Professional Documents
Culture Documents
เรื่อง วรรณกรรมพื้นบ้านภูมิปัญญาทางภาษา
จัดทำโดย
นายรัฐนันท์ โพธิศาล
ชัน
้ มัธยมศึกษาปี ที่ 5/14 เลขที่ 6 ข
เสนอ
คุณครูนงนุช ปั ญญาศรี
รายงานเล่มนีเ้ ป็ นส่วนหนึ่งของรายวิชาภาษาไทย
โรงเรียนสารคามพิทยาคม
1
คำนำ
ผู้จัดทำคาดหวังเป็ นอย่างยิ่งว่าการจัดทำรายงานเล่มนีจ
้ ะมี
ข้อมูลที่เป็ นประโยชน์ตอ
่ ผู้ที่สนใจศึกษาเป็ นอย่างดี
รัฐนันท์ โพธิศาล
ผู้จัดทำ
2
3
สารบัญ
เรื่อง
หน้า
คำนำ
ก
สารบัญ
ข
ความหมายของวรรณกรรมพื้นบ้าน และภูมิปัญญาทางภาษา
1
ลักษณะของวรรณกรรมพื้นบ้าน
2 ประเภทของวรรณกรรมพื้นบ้าน
วรรณกรรมพื้นบ้านภาคเหนือ
3
วรรณกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
5
วรรณกรรมภาคใต้
7
2
วรรณกรรมภาคกลาง
8
บรรณานุกรม
10
วรรณกรรมพื้นบ้านภูมิปัญญาทางภาษา
ความหมายของวรรณกรรมพื้นบ้าน และภูมิปัญญาทางภาษา
วรรณกรรมพื้นบ้าน
ภูมิปัญญาทางภาษา
คือความสามารถของคนโบราณในการที่จะแฝงข้อคิด
สภาพสังคม องค์ความรู้ ตลอดจนความงดงามและความบันเทิง
ต่างๆ ไว้ในสื่อที่เป็ นภาษา ทัง้ วรรณกรรมและบทเพลง โดยผู้รับ
สารจะต้องวิเคราะห์เนื้อหาที่แฝงอยู่ในสารนัน
้ ๆ ด้วยตนเอง ไม่
เช่นนัน
้ ก็อาจจะได้รับเพียงความบันเทิงอย่างเดียว
วรรณกรรมพื้นบ้าน
ลักษณะของวรรณกรรมพื้นบ้าน
2. เป็ นแหล่งข้อมูลที่บันทึกข้อมูลด้านขนบธรรมเนียมประเพณี
ของกลุ่มชนท้องถิ่น อันเป็ นแบบฉบับให้คนยุคต่อมาเชื่อถือและ
ปฏิบัตต
ิ าม
4. ใช้ภาษาท้องถิน
่ ลักษณะถ้อยคำเป็ นคำง่ายๆ สื่อความหมาย
ตรงไปตรงมา
1.วรรณกรรมพื้นบ้านภาคเหนือ (วรรณกรรมล้านนา)
วรรณกรรมพื้นบ้านภาคเหนือส่วนใหญ่เป็ นเรื่องที่มาจาก
ปั ญญาสชาดก กวีพ้น
ื บ้านได้เนื้อหามาจากชาดกเรื่องนีม
้ า
ประพันธ์ดว้ ยฉันทลักษณ์ของท้องถิ่น เช่น โคลง ค่าวธรรม ค่าว
ซอ เป็ นต้น วรรณกรรมพื้นบ้านภาคเหนือ มี ๔ ประเภทคือ
วรรณกรรมโคลง วรรณกรรมค่าวธรรม วรรณกรรมค่าวซอ และ
วรรณกรรมเบ็ดเตล็ด
วรรณกรรมประเภทโคลง
โคลง หรือเรียกตามสำเนียงท้องถิน
่ ภาคเหนือว่า กะโลง เป็ น
ฉันทลักษณ์ที่เจริญรุ่งเรืองในสมัยราชวงศ์มังรายตอนปลาย กวี
สมัยอยุธยาได้นำรูปแบบโคลงของภาคเหนือมาประพันธ์เป็ น
โคลงสอง โคลงสาม และโคลงสี่ ตัวอย่างวรรณกรรมโคลงของ
ภาคเหนือที่ร้จ
ู ักกันแพร่หลาย ได้แก่ โคลงหงส์ผาคำ โคลงพรหม
ทัต โคลงเจ้าวิทูรสอนหลาน โคลงพระลอสอนโลก โคลงปทุม
สงกา เป็ นต้น
วรรณกรรมประเภทค่าวธรรม
ค่าวธรรม หรือ ธรรมค่าว คือ วรรณกรรมที่ประพันธ์ตามแนว
ชาดก ฉันทลักษณ์ของค่าวธรรมส่วนใหญ่ เป็ นร่ายยาว แทรก
คาถาภาษาบาลี ภิกษุจะนำค่าวธรรมมาเทศน์ในอุบาสกอุบาสิกา
ฟั งในวันอุโบสถศีล ค่าวธรรมจึงจัดเป็ นวรรณกรรมศาสนา
ตัวอย่างวรรณกรรมค่าวธรรม เช่น พรหมจักร บัวรมบัวเรียว
มหาวงศ์แตงอ่อน จำปาสี่ต้น แสงเมืองหลงถ้ำ สุพรหมโมขะ หงส์
ผาคำ วัณณพราหมณ์ เป็ นต้น
วรรณกรรมประเภทค่าวซอ
วรรณกรรมเบ็ดเตล็ด
1. คำอู้บา่ วอู้สาว เป็ นคำสนทนาเกีย
้ วพาราสีของหนุ่มสาวชาว
บ้านลานนาในอดีต
2. การจ๊อย เป็ นการขับลำนำโดยไม่มีดนตรีบรรเลงประกอบ
เนื้อหาเป็ นการคร่ำครวญถึงความรักระหว่างชายหนุ่มกับ
หญิงสาว
3. คำเรียกขวัญหรือคำร้องขวัญ เป็ นบทสวดสู่ขวัญใช้ใน
พิธีกรรมต่างๆ เช่น คำเรียกขวัญของคู่บ่าวสาว คำเรียกขวัญ
ควาย เป็ นต้น
4. การซอหรือซอ เป็ นการขับลำค่อนข้างจะมีพิธีรีตอง คือช่าง
ซอจะต้องได้รับการฝึ กฝนและมีดนตรีประกอบ
2.วรรณกรรมพื้นบ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
วรรณกรรมพุทธศาสนา
วรรณกรรมนิทาน
วรรณกรรมคำสอน
วรรณกรรมรูปแบบนีม
้ ีเนื้อหาสอนใจ ในแนวทางดำเนินชีวต
ิ ใน
ครอบครัวและสังคม โดยยึดคติธรรมในศาสนาและจารีตท้องถิ่น
ตัวอย่างเช่น กาพย์ปู่สอนหลาน กาพย์หลานสอนปู ่ ฮีตสิบสอง
คองสิบสี่ อินทิญาณสอนลูก พระยาคำกองสอนไพร่
วรรณกรรมเบ็ดเตล็ด
1. วรรณกรรมที่ใช้ในพิธีกรรมต่างๆ ได้แก่ บทสูดขวน (บทสู่
ขวัญ) บทสูดขวนอยู่กรรม (บทสู่ขวัญแม่ลูกอ่อน) บทสูด
ขวนเฮือน (บทสู่ขวัญขึน
้ บ้านใหม่) บทสูดขวนวัวควาย (บทสู่
ขวัญวัวควาย)
2. วรรณกรรมที่ใช้ในพิธีกรรมขอฝนหรือการแห่บงั ้ ไฟ ได้แก่
คำเซิง้ ต่างๆ คำเซิง้ บัง้ ไฟ คำเซิง้ นางแมว (แห่นางแมว)
3. วรรณกรรมที่ใช้เกีย
้ วพาราสีระหว่างหนุ่มสาว นีเ้ รียกว่า
“ผญาเครือ” คือคำพูดโต้ตอบหนุ่มสาวที่เกีย
้ วกัน
4. นิทานเล่าเพื่อความสนุกสนานและตลกขบขัน เช่น เซียง
เมี่ยง โตงโตง นิทานก้อม และกลอนรำต่างๆ
3.วรรณกรรมพื้นบ้านภาคใต้
วรรณกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากวรรณกรรมพื้นบ้านภาคกลาง
วรรณกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากวรรณกรรมพื้นบ้านภาคกลาง
หมายถึง วรรณกรรมที่คัดลอกต้นฉบับมาจากภาคกลาง แต่ผู้คัด
ลอกนำมาปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องบางตอนตามความ
คิดเห็นของตน โดยยังคงฉันทลักษณ์เดียวกับต้นฉบับ แต่มีสำนวน
ภาษาท้องถิ่นปะปนอยู่บา้ ง เช่น พระรถเสนคำกาพย์ สุบินกุมาร
จันทโครพ รามเกียรติ ์ ลักษณวงศ์ อุณรุท เป็ นต้น
วรรณกรรมที่สร้างสรรค์ขน
ึ ้ เอง
วรรณกรรมรูปแบบนี ้ เป็ นวรรณกรรมที่กวีพ้น
ื บ้านภาคใต้นำโครง
เรื่องจากนิทานในท้องถิ่น
หรือนำโครงเรื่องมาจากภาคกลาง แต่ประพันธ์ขน
ึ ้ ใหม่ด้วยด้วย
ฉันทลักษณ์ท้องถิ่น เช่น ชาลวันคำกาพย์สุวรรณสิน สัปดนคำ
กาพย์ สังข์ทองคำกาพย์ พระแสงสุริยฉายคำกาพย์ พระวรเนตร
คำกาพย์ เป็ นต้น
วรรณกรรมเบ็ดเตล็ด
4.วรรณกรรมพื้นบ้านภาคกลาง
วรรณกรรมประเภทกลอนสวด
วรรณกรรมประเภทกลอนบทละครนอก
วรรณกรรมประเภทกลอนนิทาน
วรรณกรรมประเภทกลอนนิทานต่างจากวรรณกรรมประเภท
กลอนบทละครนอกเพราะนิยมประพันธ์จนจบเรื่องบริบูรณ์ ใน
สมัยที่กิจการโรงพิมพ์เจริญรุ่งเรือง ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระ
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หวั และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่
หัว การพิมพ์กลอนนิทานออกจำหน่ายได้รบ
ั ความสนใจจากผู้อ่าน
อย่างยิ่ง ประชาชนนิยมซื้อกลอนนิทานมาอ่านสู่กันฟั งในครัว
เรือน ได้แก่ โสนน้อยเรือนงาม ปลาบู่ทอง นางสิบสอง โคบุตร
จันทโครพ การะเกด โม่งป่ า พิกุลทอง มณีพิชัย เป็ นต้น
วรรณกรรมประเภทกลอนแหล่
https://sites.google.com/site/poranatcha/wrrn