Professional Documents
Culture Documents
9 ฉบับสมบูรณ์ครับ)
๕ บทที่
f (n) = c + tn
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
ความรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์และฟังก์ชัน จะเป็น
ประโยชน์ในการแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับตัวแปร และ
เป็นพื้นฐานที่จําเป็นของการประยุกต์ใช้คณิตศาสตร์ใน
การทํางาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาขาที่ใช้วิชาแคลคูลัส
เป็นสําคัญ เช่น สาขาพาณิชยศาสตร์ เศรษฐศาสตร์
วิศวกรรม ฯลฯ
เนื้อหาในบทนี้ จะเป็นการแนะนําให้รู้จักลักษณะเบื้องต้นของความสัมพันธ์
และฟังก์ชัน แล้วในบทต่อไปจึงจะได้ศึกษาเกี่ยวกับฟังก์ชันที่สําคัญ ได้แก่
ฟังก์ชันตรีโกณมิติ ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล และลอการิทึม จากนั้นลําดับ
สุดท้ายจะเป็นบทเรียนเกี่ยวกับ “แคลคูลัส” (ในบทที่ ๑๒) ซึ่งเป็นการนํา
ความรู้เรื่องฟังก์ชันไปใช้ประโยชน์
ข้อสังเกต
1. n (A B) n (A) n (B)
2. n (A ) n (A) n () 0 ดังนั้น A
3. โดยทั่วไป A B B A
A B B A ก็ต่อเมื่อ A B หรือมีเซตใดเซตหนึ่งเป็น
๕.๑ ลักษณะของความสัมพันธ์
ความสัมพันธ์ (Relation : r) คือเซตที่สมาชิกทุกตัวเป็นคู่อันดับ
หรือกล่าวว่าเซตที่นําไปเขียนกราฟ 2 มิติ บนแกน X, Y ได้ จัดว่าเป็นความสัมพันธ์
หมายเหตุ
1. เนื่องจากความสัมพันธ์จัดเป็นเซตชนิดหนึ่ง จึงเขียนแสดงความสัมพันธ์ได้ 2
ลักษณะ ได้แก่ แจกแจงสมาชิก และบอกเงื่อนไข
2. r {(x, y) A A | .....} เรียกว่า “ความสัมพันธ์ภายใน A” (in A)
3. ถ้าไม่ระบุว่าเป็นความสัมพันธ์จากเซตใดไปเซตใด ให้ถือเป็นที่ตกลงกันว่าหมายถึง
เซตจํานวนจริง R R
คณิต มงคลพิทักษสุข 199 ความสัมพันธและฟงกชัน
kanuay.com
แบบฝึกหัด ๕.๑
(1) กําหนดให้เอกภพสัมพัทธ์เป็นเซตของจํานวนจริง ข้อความต่อไปนี้ถูกหรือผิด
(1.1) ab [ (a, b) (b, a) ]
(1.2) ab [ (a, b) (c, d) a c และ b d ]
(1.3) ab [ (a 2b, 1) (1, b a/2) ]
(2) ถ้า (3x 5, 8 4y) (5, 6) และ (y, 2) (p, 2) แล้ว ให้หา (xp, x/p)
(5) ข้อความต่อไปนี้ถูกหรือผิด
(5.1) ถ้า A {4, 5, 6, {4, 5, 6}} และ B {4, 5, {4, 5}}
แล้ว n [P (A) P (B)] 128
(5.2) ถ้า A {3, 4, 5, ..., 32} , B {7, 8, 9, ..., 40} และ C {0, 1, 2, ..., 25}
แล้ว n [(A B) (A C)] 570
(5.3) ถ้า A {0, 1, 2, ..., 28} และ B {3, 2, 1, ..., 4}
แล้ว n [(A B) (B A)] 439
(7) ถ้า n (U) 10 , n (A ' B ') 2 , n (A ' B ') 9 และ n (B) n (A) 1
แล้ว ให้หาจํานวนความสัมพันธ์ต่าง ๆ กันทั้งหมดจาก A ไป B
การหาโดเมนและเรนจ์ของความสัมพันธ์ภายใน R ซึ่งบอกมาเป็นเงื่อนไข
(สมการ) ให้พิจารณาที่เงื่อนไขว่าหากมีสิ่งเหล่านี้คือ การหาร, การถอดราก, ค่า
สัมบูรณ์, การยกกําลัง จะมีข้อจํากัดเกิดขึ้น กล่าวคือ
๏ ถ้ามี a b จะได้ว่า c 0
c
๏ ถ้ามี a n b ถ้า n เป็นจํานวนคู่ จะได้ว่า a > 0 และ b > 0
๏ ถ้ามี a b n ถ้า n เป็นจํานวนคู่ จะได้ว่า a > 0
๏ ถ้ามี a b จะได้ว่า a > 0
ในการหาโดเมน จะพิจารณาจากสมการในรูป y ...(x)... (เขียน y ในเทอมของ
x) ได้ทันที แต่ในการหาเรนจ์ หากเป็นไปได้ควรจัดรูปสมการให้เป็น x ...(y)...
(เขียน x ในเทอมของ y) ก่อน แล้วจึงพิจารณาข้อจํากัดที่เกิดขึ้น
คณิต มงคลพิทักษสุข 201 ความสัมพันธและฟงกชัน
kanuay.com
ตัวผกผัน 1
r คือ ตัวผกผัน หรือ อินเวอร์ส (Inverse) ของ r
(อินเวอร์ส) กําหนดโดย r {(y, x) | (x, y) r }
1
หรืออธิบายได้ว่า r 1 เกิดจากการสลับที่ของสมาชิกตัวหน้าและหลังของคู่
อันดับใน r หรือถ้าเป็นความสัมพันธ์แบบบอกเงื่อนไขก็หาได้จากการสลับที่ระหว่าง
ตัวแปร x และ y ในสมการนั่นเอง
แบบฝึกหัด ๕.๒
(13) ให้หาโดเมนและเรนจ์ของความสัมพันธ์ต่อไปนี้
(13.1) r {(x, y) | xy 2 }
(13.2) r {(x, y) | (x 2)(y 1) 1 }
(13.3) r {(x, y) | y 1 }
x1
บทที่ ๕ 202 Math E-Book
Release 2.6.4
2x 3
(13.4) r {(x, y) | y }
x1
x1
(13.5) r {(x, y) | y , x 1}
x1
(15) ให้หาโดเมนและเรนจ์ของความสัมพันธ์ต่อไปนี้
(15.1) r {(x, y) | y 2 1 }
x x
1
(15.2) r {(x, y) | y }
x2 4x 3
x1
(15.3) r {(x, y) | y }
x
(15.4) r {(x, y) | 2x2 y2 2xy x 1 0 }
(15.5) r {(x, y) | x2y2 y2 x 2 0 }
(15.6) r {(x, y) | xy2 xy 2y2 2y 6x 11 0 }
(16) ให้หาโดเมนและเรนจ์ของความสัมพันธ์ต่อไปนี้
3
(16.1) r {(x, y) | y }
x3 4
x 2 , x < 11
(19) ให้ r เป็นความสัมพันธ์ภายใน R ซึ่ง r {(x, y) | y }
15 x , x 11
ถ้า A Dr Rr แล้ว ผลบวกของค่าขอบเขตบนน้อยสุดกับค่าขอบเขตล่างมากสุดเป็นเท่าใด
๕.๓ กราฟของความสัมพันธ์
“กราฟของความสัมพันธ์ r” คือเซตของจุดบนแกนมุมฉาก (x, y) ซึ่งแต่ละ
จุดแทนสมาชิกใน r (โดยให้สมาชิกตัวหน้าเป็นแกนนอน และสมาชิกตัวหลังเป็น
แกนตั้ง)
เช่น ถ้า r1 {(1, 2),(1, 2),(2, 3),(2, 0),(0, 2)}
r2 {(x, y) I I | y x2 } {(0, 0),(1, 1),(2, 4), ...}
และ r3 {(x, y) R R | y x2} จะได้กราฟดังภาพ
Y Y Y
3 4 r3
r1 r2
2
1
X X X
–2 –1 O 1 2 –2 –1 O 1 2 O
–2
การเขียนกราฟของความสัมพันธ์ จะช่วยให้เห็นโดเมนและเรนจ์ได้ชัดเจน
ยิ่งขึ้น รูปแบบของกราฟที่ควรรู้จักมีดังนี้
–r r X O X
O –k k
–r –k
2 y > 3x2
–2 O X
O X X 2
O
y < x+2 –2
x2 + y2 > 4
แบบฝึกหัด ๕.๓
(23) ให้หาโดเมนและเรนจ์ของความสัมพันธ์ต่อไปนี้ โดยอาศัยการเขียนกราฟ
(23.1) r {(x, y) | x y 4 }
(23.2) r {(x, y) | x 2 y 2 }
(23.3) r {(x, y) | y x2 2x 2 }
(23.4) r {(x, y) | y x2 2x 2 , 3 x < 2 }
(24) ขนาดพื้นที่ของบริเวณในแต่ละข้อเป็นกี่ตารางหน่วย
เมื่อกําหนดให้ r1 {(x, y) | x y < 1 } r2 {(x, y) | x y < 1 }
r3 {(x, y) | y x < 1 } r4 {(x, y) | y > 0 } และ r5 {(x, y) | x > 0 }
(24.1) r1 r2 r5
(24.2) r1 r4 r5
(24.3) r1 r3 r4
(24.4) r3 r4 r5
(31) ข้อความต่อไปนี้ถูกหรือผิด
(31.1) ถ้า r {(x, y) R R | y x2 } แล้ว r 1 r
(31.2) ถ้า r {(x, y) R R | y x2 } แล้ว r 1 r
(31.3) ถ้า r {(x, y) R R | x2 y2 25 } แล้ว r 1 r
(31.4) ถ้า r {(x, y) R R | x2 y2 25 } แล้ว r 1 r
(32) ให้หาขนาดพื้นที่ของอาณาบริเวณ Y
ที่ถูกล้อมด้วยกราฟของ r และ r 1
(0,1) (2,2)
เมื่อกําหนดกราฟของ r เป็นดังภาพ
O X
(–2,–2) (0,–1)
๕.๔ ลักษณะของฟังก์ชัน
จากที่ศึกษาผ่านมาแล้วว่า ความสัมพันธ์ คือเซตของคู่อันดับ (ที่พบบ่อยจะ
เขียนอยู่ในรูปสมการ) แต่หากความสัมพันธ์ใดมีลักษณะดังต่อไปนี้ด้วย จะเรียก
ความสัมพันธ์นั้นเป็น ฟังก์ชัน (Function : f)
“สมาชิกตัวหนาแตละตัว จับคูกบั สมาชิกตัวหลังไดเพียงแบบเดียวเทานั้น”
หรือกล่าวว่า สําหรับ x แต่ละตัว จะคู่กับ y ได้เพียงแบบเดียวเท่านั้น (ต้องไม่มี x
ตัวใดที่จับคู่กับ y หลายแบบพร้อมกัน)
O X X
O
ไม่เป็นฟังก์ชัน เป็นฟังก์ชัน
สิ่งที่ควรทราบ
1. ความสัมพันธ์ที่เขียนในรูป y ...(x)... ได้แบบเดียว จะเป็นฟังก์ชันเสมอ
* 2. ถ้า f เป็นฟังก์ชัน จะเขียนแทน y ด้วยคําว่า f (x) (อ่านว่า เอฟเอกซ์)
เช่น f (x) x2 มีความหมายเดียวกับ y x2 แต่สื่อให้รู้ว่าเป็นฟังก์ชันด้วย
r5 r6 r7
0 0 a 0 a
1
a 1 b 1
b 2 c 2 b
2 d c
3 3
A B A B A B
เป็นฟังก์ชัน เป็นฟังก์ชันจาก A ไป B เป็นฟังก์ชันจาก A ไปทั่วถึง B
r5 r8 r9
0 1 a 0 a
a b 1 b
1 b 2 c 2 c
2 4 d 3 d
A B A B A B
เป็นฟังก์ชัน 1–1 เป็นฟังก์ชัน 1–1 จาก A ไป B เป็นฟังก์ชัน 1–1 จาก A ไปทั่วถึง B
O X X O X
O
ดังนัน้ f (x) 2x – 3
ค. ถ้า f (3x 1) 6x 5
ให้หา f (2)
วิธีคิด ให้ 2 3x 1 ได้เลย นัน่ คือ x 1
จะได้วา่ f (3x 1) 6x 5 กลายเป็น f (2) 6(1) 5 1
แบบฝึกหัด ๕.๔
(33) ความสัมพันธ์ f ที่กําหนดให้ในแต่ละข้อ เป็นฟังก์ชันหรือไม่
และถ้าเป็นฟังก์ชัน ให้ระบุเพิ่มเติมด้วยว่าเป็นฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่งหรือไม่
(33.1) f (x) x2 (33.6) f (x) 1/ x
2
(33.2) [f (x)] x (33.7) f (x) x2 x 1
(33.3) f (x) x (33.8) f (x) x3
(33.4) f (x) x (33.9) f (x) 1/ x2
(33.5) f (x) x (33.10) f (x) x 2/ 3
(34) ความสัมพันธ์ต่อไปนี้เป็นฟังก์ชันหรือไม่
(34.1) r {(x, y) | x y 1 }
(34.2) r {(x, y) | x y 1 }
(35) ความสัมพันธ์ต่อไปนี้เป็นฟังก์ชันหรือไม่
(35.1) r {(x, y) | x y 1}
(35.2) r {(x, y) | x y 1}
(35.3) r {(x, y) | x y 1}
(35.4) r {(x, y) | x y 1}
คณิต มงคลพิทักษสุข 211 ความสัมพันธและฟงกชัน
kanuay.com
(36) ฟังก์ชันต่อไปนี้เป็นฟังก์ชันหนึ่งต่อหนึ่งหรือไม่
(36.1) f {(x, y) | 2x y 3 0 }
(36.2) f {(x, y) | (x 4)(y 3) 1}
(36.3) f {(x, y) | y 3 (x 4)3}
(36.4) f {(x, y) | x2 y 3 0 }
(42) ให้หาค่าของ
(42.1) f (x) เมื่อ f (x 1) x2 3x 9
(42.2) f (2) เมื่อ f ( x2 1) x2 2
x
(42.3) f (4x) ในเทอมของ f (x) เมื่อ f (x)
x2
บทที่ ๕ 212 Math E-Book
Release 2.6.4
f f
g g
A B C A B C
หา gof ได้ หา gof ไม่ได้
วิธีคิด จาก (g f)(2) g(f (2)) 3(f (2)) 4 แต่ (g f)(2) 6(2) 5 7
ดังนัน้ 3(f (2)) 4 7 ย้ายข้างสมการได้ f (2) 1
จ. ถ้า (g f)(x) 6x 5
และ f (x) 2x 3 ให้หา g(1)
วิธีคิด ต้องการ g(1) จึงให้ f (x) 1 จะได้ 2x 3 1 x 2
แทนค่า x ด้วย 2 จะได้ (g f)(2) g(1) 6(2) 5 7
โดเมนของฟังก์ชันพีชคณิต หาได้จาก D f g D f Dg
แบบฝึกหัด ๕.๕
(43) ให้หา g f และ f g ของฟังก์ชันที่กําหนดให้ในแต่ละข้อ
(43.1) f (x) 2x และ g(x) x 3
(43.2) f (x) x 1 และ g(x) x
(43.3) f (x) 4x 1 และ g(x) x2
4 x , x < 0
* (43.4) f (x) และ g(x) x2 1 เมื่อ x 2
6 x , x 4
(44) ถ้า (g f)(x) 3 [f (x)] 2 2 f (x) 1 และ g(x) x2 x 2 แล้ว ให้หา (g f)(1)
x1
(45) ถ้า f (x) เมื่อ x 0 และ (f g)(x) x แล้ว ให้หา g (x)
x
คณิต มงคลพิทักษสุข 215 ความสัมพันธและฟงกชัน
kanuay.com
2x 2 , x > 0
(50) ให้หา f 1(x) เมื่อกําหนด f (x) 2
x 1 , x 0
2x 1 , x > 0
(54) กําหนดให้ f (x 1) 2x 3 และ g(x)
3x 1 , x 0
ให้หาค่าของ
(54.1) (f 1 g1)(0) (54.2) (g1 f 1)(0)
บทที่ ๕ 216 Math E-Book
Release 2.6.4
2x , x > 0 2
x , x 3
(55) กําหนดให้ f (x) และ g(x) ให้หา
3 , x 0 x , x < 3
(55.1) (f g)(x) (55.2) Df / g
f
(58) ถ้า f (x) x 5 และ (g f)(x) x2 25 แล้ว ให้หา ( )(x)
g
x 1 , x > 0
(59) ถ้า f (x) 4x , g(x) x2 1 และ h (x) แล้ว ให้หา
x 1 , x 0
(59.1) (f 1 g h1)(2) (59.2) [(g f 1) h](2)