Professional Documents
Culture Documents
ปาฐกถาธรรม เรื่อง ทำดีเสียก่อนตาย
ปาฐกถาธรรม เรื่อง ทำดีเสียก่อนตาย
ทำาดีเสียก่อนตาย
หลวงพ่อปัญญานันทะ
วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2517
ญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย
ยังมีอยู่บ้างในบางแห่งที่ทำากันอยู่ในรูปแบบนี้ เรื่องอย่างนี้มันเป็นเรื่องความเสียสละเพื่อ
ประโยชน์แก่ส่วนรวม การเสียสละเพื่อส่วนรวม เป็นกิจชอบอย่างหนึ่งที่ควรจะได้กระทำา
ทั่วๆไป คนเราถ้ามีนำ้าใจเสียสละแล้วก็กลายเป็นคนใจกว้าง ถ้าเกิดความเห็นแก่ตัว แล้วก็
เป็นคนใจคับแคบ ไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ใครๆ โลกเราถ้าเต็มไปด้วยคนใจคับ แคบมันก็
วุ่นวาย เกิดปัญหานานาประการ ปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้นในสังคม เกิดจากคนใจ แคบทั้งนั้น
แหละ คนใจแคบก็คือคนเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ทำาอะไรก็จะเอาแต่ประโยชน์ ตนเป็นใหญ่
ไม่คำานึงถึงประโยชน์และความสุขส่วนรวม ความวุ่นวายก็ต้องเกิดมากเป็น ธรรมดา แต่ถ้า
หากว่าเราตั้งใจเสียสละ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม เรื่องความยุ่งมันก็น้อย ลงไป สมัยโบราณ
เขาก็สอนกันมาในรูปอย่างนี้
ในทางพระพุทธศาสนาให้เป็นก่อนตายกันทั้งนั้น แม้การปฏิบัติธรรมเพื่อบรรลุนิพพาน ก็
ให้ บรรลุก่อนตาย ถ้าตายแล้วบรรลุมันก็ไม่ได้เรื่องอะไร ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็นพระองค์จึง
สอนให้ นิพพานก่อนตาย ไม่ใช่ไปเอากันเมื่อตายไปแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่เรียกว่า ฝัน มากไป
หน่อย
เพราะฉะนั้นจึงสอนทางปฏิบัติเป็นตัวธรรมะไว้เพื่อให้เราเอามาปฏิบัติ เราลองมาศึกษาเรื่อง
นี้สักเล็กน้อย ว่ามันจะเป็นประโยชน์แก่สังคมในยุคปัจจุบัน ขนาดไหน ถ้าเราได้ปฏิบัติตาม
บทบัญญัติ ๗ ประการ ที่ทำาให้คนเป็นพระอินทร์นี้ จะดีหรือ ไม่ ถ้าเอามาศึกษาพิจารณาแล้ว
ก็จะเห็นว่า เป็นประโยชน์แก่ตัวเรา แก่สังคมอย่าง มากหลาย และถ้าเราดูสังคมในยุค
ปัจจุบัน มีจำานวนไม่ใช่น้อยที่ขาดคุณธรรมเหล่านี้ จึง เป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวาย ความ
วุ่นวายส่วนตัว ความวุ่นวายในครอบครัว ในวง งานตลอดจนความวุ่นวายของสังคมโลก ก็
เกิดจากว่า ไม่เอาสิ่งเหล่านี้มาใช้เป็น แนวปฏิบัติในชีวิตประจำาวัน จึงได้เกิดปัญหายุ่งยาก
ด้วยประการต่างๆ แต่ถ้าสมมติว่า เราชวนกันใช้หลักเหล่านี้ เป็นแนวปฏิบัติ อะไรๆ ก็จะไม่
วุ่นวาย
เมืองไทยเรานี้เป็นเมืองพุทธศาสนา ที่เราพอจะคุยอวดกันอยู่ได้ อวดได้ว่ามีความมั่นคง คือ
มั่นคงในการจัดระเบียบ ในการเป็นการอยู่เรียบร้อยกว่าประเทศอื่น ที่นับถือพุทธศาสนา
ด้วยกัน เพราะว่าประเทศอื่นนั้น เสียหลักเอกภาพไป ไม่มีความเป็นอิสระในชาติ ศาสนาก็
เลยอับเฉาไปด้วย เพราะผู้ที่เข้ามาปกครองนั้น ไม่ได้เอาใจใส่บำารุงส่งเสริมศาสนา ส่วนใน
เมืองไทยเรานั้น พระราชามหากษัตริย์ทุกพระองค์ ตั้งแต่สมัยโบราณมารจนถึงกาลบัดนี้
เวลาเสด็จขึน้ เสวยราชสมบัติ ก็ได้ประกาศเป็นสัจจะวาจาว่า "เราจะบำารุงขอบขันธสี มา
อาณาจักร และพระพุทธศาสนา ให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า" อันนี้เป็นหน้าที่ขององค์ พระมหา
กษัตริย์
กรรมทั้งหลายที่ไม่ดี และไม่เป็นประโยชน์แก่ตนทำาได้ง่าย
กรรมใดแล เป็นประโยชน์ด้วยดีด้วย กรรมนั้นแลทำาได้ยากยิ่ง
พุทธพจน์.