Professional Documents
Culture Documents
การบริหารความเสี่ยงของสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21
การบริหารความเสี่ยงของสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21
เรื่อง
การบริหารความเสี่ยงของสถานศึกษาในศตวรรษที่
21
เสนอ
ดร.มิตภาณี พุม
่ กล่อม
จัดทำโดย
นางสาวอัญชนา พลายละหาร
หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการ
ศึกษา
มหาวิทยาลัยราชภัฎกาญจนบุรี
การบริหารความเสี่ยงของสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21
ดังนัน
้ เมื่อวิเคราะห์สถานการณ์และทราบถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึน
้
ของสถานศึกษาได้แล้ว จะต้องนำความเสี่ยงนัน
้ มาเข้าสู่กระบวนการ
บริหารความเสี่ยง โดยบทความนีข
้ อเสนอกระบวนการบริหารความเสี่ยง
ตามแนวคิดของ COSO-ERM : The Committee of Sponsoring
Organizations of the Treadway Commission : Enterprise Risk
Management
กระบวนการในการดำเนินการบริหารจัดการความเสี่ยงตาม
แนวทางของ COSO-ERM สามารถแบ่งออกได้เป็ น 8 ขัน
้ ตอน คือ
สิ่งที่สำคัญสำหรับขัน
้ ตอนนีค
้ ือ การกำหนดวัตถุประสงค์ในการ
บริการความเสี่ยงนี ้ ไม่ใช่วัตถุประสงค์ของสถานศึกษาในการดำเนินงาน
ขัน
้ ตอนแรกสำหรับกระบวนการบริหารความเสี่ยง องค์กรควรมั่นใจว่า
วัตถุประสงค์ที่กำหนดขึน
้ มีความสอดคล้องกับเป้ าประสงค์ ในการบริหาร
ความเสี่ยงให้หมดไปจากองค์กร
หรืออยู่ในระดับที่องค์กรยอมรับได้ ซึง่ วัตถุประสงค์มักจะเขียนเป็ นลาย
ลักษณ์อักษรที่ชัดเจน และควรประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนได้รับทราบถึง
วัตถุประสงค์ในการดำเนินการบริหารความเสี่ยงขององค์กร เพื่อให้เข้าใจ
ตรงกัน
การประเมินระดับความเสี่ยงสามารถทำได้ทงั ้ การการประเมินในเชิง
คุณภาพและในเชิงปริมาณ
โดยพิจารณาทัง้ เหตุการณ์ที่เกิดขึน
้ จากปั จจัยภายนอกและปั จจัยภายใน
องค์กร นอกจากนีจ
้ ะต้องการประเมินระดับความเสี่ยงทัง้ ก่อนจัดการ
ความเสี่ยง และหลังจากที่มีการจัดการความเสี่ยงแล้ว ปั จจัยที่ควรใช้ใน
การพิจารณาการจัดการความเสี่ยง เช่น
- การปฏิบัติงานของผู้บริหารและครู - กระบวนการ
ปฏิบัติงาน
- กระบวนการรายงาน / วิธีการติดต่อสื่อสาร -
โครงสร้างองค์กร
- การวัดผลการปฏิบัติงานและการติดตามผล -
ทัศนคติและแนวทางของผู้บริหาร
- กิจกรรมการควบคุมภายใน - พฤติกรรมขององค์กรที่
คาดว่าจะมีและที่มีอยู่ในปั จจุบัน
- การควบคุมเพื่อการชีแ
้ นะ (Directive Control)
8.1 การติดตามอย่างต่อเนื่องหรือการติดตามระหว่างการ
ปฏิบัติงาน การติดตามอย่างต่อเนื่องเป็ นการดำเนินการอย่าง
สม่ำเสมอเพื่อให้สามารตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างทัน
ท่วงทีและถือเป็ นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติงาน
นอกจากนีอ
้ งค์กรควรมีการจัดทำรายงานความเสี่ยงเพื่อให้การ
ติดตามการบริหารความเสี่ยง
เป็ นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
จากกระบวนการจัดการความเสี่ยงของสถานศึกษาตามแนวคิด
COSO จะเห็นได้ว่าการจัดการอย่างเป็ นขัน
้ ตอนจะทำให้สามารถ
วิเคราะห์ระดับความเสี่ยงเพื่อให้สามารถหาวิธีการรับมือกับความเสี่ยง
ตามลำดับความสำคัญ และสามารถจัดการได้อย่างทันเวลา ทำให้ทราบ
ว่าความเสี่ยงใดควรจัดการก่อนและความเสี่ยงใดควรจัดการทีหลัง โดย
ประโยชน์ที่ได้รับจากการบริหารจัดการความเสี่ยงของสถานศึกษา คือ
สามารถระบุและจัดการความเสี่ยงได้อย่างครอบคลุม ช่วยเพิ่ม
ประสิทธิผล ลดผลกระทบเชิงลบจากเหตุการณ์ไม่สามารถควบคุมได้หรือ
ม่สามารถคาดคิดได้ สามารถสรางเสริมความเขาใจโครงการและจัดทํา
แผนที่ใกลเคียงความ
เปนจริงมากขึน
้ ทัง้ ในด้านของการประมาณการคาใชจายและระยะเวลา
ดําเนินการ บุคลากรมีความเขาใจการทํางานมากขึน
้ สามารถวิเครา
ะหแยกแยะ ประเมินและระมัดระวังความเสี่ยงในหนาที่ของตนได ทําใหส
ามารถทํางานไดอยางมีประสิทธิภาพและบรรลุเปาหมายได้ บุคลากร
ไดฝกการคิดแบบเปนระบบและทันสมัยมากขึน
้
มีอิสระในการพิจารณาความเสี่ยงของโครงการซึ่งจะชวยใหการตัดสินใจ
จัดการความเสี่ยงใหมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพมากขึน
้ ช่วยลดกา
รดําเนินงานที่จะไม่ตรงตามเป้ าหมายเนื่องจากสามารถควบคุม ป้ องกัน
เหตุการณ์ที่ไม่คาดหวังได้ ทําให้การดําเนินงานอยู่ภายใต้กรอบเป้ าหมาย
โดยไม่จำเป็ นต้องจัดการความเสี่ยงให้หมดไปแต่ป้องกัน ควบคุมความ
เสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ องคกรสามารถบริหารการใชทรัพยากร
ไดอยางคุมคาและถูกตอง โดยมุงเนนการใชทรัพยากรไปยังจุดที่มีความ
เสี่ยงสูง องคกรสามารถดํารงอยูไดอยางยั่งยืน
การบริหารความเสี่ยงขององค์กรในศตวรรษที่ 21 จัดว่ามีความ
สำคัญเป็ นอย่างมากต่อการบริหารจัดการองค์กรในปั จจุบัน เรียกว่าเป็ น
“สังคมแห่งการเปลี่ยนแปลง” ซึ่งเป็ นสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่าง
รวดเร็วในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็ นด้านการติดต่อสื่อสาร ด้านการพัฒนา
นวัตกรรม ด้านเทคโนโลยี ฯลฯ ดังนัน
้ ผู้นำองค์กรในปั จจุบันจึงต้องมี
สมรรถนะของความเป็ นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง เพื่อที่จะสามารถรับมือ
กับความเสี่ยงที่อาจจะมีผลกระทบกับองค์กรทำให้ความเสี่ยงนัน
้ ให้หมด
ไปหรืออยู่ในระดับที่องค์กรยอมรับได้
ชัยยนต์ เพาพาน (2559) ได้กล่าวถึง คุณลักษณะของผู้บริหาร
สถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วย การมีวิสัยทัศน์ ความสามารถ
ทางวิชาการ การสื่อสาร และเทคโนโลยีการเป็ นนักริเริ่มสร้างสรรค์และ
ประกอบการนักสร้างพลังและ แรงบันดาลใจเชิงบวก ตัวแบบที่ดี และ
การสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้
จากที่ได้ศึกษาแนวคิดของสมรรถนะความเป็ นผู้นำของผู้บริหารด้าน
คุณลักษณะที่ผบ
ู้ ริหารสถานศึกษาควรมี สรุปได้ว่า คุณลักษณะของผู้
บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 ต้องเป็ นผู้ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและ
ทันสมัย เป็ นผู้ที่มีความรู้ในด้านวิชาการ มีความสามารถในการสื่อสาร
วิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ปัญหา มีการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดและ
รวดเร็ว เป็ นแบบอย่างที่ดีและสร้างแรงบันดาลใจให้กับบุคลากรในองค์กร
ของตน รวมไปถึงต้องผู้ที่จัดการปั ญหา จัดการเวลา และทรัพยากรได้
อย่างสร้างสรรค์และรู้คุณค่า
2) ทักษะด้านในการกำหนดนโขบายและการปกครอง (Skills in
Policy and Governance)
3) ทักษะการสื่อสารและความสัมพันธ์ระหว่างชุมชน (Skills in
Communication and
5) ทักษะการวางแผนและการพัฒนาหลักสูตร (Skills in
Curiculum Planning and
7) ทักษะการประเมินผลงานและการบริหารบุคลากร (Skills in
Staff Evaluation and
Personnel Management)
9) ทักษะการวิจัยทางการศึกษา การประเมินผลและการวางแผน
(Skils in Educational
Research, Evaluation and Planning)
4. ทักษะทางเทคโนโลยีและการใช้ดิจิตอล (Technological
anddigital literacy skills)
5. ทักษะด้านการบริหารองค์การ (Organizational
management skills)
จากที่ได้ศึกษาแนวคิดของสมรรถนะความเป็ นผู้นำของผู้บริหารด้าน
ทักษะของผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 สรุปได้ว่า ทักษะที่ผู้
บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 มีดังนี ้ ผู้บริหารต้องมีทักษะการคิด
วิเคราะห์และการคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา มีทักษะการแก้ปัญหาได้
ดี ทักษะการสื่อสาร ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อ่ น
ื ทักษะการสร้าง
มนุษยสัมพันธ์ ทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ทักษะการตัดสินใจที่มุ่งผล
สัมฤทธิ ์ และเป็ นผู้ที่มีคุณธรรมจริยธรรม
การบริหารความเสี่ยงขององค์กรในศตวรรษที่ 21 (ระหว่าง
ค.ศ.2001 – ค.ศ.2100) เป็ นการบริหารจัดการองค์กรที่จำเป็ นและสำคัญ
อย่างยิ่ง เนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในสังคมแห่งศตวรรษที่ 21
ทำให้มีปัจจัยภายนอกและปั จจัยภายในที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่ส่งผลกระ
ทบกับองค์กร ดังนัน
้ ผู้บริหารซึ่งถือว่าเป็ นผู้นำหลักในการบริหารองค์กร
เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดหวังขึน
้ จึงจำเป็ นต้องมีแผนการ/กลยุทธ์
หรือแนวมางในการจัดการความเสี่ยงในองค์กรขึน
้ เพื่อรับมือกับความ
เสี่ยงที่อาจจะมีผลกระทบกับองค์กร ทําให้ความเสี่ยงนัน
้ หมดไป หรืออยู่
ในระดับที่องค์กรยอมรับได้ สําหรับแนวทางในการบริหารความเสี่ยงที่
องค์กรสามารถนำมาใช้ได้มี 4 วิธีตามแนวคิดของ COSO-ERM คือ การ
ยอมรับ การควบคุม การโอนและการหลีกเลี่ยง ซึ่งแต่ละองค์กรสามา
รถนํามาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการความเสี่ยงได้ตามความเหมาะสม
และให้เข้ากับบริบทขององค์กร นอกจากนีผ
้ บ
ู้ ริหารต้องคุณลักษณะและ
ทักษะการเป็ นผู้นำในศตวรรษที่ 21 ด้วย จึงจะทำให้การบริหารองค์กรมี
ประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึน
้
เอกสารอ้างอิง