Professional Documents
Culture Documents
รายงานนีเ้ ป็ นส่วนหนึ่งของรายวิชา
การจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน
มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร แม่สอด
1
คำนำ
เนื้อหาของเอกสารประกอบการสอนแบ่งออกเป็ น 8 บท ครอบคลุมเนื้ อหาที่จำเป็ นสำหรับวิชาการ
จัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานเบื้องต้น ได้แก่ หลักการพื้นฐานทางโลจิสติกส์และโซ่อุปทา การจัดซื้ อ
จัดหา การจัดการวัสดุและบรรจุภณั ฑ์การขนถ่ายลำเลียงและการผลิต การจัดการคลังสิ นค้าและสิ นค้าคงคลัง
การจัดการศูนย์กระจายสิ นค้าและการส่ งมอบการขนส่ งและอุปกรณ์กรขนสง ระบบสารสนเทศและ อโลจิ
สติกส์โลก ซึ่ งจะช่วยให้ผเู้ รี ยนมีความรู้ความข้าใจและมีทศั นคติที่ดีต่อวิชาการจัดการโลจิสติกส์และ โซ่
อุปทานเบื้องต้น รวมทั้งมีความพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ การเป็ นนักจัดการโซ่อุปทานที่มีคุณภาพในอนาคต
การจัดพิมพ์ครั้งนี้ ผูเ้ ขียนได้ปรับปรุ งและเพิ่มเติมเนื้อหาสาระให้ทนั สมัยและสอดคล้องต่อวิชาชีพ
หวังเป็ นอย่างยิง่ ว่าเนื้อหาสาระที่นำเสนอไว้จะเป็ นประโยชน์แก่ผเู ้ รี ยนรวมทั้งบุคคลทัว่ ไปซึ่ งตระหนักถึง
ความสำคัญของโซ่อุปทานในการนำแนวคิดทั้งหลายนั้นไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประสิ ทธิ ภาพและประสิ ทธิ ผล
ในการประกอบวิชาชีพและการดำเนินชีวิต ผูเ้ ขียนขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจและมีส่วนสำคัญ
อย่างยิง่ สำหรับความพากเพียรพยายามและความสำเร็ จในการเรี ยบเรี ยงเอกสารประกอบการสอนเล่มนี้ ซึ่ ง
หากมีขอ้ บกพร่ องประการใดโปรดให้คำแนะนำทางวิชาการแก่ผเู ้ ขียน เพื่อประโยชน์ทางวิชาการสื บไป
สารบัญ
หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
บทที่ 7 การขนส่ งและอุปกรณ์การขนส่ ง 1
รู ปแบบการขนส่ ง 1
การขนส่ งต่างรู ปแบบ 9
การขนส่ งหลายรู ปแบบ 10
ทางเลือกการออกแบบการขนส่ ง 11
ประโยชน์การขนส่ งแบบ Cross Docking 16
อุปกรณ์การขนส่ ง 16
สัญลักษณ์และความหมาย 17
การพิจารณาทางเลือกเครื่ องจักรอุปกรณ์ในการจัดการควบคุมด้านวัสดุเพื่อการขนส่ ง 18
ประเภทของเครื่ องจักรอุปกรณ์ในการจัดการควบคุมด้านวัสดุ 18
บทสรุ ป 21
แบบฝึ กหัดท้ายบทที่ 7 22
เอกสารอ้างอิง
1
1.1 ขนส่ งด้วยเรื อกับรถไฟ (Sea-Rail Link) เป็ นการขนส่ งสิ นค้าโดยใช้รูปแบบขนส่ งด้วยเรื อจาก
จุดดันทาง เมื่อถึงท่าเรื อปลายทาง สิ นค้าจะขนถ่ายขึ้นรถไฟไปให้ผรู ้ ับสิ นค้า หรื อจากจุดต้นทางขนด้วย
รถไฟแล้วต่อด้วยเรื อไปปลายทาง
1.2 ขนส่ งด้วยเรื อกับรถบรรทุก (Sea Road Link) สิ นค้าบรรทุกลงเรื อ ณ ท่าเรื อต้นทางเมื่อเรื อถึงหรื
ปลายทาง สิ นค้าจะขนถ่ายขึ้นรถบรรทุกไปให้ผรู ้ ับสิ นค้าหรื อจากต้นทางด้วยรถบรรทุกแล้วต่อด้วยเรื อไปยัง
ปลายทาง เช่น สิ นค้าจากลาวขนด้วยรถบรรทุกมายังทำเรื อแหลมฉบังจากท่าเรื อแหลมฉบังขนด้วยเรื อไปไป
ปลายทาง
1.3 การขนส่ งด้วยเรื อกับเครื่ องบิน (Sea-Air Link) สิ นค้าบรรทุกลงเรื อ ณ ท่าเรื อต้นทางเมื่อเรื อถึง
ท่าเรื อปลายทางสิ นค้าจะขนถ่ายขึ้นเครื่ องบินไปให้ผรู ้ ับสิ นค้าหรื อในทางกลับกัน
2. การขนส่ งมากกว่ า 2 รู ปแบบการขนส่ ง (Multi-Modes)
การค้าระหว่างประทศผูซ้ ้ื อและผูข้ ายอยูค่ นละประเทศ สิ นค้าจากตันทางไปยังปลายทางอาจเปลี่ยน
ถ่ายยานพาหนะหลายครั้งกว่าสิ นค้าจะถึงปลายทาง
2.1 ขนสงด้วยรถบรรทุก-เรื อ-เครื่ องบิน (Road-Sea-Air Links) เป็ นการขนส่ งที่สินค้าต้องเปลี่ยน
ถ่ายยานหานะมากกว่า 2 ครั้ง สิ นค้าจากต้นทางขนส่ งด้วยรถบรรทุก จากนั้นขนด้วยเรื อและจากเรื อขนด้วย
เครื่ องบินไปยังปลายทาง
2.2 ขนสงด้วยรถไฟเรื อ-รถบรรทุก (Rail Sea-Rad Links) เป็ นการขนส่ งต่างรู ปแบบที่สินค้าขนถ่าย
เปลี่ยนยานพาหนะ 3 ทอดหรื มากกว่า ดันทางขนด้วยรถไฟ จากนั้นขนด้วยเรื อและจากเรื อขนด้วยรถบรรทุก
ไปยังปลายทาง
2.3 ขนส่ งด้วยเครื่ องบิน-เรื อรถไฟ (Air-Sea Rail Links) เป็ นการขนส่ งต่างรู ปแบบที่สินค้าขนถ่าย
เปลี่ยนยานพาหนะ 3 ทอดหรื มากกว่า ต้นทางสิ นค้าขนด้วยเครื่ องบิน จากนั้นขนด้วยเรื อและจากเรื อขนด้วย
รถไพไปปลายทาง
องค์การ UNCTAD (United Nations Conference on Trade and Development.) ตะหนักถึงปั ญหา
การขนส่ งระหว่างประเทศต่อการค้า เพื่อที่จะให้การขนส่ งระหว่างประเทศเอื้ออำนวยต่อการค้า UNCTAD
จึงได้จดั ทำอนุสญ ั ญาว่าด้วยการขนส่ งหลายรู ป แบบ (Multimodal Transport Convention) ข้อบัญญัติ
อนุสญ ั ญาดังกล่าวมีสาระสำคัญที่บอกถึงความแตกต่างระหว่างการขนส่ งต่างรู ปแบบ กับหลายรู ปแบบ ดังนี้
(Porter, M. E.,1985: 114-118)
1.ใช้กบั การขนส่ งสิ นค้าระหว่างประเทศ (International Transport) การขนส่ งหลายแบบเป็ น
การขนส่ งสิ นค้าจากประเทศหนึ่งไปยังปลายทางอีกประเทศหนึ่ง โดยระหว่างทางสิ นค้าจะเปลี่ยนถ่ายยาน
พาหนะขนส่ งมากกว่า 1 ครั้ง การเปลี่ยนถ่ายยานพาหนะอาจเป็ นรู ปแบบขนส่ งเดียวกันหรื อต่างรู ปแบบการ
ขนส่ งก็ได้ เช่น สิ นค้าจากลาวมีปลายทางที่ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงขนส่ งแรกจากลาวมายังท่าเรื อแหลฉบังขน
ด้วยรถบรรทุกและจากแหลมฉบังขนด้วยเรื อไปญี่ปนุ่
2. เอกสารการขนส่ งฉบับเดียว (Single Transport Document) ผูร้ ับขนเมื่อรับสิ นค้าก็จะออกเอกสาร
ขนส่ งที่เรี ยกว่า "ใบตราส่ ง" (Bill of Lading) ให้กบั ผูส้ ่ งของ ใบตราส่ งจึงเป็ นทั้งสัญญารับขนของและหลัก
ฐานแสดกรรมสิ ทธิ์ สิ นค้า ในทางปฏิบตั ิการขนส่ งสิ นค้า ผูร้ ับขนจะออกตราส่ งให้กบั ผูส้ ่ งของหรื อผูด้ ูแลทุก
ครั้งที่สินค้าขนถ่ายเปลี่ยนยานพาหนะ ตามข้อบัญญัติอนุสญ ั ญาว่าด้วยการขนส่ งหลายรู ปแบบให้ใช้เอกสาร
การขนส่ งเพียงฉบับเดียว โดยผูร้ ับขนรายแรกเป็ นผูอ้ อกใบตราส่ งใบตราส่ งฉบับเดียวนี้ ครอบคลุมการขนส่ ง
10
ทางเลือกการออกแบบการขนส่ ง
(Design Options for Transportation)
A ข
ค
ภาพที่ 7.1 Direct Shipment
ภาพที่ 7.1 ผูผ้ ลิต (Supplier) อาจเป็ นผูผ้ ลิตวัตถุดิบหรื อผูผ้ ลิตขึ้นสวนหรื อผูผ้ ลิตสิ นคำสำเร็ จรู ป
หากเป็ นผูผ้ ลิตวัตถุดิบหรื อชิ้นส่ วนลูกค้าก็จะเป็ นโรงงาน ถ้าเป็ นผูผ้ ลิตสิ นค้าสำเร็ จรู ปลูกค้าก็จะเป็ นผูค้ า้
หรื อ ผูค้ า้ ปลีก ยานพาหนะบรรทุกสิ นค้าเต็มคัน รถจากโรงงาน A ส่ งให้ลูกค้า ก ยานพาหนะอีกคันส่ งให้
ลูกค้า ข และยานพาหนะอีกคันสงให้ลูกค้า ค
Supplier Customers
B ข
C ค
ภาพที่ 7.2 Direct Shipment with Milk Runs from Multiple Suppliers
ก
วิธีการขนส่ งแบบนี้ใช้กบั ขนสงวัตถุหรื อสิ นค้าสำเร็ จรู ปก็ได้ เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์
ให้ชิ้นส่ วน ส่ วนประกอบและอุปกณ์จกผูผ้ ลิตภายนอก การขนส่ งวัสดุ จากโรงงานผลิตวัสดุมายัง
โรงานประกอบรถยนต์
ตามระบบการผลิแบบ Lea แต่ละเที่ยวมีปริ มาณน้อยทำให้ตน้ ทุนขนส่ งสู งบริ ษทั ผลิตรถยนต์น ้ำระบบ
Milk Runs มาใช้โดยให้รถบรรทุกแต่ละคันรวบรวมวัสดุจากผูผ้ ลิตหลายรายเต็มคันรถแล้วส่ งตรงมายัง
โรงงานประกอบรถยนต์ วิธีกรขนสูงแบบนี้ ทำให้ลามารถใช้ระบบ JIT ได้และประหยัดค่าขนส่ งด้วย
2. การขนส่ งตรงแบบ Milk Runs ให้ลูกค้าหลายราย (Direct Shipment with Milk Runs to Multiple
Customers) กรขนส่ งตรงจากโรงานไปให้ลูกค้า หากมีปริ มาณสิ นค้ามากพอเต็มคันรถก็จะสามารถลดต้นทุน
ขนส่ งได้ ในกรณี ลูกค้าสัง่ ซื้ อสิ นคมีปริ มาณไม่มากพอเต็มคันรถก็ควรใช้การขนส่ งแบบ Milk Runs ยาน
พาหนะบรรทุกสิ นค้าเต็มคันรถจากโรงานไปให้ลูกค้านลายราย วิธีการขนส่ งแบบนี้จะลดต้นทุนการขนส่ ง
และเพิ่มระดับการให้บริ การลูกค้า ตังภาพ 7.3
Direct Shipment with Milk Runs to Multiple Customers
Supplier Customers
ก
A
B ข
C ค
ภาพที่ 7.3 Direct Shipment with Milk Runs to Multiple Customers
ตามภาพที่ 7 3 ยานพาหนะบรรทุกสิ นค้าเต็มคันจากโรงาน A ไปให้ลูกค้า ก ข และ ค จากโรงงาน B
ขนเต็มคันรถไปให้ลูกค้า ก ข และ ค และจากโรงงาน C ไปให้ลูกค้า ก ข และ ค
การขนส่ งแบบนี้ใช้ได้กบั วัสดุและสิ นค้าสำเร็ จรู ป เช่น บริ ษทั โตโยต้าใช้วิธีน้ี ที่โรงงานประกอบ
รถยนต์ในญี่ปนุ่ โดยขนวัสดุจกผูผ้ ลิตวัสดุ เต็มคันรถส่ งให้โรงานประกอบรถยนต์ของโตโยต้าที่อยูใ่ กล้เคียง
กับหลายโรงงาน กรขนสงแบบนี้ สามารถสนับสนุนระบบ และลดค่าขนส่ ง
3. การขนส่ งตรงแบบ Mik R นก จกผูผ้ ลิตหลายรายไปให้ลูกค้าหลายราย (Direct Shipment with
Milk Runs from Multiple Suppliers to Multiple Customers) วิธีการขนส่ งที่กล่าวมาเป็ นแบบ Milk Runs
จากซัพพลายเออร์หลายรายหรื อไปให้ลูกค้าหลายราย การขนสงแบบนี้ สามารถนำมาใช้โดยรวบรวมสิ นค้า
จากผูผ้ ลิตหลายรายเต็มคันรถแล้วไปส่ งให้ลูกค้าหลายราย ตั้งภาพ 7.4
Direct Shipment with Milk Runs from Multiple Suppliers to Multiple Customers
13
Supplier Customers
A
B ข
C ค
ภาพที่ 7.4 Direct Shipment with Milk Runs from Multiple Suppliers
to Multiple Customers
ตามภาพที่ 4 รถบรรทุกรบรวมสิ นค้าจากซัพพลายเออร์ A B และ C เต็มคันรถแล้วไปส่ งให้ลูกค้า ค
ข และ ก กรณี ซพั พลายเออร์เป็ นผูผ้ ลิตวัสดุลูกค้าก็จะเป็ นผูผ้ ลิตสิ นค้าสำเร็ จรู ปก็อาจเป็ นผูค้ า้ ส่ งหรื อ ผู ้
ค้าปลีก
4. การขนส่ งสิ นค้าแบบผ่านศูนย์กระจายสิ นค้ากลาง (All Shipment via Central Distribution)
การขนส่ งแบบนี้สินค้าเข้าเต็มคันรถที่มาจากแหล่งผลิตต่างๆ จะผ่านศูนย์กระจายสิ นค้า สิ นค้าจะขนถ่ายออก
จากยานพาหนะแล้วเข้าเก็บในศูนย์กระจายสิ นค้าเป็ นการชัว่ คราวหรื อใช้คลังสิ นค้าเพื่อเปลี่ยนถ่ายยาน
พาหนะ โดไม่มีการพักสิ นค้าไว้ที่ศูนย์กระจายสิ นค้า คลังสิ นค้าจะเป็ นสถานที่คดั แยกและรวบรวมสิ นค้าเพื่อ
ส่ งต่อไปให้ลูกค้า การรวบรวมสิ นค้าจากผูผ้ ลิตหลายรายแล้วส่ งไปให้ลูกค้าแต่ละรายก็เพื่อใช้ประโยชน์ยาน
พาหนะบรรทุกเต็มคันรถ ซึ่ งมี 2 กรณี ดงั นี้
4.1 การขนส่ งแบบผลิตภัณฑ์ผกั ชัว่ คราวที่ศูนย์กระจายสิ นค้า (Shipment with Products Temporary
Store at DC) ผลิตภัณฑ์ที่ขนมาจากแหล่งผลิตซึ่ งอาจเป็ นวัสดุหรื อ สิ นค้าสำเร็ จรู ปจะเก็บที่
คลังสิ นคชัว่ คราวเพื่อรอการรวบรวมและคัดแยกส่ งให้โรงานผลิต
ดังภาพ 7.5 ก สิ นค้าสำเร็ จรู ปหรื อลูกค้า
Shipment of Product with Temporary Store at DC
Supplier DC Customers
A
B ข
C ค
ภาพที่ 7.5 Shipment of Product with Temporary Store at DC
บริ ษทั มีหลายโรงงาน และผลิตสิ นค้าหลายชนิด ซึ่ งต้องใช้ วัตถุดิบ ชิ้นส่ วนและส่ วน
ประกอบจากผูผ้ ลิตวัสดุหลายราย บริ ษทั ให้ศูนย์กระจายสิ นค้ารวบรวม ก วัสดุเข้าเต็มคันรถจาก
โรงงานผลิตวัสดุ A B และ C วัสดุขาเข้าจะเก็บรักษาไว้ที่ DC เป็ นการ ชัว่ คราว เพื่อทำการคัดแยก
และรวบรวมให้เต็มคันรถแล้วส่ งต่อไปแต่ละโรงานผลิตสิ นค้า ก ข และ ค หรื อโรงงานผลิตสิ นค้าสำเร็ จรู ป
A B และ C ส่ งสิ นค้าเต็มคันรถไป C สิ นค้าจะขนลงจากยานพาหนะและพักชัว่ คราวที่ DC เพื่อรอการคัดแยก
และรวบรวมสิ นค้าไปให้ลูกค้าแต่ละราย ดังปรากฏตามภาพที่ 7.5
4.2 การขนส่ งแบบใช้ศูนย์กระจายสิ นค้าเป็ นจุดผ่าน (Transportation with Cross Docking) การ
ขนส่ งแบบ Cross Docking เป็ นรู ปแบบขนส่ งที่ใช้ศูนย์กระจายสิ นค้า หรื อคลังสิ นค้าเป็ นจุดเปลี่ยนถ่ายยาน
14
C ค
ภาพที่ 7.6 Transportation with Cross Docking
ตามภาพที่ 7.6 ซัพพลายเออร์อาจเป็ นผูผ้ ลิตวัสดุหรื อสิ นค้าสำเร็ จรู ปและลูกค้าอาจเป็ นผูผ้ ลิตสิ นค้า
สำเร็ จรู ปหรื อผูค้ า้ ปลีก ผลิตภัณฑ์จากซัพพลายเออร์แต่ละรายขนเต็มคันรถมายังศูนย์กระจายสิ นค้า เมื่อยาน
พาหนะมาถึง DC ก็จะขนถ่ายสิ นค้าออกจากยานพาหนะแล้วทำการคัดแยกและรวบรวมตามความต้องการ
ของลูกค้าแต่ละราย จากนั้นขนขึ้นยานพาหนะขาออกไปส่ งให้ลูกค้าโดยไม่มีการเก็บสิ นค้าไว้ที่ DC
Cross Docking เป็ นวิธีขนส่ งที่สินค้าไม่ตอ้ งเก็บที่ DC หรื อเก็บไม่เกิน 24 ชัว่ โมง สิ นค้าที่มาจาก
โรงงานใช้ DC เป็ นจุดเปลี่ยนถ่ายยานพานนะไปให้ลูกค้า ประโยชน์การใช้ Cross Docking มีดงั นี้
1. ลดสิ นค้าคงคลัง โดยปกติสินค้าที่มาจากโรงงานจะนำไปเก็บไว้ที่คลังสิ นค้าก่อนส่ งไปยังร้านค้า
ปลีก วิธีปฏิบตั ิเช่นนี้ บริ ษทั จะมีสินค้าคงคลังมา การใช้วธิ ี Cross Docking สิ นค้าที่มาจากโรงงานจะไม่เก็บที่
คลังสิ นค้า แต่ใช้คลังสิ นค้าเป็ นจุดผ่าน วิธีขนส่ งแบบ Cross Docking จึงลดสิ นค้าคงคลังของบริ ษทั
2. ลดค่าใช้จ่ายเก็บรักษาสิ นค้า การขนส่ งแบบ Cross Docking สิ นค้าจะส่ งผ่าน DC ไปยังลูกค้าทันที
สิ นค้าไม่ตอ้ งเก็บรักษาไว้ในคลังสิ นค้าทำให้ไม่มีตน้ ทุนการเก็บรักษาหรื อมีนอ้ ยมาก
3. ลดค่ายกขนสิ นค้า สิ นค้าเก็บรักษาที่ DC มีการยกขนหลายครั้ง โดยเริ่ มตั้งแต่ยกขนออกจากยาน
พาหนะ ยกขนไปเก็บในคลังสิ นค้า ยกขนจากที่เก็บไปยังลานวางสิ นค้าขาออก และสุ ดท้ายยกขนขึ้นยาน
พาหนะ การขนสงวิธี Cross Docking สิ นค้ายกออกจากยานพาหนะขาเข้าไปวางที่ลานแยกสิ นค้า จากนั้นยก
ขึ้นยานพาหนะขาออก ซึ่ งจะเห็นว่าวิธีขนแบบ Cross Docking สิ นค้ายกขนน้อยครั้งทำให้ลดค่าใช้จ่ายยกขน
4. สิ นค้าเคลื่อนไหวเร็ ว การขนส่ งแบบ Cross Docking สิ นค้าไม่ตอ้ งเก็บรักษาที่คลังสิ นค้าสิ นค้าส่ ง
มอบให้ลูกค้าได้เร็ว ทำให้ได้รับเงินเร็ วเป็ นผลให้กระแสเงินสดของบริ ษทั ดีข้ ึน
อุปกรณ์การขนส่ ง
ให้รายละเอียดเกี่ยวกับกระบวนการผลิตและความแน่นอนสมบูรณ์ในการวิเคราะห์ดา้ นเทคนิคและการคาด
คะเนต้นทุน เช่นเดียวกับ ยุทธ ไกรวรรณ์ (2545: 105) ได้กล่าวว่าแผนภูมิแสดงการไหลของกระบวนการ
ผลิต จะแสดงให้เห็นถึงขั้นตอนและกรรมวิธีการผลิตโดยใช้สญ ั ลักษณ์แทนกิจกรรมต่างๆ ในกระบวนการ
ผลิตสัญลักษณ์การไหลของกระบวนการผลิตทางสมาคมวิศวกรมเครื่ องกลแห่งประเทศสหรัฐอเมริ กา
(American Society of Mechanical Engineers: A.S.M.E) เป็ นผูกำ
้ หนดขึ้นมาด้วยกัน 6 ลักษณะ ดังจะแสดง
ให้เห็นในภาพที่ 7.7 ดังนี้
สั ญลักษณ์ และความหมาย
3. ออกแบบการใช้เครื่ องจักรอุปกรณ์ที่ช่วยในการประหยัดพื้นที่และการจัดการควบคุม
4. ใช้เครื่ องจักรอุปกรณ์ที่ไม่มีการติดตั้งแบบถาวร
5. ติดตั้งเครื่ องจักรอุปกรณ์ที่มีความปลอดภัยเท่านั้น
6. อย่างไรก็ตามถ้าเป็ นไปได้ควรเลือกใช้การเคลื่อนย้ายวัสดุจากแรงโน้มถ่วงเข้ามาช่วย
7. ควรเลือกเครื่ องจักรอุปกรณ์ที่มีการควบคุมเวลาการทำงานได้
8. ควรเลือกเครื่ องจักรอุปกรณ์ที่เป็ นมาตรฐานมากกว่ามีการออกแบบเป็ นพิเศษ
9. ควรวางแผนในการเก็บเครื่ องมือในการปฏิบตั ิให้มีอายุการใช้งานนานๆ
10. ควรเตรี ยมทางเลือกในกรจัดการควบคุมในกรณี ที่เกิดความล้มเหลว
11. ควรพิจารณาคุณลักษณะทั้งหมดของการเคลื่อนย้ายก่อนที่จะเลือกเครื่ องจักรอุปกรณ์
12. ไม่ควรใช้กำลังการผลิตของเครื่ องจักรอุปกรณ์มากเกินไป
13. ควรเลือกเครื่ องจักรอุปกรณ์ที่มีขนาดกำลังการผลิตที่เหมาะสมกับการใช้งาน
14. เครื่ องจักรอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดการควบคุมด้านวัสดุสามารถปรับหรื อเปลี่ยนแปลงได้
ตามการใช้งานหรื อการประยุกต์ใช้
15. การเลือกเครื่ องจักรอุปกรณ์มีฐานจากต้นทุนทั้งหมดหรื อดันทุนครั้งแรก
ประเภทของเครื่องจักรอุปกรณ์ ในการจัดการควบคุมด้ านวัสดุ
เครื่ องจักรอุปกรณ์ในการจัดการควบคุมด้านวัสดุ จากบทบาทหน้าที่ของเครื่ องจักรอุปกรณ์ในการ
จัดการควบคุมสามารถจำแนกออกไปตามเนื้อที่ในการใช้ คือถ้าเป็ นเส้นทางที่ถาวร ก็จะใช้ประเทศสายพาน
ลำเลียง (Conveyors) ถ้าจำกัดพื้นที่กใ็ ช้ประเทศปั้ นจัน่ หรื อรอก (Cranes and Hoists) และถ้าไม่จำกัดพื้นที่ก็
ใช้ประเภทรถบรรทุก (Tucks) ซึ่ งยุทธ ไกรวรรณ์ (2545 : 87-92) ได้กล่าวไว้เกี่ยวกับหารขนย้ายวัสดุในเรื่ อง
ของการวางผังโรงงานขั้นต้นเหมือนกัน โดยแบ่งเป็ นประเภทต่างๆดังนี้
1. สายพานลำเลียง (Conveyors) เป็ นการเคลื่อนย้ายวัสดุหรื อชิ้นส่ วนไปตามเส้นทางที่ถาวรจกจุด
หนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง หรื อเคลื่อนย้ายแบบวงจรปิ ด ซึ่ งการเคลื่อนย้ายอาจถูกลำเลียงโดยภาชนะบรรจุหรื อตัว
ยึดที่เป็ นชิ้นส่ วนของระบบสายพานหรื อสามารถเคลื่อนย้ายภาชนะบรรจุสายพานลำเลียงอาจใช้พลังงานขับ
เคลื่อนในกรณี ที่มีการเคลื่อนที่โดยโซ่ เคเบิล หรื อขนส่ งโดยสายพานยาง การขนย้ายแบบนี้ เป็ นการขนย้ายที่
ขนย้ายได้มากและเกือบตลอดเวลา นอกจากนี้การขนย้ายแบบสายพานลำเลียงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเส้น
ทางลำเลียง มักจะใช้เป็ นส่ วนหนึ่งในสายการผลิตระดับต่อเนื่อง กินเนื้อที่แน่นอน สำหรับวัสดุที่ใช้สายพาน
ลำเลียง เช่น สิ นแร่ ข้าวสาร เป็ นหีบเป็ นกล่อง เป็ นต้น ดังภาพที่ 78
17
บทสรุ ป
19
เอกสารอ้ างอิง