังไง
ไม่ใช่ว่าความหลากหลายเป็นจุดขายของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเหรอ
ตอนนี้พวกเขาทำเงินจากยอดขายเครื่องดื่มและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้มาก
ที่สุดนะ!
จางหยวนรอฟังเผยเชียนพูดต่อแม้ในหัวจะเต็มไปด้วยคำถาม
เผยเชียนหยิบมือถือออกมาเปิดแอปพลิเคชันแผนที่ หลังจากเลื่อนดูสักพัก
เขาก็กดปักหมุดห้างใหญ่ๆ ในจิงโจวสองสามแห่ง
“ในขั้นที่สอง เราจะเปิดสาขาใหม่หนึ่งสาขาเพื่อลองตลาด เรื่องทำเล...เราจะ
เลือกจากห้างพวกนี้
“ที่ของเราอาจไม่กว้างเหมือนที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นให้ลืมเรื่องขายเครื่องดื่ม
แอลกอฮอล์กับกาแฟไปได้เลย เพราะเราจะใช้พื้นที่ทั้งหมดวางคอมพิวเตอร์”
ความคิดของเผยเชียนชัดเจนมาก
หลายๆ สาขาทำเงินได้แค่ถึงจุดคุ้มทุน ขนาดสาขาหลักที่ทำรายได้ได้เยอะ
ที่สุดยังทำกำไรได้แค่เดือนละสองถึงสามแสนหยวน
ถ้าเกิดเพิ่มค่าเช่าต่อเดือนไปอีกสามถึงสี่แสนหยวนล่ะ
แบบนั้นก็จะเปลี่ยนจากทำกำไรได้มาเป็นขาดทุน
อีกอย่างรายได้หลักของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมาจากยอดขายเครื่อ งดื่ม
แอลกอฮอล์และกาแฟ รวมถึงทิปนักร้องประจำ
ถ้าสาขาใหม่ตัดนักร้องประจำออก ลูกค้ าก็จะให้ทิปไม่ได้ ร้านก็จะไม่ได้ส่วน
แบ่งรายได้ตรงนี้
แน่นอนว่าห้าสาขาก่อนหน้าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตามนี้ ปล่อยให้ดำเนิน
กิจการต่อไปตามเดิมได้
มีแค่สาขาใหม่ในห้างเท่านั้นที่จะเป็นร้านอินเทอร์เน็ตล้วนๆ
จางหยวนมองดูแผนที่แล้วรู้สึกสับสน “เราจะเปิดสาขาใหม่ตรงนี้ จริงๆ เหรอ
ครับบอสเผย”
การเปิดร้านสาขาในห้างช่วยให้มั่นใจว่ามีคนผ่านไปมาเยอะแน่นอน แต่ค่า
เช่าก็แพงมากด้วย!
ตอนนี้สาขาส่วนใหญ่จ่ายค่าเช่าที่ประมาณสามถึงสี่หยวนต่อตารางเมตรต่อ
วัน พื้นที่ขนาดสามพันตารางเมตรก็เท่ากับสามแสนหยวนต่อเดือน
แต่ค่าเช่าที่ในห้างนั้นไม่ได้ถูก!
อย่างน้อยก็เริ่มต้นที่เจ็ดถึงแปดหยวนต่อตารางเมตรต่อวันและอาจจะสูงไป
มากกว่านั้น
เท่ากับว่าค่าเช่าจะเพิ่มจากเดิมสองเท่า
ร้านส่วนใหญ่ในห้างเหล่านี้จะเป็นพวกแบรนด์เสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า
และเครื่องสำอางจากต่างประเทศ เพราะร้านค้าทั่วไปสู้ค่าเช่า ราคาแพงขนาดนั้น
ไม่ไหว
ตอนนี้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไม่ได้ทำเงินได้มากมายอะไร ถ้าต้องจ่ายค่าเช่า
ราคาแพงขนาดนั้นจะต้องขาดทุนแน่ๆ
อีกอย่าง ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขานี้จะมีทิศทางคนละแบบกับสาขาก่อนๆ
สาขาก่อนเน้นความหลากหลาย โดยในร้านมีทั้งโซนอินเทอร์เน็ต โซนคาเฟ่
และโซนบาร์
ถ้าสาขาใหม่ใช้โมเดลนี้ อย่างน้อยก็น่าจะทำรายได้ได้จากยอดขายเครื่องดื่ม
แอลกอฮอล์และกาแฟในห้าง
แต่บอสเผยแนะนำว่าแผนขั้นที่สองของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจะเน้นเรื่อง
แก่นหลักของกิจการนี้ ซึ่งก็คือร้านอินเทอร์เน็ต หมายความว่าสาขาใหม่จะ
ให้บริการแค่เรื่องอินเทอร์เน็ตเท่านั้น
ดูไม่น่าจะไปรอดเลย
ใครจะถ่อไปถึงห้างหรูในเมืองจิงโจวเพื่อเล่นเกมที่ร้านอินเทอร์เน็ตกัน
แบบนี้ก็เท่ากับเอาเงินไปละลายแม่น้ำสิ
จางหยวนรู้ว่าอาจจะมีพวกผู้ชายที่ทนรอแฟนช็อปปิ้งไม่ไหว แล้วอยากเล่น
เกมระบายความหงุดหงิด
แต่ตอนนี้เรื่องแบบนี้ไม่ใช่อะไรที่พบเห็นได้ตามปกติอีก
ถึงแฟนจะใจดีอนุญาตให้ไปเล่นเกมแล้วตัวเองไปช็อปปิ้งต่อคนเดียว แต่พวก
เขาจะได้เล่นเกมนานเท่าไหร่กันเชียว
ช่วงเช้าอาจจะเล่นได้สักหนึ่งชั่วโมงก่อนไปกินข้าวเที่ยง ถ้าดูหนังเสร็ จแล้ว
แฟนอยากช็อปปิ้งต่อก็น่าจะใช้เวลาอย่างมากแค่ประมาณหนึ่งชั่วโมง แล้วก็กลับ
บ้านไปกินข้าวเย็น
ดังนั้นพวกเขาก็น่าจะได้เล่นเกมได้อย่างมากแค่ประมาณสองชั่วโมง ในกรณีที่
แฟนใจดีอนุญาตให้เล่นได้
คนกลุ่มนี้น่าจะสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมได้ไม่เต็มที่ แถมทางร้านยั งได้
เงินจากพวกเขาไม่มากด้วย
ถ้าคิดตามนี้ โอกาสที่ร้านจะหาเงินคืนทุนได้นั้นเป็นไปได้น้อยมาก
เว้นเสียแต่ว่า...จะขึ้นราคา!
จางหยวนรีบถาม “บอสเผยครับ เราขึ้นราคาสาขาใหม่ดีมั้ยครับ อาจจะเก็บ
สักยี่สิบหยวนต่อชั่วโมง”
เผยเชียนส่ายหน้าทันที “ไม่ ราคามาตรฐานของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูคือสิบ
หยวน เราจะไม่ขึ้นราคาตามใจชอบ”
จางหยวน “…”
ตอนนั้นเองหม่าหยางที่เงียบมาตลอดก็ยกนิ้วโป้งขึ้น “เยี่ยมเลยพี่เชียน!
ไอเดียดีมาก
“ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสร้างชื่อให้ตัวเองได้แล้ว จะมัวเช่าแต่ทำเลร้างผู้คน
แบบนี้ก็ไม่ดี ถ้าอยากเป็นที่รู้จักขึ้นอีกก็ต้องย้ายไปห้างนั่นแหละ!
“จากนั้นเราก็จะยกระดับแบรนด์เราให้เหมือนพวกแบรนด์เครื่องสำอาง
เสื้อผ้า เครื่องประดับของต่างประเทศ ผลลัพธ์ที่ได้ต้องยอดเยี่ยมมากแน่ๆ!”
เผยเชียนกับหม่าหยางตบมือกัน “คิดเหมือนกันเลย!”
จางหยวน “...”
เห็นจางหยวนยังดูงุนงง หม่าหยางก็ยิ้มให้ “ในระยะสั้นจะขาดทุนเท่าไหร่ก็ไม่
สำคัญหรอกพี่
“เป้าหมายระยะยาวคือสร้างชื่อให้แบรนด์ของเรา
“ดูร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักสิ ตอนแรกขาดทุนหนักเลยไม่ใช่เหรอ สัก
พักเราก็ค่อยๆ สร้างรายได้แล้วพลิกกลับมาทำกำไร ตอนนี้ไปได้สวยเลยเห็นมั้ย!
“ดูคอมเมนต์ที่คนพูดถึงร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูในฉวนหมินรีวิวสิ มีแต่คอม
เมนต์ด้านบวก เ

You might also like