You are on page 1of 15

วิทยาศาสตร์ ม.

3 พันธุกรรม

1.
ข ้อใดไม่จัดเป็ นลักษณะทางพันธุกรรม
1.
เมล์มล
ี ก
ั ยิม ั ้ จมูกเป็ นสน
้ ข ้างขวา ตาสองชน ั โด่ง
2.
ี ้ำตาล ทีค
ปอมีผมสน ้ รอยแผลเป็ นเล็กน ้อย
่ วิ้ ซายมี
3.
ั ้ เดียว ผมหยักศกเล็กน ้อยสด
นุ่นมีตาชน ี ำสนิท
4.
เฟิ รน ี ำ
์ มีไรผมเป็ นรูปหัวใจ มีตงิ่ หูและนัยน์ตามีสด

เฉลย
1. ผิด เพราะลักยิม ้ ตาสองชน ั ้ จมูกเป็ นสน
ั โด่งเป็ นลักษณะทาง
พันธุกรรม
2. ถูก เพราะผมสน ี ้ำตาลเป็ นลักษณะทางพันธุกรรม แต่ควิ้ ซายมี ้ รอย
แผลเป็ นเล็กน ้อย ไม่เป็ นลักษณะทางพันธุกรรม
3. ผิด เพราะตาชน ั ้ เดียว ผมหยักศกสด ี ำสนิทเป็ นลักษณะทาง
พันธุกรรม
4. ผิด เพราะผมเป็ นรูปหัวใจ มีตงิ่ หูและนัยน์ตามีสด ี ำเป็ นลักษณะทาง
พันธุกรรม

2.
ข ้อใดเป็ นผลมาจากปั จจัยด ้านสงิ่ แวดล ้อมทีม
่ ต ่ ลักษณะของสงิ่ มีชวี ต
ี อ ิ
1.
ื้ สายนิโกรมักมีผวิ สด
ลูกมีเชอ ี ำ ผมหยิก
2.
พ่อแม่พน
ี่ ้องของกุก
๊ ไก่เป็ นโรคเบาหวาน
3.
หลานชายมีศรี ษะล ้านเหมือนคุณปู่
4.
ลูกชายของนายสามารถเป็ นนักมวยเหมือนพ่อ

เฉลย
1. ผิด เพราะผิวสดี ำ ผมหยิกเป็ นลักษณะทีถ ่ า่ ยทอดทางพันธุกรรม
2. ผิด เพราะโรคเบาหวานเป็ นลักษณะทีถ ่ า่ ยทอดทางพันธุกรรม
3. ผิด เพราะศรี ษะล ้านเป็ นลักษณะทีถ
่ า่ ยทอดทางพันธุกรรม
4. ถูก

3.
สงิ่ ทีก
่ ล่าวถึงในข ้อใดหมายถึงสงิ่ เดียวกัน
1.
ยีน, ดีเอ็นเอ
2.
นิวเคลียส, นิวคลีโอลัส
3.
ยีน, โครโมโซม
4.
โครมาทิน, โครโมโซม

เฉลย
1. ผิด เพราะยีนคือชว่ งของดีเอ็นเอ ทีก ่ ำหนดลักษณะทางพันธุกรรม
สว่ นดีเอ็นเอคือข ้อมูลทางพันธุกรรม
2. ผิด เพราะนิวเคลียสเป็ นศูนย์ควบคุมกิจกรรมต่างๆภายในเซลล์ ส ว่ นนิว
คลีโอลัสเป็ นสว่ นประกอบของนิวเคลียสทำหน ้าทีเ่ ป็ นแหล่งสงั เคราะห์
และรวบรวม RNA
3. ผิดเพราะ ยีนคือชว่ งของดีเอ็นเอ ทีก ่ ำหนดลักษณะทางพันธุกรรม
สว่ นโครโมโซม คือโครงสร ้างทีค ่ ล ้ายเสนด้ ้าย สามารถพบได ้ใน
นิวเคลียส ยีนอยูใ่ นโครโมโซม
4. ถูก

4.
สงิ่ มีชวี ต
ิ ชนิดหนึง่ มีจำนวนโครโมโซม 96 แท่ง ออกไข่มา 1 ฟอง เมือ
่ นำเซลล์
ไข่ไปตรวจนับจำนวนโครโมโซมจะมีจำนวนโครโมโซมเท่าไร
1.
48 แท่ง
2.
96 แท่ง
3.
146 แท่ง
4.
192 แท่ง
เฉลย
1. ถูก เพราะกระบวนการสร ้างเซลล์สบ ื พันธุโ์ ครโมโซมของสงิ่ มีชวี ต
ิ จะ
้ ถ ้าสงิ่ มีชวี ต
ลดลงครึง่ หนึง่ ดังนัน ิ มีโครโมโซม 96 แท่งจะสร ้างเซลล์ไข่
เท่ากับ 48 แท่ง
2. ผิด
3. ผิด
4. ผิด

5.
ข ้อใดเป็ นลักษณะปริมาณ
1.
การมีขนในรูหข
ู องชาวอินเดีย
2.
ั ้ เดียวในชาวจีน
การมีหนังตาชน
3.
การมีรา่ งกายสูงใหญ่ของชาวยุโรป
4.
การเกิดตาบอดสเี ขียวในผู ้หญิง

เฉลย
1. ผิด เพราะลักษณะขนในรูหเู ป็ นลักษณะเด่นบนโครโมโซมเพศใน
ผู ้ชายเท่านัน

2. ผิด เพราะลักษณะตาชนั ้ เดียวไม่ใชล
่ ก
ั ษณะปริมาณ
3. ถูก
4. ผิด เพราะลักษณะการเกิดตาบอดสเี ป็ นความผิดปกติทางพันธุกรรม
บนโครโมโซมเพศ
6.
ถ ้ากำหนดให ้ทัง้ พ่อและแม่มจ
ี โี นไทป์ เป็ น BB และ Bb ตามลำดับจีโนไทป์ ของ
ลูกจะเป็ นอย่างไร
1.
BB, BB, Bb, Bb
2.
BB, BB, Bb, bb
3.
BB, Bb, Bb, bb
4.
BB, Bb, bb, bb

เฉลย
1. ถูก
2. ผิด เพราะถ ้าพ่อมีจโี นไทป์ เป็ น BB และแม่มจ
ี โี นไทป์ Bb ลูกจะไม่ม ี
โอกาสมีจโี นไทป์ bb
3. ผิด เพราะถ ้าพ่อมีจโี นไทป์ เป็ น BB และแม่มจี โี นไทป์ Bb ลูกจะไม่ม ี
โอกาสมีจโี นไทป์ bb
4. ผิด เพราะถ ้าพ่อมีจโี นไทป์ เป็ น BB และแม่มจ ี โี นไทป์ Bb ลูกจะไม่ม ี
โอกาสมีจโี นไทป์ bb

7.
ชายคนหนึง่ ผิวเผือกแต่งงานกับผู ้หญิงผิวปกติมล
ี ก
ู บางคนผิวเผือก จีโนไทป์
ของชายหญิงคูน ่ เี้ ป็ นแบบใดตามลำดับ
1.
Bb, BB
2.
Bb, Bb
3.
bb, Bb
4.
bb, BB

เฉลย
1. ผิด เพราะเพศชายมีจโี นไทป์ ทีไ่ ม่ได ้แสดงผิวเผือก
2. ผิด เพราะเพศชายมีจโี นไทป์ ทีไ่ ม่ได ้แสดงผิวเผือก
3. ถูก
4. ผิด เพราะชายหญิงคูน ่ ม
ี้ จ
ี โี นไทป์ bb, BB ถ ้ามีลก
ู ลูกจะไม่แสดงผิว
เผือกเลย

8.
ถ ้าลักษณะกล ้ามเนือ
้ แขนขาลีบไม่ปรากฏในพ่อแม่ แต่ปรากฏในลูกชายบางคน
จะสรุปว่าอย่างไร
1.
จีโนไทป์ ของพ่อและแม่เป็ นพันธุแ
์ ท ้ทัง้ คู่
2.
ลักษณะนัน
้ เป็ นลักษณะด ้อย แอบแฝงอยูใ่ นพ่อและแม่
3.
แม่มจ
ี โี นไทป์ ทีเ่ ป็ นพาหะของกล ้ามเนือ
้ ลีบแอบแฝงอยู่
4.
ลูกชายได ้รับยีนกล ้ามเนือ
้ ลีบจากพ่อทีเ่ ป็ นพาหะของลักษณะกล ้ามเนือ
้ ลีบ

เฉลย
1. ผิด เพราะถ ้าพ่อแม่เป็ นพันธุแ
์ ท ้ ลก ู จะไม่ปรากฏลักษณะกล ้ามเนือ

แขนขาลีบ
2. ผิด เพราะถ ้าพ่อมีลกั ษณะด ้อยนีแ ้ อบแฝงอยูจ ่ ะปรากฏลักษณะกล ้าม
้ แขนขาลีบ ซงึ่ ไม่ตรงกับโจทย์
เนือ
3. ถูก
4. ผิด เพราะพ่อเป็ นพาหะไม่ได ้ เนือ ่ งจากลักษณะกล ้ามเนือ ้ แขนขาลีบ
ถ่ายทอดทางโครโมโซม X

9.
พ่อตาบอดส ี แม่ตาปกติ มีลก
ู ชายคนแรกตาบอดส ี ถ ้าลูกคนต่อไปเป็ นผู ้หญิง
โอกาสทีล
่ ก
ู สาวจะเป็ นตาบอดสแ ี ละตาปกติเป็ นเท่าไร
1.
ตาบอดส ี 50 % ตาปกติ 50 %
2.
ตาบอดส ี 25 % ตาปกติ 75 %
3.
ตาบอดส ี 0 % ตาปกติ 100 %
4.
ตาบอดส ี 100 % ตาปกติ 0 %
10.
ข ้อใดสรุปถูกต ้อง เกีย
่ วกับการถ่ายทอดลักษณะทีถ
่ ก
ู ควบคุมโดยยีนบน
โครโมโซม X
1.
ถ ้าพ่อเป็ นโรคนัน
้ แม่ปกติ ลูกชายจะเป็ นเหมือนพ่อ
2.
ถ ้าพ่อปกติ แม่ปกติแต่เป็ นพาหะ ลูกชายบางคนจะเป็ นพาหะ
3.
ถ ้าพ่อเป็ นโรคนัน
้ แม่ปกติแท ้ ลูกสาวจะมีโอกาสเป็ นโรคนัน
้ เพราะได ้รับมาจาก
พ่อ
4.
ถ ้าพ่อเป็ นโรคนัน
้ แม่ปกติแต่เป็ นพาหะ ลูกสาวบางคนจะมีโอกาสเป็ นพาหะ
เหมือนแม่

เฉลย
1. ผิด เพราะลูกชายจะได ้โครโมโซม X จากแม่ซงึ่ ปกติ
2. ผิด เพราะถ ้าลูกชายจะไม่เป็ นพาหะแต่เป็ นโรคนัน
้ เลย
3. ผิดเพราะลูกสาวจะไม่มโี อกาสเป็ นโรคนัน้ แต่จะเป็ นพาหะ
4. ถูก

11.
โรคทางพันธุกรรมข ้อใดไม่ได ้เกิดจากความผิดปกติของออโทโซม
1.
ิ โดรม
โรคดาวน์ซน
2.
ิ โดรม
โรคพาเทาว์ซน
3.
โรคเอ็ดเวิรด ิ โดรม
์ ซน
4.
ิ โดรม
โรคเทอร์เนอร์ซน

เฉลย
1. ผิด เพราะโรคดาวน์ซน ิ โดรมเกิดจากโครโมโซมร่างกายคูท ่ ี่ 21 เกิน
2. ผิด เพราะโรคพาเทาว์ซน ิ โดรม เกิดจากโครโมโซมร่างกายคูท ่ ี่ 13
เกิน
3. ผิด เพราะโรคเอ็ดเวิรด
์ ซน ิ โดรม เกิดจากโครโมโซมร่างกายคูท ่ ี่ 18
เกิน
4. ถูก

12.
ถ ้าพ่อปกติ แม่ปกติมล ู ชายบางคนเป็ นโรคฮโี มฟิ เลีย กำหนดให ้ H แทนยีน
ี ก
ควบคุมลักษณะปกติและ h แทนยีนทีท ่ ำให ้เกิดโรคฮโี มฟี เลีย จีโนไทป์ ของ พ่อ
แม่ และลูกชายคนทีเ่ ป็ นโรคฮโี มฟิ เลียจะเป็ นอย่างไร
1.

2.

3.

4.
เฉลย
1. ผิด เพราะแม่ต ้องเป็ นพาหะถึงจะมีลกู ชายบางคนเป็ นโรคนี้
2. ถูก
3. ผิด เพราะโรคฮโี มฟี เลียเป็ นลักษณะทีถ่ กู ควบคุมโดยยีนด ้อยทีอ่ ยูบ่ น
โครโมโซมเพศโดยเฉพาะโครโมโซม X
4. ผิด เพราะโรคฮโี มฟี เลียเป็ นลักษณะทีถ ่ กู ควบคุมโดยยีนด ้อยทีอ่ ยูบ่ น
โครโมโซมเพศโดยเฉพาะโครโมโซม X

13.
ครอบครัวหนึง่ ลูกชายทุกคน เกิดมาจะเป็ นโรคกล ้ามเนือ
้ ลีบ ทุกคน อยากทราบ
ว่า พ่อ และแม่ มีจโี นไทป์ อย่างไร
1.

2.

3.

4.
ฉลย
1. ผิด เพราะถ ้าแม่มจ ี โี นไทป์ xCxc ลูกชายทีเ่ กิดมาจะต ้องไม่เป็ น โรค
กล ้ามเนือ
้ ลีบ ทุกคน
2. ถูก
3. ผิด เพราะถ ้าแม่มจ ี โี นไทป์ xCxc ลูกชายทีเ่ กิดมาจะต ้องไม่เป็ น โรค
กล ้ามเนือ้ ลีบ ทุกคน
4. ผิด เพราะถ ้าแม่มจ ี โี นไทป์ xCxC ลูกชายทีเ่ กิดมาจะเป็ นปกติทก ุ คน

14.
ความรู ้ทีไ่ ด ้จากการถอดรหัสพันธุกรรมของมนุษย์ (Human genome) มี
ประโยชน์ด ้านใดมากทีส ่ ด

1.
ผลิตยาปฏิชวี นะ
2.
ผลิตฮอร์โมน
3.
ื สวนคดีอาชญากรรม
เป็ นข ้อมูลในการสบ
4.
หายีนทีม
่ ค
ี วามผิดปกติ

เฉลย
1. ผิด เพราะการผลิตยาปฏิชวี นะใชกระบวนการหมั
้ ก ( fermentation )

2. ผิด เพราะการผลิตฮอร์โมนใชกระบวนการพั นธุวศ
ิ วกรรม (genetic
engineering)
3. ถูก
4. ผิด เพราะการหายีนทีม ี วามผิดปกติใชวิ้ ธท
่ ค ี งี่ า่ ยทีส
่ ด
ุ สะดวกทีส
่ ด
ุ คือ
การตรวจจากน้ำลาย

15.
่ ว่ ยเพิม
ข ้อใดเป็ นประโยชน์ทไี่ ด ้จากเทคโนโลยีพันธุกรรมทีช ่ ผลผลิตโปรตีนที่
จำเป็ นต่อมนุษย์
1.
โคลนนิง่ แกะ
2.
ผลิตฮอร์โมนอินซูลน
ิ เพือ
่ รักษาเบาหวาน
3.
ผลิตต ้นกล ้าใบยาสูบทีต
่ ้านทานต่อไวรัส
4.
ผลิตมันฝรั่งทีใ่ ห ้หัวขนาดใหญ่

เฉลย
1. ผิด เพราะเนือ ้ แกะไม่ได ้เป็ นเนือ
้ ทีม
่ นุษย์ใชบริ ้ โภคเป็ นหลัก ซงึ่
โปรตีนทีไ่ ด ้จากเนือ
้ แกะ สามารถหาจากสต ั ว์อน
ื่ ก็ได ้
2. ถูก
3. ผิด เพราะไม่เกีย ่ วข ้องต่อการเพิม่ ผลผลิตโปรตีนทีจ ่ ำเป็ นต่อมนุษย์
4. ผิด เพราะมันฝรั่งไม่ได ้ให ้สารอาหารจำพวกโปรตีนทีจ ่ ำเป็ นต่อมนุษย์

16.
ั พันธ์กน
ข ้อใดไม่สม ั
1.
GMOs – ตัดต่อยีนอินซูลน
ิ ในมนุษย์
2.
เพาะเลีย
้ งเนือ
้ เยือ
่ – โคลนนิง่ ยอดอ่อนกล ้วยไม ้
3.
DNA – ตรวจสอบสายเลือด
4.
โคลนนิง่ – การตอนกิง่ ต ้นกุหลาบ

เฉลย
1. ผิด เพราะ GMOs เป็ นเทคโนโลยีทใี่ ชตั้ ดต่อยีนอินซูลน
ิ ในมนุษย์
2. ั พันธ์ถก
ผิด เพราะเป็ นความสม ู ต ้องแล ้ว
3. ผิด เพราะเป็ นความสมั พันธ์ทถี่ ก
ู ต ้องแล ้ว
4. ถูก

17.
ข ้อใดไม่เกีย
่ วข ้องกับเทคโนโลยีทางพันธุกรรม
1.
การตัดต่อกิง่
2.
การโคลนนิง่
3.
การผสมเทียม
4.
GMOs

เฉลย
1. ถูก
2. ผิด เพราะการโคลนนิง่ เป็ นเทคโนโลยีทางพันธุกรรม
3. ผิด เพราะการผสมเทียมเป็ นเทคโนโลยีทางพันธุกรรม
4. ผิด เพราะ GMOs เป็ นเทคโนโลยีทางพันธุกรรม

You might also like