Professional Documents
Culture Documents
สาหรับนักเรียนระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1
นูรีมาน สือรี
วิทยานิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตร
ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอน
วิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ และคอมพิวเตอร์
มหาวิทยาลัยทักษิณ
2563
3
บทคัดย่อ
Abstract
ประกาศคุณูปการ
นูรีมาน สือรี
7
สารบัญ
บทที่ หน้า
1 บทนา ..………………………………………………………………………….…...............................……. 1
ภูมิหลัง .......................................................................................................................... 1
วัตถุประสงค์ของการวิจัย ............................................................................................... 2
สมมติฐานของการวิจัย .................................................................................................. 3
ประโยชน์ของการวิจัย ................................................................................................... 3
ขอบเขตของการวิจัย ...................................................................................................... 3
นิยามศัพท์เฉพาะ .......................................................................................................... 4
2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ...................................................................................... 6
หลักสูตรคณิตศาสตร์ .....................................................………............………………….….... 6
แบบฝึกทักษะ .............................................................................………..........…….….…… 9
กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา ................................................................................... 12
ความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์……….......………................…………………….……. 14
งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ………………………………………………........................…...……………..….. 23
กรอบแนวคิดในการวิจัย …………………………………………………………….............................. 26
3 วิธีดาเนินการวิจัย ……………………………………………........................……………………………. 27
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ……………………………….........................……………………………. 27
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ……………………………………..........................…………………..……. 27
การสร้างและหาคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ……………...............…………………..….. 27
วิธีดาเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล ………………..................………………….................……….. 34
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล …………………………………….......................……………..….. 34
8
สารบัญ(ต่อ)
บทที่ หน้า
4 ผลการวิจัย ..……………………………………………………………………...................…..........…. 36
การนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล……………………………………......................................… 36
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล.......................................................................................................36
5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ......................................................................... 41
สรุปผล ........................................................................................................................ 41
อภิปรายผล ................................................................................................................. 41
ข้อเสนอแนะ................................................................................................................... 43
บรรณานุกรม.................................................................................................................... 44
ภาคผนวก......................................................................................................................... 49
ภาคผนวก ก รายชื่อผู้เชี่ยวชาญ........……………………………………….............………….…...... 50
ภาคผนวก ข หนังสือขอความอนุเคราะห์...............................................….……………........ 52
ภาคผนวก ค การหาคุณภาพแบบทดสอบ.....................................................…………...... 58
ภาคผนวก ง การหาประสิทธิภาพคุณภาพแบบทดสอบ.....……………………....……..…..... 74
ภาคผนวก จ การหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ.............………………….....………...... 80
ภาคผนวก ฉ การหาคุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้……………...…………….........…...... 86
ภาคผนวก ช การหาคุณภาพของแบบสอบถามความพึงพอใจ…….………………….............. 88
ภาคผนวก ซ การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน.……………………..………................. 97
ภาคผนวก ฌ ตัวอย่างผลงานนักเรียน............…………………….……………….................... 103
ภาคผนวก ญ แผนการจัดการเรียนรู้....................……...……………….…………...................107
ภาคผนวก ฎ แบบฝึกทักษะ....................……...…………………………………….....................130
ประวัติย่อ ................................................……...………………………………………..................208
9
สารบัญตาราง
ตารางที่ หน้า
1 แสดงกาหนดการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1.......................................................................................................... 8
2 เกณฑ์การประเมินผลแบบย่อยของการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์....................................18
3 แสดงกาหนดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ.....................................................................32
4 แสดงประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1...........................................................................................................36
5 แสดงผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน
วิชาคณิตศาสตร์เรื่องเลขยกกาลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1..................................................39
6 ความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์
เรื่องเลขยกกาลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1............................................................................40
7 แสดงค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคาถามกับจุดประสงค์การเรียนรู้
ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องเลขยกกาลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โดยผู้เชี่ยวชาญ. ...............................................................................................................66
8 แสดงค่าความยากง่าย (P) และค่าอานาจจาแนก (D) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที 1 ......................68
9 แสดงค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์
เรื่องเลขยกกาลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โดยใช้วธิ ีของคูเดอร์-ริชาร์ดสัน สูตร KR-20.................................................................70
10 แสดงค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคาถามกับจุดประสงค์การเรียนรู้
ของแบบทดสอบก่อนเรียนหลังเรียน เรื่องเลขยกกาลัง ชุดที่ 1
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยผู้เชี่ยวชาญ............................................................................75
11 แสดงค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคาถามกับจุดประสงค์การเรียนรู้
ของแบบทดสอบก่อนเรียนหลังเรียน เรื่องเลขยกกาลัง ชุดที่ 2
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยผู้เชี่ยวชาญ..........................................................................76
12 แสดงค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคาถามกับจุดประสงค์การเรียนรู้
ของแบบทดสอบก่อนเรียนหลังเรียน เรื่องเลขยกกาลัง ชุดที่ 3
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยผู้เชี่ยวชาญ.........................................................................77
13 แสดงค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคาถามกับจุดประสงค์การเรียนรู้
ของแบบทดสอบก่อนเรียนหลังเรียน เรื่องเลขยกกาลัง ชุดที่ 4
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยผู้เชี่ยวชาญ.........................................................................78
10
สารบัญตาราง (ต่อ)
ตารางที่ หน้า
14 แสดงค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคาถามกับจุดประสงค์การเรียนรู้
ของแบบทดสอบก่อนเรียนหลังเรียน เรื่องเลขยกกาลัง ชุดที่ 5
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยผู้เชี่ยวชาญ.............................................................................79
15 แสดงผลการประเมินความเหมาะสมของแบบฝึกทักษะ เรื่องเลขยกกาลัง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที 1 โดยผู้เชี่ยวชาญ.......................... ..................................................81
16 แสดงผลการประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ เรื่องเลขยกกาลัง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที 1 โดยทดลองรายบุคคล...................................................................82
17 แสดงผลการประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ เรื่องเลขยกกาลัง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที 1 โดยทดลองขนาดเล็ก....................................................................83
18 แสดงผลการประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ เรื่องเลขยกกาลัง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที 1 โดยทดลองภาคสนาม.................................................................84
19 แสดงผลการประเมินคุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ
วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยผู้เชี่ยวชาญ................87
20 แสดงค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคาถามกับพฤติกรรมชี้วัดความพึงพอใจ
ของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยผู้เชี่ยวชาญ.............................................................................91
21 แสดงค่าความเชื่อมั่นของแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดย
ใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1.....................92
22 แสดงผลความพึงพอใจที่มีต่อการเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์
เรื่องเลขยกกาลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของกลุ่มตัวอย่าง.........................................95
23 แสดงผลประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของกลุ่มตัวอย่าง..........................................................................98
24 คะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนเมื่อเรียนด้วยแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์
เรื่องเลขยกกาลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เมื่อนาไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง.........................100
11
สารบัญภาพประกอบ
ภาพที่ หน้า
1 แสดงกรอบแนวคิดที่ใช้ในการวิจัย......................................................................................26
2 ตัวอย่างแบบฝึกทักษะที่ใช้กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา.............................................37
3 ตัวอย่างแบบฝึกทักษะที่ใช้กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา............................................38
1
บทที่ 1
บทนา
ภูมิหลัง
คณิตศาสตร์เป็นวิชาว่าด้วยเหตุผล กระบวนการคิดและการแก้ปัญหา ดังนั้นคณิตศาสตร์
จึงเป็น วิช าที่ช่ว ยสร้างเสริมให้นักเรียนเป็นคนมีเหตุผ ล มีการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เป็นระบบ
ตลอดจนมีทัก ษะการแก้ป ัญ หา ท าให้ส ามารถวิเ คราะห์ปัญ หาและสถานการณ์ไ ด้อ ย่า งถี ่ถ ้ว น
รอบคอบ สามารถคาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ และแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นประโยชน์
ต่อการดาเนินชีวิตประจาวัน ทักษะการแก้ปัญหาเป็นกระบวนการที่นักเรียนควรจะเรียนรู้ ฝึกฝน
และพัฒ นาให้เกิดขึ้น ในตัว ผู้เรีย น ด้ว ยเหตุนี้การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์จะช่วยให้ผู้เรียนเกิด
แนวคิดที่หลากหลาย มีนิสัยกระตือรือร้น ไม่ย่อท้อและมีความมั่นใจในการแก้ปัญหาที่เผชิญอยู่ทั้ง
ภายในและภายนอกห้องเรียน ตลอดจนเป็นทักษะพื้นฐานที่ผู้เรียนสามารถนาติดตัวไปใช้ได้นาน
ตลอดชีวิต (สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 2550)
จากรายงานประจาปีของโรงเรียนนราธิวาส อาเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส สังกัด
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 15 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนนราธิวาส ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 นักเรียนมีผลคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อย
ละ 50.23 (โรงเรียนนราธิวาส. 2559 ) และภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 พบว่า นักเรียนมีผลคะแนน
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 50.96 (โรงเรียนนราธิวาส. 2560 )โดยเฉพาะในเรื่องเลขยกกาลัง ซึ่ง
เนื้อหาเรื่องนี้จะนาไปใช้ในการเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งจะส่งผลต่อการสอบ
O-NET ด้วยผลจากการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ปี การศึกษา 2559 โรงเรี ยนนราธิ วาสวิ ชาคณิ ตศาสตร์ได้ คะแนนเฉลี่ ยร้อยละ 31.17 และมาตรฐาน
การเรียนรู้ที่โรงเรียนควรพัฒนา คือ มาตรฐาน ค1.1 เฉลี่ยร้อยละ 20.73 ซึ่งต่ากว่าครึ่งหนึ่งของคะแนนเต็ม
ปีการศึกษา 2560 วิชาคณิตศาสตร์ เฉลี่ยร้อยละ 26.61 และมาตรฐานการเรียนรู้ที่โรงเรียนควรพัฒนา คือ
มาตรฐาน ค1.1 เฉลี่ยร้อยละ 27.43 ซึ่งต่ากว่าครึ่งหนึ่งของคะแนนเต็ม เมื่อได้พิจารณาในรายละเอียด
พบว่า นักเรียนยั งมีปั ญหาด้านความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ เรื่องเลขยกกาลัง ซึ่งเป็นเนื้ อหาพื้นฐานใน
การเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และสาหรับการเรียนต่อในชั้นที่สูงขึ้น ดังนั้นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชา
คณิตศาสตร์ในเนื้อหาเรื่องนี้จะต้องได้รับการพัฒนาเป็นอย่างยิ่ง
เนื่องจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เป็นเนื้อหาที่ยากและเป็นนามธรรม
ทาให้นักเรียนเบื่อหน่าย เมื่อผู้สอนถ่ายทอด หรืออธิบายให้นักเรียนเข้าใจ เป็นเรื่องที่ยากตามมา
จีร ะศักดิ์ นุ่นปาน (2553) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ ครูผู้ส อนควรรู้จักเลือกใช้
วิธ ีก ารสอนให้เ หมาะสมกับ เนื ้อ หา เพื ่อ ให้ก ารจัด กิจ กรรมการเรีย นรู ้ป ระสบความส าเร็จ
ตามเป้าหมายมากที่สุด และนอกจากวิธีการสอนแล้ว สื่อการเรียนรู้ ก็มีความสาคัญในการส่งเสริม
2
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อศึกษาประสิ ทธิภาพของแบบฝึ กทักษะ เรื่องเลขยกกาลั ง ส าหรับนักเรียนระดับ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์เท่ากับ 80/80
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยโดยใช้แบบฝึกทักษะ
เรื่องเลขยกกาลัง สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยโดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่องเลขยกกาลัง
สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
3
สมมติฐานของการวิจัย
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะเรื่องเลขยกกาลัง สาหรับนักเรีย นระดับชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์เท่ากับ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยโดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่องเลขยกกาลัง สาหรับ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่าก่อนเรียน
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยโดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่องเลขยกกาลัง สาหรับ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับมาก
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัย
1. แบบฝึกทักษะเป็นสิ่งที่จาเป็นในกระบวนการจัดการเรียนการสอน ซึ่งส่งผลให้นักเรียน
มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น
2. เป็นแนวทางสาหรับครูผู้สอนในการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทาง
การเรียนให้เกิดขึ้นในตัวผู้เรียน และบรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้
3. นั ก เรี ย นมี ค วามสนใจ ตั้ ง ใจ และมี เ จตคติ ที่ ดี ต่ อ วิ ช าคณิ ต ศาสตร์ ส่ ง ผลให้ นั ก เรี ย น
มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
ขอบเขตของการวิจัย
1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากร ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561
โรงเรียนนราธิวาส อาเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส จานวน 11 ห้องเรียน รวมทั้งสิ้น 337 คน
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 /11 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา
2561 โรงเรียนนราธิวาส อาเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส จานวน 31 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบ
กลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้หน่วยการสุ่มเป็นห้องเรียน
2. เนื้อหา
เนื้อหาที่ใช้ในการสร้างแบบฝึกทักษะ คือ เนื้อ หารายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค21101
หน่วยการเรียนรู้ เรื่องเลขยกกาลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ซึ่งประกอบด้วยเนื้อหา ดังนี้
2.1 ความหมายของเลขยกกาลัง
2.2 การคูณของเลขยกกาลัง
2.3 การหารของเลขยกกาลัง
2.4 สมบัติของเลขยกกาลัง
2.5 การนาไปใช้
3. ระยะเวลาในการศึกษา
เวลาในการดาเนินการศึกษาการใช้แบบฝึกทักษะ คือ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561
โดยใช้คาบสอนปกติตามตารางสอน ใช้เวลาสอน 16 ชั่วโมง
4. ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษา
ตัวแปรต้น คือ แบบฝึกทักษะ เรื่องเลขยกกาลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
4
ตัวแปรตาม คือ
1) ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ เรื่องเลขยกกาลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องเลขยกกาลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
3) ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกทักษะ
เรื่องเลขยกกาลัง
นิยามศัพท์เฉพาะ
1. แบบฝึ ก ทั ก ษะ หมายถึ ง สื่ อ การเรี ย นรู้ ที่ ค รู ส ร้ า งขึ้ น มาในรายวิ ช าคณิ ต ศาสตร์
เรื่ อ งเลขยกก าลั ง ที่ ป ระกอบด้ ว ย 5 ชุ ด ในแต่ ล ะชุ ด จะมี ก ารแก้ โ จทย์ ปั ญ หา โดยใช้ ก ระบวน
การแก้ปัญหาของโพลยา โดยมีลักษณะดังต่อไปนี้
ขั้นที่ 1 การทาความเข้าใจปัญหา เป็นการมองไปที่ตัวปัญหาโดยพิจารณาว่าโจทย์ถาม
อะไร โจทย์กาหนดอะไรมาให้บ้าง มีสาระความรู้ใดที่เกี่ยวข้อง มีความเพียงพอสาหรับการแก้ปัญหา
นั้นหรือไม่ คาตอบของปัญหาอยู่ในรูปแบบใดจนกระทั่งสามารถสรุปปัญหาออกมาเป็นภาษาของ
ตนเอง
ขั้นที่ 2 การวางแผนแก้ปัญหา (Devising a plan) เป็นขั้นตอนสาคัญที่จะต้องพิจารณา
ว่าจะแก้ปัญหาด้วยวิธีใด จะแก้ปัญหาอย่างไร นักเรียนต้องมองเห็นความสาคัญของข้อมูลต่างๆ ใน
โจทย์ปัญหาอย่างชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเป็นขั้นที่ค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งที่โจทย์ถามกับข้อมูลหรือ
สิ่งที่โ จทย์ กาหนดให้ ถ้าหากไม่ส ามารถหาความสั มพันธ์ได้ก็ควรอาศัยหลั กการของการวางแผน
แก้ปัญหา ดังนี้ 1. โจทย์ปัญหาลักษณะนี้เคยพบมาก่อนหรือไม่และมีลั กษณะคล้ ายคลึงกับโจทย์
ปัญหาที่เคยทามาแล้วอย่างไร 2. ถ้าอ่านในโจทย์ปัญหาครั้งแรกแล้วไม่เข้าใจควรอ่านโจทย์ปัญหาอีก
ครั้ ง แล้ ว วิ เ คราะห์ ค วามแตกต่ า งของปั ญ หานี้ กั บ ปั ญ หาที่ เ คยท ามาก่ อ น ดั ง นั้ น การวางแผน
การแก้ ปั ญหาเป็ น ขั้น ตอนที่ ผู้ แ ก้ ปั ญ หาน ามาก าหนดแนวทางในการแก้ ปั ญ หาและเลื อ กยุ ท ธวิ ธี
แก้ปัญหา
ขั้นที่ 3 การดาเนินการตามแผน เป็นขั้นตอนที่ลงมือปฏิบัติการตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้
ได้คาตอบของปัญหาด้วยการรู้จักเลือกวิธีการคิดคานวณ กฎ หรือสูตร ที่เหมาะสมมาใช้โดยเริ่มจาก
การตรวจสอบความเป็นไปได้ของแผนเพิ่มเติมรายละเอียดต่างๆ ของแผนให้ชัดเจนแล้วลงมือปฏิ บัติ
จนกระทั่งสามารถหาคาตอบได้หรือค้นพบวิธีการแก้ปัญหาใหม่
ขั้นที่ 4 การตรวจสอบ เป็นขั้นตอนที่ผู้แก้ปัญหามองย้อนกลับไปที่ขั้นตอนต่างๆ ที่ผ่าน
มาเป็นการตรวจสอบ เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์ที่ได้ถูกต้องสมบูรณ์ โดยพิจารณาและตรวจดูว่าผลลัพธ์
ถูกต้องและมีเหตุผลที่น่าเชื่อถือได้หรือไม่ ตลอดจนกระบวนการในการแก้ปัญหา
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ผลคะแนนของนักเรียน ที่ได้จากการทาแบบทดสอบ
วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน เรื่องเลขยกกาลัง
นั ก เรี ย น หมายถึ ง นั ก เรี ยนทั้ ง หมดที่ เ รี ยนโดยใช้ แ บบฝึ ก ทั ก ษะ เรื่ องเลขยกก าลั ง
โรงเรียนนราธิวาส อาเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส
80/80 หมายถึง 80 ตัวแรก คือ นักเรียนทั้งหมดทาแบบทดสอบย่อยขณะเรียน
ได้คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 80
5
บทที่ 2
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
1. หลักสูตรคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนนราธิวาส
1.1 หลั กสู ตรแกนกลางการศึกษาขันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่ มสาระการเรียนรู้
คณิตศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ของกลุ่มสาระการเรียนรู้
คณิตศาสตร์ ได้กาหนดสาระหลัก ที่จาเป็นสาหรับผู้เรียนไว้ 6 สาระ ดังนี้
สาระที่ 1 จานวนและการดาเนินการ
สาระที่ 2 การวัด
สาระที่ 3 เรขาคณิต
สาระที่ 4 พีชคณิต
สาระที่ 5 การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น
สาระที่ 6 ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
จากสาระหลักที่กล่าวมาข้างต้นทาให้ทราบว่าคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ ให้
ความส าคั ญ กั บ ทั ก ษะและกระบวนการทางคณิ ต ศาสตร์ ไ ม่ น้ อ ยไปกว่ า ด้ า นเนื้ อ หาสาระทาง
คณิตศาสตร์ ซึ่งจะช่วยพัฒนาความคิดมนุษย์ ทาให้มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผลเป็น
ระบบมีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณ์ได้อย่างถี่ถ้วนรอบคอบ ช่วยให้ คาดการณ์
วางแผน ตัดสินใจ แก้ปัญหา และนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
1.2 สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่ใช้ทาการวิจัย
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง เลขยกกาลัง
สาระที่ 1จานวนและการดาเนินการ
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจานวนและการใช้จานวนใน
ชีวิตจริง
7
ตารางที่ 1 (ต่อ)
2. แบบฝึกทักษะ
2.1 ความหมายของแบบฝึก
สุคนธ์ สินธพานนท์ (2552) กล่าวว่า เป็นสื่ออย่างหนึ่งที่ช่วยให้ผู้เรียนมีความเข้าใจใน
บทเรียนหรือเรื่องที่กาลังเรียน ซึ่งครูผู้สอนได้ออกแบบ ทาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามศักยภาพของ
ตน ทาให้ผู้เรียนมีความแม่นยาในเรื่องที่ต้องการฝึก นอกจากนี้เป็นการเสริมสร้างคุณลักษณะของ
ผู้เรียนให้คิดเป็น มีความรับผิดชอบ และมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ ถึงแม้ชุดฝึกทักษะจะแตกแต่งกัน
ไป แต่เป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน คือ ต้องการให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ
ที่หลากหลาย และบรรลุวัตถุประสงค์
10
2. เหมาะสมกับระดับวัยและความสามารถของผู้เรียน
3. มีคาชี้แจงสั้นๆ ที่ทาให้เข้าใจวิธีทาได้ง่าย
4. ใช้เวลาเหมาะสม คือ ไม่ใช้เวลานาน หรือเร็วเกินไป
5. เป็นสิ่งที่น่าสนใจ และท้าทาย ให้แสดงความสามารถ
สุพรรณ สิงหนุวัฒนะ (2558 ) กล่าวว่า แบบฝึกที่ดีควรมีหลายแบบหลายชนิด เพื่อ
นั ก เรี ย นจะไม่ เ กิ ด ความเบื่ อ หน่ า ย การเลื อ กใช้ คา ภาษาที่ ง่ า ยต่ อ การเข้ า ใจ เหมาะสมกั บ วั ย
การสร้ า งแบบฝึ ก ทั ก ษะให้ มี ลั ก ษณะยั่ ว ยุ ท้ า ทายความสามารถของผู้ เ รี ย น ให้ ผู้ เ รี ย นรู้ จั ก
การแก้ปัญหาและพัฒนาได้ด้วยตนเอง
สรุป แบบฝึกที่ดีควรเป็นแบบฝึกที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เรียนสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของ
การฝึก ตอบสนองความแตกต่างและความพร้อมของผู้เรียน มี คาชี้แจงในการใช้ ใช้เวลาในการฝึก
ไม่นานเกินไป ใช้ภาษาสั้นๆ เข้าใจง่ายและต้องมีหลายรูปแบบ
2.5 ประโยชน์ของแบบฝึกทักษะ
พจนา เบญจมาศ (2558 ) กล่าวว่า แบบฝึกทักษะมีความสาคัญยิ่งต่อครูและนักเรีย น
ในด้ านตัว นั ก เรี ย นนั้ น ท าให้ นั กเรี ย นเกิด ทัก ษะ เกิด ความช านาญในการปฏิ บัติ กิจ กรรมต่า ง ๆ
มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาเพิ่มขึ้น มองเห็นความก้าวหน้าของตนเอง ส่วนในด้านตัวครูทาให้
มองเห็นปัญหาของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มองเห็นจุดเด่นจุดด้อยของนักเรียนเพื่อนามาส่งเสริม
หรือปรับปรุงแก้ไขต่อไป แบบฝึกทักษะที่ดีเปรียบเสมือนผู้ช่วยที่สาคัญของครูที่จะทาให้ผู้เรียนได้
พัฒนาการเรียนรู้ตามศักยภาพของตนเอง มีความมั่นใจที่จะเรียนรู้อย่างมีความสุข และประสบ
ความสาเร็จ
สาลี ดวงบุบผา (2558 ) กล่าวว่า แบบฝึกทักษะช่วยทาให้นักเรียนเข้าใจบทเรียนได้ดี
ยิ่งขึ้นเนื่องจากการได้ฝึกทันทีหลังจากเรียนเนื้อหาและฝึกซ้า ๆ ในเรื่องที่เรียน นอกจากนี้ยังทาให้ครู
ทราบความเข้าใจของนักเรียนและใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับกับ
นักเรียนอีกด้วย
สรุป ประโยชน์ของแบบฝึกทักษะ มีประโยชน์ต่อครูเพื่อทราบความเข้าใจเนื้อหาของ
นักเรียน ส่วนนักเรียนทาให้เข้าใจเนื้อหามากยิ่งขึ้นในเรื่องที่เรียน
3. กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา
การแก้ปัญหาตามกระบวนการของโพลยา นับเป็นสิ่งที่ผู้สอนและนักเรียนคุ้นเคยและถูก
ใช้มานานมากในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ ซึ่งในทางปฏิบัติการดาเนินการตามกระบวนนี้ อาจทาบาง
ขั้น ตอนให้ กระชับ ขึ้น เช่น ตรวจสอบเพียงความสมเหตุส มผลในขั้นตรวจย้อนกลั บทั้งนี้ เพื่อให้
การแก้ปัญหามีความกระชับและรวดเร็วขึ้น และเพื่อไม่ให้นักเรียนรู้สึกว่าการแก้ปัญหาเป็นสิ่งซับซ้อน
กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา เป็นกระบวนการที่มีประโยชน์มาก เนื่องจากช่วยให้นักเรียนมีหลัก
คิด ทาให้นักเรียนได้ฝึกการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบมีการวางแผนและกากับการทางานอย่างต่อเนื่อง
อัมพร ม้าคนอง (2553 : อ้างอิงจาก Polya 1957 ) กล่าวว่า ขั้นตอนหรือกระบวนการแก้ปัญหาทาง
คณิตศาสตร์ไว้ 4 ขั้นตอน คือ
13
4. ความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
4.1 ความหมายของปัญหาทางคณิตศาสตร์
ชมพูนุท วนสันเทียะ (2552 ) กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ซึ่งเป็น
ประโยคภาษา ปัญหาที่เป็นเรื่ องราว หรื อปัญหาเป็นคาพูดก็ได้ และอาจจะเกี่ยวข้องกับปริมาณ
สมบัติทางกายภาพ หรือการให้เหตุผลทางตรรกศาสตร์โดยไม่สามารถหาคาตอบได้ทันที แต่ต้อง
อาศั ย ความรู้ ประสบการณ์ กฎ นิ ยาม ทฤษฎี บท ที่ไ ด้เ รีย นรู้ มาใช้ ในการแก้ปั ญหาอย่า ง
เหมาะสม
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (2552 ) กล่าว่า สถานการณ์ที่
เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ซึ่งนักเรียนเผชิญอยู่และต้องการค้นหาคาตอบ โดยที่ยังไม่รู้วิธีการหรือขั้นตอน
ที่จ ะได้คาตอบของสถานการณ์นั้ น ในทันที ถ้าเป็นสถานการณ์ที่นักเรียนรู้วิธีการหาคาตอบหรือรู้
คาตอบทันทีแล้ว สถานการณ์นั้นก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ปัญหาทางคณิตศาสตร์สาหรับนักเรียนคน
หนึ่งอาจไม่ใช่ปัญหาทางคณิตศาสตร์สาหรับนักเรียนอีกคนหนึ่งก็ได้ ทั้งนี้อยู่กับประสบการณ์และ
พื้นฐานความรู้ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนแต่ละคน
เวชฤทธิ์ อังกนะภัทรขจร (2555 ) กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ซึ่งต้อง
ใช้ความรู้และวิธีการทางคณิตศาสตร์ในการหาคาตอบ โดยที่ยังไม่รู้ขั้นตอนหรือวิธีการที่จะได้คาตอบ
ของสถานการณ์นั้นในทันที
สรุ ป ความหมายของปั ญ หาทางคณิ ต ศาสตร์ เป็ น สถานการณ์ ห รื อ ค าถามทาง
คณิตศาสตร์ที่ต้องการคาตอบ ซึ่งจะอยู่ในรูปปริมาณหรือจานวนที่นักเรียนไม่สามารถหาคาตอบได้
ทันที ต้องใช้ ความรู้ ทักษะ กระบวนการทางคณิตศาสตร์และประสบการณ์ เข้าด้วยกันจึงจะสามารถ
หาคาตอบได้
4.2 ความหมายของการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
เวชฤทธิ์ อังกนะภัทรขจร (2555 ) กล่าวว่า เป็นกระบวนการในการหาคาตอบของ
ปั ญ หาในทางคณิ ต ศาสตร์ ซึ่ ง ผู้ แ ก้ ปั ญ หาจะต้ อ งประยุ ก ต์ ใ ช้ ค วามรู้ ท างคณิ ต ศาสตร์ ขั้ น ตอน/
กระบวนการแก้ปัญหากลยุกต์ในการแก้ปัญหาและประสบการณ์เดิมประมวลเข้ากับสถานการณ์ใหม่ที่
กาหนดให้ในปัญหานั้นๆ
15
สถาบั น ส่ ง เสริ ม การสอนวิ ท ยาศาสตร์ แ ละเทคโนโ ลยี (2555) กล่ า วว่ า เป็ น
กระบวนการในการประยุ กต์ความรู้ทางคณิตศาสตร์ ขั้นตอนหรือกระบวนการแก้ปั ญหายุทธวิ ธี
แก้ปัญหา และประสบการณ์ที่มีอยู่ ไปใช้ในการค้นหาคาตอบของปัญหาทางคณิตศาสตร์กระบวนการ
เหล่านี้อาจนามาใช้ในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์มากบ้างน้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับ ลักษณะของโจทย์
ปัญหาทางคณิตศาสตร์นั้นๆ จากความหมายของการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่กล่าวมาข้างต้น
รอฮานี ปูตะ (2560) กล่าวว่า กระบวนการหรือวิธีการในการจัดการกับสถานการณ์
ปั ญ หา เพื่ อ ให้ ไ ด้ ค าตอบของปั ญ หาคณิ ต ศาสตร์ ที่ ผู้ แ ก้ ปั ญ หาแต่ ล ะคน จะต้ อ งใช้ ทั ก ษะความรู้
ความเข้าใจ และประสบการณ์เดิมประมวลเข้ากับสถานการณ์ใหม่ที่กาหนดในปัญหา
สรุป การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ หมายถึง กระบวนการในการหาคาตอบของปัญหา
ทางคณิ ต ศาสตร์ ซึ่ ง จะต้ อ งประยุ ก ต์ ใ ช้ ค วามรู้ ท างคณิ ต ศาสตร์ กระบวนการแก้ ปั ญ หา และ
ประสบการณ์ที่มีอยู่ไปใช้ในการค้นหาคาตอบ
4.3 ความหมายของความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (2555) กล่าวว่า ความสามารถ
ในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เป็นความสามารถในการประยุกต์ความรู้ ขั้นตอน หรือกระบวนการ
ทางคณิตศาสตร์ กลวิธีและยุทธวิธีแก้ปัญหา และประสบการณ์ที่มีอยู่ไปใช้ในการแก้ปัญหา ซึ่งปัญหา
ทางคณิตศาสตร์มักเป็นปัญหาที่ผู้เรียนไม่คุ้นเคยมาก่อน และต้องใช้ความคิดที่หลากหลาย เพื่อหา
แนวทางหรื อ วิ ธี ก ารแก้ ปั ญ หาที่ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพมากที่ สุ ด จากความหมายของความสามารถใน
การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่กล่าวมาข้างต้น
สรุปได้ว่า ความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ หมายถึง วิธีการในการหา
คาตอบที่ถูกต้องของปัญหาทางคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นกระบวนการในการนาความรู้และประสบการณ์ที่
มีอยู่มาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์นั้นๆ เพื่อค้นหาคาตอบของปัญหา
4.4 ความสาคัญของการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
เวชฤทธิ์ อังกนะภัทรขจร (2554 ) กล่าวว่า การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เป็นทักษะ
และกระบวนการทางคณิตศาสตร์ที่มีความสาคัญที่นักเรียนจะต้องฝึกฝน พัฒนาให้ เกิดขึ้นรวมทั้ง
กลยุทธ์หรื อยุทธวิธีในการแก้ปัญหามี ห ลายวิธีซึ่งการเลื อกใช้กลยุทธ์ในการแก้ปัญหาควรเลื อกให้
เหมาะสมกับปัญหา
ศศิธร แม้นสงวน (2555) กล่าวว่า การแก้ปัญหาเป็นพื้นฐานสาคัญในการแก้ปัญหา
ทางคณิตศาสตร์ ครูจะต้องจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้ฝึกฝนการแก้ปัญหาอย่าง
สม่าเสมอ เพื่อจะช่วยให้นักเรียนเผชิญกับสถานการณ์ของปัญหาที่แตกต่างกันออก
สถาบั น ส่ ง เสริ ม การสอนวิ ท ยาศาสตร์ แ ละเทคโนโลยี (2555) กล่ า วว่ า
การแก้ปัญหาเป็น กระบวนการที่นั กเรียนควรจะเรียนรู้และพัฒ นาให้ เกิดทักษะขึ้นในตัว นักเรียน
การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์จะช่วยให้นักเรียนมีแนวคิดที่หลากหลาย มีนิสัยกระตือรือร้น ไม่ย่อท้อ
และมั่นใจในการแก้ปัญหาที่เผชิญอยู่ ตลอดจนเป็นทักษะพื้นฐานที่นักเรียนสามารถนาติดตัวไปใช้ใน
ชีวิตประจาวันได้ตลอดชีวิต
สรุ ป ความส าคั ญ ของการแก้ ปั ญ หาทางคณิ ต ศาสตร์ ไ ด้ ว่ า การแก้ ปั ญ หาทาง
คณิตศาสตร์เป็นทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ที่สาคัญ ที่นักเรียนควรจะเรียนรู้และพัฒนา
16
ให้เกิดทักษะขึ้นในตัวนักเรียน จะช่วยให้นักเรียนมีระเบียบขั้นตอนในการคิดมีแนวคิดที่หลากหลาย
มีเหตุผล
4.5 กระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
อัมพร ม้าคนอง (2553 : อ้างอิงจาก Polya 1957) กล่าวว่า ขั้นตอนหรือกระบวนการ
แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ไว้ 4 ขั้นตอน คือ
ขั้นที่ 1 การทาความเข้าใจปัญหา (Understanding the problem) เป็นการมองไป
ที่ตัวปัญหาโดยพิจารณาว่าโจทย์ถามอะไร โจทย์กาหนดอะไรมาให้บ้ าง มีสาระความรู้ใดที่เกี่ยวข้อง
บ้ าง มีความเพี ย งพอส าหรั บ การแก้ปัญ หานั้น หรือ ไม่ และค าตอบของปัญหาจะอยู่ในรูปแบบใด
จนกระทั่งสามารถสรุปปัญหาออกมาเป็นภาษาของตนเองได้ ถ้าหากยังไม่ชัดเจนในโจทย์อาจใช้วิธีการ
ต่างๆ ช่วย เช่น การวาดรูป เขียนแผนภูมิ หรือแยกแยะสถานการณ์ โดยเขียนสาระของปัญหาด้วย
ถ้อยคาของนักเรียนเอง แล้วแบ่งเงื่อนไขในโจทย์ออกเป็นส่วนๆซึ่งจะทาให้เข้าใจโจทย์ปัญหามากขึ้น
ขั้นที่ 2 การวางแผนการแก้ปัญหา (Devising a plan) เป็นขั้นตอนสาคัญที่จะต้อง
พิจารณาว่าจะแก้ปัญหาด้วยวิธีใด จะแก้ปัญหาอย่างไร นักเรียนต้องมองเห็นความสาคัญของข้อมูล
ต่างๆ ในโจทย์ปัญหาอย่างชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเป็นขั้นที่ค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งที่โจทย์ถามกับ
ข้ อ มู ล หรื อ สิ่ ง ที่ โ จทย์ ก าหนดให้ ถ้ า หากไม่ ส ามารถหาความสั ม พั น ธ์ ไ ด้ ก็ ค วรอาศั ย หลั ก การของ
การวางแผนแก้ปัญหา ดังนี้ 1. โจทย์ปัญหาลักษณะนี้เคยพบมาก่อนหรือไม่และมีลักษณะคล้ายคลึง
กับโจทย์ปัญหาที่เคยทามาแล้วอย่างไร 2. เคยพบโจทย์ปัญหานี้เมื่อไรและใช้วิธีการใดในการแก้ปัญหา
3. ถ้าอ่านในโจทย์ปัญหาครั้งแรกแล้วไม่เข้าใจควรอ่านโจทย์ปัญหาอีกครั้งแล้ววิเคราะห์ความแตกต่าง
ของปั ญหานี้ กับ ปั ญ หาที่ เคยท ามาก่ อน ดัง นั้น การวางแผนการแก้ปั ญหาที่ เคยทามาก่อ น ดัง นั้ น
การวางแผนการแก้ปัญหาเป็นขั้นตอนที่ผู้แก้ปัญหามีอยู่แล้วนามากาหนดแนวทางในการแก้ปัญหา
และเลือกยุทธวิธีแก้ปัญหา
ขั้นที่ 3 การดาเนินการตามแผน (Carrying out the plan) เป็นขั้นตอนที่ลงมือปฏิบัติการ
ตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้ได้คาตอบของปัญหาด้วยการรู้จักเลือกวิธีการคิดคานวณ กฎ หรือสูตร ที่
เหมาะสมมาใช้โดยเริ่มจากการตรวจสอบความเป็นไปได้ของแผนเพิ่มเติมรายละเอียดต่างๆ ของแผน
ให้ชัดเจนแล้วลงมือปฏิบัติจนกระทั่งสามารถหาคาตอบได้หรือค้นพบวิธีการแก้ปัญหาใหม่
ขั้นที่ 4 การตรวจสอบผล (Looking back) เป็นขั้นตอนที่ผู้แก้ปัญหามองย้อนกลับไป
ที่ขั้นตอนต่างๆ ที่ผ่านมาเป็นการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์ที่ได้ ถูกต้องสมบูรณ์ โดยพิจารณา
และตรวจดูว่าผลลัพธ์ถูกต้องและมีเหตุผลที่น่าเชื่อถือได้หรือไม่ ตลอดจนกระบวนการในการแก้ปัญหา
ซึ่งอาจจะใช้วิธีการอีกวิธีหนึ่งตรวจสอบเพื่อดูผลลัพธ์ที่ได้ตรงกันหรือไม่หรืออาจใช้การประมาณค่า
ของคาตอบอย่างคร่าวๆ แล้วพิจารณาปรับปรุงแก้ไขวิธีการแก้ปัญหาให้กะทัดรัดชัดเจนเหมาะสมขึ้น
กว่าเดิม ขั้นตอนนี้ครอบคลุมถึงการมองไปข้างหน้าโดยใช้ประโยชน์จากวิธี การแก้ปัญหาที่ผ่านมา
ขยายแนวคิดในการแก้ปัญหาให้กว้างขวางขึ้นกว่าเดิม จากการที่ได้ศึกษากระบวนการแก้ปัญหาของ
โพลยา ผู้วิจัยได้สรุปกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยาได้ ดังนี้
ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจโจทย์ปัญหา (Understanding the problem) เป็นขั้นที่
บอกได้ว่าโจทย์ปัญหาเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรบอกสิ่งที่โจทย์กาหนดให้และสามารถบอกสิ่งที่โจทย์
ถาม
17
ตารางที่ 2 เกณฑ์การประเมินผลแบบย่อยของการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของสถาบันส่งเสริม
การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
5. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์
5.1 ความหมายของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์
เวชฤทธิ์ อังกนะภัทรขจร (2555) กล่ าวว่า เป็นความสามารถทางสติปั ญญาใน
การเรี ย นรู้ วิ ช าคณิ ต ศาสตร์ ซึ่ ง จ าแนกตามพฤติ ก รรม ผลสั ม ฤทธิ์ ท างการเรี ย นที่ พึ ง ประสงค์
ด้านสติปัญญาในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ดังนี้
1. ความรู้ ความจ า และการคิ ด ค านวณ ( Computation) เป็ น ระดั บ ที่ วั ด
ความสามารถในการระลึกถึงสิ่งที่ผู้เรียนได้เรียนผ่านไปแล้ว เกี่ยวกับข้อเท็จจริง ศัพท์ นิยาม ตลอดจน
การบวก การคิดคานวณอย่างง่ายๆ พฤติกรรมระดับนี้แบ่งออกเป็น 3 ขั้น ได้แก่
19
5.3 ประเภทของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ไพศาล วรคา (2558 ) กล่าวว่า ข้อสอบแบบเลือกตอบว่า เป็นข้อสอบที่จัดเตรียม
คาตอบไว้ให้ผู้ตอบเลือก ดังนั้นรูปแบบของแบบทดสอบจึงจึงประกอบด้วยข้อคาถาม (stem) และ
ตัวเลือก (choices) ซึ่งประกอบด้วยตัวถูก ( Correct choices) และตัวลวง (distracters)
ศิรีกานต์ งามพิพัฒนพงษ์ (2558) กล่าว่า แบบวัดผลวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนนั้น
แบ่งได้หลายลั กษณะตามเกณฑ์ที่ใช้แบ่งแตกต่างกันออกไป แต่หากพิจารณาถึงรูปแบบการสร้าง
แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ที่ครูผู้สอนสร้างขึ้นเพื่อใช้เองและแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมาตรฐานที่สร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญ
ปาฮามี อาแว (2559) กล่าวว่า ข้อสอบแบบเลื อกตอบเป็นข้อสอบที่มี 2 ส่วนที่
สาคัญ คือ ข้อคาถาม และตัวเลือก ในส่วนของ ตัวเลือกมีสองส่วน คือ ตัวเลือกที่ถูก และตัวเลือกที่
ผิดหรือเรียกว่าตัวลวง
สรุป ประเภทของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คือ แบ่งเป็น 2 ประเภท
คือแบบที่ครูผู้สอนสร้างเอง และแบบมาตรฐานโดยผู้เชี่ยวชาญ
5.4 องค์ประกอบที่ส่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์
Prescott (1961) กล่ า วว่ า ได้ ศึ ก ษาเกี่ ย วกั บ การเรี ย นของนั ก เรี ย น และสรุ ป ผล
การศึกษาว่าองค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนทั้งในและนอกห้องเรียน
ดังนี้
1. องค์ประกอบทางด้านร่างกาย ได้แก่ อัตราการเจริญเติบโตของร่างกาย สุขภาพ
ทางด้านทางร่างกาย ข้อบกพร่องทางกาย และบุคลิกท่าทาง
2. องค์ประกอบทางความรัก ได้แก่ ความสัมพันธ์ของบิดามารดากับลูก ความสัมพันธ์
ระหว่างลูกๆ ด้วยกัน และความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกทั้งหมดในครอบครัว
3. องค์ประกอบทางวัฒนธรรมและสังคม ได้แก่ ขนบธรรมเนียมประเพณี ความเป็น
เป็นอยู่ของครอบครัว สภาพแวดล้อมทางบ้าน การอบรมทางบ้าน และฐานะทางบ้าน
4. องค์ประกอบทางความสัมพันธ์ในเพื่อนวัยเดียวกัน ได้แก่ ความสัมพันธ์ของนักเรียน
กับเพื่อนวัยเดียวกันทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน
5. องค์ประกอบทางพัฒนาแห่งตน ได้แก่ สติปัญญา ความสนใจ เจตคติของนักเรียน
ต่อการเรียน
6. องค์ประกอบทางการปรับตน ได้แก่ ปัญหาการปรับตน การแสดงออกทางอารมณ์
ศิรีกานต์ งามพิพัฒนพงษ์ (2558) กล่าวว่า องค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อผลสัมฤทธิ์
ทางการเรี ยนนั้ น ประกอบด้ว ย ลักษณะของตัว นักเรียนเอง ได้แก่ ความพร้อมทางด้านสมอง
ความรู้ ความคิด ความพร้อมทางด้านสติปัญญา ความพร้อมทางด้านร่างกาย สุขภาพ ความสนใจ
ทัศนติ การยอมรับความสามารถของตนเอง ลักษณะบุคลิกภาพ แรงจูงใจ ค่านิยม อายุ เพศ
ประสิทธิภาพ การจัดการเรียนการสอนของครู การได้รับคาแนะนา การเสริมแรงจากครู วิธีการ
ที่ครูนามาสอน การมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนระหว่างครูกับนักเรียน ตลอดไปถึงองค์ประกอบ
ทางด้านสั งคม สิ่งแวดล้อมที่มีปฏิสัมพันธ์กับตัว เด็ก เช่น บ้าน ครอบครัว เพื่อน อิทธิพลทาง
ศิลปวัฒนธรรม เป็นต้น
22
สรุ ป องค์ ป ระกอบที่ ส่ งผลต่ อ สั ม ฤทธิ์ ท างการเรี ย นคณิ ต ศาสตร์ มี ห ลายด้ า น ได้ แ ก่
นักเรียน ครู ผู้ปกครอง ระบบบริหารการจัดการ พื้นฐานความรู้ทางคณิตศาสตร์ และการสอนของครู
เป็นต้น
5.5 ขั้นตอนการสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์
ศศิธร แม้นสงวน (2555) กล่าว่า ได้สรุปขั้นตอนในการสร้างแบบทดสอบคณิตศาสตร์ไว้
ดังนี้
1. วิเคราะห์หลักสูตรและสร้างตารางวิเคราะห์หลักสูตร
2. กาหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ เป็นพฤติกรรมเป็นผลการเรียนรู้ที่ครูกาหนดและ
คาดหวังจะให้เกิดขึ้นกับนักเรียน โดยครูจะกาหนดไว้ล่วงหน้าสาหรับเป็นแนวทางในการจัดการเรียน
การสอน และการสร้างข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์
3. กาหนดชนิดของข้อสอบ
4. เขียนข้อสอบ
5. ตรวจทาน
6. จัดพิมพ์แบบทดสอบ
7. ทดลองสอบเพื่อนาผลมาวิเคราะห์ข้อสอบ
8. แก้ไขปรับปรุงแล้วได้แบบทดสอบฉบับจริง
เวชฤทธิ์ อังกนะภัทรขจร (2555) กล่าวว่า ได้สรุปขั้นตอนในการสร้างแบบทดสอบ
คณิตศาสตร์ไว้ ดังนี้
ขั้น ที่ 1 ศึกษาหลั กสู ตรแกนกลางการศึ กษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 หรื อ
หลักสูตรสถานศึกษา แล้ววิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ และเนื้อหาวิชา
คณิตศาสตร์ที่ต้องการวัด
ขั้นที่ 2 จากข้อมูลในขั้นที่ 1 วิเคราะห์จุดประสงค์ การเรียนรู้ที่ต้องการให้เกิ ดแก่
ผู้เรียนในแต่ละเนื้อหา
ขั้น ที่ 3 วิเคราะห์ ระดับ พฤติก รรมที่ ต้อ งการวัด คือพฤติกรรมระดั บความรู้ห รื อ
ความจา ความเข้าใจ การนาไปใช้ และการวิเคราะห์ จากนั้นสร้างตารางวิเคราะห์ข้อสอบจาแนกตาม
พฤติกรรมที่ต้องการวัดในแต่ละเนื้อหา
ขั้น ที่ 4 จากข้อมูลในขั้นที่ 2 และ 3 นามาวิเคราะห์พฤติกรรมที่ต้องการวัดและ
จุดประสงค์การเรียนรู้ที่สร้างขึ้นในขั้นที่ 4
สรุ ป ในงานวิ จั ย นี้ มี ขั้ น ตอนการสร้ า งแบบทดสอบวั ด ผลสั ม ฤทธิ์ ท างการเรี ย น
คณิ ต ศาสตร์ ดั ง นี้ ศึ ก ษาหลั ก สู ต รแกนกลางการศึ ก ษาขั้ น พื้ น ฐาน พุ ท ธศั ก ราช 2551 วิ เ คราะห์
มาตรฐานการเรีย นรู้ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ และเนื้อหา วิเคราะห์จุดประสงค์การเรียนรู้ วิเคราะห์
พฤติกรรมในแต่ละจุดประสงค์การเรียนรู้ สร้างข้อสอบพฤติกรรมและจุดประสงค์การเรียนรู้ที่สร้าง
ขึ้น ผู้วิจัยได้สร้างข้อสอบการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง เป็นแบบปรนัย
4 ตัวเลือก จานวน 45 ข้อ คัดเลือกไว้ 30 ข้อ
23
6. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
6.1 งานวิจัยในประเทศ
ประโรม กุ่ ย สาคร (2547) ได้ ศึ ก ษาการพั ฒ นาแบบฝึ ก เสริ ม ทั ก ษะ เรื่ อ ง การคู ณ
การหาร โดยการบู ร ณาการภู มิ ปั ญ ญาท้ อ งถิ่ น ส าหรั บ นั ก เรี ย นชั้ น ประถมศึ ก ษาปี ที่ 5 พบว่ า
ผลการเรียนรู้ทางการเรียน เรื่อง การคูณ การหาร โดยการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น ก่อนและหลัง
ใช้แบบฝึกแตกต่างกัน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยหลังใช้แบบฝึกเสริมทักษะนักเรียน
มีค ะแนนสู ง กว่ าก่ อ นใช้ นั ก เรี ย นเห็ น ด้ ว ยต่ อ การใช้ แ บบฝึ ก ในระดั บ มาก โดยมีค วามคิ ด เห็ น ว่ า
การเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่องการคูณ การหารโดยการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็น
การเรียนที่น่าสนใจ ช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาในบทเรียนมากยิ่งขึ้น ทาให้นักเรียนเข้าใจเรื่องที่เรียน
อย่างชัดเจน แต่ควรมีปรับในเรื่องระยะเวลาให้มีความยืดหยุ่นโดยจัดกิจกรรมให้มีความเหมาะสมกับ
ความต้องการและความถนัดของผู้เรียน
สถาพร ศรีสุนทร (2547) ได้ศึกษาการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก
ลบ คูณ หารเศษส่วนวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า นักเรียนที่สอนโดยใช้แบบฝึก
เสริมทักษะแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารเศษส่วน มีผลสัมฤทธิ์สูงกว่านักเรียนที่เรียนโดยใช้
แบบฝึกเสริมทักษะของ สสวท. อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .01
ปานจิต วัชระรังสี (2548) ได้ศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหา
ของนักเรียนชั้ นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่จัดการเรียนรู้แบบร่วมมือกันเทคนิคการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์
ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา พบว่า 1) ความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือกันเทคนิคการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์
ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยาแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ทิพ ย์ว รรณ เตมีย กุล (2550) ได้ศึก ษาการพัฒ นาชุด การเรีย นโจทย์ปัญ หาจาก
ชีวิต ประจ าวัน กลุ่ม สาระการเรีย นรู้ค ณิต ศาสตร์ ชั้น ประถมศึก ษาปีที่ 5 พบว่า ชุด การเรีย น
โจทย์ปัญหาจากชีวิตประจาวัน มีป ระสิทธิภ าพ 91.18/86.45 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กาหนด
ผลสัมฤทธิ์ท างการเรีย นโดยใช้ชุด การเรีย นสูง กว่า นักเรียนที่เ รีย นโดยวิธีป กติ อย่า งมีนัยสาคัญ
ทางสถิติที่ร ะดับ .01 และนัก เรีย นที่เ รีย นโดยใช้ช ุด การเรีย นโจทย์ปัญ หาจากชีวิต ประจาวัน
มีความพึงพอใจในการเรียนทั้ง 4 ด้าน อยู่ในระดับดีมาก
นวภัทร ศรีชูทอง (2550) ได้ศึกษาผลของการใช้วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้และ
การใช้แผนภาพเป็นสื่อที่มีต่อความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์และความพึงพอใจต่อ
การเรีย นคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบ าลป่าบอน จังหวัดพัทลุ ง
พบว่า (1) ความสามารถในการแก้ โ จทย์ปั ญ หาคณิต ศาสตร์ ข องนั กเรีย นชั้น ประถมศึ กษาปีที่ 4
หลังการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการเรียนรู้ แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .01
ศิรินุช รัตนประสบ (2550) ได้ศึกษาการสร้างชุดการสอน เรื่ องการแก้โจทย์ปัญหา
การบวก ลบ คูณ หาร ระคน ตามขั้นตอนของโพลยา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า
ชุดการสอน เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หาร ระคน ตามขั้นตอนของโพลยา สาหรับ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 88.33/86.66 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
ที่ตั้งไว้
24
กรอบแนวคิดในการวิจัย
ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม
ภาพที่ 1 กรอบแนวคิดในการวิจัย
27
บทที่ 3
วิธีดาเนินการวิจัย
1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากร ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561
โรงเรียนนราธิวาส อาเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส จานวน 11 ห้องเรียน รวมทั้งสิ้น 337 คน
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 /11 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา
2561 โรงเรียนนราธิวาส อาเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส จานวน 31 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบ
กลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้หน่วยการสุ่มเป็นห้องเรียน
2. เครื่องมือในการวิจัยและวิธีการสร้างเครื่องมือในการวิจัย
2.1 เครื่องมือที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ ได้แก่
2.1.1 แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกาลัง ชั้นมัธยมศึกษาปี
ที่ 1 ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ จานวน 5 แผน เวลา 16 ชั่วโมง
2.1.2 แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกาลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แบ่งเป็น
5 ชุด
2.2 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่
2.2.1 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกาลัง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จานวน 30 ข้อ
2.2.2 แบบทดสอบก่ อ นเรี ย นหลั ง เรี ย นของแบบฝึ ก ทั ก ษะวิ ช าคณิ ต ศาสตร์
เรื่อง เลขยกกาลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แบ่งเป็น 5 ชุด
2.2.3 แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนวิช าคณิตศาสตร์โ ดยใช้แบบฝึ ก
ทักษะ เรื่อง เลขยกกาลัง เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ มีคาถามรวม 10
ข้อ
วิธีการสร้างเครื่องมือในการวิจัย
2.3 แบบทดสอบวั ดผลสั มฤทธิ์ทางการเรี ยนวิช าคณิ ตศาสตร์ เรื่อ ง เลขยกกาลั ง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
28
3. วิธีดาเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล
ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้รายงานเก็บรวบรวมข้อมูลกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/11
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จานวน 31 คน ได้ดาเนินการตามขั้นตอน ดังนี้
1. ทดสอบก่อนเรียนโดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เลขยกกาลัง สาหรับ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จานวน 30 ข้อ ใช้เวลา 60 นาที และเก็บรวบรวมคะแนนผลสอบไว้
2. ดาเนินการโดยใช้แบบฝึกทักษะเรื่องเลขยกกาลัง ตามแผนการจัดการเรียนรู้ 5 แผน
จานวน 16 ชั่วโมง ให้นักเรียนได้ทาแบบฝึกทักษะและทาแบบทดสอบย่อยหลังแบบฝึกทักษะในแต่ละ
ชุด โดยผู้รายงานได้เก็บรวบรวมคะแนนไว้
3. ทดสอบหลังเรียนหลังจากใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกาลัง ครบทุก
แผนการจัดการเรียนรู้แล้ว ทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบทดสอบฉบับเดียวกันสลับข้อ
กันใช้ในการทดสอบก่อนเรียนและเก็บรวบรวมคะแนนผลสอบไว้
4. ประเมินความความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนคณิตศาสตร์ โดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์
เรื่อง เลขยกกาลัง
5. นาผลที่ได้จากข้อ1-4 มาวิเคราะห์ทางสถิติ
4. การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ในการศึกษาครั้งนี้ใช้สถิติ ดังต่อไปนี้
1. คะแนนเฉลี่ย ( )
2. ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S)
3. การหาความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา
4. ความยากง่าย (Difficulty) และค่าอานาจจาแนก (Discrimination)
5. การหาค่าความเชื่อมั่น (Reliability) โดยใช้สูตร KR-20 ของคูเดอร์ ริชาร์ดสัน (Kuder Richardson)
6. หาค่าความเชื่อ มั่น ของแบบสอบถามความพึงพอใจ โดยใช้การหาค่าสัมประสิท ธิ์
แอลฟ่า (Alpha Coefficient) ของครอนบัค
7. การหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ
35
บทที่ 4
ผลการวิจัย
การนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล
ตอนที่ 1 ผลการวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกาลัง
วิชาคณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ตอนที่ 2 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะ วิชา
คณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกาลัง สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ตอนที่ 3 ผลการศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้แบบฝึ กทักษะ วิชา
คณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกาลัง สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เลขยกกาลัง โดยใช้แบบฝึกทักษะ สาหรับนักเรียน
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผู้รายงานได้นาเสนอผลที่ได้รับตามลาดับขั้นตอน ดังนี้
ตอนที่ 1 ผลการวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของแบบฝึกทั กษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกาลัง
สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ตารางที่ 4 แสดงประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกาลัง ของ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จานวน 31 คน
(ภาคสนาม)
ภาพที่ 2 ตัวอย่างแบบฝึกทักษะของนักเรียนที่ใช้กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา
(ถ่ายเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2561)
ภาพที่ 3 ตัวอย่างแบบฝึกทักษะของนักเรียนที่ใช้กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา
(ถ่ายเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2561)
ตอนที่ 2 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์
เรื่อง เลขยกกาลัง สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ตารางที่ 5 แสดงผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน
วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกาลัง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จานวน 31 คน
จากตารางที่ 5 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะ
วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกาลัง สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่าค่าเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่า
ก่อนเรียน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .01
40
ตอนที่ 3 ผลการศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์
เรื่อง เลขยกกาลัง สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ตารางที่ 6 ความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์
เรื่อง เลขยกกาลัง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จานวน 31 คน
การวิเคราะห์ทางสถิติ
รายการ S ระดับความ
พึงพอใจ
บทที่ 5
สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
สรุปผล
จากการวิ จั ย ศึ ก ษาผลสั ม ฤทธิ์ ท างการเรี ย น เรื่ อ ง เลขยกก าลั ง โดยใช้ แ บบฝึ ก ทั ก ษะ
สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนนราธิวาส สามารถสรุปผลจากการศึกษาค้นคว้า
ดังนี้
1. ผลการศึ ก ษาประสิ ท ธิ ภ าพแบบฝึ ก ทั ก ษะวิ ช าคณิ ต ศาสตร์ ส าหรั บ นั ก เรี ย นระดั บ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง เลขยกกาลัง มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80.84/80.11
2. ผลสั ม ฤทธิ์ ทางการเรี ย นวิช าคณิ ตศาสตร์ เรื่ อ ง เลขยกกาลั ง ส าหรั บนั กเรี ยนระดั บ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกทักษะผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนมีค่าสูงกว่าก่อนเรียน
อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ.01
3. ความพึงพอใจสู งสุ ด ของนัก เรียนที่ มีต่อการเรียนวิช าคณิ ตศาสตร์ เรื่อ ง เลขยกกาลั ง
สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกทักษะโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
อภิปรายผล
จากการวิจัยศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เลขยกกาลัง โดยใช้แบบฝึกทักษะ สาหรับ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนนราธิวาส สามารถอภิปรายผลจากการศึกษาค้นคว้า
ดังนี้
1. ผลการหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกาลัง สาหรับ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่ามี ป ระสิ ท ธิ ภ าพตามเกณฑ์ 80.84/80.11 ที่เป็นเช่นนี้
เพราะแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ ตั้งแต่ชุดที่ 1 - ชุดที่ 5 ส่งเสริมให้นักเรียนเรียนรู้ร่วมกันและ
เน้น ทักษะกระบวนการคิด อธิบ ายแนวคิดอย่างละเอียด ชัดเจน ได้ดาเนินการจัดการเรียนรู้ตาม
ขั้นตอนที่กาหนดไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา เป็น
การแก้ปัญหาที่เป็นระบบแยกเป็นขั้นตอนชัดเจน ถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน สอดคล้อง
กับผลงานวิจัยของศิรินุช รัตนประสบ (2550) ที่ศึกษาการสร้างชุดการสอน เรื่องการแก้โจทย์ปัญหา
การบวก ลบ คูณ หาร ระคน ตามขั้นตอนของโพลยา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า
มีประสิทธิภาพประสิทธิภาพเท่ากับ 88.33/86.66 ผลงานวิจัยของอาภรณ์ แข็งฤทธิ์ (2558) ที่ศึกษา
ผลการใช้แบบฝึ กทักษะคณิตศาสตร์ โดยการเรียนรู้แบบร่ว มมือเทคนิค TAI ส าหรับนักเรียนชั้ น
มัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า มีประสิทธิภาพประสิทธิภาพเท่ากับ 82.35/82.78 และผลงานวิจัยของ
พจนา เบญจมาศ (2558) ที่ศึกษาการพัฒนาแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ โดยการเรียนรู้แบบ
ร่วมมือเทคนิค TAI กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า
มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.26/86.17
2. ผลสั ม ฤทธิ์ ท างการเรี ย นคณิ ต ศาสตร์ เรื่ อ ง เลขยกก าลั ง ส าหรั บ นั ก เรี ย นระดั บ ชั้ น
มัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนนราธิวาส พบว่า หลังเรียนมีค่าสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ
42
ข้อเสนอแนะ
1.ข้อเสนอแนะในการนาไปใช้
1.1 แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์เป็นสิ่งที่จาเป็นในกระบวนการจัดการเรียนการสอนซึ่งส่งผล
ให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น ดังนั้นครูผู้สอนในควรนาเอาแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ไป
ใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้มากขึ้น
1.2 การดาเนินการควรทาตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในคาชี้แจง แต่ครูผู้สอนสามารถปรับ
เปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้
1.3 ครูควรกระตุ้นให้กาลังใจและเสริมแรงให้นักเรียนกระตือรือร้นในการกิจกรรมตามแบบ
ฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์
2. ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งต่อไป
2.1 ควรศึกษาการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้แบบฝึกทักษะการเรียน
การสอนที่มีเทคนิคการสอนเข้ามาใช้ในการจัดทาแผนการสอนเพื่อให้นักเรียนสามารถมีผลการเรียนรู้
ที่ดีขึ้น เช่น เทคนิคการสอนแบบ STAD เทคนิคการสอนแบบการคิดวิเคราะห์ขั้นสูง เป็นต้น
2.2 ควรมีการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเมื่อเรียนด้วยแบบฝึกทักษะกับสื่อหรือนวัตกรรม
อื่นๆ
44
บรรณานุกรม
45
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
50
ภาคผนวก ก
รายชื่อผู้เชี่ยวชาญ
51
รายนามผู้เชี่ยวชาญตรวจเครื่องมือในการวิจัย
ภาคผนวก ข
หนังสือขอความอนุเคราะห์
53
54
55
56
57
58
ภาคผนวก ค
การหาคุณภาพของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิท์ างการเรียน
59
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์(ค21101) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
เรื่องเลขยกกาลัง จานวน 30 ข้อ คะแนนเต็ม 30 คะแนน เวลา 60 นาที
1. ตัวเลือกในข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ
ก. เลขยกกาลังที่มี 2 เป็นฐาน และ 2 เป็นเลขชี้กาลัง
ข. เลขยกกาลังที่มี 2 เป็นฐาน และ 3 เป็นเลขชี้กาลัง
ค. เลขยกกาลังที่มี 3 เป็นฐาน และ 2 เป็นเลขชี้กาลัง
ง. เลขยกกาลังที่มี 3 เป็นฐาน และ 3 เป็นเลขชี้กาลัง
2. อ่านว่าอย่างไร
ก. สามทั้งหมดยกกาลังห้า
ข. สามลบทั้งหมดยกกาลังห้า
ค. ลบสามทั้งหมดยกกาลังห้า
ง. ห้าเป็นเลขชี้กาลังของสาม
3. มีความหมายตรงกับตัวเลือกใด
ก.
ข.
ค.
ง.
ข. =
ค. =
ง. 17 =
60
10. ในรูปเลขยกกาลังตรงกับตัวเลือกใด
ก.
ข.
ค.
ง.
11. ค่าของ (-64) ในรูปเลขยกกาลังตรงกับตัวเลือกใด
ก.
ข.
ค.
ง.
12. ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งมีมวลเป็น 9.5 1017 เท่าของอุกกาบาตลูกหนึ่ง ถ้า
อุกกาบาตมีมวล 1.37 108 กิโลกรัม จงหาว่าดาวเคราะห์มีมวลเท่าใด
ก. 1.3015 × 1024 กิโลกรัม
ข. 1.3015 × 1025 กิโลกรัม
ค. 1.3015 × 1026 กิโลกรัม
ง. 1.3015 × 1027 กิโลกรัม
13. ค่าของ ในรูปเลขยกกาลังตรงกับตัวเลือกใด
ก.
ข.
ค.
ง.
14. ในรูปเลขยกกาลังตรงกับตัวเลือกใด
ก.
ข.
ค.
ง.
62
15. ในรูปเลขยกกาลังตรงกับตัวเลือกใด
ก.
ข.
ค.
ง.
16. ตรงกับตัวเลือกใด
ก. 6
ข. 9
ค. 12
ง. 21
ข.
ค.
ง.
22. ค่าของ ตรงกับตัวเลือกใด
ก. -3
ข. -1
ค. 1
ง. 3
23. ในรูปเลขยกกาลังได้ตรงกับตัวเลือกใด
ก.
ข.
ค.
ง.
64
ตารางที่ 7 ดัชนีความสอดคล้องระหว่างแบบทดสอบกับจุดประสงค์การเรียนรู้ของแบบทดสอบ
ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง
สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ข้อ คะแนนความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
จุดประสงค์การเรียนรู้ IOC หมายเหตุ
ที่ 1 2 3 4 5
-บอกความหมายของกาลังเลขยกกาลังได้ 1 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
-เขียนจานวนทีก่ าหนดให้ใน 2 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
-รูปเลขยกกาลังที่มีเลขชี้กาลังเป็นจานวน 3 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
เต็มบวกได้ 4 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
5 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
6 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
7 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
8 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
9 +1 0 +1 +1 +1 4 0.80 ใช้ได้
10 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
11 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
หาผลคูณของเลขยกกาลังเมื่อเลขชี้กาลังเป็น 12 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
จานวนเต็มได้ 13 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
14 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
15 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
16 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
17 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
18 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
19 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
20 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
21 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
หาผลหารของเลขยกกาลังเมื่อเลขชี้กาลังเป็น 22 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
จานวนเต็มได้ 23 +1 +1 +1 0 +1 5 0.80 ใช้ได้
67
ตารางที่ 7 ดัชนีความสอดคล้องระหว่างแบบทดสอบกับจุดประสงค์การเรียนรู้ของแบบทดสอบ
ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง สาหรับ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (ต่อ)
คะแนนความเห็นของ
จุดประสงค์การเรียนรู้ ข้อที่ ผู้เชี่ยวชาญ IOC หมายเหตุ
1 2 3 4 5
24 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
25 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
26 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
27 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
28 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
29 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
30 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
31 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
นาคุณสมบัติของเลขยกกาลังไปใช้ใน 32 +1 +1 +1 +1 0 5 0.80 ใช้ได้
การคานวณและแก้ปัญหาได้ 33 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
34 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
35 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
36 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
37 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
38 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
-เขียนจานวนที่มีค่ามาก ๆ หรือมีค่าน้อย ๆให้ 39 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
อยู่ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ได้ 40 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
-หาจานวนที่เท่ากับจานวนที่อยู่ในรูปสัญกรณ์ 41 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
วิทยาศาสตร์ได้ 42 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
-คูณหรือหารจานวนที่อยู่ในรูปสัญกรณ์ 43 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
วิทยาศาสตร์ได้อย่างง่ายได้ 44 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
-ตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของคาตอบ 45 +1 +1 +1 0 +1 4 1.00 ใช้ได้
68
70
71
71
72
72
73
วิเคราะห์ความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โดยใช้วิธีของคูเดอร์-ริชาร์ดสัน สูตร KR-20 (บุญชม ศรีสะอาด. 2554 : 104) ได้ดังนี้
= 5.43
= 672
= 15646
N = 30
K = 30
N X 2 X
2
S
2
จากสูตร NN 1
2
30(15646) - (672)
S2
30(29)
469380 - 451584
S
2
870
17796
2
S
870
= 20.45
จากสูตร
ดังนั้น ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์
เรื่องเลขยกกาลัง สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เท่ากับ 0.76
นูรีมาน สือรี
74
ภาคผนวก ง
การหาประสิทธิภาพของแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
นูรีมาน สือรี
75
ตารางที่ 10 ดัชนีความสอดคล้องระหว่างแบบทดสอบกับจุดประสงค์การเรียนรู้ของแบบทดสอบ
ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง ชุดที่ 1
เรื่องความหมายของเลขยกกาลัง สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ข้อ คะแนนความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
จุดประสงค์การเรียนรู้ IOC หมายเหตุ
ที่
1 2 3 4 5
-บอกความหมายของกาลังเลขยกกาลังได้ 1 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
-เขียนจานวนที่กาหนดให้ใน 2 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
-รูปเลขยกกาลังที่มีเลขชี้กาลังเป็นจานวน 3 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
เต็มบวกได้ 4 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
5 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
6 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
7 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
8 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
9 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
10 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
นูรีมาน สือรี
76
ตารางที่ 11 ดัชนีความสอดคล้องระหว่างแบบทดสอบกับจุดประสงค์การเรียนรู้ของแบบทดสอบ
ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง ชุดที่ 2
เรื่องการคูณของเลขยกกาลัง สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ข้อ คะแนนความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
จุดประสงค์การเรียนรู้ IOC หมายเหตุ
ที่
1 2 3 4 5
หาผลคูณของเลขยกกาลังเมื่อเลขชี้กาลังเป็น 1 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
จานวนเต็มได้ 2 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
3 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
4 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
5 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
6 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
7 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
8 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
9 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
10 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
นูรีมาน สือรี
77
ตารางที่ 12 ดัชนีความสอดคล้องระหว่างแบบทดสอบกับจุดประสงค์การเรียนรู้ของแบบทดสอบ
ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง ชุดที่ 3
เรื่องการหารของเลขยกกาลัง สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
คะแนนความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
จุดประสงค์การเรียนรู้ ข้อที่ IOC หมายเหตุ
1 2 3 4 5
หาผลหารของเลขยกกาลังเมื่อเลขชี้กาลังเป็น 1 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
จานวนเต็มได้ 2 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
3 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
4 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
5 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
6 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
7 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
8 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
9 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
10 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
นูรีมาน สือรี
78
ตารางที่ 13 ดัชนีความสอดคล้องระหว่างแบบทดสอบกับจุดประสงค์การเรียนรู้ของแบบทดสอบ
ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง ชุดที่ 4
เรื่องสมบัติของเลขยกกาลัง สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
คะแนนความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
จุดประสงค์การเรียนรู้ ข้อที่ IOC หมายเหตุ
1 2 3 4 5
นาคุณสมบัติของเลขยกกาลังไปใช้ใน 1 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
การคานวณและแก้ปัญหาได้ 2 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
3 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
4 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
5 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
6 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
7 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
8 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
9 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
10 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
นูรีมาน สือรี
79
ตารางที่ 14 ดัชนีความสอดคล้องระหว่างแบบทดสอบกับจุดประสงค์การเรียนรู้ของแบบทดสอบ
ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง ชุดที่ 5
เรื่องการนาไปใช้ สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
คะแนนความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
จุดประสงค์การเรียนรู้ ข้อที่ IOC หมายเหตุ
1 2 3 4 5
-เขียนจานวนที่มีค่ามาก ๆ หรือมีค่าน้อย ๆให้ 1 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
อยู่ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ได้ 2 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
-หาจานวนที่เท่ากับจานวนที่อยู่ในรูปสัญกรณ์ 3 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
วิทยาศาสตร์ได้ 4 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
-คูณหรือหารจานวนที่อยู่ในรูปสัญกรณ์ 5 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
วิทยาศาสตร์ได้อย่างง่ายได้ 6 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
-ตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของคาตอบ 7 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
8 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
9 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
10 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
นูรีมาน สือรี
80
ภาคผนวก จ
การหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ
นูรีมาน สือรี
81
นูรีมาน สือรี
82
ประสิทธิภาพของกระบวนการ E1 ประสิทธิภาพของกระบวนการ E2
เกณฑ์มาตรฐาน 80 80
ผลการวิเคราะห์ 68.67 66.67
การแปลผล ต่ากว่าเกณฑ์ ต่ากว่าเกณฑ์
นูรีมาน สือรี
83
ประสิทธิภาพของกระบวนการ E1 ประสิทธิภาพของกระบวนการ E2
เกณฑ์มาตรฐาน 80 80
ผลการวิเคราะห์ 76.44 75.93
การแปลผล ต่ากว่าเกณฑ์ ต่ากว่าเกณฑ์
นูรีมาน สือรี
84
นูรีมาน สือรี
85
ประสิทธิภาพของกระบวนการ E1 ประสิทธิภาพของกระบวนการ E2
เกณฑ์มาตรฐาน 80 80
ผลการวิเคราะห์ 80.84 80.11
การแปลผล สูงกว่าเกณฑ์ สูงกว่าเกณฑ์
นูรีมาน สือรี
86
ภาคผนวก ฉ
การหาคุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้
นูรีมาน สือรี
87
ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ระดับ
รายการประเมิน s
1 2 3 4 5 คุณภาพ
1.ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง/จุดประสงค์การเรียนรู้
1.1 ถูกต้องตามหลักการเขียนแผน 5 4 4 5 5 4.60 0.55 มากที่สุด
1.2 ความสอดคล้องกับเนื้อหาในแผน 4 5 4 4 4 4.20 0.45 มาก
1.3 ระบุพฤติกรรมที่วัดและประเมินผลได้ 5 4 5 4 5 4.60 0.55 มากที่สุด
2. สาระการเรียนรู้
2.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4 5 4 5 4 4.40 0.55 มาก
2.2 กาหนดเนื้อหาเหมาะสมกับเวลาเรียน 5 4 5 4 5 4.60 0.55 มากที่สุด
2.3 มีความถูกต้องชัดเจน 5 4 4 5 4 4.40 0.55 มาก
3.กิจกรรมการเรียนรู้
3.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4 5 4 4 5 4.40 0.55 มาก
3.2 สร้างและพัฒนาให้ผู้เรียนมีทักษะการคิด 4 5 4 4 4 4.20 0.45 มาก
3.3 กระตุ้นให้ผู้เรียนมีทักษะการคิด 5 4 5 4 5 4.60 0.55 มากที่สุด
3.4 กระตุ้นให้ผู้เรียนได้ค้นพบ สร้างองค์ความรู้ 4 5 4 5 5 4.60 0.55 มากทีส่ ุด
ด้วยตนเอง
4.สื่อการเรียนการสอน
4.1 สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียน 5 4 5 4 4 4.40 0.55 มาก
4.2 เหมาะสมกับระดับชั้น สาระการเรียนรู้และ 5 4 5 4 5 4.60 0.55 มากที่สุด
วัยของผู้เรียน
4.3 สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่ 4 4 5 4 4 4.20 0.45 มาก
พึงประสงค์
5.การวัดและประเมินผล
5.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 5 5 4 5 5 4.80 0.45 มากที่สุด
5.2 มีวิธีการวัดที่เหมาะสม 4 4 5 4 4 4.20 0.45 มาก
รวม 4.45 0.51 มาก
นูรีมาน สือรี
88
ภาคผนวก ช
การหาคุณภาพของแบบสอบถามความพึงพอใจ
นูรีมาน สือรี
89
แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์
เรื่องเลขยกกาลัง สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คาชี้แจง
1. แบบสอบถามความพึงพอใจมีทั้งหมด 10 ข้อ เป็นแบบสอบถามความพึงพอใจของ
นักเรียนที่มีต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่องเลขยกกาลัง
2. ให้นักเรียนทาเครื่องหมาย ลงในช่องที่ตรงกับความพึงพอใจของนักเรียนมากที่สุด
เพียงช่องเดียว
ระดับความพึงพอใจ
รายการ
มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด
1. แบบฝึกทักษะมีขั้นตอนชัดเจน
2. แบบฝึกทักษะเรียงจากง่ายไปหายาก
3. แบบฝึกทักษะมีความน่าสนใจ
4. แบบฝึกทักษะทาให้นักเรียนสนใจการเรียนมากขึ้น
5. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทาให้เข้าใจเนื้อหา
ง่ายขึ้น
6. นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง
7.เวลาในการเรียนแต่ละแบบฝึกทักษะมีความเหมาะสม
8.นักเรียนสามารถศึกษากิจกรรมการเรียนรู้ได้ตลอดโดย
ไม่จากัดเวลา
9.นักเรียนสามารถนาความรู้จากการใช้แบบฝึกทักษะไป
ใช้ประโยชน์ได้
10.นักเรียนประเมินผลด้วยตนเองซึ่งช่วยให้แก้ไข
การเรียนได้ดีขึ้น
ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................................
นูรีมาน สือรี
90
แบบประเมินความสอดคล้องระหว่างข้อคาถามกับพฤติกรรมชี้วัดด้านความพึงพอใจ
ของแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์
เรื่องเลขยกกาลัง สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
.............................................................................................................................................................
คาชี้แจง
โปรดพิจารณาข้อคาถามในแต่ละข้อต่อไปนี้ว่าสอดคล้องกับพฤติกรรมชี้วัดด้านความพึงพอใจ
ของนักเรียนหรือไม่ แล้วทาเครื่องหมาย ลงในช่องระดับความคิดเห็น ดังนี้
+ 1 หมายถึง แน่ใจว่าข้อคาถามนั้นสอดคล้องกับพฤติกรรมชี้วัดด้านความพึงพอใจ
ของนักเรียน
0 หมายถึง ไม่แน่ใจว่าข้อคาถามนั้นสอดคล้องกับพฤติกรรมชี้วัดด้านความพึงพอใจ
ของนักเรียน
-1 หมายถึง แน่ใจว่าข้อคาถามนั้นไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมชี้วัดด้านความพึงพอใจ
ของนักเรียน
ความเหมาะสม หมายเหตุ
รายการ
+ 1 0 -1
1. แบบฝึกทักษะมีขั้นตอนชัดเจน
2. แบบฝึกทักษะเรียงจากง่ายไปหายาก
3. แบบฝึกทักษะมีความน่าสนใจ
4. แบบฝึกทักษะทาให้นักเรียนสนใจการเรียนมากขึ้น
5. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทาให้เข้าใจเนื้อหาง่ายขึ้น
6. นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง
7.เวลาในการเรียนแต่ละแบบฝึกทักษะมีความเหมาะสม
8.นักเรียนสามารถศึกษากิจกรรมการเรียนรู้ได้ตลอดโดยไม่จากัดเวลา
9.นักเรียนสามารถนาความรู้จากการใช้แบบฝึกทักษะไปใช้ประโยชน์ได้
10.นักเรียนประเมินผลด้วยตนเองซึ่งช่วยให้แก้ไขการเรียนได้ดีขึ้น
ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
............................................................................................................................................ ....................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
...............................................................................................................................................................
นูรีมาน สือรี
91
ตารางที่ 20 แสดงค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคาถามกับพฤติกรรมชี้วัดความพึงพอใจของ
นักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง
สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยผู้เชี่ยวชาญ
ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญคนที่
ข้อที่ ค่า IOC ความหมาย
1 2 3 4 5
1 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 .ใช้ได้
2 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
3 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
4 +1 +1 +1 0 +1 4 0.80 ใช้ได้
5 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
6 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
7 +1 +1 0 +1 +1 4 0.80 ใช้ได้
8 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
9 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
10 +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
นูรีมาน สือรี
92
ตารางที่ 21 แสดงค่าความเชื่อมั่นของแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้
แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1
นูรีมาน สือรี
93
ตารางที่ 21 แสดงค่าความเชื่อมั่นของแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียน
โดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง สาหรับนักเรียนระดับชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 1 (ต่อ)
นูรีมาน สือรี
94
วิเคราะห์ความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะ
วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
3.03
N = 31
K = 10
จากสูตร =
2
31(65097) - (1417)
31(30)
2018007 - 2007889
930
10118
930
= 10.88
จากสูตร
= 0.80
ดังนั้น ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ
แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเลขยกกาลัง สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
เท่ากับ 0.80
นูรีมาน สือรี
95
นูรีมาน สือรี
96
นูรีมาน สือรี
97
ภาคผนวก ซ
การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
นูรีมาน สือรี
98
นูรีมาน สือรี
99
ประสิทธิภาพของกระบวนการ E1 ประสิทธิภาพของกระบวนการ E2
เกณฑ์มาตรฐาน 80 80
ผลการวิเคราะห์ 81.68 80.32
การแปลผล สูงกว่าเกณฑ์ สูงกว่าเกณฑ์
นูรีมาน สือรี
100
นูรีมาน สือรี
101
ตารางที่ 24 คะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนเมื่อเรียนด้วยแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์
เรื่องเลขยกกาลัง สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เมื่อนาไปใช้กับกลุ่ม
ตัวอย่าง (ต่อ)
นักเรียน คะแนน ผลต่างของ
ลาดับที่ ก่อนเรียน ก่อนเรียน หลังเรียน หลังเรียน คะแนน (D)
30 คะแนน กาลังสอง 30 คะแนน กาลังสอง
24 17 289 23 529 6 36
25 15 225 22 484 7 49
26 16 256 23 529 7 49
27 15 225 26 676 11 121
28 18 324 22 484 4 16
29 15 225 27 729 12 144
30 14 196 23 529 9 81
31 20 400 27 729 7 49
รวม 504 8,284 747 18,081 243 2,047
เฉลี่ย 16.26 267.23 24.10 583.26 7.84 66.03
นูรีมาน สือรี
102
จาก t = ; df = N-1
t =
t =
t =
t =
t = 20.05
นูรีมาน สือรี
103
ภาคผนวก ฌ
ตัวอย่างผลงานนักเรียน
นูรีมาน สือรี
104
ผลงานนักเรียน
นูรีมาน สือรี
105
นูรีมาน สือรี
106
นูรีมาน สือรี
107
ภาคผนวก ญ
แผนการจัดการเรียนรู้
นูรีมาน สือรี
108
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 1
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รหัส ค21101 ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง เลขยกกาลัง เวลา 16 ชั่วโมง
เรื่องย่อย ความหมายของเลขยกกาลัง เวลา 2 ชั่วโมง
สาระที่ 1 จานวนและการดาเนินการ
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
มาตรฐาน ค.1.1 เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจานวนและการใช้จานวนในชีวิต
จริง
ตัวชี้วัด: ค 1.1 ม.1/2 เข้าใจเกี่ยวกับเลขยกกาลังที่มีเลขชี้กาลังเป็นจานวนเต็ม และ
เขียนแสดงจานวนให้อยู่ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์
(scientific notation)
มาตรฐาน ค 6.1 มีความสามารถในการแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การสื่อ
ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ
ทางคณิตศาสตร์และเชื่อมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ และมีความคิด
ริเริ่มสร้างสรรค์
ตัวชี้วัด: ค 6.1 ม.1/3 ให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ และสรุปผลได้อย่างเหมาะสม
ตัวชี้วัด: ค 6.1 ม.1/4 ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร การสื่อ
ความหมาย และการนาเสนอ ได้อย่างถูกต้อง และชัดเจน
ตัวชี้วัด: ค 6.1 ม.1/5 เชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ในคณิตศาสตร์ และนาความรู้ หลักการ
กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปเชื่อมโยงกับศาสตร์อื่น ๆ
2. สาระสาคัญ
ถ้า a แทนจานวนใด ๆ และ n แทนจานวนเต็มบวก “a ยกกาลัง n” หรือ
“a กาลัง n” เขียนแทนด้วย an มีความหมายดังนี้
a × a × a ×… × a
an = n ตัว
n
เรียก a ว่าเลขยกกาลัง ที่มี a เป็นฐาน และ n เป็นเลขชี้กาลัง
3. สาระการเรียนรู้
ความหมายของเลขยกกาลัง
4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการคิด
4.2 ความสามารถในการแก้ปัญหา
4.3 ความสามารถในการสื่อสาร สื่อความหมาย และนาเสนอ
4.4 นาความรู้เชื่อมโยงเนื้อหาต่างๆ ในคณิตศาสตร์ได้
นูรีมาน สือรี
109
5. ชิ้นงาน/ภาระงาน
5.1 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนแบบฝึกทักษะ ชุดที่ 1 จานวน 10 ข้อ
เรื่อง ความหมายของเลขยกกาลัง
5.2 แบบฝึกทักษะที่ 1.1 -1.4
6. กิจกรรมการเรียนรู้ (กระบวนการของโพลยา)
ชั่วโมงที่ 1
1. ครูและนักเรียนร่วมกันร้องเพลงเลขยกกาลัง
2. ครูกล่าวชื่นชมและให้กาลังใจนักเรียน
3. นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ความหมายของเลขยกกาลัง จานวน 10 ข้อ
เพื่อทดสอบความรู้พื้นฐานของนักเรียนรายบุคคล
4. นักเรียนแต่ละคนศึกษาเรื่อง ความหมายของเลขยกกาลัง ในแบบฝึกทักษะ ชุดที่ 1
โดยครูใช้คาถามให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและซักถามเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจที่ตรงกัน
ครูให้คาแนะนาเมื่อนักเรียนมีข้อสงสัยและสรุปเพิ่มเติม
5. นักเรียนทาแบบฝึกทักษะ 1.1 ชุดที่ 1 โดยครูเดินตรวจสอบและให้คาแนะนาเมื่อมี
ข้อสงสัย
6. ครูสุ่มให้นักเรียนนาเสนอคาตอบบนกระดานพร้อมตรวจความถูกต้องจากเฉลย
แบบฝึกทักษะ 1.1 ชุดที่ 1 โดยเปรียบเทียบคาตอบของนักเรียนกับเฉลยว่าเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ครูชี้ประเด็นให้นักเรียนเห็นถึงคาตอบที่ถูกต้อง
7. นักเรียนทาแบบฝึกทักษะ 1.2 ชุดที่ 1 โดยครูเดินตรวจสอบและให้คาแนะนาเมื่อมี
ข้อสงสัย
8. ครูสุ่มให้นักเรียนนาเสนอคาตอบบนกระดานพร้อมตรวจความถูกต้องจากเฉลยแบบฝึก
ทักษะ 1.2 ชุดที่ 1 โดยเปรียบเทียบคาตอบของนักเรียนกับเฉลยว่าเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ครูชี้ประเด็นให้นักเรียนเห็นถึงคาตอบที่ถูกต้อง
9. นักเรียนทาแบบฝึกทักษะ 1.3 ชุดที่ 1 โดยครูเดินตรวจสอบและให้คาแนะนาเมื่อมี
ข้อสงสัย
10. ครูสุ่มให้นักเรียนนาเสนอคาตอบพร้อมตรวจความถูกต้องจากเฉลยแบบฝึกทักษะ 1.3
ชุดที่ 1 โดยเปรียบเทียบคาตอบของนักเรียนกับเฉลยว่าเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ครูชี้ประเด็นให้
นักเรียนเห็นถึงคาตอบที่ถูกต้อง
ชั่วโมงที่ 2
1. ครูให้นักเรียนร่วมกันร้องเพลงเลขยกกาลัง
2. ครูกล่าวชื่นชมและให้กาลังใจนักเรียน
3. ให้นักเรียนแต่ละคนศึกษาเรื่อง โจทย์ปัญหาความหมายของเลขยกกาลัง จากตัวอย่างที่ 1
ในแบบฝึกทักษะ ชุดที่ 1 โดยครูใช้คาถามให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและซักถามเพื่อให้มีความรู้
ความเข้าใจที่ตรงกัน ครูให้คาแนะนาเมื่อนักเรียนมีข้อสงสัยและสรุปเพิ่มเติม ดังนี้
-ขั้นตอนที่ 1 การทาความเข้าใจปัญหา
1. ครูให้นักเรียนดูตัวอย่างที่ 1 ในแบบฝึกทักษะ ชุดที่ 1
นูรีมาน สือรี
110
2. ครูถามนักเรียนว่าสิ่งที่โจทย์ให้มามีอะไร (ลูกบาศก์ลูกหนึ่งมีปริมาตร
216 ลูกบาศก์เซนติเมตร)
3. ครูถามนักเรียนว่าสิ่งที่โจทย์ถามว่าอะไร (จงหาว่าลูกบาศก์นี้มีสันยาว
เท่าใด)
-ขั้นตอนที่ 2 การวางแผนแก้ปัญหา
ครูถามนักเรียนว่านักเรียนจะวางแผนแก้ปัญหาอย่างไร
(จาก ลูกบาศก์ คือ รูปทรงสี่เลี่ยมมุมฉาก ซึ่งมีด้าน (หรือสัน) ยาวเท่ากันทุกด้าน
ปริมาตรของลูกบาศก์ = ด้าน ด้าน ด้าน
216 = ด้าน ด้าน ด้าน ลูกบาศก์เซนติเมตร)
-ขั้นตอนที่ 3 ดาเนินการตามแผน
ครูถามนักเรียนว่านักเรียนทาตามแผนอย่างไร
( จาก ปริมาตรของลูกบาศก์ = ด้าน ด้าน ด้าน
จะได้ 216 = 6 6 6 ลูกบาศก์เซนติเมตร
216 = 63 ลูกบาศก์เซนติเมตร
ลูกบาศก์นี้มีสันยาวเท่ากับ 6 เซนติเมตร)
- ขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบ
ครูถามนักเรียนว่านักเรียนตรวจสอบว่าค่าที่ได้ตรงตามที่ต้องการ
(จาก ปริมาตรของลูกบาศก์ = ด้าน ด้าน ด้าน
จะได้ 216 = 6 6 6 ลูกบาศก์เซนติเมตร
216 = 216 ลูกบาศก์เซนติเมตร เป็นจริง
ดังนั้น ลูกบาศก์นี้มีสันยาวเท่ากับ 6 เซนติเมตร
ตอบ)
4. ให้นักเรียนแต่ละคนศึกษาเรื่อง โจทย์ปัญหาความหมายของเลขยกกาลัง จากตัวอย่างที่ 2
ในแบบฝึกทักษะ ชุดที่ 1 โดยครูใช้คาถามให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและซักถามเพื่อให้มีความรู้
ความเข้าใจที่ตรงกัน ครูให้คาแนะนาเมื่อนักเรียนมีข้อสงสัยและสรุปเพิ่มเติม ดังนี้
-ขั้นตอนที่ 1 การทาความเข้าใจปัญหา
1. ครูให้นักเรียนดูตัวอย่างที่ 2 ในแบบฝึกทักษะ ชุดที่ 1
2. ครูถามนักเรียนว่าสิ่งที่โจทย์ให้มามีอะไร (ร้านค้าขายน้าแห่งหนึ่ง ได้จัด
กิจกรรมคูปองสะสมแลกของรางวัล ซึ่งวันที่เด็กหญิงโอปอมาซื้อจะได้เก็บสะสมคูปอง เพื่อจะนามา
แลกของรางวัลในทุก ๆ วันที่ 5 เมื่อครบ 5 วัน เด็กหญิงโอปอจะต้องนาคูปองที่สะสมมาแลกของ
รางวัล
วันที่ 1 สะสมคูปองได้ 2 ใบ
วันที่ 2 สะสมคูปองได้ 2 เท่าของวันที่ 1
วันที่ 3 สะสมคูปองได้ 2 เท่าของวันที่ 2
วันที่ 4 สะสมคูปองได้ 2 เท่าของวันที่ 3
นูรีมาน สือรี
111
นูรีมาน สือรี
112
n ตัว
เรียก a n ว่า เลขยกกาลังที่มี a เป็นฐาน และ n เป็นเลขชี้กาลัง
8. นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง ความหมายของเลขยกกาลัง จานวน 10 ข้อ
พร้อมตรวจกับให้นักเรียนตรวจตามเฉลย ถ้านักเรียนทาแบบหลังเรียนได้ถูกต้อง 7 ข้อขึ้นไปถือว่า
ผ่านเกณฑ์ ถ้านักเรียนคนใดทาแบบทดสอบหลังเรียนถูกต้องน้อยกว่า 7 ถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์ ครูเรียก
นักเรียนมาสอนนอกเวลา เป็นรายบุคคลและให้นักเรียนไปศึกษาแบบฝึกทักษะ ชุดที่ 1 อีกครั้งหนึ่ง
7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
7.1 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน จานวน 10 ข้อ ในแบบฝึกทักษะ ชุดที่ 1
เรื่อง ความหมายของเลขยกกาลัง
7.2 แบบฝึกทักษะที่ 1.1 – 1.4
7.3 เพลงเลขยกกาลัง
7.4 ห้องสมุดโรงเรียนนราธิวาส
8. การวัดผลและการประเมินผลการเรียนรู้
นูรีมาน สือรี
113
ประเด็นการวัด วิธีการวัดผล เครื่องมือในการวัด เกณฑ์การประเมิน
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
1. ความสามารถในการคิด -สังเกตการทางาน -แบบประเมิน -ผู้ผ่านการประเมินได้
2. ความสามารถในการ การทางาน คะแนนตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้น
แก้ปัญหา ไป
3. ความสามารถในการ
สื่อสาร สื่อความหมาย และ
นาเสนอ
4. นาความรู้เชื่อมโยงเนื้อหา
ต่างๆ ในคณิตศาสตร์ได้
ด้านคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ (A) -สังเกตคุณลักษณะ -แบบประเมิน -ผู้ผ่านการประเมินได้
อันพึงประสงค์ คุณลักษณะ คะแนนตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้น
ของนักเรียน อันพึงประสงค์ ไป
ของนักเรียน
8.1 เกณฑ์การประเมิน
8.1.1 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ชุดที่ 1 เรื่อง ความหมายของเลขยกกาลัง
แบบปรนัย จานวน 10 ข้อ 10 คะแนน
9 - 10 คะแนน ระดับคุณภาพ 3 (ดีมาก)
7 - 8 คะแนน ระดับคุณภาพ 2 (ดี)
5 - 6 คะแนน ระดับคุณภาพ 1 (พอใช้)
0 - 4 คะแนน ระดับคุณภาพ 0 (ปรับปรุง)
8.1.2 แบบฝึกทักษะที่ 1.1 – 1.4 คะแนนเต็ม 50 คะแนน
39 - 50 คะแนน ระดับคุณภาพ 3 (ดีมาก)
26 - 38 คะแนน ระดับคุณภาพ 2 (ดี)
13 - 25 คะแนน ระดับคุณภาพ 1 (พอใช้)
0 - 12 คะแนน ระดับคุณภาพ 0 (ปรับปรุง)
8.1.3 แบบประเมินการทางาน คะแนนเต็ม 12 คะแนน
11 - 12 คะแนน ระดับคุณภาพ 3 (ดีมาก)
8 – 10 คะแนน ระดับคุณภาพ 2 (ดี)
5 - 7 คะแนน ระดับคุณภาพ 1 (พอใช้)
4 คะแนน ระดับคุณภาพ 0 (ปรับปรุง)
8.1.4 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน คะแนนเต็ม 12 คะแนน
11 - 12 คะแนน ระดับคุณภาพ 3 (ดีมาก)
8 - 10 คะแนน ระดับคุณภาพ 2 (ดี)
นูรีมาน สือรี
114
เกณฑ์การให้คะแนนของแบบประเมินการทางาน
รายการประเมิน คะแนน/ระดับคุณภาพ
3 2 1
1.ความสามารถ มีความสามารถในการ มีความสามารถในการ มีความสามารถในการคิด
ในการคิด คิดวิเคราะห์ เพื่อการ คิดวิเคราะห์ เพื่อการ วิเคราะห์ เพื่อการสร้าง
สร้างองค์ความรู้และมี สร้างองค์ความรู้และมี องค์ความรู้และมี
ความสามารถในการคิด ความสามารถในการคิด ความสามารถในการคิด
เป็นระบบเพื่อการสร้าง เป็นระบบเพื่อการสร้าง เป็นระบบเพื่อการสร้าง
องค์ความรู้ได้ดี องค์ความรู้ได้พอสมควร องค์ความรู้ได้น้อย
2.ความสามารถ ใช้วิธีการดาเนินการ ใช้วิธีการดาเนินการ มีหลักฐานหรือร่องรอย
ในในการ แก้ปัญหาได้อย่างมี แก้ปัญหาได้อย่างมี การดาเนินการแก้ปัญหา
แก้ปัญหา ประสิทธิภาพและ ประสิทธิภาพและ บางส่วนแต่แก้ปัญหาไม่
อธิบายขั้นตอนของ อธิบายขั้นตอนของ สาเร็จ
วิธีการดังกล่าวได้อย่าง วิธีการดังกล่าวได้แต่ไม่
ชัดเจน ชัดเจน
3.ความสามารถ ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ ใช้ภาษาและสัญลักษณ์
ในการสื่อสาร ทางคณิตศาสตร์ที่ ทางคณิตศาสตร์ ทางคณิตศาสตร์อย่าง
สื่อความหมาย ถูกต้องในการนาเสนอ นาเสนอ ลาดับขั้นตอน ง่ายๆ และนาเสนอข้อมูล
และนาเสนอ ลาดับขั้นตอนชัดเจน ได้ชัดเจนบางส่วนแต่ ไม่ชัดเจน
และมีรายละเอียดที่ ขาดรายละเอียดที่
สมบูรณ์ สมบูรณ์
4.นาความรู้ นาความรู้ หลักการและ นาความรู้ หลักการและ นาความรู้ หลักการและ
เชื่อมโยงเนื้อหา วิธีการทางคณิตศาสตร์ วิธีการทางคณิตศาสตร์ วิธีการทางคณิตศาสตร์ไป
ต่างๆ ใน ในการเชื่อมโยงกับสาระ ในการเชื่อมโยงกับสาระ เชื่อมโยงไม่เหมาะสม
คณิตศาสตร์ได้ คณิตศาสตร์ หรือสาระ คณิตศาสตร์ได้บางส่วน
อื่นๆ ในชีวิตประจาวัน
เพื่อช่วยในการแก้ปัญหา
หรือประยุกต์ใช้ได้อย่าง
สอดคล้องและเหมาะสม
นูรีมาน สือรี
115
เกณฑ์การให้คะแนนของแบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน
รายการ คะแนน
ประเมิน 3 2 1
1. ซื่อสัตย์ ทางานที่ได้รับมอบหมาย ทางานที่ได้รับมอบหมาย ทางานที่ได้รับมอบหมายด้วย
สุจริต ด้วยตนเอง/ปฏิบัติเป็น ด้วยตนเอง/ปฏิบัติบ้างเป็น ตนเอง/ปฏิบัติบ้างเป็นครั้ง
ประจาสม่าเสมอ ครั้งคราว คราวแต่ต้องมี
การแก้ไข
2. มีวินัย ปฏิบัติตามระเบียบและตรง ปฏิบัติตามกฎระเบียบและ ปฏิบัติตามกฎระเบียบและ
ต่อเวลาในการปฏิบัติ ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ ตรงต่อเวลาใน
กิจกรรมที่ได้รับมอบหมาย กิจกรรมเท่าที่ได้รับ การปฏิบัติกิจกรรมบ้าง
เป็นประจาสม่าเสมอ/ มอบหมาย/ปฏิบัติได้ด้วย เป็นครั้งคราว/ปฏิบัติได้
ปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว ตนเองแต่ไม่คล่องแคล่ว แต่ต้องมีการแก้ไข
3. ใฝ่ กล้าแสดงความคิดเห็นอย่าง ส่วนใหญ่ กล้าแสดงความ ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น
เรียนรู้ มีเหตุผล กล้ายอมรับความ คิดเห็นอย่างมีเหตุผล กล้า ไม่กล้ายอมรับความจริง
จริงซักถามและตอบคาถาม ยอมรับความจริงเป็นส่วน ซักถามและตอบคาถาม
ได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน ใหญ่ ซักถามและตอบ ไม่ชัดเจน
คาถามได้อย่างถูกต้องแต่ไม่
ชัดเจน
4. มุ่งมั่น ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ใน ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ใน ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในแบบ
ในการ แบบฝึกทักษะด้วยตนเอง แบบฝึกทักษะด้วยตนเอง ฝึกทักษะโดยอาศัยการชี้แนะ
ทางาน ครบทุกกิจกรรม และ เป็นบางครั้ง ปฏิบัติบาง แนะนา ปฏิบัติกิจกรรมโดยถูก
แนะนาผู้อื่นได้ รวมทั้งส่ง กิจกรรม และส่งงานช้ากว่า บังคับ
งานก่อนหรือตรง กาหนดแต่ได้มีการชี้แจง ส่งงานช้ากว่ากาหนด
กาหนดเวลา เหตุผลน่าฟัง
นัดหมาย
นูรีมาน สือรี
116
เพลง เลขยกกาลัง
(ทานอง เพลงช้ าง)
a กาลัง n
ให้ a แทน จานวนใด ๆ
และ n แทน จานวนเต็มบวก
เราเรี ยกว่า a กาลัง n
หรื อเรี ยกว่า a ยกกาลัง n
ความหมายคือ a คูณ n ตัว
a เป็ นฐาน และ n เป็ นเลขชี ้กาลัง
หนู หนู จาไว้ ให้ ดี
เราเรี ยกว่า เลขยกกาลัง (ซ ้า)
หนู หนู จงจาให้ ดี
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=0tvoxcQZTsE
นูรีมาน สือรี
117
ความคิดเห็น / ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(นายชานาญ ฤทธิ์ช่วย)
รองผู้อานวยการโรงเรียนนราธิวาส
นูรีมาน สือรี
118
แบบบันทึกผลหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รหัส ค21101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง เลขยกกาลัง เวลา 16 ชั่วโมง
เรื่องย่อย ความหมายของเลขยกกาลัง เวลา 2 ชั่วโมง
นูรีมาน สือรี
119
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รหัส ค21101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง เลขยกกาลัง เวลา 16 ชั่วโมง
เรื่องย่อย การคูณของเลขยกกาลัง เวลา 3 ชั่วโมง
สาระที่ 1 จานวนและการดาเนินการ
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจถึงผลที่เกิดขึ้นจากการดาเนินการของจานวนและความสัมพันธ์
ระหว่างการดาเนินการต่าง ๆ และใช้การดาเนินการในการแก้ปัญหา
ตัวชี้วัด: ค 1.2 ม.1/4 .คูณและหารเลขยกกาลังที่มีฐานเดียวกัน และเลขชี้กาลังเป็นจานวน
เต็ม
มาตรฐาน ค 6.1 มีความสามารถในการแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การสื่อ
ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ
ทางคณิตศาสตร์และเชื่อมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ และมี
ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
ตัวชี้วัด: ค 6.1 ม.1/3 ให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ และสรุปผลได้อย่างเหมาะสม
ตัวชี้วัด: ค 6.1 ม.1/4 ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร การสื่อ
ความหมาย และการนาเสนอ ได้อย่างถูกต้อง และชัดเจน
ตัวชี้วัด: ค 6.1 ม.1/5 เชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ในคณิตศาสตร์ และนาความรู้ หลักการ
กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปเชื่อมโยงกับศาสตร์อื่น ๆ
2. สาระสาคัญ
เมื่อ a เป็นจานวนใด ๆ และ m , n เป็นจานวนเต็มบวก
a m × an = a m + n
3. สาระการเรียนรู้
หาผลคูณของเลขยกกาลังเมื่อเลขชี้กาลังเป็นจานวนเต็มได้
4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการคิด
4.2 ความสามารถในการแก้ปัญหา
4.3 ความสามารถในการสื่อสาร สื่อความหมาย และนาเสนอ
4.4 นาความรู้เชื่อมโยงเนื้อหาต่างๆ ในคณิตศาสตร์ได้
5. ชิ้นงาน/ภาระงาน
5.1 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนแบบฝึกทักษะ ชุดที่ 2 จานวน 10 ข้อ
เรื่อง การคูณเลขยกกาลัง
5.2 แบบฝึกทักษะที่ 2.1 – 2.4
นูรีมาน สือรี
120
6. กิจกรรมการเรียนรู้ (กระบวนการโพลยา)
ชั่วโมงที่ 1
1. ครูและนักเรียนร่วมกันฝึกร้องเพลงการคูณและการหารเลขยกกาลัง
2. ครูกล่าวชื่นชมและให้กาลังใจนักเรียน
3. นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การคูณของเลขยกกาลัง จานวน 10 ข้อ
เพื่อทดสอบความรู้พื้นฐานของนักเรียนรายบุคคล
4. นักเรียนแต่ละคนศึกษาเรื่อง การคูณของเลขยกกาลัง ในแบบฝึกทักษะ ชุดที่ 2 โดยครู
ใช้คาถามให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและซักถามเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจที่ตรงกัน ครูให้คาแนะนา
เมื่อนักเรียนมีข้อสงสัยและสรุปเพิ่มเติม
5. นักเรียนทาแบบฝึกทักษะ 2.1 ชุดที่ 2 โดยครูเดินตรวจสอบและให้คาแนะนาเมื่อมี
ข้อสงสัย
6. ครูสุ่มให้นักเรียนนาเสนอคาตอบบนกระดานพร้อมตรวจความถูกต้องจากเฉลย
แบบฝึกทักษะ 2.1 ชุดที่ 2 โดยเปรียบเทียบคาตอบของนักเรียนกับเฉลยว่าเหมือนหรือต่างกัน
อย่างไร ครูชี้ประเด็นให้นักเรียนเห็นถึงคาตอบที่ถูกต้อง
ชัว่ โมงที่ 2
1. ครูให้นักเรียนร่วมกันฝึกร้องเพลงการคูณและการหารเลขยกกาลัง
2. ครูกล่าวชื่นชมและให้กาลังใจนักเรียน
3. นักเรียนแต่ละคนศึกษาเรื่อง การคูณของเลขยกกาลัง ในแบบฝึกทักษะ ชุดที่ 2 โดยครู
ใช้คาถามให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและซักถามเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจที่ตรงกัน ครูให้คาแนะนา
เมื่อนักเรียนมีข้อสงสัยและสรุปเพิ่มเติม
4. นักเรียนทาแบบฝึกทักษะ 2.2 ชุดที่ 2 โดยครูเดินตรวจสอบและให้คาแนะนาเมื่อมี
ข้อสงสัย
5. ครูสุ่มให้นักเรียนนาเสนอคาตอบพร้อมตรวจความถูกต้องจากเฉลยแบบฝึกทักษะ 2.2
ชุดที่ 2 โดยเปรียบเทียบคาตอบของนักเรียนกับเฉลยว่าเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ครูชี้ประเด็นให้
นักเรียนเห็นถึงคาตอบที่ถูกต้อง
6. นักเรียนทาแบบฝึกทักษะ 2.3 ชุดที่ 2 โดยครูเดินตรวจสอบและให้คาแนะนาเมื่อมี
ข้อสงสัย
7. ครูสุ่มให้นักเรียนนาเสนอคาตอบบนกระดานพร้อมตรวจความถูกต้องจากเฉลย
แบบฝึกทักษะ 2.3 ชุดที่ 2 โดยเปรียบเทียบคาตอบของนักเรียนกับเฉลยว่าเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ครูชี้ประเด็นให้นักเรียนเห็นถึงคาตอบที่ถูกต้อง
ชั่วโมงที่ 3
1. ครูให้นักเรียนร่วมกันฝึกร้องเพลงการคูณและการหารเลขยกกาลัง
2. ครูกล่าวชื่นชมและให้กาลังใจนักเรียน
3. ให้นักเรียนแต่ละคนศึกษาเรื่อง โจทย์ปัญหาการคูณของเลขยกกาลัง จากตัวอย่างที่ 1 ใน
แบบฝึกทักษะ ชุดที่ 2 โดยครูใช้คาถามให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและซักถามเพื่อให้มีความรู้
ความเข้าใจที่ตรงกัน ครูให้คาแนะนาเมื่อนักเรียนมีข้อสงสัยและสรุปเพิ่มเติม ดังนี้
นูรีมาน สือรี
121
-ขั้นตอนที่ 1 การทาความเข้าใจปัญหา
1. ครูให้นักเรียนดูตัวอย่างที่ 1 ในแบบฝึกทักษะ ชุดที่ 2
2. ครูถามนักเรียนว่าสิ่งที่โจทย์ให้มามีอะไร (ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งมีมวลเป็น
7.9 10 เท่าของอุกกาบาตลูกหนึ่ง ถ้าอุกกาบาตมีมวล 1.45 106 กิโลกรัม)
13
3. ครูถามนักเรียนว่าสิ่งที่โจทย์ถามว่าอะไร (จงหาว่าดาวเคราะห์มีมวล
เท่าใด)
-ขั้นตอนที่ 2 การวางแผนแก้ปัญหา
ครูถามนักเรียนว่านักเรียนจะวางแผนแก้ปัญหาอย่างไร
(จาก อุกกาบาตมีมวล 1.45 106 กิโลกรัม
และ ดาวเคราะห์มีมวลเป็น 7.9 1013 เท่าของอุกกาบาต
ดาวเคราะห์มีมวล (1.45 106) (7.9 1013) กิโลกรัม )
-ขั้นตอนที่ 3 ดาเนินการตามแผน
ครูถามนักเรียนว่านักเรียนทาตามแผนอย่างไร
(จาก ดาวเคราะห์มีมวล (1.45 106) (7.9 1013) กิโลกรัม
= (1.45 7.9) (106 1013) กิโลกรัม
= 11.455 1019 กิโลกรัม
20
= 1.1455 10 กิโลกรัม
20
ดาวเคราะห์มีมวล 1.1455 10 กิโลกรัม )
- ขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบ
ครูถามนักเรียนว่านักเรียนตรวจสอบว่าค่าที่ได้ตรงตามที่ต้องการ
(จาก ดาวเคราะห์มีมวล (1.45 106) (7.9 1013) = 1.1455 1020 กิโลกรัม
จะได้ (1.45 7.9) (106 1013) = 1.1455 1020 กิโลกรัม
11.455 1019 = 1.1455 1020 กิโลกรัม
1. 1455 1020 = 1.1455 1020 กิโลกรัม
เป็นจริง
ดังนัน้ ดาวเคราะห์มีมวล 1.1455 1020 กิโลกรัม
ตอบ)
4. ให้นักเรียนแต่ละคนศึกษาเรื่อง โจทย์ปัญหาการคูณของเลขยกกาลัง จากตัวอย่างที่ 2 ใน
แบบฝึกทักษะ ชุดที่ 2 โดยครูใช้คาถามให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและซักถามเพื่อให้มีความรู้
ความเข้าใจที่ตรงกัน ครูให้คาแนะนาเมื่อนักเรียนมีข้อสงสัยและสรุปเพิ่มเติม ดังนี้
-ขั้นตอนที่ 1 การทาความเข้าใจปัญหา
1. ครูให้นักเรียนดูตัวอย่างที่ 2 ในแบบฝึกทักษะ ชุดที่ 2
2. ครูถามนักเรียนว่าสิ่งที่โจทย์ให้มามีอะไร (ไม้แผ่นหนึ่งหนา 3 เซนติเมตร
กว้าง 27 เซนติเมตร และยาว 81 เซนติเมตร)
นูรีมาน สือรี
122
3. ครูถามนักเรียนว่าสิ่งที่โจทย์ถามว่าอะไร (จงหาว่าไม้แผ่นนี้มีปริมาตรกี่
ลูกบาศก์เซนติเมตร)
-ขั้นตอนที่ 2 การวางแผนแก้ปัญหา
ครูถามนักเรียนว่านักเรียนวางแผนแก้ปัญหาอย่างไร
( จาก ปริมาตรของไม้ = กว้าง ยาว สูง (หนา)
และ = 27 81 3 ลูกบาศก์เซนติเมตร)
-ขั้นตอนที่ 3 ดาเนินการตามแผน
ครูถามนักเรียนว่านักเรียนทาตามแผนอย่างไร
( จาก ปริมาตรของไม้ = กว้าง ยาว สูง (หนา)
= 27 81 3 ลูกบาศก์เซนติเมตร
3 4
= 3 3 3 ลูกบาศก์เซนติเมตร
3+4+1
= 3 ลูกบาศก์เซนติเมตร
8
'= 3 ลูกบาศก์เซนติเมตร
8
ไม้แผ่นนี้มีปริมาตร 3 ลูกบาศก์เซนติเมตร)
-ขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบ
ครูถามนักเรียนว่านักเรียนตรวจสอบว่าค่าที่ได้ตรงตามที่ต้องการ
( จาก ปริมาตรของไม้ = กว้าง ยาว สูง (หนา)
จะได้ 38 = 27 81 3 ลูกบาศก์เซนติเมตร
38 = 33 34 3 ลูกบาศก์เซนติเมตร
8 3+4+1
3 = 3 ลูกบาศก์เซนติเมตร
8 8
3 = 3 ลูกบาศก์เซนติเมตร เป็นจริง
8
ดังนั้น ไม้แผ่นนี้มีปริมาตร 3 ลูกบาศก์เซนติเมตร
ตอบ)
5. นักเรียนทาแบบฝึกทักษะ 2.4 ในแบบฝึกทักษะ ชุดที่ 2 โดยครูเดินตรวจสอบและให้
คาแนะนาเมื่อมีข้อสงสัย
6. ครูสุ่มให้นักเรียนนาเสนอคาตอบบนกระดานพร้อมตรวจความถูกต้องจากเฉลย
แบบฝึกทักษะ 2.4 ในแบบฝึกทักษะ ชุดที่ 2 โดยเปรียบเทียบคาตอบของนักเรียนกับเฉลยว่าเหมือน
หรือต่างกันอย่างไร ครูชี้ประเด็นให้นักเรียนเห็นถึงคาตอบที่ถูกต้อง
7. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปได้ว่า
เมื่อ a เป็นจานวนใด ๆ และ m , n เป็นจานวนเต็มบวก
a m × a n = am + n
(เลขยกกาลังที่มีฐานเหมือนกันคูณกัน ให้นาเลขชี้กาลังมาบวกกัน)
8. นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การคูณของเลขยกกาลัง จานวน 10 ข้อ
พร้อมตรวจกับให้นักเรียนตรวจตามเฉลย ถ้านักเรียนทาแบบหลังเรียนได้ถูกต้อง 7 ข้อขึ้นไปถือว่า
นูรีมาน สือรี
123
8. การวัดผลและการประเมินผลการเรียนรู้
ประเด็นการวัด วิธีการวัดผล เครื่องมือในการวัด เกณฑ์การประเมิน
ด้านความรู้ (K)
หาผลคูณของเลขยกกาลังเมื่อ -ตรวจแบบทดสอบ -แบบทดสอบก่อน -ผู้ผ่านการประเมินได้
เลขชี้กาลังเป็นจานวนเต็มได้ ก่อนเรียนและหลัง เรียนและหลังเรียน คะแนนร้อยละ 70 ขึ้นไป
เรียนชุดที่ 2 ชุดที่ 2
จานวน 10 ข้อ จานวน 10 ข้อ
-ตรวจแบบฝึก -แบบฝึกทักษะที่
ทักษะที่ 2.1 – 2.4 2.1 – 2.4
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
1. ความสามารถในการคิด -สังเกตการทางาน -แบบประเมิน -ผู้ผ่านการประเมินได้
2. ความสามารถในการ การทางาน คะแนนตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้น
แก้ปัญหา ไป
3. ความสามารถในการ
สื่อสาร สื่อความหมาย และ
นาเสนอ
4. นาความรู้เชื่อมโยงเนื้อหา
ต่างๆ ในคณิตศาสตร์ได้
ด้านคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ (A) -สังเกตคุณลักษณะ -แบบประเมิน -ผู้ผ่านการประเมินได้
อันพึงประสงค์ของ คุณลักษณะอันพึง คะแนนตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้น
นักเรียน ประสงค์ของ ไป
นักเรียน
นูรีมาน สือรี
124
8.1 เกณฑ์การประเมิน
8.1.1 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ชุดที่ 2 เรื่อง การคูณของเลขยกกาลัง
แบบปรนัย จานวน 10 ข้อ 10 คะแนน
9 - 10 คะแนน ระดับคุณภาพ 3 (ดีมาก)
7 - 8 คะแนน ระดับคุณภาพ 2 (ดี)
5 - 6 คะแนน ระดับคุณภาพ 1 (พอใช้)
0 - 4 คะแนน ระดับคุณภาพ 0 (ปรับปรุง)
8.1.2 แบบฝึกทักษะที่ 2.1 – 2.4 คะแนนเต็ม 35 คะแนน
27 - 35 คะแนน ระดับคุณภาพ 3 (ดีมาก)
18 - 26 คะแนน ระดับคุณภาพ 2 (ดี)
9 - 17 คะแนน ระดับคุณภาพ 1 (พอใช้)
0 - 8 คะแนน ระดับคุณภาพ 0 (ปรับปรุง)
8.1.3 แบบประเมินการทางาน คะแนนเต็ม 12 คะแนน
11 - 12 คะแนน ระดับคุณภาพ 3 (ดีมาก)
8 – 10 คะแนน ระดับคุณภาพ 2 (ดี)
5 - 7 คะแนน ระดับคุณภาพ 1 (พอใช้)
4 คะแนน ระดับคุณภาพ 0 (ปรับปรุง)
8.1.4 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน คะแนนเต็ม 12 คะแนน
11 - 12 คะแนน ระดับคุณภาพ 3 (ดีมาก)
8 - 10 คะแนน ระดับคุณภาพ 2 (ดี)
5 - 7 คะแนน ระดับคุณภาพ 1 (พอใช้)
4 คะแนน ระดับคุณภาพ 0 (ปรับปรุง)
นูรีมาน สือรี
125
เกณฑ์การให้คะแนนของแบบประเมินการทางาน
รายการประเมิน คะแนน/ระดับคุณภาพ
3 2 1
1.ความสามารถ มีความสามารถในการ มีความสามารถในการ มีความสามารถในการคิด
ในการคิด คิดวิเคราะห์ เพื่อการ คิดวิเคราะห์ เพื่อการ วิเคราะห์ เพื่อการสร้าง
สร้างองค์ความรู้และมี สร้างองค์ความรู้และมี องค์ความรู้และมี
ความสามารถในการคิด ความสามารถในการคิด ความสามารถในการคิด
เป็นระบบเพื่อการสร้าง เป็นระบบเพื่อการสร้าง เป็นระบบเพื่อการสร้าง
องค์ความรู้ได้ดี องค์ความรู้ได้พอสมควร องค์ความรู้ได้น้อย
2.ความสามารถ ใช้วิธีการดาเนินการ ใช้วิธีการดาเนินการ มีหลักฐานหรือร่องรอย
ในในการ แก้ปัญหาได้อย่างมี แก้ปัญหาได้อย่างมี การดาเนินการแก้ปัญหา
แก้ปัญหา ประสิทธิภาพและ ประสิทธิภาพและ บางส่วนแต่แก้ปัญหาไม่
อธิบายขั้นตอนของ อธิบายขั้นตอนของ สาเร็จ
วิธีการดังกล่าวได้อย่าง วิธีการดังกล่าวได้แต่ไม่
ชัดเจน ชัดเจน
3.ความสามารถ ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทาง
ในการสื่อสาร ทางคณิตศาสตร์ที่ ทางคณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์อย่างง่ายๆ
สื่อความหมาย ถูกต้องในการนาเสนอ นาเสนอ ลาดับขั้นตอน และนาเสนอข้อมูล
และนาเสนอ ลาดับขั้นตอนชัดเจน ได้ชัดเจนบางส่วนแต่ ไม่ชัดเจน
และมีรายละเอียดที่ ขาดรายละเอียดที่
สมบูรณ์ สมบูรณ์
4.นาความรู้ นาความรู้ หลักการและ นาความรู้ หลักการและ นาความรู้ หลักการและ
เชื่อมโยงเนื้อหา วิธีการทางคณิตศาสตร์ วิธีการทางคณิตศาสตร์ วิธีการทางคณิตศาสตร์ไป
ต่างๆ ใน ในการเชื่อมโยงกับสาระ ในการเชื่อมโยงกับสาระ เชื่อมโยงไม่เหมาะสม
คณิตศาสตร์ได้ คณิตศาสตร์ หรือสาระ คณิตศาสตร์ได้บางส่วน
อื่นๆ ในชีวิตประจาวัน
เพื่อช่วยในการแก้ปัญหา
หรือประยุกต์ใช้ได้อย่าง
สอดคล้องและเหมาะสม
นูรีมาน สือรี
126
เกณฑ์การให้คะแนนของแบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน
รายการ คะแนน
ประเมิน 3 2 1
1. ซื่อสัตย์ ทางานที่ได้รับมอบหมาย ทางานที่ได้รับมอบหมาย ทางานที่ได้รับมอบหมายด้วย
สุจริต ด้วยตนเอง/ปฏิบัติเป็น ด้วยตนเอง/ปฏิบัติบ้างเป็น ตนเอง/ปฏิบัติบ้างเป็นครั้ง
ประจาสม่าเสมอ ครั้งคราว คราวแต่ต้องมี
การแก้ไข
2. มีวินัย ปฏิบัติตามระเบียบและตรง ปฏิบัติตามกฎระเบียบและ ปฏิบัติตามกฎระเบียบและ
ต่อเวลาในการปฏิบัติ ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ ตรงต่อเวลาใน
กิจกรรมที่ได้รับมอบหมาย กิจกรรมเท่าที่ได้รับ การปฏิบัติกิจกรรมบ้าง
เป็นประจาสม่าเสมอ/ มอบหมาย/ปฏิบัติได้ด้วย เป็นครั้งคราว/ปฏิบัติได้
ปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว ตนเองแต่ไม่คล่องแคล่ว แต่ต้องมีการแก้ไข
3. ใฝ่ กล้าแสดงความคิดเห็นอย่าง ส่วนใหญ่ กล้าแสดงความ ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น
เรียนรู้ มีเหตุผล กล้ายอมรับความ คิดเห็นอย่างมีเหตุผล กล้า ไม่กล้ายอมรับความจริง
จริงซักถามและตอบคาถาม ยอมรับความจริงเป็นส่วน ซักถามและตอบคาถาม
ได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน ใหญ่ ซักถามและตอบ ไม่ชัดเจน
คาถามได้อย่างถูกต้องแต่ไม่
ชัดเจน
4. มุ่งมั่น ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ใน ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ใน ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในแบบ
ในการ แบบฝึกทักษะด้วยตนเอง แบบฝึกทักษะด้วยตนเอง ฝึกทักษะโดยอาศัยการชี้แนะ
ทางาน ครบทุกกิจกรรม และ เป็นบางครั้ง ปฏิบัติบาง แนะนา ปฏิบัติกิจกรรมโดยถูก
แนะนาผู้อื่นได้ รวมทั้งส่ง กิจกรรม และส่งงานช้ากว่า บังคับ
งานก่อนหรือตรง กาหนดแต่ได้มีการชี้แจง ส่งงานช้ากว่ากาหนด
กาหนดเวลา เหตุผลน่าฟัง
นัดหมาย
นูรีมาน สือรี
127
เพลงการคูณและการหารเลขยกกาลัง
คาร้ อง ศ. ยุพนิ พิพธิ กุล ทานองและเรี ยบเรี ยง อัศวิน พึง่ คุณพระ
a กาลัง m คูณด้ วย ( หารด้ วย ) a กาลัง n
จะเท่ากับ a กาลัง m + n ( m – n )
a เป็ นจานวน ที่ไม่ใช่ศนู ย์นนหนา
ั้
m และ n กาหนดเป็ นจานวนเต็ม
ขอจงได้ จา ทุกถ้ อยคา ให้ ถกู เอย
ขอจงได้ จา ทุกถ้ อยคา
ที่มา http://www.pathumrat.ptpk.ac.th/webmath/Kanitsat-2/pheng5.htm
นูรีมาน สือรี
128
ความคิดเห็น / ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(นายชานาญ ฤทธิ์ช่วย)
รองผู้อานวยการโรงเรียนนราธิวาส
นูรีมาน สือรี
129
แบบบันทึกผลหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รหัส ค21101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง เลขยกกาลัง เวลา 16 ชั่วโมง
เรื่องย่อย การคูณของเลขยกกาลัง เวลา 3 ชั่วโมง
ลงชื่อ....................................ผู้สอน
(นางนูรีมาน สือรี)
นูรีมาน สือรี
130
ภาคผนวก ฎ
แบบฝึกทักษะ
นูรีมาน สือรี
131
คานา
นูรีมาน สือรี
นูรีมาน สือรี
132
สารบัญ
เรื่อง หน้า
คานา ก
สารบัญ ข
บทบาทครู 1
บทบาทนักเรียน 2
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 3
จุดประสงค์การเรียนรู้ 4
แบบทดสอบก่อนเรียน ชุดที่ 1 5
สาระการเรียนรู้ 8
แบบฝึกทักษะ ที่ 1.1 9
แบบฝึกทักษะ ที่ 1.2 13
แบบฝึกทักษะ ที่ 1.3 18
แบบฝึกทักษะ ที่ 1.4 23
แบบทดสอบหลังเรียน ชุดที่ 1 26
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน ชุดที่ 1 29
เฉลยแบบฝึกทักษะ ที่ 1.1 30
เฉลยแบบฝึกทักษะ ที่ 1.2 31
เฉลยแบบฝึกทักษะ ที่ 1.3 32
เฉลยแบบฝึกทักษะ ที่ 1.4 34
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน ชุดที่ 1 38
แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากแบบฝึกทักษะ ชุดที่ 1 39
บรรณานุกรม 40
นูรีมาน สือรี
133
บทบาทครู
นูรีมาน สือรี
134
บทบาทนักเรียน
นูรีมาน สือรี
135
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
สาระที่ 1 จานวนและการดาเนินการ
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจานวนและการใช้จานวน
ในชีวิตจริง
ตัวชี้วัด: ค 1.1 ม.1/2 เข้าใจเกี่ยวกับเลขยกกาลังที่มีเลขชี้กาลังเป็นจานวนเต็ม และ
เขียนแสดงจานวนให้อยู่ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์
(scientific notation)
สาระที่ 6 ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
มาตรฐาน ค 6.1 มีความสามารถในการแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การสื่อ
ความหมายทางคณิตศาสตร์และการนาเสนอ การเชื่อมโยงความรู้
ต่าง ๆ ทางคณิตศาสตร์และเชื่อมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ
และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
ตัวชี้วัด: ค 6.1 ม.1/3 ให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ และสรุปผลได้อย่างเหมาะสม
ตัวชี้วัด: ค 6.1 ม.1/4 ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร การสื่อ
ความหมาย และการนาเสนอ ได้อย่างถูกต้อง และชัดเจน
ตัวชีว้ ัด: ค 6.1 ม.1/5 เชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ในคณิตศาสตร์ และนาความรู้ หลักการ
กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปเชื่อมโยงกับศาสตร์อื่นๆ
นูรีมาน สือรี
136
จุดประสงค์การเรียนรู้
ความรู้ความเข้าใจ
1. บอกความหมายของเลขยกกาลังได้
2. เขียนจานวนที่กาหนดให้ในรูปเลขยกกาลังที่มีเลขชี้กาลังเป็นจานวนเต็มบวกได้
3. เขียนจานวนที่แทนเลขยกกาลังที่มีเลขชี้กาลังเป็นจานวนเต็มบวกที่กาหนดให้ได้
ทักษะกระบวนการ
1. การใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร การสื่อความหมาย
และการนาเสนอได้อย่างถูกต้องและชัดเจน
2. การเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ในทางคณิตศาสตร์
3. การให้เหตุผล
4. การนาความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจาวัน
นูรีมาน สือรี
137
แบบทดสอบก่อนเรียน
แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ รายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค21101
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1ชุดที่ 1 เรื่อง ความหมายของเลขยกกาลัง
1. มีความหมายตรงกับตัวเลือกใด
ก. 4 4 4 4
ข. 4 4 4
ค. (-3) (-3) (-3) (-3)
ง. (-3) (-3) (-3) (-3) (-3)
2. (0.6) (0.6) (0.6) เขียนแทนได้ตรงกับตัวเลือกใด
ก. (0.6)3
ข. (0.6)6
ค. 63
ง. 66
3. ตัวเลือกใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ 35
ก. เลขยกกาลังมี 3 เป็นฐาน และ 3 เป็นเลขชี้กาลัง
ข. เลขยกกาลังมี 3 เป็นฐาน และ 5 เป็นเลขชี้กาลัง
ค. เลขยกกาลังมี 5 เป็นฐาน และ 3 เป็นเลขชี้กาลัง
ง. เลขยกกาลังมี 5 เป็นฐาน และ 5 เป็นเลขชี้กาลัง
นูรีมาน สือรี
138
4. ตัวเลือกใดต่อไปนี้ถูกต้อง
ก. (-5)3 อ่านว่า ลบห้าทั้งหมดยกกาลังสาม
3
1
ข. อ่านว่า เศษหนึ่งส่วนห้ายกกาลังสาม
5
6
1
ค. อ่านว่า หกยกกาลังเศษหนึ่งส่วนสี่
4
ง. (0.3)5 อ่านว่า กาลังสามของห้า
ก. 53
ข. 54
3
1
ค.
5
4
1
ง.
5
นูรีมาน สือรี
139
7. เขียน 16 เป็นรูปเลขยกกาลังที่มีฐานเป็นจานวนเฉพาะตรงกับตัวเลือกใด
ก. 23
ข. 24
ค. 42
ง. 43
นูรีมาน สือรี
140
ความหมายของเลขยกกาลัง
บทนิยาม
นูรีมาน สือรี
141
แบบฝึกทักษะที่ 1.1
-
7
9. 2
3
5
10. 1
2
3
นูรีมาน สือรี
142
การเขียนเลขยกกาลัง
การเขียนเลขยกกาลังจะเขียนเลขชี้กาลังไว้ด้านบนของฐานเยื้องไปทางขวา เช่น 48
สาหรับเลขชี้กาลังที่เป็น 1 จะไม่นิยมเขียน เพราะหมายถึงตั วมันเอง เช่น จานวน 41 จะ
เขียนเพียง 4 ไม่ใส่เลขชี้กาลัง ส่วนกรณีที่เป็นเศษส่วน จานวนลบ หรือทศนิยม จะนิยม
10
1
เขียนฐานไว้ในวงเล็บและเขียนเลขชี้กาลังไว้บนวงเล็บ เช่น , (-2)6 , (2.1)3 เป็นต้น
2
การเขียนเลขยกกาลังในรูปการคูณของจานวนที่ซ้ากัน จะนาฐานมาคูณกันให้มี
จานวนที่ซ้ากันเท่ากับเลขชี้กาลัง เช่น 27 นั่นคือ นาฐาน 2 มาเขียนในรูปการคูณโดยคูณ
กันจานวน 7 ตัว จะได้ 2 2 2 2 2 2 2
นูรีมาน สือรี
143
การอ่านเลขยกกาลัง
การอ่านเลขยกกาลังมีหลายแบบ เช่น
1) 64 อ่านว่า หกยกกาลังสี่
หรือ หกกาลังสี่
หรือ กาลังสี่ของหก
3) - 25 อ่านว่า ลบของสองยกกาลังห้า
หรือ ลบของสองกาลังห้า
หรือ ลบของกาลังห้าของสอง
2
1
5) อ่านว่า เศษหนึ่งส่วนสี่ทั้งหมดยกกาลังสอง
4
หรือ เศษหนึ่งส่วนสี่ทั้งหมดกาลังสอง
หรือ กาลังสองของเศษหนึ่งส่วนสี่
นูรีมาน สือรี
144
ตัวอย่าง จงเขียนจานวนต่อไปนี้ในรูปเลขยกกาลัง
1. 777 เขียนแทนด้วยคือ 73
2. - (11 11) เขียนแทนด้วยคือ - (11)2
3. (-6)(-6)(-6) เขียนแทนด้วยคือ (-6)3
4. (-5) (-5) (-5) (-5) เขียนแทนด้วยคือ (-5)4
5. (2.4) (2.4) (2.4) (2.4) (2.4) (2.4) เขียนแทนด้วยคือ (2.4)6
5
6. 1 × 1 × 1 × 1 × 1 เขียนแทนด้วยคือ 1
2 2 2 2 2 2
5
7. a a a a a เขียนแทนด้วยคือ a
นูรีมาน สือรี
145
แบบฝึกทักษะที่ 1.2
คาชี้แจง ตอนที่ 1. จงเขียนจานวนต่อไปนี้ในรูปเลขยกกาลัง (10 คะแนน)
1. 2 × 2 × 2 × 2 เขียนแทนด้วย
2. 4 × 4 × 4 × 4 × 4 เขียนแทนด้วย
3 3 3
3. × × เขียนแทนด้วย
8 8 8
1 1
4. - - เขียนแทนด้วย
3 3
5. (0.6) × (0.6) × (0.6) × (0.6) × (0.6) เขียนแทนด้วย
6. – (5 × 5 × 5) เขียนแทนด้วย
7. (-0.1) × (-0.1) × (-0.1) × (-0.1) เขียนแทนด้วย
8. (-8) × (-8) × (-8) × (-8) × (-8) × (-8) เขียนแทนด้วย
9. - 5 5 5 5 เขียนแทนด้วย
9 9 9 9
10. (-a) × (-a) × (-a) × (-a) × (-a) × (-a) เขียนแทนด้วย
เลขยกกาลัง การอ่านเลขยกกาลัง
4
1) 3 ก. อ่านว่า ลบของสามยกกาลังเจ็ด
2) (-6)5 ข. อ่านว่า เศษหนึ่งส่วนสี่ทั้งหมดยกกาลังหก
3) - 37 ฃ. อ่านว่า สามยกกาลังสี่
4) (0.5)2 ค. อ่านว่า สามยกกาลังเจ็ด
6
1
5) ฅ. อ่านว่า ศูนย์จุดห้าทั้งหมดยกกาลังสอง
4
ฆ. อ่านว่า ลบหกทั้งหมดยกกาลังห้า
นูรีมาน สือรี
146
การหาค่าของเลขยกกาลัง
ทบทวนการคูณจานวนลบสรุปสั้น ๆ ได้ดังนี้
ตัวอย่างที่ 1 จงหาเลขยกกาลังต่อไปนี้แทนจานวนใด
2
1
(1) (-1)4 (2) (-2)2 (3) (4) (-0.4)4
4
วิธีทา (1) (-1)4 = (-1) (-1) (-1) (-1) = 1
(2) (-2)2 = (-2) (-2) = 4
2
1 1 1 1 1 1
(3) = =
4 4 4 4 4 16
(4) (-0.4)4 = (-0.4)(-0.4)(-0.4)(-0.4) = 0.0256
ตัวอย่างที่ 2 จงหาเลขยกกาลังต่อไปนี้แทนจานวนใด
3
1
(1) (-1)5 (2) (-2)3 (3) (4) (-0.3)3
3
วิธีทา (1) (-1)5 = (-1) (-1) (-1) (-1) (-1) = -1
(2) (-2)3 = (-2) (-2) (-2) = -8
3
1 1 1 1 1 1 1 1
(3) = =-
3 3 3 3 3 3 3 27
3
(4) (-0.3) = (-0.3) (-0.3) (-0.3) = - (0.3 0.3 0.3)
= -0.027
นูรีมาน สือรี
147
ตัวอย่างที่ 3 จงหาว่าเลขยกกาลังต่อไปนี้แทนจานวนใด
2
1
(1) 52 (2) 65 (3)
4
(4) (0.4)4 (5) (0.02)3
วิธีทา
(1) 52 = 5 5 = 25
(2) 65 = 6 6 6 6 6 = 7,776
2
1
(3) = 1 1 = 1
4 4 4 16
(4) (0.4)4 = (0.4) (0.4) (0.4) (0.4) = 0.0256
(5) (0.02)3 = (0.02) (0.02) (0.02) = 0.000008
นูรีมาน สือรี
148
(2) - y = - 5
z 1.2 1.2 1.2 1.2 1.2
55 55 625
=
1.2 1.2 4 1.2 1.2 2.0736
(3) (y + z)x = [(- 5) +1.2] = (- 3.8) 4
นูรีมาน สือรี
149
นูรีมาน สือรี
150
แบบฝึกทักษะที่ 1.3
คาชี้แจง ตอนที่ 1 จงเขียนจานวนต่อไปนี้ในรูปเลขยกกาลังที่มีฐานเป็นจานวนเฉพาะ
(5 คะแนน)
1. 32 = =
2. 289 = =
3. 361 = =
4. 529 = =
5. 841 = =
นูรีมาน สือรี
151
คาชี้แจง ตอนที่ 4
1. ถ้า x แทนจานวนเต็มบวก และ 5 x = 125 แล้ว x แทนจานวนใด
(1 คะแนน)
นูรีมาน สือรี
152
โจทย์ปัญหา
นูรีมาน สือรี
153
นูรีมาน สือรี
154
นูรีมาน สือรี
155
แบบฝึกทักษะที่ 1.4
1. ถังทรงลูกบาศก์ใบหนึ่งมีปริมาตรภายใน 512 ลูกบาศก์เซนติเมตร ความยาวของ
แต่ละด้านภายในถังเป็นกี่เซนติเมตร (5 คะแนน)
วิธีทา ขั้นตอนที่ 1 ทาความเข้าใจปัญหา
1. สิ่งที่โจทย์ให้มา ……………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………….
2. สิ่งที่โจทย์ถาม
ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการแก้ปัญหา
จาก ………………………………………………………………………………......................
และ …………………………………………………………………………………………………
ขั้นตอนที่ 3 ดาเนินการตามแผน
จาก …………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………….
………………………………………………….……………………………………….
ขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบ
จาก …………………………………………………………………………………………………
จะได้ ……………………………………………………………………..……………………….
……………………………………………………………………………………………….
ดังนั้น .............................................................................................................
ตอบ
นูรีมาน สือรี
156
2. สิ่งที่โจทย์ถาม ..........................................................................................
นูรีมาน สือรี
157
ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการแก้ปัญหา
จาก ....................................................................................................................
....................................................................................................................
....................................................................................................................
ขั้นตอนที่ 3 ดาเนินการตามแผน
จาก ...................................................................................................................
....................................................................................................................
....................................................................................................................
....................................................................................................................
....................................................................................................................
....................................................................................................................
ขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบ
จาก ...................................................................................................................
....................................................................................................................
....................................................................................................................
....................................................................................................................
....................................................................................................................
....................................................................................................................
จะได้...................................................................................................................
...................................................................................................................
ดังนั้น .................................................................................................................
ตอบ
นูรีมาน สือรี
158
แบบทดสอบหลังเรียน
แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ รายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค21101
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ชุดที่ 1 เรื่อง ความหมายของเลขยกกาลัง
1. แบบทดสอบเป็นแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จานวน 10 ข้อ
คะแนนเต็ม 10 คะแนน ใช้เวลาในการทาแบบทดสอบ 20 นาที
คาสั่ง 2. ให้นักเรียนเลือกคาตอบที่ถูกที่สุดเพียงคาตอบเดียว และทาเครือ่ งหมาย
กากบาท (X) ลงในกระดาษคาตอบให้ตรงกับข้อที่ต้องการ
1. ตัวเลือกใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ 35
ก. เลขยกกาลังมี 3 เป็นฐาน และ 3 เป็นเลขชี้กาลัง
ข. เลขยกกาลังมี 3 เป็นฐาน และ 5 เป็นเลขชี้กาลัง
ค. เลขยกกาลังมี 5 เป็นฐาน และ 3 เป็นเลขชี้กาลัง
ง. เลขยกกาลังมี 5 เป็นฐาน และ 5 เป็นเลขชี้กาลัง
2. มีความหมายตรงกับตัวเลือกใด
ก. 4 4 4 4
ข. 4 4 4
ค. (-3) (-3) (-3) (-3)
ง. (-3) (-3) (-3) (-3) (-3)
นูรีมาน สือรี
159
4. ตัวเลือกใดต่อไปนี้ถูกต้อง
ก. (-5)3 อ่านว่า ลบห้าทั้งหมดยกกาลังสาม
3
1
ข. อ่านว่า เศษหนึ่งส่วนห้ายกกาลังสาม
5
6
1
ค. อ่านว่า หกยกกาลังเศษหนึ่งส่วนสี่
4 5
ง. (0.3) อ่านว่า กาลังสามของห้า
5. เขียน 16 เป็นรูปเลขยกกาลังที่มีฐานเป็นจานวนเฉพาะตรงกับตัวเลือกใด
ก. 23
ข. 24
ค. 42
ง. 43
นูรีมาน สือรี
160
นูรีมาน สือรี
161
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
1. ค
2. ก
3. ข
4. ก
5. ง
6. ก
7. ข
8. ข
9. ง
10. ค
นูรีมาน สือรี
162
เฉลยแบบทดสอบทักษะที่ 1.1
นูรีมาน สือรี
163
เฉลยแบบทดสอบทักษะที่ 1.2
9. เขียนแทนด้วย 5
9 9 9 9 9
10. (-a) × (-a) × (-a) × (-a) × (-a) × (-a) เขียนแทนด้วย (-a)6
คาชี้แจง ตอนที่ 2. จงจับคู่เลขยกกาลังในแต่ละข้อต่อไปนี้กับการอ่านเลขยกกาลังนั้น
(5 คะแนน)
เลขยกกาลัง การอ่านเลขยกกาลัง
)34
(5 1คะแนน) ก. อ่านว่า ลบของสามยกกาลังเจ็ด
2) (-6)5 ข.อ่านว่า เศษหนึ่งส่วนสี่ทั้งหมดยกกาลังหก
3) -37 ฃ. อ่านว่า สามยกกาลังสี่
4) (0.5)2 ค. อ่านว่า สามยกกาลังเจ็ด
6
1
5) ฅ. อ่านว่า ศูนย์จุดห้าทั้งหมดยกกาลังสอง
4
ฆ. อ่านว่า ลบหกทั้งหมดยกกาลังห้า
นูรีมาน สือรี
164
เฉลยแบบฝึกทักษะที่ 1.3
5. 1
= = 1
49 7 7
7
นูรีมาน สือรี
165
คาชี้แจง ตอนที่ 4
1. ถ้า x แทนจานวนเต็มบวก และ 5 x = 125 แล้ว x แทนจานวนใด
(1 คะแนน)
จาก 5 x = 125
5x = 555
หรือ 5 x = 5 3
=1
5 x–3 = 1
X–3 = 0
X = 3
ตอบ
นูรีมาน สือรี
166
เฉลยแบบฝึกทักษะที่ 1.4
นูรีมาน สือรี
167
นูรีมาน สือรี
168
ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการแก้ปัญหา
จาก วันที่ 1 สะสมคูปองได้ 2 ใบ วันที่ 2 สะสมคูปองได้ 2 เท่าของ
วันที่ 1 วันที่ 3 สะสมคูปองได้ 2 เท่าของวันที่ 2 วันที่ 4 สะสม
คูปองได้ 2 เท่าของวันที่ 3 วันที่ 5 สะสมคูปองได้ 2 เท่าของวันที่ 4
วันที่ 6 สะสมคูปองได้ 2 เท่าของวันที่ 5 วันที่ 7 สะสมคูปองได้ 2
เท่าของวันที่ 6 เพราะคูปองเพิ่มขึ้น 2 เท่าของแต่ละวัน
ขั้นตอนที่ 3 ดาเนินการตามแผน
จาก วันที่ 1 จานวนคูปอง 2 = 2 = 2 ใบ
วันที่ 2 จานวนคูปอง 2 2 = 22= 4 ใบ
วันที่ 3 จานวนคูปอง 2 2 2 = 23= 8 ใบ
วันที่ 4 จานวนคูปอง 2 2 2 2 = 24= 16 ใบ
วันที่ 5 จานวนคูปอง 2 2 2 2 2 = 25= 32 ใบ
วันที่ 6 จานวนคูปอง 2 2 2 2 2 2 = 26= 64 ใบ
วันที่ 7 จานวนคูปอง 2 2 2 2 2 2 2 = 27=128 ใบ
เด็กหญิงปรียานุชเก็บสะสมคูปองภายใน 7 วัน ได้คูปอง 128 ใบ
ขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบ
จาก วันที่ 1 จานวนคูปอง 2 = 2 ใบ
วันที่ 2 จานวนคูปอง 2 2 = 22 ใบ
วันที่ 3 จานวนคูปอง 2 2 2 = 23 ใบ
วันที่ 4 จานวนคูปอง 2 2 2 2 = 24 ใบ
วันที่ 5 จานวนคูปอง 2 2 2 2 2 = 25 ใบ
วันที่ 6 จานวนคูปอง 2 2 2 2 2 2 = 26 ใบ
วันที่ 7 จานวนคูปอง 2 2 2 2 2 2 2 = 27 ใบ
จะได้ คูปองวันที่ 1 ถึง วันที่ 7 27 = 128 ใบ
128 = 128 ใบ
เป็นจริง
นูรีมาน สือรี
169
นูรีมาน สือรี
170
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน
1. ข
2. ค
3. ก
4. ก
5. ข
6. ก
7. ง
8. ง
9. ค
10. ข
นูรีมาน สือรี
171
แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากแบบฝึกทักษะ
แบบทดสอบหลังเรียน 10
เกณฑ์การประเมิน
นูรีมาน สือรี
172
บรรณานุกรม
นูรีมาน สือรี
173
นูรีมาน สือรี
174
คานา
นูรีมาน สือรี
นูรีมาน สือรี
175
สารบัญ
เรื่อง หน้า
คานา ก
สารบัญ ข
บทบาทครู 1
บทบาทนักเรียน 2
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 3
จุดประสงค์การเรียนรู้ 4
แบบทดสอบก่อนเรียน ชุดที่ 2 5
สาระการเรียนรู้ 8
แบบฝึกทักษะ ที่ 2.1 11
แบบฝึกทักษะ ที่ 2.2 12
แบบฝึกทักษะ ที่ 2.3 13
แบบฝึกทักษะ ที่ 2.4 17
แบบทดสอบหลังเรียน ชุดที่ 2 19
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน ชุดที่ 2 23
เฉลยแบบฝึกทักษะ ที่ 2.1 24
เฉลยแบบฝึกทักษะ ที่ 2.2 25
เฉลยแบบฝึกทักษะ ที่ 2.3 26
เฉลยแบบฝึกทักษะ ที่ 2.4 27
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน ชุดที่ 2 29
แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากแบบฝึกทักษะ ชุดที่ 2 30
บรรณานุกรม 31
นูรีมาน สือรี
176
บทบาทครู
นูรีมาน สือรี
177
บทบาทนักเรียน
นูรีมาน สือรี
178
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
สาระที่ 1 จานวนและการดาเนินการ
มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจถึงผลที่เกิดขึ้นจากการดาเนินการของจานวนและความสัมพันธ์
ระหว่างการดาเนินการต่าง ๆ และใช้การดาเนินการในการแก้ปัญหา
ตัวชี้วัด: ค 1.2 ม.1/4 .คูณและหารเลขยกกาลังที่มีฐานเดียวกัน และเลขชี้กาลังเป็น
จานวนเต็ม
สาระที่ 6 ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
มาตรฐาน ค 6.1 มีความสามารถในการแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การสื่อ
ความหมายทางคณิตศาสตร์และการนาเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ
ทางคณิตศาสตร์และเชื่อมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ และมี
ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
ตัวชี้วัด: ค 6.1 ม.1/3 ให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ และสรุปผลได้อย่างเหมาะสม
ตัวชี้วัด: ค 6.1 ม.1/4 ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร การสื่อ
ความหมาย และการนาเสนอ ได้อย่างถูกต้อง และชัดเจน
ตัวชี้วัด: ค 6.1 ม.1/5 เชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ในคณิตศาสตร์ และนาความรู้ หลักการ
กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปเชื่อมโยงกับศาสตร์อื่น ๆ
นูรีมาน สือรี
179
จุดประสงค์การเรียนรู้
ความรู้ความเข้าใจ
หาผลคูณของเลขยกกาลังเมื่อเลขชี้กาลังเป็นจานวนเต็มได้
ทักษะกระบวนการ
1. การใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร การสื่อความหมาย และ
การนาเสนอได้อย่างถูกต้องและชัดเจน
2. การเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ในทางคณิตศาสตร์
3. การให้เหตุผล
4. การนาความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจาวัน
นูรีมาน สือรี
180
แบบทดสอบก่อนเรียน
แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ รายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค21101
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ชุดที่ 2 เรื่อง การคูณเลขยกกาลัง
1. ค่าของ 35 x 38 ในรูปเลขยกกาลังตรงกับตัวเลือกใด
ก. 33
ข. 34
ค. 313
ง. 314
2. ค่าของ (0.2)5(0.2)2 ในรูปเลขยกกาลังตรงกับตัวเลือกใด
ก. (0.2)10
ข. (0.2)7
ค. (0.2)3
ง. (0.2)2
3. ค่าของ (-2)6 (-2)7 ในรูปเลขยกกาลังตรงกับตัวเลือกใด
ก. (-2)13
ข. (-2)12
ค. (-2)7
ง. (-2)
นูรีมาน สือรี
181
5. ค่าของ 2 × 23 × 24 ในรูปเลขยกกาลังตรงกับตัวเลือกใด
ก. 23
ข. 24
ค. 27
ง. 28
4 2
6. ค่าของ ในรูปเลขยกกาลังตรงกับตัวเลือกใด
1 1
3 3
6
1
ก.
3
4
1
ข.
3
3
1
ค.
3
2
1
ง.
3
7. ค่าของ 33 × (-3)4 × (-3)6 ในรูปเลขยกกาลังตรงกับตัวเลือกใด
ก. 32
ข. 37
ค. 312
ง. 313
นูรีมาน สือรี
182
ก.
1
4
5
ข.
1
4
2
ค.
1
4
3
ง.
1
4
9. ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งมีมวลเป็น 9.5 1013 เท่าของอุกกาบาตลูกหนึ่ง ถ้า
อุกกาบาตมีมวล 1.22 106 กิโลกรัม จงหาว่าดาวเคราะห์มีมวลเท่าใด
ก. 1.159 × 1021 กิโลกรัม
ข. 1.159 × 1020 กิโลกรัม
ค. 1.159 × 1019 กิโลกรัม
ง. 1.159 × 1018 กิโลกรัม
10. ค่าของ 53 + 53 + 53 + 53 + 53 ในรูปเลขยกกาลังตรงกับตัวเลือกใด
ก. 53
ข. 54
ค. 55
ง. 56
นูรีมาน สือรี
183
การคูณของเลขยกกาลัง
1. สมบัติการคูณเลขยกกาลังที่มีเลขชี้กาลังเป็นจานวนเต็มบวก
เมื่อ a เป็นจานวนใด ๆ และ m , n เป็นจานวนเต็มบวก
am × an = am + n
(เลขยกกาลังที่มีฐานเหมือนกันคูณกัน ให้นาเลขชี้กาลังมาบวกกัน)
หมายเหตุ : อาจเขียน a .a หรือ am an หรือ (am )(an) แทน am × an
m n
นูรีมาน สือรี
184
ตอบ 811
นูรีมาน สือรี
185
ในกรณีที่เลขยกกาลังที่นามาคูณกันมีฐานต่างกัน เราไม่สามารถเขียนผลคูณ
โดยใช้เลขชี้กาลังบวกกันได้ ตัวอย่างต่อไปนี้
24 32 = (2×2×2×2) × (3×3)
= 16×9
= 144
(-2)2 53 = {(-2)×(-2)} × (5×5×5)
= 4×125
= 500
นูรีมาน สือรี
186
แบบฝึกทักษะที่ 2.1
คาชี้แจง จงเติมคาตอบลงในช่องว่างให้ถูกต้อง ( 10 คะแนน)
1. = = ……………..
2. = …………….. =
3. = …………….. =
6. = …………….. =
7. = = ……………..
4 3 7
1 1 1
8. = ……………. =
2 2 2
3 2 3 2 1
1 1 1 1
9. = = ……………
3 3 3 3
นูรีมาน สือรี
187
แบบฝึกทักษะที่ 2.2
1. (-3)8 × 32 = ……………………………………………………………………………………..
2 4 3
5. 1
1 1
= ……………………………………………………………………………………..
6 6 6
2. 45 + 45 + 45 + 45 = ……………………………………………………………
3. 53 + 53 + 53 + 53 + 53 = ………………………………………………………...…
4. 62 + 62 + 62 + 62 + 62 + 62 = ……………………………………………………………
5. 74 + 74 + 74 + 74 + 74 + 74 + 74 = ……………………………………………………....….
นูรีมาน สือรี
188
แบบฝึกทักษะที่ 2.3
ตัวอย่าง
=
=
ตอบ
1. 64 × 25 2. 729 × 93 × (-9)4
= ........................................ = ........................................
= ....................................... = .......................................
= ....................................... = .......................................
ตอบ ............................ ตอบ ............................
5
1 1 1
4
3. 0.04 × 4.
32 2 2
= ........................................ = ........................................
= ....................................... = .......................................
= ....................................... = .......................................
ตอบ ............................ ตอบ ............................
4
5. × ×
5
= ........................................
= .......................................
= .......................................
ตอบ ............................
นูรีมาน สือรี
189
โจทย์ปัญหา
กิโลกรัม เป็นจริง
นูรีมาน สือรี
190
ตอบ
นูรีมาน สือรี
191
นูรีมาน สือรี
192
แบบฝึกทักษะที่ 2.4
2. สิ่งที่โจทย์ถาม
ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการแก้ปัญหา
จาก
และ
ขั้นตอนที่ 3 ดาเนินการตามแผน
จาก
'
ขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบ
จาก
จะได้
ดังนั้น
ตอบ
นูรีมาน สือรี
193
2. สิ่งที่โจทย์ถาม
ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการแก้ปัญหา
จาก
และ
ขั้นตอนที่ 3 ดาเนินการตามแผน
จาก
ขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบ
จาก
จะได้
ดังนั้น
ตอบ
นูรีมาน สือรี
194
แบบทดสอบหลังเรียน
แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ รายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค21101
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ชุดที่ 2 เรื่อง การคูณของเลขยกกาลัง
1. ค่าของ 35 x 38 ในรูปเลขยกกาลังตรงกับตัวเลือกใด
ก. 33
ข. 34
ค. 313
ง. 314
2. ค่าของ 2 × 23 × 24 ในรูปเลขยกกาลังตรงกับตัวเลือกใด
ก. 23
ข. 24
ค. 27
ง. 28
นูรีมาน สือรี
195
4 2
5. ค่าของ ในรูปเลขยกกาลังตรงกับตัวเลือกใด
1 1
3 3
6
1
ก.
3
4
1
ข.
3
3
1
ค.
3
2
1
ง.
3
นูรีมาน สือรี
196
9. ค่าของ 53 + 53 + 53 + 53 + 53 ในรูปเลขยกกาลังตรงกับตัวเลือกใด
ก. 53
ข. 54
ค. 55
ง. 56
นูรีมาน สือรี
197
นูรีมาน สือรี
198
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
1. ค
2. ข
3. ก
4. ค
5. ง
6. ก
7. ง
8. ก
9. ข
10. ข
นูรีมาน สือรี
199
เฉลยแบบฝึกทักษะที่ 2.1
1. = =
2. = =
3. = =
6. = =
7. = =
4 3 43 7
1 1 1 1
8. = =
2 2 2 2
3 2 3 2 1 6
1 1 1 1 1
9. = =
3 3 3 3 3
10. 2m × 2n× 2n = =
เมื่อ m และ n แทนจานวนเต็มบวก
นูรีมาน สือรี
200
เฉลยแบบฝึกทักษะที่ 2.2
1. (-3)8 × 32 = …310………………………………………………………………………………
2 4 3
5. 1 1 1 =
6 6 6
9
… 1 ....................................................................……………………………..
6
1. 34 + 34 + 34 = … … =… = …35………………...
2. 45 + 45 + 45 + 45 = … = = …46……………………
3. 53 + 53 + 53 + 53 + 53 = … = =… ……………………
5. 74 + 74 + 74 + 74 + 74 + 74 + 74 = … = … = … ……………………
นูรีมาน สือรี
201
เฉลยแบบฝึกทักษะที่ 2.3
=
=
ตอบ
5
1. 64 × 2 2. 729 × 93 × (-9)4
= 26 × 25 = 93 × 93 × 94
= 26+5 = 93+3+4
= 211 = 910
ตอบ 211 ตอบ 910
5
3. 0.04 × 4. 1 1
4
1
32 2 2
= × 1
5
1
5
1
4
=
= 2
14
2 2
= = 1
2
ตอบ 1
14
ตอบ
2
5. 4 × ×
5
= ×
=
=
ตอบ
นูรีมาน สือรี
202
เฉลยแบบฝึกทักษะที่ 2.4
1. ถ้ามวลของออกซิเจน 1 โมเลกุลหนัก 7.5 10-17 กรัม จงหาว่าออกซิเจน
จานวน 1.2 1027 โมเลกุล มีมวลเท่าใด (5 คะแนน)
วิธีทา ขั้นตอนที่ 1 ทาความเข้าใจปัญหา
1. สิ่งที่โจทย์ให้มา ถ้ามวลของออกซิเจน 1 โมเลกุลหนัก 7.5 10-17 กรัม
2. สิ่งที่โจทย์ถาม จงหาว่าออกซิเจน จานวน 1.2 1027 โมเลกุล
มีมวลเท่าใด
ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการแก้ปัญหา
จาก ถ้ามวลของออกซิเจน 1 โมเลกุลหนัก 7.5 10-17 กรัม
และ มวลของออกซิเจน จานวน 1.2 1027 โมเลกุล
มวลของออกซิเจน (7.5 10-17) (1.2 1027) กรัม
ขั้นตอนที่ 3 ดาเนินการตามแผน
จาก มวลของออกซิเจน (7.5 10-17) (1.2 1027) กรัม
= (7.5 1.2) (10-17 1027) กรัม
= 9 10-17+27 กรัม
= 9 1010 กรัม
10
มวลของออกซิเจน 9 10 กรัม
ขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบ
จาก มวลของออกซิเจน (7.5 10-17) (1.2 1027)= 9 1010 กรัม
(7.5 1.2) (10-17 1027) = 9 1010 กรัม
จะได้ 9 10-17+27 = 9 1010 กรัม
9 1010 = 9 1010 กรัม
เป็นจริง
ดังนั้น มวลของออกซิเจน 9 1010 กรัม
ตอบ
นูรีมาน สือรี
203
นูรีมาน สือรี
204
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน
1. ค
2. ง
3. ก
4. ข
5. ก
6. ง
7. ก
8. ค
9. ข
10. ข
นูรีมาน สือรี
205
แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากแบบฝึกทักษะ
แบบทดสอบหลังเรียน 10
เกณฑ์การประเมิน
นูรีมาน สือรี
206
บรรณานุกรม
กนกวล อุษณกรกุล, ปาจรีย์ วัชชวัลค และสุเทพ บุญซ้อน. (2551). หนังสือเรียน
รายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้
คณิตศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551.
กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์, มปป.
กิตติคุณ ยุพิน พิพิธกุล และสิริพร ทิพย์คง. (2545). หนังสือเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ ม.1 เล่ม 1. กรุงเทพฯ : พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว).
ชนันทิตา ฉัตรทอง, ประทีป โรจนวิภาต และวิสุทธิ์ เวียงสมุทร. (2551). สื่อการเรียน
รายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 ชุดสัมฤทธิ์
มาตรฐาน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551.
กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์, มปป.
ทรงวิทย์ สุวรรณธาดา. (2546). แบบฝึกมาตรฐานแม็ค คณิตศาสตร์พื้นฐาน เล่มที่ 1
ม.1. กรุงเทพฯ : แม็ค.
เยาวลักษณ์ เตียรณบรรจง. (2546). เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์.
กรุงเทพฯ : คุรุสภาลาดพร้าว.
เลิศ เกสรคา. คู่สร้างคณิตศาสตร์ ม.1 เล่ม 1. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ :
อักษรเจริญทัศน์, อจท, มปป.
วาสนา ทองการุณ. (2553). คณิตศาสตร์ ม.1 เล่ม 1. กรุงเทพฯ : เดอะบุคส์.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ. (2552).
หนังสือเรียนวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ เล่ม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : สกสค. ลาดพร้าว.
. (2553). คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ เล่ม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : สกสค. ลาดพร้าว
นูรีมาน สือรี
207
นูรีมาน สือรี
208
ประวัติย่อผู้วิจัย
นูรีมาน สือรี