Professional Documents
Culture Documents
ข อ
สภาวิศวกร | Council of engineers
กร
วิชา : Noise and Vibration Control
ิ ว
าวศ
เนือหาวิชา : 655 : 1. Behavior of sound waves; instrumentation
สภ
ข ้อที 1 :
ี งทีเกิดจากต ้นกําเนิดเสย
ปรากฏการณ์กลบเสย ี งหนึงโดยต ้นกําเนิดเสย
ี งอืน เรียกว่า
1 : Echo
2 : Masking Noise
3 : Reverberation
4 : Resonance
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 2 :
การสนพ ั ้อง (Resonance) ของคลืนเสย
ี ง หมายถึง
1 : ปรากฏการณ์ทคลื
ี นเสย ี ง 2 คลืนมีความดันเสยี งเท่ากันรวมกัน เสย ี งจึงเบาลง
2 : ปรากฏการณ์ทคลื
ี นเสย ี ง 2 คลืนมีความดันเสย ี งเท่ากันรวมกัน เสย ี งจึงดังมากขึน
3 : ปรากฏการณ์ทคลื
ี นเสย ี ง 2 คลืนมีความถีเท่ากันรวมกัน เสย ี งจึงเบาลง
4 : ปรากฏการณ์ทคลืี นเสย ี ง 2 คลืนมีความถีเท่ากันรวมกัน เสย ี งจึงดังมากขึน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 3 :
ข ้อใดไม่มผ ี ง
ี ลค่อความเร็วของเสย
1 : ความสูง
2 : อุณหภูม ิ
3 : ความหนาแน่น
4 : ระยะทาง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
สท
ข ้อที 4 :
ิ
ี ง มีความสม
ความเร็วของเสย ั พันธ์กบ
ั อุณหภูมอ
ิ ย่างไร
วน
1 : ไม่มค ั พันธ์กน
ี วามสม ั
2 : เพิมขึนตามอุณหภูม ิ
สง
3 : ลดลงเมืออุณหภูมเิ พิมขึน
4 : คงทีขณะทีอุณหภูมเิ ปลียนแปลง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 1/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข
กร
ข ้อที 5 :
ิ ว
ี งในอากาศ มีความสม
ความเร็วของเสย ั พันธ์กบ
ั ความหนาแน่นอากาศอย่างไร
าวศ
1 : ไม่มค ั พันธ์กน
ี วามสม ั
2 : เพิมขึนตามความหนาแน่นอากาศ
3 : ลดลงเมือความหนาแน่นเพิมขึน
สภ
4 : คงทีขณะทีความหนาแน่นเปลียนแปลง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 6 :
ี งมีความสม
ความเร็วของเสย ั พันธ์กบ
ั ความถีอย่างไร ถ ้าความยาวคลืนคงที
1 : ไม่มค
ี วามสมั พันธ์กน
ั
2 : เพิมขึนตามความถี
3 : ลดลงเมือความถีเพิมขึน
4 : เท่ากันทุกความถี
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 7 :
ระดับเสย ี งทีวัดด ้วยเครืองวัดเสย
ี ง คือข ้อใด
1 : sound intensity level
2 : sound pressure level
3 : sound power level
4 : loundness level
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 8 :
เสย ี งของเครืองบินทีบินอยูใ่ นอากาศ จัดเป็ นแหล่งกําเนิดเสย
ี งแบบใด
1 : ี งแบบจุด (point source)
แหล่งกําเนิดเสย
2 : แหล่งกําเนิดเสยี งแบบเสน้ (line source)
ี งแบบระนาบ (plane source)
ธิ
3 : แหล่งกําเนิดเสย
4 : แหล่งกําเนิดเสย ี งแบบผสม (combined source)
สท
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
วน
สง
ข ้อที 9 :
เสย ี งจากถนนทีมีรถยนต์วงอยู
ิ อ ี งแบบใด
่ ย่างหนาแน่น จัดเป็ นแหล่งกําเนิดเสย
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 2/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
1 : ี งแบบจุด (point source)
แหล่งกําเนิดเสย
ข
2 : แหล่งกําเนิดเสยี งแบบเสน้ (line source)
3 : แหล่งกําเนิดเสย ี งแบบระนาบ (plane source)
กร
4 : แหล่งกําเนิดเสย ี งแบบผสม (combined source)
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
าวศ
ข ้อที 10 :
สภ
ข ้อใดเป็ นชว่ งความถีแบบ octave band ที centre frequency 500 Hz
1 : ความถีชว่ ง 354 Hz ถึง 707 Hz
2 : ความถีชว่ ง 400 Hz ถึง 600 Hz
3 : ความถีชว่ ง 450 Hz ถึง 560 Hz
4 : ความถีชว่ ง 500 Hz ถึง 1000 Hz
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 11 :
ี งต่อไปนีเข ้าด ้วยกัน 51 dB + 62 dB ได ้ผลลัพธ์เท่าใด
จงรวมระดับเสย
1 : 51 dB
2 : 62 dB
3 : 63 dB
4 : 113 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 12 :
ี งดังเป็ นสองเท่า เมือระดับเสย
หูคนทัวไปได ้ยินเสย ี งเปลียนไปเท่าใด
1 : 3 dB
2 : 5 dB
3 : 6 dB
4 : 10 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
ข ้อที 13 :
สท
เมตร
วน
1 : 20 dBA
2 : 68 dBA
3 : 74 dBA
สง
4 : 77 dBA
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 3/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข
กร
ข ้อที 14 :
ิ ว
ี ง (sound pressure level) จากแหล่งกําเนิดเสย
จงหาผลลัพธ์ของระดับเสย ี ง 4 แหล่งรวมกัน คือ 60
าวศ
dB + 60 dB+ 60 dB + 60 dB
1 : 63 dB
2 : 66 dB
สภ
3 : 120 dB
4 : 240 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 15 :
เสย ี งจากเครืองบินทีบินอยูบ
่ นอากาศ วัดระดับเสย ี งทีระยะ 100 เมตร ได ้ 80 dBA ถ ้าเครืองบินลงจอด
ทีพืนโดยทีกําลังของเสย ี งยังเท่าเดิม ค่าของระดับเสย
ี งทีระยะ 100 เมตร จะเป็ นเท่าใด
1 : 74 dBA
2 : 77 dBA
3 : 83 dBA
4 : 86 dBA
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 16 :
ี งในห ้อง ตําแหน่งใดทําให ้ระดับเสย
ในการวางตําแหน่งของแหล่งกําเนิดเสย ี งทีระยะ 1 เมตร จาก
แหล่งกําเนิดมีระดับมากทีสุด
1 : ตําแหน่งกลางอากาศ ห่างจากผนัง
2 : ตําแหน่งบนพืนกลางห ้อง
3 : ิ ผนังห ้อง
ตําแหน่งชด
4 : ตําแหน่งบนพืนมุมห ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 17 :
เมือลูกสูบเคลือนทีไปทางขวา โมเลกุลของอากาศทีติดกับลูกสูบจะมีความดันเพิมขึน และเมือลูกสูบ
ธิ
้
เคลือนทีไปทางด ้านซายจะทํ ึ จะทําให ้โมเลกุลของอากาศถัดมารับอิทธิพลต่อๆ
าให ้ความดันลดลงซงก็
สท
กันไปโดยมีระยะห่างของเวลาไล่ๆกันไป ระยะห่างระหว่างจุดสูงสุดของความดันเรียกว่า
ิ
1 : wave front
2 : plane wave
วน
3 : wave ray
4 : wave length
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 4/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
ข ้อที 18 :
กร
คลืนเสย ี งจะใชเวลา
้ 1 คาบ (period) ทีจะทําให ้คลืนเคลือนทีไป 1 หน่วยของ
1 : wave front
ิ ว
2 : plane wave
าวศ
3 : wave ray
4 : wave length
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 19 :
ถ ้าคลืนเสยี งมีคาบ (period) ของคลืนเสย
ี งทีสอดคล ้องกับรูปแบบการเคลือนทีแบบ Simple
Harmonic Motion เป็ น 0.021 s จงหาความถี (frequency) ในหน่วย Hz
1 : > 50
2 : < 10
3 : น ้อยกว่า 50 แต่มากกว่า 10
4 : ข ้อมูลไม่เพียงพอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 20 :
ข ้อใดไม่ถกู ต ้อง
1 : ี งเดินทางในอากาศได ้ชากว่
เสย ้ าในนํ า
2 : เสยี งเดินทางในนํ าได ้ชากว่
้ าในเหล็ก
3 : เสย ี งเดินทางในอากาศร ้อนได ้ชากว่
้ าในอากาศเย็น
4 : เสย ี งเดินทางในของแข็งได ้เร็วกว่าในก๊าซ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 21 :
ข ้อใดไม่ถกู ต ้อง
1 : โดยทัวไป การทีคลืนเสย ี งเคลือนทีไป 1 period จะทําให ้คลืนเคลือนทีไป 1 wave length
ี งทําให ้เกิดการเปลียนแปลงของความดัน(เมือเทียบกับ ความดันปกติ) โดย
2 : คลืนเสย
เปลียนแปลงไปในรูป sine
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
วน
สง
ข ้อที 22 :
คลืนเสย ี งทีสะท ้อนจากพืนผิวมีขนาดและตําแหน่งทีเท่ากับคลืนเสย
ี งทีตกกระทบ ทําให ้มีการหักล ้าง
กันไปในบางตําแหน่งเรียกว่า
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 5/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
1 : progressive wave
ข
2 : standing wave
3 : spherical wave
กร
4 : attenuation wave
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
าวศ
ข ้อที 23 :
สภ
ี ง ณ ตําแหน่งทีเราได ้รับฟั งเสย
ข ้อใดเป็ นหน่วยของพลังงานเสย ี งจริง
1 : ความดัน ในหน่วย ปาสคาล
2 : กําลัง ในหน่วย วัตต์
3 : ความเข ้ม ในหน่วย วัตต์ ต่อ ตารางเมตร
4 : พลังงาน ในหน่วย จูลล์
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 24 :
ข ้อใดถูกต ้อง
1 : ี งเดินทางในอากาศเย็นได ้เร็วกว่าอากาศร ้อน
เสย
2 : เสยี งเดินทางได ้เร็วขึนในตัวกลางทีมีความหนาแน่นสูง
3 : เสย ี งอาจเดินทางเป็ นแนวโค ้งได ้โดยอิทธิพลของสงแวดล
ื ้อม
4 : ี งความถีสูงได ้ดีกว่าเสย
เราจะได ้ยินเสย ี งทีมีความถีตํากว่าเสมอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 25 :
ี ง A ทําให ้เกิดระดับเสย
ถ ้าแหล่งกําเนิดเสย ี ง 55 dBA และ แหล่งกําเนิดเสย ี ง B ทําให ้เกิดระดับเสย
ี ง
65 dBA ถ ้า ทัง A และ B กําเนิดเสย ี งพร ้อมกัน จะทําให ้เกิดระดับเสย
ี งรวมคือ
1 : 65 dBA
2 : 68 dBA
3 : 78 dBA
4 : 130 dBA
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ธิ
สท
ข ้อที 26 :
ิ
1 : 65 dBA
2 : 68 dBA
สง
3 : 69.5 dBA
4 : 71 dBA
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 6/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
รข
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
วก
ข ้อที 27 :
ถ ้าแหล่งกําเนิดเสยี ง A ทําให ้เกิดระดับเสยี ง 65 dBA และ ถ ้ามีแหล่งกําเนิด A จํานวน 4 ชุด กําเนิด
เสย ี งพร ้อมกัน จะทําให ้เกิดระดับเสยี งรวมคือ
1 า: วศิ
65 dBA
สภ
2 : 68 dBA
3 : 69.5 dBA
4 : 71 dBA
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 28 :
ดัชนีวดั ความดังของเสยี ง (loudness) ในหน่วย Sone นัน ถ ้ามีแหล่งกําเนิด 10 Sone และ 15 Sone
ี งรวมเท่าใด
เมือเกิดขึนพร ้อมกันจะได ้ความดังเสย
1 : น ้อยกว่า 25 Sone
2 : มากกว่า 25 Sone
3 : เท่ากับ 25 Sone
4 : ข ้อมูลไม่เพียงพอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 29 :
เสย ี งจากสอมเส
้ ี งความถี 440 Hz ความเร็วเสย
ย ี งในอากาศมีคา่ ประมาณ 330 เมตร/วินาที
ความยาวคลืนเสย ี งมีคา่ เท่าไร
1 : 0.05 เมตร
2 : 0.75 เมตร
3 : 1.00 เมตร
4 : 1.25 เมตร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 30 :
ธิ
เมตร/วินาที
ิ
1 : 4.61 m
2 : 4.18 m
วน
3 : 3.41 m
4 : 3.18 m
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 7/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
รข
ข ้อที 31 :
ความยาวของคลืนมาตรฐาน A 440 Hz มีคา่ เท่าไรในเหล็ก สมมุตค ี งในเหล็กเท่ากับ 5,000
ิ วามเร็วเสย
วก
เมตร/วินาที
1 : 12.23 m
2 : 11.36 m
3
4 า:
: วศิ
17.67
18.46
m
m
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 32 :
ความยาวของคลืนมาตรฐาน A 440 Hz มีคา่ เท่าไรในแก ้ว สมมุตค ี งในแก ้วเท่ากับ 5,500
ิ วามเร็วเสย
เมตร/วินาที
1 : 11.5 m
2 : 12.5 m
3 : 13.5 m
4 : 14.5 m
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 33 :
ั
มุมหักเหของคลืนระนาบเคลือนทีจากชนอากาศที ี ส ไปยังชนอากาศที
22 องศาเซลเซย ั 20 องศา
เซลเซย ี ส ด ้วยมุมตกกระทบ 85 องศา มีคา่ กีองศา
1 : 83.1
2 : 84.1
3 : 85.1
4 : 86.1
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 34 :
แก๊สทีพ่นออกจากเครืองยนต์เจ็ท มีอณ ี งใน
ุ หภูม ิ 1,700 องศาฟาเรนไฮท์ จงหาอัตราเร็วของเสย
ึ
กระแสแก๊สซงสมมุ ตวิ า่ สว่ นใหญ่เป็ นอากาศ
ธิ
1 : 2,200 fps
2 : 2,100 fps
สท
3 : 2,000 fps
ิ
4 : 1,900 fps
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สง
ข ้อที 35 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 8/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
จงหา characteristic impedance ของอากาศที 20 องศาเซลเซย ี ส ทีมีความหนาแน่น 1.21
รข
ี ง 343 เมตร/วินาที ในหน่วย mks rayls
กิโลกรัม/ลบ.ม. และอัตราความเร็วเสย
1 : 400
วก
2 : 405
3 : 410
4 : 415
วศิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
า
สภ
ข ้อที 36 :
เสย ี งก ้องของปื นได ้ยิน 4.0 วินาที หลังการยิง หน ้าผาอยูห
่ า่ งจากนายพรานกีเมตร ใช ้ c=330 เมตร/
วินาที
1 : 165
2 : 330
3 : 660
4 : 1,320
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 37 :
ี ง Lp ของความดันเสย
จงคํานวณระดับความดันเสย ี งค่า rms 100 Pa ในหน่วย dB
1 : 114
2 : 124
3 : 134
4 : 144
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 38 :
ี งเป็ น dB จะเพิมเท่าไร ถ ้าความดันเสย
ระดับความดันเสย ี งเพิมเป็ นสองเท่า
1 : 8 dB
2 : 6 dB
3 : 4 dB
4 : 2 dB
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สท
ิ
ข ้อที 39 :
วน
2 : มีคา่ น ้อยมาก
3 : มีคาปานกลาง
่
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 9/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
4 : มีคา่ มากทีสุด
รข
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
วก
ข ้อที 40 :
คอมเพรสเซอร์แบบแกน single-stage มีใบพัด 20 ใบ ความถีของ ฮาร์มอนิกทีสองมีคา่ เท่าไร ถ ้า
วศิ
คอมเพรสเซอร์หมุน 6,000 รอบต่อนาที
า
สภ
1 : 1,000 Hz
2 : 2,000 Hz
3 : 3,000 Hz
4 : 4,000 Hz
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 41 :
ใบเลือยมี 64 ฟั น หมุน 6400 rpm impact frequency ของฟั นเลือยมีคา่ เท่าไรสําหรับความถีหลักมูล
1 : 1,814 Hz
2 : 2,428 Hz
3 : 3,627 Hz
4 : 4,256 Hz
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 42 :
SPL ของเสย ี ง pure tone มีคา่ 104 dB ค่าความดันเสย
ี งแบบ rms เท่ากับกี Pa
1 : 5.25
2 : 1.34
3 : 3.16
4 : 2.68
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 43 :
ในการวัดเสย ี งเครืองมือกลทีอยูต
่ อนท ้ายของแนวประกอบเครือง (final assemby line) เสย ี งภูมห
ิ ลัง
ธิ
1 : 96 dB
2 : 97 dB
วน
3 : 98 dB
4 : 99 dB
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 10/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
รข
ข ้อที 44 :
ระดับเสย ี งภูมหิ ลังในบริเวณเครืองบรรจุอาหารเท่ากับ 93 dBA เมือติดตังเครืองบรรจุใหม่ 1 เครือง
วก
ระดับเสย ี งเพิมเป็ น 96 dBA ระดับเสย
ี งของเครืองบรรจุใหม่มค
ี า่ ประมาณเท่าไร
1 : 90 dBA
2 : 91 dBA
3
4 า:
:
92
93 วศิ
dBA
dBA
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 45 :
ี งของเครือง air compressor แบบมีใบพัด กําลัง 100 hp ซงมี
จงหากําลังเสย ึ sound power level
130 dB
1 : 5W
2 : 10 W
3 : 15 W
4 : 20 W
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 46 :
เสย ี งจากสอมเส
้ ี ง 440 Hz วัด SPL ได ้ 54 dB ทีระยะรัศมี 10 เมตร โดยคิดว่าคลืนเสย
ย ี งแผ่โดยรอบ
อย่างสมําเสมอ ระดับกําลังของเสย ี งเป็ นเท่าไร
1 : 94.8 dB
2 : 84.8 dB
3 : 74.8 dB
4 : 64.8 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 47 :
ี งแบบ rms 0.0002 pa
จงคํานวณ SPL ในหน่วย dB จากความดันเสย
1 : 10
ธิ
2 : 20
3 : 30
สท
4 : 40
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
วน
สง
ข ้อที 48 :
ี งแบบ rms 20 pa
จงคํานวณ SPL ในหน่วย dB จากความดันเสย
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 11/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
1 : 110
รข
2 : 120
3 : 130
4 : 140
วก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
า
ข ้อที 49 :
วศิ
สภ
ระดับเสย ี ง 110 dB มีคา่ rms sound pressure ในหน่วย Pa เท่าไร
1 : 3.26
2 : 6.32
3 : 2.63
4 : 110
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 50 :
ระดับเสย ี ง 74 dB มีคา่ rms sound pressure ในหน่วย Pa เท่าไร
1 : 0.10
2 : 0.21
3 : 1.02
4 : 1.20
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 51 :
ระดับเสย ี ง 0 dB มีคา่ rms sound pressure ในหน่วย Pa เท่าไร
1:
2:
3:
4:
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สท
ิ
วน
ข ้อที 52 :
SPL วัดทีระยะ 30 ฟุต จากหม ้อแปลงได ้ 92 dB สําหรับเสย
ี งเด่น 120 Hz ค่าความดันเสย
ี งแบบ rms
ทีจุดวัดเป็ นเท่าใด
สง
1 : 0.6 Pa
2 : 0.8 Pa
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 12/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
3 : 1.0 Pa
รข
4 : 1.2 Pa
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
วก
ข ้อที 53 :
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 54 :
ี ง มีคา่ เท่าไร หากกําลังเป็ น 0.003 W
Sound power level ของแหล่งกําเนิดเสย
1 : 88.8 dB
2 : 90.8 dB
3 : 92.8 dB
4 : 94.8 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 55 :
Sound power level 90 dB ได ้มาจากกีวัตต์
1 : 0.001
2 : 0.002
3 : 0.003
4 : 0.004
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 56 :
ี งพัดลมแกน 4 ใบ หมุนด ้วยอัตราเร็ว 100 r/s
จงหาความถีหลักมูลของเสย
ธิ
1 : 100 Hz
สท
2 : 200Hz
ิ
3 : 300 Hz
4 : 400 Hz
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 13/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
รข
ข ้อที 57 :
ความถีหลักมูลของ gear meshing สําหรับ reducing gear หมุน 3600 rpm มีฟัน 32 ซ ี มีคา่ ตามข ้อ
ใด
วก
1 : 1,920 Hz
2 : 1,930 Hz
3 : 1,940 Hz
4 า:
วศิ
1,950 Hz
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 58 :
เสย ี งจากเครืองยนต์ดเี ซล 6 สูบที 1800 rpm มีความถีของฮาร์มอนิกที 1 กี Hz
1 : 180
2 : 360
3 : 540
4 : 720
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 59 :
Pinion gear มี 36 ฟั น gear meshing frequency มีคา่ เท่าไร ถ ้าเกียร์ถก
ู ขับด ้วยอัตรา 1,740 rpm
1 : 1,000 Hz
2 : 1,044 Hz
3 : 1,088 Hz
4 : 1,132Hz
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 60 :
Pinion gear มี 36 ฟั น gear meshing frequency มีคา่ เท่าไร ถ ้าเกียร์ถก
ู ขับด ้วยอัตรา 3,450 rpm
1 : 2,000 Hz
2 : 2,070 Hz
3 : 2,140 Hz
4 : 2,210 Hz
ธิ
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ิ
วน
ข ้อที 61 :
ซฟัี นเฟื องซงขั
ึ บ timing belt มี 12 ฟั น และวิงด ้วยอัตรา 1740 rpm ความถีหลักมูลทีซเฟื
ี องกระทบ
สง
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 14/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
2 : 324 Hz
รข
3 : 336 Hz
4 : 348 Hz
วก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 62 :
า วศิ
1/3 octave bands ทีมีความถีศูนย์กลางอยูท
่ ี 160 Hz มีขด
ี จํากัดความถีสูงและตําเป็ นเท่าไร
สภ
1 : 150 และ 172 Hz
2 : 130 และ 190 Hz
3 : 141 และ 178 Hz
4 : 160 และ 190 Hz
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 63 :
สําหรับ octave bands มีความถีศูนย์กลางอยูท
่ ี 500 Hz มีขด
ี จํากัดความถีสูงและตําเท่าไร
1 : 354 และ 709 Hz
2 : 432 และ 675Hz
3 : 450 และ 550 Hz
4 : 378 และ 627 Hz
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 64 :
Directivity index สําหรับแนวตัดกันของสองระนาบ มีคา่ 6 dB directivity factor มีคา่ เท่าไร
1 : 4
2 : 6
3 : 8
4 : 10
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 65 :
ธิ
1 : 55 dB
2 : 60 dB
วน
3 : 65 dB
4 : 70 dB
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 15/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
รข
ข ้อที 66 :
ี ง 140 dB สมมติวา่ ไซเรนเป็ น point source มี directivity factor Q = 1 SPL
ไซเรนมีระดับกําลังเสย
วก
ทีระยะ 3,218 เมตร (2 ไมล์) มีคา่ เท่าไร
1 : 39 dB
2 : 49 dB
3
4 า:
:
59
69 วศิ
dB
dB
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 67 :
ั
คลืนการสนในพื ่ body wave ข ้อใดไม่ถก
นดิน (ground vibration) เชน ู ต ้อง
ั
1 : การระเบิดใต ้ดินทําให ้เกิด body wave ทีระยะสน
2 : คลืน body แผ่ออกไปเป็ นรูปครึงวงกลม
3 : เมือ body wave เคลือนมาตัดกับแนวแบ่งเขต เชน ่ อีกชนหนึ
ั งของพืนดินจะเกิดคลืนเฉือน และ
คลืนผิวดิน
4 : คลืนผิวดิน (Rayleigh wave) จะเดินไปได ้ไกล
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 68 :
มอเตอร์ไฟฟ้ ามีระดับกําลังเสยี ง 92 dB แผ่เสย
ี งออกสูบ
่ ริเวณโดยรอบมี directivity index ที 90 องศา
้ านกลางจุด (centerline) ค่า+5 dB และที 180 องศา ค่า –2 dB SPL ทีระยะ 5 เมตรตามแนว
กับเสนผ่
รัศมีจะเป็ นเท่าไร สําหรับ 180 องศากับ centerline
1 : 65 dB
2 : 60 dB
3 : 55 dB
4 : 50 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 69 :
ี ง 92 dB แผ่เสย
มอเตอร์ไฟฟ้ ามีระดับกําลังเสย ี งออกสูบ
่ ริเวณโดยรอบมี directivity index ที 90 องศา
้ านกลางจุด (centerline) ค่า+5 dB และที 180 องศา ค่า –2 dB SPL ทีระยะ 5 เมตรตามแนว
กับเสนผ่
ธิ
1 : 80 dB
ิ
2 : 76 dB
3 : 72 dB
วน
4 : 68 dB
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 16/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
รข
ข ้อที 70 :
sound power level โดยรวมของเครืองปรับอากาศเครืองหนึงคือ 111 dB SPL ทีระยะ 2 เมตร จะเป็ น
เท่าไรถ ้าเครืองปรับอากาศติดตังในกําแพง
วก
1 : 86 dB
2 : 89 dB
3 : 92 dB
4
า: 97
วศิ
dB
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 71 :
sound power level โดยรวมของเครืองปรับอากาศเครืองหนึงคือ 111 dB SPL ทีระยะ 2 เมตร จะเป็ น
เท่าไรถ ้าเครืองปรับอากาศติดตังในกําแพงใกล ้พืน
1 : 96 dB
2 : 99 dB
3 : 102 dB
4 : 105 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 72 :
แหล่งกําเนิดเสยี งมีระดับกําลัง 100 dB สง่ เสย
ี งสู่ free space SPL ที 10 เมตร มุม 30 องศา มีคา่ 75
dB directivity index มีคา่ เท่าไรสําหรับ 30 องศา
1 : 2 dB
2 : 4 dB
3 : 6 dB
4 : 8 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 73 :
มวล 2 กิโลกรัม วางอยูบ ึ stiffness constant 100 N/m ถ ้า Viscous damping
่ นสปริง ซงมี
coeffcient เป็ น 5 N-s/m ค่า Critical damping ratio เป็ นเท่าไร
1 : 0.010
ธิ
2 : 0.015
3 : 0.020
สท
4 : 0.025
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
วน
สง
ข ้อที 74 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 17/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
มวล 2 กิโลกรัม วางอยูบ ึ stiffness constant 100 N/m ถ ้า Viscous damping
่ นสปริง ซงมี
รข
coeffcient เป็ น 5 N-s/m ค่า Damped natural frequency ของระบบเป็ นเท่าไร
1 : 1.29 Hz
วก
2 : 1.39 Hz
3 : 1.49 Hz
4 : 1.59 Hz
วศิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
า
สภ
ข ้อที 75 :
มวล 2 กิโลกรัม วางอยูบ ึ stiffness constant 100 N/m ความถีธรรมชาติแบบ
่ นสปริง ซงมี
undamped ของระบบเป็ นเท่าไร
1 : 2.13 Hz
2 : 3.12 Hz
3 : 1.12 Hz
4 : 2.11 Hz
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 76 :
ี งทีแหล่งกําเนิดเสย
จากการวัดระดับเสย ี งแห่งหนึงพบว่า เครืองวัดให ้ข ้อมูลดังนี 80 dBA 110 dBB
และ 111 dBC ถือว่าแหล่งกําเนิดเสยี งนีให ้เสย
ี งอยูใ่ นชว่ งใด
1 : ชว่ งความถีตําเป็ นสว่ นใหญ่
2 : ชว่ งความถีกลางเป็ นสว่ นใหญ่
3 : ชว่ งความถีสูงเป็ นสว่ นใหญ่
4 : ทุกชว่ งความถีใกล ้เคียงกัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 77 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่ถก
ู ต ้อง
1 : อากาศสามารถดูดซบ ั เสย
ี งความถีตําได ้ดีกว่าเสยี งความถีสูง
2 : ระดับความดันเสย ี งขณะทีเครืองบินขึนมากกว่าขณะทีเครืองบินลง
3 : ทีความเร็วตํา เสย ี งจากท่อไอเสย ี ของรถยนต์คอ ื เสยี งรบกวนหลักจากรถยนต์
4 : ทีความเร็วสูง เสยี งจากยางรถยนต์คอ ี งรบกวนหลักจากรถยนต์
ื เสย
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สท
ิ
วน
ข ้อที 78 :
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 18/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
ความดัน rms ของคลืนความดันแบบไซน์คอ
ื ความดันสูงสุดคูณด ้วยตัวเลขในข ้อใด
รข
วก
วศิ
1 :
2 า:
3 :
สภ
4 :
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 79 :
ความดันเสย ั ได ้ 4.38x104 Pa SPL สูงสุดเป็ นเท่าใด
ี ง rms สูงสุดใกล ้ปากกระบอกปื นใหญ่วด
1 : 157 dB
2 : 167 dB
3 : 177 dB
4 : 187 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 80 :
ระดับเสย ี งแถบความถีออคเทฟต่อไปนี วัดในสํานักงานอยูช ิ กับโรงเครืองกล จงคํานวณความดัง
่ ด
ธิ
สท
ิ
วน
1 : 40 sones
สง
2 : 44 sones
3 : 48 sones
4 : 52 sones
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 19/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
รข
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
วก
ข ้อที 81 :
ระดับเสย ี งแถบความถีออคเทฟต่อไปนี วัดในสํานักงานอยูช ิ กับโรงเครืองกล จงคํานวณระดับความดัง
่ ด
ในสํานักงาน
า วศิ
สภ
1 : 90 phons
2 : 92 phons
3 : 94 phons
4 : 96 phons
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 82 :
ถ ้าระดับเสยี งในพืนทีเพิมขึน 10 dB ความดังจะมีคา่ เป็ นกีเท่าของความดังเดิม
1 : 2 เท่า
2 : 3 เท่า
3 : 4 เท่า
4 : 5 เท่า
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สท
ิ
วน
ข ้อที 83 :
ผลบวกของดัชนีความดังสําหรับการวิเคราะห์แบบ 1/3 octave มีคา่ 105 และมีคา่ ดัชนีความดังสูงสุด
(maximum loudness index) Im= 35 ค่าความดังจะเป็ นเท่าไร (ใช ้ K=0.15)
สง
1 : 35 sones
2 : 40 sones
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 20/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
3 : 45 sones
รข
4 : 50 sones
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
วก
ข ้อที 84 :
า วศิ
ผลบวกของดัชนีความดังสําหรับการวิเคราะห์แบบ 1/3 octave มีคา่ 105 และมีคา่ ดัชนีความดังสูงสุด
(maximum loudness index) Im=35 ระดับความดังจะเป็ นเท่าไร (ใช ้ K=0.15)
สภ
1 : 90 phons
2 : 95 phons
3 : 100 phons
4 : 105 phons
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 85 :
ี ง 12 ครัง ตามระยะรัศมี 10 เมตร จากเครืองยนต์ดเี ซลเครืองหนึงได ้ SPL เฉลีย
จากการวัดระดับเสย
ี งได ้ 103.5 dBA directivity
98.3 dBA ที 10 เมตร แต่ทํามุม 90 องศากับเครืองยนต์ วัดระดับเสย
index ที 90 องศามีคา่ เท่าไร
1 : 4.6 dB
2 : 4.8 dB
3 : 5.0 dB
4 : 5.2 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 86 :
ี งแบบจุด (point source) ความเข ้มของเสย
ถ ้ากําหนดให ้ r เป็ นระยะทางจากแหล่งกําเนิดเสย ี ง ณ จุด
นันจะแปรตามข ้อใด
1 : r
2 : 1/r
3 : r2
4 : 1/r2
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 87 :
ถ ้าแหล่งกําเนิดเสย ี งเป็ นแบบเสน้ (line sources) ติดต่อกันทีระยะ r จากแนวแกนของแหล่งกําเนิด
วน
2 : 1/r
3 : r2
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 21/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
4 : 1/r2
รข
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
วก
ข ้อที 88 :
d ผลต่างของทางเดินเสยี ง
วศิ
Fresnel number มีสต
ู รอย่างไร คือ
1
า: d/2l
สภ
2 : l/2d
3 : 2d/l
4 : 2l/d
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 89 :
ั ญาณเป็ น
ค่า rms voltage จาก accelerometer ยึดติดกับ gear box เท่ากับ 25 mv (rms) ถ ้าสญ
แบบไซน์ และความไวของ accelerometer เป็ น 50 mV/g ค่า rms ของความเร่งจะเป็ นเท่าไร
1 : 4.9 m/s2
2 : 5.9 m/s2
3 : 6.9 m/s2
4 : 7.9 m/s2
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 90 :
Accelerometer ซงมีึ ความไว 72.9 mV/g ยึดติดกับแท่นของเครืองยนต์เจ็ทขณะวิงขึน output
ั
voltage วัดได ้ 500 mV ความเร่งของความสนสะเทื อนบนเครืองเจ็ทจะเป็ นเท่าไร
1 : 57.4 m/s2
2 : 67.3 m/s2
3 : 77.2 m/s2
4 : 87.1 m/s2
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
สท
ข ้อที 91 :
ิ
อัมพลิจด ั
ู ของความเร่งของความสนสะเทื ั ได ้ 100 m/s2 ที 30 Hz ค่า
อนแบบไซน์ของพัดลมใหญ่วด
Peak ของความเร็วจะเป็ นเท่าไร
วน
1 : 0.49 m/s
2 : 0.53 m/s
สง
3 : 0.57 m/s
4 : 0.61 m/s
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 22/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
กร
ิ ว
ข ้อที 92 :
าวศ
อัมพลิจด ั
ู ของความเร่งของความสนสะเทื ั ได ้ 100 m/s2 ที 30 Hz การก
อนแบบไซน์ของพัดลมใหญ่วด
ระจัดเป็ นเท่าไร
1 : 0.0128 m
สภ
2 : 0.0028 m
3 : 0.0078 m
4 : 0.0098 m
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 93 :
ี ง (I) เป็ นสด
ความเข ้มของเสย ั สว่ นกับความดันเสย
ี งอย่างไร
1 : I P
2 : I P2
3 : I P3
4 : I P4
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 94 :
ความเข ้มเสย ี ง (P) ความหนาแน่นอากาศ (r) และความเร็วเสย
ี ง (I) ในเทอมของความดันเสย ี งใน
อากาศ (C) สม ั พันธ์กน
ั อย่างไร
1 : I = P/rC
2 : I = P2/(r2C2)
3 : I = P2/(rC)
4 : I = P/(rC2)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
ข ้อที 95 :
สท
1 : 100 dB
2 : 120 dB
วน
3 : 140 dB
4 : 160 dB
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 23/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
ข ้อที 96 :
กร
กําลังของเสยี งสง่ ออกจากแหล่งกระจายโดยรอบสมําเสมอ ไม่มส ิ ดขวาง จะเป็ นเท่าไร ถ ้าความดัน
ี งกี
เสยงทีระยะ 5 เมตร เท่ากับ 1 Pa (สมมติให ้ rC = 400 rayls)
ี
ิ ว
1 : 0.678 วัตต์
าวศ
2 : 0.786 วัตต์
3 : 0.867 วัตต์
4 : 0.687 วัตต์
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 97 :
้
รถไฟวิงผ่านทีดินแห่งหนึง วัด LAE ได ้ 95.8 dBA ใชเวลาวิ
งผ่านไป 12 วินาที Leq เป็ นเท่าไร
1 : 80 dBA
2 : 85 dBA
3 : 90 dBA
4 : 95 dBA
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 98 :
ระดับความเร่งแบบ rms ของการสนั ทีด ้ามจับของเครืองมือเครืองหนึง วัดได ้ 15 dB สูงกว่าของแหล่ง
ั
กําเนิดการสนสะเทื ึ า rms เท่ากับ 6.94 m/s2 ความเร่งทีด ้ามจับของเครืองเป็ นเท่าไร
อนทีฐาน ซงค่
1 : 30 m/s2
2 : 33 m/s2
3 : 36 m/s2
4 : 39 m/s2
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 99 :
อัมพลิจด ั ดได ้ 250
ู การขจัดของการสนวั mm เปลียนเป็ น dB จะได ้เท่าไร เมือเทียบกับ 10-11 m
1 : 136 dB
ธิ
2 : 140 dB
สท
3 : 144 dB
ิ
4 : 148 dB
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สง
ข ้อที 100 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 24/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
อัมพลิจด ั องจักรวัดได ้ 96 dB เทียบกับ 10-6 mm/s อัมพลิจด
ู ความเร็วของการสนของเครื ู ความเร็ว
ข
สมั บูรณ์เป็ นเท่าไร
กร
1 : 0.063 mm/s
2 : 0.060 mm/s
ิ ว
3 : 0.057 mm/s
4 : 0.054 mm/s
าวศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สภ
ข ้อที 101 :
ี งทีแผ่ออกโดยรอบอย่างสมําเสมอ กําลัง 1 วัตต์ ระดับเสย
ทีระยะ 10 เมตร จากแหล่งเสย ี งเป็ นเท่าไร
1 : 80 dB
2 : 83 dB
3 : 86 dB
4 : 89 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 102 :
ี งทีนักบิน
อัตราเร็วการหมุนของเครืองบินสองเครืองยนต์ตา่ งกัน 120 rpm จงหาความถีบีท ของเสย
ได ้ยิน
1 : 1 Hz
2 : 2 Hz
3 : 3 Hz
4 : 4 Hz
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 103 :
เสย ี งจากเครืองยนต์ดเี ซล ซงใช
ึ หมุ้ นเครืองกําเนิดไฟฟ้ า มีลก
ั ษณะเป็ นคาบ มีเสยี งหลักมูลฐาน 240
Hz และมีฮาร์โมนิกทีสูงกว่าหลายค่า ชุดเครืองยนต์-เครืองกําเนิดไฟฟ้ าตังอยูน ่ อกอาคาร มีหลังคา
ั
เหล็กกันฝน การสนสะเทื อนเสยี งจากหลังคาทําให ้เกิดคลืนนิงมี node ห่างกันเท่าไรของความถีหลัก
้ ี
มูลฐาน ใชอัตราเร็วเสยง 1110 ฟุต/วินาที
1 : 2.29 ฟุต
2 : 3.29 ฟุต
ธิ
3 : 4.29 ฟุต
สท
4 : 5.29 ฟุต
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
วน
สง
ข ้อที 104 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 25/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
ี งจากเครืองยนต์ดเี ซล ซงใช
เสย ึ หมุ้ นเครืองกําเนิดไฟฟ้ า มีลก
ั ษณะเป็ นคาบ มีเสยี งหลักมูลฐาน 240
ข
Hz และมีฮาร์โมนิกทีสูงกว่าหลายค่า ชุดเครืองยนต์-เครืองกําเนิดไฟฟ้ าตังอยูน ่ อกอาคาร มีหลังคา
ั
เหล็กกันฝน การสนสะเทื อนเสย ี งจากหลังคาทําให ้เกิดคลืนนิงมี node ห่างกันเท่าไรของฮาร์มอนิกที
กร
3 ใชอั้ ตราเร็วเสย
ี ง 1110 ฟุต/วินาที
1 : 1.76 ฟุต
ิ ว
2 : 1.43 ฟุต
าวศ
3 : 1.13 ฟุต
4 : 0.76 ฟุต
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 105 :
คลืนระนาบแบบไซน์แผ่นอกอาคารด ้วยแอมพลิจด ี งมีคา่ กี W/m2 ถ ้า
ู 10 Pa ความเข ้มเสย rC = 415
mks rayls
1 : 0.12
2 : 0.15
3 : 0.18
4 : 0.21
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 106 :
ี งแบบ rms 104 Pa
จงคํานวณ SPL ในหน่วย dB จากความดันเสย
1 : 164
2 : 174
3 : 184
4 : 194
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 107 :
เพดานของห ้องๆหนึง ต ้องการติดพัดลมสําหรับระบบกรองฝุ่ น จงคํานวณระดับเสยี งรวม (worst case)
ี ง 75 dB ทีระดับหูซงอยู
ของ blower 24 เครือง ถ ้าแต่ละตัวทําเสย ึ ใ่ ต ้ลงมา
1 : 111 dB
2 : 99.9 dB
ธิ
3 : 88.8 dB
สท
4 : 77.7 dB
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
วน
สง
ข ้อที 108 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 26/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
ปั ม 3 ชนิดในห ้องสถานีกําลัง ถ ้าแยกกันทํางาน วัดระดับเสย ี งทีตําแหน่งผู ้ควบคุมได ้ 91 , 88 และ 96
ข
dB ตามลําดับ ถ ้าปั มทังสามเดินพร ้อมกัน ระดับเสยี งรวมเป็ นเท่าไร
กร
1 : 96.4 dB
2 : 97.7 dB
3 : 99.5 dB
ิ ว
4 : 100.2 dB
าวศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สภ
ข ้อที 109 :
ทีความถีศูนย์กลาง 1000 Hz ในแถบความถีแบบ 1/2 octave ขีดจํากัดความถีสูงและตําเป็ นเท่าใด
1 : 800 และ 1,100 Hz
2 : 841 และ 1,149 Hz
3 : 750และ 1,250 Hz
4 : 625 และ 1,250 Hz
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 110 :
ี งเป็ นแบบทรงกลม
SPL วัดทีระยะ 100 เมตร จากจรวดของทหารมีคา่ 154 dB สมมุตวิ า่ การแผ่เสย
สมําเสมอ จงหาความเข ้มเสยี งที 100 เมตร
1 : 2,400 W/m2
2 : 2,421 W/m2
3 : 2,512 W/m2
4 : 2,600 W/m2
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 111 :
สําหรับ 1/2 octave bands ความถีศูนย์กลางจะเป็ นข ้อใด
1 : Fc = 21/10FL
2 : Fc = 21/8FL
3 : Fc = 21/2FL
ธิ
4 : Fc = 21/4FL
สท
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
วน
สง
ข ้อที 112 :
ี งวัดทีระยะ 100 m มีคา่ 154 dB กําลังเสย
จากการยิงจรวด ระดับความดันเสย ี ง (sound power) ของ
จรวดมีคา่ ตามข ้อใด
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 27/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
1 : 3 x 105 W
2 : 3 x 106 W
กร
3 : 3 x 107 W
4 : 3 x 108 W
ิ ว
าวศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สภ
ข ้อที 113 :
เสย ี งจากสอมเส
้ ี ง 440 Hz วัด SPL ได ้ 54 dB ทีระยะรัศมี 10 เมตร โดยคิดว่าคลืนเสย
ย ี งแผ่โดยรอบ
อย่างสมําเสมอ SPL ทีระยะ 20 เมตรเป็ นเท่าไร
1 : 50 dB
2 : 48 dB
3 : 46 dB
4 : 44 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 114 :
จงคํานวณระดับเสยี งทังหมด Lp ของระดับ octave bands
63 Hz, 72 dB ; 125 Hz, 78 dB ; 250 Hz, 80 dB ; 500 Hz, 82 dB ;
1000 Hz, 80 dB ; 2000 Hz, 83 dB ; 4000 Hz, 84 dB และ 8000 Hz, 74 dB
1 : 86 dB
2 : 88 dB
3 : 90 dB
4 : 92 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 115 :
sound power level 45 dB ได ้มาจากกีวัตต์
1 : 1.16 x 10-8
2 : 2.16 x 10-8
3 : 3.16 x 10-8
4 : 4.16 x 10-8
ธิ
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ิ
วน
ข ้อที 116 :
สง
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 28/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
1 : 96 dB
ข
2 : 98 dB
3 : 100 dB
กร
4 : 102 dB
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
าวศ
ข ้อที 117 :
สภ
ระดับของแบบความถีออคเทฟ วัดที 500 ฟุต จากโรงไฟฟ้ าเป็ นดังนี : 63 Hz 74 dB; 125 Hz 63 dB;
250 Hz 50 dB; 500 Hz 48 dB; 1000 Hz 46 dB; 2000 Hz 40 dB; 4000 Hz 35 dB; 8000 Hz 30
dB; ระดับเสย ี งรวมถ่วงนํ าหนักแบบ A มีคา่ เท่าใด
ตารางค่าแก ้แบบ A weightings
½ Octave ค่า dB
Band Centre Frequency Hz A
31.5 -39.4
63 -26.2
125 -16.1
250 -8.6
500 -3.2
1,000 0.0
2,000 1.2
4,000 1.0
8,000 -1.1
16,000 -6.6
1 : 50 dBA
2 : 55 dBA
3 : 60 dBA
4 : 65 dBA
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 118 :
ปั มไฮดรอลิก 4 สูบ สําหรับเครืองหล่อแบบพลาสติกทํางานที 3,450 rpm ความถีของการอัดแบบ
มูลฐาน เป็ นเท่าไร
1 : 115 Hz
2 : 230 Hz
ธิ
3 : 345 Hz
สท
4 : 460 Hz
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
วน
สง
ข ้อที 119 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 29/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
ี งของเครืองอัดอากาศขนาดเล็กเครืองหนึงคือ 103 dBA ถ ้าเครืองอัดอากาศติดตังอยูท
ระดับกําลังเสย ่ ี
ข
มุมของห ้องเครืองกล ระดับเสยี งที 7 เมตร จะเป็ นเท่าไร
กร
1 : 84 dBA
2 : 88 dBA
3 : 92 dBA
ิ ว
4 : 96 dBA
าวศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สภ
ข ้อที 120 :
ี งแบบเสน้ ระดับเสย
ทีระยะ 200 เมตร จากทางหลวง วัดได ้ 82 dBA โดยคิดว่าเป็ นการแผ่เสย ี งจะเป็ น
เท่าไรที 400 เมตร
1 : 76 dBA
2 : 79 dBA
3 : 82 dBA
4 : 85 dBA
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 121 :
ี ง (SPL) มีคํานิยามตามข ้อใด
ระดับความดันเสย
เมือ P1 = ความดันเสยี งใดเสย
ี งหนึง
ี งอ ้างอิง
P0 = ความดันเสย
1 : SPL = log10(P1/P0)
2 : SPL = 10·log10(P1/P0)
3 : SPL = 20·log10(P1/P0)
4 : SPL = log10(P1/P0)2
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 122 :
ี งเป็ นเท่าไร ถ ้าค่าความดันแบบ rms เป็ น 200 Pa (ให ้จุด po=415 kg m s2)
ความเข ้มของเสย
1 : 92 W/m2
ธิ
2 : 94 W/m2
สท
3 : 96 W/m2
ิ
4 : 98 W/m2
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 30/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
ข ้อที 123 :
เสย ี งมีความเข ้ม 0.01 W/m2 จะมีระดับความเข ้มเสย
ี งเท่าใด
กร
1 : 70 dB
ิ ว
2 : 80 dB
าวศ
3 : 90 dB
4 : 100 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สภ
ข ้อที 124 :
Crest factor มีคา่ เท่ากับค่าในข ้อใด
1 : ค่า Peak / ค่า RMS
2 : ค่า Peak/
3 : ค่า RMS/
4 : ·ค่า RMS
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 125 :
ความเร็วเสย ี งในอากาศทีสภาวะมาตรฐานเป็ นเท่าไร
1 : 1,200 เมตรต่อวินาที
2 : 400 เมตรต่อวินาที
3 : 345 เมตรต่อวินาที
4 : 200 เมตรต่อวินาที
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 126 :
ี งในวัสดุของแข็งแตกต่างกับความเร็วของเสย
ความเร็วของเสย ี งในอากาศอย่างไร
1 : ้ าในอากาศ
ชากว่
2 : เท่ากับในอากาศ
3 : เร็วกว่าในอากาศ
4 : เสย ี งไม่สามารถทะลุผา่ นวัสดุของแข็ง
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สท
ิ
วน
ข ้อที 127 :
ี งทีลดลงตามระยะห่างจากแหล่งกําเนิดแบบเสน้ (line source) เท่ากับ
ระดับความดันเสย
สง
1 : 10 dB เมือระยะห่างเพิมเป็ นสองเท่า
2 : 6 dB เมือระยะห่างเพิมเป็ นสองเท่า
3 : 3 dB เมือระยะห่างเพิมเป็ นสองเท่า
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 31/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
4 : 0 dB เมือระยะห่างเพิมเป็ นสองเท่า
ข
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
กร
ิ ว
าวศ
ข ้อที 128 :
ี งอ ้างอิง (reference sound power level) เท่ากับ
ระดับกําลังเสย
1 : 1 Pa
สภ
2 : 1 Watts
3 : 10-12 Watts
4 : 94 Watts
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 129 :
พัดลมชนิด 12 ใบพัด หมุนด ้วยความเร็วรอบ 900 รอบต่อนาที ความถีการหมุนของใบพัดเท่ากับเท่าไร
1 : 900 Hz
2 : 360 Hz
3 : 180 Hz
4 : 90 Hz
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 130 :
ี งชนิด Mono-Pole คือ
แหล่งกําเนิดเสย
1 : ี งทีมีจด
แหล่งกําเนิดเสย ุ กําเนิดเสย ี งเพียงจุดเดียว
2 : ี
แหล่งกําเนิดเสยงทีมีจด ุ กําเนิดเสย ี งหลายจุด
3 : แหล่งกําเนิดเสย ี งทีมีจด ุ กําเนิดเสย ี งน ้อยกว่า 10 จุด
4 : แหล่งกําเนิดเสย ี งทีมีจด ุ กําเนิดเสย ี งทีอยูบ
่ นเสา
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 131 :
ี งชนิด Multi –Pole คือ
แหล่งกําเนิดเสย
ธิ
1 : ี งทีมีจด
แหล่งกําเนิดเสย ุ กําเนิดเสย ี งเพียงจุดเดียว
2 : แหล่งกําเนิดเสยี งทีมีจด ุ กําเนิดเสย ี งอยูบ ่ นเสา
สท
4 : ี
แหล่งกําเนิดเสยงทีมีจด ุ กําเนิดเสย ี งอยูร่ อบเสา
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
ข ้อที 132 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 32/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
Noise Propagation คือ
ข
1 : การเพิมความดังของเสย ี งจากความถีเพิมขึน
กร
2 : การลดความดังของเสย ี งเมือเวลาผ่านไป
3 : ี งทีเดินทางในอากาศ
ความเข ้มของเสย
4 : การเดินทางของเสย ี งทีกระจายตัวออกจากจุดกําเนิดเสย
ี ง
ิ ว
าวศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สภ
ข ้อที 133 :
Leq คืออะไร
1 : ึ นค่าเฉลียทางสถิตข
Equality Sound Level ซงเป็ ิ องเสยี งในชว่ งเวลาทีทําการวัด
2 : ึ นค่าเฉลียทางสถิตข
Equivalent Sound Level ซงเป็ ิ องเสยี งในชว่ งเวลาทีทําการวัด
3 : ึ นค่าเฉลียทางพลังงานของเสย
Equality Sound Level ซงเป็ ี งในชว่ งเวลาทีทําการวัด
4 : ึ นค่าเฉลียทางพลังงานของเสย
Equivalent Sound Level ซงเป็ ี งในชว่ งเวลาทีทําการวัด
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 134 :
Lmax คืออะไร
1 : ี งสูงสุดทีวัดได ้ในชว่ งเวลาของการวัด
ค่าระดับเสย
2 : ค่าระดับเสยี งสูงสุดทีวัดได ้ใน Real Time Measurement
3 : ค่าระดับเสย ี งสูงสุดในชว่ ง 5% แรกของการวัด
4 : ค่าระดับเสย ี งสูงสุดในชว่ ง 10% แรกของการวัด
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 135 :
L10 คืออะไร และมีความหมายถึงอะไร
ี งที 10
1 : ระดับเสย % ของชว่ งเวลาของการวัดมีระดับเสย
ี งทีตํากว่าระดับนี หมายถึง Peak Noise
Level
2 : ระดับเสยี งที 10 % ของชว่ งเวลาของการวัดมีระดับเสย
ี งทีตํากว่าระดับนี หมายถึง Background
Noise Level
3 : ระดับเสย ี งที 10 % ของชว่ งเวลาของการวัดมีระดับเสย
ี งทีเกินระดับนี หมายถึง Background
Noise Level
4 : ระดับเสย ี งที 10 % ของชว่ งเวลาของการวัดมีระดับเสย
ี งทีเกินระดับนี หมายถึง Peak Noise
ธิ
Level
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ิ
วน
ข ้อที 136 :
สง
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 33/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
ี งที 90 % ของชว่ งเวลาของการวัดมีระดับเสย
1 : ระดับเสย ี งตํากว่าระดับนี หมายถึง Background
ข
Noise Level
2 : ระดับเสยี งที 90 % ของชว่ งเวลาของการวัดทีระดับเสย ี งทีเกินระดับนี หมายถึง Background
กร
Noise Level
3 : ระดับเสย ี งทีเกินกว่า 90 % ของชว่ งเวลาของการวัด หมายถึง Peak Noise Level
ิ ว
4 : ระดับเสย ี งทีน ้อยกว่า 90 % ของชว่ งเวลาของการวัด หมายถึง Peak Noise Level
าวศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สภ
ข ้อที 137 :
Leq มีความแตกต่างจาก L50 อย่างไร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 138 :
เสย ี งประเภท Point Source มีลก
ั ษณะอย่างไร
1 : ี งทีเกิดจากต ้นกําเนิดเสย
เป็ นเสย ี งประเภทจุด เชน ่ รถยนต์คน
ั เดียว, คอมเพรซเซอร์
2 : เป็ นเสยี งทีเกิดจากต ้นกําเนิดเสย ี งประเภทกลุม ่
3 : เป็ นเสย ี งทีเกิดจากต ้นกําเนิดเสย ี งชนิดไม่เคลือนที
4 : เป็ นเสย ี งทีเกิดจากต ้นกําเนิดเสย ี งชนิดเคลือนที
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 139 :
เสย ี งประเภท Line Source มีลก
ั ษณะอย่างไร
1 : ี งทีมีต ้นกําเนิดเสย
เสย ี งทีเป็ นเสนที ้ เคลือนทีเป็ นเสน้ เชน่ เสยี งจากเสนถนนทางหลวง
้
2 : เสยี งทีมีต ้นกําเนิดเสย ี งทีเป็ นเสนที ้ เคลือนทีเป็ นเสน้ เชน่ เสยี งจากขบวนรถไฟทีจอดตรงสถานี
3 : ี ี
เสยงทีมีต ้นกําเนิดเสยงทีเป็ นเสน เชน วงดุรย ้ ่ ิ างค์
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ิ
วน
ข ้อที 140 :
สง
ี งคืออะไร
Near Field ของเสย
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 34/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
1 : บริเวณทีอยูใ่ กล ้กับแหล่งกําเนิดเสยี งทีซงึ Inverse Square Law สามารถใช ้ Apply ได ้ โดยอยู่
รข
ในระยะ 4-5 ความยาวคลืนเสย ี งจากแหล่งกําเนิดเสย ี ง
ี ึ
2 : บริเวณทีอยูใ่ กล ้กับแหล่งกําเนิดเสยงทีซง Inverse Square Law ไม่สามารถใช ้ Apply ได ้ โดย
อยูใ่ นระยะ 4-5 ความยาวคลืนเสย ี งจากแหล่งกําเนิดเสย ี ง
วก
3 : บริเวณทีอยูใ่ กล ้กับแหล่งกําเนิดเสย ี งทีซงึ Inverse Square Law ไม่สามารถใช ้ Apply ได ้ โดย
อยูใ่ นระยะ 2-3 ความยาวคลืนเสย ี งจากแหล่งกําเนิดเสย ี ง
4 : บริเวณทีอยูใ่ กล ้กับแหล่งกําเนิดเสย ี งทีซงึ Inverse Square Law สามารถใช ้ Apply ได ้ โดยอยู่
วศิ
ในระยะ 2-3 ความยาวคลืนเสย
า ี งจากแหล่งกําเนิดเสย ี ง
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 141 :
ี ง ประกอบด ้วยกีสว่ น อะไรบ ้าง
Far Field ของเสย
1 : ประกอบด ้วย 2 สว่ นคือ Free Part และ Reverberant Part
2 : ประกอบด ้วย 3 สว่ นคือ Free Part , Reverberant Part และ Echo Part
3 : ประกอบด ้วย 3 สว่ นคือ Free Part, Fix Part และ Echo Part
4 : ประกอบด ้วย 2 สว่ นคือ Reverberant Part และ Echo Part
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 142 :
ี งคืออะไร
Free Part ของเสย
1 : บริเวณที Sound Pressure Level เป็ น 2 เท่าของ Inverse Square Law
2 : บริเวณที Sound Pressure Level เป็ นไปตาม Inverse Square Law
3 : บริเวณที Sound Pressure Level ไม่เป็ นไปตาม Inverse Square Law
4 : บริเวณที Sound Pressure Level ตรงข ้ามกับ Inverse Square Law
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 143 :
ี งคืออะไร
Reverberant Part ของเสย
1 : ึ
บริเวณทีเป็ นพืนทีปิ ดทีซงคลื นเสย ี งทีสะท ้อนกลับมานันซอนทั
้ ี งทีวิงไป
บกับคลืนเสย
2 : ึ
บริเวณทีเป็ นพืนทีปิ ดทีซงไม่มค ี ้
ี ลืนเสยงซอนทับกัน
3 : บริเวณทีเป็ นพืนทีเปิ ดทีซงคลืึ นเสย ี งจางหายไป
4 : บริเวณทีเป็ นพืนทีเปิ ดทีซงไม่ ึ มค ี ลืนเสย ี งกลับมานันซอนทั
้ ี งทีวิงไป
บกับคลืนเสย
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สท
ิ
วน
ข ้อที 144 :
Diffuse Sound Field มีลก
ั ษณะอย่างไร
สง
ี งวิงออกไปจํานวนมากจากหลายทิศทางโดยพลังงานแต่ละสว่ นไม่
1 : บริเวณพืนทีปิ ดทีมีคลืนเสย
เท่ากัน
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 35/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
2 : บริเวณพืนทีเปิ ดทีมีคลืนเสย ี งวิงออกไปจํานวนมากจากหลายทิศทางโดยพลังงานแต่ละสว่ นไม่
รข
เท่ากัน
3 : บริเวณพืนทีเปิ ดทีมีคลืนเสย ี งสะท ้อนกลับจํานวนมากจากหลายทิศทางจนกระทังพลังงานต่อ
หน่วยปริมาตรนันกระจายเท่ากันตลอดทังพืนที
วก
4 : บริเวณพืนทีปิ ดทีมีคลืนเสยี งสะท ้อนกลับจํานวนมากจากหลายทิศทางจนกระทังพลังงานต่อ
หน่วยปริมาตรนันกระจายเท่ากันตลอดทังพืนที
วศิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
า
สภ
ข ้อที 145 :
ลักษณะของ Air Borne Noise คือ
1 : ี งทีสง่ ผ่านไปในอากาศ
คือเสย
2 : คือเสยี งทีสง่ ผ่านในของเหลว เชน ่ นํ า
3 : คือเสย ี งทีสง่ ผ่านทางอากาศโดยผ่านไปตามชอ ่ งว่างต่างๆ บนผนัง ประตู หน ้าต่าง หรือพืน
4 : คือเสย ี งทีสง่ ผ่านไปตามโครงสร ้างของอาคารต่างๆ เชน่ กําแพง เสา คาน ฐานราก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 146 :
ลักษณะของ Structure Borne Noise คือ
1 : ี งทีสง่ ผ่านไปในอากาศ
คือเสย
2 : คือเสยี งทีสง่ ผ่านในของเหลว เชน ่ นํ า
3 : ี ่
คือเสยงทีสงผ่านทางอากาศโดยผ่านไปตามชอ ่ งว่างต่างๆ บนผนัง ประตู หน ้าต่าง หรือพืน
4 : คือเสย ี งทีสง่ ผ่านไปตามโครงสร ้างของอาคารต่างๆ เชน่ กําแพง เสา คาน ฐานราก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 147 :
Infra Sound คืออะไร
1 : ี งทีมีความถีตํากว่า
เสย 20 Hz ปกติจะอยูต
่ ํากว่าระดับเสย ี งทีมนุษย์ได ้ยิน ึ ได ้
แต่สามารถรู ้สก
2 : เสยี งทีมีความถีตํากว่า 30 Hz ปกติจะอยูต่ ํากว่าระดับเสย ี งทีมนุษย์ได ้ยิน แต่สามารถรู ้สกึ ได ้
3 : เสย ี งทีมีความถีตํากว่า 50 Hz ปกติจะอยูต ่ ํากว่าระดับเสย ี งทีมนุษย์ได ้ยิน แต่สามารถรู ้สก ึ ได ้
4 : เสย ี งทีมีความถีตํากว่า 80 Hz ปกติจะอยูต ่ ํากว่าระดับเสย ี งทีมนุษย์ได ้ยิน แต่สามารถรู ้สก ึ ได ้
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ธิ
สท
ข ้อที 148 :
ิ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 36/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
ี งทีมีความถี > 50,000 Hz เชน
3 : เป็ นเสย ่ เสยี งทีเกิดจากเครืองยนต์เจ็ต, เครืองเจาะความเร็วสูง
รข
หรืออุปกรณ์พเิ ศษทีสร ้างเสย ี งชนิดนี
4 : เป็ นเสยี งทีมีความถี < 20,000 Hz เชน่ เสยี งทีเกิดจากเครืองยนต์เจ็ต, เครืองเจาะความเร็วสูง
หรืออุปกรณ์พเิ ศษทีสร ้างเสย ี งชนิดนี
วก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
า
ข ้อที 149 : วศิ
สภ
ลักษณะของ Impulse Noise
1 : ี งทีมี Sound
เสย Pressure เพิมขึนและลดลงอย่างต่อเนือง
2 : เสยี งทีมี Sound Pressure เพิมขึนและลดลงภายในรอบเวลา 1 นาที
3 : เสย ี งทีมี Sound Pressure เพิมขึนและลดลงอย่างรวดเร็วในชว่ งเวลาสนๆ
ั
4 : เสย ี งทีมี Sound Pressure เพิมขึนอย่างไม่มข
ี ด
ี จํากัด
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 150 :
Sonic Boom เกิดขึนได ้อย่างไร
1 : ี งทีเกิดขึนจากเครืองบินเจ็ตทีบินเร็วกว่าความเร็วเสย
เสย ี ง
2 : เสยี งทีเกิดขึนจากเครืองบินเจ็ตทีบินใกล ้ความเร็วเสย
ี ง
3 : เสย ี งทีเกิดขึนจากเครืองบินเจ็ตทีบินใกล ้พืนดิน
4 : เสย ี งทีเกิดขึนจากเครืองบินเจ็ตทีบินในระดับสูง
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 151 :
Noise Signature คืออะไร
1 : ี งทีมีลก
เป็ นการบันทึกระดับเสย ั ษณะเป็ นลายเซน ็ ต์
2 : ี ่
เป็ นการบันทึกระดับเสยงทีเป็ นชวงๆ ตามเวลาทีผ่านไป
3 : เป็ นการบันทึกระดับเสย ี งตลอดระยะเวลา 24 ชวโมงต่
ั อเนืองกัน
4 : เป็ นการบันทึกระดับเสย ี งทีต่อเนืองกันในกระดาษกราฟทีเคลือนตัวไปตามเวลา
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
ข ้อที 152 :
สท
เจ็บปวดนี
วน
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 37/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
รข
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
วก
ข ้อที 153 :
ระดับเสย ี งทีวัดได ้ทีเครืองวัดเสย
ี งทีเกิดจากแหล่งกําเนิดเสยี งเดียว A = 90 dBA จาก B = 80 dBA
และจาก C = 70 dBA ถ ้าหากเปิ ดเสย ี งจากแหล่งกําเนิดเสย
ี งทัง 3 พร ้อมกัน จะวัดค่าระดับเสย
ี งที
เครืองวัดเสย
า วศิ
ี งได ้เท่าไร
ี งได ้ =
สภ
1 : วัดค่าระดับเสย 90.45 dBA
2 : วัดค่าระดับเสยี งได ้ = 91.25 dBA
3 : วัดค่าระดับเสย ี งได ้ = 92 dBA
4 : วัดค่าระดับเสย ี งได ้ = 95 dBA
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 154 :
ี ง เป็ นอย่างไร
Reflection ของคลืนเสย
1 : ี งสามารถถูกดูดซบ
การทีคลืนเสย ั โดยกําแพงหรือผนัง
2 : การทีคลืนเสยี งสามารถจางหายไปในอากาศ
3 : การทีคลืนเสย ี งสามารถเคลือนตัวโค ้งรอบขอบกําแพงหรือรูเปิ ดได ้
4 : การทีคลืนเสย ี งสามารถสะท ้อนออกจากกําแพงหรือผนังได ้
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 155 :
ี งเป็ นอย่างไร
Diffraction ของคลืนเสย
1 : ี งจางหายไปในบรรยากาศ
การทีคลืนเสย
2 : การทีคลืนเสยี งสามารถเคลือนตัวโค ้งรอบขอบของกําแพงหรือรูเปิ ดได ้
3 : การทีคลืนเสย ี งสามารถเคลือนตัวสะท ้อนกลับจากกําแพงหรือผนัง
4 : การทีคลืนเสย ี งถูกดูดซบ
ั โดยกําแพงหรือผนัง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 156 :
คลืนเสย ี งทีเดินทางในบรรยากาศภายนอกอาคารทีมีอากาศอุน
่ อยูด
่ ้านล่าง และอากาศเย็นอยูด
่ ้านบน
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 38/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
รข
เนือหาวิชา : 656 : 2. Criteria in measurement
วก
ข ้อที 157 :
ี ง คือ
หน่วยวัดความถีของคลืนเสย
1 : dB(A)
2
3
า:
:
Hz
วศิ
phons
สภ
4 : Sabins
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 158 :
ข ้อใดคือเสยี งประเภท Impact Noise
1 : ี งลมพัด
เสย
2 : เสยี งจราจร
3 : เสย ี งยิงปื น
4 : เสย ี งจากเครืองปรับอากาศภายในอาคาร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 159 :
ระดับเสย ี งคงที (Steady Noise) คือ
1 : ี งทีมีการเปลียนแปลงน ้อยกว่า 5 dBA ตลอดเวลาการตรวจวัด
ระดับเสย
2 : ระดับเสยี งทีมีการเปลียนแปลงมากกว่า 5 dBA ตลอดเวลาการตรวจวัด
3 : ระดับเสย ี งทีมีการเปลียนแปลงน ้อยกว่า 10 dBA ตลอดเวลาการตรวจวัด
4 : ระดับเสย ี งทีมีการเปลียนแปลงมากกว่า 10 dBA ตลอดเวลาการตรวจวัด
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 160 :
เสย ี งรบกวนในข ้อใดไม่อยูใ่ นกลุม
่ เดียวกับข ้ออืน
1 : ี งจากการจราจร
เสย
2 : เสยี งจากซอ ่ มแซมถนน
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
วน
สง
ข ้อที 161 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 39/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
ี ง Ldn ในชว่ งของการวัด Daytime equivalent sound level (Ld) จะทําการตรวจ
การตรวจวัดระดับเสย
รข
วัดในชว่ งเวลาใด
1 : 07.00 - 20.00 น.
วก
2 : 07.00 – 22.00 น.
3 : 20.00 – 07.00 น.
4 : 22.00 – 07.00 น.
วศิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
า
สภ
ข ้อที 162 :
ระดับเสย ี งพืนฐาน (Background Noise) หมายถึง
1 : ี งทัวไปของแหล่งชุมชน
ระดับเสย
2 : ระดับเสยี งทีตรวจวัดได ้ในชว่ งเวลา 20.00-07.00 น.
3 : ระดับเสย ี งทีตรวจวัดในสงแวดล
ิ ี งรบกวนเฉพาะ
้อมขณะทีไม่มเี สย
4 : ระดับเสย ี งทีเกิดขึนในสว่ นล่างของเครืองจักรทีทํางานปกติ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 163 :
ี ง
ข ้อใดคือเครืองตรวจวัดระดับเสย
1 : Acoustical Meter
2 : Sound Level Meter
3 : Noise Level Meter
4 : Audio Meter
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 164 :
ข ้อพิจารณาในการเลือกจุดสําหรับการตรวจวัดระดับเสย
ี ง คือ
1 : เลือกสถานทีทีมีสภาพภูมอ ่ ความชน
ิ ากาศและสภาพแวดล ้อม เชน ื ลม ฝน หรือเสย
ี งแมลง ที
จะไม่เป็ นเหตุทําให ้การตรวจวัดผิดพลาดไป
2 : เลือกสถานทีภายนอกอาคารทีสามารถตังไมโครโฟนของมาตรวัดได ้โดยในรัศมี 5 เมตร ตาม
แนวราบต ้องไม่มก ี ําแพงสะท ้อนเสย ี งกีดขวางอยู่
3 : เลือกสถานทีภายในอาคารทีสามารถตังไมโครโฟนของมาตรวัดได ้โดยในรัศมี 1.5 เมตร ตาม
แนวราบต ้องไม่มก ี ําแพงสะท ้อนเสย ี งกีดขวางอยู่
ธิ
4 : ถูกทุกข ้อ
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ิ
วน
ข ้อที 165 :
สง
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 40/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
2 : dBA
รข
3 : phon
4 : sone
วก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 166 :
า
หน่วยของเสย วศิ
ี งข ้อใดมีหน่วยเป็ น decibel (dB)
สภ
1 : sound pressure level
2 : sound power level
3 : sound intensity level
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 167 :
้ นหน่วยหรือเกณฑ์อ ้างอิงในการวัดเสย
ข ้อใดนิยมใชเป็ ี ง
1 : dBA
2 : NC
3 : NR
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 168 :
้
Anechoic chamber ใชทดสอบเสยี งแบบใด
1 : วัด sound absorption ของวัสดุ
2 : วัด reverberation time
3 : free field testing ของ noise source
4 : วัด sound insulation ของวัสดุ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 169 :
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 41/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
รข
ข ้อที 170 :
การวัดแบบใดทีไม่เกียวข ้องกับเวลา
1 : L10
วก
2 : Leq
3 : Ldn
4 : Lp
า วศิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สภ
ข ้อที 171 :
ี งเราวัดอยูใ่ นรูปพลังงานโดยตรงไม่ได ้เราจึงต ้องวัดพลังงานเสย
ในการวัดพลังงานเสย ี งในรูป
1 : ความดัน ในหน่วย ปาสคาล
2 : กําลัง ในหน่วย วัตต์
3 : ความเข ้ม ในหน่วย วัตต์ ต่อ ตารางเมตร
4 : พลังงาน ในหน่วย จูลล์
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 172 :
เสย ี งทีแผ่จากแหล่งกําเนิดเป็ นค่าเฉพาะแหล่งกําเนิดนันซงวั
ึ ด ณ แหล่งกําเนิด เรียกว่า
1 : ความดันเสย ี ง
2 : ความเข ้มเสย ี ง
3 : กําลังเสย ี ง
4 : ี
ระดับเสยง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 173 :
ี งทีเรียกว่า ระดับเสย
ดัชนีการวัดเสย ี ง (sound level) คําว่า “ระดับ” หรือ “level” มีความหมายถึง
1 : หน่วยการวัดทีเป็ นจํานวนนับปกติ
2 : ิ เสมอ
หน่วยการวัดทีต ้องคูณด ้วยสบ
3 : หน่วยการวัดแบบเรียงลําดับ
4 : หน่วยการวัดในแบบ Log-Scale
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สท
ิ
ข ้อที 174 :
วน
1 : 100 Hz
2 : 250 Hz
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 42/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
3 : 500 Hz
รข
4 : 1000 Hz
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
วก
ข ้อที 175 :
วศิ ี งทียังไม่ถว่ งนํ าหนัก (dB) และกรณีผา่ นวงจรถ่วงนํ าหนัก A (dBA) แล ้วข ้อใด
เมือเปรียบเทียบระดับเสย
า
ถูกต ้อง
สภ
1 : dBA < dB เสมอ
2 : dBA > dB เสมอ
3 : dBA = dB เสมอ
4 : dBA อาจจะน ้อยกว่า เท่ากับ หรือมากกว่า dB ก็ได ้
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 176 :
ี งหนึงวัดด ้วยวงจรถ่วงนํ าหนัก A, B, C และ F ข ้อใดถูกต ้อง
ถ ้าระดับเสย
1 : dBA จะน ้อยกว่า dBB เสมอ
2 : dBA จะมากกว่า dBF เสมอ
3 : dBC จะมากกว่า หรือเท่ากับ dBB เสมอ
4 : dBC, dBB, dBA จะมากกว่า dBF เสมอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 177 :
้ กการของการเปลียนความจุไฟฟ้ าของ capacitor อันเนืองมาจาก sound
ไมโครโฟนประเภทใดใชหลั
pressure
1 : moving coil
2 : condenser
3 : piezoelectric
4 : electret
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
ข ้อที 178 :
สท
1 : 0.125 วินาที
2 : 1 วินาที
วน
3 : 2 วินาที
4 : 3 วินาที
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 43/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
ข ้อที 179 :
กร
วงจรตอบสนองเร็ว หรือ fast จะต ้องมีอต
ั ราการตอบสนองราว ๆ
1 : 0.125 วินาที
ิ ว
2 : 1 วินาที
าวศ
3 : 2 วินาที
4 : 3 วินาที
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 180 :
วงจร impulse จะต ้องมีอต
ั ราการตอบสนองราว ๆ
1 : 0.4 วินาที
2 : 0.04 วินาที
3 : 0.004 วินาที
4 : 0.0004 วินาที
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 181 :
ี งมีอป
ภายในเครืองวัดระดับเสย ุ กรณ์ททํ ั ญาณทีได ้มาจากการวัดลงมาชว่ งละ 10
ี าหน ้าทีลดระดับสญ
dB อุปกรณ์นันคือ
1 : Attenuator
2 : Amplifier
3 : Rectifier
4 : Internal Filter
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 182 :
เครืองมือวัดแบบใดมักมีราคาสูงทีสุด
1 : Precision
2 : General Purpose
3 : Survey
ธิ
4 : Type S
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ิ
วน
ข ้อที 183 :
สง
ี ง แบบใดมีความถูกต ้องสูงสุด
เครืองวัดระดับเสย
1 : Type 0
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 44/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
2 : Type 1
ข
3 : Type 2
4 : Type 3
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ิ ว
าวศ
ข ้อที 184 :
ี งภายนอกอาคารจะต ้องมีอป
ในการตรวจวัดระดับเสย ุ กรณ์ชนิดหนึงทีใชป้้ องกันการรบกวนการวัด
สภ
เนืองจากลมทีพัดมาปะทะไมโครโฟน อุปกรณ์นันคือ
1 : Piston Phone
2 : Wind Screen
3 : Wind Vane
4 : Tripod 3 angle
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 185 :
ในการวัดระดับเสยี งทีต ้องการวัดค่าระดับเสย
ี งสูงสุดตลอดชว่ งการวัดนัน เครืองวัดระดับเสย
ี งนันจะต ้อง
มีวงจรการวัดชนิดใด
1 : slow
2 : Leq
3 : Ldn
4 : holding
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 186 :
ดัชนีวด ี ง (Descriptor) ทีใชประเมิ
ั เสย ้ ี งจากเครืองบิน
นผลกระทบกรณีเสย
1 : Ldn
2 : Leq
3 : CNR
4 : LNP
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ธิ
สท
ข ้อที 187 :
ดัชนีวด ี ง (Descriptor) ทีใชประเมิ
ั เสย ้ ี งในโรงงานในประเทศไทยคือ
นผลกระทบต่อคนงาน กรณีเสย
ิ
1 : Leq (1hr)
วน
4 : Ldn
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 45/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข
กร
ข ้อที 188 :
ิ ว
ี งโดยทัวไปเราจะใชวงจรตอบสนองส
ในการวัดระดับเสย ้ ั ญาณในข ้อใด
ญ
าวศ
1 : Fast
2 : Impulse
3 : Slow
สภ
4 : Flat
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 189 :
ี งแยกตามความถีเราจะใชเครื
ในการวัดระดับเสย ้ องมือใด
1 : Piston phone
2 : Transducer
3 : Spectrum Analyzer
4 : Type 0 Sound Level Meter
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 190 :
การวัดเสยี งทัวไปจะต ้องตังเครืองวัดเสย
ี งให ้ไมโครโฟนสูงจากพืนอย่างน ้อย
1 : 1 เมตร
2 : 1.2 เมตร
3 : 2.5 เมตร
4 : 3.5 เมตร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 191 :
การวัดเสยี งในอาคารจะต ้องตังเครืองวัดเสย
ี งให ้ห่างจากผนังหรือวัตถุทสะท
ี ี งได ้อย่างน ้อย
้อนเสย
1 : 1 เมตร
2 : 1.2 เมตร
ธิ
3 : 2.5 เมตร
4 : 3.5 เมตร
สท
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
วน
สง
ข ้อที 192 :
การวัดเสย ี งนอกอาคารจะต ้องตังเครืองวัดเสย
ี งให ้ห่างจากผนังหรืออาคาร หรือ ต ้นไม ้ ทีจะสะท ้อน
เสย ี งได ้อย่างน ้อย
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 46/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
1 : 1 เมตร
ข
2 : 1.2 เมตร
3 : 2.5 เมตร
กร
4 : 3.5 เมตร
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
าวศ
ข ้อที 193 :
สภ
การวัดเสยี งกระแทกต ้องใชเครื
้ องวัดทีมีความเร็วต่อการตอบสนองกีวินาที
1 : 35/1000
2 : 40/1000
3 : 45/1000
4 : 50/1000
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 194 :
ี งถือเครืองวัดห่างตัวน ้อยกว่า 1 เมตร จะทําให ้ผลการวัดสําหรับความถี 400 Hz มีคา่ ผิดไปกี
ผู ้วัดเสย
dB
1 : 2
2 : 4
3 : 6
4 : 8
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 195 :
ข ้อทีถูกต ้องทีสุดคือข ้อใด
1 : ี งดังมากขึนขณะผ่านไมโครโฟน
ลมไม่ทําให ้เสย
2 : ื ม
ความชนส ั พัทธ์ 90% มีผลน ้อยต่อเครืองวัดเสย ี ง
3 : การเปลียนอุณหภูมก ิ ะทันหันไม่มผ
ี ลต่อการวัด
4 : การเปลียนความดันบรรยากาศแม ้ทีความสูงมากก็ไม่มผ ี ลต่อความไวของเครืองวัด
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
สท
ข ้อที 196 :
ิ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 47/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข
กร
ข ้อที 197 :
ิ ว
ี ง ถ ้ามีลมพัด ควรวัดท ้ายลม
ข ้อใดเป็ นเหตุผลของการวัดเสย
าวศ
1 : ทีระยะใกล ้ประมาณ 50 เมตร ลมมีผลน ้อย
2 : เหนือลมระดับเสย ี งจะเพิมประมาณ 20 dB
3 : ถ ้ามีลมด ้านข ้าง ระดับเสยี งก็จะเปลียนไปมากหากวัดเหนือลม
สภ
4 : ทังข ้อ 1. ข ้อ 2. และข ้อ 3. เป็ นเหตุผลทีผิด
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 198 :
ี งใชหน่
การวัดระดับความดันเสย ้ วยอะไร
1 : ปาสกาล (Pa)
2 : เมตร
3 : เมตรต่อวินาที
4 : เดซเิ บล
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 199 :
ในการวัดเสย ี งริมถนน ซงเป็
ึ นเสย
ี งการจราจร จะต ้องตังเครืองวัดห่างฝาบ ้านและสูงจากพืนดินดังข ้อใด
1 : ห่างจากฝาบ ้าน 3 เมตร สูงจากพืนดินครึงเมตร
2 : ห่างจากฝาบ ้าน 2 เมตร สูงจากพืนดิน 1 เมตร
3 : ห่างจากฝาบ ้าน 1 เมตร สูงจากพืนดิน 1.2 เมตร
4 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 200 :
เสย ี งความเข ้มเท่ากัน 3 เสย
ี ง รวมกัน ระดับจะเพิมกีเดซเิ บล
1 : 4.8 dB
2 : 4.5 dB
ธิ
3 : 4.2 dB
4 : 3.9 dB
สท
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
วน
สง
ข ้อที 201 :
ชว่ งความถีเสย
ี งทีหูมนุษย์มค
ี วามไวต่อการตอบสนองมากทีสุดคือ
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 48/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
1 : 20-20000 เฮริ ต์ ซ์
ข
2 : 15-25000 เฮริ ต ์ ซ์
3 : 500-8000 เฮรติ ์ ซ์
กร
4 : 300-9000 เฮริ ต ์ ซ์
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
าวศ
ข ้อที 202 :
สภ
เสย ี งทีดังเป็ น 10,000 เท่าของเสย
ี งทีเบาทีสุดจะเทียบเท่ากับ
1 : 10 เดซเิ บลเอ
2 : 40 เดซเิ บลเอ
3 : 60 เดซเิ บลเอ
4 : 80 เดซเิ บลเอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 203 :
ตามปกติเสย ี งจากแหล่งกําเนิดใดทีมีระดับเสย
ี งเกินกว่า 100 เดซเิ บล
1 : ี งรถบรรทุก
เสย
2 : เสยี งเครืองพิมพ์ดดี
3 : เสย ี งในสวนสาธารณะ
4 : เสย ี งเครืองเจาะถนน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 204 :
ความดันเสย ี งอ ้างอิงเฉลียของการได ้ยินที 1000 Hz มีคา่ เท่าไร
1 : 1x10-5 Pa
2 : 2x10-5 Pa
3 : 3x10-5 Pa
4 : 4x10-5 Pa
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
สท
ข ้อที 205 :
ู ทีใชอ้ ้างอิง สําหรับระดับความสน
ตามมาตรฐาน ISO อัมพลิจด ั จะเป็ นดังข ้อใด
ิ
1 : ความเร่ง
2 : ความเร่ง 10-6 m/s2 ความเร็ว 10-9 m/s
10-9 m/s2 ความเร็ว 10-6 m/s
สง
3 : ความเร่ง
4 : ความเร่ง 10-6 m/s2 ความเร็ว 10-9 m/s
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 49/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข
กร
ข ้อที 206 :
ิ ว
ความเร็วอ ้างอิงสําหรับวัดระดับการสนซ
ั งมี
ึ หน่วยเดซเิ บล คืออะไร
าวศ
1 : 10-6 m/s
2 : 10-7 m/s
3 : 10-8 m/s
สภ
4 : 10-9 m/s
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 207 :
ความเร่งอ ้างอิงสําหรับวัดระดับการสนตาม
ั ISO คืออะไร
1 : 10-6 m/s
2 : 10-7 m/s
3 : 10-8 m/s
4 : 10-9 m/s
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 208 :
ี งอ ้างอิงมีคา่ เทาไร
ตาม ISO ความเข ้มเสย
1 : 10-10 W/m2
2 : 10-11 W/m2
3 : 10-12 W/m2
4 : 10-13 W/m2
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 209 :
้
ดัชนีในข ้อใดต่อไปนี มักใชในการประเมิ ี งจากเครืองบิน
นผลกระทบของเสย
ธิ
1 : PNC
สท
2 : LAmax
3 : NEF
ิ
4 : NR
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 50/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
ข ้อที 210 :
่ ช
ข ้อใดต่อไปนีไม่ใชด ี ง
ั นีประเมินระดับเสย
กร
1 : PNC
2 : NC
ิ ว
3 : RC
าวศ
4 : DBw
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สภ
ข ้อที 211 :
้ อให ้ระดับเสย
โดยทัวไป คํานิยามของ Reverberation Time คือเวลาทีใชเพื ี งลดลงเท่าไร
1 : 30 dB
2 : 60 dB
3 : 60 วินาที
4 : 10 วินาที
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 212 :
ี ง จะใชระดั
การปรับเทียบเครืองวัดเสย ้ บความดันเสย
ี งอ ้างอิงเท่าไร
1 : 94 dB
2 : 104 dB
3 : 120 dB
4 : 1 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 213 :
ดัชนีระดับเสยี งใดต่อไปนีทีใชวั้ ดระดับเสย
ี งอุตสาหกรรม
1 : LA90
2 : LA10
3 : LAeq
4 : Lamin
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สท
ิ
ข ้อที 214 :
วน
2 : LA90
3 : LA50
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 51/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
4 : LApeak
ข
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
กร
ิ ว
าวศ
ข ้อที 215 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่ใชไ่ มโครโฟนวัดระดับเสย
ี งแบบมาตรฐาน
1 : Capacitor
สภ
2 : Pressure
3 : Resistance
4 : Piezo Electric
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 216 :
ี งสง่ ผ่านผนัง (wall sound transmission loss) ปกติจะทําการ
การทดสอบวัดค่าทีลดลงของระดับเสย
วัดใน
1 : Anechoic chamber
2 : พืนทีโล่ง
3 : Reverberation chamber
4 : Impedance tube
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 217 :
ค่าสมั ประสทิ ธิการดูดซม
ึ เสย
ี งแบบ Random incidence ปกติจะทําการทดสอบใน
1 : Reverberation chamber
2 : Anechoic chamber
3 : Impedance tube
4 : Acoustic workshop
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 218 :
้
อุปกรณ์ Impedance tube ใชในการวั
ด
ธิ
1 : ั ประสท
ค่าสม ิ ธิการดูดซม ึ เสย
ี ง
สท
3 : Sound impedance
4 : ความเร็วของอนุภาค
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 52/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
ข ้อที 219 :
การวัดเสยี งจากเครืองบิน ตามปกติจะตังการตอบสนองของเครืองวัดเสย
ี งไว ้ทีใด
กร
1 : Fast response
2 : Slow response
ิ ว
3 : Impulse response
าวศ
4 : Peak response
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สภ
ข ้อที 220 :
ค่าดัชนีใดทีใชวั้ ดระดับผลกระทบของเสย
ี งในห ้องทีปรับแก ้แล ้ว (ค่าทีตํากว่าแสดงถึงประสท
ิ ธิภาพที
้
สูงกว่า) เมือใชภายใต ้มาตรฐาน ISO 140
1 : FIIC
2 : Dntw
3 : LnTw
4 : dB(A)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 221 :
้
ค่าดัชนีใดทีใชภายใต ี ของเสย
้มาตรฐาน ISO 717 เพือแสดงค่าการสูญเสย ี งทีสง่ ผ่านในการทดลอง
ภาคสนาม
1 : STC
2 : Rw
3 : Dntw
4 : Lnw
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 222 :
่ เกลถ่วงนํ าหนักเสย
ข ้อใดต่อไปนีไม่ใชส ี งทียอมรับกันโดยทัวไป
1 : A scale
2 : B scale
3 : C scale
ธิ
4 : D scale
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ิ
วน
ข ้อที 223 :
สง
้
Noise Exposure Curve ปกติใชในการประเมิ
น
ี งจราจร
1 : เสย
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 53/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
ี งรถไฟ
2 : เสย
ข
3 : เสยี งเครืองบิน
4 : ความสามารถได ้ยิน
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ิ ว
าวศ
ข ้อที 224 :
ระบบกรองเสย ี ง (filter system)ใดทีปกติใชในการประเมิ
้ ี งสูงตํา
นเสย
สภ
1 : 1: 1 octave
2 : 1: 1/3 octave
3 : 1: 1/12 octave
4 : Narrow band
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 225 :
ี งประเภทที 1 และ 2 (Type 1 and 2) เมือใชใน
ภายใต ้กระบวนการสอบเทียบมาตรฐาน เครืองวัดเสย ้
สนาม จะต ้องสอบเทียบอย่างตํา
1 : ทุก 6 เดือน
2 : ทุก 1 ปี
3 : ทุก 2 ปี
4 : เมือมีความจําเป็ น
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 226 :
ดัชนี LA10 หมายความถึง
1 : ี งทีตํากว่าเปอร์เซนต์ไทล์ท ี 10
ระดับเสย
2 : ระดับเสยี งหลังจาก 10 dB
3 : ระดับเสย ี งหลังจาก 10 วินาที
4 : ระดับเสย ี งทีเกินร ้อยละ 10 ของเวลาตรวจวัด มีระดับเสย
ี งเกินระดับนี
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
ข ้อที 227 :
สท
ต่างๆ
้
3 : เป็ นห ้องทีใชทดสอบเส ี งก ้องและเสย
ย ี งสะท ้อน
สง
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 54/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข
กร
ข ้อที 228 :
ิ ว
หน่วยวัดเสย ี งถ่วงนํ าหนักแบบ dB(A), dB(B), dB(C), dB(D) หน่วยใดทีถ่วงนํ าหนักใกล ้เคียงการตอบ
าวศ
สนองของหูคนมากทีสุด
1 : dB(A)
2 : dB(B)
สภ
3 : dB(C)
4 : dB(D)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 229 :
มลพิษทางเสย ี ง (Noise Pollution) แตกต่างจากมลพิษทางสงแวดล
ิ ้อมอืนๆ คือ
1 : ไม่ใชป่ ั ญหาสงแวดล
ิ ้อมแต่เป็ นปั ญหาสงั คมมากกว่า
2 : เกิดขึนแล ้วหายไปไม่ทงร่ ิ องรอยไว ้ให ้ตรวจสอบ
3 : สง่ ผลกระทบสุขภาพน ้อยกว่ามลพิษด ้านอืนๆ
4 : ไม่สามารถสม ั ผัสได ้โดยตรง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 230 :
ความหมายของ Sound และ Noise คือ
1 : Sound หมายถึง ี งทัวไป / Noise หมายถึง เสย
เสย ี งรบกวน
2 : Sound หมายถึง เสยี งดนตรี / Noise หมายถึง เสย ี งดัง
3 : Sound หมายถึง ี
เสยงทีเราต ้องการ / Noise หมายถึง เสย ี งทีเราไม่ต ้องการ
4 : Sound หมายถึง เสย ี งทัวไป / Noise หมายถึง เสย ี งทีเราไม่ต ้องการ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 231 :
ธิ
ข ้อใดไม่ใชป่ ั จจัยของการสูญเสย
ี การได ้ยิน (Hearing Loss) ของมนุษย์
สท
1 : ลักษณะเฉพาะและสมรรถนะความทนได ้ของแต่ละบุคคล
ิ
4 : ี งทีบุคคลนันได ้ยิน
ระดับความถีของเสย
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 55/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
ข ้อที 232 :
ี ง
ข ้อใดคือผลกระทบโดยตรงของมลพิษทางเสย
กร
1 : ื
รบกวนการสอสารสนทนา
2 : รบกวนการนอนหลับ
ิ ว
3 : รบกวนการทํางาน
าวศ
4 : ก่อให ้เกิดความรําคาญ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สภ
ข ้อที 233 :
องค์ประกอบของขันตอนการได ้ยิน (Acoustical Situation) ประกอบด ้วย
1 : Wavelength + Propagation + Sound Pressure
2 : Outer Ear + Middle Ear+ Inner Ear
3 : Sound Source + Transmission Path + Receiver
4 : Incident Sound + Reflected Sound + Transmitted Sound
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 234 :
ั
ข ้อใดคือผลกระทบอันเนืองมาจากความสนสะเทื
อน (Vibration)
1 : เกิดเสยี งรบกวน
2 : ี หาย
ทําให ้อาคารเสย
3 : สร ้างความรําคาญให ้ผู ้อยูอ ั ในอาคาร
่ าศย
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 235 :
ี งรบกวนสว่ นบุคคลประเภทใดต่อไปนี มีคณ
อุปกรณ์ป้องกันเสย ุ ภาพดีทสุ
ี ด
1 : Ear Plug
2 : Ear Muff
3 : Semi-aural Unit
4 : Helmet
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 236 :
วน
ี งรบกวน แบบใดควรหลีกเลียงมากทีสุด
การจัดห ้องภายในบ ้านเพือหลีกเลียงปั ญหาของเสย
1 : ห ้องนอนอยูต ่ ด ิ ถนน
สง
2 : ห ้องรับแขกอยูต ่ ดิ ถนน
3 : ห ้องครัวอยูต
่ ดิ ถนน
4 : ห ้องนังเล่นอยูต ่ ดิ ถนน
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 56/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
กร
ิ ว
ข ้อที 237 :
าวศ
ปั จจัยใดไม่มผ
ี ลต่อความก ้อง (Reverberation) ของห ้อง
1 : ปริมาตรของห ้อง
2 : การดูดกลืนเสยี งภายในห ้อง
ี งของแหล่งกําเนิดภายในห ้อง
สภ
3 : ระดับเสย
4 : พืนทีผิวของห ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 238 :
ขอบเขตการได ้ยินของมนุษย์ มีขด
ี เริมของความเจ็บปวด (Threshold of Pain) อยูท
่ ประมาณ
ี
1 : 90 dB
2 : 100 dB
3 : 140 dB
4 : 160 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 239 :
หอประชุมแห่งหนึงได ้รับการออกแบบตกแต่งและทดสอบการก ้องเสย ี งภายใน โดยการปล่อย เสย
ี ง
ี ง ปรากฏว่าเสย
ระดับความดัน 90 dB จากต ้นกําเนิดเสย ี งดังกล่าวมีระดับความดันของเสย
ี งลดลงเหลือ
30 dB เมือเวลาผ่านไป 1.25 วินาที หมายความว่าหอประชุมแห่งนีมีคา่ Reverberation Time (RT)
เท่ากับ
1 : 0.416 วินาที
2 : 1.25 วินาที
3 : 3.75 วินาที
4 : 5.0 วินาที
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 240 :
ธิ
1 : ความสามารถในการยินของมนุษย์แปรเปลียนไปตามความดันและความถีของเสย ี ง
ิ
และปานกลางจะมีรป ู แบบทีแน่นอนในทุกทิศทาง
4 : ทีความถี 1000 Hz ระดับความดันของเสย ี งจะมีคา่ เท่ากับระดับความดังของเสย ี งทีหูได ้ยิน
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 57/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
ข ้อที 241 :
กร
ระดับเสย ี งน ้อยทีสุดทีหูคนปกติได ้ยินมีคา่ sound pressure level เท่าใด
1 : 0 dB
ิ ว
2 : 10 dB
าวศ
3 : 20 dB
4 : 140 dB
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 242 :
ความดันของเสยี งน ้อยทีสุดทีหูคนปกติได ้ยินมีคา่ เท่าใด
1 : 0 ไมโครปาสคาล
2 : 20 ไมโครปาสคาล
3 : 2 ปาสคาล
4 : 20 ปาสคาล
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 243 :
ี งแหล่งกําเนิดแล ้ว ระดับเสย
นอกจากระดับกําลังของเสย ี งขึนกับปั จจัยใดมากทีสุด
1 : อุณหภูม ิ
2 : ความชนื
3 : ระยะทาง
4 : ความสูง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 244 :
ื
ท่อ Eustachain เชอมต่
ออยูก
่ บ
ั
1 : ั
หูชนนอก
2 : ั
หูชนกลาง
3 : หูชนใน ั
4 : ต่อจาก Cochlea
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สท
ิ
วน
ข ้อที 245 :
ั ญาณเสย
อว ้ยวะในหูชนิดใดทําหน ้าทีรับสญ ี งทีผ่านเข ้ารูหแ ั ญาณด ้งกล่าวเป็ นความสน
ู ล ้วเปลียนสญ ั
สง
สะเทือน
1 : ใบหู
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 58/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
2 : เยือแก ้วหู
ข
3 : กระดูกรูปค ้อน
4 : คลอเคลีย
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ิ ว
าวศ
ข ้อที 246 :
เยือทีมีรป ้ ดหยุน
ู ร่างเป็ นเสนยื ่ ตลอดแนวของ Cochlea เรียกว่า
สภ
1 : Munson
2 : Dagson
3 : Anvil
4 : Basilar Membrane
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 247 :
ในหูขอเรามีอวัยวะทีตอบสนอง หรือ รับสญ ั ญาณเสย
ี งแยกตามชว่ งความถีแล ้วจึงสง่ สญ
ั ญาณนันไปยัง
ี ง (Auditory Nerve) คือ
ประสาทรับฟั งเสย
1 : เยือแก ้วหู
2 : ใบหู
3 : กระดูกรูปค ้อน
4 : คลอเคลีย
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 248 :
ข ้อใดเป็ นลักษณะการได ้ยินของหูของคนปกติ
1 : จะได ้ยินเสยี งความถีสูงได ้ดีกว่าเสย ี งความถีตําเสมอ
2 : ี ี
จะได ้ยินเสยงความถีตําได ้ดีกว่าเสยงความถีสูงเสมอ
3 : จะได ้ยินเสย ี งความถี 1000 Hz ได ้ดีทสุี ด
4 : เราจะได ้ยินเสย ี งความถี 2000 – 4000 Hz ได ้ดีกว่าเสย
ี ง ทีความถี 1000 Hz
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
ข ้อที 249 :
สท
2 : ยิงความถีตําๆค่าจะสูงขึน
3 : ยิงความถีสูงๆค่าจะสูงขึน
สง
4 : ค่าตําสุดอยูท ่ ประมาณ
ี 2000 – 4000 Hz
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 59/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข
กร
ข ้อที 250 :
ิ ว
ั
อวัยวะในข ้อใดทีไม่ได ้อยูใ่ นหูชนใน
าวศ
1 : Eustachian tube
2 : basilar membrane
3 : organ of corti
สภ
4 : hair cells
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 251 :
ความถีเสย ี งทีหูเราจะได ้ยินอยูใ่ นชว่ ง
1 : 50 – 1000 Hz
2 : 100 – 2000 Hz
3 : 20 – 20000 Hz
4 : 10 - 100000 Hz
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 252 :
ข ้อใดถูกต ้อง
1 : เครืองวัดเสยี งคือเครืองมือทีใชวั้ ดพลังงานของคลืนเสย ี งในรูปความเข ้มของเสย
ี ง
2 : เครืองวัดเสย ี งวัดพลังงานของคลืนเสย ี งได ้ตํากว่าพลังงานเสย ี งจริงๆเสมอ
3 : ี งทีเราได ้ยินสว่ นใหญ่เป็ นแบบ “pure tone”
เสย
4 : ระดับเสยี งตําสุดทีคนจะได ้ยินประมาณ 0 dBA
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 253 :
reverberation time หรือ “เวลาสะท ้อน” เป็ นดัชนีทใช ้
ี ในการวั ี ง ดัง
ดคุณภาพของห ้องในกรณีของเสย
นันห ้องบรรยายน่าจะมี reverberation time
1 : น ้อยกว่าห ้องฟั งเพลง
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
วน
สง
ข ้อที 254 :
ี การได ้ยิน เมืออายุมากขึนเรียกว่า
อาการของการสูญเสย
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 60/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
1 : SLIPS
ข
2 : Presbycusis
3 : Noise Induced Cochlea Injury
กร
4 : NITTS
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
าวศ
ข ้อที 255 :
สภ
Acoustic trauma คือ
1 : ี การได ้ยินแบบชวคราวแบบหนึ
การสูญเสย ั ง
2 : การสูญเสยี การได ้ยินแบบถาวรแบบหนึง เกิดขึนอย่างทันที
3 : อาการของการสูญเสย ี การได ้ยิน เมืออายุมากขึน
4 : การสูญเสย ี การได ้ยินเนืองจากการล ้าของ hair cell ชวคราว
ั
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 256 :
้
Speech Interference level (SIL) ใชในการ
1 : หา articulation index ของเสยี งรบกวน
2 : ี
วัดการรบกวนของเสยงต่อการสนทนา
3 : วัดอัตราการดูดซบั เสย ี ง
4 : วัดอัตราการสะท ้อนเสย ี ง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 257 :
ข ้อใดไม่ใชเ่ ป็ นผลของเสย
ี งต่อการทํางาน
1 : ี งทีความถีค่อนข ้างสูงมีแนวโน ้มทีจะรบกวนการทํางานมากกว่าเสย
เสย ี งทีมีความถีตํา
2 : เสยี งรบกวนน่าจะลดความเร็วของการทํางาน
3 : เสย ี งรบกวนมีแนวโน ้มทีจะเพิมความรอบคอบของงาน
4 : เสย ี งรบกวนมีผลต่องานทีซบั ซอนมากกว่
้ างานทีมีความยากในระดับธรรมดา
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
ข ้อที 258 :
สท
้
การใชเกณฑ์ ี งสะสมแบบ Daily Noise Dose (D) เป็ นเกณฑ์การพิจารณาโดยพัฒนามา
การได ้รับเสย
ิ
1 : ต ้องไม่เกิน 100
2 : ต ้องไม่เกิน 70
3 : ต ้องไม่เกิน 10
สง
4 : ต ้องไม่เกิน 1
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 61/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข
กร
ข ้อที 259 :
ิ ว
ี งเกียวข ้องกับข ้อใด เลือกข ้อทีผิด
ความเดือดร ้อนรําคาญเนืองจากเสย
าวศ
1 : ระดับเสยี ง
2 : ระดับเสย ี งภูมห
ิ ลัง
3 : ปั จจัยทางสงั คม
สภ
4 : ไม่เกียวข ้องทังข ้อ 1. 2. และ 3.
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 260 :
ั
พนักงานขับรถได ้รับการสนมาจากทางใด
1 : ทางเท ้าและทางก ้น
2 : ทางเท ้าและทางหลัง
3 : ทางหลังและทางก ้น
4 : ทางเท ้า ทางก ้น และทางหลัง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 261 :
ข ้อใดไม่ใชอ่ าการทีเกิดจากการได ้รับการสน
ั เชน
่ การเจาะหินเป็ นระยะเวลานาน (ใชมื้ อ)
1 : ปวดทีข ้อต่อ
2 : ปวดกล ้ามเนือของแขนท่อนปลาย
3 : การควบคุมแขนท่อนปลายลดลง
4 : ความแข็งแรงของแขนท่อนปลายไม่ลดลง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 262 :
เสย ี งรบกวนขึนอยูก
่ บ
ั อะไร
1 : คุณภาพของเสย ี งเพียงอย่างเดียว
2 : ทัศนคติของคนทีมีตอ ี งเพียงอย่างเดียว
่ เสย
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
วน
สง
ข ้อที 263 :
ผู ้ควบคุมเครืองจักรได ้รับระดับเสยี งคงที 95 dBA ใชเกณฑ์
้ ี ง 90 dBA จะยอมให ้ทํางาน
วา่ ถ ้าระดับเสย
ั
วันละ 8 ชวโมง แต่ถ ้าระดับเสยี งสูงขึน 5 dBA ต่อระยะเวลาทีลดลงครึงหนึง ในกรณีนจะยอมให
ี ้ทํางาน
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 62/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
ได ้นานเท่าไร
ข
1 : ั
2 ชงโมง
กร
2 : ั
3.5 ชงโมง
3 : ั
4 ชงโมง
4 : 4.5 ชงโมงั
ิ ว
าวศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สภ
ข ้อที 264 :
้
ใชเกณฑ์ 90 dBA สําหรับคนงานซงทํึ างานวันละ 8 ชวโมงั โดยทีเขาทํางานทีบริเวณระดับเสย ี ง 90
ั
dBA อยู่ 2 ชวโมง ั
และ 95 dBA อยู่ 6 ชวโมง ้
ถ ้าใชเกณฑ์ ี งตลอดเวลาเป็ น 95 dBA ก็
วา่ เมือระดับเสย
ั
ให ้ทํางานเพียงครึงเดียวคือ 4 ชวโมง เพือความปลอดภัยในการทํางานเขาควรทํางานอยูท ่ งหมด
ั
ประมาณกีชวโมงั
1 : 4 ั
ชวโมง
2 : 5 ั
ชวโมง
3 : 6 ชวโมงั
4 : 7 ชวโมง ั
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 265 :
การสนมีั ผลต่อมนุษย์อย่างไร
1 : สุขภาพเสอม ื
2 : ี
สูญเสยความรู ้สกึ
3 : ถูกทัง ข ้อ 1. และ 2.
4 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 266 :
คนงานซงส ึ ม ั ผัสเครืองจักรทีกําลังเดินอยูจ ั
่ ะได ้รับการสนเข ้าสูร่ า่ งกายด ้วยความถีอย่างไร
1 : ความถีค่าเดียว
2 : ั ผัสกับเครือง
ความถีค่าเดียวเฉพาะบริเวณทีสม
3 : ความถีทุกความถีระหว่าง 20-20,000 Hz
4 : ั เกิดจากเครืองจักร
ความถีทุกความถีของการสนที
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สท
ิ
วน
ข ้อที 267 :
เมือสว่ นใดสว่ นหนึงของร่างกายมนุษย์ถก
ู กระตุ ้นด ้วยความถีธรรมชาติของร่างกายสว่ นนัน จะเกิดการ
สง
ั ้องอย่างไร
สนพ
1 : ด ้วยความถีเดียว
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 63/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
2 : ด ้วยชว่ งความถี
ข
3 : ไม่เกิดการสนพั ้อง เพราะร่างกายมีระบบการหน่วงต่อการสน
ั
4 : ไม่มขี ้อใดถูก
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ิ ว
เสย
าวศ
ข ้อที 268 :
ี งชนิดใดถือว่าเป็ นเสย
ี งรบกวน
สภ
1 : ี งหม ้อแปลงไฟระเบิด
เสย
2 : เสยี งหยุดรถกระทันหัน
3 : เสย ี งสุนัขเพือนบ ้านเห่าหอนตลอดคืน
4 : เสย ี งกดแตรเพือเตือนคนข ้ามถนน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 269 :
ี งมากจนถึงขันอันตรายได ้โดยไม่รู ้ตัวมักจะ
การทีมนุษย์สามารถอยูใ่ นสภาวะแวดล ้อมทีมีมลพิษทางเสย
เกิดจาก
1 : ความอดทนอดกลัน
2 : ความจําเป็ น
3 : ความชอบในเสย ี งเหล่านัน
4 : ความเคยชน ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 270 :
การสูญเสย ี สมรรถภาพในการฟั งมักจะเกิดขึนเมือหูได ้รับเสย
ี งที
1 : ความถีตํามาก ดังมาก
2 : ความถีสูงมาก ดังมาก
3 : ทุ ้มมาก ได ้ยินสมําเสมอ
4 : แหลมมาก เป็ นชว่ งสนๆ ั
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
ข ้อที 271 :
สท
อะไรคือสาเหตุสําคัญของมลพิษเสย
ี ง
ิ
1 : ี งดังผิดเวลา
เสย
2 : เสยี งดังตอนกลางวัน
วน
3 : เสย ี งดังตอนหัวคํา
4 : เสย ี งดังวันหยุด
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 64/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
ข ้อที 272 :
กร
ข ้อใดไม่ใชผ่ ลกระทบข ้างเคียงจากมลพิษทางเสย
ี ง
1 : หูหนวก
ิ ว
2 : ความเครียด
าวศ
3 : ปวดศรีษะ
4 : โรคความดันโลหิตสูง
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 273 :
เสย ี งดังตังแต่ระดับใดทีอาจก่อให ้เกิดการเลือนเทรชโฮลด์การได ้ยินแบบชวคราว
ั (temporary
threshold shift) กับคนทัวไปได ้
1 : 20-30 dB(A)
2 : 30-40 dB(A)
3 : 40-60 dB(A)
4 : 60-80 dB(A)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 274 :
เสย ี งจากแหล่งกําเนิดเสย ี งสองแหล่งทีมีความดันเสยี ง 40 dB(A) ทีระยะ 20 เมตร หากวางแหล่ง
กําเนิดเสย ี งทังสองไว ้ชด
ิ กันในทีโล่ง ความดันเสย
ี งจะเป็ นเท่าไรทีระยะห่าง 10 เมตร จากแหล่งกําเนิด
เสย ี งทังสอง
1 : 80 dB(A)
2 : 46 dB(A)
3 : 43 dB(A)
4 : 40 dB(A)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 275 :
ทีตําแหน่งหนึง มีคอนเดนเซอร์ทเหมืี อนกัน 8 ชุด วางอยูด ี งพบว่า คอนเดนเซอร์หนึง
่ ้วยกัน การวัดเสย
ี งดัง 55 dB(A) ทีระยะห่าง 20 เมตร ถามว่าระดับเสย
ตัวทําให ้เกิดเสย ี งจะเป็ นเท่าไรทีระยะ 20 เมตร
หากเดินเครืองคอนเดนเซอร์ทงั 8 ตัว พร ้อมกัน
ธิ
1 : 58 dB(A)
สท
2 : 61 dB(A)
ิ
3 : 64 dB(A)
4 : 67 dB(A)
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 65/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
ข ้อที 276 :
พัดลมขนาดเสนผ่้ านศูนย์กลาง 500 ม.ม. ทําให ้เกิดเสย
ี งดัง 60 dB(A) ทีระยะห่าง 20 เมตร ทีระยะ
กร
ี งดังเท่าไรจากพัดลมตัวนี
ห่าง 80 เมตร จะเกิดเสย
1 : 55 dB(A)
ิ ว
2 : 48 dB(A)
าวศ
3 : 45 dB(A)
4 : 30 dB(A)
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 277 :
ระดับเสย ี งดังจากเครืองจักรสองชนเป็
ิ ิ ย
นดังนี เดินเครืองพร ้อมกันสองชนเส ี งดัง 103 dB(A) เดินเครือง
ิ ย
หนึงชนเส ี งดัง 100 dB(A) ระดับเสย
ี งจากเครืองจักรชนที
ิ สองเท่ากับเท่าไร
1 : 90 dB(A)
2 : 95 dB(A)
3 : 100 dB(A)
4 : 103 dB(A)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 278 :
ี งสะท ้อน (reverberant) เพิมขึนในพืนทีกว ้าง
ปั จจัยใดทีทําให ้ระดับเสย
1 : การดูดซมึ เสย
ี งลดลง
2 : ปริมาตรห ้องลดลง
3 : อุณหภูมล
ิ ดลง
4 : ี
เสยงดังขึน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 279 :
ึ ว่าเสย
หากเรารู ้สก ี งดังเป็ นสองเท่า ปกติมก ี งเท่าไร
ั เกิดจากการเปลียนแปลงของระดับเสย
1 : +3 dB
2 : +5 dB
3 : +6 dB
ธิ
4 : +10 dB
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ิ
วน
ข ้อที 280 :
สง
ี ง
หากปริมาณการจราจรบนถนนใหญ่สายหนึงเพิมขึนเป็ นสองเท่า ผลกระทบโดยเฉลียของระดับเสย
รบกวนต่อพืนทีชุมชนใกล ้เคียงจะเป็ นเท่าไร
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 66/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
1 : 0 dB
ข
2 : 3 dB
3 : 6 dB
กร
4 : 10 dB
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
าวศ
ข ้อที 281 :
สภ
ในการประเมินเสย ี งสะท ้อนภายในห ้องประชุม ระยะเวลาหน่วงเท่าไรของเสย
ี งสะท ้อนเมือเทียบกับ
เสย ี งจริง พบว่าชว่ ยให ้การฟั งชด
ั เจนขึน
1 : น ้อยกว่า 50/1000 วินาที
2 : น ้อยกว่า 100/1000 วินาที
3 : น ้อยกว่า 200/1000 วินาที
4 : น ้อยกว่า 1 วินาที
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 282 :
ระดับเสย ี งสูงสุดทีมนุษย์สามารถรับฟั งโดยไม่เกิดการสูญเสย
ี การได ้ยินอย่างรุนแรง ประมาณเท่ากับ
1 : 100 dB(A)
2 : 120 dB(A)
3 : 140 dB(A)
4 : 160 dB(A)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 283 :
เวลากังวาน (Reverberation Time) ข ้อใดเหมาะกับห ้อง Music studio
1 : 1 นาที
2 : 10 นาที
3 : 5 วินาที
4 : 1 วินาที
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
สท
ข ้อที 284 :
ิ
1 : ี งของสงแวดล
ระดับเสย ิ ้อม เท่ากับ เสยี งเครืองปรับอากาศ
2 : ระดับเสยี งของสงแวดล
ิ ้อม น ้อยกว่า ระดับเสย ี งเครืองปรับอากาศ
สง
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 67/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
กร
ิ ว
ข ้อที 285 :
าวศ
ี งทีมุมของผนัง 3 ด ้านมีคา่
ค่า Directivity Q และ Directivity Index DI ของแหล่งกําเนิดเสย
1 : Q = 2, DI = 3 dB
2 : Q = 4, DI = 6 dB
สภ
3 : Q = 8, DI = 9 dB
4 : Q = 12, DI = 12 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 286 :
ี งทีมุมของผนัง 2 ด ้านมีคา่
ค่า Directivity Q และ Directivity Index DI ของแหล่งกําเนิดเสย
1 : Q = 2, DI = 3 dB
2 : Q = 4, DI = 6 dB
3 : Q = 8, DI = 9 dB
4 : Q = 12, DI = 12 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 287 :
ทําไมถึงใช ้ Weighting Scale “A” สําหรับเสย
ี งทีเกียวข ้องกับหูมนุษย์
1 : เพราะเป็ น Weighting Scale ทีมีชว่ งของระดับเสย
ี งและความถีทีใกล ้เคียงกับลักษณะการรับ
ี งของหูมนุษย์ทสุ
เสย ี ด
2 : เพราะเป็ น Weighting Scale ใชกั้ นทัวโลก
3 : เพราะเป็ น Weighting ั ว์
Scale ไม่เหมาะกับหูของสต
4 : เพราะเป็ น Weighting Scale มนุษย์ชอบฟั งมากทีสุด
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 288 :
ี งจาก Noise Propagation from Point Source เป็ นอย่างไร
การลดระดับของเสย
ี งเพิมขึน 6 dB เมือระยะห่างจาก Noise Source ลดลง
ธิ
1 : ระดับเสย 3 เท่า
2 : ระดับเสยี งลดลง 6 dB เมือระยะห่างจาก Noise Source เพิมขึน 2 เท่า
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สง
ข ้อที 289 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 68/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
ี งจาก Noise Propagation form Line Source เป็ นอย่างไร
การลดระดับของเสย
ข
1 : ี งลดลง 3 dB เมือระยะห่างจาก Noise Source เพิมขึน 2 เท่า
ระดับเสย
กร
2 : ระดับเสยี งลดลง 6 dB เมือระยะห่างจาก Noise Source เพิมขึน 2 เท่า
3 : ระดับเสย ี งลดลง 10 dB เมือระยะห่างจาก Noise Source เพิมขึน 10 เท่า
4 : ระดับเสย ี งเพิมขึน 3 dB เมือระยะห่างจาก Noise Source ลดลง 3 เท่า
ิ ว
าวศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สภ
ข ้อที 290 :
ี งจาก Highway Traffic Noise ทําได ้กีวิธ ี
การป้ องกันเสย
1 : ี งทําได ้ทีตัวบ ้านของผู ้รับเสย
การป้ องกันเสย ี ง
2 : การป้ องกันเสยี งทําได ้ทีการสร ้างกําแพงก ้นเสย ี ง
3 : การป้ องกันเสย ี งทําได ้ที Noise Source, Noise Path, และ Noise Receiver
4 : การป้ องกันเสย ี งทําได ้ทีตัวรถยนต์และถนน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 291 :
ี งรบกวนจาก Highway Noise ที Receiver จึงไม่เป็ นทีนิยม
ทําไมการป้ องกันเสย
1 : เพราะจุดรับเสยี งเป็ นบ ้านเรือนผู ้คนทีพอใจกับเสย
ี งจากการจราจร
2 : เพราะจุดรับเสย ี งอยูใ่ กล ้กับถนนมากเกินไป
3 : เพราะจุดรับเสย ี งอยูไ่ กลจากถนนมากเกินไป
4 : เพราะว่าจุดรับเสย ี งอยูก ี ค่าใชจ่้ าย
่ ระจายตัวกันออกไปทําให ้การป้ องกันทําได ้ลําบาก และเสย
มาก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 292 :
ลักษณะของเสย ี งจาก Uninterrupted Flow Traffic คือ
1 : ี งทีเกิดขึนจากการจราจรในสภาพทีเคลือนตัวต่อเนือง
เป็ นเสย
2 : เป็ นเสยี งทีเกิดขึนจากการจราจรในสภาพทีไม่ใช ่ Free-Flow Traffic
3 : เป็ นเสย ี งทีเกิดขึนจากการจราจรในสภาพทีเคลือนตัวไม่ตอ่ เนือง
4 : เป็ นเสย ี งทีเกิดขึนจากการจราจรในเขตตัวเมืองชนใน
ั
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 293 :
ลักษณะของเสย ี งจาก Interrupted Flow Traffic คือ
วน
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 69/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
กร
ิ ว
ข ้อที 294 :
าวศ
้
ทําไมจึงต ้องมีการใชแบบจํ ี งจากทางหลวง (Highway Traffic Noise
าลองทางคณิตศาสตร์ของเสย
Model)
1 : เนืองจากทําให ้สามารถวิเคราะห์และทํานายเสย ี งจราจรจากทางหลวงทีจะก่อสร ้างขึนใหม่ได ้
ี งทีจะเกิดขึน
สภ
ล่วงหน ้า เพือป้ องกันเสย
2 : เนืองจากทําให ้เกิดความทันสมัยในการออกแบบทางหลวงได ้เชน ่ เดียวกับอารยะประเทศ
3 : เนืองจากการใชแบบจํ้ าลองทางคณิตศาสตร์ของเสยี งจากทางหลวงจะทําให ้ชาวบ ้านไม่
ประท ้วงร ้องเรียนในภายหลัง
4 : เนืองจากการใชแบบจํ ้ าลองทางคณิตศาสตร์ของเสย ี งจากทางหลวงจะทําให ้ของบประมาณใน
การก่อสร ้างได ้ง่าย
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 295 :
ี งทางหลวงสําหรับประเทศไทย
ทําไมจึงต ้องมีแบบจําลองทางคณิตศาสตร์ของเสย
1 : เพราะทําให ้ประเทศไทยมีความทันสมัยเสมอกับประเทศอืนๆทัวโลก
้
2 : เพราะวิศวกรไทยสามารใชในการออกแบบทางหลวงที ิ
เป็ นมิตรกับสงแวดล ้อมได ้ดี
3 : เพราะสร ้างขึนจากลักษณะเฉพาะตัวของการจราจรและทางหลวงในประเทศ ทําให ้มีความ
ี งจราจร
แม่นยําในการวิเคราะห์ และทํานายเสย
4 : เพราะประชาชนตามแนวทางหลวงจะต ้อนรับทางหลวงสายใหม่ด ้วยความยินดี
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 296 :
แบบจําลองเสย ี งทางหลวงจากต่างประเทศมีจด
ุ อ่อนอะไรเมือนํ ามาใชกั้ บประเทศไทย
1 : การออกแบบและวางแผนทางหลวงของประเทศไทไม่ต ้องสนใจผลกระทบต่อสงแวดล ิ ้อม
้
2 : เนืองจากสร ้างจากลักษณะการจราจรทีแตกต่างทําให ้เมือนํ ามาใชในประเทศไทยแล ้ว มี
ความคลาดเคลือนของการวิเคราะห์และทํานายเสย ี ง
ื
3 : มีราคาแพงทําให ้หน่วยงานต่างๆ จัดซอมาใช ลํ้ าบาก
้
4 : ไม่เป็ นทีนิยมในการใชในประเทศไทย
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
สท
ข ้อที 297 :
ิ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 70/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
กร
ิ ว
ข ้อที 298 :
าวศ
ี งทีระยะห่างจากเครืองบินในอากาศใชสู้ ตร
การคํานวณระดับเสย
1 : SPL = PWL – 20 log r – 11 dB
2 : SPL = PWL – 10 log r – 11 dB
สภ
3 : SPL = PWL – 10 log r – 8 dB
4 : SPL = PWL – 10 log r – 5 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 299 :
ี งทีระยะห่างจากโรงงานอุตสาหกรรมใชสู้ ตร
การคํานวณระดับเสย
1 : SPL = PWL – 10 log r – 5 dB
2 : SPL = PWL – 10 log r – 8 dB
3 : SPL = PWL – 10 log r – 11 dB
4 : SPL = PWL – 20 log r – 8 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 300 :
ี งทีระยะห่างจากถนนทีมีรถหนาแน่นแบบ Free – Flow traffic ใชสู้ ตร
การคํานวณระดับเสย
1 : SPL = PWL – 20 log r – 11 dB
2 : SPL = PWL – 10 log r – 11 dB
3 : SPL = PWL – 10 log r – 8 dB
4 : SPL = PWL – 10 log r – 5 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
เนือหาวิชา : 658 : 4. Laws and criteria for control of noise and vibration
ข ้อที 301 :
ธิ
ี งเคลือนที
ข ้อใดคือแหล่งกําเนิดเสย
สท
1 : โรงงานอุตสาหกรรม
ิ
2 : ี งจากเครืองบิน
เสย
3 : เสยี งจากการก่อสร ้าง
วน
4 : เสย ี งจากซอ
่ มแซมถนน
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 71/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
ข ้อที 302 :
ิ
ประกาศคณะกรรมการสงแวดล ี ง โดยทัวไปไว ้คือ
้อมแห่งชาติ ฉบับที 15 (2540) กําหนดมาตรฐานเสย
กร
1 : ี งสูงสุดไม่เกิน
ค่าระดับเสย 100 dB ี งเฉลีย
ค่าระดับเสย 24 ชม. ไม่เกิน 70 dB(A)
2 : ค่าระดับเสยี งสูงสุดไม่เกิน 115 dB ค่าระดับเสยี งเฉลีย 24 ชม. ไม่เกิน 70 dB(A)
ิ ว
3 : ค่าระดับเสย ี งสูงสุดไม่เกิน 100 dB ค่าระดับเสย ี งเฉลีย 24 ชม. ไม่เกิน 80 dB(A)
าวศ
4 : ค่าระดับเสย ี งสูงสุดไม่เกิน 115 dB ค่าระดับเสย ี งเฉลีย 24 ชม. ไม่เกิน 80 dB(A)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สภ
ข ้อที 303 :
ข ้อใดคือข ้อคํานึงในการเลือกใชวั้ สดุดด ั เสย
ู ซบ ี ง
1 : ั เสย
ความสามารถในการดูดซบ ี งของวัสดุ
2 : ความสวยงามเหมาะสม
3 : ความสามารถในการทนไฟได ้
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 304 :
ข ้อใดไม่ใชก่ ารควบคุมเสย
ี งแบบผสมผสาน
1 : การควบคุมการจราจร ทังปริมาณ ความเร็วและจํากัดเวลาในการเดินรถ
2 : ี งรบกวน
การปลูกต ้นไม ้โดยรอบแหล่งกําเนิดเสย
3 : ี งของระบบคมนาคม
การสร ้างกําแพงกันเสย
4 : การปรับเปลียนตําแหน่งทีตังของแหล่งกําเนิดเสยี งและผู ้รับให ้มีระยะห่างมากขึน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 305 :
ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรืองความปลอดภัยในการทํางานเกียวกับสภาวะแวดล ้อม กําหนดให ้
ลูกจ ้างคนใดคนหนึงทํางาน ดังนี
1 : ไม่เกินวันละ 7 ชวโมงั ต ้องมีระดับเสย ี งทีได ้รับติดต่อกันได ้ไม่เกิน 90 dB(A)
2 : ั ั
เกินวันละ 7 ชวโมงแต่ไม่เกิน 8 ชวโมง ต ้องมีระดับเสย ี งทีได ้รับติดต่อกันได ้ไม่เกิน 85 dB(A)
3 : เกินวันละ 8 ชวโมง ั ต ้องมีระดับเสย ี งทีได ้รับติดต่อกันได ้ไม่เกิน 80 dB(A)
4 : ให ้ลูกจ ้างทํางานในทีทีมีเสย ี งดังเกินกว่า 120 dB(A) มิได ้
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สท
ิ
วน
ข ้อที 306 :
ประกาศคณะกรรมการสงแวดลิ ี งรบกวน กําหนดค่าระดับเสย
้อมแห่งชาติ ฉบับที 17 เรือง ค่าระดับเสย ี ง
รบกวน ไว ้ทีความต่างเท่าไร
สง
1 : 5 dB
2 : 10 dB
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 72/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
3 : 15 dB
ข
4 : 20 dB
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ิ ว
าวศ
ข ้อที 307 :
ข ้อใดไม่ใช ่ Noise Rating Scale
สภ
1 : LAeq
2 : LDN
3 : TL
4 : SIL
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 308 :
การควบคุมเสย ี งรบกวนด ้วยวิธใี ดทีมีประสท
ิ ธิภาพมากทีสุด
1 : การควบคุมเสยี งทีแหล่งกําเนิด
2 : ี งและผู ้รับ
การควบคุมทีระยะทางระหว่างแหล่งกําเนิดเสย
3 : การควบคุมทีตัวผู ้รับ
4 : การควบคุมแบบผสมผสาน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 309 :
Sound Lock หมายถึง
1 : ี งในระบบขนสง่ คมนาคม
การสร ้างกําแพงกันเสย
2 : การกําหนดพืนทีว่างสําหรับปิ ดกันเสย
ี งรบกวนมิให ้รบกวนพืนทีอืนๆ
3 : การควบคุมเสย ี งรบกวนแบบผสมผสาน
4 : ั
การลดพลังงานทีทําให ้เกิดการสนสะเทื อนและสง่ ผลให ้เกิดเสย
ี งรบกวน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 310 :
้ อวัตถุประสงค์อะไร
Inertia Block ใชเพื
ธิ
1 : ต ้องการลดขนาดของการสนสะเทืั อน
สท
3 : ต ้องการลดผลจากการกระจายนํ าหนักของเครืองจักรทีไม่สมําเสมอ
4 : ถูกทุกข ้อ
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 73/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
ข ้อที 311 :
ในการลดการสง่ ผ่านของการสนสะเทื
ั อน (Vibration Transfer) ข ้อใดบอกถึงการลดการสง่ ผ่านได ้ดี
กร
1 : ค่า Transmissibility สูง
2 : ค่า Isolation Efficiency สูง
ิ ว
3 : ค่า Isolation Efficiency ตํา
าวศ
4 : ถูกทังข ้อ 1 และ 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สภ
ข ้อที 312 :
ในกรณีของห ้องเครืองทําความเย็นขนาดใหญ่อยูท
่ ช ั
ี นบน ั
การป้ องกันการสนสะเทื
อนของห ้องเครืองไป
ั
ยังชนทีอยูใ่ ต ้ถัดลงมา วิธใี ดดีทสุ
ี ด
1 : ติดตังสปริงทีฐานเครืองจักรทุกตัว
2 : ติดตัง Inertia Blocks ทีฐานเครืองจักร
3 : ติดตัง Floating Floor
4 : ติดตัง Air Springs ทีฐานเครืองจักร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 313 :
ข ้อใดไม่ใช ่ Room Acoustical Defects
1 : Sound Shadow
2 : Sound Reflector
3 : Echo
4 : Sound Concentration
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 314 :
ข ้อใดคือการประยุกต์ใช ้ Masking Noise ในการควบคุมเสย
ี งรบกวน
1 : การสร ้าง Discontinuous Construction
2 : ี งเพลงบรรเลงเบาๆ ในร ้านอาหารหรือห ้างสรรพสน
การเปิ ดเสย ิ ค ้า
3 : ้
การใชแนวต ี งรวบกวน
้นไม ้ในการสร ้างกําแพงกันเสย
4 : การแยกสว่ นทีมีเสย ี งดังรบกวนออกจากพืนทีทีต ้องการความสงบ
ธิ
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ิ
วน
ข ้อที 315 :
ข ้อใดไม่ใชว่ ธิ ก ี งรบกวนในระดับเมือง
ี ารควบคุมเสย
สง
ี งตามถนนขนาดใหญ่
1 : การสร ้างแนวกําแพงกันเสย
้
2 : การจัดวางผังเมืองโดยการแบ่งโซนตามการใชงาน ่ Industrial Zone
เชน
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 74/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
3 : การกําหนดแผนและระบบการตรวจวัดระดับเสย ี งชุมชน
ข
้
4 : การกําหนดเสนทางจราจรหลั ่ วั เมืองได ้โดยตรง
กให ้สามารถเข ้าสูต
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ิ ว
าวศ
ข ้อที 316 :
พืนทีสว่ นใดของโรงงานอุตสาหกรรมต่อไปนีทีต ้องการป้ องกันเสย
ี งรบกวนมากทีสุด
สว่ นเครืองกําเนิดกําลังไฟฟ้ า
สภ
1 :
2 : สว่ นการผลิตทีมีเครืองจักรเข ้ามาเกียวข ้อง
3 : พืนทีสว่ นสํานักงาน
4 : พืนทีสว่ นรับประทานอาหารของพนักงาน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 317 :
ข ้อใดไม่ถก
ู ต ้อง
1 : ประกาศกระทรวงมหาดไทย กําหนดให ้อุปกรณ์ลดเสย ี งสว่ นบุคคลประเภท Ear Plug จะต ้อง
สามารถลดระดับเสย ี งได ้ลงไม่น ้อยกว่า 15 dB
2 : ให ้นายจ ้างจัดให ้มีข ้อความแจ ้งระดับเสย ี งติดไว ้ให ้เห็นโดยชด ั เจนในบริเวณทีระดับเสย ี งตังแต่
85 dB(A) ขึนไป
3 : รถยนต์ทใช ้
ี ในทางขณะที เดินเครืองอยูก
่ บ ั ที จะต ้องมีระดับเสย ี งไม่เกิน 85 dB(A) เมือตรวจวัด
ในระยะห่างจากรถยนต์ 7.5 เมตร
4 : รถยนต์ทใช ้
ี ในทางขณะที เดินเครืองอยูก่ บ ั ที จะต ้องมีระดับเสย ี งไม่เกิน 100 dB(A) เมือตรวจวัด
ในระยะห่างจากรถยนต์ 0.5 เมตร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 318 :
ี งทีแหล่งกําเนิด
ข ้อใดเป็ นหลักการควบคุมเสย
1 : ปรับเปลียนตําแหน่งทีตังของเครืองจักรให ้มีระยะห่างจากผู ้รับมากขึน
2 : จัดทําโครงสร ้างทีชว่ ยลดเสย ี งรบกวนระหว่างแหล่งกําเนิดและผู ้รับ
3 : การซอ ่ มบํารุงรักษาเครืองจักร โดยการหยอดนํ ามัน ขันน๊อตสว่ นทีหลวมให ้แน่น
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
สท
ข ้อที 319 :
ิ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 75/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
กร
ิ ว
ข ้อที 320 :
าวศ
การตรวจวัดเสย ี งรบกวนตามประกาศคณะกรรมการสงแวดลิ ้อมแห่งชาติฉบับที 29 (พ.ศ.2550) เรือง
ค่าระดับเสยี งรบกวน ได ้จาก ค่าระดับการรบกวน = ระดับเสยี งขณะมีการรบกวน – ระดับเสย ี งพืนฐาน
โดยหลักการการวัด “ระดับเสย ี งขณะมีการรบกวน” จะเป็ นดัชนีการวัดในข ้อใด
สภ
1 : Leq (1hr)
2 : Leq (24 hr)
3 : Leq (8 hr)
4 : Lmax
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 321 :
การตรวจวัดเสยี งรบกวนตามประกาศคณะกรรมการสงแวดล ิ ้อมแห่งชาติฉบับที 29 (พ.ศ.2550) เรือง
ี ี
ค่าระดับเสยงรบกวน ได ้จาก ค่าระดับการรบกวน = ระดับเสยงขณะมีการรบกวน – ระดับเสย ี งพืนฐาน
โดยหลักการการวัด “ระดับเสยี งพืนฐาน” จะเป็ นดัชนีการวัดในข ้อใด
1 : L5
2 : L10
3 : L90
4 : L95
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 322 :
การตรวจวัดเสย ี งรบกวนตามประกาศคณะกรรมการสงแวดล ิ ้อมแห่งชาติฉบับที 29 (พ.ศ.2550) เรือง
ค่าระดับเสยี งรบกวน ได ้จาก ค่าระดับการรบกวน = ระดับเสย ี งขณะมีการรบกวน – ระดับเสย ี งพืนฐาน
โดยหลักการการวัด “ระดับเสย ี งพืนฐาน” จะเป็ นการวัดในชว่ งเวลาอย่างน ้อยเท่าใด
1 : 1 นาที
2 : 5 นาที
3 : ั
1 ชวโมง
4 : ั
24 ชวโมง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
สท
ข ้อที 323 :
ิ
1 : Ambient Noise
2 : Fluctuated Noise
สง
3 : Masking Noise
4 : Steady–State Noise
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 76/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
กร
ิ ว
ข ้อที 324 :
าวศ
ี งทีไม่รวมถึงแหล่งกําเนิดเสย
ข ้อใดเป็ นเสย ี งทีเราสนใจ
1 : Masking Noise
2 : Fluctuated Noise
สภ
3 : Background Noise
4 : Steady – State Noise
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 325 :
เสย ี งทีไม่สามารถแยกแยะได ้ว่าแหล่งกําเนิดคืออะไรมักจะเรียกว่า
1 : Environmental Noise
2 : Basis Noise
3 : Normalized Noise
4 : Existing Noise
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 326 :
โดยหลักการแล ้วมีวธิ ก ี งทีไม่ต ้องการ จะถือว่าการลดผลกระทบ ณ ตําแหน่งใดเป็ นวิธ ี
ี ารทีจะลดเสย
ั
การชวคราวขณะที มาตรการอืนยังไม่พร ้อม
1 : ลดทีแหล่งกําเนิดเสย ี ง (source)
2 : เปลียนแปลงหรือปรับปรุงการเดินทางของเสย ี ง (path) มายังผู ้รับ
3 : การใชกํ้ าแพงกันเสยี ง
4 : ให ้อุปกรณ์ป้องกันแก่ผู ้รับ (receiver)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 327 :
เกณฑ์ในการป้ องกันผู ้ปฏิบต ี งคือ
ั งิ านหรือคนงานภายในโรงงานนันในเรืองระดับเสย
ี การได ้ยินอย่างชวคราว
ั
ธิ
1 : ไม่ให ้เกิดการสูญเสย
2 : ี
ไม่ให ้เกิดการสูญเสยการได ้ยินอย่างถาวร
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สง
ข ้อที 328 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 77/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
ประกาศกระทรวงมหาดไทย (พ.ศ. 2519) (ตามความในข ้อ 217 แห่งประกาศคณะปฏิวต ั ฉ
ิ บับที 103
ข
พ.ศ. 2515) กําหนดให ้สถานทีประกอบการทีมีลก
ู จ ้าง จะให ้ลูกจ ้างทํางานในทีทีมีระดับเสย ี งเกินกว่า
เท่าใดไม่ได ้
กร
1 : 110 dB(A)
2 : 120 dB(A)
ิ ว
3 : 130 dB(A)
าวศ
4 : 140 dB(A)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สภ
ข ้อที 329 :
ั
การป้ องกันการสนสะเทื ้
อนโดยทัวไปจะใชในความมุ
ง่ หมายใด
1 : ป้ องกันอุปกรณ์ทมี ั
ี ความไวต่อการสนสะเทือนทีสง่ ผ่านมาตามโครงสร ้างซงอุ
ึ ปกรณ์นันๆติดอยูู่
2 : เพือลดความสนสะเทืั ึ ดในโครงสร ้างโดยเครืองจักรทีติดตังอยู่
อนซงเกิ
3 : ทังข ้อ 1. และข ้อ 2.
4 : ไม่มขี ้อถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 330 :
การควบคุมเสย ี งรบกวนควรพิจาณาการควบคุมในข ้อใดก่อน
1 : แหล่งกําเนิดเสย ี ง
2 : ทางเดินของเสย ี ง
3 : ี
ผู ้รับเสยง
4 : ข ้อใดก่อนก็ได ้
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 331 :
วิธลี ดการสนั ข ้อใดถูกต ้อง
1 : ลดการสนพ ั ้อง
2 : ลดความแข็งตึง
3 : ลดการหน่วงให ้กับการสน ั
4 : ไม่ถก
ู ทังข ้อ 1, 2 และ 3
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สท
ิ
ข ้อที 332 :
วน
เสย ี งร ้องเพลงคาราโอเกะและเสย
ี งดนตรีดงั ๆ ไม่ควรเกิดขึนในชว่ งเวลาใดของวันหยุด
1 : 10.00-13.00 น.
สง
2 : 18.00-22.00 น.
3 : 19.00-23.00 น.
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 78/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
4 : 23.00-01.00 น.
ข
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
กร
ิ ว
าวศ
ข ้อที 333 :
ท่อไอเสย ี รถจักรยานยนต์ทติ ี งดังเกินเท่าใดไม่ได ้
ี ดตังใหม่จะมีเสย
1 : 75 dB(A)
สภ
2 : 85 dB(A)
3 : 95 dB(A)
4 : 105 dB(A)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 334 :
คนงานในโรงงานอุตสาหกรรมสม ั ผัสกับระดับเสยี งดังต่อเนือง 93 dB(A) ในเวลากะเป็ นเวลา 8 ชวโมง
ั
อ ้างอิงตามกฎหมายปั จจุบน ั ผัสเสย
ั คนงานได ้สม ี งดังเป็ นเท่าไรของค่ามาตรฐาน
1 : 100%
2 : 200%
3 : 50%
4 : 0%
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 335 :
ตามกฎหมายปั จจุบน ี งดังสูงสุด ทียอมให ้คนงานในโรงงานสม
ั ระดับเสย ั ผัสได ้ เท่ากับเท่าไร
1 : 90 dB(A)
2 : 95 dB(A)
3 : 120 dB(A)
4 : 140 dB(A)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 336 :
ี งรบกวนจาก Highway Noise ที 1 Hour Period
ทําไมจึงต ้องมีการกําหนดค่ามาตรฐานของเสย
ธิ
ี งรบกวนทางหลวงจะเกิดขึนมากทีสุดในชว่ งเวลากลางวัน
1 : เนืองจากเสย
สท
การจราจร
3 : เนืองจากเสย ี งรบกวนทางหลวงจะเกิดขึนน ้อยทีสุดในชว่ งเวลาของ Peak Hour Period ของ
วน
การจราจร
4 : เนืองจากเสย ี งรบกวนทางหลวงจะเกิดขึนน ้อยทีสุดในชว่ งเวลาของ Off Peak Period ของการ
สง
จราจร
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 79/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข
กร
ข ้อที 337 :
ิ ว
จุดอ่อนของการใชค่้ ามาตรฐานเสย
ี งรบกวนของ Highway Noise ในชว่ ง 24 Hour Period คืออะไร
าวศ
1 : คือการทีสามารถใชเป็ ้ นตัวแทนของเสย ี งจราจรได ้ดีทสุ
ี ด
2 : คือการทีสามารถปกป้ องประชาชนจากเสย ี งรบกวนของจราจรจากทางหลวงได ้เต็มที
3 : คือการเป็ นมาตรฐานเสย ี งจากทางหลวงทีเหมือนกับประเทศอืนๆ ทัวโลก
ี งในชว่ งเวลากลางคืนทีมีปริมาณจราจรน ้อยมากมาถัวเฉลียด ้วย
สภ
4 : คือการนํ าค่าระดับเสย
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 338 :
ี งก ้องมาก มีคณ
ห ้องมีเสย ุ สมบัตข
ิ ้อใด
1 : มี Reverberation Time น ้อย
2 : มี Reverberation Time มาก
3 : มีวส
ั ดุทมี ี งมาก
ี การดูดกลืนเสย
4 : ผนังห ้องมีคา่ Transmission Loss มาก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 339 :
ี งในสภาวะแวดล ้อมปิ ด ประเภทเสย
ข ้อใดคือพฤติกรรมของเสย ี งแตกกระจายเมือกระทบพืนผิวทีไม่
เรียบ
1 : Diffracted Sound
2 : Diffused Sound
3 : Dissipated Sound
4 : Conducted Sound
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 340 :
ธิ
ข ้อใดทีไม่มผ ั เสย
ี ลต่อพฤติกรรมการดูดซบ ี งในสภาวะแวดล ้อมปิ ด
สท
1 : องค์ประกอบภายในสภาวะแวดล ้อมปิ ด
ิ
2 : อากาศภายในสภาวะแวดล ้อมปิ ด
3 : อากาศภายนอกสภาวะแวดล ้อมปิ ด
วน
4 : ี งตกกระทบในสภาวะแวดล ้อมปิ ด
พืนผิวทีเสย
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 80/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
ข ้อที 341 :
ี งทีมาตกกระทบเกิดการรวมเสย
หากต ้องการออกแบบให ้เสย ี งขึน เราควรเลือกใชพื
้ นผิวประเภทใด
กร
1 : Concave Surface
2 : Convex Surface
ิ ว
3 : Flat Surface
าวศ
4 : Irregular Surface
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สภ
ข ้อที 342 :
ั
การป้ องกันการสนสะเทื ั
อนแบบ Passive Isolation เป็ นการป้ องกันความสนสะเทื
อน
1 : จากแหล่งต ้นกําเนิดก่อนทีจะแพร่ไปสูแ ่ หล่งอืนๆ
2 : ่
จากแหล่งอืนๆ ไม่ให ้เข ้าสูบริเวณทีเราต ้องการป้ องกัน
3 : ถูกทัง ข ้อ 1. และข ้อ 2.
4 : ไม่มข
ี ้อใดถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 343 :
ข ้อใดคือ Porous Material
1 : กระเบืองยาง
2 : ไม ้อัด
3 : พรมปูพน ื
4 : อิฐแก ้ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 344 :
วัสดุในข ้อใดต่อไปนีมีคณ
ุ สมบัตเิ ป็ น Sound Insulator ดีทสุ
ี ด
1 : ผนังไม ้อัด
2 : ั
ผนังไม ้อัดสองชน
3 : ผนังกระจก
4 : ผนังก่ออิฐ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 345 :
วน
2 : 0-1
3 : 0-10
4 : ไม่มข
ี ้อใดถูกต ้อง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 81/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
กร
ิ ว
ข ้อที 346 :
าวศ
Space Absorber เป็ นวัสดุดด ั เสย
ู ซบ ี งทีมีการใชงานดั
้ งนี
1 : ้
ใชประกอบภายในผนั งกันเสยี ง
2 : ้
ใชแขวนหรื ั เสย
อวางไว ้ในห ้องทีต ้องการดูดซบ ี ง
ใชฉี้ ดหรือพ่นตามผนังหรือฝ้ าเพดานเพือเพิมความสามารถในการดูดซบ
ั เสย
ี ง
สภ
3 :
4 : ใชปู้ พนห
ื ้องเพือลดเสย ี งรบกวน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 347 :
โครงสร ้างของอาคารสว่ นใดทีเรียกว่า Discontinuous Construction
1 : Foundation
2 : Floating Floor
3 : Roof Floor
4 : Mezzanine Floor
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 348 :
เสย ี งเดินทางกระทบกับแผ่นกัน (Barrier) ทีอยูก
่ ลางสนาม จะไม่เกิดข ้อใด
1 : Shadow
2 : Diffracted
3 : Reflected
4 : Diffused
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 349 :
การลดเสย ี งโดยใชแผ่
้ นกัน (Barrier) ไม่ขนอยู
ึ ก ่ บ
ั ข ้อใด
1 : ี งของแหล่งกําเนิดเสย
ระดับเสย ี ง (Noise Source)
ธิ
2 : ความสูงของแผ่นกัน
3 : ระยะทางระหว่างแหล่งกําเนิดเสยี งกับผู ้ฟั ง
สท
4 : ความถีของเสยี ง
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
วน
สง
ข ้อที 350 :
ี งของวัสดุ (sound insulation)
ข ้อใดเป็ นตัวบอกคุณสมบัตใิ นการกันเสย
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 82/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
1 : Transmission Loss (TL)
ข
2 : Sound Reduction Index (SRI)
3 : Sound Transmission Class (STC)
กร
4 : ถูกทุกข ้อ
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
าวศ
ข ้อที 351 :
สภ
แผ่นกันเสยี งในข ้อใดกันเสย
ี งได ้น ้อยทีสุด ถ ้าทุกชนิดหนาเท่ากัน
1 : แผ่นคอนกรีต
2 : แผ่นยิบซม ั
3 : แผ่นไม ้อัด
4 : แผ่นเหล็ก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 352 :
NRC (Noise Reduction Coefficient) เป็ นค่าทีบอกคุณสมบัตใิ ดของวัสดุ
1 : คุณสมบัตใิ นการกันเสย ี ง
2 : คุณสมบัตใิ นการดูดกลืนเสย ี ง
3 : คุณสมบัตใิ นการสง่ ผ่านเสย ี ง
4 : คุณสมบัตใิ นการลดเสย ี ง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 353 :
ี งความถีสูงได ้ดี
วัสดุประเภทใดดูดกลืน (absorb) เสย
1 : วัสดุทมี
ี มวลมาก ๆ
2 : วัสดุทมี
ี เนือเป็ นรูพรุน
3 : วัสดุทเป็
ี นแผ่นบาง ๆ
4 : วัสดุทมี ี ผวิ ขรุขระ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
ข ้อที 354 :
สท
ี งความถีตําได ้ดี
วัสดุประเภทใดดูดกลืน (absorb) เสย
ิ
1 : วัสดุทมี
ี มวลมาก ๆ
วน
2 : วัสดุทมี
ี เนือเป็ นรูพรุน
3 : วัสดุทเป็
ี นแผ่นบาง ๆ
4 : วัสดุทมี ี ผวิ ขรุขระ
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 83/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
ข ้อที 355 :
กร
วัสดุประเภทใดใชกั้ นเสย
ี ง (sound insulation) ได ้ดีทสุ
ี ด
1 : วัสดุทมี
ี มวลมาก ๆ
ิ ว
2 : วัสดุทมี
ี เนือเป็ นรูพรุน
าวศ
3 : วัสดุทเป็
ี นแผ่นบาง ๆ
4 : วัสดุทมี ี ผวิ ขรุขระ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 356 :
พลังงานเสย ี งตกกระทบ 100 % สะท ้อนกลับ 5% ทะลุผา่ นผนัง 20% แผ่นวัสดุในรูปกันเสย
ี ง (noise
reduction) ได ้กี dB
1 : 10 log 5/100
2 : 10 log 20/100
3 : 10 log 75/100
4 : 10 log 95/100
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 357 :
ธิ
ทบ
1 : ร ้อยละ 0.2
วน
2 : ร ้อยละ 0.8
3 : ร ้อยละ 20
สง
4 : ร ้อยละ 80
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 84/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข
กร
ข ้อที 358 :
ิ ว
ี งแห่งหนึงสง่ เสย
ห ้องต ้นกําเนิดเสย ี งทีมีความดันของเสย
ี งเท่ากับ 85 dB ผ่านไปยังห ้องทีอยูต ิ กันซงึ
่ ด
าวศ
สามารถวัดเสย ี งทีสง่ ผ่านมาได ้ 40 dB หมายความว่าฉากกันระหว่างห ้องทังสองดังกล่าวมี
ค่าTransmission Loss (TL) เท่ากับ
1 : 40 dB
สภ
2 : 45 dB
3 : 2.125
4 : 0.471
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 359 :
ข ้อใดเป็ นการออกแบบทางสถาปั ตยกรรมทีชว่ ยแก ้ไขปั ญหาเสย
ี งรบกวน
1 : การออกแบบให ้ห ้องนอนอยูต ่ ด ิ กับห ้องครัว
2 : การออกแบบให ้ห ้องนังเล่นอยูต ่ ด
ิ กับห ้องนอน
3 : การออกแบบให ้ห ้องครัวอยูต
่ ด ิ กับห ้องทํางาน
4 : การออกแบบให ้ห ้องนอนอยูต ่ ด ิ กับห ้องทํางาน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 360 :
Sound Transmission Loss (STL) แสดงถึงความสามารถของวัสดุทใช ี กั้ นห ้องทีต ้องการแยกกิจกรรม
ออกจากกัน เชน่ ผนังกันห ้องนอนกับห ้องนังเล่น ข ้อใดไม่ใชล
่ ก
ั ษณะของ STL
1 : แปรผันตาม area density
2 : แปรผันตาม ความถีของเสย ี ง
3 : ี ้
แปรผกผันกับความหนาแน่น ของวัสดุทใช
4 : ี ้
แปรผันผกผันกับความหนาของวัสดุทใช
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 361 :
Sound Transmission Loss (STL) แสดงถึงความสามารถของวัสดุทใช ี กั้ นห ้องทีต ้องการแยกกิจกรรม
ธิ
1 : ห ้องนอน-ห ้องนอน
ิ
2 : ห ้องนอน-ห ้องนังเล่น
3 : ห ้องนังเล่น-ห ้องครัว
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 85/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
ข ้อที 362 :
airborne flanking noise หมายถึง
กร
1 : การลดเสย ี งเนืองจากมีฉากกันเสย ี ง
2 : การเดินทางของเสย ี งผ่านจุดเชอมต่
ื อของโครงสร ้างอาคาร
ิ ว
3 : การได ้ยินเสยี งผ่านทางกะโหลกศรีษะ
าวศ
4 : ี งในสงแวดล
เสย ิ ้อมปกติ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สภ
ข ้อที 363 :
การใชกํ้ าแพงกันเสย
ี ง ค่าสูงสุดทีกําแพงกันเสย
ี งจะทําได ้คือ
1 : 5 dB
2 : 20 dB
3 : 40 dB
4 : 70 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 364 :
การใชผนั้ งกันเสย
ี ง ค่าทัวไปทีกําแพงกันเสย
ี งจะทําได ้คือ
1 : 5 dB
2 : 20 dB
3 : 40 dB
4 : 70 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 365 :
ในการใชกํ้ าแพงกันเสย ี งโดยใชหลั
้ กการ Fresnel Number เมือตําแหน่งและความสูงของกําแพงกัน
เสย ี งเท่ากันนัน ข ้อใดถูกต ้อง
1 : กําแพงจะกันเสย ี งความถีสูงได ้ดีกว่าเสย ี งความถีตํา
2 : วัสดุทใช ้ ี
ี ทํากําแพงกันเสยงถ ้ามีความถ่วงจําเพาะมากขึนจะกันเสย ี งได ้ดีขน
ึ
3 : วัสดุทใช
ี ทํ้ ากําแพงกันเสย ี งถ ้ามีรพ
ู รุนจะกันเสยี งได ้ดีขน
ึ
4 : ยิงระดับเสย ี งเดิมมีระดับตํามากกําแพงกันเสย ี งจะมีประสท ิ ธิภาพยิงลดลง
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สท
ิ
วน
ข ้อที 366 :
ั
กําแพงด ้านหนึงของอาคารได ้รับการสนความถี 100 Hz การขจัดสูงสุดวัดได ้ 0.01 mm ความเร็วสูงสุด
สง
ั
มีคา่ เท่าไร การสนเป็ นแบบไซน์
1 : 6.3 mm/s
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 86/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
2 : 6.6 mm/s
ข
3 : 6.9 mm/s
4 : 7.2 mm/s
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ิ ว
าวศ
ข ้อที 367 :
ั
กําแพงด ้านหนึงของอาคารได ้รับการสนความถี 100 Hz การขจัดสูงสุดวัดได ้ 0.01 mm ค่า rms ของ
สภ
ั
ความเร็วเป็ นเท่าไร ทังนีการสนเป็ นแบบไซน์
1 : 4.0 mm/s
2 : 4.4 mm/s
3 : 4.8 mm/s
4 : 5.2 mm/s
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 368 :
้
ข ้อใดไม่ใชการควบคุ ี งทีแหล่งกําเนิด
มเสย
1 : การลดความเร็วรอบของเครืองจักร
2 : การลดแรงเสย ี ดทานทีจุดสมั ผัสต่างๆ ของเครืองมือโดยการใสน
่ ํ ามันหล่อลืน
3 : ี งข ้างทางด่วน
การติดตังแผ่นกันเสย
4 : การหุ ้มหัวตอกโลหะด ้วยยาง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 369 :
้
ข ้อใดไม่ใชการควบคุ ี งตามทางทีเสย
มเสย ี งสง่ ผ่าน
1 : การเพิมวัสดุดด ั เสย
ู ซบ ี งทีผนังห ้อง
2 : การติดสปริงทีฐานของมอเตอร์
3 : การออกห่างจากแหล่งกําเนิดเสย ี งดัง
4 : การสร ้างห ้องคลุมเครืองปั นไฟ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
ข ้อที 370 :
สท
1 : 1.3 µm
วน
2 : 1.4 µm
3 : 1.5 µm
สง
4 : 1.6 µm
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 87/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข
กร
ข ้อที 371 :
ิ ว
ผนังสนดั ้วยความถี 100 Hz เมือวัดค่า rms ของการสนที
ั จุดศูนย์กลางผนังได ้ 1.0 mm/s ค่า peak
าวศ
displacement คิดจากครึง cycle จะเป็ นเท่าไร
1 : 2.25 µm
2 : 2.50 µm
สภ
3 : 2.75 µm
4 : 3.00 µm
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 372 :
อัมพลิจด ั
ู การสนของแผ่ ั ได ้ 15.0 m/s2 หลังจากการปรับปรุงด ้วยการพ่นสารประกอบการหน่วง
นวัสดุวด
ั
การสนลดลงมามี ความเร่ง 0.85 m/s2 มีการลดค่าเดซเิ บลลงเท่าไร
1 : 15.0 dB
2 : 20.0 dB
3 : 25.0 dB
4 : 30.0 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 373 :
เสย ี งสนจากแผ่
ั ั ้องทีความถี 1000 Hz วัดความสนด
นโลหะหุ ้มเครืองจักรสนพ ั ้วย accelerometer ได ้
2
ความเร่งแบบ rms 5.0 m/s แผ่นทีครอบมีความเร็วแบบ rms เท่าไร
1 : 0.2 x 10-3 m/s2
2 : 0.4 x 10-3 m/s2
3 : 0.6 x 10-3 m/s2
4 : 0.8 x 10-3 m/s2
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
ข ้อที 374 :
สท
เสย ี งสนจากแผ่
ั ั ้องทีความถี 1000 Hz วัดความสนด
นโลหะหุ ้มเครืองจักรสนพ ั ้วย accelerometer ได ้
ความเร่งแบบ rms 5.0 m/s2 แผ่นทีครอบมีการกระจัดเป็ นเท่าไร
ิ
µm
วน
1 : 0.10
2 : 0.13 µm
3 : 0.16 µm
สง
4 : 0.19 µm
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 88/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข
กร
ข ้อที 375 :
ิ ว
้
เมือใชกฎของมวล (Mass Law) การเพิมความหนาของผนังเป็ นสองเท่า จะเพิมคุณสมบัตก ี ง
ิ ารลดเสย
าวศ
ของผนังได ้เท่าไร
1 : 3 dB
2 : 5 dB
สภ
3 : 6 dB
4 : 10 dB
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 376 :
ั ประสท
สม ิ ธิการลดเสย
ี ง (noise reduction coefficient – NRC) ของวัสดุ เป็ นค่าทีวัด
1 : ความดังเสย ี งทีลดลงเมือเดินทางผ่านวัสดุ
2 : ค่าทีลดลงของพลังงานเสย ี งทีสะท ้อนจากวัสดุ
3 : ความสามารถของวัสดุในการทําให ้เกิดเสย ี ง
4 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 377 :
ี งจากภายนอกทีสง่ ผ่านหน ้าต่าง (สมมุต ิ
การเพิมพืนทีหน ้าต่างเป็ นสองเท่า มีผลอย่างไรต่อระดับเสย
ให ้การสง่ ผ่านองค์ประกอบอืนของอาคารมีน ้อยมาก)
1 : ี งในห ้องเพิมขึน +10 dB
ระดับเสย
2 : ระดับเสยี งในห ้องเพิมขึน +6 dB
3 : ระดับเสย ี งในห ้องเพิมขึน +3 dB
4 : ไม่มผ
ี ลต่อระดับเสย ี ง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 378 :
่ งตะแกรงให ้อากาศ (supply air grille) เป็ นสองเท่า มีผลอย่างไรต่อระดับ
การเพิมความเร็วลมผ่านชอ
ี ่
เสยงทีเกิดจากชองตะแกรงให ้อากาศ
ธิ
1 : +3 dB
สท
2 : +6 dB
ิ
3 : +15 dB
4 : +18 dB
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 89/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
ข ้อที 379 :
คลืนสะท ้อน ¼ ความยาวคลืน (a quarter wavelength resonator) ควรมีความยาวคลืนเท่าไร เพือ
กร
้
ใชลบล ี ง 150 Hz (ความเร็วเสย
้างเสย ี ง 380 เมตร/วินาที)
1 : 720 มม.
ิ ว
2 : 633 มม.
าวศ
3 : 164 มม.
4 : 95 มม.
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 380 :
ี งของห ้อง (room noise rating – NR) อาจประมาณจากค่า dB(A) ในห ้องได ้
ในการประเมินระดับเสย
โดยสมการดังต่อไปนี “NR = dB(A) + X” โดยทีค่า X เท่ากับเท่าใด
1 : +5
2 : 0
3 : -5
4 : -10
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 381 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่พจ
ิ ารณาว่าเป็ นวัสดุดด ึ เสย
ู ซม ี งทีมีประสท
ิ ธิภาพเพียงพอ
1 : โฟมโพลียรู เี ทนอย่างนิม หนา 50 ม.ม.
2 : ไฟเบอร์กลาส ชนิด 10 กก./ลบ.ม. หนา 100 ม.ม.
3 : ใยหิน ชนิด 120 กก./ลบ.ม. หนา 150 ม.ม.
4 : โฟมโพลีสไตลีน ชนิด 10 กก./ลบ.ม. หนา 50 ม.ม.
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 382 :
วัสดุตอ ิ ารณาว่าเป็ นวัสดุลดการสง่ ผ่านของเสย
่ ไปนีข ้อใดไม่พจ ี งในอากาศทีมีประสท
ิ ธิภาพเพียงพอ
1 : แผ่นไม ้
2 : แผ่นคอนกรีต
3 : แผ่นใยแก ้ว (ไฟเบอร์กลาส)
ธิ
4 : แผ่นแก ้ว
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ิ
วน
ข ้อที 383 :
สง
วัสดุทมี
ี ลก ี งประเภทใดได ้ดี
ั ษณะพรุน (Porous absorber) ดูดกลืนเสย
ี งความถีตํากว่า 500 Hz
1 : เสย
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 90/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
ี งความถีปานกลาง 500 Hz ถึง 1,000 Hz
2 : เสย
ข
3 : เสยี งความถีสูงกว่า 1,000 Hz
4 : เสย ี งทุกความถี
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ิ ว
าวศ
ข ้อที 384 :
วัสดุทเป็ ี งประเภทใดได ้ดี
ี นแผ่นบางๆ (Panel absorber) ดูดกลืนเสย
สภ
1 : ี งความถีตํากว่า 500 Hz
เสย
2 : เสยี งความถีปานกลาง 500 Hz ถึง 1,000 Hz
3 : เสย ี งความถีสูงกว่า 1,000 Hz
4 : เสย ี งทุกความถี
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 385 :
แผ่นวัสดุทรูี จํานวนมาก (Cavity absorber) ใชดู้ ดกลืนเสย
ี งประเภทใดได ้ดี
1 : ี งความถีตํากว่า 500 Hz ลงมา
เสย
2 : เสยี งความถีสูงตังแต่ 1,000 Hz ขึนไป
3 : เสย ี งความถีตําชว่ งแคบๆ
4 : เสย ี งความถีสูงชว่ งแคบๆ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 386 :
ค่า NRC (Noise Reduction Coefficient) ของวัสดุคอ
ื อะไร
1 : ค่าการลดเสยี งของผนังทีความถี 500 Hz
2 : ค่าเฉลียของ Absorption coefficients ทีความถีกึงกลาง 500 และ 1,000 Hz
3 : ค่าเฉลียของ Absorption coefficients ทีความถีกึงกลาง 250, 500, 1,000 และ 2,000 Hz
4 : ค่าเฉลียของ Absorption coefficients ทีความถีกึงกลางชว่ ง Octave band
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 387 :
ธิ
Hz) ดังนี
พืนที Absorption coefficient
ิ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 91/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
1 : 0.13
ข
2 : 0.16
3 : 0.64
กร
4 : 78.3
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
าวศ
ข ้อที 388 :
สภ
Reflective Noise Barrier คือ
1 : ี งทีทําจากแผ่นโลหะ
กําแพงกันเสย
2 : กําแพงกันเสยี งทีมีคณ ุ สมบัตข ิ องการสะท ้อนเสย ี ง
3 : ี
กําแพงกันเสยงทีมีคณ ุ สมบัตข ั ี
ิ องการดูดซบเสยง
4 : กําแพงกันเสย ี งทีมีคณ ุ สมบัตข ี ง
ิ องการแปลงเสย
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 389 :
Absorptive Noise Barrier คือ
1 : ี งทีมีคณ
กําแพงกันเสย ุ สมบัตข ิ องการสะท ้อนเสย ี ง
2 : กําแพงกันเสยี งทีมีคณ ุ สมบัตข ิ องการแปลงเสย ี ง
3 : กําแพงกันเสย ี งทีมีคณ ุ สมบัตข ั เสย
ิ องการดูดซบ ี ง
4 : กําแพงกันเสย ี งทําจากคอนกรีต
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 390 :
ี งทีดีหรือไม่เพราะเหตุใด
แนวต ้นไม ้เป็ นกําแพงกันเสย
1 : ดี เพราะว่าดูสวยงามเป็ นธรรมชาติ
2 : ดี เพราะว่าสามารถป้ องกันเสย ี งรบกวนได ้ดีมาก
3 : ไม่ด ี เพราะประสท ิ ธิภาพของการป้ องกันเสย ี งตํา
4 : ไม่ด ี เพราะเป็ นแหล่งเพาะพันธุส ั ว์ป่าและสต
์ ต ั ว์เลือยคลานต่างๆ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
ข ้อที 391 :
สท
ี งจากจราจรอย่างไร
Porous Asphaltic Pavement คืออะไร และให ้ประโยชน์ทางด ้านเสย
ิ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 92/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
ี งระหว่างล ้อรถยนต์และ
4 : คือ ผิวทางทีทําจากคอนกรีตชนิด Polymer Asphalt ทําให ้ลดระดับเสย
ข
ผิวทาง
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ิ ว
าวศ
ข ้อที 392 :
ี ง Highway Noise ที Noise Source ได ้แก่
การป้ องกันเสย
ิ ดขวางตามแนวเสนทางของทางหลวง
้
สภ
1 : ทําการกําจัดสงกี
2 : ทําการออกแบบกําแพงกันเสย ี งตามแนวทางหลวง
3 : ทําการปรับปรุงผนังอาคาร ประตู หน ้าต่างของอาคารบ ้านเรือนริมทางหลวง
4 : ทําการออกแบบปรับปรุงผิวทาง แนวเสนทาง ้ และรูปแบบของดอกยางรถยนต์ รวมทังออกแบบ
ี
การเก็บเสยงของรถยนต์
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 393 :
ี ง Highway Noise ที Noise Path ได ้แก่
การป้ องกันเสย
1 : ทําการออกแบบกําแพงกันเสย ี งและ Green Belt ตามแนวทางหลวง
2 : ทําการออกแบบปรับปรุงผิวทาง ดอกยางรถยนต์ รวมทังรถยนต์
3 : ปรับปรุงผนังอาคาร ประตู หน ้าต่าง ของอาคารบ ้านเรือน
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 394 :
ี ง Highway Noise ที Noise Receiver ได ้แก่
การป้ องกันเสย
1 : ก่อสร ้างปรับปรุงผิวทาง ดอกยางรถยนต์ และการเก็บเสย ี งของรถยนต์
ี งจากทางหลวง
2 : ก่อสร ้างปรับปรุงผนังอาคาร ประตู หน ้าต่าง ของอาคารบ ้านเรือนให ้ป้ องกันเสย
ได ้
3 : ออกแบบก่อสร ้างกําแพงกันเสย ี งตามแนวทางหลวง
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
ข ้อที 395 :
สท
ข ้อใดเป็ นคุณสมบัตข
ิ อง Cavity absorbers หรือ Helmholtz resonators
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 93/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
ข อ
ข ้อที 396 :
กร
้
แผ่น absorbers ทีใชลดเสยี งชว่ งความถีตํากว่า 500 Hz
1 : Porous absorbers
ิ ว
2 : Panel absorbers
าวศ
3 : Cavity absorbers
4 : Impact absorbers
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 397 :
ในการใชผนั้ งกันเสย
ี ง (Barrier) ข ้อใดไม่ถก
ู
1 : การลดเสยี งขึนอยูก ่ บ ั path difference
2 : การลดเสย ี งขึนอยูก ่ บ ั ความถีของเสยี ง
3 : ี
การลดเสยงไม่ขนกั ึ บตําแหน่งของผนังกันเสย ี ง
4 : การลดเสย ี งขึนอยูก ่ บ ั ความสูงของผนังกันเสยี ง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 398 :
้ ออะไร
Sound Reflector ในห ้องประชุม ใชเพื
1 : เครืองประดับทางสถาปั ตย์
2 : สะท ้อนแสง
3 : ลดเสย ี งในห ้อง
4 : สะท ้อนเสยี งไปยังผู ้ฟั ง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 399 :
ี งก ้องมากๆ ควรปรับปรุงให ้เสย
ห ้องทีมีเสย ี งดีขนอย่
ึ างไรจึงดีทสุ
ี ด
1 : ปูพนไม
ื ้
2 : ปูกระเบืองยาง
3 : ปูพรม
4 : ทําพืนหินขัด
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สท
ิ
วน
ข ้อที 400 :
ในการลดเสย ี งผ่านผนัง (Transmission Loss) ผนังความหนาเท่ากันแบบใดลดเสย
ี งชว่ งความถีปาน
สง
กลางได ้มากทีสุด
1 : ไม ้อัด
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 94/95
1/3/2020 สภาวิศวกร
อ
2 : กระจก
ข
3 : คอนกรีต
4 : เหล็ก
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ิ ว
าวศ
ข ้อที 401 :
การลดเสย ี งผ่านผนัง (Transmission Loss) ของเสย
ี งความถีตํา ใชหลั
้ กการใด
สภ
1 : Resonance Controlled
2 : Mass Controlled
3 : Coincidence Controlled
4 : Inverse Controlled
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=94&aDb=0 95/95