Professional Documents
Culture Documents
รแ งค
พท มุ้ ค
ยแ์ รอง
ผน แล
ไท ะส
ยแ ง่ เ
ละ สรมิ
แพ ภ
ทย ูมิปั
พ์ นื ้ ญญ
บ้า า
นไ
ทย
ชุดตำ�ราภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
นไ
(ฉบับอนุรักษ์)
ทย ูมิปั
ตำ�ราธาตุวินิจฉัย
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย
กา
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
กระทรวงสาธารณสุข
ISBN : 978-616-11-4053-3
ชุดตำ�ราภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย (ฉบับอนุรักษ์)
ตำ�ราธาตุวินิจฉัย
ISBN : 978-616-11-4053-3
ที่ปรึกษา :
บ้า า
ทย
นายแพทย์มรุต จิรเศรษฐสิริ
พ์ นื ้ ญญ
อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
นไ
นายแพทย์ปราโมทย์ เสถียรรัตน์
ทย ูมิปั
รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
นายแพทย์สรรพงศ์ ฤทธิรักษา
แพ ภ
รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ละ สรมิ
คณะอนุกรรมการคุ้มครองตำ�รับยาและตำ�ราการแพทย์แผนไทย
ยแ ง่ เ
ผู้ถา่ ยถอด :
ไท ะส
นายกัมพล มะลาพิมพ์
ผน แล
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย
กอ
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
สนับสนุนการพิมพ์ โดย :
กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
กา
บ้า า
ทย
ระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. ๒๕๔๒
พ์ นื ้ ญญ
มาตรา ๑๕ กำ�หนดให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกมีหน้าที่
นไ
รวบรวมข้อมูลภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยเกี่ยวกับตำ�รับยาแผนไทยและตำ�ราการแพทย์แผนไทย
ทย ูมิปั
ทั่วราชอาณาจักร เพื่อจัดทำ�ทะเบียนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยเกี่ยวกับตำ�รับยาแผนไทยและ
ตำ�ราการแพทย์แผนไทยใช้ประโยชน์ในการอ้างอิง ทางวิชาการ ศึกษา วิจัย พัฒนา และมาตรา ๑๗
แพ ภ
กำ�หนดให้รฐั มนตรีมอี �ำ นาจประกาศกำ�หนดตำ�รับยาแผนไทยหรือตำ�ราการแพทย์แผนไทยทีม่ ปี ระโยชน์
ละ สรมิ
หรือมีคุณค่าในทางการแพทย์หรือการสาธารณสุขเป็นพิเศษ ให้เป็นตำ�รับยาแผนไทยของชาติหรือ
ตำ�ราการแพทย์แผนไทยของชาติแล้วแต่กรณี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข
ยแ ง่ เ
โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ประกาศกำ�หนดตำ�รับยาแผนไทยของชาติ
ไท ะส
คัมภีร์ธาตุวินิจฉัย ประกาศกําหนดให้เป็นตำ�รับยาแผนไทยของชาติหรือตำ�ราการแพทย์
ยแ์ รอง
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
นไ
ทย ูมิปั
(นายแพทย์มรุต จิรเศรษฐสิริ)
อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
แพ ภ
ละ สรมิ กระทรวงสาธารณสุข
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
นไ
คำ�นำ� (๓)
ทย ูมิปั
สารบาญ (5)
แพ ภ
บทนำ� (7)
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
คัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๒ เลขที่ ๙๕ ๑๐๑
ยแ์ รอง
อภิธานศัพท์ ๓๒๒
รแ งค
บรรณานุกรม ๓๓๔
กอ
กา
คั
บ้า า
ทย
มภี ร์ ธ าตุ วิ นิ จ ฉั ย เป็ น ตำ � ราการแพทย์ แ ผนไทยที่ อ ยู่ ใ นความครอบครองของ
พ์ นื ้ ญญ
สำ � นั ก หอสมุ ด แห่ ง ชาติ ที่ เ ป็ น แหล่ ง กลางในการเก็ บ รวบรวมเอกสารชั้ น ต้ น
นไ
ที่เป็นตำ�รายาต่าง ๆ ซึ่งบันทึกเป็นไมโครฟิล์มอยู่ในหมวดเวชศาสตร์ ปัจจุบันบันทึกเป็นรูปแบบ
ทย ูมิปั
ไฟล์ดิจิทัลอยู่ในหมวดเวชศาสตร์ มี 3 เรื่อง ได้แก่ คัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑ เลขที่ 113 ว่าด้วย
ธาตุวินิจฉัย คัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม 2 เลขที่ 95 มีตำ�รับยา 79 ตำ�รับ กล่าวถึงลักษณะกองโรค
แพ ภ
และคั ม ภี ร์ ธ าตุ วิ นิ จ ฉั ย เล่ ม 3 เลขที่ 99 กรมหมื่ น ไชยนาทรฯ ประทานเมื่ อ วั น ที่ 6
ละ สรมิ
กุ ม ภาพั น ธ์ 2458กล่ า วถึ ง ลั ก ษณะกองโรคว่ า ด้ ว ยธาตุ ทั้ ง 4 มี ตำ � รั บ ยา 103 ตำ � รั บ โดยมี
นักศึกษาปริญญาโท นายกัมพล มะลาพิมพ์ ทำ�การถ่ายถอดปริวรรต เป็นวิทยานิพนธ์หลักสูตร
ยแ ง่ เ
ปริ ญ ญาศิ ล ปศาสตร์ ม หาบั ณ ฑิ ต มหาวิ ท ยาลั ย ศิ ล ปกร ตำ � ราดั ง กล่ า วประกาศกำ � หนดให้ เ ป็ น
ไท ะส
ตำ�รับยาแผนไทยของชาติหรือตำ�ราการแพทย์แผนไทยของชาติ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรือ่ ง การประกาศกาํ หนดตาํ ราการแพทย์แผนไทยของชาติและตํารับยาแผนไทยของชาติ (ฉบับที่ ๒๐)
ผน แล
ที่ มีค วามสำ�คัญอย่า งยิ่ง ด้วยพิจารณาเห็ น ว่ า ตำ� รายาของไทยที่ ไ ด้ ร วบรวมไว้ ตั้ง แต่ ส มั ยโบราณ
จนมาถึงปัจจุบัน แต่ยังไม่มีการเผยแพร่เท่าที่ควรทั้งที่ภูมิปัญญาไทยด้านการแพทย์แผนไทยได้อยู่
รแ งค
คู่กันกับคนไทยตลอดมา
กอ
ภาษาและอักขรวิธีที่ใช้ ซึ่งรายละเอียดมีดังนี้
บ้า า
ทั่วประเทศ ดังนั้นการผสมคำ�เพื่อการอ่านจึงเป็นไปอย่างอิสระ มีรูปแบบแตกต่างกันตามแต่สำ�นัก
ทย
พ์ นื ้ ญญ
ที่เรียนแต่ละแห่งนิยม หากสำ�นักเรียนนั้น อยู่ใกล้ความเจริญ เช่น พระราชวัง หรือวัดในกรุง
นไ
การเขียนหนังสือก็จะมีแบบแผนที่ชัดเจนและถูกต้อง มากกว่า๑ ด้วยเหตุดังกล่าว การใช้รูปอักษร
ทย ูมิปั
เขี ย นคำ � เพื่ อ สื่ อ ความหมายให้ อ่ า นออกเสี ย งได้ เข้ า ใจตามภาษาพู ด ที่ ใช้ กั น ในท้ อ งถิ่ น จึ ง มี
ความสำ�คัญมาก ทำ�ให้เกิดผลกระทบต่อการใช้รูปพยัญชนะ รูปสระสำ�หรับสะกดคำ�ได้หลากหลาย
แพ ภ
รูปแบบ แม้จะมีความหมายเช่นเดียวกันก็ตาม เช่น คำ�ว่า บรเพช บอรเพช บระเพช เป็นต้น
เห็นได้ชดั เจนว่า การเขียนหนังสือของคนไทยสมัยก่อนเขียนตามเสียงพูด เพือ่ ให้สามารถอ่านออกเสียง
ละ สรมิ
และเข้าใจความหมายได้โดยไม่ให้ความสำ�คัญกับวิธีการเขียน
ยแ ง่ เ
นอกจากนัน้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ�รงราชานุภาพ ยังได้อธิบายถึงลักษณะ
ไท ะส
เพื่ อ การเขี ย นให้ เร็ ว และข้ อ ความไม่ ต กหล่ น เป็ น หลั ก ส่ ว นอั ก ขรวิ ธี นั้ น ไม่ ถื อ เป็ น เรื่ อ งสำ � คั ญ
เน้นเฉพาะเพื่อการอ่านเข้าใจในความหมายของข้อความที่ต้องการสื่อสารเท่านั้น
รแ งค
๓. ลั ก ษณะการเขี ย นอย่ า งหนั ง สื อ หวั ด ได้ แ ก่ หนั ง สื อ ที่ เขี ย นให้ มี ลั ก ษณะคล้ า ย
กอ
๑
ก่องแก้ว วีระประจักษ์, “ลักษณะอักขรวิธตี น้ ฉบับหนังสือกฎหมายตราสามดวง” , กฎหมายตราสามดวงฉบับราชบัณฑิตยสถาน,
กรุงเทพ : ราชบัณฑิตยสถาน, 2550, หน้า 27.
๒
“สาส์นสมเด็จเล่ม 26”, กรุงเทพ : คุรุสภา, 2525, หน้า 158 - 162
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
๑. การสะกดคำ� มีลักษณะดังนี้
ยแ์ รอง
พยัญชนะต้นไม่เหมือนกัน เช่น
รแ งค
บ้า า
ทย
ราศรี เขียนเป็น ราษีร
พ์ นื ้ ญญ
พิษ เขียนเป็น พิศม
นไ
สรรพยา เขียนเป็น สัพยา
ทย ูมิปั
จำ�เพาะ เขียนเป็น จำ�เภาะ
แพ ภ
พยาธิ เขียนเป็น พยาทิ
อายุ เขียนเป็น อายุศม
ละ สรมิ
ยาดำ� เขียนเป็น อยาดำ�
ยแ ง่ เ
ขัณฑศกร เขียนเป็น ขันทษกอร
ไท ะส
ยา เขียนเป็น อยา
คลั่ง เขียนเป็น คลั้ง
เน่า เขียนเป็น เน้า
ชะโลม เขียนเป็น โฉลม
กา
บ้า า
ทย
สมอ เขียนเป็น ษหมอ
พ์ นื ้ ญญ
สะค้าน เขียนเป็น สฆ้าน
นไ
ฯลฯ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ใช้ตัวสะกดไม่ตรงตามรูปปัจจุบัน เช่น
ยแ ง่ เ
ไท ะส
บ้า า
ขัดมอน เขียนเป็น คัดม้อน
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หยอด เขียนเป็น ยอด
นไ
อัญชัน เขียนเป็น อังชัน
ทย ูมิปั
ตานหม่อน เขียนเป็น ตานมอน
หิ่งห้อย เขียนเป็น หิงหอย
แพ ภ
ละ สรมิ ฯลฯ
ฯลฯ
กอ
๒. การใช้คำ�ในตำ�รายา จะนำ�คำ�ที่เป็นภาษาพูดในท้องถิ่นด้านคำ�และการออกเสียงคำ�มา
เป็นภาษาเขียนในตำ�รายา เช่น
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
๏ เครื่องหมายฟองมัน หรือตาไก่ หรือก้นหอย เพราะบางคนเขียนเหมือนก้นหอย
เป็นเครื่องหมายที่ใช้ในการเริ่มต้น หรือเริ่มต�ำรับยา จะเขียนไว้ข้างหน้า เช่น
นไ
๏ อาจาริเยน ฯ
ทย ูมิปั
๏ จกล่าวคุณแห่งมะขามป้อมนั้น…
แพ ภ
ฯ, ๚, ๚ะ เครื่องหมายเปยยาล เป็นเครื่องหมายที่มักพบต่อจากเครื่องหมายฟองมัน
นั่นคือ เมื่อเริ่มเนื้อความ เช่น บอกชื่อโรค ชื่อยา ต�ำรับยาจบแล้วจะใช้เครื่องหมาย ฯ ในกรณีที่ยังมียา
ละ สรมิ
อีกขนานหนึง่ ทีใ่ ช้รกั ษาโรคนัน้ ได้ จะมีขอ้ ความต่ออีกและจบด้วยเครือ่ งหมาย ๚ เครือ่ งหมายเปยยาล
ยแ ง่ เ
จึงเป็นเครื่องหมายที่เริ่มข้อความ และจบข้อความ ดังตัวอย่าง
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
๛ ๚๛ ๚ ะ๛ ๛
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
นไ
ใช้เขียนเดี่ยวๆ หรือเขียนร่วมกับเครื่องหมายเปยยาล ดังตัวอย่าง
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 1
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 1-2
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
๏ พรคัมภีร์ธาตุวินิ+จไฉยผูก 1
พ์ นื ้ ญญ
กล่าวมาในลักษณกองโรคยว่าด้วย (ขันธบัญจกทั้ง 5 แลอายตณะ 6)
นไ
(คติด�ำ เนินแห่งพระจันทร) พระ (อาทิ) ตย
ทย ูมิปั
(ธาตุอภิญญาณ)
จ(ตุรธาตุสมา)สรรพ
แพ ภ
ธ(าตุแตก) ให้โทศ
(ธาตุกำ�เริบให้โทศ)
ละ สรมิ
(ธาตุลดถอย)
ยแ ง่ เ
(ธาตุว)ิ นิจฉฺ (ย) สตฺถํ (โจ) ราเณหิบ (ก) …………….... (กฺ) ขามิสขุ ปิ ลุ ลฺ ํ วนฺทติ วฺ า รตตนตฺต (ย)ํ
ไท ะส
คำ�อ่าน
หน้าที่ 1-2
พท มุ้ ค
๏ พระคำ�ภีร์ธาตุวินิจฉัยผูก 1
กล่าวมาในลักษณะกองโรคด้วย ขันธ์บัญจกทั้ง 5 แลอายตน 6
รแ งค
คติด�ำ เนินแห่งพระจันทร์พระอาทิตย์
ธาตุอภิญญาณ
กอ
จตุธาตุสมาสรรพ
ธาตุแตกให้โทษ
ธาตุกำ�เริบให้โทษ
ธาตุลดถอย
กา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 3-4
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 3-4
นไ
ผู้เปนอาจาริยในก่อน (ตฺต)………………………อายตนํ
ทย ูมิปั
อุตุ วิถึสุริยสฺส เวลํโรคนกา...............วชฺชกมฺมิกา วชฺชกมฺมิกา
อนนว่าบุคลท้งงหลายอนนปราถ.......ม สิกฺเบยฺยํ พึงสึกษาให้
แพ ภ
รู้จัก ขนฺธธาตุอายตนํ ซึ่งขันธ์ (บัญจก) แลธาตุท้งง 4 แลอาตณะ 6
ละ สรมิ
ก็ดี อุตํ ซึ่ง ระดู ก็ดี วิถึ ซึ่ง วิถี ก็ดี สุริ (ยํ) ของพรอาทิตย (ก็ดี) เวลํ ซึ่งเวลา
ยแ ง่ เ
ก็ดี+กุปฺปติ อนน เปนเพลากำ�เริบ โร(คานิ) (ซึ่งโร) คยท้งงหลาย ๚ อธิบายว่า
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 3-4
ผู้เป็นอาจารย์ในก่อนตฺต……................อายตนํ
รแ งค
ก็ดี อุตํ ซึ่ง ฤดูก็ดี ซึ่งวิถีก็ดี สุริยํ ของพระอาทิตย์ ก็ดี เวลํซึ่ง เวลา
ก็ดี กุปฺปติ อันเป็นเพลากำ�เริบ โรคย ซึ่งโรคทั้งหลาย ๚ อธิบายว่า
กา
ถ้าบุคคลผู้ใดจะเรียนเป็นแพทย์พึงศึกษาให้รู้จักในลักษณะเบญจขันธ์
แลเบญจขันธ์ทั้ง 5 นั้น รูปกขันธ์ 1 คือ เวทนาขันธ์ 1 คือสัญญากขันธ์ 1
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 5
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 5-6
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 5-6
นไ
คือสงงขารักขนนธ์ 1 คือวิญ (ญาณขันธ์ 1) รูปขนนธ์นั้น ได้แก่
ทย ูมิปั
นิบผันนะรูป 18 ประการ คือ มหาภู (รูป 4) ปสาทรูป 5 วิใสยรูป 4
ภาวะรูป 2 หทัยรูป 1 ชีวิตรูป 1 (อาหาร) รูป 1 เปนรูป 18 ประการ
แพ ภ
ด้วนกัน ดงงนี้ จะแจกออกให้เข้า (ใจพอ) สังเขปก็ครันจะว่าให้วิถาร
ละ สรมิ
ก็จนเนิ่นความในพรคำ�ภีร์แพทยา (นี้ส่วนหนึ่ง) อยู่ในพรคัมภีร์ปรมัตถ์
ยแ ง่ เ
ปัถวี
ไท ะส
อาโป
โนนแล้ว อนนว่ามหาภูตรูป 4 (นั้นได้) แก่ธาตุทงง 4 คือ ธาตุ
เตโช นี้
ได้ชื่อว่ามหาภูตรูป เพราะเหตุว่า (เปน) ใหญ่แลเปนที่อาไส+ยแห่ง
ผน แล
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 5-6
รแ งค
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 7
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 7-8
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 7-8
นไ
๚ อนนว่าประสาทรูป 5 นั้น คือ (จักษุประสาท 1) คือโสตประสาท 1
ทย ูมิปั
คือ ฆานประสาท 1 คือชิวหาประ (สาท 1 คือกาย) ประสาท 1 จักษุประสาท
นนน มีสัณฐานอนนน้อยเท่าศีศะเหา (ตั้งอยู่) ในถ�้ำกลางแห่งวงตาด�ำ
แพ ภ
เปนใหญ่ในที่จะให้เหนรูปสรรพสิ่ง (ทงง) ปวง ถ้าแลจักษุประสาท (ฃาด)
ละ สรมิ
สูญก็มิ+เห็นสิ่งใดเลย ๚ แลโสตประสาทนั้นมีสันฐานน้อยเท่าขน
ยแ ง่ เ
ทรายจามจุรีเป็นวงกลมดุจวง (แว่นตั้ง) อยู่ในช่องหูทัง 2 เปน
ไท ะส
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 7-8
๚ อันว่าประสาทรูป 5 นั้น คือจักษุประสาท 1 คือโสตประสาท 1
รแ งค
เป็นใหญ่ในที่จะให้เห็นรูปสรรพสิ่งทั้งปวง ถ้าแลจักษุประสาทขาด
สูญก็มิเห็นสิ่งใดเลย ๚ แลโสตประสาทนั้นมีสัณฐานน้อยเท่าขน
ทรายจามจุรีเป็นวงกลมดุจแว่นตั้งอยู่ในช่องหูทั้ง 2 เป็น
กา
ใหญ่ที่จะให้ได้ยินซึ่งสรรพส�ำเนียงทั้งปวง ถ้าแลโสตประสาท
ขาดสูญก็มิได้ยินซึ่งสิ่งใดเลยแลฆานประสาท
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 9
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 9-10
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 9-10
นไ
นั้นมีสันฐานดงงเขาแพะ ตังง (อยู่ถ�้ำกลางจมูก) เปนให+ญ่อยู่ในที่จะให้รู้จักกลิ่น
ทย ูมิปั
ทงงปวง ถ้าแลฆาณะประสาทฃาดสูญ (แล้วก็มิได้รู้) จักกกลิ่นหอมแลเหมนท้ง
ปวง ๚ แลชิวหาประสาทน้นน (มีสัณฐาน) (ดังง) กลีบอุบล ตั้งอยู่ในถ�้ำกลาง
แพ ภ
ลิ้น เปนให+ญ่ในที่จะให้รู้จักรษทงงปวง (ถ้าแล) ชิวหาประสาทฃาดสูญแล้ว
ละ สรมิ
ก็+มิได้รู้จักรศอาหารทังงหลาย ๚ (แลกายประสาท) นั้นซึมทราบอยู่ทัวกรชกาย
ยแ ง่ เ
เปนไ+หญ่ในที+จะให้รู้จัก+สิ่งอันเปนทีเนื้ออ่อนแลกระดูก (อันหยาบอัน) ละเอยีดน้นน
ไท ะส
ค�ำอ่าน
หน้าที่ 9-10
พท มุ้ ค
นั้นมีสัญฐานดังเขาแพะ ตั้งอยู่ท่ามกลางจมูกเป็นใหญ่อยู่ในที่จะให้รู้จักกลิ่น
ทั้งปวง ถ้าแลฆานประสาทขาดสูญแล้วก็มิได้รู้จักกลิ่นหอมแลเหม็นทั้ง
รแ งค
ปวง ๚ แลชิวหาประสาทนั้นมีสัญฐานดังกลีบอุบลตั้งอยู่ในท่ามกลาง
ลิ้น เป็นใหญ่ในที่จะให้รู้จักรสทั้งปวง ถ้าแลชิวหาประสาทขาดสูญแล้ว
กอ
ก็มิได้รู้จักรสอาหารทั้งหลาย ๚ แลกายประสาทนั้นซึมซาบทั่วสรรพกาย
เป็นใหญ่ในที่จะให้รู้จักสิ่งจับเป็นที่เนื้ออ่อนแลกระดูกอันหยาบอันละเอียดนั้น ก็อาศัยแก่
กาย-ประสาทนั้น ถ้าแลกายประสาทพิรุธขาดสูญไปให้กายเป็นเหน็บชาไป
กา
มิได้รู้ซึ่งสิ่งทั้งปวง อันเป็น.................นั้นเข้ากันจึงเป็น
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 11
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 11-12
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 11-12
นไ
ประสาทรูป 5 ดุจกล่าวมาดงงนี้แล (วิสัยรูป 4) ได้แก่อารมณ์ทัง 4
ทย ูมิปั
คือรูปารมณ์ คือสัททารมณ์ 1 คือ (คันธารมธ์ 1) คือระสารมณ์ 1
แลภาวรูป 2 น้นน คืออิตถีภาวรูป (1 คือปุริส) ภาวรูป 1 แล้วหทยรูป 1
แพ ภ
น้นน ได้แก่ดวงกมลหฤไท+ยแลชีวิต (รูป 1) น้นน ได้แก่ชีวิตรอันกระท�ำ
ละ สรมิ
ให้รูปท้งงปวงสดชื่น ผิอุปะมาดุจ (น�้ำเลี้ยง) ซึ่งชาติอุบล แลอาหาร
ยแ ง่ เ
รูป 1 น้นน ได้แก่ฃองบริโภค (เปนต้นว่า) เฃ้าแลน�้ำ ของบริโภคนี้
ไท ะส
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 11-12
ประสาทรูป 5 ดุจกล่าวมาดังนี้แลวิสัยรูป 4 ได้แก่อารมณ์ทั้ง 4
รแ งค
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 13
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 13-14
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 13-14
นไ
เปนนิ+บผันรูป 18 จัตเปน (รูปธรรม) ๚ อนนว่าเวทนา + กขันธ์นั้น
ทย ูมิปั
ได้แก่เวทนาเจตสิก เวทนา (เจตสิกเปน) ใหญ่ในที่ให้เสวยอารมณ์
อนนสุกขแลทุกขแลอุเบกขา (เวทนาอนนบัง) เกิดทั่วไปในจิตทังปวง
แพ ภ
เหตุดังนั้นจึงจัดเปนเวทนาขันธ์ (อนน) ว่าสัญญา+กขนนธ์น้นน
ละ สรมิ
ฃาว
เหลือง
ได้แก่สัญญาเจตสิกๆ นี้มีลักษณะเปนต้นว่าสิ่งนี้
แดง ให้รู้เปน
ยแ ง่ เ
ดำ�
แต่เอกเทศดังนี้ สญญานี้เกิด (ทั่งทงง) จิตทงงปวง เหตุดัง
ไท ะส
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 13-14
เป็นนิปผันรูป 18 จัดเป็นรูปธรรม ๚ อันว่าเวทนากขันธ์นั้น
รแ งค
ได้แก่เวทนาเจตสิก เวทนาเจตสิกเป็นใหญ่ในที่ให้เสวยอารมณ์
กอ
อันสุขแลทุกข์แลอุเบกขา เวทนาอันบังเกิดทั่วไปในจิตทั้งปวง
เหตุดังนั้นจึงจัดเป็นเวทนาขันธ์อันว่าสัญญากขันธ์นั้น
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 15
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 15-16
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 15-16
นไ
เจตสิก 25 ยกเวทนาเจตสิก (ไปเปนเวทนา) (ขนนธ์) ยกเจตสิกไปย
ทย ูมิปั
เปนสัญญากขนนธ์แล้วยัง 50 ดงงนั้นจัตเปนขนนธ์อันนห+นึ่ง ชื่อว่า
แพ ภ
เวทนา
สงงขารักขนนธ์ แลขนนธ์ทงง 3 นั้นคือ สัสงงขารั
ละ สรมิ ญญา
ขนนธ์
ก นี้
จัตเฃ้ากันเปนนามธรรม ๚ อนนว่าเวทนากขนนธ์ ได้แก่วิชากจิต
ยแ ง่ เ
นั้นเปนเจ้าพนักงานลงสู่ปิติสนธิ (แล) วิชากจิตอนนเปนเจ้า
ไท ะส
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 15-16
รแ งค
นั้นเป็นเจ้าพนักงานลงสู่ปฏิสนธิ แลวิชากจิตอันเป็นเจ้า
กา
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 17
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 17-18
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 17-18
นไ
ขนนธ์ท้งง 5 ดุจกล่าวมานี้ ๚ (ล�ำดับต่อไปว่าด้วย) อายตณะ 6 น้นน
ทย ูมิปั
คือ จักขุวายตณะ 1 โสตายตณะ 1 (ฆานายตณะ 1) ชิวหาอายตณะ 1
กา+ยายตณะ 1 + มะนายตณะ 1 อนนว่าจักขุวายตณะ ได้แก่จักษุทงง 2 ซ้าย ขวา
แพ ภ
อันที่ปรากฎแห่งรูปารมณ์ รูป(สร+รพสิ่ง) ทั้งปวงนั้นไห+ญ่แลน้อยยาบและ
ละ สรมิ
(ละเอียด) ปรากฏน้นน ก็ย่อมปรากฏว่าจักษุ จักษุนี้มีอุปมาดุจ
ยแ ง่ เ
เปนบ่อแห่งรูป เหตุดังนี้จึ่งให้ ชื่อว่าจักขุวายตณะ ๚ อนนว่าโสดายตณะ
ไท ะส
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 17-18
ขันธ์ทั้ง 5 ดุจกล่าวมานี้ ๚ ล�ำดับต่อไปว่าด้วยอายตนะ 6 นั้น
รแ งค
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 19
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 19-20
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
หน้าที่ 19-20
พ์ นื ้ ญญ
ได้แก่ ดวงกมลหฤไทย ๚ อนนว่า (หฤไทยนี้) (เปรียบหมือนบ่ออันเปนที่เกิดแห่งธรรม)
นไ
ทังปวงดวงกมลหฤไท+ยนี้ เปนที่ปรากฎแห่งกลิ่น แลรศแลวัตถุอันสัมผัศ
ทย ูมิปั
แลเหตุผล นันจพึ่งรู้ด้วยจิตรเหตุดังนี้จึงได้ชื่อว่า+อายตณ 6 ดุจดังกล่าว
มานี้ ๚ ๏ กล่าวมาในเบญจั+กขขนนธ์ 5 แลอายตณะ 6 ก็สิ้นความแต่เพียง
แพ ภ
ละ สรมิ
นี้ได้สังเขป ๚ ๏ ในยหนึ่งพึงให้สอบไล่เรียงให้รู้จักลักษณะก�ำเนิด
แห่งหมูโรค+ยทงงหลาย มีตานทรางจอรเปนต้น ตั้งแต่ปติสนธิในครร+พแห่ง
ยแ ง่ เ
1
ไท ะส
มารดาในวนน วนนก็
2
3
ดี แลได้เดือน 1 เดือนขึ้นไปจน 10 เดือนก็ดี
ผน แล
ค�ำอ่าน
หน้าที่ 19-20
พท มุ้ ค
ได้แก่ดวงกมลหฤทัย ๚ อันว่าดวงหฤทัยนี้เปรียบเหมือนบ่ออันเป็นที่เกิดแห่งธรรมทั้ง
ปวง ดวงกมลหฤทัยนี้ เป็นที่ปรากฏแห่งกลิ่น แลรสแลวัตถุอันสัมผัส
รแ งค
นี้ได้สังเขป ๚ ๏ นัยหนึ่งพึงให้สอบไล่เรียงให้รู้จักลักษณะก�ำเนิด
แห่งหมู่โรคทั้งหลาย มีตานซางจรเป็นต้น ตั้งแต่ปฏิสนธิในครรภ์แห่ง
มารดาในวัน 1 วัน ในวัน 2 วัน ในวัน 3 วันก็ดี แลได้เดือน 1 เดือนขึ้นไปจน 10
กา
เดือนก็ดีพึงให้แพทย์อภิบาลรักษาตามไข้อันเกิดตามโรคในพระคัมภีร์พรหมปุโรหิต
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 21
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 21-22
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
หน้าที่ 21-22
พ์ นื ้ ญญ
วัน
คืน
แลค�ำภีร์ศิทิสาร แลพรค�ำภีร์..............พรค�ำภีร์นี้ตาม
ยาม ปี
นไ
เดอืน
แลตามปีเดือนก�ำเนิดแห่งมารดา (ซึ่งอยู่) ในครรพแล อนนจอร
ทย ูมิปั
วนน
ปี ปี
ใน ใดแล เพลาอนนตก
เดอืน เดอืน (ฟาก) น้นน ๚ อนึ่งพรอาจาริเจ้าจแจง
วนน วนน
แพ ภ
ออกบอกกองธาตุทั้ง 4 ให้รู้จักว่า (ตานทรางมีชือน้นน) แลไข้อันนั้น
ปี ปี ปี
ละ สรมิ
ชื่อนี้ บางคน ยามปถวี
เดอืน ธาตุบางคน เปนอาโปธาตุ
เดอืน บางคน เดอืน
วนน ปี วนน ปี ปถวี วนน
ยแ ง่ เ
เดอืน ยาม เดอืน อาโป ยาม
เปนเตโชธาตุบางคน เปนวาโยธาตุ
วนน อนนว่า เปน ก็
วนน เตโช มีลักษณะ
ไท ะส
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 21-22
แลคัมภีร์ศิทิสารแลพระคัมภีร์..............พระคัมภีร์นี้ตามวัน ตามคืน ตามยาม
รแ งค
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 23-24
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
หน้าที่ 23-24
พ์ นื ้ ญญ
ในย
อยู่แต่
นอก ครรพน้นน อนน (ว่าถ้าไม่หาย) ก็จกลายเปนโรค
นไ
ดำ�
ฤศดวงเปนอาธิ อนึ่งออก แลตาน(ทราง) ลากสาตสรรนิบาต แลหัตหิต
ทย ูมิปั
แดง
เหือดฝีมเรงคชราช เรื้อนกลากเกลื้อนพยาทธิในทะวะตึงษาการ และ
ฉนนนวุฒิโรค+ย 96 กล่อน 5 ประเมหะ 32 ก็ดี เกิดแต่กองธาตุ
แพ ภ
ละ สรมิ
บัญจกแลโรค+ยอนนเกิดเนื่องมาแต่ บิดามารดาน้นน ๚ อนึ่งอนนว่า
ลักษณะพร เคราะห์เทวะดาทั้ง 8 พรองค์ก็จจอรประจ�ำ 12 ราษีน้นน
ยแ ง่ เ
อาทิต
ก็เปนที่สงงเกดแห่งธาตุทงง 4 เปน (ต้น) คือพร ทงง
เสาร 2 (พร) องค์นี้
ไท ะส
จันท
เปนเตโชธาตุ คือพร ทั
หัศ ้ง 2 (พรองค์นี้) เปนปถวีธาตุ คือพร พุสุกทระธ
ผน แล
ค�ำอ่าน
ยแ์ รอง
หน้าที่ 23-24
อยู่แต่ในครรภ์นั้นอยู่แต่นอกครรภ์นั้น อันว่าไม่หายก็กลายเป็นโรค
พท มุ้ ค
บัญจกแลโรคอันเกิดเนื่องมาแต่บิดามารดานั้น ๚ อนึ่งอันว่า
ลักษณะพระเคราะห์เทวดาทั้ง 8 พระองค์ก็จะจรประจ�ำ 12 ราศีนั้น
ก็เป็นที่สังเกตแห่งธาตุทั้ง 4 เป็นต้น คือ พระอาทิตย์ พระเสาร์ ทั้ง 2 พระองค์นี้เป็น
เตโชธาตุ คือพระจันทร์ พระพฤหัส ทั้ง 2 พระองค์นี้เป็นปถวีธาตุ คือพระพุธ พระศุกร์
กา
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 25
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 25-26
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
หน้าที่ 25-26
พ์ นื ้ ญญ
อังคาร
ทงง 2 พรองค์นี้เปนอาโปธาตุ คือ (พร) ทงง
ราหู 2 พรองค์นี้เปน
นไ
วาโยธาตุ เหตุบาฬีมีในสมุทยจินทามังนี้ ๚ รวิโสริพลํ เตโช
ทย ูมิปั
จนฺทคุรุ+พลํ ปถวี สุกฺพุทฺธพลํ อาโป ภู........พลํ วาโย ๚ อนนนี้บอก
ธาตุพรเคราะห์ 8 พรองค์เปนที่จะได้สังเกตแห่งกองโรคยมีทรางก�ำเนิด
แพ ภ ในย อาทิต
ละ สรมิ
(เกิด) แก่ทารกอนอยู่
นอก ครรพเปนต้นดงงนี้ ๚ อนึ่งถ้าพร เสาร
เมษ
สิง ราษีทังง 3 นี้ชื่อวาโยธาตุ ถาโรคไดบังเกิด
ทังงสององนี้จรอยูณะราศี
ยแ ง่ เ
ทนู
อนนว่าลกษณะโรคคยน้นน เกีดแต่กองลํมกล้านักมีสมูถานมารุตก�ำเริบ
ไท ะส
ค�ำอ่าน
ยแ์ รอง
หน้าที่ 25-26
พท มุ้ ค
ธาตุพระเคราะห์ 8 พระองค์เป็นที่จะได้สังเกตแห่งกองโรคมีซางก�ำเนิด
เกิดแก่ทารกอันอยู่ในครรภ์อยู่ภายนอกครรภ์เป็นต้นดังนี้ ๚ อนึ่งถ้าพระอาทิตย์
พระเสาร์ ทั้งสององค์นี้จร อยู่ ณ ราศีเมษ ราศีสิงห์ ราศีธนู ราศีทั้ง 3 นี้ชื่อวาโยธาตุ ถ้า
โรคใดบังเกิดอันว่าลักษณะโรคนั้น เกิดแต่กองลมกล้านักมีสมุฏฐานมารุตก�ำเริบ
กา
ขึ้นเป็นก่อนดังนี้ อันว่าธาตุก�ำเนินที่กล่าวว่ามาดังนี้ก็อาศัยแห่ง
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 27
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 27-28
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 27-28
นไ
สมุถาณเปนที่ตงง ๚
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
๏ อนึ่งพึงให้แพทย์รู้โรคยตรองในกองธาตุทังง 4 แลพรสุริยเทวบุต+รจร
ตามจัก+รราษีทังง 12 ราษีร โดยนพภาไลยประเทศมรรคาทังง 3 ดุจดงง
ไท ะส
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 27-28
สมุฏฐานเป็นที่ตั้ง ๚
รแ งค
กอ
กา
๏ อนึ่งพึงให้แพทย์รู้โรคตรองในกองธาตุทั้ง 4 แลพระสุริยเทวบุตรจร
จามจักราศีทั้ง 12 ราศี โดยนพภาลัยประเทศมรรคาทั้ง 3 ดุจดัง
พระบาลีอันมีในพระคัมภีร์จันทรสุริยคติทีปนีว่าดังนี้ ๚ ติสฺโส วิถีโย
๚ อันว่าวิถีทางที่ด�ำเนินแห่งพระจันทร์แลพระสุริยะนั้นมี 3 วิถี คือ อัชวิถี 1
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 29
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 29-30
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 29-30
นไ
คือนาควิถี 1 คือโครวิถี 1 ตาม (พรค�ำภีร์ทั้ง) หลายต่างๆ มี
ทย ูมิปั
พรค�ำภีร์สาระสงงคะหะเปนต้น จึงมีการเปรียบความว่า ธรรมดา
แพะมีสรรดานพานจเกลียดน�้ำ ฝายก็มีสรรดานภานจภอใจเล่นน�้ำ
แพ ภ
เยนกับร้อนเปนที่ภอสรรดารปานกลาง เปนที่สบายแห่งโค เมื่อพร
ละ สรมิ
อาทิตยเสดจ์โดยวิถีอนนใดอัศวลาหกเทวบุต+รทงงหลายกลัวเดช
ยแ ง่ เ
พรอาทิตย บมิอาจที่จออกจากทิพยพิมานแห่งตน มิได้ขวนขวายที่จะเทยีว
ไท ะส
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 29-30
คือนาควิถี 1 คือโควิถี 1 ตามพระคัมภีร์ทั้งหลายต่าง ๆ มี
รแ งค
อาทิตย์เสด็จโดยวิถีอันใดอัศวลาหกเทวบุตรทั้งหลายกลัวเดช
พระอาทิตย์ บ่มิอาจที่จะออกจากทิพย์พิมานแห่งตน มิได้ขวนขวายที่จะเที่ยว
กา
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 31
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 31-32
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 31-32
นไ
นันนมีคติเนื่อง ด้วยพรอาทิตยเล่งเดินทางต�่ำ พรจันทร
ทย ูมิปั
ก็ลดด้วยกัน ดงมี + รวางปริมณฑลทงงสองนันนได้โยชนห+นึ่งเหตุดงงนันนวิถี
อนนนี้ จึงได้ชื่อว่าอัชวิถีสมควรแก่แพะ เพราะเหตุว่ามีฝนนั้นแล้งไปย ๚
แพ ภ
๚ อนึ่งพรสุริ+ยมณฑล เสดจ์โดยวิถีใด อัศวลาหกเทวบุต+รทังหลายบมิได้
ละ สรมิ
รวง กลังว+รเดชพรอาทิตย แล้วก็ (บ่มิอาจที่จะออกจากทิพยวิมาน) แห่งตนเนื่องๆ
ยแ ง่ เ
โน้น
ขวนขวายสรรจรเทยีวเล่นไปในนพภาดลอากาษฃ้าง ในกาลใดกาลนั
นี้ ้น
ไท ะส
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 31-32
นั้นมีคติเนื่องด้วยพระอาทิตย์เล็งเดินทางต�่ำ พระจันทร์
รแ งค
ก็ลดด้วยกัน ดังมีระวางปริมณฑลทั้งสองนั้นได้โยชน์หนึ่งเหตุดังนั้นวิถี
อันนี้ จึงได้ชื่อว่าอัชวิถีสมควรแก่แพะ เพราะเหตุว่ามีฝนนั้นแล้งไป ๚
กอ
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 33
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 33-34
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 33-34
นไ
มีฝนชายจมาก ๚อนึ่งเมื่อพรสุริย (แลพรจันทร) มิได้ขึ้นคู่วิถีทางบนและ
ทย ูมิปั
บ่มิได้ลงสู่วิถีทางต�่ำ ต�ำเนินโดยวิถีทางปรกติในกาลใด กาลน้นนอัศ
วลาหกเทวบุต+รทงงหลาย ก็ออกจากทิพยพิมานโดยอนนควรแก่สบาย
แพ ภ
ประมาร เหตุดงงนั้นอนนว่าเสมอแห่งระดูก็บังเกิดในโลกย เหตุ
ละ สรมิ
มาก
ว่าฝนตกโดยกาลอันควรไม่
น้อย คติแห่งพรจันทรพรอาทิตยนั้นก็ได้นาม
ยแ ง่ เ
1
ชื่อโครวิถี สมควรแก่โคเพราะเหตุมีระดูเสมอดงงน้นน ๚ ยํ กาลํ จนฺทิมสุริยํ
ไท ะส
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 33-34
มีฝนชายจะมาก ๚ อนึ่งเมื่อพระสุริยะแลพระจันทร์มิได้ขึ้นคู่วิถีทางบนและ
รแ งค
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 35
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 35-36
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 35-36
นไ
3
ก็ตก+หนักเนื่องๆ ดุจห+นึ่งจท�ำลาย...... ...........นั้น ๚ เมื่อพรจนนทรพร
ทย ูมิปั
อาทิตยเสดจ์โดยโครวิถีในกาลใด กาลน้นนฝนก็ตกภอประมาณ
เสมอรดูในโลกยนี้ ๚ อนนนี้มีในพรบาฬีแลอรรถกะถาต่างๆ มี
แพ ภ
พรค�ำภีร์ สารสงงคหะเปนอาทิจัตวิถีทงง 3 นี้เปนสามัญไว้ย
ละ สรมิ
อัช
จได้แบ่งปนนออกจากเปนรดูใดแลเดือนใดเปนก�ำนด วิ นาค ถีน้นน
ยแ ง่ เ
โคร
หามิได้ ฝายพรค�ำภีร์โลกสรรฐานแลพร+คัมภีร์จนนทรสุริยคติทีปนี (อา)
ไท ะส
จาริ+ยผู้รู้อธิบายพรบาฬีแลอรรถกถาจัดจักรราษีวิเสศออกดงงนี้ ๚ เอวํ
กเตสุริสุติยเนสุ อชฺชวิถี..........อุปริ นาควิถี.........ยํ
ผน แล
ยแ์ รอง
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 35-36
3
ก็ตกหนักเนื่องๆ ดุจหนึ่งท�ำลาย .................นั้น ๚ เมื่อพระจันทร์พระ
รแ งค
จารย์ผู้รู้อธิบายพระบาลีแลอรรถกถาจัดจักรราศีวิเศษออกดังนี้ ๚ เอวํ
กเตสุริสุติยเนสุ อชฺชวิถี..........อุปริ นาควิถี.........ยํ
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 37
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 37-38
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 37-38 อัช
นไ
นาค
อุทฺธํ โควิถี.......อุทฺธํ โควิถีโหติ ๚ อทิตย.......น้นนคือ วิ ถีก็ดีแต่ละ
ทย ูมิปั
โคร
วิถีๆ ก็มีในมรรคาทงงสอง คือมรรคาจะไปฃ้างทักษิณทิศแลอุดรทิศอัน
มีปรากฎอยู่ในพรค�ำภีร์จนนทรสุริยคติทิปนี โดยในยอนนอาจาริยะก่อนกล่าว
แพ ภ
ไว้ยแล้วน้นน แลในพรค�ำภีร์ธาตุวินิจไฉยนี้ อาจาริยท่ารสมเคราะห์มาไว้ย
ละ สรมิ
หวังจะให้แพทยเหน ซึ่งคติต�ำเนินแห่งพรจันทรพรอาทิตยโดยวิถี
ยแ ง่ เ
ทงง 3 น้นนเปนสงงเขปพึงเฃ้าใจเถิดว่าอัชวิถีนั้นเปนทางต�่ำ นาควิถี
ไท ะส
9
ยแ์ รอง
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 37-38
อุทฺธํ โควิถี.......อุทฺธํ โควิถีโหติ ๚ อาทิตย์........นั้นคือ อัชวิถี นาควิถี โควิถี ก็ดีแต่ละ
รแ งค
หวังจะให้แพทย์เห็น ซึ่งคติด�ำเนินแห่งพระจันทร์พระอาทิตย์โดยวิถี
ทั้ง 3 นั้นเป็นสังเขปพึงเข้าใจเถิดว่าอัชวิถีนั้นเป็นทางต�่ำ นาควิถี
กา
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 39
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 39-40
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 39-40
กรกฎ 2
นไ
พรอาทิตยสทิศอยู่ใน ราษี
สิงห์
ท งง 2 เดื อ นนี ช
้ อ
่ ื ว่ า โครวิ ถ ี ๚ เทวฺมาสา
10
ทย ูมิปั
อันว่าเดือนทงง 2 คือเดือน เปนกาลพรอาทิ
11 ตยสทิศอยู่ในย กัตุญลย
3
แพ ภ
ราษีทงง 2 เดือน นี้ชื่อว่านาควิถี ๚ เทวฺมาสา อันว่า เดือนทังหลาย
12
2 คือเดือน เปนกาลกาลอนนพรอาทิ ตยสทิศอยูใน ราษรี พิจิตร ทงง
ละ สรมิ
1 หนู
1
ยแ ง่ เ
2 เดือนนี้ชื่อว่า อัชวิถี ๚ อุตารย...........ปิ แม้อนนว่ามรรคาควรไปฃ้าง
อุตอรรทิศน้นนก็ดี เทฺวมาสา อนนว่าเดือนทงงหลาย 2 น้นน คือเดือน 23
ไท ะส
ผน แล
มังกร 2
เปนกาลพรอาทิตยสทิศอยู่ใน ราษี
กุมพ ท งง 2 เดื อ นนี ช
้ อ
่ ื ว่ า อั ช วิ ถ ี ๚ เทวฺมาสา
4 มีน
อนนว่าเดือนทงงหลาย 2 คือเดือน เปนกาลพรอาทิ ตยสทิศอยู่ใน
ยแ์ รอง
5 เมศ
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 39-40
รแ งค
2
พระอาทิตย์สถิตอยู่ในกรกฏราศี สิงห์ราศีทั้ง 2 เดือน นี้ชื่อว่าโควิถี ๚ เทฺวมาสา
อันว่าเดือนทั้ง 2 คือเดือน 10 เดือน 11 เป็นกาลพระอาทิตย์สถิตอยู่ในกันย์
กอ
3
ราศี ตุลราศี ทั้ง 2 เดือนนี้ชื่อว่านาควิถี ๚ เทวฺมาสา อันว่า เดือนทั้งหลาย
2 คือเดือน 12 เดือน 1 เป็นกาลอันพระอาทิตย์สถิตอยู่ในพิจิกราศี ธนูราศี ทั้ง
1
2 เดือนนี้ชื่อว่าอัชวิถี ๚ อุตารย ....แม้อันว่ามรรคาควรไปข้าง
กา
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 41
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 41-42
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 41-42
3
ราษีทงง 2 เดือนนี้ชื่อว่านา+ควิถี ๚ เทวฺมาส อนนว่าเดือนทงงหลาย 2 คือ เดือน 67
นไ
พฤก
ทย ูมิปั
เปนกาลพรอาทิตยสทิศอยูใน ราษี
เมถุน ทงง 2 เดือน+นี้ชื่อว่าโครวิถีครื
ราษรีแลเดือนในมรรคาทัง 2 นี้ไทร้ วิถีแต่ละวิถี วิถีได้ 4 เดือน 4 ราษรี
แพ ภ
12
๚ จตฺตาโรมาสา อนนว่าเดือนทงหลาย 4 คือเดือน เปนกาลพรอาทิ
1 ตย
2
พิจิตร 3
ละ สรมิ ทนู 2
สทิศอยูใน ราษรี
มังกร ทงง 4 เดือนนี้จัดชื่อว่าอัชวิภี ๚ จตฺตาโร
กุมพ
ยแ ง่ เ
10
11
มาสา อนนว่าเดือนทงงหลาย 4 เดือน คือเดือน เปนกาลอนนพรอาทิ ตย
ไท ะส
4
กัญ 5
ตุญ
ผน แล
3
สทิศอยู่ใน ราษรี
มีน
เมษ
ทงง
4 เดือนนี้จัดได้ว่าชื่อนาควิ
9
ถี ๚ จตฺตาโร
มาสา อนนว่า เดือนทงงหลาย 4 เดือน คือเดือน เปนกาลพรอาทิ
8 ตย+ยสทิศอยู่
ยแ์ รอง
6
7
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 41-42
รแ งค
3
ราศีทั้ง 2 เดือนนี้ชื่อว่านาควิถี ๚ เทวฺมาส อันว่าเดือนทั้งหลาย 2 คือ 6 เดือน 7
เป็นกาลพระอาทิตย์สถิตอยู่ใน พฤษภราศี เมถุนราศี ทั้ง 2 เดือนนี้ชื่อว่าโควิถีคือ
กอ
อันพระอาทิตย์ 3
สถิตอยูใ่ น กันย์ราศี ตุลราศี มีนราศี เมษราศี ทัง้ 4 เดือนนีจ้ ดั ได้ชอื่ ว่า นาควิถี ๚ จตฺตาโร
มาสา อันว่าเดือนทั้งหลาย 4 เดือน คือเดือน 9 เดือน 8 เดือน 6 เดือน 7 เป็นกาล
พระอาทิตย์สถิตอยู่
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 43
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 43-44
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 43-44
นไ
กรกฎ
ใน ราษี
สิงฆ์ รทงง 4 เดือนนี้จัดได้ชื่อว่าโครวิถี ๚ อนน+หนึ่งชื่อว่าพิมานพร
ทย ูมิปั
พฤกศก
เมถุน
สูง ต�่ำ
สุริยเทวบุตร จากทางอั นเปนปรกติเดินทาง แลทางปรกติ นั้น
แพ ภ
ขึ้น ขึ้น
ก�ำนดเมื่อกาลจเคลื่อนจากราษรีทงง 2 คือ ราษี
ตุลย
กุมภ
ร เมื่อพรอาทิตย
ลงจากตุลยราษีรอันเปนหนทางปรกติแลลงต�ำเนินทางต�่ำไปใน พิธนูจิตร
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
มังกร
นั้นเปนอัชวิถี ครั้งเมื่อพรอาทิตยจเคลื่อนเข้าสู่
กุมภ ราษรีนั้น
ไท ะส
จค่อยขยับขึ้นสู่ทางบนก็ยงงไม่พ้นอัชวิถีก่อนแตทว่าผ่อนขึ้นจาก
ทางต�่ำแล้ว ต้งงอยู่ในทางปรกติในวัชวิถีนั้น เหตุดงงนั้นจึงมี
ผน แล
ว่าพรบาฬีว่าดงงนี้ อชฺชวิฺถึ............พรอาทิตขึ้นสู่อัชวิถี
ยแ์ รอง
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 43-44
ในกรกฎราศี สิงห์ราศี พฤษภราศี เมถุนราศีทั้ง 4 เดือนนี้จัดได้ชื่อว่าโครวิถี ๚ อันหนึ่ง
รแ งค
ชือ่ ว่าพิมานพระ-
กอ
จะค่อยขยับขึ้นสู่ทางบกก็ยังไม่พ้นอัชวิถีก่อนแต่ทว่าผ่อนขึ้นจาก
ทางต�่ำแล้ว ตั้งอยู่ในทางปกติในอัชวิถีนั้น เหตุดังนั้นจึงมี
ว่าพระบาลีว่าดังนี้ อชฺชวิฺถึ............ พระอาทิตย์ขึ้นสู่อัชวิถี
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 45
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 45-46
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 45-46
นไ
อนึ่งเมื่อพรจนนทรพรอาทิตยจ ขึ้นจากทางปรกติในอัชวิถี ได้เมื่อ
ทย ูมิปั
มีน
ไปจากกูมพราษีรแลขึ้นสู่ เมศ ราษีรเปนทางกลาง ครั้นเมื่อจเคลื่อน
พฤกษภ
ไปสู่ ราษีร ก็ขึ้นสู่ทางบน ครั้งเมื่อจเคลื่อนจากเมถูนราษีรก็ลด
แพ ภ
เมถูน
ลงจากทางบน ลงสู่ทางกลางเปนปรกติ แตกัญราษีรมากราบท้าวถึง
ละ สรมิ
ตุลยราษีร ที่พรรณนามานี้ว่าด้วยพรจันทรพรอาทิตยต�ำเนินปะทักษิณ
ยแ ง่ เ
พรเมรุเปนปกติ ๚ วิสมํ ปริวตฺตนฺติ ถ้ากาลพิบัติแล้วกาลพรจนนทรพรอาทิตย
ไท ะส
ก็วิประริตเวยีนไปบ่หมิได้เสมอ ค�ำทงงนี้อาจารยทงงหลายอาใส+ยซึ่งวิสัม
คติต�ำเนินมิได้เสมอนั้นมี 5 ประการ (ดงง) กล่าวไว้ในพรค�ำภีร์จนนทร
ผน แล
ยแ์ รอง
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 45-46
อนึ่งเมื่อพระจันทร์พระอาทิตย์ จะขึ้นจากทางปรกติในอัชวิถีนั้นได้เมื่อ
รแ งค
ตุลย์ราศี ที่พรรณนามานี้พระจันทร์พระอาทิตย์ด�ำเนินประทักษิณ
พระเมรุเป็นปรกติ ๚ วิสมํ ปริวตฺตนฺติ ถ้ากาลพิบัติแล้วกาลพระจันทร์พระอาทิตย์
กา
ก็วิปริตเวียนไปบ่มิได้เสมอ ค�ำทั้งนี้อาจารย์ทั้งหลายอาศัยซึ่งวิสัม-
คติด�ำเนินมิได้เสมอนั้นมี 5 ประการดังกล่าวไว้ในพระคัมภีร์จันทร์
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 47
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 47-48
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 47-48
นไ
สุริยคติทิปนีโนนแล้ว แลพรค�ำภีร์ธาตุวินิจไฉยนี้มิได้ปรากฎวิถาร
ทย ูมิปั
เปนแต่สงงเขปไว้ให้แต่ภอพึงเข้าใจดุจกล่าวมาดงงนี้ ๚ ไนย+หนึ่ง
15
เมื่อแรกพรสุริยม+ณทลจได้ปรากฎในต้นกลับน้นน ก็ปรากฎขึ้นในวนน 1 ฯ 4 ค�่ำ
แพ ภ
พร้อมด้วยอุตรโปรฐบาทนักขัต+รฤกษ 26 ในราศีมิณฝายพรจนน+ทรก็ปรากฎ
ละ สรมิ
ในกัญราษีร เสวยอุตรผลคุณินักขัต+รฤกษ 23 ในวนนเพญ เดือน 4
ยแ ง่ เ
วนน
น้นนจึงเดิมพรจนนทรพรอาทิตยปรากฏแล้ว ก็ปรากฏเปนกลาง คืน
ไท ะส
ค�ำอ่าน
หน้าที่ 47-48
พท มุ้ ค
สุริยคติทิปนีโน้นแล้ว แลพระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัยนี้มิได้ปรากฏวิตถาร
เป็นแต่สังเขปไว้ให้แต่พอพึงเข้าใจดุจกล่าวมาดังนี้ ๚ นัยหนึ่ง
รแ งค
เมื่อแรกพระสุริยมณฑจะได้ปรากฏในต้นกัปนั้น ก็ปรากฏขึ้นในวันอาทิตย์
ขึ้น 15 ค�่ำ เดือน 4
กอ
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 49
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 49-50
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 49-50
นไ
แลรดู 6 นั้น คือเหมรรตรดู 1 คือคิมหรรตรดู 1 คือวัสสรรตรดู 1 เปน 3 รดู
ทย ูมิปั
ดงงนี้ ๚ อนนลักษณ 6 รดูนั้นคือแบ่งออกมาแต่รดูทงง 3 ที่ก�ำนดไว้ใน
เปนรดูละ 4 เดือน 4 เดือนนั้น ปันออกระดูละ 2 เดือน 2 เดือน จึงเปน 6 รดู
แพ ภ
ด้วยกรร คือคิมหรรตรรรดู 1 วัศสรรตรดู 1 เปนรดูร้อน 2 รดูดงงนี้คือวัศ
ละ สรมิ
สรรตรดู สรทรดู 1 เปนรดูฝน 2 รดู ดงงนี้ คือเหมมรรตรดู 1 สสิรรรดู 1 เปน
ยแ ง่ เ
1
รดูหนาว 2 รดูดงงนี้ ๚ อนึง่ ก�ำ + หนดแต่แรม คำ�่ หนึง่ เดือน 4 กราบ ท้าวถึงเพญเดือน 6
ไท ะส
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 49-50
แลฤดู 6 นั้นคือเหมันตฤดู 1 คือคิมหัตะฤดู 1 คือวสันตฤดู 1 เป็น 3 ฤดู
รแ งค
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 51
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 51-52
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 51-52
นไ
เดือน ๘ เป็น ๒ เดือน ด้วยกรรดงงนี้ ชื่อว่าวสันตรดูด้วยอัฏว่าเปนที่แห่ง
ทย ูมิปั
3
ความยินดี เพราะกาลเมือมีดอกไม้อนนบาล ๚ อนึ่งกํา+หนดแต่แรกค�่ำห+นึ่งเดือน ๘
กราบท้าวไปจนถึงเพญเดือน ๑๐ เป็นสองเดือนด้วยกรรดงงนี้ + ชือ่ ว่าวัศสานตรดู ด้วย อัฏว่ามีฝน
แพ ภ
4
อนนตกชุก ๚ อนึ่งกํา+หนดแต่แรมค�่ำห+นึ่งเดือน ๑๐ กราบท้าวไปจนถึงเพญเดือน ๑๒
ละ สรมิ
เปนสองเดือนด้วยกรรดงงนี้ชื่อว่าสรทรดู ด้วยอัฏว่าเปนกาลอนนจยงงสัตว์ให้
ยแ ง่ เ
5
สครั้นสครั้วกายไม่สู้สบาย ๚ อนน+หนึ่งกํานดแต่แรมค�่ำห+นึ่งเดือน ๑๒ ไปกราบท้าว
ไท ะส
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 51-52
เดือน 8 เป็น 2 เดือน ด้วยกันดังนี้ ชื่อว่าวสันตฤดูด้วยอรรถว่าเป็นที่แห่ง
รแ งค
3
ความยินดีเพราะกาลเมื่อมีดอกไม้อันบาน ๚ อนึ่งก�ำหนดแต่แรกค�่ำหนึ่งเดือน 8
ตราบเท่าไปจนถึงเพ็ญเดือน 10 เป็นสองเดือนด้วยกันดังนี้ ชื่อว่าวัสสานฤดู ด้วยอรรถว่า
กอ
4
มีฝนอันตกชุก ๚ อนึ่งก�ำหนดแต่แรมค�่ำหนึ่งเดือน 10 ตราบเท่าไปจนถึงเพ็ญเดือน 12
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 53
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 53-54
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 53-54
นไ
เดือน ๔ เปนสองเดือนด้วยกรรดงงนี้ชื่อว่าสสิรรดู ด้วยอัฏว่าเยนนักก็
ทย ูมิปั
ครบรดู 6 แล้วภอได้ ๑๒ เดือนเปนปี+หนึ่งดุจดงงกล่าวมาแล้วแต่
หลังนั้น ๚ เอวํ อฑฺฒมาสา ทเหมญญยนฺติ ๚ จําเดิมแต่พรจนน+ทรและ
แพ ภ
เดือน
พรอาทิตยปรากฏแล้ว ก็ปรากฏเป็นกึ่งเดือนแล เปน
ระดู สืบกรรมาด้วย
ปี
ละ สรมิ
ประการดงงนี้ ๚ อนนว่าลักษณระดูทงง ๓ แลรดูทงง 6 นั้น ซึ่งพรอา
ยแ ง่ เ
จาริยเจ้ากล่าวแล้วแต่หนหลัง หวังจะบอกให้รู้แจ้งซึ่งประเพทแห่ง
ไท ะส
ตาล
โรค+ยทงงปวงมี
ทราง เปนต้นนั้น อนึ่งให้ฟังแจ้งไปในประเทศที่เกิด
ทงงปวง คืออยู่ในประเทศที่น�้ำตมอันเคมชายฉเลนั้นไข้บังเกิดนั้น
ผน แล
ยแ์ รอง
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 53-54
เดือน 4 เป็นสองเดือนด้วยกันดังนี้ชื่อว่าศิศิรฤดู ด้วยอรรถว่าเย็นนักก็
รแ งค
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 55
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 55-56
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 55-56
นไ
ในเพื่อเสมหะกล้า คืออยู่ประเทศน�้ำตมอนนจืดแลน�้ำฝนนั้น ไข้บงงเกิดน้นน
ทย ูมิปั
เกิดแต่กองวาโยกล้า คืออยู่ประเทศที่ภูเขาแลที่อันสูงมีป่าน�้ำแลที่ร่มนั้น
ไข้บงงเกิดน้นเกิดแต่กองกําเดากล้า ๚ อนึ่งให้แจ้งไปในลักษณมูล เหตุอัน
แพ ภ
จะให้ธาตุทงง ๔ กําเริบแลลดถอยจึงให้บงงเกิดโรค+ยต่างๆ มีไข้ทรางแล
ละ สรมิ
ไข้ครรพรักษาเปนต้น อนนบงงเกิดแต่สมุถานทงง ๓ นั้น คือปิตสมุถาน ๑
ยแ ง่ เ
คือวาตสมุถาน ๑ คือเสมหะสมุถาน ๑ เปนสมุถาน ๓ ดงงนี้ ๚ อนน+หนึ่ง
ไท ะส
5
อนนเตโชธาตุกําเริบในเดือน ทงง
6 ๓ เดือนนี้ เหตุว่าบริ โภคอาหาร
7
ผน แล
ผิดประลาดในเพลากลางวนนเปนอาทิจึงให้โทษ ๚ อนึ่งอันว่าวาโยธาตุ
ยแ์ รอง
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 55-56
รแ งค
ในเสมหะกล้า คืออยู่ประเทศน�้ำตมอันจืดแลน�้ำฝนนั้นไข้บังเกิดนั้น
เกิดแต่กองวาโยกล้า คืออยู่ประเทศที่ภูเขาแลที่อันสูงมีป่าน�้ำแลที่ร่มนั้น
กอ
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 57
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 57-58
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 57-58 8
นไ
กําเริบในเดือน ทงง
9 ๓ เดือนนี้เหตุบริโภคของกินอันชุมมันเป็นอาทิจึง
ทย ูมิปั
10
11
12
ให้โทษ ๚ อนน+หนึ่งอนนว่าอาโปธาตุกําเริบในเดือน ทงง๓ เดือนนี้เหตุ
แพ ภ
1
2
บริโภคอาหารอันเย็นเปนอาทิจึงให้โทษ ๚ อนึ่งอันว่าปถวีธาตุกําเริบในเดือน 3
4
ละ สรมิ
ทงง ๓ เดือนนี้ เหตุว่านอนกลางวนนนั้นมากเป็นอาทิจึงให้โทษ ๚ อนึ่งตก
ยแ ง่ เ
ต้นไม้แลท่ารทุบถองตีโบยแลล้มลง แลเดินทางไกลให้ร้อนนัก แลทําการนัก
ไท ะส
แลแถวเส้นอันใ+หญ่ทังปวงพิการ ๚ ถ้าแลเหนศรีเหลืองไข้นั้นเกิดแต่
ยแ์ รอง
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 57-58
รแ งค
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 59
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 59-60
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 59-60
นไ
กองดีแลกําเดาให้โทษ ถ้าเหนษรีขาวไข้นั้นเกิดแต่กองเสมหะให้โทศ ๚๛
ทย ูมิปั
ถ้าเหนษรีแดงไข้นั้นเกิดแต่กองโลหิตให้โทศ ๚ ถ้าเหนษรีเขยีวไข้นั้นเกิด
แต่กองวาโยให้โทษ ๚ ถ้าเหนษรีดําไข้นั้นเกิดแต่กองกําเดาให้โทษ ๚๛
แพ ภ
ดำ�
แดง
ละ สรมิ
ถ้าเหน เจื
ขาว อกรรไข้นั้นที่เหนคือปถวีให้โทศ ๚ อนึ่งอาโปธาตุ
เหลือง
ยแ ง่ เ
กําเริบนั้นกําเริบแต่กองเสมหะสมุฐานให้เปนเหตุ อนึ่งอนนว่ากําเดาแล
ไท ะส
ดี แลโลหิตกําเริบนั้นกําเริบแต่เตโชธาตุ เตโชธาตุกําเริบแต่กองปิตะสมุ
ฐานให้เปนเหตุ ๚ หนึ่งวาโยธาตุกําเริบนั้นกําเริบแต่กองวาโยสมุฐาน
ผน แล
ยแ์ รอง
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 59-60
กองดีแลก�ำเดาให้โทษ ถ้าเห็นสีขาวไข้เกิดแต่กองเสมหะให้โทษ ๚๛
รแ งค
ถ้าเห็นสีแดงไข้นั้นเกิดแต่กองโลหิตให้โทษ ๚ ถ้าเห็นสีเขียวไข้นั้นเกิด
แต่กองวาโยให้โทษ ๚ ถ้าเห็นสีด�ำไข้นั้นเกิดแต่กองก�ำเดาให้โทษ ๚๛
กอ
ฏฐานให้เป็นเหตุ ๚ หนึ่งวาโยธาตุก�ำเริบแต่กองวาโยสมุฏฐาน
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 61
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 61-62
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 61-62
คือ ลม 6 จําพวกให้เปนเหตุ ๚ อนึ่งอันว่าปถวีธาตุกําเริบนั้นกําเริบแต่
นไ
ทย ูมิปั
เตโช
กองสมุฐาน ๓ คือ เสมุ
วาโย
อาโป
ฐานทงง ๓ นี้นามชื่อว่าสรรนิบาต แพทย
แพ ภ
พึงงรู้ดุจในอันกล่าวมาแล้วนั้น ๚ ลําดับนี้จะได้กล่าวด้วยธาตุอภิญาณ
ละ สรมิ
(ทงง ๔) คือปถวีธาตุ ๓ เตโชธาตุ ๓ อาโปธาตุ ๓ วาโยธาตุ ๓ อันว่า
ยแ ง่ เ
ลม
จรณปถวี นั้นคือไข้จรมาแต่ธาตุ
ไฟ
น�้ำ
ทัง ๓ นี้ ธาตุดิน ๒๐ ก็พลอยให้โทศ ๚
ยแ์ รอง
ค�ำอ่าน
รแ งค
หน้าที่ 61-62
คือลม 6 จ�ำพวกให้เป็นเหตุ ๚ อนึ่งอันว่า ปถวีธาตุก�ำเริบนั้นก�ำเริบแต่
กอ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 63-64
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
หน้าที่ 63-64
ทย
พ์ นื ้ ญญ
แลภินนเตโชนั้นคือธาตุเพลิง ๔ แตก ชาติเตโชนั้นคือ ธาตุเพลิงกําเริบ
นไ
ดิน
จึงให้บงงเกิดความไข้ต่างๆ จรณเตโชนั้นคือไข้จรมา+แต่ธาตุ
น�้ำ ทั้ง ๓ นี้
ทย ูมิปั
ลม
ธาตุเพลิง ๔ ก็พลอยกําเริบขึ้นให้โทศ ๚ อนนว่าลักษณอาโปธาตุ
๓ นั้นคือ ภินนอาโป ๑ ชาติอาโป ๑ จรณอาโป ๑ แลภินนอาโปนั้น
แพ ภ
ละ สรมิ
คือธาตุน�้ำ ๑๒ แตก ชาติอาโปนั้นคือธาตุน�้ำ ๑๒ กําเริบจึงบังเกิดซึ่งไข้
ดิน
ต่างๆ จรณอาโปนั้น คือไข้จรมาแต่ธาตุ
เพลิง ท้งง ๓ นี้ ธาตุน�้ำ ๑๒ ก็
ยแ ง่ เ
ลม
พลอยกําเริบขึ้นให้โทศ ๚ อันว่าลักษณวาโย ธาตุ ๓ นี้น้นน
ไท ะส
ค�ำอ่าน
ยแ์ รอง
หน้าที่ 63-64
แลภินนเตโชนั้นคือธาตุเพลิง 4 แตก ชาติเตโชนั้นคือ ธาตุเพลิงก�ำเริบ
พท มุ้ ค
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 65
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 65-66
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 65-66
นไ
ชาติวาโยนั้น คือธาตุลม 6 กําเริบจึงให้บงงเกิดไข้ต่าง ๆ จรณวาโย
ลม
ทย ูมิปั
นั้นคือไข้จรมาแต่ธาตุ
น�้ำ
เพลิง
ท้งง ๓ นี้ธาตุลมก็พลอยกําเริบให้โทศ ๚ อันนว่า
ธาตุอภิณญาณท้งง ๔ นั้นคือมีธาตุแล ๓ แล ๓ คือ ภินนธาตุ ๑ คือชาติ
แพ ภ
ธาตุ ๑ คือจรณธาตุ ๑ อันว่าภินนธาตุท้งง ๔ แตก อันว่าชาติธาตุก็ กํา
ละ สรมิ
เริบขึ้นให้บงงเกิดซึ่งโรค+ยต่างๆ อนนว่าจรณธาตุ+คือธาตุอันถอยแลจรมาถูก
ยแ ง่ เ
ต้องกรรจึงกําเริบ ถ้าแพทยพิจรนาเหนเป็นภินนธาตุแล้+วพึงให้รักษาตามบู+ญ
ไท ะส
ของบุคลเถิด ถ้าพิจาระนาเหนว่าเปนชาติธาตุแลจรณธาตุแล้วก็พึงให้รัก
ชาติโรคย ปี
ษาเถิด แต่วางยาอย่า ให้ผิดให้ชอบซึ่ง แลโรค+ยจรตาม
ประเทษโรคย เดือน
ผน แล
โรค+ยก�ำเนิด วนน
ยาม
ค�ำอ่าน
ยแ์ รอง
หน้าที่ 65-66
พท มุ้ ค
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 67
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 67-68
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
หน้าที่ 67-68
ทย
พ์ นื ้ ญญ
ลง
(ตาม) การนั้น ๚ อนึ่งนั้นว่าไข้ซึ่งกระทําให้ ราก
นั้นก็+มีลักษณแล ๔ แล ๔ คือ
ท้องขึ้น
นไ
ด�ำ
แดง
ทย ูมิปั
ขาว
ปถวีธาตุให้ลงนั้นมีษรีมูล เจื อกรร คือเตโชกระทําให้ลงนั้นมีษรีมูลนั้น
เหลือง
เขยีว
แพ ภ
แดง คืออาโปธาตุกระทําให้ลงนั้นมีมูลษรีฃาวคือวาโยธาตุกระทํา แดง ด�ำ
ให้ลงนั้นมีษรี+มูลนั้นเขยีว ๚ คือปถวีธาตุกระทําไห้รากนั้นมีษรี
ขาว เจือกรร
ละ สรมิ เหลือง
เขยีว
ยแ ง่ เ
อนนว่าเตโชธาตุกระทําให้รากนั้นมีษรีอนนแดง อันว่าอาโปธาตุกระทําให้
ไท ะส
รากนั้นมีษรีอันฃาว อันว่าวาโยธาตุธาตุกระทําให้รากนั้นมีสีอันเขยีว
ด�ำ
๚ แลปถวีธาตุกระทําให้อุธรขึ้นนั้นมี ผิวกายแลจักษุนัน เจื
แดง อกรร
ผน แล
ขาว
เหลือง
เขยีว
ยแ์ รอง
แลเตโชธาตุกระทําให้อุธรขึ้นนั้นมี ผิวกายแลจักษุนั้นแดงแลอาโปธาตุ
พท มุ้ ค
ค�ำอ่าน
หน้าที่ 67-68
รแ งค
ตามกาลนัน้ ๚ อนึง่ นัน้ ว่าไข้ซงึ่ กระท�ำให้ลง ให้ราก ให้ทอ้ งขึน้ นัน้ ก็มลี กั ษณะแล 4 แล 4 คือ
ปถวีธาตุให้ลงนั้นมีสี มูลด�ำ มูลแดง มูลขาว มูลเหลือง มูลเขียว เจือกันคือเตโชธาตุกระท�ำ
กอ
ท�ำให้ลงนั้นมีสีมูลนั้น
แดงคืออาโปธาตุกระท�ำให้ลงนั้นมีมูลสีขาวคือวาโยธาตุกระท�ำ
ให้ลงนัน้ มีสมี ลู นัน้ เขียว ๚ คือปถวีธาตุกระท�ำให้รากนัน้ มีสดี �ำ สีแดง สีขาว สีเหลือง สีเขียว เจือกัน
กา
อันว่าเตโชธาตุกระท�ำให้รากนั้นมีสีอันแดง อันว่าอาโปธาตุกระท�ำให้
รากนั้นมีสีอันขาว อันว่าวาโยธาตุธาตุกระท�ำให้รากนั้นมีสีอันเขียว
๚ แลปถวีธาตุกระท�ำให้อุทรขึ้นนั้นมีผิวกายแลจักษุนั้นด�ำ แดง ขาว เหลือง เขียว เจือกัน
แลเตโชธาตุกระท�ำให้ท้องขึ้นนั้นมี ผิวกายแลจักษุนั้นแดงแลอาโปธาตุ
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 69
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 69-70
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 69-70
นไ
ซึ่งกระทําให้อุทร ขึ้นนั้นมีผิวกายแลจักษุนั้นฃาวแลวาโยธาตุซึ้งกระทําไห้ย
ทย ูมิปั
อุทร ขึ้นนั้นมีผิวกายแลจักษุนั้นเขยีว ๚ อนึ่งอันว่าลักษณฤศดวงและ
ลมนัน้ ก็มีแล ๔ แล ๔ คือฤศดวงเกิดแต่กองปถวีธาตุให้กําเริบนั้นเปนฤศดวง
แพ ภ
เลืลมอ ท้
ดละ สรมิ งง ๓ เจือกัน คือฤศดวงเกิดแต่กองเตโชธาตุให้กําเริบนั้นเปนฤศดวง
เสมหะ
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 69-70
ซึ่งกระท�ำให้อุทร ขึ้นนั้นมีผิวกายแลจักษุนั้นขาว แลวาโยธาตุซึ่งกระท�ำให้
รแ งค
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 71
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 71-72
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 71-72
นไ
ธาตุมีชาติลม 6 ให้กําเริบดงงนี้จัดเปนธาตุอภิณญาณแต่ท่านโดย
ทย ูมิปั
สงงเขป ๚ อนึ่งถ้าแพทยเหนเปนอภิณญาณ สรรนิบาตโดยแท้
แล้ว ก็พึงให้แพทยแก้โดยโอสถอันบําบัดซึ่งธาตุลดถอย ให้คลาย
แพ ภ
จากไข้ตรีโทศก่อน แล้จึ่งแต่งโอสถท้งงปวงรักษาไปเถิดธาตุโรค+ยนั้นก็จบันเทา
ละ สรมิ
ถ้าวางยาผิดธาตุอภิณญาณสรรนิบาตก็(จน) ยงงผู้ไข้นั้นให้ถึงแก่มรณะ
ยแ ง่ เ
ถ้าแลไข้อันไดๆ ก็ดีภินนธาตุอภิณญาณแตกท้งง ๕ แล้วก็จถึงแก่มรณะ
ไท ะส
ซึ่งจแก้ต่อไปนั้นเปนอันขัดสนนัก เปนอาการประเพทแลลักษณะทีจรตัด
ถ้าจแก้ให้แก้ดูตามบญญเถิ
ฺ ด ๚ ลําดับนี้จได้แก้ตามธาตุอสุรินทิญาณ
ผน แล
ยแ์ รอง
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 71-72
ธาตุมีชาติลม 6 ให้ก�ำเริบดังนี้จัดเป็นธาตุอภิญญาณแต่ท่านโดย
รแ งค
จากไข้ตรีโทษก่อน แล้วจึงแต่งโอสถทั้งปวงรักษาไปเถิดธาตุโรคนั้นก็จะบรรเทา
ถ้าวางยาผิดธาตุอภิญญาณสันนิบาตก็จนยังผู้ไข้นั้นให้ถึงแก่มรณะ
ถ้าแลไข้อันใดๆ ก็ดีภินนธาตุอภิณญาณแตกทั้ง 5 แล้ว ก็จะถึงแก่มรณะ
กา
ซึ่งจะแก้ต่อไปนั้นเป็นอันขัดสนนัก เป็นอาการประเภทแลลักษณะที่จรตัด
ถ้าจะแก้ให้แก้ดูตามบุญเถิด ๚ ล�ำดับนี้จะได้แก้ตามธาตุอสุรินทิญาณ
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 73
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 73-74
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 73-74
นไ
นั้นต่อไปว่าจตุธาตุสมาส+รรพ ๔ ประการ คือสมาธาตุ 1 คือวิสมาธาตุ ๑
ทย ูมิปั
1
คือติก+ขธาตุ ๑+คือ มนนทธาตุ ๑ เปน ๔ ประการด้วยกันดงงนี้ ๚ อนนว่า
ลักษณสมาธาตุนั้น คือเพิลงธาตุในอุธรนั้นออนไป มิได้เผาอาหารให้
แพ ภ
ยอยไปได้แลมิได้ให้ยากอาหารดงงนี้จึงได้ชื่อ+ว่าสมาธาตุประการนึง๚
ละ สรมิ
2
๚ อนนว่าลักษณวิสมาธาตุนั้น คือเพลิงธาตุในอุธรกําเริบขึ้น กระทําให้เกิดลม
ยแ ง่ เ
แน่นอุระแลขัดอุทร แลลงทองนักต่อ บางทีให้ยากอาหารบอริโภคบ่อยๆ มิ
ไท ะส
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 73-74
รแ งค
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 75
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 75-76
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 75-76
นไ
3
๚ อนนว่าลักษณติก+ขธาตุนั้น คือให้เพลิงธาตุในอุทรนั้นกล้า เผาอาหาร
ทย ูมิปั
ให้ย่อยหยับแลกแล้วไป แลบริโภคอาหารบ่อยๆ มิรู้อิ่มดงงนี้ จัด
ได้ชื่อว่าติกขธาตุประการห+นึ่ง แลให้แต่งอย่าโฉลมแล้วอย่ากินที่มีรศ
แพ ภ
อนนเย็นให้กิน แลอาหารที่เยนจง(นัก)คือด้วยแตงโมแตงกวา
ละ สรมิ
4
นั้นจึงควร ๚ อันว่าลักษณมนนทธาตุนั้นคือเพลิงธาตุในอุทรนั้น
ยแ ง่ เ
6
ลดถอยแล้วกลับให้ลงไปวันนละ ครั
7 ้ง แลกระทําให้หอบภัก
ไท ะส
ถอยกําลังจะเดินก็มิได้ แลเพลิงธาตุท้งงนี้เปนเพื่อเสมหะกล้าดงงนี้
จึงจัดได้ชื่อว่ามนนทธาตุ แลพึงให้แต่งโอสถที่มีรศอันเผดแลร้อน
ผน แล
ยแ์ รอง
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 75-76
3
๚ อันว่าลักษณะติกขธาตุนั้น คือให้เพลิงธาตุในอุทรนั้นกล้า เผาอาหาร
รแ งค
อันเย็นให้กิน แลอาหารที่เย็นจงหนักคือตัวแตงโมแตงกวา
4
นั้นจึงควร ๚ อันว่าลักษณะมันทธาตุนั้นคือเพลิงธาตุในอุทรนั้น
ลดถอยแล้วกลับให้ลงไปวันละ 6 ครั้ง 7 ครั้ง แลกระท�ำให้หอบพัก
กา
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 77
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 77-78
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
หน้าที่ 77-78
พ์ นื ้ ญญ
นั้นให้กินจึงควร ถ้าแลเพิลงธาตุย่อน+มัก+ให้นอนกลางวัน แลให้+อย่าที่สํารับจแก้
นไ
ขึ้น
เพิลงธาตุให้ เสมอแลให้บรรเทาเสียซึ่งลมอันเกิดในอุธรกลิ้ง เปนก้ อน
ทย ูมิปั
ลง
ขึ้น
แลให้เสยีดแทงให้ท้อง นั
พอง ้นหาย อนึ่งให้แพทยผู้มีปัญญาพิจรนาซึ่ง
ไข้ทังปวงต่างๆ อันบังเกิดแต่สมุฐาน นั้นให้แม่นยํา แลเมือแพทย
แพ ภ
ละ สรมิ
พิจรนาเหนว่าไข้นั้นเกิดแต่ปิตสมุฐานแท้(แล้ว)แลห้ามย่าให้บริโภค
ซึ่งโอสถอันมีรศอันรอ้นนั้น แลอาหารอันร้อนๆ แลของอันรอ้นทั้งปวงต่างๆ
ยแ ง่ เ
๚ ถ้าแลแพทยเหนว่าไข้นั้นเกิดแต่กองเสมหะสมุฐานแท้แล้ว ห้ามย่าให้
ไท ะส
บริโภคซึ่งโอสถซึ่งมีรศอันหวาน แลอาหารสิ่งของทั้งงปวงต่างๆ
ผน แล
ค�ำอ่าน
ยแ์ รอง
หน้าที่ 77-78
พท มุ้ ค
พิจารณาเห็นว่าไข้นั้นเกิดแต่ปิตตะสมุฏฐานแท้แล้ว แลห้ามอย่าให้บริโภค
ซึ่งโอสถอันมีรสร้อนนั้น แลอาหารอันร้อนๆ แลของอันร้อนทั้งปวงต่าง ๆ
๚ ถ้าแลแพทย์เห็นว่าไข้นั้นเกิดแต่กองเสมหะสมุฏฐานแท้แล้ว ห้ามอย่าให้
กา
บริโภคซึ่งโอสถซึ่งมีรสอันหวาน แลอาหารสิ่งของทั้งปวงต่าง ๆ
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 79
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 79-80
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 79-80
นไ
ที่มีรศอันหวานนั้น ๚ ถ้าแพทยพิจรณาเหนว่าไข้นั้นเกิดแต่กองวา
ทย ูมิปั
ตสมุฐานแท้แล้ว ห้ามมิให้บริโภคโอสถซึ่งมีรศอันเปรยี้ว
แลยาดองนั้น แลอาหารอันเปรยี้วที่มักดองเปนต้นนั้นย่าให้บอริโภค
แพ ภ
ถ้าแลมิฟัง ฃืนบริโภคเข้าไป ไข้นั้นแลอาหารก็จะบวกเข้าตั้งอยู่ใน
ละ สรมิ
ระว่างทุวรรณโทศแลตรีโทศนั้น ๚ (ลําดับนี้) จักได้สําแดงในจักราษรี
ยแ ง่ เ
อันจะบอกให้แจ้งซึ่งธาตุกําเริบแลลดถอยแลเจือกรรให้โทศ
ไท ะส
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 79-80
ที่มีรสอันหวานนั้น ๚ ถ้าแพทย์พิจารณาเห็นว่าไข้นั้นเกิดแต่กองวา-
รแ งค
ตะสมุฏฐานแท้แล้ว ห้ามมิให้บริโภคโอสถซึ่งมีรสอันเปรี้ยว
แลยาดองนั้น แลอาหารอันเปรี้ยวที่หมักดองเป็นต้นนั้นอย่าให้บริโภค
กอ
ระหว่างทุวันโทษแลตรีโทษนั้น ๚ ล�ำดับนี้จักได้ส�ำแดงในจักราศี
อันจะบอกให้แจ้งซึ่งธาตุก�ำเริบแลลดถอยแลเจือกันให้โทษ
กา
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 81
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 81-82
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
หน้าที่ 81-82
พ์ นื ้ ญญ
5
โดยไนยอนนจมีไปค่างน่านั้น ๚ อนึ่งถ้าไข้บงงเกิดในเดือน ท้ งง ๒ เดือนนี้
นไ
6
เปน+เทศการพรอาทิตยเสดจ์ทางโควิถี ซึ่งว่าคิมหันตรดูเปนรดูร้อนกําเดากล้า
ทย ูมิปั
7
ลมเสลดออ่น ๚ อนึ่งถ้าไข้บงงเกิดถ้าไขบงงเกิดในเดือน ท้
8 งง
๒ เดือนนี้ เปนกาลพรอาทิตยเสดจ์ทางโครวิถี ชื่อวัศสันตรดู เปนระ
แพ ภ
ละ สรมิ
ดูร้อนกับฝนปน กันเป็นเพื่อเสลดลม(กล้า) กําเดาเปนกลาง ๚ อนึ่งถ้า
9
ไข้บงงเกิดในเดือน ท้
10 งง ๒ เดือนนี้เปนกาลพรอาทิตเสดจ์ทางนาค
ยแ ง่ เ
วิถีชื่อวัศสัน+ตรดูเปนรดูฝน เปนเพื่อกําเดา เสลดกล้าลมอ่อน ๚ อนึ่ง
ไท ะส
11
ถ้าไข้ในเดือน ท้
12 งง ๒ เดือนนี้ เปนกาลพรอาทิตยเสดจ์ทาง
ผน แล
ค�ำอ่าน
ยแ์ รอง
หน้าที่ 81-82
พท มุ้ ค
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 83
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 83-84
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 83-84
นไ
นาควิถี ชื่อสรทรดูเปนระดูฝนปนน�ำค้างรดูอนน เป็นลมเสลดกล้ากําเดา
ทย ูมิปั
1
ออ่นดงงนี้ ๚ อนึ่งถ้าไข้บงงเกิดในเดือน ท้
2 งง ๒ เดือนนี้ เปนกาลพร
อาทิตยเสดจ์ทางอัชวิถี ชื่อเหมันตรดูเปนระดูนําค้าง เปนเพื่อโลหิต
แพ ภ
3
กําเดากล้า เสลดลมอ่อน ๚ อนึ่งถ้าไข้(บงงเกิด)ในเดือน ท้
ละ สรมิ 4 งง สอง
ค�ำอ่าน
หน้าที่ 83-84
พท มุ้ ค
เดือนนี้เป็นกาลพระอาทิตย์เสด็จทางอัชวิถี ชื่อศศิรฤดูเป็นฤดูน�้ำค้างกับ
ร้อนคาบกัน เป็นเพื่อลมเสลดกล้า โลหิตก�ำเดาอ่อน ๚ ถ้าไข้บังเกิดขึ้น
ในคิมหันตฤดูนั้น คือแรมค�่ำหนึ่ง เดือน 4 ไปจนเพ็ญเดือน 8 เป็นเพื่อเตโช-
กา
ธาตุก�ำเดาโลหิตกล้ายิ่งนัก ถ้าไข้บังเกิดขึ้นในวัสสานฤดูนั้นคือ
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 85
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 85-86
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 85-86
นไ
แรมค�่ำห+นึ่งเดือน ๘ ไปจนถึงเพญ เดือน ๑๒ เปนเพื่ออาโปธาตุเสลด
ทย ูมิปั
กล้ายิ่งนัก ๚ ถ้าไข้บงงเกิดขึ้นในเหมันตรดูนั้นคือแรมค�่ำห+นึ่ง
เดือน ๑๒ ไปจนเพญ เดือน ๔ เปนเพื่อวาโยธาตุลมกล้ายิ่งนัก ๚ อนึ่ง
แพ ภ
ปี
ท่ารให้ต้งงอายุศมแห่งบุกคลอันไข้ (บงงเกิด) แล้วจึ่งเอา กํ
ละ สรมิ เดือน าเนิดนั้น
วนน
สูญ
ถ้าธาตุอนนไดออกเศศ ก็
บาพเคราะห ดี ธาตุอนน+นันพิกลวิปริตให้โทศ
1
ถ้าเศศเปนสมภเคราะหหาโย (ชน) มิได้ดงงนี้ ๚ อนึ่งว่าลักษณปัถวีธาตุ
ผน แล
ยแ์ รอง
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 85-86
แรมค�่ำหนึ่งเดือน 8 ไปจนถึงเพ็ญ เดือน 12 เป็นเพื่ออาโปธาตุเสลด
รแ งค
กล้ายิ่งนัก ๚ ถ้าไข้บังเกิดขึ้นในเหมันตฤดูนั้นคือแรมค�่ำหนึ่ง
เดือน 12 ไปจนถึงเพ็ญ เดือน 4 เป็นเพื่อวาโยธาตุลมกล้ายิ่งนัก ๚ อนึ่ง
กอ
ถ้าธาตุอันใดออกเศษศูนย์ก็ดีเศษบานเคราะห์ก็ดี ธาตุอันนั้นพิกลวิปริตให้โทษ
1
ถ้าเศษเป็นสมเคราะห์หาโยชน์มิได้ดังนี้ ๚ อนึ่งว่าลักษณะปถวีธาตุ
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 87
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 87-88
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 87-88
นไ
แตกน้นน มีประเพท ๓ ประการ คือโสตประสาทมิได้ยินสําเนยีงอันใด+ๆ ประการ ๑
ทย ูมิปั
คือจักษุประสาทมิได้เหนคนแลเหนสิ่งอันไดประการ 1 คือมังษกระด้าง
4
ดงงท่อนไม้ประการ 1 ถ้าเหนลักษณอันนี้ก็ดีแต่ใน วนนเปนกํ า+หนด
แพ ภ
5
เปรียว
อนึ่งไฃ้บริโภคอาหารมีรศอัน คื
เคม อปถวีธาตุออกจากกาย
หวาน
ละ สรมิ
6
แลกํานดแตใน วนนพ้ นนั้น (อย่าได้ดุจเตยีวอนึ่ง) อนนว่าลักษณเตโชธาตุ
ยแ ง่ เ
7
แตกนั้นมีประเพท ๔ ประการคือให้หายใจดุจจสอึก ประการ ๑ + คือปากลิ้นเปรี้ยว
ไท ะส
น่าตา
๒ วนนเปนกํานด อนึ่งไฃ้ให้เวยีนษรีสะให้
น่าผาก เยนนักนั้นคือ
ยแ์ รอง
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 87-88
รแ งค
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 89
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 89-90
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 89-90
นไ
3
7
เตโชธาตุออกจากกายแลกํานดใน วนนพ้ น นั น
้ อย่ า ได้ ด จ
ุ เตยี ว ๚ อนึ่ง
ทย ูมิปั
8
อันว่าลักษณอาโปธาตุแตกนั้นมีประเพท ๔ ประการ คือแลบลินหมีออก
ประการ ๑ คือลิ้นแห่งไปประการ ๑ คือ (ขัดเบา) ประการ ๑ คือเจรจามิออก
แพ ภ
ประการ ๑ ถ้าเหนลักษณดงงนี้ (แลกํานดแต่ใน) วนนเป็
ละ สรมิ 1
2
นกํานด อนึ่ง
เหมน
ไฃ้ไม่รู้จักรศแลกลิ่นอนน (ถ้ าเหนลักษณ) ดงงนี้กํานดแต่
ยแ ง่ เ
หอม
7
ใน วนนพ้
11 นนั้นอย่าได้ คืออาโปธาตุออกจา+กตัวแล้วดงงกล่าวมานี้ ๚
ไท ะส
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 89-90
3
เตโชธาตุออกจากกายแลก�ำหนดใน 7 วัน 8 วันพ้นนั้นอย่าได้ดุจเทียว ๚ อนึ่ง
รแ งค
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 91
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 91-92
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 91-92
นไ
1
ประการ ๑ ถ้าเหนลักษณดงงนี้คาตแต่ใน วนนพ้ นนั้นอย่าได้ดุจเตยีว
ทย ูมิปั
2
อนึ่ง ถ้าไฃ้เรยีกมิได้ยินนั้นคือวาโยธาตุออกจากกายแล้วกํานดแต่ใน
๗ วันนั้น อนึ่งอากาษธาตุ (แตกนั้นมีประเภท) ๒ ประการคือโสตประสาทดงงกรอกๆ
แพ ภ
ประการ ๑ คือมิได้เหนเนื้อษรี (ประการ ๑) ถ้าเหนลักษณดงงนี้
ละ สรมิ
2
แลกํานดแต่ใน วนนพ้ นนั้น+อย่าได้ดุจเตยีว (อนึ่ง) อนนว่าลักษณปถวีธาตุ
ยแ ง่ เ
3
ให้โทศเพราะกําเริบนั้นมีลักษณ ๑๓ ประการ คือนอนมิ+หลับ ๑ คือมักโกรธ ๑ คือ
ไท ะส
หลัง
เอว
ยแ์ รอง
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 91-92
ประการ 1 ถ้าเห็นลักษณะดังนี้คาดแต่ใน 1 วัน 2 วัน พ้นนั้นอย่าได้ดุจเทียว
รแ งค
อนึ่ง ถ้าใคร่เรียกมิได้ยินนั้นคือวาโยธาตุออกจากกายแล้วก�ำหนดแต่ใน
7 วันนั้น อนึ่งอากาศธาตุแตกนั้นมีประเภท 2 ประการคือโสตประสาทดังกรอกๆ
กอ
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 93
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 93-94
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 93-94
นไ
ท้องลั่นจ้อๆประการ ๑ คือให้หวานปาก คือให้นักตัวแลปวดศีศะ ๑
ทย ูมิปั
มือ
คือข้อลั่นดงงกรอบๆ ประการ ๑ คือให้เจบข้อ ๑ แลให้เจบน่าแข้ง
ท้าว
ท้งง ๑๓ ประการ นี้คือ ปถวีธาตุกําเริบขึ้นให้โทศ ๚ อนนว่าเตโชธาตุ
แพ ภ
กําเริบให้โทศนั้นมีลักษณ ๑๓ ประการคือปาก (แห้งคอแห้ง) ๑ คือให้ไอ 1 คือให้
ละ สรมิ
ฟันแห้ง ๑ คือมิยากอาหาร ๑ คือ (นอนแล้วไม่อยากจะ) ลุกขึ้นได้ ๑ คือปวดศีศะ 1
ยแ ง่ เ
ส�ำ
คือให้ตามืด ๑ คือไม่สบายให้ระ ทงงตั
สาย ว ๑ คือมักกินสิ่งของ
ไท ะส
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 93-94
ท้องลั่นจ้อๆ ประการ 1 คือให้หวานปาก คือให้หนักตัวแลปวดศีรษะ 1
รแ งค
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 95
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 95-96
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 95-96
นไ
ธาตุกําเริบขึ้นให้โทศ ๚ อันว่าอาโปธาตุกําเริบให้โทศนั้นมี ๑๕ ประการ คือ
ทย ูมิปั
ตัวสั่นแลวิงเวยีน 1 คือจักษุมืดไปย ๑ คือมักหาวนอน ๑ คือมักระหาย
ตีน 1
น�้ำ ๑ คือให้น�้ำตาตก ๑ คือให้ปวดศีศะ ๑ คือให้เมื่อย คื อนอน
แพ ภ
มือ 1
ไอ
มิ+หลับ ๑ คือให้
ละ สรมิ สอึก ๑ กินอาหาร (มิรู้รศ ๑) คือให้คํานึงแต่ของหอม ๑
พอง
ยแ์ รอง
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 95-96
ธาตุก�ำเริบขึ้นให้โทษ ๚ อันว่าอาโปธาตุก�ำเริบให้โทษนั้นมี 15 ประการ คือ
รแ งค
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 97
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๑๑๓
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 97-98
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
ค�ำถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 97-98
นไ
ให้ฟันแห้ง ๑ คือให้ลิ้นแห้ง ๑ คือฅอแห้ง ๑ คือให้ระหายน�้ำ ๑ คือให้กระเ+หม่น
ทย ูมิปั
ตา 1 คือ เหนลูกเมียมักโกรธเคยีง ๑ (คือ) มักอยู่ที่สงัด ๑ คือมัก+หนาวบิด
ตีน
คร้าน ๑ คือให้
มือ เย็น ๑ คือมิรู้ศึกยาก (อาหาร) ๑ คือมักให้กินสมแลสิ่ง
แพ ภ
อันเย็น ๑ คือให้ไอ ๑ ท้งง ๑๕ ประการนี้ (คือวา) โยธาตุกําเริบขึ้นให้โทศดุจ
ละ สรมิ
กล่าวมาแล้วนั้น ๚ พรอาจาริยเจ้า (จักกล่าวมาในพรคําภีร์) ธาตุวินิไฉยผูก ๑ ว่า
ยแ ง่ เ
ขันธบัญ+จกทั้ง ๕ และอายตณะ 6 แลดําเนิน (พรจันทร) พรอาทิตย โดยวิถีแห่ง
ไท ะส
3
จักรราษรีท้งง ๑๒ ราษรี แลรดู
6 แลธาตุ (อภิญญาณะ) แลจัตุรธาตุสมาสรรพ
แตก
แลธาตุ ให้โทศแลธาตุลดถอยนั้นได้จบบริบูรรณโดยสังเขป ๚๛
ผน แล
พิการ
ยแ์ รอง
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 97-98
ให้ฟังแห้ง 1 คือให้ลิ้นแห้ง 1 คือคอแห้ง 1 คือให้กระหายน�้ำ 1 คือให้กระเหม่น
รแ งค
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 99
กระทรวงสาธารณสุข
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย
ละ สรมิ
เล่ม ๒
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 1
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 1
นไ
ทย ูมิปั
วัน
คาบพิศมโอสถสทิตตาม ๚ะ
เพลา
ทอนลดทวีโอสถทั้งปวง ๚ะ
แพ ภ
๏พรฺค�ำภีรธาตุวินิไฉยผูก ๒ กลาวมาไนลักษณกองโรคด้วย โอสถอันควรแกโรคย ๚ะ ก็โดยสั
ละ สรมิ จบบริบูรณ
งเขป
ประถมธาตุทั้ง สี่ ๚ะ
ทวตึงสาการ ๚ะ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
คำ�อ่าน
ผน แล
หน้าที่ 1
ยแ์ รอง
คาบพิษโอสถสถิตตามวันตามเพลา ๚ะ
ทอนลดทวีโอสถทั้งปวง ๚ะ
พท มุ้ ค
ก็จบบริบูรณ
๏พระค�ำภีรธาตุวินิฉัยผูก ๒ กล่าวมาในลักษณะกองโรคด้วย โอสถอันควรแก่โรค ๚ะ
โดยสังเขป
ประถมธาตุทั้ง ๔ ๚ะ
รแ งค
ทวตึงสาการ ๚ะ
กอ
กา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 2
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 2
นไ
1
๏ อาจารริเยน อันว่าพรอาจาริย์เจ้าจะกล่าวไนพรคัมภีร์ทาตุวินิไฉยผูก ๒ นี้สืบต่อ่ไป
ทย ูมิปั
ได
ดังนี้แลไห้แพทยทังหลายพิจารณาดูซึงโรคไห้เหนว่าเปนโรคอัน แท้
นึง แล้ว ก็พึงไห้
บริโภคซึงโอสถอันจบ�ำบัตซึงทาตุเสียก่อน จึงประกอบซึงโอสถอันจะแกซึงโรค
แพ ภ
นันนสืบต่อไป แลสัพยานันแจ้งอยู่ไนพรค�ำภีรสัพคุนโน้นแล้วไห้แพท(ไช้)
ละ สรมิ
คำ�อ่าน
ยแ ง่ เ
ไท ะส
หน้าที่ 2
1
๏ อาจาริเยน อันว่าพระอาจารย์เจ้าจะกล่าวในพระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัยผูก ๒ นี้สืบต่อไป
ผน แล
ดังนี้แลให้แพทย์ทั้งหลายพิจารณาดูซึ่งโรคให้เห็นว่าเป็นโรคอันใดอันหนึ่งแท้แล้ว ก็พึงให้
ยแ์ รอง
บริโภคซึ่งโอสถอันจะบ�ำบัดซึ่งธาตุเสียก่อน จึงจะประกอบซึ่งโอสถอันจะแก้ซึ่งโรค
อันนั้นสืบต่อไป แลสรรพยานั้นแจ้งอยู่ในพระคัมภีร์สรรพคุณโน้นแล้วให้แพทย์ใช้
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 3-4
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 3-4
นไ
ปัญญาจักสันเอาแต่ควรกับโรคานุโรคนั้นเทีด ๚ อนึงอันว่าแพทยเมือจะ(เที่ยว)
ทย ูมิปั
เกบเอาซึงสัพยามาประกอบนันไห้รู้จักซึงเพลาแลวันพิศมยาอันสทิตอยู่นั้นแล
เมีอจไปนั้นไห้บรีก�ำด้วยพรคาถานี้ไป ๚ ลวตฺตพฺพฺยํ นมสิตฺวํ ตโต ขนฺโธทิสาลาย สพฺพ
แพ ภ
สิทฺธิภวนฺตุเมสฺวตฺติฑิฆายุสฺวตฺติทฺธิ ๚ แล้วไห้เอาซึงสัพยาตามก�ำนดวันแลเพลา
ละ สรมิ
นั้น ๚ เพลาเช้าไห้เกบเอาลูกสัพยา เพลาเทยีงไห้เกบเอาซึงดอกสัพยา
ยแ ง่ เ
เพลาบ่ายไห้เกบเอาซึงกิ่งแลไบสัพยา เพลาเยนไห้เกบเอาซึ่งรากสัพยา
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 3-4
ปัญญาจักสรรเอาแต่ควรกับโรคานุโรคนั้นเถิด ๚ อนึ่งอันว่าแพทย์เมื่อจะเที่ยว
รแ งค
เก็บเอาซึ่งสรรยามาประกอบนั้นให้รู้จักซึ่งเพลาแลวันพิษยาอันสถิตอยู่นั้นแล
เมื่อจะไปนั้นให้บริกรรมด้วยพระคาถานี้ไป ๚ ลวตฺตพฺพฺยํ นมสิตฺวํ ตโต ขนฺโธทิสาลาย สพฺพ
กอ
สิทฺธิภวนฺตุเมสฺวตฺติฑิฆายุสฺวตฺติทฺธิ ๚ แล้วให้เอาซึ่งสรรพยาตามก�ำหนดวันแลเพลา
ดุจกล่าวไว้ดังนี้ ๚ วันอาทิตย์เพลาเช้าพิษยาอยู่ทั่วทั้งต้นเพลาสาย
พิษยาสถิตราก เพลาค�่ำพิษยาสถิตอยู่เปลือก วันจันทร์เพลาเช้าพิษยา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 5-6
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 5-6
นไ
สทิตอยู่ราก เพลาสายพิศมยาสทิตอยู่แก่น เพลาเทยีงพิศมยาสทิตอยู่ไบ เพลา
ทย ูมิปั
เยนพิศมยาสทิตอยู่เปลอีก ๚ วนัอังคารเพลาเช้าพิศมยาสทิตอยู่ไบ เพลาสายพิศมยา
สทิตอยู่เปลอีก เพลาเทยีงพิศมยาสทิตอยู่ทั่วทั้งต้น เพลาเยนพิศมยาสทิตอยู่
แพ ภ
ราก ๚ วนัพุทเพลาเช้าพิศมยาสทิตอยู่ราก เพลาสายพิศมยาสทิตอยู่ไบ เพลาเทยีง
ละ สรมิ
พิษมยสทิตอยู่เปลอีก เพลาเยนพิศมยาสทิตอยู่แก่น ๚ วันประหัษเพลาเช้าพิศม
ยแ ง่ เ
ยาสทิตอยู่แก่น เพลาสายพิศมยาสทิตอยู่ไบ เพลาเทยีงพิศมยาสทิตอยู่ราก
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 5-6
สถิตอยู่ราก เพลาสายพิษยาสถิตอยู่แก่น เพลาเที่ยงพิษยาสถิตอยู่ใบ เพลา
รแ งค
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 7-8
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
หน้าที่ 7-8
พ์ นื ้ ญญ
สทิตอยู่แก่น ๚ วันเสาเพลาเช้าพิศมยาสทิตอยู่ราก เพลาษายสทิตอยู่ทั่วทั้งต้น
นไ
เพลาเทยีงพิศมยาสทิตอยู่เปลอีก เพลาเยนพิศมยาสทิดอยู่ไบ ๚ ดังนี้
ทย ูมิปั
2
พรอาจาริย์เจ้ากลาวไว้ไห้แพทยทั้งหลายพึงรู้ดังนี้เทีด ๚ อนึงอันว่าโอ
แพ ภ
ฝูง
ี เดอื ด
สถอันไดมีรศอันขมแก้ด
พลุง ออกจับเสมหก็ดี แลแก้สรรโรคให้ปรกติ
ทราน
ละ สรมิ
หอม
อันโอสถไดมีรษอัน แก้ ใจชื่นขึ้น ๚ อันว่าโอสถอันไดผาย แก้เสมหะ
ยแ ง่ เ
วาน
แห้งฃากหมีออกแลเสมหตีขึ้นหายใจขัด ๚ แลโอสถอันไดมีรษเผดนั้นทราพ
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 7-8
สถิตอยู่แก่น ๚ วันเสาร์เพลาเช้าพิษยาสถิตอยู่ราก เพลาสายสถิตอยู่ทั่วทั้งต้น
รแ งค
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 9-10
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 9-10
โอสถอันไดมีรษอันเคม ทราพไปทุกแห่งผิวหนังแลเส้นขนทั้งปวงนั้น อนึงมีอยู่
นไ
ทย ูมิปั
ไนพรคัมภีร์สาโรชสังคหผูก ๑ นันแล้ว ถ้าแพททังหลายจะประกอบซึงโอสถอัน
ใบ
ไดนึงก็ดีให้พิจรนาเอาตามพิศอยู่แห่ง ตามวั
ราก นแลเพลาซึ่งกล่าวมาแล้ว
แพ ภ
เปลอืก
กอน
ไห้ทวีเจต่มูลขึ้น ๒ ถ้ายา ก็
ผง ดีไห้ทวีดุจกรร ๚ อนึ่งถ้าบุกคลผู้ไดไข้เพิ่งลง
ผน แล
นำ�
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 9-10
รแ งค
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 11-12
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 11-12
นไ
อันอยู่ไนท้องพรค�ำภิร์สรัรพคุนอันแก้ลมนั้นไส้ทวีขึ้น ๒ ถ้าไข้เพือ (ก�ำเดา)
ทย ูมิปั
ลมเลอีดแลเสลดก็ดี เปนเพีอฤษดวงก็ดีไห้เอายาอันแกโรคสิ่งนั้น ๆ ทวีใส่ ๒
ดุจกันดังกล่าวมาแล้วนั้น ๚ อนึงผู้ไดเกีดพยาธิในผิวหนัง ไห้เอายาอันทราบ
แพ ภ
ไปไนผิวหนังนั้นแก้ ๚ อนึ่งถ้าผูไดเกีดพยาทิไนก่อนเนื้อ ให้เอายาอันทราบ
ละ สรมิ
ไปไนก้อนเนื้อนั้นแก้ ๚ อนึ่งถ้าผูไดเกีดพยาทิไนกระดูก ให้เอายาอันทราบไปไนกระ
ยแ ง่ เ
ดูกนั้นแก้ ๚ อนึงผู้ไดเกิดลมพยาทิไนดี ไห้เอายาอันทราบไปไนดีแก้ ๚ อนึ่งถ้า
ไท ะส
ผู้ไดพยาทิบังเกีดเพราะ แลโรคสิ
เลอืด
เสลด
่งได ๆ ก็ดี ให้เอายาจ�ำเภาะโรคสิงนั้น
นั้นมาแก้ตามพรค�ำภีร์สรัพคุนนั้นเทีด ๚ อนึ่งพรอาจาริยเจ้าทานกล่าวไว้
ผน แล
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 11-12
อันอยู่ในท้องพระคัมภีร์สรรพคุณอันแก้ลมนั้นใส่ทวีขึ้น ๒ สลึง ถ้าไข้เพื่อก�ำเดา
รแ งค
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 13-14
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 13-14
แพทยทังเอกหลายพึงพิจรนาซึงโทษแห่งไข้ทังปวงนั้นไห้รู้แจ้งไนลั กษณแลประ
นไ
ลม
ทย ูมิปั
เพทคอื
ทุวัน โทษก็ดี แลโทษทังหลายนั้นเปนอันมากคอื
ตรี
เสลด
สรรนิบาต
อัน
ดี
เปนเพีอ เปนเพื ่อใจนั้นผิดจริตเปนบ้าก็ดีแลเปนพยาทิ ๗ จ�ำภวก
เลอืด
แพ ภ
ก็ดีให้พิจรรนาซึงโรคนันจงแจ้ง แล้วจึงเอาโรคนั้นตังไว้เปนกระ
ละ สรมิ
ทู้กอ่นจึงเอายาจ�ำเภาะแก้โรคนั้นมาพิจรนาดูไห้รู้จักว่ารษโอสถนั้น
ฝาด ราก เปลอืก
ยแ ง่ เ
หวาน และ ก็
ขม
เผ็ด เปรยีว ดี แลไห้รู้เอา และ แลไบนั
ต้น ดอก ้น
ขม แก่น ลูก
ไท ะส
หัว
อ้อนแก่แล ไห้
งาว จงแม่นย�ำ ๚ ถ้าแลโรคบุคคลอันไข้นั้นลงท้อง
ผน แล
ฝัก
แลจไครไห้ปิต ถ้ายาจ�ำเภาะปิตนั้นเหนว่ายาผายเข้าอยู่ด้วยจีงไห้ยา
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
หน้าที่ 13-14
พท มุ้ ค
แพทย์ทั้งหลายพึ่งพิจารณาซึ่งโทษแห่งไข้ทั้งปวงนั้นให้รู้แจ้งในลักษณะแลประ
รแ งค
ทู้ก่อนจึงเอายาจ�ำเพาะแก้โรคนั้นมาพิจารณาดูให้รู้จักว่ารสโอสถนั้น
หวานขม หวานเผ็ด และฝาดก็ดี เปรี้ยวก็ดี เค็มก็ดี แลให้รู้เอาราก เอาต้น เอาแก่น
กา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๑5-16
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
หน้าที่ ๑5-16
พ์ นื ้ ญญ
เอายาพีผายนั้นออกเสีย เอายาทืชอบโรคอันปิตไส้เฃ้าไว้แทนที ๚ ถ้าแลทนท้องอยู่หมี
นไ
ได้ลงเปนพรรดึก พิจรนาดูเหนว่ายาอันใดปิตอยู่ ไห้เอายาอันบิตนั้นออกเสียจีงเอา
ทย ูมิปั
ยาที่ผายนั้นแทรกเฃ้าตามกล้าแลอ่อน ๚ ถ้าประกอบซึ่งโอสถแก้ลมไนท้องต�ำรา
เสมอภาก ไห้ทวีอยาแก้ลมซึ่งมีอยู่ไนพรค�ำภีรสรัพคุนนั้นสรงส่าง ๚ ถ้าจะประกอบ
แพ ภเสลด เสลด
ละ สรมิ
โอสถแก้
กำ�เดา ก็ดี ในท้องต�ำราตั้งไว้เสมอภาก ให้ทวีซึงยาอันจแก้
กำ�เดา ซึ่ง
เลอืด เลอืด
มีอยู่ไนพรค�ำภีร์สรัพคุนนั้นขึ้น ๒ ส่วน เหตุว่าจะไห้โอสถนั้นแรงขึ้นกว่าพยาทิ
ยแ ง่ เ
3
นั้น ๚ อนึ่งถ้าแทรกโอสถนั้นเล่า ถ้าแลสรัพยาอันมีอยู่ในท้องต�ำรานั้น ๗ สิ่ง
ไท ะส
คำ�อ่าน
ยแ์ รอง
หน้าที่ ๑5-16
เอายาที่ผายนั้นออกเสีย เอายาที่ชอบโรคอันปิดใส่เข้าไว้แทนที่ ๚ ถ้าแลทนท้องอยู่มิ
พท มุ้ ค
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๑7-18
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๑7-18
นไ
เหตุว่าบุกคลอันไข้นั้น เปนพยาทินักกว่าบุคคลทังหลายนั้น อันสรัพอยา
ทย ูมิปั
ที่มีอยู่ ไนพรค�ำภีร์สรัพคุนนั้นยอ่มแก้โรคจ�ำเภาะ ๚ อันว่ารศอยาทั้งปวงนัน
ก็แรงกว่ากันแลกันโดยก�ำดับดังนี้ คือรากแรงกว่าแก่น คือแก่นแรงกว่า
แพ ภ
เปลอีก คือเปลอีกแรงกว่ากะพี้ คือกะพี้แรงกว่าไบแก่ คือไบแก่แรง
ละ สรมิ
กว่าไบอ่อน คือไบอ่อนแรงกว่าดอกแก่ คอืดอกแก่แรงกว่าดอกอ่อน
ยแ ง่ เ
รศลูกอ่อนนั้นกับไบเท่ากัน รศลูกแก่นั้นกับเปลอีกอันติดรากนั้นเท่ากัน
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๑7-18
เหตุว่าบุคคลอันไข้นั้น เป็นพยาธิหนักกว่าบุคคลทั้งหลายนั้น อันสรรพยา
รแ งค
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 19-20
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 19-20
นไ
จ�ำเริญขึ้นไปถึง ๗ ขวบเท่าถึง ๑๖ ขวบธาตุก็ค่อนจ�ำเริญขึ้นไป จ�ำเริญขึ้นไป
ทย ูมิปั
จํนถึงอายุสม ๗๐ ปีธาตุทั้ง ๔ ก็คืนลงมา ๚ ถ้าแลแพทจประกอบซึ่งโอ
มาร
สถไห้กุ
มารี เมีอแรกปัติสนทิไนคัรรภมารดาจนได้ ๑๐ เดอีนเปนก�ำ
แพ ภ
นฎ ถ้าแลบังเกีดไข้สิ่งได ๆ ก็ดีไห้ดูอายุศมกูมารนั้น ให้เอาแต่
ละ สรมิ
ดอกอ่อนแลไบอ่อนนั้นมาประกอบโอสถ ถ้ากูมารออกจากครรภมารดาได้ย
ยแ ง่ เ
๗ เดอีนไห้เอาแต่ไบอ่อน ถ้าได้ ๓ ขวบ เอาอยาอันมีรศกล้ากว่านี้ถ้าได ๗
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 19-20
จ�ำเริญขึ้นไปถึง ๗ ขวบเท่าถึง ๑๖ ขวบธาตุก็ค่อยจ�ำเริญขึ้นไป จ�ำเริญขึ้นไป
รแ งค
ดอกอ่อนแลใบอ่อนนั้นมาประกอบโอสถ ถ้ากุมารออกจากครรภ์มารดาได้
๗ เดือนให้เอาแต่ใบอ่อน ถ้าได้ ๓ ขวบเอายาอันมีรสกล้ากว่านี้ถ้าได้ ๗
กา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 21-22
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 21-22
นไ
ดุจกลาวมาแล้วนั้น อันพรอาจาริย์ส�ำแดงซึ่งสัพยาทังปวงต่าง ๆ ต่อ่ไป
ทย ูมิปั
ดังนี้ ๚ อยาบางต้นนั้นมีกลินอันหอมมีรศอันขม ๚ อยาบางต้นมีกลิ่นแรง
กว่าต้นแลไบ ๚ อยาบางต้นมีหัวแรงกว่าไบแลต้นแลราก ๚ อยาบาง
แพ ภ
ต้นมีเปลอีกแรงกว่ารากแลไบ ๚ อยาบางต้นมีรากแรงกว่าเปลอีกแล
ละ สรมิ
ไบ ๚ อยาบางต้นมีเปลอีกกินได้ ลูกไนกินเบีอเมาดังนี้ ๚ พรอาจาริย์
ยแ ง่ เ
4
ท่านกล่าวไว้ไห้แพทพึงรู้โดยสังเขป ๚ ล�ำดับนี้จะส�ำแดงด้วยทาตุ
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 21-22
ดุจกล่าวมาแล้วนั้น อันพระอาจารย์สำ� แดงซึ่งสรรพยาทั้งปวงต่าง ๆ ต่อไป
รแ งค
ต้นมีเปลือกแรงกว่ารากแลใบ ๚ ยาบางต้นมีรากแรงกว่าเปลือกแล
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 23-24
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 23-24
นไ
เปนต้น มีมัทะเกมัทะลุงคังเปนที่สุด ๚ อันว่าลักษณอาโปทาตุ ๑๒ นั้น คือมีปิตังเปน
ทย ูมิปั
อาทิมีมุตตังเปนปริโยสาน ๚ อันว่าลักษณเตโชทาตุ ๔ นั้น คือมีสัรรตปัคคีเปน
ต้น มีอ่สีตาชีว่หัว้คีเปนที่สุด ๚ อันว่าลักษณวาโยทาตุ ๖ นั้น คือมีอุทังคมา
แพ ภ
วาตะเปนอาทิ มีอศาศปะศาศะวาตะเปนปริโยสาร ๚ อันว่าลักษณอากาษทาตุนั้น
ละ สรมิ
นิศวาต
คือ ทั
อัศวาต ๓ เปนประเทยีบคอีประสมประมวรเข้าด้วยกันจึงจักได้
ง
ยแ ง่ เ
ปัศวาต
ชือนาม ชือว่าธาตุบันจก อันว่าลักษณธาตุซึ่งกล่าวนั้นแจ้งพิศฎานอยู่
ไท ะส
ไนพรค�ำภีร์แพททังหลายต่าง ๆ มีพรค�ำภีร์ม่อรณญาณสูตรเปนต้น
แลไห้แพทสัรรนิถาการพึงรู้ไนอาการ ๓๒ แลธาตุทัง ๕ ให้แม่นแท้
ผน แล
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 23-24
เป็นต้นมีมัตทเกมัตทลุงคังเป็นที่สุด ๚ อันว่าลักษณะอาโปธาตุ ๑๒ นั้น คือมีปิตตตังเป็น
รแ งค
ในพระคัมภีร์แพทย์ทั้งหลายต่าง ๆ มีพระคัมภีร์มรณะญาณสูตรเป็นต้น
แลให้แพทย์สันนิษฐานการพึงรู้ในอาการ ๓๒ แลธาตุทั้ง ๕ ให้แม่นแท้
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 25-26
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 25-26
นไ
จีงจแจ้งไปไนโรคานุโรคพยาทิแห่งบุทคลทังหลายไนโลกยนี้บังเกีดเพื่อ
ทย ูมิปั
ทาตุทั้ง ๕ ถ้าจดับเบญขันก็ยอ่มดับด้วยทาตุทัง ๕ ดุจดังนึงรูปธรัรม
แลนามธรัรมก็เปนทีอาไสซึ่งกันแลกัน ครันรูปธรัรมหมิได้เกีดนามะ
แพ ภ
เกิด
ธัรรมก็หมิได้ปรากฏมี แลทาตุทัง ๕ นี้ไห้
ละ สรมิ ตาย ก็ได้ แลอากาษทาตุ
นั้นคือสัญาซึ่งว่ามาทั้งนี้เปนแต่สังเขป ถ้ายังหมีชัดก็ไห้ไต่ถามบรรดาผูวีเสด
ยแ ง่ เ
แลท่านผู้ไดจ�ำเริญส�ำมถะก�ำมถาณนั้น จีงจรู้แจ้งไปไนอากาษทาตุ ถ้ารู้
ไท ะส
รอด
แล้วอาจยังรู้ว่าจะ แลจ่
ตาย ตายไนวันไดแลยามไดก็จรู้ดุจไนยะดัง
5
นี้ ๚ ล�ำดับนี้จว่าด้วยท่วตึงษาการต่อ่ไป จยกเอาปถวีธาตุ ๒๐ นั้น
ผน แล
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
หน้าที่ 25-26
พท มุ้ ค
จึงจะแจ้งไปในโรคานุโรคพยาธิแห่งบุคคลทั้งหลายในโลกนี้บังเกิดเพื่อ
ธาตุทั้ง ๕ ถ้าจะดับเบญจขันธ์ก็ย่อมดับด้วยธาตุทั้ง ๕ ดุจดังหนึ่งรูปธรรม
รแ งค
แลนามธรรมก็เป็นที่อาศัยซึ่งกันแลกัน ครั้นรูปธรรมมิได้เกิดนาม
ธรรมก็มิได้ปรากฏมี แลธาตุทั้ง ๕ นี้ให้เกิดให้ตายก็ได้ แลอากาศธาตุ
กอ
นั้นคือสัญญาซึ่งว่ามาทั้งนี้เป็นแต่สังเขป ถ้ายังมิชัดก็ให้ไต่ตามผู้วิเศษ
แลท่านผู้ใดจ�ำเริญสมถะกรรมฐานนั้น จึงจะรู้แจ้งไปในอากาศธาตุ ถ้ารู้
แล้วอาจยังรู้ว่าจะรอดจะตาย แลจะตายในวันใดแลยามใดก็จะรู้ดุจนัยดัง
กา
5
นี้ ๚ ล�ำดับนี้จะว่าด้วยทวตึงสาการต่อไป จะยกเอาปถวีธาตุ ๒๐ นั้น
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 27-28
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 27-28
นไ
ขึ้นว่าก่อนดังนี้ ๚ ถ้าแลผมพีการนั้น คือไห้เจบซึ่งสมองศิศะแลให้ผมหล่น
ทย ูมิปั
ถ้าจแก้ท่านไห้เอา ทางตานมาลนไฟบิตเอาน�้ำถ้วย ๑ น�้ำไบครามถ้วย
๑ น�้ำอญ่าแพรกถ้วย ๑ น�ำ้ ขมิ้นอ้อยถ้วย ๑ น�้ำมันงาถ้วย ๑ สรัพอยา ๕ สิ่ง
แพ ภ
กา
นี้ หุงไห้คงแต่นำ�้ มันแล้วจึงเอาดี
นกกาน�ำ้ ปรุงลงทาผมหายดีหนัก ๚๛
ตภาพน�้ำ
ละ สรมิ
อันว่าลักษณขนพีการนั้น คือไห้เจ็บไนเส้นขุมขนทั่วสารภางกาย ถ้าจแก้
ยแ ง่ เ
ท่านไห้เอา น�้ำมันที่แก้ไนเกศานั้นมาแก้กดีได้ แล้วจึงแต่งอยานี้ไห้กิน
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 27-28
ขึ้นว่าก่อนดังนี้ ๚ ถ้าแลผมพิการนั้นคือให้เจ็บซึ่งสมองศีรษะแลให้ผมหล่น
รแ งค
อันว่าลักษณะขนพิการนั้น คือให้เจ็บในเส้นขุมขนทั่วสรรพางค์กายถ้าจะแก้
ท่านให้เอา น�้ำมันที่แก้ในเกศานั้นมาแก้ก็ดีได้ แล้วจึงแต่งยานี้ให้กิน
กา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 29-30
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 29-30
นไ
เลบพีการนั้น คือไห้ต้นเลบเขยีวด�ำก็ดี บางทีไห้ฝกบวมขึ้นเปนต่มอย
ทย ูมิปั
บุพโพ
แลหัวเดอีนกลางเดอีน แลไหน�้ำเปน ก็
โลหิต ดี ถ้าจแก้ท่านให้เอาฉะ
มตต้น ๑ เฃ้าสุกเผาไฟไห้โชน ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ อยาด�ำ ๑ ดินปะสิวฃาว ๑
แพ ภ
สรัพอยาทั้ง ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภากบทพอกเลบนั้นหายดีนัก ๚ ถ้าหมี
ละ สรมิ
ฟังเอาไข่เปตลูก ๑ เอาแต่ไข่ฃาว เอามาประสมเข้ากับปูนกินมากภอก
ยแ ง่ เ
เข้าไว้แห้งหายไปเอง ๚ ถ้าหมีฟังเอาผักปลัง ๑ ไบบานเยน ๑ เฃ้าสาร ๑ ขมิ้น
ไท ะส
คำ�อ่าน
หน้าที่ 29-30
พท มุ้ ค
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๓1-32
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๓1-32
นไ
รากฟนัแลไรเงอีกต่ลอดสมอง ถ้าแลฟนัยังมีอยู่ท่านไห้แก้ดุจแก้รามะนาต
ทย ูมิปั
ด�ำ
นั้นเทิ่ด ๚ อันว่าลักษณหนังพีการนั้นคือไห้สากไปทังตัวจนแต่ว่ามด
แดง
แลแมลงวันตายก็หมีได้รู้ตัว แลไห้ร้อนแสบเปนก�ำลังเรียกว่าเปนกระมี
แพ ภ
โทษถ้าจแก้ท่านไห้เอาแป้งเฃ้ามาก ๑ เปลอีกสัรรพร้านางแอ ๑ โกฏส่อ่ ๑ โกฏ
ละ สรมิ
บัว ๑ ดอกพีกุน ๑ ดอกบุญนาก ๑ ดอกสารภี ๑ ดอกบวัหลวง ๑ สรัพอยา
ยแ ง่ เ
ทัง ๘ สิ่งเอาเสมอภากท�ำเปนจุนบทท�ำแท่งไว้ลายน�้ำดอกไมโฉลมแก้หนังพี
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๓1-32
รากฟันแลไรเหงือกตลอดสมอง ถ้าแลฟันยังมีอยู่ท่านให้แก้ดุจแก้ร�ำมะนาด
รแ งค
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๓3-34
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๓3-34
นไ
เภก ๑ มะฃามปอม ๑ แห้วหมู ๑ บระเพด ๑ ญ่าตีนนก ๑ โกฏสอ ๑
ทย ูมิปั
โกฏก้านพร้าว ๑ จนัทังสอง ๑ สรัพยาทัง ๑๕ สิงเอาเสมอภากต้ม
๓ เอา ๑ ปรุงขันทษกอรแลน�ำ้ ผึ้งลงกินแก้ไข้กระมีโทษอันเกีดแต่
แพ ภ
ผิวหนังหายแล ๚ อันว่าลักษณเนี้อทัง ๕๐๐ ชิ้นพีการนั้น คือไห้เจบ
ละ สรมิ
เสยีวไปทังตัวมักไห้ฝกขึ้นที่นั้นบวมขึ้นที่นี้ไห้เปนผิษมไป บางทีไห้ย
ยแ ง่ เ
ร้อนบางทีผุดขึ้นดังประกายดาษแลประกายเพลิง ถ้าจแก้ท่านไห้
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๓3-34
เภท ๑ มะขามป้อม ๑ แห้วหมู ๑ บอระเพ็ด ๑ หญ้าตีนนก ๑ โกฐสอ ๑
รแ งค
เสียวไปทั้งตัวมักให้ฟกขึ้นที่นั้นบวมขึ้นที่นี้ให้เป็นพิษไป บางทีให้
ร้อนบางที่ผุดขึ้นดังประกายดาษแลประกายเพลิง ถ้าจะแก้ท่านให้
กา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 35-36
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
หน้าที่ 35-36
พ์ นื ้ ญญ
ดินส่อพอง ๑ สรัรพอยา ๙ สิ่งนี้เอาเสมอภากท�ำเปนจุล เอาน�้ำหาง
นไ
จรเข้เปนกระสายบททาทังตัวหายแล ๚ อยาทาแก้ฟกบวมขนาน
ทย ูมิปั
นี้ท่านไห้เอาขี้เหลก ๑ เข้าสุกเผาไห้ไม่ ๑ อยาด�ำ ๑ ขมิ้นอ้อย ๑
สรัพยาทั้ง ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภากบทลายน�ำปูนไสทาหาย ๚ อยาชือ
แพ ภ
ละ สรมิ
สังสุวัณแพทยาขนานนี้ท่ารไห้เอา สังขเผา ๑ เพราะหอม ๑ สม่อ่
เทต ๑ เทยีรด�ำ ๑ ไพล ๑ รากพันงูแดง ๑ ตรีก่ตุก ๑ มะนาว
สรัพอยา
ยแ ง่ เ
๙ สิ่งนี้เอาเสมอภากท�ำเปนจุล บทท�ำแท่งไว้ลายน�้ำ
ส่มซ่า ก็ได้
ไท ะส
ร้อน
กินแก้เนื้อทั้ง ๕๐๐ ชิ้นพีการนั้นหายดีหนัก ๚ อันว่าลักษณเอนพีการนั้น
ผน แล
คำ�อ่าน
ยแ์ รอง
หน้าที่ 35-36
พท มุ้ ค
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๓7-38
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๓7-38
นไ
คีอเส้นประทานทัง ๑๐ เส้น เส้นบริวาร ๒ พัน ๗ รอ้ยนันก็วาดไหว
ทย ูมิปั
ไปสิ้นทังนั้น ที่กล่าก็กล่าที่แขงก็แขง ทีตังดานก็ตั้งดาน ทีขอดก็
ขอดเข้าเปนก้อนไป แลซึงจให้โทษนั้นแต่เส้นสุมะนากับเส้นอันนท
แพ ภ
สวิง
พฤกนั้นผูกดวงใจ แลเส้นสุมณานั้นมีแต่จไห้
ละ สรมิ สวาย หิวโหยหา
ระส�่ำ ร้อน
แรงหมีได้ แลเส้นอันนทพฤกนั้นมีแต่จให้
ระสาย ไห้
เยน ไห้เมีอย
ยแ ง่ เ
เสียวไปทุกเส้นเอนทัวสาระพางตัวบางทีไห้จับเปนเพลา แต่เส้น
ไท ะส
4
5
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
หน้าที่ ๓7-38
พท มุ้ ค
ขอดเข้าเป็นก้อนไป แลซึ่งจะให้โทษนั้นแต่เส้นสุมนากับเส้นอันฑ-
กอ
พฤกษ์นั้นผูกดวงใจ แลเส้นสุมนานั้นมีแต่จะให้สวิงสวายหิวโหยหา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 39-40
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 39-40
นไ
นั้นยังจไห้แก้ไปได้อยู่ ถ้าจแก้ท่านให้เอาพริกไท ๑ ขิง เทยีร
ทย ูมิปั
ด�ำ ๑ มหาหิง ๑ หวานน�้ำ ๑ โกฏพุงปลา ๑ ใบกระวาร ๑ สค้าน ๑
เกษรรบัวขาว ๑ เกษรรบัวแดง ๑ ญ่าตีนนก ๑ เกลือสินเทา ๑ แก่น
แพ ภ
ขี้เหลก ๑ พญามือเลก ๑ สรัพยา ๑๔ สิ่งนี้เอาเสมอภากท�ำเปนจุลบด
ละ สรมิ
มกรูด ส้า
ลายน�้ำ
มนาว ก็ได้แลน�ำ้ ส้ม ก็ ได้กินแก้สรัพเอนทังปวงพีการแลแตก
ยแ ง่ เ
สาชู
นั้นหายแล ๚ อยาชือเนาวหอย ขนานนี้ท่านไห้เอา หอยขมเผา ๑ หอยโข่งเผา ๑
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 39-40
นั้นยังจะให้แก้ไปได้อยู่ ถ้าจะแก้ท่าให้เอาพริกไทย ๑ ขิง ๑ เทียน-
รแ งค
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 41-42
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
หน้าที่ 41-42
พ์ นื ้ ญญ
กระดูกเสีอเผา ๑ ก่ดูกแพะเผา ๑ กระดูกเลยีงผาเผา ๑ หัษคุน ๑
นไ
รากตองแตก ๑ ๒ รากส้มเสยีว ๑ ๒ รากมตาดเครือ ๒ ๒ ปูนผง ๓
ทย ูมิปั
พริกไท ๑ ๑ สรัพยา ๑๙ สิ่งนี้ทำ� เปนจุล แล้วจีงเอาด่างเบญจขี้เหลก ๑
ดางทางตาน ๑ ดางส�ำโรง ๑ ดางช้าแปน ๑ ดางต่อ่ไส้ ๑ ดางผักหม
แพ ภ
ละ สรมิ
หนาม ๑ ดางพันงูแดง ๑ ดางบรเพด ๑ เอามาตมไห้ร้อนลายอยา
นี้กินแก้เส้นเปนก้อนเถา แลเส้นแตกไห้ขอดแลเส้นก�ำเริบต่าง ๆ นั้น
ยแ ง่ เ
หายสิ้นดีหนัก ๚ อยาต้มช�ำระขนานนี้ท่านให้เอาเบญจขี้เหลก ๑ สม่อ่
ไท ะส
คำ�อ่าน
ยแ์ รอง
หน้าที่ 41-42
พท มุ้ ค
ปูนผง ๓ บาท
พริกไทย ๑ ต�ำลึง ๑ บาท สรรพยา ๑๙ สิ่งนี้ท�ำเป็นจุณ แล้วจึงเอาด่างเบญจขี้เหล็ก ๑
กอ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๔3-44
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๔3-44
บรเพด ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ โกฏน�ำ้ เตา ๑ วันเปรยีงสด ๒ เทยีรทังหา ๒ เทยีรด�ำ ๒
นไ
ทย ูมิปั
ฝกัราชพฤก ๕ ฝกัสรัพอยาทัง ๒๓ สิ่งนี้ต้ม ๓ เอานึงแทรกดีเกลีอตามธาตุ
นักเบากินช�ำระน�้ำเหลืองที่ค้างเส้นแลแก้เส้นด้วยดีนัก ๚ อันว่าลักษณกระดูก
แพ ภ
ทัง ๓๐๐ ท่อนเมีอพีการแตก คือไขฃ่อ่นันนลลายแล้วให้เจบปวดกระดูก
ละ สรมิ
ดุจเคลอีนคลาดจากกันทัง ๓๐๐ ท่อนนั้น เมีอจถึงแก้อาสัลยก�ำมจะแก้เปนอันยากหนัก
ยแ ง่ เ
แต่ท่านให้อยาไว้แก้ดูตามบุญของสัตว์เทิ่ด ๚ อยาชือพรมภักน้อยขนานนี้ท่านให้เอา
ลูกจัน ๑ ดอกจัน ๑ การพลู ๑ มหาหิง ๑ อยาด�ำ ๑ การบูร ๑
ไท ะส
๓
พริกหอม ๓ สรัพอยา ๗ สิ่งนี้ท�ำ
9
ผน แล
11
เปนจุลเอาน�้ำเปลอีกมรุมเปนกระสายบทท�ำแท่งไว้เท่าลูกมแว้งเครีอกิน เมตถ้ 13 าจแก้
15
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
หน้าที่ ๔3-44
พท มุ้ ค
บอระเพ็ด ๑ ขมิน้ อ้อย ๑ โกฐน�ำ้ เต้า ๑ วัลย์เปรียงสด ๒ เทียนทัง้ ห้า ๒ สลึง เทียนด�ำ ๒ บาท
รแ งค
ลูกจันทน์ ๑ สลึงดอกจันทน์ ๑ สลึง กานพลู ๑ สลึง มหาหิงคุ์ ๑ บาท ยาด�ำ ๑ บาท การบูร
๑ บาท พริกหอม ๓ บาท ๓ สลึง สรรพยา ๗ สิ่งนี้ท�ำ
เป็นจุณเอาน�้ำเปลือกมะรุมเป็นกระสายบดท�ำแท่งไว้เท่าลูกมะแว้งเครือกิน ๙ เม็ด
กิน ๑๑ เม็ด กิน ๑๓ เม็ด กิน ๑5 เม็ด ถ้าจะแก้
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 147
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๒
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๙๕
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 45-46
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 45-46
นไ
เท้างอ มรุม
ทย ูมิปั
ชัก น�
มือก�ำ ำตาตกแลน�ำลายฟูมปากลิ้นกระดางคางแขงหมีรู้สึกตัวลายน�้ำ
ร้อน กินถ้าจแก้ไห้
มขามเปยีก นัก พีการ
ผายพรัรดึกลายน�้ำ
มนาวลูกนึง กินตามทาตุ
เบา แลแก้กระดูก นั
แตก ้นดีหนักแล ๚
แพ ภ
อยาชื่อพรมภักกลางขนานนี้ท่านให้เอา ลูกจัน ๑ ดอกจัน ๑ ดีปลี ๑ พริก
ล้อม ๑ การบูน ๑ มหาหิง ๑ อยาด�ำ ๓ รงทองสตุ ๓ สรัพอยา ๘ สิ่งนี้ท�ำเปน
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
จุล เอาสูราเปนกระสายบดท�ำแท่งไว้เท่าผลมแว้งเครีอกินประจุลมแลเสมหะไข่
ขาวแลแก้ไข้ข้อแก้ปถวีทาตุดีนัก ๚ อยาต้มแก้ปถวีทาตุขนานนี้ท่านไห้เอาไบมหา
ไท ะส
คำ�อ่าน
หน้าที่ 45-46
พท มุ้ ค
ชักเท้างอชักมือก�ำ น�้ำตาตกแลน�้ำลายฟูมปากลิ้นกระด้างคางแข็งมิรู้สึกตัวลายน�้ำมะรุม
น�้ำร้อนกิน ถ้าจะแก้ให้
รแ งค
กระดูกพิการ กระดูกแตกนั้นดีนักแล ๚
ยาชื่อพรมพักตร์กลางขนานนี้ท่านให้เอา ลูกจันทน์ ๑ สลึง ดอกจันทน์ ๑ สลึง ดีปลี ๑ สลึง
พริกล้อม ๑ บาท การบูร ๑ บาท มหาหิงคุ์ ๑ บาท ยาด�ำ ๓ บาท รงทองสะตุ ๓ บาท
สรรพยา ๘ สิ่งนี้ทำ� เป็น
จุณ เอาสุราเป็นกระสายบดท�ำแท่งไว้เท่าผลมะแว้งเครือกินประจุลมแลเสมหะไข่
กา
ขาวแลแก้ไข้ข้อแก้ปถวีธาตุดีนัก ๚ ยาต้มแก้ปถวีธาตุขนานนี้ท่านให้เอาใบมหา
ประสานสามร้อยใบ ๑ ใบมะนาวร้อนแปดใบ ๑ สามใบต่อ ๑ ประดงข้อ ๑ เถากระทั่ง-
ติด ๑ ต�ำลึง เทียนด�ำ ๒ บาท เทียนขาว ๒ บาท โกฐกระดูก 1 ต�ำลึง ขมิ้นอ้อย ๑
ต�ำลึง ๒ บาท สรรพยา ๙ สิ่งนี้
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 149
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๒
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๙๕
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 47-48
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 47-48
นไ
ต้มกินแก้ปถวีธาตุคือกระดูกพีการหายดีนัก ๚ อันว่าลักษณสมองกระดูกก�ำเรีบ
ทย ูมิปั
กล้านั้น ดุจดังกระดูกพีการอยาแก้นั้นดุจเดยีวกนักับแก้กดูกพีการ ๚ อันว่า
ลักษณหมามแตกพีการก็ดี คือไห้หมามย่อนลงมาถ้าจะแก้ท่านให้เอาโคกกระ
แพ ภ
สุนก�ำมือ ๑ มกรูดลูก ๑ ผา ๓ สิ่น ขมิ้นอ้อย ๕ ชิ้น เอาปูนฃาวแช่นำ� ไว้ไห้ไสย
ละ สรมิ
แตก
เอาเปนน�ำ้ ต้ม ๆ กิน ๓ วันหาย ๚ อยาต้มประจ�ำธาตุคือหม้าม ขนาน
ยแ ง่ เ
พิการ
นี้ท่านไห้เอาหามรอก ๑ แห้วหมู ๑ จันทังสอง ๑ รากมะตูม ๑ รากแตง
ไท ะส
พิการ ร้อน
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 47-48
ต้มกิน แก้ปถวีธาตุคือกระดูกพิการหายดีนัก ๚ อันว่าลักษณะสมองกระดูกก�ำเริบ
รแ งค
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 49-50
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 49-50
นไ
ดี
อันว่าลักษณหัวใจแตกพีการก็ดี คือบุทคลเปนบ้าถ้ายังอ่อนอยู่คลุม มั ก
ทย ูมิปั
ร้าย
รส�ำ
ขึงโกรฎบางทีเปนแต่
รสาย หิวโหยหาแรงหมีได้ ถ้าจแก้ให้เอาลูกคนทีส่อ ๑
ไบหัษคุน ๑ ลูกสะบ้าปิ้ง ๑ จันทังสอง ๑ ดีปลี ๑ เทียรข้าวเปลอีก ๑ เทยีร
แพ ภ
ตักะแตก ๑ เทพทาโร ๑ สรัพอยา ๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุลบดท�ำ
ละ สรมิ
แท้งไว้ลายน�้ำดอกไม้แทรกพิมเสนกินหายดีนักไช้ได้ร้อยแปด อยาขนาน
ยแ ง่ เ
นี้อาจาริยเจ้าท่านสมมุติชือว่ามูลจิตไญ่ ๚ อยาชือส�ำมสักรไญ่ขนานนี้ท่านไห้เอาลูก
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 49-50
อันว่าลักษณะหัวใจแตกพิการก็ดีคือบุคคลเป็นบ้า ถ้ายังอ่อนอยู่คลุ้มดีคลุ้มร้ายมัก
รแ งค
แท่งไว้ลายน�้ำดอกไม้แทรกพิมเสนกินหายดีนักใช้ได้ร้อนแปด ยาขนาน
นี้อาจารย์เจ้าท่านสมมุติว่ามูลจิตใหญ่ ๚ ยาชื่อส�ำมสักรใหญ่ขนานนี้ท่านให้เอาลูก
กา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 51-52
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 51-52
นไ
ทราย ๑๒ สรัพอยาทั้งนี้ท�ำเปนจุลบดท�ำแท่งไว้ลายน�้ำร้อนกินแลลมจับหัวใจแลแก้
ทย ูมิปั
่ ทุทุรร่นาย นั้นหาย ๚ อยาชือสวางฤททิคุนขนานนี้ท่าน
โลหิตจับหัวไจไห้คลั่งเภ่อ
ไห้เอารากบัวหลวง ๑ ลูกบัวเกราะ ๑ รากถัวภู 1 ลูกถั้วภู ๑ แหวสด ๑
แพ ภ
กจับสด ๑ หัวบัวเผีอน ๑ หัวบัวขม ๑ หัวยา ๑ ถัวทอง ๑ ถัวกาบแข ๑
ละ สรมิ
จันหอม ๑ กฤษณา ๑ กล�ำภัก ๑ ขอนดอก ๑ กรุงเขมา ๑ รากญ่านาง ๑
ยแ ง่ เ
เกสรบัวหลวง ๑ เกสรบัวเผีอน ๑ เกสรบัวขม ๑ เกสรสัตบุต ๑
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 51-52
ทราย ๑๒ สรรพยาทั้งนี้ท�ำเป็นจุณบดท�ำแท่งไว้ลายน�้ำร้อนกินแลลมจับหัวใจแล
รแ งค
แก้โลหิตจับหัวใจให้คลั่งเพ้อทุกรนทุรายนั้นหาย ๚ ยาชื่อสว่างฤทธิคุณขนานนี้ท่าน
ให้เอารากบัวหลวง ๑ ลูกบัวเกาะ ๑ รากถั่วพู ๑ ลูกถั่วพู ๑ แห้วสด ๑
กอ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 53-54
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 53-54
นไ
เทด ๑ สรัพอยา ๓๑ สิ่งนี้เอาเสมอภากท�ำเปนจุลเอาน�้ำดอกไม้เทดเปน
ทย ูมิปั
สวิง
กระสายบดท�ำแท่งไว้ลายน�้ำดอกไม้กินชูก�ำลังแก้
สวาย ถึงบรีย
โภกอาหารหมีได้ถึง ๗ วัน ก็ดีแต่ได้กินอยาขนานนี้ก็อาจต้องถึงแกชีวิต
แพ ภ
ไปได้ หมีไห้ถึงแก้ความมอรณโดยเร็วพลัน ๚ อยานี้ชื่อสมิตสวาหะ
ละ สรมิ
ทิคุนขนานนี้ทานไห้เอาโกฏทั้งห้า ๑ นมผา ๑ ศิลายอน ๑ บันลังสิลา ๑ สงงข์ ๑
ยแ ง่ เ
ดินถน�ำ ๑ แก้วแกลบ ๑ ดินดานท้องน�้ำ ๑ แฝกหอม ๑ บัวบก ๑ บัวน�ำ้ ทั้งห้า
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 53-54
เทศ ๑ สรรพยา ๓๑ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเป็นจุณเอาน�้ำดอกไม้เทศเป็น
รแ งค
กระสายบดท�ำแท่งไว้ลายน�้ำดอกไม้กินชูก�ำลังแก้สวิงสวายถึงบริ-
โภคอาหารมิได้ถึง ๗ วัน ก็ดีแต่ได้กินยาขนานนี้ก็อาจต้องถึงแก่ชีวิต
กอ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 55-56
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 55-56
นไ
ดอกสลิด ๑ ดอกมลิซ้อน ๑ ดอกมะลิลา ๑ ดอกซ่อนกลิ่น ๑
ทย ูมิปั
ดอกพะยอม ๑ ดอกกรรนิกา ๑
ดอกส�ำเร ๑ ดอกปดู ่ ๑ ดอกมหาหง ๑ ดอกผักคราด ๑ ดอกข่า ๑ ดอกกทื ๑ ดอก
แพ ภ
เร่ว ๑ ดอกจิกบ้าล ๑ ดอกจิกนา ๑ ดอกเขมแดง ๑ ลูกจัน ๑ ดอกจัน ๑ กะ
ละ สรมิ
วาน ๑ กานพลู ๑ จันทัง้ สอง ๑ กฤษณา ๑ กล�ำภัก ๑ ขอนดอก ๑ (ชะลูด ๑ อบเชย ๑)
ยแ ง่ เ
กลับ
ไท ะส
คำ�อ่าน
ผน แล
ยแ์ รอง
หน้าที่ 55-56
ดอกสลิด ๑ บาท ดอกมะลิซ้อน ๑ บาท ดอกมะลิลา ๑ บาท ดอกซ่อนกลิ่น ๑ บาท
พท มุ้ ค
กลับ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 57-58
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 57-58
นไ
๏ หน้าปลาย ๚๛
ทย ูมิปั
สนเทศ ๑ ไบผักโฉม ๑ ไบสันพร้าหอม ๑ ไบภิมเสน ๑ ไบชะมดต้น ๑ ไบ
ทองพันชั่ง ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร้อนทอง ๑ ว่านชุมเพด ๑ ว่านเถาโองการ ๑
แพ ภ
ว่านสีสมแล้ว ๑ สังกรณี ๑ เนรพูสี ๑ รย่อม ๑ เพชนาด ๑ เกลดหอยเทด
ละ สรมิ
นัก ๑ กะแจะต่นาว ๑ ย่าฝารั่นน อ� ๑ ำพัน ชมต ภิ
๑ ๑ มเสน สรั
๑ พอยา
๔๒ สิง่ นีท้ ำ� เปนจุลบดท�ำแท่งไว้ลายน�ำ้ ดอกไม้เทดแทรกน�ำ้ ตานตโนดน�ำ้ ตานทราย
ยแ ง่ เ
ไท ะส
คำ�อ่าน
ผน แล
หน้าที่ ๕7-58
ยแ์ รอง
๏ หน้าปลาย ๚๛
พท มุ้ ค
ว่านสีสมแล้ว ๑ บาท สังกรณี ๑ บาท เนระพูสี ๑ บาท ระย่อม ๑ บาท เพชรนาด ๑ บาท
เกล็ดหอยเทศ
หนัก ๑ บาท กระแจะตะนาว ๑ บาท หญ้าฝรัน่ ๑ สลึง อ�ำพัน ๑ สลึง ชะมด ๑ สลึง พิมเสน ๑ สลึง สรรพยา
๔๒ สิ่งนี้ท�ำเป็นจุลบดท�ำแท่งไว้ลายน�้ำดอกไม้เทศ แทรกน�้ำตาลโตนดน�้ำตาลทราย
กา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 59-60
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
หน้าที่ 59-60
ทย
พ์ นื ้ ญญ
กินแก้ใจพิการต่าง ๆ แลแก้คุนไสซึงกระท�ำด้วยอาคมต่าง ๆ นั้นหายดีนัก ๚ อยาชื่อมหา
นไ
หัษดมทิคุนขนานนี้ท่านให้เอาชมตเชียง ๑ ภิมเสนเกลด ๑ กฤษนา ๑ ๑ กล�ำ
ทย ูมิปั
ภัก ๑ ๑ จันเทศ ๑ ๑ ก�ำยาน ๒ ดองดึง ๑ การบูร ๑ เทยีรด�ำ ๑ เจตมูล ๑
ฃีงแห้ง ๑ ดีปลี ๑ สนเทศ ๑ ๑ สรัพอยา ๑๓ สิ่งท�ำเปนจุลเอาน�้ำมนาว
แพ ภ
เปนกระสายบดท�ำแท่งไว้เท่าผลมกล�่ำเครีอ ตากร้มไห้แห้งแล้วไส้ขวด
ละ สรมิ
ผนึกอย่าไห้ลมเข้าได้กินแก้ลมจับหัวใจก�ำเริบ แลแก้โลหิตจับหัวใจไห้หยุด
ยแ ง่ เ
นิงแน่ไป ลิ้นกระดางคางแขงเรียกหมีไห้ออกปากถ้าจแก้ลมจับแน่ไปลาย
รส�ำ
น�ำ้ มนาวกิน ๗ เมดฟื้นถ้าจแก้ไข้
รสาย หิวโหยหาแรงหมิได้ลายน�้ำดอกไม้
ไท ะส
คำ�อ่าน
หน้าที่ 59-60
พท มุ้ ค
๑ เฟื้อง กระล�ำ
พัก ๑ สลึง ๑ เฟื้อง จันทน์เทศ ๑ สลึง ๑ เฟื้อง ก�ำยาน ๒ สลึง ดองดึง ๑ สลึง
กอ
ผนึกอย่าให้ลมเข้าได้กินแก้ลมจับหัวใจก�ำเริบ แลแก้โลหิตจับหัวใจให้หยุด
นิ่งแน่ไป ลิ้นกระด้างคางแข็งเรียกมิให้ออกปาก ถ้าจะแก้ลมจับแน่ไปลาย
น�้ำมะนาวกิน ๗ เม็ดฟื้น ถ้าจะแก้ไข้ระส�่ำระสายหิวโหยหาแรงมิได้ลายน�้ำดอกไม้
เทศไทยแทรกน�้ำตาลกรวดกินหายดีนัก ๚ อันว่าลักษณะตับนั้นแตกพิการก็ดี
เป็นเพราะโทษ ๔ ประการ คือกาลผุดขึ้นในตับประการ ๑ คือเป็นฝีในตับให้
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 163
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๒
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๙๕
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 61-62
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
หน้าที่ 61-62
ทย
พ์ นื ้ ญญ
ลงโลหิตสถออกมาประการหนึ่ง คือไข้พิศมกาลมูดกินตับอยู่ในตั้บท�ำไห้ลง
นไ
เปนโลหิตแลเสมหะเน้าปวดมวนเปนก�ำลังแลให้จักษุแดงเปนสายโลหิต
ทย ูมิปั
ผ่านสายลูกตาไป คนทั้งปวงสมมุติว่าเปนปีศาตเฃ้าเพราะว่าบุคคลไข้นั้นนเภ่อ่
ผกหาสตีหมีได้ย่อมเจรจาด้วยผี แพทจ่แก้เปนอันยากนักประการ ๑ คือ
แพ ภ
รส�ำ
ทาตุดินแตกเฉภาะไห้ไอเปนก�ำลังไห้หอบ หายใจหมี
ละ สรมิ รสาย ได้ถึงท้องน้อยบ
ริโพกอาหารหมิได้ประการ ๑ ลักษณซึงกล่าวมาทั้ง ๔ ประการนี้ คือปถวี
ยแ ง่ เ
ทาตุพีการแต่ล้วนเปนอาการตัด แต่ยังหมีพร้อมกันพรันไห้แก้ดูตามบุญ
ของสัตว์ ถ้าแลแพทผู้ไดจแก้ทาตุแตกคือดับเปนดังกล่าวมานี้ท่านไห้
ไท ะส
เอาชือว่าเบญจอ�ำมฤตยช�ำระไห้สิ้นร้ายแล้วจีงแต่งอยาส�ำรับทาตุกิน
ผน แล
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 61-62
ลงโลหิตสดออกมาประการหนึ่ง คือไข้พิษกาลมูตรกินตับอยู่ในตับท�ำให้ลง
รแ งค
เป็นโลหิตแลเสมหะเน่าปวดมวนเป็นก�ำลังแลให้จักษุแดงเป็นสายโลหิต
ผ่านสายลูกตาไป คนทั้งปวงสมมุติว่าเป็นปีศาจเข้าเพราะว่าบุคคลไข้นั้นเพ้อ
กอ
ธาตุพิการแต่ล้วนเป็นอาการตัด แต่ยังมิพร้อมกันพลันให้แก้ดูตามบุญ
ของสัตว์ ถ้าแลแพทย์ผู้ใดจะแก้ธาตุแตกคือดับเป็นดังกล่าวมานี้ท่านให้
เอาชื่อว่าเบญจอ�ำมฤตช�ำระให้สิ้นร้ายแล้วจึงแต่งยาส�ำหรับธาตุกิน
ให้กินต่อไป ๚ ยาส�ำหรับปถวีธาตุขนานนี้ท่านให้เอาโกฐทั้ง ๕ หนัก ๑ สลึง สมอ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 63-64
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 63-64
นไ
ทังสาม ๒ ลูกผักชีทั้งสอง ๒ เปราะหอม ๒ สานส้ม ๒ ดินประสิวขาว ๒
ทย ูมิปั
น�้ำประสานทอง ๒ รากขีกาแดง ๑ จุกกะโรหินี ๑ เทพทาโร ๑ เปลอีกสมุล
แหว้ง ๑ โคกกะสุน ๑ รากมตูม ๑ รากมดูก ๑ รากทองพันชัง ๑ เจต
แพ ภ
มูล ๑ ขิงแห้ง ๑ ดีปลี ๑ รากช้าพลู ๑ เปลอีกมูกมัน ๒ แห้วหมู ๑
2 2
ละ สรมิ
มนาว
มกรูด
สรัพอยา ๓๔ สิ่งนี้ต้มก็ได้ทำ� ผงก็ได้ลายน�้ำ ก็ได้กินแก้ธาตุดิน
ยแ ง่ เ
ซ่มซ่า
สะกอง
ไท ะส
น�้ำ
มกรูด ก็ได้นำ�้ ขมิ้นอ้อยก็ได้กินแกปถวีทาตุคือตับย่อนนันนหาย ๚ ยาชือกลอม
ซ่มซ่า
รแ งค
บ้า า
ทย
เปลือกสมุล-
พ์ นื ้ ญญ
แว้ง ๑ บาท โคกกระสุน ๑ บาท รากมะตูม ๑ บาท รากมะดูก ๑ บาท
นไ
รากทองพันชั่ง ๑ บาท เจต-
ทย ูมิปั
มูล ๑ บาท ขิงแห้ง ๑ บาท ดีปลี ๑ บาท ๒ สลึง รากช้าพลู ๑ บาท ๒ สลึง
เปลือกมูกมัน ๒ บาท แห้วหมู ๑
แพ ภ
ต�ำลึง สรรพยา ๓๔ สิ่งนี้ต้มก็ได้ทำ� ผงก็ได้ลายน�้ำมะนาว น�้ำมะกรูด น�้ำส้มซ่า
ละ สรมิ
น�้ำสะกอง ก็ได้กินแก้ธาตุดิน
ยแ ง่ เ
คือตับพิการนั้นหาย ๚ ขนานนี้ท่านให้เอาแก่นพรม ๑ บาท หัวใจธาตุไมยราบ ๑ บาท
ไท ะส
แก่นแสม
ผน แล
หาย ๚ ยาชื่อกล่อม
นางนอนขนานนี้ท่านให้เอา โกฐทั้งเก้า ๑ เทียนทั้งห้า ๑ รากไคร้เครือ ๑ สังกรณี ๑
รแ งค
กอ
กา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 65-66
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
หน้าที่ ๖5-66
พ์ นื ้ ญญ
เกษรรบัวน�้ำทังห้า ๑ เกษรรสารภี ๑ ดอกพีกุน ๑ ดอกบุนนาก ๑ ดอกมลิ ๑ กฤษ
นไ
หนา ๑ กล�ำภัก ๑ ชลูด ๑ ขอนดอก ๑ ชเอมเทด ๑ น�ำประสานทอง ๑ ผงลาน
ทย ูมิปั
แก่ ๑ กดองปูป่า ๑ ชมด ๑ พิมเสน ๑ สรัพอยา ๓๕ สิ่งนี้เอาเสมอภากย
ท�ำเปนจุลเอาน�ำดอกไม้เปนกระสายบต แล้วไส่ขันส�ำฤทลนไฟเทยีรไห้ย
แพ ภ
ทัววแล้วท�ำแท่งไว้เปนอยาลอ้มตับหมิให้เปนอันตรายในตับได้ ถ้าจะ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
รส�ำ
แก้
รสาย ลายน�้ำกฤษนากินถ้าจแก้มูกเลอีดลายน�้ำกล้วยตีบกินถ้าจะ
ไท ะส
แก้เสมหลายน�้ำมแว้งกินถ้าจะแก้ร้อนลายน�้ำดอกไม้ทังงกินทังงโชลมถ้า
ผน แล
ฝี มผู้มเมีย
ไข้ มะเฟือง
จแก้ไห้ล้อมตับดับผิด ก็
ตาน
ทราง
ดีลายน�้ำราก ต้
ต่อไส้ มกินหายดีหนัก ๚ ขะ
การ ฝาง
ยแ์ รอง
บ้า า
ทย
ทั่วแล้วท�ำแท่งไว้เป็นยาล้อมตับมิให้เป็นอันตรายในตับได้ถ้าจะ
พ์ นื ้ ญญ
นไ
แก้ระส�ำ่ ระสายละลายน�้ำกฤษณากิน ถ้าจะแก้มูกเลือดละลายน�้ำกล้วยตีบกินถ้าจะ
ทย ูมิปั
แก้เสมหะละลายน�้ำมะแว้งกิน ถ้าจะแก้ร้อนละลายน�้ำดอกไม้ทั้งกินทั้งชโลมถ้า
จะแก้ให้ล้อมตับดับ พิษฝี พิษไข้ พิษตาน พิษซาง พิษกาฬ ก็ดีละลายน�ำ้ รากหมากผู้
แพ ภ
หมากเมีย รากมะเฟือง รากต่อไส้ รากฝาง ต้มกินหายดีนัก ๚ ข-
ละ สรมิ
นานหนึ่งท่านให้เอารากมะกรูด ๑ รากมะนาว ๑ รากมะขาม ๑ สรรพยา ๓ สิ่งนี้เอา
เสมอภาคต้ม ๓ เอา ๑ กินเสียก่อนแล้วจึงแต่งยาพอกอกเอากระดูกคน ๑ กระ-
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 67-68
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๖7-68
ดูกช้าง ๑ กดูกควาย ๑ กดูกหมู ๑ อยาทั้งนี้เผาให้โชนสิ่งล ๑ ขมิ้นอ้อย ๒ ไพล ๒
นไ
สรัพอยา ๖ สิ่งนี้บดพอกอกหาย ๚ ถ้าหมีฟงงท่านไห้เอาไบเสนยีด ๑ รากผักกะ
ทย ูมิปั
หนาม ๑ รากตูมกาต้น ๑ รากผีเสื้อไญ่ ๑ รากผีเสื้อน้อย ๑ รากตาเสีอ ๑ รากขี้
เหลก ๑ รากมดูก ๑ รากคัดค้าว ๑ รากตูมกาเครือ ๑ รากโลดถนง ๑ รากตับ
แพ ภ
เต่าทังงสอง ๑ รากขอบฉนางทังงสอง ๑ รากเลบมือนาง ๑ รากสี
ละ สรมิ
หวด ๑ รากซ้องแมว ๑ รากญ่าปีนต่อ่ ๑ รากผักไห่ ๑ รากผักเข้า ๑ รากครามทงงสอง ๑
ยแ ง่ เ
รากสไคร่ทงงสอง ๑ รากหมอน้อย ๑ รากสนุน่ ๑ ค้อนกลอง ๑ รากไก่ไห้ ๑ รากบัวหลวง ๑
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๖7-68
ดูกช้าง ๑ กระดูกควาย ๑ กระดูกหมู ๑ ยาทั้งนี้เผาให้โชนสิ่งละ ๑ บาท ขมิ้นอ้อย ๒ บาท
รแ งค
ไพล ๒ บาท
สรรพยา ๖ สิ่งนี้บดพอก อกหาย ๚ ถ้ามิฟังท่านให้เอาใบเสนียด ๑ รากผักกระ-
กอ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 69-70
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 69-70
เปนซีกไ็ ด้กนิ แก้ตบั พีการหาย ฯ ถ้าหมีฟงงท่านไห้ เอารากลหุง่ แดง ๑ รากปะดู่ ๑ เอือ้ งเพช
นไ
ทย ูมิปั
ม้า ๑ กเช้าผีมด ๑ เปลาทงงสอง ๑ สนุ่น ๑ เถาชาลี ๑ รากมเดื่อ ๑ รากขีเลก ๑ ราก
เทยีร ๑ รากตาเสีอ ๑ รากหัษคุนทังงสอง ๑ รากโรดทงงสอง ๑ รากเจตมูล ๑ รากมงั่ว ๑
แพ ภ
รากมนาว ๑ รากเลบเยยี่ว ๑ สรัพอยา ๒๑ สิ่งเอาเสมอภากสับตากแดดไห้ทับขว้าน
ต้ม ๓ เอา ๑ แล้วสงเอากากออกท�ำเปนจุลไว้แล้วจีงเอาภิมเสน ๑ มหาหิง ๑ เปลือก
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
มทราง ๑ เทยีรด�ำ ๑ เทยีรแดง ๑ โกฏส่อ่ ๑ โกฏเขมา ๑ จันทงงสอง ๑ ขีงแครง ๑ ก�ำ
ยาน ๑ ดีปลี ๑ สรัพอยา ๑๒ สิ่งนี้เอาเสมอภากท�ำเปนจุลปรุงลง แล้วจีงเอาลูกสลอดปอก
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 69-70
รแ งค
เป็นซีกไ็ ด้กนิ แก้ตบั พิการหาย ๚ ถ้ามิฟงั ท่านให้เอา รากละหุง่ แดง ๑ รากประดู่ ๑ เอือ้ งเพชร
ม้า ๑ กระเช้าผีมด ๑ เปล้าทัง้ สอง ๑ สนุน่ ๑ เถาชาลี ๑ รากมะเดือ่ ๑ รากขีเ้ หล็ก ๑ ราก
กอ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๗1-72
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๗1-72
ทงง ๗ วันแล้วจึงเอายางสลัดได ๑ พริกไทเท่าอยาทงงนันนประสมกันเฃ้าแล้วจีงเอา
นไ
ไปปรุงลงทีอยาผงซึง่ ต�ำไว้นนั น คลุกให้เข้ากับอยาต้มทีร่ นิ ไว้นนั นจึงคูลกี ารกันเฃ้าตากให้แห้ง
ทย ูมิปั
บดท�ำแท่งไว้เท่าผลพริกไท ไห้กินทีละเมตลงจนเสมหะแก้ตับทรุดพีการต่าง ๆ ดุจดังกล่าว
มาแต่หลังนันนหายสิ้นแลอยาขนานนี้ไช้ได้ ๑๐๐๐ หนึงวีเสฏหนัก ๚ อันว่าลักษณพังงผืด
แพ ภ
นันนเมีอจะ ก็
ละ สรมิ แตก
พีการ
ดี คือกท�ำให้อกแห้งแลให้กระหายน�้ำคือโรคฤษดวงแห้งถ้าจแก้
พีการ
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 71-72
รแ งค
กระเทียม ๗ กลีบ เกลือ ๗ เม็ด สรรพยา ๗ สิง่ นีท้ ำ� เป็นจุณบดลายน�ำ้ ท่ากิน ๚ ถ้ามิฟงั ท่านให้
เอาก�ำมะถันเหลือง ๑ ดินประสิวขาว 1 ลูกสลอด ๑ สรรพยา ๓ สิง่ นีเ้ อาเสมอภาคบดด้วยน�ำ้
กล้วยตีบท�ำแท่งไว้เท่าผลพริกไทย ห่อมะนาวกินทีละเม็ดแก้พงั ผืดแตก พังผืดพิการต่าง ๆ หาย
สิ้น ๚ อันว่าลักษณะพุงเมื่อพิการนั้น คือกระท�ำให้ขัดอดแลให้อุทรขึ้นให้แน่นในอุทร
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 177
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๒
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๙๕
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 73-74
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 73-74
แน่นอูระแลบริโภกอาหารหมีได้ ถ้าจแก้ท่านให้เอาเบญจกูน ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ บระเพด ๑
นไ
มตูมอ่อน ๑ รากคัดม้อน ๑ ลูกผักชี ๑ แห้วหมู ๑ สรัพอยา ๑๑ สิ่งนี้เอา
ทย ูมิปั
เสมอภากต้มกินบ�ำรงธาตุเสียก่อน ๚ ถามิฟงงรากพันงูแดง ๑
รากมดูก ๑ รากไก่ไห้ ๑ รากเบญจมาต ๑ ไบพลูแก่ ๑ สรัพอยา ๕ สิ่งนี้ต้ม
แพ ภ
อาบหาย ๚ ถ้ามีฟงงเอาเปลอีกฝร่งง ๑ พรายชมบ ๑ ต้มอาบหาย ๚ ถ้าหมีฟงง
ละ สรมิ
เอาพิลังกาษาทงงห้าต้มด้วยสุรากินหาย ๚ ถ้ามีฟงงเอาเปล้านอ้ย ๑ พรีก ๗ ขิง ๗ หอม
ยแ ง่ เ
๗ เกลีอ ๗ เมต ปนันเท่าลูกต่ขบกินทุกวันแก้พุงพีการหาย ๚ อันว่าลักษณปอดนันนเมีอจ
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 73-74
แน่นอุระแลบริโภคอาหารมิได้ ถ้าจะแก้ท่านให้เอาเบญจกูล ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ บอระเพ็ด ๑
รแ งค
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๗5-76
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๗5-76
เปลอีกเฃาพรวน ๑ ดีงตู น้ ๑ รากทรงบาดาน ๑ รากพีลงงกาษา ๑ สรัพอยา ๕ สิง่ นีเ้ อาเสมอ
นไ
ภากต้ม ๓ เอา ๑ กินแก้ปอตแตกแลพีการนันนหาย ๚ ถามีฟงงไห้เอาอยาอันชือ่ ว่าเบญจบัน
ทย ูมิปั
แตก
จกต้มไห้กินหาย ๚ อันว่าลักษณไส้นอ้ยนันนเมีอจะ ก็ ดีคือด้วยกินอาหารผิด
ลง พีการ
ส�ำแลงจีงไห้ปวตอูทอรแลขัดอุระแลให้ทงง คื อลมก�ำมชวาตะกระท�ำมักไห้เปน
แพ ภ
รอก
เสมหะกลัดอูระแล้วมกัให้ตัดอาหารว่าไส้ตีบไปถ้าจแก้ท่านให้เอาหอยขม
ละ สรมิ
เผา ๑ พริก ๗ ขิง ๗ หอม ๗ กเทยีม ๗ บดลายน�ำ้ ร้อนกิน ๚ ถ้าหมีฟังเอา
ยแ ง่ เ
ว่านไข่เหน้า ๑ หัษคุนเทด ๑ เปล้าน้อย ๑ พริก ๑ ขิง ๑ หอม ๑ สรัพอยา ๖ สิ่ง
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 75-76
เปลือกเขาพรวน ๑ ดีงูต้น ๑ รากทรงบาดาน ๑ รากพิลังกาสา ๑ สรรพยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอ
รแ งค
ผิดส�ำแดงจึงให้ปวดอุทรแลขัดอุระและให้ทั้งลงทั้งรากคือลมกัมมัชวาตกระท�ำมักให้เป็น
เสมหะกลัดอุระแล้วมักให้ตัดอาหารว่าไส้ตีบไปถ้าจะแก้ท่านให้เอาหอยขม
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๗7-78
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๗7-78
นไ
เอว
น่าตาจลุกยืนขึ้นไห้หาวเร่อให้ขัดอูระเสยีดแทงเจบ ไห้ ไอเสมหะขึ้นฅ่อ่ไห้
ทย ูมิปั
หลัง
ร้อนท้องน้อยแลท้นฅ่อ่ แลไห้เปนลมโฮกแลไห้ตกบุพโพโลหิต ถ้าจแก้ท่านไห้
เอาเลาแลง ๑ รากส่ไคร่น�้ำ ๑ หีบลม ๑ รากมเดีอทุมภอร ๑ รากมเดีอปลอง ๑
แพ ภ
สรัพอยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภากต้ม ๓ เอา ๑ กินหาย ๚ ขนานหนึ่งท่านให้เอาดี
ปลี ๑ เปล้าน้อย ๑ สค้าน ๑ รากจิ่งจ่อ่ไญ่ ๑ พลูป่า ๑ ข่าป่า ๑ ขีงแครง ๑
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
เกลีอสินเทา ๑ สรัพอยา ๘ สิ่งนี้เอาเสมอภากท�ำเปนจุลบตลายน�ำ้ ร้อนกิน
หาย ๚ ขนานหนึงท่ารไห้เอาไบพลวง ๑ รากอ้อยแดง ๑ รากกล้วยตีบหอม ๑ ราก
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๗7-78
หน้าตาจะลุกยืนขึ้นให้หาวเร่อให้ขัดอุระเสียดแทงเจ็บเอว เจ็บหลังให้ไอเสมหะขึ้นคอให้
รแ งค
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 79-80
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 79-80
ไญ่พีการหายดีนัก ๚ อันว่าลักษณอาหารไม่เมีอพีการนันน คือให้บริโภกอาหารร้อน
นไ
อูทรหนักบางทีไห้ลงดุจกินอยารุะ บางทีไห้ขัดอุระไห้สอึก แลไห้จุกเสยีดตาม
ทย ูมิปั
พอืด
ชายโครงไห้
พอม บุทคลสมมุติว่าเพลีงทาตุย่อนนันนหามีได้เลย แลโทษ
บริโภกอาหารที่ไม่เคย บางทีบริโภกอาหารดิบลมกุจฉิสยาวาตพัดไม่ตะ
แพ ภ
ขึ้น
ลอดจึงกระท�ำไห้เปนต่าง ๆ บางทีไห้ลงท้องบางทีเปนพรรดึกแตก แลบริ
ละ สรมิ ลง โภก
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 79-80
ใหญ่พิการหายดีนัก ๚ อันว่าลักษณะอาหารใหม่ เมื่อพิการนั้น คือให้บริโภคอาหารร้อน
รแ งค
อุทรหนักบางทีให้ลงดุจกินยารุ บางทีให้ขัดอุระให้สะอึกแลให้จุกเสียดตาม
ชายโครงให้พะอืดพะอม บุคคลสมมุติว่าเพลิงธาตุหย่อนนั้นหามิได้เลย แลโทษ
กอ
บริโภคอาหารที่ไม่เคย บางทีบริโภคอาหารดิบลมดุจฉิสยาวาตะพัดไม่ต –
ลอดจึงกระท�ำให้เป็นต่าง ๆ บางทีให้ลงท้องบางทีเป็นพรรดึกแดกขึ้นแดกลง แลบริโภค
อาหารมิได้ถ้าจะแก้ท่านให้เอายอดไก่ไห้ ๗ พริก ๗ กระเทียม ๗ พริกเทศทั้งห้า ๑ สรรพ
ยา ๙ สิ่งนี้บดเป็นลูกกลอนกินหาย ๚ ถ้ามิฟังท่านให้เอาเบญกานี ๑ พริก ๑ ขิง ๗
กา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 81-82
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 81-82
นไ
เกษรบัวหลวง ๒ ๒ บระเพดหนาม ๒ ดีปลี ๔ ดอกบุนนาก ๕ เปลอิกไข่เหน้า ๔
ทย ูมิปั
แห้วหมู ๕ สรัพอยา ๑๔ สิ่งนี้ต้มกินแก้ปถวีธาตุคืออาหารไหม่พีการนันนหาย ๚
อันว่าลักษณ อาหารเก่า
แพ ภ
เมือพีกานนันน คือตานโจรกินล�ำไส้ถา้ พ้นก�ำนฎตานโจรแล้ว คือฤษดวงขึน้ นันนกะท�ำต่อไปย
ละ สรมิ
ถ้าจแก้ท่านไห้เอา พยาล�ำแพน ๑ รากหนานแดง ๑ รากฝ้ายแดง ๑ ใบฝ้ายแดง ๑
พริก
รากหนามขี้แรด ๑ สรัพอยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้ม ๓ เอา ๑ แล้วจึงปรุง ๗
ยแ ง่ เ
ขิง
กเทยีม
ไท ะส
ลงกินหาย ๚ ถ้าหมีฟงงท่านไห้เอาผักเสยีน้ ผี ๑ รากช้าเกลือ ๑ รากญ่านาง ๑ รากขีก้ าแดง ๑
ผน แล
พริก
สรัพยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้ม ๓ เอา ๑ แล้วจึ่งปรุง ๗
ขิง ลงกินหาย ๚ ถ้าหมีฟาง
ยแ์ รอง
กเทยีม
ท่านไห้เอามกรูดไบ ๑ ต้มไห้สุกเบญจกูนเอาเท่ามกรูด ๑ มหาหิง ๑ การบูร ๒ พริก
เช้า
ไท ๒ กเทยีม ๑ เกลือ ๒ สรัพอยา ๑๑ สิ่งนี้บตกินนัก ๑ กิน เปนอยาบ� ำรุงทาตุ
เย็น
พท มุ้ ค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
คือตานโจรกินล�ำไส้ถ้าพ้นก�ำหนดตานโจรแล้ว คือริดสีดวงขึ้นนั้นกระท�ำต่อไปถ้าจะแก้ท่าน
นไ
ให้เอา พญาล�ำแพน ๑ รากหนานแดง ๑ รากฝ้ายแดง ๑ ใบฝ้ายแดง ๑
ทย ูมิปั
รากหนามขี้แรด ๑ สรรพยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้ม ๓ เอา ๑ แล้วจึงปรุงพริก ๗
ขิง ๗ กระเทียม ๗
แพ ภ
ลงกินหาย ๚ ถ้ามิฟังท่านให้เอาผักเสี้ยนผี ๑ รากช้าเกลือ ๑ รากหญ้านาง ๑
ละ สรมิ
รากขี้กาแดง ๑
ยแ ง่ เ
สรรพยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้ม ๓ เอา ๑ แล้วจึงปรุงพริก ๗ ขิง ๗ กระเทียม ๗
ไท ะส
กินหาย ๚ ถ้ามิฟัง
ท่านให้เอามะกรูดใบ ๑ ต้มให้สุกเบญจกูลเอาเท่ามะกรูด ๑ มหาหิงค์ ๑ ต�ำลึง
ผน แล
กินเช้ากินเย็นเป็นยาบ�ำรุงธาตุ
แก้ริดสีดวงขี้หายให้ทำ� แล้ว ๚ อันว่าลักษณะสมองหัวเมื่อพิการนั้นคือมันในสมองนั้น
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 83-84
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๘3-84
เดือดขึ้นล้นกะบานศิศไหลเตรวลงมาเปนมูกตามโครงนาสิกครั่นแก่เข้าท�ำให้หอบไอเปนก�ำ
นไ
ปาก
ลังเจบกระบานศิศะดังจะแตกไห้จักษุมัวแลไห้โสตประสาทตึงไห้
จมูก เพดลิ้นกระ
ทย ูมิปั
ดางคางแฃง เดิ่มเปนลมสันนิบาตแลลมป่กังถ้าแก้หมีฟงงตาย ถ้าจแก้ท่านไห้เอาพรัร
ผักกาษ ๑ ลูกผักชี ๑ หอมแดง ๑ กเทยีม ๑ ขมิ้นออ้ย ๑ ไพล ๑ ยอดกุมทังสอง ๑
แพ ภ
สรัพยา ๘ สิ่งนี้บตพอก ๓ วันหาย ๚ ถ้าหมีฟงงท่านไห้แทงเอาโลหิตนันนออก
ละ สรมิ
เสียจึงจะหาย ๚ อยาประคบขนานนี้ท่านให้เอาไบฝาง ๑ ไบตูมกาต้น ๑ ขี้แรด ๑
ยแ ง่ เ
บดด้วยน�้ำมงั่ว ห่อ่ผ้าฃาวอุ่นไฟประคบ ๓ วันหายแล้วจึงแต่งยาไห้กินต่อ่ไป
ไท ะส
คำ�อ่าน
หน้าที่ ๘3-84
พท มุ้ ค
ลังเจ็บกบาลศีรษะดังจะแตกให้จักษุมัวแลให้โสตประสาทตึงให้ปากเผ็ดจมูกเผ็ดลิ้นกระ
ด้างคางแข็ง เดิมเป็นลมสันนิบาตแลลมปะกังถ้าแก่มิฟังตาย ถ้าจะแก้ท่านให้เอาพันธุ์
กอ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๘5-86
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๘5-86
นันนหายดีนัก ๚ อยายอดตาขนานนี้ท่านไห้เอา พัรรผักกาด ๑ ลูกผักชี ๑ หอม ๑
นไ
ทย ูมิปั
สรัพอยา ๓ สิ่งนี้แช่น�้ำยอดตาแก้สมองพีการซึ่งท�ำให้ปวตศีศะ เมีอท�ำงานนัก
จึงเปนว่าเปนลมสรัรนิบาตนันนหาย ๚ ถ้าหมีหายท่านไห้เอา รากมเกลีอ ๑ รากสลอด ๑
แพ ภ
รากคัดม้อน ๑ รากผักเสี้ยนผี ๑ รากญ่าพันงู ๑ สรัพอยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภากแช่น�้ำ
มนาวทงงกินทงงทาหาย ๚ อยาแก้ปอดศิศะขนานนี้ท่านไห้เอารากน�้ำใจไคร้ฝนทาหาย
ละ สรมิ
ถ้าหมีหายเอารากพุดซ้อนฝนทาน่าผาก แก้ปวดศีศะนักแลร้อนน่าผากไห้เวยีนศีศะแลว่า
ยแ ง่ เ
ลมนันนหายสิ้น ๚ จบลกัษณปถวิทาตุ ๒๐ แตกแลพีการนันนแต่เพยีงนี้ ๚ะ๛
ไท ะส
ณดีพีการนันนคือไห้ขมปากแลไห้จักษุเหลอีงแลมักโกรฎมกัสดุ่งตกใจแลมักไห้เปน
ไบ้บ้า ถ้าจะแก้ท่านไห้เอารากมเดีอดิน ๑ รากมเดีอทุมภอร ๑ รากจิงจ่อ่หลวง
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 85-86
นั้นหายดีนัก ๚ ยายอดตาขนานนี้ท่านให้ เอาพันธุ์ผักกาด ๑ ลูกผักชี ๑ หอม ๑
รแ งค
สรรพยา ๓ สิ่งนี้แช่น�้ำหยอดตาแก้สมองพิการซึ่งท�ำให้ปวดศีรษะเมื่อท�ำงานหนัก
กอ
ถ้ามิหายเอารากพุดซ้อนฝนทาหน้าผาก แก้ศีรษะนักแลร้อนหน้าผากให้เวียนศีรษะแลว่า
กา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๘7-88
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 87-88
พรีก ๑ ขิง ๑ ดีปลี ๑ หอม ๑ สรัพอยา ๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุลบทลายน�้ำร้อน
นไ
กินหายดีนัก ๚ ถ้ามีฟงงท่านไห้เอา เชือกเฃายอดแดง ๑ แห้วหมู ๑ พริก ๑ ขิง ๑
ทย ูมิปั
หอม ๑ เกลือ ๑ สรัพอยา ๖ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุลบตลายน�ำ้ ร้อนกินแก้ดีพี
การหาย ๚ อันลักษณเสมหพีการนันน คือไห้เจบฅอแลมักฃากเสลดหมีออก
แพ ภ
ตีน
ไห้ฅอแห้งมักปากหมีออกแลไห้
ละ สรมิ มือ เยนแลบริโภกอาหารไม่รู้รศ ถ้าจแก้
รอ้นไนอูทอรไห้เสมหะตกเขยีวลง น�้ำมูกดังโลหิตเน่าจแก้ท่านไห้เอารากช้าพลู
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
หน้าที่ ๘7-88
พท มุ้ ค
สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้มกินหาย ๚ ถ้ามิฟังเอารากตูมกาฝนทาตัวให้เย็นก่อนแล้วจึงเอา
เขากระบือ ๑ ก�ำยาน ๑ ครั่ง ๑ ผักโหม ๑ สรรพยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาคบดกินแก้เสมหะ
พิการนั้นหาย ๚ อันว่าลักษณะหนองพิการนั้น คือให้เป็นหืดไอแลมองคร่อแลให้
ร้อนในอุทรให้เสมหะตกเขียวลง น�้ำมูกดังโลหิตเน่าถ้าจะแก้ท่านให้เอารากช้าพลู
194 ชุดตำ�ราภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย (ฉบับอนุรักษ์) ตำ�ราธาตุวินิจฉัย
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๒
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๙๕
ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 89-90
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
หน้าที่ 89-90
ทย
2 2 2 2
พ์ นื ้ ญญ
นัก 1 1 ประดู่เครือ 2 อยาเฃ้าเยน 2 รากมแว้งทงงสอง 2 เทยีรด�ำ 2 เทยีร
นไ
2
ทย ูมิปั
แดง 2 สรัพอยา ๗ สิ่งนี้ต้มกินแก้น�้ำหนองพีการหายดีหนัก ๚ อันว่าลักษ
ยัด
ณโลหิตพีการนันนคือให้
ตก โลหิตแลไห้ครั่งเภ่อ่ภกไห้รอ้นเปนก�ำลังถ้า
แพ ภ
จแก้ท่านไห้เอายอดทองลาง ๑ พริก ๑ ฃิง ๑ หอม ๑ สรัพอยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอ
ภากบดกินหาย ๚ ถ้าหมีฟงงท่านไห้เอา รากคูน ๑ รากช้าพลู ๑ สรัพอยา ๒ สิ่ง
ละ สรมิ
นีเ้ อาเสมอภาคต้มกินหาย ๚ ถ้าหมีฟงงท่านไห้เอารากประดูเ่ ครีอ ๑ รากก�ำจายเครีอ ๑ สรัพ
ยแ ง่ เ
ปาก
อยา ๒ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้มกินหายดีนัก ๚ ผิแลไข้เพีอโลหิตนี้ไห้โลหิตตกทาง แล
จมูก
ไท ะส
กินแก้โลหิตพีการหายแล ๚ อันว่าลักษเหอีพีการนันนมักไห้ซูบผอมถ้า
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
หน้าที่ 89-90
พท มุ้ ค
นัก ๑ ต�ำลึง ๑ บาท ประดู่เครือ ๒ บาท ๒ สลึง ยาข้าวเย็น ๒ บาท ๒ สลึง รากมะแว้ง
ทั้งสอง ๒ บาท ๒ สลึง เทียนด�ำ ๒ บาท ๒ สลึง เทียน
รแ งค
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 91-92
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
หน้าที่ 91-92
ทย
พ์ นื ้ ญญ
จแก้ท่านไห้เอา บรเพต ๑ กดอม ๑ แห้วหมู ๒ รากมแว้งทงงสอง ๑
นไ
รากเจตมูล ๑ รากช้าพลู ๑ เทยีรชมด ๑ โกฏบัว ๑ สรัพอยา ๙ สิ่งนี้เอา
ทย ูมิปั
เสมอภาคต้มก็ได้ท�ำผงก็ได้กินแก้เหอีพีการหาย ๚ อันว่าลักษณมักข้นพีการนันน
วง
คือให้โลหิตเสีย ครันนทร่านออกมาเปน แล้
(ขด) วก็แตกออกเปนน�้ำเหลืองไห้
แพ ภ
แสบรอ้นเปนก�ำลังถ้าจแก้ท่านไห้เอา ไบกเมงก�ำมือ ๑ ไบถั่วแระก�ำมือ ๑ เทยีนด�ำ
ละ สรมิ
หนัก ๒ เทยีนฃาว ๒ เปลอีกกันเกรา 1 ๒ อยาเฃาเยน ๑ ๒ สรัพอยา ๖ สิ่งนี้ต้มกิน
ยแ ง่ เ
แก้ม้นฃ้นพีการหาย ๚ อยาทาตัวแก้แสบร้อนขนานนี้ท่านไห้เอา ไบผักปลังแดง ๑
เฃ้าสาร ๑ ขมิ้นออ้ย ๑ ดินสีพอง ๑ สรัพอยา ๔ สิ่งนี้เอาเสม่อ่ภากบถทาตัวแก้
ไท ะส
ตา
แสบรอ้นหายแล ๚ อันลักษณน�ำ้ ตาพีการนันนคือปวต นั
สีสะ กแลไห้ตา
ผน แล
คำ�อ่าน
หน้าที่ 91-92
พท มุ้ ค
หนัก ๒ บาท เทียนขาว ๒ บาท เปลือกกันเกรา ๑ ต�ำลึง ๒ บาท ยาข้าวเย็น ๑ ต�ำลึง ๒ บาท
สรรพยา ๖ สิ่งนี้ต้มกิน
กา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 93-94
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 93-94
ขิง ๑ หอม ๑ สรัพอยา ๗ สิ่งนี้เอาเสมอภากบตพอกหลังตาหายแล ๚
นไ
ถ้าหมีฟงงท่านไห้เอาญ่าพันงู ๑ รากขัดมอ้น ๑ สรัพอยา ๒ สิ่งนี้
ทย ูมิปั
ฝนด้วนน�้ำมนาวทาหลังตาหาย ๚ ถ้ามีฟงงท่านไห้เอาญ่าพันงู ๑ ราก
ขัดมอ้น ๑ ดองดึง ๑ รากเจตมูล ๑ พริก ๑ ขิง ๑ สรัพอยา ๖ สิ่ง
แพ ภ
นี้เอาเสมอภาคพอกกะมอมหาย ๚ ขนานหนึ่งท่านไห้เอาไบแก้ว ๑
ละ สรมิ
ไบมฃาม ๑ ไบฝาย ๑ ไบกเมง ๑ พริก ๑ ขิง ๑ สรัพอยา ๖ สิ่งนี้บด
ยแ ง่ เ
พอกกะม่อม เมีอจะพอกห่อ่ตองมกไฟไห้ร้อนแล้วจึงพอกหาย ๚
ไท ะส
ณมันเหลวพีกานนันน คือให้ปวดน่าผากแลมักน�ำมูกตกหนัก
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
หน้าที่ 93-94
พท มุ้ ค
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 95-96
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 95-96
นไ
มือ
แลไห้บวม ถ้ าจแก้ท่านไห้เอา รากชเอม ๑ รากราชดัด ๑
ทย ูมิปั
ตีน
รากผีเสื้อ ๑ ยาด�ำ ๑ พริก ๑ ขิง ๑ สรัพอยา ๖ สิ่งนี้เอาเสมอ
ภากท�ำเปนจุลนัตหาย ๚ ขนานนึงท่านไห้เอาดีปลี ๑ เทยีน
แพ ภ
ด�ำ ๑ จันหอม ๑ จันบ้าน ๑ พริก ๑ ขิง ๑ สรัพอยา ๖ สิ่งนี้เอา
ละ สรมิ
เสมอภากท�ำเปนจุลนัตแก้มันเหลวพีการหายดีนัก ๚ อันว่า
ยแ ง่ เ
ปาก
ลักษณน�ำลายพีการนันน คือไห้เหมนปากแล แห้
ค่อ่ งถ้า
ไท ะส
ฟัน
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 95-96
แลให้บวมมือบวมตีนถ้าจะแก้ท่านให้เอารากชะเอม ๑ รากราชดัด ๑
รแ งค
เสมอภาคท�ำเป็นจุณนัดแก้มันเหลวพิการหายดีนัก ๚ อันว่า
ลักษณะน�้ำลายพิการนั้น คือให้เหม็นปากแลปากแห้ง คอแห้ง ฟันแห้ง ถ้า
กา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 97-98
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 97-98
นไ
สิ่งนี้เอาเสมอภากต้มก็ได้ท�ำผงก็ได้ลายน�้ำกระสายฟง ๆ กิน
ทย ูมิปั
แก้น�ำลายพีการหาย ๚ อันว่าลักษณน�ำมูกพีการนันน คือไห้มูก
เต่รลงมามิได้คาดด้วยอัถว่ารอ้นกล้าหนัก เจบศีศะแลเปน
แพ ภ
ไอ
วัด ถ้
หอบ าจแก้ท่านไห้เอา หัวหอม ๑ ปูนผง ๑ น�ำประสาน
ละ สรมิ
ดีบุก ๑ ภีมเสน ๑ สรัพอยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภากท�ำเปนจุล
ยแ ง่ เ
นัดก็ได้ท�ำเปนอยาต้มก็ได้ แล้วจีงแต่งอยาผายไห้กินต่อ่ไป ๚ อยา
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 97-98
สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้มก็ได้ท�ำผงก็ได้ ละลายน�้ำกระสายฝน ฝนกิน
รแ งค
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 99-100
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 99-100
นไ
มฃามปอม ๑ ว่านน�้ำ ๑ จันหอม ๑ กฤษนา ๑ เกษรบัวหลวง ๑ ดอกบุนนาก ๑
ทย ูมิปั
สรัพอยา ๑๕ สิ่งนี้เอาเสมอภากต้ม ๓ เอา ๑ กินแก้น�ำมูกพีการซึงกล่าวมานั้น
มือ
หายสิ้น ๚ อันว่าลักษณไขข้อพีการนันน คือกท�ำไห้เมีอยนักแลไห้ย
แพ ภ
ตีน
เจบกะดูกทุกข้อจเดีนก็มิได้ ถ้าจแก้ท่านไห้เอารากขอยบดพอกเมีอจ
ละ สรมิ
พอกนันนเอาคูลีกานเฃ้ากับน�้ำมันหมูเถีอนอุ่นไฟไห้รอ้นจึงพอกหายดีนัก
ยแ ง่ เ
๚ ถ้ามิฟงงเอารากถั่วป่าฝนทาหายดีนัก ๚ อันว่าลักษณมูตพีการนันน คือ
ไท ะส
ขาว
ไห้ขัดปัสาวะแลไห้ปสาวะนันน ก็
เหลอืง ดีไห้เจบแสบเปนก�ำลังถ้าจะ
แดง
ผน แล
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 99-100
รแ งค
พอกนั้นเอาคุลีการเข้ากับน�้ำมันหมูเถื่อนอุ่นไฟให้ร้อนจึงพอกหายดีนัก ๚
กา
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 101-102
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 101-102
นไ
มูล ๑ สค้าน ๑ ดีปลี ๑ ขิงแห้ง ๑ ลูกมตูม ๑ เปลอีกมูกมัน ๑ แห้วหมู ๑
ทย ูมิปั
กกรังกา ๑ รากขัดม้อน ๑ เกษรบัวหลวง ๑ เกษรรสารภี ๑ ดอกพีกุน ๑
ดอกบุนนาก ๑ สรัพอยา ๑๘ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้ม ๓ เอา ๑ กินแก้มูต
แพ ภ
พีกานนันนหายดีนัก ๚ ผีแลมูตพีการเมีอแตกนั้นไปไห้ปัสสาวะวีปะลาต
ละ สรมิ
แดง
คือปัสาวะ แลเปนนิ ้วก็ดี บางทีฃาวดุจดังน�้ำเฃ้าเชดแลไปปัสวะไม่
ยแ ง่ เ
เลอืง
มุทกฤษ
สะดวกไห้ขัดหัวเหน่าไห้หัวเหน่าฟก บางทีเปน กาลขึ
มุทคาต ้นในมูตแล
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 101-102
มูล ๑ สะค้าน ๑ ดีปลี ๑ ขิงแห้ง ๑ ลูกมะตูม ๑ เปลือกมูกมัน ๑ แห้วหมู ๑
รแ งค
พิการนั้นหายดีนัก ๚ ผิแลมูตรพิการเมื่อแตกนั้นไปให้ปัสสาวะวิปลาส
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๑๐3-104
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
คำ�ถ่ายถอด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๑๐3-104
นไ
สค้าน ๑ ช้าพลู ๑ เจตมูน ๓ ดีปลี ๔ ขิงแห้ง ๕ อยาเข้าเยนจีน ๑๐ ออ้ยแดง
ทย ูมิปั
๓ ปล้อง สรัพอยา ๑๗ สิ่งนี้ต้ม ๓ เอา ๑ กินแก้มูตแตกพีการหาย ๚
อยาแก้ขัดปัสสาวะ ขนานนี้ท่ารไห้เอาไบมฃามก�ำมือ ๑ ไบส้มปอยก�ำมือ ๑
แพ ภ
ไบมนาว ๗ ไบ หอม ๓ หัว สานส้ม ๑ ดินประสิวฃาว ๑ น�้ำออ้ยงบ ๑ ผ่า
ละ สรมิ
๔ ทิงเสียทงงต่วันตกซีก ๑ เอาแต ๓ สีก สรัพอยา ๗ สิ่งนี้ต้มกิน
ยแ ง่ เ
แก้ขดัปสาวะแลไห้ปัสาวะเดีนสะดวกดีหนัก ๚ พรอาจาริยเจ้ากล่าวมา
ไท ะส
ไนพรคัมภีร์ธาตุวินิจไฉยผูก ๒ ว่าดว้ยลักษณพิศมแห้งโอสถสทิต
วนน
ตาม แลซั กถอยอยาทวีอยาแลรศโอสถอันควรแก่โรคแลทวตึง
ผน แล
เพลา
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
หน้าที่ ๑๐3-104
พท มุ้ ค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๑๐5
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
คำ�ถ่ายถอด
รแ งค
หน้าที่ ๑๐5
กอ
ษาการก็จบบริบูณแต่เพยีงนี้โดยสงงเขป ๚ะ๛
คำ�อ่าน
กา
หน้าที่ ๑๐5
สาการก็จบบริบูรณ์แต่เพียงนี้โดยสังเขป ๚ะ๛
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย
ละ สรมิ
เล่ม ๓
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 1
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 1
นไ
ทย ูมิปั
๚ โอสถแก้โรค +ยตามประเทศสี
่
๚ พรคัมภีร์ธาตุวินิจไฉยผูก ๓ ๚ ธาตุทั้ง ๔ ออกจากตัว
แพ ภ
กล่าวมาในลักษณะกองโรค+ยว่าด้วย ๚ ธาตุทั้ง ๔ ก�ำเริบในระดูเกยี่วคาบ ก็จบบริปูรรณ์
ละ สรมิ
๚ ไข้บังเกิดในระดูหก แล ธาตุทั้ง ๔ โดยสังเขป
๚ ห้ามแสลงในสามรดูแลเบญจกูล
ยแ ง่ เ
ไท ะส
คำ�อ่าน
ผน แล
หน้าที่ 1
ยแ์ รอง
๚ โอสถแก้โรคตามประเทศ ๔
พท มุ้ ค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 2-3
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 2-3
นไ
๚ อาจารริเยา อันว่าพรอาจาริยเจ้าจกล่าวในพรคัมภีรธ์ าตุวนิ ไิ ฉยผูก ๓ นีส้ บื เรือ่ งต้นให้แพทย
ทย ูมิปั
ทัง้ หลายพึง่ รู้ ให้พจิ รนาดูให้รจู้ กั สะถานประเทษทีเ่ กิด แห่งโรค+ยมีลกั ษณะ ๔ ประการ ดุจในย
อันกล่าวมาแล้วแต่ในผูก ๑ นั้น ล�ำดับนี้จกล่าวแต่สรรพยาซึ่งจแก้โรคอันบังเกิดตาม
แพ ภ
๑
ประเทษนัน้ สืบต่อไปดงงนี ้ ๚ ยาแก้บคุ คลอันเกิดในประเทศน�ำ
ละ สรมิ ้ ตม
เคม ต่อกัน ขนานนีท
้ า่ นให้เอา
ตรีผลา สมูลแว้ง อุโลม ฉเอม ฉิง่ ช้า+ชาลี กเช้าผัมด สร+รพอย่า ๘ สิง่ นีเ้ อาเสม่อภาค+ยท�ำเปน
ยแ ง่ เ
2
จุล บทลายน�้ำขิงกินแก้โทศอันเกิดในน�ำ ้ ตม
เคม ต่อกรรหาย ๚ ยาบุคคลอันเกิดในประ
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 2-3
อาจาริโย อันว่าพระอาจารย์เจ้าจะกล่าวในพระคัมภีรธ์ าตุวนิ จิ ฉัยผูก ๓ นีส้ บื เรือ่ งต้นให้แพทย์
รแ งค
1
ประเทศนั้นสืบต่อไปดังนี้ ๚ ยาแก้บุคคลอันเกิดในประเทษน�้ำตม น�้ำเค็มต่อกัน ขนานนี้
ท่านให้เอา
2
จุณ บดลายน�ำ้ ขิงกินแก้โทษอันเกิดในน�ำ้ ตมน�้ำเค็มต่อกันหาย ๚ ยาบุคคลอันเกิดในประ-
เทศภูเขา แลที่สถานอันสูงขนานนี้ท่านให้เอา จันทน์ทั้ง ๒ อบเชย ขี้กาแดง บอระเพ็ด แห้ว-
หมู กระดอม กรุงเขมา โกฎพุงปลา สรรพยา ๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเป็นจุณ บดละลาย
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 4-5
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 4-5
นไ
3
น�ำ้ นมโคกินแก้โรคย+ตามประเทศในก�ำเดานัน้ หาย ๚ ย่าแก้บทุ คลอันเกิดในประเทศน�ำ ้ ตม
ทย ูมิปั
ฝน
ต่อกรร ขนานนีท้ า่ รให้เอา ว่านน�ำ
้ สหมอไท แห้วหมู อุตพิศ+ม ฃิงแห้ง+มตูมอ่อน ลูกผักชีเทพะ
ทาโร กรุงเขมา โกษสอ สรรพยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคย+ต้ม ๓ เอา ๑ กินหายแก้โรคย
แพ ภ
4 กรวด
ตามประเทศในลมนั้นหาย ๚ ยาแก้บุทคลอันเกิดในประเทศ ขนานนี
ละ สรมิ ทราย ้ท่ารให้เอา
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 4-5
3
น�ำ้ นมโคกินแก้โรคตามประเทศในก�ำเดานัน้ หาย ๚ ยาแก้บคุ คลอันเกิดในประเทศน�ำ้ ตม น�ำ้ ฝน
รแ งค
ต่อกัน ขนานนี้ท่านให้เอา ว่านน�้ำ สมอไทย แห้วหมู อุตพิด ขิงแห้ง มะตูมอ่อน ลูกผักชี เทพ-
ทาโร กรุงเขมา โกฐสอ สรรพยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้ม ๓ เอา ๑ กินหายแก้โรค
กอ
4
ตามประเทศในลมนั้นหาย ๚ ยาแก้บุคคลอันเกิดในประเทศกรวด ประเทศทรายขนานนี้
ท่านให้เอา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 6-7
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 6-7
นไ
ขนานนี้ท่ารให้เอา ดอกสัตตบงกช ดอกบัวหลวง ดอกผัวเผื่อน ดอกบัวฃม มหาหง เฉอม
ทย ูมิปั
ปีบ ลูกผักชี น�ำ้ ผึ้งรวง ขนนทศกร สรรพยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาค+ยบทลายนานํมโค
มเมีย
กินแก้โทษในครรพก�ำเนิดปีนั้นหาย ๚ ยาแก้บุทคลครรพเกิดในปี
มแม เทพย+ดาผู้+หญิง
แพ ภ
ขนานนี้ทารให้เอา ดอกมลิ ดอกพิกูล ดอกจ�ำปา ดอกกระดงงงา กเพรา ตรีผลา
ละ สรมิ
ยาด�ำ รากซ่มป่อย รากคางโทน สรรพยา ๑๑ สิ่งนี้เอาเสอมภาค + ยท�ำเปนจุลบท
ยแ ง่ เ
ลายน�ำ้ ผึ้งรวงกินแก้โทศครรพก�ำเนิดในปีนั้นหาย ๚ ยาแก้ส�ำรับบุทคลครรพก�ำเนิดใน
ไท ะส
กุญ
ปี
ปีเถาะ มนุษ+ยผู้+หญิงขนานนี้ทารให้เอามเดื่อมเขือขื่นมแว้งท้งง ๒ รากราชพฤก
เถาวันเปรยีงรากตาน +หม่อนถั่วแปบ ถั่วแระ ถัวภู รากสะแกสรรพยา ๑๑ สิ่งนี้เอา
ผน แล
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 6-7
ขนานนี้ท่านให้เอา ดอกสัตตบงกช ดอกบัวหลวง ดอกผัวเผื่อน ดอกบัวขม มหาหงส์ ชะเอม
รแ งค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 8-9
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 8-9
นไ
้ มนาว
เสมอภาคท�ำเปนจุล บทลายน�ำ ก็ได้ กินแก้ครรพก�ำเนิดในปีนั้นหาย ๚ ยา
ทย ูมิปั
สุรา
วอก
ส�ำหรับแก้บุทคลครรพก�ำเนินในปี
ระกา มหายัก+ษผู้ชาย ขนานนี้ท่ารให้เอา กเพรา
ตรีกตุก เขยี้วเสือ กรามโค งาช้าง แห้วหมู หีบลํม อย่าเฃาเย็น เทยีรแดง โหระภา
แพ ภ
สรรพยา ๑๒ สิ่งนี้เอาเสมอภาค+ยท�ำเปนจุล บทลายน�ำ้ ผึ้งกินแก้โทศครรพก�ำเนิด
ละ สรมิ
ขาน
ในปีนั้นหาย ๚ ยาส�ำรับบุทคลครรพเกิดในปี มหายักษ์ผู้+หญิง ขนานนี้
ยแ ง่ เ
จอ
ท่ารให้เอา ดอกรักษ ใบนาศ กะเทยีม ผักกะเชด ผักเสยี้รผี ผักเขด สรรพยา ๖ สิ่ง
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 8-9
เสมอภาคท�ำเป็นจุณ บดละลายน�้ำมะนาว น�้ำสุรา ก็ได้กินแก้ครรภ์ก�ำเนิดในปีนั้นหาย ๚ ยา
รแ งค
นี้เอาเสมอภาคท�ำเป็นจุณ บดละลายน�้ำท่ากินแก้โทษครรภ์ก�ำเนิดในปีนั้นหาย ๚
๚ ยาแก้บคุ คลครรภ์เกิดในปีฉลู ปีมะเส็ง มนุษย์ผชู้ าย ขนานนีท้ า่ นให้เอา จันทน์ทงั้ ๒ กรุงเขมา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๑0-11
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๑0-11
นไ
รากไคร้เครือ แก่นสน กล�ำภัก ญ่าพรร+ณงู ตรีผลา อย่าด�ำ รากซ่มปอย รากคางไทร
ทย ูมิปั
สรรพยา ๑๓ สิ่งนี้เอาเสมอภาคย+ท�ำเปนจุล ลายน�ำ้ ผึ้งรวงกินแก้โทศครรพก�ำเนิด
1
ในปีนั้นหาย ๚ อนึ่งยาส�ำรับชัณษาปีบุทคลอันเกิด ๚ ปีชวดเอารากมกล�่ำตาหนู ๚
แพ ภ
2 3 4
๚ ปีฉลูเอารากก�ำลังโคเถลิง ๚ ปีฃานเอารากตาเสือ ๚ ปีเถาะเอาญ่าซุ่มกะต่าย ๚
ละ สรมิ
5 6 7
๚ ปีมโรง เอาญ่าพรร+ณงูแดง ๚ ปีมเสงเอาญ่าพรร+ณงูขาว ๚ มเมียเอาเอื้องเพชม้า ๚๛
ยแ ง่ เ
1 2 3 4
๚ ปีมแมเอามเขือคางแพะ ๚ ปีวอกเอาเถาวันลิง ๚ ปีระกาเอา+รากปะค�ำไก่ ๚ ปีจอ
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๑0-11
รากไคร้เครือ แก่นสน กระล�ำพัก หญ้าพันงู ตรีผลา ยาด�ำ รากส้มป่อย รากคางไทร
รแ งค
2 3 4
๚ ปีฉลูเอารากก�ำลังโคเถลิง ๚ ปีขาลเอารากตาเสือ ๚ ปีเถาะเอาหญ้าซุ่มกระต่าย ๚
5 6 7
๚ ปีมะโรงเอาหญ้าพันงูแดง ๚ ปีมะเส็งเอาหญ้าพันงูขาว ๚ มะเมียเอาเอื้องเพชรม้า ๚๛
1 2 3 4
๚ ปีมะแมเอามะเขือคางแพะ ๚ ปีวอกเอาเถาวัลย์ลิง ๚ ปีระกาเอารากประค�ำไก่ ๚ ปีจอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๑2-13
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๑2-13
นไ
ศญมาก ๚ ยาขนานนี้เจ้าคุณวัตรแขวงเมืองบางคาง ท�ำฉนนเปนนิจมีอายุศมมากได้ ๑๐๐ ปี
ทย ูมิปั
(2)
มีกำ� ลังมากวิเสศนัก ๚ ล�ำดัพนี้จกล่าวด้วยธาตุท้งง ๔ พิการออกจากตัวนั้นสืบ
1 เล็น
ต่อไป ๚ อันว่าปถวีธาตุพิการออกจากตัวนั้น คือให้บังเกิด แลให้ เจบอุธร
แพ ภ
เหา
เสยีด กสาย มือ
ให้
แทง แปรเปนอันทพฤกก็ดีแลเปน ก็
ละ สรมิ ปาง ดีให้ช�้ำเนื้อในเลบ เขยี
ตีน วก็ดี
หนัก
แลให้โลหีตให้โลหิตตกทางทะวาร ก็ ดี แลบริ1โภคอาหารมิอยู่ท้อง คือให้
ยแ ง่ เ
เบา
ลงไปก็ดี โทศท้งงนี้คือปถวีธาตุพิการออกจากกาย ๚ ถ้าจแก้ท่ารให้เอา กเทยีม
ไท ะส
๑๑ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุล ลายน�้ำ
มนาว ก็ได้กินแก้โทศในธาตุดีนัก ๚
มงัวว
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๑2-13
สมมาก ๚ ยาขนานนี้เจ้าคุณวัตรแขวงเมืองบางคาง ท�ำฉันเป็นนิจมีอายุมากได้ ๑๐๐ ปี
รแ งค
มีก�ำลังมากวิเศษนัก (2)
๚ ล�ำดับนี้จะกล่าวด้วยธาตุทั้ง ๔ พิการออกจากตัวนั้นสืบ
1
กอ
1
ลงไปก็ดี โทษทั้งนี้คือปถวีธาตุพิการออกจากกาย ๚ ถ้าจะแก้ท่านให้เอา กระเทียม
ใบสะเดา ใบคนทีสอ ใบกันเกรา แก่นสน เทพทาโร กะเพรา ขิงแห้ง ตรีผลา สรรพยา
๑๑ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเป็นจุณ ละลายน�้ำร้อน น�ำ้ มะนาว น�้ำมะงั่ว ก็ได้กินแก้โทษ
2
ในธาตุดีนัก ๚
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 227
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๓
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๙๙
ประวัติ กรมหลวงวงสา ฯ กรมหมื่นไชยนารถฯ
ประทานวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๕๘
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๑4-15
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๑4-15
2
๚ ขนานนี้ทารให้เอา ย่างทราย กเทยีม ดีปลี ลูกมตูมอ่อน ส(ฆ้าน) มแว้งท้งง 2 เจต
นไ
ทย ูมิปั
มูลแดง สหมอไท ว่านน�้ำ เทยีรสัตบุตร ฃิงแห้ง สรรพยา ๑๒ สิ่งนี้เอาเสมอภาค
โค ลม
ท�ำเปนจุล บดลายน�้ำมูตร ก็
คน ได้ น�้ำมนาวก็ได้กินแก้
เสลด เปนเพื่อปถวีธาตถุดิน
3
แพ ภ
นั้นหาย ๚ ขนานห+นึ่งท่ารให้เอา บ ระเพช กผังโหม มแว้งท้งง ๒ ขี้กาแดง
ละ สรมิ
รากขัดมอน ช้าพลู พริกไท เชือกเฃาพรวน เทาวันเปรยีง เปลือกมูกกทก ราก
จันท
ยแ ง่ เ
จิงจ้อ สรรพยา ๑๒ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุล บทลายน�้ำ
ดอกไม้ ก็ได้
4
กินแก้ปถวีธาตุพิการดีเดือดหายดีนัก ๚ หนาห+นึ่งท่ารให้เอา ลูกมตูม ดอกขัด
ไท ะส
บทลายน�ำ้ ร้อนกิน
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
หน้าที่ ๑4-15
พท มุ้ ค
2
๚ ขนานนี้ท่านให้เอา ย่างทราย กระเทียม ดีปลี ลูกมะตูมอ่อน สะค้าน มะแว้งทั้ง ๒ เจต-
รแ งค
เพื่อปถวีธาตุดิน
3
นั้นหาย ๚ ขนานหนึ่งท่านให้เอา บอระเพ็ด กระพังโหม มะแว้งทั้ง ๒ ขี้กาแดง
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๑6-17
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๑6-17
นไ
5
แก้เพื่อโลหีตเกิดแต่ปถวีธาตุนั้น ๚ ขนานห+นึ่งท่ารให้เอา หนังจรเขเผา เขาโคเผา
ทย ูมิปั
นอแรทเผา หอยแครงเผา ลูกจัน+ท กะเทยีมกรอบ ดีปลี แห้วหมู สรรพยา ๙ สิ่ง
นี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุล บทลายน�้ำรอ้นกินแก้พรรดึกแก้ลมอันทพฤก ซึ่งบงง
แพ ภ
6
เกิดเพื่อปถวีธาตุนั้น ๚ ขนานหนึ่งท่ารให้เอา ลูกเอน โกฏสอ ว่านเปราะ ว่านน�้ำ
ละ สรมิ
โกฏพุงปลา ดีปลี แห้วหมู เปลือกมูกมัน สฆ้าน ลูกผักชี สรรพยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอ
ยแ ง่ เ
ภาคท�ำเปนจุล บทลายน�ำ้ ร้อนกินแก้ปถวีธาตุพิการออกจากตัวนั้น แล้วอย่า ๖ ขนานนี้
ไท ะส
2
ส�ำรับแก้ปถวีธาตุพิการถ้าแลมิฟังก�ำนด ๕ วันตายเปนอันเทยี่ง ๚ อันว่าลักษณะเตโช-
มือ
ธาตุพิการออกจากตัวนั้น คือให้ร้อนปลาย แลให้ ยอกดังปลาดุกยอกมี
ผน แล
ตีน
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๑6-17
5
แก้เพื่อโลหิตเกิดแต่ปถวีธาตุนั้น ๚ ขนานหนึ่งท่านให้เอา หนังจระเข้เผา เขาโคเผา
รแ งค
6
เกิดเพื่อปถวีธาตุนั้น ๚ ขนานหนึ่งท่านให้เอา ลูกเอ็น โกฐสอ ว่านเปราะ ว่านน�้ำ
2
ส�ำหรับแก้ปถวีธาตุพิการถ้าแลมิฟังก�ำหนด ๕ วันตายเป็นอันเที่ยง ๚ อันว่าลักษณะเตโช-
ธาตุพิการออกจากตัวนั้น คือให้ร้อนปลายมือปลายตีนแลให้ยอกดังปลาดุกยอกมี
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๑8-19
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๑8-19
นไ
พิศมเจบปวดเปนก�ำลัง แล้ว แปรไปให้หลังมือบวม ถ้าห+ญิงแปรไปให้น่าบวม
ทย ูมิปั
แล้วแปรเปนผื่นขึ้นท้งงตัวดงงเปนผด แลเปนหัดแล้วจมเฃ้าไปให้เจบอุธร
มือ 1
แลให้+ตกบุบโพโลหิต แลแปรไปให้
ตีน ตาย ถ้ามิฟังมอรณะเปนเทยี่ง ๚ ถ้าจแก้ท่าร
แพ ภ
ให้เอา ลูกกเบา รากไคร้เครือ ลูกพิลังกาษา ลูกษหมอไท ลูกมขามป้อม ลูกช้าพลู
ละ สรมิ
ว่านเปราะ ชเอม ญ่ารังกา พัดแผวแดง สรรพยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุลบท
ยแ ง่ เ
ร้อน 2
ลายน�้ำ
ขันทสกร ก็ ไ ด้ ก น
ิ แก้ เ ตโชธาตุ น น
้ ั ๚ ขนานห+นึ่งท่ารให้เอา มหาหิง ดีปลี ลูกราช
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๑8-19
พิษเจ็บปวดเป็นก�ำลัง แล้วแปรไปให้หลังมือบวม ถ้าหญิงแปรไปให้หน้าบวม
รแ งค
แล้วแปรเป็นผื่นขึ้นทั้งตัวดังเป็นผด แลเป็นหัดแล้วจมเข้าไปให้เจ็บอุทร
1
แลให้ตกบุพโพโลหิต แลแปรไปให้มือตายตีนตาย ถ้ามิฟังมรณะเป็นเที่ยง ๚ ถ้าจะแก้ท่าน
กอ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๒0-21
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 20-21
เถามวกแดง 3
นไ
น�ำ
้ มูตโค ก็ได้กนิ แก้เตโชธาตุนนั้ ๚ ขนานห+นึง่ ท่ารให้เอา มหาหิง ๑ ว่านน�ำ
้ ๑
ทย ูมิปั
ว่านเปราะ ๒ ลูกช้าพลู ๓ ฃิงแห้ง ๔ เทียรเยาวะภานี ๕ เจตมูล ๖ โกฐสอ ๗ สหมอไท ๘
มูตโค
ดีปลี ๙ ผักชีล้อม ๑๐ สรรพยา ๑๑ สิ่งนี้ท�ำเปนจุล บทลายน�้ำ ชเอม ก็ได้กินแก้เตโชธาตุนั้น
แพ ภ
ขนาน+หนึ่งท่ารให้เอา โกฐสอ โกฐเขมา รากพลับพลึงแดง ลูกราชดัด ลูกษาระพัดพิศม
ละ สรมิ
จุกะโรหินี รากมแว้งเครือ รากจิ่งจ้อ รากสวาด สฆ้าน กรุงเขมา มหาหิง ลูกจันท
มง่วว
เทยีรด�ำ สรรพยา ๑๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุลลายน�้ำ
มนาว ก็ได้กินแก้
ยแ ง่ เ
มูตโค
ไท ะส
3
เตโชธาตุพิการออกจากตัวนั้น ยาขนานนี้ชื่อเทพนิมิต ๚ อันว่าลักษณะวาโยธาตุ
ออกจากตัวนั้น คือโสตประสาทนักทังง+สองค่าง แลให้หิงหอยตายจายออกให้เมื่อย
ผน แล
คำ�อ่าน
ยแ์ รอง
หน้าที่ ๒0-21
พท มุ้ ค
ลูกราชดัด ลูกสารพัดพิษ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๒2-23
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๒2-23
นไ
ตีนมือเปนตคิวแลจะโปงให้ชักเข้าแลน่องฅู้ ให้เมื่อยสรรหลังแลสองราวค่าง
ทย ูมิปั
นั้นแขงส+มมุติว่าเปนฝีเอน แลให้อาเจยีรลมเปล่า แล้วแปรไปให้เจบอุระ และ
น่า
ให้เปนก้อนในอุทร ให้นัก อั นว่าลักษณะโทศท้งงนี้วาโยธาตุพิการออก
แพ ภ
ตา
1
จากตัว ๚ ถ้าจแก้ท่ารให้เอา ดีปลี แฝกหอมตนาว พริกไท ว่านเปราะ ว่านน�้ำ
ละ สรมิ
แห้วหมู สรรพยา ๖ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุล บทลายน�้ำร้อนกิน แก้วาโย
ยแ ง่ เ
2
ธาตุนั้น ๚ ขนานห+นึ่งท่ารให้เอา เปลือกมูกมัน รากษลอด ว่านน�้ำ พริกไท แห้วหมู ญ่า
ไท ะส
มูตโค ๚
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๒2-23
ตีนมือเป็นตะคริวแลจับโปงให้ชักเข่าแลน่องคู้ ให้เมื่อยสันหลังแลสองราวข้าง
รแ งค
1
จากตัว ๚ ถ้าจะแก้ท่านให้เอา ดีปลี แฝกหอมตะนาว พริกไทย ว่านเปราะ ว่านน�้ำ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๒4-25
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๒4-25
ลูกราชดัด ลูกสวาด ดีปลี สฆ้าน ชเอม ไบย่างทราย ฃิงแห้ง กรุงเขมา โกฏสอ โกฏเขมา
นไ
ทย ูมิปั
ชเอม
ผึ้ง
สรรพยา ๑๒ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุลลายน�้ำ
สุรา ก็ได้กินแก้วาโยธาตุนั้น
นมโค
4
แพ ภ
๚ ขนานห+นึ่งท่ารให้เอา ชเอม เจตมูล ไบนาศ การะบูร รากทนดี รากจิ่งจ้อ ฃิงแห้ง
ไบสลอด ว่านน�้ำ พริกไท ดีปลี สรรพยา ๑๑ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุล
ละ สรมิ
ร้อน 5
้ มูตโค ก็ได้กินแก้วาโยธาตุนั้น ๚ ขนานห+นึ่งท่ารให้เอาเจตพังคีบระ
บดลายน�ำ
ยแ ง่ เ
เพชญ หัศคูน เจตมูล ไพล ฃีงแห้ง ดีปลี สงงกะระนี สรรพยา ๘ สิ่งนี้เอาเสมอภาค
ไท ะส
ทราวเข้า 6
ท�ำเปนจุลบทลายน�้ำ
มูตโค ก็ได้กินวาโยธาตุนั้น ๚ ขนานห+นึ่งท่ารไห้เอา ผัก
ล้อม
เสยี้นผี ผักคราด ผักเปด หอมแดง ดีปลี ลูกผักชี
ลา พรร+ณผักกาษจงกลนี
ผน แล
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
หน้าที่ ๒4-25
พท มุ้ ค
ลูกราชดัด ลูกสวาด ดีปลี สะค้าน ชะเอม ใบย่างทราย ขิงแห้ง กรุงเขมา โกฐสอ โกฐเขมา
สรรยา ๑๒ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเป็นจุณละลายน�้ำชะเอมก็ได้ น�้ำผึ้งก็ได้ น�ำ้ สุราก็ได้
รแ งค
น�้ำนมโคก็ได้ กินแก้วาโยธาตุนั้น
4
๚ ขนานหนึ่งท่านให้เอาชะเอม เจตมูล ใบหนาด การบูร รากทนดี รากจิงจ้อ ขิงแห้ง
กอ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๒6-27
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 26-27
นไ
ผึ้ง
สะฆ้านแตงหนู สรรพยา ๑๑ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุล บทลายน�ำ
มงั่ว กิน
ทย ูมิปั
4
แก้วาโยธาตุพิการออกจากตัวนั้นหาย ๚ อันว่าลักษณอาโปธาตุพิการออกจาก
จากตัวนั้น คือให้ลงเจบอุระ แลแปรเปนกล่อน แล้วกระท�ำให้อุจาระ
แพ ภ
ปะสาวะมิออกนอนมิ+หลับ ให้ขัดหัวเน่าปวดท้วงอุธรเปนพรรดึกกลิ้ง ขึลง้น
ละ สรมิ
ให้ขัดสีค่าง ๆ ชาย ยายากนักถ้า+จะแก้มิฟัง ๗ วันตายแปรไปให้ขัด+เข่า แล
ยแ ง่ เ
น่องคู้ ให้ตีนเย็น ให้บงงเกิดเสมหะเปนอันมาก ให้ไอผอมแห้งให้เจบอกให้
ไท ะส
น่า
ร้อน ดุ
(ตา) จไข้จับโทศท้งงนี้คืออาโปธาตุพิการออกจากตัว ๚ จแก้ท่ารให้เอา
ลูกผักชี ว่านน�้ำ เปลือกมูก+หลวง ญ่ารังกา เจตมูล พริกไท ฃิงแห้ง จีงจ้อ น�้ำเต้าฃม
ผน แล
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 26-27
สะค้านแตงหนู สรรพยา ๑๑ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเป็นจุณ บดละลายน�ำ้ ผึ้ง น�้ำมะงั่วกิน
รแ งค
4
แก้วาโยธาตุพิการออกจากตัวนั้นหาย ๚ อันว่าลักษณะอาโปธาตุพิการออกจาก
จากตัวนั้น คือให้ลงเจ็บอุระ แลแปรเป็นกล่อน แล้วกระท�ำให้อุจจาระ
กอ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๒8-29
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๒8-29
นไ
กดอม มตูมอ่อน ดีปลี สรรพยา ๑๒ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุลบทลายน�ำ้
ทย ูมิปั
มูตโค 2
ร้อน กินแก้อาโปธาตุนั้น ๚ ขนานห+นึ่งท่ารให้เอา เจตมูล เทยีรเยาวภานี
ดองสแก
แพ ภ
ลูกผักชีล้อม ลูกมูกมัน ไบผักไห ดีปลี ฃิงแห้ง ลูกมตูมอ่อน ยาเฃ้าเย็น
ละ สรมิ
พริกไท ชเอม โกฐก้ารพร้าว สรรพยา ๑๒ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุล
ยแ ง่ เ
3
บทลายน�ำ้ ร้อนกินแก้อาโปธาตุนั้น ๚ ขนานห+นึ่งท่ารให้เอา ดีแร้ง พริกไท ญ่า
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๒8-29
รแ งค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๓0-31
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๓0-31
ตานทราย
๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุลบดลายน�้ำรอ้นน�้ำ
แตงกวา ก็ได้ กินแก้พรรดึกเพื่อ
นไ
5
ทย ูมิปั
อาโปธาตุนั้น ๚ ขนานห+นึ่งท่ารให้เอา โกฐก้ารพร้าว ลูกแตงกวา ลูกมตูมออ่น
ชเอม กุ่มน�้ำ ไบสลอด รากตองแตก บ่รเพช สรรพยา ๘ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำ
6
แพ ภ
เปนจุล บทลายน�้ำร้อนน�ำ้ ยันเลา ก็ได้ กินแก้อาโปธาตุนั้น ๚ ขนานห+นึ่งท่ารให้เอา
ละ สรมิ
พริกไท ๑ ๒ กเทยีม ๒ ผิวมกรูด ๒ สมอทั้งสาม+ สิ่งละ ๓ แฝกหอม ๒
ลูกจัน+ท ๑ ดอกจัน+ท ๑ การพลู ๑ ไพล ๑ ไบนาศ ๑ น�้ำประสารทอง ๑
ยแ ง่ เ
ไบสลอดนึ่ง ๑ สรรยา ๑๖ สิ่งนี้ท�ำเปนจุล บดท�ำแท่งไว้ลายสุรากิน
ไท ะส
1
แก้อาโปธาตุ แลผายฤศดวงผายทรางท้งงปวงดีนัก ๚ ยาแก้ปถวีธาตุ
ผน แล
คำ�อ่าน
ยแ์ รอง
หน้าที่ ๓0-31
๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเป็นจุณ บดละลายน�ำ้ ร้อน น�้ำตาลทราย น�้ำแตงกวา
พท มุ้ ค
ก็ได้กินแก้พรรดึกเพื่อ
5
อาโปธาตุนั้น ๚ ขนานหนึ่งท่านให้เอา โกฐก้านพร้าว ลูกแตงกวา ลูกมะตูมอ่อน
รแ งค
ชะเอม กุ่มน�ำ
้ ใบสลอด รากตองแตก บอระเพ็ด สรรพยา ๘ สิ่ง นี้เอาเสมอภาคท�ำ
6
กอ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๓2-33
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๓2-33
นไ
ก�ำเริบแล+หย่อน ขนานนี้ท่ารให้เอา รากเทยีร ไบโลด ไบคนทีสอ แก่นสน ชเอม
ทย ูมิปั
โกฐพุงปลา ว่านน�้ำ ดีปลี แห้วหมู ลูกมูกมัน ลูกผักชี ฃิงแห้ง ว่านเปราะ
สฆ้าน สรรพยา ๑๔ สิ่งนี้ท�ำเปนจุล บดลายลายน�้ำอ้อยแดง กินบ�ำบัดปถวี
แพ ภ
2 ก�ำเริบ
ธาตุให้โทศหายดีนัก ๚ ยาแก้เตโชธาตุ
ละ สรมิ หย่อน ขนานนี้ท่ารให้เอา พัดแผวแดง
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๓2-33
ก�ำเริบแลหย่อน ขนานนี้ท่านให้เอา รากเทียน ใบโลด ใบคนทีสอ แก่นสน ชะเอม
รแ งค
2
ธาตุให้โทษหายดีนัก ๚ ยาแก้เตโชธาตุก�ำเริบ ธาตุหย่อน ขนานนี้ท่านให้เอา ผักแพวแดง
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๓4-35
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๓4-35
4 ก�ำเริบ
วาโยธาตุให้โทศหายดีนัก ๚ ยาแก้อาโปธาตุ
หย่อน ขนานนี้ท่ารให้เอา ดีปลี รากช้าพลู
นไ
สฆ้าน เจตมูล ฃิงแห้ง ว่านน�้ำ ว่านเปราะ โกฐสอ มูกมัน ลูกกะดอม ลูกขี้กาแดง
ทย ูมิปั
สรรพยา ๑๑ สิ่งนี้ เอาสิ่งละ ๒ ท�ำเปนจุลบทลายน�้ำร้อน กินแก้อาโปธาตุให้โทศ
(3)
แพ ภ
หายนัก ๚ ล�ำดัพนี้จว่าด้วยธาตุทงง ๔ ก�ำเริบขึ้นในระดูเดือนขนาบขาบเกยี่ว
ลํม
(เสลด)
ละ สรมิ ดี
แลไข้ตามล�ำดับเดือนมี
ก�ำเดา ระคนกรรให้โทศนั้นสืบต่อไปตามล�ำดัพเรื่องดงงนี้ ๚
โลหิต
ยแ ง่ เ
6
๚ อันว่าลักษณะในเดือน ทั
10 งง ๓ เดือนนี้ คือปถวีธาตุหากให้ก�ำเริบ กระท�ำให้
ไท ะส
2
เสโทตกนัก ให้ไอ ให้เหยีร ให้จุกเสยีด ให้คลื่นในอุธร ๚ ถ้าจะแก้ท่ารให้เอา
รากะเทยีม ไบสเดา ไบคนทีสอ แก่นสน สรรพยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุล
ผน แล
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
หน้าที่ ๓4-35
พท มุ้ ค
4
วาโยธาตุให้โทษหายดีนัก ๚ ยาแก้อาโปธาตุก�ำเริบ ธาตุหย่อน ขนานนี้ท่านให้เอา
ดีปลี รากช้าพลู สะค้าน เจตมูล ขิงแห้ง ว่านน�้ำ ว่านเปราะ โกฐสอ มูกมัน
รแ งค
ลูกกระดอม ลูกขี้กาแดง
กอ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๓6-37
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๓6-37
นไ
8
2 12 ทั้ง ๓
บทลายน�้ำรอ้นกินแก้ปถวีธาตุก�ำเริบหายดีนัก ๚ อันว่าลักษณะในเดือน
ทย ูมิปั
4
เดือนนี้คืออาโปธาตุหากให้กำ� เริบ กระท�ำให้ผอมซีดเปนเพื่อฤศดวงเกิดเพื่อ
เสลดให้เดือดในอุธรดุจม่อเฃ้าเดือด ๚ ถ้าจะแก้ท่ารให้เอาเจตมูลเทยีรเยาวะ
แพ ภ
ภานี ลูกผักชี เปลือกมูกมัน สรรพยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุล บด
ละ สรมิ 5
9
ลายน�ำ้ รอ้นกินอาโปธาตุกำ� เริบให้โทศนั้นหาย ๚ อันว่าลักษณะในเดือน ทั ้ง ๓ เดือน
ยแ ง่ เ
1
ตีน
นี้ คือเตโชหากให้ก�ำเริบ กระท�ำให้รอ้นดุจน�้ำต้ม ให้เมื่อย ให้
มือ เปนหืดไอแล
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๓6-37
บดลายน�้ำร้อนกินแก้ปถวีธาตุก�ำเริบหายดีนัก ๚ อันว่าลักษณะในเดือน ๘ เดือน ๑๒ เดือน
รแ งค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๓8-39
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๓8-39
นไ
7
4 11
ให้โทศนั้นหาย ๚ อันว่าลักษณะในเดือน ท้ งง ๓ เดือนนี้ คือ วาโยธาตุ หากให้ก�ำ
ทย ูมิปั
3
มือ
เริบ กระท�ำให้ผอมให้
ตีน ดุจเพลิงเผา เมือลูกขึ้นนั่งให้มืดนามัวตา ๚ ถ้า
จะแก้ท่ารให้เอา+พริกไท เทยีรเยาวะภานี ลูกผักชี เปลือกมูกมัน สรรพยา ๔ สิ่งนี้
แพ ภ
เอาเสมอภาคท�ำเปนจุล บทลายน�้ำรอ้นกินแก้วาโยธาตุก�ำเริบนั้นหา+ยดีนัก ๚
ละ สรมิ
1 โลหิต
๚ ถ้าไข้บังเกิดในเดือนอ้า+ยนั้น เปนเพื่อ ระคนกรรให้ โทศ ๚ ถ้าจะแก้ท่ารให้เอา
ยแ ง่ เ
เสมหะ
พัดแพวแดง สฆ้าน ฃิงแห้ง พริกไท หอยขม สรรพยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาค
ไท ะส
โลหีต
ยแ์ รอง
ค�ำอ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๓8-39
ให้โทษนั้นหา ๚4 อันว่าลักษณะในเดือน ๗ เดือน ๑๑ เดือน ๓ ทั้ง ๓ เดือนนี้ คือวาโยธาตุ
รแ งค
หากให้กำ�
เริบ กระท�ำให้ผอมให้มือให้ตีนดุจเพลิงเผา เมื่อลุกขึ้นนั่งให้มืดหน้ามัวตา ๚ ถ้า
กอ
จะแก้ท่านให้เอา
ผักแพวแดง สะค้าน ขิงแห้ง พริกไทย หอยขม สรรพยา ๕ สิ่งนี้ เอาเสมอภาค
ท�ำเป็นจุณ บดละลายน�้ำผึ้งกินแก้ไข้ในเดือนอ้ายนั้นหาย 2๚ ถ้าไข้บังเกิดในเดือนยี่
นั้นเป็นเพื่อวาโย เพื่อโลหิต ระคนกันให้โทษ ๚ ถ้าจะแก้ท่านให้เอา จันทน์หอม
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๔0-41
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๔0-41
นไ
แก่นสน รากษเนยีด รากมตูม สมอทั้ง ๓ สรรพยา ๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้มกินแก้ไข้ใน
ทย ูมิปั
3 ก�ำเดา
เดือนญี่นั้นหาย ๚ ถ้าไข้บงงเกิดในเดือน ๓ นั้นเป็นเพื่อ ระคนกรรให้
เสมหะ
โทศ
๚ ถ้าจแก้ท่ารให้เอา รากบัวหลวง หัวกะเช้าผีมด หัวบัวฃม หัวแห้วหมู ฃิงแห้ง สรรพ
แพ ภ
4
ยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้มกินแก้ไข้ในเดือน ๓ นั้นหาย ๚ ถ้าบงงเกิด(ไข้) ในเดือน ๔
ละ สรมิ
ก�ำเดา
นั้นเปนเพื่อ ระคนกั นให้โทศ ๚ ถ้าจแก้ทารให้เอา แห้วหมู พัดแพวแดง
ยแ ง่ เ
วาโย
เทยีรด�ำ เทยีรขาว ลูกจัน+ท ดีปลี กระวาน การพลู หอมแดง กรรชา ทั้ง ๒ สรรพ
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๔0-41
แก่นสน รากเสนียด รากมะตูม สมอทั้ง ๓ สรรพยา ๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้มกินแก้ไข้ใน
รแ งค
4
ยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้มกินแก้ไข้ในเดือน ๓ นั้นหาย ๚ ถ้าบังเกิดไข้ในเดือน ๔
ยา ๑๑ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเป็นจุณบดละลายน�้ำผึ้งกินแก้ไข้เดือน ๔ นั้นหาย ๚
5
๚ ถ้าไข้บังเกิดขึ้นในเดือน ๕ นั้นเป็นเพื่อดีให้โทษ ๚ ถ้าจะแก้ท่านให้เอา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๔2-43
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๔2-43
นไ
บระเพชญ แห้วหมู ผักโหมหิน สหมอไท ญ่าตีนก โกฐก้ารพร้าว ดีปลี สมูลแว้ง สรรพ
ทย ูมิปั
ยา ๘ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุล บทลายน�้ำท่ากินแก้ไข้ในเดือน ๕ นั้นหายสิ้น
วิเสศนัก ๚ ถ้าไข้บงง+เกิดในเดือน ๖ นั้นเปนเพื่อก�ำเดาให้โทศ ๚ ถ้าจแก้ท่ารให้เอา
แพ ภ
ลูกเอ็น ว่านน�้ำ ว่านเปราะ ดีปลี ขิงแห้ง สฆ้าน นมพกฤษ กระวาน แห้วหมู โกฐ
ละ สรมิ
สอ โกฐพุงปลา สรรพยา ๑๑ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุลบทลายน�้ำรอ้น
ยแ ง่ เ
7 เสมหะ
กินแก้ไข้ในเดือน ๖ นั้นหาย ๚ ถ้าไข้บงงเกิดในเดือน ๗ นั้นเป็นเพื่อ ระคนกรร
วาโย
ไท ะส
กเพราว่านเปราะญ่ารงงกาไค้รเครือสรรพยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุล
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๔2-43
รแ งค
7
กินแก้ไข้ในเดือน ๖ นัน้ หาย ๚ ถ้าไข้บงั เกิดในเดือน ๗ นัน้ เป็นเพือ่ เสมหะ เพือ่ วาโย ระคนกัน
ให้โทษ ๚ ถ้าจแก้ท่านให้เอา ลูกจิงจ้อ ลูกช้าพลู สมอไทย เจตมูล ชะเอม ลูกมะขามป้อม
กะเพรา ว่านเปราะ หญ้ารังกา ไคร้เครือ สรรพยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเป็นจุณ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๔4-๔5
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๔4-๔5
นไ
8
บทลายน�้ำตานทรายกินแก้ไข้ในเดือน ๗ นั้นหาย ๚ ถ้าไข้บงงเกิดในเดือน ๘ นั้น
ทย ูมิปั
ดี
เปนเพื่อ ระคนกรรให้
ลม โทศ ๚ ถ้าจแก้ท่ารให้เอาแห้วหมู ดีปลี ฃิงแห้ง พริกไท
แฝกหอม ว่านเปราะ ว่านน�้ำ ลูกผักชีลอ้ม มูกหลวง รากเสยีด เกลือ สรรพยา
แพ ภ
๑๑ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุลบทลายน�้ำรอ้นกินแก้ไข้ในเดือน ๘ นั้นหายดีนัก ๚
ละ สรมิ
9 เสมห
๚ ถ้าไข้บงงเกิดในเดือน ๙ นั้นเปนเพื่อ ระคนกรรให้ โทศ ๚ ถ้าจแก้ท่ารให้เอา
ยแ ง่ เ
วาโย
บระเพชญ กพังโหม มแว้งท้งง ๒ ขี้กาแดง รากขัดเค้า รากจิ่งจ้อ เชือกเขาพรวน พริกไท
ไท ะส
รอัน
สรรพยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุล บทลายน�้ำ
จันท ก็ได้กินแก้+ไข้ในเดือน ๙
ดอกไม้
ผน แล
10 ดี
นั้นหาย ๚ ถ้าไข้บงงเกิดในเดือน ๑๐ นั้นเปนเพื่อ ระคนกรรให้
ก�ำเดา โทศ ๚๛
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๔4-๔5
8
บดลายน�ำ้ ตาลทรายกินแก้ไข้ในเดือน ๗ นั้นหาย ๚ ถ้าไข้บงเกิดในเดือน ๘ นั้น
รแ งค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๔6-47
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๔6-47
นไ
๚ ถ้าจแก้ท่ารให้เอา เปลือกสเดา ลูกะดอม บอรเพชฺญ ขี้กา+แดง ช้าพลู เทยีรเยาวภานี
ทย ูมิปั
โกฐหัวบัว ดีปลี ฃิงแห้ง กเทยีม สรรพยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้มกินแก้ไข้
เสมห
ในเดือน ๑๐ นั้นหาย ๚ ถ้าไข้บงงเกิดในเดือน ๑๑ นั้นเปนเพื่อ ระคนนกรร
แพ ภ
ลม
ให้โทศ ๚ ถ้าจะแก้ท่ารให้เอา ตรีผลา โกฐก้ารพร้าว ไบเสดา รากไค้รเครือ สรรพยา
ละ สรมิ
้ ร้ซ่อมนซ่า ก็ได้กินแก้ไข้เดือน ๑๑ หาย ๚
๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุล บทลายน�ำ
ยแ ง่ เ
2 ดี
๚ ถ้าไข้บังเกิดในเดือน ๑๒ นั้นเปนเพื่อ ระคนกรรให้
ลม โทศ ๚ ถ้าจแก้ท่ารให้เอา
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๔6-47
๚ ถ้าจะแก้ท่านให้เอา เปลือกสะเดา ลูกกะดอม บอระเพ็ด ขี้กาแดง ช้าพลู เทียนเยาวพาณี
รแ งค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 48-49
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 48-49
นไ
๚ ล�ำดัพนี้จว่าด้วยไข้บงงเกิดในระดู ๖ นั้นแลส�ำแลงธาตุท้งง ๔ ห้ามฃองแสลง
ทย ูมิปั
5
ใน ๓ ระดูนั้นสืบต่อไปว่าดงงนี้ ๚ ในกาลเมื่อเดือน ทั
6 ้ง+สองเดือนนี้ชื่อ คิมหรร
ตรรดู ถ้าไข้มีก�ำเดาแลโลหิตกล้า กระท�ำให้เสยดแทง ปวดมวนแล ให้เมื่อย
แพ ภ
ตีนมือ ให้อาเจยีร ให้จุกอก แลนอนมิ+หลับ จบริโภคอาหารก็มิรูจักรศ และ
ละ สรมิ
+
ให้คลั่งให้หลงใหล ๚ ถ้าจแก้ท่ารให้เอา ไบบระเพชญ แห้วหมู ผักโหมหิน
ยแ ง่ เ
สหมอไท รากทนดี ญ่าตีนนก โกฐก้ารพร้าว ดีปลี สมูละแว้ง สรรพยา ๙ สิ่งนี้เอาเสมอ
ไท ะส
2 7
ภาคท�ำเปนจุล บดลายน�้ำท่ากินแก้ไข้คิมหรรตรดูนั้น ๚ ในกาละเมื่อเดือน นั
8 ้น
ก�ำเดา
ท้งงสองเดือนนี้ชื่อ+วัศศรรตรดู ถ้าไข้บงงเกิดเปนเพื่อ กล้ า กระท�ำให้เมื่อย
ผน แล
ลม
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 48-49
๚ ล�ำดับนี้จะว่าด้วยไข้บังเกิดในฤดู ๖ แลส�ำแดงธาตุทั้ง ๔ ห้ามของแสลง
รแ งค
ตีนมือให้อาเจียน ให้จุกอกแลนอนมิหลับจะบริโภคอาการก็มิรู้จักรสและ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๕0-51
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๕0-51
นไ
ทัวสารพางกาย ให้หลงใหล ให้คลั่งให้จุกอกดังไครเอาสีลามาทับไว้ ถ้าจหายใจ
ทย ูมิปั
ส�่ำ
ก็ให้เจบอุระ แลให้ระ เปนวิ
สาย บัติต่าง ๆ ดงงนี้ ๚ ถ้าจแก้ท่ารให้เอา สหมอ
ไท แห้วหมู โกฐก้ารพร้าว รากไค้รเครือ บรเพชฺญ ญ่าตีนนก ดีปลี รากทนดี
แพ ภ
ผักโหมหิน สรรพยา ๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุล บทลายน�้ำกะสายต่าง ๆ
ละ สรมิ
3 9
กินแก้ไข้ในวัศศรตรดูนั้น ๚ ในกาละเมื่อเดือน ท้ งงสองเดือนนี้ชื่อวสาร
ยแ ง่ เ
10
ตระดู ถ้าไข้บงงเกิดเปนเพื่อเสหมะกล้า กระท�ำให้ขัดนักอุระ ดงงบุทคล
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๕0-51
ทั่วสารพางค์กาย ให้หลงใหล ให้คลั่ง ให้จุกอกดังใครเอาศิลามาทับไว้ ถ้าจะหายใจ
รแ งค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 52-53
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 52-53
นไ
เอาเสมอภาคท�ำเปนจุล บทลายน�ำ้ รอ้นกินแก้ไข้ในวัศ+สารตรดูนั้นหาย ๚
4 เสลด
ทย ูมิปั
๚ ในกาละเมื่อเดือน ท้
11
12
ง งสองเดื อ นนี ช
้ อ
่ ื สรทะรดู ถ า
้ ไข้ เ ปนเพื อ
่ กั
ลม ลา คือ
ดี
แพ ภ
ให้บังเกิดโรค+ยในอุระ ให้รากแลให้เปนบิด แลให้ร้อนในตัวในใส้ ให้เจบทุก ข้อ
กระดูก
ดังจหลุดลู่ยออก ๚ ถ้าจะแก้ท่ารให้เอา ตรีกตุก ตรีผาลา โกฐก้ารพร้าวไบส
ละ สรมิ
้ รอัสุราน ก็ได้
ยแ ง่ เ
เดา รากไค้รเครือ สรรพยา ๙ สิ่งนี้เอา เสมอภาคท�ำเปนจุล บทลายน�ำ
กินแก้ไข้ในสรทระดูนั้น ๚5 ในกาลเมื่อเดือน ท้
1
งงาสองเดือนนี้ชื่อเหมันตรดู
ไท ะส
2
ข้อ
ถ้าไข้บังเกิดเปนเพื่อวาโยกล้า กระท�ำให้เจบสรรหลังทุก ดุ
กระดูก จบั้นเอวจหลุด
ผน แล
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 52-53
เอาเสมอภาคท�ำเป็นจุณ บดละลายน�้ำร้อนกินแก้ไข้ในวัสสานฤดูนั้น หาย ๚
รแ งค
4
๚ ในกาลเมื่อเดือน ๑๑ เดือน ๑๒ ทั้งสองเดือนนี้ชื่อสรทฤดู ถ้าไข้เป็นเพื่อเสลดกล้า
เพื่อลมกล้า เพื่อดีกล้า คือ
กอ
5
กินแก้ไข้ในสรทฤดูนั้น ๚ ในกาลเมื่อเดือน ๑ เดือน ๒ ทั้งสองเดือนนี้ชื่อเหมันตฤดู
ถ้าไข้บังเกิดเพื่อวาโยกล้า กระท�ำให้เจ็บสันหลังทุกข้อ ทุกกระดูก ดุจบั้นเอวจะหลุด-
ลุ่ยออกไป เป็นดุจเข้าอยู่ระหว่างเข้าตรีโทษ ๚ ถ้าจะแก้ท่านให้เอา บอระเพ็ดหญ้า-
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๕4-55
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๕4-55
นไ
ตีนนก แห้วหมู นมพิจิตร ฃิงแห้ง สรรพยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอ+ภาคท�ำเปนจุล บดลายน�้ำ
6 3
ทย ูมิปั
มแว้งเครือ กินแก้ไข้ในเหมรรตรดู
ลม
น น
้ ั ๚ ในกาลเมื่อเดือน ท้
4 งงสองเดือนนี้
ฝก
ชื่อสสิระ+รดู ถ้าไข้เปนเพื่อ กล้
เสลด
ก�ำเดา
าเปนก�ำลัง กระท�ำให้
บวม ให้หูท้งงสองค่าง
แพ ภ
นั้นเปนหนองเน่าไหลออกมาให้เหมน ๚ ถ้าจแก้ท่ารให้เอา ลูกกะดอม กะเทยีม
ละ สรมิ
ไพล ว่านน�้ำ เทยีรเยาวภานี ตุมกาเครือ ชีสมแล้ว ว่านร่อนทอง สรงกะระนี สรรพยา ๙ สิ่ง
ยแ ง่ เ
นี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุล บทลายน�ำ้ ฃิงกินแก้ไข้ในสสิระ+รดูนั้น ถ้า+จะแก้สท้านลายน�้ำ
รอ้นแทรกพริกไท ๙ เมตกิน ถ้าแก้รอ้นลายน�้ำญ่าตุดตู่ จนน+ทท้งง ๒ ต้มกิน
ไท ะส
1
มง่วง กินแก้โทศในสสิรรดูนั้น ๚ 5
ถ้าจะแก้เสมหะแลไข้เพื่อเสมหะลายน�้ำ
ซ่มซ่า
อนึ ง
่ ใน เดื
6 อน
ผน แล
คำ�อ่าน
ยแ์ รอง
หน้าที่ ๕4-55
พท มุ้ ค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๕6
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๕6
นไ
ท้งง ๓ เดือนนี้พยาธิบงงเกิดด้วยอาหารแรมคืนอรรบุทคลหากบ ริโภคเปน
ทย ูมิปั
ลักษณะแห่งเตโชธาตุให้โทศ ครืกระท�ำให้เย็นจลูกจนั่งก็ให้ปวดอยู่ในอุธร
หน มือ
ให้รอ้นกระ แลให้ ล มแล่ น ไปในล�
ำ ไส้ แ ลในอุ ท รให้
ตีน ส่รรอยู่มิได้ฃาต
แพ ภ
หาย
ละ สรมิ
ดังงนี้ อาจาริยพึงส�ำแดงว่าเตโชธาตุถอย ๚ ถ้าจะแก้ท่ารให้เอา ลูกเอน
ยแ ง่ เ
คำ�อ่าน
ไท ะส
หน้าที่ ๕6
ผน แล
ลักษณะแห่งเตโชธาตุให้โทษ คือกระท�ำให้เย็นจะลุกจะนั่งก็ให้ปวดอยู่ในอุทร
ให้ร้อนกระหนกระหาย แลให้ลมแล่นไปในล�ำไส้แลในอุทรให้มือสั่น ตีนสั่นอยู่มิได้ขาด
พท มุ้ ค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 57
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๕7
นไ
โกฐสอ โกฐพุงปลา ว่านน�้ำ ว่านเปราะ ดีปลี แห้วหมู เปลือกมูกมัน ลูก
ทย ูมิปั
ผักชี ฃิงแห้ง+ยาทั้งนี้สิ่งละส่วน สะฆ้าน ๑๐ ส่วน+สรรพยา ๑๑ สิ่งนี้
เอาเสมอภาค+ยท�ำเปนจุลบท
แพ ภ
2 8
ลายน�้ำผึ้งกินแก้เตโชธาตุให้โทศนั้นหายดีนัก ๚ อนึ่งในเดือน ทั
ละ สรมิ 9
10
้ง ๓ เดือน
้ เน่ขุ่นา เปนลักษณะแห่งวาโยธาตุให้โทศ คือกระท�ำให้ผอม
นี้ พยาธิบงเกิดด้วยกินน�ำ
ยแ ง่ เ
คำ�อ่าน
ไท ะส
หน้าที่ ๕7
ผน แล
ทัง้ ๓ เดือน
นี้ พยาธิบังเกิดด้วยกินน�ำ้ เน่า น�้ำขุ่น เป็นลักษณะแห่งวาโยธาตุให้โทษ คือกระท�ำให้ผอม
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
หน้าที่ 58-59
พ์ นื ้ ญญ
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 58-59
หน ข้าว
นไ
ให้ตัวฃาวซีดแลเหลืองไปให้ตัวนั้นเย็นให้หายใจกระ ให้
หาย เหมน ไม่
น�้ำ รู้
ทย ูมิปั
จักรษ ให้เหมนเปนบุบโพโลหิต แลให้เปนไข้จับดงงนี้ อาจาริยส�ำแดงว่า+วาโยธาตุ
แพ ภ
ถอย ๚ ถ้าจแก้ท่ารให้เอา ดีปลี มูกหลวง หอม ลูกผักชีล้อม แฝกหอม
รากเสนียด แห้วหมู ว่านเปราะ พริกไท ฃ่า เกลือ สรรพยา ๑๒ สิ่ง
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
เอาเสมอภาค+ยท�ำเปนจุล บทลายน�้ำรอ้นกินแก้วาโยธาตุถอยนั้นหายดีนัก ๚
3 11
๚ อนึ่งในเดือน ท้ งง ๓ เดือนนี้ พยาธิบงงเกิดด้วยกินผัก+แกงเลยีง เปน
ไท ะส
12
1
ผน แล
ลักษณะแห่งอาโปธาตุระคนวาโยก�ำเริบให้โทศ คือกระท�ำให้เจบที่ตัวท้งงปวง
มือ
แลบงงเกิดโรค+ยให้ไอจามให้บวม ให้ เปนวัดแลจไคร่แต่นอนดังงนี้
ยแ์ รอง
ตีน
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 58-59
รแ งค
เอาเสมอภาคท�ำเป็นจุณ บทลายน�้ำร้อนกินแก้วาโยธาตุถอยนั้นหายดีนัก ๚
กา
3
๚ อนึ่งในเดือน ๑๑ เดือน ๑๒ เดือน ๑ ทั้ง ๓ เดือนนี้ พยาธิบังเกิดด้วยกินผักแกงเลียง
เป็นลักษณะแห่งอาโปธาตุระคนวาโยก�ำเริบให้โทษ คือกระท�ำให้เจ็บที่ตัวทั้งปวง
แลบังเกิดโรคให้ไอจามให้บวมมือบวมตีน ให้เป็นหวัดแลจะใคร่แต่นอนดังนี้
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๖0-61
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
หน้าที่ ๖0-61
พ์ นื ้ ญญ
อาจาริยเจาส�ำแดงว่าอาโปธาตุระคนวาโยธาตุก�ำเริบให้โทศ ๚ ถ้าจะแก้ท่าร
นไ
ให้เอา เจตมูล โกฐสอ ลูกผักชีล้อม ฃิงแห้ง ดีปลี ลูกมตูมอ่อน สรรพยา ๖ สิ่งนี้เอา
ทย ูมิปั
เสมอภาค+ยท�ำเปนจุล บทลายน�ำ้ รอ้นกินแก้โรค+ยอันเกิดแต่เพราะอาโปธาตุก�ำเริบหาย
4 2
นัก ๚ อนึ่งในเดือน ท้ งง ๓ เดือนนี้ พยาธิบงงเกิดด้วยนอกนัก เปนลักษณ
แพ ภ
3
4
ละ สรมิ เข้า
แห่งปถวีธาตุก�ำเริบให้โทศ คือกระท�ำให้+หยาก เช้ หลัง
าให้เจบ นั กลมนี้ก�ำเนิด
น�้ำ อุธร
วาตรีสารให้บงงเกิดเพื่อเพลิงธาตุท้งง ๔ นั้น ก็เกิดโรค+ยขึ้นพร้อมกันดงงนี้
ยแ ง่ เ
พรอาจาริยเจาส�ำแดงว่าโรค+ยนั้นเปนเหตุเพื่อปถวีธาตุก�ำเริบ ๚ ถ้าจะแก้
ไท ะส
คำ�อ่าน
ยแ์ รอง
หน้าที่ ๖0-61
พท มุ้ ค
อาจารย์เจาส�ำแดงว่าอาโปธาตุระคนวาโยก�ำเริบให้โทษ ๚ ถ้าจะแก้ท่าน
ให้เอา เจตมูล โกฐสอ ลูกผักชีล้อม ขิงแห้ง ดีปลี ลูกมะตูมอ่อน สรรพยา ๖ สิ่งนี้เอา
รแ งค
พระอาจารย์เจาส�ำแดงว่าโรคนั้นเป็นเหตุเพื่อปถวีธาตุก�ำเริบ ๚ ถ้าจะแก้
ท่านให้เอา กระเทียม ใบสะเดา ใบคนทีสอ เทพทาโร สรรพยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๖2-63
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๖2-63
นไ
ภาค + ยท�ำเปนจุล บทลายน�ำ้ ฃิงกินแก้โรค+ยอันเกิดเพราะปถวีธาตุก�ำเริบนั้นหาย
ทย ูมิปั
๚ อนึ่งว่าลักษณะโรค+ยบงงเกิดเพราะก�ำเดานั้นไช่กาลผมจงอก+ก็งอก ไช่กาลอันหูจะ
นวกก็นวก แลให้บวมนอกหูเหนเปล่งอยู่ดงงนี้ ๚ ถ้าจะแก้ท่ารให้เอา แห้วหมู
แพ ภ
แฝกหอม ว่านเปราะ สาระไม้ หอมทั้ง ๓ โกฐก้ารพร้าว โกฐสอ ลูกจัน+ท ดอกจันท
ละ สรมิ
การพลู จันนทั้ง ๒ เนระภูษรี ลูกผักชีล้อม ผักปอดทั้ง ๒ ดอกพิกูล ดอก
ยแ ง่ เ
บูญนาค ดอก+กระดังงา ดีงูเหลือม ชะมด ภีมเสน สรรพยา ๒๓ สิ่งนี้เอาเสมอภาคย
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๖2-63
ภาคท�ำเป็นจุณ บดละลายน�ำ้ ขิงกินแก้โรคอันเกิดเพราะปถวีธาตุก�ำเริบนั้นหาย
รแ งค
๚ อนึ่งอันว่าลักษณะโรคอันบังเกิดเพราะก�ำเดานั้น ใช่กาลผมจะหงอกก็หงอกใช่กาลอันหูจะ
หนวกก็หนวก แลให้บวมนอกหูเห็นเปล่งอยู่ดังนี้ ๚ ถ้าจะแก้ท่านให้เอา แห้วหมู
กอ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๖4-65
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๖4-65
นไ
แก้โรค+ยนั้นจึ่งหาย ๚1 อนึ่งถ้าไข้แต่ในเพลาเช้าไปถึง ๔ โมงนั้น เปนก�ำลังเสมห
ทย ูมิปั
ให้แก้ด้วยดีปลีระคนด้วยเกลือสินเทา ๚2 อนึ่งถ้าไข้แต่เพลา ๕ โมงไปถึง
3
บ่าย ๒ โมงนั้นเปนก�ำลังก�ำเดา ให้แก้ด้วยฃิงระคนด้วยเกลือสินเทา ๚
แพ ภ
อนึ่งถ้าไข้แต่เพลาบ่าย ๓ โมงไปจนถึงย�่ำค�่ำนั้นเปนก�ำลังลม ให้แก้
ละ สรมิ
4
ด้วยพริกไทระคนด้วยเกลือสินเทา ๚ อนึ่งถ้าไข้แต่เพลาย�่ำค�่ำไปจนถึง ๔ ทุ่ม
ยแ ง่ เ
นั้นเปนก�ำลังเสมหะ ให้แก้ด้วยมฃามป้อมระคนด้วยเกลือสินเทา ๚5 อนึ่ง
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๖4-65
1
แก้โรคนั้นจึงหาย ๚ อนึ่งถ้าไข้แต่ในเพลาเช้าไปถึง ๔ โมงนั้น เป็นก�ำลังเสมหะ
รแ งค
2
ให้แก้ด้วยดีปลีระคนด้วยเกลือสินเธาว์ ๚ อนึ่งถ้าไข้แต่เพลา ๕ โมงไปถึง
3
บ่าย ๒ โมง นั้นเป็นก�ำลังก�ำเดา ให้แก้ด้วยขิงระคนด้วยเกลือสินเธาว์ ๚
กอ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๖6-67
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๖6-67
นไ
แหงลม ให้แก้ด้วยสหมอชื่อว่าอัพ ยาระคนด้วยเกลือสินเทา ถ้า
เสมห 1
ทย ูมิปั
ก�ำเดา ท้งง ๓ นี้+เอายาตามระดูมาแก้เถิด ๚ ยาแก้เสมะ ขนานนี้ท่ารให้เอา มฃาม
จะแก้
ลม
แพ ภ
ป้อม ๒ สหมอพิเภก ๑ สหมออัพยา ๒ เกลือสินเทา ๒ สรรพยา ๔ สิ่งนี้
2
ท�ำเปนจุล บทลายน�้ำฃิงกินแก้เสมห ดีนัก ๚ ยาแก้ก�ำเดาขนานนี้ท่ารให้เอา
ละ สรมิ
สหมอพิเภก ๒ สหมออัพยา ๑ มฃามปอ้ม ๒ เกลือสินเทา ๒ สรรพยา
ยแ ง่ เ
3
๔ สิ่งนี้ทำ� เปนจุล บทลายน�้ำดอกไม้กินแก้ก�ำเดาดีนัก ๚ ยาแก้ลมขนานนี้
ไท ะส
คำ�อ่าน
หน้าที่ ๖6-67
พท มุ้ ค
ขนานนี้ท่านให้เอามะขาม
กอ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 68-69
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 68-69 5
6 ออ้ย
นไ
๚ ถ้าไข้ในเดือน ท้
7 งง ๔ เดือนนี้ ห้ามอย่าให้กินน�้ำ
ตาล แลผล ไม้อันหวาน
8
ทย ูมิปั
9
2 10
แลอย่าให้อาบน�้ำฝน ๚ ถ้าไข้ในเดือน ท้
11
12 งง ๔ เดือนนี้ ห้ามอย่า
แพ ภ
3 1
ให้กินเนื้อดิบแลปลาเกลดมิได้ ๚ ถ้าไข้ในเดือน ท้
2
3
งง ๔ เดือนนี้ ห้ามอย่า
4
ละ สรมิ
ให้กินมพร้าว แลน�ำ้ มันถั่วงา แลปลาอันมันแลอ้อยดงงนี้ ๚ อนึ่งให้พิจาระนา
ยแ ง่ เ
สิ่งอันใดมีก�ำลังก่วาสิ่งท้งงปวง จึงเอายาซึ่งแก้สิ่งนั้นมาทวีขึ้นให้มากกว่า
1
ผน แล
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 68-69
รแ งค
๚ ถ้าไข้ในเดือน ๕ เดือน ๖ เดือน ๗ เดือน ๘ ทัง้ ๔ เดือนนี้ ห้ามอย่าให้กนิ น�ำ้ อ้อยน�ำ้ ตาลแลผลไม้อนั หวาน
2
แลอย่าให้อาบน�ำ้ ฝน ๚ ถ้าไข้ในเดือน ๙ เดือน ๑๐ เดือน ๑๑ เดือน ๑๒ ทัง้ ๔ เดือนนีห้ า้ มอย่า
กอ
3
ให้กนิ เนือ้ ดิบแลปลาหาเกล็ดมิได้ ๚ ถ้าไข้ในเดือน ๑ เดือน ๒ เดือน ๓ เดือน ๔ ทัง้ ๔ เดือนนีห้ า้ มอย่า
ให้กินมะพร้าว แลน�ำ้ มันถั่วงา แลปลาอันมันแลอ้อยดังนี้ ๚ อนึ่งให้พิจารณา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๗0-71
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๗0-71
นไ
พริกไท บรเพชฺญ แห้วหมู ญ่าตีนนก รากมแว้งต้น ดีปลี รากไคร้
ทย ูมิปั
เครือ สรรพยา ๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาค+ยท�ำเปนจุล บทลายน�้ำรอ้น
กินหนัก ๑ แก้ไข้เพื่อลมให้สบัดรอ้นสท้าน+หนาว วิงเวยีนให้ปากฝาด
แพ ภ
2
แลกระหายน�ำ้ นั้นหายดีนัก ๚ ถ้าไข้ ๔ วันไปจน ๗ วันท่ารให้เอา พริกไท ราก
ละ สรมิ
ไคร้เครือ บ รเพชฺญ ลูกมูกมัน สังกระนี ฃิงแห้ง รากมแว้งท้งง ๒ สรรพยา
ยแ ง่ เ
ร้อน
๘ สิ่งนี้เอาเสมอภาค+ยท�ำเปนจุล บทลายน�้ำร้อนกินแก้ไข้เพื่อลม ให้สะท้าน
ห+นาว
ไท ะส
3
แก้วิงเวยีน แก้กระหายน�้ำแก้กินเฃ้าไม่ได้นั้นหาย ๚ ถ้าไข้วัน ๑ ไปถึง ๗ วัน
ท่ารให้เอา ฃิงแห้ง ไบสะเดา จันทฃาว ญ่าตีนนก รากไคร้เครือ สรรพยา
ผน แล
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๗0-71
พริกไทย บอระเพ็ด แห้วหมู หญ้าตีนนก รากมะแว้งต้น ดีปลี รากไคร้
รแ งค
2
แลกระหายน�ำ้ นั้นหายดีนัก ๚ ถ้าไข้ ๔ วันไปจน ๗ วันท่านให้เอา พริกไทย ราก
3
แก้วิงเวียน แก้กระหายน�้ำแก้กินข้าวไม่ได้นั้นหาย ๚ ถ้าไข้วัน ๑ ไปถึง ๗ วัน
ท่านให้เอา ขิงแห้ง ใบสะเดา จันทน์ขาว หญ้าตีนนก รากไคร้เครือ สรรพยา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๗2-73
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๗2-73
นไ
๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาค+ยท�ำเปนจุล บทลายน�้ำรากเสนยีด ต้มกินนัก ๑ แก้ไข้
ทย ูมิปั
เพื่อก�ำเดา ไม่เปนอันที่จะนอน+หลับให้ม+เมอให้อาเจยีนโลหิตออกแลแกปาก
4
หายดีนัก ๚ ถ้าไข้ ๗ วันไปจนถึง ๑๔ วัน ท่ารให้เอา ยาอันชื่อว่าปโตลาทิคุณ
แพ ภ
นั้นแก้ ยาปโตลาทิคุณขนานนี้ท้ารให้เอา ฃิงแห้ง ๒ ฝักราชพฤก ๒ ลูก
ละ สรมิ
กดอม ๑ เปลือกปค�ำดี+กระบือ ๑ สฆ้าน ๑ รากเสนียด ๑ จัน+ทฃาว ๑
ยแ ง่ เ
แฝกหอม ๑ ลูกผักชีลอ้ม ๑ แห้วหมู 1 บรเพชฺญ ๑ ลูกมตูมอ่อน ๑
ไท ะส
4
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๗2-73
๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเป็นจุณ บดลายน�้ำรากเสนียด ต้มกินหนัก ๑ สลึง แก้ไข้
รแ งค
เพื่อก�ำเดา ไม่เป็นอันที่จะนอนหลับให้ละเมอให้อาเจียนโลหิตออกแลแก้ปาก
4
หายดีนัก ๚ ถ้าไข้ ๗ วันไปจนถึง ๑๔ วัน ท่านให้เอายาอันชื่อว่าปโตลาทิคุณ
กอ
กระดอม ๑ สลึง เปลือกประค�ำดีกระบือ ๑ สลึง สะค้าน ๑ สลึง รากเสนียด ๑ สลึง จันทน์ขาว ๑ สลึง
แฝกหอม ๑ สลึง ลูกผักชีล้อม ๑ สลึง แห้วหมู ๑ สลึง บอระเพ็ด ๑ สลึง ลูกมะตูมอ่อน ๑ สลึง
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 74-75
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 74-75
นไ
5
ก็ดี แก้ทังเมื่อยขนจุกเสยีดแลแก้โลหิตหายดีนัก ๚ ถ้าไข้เพื่อเสมหะแต่
ทย ูมิปั
วัน ๑ ถึง ๔ วัน ท่ารให้เอา ดีปลี โกฐก้ารพร้าว โกฐพุงปลา สมุละแว้ง
สรรพย่า ๔ สิ่งนี้เอาเส่ม่อภาคกท�ำเปนจุลบ่ทลายน�้ำผึ้งกับน�้ำมนาวระคน
แพ ภ
เช้า
กันกีน แก้
เยน
ละ สรมิ ไข้เพื่อเสมหะ แก้หอบหายใจขัดแลอาเจยีรแก้ปากหวานและ
6
กินเฃ้ามิได้นั้นหาย ๚ ถ้าไข้แตวัน ๑ ไปถึง ๗ วันท่ารให้เอา ดีปลี บ รเพชฺญ
ยแ ง่ เ
เทพ+ยธาโร รากมแว้งต้น รากไคร้เครือ รากลหุ่ง รากผักโหมหิน สรรยา ๗ สิ่งนี้เอา
ไท ะส
หนาว
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 74-75
5
ก็ดี แก้ทั้งเมื่อยขบจุกเสียดแลโลหิตหายดีนัก ๚ ถ้าไข้เพื่อเสหมะแต่
รแ งค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๗6-77
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๗6-77
นไ
ล�ำดัพนี้จะว่าด้วยเบญ+จกูลประจ�ำธาตุต่อไป ๚ อนึ่งท่ารให้ตั้งอายุศมบุทคลลงเอาเนาวะ
ดิน 20
ทย ูมิปั
ทะวารบวก แล้วตั้งไว้เปน ๔ ถานเอาธาตุ
น�้ำ 12 คูณทั้ง ๔ ถานเอาเบญ+จขันธ์
ลม 6
ไฟ 4
แพ ภ
1
หารท้งง ๔ ถาร ถ้าถานใดออกเลศดังนี้
ละ สรมิ 3 ถานนั้น+หย่อน ให้ประกอบเบญ+จกูล
0
1
บ�ำรุงธาตุขึ้นให้เสมอกัน จึงจควร ๚ ถ้าเพลิงธาตุ+หย่อนท่ารให้เอาพริกไท ๑ ฃิง ๒
ยแ ง่ เ
4
ดีปลี ๘ ช้าพลู ๑๖ กินแก้ธาตุน�้ำห+ย่อน ๚ ถ้าธาตุลม+หย่อนท่ารให้เอา พริกไท ๑
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๗6-77
ล�ำดับนี้จะว่าด้วยเบญจกูลประจ�ำธาตุต่อไป ๚ อนึ่งท่านให้ตั้งอายุบุคคลลงเอานว-
รแ งค
ทวารบวก แล้วตัง้ ไว้เป็น ๔ ฐาน เอาธาตุดนิ ๒๐ ธาตุนำ �้ ๑๒ ธาตุลม ๖ ธาตุไฟ ๔ คูณทัง้ ๔ ฐาน เอาเบญจขันธ์
กอ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 78-79
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 78-79
นไ
ฃิง ๒ เจตมูล ๓ ช้าพลู ๔ ดีปลี ๘ สฆ้าน ๑๖ กินแก้ธาตลม+หย่อน อันว่าเบญ+จกูล
ทย ูมิปั
ทั้ง ๔ ขนานนี้ต้มก็ได้ทำ� ผงก็ได้ส�ำหรับธาตุทั้ง ๔+หย่อนดีนัก ๚ ถ้าแลบุทคลผู้ใด
ปรากฏหนาจเปนแพทย พึงสึกษาให้รใู้ นลัก+ษณะธาตุทงั้ ๔ แลระดูแลกาลกองแห่งโรค+ยแลกองสมุฐาน
แพ ภ
(นั้น)แล้วให้รู้ซึ่งเบญ+จกูล ดุจในยอันกล่าวมานีจึงจควร ๚1 ยาชื่อเบญ+จกูลเสมอภาค
ละ สรมิ
ขนานนี้ท่ารให้เอา ช้าพลู ๑ สฆ้าน ๑ ฃิงแห้ง ๑ ดีปลี ๑ เจตมูล ๑ สรรพยา ๕ สิ่ง
นี้ต้มก็ได้ท�ำผงก็ได้ กินส�ำหรับธาตุประจ�ำในคิมหรรตรดูดีนัก ๚2 ยาเบญ+จกูลแทรก
ยแ ง่ เ
ขนานนี้ท่ารให้เอา ช้าพลู ๑ สฆ้าน ๑ ฃิงแห้ง ๑ ๑ ดีปลี ๒ เจตมูล ๑ ๒ สรรพ
ไท ะส
คำ�อ่าน
ยแ์ รอง
หน้าที่ 78-79
พท มุ้ ค
ปรารถนาจะเป็นแพทย์ พึงศึกษาให้รู้ในลักษณะธาตุทั้ง ๔
แลฤดูแลกาลกองแห่งโรคแลกองสมุฏฐาน
กอ
ขนานี้ท่านให้เอา ช้าพลู ๑ เฟื้อง สะค้าน ๑ สลึง ขิงแห้ง ๑ สลึง ๑ เฟื้อง ดีปลี ๒ สลึง
เจตมูล ๒ สลึง ๑ เฟื้อง สรรพ
ยา ๕ สิ่งนี้ต้มก็ได้ ท�ำผงก็ได้ กินส�ำหรับธาตุประจ�ำในวัสสานฤดูดีนัก
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 80-81
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 80-81
นไ
๚ ยาชื่อเบญ+จกูลโสฬศ ขนานนี้ท่ารให้เอา ช้าพลู ๒ สฆ้าน ๓ ฃิงแห้ง ๔ ดีปลี ๕ เจต
ต้ม
ทย ูมิปั
มูล ๘ สรรพยา ๕ สิ่งนี้
ท�ำผง ก็ได้ ส�ำรับประจ�ำในเหมันตรดูดีนัก ๚ ยาชื่อ
สาธุเบญจกูล ขนานนี้ท่ารให้เอา สฆ้าน ๑ ช้าพลู ๒ ฃิงแห้ง ๓ ดีปลี ๔ เจตะ
แพ ภ
ต้ม
มูล ๕ สรรพยา ๕ สิ่งนี
ละ สรมิ ้ ท�ำผง ก็ได้ กินแกจุกเสยีดแลลมปะจุบัน ถ้าจะ
โดยอันควรกับโรคานุโรคยแลควรกับระดูแลการแลเพลานั้น ก็อาจบ�ำบัด
ผน แล
คำ�อ่าน
ยแ์ รอง
หน้าที่ 80-81
พท มุ้ ค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 82-83
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 82-83
นไ
โรค+ยทั้งปวงนั้นได้ดีนัก ๚ ยาชื่อมหาสาธุเบญ+จกูล ขนานี้ท่ารให้เอา ช้าพลู ๒ สฆ้าน ๓
ทย ูมิปั
ต้ม
ฃิงแห้ง ๖ ดีปลี ๘ เจตมูล ๑๖ พริกไทเท่ายาทั้งหลายสรรพยา ๖ สิ่งนี้
ท�ำผง ก็ได้
น�ำ้ ขิง
ถ้าจะแก้ตัวรอ้นสรรนิบาตลาย กิ น ถ้าจะแก้พรรดึกลายน�ำ ตรีผลาต้ม
แพ ภ
ข่า
สรร+พกระสายตามแต่จะยักย้ายเอาเถิด ๚ ยาชื่อมหิทธิมหาสาธุเบญ+จกูลขนานนี้
ละ สรมิ
ต้ม
ท่ารให้เอา ฃิง ๑ สฆ้าน ๒ เจตมูล ๓ ช้าพลู ๔ (ดีปลี ๕) สรรพยา ๕ สิ่งนี้
ท�ำผง ก็ได้
ยแ ง่ เ
กินแก้ลง ๘ จ�ำพวกแก้เสมห ๒ จ�ำภวกแก้จ�ำเริญอัคนีผล ถ้าจะแก้พรรดึก
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 82-83
โรคทั้งปวงนั้นได้ดีนัก ๚ ยาชื่อมหาสาธุเบญจกูล ขนานนี้ท่านให้เอา ช้าพลู ๒ สะค้าน ๓
รแ งค
สรรพกระสายตามแต่จะยักย้ายเอาเถิด ๚ ยาชื่อมหิทธิมหาสาธุเบญจกูลขนานนี้
ท่านให้เอา ขิง ๑ สะค้าน ๒ เจตมูล ๓ ช้าพลู ๔ ดีปลี ๕ สรรพยา ๕ สิ่งนี้ ต้มก็ได้ ท�ำผงก็ได้
กินแก้ลง ๘ จ�ำพวกแก้เสหมะ ๒ จ�ำพวกแก้จ�ำเริญอัคนีผล ถ้าจะแก้พรรดึก
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 84-85
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 84-85
นไ
1
ขนานนี้ท่ารให้เอา สฆ้าน ๒ ช้าพลู ๑ ดีปลี 2 ฃิงแห้ง ๒ เจตมูล ๑ สรรพยา ๕ สิ่ง
ทย ูมิปั
เช้า
นี้ทำ� เปนจุล ถ้าจแก้เพลิงธาตุมิเสมอกรรลายน�้ำแกง ยากินทุกวัน ถ้
เย็น า
กเทียม ผิวมกรูด
จะแก้ลมกาศคูณ(ลาย)น�้ำ ก็ได้ ถ้าจะแก้ลมปัตฆาฏ ลายสุรากินแทรก
แพ ภ
สุรา มหาหิง
น้อย+หนึ่งกิน ถ้าจะแก้ลมอัคนีวาต แลลมอันเกิดมาแต่ปลายท้าวแลให้เยนไปย
ละ สรมิ
ต�ำระคางห+นึงก็ดี เอามแว้งท้งง ๒ สมูละแว้ง มเขื่อขื่น เทยีนท้งง ๕ สรรพ
ยแ ง่ เ
ยา ๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุล บทกับเบญ+จกูล ลายน�้ำผึ้งเกลือร�ำหัด
ไท ะส
คำ�อ่าน
หน้าที่ 84-85
พท มุ้ ค
ขนานนี้ท่านให้เอา สะค้าน ๒ สลึง ช้าพลู ๑ บาท ดีปลี ๑ บาท ๒ สลึง ขิงแห้ง ๒ บาท
เจตมูล ๑ ต�ำลึง สรรพยา ๕ สิ่ง
รแ งค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 86-87
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 86-87
นไ
เอา มกรูด ไบคนทีสอ รากจิ่งจ้อ รากตองแตก หัศคูนเทษ เปล้าท้งง ๒ มหา
ทย ูมิปั
หิง ยาด�ำ สรรพยา ๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาค ให้ฆ่าหัศคุณด้วยน�้ำมนาว ให้ฆ่า
จิงจ้อ
เปล้าด้วยน�้ำเปลือกคนทา ให้ฆ่าราก ด้ วยน�้ำผักคราด ให้ฆ่า(มหา) หิงด้วย
แพ ภ
ตองแตก
น�้ำกเทยีม แล้วกระท�ำให้เปนจุล บทลายน�้ำกระสายต่าง ๒ กินแก้วาโยธาตุ
ละ สรมิ
โลหิต แก้บิดวิเศศนัก อันนี้ชื่อโศฬศมาตลุงเบญ+จกูลนะรายณ์ ๚ ล�ำดับนี้จกล่าว
ยแ ง่ เ
ด้วยกระสายเบญ+จกูล สืบต่อไปดงงนี้ ๚ อันว่าลักษณะเบญ+จกูลนั้น ถ้าจแก้ลมลาย
ไท ะส
ข่า
น�้ำ
กเทยีม กิน ๚ ถ้าจแก้ลม ๘ จ�ำพวกลายน�้ำกุ่มบกกิน ๚ ถ้าจะแก้ลมจุกอกเอา ราก
เบญ+จกูล ๑ พริกไท ๑ กทือ ๑ เปลือกกุ่มบก ๒ กเทียม ๑ สรรพยา ๙ สิ่ง
ผน แล
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 86-87
เอา มะกรูด ใบคนทีสอ รากจิงจ้อ รากตองแตก หัสคุณเทศ เปล้าทั้ง ๒ มหา-
รแ งค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 88-89
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 88-89 ผึ้ง
นไ
้ กเมง
นีท�ำเปนจุลปรุงลงในเบญ+จกูลลายน�ำ
คนทีสอ ก็ได้กินแกดีนัก ๚ ถ้าจแก้จุกเสยีด
ตีน ขิง
ทย ูมิปั
เปนก้อนในอุธรลายน�้ำเปรยีงพรโคกิน ๚ ถ้าจแก้ลม เย็
ตัวว นลายน�้ำ
ข่า
กเทยีม
กิน
ซ่มซ่า
๚ ถ้าจแก้ไข้เพื่อลมลายน�้ำ
ข่าแก่ กิน ๚ ถ้าจแก้ไข้เพื่อเสมหะปะทะอกลาย
แพ ภ
กเทยีม
ไพล กุ่มบก
้ คนที สอ ต้มกิน
น�ำ ๚ ถ้าจแก้เสมหะลายน�้ำฃิงกิน ๚ ถ้าจแก้เสมหะแห้งลาย
ละ สรมิ
ลูกจันท
กิน ๚ ถ้า+จแก้ฤศดวงตกโลหิตลายน�ำ้ ใบ ต้
เสนยีด มกิน ๚ ถ้าจแก้ไข้ผอม
รากกล้วยตีบ
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
หน้าที่ 88-89
พท มุ้ ค
ถ้าจะแก้ประดงลายน�้ำฟักกิน ๚ ถ้าจะแก้ลมริดสีดวงผอมเหลืองละลายน�้ำจิงจ้อ
น�้ำอังกาบ กิน
๚ ถ้าจะแก้ริดสีดวงแห้งแลหืดไอลายน�ำ้ โกฐทั้ง ๕ ต้มกิน ๚ ถ้ามิฟังละลายน�้ำใบคนทีสอ
ใบกะเม็งตัวผู้กิน ๚ ถ้าจะแก้ริดสีดวงตกโลหิตละลายน�้ำใบกะเม็ง ใบเสนียด
รากกล้วยตีบ ต้มกิน ๚ ถ้าจะแก้ไข้ผอม
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 305
กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๓
หมวด เวชศาสตร์
เลขที่ ๙๙
ประวัติ กรมหลวงวงสา ฯ กรมหมื่นไชยนารถฯ
ประทานวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๕๘
เอกสารต้นฉบับ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๙0-91
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๙0-91
เหลืองลายน�้ำมนาวแทรกไพลเท่าเบญ+จกูลกิน ๚ ถ้าจะให้ลงลายน�้ำมฃามเปยีก
นไ
ลูกทับทิม
น�้ำกะเทยีมกิน ๚ ถ้าจแก้บิดมูกเลือดลายน�ำ้ เปลือก กิ นต�ำเอาพริก
ทย ูมิปั
มูกมัน
ไทร�ำหัดลง ๚ ถ้าจะแก้ท้องมารลายน�้ำนมโคกิน ๚ ถ้าจแก้บวมท้งงตัวลาย
แพ ภ
รากจิงจ้อ กิน ๚ ถ้าจแก้ไข้ฟกบวมท้งงตัวก็ดีและ
น�้ำมันเนยกินถ้ามิฟังลายน�้ำ
หัศคุณ
ละ สรมิ ต้น
บวมท้องก็ดี ลายน�ำพันงูแดง ท้งง ต้
ราก มกิน ๚ ถ้าจแก้มุต ลายน�
กฤษ
ฆาฎ
ำ้
เปลือกมูกมัน
เบญ+จขี้เหลกต้มกิน ๚ ถ้ามิฟังลายน�้ำ ต้มกิน ๚ ถ้า+จแก้ปะสาวะมิออก
ยแ ง่ เ
กล้วยตีบ
ครรงดุน
ไท ะส
มนาว
ลายน�้ำ
ผ้ายป่า ก็ได้ ถ้ามิฟังเอาน�ำ้ ด่างขี้เหลกท้งง ๕ น�ำแก่นแสมท้งง ๒ น�้ำดาง
โม
พันงูแดง น�้ำด่างไบสแก น�้ำด่างงวงตาน น�ำ้ ด่างเบี้ยผู้ น�้ำแตง คุ ลิการ+ด้วยกรร
ผน แล
กวา
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
หน้าที่ ๙0-91
พท มุ้ ค
เหลืองละลายน�้ำมะนาวแทรกไพลเท่าเบญจกูลกิน ๚ ถ้าจะให้ลงละลายน�้ำมะขามเปียก
น�้ำกระเทียมกิน ๚ ถ้าจะแก้บิดมูกเลือดละลายน�้ำเปลือกลูกทับทิม เปลือกมูกมัน
รแ งค
กินต�ำเอาพริก
กอ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 92-93
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 92-93
นไ
เข้าแล้ว จึ่งเอาสารซ่มดินประสิวฃาวร�ำหัดลงลายเบญ+จกูลกิน ๚ ถ้าจแก้บวม
ทย ูมิปั
๕ ประการลายน�้ำผักกะชับกิน๚ ถ้าจะแก้จับ ๕ ประการลายน�้ำร้อนกิน ๚ ถ้าจแก้
ฤศดวง ๕ ประการลายน�้ำเทยีรท้งง ๕ ต้มกิน ๚ ถ้าจแก้ลงลายน�้ำรอ้นกิน ๚
แพ ภ
ถ้าจแก้บิดลายน�้ำไบทับทิมแทรกกเทยีนกิน ๚ ถ้าจแก้ทองขึ้นลายน�้ำเทยีน
ละ สรมิ
ขิง
ต�ำต้มกิน ๚ ถ้าลมจุกเสยีดลายน�ำ
้ ข่า กิน ๚ ถ้าจแก้นิ่วลายน�้ำออ้ยแดง
ยแ ง่ เ
พลุ่ง
กิน ๚ ถ้าจแก้ดี ลายน�ำ้ จัน+ทท้งง ๒ กิน ๚ ถ้าจแก้โลหิตเปนก้อนใน
ไท ะส
เดือด
อุธรลายน�้ำกเมงกิน ๚ ถ้าจแก้จับไข้ให้อุธรนั่นลายน�้ำรอ้นแทรกลูก
สลอดลง ๚ ถ้าจแก้ท้องลั่นโครก ๆ ลายน�้ำเจตมูลกิน ๚ ถ้าจแก้หืด
ผน แล
ยแ์ รอง
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 92-93
เข้าแล้ว จึงเอาสารส้มดินประสิวขาวร�ำหัดลงละลายเบญจกูลกิน ๚ ถ้าจะแก้บวม
รแ งค
ถ้าจะแก้บิดละลายน�้ำใบทับทิมแทรกกระเทียมกิน ๚ ถ้าจะแก้ท้องขึ้นละลายน�้ำเทียน
อุทรละลายน�้ำกะเม็งกิน ๚ ถ้าจะแก้จับไข้ให้อุทรนั้นละลายน�้ำร้อนแทรกลูก-
สลอดลง ๚ ถ้าจะแก้ท้องลั่นโครก ๆ ละลายน�ำ้ เจตมูลกิน ๚ ถ้าจะแก้หืด
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 94-95
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 94-95
นไ
ลายน�้ำมนาวกิน ๚ ถ้าจแก้อุธรฟกลายน�้ำแกงยากิน ๚ ถ้าจแก้เสมหะตีขึ้น
ทย ูมิปั
พิมเสน
ลายน�้ำรอ้นแทรก กิ
การบูญ น ๚ ถ้าจะแก้ลมวิงเวยีนอยู่ทั้งตัวลายน�้ำ
1
แกงยากิน ๚ ถ้า+จปลุกธาตุท้งง ๔ ลายน�ำ้ ผึ้งรวงน�้ำซ่มซ่ากินวิเศศนัก ๚
แพ ภ
ยาแก้สมาธาตุ ขนานนี้ท่ารให้เอา ดีปลี ๑ เนื้อสมอ ๑ เจตมูล ๑
ละ สรมิ
ต้ม
ฃิงแห้ง ๒ สฆ้าน ๒ ช้าพลู ๒ สรรพยา ๖ สิ่งนี้
ท�ำผง ก็ได้ลาย
ยแ ง่ เ
2
น�้ำจัน+ทหอม แลน�้ำกระสายอันจ�ำเริญเพลิงธาตุนั้นกินแก้สมาธาตุ ๚ ยาวิสม
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 94-95
ละลายน�้ำมะนาวกิน ๚ ถ้าจะแก้อุทรฟกลายน�้ำแกงยากิน ๚ ถ้าจะแก้เสมหะตีขึ้น
รแ งค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๙6-97
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๙6-97
นไ
ภาคให้ประกอบกับดีปลีท�ำเปนจุลลาย น�้ำดอกไม้นำ�้ จัน+ทก็ได้แก้วิสมธาตุนั้น
ทย ูมิปั
3
ดีนัก ๚ ยาแก้ติก+ขธาตุ ขนานนี้ท่ารให้เอาเกษรบัวหลวงท้งง ๒ เกษร
บุต
สัตตบงกช ดอกสัต ดอกลิ ้นจง ดอกจงกลนี ดอกบัวเผื่อน ดอกบัว
แพ ภ
บัน
ซ้อน
ฃม ดอกพิกูล ดอกบูญนาค ดอกมลิ
ละ สรมิ ลา ดอกจ�ำปา ดอกดงงงา ดอก
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ ๙6-97
ภาคให้ประกอบกับดีปลีทำ� เป็นจุณ ลายน�้ำดอกไม้น�้ำจันทน์ก็ได้แก้วิสมธาตุนั้น
รแ งค
3
ดีนัก ๚ ยาแก้ติกขธาตุ ขนานนี้ท่านให้เอาเกสรบัวหลวงทั้ง ๒ เกสร-
สัตตบงกช ดอกสัตตบุษย์ สัตตบรรณ ดอกลินจง ดอกจงกลนี ดอกบัวเผื่อน ดอกบัว-
กอ
นี้เอาเสมอภาคท�ำเป็นจุณ บดลายน�้ำกระสายอันเย็นแลสุขุมนั้นกินแก้ติกขธาตุ
4
แลอาหารที่จะบริโภคนั้นก็ให้เย็นจงหนัก คือแตงโมแลแตงกวานั้น ๚ ๛
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 98-99
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 98-99
นไ
๚ ยาแก้มันณทธาตุ ขนานนี้ท่ารให้เอา ดีปลี ๑ เนื้อสหมอ ๑ บดร�ำหัดดีเกลือ
ทย ูมิปั
กินวั+นละ ๓ เพลาแก้มันณทธาตุนั้นหายดีนัก ๚ ยาแก้ธาตุเพิลงถอยนั้น
ขนานนี้ท่ารให้เอาตรีกตุก ตรีผลา ขมิ้นอ้อย สรรพยา ๗ สิ่งนี้เอา
แพ ภ
เสมอภาค บทลายน�ำ้ มงั่ว กินแก้เพิลงธาตุ+หย่อนถอยเผาอาหารมิได้ละ
ละ สรมิ
เอยีด ให้เกิดวาโยกล้านัก ให้อาเจยีรแลลงท้องสม+มุติว่าลมปวงนั้น
ยแ ง่ เ
หายดีนัก ๚ ขนาน+หนึ่งท่ารให้เอา พริก ฃิง กเทยีม ไบสเดา สรรพยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอ
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 98-99
๚ ยาแก้มันทธาตุ ขนานนี้ท่านให้เอา ดีปลี ๑ ต�ำลึง เนื้อสมอ ๑ ต�ำลึง บดร�ำหัดดีเกลือ
รแ งค
เสมอภาคบดละลายน�้ำมะงั่ว กินแก้เพลิงธาตุหย่อนถอยเผาอาหารมิได้ละ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 100-101
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 100-101
นไ
กะเพรา ๑ ยาเฃ้าเย็น ๒ สรรพยา ๖ สิ่งนี้ท�ำเปนจุล บทลายน�้ำรอ้นกินบ�ำ
ทย ูมิปั
รุงธาตุทั้ง ๔ ให้บริบูรณแลแก้เหนื่อยหอบหายดีนัก ๚ ขนานนึ่งท่ารให้เอา
ยาเฃ้าเย็น ตรีกตุก ตรีผลา ลูกผักชี แห้วหมู บระเพชฺญ เถาต�ำลึง ไค้รหอม
แพ ภ
ไบสเดาดิน ย่าตีนนก ลูกมตูมออ่น รากญ่าขัดมอน โกฐก้ารพร้าว ขมิ้นออ้ย
ละ สรมิ
กะเพราะ สรรพ ยา ๑๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาคท�ำเปนจุล บทลายน�้ำรอ้นน�้ำสุรา
ยแ ง่ เ
กินก็ได้เปน ยาชูก�ำลังธาตุ แลแก้โรค+ยพุงโร แลพยาธิในอุธรนั้นหายดีนัก ๚ ยาชื่อเบญจ
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 100-101
กะเพรา ๑ บาท ยาข้าวเย็น ๒ บาท สรรพยา ๖ สิ่งนี้ท�ำเป็นจุณ บดละลายน�้ำร้อนกินบ�ำ-
รแ งค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 102-103
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ 102-103
นไ
สรรพยา ๑๙ สิ่งนี้ทำ� เปนจุล แล้วจึ่งเอาน�้ำออ้ยแดงจอก ๑ น�ำผึ้งรวงจอก ๑
ทย ูมิปั
น�ำนมโคจอก ๑ น�ำมงั่วจอก ๑ กวนเฃ้าด้วยกัน เอาไว้กินเปนนิจแก้หอบ
หิวหาแรงมิได้ เปนยาชูก�ำลัง ถึงมาทว่าอตอาหารอยู่ถึง ๗ วันแล้วก็ดี
แพ ภ
ได้กิน ยาอันนี้ อาจธรงซึ่งก�ำลังไว้ได้วิเศศนัก ๚ ยาชื่อเวลาธิคูณ ขนานนี้
ละ สรมิ
ท่ารให้เอา ลูกเอ็น สมูละแว้ง ไบกระวาร ดีปลี ชเอมเทษ ขมิ้นชรร สิ่งละส่วร
ยแ ง่ เ
พริกไท ฃิงแห้ง สิ่งละส่วร ลูกมฃามปอ้ม ๘ ส่วร สรรพยา ๙ สิ่งนี้ท�ำเปนจุล
ไท ะส
คำ�อ่าน
พท มุ้ ค
หน้าที่ 102-103
สรรพยา ๑๙ สิ่งนี้ทำ� เป็นจุณ แล้วจึงเอาน�้ำอ้อยแดงจอก ๑ น�ำ้ ผึ้งรวงจอก ๑
รแ งค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๑๐4-105
นไ
ทย ูมิปั
แพ ภ
ละ สรมิ
ยแ ง่ เ
ไท ะส
ผน แล
ยแ์ รอง
พท มุ้ ค
รแ งค
กอ
กา
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หน้าที่ ๑๐4-105
นไ
แห้ง
เอาทาลิ้นให้เนื่อง ๒ ถ้าจะกินให้เพลานัก ๑ แก้ฅอ แสบอุ ระ
ทย ูมิปั
แสบ
แลแกฤศดวงก็หายวิเศศนัก ๚ พระอาจาริยเจ้ากล่าวมาในคัมภีร์ธาตุวินิจ
ไฉยผูก ๓ ว่าด้วยลักษณะ โอสถแก้โรค+ยตามประเทศท้งง ๔ แลธาตุทั้ง ๔
แพ ภ
ออกจากกาย ธาตุท้งง ๔ ก�ำเริบขึ้นในระดูกระ+หนาบคาบเกยี่ว ให้บงงเกิด
ละ สรมิ
ในระดูหก แลส�ำแลงธาตุท้งง ๔ ในระดู ๓ ห้ามของแสลงในระดู ๓ แลลักษ
ยแ ง่ เ
ณะเบญจกูล ท้งงปวง ก็จบบ ริบูรรณะ โดยสงงเขบแต่เพยีงนี้ ๚ ๛
ไท ะส
๚ วัน ๖ ฯ9 ๕ แล้ว
ผน แล
คำ�อ่าน
ยแ์ รอง
หน้าที่ ๑๐4-105
พท มุ้ ค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
กลาก (กฺลาก) น. โรคผิวหนังกลุ่มหนึ่ง มีหลายชนิด เกิดจากเชื้อราขึ้นเป็นวง
นไ
มีอาการคัน ต�ำราการแพทย์แผนไทยว่ามี ๔ ชนิด ได้แก่ กลาก
ทย ูมิปั
พรรนัย กลากเหล็ก เมถุนกลาก และกลากโอ่ ดังต�ำรายาศิลาจารึก
ในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (๔/๒๓๓) ตอนหนึ่งว่า “...ว่าด้วย
แพ ภ
กิลาสโรคคือ กลากนั้นต่อไปตามอาจารย์ท่านกล่าวไว้ในวิธีกุฎฐโรค
แจ้งวิตถารอยู่ในบั้นปลายโน้นต่าง ๆ จะคัดเอามาแจ้งไว้ในที่นี้แต่
ละ สรมิ
๔ จ�ำพวก...คือ กลากพรรนัยจ�ำพวก ๑ กลากเหล็กจ�ำพวก ๑ เมถุน
ยแ ง่ เ
กลาก จ�ำพวก ๑ กลากโอ่จำ� พวก ๑ อันว่าลักษณะกลากทัง้ ๔ จ�ำพวก
ซึ่งกล่าวมานี้บังเกิดเพื่อกรรมลามกพิบัติเหตุ... โรคอันนี้เกิดแต่
ไท ะส
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หย่อนก็ดี พิการก็ดี ฯ จ�ำพวก ๑ บังเกิดเพื่อเตโชธาตุ ซึ่งก�ำเริบก็ดี
หย่อนก็ดี พิการก็ดี...” ขี้เกลื้อน ก็เรียก.
นไ
ทย ูมิปั
ก�ำเดา น. เลือดออกทางจมูก เรียกว่า เลือดก�ำเดา.(ข.กฺดา ว่า ร้อน);
แพทย์แผนโบราณเรียกไข้ชนิดหนึ่งที่เกิดจากหวัด ว่าไข้ก�ำเดา.
แพ ภ
ไข้กาล,ไข้กาฬ ๑.น.โรคกลุม่ หนึง่ ผูป้ ว่ ยมักมีไข้ มีเม็ดขึน้ ตามอวัยวะภายใน เช่น ปอด
ตับ ม้าม แล้วผุดออกมาที่ผิวหนังเป็นเม็ดสีด�ำ สีเขียว สีคราม
ละ สรมิ
หรือเป็นเม็ดทราย เป็นแผ่น เป็นวง ทั่วตัว ท�ำให้เกิดอาการแตกต่าง
ยแ ง่ เ
กันไป ต�ำราการแพทย์แผนไทยแบ่งออกเป็น ๑๐ ชนิด ดังคัมภีร์
ไท ะส
ไข้กระโดง และไข้รากสาด.
รแ งค
บ้า า
ทย
ผิดปรกติ มีเลือดออกมากผิดปรกติหลังคลอดเป็นต้น, ราชาศัพท์ว่า
พ์ นื ้ ญญ
ตกพระโลหิต.
นไ
ตรีโทษ ว.อันเกิดจากกองสมุฏฐานปิตตะ วาตะ และเสมหะ
ทย ูมิปั
ตับทรุด น.ชื่อโรคชนิดหนึ่ง อาการของโรคเกิดจากล้มลงโดยแรง ตกจากที่สูง
หรือเด็กตกจากเปล หรือถูกฟาดฟันโดยแรง ท�ำให้เป็นไข้ ซาง ละออง
แพ ภ หละ หรือธาตุสมุฏฐานในร่างกายผิดปรกติ วิปริต ท�ำให้ตับเคลื่อนที่
ละ สรมิ หรือตับหย่อน ท�ำให้เกิดเจ็บป่วยขึ้น, ตับโต หรือ ตับย้อย ก็เรียก
ตับหย่อน ชื่อโรคชนิดหนึ่ง มีอาการดุจตับทรุด ดูที่ตับทรุด
ยแ ง่ เ
ตานโจร น.ตานที่เกิดกับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ ๕-๗ ขวบ แพทย์แผนไทยเชื่อว่า
ไท ะส
มักเกิดจากการกินอาหารอันท�ำให้เกิดพยาธิในร่างกาย มีอาการ
ผน แล
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
มีธาตุดิน ๒๐ อย่าง (ได้แก่ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก
นไ
เยื่อในกระดูก ไตหรือพุง หัวใจ ตับ พังผืด ม้าม ปอด ไส้ใหญ่ ไส้น้อย
ทย ูมิปั
อาหารใหม่ อาการเก่า และสมอง ศีรษะ) และธาตุน�้ำ ๑๒ อย่าง
(ได้แก่ น�้ำดี เสมหะหรือเสลด หนอง เลือด เหงื่อ มันข้นหรือไขมัน
แพ ภ
ละ สรมิ น�้ำตา มันเหลวหรือน�้ำเหลือง น�้ำลาย น�้ำมูก ไขข้อ และปัสสาวะ)
เมื่อมีส่วนประกอบเหล่านี้ครบสมบูรณ์ มักเรียกว่า อาการครบ ๓๒,
ทวัตดึงสาการ ทวดึงสาการ ทวดึงษาการ หรือทวัตติงสาการ ก็เรียก.
ยแ ง่ เ
ท้องขึ้น ว.อาการที่ท้องอืดเพราะลมในกระเพาะอาหารเฟ้อขึ้น, เรียกปลา
ไท ะส
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
ประการหนึ่ ง ให้ บ วมมื อ เท้ า ประการหนึ่ ง ให้ ไ อเปนมองคร่ อ
นไ
ประการหนึง่ ให้ทอ้ งขึน้ พองพอืดพอมประการหนึง่ ลักษณ ๔ ประการ
ทย ูมิปั
นี้ คื อ เตโชธาตุ อั น ชื่ อ ว่ า ปริ น ามั ค คี แ ตกแล...”, ต� ำ ราการแพทย์
แผนไทยบางเล่มว่า ธาตุแตกมีความหมายเดียวกับธาตุพิการ.
แพ ภ
ธาตุเบา ละ สรมิ ๑. ว. เกี่ยวกับการถ่ายอุจจาระง่ายโดยปรกติวิสัย กินยาระบาย
อ่อน ๆ ก็ถ่าย.
๒. น.ภาวะถ่ายอุจจาระง่ายโดยปรกติวสิ ยั กินยาระบายอ่อนๆ ก็ถา่ ย.
ยแ ง่ เ
ธาตุหนัก ๑. ว.เกีย่ วกับการถ่ายอุจจาระยากโดยปรกติวสิ ยั ต้องกินยาถ่ายมาก
ไท ะส
ยาถ่ายมากจึงจะถ่าย.
ธาตุหย่อน น.ภาวะทีธ่ าตุใดธาตุหนึง่ ท�ำหน้าทีน่ อ้ ยผิดปรกติจนท�ำให้เกิดโทษขึน้
ยแ์ รอง
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
ขน (โลมา) เล็บ (นขา) ฟัน (ทันตา) หนัง (ตโจ) เนื้อ (มังสัง)
นไ
เอ็น (นหารู) กระดูก (อัฏฐิ) ไขกระดูก (อัฏฐิมิญชัง) ม้าม (ปิหกัง)
ทย ูมิปั
เมื่อก่อนแปลว่าไต หัวใจ (หทยัง) ตับ (ยกนัง) พังผืด (กิโลกัง)
ไต (วักกัง) เมื่อก่อนแปลว่าม้าม ปอด (ปับผาสัง) ไส้ใหญ่ (อันตัง)
แพ ภ
ละ สรมิ ไส้น้อย (อันตคุณัง) อาหารใหม่ (อุทริยัง) อาหารเก่า (กรีสัง)
และสมองศีรษะ (มัตถเกมัตถลุงคัง), ปฐวีธาตุ ปถวีธาตุ หรือปัถวีธาตุ
ก็เรียก. ดูธาตุ ประกอบ.
ยแ ง่ เ
ประจุ ก.ขับออก ถ่ายออก.
ไท ะส
ของต�ำรายาศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (๔/๑๕)
มีจุดนวดบนเส้นสุมนาส�ำหรับแก้หวานปาก, หวานปาก ก็เรียก.
ยแ์ รอง
๒. พูดจาไพเราะ (มักใช้ในทางที่ล่อใจหรือไม่จริงใจ).
ผด น.โรคผิวหนังชนิดหนึ่ง มีเม็ดเล็ก ๆ ขึ้นเป็นผื่นตามผิวหนัง มักเกิด
พท มุ้ ค
ในเวลาที่มีอากาศร้อนอบอ้าว มีอาการคัน.
รแ งค
บ้า า
ทย
๒. น. อุจจาระเป็นก้อนแข็งกลม คล้ายขี้แมวหรือขี้แพะ.
พ์ นื ้ ญญ
พยาธิ น.๑. (พะยาทิ) ความเจ็บไช้ ดังต�ำราเวชศึกษา(๑๖/๑๐๖) ตอนหนึ่ง
นไ
ว่า “...ต้อหนึ่งเกิดมาแต่ศีรษะ ยอดด�ำดังหมอกกระวัดรอบจักษุ
ทย ูมิปั
ชื่อต้อมะเกลือ รักษาไม่หาย ต้อเพกาเกิดมาแต่รากขวัญ ต้อผักตบ
เกิดมาแต่ยอดอกภายใน ต้อเนื้อ ต้อสายโลหิต ต้อลิ้นสุนัข ต้อหมอก
แพ ภ พยาธิหมู่นี้เกิดเพราะรับประทานข้าวเหนียวจึงบังเกิด...” (ป.พฺยาธิ,
ละ สรมิ วฺยาธิ; ส.วฺยาธิ).
๒. (พะยาด) ชื่อสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ซึ่งอย่างน้อยในระยะหนึ่ง
ยแ ง่ เ
ของชีวิตจะเป็นปรสิตอยู่ในมนุษย์และสัตว์ชนิดตัวแบน เช่น พยาธิ
ไท ะส
ตามล�ำไส้ใหญ่นั้นประการ ๑...”.
๓. เชื้อโรค ดังต�ำรายาศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
รแ งค
อั น บั ง เกิ ด ขึ้ น ในช่ อ งนาลิ ก กระท�ำ โทษ ให้ น าสิ ก ตึ ง ดั ง เป็ น หวั ด
เหม็นเน่าแล้วลงทางต้นลิ้นตลอดปลายลิ้น ให้น�้ำเขฬะตกมิรู้วาย
ให้คอแห้งบริโภคอาหารมิได้ ครั้นอาหารมิได้เป็นที่ตั้งแล้วอันว่า
โรคก็ปริตรแปรเป็นไปต่าง ๆ...”.
พิษ (พิด,พิดสะ-) น.สิ่งที่ร้ายเป็นอันตรายแก่ร่างกายหรือให้ความเดือนร้อนแก่จิตใจ ;
กา
บ้า า
ทย
อยู่ในช่องหลอดลม ท�ำให้มีอาการไอเรื้อรัง. ๒. ในทางการแพทย์
พ์ นื ้ ญญ
แผนปัจจุบันหมายถึงโรคหลอดลมโป่งพองมเสมหะในช่องหลอดลม
นไ
ท�ำให้มีอาการไอเรื้อรัง โดยเฉพาะเมื่อนอนราบ, มงคร่อ หรือมงคล่อ
ทย ูมิปั
ก็เรียก (อ.bronchiectasis).
มัตถเกมัตถลุงคัง น.มันสมอง เป็นองค์ประกอบ ๑ ใน ๒๐ สิ่งของธาตุดิน. (มาจากค�ำ
แพ ภ
(มัดถะเกมัดถะลุงคัง) มัตถกะ แปลว่า หัว, กระหม่อม และมัตถลุงค์ แปลว่า มันสมอง)
มุตกิด (มุดตะกิด) น.โรคชนิดหนึ่งเกิดกับผู้หญิง ผู้ป่วยมักมีระดูขาว ปัสสาวะขุ่นข้น
ละ สรมิ
บางครั้งบริเวณขอบทวารเบาอาจเป็นเม็ด หรือแผล คัน เปื่อย แสบ
ยแ ง่ เ
เหม็นคาว มีอาการแสบอกกินอาหารไม่รู้รส ปวดหลัง เสียวมดลูก
ไท ะส
เป็นต้น ต�ำราการแพทย์แผนไทยหลายเล่มแบ่งมุตกิดออกเป็น
๔ จ�ำพวก คือ ๑)ปัสสาวะเป็นช�้ำเลือดมีกลิ่นเหมือนปลาเน่า ๒)
ผน แล
มุตร์กิจฉ์ ก็มี.
มุตฆาต,มุตตฆาต น.โรคชนิดหนึ่งที่ท�ำให้เกิดความผิดปรกติของน�้ำปัสสาวะ ต�ำรา
รแ งค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
เรื้อน โรคติดต่อเรื้อรัง เกิดจากเชื่อแบคทีเรียชนิด Mycobacterium
นไ
leprae ท�ำให้เกิดอาการที่ผิวหนังเป็นผื่น วงด่างสีขาวหรือแดง
ทย ูมิปั
หรือนูนหนาเป็นตุ่มหรือเป็นแผ่น ไม่เจ็บไม่คัน แห้ง เหงื่อไม่ออก
และขนร่วงอาจท�ำให้เกิดความพิการที่นิ้วมือนิ้วเท้างอหรือกุดได้,
แพ ภ
ขี้ทูด หรือกุฏฐัง ก็เรียก
ลมกรรมมัชวาต,
ละ สรมิ น. ๑.ลมที่เกิดในหญิงก�ำลังจะคลอดบุตร มดลูกจะหดตัว ต�ำแหน่ง
ลมกัมมัชชวาต, ของทารกอยูต่ ำ�่ มาก พร้อมทีจ่ ะคลอดออกมา ดังคัมภีรป์ ระถมจินดา
ยแ ง่ เ
ลมกัมมัชวาต (๑๔/๒๗) ตอนหนึ่งว่า “...ในเมื่อกุมารแลกุมารีทั้งหลายคลอด
ไท ะส
จะปฏิสนธิและประสูติออกมาจากอุทร แลลมกรรมมัชวาตพัดเอา
เท้าขึ้นเอาศีศะลง...”, ลมเบ่ง ก็เรียก.
รแ งค
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
อาเจี ย น หาวเรอขั ด ในอก หลั ง ไหล่ ฟ กเปนพ้ น เพี ย น เสมหะ
นไ
มักเบียดเบียน แน่นปะทะล�ำคอขังร้อนคอร้อนท้องน้อย วาตาพลอย
ทย ูมิปั
ถอยก�ำลัง ลมกลัดพัดขัดคั่งเรอปะทะเปนลมโฮก ทั้งนี้ใช่อื่นไกล
โทษไส้ใหญ่ก่อเกิดโรคผิจะแก้ตามโฉลก ต�ำหรับโรคไส้ใหญ่นา...”,
แพ ภ
ละ สรมิ ลมโหก ก็เรียก.
ลิ้นกระด้างคางแข็ง ก.อาการลิ้นแข็งขยับขากรรไกรไม่ได้ เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
อาการไข้สูง ลมชิวหาสดมภ์ ลมอัมพฤกษ์ อัมพาต ลมทักขิณโรธ.
ยแ ง่ เ
โลหิตเน่า โลหิตทุจริตโทษประเภทหนึ่ง ต�ำราการแพทย์แผนไทยว่าเกิดจาก
ไท ะส
โลหิตคลอดบุตร โลหิตต้องพิฆาตและโลหิตตกหมกช�้ำเจือมาเน่าอยู่
จึงเรียกว่าโลหิตเน่า... ในเมื่อจะให้โทษนั้น โลหิตอันเน่ามีพิษอันกล้า
กอ
บ้า า
ทย
พ์ นื ้ ญญ
วิสมาธาตุ วิสมาธาตุนั้นยิ่งไปด้วยกองฉกาลวาโย วาโยเดินไม่สะดวก คือท�ำให้
นไ
ท้องลั่นอยู่เป็นนิจ บางวันให้ท้องผูก บางวันให้ถ่ายท้อง บางวันให้
ทย ูมิปั
แน่นท้องแน่นอกคับใจ บางวันให้อยากอาหาร เพลิงธาตุมิได้เสมอ
วาโยเดินไม่สะดวก โทษทั้งนี้เกิดขึ้นแต่กองฉกาลวาโยให้เป็นเหตุ
แพ ภ
สมาธาตุ ละ สรมิ ลักษณะสมาธาตุนนั้ ยิง่ ไปด้วยสรรพธาตุ มีอาการท�ำให้เจ็บเป็นเพลา
(สะหฺวิงสะหฺวาย) (เวลา) บางทีกระท�ำให้ตัวร้อน เท้าเย็น บางทีให้สวิงสวาย ให้เจ็บ
ในอก รั บ ประทานอาหารไม่ มี ร ส บางที ใ ห้ มึ น ให้ มั ว โทษทั้ ง นี้
ยแ ง่ เ
เป็นเพราะเสมหะสมุฏฐาน ปิตตะสมุฏฐาน และวาตะสมุฏฐาน
ไท ะส
ดูเพิ่มเติมที่อสุรินทัณญาธาตุ
สวิงสวาย ก.อาการที่รู้สึกใจหวิว วิงเวียน คลื่นไส้ตาพร่าจะเป็นลม เช่น เดิน
ยแ์ รอง
ให้ยกมือเท้าขวักไขว่ไปมา...”.
สันนิบาต น.๑. ความเจ็บป่วยอันเกิดจากกองสมุฏฐานปิตตะ วาตะ และ
กอ
บ้า า
ออกผื่นแดงทั่วตัวคล้ายโรคหัดแต่อาการไม่รุนแรงเท่า มีผลรุนแรง
ทย
พ์ นื ้ ญญ
ต่อทารกในครรภ์ระยะ ๓ เดือนแรก หัดเยอรมันก็เรียก.
นไ
อัสสาสปัสสาสวาตา น.ลมหายใจเข้าออก เป็นองค์ประกอบ ๑ ใน ๖ ชนิดของธาตุลม.
ทย ูมิปั
อากาศธาตุ น.ธาตุหนึง่ ทีป่ ระกอบขึน้ เป็นร่างกายมนุษย์ (ตามหลักวิชาการแพทย์
แพ ภ
(อากาดทาด, อายุรเวทการแพทย์ยูนานิ และการแพทย์พื้นบ้านล้านนา) ดังคัมภีร์
อากาดสะทาด) มหาโชตรัต (๒/๒๖๒) ตอนหนึ่งว่า “...อันว่าลักษณอากาศธาตุนั้น
ละ สรมิ
ว่ า มี อ ยู ่ ทั้ ง ภายในนอก สุ ด แต่ มี ร ะหว่ า งในที่ ใ ดที่ นั้ น ก็ เรี ย กว่ า
ยแ ง่ เ
อากาศธาตุ...”.
ไท ะส
อุทธังคมาวาเป็นองค์ประกอบ ๑ ใน ๖ ชนิดของธาตุลม.
กอ
บ้า า
กัมพล มะลาพิมพ์. การศึกษาวิเคราะห์คัมภีร์แพทย์แผนไทย : พระคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย วิทยานิพนธ์
ทย
พ์ นื ้ ญญ
หลักสูตรปริญญาศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาจารึกศึกษา ภาควิชาภาษาตะวันออก
นไ
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปกร ปีการศึกษา ๒๕๕๙
ทย ูมิปั
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก. พจนานุกรม ศัพท์แพทย์และเภสัชกรรมแผนไทย
ฉบับราชบัณฑิตยสภา พ.ศ ๒๕๕๙ เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ
แพ ภ
ครบ ๗๐ ปี ๙ มิถุนายน ๒๕๕๙. : โรงพิมพ์สำ�นักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตนสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ
ละ สรมิ
พระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม
ยแ ง่ เ
๒๕๕๔. พิมพ์ครั้งที่ ๑พุทธศักราช ๒๕๕๖. กรุงเทพฯ : บริษัท ศิริวัฒนาอินเตอร์พริ้นท์ จำ�กัด
ไท ะส
(มหาชน)
สำ�นักคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก.
ผน แล