Professional Documents
Culture Documents
เครือ่ งหมายนําทาง
โดย
กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม
ถนนศรีอยุธยา แขวงทุง่ พญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
บทที่ 1 รายการทัวไปของเครื
่ ่องหมายจราจรบนพืน้ ทางและเครื่องหมายนําทาง 1
1.1 หน้าทีข่ องเครือ่ งหมายจราจรบนพืน้ ทาง (Pavement Markings) และเครือ่ งหมายนําทาง
(Delineators) 1
1.2 หลักการใช้เครือ่ งหมายจราจรบนพืน้ ทาง และเครือ่ งหมายนําทาง 1
1.3 ประเภทเครือ่ งหมายจราจรบนพืน้ ทาง และเครื่องหมายนําทาง 1
1.4 สีของเครือ่ งหมายจราจรบนพืน้ ทาง 2
1.5 วัสดุสาํ หรับเครื่องหมายจราจร 2
1.6 การบํารุงรักษา 3
บรรณานุกรม 75
สีขาว
1) เส้นแบ่งช่องจราจร (Lane Lines)
2) เส้นขอบทางด้านนอก (Edge Line on Outer Side)
3) รูปบัง้ บริเวณหัวเกาะ (Chevron Hatching)
4) เส้นหยุด (Stop Line)
5) เส้นให้ทาง (Give Way Line)
6) เส้นทางข้าม (Crosswalks)
7) เส้นช่องจอดรถ (Parking Space Markings)
8) รูปเกาะบริเวณทางแยก (Island Markings)
9) ข้อความและเครือ่ งหมายบนผิวจราจร (Words and Symbols)
สีเหลือง
1) เส้นแบ่งทิศทางจราจร (Separation Lines or Center Lines)
2) เส้นขอบทางด้านในบนทางคู่ (Edge Line on Inner Side of Divided Highway)
3) เส้นเฉียงบริเวณเกาะแบ่งทิศทางจราจร (Flush Median)
4) เส้นทแยงห้ามหยุดรถ (Junction Block Markings)
1.6 การบํารุงรักษา
แนวทางบํารุงรักษาเครือ่ งหมายจราจรบนพืน้ ทางมี ดังนี้
1) หน่ วยงานที่ดูแลรับผิดชอบงานบํารุงทางต้องหมันตรวจสอบเครื
่ ่องหมายจราจรบนพืน้ ทางให้อยู่ใน
สภาพเรียบร้อย มองเห็นง่าย และปลอดภัยต่อผูใ้ ช้ทาง ทัง้ นี้การตรวจสอบรวมถึงความสามารถด้าน
การสะท้อนแสงในเวลากลางคืนด้วย โดยหน่ วยงานจะต้องทํารายการเครื่องหมายจราจรบนพืน้ ทาง
ประเภทต่างๆในบัญชีการสํารวจความเสียหายผิวทาง (Road Maintenance Survey) หากตรวจพบ
เครือ่ งหมายจราจรบนพืน้ ทางทีเ่ สือ่ มสภาพหรือชํารุด
ก. ถ้ายังอยูใ่ นช่วงประกันผลงาน ให้แจ้งผูร้ บั จ้างเพือ่ ดําเนินการแก้ไขทันที
ข. ถ้าหมดอายุรบั ประกันแล้ว
- ถ้าส่งผลต่อความปลอดภัย ต้องดําเนินการแก้ไขให้อยูใ่ นสภาพทีใ่ ช้งานได้ทนั ที
- ถ้าไม่ส่งผลต่อความปลอดภัย ให้บนั ทึกความเสียหายและดําเนินการซ่อมตามแผนการ
บูรณะประจําปี
2) ให้จดั ทําเครื่องหมายจราจรบนพืน้ ทางโดยเร็วทีส่ ุด หลังจากการก่อสร้างหรือปูผวิ ทางใหม่ เว้นแต่ใน
กรณีทเ่ี ครือ่ งหมายจราจรอาจถูกรถก่อสร้างทําให้สกปรกหรือชํารุด ให้จดั ทําแบบชัวคราวไปก่
่ อนและ
ทําการติดตัง้ แบบถาวรในภายหลัง
3) ในพื้นที่ท่ถี นนมีความสกปรกมาก หน่ วยงานที่ดูแลรับผิดชอบควรจัดแผนการทําความสะอาดถนน
เป็ นประจําด้วยการฉีดนํ้าและใช้แปรงขัด เพื่อขจัดสิง่ สกปรกทีส่ ะสมบนเครื่องหมายจราจรบนพืน้ ทาง
ซึง่ การทําความสะอาดจะช่วยให้ความสามารถการสะท้อนแสงกลับมาอีกครัง้
เส้นประ
คูก่ บั เส้นทึบ ห้ามแซงเฉพาะด้านทีเ่ ป็ นเส้นทึบ
(เหลือง)
เส้นประกว้าง
แบ่งช่องเดินรถประจําทาง
และถี่
(รถขับสวนทางกัน)
(เหลือง)
เส้นประกว้าง
แบ่งช่องเดินรถประจําทาง
และถี่
(รถขับทิศทางเดียวกัน)
(ขาว)
แบ่งช่องจราจร
เส้นประ (นอกเมือง)
(ขาว)
แบ่งช่องจราจร
(ในเมือง)
เส้นประถี่ แสดงแนวช่องเดินรถผ่านทางแยกทีส่ บั สน
(ขาว) หรือใช้แสดงแนวของการเลีย้ วรถ
หมายเหตุ
* ความกว้างปกติของเส้นสีขาว 0.10 ม. แต่ปรับเพิม่ เป็น 0.15 ม. ได้ ถ้ามีปริมาณจราจรมากกว่า 32,000 คัน/วัน
** ความกว้างปกติของเส้นสีเหลือง 0.10 ม. แต่สามารถปรับเพิม่ ขึน้ ได้ตามตารางที ่ 2-2
(ก) สวนทางกัน
(ข) ทิศทางเดียวกัน
50 ม. 25 ม. เส้นหยุดสีขาว
3.00 (min)
3.00 (min)
2.20 (min)
3.00 (min)
3.00 (min)
ไหล่ทาง
ไหล่ทาง
เส้นแบ่งทิศทางจราจรสีเหลือง เส้นขอบด้านนอกทางสีขาว
2. ทางคู่
เส้นแบ่งช่องจราจรสีขาว เส้นห้ามเปลีย่ นช่องเดินรถสีขาว
ไหล่ทาง
ไหล่ดา้ นใน
ไหล่ทาง
เส้นขอบทางด้านนอกสีขาว เส้นขอบทางด้านในสีเหลือง เส้นทึบสีขาว
(บ.2) เส้นทึบต่อเนื่องหัวเกาะสีขาว
เส้นทึบต่อเนื่องหัวเกาะสีขาว (บ.2)
เส้นแสดงความต่อเนื่องสีขาว
(เส้นประกว้าง)
นอกจากเครื่องหมายจราจรบนพื้นทางตามแนวทางเดินรถและตามขวางแล้ว ยังมีเครื่องหมายจราจรบนพื้น
ทางอื่นๆทีส่ ามารถนํามาใช้เพือ่ เสริมความหมายของอุปกรณ์ควบคุมการจราจรประเภทอื่นๆ หรือช่วยในการนําทางแก่ผู้
ขับขี่ ให้มปี ระสิทธิภาพมากยิง่ ขึน้ เครือ่ งหมายเหล่านี้ได้แก่
1) เส้นช่องจอดรถ (Parking Space Markings)
2) เขตปลอดภัย หรือเกาะสี (Island Markings)
3) ข้อความบนพืน้ ทาง (Word Markings)
4) ลูกศร (Arrow Markings)
5) ให้ทาง (Give Way Markings)
6) ช่องเดินรถมวลชน (HOV Markings)
7) เส้นชะลอความเร็ว (Transverse Rumble Strips)
8) เครือ่ งหมายบนเนินชะลอความเร็ว (Speed Hump Markings)
9) เส้นทางรถไฟผ่าน (Railway Crossing Markings)
5.50
0.5
0
รูปที่ 4-3 มาตรฐานการตีเส้นบัง้ เฉียง (Cross Hatching)
หลักการเขียนข้อความมี ดังนี้
1) ใช้คาํ ทีส่ นั ้ กระชับ และเข้าใจง่าย
2) ถ้าข้อความยาวเกิน 1 บรรทัด ภายใน 1 ช่องจราจร ให้แบ่งข้อความออกเป็ นคําๆ คําละหนึ่งบรรทัด
แต่ไม่เกิน 3 บรรทัด และจัดวางข้อความ ดังนี้
ก. ข้อความไม่เกิน 2 บรรทัด ให้จดั วางข้อความเหมือนการอ่านหนังสือปกติ เช่น “ขับ” อยู่
ด้านบน “ช้าๆ” อยูด่ า้ นล่าง
ข. ข้อความ 3 บรรทัด ให้เรียงตามลําดับการมองเห็นของผูข้ บั ขี่ เช่น “ลด”........“ความ”.......“เร็ว”
3) ต้องใช้แบบมาตรฐานในการเขียนข้อความบนพืน้ ทาง ซึง่ มีอยูด่ ว้ ยกัน 2 กลุม่ ดังนี้
ก. ข้อความบังคับบนพืน้ ทาง
ข. ข้อความเตือนหรือแนะนําบนพืน้ ทาง
2.80 (1.87)
4.50 (3.00)
1.00 (0.67)
ทิ ศทางจราจร
(.20) (.33) (0.10)
0.30 (0.20)
(0.10)
0.80 (0.53)
0.15
.20 .30
(.13) (.20)
0.45 (0.30)
0.20 (0.13)
0.68 (0.45)
0.50 (0.33)
0.72 (0.48)
0.40 (0.27)
2.80 (1.87) 0.70 (0.47) 4.50 (3.00)
2.00 (1.33)
1.00 (0.67)
.30 (.20)
.30 (.20)
.35 (.23)
0.70 (0.47)
0.30 (0.20)
0.70 (0.47)
0.80 .55 .30
0.45 (0.30) (0.53) (.33) (.20)
0.70 (0.47)
0.30 (0.20)
0.70 (0.47)
0.80 (0.53) 11
4.50 (3.00)
1.00 (0.67)
1.00 (0.67)
ทิ ศทางจราจร
.15 .3 .65 .15
(.10) (.2) (.43) (.10) 4.00 (2.67)
0.50 (0.33)
.15
(.10) .15
(.10)
1.00 (0.67) .3 .3 .35 .3 .40 .15
(.2) (.2)(.23) (.2) (.27) (.10)
0.45 (0.30)
0.70 (0.47)
0.30 (0.20)
0.70 (0.47) 2.50 (1.67)
0.50 (0.33)
4.50 (3.00)
1.30 (0.87)
2.00 (1.33)
1.00 (0.67)
หมายเหตุ
1. ขนาดช่องตาราง (grid size) มีความกว้าง 0.10 ม. และสูง 0.10 ม. ซึง่ จะได้ตวั เลขสูง 4.50 ม. สําหรับทาง
หลวงนอกเมือง หรือทีบ่ ริเวณซึง่ ยวดยานส่วนมากใช้ความเร็วสูง
2. สําหรับทางหลวงในเมือง ให้ยอ่ เฉพาะความสูงลงมาด้วยอัตราส่วน 2/3 ซึง่ จะได้ตวั เลขสูง 3.00 ม.
รูปที่ 4-11 มาตรฐานตัวเลขบนผิวทาง
170
100
60
70
20
530
500
508
230
205
EDGE OF PAVEMENT
20๐
100
60
115
45๐
130
50
15 110 75 60
200 160 50
มิตเิ ป็ นเซนติเมตร
4.00 ม.
PLAN
(ต.61) หมายเหตุ (บ.4)
A = ระยะมองเห็นต่ําสุดสําหรับการแซงอย่างปลอดภัย (ดูตารางที่ 2-3)
B = แนวสายตา
C = บริเวณห้ามแซง a ถึง b
D = บริเวณห้ามแซง a' ถึง b'
E = 1.15 ม.
a,a' = จุดเริ่มต้นบริเวณห้ามแซง
b,b' = จุดปลายบริเวณห้ามแซง
115 ซม.
โดยที่
Lt = ระยะทางตามยาวทีใ่ ช้ในการสอบเข้าจากผิวทางทีก่ ว้างไปยังผิวทางทีแ่ คบ (ม.)
W = ระยะเยือ้ งตามขวางของ Lt ทีท่ าํ ให้ผวิ ทางแคบลง (ม.)
S = ความเร็วสําคัญ (กม./ชม.) หรือความเร็วออกแบบ (เลือกค่าทีม่ ากทีส่ ดุ )
นอกจากนี้ ต้องติดตัง้ ป้ายเตือนทางแคบ (ต.23-ต.24) ทีร่ ะยะ 200 ถึง 250 ม. ก่อนถึงจุดทีค่ วามกว้างของผิว
จราจรเริม่ ลดลง ตีเส้นขอบทางตัง้ แต่จุดทีต่ ดิ ตัง้ ป้ายเตือนถึงจุดทีเ่ ลยตําแหน่งทีค่ วามกว้างของผิวจราจรลดลงไปอีก 50
เมตร ทําเครือ่ งหมายลูกศรเบีย่ งเข้า 3 อัน ระหว่างป้ายเตือนทางแคบถึงจุดทีค่ วามกว้างของผิวจราจรเริม่ ลดลง โดยวาง
ลูกศรให้ห่างเท่าๆกัน ติดตัง้ ราวกันอันตราย และหลักนํ าทาง หรือเป้าสะท้อนแสงทุกระยะ 6 ม. ในทิศทางที่ผวิ จราจร
แคบลง ดังตัวอย่างในรูปที่ 5-4
(น.11)
(ต.50)
รูปที่ 5-5 มาตรฐานการติดตัง้ เครือ่ งหมายจราจรบริเวณจุดกลับรถ (U-Turn)
S = 1.7(R-15)0.5 S1 = 2S S2 = 3S S3 = 6S
โดยที่ R คือ รัศมีโค้งของถนน (ม.) S คือ ระยะห่างระหว่างหลักนําทางเมื่ออยูใ่ นโค้ง (ม.) S1, S2 และ S3 คือ
ระยะห่างระหว่างหลักนําทางเมือ่ อยูน่ อกโค้งตัวแรก ตัวทีส่ อง และตัวทีส่ าม ตามลําดับ โดยระยะ S, S1, S2, และ S3 ต้อง
ไม่น้อยกว่า 6 ม. แต่ตอ้ งไม่เกิน 90 ม. เมื่อทําการคํานวณตามสมการดังกล่าว ระยะการติดตัง้ หลักนําทางตามรัศมีโค้ง
ต่างๆเป็ นไปตามตารางที่ 8-1 ในกรณีท่รี ศั มีโ ค้งไม่เป็ นไปตามค่าที่แสดงไว้ในตารางให้ใช้วธิ ีประมาณการเชิงเส้น
(Linear Interpolation) ในกรณีทท่ี างหลวงมีรศั มีโค้งเกิน 300 ม. ให้พจิ ารณาการติดตัง้ หลักนําทางเท่าทีจ่ าํ เป็ นเท่านัน้
นอกจากหลักนําทางจะใช้เพือ่ แสดงแนวโค้งราบหรือโค้งตัง้ แล้ว ยังสามารถใช้นําทางให้รถเคลื่อนทีเ่ ข้าสูถ่ นนที่
แคบลงหรือมีอุปสรรคข้างทางได้อย่างปลอดภัย เช่น การเคลื่อนทีเ่ ข้าสูส่ ะพาน ให้ใช้หลักนําทาง 3 อัน โดยวางตัวแรก
ห่างจากตําแหน่งหัวสะพาน 5 ม. วางตัวทีส่ องห่างจากตัวแรก 10 ม. และวางตัวทีส่ ามห่างจากตัวทีส่ อง 15 ม. ดังแสดง
ในรูปที่ 8-2
เหลือง
เหลือง
เส้นประเดี่ยว
3.0 9.00
12.00 12.00
เส้นทึบเดี่ยว
12.00 12.00
เส้นทึบคู่
12.00 12.00
เส้นทึบ
48.00
เส้นขอบทางด้านนอก
ไหล่ทางด้านนอก
12.00 12.00
เส้นประเดี่ยว
1.00 3.00
24.00
เส้นขอบทางด้านนอก
ไหล่ทางด้านนอก
ดูตารางที่ 8-5
0.10
สะท้อนแสงทิศทางเดียว @ 6.00 ม.
สะท้อนแสงสองทิศทาง
ทิศทางจราจร
สะท้อนแสงทิศทางเดียว @ 6.00 ม.
2. นายสุจณ
ิ มังนิ
่ มติ ร ------------------------------------------------------------------------------------------------------- กรรมการ
วิศวกรโยธาเชีย่ วชาญ