You are on page 1of 24

~1~

ชือ่ -สกุล ________________________________ ชัน้ ม.4/____ เลขที่ ____

ติดรูป

ชือ่ เล่น :
พื้นทีว่ ่างๆ เอาไว้วาดรูปเล่นตอนที่เรียนแล้วเครียดเกินไป อยากวาดอะไรก็วาดเลยครับ 😊

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน
~1~

เลขยกกำลัง

1. เลขยกกำลังทีม่ ีเลขชีก้ ำลังเป็ นจำนวนเต็ม


เลขยกกำลัง คือ เลขที่เขียนอยู่ในรูป a n เรียก a ว่า “ฐาน” ของเลขยกกาลัง และเรียก n ว่า “เลขชี ้
กาลัง” เขียนเป็ นบทนิยามได้
บทนิยำม ถ้า a เป็ นจานวนจริงใดๆ และ n เป็ นจานวนเต็มบวกแล้ว
a n = a  a  a  a  ...  a

n ตัว

➢ ตัวอย่างที่ 1
1. 5 = 3. 3 =
2 3
2. 2 =
5

6. 3 =
1
4. 2 = 5. 4 =
4 2

หากสังเกตในบทนิยามที่ 1 จะเห็นว่า n หรือเลขชีก้ าลัง ต้องเป็ นจานวนเต็มบวกเท่านัน้ หาก n เป็ น


จานวนเต็มลบหรือศูนย์ เช่น 5−2 , 2−4 ,30 , 40 จะต้องใช้บทนิยามเพิ่มเติม
นักคณิตศาสตร์ได้กาหนดบทนิยามเพิ่มเติมไว้ดงั นี ้
บทนิยำม ถ้า a เป็ นจานวนจริงใดๆ (ที่ไม่เป็ น 0 ) และ n เป็ นจานวนเต็มแล้ว
1 1
1. a −n = n
และ −n
= an << สลับเศษส่วน สลับเครื่องหมาย(ของเลขยกกำลัง)
a a
2. a0 = 1 << อะไรยกกำลัง 0 ก็ได้ 1 เสมอ

➢ ตัวอย่างที่ 2
1. 5−2 = 2. 2−4 = 3. 7−1 =

1 1
6. ( −2 ) =
0
4. −3
= 5. −2
=
2 3

( 2)
0
7. 30 = 8. = 9.  0 =

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~2~

เลขยกกาลังที่นกั เรียนควรรู ้ ได้แก่


21 = 31 = 51 =

22 = 32 = 52 =

23 = 33 = 53 =

24 = 34 = 54 =

25 = 35 = 71 =

26 = 41 = 72 =

27 = 42 = 73 =

28 = 43 = 00 =

29 = 44 = 01 =

210 = 45 = 07 =

**คุณสมบัติของเลขยกกาลัง โดยที่ a, b เป็ นจานวนจริง และ m, n เป็ นจานวนเต็ม

1. a m  a n = a m+ n เช่น 22  23 = 25

(ฐานเหมือนกัน คูณกัน เลขชี้กำลังบวกกัน)


am m−n 34
2. n
=a เช่น 2
= 32
a 3
(ฐานเหมือนกัน หารกัน เลขชี้กำลังลบกัน)

( ) ( 22 )
n 3
3. a m = a mn เช่น = 26

(ยกกำลังซ้อน เลขชี้กำลังคูณกัน)
4. ( a  b ) = a n  b n
n

(เลขชี้กำลังเหมือนกัน กระจายเข้ามาในการคูณได้)
n
a an
5.   = n
b b

(เลขชี้กำลังเหมือนกัน กระจายเข้ามาในการหารได้)

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~3~

➢ ตัวอย่างที่ 3 จงทำให้อยู่ในรูปอย่ำงง่ำย และมีเลขชีก้ ำลังเป็ นบวก


1. 25  23 2. 54  5−6  55

−2 23
3. ( 0.6 ) ( 0.6 ) ( 0.6 )
1 2
4.
21

30 3−3
5. 6.
3−2 31

➢ ตัวอย่างที่ 4 จงทำให้อยู่ในรูปอย่ำงง่ำย และมีเลขชีก้ ำลังเป็ นบวก


a2 a 2b 4
1. 2.
a a −3

a3b 4c 2 a 2b 4 c 3
3. 4.
a 2bc a −3b −1c

( a 2b3 )
5 3
 a5b3c 2 
5. 6.  4 7 
a 6b 5  a b 
 

a −1 + b−1
2
37
7. 8. ( 21)  
a −1  b−1 3

93
9.
3

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~4~

➢ ตัวอย่างที่ 5 จงทำให้อยู่ในรูปอย่ำงง่ำย และมีเลขชีก้ ำลังเป็ นบวก


124 102 42−n  22n+1  8n+1
1. 2.
154  64 23n+ 2

92 (27)2−n 14  3n − 2  3n+1
3. 4.
(81)− n 273 (3)n−1 5  3n − 3n+1

3  5n − 4  5n−1  7a 2b 2   14a 2c3 


6.  
 15bc 4   5c 2 
5.
5n − 5n−1    

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~5~

แบบฝึ กหัดที่ 1
1. จงทาให้อยู่ในรูปอย่างง่าย และมีเลขชีก้ าลังเป็ นบวก
3
2 −5 27
1. 9 (3) 2. (21)  
3

2−3  3−5
3. −5
4. (a −5 b7 )  (a −2 b −7 c0 )
3 2 0

−2
 1   x −5 y 4  x 4 y −5 
5.  2 −3  6.  2 −2  3 −7 
 3a b   x y  x y 
  

a 2 n −3 a n + 5 5  2n+1 + 5  2n+ 2
7.  8.
a3n+1 a n−3 2n+ 2 − 7  2n−1

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~6~

2. เลขยกกำลังทีม่ ีเลขชีก้ ำลังเป็ นจำนวนตรรกยะ


บทนิยำม ให้ m, n เป็ นจานวนเต็ม โดยที่ n0 และ ห.ร.ม.ของ m, n เป็ น 1 จะได้ว่า
m
m  1
an = an 
 
 

บทนิยำม ให้ m, n เป็ นจานวนเต็มบวก จะได้ว่า


m
− 1
a n = m
an

อีกทัง้ เลขยกกาลังที่มีเลขชีก้ าลังเป็ นจานวนตรรกยะ ยังสามารถใช้คณ


ุ สมบัติของเลขชีก้ าลังจานวนเต็มได้
**คุณสมบัติของเลขยกกาลัง โดยที่ a, b เป็ นจานวนจริง และ m, n เป็ นจานวนเต็ม

1. a m  a n = a m+ n (ฐานเหมือนกัน คูณกัน เลขชี้กำลังบวกกัน)

am
2. n
= a m−n (ฐานเหมือนกัน หารกัน เลขชี้กำลังลบกัน)
a

( )
n
3. a m = a mn (ยกกำลังซ้อน เลขชี้กำลังคูณกัน)

4. ( a  b ) = a n  b n
n
(เลขชี้กำลังเหมือนกัน กระจายเข้ามาในการคูณได้)

n
a an (เลขชี้กำลังเหมือนกัน กระจายเข้ามาในการหารได้)
5.   = n
b b

ตัวอย่ำงที่ 6

4
1 3
33
1. 22  22 2. 2
33

2 1

1. 27 3 2. 16 4

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~7~

3 2

 25  2  27  3
3.   4.  
 16   8 

3 1
 16  4  1 2
5.   6.  6 
 81   4y 
 

3 −2
 2   1 1 
 a3   x2 y2 
7.  2  8.  3  3 
 −3   2 2
a  y x 

➢ ตัวอย่างที่ 7
1 1
 23n+1 + 22n+1  n  243n − 27 n  n
1.  2n+1 n+1  2.  2n
2 +2   81 − 729n 
   

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~8~

แบบฝึ กหัดที่ 2
1. จงทาให้อยู่ในรูปอย่างง่าย
2
3
 1 3
1. ( 0.25 ) 2 2.  
 125 

2 1
 27a3  3  b−2 x3  2
3.  6  4.  −3 −6 
 b  b x 
   

1
 1 6 − 3

1 3   a 2 b −3c 2  
 4 −   
 a3 b 2 
5.  2  3  6.    
 12 
 3 −2    5 3 4 
1
a b  
  a b c  
  

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~9~

เลขยกกำลังทีม่ ีเลขชีก้ ำลังเป็ นจำนวนตรรกยะ มีพนื ้ ฐานมาจากรากที่ n ด้วยบทนิยามต่อไปนี ้


บทนิยำม ถ้า n เป็ นจานวนเต็มบวกที่มากกว่า 1 และ a เป็ นจานวนจริงที่มีรากที่ n แล้ว
1
an =na

1
จากบทนิยามแสดงว่า คือค่ารากที่ n ของ a
an
➢ ตัวอย่างที่ 8 จงเขียนเลขยกกำลังที่มีเลขชีก้ ำลังเป็ นจำนวนตรรกยะให้อยู่ในรูปของรำก
1 1 1
1. 22 = 2. 23 = 3. 32 =

1 1 1
4. 34 = 5. (−2) 3 = 6. (−2) 2 =

3. รำกที่ n ในระบบจำนวนจริง และจำนวนจริงในรูปกรณฑ์


รำกที่ n ของจำนวนจริงและค่ำหลัก
บทนิยำม ถ้า a และ b เป็ นจานวนจริงใดๆ และ n เป็ นจานวนเต็มบวกที่มากกว่า 1
b เป็ นรากที่ n ของ a ก็ต่อเมื่อ b n = a

เช่น รากที่ 2 ของ 4 คือ 2 และ −2


(เพราะ 22 = 4 และ (−2)2 = 4 ) **สังเกตว่า รากที่ 2 ของ 4 คือ (อะไร)2 = 4
➢ตัวอย่างที่ 9
1. รากที่สอง ของ 9 คือ 2. รากที่สอง ของ 16 คือ

1
3. รากที่สอง ของ 25 คือ 4. รากที่สอง ของ คือ
16

5. รากที่สาม ของ −8 คือ 6. รากที่สาม ของ 8 คือ

7. ค่าหลักของรากที่สองของ 9 คือ 8. ค่าหลักของรากที่สองของ 144 คือ

4
9. ค่าหลักของรากที่สองของ 5 คือ 10. ค่าหลักของรากที่สองของ คือ
81

รากที่ คู่ ของจำนวนบวก จะมีสองคำตอบ (บวกกับลบ) เราจะเรียกรากที่เป็นบวกว่า “ค่าหลัก”


รากที่ คี่ จะมีคำตอบเดียวอยู่แล้ว จำนวนนั้นเลยเป็น “ค่าหลัก” โดยอัตโนมัติ

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~ 10 ~

ทฤษฎีบท ถ้า a เป็ นจานวนจริงใดๆ และ n เป็ นจานวนเต็มบวก โดยที่ n2 แล้ว
1. n
an = a เมื่อ n เป็ นจานวนคี่
2. n
an = a เมื่อ n เป็ นจานวนคู่ << เพราะ , 4 , 6 , 8 ,... คำตอบติดลบไม่ได้!!

กำรหำผลบวก ผลต่ำง ผลคูณและผลหำรของกรณฑ์


2.3.1 กำรหำผลบวกและผลต่ำงของกรณฑ์
ใช้วิธีการดึงตัวร่วมเช่นเดียวกับการหาผลบวกและผลต่างของตัวแปรในการแก้ปัญหา
เช่น 2x + 3x = 5x
โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องเป็ นกรณฑ์(รูท)อันดับเดียวกัน และจานวนที่อยู่ในกรณฑ์(รูท) เป็ นจานวนเดียวกัน
➢ ตัวอย่างที่ 9
1. 4 2 + 2 2 2. 4 5 + 3 5 − 5 5

3. 5 3 − 5 3 4. 3
7 + 2 3 7 − 53 7

5. 2 32 + 8 − 6 2 6. 3 3 + 243 − 2 27

7. 3 16 − 33 −54 − 3 250 8. 3
5 − 7 3 40 − 33 −625

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~ 11 ~

2.3.2 กำรหำผลคูณและผลหำรของกรณฑ์
**คุณสมบัติท่สี าคัญของค่าหลักของรากที่ n โดยที่ a, b เป็ นจานวนจริงที่มีรากที่ n แล้ว
1. n a  n b = n ab << ยุบเป็นรูทเดียวกันได้ ถ้าเป็นการคูณ
n
a na
2. n
= โดยที่ b  0 << ยุบเป็นรูทเดียวกันได้ ถ้าเป็นการหาร
b b

➢ ตัวอย่างที่ 10
4 108
1. 3 6  2 24 2.
3

2 3 4  33 6
3. 3
4. 2 3(2 2 − 3 3)
3

5. ( 7 − 5)( 7 + 5) 6. ( 5 + 3)( 5 + 3)

7. ( 7 − 2)( 7 − 2) 8. ( 5+ 3 )( 5− 3 )( 2 −1 )

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~ 12 ~

แบบฝึ กหัดที่ 2
1. จงทาให้อยู่ในรูปอย่างง่าย
3 8a 4
1. 2.
3
−27 81

2. จงทาให้อยู่ในรูปอย่างง่าย
1. 50 + 32 − 18 2. 5  3 4 + 2  3 32 − 3 108

3
3. 2a 2  3 4a 4. 3  9  27

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~ 13 ~

สูตรเลขยกกำลังทีเ่ จอบ่อย (ควรจำ)


2 2 3 3
1. น − ล = 4. น − ล =

2 3 3
2. (น  ล) = 5. น + ล =

3
3. (น  ล) =

ในกรณีท่ตี วั ส่วนติดกรณฑ์(รูท) เราสามารถแก้ปัญหาด้วยการ Conjugate ดังตัวอย่างต่อไปนี ้


➢ ตัวอย่างที่ 11
3 2 3
1. 2. 9 +8
3 3 2

2 6
3. 4.
3 −1 6+ 2

2 7+ 3 12
5. 6.
7− 3 2+ 3+ 5

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~ 14 ~

2.4 กำรหำรำกที่ 2 ของนิพจน์ทอ่ี ยู่ในรูป ( a + b )  2 a b

เนื่องจาก ( )
2
a b =

ดังนัน้ จึงสรุปเป็ นสูตรได้ว่า (a + b)  2 a  b = a  b

➢ ตัวอย่างที่ 13
1. 4+2 3 2. 4−2 3

3. 7 + 2 10 4. 7 + 2 12

5. 12 − 6 3 6. 9 + 80

7. รากที่ 2 ของ 7 + 2 10 8. รากที่ 2 ของ 10 − 2 21

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~ 15 ~

แบบฝึ กหัดที่ 3
1. จงเขียนจานวนต่อไปนีใ้ ห้อยู่ในรูปที่ตวั ส่วนไม่ติดกรณฑ์
5 21
1. 2.
2 15

1 7 6 +3 5
3. 4.
2 2+ 3 4 6+ 5

2. จงหาค่าของ
1. 8 − 2 15 2. 8 + 2 15

3. 12 + 2 35 4. 12 + 140

5. 24 − 4 20 6. รากที่ 2 ของ 7 − 2 10

7. รากที่ 2 ของ 11 + 2 24 8. รากที่ 2 ของ 13 − 2 22

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~ 16 ~

4. กำรแก้สมกำรเลขยกกำลัง
4.1 กำรแก้สมกำรเลขยกกำลังในกรณีทฐี่ ำนติดตัวแปร
➢ ตัวอย่างที่ 17 จงหำค่ำ x จำกสมกำรต่อไปนี ้
3
1. x 2 − 17 = 2 2. 3x + 7 = x + 1

( x2 − 2 x + 29) x − 7 + 1+ x 1
3
3. 5 =8 4. =
x − 7 − 1+ x 2

5. 4x − 8 − 2x − 5 = 1

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~ 17 ~

4.2 กำรแก้สมกำรเลขยกกำลังในกรณีทเ่ี ลขชีก้ ำลังติดตัวแปร


➢ ตัวอย่างที่ 18 จงหำค่ำ x จำกสมกำรต่อไปนี ้
1
1. 2 x = 4 2. 2 x =
8

1
3. 3x = 4. 2 x = 1
81

➢ ตัวอย่างที่ 19 จงหำค่ำ x จำกสมกำรต่อไปนี ้


( 8)
x +1
1. 3x+1 = 9x−2 2. = 4 x +1

x+4 x −1
 8  9
3.   =  4. 52 x − 6  5x + 5 = 0
 27  4

5. 4 x+1 + 7  2 x = 2

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~ 18 ~

แบบฝึ กหัดที่ 5
1. จงหาค่า x จากสมการต่อไปนี ้
1. x −8 = 0 2. 5x + 1 + 6 = 10

3. x +7 = x −5 4. x + 7 = 3x + 1

2. ผลบวกของคาตอบของสมการ 2 x = x −3 มีค่าเท่าไร

3. ถ้า x + 3 = x − 3 และ 3 2 y − 1 = −3 แล้ว x− y มีค่าตรงกับข้อใด

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~ 19 ~

4. จงหาค่า x จากสมการต่อไปนี ้
x2 + x
1 1
1. 2x+2 = 4x−5 2.   =
2 16 x +1

2
−1
3. 25 x = 5 4. 3x = 9 x −1

5. 22 x − 5  2 x + 4 = 0 6. 2 x +1 − 2 x = 64

5. ถ้า 4a = 2 และ 16−b = 1 แล้ว a + b มีค่าเท่ากับเท่าใด


4

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~ 20 ~

คลังข้อสอบเก่า
1. ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง
1 1
1. 23 = 32 2. 4 −2 = 3. 31 = 0 4. 70 = 7 5. =9
8 3−2
2. ให้ a,b เป็นจำนวนจริงที่ไม่เท่ากับ 0 และ m,n เป็นจำนวนเต็ม ข้อใดไม่ถูกต้อง
1. a m  a n = a m+ n 2. an
am
= a m−n 3. (a )
m n
= a mn
n
a 
4. (a )
n
b = a b n n
5. 
an
 = n
b  b
3. จงพิจารณาข้อความต่อไปนี้

ก. (a b )
2 3 4
2 −3  3−4 1
= a 3b 3 เมื่อ a, b เป็นจำนวนจริงที่ไม่เท่ากับ 0 ข. =
ab 5 6
3− 4  2 0 8
ข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. ข้อ ก.ถูก ข้อ ข. ถูก 2. ข้อ ก. ถูก ข้อ ข. ผิด 3. ข้อ ก. ผิด ข้อ ข. ถูก
4. ข้อ ก. ผิด ข้อ ข. ผิด 5. ทั้ง 2 ข้อไม่สามารถหาค่าได้
4. (7a b )  (14a c ) มีค่าตรงกับข้อใด
2 2 2 3

(10bc ) (5c )
4 2

b b b bc 5 bc 5
1. 2. 3. 4. 5.
6c 5 5c 5 4c 5 5 4
5. ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง
1. รากที่สองของ 9 คือ 3 2. รากที่สามของ 8 คือ -2, 2 3. รากที่สองของ 4 หาค่าไม่ได้
4. รากที่สามของ 27 หาค่าไม่ได้ 5. รากที่ห้าของ -1 คือ -1
8a 4
6. มีค่าตรงกับข้อใด
4
a2  2
1. a 2 2. a  2
2
3. 4. 2a 2 5. 2a
2
7. เรียงลำดับจำนวน 4 3, 3 5 , 5 2 จากค่ามากไปน้อยได้ตรงกับข้อใด
1. 4 3 , 3 5 , 5 2 2. 4 3, 5 2, 3 5 3. 3 5 , 4 3, 5 2
4. 5 2 , 4 3 , 3 5 5. 5 2, 3 5 , 4 3
3
15 3 36
8. 3
มีค่าตรงกับข้อใด
20
1. 3 2. 3 3 3. 5 4. 3 5 5. 2
9. 2 32 − 6 2 + 50 มีค่าตรงกับข้อใด
1. 6 2 2. 5 3 3. 3 2 4. 7 2 5. 6 3
10. ( 7 − 2 )( 7 + 2 ) มีค่าตรงกับข้อใด
1. 3 2. 4 3. 5 4. 6 5. 7

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~ 21 ~

4
11. มีค่าตรงกับข้อใด
5 −1
1. 5+2 2. 5 −2 3. 5 +1 4. 5 −1 5. 1
1 1
196 2 16 2
12. มีค่าตรงกับข้อใด
1 1
216 3 16 2
1. 1 2. 0.1 3. 0.01 4. 0.001 5. 0.0001
13. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ ถูกต้อง
2 3
1
1
1
1. 125 3
25 2. 32 5
3. 27 3 3 4. 25 1.5
125 5. 53 3
5
8
2 2
 12   12 
x  y 
14.  3   5  ทำให้อยู่ในรูปอย่างง่ายได้ตรงกับข้อใด
 y2   x4 
   
1 1
2 3 3 2
1. x y 2. 3 2 3. x y 4. 3 5. 1
xy 2
yx 2

15. ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง
1 2 1

1. 169 3 6 2. ( 125) 3
5 3. 16 4 4
3 3
 25  2 125  4 2 8
4. −  = − 5.   =
 16  64 9 27
16. 7 2 10 ทำให้อยู่ในรูปอย่างง่ายได้ตรงกับข้อใด
1. 4 3 2. 3 2 3. 5 2 4. 2 3 5. 3 2

17. ค่าของ 8 2 15 8 2 15 มีค่าตรงกับข้อใด


1. 2 5 2. 2 3 3. 2 6 4. 2 15 5. 2 5 2 3

18. รากที่สองของ 12 140 คือข้อใด


1. 5 2 2. 7 5 3. 7 5 4. 5 7 5. 7 5

19. ถ้า x 2 + 12 = x − 2 แล้ว x มีค่าเท่ากับข้อใดต่อไปนี้


1. – 4 2. – 2 3. 0 4. 4 5. สมการนี้ไม่มีคำตอบ
20. ถ้า 3
x2 + 2 = 3 แล้วผลบวกของคำตอบของสมการนี้มีค่าเท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. – 5 2. 0 3. 5 4. 25 5. 125
(x − 3x − 2 ) = 8
3
21. ถ้า 4 2
แล้วผลคูณของคำตอบของสมการนี้มีค่าเท่ากับข้อใดต่อไปนี้
1. – 18 2. – 6 3. – 3 4. 3 5. 9

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน


~ 22 ~

x 16x
22. ค่าของ x ที่สอดคล้องกับสมการ 2 = เท่ากับข้อใดต่อไปนี้
128
1. 0 2. 2 3. 3 4. 4 5. 5
4 1
 8   16 
23. ถ้า  3  =   x และ y = 2x แล้ว y เท่ากับเท่าใด
 27   81 
1. 1 2. 2 3. 3 4. 4 5. 5
24. กำหนดให้ (5 , x + y) = (y+1 , 5y) ค่าของ x + y มีค่าตรงกับข้อใด
1. 0 2. 12 3. 16 4. 20 5. 24
25. กำหนดให้ (2x + y , 15) = (5 , x – 2y) ค่าของ x – y มีค่าตรงกับข้อใด
1. 10 2. 15 3. 20 4. 25 5. 30
26. กำหนดให้ M = { 1 , 2 } , N = { 2 , 3 } , P = { 4 , 5 } แล้ว ( M x N ) ∪ (M x P ) ตรงกับข้อใด
1. (1,2), (2,3)  2. (2,2), (2,3)  3. (1,2), (1,3), (2,2), (2,3) 
4. (1,4), (1,5), (2,4), (2,5)  5.  (1,2 ) , (1,3) , (1,4 ) , (1,5)( 2,2 ) , ( 2,3) , ( 2,4 ) , ( 2,5) 
27. กำหนดให้ A =  x (x  I + )  (0  x  3) B =  x x 2 − 3x + 2 = 0  แล้ว A B คือข้อใด
1. (1,0), (2,0)  2. (1,1), (1,2), (2,1), (2,2)  3. 
4. (1,0), (1,3), (2,0), (2,3)  5. (0,1), (3,1), (0,2), (3,2) 
28. กำหนดให้ A = 0,1,2,...,100  , B =  x (x  I )  (− 5  x  5)  แล้ว n( A  B)  A
เท่ากับข้อใด
1. 115 2. 500 3. 606 4.1010 5. 1150
29. กำหนด A = 3,4,6  B =  2,3,6,8  ถ้า r เป็นความสัมพันธ์ “เป็นสองเท่า” จาก B ไป A แล้วข้อ
ใดต่อไปนี้ถูกต้อง
1. r = (6,3), (8,4)  2. r = (2,4), (3,6)  3. r = (4,2), (6,3) 
4. r = (3,6), (4,8)  5. r = (3,6), (8,4) 
30. กำหนด A = 1, 3,4  และ B = 1,2,5  ความสัมพันธ์ใด มีจำนวนสมาชิกมากที่สุด
1. (x, y )  A  B y  x  2. (x, y )  A  B y = x  3. (x, y )  A  B y  x 
4. (x, y )  A  B y  x
5. (x, y )  A  B y = x + 1

*********** ขอให้ทุกคนนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนะครับ ***********

ผู้สอน : คุณครูปฏิญญา มุ่งหมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน

You might also like