You are on page 1of 24

12

Reinforced Concrete Design I

Torsion
 Torsional effects
 Torsion in plain concrete
 ข้อกำหนดตามมาตรฐาน วสท.
T
 ตัวอย่างการออกแบบ

Mongkol JIRAVACHARADET
SURANAREE INSTITUTE OF ENGINEERING
UNIVERSITY OF TECHNOLOGY SCHOOL OF CIVIL ENGINEERING
Torsional effects in reinforced concrete

mt

Torsion at a cantilever slab


T
T

mt

T A B

Torsion at an edge beam

A B A B

Stiff edge beam Flexible edge beam


Beam-to-beam Connection

Primary beam
Secondary beam
Beam supporting a cantilever slab
WSD
Torsion in plain concrete members
T

T
tmax
y
T
Rectangular section:  max 
 x 2y

y/x 1.0 1.5 2.0 3.0 5.0 ∞

a 0.208 0.219 0.246 0.267 0.290 1/3


อกำหนดการออกแบบตามมาตรฐาน ว.ส.ท. 1007-34 WSD

5106 แรงบิด
ก) องค์อาคารใดที่รบั แรงบิด เช่น คานขอบ คานโค้ง คานหรือแผ่นพื้ นเวียน เป็ นต้น
ให้คำนวณออกแบบตามวิธีที่ระบุไว้ในข้อ 6400

ข) ให้เสริมเหล็กตามแนวแกนอย่างน้อยหนึ่ งเส้น
ที่แต่ละมุมของหน้าตัดคาน เส้นผ่าศูนย์กลาง
ของเหล็กนั้นต้องมีขนาดอย่างน้อยที่สุด
เท่ากับขนาดของเหล็กปลอก แต่ตอ้ งไม่เล็ก
กว่า 12 มม.
อกำหนดการออกแบบตามมาตรฐาน ว.ส.ท. 1007-34 WSD

6401 ทั ่วไป
ก) เมื่อองค์อาคารถูกบิดด้วยโมเมนต์ดดั Mt จะทำให้เกิดหน่ วยแรงเฉือนขึ้ น สำหรับ
หน้าตัดรูปสี่เหลี่ยม หน่ วยแรงเฉือนนี้ จะมีค่าสูงสุดที่กึ่งกลางของแต่ละด้าน และ
ค่อยๆลดลงไปจนเป็ นศูนย์ที่มุมทั้งสี่ x

ข) ในการจัดสัดส่วนขององค์อาคาร ค่าหน่ วยแรง


เฉือนที่เกิดจากแรงบิดล้วนๆ หรือเกิดจากแรง tmax
y
บิดรวมกับแรงดัด ต้องไม่เกินค่าที่กำหนดไว้
ในตารางที่ 6001
อกำหนดการออกแบบตามมาตรฐาน ว.ส.ท. 1007-34 WSD

ตารางที่ 6001 – หน่วยแรงเฉือนที่ยอมให้ของคอนกรีต v c

องค์อาคาร หน่วยแรงที่ยอมให้

คานที่ไม่มีเหล็กเสริมรับแรงเฉือน vc 0.29 fc

ตงที่ไม่มีเหล็กเสริมรับแรงเฉือน vc 0.32 fc

คานเสริมเหล็กลูกตั้งหรือคอม้า v 1.32 fc

แผ่นพื้ นและฐานราก (เฉือนทะลุ) vc 0.53 fc


อกำหนดการออกแบบตามมาตรฐาน ว.ส.ท. 1007-34 WSD

6402 การคำนวณหาหน่วยแรง
ก) คานหน้าตัดสี่เหลี่ยมผืนผ้า รูปตัว L รูปตัว T ให้คำนวณหน่ วยแรงบิดที่เกิดขึ้ น
มากที่สุดบนหน้าตัดดังนี้
3.5 T เมื่อ x คือด้านสั้น และ y ด้านยาวของสี่เหลี่ยมผืนผ้า
t 
x 2 y ซึ่งประกอบขึ้ นมาเป็ นหน้าตัดนั้น

ถ้าคานมีหน้าตัดรูปตัว L หรือตัว T ให้แบ่งเป็ นรูปสี่เหลี่ยมย่อยโดย x คือด้านสั้น


และ y คือด้านยาว
ความกว้างของปี กคานที่ใช้ในการคำนวณผล t
รวมของ x2y จะต้องไม่เกิน 3 เท่าความ
หนาปี ก หรือไม่เกิน 1/12 ของช่วงคาน โดย  3 t or
1/12 L
ใช้ค่าที่นอ้ ยกว่า
อกำหนดการออกแบบตามมาตรฐาน ว.ส.ท. 1007-34 WSD

ข) หน้าตัดสี่เหลี่ยมผืนผ้ากลวงให้คิดเหมือนหน้าตัดตันได้ แต่ความหนาผนัง t ต้อง


ไม่นอ้ ยกว่า x/4 ถ้าหนาน้อยหว่า x/4 แต่ไม่นอ้ ยกว่า x/10 ให้คณ
ู ผลรวม x2y
ด้วย 4t/x
ค) หน้าตัดสี่เหลี่ยมผืนผ้ากลวงที่มีความหนาน้อยกว่า x/10
t
ให้คำนวณโดยใช้ทฤษฎีซึ่งเป็ นที่ยอมรับแล้ว
ในการคำนวณออกแบบ ให้ถือว่าหน่ วยแรงบิดสูงสุดเกิดขึ้ น
x
ที่ระยะ d จากขอบของที่รองรับ
อกำหนดการออกแบบตามมาตรฐาน ว.ส.ท. 1007-34 WSD

6403 ข้อกำหนดสำหรับหน่วยแรงบิด
ก) กรณีที่หน่ วยแรงเฉือนจากการบิดเพียงอย่างเดียวเกิน
กำลังบิดสูงสุดของหน้าตัด max  1.32 fc

ต้องเพิ่มขนาดหน้าตัด จนกระทัง่ หน่ วยแรงเฉือนไม่เกินเกณฑ์กำหนดนี้


ข) กรณีหน้าตัดคานรับแรงเฉือนและแรงบิดร่วมกัน ให้รวมหน่ วยแรงทั้งสองเข้าด้วยกัน
3.5 T V กำลังบิดสูงสุดของหน้าตัด
t  v  
x 2 y bd max  1.65 fc

ถ้าหน่ วยแรงเฉือนที่เกิดขึ้ น t หรือ t + v  0.29 fc ต้องเสริมเหล็กรับแรงบิด


อกำหนดการออกแบบตามมาตรฐาน ว.ส.ท. 1007-34 WSD

6404 การเสริมเหล็กรับแรงบิด
At T
 เหล็กปลอกลูกตั้งหนึ่ งขา 
s 2 A c fv
Ac y0 h
Tz
 เหล็กเสริมตามยาวแต่ละมุม Al 
2 A c fs

เมื่อ Ac คือเนื้ อที่แกนคอนกรีตภายในเหล็กปลอก x0


z คือระยะระหว่างเหล็กเสริมตามยาวโดยเฉลี่ย b
fv คือหน่ วยแรงดึงที่ยอมให้ของเหล็กปลอก 2 xo  2 yo
z
4
fs คือหน่ วยแรงดึงที่ยอมให้ของเหล็กเสริมตามยาว

ปริมาณเหล็กปลอกสองขารับแรงเฉือนและโมเมนต์บิด 2 legs Av
A  A A
Total  v  t   v  2 t 1 leg At
 s  s s
ตัวอย่างที่ 12-1 จากตัวอย่างที่ 10-3 บันไดยืน่ จากคานชิดกำแพงกว้าง 1.50 เมตร
จงออกแบบคานแม่บนั ได ใช้ fc = 65 ksc (f’c = 144 ksc) และ fs = 1,700 ksc
171 kg/m

0.25 m 1-DB12
0.25 m
d = 22.4 cm

1.50 m
0.15 m

q = tan-1 (15/25)
q
= 31 o

10 @ 0.25 m = 2.5 m
50 cm วิธีทำ
ช่วงคานในแนวราบ = 2.50 m

เลือกหน้าตัดคาน = 30 x 50 cm

30 cm ความลึกประสิทธิผล d = 45 m

พิจารณาการดัด :
15
คำนวณน้ำหนักแผ่รวมบนแนวราบ q
25
น้ำหนักคาน 0.3  0.5  2,400/cos31o = 420 kg/m

น้ำหนักบันได (0.15+0.25)0.101.5 2,400/0.25 = 576 kg/m

น้ำหนักรวม = 420 + 576 = 996 kg/m


1
M   996  2.52  778 kg-m พารามิเตอร์: k = 0.277,
8
j = 0.908 และ R = 8.16 ksc
Mc  R b d2  8.16  30  452

 495,720 kg-cm  4,957 kg-m > M OK


M 77,800
พื้ นที่เหล็กเสริมที่ตอ้ งการ As    1.12 cm2
fs jd 1,700  0.908  45
พิจารณาการเฉือน :
V  996  (2.5 / 2  0.45)  797 kg
171 kg/m / ขั้นบันได
V 797
v    0.59 ksc
bd 30  45 0.25 m 1-DB12

พิจารณาการบิด : d = 22.4 cm

โมเมนต์บิดต่อหน่ วยความยาวคานจากบันได 1.50 m


1 1.0
mt   171   1.52  768 kg-m/m
2 0.25

โมเมนต์บิดสูงสุดที่ระยะ d จากผิวเสา
T  768  (2.5 / 2  0.45)  614 kg-m/m
3.5 T
หน่ วยแรงบิดที่เกิดขึ้ น t 
x 2 y
y = 50 cm
3.5  614  100
t   4.78 ksc
302  50
x = 30 cm
หน่ วยแรงเฉือนรวม   t  v

= 4.78 + 0.59 = 5.37 ksc

หน่ วยแรงเฉือนรวมที่ยอมให้  1.65 144 = 19.8 ksc > [  = 5.37 ksc] OK

ดังนั้น หน้าตัด 30  50 ซม. มีขนาดเพียงพอในการรับแรงเฉือนรวม


หน่ วยแรงเฉือนคอนกรีต v c  0.29 144

= 3.48 ksc < [  = 5.37 ksc] NG

ดังนั้น ต้องเสริมเหล็กต้านทาน โมเมนต์บิด


เหล็กเสริมรับโมเมนต์บิด :
At T 614  100

เหล็กปลอก : s 2 A f 
2  22  42  1,200
c v
Ac 42 50
= 0.0277 cm2/cm
เหล็กเสริมรับแรงเฉือน :
Vc  0.29 144  30  45  4,698 kg > V 22
Av V 30
 s  0 คิดเฉพาะเหล็กปลอกรับโมเมนต์บิด
s fs d

ปริมาณเหล็กปลอกน้อยที่สุด : 2 legs Av
Av
min  0.0015b  0.0015  30 1 leg At
s
= 0.045 < 2(0.0277) OK

เลือกเหล็กปลอก RB9 (As = 0.636 cm2)


s = 0.636/0.0277 = 23.0 cm< d/2 = 45/2 < 60 cm

ดังนั้น เสริมเหล็กปลอก RB9 @ 0.22 m


เหล็กเสริมตามยาวที่แต่ละมุม :
z = (22 + 42) / 2 = 32 cm
Tz 614  100  32 Ac 42 50
Al  
2 A c fs 2  22  42  1,200

= 0.886 cm2
22
เหล็กเสริมตามยาวบนหน้าตัด : 30
เหล็กเสริมล่างทั้งหมด : 3 DB12
2DB12
= 1.12 + 2  0.886 = 2.89 cm2
RB9 @ 0.22 m 0.50
เหล็กเสริมบนทั้งหมด : 2 DB12
3DB12
= 2  0.886 = 1.77 cm2
0.30
ตัวอย่าง 12-2 ออกแบบคานช่วงเดี่ยวยาว 4.0 เมตรเพื่อรองรับพื้ นกันสาดช่วงยืน่ 1.0
เมตร หนา 10 ซม. น้ำหนักบรรทุกจร 100 กก./ม.2 กำหนด f’c = 150 กก./ตร.ซม. fy
= 3000 กก./ตร.ซม. (เหล็กตามยาว) fy = 2400 กก./ตร.ซม. (เหล็กปลอก)

T เลือกหน้าตัด 20x40 cm  d = 35 cm

mt น้ำหนักจร + น้ำหนักพื้ น :
w = 100 + 0.1x2400 = 340 kg/m
T
mt = (1/2)(340)(1.0)2 = 170 kg-m

T = 170(4.0/2 – 0.35) = 281 kg-m


w kg/m per 1 m width

10 cm
40 cm
d

20 cm 1.0 m
4.0 m
10 cm
3.5 T
หน่ วยแรงบิดที่เกิดขึ้ น t 
x 2 y
40 cm 30 cm 3.5  281 100
t 
202  40  102  30

20 cm 1.0 m = 5.18 kg/cm2

น้ำหนักคาน = 0.2x0.4x2400 = 192 kg/m หน่ วยแรงเฉือนที่ยอมให้


น้ำหนักรวม = 340 + 192 = 532 kg/m 1.65 150  20.2 > 6.43 ksc OK

แรงเฉือนที่ระยะ d = 35 cm จากจุดรองรับ หน่ วยแรงเฉือนคอนกรีต


0.29 150  3.55 < 6.43 ksc NG
V = 532(4.0/2 – 0.35) = 878 kg
หน่ วยแรงเฉือน ต้องเสริมเหล็กปลอกรับแรงเฉือน
v = 878/(20x35) = 1.25 kg/cm2 At T 281 100
 
s 2 A c fv 2  15  35  1200
หน่ วยแรงเฉือนรวม
t + v = 5.18 + 1.25 = 6.43 kg/cm2 = 0.0223 cm2/cm
ปริมาณเหล็กปลอกน้อยที่สุด : โมเมนต์ดดั :
A 1
min v  0.0015b  0.0015  20 M  532  4.02  1064 kg-m
s 8

= 0.030 < 2(0.0223) OK เหล็กเสริมล่าง :


1064  100
เลือกเหล็กปลอก RB9 (As = 0.636 cm2) As  = 2.24 cm2
1500  0.904  35
s = 0.636/0.0223 = 28.5 cm
เหล็กเสริมล่างทั้งหมด : 3 DB12
d/2 = 35/2 = 17.5 cm < 60 cm
= 2.24 + 20.446 = 3.13 cm2
เสริมเหล็กปลอก RB9 @ 0.17 m เหล็กเสริมบนทั้งหมด : 2 DB12
เหล็กเสริมตามยาว : = 20.446 = 0.89 cm2
z = (15 + 35) / 2 = 25 cm
2DB12
Tz 281 100  25
Al   0.40 RB9 @ 0.17 m
2 A c fs 2  15  35  1500
3DB12
= 0.446 cm2
0.20
ข้อสอบภย คานกลวงขนาด 30x40 ซม. ผนังด ้านข ้างหนา 10 ซม. ผนังด ้านบน
ิ เพียงอย่างเดียว จงใช ้
และล่างหนา 12.5 ซม. ถ ้าคานนีร้ ับโมเมนต์บด
ข้อที่ : 79
วิธ ี WSD ประมาณค่าโมเมนต์บด ้
ิ ใชงานสูงสุดทีไ่ ด ้จากคอนกรีตเพียง
อย่างเดียว กำหนดให ้ fc’ = 150 กก./ซม.2

3.5T
t   0.29 fc Tc  0.29 fc x 2 y / 3.5
x y
2

Tc  0.29 150  302  40 / 3.5 /100 = 365 kg-m

ข้อสอบภย คานกลวงขนาด 30x40 ซม. ผนังด ้านข ้างหนา 10 ซม. ผนังด ้านบน
และล่างหนา 12.5 ซม. ถ ้าคานนีร้ ับโมเมนต์บด ิ เพียงอย่างเดียว ตาม
ข้อที่ : 80
วิธ ี WSD เมือ
่ เสริมเหล็กรับแรงบิดแล ้ว ค่าโมเมนต์บด ้
ิ ใชงานสูงสุดที่
หน ้าตัดนีจ
้ ะรับได ้=? กำหนดให ้ fc’ = 150 กก./ซม.2

3.5T
t   1.32 fc Tmax  1.32 fc x 2 y / 3.5
x y
2

Tmax  1.32 150  302  40 / 3.5 /100 = 1663 kg-m

You might also like