Professional Documents
Culture Documents
ชุดกิจกรรมไฟฟ้า
ชุดกิจกรรมไฟฟ้า
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
คำชี้แจงกำรใช้
ลำดับขั้นตอนกำรใช้
อ่ำนคำชี้แจง
ทำแบบทดสอบก่อนเรียน
ศึกษำใบควำมรู้/ปฏิบัติกิจกรรมระหว่ำงเรียน
ทาใบกิจกรรม
ทาแบบทดสอบหลังเรียน ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน
ผ่านเกณฑ์การประเมิน
ศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดถัดไป
คำชี้แจงสำหรับครู
คำชี้แจงสำหรับนักเรียน
สำระ/มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวชี้วัด
สำระที่ 5 พลังงำน
ตัวชี้วัด
สำระสำคัญ
สำระกำรเรียนรู้
- กระแสไฟฟ้า
- ความต่างศักย์ไฟฟ้า
- ความต้านทานไฟฟ้า
- ความสัมพันธ์ระหว่างความต่างศักย์ไฟฟ้ากับกระแสไฟฟ้า
จุดประสงค์กำรเรียนรู้
1. ด้ำนควำมรู้ (Knowledge: K)
1.1 บอกความหมายและประเภทของวงจรไฟฟ้าได้
1.2 อธิบายการต่อวงจรไฟฟ้าแต่ละแบบและคุณสมบัติได้
1.3 บอกความหมายของพลังงานและพลังงานไฟฟ้าได้
1.4 อธิบายการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานรูปแบบอื่น ๆ ได้
1.5 คานวณหาความสัมพันธ์ระหว่างความต่างศักย์ไฟฟ้ากับกระแสไฟฟ้าได้
1.6 อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานไฟฟ้ากับกระแสไฟฟ้าได้
2. ด้ำนทักษะกระบวนกำร (Process: P)
3. ด้ำนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude: A)
3.1 ใฝ่เรียนรู้
3.2 มุ่งมั่นในการทางาน
4. ด้ำนสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการคิด
4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
สื่อกำรเรียนรู้
แบบทดสอบก่อนเรียน
1. ภวภพต้องการจะวัดกระแสไฟฟ้าในวงจร ต้องใช้เครื่องมือชนิดใดและต่ออย่างไร
ก. แอมมิเตอร์ ต่อแบบขนาน
ข. โวลต์มิเตอร์ ต่อแบบขนาน
ค. แอมมิเตอร์ ต่อแบบอนุกรม
ง. โวลต์มิเตอร์ ต่อแบบอนุกรม
2. ภูวนัยต้องการวัดความต่างศักย์ของกระแสไฟฟ้า ต้องใช้เครื่องมือชนิดใดและต่ออย่างไร
ก. แอมมิเตอร์ ต่อแบบขนาน
ข. โวลต์มิเตอร์ ต่อแบบขนาน
ค. แอมมิเตอร์ ต่อแบบอนุกรม
ง. โวลต์มิเตอร์ ต่อแบบอนุกรม
3. ไฟฟ้ากระแสตรงและไฟฟ้ากระแสสลับมีความแตกต่างกันอย่างไร
ก. ทิศทางการไหล
ข. ความเข็มของแสง
ค. แหล่งกาเนิดไฟฟ้า
ง. ปริมาณกระแสไฟฟ้า
4. คุณสมบัติของมอเตอร์ไฟฟ้า ตรงกับข้อใด
ก. เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานกล
ข. เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานจลน์
ค. เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานความร้อน
ง. เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานแสงอาทิตย์
5. ตาราง กาลังไฟฟ้าและความต่างศักย์ของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง
ชนิดของ
กำลังไฟฟ้ำ (วัตต์) ควำมต่ำงศักย์ (โวลต์)
เครื่องใช้ไฟฟ้ำ
หลอดไฟฟ้ำ 60 220
ตู้เย็น 320 220
หม้อหุงข้ำว 700 220
เตำรีดไฟฟ้ำ 850 220
เมื่อใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในตารางชนิดใดที่มีปริมาณกระแสไฟฟ้าไหลผ่านมากที่สุดและน้อยที่สุด
ก. หม้อหุงข้าว ตู้เย็น
ข. ตู้เย็น หลอดไฟฟ้า
ค. หลอดไฟฟ้า เตารีดไฟฟ้า
ง. เตารีดไฟฟ้า หลอดไฟฟ้า
6. วัตถุในข้อใดเป็นตัวนาไฟฟ้าทั้งหมด
ก. ผ้า เหล็ก เชือกฟาง และพลาสติก
ข. เงิน ตะกั่ว ทองแดง และคาร์บอน
ค. เหล็ก ทองแดง อากาศ และสังกะสี
ง. ตะกั่ว สังกะสี ทองแดง และยางรถยนต์
7. กฎของโอห์มจะเกิดขึ้นได้จะต้องประกอบด้วยค่าพื้นฐานในข้อใดบ้าง
ก. กระแส แรงดัน และกาลังไฟฟ้า
ข. กระแส แรงดัน และความต้านทาน
ค. แรงดัน ความต้านทาน และกาลังไฟฟ้า
ง. กระแส ความต้านทาน และกาลังไฟฟ้า
8. ข้อใดเป็นการกดสวิตซ์เปิดไฟ
ก. การทาให้วงจรปิด มีกระแสไฟฟ้าไหล
ข. การทาให้วงจรเปิด มีกระแสไฟฟ้าไหล
ค. การทาให้วงจรปิด ไม่มีกระแสไฟฟ้าไหล
ง. การทาให้วงจรเปิด ไม่มีกระแสไฟฟ้าไหล
9. ไฟฟ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร
ก. ไฟฟ้าเกิดจากวัตถุ 2 ชนิดมาประทะกัน
ข. ไฟฟ้าเกิดจากการทางานของเครื่องยนต์
ค. ไฟฟ้าเกิดจากการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอน
ง. ไฟฟ้าเกิดจากการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้า
10. ข้อใดคือ เครื่องมือที่ใช้วัดความต่างศักย์ไฟฟ้า
ก. แอมมิเตอร์
ข. โวลต์มิเตอร์
ค. โอห์มมิเตอร์
ง. กัลป์วานแอมมิเตอร์
กระดำษคำตอบแบบทดสอบก่อนเรียน
ข้อ ก ข ค ง
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
คะแนนทีไ่ ด้
วงจรไฟฟ้าเป็นการนาเอาสายไฟฟ้าหรือตัวนาไฟฟ้าที่เป็น
เส้นทางเดินให้กระแสไฟฟ้าสามารถไหลผ่านต่อถึงกันได้นั้นเราเรียกว่า
วงจรไฟฟ้ำ การเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนที่อยู่ภายในวงจรจะเริ่มจากแหล่งจ่ายไฟไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้า
ดังการแสดงการต่อวงจรไฟฟ้าเบื้องต้น โดยการต่อแบตเตอรี่ต่อเข้ากับหลอดไฟหลอดไฟฟ้าสว่างได้
เพราะว่ า กระแสไฟฟ้ า สามารถไหลได้ ต ลอดทั้ ง วงจรไฟฟ้ า และเมื่ อ หลอดไฟฟ้ า ดั บ ก็ เ พราะว่ า
กระแสไฟฟ้าไม่สามารถไหลได้ตลอดทั้งวงจรเนื่องจากสวิตซ์เปิดวงจรไฟฟ้าอยู่นั่นเอง
ประเภทของวงจรไฟฟ้ำ
วงจรปิด วงจรเปิด
ภาพที่ 1 วงจรไฟฟ้าเบื้องต้น
ที่มา: http://www.kksci.com/elreaning/phi/page/phi_1.htm
ส่วนประกอบสำคัญของวงจรไฟฟ้ำ
ก. แหล่งกาเนิดไฟฟ้า ข. ตัวนาไฟฟ้า
ค. เครื่องใช้ไฟฟ้า
ภาพที่ 2 แหล่งกาเนิดไฟฟ้า
ที่มา https://th.pngtree.com/freepng/cartoon-hand-painted-electrical-vector-
material_3235908.html
การต่อวงจรแบบอนุกรม
ภาพที่ 3 การต่อวงจรแบบอนุกรม
ที่มา https://www.omsschools.com
คุณสมบัติของกำรต่อวงจรแบบอนุกรม
กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านเท่ากันตลอดวงจร
แรงดันไฟฟ้าตกคร่อมส่วนต่าง ๆ ของวงจร เมื่อนามารวมกันแล้วจะเท่ากับแรงดันไฟฟ้าที่
แหล่งกาเนิด
ความต้านทานรวมของวงจร จะมีค่าเท่ากับผลรวมของความต้านทานแต่ละตัวในวงจร
รวมกัน
การต่อวงจรแบบขนาน
ภาพที่ 4 การต่อวงจรแบบขนาน
ที่มา https://www.omsschools.com
คุณสมบัติของกำรต่อวงจรแบบขนำน
กระแสไฟฟ้ารวมของวงจรขนาน จะมีค่าเท่ากับกระแสไฟฟ้าย่อยที่ไหลในแต่ละสาขาของ
วงจรรวมกัน
แรงดันไฟฟ้าตกคร่อมส่วนต่าง ๆ ของวงจรจะเท่ากับแรงดันไฟฟ้าที่แหล่งกาเนิดในวงจร
ความต้านทานรวมของวงจร จะมีค่าน้อยกว่าความต้านทานตัวที่น้อยที่สุดที่ต่ออยู่ในวงจร
การต่อวงจรแบบผสม
การต่อวงจรแบบผสม เป็นวงจรที่นาเอาวิธีการต่อแบบอนุกรมและวิธีการต่อแบบขนาน
มารวมให้เป็นวงจรเดียวกัน ซึ่งสามารถแบ่งตามลักษณะของการต่อได้ 2 ลักษณะ ดังนี้
วงจรผสมแบบอนุกรม-ขนาน เป็นการนาเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือโหลดไปต่อกันอย่าง
อนุกรมก่อน แล้วจึงนาไปต่อกันแบบขนานอีกครั้งหนึ่ง
วงจรผสมแบบขนาน-อนุกรม เป็นการนาเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือโหลดไปต่อกันอย่าง
ขนานก่อน แล้วจึงนาไปต่อกันแบบอนุกรมอีกครั้งหนึ่ง
ภาพที่ 5 การต่อวงจรแบบผสม
ที่มา https://www.omsschools.com
คุณสมบัติของกำรต่อวงจรแบบผสม
เป็นการนาคุณสมบัติของวงจรอนุกรมและคุณสมบัติของวงจรขนานมารวมกัน หมายความว่า
ถ้าตาแหน่งที่มีการต่อแบบอนุกรม ก็เอาคุณสมบัติของวงจรการต่อแบบอนุกรมมาพิจารณาตาแหน่งใด
ที่มีการต่อแบบขนานก็เอาคุณสมบัติของวงจรการต่อแบบขนานมาพิจารณาไปทีละขั้นตอน
ควำมหมำยทำงไฟฟ้ำ
ใบกิจกรรมกำรทดลองที่ 1
เรื่อง กำรต่อเครื่องใช้ไฟฟ้ำเข้ำในวงจรไฟฟ้ำ
กลุ่มที่ …………………..
สมาชิกลุ่ม
1. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
2. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
3. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
4. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
5. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
จุดประสงค์
วัสดุ/อุปกรณ์
วิธีการทดลอง
ภาพที่ 5 การต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าในวงจรไฟฟ้า
ที่มา https://physicskruadd.wordpress.com
3. บันทึกผลการสังเกตความสว่างของหลอดไฟฟ้า พร้อมทั้งวาดภาพวงจรไฟฟ้าลงในแบบบันทึก
กิจกรรม
แบบบันทึกผลการทดลอง
…………………………………………………………………..………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………..………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………..………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………..………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………..………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………..………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………..………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………..…………………………………………………………………………
ภาพวาดวงจรไฟฟ้า
คาถามท้ายกิจกรรมทางทดลอง
สรุปผลการทดลอง
……………………………………………………….……………………………………………………….…………………………….
……………………………………………………….……………………………………………………….…………………………….
……………………………………………………….……………………………………………………….…………………………….
……………………………………………………….……………………………………………………….…………………………….
……………………………………………………….……………………………………………………….…………………………….
……………………………………………………….……………………………………………………….…………………………….
……………………………………………………….……………………………………………………….…………………………….
แหล่งกาเนิดไฟฟ้าเป็นส่วนที่ทาให้กระแสไฟฟ้าไหลเข้าสู่เครื่องใช้ไฟฟ้าในวงจร
เพื่อให้เครื่องไฟฟ้าเหล่านั้นทางานได้โดยแหล่งกาเนิดไฟฟ้ามีอยู่หลายแหล่ง
ซึ่งแต่ละแหล่งมีหลักการทาให้เกิดและนามาใช้ประโยชน์ได้แตกต่างกัน ดังนี้
1. ไฟฟ้าจากการขัดสี เกิดจากการนาวัสดุต่างชนิดกันมาขัดถูแล้วทาให้เกิดอานาจอย่างหนึ่ง
ขึ้นมาและสามารถดูดวัตถุอื่น ๆ ที่เบาบางได้ เราเรียกอานาจนั้นว่า ไฟฟ้าสถิต ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะ
อยู่ในวัตถุได้ชั่วขณะหนึ่งแล้วหลังจากนั้นก็จะค่อย ๆ เสื่อมลงไปจนสุดท้ายก็หมดไปในที่สุด
2. ไฟฟ้าจากปฏิกิริยาเคมี การเกิดปฏิกิริยาเคมีจะทาให้ประจุไฟฟ้าในสารเคมีนั้น
เคลื่อนที่ผ่านตัวนา ทาให้เกิดเป็นไฟฟ้ากระแสขึ้นได้เรานาหลักการนี้ไปประดิษฐ์
ถ่านไฟฉายและแบตเตอรี่รถยนต์
3. ไฟฟ้าจากสนามแม่เหล็ก เกิดขึ้นได้เมื่อมีการหมุนหรือเคลื่อนที่ผ่านขดลวดตัดกับ
สนามแม่เหล็กทาให้เกิดกระแสไฟฟ้าในขดลวดซึ่ง เรานาหลักการนี้ไ ปสร้างเครื่องกาเนิดไฟฟ้า
ที่เรียกกว่า ไดนาโม ซึ่งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ทั้งไฟฟ้ากระแสตรงและกระแสสลับ
4. ไฟฟ้ า จากแรงกดดั น แร่ ธ าตุ บ างชนิ ด เมื่ อ ได้ รั บ แรงกดดั น มาก ๆ จะปล่ อ ย
กระแสไฟฟ้าออกมาได้ ซึ่งเรานาแร่ธาตุเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ในการทาไมโครโฟน หัวเข็มของ
เครื่องเล่นแผ่นเสียง เป็นต้น
5. กระแสไฟฟ้าจากสัตว์บางชนิด สัตว์น้าบางชนิดมีกระแสไฟฟ้าอยู่ในตัว เมื่อเรา
ถูกต้องตัวสัตว์เหล่านั้นจะถูกไฟฟ้าจากสัตว์เหล่านั้นดูดได้ เช่น ปลาไหลไฟฟ้า เป็นต้น
6. กระแสไฟฟ้าจากความร้อน เป็นกระแสไฟฟ้าที่ได้จากการนาโลหะไปเผาให้ร้อน
การเปลี่ยนรูปพลังงาน โดยปกติพลังงานสามารถเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอีกรูปแบบหนึ่งได้
ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานเสียง เป็นต้น บางครั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด
ยังสามารถเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานรูปอืน่ ได้หลายรูปในเวลาเดียวกัน
1. การเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานแสงสว่าง เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็น
พลังงานแสงสว่าง คือ หลอดไฟฟ้า ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ หลอดธรรมดา หรือหลอด
แบบมีไส้ ซึ่งมีลักษณะเป็นรูปกระเปาะแก้วใสภายในมีไส้หลอดขดเป็นสปริงบรรจุอยู่ ปัจจุบัน
นั้น
ทาด้วยโลหะทังสเตนกับออสเมียม ภายในหลอดบรรจุแก๊สไนโตรเจนและอาร์กอน
เมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านไส้หลอดที่มีความต้านทานสูง ไส้หลอดจะร้อนจน
เปล่งแสงออกมาได้ และหลอดฟลูออเรสเซนต์เป็นหลอดเรืองแสงที่บุคลทั่วไป
เรียกว่า หลอดนีออน มีหลายรูปแบบภายในเป็นสุญญากาศบรรจุไอปรอทไว้เล็กน้อย
ผิวด้านในฉาบไว้ด้วยสารเรืองแสง เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านไอปรอทอะตอมของ
ปรอทจะคายรังสีอัตราไวโอเลตออกมา และเมื่อรังสีนี้กระทบกับสารเรืองแสง
จะเปล่งแสงสว่าง ปัจจุบันมีการผลิตออกมาหลายรูปแบบ เช่น หลอดซุปเปอร์
หรือหลอดผอม หลอดตะเกียบ ซึ่งช่วยประหยัดไฟฟ้าได้ดี
2. การเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานความร้อน เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานความร้อน
ภายในจะมีอุปกรณ์สาคัญ คือ ขดลวดต้านทานหรือขดลวดความร้อนติดตั้งอยู่ เมื่อไฟฟ้า
ไหลผ่านขดลวดนี้จะทาให้เกิดความร้อนขึ้น ขดลวดที่นิยมใช้มากที่สุด คือ ขดลวดนิโครม
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานความร้อนได้แก้ เตารีดไฟฟ้า หม้อหุงข้าวไฟฟ้า กาต้มน้าร้อน
ไฟฟ้า เครื่องปิ้งขนมปัง ไดร์เป่าผม เป็นต้น
การวัดความต่างศักย์ไฟฟ้าหรือความต่างกันของพลังงานไฟฟ้าระหว่างจุด 2 จุดในวงจรไฟฟ้า
ใช้เครื่องมือที่เรียกว่า โวลต์มิเตอร์ หน่วยที่ใช้วัดผ่านโวลต์มิเตอร์ เรียกว่า โวลต์ เวลาใช้วัดต้องต่อ
แบบขนานเข้ากับวงจร โดยนาโวลต์ มิเตอร์มาต่อคร่อม 2 จุด ที่ต้องการวัด ความต่างศักย์ในโวลต์
มิเตอร์มีความต้านทานสูงมาก การใช้โวลต์มิเตอร์ ต้องคานึกถึง การต่อขั้วไฟฟ้าทั้ง 2 ขั้ว ต้อต่อให้
ถูกต้อง คือ ต่อขั้วลบของวงจรไฟฟ้ากับขั้วลบของโวลต์มิเตอร์ ขั้วบวกของวงจรไฟฟ้าต่อเข้ากับขั้วบวก
ของโวลต์มิเตอร์ และการใช้โวลต์มิเตอร์ต้องให้มีค่าความต่างศักย์ไม่เกินค่าความต่างศักย์สูงสุดของ
โวลต์ มิ เ ตอร์ การวั ด ความต่ า งศั ก ย์ ข องถ่ า นไฟฉายมี ค่ า ความ ต่ า งศั ก ย์ ป ระมาณ 1.5 โวลต์
ส่วนแบตเตอรี่ในรถยนต์มีความต่างศักย์ประมาณ 12 โวลต์ และความต่างศักย์ของพลังงานไฟฟ้าที่ใช้
ตามบ้ายเรือนมีค่ามากถึง 220 โวลต์ ค่าความต่างศักย์ที่มีมากขึ้นแสดงว่ามีพลังงานไฟฟ้ามากขึ้นและ
จะเป็นอันตรายต่อชีวิตมากขึ้น
นอกจากค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าแล้วยัง มีปริมาณไฟฟ้าอื่นอีก คือ กระแสไฟฟ้า เพราะเมื่อมี
วงจรไฟฟ้ า กระแสไฟฟ้ า จะไหลหรื อ เคลื่ อ นที่ จ ากขั้ ว บวกผ่ า นวงจรไฟฟ้ า ไปยั ง ขั้ ว ลบ ปริ ม าณ
กระแสไฟฟ้าที่ไหลในวงจรสามารถวัดได้โดยใช้เครื่องวัดกระแสไฟฟ้าหรือแอมมิเตอร์
ภาพที่ 6 การต่อวงจรเพื่อวัดค่ากระแสไฟฟ้า
ที่มาภาพ : https://www.youtube.com/watch?v=c7K0G8l9LxM
ใบกิจกรรมกำรทดลองที่ 2
เรื่อง พลังงำนไฟฟ้ำในวงจรไฟฟ้ำ
กลุ่มที่ …………………..
สมาชิกลุ่ม
1. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
2. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
3. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
4. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
5. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
จุดประสงค์
1. ทดลองและอธิบายพลังงานไฟฟ้าของแหล่งกาเนิดไฟฟ้ามีความสัมพันธ์กับความต่างศักย์
ของแหล่งกาเนิดไฟฟ้าได้
วัสดุ/อุปกรณ์
วิธีการทดลอง
ภาพที่ 9 การต่อวงจรไฟฟ้า
ที่มา: กระทรวงศึกษาธิการ,2558,หน้า 56.
2. ต่อวงจรไฟฟ้าโดยใช้ความต่างศักย์ของหม้อแปลงไฟฟ้าโวลต์ต่า 2 โวลต์ กดสวิตซ์ (วงจรปิด)
สังเกตความสว่างของหลอดไฟฟ้า และอ่านค่าจากโวลต์มิเตอร์ บันทึกผลและยกสวิตซ์ขึ้น (วงจรเปิด)
3. ทาซ้าข้อ 2 โดยใช้ความต่างศักย์ของหม้อแปลงไฟฟ้าโวลต์ต่า 4 โวลต์และ 6 โวลต์ตามลาดับ
สังเกตความสว่างของหลอดไฟฟ้าฟ้าและอ่านค่าโวลต์มิเตอร์แต่ละค่า บันทึกผลลงในแบบบันทึก
กิจกรรม
บันทึกผลการทดลอง
………………………………………………………………….…………………………………………………………………………
….………………………………………………………………….………………………………………………………………………
…….………………………………………………………………….……………………………………………………………………
………………………………………………………………………….…………………………………………………………………
………….………………………………………………………………….………………………………………………………………
…………….………………………………………………………………….……………………………………………………………
……………….………………………………………………………………….…………………………………………………………
………………….………………………………………………………………………………………………………………………….
คาถามท้ายกิจกรรมการทดลอง
1. เมื่อใช้ความต่างศักย์ของหม้อแปลงไฟฟ้าโวลต์ต่าเพิ่มขึ้น ค่าที่อ่านได้จากโวลต์มิเตอร์
เปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร
…………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..
……………..…………………………………………………..…………………………………………………………………………..
2. เมื่อใช้ความต่างศักย์ของหม้อแปลงไฟฟ้าโวลต์ต่าเพิ่มขึ้น ความสว่างของหลอดไฟฟ้ามีการ
เปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร
…………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..
……………..…………………………………………………..…………………………………………………………………………..
3. ค่าที่อ่านได้จากโวลต์มิเตอร์ มีความสัมพันธ์กับความสว่างของหลอดไฟฟ้าอย่างไร
…………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..
……………..…………………………………………………..…………………………………………………………………………..
สรุปผลการทดลอง
…………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..
……………..…………………………………………………..…………………………………………………………………………..
…………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..
……………..…………………………………………………..…………………………………………………………………………..
…………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..
……………..…………………………………………………..…………………………………………………………………………..
1.
จงอธิบายความหมายของ “พลังงานไฟฟ้า”
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ถ่านไฟฉายและแบตเตอรี่ให้พลังงานไฟฟ้าได้เพราะเหตุใด
2.
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. พลังงานไฟฟ้าสามารถเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานใดได้บ้าง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แหล่งกาเนิดพลังงานไฟฟ้ามาจากที่ใดบ้าง
5.
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
กระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนจากบริเวณ
หนึ่งไปอีกบริเวณหนึ่ง กระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นได้หลายวิธี เช่น เกิดจาก
ความแตกต่างของพลังงานสองบริเวณ เกิดจากปฏิกิริยาเคมี เกิดจากการเหนี่ยวนาของวัตถุ เป็นต้น
ภาพที่ 3 ลักษณะการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้า
ที่มา http://webhtml.horhook.com/wbi/ec/1circuit-02.htm
เครื่องมือที่ใช้วัดกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า เรียกว่า
แอมมิเตอร์ (Ammeter) มีหน่วยการวัด คือ แอมแปร์
(Ampere) ใช้ตัวย่อแทนกระแสไฟฟ้าว่า (I) สัญลักษณ์ของ
แอมมิเตอร์ คือ
ภาพที่ 5 การต่อแอมมิเตอร์ในวงจรไฟฟ้า
ที่มา http://www.leonics.co.th/html/th/aboutpower/elec_knowledge03.php
แอมมิเตอร์ที่ดีต้องมีค่าความต้านทานน้อย จึงจะวัดค่ากระแสไฟฟ้าได้ถูกต้อง
มากกว่าแอมมิเตอร์ที่มีความต้านทานมากเมื่อเพิ่มจานวนก้อนของถ่านไฟฉายค่าของ
กระแสไฟจะมากขึ้น หลอดไฟจึงสว่างมากขึ้น
ปัจจุบันมีเครื่องมือที่ใช้วัดกระแสไฟฟ้าและแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับ โดยการคล้อง
ส่วนของมิเตอร์เข้าไว้กับสายไฟฟ้า ซึ่งเรียกเครื่องมือนี้ว่า แคลมป์มิเตอร์
ภาพที่ 6 แคลมป์มิเตอร์
ที่มา : https://www.supremelines.co.th
กำรวัดค่ำกระแสไฟฟ้ำ
ภาพที่ 11 การต่อวงจรเพื่อวัดค่ากระแสไฟฟ้า
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=c7K0G8l9LxM
ข้อระวังในกำรวัดค่ำกระแสไฟฟ้ำ
1. แอมมิเตอร์ในแต่ละเครื่องมีการกาหนดขีดจากัดในการวัดกระแสไว้ ดังนั้นใน
การวั ดแต่ ละครั้ ง ควรปริ มาณของกระแสไฟฟ้ าไว้ ก่ อนเพื่ อเลื อ กใช้ แ อมมิ เ ตอร์ที่ มี ขี ดจ ากั ด ที่
เหมาะสม
2. อย่าต่อปลายขั้วบวกและขั้วลบของแอมมิเตอร์ผิดพลาดเพราะจะทาให้
เข็มของเครื่องวัดตีกลับ
3. ห้ามต่อปลายทั้งสองของแอมมิเตอร์กับขั้วทั้งสองของถ่านไฟฉาย
โดยตรงเพราะเข็มของเครื่องวัดจะตีจนสุดสเกลเพราะอาจทาให้เครื่องพังได้
ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงควำมต่ำงศักย์กับกระแสไฟฟ้ำ
กฎของโอห์ม
จอร์จ ไซมอน โอห์ม (George Simon Ohm) เป็นนักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ได้ทดลอง
ศึกษาความต้านทานไฟฟ้าของลวดตัวนาหลาย ๆ ชนิด และตั้งเป็นกฎของโอห์ม โดยกล่าวว่า
“เมื่ออุณหภูมิของตัวนาคงที่ อัตราส่วนระหว่างความต่างศักย์ไฟฟ้าที่ปลายทั้งสองของตัวนาต่อ
การไหลของกระแสไฟฟ้าในตัวนาจะคงที่ และเท่ากับความต้านทานไฟฟ้าของตัวนั้น”
ตัวอย่ำงที่ 1
= 15 แอมแปร์
ตอบ ค่าปริมาณกระแสไฟฟ้าของวงจรไฟฟ้าเท่ากับ 15 แอมแปร์
1. กำรต่อควำมต้ำนทำนไฟฟ้ำแบบอนุกรม
ภาพที่ 29 การต่อความต้านทานไฟฟ้าแบบอันดับหรือแบบอนุกรม
ที่มา https://wiki.stjohn.ac.th
Rรวม = R1 + R2 + … โดยกาหนดให้
V = ความต่างศักย์ไฟฟ้า (โวลต์)
Vรวม = V1 + V2 + … I = กระแสไฟฟ้า (แอมแปร์)
R = ค่าความต้านทาน (โอห์ม)
Iรวม = I1 + I2 + …
ตัวอย่ำงที่ 2
2. กำรต่อควำมต้ำนทำนแบบขนำน
ภาพที่ 29 การต่อความต้านทานไฟฟ้าแบบขนาน
ที่มา https://sites.google.com/site/apizzaip013/wngcr-fifa/baeb-wngcr-fifa
Iรวม = I1 + I2 + …
โดยกาหนดให้
V = ความต่างศักย์ไฟฟ้า (โวลต์)
Vรวม = V1 + V2 + …
I = กระแสไฟฟ้า (แอมแปร์)
R = ค่าความต้านทาน (โอห์ม)
1 1 1
= + +…
Rรวม R1 R2
ตัวอย่ำงที่ 3
R2
6V
+ -
+ ER + … +
1 1 1 1 1
วิธีทำ จากสูตร = +
Rรวม R1 R2 3 Rn
1 1
= +
15 5
1-3 4
= = 15
15
4
Rรวม = = 3.75 แอมแปร์
15
ตอบ ค่าความต้านทานไฟฟ้ารวมในวงจรเท่ากับ 3.75 แอมแปร์
3. กำรต่อควำมต้ำนทำนแบบผสม
ภาพที่ 29 การต่อความต้านทานไฟฟ้าแบบผสม
ที่มา https://wiki.stjohn.ac.th
ใบกิจกรรมกำรทดลองที่ 3
เรื่อง กำรวัดกระแสไฟฟ้ำ
กลุ่มที่ …………………..
สมาชิกลุ่ม
1. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
2. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
3. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
4. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
5. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
จุดประสงค์
1. ทดลองและอธิบายวิธีการวัดกระแสไฟฟ้าได้
2. ทดลองและสรุปความสัมพันธ์ระหว่างความสว่างของหลอดไฟและกระแสไฟฟ้าที่ผ่าน
หลอดไฟฟ้าได้
วัสดุ/อุปกรณ์
การทดลอง
ภาพที่ 12 การต่อวงจรไฟฟ้า
ที่มา:กระทรวงศึกษาธิการ,2558 ,หน้า 57
2. ต่อวงจรไฟฟ้าโดยใช้ความต่างศักย์ของหม้อแปลงไฟฟ้าโวลต์ต่า 2 โวลต์กดสวิตซ์
สังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงของหลอดไฟฟ้าและแอมมิเตอร์ บันทึกผลและยกสวิตซ์ขึ้น
3. ทาซ้าข้อ 2 โดยเพิ่มความต่างศักย์ของหม้อแปลงไฟฟ้าโวลต์ต่าเป็น 4 และ 6 โวลต์
ตามลาดับ
บันทึกผลการทดลอง
……………………………………………………..……………………………………………………..………………………………..
………………………..……………………………………………………..……………………………………………………………..
สรุปผลการทดลอง
……………………………………………………..……………………………………………………..………………………………..
………………………..……………………………………………………..……………………………………………………………..
……………………………………………………..……………………………………………………..………………………………..
………………………..……………………………………………………..……………………………………………………………..
……………………………………………………..……………………………………………………..………………………………..
………………………..……………………………………………………..……………………………………………………………..
คำชี้แจง : ให้นักเรียนนาตัวอักษรทางด้านขวามือมาเติมหน้าข้อความ
ทางซ้ายมือให้ถูกต้อง (10 คะแนน)
1. จากรูป จงหาค่ากระแสไฟฟ้ารวมในวงจร
วิธีทำ ..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
วิธีทำ ..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
วิธีทำ ..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
วิธีทำ ..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
วิธีทำ ..................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
แบบทดสอบหลังเรียน
1. ข้อใดคือ เครื่องมือที่ใช้วัดความต่างศักย์ไฟฟ้า
ก. แอมมิเตอร์
ข. โวลต์มิเตอร์
ค. โอห์มมิเตอร์
ง. กัลป์วานแอมมิเตอร์
2. ข้อใดเป็นการกดสวิตซ์เปิดไฟ
ก. การทาให้วงจรปิด มีกระแสไฟฟ้าไหล
ข. การทาให้วงจรเปิด มีกระแสไฟฟ้าไหล
ค. การทาให้วงจรปิด ไม่มีกระแสไฟฟ้าไหล
ง. การทาให้วงจรเปิด ไม่มีกระแสไฟฟ้าไหล
3. วัตถุในข้อใดเป็นตัวนาไฟฟ้าทั้งหมด
ก. ผ้า เหล็ก เชือกฟาง และพลาสติก
ข. เงิน ตะกั่ว ทองแดง และคาร์บอน
ค. เหล็ก ทองแดง อากาศ และสังกะสี
ง. ตะกั่ว สังกะสี ทองแดง และยางรถยนต์
4. คุณสมบัติของมอเตอร์ไฟฟ้า ตรงกับข้อใด
ก. เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานกล
ข. เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานจลน์
ค. เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานความร้อน
ง. เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานแสงอาทิตย์
5. ภวภพต้องการจะวัดกระแสไฟฟ้าในวงจร ต้องใช้เครื่องมือชนิดใดและต่ออย่างไร
ก. แอมมิเตอร์ ต่อแบบขนาน
ข. โวลต์มิเตอร์ ต่อแบบขนาน
ค. แอมมิเตอร์ ต่อแบบอนุกรม
ง. โวลต์มิเตอร์ ต่อแบบอนุกรม
6. กฎของโอห์มจะเกิดขึ้นได้จะต้องประกอบด้วยค่าพื้นฐานในข้อใดบ้าง
ก. กระแส แรงดัน และกาลังไฟฟ้า
ข. กระแส แรงดัน และความต้านทาน
ค. แรงดัน ความต้านทาน และกาลังไฟฟ้า
ง. กระแส ความต้านทาน และกาลังไฟฟ้า
7. ภูวนัยต้องการวัดความต่างศักย์ของกระแสไฟฟ้า ต้องใช้เครื่องมือชนิดใดและต่ออย่างไร
ก. แอมมิเตอร์ ต่อแบบขนาน
ข. โวลต์มิเตอร์ ต่อแบบขนาน
ค. แอมมิเตอร์ ต่อแบบอนุกรม
ง. โวลต์มิเตอร์ ต่อแบบอนุกรม
8. ไฟฟ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร
ก. ไฟฟ้าเกิดจากวัตถุ 2 ชนิดมาประทะกัน
ข. ไฟฟ้าเกิดจากการทางานของเครื่องยนต์
ค. ไฟฟ้าเกิดจากการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอน
ง. ไฟฟ้าเกิดจากการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้า
9. ไฟฟ้ากระแสตรงและไฟฟ้ากระแสสลับมีความแตกต่างกันอย่างไร
ก. ทิศทางการไหล
ข. ความเข็มของแสง
ค. แหล่งกาเนิดไฟฟ้า
ง. ปริมาณกระแสไฟฟ้า
10. ตาราง กาลังไฟฟ้าและความต่างศักย์ของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง
ชนิดของ
กำลังไฟฟ้ำ (วัตต์) ควำมต่ำงศักย์ (โวลต์)
เครื่องใช้ไฟฟ้ำ
หลอดไฟฟ้ำ 60 220
ตู้เย็น 320 220
หม้อหุงข้ำว 700 220
เตำรีดไฟฟ้ำ 850 220
เมื่อใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในตารางชนิดใดที่มีปริมาณกระแสไฟฟ้าไหลผ่านมากที่สุดและน้อยที่สุด
ก. หม้อหุงข้าว ตู้เย็น
ข. ตู้เย็น หลอดไฟฟ้า
ค. หลอดไฟฟ้า เตารีดไฟฟ้า
ง. เตารีดไฟฟ้า หลอดไฟฟ้า
กระดำษคำตอบแบบทดสอบหลังเรียน
ข้อ ก ข ค ง
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
คะแนนทีไ่ ด้
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน
แบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบหลังเรียน
1. ค 1. ข
2. ข 2. ก
3. ก 3. ข
4. ก 4. ก
5. ง 5. ค
6. ข 6. ข
7. ข 7. ข
8. ก 8. ค
9. ค 9. ก
10.ข 10.ง
เฉลยใบกิจกรรมกำรทดลอง
เรื่อง กำรต่อเครื่องใช้ไฟฟ้ำเข้ำในวงจรไฟฟ้ำ
กลุ่มที่ …………………..
สมาชิกลุ่ม
1 ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
2. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
3. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
4. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
5. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
จุดประสงค์
วัสดุ/อุปกรณ์
วิธีการทดลอง
ภาพที่ 5 การต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าในวงจรไฟฟ้า
ที่มา https://physicskruadd.wordpress.com
3. บันทึกผลการสังเกตความสว่างของหลอดไฟฟ้า พร้อมทั้งวาดภาพวงจรไฟฟ้าลงในแบบบันทึก
กิจกรรม
แบบบันทึกผลการทดลอง
ภาพวาดวงจรไฟฟ้า
แสงสว่างมากกว่า
แสงสว่างน้อยกว่า
คาถามท้ายกิจกรรมทางทดลอง
สรุปผลการทดลอง
วงจรปิด
1. วงจรที่กระแสไฟฟ้าไหลได้ครบวงจร ทาให้โหลดที่ต่ออยู่ในวงจรนั้นทางาน คือ ……………………….
วงจรไฟฟ้า
2. เส้นทางที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่านไปได้ครบรอบ หมายถึง…………………………………………………………
วงจรขามทาให้ไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลในวงจรนั้น
3. วงจรเปิด คือ ………………………………………………………………………………………………………………
แบบขนาน
4. การต่อหลอดไฟในบ้าน ควรต่อ…………………………………. เพราะทาให้หลอดไฟแต่ละหลอดได้รับ
ความต่างศักย์ไฟฟ้าเท่ากัน
แบบอนุกรม
5. การต่อวงจร…………………………………. ทาให้ความต้านทานรวมในวงจรเพิ่มขึ้น
แหล่งกาเนิดไฟฟ้า
6. แหล่งจ่ายแรงดันไฟฟ้าไปยังวงจรไฟฟ้า เช่น แบตเตอรี่ คือ …………………………………………………
7. การเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนอิสระจากอะตอมหนึ่งไปยังอะตอมหนึ่ง มีหน่วยวัดเป็น แอมแปร์
กระแสไฟฟ้า
หมายถึง …………………………………………………………………………………………………………………
ไฟฟ้าดูด
8. ………………………………….. หมายถึง การที่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกาย ทาให้เกิดอาการ
กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง หัวใจทางานผิดจังหวะและเสียชีวิตในที่สุด
9. ตัวต้านการไหลของกระแสไฟฟ้าให้ไหลในจานวนจากัด อยู่ในรูปของเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เช่น
ความต้านทานไฟฟ้า
หม้อหุงข้าว หลอดไฟฟ้า คือ ……………..…………………………………………………………………………………
10. วงจรที่นาเอาวิธีการต่อแบบอนุกรมและวิธีการต่อแบบขนานมารวมให้เป็นวงจรเดียวกัน คือ
วงจรผสม
……..……………………………………………………………………………………………………………………………………
เฉลยใบกิจกรรมกำรทดลองที่ 2
เรื่อง พลังงำนไฟฟ้ำในวงจรไฟฟ้ำ
กลุ่มที่ …………………..
สมาชิกลุ่ม
1. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
2. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
3. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
4. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
5. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
จุดประสงค์
สามารถอธิบายพลังงานไฟฟ้าของแหล่งกาเนิดไฟฟ้ามีความสัมพันธ์กับความต่างศักย์ของ
แหล่งกาเนิดไฟฟ้าได้
วัสดุ/อุปกรณ์
วิธีการทดลอง
ภาพที่ 9 การต่อวงจรไฟฟ้า
ที่มา: กระทรวงศึกษาธิการ,2558,หน้า 56.
บันทึกผลการทดลอง
คาถามท้ายกิจกรรมการทดลอง
1. เมื่อใช้ความต่างศักย์ของหม้อแปลงไฟฟ้าโวลต์ต่าเพิ่มขึ้น ค่าที่อ่านได้จากโวลต์มิเตอร์
เปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร
เมื่อเพิ่มค่าพลังงานไฟฟ้า ค่าที่อ่านได้จากโวลต์มิเตอร์จะเพิ่มขึ้น แสดงว่าค่าที่อ่านได้จาก
…………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..
โวลต์มิเตอร์เพิ่มขึ้นตามค่าพลังงานไฟฟ้า
……………..…………………………………………………..…………………………………………………………………………..
2. เมื่อใช้ความต่างศักย์ของหม้อแปลงไฟฟ้าโวลต์ต่าเพิ่มขึ้น ความสว่างของหลอดไฟฟ้ามีการ
เปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร
เมื่อเพิ่มค่าพลังงานไฟฟ้า ความสว่างของหลอดไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นตามค่าพลังงานไฟฟ้า
…………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..
ที่เพิ่มขึ้น
……………..…………………………………………………..…………………………………………………………………………..
3. ค่าที่อ่านได้จากโวลต์มิเตอร์ มีความสัมพันธ์กับความสว่างของหลอดไฟฟ้าอย่างไร
…………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..
เมื่อค่าที่อ่านได้จากโวลต์มิเตอร์เพิ่มขึ้น ทาให้ความสว่างของหลอดไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
……………..…………………………………………………..…………………………………………………………………………..
ถ้าค่าที่อ่านได้จากโวลต์มิเตอร์ลดลง ความสว่างของหลอดไฟฟ้าจะลดลงด้วย
สรุปผลการทดลอง
…………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..
เมื่อเพิ่มความต่างศักย์จากหม้อแปลงไฟฟ้าโวลต์ต่าเป็นการเพิ่มพลังงานไฟฟ้า
……………..…………………………………………………..…………………………………………………………………………..
ทาให้หลอดไฟฟ้าสว่างมากขึ้น เมื่อต่อวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายเข้ากับหลอดไฟฟ้า หลอดไฟฟ้าได้รับ
…………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..
พลังงานไฟฟ้าแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานแสงและพลังงานความร้อน แสดงให้เห็นว่าพลังงานไฟฟ้า
……………..…………………………………………………..…………………………………………………………………………..
มีความสัมพันธ์กับความต่างศักย์ของแหล่งกาเนิดไฟฟ้า
…………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..
……………..…………………………………………………..…………………………………………………………………………..
1.
จงอธิบายความหมายของ “พลังงานไฟฟ้า”
พลังงานไฟฟ้า (Electrical Energy) หมายถึง พลังงานรูปแบบหนึ่ง ซึ่งสามารถเปลี่ยนไป
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
เป็นพลังงานอีกรูปแบบหนึ่งได้ เกิดจากแหล่งกาเนิดหลายประเภท ซึ่งการนาพลังงานไฟฟ้ามาใช้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
จะต้องมีการเชื่อมต่อแหล่งกาเนิดไฟฟ้าเข้ากับสิ่งที่จะนาพลังงานไฟฟ้าไปใช้เรียกว่า วงจรไฟฟ้า
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
โดยพลังงานไฟฟ้าที่ได้ก็จะถูกเปลี่ยนรูปไปเป็นพลังงานรูปแบบต่าง ๆ เช่น พลังงานกล พลังงาน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ความร้อนพลังงานเสียง พลังงานแสง เป็นต้น พลังงานไฟฟ้ามีหน่วยเป็น จูล
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ถ่านไฟฉายและแบตเตอรี่ให้พลังงานไฟฟ้าได้เพราะเหตุใด
2. ถ่ านไฟฉายและแบตเตอรี ่จะเปลี่ยนพลังงานเคมีให้เป็นพลังงานไฟฟ้า
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. พลังงานไฟฟ้าสามารถเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานใดได้บ้าง
พลังงานแสงสว่าง พลังงานความร้อน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
พลังงานกล พลังงานเสียง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แหล่งกาเนิดพลังงานไฟฟ้ามาจากที่ใดบ้าง
5.
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ไฟฟ้าจากขัดสี ไฟฟ้าจากปฏิกิริยาเคมี ไฟฟ้าจากสนามแม่เหล็ก
ไฟฟ้าจากแรงกดดัน ไฟฟ้าจากสัตว์บางชนิด ไฟฟ้าจากความร้อน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
เฉลยใบกิจกรรมกำรทดลองที่ 3
เรื่อง กำรวัดกระแสไฟฟ้ำ
กลุ่มที่ …………………..
สมาชิกลุ่ม
1. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
2. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
3. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
4. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
5. ชื่อ……………………………………………………………………………………………เลขที่………………..
จุดประสงค์
สามรถสรุปวิธีการวัดกระแสไฟฟ้าและสรุปความสัมพันธ์ระหว่างความสว่างของหลอดไฟและ
กระแสไฟฟ้าที่ผ่านหลอดไฟฟ้าได้
วัสดุ/อุปกรณ์
วิธีการทดลอง
ภาพที่ 12 การต่อวงจรไฟฟ้า
ที่มา:กระทรวงศึกษาธิการ,2558 ,หน้า 57
2. ต่อวงจรไฟฟ้าโดยใช้ความต่างศักย์ของหม้อแปลงไฟฟ้าโวลต์ต่า 2 โวลต์กดสวิตซ์
สังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงของหลอดไฟฟ้าและแอมมิเตอร์ บันทึกผลและยกสวิตซ์ขึ้น
3. ทาซ้าข้อ 2 โดยเพิ่มความต่างศักย์ของหม้อแปลงไฟฟ้าโวลต์ต่าเป็น 4 และ 6 โวลต์
ตามลาดับ
บันทึกผลการทดลอง
สรุปผลการทดลอง
1. เมื่อเพิ่มความต่างศักย์ของหม้อแปลงไฟฟ้าให้มากขึ้น หลอดไฟฟ้าจะสว่างมากขึ้น
……………………………………………………..……………………………………………………..………………………………..
ค่าปริมาณไฟฟ้าจากแอมมิเตอร์จะมากขึ้น
………………………..……………………………………………………..……………………………………………………………..
2. ความสว่างของหลอดไฟฟ้ามีความสัมพันธ์กับค่ากระแสไฟฟ้าที่เคลื่อนที่ผ่าน
……………………………………………………..……………………………………………………..………………………………..
หลอดไฟฟ้า นั่นคือ หลอดไฟฟ้ามีความสว่างมากขึ้นตามปริมาณกระแสไฟฟ้าที่เคลื่อนที่ผ่าน
………………………..……………………………………………………..……………………………………………………………..
หลอดไฟฟ้า ดังนั้นปริมาณกระแสไฟฟ้ามีความสัมพันธ์กับความต่างศักย์
……………………………………………………..……………………………………………………..………………………………..
………………………..……………………………………………………..……………………………………………………………..
คำชี้แจง : ให้นักเรียนนาตัวอักษรทางด้านขวามือมาเติมหน้าข้อความ
ทางซ้ายมือให้ถูกต้อง (10 คะแนน)
ญ 1. การนาขั้วบวกของแอมมิเตอร์ผ่านหลอดไฟต่อกับ
……………. ฐ. แอมมิเตอร์
ขั้วบวก ฑ. กระแสไฟฟ้า
ของถ่านไฟฉายและนาปลายขั้วลบของแอมมิเตอร์ต่อ ฒ. ต่อแบบอนุกรม
เข้ากับขั้วลบของถ่านไฟฉาย
ฌ ณ. ความต้านทาน
……………. 2. เครื่องมือที่ใช้วัดกระแสไฟฟ้าและแรงดันไฟฟ้า
กระแสสลับ โดยการคล้องส่วนมิเตอร์เข้าไว้กับสายไฟฟ้า ด. กระแสสลับ
ข 3. แอมแปร์เป็นหน่วยของค่าใด
……………. ต. อิเล็กตรอน
……………. 4. กระแสไฟฟ้าจากบ้านเรือนทั่วไปให้กระแสไฟฟ้าชนิดใด ถ. ไฟฟ้ากระแสตรง
ซ 5. เมื่ออุณหภูมิของตัวนาคงที่ อัตราส่วนระหว่างความ
……………. ท. กฎของโอห์ม
ต่างศักย์ไฟฟ้าที่ปลายทั้งสองของตัวนาต่อการไหลของ ธ. แคลมป์มิเตอร์
กระแสไฟฟ้าในตัวนาคงที่และเท่ากับความต้านทาน น. การวัดค่ากระแสไฟฟ้า
ฉ ไฟฟ้าของตัวนั้น
บ. ต่อแบบขนาน
……………. 6. กระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของสิ่งจากบริเวณ
หนึ่งไปยังอีกบริเวณหนึ่ง ป. โวลต์มิเตอร์
ก
……………. 7. เครื่องมือที่ใช้วัดปริมาณกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า
ง 8. การต่อโวลต์มิเตอร์และแอมมิเตอร์ในวงจรอย่างไร
…………….
สามารถคานวรค่าใดได้โดยใช้ตัวเลขที่อ่านได้จาก
โวลต์มิเตอร์และแอมมิเตอร์
ช
……………. 9. เป็นกระไฟฟ้าที่ไหลไปในทิศทางเดียวกัน
ค 10. การใช้แอมมิเตอร์ต้องต่อแอมมิเตอร์แบบใดเข้ากับ
…………….
วงจร
1. จากรูป จงหาค่ากระแสไฟฟ้ารวมในวงจร
จากสูตร V = IR
วิธีทำ ..................................................................................................................................................
แทนค่า 100 = I x ( 20 + 30 + 50 )
................................................................................................................................................................
100
................................................................................................................................................................
I = = 1 แอมแปร์
100
................................................................................................................................................................
ตอบ ค่ากระแสไฟฟ้ารวมในวงจรเท่ากับ 1 แอมแปร์
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
วิธีทำ ..................................................................................................................................................
จากโจทย์ ความต่างศักย์ไฟฟ้า (V) = 220 โวลต์
................................................................................................................................................................
กระแสไฟฟ้า (I) = 10 แอมแปร์
ความต้านทานไฟฟ้า (R) = ? โอห์ม
................................................................................................................................................................
V
................................................................................................................................................................
จากสูตร R = I
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
220
แทนค่า R = = 22 โอห์ม
................................................................................................................................................................
10
................................................................................................................................................................
ตอบ เตาไฟฟ้ามีความต้านทานเท่ากับ 22 โอห์ม
................................................................................................................................................................
วิธีทำ ..................................................................................................................................................
จากโจทย์ ความต้านทานไฟฟ้า (R) = 55 โอห์ม
ความต่างศักย์ไฟฟ้า (V) = 220 โวลต์
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
กระแสไฟฟ้า (I) = ? แอมแปร์
V
................................................................................................................................................................
จากสูตร I =
R
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
220
แทนค่า I = = 4 แอมแปร์
................................................................................................................................................................
55
................................................................................................................................................................
ตอบ มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเท่ากับ 4 แอมแปร์
................................................................................................................................................................
เกณฑ์กำรประเมินคะแนนและประเมินผล
ใบกิจกรรมที่ 1
ใบกิจกรรมที่ 2
ใบกิจกรรมที่ 3
เกณฑ์กำรพิจำรณำคะแนนนำตัวอักษรทำงด้ำนขวำมือมำเติมหน้ำข้อควำมทำงซ้ำยมือ
จำนวน 10 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน คะแนนเต็ม 10 คะแนน
คะแนน เกณฑ์กำรพิจำรณำคำตอบ
1 นาตัวอักษรทางด้านขวามือมาเติมหน้าข้อความทางซ้ายมือ
ได้ถูกต้อง
0 นาตัวอักษรทางด้านขวามือมาเติมหน้าข้อความทางซ้ายมือ
ไม่ถูกต้อง หรือไม่ตอบคาถาม
ใบกิจกรรมที่ 4
เกณฑ์กำรประเมินผล
คะแนน เกณฑ์กำรพิจำรณำคำตอบ
นักเรียนทาใบกิจกรรมได้คะแนนร้อยละ 70 ขึ้นไป ถือว่า
7 - 10
ผ่านเกณฑ์การประเมิน
นักเรียนทาใบกิจกรรมได้คะแนนต่ากว่าร้อยละ 70 ถือว่าไม่ผ่าน
0-6
เกณฑ์การประเมิน
บันทึกผลกำรเรียน
ด้ำนควำมรู้ (K)
1. แบบทดสอบก่อน – หลังเรียน
เกณฑ์กำรประเมิน
ประเมินผล คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้
ผ่ำน ไม่ผ่ำน ระดับคุณภำพ
ก่อนเรียน 10
หลังเรียน 10
เกณฑ์กำรประเมิน
นักเรียนทาแบบทดสอบก่อน – หลังเรียน ได้คะแนนร้อยละ 70 ขึ้นไป ถือว่า ผ่านเกณฑ์
การประเมิน
2. ใบกิจกรรม
เกณฑ์กำรประเมิน
ประเมินผล คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้
ผ่ำน ไม่ผ่ำน ระดับคุณภำพ
ใบกิจกรรมที่ 1 10
ใบกิจกรรมที่ 2 10
ใบกิจกรรมที่ 3 10
ใบกิจกรรมที่ 4 10
เกณฑ์กำรประเมิน
นักเรียนทาใบกิจกรรมได้คะแนนร้อยละ 70 ขึ้นไป ถือว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน
เอกสำรอ้ำงอิง