You are on page 1of 59

กระบวนการผลิตด้าย

(Yarn Manufacturing)
เส้นใย เส้นด้าย ผ้าผืน
(Fiber) (Yarn) (Fabric)
ด้าย (Yarns)
มีลักษณะเป็นเส้นยาวต่อเนื่อง ประกอบขึ้นจากเส้นใยหลายๆ
เส้นรวมกัน มีคุณสมบัติและคุณลักษณะเหมาะสมที่จะนามาใช้ในด้าน
สิ่งทอ ควรจะมี tenacity และ flexibility ในตัวเองดีพอสมควร
แบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ
“ ด้ายจากเส้นใยสัน้ (spun yarn)
“ ด้ายจากเส้นใยยาว (filament yarn)
“ ด้ายชนิดพิเศษ (special yarn)
ด้ายจากเส้นใยสัน้ (Spun yarn)
ประกอบด้วยเส้นใยสั้นที่ขึ้นเกลียว (twist) เพื่อให้ยึดติดกัน
เป็นเส้นด้าย ผิวมักจะไม่เรียบ เนื่องจากมีปลายของเส้นใยโผล่ออกมา
ด้ายจากเส้นใยยาว (Filament yarn)
ประกอบด้วยเส้นใยยาว (filament) ที่รวมกันเป็นกลุ่มโดย
อาจจะมีการขึ้นเกลียวเพียงเล็กน้อย ผิวมีลักษณะเรียบ เส้นใยอาจมี
ลักษณะเป็นเส้นตรงเรียงกัน หรือมีลักษณะฟู (bulky) เนื่องจากการทา
หยัก (crimp) บนเส้นใยยาว
ตัวอย่างกระบวนการผลิตด้ายจากเส้นใยสัน้
Cotton:
การสาง
Opening Mixing & Cleaning
Carding

การปั่นและการกรอด้าย การรีดปุย การหวี


Spinning & Winding Drawing Combing)
ตัวอย่างกระบวนการผลิตด้ายจากเส้นใยฝ้าย
1. Opening
“ opens boles of cotton and loosens
fibres- remaining
“ impurities are removed, including
twig, leaf and pod residue
ตัวอย่างกระบวนการผลิตด้ายจากเส้นใยฝ้าย
2. Mixing & Cleaning
“ ผสมฝ้ายเกรดต่างๆ หรือผสมเส้นใยต่างชนิดกัน เข้าด้วยกัน
“ ทาความสะอาดฝ้าย กาจัด impurities
3. Carding
“ parallels the fibres producing a web
ตัวอย่างกระบวนการผลิตด้ายจากเส้นใยฝ้าย
4. Combing
“ removes short fibres and further
parallels the lap
ตัวอย่างกระบวนการผลิตด้ายจากเส้นใยฝ้าย
5. Drawing
“ reduces the thickness of the lap,
producing a sliver
(การทบ lap หลายๆ สายรวมเข้าด้วยกัน
แล้วดึงให้ยืดออก)
ตัวอย่างกระบวนการผลิตด้ายจากเส้นใยฝ้าย
6. Spinning & Winding
“ inserts twist producing a yarn
and package it onto a spool
ตัวอย่างกระบวนการผลิตด้ายจากเส้นใยสัน้
Wool:
Shearing & Grading Washing and Scouring

Spinning Carding Blending


ตัวอย่างกระบวนการผลิตด้ายจากเส้นใยขนแกะ
ตัวอย่างกระบวนการผลิตด้ายจากเส้นใยขนแกะ
1. Shearing & Grading
“ woolen fleece is removed
(typically occurs once per year
per sheep)

‚raw or grease wool‛


ตัวอย่างกระบวนการผลิตด้ายจากเส้นใยขนแกะ
1. Shearing & Grading
ตัวอย่างกระบวนการผลิตด้ายจากเส้นใยขนแกะ
1. Shearing & Grading
quality of wool is determined by the following factors
“ fiber fineness
“ length
“ scale structure
“ color
“ cleanliness
“ freedom from damage
ตัวอย่างกระบวนการผลิตด้ายจากเส้นใยขนแกะ
1. Shearing & Grading
< 17.5 - Ultrafine merino
17.6-18.5 - Superfine merino
< 19.5 - Fine merino
19.6-20.5 - Fine medium merino
20.6-22.5 - Medium merino
> 22.6 - Strong merino
ตัวอย่างกระบวนการผลิตด้ายจากเส้นใยขนแกะ
2. Washing and Scouring
“ remove grease (unrefined lanolin), vegetable matter
and other impurities (30%-70% wt. of raw fleece)
Scouring the raw fleeces are passed through a series
of scouring tubs of soap and water

raw fleece Scouring tub scoured fleece

lanolin
(used in creams, soaps, cosmetics)
ตัวอย่างกระบวนการผลิตด้ายจากเส้นใยขนแกะ
3. Blending
“ unifies the slightly-different basic colors of raw wool
“ helps to standardize staple length and diameter for
uniform quality
Did somebody take
my coats?
ตัวอย่างกระบวนการผลิตด้ายจากเส้นใยขนแกะ
4. Carding
“ straighten and blend fleeces into slivers
“ removes residual dirt and other matter
ตัวอย่างกระบวนการผลิตด้ายจากเส้นใยขนแกะ
4. Carding
- coarser fibers and shorter staple length
twists the slivers into ropelike strands
- finer fiber and longer staple length
slivers usually go to the combing and drawings step
ตัวอย่างกระบวนการผลิตด้ายจากเส้นใยขนแกะ
5. Spinning
“ yarn formation, making it suitable for
weaving or knitting
กระบวนการผลิตด้ายจากเส้นใยยาว
ลักษณะการเรียงตัวของด้ายจากเส้นใยยาว
“ Untwisted filament yarn “ Twisted filament yarn

“ High bulk filament yarn “ Stretch filament yarn


Textured yarn:
เส้นด้ายที่ผ่านการปรับปรุงผิวสัมผัส (มักใช้กับเส้นใยสังเคราะห์)
โดยทาให้เกิดรอยหยิกงอ (crimp) ห่วง (loops) ขด (coil) และ
รอยยับถาวรบนเส้นใย เส้นด้ายพองฟู
วัตถุประสงค์ของการทา Textured yarn:
“ ให้มีลักษณะและน้าหนักใกล้เคียงเส้นใยธรรมชาติ
ความพองฟูดี
“ เป็นฉนวนความร้อนที่ดีขึ้น
“ ดูดซึมความชื้นได้มาก
“ ช่วยการถ่ายเทอากาศได้ดี
“ ให้ผิวสัมผัสอ่อนนุ่ม
ข้อดีของการทาให้เส้นด้ายมีความพองฟู:
“ ลดการเกิดขน ต้านทานการยับ และเพิ่มความคงรูป
“ ผ้ามีการคืนตัวดี
“ เพิ่มความยืดหยุ่น
“ ทาให้เส้นด้ายนุ่ม
“ สามารถทาให้แห้งได้เร็ว
“ ทนทานต่อการขัดถู
“ การดูดความชื้นสูงขึ้น
ชนิดของ textured yarn:
1. เส้นด้ายยืด (stretch yarns)
- ยืดตัวได้มากและคืนตัวดี
- นิยมใช้เสื้อผ้ารัดรูป
2. เส้นด้ายพองฟู (bulk yarns)
- ให้ความพองฟู ยืดได้ปานกลาง
- มักใช้ทาพรม เสื้อผ้าที่ต้องการความอบอุ่น
3. เส้นด้ายยืดดัดแปลง (modified stretch yarns หรือ set yarns)
- มีลักษณะอยู่ระหว่างเส้นด้ายทั้งสองข้างต้น
กรรมวิธีผลิต textured yarn
1. กรรมวิธี Twisted-Heat Set Untwist
2. กรรมวิธี False-Twist
3. กรรมวิธี Edge Crimping
4. กรรมวิธี Stuffer-box Crimping
5. กรรมวิธี Air-jet (Looped yarns)
6. กรรมวิธี Gear Crimping
7. กรรมวิธี Knit-de-knit
8. กรรมวิธีการทาเท็กซ์เจอไรส์แบบ Bicomponent
9. การทาเท็กซ์เจอไรส์ทางเคมี
1. กรรมวิธี Twisted-Heat Set Untwist (Helenca process)
หลักการ:
1. เพิ่มเกลียวเพื่อให้ได้จานวนเกลียวต่อนิ้วมากๆ
ให้ความร้อนแก่เส้นด้ายเพื่อให้เกลียวอยู่ตัวขณะที่อยู่ในหลอดด้าย
คลายเกลียว
1. กรรมวิธี Twisted-Heat Set Untwist (Helenca process)
Feed yarn
Redraw of downtwist
Uptwist

Heat-set in steam autoclave

Redraw

Untwist on untwister Heat-set again in steam autoclave

Doubling Redraw
1. กรรมวิธี Twisted-Heat Set Untwist (Helenca process)
1. กรรมวิธี Twisted-Heat Set Untwist (Helenca process)
“ Redraw กรอด้ายเพื่อให้ม้วนด้ายเหมาะกับการตีเกลียว
“ Uptwist การตีเกลียว (~ 47-114 เกลียวต่อนิ้ว)
จานวนเกลียวต่อนิ้ว = 7000 + 20
ขนาดเส้นใย +60
“ Heat setting การทาให้คงตัวด้วยความร้อน (115-130 OC)
“ Untwisting การคลายเกลียว
“ Doubling การควบด้าย
(การตีเกลียวในทิศทางตรงกันข้าม)
1. กรรมวิธี Twisted-Heat Set Untwist (Helenca process)
ลักษณะด้ายยืดที่ผลิตโดยวิธีน:ี้
- ความยืดตัวสูงขึ้น 300%-500%
- ความพองฟูเพิ่มขึ้น 300%
- การคืนตัวจากการดึงยืดดีมาก
- ความยืดหยุ่นสูง มีรอยหยิกงอมาก
2. กรรมวิธี False-Twist
2. กรรมวิธี False-Twist

หลักการ: uptwisting heat setting untwisting


2. กรรมวิธี False-Twist
Uptwisting:

จานวนเกลียวต่อหน่วย = ความเร็วของแกนปั่น (รอบ/เวลา)


ความเร็วของเส้นด้าย (ความยาว/เวลา)
2. กรรมวิธี False-Twist
Heat setting:

ให้ความร้อนเพื่อให้เส้นใยอ่อนตัว

ทาให้เย็นแล้วคลายเกลียว
3. กรรมวิธี Edge Crimping
- ให้ความร้อนแก่เส้นด้าย
- ให้แรงสองชนิดกับเส้นด้ายในด้านตรงกันข้ามกัน
Extension zone
Compression zone
- ด้ายที่ผลิตได้มีลักษณะเป็นขดคล้ายสปริง เรียก ‘Agilon yarn’
4. กรรมวิธี Stuffer-box Crimping

- เส้นด้ายถูกอัดอยู่ใน stuff-box
(input speed > output speed)
- รอยหยิกงอเป็นฟันเลื่อย
- สามารถควบคุมความพองตัวและ
ความยืดตัวของเส้นด้ายได้
5. กรรมวิธี Air-jet (Looped yarns)

- ใช้แรงลมเป่าเส้นด้ายที่ผ่านการตีเกลียวแล้ว
- แรงลมทาให้เส้นใยกระจายออก เกิดเป็นห่วงอย่างถาวร
- เส้นด้ายจะมีความพองฟู แต่ไม่มีลักษณะยืดตัว
6. กรรมวิธี Gear Crimping

- ทาให้เกิดรอยหยิกงออย่างถาวร โดยผ่าน
การขบด้วยฟันเฟืองร้อน
- รอยหยิกมีลักษณะคล้ายฟันเลื่อย
7. กรรมวิธี Knit-de-knit

- นาเส้นด้ายเรียบไปถักเป็นผ้าผืน
- ทาให้คงตัวด้วยความร้อน
- เลาะเส้นด้ายออก
8. กรรมวิธีการทาเท็กซ์เจอไรส์แบบ Bicomponent

-ปั่นเส้นใยโดยใช้พอลิเมอร์สองชนิด ผ่าน spinneret พร้อมกัน


- (side by side spinneret)
- พอลิเมอร์ทั้งสองชนิดจะหดตัวไม่เท่ากัน ด้ายมีการขดตัวเป็นสปริง
ตารางเปรียบเทียบการผลิต textured yarn
กระบวนการผลิตผ้า
(Fabric Manufacturing)
การผลิตผ้า:
1. การทอผ้า (Weaving)

2. การถักผ้า (Knitting)

3. การทาผ้านอนวูฟเวน (Non-woven)
1. การทอผ้า (Weaving)
กรรมวิธีการผลิตผืนผ้าโดยใช้เส้นด้ายพุ่งและเส้นด้ายยืนมาขัด
ประสานกันจนได้เป็นผืนผ้า ด้วยเครื่องมือในการทอ เรียกว่า หูก หรือกี่

เส้นด้ายยืน (warp)
เส้นด้ายพุ่ง (weft)
การเตรียมเส้นด้ายพุ่ง (Filling yarn preparation)
แบ่งเป็น 2 แบบตามประเภทเครื่องทอ
1. การกรอด้ายพุ่งสาหรับเครื่องทอกระสวย
2. การเตรียมหลอดด้ายพุ่งสาหรับเครื่องทอไร้กระสวย
การเตรียมเส้นด้ายพุ่ง (Filling yarn preparation)
1. การเตรียมด้ายพุ่งสาหรับเครื่องทอกระสวย
เส้นด้ายที่ออกจากหลอดจะถูกดึงผ่านอุปกรณ์ควบคุมความตึง ผ่าน
กลไกหยุดเครื่องเมื่อเส้นขาด ผ่านกลไกการส่ายเส้นด้าย และเข้าสู่
หลอดด้ายพุ่งในขั้นตอนสุดท้าย
2. การเตรียมด้ายพุ่งสาหรับเครื่องทอไร้กระสวย
ส่วนใหญ่ใช้หลอดด้ายพุ่งที่มาจากโรงงานผลิตด้ายโดยตรง
คุณสมบัติของหลอดด้ายพุ่งที่ดี:
1. เส้นด้ายต้องทนต่อสภาพการดึงด้วยความเร็วสูงและไม่ขาดขณะทอ
2. ความหนาแน่นของหลอดด้ายต้องสม่าเสมอ
3. รอยต่อเส้นด้ายต้องเรียบร้อย ไม่เป็นปม
4. มีสภาพการเก็บและการขนส่งที่เหมาะสม
5. อุณหภูมิและความชื้นในการเก็บเส้นด้าย
การลงแป้งเส้นด้ายยืน
- เพื่อให้เส้นด้ายทนต่อการเสียดสี
- เพือ่ ลดอัตราการขาดของเส้นด้าย
สารลงแป้ง
แป้ง : ธรรมชาติและสังเคราะห์
สารช่วยอื่นๆ เช่น สารหล่อลื่น, สารป้องกันไฟฟ้าสถิตย์
เป็นต้น
2. การถักผ้า (Knitting)
เส้นด้ายที่ใช้ในการถักจะถูกเปลี่ยนให้อยู่ในรูปของ loop
เชื่อมต่อกันเป็นผ้าผืน
ลักษณะผ้าที่ได้จากการถัก:
- ผ้ามีความยืดหยุ่นดี
- ทนทานต่อรอยยับ
- มีความอ่อนนุ่ม ไม่แข็งกระด้าง
- โปร่ง ระบายอากาศ และให้ความอบอุ่นดี
2. การถักผ้า (Knitting)
“ การถักตามแนวนอน (weft knitting)

การนาเส้นด้ายมาคล้องเป็นห่วง
ต่อกันตามแนวนอน
2. การถักผ้า (Knitting)
“ การถักตามแนวดิ่ง (wrap knitting)

การนาห่วงมาคล้องต่อกันตามทิศทาง
ของแนวดิ่งสลับกัน
ชนิดของผ้าถัก
- ผ้าถักตามแนวนอน
ชนิดของผ้าถัก
- ผ้าถักตามแนวดิ่ง
3. Non-woven fabric
typically manufactured by putting small fibers
together in the form of a sheet or web, and then
binding them either mechanically or thermally binder.
3. Non-woven fabric
Non-woven polyester Woven polyester

You might also like