Professional Documents
Culture Documents
การบําบัดน้ําเสียของโรงงานชุบโลหะ
เรียบเรียงโดย วลัยรัตน จันทรวงศ
แหลงกําเนิดสารทีเ่ ปนพิษจากกระบวนการชุบโลหะดวยไฟฟา
คุณลักษณะของน้ําเสียจากโรงงานชุบโลหะ
การบําบัดน้ําเสียแตละประเภท
การกําจัดไซยาไนด (CN-)
การกําจัดโครเมียม
การกําจัดโลหะหนัก
การกําจัดกรดดาง
บทนํา
ภาวะการณปจจุบันนี้ แหลงน้ําซึ่งเปนแหลงทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณไปดวยแรธาตุ อาหาร และ
เกี่ยวของกับความเปนอยูในชีวิตประจําวันทั้งในดานครัวเรือนการเกษตร การประ มง การอุตสาหกรรม ตลอดจนดาน
สันทนาการตาง ๆ กําลังตกอยูในสภาวะที่เปนอันตรายและ เสื่อมโทรมลงทุกขณะบรรดาโรงงานอุตสาหกรรมตาง ๆ
ไดปลอยน้ําเสียลงในแมน้ําลําคลอง ทําใหมีสภาพเนาเสีย ดังนั้น เพื่อเปนการปองกันไมใหเกิดมลภาวะทางน้ํา โรง
งานอุตสาหกรรม ตางๆ จึงมีสวนชวยไดโดยจําเปนอยางยิ่งที่จะตองมีระบบบําบัดน้ําเสียของแตละโรงงานซึ่งบําบัด
น้ําเสียที่ออกจากโรงงานใหอยูในเกณฑตามมาตรฐานอุตสาหกรรมกอนที่จะปลอยลงสูแหลงน้ํา สาธารณะตอไป ใน
บทความนี้จะกลาวถึงการบําบัดน้ําเสียของโรงงานชุบโลหะ
แหลงกําเนิดสารที่เปนพิษจากกระบวนการชุบโลหะดวยไฟฟา
ในกระบวนการชุบโลหะ เชน โครเมียม, สังกะสี, ทองแดงดวยไฟฟามีหลายขั้นตอน (2) เชน การ
เตรียมผิวของชิ้นงานกอนชุบ การชุบเคลือบผิวดวยไฟฟา และการทําความสะอาดผิวหลังการชุบ เปนตน จะเห็นได
วาในแตละขั้นตอนจะมีการใชกรด ดาง และสารเคมีตาง ๆ ซึ่งเปนสวนประกอบ ของสารละลายอิเล็กโตรไลทที่ใชชุบ
โลหะ หลังจากชุบโลหะเรียบรอย มีการนําชิ้นงานที่ชุบแลว ไปลางทําความสะอาด ดังนั้น น้ําทิ้งที่ออกจากกระบวน
การชุบโลหะ จะเต็มไปดวยสารที่เปนพิษ ซึ่งจําเปนอยางยิ่งที่จะตองบําบัดกอนปลอยลงสูแหลงน้ําสาธารณะ
คุณลักษณะของน้ําเสียจากโรงงานชุบโลหะ
ในกระบวนการชุบโลหะ มีการใชกรด ดาง และสารเคมีตาง ๆ ในแตละขั้นตอนแตกตางกันน้ําเสียสวน
ใหญมาจากกระบวนการชุบและลางชิ้นงาน ดังนั้นเพื่อใหวิธีการบําบัดน้ําทิ้งเหลานี้สะดวกและประ หยัดคาใชจาย น้ํา
ทิ้งที่มีคุณลักษณะทางเคมีตางกันจะถูกแยกใหไหลลงบอเก็บที่แตกตางกัน โดยจะ แยกน้ําทิ้งออกเปน 3 ประเภท
(1, 2) คือ
1. น้ําทิ้งประเภทกรดและดาง ซึ่งประกอบไปดวยโลหะหนัก
2. น้ําทิ้งประเภทไซยาไนด ซึ่งไดมาจากน้ํายาชุบทองแดง น้ํายาชุบสังกะสีแบบไซยาไนด น้ํายาชุบ
ทอง
3. น้ําทิ้งประเภทโครเมียม ซึ่งไดมาจากน้ํายาชุบโครเมียมหรือ น้ํายาโครเมตในการชุบโครเมียม สาร
ประกอบของโครเมียมที่ปนอยูในน้ํายาชุบเหลานี้จะอยูใน รูปเฮกซะวาเลนซ โครเมียม Cr6+ (aq) ซึ่งเปนพิษ และ
ไมตกตะกอน จํา เปนจะตองเปลี่ยน Cr6+ ใหอยูในรูป Cr3+ จึงจะทําการตกตะกอน ได
แหลงกําเนิดสารที่เปนพิษจากกระบวนการชุบโลหะดวยไฟฟา (2)
ตารางที่ 1 แหลงกําเนิดสารที่เปนพิษจากกระบวนการชุบโลหะดวยไฟฟา
สารที่เปนพิษ แหลงกําเนิด วิธีบําบัด
http://202.28.17.1/article/atc42/atc00244.html 31/7/2549
การบําบัดน้ําเสียของโรงงานชุบโลหะ Page 2 of 6
การเตรียมชิ้นงานกอน
น้ํามัน สารประเภทไขมัน การแยกไขมัน
ชุบ
ของแข็ง ยาขัด, ทราย การขัด ตกตะกอน
กรดกํามะถัน, กรดเกลือ, การจุมกรดกระตุนผิว,
กรด ทําใหเปนกลาง
กรดไนตริค, กรดกัดแกว, การขัดเงาดวยสาร
เคมี
กรดฟอสฟอริก, กรดน้ําสัม
โซดาไฟ, โซเดียม
ตมลางไขมัน, ทําให
ดาง คารบอเนต, ทําใหเปนกลาง
เปนกลาง,
โซเดียมซิลิเกต, โซเดียม
กัดผิวอลูมิเนียม
ฟอสเฟต
สารประกอบไซยาในดตาง ลางดวยไฟฟา หรือ ทําการ Oxidation
ไซยาไนด
ๆ จากถังชุบ โดยใชสารประเภท
คลอรีน
โลหะที่มีคา, ทองแดง, นิ
โลหะหนักในรูปของ อยูในน้ํายาชุบและ
เกิล เหล็ก, ใชดาง
ไอออน จากการเตรียม
แคดเมี่ยม, สังกะสี, อลูมิเ
กอนชุบ
นี่ยม,
แมงกานีส
น้ํายาชุบ, การทําโค ทําการ Reduction แลว
กรดโครมิค กรดโครมิค
รเมต ตกตะกอน
ทําใหสารประกอบเชิงซอน
ไอออนเชิงซอนของ ทอง
ไอออนเชิงซอน น้ํายาชุบ (Chelate)
แดง, นิเกิล
เกิดการแยกตัวทําใหเปน
กลางแลวจึง
ตกตะกอน
การบําบัดน้ําเสียแตละประเภท
ในน้ําเสียแตละประเภท สารปนเปอนที่เปนพิษเปนสารคนละชนิดมีสมบัติทางเคมีแตกตางกัน จําเปนจะ
ตองใชวิธีการทางเคมีที่แตกตางกันในน้ําเสียแตละประเภท ดังนี้
1. ไซยาไนด (CN-) ไซยาไนดอยูในรูป ที่เปนพิษตอสิ่งมีชีวิตจําเปนจะตองเปลี่ยนใหอยูในรูปที่เปน
พิษนอยลง คือ ไซยาเนต (CNO-) โดยใชโซเดียมไฮโปคลอไรท (NaCIO) เปลี่ยน CN- ไปเปน CNO- กอนแลวทํา
ปฏิกิริยาตอไปเปนกาซไนโตรเจน (N2)
2. เฮกซะวาเลนซโครเมียม (Cr6+) กําจัดโดยใชโซเดียมไบ ซัลไฟท (NaHSO3) จะเกิดปฏิกิริยารีดัก
ชั่น (Reduction) เปลี่ยน Cr6+ ไปเปน Cr3+ เพื่อชวยในการตกตะกอนของโครเมียมแลวกําจัด Cr3+ ตอไปโดยการ
ตกตะกอนเปน Cr (OH)3
3. โลหะหนักอื่น ๆ กําจัดโดยทําใหตกตะกอนเปน M(OH)x โดยใชโซดาไฟ (NaOH) โลหะหนักแตละ
ชนิดจะตกตะกอนที่ pH ตาง ๆ กัน
4. กรดดาง กําจัดโดยการปรับคาความเปนกรดดาง (pH) โดยใชกรดกํามะถัน (H2SO4) และโซดาไฟ
(NaOH)
การกําจัดไซยาไนด (CN-)
ไซยาไนดในน้ําทิ้งจากโรงงานชุบโลหะดวยไฟฟามีความเขมขนประมาณ 40-100 พีพีเอ็ม (ppm) (2)
ไซยาไนดในน้ําทิ้งเปนสารพิษ จําเปนตองกําจัดใหอยูในรูปที่เปนพิษนอยลง คือ ไซยาเนต ดวย โซเดียม ไฮโปคลอ
ไรท (NaOCI) ไซยาเนตมีความเปนพิษนอยกวาไซยาไนดถึง 1000 เทา แตถาตองการใหปลอด ภัยขึ้นก็ตองกําจัด
ไซยาเนตตอไป ดวยโซเดียมไฮโปคลอไรด จะไดสารผลิตภัณฑ คือ คารบอนไดออกไซด และไนโตรเจนซึ่งเปนสาร
ที่ไมมีพิษเลย ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น มีดังนี้
CN- + NaOCI ---> CNO- + NaCI
ปฏิกิริยานี้เกิดขึ้นที่คา pH = 12
2CNO- + 3NaOCI + 2H + ---> N2 + 2CO2 + H2O + 3NaCI
ปฏิกิริยานี้เกิดขึ้นที่คา pH = 7 - 8
http://202.28.17.1/article/atc42/atc00244.html 31/7/2549
การบําบัดน้ําเสียของโรงงานชุบโลหะ Page 3 of 6
รูปที่ 2 แสดงสวนของน้ําลางชิ้นงานหลังจากผานการชุบแลว
การกําจัดโครเมียม
โครเมียมในน้ําทิ้ง สวนใหญอยูในรูปของกรดโครมิก (H2CrO4) จากน้ํายาชุบโครเมียมหรือ โซเดียมได
โครเมต (Na2Cr2O7) ซึ่งโครเมียมอยูในรูป Cr6+ (aq) ตองเปลี่ยนใหเปน Cr3+ ซึ่งสามารถตก ตะกอนได โดยใช
โซเดียมไบซัลไฟท (NaHSO3) ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นดังนี้
http://202.28.17.1/article/atc42/atc00244.html 31/7/2549
การบําบัดน้ําเสียของโรงงานชุบโลหะ Page 4 of 6
ตอจากนั้นจึงทําการตกตะกอน Cr3+ ดังปฏิกิริยา
Cr2(SO4)3 + 6NaOH ---> 2Cr(OH)3(s) + 3Na2SO4
ปฏิกิริยานี้เกิดขึ้นที่คา pH = 8 - 9
การกําจัดโครเมียมในทางปฏิบัติ (2)
กระบวนการและเหตุผล สารเคมีที่ใช คา pH
1. น้ําเสียที่มี Cr6+ ไหลลงสูถัง
2. เติมกรดกํามะถันใหคา pH ลดลง H2SO4 2
3. เติม NaHSO3 เพื่อใหเปลี่ยน NaHSO3 2
Cr6+ ---> Cr3+
4. เติม NaOH ปรับคา pH ใหสูงขึ้น NaOH 9
5. เติม NaOH เพื่อใหเกิดตะกอนของ
Cr (OH)3 NaOH 9
6. กรองตะกอนและระบายน้ําทิ้ง
การกําจัดโลหะหนัก
โลหะหนักในน้ําทิ้ง มาจากการกัดผิวโลหะ เพื่อกําจัดสนิมหรือกระตุนผิวกอนการชุบหรือการ ขัดเงาชิ้น
งานอลูมิเนียมดวยโซดาไฟ โลหะหนักเหลานี้ไดแก เหล็ก (Fe2+) ทองแดง (Cu2+) สังกะสี (Zn2+) นอกจากนี้ยังมี
โลหะจากน้ํา ยาชุบโดยตรงซึ่งเกิดจากการลางชิ้นงานดวยน้ํา ไดแก ทอง (Au3+) นิเกิล (Ni2+) โครเมียม (Cr6+)
โลหะหนักเหลานี้จะถูกกําจัดออกไป โดยการทําใหตกตะกอนในรูปสารประกอบไฮดรอกไซดโดยใชโซดาไฟเปนตัว
ทําใหตกตะกอน ดังปฏิกิริยา
รูปที่ 3 สวนของระบบบําบัดน้ําเสียของโรงงานชุบโลหะ
http://202.28.17.1/article/atc42/atc00244.html 31/7/2549
การบําบัดน้ําเสียของโรงงานชุบโลหะ Page 5 of 6
ผานการกําจัดไซยาไนดและโครเมียมแลวจะไหลมารวมกัน หลังจากนั้นเติมโซดาไฟเพื่อปรับคา pH = 9.5 - 10.5
ในน้ําทิ้ง และเมื่อทําการตกตะกอนโลหะหนักออกไป น้ําทิ้งจะมีคา pH เปนดาง (pH = 10) เติมกรดลงไปเพื่อปรับ
สภาพ pH ใหเปนกลาง (Neutralization) กอนที่จะปลอยทิ้งไป
ระบบบําบัดน้ําเสียโรงงานชุบโลหะ
มาตรฐานของน้ําทิ้งจากโรงงานชุบโลหะดวยไฟฟา
มาตรฐานน้ําทิ้งของโรงงานอุตสาหกรรม โดยกระทรวงอุตสาหกรรมในสวนที่เกี่ยวของกับการ ชุบโลหะ
ดวยไฟฟา ดังนี้
คาความเปนกรด, ดาง (pH) 5-9
ไซยาไนด ไมเกิน 0.2 มิลลิกรัม/ลิตร
สังกะสี ไมเกิน 5 "
ทองแดง ไมเกิน 1 "
นิเกิล ไมเกิน 0.2 "
โครเมียม ไมเกิน 0.5 "
http://202.28.17.1/article/atc42/atc00244.html 31/7/2549
การบําบัดน้ําเสียของโรงงานชุบโลหะ Page 6 of 6
สรุป
ในประเทศไทยโรงงานชุบโลหะดวยไฟฟา สวนใหญจะเปนการชุบโลหะโครเมียม โลหะสังกะสี เปนตน
น้ําทิ้งที่ออกจากโรงงานชุบโลหะจะมีสารพิษซึ่งควรรับการบําบัดกอนปลอยทิ้งไป ไดแก สารประเภทไซยาไนด สาร
ประเภทกรดโครมิก, กรดและดางและโลหะหนักในรูปของอิออน เพื่อเปนการสะดวกไมยุงยากในการบําบัดน้ําทิ้ง
เหลานี้ จึงจําเปนตองแยกน้ําทิ้งออกจากกันตาม ลักษณะทางเคมีของแตละสวนและทําการแยกกําจัดที่จะประเภท
โดยใชสารเคมีที่เปนตัวออกซิไดส (Oxidizing agent) เชน NaOCI และตัวรีดิวซ (Reducing agent) เชน NaHSO
3
ทําใหพิษของสารแตละตัวหมดไปโดยเปลี่ยนไปอยูในรูปที่ไมเปนอันตรายหรือ สามารถเกิดปฏิกิริยาตกตะกอนได
หลังจากนั้น นําน้ําทิ้งแตละประเภทมารวมกันเพื่อกําจัดพวก โลหะหนักทั้งหมดทิ้งไปดวยโซดาไฟเพื่อใหเกิดการตก
ตะกอนและผานน้ํานี้ไปยังถังตกตะกอน และปรับคา pH ใหเปนกลางกอนที่จะทิ้งระบายลงสูแหลงน้ําสาธารณะตอไป
น้ําที่ผานขบวน การบําบัดแลวเปนไปตามมาตรฐานของโรงงานอุตสาหกรรม เปนการลดมลภาวะทางน้ํา ชวยรักษา
สภาวะแวดลอมของแหลงน้ําธรรมชาติใหคงอยูตอไป
เอกสารอางอิง
1.Nopadon Sundarabhaya, P.E., Industrial Wastewater Pretreatment, Vermont Environmental
Protection Agency, U.S.A.
2.George Deukmejian, Alternative Technology for Recycling and Treatment of Hazardous
wastes, Toxic Substances
Control Division, Department of Health Services, U.S.A., 1986
ประวัติผูเขียน
ชื่อ : อาจารยวลัยรัตน จันทรวงศ
การศึกษา : วท.ม. (ฟสิกัลเคมี) มหาวิทยาลัยเชียงใหม
การทํางาน : ภาควิชาวิทยาศาสตรประยุกตและสังคม
วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกลาพระนครเหนือ
BACK
http://202.28.17.1/article/atc42/atc00244.html 31/7/2549