You are on page 1of 97

อส
สภาวิศวกร | Council of engineers

ก รข
สาขา : โยธา

ิ ว
าวศ
วิชา : Structural Analysis
สภ
เนื อ
้ หาวิชา : 534 : Analysis of indeterminate structures by elastic load method, methods of slope and deflection, moment
distribution, strain energy

ขอที่ 1 :
ขอใดเป็ นการวิเคราะหโครงสรางแบบอินดีเทอรมิเนทโดยวิธเี ปลีย
่ นตําแหนง(Displacment Method)
1 : Consistent Deformation Method
2 : Method of Three-Moment Equations
3 : Method of Least Work
4 : Column Analogy
5 : Slope-Deflection Method

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 5

ขอที่ 2 :
จากคานตอเนื่ องรับนํ ้าหนั กตามรูป จงวิเคราะหหาแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ รองรับ C

1 : 7.62 ตัน

2 : 10 ตัน
3 : 15.61 ตัน
4 : 2 ตัน
5 : 5.61 ตัน

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 3 :
จงหาดีกรีอน
ิ ดีเทอรมิเนทของโครงสรางดังรูป

1:1
2:3
3:6
4:9
5 : 12

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3
ิ์
ิ ธ
สท

ขอที่ 4 :
ส งวน

ใหหาแรงปฎิกริ ย
ิ าทีฐ
่ านรองรับของโครงขอหมุนทีจ
่ ด
ุ B เมื่อกําหนดใหพืน
้ ทีห ้ สวนมีขนาดเทากับ a และทําจากวัสดุเดียวกันทุกชิน
่ นาตัดของชิน ้ สวน
ขอ

อส
ใหหาแรงปฎิกริ ย
ิ าทีฐ
่ านรองรับของโครงขอหมุนทีจ
่ ด
ุ B เมื่อกําหนดใหพืน
้ ทีห ้ สวนมีขนาดเทากับ a และทําจากวัสดุเดียวกันทุกชิน
่ นาตัดของชิน ้ สวน

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : 0.33P ( Down)
2 : 0.42P ( Down)
3 : 0.17P ( Down )
4 : 0.26P ( Down )
5 : 0.55P (Down)

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 5 :
ใหตรวจสอบวาโครงขอแข็งนี ม
้ ีเสถียรภาพระดับใด

1 : Stable, Determinate
2 : Unstable, Indeterminate, Degree of indeterminacy = 1
3 : Stable, Indeterminate, Degree of indeterminacy = 2
4 : Unstable, Indeterminate, Degree of indeterminacy = 2
5 : Stable, Indeterminate, Degree of indeterminacy = 1
ิ์
ิ ธ

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 5
สท
งวน

ขอที่ 6 :

้ สวน ABของโครงขอแข็งเมื่อกําหนดใหทุกชิน
ใหหาโมเมนตสูงสุดบนชิน ้ สวนมีขนาดเทากันทําจากวัสดุทเี่ หมือนกัน
ขอ

อส
้ สวน ABของโครงขอแข็งเมื่อกําหนดใหทุกชิน
ใหหาโมเมนตสูงสุดบนชิน ้ สวนมีขนาดเทากันทําจากวัสดุทเี่ หมือนกัน

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : 80.5 ตัน-เมตร
2 : 92.3 ตัน-เมตร
3 : 87.7 ตัน-เมตร
4 : 94.3 ตัน-เมตร
5 : 112.6 ตัน-เมตร

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 7 :
ใหคํานวณหาแรงภายในชิน ้ สวน AB ของโครงขอหมุน เมื่อกําหนดใหตัวเลขทีป
่ รากฎในวงเล็บคือพืน
้ ทีห ้ สวน กําหนดใหแรงเกิน
่ นาตัดของชิน
้ สวน BDคือ X1
(Redundant force) ภายในชิน

1 : -11.24-56X1
2 : 3.55-0.32X1
3 : 0.707+3.12X1
4 : -2.12+3.15X1
5 : 11.24-0.56X1

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 5
ิ์
ิ ธ
สท

ขอที่ 8 :
ส งวน

้ สวน BD เมื่อกําหนดใหตัวเลขทีป
ใหคํานวณหาแรงเกิน X1 ของโครงขอหมุนในชิน ่ รากฎในวงเล็บคือพืน
้ ทีห ้ สวน
่ นาตัดของชิน
ขอ

อส
้ สวน BD เมื่อกําหนดใหตัวเลขทีป
ใหคํานวณหาแรงเกิน X1 ของโครงขอหมุนในชิน ่ รากฎในวงเล็บคือพืน
้ ทีห ้ สวน
่ นาตัดของชิน

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : 0.51 ตัน( ดึง )


2 : 0.33 ตัน( ดึง )
3 : 0.43 ตัน( ดึง )
4 : 0.25 ตัน( ดึง )
5 : 0.707 ตัน( ดึง )

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 9 :
ใหหา fixed end moment ทีป
่ ลายของโครงขอแข็งดังภาพ

1:

2:
ิ์
ิ ธ
สท
งวน

3:

ขอ

อส
ก รข
4:

ิ ว
าวศ
สภ

5:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 10 :
ในการวิเคราะหคานตอเนื่ องโดยวิธม
ี ม
ุ ลาด-ความแอนของคานดังรูปมีความจําเป็ นตองใชสมการสมดูลทีจ
่ ด
ุ ตอทัง้ หมดกีส
่ มการ

1 : 5 สมการ
2 : 4 สมการ
3 : 3 สมการ
4 : 2 สมการ
5 : 1 สมการ

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 11 :
โครงขอแข็งดังรูปกําหนดใหใชวิธี moment distribution วิเคราะหหาโมเมนตดัดทีเ่ กิดขึน
้ ทีฐ
่ านรองรับ D
ิ์
ิ ธ
สท

1 : 2.58 T-m
งวน

2 : 3.28 T-m
3 : 4.58 T-m
4 : 5.28 T-m
5 : 6.78 T-m

ขอ

อส
คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ก รข
ขอที่ 12 :

ิ ว
จงวิเคราะหหาโมเมนตดัดทีเ่ กิดทีจ
่ ด
ุ ตอ C ของโครงขอแข็งดังรูป

าวศ
สภ

1 : 10.88 T-m
2 : 13.88 T-m
3 : 16.88 T-m
4 : 17.22 T-m
5 : 24.22 T-m

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 13 :
จงวิเคราะหหาแรงปฏิกริ ย
ิ าในแนวนอนทีเ่ กิดทีฐ
่ านรองรับ B ของโครงขอแข็งดังรูป

1 : 2.72 T
2 : 3.47 T
3 : 4.22 T
4 : 4.31 T
5 : 6.54 T

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 14 :
คานตอเนื่ องดังแสดงในรูป ถาวิเคราะหโดยวิธก
ี ารกระจายโมเมนตคาตัวกระจาย CD มีคาเป็ น
ิ์
ิ ธ
สท

1:0
2 : 1/2
3 : 2/5
งวน

4 : 3/5
5 : 4/5

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1
ขอ

อส
คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ก รข
ขอที่ 15 :
โครงขอแข็งดังรูปถาทําโดยวิธี การกระจายโมเมนต คาสัมประสิทธิ ์ตัวกระจายของปลาย DB มีคา

ิ ว
าวศ
สภ

1:1
2 : 1/2
3 : 1/3
4 : 1/6

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 16 :
คาโมเมนตดัดทีป
่ ลาย AD มีคาเทาใด

1 : PL/16
2 : PL/24
3 : PL/48
4 : PL/96

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 17 :
จงใชวิธก ้ สวน BD
ี ารกระจายโมเมนตวิเคราะหหาแรงในชิน
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน
ขอ

อส
1 : 750 Kg.
2 : 1500 Kg.

รข
3 : 1750 Kg.
4 : 2250 Kg.


คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ิ ว
าวศ
ขอที่ 18 :
สภ
คานรับแรงดังรูปจะตองใชโมเมนตกระทําทีป
่ ลาย A และ B เป็ นเทาไรปลายทัง้ สองถึงจะไมเกิดการหมุน

1 : 8 และ 4 T-m.
2 : 10 และ 5 T-m.
3 : 12 และ 6 T-m.
4 : 14 และ 7 T-m.

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 19 :
คาน AB ที่ B ทรุดตัวลง ดังแสดงในรูป จงหาสมการของโมเมนตยึดแนนทีฐ
่ านรองรับ A

1:

2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 20 :
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน

คานดังรูปใหหาคา Distribution Factor ทีฐ


่ านรองรับในการวิเคราะหโครงสรางแบบ Moment Distribution
ขอ

อส
คานดังรูปใหหาคา Distribution Factor ทีฐ
่ านรองรับในการวิเคราะหโครงสรางแบบ Moment Distribution

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : AB = 0, BA = 0.1, BC= 0.9, CB = 1.0


2 : AB = 1, BA = 0.9, BC= 0.1, CB = 1.0
3 : AB = 0, BA = 0.4, BC= 0.6, CB = 0.0
4 : AB = 0, BA = 0.3, BC= 0.7, CB = 1.0
5 : AB = 0.1, BA = 0.2, BC= 0.8, CB = 0.0

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 21 :
คานดังรูปในการวิเคราะหโครงสรางแบบ Moment Distribution จําเป็ นตองหา Fixed End Moment ในแตละชวงคาน ขอใดถูกตอง

1 : AB = -7 T-m, BA = -8 T-m, BC = +8 T-m, CB = -6 T-m


2 : AB = -9 T-m, BA = +9 T-m, BC = -5 T-m, CB = +5 T-m
3 : AB = +7 T-m, BA = +8 T-m, BC = -8 T-m, CB = +6 T-m
4 : AB = +9 T-m, BA = -9 T-m, BC = +5 T-m, CB = -5 T-m
ิ์

5 : AB = -8 T-m, BA = +8 T-m, BC = +9 T-m, CB = -9 T-m


ิ ธ
สท

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2
งวน

ขอที่ 22 :

คาใดไมสามารถเลือกเป็ น Redundant ในการวิเคราะหโครงสรางดวยวิธก


ี ารเปลีย
่ นแปลงรูปรางสอดคลอง (Method of Consistent Deformation)
ขอ

อส
คาใดไมสามารถเลือกเป็ น Redundant ในการวิเคราะหโครงสรางดวยวิธก
ี ารเปลีย
่ นแปลงรูปรางสอดคลอง (Method of Consistent Deformation)

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ
1:

2:

3:
4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 23 :

1:0
2 : ML/3EI
3 : ML/4EI
4 : ML/6EI

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 24 :

1 : เทากัน และเทากับศูนย
2 : เทากัน แตไมเทากับศูนย

3:
ิ์
ิ ธ

4:
สท

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2
งวน

ขอที่ 25 :

กําหนด EI มีคาคงที่ โมเมนตทีจ


่ ด
ุ รองรับ A มีคาเทาใด
ขอ

อส
กําหนด EI มีคาคงที่ โมเมนตทีจ
่ ด
ุ รองรับ A มีคาเทาใด

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ
1:0
2 : 0.75 T.m
3 : 1.5 T.m
4 : 3.75 T.m

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 26 :
ในการวิเคราะหโครงสรางดวยวิธก
ี ารเปลีย
่ นแปลงรูปรางสอดคลอง (Method of Consistent Deformation) สมการ Compatibility คือสมการใด

1:

2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 27 :
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน

ในการวิเคราะหโครงสรางดวยวิธก
ี ารเปลีย
่ นแปลงรูปรางสอดคลอง (Method of Consistent Deformation) สมการ Compatibility คือสมการใด
ขอ

อส
ในการวิเคราะหโครงสรางดวยวิธก
ี ารเปลีย
่ นแปลงรูปรางสอดคลอง (Method of Consistent Deformation) สมการ Compatibility คือสมการใด

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1:

2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 28 :
จากหลักการของ Superposition โครงสรางทีต
่ องวิเคราะหเพิ่ม (โครงสราง A) คือขอใด
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
1:
สภ

2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 29 :
ในการวิเคราะหโครงสรางดวยวิธก
ี ารเปลีย
่ นแปลงรูปรางสอดคลอง (Method of Consistent Deformation) สมการ Compatibility คือสมการใด

1 : A และ E
ิ์

2 : C และ D
ิ ธ

3 : B, C และ D
สท

4 : ถูกทุกขอ

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2
ส งวน
ขอ

อส
ขอที่ 30 :

รข
Redundant ชุดใดไมเหมาะสมในการเลือกเพื่อวิเคราะหโครงสรางตอไปนี ้


ิ ว
าวศ
สภ

1:

2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 31 :
ขอใดคือสมการ Slope-Deflection ในการวิเคราะหโครงสราง (หมายเหตุ: FEM = Fixed End Moment)

1:

2:

3:
ิ์
ิ ธ
สท

4:
งวน

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 32 :
ขอ

อส
ขอที่ 32 :
รูปราง Shear Force Diagram ของโครงสรางนี ม
้ ีลก
ั ษณะเชนใด

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1:

2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 33 :
โมเมนตลบทีม่ ากทีส
่ ด
ุ ในโครงสรางมีคาเทาใด

1:

2:

3:
ิ์

4:
ิ ธ
สท

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3
งวน

ขอที่ 34 :

จากการวิเคราะหโครงสรางเบือ
้ งตน ไดคาโมเมนตในสวนโครงสรางดังตอไปนี ้
ขอ

อส
จากการวิเคราะหโครงสรางเบือ
้ งตน ไดคาโมเมนตในสวนโครงสรางดังตอไปนี ้

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : 3.375 T
2 : 6.39 T
3 : 7.5 T
4 : 11.39 T

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 35 :
โมเมนตภายในทีจ
่ ด
ุ รองรับ B มีคาเทาใด

1:0
2 : 3 T.m
3 : 4.5 T.m
4 : 6 T.m

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 36 :
คา End moment คาใดมีคามากทีส
่ ด

ิ์
ิ ธ
สท

1:
งวน

2:

3:

ขอ

อส
4:

รข
คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1


ิ ว
าวศ
ขอที่ 37 :
ในวิธี Slope-Deflection นอกเหนื อจากสมการสมดุลทีจ
่ ด
ุ ตอ ยังตองการสมการใดเพิ่มเติมเพื่อสามารถวิเคราะหโครงสรางแบบ Side Sway ได
สภ

1:

2:  

3:  

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 38 :
ตามทีท่ านไดศึกษาการวิเคราะหโครงสรางทีเ่ ป็ นโครงสรางแบบ Determinate และโครงสรางแบบ Indeterminate ทานคิดวาขอใดเป็ นขอเสียของ
โครงสรางแบบ Indeterminate
1 : ความยาวของชิน ้ สวนมีความยาวเกินไปหรือสัน้ เกินไปอาจมีปัญหากับการเสียหายของโครงสราง
2 : ความยาวของชิน ้ สวนมีความยาวเกินไปหรือสัน้ เกินไปไมมีปัญหากับการเสียหายของโครงสราง
3 : การเคลือ
่ นตัวเล็กนอยไมมีผลกระทบตอโครงสราง
4 : โครงสรางแบบ Indeterminate ปลอดภัยกวา

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 39 :
ภายใตแรงขนาดเทากันและกระทําทีต ่ าํ แหนงเดียวกัน โครงสราง statically indeterminate จะมีหนวยแรง (stress) สูงสุดเกิดขึน
้ เป็ นอยางไร เมื่อ
เปรียบเทียบกับโครงสราง statically determinate ทีม ่ ีขนาดและรูปรางเหมือนกันทุกประการ
1 : มากกวา
2 : นอยกวา
3 : มากกวาหรือเทากับ
4 : นอยกวาหรือเทากับ

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2
ิ์
ิ ธ
สท

ขอที่ 40 :
การวิเคราะหโครงสราง statically indeterminate ในวิชา Structural Analysis มีพน
ื ้ ฐานมาจากหลักการ principle of superposition ขอใดตอไปนี ้
งวน

คือขอจํากัดขอหนึ่ งในการใชหลักการดังกลาว
่ มตอของโครงสรางเป็ นจุดเชือ
1 : จุดเชือ ่ มตอแบบแกรง (rigid joint)
2 : ภายใตแรงกระทํา วัสดุของโครงสรางจะตองมีพฤติกรรมแบบยืดหยุนเชิงเสน

3 : การเปลีย
่ นตําแหนงทีเ่ กิดขึน
้ บนโครงสรางตองมีคามากๆ
ขอ

อส
3 : การเปลีย
่ นตําแหนงทีเ่ กิดขึน
้ บนโครงสรางตองมีคามากๆ
4 : ใชไดเฉพาะโครงสรางจําพวกคานและโครงขอแข็ง

รข
คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2


ิ ว
าวศ
ขอที่ 41 :
จากรูป คานมีจด
ุ ดัดกลับ (inflection point) ทัง้ หมดกีจ
่ ด

สภ

1 : 2 จุด
2 : 3 จุด
3 : 4 จุด
4 : 5 จุด

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 42 :

1 : 20 kN-m
2 : 40 kN-m
3 : 60 kN-m
4 : 80 kN-m

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 43 :

1 : 0.546/EI
2 : 27.21/EI
3 : -0.546/EI
4 : -27.21/EI

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3
ิ์
ิ ธ
สท

ขอที่ 44 :
ส งวน

ใหหา แรงภายใน ของ member ทุกตัว (a, b, c , d และ e) ในโครงสรางตอไปนี ้


ขอ

อส
ใหหา แรงภายใน ของ member ทุกตัว (a, b, c , d และ e) ในโครงสรางตอไปนี ้

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : 0, 28.28, 28.28, 20, -20 kN


2 : 20, 28.28, 28.28, 20, -20 kN
3 : -20, 28.28, 0, 20, -20, 56.56 kN
4 : 56.56, 28.28, -28.28, 0, -20 kN

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 45 :
จากโครงสรางดังรูป จงตอบคําถาม โดยวิธี Moment Distribution
คา Modified Stiffness factor ของคานชวง BC มีคาเทาใด

1:

2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 46 :
คานดังรูป ถาวิเคราะหโดย Method of Slope and Deflection คา Boundary Condition ขอใดผิด
ิ์
ิ ธ
สท
งวน

1:

2:

ขอ

อส
3:

รข
4 : ไมมีคาํ ตอบทีผ
่ ิด

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2


ิ ว
าวศ
ขอที่ 47 :
่ าํ หนดให ซึง่ คา EI คงทีต
จากโครงสรางทีก ่ ลอด แรงเฉื อนมากทีส
่ ด
ุ มีคาเทากับ
สภ

1 : 2P/3
2:P
3 : 4P/3
4 : 2P

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 48 :
่ าํ หนดให ซึง่ คา EI คงทีต
จากโครงสรางทีก ่ ลอด จงหาโมเมนตดัดทีจ
่ ด
ุ A กําหนดให w = 1.0 ตัน/เมตร P = 2 ตัน L = 6 เมตร

1 : 2.25 ตัน-เมตร
2 : 4.50 ตัน-เมตร
3 : 6.75 ตัน-เมตร
4 : 7.50 ตัน-เมตร

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 49 :
คานตอเนื่ อง 2 ชวง มีหนาตัดคงที่ รับนํ ้าหนั ก ดังรูป คาโมเมนตดัดชนิ ดลบทีม
่ ากทีส
่ ด
ุ จะอยูที่
ิ์
ิ ธ

1 : จุดรองรับ A หรือ C
สท

2 : จุดรองรับ B
3 : จุดใดจุดหนึ่ งระหวางชวง AB และ BC
4 : ไมมีขอใดถูก
งวน

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอ

อส
ขอที่ 50 :

รข
คานตอเนื่ อง 2 ชวง มีหนาตัดคงที่ รับนํ ้าหนั ก ดังรูป โมเมนตดัดชนิ ดบวกทีม
่ ากทีส
่ ด
ุ จะอยู


ิ ว
าวศ
สภ

1 : ตรงจุดทีห่ างจากจุดรองรับ A หรือ C นอยกวาครีง่ หนึ่ งของชวง AB หรือ BC


2 : ตรงจุดทีห ่ างจากจุดรองรับ A หรือ C มากกวาครีง่ หนึ่ งของชวง AB หรือ BC
3 : ตรงจุดรองรับ A หรือ C
4 : ตรงกึง่ กลางคานของชวง AB และ BC

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 51 :
คานตอเนื่ อง 2 ชวง มีหนาตัดคงที่ รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จงหาคาแรงเฉื อนมากทีส
่ ด

1 : 3wL/8
2 : wL/2
3 : 5wL/8
4 : 5wL/4

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 52 :
คานตอเนื่ อง 2 ชวง แตละชวงมีหนาตัดไมคงที่ รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จงหาคาโมเมนตดัดชนิ ดบวกทีม
่ ากทีส
่ ด
ุ ในชวง AB

1 : 6.8 ตัน-เมตร
2 : 11.2 ตัน-เมตร
3 : 15.4 ตัน-เมตร
4 : 18.0 ตัน-เมตร

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 53 :
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน

โครงขอแข็ง ABCD รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จะเห็นวาเป็ นโครงเฟรมทีส


่ มมาตรและรับนํ ้าหนั กทีส
่ มมาตรดวย ดังนั น
้ จงเลือกคําตอบทีถ
่ ก
ู ตองทีส
่ ด

ขอ

อส
โครงขอแข็ง ABCD รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จะเห็นวาเป็ นโครงเฟรมทีส
่ มมาตรและรับนํ ้าหนั กทีส
่ มมาตรดวย ดังนั น
้ จงเลือกคําตอบทีถ
่ ก
ู ตองทีส
่ ด

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : มุมหมุนทีจ
่ ดุ B เทากับมุมหมุนทีจ่ ดุ C และหมุนในทิศทางเดียวกัน
2 : มุมหมุนทีจ่ ดุ B เทากับมุมหมุนทีจ่ ดุ C แตหมุนในทิศทางตรงกันขาม
3 : โครงเฟรมไมมีการเซ และมุมหมุนทีจ ่ ดุ B เทากับทีจ่ ดุ C และมีทศิ ทางเดียวกัน
4 : โครงเฟรมไมมีการเซ และมุมหมุนทีจ ่ ดุ B เทากับทีจ่ ดุ C และมีทศิ ทางตรงกันขาม

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 54 :
มีโครงขอแข็ง ABCD 2 โครง คือ โครง (ก) และ (ข) ซึง่ มีขนาดและความยาวของเสาเทากัน ความยาวของคานเทากัน และนํ ้าหนั กบรรทุกบนคานมี
คาเทากัน แตคานในโครง (ก) มีโมเมนตอินเนอรเชียนอยกวาคานในโครง (ข) ดังนั น้ จะพบวา

1 : เสาของโครง (ก) รับแรงอัดตามแนวแกนไดเทากันกับเสาของโครง (ข)


2 : เสาของโครง (ก) รับแรงอัดตามแนวแกนไดนอยกวาเสาของโครง (ข)
3 : เสาของโครง (ก) รับแรงอัดตามแนวแกนไดมากกวาเสาของโครง (ข)
4 : ไมมีขอใดถูก

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 55 :
โครงขอแข็ง ABCD รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จะพบวาเสาในโครงเฟรม
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน
ขอ

อส
1 : รับแรงอัดและโมเมนตดัดซึง่ ทําใหเสาโกงทางเดียว
2 : รับแรงอัดและโมเมนตดัดซึง่ ทําใหเสาโกงสองทาง มีจด
ุ ดัดกลับหางจากจุด A เทากับ L/2

รข
3 : รับแรงอัดและโมเมนตดัดซึง่ ทําใหเสาโกงสองทาง มีจดุ ดัดกลับหางจากจุด A เทากับ L/3
4 : รับแรงอัดและโมเมนตดัดซึง่ ทําใหเสาโกงสองทาง มีจด ุ ดัดกลับหางจากจุด A เทากับ L/4


คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ิ ว
าวศ
ขอที่ 56 :
สภ
โครงขอแข็ง ABCD รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จงหาคาโมเมนตดัด MBC กําหนดให P = 5 ตัน L = 4 เมตร

1 : 4.00 ตัน-เมตร
2 : 3.00 ตัน-เมตร
3 : 2.00 ตัน-เมตร
4 : 1.00 ตัน-เมตร

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 57 :
ในการวิเคราะหคาน ACB ซึง่ มีหนาตัดไมคงที่ โดยวิธี slope-deflection ตองใชสมการสมดุลทัง้ หมด คือ

1 : MCA+ MCB = 0 และ 3(MAB + MBA) + 2(MCB + MBC) = 3PL


2 : MCA + MCB = 0 และ 3(MAB + MBA) – 2(MCB + MBC) = 3PL
3 : MCA + MCB = 0 และ 3(MCB + MBC) – 2(MAB + MBA) = 3PL
4 : MCA + MCB = 0 และ 3(MCB + MBC) + 2(MAB + MBA) = 3PL

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3
ิ์
ิ ธ

ขอที่ 58 :
สท
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1:
2:
3:
4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 59 :

1:
2:
3:
4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 60 :
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1:
2:
3:
4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 61 :
้ สวนมีคา L/AE คงที่ จะพบวาจุด B เคลือ
โครงขอหมุน รับนํ ้าหนั ก P ดังรูป ถาสมมติใหทุกชิน ่ นทีไ่ ปทางขวามือในแนวระดับเป็ นระยะเทากับ
25PL/24AE จงหาคาแรงยันในแนวระดับเพื่อมิใหจุด B เคลือ ่ นที่

1 : P/2
2 : P/3
3 : P/4
4 : P/6

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 62 :
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน

โครงขอหมุน รับนํ ้าหนั ก P = 4.5 ตัน ดังรูป จงหาคาแรงปฏิกริ ย


ิ าในแนวระดับทีจ
่ ด ้ สวนมีคา L/AE คงที่
ุ B สมมติใหทุกชิน
ขอ

อส
โครงขอหมุน รับนํ ้าหนั ก P = 4.5 ตัน ดังรูป จงหาคาแรงปฏิกริ ย
ิ าในแนวระดับทีจ
่ ด ้ สวนมีคา L/AE คงที่
ุ B สมมติใหทุกชิน

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : 2.00 ตัน
2 : 1.50 ตัน
3 : 1.00 ตัน
4 : 0.75 ตัน

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 63 :
โครงขอหมุนมีทอนเหล็ก AD ยึดไวทีจ ่ ดุ D และรับนํ ้าหนั ก P = 3640 กก. ทีจ
่ ดุ E ดังรูป เมื่อพิจารณาใหแรงดึงในทอนเหล็กเป็ นตัว redundant และ
้ สวนมีคา L/AE คงที่ (หนวยเป็ น ซม./กก.) จะพบวาระยะเคลือ
สมมติใหทุกชิน ่ นทีส ั พัทธของทอนเหล็กมีคาเทากับ 45500L/9AE ซม. จงหาคาแรง
่ ม
ดึงในทอนเหล็กนี เ้ พื่อใหระยะเคลือ
่ นทีส
่ มั พัทธของทอนเหล็กมีคาเป็ นศูนย

1 : 1420 กก.
2 : 710 กก.
3 : 500 กก.
4 : 250 กก.

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 64 :
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน

้ สวนรับแรงตามแนวแกน ดังรูป เพื่อรับนํ ้าหนั ก P = 2000 กก. ทีจ


เมื่อตอยึดชิน ่ ด ้ สวน AC สมมติใหทุกชิน
ุ C จงหาคาแรงดึงในชิน ้ สวนมีคา L/AE คงที่
ขอ

อส
้ สวนรับแรงตามแนวแกน ดังรูป เพื่อรับนํ ้าหนั ก P = 2000 กก. ทีจ
เมื่อตอยึดชิน ่ ด ้ สวน AC สมมติใหทุกชิน
ุ C จงหาคาแรงดึงในชิน ้ สวนมีคา L/AE คงที่

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : 500 กก.
2 : 1000 กก.
3 : 1500 กก.
4 : 2000 กก.

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 65 :
โครงโคงครึง่ วงกลมมีหนาตัดคงที่ รัศมีเทากับ 6 เมตร รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จงหาแรงยันในแนวระดับทีจ
่ ด
ุ A หรือทีจ
่ ด
ุ B

1:
2:
3:
4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 66 :
ถาตองการวิเคราะหโครงสรางทีเ่ ซได ดังรูป โดยวิธี moment distribution ในขัน
้ ตอนของการบังคับมิใหจุดตอเคลือ
่ นที่ จะพิจารณาวาโครงสรางนี ้
ถูกยันดวยแรงในแนวนอนตรงจุด C ดังนั น้ ใหหาคาแรงยันนี ้
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : 24 ตัน
2 : 30 ตัน
3 : 12 ตัน
4 : 18 ตัน

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 67 :
ถาโครงเฟรมไมสมมาตร รับนํ ้าหนั ก ดังรูป หากตองวิเคราะหโดยวิธี slope-deflection จะตองใชสมการสมดุล ดังนี ้

1 : สมการสมดุลของโมเมนต 3 สมการ และสมการสมดุลของแรงเฉื อน 2 สมการ


2 : สมการสมดุลของโมเมนต 3 สมการ และสมการสมดุลของแรงเฉื อน 3 สมการ
3 : สมการสมดุลของโมเมนต 6 สมการ และสมการสมดุลของแรงเฉื อน 2 สมการ
4 : สมการสมดุลของโมเมนต 6 สมการ และสมการสมดุลของแรงเฉื อน 3 สมการ

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 68 :
การวิเคราะหโครงสราง statically indeterminate แบบ force method เราอาจจะใชตัวแปรใดตอไปนี เ้ ป็ นตัวแปรทีไ่ มทราบคาหรือแรงเกินจําเป็ น
(redundant)?
1 : แรงภายใน
2 : โมเมนตภายใน
3 : แรงปฏิกริ ย
ิ า
4 : ถูกทุกขอ
ิ์

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4
ิ ธ
สท
งวน

ขอที่ 69 :
จากรูป เมื่อทําการวิเคราหคานโดยใชวิธี Slope-deflection คานมีจาํ นวน degree of freedom หรือ จํานวน degree of kinematic
indeterminacy เทาใด?

ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
1:1
2:2
3:3
สภ
4:4

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 70 :
ถาคานชวงเดียวมี flexural rigidity EI ยาว L ถูกรองรับแบบยึดแนนทีป่ ลายทัง้ สองดานและถูกกระทําโดยแรงกระจายสมํ่าเสมอตลอดความยาวคาน
จงหาสมการทีแ
่ สดงขนาดของโมเมนตดัดทีเ่ กิดขึน ้ ทีป
่ ลายคานโดยวิธี Slope-deflection วาอยูในรูปใด

1 : wL2/4
2 : wL2/6
3 : wL2/8
4 : wL2/12

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 71 :
จากรูป เมื่อคานมี EI คงทีต
่ ลอดความยาวคานและถูกกระทําโดยแรงกระจายแบบสมํ่าเสมอขนาด 6 kN/m ในชวง BC และมีแผนภาพ moment
diagram ดังแสดง จงหา rotation ทีเ่ กิดขึน
้ ทีจ
่ ด
ุ B

1 : 2.0/EI
2 : 4.0/EI
3 : 6.0/EI
4 : 8.0/EI

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 72 :
จากรูป จงหาคาโมเมนตทีเ่ กิดขึน
้ ทีจ
่ ด
ุ D บนชิน้ สวน AD โดยวิธี moment distribution เมื่อโครงขอแข็งมี EI คงทีแ ้
่ ละคาความยาว L เทากันทุกชิน
สวนและถูกกระทําโดยโมเมนต 6 kN-m ทีจ ่ ด
ุ D
ิ์
ิ ธ
สท

1 : 2 kN-m
2 : 3 kN-m
3 : 4 kN-m
งวน

4 : 5 kN-m

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอ

อส
รข
ขอที่ 73 :
จงหาคาโมเมนตดัดทีจ ุ E ของคาน AB ซึง่ มีหนาตัดไมคงที่ รับนํ ้าหนั กแบบจุด P ดังรูป กําหนดให ระยะ Li =
่ ด
L/2,   I1 = I,   I2 = 2I และคา E คงที่


ิ ว
าวศ
สภ

1 : PL/3
2 : PL/6
3 : PL/9
4 : PL/12

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 74 :
จงหาคาโมเมนตดัดทีจ ุ A ของคาน AB ซึง่ มีหนาตัดไมคงที่ รับนํ ้าหนั กแบบจุด P ดังรูป กําหนดให ระยะ Li =
่ ด
L/2,   I1 = I,   I2 = 2I และคา E คงที่

 
1 : 13PL/6
2 : 13PL/8
3 : 13PL/10
4 : 13PL/12

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 75 :
จงหาคาโมเมนตดัดทีจ ุ B ของคาน AB ซึง่ มีหนาตัดไมคงที่ รับนํ ้าหนั กแบบจุด P ดังรูป กําหนดให ระยะ Li =
่ ด
L/5,   I1 = I,   I2 = 2I และคา E คงที่
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : 13PL/18
2 : 13PL/24
3 : 13PL/30
4 : 13PL/36

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 76 :
จงหาคาโมเมนตดัดทีจ ุ E ของคาน AB ซึง่ มีหนาตัดไมคงที่ รับนํ ้าหนั กแบบจุด P ดังรูป กําหนดให ระยะ Li =
่ ด
L,   I1 = I,   I2 = 2I และคา E คงที่

1 : PL/3
2 : PL/6
3 : PL/12
4 : PL/24

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 77 :
จงหาคาโมเมนตดัดทีจ ุ A ของคาน AB ซึง่ มีหนาตัดไมคงที่ รับนํ ้าหนั กแบบจุด P ดังรูป กําหนดให ระยะ Li =
่ ด
L/3,   I1 = I,   I2 = 2I และคา E คงที่
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : 7PL/48
2 : 7PL/36
3 : 7PL/14
4 : 7PL/12

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 78 :
จงหาคาโมเมนตดัดทีจ ุ E ของคาน AB ซึง่ มีหนาตัดไมคงที่ รับนํ ้าหนั กแบบจุด P ดังรูป กําหนดให ระยะ Li =
่ ด
L/2,   I1 = I,   I2 = 2I และคา E คงที่

1 : 7PL/48
2 : 7PL/36
3 : 7PL/14
4 : 7PL/12

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 79 :
จงหาคาโมเมนตดัดทีจ ุ A ของคาน AB ซึง่ มีหนาตัดไมคงที่ ถาปลาย A ถูกทําใหเคลือ
่ ด ่ นลงมาตัง้ ฉากกับแนว
เดิมเป็ นระยะ = D เมื่อเทียบกับปลาย B กําหนดให ระยะ L1 = L,   L2 = L,   I1 = I,   I2 = 2I และคา E คงที่
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : 16EID/11L2
2 : 20EID/11L2
3 : 24EID/11L
2
4 : 28EID/11L2

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 80 :
จงหาคา stiffness factor ทีจ ุ A ของคาน AB ซึง่ มีหนาตัดไมคงที่ กําหนดให ระยะ L1 = L,   L2 = 2L,   I1 = I, 
่ ด
 I2 = 2I และคา E คงที่

1 : 34EI/37L
2 : 42EI/37L
3 : 56EI/37L
4 : 92EI/37L

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 81 :
จงหาคา carry-over factor จากจุด B ไปยังจุด A ของคาน AB ซึง่ มีหนาตัดไมคงที่ กําหนดให ระยะ L1 = L, 
 L2 = 2L,   I1 = I,   I2 = 2I และคา E คงที่
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : 17/46
2 : 17/35
3 : 17/28
4 : 17/24

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 82 :
จงหาคาโมเมนตดัดทีจ ุ   A ของคาน AB ซึง่ มีหนาตัดไมคงที่ ถาปลาย  A ถูกทําใหเคลือ
่ ด ่ นลงมาตัง้ ฉากกับแนว
เดิมเป็ นระยะ = D เมื่อเทียบกับปลาย B กําหนดให ระยะ L1 = L,   L2 = 2L,   I1 = I,   I2 = 2I และคา E คงที่

1 : 48EID/37L2
2 : 42EID/37L2
3 : 36EID/37L
2
4 : 30EID/37L2

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 83 :
โครงขอแข็ง ABC ทําดวยวัสดุชนิ ดเดียวกัน รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จงหาคาโมเมนตดัดทีจ
่ ด
ุ A กําหนดให I1 = I2 = I
และให L1 = L2 = L
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : wL
2/24
2 : wL2/30
3 : wL2/36
2
4 : wL /48

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 84 :
โครงขอแข็ง ABC ทําดวยวัสดุชนิ ดเดียวกัน รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จงหาคาโมเมนตดัดทีจ
่ ด
ุ B กําหนดให I1 = 2I2
และให L1 = L2 = L

1 : wL2/24
ิ์
ิ ธ

2 : wL2/30
สท

3 : wL
2/36
4 : wL2/48
งวน

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอ

อส
รข
ขอที่ 85 :
โครงขอแข็ง ABC ทําดวยวัสดุชนิ ดเดียวกัน รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จงหาคา horizontal reaction ทีจ
่ ด
ุ A กําหนดให
I1 = 1.5I2 และให L1 = L2 = L


ิ ว
าวศ
สภ

1 : wL/16
2 : wL/20
3 : wL/24
4 : wL/28

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 86 :
โครงขอแข็ง ABC ทําดวยวัสดุชนิ ดเดียวกัน รับนํ ้าหนั ก ดังรูป จงหาคาโมเมนตดัดทีจ
่ ด
ุ B กําหนดให I1 = 2I2 ,  
L1 = L และ L2 = 5L/4
ิ์
ิ ธ
สท

1 : wL2/36
งวน

2 : wL2/42
3 : wL2/24

ขอ

อส
4 : wL2/30

รข
คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2


ิ ว
ขอที่ 87 :

าวศ
โครงขอแข็ง ABCD ทําดวยวัสดุชนิ ดเดียวกัน รับนํ ้าหนั ก P ตรงกึง่ กลางชวงคาน ดังรูป จงหาคาโมเมนตดัดที่
จุด B กําหนดให I1 = 1.5I2 และให L1 = L2 = L
สภ

1 : PL/12
2 : PL/14
3 : PL/16
4 : PL/18

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 88 :
โครงขอแข็ง ABCD ทําดวยวัสดุชนิ ดเดียวกัน รับนํ ้าหนั ก P ตรงกึง่ กลางชวงคาน ดังรูป จงหาคาโมเมนตดัดที่
จุด B กําหนดให I1 = 2I2 และให L1 = L2 = L
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน
ขอ

อส
1 : PL/12
2 : PL/14

รข
3 : PL/16
4 : PL/18


คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ิ ว
าวศ
ขอที่ 89 :
สภ
โครงขอแข็ง ABCD ทําดวยวัสดุชนิ ดเดียวกัน รับนํ ้าหนั ก P ตรงกึง่ กลางชวงคาน ดังรูป จงหาคาโมเมนตดัดที่
จุด A กําหนดให I1 = 2I2 ,   L1 = L และ L2 = 5L/4

1 : PL/12
2 : PL/18
3 : PL/24
4 : PL/36

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

เนื อ
้ หาวิชา : 535 : Influence line of indeterminate structures

ขอที่ 90 :
คานดังรูปจงหาสมการ Influence line ของแรงปฏิกริ ย
ิ าทีฐ
่ านรองรับ B

1:
ิ์
ิ ธ
สท

2:
งวน

3:

ขอ

อส
รข
4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3


ิ ว
าวศ
ขอที่ 91 :
จากรูป influence line ของแรงปฏิกริ ย ่ านรองรับ B เทากับ x2(3L-x)/(2L3) ถากําหนดใหแรงหนึ่ งหนวยกระทําที่ x = L/2
ิ าทีฐ
สภ
จงหาคาโมเมนตดัดทีฐ ่ านรองรับ A

1 : -3L/8
2 : -3L/16
3 : -3L/32
4 : -3L/48

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 92 :
คานดังรูปใหหาคา แรงปฏิกริ ย
ิ าทีฐ
่ านรองรับ B เมื่อมีแรงหนึ่ งหนวยกระทําทีร่ ะยะ x = 2.00 m. (หางจาก A)

1 : 0.124
2 : 0.248
3 : 0.496
4 : 0.744

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 93 :
จากคานดังรูปใหหาคาแรงปฏิกริ ย
ิ าทีฐ
่ านรองรับ A เมื่อมีแรงหนึ่ งหนวยคงทีก
่ ระทําทีร่ ะยะ x = 2.00 m. (หางจาก A)

1 : 0.384
ิ์
ิ ธ

2 : 0.768
3 : 0.933
สท

4:1

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2
ส งวน
ขอ

อส
ขอที่ 94 :

รข
จากคานดังรูปใหหาคาแรงเฉื อนที่ D เมื่อมีแรงหนึ่ งหนวยคงทีก
่ ระทําทีร่ ะยะ x = 2.00 m. (หางจาก A )


ิ ว
าวศ
สภ

1:0
2 : 0.02
3 : 0.14
4 : 0.06

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 95 :
จากคานดังรูปใหหาคาโมเมนตดัดที่ D เมื่อมีแรงหนึ่ งหนวยคงทีก
่ ระทําทีร่ ะยะ x = 2.00 m. (หางจาก A )

1 : -0.15
2 : -0.30
3 : -0.60
4 : -1.20

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 96 :
ิ์
ิ ธ
สท

1: 
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
2: 
สภ

3: 

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 97 :

1:

2:
ิ์
ิ ธ
สท
งวน

3:

ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
4:
สภ
คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 98 :

1:

2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3
ิ์
ิ ธ
สท

ขอที่ 99 :
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1:

2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 100 :
ธิ ์
สท

งวน

1:

ขอ

อส
ก รข
2:

ิ ว
าวศ
สภ
3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 101 :

1:

2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 102 :
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
1:

ิ ว
าวศ
สภ
2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 103 :

1:

2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2
ธิ ์
สท

ขอที่ 104 :

ส งวน

การวางนํ ้าหนั กบรรทุกจรในขอใดทําใหเกิดโมเมนตลบสูงทีส


่ ด
ุ ทีจ
่ ด
ุ B ในโครงสราง
ขอ

อส
การวางนํ ้าหนั กบรรทุกจรในขอใดทําใหเกิดโมเมนตลบสูงทีส
่ ด
ุ ทีจ
่ ด
ุ B ในโครงสราง

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1:

2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 105 :
จากรูปคาน statically indeterminate จงทําการวางนํ ้าหนั กบรรทุกจรทีม
่ ีการกระจายคงที่ (uniformly distributed live load) ทีท
่ าํ ใหเกิดคาสูงสุด
ของแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ E

1:

2:

3:

4:

5:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 106 :
จากรูปคาน statically indeterminate จงทําการวางนํ ้าหนั กบรรทุกจรทีม
่ ีการกระจายคงที่ (uniformly distributed live load) ทีท
่ าํ ใหเกิดคาสูงสุด
ของโมเมนตดัดทีจ่ ด
ุ C
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน

1:
ขอ

อส
รข
2:


ิ ว
าวศ
สภ3:

4:

5:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 107 :
จากรูปคาน statically indeterminate จงทําการวางนํ ้าหนั กบรรทุกจรทีม
่ ีการกระจายคงที่ (uniformly distributed live load) ทีท
่ าํ ใหเกิดคาสูงสุด
ของโมเมนตดัดทีจ่ ด
ุ กึง่ กลางของชวงคาน DE

1:

2:

3:

4:

5:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 108 :
ขอใดคือประโยชนของการเขียนแผนภาพ Influence line ของคาน statically indeterminate เพื่อหาคาสูงสุดของแรงและโมเมนตตางๆ ทีจ
่ ด
ุ ใดจุด
หนึ่ งบนคาน
1 : หาตําแหนงของกลุมนํ ้าหนั กบรรทุกจร
2 : หารูปแบบของกลุมนํ ้าหนั กบรรทุกจร
3 : หาขนาดและรูปแบบของกลุมนํ ้าหนั กบรรทุกจร
4 : หาตําแหนงและรูปแบบของกลุมนํ ้าหนั กบรรทุกจร

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 109 :
ถาคาพิกด ั ทีจ
่ ด
ุ D ของแผนภาพ influence line ของแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ B ของคานดังทีแ
่ สดงในรูปมีคา 11/16 แลว จงหาคาแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ B
เนื่ องจากแรงกระทําขนาด 100 kN ทีจ่ ด
ุ D
ิ์
ิ ธ
สท
งวน

1 : 31.25 kN
2 : 33.33 kN
3 : 50.00 kN

ขอ

อส
4 : 68.75 kN

รข
คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4


ิ ว
ขอที่ 110 :

าวศ
ถาคาพิกด ั ทีจ
่ ด
ุ D ของแผนภาพ influence line ของแรงปฏิกริ ย
เนื่ องจากแรงกระทําขนาด 100 kN ทีจ่ ด
ุ D
ิ าทีจ
่ ด
ุ B ของคานดังทีแ
่ สดงในรูปมีคา 11/16 แลว จงหาคาแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ A
สภ

1 : 15/16 kN
2 : 110/16 kN
3 : 150/16 kN
4 : 650/16 kN

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 111 :
ถาคาพิกด ั ทีจ
่ ด
ุ D ของแผนภาพ influence line ของแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ B ของคานดังทีแ
่ สดงในรูปมีคา 11/16 แลว จงหาคาแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ C
เนื่ องจากแรงกระทําขนาด 100 kN ทีจ่ ด
ุ D

1 : 15/16 kN
2 : 65/16 kN
3 : 150/16 kN
4 : 650/16 kN

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 112 :
ให ราง(sketch) ภาพ Influence line ของ โมเมนต ทีห
่ นาตัด N-N
ธิ ์
สท

1:
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
2:
สภ

3:

4:

5:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 113 :
ภาพใดเป็ นอินฟลูเอนซไลนของแรงปฏิกริยา A

1:

2:
ิ์

3:
ิ ธ

4 : ไมมีคาํ ตอบทีถ
่ ก

สท

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1
งวน

ขอที่ 114 :

จงเลือกรูปรางเสนอิทธิพล (Influence line) ของโมเมนตบวกทีจ


่ ด
ุ C เมื่อคานตอเนื่ องรับนํ ้าหนั กหนึ่ งหนวยเคลือ
่ นจากจุด A ไป E ดังแสดงในรูป
ขอ

อส
จงเลือกรูปรางเสนอิทธิพล (Influence line) ของโมเมนตบวกทีจ
่ ด
ุ C เมื่อคานตอเนื่ องรับนํ ้าหนั กหนึ่ งหนวยเคลือ
่ นจากจุด A ไป E ดังแสดงในรูป

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1:

2:

3:

4:

5:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 115 :
จงเลือกรูปแบบการวางนํ ้าหนั กบรรทุกจร (Live Load Pattern) เพื่อใหเกิดโมเมนตลบสูงสุดในคานทีต
่ าํ แหนงฐานรองรับ B พิจารณาโครงสรางตาม
รูปประกอบ
ธิ ์
สท

งวน

1:

ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
2:
สภ

3:

4:

5:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 116 :
ตามหลักการ Muller-Breslau แผนภาพ Influence line ของคาน statically indeterminate จะมีลก
ั ษณะคลายคลึงกับแผนภาพชนิ ดใด?
1 : shear diagram
2 : moment diagram
3 : normal force diagram
4 : deflection diagram

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 117 :
ถาเราทราบแผนภาพ influence line ของแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ A ของคานแลว เราจะหาคาแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ A เนื่ องจากแรงกระทําเป็ นจุดขนาด P kN
ทีจ
่ ด
ุ B ไดจากขอใด
1 : พิกด
ั ทีจ่ ดุ A
2 : พิกดั ทีจ่ ดุ B
3 : ผลบวกของพิกด ั ทีจ
่ ดุ B และคาแรง P
4 : ผลคูณของพิกด ั ทีจ
่ ดุ B และคาแรง P

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 118 :
ถาเราทราบแผนภาพ influence line ของแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ A ของคานแลว เราจะหาคาแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ A เนื่ องจากแรงกระทําแบบกระจาย
สมํ่าเสมอ w kN/m ตลอดความยาวของคานไดจากขอใด
1 : พิกดั ทีจ
่ ด
ุ A
2 : พืน
้ ทีข
่ องแผนภาพ influence line
3 : ผลคูณของพิกด ั ทีจ่ ดุ A และคาแรง w
4 : ผลคูณพืน ้ ทีข
่ องแผนภาพ influence line และคาแรง w
5 : ผลคูณของพิกด ั ทีจ่ ดุ A และพืน
้ ทีข
่ องแผนภาพ influence line
ิ์
ิ ธ

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4
สท
งวน

ขอที่ 119 :
จากรูป ถาเราทราบแผนภาพ influence line ของแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ C ของคานแลว คาแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ C เนื่ องจากแรง 10 kN กระทําทีจ
่ ด
ุ D มีคา

เทาใด (คําตอบใชเลขนั ยสําคัญ 2 หลัก)


ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : 0.68 kN
2 : -0.68 kN
3 : 0.94 kN
4 : -0.94 kN

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 120 :
จากรูป ถาเราทราบแผนภาพ influence line ของแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ C ของคานแลว คาแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ A เนื่ องจากแรง 10 kN กระทําทีจ
่ ด
ุ D มีคา
เทาใด (คําตอบใชเลขนั ยสําคัญ 2 หลัก)

1 : 3.8 kN
2 : 3.9 kN
3 : 4.0 kN
4 : 4.1 kN

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 121 :
จากรูป ถาเราทราบแผนภาพ influence line ของแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ C ของคานแลว คาโมเมนตทีจ
่ ด
ุ D เนื่ องจากแรง 10 kN กระทําทีจ
่ ด
ุ D มีคา
เทาใด (คําตอบใชเลขนั ยสําคัญ 2 หลัก)

1 : 1.9L kN-m
2 : 2.0L kN-m
3 : 2.1L kN-m
4 : 2.2L kN-m

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 122 :
 การวางนํ ้าหนั กบรรทุกจรในขอใดทําใหเกิดแรงปฏิกร
ิ ย
ิ าที่ A (RD+) มีคาสูงสุด
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน
ขอ

อส
รข
1: 


ิ ว
าวศ
สภ2: 

3: 

4: 

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 123 :
 ให ราง (sketch) ภาพ Influence line ของ โมเมนตดัดทีจ
่ ด
ุ N

1: 

2: 

3: 

4: 

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 124 :
 ขอใดคือ Influence Line ของ Rc
ธิ ์
สท

ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
1: 

าวศ
สภ

2: 

3: 

4: 

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 125 :

ถาคาพิกด
ั ทีจ
่ ด
ุ D ของแผนภาพ influence
line ของแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ A ของคานดังแสดงในรูปมีคา 0.406 แลว จงหาคาแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ A เนื่ องจากแรงกระทําขนาด 50 kN ทีจ่ ด
ุ D

1 : 40.6 kN

2 : 20.3 kN

3 : 50 kN

4 : 60.9 kN

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 126 :

 
จากรูป influence line ของแรงปฏิกริ ย
ิ าทีฐ่ านรองรับ B ของคานดังแสดงในรูปในชวง 0 < x < l มีคาเทากับ
 (1/2l3) (3l2x - x3) ถากําหนดใหแรงหนึ่ งหนวยกระทําที่ x = l/2 จงหาคาแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ B

1 :  -11/6

2 : 5/8

3 : 1/2
ิ์
ิ ธ
สท

4 : 11/16
งวน

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอ

อส
ขอที่ 127 :

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

จากรูป influence line ของแรงปฏิกริ ย ่ านรองรับ B ของคานดังแสดงในรูป (x2/2L3) (3L- x) ถากําหนดใหแรงหนึ่ งหนวยกระทําที่ x = L/2 จงหา
ิ าทีฐ
คาแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ B

1 : 5/16
2 : 8/16
3 : 3/16
4 : 4/16

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 128 :

รูปใดคือ influence line ของ RB

1:

2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 129 :

รูปใดคือ influence line ของ MB


ธิ ์
สท

1:
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
2:

ิ ว
าวศ
สภ
3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 130 :

ถาพบวาคาขนาดของพิกด
ั ทีจ
่ ด
ุ F ของแผนภาพ influence line ของโมเมนตทีจ
่ ด
ุ E มีคาเทากับ 0.052 จงหาคาโมเมนตทีจ
่ ด
ุ E ของคานทีม
่ ีแรง
กระทําดังรูป

1 : -52 kN

2 : 52 kN

3 : 104 kN

4 : -104 kN
 

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 131 :

รูปใดคือ influence line ของ RA

1:
ิ์
ิ ธ
สท

2:
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
3:

าวศ
สภ
4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 132 :

รูปใดคือ influence line ของ ME

1:

2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 133 :

จากรูปคาน Statically indeterminate จงวางนํ ้าหนั กบรรทุกทีม


่ ีการกระจายคงที่ (uniformly distributed load) ทีท
่ าํ ใหเกิดโมเมนตดัดทีจ
่ ด
ุ กึง่ กลาง
ของชวง CD มากสุด

1:

2:
ิ์
ิ ธ

3:
สท

4:
งวน

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอ

อส
ขอที่ 134 :

ก รข
ิ ว
าวศ
การวางนํ ้าหนั กบรรทุกในขอใดทีท
่ าํ ใหเกิดแรงเฉื อนทีจ
่ ด
ุ E มีคาสูงสุด
สภ
1:

2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 135 :

จากรูปคาน statically indeterminate จงวางนํ ้าหนั กบรรทุกจรทีม


่ ีการกระจายคงที่ (uniformly distributed live load) ทีท
่ าํ ใหเกิดคาสูงสุดของ
โมเมนตดัดทีจ
่ ด
ุ D

1:

2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

เนื อ
้ หาวิชา : 536 : Introduction to plastic analysis

ขอที่ 136 :
่ สดงซึง่ รับนํ ้าหนั กแบบจุดทีก
จงวิเคราะหหานํ ้าหนั กบรรทุกประลัยของคานทีแ ่ งึ่ กลางชวงคาน สมมติวาคานมีรป
ู ตัดคงทีแ
่ ละโมเมนตพลาสติกของ
หนาตัดเทากับ Mp

1 : 2Mp/L
2 : 3Mp/L
3 : 4Mp/L
4 : 6Mp/L
5 : 9Mp/L

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 137 :
ธิ ์

คานชวงเดียวธรรมดา ABC ซึง่ มีรปู ตัดสีเ่ หลีย


่ มผืนผาขนาด b x h คงทีต
่ ลอดความยาวดังแสดงในรูป ถาคานนี ท
้ าํ ดวยวัสดุเหนี ยวเนื อ
้ เดียวกัน มีนํ้า
หนั กกระทําดังรูป จงวิเคราะหหานํ ้าหนั กบรรทุกประลัยแบบจุด
สท

ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : 4My/L
2 : 8My/L
3 : 4Mp/L
4 : 8Mp/L
5 : 8Mp/27

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 138 :
ึ อิสระ(independent mechanisms)
ขอใดไมใชรูปแบบของเมคคานิ ซม
1 : Beam Mechanisms
2 : Sway Mechanisms
3 : Gable Mechanisms
4 : Load Mechanisms
5 : Joint Mechanisms

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 139 :
คานดังแสดงในรูป จงคํานวณหานํ ้าหนั กประลัยโดยวิธี plastic analysis

1 : MP/L
2 : 2MP/L
ิ์
ิ ธ

3 : 3MP/L
สท

4 : 4MP/L

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4
ส งวน
ขอ

อส
ขอที่ 140 :

รข
คานแบบ indeterminate ดังรูป ตรงจุดใดบางทีม
่ ีโอกาสทีจ
่ ะเกิด plastic hinge


ิ ว
าวศ
สภ
1 : A และ C
2 : A ,C และ D
3 : A , B, C และ D
4 : เฉพาะ A และ B

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 141 :
โครงสรางดังรูป ตองการจํานวนของ plastic hinge เทาไรจึงทําใหโครงสรางไมเสถียรภาพ

1:2
2:3
3:4
4:5

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 142 :
ขอใดกลาวถูกตอง
1 : plastic hinge จะตางกับ hinge ธรรมดา ( real hinge ) ตรงทีม
่ ีหนวยแรงดัดจนถึงจุดคลากตลอดหนาตัด แต hinge ธรรมดา คาหนวยแรงดัด
จะเทากับศูนย
2 : ถูกทุกขอ
3 : plastic hinge จะเกิดตรงจุดทีม
่ ีคาโมเมนตดัดสูงสุดกอน หรือ บริเวณฐานรองรับ และ บริเวณทีน
่ ํ ้าหนั กกระทําเป็ นจุด
4 : plastic hinge จะเหมือนกับ hinge ธรรมดา( real hinge ) ตรงทีม ่ ีการเคลือ
่ นเชิงมุมได

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 143 :
ธิ ์
สท

ส งวน
ขอ

อส
รข
1:


ิ ว
าวศ
สภ 2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 144 :
จากรูป คานเหล็กจะมี plastic hinge เกิดขึน
้ ทีจ
่ ด
ุ ใดกอน เมื่อแรง P มีคาเพิ่มขึน
้ อยางตอเนื่ องจนทําใหเกิด plastic hinge

1:A
2:B
3:C
4 : A และ C

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 145 :
จากรูป โครงขอแข็งเหล็กจะมี plastic hinge เกิดขึน
้ กีจ
่ ด
ุ จึงทําใหเกิด complete collapse mechanism

1:1
2:2
3:3
4:4

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 146 :
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน

จากรูป เมื่อแรง P มีคาเพิ่มขึน


้ อยางตอเนื่ อง โครงขอแข็งเหล็กจะมี plastic hinge เกิดขึน
้ กีจ
่ ด
ุ จึงทําใหเกิด complete collapse mechanism
ขอ

อส
จากรูป เมื่อแรง P มีคาเพิ่มขึน
้ อยางตอเนื่ อง โครงขอแข็งเหล็กจะมี plastic hinge เกิดขึน
้ กีจ
่ ด
ุ จึงทําใหเกิด complete collapse mechanism

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1:1
2:2
3:3
4:4

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 147 :
การวิเคราะหและออกแบบโดยวิธพ
ี ลาสติค เหมาะกับโครงสรางแบบใด
1 : โครงสรางไม
2 : โครงสรางเหล็ก
3 : โครงสรางคอนกรีตอัดแรง
4 : โครงสรางคอนกรีตเสริมเหล็ก

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 148 :
ทีจ
่ ด
ุ หมุนพลาสติค (Plastic Hinge) จะมีคาโมเมนตเทาใด
1:M=0

2:

3:
4 : ไมมีคาํ ตอบทีถ
่ ก

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 149 :
โมดูลสั พลาสติค (Plastic Section Modulus ; Z) หาไดจาก

1:

2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 150 :
ิ์

ขอใดกลาวไมถูกตอง เกีย
่ วกับคาตัวประกอบรูปทรง (Shape Factor)
ิ ธ
สท

1 : Shape Factor = Z / S

2:
งวน

3 : Shape Factor คานรูปสีเ่ หลีย


่ มผืนผา = 1.5
4 : คา Shape Factor มาก เป็ นลักษณะทีห ่ นาตัดประหยัด (Economic Section)

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอ

อส
รข
ขอที่ 151 :
โครงสรางดังรูป มี Plastic Hinge กีจ
่ ด
ุ เมื่อเกิดการวิบต
ั ิ


ิ ว
าวศ
สภ
1 : 1 จุด
2 : 2 จุด
3 : 3 จุด
4 : 4 จุด

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 152 :
หนาตัดชนิ ดใด ทีม
่ ีคา Shape Factor ใกลคา 1 มากทีส
่ ด

1:

2:

3:

4:

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 153 :
คานเหล็กมีรปู ตัดตันสีเ่ หลีย
่ มผืนผาดังแสดง ถาคานนี ม
้ ีกาํ ลังจุดครากเทากับ fy กก./ซม.2 จงหากําลังตานโมเมนตดัดพลาสติก (Mp) และอัตราสวน
ระหวาง Mp/My ซึง่ เรียกวา shape factor โดยที่ My หมายถึงกําลังตานทานโมเมนตดัดทีจ
่ ด
ุ คราก

1 : Mp = fybh2/6, shape factor = 1.50


2 : Mp = fybh2/4, shape factor = 1.70
3 : Mp = fybh2/6, shape factor = 1.70
4 : Mp = fybh2/4, shape factor = 1.50

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4
ธิ ์

ขอที่ 154 :
สท

ส งวน

ู ตัดตันสีเ่ หลีย
คานเหล็กมีรป ่ มขนมเปี ยกปูนดังแสดง คานนี ม
้ ีโมดูลส
ั พลาสติก (Z ) และ shape factor เทาไร
ขอ

อส
ู ตัดตันสีเ่ หลีย
คานเหล็กมีรป ่ มขนมเปี ยกปูนดังแสดง คานนี ม
้ ีโมดูลส
ั พลาสติก (Zx) และ shape factor เทาไร

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : Zx = bh2/10, shape factor = 2


2 : Zx = bh2/12, shape factor = 1.70
3 : Zx = bh2/12, shape factor = 2
4 : Zx = bh2/11, shape factor = 1.90

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 155 :
คานเหล็กรูปพรรณมีปลายสองขางเป็ นแบบยึดแนน (fixed end) ยาวทัง้ หมดเทากับ L รับนํ ้าหนั กแบบจุดเทากับ P ทีร่ ะยะ L/3 จากจุด A ถาคานนี ร
้ บ

โมเมนตดัดพลาสติกไดเทากับ Mp จงลําดับการเกิด plastic hinge ของคานทีก
่ อใหเกิดกลไกวิบต ั ิ (mechanism) ของคาน

1 : B --> A --> C
2 : B --> C --> A
3 : A --> B --> C
4 : A --> C --> B

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 156 :
ถาโครงสรางมีดก
ี รีของอินดีเทอรมิเนท = DI โครงสรางนั น
้ จะวิบต
ั แ
ิ บบ complete collapse mechanism ตอเมื่อมีจาํ นวนของ plastic hinge เทากับ
ิ์

1 : DI
ิ ธ

2 : DI+1
สท

3 : DI+2
4 : DI+3
งวน

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอ

อส
ขอที่ 157 :
ในการวิเคราะหโครงสราง ดังรูป โดยวิธพ ึ ดังนั น
ี ลาสติกเพื่อหาแรงประลัย จะเห็นวา เพื่อใหเกิดเมคคานิ ซม ้ ตองการจํานวนจุดหมุนพลาสติก

รข
(plastic hinge) อยางนอยเทากับ


ิ ว
าวศ
สภ

1 : 1 จุด
2 : 2 จุด
3 : 3 จุด
4 : 4 จุด

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 158 :
ในการวิเคราะหโครงสราง ดังรูป โดยวิธพ ึ อิสระ (independent mechanism) สําหรับโครงสรางนี ม
ี ลาสติกเพื่อหาแรงประลัย จะเห็นวา เมคคานิ ซม ้ ี
้ เทากับ
ทัง้ สิน

1 : 1 แบบ
2 : 2 แบบ
3 : 3 แบบ
4 : 4 แบบ

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 159 :
ในการวิเคราะหโครงสราง ดังรูป โดยวิธพ ึ ดังนั น
ี ลาสติกเพื่อหาแรงประลัย จะเห็นวา เพื่อใหเกิดเมคคานิ ซม ้ ตองการจํานวนจุดหมุนพลาสติก
(plastic hinge) อยางนอยเทากับ

1 : 1 จุด
2 : 2 จุด
3 : 3 จุด
4 : 4 จุด

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 160 :
ในการวิเคราะหโครงสราง ดังรูป โดยวิธพ ึ อิสระ (independent mechanism) สําหรับโครงสรางนี ม
ี ลาสติกเพื่อหาแรงประลัย จะเห็นวา เมคคานิ ซม ้ ี
้ เทากับ
ทัง้ สิน
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
1 : 1 แบบ
สภ
2 : 2 แบบ
3 : 3 แบบ
4 : 4 แบบ

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 161 :
ในการวิเคราะหโครงสราง ดังรูป โดยวิธพ ึ ดังนั น
ี ลาสติกเพื่อหาแรงประลัย จะเห็นวา เพื่อใหเกิดเมคคานิ ซม ้ ตองการจํานวนจุดหมุนพลาสติก
(plastic hinge) อยางนอยเทากับ

1 : 1 จุด
2 : 2 จุด
3 : 3 จุด
4 : 4 จุด

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 162 :
ในการวิเคราะหโครงสราง ดังรูป โดยวิธพ ึ อิสระ (independent mechanism) สําหรับโครงสรางนี ม
ี ลาสติกเพื่อหาแรงประลัย จะเห็นวา เมคคานิ ซม ้ ี
้ เทากับ
ทัง้ สิน
ธิ ์

1 : 1 แบบ
สท

2 : 2 แบบ

3 : 3 แบบ
4 : 4 แบบ
งวน

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอ

อส
ขอที่ 163 :

รข
ในการวิเคราะหโครงสราง ดังรูป โดยวิธพ ึ ดังนั น
ี ลาสติกเพื่อหาแรงประลัย จะเห็นวา เพื่อใหเกิดเมคคานิ ซม ้ ตองการจํานวนจุดหมุนพลาสติก
(plastic hinge) อยางนอยเทากับ


ิ ว
าวศ
สภ

1 : 1 จุด
2 : 2 จุด
3 : 3 จุด
4 : 4 จุด

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 164 :
ในการวิเคราะหโครงสราง ดังรูป โดยวิธพ ึ อิสระ (independent mechanism) สําหรับโครงสรางนี ม
ี ลาสติกเพื่อหาแรงประลัย จะเห็นวา เมคคานิ ซม ้ ี
้ เทากับ
ทัง้ สิน

1 : 1 แบบ
2 : 2 แบบ
3 : 3 แบบ
4 : 4 แบบ

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 165 :
จงใชวิธพี ลาสติกหาคาแรงประลัยสําหรับโครงสรางทีร่ บ
ั นํ ้าหนั ก ดังรูป สมมติคานมีหนาตัดคงทีแ
่ ละโมเมนตดัดพลาสติกมีคาเทากับ MP
ิ์
ิ ธ
สท
งวน

1 : 3MP/2L

ขอ

อส
2 : 3MP/L

รข
3 : 4MP/L
4 : 6MP/L


คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ิ ว
าวศ
ขอที่ 166 :
สภ
จงใชวิธพี ลาสติกหาคาแรงประลัยสําหรับโครงสรางทีร่ บ
ั นํ ้าหนั ก ดังรูป สมมติคานมีหนาตัดคงทีแ
่ ละโมเมนตดัดพลาสติกมีคาเทากับ MP

1 : 3MP/4L
2 : 18MP/5L
3 : 3MP/2L
4 : 7MP/4L

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 167 :
จากรูป คานเหล็กจะมี plastic hinge เกิดขึน
้ ทีจ
่ ด
ุ ใดกอน เมื่อแรง P มีคาเพิ่มขึน
้ อยางตอเนื่ องจนทําใหเกิด plastic hinge

1:a
2:b
3 : a และ b
4 : พรอมกันทุกจุด

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 168 :
จากรูป คานเหล็กจะมี plastic hinge เกิดขึน
้ กีจ
่ ด
ุ จึงทําใหเกิด complete collapse mechanism และมีลาํ ดับการเกิด plastic hinge อยางไร

1 : จุดเดียวคือจุด a
2 : จุดเดียวคือจุด b
3 : สองจุด โดยเริม่ จาก a กอนและตามดวย b
4 : สองจุด โดยเริม ่ จาก b กอนและตามดวย a

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3
ธิ ์

ขอที่ 169 :
สท

ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
 

าวศ
คานชวงเดีย
กระทําทีจ
่ ด
่ ว AC ทีม ่ ีปลายยึดแผนทัง้ สองขาง กําหนดใหคานมีกาํ ลังดัดเทากับ Mp และมีแรงตามขวาง P
ุ B ซึง่ มีระยะ L/3 จากปลาย A จงหาแรง P ทีท ่ าํ ใหคานวิบต
ั แ
ิ บบพลาสติก
1 :  5 MP/L
สภ

2 :  6 MP/L
3 :  9 MP/L
4 :  8 MP/L

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 170 :

 
จงวิเคราะหคาแรง P ทีท
่ าํ ใหโครงสรางตามรูปวิบต
ั แ
ิ บบพลาสติก ถากําลังดัดขององคอาคารเทากับ Mp
 

1 : MP /L
2 : 2MP /L

3 : 3MP /L
4 : 5MP /L

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 171 :

 
โครงขอแข็งดังรูป มีแรง P และ Q กระทําทีจ
่ ด
ุ ตอ B และ E จงหาจํานวนรูปแบบการวิบต
ั แ
ิ บบพลาสติกของ
โครงสรางนี ้
1:3
2:2
3:1
4:4

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1
ิ์
ิ ธ
สท

ขอที่ 172 :
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
สภ
 
โครงขอแข็งดังรูป มีแรง P กระทําทีจ
่ ด
ุ B และ 0.5Pกระทําทีจ
่ ด
ุ C กําหนดหนาตัดคานมีกาํ ลังดัด Mp จงหาแรง
P ทีท
่ าํ ใหโครงสรางวิบต
ั แ
ิ บบพลาสติก
1 :  3 Mp/L
2 :  Mp/L
3 : 1.5 Mp/L
4 : 2 Mp/L

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 173 :
้ สวนทีม
 ชิน ่ ีหนาตัดดังแสดงในรูป ตองรับ pure bending โดย X-X คือแนวเสนทีแ
่ บง tension-compression zone ของหนา
ตัดขณะยังอยูในชวง linear elastic ถาเพิ่มโมเมนตดัดใหมากขึน้ จนหนาตัดอยูในสภาวะ fully plastic ตําแหนงของแนวเสน
ทีแ
่ บง tension-compression zone ของหนาตัด จะเป็ นดังนี ้

1 :  จะอยูในแนวราบ แตอยูใตตําแหนง centroid ของหนาตัด


2 :  จะอยูในแนวราบ แตอยูเหนื อตําแหนง centroid ของหนาตัด
3 :  จะยังอยูในแนวราบ และยังคงผาน centroid ของหนาตัด
4 :  จะอยูในแนวดิง
่ และยังคงผาน centroid ของหนาตัด
คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 174 :
 คานเหล็กหนาตัดคงทีแ
่ ละมีคา plastic moment เทากับ MP ตองรับแรงหนึ่ งแรง ดังแสดงในรูป (Fig.a) จากการวิเคราะห พบ
วาเมื่อเพิ่มขนาดแรง ใหมากขึน
้ เรือ
่ ย ๆ plastic hinges จะเกิดขึน
้ ที่ B, D, A ตามลําดับ จงหาขนาดของแรงปฏิกริ ย
ิ าแนวดิง่ ที่
B ขณะที่ plastic hinge ไดเริม่ เกิดขึน
้ ที่ D (Fig.b)

1: 

2: 

3: 
4 :  ไมมีคา
ํ ตอบทีใ่ หคาทีถ
่ ก
ู ตอง
คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3
ิ์
ิ ธ
สท

ขอที่ 175 :
งวน

 โดยปรกติโครงขอแข็ง ้ เดียว ดังแสดงในรูป อาจเกิดกลไกเอกเทศ (Independent


Gable Frame ชวงเดียวชัน
Mechanism) ได 2 แบบ คือ

ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : Joint Mechanism และ Sway Mechanism


2 : Gable Mechanism และ Joint Mechanism
3 : Beam Mechanism และ Joint Mechanism
4 : Beam Mechanism และ Sway Mechanism

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 176 :
จากรูปสมมติใหคานมีหนาตัดเป็ นรูปสีเ่ หลีย
่ มผืนผา (bxh) โมเมนตพลาสติกของคานจะมีคาเพิ่มขึน
้ กีเ่ ทา หากวัสดุมีกาํ ลัง fy เพิ่มขึน
้ 2 เทา

1 : 1.5 เทา

2 : 2 เทา

3 : 3 เทา

4 : 4 เทา

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 177 :
จากรูปสมมติใหคานมีหนาตัดเป็ นรูปสีเ่ หลีย
่ มผืนผา (bxh) นํ ้าหนั กบรรทุกประลัยของคาน Pc ตามวิธพ
ี ลาสติกจะมีคาเพิ่มขึน
้ กีเ่ ทา หากคานมีความ
กวางเพิ่มขึน้ เป็ น 2 เทา (2b)

1 : 1.5 เทา
2 : 2 เทา
3 : 3 เทา
4 : 4 เทา

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 178 :
จากรูปสมมติใหคานมีหนาตัดเป็ นรูปสีเ่ หลีย
่ มผืนผา (bxh) นํ ้าหนั กบรรทุกประลัยของคาน Pc ตามวิธพ
ี ลาสติกจะมีคาเพิ่มขึน
้ กีเ่ ทา หากคานมีความลึกเพิ่มขึน
้ เป็ น 2 เทา (2h)
ธิ ์
สท

งวน

1 : 1.5 เทา

2 : 2 เทา

ขอ

อส
3 : 3 เทา

รข
4 : 4 เทา

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4


ิ ว
าวศ
ขอที่ 179 :
จากรูปสมมติใหคานมีหนาตัดเป็ นรูปสีเ่ หลีย
่ มผืนผา (bxh) นํ ้าหนั กบรรทุกประลัยของคาน Pc ตามวิธพ
ี ลาสติกจะมีคาลดลงกีเ่ ทา หากคานมีความยาวเพิ่มขึน
้ เป็ น 2 เทา (2L)
สภ

1 : 1.5 เทา

2 : 2 เทา

3 : 3 เทา

4 : 4 เทา

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 180 :
ี ารวิเคราะหแบบพลาสติกสําหรับหนาตัดสีเ่ หลีย
ขอใดกลาวถูกสําหรับวิธก ่ มผืนผา

1 : My =fybh2/4

2 : Mp =fybh2/6

3 : Shape factor = Mp/My = 2.0

4 : ไมมีขอใดกลาวถูก

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

เนื อ
้ หาวิชา : 537 : Approximate analysis

ขอที่ 181 :
โครงขอแข็งดังรูป หากวิเคราะหโดยวิธี Portal method จะไดคาโมเมนตดัดทีก
่ งึ่ กลางความสูงของเสา AB และ CD เทาใด

1:0
ิ์
ิ ธ

2 : P/2
3:P
สท

4 : 2P

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1
ส งวน
ขอ

อส
ขอที่ 182 :

รข
โครงขอแข็งดังรูป หากวิเคราะหโดยวิธี Portal method คาแรงเฉื อนทีก
่ งึ่ กลางความสูงของเสา AB และ CD มีคาเทาใด


ิ ว
าวศ
สภ

1:0
2 : P/2
3:P
4 : 2P

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 183 :
โครงขอแข็งดังรูป หากวิเคราะหโดยวิธี Portal method คาโมเมนตดัดทีเ่ กิดทีจ
่ ด
ุ ตอ B และ C มีคาเทาใด

1:0
2 : P/2
3:P
4 : 2P

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 184 :
ในการวิเคราะหโครงสรางแบบประมาณ (Approximate Analysis) Internal hinges สามารถใสไดทัง้ หมดกีจ
่ ด

ธิ ์

1:1
สท

2:2

3:4
4:6
งวน

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอ

อส
ขอที่ 185 :

รข
การวิเคราะหคานปลายยึดแนนกับเสาโดยวิธป
ี ระมาณ มีนํ้าหนั กแผสมํ่าเสมอกระทําในแนวดิง่ ตลอดความยาวคาน โดยทัว่ ไปจะกําหนดจุดดัดกลับ
ของคานอยู ณ.ตําแหนงใดของคาน


1 : 0.1 ของความยาวคาน

ิ ว
2 : 0.3 ของความยาวคาน
3 : 0.5 ของความยาวคาน
าวศ
4 : 0.4 ของความยาวคาน
5 : 0.11 ของความยาวคาน
สภ
คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 186 :
จุดดัดกลับของคานหรือเสาในการวิเคราะหโครงสรางแบบประมาณ จะมีสภาพใกลเคียงไดกับคุณสมบัตข
ิ อใด
1 : ตําแหนงนั น
้ มีสภาพเป็ น Hinge
2 : ตําแหนงนั น้ มีโมเมนตสูงสุด
3 : ตําแหนงนั น ้ มีคาแรงเฉื อนในแนวดิง่ เทากับศูนย
4 : ตําแหนงนั น ้ มีคาแรงเฉื อนในแนวนอนเทากับศูนย

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 187 :
คําตอบขอใดเป็ นสมมติฐานของการวิเคราะหโครงสรางแบบประมาณโดยวิธี Portal

1 : จุดดัดกลับอยูทีร่ ะยะ 0.1 ของความยาวเสาแตละชัน
2 : จุดดัดกลับอยูทีร่ ะยะ 0.1 ของความยาวคาน
3 : จุดดัดกลับอยูทีร่ ะยะ 0.5 ของความยาวเสาแตละชัน ้
4 : เสาตนริมนอกรับแรงเฉื อนเป็ นสองเทาของเสาตนใน

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 188 :
จากรูป ถาใช portal method วิเคราะหโครงขอแข็ง ซึง่ มีคา EI คงทีท
่ ก ้ สวน โมเมนตสูงสุดทีเ่ กิดขึน
ุ ชิน ้ บนโครงขอแข็งอยูในรูปใด

1 : Ph
2 : Ph/2
3 : Ph/3
4 : Ph/4

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 189 :
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน

จากรูป ถาใช approximate analysis วิเคราะหโครงขอแข็ง ซึง่ มีคา EI คงทีท


่ ก ้ สวน สมการโมเมนตสูงสุดทีเ่ กิดขึน
ุ ชิน ้ บนโครงขอแข็งอยูในรูปใด
ขอ

อส
จากรูป ถาใช approximate analysis วิเคราะหโครงขอแข็ง ซึง่ มีคา EI คงทีท
่ ก ้ สวน สมการโมเมนตสูงสุดทีเ่ กิดขึน
ุ ชิน ้ บนโครงขอแข็งอยูในรูปใด

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : Ph
2 : Ph/2
3 : Ph/3
4 : Ph/4

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 190 :
จากรูป จงใชวิธี portal วิเคราะหโครงขอแข็ง ซึง่ มีคา EI คงทีท
่ ก ้ สวน ในการหาคาแรงปฏิกริ ย
ุ ชิน ิ าทีจ
่ ด
ุ รองรับ C

1 : 5 kN
2 : 10 kN
3 : 5 kN, 2.25 kN-m
4 : 10 kN, 2.25 kN-m

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 191 :
จากรูป จงใชวิธี portal วิเคราะหโครงขอแข็ง ซึง่ มีคา EI คงทีท
่ ก ้ สวน ในการหาคาแรงปฏิกริ ย
ุ ชิน ิ าทีจ
่ ด
ุ รองรับ A

1 : 5 kN
2 : 10 kN
3 : 5 kN, 2.25 kN-m
4 : 10 kN, 2.25 kN-m
ิ์
ิ ธ
สท

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3
งวน

ขอที่ 192 :

ในการทํา approximate analysis โครงขอแข็งซึง่ มีคา EI คงทีท


่ ก ้ สวน ดังรูป เราจะตองสมมติเงือ
ุ ชิน ่ นไขชวยในการวิเคราะหเพื่อทําโครงขอแข็งให
ขอ

อส
ในการทํา approximate analysis โครงขอแข็งซึง่ มีคา EI คงทีท
่ ก ้ สวน ดังรูป เราจะตองสมมติเงือ
ุ ชิน ่ นไขชวยในการวิเคราะหเพื่อทําโครงขอแข็งให
เป็ นโครงสราง statically determinate กีข
่ อ

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1:6
2:9
3 : 10
4 : 12

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 193 :
โครงถักดังรูป จงใชวิธป ้ สวนหมายเลข 5 และ 6 มีหนาตัดทีช
ี ระมาณในการวิเคราะห (Approximate Analysis) ถาชิน ้ สวนใดรับแรงอัด
่ ะลูดมาก ชิน
จะไมสามารถรับได แตสามารถรับแรงดึงได ชิน ้ สวนหมายเลข 1 รับแรงเทาใด

1 : รับแรงดึง 3.53 ตัน


2 : รับแรงอัด 3.53 ตัน
3 : รับแรงอัด 7.07 ตัน
4 : ไมมีคาํ ตอบทีถ
่ ก

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 194 :
จากรูป ถาใช approximate analysis วิเคราะหโครงขอแข็ง ซึง่ มีคา EI คงทีท
่ ก ้ สวน โมเมนตสูงสุดจะเกิดขึน
ุ ชิน ้ บนโครงขอแข็งทีจ
่ ด
ุ ใด
ธิ ์
สท

งวน

1 : จุด A และ D

ขอ

อส
2 : จุด B และ C
3 : จุด A

รข
4 : จุด A B C และ D

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4


ิ ว
าวศ
ขอที่ 195 :
จากรูป ถาใช approximate analysis วิเคราะหโครงขอแข็ง ซึง่ มีคา EI คงทีท
่ ก ้ สวน โมเมนตสูงสุดจะเกิดขึน
ุ ชิน ้ บนโครงขอแข็งทีจ
่ ด
ุ ใด และอยูในรูป
สภ
ใด

1 : Ph/2 ทีจ
่ ด ุ B
2 : Ph/2 ทีจ่ ด ุ B และจุด C
3 : Ph/4 ทีจ ่ ด ุ B
4 : Ph/4 ทีจ ่ ด ุ B และจุด C
5 : Ph/3 ทีจ ่ ด ุ B

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 196 :
จากรูป จงใชวิธี portal วิเคราะหโครงขอแข็ง ซึง่ มีคา EI คงทีท
่ ก ้ สวน จากนั น
ุ ชิน ้ จงหาอัตราสวนแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด
ุ รองรับ C ตอแรงปฏิกริ ย
ิ าทีจ
่ ด

รองรับ A

1 : 1.5
2 : 2.0
3 : 2.5
4 : 3.0

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 197 :
จากรูป จงใชวิธี portal วิเคราะหโครงขอแข็ง ซึง่ มีคา EI คงทีท
่ ก ้ สวน จงหาอัตราสวนของโมเมนตปฏิกริ ย
ุ ชิน ิ าทีจ
่ ด
ุ รองรับ C ตอโมเมนตปฏิกริ ย
ิ าที่
จุดรองรับ A
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : 0.5
2 : 0.75
3 : 1.25
4 : ไมมีคาํ ตอบทีถ
่ ก
ู ตอง

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 198 :
ในการทํา approximate analysis โครงขอแข็งซึง่ มีคา EI คงทีท
่ ก ้ สวน ดังรูป เราจะตองตัง้ สมมุตฐ
ุ ชิน ิ านชวยในการวิเคราะหเพื่อทําโครงขอแข็งให
เป็ นโครงสราง statically determinate กีข
่ อ

1:6
2:9
3 : 10
4 : 12

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 199 :

 
จากการวิเคราะหโครงสรางทีแ
่ สดงในรูปโดยวิธี portal method, เสาทีม
่ ีคาโมเมนตดัดสูงสุด คือ
1 :  เสา ED รับโมเมนตดัดสูงสุดเทากับ 18 kN-m
2 :  เสา EF รับโมเมนตดัดสูงสุดเทากับ 24 kN-m
3 :  เสา AB รับโมเมนตดัดสูงสุดเทากับ 28 kN-m
4 :  เสา HJ รับโมเมนตดัดสูงสุดเทากับ 24 kN-m
ธิ ์

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2
สท

งวน

ขอที่ 200 :

ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
จากการวิเคราะหโครงสรางทีแ
่ สดงในรูป โดยวิธี portal method, คานทีม
่ ีคาโมเมนตดัดสูงสุด คือ
สภ
1 : คาน BE รับโมเมนตดัดสูงสุดเทากับ 16 kN-m
2 : คาน FJ รับโมเมนตดัดสูงสุดเทากับ 18 kN-m
3 : คาน EH รับโมเมนตดัดสูงสุดเทากับ 24 kN-m
4 : คาน BE รับโมเมนตดัดสูงสุดเทากับ 20 kN-m
คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 201 :
 
ในการวิเคราะหโครงสรางแบบประมาณ (Approximate Analysis) โดยวิธพ ี อรทอลของโครง
ขอแข็งดังแสดงในรูป จะไดคาแรงเฉื อนทีก ้ สวน CE และ DF เทากับ
่ งึ่ กลางชิน

1 :  0.25P
2 :  0.5P
3 :  P
4 :  2P

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 202 :
โครงขอแข็งดังรูป หากวิเคราะหโดยวิธี Portal method จะไดคาแรงตามแนวแกนในเสา CD เทาใด

1:0

2 : 0.2P

3 : 0.4P
ิ์
ิ ธ

4 : 0.5P
สท

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3
งวน

ขอที่ 203 :

โครงขอแข็งดังรูปหากวิเคราะหดวยวิธี Portal Method จะไดคาแรงตามแนวแกนในเสาเหนื อฐานรองรับ C เทาใด


ขอ

อส
โครงขอแข็งดังรูปหากวิเคราะหดวยวิธี Portal Method จะไดคาแรงตามแนวแกนในเสาเหนื อฐานรองรับ C เทาใด

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1:8

2 : 10

3 : 12

4 : 14

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

เนื อ
้ หาวิชา : 538 : Introduction to matrix structural analysis

ขอที่ 204 :
ขอใดกลาวเกีย่ วกับการวิเคราะหโครงสรางดวยวิธเี มทริกซ(Matrix Methods in Structural Analysis) ไมถูกตอง
1 : นิ ยมใชคอมพิวเตอรเพื่อชวยคํานวณ
2 : เหมาะกับโครงสรางทีม่ ีดก ี รีของอินดีเทอรมิเนทสูงๆหรือมีแรงกระทําภายนอกหลายจุด
3 : วิเคราะหโครงสรางทีม
่ ีนํ้าหนั กเนื่ องจากอุณหภูมิได
4 : วิเคราะหโครงสรางประกอบ(Composite structures)ได
5 : ไมสามารถวิเคราะหโครงสรางทีเ่ ป็ นดีเทอรมิเนท

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 5

ขอที่ 205 :
ในการวิเคราะหโครงสราง Frame ดวยวิธี Matrix Analysis คา Property ใดทีแ ้ สวน (Element Stiffness)
่ ปรผกผันกับความแข็งแรงของชิน
1 : E (Elastic Modulus)
2 : I (Moment of Inertia)
3 : A (Area)
4 : L (Length)

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 206 :
ในวิชา Structural Analysis โครงขอแข็ง (rigid frame) ทีอ
่ ยูใน 3 มิติ แตละ node ของโครงขอแข็งจะมีจาํ นวน degree of freedoms ไดมากทีส
่ ด
ุ กี่
คา
1:2
2:3
3:4
4:5
5:6

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 5

ขอที่ 207 :
ิ์
ิ ธ

ในวิชา Structural Analysis โครงถัก (truss) ทีอ


่ ยูใน 3 มิติ แตละ node ของโครงถักจะมีจาํ นวน degree of freedoms ไดมากทีส
่ ด
ุ กีค
่ า
สท

1:2
2:3
3:4
งวน

4:5
5:6

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอ

อส
รข
ขอที่ 208 :
ขอใดตอไปนี ถ้ ก
ู นํ ามาใชในการหา member global stiffness matrix [k] ในวิธี matrix displacement method


1 : equilibrium equation, compatibility condition, และ consistent deformation

ิ ว
2 : equilibrium equation, compatibility condition, และ force-displacement relationship

าวศ
3 : equilibrium equation, consistent deformation, และ force-displacement relationship
4 : compatibility condition, force-displacement relationship, และ consistent deformation
สภ
คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 209 :
จากรูป ในการวิเคราะหโครงขอหมุนโดยวิธี matrix displacement method นั น
้ global structure stiffness matrix [K] ของโครงขอหมุนจะมีขนาด
เทาใด

1 : 4x4
2 : 6x6
3 : 8x8
4 : 10x10

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 210 :
จากรูป ในการวิเคราะหโครงขอหมุนโดยวิธี matrix displacement method นั น
้ เราจะตองทําการ inverse matrix ขนาดเทาใด เพื่อใหไดคาการ
เปลีย
่ นตําแหนงที่ node ของโครงขอหมุน

1 : 2x2
2 : 3x3
3 : 4x4
4 : 5x5

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 211 :
จากรูป ในการวิเคราะหโครงขอแข็งโดยวิธี matrix displacement method นั น
้ global structure stiffness matrix ของโครงขอแข็งจะมีขนาด
เทาใด
ธิ ์
สท

ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
สภ
1 : 3x3
2 : 4x4
3 : 6x6
4 : 9x9

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 212 :
จากรูป ในการวิเคราะหโครงขอแข็งโดยวิธี matrix displacement method นั น
้ เราจะตองทําการ inverse matrix ขนาดเทาใด เพื่อใหไดคาการ
เปลีย
่ นตําแหนงที่ node ของโครงขอแข็งทีไ่ มทราบคา

1 : 4x4
2 : 6x6
3 : 8x8
4 : 10x10

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 213 :
โครงถักดังรูป มีคา Degree of Indeterminacy เทาใด

1 : Statically Determinate

2:

3:
4 : ไมมีคาํ ตอบทีถ
่ ก

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3
ิ์
ิ ธ

ขอที่ 214 :
สท
ส งวน

โครงถักดังรูป มีจาํ นวน displacement degree of freedom ของระบบเทาใด


ขอ

อส
โครงถักดังรูป มีจาํ นวน displacement degree of freedom ของระบบเทาใด

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1:2
2:4
3:8
4 : ไมมีคาํ ตอบทีถ
่ ก

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 215 :
คานดังรูป มีคา Degree of Indeterminacy เทาใด

1:

2:

3:
4 : ไมมีคาํ ตอบทีถ
่ ก

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 216 :
้ สวน จะมีจาํ นวน displacement degree of freedom ของระบบมีคาเทาใด
คานดังรูป ถาไมมีการยืดหดความยาวของทุกชิน

1:8
2 : ไมมีคาํ ตอบทีถ
่ ก

3:2
4:4

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 217 :
ธิ ์
สท

ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1:

2:

3:
4 : ไมมีคาํ ตอบทีถ
่ ก

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 218 :
โครงขอแข็งดังรูป มีคา Degree of Indeterminacy เทาใด

1:

2:

3:
4 : ไมมีคาํ ตอบทีถ
่ ก

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 219 :
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน

โดยใชวิธี Matrix Force ให คํานวณหา โมเมนตทีป


่ ลาย ของ element ในโครงสรางตอไปนี ้ ใหตอบอยูในรูป
ขอ

อส
โดยใชวิธี Matrix Force ให คํานวณหา โมเมนตทีป
่ ลาย ของ element ในโครงสรางตอไปนี ้ ใหตอบอยูในรูป

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1 : [-2 2 -2 0 0 0]
2 : [6 -3 3 -1.5 1.5 0]
3 : [56.2 72.4 -72.4 -64.0 64.0 0]
4 : [-39.6 -20.4 20.4 30.0 30.0 0]

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 220 :

1:

2:
ธิ ์

3:
4 : ไมมีคาํ ตอบทีถ
่ ก

สท

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3
งวน

ขอที่ 221 :

้ สวน จะมีจาํ นวน displacement degree of freedom ของระบบมีคาเทาใด


โครงขอแข็งดังรูป ถาไมมีการยืดหดความยาวของทุกชิน
ขอ

อส
้ สวน จะมีจาํ นวน displacement degree of freedom ของระบบมีคาเทาใด
โครงขอแข็งดังรูป ถาไมมีการยืดหดความยาวของทุกชิน

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1:2
2:3
3 : ไมมีคาํ ตอบทีถ
่ ก

4:1

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 222 :

1:

2:

3:
4 : ไมมีคาํ ตอบทีถ
่ ก

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1
ิ์
ิ ธ
สท

ขอที่ 223 :
ส งวน

โครงขอแข็งดังรูป มีคา Degree of Indeterminate เทาใด


ขอ

อส
โครงขอแข็งดังรูป มีคา Degree of Indeterminate เทาใด

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1:

2:

3:
4 : ไมมีคาํ ตอบทีถ
่ ก

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 224 :

1:

2:
ิ์
ิ ธ

3:
4 : ไมมีคาํ ตอบทีถ
่ ก

สท

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2
งวน

ขอที่ 225 :

้ สวน จะมีจาํ นวน displacement degree of freedom ของระบบมีคาเทาใด


โครงแข็งดังรูป ถาไมมีการยืดหดตัวของความยาวทุกชิน
ขอ

อส
้ สวน จะมีจาํ นวน displacement degree of freedom ของระบบมีคาเทาใด
โครงแข็งดังรูป ถาไมมีการยืดหดตัวของความยาวทุกชิน

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

1:1
2:2
3:3
4 : ไมมีคาํ ตอบทีถ
่ ก

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 226 :

1:

2:

3:
4 : ไมมีคาํ ตอบทีถ
่ ก

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 227 :
ในวิชา Structural Analysis โครงขอแข็ง (rigid frame) ทีอ ้ สวนโครงขอแข็งจะมีจาํ นวน degree of freedoms ไดมากทีส
่ ยูใน 3 มิติ หนึ่ งชิน ่ ด
ุ กีค
่ า
1:3
2:6
3:9
4 : 12

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 228 :
ในวิชา Structural Analysis โครงถัก (truss) ทีอ ้ สวนโครงถักจะมีจาํ นวน degree of freedoms ไดมากทีส
่ ยูใน 3 มิติ หนึ่ งชิน ่ ด
ุ กีค
่ า
1:3
2:4
3:6
4:9

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3
ิ์
ิ ธ
สท

ขอที่ 229 :
จากรูป ในการวิเคราะหคานโดยใช matrix structural analysis คานดังกลาวมี degree of freedoms ทีถ
่ ก
ู ยึดรัง้ (constrained degree of
งวน

freedoms) ไดมากทีส่ ด
ุ กีค
่ า

ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
1:2
2:3
3:4
สภ
4:5

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 230 :
จากรูป ในการวิเคราะหคานโดยวิธี matrix displacement method นั น
้ global structure stiffness matrix [K] ของคานจะมีขนาดเทาใด

1 : 2x2
2 : 6x6
3 : 8x8
4 : 10x10

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 231 :
จากรูป ในการวิเคราะหโครงขอหมุนโดยวิธี matrix displacement method นั น
้ เราจะตองทําการ inverse matrix ขนาดเทาใด เพื่อใหไดคาการ
เปลีย
่ นตําแหนงที่ node ของโครงขอหมุน

1 : 3x3
2 : 4x4
3 : 5x5
4 : 6x6

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 232 :
จากรูป ในการวิเคราะหโครงขอแข็งโดยวิธี matrix displacement method นั น
้ global structure stiffness matrix ของโครงขอแข็งจะมีขนาด
เทาใด
ิ์
ิ ธ
สท
งวน

1 : 3x3
2 : 4x4
3 : 6x6

ขอ

อส
4 : 9x9

รข
คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4


ิ ว
ขอที่ 233 :

เปลีย าวศ
จากรูป ในการวิเคราะหโครงขอแข็งโดยวิธี matrix displacement method นั น
่ นตําแหนงที่ node ของโครงขอแข็งทีไ่ มทราบคา
้ เราจะตองทําการ inverse matrix ขนาดเทาใด เพื่อใหไดคาการ
สภ

1 : 2x2
2 : 3x3
3 : 4x4
4 : 6x6
5 : 9x9

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 234 :

 
จงหา DOF ของโครงขอแข็งในกรณี ทวี่ เิ คราะหตามวิธี matrix stiffness method
1 : 10
2:8
3:3
4:6

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 235 :
ธิ ์

 
สท

L = 5m
A = 800 cm2

I = 105 cm4
งวน

E = 2x106 kg/cm2

ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

คา K11 ของโครงขอแข็งในรูปมีคาเทากับ

1:
3284.32

2 : 4284.32

3 : 1284.32

4 : 9548.32

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 236 :
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

 
 คา K21 ของโครงขอแข็งในรูปมีคาเทากับ

1:
954.24

2 : -954.24

3 : 1954.24

4 : -1954.24

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1
ิ์
ิ ธ
สท

ขอที่ 237 :
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
คา K11 ของโครงขอแข็งในรูปมีคาเทากับ
สภ
1 : 3.333EI

2 : 4.333EI

3 : 5.333EI

4 : 6.333EI

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4

ขอที่ 238 :

คา K23 ของโครงขอแข็งในรูปมีคาเทากับ

1:0

2 : 4EI/3

3 : EI

4 : 3.333EI

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 239 :

คา K31 ของโครงขอแข็งในรูปมีคาเทากับ

1 : EI/2

2 : EI

3 : 2EI

4:0

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 240 :
จงอธิบายความหมายทางกายภาพของคา stiffness influence coefficient Kij  
ิ์
ิ ธ

1 : เป็ นแรงทีก
่ ระทําที่ DOF ที่ i เนื่ องจากการใส displacement 1 หนวยที่ DOF ที่ j
สท

2 : เป็ นแรงกระทําที่ DOF ที่ j เนื่ องจากการใส displacement 1 หนวยที่ i

3 : เป็ น displacement ทีเ่ กิดขึน


้ ที่ DOF ที่ i เนื่ องจากการใสแรงหนึ่ งหนวยที่ DOF ที่ j
งวน

4 : เป็ น displacement ทีเ่ กิดขึน


้ ที่ DOF ที่ j เนื่ องจากการใสแรงหนึ่ งหนวยที่ DOF ที่ i

ขอ

อส
คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ก รข
ขอที่ 241 :

ิ ว
จงอธิบายความหมายทางกายภาพของคา flexibility influence coefficient Fij

าวศ
1 : เป็ นแรงทีก
่ ระทําที่ DOF ที่ i เนื่ องจากการใส displacement 1 หนวยที่ DOF ที่ j
สภ
2 : เป็ นแรงกระทําที่ DOF ที่ j เนื่ องจากการใส displacement 1 หนวยที่ i

3 : เป็ น displacement ทีเ่ กิดขึน


้ ที่ DOF ที่ i เนื่ องจากการใสแรงหนึ่ งหนวยที่ DOF ที่ j

4 : เป็ น displacement ทีเ่ กิดขึน


้ ที่ DOF ที่ j เนื่ องจากการใสแรงหนึ่ งหนวยที่ DOF ที่ i

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 3

ขอที่ 242 :
ขอความใดถูกตองสําหรับการใชวิธี Matrix Displacement Method กับ Matrix Force Method สําหรับวิเคราะหโครงสรางดังแสดงในรูป

1 : ไมจําเป็ นตอง inverse metrix สําหรับการวิเคราะหดวย Matrix Force Method

2 : ตอง inverse matrix ขนาด 3x3 ถาใชวิธี Matrix Displacement Method

3 : ตอง inverse matrix ขนาด 3x3 ถาใชวิธี Matrix ขนาด 3x3 ถาใชวิธี Matrix Force Method

4 : ไมมีคาํ ตอบทีถ
่ ก
ู ตอง

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 243 :

ในการวิเคราะหคานโดยวิธี matrix displacement method นั น


้ เราตองทําการ inverse matrix ขนาดเทาใดเพื่อใหไดคาการเปลีย
่ นตําแหนงที่
node
1 : 6x6
2 : 4x4
3:
5x5
4 : 3x3

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอที่ 244 :
ิ์
ิ ธ
สท
ส งวน
ขอ

อส
ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

 
โครงขอแข็งดังแสดงในรูป ไมคิดการเปลีย
่ นรูปในแนวแกนเราสามารถใช symmetry ในการลดจํานวน DOF เหลือเพียง

1:1
2:2
3:3
4:4

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 245 :

โครงขอแข็งดังแสดงในรูป ไมคิดผลของการเปลีย
่ นรูปในแนวแกนเราสามารถใช Anti-Symmetry และ Symmetry ในการลดจํานวน DOF เหลือ
เพียงเทาใด
1:2
2:3
3:4
4:5

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 246 :
้ สวนประกอบกันเป็ น stiffness matrix ของโครงสรางเราใชหลักการใดในขัน
ในการรวมผลของ stiffness matrix ของชิน ้ ตอนสุดทาย

1 : Equilibrium และ compatibility ที่ node

้ สวน
2 : Force-Displacement relation ของชิน
ธิ ์

้ สวน
3 : Compatibility และ Equilibrium ของชิน
สท

4 : ไมมีขอถูก
งวน

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ขอ

อส
ขอที่ 247 :

ก รข
ิ ว
าวศ
สภ

โครงขอแข็งดังแสดงในรูปหากตองเลือกวิธก ี ารวิเคราะหระหวาง Matrix Displacement Method กับ Matrix Force Method ภายใตเงือ
่ นไขของ
การ inverse matrix ขนาดเล็กทีส
่ ด
ุ ควรเลือกวิธใี ด
1 : Matrix Displacement Method โดย inverse Matrix ขนาด 1x1

2 : Matrix Force Method โดย inverse Matrix ขนาด 2x2

3 : Matrix Force Method โดย inverse Matrix ขนาด 1x1

4 : Matrix Displacement Method โดย inverse Matrix ขนาด 2x2

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 248 :

EA = 8000
L=4
ิ์
ิ ธ
สท
งวน

คา K11 ของโครงขอหมุนดังแสดงในรูปมีคาเทากับ

ขอ

อส
1 : 2707
2 : 4707

รข
3 : 1707
4 : 3707


คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 1

ิ ว
าวศ
ขอที่ 249 :
สภ

EA = 8000
L=4

คา K31 ของโครงขอหมุนดังแสดงในรูปมีคาเทากับเทาใด

1:0

2 : -2000

3 : -4000

4 : 4000

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 2

ขอที่ 250 :
ขอใดเป็ นคุณสมบัตท
ิ ผ ้ สวน
ี่ ิดของ stiffness matrix ของชิน

1 : symmetry

2 : singular

3 : diagonal เป็ น บวก

4 : ไมมีคาํ ตอบ

คําตอบทีถ
่ ก
ู ตอง : 4
ิ์
ิ ธ
สท

ขอที่ 251 :
ส งวน
ขอ

You might also like