สภาวิศวกร - Council of engineers

สิ
งวน
สภาวิศวกร | Council of engineers
อส
รข
สาขา : โยธา
วิชา : Theory of Structures
วก
เนื อ าวศ
้ หาวิชา : 529 : Introduction to structural analysis
ิ
สภ
ขอที่ 1 :
จากโครงสรางคานดังแสดงในรูป จงวิเคราะหวาโครงสรางนี่ มีเสถียรภาพ (Stable) หรือไม เป็ นโครงสรางแบบ determinate หรือ indeterminate ถาเป็ นโครงสรางแบบ indeterminate โครงสรางนี ม
้ ี
degree of indeterminancy เทาไร
1 : ไมมีเสถียรภาพ
2 : มีเสถียรภาพ, เป็ นโครงสรางแบบ determinate
3 : มีเสถียรภาพ, เป็ นโครงสรางแบบ indeterminate มี degree of indeterminancy = 1
คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 2 :
จากโครงสรางคานดังแสดงในรูป จงวิเคราะหวาโครงสรางนี่ มีเสถียรภาพ (Stable) หรือไม เป็ นโครงสรางแบบ determinate หรือ indeterminate ถาเป็ นโครงสรางแบบ indeterminate โครงสรางนี ม
้ ี
degree of indeterminancy เทาไร
2 : มีเสถียรภาพ, เป็ นโครงสรางแบบ determinate
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 3 :
โครงขอแข็งดังรูปมีเสถียรภาพทางโครงสรางเป็ นอยางไร
1 : stable – indeterminate – degree of indeterminacy = 3

่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 4 :
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
Specify the number of degrees of indeterminacy of the frame shown below.
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1:3
2:6
3:9
4 : 12
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 5 :
1:9
2 : 10
3 : 11
4 : 12
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 6 :
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1:8
2:9
3 : 10
4 : 11
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 7 :
้ สวน AC
จากโครง truss รับแรงกระทํา ดังรูป จงหาแรงภายในชิน
1 : 3P/8 แรงอัด
2 : 3P/8 แรงดึง
3 : P/2 แรงดึง
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 8 :
้ สวน BD
ธิ ์
สท
ิ
่ ก
ู ตอง : 3
วน
สง
สิ
งวน
อส
ขอที่ 9 :
้ สวน BC
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 10 :
้ สวน AC
3 : P/2 แรงดึง
่ ก
ู ตอง : 2
้ สวน BD
ธิ ์
่ ก
ู ตอง : 4
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
้ สวน AD
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
่ ก
ู ตอง : 3
จากโครง truss รับแรงกระทํา ดังรูป จงหาแรงภายในมากทีส
่ ด ้ สวน lower chord
ุ ในชิน
1 : 2P แรงดึง
4 : 3P แรงอัด
่ ก
ู ตอง : 3
จากโครง truss รับแรงกระทํา ดังรูป จงหาแรงภายในมากทีส
่ ด ้ สวน upper chord
ุ ในชิน
่ ก
ู ตอง : 2
จากโครง truss รับแรงกระทํา ดังรูป จงหาแรงดึงภายในทีม
่ ากทีส
่ ด ้ สวนทแยง
ุ ในชิน
ธิ ์
สท
ิ
1:
วน
สง
สิ
งวน
2:
อส
3:
4:
รข
่ ก
ู ตอง : 2
วก
าวศ
ิ
่ ากทีส
่ ด ้ สวน AB หรือ BC
ุ ในชิน
สภ
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 2
่ ากทีส
่ ด ้ สวน AE หรือ ED
ุ ในชิน
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 1
้ สวน DFC ทีม
จากโครง truss รับแรงกระทํา ดังรูป จงหาแรงอัดภายในชิน ่ ากทีส
่ ด
ุ
ธิ ์
สท
1:
ิ
วน
2:
สง
สิ
งวน
3:
อส
4:
รข
่ ก
ู ตอง : 3
วก
โครงสราง 2 มิติ ( plane structure) ทีแ
าวศ ่ สดงในรูป มี unknown displacements อยูกีป
่ ริมาณ
ิ
สภ
1:5
2:7
3:8
4 : คําตอบ 1, คําตอบ 2, คําตอบ 3 เป็ นคําตอบทีผ
่ ิดทุกคําตอบ
่ ก
ู ตอง : 3
โครงขอหมุนดังรูปมีเสถียรภาพทางโครงสรางอยางไร
1 : unstable
2 : stable+determinate
3 : stable+indeterminate ภายนอกดีกรี 1
4 : stable+indeterminate ภายในดีกรี 1
่ ก
ู ตอง : 3
คานตัวใดไมมีเสถียรภาพ
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 4
โครงขอหมุนใดไมมีเสถียรภาพ (unstable)
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 4
ธิ ์
จงอธิบายเสถียรภาพของโครงขอหมุนทีก
่ าํ หนด
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
1 : ไมมีเสถียรภาพแบบ determinate

2 : ไมมีเสถียรภาพแบบ indeterminate[if � p o�5{ IxakNewLine]>
อส
4 : มีเสถียรภาพแบบ determinate
รข
่ ก
ู ตอง : 3
วก
ขอที่ 24 : าวศ
ิ ้ สวนทีร่ บ
จากโครงถักรับแรงกระทํา ดังรูป จงหาชิน ั แรงดึงและแรงอัดสูงสุด
สภ
1:
AB รับแรงดึงสูงสุด EF รับแรงอัดสูงสุด
2 : AB รับแรงดึงสูงสุด AE รับแรงอัดสูงสุด
3 : BC รับแรงดึงสูงสุด EF รับแรงอัดสูงสุด
4 : CD รับแรงดึงสูงสุด GD รับแรงอัดสูงสุด
่ ก
ู ตอง : 3
เนื อ
้ หาวิชา : 530 : Reactions, shears and moments in statically determinate structures
จงคํานวณหาโมเมนตทีฐ
่ านรองรับแบบยึดแนน (Fixed Support) ของคานยืน
่ (Cantilever Beam) ดังแสดงในรูป
1 : 30 kN-m ตามเข็ม
่ ก
ู ตอง : 2
จงหา maximum shear ใน member BC
1 : 240 kg
ธิ ์
2 : 320 kg
3 : 300 kg
สท
4 : 400 kg
ิ
่ ก
ู ตอง : 2
วน
สง
สิ
งวน
อส
จงหา maximum moment ใน member BC
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : 400 kg-m
2 : 600 kg-m
3 : 800 kg-m
4 : 1000 kg-m
่ ก
ู ตอง : 3
จงหา Axial Force ใน member BC ทีจ
่ ด
ุ B และ C ตามลําดับ
ธิ ์
สท
ิ
1 : 375 kg(T), 615 kg(T)

วน
สง
สิ
งวน
2 : 375 kg(C), 615 kg(C)
3 : 615 kg(T), 375 kg(T)
4 : 615 kg(C), 375 kg(C)
อส
่ ก
ู ตอง : 3
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
จงหา moment ใน member BC ทีจ

่ ด
ุ B และ C ตามลําดับ
1 : 3850 kg-m, 5950 kg-m
2 : 4550 kg-m, 2500 kg-m
3 : 2500 kg-m, 4550 kg-m
4 : 5950 kg-m, 3850 kg-m
่ ก
ู ตอง : 2
จงคํานวณหาโมเมนตดัดทีก
่ ระทําตอคานของภาคตัดทีผ
่ านจุด C ดังแสดงในรูป
1 : 166.7 kg-m
2 : 333.3 kg-m
3 : 533.3 kg-m
4 : 666.7 kg-m
่ ก
ู ตอง : 3
จงคํานวณหาแรงเฉื อนภายในของภาคตัดทีผ
่ านระหวางจุด B และ C ของคานทีม
่ ีแรงกระทําอยูดังแสดงในรูป
1:0
2:1T
3:2T
4:3T
5:4T
่ ก
ู ตอง : 1
จงคํานวณหาโมเมนตดัดทีม
่ ากทีส
่ ด
ุ ของคานทีม
่ ีแรงกระทําอยูดังแสดงในรูป
1 : 491 kg-m
ธิ ์
2 : 572 kg-m
สท
3 : 693 kg-m
4 : 792 kg-m
ิ
่ ก
ู ตอง : 3
วน
สง
สิ
งวน
อส
จงคํานวณหาแรงเฉื อน (Shear force) VBL ทีฝ
่ ั่ งซายของจุด B และ VBR ทีฝ
่ ั่ งขวาของจุด B ของคาน (Beam) ABCDE ดังแสดงในรูป
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : VBL=46 ตัน และ VBR=14 ตัน

่ ก
ู ตอง : 1
จงคํานวณหาโมเมนตดัด (Bending Moment) MCL ทีฝ
่ ั่ งซายของจุด C และ MCR ทีฝ
่ ั่ งขวาของจุด C ของคาน (Beam) ABCDE ดังแสดงในรูป
1 : MCL=420 ตัน.เมตร และ MCR=240 ตัน.เมตร

่ ก
ู ตอง : 3
จงคํานวณหาขนาดและทิศทางของแรงปฏิกริยา (Reaction forces) RD และ HD ทีจ
่ ด
ุ D และ RE ทีจ
่ ด
ุ E ของโครงขอหมุน (Truss) ดังแสดงในรูป
1 : HD =500 kg.ทิศทางไปทางขวา, RD=375 kg. ทิศทางลง และ RE =375 kg.ทิศทางขึน

้
2 : HD =250 kg. ทิศทางไปทางขวา, RD=375 kg. ทิศทางลง และ RE =375 kg. ทิศทางลง
3 : HD =250 kg. ทิศทางไปทางซาย, RD=187.5 kg. ทิศทางขึน
้ และ RE =375 kg. ทิศทางขึน
้
4 : HD =500 kg. ทิศทางไปทางซาย, RD=187.5 kg. ทิศทางขึน
้ และ RE =375 kg. ทิศทางขึน
้
่ ก
ู ตอง : 1
ธิ ์
สท
ิ
วน
้ สวน BE และชิน
จงคํานวณหาขนาดและประเภทของแรงตามแนวแกน (Axial forces) ในชิน ้ สวน DE ของโครงขอหมุน (Truss) ABCDE ดังแสดงในรูป
สง
สิ
งวน
้ สวน BE และชิน
จงคํานวณหาขนาดและประเภทของแรงตามแนวแกน (Axial forces) ในชิน ้ สวน DE ของโครงขอหมุน (Truss) ABCDE ดังแสดงในรูป
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : FBE =0 kg. และ FDE =375 kg. เป็ นแรงดึง

2 : FBE =375 kg. เป็ นแรงดึง และ FDE =375 kg. เป็ นแรงอัด
3 : FBE =375 kg. เป็ นแรงอัด และ FDE=0 kg.
4 : FBE =0 kg. และ FDE =0 kg.
่ ก
ู ตอง : 3
จงคํานวณหาขนาดและทิศทางของแรงปฏิกริยา (Reaction forces) RA, RE และ HE ทีฐ
่ านรองรับ A และ E ของโครงขอแข็ง (Frame) ดังแสดงในรูป
1 : RA=6 ตัน มีทศ

ิ ทางขึน
้ , RE =1 ตัน มีทศ
้ และ HE=3 ตัน มีทศ
ิ ทางไปทางขวา
ิ ทางลง, RE =1 ตัน มีทศ
ิ ทางลง และ HE=3 ตัน มีทศ
ิ ทางไปทางซาย
ิ ทางลง, RE =6 ตัน มีทศ
้ และ HE=1 ตัน มีทศ
ิ ทางไปทางขวา
้ , RE =1 ตัน มีทศ
ิ ทางลง และ HE=3 ตัน มีทศ
ิ ทางไปทางซาย
่ ก
ู ตอง : 4
้ สวน ABC ทีจ
จงคํานวณหาขนาดและประเภทของแรงตามแนวแกน (Axial forces) ในชิน ่ ด
ุ B ของโครงขอแข็ง (Frame) ดังแสดงในรูป
1 : NAB=6 ตัน เป็ นแรงอัด

2 : NAB=6 ตัน เป็ นแรงดึง
ธิ ์
3 : NAB=3 ตัน เป็ นแรงอัด

สท
4 : NAB=3 ตัน เป็ นแรงดึง

ิ
่ ก
ู ตอง : 1
วน
สง
สิ
งวน
อส
จงคํานวณหาแรงเฉื อน (Shear force) VD ทีจ
่ ด
ุ D ของโครงขอแข็ง (Frame) ABCDE ดังแสดงในรูป
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : VD=0 ตัน
2 : VD=1 ตัน
3 : VD=6 ตัน
4 : VD=3 ตัน
่ ก
ู ตอง : 2
จงคํานวณหาโมเมนตดัด (Bending Moment) MD ทีจ
่ ด
ุ D ของโครงขอแข็ง (Frame) ดังแสดงในรูป
1 : MD=5 ตัน.เมตร
2 : MD=7.5 ตัน.เมตร
่ ก
ู ตอง : 2
แรงเฉื อนทีจ
่ ด
ุ E ของโครงสรางดังรูปมีคาเทาไร
1:0T
2:3T
3:6T
4 : 12 T
่ ก
ู ตอง : 3
ธิ ์
สท
ิ
วน
คาโมเมนตดัดทีจ ุ ซึง่ แรง 10 T กระทําบนโครงสรางดังรูปมีคาเทาไร

่ ด
สง
สิ
งวน
คาโมเมนตดัดทีจ ุ ซึง่ แรง 10 T กระทําบนโครงสรางดังรูปมีคาเทาไร
่ ด
อส
รข
วก
าวศ
ิ
1 : - 1 T-m
2 : - 2 T-m
สภ
3 : 5 T-m
4 : 10 T-m
่ ก
ู ตอง : 2
คาโมเมนตดัดสูงสุดบนโครงสรางดังรูปเป็ นอยางไร
1 : 3 T-m ทีจ
่ ดุ กึง่ กลางโครงสราง
2 : 27 T-m ทีจ่ ด ุ กึง่ กลางโครงสราง
3 : -24 T-m ทีจ ่ ด ุ B และ C
4 : -27 T-m ทีจ ่ ด ุ B และ C
่ ก
ู ตอง : 3
คาแรงเฉื อนสูงสุดบนโครงสรางดังรูปเป็ นอยางไร
1 : 9.3 T ทีจ ่ ด ุ A
2 : 10 T ทีจ
่ ด ุ G
3 : 18 T ทีจ่ ด ุ B
4 : 29 T ทีจ ่ ด ุ B
่ ก
ู ตอง : 3
แรงปฏิกริ ยิ าในแนวราบทีจ
่ ด
ุ A ของโครงสรางดังรูปมีคาเทาไร รูปภาพประกอบคําถาม:
1:1T
2:4T
3:7T
4 : 18 T
่ ก
ู ตอง : 1
ธิ ์
สท
ิ
วน
แรงปฏิกริ ย
ิ าในแนวดิง่ ทีจ
่ ด
สง
สิ
งวน
แรงปฏิกริ ย
่ ด
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1:3T
2:6T
3 : 12 T
4 : 16 T
่ ก
ู ตอง : 4
คาโมเมนตดัดสูงสุดบนโครงสรางดังรูปเป็ นอยางไร
1 : -6 T-m ทีจ
่ ด ุ C
2 : 6 T-m ระหวางจุด B และ C
3 : 6 T-m ทีจ
่ ด ุ B
4 : 10 T-m ทีจ ่ ดุ B
่ ก
ู ตอง : 4
โครงขอแข็งรับนํ ้าหนั กดังรูป ทีต
่ าํ แหนง B มีคาโมเมนตดัดเป็ นเทาใด
1 : 100 kg-m ทิศทางบวก

2 : 300 kg-m ทิศทางลบ
ธิ ์
่ ก
ู ตอง : 3
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
โครงขอแข็งรับนํ ้าหนั กดังรูป มีคาโมเมนตดัดสูงสุดเป็ นเทาใด
รข
วก
าวศ
ิ
สภ

่ ก
ู ตอง : 1
คานชวงเดียวทีร่ บ
ั นํ ้าหนั กตามรูป จะมีแผนภาพโมเมนตดัดเป็ นแบบใด
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 1
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 2
จงคํานวณหาแรงปฏิกริ ย
ิ าทีฐ
่ านรองรับของคานทีก
1 : R1 = (M1-M2)/L , R2 = (M2-M1)/L
2 : R1 = (M2-M1)/L , R2 = (M1-M2)/L
3 : R1 = M2/L-M1 , R2 = M1/L-M2
4 : R1 = M2-M1/L , R2 = M1-M2/L
่ ก
ู ตอง : 1
Shear force diagram ของคานในรูปมีลก
ั ษณะเป็ นอยางไร
1 : กราฟเสนตรงมีความชันเป็ นบวก
2 : กราฟเสนตรงมีความชันเป็ นลบ
ธิ ์
3 : กราฟเสนตรงนอนความชันเป็ นศูนย
4 : กราฟเสนโคงกําลังสอง
สท
ิ
่ ก
ู ตอง : 3
วน
สง
สิ
งวน
อส
จงเขียนสมการของ Bending moment diagram ของคานในรูป กําหนดให x เป็ นระยะใดๆวัดจากฐานรองรับดานซายมือ
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : M = (M1)(1-x)-(M2)x
2 : M = (M2)(1-x)+(M1)x
3 : M = -(M1)(1-x)-(M2)x
4 : M = -(M1)(1-x)+(M2)x
่ ก
ู ตอง : 3
กําหนดใหM1มีคามากกวาM2 ลักษณะของ Bending moment diagram สําหรับคานในรูปเป็ นอยางไร

1 : เสนโคงหงายกําลังสอง
2 : เสนตรงนอนความชันเป็ นศูนย
3 : เสนตรงเอียงความชันเป็ นบวก
4 : เสนตรงเอียงความชันเป็ นลบ
่ ก
ู ตอง : 4
จากรูปทีแ่ สดง แรงดึงในลวดเหล็ก มีคาเทากับ
1 : 90 กก.
2 : 104 กก.
3 : 156 กก.
4 : 180 กก.
่ ก
ู ตอง : 4
ธิ ์
สท
ิ
วน
จากรูปทีแ
่ สดง คานรับโมเมนตมากทีส
่ ด
ุ เทากับ
สง
สิ
งวน
่ สดง คานรับโมเมนตมากทีส
่ ด
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : 90 กก.-ม.
2 : 180 กก.-ม.
3 : 208 กก.-ม.
4 : 312 กก.-ม.
่ ก
ู ตอง : 2
จากรูปทีแ่ สดง คานรับแรงเฉื อนมากทีส
่ ด
1 : 90 กก.
2 : 104 กก.
3 : 156 กก.
4 : 180 กก.
่ ก
ู ตอง : 1
จากรูปทีแ่ สดง ภาพของโมเมนตดัดบนคาน มีรป
ู เป็ น
1 : วงกลม
2 : สีเ่ หลีย
่ มผืนผา
3 : สามเหลีย ่ ม
4 : พาราโบลา
่ ก
ู ตอง : 3
ธิ ์
สท
ิ
วน
่ สดง แรงในลวดเหล็กมีคาเทากับ
สง
สิ
งวน
่ สดง แรงในลวดเหล็กมีคาเทากับ
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : 6000 กก.
2 : 3000 กก.
3 : 1500 กก.
4 : 750 กก.
่ ก
ู ตอง : 1
จากรูปทีแ่ สดง แรงปฎิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ A เทากับ
1 : 10,000 กก.
2 : 6000 กก.
3 : 4000 กก.
4 : 2000 กก.
่ ก
ู ตอง : 4
จากรูปทีแ่ สดง โมเมนตมากทีส
่ ด
ุ ในคานเทากับ
1 : 4000 กก.-ม.
2 : 8000 กก.-ม.
3 : 12000 กก.-ม.
4 : 20000 กก.-ม.
่ ก
ู ตอง : 1
ธิ ์
สท
ิ
วน
่ สดง แรงเฉื อนมากทีส
่ ด
สง
สิ
งวน
่ ด
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : 32000 กก.
2 : 16000 กก.
3 : 8000 กก.
4 : 4000 กก.
่ ก
ู ตอง : 4
จากรูปทีแ่ สดง ภาพของโมเมนตดัดในคานชวง AB มีรป
ู เป็ น
1 : สีเ่ หลีย
่ มผืนผา
2 : สามเหลีย ่ ม
3 : พาราโบลากําลังสอง
4 : พาราโบลากําลัง n
่ ก
ู ตอง : 2
จากโครง truss ทีแ
่ สดง โดยทีต
่ างมีมม
ุ เทากันหมด แรงลัพทของแรงปฎิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ A มีคาประมาณเทากับ
ธิ ์
สท
ิ
1 : 40 กก.
วน
สง
สิ
งวน
2 : 53 กก.
3 : 67 กก.
4 : 75 กก.
อส
่ ก
ู ตอง : 1
รข
วก
่ างมีมม ้ สวน BC เทากับ (โดยประมาณ)
ุ เทากันหมด แรงภายในชิน
าวศ
ิ
สภ
1 : 17 กก.
2 : 37 กก.
3 : 53 กก.
4 : 74 กก.
่ ก
ู ตอง : 2
่ างมีมม ้ สวน EF เทากับ
ุ เทากันหมด แรงภายในชิน
1 : 10 กก.
2 : 20 กก.
3 : 30 กก.
4 : 40 กก.
่ ก
ู ตอง : 4
ธิ ์
สท
ิ
วน
จากโครง Truss ทีแ ้ สวน HB เทากับ

่ สดง แรงภายในชิน
สง
สิ
งวน
จากโครง Truss ทีแ ้ สวน HB เทากับ
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1:0
2 : 2 ตัน (แรงอัด)
3 : 2 ตัน (แรงดึง)
่ ก
ู ตอง : 3
จากโครง Truss ทีแ ้ สวน HC เทากับ
1:0
2 : 0.7 ตัน (แรงอัด)
3 : 0.7 ตัน (แรงดึง)
่ ก
ู ตอง : 2
จากโครง Truss ทีแ
่ สดง แรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ A เทากับ
1 : 3.5 T
2 : 3.0 T
3 : 2.5 T
4 : 2.0 T
ธิ ์
่ ก
ู ตอง : 1
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
จากโครงเฟรมทีแ
่ สดง แรงภายในตามแนวแกนของ CD เทากับ
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1:0
3 : 2.5 ตัน (แรงดึง)
่ ก
ู ตอง : 2
่ ด
ุ ใน BC เทากับ
1 : 3.5 T
2 : 5.5 T
3 : 6.8 T
4 : 7.8 T
่ ก
ู ตอง : 2
ธิ ์
สท
ิ
วน
่ สดง โมเมนตดัดชนิ ดบวก (positive moment) ทีม
่ ากทีส
่ ด
ุ ใน BC มีคาเทากับ
สง
สิ
งวน
่ สดง โมเมนตดัดชนิ ดบวก (positive moment) ทีม
่ ากทีส
่ ด
ุ ใน BC มีคาเทากับ
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : 5 ตัน-ม.
2 : 7.5 ตัน-ม.
3 : 12.5 ตัน-ม.
4 : 15.0 ตัน-ม.
่ ก
ู ตอง : 3
Determine the reactions at support e of the frame loaded as shown in figure below
1:
2:
3:
่ ก
ู ตอง : 1
ธิ ์
สท
ิ
วน
้ สวน BC ของโครงถักดังรูป
จงหาแรงภายในชิน
สง
สิ
งวน
้ สวน BC ของโครงถักดังรูป
จงหาแรงภายในชิน
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : BC = 4.33 kN (comp.)
2 : BC = 4.33 kN (tens.)
3 : BC = 0
4 : BC = 3 kN (tens.)
่ ก
ู ตอง : 2
คานชวงเดีย ่ วปลายยืน
่ รับนํ ้าหนั กบรรทุก ดังรูป ตําแหนงทีโ่ มเมนตดัดมีคามากทีส
่ ด
ุ จะอยูหางจากจุด A เป็ นระยะประมาณ
1 : 1.50 เมตร
2 : 2.00 เมตร
3 : 2.50 เมตร
4 : 3.00 เมตร
่ ก
ู ตอง : 2
คานชวงเดีย ่ วปลายยืน
่ รับนํ ้าหนั กบรรทุก ดังรูป จงประมาณคาโมเมนตดัดทีม
่ ากทีส
่ ด
ุ
1 : 2.20 ตัน-เมตร
่ ก
ู ตอง : 4
ธิ ์
สท
ิ
วน
เสา AB มีปลายทัง้ สองขางเป็ นแบบยึดหมุน รับนํ ้าหนั กบรรทุก ดังรูป จงหาคาโมเมนตดัดทีจ

่ ด
ุ C
สง
สิ
งวน
เสา AB มีปลายทัง้ สองขางเป็ นแบบยึดหมุน รับนํ ้าหนั กบรรทุก ดังรูป จงหาคาโมเมนตดัดทีจ
่ ด
ุ C
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : 16.80 ตัน-เมตร
2 : 17.50 ตัน-เมตร
3 : 19.50 ตัน-เมตร
4 : 21.00 ตัน-เมตร
่ ก
ู ตอง : 1
เสา AB มีปลายทัง้ สองขางเป็ นแบบยึดหมุน รับนํ ้าหนั กบรรทุก ดังรูป จงประมาณคาแรงเฉื อนทีจ
่ ด
ุ C ในชวง CB
1 : 0.15 ตัน
2 : 5.30 ตัน
3 : 5.70 ตัน
4 : 7.80 ตัน
่ ก
ู ตอง : 3
เสา AB มีปลายทัง้ สองขางเป็ นแบบยึดหมุน รับนํ ้าหนั กบรรทุก ดังรูป ตําแหนงทีแ
่ รงเฉื อนมีคาเป็ นศูนย คือ
1 : อยูพอดีทจ
ี่ ด
ุ C
2 : อยูในชวง AC
ธิ ์
3 : อยูในชวง CB
4 : ไมมีขอใดถูก
สท
ิ
่ ก
ู ตอง : 2
วน
สง
สิ
งวน
อส
โครงเฟรม ABC รับนํ ้าหนั กบรรทุกแบบจุด ดังรูป โมเมนตดัดมากทีส
่ ด
ุ บนคาน BC อยูที่
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : จุด D จุดเดียว
2 : จุด E จุดเดียว
3 : จุด D และจุด E
4 : จุด B และจุด C
่ ก
ู ตอง : 3
โครงเฟรม ABC รับนํ ้าหนั กบรรทุกแบบจุด ดังรูป จะเห็นวา เสา AB รับแรงตางๆ คือ
1 : แรงอัดตามแนวแกน แรงเฉื อนและโมเมนตดัด

2 : แรงเฉื อนอยางเดียว
3 : โมเมนตดัดอยางเดียว
4 : แรงอัดตามแนวแกนอยางเดียว
่ ก
ู ตอง : 4

่ ก
ู ตอง : 1
โครงเฟรม ABC รับนํ ้าหนั กบรรทุกแบบจุด ดังรูป โมเมนตดัดมากทีส
่ ด
ุ บนคาน BC อยูที่
ธิ ์
สท
1 : จุด B จุดเดียว
ิ
2 : จุด D จุดเดียว
3 : จุด E จุดเดียว
วน
สง
สิ
งวน
4 : จุด B และจุด E
่ ก
ู ตอง : 2
อส
รข
โครงเฟรม ABC รับนํ ้าหนั กบรรทุกแบบจุด ดังรูป คาโมเมนตดัดมากทีส
่ ด
ุ บนคาน BC เทากับ
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : PL
2 : 4PL/3
3 : 5PL/3
4 : 2PL
่ ก
ู ตอง : 3

่ ก
ู ตอง : 4
คาน AB รับนํ ้าหนั กบรรทุกแบบแผสมํ่าเสมอตลอดความยาวคาน โดยมีทอนเหล็กยึดไวตรงจุด B ดังรูป เพื่อใหคาน AB อยูในแนวนอน ถาไมคิดนํ ้าหนั กของคานและไมคิดการยืดหดตัวของทอนเหล็ก
จงหาคาแรงดึงในทอนเหล็กนี ้
1 : 5wL/6
2 : 5wL/4
3 : 5wL/3
4 : 5wL/2
่ ก
ู ตอง : 1
คาน AB รับนํ ้าหนั กบรรทุกแบบแผสมํ่าเสมอตลอดความยาวคาน โดยมีทอนเหล็กยึดไวตรงจุด B ดังรูป เพื่อใหคาน AB อยูในแนวนอน ถาไมคิดนํ ้าหนั กของคานและไมคิดการยืดหดตัวของทอนเหล็ก
จงหาคาแรงปฏิกริ ย ิ าทีจ
่ ด
ุ A
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 2
คาน AB รับนํ ้าหนั กบรรทุกแบบจุดและแบบแผสมํ่าเสมอตลอดความยาวคาน โดยมีทอนเหล็กยึดไวตรงจุด B ดังรูป เพื่อใหคาน AB อยูในแนวนอน ถาไมคิดนํ ้าหนั กของคานและไมคิดการยืดหดตัว
ของทอนเหล็ก จงหาคาแรงดึงในทอนเหล็กนี ้
1 : 5wL/6
2 : 5wL/4
3 : 5wL/3
4 : 5wL/2
่ ก
ู ตอง : 4
ของทอนเหล็ก จงหาคาแรงปฏิกริ ย ิ าทีจ
่ ด
ุ A
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 2
ของทอนเหล็ก โมเมนตดัดทีก ่ งึ่ กลางคาน AB มีคาเทากับ
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 3
โครงสรางคานดังรูป กราฟโมเมนตดัดมีลก
ั ษณะตรงกับขอใด
1:
2:
3:
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
4:
่ ก
ู ตอง : 4
แรงทีก่ ระทําตอ Internal roller ทีจ
่ ด
ุ B มีคาเทาใด ?
1 : 2,000 kg.
2 : 4,000 kg.
3 : 6,000 kg.
4 : 8,000 kg.
่ ก
ู ตอง : 2
โครงสรางดังรูป แรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ B มีคาเทาใด?
1:
2:
3:
ธิ ์
4:
สท
่ ก
ู ตอง : 2
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
โมเมนตดัดสูงสุด มีคาเทาใด ?
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : 0.67 kN-m
2 : 1.69 kN-m
3 : 2.31 kN-m
4 : 3.08 kN-m
่ ก
ู ตอง : 4
คาแรงเฉื อนสูงสุด มีคาเทาใด ?
1:
2:
3:
4:
5 : คําตอบขอ 1-4 ไมมีคาํ ตอบทีถ
่ ก
ู
่ ก
ู ตอง : 3
จากโครงสรางคานดังรูป แผนภาพแรงเฉื อน(Shear Force Diagram) เป็ นไปตามตัวเลือกขอใด ?
ิ ตามเข็มนาฬิกา ทิศทางของโมเมนตทีเ่ ป็ นบวก ดัดใหคานโกงหงาย
กําหนดให เมื่อตัดรูปตัดใด ๆ ทิศทางของแรงเฉื อนทีเ่ ป็ นบวก มีทศ
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 3
จากโครงสรางคานดังรูป
แผนภาพโมเมนตดัด (Bending Moment Diagram) เป็ นไปตามตัวเลือกขอใด ?
ิ ตามเข็มนาฬิกา ทิศทางของโมเมนตทีเ่ ป็ นบวก ดัดใหคานโกงหงาย
กําหนดให เมื่อตัดรูปตัดใดๆ ทิศทางของแรงเฉื อนทีเ่ ป็ นบวก มีทศ
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
าวศ
ิ
1:
สภ
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 3
่ ีแรงกระทําดังรูป
1:0T
2:1T
3:2T
4:3T
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 100 :
1:0T
2:1T
3:2T
4:3T
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 101 :
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
1:0T
2 : 1 T
3 : 2 T
าวศ
ิ
4:3T
สภ
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 102 :
ิ าทีจ
่ ด
ุ D ของคานดังแสดงในรูป
1:5T
2:7T
3:9T
4 : 10 T
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 103 :
ิ าทีจ
่ ด
ุ D ของคานดังแสดงในรูป
1:5T
2:7T
3:9T
4 : 10 T
่ ก
ู ตอง : 2
เนื อ
้ หาวิชา : 531 : Influence lines of determinate structures
ขอที่ 104 :
ขอใดเป็ นเสนอิทธิพล (Influence line) ของแรงปฏิกริ ย
ิ าทีฐ
่ าน C ของโครงสรางดังในรูป
1:
2:
3:
ธิ ์
4:
สท
่ ก
ู ตอง : 3
ิ
วน
สง
สิ
งวน
ขอที่ 105 :
อส
ขอใดแสดงแนวเสนอิทธิพลของแรงปฏิกริ ย
่ ด
ุ A ของคานดังแสดงในรูป
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 106 :
ขอใดแสดงแนวเสนอิทธิพลของโมเมนตดัดทีจ
่ ด
ุ B ของคานดังแสดงในรูป
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 107 :
จงคํานวณหาโมเมนตดัดบวกทีม ่ ากทีส
่ ด
ุ ทีจ ุ C ของคานดังแสดงในรูป เมื่อมีนํ้าหนั กบรรทุกแบบจุดเทากับ 9 ตัน และนํ ้าหนั กบรรทุกแบบตายตัว(Dead Load) ซึง่ เกิดจากนํ ้าหนั กของคาน กระจาย
่ ด
อยางสมํ่าเสมอมีขนาดเทากับ 2 ตัน/เมตร
1 : 12 T-m
2 : 18 T-m
3 : 36 T-m
4 : 30 T-m
่ ก
ู ตอง : 4
ธิ ์
สท
ิ
ขอที่ 108 :
วน
จงคํานวณหาโมเมนตดัดลบทีม
่ ากทีส
่ ด
ุ ทีจ
่ ด
ุ C ของคานดังแสดงในรูป เมื่อมีนํ้าหนั กบรรทุกแบบจุดเทากับ 9 ตัน นํ ้าหนั กบรรทุกแบบตายตัว (Dead Load) และแบบจร (Live Load) กระจายอยาง
สง
สิ
งวน
จงคํานวณหาโมเมนตดัดลบทีม ่ ากทีส
่ ด
ุ ทีจ
่ ด
ุ C ของคานดังแสดงในรูป เมื่อมีนํ้าหนั กบรรทุกแบบจุดเทากับ 9 ตัน นํ ้าหนั กบรรทุกแบบตายตัว (Dead Load) และแบบจร (Live Load) กระจายอยาง
สมํ่าเสมอมีขนาดเทากับ 2 ตัน/เมตร และ 4 ตัน/เมตร ตามลําดับ (นํ ้าหนั กบรรทุกจร 4 ตัน/เมตร จะกระจายเฉพาะชวงทีจ ่ ะทําใหโมเมนตดัดลบทีจ
่ ด
ุ C มีคามากทีส
่ ด
ุ )
อส
รข
1 : -18 T-m
วก
2 : -36 T-m
3 : -66 T-m
4 : -12 T-mาวศ
่ ก ิ
ู ตอง : 1
สภ
ขอที่ 109 :
จงใชหลักการของอินฟลูเอนซไลนในการคํานวณหาแรงเฉื อนบวกทีม ่ ากทีส
่ ด
ุ ทีจ
่ ด
ุ C ของคานดังแสดงในรูป เมื่อมีนํ้าหนั กบรรทุกแบบจุดเทากับ 9 ตัน นํ ้าหนั กบรรทุกแบบตายตัว (Dead Load) และ
แบบจร (Live Load) กระจายอยางสมํ่าเสมอมีขนาดเทากับ 2 ตัน/เมตร และ 4 ตัน/เมตร ตามลําดับ โดยนํ ้าหนั กบรรทุกจร 4 ตัน/เมตร จะกระจายเฉพาะชวงทีท ่ าํ ใหแรงเฉื อนบวกทีจ
่ ด
ุ C มีคามาก
ทีส
่ ด
ุ
1:4T
2:6T
3 : 10 T
4 : 20 T
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 110 :
จงใชหลักการของอินฟลูเอนซไลนในการคํานวณหาแรงเฉื อนลบทีม ่ ากทีส
่ ด
ุ ทีจ
่ ด
ุ C ของคานดังแสดงในรูป เมื่อมีนํ้าหนั กบรรทุกแบบจุดเทากับ 9 ตัน นํ ้าหนั กบรรทุกแบบตายตัว (Dead Load) และ
แบบจร (Live Load) กระจายอยางสมํ่าเสมอมีขนาดเทากับ 2 ตัน/เมตร และ 4 ตัน/เมตร ตามลําดับ โดยนํ ้าหนั กบรรทุกจร 4 ตัน/เมตร จะกระจายเฉพาะชวงทีท ่ าํ ใหแรงเฉื อนลบทีจ
่ ด
ุ C มีคามากทีส
่ ด
ุ
1 : -1 T
2 : -2 T
3 : -3 T
4 : -4 T
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 111 :
ขอใดแสดงรูปของเสนอิทธิพลของแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ รองรับ A
1:
2:
3:
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
4:
าวศ
ิ
่ ก
ู ตอง : 1
สภ
ขอที่ 112 :
ิ าทีจ
่ ด
ุ รองรับ B
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 113 :
ิ าทีจ
่ ด
ุ รองรับ C
1:
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
2:
าวศ
ิ
สภ
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 114 :
ขอใดแสดงรูปของเสนอิทธิพลของแรงเฉื อนทีจ
่ ด
ุ A
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 3
ธิ ์
สท
ิ
ขอที่ 115 :
วน
่ ด
ุ B
สง
สิ
งวน
่ ด
ุ B
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 116 :
ขอใดแสดงรูปของเสนอิทธิพลของโมเมนตทีจ
่ ด
ุ A
1:
2:
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
3:
าวศ
ิ
สภ
4:
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 117 :
ขอใดแสดงรูปของเสนอิทธิพลของโมเมนตทีจ
่ ด
ุ A
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 118 :
ขอใดแสดงแนวเสนอิทธิพลของแรงปฏิกริ ย
่ ด
ุ G ของคานดังแสดงในรูป
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
1:
รข
วก
2:
าวศ
ิ
สภ
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 119 :
คาแรงปฏิกริ ย
ิ าในแนวดิง่ สูงสุดทีจ
่ ด
ุ A ของโครงสรางดังรูปเป็ นอยางไรภายใตการเคลือ
่ นทีข
่ องแรงกระทําแบบจุด 2 คาทีก
่ าํ หนดบนโครงสราง
1 : 4 T ทิศขึน
้
2 : 4 T ทิศลง
3 : 8 T ทิศขึน ้
4 : 8 T ทิศลง
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 120 :
ภายใตการเคลือ
่ นทีข
่ องแรงกระทําแบบจุด 2 คาที่ ดังแสดงในรูป กระทําตอคานทีก ้ องกระทําอยูในชวงใดของคาน ซึง่ ทําใหคาแรงปฏิกริ ย
่ าํ หนดให จงหาวาแรงกระทําคูนี ต ิ าในแนวดิง่ ทีจ
่ ด
ุ A มีคาเป็ น
ศูนย
1 : เมื่อแรงทัง้ 2 คา กระทําในชวง AC
2 : เมื่อแรงทัง้ 2 คา กระทําในชวง AB
3 : เมื่อแรงทัง้ 2 คา กระทําในชวง BD
4 : เมื่อแรงทัง้ 2 คา กระทําในชวง DE
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 121 :
คาแรงเฉื อนทีจ
่ ด
ุ B ของโครงสรางดังรูปภายใตการเคลือ
่ นทีข
่ องแรงกระทําแบบจุด 2 คาทีก
่ าํ หนดบนโครงสราง สามารถมีคาเป็ นศูนยหรือไม
1 : ไมมี
2 : มี เมื่อแรงทัง้ 2 คา กระทําในชวง AB
3 : มี เมื่อแรงทัง้ 2 คา กระทําในชวง BD
4 : มี เมื่อแรงทัง้ 2 คา กระทําในชวง DE
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 122 :
ธิ ์
สท
ิ
วน
โมเมนตดัดในชวง EF ของคานหลัก AB ในระบบพืน

้ ดังรูปภายใตการเคลือ
่ นทีข
่ องแรงกระทําแบบจุด 8 T บนโครงสราง มีคาสูงสุดเทาไร
สง
สิ
งวน
โมเมนตดัดในชวง EF ของคานหลัก AB ในระบบพืน
้ ดังรูปภายใตการเคลือ
่ นทีข
่ องแรงกระทําแบบจุด 8 T บนโครงสราง มีคาสูงสุดเทาไร
อส
รข
วก
าวศ
ิ
1 : 5.6 T
สภ
2 : 7.2 T
3 : 14 T-m
4 : 28 T-m
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 123 :
แรงภายในชิน ้ สวน A ของโครงขอหมุนดังรูปภายใตการเคลือ
่ นทีข
่ องแรงกระทําแบบจุด 10 T บนโครงขอหมุน มีคาสูงสุดเป็ นอยางไร
1 : แรงดึง 5 T
2 : แรงอัด 5 T
3 : แรงดึง 10 T
4 : แรงอัด 10 T
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 124 :
แรงภายในชิน ้ สวน A ของโครงขอหมุนดังรูปภายใตการเคลือ
่ นทีข
่ องแรงกระทําแบบจุด 10 T บนโครงขอหมุน มีคาสูงสุดเป็ นอยางไร
1 : แรงดึง 7.5 T
2 : แรงอัด 7.5 T
3 : แรงดึง 12.5 T
4 : แรงอัด 12.5 T
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 125 :
จงคํานวณหาขนาดและทิศทางของแรงปฏิกริยา (Reaction force) RA ของฐานรองรับ A เมื่อนํ ้าหนั กหนึ่ งหนวยเคลือ
่ นทีอ
่ ยูทีจ
่ ด
ุ B ของคานยืน
่ (Cantilever beam) ABC ดังแสดงในรูป
้ น
1 : RA=0, ทิศทางชีข ึ้
้ น
2 : RA=0.5, ทิศทางชีข ึ้
้ ง
3 : RA=0.5, ทิศทางชีล
้ น
4 : RA=1.0, ทิศทางชีข ึ้
ธิ ์
่ ก
ู ตอง : 4
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
ขอที่ 126 :
จงคํานวณหาขนาดและทิศทางของโมเมนตปฏิกริยา (Reaction moment) MA ของฐานรองรับ A เมื่อนํ ้าหนั กหนึ่ งหนวยเคลือ
่ นทีอ
่ ยูทีจ
่ ด
ุ B ของคานยืน
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : MA=3, ทิศทางตามเข็มนาฬิกา
2 : MA=3, ทิศทางทวนเข็มนาฬิกา
3 : MA=4, ทิศทางตามเข็มนาฬิกา
4 : MA=4, ทิศทางทวนเข็มนาฬิกา
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 127 :
จงคํานวณหาขนาดของแรงเฉื อน (Shear force) VB ทีจ
่ ด
ุ B เมื่อนํ ้าหนั กหนึ่ งหนวยเคลือ
่ นทีอ
่ ยูทีจ
่ ด
ุ C ของคานยืน
1 : VB=0
2 : VB=0.5
3 : VB=1.0
4 : VB=1.5
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 128 :
จงคํานวณหาคาของโมเมนตภายใน (moment) MB ทีจ
่ ด
ุ B เมื่อนํ ้าหนั กหนึ่ งหนวยเคลือ
่ นทีอ
่ ยูทีจ
่ ด
ุ C ของคานยืน
1 : MB=-4
2 : MB=-5
3 : MB=-6
4 : MB=-7
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 129 :
ธิ ์
สท
ิ
วน
จงคํานวณหาขนาดและทิศทางของแรงปฏิกริยา (Reaction force) R ของฐานรองรับ A เมื่อนํ ้าหนั กหนึ่ งหนวยเคลือ

่ นทีอ
่ ยูทีจ
่ ด
ุ B ของโครงขอหมุน (Truss) ดังแสดงในรูป
สง
สิ
งวน
จงคํานวณหาขนาดและทิศทางของแรงปฏิกริยา (Reaction force) RA ของฐานรองรับ A เมื่อนํ ้าหนั กหนึ่ งหนวยเคลือ
่ นทีอ
่ ยูทีจ
่ ด
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : RA=1.0 ทิศทางขึน
้
2 : RA=0.75 ทิศทางขึน
้
3 : RA=0.50 ทิศทางลง
4 : RA=0.25 ทิศทางลง
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 130 :
จงคํานวณหาขนาดและทิศทางของแรงปฏิกริยา (Reaction force) RE ของฐานรองรับ E เมื่อนํ ้าหนั กหนึ่ งหนวยเคลือ
่ นทีอ
่ ยูทีจ
่ ด
ุ C ของโครงขอหมุน (Truss) ดังแสดงในรูป
1 : RE=0
2 : RE=0.25 ทิศทางขึน
้
3 : RE=0.5 ทิศทางขึน
้
4 : RE=0.75 ทิศทางลง
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 131 :
้ สวน GB เมื่อนํ ้าหนั กหนึ่ งหนวยเคลือ
จงคํานวณหาขนาดและประเภทของแรงตามแนวแกน (Axial force) ของชิน ่ นทีอ
่ ยูทีจ
่ ด
1 : FGB=0
2 : FGB=0.354 เป็ นแรงอัด
3 : FGB=0.707 เป็ นแรงอัด
4 : FGB=0.354 เป็ นแรงดึง
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 132 :
ธิ ์
สท
ิ
วน
้ สวน CG เมื่อนํ ้าหนั กหนึ่ งหนวยเคลือ

่ ยูทีจ
่ ด
สง
สิ
งวน
้ สวน CG เมื่อนํ ้าหนั กหนึ่ งหนวยเคลือ
่ ยูทีจ
่ ด
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : FCG=1 เป็ นแรงดึง

2 : FCG=1 เป็ นแรงอัด
3 : FCG=0.5 เป็ นแรงดึง
4 : FCG=0.5 เป็ นแรงอัด
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 133 :
พิจารณาโครงสรางและเสนอิทธิพล (Influence line) ดังในรูป คําตอบขอใดเป็ นจริง
1 : เสนอิทธิพลทัง้ สองเสนไมถูกตอง
2 : เสนอิทธิพลทัง้ สองเสนถูกตอง
3 : เสนอิทธิพลของแรงเฉื อนทีด่ านขวาของฐาน C เทานั น ้ ทีถ
่ ก
ู ตอง
4 : เสนอิทธิพลของโมเมนตดัดในคานทีจ ่ ด
ุ C เทานั น
้ ทีถ
่ กู ตอง
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 134 :
ขอใดเป็ นเสนอิทธิพล (Influence line) ของแรงปฏิกริ ย
ิ าทีฐ
่ าน E ของโครงสรางดังในรูป
1:
2:
3:
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
4:
วก
่ ก
ู ตอง : 1
าวศ
ิ
ขอที่ 135 :
สภ
ขอใดเป็ นเสนอิทธิพล (Influence line) ของโมเมนตดัดทีจ

่ ด
ุ C ของโครงสรางดังในรูป
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 136 :
พิจารณาโครงสรางและเสนอิทธิพล (Influence line) ในรูปที่ 1 และ 2 แลวหาวาคําตอบขอใดเป็ นจริง
1 : รูปที่ 1 เทานั น
้ ทีเ่ ป็ นเสนอิทธิพลของแรงเฉื อนทีจ ่ ดุ B
2 : รูปที่ 2 เทานั น้ ทีเ่ ป็ นเสนอิทธิพลของแรงเฉื อนทีจ ่ ดุ B
3 : รูปที่ 1 และ 2 เป็ นเสนอิทธิพลของแรงเฉื อนทีจ ่ ด
ุ B
4 : ไมมีรป ู ใดเป็ นเสนอิทธิพลของแรงเฉื อนทีจ ่ ดุ B
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 137 :
รถบรรทุกหกลอคันหนึ่ งมีนํ้าหนั กลงลอหนา 20 kN และลอหลัง 80 kN ดังในรูป วิง่ ผานคานสะพานยาว 20 m
ใหคํานวณหาคาโมเมนตทีม ่ ากทีส ่ ด
ุ ทีจ
่ ะเกิดขึน
้ ไดทีจ
่ ด
ุ B
ธิ ์
สท
ิ
วน
(*** รถจะอยูตําแหนงใดก็ไดบนสะพาน และหันหนารถไปทางซายหรือขวาก็ได)

สง
สิ
งวน
(*** รถจะอยูตําแหนงใดก็ไดบนสะพาน และหันหนารถไปทางซายหรือขวาก็ได)
อส
รข
วก
าวศ
1 : 295 kN-m
ิ
2 : 355 kN-m
3 : 460 kN-m
สภ
4 : 500 kN-m
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 138 :
้ สวน CD (แสดงเป็ นชิน
คําตอบขอใดคือเสนอิทธิพลของแรงในชิน ้ สวนสีแดง) ของโครงขอหมุนดังในรูป
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 139 :
้ สวน DK (แสดงเป็ นชิน
คําตอบขอใดคือเสนอิทธิพลของแรงในชิน ้ สวนสีแดง) ของโครงขอหมุนดังในรูป
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
1:
าวศ
ิ
สภ
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 140 :
จงเขียนสมการแสดงอินฟลูเอนซไลนของแรงปฏิกริยาทีฐ
่ านรองรับ A
1 : I.L.(RA) = x/L - 1
2 : I.L.(RA) = 1
3 : I.L.(RA) = x/L
4 : I.L.(RA) = 1 - x/L
5 : I.L.(RA) = L - 1/x
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 141 :
จงเขียนสมการแสดงอินฟลูเอนซไลนของแรงปฏิกริยาทีฐ
่ านรองรับB
1 : I.L. (RB) = 1
2 : I.L. (RB) = 1 - x/L
3 : I.L. (RB) = x/L
4 : I.L. (RB) = x/L - 1
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 142 :
ธิ ์
สท
ิ
วน
จงเขียนสมการแสดงอินฟลูเอนซไลนของแรงเฉื อนทีจ
่ ด
ุ C เมื่อนํ ้าหนั กบรรทุกจรเคลือ
่ นทีอ
่ ยูในชวงAC
สง
สิ
งวน
่ ด
่ นทีอ
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : I.L. (Vc) = -x/L

2 : I.L. (Vc) = 1 - x/L
3 : I.L. (Vc) = x/L - 1
4 : I.L. (Vc) = x/L
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 143 :
่ ด
่ นทีอ
่ ยูในชวงCB
1 : I.L.(Vc) = -x/L
2 : I.L.(Vc) = 1 - x/L
3 : I.L.(Vc) = x/L
4 : I.L.(Vc) = x/L - 1
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 144 :
จงเขียนสมการแสดงอินฟลูเอนซไลนของโมเมนตดัดทีจ
่ ด
่ นทีอ
1 : I.L.(Mc) = L - xa/L
2 : I.L.(Mc) = xb/L
3 : I.L.(Mc) = xa/L
4 : I.L.(Mc) = L - xb/L
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 145 :
จงเขียนสมการแสดงอินฟลูเอนซไลนของโมเมนตดัดทีจ
่ ด
่ นทีอ
่ ยูในชวงCB
1 : I.L.(Mc) = (1-x/L)b
2 : I.L.(Mc) = (x/L)b
ธิ ์
3 : I.L.(Mc) = (1-x/L)a
สท
4 : I.L.(Mc) = (-x/L)b
ิ
่ ก
ู ตอง : 3
วน
สง
สิ
งวน
อส
ขอที่ 146 :
จากรูป คาของอินฟลูเอ็นซไลน MC มีคาเทาใด
รข
วก
าวศ
ิ
1 : 10 kip-ft
สภ
2 : 20 kip-ft
3 : 30 kip-ft
4 : 40 kip-ft
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 147 :
จากหลักการของ Muller Breslau’s รูปใดคืออินฟลูเอ็นซไลนของโมเมนต ณ จุดกึง่ กลาง B-C
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 148 :
คานทีม่ ีนํ้าหนั กหนึ่ งหนวยเคลือ
่ นทีด
่ งั รูป
ขอใดคือ INFLUENCE LINES ของแรงปฏิกริ ย ิ าทีจ
่ ด
ุ A
1:
2:
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
3:
าวศ
ิ
สภ
4:
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 149 :
่ นทีด
ขอใดคือ INFLUENCE LINES ของแรงปฏิกริ ย ิ าทีจ
่ ด
ุ B
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 150 :
ธิ ์
สท
ิ
วน
คานทีม
่ ีนํ้าหนั กหนึ่ งหนวยเคลือ
่ นทีด
สง
สิ
งวน
คานทีม
่ ีนํ้าหนั กหนึ่ งหนวยเคลือ
่ นทีด
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1:A
2:B
3:C
4:D
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 151 :
่ นทีด
่ งั รูป ความยาวคานมีหนวยเป็ นเมตร
1 : 1.25 ตัน.เมตร
2 : 25 ตัน.เมตร
3 : -1 ตัน.เมตร
4 : -20 ตัน.เมตร
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 152 :
่ นทีด
1 : A ถึง B
2 : B ถึง D
3 : D ถึง E
4 : A ถึง E
ธิ ์
่ ก
ู ตอง : 2
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
ขอที่ 153 :
อส
่ นทีด
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : – 4 ตัน
2:0
3 : 10 ตัน
4 : 28 ตัน
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 154 :
่ นทีด
1 : -5 ตัน
2 : 12 ตัน
3 : 24 ตัน
4 : 28 ตัน
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 155 :
จากภาพ influence line ของ reaction ทีจ
่ ด
ุ B ของคานทีก
่ าํ หนดให หากมี นํ ้าหนั กบรรทุก 13 ton วิง่ ผานคานดังแสดงในรูป จงหาคาสูงสุดของ reaction ทีจ
่ ด
ุ B พรอมระบุตาํ แหนงทีน
่ ํ ้าหนั กบรรทุกนี ้
กระทํา
ธิ ์
1 : คาสูงสุด คือ 17.33 ton นํ ้าหนั กบรรทุกอยูทีจ

่ ด ุ B
สท
2 : คาสูงสุด คือ 17.33 ton นํ ้าหนั กบรรทุกอยูทีจ่ ด ุ C

ิ
3 : คาสูงสุด คือ 21.67 ton นํ ้าหนั กบรรทุกอยูทีจ ่ ด ุ B

4 : คาสูงสุด คือ 21.67 ton นํ ้าหนั กบรรทุกอยูทีจ ่ ด ุ C
วน
สง
สิ
งวน
่ ก
ู ตอง : 2
อส
รข
ขอที่ 156 :
จากคานทีก ่ าํ หนดใหดังรูป ภาพ influence line ตอไปนี ้ คําตอบใดผิด
วก
าวศ
ิ
สภ
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 4
เนื อ
้ หาวิชา : 532 : Deflections of determinate structures by methods of virtual work, strain energy
ขอที่ 157 :
จงคํานวณหาคาการโกงตัว (Deflection) ทีป ่ ลายอิสระ (จุด A) ของคานยืน
่ ทีม
่ ีความยาว 2.00 เมตร รับนํ ้าหนั กกระทําเป็ นจุด ขนาด 6 T มีคาโมเมนต อินเนอรเชีย 5000 ซม.^4 และคาโมดูลส
ั ของการ
ยืดหยุนเป็ น 2000 ตันตอตารางเซนติเมตร
1 : 0.2 cm
2 : 0.8 cm
3 : 1.0 cm
ธิ ์
4 : 1.6 cm
สท
่ ก
ู ตอง : 4
ิ
วน
สง
สิ
งวน
ขอที่ 158 :
ขอใดเป็ นคําตอบทีถ่ ก
ู ตองของคาการโกงตัวในแนวดิง่ ทีจ
่ ด
ุ A
อส
พิจารณางานเนื่ องจากแรงดัดเทานั น
้ (ทิศทางลงเป็ นบวก และขึน
้ เป็ นลบ)
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : 200/EI m.
2 : 400/EI m.
3 : 800/EI m.
4 : 1600/EI m.
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 159 :
ู ตองของคาการหมุนทีจ่ ด
ุ A
้ (ทิศทางทวนเข็มเป็ นบวก และตามเข็มเป็ นลบ)
1 : 800/3EI
2 : 1000/3EI
3 : 1400/3EI
4 : 1600/3EI
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 160 :
ู ตองของคาการโกงตัว (deflection) ในแนวดิง่ ทีจ่ ด
ุ B
้ (ทิศทางลงเป็ นบวก และขึน
้ เป็ นลบ)
1 : 0 m.
2 : 50/EI m.
3 : 100/EI m.
4 : 150/EI m.
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 161 :
ธิ ์
สท
ิ
วน
จงคํานวณหาขนาดและทิศทางของการแอนตัวในแนวดิง่ ของจุด A ของคาน ABC ดังแสดงในรูป E=207x10^3 MPa, I=10^-4 m

สง
สิ
งวน
จงคํานวณหาขนาดและทิศทางของการแอนตัวในแนวดิง่ ของจุด A ของคาน ABC ดังแสดงในรูป E=207x10^3 MPa, I=10^-4 m
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : 0.643 m ทิศขึน
้
2 : 0.643 m ทิศลง
3 : 0.321 m ทิศขึน ้
4 : 0.321 m ทิศลง
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 162 :
จงคํานวณหาขนาดและทิศทางของการหมุน (rotation) ของจุด A ของคาน ABC ดังแสดงในรูป E=207x10^3 MPa, I=10^-4 m
1 : 0.643 rad ทวนเข็มนาฬิกา

2 : 0.643 rad ตามเข็มนาฬิกา
3 : 0.321 rad ทวนเข็มนาฬิกา
4 : 0.321 rad ตามเข็มนาฬิกา
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 163 :
1 : 0.01 rad ทิศทวนเข็มนาฬิกา

2 : 0.01 rad ทิศตามเข็มนาฬิกา
3 : 0.02 rad ทิศทวนเข็มนาฬิกา
4 : 0.02 rad ทิศตามเข็มนาฬิกา
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 164 :
จงคํานวณระยะโกง (vertical deflection) ทีป
่ ลายอิสระของคานทีก
1 : 125/EI
2 : 127.5/EI
3 : 120/EI
ธิ ์
4 : 100/EI
สท
่ ก
ู ตอง : 1
ิ
วน
สง
สิ
งวน
ขอที่ 165 :
จงคํานวณหามุมลาดเอียง (slope) ทีป
่ ลายอิสระของคานทีก
อส
รข
วก
าวศ
ิ
1 : 125/EI-clockwise
สภ
2 : 125/EI-couterclockwise
3 : 50/EI-clockwise
4 : 50/EI-counterclockwise
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 166 :
จงคํานวณระยะเคลือ
่ นทีใ่ นแนวนอน (horizontal deflection) ของจุดCของโครงขอแข็งทีก
1 : 640/3EIไปทางขวา
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 167 :
จงคํานวณระยะเคลือ
่ นทีใ่ นแนวนอน (horizontal deflection) ของจุดBของโครงขอแข็งทีก
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 168 :
โครงขอหมุนรับแรงกระทําดังในรูป ก. ใหหาคาการเคลือ ่ นทีใ่ นแนวราบทีจ
่ ด
ุ A
[ตัวหนั งสือสีแดงในรูป ก. รูป ข. และรูป ค. คือคาแรงตามแนวแกนในแตละชิน ้ สวน
ธิ ์
สท
ิ
วน
เมื่อมีแรงลักษณะตางๆ (สีนํ้าเงิน) มากระทํา]

สง
สิ
งวน
เมื่อมีแรงลักษณะตางๆ (สีนํ้าเงิน) มากระทํา]
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : (S1 U1 + S2 U2 + S3 U3 + S4 U4 + S5 U5) / (EA)

2 : (5.0 S1 U1 + 5.0 S2 U2 + 6.4 S3 U3 + 6.4 S4 U4 + 2.0 S5 U5) / (EA)
3 : (S1 W1 + S2 W2 + S3 W3 + S4 W4 + S5 W5) / (EA)
4 : (5.0 S1 W1 + 5.0 S2 W2 + 6.4 S3 W3 + 6.4 S4 W4 + 2.0 S5 W5) / (EA)
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 169 :
โครงขอหมุนรับแรงกระทําดังในรูป ก. ใหหาคาการเคลือ
่ นทีใ่ นแนวดิง่ ทีจ
่ ด
ุ D
1 : (5.0 S1 U1 + 5.0 S2 U2 + 6.4 S3 U3 + 6.4 S4 U4 + 2.0 S5 U5) / (EA)

2 : 60 (5.0 U1 U1 + 5.0 U2 U2 + 6.4 U3 U3 + 6.4 U4 U4 + 2.0 U5 U5) / (EA)
3 : (5.0 S1 W1 + 5.0 S2 W2 + 6.4 S3 W3 + 6.4 S4 W4 + 2.0 S5 W5) / (EA)
4 : 60 (5.0 S1 S1 + 5.0 S2 S2 + 6.4 S3 S3 + 6.4 S4 S4 + 2.0 S5 S5) / (EA)
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 170 :
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 171 :
จงหาคา Deflection ทีจ
่ ด
ุ C เมื่อมีแรง 10 kN กระทํา ตามรูปดานลาง
1 : 240 / EI
2 : 320 / EI
3 : 640 / EI
4 : 6400 / EI
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 172 :
Determine the vertical displacement at point C of the truss in figure below.
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
1:
รข
2:
วก
3:
าวศ
ิ
4:
่ ก
ู ตอง : 3
สภ
ขอที่ 173 :
คานยืน่ รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จงหาคามุมลาดเอียงทีจ
่ ด
ุ B
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 174 :
คานยืน่ รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จงหาคาการโกงตัวทีจ
่ ด
ุ B
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 175 :
คานยืน่ รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จงหาคามุมลาดเอียงทีจ
่ ด
ุ B
1 : 2PL^2/9EI
2 : 5PL^2/16EI
3 : PL^2/2EI
4 : PL^2/EI
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 176 :
ธิ ์
สท
ิ
วน
คานยืน
่ รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จงหาคาการโกงตัวทีจ
่ ด
ุ B
สง
สิ
งวน
คานยืน
่ รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จงหาคาการโกงตัวทีจ
่ ด
ุ B
อส
รข
วก
าวศ
ิ
1 : 3PL^3/16EI
2 : 14PL^3/81EI
สภ
3 : PL^3/EI
4 : PL^3/6EI
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 177 :
คานชวงเดีย ่ วธรรมดารับนํ ้าหนั ก ดังรูป จงหาคามุมลาดเอียงทีจ
่ ด
ุ B
1 : PL^2/4EI
2 : PL^2/3EI
3 : PL^2/2EI
4 : PL^2/EI
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 178 :
คานชวงเดีย ่ วธรรมดารับนํ ้าหนั ก ดังรูป จงหาคาการโกงตัวทีก
่ งึ่ กลางคาน
1 : PL^3/EI
2 : PL^3/3EI
3 : PL^3/4EI
4 : PL^3/6EI
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 179 :
โครงสรางขอแข็ง รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จงหาคามุมลาดเอียงทีจ
่ ด
ุ B
1 : ML/EI
2 : ML/2EI
3 : 2ML/EI
4 : ML/2EI
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 180 :
ธิ ์
สท
ิ
วน
โครงสรางขอแข็ง รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จงหาคาการโกงตัวในแนวดิง่ ทีจ

่ ด
ุ C
สง
สิ
งวน
โครงสรางขอแข็ง รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จงหาคาการโกงตัวในแนวดิง่ ทีจ
่ ด
ุ C
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : ML^2/EI
2 : ML^2/2EI
3 : ML^2/4EI
4 : 3ML^2/4EI
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 181 :
้ สวนไมยืดหรือหดตัว(No axial deformation) ใหเลือกคําตอบทีถ
โครงขอแข็งรับนํ ้าหนั ก ดังรูป ถาสมมติวาชิน ่ ก
ู ตองทีส
่ ด
ุ
1 : จุด B และจุด C มีระยะเคลือ

่ นทีใ่ นแนวระดับเทากัน
2 : จุด A และจุด D ไมมีการทรุดตัวและไมเคลือ ่ นทีใ่ นแนวระดับ
3 : จุด B มีการทรุดตัวเทากับจุด C
4 : จุด B ไมมีการเคลือ
่ นตัวในแนวระดับ
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 182 :
้ สวนไมยืดหรือหดตัว ใหเลือกคําตอบทีถ
่ ด
ุ
1 : จุด B และจุด C มีระยะเคลือ่ นทีใ่ นแนวระดับเทากัน

2 : จุด A ไมมีการหมุนและเลือ่ นตัวในแนวดิง่
3 : จุด A ไมมีการทรุดตัวและไมเคลือ ่ นทีใ่ นแนวระดับ สวนจุด D ไมมีการทรุดตัวแตเคลือ
่ นทีใ่ นแนวระดับได
4 : จุด D ไมมีการเลือ
่ นตัวในแนวดิง่ และไมมีการหมุน
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 183 :
่ ด
ุ
1 : จุด B และจุด C ไมมีการเคลือ

่ นทีใ่ นแนวระดับ
2 : จุด A ไมมีการทรุดตัวและไมเคลือ่ นทีใ่ นแนวระดับแตมีการหมุน
3 : จุด C ไมมีการหมุน
4 : จุด B ไมมีการหมุน
่ ก
ู ตอง : 1
ธิ ์
สท
ขอที่ 184 :
ิ
วน
่ ด
ุ
สง
สิ
งวน
่ ด
ุ
อส
รข
วก
าวศ
ิ
1 : จุด B และจุด C มีระยะเคลือ่ นทีใ่ นแนวระดับเทากัน
สภ
2 : จุด A และจุด D มีการทรุดตัวและไมเคลือ ่ นทีใ่ นแนวระดับ

3 : จุด B มีเฉพาะการเคลือ
่ นตัวในแนวราบ
4 : จุด B มีเฉพาะการเคลือ่ นตัวในแนวดิง่
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 185 :
่ ด
ุ
1 : จุด B และจุด C มีการเคลือ

่ นทีใ่ นแนวระดับเทากัน
2 : จุด A ไมมีการทรุดตัวและไมเคลือ ่ นทีใ่ นแนวระดับและไมมีการหมุน
3 : จุด B และ C มีการเคลือ
่ นตัวในแนวระดับทีไ่ มเทากัน
4 : จุด B มีการทรุดตัวในแนวดิง่
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 186 :
่ ด
ุ
1 : จุด B และจุด C มีระยะเคลือ

่ นทีใ่ นแนวระดับเทากันโดยไมคิดผลจากมุมหมุนของจุด A
2 : จุด B และจุด C มีระยะเคลือ่ นทีใ่ นแนวระดับเทากันโดยมีผลจากมุมหมุนของจุด A
3 : จุด A ไมมีการทรุดตัวและไมเคลือ ่ นทีใ่ นแนวระดับ
4 : รวมคําตอบขอ (ข) และ ขอ (ค) โดยมีมม ุ หมุนทีจ
่ ดุ A B และ C ตามลําดับ
5 : รวมคําตอบขอ (ก) และ ขอ (ค) โดยมีมม ุ หมุนทีจ
่ ดุ A B และ C ตามลําดับ
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 187 :
การวิเคราะหหาการโกงตัวของโครงสรางโดยวิธี moment-area หรือวิธี conjugate-beam พิจารณาจากผลของ
1 : แรงตามแนวแกนอยางเดียว
4 : โมเมนตและแรงเฉื อน
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 188 :
การวิเคราะหหาการโกงตัวของโครงสรางโดยวิธี Energy เชนวิธี virtual work สามารถพิจารณาไดจากผลของ
1 : แรงตามแนวแกนอยางเดียว
4 : แรงตามแนวแกน, แรงเฉื อน, และโมเมนตดัด
่ ก
ู ตอง : 4
ธิ ์
สท
ขอที่ 189 :
ิ
วน
จงหาระยะการแอนตัวทีเ่ กิดขึน
้ สูงสุด ณ จุด B (EI = constance)
สง
สิ
งวน
จงหาระยะการแอนตัวทีเ่ กิดขึน
้ สูงสุด ณ จุด B (EI = constance)
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : มีคา 2466/EI หนวย

่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 190 :
จงหาคา Slope ณ จุด B ในโครงสราง เมื่อ EI = คาคงที่
1 : มีคา 1006/EI เรเดียน

่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 191 :
โครงสรางดังรูป มีคาความชัน (slope) ทีจ
่ ด
ุ A เทากับเทาใด?
1:0
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 192 :
ธิ ์
สท
ิ
วน
โครงสรางดังรูป มีคาการโกงตัวสูงสุด (Maximum Deflection) เทากับเทาใด?

สง
สิ
งวน
โครงสรางดังรูป มีคาการโกงตัวสูงสุด (Maximum Deflection) เทากับเทาใด?
อส
รข
วก
าวศ
ิ
1:0
สภ
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 193 :
จงหาคาการโกงตัวมากทีส ุ ของคาน AB ซึง่ มีหนาตัดไมคงที่ รับนํ ้าหนั กแบบจุด P ดังรูป กําหนดให ระยะ Li = L, I1 = I, I2 = 2I และคา E คงที่
่ ด
1 : 4PL
3/3EI
2 : 3PL3/4EI
3
3 : 9PL /5EI
4 : 5PL3/9EI
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 194 :
่ ด
1 : 5PL3/9EI
2 : 4PL3/3EI
3 : 3PL3/4EI
4 : 9PL3/5EI
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 195 :
จงหาคาการโกงตัวมากทีส ุ ของคาน AB ซึง่ มีหนาตัดไมคงที่ รับโมเมนตดัด M ทีจ
่ ด ุ รองรับทัง้ สอง ดังรูป ซึง่ ทําใหคานโกงทางเดียว กําหนดให ระยะ
่ ด
Li = L, I1 = I, I2 = 2I และคา E คงที่
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : 5ML
2/8EI
2 : 5ML
2/4EI
2
3 : 2ML /2EI
2
4 : 2ML /EI
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 196 :
่ ด
1 : 5ML2/8EI
2 : 5ML
2/4EI
3 : 2ML2/2EI
4 : 2ML
2/EI
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 197 :
่ ด
1 : 5PL
3/6EI
3
2 : 11PL /6EI
3
3 : 13PL /12EI
3
4 : 19PL /12EI
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 198 :
่ ด
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : 5PL
3/6EI
2 : 11PL
3/6EI
3
3 : 13PL /12EI
3
4 : 19PL /12EI
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 199 :
จงหาคาการโกงตัวมากทีส ุ ของคาน AB ซึง่ มีหนาตัดไมคงที่ รับนํ ้าหนั กแบบจุด P ดังรูป กําหนดให ระยะ Li = L/2, I1 = I, I2 = 3I และคา E คงที่
่ ด
1 : 25PL
3/18EI
3
2 : 25PL /36EI
3
3 : 25PL /72EI
3
4 : 25PL /144EI
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 200 :
่ ด
1 : 11PL
3/18EI
2 : 11PL3/9EI
3
3 : 5PL /4EI
4 : 4PL3/3EI
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 201 :
่ ด
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : 11PL
3/18EI
2 : 11PL
3/9EI
3
3 : 11PL /6EI
3
4 : 11PL /3EI
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 202 :
่ ด
1 : 7ML2/8EI
2 : 7ML
2/4EI
3 : 7ML2/2EI
4 : 7ML
2/EI
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 203 :
่ ด
1 : 5ML
2/8EI
2
2 : 5ML /4EI
2
3 : 5ML /3EI
2
4 : 5ML /EI
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 204 :
จงหาคามุมลาดเอียงทีจ ุ A ของคาน AB ซึง่ มีหนาตัดไมคงที่ รับนํ ้าหนั กแบบจุด P ดังรูป กําหนดให ระยะ Li = L/2, I1 = I, I2 = 3I และคา E คงที่
่ ด
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : 7PL
2/24EI
2 : 7PL
2/12EI
2
3 : 7PL /6EI
2
4 : 7PL /4EI
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 205 :
่ ด
1 : 11PL
3/6EI
3
2 : 11PL /9EI
3
3 : 11PL /10EI
3
4 : 11PL /12EI
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 206 :
่ ด
1 : 11PL
3/18EI
2 : 21PL3/18EI
3
3 : 31PL /18EI
4 : 41PL3/18EI
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 207 :
่ ด
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : 3PL
3/4EI
2 : 11PL
3/6EI
3
3 : 11PL /9EI
3
4 : 25PL /6EI
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 208 :
จงประมาณคาการโกงตัวมากทีส ุ ของคาน AB ซึง่ มีหนาตัดไมคงที่ รับนํ ้าหนั กแบบจุด P ดังรูป กําหนดให ระยะ Li = L, I1 = I, I2 = 3I และคา E
่ ด
คงที่
1 : 2PL3/EI
2 : 3PL
3/EI
3 : 4PL3/EI
4 : 5PL
3/EI
่ ก
ู ตอง : 3
เนื อ
้ หาวิชา : 533 : Analysis of statically indeterminate structures by method of consistent deformation
ขอที่ 209 :
ิ าในแนวดิง่ ทีป
่ ลาย A ของคานดังแสดงในรูป
1 : (1/4)wL
2 : (3/4)wL
3 : (3/8)wL
4 : (5/8)wL
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 210 :
จงหาคาแรงในแนวดิง่ ทีฐ
่ าน B (Rb) ของโครงสรางดังในรูป
- คาน ABC มีคา Modulus of Elasticity = E และ Moment of Inertia = I
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : 28.5 kN
2 : -28.5 kN
3 : 87.5 kN
4 : -87.5 kN
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 211 :
จงคํานวณหาแรงปฏิกริยาของฐานรองรับทีจ
่ ด
ุ b ของคานทีก
1 : Rb = 5F/16
2 : Rb = 11F/16
3 : Rb = 7F/16
4 : Rb = F/4
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 212 :
จงคํานวณหา Reaction และ Fixed-end moment ทีฐ
่ านรองรับ a ของคานทีก
1 : Ra = 11F/16 , Ma = 3FL/16 clockwise

2 : Ra = 5F/16 , Ma = 3FL/16 clockwise
3 : Ra = 11F/16 , Ma = 3FL/16 counterclockwise
4 : Ra = 5F/16 , Ma = 3FL/16 counterclockwise
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 213 :
ธิ ์
สท
ิ
วน
จงคํานวณแรงปฏิกริยาทีฐ
่ านรองรับทัง้ หมดของคานทีก
สง
สิ
งวน
จงคํานวณแรงปฏิกริยาทีฐ
่ านรองรับทัง้ หมดของคานทีก
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : Ra = 5F/16; Rb = 11F/16; Ma = 3FL/16 clockwise

2 : Ra = 11F/16; Rb = 5F/16; Ma = 3FL/16 clockwise
3 : Ra = 11F/16; Rb = 5F/16; Ma = 3FL/16 counterclockwise
4 : Ra = 5F/16; Rb = 11F/16; Ma = 3FL/16 counterclockwise
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 214 :
จงคํานวณ Reaction และ Fixed-end moment ของฐานรองรับทีจ
่ ด
ุ a ของคานในรูป เมื่อกําหนดให F = wL/2
1 : Ra = F/5; Ma = 2FL/15 clockwise

2 : Ra = 4F/5; Ma = FL/15 counterclockwise
3 : Ra = 4F/5; Ma = 2FL/15 clockwise
4 : Ra = 4F/5; Ma = 2FL/15 counterclockwise
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 215 :
จงคํานวณหาแรงปฏิกริยาของฐานรองรับทีจ
่ ด
ุ b ของคานในรูป กําหนดให F = wL/2
1 : Rb = 3F/5
2 : Rb = 4F/5
3 : Rb = F/5
4 : Rb = 2F/5
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 216 :
จงคํานวณ Reaction และ Fixed-end moment ทีฐ
่ านรองรับทัง้ หมดของคานในรูป กําหนดให F = wL/2
1 : Ra = F/5; Rb = 4F/5; Ma = 2FL/15 clockwise

2 : Ra = 4F/5; Rb = F/5; Ma = 2FL/15 clockwise
ธิ ์
3 : Ra = 4F/5; Rb = F/5; Ma = 2FL/15 counterclockwise

สท
4 : Ra = F/5; Rb = 4F/5; Ma = 2FL/15 counterclockwise

ิ
่ ก
ู ตอง : 3
วน
สง
สิ
งวน
อส
ขอที่ 217 :
จากโครงสรางทีแ
่ สดง หากยังไมมีทอนเหล็ก BD มายึดไว ระยะโกงตัว (โดยประมาณ) ทีจ
่ ด
ุ D เทากับ
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : 10.5/EI
2 : 12.5/EI
3 : 14.5/EI
4 : 15.5/EI
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 218 :
จากโครงสรางทีแ
่ สดง โดยมีทอนเหล็ก BD มายึดไว เพื่อใหระยะโกงตัวทีจ
่ ด
ุ D เป็ นศูนย ใหหาคาแรงดึงโดยประมาณในทอนเหล็ก BD (โดยคํานึ งถึงการยืดตัวของทอนเหล็กทีช
่ วยยึด)
1 : 3.0 ตัน
2 : 4.0 ตัน
3 : 5.0 ตัน
4 : 6.0 ตัน
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 219 :
ธิ ์
สท
ิ
วน
เมื่อกําหนดใหโมเมนตทีป
่ ลายชิน ่ มุนตามเข็มนาฬิกามีคาเป็ นบวก จงคํานวณหาคาโมเมนตดัดทีป
้ สวน (end moment) ทีห ้ สวน AB: M
่ ลาย A ของชิน มีคาเทากับ
สง
สิ
งวน
้ สวน (end moment) ทีห ้ สวน AB: MAB มีคาเทากับ
่ ลาย A ของชิน
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : 6 ตัน-ม. (หมุนตามเข็มนาฬิกา)
2 : 6 ตัน-ม. (หมุนทวนเข็มนาฬิกา)
3 : 4.5 ตัน-ม. (หมุนตามเข็มนาฬิกา)
4 : 4.5 ตัน-ม. (หมุนทวนเข็มนาฬิกา)
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 220 :
จากคานทีแ ่ สดง จงคํานวณหาคาแรงปฎิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ C เทากับเทาใด
1 : 2 ตัน (ทิศขึน
้ )
2 : 2 ตัน (ทิศลง)
3 : 1.25 ตัน (ทิศขึน้ )
4 : 2.75 ตัน (ทิศขึน ้ )
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 221 :
จากคานทีแ ่ สดง โมเมนตดัดมากทีส
่ ด
ุ (Mmax) บนคาน ACB จะอยูทีจ
่ ด
ุ ไหน
1 : อยูทีจ
่ ด ุ A
2 : อยูทีจ่ ด ุ B
3 : อยูทีจ ่ ด ุ C
4 : อยูระหวางจุด A กับจุด C
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 222 :
ธิ ์
สท
ิ
วน
้ สวน (end moment) ทีห ้ สวน AB: M
่ ลาย A ของชิน มีคาเทากับเทาใด
สง
สิ
งวน
้ สวน (end moment) ทีห ้ สวน AB: MAB มีคาเทากับเทาใด
่ ลาย A ของชิน
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ

่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 223 :
จากคานทีแ ่ สดง จงคํานวณหาคาแรงปฎิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ A เทากับเทาใด
1 : 4.525 ตัน (ทิศขึน

้ )
2 : 5.525 ตัน (ทิศลง)
3 : 6.625 ตัน (ทิศขึน้ )
4 : 5.625 ตัน (ทิศขึน ้ )
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 224 :
จากคานทีแ ่ สดงดังรูป จงหาคาโมเมนตดัดมากทีส
่ ด
ุ (Mmax) บนคาน AB จะอยูทีจ
่ ด
ุ ไหน
1 : อยูทีจ
่ ดุ A
2 : อยูทีก่ งึ่ กลางคาน AB
3 : อยูระหวางจุด A กับจุด B โดยคอนไปทางจุด B
4 : อยูระหวางจุด A กับจุด B โดยคอนไปทางจุด A
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 225 :
คาน AB ทีแ่ สดงในรูป ก และ ข มีความยาวและคา IE เทากันและรับนํ ้าหนั กบรรทุกทีม
่ ีขนาดสุทธิเทากัน จงกําหนดวาขอความใดถูกตอง
ธิ ์
สท
ิ
วน
1 : โมเมนตดัดยึดแนนทีป
่ ลาย A ของรูป (ก) (FEM ) มีคานอยกวาโมเมนตดัดยึดแนนทีป
่ ลาย A ของรูป (ข) (FEM )
สง
สิ
งวน
่ ลาย A ของรูป (ก) (FEMAB) มีคานอยกวาโมเมนตดัดยึดแนนทีป
่ ลาย A ของรูป (ข) (FEMAB)
่ ลาย A ของรูป (ก) (FEMAB) มีคาเทากับโมเมนตดัดยึดแนนทีป
อส
่ ลาย A ของรูป (ก) (FEMAB) มีคามากกวาโมเมนตดัดยึดแนนทีป
4 : ไมมีขอใดถูกตอง
รข
่ ก
ู ตอง : 1
วก
ขอที่ 226 :าวศ
คานตอเนื่ อง ABCD รับนํ ้าหนั กดังรูปทีแ
ิ ่ สดง จะเห็นวา คานดังกลาวมีความสมมาตรทีก ่ งึ่ กลางของคาน BC หากตองการวิเคราะหโครงสรางใหรวดเร็วขึน
้ โดยอาศัยความสมมาตรเขาชวย ดังนั น
้ ตอง
พิจารณาใชคา stiffness factor สําหรับชิน ้ สวน AB (หรือ CD) และสําหรับชิน
้ สวน BC ดังนี ้
สภ
1 : KAB = 4EI/L และ KBC = 4EI/L

่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 227 :
คานตอเนื่ อง ABCD รับนํ ้าหนั กดังรูปทีแ
่ สดง จะเห็นวา คานรับนํ ้าหนั กแบบปฎิสมมาตรทีก
่ งึ่ กลางของคาน BC หากตองการวิเคราะหโครงสรางใหรวดเร็วขึน
้ โดยอาศัยความสมมาตรเขาชวย จะตอง
พิจารณาใชคา stiffness factor สําหรับชิน ้ สวน AB (หรือ CD) และสําหรับชิน้ สวน BC ดังนี ้

่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 228 :
จงคํานวณโมเมนตดัดทีจ
่ ด
ุ A มีคาเทากับเทาใด
1 : wL2/8
2 : 3wL2//16
3 : 5wL2//16
4 : wL2//12
่ ก
ู ตอง : 3
ธิ ์
สท
ิ
วน
ขอที่ 229 :
จงคํานวณแรงปฎิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
สง
สิ
งวน
จงคํานวณแรงปฎิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : 5wL/8
2 : 11wL/16
3 : wL
4 : 21wL/16
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 230 :
จงคํานวณหาคาโมเมนตดัดทีก
่ งึ่ กลางคาน AB มีคาเทากับเทาใด
1 : 7wL2/32
2 : 5wL2/32
3 : wL2/16
4 : 3wL2/8
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 231 :
จงคํานวณหาคาแรงเฉื อนมากทีส
่ ด
ุ ตรงกลางชวงคาน AB มีคาเทากับเทาใด
1 : 21wL/16
2 : 11wL/16
3 : 5wL/16
4 : 5wL/8
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 232 :
Determine the reaction at B of a continuous beam loaded as shown in figure below.
EI is constant.
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1:
2:
3:
4:
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 233 :
โครงสรางทีแ ่ สดง เป็ นแบบ
1 : unstable
2 : stable และ determinate
3 : stable และ externally indeterminate 1st degree
4 : stable และ externally indeterminate 2nd degree
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 234 :
1 : unstable
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 235 :
1 : unstable
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 236 :
ธิ ์
สท
ิ
วน
โครงสรางทีแ
่ สดง เป็ นแบบ
สง
สิ
งวน
โครงสรางทีแ
่ สดง เป็ นแบบ
อส
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : unstable
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 237 :
1 : unstable
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 238 :
1 : unstable
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 239 :

4 : stable และ externally indeterminate 3rd degree
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 240 :
เมื่อพิจารณาเฉพาะการรองรับเพื่อถายทอดนํ ้าหนั กบรรทุก(support) จะเห็นวาโครงสรางระนาบทีแ
่ สดงเป็ นแบบ
ธิ ์
1 : externally determinate
2 : externally indeterminate 1st degree
สท
3 : externally indeterminate 2nd degree

ิ
4 : externally indeterminate 3rd degree

วน
่ ก
ู ตอง : 1
สง
สิ
งวน
่ ก
ู ตอง : 1
อส
ขอที่ 241 :
รข
วก
าวศ
ิ
สภ

่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 242 :
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 243 :
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 244 :
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 245 :
ธิ ์
สท
1 : determinate
2 : indeterminate 1st degree
ิ
3 : indeterminate 2nd degree

วน
4 : indeterminate 3rd degree

สง
สิ
งวน
่ ก
ู ตอง : 1
อส
รข
ขอที่ 246 :
เมื่อพิจารณาเฉพาะการรองรับเพื่อถายทอดนํ ้าหนั กบรรทุก จะเห็นวาโครงสรางระนาบทีแ
วก
าวศ
ิ
สภ
1 : determinate
2 : indeterminate 1st degree
3 : indeterminate 2nd degree
4 : indeterminate 3rd degree
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 247 :
้ สวนภายในโครงสราง จะเห็นวาโครงสรางระนาบทีแ
เมื่อพิจารณาเฉพาะการยึดโยงของชิน ่ สดงเป็ นแบบ

2 : stable และ internally indeterminate 1st degree
3 : stable และ internally indeterminate 2nd degree
4 : stable และ internally indeterminate 3rd degree
่ ก
ู ตอง : 4
ขอที่ 248 :
โครงสรางระนาบทีแ
่ สดงมีดก
ี รีอน
ิ ดีเทอรมิเนททัง้ หมด เทากับ
1 : 0 ดีกรี
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 249 :
ี รีอน
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 250 :
ี รีอน
ธิ ์
สท
ิ
่ ก
ู ตอง : 4
วน
สง
สิ
งวน
อส
ขอที่ 251 :
ี รีอน
รข
วก
าวศ
ิ
สภ
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 252 :
ี รีอน
่ ก
ู ตอง : 3
ขอที่ 253 :
ี รีอน
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 254 :
ี รีอน
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 255 :
ี รีอน
ธิ ์
สท
ิ
วน
สง
สิ
งวน
อส
่ ก
ู ตอง : 3
รข
วก
ขอที่ 256 :
าวศ่ สดงมีดก
ี รีอน
ิ
สภ
่ ก
ู ตอง : 2
ขอที่ 257 :
แรงในชิน้ สวน c ของโครงขอหมุนดังรูป มีคาเทาใด
1 : แรงดึง ขนาด 1.34 P

2 : แรงอัด ขนาด 1.34 P
3 : แรงดึง ขนาด 2.68 P
4 : แรงอัด ขนาด 2.68 P
่ ก
ู ตอง : 1
ขอที่ 258 :
ิ าในแนวดิง่ ทีป
่ ลาย B ของคานดังแสดงในรูป
1 : (1/4)wL
2 : (3/4)wL
3 : (3/8)wL
4 : (5/8)wL
่ ก
ู ตอง : 4
สภาวิศวกร 487/1 ซอย รามคําแหง 39 (เทพลีลา 1) แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310 สายดวน 1303 โทรสาร 02-935-6695
@ สงวนลิขสิทธิ ์ 2555 สภาวิศวกร : ติดตอสภาวิศวกร | Contact

สภาวิศวกร - Council of engineers

Uploaded by

Document Information

Original Title

Copyright

Available Formats

Share this document

Share or Embed Document

Sharing Options

Did you find this document useful?

Is this content inappropriate?

Copyright:

Available Formats

สภาวิศวกร - Council of engineers

Uploaded by

Copyright:

Available Formats

สิ

1 : stable – indeterminate – degree of indeterminacy = 3

1 : 375 kg(T), 615 kg(T)

จงหา moment ใน member BC ทีจ

1 : VBL=46 ตัน และ VBR=14 ตัน

1 : MCL=420 ตัน.เมตร และ MCR=240 ตัน.เมตร

1 : HD =500 kg.ทิศทางไปทางขวา, RD=375 kg. ทิศทางลง และ RE =375 kg.ทิศทางขึน

1 : FBE =0 kg. และ FDE =375 kg. เป็ นแรงดึง

1 : RA=6 ตัน มีทศ

1 : NAB=6 ตัน เป็ นแรงอัด

3 : NAB=3 ตัน เป็ นแรงอัด

4 : NAB=3 ตัน เป็ นแรงดึง

คาโมเมนตดัดทีจ ุ ซึง่ แรง 10 T กระทําบนโครงสรางดังรูปมีคาเทาไร

1 : 100 kg-m ทิศทางบวก

1 : 600 kg-m ทิศทางบวก

กําหนดใหM1มีคามากกวาM2 ลักษณะของ Bending moment diagram สําหรับคานในรูปเป็ นอยางไร

จากโครง Truss ทีแ ้ สวน HB เทากับ

เสา AB มีปลายทัง้ สองขางเป็ นแบบยึดหมุน รับนํ ้าหนั กบรรทุก ดังรูป จงหาคาโมเมนตดัดทีจ

1 : แรงอัดตามแนวแกน แรงเฉื อนและโมเมนตดัด

1 : แรงอัดตามแนวแกน แรงเฉื อนและโมเมนตดัด

1 : แรงอัดตามแนวแกน แรงเฉื อนและโมเมนตดัด

โมเมนตดัดในชวง EF ของคานหลัก AB ในระบบพืน

จงคํานวณหาขนาดและทิศทางของแรงปฏิกริยา (Reaction force) R ของฐานรองรับ A เมื่อนํ ้าหนั กหนึ่ งหนวยเคลือ

้ สวน CG เมื่อนํ ้าหนั กหนึ่ งหนวยเคลือ

1 : FCG=1 เป็ นแรงดึง

ขอใดเป็ นเสนอิทธิพล (Inﬂuence line) ของโมเมนตดัดทีจ

(*** รถจะอยูตําแหนงใดก็ไดบนสะพาน และหันหนารถไปทางซายหรือขวาก็ได)

1 : I.L. (Vc) = -x/L

1 : คาสูงสุด คือ 17.33 ton นํ ้าหนั กบรรทุกอยูทีจ

2 : คาสูงสุด คือ 17.33 ton นํ ้าหนั กบรรทุกอยูทีจ่ ด ุ C

3 : คาสูงสุด คือ 21.67 ton นํ ้าหนั กบรรทุกอยูทีจ ่ ด ุ B

จงคํานวณหาขนาดและทิศทางของการแอนตัวในแนวดิง่ ของจุด A ของคาน ABC ดังแสดงในรูป E=207x10^3 MPa, I=10^-4 m

1 : 0.643 rad ทวนเข็มนาฬิกา

1 : 0.01 rad ทิศทวนเข็มนาฬิกา

เมื่อมีแรงลักษณะตางๆ (สีนํ้าเงิน) มากระทํา]

1 : (S1 U1 + S2 U2 + S3 U3 + S4 U4 + S5 U5) / (EA)

1 : (5.0 S1 U1 + 5.0 S2 U2 + 6.4 S3 U3 + 6.4 S4 U4 + 2.0 S5 U5) / (EA)

โครงสรางขอแข็ง รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จงหาคาการโกงตัวในแนวดิง่ ทีจ

1 : จุด B และจุด C มีระยะเคลือ

1 : จุด B และจุด C มีระยะเคลือ่ นทีใ่ นแนวระดับเทากัน

1 : จุด B และจุด C ไมมีการเคลือ

2 : จุด A และจุด D มีการทรุดตัวและไมเคลือ ่ นทีใ่ นแนวระดับ

1 : จุด B และจุด C มีการเคลือ

1 : จุด B และจุด C มีระยะเคลือ

1 : มีคา 2466/EI หนวย

1 : มีคา 1006/EI เรเดียน

โครงสรางดังรูป มีคาการโกงตัวสูงสุด (Maximum Deﬂection) เทากับเทาใด?

1 : Ra = 11F/16 , Ma = 3FL/16 clockwise

1 : Ra = 5F/16; Rb = 11F/16; Ma = 3FL/16 clockwise

1 : Ra = F/5; Ma = 2FL/15 clockwise

1 : Ra = F/5; Rb = 4F/5; Ma = 2FL/15 clockwise

3 : Ra = 4F/5; Rb = F/5; Ma = 2FL/15 counterclockwise

4 : Ra = F/5; Rb = 4F/5; Ma = 2FL/15 counterclockwise

1 : 4.5 ตัน-ม. (หมุนตามเข็มนาฬิกา)

1 : 4.525 ตัน (ทิศขึน

1 : KAB = 4EI/L และ KBC = 4EI/L

1 : KAB = 4EI/L และ KBC = 4EI/L

1 : stable และ determinate

3 : externally indeterminate 2nd degree

4 : externally indeterminate 3rd degree

2 : externally indeterminate 1st degree

3 : indeterminate 2nd degree

4 : indeterminate 3rd degree