Professional Documents
Culture Documents
โมเมนต์บิดเกิดขึ้นในองค์อาคารเมื่อน้้าหนักบรรทุกกระท้าเยื้องศูนย์ออกห่างจากแนวแกนองค์อาคาร
ดังเช่นในรูป 9.1, คานโค้ง, คานรับพื้นยื่นในรูปที่ 9.2(ก) และคานขอบอาคารในรูปที่ 9.2(ข) ซึ่งคาน
ทั่วไปจะมีโมเมนต์ดัดและแรงเฉือนเกิดขึ้นอยู่แล้ว ดังนั้นโมเมนต์บิดจึงมักเกิดร่วมกับโมเมนต์และแรง
เฉือนและบางครั้งก็เกิดร่วมกับแรงในแนวแกน
P
P
mt
(ก) การบิดในคานรับพื้นยื่น
mt
A
B
T
(ข) การบิดในคานขอบอาคาร
A B A B
คานขอบให ่ คานขอบเล็ก
(ค) โมเมนต์ในพื้นอาคาร
รูปที่ 9.2 คานรับโมเมนต์บิดจากพื้นอาคาร
หน่วยแรงและการแตกร้าวจากการบิด
เมื่อคานในรูปที่ 9.3 รับโมเมนต์บิด T หน่วยแรงเฉือนที่ผิวด้านบนและด้านข้างคานจะเป็นดังแสดง
ในรูป 9.3(ก) หน่วยแรงหลักจะเป็นดังแสดงในรูปที่ 9.3(ข) หน่วยแรงดึงหลักจะมีค่าเท่ากับหน่วย
แรงอัดหลักและเท่ากับหน่วยแรงเฉือน ซึ่งถ้าคานรับเพียงโมเมนต์บิด T หน่วยแรงดึงหลักจะท้าให้
เกิดการแตกร้าวเป็นเกลียวโดยรอบองค์อาคารดังในรูปที่ 9.3(ค)
ก หน่วยแรงเฉือน
ข หน่วยแรงหลัก
ค การแตกร้าว
รูปที่ 9.3 หน่วยแรงหลักและการแตกร้าวจากการบิดอย่างเดียว
การกระจายหน่วยแรงเฉือนจากการบิดบนหน้าตัดสี่เหลี่ยมผืนผ้าจะไม่ง่ายเหมือนในหน้าตัดกลม ซึ่ง
จากทฤษฎีอิลาสติก หน่วยแรงเฉือนมากที่สุดบนหน้าตัดสี่เหลี่ยมผืนผ้าสามารถค้านวณได้จาก
T
max (9.1)
x 2y
เมื่อ T โมเมนต์บิดที่มากระท้า
x ด้านสั้นของหน้าตัดสี่เหลี่ยมผืนผ้า
y ด้านยาวของหน้าตัดสี่เหลี่ยมผืนผ้า
สัมประสิทธิ์ขึ้นกับอัตราส่วน y/x มีค่าตามตารางข้างล่าง
การกระจายหน่ ว ยแรงเฉือนเป็ นดังในรูป ที่ 9.4 หน่ว ยแรงเฉือนมากที่สุ ดจะเกิดขึ้น ที่ ผิ ว บนแนว
กึ่งกลางของด้านยาว y
max
y y
T
กาลังโมเมนต์บิดแตกร้าว
เมื่อคานคอนกรีตรับโมเมนต์บิดเพิ่มขึ้นจนกระทั่งเกิดการแตกร้าว เมื่อหน่วยแรงดึงหลักมากที่สุดถึง
ค่าก้าลังดึงของคอนกรีต เราเรียกโมเมนต์บิดที่ท้าให้คอนกรีตเริ่มเกิดการแตกร้าวนี้ว่า โมเมนต์บิด
แตกร้าว (Cracking torque, Tcr) การเสริมเหล็กจะมีผลเพียงเล็กน้อยต่อค่า Tcr นี้เนื่องจากเหล็ก
เสริมจะเริ่มท้างานเมื่อคอนกรีตมีการแตกร้าวเสียก่อน
หลังจากการแตกร้าวก้าลังบิดของหน้าตัดจะเพิ่มขึ้นตามปริมาณเหล็กเสริมดังในรูปที่ 9.5 จาก
ผลของการทดสอบพบว่าค่าก้าลังที่ได้ของหน้าตัดสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีค่าใกล้เคียงกับหน้าตัด กลวงรูป
กล่อง (Hollow box-beam) ซึ่งมีสมการในการหาความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยแรงเฉือนภายในและ
โมเมนต์บิดที่มากระท้าที่ง่ายกว่า นั่นคือใช้สมมุติฐานของ การไหลเฉือนในท่อผนังบาง (Shear flow
in thin-walled tube)
Tn
Solid Hollow
Tcr solid section
A0 t เมื่อ A0 คือพื้นที่ที่ล้อมรอบโดยเส้นทางของแรงเฉือนไหล
q ส้าหรับท่อผนังหนา t, หน่วยแรงเฉือนที่กระท้าในผนังท่อจะเท่ากับ
T q T
(9.3)
t 2 A0 t
เนื่องจาก A0 คือพื้นที่ที่ล้อมรอบโดยแรงเฉือนไหลซึ่งจะต้องมีค่าเป็นสัดส่วนกับพื้นที่ที่ถูกล้อม
โดยเส้นรอบรูปภายนอก Acp ดังนั้นค่า t จึงสามารถถูกประมาณเป็นสัดส่วนของ Acp/pcp เมื่อ pcp
คือเส้นรอบรูปของหน้าตัด
ส้าหรับหน้าตัดตันรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า t จะประมาณหนึ่งในหกถึงหนึ่งในสี่ของความกว้างน้อย
ที่สุด โดยใช้ค่าหนึ่งในสี่และความกว้างต่อความยาว 0.5 จะให้ค่า A0 ประมาณเท่ากับ (2/3)Acp และ
ค่า t = (3/4)Acp/pcp แทนค่าทั้งสองลงในสมการ (9.4) จะได้
2
Acp
Tcr 1.1 fc ก.ก.-ซม. (9.5)
pcp
t t
hw hw
b b
3 ton
วิธีทา
15 cm
เส้นรอบรูปหน้าตัด pcp 2(60+30) = 180 ซม.
ดังนั้นไม่ต้องคิดผลของแรงบิดในคาน
กาลังบิดของคานคอนกรีตเสริมเหล็ก
หลังเกิดการแตกร้าวจากการบิด คอนกรีตเปลือกนอกที่ห่อหุ้มอยู่จะกะเทาะออกไป โมเมนต์บิดจะถูก
ต้านทานโดยเหล็กปลอกปิด เหล็กนอน และคอนกรีตที่อยู่ภายในเหล็กปลอก
พื้นที่ A0h ที่ใช้ค้านวณจะใช้พื้นที่ที่ถูกโอบล้อมโดยเหล็กปลอกวัดตามแนวศูนย์กลางเหล็ ก
ปลอกดังในรูปที่ 9.9 ในกรณีของหน้าตัดสี่เหลี่ยมผืนผ้า A0h = x0y0 และเส้นรอบรูป ph = 2(x0 + y0)
เมื่อ x0 และ y0 คือระยะระหว่างศูนย์กลางเหล็กปลอกด้านสั้นและด้านยาวตามล้าดับ
y A0h y y
x x x
y0
V1
V2
V4
V3
เหล็กนอน
แผ่นคอนกรีตทแยงรับแรงอัด
V4 V4
N4
N4/2
เมื่ อ ph คื อ เส้ น รอบรู ป ที่ วั ด จากเส้ น ผ่ าศู น ย์ ก ลางปลอกปิ ด เหล็ ก เสริ ม ในแนวนอนจะต้ อ งถู ก
จัดเตรียมเพื่อรับแรงตามแนวแกนที่เพิ่มชึ้น N ซึ่งถ้าออกแบบให้เหล็กถึงจุดคราก
At fyvph
Al fyl (9.14)
s
A t fyv
และ Al ph (9.15)
s fyl
เมื่อ Al พื้นที่เหล็กนอนทั้งหมดที่ต้องการเพื่อต้านทานการบิด (ซม.2)
fyl ก้าลังครากของเหล็กเสริมรับการบิดในแนวนอน (กก./ซม.2)
ก้าลั งต้านทานการบิด Tn ต้องมีค่าไม่น้อยกว่าแรงบิดประลัย Tu ในการค้านวณ Tn ตามวิธีของ
ACI ในสมการ (9.11) นั้นจะสมมุติให้แรงบิดทั้งหมดถูกต้านทานโดยเหล็กปลอกปิดและเหล็กนอน
โมเมนต์บิด Tc ซึง่ ต้านทานโดยคอนกรีตจะถูกสมมุติให้เท่ากับศูนย์ ในขณะทีส่ มมุตกิ า้ ลังต้านทานแรง
เฉือน Vc ของคอนกรีตไม่เปลี่ ยนแปลงเมื่อเกิดโมเมนต์ บิด ดังนั้นการค้านวณจึงไม่ยุ่งยากเหมือน
มาตรฐานเก่าที่ ต้องใช้สู ตรปฏิสั มพั นธ์ของ V, T และ M ในการเสริมเหล็ กเพื่อรับแรงเฉือนจะ
พิจารณาจากค่า Vs = Vn – Vc ในขณะที่เหล็กเสริมรับแรงบิดจะใช้ค่า Tn
A0h/ph ในรู ป ที่ 9.13(ก) หน้ า ตั ด กลวงหน่ ว ยแรงทั้ ง สองจะรวมกั น บนด้ า นหนึ่ ง ขององค์ อ าคาร
ต้องมีค่าไม่เกินหน่วยแรงเฉือนมากที่สุด
v t
Vu Tp V
u h2 c 2.1 fc (9.16)
bd 1.7A0h bd
เส้ น รอบรู ป ตามสมมุ ติ ฐ านท่ อกลวง ในขณะที่ v กระจายไปทั่ ว ทั้ งหน้ าตั ด สมการที่ ใช้ ในการ
ตรวจสอบคือ
2 2
Vu Tu ph V
2
c 2.1 fc (9.17)
bw d 1.7A0h bd
Vn Vc Vs (5.10)
จากก้ าลั งเฉื อ นของเหล็ ก ปลอก Vs Av fyvd / s แทนที่ จ ะออกแบบโดยเลื อ กเหล็ ก ปลอกและ
ระยะห่าง เราจะค้านวณเป็นอัตราส่วน Av / s เก็บไว้เพื่อไปรวมกับปริมาณเหล็กปลอกที่จะต้องการ
เพิ่มเติมเพื่อต้านทานการบิด
Av Vs
(9.18)
s fyv d
Tcr
2
Acp
Tu 0.275 fc (9.20)
4 pcp
การเสริมเหล็กรับแรงบิด
หากโมเมนต์บิดประลัย Tu มีค่าเกิน 25% ของก้าลังต้านทานโมเมนต์บิด ในสมการ (9.20) จะต้อง
เสริมเหล็กเพิ่มเติมเพื่อต้านทานการแตกร้าว แทนค่าสมการ (9.11) ลงใน (9.19) จะได้
Tu 2A t fyv A0
Tn (9.21)
s
ปริมาณเหล็กปลอกที่ต้องการเพื่อต้านทานการบิด
2At Tu
(9.22)
s fyv A0
เหล็กปลอกร่วมรับแรงเฉือนและโมเมนต์บดิ
เมื่อน้าเหล็กปลอกรับแรงบิด At/s มารวมกับเหล็กปลอกรับแรงเฉือน Av/s ซึง่ มีหน่วยเป็น ซม.2/ซม.
เหล็กนอนร่วมรับโมเมนต์ดัดและโมเมนต์บิด
เหล็กนอนที่ค้านวณเพื่อรับโมเมนต์ดัดนั้นจะเป็นเหล็กล่างถ้าเป็นโมเมนต์บวกและเหล็กบนเพื่อรับ
โมเมนต์ลบ ในขณะที่เหล็กนอนเพื่อต้านทานโมเมนต์บิด
A t fyv
Al ph (9.25)
s fyl
จะวางกระจายตามเส้นรอบรูปหน้าตัดภายในเหล็กปลอกปิดโดยมีระยะห่างมากที่สุดไม่เกิน 30 ซม.
มีเหล็กอย่างน้อยหนึ่งเส้นในแต่ละมุมของเหล็กปลอก เส้นผ่าศูนย์กลางเหล็กนอนน้อยที่สุดคือ 1/24
ระยะห่างเหล็กปลอก แต่ต้องไม่น้อยกว่า DB10 และต้องเสริมเหล็กรับการบิดเลยจุดที่ต้องการไป
เป็นระยะ bt + d เมื่อ bt คือความกว้างของส่วนนั้นที่มีเหล็กปลอกต้านทานการบิด
ACI ยอมให้ปริมาณของ Al ในบริเวณรับแรงอัดจากการดัดลดลงได้เท่ากับ
Mu / 0.9dfyl
เมื่อ Mu เป็นโมเมนต์ดัดประลัยกระท้าที่หน้าตัดที่ถูกร่วมกระท้าโดย Tu
ปริมาณเหล็กนอนน้อยที่สุด
ปริมาณเหล็กนอนที่ค้านวณจากสมการ (9.25) ต้องมีค่าไม่น้อยกว่า
1.3 fc Acp A f
Almin t ph yv (9.26)
fyv s fyl
ปริม าณเหล็ ก นอน Al น้ อยที่ สุ ด ในสมการ (9.26) นั้ น มี เพื่ อ คงอัต ราส่ ว นเหล็ ก เสริมต่ อปริม าตร
คอนกรีตประมาณ 1% ส้าหรับคอนกรีตเสริมเหล็กรับโมเมนต์บิดเพียงอย่างเดียว
ซม.2 จงออกแบบเหล็กเสริมรับแรงบิดและแรงเฉือน
8m 1.5 m
45 cm
60 cm
45 cm
15 cm
30 cm
1,266 ก.ก./เมตร
ระยะเยื้องศูนย์ 1.5/2 0.75 เมตร
น้้าหนักบรรทุกบนคาน wu 1.4(0.6)(0.3)(2,400) + 1.7(1,200)
2,645 กก./เมตร
แรงเฉือนที่ผิวเสา Vu (1.266+2.645)8/2 15.6 ตัน
แรงบิดที่ผิวเสา Tu (1.266)(0.75)8/2 3.8 ตัน
โมเมนต์ดัด Mu (1.266+2.645) )82/10 25.0 ตัน-เมตร
ที่หน้าตัดวิกฤตที่ระยะ d จากผิวเสา
Vu 15.6(3.46/4) 13.5 ตัน
2. ออกแบบเหล็กเสริมรับการดัด
Mu 25 105
Rn 31.8 กก./ซม.2
b d2 0.9 30 542
2 2
13.5 3.3(100)(148) 0.85
1,620 1.7(1,144)2 0.53 2.1 280
1,000
5. เหล็กปลอกรับแรงบิด
At 3.3(100)(1,000)
0.0575 ซม.
s 2(0.85)(972.4)(4,000)
6. เหล็กปลอกรับแรงเฉือน
Vc 0.85(0.53) 280(30)(54) / 1,000 12.2 ตัน
Av
Vu Vc
(13.5 12.2)(1,000)
0.0071 ซม.
s fyd 0.85(4,000)(54)
7. เหล็กปลอกรวมทั้งหมด
A vt
0.007 2(0.050) 0.107 ซม.
s
bw A vt
3.5 3.5(30) / 4,000 0.026 ซม. < OK
fy s
B
A
C
TAD
P
A B
MA
T = MA
TAC
TAC
T = MA MA
ขนาดของโมเมนต์บิดที่เกิดขึ้นจะขึ้นกับสัดส่วนระหว่างสติฟเนสการบิดของคาน CD และ
สติฟเนสการดัดของคาน AB ถ้าจุด C และ D ยอมให้หมุนได้อิสระรอบแกน CD โมเมนต์บิด T จะ
เท่ากับศูนย์ แต่ถ้าจุด C และ D ไม่สามารถหมุนได้ หรือสติฟเนสการบิดของคาน CD มีสูงกว่าสติฟ
เนสการดัดของคาน AB มาก
โมเมนต์ MA ก็จ ะมีค่ามากที่สุดเท่ากับโมเมนต์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อปลาย A เป็นปลายยึดแน่น
(Fixed end) ดังนั้นขนาดของโมเมนต์บิด T และโมเมนต์ดัด MA จะเกิดจากการที่มุมที่ปลายคาน A
ต้องเที ย บเท่ากับ (Compatible) มุ มบิ ดของคาน CD ที่ จุด A และเมื่อ มีโมเมนต์ MA ก็จะท้าให้
โมเมนต์ที่กลางช่วงคาน AB ลดลง แต่เมื่อคานแตกร้าวจากการบิด สติฟเนสการบิดจะลดลง โมเมนต์
บิด T และโมเมนต์ดัด MA จะลดลง โมเมนต์ที่กลางช่วงคานก็จะเพิ่มขึ้น
ถ้าโมเมนต์บิด Tu สามารถถูกค้านวณได้โดยใช้สภาวะสมดุล เราก็จะออกแบบองค์อาคาร
เพื่อรับ Tu ได้ตามขั้นตอนที่ได้กล่าวมาแล้ว แต่ถ้าเป็นการบิดเทียบเท่าและมีการลดลงของโมเมนต์
1 2
0.2 m
A
7.0 m
6.6 m
B
Columns
40 cm x 40 cm
9.6 m
10 m
60 cm
- 24.6 t-m
- 39.4 t-m
(ก) แผนภูมิโมเมนต์ดัด
9.04x6.6/2 = 29.8 t
w = 9.04 t/m
60 cm
1.6 t/m
30 cm
7.44 t/m
คานขอบ
A คานย่อย
5.95 t-m/m
10 cm
9.04 t/m
โมเมนต์บิดมีค่าคงงที่กระจายตลอดความยาวคานขอบ เขียนเป็นแผนภูมิเช่นเดียวกับแผนภูมิแรง
เฉือนได้ดังในรูปที่ 9.21
9.04 t/m
8.18 t-m/m
8.18 t-m/m
9.04 t/m
wt = 8.18 t-m/m
27.0 t-m
รูปที่ 9.21 แผนภูมิโมเมนต์บิดรอบในคานขอบ
4. ตรวจสอบโมเมนต์บิดแตกร้าว
ถ้า Tu Tcr / 4 ต้องพิจารณาออกแบบต้านทานการบิด
ระยะปีกยื่นใช้ค่าที่น้อยกว่าระหว่าง:
50 cm
15 cm
- ความลึกคานใต้ปีก 50 – 15 35 ซม.
35 cm
- สี่เท่าความหนาปีก 4 15 60 ซม.
60 cm 35 cm
ใช้ 35 ซม. ดังในรูปที่ 9.22
รูปที่ 9.22 หน้าตัดประสิทธิผลต้านทานการบิด
Acp 5060 + 1535 3,525 ซม.2
(ก) แผนภูมิโมเมนต์บิดเดิม
27.0 t-m
6. ตรวจสอบผลร่วมกระทาของแรงเฉือนและโมเมนต์บิด
ส้าหรับหน้าตัดสี่เหลี่ยมตัน ขีดจ้ากัดของหน่วยแรงเฉือนร่วมกระท้าของแรงเฉือนและโมเมนต์บิด
พิจารณาได้จาก
2 2
Vu Tu ph V
b d 1.7 A 2 c 2.1 fc
0h bd
15 cm
35 cm
40.8 50.8 2,073 ซม.2
V
c 2.1 fc 0.85(0.53 2.1) 280 37.4 ก.ก./ซม.2
bd
เนื่ องจากหน่ วยแรงร่ วมกระท้ าที่เกิดขึ้น 20.3 ก.ก./ซม.2 น้ อยกว่าขีดจ้ากัด 37.4 ก.ก./ซม.2
ดังนั้นหน้าตัดมีขนาดเพียงพอ
7. คานวณเหล็กปลอกที่ต้องการเพื่อรับแรงเฉือน
Vc 0.53 280 60 44 / 1,000 23.4 ตัน
Av V / Vc 30.3 / 0.85 23.4
u 0.0696 ซม.
s fyt d 4.0 44
8. คานวณเหล็กปลอกที่ต้องการเพื่อรับโมเมนต์บิด
9. คานวณเหล็กปลอกร่วมเพื่อรับแรงเฉือนและโมเมนต์บิด
Avt A 2A t
v 0.0696 2 0.0559 0.1814 ซม.
s s s
3.5b
เหล็กปลอกน้อยที่สุด 0.0525 ซม. < 0.1814 ซม. OK
fyt
เลือกเหล็กปลอกปิด DB12 (Av+t = 21.13 = 2.26 ซม.2)
ใช้เหล็กปลอก DB12 @ 0.12 ม. (Av+t /s = 2.26/12 = 0.1883)
ระยะปลอกมากที่สุด s = ph / 8 = 183.2/8 = 22.9 < 30 ซม.มากกว่าที่ใช้ 12 ซม. OK
10. คานวณเหล็กนอนที่ต้องการเพิ่มเติมเพื่อต้านทานการบิด
At f
Al ph yt 0.0559 183.2 10.24 ซม.2 ควบคุม
s fyl
15 cm
เหล็กบนและล่าง 3(10.24)/8 3.84 ซม.2 35 cm
ซึ่งจะน้าไปรวมกับเหล็กนอนรับการดัดต่อไป
60 cm 35 cm
เหล็กกลาง 2(10.24)/8 2.56 ซม.2
รูปที่ 9.25 การกระจายเหล็กนอนรับการบิด
ใช้ 2 DB16 (As 4.02 ซม.2)
60 cm 60 cm 60 cm
ปัญหาท้ายบทที่ 9
50 cm
3DB25 5DB25
30 cm 40 cm
25 cm 80 cm 10 cm
35 cm
60 cm
60 cm
50 cm
25 cm
5DB20 3DB25
40 cm 30 cm
9.2 คานยื่ น รองรับ น้้ าหนั กบรรทุ กจรกระท้าเป็ นจุด 8 ตั น กระท้าที่ระยะ 1 ม . จากผนังรองรับ
นอกจากนั้นคานยังต้องรับโมเมนต์บิด Tu = 3 ตัน-เมตร หน้าตัดคานมีขนาด 30 ซม. 60 ซม.
ความลึกประสิทธิผล 54 ซม. จงออกแบบเหล็กปลอกและเหล็กนอนที่ต้องเพิ่มขึ้น ก้าหนด f = c
3m
1m
Vu1 Beam CL
Vu2
Vu3
1.5 m
3m
Tu = 7 t-m
m
m
m
B x cm
m m