You are on page 1of 2

- สวัสดีค่ะดิฉนั ชื่อ น.ส.

ภรณ์ทิภา ถิ่นนอก ชื่อเล่นชื่อ บูมค่ะ อายุ 28 ปี


- สำเร็ จการศึกษาระดับปริ ญญาตรี หลักสู ตรบริ หารธุรกิจบัณฑิตสาขาทรัพยากรมนุษย์จาก
มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
- ปั จจุบนั ปฏิบตั ิหน้าที่ในตำแหน่งลูกจ้างเหมาบริ การ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จงั หวัด
เชียงราย ปฏิบตั ิงานอยูท่ ี่ ต.เจริ ญเมือง อ.พาน จ.เชียงราย
- นอกจากการทำงานเป็ นลูกจ้างกระทรวงเกษตรฯแล้ว ดิฉนั ก็ยงั ทำงานเป็ นจิตอาสาช่วยเหลือแบ่งเบา
ภาระของบุคลากรทางการแพทย์ที่โรงพยาบาล และเผยแพร่ ความรู ้ในเรื่ องวัคซี นและการป้ องกันตัว
เองจากโรค COVID-19 ที่ถูกต้องให้กบั ชาวบ้านในชุมชน โดยจะไปเป็ นจิตอาสาในช่วงวันหยุดที่
ไม่ได้ท ำงานค่ะ

มุมมองของท่านต่อระบบราชการในยุค NEW NORMAL


สำหรับมุมมองของดิฉนั ที่มีต่อระบบราชการในยุค NEW NORMAL นะคะ ดิฉนั มีความเห็นว่าหน่วย
งานราชการของไทยมีความพยายามปรับตัวในการเข้าถึงและให้บริ การประชาชนมากกว่าในอดีต โดยเฉพาะ
อย่างยิง่ ในยุคนี้ ยุคที่เชื้อโรค COVID-19 ระบาดอย่างหนัก หน่วยงานราชการหลายแห่งได้น ำเอาเทคโนโลยี
มาใช้เพื่อลดขั้นตอนในการติดต่อราชการและลดเวลาที่ประชาชนต้องอยูใ่ นสถานที่น้ นั หรื อในบางครั้งก็ไม่
ต้องไปติดต่อที่สถานที่ราชการเลย ทุกขั้นตอนสามารถทำผ่านระบบออนไลน์ได้หมดตั้งแต่ตน้ จนจบ แต่ใน
กรณี ที่จ ำเป็ นต้องไปด้วยตัวเองจริ งๆ ก็ได้จดั ให้มีการวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าสถานที่ราชการ , การให้
บริ การเจลแอลกอฮอล์ลา้ งมือ , การจัดทำฉากกั้นระหว่างประชาชนที่มาติดต่อราชการกับข้าราชการเพื่อลด
ความเสี่ ยงในการแพร่ เชื้อ เห็นได้วา่ หน่วยงานราชการมีความพยายามปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์
โรคระบาด แต่ท้ งั นี้ท้ งั นั้นก็ยงั มีฟีดแบ็คจากประชาชนที่ได้พบปั ญหาในจุดต่างๆเช่น ระบบออนไลน์ที่ล่ม
บ่อย , ความยุง่ ยากของการเดินเรื่ องผ่านระบบออนไลน์ , การประชาสัมพันธ์ที่ยงั ไม่กระจายอย่างทัว่ ถึง ซึ่ ง
เสี ยงสะท้อนถึงปัญหาต่างๆเหล่านี้น้ นั เป็ นสิ่ งที่ดิฉนั คิดว่าทางหน่วยงานราชการจะต้องนำไปพิจารณา
ปรับปรุ งแก้ไขต่อไป เพื่อให้สมกับที่ได้ชื่อว่าบริ การโดยยึดประชาชนเป็ นศูนย์กลางและเป็ นหน่วยงาน
ราชการยุคใหม่ ยุค NEW NORMAL ค่ะ

ปัญหาหรื ออุปสรรคครั้งสำคัญในชีวิตและท่านผ่านพ้นปั ญหาเหล่านั้นมาได้อย่างไร


เรื่ องนี้เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานค่ะ ในช่วงต้นปี 62 ดิฉนั ประสบอุบตั ิเหตุโดนรถสิ บล้อพ่วงขับรถตัดหน้ารถ
จักรยานยนต์ที่ดิฉนั ขับอยูจ่ นได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลอยูห่ ลายวัน โดย
เฉพาะบริ เวณแก้มข้างซ้ายเป็ นแผลใหญ่เลยค่ะ ต้องเย็บถึง 15 เข็ม ยังเป็ นแผลเป็ นมาจนถึงทุกวันนี้ ช่วงนั้น
จิตตกมาก เสี ยความมัน่ ใจมากค่ะ เพราะว่าใครๆก็มองมาที่แผลบนหน้า และในตอนนั้นดิฉนั ทำงานเป็ นเจ้า
หน้าที่ดา้ นสิ นเชื่อที่ตอ้ งพบปะลูกค้ามากหน้าหลายตาทุกวัน ก็ยงิ่ ทำให้ความมัน่ ใจหายค่ะ ต้องเอาพลาสเตอร์
มาแปะ ปิ ดบังรอยแผลไว้ เพราะไม่อยากให้เค้ามองแผลบนหน้าของเรา นอกจากนี้ ยงั ต้องเหนื่อยกับการต่อสู ้
คดีเพราะทางบริ ษทั ประกันของคู่กรณี ปฏิเสธที่จะชดใช้คา่ เสี ยหายตามที่ดิฉนั เรี ยกร้องไป ออกจากโรง
พยาบาลได้ไม่กี่วนั แผลยังไม่ทนั จะหายก็ตอ้ งไปสู ้คดีกนั ที่โรงพักต่อเลย ช่วงนั้นเหนื่อยมากค่ะ ทั้งเหนื่อย ทั้ง
เครี ยด จิตตก หน้าตาเราเสี ยโฉมไปแล้วเรายังต้องมาเสี ยการเสี ยงาน เสี ยเงินเสี ยทองสู ้คดีก นั ต่ออีก จิตใจมัน
หดหู่ไปหมด แต่สุดท้ายก็ผา่ นมาได้ดว้ ยความอดทนค่ะ อดทนต่อสู ้กนั ไปตามกระบวนการยุติธรรม เชื่อมัน่
ว่าศาลจะต้องให้ความยุติธรรมกับเราแล้วสุ ดท้ายความอดทนของดิฉนั ก็เป็ นผลค่ะ ศาลมีค ำพิพากษาเป็ นคุณ
แก่ดิฉนั ตอนนั้นดีใจมากค่ะ รู้สึกว่าในที่สุดมันก็จบซะทีหลังจากต้องต่อสู ้คดีกนั มาเป็ นปี รู ้สึกว่าสิ่ งที่เรา
อดทนสู ้มามันไม่เสี ยเปล่าเลยค่ะ นอกจากนี้แล้วกำลังใจจากครอบครัวก็เป็ นอีกหนึ่งพลังสำคัญเลยค่ะที่ท ำให้
ดิฉนั มีความอดทนต่อสู้กบั อุปสรรคต่างๆที่ผา่ นเข้ามาในชีวิตได้ ถ้าหากมีก ำลังใจจากครอบครัวแล้วไม่วา่
อุปสรรคอะไรจะเข้ามาในชีวิตเราก็จะมีแรงสู ้และสามารถเอาชนะมันได้ค่ะ ดิฉนั เชื่อแบบนั้นค่ะ

You might also like