Professional Documents
Culture Documents
สรุปวิแพ่งเล่ม2
สรุปวิแพ่งเล่ม2
คำฟ้ องอุทธรณ์และคำฟ้ องฎีกา เป็ นคำฟ้ องอย่างหนึ่ง จึงต้องอยูใ่ นบังคับมาตรา 172 วรรคสอง โดย
ต้องแสดงสภาพแห่งข้อหา และคำขอบังคับ ให้ชดั แจ้ง โดยต้องแสดงเหตุผลในการคัดค้านคำพิพากษาของศาล
ชั้นต้นหรื อศาลอุทธรณ์ และคำขอท้ายอุทธรณ์ หรื อฎีกา ให้ชดั เจน แต่ไม่ตอ้ งระบุคำฟ้ องเดิม คำให้การและคำ
พิพากษาของศาลชั้นต้น เพราะมีอยูใ่ นสำนวนศาลแล้ว (ฎ.887/42 ป.)
คำร้องสอดตามมาตรา 51(1) ที่เข้ามาเป็ นคู่ความฝ่ ายที่สาม ผูร้ ้องสอดมีฐานะเป็ นโจทก์ ส่วนโจทก์เดิม
และจำเลยเดิมอยูใ่ นฐานะจำเลยใหม่ คำร้องสอดจึงต้องแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา และคำขอบังคับ ทั้ง
ข้ออ้างที่อาศัยเป็ นหลักแห่งข้อหานั้น หากไม่มี เป็ นคำร้องสอดที่ไม่ชอบ (ฎ. 1443/48)
2
ห้ ามฟ้องเรื่องเดียวกัน
เรื่ องเดียวกัน หมายถึง ข้ออ้างที่อาศัยเป็ นหลักแห่งข้อหาเป็ นอย่างเดียวกัน ( ถ้าเป็ นคดี
อาญาให้พิจารณาว่า เป็ นการกระทำอันเดียวกัน หรื อไม่ )
ถ้าข้ออ้างที่อาศัยเป็ นหลักแห่งข้อหาแตกต่างกัน แม้คำขอจะเป็ นอย่างเดียวกัน ก็ถือไม่ได้วา่ เป็ นการฟ้ อง
เรื่ องเดียวกัน ไม่เป็ นฟ้ องซ้อน (ฎ. 1091-2/37, 5441/45)
ในคดีฟ้องขับไล่โจทก์ขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีแก่บริ วาร ภายหลังมาฟ้ องบริ วารคนดังกล่าวเป็ นคดี
ต่างหาก ดังนี้ การออกหมายบังคับคดีไม่ใช่เป็ นการฟ้ องคดีต่อศาล ฟ้ องคดีหลังไม่เป็ นฟ้ องซ้อน (ฎ. 819/33)
ค่าเสี ยหายหรื อคำขอใดที่โจทก์สามารถเรี ยกร้องได้อยูแ่ ล้วในคดีก่อน ซึ่งอยูใ่ นระหว่างพิจารณา โจทก์
จะมาฟ้ องเรี ยกร้องเพิ่มเติมเป็ นคดีใหม่ไม่ได้ เป็ นฟ้ องซ้อน (ฎ. 471/41,4517/42)
แม้ในคดีก่อนโจทก์จะได้กล่าวสงวนสิ ทธิวา่ จะฟ้ องเรี ยกค่าเสี ยหายเพิ่มเติมได้กต็ าม ก็ไม่ก่อให้เกิดสิ ทธิ
พิเศษแต่อย่างใด (ฎ. 2427-8/20)
โจทก์ฟ้องขอให้ขบั ไล่และเรี ยกค่าเสี ยหายทั้งสองคดี แม้จะอาศัยสัญญาเช่าคนละฉบับมาเป็ นมูลฟ้ อง ถ้า
ปรากฎว่าสัญญาเช่าที่โจทก์นำมาฟ้ องในคดีหลังมีอยูแ่ ล้วในขณะที่โจทก์ฟ้องคดีก่อน โจทก์จึงสามารถอ้างเป็ น
เหตุในคดีก่อนได้อยูแ่ ล้ว ฟ้ องโจทก์คดีหลังจึงเป็ นฟ้ องเรื่ องเดียวกัน เป็ นฟ้ องซ้อน (ฎ. 7265/44)
ข้อสังเกต หลักที่วา่ ค่าเสี ยหายที่โจทก์อาจเรี ยกร้องในคดีก่อนที่อยูใ่ นระหว่างพิจารณาได้อยูแ่ ล้ว มาฟ้ อง
ใหม่เป็ นฟ้ องซ้อน ดังนี้ แม้ความเสี ยหายดังกล่าวเพิ่มปรากฏภายหลังฟ้ องก็ตาม โจทก์กช็ อบที่จะขอแก้ไขเพิ่ม
เติมค่าเสี ยหายในภายหลังได้ ฟ้ องใหม่เป็ นฟ้ องซ้อน (ฎ. 1803/12) เรื่ องนี้ มูลเหตุเรี ยกค่าเสี ยหายเกิดขึ้นก่อน
ฟ้ องแล้ว เพียงแต่ความเสี ยหายปรากฏขึ้นในภายหลังฟ้ องแล้ว โจทก์นำมาฟ้ องใหม่เป็ นฟ้ องซ้อน แต่ถา้ มูลเหตุ
เรี ยกร้องค่าเสี ยหายเกิดขึ้นภายหลังฟ้ องคดีเดิมแล้ว ดังนี้ ฟ้องใหม่ได้ไม่เป็ นฟ้ องซ้อน เช่นคดีก่อนฟ้ องอ้างเหตุวา่
ผิดสัญญา ระหว่างพิจารณาสัญญาหมดอายุ จึงฟ้ องอีกได้โดยอ้างเหตุสญ ั ญาระงับ (ฎ. 316/11)
ถ้าคดีแรกโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย ส่ วนคดีหลัง ฟ้ องเรี ยกให้จำเลยรับผิดตามข้อตกลงต่างหากจากสัญญา
เช่า ไม่เป็ นเรื่ องเดียวกัน ไม่เป็ นฟ้ องซ้อน (ฎ. 2578/35)
5
การฟ้ องขอแบ่งทรัพย์มรดกจากทายาทคนเดียวกัน ไม่วา่ จะเป็ นทรัพย์มรดกอย่างเดียวกันหรื อต่างชนิด
กัน ถือว่าเป็ นทรัพย์มรดกรายเดียวกัน ต้องฟ้ องให้เสร็ จสิ้ นไปในคราวเดียวกัน มิฉะนั้นถือว่าเป็ นฟ้ องซ้อนได้ ซึ่ง
ถือว่าเป็ นการฟ้ องในเรื่ องเดียวกันกับคดีฟ้องขอแบ่งมรดกคดีก่อนที่อยูใ่ นระหว่างพิจารณาของศาล (ฎ. 121/06)
แต่ถา้ เป็ นคดีที่ทายาทฟ้ องทายาทอื่นหรื อผูจ้ ดั การมรดก ซึ่งนำที่ดินไปโอนขายโดยไม่ชอบโดยนำที่ดิน
ไปโอนขายโดยไม่ชอบโดยนำที่ดินไปโอนขายคนละคราวกัน จึงฟ้ องขอให้เพิกถอน มูลเหตุในการฟ้ องจึงเกิด
ขึ้นคนละคราวกัน แม้จะมีคำขอให้แบ่งมรดกแก่ทายาทด้วย ก็ไม่เป็ นฟ้ องซ้อน (ฎ. 6344/40, 175/41)
ทายาทฟ้ องเรี ยกทรัพย์มรดกต่างชนิดกันจากบุคคลภายนอกคนเดียวกันหลายครั้งได้เพราะเป็ นการใช้
สิ ทธิเอาคืนทรัพย์มรดกจากผูไ้ ม่มีสิทธิยดึ ไม่ใช่การฟ้ องแบ่งมรดก จึงไม่เป็ นฟ้ องซ้อน (ฎ. 11/05)
ฟ้ องขอแบ่งสิ นสมรสเป็ นคดีหนึ่งแล้ว ฟ้ องแบ่งสิ นสมรสอีกไม่ได้ เป็ นฟ้ องซ้อน (ฎ. 5210/40)
ผลของการถอนฟ้อง
คำว่าลบล้างผลแห่งการยื่นคำฟ้ อง รวมทั้งกระบวนพิจารณาอื่นๆภายหลังยืน่ คำฟ้ องเท่ากับไม่มีการยืน่
ฟ้ องมาก่อนเลย และกระบวนพิจารณาอื่นๆภายหลังจากยืน่ คำฟ้ องก็ถูกลบล้างไปด้วย เช่นการยืน่ คำให้การจองจำ
เลยก็ถูกลบล้างไปด้วย ถือว่าจำเลยไม่ได้ยนื่ คำให้การต่อสู้คดีโจทก์ จำเลยร่ วมคนอื่นจึงไม่อาจถือเอาประโยชน์
จากคำให้การของจำเลยที่โจทก์ขอถอนฟ้ องตามมาตรา 59 (ฎ. 1938/40)
การที่โจทก์ขอถอนฟ้ องโดยแถลงว่าไม่มีความประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป มีความหมายว่าไม่ประสงค์
จะดำเนินคดีแก่จำเลยในคดีน้ นั เท่านั้น โจทก์จึงฟ้ องจำเลยเป็ นคดีใหม่ได้ (ฎ.2319/43, 3998/40)
แต่ถา้ โจทก์แถลงต่อศาลอย่างชัดแจ้งว่า จะไม่ฟ้องจำเลยในเรื่ องเดียวกันอีก ดังนี้ โจทก์ฟ้องจำเลยใหม่อีก
ไม่ได้ เช่น แถลงว่าจะไม่ฟ้องจำเลยเกี่ยวกับทรัพย์พิพาทนั้นอีก (ฎ. 2002/11)
9
ข้อสังเกต คำฟ้ องที่ถอนแล้วจะฟ้ องใหม่ได้ตามมาตรา 176 ได้อีกนั้น หมายถึงการถอนฟ้ องนั้นได้
ถึงที่สุดแล้ว หากมีการอุทธรณ์หรื อฎีกาคำสัง่ ศาลที่อนุญาตให้ถอนฟ้ องต่อไปอีก ระหว่างนี้จะฟ้ องใหม่ไม่ได้ เป็ น
ฟ้ องซ้อน (ฎ. 3522/29)