ระเบียบกระทรวงกลาโหม

ว่าด้วยผู ซ ึ่ สมควรจะดารงอยู ่ในยศ

้ งไม่
ทหาร และบรรดาศ ักดิ ์
พ.ศ. ๒๕๐๗
 ่ นการสมควรกาหนดหลักเกณฑ ์
โดยทีเป็
ผูซ ึ่ สมควรจะดารงอยู่ในยศทหาร และบรรดาศักดิ ์
้ งไม่
จึงวางระเบียบไว ้ดังต่อไปนี ้
้ ยกว่า " ระเบียบ
ข ้อ ๑.ระเบียบนี เรี
กระทรวงกลาโหม ว่าด ้วยผูซ ึ่ สมควรจะดารงอยู่ใน
้ งไม่
ยศทหาร และบรรดาศักดิ ์ พ.ศ. ๒๕๐๗ "
บรรดาศ ักดิ ์ แปลว่า

[บัน-ดา-สัก] (สก. ปฺราปฺต = ถึงแล ้ว + ศกฺติ =

อานาจ) น. ผูม้ อ
ี านาจอันถึงแล ้ว, ตาแหน่ งขุนนาง คือ
ขุน หลวง พระ พระยา เป็ นต ้น.
source : อ.เปลือง้ ณ.นคร

บรรดาศักดิ ์ : [บันดา-] น. ฐานันดรศักดิที์ ่

พระราชทานแก่ข ้าราชการหรือบุคคลทัวไป ่ แบ่ง
ออกเป็ น เจ ้าพระยา พระยา
 ์
บรรดาศ ักดิของขุ
นนางไทยแบ่งออกได้เป็ น 9 ระดับคือ

1.สมเด็จเจ ้าพระยา
2.เจ ้าพระยา
3.พระยาหรือ ออกญา
4.พระ และ จมืน่
5.หลวง
6.ขุน (ระดับสัญญาบัตร)
7.หมืน ่
ระบบบรรดาศั ก ดิ ์
ของไทย รวมทัง้
8.พัน
ราชทินนาม ได ้มีการยกเลิกไปใน
9.นาย พ.ศ. 2485 ร ัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระเจ ้าอยูห
่ วั
 ข ้อ ๒. ผูซ ึ่ สมควรจะดารงอยู่ในยศทหาร
้ งไม่
และบรรดาศักดิ ์ ผู ้ทีมี
่ ความผิด หรือ ต ้องร ับโทษอย่างใด
อย่างหนึ่ ง ดังต่อไปนี ้
่
๒.๑ทุจริตต่อหน้าทีราชการ โดยถือตาม
คาพิพากษาถึงทีสุ ่ ดให ้จาคุกหรือโทษทีหนั
่ กกว่าจาคุก
เว ้นแต่ศาลจะรอการกาหนดโทษ หรือกาหนดโทษแต่รอ
การลงโทษไว ้
๒.๒การทาความผิดนอกจากข ้อ ๒.๑ ต ้อง
ร ับโทษจาคุกหรือโทษทีหนั ่ กกว่าจาคุกตามคาพิพากษา
่ ดให ้จาคุก หรือโทษทีหนั
ถึงทีสุ ่ กกว่าจาคุกเว ้นแต่ศาล
จะรอการกาหนดโทษ หรือกาหนดโทษแต่รอการลงโทษ
ไว ้ หรือต ้องร ับโทษจาคุกไม่เกินความผิดลหุโทษ หรือ
ความผิดอันได ้กระทาโดยประมาท
 ๒.๓ ต ้องคาพิพากษาถึงทีสุ ่ ดให ้เป็ นคน
ล ้มละลาย เพราะทาหนี สิ ้ นขึนด
้ ้วยความทุจริต
่ ้บังคับบัญชา ซึงสั
๒.๔ ขัดคาสังผู ่ งโดยชอบด
่ ้วย
กฎหมาย และการขัดคาสังนั ่ ้นเป็ นเหตุให ้เสียหายแก่
ราชการอย่างร ้ายแรง
๒.๕ เปิ ดเผยความลับของทางราชการ เป็ นเหตุ
ให ้เสียหายแก่ราชการอย่างร ้ายแรง
 ๒.๖ ่
ประมาทเลินเล่อในหน้าทีราชการ
เป็ นเหตุให ้เสียหายแก่ราชการอย่างร ้ายแรง
๒.๗ ต ้องหาในคดีอาญาแล ้วหลบหนี
๒.๘หนี ราชการทหารในเวลาประจาการ
๒.๙ประพฤติชวอย่ ่ ั างร ้ายแรง
 ึ่ สมควรจะดารงอยู่ในยศทหาร
้ งไม่
ข ้อ ๓. ผูซ
และบรรดาศักดิ ์
ให ้ส่วนราชการต ้นสังกัดดาเนิ นการดังต่อไปนี ้
๓.๑สาหร ับข ้าราชการกลาโหมชน้ั
สัญญาบัตร ให ้รายงานตามลาดับชนถึ ้ั งร ัฐมนตรี ว่า
การกระทรวงกลาโหม เพือพิ ่ จารณา หากเห็นเป็ น
การสมควรจะได ้ดาเนิ นการถอดออกจากยศทหาร
และบรรดาศักดิ ์ ต่อไป
 ๓.๒ สาหร ับข ้าราชการกลาโหมต่ากว่า
ชนสั้ั ญญาบัตร ้ั
ให ้รายงาน ตามลาดับชนจนถึ ง
ผูบ้ งั คับบัญชาชนแม่้ั ทพ ่ นหัวหน้าส่วน
ั ซึงเป็
้
ราชการขึนตรงต่ อกระทรวงกลาโหม ผู ้บัญชาการ
ทหารบก ผูบ้ ญ ั ชาการ ทหารเรือ หรือ ผู ้บัญชาการ
ทหารอากาศ เพือพิ ่ จารณาหากเห็นเป็ นการ
สมควรก็ให ้จัดการถอดยศออกจาก ยศทหาร
ี รรดาศักดิด์ ้วยก็ให ้รายงานจนถึง
แต่ถ ้าเป็ นผูม้ บ
ร ัฐมนตรีวา่ การกระทรวงกลาโหม เพือจั ่ ดการถอด
ออกจากยศทหารและบรรดาศักดิเสี ์ ยในคราวเดียว
พร ้อมกัน
ข ้อ ๔. การถอดยศทหารและบรรดาศักดิ ์ ตามความ
ใน ข ้อ ๒.๑ , ข ้อ ๒.๒ หรือ ข ้อ ๒.๓ ให ้ถอด ตังแต่ ้
วันมีคาพิพากษาถึงทีสุ ่ ด
้ งแต่
ข ้อ ๕. ให ้ใช ้ระเบียบนี ตั ้ บด ้ นต ้นไป
ั นี เป็

ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ.

๒๕๐๗

่ จอมพล ถ. กิตติขจร
(ลงชือ)
(
ถนอม กิตติขจร)