Professional Documents
Culture Documents
ขนตอนที
ั้ ่ 1 คือสุภาษิตบทตงเป็
ั้ นสุภาษิตทีส
่ นามหลวงกาหนดมาให ้หรือเรียกว่าโจทย์ของวิชานี้ก็ได ้และให ้
เขียนกึง่ หน ้ากระดาษตามภาพ
ขนตอนที
ั้ ่ 2 การเขียนอารัมภบทคือ ณ บ ัดนี.้ . ให ้ขึน
้ บรรทัดใหม่และย่อหน ้าแล ้วให ้เขียนคาเต็มๆ ว่า
ณ บัดนี้จะได ้อธิบายขยายความแห่งกระทู ้ธรรมสุภาษิตทีไ่ ด ้ลิขต ิ ไว ้ ณ เบือ ึ ษาและ
้ ต ้น พอเป็ นแนวทางแห่งการศก
นาไปปฏิบต ั ส ื ต่อไป
ิ บ
ขนตอนที
ั้ ่ 3 ตรงนี้เป็ นการเริม
่ เขียนอธิบายสุภาษิตบทตัง้ ทีส ่ นามหลวงกาหนดเป็ นโจทย์มาให ้นั น้ เอง ให ้เรา
อธิบายประมาณ 7-10 บรรทัด (เว ้นบรรทัดด ้วย) พออธิบายได ้ใจความตามบรรทัดทีก ่ าหนดไว ้แล ้ว ให ้เขียนคาว่า
สมด ังสุภาษิตทีม ่ าใน......ว่า (ต่อท ้าย ตรงจุด...นั น
้ ให ้เขียนบอกทีม ื่ ม ก่อนทีจ
่ าของสุภาษิเชอ ่ ะเริม
่ เขียนสุภาษิต
เชอ ื่ มต ้องบอกทีม ่ าของสุภาษิตก่อน)
ขนตอนที
ั้ ่ 4 การเขียนสุภาษิตเชอ ื่ ม เป็ นสุภาษิตทีเ่ ราท่องไว ้ เป็ นสุภาษิตทีน ื่ มความกับสุภาษิตตัง้
่ ามาเชอ
เวลาเขียนต ้องอยูก
่ งึ่ กลางและตรงกับสุภาษิตบทตัง้
ขนตอนที
ั้ ื่ มทีแ
่ 5 ตรงนี้เป็ นการเขียนอธิบายสุภาษิตเชอ ่ เดียวกันต ้องให ้ได ้ประมาณ7-10 บรรทัด
่ ละเชน
พอสมควร
ขนตอนที
ั้ ่ 6 คือขนตอนการเขี
ั้ ยนสรุป ให ้ย่อหน ้าขึน้ บรรทัดใหม่ เขียนคาว่า สรุปความว่า... การสรุปความนัน ้
ควรสรุปประมาณ 5-6 บรรทัด เมือ ่ เขียนสรุปเสร็จแล ้วให ้เขียนคาว่า สมดังพุทธสุภาษิตทีไ่ ด ้ลิขต
ิ ไว ้ ณ เบือ
้ ต ้นนั น
้
ว่า จากนั น
้ สุภาษิตบทตัง้ มาปิ ดตามขัน้ ตอนที่ 7
ขนตอนที
ั้ ่ 7 ให้นาสุภาษิตบทตงมาปิ
ั้ ดอีกทีตามโครงสร ้างด ้านบน
ขนตอนที
ั้ ่ 8 เป็ นการเขียนคาปิ ดสุภาษิตบทตัง้ อีก คือให ้เขียนคาว่า มีนัยดังพรรณนามาด ้วยประการฉะนี้ โดยไม่
ต ้องย่อหน ้า นี้คอ
ื จบขัน
้ ตอนการเขียนกระทู ้ธรรมตรีครับไม่ยาก
ลูกศรสเี ขียว หมายถึงย่อหน ้าทุกครัง้ จะต ้องให ้ตรงกันตามแนวลูกศร (การย่อหน ้าควรจะประมาณ 5-6 ตัวอักษร
หรือ 1 ข ้อมือของนิว้ ช)ี้
ี า หมายถึงเนื้อหาหรือตัวอักษรควรจะชด
ลูกศรสด ิ สน
ิ้ สุดตามเสนของกระดาษเขี
้ ยนนัน้ เอง และอย่างเขียนเลย
ออกมานอกเสน้ นอกจากจะดูไม่สวยงามแล ้วยังอาจจะมีผลต่อคะแนนการเขียนกระทู ้ด ้วย
และเมือ ้ ร ับ
่ นามาเขียนก็จะได้ตามรูปแบบด้านล่างนีค
ทริป : ธรรมศก ึ ษาโทและธรรมศก ึ ษาเอก ก็ใชหลั ้ กการเดียวกันครับ แม ้ว่าโครงสร ้างด ้านบนจะเป็ นของธรรม
ศกึ ษาตรี แต่รป ู แบบการเขียนก็ใชลั้ กษณะเดียวกัน เพียงแต่วา่ ธรรมชน ั ้ โทจะต ้องเพิม
่ สุภาษิตเชอ ื่ มขึน
้ มา 2
สุภาษิตและธรรมศก ึ ษาชน
ั ้ เอกจะต ้องเพิม่ สุภาษิตเชอื่ มขึน
้ มา 3 สุภาษิตเท่านัน ้ เอง
สุดท ้ายคงจะเข ้าใจแจ่มแจ ้งชด ั เจนนะครับ แต่ถ ้าเกิดมีข ้อสงสยั ก็ลองอ่านบทความอืน ่ ๆ เสริมหรือคอมเม ้น
ถามไว ้ด ้านล่างครับผม
ตัวอย่ างการเขียนเรียงความแก้ กระทู้ธรรมตรี
ททมาโน ปิ โย โหติ.
ผู ้ให ้ ย่อมเป็ นทีร่ ัก.
องฺ. ปญฺจก. ๒๒/๔๔.
ี รกฺเขยฺย เมธาวี.
สล
ปราชญ์พงึ รักษาศลี .
ขุ.อิต.ิ ๒๕/๒๘๒.
ส.ส. ๑๕/๓๐๖.
เครดิตสุภาษิต : คูม
่ อ ึ ษาตรีรวม 4 วิชาของสานั กงานแม่กองธรรมสนามหลวง พ.ศ. 2550
ื หลักสูตรธรรมศก
อักษรย่ อบอกทีม่ าของพุทธศาสนสุ ภาษิต
การเขียนเรี ยงความแก้กระทูธ้ รรมธรรมศึกษาชั้นตรี ธรรมศึกษาชั้นโท และธรรมศึกษาชั้นเอกนั้น ผูเ้ รี ยนผูส้ อบจาเป็ นอย่างมากที่
จะต้องอ้างที่มาของพุทธศาสนสุภาษิต เพื่อให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์การเขียนกระทูแ้ ละถูกต้องตามหลักปฏิบัตใิ นการสอบสนามหลวง
เนื่องจากการอ้างที่มาของสุภาษิตทาให้เกิดความน่าเชื่อถือและถูกต้องว่าผูเ้ รี ยนผูส้ อบไม่ได้เขียนกระทูข้ ้ ึนอย่างมัวๆ และที่สาคัญยังเป็ นการ
ให้เครดิตกับสุภาษิตและแหล่งที่มาของสุภาษิตทาให้งานเขียนของเราออกมาอย่างสร้างสรรค์และเป็ นประโยชน์แก่บุคคลอื่นครับ
TiP : ตัวอักษร สแ
ี ดง ด ้านซาย
้ คือตัวย่อทีม่ าของสุภาษิต และสว่ นตัวอักษร สน ี า้ เงิน ด ้านขวา คือตัวเต็มของ
พุทธศาสนสุภาษิต ทีจ่ ะต ้องนามาเขียนอ ้างทีม่ าในวิชาเรียงความแก ้กระทู ้ธรรม
แบบนี้ "ผิด"