Professional Documents
Culture Documents
ลิขส
ิทธิ์ข
องก
รมท
างห
ลวง
เท่า
นั้น
@
@
ลิขส
ิทธิ์ข
องก
รมท
างห
ลวง
เท่า
นั้น
@
เล่มที่ 6 คู่มือการใช้อปุ กรณ์ควบคุมการจราจร
– บริเวณพืน้ ที่ก่อสร้าง
@
พิมพ์ครัง้ ที่ 1 (กันยายน 2554)
นั้น
โดย
เท่า
กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม
ถนนศรีอยุธยา แขวงทุง่ พญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
ลวง
างห
รมท
องก
ิทธิ์ข
ลิขส
@
@
ได้ใช้มาเป็ นระยะเวลานาน ให้มคี วามทันสมัยและเป็ นมาตรฐานเดียวกันทัวประเทศ ่
การควบคุมการจราจรให้เป็ นระเบียบ มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยต่อผูข้ บั ขีย่ วดยานพาหนะนัน้ จําเป็ นต้อง
นั้น
ออกแบบและติดตัง้ อุปกรณ์ควบคุมการจราจรประเภทต่างๆ อย่างถูกต้องและเหมาะสม ซึง่ ประกอบไปด้วย ป้ายจราจร
(Traffic Signs) เครื่องหมายจราจรบนพืน้ ทาง (Pavement Markings) สัญญาณไฟจราจร (Traffic Signals) ตลอดจน
เท่า
อุ ปกรณ์ อ่ืนๆที่ใช้ร่วมกับอุป กรณ์ ข้างต้น เช่น เครื่องหมายนํ าทาง (Delineators) และไฟฟ้าแสงสว่างบนทางหลวง
(Road Lightings) เป็ นต้น นอกจากนี้การเลือกใช้วสั ดุและชิน้ ส่วนต่างๆ รวมไปถึงกระบวนการผลิตและวิธกี ารติดตัง้
ลวง
จะต้อ งเป็ น ไปตามข้อ กํ า หนดและมาตรฐานที่ก รมทางหลวงได้ร ะบุ ไ ว้ เพื่อ ให้ไ ด้ผ ลิต ภัณ ฑ์ง านทางที่ม ีคุ ณ ภาพ
มีความทนทานในการใช้งาน และประหยัดค่าใช้จา่ ยการซ่อมบํารุงในระยะยาว
อุปกรณ์ ค วบคุมการจราจรในงานก่อสร้า ง บูรณะและบํา รุงรักษาทางหลวง รวมทัง้ การก่อสร้างซ่อมแซม
างห
สาธารณู ปโภคอื่นๆ บนทางหลวงที่เปิ ดให้มกี ารจราจรผ่านไปมา จําเป็ นอย่างยิง่ ที่จะต้องมีการจัดตัง้ อุปกรณ์ควบคุม
การจราจร เพื่อ บัง คับ เตือ น และแนะนํ า ผู้ข ับ ขี่ย วดยานที่เ ดิน ทางผ่ า นไปมา ให้ ไ ด้ ร ับ ความสะดวกปลอดภัย
รมท
และไม่ ม ีอุ ป สรรคในการดํ า เนิ น งานก่ อ สร้า ง อุ ป กรณ์ ค วบคุ ม การจราจรดัง กล่ า ว จะต้ อ งมีม าตรฐานเดีย วกัน
เพือ่ ให้ผขู้ บั ขีย่ วดยานไม่สบั สนหรือลังเลทีจ่ ะปฏิบตั ติ ามเมื่อพบเห็น ดังนัน้ กรมทางหลวงจึงได้จดั ทําคู่มอื การใช้อุปกรณ์
ควบคุ ม การจราจรบริเ วณพื้น ที่ก่ อ สร้า งฉบับ นี้ เพื่อ ให้ห น่ ว ยงานและผู้ท่ีม ีส่ว นเกี่ย วข้อ งสามารถนํ า ไปปฏิบ ัติไ ด้
องก
อย่างถูกต้องและเป็ นมาตรฐานเดียวกันทัวประเทศ ่
ิทธิ์ข
ลิขส
@
@
ลิขส
ิทธิ์ข
องก
รมท
างห
ลวง
เท่า
นั้น
@
สารบัญ
หน้ า
บทที่ 1 บททัวไป
่ (General) 1
1.1 มาตรฐานอุปกรณ์ควบคุมการจราจร 1
1.2 การใช้งาน 1
@
1.3 การบํารุงรักษา 2
นั้น
2.1 มาตรฐานป้ายจราจร 3
เท่า
2.2 มาตรฐานตัวอักษรและตัวเลข 3
2.3 ตําแหน่งและการติดตัง้ 3
ลวง
2.4 ป้ายบังคับ 6
2.4.1 ป้ายให้รถสวนทางมาก่อน (บ.3) 6
2.4.2 ป้ายจํากัดความเร็ว (บ.32) 6
างห
2.5 ป้ายเตือน 7
2.5.1 ป้ายเตือนสําหรับโครงการก่อสร้าง 8
รมท
9
2.5.2.3 ป้ายเตือนลดความเร็ว (ตค.7) 9
2.5.2.4 ป้ายทางเบีย่ งซ้าย (ตค.8) และป้ายทางเบีย่ งขวา (ตค.9) 10
ลิขส
2.5.5 ป้ายเตือนอื่นๆ 14
2.5.5.1 ป้ายเตือนลูกศรขนาดใหญ่ (ตค.17 – ตก.19) 14
2.5.6 รูปแบบมาตรฐานป้ายเตือนในงานก่อสร้าง 14
@
2.5.6.1 ป้ายเตือนสํารวจทาง (ตก.1) 14
2.5.6.2 ป้ายเตือนงานก่อสร้าง (ตก.2) 14
นั้น
2.5.6.3 ป้ายเตือนคนทํางาน (ตก.3) 15
2.5.6.4 ป้ายเตือนเครือ่ งจักรกําลังทํางาน (ตก.4) 15
เท่า
2.5.6.5 ป้ายเตือนทางเบีย่ ง (ตก.5 – ตก.6) 15
2.5.6.6 ป้ายเตือนเบีย่ งการจราจร (ตก.7 – ตก.24) 16
2.5.6.7 ป้ายเตือนแนวทางไปทางซ้าย (ตก.25)
ลวง
และป้ายเตือนแนวทางไปทางขวา (ตก.26)
2.5.7 ป้ายเตือนในงานก่อสร้างทีน่ ํารูปแบบมาตรฐานป้ายเตือนทัวไปมาใช้
17
างห
่ 17
2.6 ป้ายแนะนํา 18
2.6.1 ป้ายแสดงระยะถึงทางปิด (ตค.20) หรือป้ายแสดงระยะถึงทางขาด (ตค.21) 18
รมท
2.6.2 ป้ายเส้นทางชัวคราว
่ (ตค.22) 19
2.6.3 ป้ายใช้ทางเบีย่ ง (ตค.23 – 24) 19
2.6.4 ป้ายแสดงระยะทางก่อสร้าง (ตค.25) 19
องก
2.6.10 ป้ายโครงการก่อสร้าง 21
@
4.3 ลูกศร 33
4.4 เส้นขอบทาง 33
นั้น
4.5 เส้นชะลอความเร็ว (Rumble Strips) 33
เท่า
บทที่ 5 การเบี่ยงเบนการจราจร (Lane Transition) 35
5.1 ระยะสอบเข้า (Taper length) สําหรับงานก่อสร้าง 35
ลวง
5.2 การลดช่องจราจรของทางทีม่ รี ถวิง่ ไปในทิศทางเดียวกันหลายช่องจราจร 37
5.3 การลดช่องจราจรของทางทีม่ รี ถวิง่ สวนทาง 38
างห
บทที่ 6 อุปกรณ์การส่องสว่าง (Lighting Devices) 39
6.1 ไฟกะพริบ (Flashers) 39
รมท
บทที่ 7 เครื่องให้สญ
ั ญาณ (Signalizing Devices) 41
ิทธิ์ข
8.2 รูปแบบแนะนํา 43
8.3 การใช้งานป้ายมือถือ 47
@
11.3 การกํากับดูแลและตรวจสอบของผูค้ วบคุมงาน 67
11.4 หลักเกณฑ์การคิดคํานวณและจ่ายค่างาน 68
นั้น
บรรณานุกรม 69
เท่า
ลวง
างห
รมท
องก
ิทธิ์ข
ลิขส
@
@
การจราจร เพื่อบังคับ เตือน และแนะนํ าผูข้ บั ขีย่ วดยานที่เดินทางผ่านไปมา ให้ได้รบั ความสะดวกปลอดภัย และไม่ม ี
นั้น
อุปสรรคในการดําเนินงานก่อสร้าง
อุปกรณ์ควบคุมการจราจรในงานก่อสร้าง บูรณะ หรือบํารุงรักษาทางหลวง จะต้องมีมาตรฐานเดียวกันโดย
เท่า
ตลอด เพือ่ ให้ผขู้ บั ขีย่ วดยานไม่สบั สน หรือลังเลทีจ่ ะปฏิบตั ติ ามเมือ่ พบเห็น
มาตรฐานอุปกรณ์ควบคุมการจราจรทีจ่ ดั ทําไว้ในคู่มอื นี้ เป็ นแนวทางสําหรับปฏิบตั โิ ดยทัวไป ่ รวมถึงอุปกรณ์
ลวง
ควบคุมจราจรชัวคราวด้
่ วย เช่น กรณีน้ําท่วมทางหลวง หรือทางขาด หรือเกิดอุบตั เิ หตุ เป็ นต้น สําหรับงานก่อสร้างทาง
หรืองานอื่นๆ ทีม่ สี ภาพทางและการจราจรต่างจากแบบป้ายมาตรฐานในงานก่อสร้างทีแ่ สดงไว้ ก็ให้พจิ ารณาใช้อุปกรณ์
ควบคุมการจราจรตามความเหมาะสม
างห
อุ ป กรณ์ ค วบคุ ม การจราจรในงานก่ อ สร้า ง บู ร ณะและบํ า รุ ง รัก ษาทางหลวง และการก่ อ สร้า งซ่ อ มแซม
สาธารณูปโภคบนทางหลวง โดยทัวไปมี ่ ดงั ต่อไปนี้
รมท
1.2 การใช้งาน
ตัว อย่า งการใช้ง านที่แ สดงไว้ใ นหนัง สือ คู่ม ือ เล่ ม นี้ เป็ น มาตรฐานขัน้ ตํ่ า สํา หรับ งานก่ อ สร้า ง บูร ณะและ
ลิขส
@
ทางหลวงเกิดความสะดวกและปลอดภัย จึงจําเป็ นต้องติดตัง้ อุปกรณ์ควบคุมการจราจรให้เพียงพอดังนี้
1) เตือนล่วงหน้าให้ผขู้ บั ขีท่ ราบก่อนถึงจุดอันตราย
นั้น
2) แสดงจุดอุปสรรคและการเบีย่ งเบนแนวการจราจร
3) ป้ายประกาศและป้ายแนะนํา
เท่า
ในการก่อสร้าง บูรณะและบํารุงทางหลวง รวมทัง้ การก่อสร้างซ่อมแซมสาธารณูปโภคอื่นๆ บนทางหลวง หรือ
กรณีฉุกเฉิน ทีใ่ ช้เวลาระยะสัน้ ๆ อาจอนุโลมให้ใช้รถงานทีม่ ไี ฟกะพริบสีเหลืองมาจอดไว้ หรือติดตัง้ ไฟกะพริบสีเหลืองไว้
ลวง
ในทีเ่ ห็นได้ชดั เจนแทนก็ได้
1.3 การบํารุงรักษา
างห
อุปกรณ์ ควบคุมการจราจรที่อยู่ในสภาพดี และทันต่อเหตุการณ์ ของการควบคุมการจราจร จะทําให้ผู้ขบั ขี่
ยวดยานปฏิบตั ติ าม การบํารุงรักษาจึงจําเป็ นอย่างมาก เนื่องจากในงานก่อสร้าง บูรณะและบํารุงทางหลวง อุปกรณ์
รมท
@
1) ป้ายบังคับ
2) ป้ายเตือน
นั้น
3) ป้ายแนะนํา
เท่า
สําหรับป้ายแนะนํ าให้รวมถึงป้ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับงาน เช่น ป้ายที่ใช้ประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์ และ
ป้ายโครงการเป็ นต้น
ลวง
ลักษณะของป้ายจราจรนี้ให้เป็ นไปตามแบบและมาตรฐานป้ายจราจรทัวไป ่ แต่เพื่อทีจ่ ะเน้นให้ผขู้ บั ขีเ่ พิม่ ความ
ระมัดระวังมากขึน้ จึงกําหนดให้ใช้สปี ้ ายเตือนและป้ายแนะนําเป็ นสีสม้ มาตรฐาน มอก. เป็ นส่วนมาก แผ่นวัสดุสะท้อน
แสงทีใ่ ช้ในการผลิตป้ายจะต้องมีคา่ สะท้อนแสงไม่ต่าํ กว่าค่าสะท้อนแสง ระดับ 1 ตามมาตรฐาน มอก. 606-2529
างห
2.2 มาตรฐานตัวอักษรและตัวเลข
รมท
แบบของตัวอักษรและตัวเลข และการจัดระยะห่างระหว่างตัวอักษรให้ใช้ตามหนังสือมาตรฐานตัวอักษรและ
ตัวเลขสําหรับป้ายจราจรของกรมทางหลวง ส่วนขนาดและชุดของตัวอักษรและตัวเลข ให้ใช้ตามทีก่ ําหนดไว้ในป้ายแต่
ละป้าย แต่อย่างไรก็ตาม ป้ายบางแบบมีจาํ นวนตัวอักษรไม่เท่ากัน อาจบรรจุขอ้ ความลงในป้ายขนาดตามต้องการไม่ได้
องก
ก็ให้พจิ ารณาลดขนาดตัวอักษรลงตามความเหมาะสม
ิทธิ์ข
@
ดังนี้
1) ความเร็วตํ่ากว่า 70 กิโลเมตรต่อชัวโมง ่ ใช้ระยะห่างระหว่างป้ายแต่ละชุด 100 เมตร
นั้น
2) ความเร็วตัง้ แต่ 70 กิโลเมตรต่อชัวโมง่ ใช้ระยะห่างระหว่างป้ายแต่ละชุด 150 เมตร
3) ทางหลวงพิเศษ (Motorway) ใช้ระยะห่างระหว่างป้ายแต่ละชุด 300 เมตร
เท่า
ลวง
างห
รมท
องก
ิทธิ์ข
ลิขส
@
ผิวจราจร
2.00 ม. (อย่างน้อย)
1.20 ม. (อย่างน้อย)
@
ติ ดตัง้ บนเสา
นั้น
เท่า
ลวง
างห
ติ ดตัง้ บนขา หรือแผงกัน้
รมท
องก
ติ ดตัง้ บนรถ
@
@
บูรณะ และบํารุงรักษาทางหลวง อาจใช้ป้ายบังคับตามมาตรฐานได้ตามความเหมาะสม ป้ายบังคับทีจ่ าํ เป็ นต้องใช้บ่อยๆ
ในงานก่อสร้าง บูรณะและบํารุงรักษาทางมีดงั นี้
นั้น
2.4.1 ป้ ายให้รถสวนทางมาก่อน (บ.3)
เท่า
ป้ายให้รถสวนทางมาก่อน กําหนดให้ผู้ขบั ขี่รถทุกชนิดต้องหยุดตรงตําแหน่ งที่
ติดตัง้ ป้าย และรอให้รถทีก่ ําลังสวนทางมาผ่านไปก่อน หากมีรถข้างหน้าหยุดรออยูก่ ่อน ก็
ตรงป้ายนี้ผา่ นไปได้
ลวง
ให้หยุดรอถัดต่อกันมาตามลําดับ เมือ่ รถทีส่ วนทางมาได้ผา่ นไปหมดแล้ว จึงเลื่อนรถทีห่ ยุด
(บ.3)
างห
ให้ใช้ป้ายนี้เมื่อมีการซ่อมแซมช่องจราจร รถทีจ่ ะแล่นต่อไปจะต้องแล่นเข้าไปใน
ช่องจราจรสําหรับรถสวนทางมา
การติดตัง้ จะต้องคํานึงถึงความเร็วรถทีเ่ ข้ามาสูบ่ ริเวณนี้ดว้ ย ดังนัน้ จึงจําเป็ นต้อง
รมท
@
นั้น
ป้ ายจํากัดนํ้าหนัก ป้ ายจํากัดความกว้าง ป้ ายจํากัดความสูง
(บ.33) (บ.34) (บ.35)
เท่า
ป้ ายรถเดิ นทางเดียวไป ป้ ายรถเดิ นทางเดียวไป ลวง ป้ ายให้ชิดซ้าย ป้ ายให้ชิดขวา
างห
ทางซ้าย (บ.38) ทางขวา (บ.39) (บ.40) (บ.41)
รมท
2.5 ป้ ายเตือน
ป้ายเตือน ได้แก่ ป้ายจราจรทีม่ คี วามหมายในการเตือนผูใ้ ช้ทางให้ทราบล่วงหน้า ถึงสภาพทางหรือข้อมูลอย่าง
ลิขส
@
แบบมาตรฐานและการใช้ ง านของป้ ายเตื อ นในงานก่ อ สร้ า ง บู ร ณะและบํา รุง รัก ษาทางหลวงมี
ดังต่อไปนี้
นั้น
2.5.1 ป้ ายเตือนสําหรับโครงการก่อสร้าง
เท่า
2.5.1.1 ป้ ายเตือนทางก่อสร้าง (ตค.1)
ป้ายเตือนทางก่อสร้าง บรรจุขอ้ ความ “ทางก่อสร้าง โปรดระมัดระวัง”
ลวง
ใช้ ก ับ ทางก่ อ สร้ า งซึ่ ง ทํ า การก่ อ สร้ า ง บู ร ณะและบํ า รุ ง รัก ษาในทางที่เ ปิ ด
การจราจรแล้ว และยังคงเปิดการจราจรตามปกติในขณะก่อสร้าง (ตค.1)
การติด ตัง้ ให้ติด ตัง้ ล่ว งหน้ า ก่ อ นถึง จุด เริ่ม โครงการไม่น้ อ ยกว่า 200 ขนาดป้าย 90 X 240 ซม. อย่างน้อย
างห
เมตร เว้นแต่จุดเริม่ โครงการเป็ นทางแยก ให้ตดิ ตัง้ ใกล้กบั จุดเริม่ โครงการ ระยะ ตัวอักษรขนาด 20 ซม.
ติดตัง้ ห่างจากขอบทาง 4-6 เมตร
รมท
ตัวอักษรขนาด 20 ซม.
@
ล่วงหน้ า แต่ถ้า ติดตัง้ ล่วงหน้ าไม่เกิน 300 เมตร ให้ใ ช้ข้อความบรรทัดล่า งว่า
“ข้า งหน้ า ” อย่า งไรก็ต าม การติด ตัง้ ป้ า ยเตือ นงานก่ อ สร้า งทาง หรือ สะพาน (ตค.5)
นั้น
ขนาดป้าย 90 X 240 ซม. อย่างน้อย
จะต้องติดตัง้ ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 200 เมตร
ตัวอักษรขนาด 20 ซม.
เท่า
2.5.2.2 ป้ ายเตือนทางปิ ด (ตค.6)
(ตค.6)
ติดตัง้ ล่วงหน้าเป็ นระยะทางใกล้เคียงกับทีร่ ะบุบนป้าย
ขนาด 90 X 120 ซม. อย่างน้อย
เมื่อติดตัง้ ป้ายเตือนทางปิ ดแล้ว ยังต้องติดตัง้ ป้ายทางปิ ดห้ามรถผ่าน ตัวอักษรแถวบนขนาด 20 ซม.
องก
@
(ตค.8) (ตค.9)
ขนาด 75 X 75 ซม. อย่างน้อย
นั้น
ตัวอักษรขนาด 25 ซม.
เท่า
2.5.2.5 ป้ ายบอกระยะทาง (ตค.10)
ป้ ายบอกระยะทาง ใช้ติด ตัง้ เพื่อ ให้ท ราบว่ า ระยะทางก่ อ นถึง บริเ วณ
ก่อสร้าง มีระยะทางเท่าใด โดยจะบอกระยะทางเป็ น กม. หรือ ม. ก่อนถึงบริเวณ
ลวง
ก่อสร้าง ใช้ตดิ ตัง้ เดี่ยว หรือติดตัง้ ประกอบป้ายเตือน ในงานก่อสร้างตามลักษณะ
างห
และรูปแบบทีก่ าํ หนด
(ตค.10)
ขนาด 75 x 75 ซม. อย่างน้อย
รมท
ตัวอักษรขนาด 25 ซม.
2.5.3 ป้ ายเตือนในงานบํารุงรักษาทาง
องก
(ตค.12)
ขนาด 60 x 135 ซม. อย่างน้อย
ตัวอักษรขนาด 15 ซม.
@
2.5.4 ป้ ายเตือนชัวคราว
่
2.5.4.1 ป้ ายเตือนทางขาดข้างหน้ า (ตค. 14)
นั้น
ป้ า ยเตือ นทางขาด ให้ต ดิ ตัง้ ก่อ นถึง ทางขาดเนื่ อ งจากภัย ธรรมชาติ
เท่า
โดยติดตัง้ ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 300 เมตร ข้อความบรรทัดล่างอาจเปลี่ยนจากคํา
ว่า “ข้า งหน้ า ” เป็ น “500 ม.” หรือ “1 กม.” ก็ไ ด้ แต่จ ะต้องติดตัง้ ป้ า ยล่ว งหน้ า
ลวง
เป็ นระยะทางใกล้เคียงกับที่ระบุบนป้าย
เมื่อติดตัง้ ป้ายเตือนทางขาดข้างหน้าแล้ว ยังต้องติดตัง้ ป้ายทางขาดรถ (ตค. 14)
ผ่านไม่ได้ บนแผงกัน้ แบบที่ 2 ตรงตําแหน่งทีป่ ิดกัน้ จราจรอีกด้วย ขนาด 90 x 135 ซม. อย่างน้อย
างห
ป้ายเตือนทางขาด อาจติดตัง้ ร่วมกับแผงกัน้ ข้างทาง (Wing Barricade) ได้ ตัวอักษรแถวบน 20 ซม.
ตัวอักษรแถวล่าง 15 ซม.
รมท
องก
ิทธิ์ข
ลิขส
@
@
นั้น
ให้ตงั ้ ลํ้าเข้าผิวจราจร 1 เมตร
เท่า
ลวง
างห
ถ้าติดตัง้ กลางถนนไม่ได้
ให้ตดิ ตัง้ ด้านข้าง ทัง้ ข้างซ้ายและขวา
รมท
องก
ิทธิ์ข
@
ตัวอักษรแถวบนขนาด 15 ซม.
ตัวอักษรแถวกลางขนาด 10 ซม.
ตัวอักษรแถวล่างขนาด 7.5 ซม.
นั้น
2.5.4.4 ป้ ายเตือนในงานสาธารณูปโภค
เท่า
ป้ายเตือนในงานสาธารณูปโภค เป็ นป้ายสีเ่ หลีย่ มผืนผ้า พืน้ ป้ายสีสม้ ตัวอักษรสีดาํ มีขอ้ ความแสดงถึงงานที่
ทํา เช่น “งานซ่อมสายไฟฟ้า” “งานฝงั ท่อประปา” “งานวางท่อก๊าซธรรมชาติ” “งานวางท่อร้อยสายโทรศัพท์” เป็ นต้น
ลวง
ถ้าติดตัง้ ล่วงหน้าก็มคี าํ ว่า “ข้างหน้า” บรรทัดล่างด้วย โดยติดตัง้ ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 300 เมตร ข้อความบรรทัดล่าง
อาจเปลีย่ นจากคําว่า “ข้างหน้า” เป็ น “500 ม.” หรือ “1 กม.” ก็ได้ แต่จะต้องติดตัง้ ล่วงหน้าเป็ นระยะทางใกล้เคียงกับ
างห
ระยะทางทีร่ ะบุบนป้าย
รมท
องก
ตัวอักษรแถวบนไม่ควรเล็กกว่าขนาด 20 ซม.
ิทธิ์ข
ตัวอักษรแถวล่างขนาด 15 ซม.
@
(ตค. 17)
ขนาด 60 X 120 ซม. อย่างน้อย
นั้น
เท่า
(ตค. 18) (ตค. 19)
ลวง
ขนาด 120 X 300 ซม. อย่างน้อย
(ตก.1)
ลิขส
@
2.5.6.4 ป้ ายเตือนเครื่องจักรกําลังทํางาน (ตก.4)
นั้น
ป้ายเตือนเครื่องจักรกําลังทํางาน ใช้ตดิ ตัง้ ก่อนถึงบริเวณที่มเี ครื่องจักร
กําลังทํางานอยู่ขา้ งทาง และลํ้าเข้ามาในผิวจราจรหรือใกล้ผวิ จราจรเป็ นครัง้ คราว
เท่า
โดยติดตัง้ ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 150 เมตร อาจมีแผ่นป้าย “เครื่องจักรกําลังทํางาน”
สีสม้ ประกอบ
ลวง (ตก.4)
างห
2.5.6.5 ป้ ายเตือนทางเบี่ยง (ตก.5 – ตก.6)
ป้ายเตือนทางเบี่ยงซ้าย (ตก.5) หรือป้ายเตือนทางเบี่ยงขวา (ตก.6) ใช้ตดิ ตัง้ ก่อนถึงบริเวณที่มกี ารเปลี่ยน
รมท
แนวทางไปจากเดิมไปใช้ทางชัวคราวหรื
่ อทางเบีย่ ง โดยให้ผขู้ บั ขีย่ วดยานทราบทิศทางทีจ่ ะเบีย่ งออกไปด้วย
การติดตัง้ ให้ติดตัง้ ล่วงหน้ าไม่น้อยกว่า 150 เมตร อาจมีแผ่นป้าย “ทางเบี่ยงซ้าย” “ทางเบี่ยงขวา” สีส้ม
ประกอบ
องก
ิทธิ์ข
ลิขส
(ตก.5) (ตก. 6)
@
นั้น
(ตก.7) (ตก.8) (ตก.9) (ตก.10)
เท่า
ลวง
างห
(ตก.11) (ตก.12) (ตก.13) (ตก.14)
รมท
องก
(ตก.23) (ตก.24)
@
(ตก.26)
นั้น
ขนาด 60 X 120 ซม. อย่างน้อย
เท่า
2.5.7 ป้ ายเตือนในงานก่อสร้างที่นํารูปแบบมาตรฐานป้ ายเตือนทัวไปมาใช้ ่
ป้ายเตือนในงานก่อสร้าง บูรณะ และบํารุงรักษาทางหลวง อาจนําป้ายเตือนทีใ่ ช้ตามปกติมาใช้ได้ตามลักษณะ
ลวง
ของทาง โดยเปลีย่ นสีพน้ื ป้ายเป็ นสีสม้ ใช้ขนาด 90 เซนติเมตร ติดตัง้ ก่อนถึงจุดทีท่ างมีลกั ษณะตามป้าย 100 ถึง 200
เมตร ตัวอย่าง ดังนี้
างห
รมท
องก
ป้ ายเตือนทางโค้งต่างๆ
ิทธิ์ข
ลิขส
ป้ ายเตือนช่องจราจรปิ ด ป้ ายเตือนช่องจราจรปิ ด
ป้ ายเตือนทางขึน้ ลาดชัน ป้ ายเตือนทางลงลาดชัน
ด้านซ้าย ด้านขวา
@
นั้น
ป้ ายเตือนเครื่องหมายลูกศรคู่
เท่า
รูปที่ 2-8 ป้ายเตือนในงานก่อสร้างทีน่ ํารูปแบบป้ายเตือน (สีเหลือง) มาปรับใช้
2.6 ป้ ายแนะนํา
ลวง
ป้ายแนะนํ า ได้แก่ป้ายจราจร ที่มคี วามหมายเป็ นการแนะนํ าให้ผูใ้ ช้ทางทราบข้อมูลอันเกี่ยวกับการเดินทาง
างห
และการจราจร เช่น เส้นทางที่จะใช้ ทิศทาง ระยะทาง สถานที่ รวมทัง้ ข้อมูลอื่น เป็ นต้น เพื่อประโยชน์ ในการเดินทาง
และการจราจร ทําให้สะดวกและปลอดภัย
รมท
หรือ “อีก ( ) กม. ทางขาด” ใช้ตดิ ตัง้ บริเวณทางแยกเพื่อแนะนํ าให้ผู้ขบั ขีย่ วดยานที่
ต้องการเดินทางไปไกลเกินระยะทางที่ระบุบนป้ายเปลี่ยนเส้นทางไปใช้เส้นทางอื่นที่
ทางแยกซึ่งติดตัง้ ป้า ยนี้เนื่องจากทางข้างหน้ าปิ ดการจราจร ส่วนผู้ขบั ขี่ยวดยานที่
ลิขส
@
ลูกศรขนาด 7 ซม.
นั้น
ป้ายใช้ทางเบีย่ ง ใช้แสดงทิศทางทีจ่ ะไปใช้ทางเบีย่ ง เนื่องจากทางตรงไปปิ ดการจราจรเพือ่ ก่อสร้าง
เท่า
โดยทัวไปให้
่ ตดิ ตัง้ ป้ายใช้ทางเบี่ยงใต้ป้ายทางปิ ด หรือป้ายแสดงระยะถึงทางปิ ด แต่ถ้าจําเป็ นก็อาจติดตัง้
ป้ายใช้ทางเบีย่ งเดีย่ ว หรือเพิม่ ขึน้ ก็ได้ การติดตัง้ ต้องระวังให้เครือ่ งหมายลูกศรถูกต้องตามทิศทางทีไ่ ปใช้ทางเบีย่ ง
ลวง
างห
(ตค. 23) (ตค. 24)
รมท
การติด ตัง้ ควรติด ตัง้ ร่ว มกับ แผงกัน้ ข้า งทาง (Wing Barricade) โดย (ตค.25)
แสดงระยะทางก่อสร้างโดยประมาณเป็ นกิโลเมตร ขนาด 90 X 180 ซม. อย่างน้อย
ตัวอักษร ขนาด 20 ซม.
@
@
2.6.6 ป้ ายทางปิ ด (ตค.27)
ป้ายทางปิ ดใช้แสดงว่าทางข้างหน้ าปิ ดกัน้ การจราจรเพื่อก่อสร้างทาง
นั้น
ห้า มรถทุ ก ชนิ ด เข้า ยกเว้น เครื่อ งจัก รและรถของเจ้า หน้ า ที่ท่ีเ กี่ย วข้อ งกับ งาน
เท่า
ก่อสร้างทาง
ให้ใ ช้ป้ า ยทางปิ ด ในกรณีท่ีม ีท างเบี่ย งตรงจุด ที่ปิ ด ทางนัน้ และให้ใ ช้ (ตค.27)
ลวง
ติดตัง้ ร่วมกับป้ายใช้ทางเบีย่ ง ขนาด 60 x 120 ซม. อย่างน้อย
การติดตัง้ ให้ตดิ ตัง้ บริเวณกึ่งกลางทางจราจร ถ้ามีแผงกัน้ แบบที่ 2 ให้ ตัวอักษร 20 ซม.
ติดตัง้ บนแผงกัน้ นัน้
างห
ห้ามใช้ป้ายทางปิด เมือ่ อนุญาตให้รถระยะสัน้ ผ่าน หรือยังไม่ถงึ ตําแหน่ง
ทีป่ ิ ดการจราจร ในกรณีน้ีให้ใช้ป้ายแสดงระยะทางถึงทางปิด
รมท
ตัวอักษรแถวล่าง 15 ซม.
@
@
ตัวอักษรแถวบนขนาด 20 ซม.
ตัวอักษรแถวล่างขนาด 15 ซม.
นั้น
2.6.9 หลักแสดงระดับนํ้า
หลักแสดงระดับนํ้า ใช้ตดิ ตัง้ ทีข่ อบนอกของไหล่ทาง บริเวณทีท่ างมี
เท่า
นํ้ าท่วม โดยอาจติดตัง้ ชัวคราว
่ หรือติดตัง้ ประจําก็ได้ถ้าทางบริเวณนัน้ มีน้ํ า
ท่วมเป็ นประจําทุกปี
การติดตัง้ จะต้องให้ระดับ 0 พอดีกบั ระดับของผิวจราจร
ลวง
การติดตัง้ หลักแสดงระดับนํ้าเป็ นระยะๆ นอกจากจะแสดงความลึก
างห
ของนํ้ าแล้ว ยังทําหน้าทีเ่ ป็ นเครื่องหมายนําทาง (Delineator) ในขณะนํ้าท่วม
ส่วนบนพืน้ ที่สามเหลี่ยม ของหลักแสดงระดับนํ้าให้ตดิ แผ่นสะท้อนแสงสีขาว
ทีม่ คี ่าสะท้อนแสงไม่ต่ํากว่าระดับ 1 ตามมาตรฐาน มอก. 606-2529 ทัง้ สอง
รมท
2.6.10 ป้ ายโครงการก่อสร้าง
ป้ายโครงการก่อสร้างใช้แสดงข้อมูลที่สาํ คัญของงานก่อสร้าง เพื่อให้ประชาชนที่ผ่านไปมาทราบข้อมูล เช่น
ชื่อโครงการ ชื่อสายทาง กม. ทีก่ ่อสร้าง ผูท้ าํ การก่อสร้างและผูค้ วบคุมงาน เป็ นต้น
ิทธิ์ข
@
การจัดช่องจราจรในงานก่อสร้าง บูรณะ และบํารุงรักษาทางหลวง มีจุดประสงค์ 2 ประการคือ
1) เพือ่ กระตุน้ เตือนผูข้ บั ขีย่ วดยานให้ระมัดระวังบริเวณทีอ่ าจจะมีอนั ตรายเนื่องจากการก่อสร้าง
นั้น
บูรณะ หรือบํารุงรักษาทางหลวง งานซ่อมแซม งานก่อสร้างสาธารณูปโภคทางหลวง
เท่า
2) เพือ่ แนะแนวทางผูข้ บั ขีย่ วดยาน ให้ผา่ นบริเวณการก่อสร้างไปได้อย่างสะดวก และปลอดภัย
ดังนัน้ ลักษณะของเครื่องจัดช่องจราจร จะต้องมองเห็นได้ง่ายตลอดเวลา จะต้องไม่ทําให้รถเสียหายร้ายแรง
ลวง
เมือ่ ถูกชนหรือเฉี่ยว และจะต้องติดตัง้ หรือจัดวางให้เป็ นแนวทีร่ ถสามารถแล่นผ่านไปได้สะดวกปลอดภัย
เครือ่ งจัดช่องจราจรเป็ นส่วนหนึ่งของอุปกรณ์ควบคุมการจราจรทีใ่ ช้ในงานก่อสร้าง บูรณะ และบํารุงรักษาทาง
หลวง ซึง่ ใช้เป็ นเครือ่ งหมายนําทาง (Delineators) ด้วย มีดงั ต่อไปนี้
างห
1) แผงกัน้ (Barricades)
2) กรวย (Cones)
รมท
3) ถังกลม (Drums)
4) แผงตัง้ (Vertical Panel)
5) หลักนําทาง (Guide Post)
องก
@
นั้น
เท่า
ลวง
างห
รมท
องก
ิทธิ์ข
ลิขส
@
หมายเหตุ - วัสดุทใี ่ ช้ทาํ แผงกัน้ ให้ใช้ไม้ขนาด 1 นิ้ว x (8-10 นิ้ว) และเสาใช้ไม้ขนาด 4 นิ้ว x 4 นิ้ว หรือวัสดุอนื ่ ทีเ่ บา
และไม่เป็ นอันตรายเมือ่ รถชน
- ใช้แผ่นสะท้อนแสงทัง้ สีสม้ และสีขาว มีคา่ สะท้อนไม่ต่าํ กว่าระดับ 1 ตามมาตรฐาน มอก. 606-2529
@
ติดตัง้ ไว้กลางเพือ่ ทีจ่ ะให้รถทีจ่ ะเข้าออกผ่านไปข้างๆ พร้อมทัง้ ติดตัง้ ป้ายจราจรบอกไว้ดว้ ย
สําหรับงานซ่อมบํารุงชัวคราว
่ ควรใช้แผงกันแบบที่ 1 ตัง้ ขวางช่องจราจรทีม่ กี ารซ่อมบํารุงทัง้ สอง
นั้น
ด้านให้หา่ งพอสมควร เพราะแผงกัน้ แบบที่ 1 สามารถเคลื่อนย้ายได้งา่ ยกว่า
2) ใช้เป็ นเครื่องหมายเตือน ทีจ่ ุดเริม่ ต้นงานก่อสร้างทีเ่ ปิ ดการจราจรตามปกติ การใช้แผงกัน้ แบบที่
เท่า
2 ติดตัง้ ข้างทางทัง้ สองข้าง จะเป็ นการเตือนผูข้ บั ขีย่ วดยานได้อย่างดี การติดตัง้ แบบนี้เรียกว่า แผงกัน้ ข้างทาง (“Wing
Barricade”) แผงกัน้ ข้างทางอาจติดตัง้ เป็ นชุดโดยเริม่ จากนอกไหล่ทางเข้ามาจนถึงใกล้ขอบทาง จะทําให้ยวดยานลด
ลวง
ความเร็วลงอย่างได้ผล สําหรับงานทีจ่ ะต้องใช้แผงกัน้ ข้างทางเป็ นบางเวลา ก็อาจจะออกแบบให้พบั ไปด้านข้างในเวลา
ไม่ใช้ได้
างห
3) ใช้สาํ หรับลดช่องจราจร บนทางหลายช่องจราจร เมื่อต้องการลดช่องจราจรลงอาจใช้แผงกัน้ แบบ
ที่ 1 ตัง้ ขวางกับทิศทางการจราจร โดยให้เริม่ ตัง้ ทีข่ อบทางเข้ามาทีละ 50 – 60 เซนติเมตร ระยะห่างกันไม่เกิน 30 เมตร
เป็ นลักษณะการเบี่ยงเบนแนวการจราจร การใช้แผงกัน้ อาจไม่สะดวก คล่องแคล่วเท่ากรวย แต่มคี วามมันคงสามารถ ่
รมท
นั้น
เท่า
ลวง
างห
ยวดยานผ่านไปทางขวาทางเดียว
รมท
องก
ิทธิ์ข
ยวดยานผ่านไปได้ทงั ้ สองทาง
ลิขส
@
ยวดยานผ่านไปไม่ได้
@
การติดตัง้ ให้ตดิ ตัง้ กรวยเป็ นแนวตลอด ติดตัง้ ทุกๆ ระยะห่างไม่เกิน 30 เมตร ถ้าเป็ นทางในเมือง ให้ตดิ ตัง้
ระยะห่างกัน 5- 10 เมตร สิง่ ทีจ่ ะต้องระวังในการใช้กรวย คือ กรวยเคลื่อนที่ หรือล้มได้งา่ ย เนื่องจากมีรถแล่นผ่านใกล้ๆ
นั้น
ด้วยความเร็วเฉี่ยวชน จึงต้องคอยจัดตัง้ กรวยให้อยูใ่ นตําแหน่งทีต่ อ้ งการตลอดเวลา
กรวยยังใช้ได้เหมาะสมในงานตีเส้นจราจรเพือ่ ป้องกันไม่ให้รถทับสีทย่ี งั ไม่แห้ง
เท่า
3.3 ถังกลม (Drums)
ลวง
ถังกลมขนาด 200 ลิตร หรือ 120 ลิตร ทีไ่ ม่ได้ใช้งานอย่างอื่นแล้ว สามารถนํามาใช้เป็ นอุปกรณ์ควบคุมการจราจร
ในงานก่อสร้างได้อย่างดี โดยการทาสีสม้ สลับขาว แบ่งเป็ น 7 ส่วนเท่าๆ กัน โดยทีถ่ งั กลมมีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ชดั เจน
างห
และสามารถเลื่อนไปมาได้ จึงเหมาะทีจ่ ะใช้เป็ นเครื่องแสดงแนวขอบทางจราจรทีต่ ดิ กับพืน้ ทีก่ ่อสร้าง เช่น งานขยายทาง โดย
การตัง้ ถังกลมเป็ นแถว แสดงขอบทางจราจรในเวลาทีห่ ยุดปฏิบตั งิ าน ส่วนในเวลาปฏิบตั งิ านงานก็สามารถเลื่อนถังกลมเข้าไป
ในผิวจราจรเพือ่ ให้มพี น้ื ทีป่ ฏิบตั งิ านได้เพียงพอ
รมท
@
แนวทางหลวงได้ดใี นเวลาคํ่าคืน หรือในขณะทีส่ ภาพอากาศมืดมัว ให้ใช้ตดิ ตัง้ ในงานก่อสร้าง บูรณะและบํารุงรักษาทาง
หลวงในบริเวณดังต่อไปนี้
นั้น
1) บริเวณทางโค้งราบ และทางโค้งตัง้
2) บริเวณทีม่ กี ารเปลีย่ นแปลงความกว้างของผิวจราจร
เท่า
3) บริเวณทีต่ อ้ งการนําทางเพือ่ มิให้ยานพาหนะพลัดหลุดไปจากคันทาง หรือบริเวณทางแยกทีส่ บั สน
4) บริเวณอื่นๆ เพื่อป้องกันอุบตั เิ หตุชนอุปกรณ์งานทาง และช่วยนําทาง
ลวง
ระยะการติดตัง้ หลักนําทางในบริเวณโค้งตัง้ ให้ตดิ ตัง้ ทัง้ ด้านซ้ายและด้านขวาทาง โดยติดตัง้ ให้เห็นอย่างน้อย
1 ต้น สําหรับระยะการติดตัง้ หลักนําทางในทางโค้งราบ เป็ นดังต่อไปนี้
างห
รมท
องก
ิทธิ์ข
ลิขส
@
150 20 40 60 90
200 23 46 69 90
นั้น
300 29 58 87 90
400 33 66 90 90
เท่า
500 37 74 90 90
ทีม่ า : ประยุกต์จาก MUTCD 2009
ลวง
างห
รมท
องก
ิทธิ์ข
ลิขส
นั้น
เท่า
ลวง
างห
รมท
องก
ิทธิ์ข
@
ซึง่ เครือ่ งหมายจราจร ในลักษณะและตําแหน่งทีเ่ ห็นได้โดยง่าย และชัดเจนเพื่อให้ผขู้ บั ขีย่ วดยานปฏิบตั ติ ามความหมาย
ของเครื่องหมายนัน้ หรือเป็ นการแจ้งข้อมูล หรือให้คําแนะนํ าเกี่ยวกับการใช้ทางหลวงนัน้ เพื่อให้การจราจรเป็ นไป
นั้น
โดยสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย
เท่า
เครือ่ งหมายจราจรบนพืน้ ทาง แบ่งเป็ น 2 ประเภท
ลวง
1) เครื่องหมายจราจรบนพื้นทางประเภทบังคับ ได้แก่ เครื่องหมายจราจรที่มคี วามหมายเป็ นการ
บังคับให้ผใู้ ช้ทางปฏิบตั ติ ามความหมายของเครื่องหมายนัน้ โดยกําหนดให้ผูใ้ ช้ทางต้องกระทํา งดเว้นการกระทํา หรือ
จํากัดการกระทําในบางประการหรือบางลักษณะ
างห
2) เครื่องหมายจราจรบนพืน้ ทางประเภทเตือน ได้แก่ เครื่องหมายที่มคี วามหมายเป็ นการเตือนผูใ้ ช้
ทาง ให้ทราบล่ว งหน้ า ถึงสภาพทาง หรือข้อมูลอย่างอื่น ที่เกิดขึ้นในทาง หรือทางหลวงข้างหน้ า อันอาจก่อให้เกิด
อันตราย หรืออุบตั เิ หตุขน้ึ ได้ เพื่อให้ผใู้ ช้ทางใช้ความระมัดระวังในการใช้ทาง ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดอันตราย หรือ
รมท
การจัดทําเครื่องหมายจราจรบนพืน้ ทางชัวคราวจะต้
่
นําทางอื่นๆ พร้อมกันไปด้วย
สําหรับงานบํารุงรักษาทางนัน้ มักจะไม่มคี วามจําเป็ นจะต้องใช้เครื่องหมายจราจรบนพืน้ ทางชัวคราว ่ เพราะ
ส่วนมากดําเนินการในเวลากลางวัน แต่อย่างไรก็ตามถ้ามีการซ่อมส่วนหนึ่งส่วนใดของผิวจราจรที่ต้องใช้เวลานานๆ
เช่น การซ่อมสะพาน อาจจําเป็ นต้องจัดทําเครือ่ งหมายจราจรบนพืน้ ทางด้วย
@
4.3 ลูกศร
นั้น
มีลกั ษณะเป็ นลูกศรสีขาว หรือเหลือง แสดงทิศทางของการจราจร ให้รถตรงไป เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือ
เท่า
ร่วมกัน เมื่อมีลูกศรตามลักษณะดังกล่าว ปรากฏในช่องเดินรถ หรือช่องจราจรใด ผู้ขบั ขีท่ ่อี ยู่ในช่องเดินรถ หรือช่อง
จราจรนัน้ ต้องปฏิบตั ติ ามเครือ่ งหมายนัน้
4.4 เส้นขอบทาง
ลวง
มีลกั ษณะเป็ นเส้นทึบ หรือเส้นประ หรือแถบสี สีขาว ยกเส้นเส้นขอบทาง ด้านติดกับเกาะกลาง หรือฉนวน
างห
แบ่งทิศทางการจราจรเป็ นสีเหลือง หมายความว่า เป็ นแนวสุดขอบทางเดินรถ
รมท
หลวง ให้ใช้สเี ทอร์โมพลาสติก หนา 5-6 มิลลิเมตร กว้าง 0.10 ม. จํานวน 6 แถบ ระยะห่างระหว่างแถบ 1.5 ม. หรือใช้
วัสดุอ่นื ทีอ่ อกแบบมาเพื่อใช้แทนได้ โดยให้ตดิ ตัง้ จํานวน 3 ชุด ชุดแรกห่างจากบริเวณก่อสร้างอย่างน้อย 150 ม. ชุดที่
ิทธิ์ข
@
5.1 ระยะสอบเข้า (Taper length) สําหรับงานก่อสร้าง
นั้น
การเบีย่ งเบนการจราจร จะต้องจัดให้มรี ะยะสอบเข้าทีเ่ หมาะสม โดยการสอบเข้าอาจแบ่งได้ดงั นี้
เท่า
1) สอบเข้าเพื่อรวมการจราจร (Merging Taper)
2) สอบเข้าเพื่อเบีย่ งการจราจร (Shifting Taper)
ลวง
3) สอบเข้าบริเวณไหล่ทาง (Shoulder Taper)
4) สอบเข้าบริเวณรถวิง่ สวนกันบน 1 ช่องจราจร (One-lane, Two-way Traffic Taper)
5) สอบเข้าบริเวณสิน้ สุดงานก่อสร้าง (Downstream Taper)
างห
รูปที่ 5-1 แสดงการสอบเข้าแบบต่างๆ และระยะสอบเข้า (Taper Length)
รมท
โดยระยะ L คํานวณได้จาก
กรณีความเร็วจํากัดน้อยกว่า 70 กิโลเมตรต่อชัวโมง
่
= (5-1)
@
นั้น
เท่า
ลวง
างห
รมท
องก
ิทธิ์ข
ลิขส
@
@
80 75 100 150 175 300 350
90 85 115 170 195 340 395
นั้น
100 95 125 190 220 375 440
เท่า
110 105 140 205 240 415 480
120 115 150 225 265 450 525
5.2
ลวง
การลดช่องจราจรของทางที่มีรถวิ่ งไปในทิ ศทางเดียวกันหลายช่องจราจร
การเบีย่ งเบนแนวจราจร โดยเฉพาะอย่างยิง่ เมื่อมีการลดความกว้างของผิวทาง จําเป็ นต้องจัดระยะทีส่ อบเข้า
างห
(Taper) ให้เพียงพอมิฉะนัน้ จะทําให้การจราจรไม่สะดวกติดขัด และเกิดอุบตั เิ หตุได้งา่ ย ระยะทีเ่ ข้าควรยาวไม่น้อยกว่า
ระยะทีใ่ ห้หวั ข้อ 5.1 อย่างไรก็ตามการกําหนดระยะทีส่ อบเข้าจะต้องคํานึงถึงความลาดชันและโค้งด้วย
รมท
ไม่ควรเกิน 30 เมตร
การลดช่องจราจรตัง้ แต่ 2 ช่องจราจรขึน้ ไป ให้ทาํ การลดทีละช่องโดยให้มรี ะยะห่างกันเป็ น 2 เท่าของระยะที่
สอบเข้า (Taper)
@
@
การติดตัง้ อุปกรณ์ควบคุมการจราจรแสดงจุดอุปสรรคต้องมีทงั ้ สองด้านของงาน อย่างน้อยต้องประกอบไปด้วย
ป้ายบังคับ “ให้รถสวนทางมาก่อน” (บ.3) ติดตัง้ เฉพาะด้านหน้าชิดขอบทาง ไฟกะพริบสีเหลืองให้อยู่ประมาณกึ่งกลาง
นั้น
ช่องจราจรทีป่ ิ ดกัน้ หลังแนวเบีย่ งเบนทัง้ 2 ด้าน
การให้สญ ั ญาณ ใช้เมือ่ มีปริมาณจราจรมาก หรือเมือ่ มองไม่เห็นรถสวนทาง
เท่า
ลวง
างห
รมท
องก
ิทธิ์ข
ลิขส
@
@
อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อการใช้ทาง
อุปกรณ์การส่องสว่างทีใ่ ช้โดยทัวไปมี
่ ดงั ต่อไปนี้
นั้น
เท่า
6.1 ไฟกะพริ บ (Flashers)
ไฟกะพริบสีเหลืองแบบกะทัดรัด ใช้แบตเตอรีแ่ ห้ง หรือแบตเตอรีร่ ถยนต์ มีอตั ราการกะพริบ 50 – 60 ครัง้ ต่อ
ลวง
นาที การจุดสว่างประมาณ 1/3 – 1/2 ของเวลาทีใ่ ช้ความสว่างของหลอดไฟสามารถมองเห็นได้ในระยะอย่างน้อย 500
เมตร ในทัศนวิสยั ปกติ
ไฟกะพริบใช้สาํ หรับติดตัง้ ณ จุดทีก่ าํ ลังดําเนินการก่อสร้างหรือบํารุงรักษาทาง โดยเฉพาะอย่างยิง่ ทางหลวงที่
างห
มีปริมาณจราจรมาก และยวดยานใช้ความเร็วสูง บริเวณตําแหน่งทีผ่ ขู้ บั ขีไ่ ม่คาดหมายว่าจะมีอุปสรรค เช่น การก่อสร้าง
ทางแยกต่างระดับ และการบํารุงรักษาทางคู่ ซึง่ จะต้องปิดทางจราจรข้างหนึ่ง เป็ นต้น
รมท
@
โคมไฟและตะเกียง หมายถึง แสงสว่างจากการเผาไหม้ เช่น ตะเกียงรัว้ เป็ นต้น โดยทัวไปให้ ่ ใช้แทนอุปกรณ์
การส่องสว่างอื่นๆ เป็ นการชัวคราว
่ เมือ่ ไม่สามารถจัดหาอุปกรณ์เหล่านัน้ ได้ทนั แต่เมือ่ จัดหาอุปกรณ์อ่นื ๆ ได้แล้ว ให้
นั้น
เปลีย่ นทันที เพราะนํ้ามันเชือ้ เพลิงทีใ่ ช้อาจทําให้เกิดเพลิงไหม้ขน้ึ ได้
เท่า
ลวง
างห
รมท
องก
ิทธิ์ข
ลิขส
@
@
จราจรมาก หรือรถในทางตรงกันข้ามมองไม่เห็นกันแล้ว จําเป็ นต้องใช้เครือ่ งให้สญ ั ญาณ เพือ่ จัดหลีกรถให้ไปได้ทลี ะข้าง
นั้น
7.1 สัญญาณธง (Flagging)
เท่า
สัญญาณธงใช้ผใู้ ห้สญ ั ญาณสองคน อยู่คนละด้านทีจ่ าํ นวนช่องจราจรจะลดเหลือช่องเดียว โดยทีผ่ ใู้ ห้สญ ั ญาณ
ทัง้ สองจะต้องมองเห็นกันและกัน เพือ่ ทีจ่ ะบอกหรือให้สญ ั ญาณอีกคนหนึ่ง ให้สญ
ั ญาณห้ามรถโดยการยกธงแดง หรือให้
ลวง
รถผ่านไปได้โดยการยกธงเขียว
ธงทีใ่ ช้ควรมีขนาดประมาณ 50 x 50 เซนติเมตร สีแดงหนึ่งอัน สีเขียวหนึ่งอัน แต่ละอันมีดา้ มถือยาวประมาณ
1 เมตร ด้านปลายธงควรถ่วงนํ้าหนักเล็กน้อย เพือ่ ให้ธงเหยียดตรงในขณะถืออยูแ่ นวราบ
างห
ผูท้ ่จี ะให้สญ
ั ญาณจะต้องมีการพิจารณาให้เหมาะสม เพราะต้องรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของการจราจร
กล่าวคือจะต้องเป็ นผูม้ ไี หวพริบดี ร่างกายแข็งแรง สุภาพแต่หนักแน่น ให้สญ ั ญาณธงได้อย่างไม่เคอะเขิน
รมท
7.2 สัญญาณทางสะดวก
ในกรณีทไ่ี ม่สามารถใช้การให้สญ ั ญาณธงได้ ซึ่งอาจเป็ นเพราะทางทีจ่ ดั ให้รถเดินทางเดียวสลับกันมีระยะทาง
ยาวจนผูใ้ ห้สญ ั ญาณมองไม่เห็นกัน ก็อาจใช้ธงแดง (หรือของอื่น) มอบให้ผขู้ บั รถคันสุดท้าย โดยแนะนําว่าเมื่อผ่านไปถึง
ลิขส
แล่นปิ ดท้ายกลับมา วิธนี ้ีเป็ นวิธที ส่ี น้ิ เปลืองกว่า แต่ทาํ ให้ปญั หาธงหายหมดไป
@
ด้านของทิศทางให้เหมาะสม เป็ นผลให้ความล่าช้าเฉลี่ยของการจราจรน้ อยลง และไม่ก่อให้เกิดอุบตั ิเหตุ ทางแยก
ชัวคราวที
่ ่สมควรติดตัง้ สัญญาณไฟจราจรเพื่อควบคุมการจราจรนัน้ ให้คํานึงถึงปจั จัยต่างๆ ดังนี้ ปริมาณการจราจร
นั้น
ปริมาณคนเดินข้ามทางหลวง ทีต่ งั ้ และสภาพทางแยกชัวคราว ่ บริเวณทางแยกทีม่ แี นวโน้มว่าอาจก่อให้เกิดอุบตั เิ หตุได้
ง่าย เป็ นต้น
เท่า
ลวง
างห
รมท
องก
ิทธิ์ข
ลิขส
@
@
8.1 วัตถุประสงค์
นั้น
การใช้ป้ายมือถือมีวตั ถุประสงค์ ดังนี้
เท่า
1) เพือ่ เพิม่ ความปลอดภัยในพืน้ ทีก่ ่อสร้าง หรือระหว่างงานซ่อมบํารุงทาง
2) เพือ่ ความสะดวกในการใช้งาน
ลวง
3) เพือ่ ประหยัดงบประมาณในการก่อสร้างป้ายจราจร ในพืน้ ทีก่ ่อสร้าง หรือพืน้ ทีซ่ ่อมบํารุงทาง
8.2 รูปแบบแนะนํา
างห
1) แผ่นป้ายใช้แผ่นเหล็กอาบสังกะสีหนา 1.2 มิลลิเมตร
2) แผ่นสะท้อนแสงสีสม้ ตามมาตรฐาน ASTM D-4956 2004 (Type 7,8&9)
รมท
องค์ประกอบป้ ายมือถือ
@
1) ชุดไฟกะพริบ ดังแสดงในรูปที่ 8-4
นั้น
เท่า
ลวง
างห
รมท
@
นั้น
เท่า
ลวง
รูปที่ 8-6 ไฟฉุกเฉินในรถยนต์
างห
รมท
องก
ิทธิ์ข
ลิขส
@
@
2) แบบป้ายมาตรฐานในงานก่อสร้าง ชุดทางเบีย่ ง หรือสะพานเบีย่ ง 2 ช่องจราจร ดังแสดงในรูปที่
9-2
นั้น
3) แบบป้ายมาตรฐานในงานก่อสร้าง ชุดก่อสร้างบริเวณไหล่ทาง ดังแสดงในรูปที่ 9-3
เท่า
4) แบบป้ายมาตรฐานในงานก่อสร้าง ชุดงานก่อสร้าง 1 ช่องจราจร ดังแสดงในรูปที่ 9-4
5) แบบป้ายมาตรฐานในงานก่อสร้าง ชุดงานก่อสร้าง 1 ช่องจราจรบริเวณจุดตัดทางรถไฟ ดัง
ลวง
แสดงในรูปที่ 9-5
6) แบบป้ายมาตรฐานในงานก่อสร้าง ชุดทางหลวง 4 ช่องจราจร มีไหล่ทาง ปิ ดช่องจราจรขวา ดัง
แสดงในรูปที่ 9-6
างห
7) แบบป้ายมาตรฐานในงานก่อสร้าง ชุดทางหลวง 6 ช่องจราจร มีไหล่ทาง ปิ ดช่องจราจรกลาง
ดังแสดงในรูปที่ 9-7
รมท
@
2) แบบป้ายมาตรฐานในงานก่อสร้าง ชุดทางหลวง 4 ช่องจราจร มีไหล่ทาง ปิดช่องจราจรขวา
สําหรับทางหลวงพิเศษ (Motorway) ดังแสดงในรูปที่ 10-2
นั้น
3) แบบป้ายมาตรฐานในงานก่อสร้าง ชุดทางหลวง 6 ช่องจราจร มีไหล่ทาง ปิดช่องจราจรกลาง
สําหรับทางหลวงพิเศษ (Motorway) ดังแสดงในรูปที่ 10-3
เท่า
4) แบบป้ายมาตรฐานในงานก่อสร้าง ชุดทางหลวง 6 ช่องจราจร ไม่มไี หล่ทาง สําหรับทางหลวง
พิเศษ (Motorway) ดังแสดงในรูปที่ 10-4
ลวง
างห
รมท
องก
ิทธิ์ข
ลิขส
@
@
ผูร้ บั จ้างจะต้องจัดเตรียม และติดตัง้ ป้ายจราจรในพืน้ ทีท่ ่มี กี ารก่อสร้าง หรือบูรณะทาง หรือสะพาน ตามคู่มอื
การใช้อุปกรณ์ควบคุมการจราจรบริเวณพืน้ ทีก่ ่อสร้าง ของกรมทางหลวง
นั้น
เท่า
11.2 ความรับผิดชอบของผูร้ บั จ้าง
1) ผูร้ บั จ้างจะต้องจัดทําแผนปฏิบตั งิ านความปลอดภัยในการทํางานอย่างละเอียดและชัดเจน ให้สอดคล้อง
ลวง
กับระบบการจัดการความปลอดภัยในการทํางานก่อสร้างแล้วเสนอต่อผูค้ วบคุมงานเพือ่ พิจารณา ให้ความเห็นชอบก่อน
ดําเนินการก่อสร้าง
2) ผูร้ บั จ้างจะต้องปฏิบตั งิ านตามแผนปฏิบตั งิ านทีไ่ ด้เสนอไว้กบั ผูว้ า่ จ้างอย่างเคร่งครัด และสอดคล้องกับ
างห
กฎหมายและระเบียบทีก่ าํ หนดไว้ พร้อมรายงานผลการดําเนินงานตามแผนดังกล่าวให้ผคู้ วบคุมงานรับทราบอย่างน้อย
เดือนละ 1 ครัง้
รมท
เมือ่ ตรวจพบ
5) ผูร้ บั จ้างต้องจัดการให้ป้ายอยูใ่ นสภาพทีด่ ี และครบถ้วนตามคู่มอื การใช้อุปกรณ์ควบคุมการจราจรบริเวณ
ิทธิ์ข
@
จัดเตรียมและประกอบเรียบร้อยในเขตก่อสร้างพร้อมทีจ่ ะใช้งานตามหลักฐานการสังซื ่ อ้ หรือจ้างผลิต แต่ตอ้ งไม่เกินร้อย
ละ 50 ของรายการค่างานบริหารการจราจรในระหว่างก่อสร้างตามสัญญา
นั้น
ข) ส่วนที่สองจะแบ่งจ่ายให้ในทุกงวดงานเป็ นเปอร์เซ็นต์ โดยคํานวณตามเปอร์เซ็นต์เต็มของ
ผลงานทัง้ โครงการที่ทํา ได้ใ นงวดนัน้ ๆ และจ่ า ยให้ค รึ่ง หนึ่ ง ของเปอร์เ ซ็น ต์ผ ลงานที่ทํ า ได้ ทัง้ นี้ จ่ า ยให้ค รบ 100
เท่า
เปอร์เซ็นต์เมือ่ งานโครงการแล้วเสร็จตามสัญญา
3) ค่างานบริหารการจราจรทีแ่ บ่งจ่ายในแต่ละงวด เป็ นส่วนหนึ่งของทุกรายการค่างานในงวดนัน้ ในกรณีท่ี
ลวง
อุปกรณ์ควบคุมการจราจรชํารุดหรือสูญหาย ไม่เป็ นไปตามคู่มอื การใช้อุปกรณ์ควบคุมการจราจรบริเวณพืน้ ที่ก่อสร้าง
ของกรมทางหลวง ถือว่างานในงวดนัน้ ยังไม่เรียบร้อยตามสัญญา ผูว้ ่าจ้างสงวนสิทธิ ์ทีจ่ ะไม่ตรวจรับงานก่อสร้างในงวด
างห
นัน้ จนกว่าผูร้ บั จ้างจะดําเนินการติดตัง้ อุปกรณ์ควบคุมการจราจรให้เป็ นไปตามคู่มอื การใช้อุปกรณ์ควบคุมการจราจร
บริเวณพืน้ ทีก่ ่อสร้าง ของกรมทางหลวง และผูร้ บั จ้างจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ จากกรณีดงั กล่าวจากผูว้ ่าจ้าง การ
จ่า ยค่ า งานส่ว นที่เ หลือ ในครัง้ ต่ อ ไปนอกจากจะถู ก ระงับ แล้ว ถ้า หากยัง มีค วามจํา เป็ น ที่จ ะต้อ งมีอุ ป กรณ์ ค วบคุ ม
รมท
@
5. กรมทางหลวง, “รายละเอียดและข้อกําหนดการจัดทําเครื่องหมายจราจรบนผิวทาง (การตีเส้น ลูกศร ขีดเขียน
นั้น
ข้อความ) Specification for Road Marking”, กรกฎาคม พ.ศ. 2551
6. กรมทางหลวง, คู่มอื เครื่องหมายควบคุมการจราจร ในงานก่อสร้างบูรณะและบํารุงรักษาทางหลวง ฉบับปี พ.ศ.
เท่า
2545
7. กรมทางหลวง, โครงการป้าย Knockdown (ป้ายมือถือ)
ลวง
8. กรมทางหลวงชนบท, “คูม่ อื และมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดการจราจรบนทางหลวงชนบท”, พ.ศ. 2551
9. กิตติชยั ธนทรัพย์สนิ , วิศวกรรมจราจรเบือ้ งต้น, ศูนย์ผลิตตําราเรียน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระ
นครเหนือ, ISBN 974-620-686-9, 2551
างห
10. สํานักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.), “เกริน่ นํา เอกสารการเรียนรูด้ ว้ ยตนเองเกีย่ วกับคู่มอื
และมาตรฐานเครือ่ งหมายจราจร, Self Study Manual of Traffic Control Devices Standard”, พ.ศ. 2547
รมท
17. Queensland Government, Australia, “Manual of Uniform Traffic Control Devices”, May 2009.
18. Roess, R. P., Elena S. P., William R., McShane. Traffic Engineering, 3rd Ed., Pearson Prentice Hall,
New Jersey, 2004.
19. U.S. Department of Transportation, Federal Highway Administration, “Manual on Uniform Traffic
Control Devices for Streets and Highways”, 2009 Edition.
2. นายสุจณ
ิ มังนิ
่ มติ ร ------------------------------------------------------------------------------------------------------- กรรมการ
@
วิศวกรโยธาเชีย่ วชาญ
นั้น
รก.วิศวกรโยธาเชีย่ วชาญ
เท่า
4. นายสว่าง บูรณธนานุกจิ ------------------------------------------------------------------------------------------------ กรรมการ
วิศวกรโยธาชํานาญการพิเศษ
ลวง
5. นายพลเทพ เลิศวรวนิช ------------------------------------------------------------------------------------------------- กรรมการ
วิศวกรโยธาชํานาญการพิเศษ
างห
6. นายวิชติ นามประสิทธิ ์ -------------------------------------------------------------------------------------------------- กรรมการ
วิศวกรโยธาชํานาญการพิเศษ
รมท