Professional Documents
Culture Documents
และลอการิ ทึม
16 May 2017
สารบัญ
สมการติดรูท ............................................................................................................................................................................. 1
รูทไม่ร้ ูจบ ............................................................................................................................................................................... 10
เลขยกกาลัง ........................................................................................................................................................................... 12
ฟั งก์ชนั เอกซ์โพเนนเชียล ....................................................................................................................................................... 17
สมการ อสมการ เอกซ์โพเนนเชียล ....................................................................................................................................... 21
ลอการิ ทมึ .............................................................................................................................................................................. 30
ฟั งก์ชนั ลอการิ ทมึ .................................................................................................................................................................. 36
การแปลงรูปกราฟ ................................................................................................................................................................. 40
ตารางลอการิ ทมึ .................................................................................................................................................................... 43
แมนทิสซา - คาแรคเทอริ สติก ............................................................................................................................................... 47
แอนติลอก.............................................................................................................................................................................. 52
สมการลอการิ ทมึ ................................................................................................................................................................... 55
อสมการลอการิ ทมึ ................................................................................................................................................................ 69
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 1
สมการติดรูท
2 2
สิง่ ที่ต้องระวังคือ การยกกาลังสอง กระจายในการบวกลบไม่ได้ นัน่ คือ (√𝑥 + 2) ≠ √𝑥 + 22
แต่เราต้ องกระจายด้ วยสูตร (น + ล)2 = น2 + 2นล + ล2
(น − ล)2 = น2 − 2นล + ล2
2 2
ดังนัน้ (√𝑥 + 2) = √𝑥 + 2(√𝑥)(2) + 22
= 𝑥 + 4√𝑥 + 4
1
นา 4
ไปตรวจคาตอบ นา 3 ไปตรวจคาตอบ
1 1 √3 + 6 + 3 = 2 × 3
√ +6+3= 2×
4 4
√9 + 3 = 6
√
25
4
+ 3 =
1
2
3+3 = 6 จริ ง
5 1
2
+ 3 =
2
ไม่จริ ง
ดังนัน้ คาตอบของสมการคือ 3 เพียงคาตอบเดียว #
นา 2 ไปตรวจคาตอบ: √2 + 2 + √3 − 2 = 3 จริ ง
นา −1 ไปตรวจคาตอบ: √−1 + 2 + √3 − (−1) = 3 ก็จริ งอีก
ดังนัน้ ข้ อนี ้คาตอบ คือ 2 และ −1 ทังสองตั
้ ว #
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 3
แบบฝึ กหัด
1. จงแก้ สมการต่อไปนี ้
1. √2𝑥 + 1 + 7 = 10 2. √1 − 𝑥 2 = 1 − 𝑥
3. √𝑥 − 3 + 2 = 𝑥 − 3 4. √𝑥 2 − 9 = 2𝑥 − 6
5. 𝑥 + √𝑥 + 1 = 5
4 เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ
แบบฝึ กหัด
2. จงแก้ สมการต่อไปนี ้
√𝑥−1 √𝑥+3
1. √𝑥−4
=
√𝑥−3
2. 𝑥 − √𝑥 − 6 = 0
3. √2𝑥 + 1 + √𝑥 = 5 4. √𝑥 2 + 𝑥 + 2 = 2𝑥 2 + 2𝑥 − 2
5. √𝑥 2 + 𝑥 + 4 + 𝑥 2 = 16 − 𝑥
6 เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ
4. ให้ 𝑅 แทนเซตของจานวนจริ ง
ถ้ า 𝑆 = {𝑥 ∈ 𝑅 | √𝑥 + 1 + √3𝑥 − 1 = √7𝑥 − 1}
และ 𝑇 = {𝑦 ∈ 𝑅 | 𝑦 = 3𝑥 + 1, 𝑥 ∈ 𝑆}
แล้ ว ผลบวกของสมาชิกใน 𝑇 เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (ก.ค. 53)/27]
รูทไม่ร้ ูจบ
เราจะใช้ หลักนี ้ในการทา โดย 1. สมมติให้ ตวั ทีเ่ ราต้ องการหา เท่ากับ 𝑥
2. จะได้ “ไส้ ในทังยวง”
้ เท่ากับ 𝑥 ด้ วย → เปลีย่ นไส้ ในทังยวง
้ เป็ น 𝑥 แล้ วแก้ สมการ
แบบฝึ กหัด
1. จงหาค่าของจานวนต่อไปนี ้
1. √5√5√5 … 2. √3√3√3 …
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 11
3. √2 + √2 + √2 + ⋯ 4. √6 + √6 + √6 + ⋯
8 6
5. 8
6. 1+
1+
6
√ √√ 8 1+
6
…
…
เลขยกกาลัง
อีกเทคนิคหนึง่ ที่นิยมใช้ คือเทคนิค “แปลงให้ ฐานเท่ากัน” หรื อไม่ก็ “แปลงเลขชี ้กาลังให้ เท่ากัน”
ในกรณีที่แปลงให้ เท่ากันไม่ได้ เราจะใช้ วิธีประมาณ หาตัวที่ใกล้ ที่สดุ
วิธีทา ข้ อนี ้ เราแปลงฐาน 88 ให้ กลายเป็ นฐาน 7 โดยใช้ วิธีประมาณ โดยหาว่า 88 อยูร่ ะหว่าง 7 ยกกาลังอะไรบ้ าง
จะเห็นว่า 72 < 88 < 73 ยกกาลัง 8 ตลอด จะได้ 716 < 888 < 724
จากนี ้ เราจะไม่เทียบ 7(8 ) กับ 888 โดยตรง แต่จะเทียบกับค่าใกล้ เคียงของ 888 ซึง่ คือ 716 กับ 724
9
วิธีเปรี ยบเทียบเลขยกกาลัง เรามักจะจัดรูป ให้ ฐาน เท่ากัน แล้ วเปรี ยบเทียบ เลขชี ้กาลัง
หรื อไม่ก็จดั รูป ให้ เลขชี ้กาลัง เท่ากัน แล้ วเปรี ยบเทียบ ฐาน
สิง่ ที่ต้องระวังแบบสุดๆ เวลาเทียบมากกว่าน้ อยกว่า คือ ข้ อยกเว้ นต่างๆ
แบบฝึ กหัด
1. จงทาให้ เป็ นผลสาเร็จ
1. 0.30 2. 35 × 33
2 4 2 −2
3. (3) × (3) 4. ((𝑥 2 )−3 )0.5
−1 2
𝑎 𝑛 ∙𝑎𝑛+1 𝑥2 𝑥3𝑦
5. 𝑎 2𝑛
6. (𝑦3 ) (𝑥𝑦−1 )
14 เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ
3 5
7. √(𝑥 2 ) √𝑥 8. √𝑥√𝑥√𝑥 2
1 1
1 3 1 2
5. ...... 6. ......
3 2
( ) ( ) (sin 80°)2 (sin 80°)3
2 2
1 1
7. 2−5 ...... 2−7 8. 4
( )
24 ...... 5
( )
36
30 20
9. ...... 10. ......
−1 −1 3
33 44 √2 √3
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 15
3. ถ้ า 𝑥 และ 𝑦 เป็ นจานวนจริ งบวกที่ตา่ งกัน ซึง่ สอดคล้ องสมการ 𝑥 𝑦 = 𝑦 𝑥 แล้ ว ข้ อใดต่อไปนี ้ผิด
[A-NET 49/1-2]
𝑥 𝑦
( )
1. 𝑦 𝑦 =𝑥 2. 𝑥
( )
𝑥 =𝑦
𝑥 𝑦
3. (𝑥𝑦)𝑦 = 𝑥 (𝑥+𝑦) 4. (𝑦) = 𝑦 (𝑥−𝑦)
5. กาหนด 𝑎 = 248 , 𝑏 = 336 และ 𝑐 = 524 ข้ อใดต่อไปนี ้ถูกต้ อง [PAT 1 (ก.ค. 53)/24]
1. 𝑏1 > 1𝑐 > 𝑎1 2. 1
𝑎
>
1
𝑏
>
1
𝑐
3. 𝑏1 > 𝑎1 > 1𝑐 4. 𝑎1 > 1𝑐 > 𝑏1
16 เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ
3
8. กาหนดให้ และ ข้ อใดต่อไปนี ้ถูกต้ อง
3 3 3
𝐴 = √7√5 , 𝐵 = √5√7 , 𝐶 = √5√7 𝐷 = √7√5
[PAT 1 (มี.ค. 56)/25]
1. 𝐷>𝐶>𝐴>𝐵 2. 𝐴>𝐶>𝐵>𝐷
3. 𝐴>𝐵>𝐷>𝐶 4. 𝐶>𝐴>𝐷>𝐵
ฟั งก์ชนั เอกซ์โพเนนเชียล
“ฟั งก์ชนั เอกซ์โพเนนเชียล” คือฟังก์ชนั ที่อยูใ่ นรูป 𝑓(𝑥) = 𝑎 𝑥 เมื่อ 𝑎 เป็ นตัวเลขอะไรก็ได้ ที่ 𝑎 > 0 และ 𝑎 ≠ 1
หมายเหตุ: สัญลักษณ์ 𝑓(𝑥) สามารถแทนได้ ด้วยตัวแปร 𝑦
ดังนัน้ 𝑓(𝑥) = 𝑎 𝑥 อาจเขียนได้ เป็ น 𝑦 = 𝑎 𝑥
2 𝑥 𝑥
ตัวอย่างฟังก์ชนั เอกซ์โพเนนเชียล เช่น 𝑓(𝑥) = 2𝑥 , 𝑔(𝑥) = (3) , 𝑦 = (√2) เป็ นต้ น
ในกรณีที่ฝั่งขวา ไม่อยูใ่ นรูป 𝑎 𝑥 เราอาจต้ องจัดรูปก่อน
เช่น 𝑦 = 32𝑥 จัดรูปได้ เป็ น 𝑦 = (32 )𝑥 = 9𝑥
1 𝑥
𝑦 = 2(−𝑥) จัดรูปได้ เป็ น 𝑦 = (2−1 )𝑥 = ( )
2
เป็ นต้ น
Y Y
𝑥 เพิ่ม → 𝑦 เพิ่ม ↑ 𝑥 เพิ่ม → 𝑦 ลด ↓
(0, 1) (0, 1)
X X
สิง่ ที่ควรสังเกตคือ
ทังสองกรณี
้ กราฟจะผ่านจุด (0, 1) เสมอ → เพราะ 𝑎0 = 1
กรณี 𝑎 > 1 เป็ นฟั งก์ชน ั เพิ่มตลอดทังเส้
้ น กรณี 0 < 𝑎 < 1 เป็ นฟั งก์ชนั ลดตลอดทังเส้ ้ น
ดังนัน้ ถ้ า 𝑥 เปลีย่ นไป แล้ ว ค่า 𝑦 จะไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิมได้ อกี
พูดง่ายๆคือ ถ้ า 𝑚 ≠ 𝑛 แล้ ว ไม่มีทางเลยที่ 𝑎𝑚 = 𝑎𝑛 ได้
เลขชี ้กาลัง (ค่า 𝑥 ) เป็ น บวก ลบ ศูนย์ ได้ หมด → โดเมน = R
แต่ผลการยกกาลัง (𝑎 𝑥 ) เป็ น บวก ได้ อย่างเดียว ห้ ามเป็ น ลบ หรื อ ศูนย์ → เรนจ์ = R+
สิง่ ที่ต้องเคลียให้ ชดั เจน คือ “เลขชี ้กาลังที่เป็ นลบ จะไม่ทาให้ ผลยกกาลังเป็ นลบ”
18 เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ
1 𝑥
ตัวอย่าง จงพิจารณาว่า สมการ ( ) = 10
2
มีกี่คาตอบ พร้ อมทังหาค่
้ าประมาณของคาตอบ
1 𝑥 1 𝑥
วิธีทา เนื่องจาก ค่าของ เป็ นฟั งก์ชนั ลดตลอดทังเส้
( )
2
้ น ดังนัน้ จะมี 𝑥 ได้ แค่คา่ เดียว ที่ ( ) = 10
2
ถัดไป หาค่าประมาณของคาตอบ ด้ วยวิธีแทนค่า
1 𝑥
เนื่องจาก ค่าของ ( )
2
เป็ นฟั งก์ชนั ลด ดังนัน้ ต้ องลด 𝑥 เพื่อให้ ผลยกกาลังจะเพิ่ม
1 −2
𝑥 = −2 → (2) = 22 = 4 → น้ อยไป ต้ อง ลด ค่า 𝑥
1 −3
𝑥 = −3 → (2) = 23 = 8 → น้ อยไป ต้ อง ลด ค่า 𝑥 อีก
1 −4
𝑥 = −4 → (2) = 24 = 16 เกินแล้ ว
→
ดังนัน้ สมการนี ้มี 1 คาตอบ โดยคาตอบจะอยูร่ ะหว่าง −3 กับ −4 #
แบบฝึ กหัด
1. ข้ อใดต่อไปนี ้ เป็ นฟังก์ชนั เอกซ์โพเนนเชียล
1. 𝑓(𝑥) = 𝑥 2 2. 𝑦 = 2𝑥
1 𝑥
3. 𝑦 = 2𝑥 4. 𝑓(𝑥) = (3)
5. 𝑓(𝑥) = 3−𝑥 6. 𝑦 = 22𝑥
7. 𝑥𝑦 = 1 8. 𝑓(𝑥) = 2𝑥 + 5
𝑥
9. 𝑓(𝑥) = 1.8𝑥 10. 𝑦 = √2
𝑥
11. 𝑦 = 3
( )
2 12. 𝑓(𝑥) = 1𝑥
13. 𝑓(𝑥) = (−1)𝑥 14. 𝑦 = 0.1𝑥
1 𝑥
15. 𝑦 = 2−3𝑥 16. 𝑓(𝑥) = (− )
2
2 −𝑥
17. 𝑓(𝑥) = (3) 18. 𝑦 = 25
1 1
19. 𝑦 =
5𝑥
20. 3𝑥 =
𝑦
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 19
1 𝑥
5. 𝑦 = ( 2)
√
6. 𝑓(𝑥) = 10−2𝑥
1 1 −𝑥
3. 3𝑥 = 10
4. (2) = 5
20 เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ
5. 22𝑥 + 5 = 50 6. 2𝑥 + 3𝑥 = 100
1 𝑥 1 𝑥 1 𝑥 9
7. ( ) + 3−𝑥 = 50
4
8. ( ) +( ) =
4 5 20
4 𝑥 9𝑥
5. กาหนดสมการ (25 ) + (25) = 1 จงพิจารณาข้ อความต่อไปนี ้
ก. ถ้ า 𝑎 เป็ นคาตอบของสมการ แล้ ว 𝑎 > 1
ข. ถ้ าสมการมีคาตอบ แล้ วคาตอบจะมีเพียงค่าเดียว
ข้ อใดต่อไปนี ้ถูก [PAT 1 (มี.ค. 52)/20]
1. ก. ถูก และ ข. ถูก 2. ก. ถูก และ ข. ผิด
3. ก. ผิด และ ข. ถูก 4. ก. ผิด และ ข. ผิด
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 21
−1 3
ดังนัน้ คาตอบคือ (−∞ , −1] ∪ [3 , ∞) #
𝑥+2 𝑥−2
ตัวอย่าง จงแก้ อสมการ (√3 + √2) > (5 + 2√6)
วิธีทา ข้ อนี ้ ยากขึ ้นมาหน่อย เพราะเริ่มจะเดายากว่าจะทาฐานให้ เท่ากันได้ ยงั ไง
ถ้ าสังเกตดีๆ 5 + 2√6 จะถอดรูทสองได้ ลงตัว โดยใช้ ความรู้เรื่ อง 𝑥 ± 2√𝑦
2
เนื่องจาก √5 + 2√6 = √3 + √2 จะได้ วา่ 5 + 2√6 = (√3 + √2)
2
ดังนัน้ เราจะเปลีย่ น 5 + 2√6 ในสมการ ให้ กลายเป็ น (√3 + √2) ดังนี ้
𝑥+2 2 𝑥−2
(√3 + √2) > ((√3 + √2) )
𝑥+2 2𝑥−4
(√3 + √2) > (√3 + √2)
𝑥+2 > 2𝑥 − 4
6 > 𝑥
ดังนัน้ คาตอบคือ (−∞ , 6) #
22 เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ
แบบฝึ กหัด
1. จงแก้ สมการ หรื อ อสมการ ต่อไปนี ้
1. 3𝑥−3 = 243 2. 22𝑥+1 = 128
3. 41−𝑥 = 32 4. 3𝑥 = 9−𝑥+6
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 23
1 2𝑥 1 3
5. 4𝑥+1 > 2𝑥−3 6. ( )
2
≤ ( )
16
𝑥
7. (√2) = 8 8. 52𝑥 = 5√5
1 𝑥 1
9. ( 2) = 32
√
10. (0.1)2𝑥 > (0.01)5
𝑥 1 2𝑥 9
11. √2 = 45−2𝑥
12. 3𝑥
=
4
24 เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ
9𝑥 8 𝑥
13. 22𝑥+1
>
81
14. (1 + √2) = 3 + 2√2
3𝑥 𝑥−1 𝑥 𝑥+2
15. (√3 − √2) = (5 − 2√6) 16. (√2 − 1) ≤ (3 − 2√2)
28 1 𝑥−1
19. 32𝑥+2 − 28 ∙ 3𝑥 + 3 = 0 20. 3𝑥
− (9) = 3
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 25
2
1 2𝑥 +3𝑥+7 1 2𝑥+11
3. จงหาเซตคาตอบของอสมการ (2) < (4)
5. ถ้ า 4𝑥−𝑦 = 128 และ 32𝑥+𝑦 = 81 แล้ ว ค่าของ 𝑦 เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (มี.ค. 52)/18]
26 เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ
1
8. กาหนดให้ 𝐴 = { 𝑥 ∈ R | 22𝑥 − 2𝑥+2 > 2𝑥+2 − √32 } เมื่อ R แทนเซตของจานวนจริง
จงหาจานวนสมาชิกทีเ่ ป็ นจานวนเต็มของ R − 𝐴 [PAT 1 (ธ.ค. 54)/4]
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 27
9. กาหนดให้ 𝑥, 𝑦 > 0 ถ้ า 𝑥 𝑦 = 𝑦 𝑥 และ 𝑦 = 5𝑥 แล้ ว ค่าของ 𝑥 อยูใ่ นช่วงใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (ก.ค. 52)/19]
1. [0, 1) 2. [1, 2) 3. [2, 3) 4. [3, 4)
10. ถ้ า 𝑥>0 และ 8𝑥 + 8 = 4𝑥 + 2𝑥+3 แล้ ว ค่าของ 𝑥 อยูใ่ นช่วงใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (ต.ค. 52)/1-8]
1. [0, 1) 2. [1, 2) 3. [2, 3) 4. [3, 4)
1 𝑥 1 𝑥−1
11. ถ้ าสมการ (4) + (2) +𝑎 = 0 มีคาตอบเป็ นจานวนจริ งบวก แล้ วค่าของ 𝑎 ที่เป็ นไปได้ อยูใ่ นช่วงใดต่อไปนี ้
[PAT 1 (มี.ค. 53)/12]
1. (−∞, −3) 2. (−3, 0) 3. (0, 1) 4. (1, 3)
28 เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ
5+4𝑥−𝑥2
( )
13. กาหนดให้ 𝐴 แทนเซตคาตอบของสมการ 2
5(1+√𝑥 −4𝑥−1) +5 2+√𝑥2 −4𝑥−1 = 126
ผลบวกของสมาชิกในเซต 𝐴 ทังหมดเท่
้ ากับเท่าใด [PAT 1 (มี.ค. 56)/30]
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 29
14. ให้ 𝐴 แทนเซตคาตอบของสมการ (4𝑥 + 2𝑥 − 6)3 = (2𝑥 − 4)3 + (4𝑥 − 2)3 ผลบวกของสมาชิกทังหมดใน
้
เซต 𝐴 เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (พ.ย. 57)/43]
15. ให้ 𝑎 และ 𝑏 เป็ นจานวนจริ ง โดยที่ 𝑎 > 0 และ 𝑏 > 1 ถ้ า 𝑎𝑏 = 𝑏 𝑎 และ 𝑏 = 𝑎𝑏 3𝑎 แล้ ว 20𝑎 + 14𝑏
เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (พ.ย. 57)/34]
30 เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ
ลอการิ ทมึ
สัญลักษณ์ “log 𝑎 𝑥” อ่านว่า “ล็อก 𝑥 ฐาน 𝑎” หมายถึง จานวนที่ เมื่อใช้ 𝑎 มายกกาลัง จะได้ 𝑥
เช่น log 3 81 = 4 เพราะ 34 = 81 log 2 8 = 3 เพราะ 23 = 8
log 6 216 = 3 เพราะ 63 = 216 log 5 5 = 1 เพราะ 51 = 5
1 1 2 1
log 4 1 = 0 เพราะ 40 = 1 log 1 (4) = 2 เพราะ (2) = 4
2
1 4
1
log 4 2 = 2
เพราะ 4 = 2
2 log √3 9 = 4 เพราะ (√3) = 32 = 9
ในกรณีที่ ฐาน = 10 เรานิยมละเลข 10 ไว้ ในฐานที่เข้ าใจ นัน่ คือ ถ้ าเห็น log แบบไม่มีฐาน ให้ ถือว่าเป็ น log ฐาน 10
เช่น log 100 = 2 เพราะ 102 = 100 log 1000 = 3 เพราะ 103 = 1000
1
log 1 = 0 เพราะ 100 = 1 log 0.1 = −1 เพราะ 10−1 = 10 = 0.1
เรามีชื่อพิเศษสาหรับ log ฐาน 10 ว่า “ลอการิ ทมึ สามัญ”
เลขชี ้กาลังหลัง log โยนไปไว้ หน้ า log ได้ ถ้ ามาจากข้ างบน จะโยนมาเป็ นตัวเศษหน้ า log
ถ้ ามาจากข้ างล่าง จะโยนมาเป็ นตัวส่วนหน้ า log
1
เช่น log 2 𝑥 3 = 3 log 2 𝑥 log 23 10 = 3 log 2 10
3
log √3 8 = log 1 23 = 1 log 3 2 = 6 log 3 2
32 2
เลขชี ้กาลังที่จะโยนมาได้ ต้ องเป็ นเลขชี ้กาลังของตัวหลัง log “ทังก้
้ อน” เท่านัน้ ห้ ามโยนเลขชี ้กาลังของตัวย่อยๆมา
เช่น log 2 53 112 ห้ ามโยน 3 หรื อ 2 ไปไว้ หน้ า log เพราะ 3 กับ 2 เป็ นเลขชี ้กาลังของตัวย่อยๆ ไม่ใช่ทงก้ ั ้ อน
log𝑎 𝑀
สามารถ แยก log 𝑁 𝑀 เป็ น log𝑎 𝑁
ได้ โดยจะเลือก ฐาน 𝑎 เป็ นตัวเลขอะไรก็ได้
log3 18 log4 18 log85 18 log√2 18
เช่น log 7 18 =
log3 7
=
log4 7
=
log85 7
=
log√2 7
log10 3 log10 4 log10 5 log10 5
log 2 3 ∙ log 3 4 ∙ log 4 5 = ∙ ∙ = = log 2 5
log10 2 log10 3 log10 4 log10 2
แบบฝึ กหัด
1. จงหาค่าของลอการิ ทมึ ต่อไปนี ้
1. log 2 32 2. log 3 243
7. log 1 8. 7log7 15
1
15. log 3 2 − log 16. (log 5 7)(log 7 25)
63
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 33
log2 3 1 1
17. log4 9
18. log2 10
+
log5 10
log5 256
4. จงหาค่าของ (log 2 log √2 4) + (log 2 (√5) ) − (log 2 32 log9 32 )
10. กาหนดให้ 𝑥 > 1 , 𝑎 > 1 , 𝑏 > 1 และ 𝑐 > 1 ข้ อใดต่อไปนี ้ถูกต้ อง [PAT 1 (มี.ค. 55)/10]
1. ถ้ า 𝑏2 = 𝑎𝑐 แล้ ว (log 𝑎 𝑥)(log 𝑏 𝑥 − log 𝑐 𝑥) = (log 𝑐 𝑥)(log 𝑎 𝑥 − log 𝑏 𝑥)
2. ถ้ า 𝑐 > 𝑏 + 1 และ 𝑎2 + 𝑏2 = 𝑐 2 แล้ ว log (𝑐+𝑏) 𝑎 + log (𝑐−𝑏) 𝑎 = 2(log (𝑐+𝑏) 𝑎)(log (𝑐−𝑏) 𝑎)
36 เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ
ฟั งก์ชนั ลอการิ ทมึ คือ ฟั งก์ชนั ที่อยูใ่ นรูป 𝑦 = log 𝑎 𝑥 โดยที่ 𝑎 เป็ นตัวเลขอะไรก็ได้ ที่ 𝑎 > 0 และ 𝑎 ≠ 1
จากสมบัติของ log ในหัวข้ อที่แล้ ว ประโยค “𝑦 = log 𝑎 𝑥” จะมีความหมายว่า 𝑥 = 𝑎 𝑦
จะเห็นว่า ฟั งก์ชนั เอกซ์โพเนนเชียล กับฟั งก์ชนั ลอการิ ทมึ มีความคล้ ายกันอยู่ เอกซ์โพเนนเชียล: 𝑦 = 𝑎 𝑥
ลอการิ ทมึ : 𝑥 = 𝑎𝑦
จะเห็นว่า ถ้ าเอาเอกซ์โพเนนเชียล มาสลับ 𝑥 ↔ 𝑦 จะได้ หน้ าตาเหมือนลอการิ ทมึ เป๊ ะ
34
ถ้ ายังจาความสัมพันธ์และฟั งก์ชนั ได้ เราจะสลับ 𝑥 ↔ 𝑦 ตอน “หาอินเวอร์ ส”
4 81
ดังนัน้ ลอการิ ทมึ ก็คือ อินเวอร์ สของ เอกซ์โพเนนเชียล นัน่ เอง
log 3 81
และด้ วยความเป็ นอินเวอร์ สนี ้เอง จะได้ วา่ กราฟของลอการิ ทมึ กับ เอกซ์โพเนนเชียล จะสมมาตรกัน เทียบกันเส้ น 45°
expo expo
log
log
X X
(1, 0) (1, 0)
สิง่ ที่ควรสังเกตคือ
ทังสองกรณี
้ กราฟจะผ่านจุด (1, 0) เสมอ → เพราะ log 𝑎 1 = 0
กรณี 𝑎 > 1 เป็ นฟั งก์ชน ั เพิ่มตลอดทังเส้
้ น กรณี 0 < 𝑎 < 1 เป็ นฟั งก์ชนั ลดตลอดทังเส้
้ น
ดังนัน้ ถ้ า 𝑥 เปลีย่ นไป แล้ ว ค่า 𝑦 จะไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิมได้ อกี
พูดง่ายๆคือ ถ้ า 𝑚 ≠ 𝑛 แล้ ว ไม่มีทางเลยที่ log 𝑎 𝑚 = log 𝑎 𝑛 ได้
ค่า 𝑥 หลัง log เป็ น บวก ได้ อย่างเดียว ห้ ามเป็ น ลบ หรื อ ศูนย์ → โดเมน = R+
แต่ผล log เป็ น บวก ลบ ศูนย์ ได้ หมด → เรนจ์ = R
2 2 2
log 5 (15) : เราต้ องหาว่า 5 ยกกาลังอะไร ได้ ใกล้ 15
ที่สดุ จะได้ 50 = 1 > 15
1 2
5−1 = 5
> 15
อยู่
1 2
5−2 = 25
< 15
แล้ ว
2
ดังนัน้ ค่าของ log 5 ( )
15
จะอยูร่ ะหว่าง −1 กับ −2
2
จากค่าประมาณของทังสามตั
้ ว จะได้ วา่ log 5 ( ) < log 1 2 < log 2 3
15
#
3
แบบฝึ กหัด
1. ข้ อใดเป็ นฟั งก์ชนั เพิ่ม
1. 𝑦 = log 2 𝑥 2. 𝑓(𝑥) = log 0.2 𝑥
3. 𝑓(𝑥) = log 1 𝑥 4. 𝑦 = log (1+cos 20°) 𝑥
2
5. 𝑦 = log √0.5 𝑥 6. 𝑓(𝑥) = − log 3 𝑥
1 1
7. 𝑓(𝑥) = log 5 (𝑥) 8. 𝑦 = log 1 (𝑥)
3
38 เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ
1
9. 𝑦 = − log 1 (𝑥) 10. 𝑓(𝑥) = − log 0.5 𝑥 −1
5
1 1
3. log 2 (3) 4. log 3 (2)
3 5
5. log 5 ( )
11
6. log 2 ( )
9
7. log 1 3 8. log 1 16
2 3
1
9. log 0.2 20 10. log 0.5 (9)
1 1 1 1
3. log 3 (2) ........ log 3 (3) 4. log 1 (5) ........ log 1 (3)
7 7
1
5. 1 ........ log 5 6 6. −1 ........ log 2 (3)
3 2
7. log 2 5 ........ log 3 8 8. log 2 (8) ........ log 3 (5)
2 3 1
9. log 5 (25) ........ log 2 (15) 10. log 0.5 20 ........ log 3 (30)
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 39
3 1
2. log 2 (8) < log 3 (2)
การแปลงรูปกราฟ
เช่น
𝑥 2 + 𝑦2 = 4 (𝑥 + 1)2 + (𝑦 − 2)2 = 4
เช่น
𝑥 2
𝑥 2 + 𝑦2 = 4 ( ) + (2𝑦)2 = 4
2
3. การพลิกกราฟ
ถ้ าเปลีย่ น 𝑥 เป็ น –𝑥 กราฟจะ “พลิก” รอบแกน Y
ถ้ าเปลีย่ น 𝑦 เป็ น –𝑦 กราฟจะ “พลิก” รอบแกน X
เช่น
𝑦 = 2𝑥 𝑦 = 2−𝑥 𝑥2 = 𝑦 + 2 𝑥 2 = −𝑦 + 2
4. การสะท้ อนกราฟ
ถ้ าเปลีย่ น 𝑥 เป็ น |𝑥| กราฟฝั่งซ้ ายแกน Y จะหายไป และถูกแทนด้ วยภาพสะท้ อนของกราฟฝั่งขวาแกน Y
ถ้ าเปลีย่ น 𝑦 เป็ น |𝑦| กราฟใต้ แกน X จะหายไป และถูกแทนด้ วยภาพสะท้ อนของกราฟเหนือแกน X
เช่น
𝑦 = 2𝑥 𝑦 = 2|𝑥| 𝑦 = 𝑥2 − 2 |𝑦| = 𝑥 2 − 2
5. การพับกราฟ
ถ้ าเปลีย่ น 𝑦 = 𝑓(𝑥) เป็ น 𝑦 = |𝑓(𝑥)| กราฟใต้ แกน X จะ “พับขึ ้นมาซ้ อน” กับกราฟเหนือแกน X
เช่น
𝑦 = 𝑥2 − 2 𝑦 = |𝑥 2 − 2|
1
ตัวอย่าง จงวาดกราฟของ 𝑦 = − log 1 (𝑥+1 )
2
1
วิธีทา เนื่องจาก − log 1 (𝑥+1) = − log 1 (𝑥 + 1)−1
2 2
= −(−1) log 1 (𝑥 + 1)
2
= log 1 (𝑥 + 1)
2
ดังนัน้ กราฟของข้ อนี ้ จะเหมือนกับกราฟของ 𝑦 = log 1 (𝑥 + 1)
2
โดยเราจะวาดกราฟของ 𝑦 = log 1 𝑥 ก่อน แล้ วค่อยใช้ ความรู้เรื่ องการเลือ่ นกราฟ เปลีย่ น 𝑥 เป็ น 𝑥+1
2
𝑦 = log 1 𝑥 𝑦 = log 1 (𝑥 + 1)
2 2
เปลี่ยน 𝑥 เป็ น 𝑥 + 1
#
42 เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ
(0, 1) (0, 1)
X X
#
แบบฝึ กหัด
1. จงวาดกราฟของสมการต่อไปนี ้
1 𝑥 1 −𝑥
1. 𝑦 = ( ) +1
2
2. 𝑦 = −( )
3
3. 𝑦 = log 2 (𝑥 − 1) 4. 𝑦 = − (log 1 (𝑥 + 1) − 1)
2
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 43
ตารางลอการิ ทมึ
จากหัวข้ อที่แล้ ว เราได้ ทราบแล้ ว ว่า “ลอการิ ทมึ สามัญ” คือ log ฐาน 10 ที่อนุญาตให้ ไม่ต้องเขียน ฐาน 10 ได้
เช่น log 1000 = 3 เพราะ 103 = 1000 เป็ นต้ น
ในหัวข้ อนี ้ เราจะเรี ยนวิธีเปิ ดตาราง เพื่อหาค่า log ของจานวนอะไรก็ได้ โดยจะใช้ ความรู้เรื่ อง ลอการิ ทมึ สามัญ มาช่วย
การหา log ของจานวนใดๆ จะมีขนตอนดั ั้ งนี ้
1. เขียนจานวนทีต่ ้ องการหาค่า log ให้ อยูใ่ นรูป 𝐴 × 10𝑛 โดยที่ 1 ≤ 𝐴 < 10
เช่น 2540 = 2.54 × 103 156.2 = 1.562 × 102
0.00053 = 2.3 × 10−4 6.225 = 6.225 × 100 เป็ นต้ น
2. เอาค่าที่แปลงได้ ในข้ อ 1. ไปหาค่า log จะได้ log(𝐴 × 10𝑛 ) = log 𝐴 + log 10𝑛
= log 𝐴 + 𝑛
เช่น log 2540 = log (2.54 × 10 ) 3
log 0.00053 = log (5.3 × 10−4)
= log 2.54 + log 103 = log 5.3 + log 10−4
= log 2.54 + 3 = log 5.3 + (−4) เป็ นต้ น
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9
4.0 0.6021 0.6031 0.6042 0.6053 0.6064 0.6075 0.6085 0.6096 0.6107 0.6117
4.1 0.6128 0.6138 0.6149 0.6160 0.6170 0.6180 0.6191 0.6201 0.6212 0.6222
4.2 0.6232 0.6243 0.6253 0.6263 0.6274 0.6284 0.6294 0.6304 0.6314 0.6325
4.3 0.6335 0.6345 0.6355 0.6365 0.6375 0.6385 0.6395 0.6405 0.6415 0.6425
4.4 0.6435 0.6444 0.6454 0.6464 0.6474 0.6484 0.6493 0.6503 0.6513 0.6522
4.5 0.6532 0.6542 0.6551 0.6561 0.6571 0.6580 0.6590 0.6599 0.6609 0.6618
4.6 0.6628 0.6637 0.6646 0.6656 0.6665 0.6675 0.6684 0.6693 0.6702 0.6712
4.7 0.6721 0.6730 0.6739 0.6749 0.6758 0.6767 0.6776 0.6785 0.6794 0.6803
4.8 0.6812 0.6821 0.6830 0.6839 0.6848 0.6857 0.6866 0.6875 0.6884 0.6893
4.9 0.6902 0.6911 0.6920 0.6928 0.6937 0.6946 0.6955 0.6964 0.6972 0.6981
5.0 0.6990 0.6998 0.7007 0.7016 0.7024 0.7033 0.7042 0.7050 0.7059 0.7067
5.1 0.7076 0.7084 0.7093 0.7101 0.7110 0.7118 0.7126 0.7135 0.7143 0.7152
5.2 0.7160 0.7168 0.7177 0.7185 0.7193 0.7202 0.7210 0.7218 0.7226 0.7235
5.3 0.7243 0.7251 0.7259 0.7267 0.7275 0.7284 0.7292 0.7300 0.7308 0.7316
5.4 0.7324 0.7332 0.7340 0.7348 0.7356 0.7364 0.7372 0.7380 0.7388 0.7396
5.5 0.7404 0.7412 0.7419 0.7427 0.7435 0.7443 0.7451 0.7459 0.7466 0.7474
5.6 0.7482 0.7490 0.7497 0.7505 0.7513 0.7520 0.7528 0.7536 0.7543 0.7551
5.7 0.7559 0.7566 0.7574 0.7582 0.7589 0.7597 0.7604 0.7612 0.7619 0.7627
5.8 0.7634 0.7642 0.7649 0.7657 0.7664 0.7672 0.7679 0.7686 0.7694 0.7701
5.9 0.7709 0.7716 0.7723 0.7731 0.7738 0.7745 0.7752 0.7760 0.7767 0.7774
6.0 0.7782 0.7789 0.7796 0.7803 0.7810 0.7818 0.7825 0.7832 0.7839 0.7846
6.1 0.7853 0.7860 0.7868 0.7875 0.7882 0.7889 0.7896 0.7903 0.7910 0.7917
6.2 0.7924 0.7931 0.7938 0.7945 0.7952 0.7959 0.7966 0.7973 0.7980 0.7987
6.3 0.7993 0.8000 0.8007 0.8014 0.8021 0.8028 0.8035 0.8041 0.8048 0.8055
6.4 0.8062 0.8069 0.8075 0.8082 0.8089 0.8096 0.8102 0.8109 0.8116 0.8122
6.5 0.8129 0.8136 0.8142 0.8149 0.8156 0.8162 0.8169 0.8176 0.8182 0.8189
6.6 0.8195 0.8202 0.8209 0.8215 0.8222 0.8228 0.8235 0.8241 0.8248 0.8254
6.7 0.8261 0.8267 0.8274 0.8280 0.8287 0.8293 0.8299 0.8306 0.8312 0.8319
6.8 0.8325 0.8331 0.8338 0.8344 0.8351 0.8357 0.8363 0.8370 0.8376 0.8382
6.9 0.8388 0.8395 0.8401 0.8407 0.8414 0.8420 0.8426 0.8432 0.8439 0.8445
7.0 0.8451 0.8457 0.8463 0.8470 0.8476 0.8482 0.8488 0.8494 0.8500 0.8506
7.1 0.8513 0.8519 0.8525 0.8531 0.8537 0.8543 0.8549 0.8555 0.8561 0.8567
7.2 0.8573 0.8579 0.8585 0.8591 0.8597 0.8603 0.8609 0.8615 0.8621 0.8627
7.3 0.8633 0.8639 0.8645 0.8651 0.8657 0.8663 0.8669 0.8675 0.8681 0.8686
7.4 0.8692 0.8698 0.8704 0.8710 0.8716 0.8722 0.8727 0.8733 0.8739 0.8745
7.5 0.8751 0.8756 0.8762 0.8768 0.8774 0.8779 0.8785 0.8791 0.8797 0.8802
7.6 0.8808 0.8814 0.8820 0.8825 0.8831 0.8837 0.8842 0.8848 0.8854 0.8859
7.7 0.8865 0.8871 0.8876 0.8882 0.8887 0.8893 0.8899 0.8904 0.8910 0.8915
7.8 0.8921 0.8927 0.8932 0.8938 0.8943 0.8949 0.8954 0.8960 0.8965 0.8971
7.9 0.8976 0.8982 0.8987 0.8993 0.8998 0.9004 0.9009 0.9015 0.9020 0.9025
8.0 0.9031 0.9036 0.9042 0.9047 0.9053 0.9058 0.9063 0.9069 0.9074 0.9079
8.1 0.9085 0.9090 0.9096 0.9101 0.9106 0.9112 0.9117 0.9122 0.9128 0.9133
8.2 0.9138 0.9143 0.9149 0.9154 0.9159 0.9165 0.9170 0.9175 0.9180 0.9186
8.3 0.9191 0.9196 0.9201 0.9206 0.9212 0.9217 0.9222 0.9227 0.9232 0.9238
8.4 0.9243 0.9248 0.9253 0.9258 0.9263 0.9269 0.9274 0.9279 0.9284 0.9289
8.5 0.9294 0.9299 0.9304 0.9309 0.9315 0.9320 0.9325 0.9330 0.9335 0.9340
8.6 0.9345 0.9350 0.9355 0.9360 0.9365 0.9370 0.9375 0.9380 0.9385 0.9390
8.7 0.9395 0.9400 0.9405 0.9410 0.9415 0.9420 0.9425 0.9430 0.9435 0.9440
8.8 0.9445 0.9450 0.9455 0.9460 0.9465 0.9469 0.9474 0.9479 0.9484 0.9489
8.9 0.9494 0.9499 0.9504 0.9509 0.9513 0.9518 0.9523 0.9528 0.9533 0.9538
9.0 0.9542 0.9547 0.9552 0.9557 0.9562 0.9566 0.9571 0.9576 0.9581 0.9586
9.1 0.9590 0.9595 0.9600 0.9605 0.9609 0.9614 0.9619 0.9624 0.9628 0.9633
9.2 0.9638 0.9643 0.9647 0.9652 0.9657 0.9661 0.9666 0.9671 0.9675 0.9680
9.3 0.9685 0.9689 0.9694 0.9699 0.9703 0.9708 0.9713 0.9717 0.9722 0.9727
9.4 0.9731 0.9736 0.9741 0.9745 0.9750 0.9754 0.9759 0.9763 0.9768 0.9773
9.5 0.9777 0.9782 0.9786 0.9791 0.9795 0.9800 0.9805 0.9809 0.9814 0.9818
9.6 0.9823 0.9827 0.9832 0.9836 0.9841 0.9845 0.9850 0.9854 0.9859 0.9863
9.7 0.9868 0.9872 0.9877 0.9881 0.9886 0.9890 0.9894 0.9899 0.9903 0.9908
9.8 0.9912 0.9917 0.9921 0.9926 0.9930 0.9934 0.9939 0.9943 0.9948 0.9952
9.9 0.9956 0.9961 0.9965 0.9969 0.9974 0.9978 0.9983 0.9987 0.9991 0.9996
ในกรณีนี ้ เราจะ “ประมาณ” ค่า log 7.324 จาก log 7.32 และ log 7.33 โดยการเทียบสัดส่วนการเพิม่ ดังนี ้
log 7.32 = 0.8645
เพิ่ม 0.004 เพิ่ม 𝑥
เพิ่ม 0.01 เพิ่ม 0.0006
log 7.324 = 0.86___
นัน่ คือ ค่าของ log 7.324 จะต้ องเพิ่มจาก 0.8645 ไปอีก 0.00024 ได้ เป็ น 0.8645+0.00024 = 0.86474
และ จะได้ log 732.4 = 0.86474 + 2 = 2.86474
แบบฝึ กหัด
1. จงใช้ ตาราง log เพื่อหาค่าในแต่ละข้ อต่อไปนี ้
1. log 2 = 2. log 8.51 =
46 เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ
ในหัวข้ อที่แล้ ว เวลาทีเ่ ราหาค่า log โดยใช้ ตาราง จะเห็นว่าคาตอบ จะประกอบด้ วย 2 ส่วน
คือส่วนที่ได้ จากการเปิ ดตาราง กับส่วนที่เป็ นเลขชี ้กาลังของ 10
จะเห็นว่า เวลาที่คาแรคเทอริ สติกเป็ นลบ เราต้ องคิดเลขมากขึ ้นนิดหน่อย เช่น 0.9258 + 2 = 2.9258
แต่ 0.9258 + (−3) = −2.0742
เพื่อความสะดวก จึงมีสญั ลักษณ์ “บาร์ ” ขึ ้นมา โดยให้ ใส่ บาร์ บนคาแรคทอริ สติก ทีเ่ ป็ นลบได้ เลย
เช่น 0.9258 + (−3) = 3̅.9258 0.6599 + (−1) = 1̅.6599
0.5748 + (−2) = 2̅.5748 ̅̅̅̅.0251
0.0251 + (−15) = 15 เป็ นต้ น
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 49
แบบฝึ กหัด
1. จงหาแมนทิสซา และ คาแรคเทอริ สติก ของจานวนต่อไปนี ้
1. log 12500 2. log 0.0651
1 720
9. log 250 10. log 210
5. 1220 6. 4230
52 เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ
แอนติลอก
เนื่องจาก “ลอการิ ทมึ ฐาน 10” ค่อนข้ างเป็ นที่นิยม จึงมีการตัง้ “เอกซ์โพเนนเชียลฐาน 10” ขึ ้นมาบ้ าง
เราจะเรี ยก เอกซ์โพเนนเชียลฐาน 10 ว่า antilog โดย antilog 𝑥 = 10𝑥 นัน่ เอง
1
เช่น antilog 2 = 102 = 100 antilog (−1) = 10−1 =
10
1
antilog 0.5 = 100.5 = 102 = √10 เป็ นต้ น
สิง่ ที่ต้องรู้ คือ log ฐาน 10 กับ antilog เป็ นอินเวอร์ ส ของกันและกัน
นัน่ คือ antilog(log 𝑁) = 𝑁 และ log(antilog 𝑥) = 𝑥
และถ้ ามี log 𝑁 = 𝑥 จะได้ วา่ 𝑁 = antilog 𝑥 (เหมือนกับย้ ายข้ าง log ไปเป็ น antilog เลย)
แบบฝึ กหัด
1. จงหาค่าของแต่ละข้ อต่อไปนี ้
1. antilog (3) 2. antilog 1
สมการลอการิ ทมึ
ในเรื่ อง log จะมีวธิ ีงา่ ยๆ ในการเอา 𝑥 ที่เป็ นเลขชี ้กาลังลงมาข้ างล่าง โดยการ ใส่ log ทังสองข้
้ างของสมการ
แล้ วอาศัยสมบัติ log 𝑎 (𝑘 𝑥 ) = 𝑥 ∙ log 𝑎 𝑘
1
ข้ อนี ้ 𝑥 เป็ นเลขชี ้กาลัง จึงไม่ต้องเช็คว่าห้ ามเป็ นลบ ดังนัน้ จะได้ คาตอบ คือ 2 log3 5−1
#
แบบฝึ กหัด
1. จงแก้ สมการต่อไปนี ้
1
1. log 5 𝑥 = 3 2. log 4 𝑥 = − 2
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 57
2
3. log 3 (𝑥 − 3) = −1 4. log 2 (𝑥 2 + 𝑥 + 2) = 3
5
5. log 𝑥 8 = 3 6. log 𝑥 9√3 = 2
2
7. log 3 (
𝑥+1
) = log 3 (𝑥 + 2) 8. log 4 (3 − 𝑥) = log 2(2𝑥)
10
15. 𝑥 log3 𝑥 = 81 16. log 3 𝑥 + log 𝑥 3 = 3
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 59
3. คาตอบของสมการ log √2(4 − 𝑥) = log 2(9 − 4𝑥) + 1 อยูใ่ นช่วงใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (ก.ค. 52)/18]
1. [−10, −6) 2. [−6, −2) 3. [−2, 2) 4. [2, 6)
5. ถ้ า log 2 3 = 1.59 แล้ ว ค่าของ 𝑥 ซึง่ สอดคล้ องสมการ 22𝑥+1 ∙ 32𝑥+2 = 122𝑥 เท่ากับเท่าใด
[A-NET 50/2-3]
6. ผลบวกของคาตอบทังหมดของสมการ
้ log 3 𝑥 = 1 + log 𝑥 9 อยูใ่ นช่วงใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (มี.ค. 52)/19]
1. [0, 4) 2. [4, 8) 3. [8, 12) 4. [12, 16)
1
7. ผลบวกของรากทังหมดของสมการ
้ log 3 (31/𝑥 + 27) = log 3 4 + 1 + 2𝑥 เท่ากับเท่าใด [A-NET 51/1-13]
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 61
8. รากที่มีคา่ น้ อยที่สดุ ของสมการ 2log(𝑥−2) ∙ 2log(𝑥−3) = 2log 2 มีคา่ เท่าใด [PAT 1 (ต.ค. 52)/2-10]
12. กาหนด log 𝑦 𝑥 + 4 log 𝑥 𝑦 = 4 แล้ ว log 𝑦 𝑥 3 มีคา่ เท่าใด [PAT 1 (ต.ค. 52)/2-9]
19. ถ้ า 𝑥 และ 𝑦 เป็ นจานวนจริ งบวกและสอดคล้ องกับสมการ 2 log 2 (𝑥 − 2𝑦) + log 1 𝑥 + log 1 𝑦 = 0
2 2
𝑥 2
แล้ ว (𝑦) +1 เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (พ.ย. 57)/14]
66 เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ
และให้ 𝐵 = { 𝑥 2 | 𝑥 ∈ 𝐴 } ผลบวกของสมาชิกทังหมดในเซต
้ 𝐵 เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (มี.ค. 57)/34]
24. กาหนดให้ 𝑎 และ 𝑏 เป็ นจานวนจริ งบวกที่มากกว่า 1 และสอดคล้ องกับ log 𝑎 4 + log 𝑏 4 = 9 log 𝑎𝑏 2
𝑎2
ค่ามากสุดของ log 𝑎 (𝑎𝑏 5 ) + log 𝑏 ( )
√𝑏
เท่ากับเท่าใด [PAT 1 (พ.ย. 57)/5]
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 69
อสมการลอการิ ทมึ
สิง่ ที่ลาบากในเรื่ องอสมการ คือ การตรวจสอบ เงื่อนไข “ตัวหลัง log > 0” จะทาเหมือนเดิมไม่ได้ แล้ ว
เพราะคาตอบของอสมการจะมาเป็ นช่วง ไม่ได้ มาเป็ นตัวๆเหมือนเรื่ องสมการ ทาให้ ไล่แทนทีละตัวเหมือนก่อนไม่ได้
ในเรื่ องนี ้ เราจะต้ องแก้ อสมการ “ตัวหลัง log > 0” เพิ่มอีก แล้ วเอาคาตอบที่ได้ ไปกรองกับคาตอบจริ งๆ อีกที
แบบฝึ กหัด
1. จงแก้ อสมการต่อไปนี ้
1. log 4(2𝑥 + 1) > 1 2. log 1 (2𝑥 − 1) ≤ −1
3
1
8. log 5 (𝑥 2 + 3𝑥) <
log 5
2
2. ให้ R แทนเซตของจานวนจริง ถ้ า 𝐴 เป็ นเซตคาตอบของอสมการ log 𝑥 (𝑥−1 )≥1
แล้ ว 𝐴 เป็ นสับเซตในข้ อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (มี.ค. 56)/12]
1. { 𝑥 ∈ R | |𝑥 2 + 2𝑥 − 3| = 3 − 2𝑥 − 𝑥 2 } 2. { 𝑥 ∈ R | |2𝑥 + 5| > 9 }
3. { 𝑥 ∈ R | 0 ≤ |𝑥 + 3| ≤ 5 } 4. { 𝑥 ∈ R | 𝑥 3 > 3𝑥 2 }
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 73
4. จานวนเต็ม ที่สอดคล้ องกับอสมการ log 1 [log 3(𝑥 + 1)] > −1 มีจานวนเท่าใด [A-NET 49/1-12]
2
1
5. ถ้ า 𝐴 แทนเซตคาตอบของ 2(log 3 𝑥 − 1)2 + log 1 𝑥 3 + 4 > 0 แล้ วเซต 𝐴 เป็ นสับเซตของช่วงใดต่อไปนี ้
3
[PAT 1 (มี.ค. 54)/10]
1. (0, 3) 2. (1, 4) 3. (2, 5) 4. (2, 9)
74 เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ
สมการติดรูท
1. 1. 4 2. 0,1 3. 7 4. 3,5
5. 3
2. 1. 25 2. 9 3. 4 4. −2 , 1
5. −4 , 3
3. 5 4. 2 5. 4 6. 13
7. 2 8. 11 9. 2 10. 11
11. 112
รูทไม่ร้ ูจบ
1. 1. 5 2. 3 3. 2 4. 3
5. 2 6. 3
2. 4
เลขยกกาลัง
2 2 1
1. 1. 1 2. 38 3. (3) 4. 𝑥3
5. 𝑎 6. 𝑥2𝑦7 7. 𝑥 8. 𝑥
2. 1. < 2. < 3. < 4. >
5. > 6. > 7. > 8. >
9. > 10. > 11. < 12. <
3. 3 4. 5 5. 4 6. 3
7. 2 8. 3 9. 2
ฟั งก์ชนั เอกซ์โพเนนเชียล
(0, 1) (0, 1)
4. 1. 3, 4 2. −3, −4 3. −2, −3 4. 2, 3
5. 2, 3 6. 4, 5 7. −2, −3 8. 1
5. 3
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 75
ลอการิ ทมึ
3 4
1. 1. 5 2. 5 3. 2
4. 3
1
5. −1 6. −
3
7. 0 8. 15
9. 100 10. 4 11. 27 12. 2
13. 2 14. 3 15. −1 16. 2
17. 1 18. 1
2. 14 3. 3.5 4. 1 5. 1
8
2
6. 1 7. 75 8. 3
9. 1
10. 1, 2
1. 1, 4, 8
2. 1. 0 กับ 1 2. 2 กับ 3 3. −2 กับ −1 4. −1 กับ 0
5. −1 กับ 0 6. −1 กับ 0 7. −2 กับ −1 8. −3 กับ −2
9. −2 กับ −1 10. 3 กับ 4
3. 1. < 2. > 3. > 4. >
5. < 6. > 7. > 8. <
9. > 10. <
4. 1 5. 1, 2 6. F
76 เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ
การแปลงรูปกราฟ
1. 1. 2. 3. 4.
ตารางลอการิ ทมึ
แอนติลอก
สมการลอการิ ทมึ
1
1. 1. 125 2. 2
3. 1 4. −3 , 2
3
5. 2 6. 3 7. 0 8. 4
9. 2,4 10. 81 11. 63 12. 3
เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทมึ 77
1 1 1
13. 16
, 2 14. 2
,2 15. 9
,9 16. 3
√3 , 27
1
2. −2 3. 3 4. 5 5. 2.09
3
6. 3 7. 4
8. 4 9. 10.5
10. 4 11. 2 12. 6 13. 2
32
14. 1 15. 1, 2 16. 9
17. 5
18. 4.5 19. 17 20. 5 21. 4
22. 3 23. 4 24. 11.5
อสมการลอการิ ทมึ
3
1. 1. 𝑥>
2
2. 𝑥≥2 3. 𝑥 > 64
4. 𝑥 ∈ (13 , √33)
แก้ อสมการโจทย์ หลัง log ทุกตัว ต้ องมากกว่า 0
log 1 log 1 log 1 𝑥 > 0 หลัง log 1 : log 1 log 1 𝑥 > 0
4 2 3 4 2 3
log 1 log 1 𝑥 < 1 log 1 𝑥 < 1
2 3 3
1 1
log 1 𝑥 > 𝑥 > …(2)
3 2 3
1 1/2 √3 หลัง log 1 : log 1 𝑥 > 0
𝑥 < ( ) = …(1) 2 3
3 3
𝑥 < 1 …(3)
หลัง log 1 : 𝑥 > 0 …(4)
1 √3 3
หาส่วนร่วม (1), (2), (3), (4) จะได้ คาตอบคือ ( , )
3 3
1
5. 𝑥 ∈ (2 , 1] 6. 𝑥 ∈ [1 , 2) 7. 𝑥 ∈ (−∞, −5) ∪ (4, ∞)
1
8. 𝑥 ∈ (−5, −3) ∪ (0, 2) 9. 𝑥≥2 10. 𝑥 ∈ (3 , 3)
11. 𝑥 ∈ (1 , 2) 12. 𝑥 > 1
2. 3 3. 2.5 4. 7 5. 4
เครดิต
ขอบคุณ คุณ Guy Krit Viriyasittharod
คุณครูเบิร์ด จาก กวดวิชาคณิตศาสตร์ ครูเบิร์ด ย่านบางแค 081-8285490
ที่ช่วยตรวจสอบความถูกต้ องของเอกสาร