Professional Documents
Culture Documents
1. Introduction
1. เข้าร่วมฝึ กอบรม ครบเวลา ตลอดหลักสูตร
3. ทดสอบความรู้ ภาคทฤษฎี
4. Conclusion “ผ่าน”
9
เนื้อหารายละเอียดในการฝึ กอบรม
10
1. Introduction
3. Challengers Forward
4. Conclusion
11
12
สาระสำคัญในการเปลี่ยนแปลง ISO 50001:2018
การเปลี่ยนแปลงหลักๆเทียบกับฉบับก่อนหน้ามีดังนี้
1. ประยุกต์ใช้ข้อกำหนดของ ISO มาตรฐานระบบการจัดการ,รวมถึงใช้โครงสร้าง
high level, ข้อความหลักที่เหมือนกัน, คำศัพท์ทั่วไป และคำจำกัดความ เพื่อให้
มั่นใจว่าสอดคล้องกับ high level กับมาตรฐานการจัดการอื่น ๆ
2. มีการบูรณาการกระบวนการจัดการเชิงกลยุทธ์ที่ดีขึ้น
3. มีความชัดเจนด้านภาษาและโครงสร้างเอกสาร
4. ให้ความสำคัญกับบทบาทของผู้บริหารสูงสุด
5. การนำลำดับบริบทมาใช้สำหรับข้อกำหนดและคำจำกัดความใน Clause 3 และให้
คำจำกัดความทันสมัยขึ้น
6. เพิ่มคำจำกัดความใหม่ๆรวมถึง การปรับปรุงสมรรถนะด้านพลังงาน (energy
performance improvement)
7. มีความชัดเจนเกี่ยวกับการยกเว้นของประเภทพลังงาน
8. มีความชัดเจนเกี่ยวกับการทบทวนด้านพลังงาน
13
สาระสำคัญในการเปลี่ยนแปลง ISO 50001:2018
9. มีการแนะนำแนวคิดของการทำให้เป็นมาตรฐานของตัววัด
ประสิทธิผลด้านพลังงาน (energy performance indicators, EnPl
(s)) และที่เกี่ยวข้องกับค่าฐานของพลังงาน (energy baselines, EnB
(s))
10. เพิ่มเติมรายละเอียดของ "แผนการเก็บข้อมูลด้านพลังงาน" (energy
data collection plan) และข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง (ก่อนหน้านี้ "แผนก
ารวัดด้านพลังงาน" (energy measurement plan))
11. ความชัดเจนของคำที่เกี่ยวข้องกับตัววัดสมรรถนะด้านพลังงาน
(energy performance indicators, EnPl (s) และค่าฐานของพลังงาน
(energy baselines, EnB (s)) เพื่อที่จะให้ทำความเข้าใจ คำจำกัด
ความได้ดีขึ้น
14
1. Introduction
3. Challengers Forward
4. Conclusion
15
โครงสร้างของข้อกำหนด
1. Scope
2. Normative references
3. Terms and definitions
4. Context of the organization
5. Leadership, worker participation
6. Planning
3. Challengers Forward
7. Support
8. Operation
9. Performance evaluation
10. Improvement
16
Internal and
Needs and
External issues context of the organization
expectations
interested parties
3. Challengers Forward
Intended outcomes of
the energy
management system
17
1.Scope : ขอบเขต
เอกสารนี้เป็นข้อกำหนดเฉพาะสำหรับจัดทำ นำไปปฏิบัติ, รักษาไว้และปรับปรุงระบบ
การจัดการพลังงาน (EnMS)
ผลลัพธ์ที่ต้องการ (The intended outcome) ให้องค์กรเป็นไปตามระบบการจัดการใน
เชิงกระบวนการเพื่อบรรลุการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องของ สมรรถนะด้านพลังงาน และ EnMS
เอกสารนี้
a. ประยุกต์ใช้ได้ทุกๆ องค์กร ทุกขนาด ทุกชนิด ทุกๆ ผลิตภัณฑ์และบริการ
b. ประยุกต์ใช้กับกิจกรรมที่กระทบต่อ สมรรถนะด้านพลังงาน และการควบคุมโดยองค์กร
c. ประยุกต์ใช้ไม่คำนึงถึงจำนวน, การใช้ หรือชนิดของการปริมาณการใช้พลังงานทั้งหมด
d. ต้องการแสดงการปรับปรุง สมรรถนะด้านพลังงาน แต่ไม่กำหนดระดับสมรรถนะด้าน
พลังงาน ที่ปรับปรุงให้บรรลุผลสำเร็จ
e. สามารถใช้ในการชี้บ่ง หรือความสอดคล้องหรือบูรณาการกับมาตรฐานอื่นๆ
18
ISO 50001:2018 Energy Management Systems
energy use per unit of output energy used in air
- kWh/ton specific energy conditioning system
consumption (SEC) 5,000 kWh/month
- kWh/#
- kWh/$
19
2.Normative references เอกสารอ้างอิง
“ ไม่มีเอกสารอ้างอิงในมาตรฐานฉบับนี้”
20
3. Terms and Definition : คำศัพท์และคำนิยาม
3.1 Terms related to organization
3.1.1 ถึง 3.1.5
3.2 Terms related to management system
3.2.1 ถึง 3.2.5
3.3 Terms related to requirement
3.3.1 ถึง 3.3.9
3.4 Terms related to performance
3.4.1 ถึง 3.4.16
3.5 Terms related to energy
3.5.1-3.5.6 21
ความเข้าใจคำศัพท์ด้านระบบการจัดการพลังงาน
1. Energy: พลังงาน
2. Energy:/Use การใช้พลังงาน
22
ความเข้าใจคำศัพท์ด้านระบบการจัดการพลังงาน
7. EnPI: Energy Performance Indicator: ดัชนีชี้วัดด้านพลังงาน
23
ISO 50001:2018 Energy Management Systems
energy use per unit of output energy used in air
- kWh/ton specific energy conditioning system
consumption (SEC) 5,000 kWh/month
- kWh/#
- kWh/$
24
25
4. Context of the Organization
26
4. Context of the Organization :บริบทขององค์กร
28
ตัวอย่างบริบทขององค์กร
1. ชื่อ : บริษัท ...............................................
2. ที่อยู่ : ………………………………………………………………………………
3. ผลิตภัณฑ์ : 1. ………………………………………………………………………
2. ……………………………………………………………………..
4. กระบวนการหลักทางธุรกิจ
1. ………………………………………………………………………
2. ………………………………………………………………………
5. เป้ าประสงค์ด้านการจัดการพลังงาน (EnMS)
1. ………………………………………………………………………
2. ………………………………………………………………………
6. กลยุทธ์ในการดำเนินการด้านการจัดการพลังงาน (EnMS)
1. ………………………………………………………………………
2. ………………………………………………………………………
31
บริบท ประเด็นภายใน ขององค์กร
เป้ าประสงค์ บริบทภายในที่พิจารณา ประเด็นภายในองค์กร Status
Purpose Negation Position
32
บริบท ประเด็นภายนอก ขององค์กร
เป้ าประสงค์ บริบทภายในที่พิจารณา ประเด็นภายในองค์กร Status
Purpose Negation Position
33
4. Context of the Organization :บริบทขององค์กร
4.2 Understanding the needs and expectations of interested parties
การทำความเข้าใจความต้องการ ความคาดหวัง ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
• องค์กรต้องกำหนด
a) ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับสมรรถนะด้านพลังงานและ EnMS
b) ส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนดของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
c) ชี้บ่ง ความต้องการ และความคาดหวัง ขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับ EnMS
• องค์กรต้อง
- มั่นใจว่าเข้าถึงและประยุกต์ใช้ข้อกำหนดของกฎหมาย และข้อกำหนดอื่นๆที่
เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพพลังงาน, การใช้พลังงานและปริมาณการใช้พลังงาน
- กำหนดการประยุกต์ใช้ข้อกำหนดอย่างไร ถึงประสิทธิภาพพลังงานการใช้พลังงานและ
ปริมาณการใช้พลังงาน
- มั่นใจว่าข้อกำหนดต่างๆ ได้ถูกคำนึงถึง
- กำหนดช่วงเวลาในการทบทวนกฎหมาย และข้อกำหนดอื่นๆ
Note: ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมในความสอดคล้องกับการจัดการ ดู ISO 19600
34
INTERESTED PARTIES
Employees
(Organization)
35
ข้อกำหนดต่างๆ (ความต้องการ,ความคาดหวัง) ด้าน EnMS ที่เกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ข้อกำหนดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง (กฎหมายและข้อกำหนดอื่นๆ)
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ความต้องการ (Need) ความคาดหวัง (Expectation) N N P P
1. Organization 1. 1.
2. 2.
3. 3.
2. Supplier 1. 1.
2. 2.
3. 3.
3. Government 1. 1.
2. 2.
3. 3.
4. Customers 1. 1.
2. 2.
3. 3.
5. Society 1. 1.
2. 2.
36
ข้อกำหนดต่างๆ (ความต้องการ,ความคาดหวัง) ด้าน EnMS ที่เกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ข้อกำหนดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง(กฎหมายและข้อกำหนดอื่นๆ)
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ความต้องการ (Need) ความคาดหวัง (Expectation) N N P
6. Manager 1. 1.
2. 2.
3. 3.
7. Creditors 1. 1.
2. 2.
3. 3.
8. Shareholders 1. 1.
2. 2.
3. 3.
9. Owner 1. 1.
2. 2.
3. 3.
37
38
39
40
41
4. Context of the Organization :บริบทขององค์กร
4.3 Determining the scope of the Energy management system
การกำหนดขอบเขตของระบบการจัดการพลังงาน
• องค์กรต้องกำหนดขอบเขตทางกายภาพ (boundaries) และประยุกต์ใช้ระบบ
EnMS ในการกำหนดขอบเขต เมื่อกำหนดขอบเขต EnMS องค์กรต้องพิจารณา
a. ประเด็นภายนอก/ประเด็นภายใน อ้างอิง ข้อ 4.1
b. ข้อกำหนดอ้างอิงใน ข้อ 4.2
•องค์กรต้องมั่นใจว่ามีอำนาจในการควบคุมประสิทธิภาพพลังงาน การใช้
พลังงาน และปริมาณการใช้พลังงาน ภายในขอบเขตและขอบเขตทางกายภาพ
(boundaries)
องค์กรต้องไม่ยกเว้นชนิดของพลังงานภายในขอบเขตและขอบเขตทางกายภาพ
(boundaries)
• ขอบเขตและขอบเขตทางกายภาพ (Boundaries) ของ EnMS ต้องจัดทำเป็น
เอกสาร
42
ตัวอย่าง : การกำหนดขอบข่ายของระบบ EnMS
1. Boundaries : ขอบเขตทางกายภาพ
: โรงงานอ้างอิง Lay out Factory
: สำนักงานอ้างอิง Lay out office
2. ผลิตภัณฑ์และกระบวนการ
1. Manufacturing of ………………………………..
2. Process
2.1………………………………………………………
2.2 ………………………………………………………
4. ประสิทธิภาพในการควบคุม
4.1 ประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน (Energy Efficiency
4.2 การใช้พลังงาน (Energy Use)
4.3 ปริมาณการใช้พลังงาน (Energy Consumption)
43
4. Context of the Organization :บริบทขององค์กร
4.4 Energy management system
ระบบการจัดการพลังงาน
• องค์กรต้องจัดทำ นำไปปฏิบัติ รักษาไว้ และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ของระบบ EnMS รวมถึงกระบวนการความต้องการ (Process need)
และปฏิสัมพันธ์ อื่นๆ และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง สมรรถนะด้าน
พลังงานในข้อกำหนดของเอกสารฉบับนี้
Note: Process need สามารถแตกต่างกันในแต่ละองค์กรขึ้นอยู่กับ
- ขนาดขององค์กร และชนิด, กิจกรรม, กระบวนการ, ผลิตภัณฑ์,
และบริการ
- ความซับซ้อนของกระบวนการและปฏิสัมพันธ์
- ความสามารถของบุคลากร
44
คู่มือการจัดการพลังงาน
Energy management system
คู่มือการจัดการพลังงาน (EnMS Manual)
EnMS-M-01
45
5. Leadership:ความเป็นผู้นำ
46
5.1 Leadership and commitment :ความเป็นผู้นำและความมุ่งมั่น
• ผู้บริหารระดับสูงต้อง แสดงความเป็นผู้นำ และความมุ่งมั่นที่เกี่ยวกับการปรับปรุง
อย่างต่อเนื่องของสมรรถนะด้านพลังงาน และประสิทธิภาพของ EnMS โดย
a. มั่นใจว่าระบบ EnMS ได้ถูกกำหนดขอบเขต (Scope) และขอบเขตทาง
กายภาพ (boundaries)
b. มั่นใจว่า นโยบาย วัตถุประสงค์ เป้ าหมายได้ถูกกำหนดและสัมพันธ์เกี่ยวข้อง
ทิศทางกลยุทธ์ขององค์กร
c. มั่นใจว่าได้บูรณาการข้อกำหนด EnMS เข้ากับกระบวนการทางธุรกิจของ
องค์กร
4. Conclusion
d. มั่นใจว่าแผนการปฏิบัติได้รับการอนุมัติ และนำไปสู่การปฏิบัติ
e. มั่นใจว่าทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับ EnMS มีอย่างเพียงพอ
f. สื่อสารความสำคัญ ประสิทธิภาพการจัดการพลังงาน และความสอดคล้องกับ
EnMS
47
5.1 Leadership and commitment :ความเป็นผู้นำและความมุ่งมั่น (ต่อ)
นโยบายพลังงานต้อง
- จัดทำเป็นเอกสารสารสนเทศ (See 7.5)
- สื่อสารภายในองค์กร
- สื่อสารผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตามความเหมาะสม
- กำหนดช่วงเวลาทบทวน และ Up date ตามความจำเป็น
4. Conclusion
50
4. Conclusion
51
5.2 Energy policy: นโยบายพลังงาน (ต่อ)
4. Conclusion
52
5.3 Organization roles responsibilities and authorities
บทบาทหน้าที่, ความรับผิดชอบ และอำนาจหน้าที่
54
5.3 Organization roles responsibilities and authorities
บทบาทหน้าที่, ความรับผิดชอบ และอำนาจหน้าที่ (ต่อ)
55
6. Planning: การวางแผน
56
6.1 Action to address risk and opportunities
ปฏิบัติการเพื่อดำเนินการกับความเสี่ยงและโอกาส
6.1.1
• เมื่อวางแผนสำหรับ EnMS องค์กรต้องพิจารณาประเด็นที่ต้องอ้างอิงในข้อ 4.1
และข้อกำหนดที่อ้างอิงในข้อ 4.2 และทบทวนกิจกรรม และกระบวนการของ
องค์กรที่สามารถมีผลกระทบต่อสมรรถนะด้านพลังงาน
• การวางแผนต้องตรงกับนโยบายพลังงาน และต้องทำให้เกิดกิจกรรมที่มีผลให้
สมรรถนะด้านพลังงานมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
• องค์กรต้องกำหนดความเสี่ยงและโอกาสที่จำเป็นเพื่อ
- ให้การประกันว่าระบบ EnMS สามารถบรรลุผลลัพธ์ที่ต้องการ (Intended
outcome) รวมถึงการปรับปรุงสมรรถนะด้านพลังงาน
- ป้ องกันและลดผลกระทบที่ไม่ต้องการ
- บรรลุการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในระบบ EnMS และสมรรถนะด้านพลังงาน
57
6.1 Action to address risk and opportunities
ปฏิบัติการเพื่อดำเนินการกับความเสี่ยงและโอกาส
6.1.2 องค์กรต้องวางแผน
a. ปฏิบัติการเพื่อดำเนินกับความเสี่ยงและโอกาส
b. วิธีปฏิบัติ
1. บูรณาการและปฏิบัติ, ปฏิบัติการเข้ากับระบบ EnMS
และกระบวนการสมรรถนะด้านพลังงาน
2. ประเมินประสิทธิผลหลังการดำเนินการ
58
บริษัทxxxxxxxxxxxxxxxจำกัด
59
60
61
62
6.2 Objective, energy targets and planning to achieve them
วัตถุประสงค์ เป้ าหมายด้านพลังงานและการวางแผนให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้ าหมาย
6.2.1 องค์กรต้อง จัดทำวัตถุประสงค์ในหน้าที่ และระดับที่เกี่ยวข้อง
องค์กรต้อง จัดทำเป้ าหมายด้านพลังงาน (Energy target)
6.2.2 วัตถุประสงค์และเป้ าหมายด้านพลังงานต้อง
a.สอดคล้องกับนโยบายด้านพลังงาน (See 5.2)
b.สามารถวัดได้
c.คำนึงถึงการประยุกต์ใช้ข้อกำหนด
d.พิจารณา SEUs (See 6.3) การใช้พลังงานที่มีนัยสำคัญ
e.คำนึงถึงโอกาส (See 6.3) สำหรับการปรับปรุงสมรรถนะด้านพลังงาน
f.ต้องเฝ้ าติดตาม
g.ต้องสื่อสาร
h.ต้อง (Up date) ทำให้ทันสมัยตามความเหมาะสม
•องค์กรต้องจัดเก็บเอกสารสารสนเทศ (See 7.5) ของวัตถุประสงค์และเป้ า
หมายด้านพลังงาน
63
6.2 Objective, energy targets and planning to achieve them
วัตถุประสงค์ เป้ าหมายด้านพลังงานและการวางแผนให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้ าหมาย
( )
กรรมการผู้จัดการ
65
66
6.3 Energy Review: การทบทวนพลังงาน
• องค์กรต้องพัฒนาและดำเนินการทบทวนพลังงาน การพัฒนาการทบทวนพลังงานองค์กรต้อง
a. วิเคราะห์การใช้พลังงาน และปริมาณการใช้พลังงานอยู่บนพื้นฐานของการวัดและข้อมูลอื่นๆ เช่น
1. ชี้บ่ง ชนิดของพลังงานที่ใช้ในปัจจุบัน (See 3.5.1)
2. ประเมินการใช้พลังงานในอดีตและปัจจุบัน และปริมาณการใช้
b. จากการวิเคราะห์ ชี้บ่ง SEUs (See 3.5.6) (การใช้พลังงานที่มีนัยสำคัญ)
c. สำหรับแต่ละ SEU: (การใช้พลังงานที่มีนัยสำคัญ)
1. กำหนดความผันแปรที่เกี่ยวข้อง
2. กำหนดสมรรถนะด้านพลังงานในปัจจุบัน
3 ชี้บ่ง บุคคลในการปฏิบัติงานภายใต้การควบคุมที่มีผลกระทบต่อ SEUs
d) กำหนด และจัดลำดับโอกาสสำหรับการปรับปรุงสมรรถนะด้านพลังงาน
e) ประเมินการใช้พลังงานในอนาคต และปริมาณการใช้พลังงาน
•การทบทวนพลังงานต้อง Up date ตามช่วงเวลาที่กำหนด รวมถึงกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญในสิ่ง
อำนวยความสะดวก เครื่องจักร ระบบ หรือกระบวนการใช้พลังงาน
•องค์กรต้องเก็บรักษาเอกสารสารสนเทศของวิธีการ และเกณฑ์การใช้สำหรับการพัฒนาทบทวนพลังงาน และ
ต้องจัดเก็บเอกสารสารสนเทศ ผลการทบทวนพลังงาน
67
EnMR
68
6.4 Energy performance indicators: ดัชนีชี้วัดสมรรถนะด้านพลังงาน
EnPIs
ข้อ ชนิดพลังงาน
2018 2019 2020
120 Kwh/TON 118 Kwh/TON
1 ไฟฟ้ า
100 ลิตร/TON 98 ลิตร/TON
2 LPG
200 ลิตร/TON 180 ลิตร/TON
3 น้ำมันดีเชล
100 TON/TON 90 TON/TON
4 ถ่านหิน
( )
กรรมการผู้จัดการ
70
6.5 Energy baseline: ฐานพลังงาน
73
7.1 Resources: ทรัพยากร
•องค์กรต้องกำหนดและจัดเตรียมทรัพยากรที่
จำเป็นสำหรับการจัดทำนำไปปฏิบัติ รักษาไว้ และ
ปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อสมรรถนะด้านพลังงาน
และระบบ EnMS
74
7.2 Competence: ความสามารถ
• องค์กรต้อง
a. กำหนดความสามารถที่จำเป็นสำหรับบุคคลากรผู้ปฏิบัติงานภายใต้การควบคุม
ที่กระทบต่อสมรรถนะด้านพลังงาน และ EnMS
b. มั่นใจว่าบุคลากรมีความสามารถบนพื้นฐานของการศึกษาที่เหมาะสม การ
ฝึ กอบรม ทักษะ หรือประสบการณ์
c. ดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งความสามารถที่จำเป็นและประเมินประสิทธิผลของ
กิจกรรมที่ได้กระทำ
d. เก็บรักษาเอกสารสารสนเทศที่เหมาะสม (See 7.5) เพื่อเป็นหลักฐานความ
สามารถ
Note: การดำเนินการประยุกต์ใช้รวมถึง ตัวอย่างเช่น จัดให้มีการฝึ กอบรม การให้คำ
แนะนำหรือ การมอบหมายให้กับบุคคลที่ได้รับการว่าจ้างในปัจจุบัน หรือสรรหา
หรือทำสัญญากับผู้มีความสามารถ
75
Skill Matrix
76
7.3 Awareness: ความตระหนัก
บุคคลากรผู้ปฏิบัติงานภายใต้การควบคุมขององค์กรต้องมีความ
ตระหนักต่อ
a. นโยบายพลังงาน
b. การมีส่วนร่วมในประสิทธิผลของระบบ EnMS รวมถึงการ
บรรลุวัตถุประสงค์ และเป้ าหมายด้านพลังงาน (See 6.2) และ
ประโยชน์ของการปรับปรุงสมรรถนะด้านพลังงาน
c. ผลกระทบของกิจกรรม หรือพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับ
สมรรถนะด้านพลังงาน
d. การปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องกับข้อกำหนด EnMS
77
Awareness Training
New Repeat Every year
78
78
7.4 Communication: สื่อสาร
• องค์กรต้องกำหนดการสื่อสารภายในและภายนอกที่เกี่ยวข้องกับ EnMS รวมถึง
a. อะไรที่จะสื่อสาร
b. สื่อสารเมื่อไหร่
c. สื่อสารไปยังใคร
d. วิธีการสื่อสารอย่างไร
e. ใครเป็นผู้สื่อสาร
• ในการจัดทำกระบวนการสื่อสารองค์กรต้องมั่นใจว่าสร้างข้อมูลที่สื่อสารให้
สอดคล้องกับข้อมูลของระบบ EnMS และน่าเชื่อถือ
• องค์กรต้องจัดทำ และนำกระบวนการไปปฏิบัติโดยบุคคลากรที่ปฏิบัติงานภาย
ใต้การควบคุมขององค์กร ซึ่งสามารถ แสดงความเห็น หรือเสนอแนะ การ
ปรับปรุงระบบ EnMS และสมรรถนะด้านพลังงาน
• องค์กรต้องพิจารณาจัดเก็บเอกสารสารสนเทศ (See7.5) ข้อเสนอแนะในการ
ปรับปรุง
79
80
81
82
7.5 Documented information: เอกสารสารสนเทศ
EnP-EnMR-001
86
DCO/MR
MR
87
MR
88
8. Operation: การดำเนินการ, การปฏิบัติ
89
8.1 Operational planning and control: การวางแผน การปฏิบัติ และการควบคุม
• องค์กรต้องวางแผนการปฏิบัติและควบคุมกระบวนการที่สัมพันธ์กับ SEUs
(See6.3) จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อกำหนด และการกำหนดการปฏิบัติโดย
a. จัดทำเกณฑ์สำหรับกระบวนการรวมถึงประสิทธิภาพการปฏิบัติ และการบำรุง
รักษา สิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องจักร/อุปกรณ์, ระบบและกระบวนการการ
ใช้พลังงาน ซึ่งมีผลสามารถทำให้เบี่ยงเบนอย่างมีนัยสำคัญต่อสมรรถนะด้าน
พลังงาน
b. สื่อสาร (See 7.4) เกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรผู้ปฏิบัติภายใต้การควบคุม
โดยองค์กร
c. ควบคุมการปฏิบัติในกระบวนการให้สอดคล้องกับเกณฑ์ รวมถึงการปฏิบัติ
การและรวมทั้งการบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องจักร/อุปกรณ์
ระบบและกระบวนการใช้พลังงาน ให้สอดคล้องกับเกณฑ์ที่จัดทำไว้
90
8.1 Operational planning and control: การวางแผนการปฏิบัติ และการควบคุม
91
8.2 Design: การออกแบบ
• องค์กรต้องพิจารณาโอกาสการปรับปรุงสมรรถนะด้านพลังงาน และการ
ควบคุมในการปฏิบัติการออกแบบ ของระบบใหม่ การดัดแปลง การ
ปรับปรุงใหม่ของสิ่งอำนวยความสะดวก (facilities) เครื่องจักร/อุปกรณ์
ระบบและกระบวนการใช้พลังงานที่สามารถมีผลกระทบต่อสมรรถนะด้าน
พลังงานอย่างมีนัยสำคัญ มากกว่า แผนหรืออายุการใช้งานที่คาดหวังไว้
• เมื่อมีการประยุกต์ใช้ การพิจารณาผลลัพธ์ของสมรรถนะด้านพลังงานต้อง
รวมเข้ากันกับข้อกำหนดเฉพาะ กิจกรรมการออกแบบและการจัดซื้อ/จัดหา
• องค์กรต้องจัดเก็บเอกสารสารสนเทศของกิจกรรมการออกแบบที่เกี่ยวข้อง
กับสมรรถนะด้านพลังงาน (See 7.5)
92
8.3 Procurement: การจัดหา/จัดซื้อ
• องค์กรต้องจัดทำ นำไปปฏิบัติ เกณฑ์สำหรับประเมินสมรรถนะพลังงาน นอกเหนือจาก
แผนหรืออายุการใช้งานที่คาดหวังไว้ เมื่อจัดซื้อจัดหา พลังงานที่ใช้ในผลิตภัณฑ์
เครื่องจักร/อุปกรณ์ และบริการ ที่คาดว่าจะมีผลกระทบอย่างมีนัยยะสำคัญต่อสมรรถนะ
ด้านพลังงานขององค์กร
• เมื่อมีการ จัดซื้อ/จัดหา พลังงานที่ใช้ในผลิตภัณฑ์, เครื่องจักร/อุปกรณ์ และบริการที่มี
หรือสามารถมีผลกระทบต่อ SEU(s) องค์กรต้องแจ้งข้อมูลให้ผู้ขาย/ผู้ส่งมอบ ทราบว่า
สมรรถนะด้านพลังงานเป็ นหนึ่งในเกณฑ์ในการประเมินสำหรับการจัดซื้อ/จัดหา
• เมื่อมีการประยุกต์ใช้ องค์กรต้องกำหนด และสื่อสารข้อกำหนดเฉพาะเพื่อ
a. มั่นใจถึงสมรรถนะด้านพลังงานในการจัดซื้อ/จัดหา อุปกรณ์/เครื่องจักรและบริการ
b. การจัดซื้อพลังงาน
93
9. Performance evaluation: การประเมินสมรรถนะ
94
9.1 Monitoring, measurement, analysis and evaluation of energy performance and the EnMs: การเฝ้ า
ติดตาม, การวัด, การวิเคราะห์, และการประเมินสมรรถนะด้านพลังงาน และระบบการจัดการพลังงาน (EnMS)
95
9.1 Monitoring, measurement, analysis and evaluation of energy performance and the EnMs: การเฝ้ า
ติดตาม, การวัด, การวิเคราะห์, และการประเมินสมรรถนะด้านพลังงาน และระบบการจัดการพลังงาน (EnMS)
• องค์กรต้องประเมินสมรรถนะด้านพลังงาน และประสิทธิผลของระบบ
EnMS (See 6.6 )
• การปรับปรุงสมรรถนะด้านพลังงานต้องประเมินโดยเปรียบเทียบกับ
ค่า EnPI กับที่สอดคล้องกับ EnB (s) (See 6.5)
• องค์กรต้องสอบสวนและตอบสนองต่อความผันแปรอย่างมีนัยสำคัญ
ของสมรรถนะด้านพลังงาน องค์กรต้องจัดเก็บเอกสารสารสนเทศ
ของผลลัพธ์ในการสอบสวนและการตอบสนอง (See 7.5)
• องค์กรต้องจัดเก็บเอกสารสารสนเทศที่เหมาะสมของผลลัพธ์จากการ
เฝ้ าติดตาม และการวัดผล (See 7.5)
96
97
98
9.1 Monitoring, measurement, analysis and evaluation of energy performance and the EnMs: การเฝ้ า
ติดตาม, การวัด, การวิเคราะห์, และการประเมินสมรรถนะด้านพลังงาน และระบบการจัดการพลังงาน (EnMS)
1 จัดทำรายงานการจัดการพลังงาน ผชร. สมศักดิ์
ประธาน คณะ
2 แต่งตั้งคณะทำงานด้านพลังงาน สมศักดิ์
ทำงาน
3 ประชุมคณะทำงานทุกๆ 3 เดือน คณะทำงาน สมศักดิ์
4 จัดการพลังงาน 8 ขั้นตอน คณะทำงาน สมศักดิ์
5 ตรวจสอบจากผู้ตรวจภายนอก ผชร. สมศักดิ์
6 ส่งรายงานให้ พพ. ภายใน มีนาคมของทุกปี ผชร. สมศักดิ์
103
9.2 Internal Audit : การตรวจติดตามภายใน
9.2.1
• องค์กรต้องดำเนินการตรวจติดตามภายใน EnMSตามช่วงเวลาที่วางแผนไว้ เพื่อหา
สารสนเทศของระบบการจัดการ EnMS
a. ปรับปรุงสมรรถนะด้านพลังงาน
b. สอดคล้องต่อ
- ข้อกำหนดขององค์กรสำหรับระบบการจัดการ EnMS
- นโยบายด้านพลังงาน วัตถุประสงค์และเป้ าหมายด้านพลังงานที่จัดทำโดยองค์กร
- ข้อกำหนดของมาตรฐานนานาชาติฉบับนี้
C. มีการนำไปปฏิบัติและธำรงรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ
104
9.2 Internal Audit : การตรวจติดตามภายใน
9.2.2
องค์กรต้อง
a. วางแผน จัดทำ นำไปปฏิบัติ รักษาไว้ซึ่งโปรแกรมการตรวจ รวมถึง ความถี่ วิธีการ ความรับผิดชอบ ข้อ
กำหนดการวางแผนและการรายงานผลต้อง พิจารณาความสำคัญของกระบวนการที่เกี่ยวข้องและผล
การตรวจครั้งที่ผ่านมา
b. กำหนดเกณฑ์การตรวจและขอบข่ายการตรวจแต่ละครั้ง
c. เลือกผู้ตรวจติดตามและดำเนินการตรวจ เพื่อให้มั่นใจว่าวัตถุประสงค์และความเป็นกลางของ
กระบวนการตรวจ
d. มั่นใจว่าผลการตรวจติดตามถูกรายงานถึงฝ่ ายบริหารที่เกี่ยวข้อง
e. ปฏิบัติการ ดำเนินการอย่างเหมาะสมตามข้อกำหนด (ดูข้อ 10.1 และ 10.2)
f. จัดเก็บเอกสารสารสนเทศเป็นหลักฐานในการปฏิบัติของโปรแกรมการตรวจและผลการตรวจ
105
กิจกรรม
Internal
Audit
ใบ
Certificat
e Internal
Audit
106
EnMR
107
EnMR
108
109
110
9.3 Management Review: การทบทวนโดยฝ่ ายบริหาร
111
9.3 Management Review: การทบทวนโดยฝ่ ายบริหาร
9.3.2 การทบทวนฝ่ ายบริหารต้องรวมถึงการพิจารณา
a. สถานะของปฏิบัติการจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา
b. การเปลี่ยนแปลง ประเด็นภายนอก/ภายใน และความเสี่ยง, โอกาสที่
สัมพันธ์กับ EnMS
c. จัดทำข้อมูลสมรรถนะของ EnMS รวมถึงแนวโน้มของ
1.สิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด และการปฏิบัติแก้ไข
2.ผลการเฝ้ าติดตามและการตรวจวัด
3.ผลการตรวจติดตาม
4.ผลการประเมินความสอดคล้องกับกฎหมาย และข้อกำหนดอื่นๆ
d. โอกาสรวมถึงความสามารถสำหรับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
e. นโยบายด้านพลังงาน
112
9.3 Management Review: การทบทวนโดยฝ่ ายบริหาร
9.3.3 ข้อมูลสมรรถนะด้านพลังงานนำเข้าที่ประชุมฝ่ายบริหารต้องรวมถึง
- ขอบเขตของวัตถุประสงค์ และเป้ าหมายด้านพลังงานที่บรรลุ
- สมรรถนะด้านพลังงาน และสมรรถนะด้านพลังงานที่ปรับปรุงบนพื้น
ฐานผลการเฝ้ าติดตามและตรวจวัด รวมถึง EnPI(s)
- สถานะของแผนปฏิบัติ (Action plan)
113
9.3 Management Review: การทบทวนโดยฝ่ ายบริหาร
9.3.4 ผลลัพธ์การทบทวนฝ่ ายบริหารต้องรวมถึงการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับโอกาสการปรับปรุง
อย่างต่อเนื่อง และความจำเป็นใดๆในการเปลี่ยนแปลงเพื่อระบบ EnMS รวมถึง
a. โอกาสสำหรับการปรับปรุงสมรรถนะด้านพลังงาน
b. นโยบายด้านพลังงาน
c. EnPI(s) หรือ EnB(s)
d. วัตถุประสงค์ เป้ าหมายด้านพลังงาน แผนปฏิบัติ หรือหัวข้ออื่นๆ ของ EnMS และการ
ปฏิบัติการเมื่อผลไม่บรรลุเป้ าหมาย
e. โอกาสสำหรับการปรับปรุงในการบูรณาการเข้ากับกระบวนการทางธุรกิจ
f. การจัดสรรทรัพยากร
g. การปรับปรุงความสามารถ, ความตระหนัก และการสื่อสาร
•องค์กรต้องจัดเก็บเอกสารสารสนเทศเพื่อเป็นหลักฐานผลการทบทวนฝ่ ายบริหาร
114
115
รูปภาพ การประชุม
ฝ่ ายบริหาร
116
117
10. Improvement: การ
ปรับปรุง
10.1 Nonconformity and corrective action
สิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดและการปฏิบัติการแก้ไข
• เมื่อเกิดสิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดองค์กรต้อง
a. ตอบสนองต่อสิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด อย่างเหมาะสม
1. ปฏิบัติการเพื่อการควบคุมและแก้ไข
2. ดำเนินการกับผลที่ตามมา
b. ประเมินความจำเป็นในการปฏิบัติเพื่อกำจัดสาเหตุของสิ่งที่ไม่เป็นไปตาม
ข้อกำหนด เพื่อป้ องกันการเกิดซ้ำหรือเกิดขึ้นที่อื่น โดย
3. ทบทวนสิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด
4. พิจารณาหาสาเหตุของสิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด
5. พิจารณาหาสิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่คล้ายคลึงกันหรือสามารถ
มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้
118
10.1 Nonconformity and corrective action: สิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดและการ
ปฏิบัติการแก้ไข
c. ปฏิบัติการเพื่อดำเนินการใดๆที่จำเป็น
d. ทบทวนประสิทธิผลของการปฏิบัติการแก้ไขใดๆที่ได้ดำเนินการไปแล้ว
e. เปลี่ยนแปลงระบบ EnMS ถ้าจำเป็น
•การปฏิบัติการแก้ไขต้องเหมาะสมกับผลกระทบของสิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อ
กำหนด
•องค์กรต้องจัดเก็บเอกสารสารสนเทศ
- ธรรมชาติของสิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดและการดำเนินการที่ตามมา
- ผลของการปฏิบัติการแก้ไขใดๆ
119
10.2 Continual improvement: การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
• องค์กรต้องมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเหมาะสมและ
เพียงพอ และมีประสิทธิผลของระบบ EnMS
• องค์กรต้องการปรับปรุงสมรรถนะด้านพลังงานอย่างต่อ
เนื่อง
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
สามารถติดต่อ
Q&Aได้ที่
aj8303101
มือถือ 081-8303101
โทรศัพท์ 02-7102138, 02-
7102896
โทรสาร 02-7537452
ถาม-ตอบ E-mail :
qaquality@hotmail.com
Facebook
132
: qa quality
Code
สำหรับ ทำแบบทดสอบ
AJXX
ความเสี่ยงและโอกาส IATF 16949/ISO 9001
133
14001:2004
ขั้นตอนการอบรมออนไลน์
14001:2004
ทำข้อสอบเสร็จแล้ว
ก่อนกด ส่ง ให้ท่านกลับมาทบทวนความถูกต้องของข้อมูลอีกครั้ง
กดส่งเพียง 1 ครั้ง
เท่านั้น !!!
COMPANY PROFILE
INTERNATIONAL MARKET
ISO 45001 IATF 16949 ISO 22000 LEADER SHIP
GMP
ISO 14001 HACCP TEAM WORK
GOOD COMMUNICATION
SA 8000 ISO 9001 BRC IFS PROFIT
Q&A
Q&A QUALITY AND CALIBRATION CO., LTD.
50/46,52 MOO 2 T.BANGKAEW
A.BANGPLEE SAMUTPRAKARN 10540
TEL.02-7102138, 02-7102896 Fax. 02-7537452
www.qaquality.co.th e-mail : qaquality@hotmail.com
06-01-2012 137
25-08-2011 ISO 9001/GMP 137