You are on page 1of 8

การท่องเที่ยวชุมชนบ้านแหลมมะขาม

นายอรรถพล โฉมเฉิด รหัสนักศึกษา 6317010107001


นางสาวชไมพร  หงษ์ตะนุ รหัสนักศึกษา
6317010107002
นายธนโชค ศิริวัฒน์ รหัสนักศึกษา 6317010107003
 รายงานนีเ้ ป็ นส่วนหนึ่งของวิชาการจัดการท่องเที่ยว
โดยชุมชน รหัสวิชา กท 0914

ตามหลักสูตรอนุปริญญา สาขาวิชาการท่องเที่ยว
วิทยาลัยชุมชนตราด  ปี การศึกษา 2564

ประวัติความเป็ นมา

ความเป็ นมาเรื่องของการท่องเที่ยวบ้านแหลมมะขามจริงๆแล้ว
ไม่มีอะไรเลยสักอย่างเดียว ก็เหมือนชุมชนทั่วไปที่คนขี่รถผ่าน แต่ด้วยการ
เป็ นผู้นำใหม่ ผมเป็ นผู้ใหญ่บ้านใหม่ได้สัก ปี ครึ่งปี ก็มองดูว่าเราจะ
ทำงานด้านไหนที่เราจะพัฒนาบ้านเพราะการเป็ นผู้ใหญ่บ้านใหม่มันไม่รู้
จะต้องทำอะไร แม้แต่ผมอยากจะทำเรื่องเกษตร ผมก็ลองมาปรึกษา
เกษตรดู เกษตรก็ตามแบบชัดเจนมาว่าโครงการต่างๆ ต้องต่อยอด ต่อย
อดหมายความว่า คนที่มีอยู่แล้วก็ต้องมีอีก ซึ่งทำให้เรามีความรู้สึกว่า
ระยะทางที่เราเดินทางมันตัน เราก็ต้องหันเหเปลี่ยนทิศทางเรื่องของการ
ที่จะนำพาเราออกไปสู่ข้างนอกได้ ก็เลยนึกถึงของการท่องเที่ยวไว้นิดๆ ว่า
เราจะลองทำเรื่องของการท่องเที่ยว เพราะเมื่อก่อนน้ำเชี่ยวเขาดัง
ยอมรับว่าน้ำเชี่ยวเขาดังแล้วก็ผมเป็ นวัยรุ่น ก็เห็นเขามาท่องเที่ยวแล้วมา
กินข้าวบ้านอาจารย์สมโพดแล้วก็พาลงเรือ เมื่อความคิด 3 อย่างเราก็น่า
จะทำได้กับการท่องเที่ยว มันได้ตังแล้ว ง่ายนิดเดียวแค่เรามีเรือก็พาท่อง
เที่ยวได้แล้ว เป็ นความคิดที่ผิด อาจารย์สมโพดเรียกผมไปถามว่า ใน
ฐานะเป็ นครูคนนึ่งได้ถามว่า ผู้ใหญ่เป็ นผู้ใหญ่บ้านแล้วคิดจะทำอะไรต่อ
หลักจากนีไ้ ป ผมก็ตอบแบบไม่อยากปฏิเสธ คนเราต้องมีจุดยืน เพราะว่า
ผมจะทำเรื่องการท่องเที่ยวเพราะเห็นว่าน้ำเชี่ยวมาเที่ยวบ้านอาจารย์แล้ว
ก็ลงเรือได้ตัง ได้ตังง่าย เขาก็บอกว่าอย่างงันก็ว่างไหม พรุ ่งนี ้ รืนนีไ้ รเนี่ย
แหละลองไปเที่ยวกับอาจารย์ไหมที่วิทยาลัยชุมชนตราดพอดีมีอาจารย์ที่
เชียงใหม่ ชื่ออาจารย์ปายจะมาทำทางการท่องเที่ยวของบ้านเนินทรายผม
ก็บอกว่าได้ครับอาจารย์เดียวอาจารย์ไปก่อน เดียวผมตามไปครัง้ แรกที่ได้
ไปเยียบวิทยาลัยชุมชนตราด ไปช้ากว่าเขานิดนึง เพราะเรื่องรับจ้างทำ
อาหาร มันก็เลยทำให้ช้า แต่เวลาไปก็ไปนั่งฟั งสิ่งที่เขาพูดซึ่งมันก็ร้อยอยู่
ในหัวผมแถบทุกเรื่องเพราะสิง่ ที่เขาบอกเส้นทางการท่องเที่ยวของบ้าน
เนินทราย สิง่ ที่ผมจะคิดคือเส้นทางของบ้านแหลมมะขาม เพราะผมเป็ น
ผู้ใหญ่บ้านและ อสม. นีร้ ้ท
ู ุกเรื่องทุกซอก ทุกมุม ของบ้านแหลมมะขาม
สามารถที่จะบอกเกี่ยวกับเส้นทางการท่องเที่ยวได้ โดยวันนัน
้ มีอาจารย์
แจงเป็ นพี่เลีย
้ งกับอาจารย์สมโพดที่ออกโปรแกรมเส้นทางการท่องเที่ยว มี
อะไรบ้าง ที่สำคัญๆ วันนัน
้ ที่จำได้เรื่องของกองยาว ร้านบวช ร้านเย็บผ้า
ร้านอาหาร แล้วก็เหมือนทางวิทยาลัยจะสนใจผม ผมให้ความสำคัญกับ
ตัวเอง ถามผมว่า สนใจไหม ถ้าสนใจก็กรอกใบสมัครไว้ เดียวจะได้ทำการ
สนับสนุน การกู้ยืมเงินของอะไรไม่รู้ แต่ผมเป็ นคนเซ็น กู้มาประมาน
200,000-300,000 บาท นัน
้ คือจุดเริ่มต้นของการที่จะเป็ นหมู่บ้านการ
ท่องเที่ยว หลังจากนัน
้ ก็จับมือกับวิทยาลัยชุมชนตราด 3 วัน 3 วัน 3 วัน
แต่ละครัง้ เพื่อลงมารวมกับชุมชนทำเรื่องของการอบรม แล้วทำการเก็บ
รวบรวมข้อมูลแหล่งต่างๆ ที่เรามีอยู่แล้ว แต่ด้วยต้องบอกว่าแหลมมะขาม
โชคดีมาก มีแหล่งต่างๆเกือบครบ โดยที่เรามีทุนอยู่แล้วนัน
้ สามารถจับมา
ขายได้แต่การขายของบ้านแหลมมะขามดีอยู่อย่างนึงก็คือ เราเอาสิ่งทีมี่
อยู่ให้คนขายภายนอกรู้ เราไม่ได้สร้างใหม่ แต่เราขายให้คนภายนอก อัน
นีก
้ ็อยู่ในหัวผม เขายังไม่สนับสนุนในเรื่องการสร้างขายและขาย แล้วก็
รวมมือกับวิทยาลัยชุมชน 3 ปี ก็เกือบจบคอส ทัง้ สคอส ทัง้ นู้นนีน
้ ัน
้ ทัง้
เปิ ดเส้นทางการท่องเที่ยวใช้คำว่า “ทดลองเที่ยว” ก็ถือว่ายังไม่ประสบ
ความสำเร็จก็บอกว่าการพัฒนาคนสำคัญที่สุด เส้นทางเรามีแต่คนตอบ
โจทย์ไม่ได้และมีอุปสรรคทัง้ หมด แต่ก็โดยความโชคดีมีผม อาจารย์แจง
อาจารย์อมร เขียนเรื่องประกวดหมู่บ้านสองโล ชุมชนท่องเที่ยวเชิง
วัฒนธรรม กับหมู่บ้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ก็ด้วยพลังของวิทยาลัยชุมชน
ตราดกับพลัง IQ ด็อกเตอร์ทัง้ 2 คน ทำให้ผมมีโอกาสเข้าไปติด 1-10 ทัง้
2 โครงการตัง้ แต่นัน
้ คือเราได้รับการถ่ายทอดในเรื่องของนักสืบความ
หมายในเรื่องของการเขียนโปรแกรมอะไรเยอะแยะ ซึง่ ถ้าเป็ นชุมชนอื่นๆ
ตามวิทยาลัยสอน แล้วก็จบตอนสอบวิทยาลัย แต่ข้ามไปอยู่ของกระทรวง
วัฒนธรรมเราได้วิชาตรงนัน
้ อีก ทำให้แหลมมะขามแกร่งขึน
้ สามารถตอน
รับแขกได้ ยืนยัดด้วยตัวเองได้จนทุกถึงทุกวันนี ้ แล้วพอเราเริ่มขยับของ
นักท่องเที่ยวได้ หน่วยงานต่างๆก็เริ่มขยับเดินเข้ามาหาเรา จากการที่เรา
นั่งคุยกับสถานที่ต่างๆ จนสุดท้ายมาทำที่ดินเปล่าๆ ประมานปี 2555
นายกแหลมงอบก็ให้โครงหลังคากับกระเบื้อง 1 อย่าง แล้วหลังจากนัน

รัฐบาลก็ยึดอำนาจ พลเอกประยุทธ์ เอาโครงการทัง้ หมดโยนไปที่อำเภอ
พอโยนไป ผู้ใหญ่บ้านต้องทำโครง 1 โครงการเป็ นอย่างน้อยและตำบล
อย่างละ 200,000-300,000 บาท
แต่บางโครงการเสียได้มาก เหมือนขยะลอยน้ำไป ทำแต่ก็ไม่ได้ประโยชน์
เช่น โครงการ OTP วิถี โครงสร้างที่ไม่มั่นคงและไม่ถวาวร ภายใน 1-2 ปี
ก็พงั ไป โครงการที่ 2 มาก็จะต้องต่อยอดซึ่งมันผิดวัตถุประสงค์ของการ
ทำงานผมไม่ชอบโครงการแบบนี ้ ผมไม่ชอบเรยไม่ร้เู ป็ นยังไง ผมชอบ
อย่างทำแล้วเป็ นรูปปะทำ มองแล้วเห็น วันนีไ้ ม่เห็นแต่วันหน้าเห็นอย่าง
น้อยมันก็ต้องเหลือสากให้เราเห็น ให้คนข้างหลังมาดูสิ่งที่ผ่านมาทำอะไร
ไว้บ้าง ถ้ารุ่นหลังมาเห็นที่ทำไว้คงเข้าใจมากขึน

*ผู้ใหญ่ทำอะไรบ้างกับโครงการนีเ้ ราได้ผลิตภัณฑ์อะไรมาบ้าง
1. ข้าวเกรียบขลู่
2. น้ำพริกเผาสัปปะรด
3. น้ำพริกเผาหอยปากเป็ ด
4. น้ำพริกหอยปากเป็ ด
5. น้ำพริกปลาย่าง
หลังจากนัน
้ ก็ทำมาเรื่อยๆ จนในปี ต่อมาก็เริ่มทำผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่
1. มะขาดจี๊ดจาด
2. น้ำขลู่และ
3. น้ำมะขาม
การทำขยะ พอเราทำโครงการเริ่มหมดไม่ร้จ
ู ะทำอะไรก็หันมาทำ
ขยะ โจทย์ 1 คือการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวต้องนำขยะมาด้วยอยู่
แล้ว และต้องเอาขยะไปชัง่ น้ำหนักเพื่อดูว่าได้น้ำหนักเท่าไรของขยะ
วิทยาลัยได้สอนให้คัดแยกขยะ เอาขยะและเศษอาหารแยกกัน เพราะเศษ
อาหารสามารถไปทำเป็ นปุ๋ยได้ และขยะก็จะได้เหลือนิดเดียว จึงต้องมี
กฎเกณฑ์ของหมู่บ้าน มีกฎเกณฑ์ อบต. จะได้ทำให้บ้านเมืองเจริญเติบโต
การรับนักท่องเที่ยวให้ล้างจานเอง แล้วถุงพลาสติกก็ล้างด้วย
โควิดมา 2-3 รอบไม่ได้กลิง้ เหมือนลูกบอลที่เตะไปเตะมาได้ ก็
เพราะเอาเรื่องของการท่องเที่ยวเป็ นหลักและเป็ นอาชีพเสริม คุณไม่มา
หรือมา ผมก็ต้องนอนพักเพราะมันที่พักผม ผมก็ต้องกวาด ผมก็ต้องทำ
อื่นๆด้วย แล้วอาชีพด้วย เช่น กลุ่มจักสานไม้ไผ่ กลุ่มจัดสานคลุ่ม ไม้แค
วนเสื้อ เพื่อให้คนมาดู แต่ดูไม่ได้อะไรแล้วก็กลับไป แต่การมาแล้วดูโด
ยการขยึบจากฐานที่เราเอาไม้มาทำเป็ นหุ่น แต่เราก็เอาไม้มาทำเป็ นแบรน
โดยทำค้อแควนเสื้อ เป็ นเอกลักษณ์ของปู ่ก้าน มารอบใหม่เราก็ไม่มีผลก
ระทบของโควิด เพียงแต่เราหยุดนิ่งรออย่างเดียว จะได้ไม่ต้องติดหนี ้
ธนาคารแล้วเราก็ไม่ต้องกู้ เราจะได้ไม่ต้องเสียตังไปให้เขา มีคนบางคน
ชวนผมติดแอร์ ผมว่าหลักของการท่องเที่ยวของผมนัน
้ คือการเน้นบ้าน
ผมเน้นวิถีชีวิตของชุมชนจริงๆ ผมไม่ได้ทำตามกระแส อย่างเช่นนักเที่ยว
มาถามว่ามีแอร์ไหม แอร์ผมไม่มี ถ้าคุณต้องการเที่ยวจริงๆ คุณก็ต้องเที่ยว
คุณก็ต้องพัก ผมไม่ได้ทำเรื่องการท่องเที่ยวกระแสหลัก
ปั ญหาที่ทำมา ผมว่าเจอทุกอย่างโดยการบริหารคนเอาง่ายๆ ถ้าพูด
อาจจะกระทบคนข้างนอก คือคนเป็ นปั จจัยหลักของการบริหาร ถ้าเรา
ไม่ชัดเจนหรือไม่แข็งแกร่ง งานจะไม่เดิน เหมือนแรกๆที่ผมทำการท่อง
เที่ยว ตรงนีจ
้ ะไม่เวิร์กเท่าไร แต่พอดูได้ แต่ถ้าฝนตก อาจารย์รับมาจาก
ไหนๆ 2 วัน 1 คืน มันบรรยากาศไม่ค่อยดี อย่างวันนีเ้ ราก็ต้องไปนอน
บ้านพัก อิ่ม เช้าๆ เราก็ต้องมาเจอกันที่นีอ
้ ีก ทุกคนต้องมีหน้าที่อยู่ที่บ้าน
มีหน้าที่ขี่รถ มีหน้าที่นุ้นนีน
้ ัน
้ ที่นีไ้ ม่มีใครเรย ผมก็ต้องมา ไลน์ไปว่าแล้วก็
ว่าแล้ว ไลน์ไปด่าก็ด่าแล้ว มันหน้าที่ใคร ผมก็บ่นด่าเป็ นเรื่องชีวิต สุดท้าย
ผมก็ได้รับคำชมถ้าไม่มีใครทำ ผู้ใหญ่ก็ทำเองสะ จะได้หมดปั ญหา

สุเทพ บุญเพียร นำเอาของในชุมชนมาต่อยอด


*บ้านลุงโต นานิกบุตร (จักรสานต้นคลุ้ม)
- จัดสานคลุ้ม ทำซอง (ระยะเวลาการหยอด)
- ทำดาว คลุ้มค่า *ปู ส
่ งกรานต์ ไรนุชพงศ์
- จานลองแก้ว *หุ่นไม้โบราณ เลื่อยในจาก
*จักสานไม้ไผ่ *เสื่ออกใหญ่ ลันดา
- พัดใบตำลึง *เหล็กมาร์ค – ขัว้ ใต้
- เย็นหมากใบจาก 5 ทรง/ขวานขลู่
- จานเชิง
** อาหาร (สาริตทำอาหาร)
- ปลาพร่า
–ขนมสากเบือวุ้น

You might also like