Professional Documents
Culture Documents
เสรีนิยม - ความรู้ฉบับพกพา ธค๖๐
เสรีนิยม - ความรู้ฉบับพกพา ธค๖๐
คณะรัฐศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
โดย
รายการภาพประกอบ
1) คฤหาสน์หลายคูหา
3) ช่วงชั้นของเสรี นิยม
4) สัณฐานวิทยาแห่งเสรี นิยม
5) เอตทัคคะเสรี นิยม
อ้างอิง
บทอ่านต่อ
ดรรชนี
ฟรี เดน / เสรี นิยม / 4
รายการภาพประกอบ
พวกเขาคิดไม่ถึงดอกว่าลัทธิเสรี นิยมกาลังจะปลดปล่อยกระแสอันทรงมหิทธานุภาพปานใดออกมา
หลายภาคส่ วนเหมือนอุดมการณ์และระบบความเช่าเหล่านั้นทั้งมวลด้วย
liberalism) เสรี นิยมทางสังคม (social liberalism) หรื อเสรี นิยมใหม่ (neoliberalism) เป็ นตัวอย่าง
อังกฤษราวหนึ่งศตวรรษเศษมาแล้วพร้อมเพรี ยงกับลัทธิสังคมประชาธิปไตยของกลุ่มประเทศ
สแกนดิเนเวียบางกระแสนั้นก็มุ่งสารวจหาสภาพเงื่อนไขที่เอื้อให้ปัจเจกบุคคลพัฒนาเติบโตขึ้นซึ่ง
สาขานั้นแหละ อย่างไรก็ตาม เสรี นิยม “ใหม่” กับเสรี นิยม “แนวใหม่” กลับโน้มดึงไปสู่ ทิศทาง
ฟรี เดน / เสรี นิยม / 7
แตกต่างกันอย่างสับสนเป็ นพิเศษ เสรี นิยมใหม่ซ่ ึงด้านหลักแล้วเป็ นผลผลิตของครึ่ งหลังแห่ง
การเข้าใจมันแบบหนึ่งแบบใดอย่างแข็งทื่อตายตัว ฉะนั้นมันจึงอาจจะถูกต้องแม่นยากว่าที่จะพูดถึง
ฟรี เดน / เสรี นิยม / 8
เสรี นิยมในเชิงพหูพจน์ โดยทั้งหมดล้วนสังกัดครอบครัวใหญ่เดียวกันและสาแดงให้เห็นทั้งความ
เสรีนิยมประสบชัยชนะแล้วหรื อ?
เหล่านี้ได้แก่ ฟรานซิส ฟูกยู ามา นักปรัชญาอเมริ กนั ผูป้ ระกาศชัยชนะของ “ความคิดเสรี นิยม” เมื่อ
ด้วยความโล่งอกว่า “ในที่สุดเราก็พิชิตอุดมการณ์อื่นได้หมดแล้ว!” ?
คอมมิวนิสต์ในระยะที่ยาวนานกว่านั้นออกไป?
นิยามหนึ่งใดที่จะครอบคลุมการแสดงออกของมันทั้งหมดได้
ของฟูกยู ามามาใช้ ก็อาจกล่าวได้วา่ มีนกั วิง่ เสรี นิยมหลายคนในสิ่ งที่เรี ยกว่าการแข่งขัน ฉะนั้นต่อให้
เสน่ ห์ยวนใจของเสรีนิยม
คัดค้านวิจารณ์ท้ งั โดยพวกขุดรากถอนโคนและพวกอนุรักษนิยมด้วยก็ตามดังที่เราจะได้เห็นต่อไป
ของมัน
ชมชอบของปัจเจกบุคคลให้อยูเ่ หนือเจตจานงอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
ลัทธิอนั ตรายที่ชอบบงการและทอนกาลังซึ่งภายใต้ป้ายชื่อฉายาของมันนั้นได้ทาร้ายทั้งสังคมและ
ว่าเป็ นทรรศนะที่ขยายความมีเหตุผลแห่งพฤติกรรมของมนุษย์เกินเลยไปจนเบียดบังทั้งอารมณ์และ
กลบเกลื่อนความหลากหลายและขาดตอนอันมีชีวติ ชีวาในมวลหมู่มนุษยชาติ
ได้เขียนถึงกลุ่มผลประโยชน์ชนชั้นกลางชาวฝรั่งเศสและเยอรมันในช่วงการปฏิวตั ิฝรั่งเศสไว้วา่
ร้องสนับสนุนระบบทรราชย์ของรัฐในทุกภาคส่ วน และกล่าวอ้างเจตนาของตนที่จะปลดปล่อย
มุมมองนิติ-ศีลธรรมว่าประกอบไปด้วยทฤษฎีแห่งความเสมอภาคอันเฉพาะเจาะจงหนึ่ง ซึ่งพลเมือง
อาจเรี ยกว่าคาถามเรื่ องชีวติ ที่ดี” สมมุติฐานในที่น้ ีกค็ ือปัจเจกบุคคลเป็ นผูเ้ ลือกเรื่ องเกี่ยวกับชีวติ
ความสัมพันธ์ระหว่างปัจเจกบุคคลกับสังคม และพวกเขาก็อาจอ้างว่าได้สืบสายสกุลทางความคิด
(ค.ศ. ๑๖๓๒ – ๑๗๐๔) และผูอ้ อกหน้าต่อสู ้เพื่อเสรี ภาพอย่าง จอห์น สจ๊วต มิลล์ (ค.ศ. ๑๘๐๖ –
ดีและวิจิตรพิสดารขึ้นในวิถีแห่งกระบวนการที่ดาเนินไปอย่างค่อยเป็ นค่อยไปและแน่วแน่มนั่ คง
ออกมานานาฉบับอย่างค่อนข้างแตกต่างประชันกันไป พวกเขาอาจเห็นขัดแย้งกันอย่างแหลมคมว่า
เถียงที่ก่อตัวขึ้นตามกาลสมัยห้าช่วงชั้นด้วยกันในทางประวัติศาสตร์ (ดูกล่องข้อความ ๑)
๑. ทฤษฎีวา่ ด้วยอานาจที่ถูกจากัดเหนี่ยวรั้งซึ่งมุ่งหมายจะปกป้อง
สิ ทธิของปัจเจกบุคคลและค้ าประกันพื้นที่ให้ผคู ้ นมีชีวติ อยูไ่ ด้
โดยไม่ถูกรัฐบาลกดขี่
๒. ทฤษฎีวา่ ด้วยปฏิสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและตลาดเสรี ซ่ ึงทาให้
ปัจเจกบุคคลทั้งหลายสามารถหากาไรได้จากการแลกเปลี่ยน
สิ นค้าซึ่งกันและกัน
๓. ทฤษฎีวา่ ด้วยความก้าวหน้าของมนุษย์ตามเวลาที่ล่วงเลยไปซึ่ ง
มุ่งหมายที่จะทาให้ปัจเจกบุคคลสามารถพัฒนาศักยภาพและ
สมรรถภาพของตนขึ้นมาได้ตราบเท่าที่พวกเขาไม่ทาร้ายคนอื่น
๔. ทฤษฎีวา่ ด้วยการพึ่งพาซึ่งกันและกันและสวัสดิการที่กากับโดย
รัฐซึ่งจาเป็ นสาหรับการที่ปัจเจกบุคคลจะบรรลุเสรี ภาพและ
ความเจริ ญงอกงาม
๕. ทฤษฎีที่ตระหนักรับความหลากหลายแห่งลีลาชีวิตของกลุ่มและ
ความเชื่อต่าง ๆ ซึ่งมุ่งหมายให้เกิดสังคมพหุนิยมที่อดกลั้นต่อกัน
ฟรี เดน / เสรี นิยม / 25
ช่วงชั้นข้อถกเถียงเหล่านี้บางช่วงชั้นก็ได้หายสู ญไปหรื อถูกบดบังไว้ในหลายกรณี ดว้ ย
อย่างไรในท่ามกลางช่วงชั้นข้อถกเถียงดังกล่าว
เชิงปรัชญาดังกล่าวจะคานึงถึงข้อจากัดเหนี่ยงรั้งทางโลกย์และวัฒนธรรมซึ่งส่ งผลให้การดลบันดาล
ฟรี เดน / เสรี นิยม / 26
ให้อุดมคติเหล่านั้นประจักษ์เป็ นจริ งเป็ นปั ญหายิง่ กระนั้นก็ตาม การสาธยายขยายความหลัก
เพื่อสารวจข้อถกเถียงเหล่านั้นกันในบทที่ ๖
มันผ่านการวิเคราะห์ทางประวัติศาสตร์และอุดมการณ์ มากกว่าการตั้งข้อสัจพจน์ทางปรัชญาว่าแบบ
สั ณฐานวิทยาแห่ งเสรีนิยม
อาจนิยมชมชอบปัจเจกภาพในรู ปแบบที่แรงกล้ามากกว่าการแสดงความห่วงใยผลประโยชน์
แท้ของแนวคิดเหล่านี้ดว้ ยการมอบหมายความแน่นอนให้แก่ความหมายเหล่านั้นอันใดอันหนึ่งมิไย
สอบทานแนวการศึกษาเสรี นิยมในเชิงแนวคิดนี้ในบทที่ ๔
ฟรี เดน / เสรี นิยม / 30
Liberal institutionsLiberalism is evidently also associated with political movements,
organizations, and parties. Most countries that practise forms of liberal democracy, in Europe or
elsewhere, have a liberal party either in name or in programme. Many institutions, not least on
the international stage, have seen themselves as purveyors of liberal ideas in the general sense.
The United Nations Charter of 1945 emphasizes the pursuit of peace, justice, equal rights, and
non-discrimination—principles straight out of the liberal lexicon (Figure 2). But here a gap
opens up between the ideological and institutional manifestations of liberalism. Liberal
ideologies are generally speaking broader than the parties and groupings that operate under that
name. J.M. Keynes memorably wrote, ‘Possibly the Liberal Party cannot serve the State in any
better way than by supplying Conservative Governments with Cabinets, and Labour
Governments with ideas.’ But pace Keynes, the Liberal party in Britain, or the Liberal
Democrats as they are now called, have fed off wider ranging liberal thinking over the years and
political parties are rarely a source of ideological innovation. Indeed, some parties flaunting the
label ‘liberal’ are far from liberal, an example being the Liberal Democratic party in Japan,
which is a centre-right conservative party. Liberal thinkers and ideas generally emerge from
debates among intellectuals, from the campaigning zeal of social reformers and journalists—
including newspapers aligned with liberal causes—and from dedicated pressure groups and,
more recently, think tanks and blogs. But due to their public profile, political parties are often
taken by public opinion to be the representatives of the ideologies they reference. During the 19th
century, Liberal parties were in their heyday and their influence over the ideological agenda was
at its highest, though that power has since declined. Parties are therefore only a partially reliable
indicator of the ideologies they claim to stand for. They also only seldom contain liberal
philosophers working at a specialized and abstract level of articulation, precisely because parties
have to engage in the kind of communicable and simplifying discourse that can attract large
numbers of voters. Occasionally political philosophers such as Mill have become members of
parliament, but in that capacity their influence has not been notable. In the following chapters we
will mention institutionalized liberalism only occasionally. It is an absorbing subject on its own,
but it will not lead us to liberalism’s heart.