Professional Documents
Culture Documents
วิชาการ 129
บทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ 3 ประการคือ 1) เพื่อให้ผู้อ่านทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับ
แนวคิดและองค์ประกอบที่สำคัญของมิติทางจิตวิญญาณในการทำงาน 2) อธิบายคุณค่าของมิติทาง
จิตวิญญาณในการทำงานต่อองค์กร รวมถึงปัจจัยที่หล่อเลี้ยงให้เกิดจิตวิญญาณในการทำงาน และ
3) วิเคราะห์ประเด็นสำคัญและความท้าทายในการนำแนวคิดนี้มาใช้ในการบริหารทรัพยากรมนุษย์ใน
องค์กร
คำสำคัญ: มิติทางจิตวิญญาณในการทำงาน การบริหารทรัพยากรมนุษย์, ผู้นำทางจิตวิญญาณ
Abstract
There are three objectives of this article. 1) This article provides details of the
concept and major components of workplace spirituality. 2) The article explains the value
or benefits of the concept of workplace spirituality to an organization including factors
that fostering spirituality in an organization. 3) The article analyzes the critical and
challenging factors for implementing this concept in the human resource management
system in an organization.
Key
words:
Workplace Spirituality, Human Resource Management, Spiritual Leadership
เอาตัวรอดและขาดการตระหนักถึงความสัมพันธ์
ที่จะทำให้คนในองค์กร มีเป้าหมายในระดับคุณค่า
และการอยู่ร่วมกันเป็นชุมชน ในท้ายที่สุดจะไป
ที่ร่วมกันได้ ทรัพยากรมนุษย์ในองค์กรถูกมองเป็น
บั่นทอนมิติทางจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์
เพียงปัจจัยทางด้านแรงงาน เพือ่ ใช้ในการประกอบ
กลางของชี วิ ต ยิ่ งเมื่ อ มีเ หตุ ก ารณ์ ทั้ งจากปัจ จั ย คำว่า “วิญญาณ” มักจะนึกถึง ความเชื่อเกี่ยวกับ
ส่วนบุคคลหรือการบริหารองค์กร ที่คุกคามหรือมี ดวงจิ ต ที่ ไ ปจุ ติ หรื อ ไปเกิ ด ในที่ ต่ า งๆ ส่ ว น
ยึดติดรูปแบบต่างๆ แต่เป็นคุณค่าและความหมาย
ให้ความหมายแก่สิ่งเหล่านั้นว่ามีความศักดิ์สิทธิ์
ร่วมอันเป็นสากลที่มนุษย์ทุกคนสามารถมีและเข้า
(Divinity) เช่น ความรู้สึกผูกพันและใกล้ชิดกับ
ถึงได้
พระเจ้า หรือศาสดาในแต่ละศาสนา การปฏิบัติ
ตามคำสอนทางศาสนา รวมถึงความรู้สึกผูกพัน มิติทางจิตวิญญาณในการทำงาน
กับสิ่งที่ให้ความเคารพและเทิดทูน ทั้งนี้เมื่อมีการ
เชื่อมโยงตัวตนเข้ากับสิ่งเหล่านี้แล้ว มักจะทำให้
(Workplace Spirituality)
รู้สึกถึงการมีอยู่ของจิตวิญญาณในตัวตนของเรา
แนวคิ ด ในเรื่ อ งของการบริ ห ารที่ เ น้ น
การเปลี่ยนแปลงภายใน ถึงระดับของจิตวิญญาณ
ประเวศ วะสี (2553) อธิ บ ายว่ า
นีไ้ ม่ใช่เรือ่ งใหม่ ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีการใช้
ความหมายเกี่ยวกับมิติทางด้านจิตวิญญาณในการ
จิตวิญญาณในการทำงานขึ้น
ทำงาน (Workplace Spirituality) ไว้ว่า เป็นการ
การทำงานเป็ น กิ จ กรรมสำคั ญ ที่ ท ำให้ ตระหนักและยอมรับถึงการให้คุณค่าต่อมิติชีวิต
มนุ ษ ย์ ไ ด้ ต ระหนั ก ถึ ง ศั ก ยภาพและผลสำเร็ จ
ด้านจิตใจของมนุษย์ ที่เกิดและได้รับการหล่อเลี้ยง
จากการทำงานของตนเอง ทำให้งานกลายเป็น
จากการที่ ไ ด้ ท ำงานที่ มี คุ ณ ค่ า และมี ค วามหมาย
สิ่งที่มีความหมายต่อชีวิต การทำงานจึงสามารถ
อันเกิดขึ้นจากการได้เป็นส่วนหนึ่งหรืออยู่ร่วมกัน
ที่ จ ะยกระดั บ จิ ต วิ ญ ญาณของความเป็ น มนุ ษ ย์
เป็นชุมชนในองค์กร หากพิจารณาจากคำนิยามนี้
ให้ สู ง ขึ้ น และทำให้ ม นุ ษ ย์ ส ามารถเข้ า ถึ ง คุ ณ ค่ า จะสามารถแยกองค์ประกอบที่สำคัญของ มิติทาง
และศั ก ยภาพสู ง สุ ด ของตนเองได้ (โกมาตร
ด้ า นจิ ต วิ ญ ญาณในการทำงานได้ เ ป็ น 3 ส่ ว น
จึงเสถียรทรัพย์. 2550) ดังนั้นมิติทางจิตวิญญาณ สำคัญได้แก่ ชีวิตด้านใน (Inner life) งานที่มี
ในการทำงาน จึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและสัมผัสได้จริง คุณค่าและมีความหมาย (Meaningful work)
อี ก ทั้ ง ยั ง สามารถเรี ย นรู้ แ ละทำความเข้ า ใจได้ และสำนึกร่วมแห่งความเป็นชุมชน (Sense of
(Twigg and Parayitam. 2006)
Community) ซึ่งนิยามและองค์ประกอบนี้ได้รับ
การยอมรับจากนักวิชาการหลายท่านที่ศึกษาใน
ในระยะเริ่มแรกของการทำความเข้าใจ
เรื่องนี้ ว่าเป็นความหมายและองค์ประกอบสำคัญ
ในเรื่ อ งนี้ นั ก วิ ช าการหลายท่ า นได้ พ ยายามให้
พื้นฐานของเรื่องนี้
คำนิยามทีแ่ สดงถึงความหมายและองค์ประกอบของ
เป็ น สุ ข ซึ่ ง เป็ น การให้ ค ำนิ ย ามและระบุ อ งค์ สรุปเป็นองค์ประกอบที่สำคัญได้ 4 ประการ ดัง
ประกอบของวิญญาณในที่ทำงาน ที่สอดคล้องกับ รายละเอียดต่อไปนี้
การอธิบายของ Twigg and Parayitam (2006) 1) ชีวิตด้านใน หรือ ชีวิตจิตใจ (Inner
โดยให้ความหมายของ จิตวิญญาณ (Spirituality) life)
ว่าเป็นภาวะของการรู้สึกถึงพลังของชีวิตที่เพิ่มสูง
เป็นการอธิบายเพื่อให้เกิดการตระหนัก
ขึ้ น ที่ ส มบูรณ์และอยู่ในภาวะที่ดีกว่าภาวะโดย
ถึงการรับรู้และยอมรับถึงการมีชีวิตอีกด้านหนึ่ง
ทั่ ว ไป และการตระหนั ก ถึ ง ความเชื่ อ มโยงของ
หรือชีวิตที่อยู่ภายในจิตใจ ที่ไม่สามารถมองเห็น
ตนเอง ต่อผู้อื่นและสภาพแวดล้อมภายนอก
ด้วยตา ดังนั้นชีวิตด้านในหรือชีวิตจิตใจ จึงเป็น
4) การหลอมรวมชีวติ เข้ากับการทำงาน
ถึงการเติบโตทางด้านจิตใจของตนเอง การตระหนัก
การหลอมรวมคุณค่าทั้งสองระดับเข้าด้วยกัน คือ
ทรัพยากรมนุษย์พบว่า วิญญาณในการทำงานมี
การที่ พ นั ก งานมี ค วามสุ ข และมี ชี วิ ต ชี ว าในการ
ความสัมพันธ์เชิงบวกกับ ความพึงพอใจในการ
ทำงาน เปรียบเหมือนการนำตัวตนทั้งชีวิตและ
ทำงาน พฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กร
จิตวิญญาณทั้งหมดมาที่ทำงาน ไม่ใช่เพียง แค่
และความรู้สึกมีความสุขทางจิตวิทยา (Psycho-
ร่างกายภายนอกอยู่ที่สถานที่ทำงาน แต่จิตใจยัง
logical well-being) และพบว่ามีความสัมพันธ์
ใคร่ครวญ คิดถึงเรือ่ งอืน่ ทีไ่ ม่เกีย่ วข้องกับการทำงาน
เชิงลบกับ ความตั้งใจในการลาออกจากงาน และ
คุ ณ ค่ า ของมิ ติ ด้ า นจิ ต วิ ญ ญาณในการ อัตราการขาดงาน (Tevichapong, Davis, and
ทำงานต่อองค์กร
Guillaume. 2010)
ปั จ จั ย ที่ ห ล่ อ เลี้ ย งจิ ต วิ ญ ญาณในการ ดั ง กล่ า วขึ้ น หรื อ มั ก เกิ ด จากการตั้ ง คำถามกั บ
เป้าหมายชีวิต ทำให้เกิดการตระหนักถึงคุณค่า
ในการสร้ า งมิ ติ ท างจิ ต วิ ญ ญาณในการ สู ง สุ ด ที่ ต นเองยึ ด ถื อ ไว้ ไ ด้ (3) พบเหตุ ก ารณ์ ที่
ทำงานให้เกิดขึ้นทั้งสองระดับตั้งแต่บุคคลจนถึง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น เหตุการณ์ต่างๆ
องค์กรนั้น นักวิชาการบางกลุ่มมีความเชื่อว่าเป็น ที่ทำให้คนเกิดความสนใจและหันมาให้คุณค่ากับ
หน้าที่ของผู้นำ ซึ่งได้ตั้งชื่อผู้นำที่มีความสนใจใน ตนเองมากขึ้น จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและ
เรื่องนี้ว่า ผู้นำในมิติของจิตวิญญาณ (Spiritual เข้าใจถึงความสำคัญของจิตวิญญาณต่อการดำรง
leadership) ซึ่ ง จะมี บ ทบาทในการสร้ า งแรง
ชี วิ ต มากขึ้ น ทั้ ง นี้ เ หตุ ก ารณ์ ที่ ท ำให้ เ กิ ด การ
จู ง ใจ กระตุ้ น เร้ า เพื่ อ ให้ พ นั ก งานได้ รั บ หรื อ เกิ ด
เปลี่ยนแปลงนี้ มีได้หลายลักษณะและขึ้นอยู่กับ
ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับมิติทางจิตวิญญาณใน ความแตกต่างของแต่ละคนที่จะมีการสร้างความ
การทำงาน (Fry and Slocum. 2008 ; Pawar. เข้าใจ อันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในท้ายที่สุด
2009)
โดยมักเกิดจากการคิดทบทวนและใคร่ครวญ ถึง
ทั้งนี้ผู้นำในมิติของจิตวิญญาณดังกล่าว เหตุการณ์ต่างๆ ที่ประสบมาในชีวิตแล้ว เชื่อมโยง
เป็นเพียงกลไกหนึ่งเท่านั้นที่จะช่วยให้พนักงาน
กลั บ มาที่ คุ ณ ค่ า ที่ ต นเองยึ ด ถื อ ไว้ ซึ่ ง เป็ น อี ก วิ ธี
ศั ก ยภาพอั น ยิ่ ง ใหญ่ ที่ ซ่ อ นอยู่ ใ นตนเองได้ ซึ่ ง (4) บรรยากาศภายในองค์กร เช่น ปัจจัยหรือ
Kinjerski and Skrypnek (2006 ; 2008a) ได้ บริ บ ทต่ า งๆที่ เ กิ ด ขึ้ น ในองค์ ก รก็ ส ามารถทำให้
โยคะ รำมวยจีน ไอคิโด การทำงานอาสาสมัคร (1) ในสั ง คมไทยที่ มั ก จะมี ก ารอ้ า งอิ ง
หลายแนวคิดทางการบริหารที่นำมาใช้ ทางตะวันตกที่มีการใช้กิจกรรมการออกกำลังกาย
ในสังคมไทย มักได้รับแนวคิดมาจากทางตะวันตก เช่น โยคะ รำมวยจีน หรือไอคิโด เป็นเครื่องมือที่
ในเรื่องของมิติทางจิตวิญญาณในการทำงานก็เช่น ทำให้มนุษย์ได้สัมผัสกับแก่นกลางและชีวิตด้านใน
เดียวกัน มีการค้นพบและพัฒนาแนวคิดนี้มาจาก หรือจิตวิญญาณของตนเอง ในทางศาสนาพุทธ
ก็เริ่มให้ความสนใจในเรื่องนี้และทำวิจัยค้นคว้า
ถึงแม้ว่าเรื่องของจิตวิญญาณนี้จะเป็นเรื่องที่เป็น
อยู่ บ้ า งเช่ น กั น หากจะนำแนวคิ ด เรื่ อ งมิ ติ ท าง
สากล มนุษย์ทุกคนสามารถเข้าใจและสามารถมี
จิตวิญญาณในการทำงานมาปรับใช้ในสังคมไทย ประสบการณ์ตรงในการเข้าไปทำความรู้จักและ
โดยเฉพาะในการบริหารทรัพยากรมนุษย์ นั้นมี สัมผัสได้ด้วยตนเอง แต่มิติทางจิตวิญญาณในการ
ประเด็นที่น่าสนใจและควรที่จะทำความเข้าใจให้ ทำงานนั้นเกิดขึ้นและถูกหล่อเลี้ยงในบริบทของ
ลึกซึ้งมากขึ้นดังนี้
สถานที่ทำงาน ซึ่งรูปแบบวัฒนธรรมการทำงาน
วารสาร มฉก.วิชาการ 138 ปีที่ 16 ฉบับที่ 32 มกราคม - มิถุนายน 2556
ในองค์กรของทางตะวันตกและตะวันออกค่อนข้าง ดังนั้นการจะนำแนวคิดนี้ไปปรับใช้ไม่ใช่
ต่างกัน จึงมีความจำเป็นที่ควรทำความเข้าใจและ แค่ เ รื่ อ งของการลงมื อ ทำ แต่ สิ่ ง สำคั ญ ต้ อ งมี
ในสั ง คมไทยจึ ง มี ป ระโยชน์ ที่ จ ะทำให้ เ กิ ด การ การสัง่ การบังคับบัญชา มาสูก่ ารเกือ้ และเสริมหนุน
ทำงานอย่ า งไร้ ชิ วิ ต จิ ต ใจ ทำงานไม่ ต่ า งจาก นั ก บริ ห ารทรั พ ยการมนุ ษ ย์ แต่ ร วมถึ ง ผู้ บ ริ ห าร
เครื่ อ งจั ก ร และบ่ อ ยครั้ ง การบริ ห ารงานใน ทุ ก ระดั บ และพนั ก งานทุ ก คนในองค์ ก ร ที่ จ ะ
กระบวนทัศน์แบบวิทยาศาสตร์เก่าเหล่านี้มักจะ ทำความเข้าใจและปรับกระบวนทัศน์ในการทำงาน
เอกสารอ้างอิง
โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ และคณะ. (2550) องค์กรไม่ใช่เครื่องจักร (Living Organization) :
การบริหารจัดการกระบวนทัศน์ใหม่. นนทบุรี : สำนักวิจัยสังคมและสุขภาพ (สวรส.).
ประเวศ วะสี. (2553) ธรรมชาติของสรรพสิง่ : การเข้าถึงความจริงทัง้ หมด. นนทบุรี : กรีน-ปัญญาญาณ.
สมสิทธิ์ อัสดรนิธี. (2552) จิตตปัญญาศึกษาคืออะไร. นครปฐม : ศูนย์จิตตปัญญาศึกษา มหาวิทยาลัย
มหิดล.
Altaf, A., and Awan, M. A. (2011) “Moderating Affect of Workplace Spirituality on the
Relationship of Job Overload and Job Satisfaction” Journal of Business Ethics.
104 (1) page 93-99.
Ashmos, D. P., and Duchon, D. (2000) “Spirituality at work” Journal of Management
Inquiry 9(2) page 134-145.
Cash, K. C., and Gray, G. R. (2000) “A Framework for accommodating religion and
spirituality in the workplace” Academy of Management Executive. 14 (3) page
124-133.
Duchon, D., and Plowman, D. A. (2005) “Nurturing the spirit at work: Impact on work unit
performance” The Leadership Quarterly. 16 (5) page 807-833.
Fry, L. W., and Slocum, J. W. (2008) “Maximizing the triple bottom line through spiritual
leadership” Organizational Dynamic. 37 (1) page 86-96.
Kinjerski, V., and Skrypnek, B. J. (2006) “A human ecological model of spirit at work”
Journal of Management Spirituality & Religion. 3 (3) page 232-239.
Kinjerski, V., & Skrypnek, B. J. (2008a) “Four paths to spirit at work: journeys of personal
meaning, fulfillment, well-being, and transcendence through work” The Career
Development Quarterly. 56 (4) page 319-328.
Kinjerski, V., & Skrypnek, B. J. (2008b) “The promise of spirit at work” Journal of
Gerontological Nursing. 34 (10) page 17-27.
วารสาร มฉก.วิชาการ 140 ปีที่ 16 ฉบับที่ 32 มกราคม - มิถุนายน 2556
Krishnakumar, S., and Neck, C. P. (2002) “The whay, why and how of spirituality in the
workplace” Journal of Managerial Psychology. 17 (3) page 153-164.
McMillan, D., and Chavis, D. (1986) “Sense of community: A definition and therory”
Journal of Community Psyshology. 14 (1) page 6-23
Marques, J. (2005) “HR’s Crucial role in the establishment of spirituality in the workplace”
The Journal of American Academy of Business Cambridge. 7 (2) page 27-31.
Milliman, J., J.Czaplewski, A., and Ferguson, J. (2003) “Workplace spirituality and
employee work attitude : an exploratory empirical assessment” Journal of
Organizational Change Management. 16 (4) page 426-447.
Neal, J. A. (1997) “Spirituality in management education : and guide to resource” Journal
of Management Education. 21 (1) page 121-139.
Pawar, B. S. (2009) “Workplace spirituality facilitation : a comprehensive model” Journal
of Business Ethics. 90 (3) page 375-386.
Petchsawang, P., and Duchon, D. (2009) “Measuring workplace spirituality in an Asian
context” Human Resource Development International. 12 (4) page 459-468.
Tevichapong, P., Davis, A., and Guillaume, Y. (2010) Individual spirit at work and its
outcomes: An empirical examination in corporate Thailand. Paper presented at
the The 70th Annual Meeting of Academy of Management.
Twigg, N. W., and Parayitam, S. (2006) “Spirit at work: Spiritual typologies as theory
builders” Journal of Organizational Culture, Communication and Conflict.