Professional Documents
Culture Documents
วิเคราะห์อภิมาน PDF
วิเคราะห์อภิมาน PDF
การอ่านและการแปลผลงานวิจัยการวิเคราะห์อภิมาน
Understanding and Interpretation of Meta-Analysis Study
การอ่านและการแปลผลงานวิจัยการวิเคราะห์อภิมาน
UNDERSTANDING AND INTERPRETATION OF META-ANALYSIS STUDY
สุรศักดิ์ เสาแก้ว, ภ.บ., ภ.บ.(บริบาลเภสัชกรรม), Ph.D.*
วิธีทดสอบโดยใช้ funnel plot ถือเป็นวิธีที่ เหล่านั้นได้แก่ Begg’s test30, 31, Egger’s test30, 31,
นิ ย มส�ำหรั บ การตรวจสอบอคติ จ ากการตี พิ ม พ์ 33 Harbord’s modified test 31, Peters’ test 31
หลักการทดสอบคือ การสร้าง scatter plot ระหว่าง วิธีการเหล่านี้สร้างขึ้นมาตามแนวคิดการศึกษาความ
ค่าที่แสดงถึง ขนาดอิทธิพล บนแกน x และค่าที่แสดง สั ม พั น ธ์ ท างสถิ ติ ข องขนาดอิ ท ธิ พ ล (effect size)
ถึงขนาดของตัวอย่างบนแกน y การตรวจสอบอคติ และค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (SE) อย่างไร
จากการตีพิมพ์ด้วยวิธีการนี้มีหลักการคือ การพิจาณา ก็ตามวิธีการทดสอบทางสถิติดังกล่าวก็มีข้อด้อยในแง่
ความสมมาตรของ funnel plot โดยในภาวะที่ ของก�ำลังในการตรวจสอบผลทางสถิติ (statistical
ไม่มีอคติจากการตีพิมพ์ ค่าที่แสดงถึงขนาดอิทธิพล power) ในปัจจุบันการตรวจสอบการมีอคติจากการ
ในงานวิ จั ย ที่ มี ข นาดเล็ ก จะมี ก ารกระจายมากและ ตีพิมพ์ด้วยวิธี funnel plot จึงยังคงเป็นที่นิยมและ
เป็นการกระจายตัวที่เท่ากัน (equally distributed) ได้รับการยอมรับมากที่สุด ดังนั้นการตรวจสอบด้วย
รอบค่ า เฉลี่ ย ของขนาดอิ ท ธิ พ ล ในขณะที่ ง านวิ จั ย ผลการทดสอบทางสถิติต่อไปนี้ จึงใช้เป็นเพียงข้อมูล
ที่ มี ข นาดใหญ่ จ ะมี ก ารกระจายแบบแคบๆ รอบๆ ประกอบในการตัดสินใจร่วมกับ funnel plot
ค่าเฉลี่ย ท�ำให้เกิดความสมมาตรของ funnel plot การวิเคราะห์ความไว
ซึ่งในกรณีที่ไม่มีความสมมาตรของ funnel plot นั่น การประเมินความมั่นคง (robustness) ของ
ย่อมแสดงถึงภาวะที่อาจจะมีอคติจากการตีพิมพ์ ทั้งนี้ ผลการศึกษา สามารถพิจารณาได้จากค่าผลรวมของ
วิ ธี funnel plot ไม่ ใ ช่ วิ ธี ที่ ส มบู ร ณ์ แ บบในการ ค่าอิทธิพล ซึ่งหากมีหลักฐานยืนยันความมั่นคงหรือ
ประเมินการมีอคติจากการตีพิมพ์ เนื่องจากภาวะไม่ ความคงที่ ห รื อ มี ค ่ า ใกล้ เ คี ย งกั น ผลลั พ ธ์ ข องการ
สมมาตรของกราฟอาจเกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่อคติ วิเคราะห์อภิมานนั้นก็สามารถน�ำไปใช้ได้อย่างมั่นใจ
จากการตีพิมพ์ การประเมิ น ความมั่ น คงนี้ ท�ำได้ โ ดยการ
การสร้าง funnel plot นั้น สามารถก�ำหนด วิเคราะห์อภิมานในหลายๆ สถานการณ์ตามปัจจัย
แกน x และแกน y ด้วยค่าต่างๆ เช่น บนแกน x ซึ่ง หรื อ ข้ อ ก�ำหนด (assumptions) 35 ซึ่ ง เรี ย กว่ า
แสดงค่าขนาดอิทธิพล อาจก�ำหนดเป็นค่า log odds “การวิเคราะห์ความไว (sensitivity analysis)”อาทิ
ratio, log risk ratio กรณีผลลัพธ์เป็นตัวแปรกลุ่ม การเลือกแบบจ�ำลองในการวิเคราะห์ ผู้วิจัยสามารถ
หรือ mean difference กรณีผลลัพธ์เป็นตัวแปรต่อ ก�ำหนดว่าจะใช้โมเดลแบบคงที่ในการวิเคราะห์หลัก
เนื่อง ในขณะที่แกน y แสดงถึงขนาดของตัวอย่าง อาจ และใช้โมเดลแบบสุ่มในการวิเคราะห์รอง หากผลรวม
ก�ำหนดเป็นค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (SE) ค่า ของการศึกษาและค่าช่วงความเชื่อมั่นไม่แตกต่างกัน
ความแม่นย�ำ (1/SE) ค่าความแปรปรวน (SE2) ส่วน จะท�ำให้ผู้วิจัยสามารถมั่นใจได้ว่า ผลการศึกษามีความ
กลับของความแปรปรวน (1/SE2) หรือขนาดตัวอย่าง มั่นคงและไม่ขึ้นกับว่าเลือกใช้แบบจ�ำลองชนิดใด การ
(sample size) ได้ซึ่งจะส่งผลให้รูป funnel มีลักษณะ วิเคราะห์ความไวนี้ อาจท�ำเพื่อประเมินความไวของ
แตกต่างกัน ทั้งนี้ Sterene และคณะ แนะน�ำให้สร้าง ผลการศึ ก ษาต่ อ ข้ อ ก�ำหนดอื่ น ๆ หรื อ ปั จ จั ย อื่ น ๆ
funnel plot ในแกน y โดยใช้ค่าความคลาดเคลื่อน ได้ เช่ น การวิ เ คราะห์ ค วามไว เมื่ อ ตั ด งานวิ จั ย ที่
มาตรฐาน (SE)34 (รูปที่ 5) คุณภาพต�่ำกว่าเกณฑ์ออก เป็นต้น ดังนั้นการวิเคราะห์
การประเมิ น funnel plot ว่ า มี ค วาม ความไวจึงเป็นวิธีหนึ่งที่ส�ำคัญในการประเมินความ
สมมาตรหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ไม่สามารถวัดได้ชัดเจน มั่นคงของผลการศึกษาจากการวิเคราะห์อภิมานต่อ
ดั ง นั้ น จึ ง ได้ มี ก ารเสนอวิ ธี ก ารทดสอบทางสถิ ติ ที่ ปัจจัยหรือข้อก�ำหนดต่างๆ
สามารถใช้ ต รวจสอบอคติที่เ กิดจากการตีพิมพ์ วิธี
4. Verde PE, Ohmann C. Combining 10. Liberati A, Altman DG, Tetzlaff J, Mulrow
randomized and non-randomized C, Gotzsche PC, Ioannidis JP, et al. The
evidence in clinical research: a review of PRISMA statement for reporting
methods and applications. Res Synth systematic reviews and meta-analyses
Methods. 2015;6(1):45-62. of studies that evaluate healthcare
5. Cameron C, Fireman B, Hutton B, Clifford interventions: explanation and
T, Coyle D, Wells G, et al. Network elaboration. BMJ. 2009;339:b2700.
meta-analysis incorporating randomized 11. Kazrin A, Durac J, Agteros T. Meta-meta
controlled trials and non-randomized analysis: a new method for evaluating
comparative cohort studies for assessing therapy outcome. Behav Res Ther.
the safety and effectiveness of medical 1979;17(4):397-9.
treatments: challenges and 12. Moher D, Liberati A, Tetzlaff J, Altman
opportunities. Syst Rev. 2015;4(1):147. DG. Preferred reporting items for
6. Saokaew S, Permsuwan U, Chaiyakunapruk systematic reviews and meta-analyses:
N, Nathisuwan S, Sukonthasarn A. the PRISMA statement. Ann Intern Med.
Effectiveness of pharmacist-participated 2009;151(4):264-9, w64.
warfarin therapy management: a 13. Pai M, McCulloch M, Gorman JD, Pai N,
systematic review and meta-analysis. J Enanoria W, Kennedy G, et al. Systematic
Thromb Haemost. 2010;8(11):2418-27. reviews and meta-analyses: an illustrated,
7. Jadad AR, Moore RA, Carroll D, Jenkinson step-by-step guide. Natl Med J India.
C, Reynolds DJ, Gavaghan DJ, et al. Assessing 2004;17(2):86-95.
the quality of reports of randomized 14. Sutton AJ, Abrams KR, Jones DR. An
clinical trials: is blinding necessary? Control illustrated guide to the methods of meta-
Clin Trials. 1996;17(1):1-12. analysis. J Eval Clin Pract. 2001;7(2):135-
8. Higgins J, Altman D, Sterne J. Assessing 48.
risk of bias in included studies. In: Higgins 15. Petitti D. Meta-analysis, decision analysis,
J, Green S, editors. Cochrane Handbook and cost-effectiveness analysis. 2 ed.
for Systematic Reviews of Interventions: New York: Oxford University Press; 2000.
The Cochrane Collaboration; 2009. 16. DerSimonian R, Laird N. Meta-analysis in
9. Moher D, Cook DJ, Eastwood S, Olkin I, clinical trials. Control Clin Trials.
Rennie D, Stroup DF. Improving the 1986;7(3):177-88.
quality of reports of meta-analyses of 17. Laopaiboon M, Lumbiganon P. Research
randomised controlled trials: the synthesis in healthcare. Khon Khaen:
QUOROM statement. Quality of Report- Klungnanawittaya; 2009.
ing of Meta-analyses. Lancet. 18. Sudchada P, Saokaew S, Sridetch S,
1999;354(9193): 1896-900. Incampa S, Jaiyen S, Khaithong W. Effect
แบบทดสอบการศึกษาต่อเนื่อง
สำ�หรับผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
จำ�นวนหน่วยกิตที่ได้รับ หน่วยกิต
1. ข้อใดไม่ใช่กระบวนด�ำเนินการวิจัยแบบการสืบค้น ง. งานวิจัยนี้ไม่มี publication bias เนื่องจาก
ข้อมูลอย่างเป็นระบบและการวิเคราะห์อภิมาน ผลการศึกษาไปทางเดียวกัน
ก. Analysis จ. งานวิ จั ย นี้ มี heterogeneity การใช้
ข. Selection random effects model จึงเหมาะสมแล้ว
ค. Randomization 4. จากรูป ข้อใดต่อไปนี้กล่าว ไม่ถูกต้อง
ง. Abstraction
จ. Identification
2. การวิเคราะห์ข้อมูลอภิมานแบบ fixed-effect
model เหมาะสมกับงานวิจัยที่มีลักษณะเช่นใด
ก. No publication bias
ข. Homogenous
ค. Heterogenous
ง. Either homogenous or heterogenous
จ. N e i t h e r h o m o g e n o u s n o r ก. งานวิจัยของ Mangoni AA (2005) มีผลต่อ
heterogenous ผลสรุปของงานวิจัยนี้มากที่สุด
ข. งานวิจัยนี้สามารถสรุปได้ว่าการรับประทาน
folic acid สามารถลด HbA1c ได้
ค. จากรูปไม่สามารถบอกได้ว่ามี publication
bias หรือไม่
ง. งานวิ จั ย นี้ มี heterogeneity การใช้
random effects model จึงเหมาะสมแล้ว
จ. โดยสรุปแล้ว การรับประทาน folic acid มี
แนวโน้มลด HbA1c 0.37 หน่วย
3. จากรูป ข้อใดต่อไปนี้กล่าว ไม่ถูกต้อง
ก. รูปนี้เรียกว่า forest plot
ข. งานวิจัยของ Mangoni AA (2005) มีผลต่อ
ผลสรุปของงานวิจัยนี้มากที่สุด
ค. งานวิจัยนี้สามารถสรุปได้ว่าการรับประทาน
folic acid สามารถลด serum homicysteine
ได้
6. การวิเคราะห์อภิมานโดยรวบรวมการศึกษา ศึกษาบางการศึกษาถูกตัดออกไป
เชิงทดลองแบบสุ่ม เพื่อศึกษาประสิทธิผล ค. เพื่ อ ทดสอบผลของค่ า อิ ท ธิ พ ลหากมี ก าร
ของ azathioprine (AZA) and mercap- ศึกษาบางการศึกษาเติมเข้ามา
topurine (MP) เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ ง. เพื่อทดสอบผลของค่าอิทธิพลกรณีที่มีการ
ยา (control) ในการป้องการกลับมาเป็นซ�้ำ วิเคราะห์แยกกลุ่มย่อย
ในผู้ป่วย ulcerative colitis ได้ผลดังตาราง จ. เพื่อทดสอบผลของค่าอิทธิพลหากมีการแยก
ข้อใด้กล่าวถูกต้องที่สุด วิเคราะห์การศึกษาตามรูปแบบงานวิจัย
ก. การศึกษานี้พบว่า AZA/MP มีประสิทธิผล 8. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ Funnel plot
ด้อยกว่า control เนื่องจาก odds ratio มี ก. สามารถบอกอิทธิพลของการศึกษาที่มีขนาด
ค่าเป็นบวก แสดงว่าเพิ่มความเสี่ยงมากกว่า ใหญ่ได้
กลุ่ม control ข. สามารถใช้ทดสอบความต่างแบบกันของการ
ข. การศึกษานี้พบว่า AZA/MP มีประสิทธิผล ศึกษาได้
เทียบเท่า control อย่างมีนัยส�ำคัญทางสถิติ ค. การวิเคราะห์อภิมานที่ไม่มี publication
เนื่องจากมีค่า p-Value = 0.22 bias คือต้องมีการกระจายของการศึกษา
ค. การศึกษานี้พบว่า AZA/MP มีประสิทธิผลดี รอบๆ ค่าผลรวมอิทธิพลเท่าๆ กันทั้ง 2 ฝั่ง
กว่ า control อย่ า งมี นั ย ส�ำคั ญ ทางสถิ ติ ง. การวิเคราะห์อภิมานทีม่ ีการกระจายของการ
เนื่องจากมีช่วงความเชื่อมั่นที่ 95% เท่ากับ ศึกษารอบค่าผลรวมอิทธิพลไม่เท่ากันทั้ง 2
1.51 – 4.34 ฝั่งนั้น จะมี publication bias เสมอ
ง. ยังไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากการศึกษาที่ จ. ไม่มีข้อใดถูก
น�ำมาวิเคราะห์ความต่างแบบกัน 9. ข้อใด้กล่าวถูกต้อง
(heterogeneity) สูง ก. การศึกษาที่ที่ผลลัพธ์รายงานผลเป็นค่าตัว
จ. ยังไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากการศึกษานี้มี แปรกลุ่ม จะรวมค่าผลรวมอิทธิพลด้วยค่า
ขนาดตั ว อย่ า งน้ อ ย (n=236) ไม่ มี ก�ำลั ง risk ratio เสมอ
(power) ในการทดสอบความแตกต่าง ข. การศึกษาที่ที่ผลลัพธ์รายงานผลเป็นค่าตัว
7. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์ความไว แปรกลุ่ม จะรวมค่าผลรวมอิทธิพลด้วยค่า
ในการวิเคราะห์อภิมาน odds ratio เสมอ
ก. เพื่ อ ประเมิ น ผลของการศึ ก ษากรณี ที่ มี ค. การศึกษาที่ที่ผลลัพธ์รายงานผลเป็นค่าตัว
ตัวอย่างน้อย แปรกลุ่ม จะรวมค่าผลรวมอิทธิพลด้วยค่า
ข. เพื่ อ ทดสอบผลของค่ า อิ ท ธิ พ ลหากมี ก าร hazard ratio เสมอ
ค. การศึกษาที่ท่ีผลลัพธ์รายงานผลเป็นค่าตัว
แปรต่อเนื่อง จะรวมค่าผลรวมอิทธิพลด้วย
ค่า weighted mean difference (WMD)
หากวัดด้วยเครื่องมีที่สเกลการวัดเดียวกัน
ง. การศึกษาที่ท่ีผลลัพธ์รายงานผลเป็นค่าตัว
แปรต่อเนื่อง จะรวมค่าผลรวมอิทธิพลด้วย
ค่า standard mean difference (SMD)
หากวัดด้วยเครื่องมีที่สเกลการวัดเดียวกัน
10. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. การศึกษาที่มีค่า I2 เกินกว่า 75% ห้ามน�ำมา
รวมกัน
ข. การศึกษาที่มีค่า I2 เกินกว่า 75% สามารถ
น�ำมารวมกัน โดยใช้ fixed-effect model
หรือ random-effect model ก็ได้
ค. การศึกษาที่มีค่า I2 ระหว่าง 50% - 75%
หากจะน�ำมารวมกัน ควรใช้ fixed-effect
model
ง. การศึกษาที่มีค่า I2 ระหว่าง 50% - 75%
หากจะน�ำมารวมกั น ควรใช้ random-
effect model
จ. ไม่มีข้อใดถูก
* หมายเหตุ ผ้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม สามารถส่งค�ำตอบมาที่
crm-jounal@hotmail.com หรื อ www.crhospital.org/cmj
โดยระบุ ชื่อ นามสกุล และหมายเลขใบประกอบวิชาชีพ