Professional Documents
Culture Documents
สารบัญ
หน้า
บทที่ 1 บทนา 1-1
1.1 เหตุผลและความเป็นมา 1-1
1.2 วัตถุประสงค์ 1-1
1.3 ขอบเขตการศึกษาและกรอบแนวทางการศึกษา 1-2
สารบัญ-1
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
สารบัญ (ต่อ)
หน้า
บทที่ 6 พัฒนาแบบจาลองระดับประเทศและการประยุกต์ใช้ 6-1
6.1 การปรับปรุงและออกแบบพัฒนาโครงสร้างแบบจาลอง 6-1
6.2 การสารวจข้อมูลเพื่อปรับปรุงแบบจาลองด้านการขนส่งและจราจรระดับประเทศ (NAM) 6-4
6.3 การวิเคราะห์และการพัฒนาแบบจาลองปีอนาคต 6-6
สารบัญ-2
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
สารบัญตาราง
หน้า
ตารางที่ 3-1 จานวนตัวอย่างการสารวจจากการศึกษาที่ผา่ นมาและจานวนตัวอย่างในโครงการ TDS 3-1
ตารางที่ 5-1 การพัฒนาและปรับปรุงแบบจาลอง EBUM จนถึงปัจจุบนั 5-2
ตารางที่ 5-2 รายการปรับปรุงข้อมูลเศรษฐกิจและสังคม 5-5
ตารางที่ 5-1 การพัฒนาและปรับปรุงแบบจาลอง EBUM จนถึงปัจจุบนั 5-2
ตารางที่ 5-2 รายการปรับปรุงข้อมูลเศรษฐกิจและสังคม 5-5
ตารางที่ 5-3 ผลคาดการณ์ข้อมูลด้านเศรษฐกิจสังคม 5-8
ตารางที่ 5-4 อัตราการสร้างการเดินทาง (TRIP RATE) ในแต่ละวัตถุประสงค์ของการเดินทาง 5-11
ตารางที่ 5-5 อัตราการดึงดูดการเดินทาง 5-12
ตารางที่ 5-6 ค่าใช้จ่าย VOC และ VOT ปี พ.ศ.2560 5-15
ตารางที่ 5-7 ปรับเทียบปริมาณผูโ้ ดยสารรถไฟฟ้า 5-16
ตารางที่ 5-8 ปรับเทียบปริมาณจราจรเฉลี่ย 5-16
ตารางที่ 5 9 ปริมาณการเดินทางแต่ละรูปแบบ 5-18
ตารางที่ 5-10 ปริมาณผูโ้ ดยสารระบบขนส่งสาธารณะ 5-19
ตารางที่ 5-11 สภาพการจราจรจาแนกตามพื้นที่ 5-20
ตารางที่ 7-1 จุดสารวจข้อมูลปริมาณจราจรบนช่วงถนน (MIDBLOCK COUNT SURVEY) 7-2
ตารางที่ 7-2 ผลการคาดการณ์จากแบบจาลองความต้องการเดินทางเชิงกิจกรรม
ACTIVITY-BASED อาเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 7-7
ตารางที่ 7-3 ผลการคาดการณ์จากแบบจาลองด้านการขนส่งและจราจรระดับกรุงเทพฯ และปริมณฑล 7-8
เฉพาะพื้นที่เขตอาเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี
ตารางที่ 8-1 ข้อมูลในระบบภูมิสารสนเทศการขนส่งและจราจร (ระบบ GIS) ที่เสนอแนะ 8-2
ตารางที่ 8-2 รายการข้อมูลในระบบสารสนเทศการขนส่งและจราจร (MIS) 8-5
ตารางที่ 8-3 รายการข้อมูลของระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร (EIS) 8-8
สารบัญ-3
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
สารบัญรูป
หน้า
รูปที่ 1-1 แผนภูมิความเชื่อมโยงและลาดับการดาเนินงาน 1-3
รูปที่ 2-1 ภาพรวมของนโยบายและแผนการพัฒนาของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 2-1
รูปที่ 5-1 แสดงภาพรวมของแบบจาลอง EBUM 5-1
รูปที่ 5-2 แสดงการปรับปรุงโครงข่ายคมนาคม 5-9
รูปที่ 5-3 โครงสร้างแบบจาลองการเลือกรูปแบบการเดินทางของโครงการ 5-14
รูปที่ 6-1 สัดส่วนปริมาณผู้โดยสาร (OCCUPANCY) บนรถโดยสารขนาดเล็ก 6-5
รูปที่ 6-2 สัดส่วนปริมาณผู้โดยสาร (OCCUPANCY) บนรถโดยสารขนาดใหญ่ 6-5
รูปที่ 6-3 ประเภทของสินค้าที่ขนส่งผ่านจุดต่างๆ ของเส้น SCREEN LINE 6-6
รูปที่ 7-1 แบบแผนการเดินทาง (TRAVEL PATTERN) ของการทากิจกรรมในช่วงวันจันทร์ 7-4
รูปที่ 7-2 แบบแผนการเดินทาง (TRAVEL PATTERN) ของการทากิจกรรมในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ 7-5
รูปที่ 7-3 ปริมาณความต้องการเดินทางในปี พ.ศ.2560 7-6
รูปที่ 7-1 แบบแผนการเดินทาง (TRAVEL PATTERN) ของการทากิจกรรมในช่วงวันจันทร์ 7-4
รูปที่ 7-2 แบบแผนการเดินทาง (TRAVEL PATTERN) ของการทากิจกรรมในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ 7-5
รูปที่ 7-3 ปริมาณความต้องการเดินทางในปี พ.ศ.2560 7-6
รูปที่ 7-4 ปริมาณความต้องการเดินทางในปี พ.ศ.2585 7-7
รูปที่ 8-1 แผนภูมิแนวทางในการออกแบบ พัฒนา และปรับปรุงระบบภูมิสารสนเทศ 8-1
รูปที่ 8-2 รูปแบบระบบภูมิสารสนเทศของโครงการ 8-3
รูปที่ 8-3 ตัวอย่างแสดงการนาเสนอข้อมูลในระบบสารสนเทศการขนส่งและจราจร 8-9
รูปที่ 9-1 ภาพบรรยากาศการสัมมนารับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 9-1
รูปที่ 9-2 ภาพบรรยากาศการประชุมหารือร่วมกับ 5 หน่วยงาน 9-3
รูปที่ 9-3 บรรยากาศภาพรวมของการประชุมกลุ่มย่อย (FOCUS GROUP) 9-4
รูปที่ 9-4 บรรยากาศการหารือรับฟังข้อเสนอแนะการพัฒนาแบบจาลองจากอาจารย์มหาวิทยาลัย 9-5
รูปที่ 9-5 บรรยากาศภาพรวมของการสัมมนารับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 2 9-7
รูปที่ 9-6 บรรยากาศภาพรวมของการฝึกอบรมทางวิชาการเชิงปฏิบัติการและการถ่ายทอดเทคโนโลยี 9-10
รูปที่ 9-7 รูปแบบสื่อ SOCIAL NETWORK (FACEBOOK) ของโครงการ 9-12
รูปที่ 9-8 รูปแบบสื่อ WEBSITE ของโครงการ 9-12
รูปที่ 9-9 แผ่นพับประชาสัมพันธ์โครงการจากงานสัมมนารับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 9-13
รูปที่ 9-10 เอกสารประกอบการสัมมนารับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 9-14
รูปที่ 9-11 บอร์ดนิทรรศการและบอร์ดประชาสัมพันธ์โครงการจากงานสัมมนารับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 9-14
รูปที่ 9-12 วีดีทัศน์จากงานสัมมนารับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 9-15
รูปที่ 9-13 แผ่นพับประชาสัมพันธ์โครงการจากงานการประชุมกลุ่มย่อย (FOCUS GROUP) 9-15
สารบัญ-4
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
สารบัญรูป (ต่อ)
หน้า
รูปที่ 9-14 เอกสารประกอบการประชุมกลุม่ ย่อย (FOCUS GROUP) 9-16
รูปที่ 9-15 บอร์ดนิทรรศการประชาสัมพันธ์โครงการจากงานการประชุมกลุ่มย่อย (FOCUS GROUP) 9-16
รูปที่ 9-16 แผ่นพับประชาสัมพันธ์โครงการจากงานสัมมนารับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 9-17
รูปที่ 9-17 เอกสารประกอบการสัมมนารับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 9-17
รูปที่ 9-18 บอร์ดนิทรรศการประชาสัมพันธ์โครงการจากงานสัมมนารับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 9-18
รูปที่ 9-19 วีดีทัศน์จากงานสัมมนารับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 9-18
สารบัญ-5
บทที่ 1
• บทนำ
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
1. บทนา
1.1 เหตุผลและความเป็นมา
กรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2558-2577) ยุทธศาสตร์ที่ 2 ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน
ประเด็นที่ 2.5 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการจัดทางบประมาณรายจ่ายประจาปี พ.ศ. 2560
ในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์/แผนบูรณาการการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ ได้พิจารณาผลกระทบ
ให้ประเทศไทยมี ขีดความสามารถในการแข่งขันสู งขึ้นอย่ างยั่ งยื นและกาหนดผลลั พธ์เรื่องการลดต้นทุนโลจิ สติ กส์ของ
ประเทศไทยและการเพิ่มอันดับความสามารถในการแข่งขัน (Global Competitiveness Index: GCI) ของประเทศไทยด้าน
โครงสร้างพื้นฐานและดัชนีประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ (Logistic Performance Index: LPI) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) กาหนดแนวทางการพัฒนาการยกระดับศักยภาพการแข่งขันและการหลุดพ้นกับดัก
รายได้ปานกลางสู่รายได้สูง เรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยเร่งลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม
ขนส่ง เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนการขยายตัวด้านการค้าการลงทุน
จากนโยบายดังกล่าวข้างต้น กระทรวงคมนาคมโดย สนข. ในฐานะหน่วยงานจัดทานโยบายและแผนการขนส่งของ
ประเทศ มีบทบาทหน้าที่จัดทาแผนและเสนอนโยบายชี้นาการพัฒนาระบบขนส่งและจราจรที่เหมาะสม รวมถึงการเลือกใช้
ระบบขนส่งและจราจรที่เหมาะสมกับการพัฒนาและจัดลาดับความสาคัญของโครงการ จึงมีความจาเป็นต้องดาเนินการศึกษา
สารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey) และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลื่อนย้ายสินค้า ซึ่งเป็นข้อมูลหลัก
สาหรับการพัฒนาแบบจาลองด้านการจราจรและขนส่ง เพื่อเป็นเครื่องมือวิเคราะห์แผนงานโครงการต่างๆ ตามนโยบาย
รัฐบาลได้อย่างถูกต้อง ทันสมัย สอดคล้องกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมปีล่าสุด
1.2 วัตถุประสงค์
1) ศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey) และพฤติกรรมการเดินทางด้วยการสัมภาษณ์
ตามบ้าน (Household Interview Survey of Behavior) เพื่อปรับเทียบแบบจาลองทางคณิตศาสตร์ด้าน
การขนส่งและจราจรให้มีความทันสมัยและแม่นยาให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและลักษณะการเดินทาง
ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อใช้ในการวางแผนและตัดสินใจในการแก้ไขปัญหาด้านการขนส่งและจราจร
2) ศึกษาจัดทาฐานข้อมูลเชิงลึกด้านพฤติกรรมการเดินทางของประชากรในพื้นที่นาร่องในกรุงเทพมหานคร
และปริมณฑล เพื่อวิเคราะห์สภาพการจราจรและขนส่งในระดับเชิงกิจกรรม (Activities Based)
3) ศึกษาสารวจ จัดเก็บข้อมูลระบบฐานข้อมูลสารสนเทศการขนส่งและจราจรเรื่องปริมาณและต้นทุนสินค้า
180 สินค้า เพื่อปรับปรุงให้เป็นปัจจุบัน เพื่อการวิเคราะห์สัดส่วนการขนส่งสินค้าของประเทศที่สะท้อนการ
ลงทุนระบบขนส่งรูปแบบต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับพื้นที่
4) ศึกษาวิเคราะห์และจัดทาสารสนเทศเชิงบริหารเพื่อการวางแผนและตัดสินใจด้านการขนส่งและจราจร
1-1
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
1.3 ขอบเขตการศึกษาและกรอบแนวทางการศึกษา
ขอบเขตการศึกษาประกอบด้วย 4 ส่วน คือ
งานส่วนที่ 1 การศึกษา รวบรวมข้อมูล ผลการศึกษาและการดาเนินงานของโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
1) ศึกษา ทบทวนนโยบายด้านการขนส่งและจราจรและนโยบายที่เกี่ยวข้อง
2) รวบรวมข้อมูลพื้นฐานต่างๆ และทบทวนแบบจาลองด้านการขนส่งและจราจร ประกอบด้วย แบบจาลอง
ด้านการขนส่งและจราจรระดับประเทศ (National Model: NAM) และแบบจาลองด้านการขนส่งและจราจร
ระดับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (extended Bangkok Urban Area Model: eBUM)
3) ศึกษา ทบทวนพฤติกรรมการเดินทางในระดับประเทศและระดับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมพื้นที่
ต่อเนื่องด้วยการสัมภาษณ์ครัวเรือน
4) ศึกษา ทบทวนผลการสารวจปริมาณการเคลื่อนย้ายสินค้าที่เกี่ยวข้อง เช่น ปริมาณการขนส่งสินค้า ต้นทาง-
ปลายทาง (Original-Destination) ของจานวน 180 สินค้า
งานส่วนที่ 2 การสารวจ วิเคราะห์ความต้องการการเดินทาง และปรับปรุงการเคลื่อนย้ายสินค้า เพื่อการ
วางแผนระบบขนส่งของประเทศที่เหมาะสม
1) เสนอแนวคิดการสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey) เพื่อการพัฒนาแบบจาลอง
ด้านการขนส่งและการจราจรระดับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยกาหนดจานวนตัวอย่างสุ่มสารวจ
ข้อมูลไม่น้อยกว่า 15,000 ตัวอย่าง
2) เสนอแนวคิดการสารวจปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลื่อนย้ายสินค้าในแบบจาลองด้านการขนส่งและจราจร
ระดับประเทศ
3) สารวจวิเคราะห์ความต้องการเดินทาง และการเลือกรูปแบบการเดินทางในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
4) สารวจวิเคราะห์ความต้องการเดินทาง และปรับปรุงการเคลื่อนย้ายสินค้าเพื่อวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
5) ออกแบบ พัฒนา ปรับปรุงโครงข่ายการขนส่งและบริการให้อยู่ในรูปแบบบูรณาการด้วยระบบภูมิสารสนเทศ
(Geographic Information System: GIS)
6) ออกแบบพัฒนาโครงสร้างแบบจาลองด้านการขนส่งและจราจรในระดับประเทศและระดับกรุงเทพมหานคร
และปริมณฑล โดยคานึงถึงการพัฒนาพื้นที่และโครงสร้างพื้นฐาน
7) วิเคราะห์และพัฒนาแบบจาลองสาหรับการเดินทางในปีฐานและปีอนาคต โดยแสดงรายละเอีย ดที่มาของ
ข้อมูลและกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูล
1-2
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
งานส่วนที่ 3 การพัฒนาและประยุกต์ใช้แบบจาลองด้านการขนส่งและจราจร
1) จัดทาฐานข้อมูลเชิงลึกด้านพฤติกรรมการเดินทางของประชากรในพื้นที่นาร่องในกรุงเทพมหานครและ
ปริมณฑล เพื่อวิเคราะห์สภาพการจราจรและขนส่งในระดับเชิงกิจกรรม (Activities Based)
2) จัดทาสารสนเทศเชิงบริหาร เพื่อการวางแผนและตัดสินใจด้านการจราจรและขนส่งและเผยแพร่ข้อมูล
สารสนเทศจากการศึกษาโครงการในระบบฐานข้อมูลสารสนเทศที่ สนข. มีอยู่
3) นาเสนอวิธีการประยุกต์ใช้แบบจาลองด้านการขนส่งและจราจรไม่น้อยกว่า 5 เรื่อง
4) กาหนดแผนในการพัฒนาแบบจาลองด้านการขนส่งและจราจรทุกระดับของ สนข. และแนวคิดแผนแม่บท
การสารวจข้อมูลการเดินทางและขนส่งของประเทศ
5) ปรับปรุงคุณภาพและบารุงรักษาสิทธิการใช้ชุด Software (User Licenses) ให้เป็นปัจจุบัน สาหรับโปรแกรม
Cube
งานส่วนที่ 4 การจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็น และการฝึกอบรมทางวิชาการ
กรอบแนวทางการศึกษาโครงการการศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey) และ
ปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลื่อนย้ายสินค้าเพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ ถูกกาหนดให้มีความสอดคล้องกับ
ขอบเขตของการดาเนินงานและระยะเวลาดังรูปที่ 1-1
1-3
บทที่ 2
• กำรศึกษำ รวบรวมข้อมูล ผลกำรศึกษำ
และกำรดำเนินงำนของโครงกำรต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้อง
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
ยุทธศาสตร์ที่ ยุทธศาสตร์ด้าน
การสร้างความสามาร ในการแข่งขัน
แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโล แผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ าค แ ผ น ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ ร่าง ยุ ท ธศาสตร์ แผนยุ ท ธศาสตร์ ยุทธศาสตร์ด้ านการ แผน ลักการพัฒนา
จิสติกส์ของ ทย บับที่ พ ศ ตะวันออก Eastern Economic กระทรวงคมนาคมเพื่ อ การพั ฒ นาระบบ กระทรวงคมนาคม พั ฒ นาโครงสร้ า ง ระบบขนส่ ง และ
Corridor Development) สนับสนุนการพั ฒ นาโล คม น า ค ม ขน ส่ ง พศ พื้นฐานด้านคมนาคม จราจร
จิ ส ติ ก ส์ ข องปร ะ เทศ ของ ทย ระยะ ของ ทย พศ
บับที่ ป พศ
พศ พศ
แผนป ิบัติกระทรวง
คมนาคม Action Plan)
พศ
ยุท ศาสตรหน่วยงานต่าง ๆ
2-1
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
2.2 รวบรวมข้ อ มู ล พ้ น านที่ เ กี่ ย วข้ อ งด้ า นการขนส่ ง และจราจรระดั บ กรุ ง เทพฯและ
ปริม ฑล
ทาการรวบรวมข้อมูลโครงข่ายคมนาคม ข้อมูลด้านการจราจร ข้อมูลการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ แผนงาน
โครงการ จาก น่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สานักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กรุงเทพม านคร กรม
ทาง ลวง กรมทาง ลวงชนบท การทางพิเศษแ ่ง ทย กรมเจ้าท่า บริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา บริษัทระบบขนส่งมวลชน
กรุงเทพ จากัด (ม าชน) (BTS) การร ฟฟ้าขนส่งมวลชนแ ่งประเทศ ทย องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ สานักงานส ิติ
แ ่งชาติ กรมโยธาธิการและผังเมือง โดยสรุปข้อมูลพื้นฐานด้านการขนส่งและจราจรในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลดังนี้
โครงข่ายคมนาคมในปัจจุบันและอนาคต
โครงข่ายคมนาคม ป 2560 โครงข่ายคมนาคมในอนาคต
ทางพิเศษ 210.4 กม. เพิ่มใ ม่ 176.7 กม. (ในระยะ 5 ป พ.ศ. 2565 )
นน/สะพาน 4,700 กม. ก่อสร้างใ ม่ 293.3 กม. (ในระยะ 7 ป พ.ศ. 2567 )
(เ พาะทางสาย ลัก) ขยาย นน 789.0 กม. (ในระยะ 20 ป พ.ศ. 2580 )
ระบบร ฟฟ้า 5 สาย ระยะทาง 108.8 กม. เพิ่มใ ม่ 8 สายและต่อขยายเส้นทางเดิม
ระยะทางรวม 529.6 กม. ( ายใน ป พ.ศ. 2572 )
ข้อมูลปริมา การใ ้งานโครงข่ายคมนาคมในเขตกรุงเทพมหานคร
ปรมิ า จราจร/ปรมิ า ผ้ใู ้บรกิ าร
ทางด่วน เ ลี่ยต่อป ทั้ง 7 เส้นทาง ในปี พ.ศ. 2559
- 653.51 ล้านคันต่อป คิดเปน 1.82 ล้านคันต่อวัน
นน/สะพาน สะพานข้ามแม่น้าเจ้าพระยา 21 สะพาน ตั้งแต่ป พ.ศ. 2533 ึงปที่สารวจ พ.ศ. 2560
- ช่วงเร่งด่วนเช้า (7:00-9:00) 136,931 คัน
- ช่วงเร่งด่วนเยน (16:00-19:00) 162,872 คัน
ปริมาณจราจรบนทาง ลวงเ ลี่ยต่อวันตลอดป (AADT) พ.ศ. 2559 11.5 ล้านคันต่อวัน
ระบบร ฟฟ้า ในป พ.ศ. 2559 มีจานวนผู้โดยสาร 371 ล้านคนต่อป คิดเป็น 1.12 ล้านคน/วันทางาน
- ร ฟฟ้าเ ลิมพระเกียรติ 6 รอบพรรษา (สีเขียวเข้ม) ช่วง มอชิต -แบริง่ 183.17 ล้านคน/ป
- ร ฟฟ้าเ ลิมพระเกียรติ 6 รอบพรรษา (สีเขียวอ่อน) สนามกีฬาแ ่งชาติ -บาง ว้า 63.29 ล้านคน/ป
- ร ฟฟ้าสายเ ลิมรัชมงคล (สีน้าเงิน) 100.36 ล้านคน/ป
- ร ฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณ ูมิ 21.13 ล้านคน/ป
- ร ฟฟ้าสาย ลองรัชธรรม (สีม่วง) 3.05 ล้านคน/ป
ร โดยสารประจาทาง ในป พ.ศ. 2558 มีร โดยสาร 15,492 คัน มีผ้โู ดยสารประมาณ 1,452 ล้านคน/ป คิดเปน 4.05 ล้านคน/วัน
เรือโดยสาร เรือโดยสาร ป พ.ศ. 2559
- มีจานวนผู้โดยสาร 64.52 ล้านคน/ป และคิดเปนอัตราเ ลี่ยประมาณ 0.18 ล้านคนต่อวัน
เรือโดยสารข้ามฟาก ป พ.ศ. 2559
- มีจานวนผู้โดยสาร 37.88 ล้านคน/ป และคิดเปนอัตราเ ลี่ยประมาณ 0.10 ล้านคนต่อวัน
ที่มา:ที่ปรึกษา, กทพ., รฟม., รฟท., กทม., ขสมก., จท. และ ทล.
2-2
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
2-3
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
พ.ศ. 2554-2556
โครงการพัฒนาปรับปรุง บารุงรักษาระบบ านข้อมูล ข้อสนเทศและแบบจาลอง เพ่อบูร าการพัฒนาการขนส่งและ
จราจร การขนส่งต่อเน่อง หลายรูปแบบและระบบโลจิสติกส (TDL I -II)
2-4
บทที่ 3
• กำรสำรวจวิเครำะห์ควำมต้องกำรกำรเดินทำง
ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
3.1.1 ผลการสารวจข้อมูลความต้องการการเดินทาง
การสารวจพบว่าการกระจายตัวของประชากรส่วนใหญ่อยู่ในเขตเมืองขั้นใน (CBD) ร้อยละ 18.4 เขตเมืองชั้นนอก
(Urban) ร้อยละ 50.8 นอกเขตเมือง (Suburban) ร้อยละ 30.8 แบ่งเป็นเพศหญิงร้อยละ 52 และเพศชายร้อยละ 48 อายุ
เฉลี่ย 34 ปี ขนาดครัวเรือนเฉลี่ย 2.57 คนต่อครัวเรือน เมื่อแยกขนาดครัวเรือนในแต่ละพื้นที่ พบว่าพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน
(CBD) ขนาดครัวเรือนเฉลี่ย 2.64 คนต่ อครัวเรือน พื้นที่กรุงเทพฯชั้นนอก (Urban) มีขนาดครัวเรือนเฉลี่ ย 2.62 คนต่ อ
ครัวเรือนและพื้นที่เขตปริมณฑล (Suburban) มีขนาดครัวเรือนเฉลี่ย 2.43 คนต่อครัวเรือน รายได้เฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง
37,000 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน และรายได้ส่วนบุคคลเฉลี่ย 17,300 บาทต่อเดือน
3-1
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
การกระจายข้อมูลแบบสอบ าม
CBD
18.4%
URBAN
SUBURBAN
50.8%
30.8%
การครอบครองยานพาหนะในครัวเรือน ส่วนใหญ่เป็นการครอบครองรถยนต์ส่วนบุคคลเพียงชนิดเดียวร้อยละ
29.4 มีเพียงร้อยละ 22.6 ไม่มีพาหนะในครอบครอง คิดเป็นอัตราการครอบครองรถยนต์ส่วนบุคคลเฉลี่ย 0.98 คันต่อ
ครัวเรือน และรถจักรยานยนต์เฉลี่ย 0.77 คันต่อครัวเรือน
34.86%
0VEH
PC
25.23% 22.6%
29.4%
19.84%
17.71%
MC
2.36% 22.0%
MULTI
26.0%
1 2 3 4 4
3-2
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
35%
เมื่อพิจารณาถึงลักษณะการครอบครองยานพาหนะ 30% 30% 30%
ต่ อรายได้ พ บว่ า มี ความสั ม พั น ธ์ กับ รายได้ อย่ า งชั ด เจน 27%
24% 24% 24% 26%
กลุ่มที่มีรายได้สูงมีอัตราการครอบครองรถสูง ลักษณะการ 21%
18%
ครอบครองยานพาหนะจาแนกตามพื้นที่ พบว่า ทุกพื้นที่มี
11%
การครอบรถยนต์ส่วนบุคคลเป็นส่วนใหญ่ และพื้นที่ชั้นใน
จะมีการครอบครองรถจั กรยานยนต์น้ อยกว่า พื้น ที่รอบ
นอกอย่างเห็นได้ชัด
CBD URBAN SUBURBAN
0VEH MC PC MULTI
0VEH MC PC MULTI
มากกว่า 100,000
80,001 – 100,000
70,001 – 80,000
60,001 – 70,000
50,001 – 60,000
40,001 – 50,001
30,001 – 40,000
20,001 – 30,000
10,001 – 20,000
5,000 – 10,000
1-5,000
ไม่มีรายได้
0% 10% 20% 30% 40% 50% 60% 70% 80% 90% 100%
ลักษณะการเดินทาง รับส่ง
ธุระการงาน
อัต ราการเดิ น ทางเฉลี่ย 1.97 คน-เที่ ย ว/วั น ธุระส่วนตัว 2.5%
2.7%
เป็นการเดินทางเพื่อไปทางานร้อยละ 63.1 รองลงมา 11.5% ไม่เดินทาง
คือการเดินทางเพื่อการศึกษาร้อยละ 12.1 และมีผู้ ที่ 8.0%
ไม่เดินทาง ร้อยละ 8.0 ซึ่งอัตราการเดินทางเที ยบกับ
วั ต ถุ ป ระสงค์ ก ารเดิ น ทางพบว่ า ในการส ารวจข้ อ มู ล เรียน
ประชาชนบางส่ ว นไม่ ต้ อ งการที่ จ ะให้ ข้ อ มู ล ของ 12.1%
วัตถุประสงค์การเดินทางจากบ้านไปที่อื่นๆ (HBO) และ
จากที่อื่นๆ ซึ่งต้นทางและปลายทางไม่ใช่บ้าน (NHB) ทางาน
จึงอาจทาให้ผลการสารวจเกิดทางในกลุ่มนี้อาจจะต่ากว่า 63.1%
ที่เกิดขึ้นจริง
3-3
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
รถจักรยานยนต์, 23.8%
รถไฟฟ้า 1.2%
รถโดยสาร 18.1%
รถสาธารณะ, 23.8% รถปรับอากาศ 1.8%
รถตูโ้ ดยสาร 2.7%
รถยนต์ส่วนบุคคล, 39.9%
URBAN
รถโรงเรียน/รถรับส่ง, 2.1%
รถแท็กซี่-จักรยานยนต์รับจ้าง,
น/จักรยาน, 5.7% 4.6% 25%
เดิ22%
อื่นๆ, 0.3%
2%
14% 15%
22% 25% 4%
33% 4% 4%
35%
4%
2%
0%
43%
4% 9%
4%
1% 0%
40% 6%
0%
6% 43%
33%
0%
- -
-
3-4
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
ความเร็ว ค่าใช้จ่าย
3-5
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
จุดต้นทาง-ปลายทาง ในการเดินทางของกลุ่มตัวอย่าง
การเดินทางจากจุดต้นทาง-ปลายทาง (OD) ของกลุ่มตัวอย่าง โดยกาหนดกลุ่มพื้นที่ออกเป็น 24 กลุ่ม เพื่อง่ายต่อ
การนาเสนอข้อมูล โดยทิศทางการเดินทางส่วนมากจะเป็นการเดินทางภายในกลุ่มพื้นที่ การเดินทางเข้าเมืองชั้นใน และ
การเดินทางไปยังพื้นที่ข้างเคียงตามลาดับ
23
23
ปริมาณการเดินทาง (คน-เที่ยว/วัน)
300,000 150,000
75,000
20
19
19
18
18
66
16
17
17 5 24
21
21 99
4
10 11
10 67
11
11 3
2
88
12 15
15
12
14
22 13
3-6
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
3.2 การสารวจและการวิเคราะห์การเลือกรูปแบบการเดินทาง
เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับพฤติกรรมการเลือกรูปแบบการเดินทางในปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงให้แบบจาลอง
ครอบคลุมประเภทของรูปแบบการเดินทางมากยิ่งขึ้น จึงได้พิจารณาใช้แบบจาลองการเลือกรูปแบบการเดินทางอยู่ในรูป
ของ Nested logit model หรือ Hierarchical logit model เป็นแบบจาลองประเภท Logit ซึ่งนิยมใช้สาหรับการ
จาลองการเลือกรูป แบบการเดิ นทาง โดยปั จจั ยที่มี อิท ธิพ ลต่ ออรรถประโยชน์ของการเลื อกรูป แบบการเดิน ทางนั้ น
ถูกกาหนดด้วยโครงสร้างการเลือกแบบเป็นลาดับขั้น (Choice hierarchy) ในการตรวจสอบการเลือกรูปแบบการเดินทาง
ของกลุ่มเป้าหมาย โดยแบ่งกลุ่มเป้าหมายออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ ผู้เดินทางด้วยยานพาหนะส่วนบุคคล (Private
Transports) และผู้เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ (Public Transports)
Travel modes
Private Medium
Private Car High Performance Low Performance Paratransit
Motorcycle Performance
(PC) Transit (HPT) Transit (LPT) (PRT)
(MC) Transit (MPT)
1
2) Home base education (HBE) 13 15
11
3) Home base others (HBO)
12
4) Non-home base (NHB)
3-7
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
โดยการกาหนดพื้นที่ศึกษาและกลุ่มเป้าหมายเพื่อการสารวจข้อมูล ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้อง
ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้พาหนะส่วนบุคคลและผู้เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ โดยพื้นที่ศึกษาถูกกาหนดให้กระจายตัวอย่าง
ทั่วถึงในพื้นที่กรุงเทพมหานครและเขตชานเมือง กาหนดตัวแปรในการตัดสินใจเลือกรูปแบบการเดินทางแบ่งออกได้เป็น
3 กลุ่ม ตามลักษณะของข้อมูล ได้แก่
ตัวแปรข้อมูลการเดินทาง (Travel characteristics)
ตัวแปรจากข้อมูลลักษณะประชากร (Socioeconomic characteristics) และ
ตัวแปรจากข้อมูลรูปแบบการเดินทาง (Mode characteristics)
จากการสารวจพบว่าลักษณะการครอบครองยานพาหนะเป็นปัจจัยสาคัญต่อการเลือกรูปแบบการเดินทาง
โดยส่ วนใหญ่ผู้ ที่ไ ม่มี ยานพาหนะจะเลื อกรูป แบบการเดิ น ทางโดยใช้ รถสาธารณะและรถแท็ กซี่ ส่ วนผู้ที่ ครอบครอง
ยานพาหนะส่วนใหญ่จะเลือกใช้รูปแบบการเดินทางที่สอดคล้องกับพาหนะในครอบครอง
MULTI
PC
MC
0VEH
0% 10% 20% 30% 40% 50% 60% 70% 80% 90% 100%
3-8
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
3.2.2 ผลการสารวจและการวิเคราะห์แบบจาลองการเลือกรูปแบบการเดินทาง
ปัจจัยในการเลือกรูปแบบการเดินทางของกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้รถส่วนบุคคล พบว่า 3 ลาดับที่แรกที่ผู้ใช้รถส่วนบุคคล
ให้ความสาคัญ ได้แก่ รวดเร็ว มีความปลอดภัย และสะดวกเข้าถึงง่าย ปัจจัยในการเลือกรูปแบบการเดินทางของกลุ่ม
ตัวอย่างผู้ใช้รถสาธารณะพบว่า 3 ลาดับแรก ได้แก่ รวดเร็ว ค่าใช้จ่ายถูก และสะดวกเข้าถึงง่าย
ลักษณะการเดินทางของระบบขนส่งสาธารณะเวลาที่ใช้เดินทางจากจุดต้นทางไปยังจุดที่เปลี่ยนใช้รูปแบบการ
เดินทางหลักเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 10 นาที และใช้เวลาในการรอ 4-10 นาที รวมเวลาที่ใช้ในการเดินทาง 40-70 นาที
ร โดยสารประจา ร โดยสาร
ร ไฟฟ้า ร ตู้โดยสาร
ทางธรรมดา/ร ประจาทางปรับ เรือ
(BTS/MRT/ARL) สาธารณะ
สองแ ว/สี่ล้อเล็ก อากาศ
Access Time (นาที) 10.78 12.51 10.29 11.46 5.75
Waiting Time (นาที) 4.16 8.57 8.49 9.41 10.00
In Vehicle Time (นาที) 18.15 34.55 35.70 38.54 26.67
Egress Time (นาที) 10.62 16.28 12.52 9.05 27.5
Total Time (นาที) 43.71 71.91 67.00 68.46 69.92
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางเฉลี่ยต่อเที่ยว (บาท) 33.69 10.89 17.99 27.88 20.67
จากข้อมู ล ปั จ จั ย ที่ มี อิท ธิ พ ลต่ อการตั ด สิ น ใจเลื อกรูป แบบการเดิ น ทางและทฤษฎีที่ เกี่ย วข้องกับ การศึ กษา
แบบจาลองการเลื อกรูป แบบการเดิน ทางในการเลื อกแต่ ล ะครั้ง ผู้ เดิน ทางจะเลื อกรูป แบบการเดิ นทางที่ก่อให้เกิด
อรรถประโยชน์หรือความพึงพอใจสูงสุดเพียงทางเลือกเดียว (Discrete choice) โดยฟังก์ชันความพึงพอใจ (Utility function)
สามารถใช้ในการตรวจสอบความพึงพอใจที่ผู้เดินทางได้รับ โดยผลการวิเคราห์จะนาเสนอในส่วนงานพัฒนาแบบจาลอง
3-9
บทที่ 4
• กำรปรับปรุงข้อมูลกำรเคลื่อนย้ำยสินค้ำของประเทศ
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
4. การปรับปรุงข้อมูลการเคลื่อนย้ายสินค้าของประเทศ
4.1 กรอบแนวคิดการวิเคราะห์การเคลื่อนย้ายสินค้าและประเด็นการปรับปรุงข้อมูล
การปรับ ปรุงข้อมูล การเคลื่ อนย้ ายสิน ค้า จะใช้ การบู รณาการระหว่า งการวิ เคราะห์ข้อมูล ทุ ติย ภูมิ ที่ไ ด้จ าก
หน่วยงานและผลการศึกษาต่างๆ ประกอบกับผลการสารวจผู้ประกอบการ ผลการสารวจข้อมูลการขนส่งภาคสนาม และ
ข้อมูลจากระบบฐานข้อมูลที่ได้จากเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ (GPS) ของกรมการขนส่งทางบก การวิเคราะห์
ปริมาณการขนส่งระหว่างคู่ต้นทาง-ปลายทางต่างๆ จะพิจารณาจากข้อมูล ดังนี้
1) ข้อมูลปริมาณการขนส่งสินค้าตามรูปแบบการขนส่งประเภทต่าง ๆ โดยข้อมูลการขนส่งทางรางเป็นข้อมูล
ของการรถไฟแห่งประเทศไทย การขนส่งทางน้าเป็นข้อมูลของกรมเจ้าท่า การขนส่งทางอากาศเป็นข้อมูล
บริษัท การบินไทย จากัด (มหาชน) และกรมท่าอากาศยาน ส่วนการขนส่งทางถนนเป็นข้อมูลจากการ
สารวจของกรมทางหลวง ประกอบกับข้อมูลจากระบบฐานข้อมูลที่ได้จากเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทาง
ของรถ (GPS) ของกรมการขนส่งทางบก
2) ข้อมูลปริมาณการผลิตในภูมิภาคต่างๆ กรณีสินค้าส่งออก หรือข้อมู ลปริมาณการใช้สินค้าในภูมิภาคต่างๆ
กรณีสินค้านาเข้า
3) ข้อมูลปริมาณการส่งออก/นาเข้าสินค้าที่ประตูการค้าต่างๆ
4) ข้อมูลปริมาณการบริโภคในประเทศ สาหรับสินค้าที่ผลิตในประเทศ
5) ข้อมูลจานวนประชากร และมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดต่างๆ
4.2 ผลการดาเนินการสารวจข้อมูลการเคลื่อนย้ายสินค้า
4.2.1 การสารวจผู้ประกอบการ
การดาเนินการจะใช้วิธีการนัดการสัมภาษณ์เชิงลึกทั้งในลักษณะการสัมภาษณ์ผู้ให้สัมภาษณ์รายเดียวและการ
ประชุมกลุ่มย่อยในลักษณะ Focus Group กับกลุ่มผู้ประกอบการสินค้าสินค้าหลายราย โดยจะให้ความสาคัญ กับกลุ่ม
ผู้ ป ระกอบการตามกลุ่ ม สิ น ค้ า ต่ า งๆ เช่ น กลุ่ ม อุ ต สาหกรรมต่ า งๆ ในสภาอุ ต สาหกรรมแห่ง ประเทศไทย สมาคม
ผู้ประกอบการผลิตสินค้าต่างๆ สมาคมผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ เป็นต้น ผู้ประกอบการสินค้าที่ติดต่อขอเข้าสัมภาษณ์
มีจานวนทั้งสิ้น 120 ผู้ประกอบการ ครอบคลุมทั้ง 180 รายการสินค้า
4-1
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
0% 10% 20% 30% 40% 50% 60% 70% 80% 90% 100%
4-2
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
สถานีขนส่งสินค้าลาดกระบัง 4 11 30 02 16 36
สินค้าเกษตรกรรม
สถานีขนส่งสินค้าร่มเกล้า 1 4 10 0 84 0 สินค้าเกษตรกรรมแปรรูป
สินค้าอุตสาหกรรม
สินค้าพลังงาน
สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑล 4 2 10 0 80 4 วัสดุก่อสร้าง
สินค้าอุปโภคบริโภค
สินค้าอื่น ๆ
สถานีขนส่งสินค้าคลองหลวง 0 9 0 29 62 0
0% 10% 20% 30% 40% 50% 60% 70% 80% 90% 100%
4-3
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
200,000
180,000
160,000
ปริมาณการขนสินค้าผ่านด่าน ตันต่อวัน
140,000
120,000
100,000
80,000
60,000
40,000
20,000
0
สมุทร ลาด บรรพต เกาะคา เกาะคา
แก่งคอย บางปะอิน วังน้อย บ้านโปง โพธาราม วังน้าเขียว ระยอง พยุหะคีรี ศรีราชา ไทรน้อย ท่าแซะ เมืองพล รัษ า พิษณุโลก หนองหาน
สาคร บัวหลวง พิสัย ขาเข้า ขาออก
รถกึ่งพ่วง 30,961 52,667 27,405 6,578 2,738 7,245 18,621 20,435 9,999 11,268 39,048 11,400 8,530 34,238 42,772 2,858 2,910 7,758 9,474 13,051
รถพ่วง 33,220 56,038 22,049 9,574 6,912 7,017 8,061 7,460 13,882 21,771 36,340 3,762 23,530 22,115 17,486 10,160 6,904 10,305 8,144 7,685
รถบรรทุกเฉพาะกิจ 13,113 5,180 693 181 135 116 110 840 129 4,947 6,984 943 258 429 12 662 1,020 47 5,334 2,646
รถบรรทุกวัตถุอันตราย 1,509 345 1,755 257 71 1,163 216 2,941 419 1,277 13,106 3,840 342 1,003 1,502 662 1,426 931 790 6,112
รถบรรทุกของเหลว 672 567 481 273 247 457 212 1,416 137 969 7,337 1,768 70 3,761 744 78 389 233 257 518
รถตู้บรรทุก 3,523 45,442 14,327 1,800 1,313 7,262 2,704 4,125 1,030 3,247 18,396 3,336 1,496 18,210 6,212 1,123 636 1,786 6,315 3,943
รถกระบะบรรทุก 15,265 37,295 17,877 5,734 4,872 5,729 2,731 4,121 2,959 9,386 23,702 2,239 4,080 23,206 9,764 4,444 3,551 2,974 7,478 8,587
ทั้ ง นี้ ผลการวิ เคราะห์พ ฤติ กรรมการเดิ น ทางของสิ น ค้า จากแต่ ล ะสถานที่ นั้ น ถู กน าไปใช้ ในการวิ เคราะห์
พฤติกรรมการเคลื่อนย้ายสินค้าในแบบจาลองการเคลื่อนย้ายสินค้า เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนย้ายสินค้าของประเทศไทย
ในอนาคต
4.3 การวิเคราะห์การเคลื่อนย้ายสินค้า
การศึกษานี้ได้ปรับปรุงและแก้ไขการกาหนดรายการสินค้าตามระบบพิกัดฮาร์โมไนซ์ของรายการสินค้าทั้ง 180
สินค้า ให้มีความครบถ้วนมากขึ้น รวมไปถึงจัดกลุ่มสินค้าเพื่อให้เหมาะสมต่อการนาไปวิเคราะห์และจัดทาแบบจาลอง
และให้สอดคล้องกับรายการสินค้าของสานักงานปลัดกระทรวงคมนาคม โดยได้จาแนกสินค้าออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่ม A : สินค้าที่มีการนาเข้าส่งออกสูง จานวน 163 รายการ แบ่งเป็น 44 กลุ่มรายการสินค้า
ภายใต้ 16 หมวด
กลุ่ม B : รายการสิ นค้ าที่ มี การขนส่ งเฉพาะในประเทศ หรือรายการสิ นค้ าที่ รวมหลายรายการของ
รายการสินค้านาเข้า-ส่งออก ในกลุ่ม A จานวน 8 รายการ
กลุ่ม C : สินค้าผ่านแดน เป็นรายการที่มีความซ้าซ้อนกับสินค้าในกลุ่ม A จานวน 9 รายการ
ในการวิเคราะห์ปริมาณการขนส่ง จะพิจารณาจากปริมาณนาเข้าและส่งออกของสินค้าที่มีการนาเข้า -ส่งออกสูง
ประกอบกับข้อมูลห่วงโซ่อุปทานและการเคลื่อนย้ายสินค้าแต่ละชนิด จัดทาเป็นตารางการเดินทางของการขนส่งสินค้า
(O-D Table) แต่ล ะประเภทในระดั บ จัง หวั ด แบ่ งเป็ น การขนส่ ง เพื่ อการน าเข้า -ส่ งออก และการขนส่ ง เพื่ อใช้
ภายในประเทศ ในส่วนของการขนส่งเพื่อใช้ภายในประเทศ
4-4
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
การวิเคราะห์จากปริมาณและการเคลื่อนย้ายสินค้า
Origin - Destination ในภาพรวมของประเทศสามารถจาแนก
ได้ในลักษณะของ Origin - Destination Corridor เนื่องจาก
สินค้าของไทยจะเดินทางออกจากศูนย์กลางของประเทศ คือ
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยกเว้นสินค้าบางจาพวก เช่น
สินค้าเกษตร ที่จะมีการส่งผ่านระหว่างตลาดกลางของแต่ละ
กลุ่ ม จั ง หวั ด ในกรณี ไ ม่ ผ่ า นตลาดไท ซึ่ ง O-D Corridor
ประกอบด้วย สายเหนือ สายตะวันออก สายตะวันตก สายใต้
(ฝั่งตะวันออก-ตะวันตก) สายตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนบน
และล่าง) และสายตะวันออกเฉียงเหนือ (ด้านตะวันออก)
จากภาพรวมปริ มาณการขนส่ง สินค้ าที่ได้ จากการส ารวจและ
วิเคราะห์ของโครงการฯ ซึ่งประกอบด้วยสินค้า นาเข้า ส่งออก และ
เคลื่อนย้ายภายในประเทศทั้งหมด 180 รายการสินค้าพบว่า ข้อมูล
ปริมาณสินค้า ณ ปี พ.ศ. 2559 มีปริมาณการขนส่งสินค้ารวม 805
ล้านตัน อย่างไรกตาม ในการศึกษาเกี่ยวกับปริมาณการเคลื่อนย้าย
สินค้ารวมของโครงการศึกษานี้ ได้ใช้ฐานข้อมูลทุติยภูมิของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ สานักงานเศรษฐกิจเกษตร สานักงาน
เศรษฐกิจอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม สานักงานคณะกรรมการอ้อยและน้าตาลทราย กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการ
เหมืองแร่ กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ และกรมศุลกากร เป็นต้น จึงทาให้ข้อมูลปริมาณการผลิต การใช้ในประเทศ
การนาเข้า และการส่งออกดังกล่าวมีความถูกต้อง น่าเชื่อถือ และมีหน่วยงานที่สามารถตรวจสอบอ้างอิงได้
4-5
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
4-6
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
จากการสัมภาษณ์เชิงลึกเพื่อให้ทราบถึงความต้องการในการเลือกรูปแบบการขนส่งสินค้า ซึ่งประเดนดังกล่าวจะ
นาไปสู่แนวทางในการเลือกรูปแบบการขนส่งสินค้า ที่มาของต้นทุนการขนส่งสินค้าและต้นทาง ปลายทาง ของสินค้า ซึ่ง
เป็นค่าที่จ่ายจริงในตลาดที่สะท้อนความเป็น จริง ผลการสารวจพบว่าผู้ผลิต/ผู้ขายส่วนใหญ่ให้ความสาคัญในแง่ของ
ปริมาณและความเรว รวมถึงความแน่นอนในการขนส่ง มาเป็นปัจจัยแรก โดยแสดงรายละเอียดต้นทุนการขนส่งสินค้า
ประเภทต่าง ๆ
ค่าขนส่งเฉลี่ย*
รูปแบบการขนส่ง ปริมาณการขนส่งสินค้า (ตันต่อปี) สัดส่วนการขนส่ง (%)
(บาท/ตัน-กม.)
ทางถนน 699,743,964 86.897 1.384
ทางรถไฟ 9,678,384 1.202 0.713
ทางน้า 95,775,615 11.894 0.518
ทางอากาศ 60,784 0.008 20.000
รวม 805,257,963 100.00
*ต้นทุน: เป็นค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าขนส่ง ไม่รวมค่ายกสินค้าขึ้นลง, ข้อมูลสารวจปี พ.ศ. 2559
4-7
บทที่ 5
• พัฒนำแบบจำลองระดับกรุงเทพฯ และปริมณฑล
และประยุกต์ใช้
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
5. การพัฒนาแบบจาลองระดับกรุงเทพฯ และปริมณฑลและการ
ประยุกต์ใช้
5.1 การศึกษาทบทวนแบบจาลองด้านการขนส่งและจราจรระดับกรุงเทพฯ และปริมณฑล
5.1.1 ภาพรวมของแบบจาลอง eBUM
โครงสร้างของแบบจาลองด้านการขนส่งและจราจรระดับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (Extended Bangkok
Urban Model : eBUM) มีโครงสร้างเป็นแบบจาลองต่อเนื่อง 4 ขั้นตอน (Sequential 4-Step Model) ที่ใช้กันอย่าง
แพร่หลายทั่วโลก ประกอบด้วย 1) แบบจาลองการเกิดการเดินทาง 2) แบบจาลองการกระจายการเดินทาง 3) แบบจาลอง
การเลือกรูปแบบการเดินทาง และ 4) แบบจาลองการแจกแจงการเดินทาง โดยความสัมพันธ์ของการสารวจความต้องการ
เดินทาง (HTS) กับแบบจาลอง eBUM
- Goods Vehicle Demand
- External Matrix Demand
Assignment - Special Generator
- Trip Rate
- Vehicle Ownership Trip Generation
- Household size
Household Traffic Analysis Planning Data Transport Network
Travel Zone (TAZ) - Population - Highway
- Employment
Survey (HTS) - Education - Public Transport
- Commercial Demand
5.1.2 การทบทวนการพัฒนาแบบจาลอง
ได้ทาการทบทวนแบบจาลอง eBUM พบว่า มีรายละเอียดในประเด็นหลักๆ ดังนี้
5-1
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
5-2
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
การสารวจ การสารวจ
ครอบคลุม จานวนพื้นที่ ข้อมูลสามะโน โปรแกรม
โครงการ ปีพ.ศ. HTS MSP โครงสร้างMSP การปรับปรุงโครงสร้างแบบจาลอง
(จังหวัด) ย่อย (พ.ศ.) ที่ใช้
(ครัวเรือน) (ตัวอย่าง)
- ปรั บ ปรุ ง พื้ น ที่ ศึ ก ษาครอบคลุ ม 8 จั ง หวั ด โดยเพิ่ ม อยุ ธ ยา 8 อาเภอ
และฉะเชิ ง เทรา 4 อาเภอ เพื่อรองรับรถไฟชานเมืองในอนาคต
- ปรับปรุงพื้นที่ย่อยตาม Corridor รถไฟฟ้า อย่างน้อย 1 พื้นที่ย่อยต่อ 1 สถานี
เพื่อเพิ่มความถูกต้องในการคาดการณ์ปริมาณผู้ใช้รถไฟฟ้า
- ปรับปรุงแบบจาลองการเกิดการเดินทางและดึงดูดการเดินทาง แบ่งกลุ่มการ
วิเคราะห์ออกเป็น 4 กลุ่ม คือ ไม่มีรถ (OVEH) มีรถจักรยานยนต์ (MC) มีรถยนต์
(PC) มีรถยนต์และจักรยานยนต์ (MULTI) และพิจารณาปริมาณการเกิดการ
เดินทางแบ่งออกเป็น 3 พื้นที่ คือ กรุงเทพฯ ชั้นใน (CBD) พื้นที่เมือง (Urban)
และพื้นที่ชานเมือง (Suburban)เพื่อให้สอดคล้องกับข้อมูล HTS
- ปรับ ปรุงการใช้ Special Generator ที่ใช้กับพื้นที่ห้า งสรรพสินค้า เป็ น
6+2 Nested CUBE พิจารณาปริมาณการดึงดูดการเดินทางตามขนาดของพื้นที่ Commercial
TDS 2560 1,885 2553 18,833 2,582
(บางส่วน) Logit Model Voyager - ปรับปรุงแบบจาลองการกระจาย (Trip Distribution)เพื่อให้สอดคล้องกับ
ข้อมูล HTS
- ปรับปรุงแบบจาลองการเลือกรูปแบบการเดินทาง (Mode Split) จากข้อมูล
MSP เป็น Nested Logit Model
- ปรับปรุงมูลค่าเวลา (VOT) และ ค่าใช้จ่ายในการใช้รถ (VOC) ให้เป็นปัจจุบัน
- ปรับปรุงวิธีการแจกแจงการเดินทางโดยใช้วิธีการแจกแจงการเดินทางของแต่
ละประเภท (Multi Class Assignment) ด้วยเทคนิคสมดุล (Equilibrium
:EQU) และกาหนดเงื่อนไข (Convergence) โดยใช้จานวนรอบที่ 20 รอบ
- ปรับปรุง Feed Back Loop โดยใช้ค่าเฉลี่ยของค่าใช้จ่ายในการเดินทางของ
ทั้งวัน (Daily) ในการ Loop และกาหนดเงื่อนไข (Convergence) โดยใช้
จานวนรอบวน Loop ที่ 4 Loop
5-3
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
จานวนพื้นที่ย่อย
จังหวัด TDL II TDS
(2558) (2560)
พระนครศรีอยุธยา
กรุงเทพมหานคร 727 946
นครปฐม 321 244
นนทบุรี 155 189
ปทุมธานี
ปทุมธานี 168 184 นครปฐม
ฉะเชิงเทรา 74 38 ฉะเชิงเทรา
พื้นที่ภายนอก 23 18 สมุทรปราการ
สมุทรสาคร
รวม 1,771 1,885
5-4
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
5.3 การปรับปรุงข้อมูลเศรษฐกิจและสังคม
ข้อมูลด้านเศรษฐกิจและสังคมได้ถูกรวบรวมจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อใช้ในแบบจาลอง eBUM ประกอบด้วย
จานวนประชากร จานวนครัวเรือน การจ้ างงาน (ภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ) รายได้เฉลี่ย ของ
ครัวเรือน และจานวนนักเรียน พื้นที่ศึกษาประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุ ทรปราการ ปทุมธานี สมุทรสาคร
นครปฐม พระนครศรีอยุธยา (8 อาเภอ) และ ฉะเชิงเทรา (4 อาเภอ) รวมทั้งทาการคาดการณ์ในปีอนาคต ปี พ.ศ. 2560
(ปีฐาน) 2565 2570 2575 2580 และ 2585 สรุปรายละเอียดข้อมูลที่ได้ทาการรวบรวมและใช้ในการปรับปรุง
ตารางที่ 5-2 รายการปรับปรุงข้อมูลเศรษฐกิจและสังคม
รายการ แหล่งที่มา
จานวนประชากร สามะโนประชากรและเคหะ สานักงานสถิติแห่งชาติ
ทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครอง
จานวนครัวเรือน สามะโนประชากรและเคหะ สานักงานสถิติแห่งชาติ
ทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครอง
รายได้เฉลี่ยครัวเรือน รายงานการกระจายรายได้ของครัวเรือน สานักงานสถิติแห่งชาติ
จานวนที่นงั่ เรียน ข้อมูลรายสถานศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
จานวนผู้มีงานทา จานวนประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป ที่มีงานทา สานักงานสถิติแห่งชาติ
ข้อมูลผังเมือง การใช้ประโยชน์ที่ดินและการพัฒนาเมือง สานักผังเมืองกรุงเทพมหานคร
กรมโยธาธิการและผังเมือง
5.3.1 แนวโน้มการพัฒนาเมือง
จากการศึกษาการใช้ ประโยชน์ที่ดิ นในปัจจุบั น
พบว่าการใช้ประโยชน์ที่ดินในกรุงเทพฯ ในปัจจุบันมีที่ดิน
ประเภทพาณิ ชยกรรมกระจุกตั วอยู่ในเขตชั้ นในและชั้ น
กลาง คือภายในถนนวงแหวนรอบที่ 1 (ถนนรัชดาภิเษก)
และที่อยู่อาศัยกระจุกตัวอยู่ภายในถนนวงแหวนรอบที่ 2
(ถนนกาญจนาภิเษก) เมื่อพิจารณาในภาพรวมของพื้นที่
โครงการ พบว่ า มี การขยายตั ว ของพื้ น ที่ เมื อง (Urban
area) จากกรุงเทพฯ ไปด้านทิศเหนือสู่จังหวัดปทุมธานี
ทางถนนพหลโยธิ น ท าให้พื้ นที่ตามแนวถนนพหลโยธิ น
ตั้ ง แต่ อ าเภอเมื อ ง อ าเภอล าลู ก กา ขึ้ น ไปถึ ง อ าเภอ
คลองหลวง ส่วนด้านทิศตะวันตก พื้นที่เมืองมีการขยายตัวต่อเนื่องกับพื้นที่ในอาเภอเมืองนนทบุรีและอาเภอเมืองสมุทรสาคร
และด้ า นทิ ศ ตะวั น ออก พื้ น ที่ เ มื อ งมี ก ารขยายตั ว ต่ อ เนื่ อ งกั บ อ าเภอเมื องสมุ ท รปราการ ในพื้ น ที่ จั ง หวั ด นคร ปฐม
พระนครศรีอยุธยา และฉะเชิงเทรา พื้นที่เมืองอยู่ในเขตอาเภอเมือง
5-5
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
5.3.2 จานวนประชากร
ได้รวบรวมข้อมูลจานวนประชากร จากการสารวจสามะโนประชากรและเคหะ (Census) ของสานักงานสถิติ
แห่งชาติ (สสช) และ ข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ของกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย และเปรียบเทียบจานวนประชากร
ระหว่างข้อมูลสามะโนประชากรและเคหะกับข้อมูลทะเบีย นราษฎร์ ปี พ.ศ. 2553 จากนั้นได้ท าการกระจายข้อมู ล
ประชากรลงพื้นที่ศึกษา โดยการกระจายจานวนประชากรรายจังหวัด ตามข้อมูลสัดส่วนของประชากรรายตาบล/แขวง
จากส ามะโนประชากรและเคหะ โดยปรับ สัด ส่ว นการเติ บโตของประชากรในแต่ล ะพื้ น ที่ ตามอัต ราการเติ บโตของ
ประชากร อ้างอิงตามข้อมูลทะเบียนราษฎร์ และกระจายประชากรรายตาบล/แขวงลงในพื้นที่ระดับ TAZ อีกครั้งจากการ
ใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัย (Residence) และประเภทอรรถประโยชน์ (Mixed) โดยอ้างอิงข้อมูลพื้นฐานหลักจาก
ฐานข้อมูลการใช้ประโยชน์อาคาร ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และอ้างอิงฐานข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดิน ของกรมพัฒนาที่ดิน
ในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ศึกษา
5-6
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
5.3.3 รายได้เฉลี่ยครัวเรือน
จากข้อมูลรายงานการกระจายรายได้ของครัวเรือนปี พ.ศ. 2541-2558 ของสานักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าพื้นที่
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอัตราการเติบโตประมาณร้อยละ 3.55 ต่อปี โดยได้ประมาณการรายได้เฉลี่ยครัวเรือน
ของแต่ละจังหวัดในพื้นที่ศึกษา โดยอ้างอิงข้อมูลตามร่างยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พ.ศ. 2560-2579 ซึ่งมีเป้าหมายในการ
เพิ่มรายได้ต่อหัวของประชากรในประเทศไทยจากในปี พ.ศ. 2559 รายได้ประชาชาติต่อหัวเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 6,000
ดอลลาร์ (ประมาณ 213,000 บาทต่อคน) เป็นอย่างน้อย 15,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 500,000 บาทต่อปี คิดเป็น
อัตราการเติบโตประมาณ ร้อยละ 4.7 ต่อปีเมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ ณ ปี พ.ศ. 2559
5.3.5 จานวนการจ้างงาน
ได้ทาการรวบรวมข้อมูลการจ้างงานจากสานักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าหลังจากปี พ.ศ. 2557 จานวนผู้มีงานทา
ค่อนข้างคงที่ ทั้งนี้ในการคาดการณ์จานวนผู้มีงานทาในปีอนาคต ได้วิเคราะห์โดยอ้างอิงข้อมูลอัตราการเติบโตของ
ประชากรผู้มีงานทาที่คานวณได้ และประยุกต์ใช้ในการคาดการณ์ปีอนาคต
5-7
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
5.3.6 สรุปข้อมูลด้านเศรษฐกิจสังคม
ข้อมูลเศรษฐกิจและสังคม ที่ใช้ในแบบจาลอง eBUM ประกอบด้วย จานวนประชากร จานวนครัวเรือน จานวน
นักเรียน การจ้างงาน (ภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ) และรายได้เฉลี่ยของครัวเรือน ประกอบด้วย
ตารางที่ 5-3 ผลคาดการณ์ข้อมูลด้านเศรษฐกิจสังคม
การจ้างงาน (ล้านคน) รายได้เฉลี่ย
ปี ประชากร ครัวเรือน ที่นั่งเรียน
ครัวเรือน
พ.ศ. (ล้านคน) (ล้านรัวเรือน) (ล้านทีน่ ั่ง) เกษตร อุตสาหกรรม บริการ รวม (บาท/เดือน)
2560 16.430 6.164 3.096 0.287 1.842 8.301 10.430 42,450
2565 17.471 6.856 2.992 0.305 1.961 8.961 11.227 47,200
2570 18.269 7.556 2.894 0.327 2.093 9.688 12.108 52,660
2575 18.774 8.067 2.799 0.350 2.237 10.360 12.947 58,530
2580 19.067 8.467 2.710 0.376 2.389 11.065 13.830 65,000
2585 19.388 8.882 2.624 0.405 2.556 11.832 14.793 72,190
5-8
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
5.4 การปรับปรุงโครงข่ายคมนาคม
การตรวจสอบโครงข่ายคมนาคม (Transport Network) ในปัจจุบัน ประกอบด้วย โครงข่ายถนน ทางพิเศษและ
ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (Highway Network) และโครงข่ายสาธารณะ (Public Transport Network) ทั้งระบบ
รถไฟฟ้า รถประจาทาง และทาการรวบรวมแผนงานโครงข่ายคมนาคมในอนาคต เพื่อใช้เป็นข้อมูลนาเข้าในแบบจาลอง
ในช่วงปีต่างๆ สาหรับโครงข่ายรถไฟฟ้าในอนาคต ได้ทาการรวบรวมแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายต่างๆ และตาแหน่งสถานี
ตามผลการศึกษาล่าสุด นามาปรับปรุงใช้ในแบบจาลอง
ปพศ -
0 2 5 10
Km.
รูปที่ 5- 2 แสดงการปรับปรุงโครงข่ายคมนาคม
5-9
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
5.5.1 การแบ่งกลุ่มการครอบครองยานพาหนะ
ทาการวิเคราะห์ถึงสัดส่วนการครอบครองยานพาหนะ และความแตกต่างของพฤติกรรมการเดินทาง จากข้อมูล
สารวจ HTS พบว่าการเลือกรูปแบบการเดินทางขึ้นอยู่กับการครอบครองรถแต่ละประเภท ดังนั้น โครงการ TDS 2560
ได้แบ่งการครอบครองยานพาหนะเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย ไม่มีรถ (0VEH) มีรถจักรยานยนต์ (MC) มีรถยนต์ (PC) และ
มีรถยนต์และจักรยานยนต์ (MULTI)
5-10
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
อย่างไรก็ตามอัตราการเกิดการเดินทางข้างต้นเป็นค่าเฉลี่ยของทั้งพื้นที่ศึกษา ในการนาไปใช้งานจะมีการปรับแก้
ที่พิจารณาในระดับพื้นที่ เช่น เมืองชั้นใน (CBD) พื้นที่เมือง (Urban) และพื้นที่ชานเมือง (Sub Urban) ต่อไป
5-11
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
5-12
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
เดินทางภายในพื้นที่
อยุ ยา 3.4%
เดินทางภายในพื้นที่
7.7%
ปทุม านี
นนทบุรี เดินทางภายในพื้นที่
นครปฐม 7.3%
เดินทางภายในพื้นที่
5.1%
กรุงเทพฯ
เดินทางภายในพื้นที่
0.1% ฉะเชิงเทรา
54.2% เดินทางภายในพื้นที่
2.4%
2.2%
สมุทรสาคร
เดินทางภายในพื้นที่ สมุทรปราการ
4.8% เดินทางภายในพื้นที่
.5%
5-13
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
Travel modes
Private Medium
Private Car High Performance Low Performance Paratransit
Motorcycle Performance
(PC) Transit (HPT) Transit (LPT) (PRT)
(MC) Transit (MPT)
BTS MRTA BRT ARL Etc. AC Public van Etc. Ordinary Vessels Etc. Hired- Taxi Tuk-tuk Etc.
Bus Rail
bus motorcycle
5-14
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
5-15
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
ประกอบด้วย นครปฐม
นนทบุรี
ปทุมธานี
กรุ งเทพมหานคร
ฉะเชิงเทรา
Cordon Line 2
ในปัจจุบัน Screen Line 1
ตารางที่ 5- ปรับเทียบปริมาณจราจรเฉลี่ย
ปริมาณจราจร ผลต่าง
รายการ
ข้อมูลจริง แบบจาลอง (%)
ระบบทางพิเศษ ทั้งวัน (PCU/วัน 385,888 395,900 2.6
เร่งด่วนเช้า (PCU/ชม.) 720,051 717,600 -0.3
ปริมาณจราจรข้ามแม่น้าเจ้าพระยา
เร่งด่วนเย็น (PCU/ชม.) 220,023 228,500 3.9
เร่งด่วนเช้า (PCU/ชม.) 144,044 141,500 -1.8
ปริมาณจราจรข้ามคลองแสนแสบ
เร่งด่วนเย็น (PCU/ชม.) 84,312 78,800 -6.5
เร่งด่วนเช้า (PCU/ชม.) 264,051 267,600 1.3
ปริมาณจราจรเข้า-ออกวงแหวนรัชดา
เร่งด่วนเย็น (PCU/ชม.) 56,306 58,800 4.4
ปริมาณจราจร External (Outer Cordon Line) ทั้งวัน (PCU/วัน 1,874,675 1,888,700 0.7
5-16
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
HBO, 4.29
HBW, 19.59
HBE, 5.43
ขนส่งสาธารณะ
20%
รถยนต์
43%
รถ Taxi
4%
รถจักรยานยนต์
26%
ปริมาณผู้โดยสาร (ล้านคน-เที่ยว/วัน)
เรือโดยสาร 0.135
รถไฟชานเมือง 0.069
รถตู้ 0.623 7.767
รถโดยสาร
รถไฟฟ้า 1.23
0 1 2 3 4 5 6 7 8
5-17
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
5.10 การวิเคราะห์และพัฒนาแบบจาลองปีอนาคต
จากแบบจาลองข้างต้น ทาให้ได้แบบจาลองที่ เหมาะสม และนาไปใช้ในการวิ เคราะห์และคาดการณ์ ความ
ต้องการในปีอนาคต ปี พ.ศ. 2560 (ปีฐาน) ปี พ.ศ. 2565 2570 2575 2580 และ 2585 ประกอบด้วย ข้อมูล Socio
Economic และข้อมูลแผนงานโครงการในปีอนาคต โดยทาการรวบรวมงานโครงการจากหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย
กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท การทางพิเศษแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร การรถไฟแห่งประเทศไทย และ
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เป็นต้น
40
เดิน
35 รถรับส่ง
30 ขนส่งสาธารณะ
ปริมาณการเดินทาง (ล้านเที่ยว/วัน)
25 รถ Taxi
รถจักรยานยนต์
20
15
10
รถยนต์
5
0
2560 2565 2570 2575 2580 2585
5-18
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
5.00
ปริมาณผู้โดยสาร (ล้านเที่ยว/วัน)
4.00
3.00
2.00
1.00
0.00
2560 (109 km) 2565 (303 km) 2570 (496 km) 2575 (530 km) 2580 (530 km) 2585 (530 km)
5-19
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
ความเร็วเฉลี่ย พื้นที่ชั้นใน
20.00
18.00 เร่งด่วนเช้า เร่งด่วนเย็น
16.00
ความเร็วเฉลี่ย (กม./ชม.)
14.00
12.00
10.00
8.00
6.00
4.00
2.00
0.00
2560 2565 2570 2575 2580 2585
ปี พ.ศ.
20.00
18.00
16.00
14.00
12.00
10.00
8.00
6.00
4.00
2.00
0.00
2560 2565 2570 ปี พ.ศ. 2575 2580 2585
5-20
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
5.11 การประยุกต์ใช้แบบจาลอง
แบบจาลองจราจรและขนส่งเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (eBUM) ที่ถูกปรับปรุง ภายใต้โครงการ TDS 2560
จะถูกนาไปประยุกต์ใช้ 2 เรื่อง ประกอบด้วย
1) การทดสอบนโยบายการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน
มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบนโยบายการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน และผลกระทบด้านราคาค่าโดยสารต่อจานวน
ผู้ใช้ระบบขนส่งมวลชนโดยรวมในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยพิจารณากรณีมีและไม่มีการเก็บค่าเปลี่ยนถ่าย
ระบบ ในการดาเนินการระบบรถไฟฟ้ามีผู้ให้บริการ 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย กทม. รฟม. และ รฟท. ที่กาหนดโครงสร้าง
ของอัตราค่าโดยสารด้วยค่าแรกเข้า (Boarding) และ ตามระยะทาง (Distance) ขึ้นกับหน่วยงานที่ให้บริการระบบรถไฟฟ้า
โดยที่ กทม.และ รฟม. เฉลี่ยอัตรา 13.5+2.50 บาท/กม. และ รฟท. เฉลี่ยอัตรา 13.5+1.00 บาท/กม. โดยที่จุดเปลี่ยนถ่าย
ระบบ (Transfer) หากเป็นสถานีที่เป็นหน่วยงานเดียวกันจะไม่มีการเก็บค่าเปลี่ยนถ่ายระบบ แต่หากเป็นสถานีที่เชื่อมต่อกับ
หน่วยงานอื่นจะมีการเก็บค่าเปลี่ยนถ่ายระบบ หรือจ่ายค่าแรกเข้า (Boarding) ใหม่อีกครั้ง
ผลการวิเคราะห์ พบว่า ในปี พ.ศ. 2585 กรณีฐาน ที่มีการเก็บค่าแรกเข้าในการเปลี่ยนถ่ายระบบ มีปริมาณ
ผู้โดยสารรวมประมาณ 5.3 ล้านคน-เที่ยว/วัน เมื่อมีการทดสอบกรณีไม่เก็บค่ าแรกเข้าในการเปลี่ยนถ่ายระบบ พบว่า มี
ปริมาณผู้โดยสารโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็น 5.66 ล้านคน-เที่ยว/วัน หรือประมาณ 400,000 คน-เที่ยว/วัน คิดเป็นร้อยละ 7.4
จะเห็นได้ว่าการไม่เก็บค่าแรกเข้าเมื่อมีการเปลี่ยนถ่ายระบบนั้น ทาให้แนวโน้มด้านปริมาณผู้โดยสารที่ใช้ระบบขนส่ง
มวลชนในภาพรวมมีจานวนเพิ่มสูงขึ้น รัฐบาลควรผลักดันนโยบายด้านค่าโดยสาร โดยเฉพาะนโยบายของตั๋วร่วมและ
ค่าโดยสารร่วม (Common Fare & Common Ticket) ซึ่งเป็นนโยบายที่ช่วยให้ประชาชนมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
น้อยลง ส่งเสริมให้ผู้ใช้รถส่วนบุคคลเปลี่ยนมาใช้บริการระบบขนส่ งสาธารณะมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดปัญหาสภาพจราจร
ที่แออัดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลให้ดียิ่งขึ้น
2) การประเมินมูลค่าการเสียเวลาในการเดินทาง
มีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อทดสอบผลกระทบด้านจราจรจากการดาเนินงานตามเป้าหมายที่โครงการ TDM กาหนด
และประเมินมูลค่าการเสียเวลาในการเดินทางที่ประหยัดได้สาหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
กรณีฐานที่มีการดาเนินงานตามโครงการต่างๆ ของแต่ละหน่วยงาน เช่น การพัฒนาโครงข่ายสะพานข้ามแม่น้า
เจ้าพระยา ในเขตพื้นที่ชั้นใน มีสภาพการจราจรที่ติดขัดอย่างรุนแรง ความเร็วเฉลี่ยในปี พ.ศ. 2565 ประมาณ 10.19 กม./ชม.
และลดลงเป็น 9.05 และ 8.21 กม./ชม. ในปี พ.ศ.2575 และ 2585 ตามลาดับ เมื่อมีการกาหนดมาตรการที่จะทาให้
ความเร็ ว เฉลี่ ย ในการเดิ น ทางเพิ่ ม ขึ้ น ตามเป้ า หมายพื้ น ที่ ชั้ น ใน 15 กม./ชม และ พื้ น ที่ ชั้ น กลางและชั้ น นอก 20
กม./ชม. ทาให้เกิดการประหยัดมูลค่าเวลาในการเดิ นทางของผู้ใช้รถ (Saving) โดยในปี พ.ศ. 2565 ประหยัดได้ 67,000
ล้านบาท/ปี เพิ่มเป็น 117,000 และ 322,000 ล้านบาท/ปี ในปี พ.ศ. 2575 และ 2585 ตามลาดับ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็น
มูลค่าที่สูงมาก ดังนั้นภาครัฐควรพิจารณาถึงมาตรการที่จะสามารถลดประมาณการใช้รถยนต์ในอนาคต โดยใช้มาตรการ
TDM ในรูปแบบต่างๆ ในเขตที่มีระบบขนส่งสาธารณะที่เพียงพอ เช่น มาตรการระบบตั๋วโดยสาร มาตรการจากัด
ยานพาหนะในบางพื้นที่ มาตรการจัดเก็บค่าใช้ถนน เป็นต้น
5-21
บทที่ 6
• พัฒนำแบบจำลองระดับประเทศและกำรประยุกต์ใช้
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
6. พัฒนาแบบจาลองระดับประเทศและการประยุกต์ใช้
6.1 การปรับปรุงและออกแบบพัฒนาโครงสร้างแบบจาลอง
แบบจ าลองระดั บ ประเทศ (NAM) ประกอบดั ว ยแบบจ าลองย่ อ ย 2 ส่ ว นได้ แก่ แบบจ าลองการขนส่ ง คน
(Passenger Model) และแบบจาลองการขนส่งสินค้า (Freight Model) โดยแบบจาลองการขนส่งคนเป็นแบบจาลองที่
มีขั้นตอนการทางานต่อเนื่อง 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย แบบจาลองการเกิดการเดินทาง (Trip Generation Model)
แบบจาลองการกระจายการเดินทาง (Trip Distribution Model) แบบจาลองการเลือกรู ปแบบการเดินทาง (Modal
Split) แบบจาลองการแจกแจงการเดินทาง (Trip Assignment)
สาหรับแบบจาลองการขนส่งสินค้า (Freight Model) เป็นแบบจาลองต่อเนื่องที่มีหลายขั้นตอนการทางาน
เช่นกัน ได้แก่ แบบจาลองการเกิดและสิ้นสุดการขนส่งสินค้า (Production Model) แบบจาลองการกระจายและเลือก
รูปแบบการขนส่งสินค้า (Mode Distribution) แบบจาลองโลจิสติกส์ (Logistics Node) แบบจาลองการขนส่งสินค้าแบบ
ละเอียด (Fine Distribution) และแบบจาลองยวดยาน (Vehicle Model) โดยใช้โปรแกรมประยุกต์ Cube Cargo
สาหรับการขนส่งสินค้า
ในการศึกษานี้ ได้ปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างแบบจาลองทั้งแบบจาลองการขนส่งคน และแบบจาลองการ
ขนส่งสินค้าโดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
การปรับปรุงและออกแบบพัฒนาโครงสร้างแบบจาลองระดับประเทศ (NAM)
แบบจาลองการเดินทางของ - ปรับปรุงแบบจาลองการเลือกรูปแบบการเดินทาง
คน (Passenger Model) - เพิ่มเติมการวิเคราะห์ความต้องการเดินทางจากนักท่องเที่ยว (Travel Trips)
- เพิ่มเติมการวิเคราะห์ปริมาณการเดินทางที่เพิ่มขึ้น (Induced Trips) จากการ
พัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง
- เพิ่มเติมการวิเคราะห์โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)
แบบจาลองการขนส่งสินค้า - ปรับปรุงสมการตัวแปร (Parameter)ในแบบจาลอง Transport Logistics Node
(Freight Model) - เพิ่มเติมการวิเคราะห์โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)
6.1.1 การปรับปรุงข้อมูลเศรษฐกิจสังคม
ในการพัฒนาแบบจาลองในโครงการนี้ มีการทบทวนและปรับปรุงการคาดการณ์ตัวแปรหลักสองตัวแปร ได้แก่
ข้อมูลประชากร และข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวม จากข้อมูลขั้นต้น พบว่าข้อมูลประชากรตามทะเบียนราษฎร์ย้อนหลัง 10 ปี
ระหว่างปี พ.ศ. 2550-2559 ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พบว่า จานวนประชากรทั่วราชอาณาจักรเติ บโต
ขึ้นร้อยละ 0.5 ต่อปี (หน่วย : พันคน)
6-1
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
ภาคและจังหวัด 2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559
ภาคตะวันออก
21,386 21,443 21,496 21,573 21,586 21,697 21,775 21,845 21,916 21,945
เฉียงเหนือ
ภาคเหนือ 11,872 11,879 11,770 11,788 11,783 11,803 11,826 11,847 12,072 12,079
ภาคใต้ 8,655 8,742 8,814 8,893 8,972 9,060 9,131 9,209 9,291 9,341
ภาคตะวันออก 4,443 4,510 4,558 4,616 4,664 4,721 4,773 4,832 4,903 4,952
ภาคกลาง 6,618 6,656 6,650 6,682 6,695 6,720 6,741 6,767 6,838 6,849
กรุงเทพมหานครและ
10,065 10,162 10,237 10,326 10,377 10,456 10,539 10,625 10,708 10,765
ปริมณฑล
ประเทศไทย 63,038 63,390 63,525 63,878 64,076 64,457 64,786 65,125 65,729 65,932
6.1.2 การปรับปรุงการคาดการณ์ข้อมูลประชากร
ในการปรับปรุงข้อมูลการคาดการณ์จานวนประชากรเพื่อนาไปใช้ในแบบจาลองระดับประเทศ จะใช้ข้อมูล 3
แหล่ง คือ (1) ข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย (2) สามะโนประชากรและเคหะของ
สานักงานสถิติ แห่งชาติ (3) ข้อมู ล จากรายงานการคาดประมาณประชากรของประเทศไทย พ. ศ.2553-2583 โดย
สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
สามะโน ทะเบียนราษฎร์ สัดส่วน
ภาค Pop 2553 Pop 2553 ความแตกต่าง สามะโน/
Growth/year Growth/year
(x1,000) (x1,000) ทะเบียน
ตะวันออกเฉียงเหนือ 18,966 -0.931% 21,573 0.261% 13.75% 0.879
เหนือ 11,656 0.193% 11,788 0.165% 1.14% 0.989
ใต้ 8,871 0.929% 8,893 0.855% 0.25% 0.997
ตะวันออก 5,175 2.530% 4,616 1.235% -10.82% 1.121
กลาง 6,687 0.470% 6,682 0.407% -0.08% 1.001
กรุงเทพมหานคร/ปริมณฑล 14,626 3.712% 10,326 0.930% -29.40% 1.416
ประเทศไทย 65,982 0.802% 63,878 0.517% -3.19% 1.033
6.1.3 การปรับปรุงการคาดการณ์ข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวม
จากสถิติข้อมูลมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมที่รวบรวมได้ พบว่าเส้นแนวโน้มแบบเส้นตรงสามารถใช้ในการประมาณ
ค่าข้อมูลในแต่ละปีในอดีตได้ค่อนข้างดี (R2 มีค่าสูง) ทั้งในระดับผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ภาค และจังหวัด ในการ
คาดการณ์ข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมสาหรับแบบจาลองระดับประเทศ (NAM) จึงใช้แนวโน้มแบบเส้นตรงจากข้อมูลสถิติ
ย้อนหลัง
6-2
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
6.1.4 การปรับปรุงโครงข่ายคมนาคม
การปรับปรุงโครงข่ายคมนาคมสาหรับการขนส่งทั้งการขนส่งคนและขนส่งสิน ค้าทุกรูปแบบการขนส่ง รวมทั้ง
บริการขนส่ งทุกประเภทให้เป็น ปัจ จุบัน โดยโครงข่า ยคมนาคมขนส่ง ประกอบด้ว ย โครงข่า ยการคมนาคมทางถนน
โครงข่ายการคมนาคมขนส่งทางรถไฟ โครงข่ายการคมนาคมขนส่งทางน้า และโครงข่ายคมนาคมขนส่งทางอากาศ
6-3
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
การปรับปรุงโครงข่ายคมนาคมขนส่งทางถนนในอนาคตสาหรับพัฒนาแบบจาลอง จากการรวบรวมข้อมูล
แผนงานโครงการก่อสร้างและขยายถนนในอนาคต โดยเป็นโครงข่ายทางถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบดูแลของ
กรมทางหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง
37 โครงการ และโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย 7 โครงการ
การปรับปรุงโครงข่ายคมนาคมขนส่งทางรถไฟในอนาคตสาหรับพัฒนาแบบจาลอง ที่ปรึกษาได้ทาการรวบรวม
ข้อมูลแผนงานโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ในอนาคต โดยเป็นข้อมูลโครงการก่อสร้างที่อยู่ในความรับผิดชอบ
ดูแลของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งแบ่งเป็นโครงการรถไฟทางคู่ 17 เส้นทาง ระยะทางรวม 2,992 กิโลเมตร
โครงการรถไฟสายใหม่ 14 เส้นทาง ระยะทางรวม 2,352 กิโลเมตร รถไฟความเร็วสูง 8 เส้นทาง ระยะทาง
ทั้งหมด 2,506 กิโลเมตร
โครงข่ายการคมนาคมขนส่งทางน้าในปัจจุบันแบ่งออกเป็นการขนส่งทางลาน้าและการขนส่งทางชายฝั่ง โดย
เส้นทางการขนส่งทางลาน้ามี 2 เส้นทาง คือ เส้นทางการขนส่งสินค้าภายในประเทศ ได้แก่ แม่น้าเจ้าพระยา
(ขนส่งได้ตลอดทั้งปี) แม่น้าป่าสัก แม่น้าบางปะกง แม่น้าแม่กลอง และแม่น้าท่าจีน ส่วนเส้นทางที่ 2 เป็น
เส้นทางการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ได้แก่ การขนส่งทางทะเลและการขนส่งในแม่น้าโขง ระหว่างกลุ่ม
ประเทศสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (จีน เมียนมาร์ ไทย ลาว) สาหรับเส้นทางการขนส่งทางชายฝั่งโดยมากจะมีจุดต้น
ทางหรือจุดปลายทางอยู่ในชายฝั่งของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย
โครงข่ายคมนาคมขนส่งทางอากาศในแบบจาลอง ที่ปรึกษาได้ทาการรวบรวมข้อมูลท่ าอากาศยานที่มีอยู่
ภายในประเทศไทย โดยเป็นข้อมูลขนส่งทางอากาศจากหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จากัด
(มหาชน) กรมท่าอากาศยาน และสานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย โดยประเทศไทยมีท่าอากาศยาน
ทั้งหมด 34 แห่ง
6-4
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
6.2 การส ารวจข้ อ มู ล เพื่ อ ปรับ ปรุ ง แบบจาลองด้ า นการขนส่ ง และจราจรระดั บ ประเทศ
(NAM)
การสารวจเพื่อปรับปรุงแบบจาลอง
ด้ า นการขนส่ ง และจราจรระดั บ ประเทศ
(NAM) ใช้วิธีการสารวจแบบ Screen Line
Count โดยลากเส้นแนวสมมติขึ้นมาตัดกับ
ทางหลวงสายส าคั ญ ที่ มี ป ริ ม าณจราจร
มากกว่ า 5,000 คั น ต่ อ วั น เพื่ อ กาหนดจุ ด
สารวจ
โดยที่ปรึกษาได้ทาการลากแนวเส้น
Screen Line ขึ้นมา 6 แนวให้ครอบคลุมใน
แต่ละภาคของประเทศ ซึ่งแบ่งเป็นจุดสารวจ
ตามแนว Screen Line ในภาคเหนือ (SL1)
จานวน 4 จุด แนวภาคกลาง (SL3) จานวน
2 จุด แนวภาคตะวัน ออก (SL4) จานวน 2
จุ ด แนวภาคตะวั น ออกเฉี ย งเหนื อ (SL2)
จ านวน 4 จุ ด แนวภาคใต้ ต อนบน (SL5)
จานวน 1 จุด และแนวภาคใต้ตอนล่าง (SL6)
จานวน 3 จุด รวมทั้งสิ้น 16 จุด ซึ่งผลการ
สารวจปริมาณจราจรและสัมภาษณ์ริมทางใน
แต่ละแห่งแสดงได้ดังรูป
เมื่อพิจารณาถึงปริมาณผู้โดยสารที่
ได้จากการสารวจบนรถโดยสารสาธารณะทั้งรถโดยสารขนาดเล็ก และรถโดยสารขนาดใหญ่ พบว่า รถโดยสารขนาดเล็ก
ในภาคเหนือบรรทุกผู้โดยสารเต็มคันถึงร้อยละ 50 ตามด้วยภาคใต้ตอนล่างที่บรรทุกผู้โดยสารเต็มคันร้อยละ 40 และ
พบว่าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือบรรทุกผู้โดยสารประมาณครึ่งคันถึงร้อยละ 70 ในขณะที่ภาคใต้ตอนบนรถโดยสาร
ขนาดเล็กส่วนใหญ่บรรทุกผู้โดยสารเกือบเต็มคันร้อยละ 60
6-5
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
รถโดยสารขนาดเล็ก
SL01-ภาคเหนือ 15 8 15 8 54
SL02-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 13 67 7 7
SL03-ภาคกลาง 0 33 33 17 17
SL04-ภาคตะวันออก 0 100 0
SL05-ภาคใต้ตอนบน 0 13 25 63 0
SL06-ภาคใต้ตอนล่าง 11 6 17 22 44
0% 10% 20% 30% 40% 50% 60% 70% 80% 90% 100%
ว่าง 1/4 1/2 3/4 เต็ม
SL01-ภาคเหนือ 0 14 86
SL02-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 46 8 15 23
SL03-ภาคกลาง 0 50 50 0
SL04-ภาคตะวันออก 0 100
SL05-ภาคใต้ตอนบน 0 67 33
SL06-ภาคใต้ตอนล่าง 4 4 16 38 38
0% 10% 20% 30% 40% 50% 60% 70% 80% 90% 100%
ว่าง 1/4 1/2 3/4 เต็ม
6-6
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
SL01-ภาคเหนือ 28 4 21 3 13 24 6
SL02-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 28 4 15 1 17 26 10
สินค้าเกษตรกรรม
SL03-ภาคกลาง 18 7 20 13 14 21 7 สินค้าเกษตรกรรมแปรรูป
สินค้าอุตสาหกรรม
สินค้าพลังงาน
SL04-ภาคตะวันออก 8 4 31 5 16 33 4 วัสดุก่อสร้าง
สินค้าอุปโภคบริโภค
SL05-ภาคใต้ตอนบน สินค้าอื่น ๆ
15 14 18 6 14 28 6
SL06-ภาคใต้ตอนล่าง 18 12 21 3 18 26 3
0% 10% 20% 30% 40% 50% 60% 70% 80% 90% 100%
6.3 การวิเคราะห์และการพัฒนาแบบจาลองปีอนาคต
การดาเนินการวิเคราะห์และคาดการณ์ปริมาณความต้องการเดินทางในปีอนาคต ประกอบด้วย ปี พ.ศ. 2560
(ปีฐาน) ปี พ.ศ. 2565 2570 2575 2580 และ 2585 โดยสามารถสะท้อนพฤติกรรมการเดินทางได้อย่างถูกต้องและมี
ความน่ า เชื่ อถือ รวมทั้ งอยู่ ในช่ ว งค่า ความคลาดเคลื่อนที่ ยอมให้ไ ด้ในการปรับ แก้แบบจาลอง โดยผลการวิ เคราะห์
แบบจาลองแบ่งเป็น 2 ส่วน คือการวิเคราะห์แบบจาลองในปีฐาน และการวิเคราะห์แบบจาลองในปีอนาคต
6.3.1 การวิเคราะห์แบบจาลองในปีฐาน
หลังจากปรับเทียบแบบจาลอง (Calibrate Model) พบว่าความคลาดเคลื่อนของปริมาณจราจรระหว่างผลการ
สารวจและผลที่ได้จากแบบจาลองของทั้งหมด มีความคาดเคลื่อนเฉลี่ย อยู่ที่ร้อยละ 4.89 เป็นที่ยอมรับได้ ซึ่งในการ
วิเคราะห์แบบจาลองปีฐาน ประกอบไปด้วย ผลการประมาณการขนส่งสินค้า ปี พ.ศ. 2560 แบ่งออกตามกลุ่มสินค้า
ทั้งหมด 18 กลุ่ม (รวมสินค้าที่ขนส่งภายในประเทศ และสินค้าผ่านแดน) มีปริมาณสินค้าทั้งสิ้น 854 ล้านตันต่อปี สัดส่วน
การขนส่งสินค้าตามรูปแบบการขนส่งประเภทต่างๆ ปี พ.ศ. 2560 และการประมาณการเดินทางของคนจาแนกตาม
รูปแบบการเดินทางในปี พ.ศ. 2560
6-7
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
ปริมาณการขนส่ง
กลุ่มที่ กลุ่มสินค้า
(ตัน/ปี)
1 หมวดผลิตภัณฑ์จากพืช (Vegetable Products) 98,235,922
2 หมวดสัตว์มีชีวิต ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ (Live Animals & Animal Products) 6,738,605
3 หมวดผลิตภัณฑ์อาหาร (Foodstuffs) 55,983,267
4 หมวดสิ่งทอ (Textiles) 2,739,763
5 หมวดหนังและผลิตภัณฑ์จากหนัง (Raw Hides, Skins, Leather, & Furs) 573,417
6 หมวดไม้และของทาด้วยไม้ (Wood & Wood Products) 7,743,768
7 หมวดกระดาษและเยือ่ กระดาษ (Pulp & Paper) 8,160,426
8 หมวดผลิตภัณฑ์แร่ (Mineral Products) 133,766,576
9 หมวดเคมีภัณฑ์ (Chemicals & Allied Industries) 35,888,003
10 หมวดพลาสติกและยาง (Plastics & Rubber) 26,833,707
11 หมวดหิน ผลิตภัณฑ์เซรามิก เครื่องแก้ว (Stone / Ceramic Products / Glass) 8,509,169
12 หมวดไข่มุก รัตนชาติ (Pearl and Precious Stones) 625,456
13 หมวดโลหะสามัญ (Base Metals) 32,112,099
14 หมวดเครื่องจักร เครื่องกล อุปกรณ์ไฟฟ้า (Machinery & Mechanical Appliances / Electrical Equipment) 5,925,761
15 หมวดยานพาหนะ (Transportation) 8,315,308
16 หมวดเบ็ดเตล็ด (Miscellaneous) 148,898
17 สินค้าที่มีการขนส่งเฉพาะในประเทศ (กลุ่ม B) 377,237,019
18 สินค้าผ่านแดน (กลุ่ม C) 137,038
รวมทั้งหมด 809,674,202
ที่มา : แบบจาลองด้านการขนส่งและจราจรระดับประเทศ (NAM)
หมายเหตุ : สินค้ากลุ่ม A คือสินค้าที่มีการนาเข้า-ส่งออก (กลุ่มที่ 1-16), สินค้ากลุ่ม B คือสินค้าที่มีการขนส่งเฉพาะในประเทศ (กลุ่มที่ 17), สินค้ากลุ่ม
C คือสินค้าที่มีการขนส่งผ่านแดน (กลุ่มที่ 18)
พ.ศ. 2560
รูปแบบการขนส่ง ปริมาณการขนส่ง การขนส่งภายในประเทศ
ระยะทางเฉลี่ย (กม.)
(ตันต่อปี) (ล้านตัน-กม. ต่อปี)
ทางถนน 709,027,881 131,170 185.00
ทางรถไฟ 10,162,498 2,044 201.11
ทางน้า 90,428,938 15,834 175.10
ทางอากาศ 54,886 35 629.50
เฉลี่ยทุกรูปแบบ 809,674,202 149,082 184.13
ที่มา : ข้อมูลจากแบบจาลองด้านการขนส่งและจราจรระดับประเทศ (NAM)
6-8
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
6.3.2 การวิเคราะห์แบบจาลองในอนาคต
การวิเคราะห์แบบจาลองในปีอนาคต ประกอบไปด้วยปี พ.ศ. 2565 2570 2575 2580 และ 2585 ซึ่งสามารถ
วิเคราะห์ถึงพฤติกรรมการเดินทางที่เปลี่ยนแปลงไปได้ ทั้งนี้ยังสามารถนาผลการวิเคราะห์ไปใช้ในการวางแผนระบบขนส่งของ
ประเทศในอนาคต โดยผลการประมาณการขนส่งสินค้าในปีอนาคต ประกอบไปด้วย สัดส่วนการขนส่งสินค้าตามรูปแบบการ
ขนส่งประเภทต่าง ๆ ในอนาคต และการประมาณการเดินทางของคนจาแนกตามรูปแบบการเดินทางในปีอนาคต
การเดินทางของคนจาแนกตามรูปแบบการเดินทาง (พันคน-เที่ยวต่อวัน)
รูปแบบการเดินทาง พ.ศ. 2560 พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2570 พ.ศ. 2575 พ.ศ. 2580 พ.ศ. 2585
รถยนต์ส่วนบุคคล 1,535 1,883 2,243 2,607 2,985 3,410
รถโดยสารประจาทาง 1,004 1,175 1,390 1,606 1,832 2,084
รถไฟ 109 178 212 245 281 320
อากาศ 83 102 121 140 160 182
รวม 2,731 3,338 3,966 4,598 5,258 5,996
ที่มา : ข้อมูลจากแบบจาลองด้านการขนส่งและจราจรระดับประเทศ (NAM)
หมายเหตุ : ผลคาดการณ์ในปีอนาคตใช้พื้นฐานข้อมูลจากระบบโครงข่ายในอนาคตที่มีระยะเวลาในการก่อสร้างชัดเจนและคาดว่า จะแล้วเสร็จตามแผน
(มีโครงการรถไฟทางคู่ แต่ไม่มีโครงการ HSR)
ในขั้นตอนการดาเนินงานวิเคราะห์และพัฒนาแบบจาลองสาหรับการเดินทางในปีอนาคตดังที่กล่าวมาข้างต้น
ที่ปรึกษาจะทาการเพิ่มโครงการพัฒนาระบบการขนส่งและจราจรของปีอนาคต หรือกรณีทดสอบ ( Test Scenario)
รวมทั้งปรับข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจและสังคมในปีอนาคตให้เติบโต (growth rate) ตามสภาพเศรษฐกิจและสังคม ณ ปี
ปัจจุบัน โดยใช้ข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(สศช.) สานักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) เป็นต้น
ปี ล้าน PCU-กิโลเมตร ล้าน PCU-ชั่วโมง ความเร็ว (กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
พ.ศ. 2560 277.282 3.466 79.993
พ.ศ. 2565 326.879 4.182 78.161
พ.ศ. 2570 295.918 3.735 79.220
พ.ศ. 2575 428.820 5.750 74.572
พ.ศ. 2580 485.283 6.680 72.652
พ.ศ. 2585 547.795 7.735 70.819
ที่มา : แบบจาลองด้านการขนส่งและจราจรระดับประเทศ (NAM)
หมายเหตุ: PCU-Kms : ยานพาหนะ (เทียบเท่ารถยนต์ส่วนบุคคล) x ระยะทางในการเดินทาง
PCU-Hrs : ยานพาหนะ (เทียบเท่ารถยนต์ส่วนบุคคล x เวลาที่ใช้ในการเดินทาง
ผลคาดการณ์ในปีอนาคตใช้พื้นฐานข้อมูลจากระบบโครงข่ายในอนาคตที่มีระยะเวลาในการก่อสร้างชัดเจนและคาดว่าจะแล้ว เสร็จตามแผน
(มีโครงการรถไฟทางคู่ แต่ไม่มีโครงการ HSR)
6-9
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
ปริมาณการขนส่งสินค้า
พ.ศ. 2560 พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2570 พ.ศ. 2575 พ.ศ. 2580 พ.ศ. 2585
(ตัน/ปี)
ทางถนน 709,027,881 752,418,766 788,702,188 808,873,179 831,015,037 852,955,532
ทางรถไฟ 10,162,498 31,119,109 40,624,127 48,912,897 53,448,909 58,169,673
ทางน้า 90,428,938 100,439,931 106,534,708 110,725,376 115,001,908 119,472,564
ทางอากาศ 54,886 60,614 61,917 63,220 64,523 65,826
รวม 809,674,202 884,038,420 935,922,939 968,574,672 999,530,376 1,030,663,594
ที่มา : ข้อมูลจากแบบจาลองด้านการขนส่งและจราจรระดับประเทศ (NAM)
6.4 การประยุกต์ใช้แบบจาลอง
แบบจาลองด้านการขนส่งและจราจรระดับประเทศ (National Model: NAM) ที่ถูกปรับปรุง ภายใต้โครงการ
TDS 2560 จะถูกนาไปประยุกต์ใช้ 3 เรื่อง ประกอบด้วย
1) การทดสอบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อประเมินขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ
ประเทศไทยมี ความจาเป็นที่จะต้องมีตัวชี้วัดประสิทธิภาพด้านการขนส่งและจราจรที่มีความเหมาะสมกับ
สภาพแวดล้อมด้านต่างๆ ในการเสริมสร้างประสิทธิภาพด้านการขนส่งและจราจรของประเทศ รวมทั้งสามารถสนับสนุน
การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างเหมาะสมตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ สนข. ได้พัฒนาฐานข้อมู ล
สารสนเทศด้ านการขนส่ งและจราจรที่มี ความสาคัญ ต่อการพัฒ นาตัว ชี้วั ดประสิท ธิภาพด้ านการขนส่ งและจราจร
(Transport Performance Index: TPI) เพื่อประเมินขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้อย่างเป็นระบบและ
มีประสิทธิภาพ โดยฐานข้อมูลดังกล่าวประกอบตัวชี้วัด 44 ตัวชี้วัด แบ่งเป็น 4 กลุ่มดังนี้
- กลุ่มตัวชี้วัดที่ 1 : ความสามารถในการให้บริการ (Supply/Availability/Capacity) จานวน 13 ตัวชี้วัด
- กลุ่มตัวชี้วัดที่ 2 : คุณภาพการให้บริการ (Quality of Service) จานวน 16 ตัวชี้วัด
- กลุ่มตัวชี้วัดที่ 3 : การใช้งาน (Utilization) จานวน 9 ตัวชี้วัด
- กลุ่มตัวชี้วัดที่ 4 : ความปลอดภัย (Safety) จานวน 6 ตัวชี้วัด
ข้อมูล นาเข้าเพื่อเป็ นข้อมู ล ในการวิ เคราะห์ ได้ มาจากการรวบรวมข้อมู ลจากหน่ วยงานต่ างๆ ทั้ง ในสัง กัด
กระทรวงคมนาคมและกระทรวงอื่น ๆ ข้ อมู ล น าเข้า บางส่ ว นได้ จ ากการส ารวจ และบางส่ ว นได้ จ ากแบบจ าลอง
ด้านการจราจรและขนส่ง อาทิ สัดส่วนการใช้รูปแบบการเดินทางและขนส่งสินค้า ในการศึกษานี้ ทบทวนการวิเคราะห์
ตัวชี้วัดบางส่วนโดยประยุกต์ใช้แบบจาลองด้านการจราจรและขนส่งระดับประเทศ (NAM) ในการทดสอบโครงสร้าง
พื้นฐานเพื่อนามาคานวณตัวชี้วัดเพื่อประเมินขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
6-10
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
6-11
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
3) การทดสอบแผนงานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อรองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก
(EEC)
การประยุกต์ใช้แบบจาลองระดับประเทศ (National Model) ในการวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับโครงข่าย
คมนาคมขนส่งเนื่องจากมีโครงการ EEC ทั้งในด้านการคาดการณ์ปริมาณการเดินทางและขนส่ง เพื่อทดสอบผลจากการ
พัฒนาโครงการตามแผนงานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อรองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และ
เพื่อเสนอแนะแผนงานโครงการเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) อย่างไรก็ตาม
เมื่อมีการพัฒนาพื้นที่ให้แข็งแกร่งในทุกๆ ด้าน จึงส่งผลให้ในอนาคตจะทาให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดศูนย์กลางในด้านการ
ลงทุนและการท่องเที่ยวในระดับโลก การพัฒนาดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงกับการคมนาคมขนส่ง ซึ่งโครงการที่เป็น
โครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวกับภาคการขนส่งทั้งทางถนน ทางราง และทางน้า
ผลการวิเคราะห์และคาดการณ์ปริมาณจราจรโดยใช้แบบจาลองระดับประเทศ พบว่าการเกิด EEC ส่งผลให้
สัดส่วนปริมาณจราจรเพิ่มขึ้น ส่งผลให้โครงข่ายการคมนาคมทางถนนหนาแน่นมากขึ้นและความเร็วเฉลี่ยในการเดินทาง
บนโครงข่ายลดลง เนื่องจากจานวนประชากรและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ทาให้เกิดการเดินทางเพิ่มขึ้นทั้งการ
เดินทางในพื้นที่และการเดินทางระหว่างพื้น ที่โดยเฉพาะระหว่างพื้นที่ EEC กับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดย
หลัง จากปี 2575 ความเร็วเฉลี่ย บนโครงข่า ยลดลงมากกว่ า ร้อยละ 10 ดั งนั้น จึ งจาเป็ นต้องเตรีย มมาตรการและ
แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อรองรับ อาทิ แผนงานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ทั้ง ท่าอากาศยานอู่
ตะเภา ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ตามแผนของ EEC รวมทั้งการพิจารณา
ปรับปรุงโครงข่ายภายในพื้นที่ทั้งทางหลวง ทางหลวงชนบท และถนนเชื่อมเข้าพื้นที่สาคัญ เช่น ท่าอากาศยานอู่ตะเภา
ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด สถานีขนส่งผู้โดยสาร สถานีรถไฟความเร็วสูง นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ตลอดจนพื้นที่
ตัวเมือง พื้นที่เศรษฐกิจ พื้นที่ท่องเที่ยว และเมืองใหม่ที่จะพัฒนาขึ้นตามนโยบาย EEC
6-12
บทที่ 7
• กำรจัดทำฐำนข้อมูลเชิงลึกด้ำนพฤติกรรมกำรเดินทำง
(Activities Based)
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
7-1
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
7-2
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
7-3
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
7-5
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
7.3 การพัฒนาแบบจาลอง
คาดการณ์ปริมาณความต้องการเดินทางในปี พ.ศ. 2560 (ปีฐาน) และปีอนาคต พ.ศ. 2585 ซึ่งประกอบด้วย
การคาดการณ์ปริมาณเดินทางในแต่ละช่วงเวลา ประกอบด้วย ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า (AM) ระหว่าง 06:01-9:00 น. ช่วง
นอกเวลาเร่งด่วน (MD) ระหว่าง 9:01-16:00 น. ช่วงเร่งด่วนเย็น (PM) ระหว่าง 16:01-19:00 น. และหลังนอกเวลา
เร่งด่วนเย็น (OP) ระหว่าง 19.01 – 6.00 น. ระยะทางเดินทางรวมทั้งหมดของผู้ใช้เส้นทางในโครงข่าย (VKT) หน่วย คัน-
กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะเวลาเดินทางรวมทั้ง หมดของผู้ใช้เส้นทางในโครงข่าย (VHT) หน่วย คัน -ชั่วโมง/ชั่วโมง และ
ความเร็วในการเดินทาง (Speed) โดยผลการคาดการณ์จะสะท้อนพฤติกรรมการเดินทางของการทากิจกรรมของบุคคลใน
แต่ละช่วงเวลาและแต่ละพื้นที่ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับพฤติกรรมจริง ซึ่งมาจากการเชื่อมโยงรายละเอียดการเลือกทา
กิจกรรมและข้อมูลครัวเรือนของแต่ละบุคคล แบบจาลองจึงมีความเหมาะสมกับการนาไปประยุกต์ใช้วิเคราะห์นโยบายที่
เกี่ยวข้องกับการจัดการจราจรต่างๆ เช่น การวิเคราะห์โครงข่ายจราจรในการจัดทาผังเมืองจังหวัด วิเคราะห์สภาพจราจร
ในแต่ละช่วงเวลาและกลุ่มพื้นที่เพื่อจัดทาแผนดาเนินการกิจกรรมที่มีผลกระทบต่อสภาพจราจร เป็นต้น
ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า (AM) ระหว่าง 6.01 – 9.00 น. ช่วงนอกเวลาเร่งด่วน (MD) ระหว่าง 9.01 – 16.00 น.
ช่วงเร่งด่วนเย็น (PM) ระหว่าง 16.01 – 19.00 น. ช่วงเร่งด่วนเย็น (OP) ระหว่าง 19.01 – 6.00 น.
รูปที่ 7-3 ปริมาณความต้องการเดินทางในปี พ.ศ.2560
7-6
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า (AM) ระหว่าง 6.01 – 9.00 น. ช่วงนอกเวลาเร่งด่วน (MD) ระหว่าง 9.01 – 16.00 น.
ช่วงเร่งด่วนเย็น (PM) ระหว่าง 16.01 – 19.00 น. ช่วงเร่งด่วนเย็น (OP) ระหว่าง 19.01 – 6.00 น.
รูปที่ 7-4 ปริมาณความต้องการเดินทางในปี พ.ศ.2585
ตารางที่ 7-2 ผลการคาดการณ์จากแบบจาลองความต้องการเดินทางเชิงกิจกรรม Activity-Based
อาเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี
ช่วงเวลา
ปี
AM MD PM OP
พ.ศ.
VKT VHT SPEED VKT VHT SPEED VKT VHT SPEED VKT VHT SPEED
2560 540,808 21,772 24.8 510,286 16,808 30.4 517,670 18,736 27.3 49,924 979 51.0
2565 596,877 27,324 21.8 563,459 21,279 26.5 571,985 23,635 24.2 55,038 1,096 50.2
2570 658,731 35,436 18.6 620,857 26,957 23.0 630,562 30,673 20.6 60,391 1,232 49.0
2575 721,649 44,230 16.3 684,265 34,833 19.6 675,441 37,873 17.8 64,953 1,345 48.3
2580 768,197 50,789 15.1 722,406 40,810 17.7 730,630 44,354 16.5 69,774 1,497 46.6
2585 809,507 62,209 13.0 758,891 47,804 15.9 769,134 53,757 14.3 73,278 1,603 45.7
หมายเหตุ : 1. ช่วงเวลาที่ใช้ในการวิเคราะห์ประกอบด้วย AM 6.00-9.00 น. MD 9.00-16.00 น. PM 16.00-19.00 น. และ OP 19.00-06.00 น. ตามลาดับ
2. หน่วย VKT : คัน-กม./ชม. VHT : คัน-ชม./ชม. และ Speed : กม./ชม.
7-7
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
จากผลการคาดการณ์ปริมาณการเดินทางข้างต้น เมื่อนามาเปรียบเทียบกับผลการคาดการณ์จากแบบจาลอง
ด้านการขนส่งและจราจรระดับกรุงเทพฯ และปริมณฑล (eBum) โดยวิเคราะห์เฉพาะพื้นที่ในเขตอาเภอเมือง จังหวัด
นนทบุรี ซึ่งรายงานผลการคาดการณ์ปริมาณจราจรตลอดทั้งวันและในช่ว งเวลาเร่งด่วน 2 ช่วง คือ ช่วงเวลาเช้าและช่วง
เย็น ดังแสดงในตารางที่ 7-3
ตารางที่ 7-3 ผลการคาดการณ์ จ ากแบบจ าลองด้ า นการขนส่ ง และจราจรระดั บ กรุ ง เทพฯ และปริ ม ณฑล
เฉพาะพื้นที่เขตอาเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี
ช่วงเวลา
ปี พ.ศ. AM PM
VKT VHT SPEED VKT VHT SPEED
2560 418,313 19,843 21.08 392,611 16,542 23.73
2565 464,454 26,140 17.77 439,632 23,146 18.99
2570 475,551 27,433 17.33 466,504 24,694 18.89
2575 506,028 34,419 14.70 498,728 30,349 16.43
2580 535,033 42,643 12.55 529,789 38,148 13.89
2585 553,507 47,670 11.61 556,372 45,669 12.18
หมายเหตุ : 1. ช่วงเวลาที่ใช้ในการวิเคราะห์ประกอบด้วย AM ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า และ PM ช่วงเวลาเร่งด่วนเย็น
2. หน่วย VKT : คัน-กม./ชม. VHT : คัน-ชม./ชม. และ Speed : กม./ชม.
ในแบบจาลองทั้ ง 2 มี แนวโน้ ม ของค่า ความเร็วเฉลี่ ย ในช่ ว งเวลาเร่งด่ ว นเย็ นมากกว่า ช่ ว งเวลาเร่งด่ ว นเช้ า
แต่ผลคาดการณ์ปริมาณจราจรที่ได้จากแบบจาลองความต้องการเดินทางเชิงกิจกรรม Activity-Based มีค่า VKT และ
VHT มากกว่าผลจากแบบจาลองด้านการขนส่งและจราจรระดับกรุงเทพฯ และปริมณฑล เนื่องจากแบบจาลองความ
ต้องการเดินทางเชิงกิจกรรม Activity-Based จาลองพฤติกรรมการเดินทางที่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงของการเดินทางที่
เกิ ด ขึ้ น ในชี วิ ต ประจ าวั น และตั ว อย่ า งที่ ไ ด้ จ ากการสุ่ ม ส ารวจในพื้ น ที่ จ ะมี กิ จ กรรมที่ ท าให้ เ กิ ด การเดิ น ทางออก
เพื่อประกอบกิจกรรมนั้น โดยจาแนกออกเป็นกิจกรรมหลัก และกิจกรรมรองที่เป็นกิจกรรมย่อยที่เกิดขึ้นระหว่างการ
เดินทาง รวมถึงการเดินทางที่เกิดขึ้นระหว่างวันเพื่อทากิจกรรมใหม่ เมื่อเดินทางถึงปลายทางของการทากิจกรรมหลัก
เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแบบจาลองด้านการขนส่งและจราจรระดับกรุงเทพฯ และปริมณฑล (eBum) ใช้หลักการจุดต้นทาง
ปลายทางหรือเที่ยวการเดินทางเป็นพื้นฐานในการพิจารณาพฤติกรรมการเดินทางของผู้คน โดยมีสมมุติฐานเบื้องต้นคือ ผู้
เดินทางแต่ละคนจะมีจุดหมายการเดินทางเดียวในการเดินทางเที่ยวนั้น และต้องสมมติให้ผู้เดินทางกลับบ้านก่อนเสมอจึง
จะทาการเดินทางในเที่ยวต่อไป
แบบจาลองความต้องการเดินทางเชิงกิจกรรม Activity-Based จึงทาให้เข้าใจถึงพฤติกรรมการเดินทางได้ดีขึ้น
เมื่อเทียบกับแบบจาลองด้านการขนส่งและจราจรระดับกรุงเทพฯ และปริมณฑล (eBum) และสามารถวิเคราะห์นโยบาย
ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการจราจรต่างๆ (Travel Demand Management: TDM) ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7-8
บทที่ 8
• กำรปรับปรุงโครงข่ำยด้วยระบบภูมิสำรสนเทศ
และสำรสนเทศเชิงบริหำร
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
8-1
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
รายการข้อมูลในระบบภูมิสารสนเทศการขนส่งและจราจร
ได้ดาเนินการสรุปและจาแนกข้อมูลที่จะนาเสนอในระบบภูมิสารสนเทศการขนส่งและจราจรออกเป็น 3
กลุ่ม ซึ่งจาแนกได้ดังแสดงใน ตารางที่ 8-1
ตารางที่ 8-1 ข้อมูลในระบบภูมิสารสนเทศการขนส่งและจราจร (ระบบ GIS) ที่เสนอแนะ
กลุ่มข้อมูลหลัก ลาดับ รายการข้อมูล แหล่งที่มา ปีข้อมูล
1. กลุ่มข้อมูลเส้นทาง กลุ่มข้อมูลเส้นทางขนส่งสินค้า
ขนส่งสินค้า 1 ข้อมูลเส้นทางขนส่งสินค้า สนข. 2560
กลุ่มข้อมูลแบบจาลอง NAM
1 โซนพื้นที่ สนข. 2560
2 ความต้องการการเดินทาง สนข. 2560
3 ความต้องการขนส่งสินค้า สนข. 2560
4 ปริมาณการขนส่งสินค้า สนข. 2560
5 ปริมาณการเดินทาง สนข. 2560
6 ข้อมูลเส้นทางขนส่งสินค้า สนข. 2560
2. กลุ่ ม ข้ อ มู ล พื้ น ที่ 1 เขตการปกครองระดับแขวง คค. 2559
กรุงเทพฯ 2 เขตการปกครองระดับเขต คค. 2559
และปริมณฑล 3 ข้อมูลการใช้ที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน 2559
4 สถิติทะเบียนยานพาหนะ ขบ. 25560
5 เส้นทางรถประจาทาง คค. 2559
กลุ่มข้อมูลเส้นทางรถไฟฟ้า
1 เส้นทางรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT คค. 2559
2 เส้นทางรถไฟฟ้า BTS คค. 2559
3 เส้นทางรถไฟฟ้า APL คค. 2559
4 ปริมาณผู้โดยสารบนรถไฟฟ้า MRT BMCL 2560
5 ปริมาณรถบนทางด่วน กทพ. 2559
6 แผนงานโครงการด้านการจราจรและขนส่ง สนข. 2560
7 เส้นทางด่วน คค. 2559
กลุ่มข้อมูลแบบจาลอง eBUM
1 โซนพื้นที่ สนข. 2560
2 ปริมาณการเดินทาง สนข. 2560
3 ปริมาณจราจรบนทางด่วน สนข. 2560
4 ปริมาณผู้โดยสารบนรถไฟฟ้า สนข. 2560
3. กลุ่มข้อมูลพื้นฐาน 1 เขตการปกครองระดับอาเภอ คค. 2559
2 เขตการปกครองระดับจังหวัด คค. 2559
3 ถนนสายหลัก คค. 2559
4 จุดตัดทางรถไฟ คค. 2559
5 ทางรถไฟ คค. 2559
8-2
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
ที่มา: ที่ปรึกษา
รูปที่ 8-2 รูปแบบระบบภูมิสารสนเทศของโครงการ
การประยุกต์ใช้ระบบภูมิสารสนเทศการขนส่งและจราจร
สาหรับระบบภูมิสารสนเทศการขนส่งและจราจร สามารถนาไปประยุกต์ในการนาข้อมูลด้านจราจรและ
ขนส่งต่างๆ ที่มีลักษณะแตกต่างกันมาวิเคราะห์ร่วมกัน เพื่อให้เห็นสภาพการณ์และแนวโน้มเพื่อนาไปสู่การวางแผนใน
ภาพใหญ่ อาทิเช่น การนาข้อมูล การขนส่งสินค้าทางถนนในแต่ละประเภทมาวิเคราะห์ร่วมกัน โครงข่ายคมนาคมเพื่อ
แสดง ความพร้อมของโครงข่ายในการรองรับการขนส่งสินค้าที่สาคัญต่างๆ เพื่อนาไปประกอบการวางแผนพัฒนา
8-3
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
8.2 การจัดทาสารสนเทศเชิงบริหาร
การศึกษาวิ เคราะห์และจัด ท าสารสนเทศเชิ ง บริหารคือการที่ น าระบบคอมพิว เตอร์มาประยุ กต์ ในการ
สนับสนุนการวางแผนและตัดสินใจด้านการขนส่งและจราจร ทั้งนี้ เพื่อให้การใช้งานของสารสนเทศเชิงบริหารเกิด
ประโยชน์แก่การวางแผนระบบขนส่งของประเทศ ตลอดจนสามารถให้หน่วยงานต่างๆ ที่ต้ องการพัฒนาโครงการ
สามารถใช้ฐานข้อมูลระบบขนส่งและจราจรที่เป็นฐานข้อมูลเดียวกันทั่วประเทศในการวางแผนการพัฒนาได้อย่าง
เหมาะสม ลดความซ้าซ้อน ส่งผลให้การดาเนินโครงการลงทุนของภาครัฐมีประสิทธิภาพ โดยมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1) สนับสนุนการวางแผนกลยุทธ์ (Strategic Planning Support) การพัฒนาสารสนเทศเชิงบริหาร
ผู้พัฒนาจะต้องมีความรู้ในแผนยุทธศาสตร์ สนข. เพื่อที่จะสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกาหนดแผนกลยุทธ์ที่สมบูรณ์
2) เชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อมภายนอกองค์กร (External Environment Focus) เนื่องจากข้อมูลหรือ
สารสนเทศเป็นสิ่งสาคัญมากที่จะนามาประกอบการตัดสินใจของผู้บริหาร ดังนั้น สารสนเทศเชิงบริหาร
ที่ดีจะต้องมีการใช้ฐานข้อมูลของ สนข. ได้อย่างรวดเร็ว แล้วยังจะต้องออกแบบให้สามารถเชื่อมโยงกับ
แหล่งข้อมูลที่มาจากหน่วยงานอื่น เพื่อให้ได้ซึ่งข้อมูลที่สาคัญที่จาเป็นต่อการตัดสินใจของผู้บริหาร
3) มีความสามารถในการคานวณภาพกว้าง (Broad-based Computing Capabilities) การตัดสินใจ
ของผู้บ ริหาร โดยส่ว นใหญ่จ ะมองถึง ภาพโดยรวมของระบบแบบกว้า งๆ ไม่ล งลึกในรายละเอีย ด
ดังนั้นการคานวณที่ผู้บริหารต้องการจึงเป็นลักษณะง่ายๆ ชัดเจนเป็นรูปธรรม และไม่ซับซ้อนมาก เช่น
การเรียกข้อมูลกลับมาดูการใช้กราฟ เป็นต้น
4) ง่ายต่อการเรียนรู้และใช้งาน (Exceptional Ease of Learning and Use) การพัฒนาสารสนเทศ
เชิง บริหารจะต้องเลือกรูป แบบการแสดงผลหรือการโต้ต อบกับผู้ใช้ในแนวทางที่ง่า ยต่อการใช้งาน
และใช้ระยะเวลาสั้น เช่น การแสดงผลรูปกราฟ ภาษาที่ง่าย และการโต้ตอบที่รวดเร็ว
รายการข้อมูลในระบบสารสนเทศการขนส่งและจราจร (MIS)
ได้ดาเนินการจาแนกข้อมูลที่จะนาเสนอในระบบสารสนเทศการขนส่งและจราจรออกเป็น 6 กลุ่ม ซึ่งจาแนกได้
ดังแสดงในตารางที่ 8-2
8-4
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
8-5
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
8-6
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
ที่มา : ที่ปรึกษา
8-7
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
รายการข้อมูลของระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร (EIS)
ได้ดาเนินการจาแนกข้อมูลที่จะนาเสนอในระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารออกเป็น 4 กลุ่ม ซึ่งจาแนกได้
ดังแสดงตารางที่ 8-3
ตารางที่ 8-3 รายการข้อมูลของระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร (EIS)
8-8
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
8.2.1 รูปแบบของสารสนเทศเชิงบริหาร
รูปแบบสารสนเทศการขนส่งและจราจร (MIS)
การนาเสนอรายการข้อมูลของระบบสารสนเทศการขนส่งและจราจร (MIS) ได้นาเสนอข้อมูลในรูปแบบของ
ตารางข้อมูล Excel และได้ทาการรวบรวมและสรุปข้อมูลในรูปแบบของข้อมูลสารสนเทศเชิงกราฟฟิค (Infographics)
เพื่อเป็นการนาเสนอข้อมูลให้ง่ายต่อการเรียนรู้และใช้งาน เช่น การแสดงผลรูปกราฟ รูปภาพ ภาษาที่ง่าย และการ
โต้ตอบที่รวดเร็ว เป็นต้น โดยนาเสนอผ่านหน้าเวปไซต์ ที่ URL http://mistran.otp.go.th/MIS ดังแสดงในรูปที่ 8-3
8-9
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
รูปแบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร (EIS)
การนาเสนอรายการข้อมูลของระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร (EIS) จะเน้นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการ
ตัดสินใจของผู้บริหาร โดยเน้นการนาเสนอข้อมูลที่จาเป็นต่อการวางแผนและตัดสินใจด้านการขนส่งและจราจร อาทิ
เช่น ข้อมูลปริมาณการขนส่งสินค้าตามถนนสายหลัก ปริมาณผู้โดยสารของระบบรถไฟฟ้า หรือข้อมูลจากแบบจาลอง
โครงการ เป็ น ต้ น โดยการสรุ ป ข้ อ มู ล สารสนเทศแล้ ว น าเสนอในรู ป แบบของข้ อ มู ล สารสนเทศเชิ ง กราฟฟิ ค
(infographic) ในลักษณะที่เข้าใจง่าย มองภาพองค์รวมชัดเจน ไม่ซับซ้อน โดยนาเสนอผ่านเวปไซต์ ที่ URL
http://eis.otp.go.th/EISWeb ดังแสดงในรูปที่ 8-4
การประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศการขนส่งและจราจร
การประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศการขนส่งและจราจร จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ในส่วนของ MIS และ EIS โดย
ระบบ MIS ของโครงการจะใช้ประโยชน์ในเชิงการจัดทาฐานข้อมูลรวบรวมข้อมูลสถิติต่างๆจากหน่วยงานด้าน
คมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้จัดทาฐานข้อมูลของระบบที่ง่ายต่อการปรับปรุงในอนาคตและสอดคล้องกับ
การนาเสนอข้อมูลของแต่ละหน่วยงานในปัจจุบัน ซึ่งทาให้สะดวกต่อการปรับปรุงฐานข้อมูลเป็นประจาในทุกๆ ปี
สาหรับระบบ EIS ของโครงการจะเน้นจากสรุปข้อมูลที่จาเป็นต่อการบริหารและวางแผนจากระบบ MIS เพื่อนาเสนอ
ผู้บริหารในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เหมาะกับการวางแผนกาหนดนโยบายและสะดวกต่อการนาไปใช้ประโยชน์ต่างๆ
8-10
บทที่ 9
• กำรสัมมนำรับฟังควำมคิดเห็น ฝึกอบรมทำง
วิชำกำร และกำรประชำสัมพันธ์โครงกำร
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
9.1 การจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1
การจั ด สั ม มนารั บ ฟั ง ความคิ ด เห็ น ครั้ ง ที่ 1 จั ด ขึ้ น ในวั น ศุ กร์ ที่ 1 กั น ยายน พ.ศ. 2560 ณ ห้ อ ง Jubilee
Ballroom ชั้น 11 โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ โฮเต็ล ประตูน้า กรุงเทพมหานคร มีผู้เข้าร่วมสัมมนาจานวนทั้งสิ้น 150 คน
จากหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนด้านการคมนาคมขนส่ง หน่วยงาน
รัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและจราจร หน่วยงานภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับงาน
ด้านขนส่งและจราจร และสถาบันการศึกษาและนักวิช าการที่เกี่ยวข้องในด้านการคมนาคมขนส่ง โดยได้นาเสนอและ
ชี้แจงข้อมูลความเป็นมาของโครงการ รวมทั้งเหตุผล ความจาเป็ นของการศึกษาโครงการ ตลอดจนแนวทางและขั้นตอน
ของการศึกษาโครงการ และรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อวางแผนปรับปรุงการศึกษาโครงการให้มีความ
สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
9-1
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
ข้อเสนอแนะ
1 ให้ที่ปรึกษาเน้นการพัฒนาแบบจาลองมากกว่าการสารวจข้อมูลและปรับปรุงฐานข้อมูล
2 ให้ที่ปรึกษาพิจารณาเรื่องการเก็บข้อมูลตัวอย่างให้ครอบคลุม สอดคล้อง และเพียงพอต่อการนาไปใช้งาน
ต่อไปในอนาคต
3 ให้ที่ปรึกษาเพิ่มเติม ผลของการพยากรณ์ eBUM ว่าใกล้เคียงความเป็นจริงแล้วหรือไม่
4 ควรมีการเพิ่มช่องทางการสารวจข้อมูลการเดินทางเพิ่มขึ้น เช่น ทาง Internet เพื่อใช้งานในการรับข้อมูลและ
เพิ่มช่องทางการรับข้อมูล
5 ให้ทางที่ปรึกษาได้หาข้อมูลจากไปรษณีย์ หรือ FedEx มาประกอบ เพราะการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของ
สินค้าในปัจจุบัน
6 อยากเห็นการพยากรณ์การใช้รถยนต์เพื่อให้ทราบตัวแปรว่าในแต่ละปีจะมีรถยนต์เพิ่มขึ้นเท่าใร ซึ่งเป็นตัวแปร
หนึ่งที่สาคัญเพื่อที่วา่ รัฐบาลจะได้มีนโยบายในการจัดการต่อไป
9.2 การเข้าหารือรับฟังความคิดเห็นร่วมกับหน่วยงานที่ใช้แบบจาลอง
ได้เข้าพบปะหารือกับหน่วยงานที่ใช้แบบจาลองเพื่อรับฟังความคิดเห็นสาหรับใช้ประกอบการพัฒนาแบบจาลอง
eBUM และแบบจาลอง NAM เพื่อให้มีความเหมาะสมกับการวางแผนระบบขนส่งของประเทศและการใช้งานร่วมกัน
ระหว่างหน่วยงาน โดยมีหน่วยงานเป้าหมายหลักที่เข้าพบปะหารือดังนี้
หน่วยงาน วันที่
1. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) 8 พฤศจิกายน 2560
2. การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) 15 พฤศจิกายน 2560
3. กรมทางหลวง (ทล.) 24 พฤศจิกายน 2560
4. กรมขนส่งทางบก (ขบ.) 24 พฤศจิกายน 2560
5. กรมทางหลวงชนบท (ทช.) 29 พฤศจิกายน 2560
9-2
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
ข้อเสนอแนะ
1 เห็นด้วยกับการจัดทามาตรฐานในการสารวจข้อมูล และอาจเพิ่มเติมในส่วนของคู่การใช้งาน และคู่มือการ
สารวจข้อมูล
2 ในการจัดทาแบบจาลอง ควรเพิ่มเติมข้อมูลรายละเอียดตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐานการนาเข้า เพื่อให้เกิดความเข้าใจ
ในการนาแบบจาลอง สามารถนาไปประยุกต์ใช้ได้
3 ฐานข้อมูลในการจัดทาแบบจาลอง eBUM และ NAM ควรมีหน่วยงานหรือส่วนกลางที่ทุกหน่วยงานสามารถ
ใช้ข้อมูลได้
4 โครงการรถไฟฟ้าในแต่ละสาย อยากให้มีฐานข้อมูลกลางที่เป็นข้อมูลเดียวกัน เพื่อเก็บข้อมูลรายละเอียดและ
การคาดการณ์ในแต่ละพื้นที่
9-3
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
ข้อเสนอแนะ
1 ให้ที่ปรึกษาพิจารณาช่วงเวลาทีท่ าการสารวจ ช่วงเวลาในการเดินทาง
2 ให้พิจารณาการนาต้นทุนที่แท้จริงของการขนส่งสาธารณะ เพื่อนาไปใช้วิเคราะห์ทางเศรษฐกิจในอนาคต และ
คานึงถึงจานวนประชากรแฝงซึง่ อาจจะมีผลต่อแบบจาลอง
3 เสนอให้ที่ปรึกษาพิจารณาการเก็บข้อมูลจากแหล่งงานหรือโรงเรียน
4 ให้ข้อสังเกตุเกี่ยวกับ ระยะทาง ระยะเวลา และค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยในการเดินทางจากการศึกษาอาจจะมีความ
คลาดเคลื่อน
9-4
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
9.4 การหารือรับฟังข้อเสนอแนะการพัฒนาแบบจาลองจากอาจารย์มหาวิทยาลัย
การดาเนินการหารือรับฟังข้อเสนอแนะการพัฒนาแบบจาลองจากอาจารย์มหาวิทยาลัย จัดขึ้นในวันที่ 22
มีนาคม 2561 ได้มีการประชุมรับฟังข้อเสนอแนะการพัฒนาแบบจาลองด้านการขนส่งและจราจร โดยมีคณะอาจารย์จาก
ทางมหาวิทยาลัยชั้นนาของประเทศไทยทั้งหมด 6 ท่าน เป็นผู้ให้ข้อเสนอแนะ
รายชื่ออาจารย์มหาวิทยาลัยทั้ง 6 ท่าน
รายชื่อ มหาวิทยาลัย
รศ.ดร.สมพงษ์ ศิริโสภณศิลป์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รศ.ดร.เกษม ชูจารุกุล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รศ.ดร.เทอดศักดิ์ รองวิริยะพานิช มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเก้าพระนครเหนือ
ผศ.ดร.สิทธา เจนศิริศกั ดิ์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ดร.สุทธิพงษ์ มีใย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
ดร.ธีรพจน์ ศิริไพโรจน์ มหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ
9-5
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
ข้อเสนอแนะ
1 การทาแบบจาลองที่แบ่งโซนละเอียดเกินไป อาจส่งผลให้ข้อมูลไม่เพียงพอ และแบบจาลองไม่ควรประมวลผล
นานเกินไป เพื่อให้ผู้จัดทามีเวลาตรวจสอบ
2 ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ความเร็วในการเดินทาง และเวลาในการเดินทาง นาเสนอในรูปแบบการเดินทาง
ระหว่างพื้นที่ เพื่อให้เห็นภาพทีช่ ัดเจนขึ้น
3 อัตราการเดินทางได้แยกตามประเภทการจ้างงานหรือกิจกรรมต่างๆหรือไม่ เนื่องจากอัตราการเดินทางจะ
แตกต่างกันและในแบบจาลองควรแยกอัตราการเดินทางเป็น 2 กรณี คือ กรณีอัตราการเดินทางเพิ่มขึ้น และ
กรณีอัตราการเดินทางลดลง
4 ควรมีการปรับ O-D ตาม Traffic Count รายเดือน เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในแต่ละเดือน
5 ข้อมูลสารวจอาจไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทุกคู่การเดินทาง ควร ให้ค่าน้าหนักข้อมูลแบบสอบถามตามข้อมูลที่มี
อยู่ในปัจจุบนั เช่น Traffic Volume ที่จุด Screen Line ข้อมูลปริมาณผู้โดยสาร เป็นต้น เพื่อให้ข้อมูลสารวจ
เป็นตัวแทนที่ดีของประชากร
6 การแบ่งรูปแบบการเดินทางโดยที่ main mode เลือกจากระยะทางที่มีค่ามากทีส่ ุด ซึ่งปัจจุบนั พฤติกรรม
การเดินทางของคนไทยจะเชื่อมต่อหลายรูปแบบ ที่ปรึกษาได้ใช้วิธีการดั้งเดิม เช่น HBW HBE HBO ซึ่ง
ปัจจุบนั นัน้ อาจเป็น Trip chaining
7 หากมีการศึกษาครั้งถัดไป ควรเพิ่ม Transport Land Use Model ใน TOR เนื่องจากในอนาคตหากมีการ
สร้างเส้นทางรถไฟฟ้า O-D จะมีค่าเปลี่ยนไป และในส่วนแบบจาลองปัจจุบนั ใช้ระยะเวลาในการประมวลผล
นานเกินไป ควรปรับโครงสร้างแบบจาลอง
9.5 การจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 2
การจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 จัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2561 ณ ห้อง Watergate
Ballroom C ชั้น 6 โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพมหานคร มีผู้เข้าร่วมสัมมนาจานวนทั้งสิ้น 128 คน จากหน่วยงาน
ต่างๆ ประกอบด้วย หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนด้านการคมนาคมขนส่ง หน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง
กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและจราจร หน่วยงานภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการขนส่งและ
จราจร และสถาบันการศึกษาและนักวิชาการที่เกี่ยวข้องในด้านการคมนาคมขนส่ง โดยการสัมมนาครั้งนี้ มุ่งเน้นในการ
นาเสนอรูปแบบการพัฒนาของแบบจาลองทั้งในส่วนของ eBUM และ NAM พร้อมทั้งในส่วนของการศึกษา Activities
Based ให้กับผู้เข้าร่วมประชุม ตามกลุ่ม เป้า หมายที่กาหนดไว้ เพื่อจะได้ระดมความคิด เห็น ได้อย่า งมีป ระสิท ธิภาพ
ประกอบการจัดทาแผนแม่บทการสารวจและพัฒนาแบบจาลองต่อไป
9-6
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
ข้อเสนอแนะ
1 ให้ที่ปรึกษาดูเรื่องสถิติย้อนหลังถึงความเป็นไปได้ในอดีต พร้อมทั้งดาเนินการตรวจสอบกับหน่วยงานที่เป็น
เจ้าของข้อมูล
2 ให้ที่ปรึกษาเพิ่มเติมฐานข้อมูลในระบบ MIS เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการนาไปใช้ในอนาคต
3 ข้อมูลการขนส่งสินค้า กระบวนการเคลื่อนย้ายสินค้าควรเชื่อมโยงกับเส้นทางการขนส่งจะเป็นประโยชน์ต่อ
การพัฒนาแบบจาลองการขนส่งสินค้า
4 ให้ที่ปรึกษามีข้อสังเกต ข้อควรระวัง การปรับพารามิเตอร์ในการคาดการณ์แบบจาลอง
5 ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางเฉลี่ย ตามที่ที่ปรึกษาได้นาเสนอสมเหตุสมผลหรือไม่
6 ทาง กทม. มีโครงการสร้างถนน และจะสามารถนาแบบจาลอง eBUM ไปใช้อย่างไรกับโครงการที่วางแผนไว้
แล้ว รวมถึงการจัดลาดับความสาคัญของโครงการ ความคุ้มทุน และบางโครงการออกแบบไว้หลายปีแล้ว
9-7
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
9.6 การฝึกอบรมทางวิชาการเชิงปฏิบัติการและถ่ายทอดเทคโนโลยี
ได้ดาเนินการจัดฝึกอบรมทางวิชาการเชิงปฏิบัติการและถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับ เจ้าหน้าที่ ของสานักงาน
นโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข) และหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับ
การวางแผนด้านการคมนาคมขนส่ง และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง
และจราจร จานวน 6 หลักสูตร เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการประยุกต์ใช้แบบจาลองด้านขนส่ง (eBUM และ
NAM) รวมถึงองค์ความรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
ตารางที่ 9-1 หลักสูตรการฝึกอบรมทางวิชาการเชิงปฏิบัตกิ ารและการถ่ายทอดเทคโนโลยี
จำนวน
ครั้งที่ หลักสูตร ชั่วโมง วันที่ วิทยำกร
(คน)
ตำม TOR (2 หลักสูตร)
1 Introduction to Transport 42 8 24 เม.ย. 61 ดร.สุรศักดิ์ ทวีศิลป์
Modeling ผศ.ดร.สุรเมศวร์ พิริยะวัฒน์
Survey
Data analysis
4-Step model
2 Model Practice 35 8 25 เม.ย. 61 ดร.ศิรดล ศิริธร
Zone/Node & Link คุณบุญช่วย ทองคา
Network
เพิ่มเติม (4 หลักสูตร)
3 Software cube ครั้งที่ 1 5 8 7 ส.ค. 61 บริษัท Citilabs
4 Software cube ครั้งที่ 2 3 16 8-9 ส.ค. 61 บริษัท Citilabs
5 eBUM (Survey+Model)
5.1 ภาพรวมการใช้ ง าน eBUM 8 3 5 ก.พ. 61 คุณจตุพล รักดี
เบื้องต้น
5.2 รายละเอียดแบบจาลอง eBUM 8 3 13 ก.พ. 61 คุณจตุพล รักดี
5.3 ประยุกต์ใช้แบบจาลอง eBUM
8 3 26 ก.พ. 61 คุณจตุพล รักดี
6 NAM (Survey+Model)
6.1 การสารวจข้อมูลพฤติกรรมการ 6 3 26 ก.พ. 61 คุณบุญช่วย ทองคา
เดินทางและการเคลื่อนย้ายสินค้า
6.2 รายละเอียดแบบจาลอง NAM 8 3 27 ก.พ. 61 คุณบุญช่วย ทองคา
6.3 ประยุกต์ใช้แบบจาลอง NAM 8 3 28 ก.พ. 61 คุณบุญช่วย ทองคา
คุณอนุชิต พันชนะ
9-8
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
ประธานกล่าวเปิดการอบรม การกล่าวรายงานการอบรม
การบรรยายภาพรวมของโครงการ การบรรยายภาพรวมของโครงการ
การลงทะเบียนของผู้เข้าร่วมอบรม บรรยากาศภายในห้องอบรม
การแสดงความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมอบรม การแสดงความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมอบรม
รูปที่ 9.6-1 บรรยากาศภาพรวมของการฝึกอบรมทางวิชาการเชิงปฏิบัติการและการถ่ายทอดเทคโนโลยี
(หลักสูตร Introduction to Transport Modeling)
9-9
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
การบรรยายภาพรวมของโครงการ การบรรยายภาพรวมของโครงการ
การลงทะเบียนของผู้เข้าร่วมอบรม บรรยากาศภายในห้องอบรม
การแสดงความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมอบรม การแสดงความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมอบรม
รูปที่ 9.6–2 บรรยากาศภาพรวมของการฝึกอบรมทางวิชาการเชิงปฏิบัติการและการถ่ายทอดเทคโนโลยี
(หลักสูตร Model Practice)
9-10
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
9.7 การประชาสัมพันธ์โครงการ
ในการดาเนินงานประชาสั มพันธ์ของโครงการ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง
เกี่ยวกับโครงการ รวมทั้งเน้นการรับฟังแนวคิดและข้อคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมและผู้สนใจ โดยใช้สื่อและเครื่องมือสาหรับการ
ประชาสัมพันธ์ ดังต่อไปนี้
9-11
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
9.7.3 สื่อประชาสัมพันธ์ประกอบการสัมมนาฯ
ในการดาเนินงานประชาสั มพันธ์ของโครงการ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง
เกี่ยวกับโครงการ รวมทั้งเน้นการรับฟังแนวคิดและข้อคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมและผู้สนใจ โดยมีการใช้สื่อและเครื่องมือ
สาหรับการประชาสัมพันธ์ ดังต่อไปนี้
9-12
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
9-13
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
9-14
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
9-15
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
9-16
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
9-17
การศึกษาสารวจความต้องการการเดินทาง (Travel Demand Survey)
รายงานสรุปสาหรับผู้บริหาร และปรับปรุงฐานข้อมูลการเคลือ่ นย้ายสินค้า เพื่อการวางแผนระบบขนส่งของประเทศ
9-18