You are on page 1of 1

บันทึกสัมภาษณ์ เหตุการณ์ ประวัติศาสตร์ วิวัฒนาการของเทคโนโลยีการสื่อสารในไทย

Who :คุณพ่อ อายุ 54ปี ปั จจุบนั ทาอาชีพอาจารย์ เป็ นประชาชนฐานะปานกลางคนหนึ่ง(ในสถานการณ์) What :วิวฒ ั นาการ
ของการสื่อสารในไทย When พ.ศ.2510-2565 Where : กรุงเทพฯ และชลบุรี Why :การเข้ ามาของเทคโนโลยีการสื่อสารในยุค
สมัยต่างๆ
How : “สมัยพ่ออยู่ประถม เทคโนโลยีการสื่อสารยังไม่ค่อยมี ไม่ทั่วถึง เวลาจะสื่อสาร จะนัด จะคุยกันก็มกั จะเดินไป
หากัน หรือไม่ก็ค่อยไปเจอกันที่รร.เลย มีสญ ั ลักษณ์ตลกๆที่พ่อใช้ นัดกับเพื่อนเหมือนกันนะ ก็คือตอนนั ้นเวลาพ่อจะไปเล่นบ้ าน
เพื่อนเนี่ยจะต้ องถามเพื่อนก่อนว่าเข้ าบ้ านได้ ไหม พ่อแม่อยู่ป่าว ตอนนั ้นพ่อก็เลยนัดกับเพื่อนไว้ ให้ เป็ นที่ร้ ูกันว่า ถ้ าอุดเสื ้อไว้ ที่
กระจกก็คือ มา เข้ ามาเล่นในบ้ านได้ พ่อแม่ไม่อยู่ ตอนเด็กๆก็ประมาณนี ้ พอโตมาประมาณ พ่อสิบกว่าขวบ ตู้โทรศัพท์ก็เริ่มมี
มากขึ ้นแล้ วนะ แต่ก็ยงั ถือว่าแพงอยู่สาหรับพ่อ โทรเลขตอนนั ้นก็มีนะ แต่เขาไม่ใช้ ในการสื่อสารเล่นกัน เขาจะใช้ ส่งเฉพาะข่าว
สาคัญๆเร่งด่วนเท่านั ้น เพราะโทรเลขจะไปเร็วกว่าจดหมาย แต่ก็แพงนะ เขาก็คิดเป็ นแบบราคาต่อพยางค์หรือต่อคาจาไม่ได้
อะไรประมาณนี ้ พ่อไม่เคยได้ รับโทรเลขหรอก แต่ย่าเราหน่ะเคย ญาติเขาโทรเลขมาแจ้ งข่าวว่าพ่อของย่าเสียชีวิต พอมามัธยม
ที่พ่อใช้ ในการสื่อสารบ่อยคือจดหมาย ส่งไปหาสาวต่างโรงเรียนบ้ าง หาดีเจที่พ่อชอบบ้ าง ตอนนั ้นพ่อมีเพื่อนทางจดหมายเยอะ
เลย ส่งไปนัดมาเที่ยว มาเจอ มาเล่นกันบ่อยๆ สุ่มส่งโดยใช้ เลขที่ ใช้ ห้องประมาณนี ้ ตอนนั ้นโทรศัพท์ก็มีแล้ วนะ แต่เป็ น
โทรศัพท์บ้าน ใช้ กันบ้ าง แต่ก็ไม่ได้ บ่อยมากเพราะจะโทรหากันได้ ทังบ้ ้ านเราบ้ านเพื่อนต้ องมีโทรศัพท์ทงคู ั ้ ่ ถึงจะสะดวก แต่ตอน
นั ้นพ่อไม่มีก็เลยไม่ได้ ใช้ ช่วงมหาลัยก็ยงั เหมือนเดิมนะ ใช้ โทรศัพท์ต้ ูเป็ นส่วนใหญ่ ส่วนจดหมายพ่อก็ไม่ค่อยได้ เขียนแล้ ว จน
ประมาณปี สองพันห้ าร้ อยยี่สิบปลายๆเพจเจอร์ ก็เข้ ามา แต่ตอนนั ้นพ่อไม่ได้ ใช้ นะ ส่วนใหญ่จะเป็ นพวกดาราแล้ วก็นักธุรกิจที่
เขาใช้ กัน เพราะมันก็ยงั แพง ค่าบริการรายเดือนสูง ละพ่อก็ไม่ได้ จาเป็ นอะไร จะใช้ เพจเจอร์ จีบแม่ ตอนนั ้นก็จีบติดไปแล้ ว ก็เลย
ไม่ได้ มีอารมณ์ส่งกลอนจีบสาวผ่านเพจเจอร์ แบบที่ลกู เห็นในหนัง เพจเจอร์ มาได้ แค่ประมาณ3ปี เอง แล้ วก็หายไป มาเป็ น
โทรศัพท์มือถือแทน โทรศัพท์มือถือเข้ ามาแรกๆน่าจะประมาณปี 2530นะ แต่ตอนนั ้นโทรศัพท์มือถือแพงมากราคาเป็ นแสน นัก
ธุรกิจหรือคนรวยๆเท่านั ้นแหละที่จะมี แบรนด์ที่พ่อรู้จกั คือ Ericsson ขนาดใหญ่มาก มันจะเป็ นกระเป๋ าหูหิ ้ว มีหูโทรศัพท์ ละก็
จะมีเสาอากาศดึงขึ ้นมาเวลาใช้ ถ้ าจะใช้ ตอนอยู่ในรถนี่ก็ต้องต่อเสาอากาศอะไรยุ่งยากมาก แล้ วหนักมากนะพ่อเคยถือเดิน
ตามเจ้ านายอยู่ช่วงหนึ่ง หลังจากนั ้นโทรศัพท์มือถือก็พฒ ั นามีขนาดเล็กลง และราคาถูกลงเรื่อยๆ จากขนาดเท่ากระเป๋ าราคา
เป็ นแสน เป็ นโทรศัพท์กระดูกหมาราคาหลักหมื่นปลายๆ เป็ นโทรศัพท์ทรงตรงๆ ขนาดเท่ากระติกนา้ ราคาหลักหมื่นกลางๆต้ นๆ
ไล่มาเรื่อยๆ จนกระทัง่ มีขนาดเล็กเท่ามือถือจริงๆ โทรศัพท์มือถือเครื่องแรกที่พ่อใช้ คือ Motolora อันเล็กๆ ป้อมๆสัน้ เป็ นปุ่มกด
จอขาวดา เหมือนจะโทรได้ อย่างเดียวเลย ไม่มีเกม หรือมีแต่พ่อไม่ได้ เล่นก็ไม่ร้ ู ใช้ ได้ ประมาณ2ปี พ่อก็เปลี่ยนไปใช้ Nokia
3310 เครื่องนี ้ทนกว่าพ่อใช้ เป็ น10ปี เลย เท่าที่จาได้ ก็เป็ นจอขาวดาเล็กๆ โทรได้ รับ smsได้ เล็กๆน้ อยๆได้ เล่นเกมงูกินหางได้ ดู
นาฬิกา ตังนาฬ
้ ิกาปลุกอะไรแบบนี ้ได้ missed callก็มีบอกนะ พอNokia 3310พังก็ซื ้อ Nokia อีกเครื่อง ไม่รุ่น6300 ก็รุ่น2610 นี่
แหละ พ่อซื ้อช่วงยุคปลายๆของNokiaแล้ ว พวกsmartphoneเข้ ามาแล้ ว ตอนนั ้นเจ้ าNokiaเครื่องสุดท้ ายของพ่อนี ้ก็ทาได้ หลาย
อย่างขึ ้นนะ จอเป็ นจอสีแล้ ว ส่งรูปได้ เปิ ดเมลข้ อความอ่านได้ แล้ ว แต่ไฟล์ภาพยังดูไม่ได้ พ่อก็ใช้ เครื่องนี ้มาเรื่อยๆประมาณ3ปี
ละก็ข้ามมาใช้ iphone5s ซึ่งเป็ นsmartphoneเลย ฟั งก์ชนั หลากหลายขึ ้นมาก ทาได้ เกือบทุกอย่าง เข้ าอินเตอร์ เน็ตได้ อย่าง
สะดวก ใช้ มาประมาณ7-8ปี ก็พงั ปั จจุบนั เลยใช้ iphone13อยู่ เทคโนโลยีก้าวกระโดดเร็ วมากจริงๆ จากตอนนั ้นที่กว่าจะส่งจด
หมายถึงกันได้ ต้องใช้ เวลา3วัน ตอนนี ้แค่อยากเห็นหน้ ากันกดวิดีโอคอลแค่ไม่กี่วินาทีก็ได้ เห็นหน้ าได้ พูดคุยกันแล้ ว”

ผู้สมั ภาษณ์ : นางสาววรรณวริน ลิ่มปนาท กุมภาพันธ์ 2565

You might also like