Professional Documents
Culture Documents
อภิชาติ อาจนาเสียว
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1
1. หลักการและชนิดเครื่องอัดอากาศ
อากาศอัดคืออะไร
ต่อไปยังอุปกรณ์นำความร้อนกลับคืน
5 ทางไหลของอากาศ
(ถ้ามี) ทางไหลของสารระบาย
6
ความร้อน
1 5
7 โรงงาน
3 4
2 9
8 8 8
https://youtu.be/bJluUxA7aaY
https://youtu.be/wqNTYLIDaxs
เครื่องอัดอากาศที่ใช้มากในอุตสาหกรรม
1. เครื่องอัดอากาศแบบลูกสูบ
การทำงานเหมือนกับเครื่องยนตร์ โดยอากาศจะถูกดูด
ผ่านวาล์วเข้ากระบอกสูบ แล้วลูกสูบจะอัดอากาศและดันออกไป
มีทั้งแบบ Single Stage ซึ่งจะอัดได้ 10 bar และแบบ Two Stage Single-Acting
ซึ่งจะอัดได้ถึง 70 bar เป็ นเครื่องอัดอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง Single-Stage
กว่าแบบอื่น
อากาศออก
2. เครื่องอัดอากาศแบบสกรู
การทำงานใช้โรเตอร์แบบสกรูสองตัวสวมกันได้พอดีเมื่อ
หมุนเข้าหากันจะอัดอากาศที่อยู่ระหว่างโรเตอร์ ออกโดยไม่ต้อง
ผ่านวาล์ว จึงหมุนด้วยความเร็วสูงได้ ทำให้อัตราอัดอากาศสูง
เหมาะทำงานอย่างต่อเนื่อง หากทำงานที่ No Load จะเสียพลังงาน อากาศเข้า
สูญเปล่ามาก มีทั้งแบบที่ไม่มีน้ำมัน (Oil Free) ซึ่งจะมี
ประสิทธิภาพต่ำกว่าแบบมีน้ำมัน (Oil Flood) เล็กน้อย
เปรียบเทียบสมบัติของเครื่องอัดอากาศแต่ละชนิด
ชนิด แบบลูกสูบ แบบสกรู แบบเวน แบบหมุนเหวี่ยง
ปริมาณอากาศ ต่ำ-ปานกลาง ปานกลาง-สูง ปานกลาง-สูง สูง
ความดัน ปานกลาง-สูง ปานกลาง-สูง ต่ำ-ปานกลาง ต่ำ-ปานกลาง
ขนาด ไม่กระทัดรัด กระทัดรัด กระทัดรัด กระทัดรัด
การบำรุงรักษา มีส่วนสึกหรอ มีส่วนสึกหรอ มีส่วนสึกหรอ ต่ำ
มากชิ้น น้อยมาก น้อยชิ้น
น้ำมันในอากาศ มีบ้าง บางชนิดมี ต่ำ-ปานกลาง ต่ำ
การสันสะเทือน มาก น้อยมาก น้อยมาก ปานกลาง
ระดับเสียง สูง มีบ้าง เงียบที่สุด มีบ้าง
ประสิทธิภาพ
เมื่อโหลดเต็มที่ ปานกลาง-สูง สูง ปานกลาง สูง
โหลดบางส่วน สูง ไม่ดีหาก>60% ไม่ดีหาก>60% ไม่ดีหาก>70%
2. การเลือกเครื่องอัดอากาศ
ปริมาณความต้องการอากาศของอุปกรณ์ต่างๆ + ค่าเผื่อ 25-50%(ขยายตัวในอนาคต)
มีขั้นตอนดังนี้
1. เลือกช่วงความดันที่ใช้งาน ปกติ 5-10 bars
2. หาความต้องการอากาศรวมในรูปอากาศอิสระ ซึ่งมี 2 แบบ คือ
2.1 แบบต้องการปริมาณอากาศอัดคงที่
2.2 แบบต้องการปริมาณอากาศอัดไม่คงที่
เลือกเครื่องอากาศที่มีกำลังการผลิตใกล้เคียง จากตารางหรือ
แคตาลอกจากผู้ผลิต
3. การหาขนาดของถัง
หน้าที่
1. เก็บอากาศอัดและลดการกระเพื่อมของแรงดันอากาศอัดจากคอมเพรสเซอร์
2. ชดเชยความต้องการของโหลดในลักษณะ Peak load ได้ (จ่ายอากาศเสริม
ในช่วงที่มีความต้องการอากาศที่สูงกว่ากำลังการผลิตของเครื่องอัดอากาศ)
3. ลดความถี่ในการเปิ ด-ปิ ดเครื่องอัดอากาศ
4. ระบายความร้อนของอากาศอัดและเป็ นจุดกลั่นตัวของน้ำและน้ำมัน
กรณีหาขนาดของถังอัดหลังจากเลือกเครื่องอัดอากาศแล้ว (เริ่มต้นติดตั้งระบบอัดอากาศ)
V = ปริมาตรของถัง (m3)
Q = ปริมาณการจ่ายอากาศของเครื่องอัดอากาศ (m3/min) ซึ่งได้จาก name plate
ของเครื่องอัดอากาศหลังจากเลือกเครื่องอัดอากาศแล้ว
Pg = ความดันเกจ (bar)
P0 = ความดันสัมบูรณ์ของบรรยากาศ (1.013 bar)
A= ค่าตัวประกอบของเวลา (min)
เท่ากับ 1.5 สำหรับระบบที่มีความต้องการอากาศคงที่
เท่ากับ 3 สำหรับระบบที่มีความต้องการอากาศไม่คงที่
ตัวอย่าง
โรงงานติดตั้งเครื่องอัดอากาศ 75 kW แบบสกรู กำลังการผลิตอากาศอัด
(FAD) = 13 m3/min ที่ความดันในการผลิต 7 bar จงหาขนาดถังอัดอากาศ เพื่อ
รองรับความต้องการของโหลดที่เปลี่ยนแปลง
วิธีทำ
แทนค่าในสมการ
กรณีหาเวลาที่ถังอัดอากาศจะรับโหลดแบบชั่วขณะ (peak load) ได้
กรณีหาเวลาในช่วง Unload และช่วง Load เพื่อหาพลังงานที่ประหยัดได้หลังเพิ่มถังอัดอากาศ
V = ปริมาตรของถัง (m3)
t = เวลา (min)
Q = ปริมาณการจ่ายอากาศของเครื่องอัดอากาศ (m3/min)
Qr = ปริมาณความต้องการของอากาศอัดในระบบ (m3/min)
P0 = ความดันสัมบูรณ์ของบรรยากาศ (1.013 bar)
P1 = ความดันอากาศตัดโหลด (bar)
P2 = ความดันอากาศต่อโหลด (bar)
ตัวอย่าง
โรงงานติดตั้งเครื่องอัดอากาศ 75 kW แบบสกรู กำลังการผลิตอากาศอัด
(FAD) = 13 m3/min ที่ความดันในการผลิต 7 bar มีถังอัดอากาศขนาด 5 m3 เพื่อ
รองรับความต้องการของโหลดที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งมีความต้องการอากาศอัดใน
ระบบชั่วขณะ (peak load) เพิ่มขึ้นเป็ น 16 m3/min ถังนี้จะรับโหลดได้นานเท่าใด
วิธีทำ
แทนค่าในสมการ
5. อุณหภูมิอากาศด้านดูดเข้าเครื่องสูงกว่าอุณหภูมิภายนอกห้องในที่
ร่มไม่เกิน 3 oC และช่องดูดอากาศเข้าไม่ใกล้แหล่งความชื้น
6. ลดพฤติกรรมการใช้อากาศอัดที่ไม่เหมาะสม
7. การปรับปรุงถังเก็บอากาศ
8. เครื่องอัดอากาศแบบสกรู มีค่าช่วงเวลาเดินตัวเปล่าไม่เกิน 10 %
9. การบำรุงรักษากรองอากาศและชุดกรองอื่นๆของระบบอัดอากาศ
10. ติดตั้งวาล์ว ด้านจ่ายอากาศอัดออกจากถัง เข้าสู่ระบบและติดป้ าย
“ปิ ดวาล์วทุกครั้งหลังเลิกงานและเปิ ดวาล์วไล่น้ำทุกครั้งก่อนทำงาน”
เกณฑ์ข้อที่ 1 การหาประสิทธิภาพเครื่องอัดอากาศ
ส่วนใหญ่จะเป็ นเครื่องอัดอากาศแบบสกรู
เมื่อมีการเพิ่มเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต ทำให้ต้องการ
อากาศมากขึ้น
ถ้าเพิ่มเครื่องอัดอากาศอย่างเดียว แต่ท่อเมนของระบบอากาศ
มีขนาดเท่าเดิม จะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ในระบบตามมา
ท่อเมน อัตราการไหลไม่เกิน 6 m/s
ท่อสาขา อัตราการไหลไม่เกิน 10 m/s
P= f x L x Q1.85
Pm x d5
P = ความดันที่สูญเสีย, bar f = ตัวประกอบความเสียดทาน
L = ความยาวท่อ, m Q = ปริมาณการไหลอากาศ, l/s (FAD)
Pm = ความดันสัมบูรณ์เฉลี่ยในท่อ, bar d = เส้นผ่าศูนย์กลางในท่อ,
mm
สมการความดันลดจาก
ข้อต่อข้องอ
L = k x f x d2
L = ความยาวเทียบเท่าท่อตรง (m)
f = สัมประสิทธิ์ของความ
ต้านทานของข้อต่อข้องอ
k = 0.2738
d = เส้นผ่าศูนย์กลางภายในท่อ
(mm)
หรือใช้ตารางเปรียบเทียบความ
ยาวของข้องอ-ข้อต่อ
ตัวอย่าง โรงงานแห่งหนึ่งติดตั้งท่อเมนส่งจ่ายอากาศอัด 50 mm ความยาวท่อ
เมน 50 m ซึ่งการต่อมีท่อโค้งงอของท่อโดยติดตั้งข้องอ (Elbow, R = d) 8 ตัว และ
มีความต้องการปริมาณอากาศอัด 250 l/s ที่แรงดัน 7 bar
วิธีทำ
จากตารางเปรียบเทียบความยาวของข้องอ-ข้อต่อ ความยาวของท่องอ
เท่ากับ 0.8 x 8 = 6.4 m แทนค่าในสมการ
การต่อท่อในแนวนอนให้มีมุมลาดเอียง การติดตั้งท่อในกรณีที่มีสิ่งกีดขวาง
➠ ท่อสาขาซึ่งแยกออกจากท่อเมนเพื่อไปใช้งานนั้นต้องต่อขึ้นทางด้านบนและงอโค้งลง
มาเพื่อป้ องกันน้ำกลั่นตัวที่มากับกระแสลมอัดไหลเข้าสู่อุปกรณ์นิวแมติก
การแยกท่อจ่ายจากท่อเมนอีกวิธีหนึ่ง การแยกท่อจ่ายจากท่อเมน
ความดันอากาศใช้งานที่ลดลง (bar)
“อุณหภูมิอากาศด้านดูดเข้าเครื่องสูงกว่าอุณหภูมิภายนอกห้องในที่
ร่มไม่เกิน 3 oC และช่องดูดอากาศเข้าไม่ใกล้แหล่งความชื้น”
อุณหภูมิที่ลดลง (oC)
ระบบระบายความร้อนทิ้งจากเครื่องอัดอากาศ
เกณฑ์ข้อที่ 6 ลดพฤติกรรมการใช้อากาศอัดที่ไม่เหมาะสม
1. ใช้เป่ าทำความสะอาดพื้น
2. ใช้เป่ าระบายความร้อนและเป่ าฝุ่ นจากตัวเอง
3. ใช้เป่ าระบายความร้อนเครื่องจักร
4. ใช้ท่อยางเป่ าโดยตรงโดยไม่ใช้ปื นลม
5. ใช้เป่ าชิ้นงาน ซึ่งดัดแปลงแทนการใช้กระเดื่องเขี่ย
6. ลืมปิ ดวาล์ว หรือปิ ดวาล์วไม่สนิท
สมการในการคำนวณ
เครื่องอัดอากาศแบบสกรู ในช่วงเวลาเดินเครื่องตัวเปล่าจะใช้พลังงาน
ประมาณ 30 % (แบบใหม่) และ 70 % (แบบเก่า) ของพลังงานช่วง Load
มาตรการนี้ใช้ได้ดีในกรณีโรงงานมีเครื่องอัดอากาศหลายตัว มีความ
ต้องการลมอัดที่มีการเปลี่ยนแปลงตามลักษณะของการผลิต เช่น มีการ
ทำงาน 24 ชม ซึ่งกลางคืนใช้ลมอัดน้อย เพราะผลิตไม่เต็มที่
ON-OFF LOAD-UNLOAD
kW kW
MODULATION
kW