You are on page 1of 15

วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ป.

5 ฉบับที่ 1 หน้า 1

แบบทดสอบวิทยาศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ปีการศึกษา 2558

สานักทดสอบทางการศึกษา
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

แบบทดสอบนีเ้ ป็ นเอกสารลับของทางราชการ
และห้ามคัดลอกเปิดเผยหรือนาไปเผยแพร่

สงวนลิขสิทธิ์
คาชีแ้ จง วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ป.5 ฉบับที่ 1 หน้า 2

แบบทดสอบวิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปี ที่ 5


1. แบบทดสอบฉบับนี ้มี 30 ข้ อ คะแนนเต็ม 60 คะแนน ให้ เวลาทาแบบทดสอบ 60 นาที
2. แบบทดสอบมี 4 แบบ ดังนี ้
แบบที่ 1 แบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก แต่ละข้ อมีคาตอบที่ถกู ต้ องที่สดุ เพียงคาตอบเดียว จานวน 18 ข้ อ
( ข้ อละ 1.5 คะแนน รวม 27 คะแนน)
ตัวอย่ าง 0. การกระทาของใครที่สง่ ผลทาให้ เกิดภาวะเรื อนกระจกมากและเร็ วที่สดุ
1) น ้าฟ้ าเข้ าบ้ านแล้ วเปิ ดแอร์ ทน
ั ที
2) น ้าอ้ อยเปิ ดพัดลมไล่ยงุ ขณะนัง่ ดูโทรทัศน์
3) น ้าผึ ้งรวบรวมพลาสติกและโฟมเผาหลังใช้ แล้ ว
4) น ้าฝนกลับเข้ าบ้ านเปิ ดตู้เย็นทิ ้งไว้ ขณะดืม
่ น ้าเย็น
วิธีการตอบ ให้ นกั เรี ยนเลือกคาตอบที่ถกู ต้ องที่สดุ เพียงคาตอบเดียวโดยเขียนเครื่ องหมาย ทับหมายเลขที่ตรง
กับตัวเลือกทีต่ ้ องการลงในกระดาษคาตอบ เช่น ถ้ านักเรี ยนคิดว่าตัวเลือกที่ 3) เป็ นคาตอบทีถ่ กู ต้ อง
ให้ เขียนเครื่ องหมาย ทับหมายเลข  ดังนี ้
0.    
แบบที่ 2 แบบเชิงซ้ อน จานวน 7 ข้ อ (ข้ อละ 2 คะแนน รวม 14 คะแนน)
ตัวอย่ าง ศึกษาข้ อมูล แล้ วตอบคาถาม ข้ อ 00.

เรื่อง พืชดัดแปลงพันธุกรรม
พืชดัดแปลงพันธุกรรม คือ พืชที่ผา่ นกระบวนการทางพันธุวศิ วกรรมเพื่อให้ มีสมบัติหรื อคุณลักษณะต่างๆ ที่
จาเพาะเจาะจงตามความต้ องการ ป้องกันแมลงศัตรูพืชทนต่อสภาพแวดล้ อม ที่ไม่เหมาะสม ตัวอย่างพืชที่มีการ
ดัดแปลงพันธุกรรม ได้ แก่ มะเขือเทศสุกช้ าลง ถัว่ เหลืองมีไขมันชนิดไม่อิ่มตัวสูงขึ ้น สตรอเบอรี่ เน่าช้ าลง เป็ นต้ น
00. พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้ว่ากล่าวถูกต้ องหรื อไม่ ถ้ าถูกต้ องให้ กากบาทคาว่า “ใช่” ถ้ าไม่ถกู ต้ องเป็ นให้ กากบาทคาว่า “ไม่ใช่”
ข้ อความ ใช่หรื อไม่ใช่
1) มะละกอทีม่ เี มล็ดน้ อยลงต้ านทานโรคได้ ใช่ ไม่ใช่
2) แอปเปิ ล้ ผ่านการฉายรังสีเพื่อให้ สกุ ช้ า ใช่ ไม่ใช่
3) ฝ้ ายสามารถฆ่าหนอนที่เป็ นศัตรู ใช่ ไม่ใช่
4) พืชหลายชนิดที่ใช้ การดัดแปลงพันธุกรรม ใช่ ไม่ใช่
วิธีการตอบ ให้ นกั เรี ยนพิจารณาข้ อความย่อยแต่ละข้ อในตาราง โดยทาเครื่ องหมาย ทับคาว่า
“ใช่” หรื อ “ไม่ใช่” ให้ ครบทุกข้ อย่อย ในกระดาษคาตอบตามที่โจทย์สงั่ ดังนี ้
1) ใช่ ไม่ใช่
2) ใช่ ไม่ใช่
3) ใช่ ไม่ใช่
4) ใช่ ไม่ใช่
เกณฑ์ การให้ คะแนน คะแนนเต็ม 2 คะแนน ตอบถูก 1 ข้ อ ให้ คะแนนข้ อละ 0.5 คะแนน
วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ป.5 ฉบับที่ 1 หน้า 3
แบบที่ 3 แบบเขียนตอบสัน้ จานวน 3 ข้ อ (ข้ อละ 3 คะแนน รวม 9 คะแนน)
ตัวอย่ าง ศึกษาข้ อมูล แล้ วตอบคาถาม ข้ อ 000.

เรื่อง หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
หมูบ่ ้ านร่มสุขเป็ นหมูบ่ ้ านที่ประชากรยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ครอบครัวของโก้ ปลูกผักปลอดสารพิษซึง่ แบ่ง
พืชที่ปลูกในแปลง ได้ แก่ ผักบุ้ง หอม ขิง ข่า เขาปลูก บวบ มะระ เป็ นซุ้มลอยฟ้ าและปลูกตาลึง ถั่วพู เป็ นผักสวน
ครัวรัว้ กินได้ เขายังมีพื ้นทีว่ า่ งจึงขุดบ่อเลี ้ยงปลาดุกพันธุ์บกิ๊ อุย ซึง่ เป็ นลูกผสม ระหว่างปลาดุกยักษ์ กบั ปลาดุกอุย
เป็ นพันธุ์ที่เลี ้ยงง่าย โตเร็ ว น ้าหนักดี ทาให้ ครอบครัวของโก้ มีรายได้ เพิม่ ขึ ้น

000. ถ้าจัดประเภทของพืชที่ครอบครัวโก้ปลูกโดยใช้ลักษณะภายนอกเป็นเกณฑ์จะจัดได้กี่ประเภท
ตอบ ............................................................................................................................
วิธีการตอบ ให้ นกั เรี ยนเขียนตอบในกระดาษคาตอบตามที่โจทย์สงั่ ดังนี ้
ตอบ 2 ประเภท
เกณฑ์ การให้ คะแนน คะแนนเต็ม (3 คะแนน) เมื่อ ตอบถูกต้ อง
ไม่ได้ คะแนน (0 คะแนน) เมื่อ ตอบผิดหรื อไม่ตอบ
แบบที่ 4 แบบเขียนตอบยาว จานวน 2 ข้ อ (ข้ อละ 5 คะแนน รวม 10 คะแนน)
ตัวอย่ าง ศึกษาข้ อมูล แล้ วตอบคาถาม ข้ อ 0000.
เรื่อง หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
หมูบ่ ้ านร่มสุขเป็ นหมูบ่ ้ านที่ประชากรยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ครอบครัวของโก้ ปลูกผักปลอดสารพิษซึง่ แบ่งพืชที่
ปลูกในแปลง ได้ แก่ ผักบุ้ง หอม ขิง ข่า เขาปลูก บวบ มะระ เป็ นซุ้มลอยฟ้ าและปลูกตาลึง ถัวพู เป็ นผักสวนครัวรัว้ กิน
ได้ เขายังมีพื ้นที่วา่ งจึงขุดบ่อเลี ้ยงปลาดุกพันธุ์บิ๊กอุย ซึง่ เป็ นลูกผสม ระหว่างปลาดุกยักษ์ กบั ปลาดุกอุย เป็ นพันธุ์ที่เลี ย้ ง
ง่าย โตเร็ ว น ้าหนักดี ทาให้ ครอบครัวของโก้ มีรายได้ เพิ่มขึ ้น

0000. จากข้อมูล ถ้าต้องการความร่มรื่น สวยงาม และเพิ่มมูลค่า จะต้องปลูกพืชชนิดใดบ้าง(3 ชนิด) พร้อมอธิบาย


ตอบ.............................................................................................................................................
วิธีการตอบ ให้ นกั เรี ยนเขียนตอบในกระดาษคาตอบตามที่โจทย์สงั่ ดังนี ้
ตอบ…………………………………………………………………………………………………………
เกณฑ์ การให้ คะแนน
คะแนนเต็ม (5 คะแนน) คะแนนบางส่วน (2.5 คะแนน) ไม่ได้ คะแนน (0 คะแนน)
เมื่อบอกชนิดของพืชที่ให้ ความร่มรื่ นได้ เมื่อ บอกชนิดของพืชที่ให้ ความร่ม ตอบผิดหรื อไม่ตอบ
ถูกต้ องครบถ้ วนพร้ อมอธิบายเพิม่ เติม รื่ นได้ ไม่ครบถ้ วน หรื อไม่อธิบาย
- ปลูกไม้ ยืนต้ น เช่น ขนุน มะม่วง ทุเรี ยน เพิ่มเติม
ฯลฯ เพราะ ให้ ความร่มรื่ น มีผลรับประทาน - ต้ นทุเรี ยน
และจาหน่ายได้

ห้ ามทาข้ อสอบจนกว่ ากรรมการคุมสอบจะอนุญาต


วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ป.5 ฉบับที่ 1 หน้า 1

พิจารณาบทความต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ 1 - 5

ต้นชมจันทร์
ชมจันทร์ จัดว่าเป็นพืชล้มลุก อยู่ในวงศ์ตระกูล
เดียวกับผักบุ้ง มันเทศ ในช่วงเดือนแรกจะเป็น
ช่วงที่ชมจันทร์เจริญเติบโต พอเข้าเดือนที่ 2
ชมจันทร์จะออกดอกชุดแรกและในช่วงเดือนที่ 3
จะเป็ น ช่ ว งที่ ช มจั น ทร์ อ อกดอกมากที่ สุ ด โดย
ช่วงที่เก็ บเกี่ยวได้ มากที่ สุด ใน 100 ต้น จะเก็ บ
ดอกได้ประมาณ 10 กิโลกรัม เมื่อปลูก
ต้นชมจันทร์จนกระทั่งเจริญเติบโตเต็มที่และออกดอกให้เก็บเกี่ยวอยู่ในระยะ 6 เดือน หลังจากนั้น
พักการ เก็บดอกเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ในครั้งต่อไป
การปลูกต้นชมจันทร์ส่วนมากจะปลูกกันง่ายๆ คือการยกร่องก่อนแล้วจึงปลูก โดยเอาเมล็ด
ที่เก็บมาใหม่ๆ มาหยอดลงดินได้เลย แต่ถ้าหากเป็นเมล็ดที่เก็บมานานแล้ว ควรนาไปแช่น้าก่อน
1 คืน เพื่อให้เปลือกเมล็ดอ่อนตัว จะช่วยให้งอกได้เร็วขึ้น ส่วนการทาค้างควรใช้ตาข่ายสาหรับ
ปลูกแตงขึงเพื่อให้ต้นชมจันทร์เลื้อยเกาะ
(เกษตรกรธรรมชาติ 7/2555)

1. จากบทความวิธีการขยายพันธุ์วิธีใดที่เกษตรกรธรรมชาติเสนอแนะในการปลูกต้นชมจันทร์เป็นอาชีพ
1) การปักชา
2) การทาบกิ่ง
3) การเพาะเมล็ด
4) การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

2. วิธีการขยายพันธุ์ตามที่แนะนาในบทความนี้มีจุดอ่อนในเรื่องใด
1) ได้พันธุ์แท้
2) ลาต้นแข็งแรง
3) มีโอกาสกลายพันธุ์
4) ปลูกได้ครั้งละมากๆ
วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ป.5 ฉบับที่ 1 หน้า 2

3. พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ว่าสอดคล้องกับบทความข้างต้นหรือไม่ ถ้าสอดคล้องให้กากบาทคาว่า “ใช่”


ถ้าไม่สอดคล้องให้กากบาทคาว่า “ไม่ใช่” ในแต่ละข้อ
ข้อ ข้อมูล ใช่หรือไม่ใช่
1) ต้นชมจันทร์เป็นพืชชนิดไม้เลื้อย ใช่ ไม่ใช่
2) วิธกี ารปลูกต้นชมจันทร์ต้องยกร่องทาแปลงก่อนการปลูก ใช่ ไม่ใช่
3) ต้นชมจันทร์ 1 รุ่น สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดปี ใช่ ไม่ใช่
4) การเก็บเมล็ดชมจันทร์เพื่อใช้ทาพันธุ์ เกษตรกรจะเก็บเกี่ยวเมื่อ ใช่ ไม่ใช่
เข้าสู่เดือนที่ 7

4. การปลูกต้นชมจันทร์วิธีใดที่จะได้พันธุ์ต่างจากต้นพันธุ์เดิมและเหมาะสมกับการปลูกเพื่อเป็น
อาชีพมากที่สุด
1) การตอนกิ่ง
2) ปลูกแบบทาบกิ่ง
3) ปลูกแบบใช้เมล็ด
4) การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

5. ให้นักเรียนยกตัวอย่างการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมของต้นชมจันทร์
ตอบ.............................................................................................................................
วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ป.5 ฉบับที่ 1 หน้า 3

พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ 6 - 9

เรื่อง พันธุกรรม
ลักษณะเส้นผมหยิก และเหยียดตรง ผมสีทอง และสีดา ของสมาชิกในสองครอบครัว และ
นามาเขียนเป็นแผนภูมิได้ดังนี้

6. จากข้อมูล เอมีลักษณะตามข้อใดที่แสดงว่าเอแตกต่างจากพ่อและแม่
1) ผมสีดา 2) ผมหยิก
3) ผมสีทอง 4) ผมเหยียดตรง

7. ถ้าเอมีผมสีดาแสดงว่าได้รับการถ่ายทอดมาจากใคร
1) ปู่ ย่า 2) ตา ยาย
3) ตา ย่า แม่ 4) ยาย ปู่ พ่อ

8. พิจารณาการลงความเห็นจากข้อมูลของการสารวจต่อไปนี้ว่าเป็นไปตามข้อมูลที่กาหนดหรือไม่
ถ้าเป็นให้กากบาทคาว่า “ใช่” ถ้าไม่เป็นให้กากบาทคาว่า ”ไม่ใช่” ในแต่ละข้อ
ข้อ ความเห็นที่ถูกต้องจากข้อมูลการสารวจ ใช่หรือไม่ใช่
1) สมาชิกของครอบครัวนี้มีเพศชายมากกว่าเพศหญิง ใช่ ไม่ใช่
2) ลักษณะและสีผมของพ่อเหมือนปู่ ใช่ ไม่ใช่
3) ผมเหยียดตรงเป็นลักษณะด้อย ใช่ ไม่ใช่
4) ถ้าเอมีผมสีทอง แสดงว่าสีผมของเอได้มาจากแม่และยาย ใช่ ไม่ใช่

9. ข้อมูลจากการสารวจลักษณะของครอบครัวของเอระบุว่าลักษณะเส้นผมแบบใดเป็นลักษณะเด่น
ตอบ..............................................................................................................................
วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ป.5 ฉบับที่ 1 หน้า 4

พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ 10 - 11

เรื่อง วิทยาศาสตร์การยิงธนู
เมื่อพิจารณาจากท่าทางการยิงธนูที่ผู้ยิงพยายามเหนี่ยว
สายธนูไปด้านหลังให้มากที่สุด ก้านธนูซึ่งเป็นวัตถุที่เก็บและ
ถ่ายทอดพลังงานแก่ลูกธนู จะทางานคล้ายขดลวดสปริง โดย
เมื่อออกแรงกดสปริงจะยุบตัวลง และเมื่อปล่อยขดลวดสปริงจะ
เด้งคืนสู่รูปเดิม

10. จากข้อมูลข้างต้น เป็นการศึกษาในเรื่องใดมากที่สุด


1) ความแข็งของคันธนู 2) ความแข็งของสายธนู
3) ความยืดหยุ่นของคันธนู 4) ความยืดหยุ่นของสายธนู

11. จากข้อมูล พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับสมบัติวัสดุหรือไม่ ถ้าเกี่ยวข้องให้กากบาท


คาว่า “ใช่” ถ้าไม่เกี่ยวข้องให้กากบาทคาว่า “ไม่ใช่” ในแต่ละข้อ
ข้อ ข้อมูลเกี่ยวข้องกับสมบัติวัสดุ ใช่ หรือ ไม่ใช่
1) ผู้ยิงเหนี่ยวสายธนูไปด้านหลัง ใช่ ไม่ใช่
2) ผู้ยิงต้องออกแรงผลักให้มากที่สุด ใช่ ไม่ใช่
3) สายธนูทางานคล้ายฟองน้า ใช่ ไม่ใช่
4) ลูกธนูต้องมีน้าหนัก ใช่ ไม่ใช่

พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ 12
ความสาคัญของวัสดุ
ตารางแสดงวัสดุก่อสร้าง จาแนกตามการนาความร้อน ความทนทาน น้าหนัก และการเกิดเสียง
วัสดุ การนาความร้อน ความทนทาน การเกิดเสียง น้าหนัก
สังกะสี ดี นาน ดัง เบา
กระเบื้อง ไม่ดี ปานกลาง เบา มาก
แผ่นเหล็กรีด ดี นาน ดัง เบา
UPVC (กันสาด) ไม่ดี นาน เบา เบา
12. จากข้อมูลในตาราง ถ้าสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ฝนตกหนักบ่อยๆ บางครั้งมีลมแรง
เพื่อให้อยู่ได้สบาย ควรเลือกวัสดุในข้อใดในการทาหลังคาบ้าน
1) สังกะสี กับ แผ่นเหล็กรีด 2) กระเบื้อง กับ แผ่นเหล็กรีด
3) กระเบื้อง กับ UPVC (กันสาด) 4) แผ่นเหล็กรีด กับ UPVC (กันสาด)
วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ป.5 ฉบับที่ 1 หน้า 5

พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ 13 - 14
เรื่อง เทคโนโลยีการชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน
การเคลือบผิวเหล็กด้วยสังกะสีแบบจุ่มร้อน เป็นวิธีที่นิยมใช้เพื่อการปรับสภาพผิวเหล็กกล้า
ให้มีความต้านทานต่อการกัดกร่อนให้กับวัสดุ ส่งผลให้เหล็กกล้ามีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
เหล็กชุบสังกะสี สามารถนาไปใช้งานได้หลากหลายทั้งในครัวเรือน วัสดุก่อสร้าง ชิ้นส่วนรถยนต์
และวัสดุพื้นฐานทางอุตสาหกรรม
13. ถ้าจะทดสอบชิ้นส่วนของรถยนต์(กันชน)ว่ามีความทนต่อการใช้งานมากน้อยแค่ไหน
ควรเลือกใช้วิธีใดในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์
1) นาไปแช่น้า เพื่อหาค่าความหนาแน่น
2) นาไปลนไฟ เพื่อหาความทนต่อความร้อน
3) นาไปขูดกับวัตถุ เพื่อทดสอบความแข็งแกร่ง
4) นาไปทดสอบกับไฟฟ้าเพื่อหาค่าการนาไฟฟ้า
14. จากข้อมูลเทคโนโลยีการชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน สามารถตรวจสอบได้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์
หรือไม่ ถ้าสามารถทาได้ให้กากบาทคาว่า “ใช่” ถ้าไม่สามารถทาได้ให้กากบาทคาว่า “ไม่ใช่”
ในแต่ละข้อ
ข้อ เทคโนโลยีการชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน ใช่หรือไม่ใช่
1) การต้านทานต่อการกัดกร่อน ใช่ ไม่ใช่
2) อายุการใช้งานนานขึ้น ใช่ ไม่ใช่
3) การตรวจสอบความยืดหยุ่น ใช่ ไม่ใช่
4) ประหยัดคุ้มค่า หาง่าย ราคาไม่แพง ใช่ ไม่ใช่
วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ป.5 ฉบับที่ 1 หน้า 6

พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ 15 - 17

เรื่อง บอลลูน
บอลลูนสามารถลอยตัวในอากาศได้ด้วยแรงลอยตัวโดย
การให้ความร้อนกับอากาศภายในบอลลูน ทาให้อนุภาค
อากาศภายในลูกบอลลูนดูดซับพลังงานความร้อน อนุภาคจึง
เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเกิดการชนกันเองและชนกับพื้นผิว
ภายในของลูกบอลลูนทาให้เกิดแรงลอยตัวจานวนมหาศาลที่
จะทาให้ลูกบอลลูนลอยตัวขึ้นสู่ท้องฟ้าได้

15. ข้อใดเป็นเหตุผลที่ทาให้บอลลูนสามารถลอยอยู่ในอากาศได้
1) ความหนาแน่นของบอลลูนมีมากกว่าความหนาแน่นของอากาศโดยรอบบอลลูน
2) น้าหนักของอากาศภายในบอลลูนมีมากกว่าน้าหนักของอากาศภายนอกบอลลูน
3) ความหนาแน่นของอากาศภายในบอลลูนมีค่ามากกว่าความหนาแน่นของอากาศภายนอก
4) ความหนาแน่นของอากาศภายในบอลลูนมีค่าน้อยกว่าความหนาแน่นของอากาศภายนอก

16. จากข้อมูล พิจารณาข้อความต่อไปนี้ว่ากล่าวได้ถูกต้องหรือไม่ ถ้าถูกต้องให้กากบาทคาว่า “ใช่”


ถ้าไม่ถูกต้องให้กากบาทคาว่า “ไม่ใช่” ในแต่ละข้อ
ข้อ ข้อความ ใช่หรือไม่ใช่
1) บอลลูนที่มีขนาดใหญ่สามารถลอยตัวขึ้นไปได้ต่ากว่าบอลลูนขนาดเล็ก ใช่ ไม่ใช่
เพราะปริมาตรที่แทนที่อากาศมีมากกว่า
2) การลอยตัวของบอลลูนในอากาศใช้หลักการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความ ใช่ ไม่ใช่
หนาแน่นของอากาศภายในกับภายนอกบอลลูน
3) ถ้าต้องการให้บอลลูนลอยอยู่ในอากาศโดยไม่เคลื่อนที่ ต้องทาให้แรง ใช่ ไม่ใช่
ลอยตัวของอากาศเท่ากับน้าหนักของบอลลูน
4) ก๊าซที่จะบรรจุในบอลลูนต้องเป็นก๊าซที่มีน้าหนักเบา ใช่ ไม่ใช่

17. การลอยตัวของบอลลูนในอากาศใช้หลักการเดียวกับการลอยตัวของท่อนซุงในน้าใช่หรือไม่
เพราะเหตุใด
ตอบ...................................................................................................................
วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ป.5 ฉบับที่ 1 หน้า 7

พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ 18 - 19

เรื่อง กระป๋องมีรู
ด.ช.โจ้ นากระป๋องพลาสติกที่มีฝาปิดสนิท นามาเจาะรูด้านบนและด้านล่าง ปิดรูด้านล่าง
ด้วยเทปกาว แล้วเติมน้าจนเต็มกระป๋อง จากนั้นปิดรูด้านบนด้วยเทปกาว และนาไปวางในถ้วยที่มี
น้าเต็ม ดังภาพที่ 1

ถ้า ด.ช.โจ้ ทาการดึงเทปกาวด้านล่างออกแล้ววางในถ้วยเปล่า ดังภาพที่ 2

18. ข้อใดอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ถูกต้องที่สุด
1) ฝากระป๋องเปิดออกเล็กน้อย
2) เกิดฟองอากาศภายในกระป๋อง
3) ของเหลวไม่ไหลออกจากกระป๋อง
4) ของเหลวไหลในกระป๋องออกจนหมด

19. เหตุการณ์ใดต่อไปนี้ใช้หลักการเดียวกับการทดลองของ ด.ช. โจ้


1) การใส่น้าในลูกโป่ง
2) การเปิดขวดน้าอัดลม
3) การใช้หลอดดูดน้าจากแก้ว
4) การเจาะรูกระป๋องนมข้นหวาน
วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ป.5 ฉบับที่ 1 หน้า 8

พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ 20 - 21

เรื่อง พื้นที่ต่างกัน
สมบัติทดลองปล่อยลูกฟุตบอลขนาดและชนิดเดียวกันบนพื้นเอียง 45 0 แล้วจับเวลาเมื่อ
ลูกฟุตบอลกลิ้งถึงพื้นราบที่ตาแหน่ง A และ B โดยพื้นผิวของวัสดุที่ใช้ในการทาพื้นเอียงมีลักษณะ
ต่างกัน ดังภาพ
ลูกฟุตบอล ลูกฟุตบอล

A 45o B 45o
ภาพที่ 1 ภาพที่ 2

20. จากข้อมูล ข้อใดอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ถกู ต้องที่สุด


1) ลูกฟุตบอลในภาพทั้งสองกลิ้งถึงพื้นใช้เวลาเท่ากัน
2) ลูกฟุตบอลในภาพที่ 1 ใช้เวลากลิ้งถึงพื้นมากกว่าภาพที่ 2
3) ลูกฟุตบอลในภาพที่ 2 ใช้เวลากลิ้งถึงพื้นมากกว่าภาพที่ 1
4) ลูกฟุตบอลในภาพที่ 2 แตกก่อนถึงพื้นจึงทาให้จับเวลาไม่ได้

21. จากข้อมูลที่กาหนด พิจารณาปัจจัยต่อไปนีว้ ่าเป็นสาเหตุที่ทาให้ลูกฟุตบอลใช้เวลาในการเคลื่อนที่


ต่างกันหรือไม่ ถ้าต่างกันให้กากบาทคาว่า “ใช่” ถ้าไม่ต่างกันให้กากบาทคาว่า “ไม่ใช่” ในแต่ละข้อ
ข้อ ปัจจัย ใช่หรือไม่ใช่
1) ลักษณะของผิวพื้นที่ต่างกัน ใช่ ไม่ใช่
2) ขนาดของลูกฟุตบอลที่เท่ากัน ใช่ ไม่ใช่
3) ความลาดเอียงของพื้นที่เท่ากัน ใช่ ไม่ใช่
4) แรงโน้มถ่วงของโลก ใช่ ไม่ใช่
วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ป.5 ฉบับที่ 1 หน้า 9

พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ 22 - 23
ปี่หลอดกาแฟ
วิชัยเอาหลอดกาแฟมาบีบให้ปลายข้างหนึ่งแบน แล้วตัดปลายนั้นให้เป็นรูปสามเหลี่ยม
ดังภาพ จานวน 8 อัน ซึ่งแต่ละอันจัดให้มีความสั้นยาวต่างกัน แล้วเป่าให้เกิดเสียง

22. จากข้อมูล ถ้าเรียงลาดับเสียงปี่หลอดกาแฟจากเสียงสูงไปหาเสียงต่า จะได้ดังภาพใด

1) 2)

3) 4)

23. ถ้าหลอดกาแฟแบบอ่อนๆ จะเป่าให้ดังง่าย ในขณะที่หลอดแข็งจะเป่าได้ดังยากกว่า เมื่อออก


แรงเป่าลมเท่ากัน ดังนั้นถ้าเป่าหลอดกาแฟที่มี ขนาดและความยาวเท่ากัน ใครเป่าปี่หลอด
กาแฟได้เสียงดังที่สุด
1) สมศักดิ์ เลือกหลอดแข็ง ตรง
2) สมชาย เลือกหลอดอ่อน ตรง
3) สมนึก เลือกหลอดแข็ง โค้งงอ
4) สมรักษ์ เลือกหลอดอ่อน โค้งงอ
วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ป.5 ฉบับที่ 1 หน้า 10

พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ 24

โทรศัพท์กระป๋อง

โตโน แตงโม

24. จากภาพ แตงโมได้ยนิ เสียงพูดของโตโนได้เพราะเหตุใด


1) กระป๋องช่วยเพิ่มความดังของเสียง 2) เชือกช่วยในการเพิ่มความดังของเสียง
3) เชือกเป็นตัวกลางในการเคลื่อนที่ของเสียง 4) อากาศเป็นตัวกลางในการเคลื่อนที่ของเสียง

พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ 25

โรคหูดับเฉียบพลัน
โรคหูดับเฉียบพลัน เกิดจากการที่ประสาทหูเกิดเสื่อมทันทีทันใด ภายในระยะเวลาสั้นๆ
ซึ่งร้อยละ 85-90 ไม่ทราบสาเหตุ มีเพียงร้อยละ 10-15 เท่านั้นที่ทราบสาเหตุ โรคนี้ผู้ป่วย
จะมีอาการเพียงรู้สึกได้ยินเสียงลดลงเล็กน้อย โรคนี้ไม่พบบ่อย ส่วนใหญ่มัก จะพบในผู้สูงอายุ
กับเพศชายเท่ากับเพศหญิง และมักจะเกิดทีห่ ขู ้างเดียว

25. พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ว่าเป็นสาเหตุประสาทหูเสื่อมหรือไม่ ถ้าเป็นสาเหตุให้กากบาทคาว่า


“ใช่” ถ้าไม่เป็นสาเหตุให้กากบาทคาว่า “ไม่ใช่” ในแต่ละข้อ
ข้อ ข้อมูล ใช่หรือไม่ใช่
1) การมีเสียงดังในหู ใช่ ไม่ใช่
2) การสูญเสียการได้ยิน ใช่ ไม่ใช่
3) การฟังเสียงดังนานเกินไป ใช่ ไม่ใช่
4) การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ใช่ ไม่ใช่
วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ป.5 ฉบับที่ 1 หน้า 11

พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ 26 - 27
ความสูง/เมตร ลักษณะของเมฆ
5,000- ขึ้นไป ลักษณะเป็นเส้นๆ คล้ายใยไหมหรือเป็นริ้วบางๆ
2,000 – 5,000 ลักษณะเป็นแผ่นหนาบางสม่าเสมอในชั้นกลางของบรรยากาศ. ผิวเรียบ
เป็นปุยหรือฝอยละเอียดเป็นลูกคลื่น ปกคลุมเต็มท้องฟ้ามีสีเทาหรือ
น้าเงินอ่อน
ต่ากว่า 2,000 มีลักษณะเป็นแผ่นบางสีเทาต่าเป็นแนวยาวติดต่อกันแผ่กว้างออกไป
ไม่เป็นรูปร่าง
26. ด.ญ.มินตรา เดินทางกลับบ้านหลังเลิกเรียน สังเกตเห็นเมฆชนิดหนึ่งบนท้องฟ้า มีลักษณะ
คล้ายใบผักกาด เมฆที่ ด.ญ.มินตราเห็น ลอยอยู่บนท้องฟ้าที่ระดับความสูงเท่าใด
1) ต่ากว่า 2,000 เมตร
2) 2,000 – 5,000 เมตร
3) 5,000 เมตรขึ้นไป
4) มองเห็นได้ในทุกระดับความสูง

27. ถ้า ด.ญ.มินตรามองเห็นเมฆที่หนา และต่อมาเกิดเหตุการณ์ฝนตก แสดงว่าเมฆที่ ด.ญ.มินตราเห็น


น่าจะอยูใ่ นระดับความสูงเท่าใด
1) ต่ากว่า 2,000 เมตร
2) 2,000 – 5,000 เมตร
3) 3,000 เมตรขึ้นไป
4) 5,000 เมตรขึ้นไป
วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ป.5 ฉบับที่ 1 หน้า 12

พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ 28

เมื่อพื้นที่แต่ละแห่งได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ที่แตกต่างกัน และเมื่อวัดอุณหภูมิบริเวณ
ตาแหน่ง A และ C ในเวลาเดียวกันพบว่าอุณหภูมิปรากฏ ดังตาราง
อุณหภูมิเมื่อวัด
เวลา ตาแหน่ง A ( oC) ตาแหน่ง C (oC)
10.00 22 33
11.00 23 34
12.00 24 35
13.00 25 37

28. จากข้อมูล แต่ละบริเวณได้รับแสงอาทิตย์ที่แตกต่างกัน ทาให้อุณหภูมิต่างกัน ตามข้อมูลมีผล


ทาให้เกิดปรากฏการณ์ใด
ตอบ..............................................................................................................................
พิจารณาภาพต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ 29 - 30

สมใจ

29. สมใจยืนอยู่ทางทิศใดของคอนโดมิเนียม
1) ทิศเหนือ 2) ทิศใต้
3) ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 4) ทิศตะวันตกเฉียงใต้
30. นักเรียนจะเลือกปลูกต้นไม้ตาแหน่งใด ก , ข , ค หรือ ง เพือ่ ให้เกิดร่มเงายามบ่ายบริเวณสระน้า
เพราะอะไร
ตอบ..............................................................................................................................
****************************************

You might also like