You are on page 1of 12

KKU Res J (GS) 14 (4) : October - December 2014 17

การประหยัดพลังงานโดยเครื่องท�ำน�้ำเย็นชนิด Oil-Free Magnetic


Bearing VSD Centrifugal Chiller ในโรงพยาบาลศรีนครินทร์
Energy saving by Oil-Free Magnetic Bearing VSD Centrifugal
Chiller in Srinagarind Hospital
อรรถวิทย์ ดีนาง (Attawit Deenang)*
ดร.ธนากร วงศ์วัฒนาเสถียร (Dr.Tanakorn Wongwuttanasatian)1**

บทคัดย่อ
เครื่องท�ำน�้ำเย็น CH1 และ CH2 (เครื่องเดิม) แบบระบายความร้อนด้วยน�้ำ คอมเพรสเซอร์ชนิด
centrifugal constant speed ในระบบปรั บ อากาศของโรงพยาบาลศรี น คริ น ทร์ ขนาดท� ำ ความเย็ น
เครื่องละ 490 ตัน/ชั่วโมง เดินเครื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยส่วนมากเครื่องจะท�ำงานในสภาวะโหลดไม่เต็ม
พิกัด ท�ำให้เกิดการใช้พลังงานสูงเกินความจ�ำเป็น ทางโรงพยาบาล ฯ จึงท�ำการติดตั้งเครื่องท�ำน�้ำเย็น CH3
(เครื่องใหม่) คอมเพรสเซอร์ชนิด Oil free Magnetic Bearing VSD Centrifugal Chiller ขนาด
ท�ำความเย็น 400 ตัน/ชั่วโมง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ท�ำงานได้ดีที่สภาวะโหลดไม่เต็มพิกัด ท�ำให้สามารถ
เลือกเดินเครื่องท�ำน�้ำเย็นให้เหมาะสมกับโหลดที่ใช้งานในอาคารโรงพยาบาลฯ การศึกษานี้ท�ำการตรวจวัด
การใช้พลังงานของเครื่องท�ำน�้ำเย็นทั้งเครื่องเดิมและเครื่องใหม่ เพื่อวิเคราะห์โหลดความเย็นและค�ำนวณ
สมรรถนะของเครื่ อ งเพื่ อ น� ำ ข้ อ มู ล ไปบริ ห ารจั ด การเดิ น เครื่ อ งให้ เ กิ ด การลดใช้ พ ลั ง งาน ผลการตรวจวั ด
พบว่าภาระโหลดความเย็นสูงสุดแบ่งเป็น 2 ช่วงคือ 870 ตันและ 350 ตัน สามารถออกแบบการเดินเครื่อง
ตามช่วงเวลา คือช่วง 8.00−18.00 น. เดินเครื่องท�ำน�้ำเย็น CH1 คู่กับ CH3 ขนาดท�ำความเย็นรวม 890
ตัน/ชั่วโมง และช่วง 18.00−8.00 น.เลือกเดินเครื่อง CH3 เพียงเครื่องเดียวขนาดท�ำความเย็น 400 ตัน/
ชั่วโมงใช้พลังงานรวม 8,002 kWh /วัน ซึ่งสามารถลดการใช้พลังงานในส่วนของเครื่องท�ำน�้ำเย็นของระบบ
ปรับอากาศลงคิดเป็น 24.59 %

ABSTRACT
In Srinagarind hospital, an air-condition system is composed of 2 chillers
(CH1, CH2). Each chiller is a centrifugal constant speed compressor having capacity of 490
tons. Both operate 24 hrs under part load during 6 pm-8 am (14 hrs) and 90% full load during
8 am-6 pm (10 hrs). This results in inefficient energy consumption during part load
operation. Thus, a brand new chiller (CH3) Oil-Free Magnetic Bearing VSD Centrifugal

1
Correspondent author: Tanwon@kku.ac.th
* นักศึกษา หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมพลังงาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
** รองศาสตราจารย์ ภาควิชาเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
18 วารสารวิจัย มข. (บศ.) 14 (4) : ต.ค. - ธ.ค. 2557

chiller has been installed to overcome the problem under part load condition. Combine opera-
tion of CH1 and CH3 is found to be suitable during off peak hours (8 am-6 pm) and operating
CH3 during peak hours (6 pm-8 am) this combined operation consumes 8,002 kWh per day
giving 24.59 % of energy saving compared with the previous CH1 and CH2 operation of the
air-conditioning system.

ค�ำส�ำคัญ : เครื่องท�ำน�้ำเย็น สภาวะโหลดไม่เต็มพิกัด


Key Words : Chiller, Part Load

บทน�ำ ไม่เต็มพิกัด (Part Load) ท�ำให้เครื่องมีสมรรถนะ


ระบบปรับอากาศในโรงพยาบาล [1] เป็น ต�่ ำ และเป็ น การเดิ น เครื่ อ งที่ มี ข นาดท� ำ ความเย็ น
ระบบที่ใช้พลังงานไฟฟ้าสัดส่วนมากที่สุดถึง 58 % เกิ น กว่ า ภาระโหลดความเย็ น (Cooling Load)
รองลงมาคือระบบไฟฟ้าแสงสว่าง 23 % และอื่นๆ ทางโรงพยาบาลฯ จึงท�ำการติดตั้งเครื่องท�ำน�้ำเย็น
อีก 19 % โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ CH3 (เครื่องใหม่) ที่มีขนาดท�ำความเย็น 400 ตัน/
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ใช้ระบบปรับอากาศแบบรวม ชั่วโมง แบบระบายความร้อนด้วยน�้ำ คอมเพรสเซอร์
ศูนย์โดยมีเครือ่ งท�ำน�ำ้ เย็น CH1 และ CH2 (เครือ่ งเดิม) ชนิ ด Oil free Magnetic Bearing VSD
แบบระบายความร้อนด้วยน�้ำ คอมเพรสเซอร์ชนิด Centrifugal Chiller ซึ่งใช้เทคโนโลยีใหม่ในการ
Centrifugal constant speed ขนาดท�ำความเย็น ออกแบบคอมเพรสเซอร์ ใ ห้ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพในการ
490 ตั น /ชั่ ว โมง จ� ำ นวน 2 เครื่ อ ง ควบคุ ม การ ท�ำความเย็นสูง [4] เหมาะส�ำหรับการเดินเครื่องที่
ท�ำงานด้วยมือ เดินเครื่องใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง สภาวะท� ำ งานไม่ เ ต็ ม พิ กั ด และในช่ ว งที่ ภ าระโหลด
ใช้พลังงานไฟฟ้าในแต่ละวันสูงและสมรรถนะของ ท�ำความเย็นน้อย
เครื่ อ งต�่ ำ โดยเฉพาะในช่ ว งกลางคื น ซึ่ ง โหลดการ วั ต ถุ ป ระสงค์ ก ารศึ ก ษาครั้ ง นี้ เ พื่ อ ท� ำ การ
ท�ำความเย็นจะน้อยกว่าช่วงกลางวัน [2] จากหลัก ตรวจวัดพลังงานเครื่องท�ำน�้ำเย็นทั้งเครื่องเดิมและ
การท�ำงานของเครื่องท�ำน�้ำเย็นจะมีสมรรถนะสูงสุด เครื่องใหม่ [5] โดยท�ำการตรวจวัดค่าพลังงานไฟฟ้า
เมื่อท�ำงานที่ภาระการท�ำความเย็นในช่วง 90-100% ที่ ใช้ข องคอมเพรสเซอร์ อั ตราการไหลของน�้ำเย็ น
ของภาระเต็มพิกัด การเพิ่มสมรรถนะและลดการใช้ และอุ ณ หภู มิ น�้ ำ เย็ น เข้ า และออก อี ว าโปเรเตอร์
พลังงานของเครือ่ งท�ำน�ำ้ เย็นสามารถท�ำได้หลายวิธี [3] หรือคอยล์เย็น แล้วน�ำมาค�ำนวณค่าตามทฤษฎีเพื่อ
เช่น การติดตั้งหรือเลือกใช้อุปกรณ์ควบคุมการท�ำงาน หาค่ า ภาระโหลดความเย็ น ของอาคารและใช้ เ ป็ น
ของคอมเพรสเซอร์ (Variable speed drive) และ แนวทางในการบริ ห ารจั ด การเดิ น เครื่ อ งให้ เ หมาะ
การเดิ น เครื่ อ งให้ เ หมาะสมกั บ ภาระโหลดการ สมกับภาระโหลดความเย็นของอาคาร โดยไม่เกิด
ท�ำความเย็น จะท�ำให้ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าของ ผลกระทบต่อความต้องการใช้งานระบบปรับอากาศ
คอมเพรสเซอร์ลงได้ [4] ซึ่งบนพื้นฐานของภาระ พร้อมทั้งท�ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน
โหลดท�ำความเย็นของอาคารและสภาพภูมิอากาศที่ เครื่ อ งท� ำ น�้ ำ เย็ น อี ก ทั้ ง สามารถลดการใช้ พ ลั ง งาน
เงื่อนไขการออกแบบ เช่น บางช่วงเวลาโรงพยาบาลฯ ไฟฟ้าในระบบปรับอากาศได้
ใช้งานเครื่องท�ำน�้ำเย็นในเวลากลางคืน ภาระโหลด ประเภทของเครื่องท�ำน�้ำเย็น (Chiller)
การท� ำ ความเย็ น น้ อ ย เครื่ อ งจะท� ำ งานในสภาวะ ระบบปรั บ อากาศแบบน�้ ำ เย็ น (Water
KKU Res J (GS) 14 (4) : October - December 2014 19

chiller) มีหลายประเภท โดยในบทวิจัยนี้จะศึกษา โดยไม่จ�ำเป็น) ง่ายต่อการบ�ำรุงรักษา ค่าใช้จ่ายต�่ำ


เครื่องท�ำน�้ำเย็น (Chiller) ประเภทระบายความ เป็นคอมเพรสเซอร์ชนิดหอยโข่ง ที่ใช้ลูกปืนแบบแม่
ร้อนด้วยน�้ำซึ่งอุปกรณ์หลักประกอบด้วย เครื่องท�ำน�้ำ เหล็ก (Magnetic Bearing) แทนการใช้ลูกปืน
เย็น (Chiller) หอท�ำความเย็น (Cooling Tower) แบบเชิงกล (Mechanical Bearing) ทีมีแรงเสียด
เครื่องสูบน�้ำ (Water Pump) เครื่องเป่าลมเย็น ทานมาก โดยลู ก ปื น แบบแม่ เ หล็ ก ประกอบด้ ว ย
(AHU/FCU) โดยเครื่องท�ำน�้ำเย็นประกอบด้วย ส่วนหลักๆ 4 ส่วนคือ ชุดควบคุม ขดลวดแม่เหล็ก
คอมเพรสเซอร์ คอนเดนเซอร์ อีวาโปเรเตอร์หรือ ไฟฟ้า เซ็นเซอร์จับต�ำแหน่ง และเพลาขับ อีกทั้งมี
คอยล์เย็น และ วาล์วลดความดัน มีสารท�ำความเย็น อุปกรณ์ ควบคุมความเร็วรอบของคอมเพรสเซอร์
เช่น R22 หรือ R134a บรรจุอยู่ภายในท�ำหน้าที่ผลิต (VSD,Variable speed drive) ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้า
น�้ำเย็นส่งไปให้กับเครื่องเป่าลมเย็น [6] เครื่องท�ำ น้อยกว่าคอมเพรสเซอร์แบบความเร็วคงที่ (Constant
น�้ำเย็นใช้คอมเพรสเซอร์หลายแบบ ตามขนาดและ speed compressor) ดังภาพที่ 1 เครื่องท�ำน�้ำเย็น
ยี่ ห ้ อ ของแต่ ล ะประเภท โดยออกแบบให้ ค วาม แบบระบายความร้อนด้วยน�้ำ คอมเพรสเซอร์ชนิด
เหมาะสมกับการใช้งาน ดังนี้ Oil free Magnetic Bearing VSD Centrifugal
ก) เครื่ อ งท� ำ น�้ ำ เย็ น ขนาดใหญ่ ป ระมาณ Chiller ความเร็วของคอมเพรสเซอร์จะถูกปรับให้
500 ตั น ความเย็ น นิ ย มใช้ ค อมเพรสเซอร์ ช นิ ด เหมาะสมกับภาระความเย็นและจุดท�ำงาน ณ ขณะนั้น
Centrifugal ซึ่งจะมีประสิทธิภาพสูงและใช้พลังงาน โดยอัตโนมัติ เมื่อท�ำการเปรียบเทียบกับเครื่องท�ำน�้ำ
ไฟฟ้าระหว่าง 0.6-0.8 กิโลวัตต์ต่อตัน เย็นชนิดอื่นๆแล้วจะมีประสิทธิภาพสูงที่สุดจึงเหมาะ
ข) เครื่ อ งท� ำ น�้ ำ เย็ น ขนาดกลางประมาณ สมที่จะใช้งานในสภาวะการเดินเครื่องไม่เต็มพิกัด
300 ตันความเย็น จะใช้คอมเพรสเซอร์ชนิด Screw ดังภาพที่ 2
ซึ่งจะมีประสิทธิภาพปานกลางและใช้พลังงานไฟฟ้า การค�ำนวณหาสมรรถนะเครื่องท�ำน�้ำเย็น
ระหว่าง 0.8-1.0 กิโลวัตต์ต่อตัน ระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์นั้นนิยมใช้
ค) เครื่ อ งท� ำ น�้ ำ เย็ น ขนาดเล็ ก ประมาณ กันอยู่ 2 แบบ [8] คือ Coefficient of performance
100 ตันความเย็นจะใช้คอมเพรสเซอร์ชนิด Piston (COP) และค่ากิโลวัตต์ต่อตันความเย็น (kW/TR)
ซึ่งจะมีประสิทธิภาพต�่ำและใช้พลังงานไฟฟ้ามากกว่า ซึ่งตัวแปรที่ส�ำคัญคือ ค่าพลังงานของคอมเพรสเซอร์
1.0 กิโลวัตต์ต่อตัน อุ ณ หภู มิ ที่ เ ข้ า ออก อี ว าโปเรเตอร์ ห รื อ คอยล์ เ ย็ น
จะเห็ น ได้ ว ่ า เครื่ อ งท� ำ น�้ ำ เย็ น แบบระบาย และคอนเดนเซอร์ หากค่า COP สูงแสดงว่าเครื่อง
ความร้อนด้วยน�้ำ คอมเพรสเซอร์ชนิดชนิดหอยโข่ง ท�ำความเย็นมีประสิทธิภาพท�ำงานดีซึ่งจะตรงข้ามกับ
อั ต ราการใช้ พ ลั ง งานไฟฟ้ า น้ อ ยกว่ า เมื่ อ เที ย บกั บ ค่ากิโลวัตต์ต่อตันความเย็น (kW/TR) ที่ต�่ำแสดง
คอมเพรสเซอร์ ช นิ ด สกรู แ ละคอมเพรสเซอร์ ช นิ ด ว่าเครื่องท�ำความเย็นมีประสิทธิภาพท�ำงานดี ในเรื่อง
ลู ก สู บ ถึ ง 20−40% และจากการศึ ก ษาพบว่ า ยั ง ตันความเย็นซึ่งเป็นค่า RT (Refrigerator ton)
พบว่ า เครื่ อ งท� ำ น�้ ำ เย็ น แบบระบายความร้ อ นด้ ว ย หรื อ USRT นั้ น ค� ำนวณมาจากการถ่ า ยเทความ
น�้ำ [7] คอมเพรสเซอร์ชนิด Oil free Magnetic ร้อนด้านอีวาโปเรเตอร์หรือคอยล์เย็นโดยน�้ำปริมาณ
Bearing VSD Centrifugal Chiller เหมาะส�ำหรับ 1 ตัน หนักประมาณ 2,000 ปอนด์ (จากค�ำจ�ำกัดความ
เดินเครื่องในสภาวะไม่เต็มพิกัด (ซึ่งการใช้งานส่วน ที่ว่าน�้ำปริมาณ 2,000 ปอนด์ ที่ 0 ํC กลายเป็นน�้ำแข็ง
มากแล้วเครื่องท�ำน�้ำเย็นจะท�ำงานในสภาวะไม่เต็ม 2,000 ปอนด์ที่ 0 ํC ภายในเวลา 24 ชั่วโมง จะคาย
พิกัด ท�ำให้เกิดการสิ้นเปลืองการใช้พลังงานไฟฟ้า ความร้อนแฝงออกมา มีค่าเท่ากับ 144 BTU/lb)
20 วารสารวิจัย มข. (บศ.) 14 (4) : ต.ค. - ธ.ค. 2557

ดังนั้น 1 USRT = (2,000×144) / 24 = เมื่ อ ได้ ค ่ า อั ต ราการท� ำ ความเย็ น แล้ ว น� ำ ไปค� ำ นวณ
12,000 BTU หรือ 12,000×0.252 = 3,024 kcal ประสิทธิภาพเครื่องท�ำน�้ำเย็นได้จากสมการ
(1 BTU = 0.252 kcal) สามารถค�ำนวณสมรรถนะ สมรรถนะเครื่องท�ำน�้ำเย็น = ก�ำลังไฟฟ้าที่ใช้ (kW/TR) (4)
ของเครื่องท�ำน�้ำเย็นได้จากสมการ อัตราการท�ำความเย็น
QL = mw Cp ΔT (1)
เมื่อ QL = อัตราการท�ำความเย็น, kcal/hr โดยดัชนีชี้วัด [9] ในการหาประสิทธิภาพ
mw = อัตราการไหลของน�้ำที่ไหลผ่านอีวา ของเครื่องท�ำความเย็นคือค่าพลังงานไฟฟ้าต่อตัน
โปเรเตอร์หรือคอยล์เย็น, kg/hr ความเย็นที่ Full Load แต่ในที่นี้เครื่องท�ำน�้ำเย็น
Cp = ค่าความร้อนจ�ำเพาะของน�ำ้ , kcal/kg 0C ไม่ได้เดินในสภาวะโหลดเต็มพิกัดตลอดเวลาจึงใช้
Tw, in = อุณหภูมนิ ำ�้ เย็นทีเ่ ข้าเครือ่ งท�ำน�ำ้ เย็น, 0C ข้อมูลที่ค่าสภาวะโหลดไม่เต็มพิกัด จากการตรวจ
Tw, out = อุณหภูมิน�้ำเย็นที่ออกจากเครื่อง วัดได้และการเปรียบเทียบสมรรถนะการท�ำงานของ
ท�ำน�้ำเย็น, 0C เครื่ อ งท� ำ น�้ ำ เย็ น นั้ น จะต้ อ งเปรี ย บเที ย บด้ ว ยค่ า
อัตราการไหลเชิงมวลของน�ำ้ เย็นสามารถค�ำนวณได้จาก พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ต่อตันความเย็นที่สภาวะมาตรฐาน
mw = ρw Vw (2) (Standard condition) เท่ า นั้ น ซึ่ ง ก� ำ หนดไว้
เมื่อ ρw = ความหนาแน่นของน�้ำ, kg/m 3
เพียงสองค่า คือ อุณหภูมนิ ำ�้ เย็นทีอ่ อกจาก อีวาโปเรเตอร์
Vw = อัตราการไหลเชิงปริมาตรของน�ำ้ เย็น, m3/s หรือคอยล์เย็น เท่ากับ 45 oF และอุณหภูมิน�้ำระบาย
ในกรณีของน�ำ้ ρW = 1000 kg/m3 (8.333 lb/gallon) ความร้อนที่เข้า หอท�ำความเย็นเท่ากับ 90 oF ซึ่ง
และ Cp,w = 4.187 kJ/kg.oC (1 Btu/lb.oF) เมื่อได้ค่าจากค�ำนวณแล้วน�ำค่าที่ได้ไปท�ำการปรับค่า
ภาระการท�ำความเย็นในหน่วยอังกฤษ ตันความเย็น แก้ไข (Correction Factor) จึงจะได้ค่าที่สภาวะ
สามารถค�ำนวณได้จาก มาตรฐาน ซึง่ ถ้าอัตราการไหลของน�ำ้ ต�ำ่ กว่าหรือสูงกว่า
QL = ρW Vw Cp,w ΔT พิกัดมากประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนความร้อนจะ
= 8.333 (lb/gallon) x Vw (gallon/ ลดต�่ำลง ในการออกแบบโหลดการท�ำความเย็น [10]
min) x 1 (Btu/lb.oF) x ΔT (oF) อุ ณ หภู มิ ภ ายนอกก็ มี อิ ท ธิ ผ ลต่ อ อุ ณ หภู มิ น�้ ำ ระบาย
= 8.333 x Vw x ΔT (Btu/min) x ความร้ อ นของคอนเดนเซอร์ ซึ่ ง ส่ ง ผลให้ ค ่ า การใช้
1/12,000 (Ton/Btu) x 60 (min/hr) พลังงานไฟฟ้าของเครื่องท�ำน�้ำเย็นสูงขึ้นด้วย
= 8.333/200 x Vw x ΔT (Ton/hr)
โดยที่ 1 (Ton/hr) มีค่าเท่ากับ 12,000 (Btu/hr)
ดังนั้น
วิธีการวิจัย
ในการศึ ก ษานี้ จ ะท� ำ การตรวจวั ด พลั ง งาน
QL = Vw x ΔT (Ton/hr) (3)
ของเครื่องท�ำน�้ำเย็นโดยแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ
24
1) ช่วงแรกท�ำการตรวจวัดเครื่องท�ำน�้ำเย็น
เมื่อ QL = อัตราการท�ำความเย็น, Ton/hr
CH1 คู่กับ CH2 (เครื่องเดิม) ขนาดท�ำความเย็น
Vw = อัตราการไหลเชิงปริมาณของน�ำ้ ทีไ่ หล
เครื่องละ 490 ตัน/ชั่วโมง ขณะท�ำงานพร้อมกัน ซึ่ง
ผ่านอีวาโปเรเตอร์หรือคอยล์เย็น, gpm
เดินเครื่องในสภาวะการใช้งานจริง โดยตรวจวัดใน
Tw, in = อุณหภูมิน�้ำเย็นที่เข้าเครื่องท�ำน�้ำเย็น, oF
ช่วงเดือนเมษายน 2557 ซึ่งคาดว่าเป็นช่วงเดือนที่มี
Tw, out = อุณหภูมิน�้ำเย็นที่ออกจากเครื่องท�ำ
สภาพอุณหภูมิของอากาศสูง ทั้งหมด 7 วันติดต่อกัน
น�้ำเย็น, oF
ท�ำบันทึกข้อมูลแบบต่อเนื่องทุกๆ 5 นาทีตลอด 24
KKU Res J (GS) 14 (4) : October - December 2014 21

ชั่วโมง มีรายละเอียดการตรวจวัดดังนี้ กับการใช้งานของอาคารและในระบบน�้ำระบายความ


− อัตราการไหลของน�ำ้ เย็นเข้าและออกอีวาโป ร้ อ นจากการออกแบบควรมี ค ่ า ที 3.0 GPM/TR
เรเตอร์หรือคอยล์เย็นโดยเครือ่ งวัดอัตราการไหลแบบ ต้องใช้เครื่องสูบน�้ำระบายความร้อน 3 ตัว แต่ในช่วง
Ultrasonic ทีท่ ำ� การตรวจวัดเครือ่ งสูบน�ำ้ ระบายความร้อนสามารถ
− วั ด อุ ณ หภู มิ น�้ ำ เย็ น เข้ า และออกอี ว าโป ใช้งานได้เพียง 2 ตัวเท่านัน้ แต่ทำ� การควบคุมทีอ่ ณ
ุ หภูมิ
เรเตอร์หรือคอยล์เย็น โดยเครื่องวัดอุณหภูมิแบบ เข้าและออก ดังนั้นจึงใช้ค่าจากการตรวจวัดจริงในการ
Thermocouple ค�ำนวณหาสมรรถนะเครื่องท�ำน�้ำเย็นตามทฤษฎี
− วัดก�ำลังไฟฟ้าของคอมเพรสเซอร์ โดย
เครื่องวัดก�ำลังไฟฟ้า (Power meter) ชนิดเคลื่อน เครื่องมือในการตรวจวัดพลังงาน
ย้ายได้แล้วน�ำข้อมูลมาค�ำนวณหาสมรรถนะของเครือ่ ง ก. เครื่องวัดอัตราการไหล (Ultrasonic
ท�ำน�้ำเย็นตามสมการ (3) และ (4) ท�ำการวิเคราะห์ flow meter) การวัดอัตราการไหลแบบอัลตราโซนิค
เปรียบเทียบสมรรถนะเครื่องท�ำน�้ำเย็นแต่ละเครื่อง ดังภาพที่ 3 มีหลักการคืออาศัยคลื่นความถี่เหนือเสียง
2) หลังจากการติดตั้งเครื่องท�ำน�้ำเย็น CH3 โดยการสะท้อนกลับของคลื่นความถี่เมื่อส่งไปกระทบ
(เครื่องใหม่) ชนิด Oil-free Magnetic Bearing กับอนุภาคของสารที่ปะปนมากับของเหลว เนื่องจาก
VSD Centrifugal Chiller ขนาดท�ำความเย็น 400 อนุ ภ าคของสารมี ค วามเร็ ว เท่ า กั บ ของไหล ดั ง นั้ น
ตัน/ชั่วโมง จ�ำนวน 1 เครื่อง แล้วท�ำการตรวจวัด ความเร็วในการสะท้อนกลับจะต่างไปจากค่าที่ส่งออก
(ตามข้อ 1) ช่วงเดือนพฤษภาคม 2557 โดยท�ำการ ไป ค่าความถี่ที่เปลี่ยนไปนี้จะแปรผันตรงกับความเร็ว
เดินเครื่อง CH3 (เครื่องใหม่) คู่กับ เครื่องเดิมที่มี ในการไหลของของไหล เราจึงสามารถทราบค่าอัตรา
ประสิทธิภาพสูงกว่า (CH1 หรือ CH2) น�ำข้อมูลมา การไหลของของไหลได้
ค�ำนวณสมรรถนะของเครือ่ งท�ำน�ำ้ เย็นตามสมการ (3) ข. เครื่องวัดอุณหภูมิแบบเทอร์โมคัปเปิล
และ (4) (Thermocouple) แบบหัวกะโหลกสามารถใช้สำ� หรับ
3) ก�ำหนดวิธีการเดินเครื่องท�ำน�้ำเย็นให้ การวัดอุณหภูมิแบบติดตั้งถาวร และในบริเวณพื้นที่
เหมาะสมกั บ ภาระโหลดความเย็ น ของอาคารและ จ�ำกัดดังภาพที่ 4 เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
ประหยัดพลังงานสูงสุด เนื่องจาก ราคาถูก มีความคงทน ติดตั้งง่าย และให้
อุ ป กรณ์ ใ นระบบท� ำ ความเย็ น ซึ่ ง ไม่ น� ำ มา ผลตอบสนองที่รวดเร็ว ใช้งานได้หลากหลาย สามารถ
คิ ด ในการหาค่ า ประสิ ท ธิ ภ าพของเครื่ อ งท� ำ น�้ ำ เย็ น ใช้วัดได้ทั้งอากาศ แก๊ส และน�้ำได้ พร้อมเครื่องบันทึก
(เนื่องจากมีการใช้ไฟฟ้าปริมาณน้อยเมื่อเปรียบเทียบ ข้อมูลแบบต่อเนื่อง (Data logger)
กับการใช้ไฟฟ้าของคอมเพรสเซอร์ คือ เครื่องสูบน�้ำ ค. เครื่องวัดก�ำลังไฟฟ้า (Power meter)
เย็นขนาด 110 kW จ�ำนวน 3 ตัว เครื่องสูบน�้ำระบาย เครือ่ งวัดก�ำลังไฟฟ้าชนิดเคลือ่ นย้ายได้ดงั ภาพที่ 5 เป็น
ความร้อนขนาด 75 kW จ�ำนวน 2 ตัว หอท�ำความ เครือ่ งมือชนิดหนึง่ ทีน่ า่ สนใจและส�ำคัญมากเพราะเป็น
เย็น 750 ตัน 3 ตัว (โดยท�ำการเดินเครื่องทั้งหมดขณะ เครื่องมือที่วัดค่าความต้องการก�ำลังไฟฟ้าได้โดยตรง
ท�ำการวัดพลังงาน) [11] อัตราการไหลของน�้ำเย็นเข้า ส่วนวิธีอื่นต้องมีการวัดค่ากระแสไฟฟ้าแรงดันไฟฟ้า
และออกอีวาโปเรเตอร์หรือคอยล์เย็น จากการอกก และน�ำมาค�ำนวณ ในกรณีที่เป็นกระแสสลับ 3 เฟส
แบบควรมีค่าที 2.4 GPM/TR ซึ่งในการตรวจวัดนี้ การวั ด วิ ธี นี้ ท� ำ ให้ ก ารค� ำ นวณปริ ม าณการใช้ ไ ฟฟ้ า
ไม่สามารถควบคุมได้เนื่องจากในระบบท่อส่งและ สะดวกยิ่งขึ้น
ระบบจ่ายน�้ำเย็นมีการสูญเสียอยู่มากจะท�ำให้กระทบ
22 วารสารวิจัย มข. (บศ.) 14 (4) : ต.ค. - ธ.ค. 2557

ต� ำ แหน่ ง การติ ด ตั้ ง เครื่ อ งมื อ ตรวจวั ด ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน (ช่วงวัน
พลังงาน ที่ 18−24 เม.ย.2557 อุณหภูมิภายนอกเฉลี่ย 37.29
เครื่องมือที่ใช้ต้องได้มาตรฐานและเหมาะ องศาเซลเซี ย ส) ท� ำ ให้ ท ราบถึ ง ภาระโหลดการท� ำ
สมในการตรวจวัดพลังงานของเครื่องท�ำน�้ำเย็น ขณะ ความเย็นรวม แสดงดังภาพที่ 7 เมื่อท�ำการวิเคราะห์
เดิ น เครื่ อ งการใช้ ง านตามภาระโหลดการท� ำ ความ การใช้งานระบบปรับอากาศของอาคารในโรงพยาบาลฯ
เย็ น ของอาคารตลอด 24 ชั่ ว โมงซึ่ ง เครื่ อ งมื อ ที่ ใ ช้ พบว่าสามารถแบ่งได้เป็น 2 ช่วงเวลา โดยจะเห็นว่า
และต�ำแหน่งในการติดตั้ง ดังภาพที่ 6 ช่วงเวลา 8.00 – 18.00 น. (Peak Load) นั้นโหลด
ต�ำแหน่งที่ 1 ตรวจวัดอัตราการไหลของ การท�ำความเย็นสูงสุดที่ 870 ตัน ประมาณ 10 ชั่วโมง
น�้ำเย็น โดยเครื่องวัดอัตราการไหลแบบ Ultrasonic และหลังจากเวลาประมาณ 18.00 −8.00 น. (Off
ซึ่ ง จะท� ำ การติ ด ตั้ ง ด้ า นนอกท่ อ ส่ ง น�้ ำ เย็ น ด้ า นเข้ า Peak) โหลดการท�ำความเย็นเริ่มลดลงซึ่งโหลดการ
และออก หน่วยเป็นแกลลอนต่อนาที (gpm) ท�ำความเย็นสูงสุดในช่วงนี้ที่ 350 ตัน ประมาณ 14
ต�ำแหน่งที่ 2 ตรวจวัดค่าอุณหภูมิของน�้ำเย็น ชั่วโมง และเมื่อพิจารณาการโหลดการท�ำความเย็น
ด้านเข้าออกเครื่องท�ำน�้ำเย็นโดยเครื่องวัดอุณหภูมิน�้ำ แยกแต่ละเครือ่ งดังภาพที่ 8 และภาพที่ 9 พบว่าเครือ่ ง
เย็น ค่าที่ได้หน่วยเป็นองศาฟาเรนไฮ ( ํF) ท�ำน�้ำเย็น CH1 และ CH2 โหลดการท�ำความเย็นจะ
ต�ำแหน่งที่ 3 ตรวจวัดค่าก�ำลังไฟฟ้าของ คล้ายๆกัน เมื่อค�ำนวณสมรรถนะของเครื่องท�ำน�้ำเย็น
เครื่องท�ำน�้ำเย็นด้วยเครื่องวัดพลังงานไฟฟ้า (Power แต่ละเครื่องตามช่วงเวลา โดยใช้สมการ (3) และ (4)
meter) แบบต่อเนื่องโดยหน่วยที่ได้เป็นกิโลวัตต์- พบว่ า เครื่ อ งท� ำ น�้ ำ เย็ น CH 1 มี ส มรรถนะที่ ดี ก ว่ า
ชั่วโมง (kWh) เครื่องท�ำน�้ำเย็น CH2 ซึ่งผลแสดงได้จากตารางที่ 1
แล้วน�ำค่าที่ได้มาค�ำนวณการใช้พลังงานจากการเดิน
ผลการวิจัย เครื่องแบบเดิม โดยแบ่งเป็น 2 ช่วงตามภาระโหลด
1. ผลการตรวจวัดโดยเดินเครื่องท�ำน�้ำเย็น การท�ำความเย็น จะใช้พลังงานไฟฟ้ารวม 10,612
CH1 และ CH2 ควบคู่กัน ขนาดท�ำความเย็นเครื่อง kWh /วัน ดังนี้
ละ 490 ตัน/ชั่วโมง ท�ำการบันทึกค่าทุกๆ 5 นาที

เครื่องท�ำน�้ำเย็น CH1 ช่วง Peak Load = 3,080 kWh [0.69 kW/TR x 448 TR x 10 hr]
ช่วง Off Load = 2,464 kWh [0.73 kW/TR x 243 TR x 14 hr]
เครื่องท�ำน�้ำเย็น CH2 ช่วง Peak Load = 2,940 kWh [0.73 kW/TR x 405 TR x 10 hr]
ช่วง Off Load = 2,128 kWh [0.85 kW/TR x 179 TR x 14 hr]

จากผลดังกล่าวจะเห็นว่าการเดินเครื่องท�ำ ความจ� ำ เป็ น ท� ำ ให้ เ กิ ด การสิ้ น เปลื อ งพลั ง งานโดย


น�้ำเย็นทั้งสองเครื่องที่ขนาดท�ำความเย็นรวม 980 ไม่จ�ำเป็น
ตัน/ชั่วโมง ความสามารถในการท�ำความเย็นรวมของ 2. หลั ง จากติ ด ตั้ ง เครื่ อ งท� ำ น�้ ำ เย็ น CH 3
เครื่ อ งทั้ ง สองเกิ น กว่ า โหลดสู ง สุ ด โดยเฉพาะเมื่ อ (เครื่ อ งใหม่ ) ที่ มี ข นาดท� ำ ความเย็ น 400 ตั น /
พิจารณาที่ช่วงเวลา Off Peak ซึ่งภาระโหลดการ ชั่วโมง ชนิด Oil-Free Magnetic Bearing VSD
ท�ำความเย็นจะน้อย การเดินเครื่องท�ำน�้ำเย็น 2 เครื่อง Centrifugal Chiller แล้วจึงออกแบบการเดิน
ดั ง กล่ า วจะเป็ น การเดิ น เครื่ อ งที่ มี ข นาดใหญ่ เ กิ น เครื่ อ งแบบใหม่ คื อ เดิ น เครื่ อ งท� ำ น�้ ำ เย็ น CH 3
KKU Res J (GS) 14 (4) : October - December 2014 23

และ CH1 ควบคู่กัน (ช่วงวันที่ 11−16 พ.ค.2557 เครื่ อ งแบบเดิ ม เมื่ อ ท� ำ การแยกพิ จ ารณาเครื่ อ ง
อุ ณ หภู มิ ภ ายนอกเฉลี่ ย 37.14 องศาเซลเซี ย ส) ท�ำน�้ำเย็น CH3 พบว่าโหลดการท�ำความเย็นค่อน
โหลดการท� ำ ความเย็ น รวมของเครื่ อ งท� ำ น�้ ำ เย็ น ข้างคงที่เนื่องจากมีอุปกรณ์ควบคุมการท�ำงานของ
CH 1และ CH 3 เท่ า กั บ 890 ตั น /ชั่ ว โมงในช่ ว ง คอมเพรสเซอร์ (VSD) ดังภาพที่ 11 แตกต่างจาก
Peak Load และในช่วง Off Peak ท�ำการเดินเครื่อง เครื่ อ งท� ำ น�้ ำ เย็ น CH 1 และ CH 2 เมื่ อ ค� ำ นวณค่ า
CH3 เครื่องเดียว ขนาดท�ำความเย็น 400 ตัน/ชั่วโมง สมรรถนะตามสมการ (3) และ (4) พบว่ามีสมรรถนะ
ซึ่ ง เพี ย งพอกั บ ภาระโหลดการท� ำ ความเย็ น สู ง สุ ด ที่ได้ดีกว่าเครื่องท�ำน�้ำเย็น CH1 และ CH2 แสดง
ที่ 350 ตัน แล้วท�ำการบันทึกค่าทุกๆ 5 นาที ตลอด ดังตารางที่ 1 จากผลดังกล่าวสามารถค�ำนวณการใช้
24 ชั่วโมง เป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน โหลดการท�ำ พลังงานจากการเดินเครื่องแบบใหม่ โดยแบ่งเป็น
ความเย็ น รวมแสดงดั ง ภาพที่ 10 ซึ่ ง พบว่ า ภาระ 2 ช่ ว งตามภาระโหลดการท� ำ ความเย็ น รวมจะใช้
โหลดท�ำความเย็นรวมมีลักษณะใกล้เคียงกับการเดิน พลังงานไฟฟ้ารวม 8,002 kWh /วัน ดังนี้

เครื่องท�ำน�้ำเย็น CH1 ช่วง Peak Load = 3,080 kWh [0.69 kW/TR x 448 TR x 10 hr]
เครื่องท�ำน�้ำเย็น CH3 ช่วง Peak Load = 2,430 kWh [0.69 kW/TR x 350 TR x 10 hr]
ช่วง Off Load = 2,492 kWh [0.60 kW/TR x 295 TR x 14 hr]

สรุปผลการวิจัย 400 ตัน ซึ่งเป็นเครื่องที่เหมาะส�ำหรับใช้งานในสภาวะ


จากข้ อ มู ล การตรวจวั ด พลั ง งานและการ โหลดการท�ำความเย็นไม่เต็มพิกัด (การใช้งานส่วน
วิเคราะห์การเดินเครื่องท�ำน�้ำเย็น CH1 คู่กับ CH2 มากแล้วเครื่องท�ำน�้ำเย็นจะท�ำงานในสภาวะไม่เต็ม
(เครื่องเดิม) ชนิด Constant speed centrifu- พิกัด ท�ำให้เกิดการสิ้นเปลืองการใช้พลังงานไฟฟ้า
gal compressor ตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลา 7 วัน โดยไม่ จ� ำ เป็ น ) มี อุ ป กรณ์ ค วบคุ ม การท� ำ งานของ
ติดต่อกันในช่วงวันที่ 18-24 เมษายน 2557 ซึ่งเป็น คอมเพรสเซอร์ (VSD) เป็นคอมเพรสเซอร์แบบ
ช่วงฤดูร้อน ของระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์ใน Centrifugal ที่ใช้ Magnetic Bearing แทนการใช้
โรงพยาบาลศรีนครินทร์ พบว่าภาระโหลดการท�ำความ Mechanical Bearing ทีมีแรงเสียดทานมาก ท�ำให้
เย็นแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา คือช่วงเวลา 8.00–17.00 น. สามารถเลือกเดินเครือ่ งท�ำน�ำ้ เย็นเครือ่ งใหม่ CH3 คูก่ บั
(Peak-load) ภาระการท�ำความเย็นสูงสุดในการ เครือ่ งท�ำน�ำ้ เย็นเดิม ซึง่ เลือกเดินเครือ่ งท�ำน�ำ้ เย็น CH1
ตรวจวัดได้ 870 ตันและช่วงเวลา 8.00–17.00 น. เนื่องจากการตรวจวัดการพลังงานพบว่ามีสมรรถนะ
(Off-peak) ภาระการท�ำความเย็นสูงสุดในการตรวจวัด สูงกว่าเครื่องท�ำน�้ำเย็น CH2 โดยสามารถออกแบบ
350 ตั น หากท� ำ การเดิ น เครื่ อ งท� ำ น�้ ำ เย็ น ทั้ ง สอง การเดินเครื่องแบบใหม่ พบว่าใช้พลังงาน 8,002
ตลอด 24 ชม. แล้วจะใช้พลังงานสูงเกินความจ�ำเป็น kWh /วัน
เนื่องจากขนาดท�ำความเย็นของเครื่องทั้งสองรวมแล้ว จากผลการเดิ น เครื่ อ งแบบใหม่ พบว่ า มี
เท่ากับ 980 ตัน เกินกว่าภาระการท�ำความเย็นสูงสุด ความเหมาะสมที่ สุ ด ในการใช้ ง านเครื่ อ งท� ำ น�้ ำ เย็ น
มากโดยเฉพาะช่วง Off-peak ใช้พลัง งานไฟฟ้ า โดยสามารถลดการใช้พลังงานลง 2,610 kWh /
10,612 kWh / วัน หลังติดตั้งเครื่องท�ำน�้ำเย็น CH3 วัน เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้เดินเครื่องแบบเดิม
(เครื่องใหม่) ชนิด Oil-Free Magnetic Bearing (เครื่องท�ำน�้ำเย็น CH1 คู่กับ CH2) ที่เดินเครื่อง
VSD Centrifugal Chiller ขนาดท�ำความเย็น ตลอด 24 ชั่วโมง ท�ำให้ลดการใช้พลังงานของเครื่อง
24 วารสารวิจัย มข. (บศ.) 14 (4) : ต.ค. - ธ.ค. 2557

ท� ำ น�้ ำ เย็ น ในระบบปรั บ อากาศของโรงพยาบาลฯ 5. Larry D. Chiller monitoring system.


คิดเป็น 24.59 % United States Patent. Jan 28, 1992.
6. Thomas H. All-variable speed centrifugal
กิตติกรรมประกาศ chiller plants. ASHRAE Journal;
ขอขอบคุณ รศ.ดร.ธนากร วงศ์วฒ ั นาเสถียร September 2001: 43-51
ที่ให้ค�ำปรึกษา, คุณวิศรุต เชิดชู หัวหน้างานซ่อมบ�ำรุง 7. Revolutionary energy savings for the
พร้อมทั้งเจ้ าหน้าที่หน่วยเครื่องกล งานซ่อมบ�ำรุง built environment, Smardt Chillers
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ให้ความ (Asia-Pacific) Pty Ltd. [cited 2 September
ร่วมมือในการตรวจวัดและเก็บข้อมูล พร้อมทั้งสถาน 2013]. Available from: http://www.
ที่ในการศึกษา และต้องขอขอบคุณส�ำนักงานนโยบาย a e ep r o g r a m s. c o m / a d ve r t i s i n g /
และแผนพลั ง งาน (สนพ.) เป็ น อย่ า งสู ง ที่ ใ ห้ ก าร smardtbrochure.pdf
สนับสนุนทุนวิจัยในครั้งนี้จนส�ำเร็จลุล่วงไปด้วยดี 8. Mongkol Suttiwattanagul. Efficiency
of chiller. Bureau of Water Technology
and Industrial Plant Environment.
เอกสารอ้างอิง Department of Industrial Works. Ministry
1. Department of Alternative Energy
of Industry. 2006. Thai.
Development and Efficiency. Ministry
9. Chan KT, Yu FW. Part load efficiency
of Energy. Status and conservation of
of air-cooled multiple-chiller plants.
energy in buildings and factories. Annual
Building Serv. Eng. Res. Technol. 23, 1
Report; 2003. Thai.
(2002) pp. 31–41.
2. Chonlathis Eiamworawutthikul.
10. Manual for training of personal responsible
Utilization of year round integrated
for energy. Bureau of Energy Human
part-load energy consumption as a
Resource Development. Ministry of
factor for suitable chiller selection.
Energy. 2010. Thai.
2 nd Conference on energy technology
11. Textbook training for electrical energy.
network of Thailand. 27−29 July 2006.
Bureau of Energy Human Resource
Thai.
Development. Ministry of Energy. 2010.
3. Saidur R, Hasanuzzaman M, Mahlia TMI,
Thai
Rahim NA, Mohammed HA. Chillers
energy consumption, energy savings and
emission analysis in an institutional
building. Energy 2011; 36:5233-8.
4. Jose Alvares. The part-load efficiency
benefit of oil-free, high-speed,
direct-drive centrifugal compressors.
International compressor engineering
conference, 2010.
KKU Res J (GS) 14 (4) : October - December 2014 25

ภาพที
ภาพที ่ ่ 11 เปรี
ภาพที ่ 1 ยเปรี
เปรี ยบเที
บเทียบเที
ยยบประสิ
บประสิ ททธิธิภภทาพของเครื
ยบประสิ าพของเครือ่ อ่ งท้
ธิภาพของเครื งท้อ่ าางท้
นน้า้าาเย็เย็นนน้าทีเย็ที่ม่มนี ี ทีVSD
VSD่มี VSD
และและ
และ Constant
Constant Speed
Constant
Speed Compressor
Speed
Compressor
Compressor [7] [7]
[7]

ภาพที
ภาพที ่ ่ 22 เปรี
ภาพที ่ 2 ยเปรี
เปรี ยบเที
บเทียบเที
ยยบประสิ
บประสิ ททธิธิภภทาพของเครื
ยบประสิ าพของเครือ่ อ่ งท้
ธิภาพของเครื งท้อ่ าางท้
นน้า้าาเย็เย็นนน้าแต่
เย็แต่นลลแต่
ะชนิ
ะชนิ ดด [7]
ละชนิ[7]ด [7]

ภาพที
ภาพที ่ ่ 33 เครื
ภาพที ่ 3 ่อ่อเครื
เครื งวั่อดดงวั
งวั อัอัตตดราการไหลของน
ราการไหลของน ้า้า (ยี(ยี่ห้า่ห(ยี
อัตราการไหลของน ้อ้อ ่หPanametrics
Panametrics รุรุ่น่น AquaTrans
้อ Panametrics รุAquaTrans AT AT
AT
่น AquaTrans 868)868)
868)

ภาพที
ภาพที ่ ่ 44 เครื
ภาพที ่ 4 ่อ่อเครื
เครื งวั่อดดงวั
งวั อุอุณณดหภู
หภู
อุณมมหภู ิแิแบบเทอร์
บบเทอร์ โโมคั
มคัโปปมคั
มิแบบเทอร์ เปิปลลเปิ
เปิ และเครื
และเครื ่อ่องบั
ลและเครืงบั่อนนงบั
ทึทึกกนข้ข้ทึออกมูมูข้ลลอมูล
(ยี(ยี่ห่ห(ยี
้อ้อ PM
่หPM รุรุ่น่น PM
้อ PM รุPM TSP-08(S4)6x150MM)
่น PM
TSP-08(S4)6x150MM)
TSP-08(S4)6x150MM)
26 วารสารวิจัย มข. (บศ.) 14 (4) : ต.ค. - ธ.ค. 2557

ภาพที่ 5 เครื่องวัดก้าลังไฟฟ้า (ยี่ห้อ JANITZA รุ่น UMG503)

ภาพที่ 6 แสดงต้าแหน่งการตรวจวัดค่าพลังงาน [11]

Peak Load

Off Peak Off Peak

ภาพที่ 7 ภาระโหลดท้าความเย็นรวมของเครื่องท้าน้าเย็น CH1 และ CH2

ภาพที่ 8 ภาระโหลดท้าความเย็นและสมรรถนะเครื่องท้าน้าเย็น CH1


KKU Res J (GS) 14 (4) : October - December 2014 27

ภาพที่ 9 ภาระโหลดท้าความเย็นและสมรรถนะเครื่องท้าน้าเย็น CH2

ภาพที่ 9 ภาระโหลดท้าความเย็นและสมรรถนะเครื่องท้าน้าเย็น CH2


Peak Load

ภาพที่ 9 ภาระโหลดท้าความเย็นและสมรรถนะเครื
Peak Load
่องท้าน้าเย็น CH2
Off Peak Off Peak

Off Peak Peak Load Off Peak

Off Peak Off Peak


ภาพที่ 10 ภาระโหลดท้าความเย็นรวมของเครื่องท้าน้าเย็น CH1 และ CH3

ภาพที่ 10 ภาระโหลดท้าความเย็นรวมของเครื่องท้าน้าเย็น CH1 และ CH3

ภาพที่ 10 ภาระโหลดท้าความเย็นรวมของเครื่องท้าน้าเย็น CH1 และ CH3

ภาพที่ 11 ภาระโหลดท้าความเย็นและสมรรถนะเครื่องท้าน้าเย็น CH3

ภาพที่ 11 ภาระโหลดท้าความเย็นและสมรรถนะเครื่องท้าน้าเย็น CH3


ตารางที่ 1 ตารางการใช้พลังงานเครื่องท้าน้าเย็นของโรงพยาบาล ฯ ตามช่วงเวลา
ช่วงโหลดท้า ก้าลังไฟฟ้า ขนาดท้าความเย็น สมรรถนะ ก้าลังไฟฟ้า
ตารางที
เครื่องท้่ า1นตารางการใช้
้าเย็น เวลา
พภาพที
ลังงานเครื
่ 11 ่อภาระโหลดท้
งท้าน้าเย็นของโรงพยาบาล ฯ ตามช่วงเวลา่องท้าน้าเย็น CH3
าความเย็นและสมรรถนะเครื
ความเย็น (kWave) (TRave) (kW/TR) (kWh/วัน)
ช่วงโหลดท้า ก้าลังไฟฟ้า ขนาดท้าความเย็ น สมรรถนะave ก้าลังไฟฟ้า
เครื่องท้าน้าเย็น 8.00-18.00
เวลา น. Peak- Load 308 448 0.69 3,080
ตารางทีCH่ 11 ตารางการใช้พลังงานเครื่องท้าความเย็ น (kWaveฯ) ตามช่วงเวลา
น้าเย็นของโรงพยาบาล (TRave) (kW/TR)ave (kWh/วัน)
18.00-8.00 น. Off -Peak 176 243 0.73 2,464
8.00-18.00 น. Peak- Load า ก้าลั308
ช่วงโหลดท้ งไฟฟ้า ขนาดท้448 0.69
าความเย็น สมรรถนะ ก้าลั3,080
งไฟฟ้า
CHาน1 ้าเย็น 8.00-18.00
เครื่องท้ เวลา น. Peak -Load 294 405 0.73 2,940
CH2 18.00-8.00 น. Offความเย็ -Peak น 176ave)
(kW (TR243ave) 0.73 ave (kWh/วั
(kW/TR) 2,464น)
18.00-8.00 น. Off -Peak 152 179 0.85 2,128
8.00-18.00 น. Peak Peak--Load
Load 294
308 405
448 0.73
0.69 2,940
3,080
CH12 8.00-18.00 น. Peak- Load 243 350 0.69 2,430
CH3 18.00-8.00 น. Off -Peak 152
176 179
243 0.85
0.73 2,128
2,464
18.00-8.00 น. Off- Peak 178 295 0.60 2,492
8.00-18.00 น. Peak Peak--Load
Load 243
294 350
405 0.69
0.73 2,430
2,940
CH32
28 วารสารวิจัย มข. (บศ.) 14 (4) : ต.ค. - ธ.ค. 2557

ตารางที่ 1 ตารางการใช้พลังงานเครื่องท�ำน�้ำเย็นของโรงพยาบาล ฯ ตามช่วงเวลา


ช่วงโหลด ก�ำลังไฟฟ้า ขนาดท�ำความเย็น สมรรถนะ ก�ำลังไฟฟ้า
เครื่องท�ำน�้ำเย็น เวลา ท�ำความเย็น (kWave) (TRave) (kW/TR)ave (kWh/วัน)
CH1 8.00−18.00 น. Peak- Load 308 448 0.69 3,080
18.00-8.00 น. Off -Peak 176 243 0.73 2,464
CH2 8.00−18.00 น. Peak -Load 294 405 0.73 2,940
18.00-8.00 น. Off -Peak 152 179 0.85 2,128
CH3 8.00−18.00 น. Peak- Load 243 350 0.69 2,430
18.00-8.00 น. Off- Peak 178 295 0.60 2,492

You might also like